You are on page 1of 42

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Communicative Language Teaching (CLT)

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ / วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4


Unit: Travel Topic: Transportation เวลา 4 ชั่วโมง

นายคุณาธิป สําลี 62010513006

สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565


โรงเรียนสุวรรณภูมิพิทยไพศาล
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Communicative Language Teaching (CLT)
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ / วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
Unit: Travel Topic: Transportation เวลา 4 ชั่วโมง

1. จุดประสงค์
1.1 เขียนคำศัพท์และจับคู่คำศัพท์กับความหมายจากบทสนทนาเรื่อง “You can’t live without it”
ได้ถูกต้อง (Mechanical Practice 1 ดัดแปลงมาจากหนังสือ 200 กิจกรรม ชื่อกิจกรรม Kim’s game)
1.2 เลือกคำตอบที่เกี่ยวกับการใช้ v. + infinitive ลงในช่องว่างได้ถูกต้อง (Mechanical Practice 2
ดัดแปลงมาจาก Authentic Material – Phone Booth American game show “The Tonight Show
Starring” โดยใช้หนังสือพิมพ์แทนการใช้ตู้โทรศัพท์)
1.3 อ่านบทสนทนาเรื่อง “You can’t live without it” แล้วตอบคำถามได้ (Meaningful Practice
1 – Quizizz ดัดแปลงมาจากเว็บไซต์ https://quizizz.com/)
1.4 แสดงบทบาทสมมุติตาม เรื่อง “You can’t live without it” ได้ (Meaningful Practice 2
ดัดแปลงมาจากหนังสือ 500 กิจกรรม หน้า 146 ชื่อกิจกรรม Script role play)
1.5 ถาม-ตอบเกี่ยวกับการใช้พาหนะในการเดินทางมาโรงเรียน และเหตุผลที่เลือกใช้พาหนะชนิดนั้น
(Communicative Practice1 ดัดแปลงมาจากหนังสือการสอนพูดภาษาอังกฤษ หน้า 56 ชื่อกิจกรรม The
onion)
1.6 พูดโต้วาทีจากหัวข้อ “Going to school by car is better than by bicycle?”
(Communicative Practice 2 ดัดแปลงมาจากหนังสือ 700 กิจกรรม หน้า 29 ชื่อกิจกรรม Debate)

2. เป้าหมายตามกรอบ CEFR: B1
2.1 ระดับ B1 Listening

การฟังการอภิปราย (LISTEN IN DISCUSSION)


2.1.1 สามารถเข้าใจประเด็นหลักของการอภิปรายในหัวข้อที่คุ้นเคยเกี่ยวกับสถานการณ์ใน
ชีวิตประจำวันเมื่อผู้พูดพูดอย่างชัดเจน แต่บางครั้งจำเป็นต้องขอรายละเอียดต่าง ๆ เพิม่ เติมเพื่อความเข้าใจ
(Communicative Practice1 – The onion), (Communicative Practice 2 – Debate)
2.2 ระดับ B1 Reading

การอ่านโดยรวม (OVERALL READING)

2.2.1 สามารถเข้าใจประเด็นหลัก ข้อเท็จจริงต่างๆ ในเรื่องความสนใจส่วนตัว


หรือความสนใจในวิชาชีพได้อย่างดีพอที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้ในภายหลัง (Meaningful Practice 1 -
Quizizz)

2.3 ระดับ B1 Spoken Interaction


การสนทนา (CONVERSATION)
2.3.1 สามารถเริ่มสนทนา ดำเนินการสนทนาและจบการสนทนาง่ายๆ
ในหัวข้อที่คุ้นเคยหรือสนใจ (Communicative Practice1 – The onion), (Meaningful Practice 2 –
Script role play)
2.3.2 สามารถแสดงออกและโต้ตอบต่อ ความรู้สึก และทัศนคติ เช่น ความประหลาดใจ
ความสุข ความเศร้า ความสนใจและไม่สนใจ (Communicative Practice 2 – Debate)
การอภิปราย (DISCUSSION)
2.3.3 สามารถเสนอหรือขอความคิดเห็นส่วนบุคคล
ในการอภิปรายแบบไม่เป็นทางการกับเพื่อน แสดงความเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างสุภาพ
(Communicative Practice 2 – Debate)
2.3.4 สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้ตรงประเด็น และสามารถแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้อื่นได้
(Communicative Practice1 – The onion), (Communicative Practice 2 – Debate)

2.4 ระดับ B1 Spoken Production

การบรรยาย (DESCRIPTION)
2.4.1 สามารถเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับประสบการณ์ความรู้สึกของตนเอง (Communicative Practice1 –
The onion), (Communicative Practice 2 – Debate)
การโต้แย้ง (ARGUING A CASE)
2.4.2 สามารถอธิบายสั้นๆ และให้เหตุผลประกอบความคิดเห็น (Communicative
Practice 2 – Debate)
2.5 ระดับ B1 Language Quality
ขอบข่ายของคำศัพท์ (RANGE)
2.5.1 สามารถรู้คำศัพท์เพียงพอในการพูดคุยเกี่ยวกับครอบครัว งานอดิเรก ความสนใจ
การทำงาน การเดินทาง ข่าวสาร และเหตุการณ์ปัจจุบัน (Mechanical Practice 1 – Kim’s Game)

3. ตัวชี้วัด
ต. 1.1 ม.4/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็น
จากการฟังและอ่านเรื่องที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ (Meaningful
Practice 1 – Quizizz)
ต 1.2 ม.4/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว
ประสบการณ์สถานการณ์ ข่าว/ เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม
และสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม (Meaningful Practice 2 – Script role play), (Communicative
Practice 1 – The onion), (Communicative Practice 2 – Debate)
ต 1.2 ม.4/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ
และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม (Communicative
Practice 1 – The onion), (Communicative Practice 2 - Debate)
ต 1.2 ม.4/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับ
เรื่องต่างๆกิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์อย่างมีเหตุผล (Communicative Practice 1 – The
onion), (Communicative Practice 2 - Debate)
ต 1.3 ม.4/1 พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์
เรื่องและประเด็นต่าง ๆ ตามความสนใจของสังคม (Communicative Practice 1 – The onion),
(Communicative Practice 2 - Debate)
ต 2.1 ม.4/1 เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส
และสถานที่ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา (Communicative Practice 1 – The
onion), (Communicative Practice 2 – Debate), (Meaningful Practice 2 – Script role play)
ต 4.1 ม.4/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน
สถานศึกษาชุมชนและสังคม (Meaningful Practice 2 – Script role play), (Communicative Practice
1 – The onion)

4. เนื้อหา
4.1 Vocabulary: transportation, crowded, subway, traffic, environment, pollution,
customer
4.2 Structure: Verb + Infinitive
Example: I refuse to take a crowded bus or the subway.
4.3 Conversation: You can’t live without it

5. สื่อการเรียนรู้
5.1 วิดีโอนำเข้าสู่บทเรียน
5.2 Text1 (Vocabulary)
5.3 Text2 (Structure)
5.4 Text3 (Conversation “You can’t live without it”)
5.5 Power Point รูปภาพ คำศัพท์และโครงสร้างไวยากรณ์
5.6 เสียงของเจ้าของเสียงภาษา
5.7 กระดาษหนังสือพิมพ์
5.8 เว็บไซต์ https://quizizz.com/
5.9 วิดีโอการโต้วาที
5.10 ป้ายเวลา
5.11 กระดิ่ง
5.12 ป้ายบทบาทของผู้โต้วาที

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ครู นักเรียน
Presentation
1. ครูทักทายนักเรียน 1. นักเรียนทักทายครู
2. ครูให้นักเรียนดูวิดีโอเรื่อง “Morning 2. นักเรียนดูวิดีโอเรื่อง “Morning Commute –
Commute – Bike vs. Car” เพือ่ นำเข้าสู่บทเรียน Bike vs. Car” เพื่อนำเข้าสู่บทเรียน
3. ครูถามคำถามจากวิดีโอ ดังนี้ 3. นักเรียนตอบคำถามจากวิดีโอ ดังนี้
- What did you see in the video? - People, car and bicycle
- What are they doing in the video? - They are competing to reach the
workplace.
- Which one will reach to the workplace - The car will reach to the workplace first.
first?
4. ครูแจก Text 1 แล้วอธิบายคำศัพท์ด้วยเทคนิค 4. นักเรียนฟังครูอธิบายคำศัพท์และทำความเข้าใจ
Visual Image และ Definition Text 1
พร้อมยกตัวอย่างประโยคให้นักเรียนฟังผ่านโปรแก
รม PowerPoint 5. นักเรียนฟังครูอธิบาย
5. ครูแจก Text 2 แล้วอธิบายโครงสร้างไวยากรณ์ พร้อมทั้งทำความเข้าใจโครงสร้างไวยากรณ์ Verb +
Verb + Infinitive ผ่านโปรแกรม PowerPoint Infinitive ผ่านโปรแกรม PowerPoint
โดยอธิบายแบบ inductive
พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ 6. นักเรียนฟังเสียงบทสนทนา Text 3 เรื่อง I can’t
ให้นักเรียนฟังและทำความเข้าใจ live without it 1 รอบ
6. ครูแจก Text 3 เรื่อง I can’t live without it แล้วออกเสียงตามทีละประโยคอีก 1 รอบ
แล้วเปิดเสียงบทสนทนาผ่านโปรแกรม
PowerPoint ให้นักเรียนฟัง 1 รอบ 7. นักเรียนแบ่งกลุ่มเพื่อฝึกสนทนา
แล้วให้นักเรียนออกเสียงตามทีละประโยคอีก 1 โดยให้ครึ่งหนึ่งเป็นฝ่ายหนึ่ง
รอบ และอีกครึ่งหนึ่งเป็นฝ่ายตรงข้าม
7. ครูให้นักเรียนฝึกสนทนา จากนั้นสลับบทบาทกัน
โดยให้ครึ่งหนึ่งเป็นฝ่ายหนึ่ง 8. นักเรียนฟังครูอธิบาย Text 3 ผ่านโปรแกรม
และอีกครึ่งหนึ่งเป็นฝ่ายตรงข้าม PowerPoint โดยโยงเข้าสู่ Tex1 และ Text2
จากนั้นสลับบทบาทกัน พร้อมตอบคำถามเกี่ยวกับบทสนทนาเพื่อตรวจสอบ
8. ครูอธิบาย Text 3 ให้นักเรียนฟังผ่านโปรแกรม ความเข้าใจอีกครั้ง
PowerPoint โดยโยงเข้าสู่ Tex1 และ Text2 9. นักเรียนจับคู่ฝึกบทสนทนา
พร้อมถามคำถามเกี่ยวกับบทสนทนาเพือ่ ตรวจสอบ
ความเข้าใจอีกครั้ง
9. ครูให้นักเรียนจับคู่ฝึกบทสนทนา

Mechanical Practice 1 – Kim’s Game


(จากหนังสือ 200 กิจกรรมสอนภาษาอังกฤษ หน้า
13)
1. 1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
ครูอธิบายขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมให้นักเรียนฟั
ง - นักเรียนจับคู่
- ครูให้นักเรียนจับคู่ - นักเรียนฟังคำอธิบายวิธีการเล่นเกม
- ครูอธิบายวิธีการเล่นเกม 2. นักเรียนแต่ละคูร่ ับกระดาษ
2. ครูแจกกระดาษให้แต่ละคู่ 3.
3. ครูเปิดโปรแกรม PowerPoint นักเรียนดูรายการคำศัพท์บนโปรแกรมPowerPoint
ซึ่งจะแสดงรายการคำศัพท์ และให้เวลาแต่ละกลุ่ม และพยายามจดจำคำศัพท์ภายในเวลา 1 นาที
1 นาทีในการจำคำศัพท์ 4.
4. นักเรียนแต่ละคูเ่ ขียนคำศัพท์ลงในกระดาษที่ครูแจกใ
ครูให้นักเรียนแต่ละคูเ่ ขียนคำศัพท์ลงในกระดาษที่ ห้มากที่สุดเท่าที่จะจำได้
แจกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 5.
5. นักเรียนดูความหมายของคำศัพท์บนจอโปรเจคเตอร์
ครูแสดงความหมายของคำศัพท์บนจอโปรเจคเตอร์ แล้วจับคูค่ ำศัพท์ที่เขียนบนกระดาษที่คิดว่าตรงกับค
แล้วให้ผู้เรียนแต่ละคู่จับคูค่ ำศัพท์ที่เขียนบนกระดา วามหมาย
ษที่คิดว่าตรงกับความหมาย
6. ครูตรวจคำตอบและบันทึกคะแนนของนักเรียน

Mechanical Practice 2 – Authentic


Material – Phone Booth by Jimmy
Fallon
1. 1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
ครูอธิบายขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมให้นักเรียนฟั
ง - นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม
- ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม - นักเรียนดูคำถามบนจอ
- ครูแสดงคำถามให้นักเรียนตอบบนจอ - นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับการเติมโครงสร้าง
- Verb + Infinitive จำนวน 5 ข้อ
ครูให้นักเรียนตอบคำถามโดยการเลือกคำตอบลงใ
นช่องว่างที่เกี่ยวกับโครงสร้าง Verb + Infinitive 2. นักเรียนดำเนินกิจกรรม
จำนวน 5 ข้อคำตอบ
2. ครูให้นักเรียนดำเนินกิจกรรม
3. ครูตรวจคำตอบ
กติกา:
- เมื่อฝ่ายตรงข้ามตอบคำถามถูก
อีกฝ่ายหนึ่งให้ส่งตัวแทนออกไปกลุ่มละ 2 คน
ยืนบนกระดาษหนังสือพิมพ์
- หากกลุ่มใดออกนอกหนังสือพิมพ์
กลุ่มนั้นจะเป็นฝ่ายแพ้ทันที
Meaningful Practice 1 – Quizizz
(จากเว็บไซต์ https://quizizz.com/)
1. ครูอธิบายขั้นตอนการใช้ Quizizz ให้นักเรียนฟัง 1. นักเรียนฟังครูอธิบายวิธีการใช้ Quizizz
2. ครูแสดงรหัสเข้า Quizizz 2. นักเรียนใช้รหัสเข้า Quizizz
ให้กับนักเรียนแต่ละคน
3. ครูเปิด https://quizizz.com/join 3. นักเรียนดู https://quizizz.com/join
และแสดงคำถามเรื่อง I can’t live without it และตอบคำถามเรื่อง I can’t live without it
ให้แก่นักเรียนทีละข้อ จำนวน 5 ข้อ บน จำนวน 5 ข้อ บน PowerPoint
PowerPoint
4. ครูตรวจคำตอบและบันทึกคะแนนของนักเรียน

Meaningful Practice 2 – Script role play


(จากหนังสือ 500 กิจกรรมสอนภาษาอังกฤษ หน้า
146) 1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
1.
ครูอธิบายขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมให้นักเรียนฟั - นักเรียนจับคู่
ง - นักเรียนรับบทละคร
- ครูให้นักเรียนจับคู่ - นักเรียนเลือกบทบาทที่จะแสดง
- ครูแจกบทละครให้นักเรียน - นักเรียนฝึกพูดตามบทละคร
- ครูให้นักเรียนเลือกบทบาทที่จะแสดง คำศัพท์โครงสร้างที่เรียนมาแล้วให้มากที่สุด
- ครูให้นักเรียนฝึกพูดตามบทละคร คำศัพท์ - นักเรียนแต่ละคู่แสดงบทบาทสมมุติหน้าชั้น
โครงสร้างที่เรียนมาแล้วให้มากที่สุด - นักเรียนแต่ละคู่สลับบทบาทสมมุติ
- ครูให้นักเรียนแต่ละคู่แสดงบทบาทสมมุติหน้าชั้น 2. นักเรียนดำเนินกิจกรรม
- ครูให้นักเรียนแต่ละคู่สลับบทบาทสมมุติ
2. ครูให้นักเรียนดำเนินกิจกรรม
3. ครูตรวจคำตอบและบันทึกคะแนนของนักเรียน
Communicative Practice 1 – The onion
(จากหนังสือการสอนพูดภาษาอังกฤษ)
1. 1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
ครูอธิบายขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมให้นักเรียนฟั
ง - นักเรียนนัง่ เป็นวงกลม 2 วง
- ครูให้นักเรียนนั่งเป็นวงกลม 2 วง วงกลมนอกและวงกลมใน
วงกลมนอกและวงกลมใน นักเรียนวงกลมนอกและวงกลมในหันหน้าเข้าหากัน
นักเรียนวงกลมนอกและวงกลมในหันหน้าเข้าหากัน - นักเรียนอ่านประเด็นที่จะแสดงความคิดเห็นบน
- ครูแสดงประเด็นที่จะแสดงความคิดเห็นบน PowerPoint
PowerPoint - How do you go to school?
- How do you go to school? - Why you choose this vehicle?
- Why you choose this vehicle? - What are the advantages of this
- What are the advantages of this vehicle?
vehicle? - Are there any disadvantages of this
- Are there any disadvantages of this vehicle?
vehicle? - นักเรียนแต่ละคู่ที่หันหน้าเข้าหากันถาม-
- ครูให้นักเรียนแต่ละคู่ที่หันหน้าเข้าหากันถาม- ตอบประเด็นที่ครูให้มา ใช้เวลา 2 นาที ในการถาม-
ตอบประเด็นที่ครูกำหนดให้ ให้ใช้เวลา 2 นาที ตอบ
ในการถาม-ตอบ หลังจากนั้นนักเรียนวงกลมนอกเลื่อนไปหาคู่สนทนาที่
หลังจากนั้นให้นักเรียนวงกลมนอกเลื่อนไปหาคู่สนท อยู่วงกลมในคนใหม่ แล้วถาม-
นาที่อยู่วงกลมในคนใหม่ แล้วถาม- ตอบประเด็นเดิมเป็นเวลา 2 นาที ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ตอบประเด็นเดิมเป็นเวลา 2 นาที 2. นักเรียนดำเนินกิจกรรม
ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
2. ครูให้นักเรียนดำเนินกิจกรรม
3. ครูสังเกตและประเมินทักษะการพูดตามแบบ
ประเมินทักษะการพูด

Communicative Practice 2 – Debate:


(จากหนังสือ 700 กิจกรรมสอนภาษาอังกฤษ หน้า
29)
1. ครูอธิบายขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมให้นักเรียน 1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
ฟัง
- ครูเปิดวิดีโอการโต้วาทีให้นักเรียนดูเพื่อเป็น - นักเรียนดูวิดีโอการโต้วาทีเพือ่ เป็นตัวอย่าง
ตัวอย่าง
- ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน - นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน
- ครูจับคู่และลำดับการโต้วาทีให้นักเรียนแต่ละ - นักเรียนจับคู่และลำดับการโต้วาที
กลุ่ม
- ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งออกเป็นสองฝ่าย - นักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ได้แก่
ได้แก่ ฝ่ายเสนอและฝ่ายค้าน โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะมี ฝ่ายเสนอและฝ่ายค้าน โดยทั้ง 2
หัวหน้าฝ่าย 1 คน และมีผู้สนับสนุนฝ่ายละ 3 คน ฝ่ายจะมีหัวหน้าฝ่าย 1 คน และมีผู้สนับสนุนฝ่ายละ
- ครูเปิดหัวข้อการโต้วาทีเกี่ยวกับประเด็นที่ 3 คน
กำหนดให้บนจอโปรเจคเตอร์ - นักเรียนดูหัวข้อการโต้วาทีเกี่ยวกับประเด็นที่
- Going to school by car is better กำหนดให้บนจอโปรเจคเตอร์
than bicycle. - Going to school by car is better than
- ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งบทบาทและร่วมกัน bicycle.
อภิปรายเป็นเวลา 15 นาที - นักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งบทบาทและร่วมกัน
- ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเตรียมตัวออกมาโต้วาที อภิปรายเป็นเวลา 15 นาที
หน้าชั้นเรียน - นักเรียนแต่ละกลุ่มเตรียมตัวออกมาโต้วาทีหน้า
- ครูให้นักเรียนคู่ที่ 1 ออกมาเพื่อโต้วาทีหน้าชั้น ชั้นเรียน
เรียน ทำซ้ำจนครบทุกคู่ - นักเรียนคูท่ ี่ 1 ออกมาโต้วาทีหน้าชั้นเรียน ทำซ้ำ
2. ครูให้นักเรียนดำเนินกิจกรรม จนครบทุกคู่
3. ครูสังเกตและประเมินทักษะการพูดตามแบบ 2. นักเรียนดำเนินกิจกรรม
ประเมินทักษะการพูด
Note:
- แต่ละฝ่ายประกอบไปด้วย หัวหน้าฝ่ายเสนอ,
หัวหน้าฝ่ายค้าน, รองหัวหน้าฝ่ายเสนอ,
รองหัวหน้าฝ่ายค้าน, กรรมการฝ่ายเสนอ,
กรรมการฝ่ายค้าน, เลขาธิการฝ่ายเสนอ,
และเลขาธิการฝ่ายค้าน

7. การวัดผลและประเมินผล
กิจกรรมที่จะประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือประเมิน
1. Mechanical Practice 1: ตรวจและให้คะแนน -
(Kim’s game)
2. Mechanical Practice 2: ตรวจและให้คะแนน -
(Phone Booth)
3. Meaningful Practice 1: ตรวจและให้คะแนน -
(Quizizz)
4. Meaningful Practice 2: ประเมินทักษะการอ่าน, แบบประเมินทักษะการอ่าน,
(Script role play) ประเมินทักษะการพูด แบบประเมินทักษะการพูด
5. Communicative Practice: ประเมินทักษะการพูด แบบประเมินทักษะการพูด
(The onion)
6. Communicative Practice: ประเมินทักษะการพูด แบบประเมินทักษะการพูด
(Debate)

8. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
ลงชื่อ.........................................
(นางสาวเกษศิริน สากระจาย)
วันที่........เดือน.......................พ.ศ..........

9. ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(นายชวลิต พาระแพน)
วันที่........เดือน.......................พ.ศ..........

10. ความคิดเห็นของรองผู้อํานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
ลงชื่อ.................................................
(นางสาวสุปัณฑิตา พวงศรี)
วันที่........เดือน.......................พ.ศ.........

11. ความคิดเห็นของผู้อํานวยการโรงเรียน
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
ลงชื่อ................................................
(นายเทพรังสรรค` สุวรรณโท)

12. กิจกรรมเสนอแนะ
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................

13. บันทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
13.1 ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................

13.2 ปัญหาและอุปสรรค
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
Text 1

transportation (n.) a vehicle or system of


vehicles, such as buses, trains, etc. for getting
from one place to another

Example: Have you ever used public


transportation?
crowded (adj.) full of people

Example: I refuse to take a crowded bus or the


subway.

subway (n.) an underground passenger train or


rail system in a large city

Example: I refuse to take a crowded bus or the


subway.

traffic (n.) the movement of people or


vehicles along a sidewalk, road, or other route
of travel
Example: Sometime I get caught up in the
traffic.

environment (n.) everything that surrounds a


particular type of living thing and affects its
growth and health

Example: I help the environment.


pollution (n.) damage caused to water, air,
etc. by harmful substances or waste

Example: there’s less pollution, gas emission.

customer (n.) a person who buys products or


services

Example: However, I depend on the car for


visiting customers and getting around.

Text 2
Structure
Verb + Infinitive
Usage: Some verbs can be followed by infinitives as objects
Study the ones in the box.

afford dare learn offer seem


agree decide manage plan tend
arrange fail mean pretend threaten
For example:
I refuse to take a crowded bus or the subway.
I can’t afford to waste any time waiting for transportation.

Usage: Use to say purpose or why you do something

For example:
I went to the bank to cash a check.

Text 3
จากหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ New World 6 หน้า 15
Mechanical Practice 1
Kim’s Game
Directions:
1. Get into pairs.
2. Get the pieces of paper.
3. Memorize a series of words in a minute.
4. Write down the words you can remember on the pieces of paper.
5. Match a word with the definition.
Mechanical Practice 2
Phone booth
Directions:
1. Get into 3 groups.
2. Answer the questions.
3. Send 2 people when another team can answer it correctly.
Note:
If anyone leaves the newspaper, that group will be the loser.

Direction: Choose the best alternative to complete the conversation.


Conversation
James: Have you ever used public transportation?
Brian: I __(1)__ a crowded bus or the subway, and I can't afford __(2)__any time waiting for
transportation.
James: I always come to work by bike, and I ___(3)___to the office on time.
Brian: Sometimes I get caught up in the traffic.
James: With my bike, I help the environment and it's healthier to bike to work.
Brian: I guess you're right. I should walk or bike ___(4)____in order to get exercise.
James: You'll soon get used to using public transportation ___(5)____ wherever you want.
Brian: You're probably right.

1. 1. refuse to take 3. refuse taking


2. refuse took 4. refuse to taken
2. 1. waste 3. wasted
2. wasting 4. to waste

3. 1. manage driving 3. manage to drive


2. to manage drive 4. to driven manage

4. 1. working 3. worked
2. work 4. to work

5. 1. going 3. gone
2. to go 4. to be gone
Meaningful Practice 1
Quizizz
Directions:
1. Enter the game code
2. Answer the question

1. According to the conversation, all of the following are possible EXCEPT “___” (O-NET ปี
2561ข้อ 74, ต 1.1 ม.6/4 วิเคราะห์ความจากการอ่านเรื่อง)
1. James always goes to work by bike to help the environment
2. James suggests Brian to use public transportation
3. Brian agrees with James to ride the bicycle
4. Brian sometimes goes to work on time
5. Brian thinks his car is very important

2. It can be inferred that ________. (O-NET ปี 2559 ข้อ 72, ต1.1 ม.6/4 ตีความจากการอ่านเรื่อง)

1. a crowded bus and the subway are friendly to the environment


2. using a bike to work is faster than a bus
3. public transport can save the environment from pollution
4. cycling can reduce pollution and gas emission
5. many people normally come to work by bike

3. It is TRUE that ______________________. (O-NET ปี 2561 ข้ อ 75, ต 1 . 1 ม . 6 / 4


วิเคราะห์ความจากการอ่านเรื่อง)
1. Brian always comes to work by bike
2. James exercises by riding a bike
3. James hates taking a crowded bus
4. Brian doesn’t change his mind to use public transportation

4. In the end, Brian____. (O-NET ปี 2559 ข้อ 58, ต 1.1 ม.6/4 สรุปความสำคัญจากการอ่านเรื่อง)
1. agrees with James to use public transport to go wherever he wants
2. doesn’t want to help the environment by using a bike
3. still love to take a crowded bus and the subway
4. uses his own car to go to work instead of biking
5. thinks that it’s unhealthy to go to work by bike

5 . The conversation is mainly about _________. (O-NET ปี 2560 ข้ อ 74, ต 1 .1 ม .6 / 4


สรุปความสำคัญจากการอ่านเรื่อง)

1. the benefit of using public transportation


2. the best car in the world
3. the life of two best friends
4. the disadvantages of public transportation
(O-NET ปี 2561 ข้อ 74, ต 1.1 ม.6/4
วิเคราะห์ความจากการอ่านเรื่อง)
(O-NET ปี 2559 ข้อ 72, ต1.1
ม.6/4 ตีความจากการอ่านเรื่อง)
(O-NET ปี 2561 ข้อ 75, ต 1.1
ม.6/4
วิเคราะห์ความจากการอ่านเรื่อง)
(O-NET ปี 2559 ข้อ 58, ต 1.1 ม.6/4
วิเคราะห์ความจากการอ่านเรื่อง)
(O-NET ปี 2562 ข้อ 67, ต 1.1 ม.6/4
แสดงความคิดเห็นจากการอ่านเรื่อง)
Meaningful Practice 2
Script role play
Directions:
1. Get in pairs.
2. Get the script.
3. Prepare the role play by following the script.
4. Present the role play with your partner in front of the class.
5. Switch the role plays.

Script
James: Have you ever used public transportation?
Brian: I refuse to take a crowded bus or the subway, and I can't afford to waste any time waiting
for transportation.
James: Well, I always come to work by bike and I manage to get to the office on time, while you
often arrive late.
Brian: Sometimes I get caught up in the traffic.
James: With my bike, I help the environment. There’s less pollution, gas emissions, and it's
healthier to bike to work.
แบบประเมินทักษะการอ่าน
Meaningful Practice 2 – Script role play
ประเด็น/คะแน ความคล่องแคล่ การแสดงท่าทาง/น้ำเสียงประกอบการ
น ความถูกต้อ ว พูด รวมคะแน
เลข ง น
ที่ 8 8 4 20
ชื่อ - สกุล
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.

ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน
(................................................................)
วันที่..........เดือน...............................พ.ศ. ............
เกณฑ์การให้คะแนนทักษะการอ่าน

เกณฑ์ การให้ คะแนน


ระดั

บคะ

แนน



ประ 4 3 2 1

เด็น

การ ม
ประ
เมิน
ควา อ่านออกเสี ยง อ่านออกเสี ยงคาศัพท์และประโ อ่านออกเสี ยงคาศัพท์แ อ่านออกเสี ยงคา/
มถูก คาศัพท์และปร ยคได้ถูกต้องตามหลักการออกเ ละประโยคได้ถูกต้องเป็ ประโยคผิดหลักก
ต้อง ะโยคได้ถูกต้อ สี ยงมีเสี ยงเน้นหนักในคา/ประ นส่วนใหญ่ขาดการออก ารออกเสี ยงทาให้
งตามหลัก โยคเป็ นส่วนใหญ่ เสี ยงเน้นหนัก สื่ อสารไม่ได้
การออกเสี ยง
ออกเสี ยงเน้น 4
หนักในคา/ปร
ะโยคอย่างสม
บูรณ์

ควา อ่านต่อเนื่อง อ่านตะกุก อ่านเป็ นคา ๆ อ่านได้บางคา


มคล่ ไม่ติดขัด ตะกักบ้าง แต่ยงั พอสื่ อสารได้ หยุดเป็ นช่วงๆ ทาให้สื่อ
องแ อ่านชัดเจน เพื่อทาให้ ความหมาย 4
คล่ว ทาให้สื่อสารไ สื่ อสารได้ไม่ ไม่ได้
ด้ ชัดเจน
การ แสดงท่าทาง อ่านด้วยน้ าเสี ยง อ่านเหมือนอ่าน อ่านได้น้อยมาก
แสด และอ่านด้วย เหมาะสมกับ ไม่เป็ นธรรมชาติขาดคว
งท่า น้ าเสี ยงเหมาะ บทบรรยาย ามน่าสนใจ
ทาง/ สมกับบทบรร แต่ไม่มีท่าทาง
น้ าเ ยาย ประกอบ 2
สี ยง
ประ
กอบ
การ
พูด
รวม 1
0

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
9-10 ดี
6-9 พอใช้
1-5 ควรปรับปรุง
เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
แบบประเมินทักษะการพูด
(Meaningful Practice: Script role play)

เลข เกณฑ์การประเมิน การออกเสียง ความถูกต้องของเนื้อหา ความคล่องแคล่ว รวม


ที่ (3) (4) (3) (10)
3 2 1 4 3 2 1 3 2 1
ชื่อ – สกุล
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14

ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน
(................................................................)
วันที่..........เดือน...............................พ.ศ. ............

เกณฑ์การให้คะแนนการพูด
1. การออกเสียง (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึง ออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ทำให้
สื่อสารได้ชัดเจน
2 คะแนน หมายถึง ออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคำแต่ยังพอสื่อสารได้
1 คะแนน หมายถึง เสียงเน้นหนักในคำศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้
2. ความถูกต้องของเนื้อหา (4 คะแนน)
4 คะแนน หมายถึง พูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหา
3 คะแนน หมายถึง พูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหาบางส่วน
2 คะแนน หมายถึง พูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนือ้ หาบางส่วน
1 คะแนน หมายถึง พูดไม่ถกู ต้อง ไม่ตรงประเด็นตามเนื้อหา
4. ความคล่องแคล่ว (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึง พูดต่อเนื่อง ไม่ติดขัด ทำให้เกิดการสื่อสาร
2 คะแนน หมายถึง พูดเป็นคำ ๆ หยุดเป็นระยะ ๆ พูดติดขัด ทำให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง
1 คะแนน หมายถึง พูดเป็นคำ ๆ หยุดบ่อย พูดติดขัด ทำให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
9-10 ดี
6-9 พอใช้
1-5 ควรปรับปรุง

เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์

Communicative Practice 1
The onion
Directions:
1. Get into 2 teams.
2. Make 2 circles.
3. Make a conversation by using given questions below.
4. Switch the role.
5. Change your partner.

Questions
- How do you go to school?
- Why you choose this vehicle?
- What are the advantages of this vehicle?
- Are there any disadvantages of this vehicle?
แบบประเมินทักษะการพูด
(Communicative Practice: The onion)

เลข เกณฑ์การประเมิน การออกเสียง ความถูกต้องของเนื้อหา ความคล่องแคล่ว รวม


ที่ (3) (4) (3) (10)
3 2 1 4 3 2 1 3 2 1
ชื่อ – สกุล
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14

ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน
(................................................................)
วันที่..........เดือน...............................พ.ศ. ............

เกณฑ์การให้คะแนนการพูด
1. การออกเสียง (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึง ออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทำให้
สื่อสารได้ชัดเจน
2 คะแนน หมายถึง ออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคำ แต่ยังพอสื่อสารได้
1 คะแนน หมายถึง เสียงเน้นหนักในคำศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้
2. ความถูกต้องของเนื้อหา (4 คะแนน)
4 คะแนน หมายถึง พูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหา
3 คะแนน หมายถึง พูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหาบางส่วน
2 คะแนน หมายถึง พูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนือ้ หาบางส่วน
1 คะแนน หมายถึง พูดไม่ถกู ต้อง ไม่ตรงประเด็นตามเนื้อหา
4. ความคล่องแคล่ว (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึง พูดต่อเนื่อง ไม่ติดขัด ทำให้เกิดการสื่อสาร
2 คะแนน หมายถึง พูดเป็นคำ ๆ หยุดเป็นระยะ ๆ พูดติดขัด ทำให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง
1 คะแนน หมายถึง พูดเป็นคำ ๆ หยุดบ่อย พูดติดขัด ทำให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
9-10 ดี
6-9 พอใช้
1-5 ควรปรับปรุง

เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์

Communicative Practice 2

Debate
Directions:
1. Get into groups of 4.
2. Assign the Affirmative and the Negative.
3. Read the motion of debating on the screen.
Note:
- One team is the affirmative role (defends “pros” of the topic) and the other is
negative role (defends “cons” of the topic).
- The motion is:
1) Going to school by car is better than by bicycle.
4. Discuss and prepare with each other in your group.
Note:
- 15 minutes to research for the given motions
Roles of Speakers
Affirmative: Prime Minister, Deputy Prime Minister, Member of the Government,
Government Whip
Negative: The Leader of the Opposition, Deputy Leader of the Opposition, Member
of the Opposition, Opposition whip
- Teacher chooses or asks two students to be a moderator and a timer.

Negative’s Guideline:
Moderator Guideline:

Good morning/afternoon ladies and gentlemen. I, as the first speaker from negative team.
Good morning/afternoon ladies and gentlemen. This debate will come to order. Do you agree
- I disagree
with this quote “Going withby“Going
to school car isschool
betterbythan
car by
is better than by bicycle”.
bicycle”.
- I am going to discuss________________________________________________________points.
- Let me come to my first/second/.../next argument___________________________________.
- There are many disadvantages of__________________________________________________.
- So/in conclusion/to summarize____________________________________________________.
- He / She also said that___________________________; but in fact, ______________________.
Affirmative’s Guideline:
- And for all of these reasons, the motion must fall.

Good morning/afternoon ladies and gentlemen. I, as the first speaker from affirmative team.
- I disagree with “Going to school by car is better than by bicycle”.
Report
- I am going to discuss________________________________________________________points.
1. Starts discussion by the first affirmative team. (2 minutes)
- Let me come to my first/second/.../next argument___________________________________.
2. Present the ideas by the first negative team. (2 minutes)
- So/in conclusion/to summarize____________________________________________________.
3. Present the ideas and against the previous speaker by the second affirmative
- He / She also said that___________________________; but in fact, ______________________.
- And for all of these reasons, the motion must stand. Next, let the _________speaker from
negative team to explain the motion. The time is yours
- Thank you. That’s the opinion from negative team.
team. (2 minutes)
4. Present the ideas and against the previous speaker by the second negative team.
(2 minutes)
5. Present the ideas and against the previous speaker by the third affirmative team.
(2 minutes)
6. Present the ideas and against the previous speaker by the third negative team.
(2 minutes)
7. Present the ideas and against the previous speaker by the fourth affirmative team.
(1 minute)
8. Present the ideas and against the previous speaker by the fourth negative team.
(1 minute)
9. Summarize their own positions. (1 minute)

Timetable
Affirmative Time Negative Time
Prime Minister (2 minutes) The Leader of the Opposition
(2 minutes)
Deputy Prime Minister Deputy Leader of the
(2 minutes) Opposition (2 minutes)
Member of the Government Member of the Opposition
(2 minutes) (2 minutes)
Government Whip (1 minute) Opposition whip (1 minute)
Prime Minister (1 minute) The Leader of the Opposition
(1 minute)
แบบประเมินการพูดโต้วาที
กิจกรรม Debate
เกณฑ์การให้คะแนน
พูดตาม หักล้าง การเสนอ น้ำเสียงและ ความถูกต้อง
ประเด็น ข้อเสนอของ ความคิดเห็น ท่าทาง (3)
ที่ ชื่อ-สกุล (3) ฝ่ายตรงข้าม (3) ประกอบ รวม
ได้ชัดเจน การพูด
(3) (3)
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 15
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.

ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน
(................................................................)
วันที่..........เดือน...............................พ.ศ. ............

เกณฑ์การให้คะแนนการพูด
1. พูดตามประเด็น (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึง พูดถูกต้องตามประเด็นและครอบคลุมญัตติ
2 คะแนน หมายถึง พูดถูกต้องตามประเด็นและครอบคลุมญัตติบางประเด็น
1 คะแนน หมายถึง พูดไม่ถกู ต้องตามประเด็นและไม่ครอบคลุมญัตติ
2. หักล้างข้อเสนอของฝ่ายตรงข้ามได้ชัดเจน (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึง พูดนําเสนอข้อมูลหักล้างข้อมูลฝ่ายตรงข้ามได้ชัดเจนทุกประเด็น
2 คะแนน หมายถึง พูดนําเสนอข้อมูลหักล้างข้อมูลฝ่ายตรงข้ามได้ชัดเจนบางประเด็น
1 คะแนน หมายถึง พูดนําเสนอข้อมูลหักล้างข้อมูลฝ่ายตรงข้ามได้บางประเด็น
3. น้ำเสียงและท่าทางประกอบการพูด (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึง แสดงท่าทางและพูดด้วยน้ำเสียงเหมาะสมกับบทบรรยาย
2 คะแนน หมายถึง พูดด้วยน้ำเสียงเหมาะสมกับบทบรรยาย แต่ไม่มที ่าทางประกอบ
1 คะแนน หมายถึง พูดเหมือนอ่าน ไม่เป็นธรรมชาติ ขาดความน่าสนใจ
4. ความถูกต้อง (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึง พูดได้ตรงตามเนื้อหาและประโยคถูกต้องตามหลักการออกเสียงออก
เสียงและไวยากรณ์สมบูรณ์
2 คะแนน หมายถึง พูดไดIตรงตามเนือ้ หาและประโยคถูกต้องตามหลักการออกเสียงออก
เสียงและไวยากรณ์ทางภาษาผิดเล็กน้อย
1 คะแนน หมายถึง พูดได้ตรงตามเนื้อหาและประโยคถูกต้องตามหลักการออกเสียงออก
เสียงและไวยากรณ์ทางภาษาผิด

หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 12-15 คะแนน หมายถึง ดีมาก


8-11 คะแนน หมายถึง ดี
5-8 คะแนน หมายถึง พอใช้
1-4 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 8 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์

You might also like