You are on page 1of 71

ตำราโองการต่าง ๆ

ของ อาจารย์ภูมิ จิระ


เดชวงศ์

เผยแพร่เป็ นวิทยาทาน

ห้ามจำหน่าย
การประกอบมงคลพิธีอาบน้ำจันทร์เพ็ญ
โดย ภูมิ จิระเดชวงศ์

1
ตามคติในหลายอารยธรรมของโลก ให้ความสำคัญต่อจักรวาล
เปรียบดั่งเทพเจ้าที่มีผลต่อโลก แม้คนในยุคนั้นไม่มีความเข้าใจในเรื่องแรง
โน้มถ่วง หรือ เรื่องแรงดึงดูดระหว่างดวงดาว ผู้ที่เป็ นนักปราชญ์อันมี
ปั ญญาลึกซึ่งในแต่ละดินแดนล้วนกำหนดให้ดวงจันทร์ หรือ พระจันทร์
เป็ นเทพเจ้าพระองค์หนึ่ง ในฐานะผู้คุ้มครองในยามค่ำคืน ซึ่งในศาสนา
พราหมณ์ พระจันทร์ หรือ โสมเทพ หรือ ศศิเทพ เป็ นเทพองค์สำคัญที่
ในตำนานปุราณะ มีตำนานการกำเนิดที่หลากหลาย พอจะยกตัวอย่างได้
ดังนี้
๑. พระจันทร์ ในคัมภีร์พระเวทแต่เดิมถือเป็ น ๑ ใน ๘ คณะวสุเทพ
อันเป็ นเทพเจ้าประจำธรรมชาติต่าง ๆ ได้แก่ ปฤถิวี ( ดิน ) , อาปะ ( น้ำ
) , อนล ( ไฟ ) , อนิล ( ลม ) , อาทิตย์ ( พระอาทิตย์ ) , โสม (
พระจันทร์ ) , นักษัตร ( ดวงดาว ) และ ธเยาส ( ท้องฟ้ า หรือ อากาศ )
๒. พระจันทร์ เกิดจากการแบ่งภาคของพระพรหม อวตารลงไปเกิด
เป็ นบุตรพระมหาฤๅษีอัตริ และพระนางอนุสูยา พร้อมพระทัตตาเตรยะ (
วิษณุอวตาร ) และ พระฤๅษีทุรวาส ( ศิวะอวตาร ) ที่ได้อวตารมาในคราว
เดียวกัน
๓. พระจันทร์ เกิดจากการกวนเกษียรสมุทร โดยทวยเทพทั้งหลาย
ถวายพระ จันทร์ให้เป็ นปิ่ นปั กผมของพระศิวะ ( พระศิวะ หรือ พระอิศวร
จึงมีอีกพระนามหนึ่งว่า จันทรโมฬี หรือ จันทรจุฑา แปลว่า ผู้มีพระจันทร์
ที่เกล้าผม )
พระจันทร์ถือเป็ นเทพที่เกิดมารูปงาม มีลักษณะทางเมตตา เป็ น
ที่รักใคร่ จึงทำให้มีภริยาที่เกิดจากท้าวทักษะประชาบดีพรหมถึง ๒๗ นาง
แต่พระจันทร์รักนางโรหินีมากที่สุด ทำให้ภริยาตนอื่น ๆ พากันไปฟ้ อง
พระทักษะผู้เป็ นบิดา พระทักษะจึงสาปให้พระจันทร์หมดสง่าราศี

2
พระจันทร์ได้รับความทุกข์ทรมานมาก จึงบำเพ็ญเพียรขอให้พระศิวะทรง
ช่วยเหลือ พระศิวะทรงประทานพรให้พระจันทร์กลับมาสง่าดั่งเดิม เพื่อ
ไม่ให้หักล้างอย่างสิ้นเชิงกับคำสาปของพระทักษะ ( ในวรรณกรรม หรือ
ตำนานทางพราหมณ์ ทวยเทพหรือฤๅษี จะไม่ให้พรเพื่อลบล้างคำสาปกัน
โดยตรง เพราะถือว่าเป็ นการไม่เคารพตบะและคุณธรรมของอีกฝ่ าย )
พระศิวะจึงประทานพรให้พระจันทร์มีฤทธิ์สูงสุดเพียง ๑ วัน ในรอบ ๑๕
วัน คือ วันพระจันทร์เต็มดวง จากนั้นอิทธิฤทธิ์ของพระจันทร์จะค่อยๆลด
ลงจนจุดต่ำสุด และค่อยๆเพิ่มจนจุดสูงสุดอีกครั้ง
สำหรับพระจันทร์ในเทวตำนานไทย ในคัมภีร์เฉลิมไตรภพ ได้กล่าว
ว่าพระจันทร์เกิดจากพระอิศวร ( พระศิวะ ) นำสตรีรูปงาม ๑๕ ตนมาห่อ
ด้วยผ้าสีขาวนวล ป่ นเป็ นผงคลี ประพรมด้วยน้ำอมฤต กำเนิดใหม่เป็ น
เทพบุตรรูปสง่า ทรงม้าเป็ นพาหนะ
ส่วนในคติพุทธศาสนา ในมหาสมัยสูตรกล่าวเพียงว่า ในพระจันทร์มี
เทพบุตรรักษา มีนามว่า จันทิมเทวบุตร ครั้งหนึ่ง จันทิมเทวบุตรถูกอสุริ
นทราหูเข้าทำร้าย จันทิมเทวบุตรจึงสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้าเพื่อให้พ้น
ภัย ปรากฎว่าอสุรินทราหูได้รับความทรมานจากการทำร้ายจันทิมเทว
บุตรจึงได้ถอยไป นอกจากนี้ ในพุทธศาสนา ได้นำเอาพระจันทร์มาในเชิง
เปรียบเทียบกับแสงสว่างในยามค่ำคืน กับความประเสริฐของผู้ที่บรรลุ
ธรรมแล้ว
พระจันทร์ เป็ นเทพแห่งความงาม ความสง่า ความเมตตามหานิยม
รวมไปถึงความรัก นักโหราศาสตร์จึงต่างมีแนวทางตรงกันว่า “ ดูรูปจริต
ให้ทายจันทร์ ” ดวงจันทร์เป็ นตัวกำหนดความอ่อนโยน ความอ่อนไหว
อารมณ์ด้านสุนทรี ความเป็ นศิลปิ น ซึ่งในอดีต หากต้องการสง่าราศี หรือ
ต้องการเสริมเมตตาบารมี ครูอาจารย์ในสำนักต่าง ๆ จึงมีการจัดพิธี “
อาบน้ำจันทร์เพ็ญขึ้น ” โดยมีจุดประสงค์ คือ
3
๑. ชำระมลทินโทษ ที่ทำให้ร่างกายหม่นหมอง ไม่มีราศี
๒. เสริมความสง่าแก่ร่างกาย ทำให้เป็ นที่ชวนมองแก่ผู้คน
๓. เสริมอานุภาพด้านเมตตา มหานิยม เป็ นที่ชมชอบแก่ผู้คน
การประกอบพิธีอาบน้ำจันทร์เพ็ญ นิยมประกอบกันในวันที่
พระจันทร์เต็มดวง ถ้าหากดีที่สุด ต้องเป็ น “ วันจันทร์เพ็ญเดือน ๑๒ ”
เป็ นวันที่พระจันทร์มีอำนาจมากที่สุด บางคณะใช้ “ วันจันทร์ซ้อนจันทร์
” คือ วันจันทร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เป็ นวันอาบน้ำจันทร์เพ็ญ ซึ่งการอาบน้ำจันทร์
เพ็ญนั้น ประกอบไปด้วยกรรมวิธี ดังนี้
๑. ตรวจฤกษ์วันประกอบพิธี มีฤกษ์เหมาะสมหรือไม่ มีฤกษ์ดีร้าย
ประการใด
๒. พลีน้ำมงคลจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ หรือ จากแหล่งน้ำที่สะอาด
สำหรับนำมาทำเป็ นหัวเชื้อในการทำน้ำมนต์
๓. เลือกสถานที่ประกอบพิธี ยิ่งเป็ นพื้นที่ติดชายคลอง หรือ ติด
ลำธารน้ำไหลได้ยิ่งดี ( การอาบน้ำมนต์ในลำธาร หรือ คลองที่มีน้ำไหล
ผ่าน ทำให้อวมงคลที่โดนขับออก ถูกน้ำพัดพาไป )
๔. เตรียมสถานที่ประกอบพิธี ทำลานให้โล่ง มีภาชนะใส่น้ำมนต์
สำหรับอาบกลางแจ้ง ตลอดจนปะรำพิธีต่าง ๆ ให้พร้อม
๕. เมื่อได้มงคลฤกษ์แล้ว เจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระ แขกผู้ใหญ่ที่
นับถือ หรือ เจ้าพิธีเอง จุดเทียนชัย เจ้าพิธีนำไหว้พระ ไหว้ครู ชุมนุม
เทวดา อ่านโองการเชิญเทพเจ้าต่าง ๆ ตามประเพณี
๖. เจ้าพิธีอ่านโองการสรรเสริญพระจันทร์ ขอพลังอำนาจจาก
พระจันทร์ประจุในน้ำมนต์ทั้งหมดในปะรำพิธี จากนั้นเจ้าพิธีจึงอ่าน
โองการปลุกพระนางคงคา และโองการมงคลบทต่าง ๆ จนกว่าแสงจันทร์
จะสะท้อนตรงศีรษะ หรือ อยู่กลางฟ้ าพอดี

4
๗. เมื่อดวงจันทร์อยู่กลางท้องฟ้ า ปราศจากเมฆหมอกฝนใด ๆ มา
บดบังแล้ว เจ้าพิธีอาบน้ำจันทร์เพ็ญให้ลูกศิษย์ที่ริมตลิ่ง
๘. เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ให้ผู้ที่อาบผลัดเสื้อผ้าใส่ชุดใหม่ แล้วนั่งรับ
พรจากเจ้าพิธี ( เสื้อผ้าที่ใส่อาบน้ำมนต์ควรเป็ นชุดเก่าที่ไม่ต้องการ เมื่อ
อาบเสร็จสามารถทิ้งได้เลย )
๙. หากเจ้าพิธี มีการลงนะ เจิมแป้ ง หรือ ลงวิทยาคมในด้านเมตตา
สามารถลงได้หลังจากอาบน้ำให้ผู้เข้าร่วมพิธีแล้ว
๑๐. ผู้ร่วมพิธีทั้งหมด กรวดน้ำแผ่ส่วนกุศล แผ่เมตตา กราบลาพระ
ส่งเทวดา ดับเทียนชัย แบ่งปั นน้ำมนต์ให้แก่คณะที่มาร่วม เสร็จพิธี
การประกอบพิธีอาบน้ำจันทร์เพ็ญ เป็ นพิธีกรรมทางวิทยาคมเพื่อ
เสริมสง่าราศีและเมตตามหานิยม แต่ละคณาจารย์ หรือ แต่ละสำนัก
ย่อมมีรายละเอียดของพิธีที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เป็ นจุดหมาย
เดียวกัน คือ ส่งเสริมให้ผู้ที่มาอาบมีสง่าราศี เป็ นที่เมตตารักใคร่ของผู้คน
ทั่วไป และเป็ นการส่งเสริมชะตาในรูปแบบหนึ่ง การจัดพิธีอาบน้ำเพ็ญ
ขึ้นอยู่กับฤกษ์ยามและรูปแบบพิธีเป็ นสำคัญ
เพื่อเป็ นแนวทางสำหรับการประกอบพิธีอาบน้ำเพ็ญ ผู้เขียนจึง
เสนอโองการสำหรับการอาบน้ำเพ็ญสัก ๓ บท เพื่อใช้ในการทำน้ำเพ็ญ
ดังนี้

โองการปลุกพระนางคงคา
โองการปลุกพระนางคงคา เป็ นโองการที่ทำให้น้ำที่เราใช้ในการทำน้ำมนต์
มีฤทธิ์ในตัว สามารถรองรับกระแสเวทมนต์โองการต่าง ๆ ที่เจ้าพิธีสวด
ประจุลงไปได้ ใช้สวดเริ่มก่อนโองการทำน้ำมนต์บทอื่น ๆ มีเนื้อหาดังนี้

5
๏ โอม ศรีศรีปรเมศ ลูกขอนบเกศ เทเวศมารดา พระคงคาเทวี ทรง
อารีย์นักหนา แม่โปรดเมตตา เสด็จยังโลกา ขอแม่มาดับโศก ดับโรคพยาธิ
ดับทั้งอุบาทว์ ดับราช ทัณฑ์ ดับทั่วเบญจะขันธ์ ทุกข์ร้อนพลันหาย เดช
แม่พระคงคา เสด็จมาโดยดาย ดับพิษผีพราย ผีภูติมารยา ขอเชิญแม่ข้า
มาดับทุกข์เข็ญ ให้ลูกอยู่เย็น เว้นจากอันตราย เดชะพระมุณี ภคีรถฤๅสาย
ท้าวท่านเธอให้ กระออมทองแก่ข้า ให้ข้าเชิญมารศรี มาล้างทุกข์อัปรีย์
มาดับเข็ญโลกีย์ ขอพระพรเทวี ประสิทธีอวยชัย ด้วยพระคาถา นะโม
พุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะมะนะ นะอะอะนะ นะอุอุนะ
พระคงคาโฉมศรี ล้างรดแต่ละที กาลีหนีหาย อาปานุปะ พระแม่โฉมเพรา
พราย ล้างรดจรดกาย ฟื้ นคลายโรคา กะขะชะนะ พระมารดารดแต่ละ
ครา ประ เจียดเงินตรา เครื่องรางเขี้ยวงา กลับมามีฤทธี ด้วยพระบารมี
พระเดชชัยศรี เทวีคงคา วันนี้ตัวข้า เชิญแม่มาเป็ นประธาน พระคงคา
เรืองเดช มาสระเกศหนึ่งครา รากโษสปี ศาจ คลาคลาดหนีหาย แม่พระ
ยมุนา เชิญมาสระเกศสอง ผุดผ่องพรรณราย พระธรรมแต่งกาย คลาย
ทุกข์โศกา พระมหิโสภา เชิญมาสระเกศสาม ถ้อยความสนเท่ห์ กลเล่ห์
เคลื่อนหาย แม่พระสรภู เห็นดูลูกชาย เชิญมาสระเกศสี่ ความร้ายอัปปรีย์
จรลีถอยสูญ แม่พระสรัสวตี เชิญแม่มาสระเกศห้า ให้มีปั ญญา อวิชชาลับ
หาย แม่พระนรมะทา เชิญแม่มาสระเกศหก พระเคราะห์ร้ายพลัดตก
ออกนอกจักรพาฬ แม่พระกฤษณา เชิญแม่มาสระเกศเจ็ด พระเพชรฉลู
ครูข้า ลงมาเผด็จมาร แม่พระกาเวรี เชิญแม่รี่สระเกศแปด เทวามาล้อม
แวด คอยระวังรักษา แม่พระอจิระวดี เชิญแม่สิทธีสระเกศเก้า เทพพระ
เคราะห์นั้นเล่า ลงมาอวยชัย แม่พระสินธุเรืองไกร เชิญแม่สระเกศสิบไซร้
ให้อุบาทว์พลัดหาย แม่พระโคทาวะรี เชิญศรีสระเกศสิบเอ็ด พระหรมาน
เสด็จ มาเผด็จจังไหร แม่พระคัณฑกี เชิญแม่มาสระเกศสิบสอง ให้ลูกยา

6
เนืองนอง เงินทองมากมี สิบสองพระเทวีขอประสิทธีแก่น้ำพระคงคา
สวาหะ ๚๛

โองการพระโมหิณีขับราหู ( กำจัดโทษไฝ – ปาน – ตำหนิโทษ )


โองการพระโมหิณีขับพระราหู เป็ นโองการที่ใช้สำหรับขับอวมงคลทินโทษ
ออกจากกาย โดยเฉพาะพวกปาน ไฝ หรือสิ่งที่ติดในกายมาแต่เกิด เป็ น
โองการประเภทขับอวมงคล ใช้เสกน้ำจันทร์เพ็ญ ให้เป็ นน้ำสำหรับชำระ
ร่างกายให้บริสุทธิ์ ก่อนที่จะเสกน้ำด้วยโองการทางด้านเมตตาในลำดับต่อ
ไป

๏ สิโร เม พุทธะเทวัญจะ นะลาเต พรหมะเทวะตา หะทะเว หัตเถ


ปะทะเม สุราปาเท วิสสะณุกัญเจวะ สัพพะกัมมา ประสิทธิ เม ศรีศรีดา
ราธิบดี สมเด็จพระสมณโคดมมุนีเป็ นประธาน พระพรหมทรงเวทานอยู่
มัชฌิม พระอิศวรเผือกแพรวพริ้มอยู่ซ้าย พระนารายณ์ทรงครุฑเขจรอยู่
ขวา พระเพชรสนูกันมาเป็ นพระหมอใหญ่ ครานั้นไซร้พระจันทรเทวบุตร
ผิวพรรณพิสุทธิ์ดั่งมุกดา ถูกพระราหูอสุรร้ายเบียนบีฑา ราหูมาราปล่อย
ตำหนิโทษ ให้เป็ นปานเป็ นหูดปูดเป็ นไฝ เป็ นอาถรรพ์จัญไรฝั งในวรกาย
พระจันทร์ร่ำไห้กายาหม่นหมอง จึงซร้องบูชาแก่พระเป็ นเจ้า
นะโม เต พุทธะวีรัตถุ วิปปมุตโตสิ สัพพะธิสัมพาธปฏิปั นโนสมิ ตัสสะ เม
สรณัง ภวะ ตถาคะตัง อรหันตัง จันทิมา สรณัง คะโต ราหุ จันทัง
ปมุญจัสสุ พุทธา โลกานุกัมปะกา พระพุทธองค์ทรงปรมัตถ์ พระจึงตรัส
แก่พระนารายณ์ ให้ลงไปขับมลทินโทษออกจากพระจันทร์ พระนารายณ์
รับพระบัณฑูร จึงแบ่งอิทธิประยูรเดชา อวตารมาเป็ นพระนางโมหิณี

7
พระเพชรสนูกันจึงเอารัตนะกุณฑี นามมีรัตนโบกขรณี รี่ตักน้ำจากสระ
อโนดาตต้นนที พระเทวีโมหิณีจึงร่ายพระคาถา อายันตุโภนโต อิธะ ทา
นะสีลา เนกขัมมะปั ญญา วิริยัญจะ ขันติ สัจจาธิฎฐานา สหะ เมตตุเปก
ขา ยุทธายะโว คัณหถะอาวุธานิ ปารมิโย วิทิตตวานะ โพธิสัตตัสสะ จินต
ะกัง เกสราริวะ อาคัญฉุง โพธิสัตตัสสะ มะพระวุง มยัง ปารมิตา โยธา จิ
รังเทวะ ตยาภตา อัชชะ ทัสสาม เต จิรัง ชยะ ภัทธัง นมัตถุเต ทัศอาวุธ
พุทธองค์ บรรจุลงในกุณฑีแก้ว พระโมหิณีจึงเสด็จไปฟ้ าจักรวาล ท่านจึง
บริกรรมคาถา นะโมพุทธายะ ประสิทธิเม นะมะพะทะ อิกะวิติ อิสวาสุ สุ
สวาอิ อิติปุลิ นะมะพะทะ จิปิ เสคิ ๚๛
๏ ครันเห็นพระจันทิมาเทพเจ้า ทุกข์ร่อนเร้าหมดรัศมีสีแสง พระโม
หิณีจึงแผลงเอาพระขรรค์เพชร แกว่งกวัดเสร็จเป็ นใบหมากผู้เฉียงพร้า
หญ้าคาเงินทอง ปั ดไปทั่วผองพระกายา ปั ดพระพราหมณาบดี อันเป็ น
ตัวแทนบุรุษา เธอจึงปั ดโอสถพรรณ ไปทั่ววรรณกาย ผายตัดไฝหน้าผาก
ขวา ยักษาหนีขจาย ตัดไฝหน้าผากซ้าย มารร้ายหนีลอยลิ้ว ตัดไฝระหว่าง
คิ้ว ยักขิณีไม่พลิ้วหนีลา ตัดไฝร่องน้ำตา นางกาละกิณีผละออกรอนแรม
ตัดไฝใต้แก้ม เวตาลผมแย้มกระเซิงร้องถอย ตัดไฝท้ายทอย ถอยความ
ทุกข์เศร้าปลิดปลิว ตัดไฝใต้คิ้ว พรหมรากษสถูกพญาหยิวพาสูญ ตัดไฝ
กลางคิ้วทั้งมูล เปรตตระกูลแล่นหาย ตัดไฝใต้ตาร้าย อสุรกายต่างหนีร้อง
หา ตัดไฝใต้ตา ปวงมาราริปูแพ้บังคม ตัดไฝโคนผม ยมทูตยักขราชแล่น
จากเคหัง ตัดไฝกลางหลัง สามธิดามารังแล่นกลับไม่คำนึง ตัดไฝปลาย
ลึงค์ เพชรพญาธรพาลพึงหนีไม่คานคบ ตัดไฝก้นกบ พญาหนุมานกันจบ
สรรพ ตัดไฝในข้อพับ พระคินายดับอันตราย ตัดไฝข้อเท้าซ้าย จักรพระ
นารายณ์ตัดคอมารเฒ่า ตัดไฝที่ข้อเท้า วัชระท้าวศักราประหารปวงจัญไร
อวมงคลโทษน้อยใหญ่ในทวัตติงสาการ ประ หารด้วย นะโมพุทธายะ นะ

8
รานะระรัตตังญาณัง นะรานะระรัตตังหิตัง นะรานะระรัตตังเขมัง วิปั สสิต
ตัง นะมามิหัง ๚๛
๏ ศรีตาระมหิษีวิชัย พระนางโมหินีใจกล้า เห็นพระนางโรหิณีกัลยา
ถูกพิษโรคาพระราหูทั่วทั้งกาย ร้องไห้เป็ นมหินมลทินโทษ พระนารายณ์
แปลงจึงเอาแก้วโชติเกาสตุภะ แปลงรวงธัญญะสาลี ปั ดทั่วกายีทั้ง ๒๗
นางดารา พระโมหิณีตัดไฝริมฝี ปากล่าง ปี ศาจต่างหนีออกหลามหลาก
ตัดไฝที่มุมปาก นางปาปะลำบากหนีพราก ตัดไฝที่ใต้ปาก พญาอดท้าว
ยากกลับแดนนรก ตัดไฝตกใต้แก้ม อังกาศตะไลแย้มยกหนีหาย ตัดไฝ
กลางคิ้วร้าย พระคินายไล่มารเสนา ตัดไฝบนเปลือกตา นางสำนักขาหนี
ร่ำช้ำอุรา ตัดไฝหน้าผากขวา นางจิญมาณวิกาตกอเวจี ตัดไฝหน้า ผาก
ซ้ายอิตถี พระกาลีประหารอสุรา ตัดไฝร่องน้ำตา พระทุรคาแผลงเดชได้
โยชน์ร้อย ตัดไฝท้ายทอย พระพฤหัสขับเคราะห์ถอยพังแพ้ ตัดไฝที่รักแร้
พระแม่ธรณีปราบมารด้วยอุททก ตัดไฝฐานทรวงอก พรานโสอุดรใจทราม
ตกอเวจี ตัดไฝฐานนมโสภี พญาพาลีประหารทรพีบัดซบ ตัดไฝเหนือ
ก้นกบ พระไพรศรพณ์มาลบสรรพโทษี ตัดไฝที่โยนี นางโภควดีมาดับ
กามคุณ ตัดไฝที่ปากกุน คุณนางอุบล วรรณาเถรีขับมาร ตัดไฝข้างฐาน
พระสีดานงคราญคืนชมพูทวีป ตัดไฝขาหนีบ พญาสุครีพหักฉัตรอสูรพล
ตัดไฝใต้ก้น พระลลิตาเทวียกพลปราบมารร้าย ตัดไฝที่ไหล่ซ้าย พระพาย
พัดเคราะห์แดดับ ตัดไฝด้านในข้อพับ พระอุษาเทวีพยับให้สง่าราศี ตัดไฝ
กลางหลังราคี พระสาวิตรีไล่มารอันธกา ตัดไฝที่ข้อบาทา หนุมานไล่ฆ่า
รากษสทั้งหลาย ตัดไฝหลังเท้าซ้าย ราหูหลาวเหล็กธรณีสาร อุบาทว์ทั้ง
หลายหลีกหลบไกลสิบโยชน์ ดับอวมงคลโทษน้อยใหญ่ในทวัตติงสาการ
ด้วยพระคาถา พุทธา อะนุนามะริยา สุขังเขยเย พุทธา อะนินาสุหะลา ลิ
สังเขยเย พุทธา ริ โยเคมะกุลัก ขะกัปปะเก วันทา มิเตสุระนะรัก กะเมสะ
เม ๚๛
9
๏ พุทธะ อัทธะ จะมะโต โอวาโทหัง อะวาโสหะนะสะรามิ พระนาง
โมหิณีมดหมอใหญ่ เธอจึงเอาใบโอสถพฤกษ์ เอาฬึกโอฬารเดชา มาขับ
สรรพคุณอาถรรพ์มารยา มากระทำทั่ววรกาย หญิงชายทั้งนวะครหา
ซัดน้ำครั้งเอกา พระมหาฤๅษีนารอท มาปั ดเภทปั ดภัย ปั ดไข้ปั ดโรค
ซัดน้ำครั้งสอง พระฤๅษีนาไลยดับโศก ดับทุกข์วิปโยคนานา ซัดน้ำถ้วน
สามครา พระฤๅษีนาเรศขับคุณหนังคุณขน คุณมนต์อวิชชา คุณมารยาสิบ
สองภาษา ซัดน้ำถ้วนสี่ครา พระฤๅษีตาไฟขับคุณพยนต์ คุณคนคุณผี คุณ
กลอักษรข่มพระชาตา ซัดน้ำถ้วนห้าครา พระฤๅษีอาเตรยะขับคุณว่านคุณ
ยา คุณไข้สาธารณ์ไข้พิษชนิดนานา ซัดน้ำถ้วนหกครา พระฤๅษีปรศุราม
มาขับคุณแก้วคุณเหล็ก คุณแร่ทนสิทธิ์ คุณเจ้าป่ าเจ้าท่า คุณผีทั้งสิบสอง
ภาษา ซัดน้ำถ้วนเจ็ดครา พระฤๅษีวิศวามิตร มาดับพิษอุบาทว์จัญไร พิษ
ธรณีสารน้อยใหญ่ พิษขอมพิษครูหมอ พิษวิทยาธรทุกวิชา ซัดน้ำถ้วน
แปดครา พระฤๅษี อคัสตยะ มาระงับคุณเทพคุณมาร คุณเคราะห์คุณดาว
ทั้งหลาวเหล็กและพระกาฬจร ซัดน้ำถ้วนเก้าอมร พระฤๅษีอัตริบวรบิดา
เธอมาขับพระราหูแลแทตย์ ขโมด รากษสปี ศาจเปรตอสุรเวตาล ออกจาก
สถานประเทศ พระฤๅษีเก้าตนจึงร่ายมนต์มหาวิเศษขับมลทินโทษด้วย
พระคาถา กินนุ สันตระมาโนวะ ราหุ จันทัง ปมุญจะสิ สังวิคครูโป อาคัม
มะ กินนุ ภีโต วะ ติฎฐะสีติ สัตตะ ธา เม ผเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง
ละเภ พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ ๚๛

โองการโสมเทพชุบราศี

10
โองการโสมเทพชุบราศี เป็ นโองการที่ใช้อำนาจของพระจันทร์ในการชุบ
ให้ร่างกายมีสง่าราศี เป็ นที่นิยมชมชอบ เรียกโชคลาภ เรียกสิริต่าง ๆ เข้า
มาสู่ตน โดยใช้เสกน้ำมนต์จันทร์เพ็ญในตอนท้าย หรือใช้ลงทางเมตตาใน
ตอนหลังสุดก็ได้เช่นกัน

๏ นะโมจันทิมาดาราธรบดี พระชินสีห์สัมโพธิญาณ พระคุณท่านจึง


ตั้งพระจันทร์เป็ นหมอเฒ่า เข้ามาชุบร่างพระธรรม แต่งกายให้ล้ำเลิศ เป็ น
บุรุษให้ประเสริฐเสมอขัตติยา เป็ นอิตถีให้กัลยาดั่งสาวสวรรค์ พระทศพล
ญาณเจ้านั้น เธอจึงให้ตั้งพิธีตั้งน้ำชุบพระกายา พระสุเมรุมาเป็ นขันสาคร
พระนางคงคามารดรเป็ นน้ำในขัน พระนางสัสดีนั้นเป็ นคุณพระมนต์คาถา
พระกามเทพมาโปรยดอกไม้ พระลักษมีโฉมฉายมาโปรยเครื่องหอม พระ
อิศวรแลพระนารายณ์ พระพุทธคินายแลพระพรหม ย่อมนั่งบริกรรมปรก
ชมรมทั้งสี่ทิศ พระบรมจตุรบพิตร จึงร่ายพระคาถา อิติปารมิตาติงสา อิติ
สัพพัญญูมาคตา อิติโพธิมนุปปั ตโต อิติปิ โส จะเตนะโม พระจันโทหมอ
เฒ่าจึงเข้ามานั่งอาสน์ ภิวาทพระมหามุนีแลสี่จตุรมหาเทวา แล้วร่ายพระ
คาถา ปุญณะจันโท วิชานันเต วิสุทรีสาวะ โภ วะโร พุทโร สัทธัมมะรังสี
มุนิโน มัตคะเกสกัง ชุบน้ำพระคงคาสุธารส ให้ปรากฏศุภผลมงคล ดลผู้
ยากไร้ให้เทียมคน ดลวานิชเป็ นนายสำเภา ดลคนเขลามามีปั ญญา ดล
หญิงหม่ายร้างลามาผัว ดลชายไร้ครัวมาเป็ นพ่อคน ดลสาวไร้ภัสดาตนได้
แต่งงาน ดลคนพูดผ่าซากมีวาทศิลป์ คนต้องมลทินให้กลับหาย คนต้อง
ไข้มาหายโรค คนอกหักเศร้าโศกได้คู่ยืน ดลบ่าวสาวจงยืนยงครองคู่กัน
ดลนายวานิชนั้นเป็ นเศรษฐี ดลพระสงฆ์กุฎีเป็ นพระครู ดลกัลยายอดพธู
เป็ นนางเมือง ดลเสนาอันเรืองเดชเป็ นท้าวพระยา ดลสามัญกลายเป็ น
ยอดคน พระจันทร์ครูเฒ่าดลให้สำเร็จด้วยพระคาถา ทิวา ตะปะติ อาทิจฺ

11
โจ รัตติมาภาติ จันทิมา สันนัทโธ ขัตติโย ตะปะติฌายี ตะปะติ พฺราหฺมโณ
อะถะ สัพพะมะโหรัตติง พุทโธ ตะปะติ เตชสา ๚๛
๏ พระจันทร์เจ้าครูข้ามาร่ายพระมนต์ เสกดลชุบพระกายให้ผ่อง
ผาด พรรณพิลาศดั่งชาวเมืองสวรรค์ เธอนั่นจึงร่ายพระคาถา สุกิตติมา
สุภาจาโร สุสีละวา สุปาคะโต ยัสสะสิมา จะเจธิโร เกสะโรวา อะสัมภิโต
ชุบเกศามันขลับแลหวลหอม ชุบโลมางอกงามย่อมสุคนธา ชุบทันตาเรียง
เรียบแวววับดั่งไข่มุก ชุบตะโจให้ผิวสุกใสเรืองรอง ผุดผ่องเรืองดั่งจันทร์
เพ็ญ ชุบนะหารูเอ็นต่างตึงดั่งเชือกฟั่ น ชุบมังสังแวววรรณดั่งสังข์ขัด ชุ
บอัฐฐิทั่วสรรพพัดให้คงทน ชุบโลหิตในตัวคนให้ไหลเวียนดี ชุบบุบโพให้มี
ฤทธิไกร ชุบวงพักตร์ผ่องใสเพียงสุริยา ชุบสรรพกายาเทียมเทวบุตร ชุบ
แขนงามประดุจกรอัปสร ชุบขางามงอนดั่งแข้งสิงห์ ชุบนวลนางหญิงเป็ น
ยอดเยาวภา ชุบบุรุษาเป็ นนายเศรษฐี พระศศิมหาปุโรหิตตี ชุบสรรพร่าง
ด้วยพระคาถา สุวัณณะตา สุสะระตา สุสัณฐานัง สุรูปะตา อาธิปั จจัง ปะ
ริวาโร สัพพะเมเตนะ ลัพภะติ ๚๛
๏ โอมมหาลาภี พระจันทร์ราตรีเทวา เธอจึงมาร่ายพระมนต์ อะหัง
ลาภิง จะ ลาภานัง สักกาโร ปูชิตา สะทา สัพเพ เทวา มนุสสา จะ ปิ ยา
รักขันตุ มัง สะทา มาชุบโชคลาภสุขเกษม ให้ชายหญิงเปรมปรีดิ์สวัสดิ์
พระจันทร์เจ้าชุบผู้ชาย จงได้ลาภอยู่ดีกินดี พระจันทร์ชุบนางสตรี จงมีพร
รณะรูปโสภา พระจันทร์ชุบคนค้าขาย จงได้เรือนรถเป็ นกะฎุมพี
พระจันทร์ชุบข้าเสนี จงได้เป็ นขุนหมื่นหลวง พระจันทร์ชุบปวงบัณฑิต ได้
ยศสิทธิ์เป็ นราชครู พระจันทร์ชุบทารก ได้โตมาแล้วรูปงาม พระจันทร์ชุบ
ทาริกา โตมาแล้วรูปโสภา พระจันทร์ชุบคนกลาซบเซา ให้เยาว์สุภาพแจ่ม
ตา พระจันทร์ชุบชาวนาฎยา ให้สง่าดังอัปสร พระจันทร์ชุบนิกรกะฎุมพี
ให้เป็ นเศรษฐีนครา พระจันทร์ชุบพวกเสนา ได้เป็ นพระยาครองเมือง
พระจันทร์ชุบข้าไทชาวเครื่อง ได้เป็ นคุณท้าวเจ้ากรม พระจันทร์ชุบสรรพ
12
สัตว์ด้วยมนต์พระพรหม ประทานให้ชุบได้สารพัดลาภเทวา เอสะ เทวะ
มนุสสานัง สัพพะกามะทะโทนิธิ ยัง ยัง เทวาภิปั ตเถนติ สัพพะเมเตนะ
ลัพภะติ ๚๛
๏ นะโมสวัสดิมงคลญาณ พระจันทรกานต์เธอจึงมาเรียก
พระอินทร์ พระเพลิงพระพาย พระพิรุณ พระไพรศรพณ์ พระอาทิตย์ทั้ง
๑๒ ตน ท้าวสหัมบดีพรหม ท้าวสนังกุมารพรหม พระฤๅษีตาไฟ พระฤๅษี
นารอท พระฤๅษีกไลยโกฎิ พระฤๅษีกัสสป ปู่เจ้าเขาเขียว ปู่เจ้าสมิงพราย
พระบาทศรีธรรมโศกราช พระศรีอาริยเมตไตรย พระปั จเจกพุทธ พระ
อรหันต์ขีณาสพ และฝูงวิทยาธรทั้งหลาย ได้มาประชุมกันชุบร่างพระ
ธรรม ให้งามล้ำโสภิณ ชุบกายประดุจพระลักษณ์ ชุบพักตร์เพียงนาง
รัตนมณี ชุบอินทรีย์ดั่งเทพ บุตร ชุบฤทธิรุจดั่งหนุมาน ชุบวาทะคำขานดั่ง
เสียงพรหม ชุบร่างให้เป็ นมหานิยมแก่โลกหล้า พระจันทร์เจ้าชุบด้วยพระ
คาถา อินทะสิริ เทวะสิริ พรหมะสิริ มหาพรหมะสิริ อิสีสิริ มหาอิสีสิริ มุนี
สิริ มหามุนีสิริ สัปปุริสิริ มหาสัปปุริสิริ จักกะวัตติสิริ มหาจักกะวัตติสิริ
โพธิสิริ ปั จเจกโพธิสิริ อรหันตะสิริ สัพพะสิทธิวิชชาธะรานัง สิริ สัพเพ
โลกาจริยานัง สิริ เอตายะ สิริยา เอเตนะ สัจจะวะจะเน วา มัยหัง สุวัตถิ
โหตุ สวาหายะ นะโมพุทธัสสะ นะโมธัมมัสสะ นะโมสังฆัสสะ เสยยะถิทัง
หุลูหุลูหุลู สวาหายะ ๚๛

หมายเหตุ ท่านใดประสงค์จะนำโองการที่ข้าพเจ้าได้เขียนขึ้นนั้นไปใช้ใน
การประกอบพิธีนั้น สามารถนำไปใช้ได้ เพียงบอกกล่าวข้าพเจ้าให้เป็ นไป
ตามหลักของศาสตร์พิธีตามหลักที่ปฏิบัติกันมา ทั้งนี้เพื่อความเป็ นมงคล
แก่ทุก ๆ ท่านครับ

13
ลำดับขั้นตอนการประกอบพิธีกรรม (พิธีกรรมหลัก)
โดย ภูมิ จิระเดชวงศ์
ในการประกอบพิธีกรรมใด ๆ สิ่งสำคัญที่จะกำหนดแบบแผนของพิธีให้
ทำได้สะดวก เป็ นขั้นตอน นั่นคือลำดับขั้นตอนในการทำพิธี ซึ่งพิธีต่าง ๆ
มีลำดับของพิธีที่เป็ นแบบแผนอยู่ ซึ่งสามารถเรียงลำดับได้ ดังต่อไปนี้
๑.ไหว้เจ้าที่ประจำสถาน
ขั้นตอนแรก เป็ นการขออนุญาตทางจิตวิญญาณ ในทุก ๆสถานที่
ย่อมมีผู้ปกครอง ผู้เป็ นเจ้าของ เจ้าพิธีจะแต่งดอกไม้ธูปเทียน หรือ จะเพิ่ม
หมากพลูและน้ำสะอาดด้วยก็ได้ นำไปสักการะเจ้าที่ หากสถานที่นั้นมี
ศาลพระภูมิ – ศาลตายาย หรือ ศาลเทพารักษ์ ให้บอกกล่าวที่ศาลได้เลย
หากสถานที่ไม่มีศาล ให้บอกกล่าวที่ลานกลางแจ้ง เชิญเจ้าที่เจ้าทาง นาง
พระธรณี ขึ้นมารับเครื่องบูชา อนุญาตให้เราทำพิธีกรรม
๒.รับพานราด จากเจ้าภาพ หรือ เจ้าของงาน
ขั้นตอนนี้สำคัญสำหรับหมอพิธีมาก หากเจ้าภาพไม่ยื่นพานราด (
พานกำนลครู ) ห้ามเจ้าพิธีทำพิธีเด็ดขาด มันเป็ นการเสียมารยาท ในเมื่อ
เจ้าภาพไม่ให้เราทำ เราไม่มีสิทธิ์ในการทำพิธีในสถานที่นั้น แม้เราจะบอก
กล่าวเจ้าที่แล้ว แต่ถ้าเจ้าภาพที่เป็ นคนไม่ยกกรรมสิทธิ์ให้ อย่าได้ทำเด็ด

14
ขาด ถึงทำไปก็ไม่เป็ นผลดีแก่เจ้าบ้านแต่อย่างใด เพราะเจ้าของงานไม่
ได้ยินยอมให้เราทำ
๓.บูชาพระรัตนตรัย
เนื่องจากเราเป็ นพุทธศาสนิกชน เมื่อรับพานราดแล้ว ควรนำบูชา
พระรัตนตรัยเพื่อให้จิตใจสงบ และเป็ นการเชิญคุณพระเข้ามารักษา อย่า
ให้มีอันตรายข้ามาแผ้วพาลอีกด้วย
๔.ขอขมาพระรัตนตรัย (กรณีประกอบพิธีภายในวัด หรือ เขตธรณีสงฆ์
หรือ สถานที่พระสงฆ์พำนักอาศัย)
กรณีที่ประกอบพิธีในเขตวัด ควรขอขมาพระรัตนตรัยด้วย เพื่อ
เป็ นการขอโทษหากได้มีการล่วงเกินในพระอารามแห่งนั้น มิให้เป็ น
กรรมเวรสืบไปในอนาคตชาติ อีกทั้งยังเป็ นการแสดงความอ่อนน้อมแก่
ศาสนสถานแห่งนั้นด้วย
๕.บูชาครู
เมื่อไหว้พระจนจิตสงบแล้ว ขั้นต่อไปคือการบูชาครู ไม่ว่าจะบูชา
ด้วยบทพระสัสดี หรือบทอื่นใดๆ ก็ตาม ควรรำลึกถึงครู เชิญครูต้นและครู
ในสายวิชามารับรู้การประกอบพิธี เพื่อขอบารมีครูเหล่านั้น เป็ นเกราะ
กำบัง ป้ องกันอันตรายที่จะเกิด ขึ้น ในบางสถานที่ที่มีอาถรรพ์ ควรมีการ
เชิญครูเข้ามารักษาเป็ นปฐมก่อนจะเริ่มพิธี เพื่อให้บารมีครูช่วยลดทอน
อาถรรพ์นั้นให้เบาบางลง
๖.กันตัว ประสิทธิตน
ขั้นตอนนี้นับว่าสำคัญ หากทหารตำรวจ มีชุดเกราะและอาวุธ
สำหรับปฏิบัติหน้าที่ เจ้าพิธีก็เช่นกัน ต้องมีการกันตัว หรือปลุกตัวตนให้
ได้รับการคุ้มครอง เพื่อไม่ให้ต้องอันตรายจากมนุษย์ และ อมนุษย์มากลั่น
แกล้ง รวมถึงเป็ นการป้ องกันอันตรายจากฤกษ์ยาม อันตรายจากทิศต้อง

15
ห้าม บางท่านที่มีคาถากำราบฤกษ์และผ่าทิศต้องห้าม จะนำมาใช้ในขั้น
ตอนนี้ เพื่อบรรเทาอาถรรพ์ร้ายของฤกษ์และทิศต้องห้ามให้เบาลง

๗.ชุมนุมเทวดา
เมื่อป้ องกันตัวจากอาถรรพ์ และกำราบอันตรายจนหมดแล้ว จึงเข้า
สู่การชุมนุมเทวดา ซึ่งจะกล่าวทั้งบทชุมนุมเทวดาภาคบาลีอย่างเดียว
หรือ จะกล่าวบทชุมนุมเทวดาภาคแปลไทยควบคู่ไปด้วยกันก็ได้ เพื่อให้ผู้
ร่วมพิธีเข้าใจความหมายของคาถา และสร้างศรัทธาปสาทะในพิธี
๘.กล่าวคาถาบูชาเทพประจำทิศ
เมื่อทำการชุมนุมเทวดาแล้ว จะเป็ นการบูชาเทพประจำทิศ ซึ่งคาถา
นี้ปรากฏอยู่ในตำราของ อ.เทพย์ สาริกบุตร ที่ได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ
ซึ่งคาถาบูชาเทพประ จำทิศ จะเริ่มจากการบูชาครู บูชาพระภูมิเจ้าที่
บูชาเทวดาในทิศทั้ง ๘ และสุดท้ายที่เทวดาในทิศเบื้องบน คาถาบทนี้
อาจมีหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่เจ้าพิธีจะพิจารณาความเหมาะสม
๙.กล่าวโองการ หรือ บทประกาศเทวดาที่เกี่ยวของกับพิธี
การกล่าวโองการ หรือ บทประกาศเทวดา ควรคัดเลือกให้เป็ นบทที่
เหมาะสมกับพิธี เช่น การยกเสาเอก หรือ ทำพิธีเกี่ยวกับผืนดิน ควรใช้บท
ที่บูชาพระภูมิเจ้าที่ การไหว้ครู ใช้บทโองการที่เกี่ยวกับครูในสายวิชา
หรือ การบูชาเทพารักษ์ การบวงสรวงในวาระกิจต่าง ๆ ควรคัดเลือก
โองการที่เหมาะสมกับงานพิธี เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการจัดพิธี
และเจ้าภาพจะได้รับพรที่เหมาะสมจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย
๑๐. เชิญเจ้าภาพถวายสังเวย
การถวายเครื่องสังเวย ให้เจ้าภาพปั กธูปลงบนอาหาร บายศรี
เครื่องดื่ม ห้ามให้เจ้าภาพและคนในพิธีปั กธูปในพานราดของเราเด็ดขาด
เพราะพานราด เป็ นสื่อกลาง หรือ เป็ นตัวแทนระหว่างเรากับครู แม้ท่าน

16
จะมีชุดพานครูตั้งเป็ นประธานพิธีแล้ว แต่พานราด อย่าได้ให้ใครลุกล้ำ
เด็ดขาด
๑๑. กล่าวขอขมาเทวดา ( ถ้ามี )
ในการประกอบพิธี การจัดพิธี หรือ ในชีวิตคนเรา ย่อมต้องมีข้อผิด
พลาดต่อเทพเทวดาบ้าง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การขอขมาเทวดาจึงสมควร
จะมี เพื่อขอขมาต่อทวยเทพในสิ่งที่ผิดพลาด ไม่ให้ส่งผลร้ายบางอย่างมา
ในภายหลัง
๑๒. กล่าวขอพรเทวดา ( ถ้ามี )
การประกอบพิธี เจ้าภาพ หรือ เจ้างาน ควรมีส่วนร่วม โดยการขอ
พรเทวดานั้น ควรเป็ นหน้าที่เจ้าภาพ หรือ เจ้างานจะได้ขอพรกับทวยเทพ
เทวดาด้วยตนเอง
๑๓. ทำน้ำมนต์ให้เจ้าภาพ ( ถ้ามี )
หากเจ้าภาพขอให้เจ้าพิธีทำน้ำมนต์ ควรจะทำน้ำมนต์หลังถวาย
สังเวยเทวดาแล้ว ซึ่งการทำน้ำมนต์นั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเจ้า
ภาพ ว่าจะเป็ นไปในทางใด จะเป็ นไปในทางปราบอาถรรพ์ หรือ เป็ นไป
ในทางสิริมงคล ซึ่งเจ้าพิธีต้องเลือกบทที่เหมาะสมกับพิธีการ อย่าใช้แบบ
ผิดฝาผิดตัว มนต์แต่ละบท โองการแต่ละบท มีวัตถุประสงค์ของตนอยู่
ชัดเจน

๑๔. โปรยข้าวตอกดอกไม้
เมื่อทำน้ำมนต์ประพรมตามที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ
โปรยข้าวตอกดอกไม้ เจ้าพิธีจะสวดคาถากำกับการโปรยข้าวตอกดอกไม้
ด้วย เพื่อเฉลิมฉลองการประกอบพิธี โดยส่วนมากจะนิยมบทชัยปริตร กับ
บทท่อนท้ายของคาถาส่งเทวดา

17
๑๕. ให้พรแก่เจ้าภาพ
เมื่อโปรยข้าวตอกดอกไม้แล้ว เจ้าพิธีสมควรจะให้พรเจ้าภาพ เพื่อ
เป็ นการอวยพร เพราะเจ้าพิธีเป็ นสื่อกลางระหว่างเทวดากับมนุษย์ ( ใน
ขณะนั้น ) พรที่ได้จากเจ้าพิธี จึงเท่ากับเป็ นพรที่ทวยเทพดลใจ หรือสนอง
ตอบกุศลเจตนาของเจ้าภาพที่จัดพิธีนั่นเอง
๑๖. กราบลาพระรัตนตรัย
เมื่อให้พรเสร็จ เจ้าพิธีกราบลาพระ เป็ นสัญญาณว่าพิธีเสร็จแล้ว
เจ้าภาพสามารถไปทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ โดยต้องเหลือผู้ช่วยให้เจ้าพิธี
สัก ๒ คนเป็ นอย่างน้อย เพื่อสะดวกต่อการคืนพื้นที่
๑๗. ลาเครื่องสังเวย
หลังเสร็จพิธี เจ้าพิธีต้องลาเครื่องสังเวยให้เจ้าภาพ สิ่งใดที่เจ้าพิธีไม่
ได้ลา ยังถือว่าเป็ นสิทธิ์ของเทวดาอยู่ จนกว่าเจ้าพิธี หรือ ผู้ที่รู้เคล็ดจะ
กล่าวคาถาขอลาเครื่อง จึงจะนำมารับประทานได้ การลาเครื่องสังเวย ถือ
เป็ นมารยาทอย่างหนึ่งที่ผู้น้อยปรนนิบัติกับผู้ใหญ่ หากมีการแจกจ่ายโดย
ไม่ลา จะทำให้เกิดผลเสียในภายหลัง
๑๘. ส่งเทวดา
เมื่อได้ลาเครื่องสังเวยแล้ว ในกรณีที่ประกอบพิธีในสถานที่ ที่ไม่ใช่
วัด ศาลหลัก เมือง เทวสถานพราหมณ์ หรือ เทวาลัยของเทพเจ้า ควรมี
การส่งเทวดากลับด้วย ถือเป็ นมารยาทประการหนึ่ง ในเมื่อเชิญมาได้ ก็
ต้องเชิญกลับได้เช่นกัน ในด้านความเชื่อ หากพิธีใดไม่มีการส่งเทวดา ทวย
เทพก็จะอยู่ที่นั้น จนก่อความเดือดร้อนให้แก่เจ้าของสถานที่รวมถึงผู้
อาศัยได้ จึงต้องมีการส่งเทวดาที่เชิญมากลับวิมาน ยกเว้นแต่พระภูมิเจ้าที่
หรือ เจ้าของสถานที่ ที่ไม่ต้องเชิญกลับ เพียงบอกกล่าวขอบคุณตาม
มารยาทก็พอ
๑๙. เซ่นพวกบริวาร
18
ทุกครั้งที่ประกอบพิธีบวงสรวง ควรมีการแบ่งเครื่องเซ่นอย่างละเล็ก
ละน้อยใส่ปลายหางตอง จำนวน ๒ ชุด ชุดแรกตั้งในอาณาเขตพื้นที่
ประกอบพิธี เซ่นให้บริวารเจ้าที่เจ้าทาง บริวารที่ติดตามทวยเทพมาในพิธี
ได้กิน อีกชุดหนึ่งนำไปตั้งนอกอาณาเขต เพื่อเป็ นทานแก่วิญญาณเร่ร่อน
ซึ่งคำกล่าวในตรงนี้ อยู่ที่ไหวพริบปฎิภาณ และ ประสบการณ์ของแต่ละ
คน
๒๐. กรวดน้ำอุทิศบุญกุศล
สุดท้ายของพิธี คือการกรวดน้ำอุทิศบุญกุศล เป็ นการส่งเอา
อานิสงส์ที่เราได้จัดพิธีให้ไปถึงเทวดาที่เราเชิญมา ถึงเจ้าที่เจ้าทาง เจ้า
บ้านเจ้าเรือน บรรพบุรุษ ครูอาจารย์ที่มาช่วยคุ้มครองรักษา รวมถึงสรรพ
สัตว์ทั้งหลาย ได้มายินดีในกิจกุศลที่เราได้ทำ เป็ นการเพิ่มพูนบุญบารมียิ่ง
ๆ ขึ้นไป

หมายเหตุ เนื้อหาจากหนังสือตำราสะเดาะพระเคราะห์ ขับอาเพศ ที่ผู้


เขียนได้เขียนไว้
น้ำมนต์ คืออะไร ?
ที่มาของความหมายเครื่องประกอบในการทำน้ำมนต์
โดย ภูมิ จิระเดชวงศ์
การทำน้ำมนต์ของพราหมณาจารย์ หรือ เจ้าพิธีในทางภาคใต้นั้น
เป็ นการผนวกเอาคติทางพระเวท โองการ และ ความรู้ทางเวชศาสตร์เข้า
ด้วยกัน โดยเครื่องทำน้ำมนต์นั้น จะมีความหมายในแต่ล่ะส่วนดังนี้
ขันน้ำเทพมนต์ = คือสัญลักษณ์แทนขอบฝั่ งของเกษียรสมุทร หรือ
กำแพงจักรวาล ที่ปากขัน จะคาดด้วยด้ายขาว และ ด้ายแดง แทน
เทพเจ้าฝ่ ายบุรุษ และ เทพเจ้าฝ่ ายสตรีทั้งหลาย บางคติก็หมายถึงสายน้ำ
ทุกสายในไตรภพ ที่มาบรรจบกัน

19
เครื่องใบไม้รองหม้อน้ำมนต์ = หางกล้วยทองแทนทวีปทั้งสี่ , ใบ
มะกรูด มะนาว ส้มป่ อย แทน มนุษย์ สัตว์ พืช บนโลก , ใบทองหลาง
แทนอสูร และ ใบเงินทอง แทนทวยเทพที่กวนเกษียรสมุทร
น้ำมนต์ภายในหม้อ = แทนน้ำอมฤตของเหล่าทวยเทพ
เครื่องปรุงน้ำมนต์ หรือ เครื่องยาภายในหม้อ = ประกอบด้วย
ของทนสิทธิ์ต่าง ๆ ตามความเชื่อ เช่น เพชรหน้าทั่ง , เหล็กไหล , หิน
ขวานฟ้ า ฯลฯ เครื่องยา เช่น มะกรูด ส้มป่ อย ฯลฯ แทนทรัพย์สิน หรือ
สิ่งวิเศษ ที่ได้จากการกวนเกษียรสมุทร
ใบไม้สำหรับพรมน้ำมนต์ = ประกอบด้วยพืชมงคลชนิดต่าง ๆ
แทนเทพเจ้าทั้งปวงที่มาช่วยทำน้ำมนต์ ได้แก่หญ้าคา แทนพระอิศวร ,
หญ้าเข็ดมอญ แทนพระพรหม , หญ้าแพรก แทนพระพิฆเนศ , กะเพรา
แทนพระนารายณ์ , ใบเฉียงพร้าแทนพระอินทร์ , ใบขนุน แทนพระพิรุณ
,ใบเงินทอง แทนพระวิษณุกรรม , ใบมะยม แทนท้าวจตุโลกบาล , ใบ
ส้มป่ อย แทนพระจันทร์ , ใบมะนาว แทนพระอาทิตย์ , ใบมะกรูด แทน
พระเสาร์ , ใบหมากผู้ แทนพระภูมิ , ใบคูณ แทนพระพาย , ดอกบัวแดง
แทนพระอุมาเทวี , รวงข้าว แทนพระลักษมี , ดอกเข็ม แทน พระสุรัสวดี
พืชพรรณมงคลเหล่านี้ จะนำมามัดรวมกันด้วยด้ายขาวแดง และ แหวนมี
หัว เพื่อใช้ในการพรมน้ำมนต์ในพิธี
เทียนทำน้ำมนต์ = แทนแสงสว่างจากปรพรหมัน ทีเป็ นจุดกำเนิด
ของสรรพสิ่ง

20
พิธีไหว้ครูน้อย
โดย ภูมิ จิระเดชวงศ์
พิธีไหว้ครูของคนโบราณนั้น เป็ นพิธีที่รวมจิตรวมใจของศิษย์ใน
สำนัก รวมถึงญาติมิตรของครูอาจารย์ และบุคคลที่ครูอาจารย์เคยช่วย
เหลือ จะมารวมตัวกัน เพื่อแสดงความกตเวทิตา ต่อครูอาจารย์ที่มีชีวิตอยู่
ครูอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว รวมถึง เทพเจ้าผู้เป็ นเจ้าของวิชา ที่ได้
ประสิทธิ์ประสาทวิชานั้น ๆ มาตามตำนานความเชื่อ การไหว้ครู เป็ นพิธีที่
แสดงความกตัญญู ไม่ใช่พิธีของการเข้าทรง อย่างที่เห็นในปั จจุบัน ซึ่ง
เป็ นการผิดเพี้ยนหลงทางอย่างน่าใจหาย จนหลาย ๆ คน ดูหมิ่นถิ่นแคลน
พิธีไหว้ครูไปเลยก็มี
การเรียนวิชาความรู้ทุกประเภท เริ่มจากการเรียนหนังสือ ธรรมดา
จะต้องมีครู ภูมิใจว่า “ ศิษย์มีครู ” แม้มิใช่ทางตรง โดยทางอ้อมที่เรียก
กันว่า “ ครูภัคลักจำ ” ก็จัดเป็ นการได้วิชามาจาก “ ครู ” เช่นกัน
การไหว้ครูก็มาจากการมอบตัวเป็ น “ ศิษย์ ” เรียกกันว่า “ การ
ครอบ ” เมื่อครอบหรือมอบตัวเป็ นศิษย์แล้วต้องมีพิธี “ ไหว้ครู ” ผู้ใดไม่
ได้ครอบหรือมอบตัวเป็ นศิษย์ ผู้นั้นมักจะมีอุปสรรคนานาประการที่เรียก
ว่า “ ต้องธรณีสาร ” หรือ “ ต้องแรงครู ” อาจป้ำ ๆ เป๋ อ ๆ เสียสติ
เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั่นเอง
การไหว้ครู มีไหว้ครูสอนหนังสือ ไหว้ครูเวทมนต์ ไหว้ครูช่างต่าง ๆ
ไหว้ครูหมอดู ไหว้ครูหมอยา ไหว้ครูนาฎศิลป์ เป็ นต้น แม้แต่สมเด็จพระ
21
สัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ได้ตรัสรู้พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณอันสูงสุด
ด้วยพระองค์เองแล้ว ถึงกระนั้นพระองค์ยังทรงรำลึกถึงคุณดาบสผู้เป็ น
บุพพาจารย์มาก่อนแต่แรกเริ่มก่อนที่พระองค์ได้ตรัสรู้
การไหว้ครูแบ่งออกเป็ น ๒ ชนิด คือ
๑. ไหว้ครูน้อย
๒. ไหว้ครูใหญ่
การไหว้ครูน้อย
เป็ นการไหว้ครูประจำวันในเวลาประกอบพิธีทุก ๆ ครั้ง เช่น พิธีทำ
น้ำมนต์ พิธีปลุกเสกต่าง ๆ ย่อเครื่องบูชาสังเวยลง เหลือเพียงดอกไม้ ธูป
เทียน ยกตัวอย่างการไหว้ครูน้อย ต้องตระเตรียมคือ
๑. ขันครู ๑ ใบ ใช้ขันทองเหลือง ขันลงหิน หรือ ขันอลูมิเนียม
๒. กรวยใบตองยอดแหลม ๕ กรวย
๓. ของบรรจุภายในกรวยใบตอง ประกอบด้วย ดอกบัว ๕ ดอก , ธูป ๕
ดอก , เทียน ๕ เล่ม , หมากพลู ๕ คำ , ยาเส้น ๕ กระจุก , ข้าวตอก ๕
หยิบ โดยนำของเหล่านี้ ใส่กรวย อย่างละ ๑ ชิ้น ต่อ ๑ กรวย ( ในกรวย
ไหว้ครูหนึ่งใบ มีดอกบัว ๑ ธูป ๑ เทียน ๑ หมากพลู ๑ ยาเส้น ๑ ข้าว
ตอก ๑ )
๔. ผ้าขาว ผ้าแดง ขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้าอย่างละ ๑ ผืน รองลงที่ก้นขันครู
แล้วนำกรวยทั้ง ๕ ใส่ไว้บนผ้า
๕. เงินกำนลครู ถ้าโบราณใช้ ๑๒ บาท ( ค่าเงิน ๑๒ บาทในอดีตมีมูลค่า
มาก ถ้าเป็ นปั จจุบัน ให้ใช้เป็ น ๑๑๒ บาท , ๒๑๒ บาท หรือ แล้วแต่กำลัง
- ผู้เขียน )
เมื่อจัดขันครูเสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมดอกไม้ ธูป เทียน อีก ๒
สำรับ สำหรับบูชาพระรัตนตรัย และ บูชาครูบาอาจารย์ นำขันครูไปวาง

22
ในที่เหมาะ สมแล้วสำรวมจิตให้เป็ นสมาธิ จุดธูปเทียน กล่าวคำบูชาพระ
รัตนตรัยเสร็จแล้ว กล่าวคาถาต่อไปนี้ว่า

ตั้งนะโม ๓ จบ

กล่าวบทพุทธคุณ = พุทธังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สรณังคัจฉามิ อิ


ติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปั นโน สุคะโต
โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ
ภะคะวาติ.
กล่าวบทธรรมคุณ = ธัมมังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สรณังคัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปั สสิโก โอปะนะ
ยิโก ปั จจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ
กล่าวบทสังฆคุณ = สังฆังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สรณังคัจฉามิ สุ
ปะฏิปั นโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปั นโน ภะคะวะโต สาวะกะ
สังโฆ ญายะปะฏิปั นโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปั นโน ภะคะ
วะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญ
ชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ.
พุทธะบูชามหาเตชะวัณโต ธัมมะบูชามหาปั ญญะวัณโณ สังฆะบูชา
มหาโภคะวะโห ติโลกะเสฎฐัง อะภิปูชยามิ

ต่อไปให้สวดคาถาประกาศชุมนุมเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เพื่อมา
ช่วยอภิบาลคุ้มครองรักษา ณ ที่นี้

23
สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเปรัฏเฐ
จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา ชะ
ละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระจะนัง
สาธะโว เม สุณันตุ ฯ ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะ
กะโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ฯ
ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะตัง ครูอาจาริ
ยัง อภิปูชยามิ ทุติยัมปิ ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกา
เรนะตัง ครูอาจาริยัง อภิปูชยามิ ตะติยัมปิ ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณัง
คะโต อิมินาสักกาเรนะตัง ครูอาจาริยัง อภิปูชยามิ

จบแล้วกล่าวคำนมัสการดังนี้

วันทิตวา สุคะนาธัง พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ สาธุกัง นะโม


พุทธายะ ทิพพมันตรานัง ปะวักขามิ ยะถาพลัง ปั ญจะอักขรา นิชาตา นะ
โมพุทธายะ วันทะติ ฯ
นะมัสสิตวา อิสีสิทธิ โลกะนาถัง อะนุตตะรัง อิสีจะพันธนัง สาตรา
อะหังวันทามิตัง อิสีสิทธิ เวสสะ ฯ
วันทิตวา อาจาริยัง ครูปาทัง อาคัจฉาหิ สัพะกัมมา ประสิทธิเม
สัพพะอันตรายัง วินัสสันติ สัพพะสิทธิ ภะวันตุเม ฯ
มะอะอุ อธิกะมูลัง ตรีเทวานัง มหาศาสตรา อุอุ อะอะ มะมะ มัน
ตรา อุสาอะวา มหามันตัง มะอะอุโลปะเกเยยยัง อังการะเสวะราชิโน ตรี
อักขรานิ ชาตานิ อุณาโลมา ปะนะชายะเต นะโมพุทธายะ สัตถุโน ฯ
โองการพินธุนาธัง อุปปั นนังพรหมา สหบดี นามังอาธิกัปเป สุอาคะ
โต ปั ญจะปะทุมัง ทิสวา นะโมพุทธายะ วันทะนัง ฯ

24
สิโร เม พุทธะเทวัญจะ นะลาเต พรหมะเทวะตา หะทะยัง นารายะ
กัญเจวะ หะทะเว หัตเถ ปะระเมสุรา ปาเท วิสสะณุกัญเจวะ สัพพะกัมมา
ประสิทธิ เม ฯ
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิเตโช ชัยโยนิจจัง
สิทธิลาโภ นิรันตรัง สิทธิกัมมัง ภะวันตุเม ฯ
จบเบื้องต้นในคำกล่าวบูชา
ต่อไปให้สวดบทดังต่อไปนี้
๑. โองการสรรเสริญครู
๒. โองการชุมนุมครู
๓. มนต์เชิญอาคมเข้าสู่ตน
๔. โองการเทพชุมนุม
๕. โองการนารายณ์แสง
เมื่อกล่าวโองการต่าง ๆ พอสมควรแล้ว ก็ประกอบพิธีย่อยที่พึงปฏิบัติก็
จบพิธีไหว้ครูน้อยเพียงเท่านี้

การไหว้ครูใหญ่
ปกติจะจัดเป็ นพิธีรวมศิษยานุศิษย์พร้อมกันเป็ นพิธีใหญ่ จัดขึ้นปี ละ
๑ ครั้งเท่านั้น การดูฤกษ์เวลานิยมใช้วันพฤหัสบดีเป็ นหลัก ให้วัน
พฤหัสบดีตรงกับวันข้างขึ้นในเดือน ๖ หรือ เดือน ๙ เฉพาะในทางภาคใต้
นิยมอย่างนี้ ภาคอื่น ๆ อาจไม่เหมือนกันสุดแท้แต่ความเชื่อถือสืบทอดต่อ
กันมา
ขั้นตอนแรก เครื่องประกอบพิธี เครื่องสังเวยในพิธีการแบบไหว้ครู
ใหญ่ มีดังต่อไปนี้
๑. ขันครู แบบเดียวกับการไหว้ครูน้อย กล่าวคือ ใช้ขันลงหิน ขันทอง
เหลือง หรือ ขันอลูมิเนียมเป็ นหลัก ภายในบรรจุ ผ้าขาว ผ้าแดง ขนาด
25
เท่าผ้า เช็ดหน้าอย่างละ ๑ ผืน รองลงที่ก้นขันครู พร้อมด้วยกรวยไหว้ครู
๕ กรวย แต่ละกรวยประกอบด้วย ดอกบัว ๑ ดอก ธูป ๑ เล่ม เทียน ๑
เล่ม หมากพลู ๑ คำ ยาเส้น ๑ หยิบ ข้าวตอก ๑ หยิบ และ เงินกำนลครู
๑๒ บาท
๒. เครื่องกระยาบวด ๑ ชุด ประกอบไปด้วย แกงบวดฟั กทอง ,
แกงบวดหัวมัน , แกงบวดเผือก ,
แกงบวดข้าวโพด อย่างละ ๑ ถ้วย
๓. ผลไม้หวาน หรือ ผลไม้ตามฤดูกาล ๙ ชนิด ใส่รวมกัน ๑ พาน
๔. ขนมหวาน ๙ อย่าง (ขนมไทยมงคล หรือ ขนมพื้นบ้านก็ได้) อย่าง
ล่ะ ๑ ที่
( ๑ พานย่อม หรือ ๑ ถาดเล็ก )
๕. เครื่องธัญพืช ๑ ถาด
ประกอบไปด้วย ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแดง งาขาว และ งาดำ อย่าง
ละ ๑ ถ้วยเล็ก ๆ
๖. นมจืด ๑ แก้ว , เนยเหลว ๑ แก้ว , น้ำสะอาด ๑ แก้ว , น้ำหวาน ๑
แก้ว และ สุราขาว ๑ แก้ว
ใส่รวมในถาดเดียวกัน
๗. ขนมต้มแดง ๑ ถ้วย ขนมต้มขาว ๑ ถ้วย
๘. กล้วยน้ำไท ๑ หวี
๙. มะพร้าวอ่อนเปิ ดปาก ๑ ผล
๑๐. อ้อยหวาน ๓ ท่อน
๑๑. เผือกนึ่งสุก หัวมันนึ่งสุก อย่างล่ะ ๑ หัว ผ่าซีกให้เรียบร้อย
๑๒. บายศรีปากชาม ๑ คู่
๑๓. บายศรีต้น ๕ ชั้น , ๗ ชั้น หรือ ๙ ชั้น ๑ ต้น ( ถ้ากำลังไม่พอ ใช้
เพียง ๕ ชั้นก็ได้ )
26
๑๔. กุ้งพล่า ๑ จาน
๑๕. ปลายำ ๑ จาน
๑๖. หมากพลู ๙ คำ บุหรี่ ๙ มวน ใส่รวมกันในพาน ๑ ใบ
๑๗. ดอกไม้ ๙ สี ๑ พาน
๑๘. ข้าวตอกระคนดอกไม้ ๑ พาน
๑๙. แป้ งกระแจะจันทน์ ๑ ตลับ
๒๐. น้ำอบไทย ๑ ขวด
๒๑. เทียนขี้ผึ้งแท้ หนัก ๙ บาท (ถ้ามีกำลังก็เป็ นเทียนขี้ผึ้งหนัก ๑๖
บาท หรือหนัก ๓๒ บาท สูงสุดคือหนัก ๘๐ บาท ) ๑ เล่ม ( เทียน
ชัย )
๒๒. เทียนเงิน – เทียนทอง หนัก ๔ บาท ๑ คู่
๒๓. เทียนขี้ผึ้งแท้ หนัก ๓ บาท ๑ เล่ม ( ทำน้ำมนต์ )
๒๔. ธูปหอม ๑ ห่อ
๒๕. ผ้าขาวยาวขนาด ๒ เมตร คูณ ๒ เมตร ๑ ผืน สำหรับปูรองเครื่อง
สังเวย
การประกอบพิธีกรรม
เมื่อจัดเครื่องสังเวยครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว พิธีกรจุดธูปเทียน กล่าว
คำบูชาพระรัตนตรัย สมาทานศีลจบแล้ว ให้กล่าวประณามคาถาว่า
นะมามิ เทวาติเทวัง สัมพุทธัง โสตถิเทสะกัง นะมามิ อุตตะมัง
ธัมมัง สัตตานัง โสตถิยาวะหัง นะมามิ ธัมมะทายาทัง สังฆัง สุโสตถิการะ
กัง โสตถิยากะระวัตถูนัง นะมะการัสสะ เตชะสา หัญยัญตุปั ททะวาเนกา
ตะถา ตะถา อะนิษฐะกา อิฎฐา กันตา มะนาปะจา สัพพะโสตถี ภะวันตุ
เม ฯ
๏ สรวมชีพข้ายุคลบาท ขออภิวาทน้อมประนม สมพุทธเทพยดา
ล่วงเทวาทั่ววงษ์ ทรงแสดงความสวัสดี เจริญศรีตามระบอบ หนึ่งข้าขอน
27
อบพระธรรม สำหรับขจัดมืดมน สิ้นฉงนพ้นวิจิกิจฉา นำมาซึ่งศิริสวัสดิ์
แก่สัตว์ในไตรภพ หนึ่งข้าขอนบในพระสงฆ์ ผู้ดำรงธรรมทายาท แห่งมุนี
นาถจอมธรรม ทำสิ่งสรรพสวัสดี มีความชอบในตน เดชะผลเผื่อประณาม
พัสดุสามสิ่งเลิศ เป็ นที่เกิดศิริสวัสดิ์ จงขจัดอันตราย ความสุขกายจิต
พร้อม เดชะพระจอมไตรรัตน์ย้อม อยู่เกล้ากมลเกษม โสตถิเทอญ ฯ

กล่าวจบแล้ว พิธีกรเชิญท่านประธานจุดเทียนชัย จุดเทียนเงิน เทียนทอง


และ ธูปในกระถาง ๑๖ ดอก ในขณะที่ประธานจุดเทียนชัยนั้น พิธีกร
กล่าวคาถาจุดเทียนว่า

๏ พุทโธ สัพพัญญุตะญาโณ ธัมโม โลกุตตะโร วะโร สังโฆ มัคคะผะ


ลัฏโฐ จะ อิจเจตัง ระตะนัตตะยัง เอตัสสะ อานุภาพเวนะ สัพพะทุกขา
อุปั ททะวา อันตะรายา จะ นัสสันตุ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เม ฯ

ขั้นตอนที่สาม จบแล้วว่าคาถาอัญเชิญเทวดา
๏ สาธุสัคเค ข้าพเจ้าขออัญเชิญฝูงเทพยดาเจ้า ซึ่งสิงสถิตย์อยู่ใน
ฉกามา พจรสวรรค์ กาเม อยู่ในกามภพอนันต์จังหวัดวงศ์ จะรูเป
เทพยเจ้าดำรงอยู่ในอรูปภพ คิริสิขะระตะเฏ เทพยเจ้าอยู่ในห้วย
มหรรณพสิงขรเขตยุคลธรเขา จันตะลิกเข เทพเจ้าอันแน่นแนวเนืองนอง
ในอากาศ วิมาเน อยู่ในวิมานมาศรัตนมณเฑียร ทีเป เทพยเจ้าอยู่ในเกาะ
เกียนน้อยและใหญ่ รัฐเฐ เทพยเจ้าอาศัยในเรือนหลวง จะคาเม เทพยเจ้า
ทั้งปวงอยู่ที่บ้านน้อยแลบ้านใหญ่ ตะรุวะนะคะหะเน เทพยเจ้าอยู่ในหมู่
ไม้ไพรพฤกษาศาล เคหะวัตถุมหิเขตเต เทพ ยเจ้าอยู่ที่บ้านเรือนและไร่นา
ภุมมา เทพยเจ้าอยู่ในพื้นพิภพภูมิประเทศ จายันตุเทวา ข้าฯ ขออัญเชิญ
จงมาสโมสรประชุม ชะละถะละวิสะเม เทพยเจ้าอยู่ที่ลุ่มน้ำแลบนบกมิได้
28
เสมอกัน ยักขะคันธัพพะนาคา ทั้งยักษาและคน ธรรพ์นาคราชผู้เป็ นใหญ่
ติฎฐันตาสันติเกยัง เทพยเจ้าอยู่ทุกเกาะแก่งแห่งตำบล มุนิวะระวะจะนัง
ข้าฯ ขออัญเชิญพระฤๅษีทุกแห่งหนอันศักดิ์สิทธิ์ฤทธิรณด้วยเดชา สาธะโว
เมสุณันตุ ข้าฯ ขออัญเชิญเทพยดาอันเรืองเดช ซึ่งสิงสถิตย์อยู่ในอมร
พิมานเมศเมืองฟ้ า ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะ
กาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ข้าพเจ้าขอ
อัญเชิญท้าวเทเวศสิ้นขอบเขตจักรวาล จงมาสโมสรประสานกัน ณ ใน
สถานที่แห่งนี้ด้วยเถิด ฯ
๏ วันทิตตะวา อาจาริยะปาทัง เมสสะการิยะ สัมพินทะยายัง สัพ
พะโทสัง วินัสสันติ สิริเทพพะ เอยยาวิโย ทะยามัง มะเหสุรัง ปะทะวะสัง
วิสุทธะเทเวสสะ สัพโพทิพยะ สังเคมันตุมาระสิทธิ ฯ
๏ โอมพระภูมิ พระธรณี กรุงพาลี ตังเปยยะปะริวารา เอหิ สัตถายะ
อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สวาหายะ ฯ นะมามิ สิระสา นาโค ปะถะวิยัง
ปะริพาระโต สุคะสัมปั ตติ สัพพะทา ฯ
ปุริมะทิสัง ธะตะรัฏโฐ จะมะหาราชา ทิสาภาเค เตปิ ตุมเห อะนุรัก
ขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
อาคะเณยยัสมิง คันธัพโพ จะ มะหาราชา ทิสาภาเค เตปิ ตุมเห อะนุรัก
ขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะจะ ฯ
ทักขิณัสมิง วิรุฬหะโก จะ มะหาราชา ทิสาภาเค เตปิ ตุมเห อะนุรัก
ขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
หะระติสมิง เทวา จะ มะหาราชา ทิสาภาเค เตปิ ตุมเห อะนุรัก
ขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะฯ
ปั จฉิมัสมิง วิรูปั กโข จะมะหาราชา ทิสาภาเค เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ
อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะฯ

29
พายัพพัสมิง นาคะ จะ มะหาราชา ทิสาภาเค เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ
อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะฯ
อุตะรัสมิง กุเวโร จะ มะหาราชา ทิสาภาเค เตปิ ตุมเห อะนุรัก
ขันตุ อาโรคาเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
อิสาณัสมิง ยักขา จะ มะหาราชา ทิสาภาเค เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ
อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะฯ
สูปะพะยัญชะนะสัมปั นณัง ปะริภุญชันตุ ฯ
โอม นะโม พุทธะรัตตัง สะระณัง คัจฉามิฯ
โอม นะโม ธัมมะรัตนัง สะระณัง คัจฉามิฯ
โอม นะโม สังฆะรัตนัง สะระณัง คัจฉามิฯ
๏ อุปะริสมิง ทิสาภาเค จัตตาโร เทวา มหาเทวา จันโท จะ สุริโย
จะ อินโท จะ พรหมาโน จะ เสยยะถีทัง ทิโต จะ สุรักโข จะ เทวะเสฏโฐ
จะ เทวะปุญญะโก จะ เอเต จัตตาโรเทวา มหาเทวา พุทธะปั สสะนา
ธัมมะปั สสะนา สังฆาปั สสะนา พุทธะคาระวะตา เอหิ สะมาคันตะวา อา
คัจฉันตุ ปะริภุญ ชันตุ ทิโต จะ สุรักโข จะ เทวะเสฏโฐ จะ เทวะปุญญะโก
จะ จะรัง วา ฐิตัง วา ติดถังวา นิสินนัง วา สะยานัง วา ทิวัง วา รัตติง วา
สัพพะทา ตัง รักขันตุ มหาเทวาติ ฯ

ขั้นตอนที่สี่ จบแล้วว่าคาถาเทพชุมนุม ( ชุมนุมครู )


๏ พุทธังวันทิตวา ข้าพเจ้าขอไหว้ซึ่งพระพุทธคุณณัง ธัมมังวันทิตวา
ข้าพเจ้าขอไหว้ซึ่งพระธรรมคุณณัง สังฆังวันทิตวา ข้าพเจ้าขอไหว้ซึ่งพระ
สังฆคุณณัง อนึ่งข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า
คุณพระ สังฆเจ้า อีกทั้งคุณบิดามารดา คุณอุปั ชฌาย์ คุณครูบาอาจารย์
คุณพระฤๅษีนารอด คุณพระฤๅษีนาไลย คุณพระฤๅษีตาวัว คุณพระฤๅษีตา
ไฟ คุณพระฤๅษีประไลยโกฎิ คุณพระฤๅษีกัสสป คุณพระฤๅษีไกรภพ คุณ
30
พระฤๅษีทัศมงคล ทั้งพระเพ็ชรฉลูกัน และนักสิทธิ์วิทยา อีกทั้งนางพระ
ธรณี นางพระคงคา พระเพลิง พระพาย พระอิศวรผู้เป็ นเจ้าฟ้ า เธอมา
ประสิทธิพระพรชัยให้แก่ข้าพเจ้า ข้าพจ้าจะขออัญเชิญเทพยดาทั้งหลาย
ทั่วพื้นปฐพีดล พระฤาษีทั้ง ๑๐๘ ตน บันดาลดลด้วยสรรพสิทธิและวิทยา
พระครูพา พระครูเฒ่า ครูภัคและครูอักษรสถาพรกรรมสิทธิแก่ข้าพเจ้าใน
การบัดนี้เทอญฯ
๏ อิติปิ โสภะคะวา ข้าพเจ้าขออัญเชิญสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มาอยู่เกล้าเหนือผม ขอเชิญพระพรหมมาอยู่เบื้องบ่าซ้าย ขอเชิญพระ
นารายณ์มาอยู่เบื้องบ่าขวา ขอเชิญนางพระคงคามาเป็ นน้ำลาย ขอเชิญ
พระพายมาเป็ นลมปาก ขอเชิญพญานาคเป็ นสร้อยสังวาลย์ ขอเชิญพระ
กาฬมาเป็ นดวงใจ ข้าพเจ้าจะกระทำสิ่งใด ภูติพรายใดอย่าได้มา
เบียดเบียนบีฑา อย่าได้ประมาทพลาดพลั้ง ขออัญเชิญครูแห่งหนหลัง
พระฤาษีทั้ง ๑๐๘ องค์เดชะ คุณครูบาธิยายอันเลิศล้ำ คุณครูอยู่ในถ้ำจง
มาช่วยอวยพระพรชัยให้แก่ข้าพเจ้า พุทธังประสิทธิมหาประสิทธิ ธัมมัง
ประสิทธิมหาประสิทธิ สังฆังประสิทธิมหาประสิทธิฯ
๏ นะมัสสิตตะวา โลกะนาถัง มะนาปะกัปเป สุอาคะโต ปั ญจะปทุม
มังทิสวา นะโมพุทธายะ วันทะติ ฯ
๏ นะโมนะมัสการ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้ ถึงพระพุทธคุณัง พระธร
รมะคุณัง พระสังฆะคุณัง คุณแก้วสามประการ อันประเสริฐประสิทธิ์ยิ่ง
ทั้งคุณพระสิหิงค์ พระชินราชพระชินสีห์ พระศรีสรรเพชญพุทธเจ้า ตรัส
เหนือเกล้าเหนือเกศา แห่งข้าพระพุทธเจ้า จะทำการสิ่งใดขอให้ประสิทธี
พุทธังประสิทธิ ธัมมังประสิทธิ สังฆังประสิทธิ ฯ
๏ โอมสวัสดิ์นิตไกร พระเจ้าให้ไว้เป็ นทาน ทานบารมี ศีลบารมี
เดชะพึ่งพระอรหันต์ พระรัตนไตรทรงพระกรุณา โปรดส่งพระกัณฑ์ไตร

31
ทรงพระศรีอริยะเมตตรัย ปกเกล้าปกกระหม่อม ทรงพระอิศวรผู้เป็ นเจ้า
เทวาตั้งฟ้ าตั้งแผ่นดิน นางพระธรณีเจ้าข้าเอยจงช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด ฯ
๏ อัญเชิญครูเอ๋ย จงมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด อัญเชิญครูมาพลัน ๆ
กระ แจะจวงจันทน์ ดอกไม้มณฑา อัญเชิญครูต้นครูภัคเร่ง ๆ เร็วมา ครู
เรียกครูหาถ้อยคำ ยำ เกรง อัญเชิญครูต้นครูพักอย่าได้ขัดแข็ง ครูตน
ดำแดงมารับสังเวย ข้าวตอกดอกไม้ ข้าจะถวาย พระครูเอ๋ยมาเอาสังเวย
จงสิ้นทุกคน วันนี้วันดี ข้าพเจ้าจะทำการมงคล เชิญมาทุกคน ช่วยข้าด้วย
รา ขอให้ประสิทธีสวัสดีสวาโหม ฯ

ขั้นตอนที่ห้า เป็ นการเชิญครูตามกิจพิธี ถ้าไหว้ครูยา ให้ใช้บทไหว้ครู


หมอยา ถ้าไหว้ครูหมอดู ให้ใช้บทไหว้ครูโหร ถ้าไหว้ครูช่าง หรือครู
ไสยศาสตร์ ให้ใช้ตามบทบูชาในสายวิชาตน เป็ นการเฉพาะเจาะจงลงไป
เลย

บทไหว้ครูหมอยา ( เวชศาสตร์ )
๏ โองการพินทุนาถัง อุปปั นนัง พรัหมาสหะปตินามะ อาทิกัปเป สุ
อาคะโต ปั ญจะปทุมมังทิสะวา นะโมพุทธายะ วันทะนัง ฯ
ข้าขอประนมหัตถ์ พระไตรรัตน์นาถา ตรีโลกอมรมา อภิวาทนาการ
หนึ่งข้าอัญชลี พระฤๅษีผู้ทรงญาณ แปดองค์เธอมีฌาน โดยรอบรู้ในโรคา
ไหว้คุณอิศวเรศ ทั้งพรหมเมศทั่วชั้นฟ้ า สาปสรรซึ่งว่านยา ประธานทั่ว
โลกธาตรี ไหว้คุณกุมารภัจน์ ผู้เจนจัดในคัมภีร์ เวชศาสตร์บรรดามี ให้
ทานทั่วแก่ทวยชน ไหว้ครูผู้สั่งสอน แต่ปางก่อนเจริญผล ล่วงลุนิพพานดล
สำเร็จกิจประสิทธิพร ฯ
บทไหว้ครูโหราศาสตร์

32
๏ โองการพินธุนาถัง อุปปั นนังพรหมา สะหะปะตินามะ อาทิกัปเป
สุอาคะโต ปั ญจะปะทุมังทิสวา นะโมพุทธายะวันทะนังเสฏฐันติ ระตะนัง
โลเก วันทิตะวา ปะการะณัง อิมังเลขะสมุทยัง ปะริสายะ ยะถาพะลัง
ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอประณตน้อมนมัสการ คุณครูอาจารย์ผู้ฝึ กสอน
ให้เรียนรู้ปกรณ์ โหราศาสตร์คณะวิทยกิจ ขอสิ่งประสิทธิ์สรรพมงคล
สวัสดี จงมีแก่ข้าพเจ้า ผู้มุ่งกมลประสาทโสมนัส จัดผดงเจตน์บำบวงสรวง
สิทธิเคารพ นบน้อมพร้อมกายวจีจิต บรรจงสรรพสักการามิศ อุทิศแด่
ท่านบรรพครูโหราจาริย์ อ้างเดิมกาลพรหมทั้งสี่ มีกสิณพรหมเป็ นอาทิ
เหตุ ผู้บำเพ็ญญาณประเภทเลขคำนวนกิจ เสริมประสิทธิสฤษดิ์สรรพ
คัมภีร์ โดยวิถีทางโหราศาสตร์ ตั้งอสีติธาตุและสุริยาตร์สารัมภ์ สูริย์จันทร์
ประจำลักขณ์ราศี จักรทีปนีพยากรณ์ดาราศาสตร์ ทบทวนธาตุแบ่งปั น
ปั กษ์ดิถีวันเดือนฤดูกาล สิบสองฐานนพเคราะห์ รู้แม่นเหมาะพื้นภูมิพิภพ
แจ้งเจนจบญาณวิถี จงปราณีโปรดรับสักการ สรรพพิธานพลีกิจ ซึ่งจงจิต
น้อมอภิวันท์ สมประโยชน์พลันเจริญช่วย เอื้ออำนวยพรพิสุทธิ์ แก่กุลบุตร
ผู้ศึกษา ในโหราศาสตร์ปกรณ์ ทั้งผู้สอนและผู้เรียน จงเพียรเพิ่มพูลสวัสดิ์
ให้แจ้งจัดเจนจำทรง แม่นมั่นคงทุกคัมภีร์ ขออย่ามีวิปลาศ ด้วยอำนาจ
ประนอมนบ น้อมเคารพครูอาจาริย์ จงบรรดาลดลให้ ผู้ที่เรียนจงรู้ได้
สะดวกพร้อมสมประสงค์ ประสิทธิเทอญ
ข้าพเจ้า ขอกราบระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์ ทั้งหลายทั้งปวง ผู้ประ
สิทธิ ประสาทสรรพวิชาให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่ปฐมวัยจวบจนปั จจุบันทั้ง ครู
ท่องพักลักจำ ครูชี้ครูแนะ ครูตำรับตำรา ครูอักขระ ครูเลข ครูภาษา และ
ครูโหรา ศาสตร์

บทไหว้ครูช่าง ( วิศวกรรมศาสตร์ )

33
๏ นะโมอันว่านมัสการ มือข้าพเจ้าทั้งสิบนิ้วคือธูปเทียนทอง ตาของ
ข้าพเจ้าทั้งสองคือดวงแก้วอันเรืองฉาย ข้าพเจ้าขอถวายปวงพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าขอทำการ จงประสิทธิ์ทุกประการ พระพุทธคุณัง พระธัมมะคุณัง
พระสังฆะคุณัง โองการพินธุนาถังอุปปั นนัง พรหมาสะหะปะตินามะ อาทิ
กัปเปสุอาคะโต ปั ญจะปะทุมังทิสวา นะโมพุทธายะ วันทะนัง ฯ
โอมศรี ศรีสวัสดิ์ ข้าตั้งสัจจะเคารพ นบนอบน้อมบูชา แด่มหาเทพา
จารย์ แห่งศิปการหัตถกิจ คือองค์พระวิศณุกรรม ผู้แนะนำสั่งสอน ใน
ศิลปะกรการช่าง เป็ นเยี่ยงอย่างสืบมา แต่ในเวลาโบราณ จนถึงการ
ปั จจุบัน เป็ นวิชาอันเอกอุดม คนนิยมร่ำเรียนเพียรกระทำตามอย่าง จึงมี
ช่างกระทำการ งานสร้างสิ่งงดงาม ตามที่เป็ นอยู่นี้ เพราะธะชี้วิชาให้ ฯ
เชิญเทพไทอวยปั ญญา มาช่วยให้รู้พลัน ทั่วทุกอันง่ายยาก แม้จะ
ลำบากก็ดี ขออย่ามีจิตสะท้าน อย่ารู้คร้านสิ่งชอบ ให้ประกอบศุภผล ทุก
ประการดลสัมฤทธิ์ เมื่อชำนิกิจแล้วไซร้ แม้จักให้วิชา แด่ศิษยานุศิษย์ก็ดี
ขอจงมีผลประเสริฐ ก่อเกิดช่างสืบเชื้อ อย่ารู้เรื้อลืมหลง คงแต่เกษมถาวร
สรวมสมพรโสภณ จงมาดลดังถ้อย แด่ข้อยผู้เผดียงทูลฯ
หนึ่งข้าไหว้ครูช่าง มีต่าง ๆ แต่กาล สมัยโบราณสืบเชื้อ จงเอื้อเฟื้ อ
อวยผล พรมงคลให้สำราญ แด่ลูกหลานเหล่าช่าง ทั่วทุกอย่างในปั จจุบัน
ทุกสิ่งสรรพ์ศิลปากร ให้เจริญถาวรมาก สมพรปากข้าพเจ้าร้อง เชิญสรรพ
จารย์ซ้อง แซ่ให้ไชยเฉลิม โสตถิ์เทอญ ฯ

บทไหว้ครูคาถาอาคม ( ไสยศาสตร์ )
๏ อุกาสะ วิปฎิ ปฎิพาหายะ อุกาสะอาราธนานัง ครูอาจาริยัง อา
คัจฉันตุ ปริมันภะสัง ปูชนียัง สัมพะสิทธิ กะเรนะตุมัง สิทธิเตชัง สิทธิพลัง
สิทธิกิจจัง อะหังวันทามิ ตังสะทา ฯ

34
๏ โอมนะโมมนัสการ ข้าจะไหว้คุณพระอาจารย์สิ้นทั้งมวล ตั้งแต่
คุณท้าวมหาพรหม คุณพระนารายณ์ และคุณพระอิศวรเป็ นประธาน อีก
คุณดิน คุณลม คุณน้ำ คุณไฟ คุณอนุโลมปฎิโลม คุณอัสวาส คุณนิสวาส
คุณอากาศเป็ นปริโยสานชั้นที่สุด อีกทั้งคุณพระพุทธเจ้า คุณะธรรมเจ้า
คุณพระสังฆเจ้า คุณเทพเจ้า ตั้งแต่พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร
พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู พระเกตุบดี ขอบารมี
เป็ นที่พึ่งแก่ข้าเจ้า ทั้งนางพระธรณี นางพระคงคา นางพระเมขลา อัน
สถิตเที่ยวอยู่ในสาคร ทั้งหมู่เพทยาธรเธอเสด็จจรในอากาศ อีกคุณพระ
ฤาษีผู้ประสิทธิ์ประสาท ครูผู้รู้สมเวทและสมยา สรรพยา สรรพคาถา
และอาคมเธอเสด็จทุกสถาน ข้าพเจ้าจะขอนมัสการกราบไหว้ ขอให้
ข้าพเจ้าเชี่ยวชาญทั้งคุณว่านและคุณยา คุณมนตราและคาถา ขอให้เป็ น
ศรีสิทธิเดโชชัย ทั้งอักขระที่มีฤทธิ์ ทั้งนิคหิตที่เที่ยวไกล อักขระใด ๆ เชิญ
มาสถาพร ทุกพระเวทสโมสร พระอิศวรเธอถวายอวยพรประสาทประ
สิทธิให้แก่ข้าพเจ้ามา ทั้งคุณพระเวทและว่านยา สิทธิสัพพะสุขัง ภะวันตะ
เม ฯ

เมื่ออ่านโองการสรรเสริญคุณครูจบแล้ว ต่อไปนี้ให้สวดมนต์เชิญอักขระ
เวทมนต์คาถาเข้าในตัว เพื่อให้เกิดสวัสดิ์มงคลเวทมนต์คาถาขลังศักดิ์สิทธิ์
ประสิทธิเมอยู่ในตัว และมีผลสำเร็จอันพึงปรารถนา ก่อนที่ภาวนาปลุก
เสกสิ่งอันใด ว่าดังนี้

๏ เอหิคาถัง ปั ยังกาโย ทิศาปาโมกขัง อาจาริยัง เอหิพุทธานุภาเวน


ะ เอหิธัมมานุภาเวนะ เอหิสังฆานุภาเวนะ กูจะสูบพระคาถาทั้งปวงขึ้น
เหนืออก กูจะยกคาถาทั้งปวงขึ้นไว้เหนือเกศ พระครูกูเธอจึงให้กูเป็ นเอก
แก่คนทั้งหลาย เอหิคลาย ๆ ปิ ยังนะมะฯ
35
พุทธัง สะระหิโสมาเร สะระเอหิมาเร มาระ อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิฯ
ธัมมัง สะระเอหิมาเร มาระ อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิฯ
สังฆัง สะระเอหิมาเร มาระ อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิฯ
๏ กะขะคะฆะงะ จะฉะชะฌะญะ ฎะฐะฑะฒะณะ ตะถะทะธะนะ
ปะผะพะภะมะ ยะระละวะ สะหะฬะอัง ทรงอะ ทรงอา ทรงอิ ทรงอี ทรง
อุ ทรงอู ทรงเอ ทรงโอ ทรงเอา ทรงอัง ทรงอะ ทรงนะโมพุทธายะ ทรง
อักขระ ๔๑ ตัว โอกาเสติฎฐาหิ ติฎฐาหิฯ

ขั้นตอนที่หก ต่อไปพิธีกรกล่าวคาถาถวายเครื่องสังเวย ในระหว่างนี้ให้ผู้


ร่วมพิธีช่วยกันจุดธูป และ ปั กธูปลงบนเครื่องสังเวยทุกชนิด

๏ สูปะพยัญชนะสัมปั นนัง โภชะนานัง สาลีนัง อุทะกังวะรัง อาคัจ


ฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา หิตายะ สุขายะ ฯ

เมื่อพิธีกรกล่าวคาถาถวายสังเวยเสร็จ ให้เอาแป้ งจันทน์ผสมน้ำหอมเจิม


บายศรี เจิมตำราวิชา และ อุปกรณ์สำหรับวิชาชีพให้ครบถ้วน

ขั้นตอนที่เจ็ด รอให้ธูปมอดราวครึ่งดอก ให้กล่าวคาถาขอพร ดังนี้


๏ สัพพะทุกขะวินาสสันติ สัพพะภะยะ วินาสสันติ สัพพะโรคะวินา
สสันติ พุทธเตเชนะ ธัมมะเตเชนะ สังฆเตเชนะ อินทะเตเชนะ พรัหมะเต
เชนะ เทวะเตเชนะ ฯ
๏ ทิวาตะปะติ อาทิจโจ รัตติมา ภาติ จันทิมา สันนัทโธ ขัตติโย ตะ
ปะติ ฌายีตะปะติ พราหมะโณ อะถะ สัพพะมะโหรัตตัง พุทโธตะปะติเต
ชะสา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สุวัตถิ โหตุสัพพะทา ฯ

36
๏ สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิเตโช ชัยโยนิจ
จัง สิทธิลาโภ นิรันตรัง สิทธิกัมมัง ภะวันตุเม ฯ

จบแล้ว พิธีกรนำเอาพานข้าวตอกดอกไม้โปรยไปให้ทั่ว จากนั้นพิธีกรจึง


ทำน้ำมนต์สำหรับประพรมในพิธี

ขั้นตอนที่แปด พิธีกรจุดเทียนทำน้ำมนต์ ให้กล่าวคาถาดังต่อไปนี้


คาถาธรณีสาร
๏ สิโร เม พุทธะเทวัญจะ นะลาเต พรหมะเทวะตา หะทะยัง นารา
ยะกัญเจวะ หะทะเว หัตเถ ปะระเมสุรา ปาเท วิสสะณุกัญเจวะ สัพพะกัม
มา ประสิทธิ เม ฯ
คาถาอิติปิ โส ๘ ทิศ
๏ อิระชาคะตะระสา ติหังจะโตโรถินัง ปิ สัมระโลปุตสัตพุท โสมานะ
กริถาโธโส ภะสัมสัมวิสะเทภะ คะพุทปั นทูทัมวะคะ วาโธโนอะมะมะวา
อะวิสุนุสานุสติอะ ฯ
คาถาพระพุทธเจ้า ๑๐ ทิศ
๏ ปะทุมุตตะโร จะปุระพายัง อาคะ เณยเย จะเรวะโต ทักขิเณ
กัสสโป พุทโธ หรติเย จะ สุมังคะโล ปั จฉิเม พุทธะสีขี จะ พายัพเพ จะ เม
ธังกะโร อุตตะเร สากะยะมุนิ เจวะ อิสาเณ สะระณังกะโร ปะฐะวิยัง กุก
กุสันโธ อากาเส จะทีปั งกะโร เอเต ทะสะทิสา พุทธา ราชะธัมมัสสะ ปูชิ
ตา นัตถิ โรคะ ภะยัง โสกัง เขมัง สัมปั ตติ ทายะกัง ทุกขะโรคะภะยัง
นัตถิ สัพพะสัตตุ วิธังเสนตุ เตสัญญาเณนะ สีเลนะ สัญญะเมนะ ทะเมนะ
จะ เต ปี ตัง อนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
คาถาพระอรหันต์ ๘ ทิศ

37
๏ พุทโธจะมัชฌิโม เสฎโฐ สารีปุตโตจะทักขิเณ ปั จฉิเมจะอานันโท
อุตตะเรโมคคัลลานะโก โกณฑัญโญปูรพาเคจะ พายัพเพจะควัมปะติ อุ
บาลีหะระติฐาเน อาคะเณยยะจะกัสสะโป ราหุโลเจวะอิศาเณ สัพเพเต
พุทธะมังคะลาโยญัตวา ปูชิโก โลเก นินทุกโข นิรุปั ททะโว มหาเทโว ชัย
ยะโสตถี ภวันตุเม ฯ

จากนั้นต่อด้วยคาถาครอบว่า
๏ โอม กูจะครอบแผ่นฟ้ าและแผ่นดิน กูจะครอบพระสมุทรและ
สายสินธุ์ กูจะครอบพระอินทร์และพระพรหม กูจะครอบพระยมและพระ
กาฬ กูจะครอบพระจตุโลกบาลทั้งสี่ กูจะครอบทั้งตัวกู กูเป็ นลูก
ปู่เจ้าสมิงพราย ครูกูจึงใช้ให้กูเรียนคุณมนต์ แลจ่ามนต์ และพระยามนต์
อย่าได้ไปไกลจากตนกู โอมประสิทธิแก่ตัวกู สวาหะฯ

ต่อด้วยคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
๏ อิติปิ โสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตัง
พุทธะปิ ติอิ ฯ
๏ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธานุภา
เวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา, สัพพะธัมมานุภา
เวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆานุภา
เวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
จบพิธีทำน้ำมนต์

38
ขั้นตอนที่เก้า เมื่อทำน้ำมนต์เสร็จแล้ว จะแก้บายศรีประกอบหรือไม่ ถ้า
แก้บายศรีประกอบก็ให้เวลาแก้บายศรี หากแก้บายศรีเสร็จแล้ว หรือไม่
แก้บายศรี ให้กล่าวคาถาลาเครื่องสังเวยว่า
๏ เสสังมังคะลังยาจามิ ฯ

เมื่อกล่าวลาเครื่องสังเวยเสร็จแล้ว พิธีกรให้ลาเครื่องสังเวยอย่างละเล็กละ
น้อยใส่กระทงใบตองพร้อมธูปเทียน มอบให้ผู้ช่วยนำไปตั้งไว้ที่ทางสาม
แพร่ง ให้กลางลานโล่ง จากนั้นพิธีกรนำเอาใบพลูที่ไม่เด็ดก้านออก ๙ ใบ
เอาแป้ งจันทน์น้ำหอมที่ผสมไว้ทาใบพลู ถือใบพลูไว้ในมือแล้วกล่าวคาถา
ดังนี้

นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะ


วัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะ
วัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะ
วัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา.

เมื่อกล่าวจบแล้วนำเอาใบพลูนั้นรวบเข้าเทียนชัย ใช้ใบพลูขยี้ไส้จนไม่
เหลือควัน เสร็จแล้วพิธีกรจึงกล่าวกราบลาพระรัตนตรัย และประพรม
น้ำมนต์ไปทั่ว ๆ เป็ นอันเสร็จพิธี

พิธีกรรมการไหว้ครูที่นำมาเสนอในข้างต้นนั้น ผู้เขียนได้รับความ
อนุเคราะห์จาก อ.กีชา วิมลเมธี ประธานศูนย์แพทย์แผนไทย วัดศาลามี
ชัย จ.นครศรีธรรมราช เป็ นผู้ให้ข้อมูลมา ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่การไหว้ครู
39
หมอยา แต่ยังมีการไหว้ครูในแขนงศาสตร์ที่เกี่ยวข้องอีกสามสาขาอีกด้วย
ซึ่งผู้เขียน ขอสรรเสริญ และขอขอบพระคุณในความเมตตาของครูที่มีแต่
ให้ และเมตตาต่อศิษย์มาโดยเสมอ ไม่มีหวงแหนความรู้ใด ๆ เลย

โองการบรมสิทธิพราน (มหาปราบ)
ภูมิ จิระเดชวงศ์
โองการบรมสิทธิพราน (มหาปราบ) นี้ ผู้เขียนได้เขียนขึ้นและนำไป
ใช้ทุกๆครั้งเมื่อมีเหตุหรือภารกิจในการต้องเดินทางเข้าป่ าเขา ไม่ว่าจะ
เป็ นการเดินทางเพื่อเสาะหามวลสารต่างๆ การเดินทางเพื่อทำพิธีกรรมที่
เกี่ยวข้อง หรือการสำรวจต่างๆ ซึ่งใน ป่ า เขา ห้วย เหว ผา ถ้ำต่างๆนั้น
ล้วนมีความอันตรายทั้งสิ้น ทุกอย่างต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ตั้งอยู่
บนเจตนาที่ดีในการเข้าไป ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้าไปต้องมีความรอบรู้ มีพราน
ที่ชำนาญทาง ศึกษาพระเวทในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างรอบรู้และมีความ
ละเอียดเป็ นอย่างยิ่ง การเข้าป่ านั้น การเข้าไปไม่ได้ยากนัก แต่การกลับ
ออกมานั้นยากยิ่ง ทุก ๆ สิ่งต้องเรียนรู้ ทุก ๆ อย่างต้องมีความรอบคอบ
และมีสติอยู่ตลอดเวลา โองการบรมสิทธิพราน (มหาปราบ) เป็ นโองการที่
ได้นำไปใช้ในหลายครั้งและสามารถใช้ได้จริง ผู้เขียนจึงนำมาเผยแพร่
ทั้งนี้ขอให้ผู้ที่นำ ไปใช้ได้บอกกล่าวแก่ผู้เขียน ทั้งนี้เพื่ อให้เป็ นไปตาม
ครรลองของศาสตร์แห่งพระเวท ตามที่ทราบกัน
ด้วยความเคารพ ภูมิ จิระเดชวงศ์
40
โองการบรมสิทธิพราน( มหาปราบ )
๏ นะโมนมัสการ นะโมพุทธายะพระบรมไตรดาล ภูบาลชินสีห์ คุณ
พระพุทธเจ้า ปกเกล้าฝ่ าธุลี สิหิงค์มุนี กันเหนือเกศาอิติปิ โสวิเสเสอิ อิเสเส
พุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิ ติอิ , พระสูตรพระวินัย
พระปรมัตถ์ไซร้ คุ้มในกายา สิบสองพระปริตร สถิตย์รักษา อยู่รอบกายา
อย่ามีเภทภัย , พระอรหันต์เจ้า เดชะฝ่ าเท้า เข้าเป็ นธงชัย เดชะพระศรี
สงฆ์ ทุกองค์วิไล ป้ องรอบฉายไซร้ อย่าให้ระคาย , พระปั จเจกพุทธ เสวย
วิมุตติ ในถ้ำแพรวพราย ข้าขออาราธ เป็ นประภาสฉาย สรรพอัน ตราย มิ
กล้ำกรายมา , พระโพธิสัตว์ พระเมตไตรญตรัส สหัสฤทธา ขอมาเป็ นเดช
วิเศษพลา กำจัดมารา วินาศวินาย , คุณบิดรมารดา คุณพระกษัตรา ครู
ปาธิยาย ทิศาปาโมกข์ ทรงโชคทั้งหลาย ขอคุณท่านได้ คุ้มหลังกันหน้า ,
อิติปาระมิตาตึงสา อิติสัพพัญญุมาคะตา อิติโพธิมะนุปปั ตโต อิติปิ โสจะเต
นะโมคุณพ่อกันซ้าย คุณแม่กันฝ่ าย ที่อยู่เบื้องขวา ครูปาธิยาย อยู่บ่าย
เบื้องหน้า คุณพระกษัตรา อยู่เบื้องหลังฉัน , ปวงเทพพรหมา เข้ามารักษา
เป็ นมณฑลสามชั้น มาแวดมาล้อม มาห้อมมากัน อันตรายทั้งนั้น มิหาญ
บีฑา สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปั ตตา ปั จเจกานัญ จะ
ยังพลังอรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส
๏ โองการพินธุนาถัง อุปปั นนัง พรัหมาสหปตินามะ อาทิกัปเป สุอา
คะโต ปั ญจะปทุมัง ทิศวา นะโมพุทธายะ วันทะนัง โอมประสิทธิการ
พระเจ้าภูบาล พระมเหศวร ทรงเป็ นจอมพราน พระกีราเตศวร ทรงคันศร
ล้วน มหาโลกโมฬี สิโรเมพุทธะเทวัญจะ นะลาเฎพรัหมะเทวตา หทะยัง
นารายะกันเจวะ เทวะหัตเถ ปะระเมสุรา จะปาเทวิสสุกันเจวะ สรรพะกัม
มา ประสิทธิเม , อิอะสังวิสุอะสะพุติ พระกีราเตศวร ทรงบัณฑูรถ้วน ฝูง
เทพเทวี ให้มาบำหราบ ปราบเภทกุลี ปราบถ้วนอัปปรีย์ ให้วินาศมรณา ,
41
สะจะนะกะโต พระกีราเตศวร ผู้เป็ นบวร แก่ฝูงพรานหนา ท้าวเธอ
แผลงศร นามกรชื่ อว่า ปาศุปตา ประหารเภทภัย , ถัมภูปิ องค์พระ
นารายณ์ ทรงจักรพรรณราย ตัดศออสูรไซร้ ตัดเคราะห์ตัดขัด ตัดวิบัติโรค
ภัย ตัดสิ้นทันใด ด้วยฤทธิ์จักรา , เมกะมุทุ พระพรหมปิ่ นด้าว จตุรพักตร์
อะคร้าว เธอทรงคทา ชี้ฝูงอุบาทว์ วินาศอัปรา ผีครูผีบา หนีท้อระทาย
สะหะชะฎะตรี , ติติอุนิ พระนางจัณฑี แปดกรร่อนรี่ ถือตรีศูลฤๅสาย
ประหารรากโษส โคตรอสุรกาย ปี ศาจทั้งหลาย ย่อมหนีหายไป ,ปะสะนะ
วา พระวีรลักษมี ทรงพระแสงจักรตรี ประหารคุณไสย คุณผีคุณคน คุณ
มนต์ดลภัย ละลายประลัย วินาศอัปรา , ปาสุอุชา พระนางคายตรี ทรง
เภทคัมภีร์ กำจัดอวิชชา ผีขอมผีครู ผีรู้วิชา เวทยาธรา ย่อมพ่ายแตกพ่าน
, ทุสะนิมะพระพุทธคิเนศ พระพุทธคินาย สองท้าวภูบาล ถือหอกถือ
ขวาน ประหารหมู่มาร หมู่อันธพาล รานแตกวินาศ , จิปิ เสคิพระมยุเรศวร
โกญจณาเณศวร ทรงล้วนยุทธมาศ สังหารอสูร ประยูรปี ศาจ ถึงแก่วินาศ
วินายทันที , อิสะวิระมะสาพุทเทวาพระอินทร์ทรงคช ถือวิเชียรยศ
ประหารฝูงกุลี พระเพลิงทรงแรด ทรงไฟแสดสี สาดลงฝูงเปรต เผาผลาญ
ละลาย , พระยมเรืองเดช ท้าวเธอเผยเนตร แพร่งเผาอสุรกาย พระนิรฤตี
เจ้า ท้าวผู้ฤๅสาย ประหารภูติพราย มารร้ายสิ้นใจ , พระพิรุณทรงนาค
เธอทรงบ่วงบาศก์ มากำจัดคุณไสย พระพายทรงกวาง ย่างทั่วแดนไตร
ประหารคุณภัย คุณเทพอันธพาล , พระไพรศรพณ์ทรงม้า เหาะทะยาน
หล้า ประหารภูตา พระอิศาณเจ้า ท้าวทรงอุสุภา ประหารโรคา โรคภัยทั้ง
สิ้น ,เตชะสุเนมะภูจะนาวิเว พระเวสหนูกัน เธอถือพระขรรค์ มาฟั นโหม้
ชิน ชินร้ายชินพาล อัปรานวายวิ่น ชินฟ้ าลมดิน ริ้นหนีลี้สูญ , สังวิธาปุกะ
ยะปะพระมาตุลี พระอรชุนภูมี พระรามสูร เธอถือตระบอง คันศรกระสูญ
ยิงปวงอุบาทว์มูล กลับหายทันใด , นะมะพะทะพระกาฬพาลราช ทรงนก
แสกผาด บาดประหารคุณไสย พระจิตรคุปต์ มาคุ้มป้ องภัย คุณวิทยาไซร้
42
พ่ายหักยับตา , สังวิธาปุกะยะปะ พระเทวบิฐเทวกรรม์ สองผู้เลิศล้ำ มา
กำจัดสัตตา พระเทวริงค์เทวรุทธ์ มาหยุดโรคา มะเร็งอาพาธา ไข้ป่ า
สูญหาย , ทีมะสังอังขุ องค์พระพลเทพ ท่านถือคันไถ กำจัดภูติพราย พระ
กามเทพ ท่านกำจัดฝ่ าย ปี ศาจตัวร้าย วินาศขาดไป , เสพุเสวะเสตะอะ
เสพระวสุเทพ แปดองค์ไทท้าว เข้าพิฆาตภัย แก้พิษแก้พาธ แก้คราสแก้
ภัย แก้ภาพพยนต์ตรัย แก้อาถรรพ์นานา , ทาสีเนปะวิขะสะอะเมอุพระ
วิศวเทพ สิบองค์ท้าวไท แก้เสดียดนานา เดียดดินเดียดน้ำ เดียดลามเดียด
ป่ า เดียดสัตว์เดียดผา เดียดแร่เดียดครู , จะภะกะสะพระปรชันยะศรี
พระประชาบดี สองเจ้าโฉมตรู ถือพระขรรค์เพชร เผด็จศัตรู พาลเคราะห์
ทุกหมู่ ลี้ออกนอกจักรพาฬ , สะธะวิปิ ปะสะอุ พระธัตวันตรี พระอัศวินศรี
พระชมพูพาน สามท่านเจ้ายา เข้ามาประสาน รักษาโรคพาล ภายใน
ภายนอก , แก้ไข้พิษกาฬ แก้ไข้วายปราน ไข้ฆาฎย้อนยอก แก้ไข้หัวลม ไข้
ตกไข้ออก ไข้ฝี ระลอก ไข้ทุกภาษา , อาปามะจุปะ หะนุมานะ พระหนุ
มาน พระหิมพาน์ ทรงฤทธิ์อิทธา พระภีมเสน พระเวนไตยยา สี่ท้าวเทวา
เข้ามาชุมนุม , กะระมะถะ ปราบปลักปราบแปลง ปราบโป่ งพิษแสลง
ปราบแหล่งชินชุม ปราบปลงปราบเปรว ปราบเหวกลัดกลุ้ม ปราบที่
ชุมนุม ภูติพรายกำดัด , อะนิยะนิ พระวิศณุกาล พระวิศณุญาณ พระวีร
ภัทร สามไท้ยักษา เข้ามากำจัด อุบาทว์เภทสัตว์ อุบาทว์ทุกประการ , สะ
ยะสะปะยะอะจะ เชิญพระอาทิตย์ พระจันทร์เรืองฤทธิ์ พระอังคารกล้า
หาญ พระพุธศุภัส พระพฤหัสทรงญาณ พระศุกร์ภูบาล พระเสาร์รูจี ,
เจ็ดไท้เทวา เสด็จรักษา โลการาศี กำจัดเคราะห์ภัย จังไหรกาลี เคราะห์
เจ็ดทักษี ย่อมท้อลี้หาย , นะมะอะอุพระราหูทรงยักษ์ ถือค้อนประจักษ์
กำ จัดอันตราย พิฆาตเคราะภัย จังไหรภูติพราย รากโษสแทตย์ทาย
ละลายหมดสิ้น , อะระหังสุคะโตภะคะวา พระเกตุธิราช ทรงนาคพิลาศ
ไกวพระขรรค์ทิน กำจัดฤกษ์ร้าย กำพลายเพิกผิน ฤกษ์เพลิงทักทิน อัคนิ
43
โรธนานา , นะสะมิเห โอมท้าวธตรัฐ อีกพระภุมมัส ท้าวทศรถถา กำจัด
เภทป่ า เภทหล้าเภทฟ้ า เภทไพรพฤกษา วินายหายขาด , ท้าววิรุฬหก
เหาะหาญผ่านผก ท้าวทุมราช กำจัดเภทไม้ เภทพรายอากาศ เภทสายฟ้ า
ฟาด เภทธาตุกายสิทธิ์ , ท้าววิรุฬปั กข์ นาคาพิทักษ์ ท้าวภุชงค์ฤทธิ์ สอง
ไท้นาคา มากำจัดพิษ พิษสัตว์แลไข้พิษ พิษพืชพิษเกร็ด , ท้าวเวสสุวัณ
ท้าวเวสสุญาณ ถือตระบองเพชร มากำจัดผี ปี ศาจถ้วนเตร็จ ประหาร
สำเร็จ ภูติพรายยักษา อะสิสันติปะภัสมิง , โพอะวะนิตะละ ชุมนุมโฉมศรี
พระนางธรณี พระนางคงคา แม่โฉมสุรางค์ พระนางเมขลา โพสพมารดา
พระสาวิตรี , พระนางราตรี พระโภควัชดี พระอรัญญาณี พระจามุณฑา
มาตฤเทวี พระนางเมธี พระนางอทิตี , สิบสองฉายา เชิญมากำจัด วิบัติ
กาลี อุบาทว์ดินอุบาทว์ภพ จบทั่วธาตรี ขอแม่ราศี ชำระล้างโทษ , ล้าง
เคราะห์ล้างขัด ล้างคำผูกมัด ล้างทั้งพรหมโหด มล้างแฉนง แต่งอิฐถ่วง
โสด ล้างทั้งลูกโหวด ลูกลมพรมยา , กุมมิภุมมิ เดชะพระภูมี เจ้ากรุงพาลี
บริถิวราชา พระกัมภูฉัตร พระพนัสเจ้าป่ า พระสมุทรา มหาไชยมหาลาภ
, แปดเจ้าปถวี กำจัดภูติผี เจ้าไพรเจ้าปราบ ผีคุณผีมนต์ ผีกลบำหราบ
เชิญท้าวมาปราบ สรรพภัยเภท , หังโธโนโตทูโรชินังติ พระอรุณพระมิตร
สองท้าวสถิตย์ ที่จักรวาลขอบเขต มากำจัดภูติ มากำจายเภท ผีชินผีเปรต
มิให้บีฑา , ถะกะจะนา พระพิราพกาสี พระภัทรกาลี ทรงเดชอิทธา กำจัด
อุบาทว์ ราชภูตมารยา ปี ศาจแทตยา วินาศหายเภท , พามานาอุกะสะนะ
ทุฤๅษีนารอท ฤๅษีนาลัย ฤๅษีกบิลเนตร ฤๅษีโคดม ฤๅษีพรหมเมศ ฤๅษีสุ
เรศน์ ฤๅษีโคบุตร , ฤๅษีประลัยโกฎิ ฤๅษีบรมโกฎิ ผู้ทรงวิมุตติ ฤๅษีวสิษฐ์
สวามิตรพรหมบุตร พระกัสสปฤทธิรุจ ฤๅษีไกรภพ , ฤฤๅฦฦๅ ถ้วนพระมุนี
สิบสี่ฤๅษี ท่านมาบรรจบ เข้ามาเสริมเดช พระเวทถ้วนครบ ขอยอเศียรนบ
มาเพิ่มเดชา , ขอพระอาจารย์ ดานธรณี สาร ดานคุณวิชา คุณไสยทุก
ประการ ดานซึ่งคุณมาร สิทธิพระอาจารย์ ท่านให้ดานคุณคน , อะมะรา
44
จะสังกัฎสังปั ญ เดชะปู่เจ้า สมิงคาอะคร้าว มาจำเริญผล ปู่เจ้าสมิงพราย
มาร่ายเวทมนต์ อีกหนึ่งเจ้าดล ปู่เจ้าสายฟ้ า , ปู่เจ้าเขาเขียว ปู่เจ้าเขา
หลวง เป็ นเจ้าภูผา ปู่เจ้ากวาง ทอง ลอยล่องกันมา อีกท้าวเทพา ปู่เจ้า
กำแหง , ปู่เจ้าสิงขร ปู่เจ้าสมอคอน ปู่เจ้าสมอแครง ปู่เจ้าปกรรมบดี ท่าน
มีฤทธิ์แรง ปู่เจ้าประสิทธิชัย มาแถลงเดชา , ละลิละอุอะวะสะหัง สิบสอง
ปู่เจ้า ขอเชิญท่านเข้า ประดานภยา คุณคนคุณหนัง หุ่นฝั่ งธารา คุณอิฐ
แต่งมา ให้หมดสูญหาย , คุณไพรคุณว่าน คุณมนต์คุณญาณ คุณภูติคุณ
พราย คุณปวงอารักษ์ พิทักษ์ฤๅสาย ขอจงสลาย ท้อทายพ่ายตัด , พุทธะ
สังมิพระอาเตรยา เป็ นครูเจ้ายา พระกุมารภัจน์ ท่านให้มาแก้ ปูนเพชรแล
กำดัด มนต์เขาผูกมัด ให้ขาดทันใด , กะระสะติ พระประโคนทัพ พระอุ
เทนธิราช เป็ นครูเทพไซร้ ท่านให้มากัน มันตร์พวกสัตว์ไพร อาถรรพ์ถ้วน
ใน ป่ าดงพงพี , การะวิโก พระสิทธิเทพกรรม์ ครูหมอเฒ่านำ พระโภควัน
ดี ท่านมาสะกด จตุบทปั กษี ทวิบาทที่มี ให้หมดความพาล ,มะติยาโน อี
กนายหมรูนขวา หมรูนซ้ายครูข้า พรรคพวกอาจารย์ ครูปาธิยาย ทุกฝ่ าย
ภิบาล กำจัดภัยพาล คุณมารคุณคน , เดชคุณนายหมรูน อาจารย์จำรูญ
กำจัดฝูงมนต์ คุณเภทคุณเดียด คุณเภียดทั่วสกล อย่าได้ต้องดล คุณเขา
ทำมา , กาละกัญชามะหาภิสะมาเดชะเทวา ดาบสสิทธา ถ้วนจบภพตรา
เก้าโกฎิเก้าล้าน เก้าแสนเก้าหมื่น เก้าพันเก้าร้อย เก้าสิบเก้าเทวา ช่วย
ผลาญภยา ทุกข์โศกโรคา ให้วินายสายสูญ โอม สิทธิพรหมะ สิทธิเทวะ สิ
ทธิโลกะปาละ สิทธิอาจาริยะ ประสิทธิทุเร มหาทุเร สารพัดทุเร สวาหาย
๏ โอมศิวายะ ฤทธีเดชะ พระวยาเธศวร เธอทรงแผลงศร ปราบสิ้น
ภพผวน พระพรานอินศวร แผลงศรสามศรี มะอะอุ อะธิกะมูลัง ตรีเทวานั
งมหาศาสตรา อุอุ อะอะ มะมะ มันตรา อุอะสะวามหามันตัง มะอะอุ
โลปะเกเญยยัง องการะเสวะราชิโนตรีนิอักขรานิ ชาตานิ นะโมพุทธายะ
สัตถุโน , ปะสิสะ ศรหนึ่งพรหมมาสตร์ ประหารปี ศาจ เงือกเงี้ยวฝูงผี
45
รากโษสทานพ ลี้หลบสิ้นประดี ด้วยเดชรูจี พรหมมาสต์ผลาญมาร , อิสวา
สุ ศรสองอัคนิวาศ ผลาญอัคคีสาด ประหารภูติพาล ประหารสัมภเวสี
ปี ศาจทุรกาล ให้ย่อท้อระทาน วินาศวินาย , มะอะอุ สามศรปาศุปั ต
แผลงขึ้นกำจัด นางไม้แพวพราย คนธรรพ์เทพพาล หมู่มารทั้งหลาย ย่อม
ต้องสลาย ต้องศรอิศรา , พระวยาเธศวร เธอตั้งพลพวน พลพรานถ้วน
หน้า มาปราบเภทภัย จังไหรในโลกา ให้ม้วยอัปรา ละลายหายลง , นะมะ
นะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง พรานอินศวรท่าน ตั้งพญา
พราน เป็ นจอมเจ้าวงศ์ พญาพรานลือ ถือศรฤทธิรงค์ ประหารผีดง ผีป่ า
หล้าไพร , นะอิมะอะ กะทะอุอะ อะกะมะอิ กะอิมะสะพระพรานหลวง
พราน ทั้งตาขุนพราน ประหารคุณไสย คุณมนต์คุณมบ คุณมารยาไซร้
คุณเภทใดใด มิอาจระทาน ,อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะหมื่
นพรานพันพราน สองท้าวชัยชาญ ถือพร้าถือขวาน มาเบิกป่ าเบิดดง เบิก
พงหิมพานห์ เบิกยาเบิกว่าน เบิกทางมรรคา , ปาอิอาปะ หมื่นพรานพัน
พราน แลตาหมู่พราน ประชุมโยธา กำจัดผีโป่ ง ผีโพรงกาลา ผีกระผีกล้า
ผีหล้าธารา , ทุมอะ ทุมยะ ปุสะอะสุ พุสะปะปุ ทุมทุมทุม เดชะพรานบุญ
ถือคันกระสุน ท่านวิ่งนำหน้า ปราบเภทอุบาทว์ ปราบปี ศาจนานา ปราบ
เจ้าพฤกษา ภูผาหมื่นโยชน์ , นะวะธัสสะ พรานพรหมพรานเพชร สองเส
นาเตร็จ ถือหอกเรืองโรจน์ ปราบโป่ งปราบปลัก ปราบหลักปราบโหด
ปราบเหวปราบโภต ปวงพวกมารยา , สิวังพุทธัง พรานอินทร์พรานเอียด
ถือโตมรเภียด ปราบสางสัตว์ป่ า สางดงสางถ้ำ สางง้ำเหวผา ย่อมม้วย
มรณา ด้วยฤทธีครู , อะหังนุกา พรานจันทร์พรานจอม ถือง้าวทวนย่อม
ปราบผีอดสู ผีตราบผีตรบ ผีหลบซ่อนอยู่ รานทั้งสองสู สังหารทันใด ,กา
ละมัจจุ พรานแย้มพรานยม ถือกริชเด้งคม ปราบปรงปราบใหญ่ ปราบ
ลานนกหว้า พฤกษาโพธิ์ไทร ตะเคียนพยอมไซร้ ย่อมหนีลนลาน , เนนุนิ
นะ ยังพรานสุรีย์ ถือแก้วเรืองศรี เรียกสัตว์นานา ทั้งพรานสุรินทร์ มี
46
มนตร์จินดา ท่านเรียกสัตตา มาประชุมพล , ปะนะปะเถ พรานกาฬพราน
กัน ถือหน้าไม้คัน ชน็อกฤทธิ์รณ ประหารคุณของ คุณปล้องคุณมนต์ คุณ
ผีคุณคน คุณเวทนัปนา , นะออยอฦา พรานทิพย์พรานเทพย์ ถือหอกถือ
ทวน ประหารสัตตา ปราบจตุบาท ทวิบทสัตตา เสือช้างเหรา เงือกงูวันทา
, อะงะสะ พรานมั่นพรานแม็ง ถือหอกสองแพร่ง ประหารมหิงสา เสือหมี
หมูเถื่อน เงือกเงื่อนนานา สัตว์ย่อมระอา พ่ายแพ้ฤทธี , นุภาวะโต พราน
ฉายพรานกลาย ถือพลองถือหวาย ไล่แชงมดผี ผีเปรตผีพง ผีดงกุลี ผีเปร
วป่ าที่ ให้ลี้ระทาย , อิกะวิติ พรานร่มพรานรงค์ ถือดาบถือปื นทรง
คุ้มครองสองฝ่ าย ประหารผีกระ ผีกล้าผีพราย นางไพรนางไม้ สูญหาย
ทันที , ยุวาพะวา พรานควนพรานคง ถือเด้งกริชตรง สังหารหมู่ผี ปี ศาจ
ชั้นต่ำ พวกสัมภเวสี ถูกประหารทันที ไม่มีพ้นภัย , ญะงะนะมะ พรานบน
พรานบาน ถือง้าวสังหาร คุณมบคุณไพร ปราบทั้งคุณเภท คุณเภียดจัง
ไหร คุณอาถรรพ์ใดใด มิได้ระทาน , นะหิโลกัง พรานกุนพรานกล่ำ ถือ
ตะบองค้ำ ง่าบองสังหาร เจ้าโหดเจ้าเหว เจ้าเปรวเจ้าด่าน เจ้าธรณีสาร
สะท้านระคาย , ทุสะนะโส พรานทองพรานเถียร ถือดาบจำเนียร ถือทั้ง
คันหวาย หวดไล่ฝูงเปรต ฝูงเภทอสุรกาย ฝูงมารทั้งหลาย ย่อมพ่ายระบิล
, วายะละภะ พรานโชคพรานชัย ถือมีดปื นไฟ ท้องไปทั่วถิ่น ปราบฝูงผี
ล่อง ผีลมผีชิน ผีทั่วพฤกษิณ พ่ายแพ้ยับตา , ทุสะมะนิพรานแช่มพรานชื่น
ถือศรถือปื น ยิงสรรพยักษา ผีไพรผีโพลง ผีโป่ งว่านยา ถอยหายพ่ายพา
มิได้รังควาญ , อิธะคะมะ พรานรื่นพรานเรื้อย ถือดาบถือเดือย คว้าอาวุธ
สังหาร ไข้โป่ งไข้ป่ า ไข้หล้าไข้กาฬ ไข้ฆาฎสุราญ ไข้พาลหายดี , นะระ
วาระ พรานดำพรานแดง ถือหลาวแหลนแผลง สังหารกาลี หลาวเหล็ก
กาลทัณฑ์ ยมขันธ์อัปปรีย์ ผีหลวงตัวดี ย่อมลี้สูญหาย , อุกะกานัง พราน
ขาวพรานแคง ถือธนูสำแดง ปราบมาราหาย ปราบพวกพับแพว กายแก้ว
แชงพราย คนธรรพ์ทั้งหลาย ลับแลหายสูญ , เมอะมุอุ พรานเสกพรานสุก
47
ถือพะเนินดาบมุก ปราบผีหน้าทูน ผีผาผีห้วย ผีหานประมูล ล้วนแล้วหนี
สูญ ต้องม้วยมรณา , อาปานุติ พรานสมพรานชม ถือตรีฉมวกชม ปราบ
ห้วยเหวผา ปราบหานปราบหุบ ปราบสระปราบสา ปราบเตียนปราบหล้า
ปราบบึงปราบบ่อ , เตชะสะติ พรานชั้นพรานเชนทร์ ถือมีดครูตระเวน
ปราบสายแร่ล่อ ปราบแร่ปราบปรอท ปราบรอดพะนอ ปราบเหล็กไหล
หล่อ เหล็กหลบไผ่ตัน , อะหันติโก พรานเสนพรานเหมน เที่ยวท่องล่อง
เลน ปราบเภทพิศัล นางพงนางไม้ นางไพรทั้งนั้น คนธรรพ์สารพัน ย่อม
วันทนา , สะกะจะพาหุ พรานเฒ่าหน้าทอง ถือปื นหอกคล้อง สังหารอสุ
รา พรานรองหน้าแดง ผลาดแผลงเดชา ถือศรสุรา แผลงปราบเภทภัย ,
อิสะปะมิ เจ้าพรานหน้านวล พรานหน้าเนตรสวน ถือพระแสงไสย มาเปิ ด
ดงเปิ ดป่ า เปิ ดฟ้ าเปิ ดไพร เปิ ดถ้ำเปิ ดไผท เปิ ดจบโลกา , สีหะนาถัง ตา
พรานหน้าผี พรานหน้าโพธิ์ศรี ถือศรคันผา ท่านมาเบิกดง เบิกพงเบิกป่ า
เบิกดินเบิกฟ้ า เบิกสมุทรน้ำไหล , กะขะชะนะ พรานน้อยสิงหล พราน
นาถวิมล ถือขอช้างไซร้ ปราบผีขอมครู ผีสูเจ้าไพร ผีเภทน้อยใหญ่ วินาศ
อัปรา , อุทธังอะโธ พรานโคตรบาดาล พรานโคตรกุมาร ถือทวิวุธจักรา
ปราบพวกนางไพร จังไหรพฤษา พวกถ้ำพวกผา มลายหายหนี , เมกะมุทุ
พรานเทียมพรานทิม ถือขวานพรายพริ้ม มือหนึ่งถือตรี มาปราบเปรวร้าง
เปรวห้างด่านคลี ช่องเถาเนาว์ผี อัปปรีย์ละลาน , โสสะอะนิ พรานพิม
พรานพุ่ม ถือพร้ามาคุ้ม กันธรณีสาร กันปวงอุบาทว์ ราชภูตหมู่มาร เดชะ
ตาพราน ผลาญเภทประลัย , จะอะภะคะ พรานผินพรานแผน ถือดาบส
องแขน ฟาดสายฟ้ าใส่ ดานเภทบ้านเมือง ดานเรืองอุบาว์ไฟ อุบาว์ฟ้ า
พาไล หายไปวับตา , ปะถะวิยัง พรานแม้นพรานเมือง ถือทวนถือเทือง
ถือขวานถือพร้า ปราบเภทดินดอน ดินมรณ์ป่ าช้า ปราบดินกาฬา ดินหล้า
ร้อนรน , วาละกะโต พรานเรืองพรานร่วง ถือกริชโชติช่วง เหาะเหิน
เดินหน ท่านมาปราบชิน ผายผินฤทธิรน ชินฟ้ าเบื้องบน ผีเมฆหลีกหาย ,
48
เวสะพุสะ พรานไกรพรานแก้ว ถือตระบองแกล้ว ผลาญผีไพรหาย ผีป่ าผี
ดง ผีพงระคาย ผีเขาสลาย ตายด้วยธอธม , นาสังสิโม พรานวันพราน
แหวน ถือทวนรำแพน ถือตะบองสม ปราบโหม้แฉนง ทมบลูกลม พรม
โหดกาหยม คัดหายคลายสูญ , วิระสะติ พรานแดนพรานดัน ถือดาบพร้า
ฟั น เสดียดทั้งมูล เดียดดินเดียดไม้ เดียดพรายเที่ยวทูน เดียดครูหายสูญ
ด้วยฤทธิ์ท่านครู , กันหะเนหะ พรานร่วงพรานรุ่ง แผลงศรหมายมุ่ง มา
ปราบริปู พิฆาตกาลี อัปปรีย์ศัตรู วินาศขาดสู พ่ายแพ้ราบคาบ , สุนะ
โมโล พรานขวาพรานขวัญ ท่านถือหน้าไม้ ถือธนูกำซาบ มาแผลงสังหาร
พวกอันธพาล ศัตรูหมู่มาร ล้มตายหายหนี ,ปะสิจะมิ พรานลั่นพรานลือ
อาวุธสองมือ พิฆาตคุณผี คุณมนต์คุณหนัง คุณฝั่ งกาลี คุณของเขาชี้ เขา
ใช้ให้มา , ภะยะนะยะ พรานรามพรานร่วม ถือว่านยาสวม ปั ดไข้กาหลา
ปั ดไข้โป่ งป่ า ฝี ไข้กาฬา ปั ดไข้โรคา ถ้วนด้วยว่านยา , อุปะสัมปะ พราน
อ่วมพรานอิ่ม ถือค้อนถือลิ่ม ผลาญเภทพฤกษา ไม้คดไม้ปลง เถาหลงเพ
ชรา ขือผีพฤกษา เถาช่อละลาย , นะอุเอนะ พรานศรีพรานศักดิ์ ถือ
ขอช้างชัก บังคับสัตตา จตุบททวิบาท ชีวะชาตินานา หมอบราบบาทา หา
มีบีฑา , สุจิปุลิ พรานรุนพรานรัก ถือปื นประจักษ์ มาหักเหวผา หักถ้ำหัก
เถื่อน หักเลื่อนพสุทธา หักแดนภพตรา ลับแลเลือนหาย , นะชาลีติ พราน
แต้วพรานแผ้ว ถือหอกกล้าแกล้ว หักแร่ทั้งหลาย ปรอทคดเหล็ก คดหลบ
แร่พราย เพชรแก้วแวววาย หักได้ทันที , กะยะพะตัง พรานเติมพรานตัน
ถือกริชกล้ากลั่น มาขันยักษี รากโษสผีดิบ สิบพวกยักขิณี มันตรากาลี
หักหาญละลาย , กะจะยะสะ พรานเหี้ยมพรานหาญ ถือดาบถือขวาน ธนู
สองฝ่ าย มาประหารของ คุณเขาฝั่ งไว้ คุณไม้นางพราย คุณควายคุณคน ,
นะระติ พรานเทียนพรานทัน ถือหอกสัตพรรณ สมิดเกล็ดกล ถือทั้งกันห
ยั่น มาบั่นเศียรพล ผีป่ าหล้าดล ให้เกิดมารยา , อุอากะสะ พรานศิลป์
พรานสังข์ เป่ ามนต์เบิกฝั่ ง เบิกภพแผ่นหล้า เปิ ดดินเปิ ดดอน เปิ ดคอนเปิ ด
49
ป่ า เปิ ดพสุธา อาถรรพ์สลาย , พะลัยยะ พรานมีพรานมั่ง ถือตะบองยั้ง
เบิกป่ าผาพราย เบิกห้วยเบิกเหว เบิกเฉลวดาวราย เบิกภูเขาสาย เบิกที่
นัปนา , โลกะวิทู พรานหนุ่มพรานบ่าว ถือบาศก์อะคร้าว ร่ายเวทเบิกผา
เบิกชั้นภุมมินทร์ เบิกถิ่นนาคา ถิ่นคันธัพพา เทวาเปิ ดทันใด , ทะสะปะโต
พรานเฒ่าพรานแก่ สองท่านมาแก้ คุณเทพท้าวไท สมิงเงือกกร่าง เข้บาง
เสือใหญ่ หมีแลช้างไพร ท้อระทายพลัน , จิเจรุนิ พรานป่ าพรานดง คุณ
ท่านสององค์ กำจัดอาถรรพ์ คุณแฉนงหมาบ คุณราบปั งหรัง คุณฝั งคุณ
ฝั น สลายหายฟื้ น , อะสังวิสุโลปุสะภุพะ อีกปวงพลพราน เก้าโกฎิเก้า
ล้าน เก้าแสนเก้าหมื่น เก้าพันเก้าร้อย เก้าตนถือปื น ยกทัพรับรื่น สังหาร
ปวงภัย , พุทธังปั จจักขามิ ธัมมังปั จจักขามิ สังฆังปั จจักขามิ คัจฉะอะมุ
มหิ โอกาเสติประหารทุกข์โศก ประหารภัยโรค ประหารคุณไสย มล้างคุณ
มบ คุณคบฝั งไว้ คุณอาถรรพ์ไพร คุณเขาใช้มา , ทิฏฐิลา ทัณฑิลา มันติลา
โรคิลา ขะระรา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะ
ทามล้างอาถรรพ์ เภทป่ าสารพัน บั่นอุบาทว์ฟ้ า มล้างฤทธิ์เขา ฤทธิ์ลำเนา
ผา ฤทธิ์ถ้ำฤทธิ์ป่ า กายสิทธิ์ฤทธี , มล้างเภทดิน อีกทั้งเภทชิน ทั้งคุณเภท
ผี มล้างคุณไสย มันตรัยกาลี คุณถ้วนพฤกษี จตุธาตุลมไฟ ,ปั ญจะมาเร
ชิโน นาโถ ปั ตโต สัมโพธิมุตตะมัง จะตุสัจจัง ปะกาเสติ ธัมมะจักกัง ปะ
วัตตะยิเอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลังเดชะตาพราน สรรพ
ท้าวท่าน มาผลาญจังไหร มล้างทุกข์มล้างโทษ มล้างโหดมล้างภัย มล้าง
สรรพอุบาทว์จังไหร เทวัยสิทธิให้ระทาย โอม ประสิทธิพระราชโองการ
ตาพรานสวาหาย

หมายเหตุ ขอให้นำไปใช้ในทางกุศลอันดีและใช้ด้วยความระมัดระวังเป็ น
อย่างยิ่ง

50
โองการตรีนิสิงเห เป็ นโองการเฉพาะ ซึ่งผมนั้นได้เขียนขึ้นเพื่อใช้ในพิธีการ
ปลุกเสกวัตถุมงคลชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่ง(ขออนุญาตไม่บอกกล่าวเกรงจะเป็ น
คำครหาได้) ซึ่งเป็ นพิธีสำคัญ ผมนั้นวางพิธีให้ใช้การตั้งขันสาครแล้วใช้
เทียนชัยไว้ตรงกลางขัน แล้วนำน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่พลีมาจากที่สำคัญต่าง ๆ มา
รวมไว้ตามศาสตร์แห่งการปลุกเสกวัตถุมงคลของศาสตร์ดั่งเดิมของการ
ปลุกเสกวัตถุมงคล เบื้องบนเดินสายมงคลตรีนิสิงเห ซึ่งโองการนี้จะเป็ น
โองการเชิญพุทธคุณ อิทธิคุณ และขอความเป็ นมงคลต่าง ๆ ลงสู่ขันสาคร
อันเป็ นจุดรวมแห่งพิธีเพื่อการปลุกเสกวัตถุมงคล ตามหลักแห่งศาสตร์
พิธีกรรม ซึ่งผมนั้นได้มอบโองการนี้ให้ท่านราชครูไปแล้ว ซึ่งหลายวันก่อน
51
ได้หารือท่านแล้วว่า หากจะนำมาเผยแพร่เพื่อให้เจ้าพิธีต่าง ๆ และผู้ที่
สนใจ นำไปใช้ในทางที่ดี ทางการมงคลจะได้หรือไม่ ซึ่งท่านเมตตาบอก
กล่าวมาว่าเห็นควร ดังนั้นผู้เขียนจึงนำมาเผยแพร่ เพื่อการสืบทอดในด้าน
พิธีกรรมและนำไปประกอบพิธีกรรมต่อไป เพียงให้ผู้นำไปใช้ได้บอกกล่าว
ให้เป็ นไปตามศาสตร์ด้านพระเวทอย่างที่ทราบกันสืบมา
ภูมิ จิระเดชวงศ์
โองการตรีนิสิงเห
๏ ตรีนิสิงเห มะอะอุ ขอเชิญราชสีโหทั้ง ๓ พระองค์ลงมาทำการ
มงคลลงในหม้อน้ำมนต์ ประสิทธิ วิชายะเต พุทธังประสิทธิจงกำจัด ธัมมัง
ประสิทธิจงกำจัด สังฆังประสิทธิจงกำจัด สัตตะนาเค สะธะวิปิ ปะสะอุ ขอ
เชิญท้าวภุชงค์ทั้ง ๗ พระองค์ลงมาทำการมงคลลงในหม้อน้ำมนต์ ประ
สิทธิวิชายะเต พุทธังประสิทธิจงกำจาย ธัมมังประสิทธิจงกำจาย สังฆัง
ประสิทธิจงกำจาย ปั ญจะเพชรฉลู ทิมะสังอังขุ ขอเชิญท้าวเพชรฉลูกัณฑ์
ทั้ง ๕ ลงมาทำการมงคลในหม้อน้ำมนต์ ประสิทธิวิชายะเต พุทธังประ
สิทธิจงคุ้ม ธัมมังประสิทธิจงคุ้ม สังฆังประสิทธิจงคุ้ม จตุเทวา นะมะพะ
ทะ ขอเชิญท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ ข้าพเจ้าจะขอตั้งพิธีทำการมงคลลงใน
หม้อน้ำมนต์ ประสิทธิวิชายะเต พุทธังประสิทธิจงกัน ธัมมังประสิทธิจง
กัน สังฆังประสิทธิจงกัน ฉะวัชชะราชา อิสวาสุสุสวาอิ ขอเชิญท้าว
พระยาทั้ง ๖ ท้าว เข้ามาช่วยยกพระปิ ฎกกัณฑ์ไตรมาใส่ในน้ำมนต์ ประ
สิทธิวิชายะเต พุทธังประสิทธิจงรักษา ธัมมังประสิทธิจงรักษา สังฆังประ
สิทธิจงรักษา ปั ญจะอินทรา อาปามะจุปะ ขอเชิญพระอินทร์ทั้ง ๕ ลงมา
ทำการในหม้อน้ำมนต์ ประสิทธิวิชายะเต เอกยักขามิ ขอเชิญท้าวเวส
สุวรรณอันศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์เป็ นนายใหญ่กว่าฝูงผีทั้งหลาย มาช่วยทำการ
มงคลลงในหม้อน้ำมนต์ประสิทธิวิชายะเต สัพเพเทวา ปิ ศาเจวะ อิติปิ โสภ
ควา ธัมมิกราชา ชมภูทิเป กุลียุคเข มนุสสานัง พหูยักขา ปิ ศาโจรัง ปลา
52
ยันติ นวะเทวา อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ขอเชิญเทวดาทั้ง ๙ อันเฝ้ าอยู่ ๘ ทิศ
สิงสถิตอยู่ในห้วงเหวผาป่ าไม้ดงดอนในฟองน้ำพระมหาสมุทรสาครนทีที่
เทพารักษ์เที่ยวภิกขาจาร อยู่สิงขรต้นไม้ใหญ่ ขอเชิญท่านมาช่วยดับทุกข์
โศกโรคภัยระคายเคืองแค้น ขออย่าให้มีทุกข์มีภัย ขอให้มีชัยมงคล เชิญ
ลงในหม้อน้ำมนต์ ประสิทธิชายะเต ปั ญจะพรหมา สะหะชะฎะตรี ขอ
เชิญท้าวมหาพรหมทั้ง ๕ ลงมาช่วยชี้ช่องทั้ง ๑๖ ห้องชั้นฟ้ าสุราลัย ครั้น
ได้ยินเสียงข้าพเจ้าร้องอัญเชิญก็อยู่บ่มิได้ มาใส่ในหม้อน้ำมนต์ ประสิทธิ
วิชายะเต ทเวพุทโธเทวราช ขอเชิญกษัตริย์ทั้งสอง อันครองราชย์สมบัติ
เป็ นจักรพรรดิตราธิราชเรืองยศ เมื่ อถวายพระอุโบสถแก่พระพุทธองค์
สัมมาสัมพุทโธ อรหังสุคโตภควา พระองค์แย้มพระโอษฐ์ฝากพระศาสนา
กษัตริย์ทั้งสองอันครองราชย์สมบัติ คุณพระมหากษัตริย์ ๑๒ มิได้มัว
หมอง ขอเชิญท่านทั้งสองจงมาช่วยกันดับทุกข์โศกโรคภัยระคายเคือง
แค้น ขออย่าให้มีทุกข์มีภัยขอให้มีชัยมงคล ลงในหม้อน้ำมนต์ ประสิทธิ
วิชายะเต อัฎฐะอรหันตา เสพุเสวะเสตะอะเส ขออาราธนาพระอรหันต์
ทั้ง ๘ พระองค์เสด็จทรงอุทิศ พระสถูปรูปพระเจดีย์ พระสิทธาตุ พระ
บาทโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร พระอนุรุทธัตเถระ พระอัญญาโกณฑัญญะ
พระอุบาลี พระมหากัสสปะ พระราหุล พระควัมปติ ขออาราธนามา
ลงสรงอุทะกัง ขอให้เป็ นน้ำทิพย์ น้ำสุราบริสุทธิ์สะกดจิตสะกดใจ ให้ตั้ง
อยู่ในกองบุญเถิด ปั ญจพุทธา นมามิหัง นะโมพุทธายะ ขออาราธนา
พระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ อันทรงนามกรชื่อว่า พระกุกกุสันโธ พระโก
นาคม พระพุทธกัสสป พระสมณโคดม พระศรีอริยเมตไตร ขอเดชะสะ
เดชพระบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ปถมังทานบารมี ทุติยังศีลบารมี ตติยัง
เนกขัมบารมี จตุตถังปั ญญาบารมี ปั ญจมังวิริยะบารมี ฉัฎฐมังขันติบารมี
สัตตมังสัจจบารมี อัฎฐมังอธิษฐานบารมี นวมังเมตตาบารมี ทศมัง
อุเบกขาบารมี ขอเดชะพระโพธิญาณพระองค์ จงมาช่วยปราบปรามฝูงผี
53
ปี ศาจราชทูตทั้งผีภูติแลผีพราย เปรตอสุรกายแลมารยามันให้เกิดโรคสะ
โรคา ขออย่าได้มา เบียดเบียนบีฑา แลอาวุธทั้งหลายขอให้แคล้วคลาด
ทั้งอุบาทว์จัญไรทั้งคุณไสยที่เขาใช้มา ทั้งเบื้องต่ำและเบื้องบน ทั้งคุณผีแล
คุณคน ทั้งผ้าแพรแลผ้าพยนต์ แลอาถรรพ์ที่ฝั งกลางหนทางสามแพร่ง
ปากประตูป่ าช้า ข้าพเจ้าจะขออาราธนาพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ จงมาทำลาย
เสียให้สิ้น นะละลาย โมสูญหาย พุททำ ลาย ธาสูญหาย ยะกระจาย
ละลายสูญหาย นะสูญ โมสูญ พุทสูญ ธาสูญ ยะสูญสารพัดเคราะห์
สารพัดโศก สารพัดโรค สารพัดภัย สารพัดเสนียดจัญไรโรคภัยทั้งมูล สูญ
ด้วยนะโมพุทธายะ นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุ
มิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ นะโมพุทธายะ เตชะสุเนมะภูจะ
นาวิวเว สัพเพพุทธาพะลัปปั ตตา ปั จเจกานัญจะยังพลัง อรหันตานัญจะ
เตเชนะ รังขังพันธามิสัพพโส หิริโอตัปปสัมปั นนา สุกกธัมมาสมาหิตา สัน
โตสัปปุริโสโลเก เทวธัมมาติวุจจเร

บทพลีน้ำมาทำน้ำเทพมนต์ (แบบย่อ)
ในการพลีน้ำ (การนำน้ำไปใช้ในพิธีกรรม) ซึ่งทุกๆครั้งนั้นจะต้องมี
การขออนุญาตให้เป็ นไปตามหลักของศาสตร์แห่งพระเวท ในบางพิธีกรรม
นั้นเป็ นพิธีกรรมโดยทั่วไป แต่จำเป็ นต้องพลีน้ำมาใช้ในพิธี เราสามารถใช้
พิธีการพลีแบบย่อได้ เพื่อนำมาใช้ทำน้ำเทพมนต์ ซึ่งในหลายๆครั้งที่ผู้
เขียนได้ให้เจ้าพิธีได้ใช้บทย่อนี้ไปประกอบพิธี ซึ่งมีความประสิทธีดีในพิธีที่
ประกอบขึ้น ซึ่งทุก ๆ ท่านที่จะนำไปใช้ในการประกอบพิธีสามารถนำไป
ใช้ในทางกุศลอันดีได้ครับ
ภูมิ จิระเดชวงศ์
บทพลีน้ำมาทำน้ำเทพมนต์ (แบบย่อ)
54
๑. บทกล่าวสักการะก่อนจะตักน้ำ
๏ โอม ศรี คเณศายะ นะมะหะ ข้าพเจ้าขอบูชาพระพิฆเนศ ขอ
พระองค์ทรงอวยพร และช่วยเหลือให้ข้าพเจ้า ในการพลีน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่ง
(......ชื่อสถานที่......) เพื่อใช้ในการมงคล (......ชื่องานที่จะนำน้ำไปใช้......)
ให้สำเร็จด้วยดีเถิด
๏ โอม สะระเวภะโย เทเว ภะโย นะโม นะมะหะ ข้าพเจ้าขอบูชา
เทวดาทั้งปวงที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ มี เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าทุ่งเจ้าท่า เจ้าป่ า
เจ้าเขา ภุมมะเทวดา ปั พพะตะเทวดา รุกขเทวดาทั้งปวง ตลอดจน
คนธรรพ์ นาค ยักษ์ กุม ภัณฑ์ กินนร มุนีฤๅษี ที่อาศัยในสถานที่นี้
ข้าพเจ้าขอพลีเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่ง (......ชื่ อสถานที่......) เพื่อใช้ในการ
มงคล (......ชื่องานที่จะนำน้ำไปใช้.......) อันเป็ นงานการสำคัญ ขอให้ทุก
ท่าน ทุกพระองค์นั้น ทรงอนุญาตให้ข้าพเจ้า เชิญน้ำอันศักดิ์สิทธิ์แห่ง
( ......ชื่อสถานที่......) ไปร่วมประกอบน้ำเทพมนต์ในการมงคล (......ชื่อ
งานที่จะนำน้ำไปใช้.......) ให้สำเร็จด้วยดีเถิด
๏ โอม ศรี คังคาไย นะมะหะ ข้าพเจ้าขอบูชาพระแม่คงคา มารดา
แห่งสายน้ำทั้งปวง วันนี้วันดี ข้าพเจ้ามาขอพลีน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่ง (....ชื่อ
สถานที่.... ) เพื่อมาใช้ในการมงคล (......ชื่องานที่จะนำน้ำไปใช้.......) อัน
เป็ นงานการสำคัญ ขอให้พระแม่คงคา ทรงอนุญาตให้ข้าพเจ้า เชิญน้ำอัน
ศักดิ์สิทธิ์แห่ง (......ชื่ อสถานที่......) ไปร่วมประกอบน้ำเทพมนต์ในการ
มงคล (......ชื่องานที่จะนำน้ำไปใช้.......) ให้สำเร็จด้วยดีเถิด

๒. โองการมหาเบิก ก่อนจะตักน้ำ
๏ โอม นะโมนมัสการ พระนารอทยอดอาจารย์ ท่านให้กูเบิกฟ้ าแล
เบิกดิน เบิกพระสมุทรสายสิญจน์ เบิกพระอินทร์แลพระพรหม เบิกพระ
ยมแลพระกาฬ เบิกพระจตุโลกบาล เบิกพระภูมิสถาน เบิกบาดาลพระ
55
ธรณี เบิกพระศรีคงคาคราญ เบิกโขลนทวารบานประตู ขุดคูแลขุดท่อ
ขุดบ่อแลขุดบาง ถางทางแลขุดสระ หล่อรูปพระพลีว่านยา พลีธาราพลี
นานา ทำศาลาแลกุฎี ทำยอดศรีพระสุเมร จะตระเวนพลี ฤๅทำการสิ่งใด
ใด ให้มีชัยชำนะแก่มาร
๏ โอม ชัยมหาชัย สรรพชัยชัย กันจังไหรได้ร้อยโกฎิ ปี ศาจหนีได้
ร้อยโยชน์ ทั้งผีโภตบ่ทนทาน เบิกพระเนตรเขตบาดาล ทอดสะพานพูน
ถนน ขุดบ่อหล่อพระเชตุพล หักพนมซ้ำนำผีเดิน กูจักอัญเชิญพระอุณรุท
ชัยเถร แลพระฤๅษีเจ็ดตนเข้ามาในมณฑล จึงหยิบเอาน้ำสุรามฤต มา
ประสิทธิ์แก่ตนกู พระอิศวรนารายณ์พรหม ไตรบรมเจ้าประสิทธิ์ให้แก่กู
สวาหะ ๚๛

โองการชุมนุมครู
ในบทนี้นั้น ผู้เขียนได้มอบให้กับทางท่านพราหมณ์และท่านราชครู
หลายท่านเพื่อใช้ในการประกอบพิธีต่างๆมาเป็ นเวลานาน ซึ่งในพิธีกรรม
ที่เป็ นพิธีทางการนั้น มักจะใช้บทนี้ในการอัญเชิญชุมนุมครูเสมอ ในส่วน
56
ของบทโองการที่เอ่ยถึงรายชื่อพระคุณเจ้าต่าง ๆ อาทิ หลวงพ่อทวดสามี
ราม หลวงพ่อทวดสามีอินทร์ สมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ สมเด็จเจ้าเกาะยอ พ่อ
ท่านคล้าย วัดสวนขัน พ่อท่านปลอด ฯลฯ ผู้นำโองการไปใช้สามารถเพิ่ม
เติมครูบาอาจารย์ของตนเองเข้าไปเพิ่มเติมได้ ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าในบท
โองการชุมนุมครู นี้นั้น มีความประสิทธีในการประกอบพิธีต่าง ๆ จึงนำมา
เผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจและมีความตั้งใจ สามารถนำไปใช้ได้ตามหลักแห่ง
กุศลอันดี และให้บอกกล่าวให้เป็ นไปตามศาสตร์แห่งพิธีในการศึกษาด้าน
พระเวท ตามที่ได้ทราบกันมาโดยตลอด
ภูมิ จิระเดชวงศ์
โองการชุมนุมครู
วันทิตวา สิริสะพุทธัง สะหัสสะพุทธัง คะนุตตะมังอิทัง ปะริตตะสังเขปั ง
ปะวะขามิ ยะถาพะลัง
วันทิตวา สิริสะธัมมัง สะหัสสะธัมมัง คะนุตตะมังอิทัง ปะริตตะสังเขปั ง
ปะวะขามิ ยะถาพะลัง
วันทิตวา สิริสะสังฆัง สะหัสสะสังฆัง คะนุตตะมังอิทัง ปะริตตะสังเขปั ง
ปะวะขามิ ยะถาพะลังฯ
๏ สาธุ สาธุ สาธุ ข้าพระพุทธเจ้าขออาราธนาพระบารมีองค์สมเด็จ
พระพุทธสิกขีทศพลสมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ปฐม พระสิริมิตตะพุทธเจ้า
พระปุราณโคดมพุทธเจ้า พระปุราณทีปั งกรพุทธเจ้า พระตัณหังกรพุทธ
เจ้า พระเมธังกรพุทธเจ้า พระสรณังกรพุทธเจ้า พระทีปั งกรพุทธเจ้า พระ
โกณฑัญญะพุทธเจ้า พระมงคลพุทธเจ้า พระสุมนะพุทธเจ้า พระเรวตะ
พุทธเจ้า พระโสภีตะพุทธเจ้า พระอโนมทัสสีพุทธเจ้า พระปทุมพุทธเจ้า
พระนารทะพุทธเจ้า พระปทุมุตระพุทธเจ้า พระสุเมธพุทธเจ้า พระสุชาต
พุทธเจ้า พระปิ ยทัสสีพุทธเจ้า พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า พระธัมมทัสสีพุทธ
เจ้า พระสิทธัตถะพุทธเจ้า พระติสสะพุทธเจ้า พระมหาปุสสะพุทธเจ้า
57
พระวิปั สสีพุทธเจ้า พระสิกขีพุทธเจ้า พระเวสสภูพุทธเจ้า พระกกุสันธ
พุทธเจ้า พระโกนาคมนพุทธเจ้า พระกัสสปะพุทธเจ้า พระโคตมะพุทธเจ้า
และพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปั จเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระ
ธรรมทั้งปิ ฎกกัณฑ์ไตร แลพระธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ พระ
อรหันต์สงฆ์ทั้งหลายอันมีพระอัญญาโกณฑัญญะ พระโมคคัลลาน์ พระสา
รีบุตร พระมหากัสสปะ พระอุบาลี พระราหุล พระอานนท์ พระสุภูติ พระ
กัจจายนะ พระสีวลี พระอนิรุทธะ พระอุปคุต ปวงพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย
พระศรีอาริยเมตไตรย พระราม พระธัมมราช พระธัมมสามี พระนารทะ
พระรังสีมุนี พระเทวเทพ พระนรสีหะ พระติสสะ พระสุมงคล พระอวโลกิ
เตศวร พระมัญชุศรี พระสมันตภัทร พระวัชรปาณี พระกษิติครรภ์ พระ
อากาศครรภ์ พระสรรวนิวรณวิษกัมภิณ พระไภษัทชยราช พระไตรโลก
ยะวิชัย พระพังพระกาฬ พระจุณฑิพุทธมาตา และพระโพธิสัตว์เจ้าทุกๆ
พระองค์ คุณอุปั ชฌาย์ คุณครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา มี พระ
สมณะทูตทั้ง ๕ พระโลกอุดร พระกรุณาการาจารย์ พระธรรมกีรติ พระ
พุทธคัมเภียร พระพุทธสาคร พระสัจจะเถรพรหมเทพ พระสมภารทอง
พระมหาเถรศรีศรัทธา พระพนรัตน์วัดใหญ่ พระสมภารเขาอ้อทั้ง ๑๐
องค์ หลวงพ่อทวดสามีราม หลวงพ่อทวดสามีอินทร์ สมเด็จเจ้าเกาะใหญ่
สมเด็จเจ้าเกาะยอ หลวงพ่อทวดลิ้นดำ พ่อแก่สีทันดร พ่อท่านขรัวพุฒ
สรณ์ พ่อท่านกลาย วัดหาดสูง พ่อท่านเพชร วัดอัมภวัน พ่อท่านคล้าย
วัดสวนขัน พ่อท่านพัฒน์ วัดใหม่ พ่อท่านแก้วยนยาว พ่อท่านคุณหนู พ่อ
ท่านปลอด พ่อท่านเส้ง พ่อท่านผู้ทรงศีลคุณอริยะทั่วแดนแหลมทอง เป็ น
ที่สุด พรหมและเทวดาทั้งหมด ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ทั้งหลายของข้าพเจ้า
ขอจงได้มาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด ฯ.

58
๏ วันทิตฺวา สุคะตังนาถัง พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ สาธุกัง นะ
โมพุทธายะ ทิพพะมันตานัง ปะวักขามิ ยะถาพลัง ปั ญจะอักขะรานิ ชาตา
นโมพุทธายะ วันทะติ ฯ.
๏ นะมัสสิตฺวา อิสีสิทธิ โลกะนาถัง อะนุตตะรัง อิสีจะ พันธะนัง
สาตรา อะหัง วันทามิตัง อิสีสิทธิ เวสสะฯ.
๏ วันทิตวา อาจาริยัง คุรุปาทัง อาคัจฉาหิ สัพะกัมมา ประสิทธิเม
สัพพะอันตรายัง วินัสสันติ สัพพะสิทธิ ภะวันตุ เม ฯ.
๏ มะอะอุ อธิกะมูลัง ตรีเทวานัง มหาศาสตรา อุอุ อะอะ มะมะ
มันตา อุอะสะวา มหามันตัง ฯ.
๏ สิโร เม พุทธเทวัญจะ นะลาเต พรัหมฺเทวะตา หะทะยัง นารายะ
กัญเจวะ เทวฺหัตเถ จะ ปะระเมสุรา ปาเทสุ วิสสะนุกัญเจวะ สัพพะกัมมา
ปะสิทธิ เม ฯ.
๏ โองการพินธุนาถัง อุปปั นนัง พรัหมาสหัมปะติ นามะ อาทิกัปเปสุ
อาคะโต ปั ญจะปะทุมังทิสฺวา นะโมพุทธายะ วันทะนัง ฯ.
๏ สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิเตโช ชโยนิจ
จัง สิทธิลาโภ นิรันตะรัง สัพพะกัมมังปะสิทธิ เม สัพพะสิทธิ ภะวันตุ เม
ฯ.
๏ พุทธัง วันทิตฺวา ข้าพเจ้าขอไหว้ซึ่งพระพุทธะคุณณัง
ธัมมัง วันทิตฺวา ข้าพเจ้าขอไหว้ซึ่งพระธัมมะคุณณัง
สังฆัง วันทิตฺวา ข้าพเจ้าขอไหว้ซึ่งพระสังฆะคุณณัง
๏ อนึ่งข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณ
พระสังฆะเจ้า อีกทั้งคุณบิดามารดา คุณอุปั ชฌาย์ คุณครูบาอาจารย์ คุณ
พระฤๅษีนารอด คุณพระฤๅษีนาไลย คุณพระฤๅษีลาไลย คุณพระฤๅษีตาไฟ
คุณพระฤๅษีประไลยโกฏิ คุณพระฤๅษีกัสสป คุณพระฤๅษีไกรภพ คุณพระ
ฤๅษีทัศมงคล คุณพระภรตมุนีฤๅษีเทวา คุณพระฤๅษีวสิษฐ์ คุณพระฤๅษี
59
ปั ญญาสด คุณพระฤๅษีเพชรฉลูกรรณ์ แลนักสิทธิ์วิทยา อีกทั้งพระแม่นาง
ธรณี พระแม่คงคา พระเพลิง พระพาย พระอิศวรผู้เป็ นเจ้าฟ้ า เธอมาประ
สิทธิพระพรชัยให้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะขออัญเชิญเทพยดาทั้งหลายทั่ว
พื้นปฐพีดล พระฤๅษีทั้ง ๑๐๘ ตน บันดาลดลด้วยสรรพสิทธิ์และวิทยา
พระครูพา พระครูเฒ่า ครูพักและครูอักษร สถาพรกรรมสิทธิ์แก่ข้าพเจ้า
ในการบัดนี้เทอญ ฯ.
๏ อิติปิ โสภะคะวา ข้าพเจ้าขออันเชิญสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มาอยู่เหนือเกล้าเกศเกษี ขอเชิญพระพรหมมาอยู่เบื้องบ่าซ้าย เชิญพระ
นารายณ์ทรงฤทธี มาอยู่เบื้องบ่าขวา ขอเชิญพระแม่คงคามาเป็ นน้ำลาย
ขอเชิญพระพายมาเป็ นลมปาก ขอเชิญพญานาคมาเป็ นสร้อยสังวาลย์ ขอ
เชิญพระกาฬมาเป็ นดวงใจ ข้าพเจ้าจะทำการสิ่งใด ภูติใดพรายใดอย่าได้
มาเบียดเบียนบีฑา อย่าได้ประมาทพลาดพลั้ง ขออันเชิญครูแต่หนหลัง
พระฤๅษีทั้ง ๑๐๘ องค์ เดชะ คุณครูปาธิยายอันเลิศล้ำ คุณครูผู้อยู่ในถ้ำ
จงมาช่วยอวยพระพรชัยประสิทธิ์ให้แก่ข้าพเจ้า พุทธัง ปะสิทธิ มหาปะ
สิทธิ ธัมมัง ปะสิทธิ มหาปะสิทธิ สังฆัง ปะสิทธิมหาปะสิทธิ ฯ.
๏ อุกาสะ วิปะฏิ ปะฏิพาหายะ อุกาสะ อาราธฺนานัง คุรุอาจาริยัง
อาคัจฉันตุ ปริมันภะสัง ปูชะนียัง สัพพะสิทธิ กะเรนตุ มัง สิทธิเตชัง สิทธิ
พะลัง สิทธิกิจจัง อะหัง วันทามิ ตัง สะทา ฯ.
๏ โอม นะโม นมัสการ ข้าพเจ้าจะไหว้คุณพระอาจารย์สิ้นทั้งมวล
ตั้งแต่คุณท้าว มหาพรหม คุณพระอิศวรศิวะศังกร แลคุณพระสี่กร
นารายณ์เป็ นประธาน อีกคุณดิน คุณลม คุณน้ำ คุณไฟ คุณอุณาโลม คุณ
ปฏิโลม คุณอัสสะวาส คุณปั สสะวาส คุณนิสฺวาส คุณอากาศเป็ นปริโยสาน
ชั้นที่สุด อีกทั้งคุณพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ คุณพระปั จเจกพุทธเจ้าทุก
ๆ พระองค์ คุณพระธรรมเจ้า คุณพระ อริยะสังฆะเจ้าทุกๆ พระองค์ พระ
โพธิสัตว์ทุกๆ พระองค์ คุณเทพเจ้า ตั้งแต่พระภุมมาเทวา พระสิงขรเทวา
60
พระสมุทรเทวา พระนัคราเทวา พระอากาศเทวา พระนักษัตรเทวา พระ
วลาหกเทวา พระขิฑฑาปโทสิกเทวา พระมโนปโทสิกเทวา ขอบารมีเป็ นที่
พึ่งแก่ข้าพเจ้า ทั้งพระแม่นางธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ พระแม่
อุษา พระแม่เมขลาอันสถิตเที่ยวอยู่ ในสาคร ทั้งหมู่เพทยาธรเธอเสด็จจร
ในอากาศ อีกคุณพระฤๅษีผู้ประสิทธิ์ประสาท ครูผู้รู้สมเวทและสมยา
สรรพยา สรรพคาถา สรรพมนต์ตรา มหายันต์ และอาคม เธอเสด็จทุก
สถาน ข้าพเจ้าจะขอนมัสการกราบไหว้ ขอให้ข้าพเจ้าเชี่ยวชาญทั้งคุณ
ว่านและคุณยา ทั้งคุณมนต์ตราเวทย์คาถาและมหายันต์ ขอให้เป็ นศรีสิทธิ
เตโชชัย ทั้งอักขระที่มีฤทธิ์ ทั้งนิคหิตที่เที่ยวไกล อักขระใด ๆ เชิญมาสถา
พร ทุกสรรพเวทย์สโมสร พระอิศวรเธอประทานอวยพระพรชัยประสาท
ประสิทธิ์ให้แก่ข้าพเจ้ามา ทั้งคุณพระเวทย์และว่านยา คุณมหามนต์ตรา
คาถายันต์ สิทธิสัพพะสุขัง ภะวันตุ เม ฯ.
๏ ข้าพเจ้าขอสรรเสริญ คุณพระบิดา ๒๑ คุณพระมารดา ๑๒ คุณ
พระแม่โพสพ ๓๙ คุณพระพุทธเจ้า๕๖ คุณพระธรรมเจ้า ๓๘ คุณพระ
สังฆเจ้า ๑๔ คุณครูอาจารย์ ๑๐ คุณพระกรรมฐาน ๔ คุณพระคงคา ๑๒
คุณพระธรณี ๒๑ คุณพระเพลิง ๖ คุณพระพาย ๗ คุณอากาศ ๑๐ คุณ
อักษร ๔๑ คุณอักขระ ๓๓ คุณนิสวาส คุณอัสสวาส คุณปั สสวาส คุณแก้ว
ทั้ง ๓ ประการ คุณศีล ๕ คุณศีล ๘ คุณศีล ๑๐ คุณศีล ๒๒๗ คุณพระ
ปั ญญาญาณ คุณพระโสดา คุณพระสกิทาคา คุณพระอนาคา คุณศรีพระ
อรหันตา คุณมรรค ๔ คุณผล ๔ คุณนิพพาน ๑ จึงมาเป็ นคุณพระนวะ
โลกุตรธรรม เดชะข้าพเจ้าได้เล่าเรียนศิลปศาสตร์วิชาการอันใด ขอให้
ประสิทธิ์ คุณพระอาทิตย์ ๖ คุณพระจันทร์ ๑๕ คุณพระอังคาร ๘ คุณ
พระพุธ ๑๗ คุณพระพฤหัสบดี ๑๙ คุณพระศุกร์ ๒๑ คุณพระเสาร์ ๑๐
คุณพระราหู ๑๒ คุณพระเกตุธิบดี ๙ คุณพระวิศวนาถอันเรืองเดช คุณ
พระนเรศวร์ คุณพระปาราวตี คุณพระนารายณ์ คุณพระมเหศวรี คุณพระ
61
พรหม คุณพระบรมสัสดี คุณพระพุทธคิเนตร คุณพระพุทธคินาย คุณพระ
สกันธ์ คุณพระคายตรี คุณพระอินทร์ คุณพระวรุณ คุณพระยม คุณพระ
ไนฤรติ คุณพระโสม คุณพระไพศรพณ์ คุณพระธนุรเวท คุณพระ
ประชาบดี คุณพระปุรุษะ คุณพระโลกบาลทั้ง๔ คุณพระกาฬ คุณพระเว
สนุกรรณ์ คุณพระอรชุน คุณพระมาตุลี คุณพระพลเทพ คุณพระเทพกร
รม์ คุณพระอัศวิน คุณพระธัตวันตริ คุณพระมนูวัยทัต คุณพระปั ญจสิงขร
คุณพระมหาลาภ คุณพระมหาไชย คุณพระภูมิเจ้าที่และเจ้ากรุงพาลี เป็ น
ที่เคารพแก่ฝูงชน ที่มาสร้างกุศลพระบารมี ขอให้จำเริญสวัสดี คุณศีล
บารมี คุณทานบารมี คุณสัจจะบารมี คุณวิริยะบารมี คุณอธิษฐานบารมี
คุณอุเบกขาบารมี คุณเนกขัมมะบารมี คุณเมตตาบารมี คุณปั ญญาบารมี
คุณขันติบารมี คุณพรหมวิหาร๔ เป็ นที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คุณ
พระครูว่าน คุณพระครูยา และเลขยันต์คาถา ประเจียดพิศมรแลมงคล
คุณทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ จบพระปิ ฎกทั้ง ๓ ประการ คุณครู
ภายนอก คุณครูภายใน คุณพระฤๅษีนารอท ยอดพระวินัย คุณพระฤๅษีตา
ไฟ คุณพระฤๅษีพิลาไลย คุณพระฤๅษีกไลยโกฎิ คุณพระฤๅษีโคดม คุณ
พระฤๅษีสมมิตร คุณพระฤๅษีวสิษฐ์ คุณพระฤๅษีโคบุตร คุณพระฤๅษี
โกเมศ คุณพระฤๅษีกัสสป คุณพระฤๅษีไกรภพ คุณพระฤๅษีอุณรุทชัย คุณ
พระฤๅษีบรมโกฎิ คุณพระฤๅษีอคัสตยะ แลคุณพระภรตมุณีศรีนาฎยา ขอ
จงมาเป็ นประธาน ข้าพเจ้าจะ ขอทำการขอให้ประสิทธิ์ ขอคุณพระพุทธ
คุณณัง พระธรรมคุณณัง พระสังฆคุณณัง พระพุทธคุณทั้งปวงจงประสิทธิ์
แก่ตัวข้าพเจ้า สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยัง สิทธิตะถาคะโต สิทธิ
ลาโภ สิทธิเตโช สิทธิวาโย สิทธิอาโป สิทธิปถวี สิทธิบิดา สิทธิมารดา สิทธิ
ครูอาจารย์ สิทธิอิศวรา สิทธิอินทรา สิทธิพรหมา สิทธินารายณ์ สิทธิเทวา
สิทธิราชา สิทธิพุทธา สิทธิธัมมา สิทธิสังฆา สิทธิอัฏฐะอรหันตานัง นะโม
พุทธายะ มะอะอุ อิสฺวาสุ ปั ญจะพุทธานะมามิหัง ฯ.
62
โองการบวงสรวง ขอบูรณะ – สร้างพระ ประกอบกิจในวัด
โองการบวงสรวง ขอบูรณะ – สร้างพระ ประกอบกิจในวัดนั้น เป็ นบท
โองการที่สำคัญ ซึ่งในการบูรณะที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ ที่เป็ นศาสนาสถาน
นั้น ต้องมีความเข้าใจและมีลำดับขั้นตอนต่าง ๆ ที่ถูกต้อง ด้วยในการ
สร้างมานั้นต้องผ่านการประกอบพิธีจากครูบาอาจารย์หลายท่านที่เรานั้น
ทั้งทราบและไม่ทราบในที่มา ดังนั้นจึงต้องมีบทโองการที่ขอบูรณะหรือ
สร้างให้ถูกต้องเป็ นไปตามหลักแห่งพระเวท ซึ่งบทโองการที่นำมาเผยแพร่
ในครั้งนี้นั้น ได้นำไปประกอบพิธีต่างๆในสถานที่สำคัญหลายๆแห่ง ซึ่งมี
ความประสิทธีเป็ นอย่างดีในพิธีที่ประกอบขึ้น ผู้เขียนเห็นว่าควรนำมาเผย
แพร่ เพื่อให้ท่านที่ประกอบพิธีหรือท่านที่สนใจในด้านนี้ ได้นำไปใช้ใน
เรื่องดังกล่าว เพียงให้ทุกท่านได้บอกกล่าวก่อนนำไปใช้ทั้งนี้เพื่อให้เป็ นไป
ตามศาสตร์และความปลอดภัยที่ต่างยึดถือกันมาในเรื่ องศาสตร์แห่ง
พระเวทที่ปฏิบัติสืบเนื่องกันมา
ภูมิ จิระเดชวงศ์
โองการบวงสรวง ขอบูรณะ – สร้างพระ ประกอบกิจในวัด
ลำดับขั้นตอนการประกอบพิธีกรรม
๑. บูชาพระรัตนตรัย
๒. ประกาศชุมนุมเทวดา
๓. อ่านโองการบวงสรวงขอบูรณะ – สร้างพระ
๔. ทำน้ำมนต์ประพรมช่าง และ เครื่องมือช่าง
๕. โปรยข้าวตอกดอกไม้ถวายเทวดา
๖. ประพรมน้ำมนต์แก่ช่าง เครื่องมือช่าง และบริเวณที่จะเริ่มทำงาน
โองการบวงสรวงขอบูรณะ สร้างพระ
บทกาศศักดิ์สิทธิ์ในวัด
63
๏ นะโมนมัสการ พระทรงญาณไตรรังษี โปรดเกล้าเกศโมฬี
รักษ์กายีกันเภทภัย สองหัตถ์ไหว้ครูต้น ประสิทธิ์มนต์ประสาทชัย ทำ
กิจการใดใด ขอจงให้ประสิทธัง ข้าไหว้พระฤๅษี พระสัสดีเจ้ามนต์ขลัง
ขอพรทุกกิจจัง สำเร็จดั่งพระวาจา วันนี้เป็ นวันดี แต่งบัตรพลีเครื่อง
กระหยา สักการพระภุมมา กรุงพลีราเป็ นต้นหน ข้าไหว้พระภูมิวัด
เทพเถรวัยทัตโสภณ ตัวข้าขอนิมนต์ เสด็จดลรับวันทา ข้าไหว้ท้าวกุมภี
ท้าวปั ถวีราชา เสด็จยุตรยาตรา รับกระยาเครื่องสังเวย ข้าวเหนียวแล
ข้าวเจ้า น้ำเหล้าแลนมเนย แกงกับสำรับเอย ล้วนของเคยยกบูชา ขอ
เชิญท้าวภุชงค์ นวลระหงส์เสด็จมา มหาลาภเทวา เสด็จมาบนหลังหงส์
กาศทั้งมหาไชย เรืองฤทธิ์ไกรชาญณรงค์ ปู่เจ้าทุกพระองค์ เสด็จลงรับ
กระหยา เชิญพระมารดาศรี ธรณีเมขลา โพสพแลคงคา ทั้งนราสาวิต
ตรี วันนี้ข้ามีการ ขอเชิญท่านมารศรี รับเอาเครื่องบัตรพลี ข้าแต่งที่ไว้
บูชา ไหว้ถึงพระในบัว ท่านเจ้าขรัวหัววัดวา สมภารแต่ก่อนหนา เจ้า
วัดวาท่านปราณี ศักดิ์สิทธิ์ในอาราม ถ้วนเขตคามพัทธรังษี ตายายและ
เจ้าที่ เสด็จรี่มาพร้อมกัน อารักษ์แลศักดิ์สิทธิ์ สารทิศในเขตขัณฑ์
เสด็จมาโดยพลัน เสวยสรรค์เครื่องถวาย ทวดท้าวเจ้าอารักษ์ ผู้พิทักษ์
ไปทุกนาย เจติยะเทวาย ขอจงได้รับกระหยา หมากพลูแลธูปเทียน ทั้ง
สูปเพียญตระการตา บายศรีทั้งซ้ายขวา แต่งมาลามาศมาลัย มัจฉะ
มังสาหาร สุราบานน้อยแลใหญ่ ปูปลาแลเป็ ดไก่ ข้าแต่งไว้มากอนันต์
อ้อยกล้วยส้มหมากพร้าว แต่งจัดเข้าสมรังสรรค์ ถั่วงานานาพันธุ์ นม
เนยนั้นพร้อมสรรพมี ยำพล่าแลแกงกับ ทั้งสำรับขนมนี้ กระยาบวด
เครื่องพลี พร้อมชุลีแก่ภุมมา วันนี้เป็ นวันดี ข้าแต่งพลีเครื่องบูชา ขอเจ้า
ท้าวภุมมา อารักขาวัดทุกองค์ เสด็จมานั่งใน อาสน์วิไลแลบรรจง มานั่ง
หน้าโดยตรง ในมณฑลอันโสภา เสวยกระยาบวด กรวดอาหารบนอา
สนา เสวยเสพโอชา เครื่องวันทาตามชอบใจ เมื่อท่านได้รับแล้ว อย่า
64
คลาแคล้วไคลไปไหน ให้พรเป็ นสิทธิ์ชัย ปวงข้าไซร้จะทำการ ปั้ นพระ
เขียนรูปวาด ก่อพระอาสน์แลไพหาร ซ่อมโบสถ์ให้ตระการ มล้างผืน
ธรณี สร้างโบสถ์ก่อวิหาร สร้างศาลาโรงธรรมศรี ล่องรักปิ ดทองดี ก่อกุฎี
แลเสมา ก่อเมรุพนมพระ แกะสลักพระปฎิมา จิตรกรรมรูปนานา ขุดฟั น
หญ้ารื้อป่ าลง สร้างสรรค์ซ่อมใดใด สำเร็จไซร้โดยบรรจง ภุมมาทุก
พระองค์ ขอทรงได้ประทานพร ให้เป็ นสิทธิ์เป็ นชัย ชาวช่างไซร้หมู่นิกร
ซ่อมสร้างสมสลอน ตามไหว้วอนพระเทวา ถ้าเกิดการพลั้งพลาด ปวงข้า
บาทขอสมา อารักษเทวา ผู้สัม มาทุกพระองค์ ล่วงเกินสิ่งหนึ่งใด อย่า
ให้ท่านโกรธมั่นคง ขออภัยด้วยบรรจง ขอพระองค์ให้อภัย ปวงข้ามา
ทำการ สร้างสืบสานสมสมัย พุทธศาสน์ให้เกริกไกร สืบนานไปคู่โลกา
เทอญ โอม ปริภุญชันตุ จะมหาภุมมา
บทอภิวาท พระวิศวกรรม และครูช่างทั้งปวง
๏ โอม ศรี วิศวกะระมะเน นะมะห์ สองหัตถ์ข้าทั้งสิบนิ้ว จบ
เหนือหว่างคิ้ว พลิ้วไพล่กราบไหว้วันทา พระวิสสุกรรมเทวา ทรงผึ่งฝ่ าย
ขวา หัตถาซ้ายทรงดิ่งทอง ทรงเป็ นเจ้าช่างทั้งผอง ปวงข้าประคอง สอง
หัตถ์วันทนาการ พระเพชรสนูกันท่าน วันนี้มีการ ลูกหลานแต่งพลีบูชา
วันนี้การแห่งปวงข้า ทูลพจนา เทพาจารย์จงรับฟั ง วันนี้ลูกสร้างลูกตั้ง
วิหารเสาดัง ขุดพังสร้างโบสถ์ศาลา ปั้นพระเขียนรูปนานา ก่อพระสีมา
ลงทองพระพุทธถ้วนไป แกะสลักรูปน้อยใหญ่ ฟั นป่ าถางไพร ในเขตธรณี
สงฆ์ ขอเดชะฤทธิ์พระองค์ พระครูผู้ทรง เชี่ยวชาญมาประสิทธี ครูช่าง
น้อยใหญ่ก็ดี จบถ้วนธานี ลูกชุลีนบไหว้วอน ขอพรครูช่างเก่าก่อน เข้า
มาอวยพร สรรพกิจจาจงดี สำเร็จสมบูรณ์โสภี ขออย่าได้มี ที่สรรพ
อันตราย พระเวสสุกรรมโฉมฉาย ครูช่างขวาซ้าย ขอท่านได้ประทานพร
รับเครื่องสังเวยเสียก่อน ปวงข้าไหว้วอน ขอทรงอาทรเมตตา รับสรรพ
กระยาบูชา ธูปเทียนบุปผา หมากพลูผลไม้บายศรี หมากพร้าวอ้อย
65
กล้วยก็มี ข้าแต่งครบที่ อีกกระยา บวดสมใจ ปวงข้าถวายเครื่องไซร้
สังเวยถ้วนใน ให้พระครูท่านเสวย พร้อมด้วยครูช่างท่านเอย รับเครื่อง
ชมเชย ล้วนแล้วของเคยวันทา ขอพรปวงพระครูข้า วิศวกรรมา พ่อครูมา
ประสิทธี การใดมงคลทั้งนี้ ขออย่าได้มี สรรพอุปั ทวา เทอญ โอม ปริ
ภุญชันตุ จะ มหาอาจาริยา
บทประกาศเทวดา
๏ โอมนะโมเทวะประสิทธิไชย สองหัตถ์ไหว้ไท้ทวยเทวดา ณ
บัดนี้มงคลสมเวลา ทั้งฤกษ์ผานาทีพร้อมสมบูรณ์ ประกาศถึงเทพเจ้าใน
ชั้นฟ้ า ปวงสุราอารักษ์ไปถ้วนมูล ขอเสด็จลงมาตามข้าทูล ให้จรูญก่อ
เกิดการมงคล ขอน้อมเชิญพระเสื้อเมืองพระทรงเมือง พระหลักเมืองยุตร
ยาตรเป็ นพหล เสด็จเข้ามาในเขตมณฑล แล้วยัลยลเครื่ องพลีที่บูชา
พระภุมมัฐอากาศเทวา สมุทราสิงขรอันหาญกล้า วลาหกนักษัตรเบื้อง
นภา เสด็จมาโดยดีอย่ามีภัย เชิญถึงพระอาทิตย์แลพระจันทร์ พระพุธ
พรรณพระอังคารเป็ นใหญ่ พระพฤหัสพระศุกร์ผู้ชาญชัย พระเสารไซร้
พระราหูจงมา ทั้งพระเกตุทวยเทพเบื้องนักขัตติ ขอนมัสเชิญเสด็จจาก
ฟากฟ้ า อีกไท้ท้าวจตุโลกปาลา สี่ทิศศาจงมาอวยพระพร พระพลเทพ
กามเทพปั ญจสิงขร เสด็จจรเข้ามากันสลอน พระรามสูรเทวกรรม์ผู้ฤทธิ์
รอญ ทั้งบวรมาตุลีเวสสุญาณ อีกพระพุทธคิเนศพระคินาย ทั้งขวาซ้าย
เชิญมาในสถาน พระสมุทรแลพระหิมพาน์ ทั้งพระกาฬพร้อมพระอัศวิน
อีกทวยเทพคนธรรพ์นาคายักษ์ กุมภัณฑ์พรรควิทยาธรทั้งสิ้น อีกอสูร
กินนรในชั้นดิน มาให้สิ้นรับเครื่องพระบูชา ขอเชิญทั้งพระอินทร์อันกล้า
หาญ พิฆาตมารสถิตย์เหนือโลกหล้า พระพิรุณพระพายเสด็จมา อีกเท
วาพระเพลิงเริงสำราญ ขอเชิญทั้งพระยมมหานาถ สุวรรณชาดอาสน์
ทรงแลตระหง่าน พระไพศรพณ์แลองค์พระวิศาล ข้าสักการเชิญมาด้วย
ไมตรี ไหว้พระขันธกุมารชาญณรงค์ ท้าวเธอทรงนกยูงสง่าศรี เชิญปวง
66
พรหมโสฬสในธาตรี เล็งวิถีญาณร่วมโมทนา เชิญพระนาถนารีภัควดี
สามเทวีสิริโฉมสง่า กราบพระลักษมีอัครา ฉายวัลลาเสด็จด้วยไมตรี
พร้อมพระนาถนารีแห่งพระเวท องค์มเหศพระสุรัสวดี ทั้งนวลพระอุมา
นาถวดี สามมารศรีเสด็จประสิทธิ์ชัย กราบแทบบาทพระพรหมบรมยศ
ทรงเวทพรตสังวาลย์ฌานอาศัย ขอเสด็จมาด้วยฤทธิไกร ให้หวั่นไหว
สะเทือนฟ้ าสะท้านดิน กราบองค์พระนารายณ์พระราเมศ ปราบอาเพศ
อธรรมไปทั้งสิ้น กราบพระอิศวรเจ้าจอมนรินทร์ ขอประทินพระทรง
ประสาทพร อีกเหล่าปวงเทวะสมาศัย อยู่ถ้วนในพรหมเทพสโมสร ขอ
เสด็จมารับเครื่ องบวร อันข้าต้อนแต่งไว้ยกวันทาทั้งธูปทองเทียนแก้ว
กรองมาลี แลบายศรีหมากพลูชวาลา อีกลูกไม้ส้มอ้อยแลถั่วงา ปวง
กระยาบวดครบเครื่องสังเวย ทั้งมัจฉาเป็ ดไก่มังสาหาร สุราบานยำพล่า
เครื่องเสวย อีกขนมน้อยใหญ่ให้ชมเชย ครบท่านเอยตามสูตรโบราณมา
ปางเมื่อพระเสวยสิ้นเสร็จสรรพ โปรดสดับเงี่ยโสตฟั งเสียข้า ขอพระพร
ประสิทธิกิจจา การศาสนาก่อสร้างให้มงคล ก่อกุฎีปั้ นพระลงรักทอง
ทั้งล่องชาดวาดรูปทุกแห่งหน ขุดสระพังเบิกดงพระไพรสณฑ์ เปิ ด
มณฑลก่อพัทธสีมา ซ่อมพระเจ้าองค์น้อยแลองค์ใหญ่ ก่อพาไลพนมพระ
เมรุผา ทำเรือพระชักลากรอบอาณา โค่นพฤกษาไม้ใหญ่พระโพธิ์ไทร
สร้างไพหารศาลาอุโบสถ ซ่อมแซมบทหน้าบันเป็ นการใหญ่ ถอนศาล
โบสถ์ร้างได้ทันใด ประสิทธิ์ชัยด้วยเดชพระเทวา เทอญ โอม สิทธิพุทธา
ยะ ธัมมายะ สังฆายะ ปั จเจกพุทธายะ อรหัตตายะ ปรเมศวรายะ
นารายณ์ยะ พรหมายะ พุทธคิเนศายะ ขันธะกุมารยะ ฤๅษีสายะ สัสดีสา
ยะ อุมาเทวียะ ภควดีเทวียะ อินทรายะ วรุณายะ ยมราชายะ พระภายกะ
จายะ อัคคะเนนายะ วิษณุกัมมายะ มาตุลีเทวายะ พลเทพายะ จตุโลกะ
ปาลายะ อาทิตยายะ จันทายะ นักขัตตะเทวายะ วลาหกะเทวายะ
กรุงพาลีลายะ ภุมมาเทวายะ คันธัพเทวายะ สุปั นนาคายะ ปั พพะตาเท
67
วายะ สมุทราเทวายะ อากาศเทวายะ เจติยะเทวายะ ภิรอกอริกายะ
หนุมานพายะ รามเทพยะติปะวะระ สิทธิปวาทายะ ทิพพะสัจจะประสิทธิ
สวาหะ
บททำน้ำมนต์ประพรมช่าง และ เครื่องมือช่าง
โองการธารณีสาร
๏ โองการพินทุนาถัง อุปปั นนานัง พรหมาสะหะปะตินามัง อาทิกัป
เป สุอากัปโต ปั ญจะปะทุมมัง ทิสสะวา นะโมพุทธายะ วันทะนัง
๏ สิโร เม พุทธะเทวัญจะ นะลาเต พรหมะเทวะตา หะทะเว หัตเถ
ปะทะเม สุรา ปาเท วิสสะณุกัญเจวะ สัพพะกัมมา ประสิทธิ เม สัพพะ
พุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ สัพพะโสตถี
ภะวันตุ เม สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิลาโภ นิ
รันตะรัง สิทธิเตโช ชะโยนิจจัง สรรพธัมมา ประสิทธิ เม สัพพะสิทธิ ประ
สิทธิ เม
๏ นะโม นะมัสการ เม แห่งข้าจะไหว้ ซึ่งพระปรเมศวรผู้เป็ นเจ้า
เสด็จลงมา ตั้งฟ้ าแลดิน ตั้งสมุทรสายสิญจน์อันอุดม ข้าจะไหว้พระอินทร์
พระพรหม พระยม พระกาฬ พระจัตุโลกบาลทั้ง ๔ พระฤๅษีนารอท ยอด
ปิ ฎกกัณฑ์ไตร พระสูตร พระวินัย พระปรมัตถ์ พระโตรสรณคมน์ ทั้งพระ
พ่อหมอเอก ทั้งพระพุทธคิเนตร พุทธคินาย พระนารายณ์ พระกัจจายเถร
พระโมคคัลลาน พระสารีบุตร พระพุทธ พระธรรม พระควัมบดี พระมหา
โพธิ พระมหาสารีริกธาตุ แก่นจันทน์ พระศรีรัตนตรัยเจ้านั้นท่านจึงใช้ให้
กูมาตั้งโองการ เบิกบ้านแลเบิกป่ า เบิกพระหิมพานห์ เบิกพระพุย เบิก
พระพาย เบิกพระพิรุณ พระเพลิง พระกาฬเถลิงท่านจึงให้กูมาตั้งพิธีสาร
พัดกันเสนียดจัญไร กันที่ชั่วทั้งหลาย อย่าระคายมาพ้องพาน ทั้งพระ
ธรณีสารอย่าได้มาต้องเธอจึงให้กูมา ตีเชือกบ่วงบาศคล้องรัดคน โดย
มณฑล ที่ท่านว่าไว้ เธอจึงให้กูมาผลาญ ต้นไม้อันมีผี อันครกสีแลกระ
68
เดื่อง กูจะตั้งพิธีสารพัด ทำโขนทวารบานประตู ขุดคูแลขุดบ่อปิ ดท่อแล
ปิ ดทาง ปิ ดบึง ปิ ดบาง ปิ ดทวารแลถมสระปั้ นรูปพระแลรูปเทวดา ปั้ น
รูปภาพนานา พากย์เจรจาแลจอหนัง ขนันผีมิดี กาสังผีตายโหง ต่อโลง
แลโกศฝา ทำศาลาแลหน้ามุข สีสุกไม้ไผ่กลับกลายทางทิศตะวันตก แมลง
มุมตีอก หนูกกในเรือน เรียกเพื่อนตามกัน เสาเรือนตกมัน ไม้รังนางเรียง
ที่ลาด ที่แก่ง ที่เกาะ ที่เฉลียง ที่วนที่วัง ที่พังน้ำขัง ผึ้งต่อจับรวงรัง ไม้หัก
ทับที่ ปลวกขึ้นในแดน ตะกวดเหี้ยแล่นขึ้นบนเรือน ไก่เถื่อนเข้าบ้าน งู
เหลือมขึ้นร้าน แร้งจับหลังคา ข้าวสารแช่น้ำ งอกขึ้นเป็ นใบ เห็ดงอก
เตาไฟ สิงห์สัตว์ขึ้นไข่บนฟูกบนหมอน วัวควายเขาหัก เขาจักเขาคอน เขา
ช้อนสลักคอก ข้างนอกฟั นหักประตูผี ฝั นร้ายมิดี เงาหัวพิกล หญิงชายข้า
คน นอนกรนนอนคราง นอนหลับตาค้าง น้ำลายไหลนอง หม้อร้อง เป็ น
เสียงฆ้อง เรือร้องเป็ นเสียงช้าง กล้วยออกปลีข้างข้าง กลายเป็ นดอกบัว ผี
ให้ผีหัว ทำให้คนกลัว ตัวสั่นทาว ๆ สัมฤทธิ์ทองขาว แตกร้าวกระจาย หัว
แหวนสลาย เขี้ยวงาพิการ ปิ ดพระสมุทร อุดพระทวาร ขึ้นร้านถล่ม ขึ้น
ช้างกันร่ม หวีผมกลางคืน นอนละเมอ นอนเน้อเหมือนคนบ้า น้ำซับชาย
ผ้า หมาขึ้นหลังคา หมาขึ้นกระออมข้าว นมเค้านกแสก บินแถกเอาขวัญ
ดันเข้าที่นอน หมาแม่ลูกอ่อน คาบลูกขึ้นเรือน หมาเยี่ยมหน้าต่าง คน
ซบเซาหาวหอน ต้องอธิกรณ์ ขื่อคาโซ่ตรวน ชายไม่มีเมีย หญิงไม่มีผัว
ไม่มีเงาหัว ตกบ่อตกเสา ปลูกเรือนหว่างกลาง พี่น้องต่างกัน รุกที่รุกแดน
แว่นแคว้น ขอบขัณฑ์ แม่ไก่ขัน กลับมาฟั กไข่ ผีหลอกผีหลอน ตีเกราะ
เคาะไม้ จิ้งจอกหมาใน วิ่งไล่เห่าขบ แร้งคาบเอาศพ ตกลงหลังคา มด
ปลวกขึ้นฝา งูทับสมิงคลา เลื้อยมาเข้าบ้าน ฟั กทองขึ้นร้าน กลายเป็ น
นาคี กล้วยตายคาปลี กลายเป็ นผีพราย แกะรูปภาพทั้งหลาย เบิก
พระเนตร ร่วมอาสน์พระสงฆ์ เสาเรือนไม้แก่น เอาไม้มาประสมโขลง ตั้ง
เสากระโดง ติดกระโหมดยา ติดโขนเรือพายม้า หมาเยี่ยวรดตีน ขุดตอ
69
ใต้ดิน หินหักสองท่อน ที่ลุ่มที่ดอน สาครลดตลิ่งพัง เรือนเดิมแรกตั้ง ฝั่ ง
น้ำหัก เสาเรือนยอดสลัก หักได้กระได เอาต้นต่อต้น เอาปลายต่อปลาย
เสาเรือนไสกบ ปิ ดน้ำทำทบ ฝูงคนทั้งหลาย ผสมโคผสมควาย ผสมม้า
ผสมช้าง เลือกรางทำสวน ต่อกงกำเกวียน ขุดสระขุดคลอง ซ่องที่สูงที่ต่ำ
ทำไร่ถั่ว วัวไถนามากลางตลาด บาตรแตกสาแหรกขาด ตะลุ่มทาชาด กิน
ซ้อนหอยมุกข์ ร่วมอาสน์ท้าวพระยา ตัดไม้ฝามาผสมหินบด ขุดค่อมตอไม้
ทิ้งไฟทิ้งเรือน ถอดงาช้างเถื่อน เลื่อนผีตายโหง ไม้สักต่อโลง โยงเข้าป่ าช้า
ชายกระเบนเช็ดหน้า ก้างปลาจิ้มพัน หายใจรดกัน กระไดสี่ขั้น ทำช่อง
ห้องขัด ปลูกเรือนร่วมวัด ไม้กวาดปั ดหลังคา เสาเรือนฟ้ าฝ่ า หลังคาไฟ
ไหม้ ปั กไม้เจาะเสา หนูกัดตีนจำเพาะ แมลงสาบเลียหัว ผ้านุ่งกับตัว ไฟ
ไหม้ใต้ลน เรือนเซทับคน วัวชนควายเฉี่ยว เรียนปถมังอาถรรพ์ ปลูกกุฏิ
วิหารการเปรียญ เขียนรูปภาพนานา ทำศาลาแลมณฑป พนมศพพนมเมรุ
พระครูกูชื่อ พระกัจจายเถร เธอเสด็จเข้าสู่พระนิพพานัง ปะถะมังสุขัง
พุทธัง กันสารพัด เสนียดจัญไร วินาสสันติ สิทธิหุลู สะวาหายะ
ธัมมัง กันสารพัด เสนียดจัญไร วินาสสันติ สิทธิหุลู สะวาหายะ
สังฆัง กันสารพัด เสนียดจัญไร วินาสสันติ สิทธิหุลู สะวาหายะ ๚๛

บัตรพลีพระภูมิ คือ ภาชนะที่ใช้ใส่อาหารในการบูชาพระภูมิ เป็ นภาชนะ


ที่ถวายตั้งไว้จุดใดแล้ว สามารถวางไว้จุดนั้นได้เลย ทางภาคใต้นิยมทำบัตร
พลีด้วยใบเตยป่ า ( เตยดง ) หากไม่มี ใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น กาบ
กล้วย หรือ กาบหมาก ประยุกต์ได้ ในการไหว้ภูมิ หากมีบัตรพลีไหว้ภูมิ
จะต้องนำบัตรไปวางตามจุดต่าง ๆ เพื่อบูชาพระภูมิ และเทพคณะ ดังต่อ
ไปนี้
 บัตรพลีสามชั้น ของพระภูมิ ตั้ง ที่ เ ส า เ อ ก ห รื อ เ ส า
ประธานของบ้าน
70
 บัตรพลีวงกลม ของนางธรณี ตั้ง ที่ ทิ ศ ต ะ วั น อ อ ก ข อ ง
บ้าน
 บัตรพลีสามเหลี่ยม ของท้าวบริถิว ตั้งที่ถนนเข้าบ้าน
 บัตรพลีคางหมูหรือบัตรรูปเรือ ของเจ้ากรุงพลี ตั้งที่ทิศตะวันตกของ
บ้าน
 บัตรพลีสามเหลี่ยม ของท้าวนาคา ตั้งที่แหล่งน้ำประจำบ้าน
 บัตรพลีหกเหลี่ยม ของท้าวมหาลาภ ตั้งที่ทิศเหนือของบ้าน
 บัตรพลีห้าเหลี่ยม ของท้าวมหาไชย ตั้งที่ทิศใต้ของบ้าน
 บัตรพลีสี่เหลี่ยม ๑ ใบ ตั้งที่เตาไฟภายในครัว
 บัตรพลีสี่เหลี่ยม ๑ ใบ ตั้งที่ทิศอีสานของบ้าน
 บัตรพลีสี่เหลี่ยม ๑ ใบ ตั้งที่ทิศอาคเนย์ของบ้าน
 บัตรพลีสี่เหลี่ยม ๑ ใบ ตั้งที่ทิศหรดีของบ้าน
 บัตรพลีสี่เหลี่ยม ๑ ใบ ตั้งที่ทิศพายัพของบ้าน
(ข้อมูลจากหนังสือ ตำราสะเดาะพระเคราะห์ ขับอาเพศ-โดยผู้เขียน)

71

You might also like