You are on page 1of 12

แบบทดสอบ : หน่วย 6 แหล่งอารยธรรมเอเชีย

1. กำแพงเมืองจีน นอกจำกเป็นสัญลักษณ์ของอำรยธรรมจีน 6. ลักษณะเด่นของอำรยธรรมในภูมภิ ำคเอเชียใต้ คืออะไร


แล้ว ยังให้ควำมรู้เรื่องใดอีกด้วย ก. วรรณกรรมและรูปแบบกำรปกครอง
ก. ควำมเป็นอยู่ของคนจีนโบรำณ ข. ศำสนำและหลักปรัชญำ
ข. ควำมยิ่งใหญ่ของจีนสมัยจักรวรรดิ ค. กำรค้ำและกำรเดินเรือ
ค. ควำมเลื่อมใสศรัทธำในศำสนำพุทธ ง. ภำษำและศิลปกรรม
ง. ควำมแม่นยำในกำรคำดกำรณ์อนำคต 7. เพรำะเหตุใด วัฒนธรรมในภูมภิ ำคเอเชียใต้จึงแพร่หลำยไปยัง
2. ข้อใดไม่ใช่แนวคิดของลัทธิเต๋ำ ประเทศต่ำงๆ
ก. สละชีพเพื่อชำติ ก. อินเดียส่งกองทัพไปรุกรำนและบีบบังคับ
ข. กลมกลืนไปกับธรรมชำติ ข. อินเดียให้กำรสนับสนุน ช่วยเหลือประเทศต่ำงๆ
ค. ใช้ชีวิตอย่ำงสันโดษและปล่อยวำง ค. อินเดียใช้ศำสนำเป็นทำงผ่ำนของกำรถ่ำยทอด
ง. ปล่อยทุกอย่ำงไปตำมวิถีทำงของมัน อำรยธรรม
3. เข็มทิศที่ผลิตในจีนในระยะแรกเผยแพร่ไปยังยุโรปได้ โดยใคร ง. ชำติต่ำงๆ มีควำมเห็นว่ำวัฒนธรรมอินเดีย
ก. จักรพรรดิเจ็งกีสข่ำน มีควำมเจริญกว่ำของตน
ข. พ่อค้ำชำวตะวันตก 8. วรรณกรรมสำคัญของอินเดียเรื่องใด ที่กล่ำวถึงปรัชญำ
ค. พ่อค้ำอำหรับ ศำสนำ และจริยธรรมในกำรดำเนินชีวิตแบบอินเดีย
ง. มำร์โคโปโล ก. มหำกำพย์รำมำยณะ
4. จุดมุ่งหมำยในกำรสร้ำงเข็มทิศของจีนในระยะแรก ข. มหำกำพย์ภำรตะ
คืออะไร ค. ภควัทคีตำ
ก. บูชำสวรรค์ ง. อุณรุท
ข. หำทิศในกำรสร้ำงบ้ำน 9. ภำพจิตรกรรมฝำผนังตำมวัดต่ำงๆ ในประเทศไทย แสดงให้
ค. ใช้ประโยชน์ในกำรเดินเรือ เห็นว่ำประเทศไทยได้รับอิทธิพลจำกอินเดียในเรื่องใด
ง. หำร่องรอยที่หลบซ่อนของศัตรู ก. ศำสนำ และวรรณกรรม
5. ในสมัยรำชวงศ์ชิงมีกำรประกำศห้ำมฝังเข็มเพื่อกำร รักษำ ข. วรรณกรรม และกำรค้ำ
โรค เพรำะเหตุใด ค. กำรค้ำ และประเพณี
ก. คิดว่ำเป็นวิธีกำรสมัยโบรำณ ง. ประเพณี และศำสนำ
ข. เห็นว่ำเป็นวิธีกำรรักษำที่ทำรุณ 10. ประเทศใด ที่ได้รับอิทธิพลทำงวัฒนธรรมจำกอินเดีย
ค. ต้องกำรเก็บไว้เป็นควำมลับเฉพำะคนสำคัญเท่ำนั้น น้อยที่สุด
ง. เห็นว่ำอันตรำยและไม่แน่ใจว่ำจะรักษำโรคหำยได้ ก. ไทย
หรือไม่ ข. พม่ำ
ค. ญี่ปุ่น
ง. อินโดนีเซีย
แนวข้อสอบ ประวัต-ิ ชุด 2

1.เพราะเหตุใดบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้าในทวีปเอเชียจึงเป็นแหล่งก้าเนิดอารยธรรมที่ส้าคัญของโลก
ก. เป็นศูนย์กลางในการติดต่อค้าขาย ข. มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การด้ารงชีพ
ค. เป็นบริเวณที่มีความสงบร่มเย็น ง. เป็นบริเวณที่มีพืนที่มากกว่าทวีปอื่น

2.ภูมิภาคใดของทวีปเอเชียที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทวีปทังสาม
ก. เอเชียใต้ ข. เอเชียตะวันออก
ค. เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ง. เอเชียตะวันตกเฉียงใต้

3.สภาพภูมิศาสตร์ซึ่งเป็นที่ราบกว้างใหญ่ของเอเชียกลางเหมาะแก่การประกอบอาชีพใดมากที่สุด
ก. เลียงสัตว์ ข.เพาะปลูก ค. ค้าขาย ง. ประมง

4.ข้อใดจัดเป็นลักษณะเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมของเมืองโบราณในอินเดีย
ก. มีการวางผังเมืองอย่างเป็นระเบียบ ข. นับถือพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจ้าเมือง
ค. เลียงสัตว์เพื่อบริโภคและใช้แรงงาน ง. มีการติดต่อค้าขายกับดินแดนที่อยู่ห่างไกล

5.โบราณสถานข้อใดที่แสดงให้เห็นอารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุเด่นชัดที่สุด
ก. เมืองโมเฮนโจ - ดาโร และ มีรุต ข. เมืองฮารัปปา และ มถุรา
ค. เมืองปาฏลีบุตร และ มหินทรา ง. เมืองโมเฮนโจ - ดาโร และ ฮารัปปา

6.การที่อินเดียมีหลักฐานที่เป็น บันทึกทางประวัติศาสตร์น้อย ส่งผลต่อการศึกษาประวัติศาสตร์สมัยโบราณของอินเดีย


อย่างไร
ก. นักประวัติศาสตร์ขาดหลักฐานที่จะใช้ศึกษา ข. ประวัติศาสตร์ไม่ชัดเจนยากต่อการศึกษา
ค. ขาดเอกสารที่ถือเป็นมรดกของชาติ ง. การศึกษาไม่ครบตามวิธีการทางประวัติศาสตร์

7.ภูมิภาคเอเชียใต้เป็นแหล่งก้าเนิดศาสนาที่ส้าคัญของโลกยกเว้นศาสนาใด
ก. ศาสนาเชน ข.ศาสนาฮินดู ค. ศาสนาอิสลาม ง. พระพุทธศาสนา

8.คัมภีร์ที่นักวิชาการเชื่อว่ามีความเก่าแก่ที่สุดของอินเดียชื่อว่าอะไร
ก. คัมภีร์พระเวท ข.คัมภีรพ์ ระสูต ค. คัมภีร์พระบท ง. คัมภีร์พระธรรมศาสตร์

9.ข้อใดไม่ใช่ความส้าคัญของเมืองฮารัปปา และเมืองโมเฮนโจ-ดาโร ในฐานะหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์


ก. แสดงให้เห็นลักษณะการวางผังเมืองในยุคโบราณ
ข. แสดงให้เห็นลักษณะการด้าเนินชีวิตของชาวอินเดียยุคโบราณ
ค. แสดงให้เห็นความก้าวหน้าของวิทยาการทางการแพทย์ของชาวอินเดีย
ง. แสดงให้เห็นเทคนิคการสร้างที่อยู่อาศัยอันมีระเบียบแบบแผน
10.สาเหตุที่ท้าให้พืนที่บางส่วนของภูมิภาคเอเชียใต้ได้รับความเสียหายจากวาตภัยอยู่เสมอคืออะไร
ก. ไม่มีป่าไม้ปกคลุม ข. ประชากรมีการศึกษาน้อย
ค. อยู่ใกล้แหล่งก้าเนิดพายุ ง. แม่น้าสายเล็กระบายน้าไม่ทัน

11.ข้อใดกล่าวถึงลักษณะประชากรและวัฒนธรรมของภูมิภาคเอเชียใต้ได้ถูกต้อง
ก. มีประชากรมากที่สุดในโลก ข. ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
ค. นับถือศาสนาและภาษาเดียวกันทังภูมิภาค ง. มีประเพณีและวัฒนธรรมคล้ายคลึงกัน

12.ข้อใดต่อไปนีสัมพันธ์กันไม่ถูกต้อง
ก. ที่ราบลุ่มแม่น้าสินธุ - ปากีสถาน ข. ที่ราบลุ่มแม่น้าคงคา - อินเดีย
ค. ทีราบลุ่มแม่น้าคงคา - บังกลาเทศ ง. ทีร่ าบลุ่มแม่น้าพรหมบุตร - อินเดีย

13.หลักฐานในข้อใดที่แสดงให้เห็นว่ามีการตังถิ่นฐานของประชากรในภูมิภาคเอเชียใต้มาเป็นระยะเวลายาวนาน
ก. พบหลักฐานการตังราชวงศ์ ข.พบหลักฐานการนับถือศาสนา
ค. พบหลักฐานการด้าเนินชีวิตแบบเกษตรกรรม ง. พบหลักฐานเครื่องมือใช้ของมนุษย์สมัยหินและโลหะ

14.“ทัชมาฮัล” ในสมัยราชวงศ์โมกุล สร้างขึนเพื่อจุดประสงค์ใด


ก. แสดงความยิ่งใหญ่ของอินเดีย ข. ป้องกันการรุกรานของข้าศึก
ค. เป็นอนุสรณ์แห่งความรัก ง. ใช้ประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม

15.ข้อใดจัดเป็นลักษณะเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมของเมืองโบราณในอินเดีย
ก. มีการวางผังเมืองอย่างเป็นระเบียบ ข. นับถือพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจ้าเมือง
ค. เลียงสัตว์เพื่อบริโภคและใช้แรงงาน ง. มีการสร้างพระพุทธรูป

16.ข้อใดคือรูปแบบการปกครองของอินเดียหลังจากที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ
ก.ประชาธิปไตยแบบสหพันธรัฐ ข. ประชาธิปไตยแบบสมาพันธรัฐ
ค. ประชาธิปไตยแบบมลรัฐ ง. ประชาธิปไตยแบบเอกรัฐ

17.ข้อความใดกล่าวถึงการสร้างสรรค์ผลงานทางด้านอารยธรรมของเอเชียใต้ ผิดไปจากความเป็นจริง
ก. เป็นแหล่งก้าเนิดศาสนาส้าคัญของโลก ข.เป็นผูร้ ิเริ่มการสร้างเข็มทิศขึนใช้เอง
ค. เป็นผู้คิดค้นระบบตัวเลข ๑-๙ แทนการใช้เลขโรมัน ง.เป็นผู้คิดค้นระบบทศนิยมขึนใช้ในการค้านวณ

18.ลักษณะเด่นของอารยธรรมอินเดียที่ยังคงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันคือเรื่องใด
ก. ความนิยมทางไสยศาสตร์ ข. อดทนต่อความยากจน
ค. ประเพณีล้างบาปในแม่น้าคงคา ง. การยึดมั่นในวรรณะและลัทธิศาสนา

19.ข้อใดกล่าวถึงวิธีสัตยเคราะห์ของมหาตมะ คานธีได้ถูกต้องที่สุด
ก. การอดอาหารเพื่อประท้วง ข. การประท้วงโดยสันติวิธี
ค. การไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ง. การสร้างความร่วมมือระหว่างชาวฮินดูกับมุสลิม
20.ข้อใดไม่สัมพันธ์กับ “วีรบุรุษทางวัฒนธรรม” ในประวัติศาสตร์จีน
ก. เป็นผู้ค้นพบการใช้ไฟ ข. เป็นผู้สอนให้รู้จักการเพาะปลูก
ค. เป็นผู้คิดประดิษฐ์ตัวอักษรจีน ง. เป็นผู้คิดค้นการวางทิศตามหลักฮวงจุ้ย

21.ในสมัยราชวงศ์ซ้องสตรีชาวจีนมีค่านิยมใด
ก. การมีสามีเพียงคนเดียว ข. ความเป็นแม่บ้านที่เพรียบพร้อม
ค. ซื่อสัตย์กตัญญูต่อบุพการีผู้มีพระคุณ ง. การรัดเท้าให้เล็กเพื่อความสวยงาม

22.สภาพทางภูมิศาสตร์บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้าของเอเชียตะวันออกเหมาะแก่การประกอบอาชีพใดเป็นหลัก
ก. เกษตรกรรม ข. อุตสาหกรรม
ค. ท้าการประมง ง. ท้าการค้าระหว่างประเทศ

23.ข้อใดคือค้าสอนที่ส้าคัญของลัทธิเต๋า
ก. มนุษย์ทุกคนมีกรรมเป็นก้าเนิด ข.มนุษย์ควรท้าตัวให้สอดคล้องกับธรรมชาติ
ค. มนุษย์ควรปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามฐานะทางสังคม ง.มนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียมกันมาแต่ก้าเนิด

24.“อาณัติแห่งสวรรค์” เกี่ยวข้องอย่างไรกับแนวคิดด้านการปกครองของจีน
ก. กษัตริย์ต้องเป็นจอมทัพ ข. กษัตริย์ต้องเอาใจใส่ทุกข์ สุข ของราษฎร
ค. กษัตริย์ต้องปกครองโดยใช้อาณัติแห่งสวรรค์ ง. กษัตริย์ต้องปกครองการเกิดน้าท่วม ฝนแล้ง โรคระบาด

25.ฉินสื่อหวงตีหรือจิ๋นซีฮ่องเต้สร้างก้าแพงเมืองจีนเพื่อจุดประสงค์ใด
ก. ป้องกันการรุกรานของชนป่าเถื่อน ข. ป้องกันการรุกรานของชาวต่างชาติ
ค. แบ่งระหว่างจีนกับชาวต่างชาติอารยธรรม ง. เป็นสัญลักษณ์ที่ส้าคัญของจีน

26.ชาวจีนเชื่อว่าการฝังเข็มท้าให้เกิดผลดีต่อร่างกายอย่างไร
ก. ท้าให้หายจากอาการเจ็บป่วยได้เร็วขึน ข. ช่วยรักษาอวัยวะส่วนที่ท้างานไม่ปกติให้กลับดีขึน
ค. ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูอ่อนเยาว์ ง. ช่วยกระตุ้นให้พลังที่ไหลหมุนเวียนในร่างกายเป็นปกติ

27..ลัทธิขงจื๊อมีอิทธิพลต่อความเชื่อใดต่อไปนีมากที่สุด
ก. ชีวิตหลังความตาย ข. การเคารพบูชาบรรพบุรุษ
ค. ความยิ่งใหญ่ของชาวจีน ง. การท้าความดีเพื่อชาติหน้า

28. เหตุผลที่ท้าให้ลักษณะทางวัฒนธรรมของประชากรในเอเชียตะวันออกมีความคล้ายคลึงกันคืออะไร
ก. ได้รับอิทธิพลจากแหล่งเดียวกัน ข.อาศัยอยู่ในเขตภูมิอากาศเดียวกัน
ค. เริ่มก่อตังประเทศในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ง. มีลักษณะทางสังคมแบบเดียวกัน

29.เพระเหตุใด เราจึงต้องไปศึกษาบริเวณลุ่มแม่น้าไทกริสและแม่น้ายูเฟรทีส เมื่อต้องการทราบเรื่องราวเกี่ยวกับอารยธรรม


เมโสโปเตเมีย
ก. เป็นบริเวณที่มีความสวยงาม ข. มีโบราณสถานหลงเหลืออยู่มาก
ค. ยังมีชนเผ่าดังเดิมอาศัยอยู่บริเวณนี ง. เป็นแหล่งก้าเนิดของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย
30.เหตุผลส้าคัญที่ท้าให้ภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้เป็นที่รู้จักมาตังแต่ครังอดีตคือ อะไร
ก. อยู่ใกล้กับทวีปยุโรป ข. เป็นอู่อารยธรรมดังเดิม
ค. มีท้าเลที่ตังเหมาะสม ง. ประชากรมีฐานะความเป็นอยู่ดี

31.ประชากรส่วนใหญ่ของภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้มีเชือสายและนับถือศาสนาใด
ก. อาหรับ - อิสลาม ข. อารยัน - ฮินดู
ค. เติร์ก - อิสลาม ง. ยิว - ยูดาย

32.“อักษรคูนิฟอร์ม” ในอารยธรรมเมโสโปเตเมียมีลักษณะอย่างไร
ก. เป็นอักษรภาพ เขียนตามสุสานของกษัตริย์ ข. คล้ายกับตัวอักษรภาษาอังกฤษในปัจจุบัน
ค. ตัวอักษรคล้ายรูปลิ่มเขียนบนแผ่นดินเหนียว ง. เขียนด้วยอักษรฮีบรูแต่อ่านออกเสียงแบบอาหรับ

33.ประมวลกฎหมายฮัมมูราบีของจักรวรรดิบาบิโลเนียมีหลักการลงโทษผู้กระท้าผิด แบบใด
ก. ตาต่อตาฟันต่อฟัน ข. ประนีประนอมให้โอกาสกลับใจ
ค. ค้านึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน ง. มนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน

34.บริเวณใดของเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด
ก. บริเวณอ่าวเปอร์เซีย ข. บริเวณคาบสมุทรอาหรับ
ค. ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ง. ที่ราบลุ่มแม่น้าไทกริส – ยูเฟรทีส

35.สภาพอากาศที่ร้อนจัดและแห้งแล้งส่งผลต่อการตังถิ่นฐานของประชากรในภูมิภาค เอเชียตะวันตกเฉียงใต้อย่างไร
ก. ท้าให้ประชากรตังถิ่นฐานเป็นหลักแหล่ง
ข. ท้าให้ประชากรเร่ร่อนไปยังดินแดนอื่นที่มีความอุดมสมบูรณ์กว่า
ค. ท้าให้รู้จักใช้ไม้เป็นวัสดุในการสร้างบ้าน
ง. ท้าให้ประชากรสร้างบ้านเรือนบริเวณที่โล่งแจ้ง

36.ข้อใดไม่ใช่สาเหตุส้าคัญของความขัดแย้งในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้
ก. เชือชาติ ข.ภาษา ค. ศาสนา ง. สีผิว

37.ศาสนาใดที่มีต้นก้าเนิดจากอิหร่านซึ่งปัจจุบันถือเป็นศาสนาที่หมดสินไปจากโลกแล้ว
ก. ศาสนาอัชเทค ข. ศาสนาโวดาน
ค. ศาสนาอะโฟรไดท์ ง. ศาสนาโซโรอัสเตอร์

38.ศาสนาในข้อใดที่มีต้นก้าเนิดจากภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้
ก. เชน - ฮินดู ข. คริสต์ - อิสลาม
ค. ยูดาย - พระพุทธศาสนา ง. ชินโต - โซโรอัสเตอร์.

39.ซิกกูแรต มีลักษณะคล้ายกับอะไร

ก. วัด ข.พีระมิด ค.โบสถ์ ง. มัสยิด


40.ชาวสุเมเรียน มีความส้าคัญอย่างไร
ก.เป็นชนชาติแรกที่ประดิษฐ์ตัวอักษร ข.เป็นผู้ประมวลกฎหมาย
ค.เป็นชนเผ่าดังเดิมของเอเชียใต้ ง.เป็นผู้รุกรานจักรวรรดิจีน
แนวข้อสอบ ประวัต-ิ ชุด 3

1.เพราะเหตุใดบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้าในทวีปเอเชียจึงเป็นแหล่งก้าเนิดอารยธรรมที่ส้าคัญของโลก
ก.เป็นศูนย์กลางในการติดต่อค้าขาย ข.มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การด้ารงชีพ
ค.เป็นบริเวณที่มีความสงบร่มเย็น ง.เป็นบริเวณที่มีพืนที่มากกว่าทวีปอื่น

2.ภูมิภาคใดของทวีปเอเชียที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทวีปยุโรป เอเชีย และแอฟริกา


ก.เอเชียใต้ ข.เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ค.เอเชียตะวันออก ง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

3.สิ่งส้าคัญที่ชีให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์ คืออะไร
ก.วัฒนธรรม ข.วรรณกรรม ค.อารยธรรม ง.ลัทธิความเชื่อ

4.ท้าไมประเทศญี่ปุ่นจึงได้ก้าวไปสู่ประเทศอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว
ก.เพราะรับเอาวิทยาการของชาติตะวันตกมาประยุกต์ใช้
ข.เพราะรับเอาวัฒนธรรมของจีนมาประยุกต์ใช้
ค.เพราะรับวัฒนธรรมทังของจีนและชาติตะวันตกมาประยุกต์ใช้
ง.เพราะท้าการปิดประเทศเพื่อพัฒนาประเทศของตนเอง

5.ปัจจัยส้าคัญที่ท้าให้ภูมิอากาศของทวีปเอเชียแตกต่างกันเนื่องจากข้อใด
ก.มีพืนที่กว้างใหญ่ ข.อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร
ค.มีมหาสมุทรอยู่ทางทิศเหนือและใต้ ง.กลางทวีปเป็นที่ราบสูง

6.ข้อใดจัดเป็นลักษณะเด่นทางสถาปัตยกรรมของเมืองโบราณในอินเดีย
ก.มีการวางผังเมืองอย่างเป็นระบบ ข.นับถือพุทธศาสนา
ค.เลียงสัตว์เพื่อการบริโภคและใช้งาน ง.มีการติดต่อค้าขายกับชาติตะวันตก

7.โบราณสถานข้อใดที่แสดงให้เห็นอารยธรรมลุ่มน้าสินธุเด่นชัดที่สุด
ก.เมืองโมเฮนโจ ดาโรและมีรุต ข.เมืองโมเฮนโจ ดาโรและฮารับปา
ค.เมืองฮารับปา และมถุรา ง.เมืองปาฏลีบุตร และมหินทรา

8.ภูมิภาคเอเชียใต้เป็นแหล่งก้าเนิดศาสนาที่ส้าคัญของโลกยกเว้นศาสนาใด
ก.เชน ข.ฮินดู ค.อิสลาม ง.พุทธ

9.คัมภีร์ที่นักวิชาการเชื่อว่ามีความเก่าแก่ที่สุดของอินเดียเรียกว่าอะไร
ก.คัมภีร์พระเวท ข.คัมภีร์พระสูตร ค.คัมภีร์พระบท ง.คัมภีร์พระธรรมศาสตร์
10.เพราะเหตุใดอังกฤษจึงต้องการอินเดียเป็นอาณานิคมของตนเอง
ก.มีทรัพยากรและวัตถุดิบ ข.เหมาะแก่การตังเป็นศูนย์กลาง
ค.อยู่ใกล้ทะเล ง.มีประชากรหนาแน่น

11.ทัชมาฮาล ในสมัยราชวงศ์โมกุลสร้างขึนเพื่อจุดประสงค์อะไร
ก.แสดงความยิ่งใหญ่ของอินเดีย ข.ป้องกันการรุกรานของข้าศึก
ค.เป็นอนุสรณ์ความรัก ง.ใช้ประกอบพิธีกรรม

12.ดินแดนรูปพระจันทร์เสียว เป็นที่ราบลุ่มที่อยู่ระหว่างแม่น้าสายใด
ก.สินธุ-คงคา ข.ไทกรีส-ยูเฟรตีส ค.คงคา-พรหมบุตร ง.ฮวงโห-แดง

13.เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เป็นแหล่งก้าเนิดศาสนาที่ส้าคัญหลายศาสนายกเว้นข้อใด
ก.ยูดายห์ ข.คริสต์ ค.อิสลาม ง.พุทธ

14.โอเปก เป็นหน่วยงานที่ก่อตังเพื่อจุดประสงค์ใด
ก.ความร่วมมือในการส่งออกน้ามัน ข.ความร่วมมือด้านค้าขายกับประเทศต่างๆ
ค.ความร่วมมือด้านการทหาร ง.ความร่วมมือในการส่งออกอุปกรณ์อีเลคทรอนิกส์

15.ข้อใดมิใช่ทะเลสาบที่คั่นระหว่างประเทศในเอเชียกลาง
ก.ทะเลสาบแคสเปียน ข.ทะเลสาบอารัล ค.ทะเลสาบบัลคัส ง.ทะเลด้า

16.เส้นทางสายไหมมีความส้าคัญอย่างไร
ก.เป็นเส้นทางการค้าระหว่างจีนกับเอเชียตะวันตกเฉียงใต้และยุโรป
ข.เป็นเส้นทางการค้าระหว่างเอเชียตะวันตกเฉียงใต้และยุโรป
ค.เป็นเส้นทางการค้าระหว่างจีนกับยุโรป
ง.เป็นเส้นทางการค้าระหว่างจีนกับเอเชียใต้และยุโรป

17.ข้อใดมิใช่การด้ารงชีวิตของมนุษย์ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ของจีน
ก.ล่าสัตว์-เก็บผลไม้ป่า ข. น้าหินมาท้าเป็นอาวุธใช้
ค.การท้าอาหารให้สุกโดยใช้ไฟ ง.รู้จักการทอผ้า เลียงสัตว์

18.จีนมีอารยธรรมที่เก่าแก่เช่นเดียวกับอารยธรรมใด
ก.อารยธรรมเมโสเตเมีย-อินเดีย ข.อารยธรรมลุ่มน้าไนล์
ค.อารยธรรมลุ่มน้าคงคา-พรหมบุตร ง.อารยธรรมลุ่มน้าแดง
19.ข้อใดคือค้าสอนที่ส้าคัญของลัทธิเต๋า
ก.มนุษย์เกิดมามีกรรมทุกคน ข.มนุษย์ควรมีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายขึนอยู่กับธรรมชาติ
ค.มนุษย์ควรปฏิบัติตนตามฐานะในสังคม ง.มนุษย์ควรมีความกตัญญู

20.เพราะเหตุใดอารยธรรมจีนจึงสามารถแผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง
ก.เพราะมีการติดต่อทางการทูต การค้า การศึกษา ข.มีการสู้รบกับต่างชาติท้าให้มีอาณาเขตกว้าง
ค.มีประชากรหนาแน่นและมีความขยันอดทน ง.มีความสามารถในการเดินทางติดต่อต่างชาติ

21.ชาวพืนเมืองของอินเดียเป็นชนชาติใด
ก.ชาวดราวิเดียน ข.ชาวอารยัน ค.ชาวแมนจู ง.ชาวมองโกเลีย

22.ระบบวรรณะในอินเดียมีการแบ่งชนชันผู้คนตามล้าดับอย่างไร
ก.วรรณะกษัตริย์ พราหมณ์ ศูทร แพศย์ ข.วรรณะพราหมณ์ กษัตริย์ แพศย์ ศูทร
ค.วรรณะกษัตริย์ แพศย์ ศูทร จัณฑาล ง.วรรณะพราหมณ์ กษัตริย์ แพศย์ ศูทร จัณฑาล

23.ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการของอินเดียมีหลายอย่างยกเว้นข้อใด
ก.ค้านวณเส้นผ่าศูนย์กลางของดวงจันทร์ จัดกระดูกให้เข้าที่
ข.พัฒนาสัญลักษณ์ตัวเลข รู้จักส่วนผสมเหล็กที่ไม่ขึนสนิม
ค.ผ่าตัดท้าคลอด การเสริมความงาม
ง.ผลิตยารักษาโรคเรือน ท้าเข็มทิศ

24.ข้อใดมิใช่สาเหตุที่ท้าให้จักรวรรดิเมารยะมีความเจริญรุ่งเรือง
ก.มีการปรับใช้เงินตราเดียวกัน ข.มีการสร้างถนน
ค.มีการค้าขายกับต่างชาติ ง.มีการปรับเปลี่ยนการปกครอง

25.การปั้นพระพุทธรูปของอินเดียได้รับอิทธิพลจากสิ่งใด
ก.ศิลปะกรีก ข.ศิลปะคุปตะ ค.ศิลปะโรมัน ง.ศิลปะคันธาระ

26.พวกมุสลิมได้น้าวิทยาการของอินเดียไปใช้ในด้านใด
ก.การแพทย์ คณิตศาสตร์ ศาสนา ข.ดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ การปกครอง
ค.การแพทย์ คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ ง.ศาสนา การปกครอง ดาราศาสตร์

27.จุดประสงค์ในการสร้างก้าแพงเมืองจีนเพื่ออะไร
ก.ใช้เดินทางสู้รบกับชนกลุ่มน้อย ข.ใช้ป้องกันการรุกรานของชนเผ่าเร่ร่อน
ค.เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ของจีน ง.แบ่งอาณาเขตระหว่างจีนกับชาวต่างชาติ
28.ลัทธิขงจื๊อมีอิทธิพลต่อความเชื่อใดมากที่สุด
ก.ชีวิตหลังความตาย ข.การเคารพบูชาบรรพบุรุษ
ค.การท้าความดีเพื่อชาติหน้า ง.ทุกคนเกิดมาเพื่อใช้กรรม

29.ข้อใดกล่าวถึงเรื่องราวของการท้าสงครามของชาวอารยัน
ก.มหากาพย์รามายณะ –ภารตะ ข.นารายณ์อวตาร
ค.รามเกียรติ์ –ไตรภูมิ ง.คัมภีร์พระเวท

30.ข้อใดมิใช่สาเหตุส้าคัญของความขัดแย้งในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้
ก.เชือชาติ ข.ภาษา ค.ศาสนา ง.สีผิว

31.ชาวจีนเชื่อกันว่าการฝังเข็มท้าให้เกิดผลดีต่อร่างกายอย่างไร
ก.หายป่วยเร็วขึน ข.รักษาอวัยวะให้ท้างานดีขึน
ค.ช่วยให้ผิวพรรณดี ง.ช่วยกระตุ้นให้พลังที่หมุนเวียนในร่างกายเป็นปกติ

32.ในสมัยโบราณจีนใช้อะไรในการท้านายเหตุการณ์
ก.ใบไม้ ข.กระดองเต่า ค.พระอาทิตย์ ง.ต้นไม้

33.อาณัติสวรรค์ เกี่ยวข้องอย่างไรกับแนวคิดด้านการปกครองของจีน
ก.กษัตริย์ต้องเป็นจอมทัพ
ข.กษัตริย์ต้องเอาใจใส่ทุกข์ สุข ของราษฎร
ค.กษัตริย์ต้องปกครองโดยใช้อาณัติแห่งสวรรค์
ง.กษัตริย์ต้องปกครองการเกิดน้าท่วม ฝนแล้ง โรคระบาด

34.ภาษาจีนมีการพัฒนาอย่างไร
ก.เริ่มจากอักษรภาพ ข.เริ่มจากพู่กันจีน ค.เริ่มจากการวาดภาพ ง.เริ่มจากกระดาษ

35.ในสมัยโบราณชาวจีนใช้สิ่งใดในการแลกเปลี่ยนซือขาย
ก.เปลือกหอย ข.ทองค้า ค.เหรียญเงิน ง.ใช้สินค้าแลกเปลี่ยน

36.ข้อใดมิใช่เป็นลักษณะเด่นของปราสาทฮิเมจิ
ก.เป็นที่ซ่อนอาวุธตามช่องก้าแพง ข.ภายในทางเดินคดเคียวเหมือนเขาวงกต
ค.เป็นสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่น ง.ถูกท้าลายด้วยระเบิดในสงครามโลกครังที่2

37.ใครเป็นผู้สร้างตาชมามาฮาล
ก.พระเจ้าเมาระยะ ข.พระเจ้าชาห์จะฮาน ค.พระเจ้าอโศกมหาราช ง.พระเจ้าติมูร์
38.เมืองตักศิลามีความส้าคัญหลายด้านยกเว้นด้านใด
ก.เป็นแหล่งศึกษาศิลปวิทยาการและพระพุทธศาสนา
ข.เป็นเมืองเสรีทางการค้าและวัฒนธรรม
ค.เป็นแหล่งศึกษาศิลปวิทยาการและศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
ง.เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและทางการค้า

39.ข้อใดมิใช่ลักษณะเด่นของเมืองเปตรา
ก.เป็นภูเขาหิน ข.มีหุบเขาล้อมรอบ
ค.ตังอยู่บนเส้นทางการค้า ง.เป็นอาคารที่สกัดจากหิน

40.เมืองซามาร์คันเจริญรุ่งเรืองในสมัยใด
ก.พระเจ้าเมาระยะ ข.พระเจ้าชาห์จะฮาน ค.พระเจ้าอโศกมหาราช ง.พระเจ้าติมูร์
11. ข้อใดเป็นควำมรูด้ ้ำนกำรคำนวณที่ชำวอินเดียโบรำณ 16. หลักฐำนทำงอำรยธรรมในสมัยพระเวทของอินเดีย
คิดขึ้น คืออะไร
ก. กำรนำตัวเลขมำรวมกัน ก. มหำกำพย์
ข. กำรกำหนดสัญลักษณ์ในกำรนับ ข. คัมภีร์ฤคเวท
ค. กำรกำหนดเครื่องหมำยแทนตัวเลขสิบตัว ค. คัมภีรไ์ ตรเพท
ง. กำรกำหนดค่ำตัวเลขเพิ่มขึ้นตำมจำนวนขีด ง. คัมภีร์อำถรรพเวท
12. ข้อใด คือ ลักษณะเด่น ของ “อักษรคูนิฟอร์ม” 17. ข้อใดเกี่ยวข้องกับเมืองฮำรัปปำในอำรยธรรมในเอเชียใต้
ก. เป็นตัวอักษรรูปภำพ ก. ตั้งอยู่บนเทือกเขำหิมำลัย
ข. เป็นตัวอักษรที่เขียนบนกระดำษ ข. ปัจจุบันอยู่ในประเทศบังคลำเทศ
ค. เป็นที่มำของอักษรโรมันในปัจจุบนั ค. เป็นแหล่งโบรำณคดีในรัฐปัญจำบ
ง. เป็นตัวอักษรที่เก่ำแก่ที่สดุ ในโลก ง. เป็นแหล่งกำเนิดอักษรมคธ (ภำษำบำลี)
13. ชนกลุ่มใด ที่เข้ำมำสร้ำงสรรค์อำรยธรรมในดินแดน 18. สุสำนกองทัพทหำรดินเผำ เป็นผลงำนชิ้นสำคัญในสมัย
เมโสโปเตเมียเป็นกลุม่ แรก กษัตริย์พระองค์ใดของจีน
ก. บำลิโลเนียน ก. เฉียงหลงฮ่องเต้
ข. อัสซีเรียน ข. ฉินสื่อหวงตี้
ค. ซูเมเรียน ค. หงวนสีโจ๊วฮ่องเต้
ง. เปอร์เซียน ง. กุบไลข่ำน
14. ข้อใดกล่ำวถึง “กฎหมำยฮัมมูรำบี” ได้ถูกต้อง 19. ควำมเจริญในสมัยรำชวงศ์ฮั่นทีโ่ ดดเด่นที่สดุ คือข้อใด
ก. มีกำรพิสูจน์ควำมผิดโดยกำรสำบำน ก. ควำมรู้ทำงกำรแพทย์ฝังเข็ม
ข. เป็นกฎหมำยที่เป็นเทวโองกำรของพระเจ้ำ ข. ศิลปะกำรทำเครื่องเคลือบเขียวไข่กำ
ค. สะท้อนชีวิตควำมเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยนั้น ค. กำรค้ำกับต่ำงประเทศบนเส้นทำงสำยแพรไหม
ง. เป็นกฎหมำยที่มีบทลงโทษที่เรียกว่ำ ตำต่อตำ ง. กำรเดินทำงไปสืบศำสนำที่อินเดียของพระสงฆ์จีน
ฟันต่อฟัน 20. ลักษณะภูมิประเทศแห้งแล้งแบบทะเลทรำย ส่งผลให้เกิด
15. ลัทธิหรือศำสนำใด ทีไ่ ม่ได้ถือกำเนิดขึ้นในภูมิภำคเอเชีย ลักษณะของอำรยธรรมอิสลำม ยกเว้นข้อใด
ตะวันตกเฉียงใต้ ก. สร้ำงอำรยธรรมด้วยสงครำม
ก. ศำสนำคริสต์ ข. นับถือพระเจ้ำหลำยองค์ และนิยมกำรบูชำยัญ
ข. ศำสนำสิกข์ ค. ชำวอำหรับมีบทบำทสำคัญในกำรสร้ำงอำรยธรรม
ค. ศำสนำอิสลำม อิสลำม
ง. ศำสนำยูดำย ง. รักอิสระ อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีควำมสัมพันธ์ ทำง
สำยเลือดในกลุม่ ของตน

You might also like