Professional Documents
Culture Documents
จุดประสงค์ 1. สังเกตและอธิบำยควำมแตกต่ำงของระยะทำงของ
กำรเคลื่อนที่และระยะห่ำงระหว่ำงสองตำแหน่ง
2. วัดและคำนวณระยะทำงของกำรเคลื่อนที่และ
ระยะห่ำงระหว่ำงสองตำแหน่ง
3. เขียนลูกศรแสดงระยะห่ำงและทิศทำงระหว่ำงสอง
ตำแหน่ง
กำหนดให้ 1 cm ในแผนที่ มีค่ำเท่ำกับ 100 m
ระยะทาง (distance) & การกระจัด (displacement)
ระยะทาง (distance) : (𝑠) หมายถึง ความยาวตำมเส้นทำงที่วัตถุเคลื่อนที่ไปได้ทั้งหมด
หรือ ระยะจริงที่วัตถุเคลื่อนที่ได้ เป็นปริมาณ สเกลำร์ (scalar) มีค่าเป็นบวกเสมอ หน่วยเป็น
เมตร (m)
การกระจัด (displacement) : (𝑠) റ หมายถึง
ความยาวที่วัดได้ในแนวเส้นตรงจากตาแหน่งเริ่มต้นไป
ยังตาแหน่งสุดท้าย ไม่ขึ้นกับเส้นทางการเคลื่อนที่ หำก
วัตถุเคลื่อนที่ไปแล้วกลับมำที่ตำแหน่งเริ่มต้น แสดง
ว่ำ ระยะกระจัดเป็นศูนย์ เป็นปริมาณ เวกเตอร์
(vector) มีหน่วยเป็น เมตร (m)
ระยะทำงมีค่ำมำกกว่ำหรือเท่ำกับขนำดของกำรกระจัดเสมอ
จริงหรือไม่ เพรำะเหตุใด ?
กิตติขบั รถจากบ้านไปทางทิศตะวันออกเป็นระยะทาง 300 เมตร ไปร้านขายของ จากนั้นขับรถไป
ตัวอย่างที่ 1
ในทิศตรงข้ามอีก 700 เมตร จนถึงบ้านเพือ่ น จงหาระยะทางและการกระจัดของกิตติจากบ้านไป
ยังบ้านเพือ่ น
ตัวอย่างที่ 2
ตัวอย่างที่ 3
ชวนคิด หน้า 141 นักเรียนคนหนึ่งเดินเล่นรอบสนำมกีฬำรูปวงกลม รัศมี 140 เมตร ดังภำพ
ระยะทำง กำรกระจัด และกำรเขียนลูกศรแสดงกำรกระจัดของกำร
เคลื่อนที่ในแต่ละสถำนกำรณ์เป็นอย่ำงไร
สถำนกำรณ์ที่ 1. นักเรียนเดินจำกจุดศูนย์กลำงวงกลมที่ตำแหน่ง A ไปยังตำแหน่ง B
1.1)
แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุต่อไปนี้เป็นเท่ำใดและมีทิศทำงอย่ำงไร
1.2)
แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุต่อไปนี้เป็นเท่ำใดและมีทิศทำงอย่ำงไร
1.3)
แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุต่อไปนี้เป็นเท่ำใดและมีทิศทำงอย่ำงไร
1.4)
แรงขนำด 7 นิวตัน กระทำต่อวัตถุหนึ่ง โดยมีทิศทำงดังภำพ ถ้ำต้องกำรให้
แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุเป็นศูนย์ ต้องมีแรงกระทำต่อวัตถุอย่ำงน้อย 1 แรง
แรงนี้ต้องมีขนำดและทิศทำงเป็นอย่ำงไร
รู้อะไรบ้ำงก่อนเรียน
จำกภำพมีแรงกระทำต่อหนังสือที่วำงนิ่งอยู่บนโต๊ะหรือไม่ ถ้ำมีแรงกระทำ
ให้เขียนแผนภำพแสดงแรงนั้น ๆ และแรงลัพธ์ที่กระทำต่อหนังสือเป็นเท่ำใด
แรง (Force) เป็นปริมาณเวกเตอร์ที่มขี นาดและทิศทาง
มีหน่วยเป็นนิวตัน
1. แทนด้วยลูกศร โดยที่ขนาดความยาวลูกศรแทนขนาดของ
เวกเตอร์ และหัวลูกศรแทนทิศทางของเวกเตอร์ เช่น
2. แทนด้วยตัวอักษรและมีลูกศรกากับ เช่น FԦ หรือ Fറ
3. แทนด้วยตัวอักษรตัวหนา เช่น F
4. แทนด้วยสัญลักษณ์ AB คือ เวกเตอร์ที่มี A เป็นจุดเริ่มต้น
และ B เป็นจุดสุดท้าย
แรงลั พธ์ (net force)
แรงลัพธ์ (net force) หมายถึง ผลรวมของแรงย่อยแบบเวกเตอร์
ของแรงทั้งหมดที่กระทาต่อวัตถุ
เวกเตอร์ลัพธ์
เวกเตอร์ 2
เวกเตอร์ 1
การหาขนาดและทิศทางแรงลัพธ์จากแรงลัพธ์สามารถหาจากการพิจารณาทิศทางของแรงย่อยทุกแรง
ที่มากระทาต่อวัตถุ เมื่อแรงย่อยอยู่ในแนวเดียวกัน แรงลัพธ์ที่มากระทาต่อวัตถุสามารถหาได้ ดังนี้
1. แรงลัพธ์ท่ ีเกิดจากแรงย่อยที่อยู่ในแนวเดียวกันมากระทากับวัตถุในทิศทางเดียวกัน
Fลัพธ์=F1 +F2
2. แรงลัพธ์ท่ ีเกิดจากแรงย่อยที่อยู่ในแนวเดียวกันมากระทากับวัตถุในทิศทางตรงข้ามกัน
Fลัพธ์=F1 + (−F2 )
เมื่อแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุเป็นศูนย์
วัตถุจะรักษาสภาพการเคลื่อนที่เดิมเอาไว้
แบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้
1. วัตถุที่หยุดนิ่งจะพยายามหยุดนิ่งอยู่กับที่
ตราบที่ไม่มีแรงลัพธ์ภายนอกมากระทา
2. วัตถุที่เคลื่อนที่จะเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง
ด้วยควำมเร็วคงตัว ตราบที่ไม่มีแรงลัพธ์
ภายนอกมากระทา
ตัวอย่ำงโจทย์ที่ 1 แรง 2 แรงกระทาต่อวัตถุในทิศทางเดียวกันดังรูป ขนาดแรงลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จะหาได้จากผลรวมของแรงดังนี้
ตัวอย่ำงโจทย์ที่ 2 แรง 2 แรงกระทาต่อวัตถุในทิศทางตรงกันข้ามกันดังรูป ขนาดแรงลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จะหาได้จากผลต่างของแรงแต่ละแรงดังนี้
ตัวอย่ำงโจทย์ที่ 3 ออกแรงดึ ง วั ต ถุ ที่ อ ยู่ นิ่ ง ด้ วยแรง 3 แรง ที่ มี ข นำดและทิ ศทำงดั ง ภำพ แรงลั พ ธ์ ที่
กระทำต่อวัตถุเป็นเท่ำใดและวัตถุจะเคลื่อนที่หรือไม่ อย่ำงไร
แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุเป็นศูนย์
ตัวอย่ำงโจทย์ที่ 4 วัตถุชิ้นหนึ่งวำงนิ่งบนโต๊ะ มีแรงมำกระทำ 3 แรง โดยมีขนำดและทิศทำงดังภำพ
หำแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุ พร้อมทั้งอธิบำยกำรเคลื่อนที่ของวัตถุได้อย่ำงไร
ภำพกำรออกแรงกระทำต่อวัตถุ (เมื่อมองจำกด้ำนบน)
ตัวอย่ำงโจทย์ที่ 4
ภำพกำรออกแรงกระทำต่อวัตถุ (เมื่อมองจำกด้ำนบน)
ตัวอย่ำงโจทย์ที่ 5
แรงที่เท้ำกระทำกับพื้น
แรงที่พื้นกระทำกับเท้ำ
แรงกิริยำและแรงปฏิกิริยำระหว่ำงโลกกับดวงจันทร์
แรงโน้มถ่วงที่ดวงจันทร์
กระทำกับโลก
แรงโน้มถ่วงที่โลก
กระทำกับดวงจันทร์
แรงกิริยำและแรงปฏิกิริยำระหว่ำงหนังสือกับโลก
แรงโน้มถ่วงที่โลก
กระทำกับหนังสือ
แรงโน้มถ่วงที่หนังสือ
กระทำกับโลก
แรงกิริยำและแรงปฏิกิริยำระหว่ำงหนังสือกับโต๊ะ
แรงที่หนังสือ
กระทำกับโต๊ะ
แรงที่โต๊ะ
กระทำกับหนังสือ
แรงที่กระทำต่อหนังสือ
แรงโน้มถ่วงที่โลก
แรงที่โต๊ะ กระทำกับหนังสือ
กระทำกับหนังสือ (น้ำหนัก)
กิจกรรมเสริม ลูกโป่งเคลื่อนที่ไปข้ำงหน้ำได้อย่ำงไร
ออกแบบลูกโป่งให้เคลื่อนที่ไปตำมเส้นเชือกให้เร็วที่สุด พร้อมอธิบำยว่ำ
ลูกโป่งเคลื่อนที่ไปข้ำงหน้ำได้อย่ำงไร
แรงเสียดทาน (frictional force)
แรงต้ำนกำรเคลื่อนที่ของวัตถุ ซึ่งเกิดระหว่างผิว
ของวัตถุที่สัมผัสกัน มีลักษณะสาคัญ 2ประการ คือ
1) เกิดขึ้นระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุกับพื้น
2) มีทิศทางตรงกันข้ามกับทิศทางที่วัตถุเคลื่อนที่
หรือทิศทางของแรงที่กระทาต่อวัตถุเสมอ
เเรงเสียดทาน สามารถจาแนกตามลักษณะการเคลื่อนที่ของวัตถุได้
อีกด้วยโดยแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
1. แรงเสียดทานสถิต 2. แรงเสียดทานจลน์
(static frictional force; 𝑓𝑠 ) (kinetic frictional force; fk )
แรงเสียดทำนที่ เกิ ด ขึ้น ในขณะที่วัตถุ อ ยู่นิ่ งหรื อ แรงเสียดทำนที่เกิดขึ้นในขณะที่วัตถุกำลังเคลื่อนที่
กำลังเริ่มเคลื่อนที่ ขนาดของแรงเสียดทานสถิตจะ ไปบนผิ ว ของอี ก วั ต ถุ ห นึ่ ง เป็ น แรงเสี ย ดทานที่
เพิ่มขึ้นตามขนาดของแรงที่กระทาต่อวัตถุจนมีค่า พ ย า ย า ม ต้ า น ก า ร เ ค ลื่ อ น ที่ ธ ร ร ม ช า ติ ข อ ง
มากที่สุดขณะที่วัตถุเริ่มจะเคลื่อนที่ เรียกว่า แรง แรงเสี ย ดทานจลน์ จะมี ทิ ศ ทางตรงข้ า มกั บ
เสียดทานสถิตสูงสุด ทิศทางการเคลื่อนที่ของวัตถุ ทาให้วัตถุนั้นเคลื่อนที่
ช้าลงหรือหยุดนิ่ง
แรงเสียดทานจลน์
แรงเสียดทาน มีหน่วยเป็น นิวตัน (N)
แรงเสียดทานสถิตสูงสุด fs,max fk
มีหน่วยเป็น นิวตัน (N)
fs,max = μs N
fk = μk N
μ N
สัมประสิทธิ์ความเสียดทาน
โดย μs คือ สัมประสิทธิ์ความเสียดทานสถิต แรงปฏิกิริยาตั้งฉาก
μk คือ สัมประสิทธิ์ความเสียดทานจลน์ มีหน่วยเป็น นิวตัน (N)
การนาความรูเ้ รื่องแรงเสียดทาน
มาใช้ในชีวติ ประจาวัน
การปูกระเบื้องห้องน้าด้วยกระเบื้อง สไลเดอร์ถูกทาให้มีพื้นผิวเรียบลื่น
ที่มีผิวขรุขระ ช่วยเพิ่มแรงเสียดทาน เพื่อลดแรงเสียดทาน ทาให้ผู้เล่น
ให้พื้นห้องน้าไม่ลื่นเกินไป ลื่นไถล ได้อย่างรวดเร็ว
ดอกยางช่วยเพิ่ม การเล่นสกีต้องเล่นบนพื้นเรียบลื่น
แรงเสียดทาน เพื่อลดแรงเสียดทาน ทาให้ผู้เล่น
ระหว่างรถกับถนน เคลื่อนไหวได้ง่าย
ปัจจัยทีม่ ผี ลต่อแรงเสียดทาน
1) ลักษณะพื้นผิวสัมผัสระหว่างวัตถุ
ตำรำงที่ 1 ลักษณะพื้นผิวสัมผัสมีผลต่อแรงเสียดทาน
เมื่อมีการออกแรงกระทา
ปัจจัยทีม่ ผี ลต่อแรงเสียดทาน
2) มวลของวัตถุ ตำรำงที่ 2 มวลของวัตถุที่มีผลต่อแรงเสียดทาน
มวลของวัตถุมผี ลต่อแรงเสียดทาน
ที่ต้านการเคลือ่ นทีข่ องวัตถุทตี่ า่ งกัน
ความดั นของของเหลว
(pressure)
ความดันของของเหลว (pressure)
คือ อัตราส่วนระหว่างแรงดันของของเหลวที่
กระทาตั้งฉากกับพื้นที่ผิวของวัตถุ ความดันเป็น
ปริมาณสเกลาร์ มีขนาดแต่ไม่มีทิศทาง
นักดาน้าจะรู้สึกอึดอัดเมื่อดาน้าลงไปในระดับความลึกเพิ่มขึ้น
เนื่องจากเมื่อลึกมากความดันของเหลวจะมีค่ามาก
แรงพยุ ง (buoyant force)
แรงพยุง (buoyant force) คือ สรุปหลักอาร์คิมีดิส ดังนี้
แรงลอยตั ว ของของเหลวทุ ก ชนิ ด ที่ 1. ปริมาตรของเหลวที่ถูกแทนที่ จะเท่ากับปริมาตรของวัตถุส่วนที่
กระทำต่อวัตถุที่จมอยู่ในของเหลว จะ จมลงในของเหลว
เป็นไปตามหลักของอาร์คิมีดิส ซึ่งกล่าว 2. น้าหนักของวัตถุที่ชั่งในของเหลว จะมีค่าน้อยกว่าน้าหนักของ
ไว้ ว่ า แรงพยุ ง หรื อ แรงลอยตั ว ที่ วัตถุที่ชั่งในอากาศ เนื่องจากแรงพยุงของของเหลวมีมากกว่าแรงพยุงของ
อากาศ
ของเหลวกระทำต่อวัตถุมีขนำดเท่ำกับ
3. น้ าหนั ก ของวั ต ถุ ที่ห ายไปในของเหลว จะเท่ า กั บ น้ าหนั ก ของ
น้ ำหนั ก ของของเหลวที่ มี ป ริ ม ำตร
ของเหลวที่ถูกวัตถุแทนที่ ซึ่งคานวณได้จากผลต่างของน้าหนักของวัตถุที่
เท่ ำ กั บ ปริ ม ำตรของวั ต ถุ ที่ จ มอยู่ ใ น ชั่งในอากาศกับน้าหนักของวัตถุที่ชั่งในของเหลว
ของเหลวนั้น 4. น้าหนักของของเหลวที่ถูกแทนที่ จะเท่ากับน้าหนักของของเหลว
ที่มีปริมาตรเท่ากับวัตถุส่วนที่จม
แรงพยุ ง (buoyant force)
แรงพยุ ง (buoyant force)
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับแรงพยุง
1. ชนิดของวัตถุ วัตถุแต่ละชนิดจะมีความหนาแน่น
แตกต่างกัน
2. ชนิ ด ของเหลว ของเหลวแต่ ล ะชนิ ด มี ค วาม
หนาแน่นแตกต่างกัน ซึ่งของเหลวที่มีความหนาแน่น
มาก จะมีแรงพยุงมาก
3. ขนำดของวัตถุ จะส่งผลต่อปริมาตรที่จมลงไปใน
ของเหลวซึ่งถ้าวัตถุมีขนาดใหญ่ จะมีปริมาตรที่จมลง
ไปในของเหลวมาก ทาให้แรงพยุงมีค่ามาก
แรงพยุ ง (buoyant force)
ลั กษ ณะ ขอ งวั ต ถุ เมื่ อ
ล อ ย อ ยู่ ใ น ข อ ง เ ห ล ว
เมื่อวัตถุอยู่ในของเหลว
จะ มี คว า มสั มพั น ธ์กั บ
ความหนาแน่นของวัตถุ
ซึ่ ง ส า ม า ร ถ พิ จ า ร ณ า
ลั ก ษณะของวั ต ถุ ไ ด้ 3
ลักษณะ ดังนี้
Thanks!
Any questions?