Professional Documents
Culture Documents
เท้าหนัง
เท้าหนัง
โรงงานผลิตรองเท้าหนัง
เสนอ
ผศ.ดร.รณร เจียรตระกูล
จัดทำโดย
นายเกื้อวรกุล จันทราสา 61010105
นางสาวกุสุมา สาเบาะ 61010098
นายฐาปนนท์ คุ่ยเสงี่ยม 61010268
นายณพวัฒน์ จูมงคล 61010286
คณะผู้จัดทำ
สารบัญ
หน้า
โรงงานผลิตรองเท้าหนัง
การจัดแผนกงานภายในโรงงานผลิตรองเท้าหนัง 1
กระบวนการผลิตรองเท้าหนัง 2
การแบ่งแผนกของส่วนการผลิต 4
ส่วนแบ่งการตลาด 5
เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตรองเท้าหนัง 6
ข้อมูลพื้นฐานในการผลิต 7
การคำนวณพื้นที่ในส่วนการผลิต 7
การแบ่งพื้นที่ในส่วนสำนักงาน 10
การออกแบบผังภายในโรงงาน 10
Material Handling
ผังการไหลของสินค้า 17
การวางแผนการขนถ่าย (Planning) 17
Material Handling Equipment 18
Unit Load 20
ทำเลที่ตั้งของโรงงาน 21
แหล่งวัตถุดิบ 23
ระยะทางระหว่างแหล่งวัตถุดบิ กับโรงงาน 24
การวิเคราะห์ปัจจัยเชิงคุณภาพในการเลือกทำเลที่ตั้ง 25
การวิเคราะห์ปัจจัยเชิงปริมาณในการเลือกทำเลทีต่ ั้งของโรงงาน 28
การวางแผนการจัดการคลังสินค้า 33
อุปกรณ์ขนส่งภายในคลังสินค้า 36
Storage and Retrieval Policy 38
การควบคุมการไหลไม่ให้ของล้นหรือขาด 38
1
โรงงานผลิตรองเท้าหนัง
การผลิตรองเท้าหนังมีกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อน และยังใช้เครือ่ งจักรและแรงงานฝีมือจำนวนมาก โดยรองเท้า
ที่ผู้จัดทำสนใจได้แก่รองเท้าทรงเฮอริเทจบูท (Heritage Boots) และรองเท้าทรงออกซ์ฟอร์ด (Oxford Shoes) โดยรองเท้า
สองประเภทนี้จะมีกระบวนการผลิตต่างกันเล็กน้อย
รองเท้าทรงเฮอริเทจบูท รองเท้าทรงออกซ์ฟอร์ด
การจัดแผนกงานภายในโรงงานผลิตรองเท้าหนัง
การจัดแผนกงาน คือกระบวนการจัดกลุ่มของกลุม่ บุคคลที่มีหน้าที่และกิจกรรมที่คล้ายคลึงกัน มอบหมายงานให้คน
ปฏิบัติเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมาย โดยภายในโรงงานผลิตรองเท้าหนังนี้ขะมีการแบ่งองค์กรออกเป็น
แผนกต่างๆ ดังนี้
1. ฝ่ายบริหาร
ทำหน้าที่กำหนดเป้าหมายและทิศทางขององค์กร กำหนดกลยุทธ์และวางแผนระยะยาวเพื่อบรรลุสเู่ ป้าหมายที่
กำหนดไว้ มีหน้าที่ตัดสินใจการใช้แผนหรือกลยุทธ์ต่างๆ ภายในองค์กร
2. ฝ่ายการตลาด
2.1.1. ฝ่ายวิเคราะห์ทิศทางสถานการณ์ของตลาด เพื่อให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของตลาด อันจะ
ทำให้ผู้ผลิตสามารถผลิตสินค้าและบริการได้ตรงความต้องการของลูกค้าได้ตลอดเวลา
2.1.2. ฝ่ายการขาย กำหนดแนวทางและกลยุทธ์ในการการประชาสัมพันธ์และการขาย เพื่อเพิ่มยอดขาด
ผลิตภัณฑ์ให้ได้ตามเป้าที่กำหนดไว้
3. ฝ่ายออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์
ทำหน้าที่ออกแบบรองเท้ารุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด มีการออกแบบแม่แบบการตัดชิ้นส่วนรองเท้า
รุ่นต่างๆ พัฒนาคุณภาพของวัสดุทใี่ ช้ให้มีคุณภาพมากขึ้นเสมอด้วยการใช้นวัตกรรมหรือกระบวนการที่ทันสมัยและเหมาะสม
กับรองเท้าประเภทนั้นๆ
2
4. ฝ่ายการผลิต
รับผิดชอบการวางแผนการผลิตและดำเนินงานผลิต ออกแบบกระบวนการผลิตให้เหมาะสมกับรูปแบบของ
ผลิตภัณฑ์และความคุม้ ค่าของต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการตรวจสอบคุณภาพของรองเท้าให้ได้ตามมาตรฐานและการบรรจุ
ผลิตภัณฑ์ลงกล่อง
5. ฝ่ายจัดซื้อ
ทำหน้าทีก่ ำหนดยุทธศาสตร์ในการจัดซื้อเพื่อเพิม่ ประสิทธิภาพในด้านวัตถุดิบหาแหล่งวัตถุดิบที่มีคณ
ุ ภาพดีในราคาที่
เหมาะสม สามารถประสานสัมพันธ์ทั้งภายใน (หน่วยงานแผนกในองค์กร) และภายนอกบริษัท (คู่ค้า/ลูกค้า) เพื่อสร้าง
ภาพลักษณ์ของฝ่ายจัดซื้อจัดหาทีด่ ี กำหนดแผนวิจยั ในเรื่องการจัดซื้อเพื่อให้สามารถสะท้อนการทำงานในองค์กร ให้เห็นถึง
สภาพปัญหาการจัดซื้อเพื่อสร้างแบบจำลองในการจัดซื้อที่เหมาะสมกับการทำงานต่อไป
6. ฝ่ายคลังสินค้า
ทำหน้าที่ควบคุมดูแลคลังสินค้า การรับ-การจ่าย การเก็บ และการจัดส่งไปยังลูกค้า การจัดการตรวจนับสินค้า
สำเร็จรูปตามระบบการควบคุมสินค้าให้มีประสิทธิภาพ วางแผน บริหาร สต๊อค สินค้าและวัตถุดิบให้เป็นไปตามแผนการผลิต
และแผนการจัดส่งออก จัดทำรายงานสต๊อค รายวัน รายเดือน สรุปยอดสินค้าและวัตถุดิบคงเหลือสิ้นเดือน รวมถึงการเบิกจ่าย
7. ฝ่ายซ่อมบำรุง
ทำหน้าที่กำหนดแผนการซ่อมและดูแลรักษาเครื่องจักรไว้ล่วงหน้า ประมาณอะไหล่ที่จะใช้ในการซ่อมแซม ป้องกัน
การหยุดทำงานของเครื่องจักร วิเคราห์สาเหตุของการเสียหายของเครื่องจักรและทำการซ่อมแซม
8. ฝ่ายบัญชีและการเงิน
ทำหน้าทีบ่ ันทึกและดูแล การรับเงิน การจัดเก็บเงิน ค่าใช้จ่าย รวมทัง้ การตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของการ
บันทึกรายการการสั่งซื้อวัตถุดิบและยอดการขายสินค้า การจัดทำรายงานทางการเงินและบัญชีให้ผู้บริหารและผู้ถือหุ้น และ
การจัดเก็บเอกสารทางบัญชี
9. ฝ่ายทรัพยากรบุคคล
มีหน้าที่ดูแลเรื่องการสรรหา คัดเลือกบุคลากร การว่าจ้าง ดูแลเรื่องค่าจ้าง เงินเดือน และสวัสดิการบุคลากร
รับผิดชอบการวางกฎระเบียบของพนักงาน ฝึกอบรม พัฒนาศักยภาพของพนักงาน
10. ฝ่ายอาคารและสถานที่
ดูแลบริเวณพื้นที่ของโรงงาน การก่อสร้าง การตกแต่ง ระบบน้ำหรือไฟต่างๆ ภายในโรงงาน รวมไปถึงการดูแลความ
ปลอดภัยภายในโรงงานอีกด้วย
11. ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ
ทำหน้าที่ดูแลระบบเครือข่าย จัดการฐานข้อมูล กล้องวงจรปิด ตลอดจนแก้ไขปัญหาที่เกิดจากเครื่องคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์โปรแกรมและเครือข่าย เพื่อให้ฝ่ายต่าง ๆ สามารถใช้เทคโนโลยีในการดำเนินงานและให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งการพัฒนาเว็บไซต์และช่องทางสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร
3
กระบวนการผลิตรองเท้าหนัง
การผลิตรองเท้าหนังมีขั้นตอนที่มากและซับซ้อน จากการศึกษาสามารถสรุปขั้นตอนแบบคร่าวๆ ดังนี้
การเย็บส่วนบนของรองเท้า การบีบเข้ากับหุ่นรองเท้า
6. ทำการเย็บขอบพื้นรองเท้าโดยใช้วิธีการเย็บตะเข็บแบบกูด๊ เยียร์ (Goodyear’s Welt) ด้วยด้ายที่หนาและ
แข็งแรงแบบพิเศษ หลังจากนั้นจะติดพื้นเสริมด้วยกาวลงไปอีกชั้นหนึ่ง
7. นำพื้นยาง PVC มาติดกับรองเท้าที่เย็บตะเข็บพื้นเสร็จแล้วโดยการใช้ความร้อนหลอมพื้นยางให้เหลวติดกัน
หลังจากนั้นจะทำการติดให้แน่นอีกครั้งด้วยการใช้ใบมีดที่มคี วามร้อนสูง (Hot Blade and Roller) แล้วกดให้แน่นจนแห้ง
และนำมาพื้นยางมาตัดส่วนเกินและขัดให้เรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
8. ติดแผ่นรองพื้นที่ผ่านการปัม๊ โลโก้แล้วในรองเท้าด้วยกาว ทำการเช็ดทำความสะอาดรองเท้า ตัดด้ายส่วนเกิน ร้อย
เชือก และตรวจสอบความเรียบร้อยของรองเท้า หลังจากนั้นทำการบรรจุลงกล่อง
4
การเย็บตะเข็บพื้นแบบกู๊ดเยียร์ การติดพื้นรองเท้าด้วยใบมีดความร้อนสูง
การแบ่งแผนกของส่วนการผลิต
แผนกของส่วนการผลิตจะเรียงตามลำดับขั้นตอนของกระบวนการผลิต และแบ่งตามกระบวนการหรืออุปกรณ์ที่ใช้
ในขั้นตอนนั้นๆ โดยผู้จัดทำแบ่งเป็น 6 แผนก ได้แก่
แผนกที่ 1: ฉีดขึ้นรูปพื้น PVC
แผนกที่ 2: ตัด รีด และปั๊มโลโก้
แผนกที่ 3: เย็บส่วนบนของรองเท้าและเจาะรูเชือก
แผนกที่ 4: ขึงเข้ารูปและเย็บประกอบกับ Insole
แผนกที่ 5: ประกอบพื้น PVC และขัดผิว
แผนกที่ 6: เก็บรายละเอียด ตรวจสอบคุณภาพ และบรรจุลงกล่อง
แผนผังแสดงการจัดแผนกภายในโรงงานรองเท้าหนัง
ฝ่ายบริหาร
ฝ่ายการตลาด ฝ่ายออกแบบ
ฝ่ายการผลิต ฝ่ายจัดซื้อ
ฝ่ายคลังสินค้า ฝ่ายซ่อมบำรุง
ฝ่ายบัญชี ฝ่ายทรัพยากรบุคคล
ฝ่ายอาคารและสถานที่ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ
5
ส่วนแบ่งการตลาด
รองเท้าที่ผู้จัดทำสนใจได้แก่รองเท้าทรงเฮอริเทจบูท (Heritage Boots) และรองเท้าทรงออกซ์ฟอร์ด (Oxford
Shoes) ในรองเท้าแต่ละทรงจะมีหัวรองเท้าหลายแบบและมีหนังรองเท้าให้เลือกแบบหลากหลายประเภท รองเท้าสามารถ
สวมใส่ได้ทั้งชายและหญิง เป็นรองเท้าแฟชั่นที่สวมใส่ได้เข้ากับการแต่งตัวหลายสไตล์ ส่วนใหญ่รองเท้าลักษณะนี้เป็นที่นิยมใน
หมู่วัยรุ่นเป็นส่วนมากรองลงมาคือวัยทำงาน รองเท้าลักษณะนี้เจาะจงลูกค้าค่อนข้างเฉพาะกลุ่มดังนั้นกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่
ผู้จัดทำสนใจจึงอยู่ในช่วงอายุ 20-45 ปี ทั้งเพศชายและหญิง โดยเป็นการตลาดแบบแบ่งส่วนคือสินค้าผลิตตามความต้องการ
ของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน สินค้าถูกผลิตตามรุ่น จากรองเท้าหนังที่ขายได้ทั้งหมดภายในประเทศผู้จัดทำกำหนดให้คิดส่วนแบ่ง
ทางการตลาดเป็น 10 เปอร์เซ็นโดยความต้องการที่จะผลิตเข้าสู่ตลาดรองเท้าหนั งคิดเป็น 100,000 คู่ซึ่งคิดมาจากทรงเฮอริ
เทจบูท (Heritage Boots) และรองเท้าทรงออกซ์ฟอร์ด (Oxford Shoes) สามารถแยกย่อยการผลิตรองเท้าแต่ละรุ่นได้ดังนี้
รองเท้าทรงเฮอริเทจบูท
หัวรองเท้า-หนัง จำนวนสินค้า เปอร์เซ็นจากสินค้าทั้งหมด
หัวกลมหนังฟอกน้ำมัน 4170 4.17
หัวกลมหนังกลับ 2920 2.92
หัวกลมหนังเรีย 2920 2.92
หัวโมคคาซินหนังฟอกน้ำมัน 3750 3.75
หัวโมคคาซินหนังกลับ 2500 2.50
หัวโมคคาซินหนังเรีย 2500 2.50
หัวแค็พท์หนังฟอกน้ำมัน 3750 3.75
หัวแค็พท์หนังกลับ 2670 2.67
หัวแค็พท์หนังเรีย 2610 2.61
หัวโบร๊กหนังฟอกน้ำมัน 3290 3.29
หัวโบร๊กหนังกลับ 5000 5.00
หัวโบร๊กหนังเรีย 5600 5.60
รวม 41670 41.67
ตารางแสดงสัดส่วนความต้องการในการผลิตของรองเท้าทรงเฮอริเทจบูท
6
รองเท้าทรงออกซ์ฟอร์ด
หัวรองเท้า-หนัง จำนวนสินค้า เปอร์เซ็นจากสินค้าทั้งหมด
หัวกลมหนังฟอกน้ำมัน 1870 1.87
หัวกลมหนังกลับ 3270 3.27
หัวกลมหนังเรีย 7740 7.74
หัวโมคคาซินหนังฟอกน้ำมัน 3990 3.99
หัวโมคคาซินหนังกลับ 4450 4.45
หัวโมคคาซินหนังเรีย 5750 5.75
หัวแค็พท์หนังฟอกน้ำมัน 6220 6.22
หัวแค็พท์หนังกลับ 4970 4.97
หัวแค็พท์หนังเรีย 4560 4.56
หัวโบร๊กหนังฟอกน้ำมัน 4050 4.05
หัวโบร๊กหนังกลับ 3200 3.20
หัวโบร๊กหนังเรีย 8270 8.27
รวม 58333 58.33
ตารางแสดงสัดส่วนความต้องการในการผลิตของรองเท้าทรงออกซ์ฟอร์ด
เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตรองเท้าหนัง
เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตจะมีทั้งหมด 14 เครื่อง ได้แก่
ข้อมูลพืน้ ฐานในการผลิต
การคำนวณพื้นที่ในส่วนการผลิต
1. แผนกฉีดขึ้นรูปพื้น PVC
Allowance
Standard time Capacity % Performance Number of
Machine % Defect capacity
(minute/piece) (piece/minute) 80% Machine
(piece/minute)
Sole Injection Molding Machine 1.33 0.75 0.02 1.62 2.03 2.70
1.59
Number of Space/Machine
Machine % Utility Extra Area (m2)
Machine (m2)
Sole Injection Molding Machine M1 90.15 3 15 30 75
รวม 3 75
Number of Space/Machine
Machine % Utility Machine (m2) Extra Area (m2)
Hydraulic Clicker Presses M1 87.13 3 6 15 33
Leather Rolling Machine M2 84.51 2 3 5 11
Stamping Machine M3 83.67 1 4 7 11
รวม 6 55
3. เย็บส่วนบนของรองเท้าและเจาะรูเชือก
Allowance %
Standard time Capacity Number of
Machine % Defect capacity Performance
(minute/piece) (piece/minute) Machine
(piece/minute) 80%
Number of Space/Machine
Machine % Utility Extra Area (m2)
Machine (m2)
Sewing Machine M1 95.97 22 3 5 71
Zig Zag Sewing Machine M2 89.83 9 3 4 31
Puritan Sewing Machine M3 98.03 8 3 4 28
Punch and Eyelet Machine M4 88.75 4 6 6 30
รวม 43 160
4. ขึงเข้ารูปและเย็บประกอบกับ Insole
Allowance
Standard time Capacity % Performance Number of
Machine % Defect capacity
(minute/piece) (piece/minute) 80% Machine
(piece/minute)
Cementing & Toe Lasting
0.75 1.33 0.01 1.71 2.13 1.60
Machine
Sidewall Stitching
1.33 0.75 0.02 1.69 2.11 2.82
Machine
Flash Trimming Machine 0.83 1.20 0.02 1.66 2.07 1.72
PVC Welt Sewing Machine 1.33 0.75 0.02 1.62 2.03 2.70
1.59
Number of Space/Machine
Machine % Utility Machine (m^2) Extra Area (m^2)
Cementing & Toe Lasting Machine M1 80.00 2 6 8 20
Sidewall Stitching Machine M2 93.87 3 3 5 14
Flash Trimming Machine M3 86.25 2 3 5 11
PVC Welt Sewing Machine M4 90.15 3 5 5 20
รวม 10 65
Number of Space/Machine
Machine % Utility Extra Area (m2)
Machine (m2)
Blades and Rollers Machine M1 86.71 4 6 10 34
Shoe Finishing Machine M2 99.90 5 6 6 36
รวม 9 70
การแบ่งพื้นที่ในส่วนสำนักงาน
การออกแบบผังภายในโรงงาน
แผนก
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
A 6 4,8 3,5 4,6 2,5,7 6,9 3 7
E 8,10 5 3 2 2
I 9,12 10 6,10 7,10 4,10 5 1 3,4,5,6 1
1,4,5,6, 2,3,4,5, 2,3,4,5,
2,3,4,5, 1,3,5,7, 1,2,6,7, 1,7,8,9 1,2,8,9, 1,3,8,9, 1,2,3,4, 7,8,9,
O 7,9,10, 6,8,10, 1,12 6,7,8,9,
6,7,8,11 9,12 9,12 12 12 12 8,10,12 12
12 12 10,11
2,3,4,5,
U 10 4,11 11 2,11 11 11 11 11 11 1,11
6,7,8,9,10
X
ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างแผนกต่างๆ
หลังจากกำหนดความสัมพันธ์ทั้งหมดแล้ว สามารถนำความสัมพันธ์ระหว่างแผนกมาจัดผังความสัมพันธ์แบบคร่าวๆ
เพื่อระบุตำแหน่งให้ตรงตามความสัมพันธ์ก่อนจะนำไปเขียนผังจริงได้ดังนี้
1 4 5 9
12 3 6 7
11 8 2 10
ผังแสดงตำแหน่งของแผนกต่างๆ ตามความสัมพันธ์ระหว่างแผนก
ขั้นตอนสุดท้ายคือการออกแบบผังโรงงานโดยมีการแบ่งพื้นที่ตามขนาดของแต่ละแผนกที่คำนวณไว้และ
จัดตำแหน่งตามความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งตามที่กำหนดไว้ข้างต้น
กำหนดให้ผังที่ออกแบบมามีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยด้านยาวจะมีความยาวเป็น 1.5 เท่าของด้าน
กว้าง และกำหนดให้พื้นที่มีความเผื่อมีค่าระหว่าง 20 - 50 ตารางเมตร สามารถคำนวณด้านยาวออกมาได้ 53 เมตร
ด้านกว้าง 34 เมตร พื้นที่รวมอยู่ที่ 1,802 ตารางเมตร หลังจากนั้นจะแบ่งด้านกว้างออกเป็น 3 แถว ที่มีความกว้าง
14, 10, 10 เมตร ตามลำดับเพื่อแบ่งพื้นที่แต่ละแผนกให้ได้ตามที่คำนวณไว้ โดยได้ผังโรงงานตามภาพด้านล่าง
13
ผังโรงงานผลิตรองเท้าหนัง
14
การคำนวณคะแนน Layout
จาก ∑𝑖,𝑗 ∑∈𝑅+ 𝑟𝑖𝑗 𝑥𝑖𝑗 + ∑𝑖,𝑗 ∑∈𝑅− | 𝑟𝑖𝑗 | (1 − 𝑥𝑖𝑗 )
แผนก
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
A 6 4,8 3,5 4,6 2,5,7 6,9 3 7
E 8,10 5 3 2 2
I 9,12 10 6,10 7,10 4,10 5 1 3,4,5,6 1
O 2,3,4,5, 1,3,5,7,9,12 1,2,6,7, 1,7,8,9 1,2,8,9, 1,3,8,9, 1,2,3,4, 1,4,5,6, 2,3,4,5, 7,8,9, 1,12 2,3,4,5,
6,7,8,11 9,12 12 12 12 8,10,12 7,9,10, 6,8,10, 12 6,7,8,9,
12 12 10,11
U 10 4,11 11 2,11 11 11 11 11 11 1,11 2,3,4,5,
6,7,8,9,10
X
6 A 64 1 64
8 E 16 1 16
10 E 16 1 16
3 O 1 0 0
2
5 O 1 0 0
7 O 1 1 1
9 O 1 0 0
12 O 1 0 0
15
แผนก แผนก ความสัมพันธ์ Rij Xij คะแนน
4 A 64 1 64
8 A 64 1 64
5 E 16 0 0
3 10 I 4 0 0
6 O 1 1 1
7 O 1 0 0
9 O 1 0 0
5 A 64 1 64
6 I 4 1 4
10 I 4 0 0
4 7 O 1 0 0
8 O 1 0 0
9 O 1 0 0
6 A 64 1 64
7 I 4 1 4
5 10 I 4 0 0
8 O 1 0 0
9 O 1 1 1
12 O 1 0 0
7 A 64 1 64
6 10 I 4 0 0
8 O 1 1 1
9 O 1 0 0
9 A 64 1 64
7 8 O 1 0 0
10 O 1 1 1
12 O 1 0 0
16
แผนก แผนก ความสัมพันธ์ Rij Xij คะแนน
9 O 1 0 0
8 10 O 1 0 0
12 O 1 0 0
10 0 1 0 0
9 12 0 1 0 0
10 12 0 1 0 0
11 12 0 1 1 1
TOTAL 565 501
501
𝐸𝑓𝑓𝑖𝑐𝑖𝑛𝑒𝑛𝑐𝑦 =
565
= 0.886725664
17
Material Handling
ผังการไหลของสินค้า
การวางแผนการขนถ่าย (Planning)
Material Handling
รูปแบบขั้นตอนการวางแผนขนส่ง
การขนส่งของโรงงานมีทั้งการขนส่งภายในโรงงานและภายในคลังสินค้า โดยวัตถุดิบหลักที่ท ำการขนส่งภายใน
โรงงานคือ หนัง, พื้นรองเท้า, ด้าย,หุ่นรองเท้าและวัสดุอื่นๆที่ใช้ในการทำรองเท้า รวมไปถึงการขนส่งรองเท้าที่กำลังจะเป็น
ผลิตภัณฑ์สำเร็จระหว่างแผนก โดยการขนส่งภายในโรงงานมีการขนส่งตามลำดับต่อไปนี้ 1.แผนกฉีดขึ้นรูปพื้น PVC 2. แผนก
ตัด รีด และปั๊มโลโก้ 3. แผนกเย็บส่วนบนของรองเท้าและเจาะรูเชือก 4.แผนกขึงเข้ารูปและเย็บประกอบกับ Insole 5. แผนก
ประกอบพื้น PVC และขัดผิว 6. แผนกเก็บรายละเอียด ตรวจสอบคุณภาพ และบรรจุลงกล่อง
การขนส่งภายในโรงงานแต่ละแผนกจะใช้อุกรณ์ขนย้ายที่แตกต่างกันออกไปดังนี้ จากแผนกฉีดขึ้นรูปเมื่อได้เป็นพื้น
รองเท้าแล้วจะถูกลำเลียงโดยการใช้ Tote Box วางบน Hand truck เพื่อขนย้ายไปยังแผนกถัดๆไป หนังที่ใช้ในการทำรองเท้า
ถูกขนย้ายเข้ามายังแผนกตัด รีด และปั๊มโลโก้โดยใช้ Pallets Jacks แบบ manual เพราะหนังที่โรงงานใช้มาในรูปแบบเป็น
18
รถโฟร์คลิฟท์ไฟฟ้า รถลากพาเลทแบบงาต่ำ
Unit Load
พาเลทที่ใช้ในการขนย้ายเป็นพาเลทไม้ที่มีขนาด 1,100 × 1,100 × 150 mm ซึ่งกล่องรองเท้าแต่ละกล่องจะมี
ขนาด 360 × 260 ×140 mm ส่งผลให้ในแต่ละพาเลทจะสามารถวางกล่องรองเท้าได้ชั้นละ 3 × 4 กล่อง/ชั้น วางซ้อนกัน
ทั้งหมด 5 ชั้น (ถ้าซ้อนมากกว่านี้อาจจะเกิดความเสียหายต่อกล่องได้) ดังนั้นใน 1 Unit Load จะมีกล่องสินค้าทั้งหมด 60
กล่อง นำมาห่อเข้าด้วยกันด้วยเครือ่ ง Stretch Wrapping Machine โดยจะมีขนาดรวม 1,080 × 1,040 × 700 mm
1 Unit Load
21
ทำเลที่ตั้งของโรงงาน
ในการเลือกทำเลที่ตั้งของโรงงานทางผู้จัดทำได้ทำการเลือกทำเลที่ตั้ง มี 5 ทำเล มีดังต่อไป
โรงงาน 1 : นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร
โรงงาน 2 : นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร
โรงงาน 3 : นิคมอุตสาหกรรมบางพลี
โรงงาน 4 : นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
โรงงาน 5 : นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน
รายละเอียดของทำเลที่ตั้งของทั้ง 5 โรงงาน ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียด พื้นที่โครงการ ระยะจากสถานที่ใกล้เคียง
และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีดังต่อไปนี้
โรงงาน 1 : นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ชลบุรี
1.1 พื้นที่โครงการ
-เนื้อที่ทั้งหมด 18,840 ไร่
-เขตอุตสาหกรรมทั่วไป 11,297 ไร่
-เขตที่พักอาศัย / พาณิชย์ 1,557.8 ไร่
1.2 สิ่งอำนวยความสะดวก
-ระบบน้ำประปา (ดำเนินการโดย: บริษัท อมตะวอเตอร์ จำกัด )
-ระบบไฟฟ้า (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, แรงดันไฟฟ้า 22 กิโลโวลต์)
-ระบบบำบัดน้ำเสียระบบบำบัดน้ำเสียแบบชีวภาพกำลังบำบัด 50,500 ลูกบาศก์เมตร / วัน)
-ระบบถนน (สายประธาน 48 เมตร 6 ช่องจราจร, สายรองประธาน 32 เมตร 4 ช่องจราจร)
-ระบบป้องกันอัคคีภัยติดตั้งหัวจ่ายดับเพลิงตามแนวถนนทุกระยะ 250 เมตร)
โรงงาน 2 : นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร
2.1 พื้นที่โครงการ
-เนื้อที่ทั้งหมด 1,456 ไร่
-เขตอุตสาหกรรมทั่วไป 1041 ไร่
-เขตที่พักอาศัย / พาณิชย์ 28 ไร่
2.2 สิ่งอำนวยความสะดวก
-ระบบน้ำประปา
-แหล่งน้ำประปา : การประปาส่วนภูมิภาค
-ผลิตน้ำได้ 25,000 ลูกบาศก์เมตร / วัน
-สามารถจ่ายน้ำได้ 45 ลูกบาศก์เมตร / ไร่ / วัน
-ระบบไฟฟ้า
-การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
-แรงดันไฟฟ้าขนาด 115 / 22 กิโลโวลต์
-ความสามารถจ่ายไฟฟ้า 80 เมกกะโวลต์-แอมแปร์ หรือ 60 กิโลโวลต์-แอมแปร์ / ไร่
22
-ระบบโทรศัพท์ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
-ระบบบำบัดน้ำเสีย สามารถกำจัดน้ำเสียได้ 21,000 ลูกบาศก์เมตร / วัน
-ระบบเตาเผาขยะ สามารถเผาขยะได้ 1,250 กิโลกรัม / ชั่วโมง
-ระบบถนน
-สายประธาน : 35 เมตร 4 ช่องจราจร
-สายรองประธาน : 27 เมตร 2 ช่องจราจร
-สายรอง : 22 เมตร 2 ช่องจราจร
-ระบบป้องกันน้ำท่วม มีเขื่อนรอบโครงการและอ่างเก็บน้ำฝนจำนวน 6 บ่อ พร้อมเครื่องสูบน้ำ
-ระบบป้องกันอัคคีภัย ติดตั้งหัวจ่ายดับเพลิงตามแนวถนนทุกระยะ 350 เมตร
โรงงาน 3 : นิคมอุตสาหกรรมบางพลี
3.1 พื้นที่โครงการ
-เนื้อที่ทั้งหมด 1004 ไร่
-เขตอุตสาหกรรมทั่วไป 793 ไร่
-เขตที่พักอาศัย / พาณิชย์ 14 ไร่
3.2 สิ่งอำนวยความสะดวก
-ระบบน้ำประปา ผลิตและจำหน่ายโดยการประปานครหลวง
-ระบบไฟฟ้า โดยการไฟฟ้านครหลวง
-ระบบโทรศัพท์ บริการโดย TOT, True, AIS ฯลฯ
-ระบบบำบัดน้ำเสีย ใช้ระบบตะกอนเร่ง สามารถกำจัดน้ำเสียได้ 8,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน
-ระบบถนน ผิวจราจรกว้าง 10-12 เมตร ทางเท้ากว้าง 2 เมตร รางระบาย ทั้งแบบรางเปิดและปิด
-ระบบป้องกันน้ำท่วม
-สถานีสูบระบายน้ำ จำนวน 5 สถานี
-Mobile Pump จำนวน 4 เครื่อง
-ความสามารถในการสูบระบายรวม 18,290 ลูกบาศก์เมตร / ชั่วโมง
-ระบบป้องกันอัคคีภัย
-รถดับเพลิง 1 คัน พร้อมอุปกรณ์ครบถ้วน มีแหล่งน้ำสำรอง ปริมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตร
โรงงาน 4 : นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
4.1 พื้นที่โครงการ
-เนื้อที่ทั้งหมด 2559 ไร่
-เขตอุตสาหกรรมทั่วไป 1228 ไร่
-เขตที่พกั อาศัย / พาณิชย์ 9.23 ไร่
23
4.2 สิ่งอำนวยความสะดวก
-ระบบน้ำประปา โดยการประปานครหลวง (มีบ่อบาดาล 5 บ่อ สถานีสูบจ่ายน้ำ 4 สถานี)
-ระบบไฟฟ้า
-การไฟฟ้านครหลวง(สำนักงานไฟฟ้ามีนบุรี) มีสถานีไฟฟ้าย่อย 2 สถานี
-ความสามารถจ่ายไฟฟ้า 180 เมกกะโวลต์-แอมแปร์
-แรงดันไฟฟ้า 24 กิโลโวลต์
-ระบบบำบัดน้ำเสีย ใช้ระบบตะกอนเร่ง (Activated Sludge) จำนวน 2 ระบบ สามารถกำจัดน้ำเสียได้
18,600 ลูกบาศก์เมตร / วัน
-ระบบถนน สายประธานกว้าง 31 เมตร สายรองกว้าง 27 เมตร
โรงงาน 5 : นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน
5.1 พื้นที่โครงการ
-เนื้อที่ทงั้ หมด 3508 ไร่
-เขตอุตสาหกรรมทั่วไป 2659 ไร่
-เขตที่พักอาศัย / พาณิชย์ 6 ไร่
5.2 สิ่งอำนวยความสะดวก
-ระบบน้ำประปา แหล่งน้ำบาดาล สามารถจ่ายน้ำได้ 12 ลูกบาศก์เมตร / ไร่ / วัน
-ระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคความสามารถในการจ่ายไฟฟ้า 2X 40 เมกกะโวลต์ แอมแปร์
แรงดันไฟฟ้า 22 กิโลโวลต์
-ระบบถนน สายประธาน 35 เมตร 4 ช่องจราจร, สายรองประธาน 27.50 เมตร 2 ช่องจราจถนนซอยเป็น
เขตพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยทางกว้าง 15 เมตร 2 ช่องจราจร
-ระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางเป็นระบบ Activated Sludge
-ระบบป้องกันน้ำท่วม ใช้ระบบรางคอนกรีตเสริมเหล็กแบบเปิด
-ระบบเตาเผาขยะ (จำนวน 5 เตา, เตาเผาขยะสามารถเผาขยะได้ 27 ตัน/วัน
แหล่งวัตถุดิบ
ในการผลิตรองเท้าหนัง มีวัตถุที่จำเป็นหลักๆ ที่ใช้ในการผลิตอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ หนังวัวฟอก เม็ดพลาสติกแบบ PVC
พื้นรองเท้าและบุดา้ นใน (Insole) เชือกรองเท้าแบบถัก และตาไก่โลหะสำหรับรองเท้า (Eyelets) ซึ่งแหล่งวัตถุดิบเหล่านีเ้ ป็น
หนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกทำเลที่ตั้งของโรงงาน
เชือกรองเท้าแบบถัก ตาไก่โลหะสำหรับรองเท้า
ระยะทางระหว่างแหล่งวัตถุดิบกับโรงงาน
การวิเคราะห์ปัจจัยเชิงคุณภาพในการเลือกทำเลที่ตั้ง
แรงงานใกล้เคียงมีจานวนปานกลาง ค่าแรงสูงกว่ากฎหมาย
16-30
ตามกาหนดเล็กน้อย หรือแรงงานมีฝีมือปานกลาง
แรงงานใกล้เคียงมีจานวนมาก ค่าแรงเป็ นไปตามกฎหมาย
31-45
กาหนด หรือแรงงานมีฝีมือสูง
อยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ทาให้ท่ดี ินและใช้จ่ายอื่นๆ
1-15
มีราคาแพง
ที่ดิน
45 16-30 อยู่ในรอบกรุงเทพและปริมณฑล
(Land)
อยู่นอกเขตกรุงเทพและปริมณฑล ทาให้ท่ดี ินและใช้จา่ ย
31-45
อื่นๆมีราคาถูก
1-5 อยู่ไกลจากแหล่งการตลาด (รัศมี มากกว่า 80 กิโลเมตร)
ตลาด
15 6-10 อยู่ไม่ไกลจากแหล่งการตลาด (ในรัศมี 60 กิโลเมตร)
(Market)
11 - 15 อยู่ใกล้แหล่งการตลาด (ภายในรัศมี 40 กิโลเมตร)
ตารางแสดงเกณฑ์การประเมินคะแนนปัจจัยเชิงคุณภาพ
การวิเคราะห์ปัจจัยเชิงคปริมาณในการเลือกทำเลที่ตั้งของโรงงาน
จากเกณฑ์การให้คะแนนในตารางแสดงเกณฑ์การให้คะแนนปัจจัยเชิงคุณภาพในการเลือกทำเลทีต่ ั้งของโรงงาน
สามารถนำมาพิจารณาของโรงงานทั้ง 5 ทำเลได้ดังนี้
ตารางแสดงการประเมินคะแนนปัจจัยเชิงคุณภาพของโรงงานต่างๆ
∑ 𝑤ᵢ
แหล่งวัตถุดิบ x Wi 𝑖=1
ที แลนเดอร์ อินเตอร์เทรด 616613.7 2 2
เอ็น ซี สปินนิ่ง จำกัด 620453.8 1 3
ไทย แมททีเรียล แฟคทอรี่ จำกัด 661741.7 1 4
ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 676656.1 3 7
โพลิเมอร์ จำกัด 683963.2 5 12
5
∑ 𝑤ᵢ
y Wi 𝑖=1
ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 1496454 3 3
เอ็น ซี สปินนิ่ง จำกัด 1504485 1 4
ไทย แมททีเรียล แฟคทอรี่ จำกัด 1511074 1 5
ที แลนเดอร์ อินเตอร์เทรด 1511666 2 7
โพลิเมอร์ จำกัด 1514002 5 12
ตารางคำนวณหาตำแหน่งของของตัวเลือกวัตถุดิบแรก
30
∑ 𝑤ᵢ
แหล่งวัตถุดิบ x Wi 𝑖=1
หจก.ธนสยามการทอ 648884 1 1
ไทยเกรท โปรดักส์ 673268 3 4
บจก. รันเนส เวิลด์ 673766.6 2 6
888 ไลอ้อน จำกัด 693246.8 5 11
เพค อินดัสทรีส์ จำกัด 712305.7 1 12
5
∑ 𝑤ᵢ
y Wi 𝑖=1
เพค อินดัสทรีส์ จำกัด 1448671 1 1
ไทยเกรท โปรดักส์ 1501380 3 4
บจก. รันเนส เวิลด์ 1506766 2 6
หจก.ธนสยามการทอ 1509755 1 7
ตารางคำนวณหาตำแหน่งของของตัวเลือกวัตถุดิบตัวที่สอง
choice1 x y Wi (x*Wi)+(y+Wi)
1.1 676656.07 1496454.33 3 45634.65
2.1 683963.24 1514001.75 5 48215.2
3.1 616613.69 1511665.88 2 120084.76
4.1 620453.81 1504484.56 1 63383.58
5.1 661741.65 1511073.77 1 15506.53
sum 292824.72
ตารางคำนวณคะแนนของตัวเลือกแรก
choice2 x y Wi (x*Wi)+(y+Wi)
1.2 673268 1501380.08 3 85059.84
2.2 693247 1542335.55 5 236301.9
3.2 673767 1506765.98 2 15578.84
4.2 648884 1509754.55 1 29683.44
5.2 712306 1448671.14 1 98644.41
sum 465268.4
ตารางคำนวณคะแนนของตัวเลือกที่สอง
จากการคำนวณทั้ง 2 ตัวเลือกได้ x= 676656.07 และ y= 1511665.88 จากการคำนวณด้วยวิธี Single Facility Minisum
Location หลังจากได้ x และ y นำไปคำนวณหาต้นทุนได้ดังต่อไปนี้
31
โรงงาน1 : นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร
Supplier ระยะทาง (KM) รอบการขนส่ง ต้นทุน
หนังวัวฟอก 57.5 3 172.5
เม็ดพลาสติกชนิด PVC 64.8 5 324
พื้นรองเท้าและบุดา้ นใน 145 2 290
เชือกรองเท้าแบบถัก 141 1 141
ตาไก่โลหะสำหรับรองเท้า 83.6 1 83.6
รวม 1011.1
ตารางต้นทุนของโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร
โรงงาน2 : นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร
Supplier ระยะทาง (KM) รอบการขนส่ง ต้นทุน
หนังวัวฟอก 65.5 3 196.5
เม็ดพลาสติกชนิด PVC 68.6 5 343
พื้นรองเท้าและบุดา้ นใน 33.3 2 66.6
เชือกรองเท้าแบบถัก 24.4 1 24.4
ตาไก่โลหะสำหรับรองเท้า 37.6 1 37.6
รวม 668.1
ตารางต้นทุนของโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร
32
โรงงาน3 : นิคมอุตสาหกรรมบางพลี
Supplier ระยะทาง (KM) รอบการขนส่ง ต้นทุน
หนังวัวฟอก 24.9 3 74.7
เม็ดพลาสติกชนิด PVC 28.8 5 144
พื้นรองเท้าและบุดา้ นใน 109.1 2 218.2
เชือกรองเท้าแบบถัก 106 1 106
ตาไก่โลหะสำหรับรองเท้า 48.1 1 48.1
รวม 591
ตารางต้นทุนของโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมบางพลี
โรงงาน4 : นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
Supplier ระยะทาง (KM) รอบการขนส่ง ต้นทุน
หนังวัวฟอก 43.3 3 129.9
เม็ดพลาสติกชนิด PVC 22.9 5 114.5
พื้นรองเท้าและบุดา้ นใน 107 2 214
เชือกรองเท้าแบบถัก 105 1 105
ตาไก่โลหะสำหรับรองเท้า 52.2 1 52.2
รวม 615.6
ตารางต้นทุนของโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
โรงงาน5 : นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน
Supplier ระยะทาง (KM) รอบการขนส่ง ต้นทุน
หนังวัวฟอก 95.7 3 287.1
เม็ดพลาสติกชนิด PVC 82.2 5 411
พื้นรองเท้าและบุดา้ นใน 116 2 232
เชือกรองเท้าแบบถัก 122 1 122
ตาไก่โลหะสำหรับรองเท้า 83.7 1 83.7
รวม 1135.8
ตารางต้นทุนของโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
จากการคำนวณทุกโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมพบว่านิคมอุตสาหกรรมบางพลีมตี ้นทุนน้อยที่สุดจึงถูกเลือกเป็นที่ตั้ง
โรงงานแห่งใหม่ในการผลิตรองเท้าหนัง
33
การวางแผนการจัดการคลังสินค้า
คลังสินค้าจะทำหน้าที่รับสินค้ าสำเร็จรูปจากโรงงาน ทำการจัดเก็บสต๊อกสินค้า และส่งออกสินค้าสำเร็จรูปไปยัง
แหล่งกระจายสินค้าต่อไป โดยคลังสินค้านี้จะสามารถจัดเก็บรองเท้าได้ทั้งหมด 192 Unit Load (พาเลท) หรือคิดเป็นรองเท้า
หนังทั้งหมด 11,520 คู่ โดยคลังสินค้าจะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
1. โครงสร้างอาคารและการจัดผังคลังสินค้า
1.1 โครงสร้างอาคาร (Building Shell)
ตัวอาคารมีพื้นที่ทั้งหมด 864 ตารางเมตร โดยในอาคารจะแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนของคลังเก็บสินค้าซึ่ง
มีความกว้าง 18 เมตร ยาว 32 เมตร สูง 7 เมตร คิดเป็นพื้นที่ 576 ตารางเมตร และส่วนสำนักงาน มีความกว้าง 12 เมตร ยาว
24 เมตร คิดเป็นพื้นที่ 288 ตารางเมตร
1.2 การจัดผังคลังสินค้า
ผังคลังสินค้าและการไหลของสินค้า
1) จุดรับสินค้าเข้า (Inflow)
ขนาดจุดรับสินค้า มีขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 18 เมตร พื้นที่รวม 144 ตารางเมตร มีส่วนประกอบ ดังนี้
จุดรับสินค้าเข้า
1. แผนกรับสินค้า (Receiving dock) จะมีทั้งหมด 3 ช่อง ทำหน้าที่ตรวจสอบจำนวน ลักษณะในการที่จะ
แยกแยะสินค้า จัดเก็บให้เป็นหมวดหมู่ โดยการจัดการที่มรี ะบบการตรวจสอบและตรวจนับความถูกต้องเช่นนับ
ปริมาณ จำนวน สภาพ และคุณภาพ ในการตรวจสอบสินค้าจะนำระบบ Bar Code เข้ามาในการควบคุมคัดแยก
สินค้าเพื่อเตรียมเก็บหรือส่งต่อ
34
2) จุดส่งสินค้าออก (Outflow)
ขนาดจุดรับสินค้า มีขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 18 เมตร พื้นที่รวม 144 ตารางเมตร โดยประมาณ แบ่งเป็นแผนก
ต่างๆ ได้ดังนี้
จุดส่งสินค้าออก
1. แผนกจัดเตรียมสินค้าตามคำสั่ง (Order picking) จะทำการไปส่งสินค้าสำเร็จรูปจากพื้นที่จัดเก็บ
(Storage) ไปส่งตามคำสั่งซื้อจากลูกค้า
2. แผนกจัดเรียง (Staging) หลังจากที่จัดเรียงสินค้าสำเร็จรูปแล้วก็จะทำการรวบรวมสินค้าแยกแยะ
จัดเก็บให้เป็นหมวดหมู่ ตามคำสั่งซื้อของลูกค้าลงไปบรรจุในกล่องขนาดใหญ่อีกทีและห่อด้วยพลาสติก (Wrap)
3. แผนกจัดส่งสินค้า (Shipping) จะมีทั้งหมด 3 ช่อง เมื่อได้กล่องสินค้าสำเร็จรูปตามคำสั่งซื้อจากลูกค้า
แล้วก็จะทำการนำยานพาหนะไปบรรทุกสินค้าและขนส่งไปยังแหล่งกระจายสินค้าซึ่งในการส่งไปยังแหล่งกระจาย
สินค้า
ผังคลังสินค้าแบบ 3 มิติ
35
2. ชั้นวางสินค้าและพื้นที่จัดเก็บ
ในส่วนของชั้นวางสินค้าในคลังสินค้า จะใช้ชั้นวางแบบ Pallet Flow Racking ซึ่งเป็นชั้นเก็บสินค้าที่เหมาะสมกับการ
หยิบสินค้าแบบ First-In First-Out (FIFO) โดยสินค้าที่เข้าเก็บก่อนจะถูกสินค้าที่เข้าทีหลังดันอีกด้านหนึ่ง โดยตัวชั้นจะมีการลาด
เอียงเล็กน้อยและมีลูกกลิ้ง (Rollers) เพื่อให้พาเลทเคลื่อนที่ได้ง่ายและราบลื่นยิ่งขึ้น
ขนาดด้านหน้าของชั้นวาง
Height = 4 × (150+700) = 3,400 mm
Width =8 × 1100 = 8,800 mm
Depth =1 × 1100 =1,100 mm
ดังนั้นปริมาตรของ Load = 3400 × 8800 × 1100 = 3.2912 × 1010 mm3
36
การคำนวณปริมาตรของ Storage
ขนาดด้านบนของชั้นวาง
Height = 4 × (150+700+80+105) = 4,140 mm
Width = (8 × 1,100) + (2 × 80) + (2 × 150) = 9,260 mm
Depth =1,000 + 1,100 + 15 =2,115 mm
ดังนั้นปริมาตรของ Storage = 4,140 × 9,260 × 2,115 = 8.1081 × 1010 mm3
Cube Utilization = ปริมาตรของ Load / การคำนวณปริมาตรของ Storage
= 0.4059 หรือ 40.59 %
อุปกรณ์ขนส่งภายในคลังสินค้า
1. รถลากพาเลทแบบงาต่ำ
ใช้สำหรับเคลื่อนย้ายพาเลทที่ได้รับจากโรงงานเข้าสู่คลังสินค้า โดยตัวสินค้าที่จากโรงงานจะถูกจัดเรียงบนพาเลทหลังจาก
นั้นจะถูกถูกห่อด้วยพลาสติกโดยเครื่อง Stretch Wrapping ซึ่งเป็นการห่อโดยใช้ฟิล์มแบบยืดหยุ่นพันรอบผลิตภัณฑ์หลายชิ้น
เข้าไว้ด้วยกันเพื่อรวมหน่วย เพื่อรักษาความคงตัวบนชั้นพาเลทป้องกันการล้มของผลิตภัณฑ์ที่เรียงซ้อน โดยทางโรงงานจะใช้
เครื่อง Stretch Wrapping Machine ซึ่งเป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ เพื่อความรวดเร็วและเรียบร้อย รถลากพาเลทแบบงาต่ำเหมาะ
2. รถลากพาเลทแบบยกม้วนโรล
เป็นรถที่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายม้วนผ้า ซึ่งใช้เคลื่อนย้ายม้วนผ้าภายในคลังสินค้าเข้าสู่โรงงาน แฮนด์ลิฟท์สามารถยก
น้ำหนักได้ 1500 - 1800 กิโลกรัม แฮนด์ลิฟท์มีตัวรถกว้างเพื่อรองรับขนาดม้วนตั้งแต่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 500 - 1400
มิลลิเมตร 4 คัน
รถลากพาเลทแบบยกม้วนโรล
3. Forklift
การขนย้ายสินค้าภายในคลังสินค้าจะใช้รถโฟร์คลิฟท์ไฟฟ้า รุ่น 3-Wheel Electric Forklift 1.2 TVE3
สามารถรับน้ำหนักได้ 1,200 กิโลกรัม และสามารถยกได้สูงสุด 4.5 เมตร ซึ่งเหมาะกับการยกพาเลทไปวางบนชั้น
วางสินค้า โดยรถโฟร์คลิฟท์รุ่นนี้มีข้อดีคือมีขนาดเล็กกระทัดรัด เหมาะกับการใช้งานในที่แคบ มีความคุ้มค่าในระยะ
ยาว เพราะใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นต้นทุนที่ถูกที่สุด และไม่มีเครื่องยนต์ความร้อนสูงดังนั้นจึงไม่กระทบต่อวัตถุดิบหรือ
หนังที่จะนำมาทำรองเท้า ไม่มีระบบเครื่องยนต์และเกียร์ที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายจากการถ่ ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์
รวมทั้ง ระบบ หล่อเย็น เช่นหม้อน้ำ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลถูก แม้ตัวรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) จะ
มีราคาซื้อสูงที่สุด แต่ด้วยอายุการใช้งาน และค่าใช้จ่ายระหว่างการใช้งานต่ำ จึงถือว่าประหยัดที่สุดในทุกระบบ 4คัน
การควบคุมการไหลไม่ให้ของล้นหรือขาด
การควบคุมคลังสินค้าไม่ให้ของล้นหรือขาดใช้วิธีการ EOQ (Economic Order Quantity) วิธีการนี้เป็นการสั่ง
วัตถุดิบจาก Suppliers โดยสั่งให้เหมาะสมกับยอดขายและระยะเวลาในการรอวัตถุดิบมาส่ง เป็นระบบที่ช่วยในการวางแผน
ความต้องการวัตถุดิบ คอยจัดการในส่วนของการดูแลที่มาที่ไปของวัตถุดิบ ตรวจสอบวัตถุดิบที่ต้องใช้ การสั่งซื้อเมื่อมีวัตถุดิบ
ไม่พอ และการจัดการที่จะต้องสั่งวัตถุดิบเท่าไร สั่งตอนไหนให้เหมาะสมกับการผลิตไม่ให้วัตถุดิบนั้นมากจนจมทุนหรือน้อยจน
ไม่เพียงพอต่อการผลิต และยังช่วยลดจำนวนสินค้าคงคลังที่ต้องเหลือค้าง ด้วยวิธีการนี้ช่วยตัดสินใจในการสั่งซื้อวัตถุดิบแบบ
ผ่านการคิดคำนวณเวลาและการเก็บรักษา รวมไปถึงการจัดเก็บวัตถุดิบให้พอดีกับการผลิต เหมาะกับสถานที่ที่ใช้เก็บวัตถุดิ บ
คงคลัง รวมถึงลดค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาได้อีกด้วย วิธีการนี้ทำให้กระบวนการผลิตสม่ำ เสมอไม่และหยุดชะงัก EOQ มี
ประโยชน์ค่อนข้างมากและยังมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อ EOQ ดังนี้
1. จุดสั่งซื้อรอบต่อไป : ช่วงเวลาที่จำเป็นต้องสั่งซื้อสต็อกชุดใหม่หรือเติมสต็อก โดยการสั่งในรอบถัดไปมีปริมาณที่
เท่ากับรอบก่อนหน้า
2. ระยะเวลารอสินค้า : ระยะเวลาในการสั่งซื้อสินค้าและวัตถุดิบตั้งแต่สั่งซื้อจนได้รับสินค้า
3. ต้นทุนการจัดซื้อต่อหน่วย : ต้นทุนต่อหน่วยการสั่งซื้อที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการสั่งซื้อ
4. ความต้องการสินค้า : ความต้องการสินค้าของลูกค้าหรือตลาด เป็นปัจจัยสำคัญต้องรู้ว่ามีลูกค้าต้องการในปริมาณ
เท่าไหร่ จำนวนเท่าไหร่ และต้องการในช่วงใด
39