You are on page 1of 6

ProLany

II
ห กการ

· โดเมน และกระบวน ศน
·
เ งง บ ·

น / ·
/
การโปรแกรม
เง ง น
-

·
ความ าเ อ อ ↳/ -ร
/
ศ และ
·
กระบวน ศ

-การโปรแกรม -
<
&
เง

·
เงต
ตรรกะ

·↳
กระบวน


-
การ ระเ น
การประเ นความสามารถ

/
ความสามารถของ
ภาษาโปรแกรม
·
เ ง โครง า ส

·
ภาษาโปรแกรม
พ อม
ภาวะ

· เพ ยง · เ ง มต

()
วน


·
ไ ย
การน ไปใ โดย
ให
·
·- ปอท
การเค อน าย
การ ก หนด รา


ทั
บั
ฟั
ทั
ทั
ร้
ค่
ฉ่
มี
ป็
ชิ
ชิ
ชิ
ชิ
ชิ
ชิ

ม้
ขั้

ร้
ลั
ก์
รี
วั
น์
ชั
น์
คั
น่

ถุ
ลื่
ชื่
มิ
ย้
ถื
ช้

2

บท กระบวน ศ และการประเ น ความสามารถภาษา โปรแกรม

2.17 โดเมน และกระบวน ศ การโปรแกรม


ภาษา โปรแกรม ก ส าง
นมา โดย อง การออกแบบ ใ เหมาะสม บ Domain พอง ภาษาและแ
า ภาษา จะ
ละ การเ ยน

ห อเ ยก ก อ าง า Programming Paradigm ก ระ มาน ศ การ โปรแกรม แตก าง น

2.27 กระมาน ศ การ โปรแกรม


· กระบวน ศ การ โปรแกรม เ งง บ (Imperative Programming Paradigm) :เ น การ เ ยนโปรแกรม
ประกอบ วยก ม ค งเ ยว อง บ การเป ยนแปลงสถานะ ของ วแปรและสถา ตยกรรม อน มอ ย น

·· ก ระมาน ศ การ โปรแกรมเ งง น | Functional


ProgrammingParadigm) :เ น เ ยนโปรแกรมประกอบ วย
ง นและ ค ใน
ง การเ ยกใ ง นเ นห ก
จะ
· กระบวน ศ การ โปรแกรมเ ง
ตรรกะ ( Logical ProgrammingParadigm) : เน เ ยนโปรแกรม โปรแกรม
ประกอบ วยประโยคค ปแบบ อความ
ง ใน และ กฎ

·· กระบวน ศ การโปรแกรมเ เ ยนโปรแกรม เ ยว อง


ง ต (
Object - OrientedProgrammingParadigm) :เ น

เ นห ก จะ เ นสมา ก ของClass
มต
ประกอบ วย อ งต ล และเม อด างๆโดย ต

#การเป ยนแปลง สถานะ ของ วแปร อาจ หมาย ง การ เป ยน ของ อ ล


· เ ง งน
ทั
ทั
ถู
ต้
กั
มี
ต้
มีวิ
กิ
อี
ทั
ว่
ที่
ทั
กั
ทั
ตั
ผั
วิ
ที่
ที่
กั
ตั
ทั
น์
มั
ท่
ฟั
ที่
วิ
ฟั
ฟั
ทั
ที่
วิ
ทั
ข้
รู
ที่
วิ
วั
กั
วั
ข้
วั
ต่
ถึ
ตั
ข้
ค่
ต้
พั
ป็
ธี
ธี
ขี
ขี
ห้
รี
ป็
กี่
ป็
ขี
ธี
ขี
ลุ่
ป็
ชิ
ซึ่
ป็
ชิ
ป็
ต่
กี่

รื
ธี
ขึ้
ชิ
ชิ
ร้
ป็
ย่
ลี่

ธี

น์
ก์
ถุ
ก์
ถุ
สั่
ท็
ถุ
น์
มู
ก์
ต่
น์
น์
น์
ชั
มู
วั
ชั
ปั
สั่
น์
น์
สั่
ชั
รี
ชิ
ลี่
ข้
น์
ลั
ลั
ข้
ด้
ที่
ถุ
ชิ
ขี
ช้
ด้
ด้
ด้
ลี่
มิ
· เ งง น

ง รรกะ
·เ ต เ นการเ ยนโปรแกรม จะ การก หนด ค ง อ ใน ปแบบอความ และกฎ กจะ น การเ ยนโปรแกรม
ไป
แมน
ป ใ ในKnowledge Systemและ RuleBased System

·เ ง ต การเ ยนโปรแกรม แมน objectจะประกอบไป


ป วย Attributeเ อ งบอก ง อ ล ณ กษณะ

ของ Objectและ Method เมลก ง


พฤ กรรม
ห อความสามารถ Object ไ

~ ห กการ อง ใน การเ ยนโปรแกรมเ ง ต


1) การส าง Class, ObjectและAbstractClass
2) การก หนด Relationshipระห าง Class

2.1 การ ายทอด ( Inheritaniel

2.2 ความหลากหลาย ป าง ( Polymorphism)


2.3 Overriding Method การเ ยน method พmethodเ ม Superclass อ

2.4 Overloading Method การเ ยน method อ นแ parameters าง น

3) การก หนด ClassAttribute และ


ObjectAttribute เ ยว อง น

3.1 Class Variable และ Instance Variable

3.2 Class Method และ Instance Method

4) การก หนด Method ใ บObjectรวม งInterfaceเ อ ก หนดโครง าง Method ของObject

5) การ อสาร ระห าง Object

61 การควบ มการเ า งของ


Object
6.9 Private เ า งไ แ ภายในClass

6.2 Protected subclass สามารถ เ า งไ

6.3 Public นอก class เ า งไ หมด


ฟั
มี
ที่
ที่
มั
ข้
รู
นี้
รู
นี้
รู
บ่
ข้
คุ
ถึ
ที่มี
ที่
รู้
ที่ต้
รู
ถ่
ทั
มี
ที่
กั
ซ้
ที่ชื่
ต่
ที่
กั
กั
กี่

ข้
ข้
ป็


ด้
ย่
พื่
พื่
ดิ
ห้
รื
ชิ

ช้
ต่
ยู่
ค่
มู
ลั
ถึ
ชิ
ร่
ข้
ถึ
กั
สั่
ชิ
จิ
ติ

ว่
ว่
ข้
ก์
ถึ
ลั
ขี
ขี
ขี
วั
ด้
ขี
ร่
ด้
ถึ
ชั
ถึ
สื่
วั
ถุ

ร้


ถุ
คุ
ด้
ข้
ถึ
ด้
ขี
ขี
· เ งโครงส าง เ น
การเ ยนโปรแกรม เ นความเ น ระเ ยนและ การออกแบบ โครงส าง ของโปรแกรม ใ อใน ปแบบ ดเจน
โดย งเก
ของการเ ยนโปรแกรม ไ แ การควบ มแบบ ม , เ อก,แพม และการ โปรแกรม ออกเ น อยๆ
ด หก ปแบบ ล
แบบ วน แ ง น ง

·เ งนตอนเ น การเ ยนโปรแกรม แ ง ญหา ออก เ น ง น ๆ จะ กท งาน ตามล


อย บ

·o ภาวะพ อมเพ ยงเ นการเ ยนโปรแกรม สามารถประมวลผล งานหลาย ไ


ท ใ ๆอ าง
พ อม น

2.3) การประเ ความสามารถ


น ของ ภาษา โปรแกรม
·· ความสามารถ ในการ าน ( Readability
·· ความสามารถในการ เ ยน ( Writability)
·· ความเ อ อไ ( Reliability)
· าใ าย ( Costl
·· ความสามารถใน การเค อน ายPortability)
·· ความสามารถ ในการ น ไปใ โดย วไป (Generality)
·· การ อก หนด ของ ภาษา Well-
( defined Specification

2.3.1 การประเ ความสามารถ


น ในการ าน
-ค งและ ว ด เ นการาน าย และไ บ อน
- ช ด อ ลเ ยงพอ วย ใ านcodeไ าย

-
ปแบบ การเ ยนโปรแกรม อ ความหมาย เ าใจเ นการ ง อ วแปร

2.3.2 การประเ น ความสามารถ ในการเ ยน


-ท ใ เ ยนโปรแกรม ไ าย เ น เ ยนค แ ญหา ไ
ง าย

-ท ใ โปรแกรม เ ยน ไ ยาว เ นไป ง


น ง errorอย ( านยากเ ยน ายๆ

~-
ค ง น
ไป แ ญหา บ อน ไ าย

2.3.3 การประเ นความ าเ อ อ


- ไ ควร ค ง ท ใ เ ด errorไ าย เ นจ นวนมาก
- การ ดการ อยกเ นเ อ ตรวจบ อ ดพลาดใน กษณะ างๆ
- ค ง ไ มากเ นไปห อ ไ บ อน ในการใ งาน
- อ ดพลาด compilerตรวจสอบ ไ และ compile ไ แ
ใน

· ไวยากร
· ช ด อ ลการใ ว กด เ นการ สอดค อง น ว ด เ นการห อไ

* ภาษา pointerใ ใ เยอะ ๆ กจะ ท ใ เ ดerror


ใน การเ ยนโปรแกรม าย ไ
ที่
สั
จุ
ชั
รู
นี้
รู
ซ้
ต้
ก์
ฟั
ย่
ถู
ที่
บ่
ก์ชั
พิ
ปั
ที่
ที่
อ่
มีข้
ที่ดี
อ่
ตั
ซั
ง่
อ่
ง่
อ่
ช่
รู
ที่ดีสื่
ตั
ชื่
ง่
ง่
ที่
ง่
อ่
น้
ที่
ที่ซั
ง่
มี
ที่
ง่
ข้
ข้
จั
ต่
ลั
ซั
ที่
มี
ถู
ตั
ตั
ที่มี
มั
ง่
ขี
ป็
ลั

นี
ข้
ป็
พื่

ด้
ช่
ป็
ป็
ม่
ด้
ห้
ป็
ยิ่
ม่
ด้
ด้
ขี
ม่
ห้
ช่
ขี

ด้
พี
ขี
ด้
ม่
ลื
ช้
มี

ป็
ค่
ด้
สั้
ม่
ตุ

ย่

มี
ด้
ขี
ก้
ม่
ด้


ยู่
กิ
มี
ป็
มี


ป็

นิ
ด้
ยิ่
รื
ก้



ห้

ร้
รื
ชั่
ซ้
ซ้
ปั
ข้
ห้
นิ
ร้
ผิ
ชิ
ขั้
ห้
สั่
มี
ปั
ซ้
บี
นิ
ห้
สั่
กิ
ชิ
ก่

นิ

นิ

สั่

ม่

ร้
สั่
ขี
ข้
ขี

ดั
ขี
กิ
ขี
จั
ขี
ม่
ช้
ก่
ตั้
กิ
ล้
ทั่
ผิ
กั
ช้
ขี
ลื่
ว้
สั่
มู
ช้
ช้
คุ
ห้
จ่
ข้
ห้
น่
กั
ชื่
ย้
ร้
มู
รี
ชื่
ถื
ณ์
ถื
ด้
มิ
มิ
มิ
มิ
2.3.4 การประเ นความสามารถใน าน าใ าย
-Compile New Cost ง
- Run Cost ง

- เ ย าใ าย ในการ กอบรมมากห อ อย

-เ ย าใ ายในการ อ ข ทโปรแกรมมาใ งานมาก ห ออย

2.3.5 การประเ ความสามารถ


น ใน การเค อน าย
- ท งาน ไ ชม หลาย ระบบป การ
ห อบน สถา ตยกรรม หลากหลาย

-แสดง ผล ไ บนเค อง อ หลากหลาย


-ความ ยาก าย ใน การ ดการconfig มม
จะ

2.3.6 การประเ ความสามารถ


น ในการน ไปใ โดย ไ

- ละเ
อ ยด เ าใจ ายและ ครบ วน

2.3.7 การประเ นความสามารถในการ อก หนด


- ภาษาโปรแกรม อก หนด ท ใ ฒนา โปรแกรม าย
และราบ นน จะ ไ

- Doc เ า งไ าย
- วอ างห อ ค อ บาย าน และเ าใจ
าย
ค่
ด้
สู
น้
สู
น้
ลิ
ซื้
น้
ที่
ง่
ที่
ที่
ที่
คู่
ง่
มีข้
ที่มีข้
ที่ดี
ที่ดี
ง่
พั
ที่
ง่
ตั
ง่
ที่อ่
ข้

ด้
มื

ข้
ข้
รื
ม่
รื
ขึ้
ห้

ด้
มี
มี
มี
รื
รื
ด้
สิ
รื่

ถึ

สี
ช้
สี
ถ้
ธิ
ย่
ฝึ
อี

จั

ด้
ปั
รื่
ธิ์
มื
ค่
ช้
ค่
จ่
ลื่
ฏิ
ช้
ช้
บั
ช้
จ่
ติ
จ่
ย้
มิ
มิ
มิ
มิ

You might also like