Professional Documents
Culture Documents
อดีตพุทธ
อดีตพุทธ
77
บทคัดย่อ
คติความเชื%ออดีตพุทธเจ้าในสังคมไทยมีทม%ี าจากพุทธศาสนาเถรวาทจากลังกาและความเชื%อในท้องถิ%น
ปรากฏขึนอย่างน้อยในราวพุทธศตวรรษที% 20 ความเชื%อในการบูชาอดีตพุทธเจ้านีเน้นอดีตพุทธเจ้าทังจํานวน
3 พระองค์ 6 พระองค์ 24 พระองค์ 27 พระองค์และไม่อาจประมาณนับได้ซง%ึ เกีย% วข้องกับประวัตพิ ระโคตมพุทธเจ้า
รวมถึงพุทธานุภาพของพระพุทธเจ้าในอดีต ปจั จุบนั และอนาคตทีม% ตี ่อดินแดนทีพ% ระองค์เสด็จมาโปรด ประทับรอย
พระบาท และทรงทํานายอนาคตของบ้านเมืองและผู้คนในดินแดนศักดิสิ€ ทธินั€ นๆ ไว้ ความเชื%อเหล่านีปรากฏใน
คัมภีรพ์ เิ ศษ ตํานาน งานจิตรกรรม ปฏิมากรรมและจารีตปฏิบตั ใิ นท้องถิน% ส่งเสริมและสืบทอดหลักพุทธธรรมเรื%อง
กรรมและไตรลักษณ์ กรอบคิดนีกําหนดวิถชี วี ติ ของพุทธศาสนิกชนในสังคมไทยให้ศรัทธาในพุทธศาสนา ประพฤติ
ชอบ สืบทอดประเพณีระลึกถึงพระพุทธเจ้า รวมถึงอธิบายความชอบธรรมทางการปกครอง
Abstract
The belief in the past Buddhas in Thailand originated from the Theravada and integrated with
the local belief around the 20th century. This belief involves the worshiping different variants of the
Enlightened Ones ranging from three, six, twenty-four, twenty-seven, and even the infinite. The beliefs in
the past Buddhas are related to history of Gautama Buddha and of the sacred locations where the
Enlightened Ones had imprinted their feet. The feet imprints of the Enlightened Ones signify that these
lands are protected under his benevolence throughout the past, the present and the future. The
documentation of these beliefs can be found in Pali texts, myths, mural paintings, architecture of the
Buddhas’ footprints and traditional practices of Thai people. These beliefs denote the Buddhist principles
of Deeds and the Three Characteristics of Existence. These principles then help shape Thai Buddhists to
have faith in moral essence, practice good deeds, and respect the relics of the Enlightened Ones.
Moreover, these principles also justify the rulers’ rights to govern.
1. ความนํา
ในทางเถรวาทมีแนวคิดทีว% ่าพระพุทธเจ้าคือผูท้ บ%ี าํ เพ็ญบารมีมาอย่างอุกฤษ์สมบูรณ์ตามขันตอนจนบรรลุ
โพธิญาณ เป็ นผูม้ ุ่งแสวงหาและพบความรูท้ น%ี ําไปสู่การหลุดพ้นจากสังสารวัฏ “นิพพาน” เป็ นเป้าหมายสูงสุด แต่
พระองค์กย็ งั อยู่ในกฎไตรลักษณ์เช่นเดียวกับสรรพสิง% ทังหลาย พระวรกายของพระองค์เป็ นกายมนุ ษย์ธรรมดาที%
*
บทความนีเรียบเรียงจากงานวิจยั เรือ% ง “คติความเชือ% อดีตพุทธเจ้าในสังคมไทย พุทธศตวรรษที% 20 -24” ได้รบั ทุนสนับสนุน
งานวิจยั จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
78 วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
6
Waldemar C.Sailer, “A Brief Introduction to Sottatthaki Mahan Dana” อ้างจาก จูฬพุทธโฆสเถระ, โสตัตถกีมหา
นิทาน, ตรวจชําระและแปลโดย บรรจบ บรรณรุจ,ิ (กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์มติ รสยาม, 2526), น.1-17; สน สีมาตรัง, ปญั หาการศึกษาภาพ
อดีต พุ ท ธเจ้าจํา นวนมากในจิต รกรรมฝาผนังสมัย สุ โ ขทัย อยุ ธ ยาและรัต นโกสิน ทร์ , (เอกสารประชุ ม สัมมนาทางวิช าการเรื%อ ง
กรุงศรีอยุธยา: อู่อารยธรรมไทย, ศูนย์ศกึ ษาประวัติศาสตร์อยุธยา 22-25 สิงหาคม 2533); สุภาพรรณ ณ บางช้าง, วิวฒ ั นาการ
วรรณคดีสายพระสุตตันปิฎกทีแต่งในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2533, น. 132-210.
วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
81
3. อดีตพุทธเจ้ากับพระโพธิ สตั ว์
3.1 เหตุแห่งการเป็ นพระพุทธเจ้า
คัมภีร์ชนอรรถกถาและคั
ั มภีร์พเิ ศษแบ่งเรื%องราวพุทธประวัติของพระโคตมพุทธเจ้าตามต้นเรื%องของ
การบําเพ็ญบารมีของพระโพธิสตั ว์ซง%ึ เป็ นไปตามลําดับ ได้แก่ จิตปณิธาน วจีปณิธาน และกายวจีปณิธาน
คัมภีร์ทเ%ี สนอเรื%องราวอดีตพุทธเจ้า 24 พระองค์ นิ ทานกถาหรืออรรถกถาชาดและคัมภีร์พเิ ศษ อาทิ
ชิ นาลังการ ชิ นจริต ปฐมสมโพธิ พุทธานุปริวตั ต์ และชิ นมหานิ ทาน ต่างแสดงเรื%องราวของพระโพธิสตั ว์อนั มี
สาเหตุจากปณิธานด้วยกายและวาจา คัมภีรเ์ หล่านีกล่าวถึงการบําเพ็ญบารมีของพระโพธิสตั ว์ในสํานักอดีตพุทธ
เจ้า 24 พระองค์ โดยจัดแบ่งเป็ น 3 ตอน ได้แก่ ทูเรนิ ทาน ความตอนนีแสดงเรื%องราวพระโพธิสตั ว์ทรงบําเพ็ญ
บารมีในสํานักอดีตพุทธเจ้าทีปงั กรและพระพุทธเจ้าพระองค์อ%นื เรื%อยมาจนถึงพระกัสสปพุทธเจ้า อวิ ทูเรนิ ทาน
ความตอนนีแสดงเรื%องราวของพระโคตมพุทธเจ้าตังแต่พระองค์ประสูติ ผนวช แสวงหาความรูเ้ พื%อการหลุดพ้นจาก
สังสารวัฏจนกระทังบรรลุ % โพธิญาณ และสันติ เกนิ ทาน แสดงเรื%องราวของพระโคตมพุทธเจ้าตังแต่พระองค์ตรัสรู้
จนเสด็จดับขันธปรินิพพานและขยายความถึงเหตุการณ์ภายหลังปรินิพพาน ความในอวิทูเรนิทานและสันติเก
นิทานนีเป็ นพระประวัติของพระพุทธเจ้าในพระชาติปจั จุบนั ที%พระโพธิสตั ว์ทรงบําเพ็ญบารมีตามขันตอนมาจน
สมบูรณ์ได้บรรลุโพธิญาณสําเร็จเป็ นพระโคตมพุทธเจ้า เน้นเรื%องราวการแสดงความมุ่งมันปรารถนาในพุ
% ทธภูมิ
การบําเพ็ญบารมีปฏิบตั พิ ุทธการกธรรม และการได้รบั พุทธพยากรณ์ว่าจะสําเร็จเป็ นพระพุทธเจ้าในช่วงเวลา 4
อสงไขยแสนกัป เรื%องราวใน 3 นิทานนีเป็ นแบบแผนของการเสนอเนือหาพุทธประวัตใิ นคัมภีรพ์ เิ ศษสมัยต่อๆ มา
คัมภีร์ท%เี น้นอดีตชาติในที%ยาวไกลออกไป เช่น สัมภารวิ บาก โสตัตถกี มหานิ ทาน สัมบิ ณฑิ ตมหา
นิ ทาน ชิ นกาลมาลีปกรณ์ และมูลศาสนา กล่าวถึงการบําเพ็ญบารมีของพระโพธิสตั ว์ท%ไี กลออกไปเน้นตังแต่
ทรงคิดปรารถนาพุทธภูมคิ รังแรก ทรงบําเพ็ญบารมีโดยไม่ได้พบพระพุทธเจ้าจนกระทังถึ % งพระชาติท%ไี ด้พบและ
ได้รบั พุทธพยากรณ์ว่าจะสําเร็จเป็ นพระพุทธเจ้า เรื%องราวเน้นการบําเพ็ญบารมีของพระโพธิสตั ว์อย่างอุกฤษฎ์ เริม%
จากเหตุแห่งมโนปณิธานรวมเวลา 7 อสงไขย แล้วกระทําวจีปณิธานอีก 9 อสงไขย แล้วกระทํากายและวจีปณิธาน
อีก 4 อสงไขยแสนกัปรวมเป็ น 20 อสงไขยแสนกัป เรื%องราวของพระโคตมพุทธเจ้าทีป% รากฏในคัมภีรพ์ เิ ศษนีเป็ น
เรื%องทีเ% น้นขยายความมากกว่าเนือหาในคัมภีรพ์ ุทธวงศ์และอรรถกถาพุทธวงศ์โดยจัดแบ่งเรื%องราวเป็ น 2 ตอนใหญ่
ได้แก่ พาหิรนิทาน และมหานิทาน ดังนี
พาหิ รนิ ทานหรือนิทานนอกเวลา 20 อสงไขยแสนกัป คัมภีรแ์ สดงเรื%องราวในช่วงเวลาทีพ% ระโพธิสตั ว์ตงั
จิตปรารถนาเป็ นพระพุทธเจ้าโดยมิได้พบพระพุทธเจ้า เน้นตังแต่พระโพธิสตั ว์คดิ ปรารถนาเป็ นพระพุทธเจ้าเป็ น
ครังแรกเรีย กว่ า “ปฐมปณิ ธ าน” ทรงบํ า เพ็ญ บารมีแ ต่ ย ัง ไม่ ไ ด้ พ บพระพุ ท ธเจ้ า ในพระชาติ นั นพระองค์
ทรงเสวยพระชาติเป็ นนายสําเภาช่วยมารดาซึง% สําเภาอัปปางว่ายข้ามมหาสมุทรระหว่างนันท้าวมหาพรหมจากชัน
อกนิษฐพรหมทรงดลพระทัยพระโพธิสตั ว์ให้คดิ ปรารถนาในพุทธภูมิ เรื%องราวที%บางคัมภีร์เน้นเป็ นพิเศษ เช่น
คัมภีร์โ สตัตถกีมหานิทานเน้ นความตอนที%พระโพธิสตั ว์เสวยพระชาติเป็ นหญิงมีพระนามว่าสุมิตตาราชกุมารี
พระนางได้ฝากพระเถระถวายนํามันเมล็ดผักกาดและคําขอให้พระนางได้เป็ นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ%งเป็ นพุทธ
บูชาแด่พระโบราณทีปงั กรพุทธเจ้า
มหานิ ทานแสดงเรื%องราวของพระพุทธเจ้าในช่วงเวลาพุทธภูมทิ พ%ี ระโพธิสตั ว์ทรงบําเพ็ญบารมีและได้พบ
อดีตพระพุทธเจ้าเป็ นตามขันตอนจนสมบูรณ์ ได้แก่ มโนปณิธาน วจีปณิธาน และกายวจีปณิธานรวมเวลา 20
อสงไขยแสนกัป เรื%องราวในมหานิทานเริม% ตังแต่ครังที%พระโพธิสตั ว์มจี ติ ปรารถนาเป็ นพระพุทธเจ้าต่อพระพักตร์
พระพรหมเทวะพุทธเจ้ารวมเวลา 7 อสงไขยทีม% พี ระพุทธเจ้าอุบตั ขิ นจํ ึ านวน 125,000 พระองค์ อติ ทูเรนิ ทาน
แสดงเรื%องราวในตอนทีพ% ระโพธิสตั ว์สทิ ธัตถะแสดงปณิธานด้วยการเปล่งวาจาปรารถนาเป็ นพระพุทธเจ้าต่อพระ
พักตร์พระพุทธเจ้าจํานวน 387,000 พระองค์รวมเวลา 9 อสงไขย ทูเรนิ ทานแสดงเรื%องราวทีไ% ม่ไกลนักในช่วงเวลา
82 วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
3.2 กัปและอสงไขยที&มีพระพุทธเจ้าอุบตั ิ
ช่วงเวลาทีพ% ระโพธิสตั ว์บําเพ็ญบารมีเพื%อบรรลุโพธิญาณได้สาํ เร็จเป็ นพระพุทธเจ้านันเป็ นเวลายาวนาน
หลายกัปอสงไขยทีม% พี ระพุทธเจ้าอุบตั ขิ นมาแล้
ึ วจํานวนมาก คัมภีรเ์ น้นช่วงการบําเพ็ญบารมีของพระโพธิสตั ว์ท%ี
ยาวนานแตกต่างกัน คัมภีรส์ มั ภารวิ บาก โสตัตถกีมหานิ ทาน และชิ นกาลมาลีปกรณ์ เน้นอธิบายการบําเพ็ญ
บารมีของพระโพธิสตั ว์ในช่วงระยะเวลาที%ยาวไกลเป็ นกัปและอสงไขยที%เกี%ยวข้องกับการอุบตั ิของพระพุทธเจ้า7
โดยให้รายละเอียดช่วงเวลากัปอสงไขยทีเ% กีย% วข้องกับพระพุทธเจ้ามาโปรดเวไนยสัตว์ ดังนี
กัปมี 2 แบบ คือ สุญญกัปและอสุญญกัป สุญญกัปหมายถึงกัปที%ไม่มีพระพุทธเจ้าอุบตั ิ อสุญญกัป
หมายถึงกัปที%มีพระพุทธเจ้าอุบตั ิเพื%อโปรดเวไนยสัตว์ ซึ%งมีช%อื เรียกแตกต่างกันตามจํานวนพระพุทธเจ้าอุบตั 8ิ
ได้แก่ สารกัปมีพระพุทธเจ้าอุบตั ขิ นึ 1 พระองค์ มัณฑกัปมีพระพุทธเจ้าอุบตั ขิ นึ 2 พระองค์ วรกัปมีพระพุทธเจ้า
อุบตั ขิ นึ 3 พระองค์ สารมัณฑกัปมีพระพุทธเจ้าอุบตั ขิ นึ 4 พระองค์ และภัททกัปมีพระพุทธเจ้าอุบตั ขิ นึ 5 พระองค์
อสงไขยมี 2 แบบ ได้แก่ สุญญอสงไขยและอสุญญอสงไขย สุญญอสงไขยหมายถึงอสงไขยที%ไม่มี
พระพุทธเจ้าอุบตั ิ อสุญญอสงไขยหมายถึงอสงไขยทีม% พี ระพุทธเจ้าอุบตั ขิ นเพื ึ %อโปรดเวไนยสัตว์9 มีช%อื เรียกเฉพาะ
ตามขันตอนการบําเพ็ญบารมีของพระโพธิสตั ว์10 ได้แก่ ช่วงเวลาทีพ% ระโพธิสตั ว์คดิ ปรารถนาพุทธภูมริ วมเวลา 7
อสงไขยมี พ ระพุ ท ธเจ้ า อุ บ ัติ ข ึน125,000 พระองค์ ได้ แ ก่ นั น ทอสงไขย สิริ นั น ทอสงไขย ปฐวีอ สงไขย
มัณฑอสงไขยขึน ธรณีอสงไขย สาครอสงไขย และบุณฑริกอสงไขย ช่วงเวลาที%พระโพธิสตั ว์เปล่งวาจาแสดง
ความปรารถนาเป็ นพระพุทธเจ้ารวมเวลา 9 อสงไขย มีพระพุทธเจ้าอุบตั ขิ นึ 387,000 พระองค์ ได้แก่ สัพพภัททอ
สงไขย สัพพผุลลอสงไขย สัพพรัตนอสงไขย อุสภักขันธอสงไขย มานิภทั ทอสงไขย ปทุมอสงไขย อุสภอสงไขยมี
พระพุทธเจ้าอุบตั ิ ขันธุตตอสงไขย และสัพพามลอสงไขย และช่วงเวลาทีพ% ระโพธิสตั ว์ปรารถนาเป็ นพระพุทธเจ้า
ด้วยการเปล่งวาจาและปฏิบตั พิ ุทธการกธรรมต่อพระพักตร์พระพุทธเจ้าและทรงได้รบั พุทธพยากรณ์ว่าจะได้สาํ เร็จ
เป็ นพระพุทธเจ้ารวม 4 อสงไขยแสนกัป ได้แก่ เสลออสงไขย กาสอสงไขยเชยยอสงไขย และรุจอิ สงไขยใน
ช่วงเวลานีมีพระพุทธเจ้าอุบตั ขิ นแล้ึ ว 24 พระองค์
7
กัป หมายถึงชือ% เรียกระยะเวลาการดํารงอยู่ของจักรวาล ซึ%งไม่ทราบจํานวนวันทีแ% น่ นอนแต่เป็ นระยะเวลาทีน% านอุปมาดัง
“จอมผากว้างใหญ่สงู โยชน์หนึ%ง ถึงร้อยปีมเี ทพยดาเอาผ้าทิพย์เนือละเอียดลงมาเช็ดถูบนยอดภูผานันหนหนึ%งแล้วก็ไป ต่อถึงร้อยปีเข้า
ใหม่จงึ เอาผ้าลงมาเช็ดถูเหมือนเดิมเช่นนันอีกหนหนึ%ง เป็ นเช่นนีตราบเท่าภูเขาสึกลงราบพืนดิน” หรือเปรียบเหมือนสถานทีส% เ%ี หลีย% ม
% ดพันธุ์ผกั กาดเต็มทีแ% ห่งนัน อสงไขย
กว้างลึกโยชน์หนึ%งในช่วงเวลาร้อยปีเทพยดาเอาเมล็ดพันธุผ์ กั กาดมาใส่เมล็ดหนึ%งจนกระทังเมล็
หมายถึงช่วงเวลายาวนานกว่ากัป คัมภีร์ใช้เรียกจํานวนเวลาทีก% ําหนดนับได้และจํานวนเวลาทีเ% ลยจากเวลาที%นับได้ โสตัตถกีมหา
นิ ทานให้หมายความทังสองแบบ “...นับเริม% 1 เป็ นต้นไปจนกระทั %งยังทําการกําหนดได้ช%อื ว่า อสงไขย เลยจากนันไปจนทําการนับ
หรือการกําหนดไม่ได้กช็ อ%ื ว่าอสงไขย...” จูฬพุทธโฆสเถระ, แปลและตรวจชําระโดย บรรจบ บรรณรุจ,ิ เพิง% อ้าง, น. 3.
8
จูฬพุทธโฆสเถระ, โสตัตถกีมหานิทาน, น. (11)-(12).
9
จูฬพุทธโฆสเถระ, โสตัตถกีมหานิทาน, น. 3-11.
10
จูฬพุทธโฆสเถระ, เพิง% อ้าง, น. 43-45; โสตัตถกีสํานวนล้านนา, แปลและตรวจชําระโดย บําเพ็ญ ระวิน, (กรุงเทพฯ:
โอเดียนสโตร์, 2535), น.50-73; พระรัตนปญั ญา, ชินกาลมาลีปกรณ์, แปลโดย แสง มนวิทรู , (กรุงเทพฯ: รําไทยเพลส, 2550), น. 11-
13; พระพุทธพุกามและพระพุทธญาณ, ตํานานมูลศาสนา แปลโดย สุด ศรีสมวงศ์ และพรหม ขมาลา, (กรุงเทพ: โรงพิมพ์ยมศรี ิ ,
2482), น. 1-18.
วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
83
3.3 จํานวนอดีตพุทธเจ้า
คัมภีร์เถรวาทเน้นจํานวนอดีตพุทธเจ้ากลุ่มหนึ%งที%อุบตั ิขนในช่
ึ วง 4 อสงไขยแสนกัปซี%งพระโพธิสตั ว์
ทรงบําเพ็ญบารมีจนสมบูรณ์ ได้พบและได้รบั คําพยากรณ์ จากอดีตพุทธเจ้าว่าจะสําเร็จเป็ นพระโคตมพุทธเจ้า
ได้แก่ อดีตพุทธเจ้า 6 พระองค์ 24 พระองค์ และ 27 พระองค์
อดีตพุทธเจ้า 6 พระองค์: คัมภีรม์ หาปาทานสูตรกล่าวพระนามของอดีตพุทธเจ้า 6 พระองค์พร้อมการ
บําเพ็ญบารมีของพระองค์ ได้แก่ พระวิปสั สี พระสิข ี พระเวสภู พระกกุสนั ธะ พระโกนาคมนะ และพระกัสสปะ11
บทนมัสการบูชาพระพุทธเจ้าใน อาฏานาฏิ ยสูตร อรรถกถาอาฏานาฏิ ยสูตรและอาฏานาฏิ ยปริ ตร กล่าวระบุ
พระนามของอดีตพุทธเจ้า 6 พระองค์เช่นกัน เริม% ตังแต่พระวิปสั สีพุทธเจ้า12
อดีตพุทธเจ้า 24 พระองค์ และ 27 พระองค์: อดีตพุทธเจ้าที%ระบุพระนามจํานวน 24 พระองค์
พระโพธิสตั ว์ทรงบําเพ็ญบารมีและได้รบั คําพยากรณ์จากอดีตพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ว่าจะได้บรรลุโพธิญาณเป็ น
พระโคตมพุทธเจ้า ได้แก่ พระทีปงั กรซึง% ให้คําพยากรณ์แก่พระโพธิสตั ว์เป็ นครังแรก พระโกณฑัญญะ พระมังคละ
พระสุมนะ พระเรวตะ พระโสภิตะ พระอโนมทัสสี พระปทุมะ พระนารท พระปทุมุตตระ พระสุเมธะ พระสุชาตะ
พระปิ ยทัสสี พระอัตถทัสสี พระธัมมทัสสี พระสิทธัตถะ พระติสสะ พระผุสสะ พระวิปสั สี พระสิข ี พระเวสภู พระกกุ
สันธะ พระโกนาคมนะ และพระกัสสปะเป็ นลําดับสุดท้าย ตามความในคัมภีรพ์ ทุ ธวงศ์และอรรถกถาพุทธวงศ์ แต่
หากนับรวมอดีตพระพุทธเจ้าอีก 3 พระองค์ท%อี ุบตั ิร่วมในกัปเดียวกับพระทีปงั กรพุทธเจ้า ได้แก่ พระตัณหังกร
พระเมธังกร และพระสรณังกร จํานวนอดีตพุทธเจ้าเพิม% เป็ น 27 พระองค์13 จํานวนนีจึงเกี%ยวข้องกับการบําเพ็ญ
บารมีเพื%อเป็ นพระพุทธเจ้าของพระโพธิสตั ว์ ดังสรุปตามตารางที% 1
11
“พระสุตตันตปิ ฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปทานสูต” พระไตรปิ ฎก ฉบับสยามรัฐ เล่มที 10, สืบค้นจาก www.8400
.org/tipitaka/pitaka2/
12
“พระสุตตันตปิฎก อรรถกถา ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค อาฏานาฏิยสูตร” พระไตรปิ ฎก ฉบับสยามรัฐ เล่มที 11, สืบค้นจาก
www.8400.org /tipitaka/attha; “อาฏานาฏิยปริตต์” ระเบียบทําวัตรสวดมนต์ ฉบับวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏ์. (กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์
ประยูรวงศ์, 2514).
13
“อาฏานาฏิยปริตต์”, ระเบียบทําวัตรสวดมนต์ ฉบับวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏ์, 2514).
84 วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
4. อดีตพุทธเจ้าในงานจิ ตรกรรมฝาผนัง
คติความเชื%อเรื%องอดีตพุทธเจ้ายังปรากฏชัดเจนในงานจิตรกรรมซึ%งแพร่หลายในดินแดนประเทศไทย
จํานวนอดีตพุทธเจ้าในงานศิลปกรรมทีร% บั อิทธิพลจากพุทธศาสนาสอดคล้องกับเนือความในคัมภีรพ์ ุทธเถรวาท
งานศึกษาจิตรกรรมฝาผนังในประเทศไทยอธิบายภาพพระพุทธเจ้าจํานวนมากไว้อย่างกว้างๆ ว่าหมายถึงอดีต
พุทธเจ้า16แต่ยนื ยันได้ว่าภาพพระพุทธเจ้าเหล่านันคืออดีตพุทธเจ้าที%มชี %อื ตามคัมภีร์พุทธเถรวาทจากภาพและ
14
จูฬพุทธโฆสเถระ, โสตัตถกีมหานิทาน, แปลและตรวจชําระโดย บรรจบ บรรณรุจ,ิ น. 107; มธุรตั ถวิลาสิณี อรรถกถา
พุทธวงศ์ (บาลี-ไทย) ภาค 1 ฉบับภูมพิ โลภิกขุ (กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ภมู พิ โลภิกขุ, 2528).
15
ชิน กาลมาลีปกรณ์ ก ล่ าวถึงความแตกต่ างแห่ งพระพุ ทธเจ้า 5 ประการได้แก่ ระยะเวลาบําเพ็ญบารมี พระชนม์มายุ
ระยะเวลาเห็นบุพพนิมติ ร การครองฆารวาส และการบําเพ็ญเพียรซึง% มีความตรงกับโสตัตถกีมหานิทาน 2 ข้อ ดู รัตนปญั ญา, ชินกาล
มาลีปกรณ์ แปลโดย แสง มนวิทรู , น. 49.
16
นักวิชาการทีส% นใจศึกษางานด้านจิตรกรรมฝาผนังในประเทศไทย เช่น เฟื อ หริพทิ กั ษ์ น. ณ ปากนํ า พิรยิ ะ ไกรฤกษ์
สน สีมาตรัง สันติ เล็กสุขมุ และเสมอชัย พูลสุวรรณ
วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
87
ั ด% า้ นของกรุปรางค์ประธานวัดราชบูรณะ อยุธยาซึง%
ตัวอักษรขอมภาษาบาลีทก%ี าํ กับภาพพุทธเจ้าบนผนังกรุทงสี
17
แสง มนวิทรู ได้อ่านอักษรบนภาพแห่งนีไว้
17
แสง มนวิทรู , “เรืองอดีตพระพุทธเจ้า” จิตรกรรมและศิลปวัตถุในกรุพระปรางค์วดั ราชบูรณะ จังหวัดอยุธยา, (พระนคร:
กรมศิลปากร, 2501), น. 43.
18
เสมอชัย พู ล สุ ว รรณ, สัญ ลัก ษณ์ ใ นงานจิต รกรรมไทยระหว่ า งพุ ท ธศตวรรษที 19 – 20, (กรุ ง เทพฯ: โรงพิม พ์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2539), น. 43.
19
ประยูร อุลุชาฏะ, จิตรกรรมสมัยอยุธยาตอนกลางและตอนปลายระยะแรก สกุลช่างนนทบุร ี วัดชมพูเวกและวัดปราสาท,
(กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, 2530); สันติ เล็กสุขมุ , ศิลปะอยุธยา, (กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, 2542); สน สีมาตรัง, ปญั หาการศึกษาภาพ
อดีตพุทธเจ้าจํานวนมากในจิตรกรรมฝาผนังสมัยสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์; เสมอชัย พูลสุวรรณ, สัญลักษณ์ในงานจิตรกรรม
ไทยระหว่างพุทธศตวรรษที 19 – 20, น. 42.
88 วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
20
ภาณุพงษ์ เลาหสม, บรรณาธิการ, จิตรกรรมฝาผนังล้านนา, (กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, 2541), น. 43.
วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
89
21
เสมอชัย พูลสุวรรณ, สัญลักษณ์ ในงานจิตรกรรมไทยระหว่างพุทธศตวรรษที 19-20, น. 42; สน สีมาตรัง, ปญั หา
การศึกษาภาพอดีตพุทธเจ้าจํานวนมากในจิตรกรรมฝาผนังสมัยสุโขทัย อยุธยาและรัตนโกสินทร์, น. 11; สันติ เล็กสุขุม. ศิลปะ
อยุธยา, น. 175.
22
เสมอชัย พูลสุ วรรณ, สัญลัก ษณ์ ในงานจิตรกรรมไทยระหว่างพุ ทธศตวรรษที 19-20, น. 63; ภาณุ พงษ์ เลาหสม,
บรรณาธิการ, จิตรกรรมฝาผนังล้านนา, น. 23.
90 วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
23
เสมอชัย พูล สุวรรณ, สัญลัก ษณ์ ในงานจิตรกรรมไทยระหว่างพุทธศตวรรษที 19-20, น. 42; สน สีมาตรัง, ปญั หา
การศึกษาภาพอดีตพุทธเจ้าจํานวนมากในจิตรกรรมฝาผนังสมัยสุโขทัย อยุธยาและรัตนโกสินทร์, น. 11; สันติ เล็กสุขุม. ศิลปะ
อยุธยา. น. 175.
24
จารุณี อินเฉิดฉาย, “พระบฏ ภูมปิ ญั ญาไทยในงานจิตรกรรมไทยประเพณี” ศิลปากร, (กรุงเทพฯ: เอ.พี.กราฟิ ค ดีไซน์
และการพิมพ์ จํากัด, 2545), น. 25-45.
25
ดํารงราชานุ ภาพ, สมเด็จฯ กรมพระยา และ นริศรานุ วตั วิ งศ์, สมเด็จฯ กรมพระ, สาสน์ สมเด็จ เล่ม 17, (กรุงเทพฯ: คุรุ
สภา, 2525), น. 222.
วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
91
26
พระมหานาม, มหาวงษ์พงษาวดารลังกาทวีป, แปลโดย พระยาปริยตั ธิ รรมธาดา และคนอื%นๆ, (พระนคร: โรงพิมพ์ไทย,
ร.ศ. 126 [2451]), น.1.
92 วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
27
กตัญ~ู ชูชน%ื . พระเจ้าเลียบโลก: บทวิเคราะห์. (วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2515); เธียรชาย อักษรดิษฐ์, ตํานานพระเจ้าเลียบโลก การศึกษาพืนทีทางสังคมและ
วัฒนธรรมล้านนา, (กรุงเทพฯ: ธารปญั ญา, 2552), น. 20-37.
28
“พระธาตุเชิงชุม” อุรงั คธาตุตํานานพระธาตุพนม, (กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เรือนแก้วการพิมพ์, 2521), น. 12-16,
29
อุษณีย์ ธงไชย, จารึกและตํานาน: หลักฐานทีสร้างขึนภายใต้อทิ ธิพลของพุทธศาสนาลังกาวงศ์, น.106; กตัญ~ู ชูช%นื
พระเจ้าเลียบโลก: บทวิเคราะห์, น. 12.
วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
93
30
สงวน โชติสุขรัตน์, รวบรวม, “ตํานานพระพุทธบาทสีร% อย (รังรุง้ )” ประชุมตํานานล้านนาไทย เล่ม 2 (กรุงเทพฯ:
โอเดียนสโตร์, 2515), น.434-438; ตํานานพระพุทธบาทเขารังรุง้ , สืบค้นเมือ% ตุลาคม 2552 จาก
http://www.Lannaworld.com/story/legend/rangrung,htm - 13k.
31
นิทานพระยากาเผือก, สืบค้นเมือ% 25 ตุลาคม 2552 จาก http://www.Lannaworld.com/story/legend/rangrung,htm-13k;
และ http://branch.nlt.go.th/korat/d-library/ index.php? p=show_detail&id=382
32
อุษณีย์ ธงไชย, จารึกและตํานาน หลักฐานทีสร้างขึนภายใต้อทิ ธิพลของพุทธศาสนาลังกาวงศ์, (ภาควิชาประวัตศิ าสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2540), น. 67.
94 วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
33
นันทนา ชุตวิ งศ์, รอยพระพุทธบาทในศิลปะเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, (กรุงเทพฯ: ด่านสุทธาการพิมพ์,
2533), น. 63
34
ยอร์ช เซเดส์, “จารึกหลักที% 8 จารึกเขาสุมนกู” ประชุมจารึกสยาม ภาคที 1-2 จารึกสุโขทัย, (พระนคร: โรงพิมพ์
พระจันทร์, 2477), น. 20.
35
สุภทั รดิศ ดิสกุล, ศิลปะในประเทศไทย, (กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2548), น.46; นันทนา ชุตวิ งศ์,
รอยพระพุทธบาทในศิลปะเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, น. 38.
วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
95
36
นันทนา ชุตวิ งศ์, รอยพระพุทธบาทในศิลปะเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, น. 63. วีรภัทร อารีศริ, พระพุทธเจ้า
์
ในภัท รกัล ป การแสดงออกในงานศิล ปะสมัย รัต นโกสิน ทร์ (ปริญ ญาศิล ปศาสตรมหาบัณ ฑิต สาขาวิช าประวัติศ าสตร์ ศ ิล ปะ
มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2549), น. 24-32.
96 วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
7. สาระพุทธธรรมกับอุดมคติ ของสังคม
พุทธประวัตใิ นคัมภีร์ทพ%ี ระคันถรจนาจารย์ในล้านนาและอยุธยารจนา ตํานานท้องถิน% ที%บนั ทึกเรื%องราว
ของผูค้ นและบ้านเมืองรวมถึงงานศิลปกรรมและขนบประเพณีเนื%องในศาสนาชีให้เห็นว่าคติความเชื%ออดีตพุทธเจ้า
สืบทอดมาจากคติค วามเชื%อในพุทธศาสนาจากลังกาและปรับให้สอดคล้อ งกับสังคมไทย การรับรู้และส่งทอด
เรื%อ งราวนี ในสัง คมไทยมีส่ว นกํา หนดโลกทัศ น์ แ ละคตินิ ย มในการดํา รงชีวิต ให้มีวิถีป ฏิบ ัติต ามกรอบคิด ทาง
พุทธศาสนาให้ผูค้ นในสังคมเกิดศรัทธาและประพฤติชอบ การทีค% มั ภีรพ์ เิ ศษและตํานานในท้องถิน% สนใจเรื%องอดีต
พุทธเจ้ามากกว่าทีม% กี ล่าวไว้ในพระไตรปิ ฎกบอกถึงเจตนคติในการส่งเสริมความเชื%อความศรัทธาและปลูกฝงั พุทธ
ธรรมตามคติพุทธเถรวาทในเรื%อง “กรรม” และ “ไตรลักษณ์” เป็ นความหวังที%แฝงอยู่ในคติการบําเพ็ญบารมีและ
กริยาบุญเพื%อผลกับผูป้ ระพฤติทงในชาติ
ั นีและชาติหน้า
พุทธประวัติเน้นให้เห็นว่าพระโพธิสตั ว์ทรงบําเพ็ญบารมีของผู้ทป%ี รารถนาเป็ นพระพุทธเจ้าทีต% ้องอาศัย
ศรัท ธาอย่ า งแรงกล้า ตามขันตอนจนสมบูร ณ์ เรื%อ งราวทังหมดเป็ นผลจาก “กรรม” ที%เป็ น เหตุ ใ ห้จํา แนกและ
กําหนดให้สรรพสัตว์ทงหลายแตกต่
ั างกัน เป็ นไปและเกิดขึนอย่างอาศัยกันอย่างไม่มที %ีสนสุ ิ ด กาลและเทศะใน
เหตุการณ์จงึ เกิดขึนอย่างสืบเนื%องจากอดีตสู่ปจั จุบนั และอนาคตเป็ นกระบวนการเดียวกันทีเ% ป็ นส่วนหนึ%งของการรู้
ธรรม เพราะการกระทํา ในอดีต และป จั จุ บ ัน ถึง อนาคตนี เป็ น ผลสืบ เนื% อ งที%ต้อ งเป็ น เช่ น นัน คัม ภีร์ต่ า งๆ เช่ น
โสตัตถกีมหานิทาน มูลศาสนา ชินกาลมาลีปกรณ์ ปฐมสมโพธิกถา และตํานานพระธาตุและพระพุทธบาท จึงแสดง
ให้เห็นว่าคนทังหลายได้เห็นธรรมจากการเกิด การดํารงอยู่ และการสูญสลาย อีกทังความเชื%อนียังเป็ นความหวัง
ของผู้คนในศาสนาของพระโคตมพุท ธเจ้าซึ%ง มีกําหนดอายุ 5000 ปี นีให้ตระหนักว่า มนุ ษ ย์กํา ลัง อยู่ใ นเวลาที%
พุทธศาสนามีสภาพอย่างไรและมนุ ษย์ควรจะทํา “กรรม” ใดในสภาพเช่นนัน37 ตํานานจึงเน้นยําเรื%องกรรมและ
กฎแห่งกรรม การทําบุญและประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมเป็ นวิถที างทีช% ่วยให้ไปสูภ่ พภูมทิ ด%ี ี ดังนันสิง% ทีม% นุษย์ควรทํา
ในปจั จุบนั คือการทําดี มีศรัทธายึดมันในพุ
% ทธศาสนาเพื%อไปสูภ่ พภูมทิ ด%ี หี รือหลุดพ้นจากสังสารวัฏ38
ส่วนเรื%องราวของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในช่วงเวลานานหลายกัปอสงไขยอยู่ภายใต้กฎแห่งธรรมชาติใน
สามัญลักษณะทีเ% รียกว่า “ไตรลักษณ์” ผูท้ ป%ี รารถนาเป็ นพระพุทธเจ้าทุกคนมีสภาพเป็ นมนุ ษย์ทต%ี ้องอยู่ภายใต้กฎ
แห่งธรรมชาติท%เี ป็ นสากลไม่ต่างจากสิง% ทังหลายในจักรวาล พระพุทธเจ้าจํานวนมากที%นับจํานวนได้และไม่อาจ
ประมาณนับได้ทุกพระองค์มพี ระจริยาวัตรทีค% ล้ายคลึงกันมิได้อยู่นอกกฎแห่งนี พระองค์ทรงเป็ นมนุ ษย์ทต%ี ้องดับ
สูญ ฝ่ายพุทธเถรวาทเชื%อว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็ นมนุ ษย์ท%ีบําเพ็ญบารมีจนบรรลุโ พธิญาณและเมื%อกายเนือไม่
สามารถดํารงอยู่ได้ตามกฎแห่งธรรมชาติกเ็ สด็จดับขันธปรินิพพาน พระสรีระของพระองค์ไม่อาจดํารงอยู่ ศาสนาที%
ทุกพระองค์ทรงโปรดเวไนยสัตว์กไ็ ม่อาจดํารงอยู่อย่างนิรนั ดรเช่นกัน ความจริงแห่งธรรมชาติทต%ี ้องเป็ นเช่นนีเป็ น
“ไตรลักษณ์” ได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา39 สามัญลักษณะทีเ% ป็ นจริงไม่ขนกั ึ บกาลเวลา40
37
สิงฆะ วรรณสัย,แปล. พุทธตํานานพระเจ้าเลียบโลก, (สถาบันวิจยั สังคม: เชียงใหม่, 2518), น. 127.
38
“ตํานานพระนางจามเทวี” ประชุมตํานานลานนาไทย เล่ม 1 รวบรวมโดย สงวน โชติสุขรัตน์, (โอเดียนสโตร์: พระนคร.
2515), น. 73.
39
พระพรหมคุณาภรณ์, พจนานุ กรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์, ครังที% 12, 2546, อ้างอิง http://www.
84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=ไตรลักษณ์.
40
พระพรหมคุณาภรณ์ , พจนานุ กรมพุทธศาสตร์, พิมพ์ครังที% 12, (2546) สืบค้นเมื%อธันวาคม 2553 จาก http://www.
84000.org/tipitaka/dic/d_seek. php?text=อกาลิโก.
วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
97
8. ธรรมราชากับอุดมการณ์ผปู้ กครอง
เรื%องราวของผู้คนและบ้านเมืองในท้องถิน% ถูกเชื%อมโยงเข้ากับพุทธประวัติ โดยศูนย์กลางของเรื%องราวใน
คัม ภีร์พิเ ศษและตํ า นานคือ ชมพูท วีป เน้ น เฉพาะราชธานี ท%ีเ ป็ น ศูน ย์แ ห่ ง ความเจริญ ของโลกพุ ท ธศาสนาซึ%ง
เคลื%อนย้ายจากเมืองกบิลพัสดุใ์ นอินเดียมาสูล่ งั กาและดินแดนประเทศไทย42 คติกษัตริยต์ ามแนวคิดในพุทธศาสนา
นิกายลังกาวงศ์ กษัตริยท์ รงทําหน้าทีจ% รรโลงธรรมดังทีท% รงพระนามหรือกล่าวถึงด้วยพระนาม “พญาธรรม” หรือ
“ธรรมิกราช”43 กษัตริย์ผูท้ รงธรรมเป็ นคุณสมบัตสิ งู สุดของกษัตริยท์ น%ี ับถือพุทธศาสนาลังกาวงศ์ การไม่ตงมั
ั นใน
%
ธรรมของกษัตริยน์ ํามาสูค่ วามวิบตั แิ ละการล่มสลายของบ้านเมือง ซึง% ในศาสนาพระโคตมพุทธเจ้าทีม% กี ําหนดอายุ
5,000 ปี มีพญาธรรมมิกราชมาบังเกิดมาแล้วจํานวนมาก
คติความเชื%อนีจึงสอดคล้องกับพัฒนาการของบ้านเมืองที%รบั นับถือพุทธศาสนาเถรวาทตังแต่ ใ นพุทธ
ศตวรรษที% 6-7 ถึงพุทธศตวรรษที% 20 ผู้นําของบ้านเมืองเหล่านันรับวัฒนธรรมอินเดียมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับ
สังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของตน พัฒนาการของบ้านเมืองจึงเป็ นไปในทิศทางการเมืองการปกครองทีม% ศี ูนย์
41
เตภูมกิ ถา, (นนทบุร:ี กรมศิลปากร, 2515), น. 315.
42
“ตํานานพระพุทธบาทเขารังรุง้ ” ประชุมตํานานล้านนาไทย เล่ม 2 รวบรวมโดย สงวน โชติสุขรัตน์ , น. 417; รัตนปญั ญา
เถระ, ชินกาลมาลีปกรณ์ แปลโดย แสง มนวิทรู , น. 41, 58, 89.
43
ศรีศกั ร วัลลิโภดม, “คติกษัตริยส์ มมติราช มหาสมมติเทพ” เมืองโบราณ (ปี ท%ี 32 ฉบับที% 3, 2549), น. 10. ศรีศกั ร
วัลลิโภดม, สยามประเทศ, (กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์มติชน, 2539), น. 286-302.
98 วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
รวมอยู่ ท%ีก ษัต ริย์ต ามคติธ รรมราชา การอธิบ ายถึง พญาธรรมมิก ราชที%อุ บ ัติข ึน ได้แ ก่ พระเจ้า อโศกในราว
พุทธศตวรรษที% 3 พระเจ้าอนุ รุธแห่งพุกามในราวพุทธศตวรรษที% 17 และจะได้บงั เกิดพญาธรรมิกราชอีกพระองค์
ในล้านนาและอโยธยาในช่วงกึง% พุทธกาล ตํานานในล้านนาเน้นให้ความสําคัญกับเรื%องนีเพราะพญาธรรมิกราชจะ
มาเป็ นที%พ%งึ ของผู้คนในสังคม คติธรรมราชาจึงมีอทิ ธิพลต่อการอธิบายความชอบธรรมในการปกครองและเป็ น
อุดมคติผู้ปกครองดังปรากฏพระนามของกษัตริย์ในพม่า สุโขทัย ล้านนา รวมถึงอยุธยาต่างเฉลิมพระเกียรติดงั %
“พญาธรรมิกราช” เพราะกษัตริยผ์ ูท้ รงธรรมทรงมีบทบาทสําคัญทีส% ุดทีก% ําหนดความเป็ นไปของบ้านเมืองทีท% ุกคน
ดํารงอยู่44 เช่น ความปกติของสภาวะทางธรรมชาติไม่ว่าเรื%องฝนตกต้องตามฤดูกาล การทํามาหากินหรือทรัพย์สนิ
มังคั% งบริ
% บรู ณ์ ตํานานตังแต่พุทธศตวรรษที% 20-21 ต่างกล่าวเชื%อมโยงเหตุการณ์บา้ นเมืองกับพุทธศาสนาและเน้น
บทบาทของกษัตริยพ์ ระองค์ใดพระองค์หนึ%งทีไ% ด้อุปถัมภ์พุทธศาสนาเป็ นพิเศษ เช่น มูลศาสนาวัดสวนดอกเน้นที%
พระเจ้ากือนา ชินกาลมาลีปกรณ์เน้นทีพ% ระเจ้าติโลกราช และจามเทวีวงศ์เน้นทีพ% ระเจ้าอาทิตยราช รวมถึงงานที%
แต่งขึนในอยุธยาและรัตนโกสินทร์ เช่น โองการแช่งนํา กฎหมายตราสามดวง รวมถึงตํานานและพงศาวดาร
การผสานความเชื%อในพุทธศาสนากับความเชื%อและเหตุการณ์ในท้องถิน% โดยผนวกเรื%องราวของอาณาจักร
กับ พุ ท ธจัก รคือ ชมพูท วีป ผ่ า นสัญ ลัก ษณ์ ต่ า งๆ เช่ น การตังชื%อ บ้า นเมือ งสถานที%ใ นตํ า นานเป็ น ชื%อ เดีย วกัน
พุ ท ธทํา นายหรือ คํา พยากรณ์ บ้า นเมือ งที%พ ระพุ ท ธเจ้า เสด็จ ไปและทํา นายอนาคตของบ้า นเมือ งที%จ ะเกิด ขึน
ผู้ปกครองบ้านเมืองได้รบั ความคุ้มครองจากพุทธานุ ภาพของพระพุทธเจ้าและพลังลีลับ เหนือธรรมชาติ อาทิ
อธิบายว่าพระพุทธเจ้าเสด็จจากภูเขาสุวรรณบรรพตไปในทีใ% กล้ปา่ มีหนองนําใหญ่เรียกว่าหนองโสน และพยากรณ์
ว่ามดเล็กตัวหนึ%งต่อไปในอนาคตกาลข้างหน้าจะได้บงั เกิดเป็ นกษัตริยม์ ศี กั ดานุภาพมากสร้างราชธานีอยู่ ณ ตําบล
หนองโสนให้เป็ นบ้านเมืองทีส% มบูรณ์และจะได้บํารุงพุทธศาสนาและรอยพระบาทบนยอดเขาสุวรรณบรรพตนันให้
รุ่ ง เรือ ง ในกาลต่ อ มาพระเจ้า อู่ ท องทรงประกาศว่ า พระองค์คือ มดเล็ก ตัว นั นและเป็ น ผู้ส ร้า งกรุ ง และบํ า รุ ง
พระพุทธศาสนาให้ถาวรรุ่งเรืองสืบไปดังคําพยากรณ์ทพ%ี ระองค์ทรงพยากรณ์ไว้ 45
พุทธศาสนามีบทบาทในการสร้างความชอบธรรมทางการปกครองให้กบั สถาบันกษัตริย์ การอธิบายทีม% า
แห่ ง พระราชานุ ภ าพทังทางโลกและทางธรรม การเน้ น ฐานะดิน แดนเหล่ า นั นให้เ ป็ น “ดิน แดนศัก ดิส€ ิท ธิท€ %ี
พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมา” แสดงถึงพระราชอํานาจทางการเมืองของพระมหากษัตริยท์ ท%ี รงปกครองเหนือดินแดน
อันศักดิสิ€ ทธินั€ น จารึกและพงศาวดารกล่าวถึงกษัตริยห์ ลายพระองค์ทท%ี รงมีพระจริยาวัตรบูชารอยพระพุทธบาทซึง%
เป็ นสัญลักษณ์หนึ%งทีแ% สดงสถานะอันชอบธรรมทางการปกครอง ทังนีเพราะพุทธศาสนาได้เปลีย% นสถานะดินแดนที%
เชื%อว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดให้เป็ นดินแดนศักดิส€ ทิ ธิท€ %ไี ด้รบั ความคุ้ม ครองจากพุทธานุ ภาพของพระองค์
การได้พบและนมัสการพระพุทธบาทในดินแดนที%ปกครองอยู่จึงเกี%ยวข้องกับบุญญาธิการของพระมหากษัตริย์
ดังเห็นได้จากการจําลองรอยพระพุทธบาท การเสด็จไปนมัสการพระพุทธบาท และการค้นหารอยพระพุทธบาท
ตังแต่พุทธศตวรรษที% 20-23 เช่น พระมหาธรรมราชาลิไททรงจําลองพระพุทธบาทบนเขาสุมนกูฏในลังกามา
ประดิษฐานในสุโขทัยใน พ.ศ. 1902 และทรงให้ช%อื เขาแห่งนันใหม่ว่า “สุมนกูฏ” ตามชื%อเขาศักดิสิ€ ทธิในลั € งกา ทําให้
เปลี%ยนสถานะสุโขทัยเป็ นดินแดนศักดิส€ ทิ ธิที€ %พระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดและให้ความคุ้มครอง จารึกเขาสุมนกูฏ
กล่าวถึงการแห่พระพุทธบาทขึนเขา46 และเมื%อพระมหาธรรมราชาลิไททรงปราบหัวเมืองและประทับทีเ% มืองสอง
แควหรือพิษณุโลกในปจั จุบนั ทรงนําชาวเมืองสักการพระพุทธบาทนี ในสมัยอยุธยาราวพุทธศตวรรษที% 22 เอกสาร
หลายฉบับได้กล่าวถึงการเสด็จนมัสการรอยพระพุทธบาท เช่น คําให้การของขุนหลวงหาวัด กล่าวถึงสมเด็จ
44
ตํานานมูลศาสนา, น. 144; สิงฆะ วรรณสัย, แปล. พุทธตํานานพระเจ้าเลียบโลก, น.16. “ตํานานพระนางจามเทวี”
ประชุมตํานานลานนาไทย เล่ม 2 รวบรวมโดย สงวน โชติสุขรัตน์, น. 72.
45
“คําให้การชาวกรุงเก่า” ประชุมคําให้การกรุงศรีอยุธยา, น. 51, 54-56.
46
ยอร์ช เซเดส์, “จารึกหลักที% 8 จารึกเขาสุมนกูฏ” ประชุมจารึกสยาม ภาคที 1-2 จารึกสุโขทัย, (พระนคร: โรงพิมพ์
พระจันทร์, 2477), น. 20.
วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
99
9. สรุปและส่งท้าย
คติความเชื%อเรื%องอดีตพุทธเจ้าเป็ นระบบความคิดที%มอี ยู่ทงในคั
ั มภีรเ์ ถรวาทและเถรวาทที%มคี วามเห็นไป
ทางพุทธมหายาน เท่าที%ปรากฏหลักฐานจากคัมภีร์ ตํานาน งานจิตรกรรมบนฝาผนัง ทีศ% าสนสถานและพระบฏ
ปฏิมากรรมรูปรอยพระพุทธบาทรวมถึงประเพณีนมัสการพระพุทธบาทชีให้เห็นว่าความเชื%อนีได้ปรับเข้ากับคติ
ความเชื%อในท้องถิน% อย่างน้อยตังแต่ประมาณพุทธศตวรรษที% 19-20
คติค วามเชื%อ เรื%อ งอดีต พุ ท ธเจ้า สืบ เนื% อ งมาจากพระไตรปิ ฎ ก อรรถกถาและคัม ภีร์พิเ ศษที%ก ล่ า วถึง
พระประวัตขิ องพระโคตมพุทธเจ้า เรื%องราวนีมีแทรกอยู่ในพระสูตรต่างๆ อาทิ มหาปทานสูตร อาฏานาฏิยสูตร
และส่วนพุทธประวัติท%เี ป็ นเรื%องราวเฉพาะที%สาํ คัญคือพุทธวงศ์และอรรถกถาพุทธวงศ์ซ%งึ เป็ นต้นแบบของคัมภีร์
พุทธประวัตใิ นยุคหลัง กล่าวถึงเรื%องราวของอดีตพุทธเจ้า 24 พระองค์และ 27 พระองค์ พระโพธิสตั ว์ทรงบําเพ็ญ
บารมีมาอย่างอุกฤษฏ์และสมบูรณ์ ทรงได้พบและได้รบั คําพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ว่าจะได้สาํ เร็จเป็ น
พระโคตมพุทธเจ้า เมื%อพุทธศาสนาเผยแผ่มายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงไทย คัมภีร์พเิ ศษที%แต่งขึนและ
แพร่หลายในล้านนาและอยุธยาในราวพุทธศตวรรษที% 20 เช่น สัทธรรมสังคหะ ชินมหานิทาน ปฐมสมโพธิ และ
พุทธานุ ปริวตั ต์ยงั คงดําเนินเรื%องตามพุทธวงศ์และอรรถกถาพุทธวงศ์ นอกจากนียังมีคมั ภีร์พเิ ศษที%เป็ นเรื%องราว
เฉพาะอีกกลุ่มหนึ%งทีม% คี วามเห็นไปทางพุทธมหายาน เช่น สัมภารวิบาก สัมปิ ณฑิตมหานิทาน โสตัตถกีมหานิทาน
ชินกาลมาลีปกรณ์ และมูลศาสนา เน้นเรื%องราวพุทธประวัติในอดีตชาติซง%ึ มีพระพุทธเจ้าอุบตั ิมาแล้วจํานวนมาก
คัมภีรพ์ เิ ศษกลุ่มนีสนใจแสดงเรื%องราวการบําเพ็ญบารมีของพระโพธิสตั ว์ในอดีตชาติทไ%ี กลออกไปกว่าอดีตพุทธเจ้า
ทีพ% ระโพธิสตั ว์ได้พบและได้รบั คําพยากรณ์ว่าจะได้สาํ เร็จเป็ นพระโคตมพุทธเจ้าเป็ นครังแรก โดยย้อนอดีตชาติไป
ไกลตังแต่ปฐมปณิธานทีโ% พธิสตั ว์คดิ ปรารถนาเป็ นพระพุทธเจ้าครังแรก คัมภีรพ์ เิ ศษทังสองกลุ่มเผยแพร่ในล้านนา
สุโขทัย อยุธยาและสืบทอดมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์
โดยสาระหลักเรื%องราวของอดีตพุทธเจ้าคือ การบําเพ็ญบารมีเพื%อเป็ นพระพุทธเจ้า ความเกี%ยวข้องกัน
ระหว่างอดีตพุทธเจ้ากับพระโพธิสตั ว์ซง%ึ เป็ นหนึ%งในขันตอนการบําเพ็ญบารมีของผูท้ จ%ี ะเป็ นพระพุทธเจ้าในศาสน
47
“คําให้การขุนหลวงหาวัด ฉบับหลวง” ประชุมคําให้การกรุงศรีอยุธยา, (พระนคร: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนาการ,
2459), น. 334.
100 วารสารศิลปศาสตร์ ปีท%ี 13 ฉบับที% 1 มกราคม - มิถุนายน 2556
บรรณานุกรม