Professional Documents
Culture Documents
โดย
นายประพจน์ รัตตมณี
การค้นคว้าอิสระนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์และการจัดการเชิงธุรกิจ
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปีการศึกษา 2560
ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
โดย
นายประพจน์ รัตตมณี
การค้นคว้าอิสระนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์และการจัดการเชิงธุรกิจ
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปีการศึกษา 2560
ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
BY
หัวข้อการค้นคว้าอิสระ การปรับปรุงกระบวนก่อสร้างในงานติดตั้งชิ้นส่วน
Segmental Box Girder ของโครงการรถไฟฟ้าสาย
สีเขียว (เหนือ)
ชื่อผู้เขียน นายประพจน์ รัตตมณี
ชื่อปริญญา วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชา/คณะ/มหาวิทยาลัย สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์และการจัดการเชิงธุรกิจ
คณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อาจารย์ที่ปรึกษาการค้นคว้าอิสระ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ดนัย วันทนากร
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
ABSTRACT
The objective of research on construction process improvement in
Segmental Box Girder of the Green Line Project (North) is to identify obstacles and
factors causing inefficient operations. Time and cost of operations from the original
work process were initially collected. Based on the obstacles found, a new work
process was created using Critical Path Method. Then, the new process was
implemented and data related to time and cost were collected in order to compare
with those obtained from the original work process.
The results reveal that there are numerous factors causing work process
inefficiently. The influential factors were then cautiously reselected by interviewing
the project personnel. In addition, an average operation time in each step of the
original process, a typical installation of Segment Box Girder that must be operated in
sequence and in parallel, and the specific conditions of the project were taken into
account for the new work process development. As a result, the new
process can reduce operations from 35 steps in the original process to 34 steps, and
critical activities from 32 steps to 27 steps. Also, concurrent work process was
increased from 3 to 4 paths. In comparison of the average time and cost between the
two processes, this study shows that the operation time and cost of the new process
can be decreased from those of the original work process approximately 18.49% and
25.49%, respectively.
กิตติกรรมประกำศ
งานวิจัยเรื่อง “งานวิจัยเรื่องการปรับปรุงกระบวนการก่อสร้างในงานติดตั้งชิ้นส่ ว น
Segmental Box Girder ของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสี เขียว (เหนือ)” ผู้ จัดทาขอขอบคุ ณ
โครงการหลักสูตรนวัตกรรมทางวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์และการจัดการเชิงธุรกิจ
ที่ได้เปิดสอนหลักสูตรที่มีคุณค่าต่อการศึกษา
ขอขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดนัย วันทนากร เป็นอย่างสูงที่ได้ให้ความรู้
คาแนะนา และคาปรึกษาตลอดการทางานวิจัย จนกระทั่งงานวิจัยบรรลุผลสาเร็จ
ขอขอบพระคุ ณ ศาสตราจารย์ ดร.จงรั ก ษ์ ผลประเสริ ฐ ได้ ใ ห้ ข้ อ เสนอนะอั น เป็ น
ประโยชน์ รวมทั้งคาแนะนาในการปรับปรุงงานวิจัยเล่มนี้ตลอดมา
ขอขอบพระคุณ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีวีล๊อปเม้นต์ จากัด (มหาชน) บุคลากรหน่วยงาน
สะพาน ที่ได้มอบโอกาสในการทางาน และมอบความรู้ รวมทั้งให้ข้อมูลต่างๆ จนกระทั่งการศึกษา
ค้นคว้างานวิจัยนี้บรรลุผลสาเร็จ
ขอขอบพระคุณ บิดา มารดา อย่างสูงที่คอยสนับสนุนด้านกาลังทรัพย์ อีกทั้งยังเป็น
กาลังใจที่สาคัญ นอกจากนี้ขอขอบคุณ พี่ๆเพื่อนๆในสาขาวิชาที่ได้คอยช่วยเหลือด้านความรู้ คอย
แนะนาตักเตือนตลอดจนการให้กาลังใจที่ดีเสมอมา
สุดท้ายนี้หวังว่างานวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจได้นาไปประยุกต์ใช้เพื่อให้การ
ทางานของท่านช่วยพัฒนาองค์ความรู้อันเป็นประโยชน์ต่อวงการวิศวกรรมของประเทศต่อไป
นายประพจน์ รัตตมณี
สำรบัญ
หน้า
บทคัดย่อภาษาไทย (1)
บทคัดย่อภาษาอังกฤษ (3)
กิตติกรรมประกาศ (5)
สารบัญตาราง (9)
สารบัญภาพ (10)
บทที่ 1 บทนา 1
1.1 ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา 1
1.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย 2
1.3 ขอบเขตของการวิจัย 2
1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 3
บทที่ 2 ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 4
บทที่ 3 วิธีการวิจัย 32
บทที่ 4 ผลการวิจัยและอภิปรายผล 40
4.1 ปัจจัยที่ส่งผลให้กระบวนการปฎิบัติงานขาดประสิทธิภาพ 40
4.2 แนวทางปรับปรุงปัจจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฎิบัติงาน 52
4.3 การปรับปรุงกระบวนการติดตั้งชิ้นส่วน Segment Box Girder โดยวิธีการ 58
กาหนดสายงานวิกฤต
4.4 การเปรียบเทียบประสิทธิภาพด้านระยะเวลาปฎิบัติงานระหว่าง 65
กระบวนการดั้งเดิมและกระบวนการรูปแบบใหม่
4.5 การเปรียบเทียบประสิทธิภาพด้านต้นทุนปฎิบัติงานระหว่างกระบวนการ 72
ดั้งเดิมและกระบวนการรูปแบบใหม่
บทที่ 5 สรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ 77
5.1 สรุปผลการศึกษา 77
5.2 ข้อจากัด 79
5.3 ข้อเสนอแนะ 80
รายการอ้างอิง 81
ภาคผนวก 83
ประวัติผู้เขียน 114
สำรบัญตำรำง
ตารางที่ หน้า
3.1 ใบบันทึกการปฎิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนฯ กระบวนการดั้งเดิม 34
3.2 การใช้ทรัพยากรต่อละกระบวนการ 37
4.1 ระยะเวลาที่ใช้ปฎิบัติงานแต่ละกระบวนการของกระบวนการดั้งเดิม 6 ช่วงเสา 66
4.2 ระยะเวลาที่ใช้ปฎิบัติงานแต่ละกระบวนการของกระบวนการใหม่ 6 ช่วงเสา 68
4.3 เปรียบเทียบระยะเวลาปฎิบัติงานก่อนและหลังปรับปรุงกระบวนการ 70
4.4 ต้นทุนที่ใช้ในการปฎิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จกระบวนการดั้งเดิม 73
4.5 ต้นทุนที่ใช้ในการปฎิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จกระบวนการใหม่ 74
4.6 เปรียบเทียบต้นทุนระหว่างกระบวนการดั้งเดิมและกระบวนการรูปแบบใหม่ 76
สำรบัญภำพ
ภาพที่ หน้า
2.1 ระบบติดตั้งคานเดี่ยว (Over head Truss) 5
2.2 ระบบติดตั้งคานคู่ (Under Slug Truss) 6
2.3 ชิ้นส่วน “Pier Segment” 7
2.4 ชิ้นส่วน “Deviator Segment” 8
2.5 ชิ้นส่วน “Typical Segment” 8
2.6 ช่วงสะพานแบบ Simple span 9
2.7 วัสดุรองรับ “Pot bearing” 11
2.8 ช่วงสะพานแบบ Continuous span 11
2.9 การติดตั้งชิ้นงานช่วงที่ 1 แบบ Pot bearing&Pier segment 12
2.10 การติดตั้งชิ้นงานช่วงที่ 2 แบบ Pier segment&Pier segment 13
2.11 การติดตั้งชิ้นงานช่วงที่ 2 แบบ Pier segment&Pot bearing 15
2.12 ส่วนประกอบของ Launching gantry 15
2.13 ชิ้นส่วน “ฐานรองรับน้าหนัก (Support)” 16
2.14 การย้ายฐานรองรับ (Support) 17
2.15 ชิ้นส่วน “ฐานรองรับน้าหนักชั่วคราว (Leg)” 17
2.16 ชิ้นส่วน “Portal frame” 18
2.17 ชิ้นส่วน “Pier bracket” 19
2.18 ชิ้นส่วน “ชุดแขวนชิ้นส่วนสาเร็จ (Hanging)” 19
2.19 ชิ้นส่วน “กระเช้าสาหรับงาน Post tension” 20
2.20 ชิ้นส่วน “Winch” 20
2.21 การตรวจสอบค่าด้วย Survey 21
2.22 กระบวน “Stressing 15%” เพื่อให้รอยต่อแนบสนิทกัน 22
2.23 การติดตั้งคอนกรีตทรงลูกบาศก์ทาติดด้วย Epoxy 22
2.24 กระบวนการเทคอนกรีตเชื่อมรอยต่อ (Wet joint) 23
2.25 กระบวนการเสริมแรงด้วยวิธ๊ Post-tension 24
2.26 กระบวนการ Load span 24
2.27 การปลดวัสดุอุปกรณ์จากชิ้นส่วนสาเร็จรอส่งคืนโรงงาน 25
2.28 รูปแบบการบันทึกเวลา 29
4.1 กระบวนการปฎิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วน Segment ในปัจจุบัน (1 cycle) 41
4.2 ปั จ จั ย ที่ ส่ ง ผลให้ ก ระบวนการปฎิ บั ติ ง านการเตรี ย มการก่ อ นการเลื่ อ น 42
Launching ขาดประสิทธิภาพ
4.3 ปั จ จั ย ที่ส่ งผลให้ กระบวนการปฎิบัติงานการเลื่ อน Launching gantry ขาด 44
ประสิทธิภาพ
4.4 ปัจจัยที่ส่งผลให้กระบวนการติดตั้งชิ้นส่วน Segment ขาดประสิทธิภาพ 48
4.5 ปัจจัยที่ส่งผลให้กระบวนการหลังการติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จขาดประสิทธิภาพ 51
4.6 แนวทางการปรั บ ปรุ ง เพื่ อ เพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพกระบวนการ ในขั้ น ตอนการ 53
เตรียมการก่อนการเลื่อน Launching gantry
4.7 แนวทางการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ ในขั้นตอนการเลื่อน 54
Launching gantry เข้าตาแหน่ง
4.8 แนวทางการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการในขั้นตอนการติดตั้ง 55
ชิ้นส่วน Segment
4.9 แนวทางการปรับปรุงเพือเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ ในขั้นตอนหลังการ 57
ติดตั้งชิ้นส่วน
4.10 ขั้นตอนการปฎิบัติงานกระบวนการดั้งเดิม 59
4.11 กระบวนการปฎิบัติงานใหม่ 63
4.12 ระยะเวลาเฉลี่ยแต่ละกระบวนการในการติตดั้งชิ้นส่วน Segment ทั้ง 6 ช่วง 84
เสา
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ควำมเป็นมำและควำมสำคัญของปัญหำ
ชิ้นส่วนสาเร็จอีกทั้งการเพิ่มขีดความสามารถทางวิศวกรรมให้สอดคล้องกับปริมาณงาน ซึ่งในปัจจุบัน
บริ ษั ท ธุ ร กิ จ การก่ อ สร้ า งมี ก ารใช้ ง านเครื่ อ งจั ก ร Launching gantry นี้ ยั ง อยู่ ใ นวงจ ากั ด ยั ง ไม่
แพร่หลายเป็นวงกว้าง การก่อสร้างด้วยรูปแบบนี้เป็นโครงสร้างสะพานแบบนาชิ้นส่วนคอนกรีตสาเร็จ
เข้ามาเรียงต่อกัน ซึ่งที่ปลายทั้งสองข้างจะมีชิ้นส่วนที่วางยึดติดแน่น (fixed) อยู่บนหัวเสาสามารถถ่าย
แรงจากน้าหนักบรรทุกจร (live load) และน้าหนักของตัวชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆ (dead load) ใน
การยึดชิ้นส่วน (segments) เข้าด้วยกันนั้นจะมีลวดสลิงคอยทาหน้าที่ยึดชิ้นส่วนทุกชิ้นเข้าด้วยกัน
และในแต่ละชิ้นส่วนจะมี shear key ที่ทาหน้าที่รับแรงเฉือนที่เกิดขึ้นในแนวดิ่ง
ด้ว ยปั จ จั ย ดังกล่ าวผู้ วิจั ยจึ งมี ความต้ อ งการศึ ก ษาปัจ จัย ที่ จ ะส่ งผลต่ อ กระบวนการ
ดาเนินงาน การแบ่งขั้นตอนการทางาน การพิจารณาหากระบวนการปฏิบัติงานที่เหมาะสม เพราะใน
ปัจจุบันนั้นการดาเนินงานมักมีปัญหาการทางานที่ไม่ราบรื่น ทาให้งานเป็นไปอย่างล่าช้า (delay)
ออกไปเรื่ อ ยๆ จนในที่ สุ ด อาจส่ ง ผลให้ โ ครงการล่ า ช้ าได้ อี ก ด้ ว ย ผู้ วิ จั ย มี ค วามประสงค์ ป รั บปรุง
กระบวนการทางานอันเป็นผลให้การดาเนินงานติดตั้งชิ้นส่วนเพื่อใช้เ ป็นทางวิ่งรถไฟฟ้าที่ก่อสร้างโดย
บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จากัด มี ระยะเวลาในการดาเนินงานที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น ช่วย
ลดต้นทุน และกระบวนการดาเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งผลลัพธ์จากการวิจัยชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์
ต่อบริษัทฯ และยังเป็นประโยชน์ต่อแวดวงการติดตั้งชิ้นส่วนของเครื่องจักร Launching gantry ของ
โครงการต่างๆ
1.2 วัตถุประสงค์ของกำรวิจัย
1.3 ขอบเขตของกำรวิจัย
1.4 ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ
บทที่ 2
ทฤษฎีและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ในบทนี้จะเป็นเรื่องทฤษฎีที่ใช้ในการศึกษาและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยในหัวข้อแรกจะ
กล่าวถึงวิธีการก่อสร้างสะพานด้วยชิ้นส่วนสาเร็จ แบบ และการประกอบชิ้นส่วนโดยใช้ Launching
gantry นอกจากนี้งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาครั้งนี้ ในตอนท้ายจะได้กล่าวถึงรายละเอียดของ
การปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วน ได้แก่ กระบวนการทางานในปัจจุบัน (1 cycle time), ปัจจัยที่มีส่วน
กระทบต่อกระบวนการติดตั้งชิ้นส่ว นสาเร็จ Segment และทฤษฎีที่ใช้ในการศึกษารวมทั้งงานวิจัยที่
เกี่ยวข้อง ตามลาดับ
การก่อสร้างสะพานโดยนาชิ้นส่วนสาเร็จแบบกลวงหลายๆชิ้นมาแขวนไว้กับคานเหล็ก
ขนาดใหญ่ (Main truss) ในลักษณะการเรียงต่อกัน จากนั้นประกอบเข้ าด้วยกันโดยการเดินลวดสลิง
จานวนหลายเส้นผ่านตั้งแต่ชิ้นส่วนชิ้นแรก ชิ้นที่สอง และต่อไปจนถึงชิ้นสุดท้าย หลังจากนั้นก็จะดึง
ลวดสลิงให้ตึงและยืดตามค่าที่มีการออกแบบ เรียกขั้นตอนนี้ว่า “การเสริมแรงแบบ Post-tension”
หรือเป็นการเสริมแรงให้กับชิ้นส่วนทุกชิ้นสามารถรั บน้าหนักตัวมันเองทั้งหมดได้ และรับน้าหนัก
สาหรับการใช้งานตามจุดประสงค์ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้การใช้คานเหล็กขนาดใหญ่มาประกอบ
เข้ากับชิ้นส่วนต่างๆ จนกระทั่งเกิดเป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่มารองรับการติดตั้ง ในปัจจุบันพบว่ามี
การใช้เครื่องจักรอยู่ 2 ประเภท คือ ระบบติดตั้งคานเดี่ยวและระบบการติดตั้งคานคู่ ทั้ง 2 ประเภทนี้
สามารถพบเห็ น การใช้ ง านอยู่ โ ดยทั่ ว ไปในโครงการต่ า งๆ ทั้ ง นี้ รู ป แบบการเลื อ กใช้ ชิ้ น อยู่ กั บ
สภาพแวดล้อมและข้อจากัดต่างๆของการปฏิบัติงานซึ่งจะกล่าวถึงในหัวข้อต่อไป
ด้วยวิธีนี้จะต้องมีการเตรียมพื้นที่ให้รถวิ่งเข้าไปขนส่ง ซึ่งในปัจจุบันมักใช้แผ่นเหล็กปูทับบนดินเพื่อให้
รถขนส่งชิ้นส่วนสาเร็จเข้าไปจุดยกชิ้นงานได้สะดวก ดังภาพที่ 2.1
การติดตั้งชิ้นส่วนโดยใช้ระบบการติดตั้งคานเดี่ยว เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ที่มี
การจราจรหนาแน่น (ใช้พื้นที่เฉพาะให้รถเทรลเลอร์เข้าไปส่งชิ้นงานได้) สามารถติดตั้งในทางโค้งมาก
ได้ (สรกฤตย์ พันธุมนตรี, พ.ศ.2557)
ดังนั้นจึงเหมาะกับสภาพหน้างานที่มีพื้นที่ในการทางานเยอะการเตรียมพื้นที่จะต้องบดอัดดินหรือปู
แผ่นเหล็กให้รถขนส่งเข้าพื้นที่งานได้สะดวก นอกจากนั้นยังต้องจัดเตรียมพื้นที่มากพอให้รถเครนจอด
ทางานได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย ดังภาพที่ 2.2 สภาพพื้นที่เป็นถนนกว้างสะดวกต่อรถเทรลเลอร์ที่วิ่ง
เข้ามาส่งชิ้นงาน ถนนที่กว้างทาให้รถเครนสามารถจอดทางานยกได้สะดวกในเวลากลางคืน แต่จะต้อง
คืนพื้นที่จราจรกลับในเวลากลางวัน
การติดตั้งชิ้นส่วนโดยใช้ระบบติดตั้งคานคู่ เหมาะกับการติดตั้งชิ้นส่วนในทางตรง
ไม่เหมาะกับการติดตั้งในกรณีที่มีพื้นที่น้อยหรือมีสิ่งกีดขวางรอบพื้นที่ป ฏิบัติงาน (สรกฤตย์ พันธุ
มนตรี, พ.ศ.2557)
2.2 ประเภทของชิ้นส่วนสำเร็จที่ใช้ในกำรติดตั้ง
ชิ้นส่วนสาเร็จที่ใช้สาหรับการก่อสร้างสะพานจะเป็นชิ้นส่วนแบบกลวง ที่ผ่านการหล่อ
ส าเร็ จ มาจากโรงหล่อ สามารถแบ่ งออกเป็น 3 ประเภทได้แก่ ชิ้นส่ ว น Pier Segment, Deviator
Segment และชิ้นส่วน Typical Segment
(2) ช่วงที่ 2 แบบ Rigid Pier segment & Rigid Pier segment
กระบวนการติดตั้ง เมื่อยกชิ้นส่วนขึ้นไปแขวนเรียงกันกับคานเหล็กของ
เครื่องจักร Launching gantry เรียงต่อกันจนครบช่วงความยาวสะพานแล้ว จะพบว่าช่วงสะพานช่วง
ที่ 2 แบบ Pier segment & Pier segment มีลักษณะเฉพาะของช่วงสะพานอยู่ 2 ประการ ดังนี้
ประการแรกการติดตั้งชิ้นส่ ว นฯ หลั งจากการยกชิ้นส่ ว นส าเร็จขึ้นมา
แขวนกับคานเหล็กของเครื่องจักร Launching gantry แล้วจึงทาการโยกชิ้นส่วนตรงกลางนี้ให้ได้ตาม
ระดับและระนาบของค่าตรวจสอบโดยงาน Survey สังเกตได้ว่าจะมีชิ้นส่วนที่แขวนเรียงกันเฉพาะตรง
กลาง เท่านั้น เนื่องจากเป็นการเว้น ช่องว่างระหว่างแผ่น Pier segment ด้านปลายสะพานเพื่อใช้
เสียบลูกปูน Shim concrete ขนาดที่พอดีกับช่องว่างแล้วโยกก้อนชิ้นส่วนสาเร็จตรงกลางทั้งหมดอัด
เข้ า หาลู ก ปู น Shim concrete ด้ า นปลายสะพาน จากนั้ น จะน า Hydraulic jack ขนาด 30 ton.
จานวน 2 ตัวมาเสียบที่ช่องว่างสาหรับเทคอนกรีตด้านหัวของช่วงสะพานเพื่ออัดชิ้นส่วนที่เรียงกันตรง
กลางให้รอยต่อของทุกชิ้นแนบสนิทกัน จากนั้นทาการ Shim concrete ที่ช่องว่างด้านหัวของช่วง
Portal frame
Pier Bracket
Hanging
(key) ไม่แนบสนิทกันในขณะที่ดึงลวดอัดแรงจะทาให้รอยต่อที่ไม่แนบสนิทกันโดนดึงอัดอย่างรุนแรง
อาจทาให้ชิ้นส่วนสาเร็จ Segment แตกจนใช้การไม่ได้ อีกทั้งยังทาให้ลวดที่ดึงไปเสียกาลังอีกด้วย
ดึงให้รอยต่อแนบสนิทกันทุกรอยต่อ
2.4.12 กำรจัดส่งวัสดุสำหรับยกติดตั้งชิ้นส่วนคืนโรงงำน
เมื่ อ เสร็ จ สิ้ น กระบวนการติ ด ตั้ ง แล้ ว ท าการปลดวั ส ดุ อุ ป กรณ์ ที่ ติ ด ตั้ ง มากั บ
ชิ้นส่วนสาเร็จที่ส่งคืนโรงงานได้ใช้ในการติดตั้งมากับชิ้นส่วนของช่วงเสาถัดไป
2.5.4 ขั้นตอนหลังกำรติดตั้งชิ้นส่วนสำเร็จ
หลังจากการติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะมีกระบวนการย่อยเพื่อทาให้
ชิ้นส่วนสาเร็จทุกชิ้นที่ยกขึ้นมาติดตั้งนั้นสามารถรับกาลังได้ตามการออกแบบเหมาะสมกับการใช้งาน
ได้ต่อไป ในกระบวนการนี้จะมีกระบวนการอีก 9 ขั้นตอน ดังนี้
1. การตรวจสอบค่าระดับ Survey (จัดชิ้นส่วนให้ตรงตามค่าพิกัด)
2. การเสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์
3. การเข้าแบบ Wet joint
4. กระบวนการดึงชิ้นส่วนด้วย Post tension (อัดรอยต่อให้แนบสนิท)
5. เทคอนกรีตเชื่อมรอยต่อ (Wet joint)
6. การรออายุ ให้ได้กาลังคอนกรีตตามการออกแบบ
7. การเสริมแรงด้วยวิธี Post tension (จานวน 3 คู่)
8. การลดระดับ Main truss
9. การเสริมแรงด้วยวิธี Post-tension ต่อจนครบตามจานวน
กระบวนการปฏิบัติงานทั้ง 4 ขั้นตอนหลักนั้นมีทั้งสิ้น 35 กระบวนการย่อย ใน
ส่วนนี้จึงแสดงเฉพาะชื่อกระบวนการ ซึ่งผู้เขียนได้แสดงวิธีการและเหตุผลของการปฏิบัติงานแต่ละ
กระบวนการได้อย่างละเอียดไว้ในภาคผนวก 1 กระบวนการติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box
Girder เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาต่อไป
2.6 ต้นทุนกำรก่อสร้ำง
2.7 แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
ส่วนประกอบของกำรเขียนข่ำยงำนแบบ AON
1. เส้นลูกศร (Arrow) แทน การเชื่อมงานหรือกิจกรรมกระบวนการต่างๆใน
โครงการเข้าด้วยกัน
2. Node แทน กิจกรรมบนจุดวงกลมมีระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของกิจกรรม
3. เส้นประ แทน การสมมติงานช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมแต่ละ
ขั้นตอนเรียงตามลาดับก่อน-หลังให้ตรงตามความเป็นจริง
กำรคำนวณระยะเวลำของแต่ละกิจกรรมของข่ำยงำน
Activity
EST EFT
LST LFT
Duration
สูตรที่จำเป็นในกำรคำนวณ
1. การคานวณแบบเดินหน้า คือ การคานวณแบบเดินหน้าเป็นการเริ่มต้นจาก
กิจกรรมแรก ต่อด้วยกิจกรรมถัดไป ผ่านเงื่อนไขและความเหมาะสมของกิจกรรม
จนกระทั่งถึงกิจกรรมสุดท้ายหรือสิ้นสุดโครงการ
2. การคานวณแบบย้อนกลั บ คือ การนับระยะเวลาจากกิจกรรมสุ ดท้า ยของ
โครงการผ่านกิจกรรมย่อย จนกระทั่งถึงกิจกรรมแรกของโครงการ เพื่อเป็นการหา
เวลาที่ช้าที่สุดที่จะเริ่มกิจกรรมได้โดยไม่ทาให้โครงการล่าช้า
2.8 งำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 3
วิธีกำรศึกษำวิจัย
การค้นคว้าวิจัยสาระนิพนธ์เรื่องการปรับปรุงกระบวนการก่อสร้างในงานติดตั้งชิ้นงาน
Segmental Box Girder ของโครงการรถไฟฟ้ า สายสี เ ขี ย ว (เหนื อ ) มี ค วามต้ อ งการปรั บ ปรุ ง
กระบวนการก่ อ สร้ า งให้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพเพิ่ ม มากขึ้ น โดยจะท าการศึ ก ษาด้ า นปั จ จั ย ที่ ส่ ง ผลให้
กระบวนการก่อสร้างขาดประสิทธิภาพ จากนั้นจึงนามากาหนดกระบวนการดาเนินงานติดตั้งชิ้นงานฯ
ใหม่ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านระยะเวลาและด้านต้นทุนที่ใช้ในการปฏิบัติงาน โดยการ
เปรียบเทียบระยะเวลาก่อนการดาเนินงานและหลังการออกแบบกระบวนการดาเนินงานใหม่
การศึ ก ษาวิ จั ย จะเลื อ กผู้ ที่ มี ส่ ว นเกี่ ย วข้ อ งในงานติ ด ตั้ ง ชิ้ น งาน Segmental Box
Girder ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนการดาเนินงาน
และมีความเข้าใจในปัญหาที่เกิดในระหว่างการทางานมากที่สุด ให้ทาแบบสารวจเพื่อกาหนดปัจจัยที่
ส่งผลให้กระบวนการทางานขาดประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันมีแนวโน้มการดาเนินงานติดตั้งชิ้นงานฯ
ล่าช้าออกไปเรื่อยๆ
การทาแบบส ารวจเป็นเครื่องมือในการส ารวจความเห็นของผู้ ที่เกี่ยวข้องด้ว ยการ
อ้างอิงทฤษฎีเปรียบเทียบกับปัญหาที่เกิดขึ้นในการดาเนินงานเพื่อกาหนดปัจจัย และการใช้วิธีการ
Relative importance index ซึ่งเป็นวิธีการทางสถิติทฤษฎีดัชนีชี้วัดแบบจัดลาดับความสาคัญของ
ปัจจัยใช้ประกอบการวิเคราะห์ข้อมูล
บทนี้จะกล่าวถึงการเก็บข้อมูลการติดตั้งชิ้นงานฯ ในปัจจุบัน กาหนดกลุ่มประชากรที่
ต้องการสารวจ ลักษณะของแบบสารวจ และจุดมุ่งหมายของการสารวจ โดยวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ด้วย
การใช้วิธีการ Relative importance index เพื่อจัดลาดับความสาคัญของปัจจัยที่ทาให้กระบวนการ
ในปั จ จุ บั น ขาดประสิ ทธิภาพและการนาไปใช้ในการวิเคราะห์ ปรับปรุงเพื่อหากระบวนการติดตั้ง
ชิ้นงานฯ ใหม่ที่มีประสิทธิภาพ
ตำรำงที่ 3.1
ใบบันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนฯ กระบวนการดั้งเดิม
รวม
การเลื อ กใช้ ก ารสั ม ภาษณ์ เ พื่ อ การส ารวจผู้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ การป ฏิ บั ติ ง านติ ด ตั้ ง
ชิ้นส่วนฯ และหาปัจจัยเพื่อกาหนดปัจจัยที่ ส่งผลให้กระบวนการก่อสร้างในปัจจุบันขาดประสิทธิภาพ
ในเรื่องของระยะเวลาดาเนินงานและต้นทุนของการปฏิบัติงาน เพิ่มเติมจากการเก็บข้อมูลตามข้อ 3.1
เพื่อให้การศึกษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การวิจัยเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ โดยได้จัดทาหัวข้อเพื่อการสัมภาษณ์เพื่อให้ผู้ ที่มี
ส่วนเกี่ยวข้องแบ่งตามตาแหน่งปฏิบัติงานในโครงการร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านการพูดคุย รวมทั้งสิ้น
กลุ่มประชากรที่ผู้วิจัยต้องการสารวจรวมทั้งสิ้น 15 ท่าน แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้
1. วิศวกรโครงการ (Project engineer) จานวน 1 ท่าน
2. วิศวกรควบคุมงาน (Engineer) จานวน 4 ท่าน
3. โฟร์แมนและช่างเทคนิค (Foreman &Technician) จานวน 6 ท่าน
4. หัวหน้าคนงาน (Headman) จานวน 4 ท่าน
3.3 กำรสร้ำงแบบสัมภำษณ์
การสั ม ภาษณ์ คื อ การสื่ อ สารระหว่ า งบุ ค คลที่ มี จุ ด ประสงค์ เ พื่ อ หาสิ่ ง ที่ ส นใจใน
การศึกษา โดยการสัมภาษณ์มีความแตกต่างจากบทสนทนาทั่วไป และการสัมภาษณ์จะต้องมีคาถาม
และประเด็นที่จะศึกษาที่แน่ชัดก่อนสัมภาษณ์จริง (พีระพงษ์ เครื่องสนุก, 2558)
การสั ม ภาษณ์ ใ นการศึ ก ษาเพื่ อ หาปั จ จั ย ที่ ท าให้ ก ระบวนการท างานติ ด ตั้ ง ชิ้นส่ ว น
Segment ในปัจจุบันนั้น กลุ่มผู้ที่ผู้วิจัยเลือกเพื่อสัมภาษณ์ มีหลากหลายระดับตั้งแต่วิศวกรโครงการ
วิศวกรควบคุมงาน โฟร์แมนและช่างเทคนิค หั วหน้าคนงาน เนื่องจากมีผู้ให้สัมภาษณ์เป็นบางกลุ่มมี
ปัญหาทางการเรียบเรียงคาตอบเป็นตัวอักษรหรือการเขียน อีกทั้งบางคนยังมีปัญหาในการอ่านไม่
คล่องจึงเป็นเหตุผลให้ผู้วิจัยเลือกใช้การสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือสาหรับการศึกษาวิจัย
3.3.1 แบบสัมภำษณ์ที่ไม่มีโครงสร้ำง
การสัมภาษณ์แบบสัมภาษณ์ที่ไม่มีโครงสร้าง เป็นการกาหนดประเด็นที่ต้องการ
สัมภาษณ์ไว้เป็นหัวข้อหลัก และเพิ่มเติมประเด็นอื่นๆในระหว่างการสัมภาษณ์ การเรียงลาดับ คาถาม
ไม่จาเป็นจะต้องเรียงลาดับตามที่กาหนดไว้เนื่องจากขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความลื่นไหลในบริบทของ
การสัมภาษณ์ ในส่วนของการจบการสัมภาษณ์เมื่อผู้สัมภาษณ์ได้รับข้อมูลที่เพียงพอแล้ว
3.3.2 รูปแบบกำรสัมภำษณ์
การสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทางานผู้วิจัยจะแบ่งการสั มภาษณ์ออกเป็น
ส่วนๆตามช่วงของการปฏิบัติงานนั้นๆ เนื่องจากกระบวนการปฏิบัติงานนั้นมีเยอะ เพื่อผู้ให้สัมภาษณ์
แสดงความเห็นได้อย่างเต็มที่ (การสัมภาษณ์รวดเดียวจนจบอาจทาให้ผู้ให้สัมภาษณ์เหนื่อยล้า)
การสัมภาษณ์เลือกใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบรายบุคคล (Individual interview)
เพื่อไม่ให้เกิดการชักนาความคิด/คาตอบจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผู้ให้ สัมภาษณ์มีอิสระในการพูดและ
ตอบได้อย่างเต็มที่
การสัมภาษณ์จะใช้วิธีการถามและเมื่อได้ปัจจัยแล้ว นาปัจจัยที่ได้ถามกลับผู้ให้
สัมภาษณ์ออกความเห็นว่าควรจะแก้ไขอย่างไรในปัจจัยดังกล่าว
3.4 กำรระบุปัจจัยที่ได้จำกกำรสัมภำษณ์
เมื่ อ สั ม ภาษณ์ ผู้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ การปฏิ บั ติ ง านติ ด ตั้ ง ชิ้ น ส่ ว นฯ แล้ ว ผู้ วิ จั ย จะท าการ
รวบรวมผลการสัมภาษณ์จากทุกท่าน จากนั้นให้วิศวกรโครงการและวิศวกรควบคุมงาน ได้แสดงความ
คิดเห็นอีกครั้งเกี่ยวกับปัจจัยใดที่เห็นควรจะต้องแก้ไขเลือกปัจจัยที่ผู้ให้สัมภาษณ์เห็นตรงกัน
1. การวางแผนและควบคุมโครงการด้วย CPM
2. การนากระบวนการรูปแบบใหม่ที่ได้ปรับปรุงไปใช้งานจริง
3.6 กำรเปรียบเทียบด้ำนประสิทธิภำพระหว่ำงกระบวนกำรดั้งเดิมกับกระบวนกำรรูปแบบใหม่
การเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างกระบวนการดั้งเดิมกับกระบวนการรูปแบบใหม่
ทางด้านระยะเวลาและต้นทุนการดาเนินการ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
3.6.1 กำรวัดประสิทธิภำพด้ำนระยะเวลำ
เปรียบเทียบประสิทธิภ าพความแตกต่างด้านระยะเวลา กระบวนการหลั ก 4
กระบวนการ ,กระบวนการย่อย 35 กระบวนการ ,กระบวนการดั้งเดิมกับกระบวนการรูปแบบใหม่ ชี้
วัดโดยเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) เพื่อเป็นตัววัดความแตกต่างเวลาเฉลี่ยของทุกกระบวนการดั้งเดิมต่อ
กระบวนการหลังปรับปรุง(หน่วยนาที)
3.6.2 กำรวัดประสิทธิภำพด้ำนต้นทุน
เปรียบเทียบต้นทุนที่ใช้ ในการดาเนินงาน พนักงานรายเดือน พนักงานรายวัน
การใช้เครื่องจักร ใช้วิธีการพิจารณาจากจานวนชั่วโมงทางานจริงในวันนั้นๆ ทั้งเวลาทางานปกติและ
ล่วงเวลา การชี้วัดโดยเทียบจานวนเงินของกระบวนการดั้งเดิมและกระบวนการรูปแบบใหม่เทียบเป็น
เปอร์เซ็นต์ (%)
เงื่อนไขการใช้ทรัพ ยากรผู้ ปฏิบัติงานและเครื่องจักรที่ใช้ในแต่ล ะกระบวนการ
ปฏิบัติงานของทั้ง 4 ขั้นตอนหลักแสดงตามรูปด้านล่างต่อไปนี้
ตำรำงที่ 3.2
การใช้ทรัพยากรในแต่ละกระบวนการ (หน้าถัดไป)
บทที่ 4
ผลกำรศึกษำ
ในบทนี้กล่าวถึงผลของการปรับปรุงปัจจัยและกระบวนการปฏิบัติงาน ผู้วิจัยทาการ
สัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาปัจจัยที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานที่ขาดประสิทธิภาพและพิจารณาแนว
ทางการแก้ไขปัจจัยเหล่านั้น จากนั้นได้การออกแบบเขียนแผนผังการปฏิบัติงานเพื่อให้การทางานเป็น
ขั้นตอนมีระบบที่ชัดเจน และยังช่วยให้การควบคุมงานง่ายยิ่งขึ้น การเขียนแผนผังแบบสายงายวิกฤต
นั้นประกอบไปด้วย การลาดับงานก่อ นหลัง ระยะเวลาที่ใช้ในแต่ละขั้นตอน กิจกรรมงานใดควรทา
เร่งด่วน หรืองานบางงานหากยังไม่ทาก็อาจรอได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เป็นต้น จากนั้นนาผลเสนอ
ผลเปรียบเทียบประสิทธิภาพการปฏิบัติงานจากข้อมูลที่ได้เก็บมาช่วงก่อนการปรับปรุงกระบวนการ
(กระบวนการดั้งเดิม) และประสิทธิภาพหลังที่ปรับปรุงกระบวนการ (กระบวนการใหม่)
4.1 ปัจจัยที่ส่งผลให้กระบวนกำรปฏิบัติงำนขำดประสิทธิภำพ
การสารวจปัจจัยที่เกิดขึ้นในช่วงของการเก็บข้อมูลปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ และ
ปัจจัยที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนาปัจจัยที่ทาให้การปฏิบัติงานขาดประสิทธิภาพมา
ปรับปรุงเพื่อให้แต่ละกระบวนการมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
การระบุหัวข้อปัจจัยขณะสัมภาษณ์จะอ้างอิงปัจจัยที่เกิดจากแต่ละกระบวนการในการทางานปัจจุบัน
จากหัวข้อที่ 2.5 กระบวนการติดตั้งชิ้นส่วนในปัจจุบัน (1 cycle time) ดังนี้
1. การเตรียมงานก่อนการเลื่อน Launching gantry จานวน 5 กิจกรรม
2. การเลื่อน Launching Truss เข้าตาแหน่งติดตั้ง จานวน 16 กิจกรรม
3. การติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ Segment จานวน 5 กิจกรรม
4. กระบวนการหลังการติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ จานวน 9 กิจกรรม
โดยกระบวนการย่อยของทั้ง 4 ขั้นตอนหลักแสดงดังแผนภาพต่อไปนี้
การเก็บข้อมูลปัจจัยที่ส่งผลให้กระบวนการปฏิบัติงานในปัจจุบันขาดประสิทธิภาพด้วย
วิธีการสัมภาษณ์บุคคลากรที่เกี่ยวข้องในงานติดตั้งชิ้นส่วนฯ เพื่อค้นหาและหาแนวทางปรับปรุงแก้ไข
ปัจจัยเหล่านั้นให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น รายละเอียดปัจจัยที่ส่งผลให้กระบวนการประสิทธิภาพได้
แสดงผลแยกออกเป็น 4 ขั้นตอนหลักต่อไปนี้
4.2 แนวทำงปรับปรุงปัจจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภำพกำรปฏิบัติงำน
เมื่อมีการกาหนดปัจจัยที่ต้องปรับปรุงแล้ว ก็นามาหาวิธีการเพื่อให้การปฏิบัติงานของ
ทั้ง 4 ขั้นตอน รวมเป็น 35 กระบวนการย่อย มีแนวทางที่ใช้ในการปฏิบัติงานแล้วเกิดประสิทธิภาพ
เพิ่มมากยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยลดระยะเวลาการปฏิบัติงานแต่ละกระบวนการลง
4.2.4 ขั้นตอนหลังกำรติดตั้งชิ้นส่วนสำเร็จ
กระบวนการปฏิบัติงานในขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตั้ง Segment
พบว่าโดยส่วนใหญ่กระบวนการมักเกิดการล่าช้ามาจากการข้ามขั้นตอนการทางานในช่วงก่อนหน้า
ปัจจัยที่ส่งผลให้แต่ละกระบวนการขาดประสิทธิภาพก่อให้เกิดการล่าช้าสะสมจนกระทบกันไปทุก
ขั้นตอน ดังนั้นการวางแผนการปฏิบัติงานในแต่ละกะ และการพิจารณาปรับปรุงกระบวนการย่อม
ส่งผลให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามจุดประสงค์มากขึ้น
การพิจารณาหาแนวทางปรับปรุงปัจจัยที่ทาให้กระบวนการขาดประสิทธิภ าพ
ของทั้ง 9 กระบวนการ มีแนวทางดังรูปด้านล่าง
ชิ้นส่วน Segment
4.3.1 ขั้นตอนกำรปฏิบัติงำนรูปแบบดั้งเดิม
ขั้นตอนการปฏิบัติงานก่อนปรับปรุงกระบวนการที่ได้จากการเก็บข้อมูลก่อนเริ่ม
ขั้นตอนการศึกษาอื่น มีการเก็บระยะเวลาการปฏิบัติงานของแต่ละกระบวนการย่อย และผลการเก็บ
ข้อมูลพบว่ากระบวนการปฏิบัติงานส่วนใหญ่มักมีการทาแบบเรียงลาดับต่อกันไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็น
การปฏิบัติงานทีละกระบวนการเรียงต่อกันไป อย่างไรก็ตามมีบางกระบวนการมีการทาพร้อมกันบ้าง
ซึ่งยังพบได้น้อยมาก โดยแบ่งขั้นตอนการปฏิบัติงานของกระบวนการดั้งเดิมซึ่งมีรายละเอียดค่าเฉลี่ย
ของเวลาได้มาจากการเก็บข้อมูล 6 ช่วงเสา (ภาคผนวก 2 ระยะเวลาและวันที่ทางานของกระบวนการ
ดั้งเดิม) มาใส่ลงในการเขียนผังสายงานวิกฤตกระบวนการดั้งเดิมมีรายละเอียดดังรูปต่อไปนี้
1. กระบวนกำรปฏิบัติงำนที่เรียงกันเป็นเส้นตรง การที่ต้องปฏิบัติงานเรียงกัน
เป็นเส้นตรง หมายความว่า กระบวนการเหล่านี้เป็นสายงานวิกฤต จะต้องให้ความสาคัญมากที่สุดใน
การออกแบบกระบวนการปฏิบัติงานใหม่ ซึ่งแบ่งรายละเอียดตามวันที่ปฏิบัติงานได้ดังต่อไปนี้
กะกลางคืนที่ 1 การปลดขาค้าหน้าด้วยรถเครน จากนั้นใช้รถเครนมายกอุปกรณ์
ลงเพื่อส่งคืนโรงงาน (หลบการย้ายขารองรับ) จากนั้นมีการย้ายขารองรับ Rear support โดยใช้รอก
ไฟฟ้าแล้วขึ้นขาค้าหลังเพื่อเตรียมเลื่อนเครื่องจักรไปด้านหน้า เมื่อเลื่อนเสร็จแล้วจะต้องติดตั้งขาค้า
หน้า ด้วยรถเครนเพื่อค้ารับน้าหนัก Main truss ด้านหน้า แล้วย้ายขารองรับ Middle support เข้า
ไปใกล้ Front support ด้วยรอกไฟฟ้าและนารอกไฟฟ้าไปใช้ในการย้าย Front support ไปด้านหน้า
ของกะกลางคืนเป็นการกระทาเกี่ยวกับเครื่องจักร Launching gantry โดยต้องทาเป็นขั้นตอนไม่
สามารถข้ามขั้นตอนได้ และการใช้รอกไฟฟ้าตัวเดียวกันกระบวนการปฏิบัติงานจึงต้องเรียงกันเป็น
เส้นตรง
กะกลางวั น ที่ 1 ปฏิ บั ติ ง านต่ อ จากกะกลางคื น ด้ ว ยการขึ้ น ขารองรั บ Front
support จากนั้ น ย้ า ย Rear support ชิ ด Middle support ด้ ว ยรอกไฟฟ้ า และใช้ ร อกไฟฟ้ า ย้ า ย
Middle support เข้าตาแหน่งต่อไป ในกระบวนการสุดท้ายคือการเลื่อนเครื่องจักรให้เข้าตาแหน่ง
เป็นการทางานเรียงกันเป็นเส้นตรงทั้งหมดเพราะกระทากับตัว Launching gantry ทั้งหมด
กะกลางคืนที่ 2 การปฏิบัติงานรื้อชุด Pier bracket จะต้องใช้เครนในการยกลง
จากนั้นนาเครนมาจัดระยะชุดแขวนชิ้นส่วนสาเร็จให้ได้ระยะ จากนั้นเข้าไปติดตั้งกระเช้าดึงลวดอัด
แรงเป็นขั้นตอนสุดท้ายเห็นได้ว่าต้องใช้เครนทุกขึ้นตอน ดังนั้นกระบวนการจึงต้องเรียงเป็นเส้นตรง
กะกลางวันที่ 2 ลาดับแรกจะต้องจัดชิ้นส่วนสาเร็จให้ได้ตามค่าออกแบบก่อนจะ
ดาเนินการกระบวนการอื่นได้ จากนั้นพนักงานจะเสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์กั้นช่อง (Joint) งานอื่น
จึงปฏิบัติงานตามหลังได้ต่อ
กะกลางคืนที่ 3 ในการติดตั้ง Pier bracket จะต้องใช้รถเครนในการติดตั้ง และ
การติดตั้ง Portal frame ก็ต้องใช้รถเครนเช่นเดียวกัน เดิมในกะนี้จะมีการนาส่งอุปกรณ์คืนโรงงานึ่ง
แผนใหม่นี้ได้ยกเลิกการส่งคืนในกะนี้
กะกลางวัน ที่ 3 การติดตั้งราวกันตกเป็นอันดับแรกตั้งแต่ช่ว งเช้าเพื่อป้องกัน
อันตรายจากการปฏิบัติงาน จากนั้นจะทาการรื้อแบบ Wet joint เพื่อนาไปใช้ช่วงเสาถัดไปในระหว่าง
รอดกาลังคอนกรีต เพื่อได้กาลังแล้วก็อยู่ในกระบวนการเสริมแรงจากนั้นเพื่อเสร็จคู่ที่ 3 จะต้องลด
ระดับวางช่วงสะพานลงบนเสาและดึงลวดอัดแรงเสริมกาลังต่อจนครบทั้งหมดเรียงต่อกันเป็นเส้นตรง
2. กระบวนกำรที่สำมำรถทำคู่ขนำนกันไปได้ การปฏิบัติงานคู่ขนานกันไปจะ
ช่ ว ยให้ ก ารปฏิ บั ติ ง านเร็ ว ขึ้ น แต่ อ ย่ า งไรก็ ต ามในการท าควบคู่ กั น ไปนั้ น ต้ อ งมี อ ย่ า งน้ อ ย 1
กระบวนการที่ใช้ร ะยะเวลามากกว่ากระบวนการอื่นที่ทาควบคู่กัน นั่นหมายถึงกระบวนการที่ใช้
ระยะเวลามากที่สุดเป็นสายงานวิกฤต (อ้างอิงระยะเวลาทางานจากกระบวนการดั้งเดิม) ซึ่งผู้วิจัยได้
แบ่งรายละเอียดตามวันที่ปฏิบัติงานมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
กระบวนการถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรงใช้รถเครนในการถอดจากเครื่องจักร
Launching gantry และกระบวนการค้าขาค้าหลัง (Rear leg) นั้นทาอยู่ปลายของเครื่องจักร ดังนั้น
กระบวนการทัง้ 2 นี้สามารถทาไปพร้อมกันได้
กระบวนการติดตั้งกระเช้าดึงลวดอัดแรง จากเดิมจะต้องติดตั้งกระเช้าดึงลวดอัด
แรงก่อน แล้วติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ Segment เปลี่ยนใหม่เป็นการทาขนานกันไป เพราะการติดตั้ง
กระเช้าดึงลวดอัดแรงใช้เครนติดตั้ง ส่วนการติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จใช้รอกไฟฟ้าในการยกซี่งไม่เกี่ยวข้อง
กันจึงสามารถทาพร้อมกันได้
กระบวนการเข้าแบบ Wet joint และกระบวนการดึงลวดอัดแรง 15% สามารถ
ทาพร้อมกันได้เพราะเป็นการแยกชุดทางานออกจากกัน จากเดิมเป็นการรองานกันนั้นทาให้การเท
คอนกรีตล่าช้าออกไป ซึ่งส่งผลต่อกาลังคอนกรีตที่ต้องรอนานออกไปด้วย ดังนั้นการทางานที่พร้อมกัน
จะช่วยให้การเทคอนกรีตเริ่มได้เร็วขึ้นส่งผลให้กาลังที่ผ่านอาจเร็วขึ้นด้วย (ขึ้นอยู่กับกาลังคอนกรีต
สาเร็จที่ผสมจากโรงผสมด้วย)
3. กำรลดกระบวนกำรปฏิบัติงำน การลดหรือตัดกระบวนการทางานที่ไม่จาเป็น
ซ้าซ้อนออกไป จานวน 2 กระบวนการดั งต่อไปนี้ กระบวนการปฏิบัติงานเดิมในกระบวนการยก
ชิ้นส่วนคืนโรงงานได้ใช้รถเครนยกลงแล้วรอนาส่งในคืนที่ 2 เปลี่ยนเป็นการยกลงบนรถเทรลเลอร์
แทนการวางรอส่ งบนพื้น แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมีการจองขอใช้รถเทรลเลอร์เพื่อนาส่งอุ ป กรณ์
ล่วงหน้า เห็นได้ว่าช่วยลดการทางานซ้าซ้อนได้และลดระยะเวลาต้นทุนได้อีกด้วย
4. กำรออกแบบกระบวนกำรปฏิ บั ติ งำนใหม่ ภ ำยใต้เ งื่ อนไขของโครงกำร
เนื่ อ งจากโครงการก่ อ สร้ า งนี้ อ ยู่ ใ นเขตเมื อ งมี ก ารจราจรที่ แ น่ น หนาตลอดเวลา ดั ง นั้ น การจั ด
กระบวนการใหม่ที่ต้องปฏิบัติตามหลักสายงานวิกฤตแล้วยังต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของงาน เช่น การ
ยกของที่สูง การปิดกั้นช่องทางจราจร เป็นต้น ซึ่งประเด็นเงื่อนไขนี้ได้อ้างอิงจากบทที่ 3
4.3.3 ข้อแตกต่ำงระหว่ำงกระบวนกำรปฏิบัติงำนดั้งเดิมและกระบวนกำร
ปฏิบัติงำนรูปแบบใหม่
เมื่อเปรียบเทียบกระบวนการปฏิบัติงานดั้งเดิมและกระบวนการใหม่พบว่า จาก
กิจกรรมวิกฤตของกระบวนการดั้งเดิม 32 กระบวนการ ลดลงเหลือ 28 กระบวนการ อีกทั้งยังมีการ
ยกเลิกอีก 1 กระบวนการที่ไม่จาเป็นอีกด้วย ซึ่งมีรายละเอียดความแตกต่างกัน จานวน 7 ประเด็น
ดังต่อไปนี้
1. ขั้นตอนการเตรียมการก่อนการเลื่อน Launching gantry กระบวนการดั้งเดิม
ได้ทาในคืน Night1 และปลดอุปกรณ์ Pier bracket และ Portal frame ออกเมื่อไม่ใช้งานในคืนที่
เริ่มขั้นตอนการติดตั้ง Segment (Night3) จากนั้นเมื่อพิจารณาต่อพบว่าคืนถัดไปจะเป็นคืนที่รออายุ
คอนกรีตไม่มีการทางานเลย ผู้วิจัยจึงใช้เวลานี้ใช้เป็นประโยชน์ด้วยการเริ่มขั้นตอนการเตรียมการ
ติดตั้ง Pier bracket, Portal frame ของช่วงเสาถัดไปทันที ดังนั้นจากภาพที่ 42 เห็นได้ว่าผู้วิจัยเริ่ม
ขั้นตอนการเลื่อน Launching gantry เลยทันที
2. เมื่อตัดกระบวนการเดิมในคืน Night1 ออกไปเป็นการเตรียมการก่อนตั้งแต่
กาลังปฏิบัติงานในช่ว งเสาที่ผ่ านมา ดังนั้นในคืน Night1 ของกระบวนการใหม่จะเป็นการท างาน
ขั้นตอนการเลื่อน Launching gantry เลย ตั้งแต่เวลา 20:00 – 05:12 น. ประกอบไปด้วยกิจกรรม
ค้าขาค้าหลัง Rear leg ควบคู่กับถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง จากนั้นปลดขาค้าหน้าและย้าย Rear
support ดาเนินการต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งย้าย Front support เสร็จสิ้น
3. ช่วงเวลากลางวัน Day1 เริ่มขั้นตอนการเลื่อน Launching gantry ต่อจากกะ
กลางคืน เริ่มเวลา 08:00-13:26 น. เพื่อขึ้นขาค้าหน้าตลอดจนกระทั่งเดินเลื่อน Launching gantry
เข้าตาแหน่ง (เปลี่ยนจาก Day2 ของกระบวนการดั้งเดิมเป็น Day1 ของกระบวนการใหม่)
4. ช่ ว งเวลากลางคื น Night2 เริ่ ม ขั้ น ตอนการติ ด ตั้ ง ชิ้ น ส่ ว น Segment ด้ ว ย
กระบวนการย่อย คือ การรื้อ Pier bracket จนกระทั่งติดตั้งชิ้นส่วนเสร็จช่วงตั้งแต่ เวลา 20:00 -
04:44 น. (เปลี่ยนจาก Night3 ของกระบวนการดั้งเดิมเป็น Night2 ของกระบวนการใหม่)
5. ช่วงเวลากลางวัน Day2 เริ่มกระบวนการหลังการติดตั้งชิ้นส่วน เวลา 08:00
น. ด้วยการจัดชิ้นงานทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจจนกระทั่งเทคอนกรีตเสร็ตเวลา 16:12 น. และรอกาลัง
คอนกรีต (เปลี่ยนจาก Day3 ของกระบวนการดั้งเดิมเป็น Day2 ของกระบวนการใหม่)
6. ช่ ว งเวลากลางคื น Night3 อยู่ ใ นช่ ว งรอก าลั ง คอนกรี ต จากเดิ ม ไม่ มี
กระบวนการปฏิบัติงานเลย กาหนดให้ดาเนินการติดตั้ง Pier bracket, Portal frame ของช่วงเสา
ถัดไปล่วงหน้าก่อน โดยเริ่มในเวลา 20:00 น. เสร็จสิ้น 23:28 น.แทนการรอโดยเปล่าประโยชน์
การเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทางานด้วยการเก็บข้อมูลระยะเวลาที่ใช้ในแต่ล ะ
กระบวนการของกระบวนการปฏิ บั ติ ง านทั้ ง 4 ขั้ น ตอนหลั ก และ 35 กระบวนการย่ อ ย ของ
กระบวนการดั้งเดิมและกระบวนการใหม่
4.4.1 ระยะเวลำปฏิบัติงำนของกระบวนกำรดั้งเดิม
การเก็บระยะเวลาปฏิบัติงานของกระบวนการดั้งเดิมนั้น อ้างอิงกระบวนการ
ปฏิบัติงาน 4.3.1 ขั้นตอนการปฏิบัติงานรูปแบบดั้งเดิม ผู้วิจัยได้รวบรวมระยะเวลาที่ใช้ในการติดตั้ง
ชิ้น ส่ ว น Segment จ านวน 6 ช่ว งเสา หรือ 2 ชุด (1 ชุดประกอบไปด้ว ย 3 ช่ว งเสา ดังนั้น จึงไม่
สามารถเก็บผลเป็นเลขคี่ได้) โดยระยะเวลาใช้ในการเก็บข้อมูลช่วงเดือนมกราคม ถึงกุมภาพันธ์ พ.ศ.
2560 ซึ่งมีความเหมาะสมกับช่วงเวลาที่ทาสาระนิพนธ์ การเก็บระยะเวลาจะอ้างอิงตามกระบวนตาม
4 ขัน้ ตอนหลักต่อไปนี้
1. การเตรียมการก่อนการเลื่อน Launching gantry จานวน 5 กิจกรรม
2. การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่งติดตั้ง จานวน 16 กิจกรรม
3. การติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ Segments จานวน 5 กิจกรรม
4. กระบวนการหลังการติดตั้งขิ้นส่วนสาเร็จ จานวน 9 กิจกรรม
ตำรำงที่ 4.1
ระยะเวลาที่ใช้ปฏิบัติงานแต่ละกระบวนการของกระบวนการดั้งเดิม 6 ช่วงเสา
ระยะเวลาทีใ่ ช้ (นาที) ระยะเวลา
ลาดับ กระบวนการ ช่วงเสาที/่ Span no. เฉลี่ ย หมายเหตุ
1 2 3 4 5 6 (นาที)
1 ติดตัง้ Pier bracket 97 49 48 35 69 110 68
2 ติดตัง้ Portal frame - 124 - - 156 - 140 ติดตัง้ เฉพาะเสา Bearing
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน 76 67 102 81 117 90 89
4 ติดตัง้ ราวกันตก 105 84 105 89 94 92 95
5 รื้อแบบ Wet joint 66 97 97 93 119 104 96
6 ค้าขาค้าหลัง 14 24 23 25 23 18 21
7 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 71 39 24 25 34 45 40
8 ปลดขาค้าหน้า Front leg 23 21 25 31 24 20 24
9 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 96 120 81 104 52 73 88
10 ย้าย Rear support ชิด Middle support 69 75 85 94 61 81 78
11 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 34 22 42 26 33 17 29
12 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 21 16 8 25 23 18 19
13 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 22 76 29 30 33 41 39
14 ย้าย Middle support ชิด Front support 106 106 45 105 100 50 85
15 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 119 298 116 110 136 121 150
16 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 16 17 16 33 16 40 23
17 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 26 21 16 50 15 42 28
18 ย้าย Rear support ชิด Middle support 91 53 41 127 56 158 88
19 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 14 19 8 16 13 21 15
20 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 102 81 48 64 170 62 88
เมื่อพิจารณาผลที่ได้จากการเก็บข้อมูลเห็นได้ว่าระยะเวลาปฏิบัติงานของแต่ละ
ช่ว งใช้ร ะยะเวลาต่ าสุ ด ที่ 4 วัน และระยะเวลาที่ใ ช้ม ากที่สุ ด 5 วัน (รายละเอีย ดข้ อ มูล แสดงใน
ภาคผนวก) หากมีการปล่อยให้ระยะเวลาปฏิบัติงานล่าช้าออกไปเรื่อยๆ จะส่งผลต่องานอื่นที่ต้องทา
ต่อจากการติดตั้งชิ้น ส่ ว นส าเร็ จ กระทั่งระยะเวลารวมของโครงการที่ขยายออกไปอย่างไม่มีการ
ควบคุม
เมื่อพิจารณาจากตารางการปฏิบัติงานของแต่ละช่วงเสาจากภาคผนวก สังเกตได้
ว่าในบางกะมีทั้งช่วงเวลาว่างจานวนมาก (idle time) และในบางกะมีการทางานเยอะมากไม่สมดุล
กัน จึงควรออกแบบปรับปรุงกระบวนการใหม่ใช้เป็นแผนการควบคุมการปฏิบัติงานต่อไป
ระยะเวลาที่ได้จากการเก็บข้อมูลตามตารางข้างต้นนี้จะนาไปใช้ประกอบการ
ออกแบบกระบวนการด้วยสายงานวิกฤตโดยใช้ระยะเวลาเฉลี่ยของแต่ละกระบวนการย่อยในการ
กาหนดขั้นตอนการปฏิบัติงานใหม่ที่มีประสิทธิภาพช่วยลดทั้งระยะเวลาและต้นทุนต่อไป
4.4.2 ระยะเวลำปฏิบัติงำนของกระบวนกำรรูปแบบใหม่
การปรับปรุงกระบวนการก่อสร้างในงานติดตั้งชิ้นส่วน Segmental Box Girder
โดยใช้ หัวข้อ 4.3.2 ขั้นตอนการปฏิบัติงานหลังปรับปรุงกระบวนการ (รูปแบบใหม่) เป็นแนวทางใน
การปฏิบัติงานร่วมกับการปรับปรุงปัจจัยที่ส่งผลใช้การทางานขาดประสิทธิภาพ การนาข้อมูลทั้ง 2
ส่วนมาปรับปรุงเพื่อจุดประสงค์เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานที่ลดระยะเวลาและต้นทุน
การวัดประสิทธิภาพของกระบวนการใหม่ได้เก็บ รวบรวมข้อมูลการติดตั้งแบบ
Continous span รวมทั้งสิ้น 6 ช่วงเสา หรือ 2 ชุด โดยใช้ระยะเวลาเก็บข้อมูลช่วงเดือนมีนาคม ถึง
เมษายน พ.ศ.2560 โดยกระบวนการปฏิ บั ติ ง านลดลง 1 กระบวนการอั น มาจากการออกแบบ
กระบวนการปฏิบัติงานใหม่ เหลือ 34 กระบวนการ
การติ ด ตั้ ง ชิ้ น ส่ ว นทั้ ง 6 ช่ ว งเสานี้ เริ่ ม การเก็ บ ข้ อ มู ล วั น ที่ 13 มี น าคม ถึ ง 3
เมษายน 2560 เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 22 วัน โดยไม่มีวันหยุดปฏิบัติงาน ในแต่ละวันจะปฏิบัติงาน 2
กะต่อวัน รายละเอียดภาคผนวกที่ 3 ระยะเวลาและวันที่ทางานของกระบวนการใหม่ล ได้ผลรวม
ระยะเวลาการปฏิบัติงานดังต่อไปนี้
ตำรำงที่ 4.2
ระยะเวลาที่ใช้ปฏิบัติงานแต่ละกระบวนการของกระบวนการรูปแบบใหม่ 6 ช่วงเสา
ระยะเวลาทีใ่ ช้ (นาที) ระยะเวลา
ลาดับ กระบวนการ ช่วงเสาที/่ Span no. เฉลี่ ย หมายเหตุ
1 2 3 4 5 6 (นาที)
1 ติดตัง้ Pier bracket 51 61 48 73 65 55 59
2 ติดตัง้ Portal frame 143 - - 122 - - 133 ติดตัง้ เฉพาะเสา Bearing
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน 104 71 96 99 70 51 82
4 ติดตัง้ ราวกันตก 66 63 65 72 86 61 69
5 รื้อแบบ Wet joint 45 57 83 64 57 66 62
6 ค้าขาค้าหลัง 15 23 17 15 18 18 18
7 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 19 35 36 39 27 25 30
8 ปลดขาค้าหน้า Front leg 15 21 19 12 12 19 16
9 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง - - - - - - - ยกเลิกกระบวนการ
10 ย้าย Rear support ชิด Middle support 67 58 66 76 55 77 67
11 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 16 15 14 19 15 17 16
12 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 14 6 12 20 8 13 12
13 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 31 14 21 14 15 18 19
14 ย้าย Middle support ชิด Front support 72 53 81 93 83 55 73
15 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 132 100 87 179 98 114 118
4.4.3 ประสิทธิภำพด้ำนระยะเวลำของกระบวนกำรดั้งเดิมและกระบวนกำรใหม่
เมื่อพิจารณาระยะเวลาที่ใช้ระหว่างกระบวนการดั้งเดิมและกระบวนการรูปแบบ
ใหม่ ซึ่งมีกระบวนการปฏิบัติงานลดลง 1 กระบวนการ คือ การนาอุปกรณ์ช่วยยกลงมากองไว้ด้านล่าง
และกระบวนการรูปแบบใหม่นั้นได้ป ฏิบัติตาม กระบวนการที่ออกแบบใหม่อีกทั้งมีการกาหนดแนว
ทางการปรับปรุงปัจจัยที่ขาดประสิทธิภาพร่วมไปด้วย
ระยะเวลาของการติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ Segment ของทั้งกระบวนการดั้งเดิม
และกระบวนการใหม่ ภายใต้รูปแบบการติดตั้ง Continuous span มีรายละเอียดระยะเวลาเฉลี่ย
ต่อไปนี้
ตำรำงที่ 4.3
ตารางเปรียบเทียบระยะเวลาปฏิบัติงานก่อนและหลังปรับปรุงกระบวนการ
ระยะเวลาเฉลี่ย (นาที) ระยะเวลาทีล่ ดลง
ลาดับ กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ หน่วย : หมายเหตุ
หน่วย : นาที
ดั้งเดิม รูปแบบใหม่ เปอร์เซ็นต์
1 ติดตัง้ Pier bracket 68 59 9 13.48%
2 ติดตัง้ Portal frame 140 133 8 5.36%
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน 89 82 7 7.88%
4 ติดตัง้ ราวกันตก 95 69 26 27.42%
5 รื้อแบบ Wet joint 96 62 34 35.42%
6 ค้าขาค้าหลัง 21 18 4 16.54%
7 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 40 30 10 23.95%
8 ปลดขาค้าหน้า Front leg 24 16 8 31.94%
9 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 88 - 88 100.00%
10 ย้าย Rear support ชิด Middle support 78 67 11 14.19%
11 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 29 16 13 44.83%
12 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 19 12 6 34.23%
13 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 39 19 20 51.08%
14 ย้าย Middle support ชิด Front support 85 73 13 14.65%
15 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 150 118 32 21.11%
16 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 23 15 8 33.33%
17 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 28 22 6 22.35%
18 ย้าย Rear support ชิด Middle support 88 70 18 19.96%
19 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 15 19 - - -4 -23.08%
20 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 88 78 10 11.20%
21 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 26 18 8 32.05%
22 รื้อ Pier bracket 79 54 25 31.86%
23 รื้อ Portal frame 64 20 44 69.29%
24 จัดระยะชุดแขวน Segment 101 74 27 26.37%
25 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 38 29 9 23.11%
26 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 220 194 26 11.83%
27 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 123 91 33 26.42%
28 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 59 27 33 54.78%
29 เข้าแบบ Wet joint 149 80 69 46.37%
30 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 261 188 73 27.92%
การลดระยะเวลานอกจากกลยุทธิ์การปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพ ดัง
หัวข้อ 4.2 และการนากระบวนการปฏิบัติงานใหม่ไปใช้กาหนดขอบเขตการทางานจริงทั้งกะกลางวัน
และกลางคืนแล้ว ยังมีกลยุทธิ์การจัดแผนงานให้เทคอนกรีตเร็วขึ้นในวันที่ 2 ช่วงบ่ายถึงเย็นเพื่อให้
ระยะเวลารออายุคอนกรีตจากตอนเย็นวันดังกล่าวถึงเช้าวันรุ่งขึ้นมีช่วงเวลาให้คอนกรีตเพิ่มกาลังมาก
ขึ้น ให้ แผนการดึง Post tension เริ่มได้ตามเวลาอีกด้ว ย (ตารางไม่ได้เปรียบเทียบ เนื่องจากไม่
สามารถควบคุมระยะเวลาการเพิ่มกาลังคอนกรีตได้ ทาได้เพียงการจัดกระบวนการทางานให้มีเวลารอ
อายุคอนกรีตมากยิ่งขึ้นเท่านั้น)
เมื่อเปรี ย บเทียบระยะเวลาเฉลี่ ยกระบวนการต่อกระบวนการ โดยส่ ว นใหญ่
แนวโน้มใช้ระยะเวลาปฏิบัติงานลดลง มีเพียง 1 กระบวนการที่ใช้ระยะเวลาเพิ่มขึ้น คือ ระยะเวลา
เฉลี่ยการเทคอนกรีต Wet joint เพิ่มเพียงไม่กี่นาที ซึ่งหากนามาเทียบกับภาพรวมจึงไม่มีนัยะสาคัญ
การเปรียบเทียบระยะเวลาเฉลี่ยของกระบวนการติดตั้งรูปแบบเก่าและรูปแบบ
ใหม่ สามารถลดระยะเวลาปฏิบัติงานลงได้รวม 18.49% นั่นคือ เมื่อออกแบบกระบวนการปฏิบัติงาน
รูปแบบใหม่พร้อมทั้งปรับปรุงปัจจัยที่ทาให้กระบวนการขาดประสิทธิภาพ นั้นส่งผลให้ระยะเวลาที่
ลดลงจากแผนภาพ 4.11 ลงไปได้อีก แสดงให้เห็นว่าการปรับปรุงกระบวนการรูปแบบใหม่ส่งผลให้
การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น
4.5 กำรเปรี ย บเที ย บประสิ ท ธิ ภ ำพด้ ำ นต้ น ทุ น ปฏิ บั ติ ง ำนระหว่ ำ งกระบวนกำรดั้ ง เดิ ม และ
กระบวนกำรรูปแบบใหม่
การปฏิบัติงานโครงการก่อสร้างจะต้องมีการควบคุมต้นทุนที่เหมาะสม เพื่อก่อให้เกิด
กาไรสามารถดาเนินโครงการต่อไปได้ ซึ่งในโครงการก่อสร้างจะประกอบไปด้วยต้นทุน 3 ประเภทดังนี้
1. ต้นทุนงานก่อสร้าง เป็นค่าใช้จ่ายโดยตรงได้แก่ ค่าแรงงาน วัสดุ อุปกรณ์เครื่องมือ
เครื่องจักรใช้งาน การใช้ผู้รับเหมาช่วง เป็นต้น ซึ่งผู้วิจัยจะคิดต้นทุนเฉพาะค่าแรงงาน และเครื่องจักร
ที่ใช้งานในแต่ละวันของทั้ง 2 กะทางาน โดยจะไม่คิดต้นทุนในส่วนของวัสดุ อุปกรณ์เครื่องมือและ
ผู้รับเหมาช่วงเนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายแบบ unit cost ไม่ว่าใช้ระยะเวลาเท่าใดก็จ่ายจานวนเท่าเดิม
2. ต้นทุนทางอ้อม และ 3. ต้นทุนสานักงานใหญ่จะไม่ใช้ในการวิเคราะห์ เนื่องจากไม่
เกี่ยวข้องกับกระบวนการปฏิบัติงานที่โดยตรง อีกทั้งการเก็บข้อมูลนั้นทาได้ยาก ซับซ้อน และต้องใช้
ระยะเวลานานในการรวบรวม
ดั ง นั้ น ต้ น ทุ น ที่ ใ ช้ ใ นประกอบการพิ จ ารณาเพื่ อ หาประสิ ท ธิ ภ าพประกอบไปด้ ว ย
ค่าแรงงาน ค่าเครื่องจักร ซึ่งรายละเอียดการใช้ทรัพยากรแรงงานกับเครื่องจักรแสดงไว้ใน หัวข้อ
3.6.2 การวัดประสิทธิภาพด้านต้นทุน
4.5.1 ต้นทุนในกำรปฏิบัติงำนติดตั้งชิ้นส่วนสำเร็จด้วยกระบวนดั้งเดิม
ระยะเวลาในการปฏิบัติงานติดตั้งทั้งสิ้น 6 ช่วงเสาประกอบไปด้ว ยช่วงเสา 2
แบบ คือ Rigid pier – Rigid pier และ Bearing pier – Rigid pier ทั้ง 2 แบบนี้จะมีกระบวนการ
ปฏิบัติงานที่แตกต่างกันที่การติดตั้งและรื้อ Portal frame การติดตั้งชิ้นส่วนทั้ง 6 ช่วงเสานี้ เริ่มการ
เก็บข้อมูลกะกลางคืนของวันที่ 29 มกราคม ถึงกะกลางวันของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 ในแต่ละวัน
จะปฏิบัติงาน 2 กะต่อวัน ได้ผลรวมระยะเวลาการปฏิบัติงานดังต่อไปนี้
ตำรำงที่ 4.4
ต้นทุนที่ใช้ในการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จกระบวนการดั้งเดิม
อัตราราย ล่วงเวลา ล่วงเวลา
ลาดับ ประเภทต้นทุน ตาแหน่ง อัตรารายวัน เวลาทางานปกติ เป็นเงิน (บาท)
เดือน (คูณ 1.5) (คูณ 2.0)
1 ต้นทุนแรงงาน - รายเดือน
พนักงานรายเดือน-1 วิศวกรสนาม 27,516 76.40 ชม. 8,759.26
พนักงานรายเดือน-2 วิศวกรสนาม 26,016 95.15 ชม. 10,314.26
พนักงานรายเดือน-3 โฟร์แมน 26,980 95.15 ชม. 10,696.45
พนักงานรายเดือน-4 โฟร์แมน 14,700 76.40 ชม. 4,679.50
พนักงานรายเดือน-5 โฟร์แมน 13,500 76.40 ชม. 4,297.50
พนักงานรายเดือน-6 โฟร์แมน 12,580 95.15 ชม. 4,987.45
2 ต้นทุนแรงงาน - รายวัน
พนักงานรายวัน - Night1 รายวัน 329 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,320.20
พนักงานรายวัน - Night2 รายวัน 327 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,287.86
พนักงานรายวัน - Night3 รายวัน 319 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,158.50
พนักงานรายวัน - Night4 รายวัน 316 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,109.98
พนักงานรายวัน - Night5 รายวัน 316 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,109.98
พนักงานรายวัน - Night6 รายวัน 316 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,109.98
พนักงานรายวัน - Night7 รายวัน 315 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,093.81
พนักงานรายวัน - Night8 รายวัน 314 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,077.64
พนักงานรายวัน - Night9 รายวัน 313 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,061.47
พนักงานรายวัน - Night10 รายวัน 312 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,045.30
พนักงานรายวัน - Night11 รายวัน 310 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,012.96
พนักงานรายวัน - Night12 รายวัน 310 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,012.96
พนักงานรายวัน - Night13 รายวัน 310 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,012.96
พนักงานรายวัน - Night14 รายวัน 310 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,012.96
พนักงานรายวัน - Night15 รายวัน 310 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,012.96
พนักงานรายวัน - Night16 รายวัน 310 95.15 ชม. 0.23 16.93 5,012.96
พนักงานรายวัน - Night17 รายวัน 304 95.15 ชม. 0.23 16.93 4,915.93
พนักงานรายวัน - Night18 รายวัน 300 95.15 ชม. 0.23 16.93 4,851.25
พนักงานรายวัน - Night19 รายวัน 300 95.15 ชม. 0.23 16.93 4,851.25
พนักงานรายวัน - Day1 รายวัน 305 76.40 ชม. 0.70 21.78 4,613.76
พนักงานรายวัน - Day2 รายวัน 304 76.40 ชม. 0.70 21.78 4,598.63
พนักงานรายวัน - Day3 รายวัน 304 76.40 ชม. 0.70 21.78 4,598.63
พนักงานรายวัน - Day4 รายวัน 303 76.40 ชม. 0.70 21.78 4,583.51
พนักงานรายวัน - Day5 รายวัน 300 76.40 ชม. 0.70 21.78 4,538.13
พนักงานรายวัน - Day6 รายวัน 300 76.40 ชม. 0.70 21.78 4,538.13
พนักงานรายวัน - Day7 รายวัน 300 76.40 ชม. 0.70 21.78 4,538.13
4.5.2 ระยะเวลำในกำรปฏิบัติงำนติดตั้งชิ้นส่วนสำเร็จด้วยกระบวนกำรรูปแบบใหม่
ระยะเวลาในการปฏิบัติงานติดตั้งทั้งสิ้น 6 ช่วงเสาประกอบไปด้ว ยช่วงเสา 2
แบบ คือ Rigid pier – Rigid pier และ Bearing pier – Rigid pier ทั้ง 2 แบบนี้จะมีกระบวนการ
ปฏิบัติงานที่แตกต่างกันที่การติดตั้งและรื้อ Portal frame ประเภทเสาที่กล่าวมานั้นเช่นเดียวกับก่อน
การปรับปรุงกระบวนการ แตกต่างที่การเก็บข้อมูลครั้งนี้เป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนการรูปแบบใหม่
การติ ด ตั้ ง ชิ้ น ส่ ว นทั้ ง 6 ช่ ว งเสานี้ เริ่ ม การเก็ บ ข้ อ มู ล วั น ที่ 13 มี น าคม ถึ ง 3
เมษายน 2560 ในแต่ละวันจะปฏิบัติงาน 2 กะต่อวัน ได้ผลรวมระยะเวลาการปฏิบัติงานดังต่อไปนี้
ตำรำงที่ 4.5
ต้นทุนที่ใช้ในการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จกระบวนการรูปแบบใหม่
อัตราราย ล่วงเวลา ล่วงเวลา
ลาดับ ประเภทต้นทุน ตาแหน่ง อัตรารายวัน เวลาทางานปกติ เป็นเงิน (บาท)
เดือน (คูณ 1.5) (คูณ 2.0)
1 ต้นทุนแรงงาน - รายเดือน
พนักงานรายเดือน-1 วิศวกรสนาม 27,516 50.35 ชม. 5,772.63
พนักงานรายเดือน-2 วิศวกรสนาม 26,016 74.20 ชม. 8,043.28
พนักงานรายเดือน-3 โฟร์แมน 26,980 74.20 ชม. 8,341.32
พนักงานรายเดือน-4 โฟร์แมน 14,700 50.35 ชม. 3,083.94
พนักงานรายเดือน-5 โฟร์แมน 13,500 50.35 ชม. 2,832.19
พนักงานรายเดือน-6 โฟร์แมน 12,580 74.20 ชม. 3,889.32
2 ต้นทุนแรงงาน - รายวัน
พนักงานรายวัน - Night1 รายวัน 329 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,258.15
พนักงานรายวัน - Night2 รายวัน 327 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,232.27
พนักงานรายวัน - Night3 รายวัน 319 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,128.72
พนักงานรายวัน - Night4 รายวัน 316 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,089.90
พนักงานรายวัน - Night5 รายวัน 316 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,089.90
พนักงานรายวัน - Night6 รายวัน 316 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,089.90
พนักงานรายวัน - Night7 รายวัน 315 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,076.95
พนักงานรายวัน - Night8 รายวัน 314 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,064.01
พนักงานรายวัน - Night9 รายวัน 313 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,051.07
พนักงานรายวัน - Night10 รายวัน 312 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,038.13
พนักงานรายวัน - Night11 รายวัน 310 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,012.24
พนักงานรายวัน - Night12 รายวัน 310 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,012.24
พนักงานรายวัน - Night13 รายวัน 310 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,012.24
พนักงานรายวัน - Night14 รายวัน 310 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,012.24
พนักงานรายวัน - Night15 รายวัน 310 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,012.24
พนักงานรายวัน - Night16 รายวัน 310 74.20 ชม. 0.05 14.63 4,012.24
พนักงานรายวัน - Night17 รายวัน 304 74.20 ชม. 0.05 14.63 3,934.58
พนักงานรายวัน - Night18 รายวัน 300 74.20 ชม. 0.05 14.63 3,882.81
พนักงานรายวัน - Night19 รายวัน 300 74.20 ชม. 0.05 14.63 3,882.81
พนักงานรายวัน - Day1 รายวัน 305 50.35 ชม. 1.27 6.08 2,455.89
พนักงานรายวัน - Day2 รายวัน 304 50.35 ชม. 1.27 6.08 2,447.83
พนักงานรายวัน - Day3 รายวัน 304 50.35 ชม. 1.27 6.08 2,447.83
พนักงานรายวัน - Day4 รายวัน 303 50.35 ชม. 1.27 6.08 2,439.78
พนักงานรายวัน - Day5 รายวัน 300 50.35 ชม. 1.27 6.08 2,415.63
พนักงานรายวัน - Day6 รายวัน 300 50.35 ชม. 1.27 6.08 2,415.63
พนักงานรายวัน - Day7 รายวัน 300 50.35 ชม. 1.27 6.08 2,415.63
3 ต้นทุนเครื่องจักร (เวลาทางานปกติ 10 ชม.ต่อวัน,ล่วงเวลาจ่ายเท่า ชม.ปกติ)
รถเครน 120 ตัน 550,000 4.42 ชม. 8,097
รถเครน 50 ตัน 200,000 41.97 ชม. 27,978
รถกระเช้า 75,000 33.25 ชม. 8,313
รถสิบล้อติดเครน 100,000 39.97 ชม. 13,322
รวมทั้งสิ้น (บาท) 183,603.23
ต้นทุนต่อ 1 ช่วงเสา (บาท) 30,600.54
การคิดต้นทุนของการปฏิบัติงานทั้งค่าแรงงาน และค่าเครื่องจักรที่ใช้ในแต่ละ
งานของการติดตั้งชิ้นส่วนเฉลี่ยแล้วต้นทุนหลังการปรับปรุงแก้ไขปัจจัยที่ทาให้งานขาดประสิทธิภาพ
และใช้กระบวนการใหม่ในการปฏิบัติงาน ต้นทุนอยู่ที่ 30,600.54 บาทต่อช่วงเสา
4.5.3 กำรเปรียบเทียบต้นทุนที่ใช้ในกำรปฏิบัติงำนระหว่ำงกระบวนกำรดั้งเดิมและ
กระบวนกำรรูปแบบใหม่
การศึกษาวิจัยมีวัตถุประสงค์หนึ่งที่ต้องการลดต้นทุนให้ต่าลง โดยการปรับปรุง
ปัจจัยที่ทาให้การดาเนินงานขาดประสิทธิภาพและการออกแบบกระบวนการรูปแบบใหม่ ทดแทนการ
ปฏิบัติงานตามกระบวนดั้งเดิม เพื่อให้การพัฒนาวิธีการปฏิบัติงานก่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
การศึกษาเห็ น ข้อมูล การติดตั้งชิ้นส่ วนสาเร็จ Segment ในหั ว ข้อ 4.5.1 และ
4.5.2 ได้แสดงถึงการใช้ทรัพยากรต่างๆ ไปมากน้อยเพียงใด จากนั้นได้หาค่าเฉลี่ยถึงต้นทุนที่ใช้ไปของ
ทั้งสองกระบวนการสามารถแสดงได้ดังตารางต่อไปนี้
ตำรำงที่ 4.6
เปรียบเทียบต้นทุนระหว่างกระบวนการดั้งเดิมและกระบวนการรูปแบบใหม่
จานวนเงิน
กระบวนการรูปแบบ
ลาดับ ประเภทต้นทุน กระบวนการดั้งเดิม ต้นทุนทีล่ ดลง
ใหม่
(บาท) (บาท) (บาท)
1 ต้นทุนแรงงาน - พนักงานรายเดือน 43,734.41 31,962.67 11,771.75
2 ต้นทุนแรงงาน - พนักงานรายวัน 124,636.91 93,930.84 30,706.07
3 ต้นทุนเครือ่ งจักร 74,591.67 57,709.72 16,881.94
รวมเป็นเงิน (บาท ต่อ 6 ช่วงเสา) 242,962.99 183,603.23 59,359.76
เฉลี่ยเป็นเงิน (บาท ต่อช่วงเสา) 40,493.83 30,600.54 9,893.29
การเปรียบเทียบต้นทุนของการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จกระบวนการดั้งเดิม
และกระบวนการใหม่ เห็นได้ชัดว่าต้นทุนทั้ง 3 ประเภทปรับลดลงทั้งหมด ย่อมส่งผลให้ต้นทุนรวมของ
การปฏิ บั ติงานเฉลี่ ย ต่อช่ว งเสาลดลงไป 25.49% แสดงให้ เห็ นว่าการจัดกระบวนการปฏิ บัติง าน
รูปแบบใหม่ส่งผลให้การบริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
บทที่ 5
สรุป ข้อจำกัด และข้อเสนอแนะ
5.1 สรุป
การปรับปรุงกระบวนการในงานติดตั้งชิ้นส่วนฯ ได้ศึกษาและปรับปรุงปัจจัยที่ส่งผลให้
กระบวนการทางานขาดประสิทธิภาพทั้ง 35 กระบวนการย่อย ควบคู่ไปกับการออกแบบกระบวนการ
ปฏิบัติงานใหม่ด้วยวิธีสายงานวิกฤต จากนั้นนาระยะเวลาและต้น ทุนการปฏิบัติงานช่วงก่อนและหลัง
การปรับปรุงมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งมีรายละเอียดแบ่งเป็น 3 หัวข้อดังต่อไปนี้
1. การปรับปรุงปัจจัยที่ส่งผลให้กระบวนการปฏิบัติงานขาดประสิทธิภาพของแต่ละ
กระบวนการย่อยซึ่งได้มาจากการสัมภาษณ์และจากบทบันทึกปัจจัยที่เกิดขึ้นในช่วงของการเก็บข้อมูล
ของทั้ง 35 กระบวนการย่ อย หรือ 4 ขั้นตอนหลัก รายละเอียดแบ่งได้ 4 หัวข้อตามขั้นตอนหลั ก
ต่อไปนี้
ขั้นตอนการเตรียมการก่อนการเลื่อน Launching gantry การปรับปรุงกระบวนการ
ได้ แ ก่ กระบวนการติ ด ตั้ ง Pier bracket การกลึ ง ลดขนาดสลั ก เสี ย บที่ ใ หญ่ เ กิ น ไปให้ เ หมาะสม
กระบวนการส่งอุปกรณ์คืนโรงงาน ได้ปรับปรุงด้วยการยกจากจุดทางานลงรถเทรลเลอร์ส่งคืนทันที
ทดแทนการนาลงมากองแล้วรอนาส่งภายหลัง (ไม่ให้มีการทางานซ้าซ้อน) กระบวนการติดตั้งราวกัน
ตกและกระบวนการรื้อแบบ Wet joint ถูกละเลยได้บรรจุไว้ในแผนงานใหม่ลดการข้ามกระบวนการ
ขั้นตอนที่การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง มีการปรับปรุงกระบวนการได้แก่
กระบวนการค้าขาค้าหลังและกระบวนการขึ้นขาค้าหลัง ปรับปรุงโดยการตรวจด้วยสายตา ซึ่งทาได้
โดยใช้ ป ากกาขี ด เส้ น ที่ หั ว สกรู เ พื่ อ ตรวจสอบการคลายตั ว ชิ้ น ส่ ว นในระยะเวลารวดเร็ ว
กระบวนการถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง ลดการแกว่งตัวของกระเช้าด้วยการใช้รอกโซ่ลดระยะห่างส่วน
ของกระเช้าชิ้นบนและล่างให้น้อยลง กระบวนการปลดขาค้า Front leg และกระบวนการติดตั้งขาค้า
หน้า พิจารณาปรับเปลี่ยนสลัก PT bar ที่โก่งงอเป็นสลักเหล็กหล่อให้ถูกต้องตามคุณสมบัติวัสดุ ใน
ส่วนของกระบวนการย้ายขารองรับได้ปรับปรุงด้วยการเชื่อมเหล็กเส้นรอบขารองรับให้พนักงานรูด
ลวดสลิงแขวนชิ้นส่วนสาเร็จไปตามแนวเหล็กเส้นเพื่อลดการยกหรือดึงหลบขารองรับ
ขั้นตอนการติดตั้งชิ้นส่วน Segment มีการปรับปรุง ได้แก่ กระบวนการติดตั้งกระเช้า
อัดแรง ต้องย้ายจุดติดตั้งบ่อยได้ปรับปรุงกาหนดจุดติดตั้งถาวรและให้อยู่ในช่วงปลอดภัย ส่วนของ
กระบวนการติดตั้ง Segment มีการใช้หมอนไม้รองชิ้นส่วนไม่ให้กระแทกกันจนแตกเสียหาย
ขั้นตอนการปฏิบัติงานหลังการติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ มีการปรับปรุง ได้แก่ กระบวนการ
เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ ปรับปรุงจากขนาดความกว้ างเดียวเป็นการหล่อลูกบาศก์คอนกรีตให้
พร้ อมใช้งานด้ว ยการหล่ อตั้งแต่ขนาดต่าสุ ด 10 cm. เพิ่มทีล ะ 1 cm. จนถึงขนาด 20 cm. และ
เปลี่ยนวัสดุอีพ๊อคซี่ใช้ติดเป็นประเภทที่แห้งไว กระบวนการดึงลวดอัดแรง มีการปรับปรุงออกแบบ
ชิ้นส่วน Portal frame ใหม่เล็กน้อย เพื่อไม่ให้ติดกระบอกไฮดรอลิคดึงลวดอัดแรงและเพิ่มรางเลื่อน
แนวระนาบให้การโยกกระบอกไปยังตาแหน่งดึงใหม่ทาได้ง่ายขึ้น กระบวนการเข้าแบบ Wet joint
กระบวนการดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% กระบวนการเทคอนกรีต Wet joint กระบวนการลด
ระดับ Main truss ได้บรรจุไว้ในการออกแบบกระบวนการใหม่เพื่อลดการข้ามขั้นตอนปฏิบัติงาน
2. การปรับปรุงกระบวนการติดตั้งชิ้นส่วน Segment Box Girder โดยวิธีการกาหนด
กิจกรรมวิกฤตในระยะแรกได้เก็บกระบวนการที่เกิดขึ้นทุกๆช่วงเสาเพื่อระบุกระบวนการให้ครบตาม
การทางานจริง จากนั้นจึงเริ่มเก็บข้อมูลด้านระยะเวลาและต้นทุนจานวน 6 ช่วงเสาอันเป็นชุดข้อมูล
การปฏิบัติงานตามกระบวนการดั้งเดิม ซึ่งในระหว่างการเก็บข้อมูลพบว่ากระบวนการส่วนใหญ่จะ
ปฏิบัติเรียงต่อกันทีละกระบวนการเป็นเส้นตรงต่อไปเรื่อยๆ จานวนมากถึง 32 กระบวนการ ส่วน
กระบวนการที่ทาควบคู่ไปกับกระบวนการเส้นตรงมีเพียง 3 กระบวนการ ด้านระยะเวลาการทางาน
นั้นพบว่าการปฏิบัติงานหลายช่วงมีเวลาว่าง (Idle time) ทาให้การบริหารระยะเวลาการปฏิบัติงาน
ขาดประสิทธิภาพ ดังนั้นการออกแบบกระบวนการใหม่นี้ เพื่อต้องการตอบสนองต่อจุดประสงค์ที่
ต้องการลดระยะเวลาและต้นทุนการปฏิบัติงาน
เมื่อทราบถึงกระบวนการที่ป ฏิบัติงาน และระยะเวลาเฉลี่ยของการทางานของแต่ละ
กระบวนการดั้งเดิมแล้วก็ได้จัดกระบวนการทางานใหม่ โดยพิจาณาจาก 4 ประเด็น คือ กระบวนการ
ที่จะต้องทาเรียงกันเป็นเส้นตรง เช่น การเลื่อนเครื่องจักร Launshing gantry ต้องทาตามขั้นตอน
เท่านั้นไม่สามารถข้ามกระบวนการทางานของเครื่องจักรได้ กระบวนการที่สามารถทาคู่ขนานกันไปได้
การลดกระบวนการปฏิบัติงานที่ไม่จาเป็น และการออกแบบกระบวนการภายใต้เงื่อนไขโครงการ เช่น
ช่วงเวลาที่ให้ยกของบนที่สูงได้ ช่วงเวลาการปิดกั้นจราจร เป็นต้น โดยหลังจากได้จัดกระบวนการใหม่
5.2 ข้อจำกัด
5.2.1 การรวบรวมต้นทุนในการปฏิบัติงานนั้นได้รวบรวมเฉพาะต้นทุนค่าแรงและค่า
เครื่องจักร เท่านั้นจานวน 2 รายการ คือ ต้นทุนค่าแรงและค่าเครื่องจักร โดยไม่รวบรวมต้นทุนวัสดุ
อุปกรณ์และต้นทุนการใช้ผู้รับ เหมาช่วง เพราะต้นทุนนี้เป็นแบบ Unit cost ทาในเวลาใดก็มีต้นทุน
เท่าเดิม และต้นทุนทางอ้อมและต้นทุนสานักงานใหญ่ไม่นามารวมไว้เนื่องจากไม่เกี่ยวข้องกับการ
ทางานโดยตรง การเก็บข้อมูลส่วนนี้ทาได้ยากและมีความซับซ้อน ใช้ระยะเวลานานในการรวบรวม
5.2.2 การออกแบบกระบวนการปฏิบัติงานของการศึกษาวิจัยนี้เป็นการออกแบบโดยมี
เงื่อนไขเฉพาะของโครงการที่อยู่ในเขตเมือง มีเงื่อนไขในการปิดกั้นจราจรได้เฉพาะบางช่วงเวลา และ
การยกของที่สู งต้องทาในเวลา 22:00 - 05:00 น. หรือช่ว งเวลากลางคืนเท่านั้น ดังนั้นหากเป็ น
โครงการอื่นอาจออกแบบกระบวนการทางานใหม่บางอย่างให้ทาในช่วงเวลากลางวันได้
5.3 ข้อเสนอแนะ
รำยกำรอ้ำงอิง
ภำคผนวก
ภำคผนวก ก
กระบวนกำรติดตั้งชิ้นส่วนสำเร็จ Segmental Box Girder
ภำคผนวก ข
ระยะเวลำและวันที่ทำงำนของกระบวนกำรดั้งเดิม
ตำรำงที่ ข.1
บันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ ช่วงเสาที่ 1 - กระบวนการดั้งเดิม
ใบบันทึกการปฎิบตั งิ านติดตัง้ ชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box Girder
ประเภทเสา Rigid pier - Rigid pier เริ่มทางานวันที่ 29 มกราคม 2560 ระยะเวลา(วัน) 5
จุดที่ทางาน P.251-252 เสร็จงานวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560 จานวน(กะ) 10
วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6
กระบวนการ เริ่ม สิ้นสุด 29-ม.ค. 30-ม.ค. 31-ม.ค. 1-ก.พ. 2-ก.พ. 3-ก.พ. ระยะเวลา หมายเหตุ
D N D N D N D N D N D N (นาที)
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเลื่อน Launching gantry
1 ติดตัง้ Pier bracket 20:00 21:37 X 97
2 ติดตัง้ Portal frame -
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน 23:40 0:56 X 76
4 ติดตัง้ ราวกันตก 8:00 9:45 X 105
5 รื้อแบบ Wet joint 9:45 10:51 X 66
ขั้นตอนที่ 2 การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง
1 ค้าขาค้าหลัง 20:41 20:55 X 14
2 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 23:40 0:51 X 71
3 ปลดขาค้าหน้า Front leg 23:49 0:12 X 23
4 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 22:04 23:40 X 96
5 ย้าย Rear support ชิด Middle support 20:55 22:04 X 69
6 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 20:00 20:34 X 34
7 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 20:34 20:55 X 21
8 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 21:37 21:59 X 22
9 ย้าย Middle support ชิด Front support 22:03 23:49 X 106
10 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 21:59 23:58 X 119
11 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 8:00 8:16 X 16
12 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 9:58 10:24 X 26
13 ย้าย Rear support ชิด Middle support 10:24 11:55 X 91
14 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 11:55 12:09 X 14
15 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 8:16 9:58 X 102
16 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 13:45 14:04 X 19
ขั้นตอนที่ 3 การติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment
1 รื้อ Pier bracket 20:00 21:25 X 85
2 รื้อ Portal frame -
3 จัดระยะชุดแขวน Segment 21:25 23:02 X 37
4 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 14:04 14:43 X 39
5 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 23:02 2:35 X 213
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตัง้ Segment
1 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 8:00 9:43 X 103
2 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 9:43 10:57 X 74
3 เข้าแบบ Wet joint 13:00 17:16 X 256
4 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 10:57 15:29 X 272
5 เทคอนกรีต Wet joint 23:03 23:58 X 55
6 รออายุคอนกรีต 23:58 15:00 X 902
7 ดึงลวดอัดแรง 100% จานวน 3 คู่ 15:00 16:56 X 116
8 ลดระดับ Main truss 16:56 17:12 X 16
9 ดึงลวดอัดแรง 100% จนครบตามจานวน 17:12 17:36 X 24
0 5 0 4 0 3 7 3 4 2 5 0
รวม 3,379
33
ตำรำงที่ ข.2
บันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ ช่วงเสาที่ 2 - กระบวนการดั้งเดิม
ใบบันทึกการปฎิบตั งิ านติดตัง้ ชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box Girder
ประเภทเสา Rigid pier - Bearing pier เริ่มทางานวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560 ระยะเวลา(วัน) 4.5
จุดที่ทางาน P.250-251 เสร็จงานวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 จานวน(กะ) 9
วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6
กระบวนการ เริ่ม สิ้นสุด 3-ก.พ. 4-ก.พ. 5-ก.พ. 6-ก.พ. 7-ก.พ. 8-ก.พ. ระยะเวลา หมายเหตุ
D N D N D N D N D N D N (นาที)
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเลื่อน Launching gantry
1 ติดตัง้ Pier bracket 20:00 20:49 X 49
2 ติดตัง้ Portal frame 19:05 21:09 X 124
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน 23:58 1:05 X 67 P.252-253
4 ติดตัง้ ราวกันตก 8:00 9:24 X 84
5 รื้อแบบ Wet joint 9:24 11:01 X 97
ขั้นตอนที่ 2 การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง
1 ค้าขาค้าหลัง 1:05 1:29 X 24
2 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 21:09 21:58 X 39
3 ปลดขาค้าหน้า Front leg 23:58 0:19 X 21
4 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 21:58 23:58 X 120 P.252-253
5 ย้าย Rear support ชิด Middle support 1:29 2:44 X 75
6 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 2:44 3:06 X 22
7 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 23:54 0:12 X 16 20:49-23:54 ทางานอืน่
8 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 0:12 1:28 X 76
9 ย้าย Middle support ชิด Front support 8:00 9:46 X 106
10 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 20:00 0:58 X 298
11 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 7:42 7:59 X 17
12 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 7:59 8:20 X 21
13 ย้าย Rear support ชิด Middle support 8:20 9:13 X 53
14 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 9:13 9:32 X 19
15 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 9:32 10:53 X 81
16 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 10:53 11:43 X 50
ขั้นตอนที่ 3 การติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment
1 รื้อ Pier bracket 14:12 16:02 X 110
2 รื้อ Portal frame
3 จัดระยะชุดแขวน Segment 20:00 22:15 X 135
4 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 22:15 22:36 X 21
5 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 22:36 3:18 X 282
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตัง้ Segment
1 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 8:00 9:37 X 97
2 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 9:37 10:58 X 81
3 เข้าแบบ Wet joint 13:00 15:36 X 156
4 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 10:58 15:56 X 298
5 เทคอนกรีต Wet joint 16:21 17:05 X 44
6 รออายุคอนกรีต 17:05 17:20 X 1,455
7 ดึงลวดอัดแรง 100% จานวน 3 คู่ 17:20 18:46 X 86
8 ลดระดับ Main truss 18:46 19:39 X 53
9 ดึงลวดอัดแรง 100% จนครบตามจานวน 19:39 20:05 X 26
0 8 1 4 7 3 5 1 2 3 0 0
รวม 4,303
34
ตำรำงที่ ข.3
บันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ ช่วงเสาที่ 3 - กระบวนการดั้งเดิม
ใบบันทึกการปฎิบตั งิ านติดตัง้ ชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box Girder
ประเภทเสา Bearing pier - Rigid pier เริ่มทางานวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 ระยะเวลา(วัน) 4
จุดที่ทางาน P.249-250 เสร็จงานวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560 จานวน(กะ) 8
วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6
กระบวนการ เริ่ม สิ้นสุด 7-ก.พ. 8-ก.พ. 9-ก.พ. 10-ก.พ. 11-ก.พ. 12-ก.พ. ระยะเวลา หมายเหตุ
D N D N D N D N D N D N (นาที)
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเลื่อน Launching gantry
1 ติดตัง้ Pier bracket 19:40 20:28 X 48
2 ติดตัง้ Portal frame ไม่มี
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน 23:07 0:49 X 102
4 ติดตัง้ ราวกันตก 8:00 9:45 X 105
5 รื้อแบบ Wet joint 9:45 11:22 X 97
ขั้นตอนที่ 2 การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง
1 ค้าขาค้าหลัง 8:00 8:23 X 23
2 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 1:34 1:58 X 24
3 ปลดขาค้าหน้า Front leg 1:58 2:23 X 25
4 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 21:46 23:07 X 81
5 ย้าย Rear support ชิด Middle support 8:23 9:48 X 85
6 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 9:48 10:30 X 42
7 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 2:23 2:31 X 8
8 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 2:31 3:00 X 29
9 ย้าย Middle support ชิด Front support 0:49 1:34 X 45
10 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 20:32 22:28 X 116
11 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 22:28 22:44 X 16
12 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 22:44 23:00 X 16
13 ย้าย Rear support ชิด Middle support 23:00 23:41 X 41
14 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 23:41 23:49 X 8
15 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 23:49 0:37 X 48
16 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 0:37 0:54 X 17
ขั้นตอนที่ 3 การติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment
1 รื้อ Pier bracket 20:45 22:51 X 126
2 รื้อ Portal frame 22:28 23:33 X 65
3 จัดระยะชุดแขวน Segment 20:00 20:45 X 45
4 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 22:51 23:42 X 51
5 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 23:42 2:41 X 179
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตัง้ Segment
1 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 8:00 10:09 X 129
2 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 10:09 11:03 X 54
3 เข้าแบบ Wet joint 13:00 14:20 X 80
4 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 11:03 15:52 X 289
5 เทคอนกรีต Wet joint 21:27 22:07 X 40
6 รออายุคอนกรีต 22:07 13:00 X 893
7 ดึงลวดอัดแรง 100% จานวน 3 คู่ 13:00 13:52 X 52
8 ลดระดับ Main truss 13:52 14:02 X 10
9 ดึงลวดอัดแรง 100% จนครบตามจานวน 14:02 14:31 X 29
0 8 3 8 0 4 4 2 5 0 0 0
รวม 3,018
34
ตำรำงที่ ข.4
บันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ ช่วงเสาที่ 4 - กระบวนการดั้งเดิม
ใบบันทึกการปฎิบตั งิ านติดตัง้ ชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box Girder
ประเภทเสา Rigid pier - Rigid pier เริ่มทางานวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 ระยะเวลา(วัน) 4.5
จุดที่ทางาน P.248-249 เสร็จงานวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 จานวนกะ 9
วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6
กระบวนการ เริ่ม สิ้นสุด 12-ก.พ. 13-ก.พ. 14-ก.พ. 15-ก.พ. 16-ก.พ. 17-ก.พ. ระยะเวลา หมายเหตุ
D N D N D N D N D N D N (นาที)
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเลื่อน Launching gantry
1 ติดตัง้ Pier bracket 21:44 22:19 X 35
2 ติดตัง้ Portal frame
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน 1:23 2:44 X 81
4 ติดตัง้ ราวกันตก 8:00 9:29 X 89
5 รื้อแบบ Wet joint 9:29 11:02 X 93
ขั้นตอนที่ 2 การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง
1 ค้าขาค้าหลัง 22:50 23:15 X 25 23:15-0:35 ปฎิบตั งิ านอืน่
2 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 0:35 1:00 X 25
3 ปลดขาค้าหน้า Front leg 22:19 22:50 X 31
4 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 20:00 21:44 X 104
5 ย้าย Rear support ชิด Middle support 8:00 9:34 X 94
6 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 9:34 10:00 X 26
7 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 10:00 10:25 X 25
8 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 21:00 21:30 X 30
9 ย้าย Middle support ชิด Front support 21:00 22:45 X 105
10 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 22:45 0:35 X 110
11 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 8:00 8:33 X 33
12 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 8:33 9:23 X 50
13 ย้าย Rear support ชิด Middle support 9:23 11:30 X 127
14 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 13:00 13:16 X 16
15 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 13:16 14:20 X 64
16 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 15:10 15:25 X 15
ขั้นตอนที่ 3 การติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment
1 รื้อ Pier bracket 20:00 20:45 X 45
2 รื้อ Portal frame
3 จัดระยะชุดแขวน Segment 20:45 22:35 X 110
4 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 22:25 23:06 X 41
5 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 23:06 3:08 X 242
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตัง้ Segment
1 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 8:00 10:27 X 147
2 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 10:27 11:23 X 56
3 เข้าแบบ Wet joint 13:00 16:47 X 227
4 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 11:23 15:31 X 248
5 เทคอนกรีต Wet joint 21:45 22:47 X 62
6 รออายุคอนกรีต 22:47 12:14 X 807
7 ดึงลวดอัดแรง 100% จานวน 3 คู่ 12:14 13:14 X 60
8 ลดระดับ Main truss 13:14 13:45 X 31
9 ดึงลวดอัดแรง 100% จนครบตามจานวน 13:45 14:00 X 15
0 5 3 4 6 4 4 1 4 2 0 0
รวม 3,269
33
ตำรำงที่ ข.5
บันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ ช่วงเสาที่ 5 - กระบวนการดั้งเดิม
ใบบันทึกการปฎิบตั งิ านติดตัง้ ชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box Girder
ประเภทเสา Rigid pier - Bearing pier เริ่มทางานวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 ระยะเวลา(วัน) 4
จุดที่ทางาน P.247-248 เสร็จงานวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 จานวนกะ 8
วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6
กระบวนการ เริ่ม สิ้นสุด 16-ก.พ. 17-ก.พ. 18-ก.พ. 19-ก.พ. 20-ก.พ. 21-ก.พ. ระยะเวลา หมายเหตุ
D N D N D N D N D N D N (นาที)
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเลื่อน Launching gantry
1 ติดตัง้ Pier bracket 20:00 21:09 X 69
2 ติดตัง้ Portal frame 21:09 23:45 X 156
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน 22:01 23:58 X 117
4 ติดตัง้ ราวกันตก 8:00 9:34 X 94
5 รื้อแบบ Wet joint 9:34 11:33 X 119
ขั้นตอนที่ 2 การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง
1 ค้าขาค้าหลัง 0:37 1:00 X 23
2 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 1:00 1:34 X 34
3 ปลดขาค้าหน้า Front leg 2:35 2:59 X 24
4 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 23:45 0:37 X 52
5 ย้าย Rear support ชิด Middle support 1:34 2:35 X 61
6 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 8:00 8:33 X 33
7 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 8:33 8:56 X 23
8 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 20:25 20:58 X 33
9 ย้าย Middle support ชิด Front support 8:56 10:36 X 100
10 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 20:58 23:14 X 136
11 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 23:14 23:30 X 16
12 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 0:22 0:37 X 15
13 ย้าย Rear support ชิด Middle support 0:37 1:33 X 56
14 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 1:33 1:46 X 13
15 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 9:00 11:50 X 170
16 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 1:46 2:05 X 19
ขั้นตอนที่ 3 การติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment
1 รื้อ Pier bracket 23:39 0:22 X 43
2 รื้อ Portal frame
3 จัดระยะชุดแขวน Segment 20:00 22:45 X 165
4 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 14:30 15:25 X 55
5 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 22:45 2:30 X 225
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตัง้ Segment
1 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 8:00 10:45 X 165
2 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 10:45 11:37 X 52
3 เข้าแบบ Wet joint 11:37 14:05 X 88 พักเที่ยง 1 ชม.
4 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 13:00 18:24 X 324
5 เทคอนกรีต Wet joint 19:00 19:46 X 46
6 รออายุคอนกรีต 19:46 14:58 X 1,152
7 ดึงลวดอัดแรง 100% จานวน 3 คู่ 14:58 16:16 X 78
8 ลดระดับ Main truss 16:16 16:39 X 23
9 ดึงลวดอัดแรง 100% จนครบตามจานวน 16:39 18:00 X 81
0 7 3 8 2 2 4 3 5 0 0 0
รวม 3,860
34
ตำรำงที่ ข.6
บันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ ช่วงเสาที่ 6 - กระบวนการดั้งเดิม
ใบบันทึกการปฎิบตั งิ านติดตัง้ ชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box Girder
ประเภทเสา Bearing - Rigid pier เริ่มทางานวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ระยะเวลา(วัน) 4
จุดที่ทางาน P.246-247 เสร็จงานวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 จานวนกะ 8
วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6
กระบวนการ เริ่ม สิ้นสุด 20-ก.พ. 21-ก.พ. 22-ก.พ. 23-ก.พ. 24-ก.พ. 25-ก.พ. ระยะเวลา หมายเหตุ
D N D N D N D N D N D N (นาที)
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเลื่อน Launching gantry
1 ติดตัง้ Pier bracket 20:09 21:59 X 110 น้าปูนอุดตัน
2 ติดตัง้ Portal frame
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน 0:50 2:20 X 90
4 ติดตัง้ ราวกันตก 9:44 11:16 X 92
5 รื้อแบบ Wet joint 8:00 9:44 X 104
ขั้นตอนที่ 2 การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง
1 ค้าขาค้าหลัง 20:45 21:03 X 18
2 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 20:00 20:45 X 45
3 ปลดขาค้าหน้า Front leg 21:03 21:23 X 20
4 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 22:00 23:13 X 73
5 ย้าย Rear support ชิด Middle support 21:23 22:44 X 81
6 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 22:44 23:01 X 17
7 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 23:01 23:19 X 18
8 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 23:19 0:00 X 41
9 ย้าย Middle support ชิด Front support 0:00 0:50 X 50
10 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 21:59 0:00 X 121
11 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 8:00 8:40 X 40
12 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 8:40 9:22 X 42
13 ย้าย Rear support ชิด Middle support 9:22 12:00 X 158
14 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 13:31 13:52 X 21
15 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 14:28 15:30 X 62
16 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 13:52 14:28 X 36
ขั้นตอนที่ 3 การติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment
1 รื้อ Pier bracket 20:00 21:05 X 65
2 รื้อ Portal frame 0:00 1:02 X 62
3 จัดระยะชุดแขวน Segment 21:05 22:56 X 111
4 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 22:56 23:14 X 18
5 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 23:14 2:12 X 178
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตัง้ Segment
1 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 8:00 9:37 X 97
2 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 9:37 10:16 X 39
3 เข้าแบบ Wet joint 10:16 11:44 X 88
4 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 10:16 12:30 X 134
5 เทคอนกรีต Wet joint 14:48 15:33 X 45
6 รออายุคอนกรีต 15:33 11:12 X 1,179
7 ดึงลวดอัดแรง 100% จานวน 3 คู่ 11:12 12:38 X 86
8 ลดระดับ Main truss 13:35 14:02 X 27
9 ดึงลวดอัดแรง 100% จนครบตามจานวน 14:02 14:35 X 33
0 2 1 12 6 4 6 0 3 0 0 0
รวม 3,401
34
ภำคผนวก ค
ระยะเวลำและวันที่ทำงำนของกระบวนกำรใหม่
ตำรำงที่ ค.1
บันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ ช่วงเสาที่ 1 – กระบวนการใหม่
ใบบันทึกการปฎิบตั งิ านติดตัง้ ชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box Girder
ประเภทเสา Rigid pier - Rigid pier เริ่มทางานวันที่ 12 มีนาคม 2560
จุดที่ทางาน P.241-242 เสร็จงานวันที่ 17 มีนาคม 2560
วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6
กระบวนการ เริ่ม สิ้นสุด 12-มี.ค. 13-มี.ค. 14-มี.ค. 15-มี.ค. 16-มี.ค. 17-มี.ค. ระยะเวลา หมายเหตุ
D N D N D N D N D N D N (นาที)
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเลื่อน Launching gantry
1 ติดตัง้ Pier bracket 21:30 22:21 X 51
2 ติดตัง้ Portal frame 22:21 0:44 X 143
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน ยกเลิก
4 ติดตัง้ ราวกันตก 8:00 9:06 X 66
5 รื้อแบบ Wet joint 9:06 9:51 X 45
ขั้นตอนที่ 2 การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง
1 ค้าขาค้าหลัง 20:00 20:15 X 15
2 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 20:00 20:19 X 19
3 ปลดขาค้าหน้า Front leg 20:19 20:34 X 15
4 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 22:00 23:44 X 104
5 ย้าย Rear support ชิด Middle support 20:34 21:51 X 67
6 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 23:44 0:00 X 16
7 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 0:00 0:14 X 14
8 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 0:14 0:45 X 31
9 ย้าย Middle support ชิด Front support 0:45 1:57 X 72
10 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 1:57 4:09 X 132
11 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 8:00 8:14 X 14
12 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 8:14 8:56 X 42
13 ย้าย Rear support ชิด Middle support 8:56 9:39 X 43
14 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 9:39 9:52 X 13
15 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 9:52 11:08 X 76
16 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 11:08 11:35 X 27
ขั้นตอนที่ 3 การติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment
1 รื้อ Pier bracket 20:00 20:50 X 50
2 รื้อ Portal frame - -
3 จัดระยะชุดแขวน Segment 20:50 22:08 X 78
4 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 22:08 22:30 X 22
5 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 22:30 1:34 X 184
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตัง้ Segment
1 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 8:00 9:10 X 70
2 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 9:10 9:38 X 28
3 เข้าแบบ Wet joint 9:38 10:40 X 52
4 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 9:38 17:43 X 485
5 เทคอนกรีต Wet joint 20:40 21:26 X 46
6 รออายุคอนกรีต 21:26 12:42 X 908
7 ดึงลวดอัดแรง 100% จานวน 3 คู่ 12:42 14:06 X 88
8 ลดระดับ Main truss 14:06 14:40 X 34
9 ดึงลวดอัดแรง 100% จนครบตามจานวน 14:40 15:48 X 68 2 คู่
0 2 0 10 6 4 4 1 6 0 0 0
รวม 3,118
33
ตำรำงที่ ค.2
บันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ ช่วงเสาที่ 2 – กระบวนการใหม่
ใบบันทึกการปฎิบตั งิ านติดตัง้ ชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box Girder
ประเภทเสา Rigid pier - Rigid pier เริ่มทางานวันที่ 15 มีนาคม 2560
จุดที่ทางาน P.240-241 เสร็จงานวันที่ 19 มีนาคม 2560
วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6
กระบวนการ เริ่ม สิ้นสุด 15-มี.ค. 16-มี.ค. 17-มี.ค. 18-มี.ค. 19-มี.ค. 20-มี.ค. ระยะเวลา หมายเหตุ
D N D N D N D N D N D N (นาที)
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเลื่อน Launching gantry
1 ติดตัง้ Pier bracket 21:26 22:27 X 61
2 ติดตัง้ Portal frame - -
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน ยกเลิก
4 ติดตัง้ ราวกันตก 8:00 9:03 X 63
5 รื้อแบบ Wet joint 9:03 10:00 X 57
ขั้นตอนที่ 2 การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง
1 ค้าขาค้าหลัง 22:27 22:50 X 23
2 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 22:27 23:02 X 35
3 ปลดขาค้าหน้า Front leg 23:02 23:23 X 21
4 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 23:23 0:34 X 71
5 ย้าย Rear support ชิด Middle support 0:34 1:32 X 58
6 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 1:32 1:47 X 15
7 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 1:47 1:53 X 6
8 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 1:53 2:07 X 14
9 ย้าย Middle support ชิด Front support 2:07 3:00 X 53
10 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 3:00 4:40 X 100
11 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 8:00 8:15 X 15
12 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 8:15 8:38 X 23
13 ย้าย Rear support ชิด Middle support 8:38 9:54 X 76
14 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 9:54 10:14 X 20
15 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 10:14 11:36 X 82
16 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 13:35 13:58 X 13
ขั้นตอนที่ 3 การติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment
1 รื้อ Pier bracket 21:03 21:58 X 55
2 รื้อ Portal frame 21:58 23:00 X 62
3 จัดระยะชุดแขวน Segment 23:00 0:02 X 62
4 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 0:02 0:33 X 31
5 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 0:02 3:44 X 222
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตัง้ Segment
1 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 8:00 9:33 X 93
2 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 9:33 10:01 X 28
3 เข้าแบบ Wet joint 10:01 11:15 X 74
4 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 10:01 11:54 X 113
5 เทคอนกรีต Wet joint 13:45 14:23 X 48
6 รออายุคอนกรีต 14:23 10:55 X 1,232
7 ดึงลวดอัดแรง 100% จานวน 3 คู่ 10:55 12:04 X 69
8 ลดระดับ Main truss 12:04 12:26 X 12
9 ดึงลวดอัดแรง 100% จนครบตามจานวน 12:26 12:39 X 13
0 1 0 10 6 5 5 0 6 0 0 0
รวม 2,920
33
ตำรำงที่ ค.3
บันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ ช่วงเสาที่ 3 – กระบวนการใหม่
ใบบันทึกการปฎิบตั งิ านติดตัง้ ชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box Girder
ประเภทเสา Rigid pier - Rigid pier เริ่มทางานวันที่ 18 มีนาคม 2560
จุดที่ทางาน P.239-240 เสร็จงานวันที่ 22 มีนาคม 2560
วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6
กระบวนการ เริ่ม สิ้นสุด 18-มี.ค. 19-มี.ค. 20-มี.ค. 21-มี.ค. 22-มี.ค. 23-มี.ค. ระยะเวลา หมายเหตุ
D N D N D N D N D N D N (นาที)
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเลื่อน Launching gantry
1 ติดตัง้ Pier bracket 21:23 22:11 X 48
2 ติดตัง้ Portal frame - -
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน - - ยกเลิก
4 ติดตัง้ ราวกันตก 8:00 9:05 X 65
5 รื้อแบบ Wet joint 11:33 12:56 X 83
ขั้นตอนที่ 2 การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง
1 ค้าขาค้าหลัง 19:57 20:14 X 17
2 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 19:45 20:21 X 36
3 ปลดขาค้าหน้า Front leg 20:21 20:40 X 19
4 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 23:14 0:50 X 96
5 ย้าย Rear support ชิด Middle support 20:00 21:06 X 66
6 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 21:06 21:20 X 14
7 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 21:20 21:32 X 12
8 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 21:32 21:53 X 21
9 ย้าย Middle support ชิด Front support 21:53 23:14 X 81
10 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 0:50 2:17 X 87 Pier segment
11 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 8:10 8:20 X 10
12 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 8:20 8:41 X 21
13 ย้าย Rear support ชิด Middle support 8:41 9:57 X 76
14 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 9:57 10:12 X 15
15 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 10:12 11:33 X 81
16 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 11:33 11:46 X 13
ขั้นตอนที่ 3 การติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment
1 รื้อ Pier bracket 21:13 22:10 X 57
2 รื้อ Portal frame - -
3 จัดระยะชุดแขวน Segment 22:10 23:11 X 61
4 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 23:11 23:36 X 25
5 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 23:11 2:11 X 180
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตัง้ Segment
1 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 8:00 9:26 X 86
2 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 9:26 9:48 X 22
3 เข้าแบบ Wet joint 9:48 11:18 X 90
4 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 9:48 11:44 X 114
5 เทคอนกรีต Wet joint 14:35 15:38 X 63
6 รออายุคอนกรีต 15:38 10:13 X 1,175
7 ดึงลวดอัดแรง 100% จานวน 3 คู่ 10:13 11:12 X 59
8 ลดระดับ Main truss 11:12 11:33 X 21
9 ดึงลวดอัดแรง 100% จนครบตามจานวน 11:33 11:59 X 26
0 4 0 7 6 4 5 1 5 0 0 0
รวม 2,840
32
ตำรำงที่ ค.4
บันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ ช่วงเสาที่ 4 – กระบวนการใหม่
ใบบันทึกการปฎิบตั งิ านติดตัง้ ชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box Girder
ประเภทเสา Rigid pier - Rigid pier เริ่มทางานวันที่ 22 มีนาคม 2560
จุดที่ทางาน P.238-239 เสร็จงานวันที่ 26 มีนาคม 2560
วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6
กระบวนการ เริ่ม สิ้นสุด 22-มี.ค. 23-มี.ค. 24-มี.ค. 25-มี.ค. 26-มี.ค. 27-มี.ค. ระยะเวลา หมายเหตุ
D N D N D N D N D N D N (นาที)
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเลื่อน Launching gantry
1 ติดตัง้ Pier bracket 21:04 22:17 X 73
2 ติดตัง้ Portal frame 22:17 0:09 X 122
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน ยกเลิก
4 ติดตัง้ ราวกันตก 8:00 9:12 X 72
5 รื้อแบบ Wet joint 9:12 10:16 X 64
ขั้นตอนที่ 2 การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง
1 ค้าขาค้าหลัง 8:00 8:15 X 15
2 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 20:00 20:39 X 39
3 ปลดขาค้าหน้า Front leg 20:39 20:51 X 12
4 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 21:44 23:23 X 99
5 ย้าย Rear support ชิด Middle support 8:15 9:36 X 76
6 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 20:51 21:10 X 19
7 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 21:10 21:30 X 20
8 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 21:30 21:44 X 14
9 ย้าย Middle support ชิด Front support 23:23 0:56 X 93
10 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 0:56 3:55 X 179 Portal frame
11 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 8:00 8:14 X 14
12 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 8:14 8:35 X 21
13 ย้าย Rear support ชิด Middle support 8:35 9:58 X 83
14 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 9:58 10:26 X 28
15 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 10:26 11:28 X 62
16 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 11:28 11:46 X 18
ขั้นตอนที่ 3 การติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment
1 รื้อ Pier bracket 20:22 21:11 X 49
2 รื้อ Portal frame - -
3 จัดระยะชุดแขวน Segment 21:11 22:40 X 89
4 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 22:40 23:11 X 31
5 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 22:40 2:04 X 204
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตัง้ Segment
1 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 8:00 9:29 X 89
2 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 9:29 9:55 X 26
3 เข้าแบบ Wet joint 9:55 10:47 X 52
4 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 9:55 12:30 X 155
5 เทคอนกรีต Wet joint 14:17 15:06 X 49
6 รออายุคอนกรีต 15:06 10:57 X 1,191
7 ดึงลวดอัดแรง 100% จานวน 3 คู่ 10:57 12:28 X 91
8 ลดระดับ Main truss 13:13 13:48 X 30
9 ดึงลวดอัดแรง 100% จนครบตามจานวน 14:38 15:37 X 49 2 คู่
0 2 2 8 6 4 5 1 5 0 0 0
รวม 3,228
33
ตำรำงที่ ค.5
บันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ ช่วงเสาที่ 5 – กระบวนการใหม่
ใบบันทึกการปฎิบตั งิ านติดตัง้ ชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box Girder
ประเภทเสา Rigid pier - Rigid pier เริ่มทางานวันที่ 25 มีนาคม 2560
จุดที่ทางาน P.237-238 เสร็จงานวันที่ 31 มีนาคม 2560
วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6 วันที่ 6
กระบวนการ เริ่ม สิ้นสุด 25-มี.ค. 26-มี.ค. 27-มี.ค. 28-มี.ค. 29-มี.ค. 30-มี.ค. 31-มี.ค. ระยะเวลา หมายเหตุ
D N D N D N D N D N D N D N (นาที)
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเลื่อน Launching gantry
1 ติดตัง้ Pier bracket 20:45 21:50 X 65
2 ติดตัง้ Portal frame - -
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน - - ยกเลิก
4 ติดตัง้ ราวกันตก 8:00 9:26 X 86
5 รื้อแบบ Wet joint 9:26 10:23 X 57
ขั้นตอนที่ 2 การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง
1 ค้าขาค้าหลัง 20:00 20:18 X 18
2 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 20:00 20:27 X 27
3 ปลดขาค้าหน้า Front leg 20:27 20:39 X 12
4 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 23:30 0:40 X 70
5 ย้าย Rear support ชิด Middle support 20:39 21:44 X 55
6 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 21:44 21:59 X 15
7 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 21:59 22:07 X 8
8 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 22:07 22:22 X 15
9 ย้าย Middle support ชิด Front support 22:22 23:45 X 83
10 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 20:31 23:09 X 98
11 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 23:09 23:30 X 21
12 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 8:00 8:11 X 11
13 ย้าย Rear support ชิด Middle support 8:11 9:26 หยุดงาน X 75
14 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 9:26 9:42 X 16
15 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 9:42 10:49 X 67
16 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 10:49 11:06 X 17
ขั้นตอนที่ 3 การติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment
1 รื้อ Pier bracket 20:34 21:30 X 56
2 รื้อ Portal frame 21:30 22:25 X 55
3 จัดระยะชุดแขวน Segment 22:25 23:45 X 80
4 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 23:45 0:14 X 29
5 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 23:45 3:21 X 216
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตัง้ Segment
1 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 13:00 14:25 X 85 มีฝนตก
2 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 14:25 14:53 X 28
3 เข้าแบบ Wet joint 14:25 17:07 X 162
4 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 14:25 16:32 X 127
5 เทคอนกรีต Wet joint 20:17 21:19 X 62
6 รออายุคอนกรีต 21:19 10:55 X 816
7 ดึงลวดอัดแรง 100% จานวน 3 คู่ 10:55 11:45 X 50
8 ลดระดับ Main truss 11:45 12:00 X 15
9 ดึงลวดอัดแรง 100% จนครบตามจานวน 16:22 16:52 X 30
0 1 0 8 0 0 0 3 5 5 4 2 5 0
รวม 2,627
33
ตำรำงที่ ค.6
บันทึกการปฏิบัติงานติดตั้งชิ้นส่วนสาเร็จ ช่วงเสาที่ 6 – กระบวนการใหม่
ใบบันทึกการปฎิบตั งิ านติดตัง้ ชิ้นส่วนสาเร็จ Segmental Box Girder
ประเภทเสา Rigid pier - Rigid pier เริ่มทางานวันที่ 30 มีนาคม 2560
จุดที่ทางาน P.236-237 เสร็จงานวันที่ 3 เมษายน 2560
วันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6
กระบวนการ เริ่ม สิ้นสุด 30-มี.ค. 31-มี.ค. 1-เม.ย. 2-เม.ย. 3-เม.ย. 4-เม.ย. ระยะเวลา หมายเหตุ
D N D N D N D N D N D N (นาที)
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเลื่อน Launching gantry
1 ติดตัง้ Pier bracket 21:19 22:14 X 55
2 ติดตัง้ Portal frame
3 ส่งอุปกรณ์คนื โรงงาน
4 ติดตัง้ ราวกันตก 8:00 9:01 X 61
5 รื้อแบบ Wet joint 9:01 10:07 X 66
ขั้นตอนที่ 2 การเลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง
1 ค้าขาค้าหลัง 19:56 20:14 X 18
2 ถอดกระเช้าดึงลวดอัดแรง 19:56 20:21 X 25
3 ปลดขาค้าหน้า Front leg 20:21 20:40 X 19
4 นาอุปกรณ์ชว่ ยยกลงมากองไว้ดา้ นล่าง 23:40 0:31 X 51
5 ย้าย Rear support ชิด Middle support 20:40 21:57 X 77
6 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 21:57 22:14 X 17
7 เลื่อน Launching gantry ครั้งที่ 1 22:14 22:27 X 13
8 ติดตัง้ ขาค้าหน้า Front leg 22:27 22:45 X 18
9 ย้าย Middle support ชิด Front support 22:45 23:40 X 55
10 ย้าย Front support เข้าตาแหน่ง 0:31 2:25 X 114
11 ขึ้นขาค้าหน้า Front leg 8:00 8:18 X 18
12 ค้าขาค้าหลัง Rear leg 8:18 8:32 X 14
13 ย้าย Rear support ชิด Middle support 8:32 9:40 X 68
14 ขึ้นขาค้าหลัง Rear leg 9:40 10:00 X 20
15 ย้าย Middle support เช้าตาแหน่ง 10:00 11:40 X 100
16 เลื่อน Launching gantry เข้าตาแหน่ง 11:40 11:58 X 18
ขั้นตอนที่ 3 การติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment
1 รื้อ Pier bracket 20:00 20:56 X 56
2 รื้อ Portal frame - -
3 จัดระยะชุดแขวน Segment 20:56 22:10 X 74
4 ติดตัง้ กระเช้าดึงลวดอัดแรง 22:10 22:45 X 35
5 ติดตัง้ ชิ้นส่วน Segment 22:45 1:32 X 157
ขั้นตอนที่ 4 กระบวนการหลังการติดตัง้ Segment
1 จัดชิ้นส่วนทั้งช่วงเสาตามค่าสารวจ 8:00 10:00 X 120
2 เสียบคอนกรีตทรงลูกบาศก์ 10:00 10:29 X 29
3 เข้าแบบ Wet joint 10:29 11:19 X 50
4 ดึงชิ้นส่วนด้วยลวดอัดแรง 15% 10:29 12:43 X 134
Plant ส่ ง
5 เทคอนกรีต Wet joint 23:08 0:22 X 74
คอนกรีตกลางวัน
6 รออายุคอนกรีต 0:22 16:17 X 955 ไม่ได้
7 ดึงลวดอัดแรง 100% จานวน 3 คู่ 16:17 17:08 X 51
8 ลดระดับ Main truss 17:08 17:21 X 13
9 ดึงลวดอัดแรง 100% จนครบตามจานวน 17:21 17:39 X 18
0 1 0 10 6 4 4 2 5 0 0 0
รวม 2,593
32
ประวัติผู้เขียน
ผลงานทางวิชาการ