You are on page 1of 29

บทความวิชาการ

การป้องกันการกระท�ำผิดของเด็กและเยาวชน:
กรณีศกึ ษาโครงการจิตอาสา “เราท�ำความดี ด้วยหัวใจ”
ชุมชนรอบวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
Prevention of Child and Juvenile Delinquency:
A Case Study of the "Doing Good with Our Heart"
Volunteer Project of Communities around Wat
Prayurawongsawas Woravihara
สัณหกฤษณ์ บุญช่วย1 และ จตุพร ธิราภรณ์2
Sunhakrisana Boonchuay1 and Jatuporn Thiraporn2
E mail address: Thodsaponboonchuay@hotmail.com / greet_return@hotmail.com

บทคัดย่อ ความสนใจของเด็กและเยาวชนมิให้ไปมั่วสุมท�ำ
บทความวิชาการชิน้ นีเ้ ขียนขึน้ โดยได้อาศัย สิ่งผิดได้จริง สอดคล้องกับการสร้างวัฒนธรรม
กรอบทฤษฎีทางอาชญาวิทยา (Criminology) ที่ถูกต้องและได้รับการยอมรับในทางที่ถูกที่ควร
เป็ น กรอบแนวทางในการศึ ก ษา และอธิ บ าย ทั้ ง เป็ น การคบหาสมาคมกั บ เพื่ อ นผู ้ ที่ ร ่ ว มกั น
ปรากฏการณ์ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ในสั ง คมร่ ว มสมั ย โดย ท�ำความดี นับเป็นการสร้างพันธะในการเข้ารวม
เป็นการศึกษาและวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ใน กิจกรรมให้แน่ขนึ้ ภายในจิตใจของเด็กและเยาวชน
การน�ำโครงการจิตอาสา “เราท�ำความ ดี ด้วยหัวใจ” นอกจากนี้ แ ล้ ว กิ จ กรรมตามโครงการจิ ต อาสา
มาใช้เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันพฤติกรรม เราท�ำความดีด้วยหัวใจนั้นสอดคล้องกับแนวคิด
เบี่ยงเบน และการกระท�ำความผิดของเด็กและ ศาสตร์พระราชาด้วย
เยาวชน ชุมชนรอบวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ค�ำส�ำคั ญ : การป้ อ งกั น การกระท� ำ ความผิ ด ,
ทั้งนี้พบว่า เมื่อได้ลงพื้นที่จริงโครงการจิตอาสา เด็กและเยาวชน, โครงการจิตอาสา, อาชญาวิทยา
“เราท� ำ ความ ดี ด้ ว ยหั ว ใจ” สามารถหั น เห

1
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ถนนมาลัยแมน ต�ำบลนครปฐม อ�ำเภอเมืองฯ จังหวัดนครปฐม
73000
2 สำ�นักงานผู10330
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนอังรีดูนังต์ แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ้ตรวจการแผ่นดิน 27
ABSTRACT Keywords: Prevention of Delinquency,
This article has been written based Child and Juvenile, Volunteer Project,
on criminological theory as a guiding Criminology
framework for the study and described 1. บทน�ำ
the phenomenon that has occurred เด็ ก และเยาวชนเปรี ย บเสมื อ นผ้ า ขาว
in contemporary society. This was a
ที่ บ ริ สุ ท ธิ์ ถื อ เป็ น วลี ที่ รั บ รู ้ กั น อย่ า งกว้ า งขวาง
study and analysis of the possibility of
ในสังคมมาอย่างช้านาน โดยมีนยั แห่งความหมาย
implementing the “Doing Good with Our
ว่าเด็กและเยาวชนย่อมไม่กระท�ำความผิดไม่ว่า
Heart” volunteer project as a guideline
to prevent deviation and delinquency of ฐานใดก็ตาม หรือแม้กระทั่งการคิดที่จะกระท�ำ
children and juveniles in communities ความผิด เพราะสังคมเชื่อว่าจิตใจของเด็กและ
around Wat Prayurawongsawas Woravihara. เยาวชนยั ง ไม่ ผ ่ า นประสบการณ์ ที่ ม ากพอเมื่ อ
The results showed that from on site, the เปรียบเทียบกับผู้อาวุโส แต่กระนั้นปรากฏการณ์
“Doing Good with Our Heart” volunteer ที่เกิดขึ้นในสังคมกลับพบว่ามีอัตราที่เด็กและ
project could actually divert the atten- เยาวชนกระท�ำความผิดทีเ่ พิม่ สูงขึน้ เพราะสภาพ
tion of children and juveniles to avoid แวดล้อมบีบบังคับให้ต้องกระท�ำความผิด ซึ่ง
doing delinquencies, was consistent with เป็นผลพวงมาจากการที่โลกมีพลวัตรอยู่ตลอด
the right culture, and has been accepted เวลา กอปรกับการมีระบบโครงข่ายที่เชื่อมโยง
in the right way. It is a relationship with และสามารถลดระยะทางและเวลา (time and
friends who work together. It is a bond space) ให้สื่อสารกันได้ง่ายขึ้นอย่างไม่เคยเป็น
to integrate activities within the minds of มาก่ อ นย่ อ มเป็ น ปั จ จั ย ส� ำ คั ญ ที่ เ ป็ น ตั ว เร่ ง เร้ า
children and juveniles. Additionally, the วิ ถี ก ารด� ำ รงชี วิ ต ของเด็ ก และเยาวชนยุ ค สมั ย
activities of the “Doing Good with Our ใหม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง งานศึกษาของ
Heart” volunteer project were in accor- วาสุเทพ ทองเจิม (2540) ที่ได้ศึกษาถึงมูลเหตุ
dance with the King’s philosophy. จูงใจในการกระท�ำความผิดของเด็กและเยาวชน
ชาย โดยวาสุเทพฯ เลือกกรณีศึกษาในสถาน

28 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


แรกรับบ้านเมตตาของสถานพินิจและคุ้มครอง สาเหตุหนึ่งหรือหลายสาเหตุประกอบกัน และ
เด็ ก และเยาวชนกลางนั้ น บ่ ง ชี้ ถึ ง สาเหตุ ข อง ปัจจัยต่างมีความสัมพันธ์กันจนบางครั้งไม่อาจ
การกระท�ำความผิดของเด็กและเยาวชนไว้อย่าง แยกขาดจากกันได้โดยง่าย (Thongcherm, W,
ชัดเจนว่าเกิดจากการที่เด็กและเยาวชนเหล่านี้ 1997) ข้อมูลสถิติจ�ำนวนคดีเด็กและเยาวชน
ขาดโอกาสในการศึ ก ษา และมี ค วามสั ม พั น ธ์ ที่ ถู ก ส่ ง มายั ง สถานพิ นิ จ และคุ ้ ม ครองเด็ ก
ของสมาชิกในครอบครัวที่แตกสลาย นอกจากนี้ ทั่วประเทศ แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่า
เด็กส่วนใหญ่ทกี่ ระท�ำความผิดเกิดจากการมีฐานะ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557–2560 เป็นต้นมา ยังคงมี
ทางเศรษฐกิจทีไ่ ม่ดอี กี ด้วย ส่งผลให้เมือ่ พิจารณา จ� ำ นวนยอดสะสมของเด็ ก และเยาวชนที่ สู ง
ในส่ ว นของการกระท� ำ ความผิ ด ของเด็ ก และ อยู ่ เรื่ อ ยมา ถึ ง แม้ จ ะมี ย อดสะสมที่ ล ดลงบ้ า ง
เยาวชนไทยในปั จ จุ บั น มี แ นวโน้ ม ของการ เนื่ อ งมาจากการมี ก ระบวนการหั น เหคดี
กระท� ำ ความผิ ด เพิ่ ม สู ง ขึ้ น ตามอายุ แ ละ ออกจากกระบวนการยุ ติ ธ รรมกระแสหลั ก
ประสบการณ์ของตัวเด็กเองที่ไม่แตกต่างจาก แต่จำ� นวนดังกล่าวก็ยงั คงถือว่ามากอยูพ่ อสมควร
การประกอบอาชญากรรมของผู้ใหญ่ โดยมีเหตุ ปรากฏตามตารางที่ 1 ดังนี้
ปัจจัยผลักดันให้เด็กกระท�ำความผิดจากสาเหตุใด

ตารางที่ 1 จ�ำนวนยอดสะสมเด็กและเยาวชนทีอ่ ยูใ่ นสถานพินจิ ทัว่ ประเทศ ตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2557–2560
ปี พ.ศ. 2557 พ.ศ. 2558 พ.ศ. 2559 พ.ศ. 2560
ยอดสะสม 33,436 30,537 27,245 23,124
ที่มา: ศูนย์เทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน, 2561

จากข้อมูลแสดงจ�ำนวนตัวเลขข้างต้นย่อม ผลิ ต ไปให้ เข้ า ไปอยู ่ ใ นสถานพิ นิ จ โดยเปล่ า


เป็นทีป่ ระจักษ์ชดั ว่าในแต่ละปีประเทศไทยยังคง ประโยชน์ กอปรกั บ ทั้ ง หากพิ จ ารณาในแง่
ต้ อ งสู ญ เสี ย เด็ ก และเยาวชนที่ ถื อ เป็ น ต้ น ทุ น การบริหารงานกิจการยุติธรรมของประเทศไทย
ทางสั ง คม ในการที่ จ ะเป็ น ปั จ จั ย ส� ำ คั ญ แล้วนั้นก็ย่อมจะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
ในการหนุ น เสริ ม และขั บ เคลื่ อ นพลั ง การ ในการที่จะต้องเข้ามาจัดการกับปัญหาดังกล่าว

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 29
ด้วย เพราะเป็นทีท่ ราบกันดีวา่ ระบบยุตธิ รรมทาง และในปัญหาดังกล่าวมีปญ ั หาขาดความปลอดภัย
อาญาของไทยเป็นระบบราชการหนึ่งในหน่วย ในทรัพย์สนิ ตามมา (Sopha Chapilaman, 1993
งานที่ใช้ทรัพยากรมาก งานวิจัยของสถาบันวิจัย pp.119) อย่างไรก็ตามทางที่ดีที่สุด คือ ควรหา
เพื่อพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้บ่งชี้ถึงการ วิ ธี ก ารป้ อ งกั น ที่ ต ้ น เหตุ ม ากกว่ า การแก้ ไ ข
ใช้งบประมาณรายจ่ายภาครัฐ ปรากฏว่าระบบ ปั ญ หาที่ ป ลายเหตุ งานวิ ช าการของอรอุ ม า
ดังกล่าวเริ่มตั้งแต่ ต�ำรวจ อัยการ ศาล และ วชิ ร ประดิ ษ ฐพร (2555) สะท้ อ นให้ เ ห็ น ถึ ง
ราชทัณฑ์นนั้ ใช้งบประมาณสูงถึง 81,585 ล้านบาท แนวทางที่ ส� ำ คั ญ ในการป้ อ งกั น ปั ญ หาจาก
ในปี พ.ศ. 2550 หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ การกระท� ำ ความผิ ด ของเด็ ก และเยาวชน
5.2 ของงบประมาณรายจ่ายประจ�ำปีของประเทศ โดยน�ำเสนอผ่านงานวิจัยเรื่องสาเหตุการกระท�ำ
(Somkiat Tangkitvanich, et al., 2017) ความผิดของเด็กและเยาวชนกับมาตรการแก้ไข
ซึ่งหากพิจารณาแล้วจ�ำนวนงบประมาณที่มาก ในเชิ ง รุ ก ว่ า จากการกระท� ำ ความผิ ด ของเด็ ก
ขนาดนี้ ส มควรที่ จ ะถู ก น� ำ ไปพั ฒ นาทุ น ของ และเยาวชนไม่ ว ่ า จะเกิ ด มาจากสาเหตุ ใ ด
ประเทศชาติในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะทุนมนุษย์ ก็ตาม หากผู้ใหญ่มีการเพิกเฉยหรือปล่อยปละ
ก็จะเป็นแรงผลักดันให้ประเทศชาติมีการพัฒนา ละเลยย่ อ มจะส่ ง ผลเสี ย หายไปถึ ง ระดั บ
ต่ อ ไป กระนั้ น แล้ ว เด็ ก และเยาวชนเหล่ า นี้ ประเทศชาติเป็นแน่แท้ กระนั้นแล้วกระบวนการ
แทนที่จะได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือแต่กลับต้อง ป้ อ งกั น การกระท� ำ ความผิ ด อย่ า งเป็ น ระบบ
มาอยู่ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จึ ง ถื อ เป็ น มาตรการเชิ ง รุ ก ที่ ทุ ก ภาคส่ ว น
งานวิชาการของโสภา ชปีลมันน์ พยายามบ่งชี้ว่า ต้องช่วยกันในการด�ำเนินการ ทั้งนี้ อรอุมาฯ
เด็ ก และเยาวชนไทยรุ ่ น ใหม่ ที่ มี พ ฤติ ก รรม ได้ยกตัวอย่างกรณีเชิงประจักษ์ ได้แก่ การสร้าง
ที่ เ บี่ ย งเบนจนเกิ ด การกระท� ำ ความผิ ด ขึ้ น เครื อ ข่ า ยชุ ม ชนซึ่ ง ไม่ ว ่ า จะเป็ น ไปในรู ป แบบ
ก็เนื่องมาจากสังคมมีความเจริญทางด้านวัตถุ ของเครือข่ายครู ผูป้ กครอง หรือในสถานศึกษา ใน
เพิ่มมากขึ้นเท่าใด ประสิทธิภาพในการควบคุม การเผยแพร่ให้ความรู้เท่าทันต่อสถานการณ์โลก
การประพฤติ ต นของสมาชิ ก ในสั ง คมเกี่ ย วกั บ ที่มีพลวัตร นอกจากนี้ที่ส�ำคัญ คือ การสร้าง
มาตรฐานด้านศีลธรรม คุณธรรม บรรทัดฐาน เครื อ ข่ า ยชุ ม ชนนี้ ยั ง ช่ ว ยในการติ ด ตาม
ความประพฤติ และความเป็นอยู่ของสมาชิก ดู แ ลพฤติ ก รรมของเด็ ก และเยาวชนที่ ก ระท� ำ
ในสังคมก็ลดลงทุกที ก่อให้เกิดปัญหาสังคมขึ้น ความผิ ด และกลั บ สู ่ ชุ ม ชนอี ก ด้ ว ย เพื่ อ มิ ใ ห้

30 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


หวนกลับไปกระท�ำความผิดซ�ำ้ อีก กล่าวอีกนัยหนึง่ ระบบออนไลน์ ผสมผสานงานวิจัย งานวิชาการ
คื อ การสร้ า งความสั ม พั น ธ์ อั น ดี ร ะหว่ า งกั น รวมไปถึงการพูดคุยสนทนากลุม่ ในแวดวงวิชาการ
ภายในชุ ม ชนเพื่ อ ให้ ส ภาพแวดล้ อ มและ ทางด้านอาชญาวิทยาจึงได้ตัดสินใจเลือกกรณี
อาณาบริ เวณใกล้ เ คี ย งมี ค วามสะอาดน่ า อยู ่ ศึกษาชุมชนบริเวณวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
กอปรกั บ การส่ ง เสริ ม ในการเข้ า ร่ ว มกิ จ กรรม เพราะเนื่องจากชุมชนดังกล่าวถือได้ว่าเป็นแหล่ง
ที่สามารถพัฒนาและยกระดับจิตใจให้เด็กและ ชุ ม ชนที่ ไ ด้ อ าศั ย ความสั ม พั น ธ์ ที่ ดี ร ะหว่ า งวั ด
เยาวชนเกิดมีคณ ุ ค่าในตนเอง ก็ยอ่ มเป็นสิง่ ส�ำคัญ ชุมชน และเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในการป้องกัน
ต่อการสร้างพันธะบางสิ่งเพื่อเป็นการป้องกัน และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ให้เด็กและเยาวชนเกิดพฤติกรรมที่เบี่ยงเบน อาทิ ปั ญ หาการอาศั ย พื้ น ที่ ส าธารณะในการ
ออกไปในทิ ศ ทางที่ เ สื่ อ มได้ (Ornauma สร้ า งอั ต ลั ก ษณ์ วั ฒ นธรรมรองของกลุ ่ ม วั ย รุ ่ น
Wachirapraditporn, 2012) ผู้เขียนจึงเกิด และมี ผ ลการด� ำ เนิ น การที่ มี แ นวโน้ ม ที่ ดี ขึ้ น
ความสนใจเป็ น อย่ า งยิ่ ง เมื่ อ ครั้ ง ที่ ส มเด็ จ อย่างสม�่ำเสมอ กอปรกับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระเจ้าอยูห่ วั วชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร วชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณา
ทรงมีความห่วงใยและทรงค�ำนึงถึงความอยู่ดี โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระเจ้าหลานเธอ
มีสุขของประชาชนเป็นส�ำคัญ ทรงพระกรุณา พระองค์ เจ้ า ที ป ั ง กรรั ศ มี โชติ เ สด็ จ น� ำ เด็ ก และ
โปรดเกล้ า โปรดกระหม่ อ มให้ จั ด โครงการ เยาวชนทีอ่ าศัยอยูบ่ ริเวณโดยรอบวัดประยุรวงศา
จิ ต อาสา “เราท� ำ ความ ดี ด้ ว ยหั ว ใจ” ขึ้ น วาสวรวิหารเป็นจ�ำนวนมาก เข้าร่วมกิจกรรม
และเชิ ญ ชวนให้ ภ าคประชาชนทุ ก เพศทุ ก วั ย จิตอาสาเราท�ำความดีมาอย่างต่อเนื่อง ผู้ศึกษา
ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ส่งผลให้มีเด็กและ จึงได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ทรงคุณวุฒิ
เยาวชนรวมไปถึงประชาชนได้เข้าร่วมกิจกรรม ที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการ จ�ำนวน 4 ท่าน
ในครั้งนี้เป็นจ�ำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความ และสุม่ สอบถามประชาชนทีอ่ าศัยอยูบ่ ริเวณรอบ
งดงามของสังคมไทยที่ยังมีความเอื้อเฟื้อและ วัดประยุรวงศาวาสฯ และโดยเครื่องมือที่ใช้ได้
ร่วมมือร่วมใจกันดูแลสังคมร่วมกันต่อประเด็น แก่บทสัมภาษณ์ที่ผ่านผู้ทรงคุณวุฒิผู้เชี่ยวชาญ
ของการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวของเด็กและ ด้านอาชญาวิทยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือ ผู้ช่วย
เยาวชน ผู ้ เขี ย นได้ มี ก ารทบทวนวรรณกรรม ศาสตราจารย์ ดร. อุนิษา เลิศโตมรสกุล คณะ
จากแหล่ ง ต่ า ง ๆ โดยการสื บ ค้ น ข้ อ มู ล ด้ ว ย รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมไปถึง

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 31
การลงพื้ น ที่ สั ง เกตการณ์ แ ละสั ม ภาษณ์ วั ฒ นธร ร ม แ ล ะ เ ท คโ นโ ล ยี ส า ร ส นเ ท ศ
กลุ่มตัวอย่างเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ การเปลี่ ย นแปลงและความเจริ ญ เติ บ โต
จิ ต อาสาที่ เ คยมี พ ฤติ ก รรมเบี่ ย งเบนดั ง กล่ า ว อย่างรวดเร็วดังกล่าว ก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ
และเยาวชนบริ เวณสะพานพระพุ ท ธยอดฟ้ า ตามมาหลายประการ เช่น ปัญหาสังคม ปัญหา
โดยอาศั ย จุ ด ยื น ของกระบวนทั ศ น์ ง านวิ จั ย แรงงาน ปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรม
เชิงคุณภาพ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอาชญากรรม
น� ำมาซึ่ งความสนใจและความพยายาม มี แ นวโน้ ม สู ง มากขึ้ น ดั ง นั้ น การท� ำ งานของ
ของผู้เขียนที่จะผลิตผลงานวิชาการชิ้นนี้ออกมา ต�ำรวจในยุคปัจจุบัน ซึ่งอยู่ในสภาวะขาดแคลน
โดยได้ อ าศั ย กรอบทฤษฎี ท างอาชญาวิ ท ยา ด้านก�ำลังพลและอุปกรณ์เครือ่ งมือเครือ่ งใช้ตา่ ง ๆ
(Criminology) เป็นกรอบแนวทางในการศึกษา จึ ง ต้ อ งพยายามปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ อ ย่ า งมื อ อาชี พ
และพยายามอธิ บ ายปรากฏการณ์ ที่ เ กิ ด ขึ้ น โดยมุ่งเน้นก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ในสังคมร่วมสมัย โดยเป็นการศึกษาและวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมที่จะท�ำให้
ถึงความเป็นไปได้ในการน�ำโครงการจิตอาสา บรรลุเป้าหมายหรือผลส�ำเร็จได้นน้ั ต�ำรวจจะต้อง
“เราท� ำ ความ ดี ด้ ว ยหั ว ใจ” มาใช้ เ พื่ อ เป็ น รู้จักการก�ำหนดยุทธศาสตร์หรือกลยุทธ์ในการ
แนวทางในการป้องกันพฤติกรรมเบี่ยงเบนและ แก้ไขปัญหาให้ “ถูกจุดและตรงประเด็น” โดย
การกระท� ำ ความผิ ด ของเด็ ก และเยาวชน เฉพาะอย่างยิ่งแนวทางการป้องกันอาชญากรรม
ชุมชนรอบวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร รวมทั้ง เชิงรุก โดยอาศัยทฤษฎีสามเหลี่ยมอาชญากรรม
ได้น�ำเสนอข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ซึ่ ง มี ห ลั ก ปรั ช ญาที่ ว่ า “สร้ า งความหวาดกลั ว
2. กรอบแนวคิ ด ทางอาชญาวิ ท ยา ให้ กั บ คนร้ า ย และสร้ า งความอบอุ ่ น ใจให้ กั บ
คนดี ” เพื่ อ เป็ น แนวทางในการแก้ ไขปั ญ หา
ทีเ่ กีย่ วกับการป้องกันปัญหาการกระท�ำผิด
อาชญากรรมในแต่ ล ะพื้ น ที่ ทั้ ง นี้ ก ารท� ำ งาน
ของเด็กและเยาวชน
จะประสบผลส�ำเร็จได้นั้น จ�ำเป็นอย่างยิ่งที่จะ
2.1 ทฤษฎี ส ามเหลี่ ย มอาชญากรรม ต้ อ งมี ก ารจั ด การที่ ดี มี ก ารบู ร ณาการทั้ ง ด้ า น
(Crime Triangle Theory) ก�ำลังพล เครื่องมือเครื่องใช้ มีการประสานงาน
สถานการณ์ ข องโลกในยุ ค ปั จ จุ บั น กั บ เครื อ ข่ า ยต่ า ง ๆ ทุ ก ภาคส่ ว นในแต่ ล ะ
มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุก ๆ ด้าน พื้นที่ จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาอาชญากรรม
ไม่ ว ่ า จะเป็ น ด้ า นเศรษฐกิ จ สั ง คม การเมื อ ง

32 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


ได้ อ ย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ “การจั บ ผู ้ ร ้ า ยนั้ น แรงกายและใจ ในการแก้ปัญหาอาชญากรรม
ไม่ ถื อ เป็ น ความชอบ เป็ น แต่ นั บ ว่ า ผู ้ นั้ น ได้ ดังกล่าว โดยจะต้องมุง่ เน้นการปฏิบตั งิ านในเชิงรุก
กระท�ำการครบถ้วนแก่หน้าที่นั้นแต่จะถือเป็น (Proactive) การป้องกันอาชญากรรมเชิ งรุ ก
ความชอบต่ อ เมื่ อ ได้ ป กครองป้ อ งกั น เหตุ ร ้ า ย (Proactive Crime Prevention) ถือว่าเป็น
ให้ ชี วิ ต และทรั พ ย์ ส มบั ติ ข องข้ า แผ่ น ดิ น ยุทธศาสตร์ส�ำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ของต�ำรวจ
ในท้ อ งที่ นั้ น อยู ่ เ ย็ น เป็ น สุ ข พอสมควร ดั ง นั้ น ยุ ค ปั จ จุ บั น โดยเบื้ อ งต้ น ต� ำ รวจต้ อ งมี ข ้ อ มู ล
ข้าราชการต�ำรวจต้องพึงระลึกไว้ว่า การป้องกัน (Data) ที่ จ ะใช้ ใ นการวิ เ คราะห์ ส ภาพปั ญ หา
ปราบปรามอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ อาชญากรรม (Crime Analysis) ที่ เ กิ ด ขึ้ น
ไม่ให้เกิดเหตุร้ายแก่ประชาชนในเขตพื้นที่ของ ในแต่ ล ะพื้ น ที่ ข้ อ มู ล นั้ น อาจจะมาจากคดี
ตนเอง นั่ น แหล่ ะ คื อ ความส� ำ เร็ จ ในการท� ำ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ในพื้ น ที่ ที่ พ นั ก งานสอบสวนได้ รั บ
หน้าที่ ข้าราชการต�ำรวจอย่างแท้จริง” จาก ค�ำร้องทุกข์ไว้แล้ว คดีที่เกิดขึ้นแต่ยังไม่ได้รับ
พ ร ะ บ ร ม ร า โช ว า ท ข อ ง พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ ค� ำ ร้ อ งทุ ก ข์ ห รื อ ข้ อ มู ล ข่ า วสารที่ ไ ด้ รั บ จาก
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ดังกล่าว การร้องเรียนของประชาชน สื่อมวลชน เป็นต้น
ข้างต้น (Parinthorn Sinpiang, 2017) ถือได้ว่า เมื่ อ วิ เ คราะห์ ข ้ อ มู ล ดั ง กล่ า วแล้ ว จะท� ำ ให้
เป็ น การวางรากฐานหรื อ หลั ก การท� ำ งาน ทราบถึ ง ช่ ว งเวลา (Time) สถานที่ เ กิ ด เหตุ
ในด้ า นการป้ อ งกั น อาชญากรรมที่ ส� ำ นั ก งาน (Place) พฤติกรรมของคนร้าย ตลอดจนสภาพ
ต�ำรวจแห่งชาติและต�ำรวจทุกคนควรน้อมน�ำมา ปั ญ หาและสาเหตุ ข องการเกิ ด อาชญากรรม
ปฏิบัติ คือ การมุ่งเน้นการป้องกันอาชญากรรม อันจะน�ำไปใช้ประโยชน์ในการก�ำหนดกลยุทธ์
(Crime Prevention) ก่ อ นเกิ ด เหตุ ซึ่ ง ใน การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมต่อไป ในการแก้ไข
ปั จ จุ บั น กระแสการเปลี่ ย นแปลงของโลก ปั ญ หาอาชญากรรมนั้ น มี ท ฤษฎี ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง
ค่อนข้างรวดเร็วและรุนแรง ก่อให้เกิดปัญหา ทฤษฎีหนึ่ง คือ “ทฤษฎีสามเหลี่ยมอาชญากรรม
ตามมาหลายประการ ไม่ ว ่ า จะเป็ น ปั ญ หา (Crime Triangle Theory)” ซึ่ ง เป็ นทฤษฎี
ทางด้านสังคม ด้านแรงงาน ยาเสพติดให้โทษ ทีอ่ ธิบายถึงสาเหตุ หรือ องค์ประกอบของการเกิด
และปัญหาอาชญากรรมที่มีแนวโน้มสูงมากขึ้น อาชญากรรมได้อย่างชัดเจน เข้าใจง่าย และ
นี้ เ อง จึ ง ถื อ ว่ า เป็ น หน้ า ที่ ส� ำ คั ญ ของต� ำ รวจ เจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจทุกระดับ สามารถน�ำเอาแนวคิด
ที่ ป ฏิ บั ติ ง านในแต่ละพื้นที่ต้องพยายามทุ่มเท จากทฤษฎีดังกล่าวไปก�ำหนดยุทธศาสตร์หรือ

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 33
กลยุทธ์ การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ 1) ผู้กระท�ำผิด/คนร้าย (Offender) หมายถึง
ทั้ ง ด้ า นการป้ อ งกั น และการปราบปราม ผูท้ มี่ คี วามต้องการ (Desire) จะก่อเหตุหรือลงมือ
อาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นรูปธรรม กระท�ำความผิด 2) เหยื่อ (Victim)/เป้าหมาย
เหมาะกั บ สภาพความเปลี่ ย นแปลงของสั ง คม (Target) หมายถึง บุคคล สถานที่ หรือวัตถุ
ในยุ ค ปั จ จุ บั น เป็ น อย่ า งยิ่ ง (Pramote สิ่งของที่ผู้กระท�ำผิดหรือคนร้ายมุ่งหมายกระท�ำ
Chanbunkaew, Police Lieutenant ต่อ หรือเป็นเป้าหมายที่ต้องการ และ 3) โอกาส
Colonel, 2017) (Opportunity) หมายถึง ช่วงเวลา (Time) และ
ทฤษฎีสามเหลี่ยมอาชญากรรม (Crime สถานที่ (Place) ที่เหมาะสมที่ผู้กระท�ำผิดหรือ
Triangle Theory) เป็ น แนวคิ ด ที่ อ ธิ บ ายถึ ง คนร้ า ยมี ค วามสามารถจะลงมื อ กระท� ำ ความ
สาเหตุหรือองค์ประกอบของการเกิดอาชญากรรม ผิ ด หรื อ ก่ อ อาชญากรรมปรากฏตามแผนภาพ
ประกอบด้วยด้านต่าง ๆ ของสามเหลีย่ ม 3 ด้าน คือ สามเหลี่ยมอาชญากรรม ดังนี้

ภาพที่ 1 รูปแบบของทฤษฎีสามเหลี่ยมอาชญากรรม (Crime Triangle Theory)


ที่มา: Oxford Research Encyclopedias, 2003

34 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


เมื่ อ เหตุ ก ารณ์ ห รื อ สถานการณ์ ค รบ ได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งการประสานงานกับ
องค์ประกอบทั้ง 3 ด้าน ดังกล่าวข้างต้น จะท�ำให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา
เกิ ด อาชญากรรมขึ้ น ทฤษฎี ดั ง กล่ า วได้ เ สนอ อาชญากรรม ยาเสพติ ด ให้ โ ทษ และปั ญ หา
แนวคิดในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม หรือ การว่างงาน เป็นต้น
การป้ อ งกั น ไม่ ใ ห้ เ กิ ด อาชญากรรม โดยต้ อ ง 2. ด้ า นเหยื่ อ (Victim)/เป้ า หมาย
พยายามท�ำอย่างไรก็ตามที่จะให้องค์ประกอบ (Target)
ของสามเหลี่ ย มอาชญากรรมด้ า นใดด้ า นหนึ่ ง ผู้เสียหาย หรือเหยื่อ หรือประชาชนทั่วไป
หายไปก็จะท�ำให้อาชญากรรมไม่เกิดขึ้น ดังนั้น ต้องรูจ้ กั การป้องกันตนเอง ครอบครัว และชุมชน
ในการปฏิบตั งิ านของแต่ละพืน้ ที่ จึงต้องพยายาม หรือสังคม ต�ำรวจจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
ท�ำให้องค์ประกอบการเกิดอาชญากรรมด้านใด ประชาชนในพื้ น ที่ โดยมี ก ารประชาสั ม พั น ธ์
ด้านหนึ่งของสามเหลี่ยมหายไป โดยมีวิธีการ ให้ความรู้ ข้อมูลข่าวสาร ที่เป็นประโยชน์ต่อ
ในการด�ำเนินการ ดังต่อไปนี้คือ ประชาชนในการป้องกันอาชญากรรม หรือไม่ให้
1. ด้ า นผู ้ ก ระท�ำผิ ด หรื อ คนร้ า ย ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม เช่น การแต่งตัว การ
(Offender) ใส่เครื่องประดับหรือของที่มีค่า การหลอกลวง
ต้ อ งพยายามลดหรื อ ควบคุ ม จ� ำ นวน
ของคนร้ายในลักษณะต่าง ๆ โดยอาจจะจัดเป็น
ผูก้ ระท�ำความผิดหรือคนร้ายในพืน้ ทีท่ รี่ บั ผิดชอบ
โครงการต�ำรวจเตือนภัย โครงการตรวจเยี่ยม
โดยมุ ่ ง เน้ น ใช้ ท ฤษฎี บั ง คั บ ใช้ ก ฎหมาย (Law
ประชาชน (Knock Door) หรื อ โครงการครู
Enforcement Theory) เช่น การเฝ้าระวัง
D.A.R.E เป็นต้น
บุคคลพ้นโทษที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ การก�ำหนด
มาตรการควบคุมแหล่งอบายมุขหรือสถานบริการ 3. ด้านโอกาส (Opportunity)
ที่ จ ะเป็ น แหล่ ง เพาะอาชญากรรม การระดม โอกาสที่ ผู ้ ก ระท� ำ ความผิ ด หรื อ คนร้ า ย
กวาดล้างอาชญากรรมอย่างสม�ำ่ เสมอ การจับกุม จะลงมือก่ออาชญากรรมนัน้ จะต้องอาศัยเวลาและ
ผูก้ ระท�ำความผิดตามหมายจับ การสืบสวนหาข่าว สถานทีท่ เี่ หมาะสมในการก่อเหตุ จึงต้องพยายาม
เกี่ยวกับแหล่งซ่องสุมของผู้กระท�ำความผิดหรือ หาวิ ธี ก ารเพื่ อ ที่ จ ะตั ด ช่ อ งโอกาสของคนร้ า ย
คนร้าย มาตรการตีวงสุรา การปิดล้อมตรวจค้น ดังกล่าว โดยแยกออกเป็น
การไประงับเหตุอย่างรวดเร็วของสายตรวจเพือ่ ให้ 3.1 เวลา ต้องพยายามตัดช่องโอกาส
สามารถจั บ กุ ม ผู ้ ก ระท� ำ ความผิ ด หรื อ คนร้ า ย ในเรื่องเวลาที่จะเกิดเหตุ โดยมุ่งเน้นการปรากฏ

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 35
ตัวของเจ้าหน้าที่ต�ำรวจสายตรวจ (Show off เพื่ อ ร่ ว มมื อ กั น แก้ ไขปั ญ หาอาชญากรรมตาม
Force) การตั้งจุดตรวจค้น เป็นต้น โครงการต�ำ รวจผู ้ รั บใช้ ชุ ม ชน (Community
3.2 สถานที่ ส� ำ หรั บ เรื่ อ งการตั ด ช่ อ ง Policing) โดยมุ่งเน้นการสร้างชุมชนเข้มแข็ง
โอกาสในเรื่ อ งสถานที่ นั้ น สามารถกระท� ำ ได้ เพื่อให้ชุมชนสามารถดูแลตัวเองได้อย่างยั่งยืน
หลายวิ ธี แ ละมี ท ฤษฎี ที่ เ กี่ ย วข้ อ งมากมาย ตลอดไป
เช่ น ทฤษฎี ก ารควบคุ ม อาชญากรรมจาก 2.2 ทฤษฎีพันธะทางสังคม (Hirschi ’s
สภาพแวดล้อม (Crime Control Through Social Bonding Theory)
Environmental Design) เป็ น วิ ธี ก ารปรั บ ทฤษฎีที่มีความเกี่ยวข้องกับการศึกษานี้
สภาพแวดล้อมและใช้ประโยชน์สภาพแวดล้อม อย่างหนึง่ คือ ทฤษฎีพนั ธะทางสังคมของ ทราวิช
ในการลดโอกาสการก่ อ อาชญากรรม เช่ น เฮอร์ชิ (Hirschi ’s Social Bonding Theory)
การสร้ า งรั้ ว หรื อ สิ่ ง กี ด ขวางมิ ใ ห้ ผู ้ ก ระท� ำ ผิ ด ต�ำราของพรชัย ขันตี (2558, pp.254) ได้สรุปไว้วา่
เข้ า ถึ ง บริ เ วณสิ่ ง ของ หรื อ บุ ค คล โดยเพิ่ ม เด็ ก และเยาวชนที่ มี พั น ธะทางสั ง คมหรื อ
ความเสี่ยงที่คนร้ายจะถูกตรวจพบหรือถูกจับกุม มีความผูกพันทางสังคมน้อย จะมีแนวโน้มที่จะ
มากยิ่งขึ้น หรือการจัดระเบียบพื้นที่ที่มีแนวโน้ม มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนน�ำไม่สู่การกระท�ำความผิด
จะเกิดอาชญากรรม (พื้นที่เสี่ยง) ตามหลักทฤษฎี ผู้กระท�ำความผิดเพราะไม่มีความผูกพัน ขาดข้อ
หน้าต่างแตก (Broken Windows Theory) ผูกมัด ไม่มีการเข้าร่วมกิจกรรม และมีความเชื่อ
โดยจะต้ อ งรี บ เข้ า ไปด� ำ เนิ น การแก้ ไขปั ญ หา ที่ไม่ถูกต้อง โดยเฮอร์ชี่ได้น�ำเสนอทฤษฎีควบคุม
ก่ อ นที่ จ ะเกิ ด อาชญากรรมในพื้ น ที่ ดั ง กล่ า ว ทางสังคมโดยมีใจความส�ำคัญว่าบุคคลที่มีความ
การจั ด การพื้ น ที่ ใ ห้ ป ลอดภั ย ตาม โครงการ ผูกพันกับองค์การหรือกลุม่ ในสังคม เช่น โรงเรียน
พื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) หรือโครงการ เพื่อนฝูง มักมีแนวโน้มที่จะไม่กระท�ำความผิด
เพื่ อ นบ้ า นเตื อ นภั ย (Neighborhood หลักส�ำคัญของทฤษฎีนี้ คือ ความผูกพันกับสังคม
Watch) รวมตลอดถึ ง การเพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพ หรือพันธะทางสังคม (Social Bond) แบ่งออก
เครื่ อ งมื อ เครื่ อ งใช้ ท างด้ า นเทคโนโลยี ใ หม่ ๆ เป็น 4 ประเภท ภายใต้สมมติฐานทีว่ า่ พฤติกรรม
เช่น กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) การใช้ เด็กและเยาวชนที่เบี่ยงเบนไปสู่การกระท�ำความ
สั ญ ญาณเตื อ นภั ย ทั้ ง นี้ ต� ำ รวจจะต้ อ งเข้ า ไป ผิ ด เป็ น ผลมาจากพั น ธะต่ อ สถาบั น ทางสั ง คม
จัดการให้มีการประสานความร่วมมือระหว่าง ที่อ่อนแอหรือถูกท�ำลายลง องค์ประกอบของ
หน่ ว ยงานภาครั ฐ ภาคเอกชน และชุ ม ชน พันธะทางสังคมนั้น มีองค์ประกอบ ได้แก่

36 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


1. ความผู ก พั น (Attachment) ให้หมดไปกับกิจกรรมของสังคมดังนัน้ การเข้าร่วม
หมายความถึ ง การที่ บุ ค คลมี ค วามผู ก พั น ถือว่าเป็นองค์ประกอบด้านกิจกรรมของพันธะ
หรือความรักใคร่กับบุคคลอื่น หรือมีความสนใจ หรือสัญญาข้อผูกมัดที่บุคคลมีต่อสังคม
กับความรูส้ กึ นึกคิดของบุคคลอืน่ ซึง่ ความผูกพันนี้ 4. ความเชื่ อ (Belief) หมายความถึ ง
เป็นองค์ประกอบพืน้ ฐานทีส่ ำ� คัญทีจ่ ะท�ำให้บคุ คล ระดั บ ของความเชื่ อ ถื อ ที่ บุ ค คลมี ต ่ อ ค่ า นิ ย ม
มีการพัฒนาการยอมรับค่านิยมและบรรทัดฐาน และบรรทัดฐานของสังคม หากบุคคลมีระดับ
ของสั ง คม ส่ ง ผลให้ บุ ค คลสร้ า งความรู ้ สึ ก ความเชื่อต่อค่านิยมและบรรทัดฐานในสังคมสูง
หรื อ สามั ญ ส� ำ นึ ก ที่ จ ะควบคุ ม ตนเองให้ เ ป็ น ก็ จ ะมี แ นวโน้ ม ที่ จ ะไม่ ก ระท� ำ ผิ ด กฎระเบี ย บ
บุ ค คลที่ ดี ใ นสั ง คม ดั ง นั้ น ความผู ก พั น จึ ง เป็ น ของสังคม ดังนั้นความเชื่อจึงเป็นองค์ประกอบ
องค์ประกอบด้านอารมณ์หรือด้านความรักของ ด้ า นจริ ย ธรรมของพั น ธะหรื อ สั ญ ญาผู ก มั ด
พันธะหรือสัญญาผูกมัดที่บุคคลมีต่อสังคม ที่บุคคลมีต่อสังคม
2 . ข ้ อ ผู ก มั ด ( C o m m i t m e n t ) สรุปได้ว่าเฮอร์ชี่ได้อ้างถึงหลักการส�ำคัญ
หมายความถึ ง การที่ บุ ค คลถู ก ผู ก มั ด กั บ ของทฤษฎีนี้ คือ พันธะทางสังคมหรือความผูกพัน
การด�ำเนินชีวิตตามท�ำนองคลองธรรมของสังคม ทางสังคม แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ ความผูกพัน
กล่าวคือ ได้ศึกษาเล่าเรียนเพื่อที่จะประกอบ (Attachment) ข้ อ ผู ก มั ด (Commitment)
อาชีพโดยสุจริต มีครอบครัวที่อบอุ่น และเพื่อ ความเชือ่ (Belief) และการเข้าร่วม (Involvement)
ที่จะประสบความส�ำเร็จในชีวิต ส่งผลให้บุคคล โดยมีสมมติฐาน คือ บุคคลที่มีพันธะทางสังคม
ไม่อยากกระท�ำผิดกฎหมาย เนื่องจากจะเป็น หรือมีความผูกพันทางสังคมน้อย จะมีแนวโน้ม
การเสีย่ งต่อการสูญเสียความส�ำเร็จในชีวติ ดังนัน้ ทีจ่ ะมีพฤติกรรมของอาชญากรรม (Sunhakrisana
ข้อผูกพันจึงเป็นองค์ประกอบด้านความมีเหตุมผี ล Boonchuay, 2016)
ของพันธะหรือสัญญาผูกมัดที่บุคคลมีต่อสังคม 2.3 แนวคิ ด อาชญาวิ ท ยากั บ บริ บ ท
3. การเข้ า ร่ ว ม (Involvement) ของสังคมในช่วงยุคต้นศตวรรษที่ 20
หมายความถึง การที่บุคคลได้เข้าร่วมกิจกรรม แม้ ว ่ า การน� ำ ความรู ้ ด ้ า นวิ ท ยาศาสตร์
ต่ า ง ๆ ของสั ง คม เช่ น ท� ำ งาน มี กิ จ กรรม มาพัฒนาเป็นทฤษฎีอธิบายสาเหตุของอาชญากรรม
ครอบครั ว ร่ ว มกิ จ กรรมทางศาสนา ฯลฯ จะได้รับความนิยม และถูกมองว่ามีความเป็น
เป็นเหตุให้บุคคลถูกจ�ำกัดเวลาที่จะไปประกอบ ศาสตร์ที่เข้มแข็งเริ่มที่จะทัดเทียมวิทยาศาสตร์
อาชญากรรม เนื่องจากเวลาส่วนมากได้ถูกใช้ ก็ ต าม แต่ แ ล้ ว ต่ อ มาในยุ ค ต้ น ศตวรรษที่ 20

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 37
ได้เริม่ มีการพัฒนาการศึกษาเกีย่ วกับสังคมศาสตร์ 2.4 แนวคิ ด โครงการจิ ต อาสา และ
มากขึน้ เนือ่ งจากสังคมโลกได้เกิดการเปลีย่ นแปลง อาสาสมั ค รสั ง คมในการป้ อ งกั น ปั ญ หา
อย่างรวดเร็ว นับแต่มีการเพิ่มขึ้นของประชากร อาชญากรรม
การเปลี่ยนแปลงระบบการผลิตและโครงสร้าง ค�ำว่า “จิตอาสา” (Volunteer Spirit) หรือ
พื้ น ฐานทางสั ง คมจากสั ง คมเกษตรเป็ น สั ง คม “อาสาสมัคร” (Volunteer) เป็นค�ำที่ปรากฏขึ้น
อุ ต สาหกรรม ตามระบบเศรษฐกิ จ แบบเมื อ ง ในสังคมไทยอีกครั้ง เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ขยายตัว บรรดานักวิชาการเริม่ มีการพัฒนาศาสตร์ มหาวชิ ร าลงกรณ บดิ น ทรเทพยวรางกู ร
เกี่ยวกับสังคมขึ้น ทฤษฎีในยุคนี้จึงมีสมมติฐาน ทรงพระกรุ ณ าโปรดเกล้ า โปรดกระหม่ อ ม
ที่มองว่าอาชญากรรมเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อม ให้จัดตั้งโครงการจิตอาสาขึ้นมาเพื่อบ�ำบัดทุกข์
ของสังคมหรือบริบทภายใน (J.Robert Lilly and บ� ำ รุ ง สุ ข ของอาณาประชาราษฎร และเพื่ อ
others, 2015) ต้องการปลุกจิตส�ำนึกสาธารณะของประชาชน
นักสังคมศาสตร์ที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนา ออกมา ทั้ ง นี้ อ งค์ ก ารโลกบาลอย่ า งองค์ ก าร
ทฤษฎีอาชญาวิทยาแนวสังคมศาสตร์ ได้แก่ สหประชาชาติ (United Nations – UN) ได้ให้
- L.A.L. Quetelet เป็นผู้ศึกษาอิทธิพล ความส� ำ คั ญ กั บ ประเด็ น นี้ ม าโดยตลอด ในปี
ของปั จ จั ย ทางสภาพแวดล้ อ มต่ อ พฤติ ก รรม พ.ศ. 2544 ได้ร่วมกับประเทศต่าง ๆ จัดให้เป็น
อาชญากรรม ปีอาสาสมัครสากล (International Year of
- Emile Durkheim เป็ น ผู ้ ริ เริ่ ม ให้ Volunteer) หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า IYV 2001
ความสนใจกั บ การเปลี่ ย นแปลงของสั ง คม จึ ง ก่ อ ให้ เ กิ ด การตื่ น ตั ว ไปทั่ ว โลกรวมถึ ง
กับพฤติกรรมอาชญากรรม ประเทศไทยด้วยเช่นกัน ส่งผลให้แผนพัฒนา
- The Chicago School of เศรษฐกิ จ และสั ง คมแห่ ง ชาติ ฉบั บ ที่ 9
Criminology ได้ ริ เริ่ ม ศึ ก ษาเกี่ ย วกั บ สภาพ (พ.ศ. 2545 - 2549) ได้กล่าวถึงการมีจิตส�ำนึก
แวดล้ อ มต่ อ พฤติ ก รรมอาชญากรรม ท� ำ ให้ สาธารณะไว้ อ ย่ า งชั ด เจนว่ า เป็ น คุ ณ ลั ก ษณะ
เกิดความเชื่อที่ว่า กระบวนการทางสังคม เช่น ของคนไทยที่พึงประสงค์ซึ่งจะช่วยในการพัฒนา
การศึกษา ชีวิตครอบครัว เพื่อน และสถานภาพ เศรษฐกิ จ สั ง คม และการเมื อ ง (Nantarat
เป็ น สาเหตุ ส� ำ คั ญ ท� ำ ให้ เ กิ ด อาชญากรรม Pariwattitham, 2010, PP.23) นัน่ เอง กระนัน้ งาน
(Pornchai Khantee. et al., 2015, pp.45) ศึกษาวิจัยของ นันทรัตน์ ปริวัติธรรม ที่ได้ศึกษา
เรื่องปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมจิตอาสาของเด็ก

38 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


และเยาวชนทีร่ บั ทุนการศึกษาส�ำนักงานทรัพย์สนิ จึ ง ทรงพระกรุ ณ าโปรดเกล้ า โปรดกระหม่ อ ม
ส่วนพระมหากษัตริย์ ได้สรุปความหมายของ ให้ จั ด โครงการจิ ต อาสา “เราท� ำ ความ ดี
จิ ต อาสาไว้ ว ่ า หมายถึ ง การเอื้ อ เฟื ้ อ เผื่ อ แผ่ ด้วยหัวใจ”
การเสี ย สละเวลา สิ่ ง ของ เงิ น ทอง แรงกาย อีกทัง้ สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั มหาวชิราลงกรณ
สติปัญญา เพื่อสาธารณะประโยชน์ เป็นจิตใจ บดิ นทรเทพยวรางกู ร ทรงมี พ ระราชอนุ ส รณ์
ที่มีความสุขเมื่อได้ท�ำความดี การช่วยเหลือผู้อื่น ค�ำนึงถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ ของพระบรมชนกนาถ
และสังคมเพือ่ ให้ผอู้ นื่ มีความสุขด้วยความสมัครใจ พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ล
และไม่หวังผลตอบแทน เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็น อดุ ล ยเดช บรมนาถบพิ ต ร เป็ น ล้ น เกล้ า
สาธารณะประโยชน์ ส� ำ นึ ก ของบุ ค คลที่ มี ต ่ อ ล้นกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้ ได้ทรงเล็งเห็น
ส่วนรวม เอาใจใส่ป้องกันแก้ไขปัญหาสังคม และทรงรั บ รู ้ จ ากพระราชหฤทั ย ของพระองค์
ถึ ง พลั ง แห่ ง คุ ณ ค่ า ของความรั ก ความศรั ท ธา
3. โครงการจิตอาสา “เราท�ำความ ดี เทิ ด ทู น และความจงรั ก ภั ก ดี ที่ ป วงชนชาวไทย
ด้ ว ยหั ว ใจ”: แนวทางส�ำคั ญ ในการ ทุกหมู่เหล่าน้อมเกล้าน้อมถวายแด่พระองค์ท่าน
ป้ อ งกั น การกระท�ำความผิ ด ของเด็ ก ซึง่ ทรงประจักษ์ความต่อสายพระเนตรพระกรรณ
และเยาวชน กรณี ศึ ก ษาชุ ม ชนรอบ มาโดยตลอดถึ ง พลั ง น�้ ำ ใจ พลั ง ความรั ก อั น
วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ประเสริ ฐ สุ ด ของท่ า นทั้ ง หลาย นั บ ตั้ ง แต่ วั น
ที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว รั ช กาลที่ 9
สมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว มหาวชิ ร าลงกรณ
เสด็จสวรรคตตราบจนทุกวันนีแ้ ละเพือ่ ทรงสนอง
บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีความห่วงใยและ
ตอบต่อความรักและน�ำ้ ใจอันประเสริฐสุดของท่าน
ทรงค�ำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็น
ทั้งหลาย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ
ส�ำคัญ และพระองค์ทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่
บดิ น ทรเทพยวรางกู ร จึ ง ได้ พ ระราชทาน
ที่ จ ะท� ำ ให้ ป ระเทศชาติ มั่ น คงและประชาชน
พระมหากรุณาธิคุณให้ประชาชนทุกภาคส่วน
มีชวี ติ ความเป็นอยูท่ ดี่ ขี นึ้ ด้วยมีพระราชประสงค์
ได้มีส่วนร่วมถวายความอาลัยรัก น้อมส่งเสด็จ
ที่ จ ะสื บ สาน รั ก ษา และต่ อ ยอดโครงการ
พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว รั ช กาลที่ 9
อั น เ นื่ อ ง ม า จ า ก พ ร ะ ร า ช ด� ำ ริ แ ล ะ แ น ว
ในพระราชพิ ธี ถ วายพระเพลิ ง พระบรมศพ
พระราชด�ำริตา่ ง ๆ ในการบ�ำบัดทุกข์และบ�ำรุงสุข
ในห้ ว งเดื อ นตุ ล าคม พ.ศ. 2560 และเพื่ อ
ให้ประชาชนและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 39
เป็นการสานต่อพระราชด�ำริโครงการจิตอาสา โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมือ่ โครงการจิตอาสานี้
“เราท�ำความ ดี ด้วยหัวใจ” ซึ่งเป็นโครงการ ได้ถูกจัดตั้งขึ้นบริเวณชุมชนรอบวัดประยุรวงศา
ท� ำ ความดี ร ่ ว มกั บ สมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว วาสวรวิ ห ารน� ำ มาซึ่ ง ความสนใจของผู ้ ศึ ก ษา
มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ถวายเป็น ที่ศึกษาทางด้านอาชญาวิทยา จึงได้อาศัยกรอบ
พระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทฤษฎีทางอาชญาวิทยา (Criminology) มาเป็น
รั ช กาลที่ 9 ที่ ไ ด้ ป ฏิ บั ติ พ ระราชกรณี ย กิ จ กรอบแนวทางในการศึกษา และพยายามอธิบาย
มาโดยตลอด เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของท่าน ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นถึงโครงการดังกล่าวได้ถูก
ทั้ ง หลายอยู ่ แ ล้ ว นั้ น สมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว น�ำมาสร้างไว้เพื่อให้เป็นพันธะที่ส�ำคัญประการ
มหาวชิ ร าลงกรณ บดิ น ทรเทพยวรางกู ร หนึ่งส�ำหรับเด็กและเยาวชนที่ก�ำลังจะมี หรือ
จึ ง ได้ พ ระราชทานพระราชานุ ญ าตให้ จั ด ตั้ ง มีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนออกจากกรอบของสังคม
“ จิ ต อ า ส า เ ฉ พ า ะ กิ จ ง า น พ ร ะ ร า ช พิ ธี แห่งความดีงามออกไปแล้ว ให้กลับมาสูภ่ าวะปกติ
ถวายพระเพลิงพระบรมศพ” ขึ้นเพื่อเป็นการ และเป็นโครงการป้องกันการกระท�ำความผิดของ
รวมพลั ง ความรั ก อั น มี ค ่ า รวมพลั ง น�้ ำ ใจของ เด็กและเยาวชนที่จะเกิดขึ้นจริง รายละเอียด
ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่จะน้อมถวายแด่ ปรากฏดังนี้
พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว รั ช กาลที่ 9 1) ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในสังคม
ก่อนเสด็จสู่สวรรคาลัยและในปัจจุบันนี้ถึงแม้ ผ่านสื่อสาธารณะต่าง ๆ ย่อมเป็นที่ประจักษ์
งานพระราชพิ ธี ถ วายพระเพลิ ง พระบรมศพ ชั ด ว่ า เมื่ อ อาณาบริ เวณแวดล้ อ มเอื้ อ อ� ำ นวย
จะเสร็ จ สิ้ น ไปแล้ ว ก็ ต าม ทว่ า โครงการ ต่ อ การก่ อ อาชญากรรม อาชญากรก็ จ ะ
จิตอาสา “เราท�ำความ ดี ด้วยหัวใจ” ก็ยังคง ปรากฏตัวขึ้นซึ่งเป็นไปตามทฤษฎีสามเหลี่ยม
ด� ำ เนิ น การต่ อ และประเภทงานรั ก ษาความ อาชญากรรมที่ ไ ด้ ก ล่ า วไปแล้ ว กระนั้ น
ปลอดภั ย ซึ่ ง มี ห น้ า ที่ ช ่ ว ยสอดส่ อ ง สั ง เกต บริ เวณโดยรอบวั ด ประยุ ร วงศาวาสวรวิ ห าร
ระมั ด ระวั ง ความปลอดภั ย บุ ค คลและสถานที่ ไปจนถึ ง บริ เ วณสะพานพระพุ ท ธยอดฟ้ า
และแจ้ ง ข้ อ มู ล ให้ เ จ้ า พนั ก งานทราบกรณี จุ ฬ าโลกนั้ น ก็ เ ช่ น กั น ได้ ถู ก ใช้ เ ป็ น พื้ น ที่
พบเห็ น สิ่ ง ผิ ด ปกติ นั้ น ยั ง สอดคล้ อ งกั บ สาธารณะในการสร้ า งอั ต ลั ก ษณ์ วั ฒ นธรรม
การป้องกันการกระท�ำผิดได้ในฐานะสนับสนุน รองของกลุ ่ ม วั ย รุ ่ น ต่ า งพากั น รวมกลุ ่ ม
งานของเจ้าหน้าที่อีกด้วย โดยมี เ จตนาที่ จ ะหลบหนี ตั ว เองออกจาก

40 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


บรรทั ด ฐานของสั ง คมไป งานวิ ช าการของ พบว่า มีกรณีศึกษาเทียบเคียงที่น่าสนใจกล่าวคือ
นฤมล กล้ า ทุ ก วั น (2554) ที่ ไ ด้ ศึ ก ษาเรื่ อ ง เมื่ อ วั น ที่ 29 มี น าคม พ.ศ. 2557 เวลา
“การ hang out ของวั ย รุ ่ น สะพานพุ ท ธฯ: ประมาณ 02.00 น. เจ้ า หน้ า ที่ ต� ำ รวจกอง
อั ต ลั ก ษณ์ ข องวั ย รุ ่ น ในพื้ น ที่ ส าธารณะ” โดย บังคับการต�ำรวจนครบาล 8 น�ำก�ำลังเจ้าหน้าที่
เป็ น การลงพื้ น ที่ ศึ ก ษาตามแนวชาติ พั น ธุ ์ ต�ำรวจสายตรวจฝ่ายจราจร และฝ่ายสืบสวน
วรรณาและสะท้ อ นผ่ า นงานวิ ช าการชิ้ น นี้ ไ ด้ สนธิกำ� ลังกับสถานีตำ� รวจนครบาลปากคลองสาน
อย่ า งน่ า สนใจว่ า เมื่ อ เอ่ ย ถึ ง วั ย รุ ่ น ขาประจ� ำ และสถานี ต� ำ รวจนครบาลสมเด็ จ เจ้ า พระยา
ที่ ไ ปใช้ พื้ น ที่ ส ะพานพุ ท ธหรื อ ที่ เ รี ย กกั น ว่ า ปิดล้อมตรวจค้นเยาวชนและบุคคลที่มามั่วสุม
“เด็ ก สะพานพุ ท ธ” ก็ มั ก ผู ก ติ ด พวกเขาไว้ กั บ บริ เวณกลางสะพานพระพุ ท ธยอดฟ้ า ถนน
ความก้าวร้าว หยาบคาย รุนแรง ซึง่ เป็นไปในทิศทาง ประชาธิ ป ก แขวงวั ด กั ล ยาณ์ เขตธนบุ รี
เดี ย วกั น กั บ ภาพของสะพานพุ ท ธที่ ถู ก มองว่ า กรุ ง เทพมหานคร เพื่ อ กวดขั น ระเบี ย บวิ นั ย
อันตราย ไม่ปลอดภัย ป่าเถื่อน นอกจากนี้ วัยรุ่น ของเด็ ก และเยาวชนในช่ ว งปิ ด ภาคเรี ย น
ยังทดลองท�ำกิจกรรมและพฤติกรรมที่แตกต่าง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กและเยาวชน
แล้ ว แสดงออกสู ่ ค นหมู ่ ม าก ดั ง นั้ น พื้ น ที่ พุทธศักราช 2546 (ThairathOnline, 2014)
สาธารณะจึ ง ถู ก ท� ำ ให้ เ ป็ น เวที ส� ำ หรั บ พบปะ ในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ต�ำรวจได้น�ำก�ำลังปิดล้อม
สื่อสาร และแสดงออกถึงวัฒนธรรมที่โดดเด่น และตรวจค้ น กลุ ่ ม เด็ ก และเยาวชนซึ่ ง รวม
ของเหล่ า วั ย รุ ่ น วั ย รุ ่ น ใช้ พื้ น ที่ ส าธารณะเพื่ อ ก ลุ ่ ม กั น บ น พื้ น ที่ ท า ง เ ท ้ า ก ล า ง ส ะ พ า น
หลบเลีย่ งสายตาและการควบคุมของสังคมผูใ้ หญ่ พระพุ ท ธยอดฟ้ า ด้ า นหน้ า วั ด ประยุ ร วงศา
ช่วงหลังเลิกเรียนถื อ เป็ น ช่ ว งทดลองรู ป แบบ วาสวรวิ ห ารมั่ ว สุ ม ประพฤติ ต นไม่ เ หมาะสม
การใช้ ชี วิ ต ที่ แ ตกต่ า งและสะท้ อ นมั น ออกมา โดยเจ้ า หน้ า ที่ ต� ำ รวจได้ ป ิ ด ทางขึ้ น ลงสะพาน
เมื่อวัยรุ่นได้เข้ามาใช้พื้นที่สาธารณะก็มักท�ำตัว ทั้ ง ฝั ่ ง ธนบุ รี แ ละฝั ่ ง พระนครกวาดต้ อ นบุ ค คล
ให้โดดเด่น ส่งเสียงเอะอะ ก่อให้เกิดความตระหนก ต้ อ งสงสั ย รวมกว่ า 300 ราย ตรวจสอบพบ
และความกลัว ซึง่ มักตามมาด้วยความต้องการให้ ว่ า มี ทั้ ง ไม่ พ กพาบั ต รประชาชนเป็ น เด็ ก และ
เกิ ด การจั ด การบางอย่ า งจากภาคส่ ว นต่ า ง ๆ เยาวชนอายุ ต�่ ำ กว่ า 18 ปี และปั ส สาวะ
(Narumol Klatookwan, 2011) กอปรกับเมื่อ เป็ น สี ม ่ ว ง จึ ง น� ำ เดิ น การคาดโทษหนั ก กั บ
ผู้ศึกษาได้ค้นหาข้อมูลเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผู ้ ป กครอง และหากผู ้ ป กครองยั ง ปล่ อ ยให้

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 41
บุ ต รหลานออกมากระท� ำ ผิ ด ซ�้ ำ ซากจะถู ก รองผู้ก�ำกับการสืบสวนสอบสวนต�ำรวจนครบาล
ด�ำเนินการตามกฎหมายด้วย ในครัง้ นัน้ เจ้าหน้าที่ บุปผาราม กล่าวว่า ในกรณีเด็กและเยาวชน
ต�ำรวจวางแผนปฏิบัติงานโดยใช้ก�ำลังเจ้าหน้าที่ ที่อายุไม่ถึง 18 ปี ได้ท�ำการถ่ายภาพท�ำประวัติ
ต�ำรวจฝ่ายสืบสวนนอกเครือ่ งแบบ จ�ำนวน 30 นาย เอาไว้และเรียกผู้ปกครองมารับตัวเพื่อท�ำความ
แฝงกายเข้าไปเดินหาข่าวภายในตลาดจ�ำหน่าย เข้ า ใจว่ า ไม่ ค วรปล่ อ ยให้ บุ ต รหลานออกนอก
สิ น ค้ า และเสื้ อ ผ้ า บริ เ วณใต้ ส ะพานพุ ท ธ เคหสถานยามค�่ ำคื น ซึ่ ง ประเด็ นนี้ มีก ฎหมาย
เพื่ อ รอเวลากลุ ่ ม เด็ ก และเยาวชน ตลอดจน คุม้ ครองอยูแ่ ล้วและหากพบว่าครอบครัวใดปล่อย
บุ ค คลทั่ ว ไปขึ้ น ไปใช้ พื้ น ที่ บ นทางเท้ า บาทวิ ถี ให้บุตรหลานออกมากระท�ำผิดซ�้ำก็จะพิจารณา
ข้างสะพานเป็นแหล่งมัว่ สุม จนกระทัง่ ชุดสืบสวน ด� ำ เนิ น การกั บ ผู ้ ป กครองฐานยุ ย งส่ ง เสริ ม ให้
พบว่ า มี ค นมารวมตั ว กั น บนสะพานจนเต็ ม บุ ต รหลานกระท� ำ ผิ ด ต่ อ ไป ขณะที่ ผู ้ ป กครอง
ทั้ง 2 ฝั่ง จึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ ของเด็กและเยาวชน ทัง้ 30 คน เดินทางมารับตัว
และฝ่ า ยจราจรช่ ว ยกั น ปิ ด ทางขึ้ น ลงทั้ ง บุตรหลานกลับบ้าน เจ้าหน้าที่ต�ำรวจได้เรียก
ฝัง่ ธนบุรแี ละฝัง่ พระนคร จากนัน้ เจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจ อบรมร่วมกันเป็นเวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง
น�ำโดยทีมพนักงานสอบสวนหญิงกองบังคับการ โดยก่ อ นเดิ น ทางกลั บ ยั ง ให้ บุ ต รหลานกราบ
ต�ำรวจนครบาล 8 ได้เข้าไถ่ถามประวัตเิ พือ่ คัดแยก ขอโทษผู ้ ป กครองฐานสร้ า งความเดื อ ดร้ อ น
กลุ่มเด็กและเยาวชน ออกจากกลุ่มผู้ใหญ่พบว่า ให้ต้องตื่นมารับตัวยามค�่ำคืน ส่งผลให้บางราย
มีผใู้ หญ่ไม่พกพาบัตรประจ�ำตัวประชาชน จ�ำนวน ถึงกับน�ำ้ ตาไหลออกมา นับเป็นข่าวทีน่ า่ สะเทือนใจ
18 คน และบุ ค คลต่ า งด้ า วสั ญ ชาติ แ คนาดา เพราะสะท้ อ นให้ เ ห็ น ถึ ง ปั ญ หาการกระท� ำ ผิ ด
ไม่พกพาพาสปอร์ต 1 คน และพบว่ามีเด็กและ ของเด็กและเยาวชนทีม่ จี ำ� นวนมากอย่างทีไ่ ม่ควร
เยาวชนผูม้ อี ายุตำ�่ กว่า 18 ปี จ�ำนวน 30 คน แบ่งเป็น จะเกิดขึ้น
ชาย 12 คน หญิง 18 คน พร้อมสุ่มตรวจปัสสาวะ อย่างไรก็ดเี มือ่ ผูศ้ กึ ษาได้พจิ ารณาจากกรณี
ชายต้องสงสัย อีกจ�ำนวน 20 คน ผลปรากฏ ตัวอย่างแล้วพบว่าในพระราชบัญญัตศิ าลเยาวชน
เป็นสีม่วง จ�ำนวน 3 คน จึงควบคุมตัวกลุ่มคน และครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและ
ที่ มี ป ั ญ หาส่ ง พนั ก งานสอบสวนสถานี ต� ำ รวจ ครอบครัว พ.ศ. 2553 หมวด 1 บททัว่ ไป มาตรา 4
นครบาลบุ ป ผารามด� ำ เนิ น การตามกฎหมาย ได้ให้ความหมายของค�ำว่า “เด็ก” หมายความวา
ด้ า นพั น ต� ำ รวจโทปราโมทย์ จั น ทร์ บุ ญ แก้ ว บุคคลอายุยงั ไมเกินสิบห้าปบริบรู ณ และ “เยาวชน”

42 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


หมายความวา บุคคลอายุเกินสิบห้าปบริบูรณ กระท�ำผิดอาญาโดยสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก
แตยังไมถึงสิบแปดปบริบูรณ นับเป็นวัยที่อยู่ และเยาวชนทั่วประเทศ ยังได้ตอกย�้ำประเด็นไว้
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต สุ่มเสี่ยงต่อการ อย่างชัดเจนว่า ในสภาพความเป็นจริงคดีเด็ก
น� ำ ไปสู ่ ก ารกระท� ำ ความผิ ด ได้ เ ป็ น อย่ า งมาก และเยาวชนกระท�ำผิดอาญาไม่ได้ลดลง โดยมี
งานวิจัยของ ประภาศน์ อวยชัยได้ระบุถึงสาเหตุ เด็ ก และเยาวชนกระท� ำ ผิ ด เกี่ ย วกั บ ยาเสพติ ด
ปัจจัยทีเ่ ด็กและเยาวชนกระท�ำผิดอาจแบ่งแยกได้ มาเป็นอันดับหนึง่ รองลงมา คือ คดีเกีย่ วกับทรัพย์
คือ ปัจจัยจากตัวผู้กระท�ำความผิดเอง ได้แก่ เช่น ลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์ และคดีเกี่ยวกับชีวิต
พั น ธุ ก รรม ความพิ ก ารหรื อ โรคภั ย ไข้ เ จ็ บ และร่ า งกายดู แ ล้ ว สถานการณ์ มี ค วามรุ น แรง
ภาวะทางจิต ปัจจัยทางครอบครัว ปัจจัยทาง และซับซ้อนมากขึ้น (Bangkokbiznews, 2017)
เศรษฐกิจ และปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อม 2 ) เ มื่ อ ผู ้ ศึ ก ษ า ไ ด ้ ล ง พื้ น ที่ ศึ ก ษ า
(Prapas Ouaychai, 1974, pp.5) เป็นต้น ภาคสนามตามแนวทางชาติพันธุ์วรรณาโดยเป็น
บ่ อ ยครั้ ง มั ก พบว่ า ปั จ จั ย หนึ่ ง อาจน� ำ ไปสู ่ การสัมภาษณ์เด็กและเยาวชนที่มาร่วมโครงการ
อี ก เหตุ ป ั จ จั ย หนึ่ ง ที่ ช ่ ว ยผลั ก ดั น ซึ่ ง กั น และกั น จิตอาสาฯ ที่จัดตั้งขึ้นบริเวณวัดประยุรวงศาวาส
หรือกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนกระท�ำความผิด วรวิหาร เด็กและเยาวชนเหล่านี้พักอาศัยบริเวณ
มากขึ้นด้วย เช่น การตกงานของผู้น�ำครอบครัว รอบวั ด ประยุ ร วงศาวาสวรวิ ห าร ยอมรั บ ว่ า
น� ำ ไปสู ่ ป ั ญ หาความยากจนท� ำ ให้ บิ ด ามารดา เคยกระท�ำความผิดมาก่อนจนถูกเจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจ
ต้องขวนขวายหารายได้เพียงพอต่อการด�ำรงชีพ จากสถานี บุ ป ผารามจั บ กุ ม ได้ จ ากความผิ ด
ของสมาชิ ก ในครอบครั ว จึ ง ไม่ มี เ วลาพอ เล็ก ๆ น้อย ๆ และชอบอาศัยพืน้ ทีส่ ะพานพระพุทธ
ในการอบรมเลี้ยงดูบุตรท�ำให้สภาพครอบครัว ในการสร้างวัฒนธรรมรองของกลุ่มตนเองขึ้นมา
ไม่อบอุ่นบุตรจึงหันเข้าหาเพื่อน ซึ่งการคบเพื่อน จากการสั ม ภาษณ์ ป ราโมทย์ จั น ทร์ บุ ญ แก้ ว
ทีไ่ ม่ดโี ดยปราศจากการชีแ้ นะทีถ่ กู ต้องจากผูใ้ หญ่ (2560) ต�ำแหน่งรองผูก้ ำ� กับการสืบสวนสอบสวน
ท�ำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในทางทีไ่ ม่เหมาะสม สถานี ต� ำ รวจบุ ป ผารามให้ ทั ศ นะว่ า แม้ เ ด็ ก
ซึ่งน�ำไปสู่การกระท�ำความผิดในที่สุด (Matalak จะกระท� ำ ความผิ ด แต่ ก็ ยั ง มี พื้ น ฐานจิ ต ส� ำ นึ ก
Oungrungrote, 2008, pp.65) อีกทั้ง สหการณ์ ที่ บ ริ สุ ท ธิ์ แ ละเกรงกลั ว กฎหมายกระบิ น เมื อ ง
เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก และพ่อ แม่ ผู้ปกครอง แต่ที่กระท�ำความผิด
และเยาวชน เผยสถานการณ์เด็กและเยาวชน เพราะสังคม เศรษฐกิจที่พ่อ แม่ต้องหาเลี้ยงชีพ

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 43
โดยไม่ มี เวลาดู แ ลอบรมบุ ต ร ท� ำ ให้ เ ด็ ก และ ทฤษฎี วั ฒ นธรรมรองของ อั ล เบิ ร ต์ โคเฮน
เยาวชนใช้เวลาไปกับการรวมกลุ่มเพื่อน ซึ่งใน (A. Cohen) ได้ น� ำ สมมติ ฐ านของทฤษฎี
ชุมชนวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารนั้นมักจะมา ความกดดันทางสังคมที่เน้นกรณีมีความกดดัน
รวมตัวกันบริเวณเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า เกิดขึน้ กับชนชัน้ บางกลุม่ ของสังคมท�ำให้พวกเขา
จากนั้ น ก็ มี ก ารจั ด ตั้ ง เป็ น กลุ ่ ม เป็ น แก๊ ง มี รุ ่ น พี่ ต้ อ งตอบโต้ โ ดยการกระท� ำ ความผิ ด อี ก ทั้ ง
รุ ่ น น้ อ ง และถ่ า ยทอดวั ฒ นธรรมการบั ง คั บ โคเฮน ได้ เ สนอถึ ง เรื่ อ งเยาวชนผู ้ ก ระท� ำ ผิ ด :
ให้ รุ ่ น น้ อ งไปกระท� ำ ความผิ ด เช่ น ตบทรั พ ย์ วัฒนธรรมของแก๊งวัยรุ่น ในปี ค.ศ .1955 (พ.ศ.
ลักเล็กขโมยน้อย หรือท�ำร้ายร่างกายผู้อื่น เพื่อ 2498) ซึ่งกล่าวว่าเด็กและเยาวชนวัยรุ่นมักจะ
ต้องการหัวเข็มขัดมาแสดงต่อกลุ่มเพื่อแลกกับ กระท�ำผิดกฎหมายในลักษณะเป็นกลุ่ม โดยไม่
การยอมรับภายในกลุ่ม หรือน�ำผลพลอยได้ เช่น กระท�ำผิดคนเดียว และมีพฤติกรรมต่อต้านสังคม
ทรั พ ย์ สิ น มาแบ่ ง บั น ประโยชน์ กั น ภายในกลุ ่ ม เด็กและเยาวชนเหล่านี้มาจากครอบครัวชนชั้น
(Pramote Chanbunkaew, Police Lieutenant ท�ำงานเพราะถูกอบรมเลี้ยงดูมีความเป็นอยู่ตาม
Colonel, 2017) สอดคล้องทฤษฎีอาชญาวิทยา สัญชาติญาณและมีพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่ค�ำนึง
(Pornchai Khantee. et al., 2015) กล่าวคือ ถึ ง เหตุ ผ ล ความรั ก หรื อ ความรู ้ สึ ก ของผู ้ อื่ น
ทฤษฎีความกดดันทางสังคมของ โรเบิรท์ เมอร์ตนั นอกจากนี้ ทฤษฎีวัฒนธรรมรองของ โคล์วาร์ด
พั ฒ น า ม า จ า ก ห ลั ก คิ ด สั ง ค ม ไร ้ ร ะ เ บี ย บ และโฮลิน (Cloward & Ohlin) ก็โดยได้นำ� เสนอ
ไร้บรรทัดฐานของ เดอร์คาร์ม พัฒนามาเป็น ทฤษฎี วั ฒ นธรรมรองของแก๊ ง วั ย รุ ่ น ซึ่ ง พั ฒ นา
ทฤษฎี ที่ ว ่ า ด้ ว ยสภาพสั ง คมมี อิ ท ธิ พ ลในการ มาจากทฤษฎีความกดดันทางสังคมของ โรเบิร์ท
ปลูกฝังให้บุคคลมีค่านิยมหรือความอยากหรือ เมอร์ตัน โดยกล่าวว่า กลุ่มวัยรุ่นมีการปรับตัว
ใฝ่ฝนั บางประการแต่ขณะเดียวกันโครงสร้างสังคม ต่ อ ความกดดั นของสั ง คม ในการที่ โ ครงสร้ า ง
อาจจ�ำกัดความสามารถของบุคคลเฉพาะกลุ่ม ทางสั ง คมปิ ด กั้ น ไม่ ใ ห้ วั ย รุ ่ น เหล่ า นี้ บ รรลุ
ในการบรรลุความต้องการนั้น ท�ำให้คนบางกลุ่ม จุดมุ่งหมายของสังคม จึงแสดงออกถึงพฤติกรรม
ต้องใช้วิธีการไม่ถูกต้องเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ เบี่ ย งเบนและโอกาสในการกระท� ำ ความผิ ด
หรืออีกนัยหนึ่งโครงสร้างทางสังคมมีส่วนกระตุ้น ในการนี้ ได้อธิบายว่าสังคมที่มุ่งหวังจุดมุ่งหมาย
หรื อ ผลั ก ดั น ให้ บุ ค คลบางกลุ ่ ม มี พ ฤติ ก รรมที่ ความสมบู ร ณ์ แ บบที่ ม ากเกิ น ไปก่ อ ให้ เ กิ ด
ไม่ เ ป็ น ที่ ย อมรั บ ของคนในสั ง คม พั ฒ นาไปสู ่ ความกดดันท�ำให้บุคลในระดับล่างเกิดความคิด

44 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


ในการท�ำผิดกฎหมายอีกทัง้ ยังเรียนรูก้ ารกระท�ำผิด และให้โอกาสในการกลับตัวกลับใจไว้แต่สุดท้าย
วั ย รุ ่ น เกิ ด รวมกลุ ่ ม กั น เพื่ อ ประกอบการ กลับมากระท�ำความผิดอีก จนกระทั่งส�ำนักงาน
กระท� ำ ความผิ ด เพื่ อ สภาพทางเศรษฐกิ จ และ ต�ำรวจแห่งชาติมีนโยบายปรับกระบวนทัศน์ใหม่
ความเป็นอยูท่ างสังคมทีด่ ขี นึ้ เรียนรูแ้ ละยอมรับ ด้วยการแสวงหาความร่วมมือจากประชาชนนั้น
การกระท�ำความผิดนัน้ หรือในอีกลักษณะหนึง่ คือ เริ่มปรากฏขึ้นในแผนกรมต�ำรวจแม่บท ฉบับที่ 2
การรวมกลุ่มกันของวัยรุ่นที่ต้องการสถานภาพ (พ.ศ. 2535 - 2539) ที่ เ น้ น ให้ ต� ำ รวจสร้ า ง
ชือ่ เสียงการยอมรับว่าเป็นบุคคลแข็งแรง ก้าวร้าว ความเข้าใจ ทัศนคติ ความศรัทธา ความเชื่อมั่น
มีความสามารถในการต่อสู้ มองว่าสังคมเป็นศัตรู และความสั ม พั น ธ์ อั น ดี ร ะหว่ า งต� ำ รวจกั บ
มองว่าผู้ใหญ่เป็นผู้อ่อนแอ ยกย่องความรุนแรง ประชาชน และให้ประชาชนได้มีส่วนสนับสนุน
เป็นความกล้าหาญ หรืออีกประการคือ กลุ่ม หรื อ มี ส ่ ว นร่ ว มในการปฏิ บั ติ ง านของต� ำ รวจ
เยาวชนที่หลบหนีสังคม กลุ่มนี้จะติดยาเสพติด ทั้งในด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
เสพสุรา สูบบุหรี่ ไม่ยอมรับนับถือจุดมุ่งหมาย และรั ก ษาความมั่ น คงของชาติ มี ก ารเผยแพร่
ของสังคม อบรมให้ความรู้ด้านการป้องกันอาชญากรรม
3) ทั้งนี้ทั้งนั้นจากการลงพื้นที่สัมภาษณ์ แก่ประชาชน องค์กรชุมชน รวมทั้งผู้น�ำท้องถิ่น
ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว (2560) รองผู้ก�ำกับ ด้วยมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
การสืบสวนสอบสวน สถานีต�ำรวจบุปผาราม ต่ า ง ๆ ผลลั พ ธ์ ที่ เ กิ ด ขึ้ น คื อ ท� ำ ให้ ป ระชาชน
ได้ให้ทัศนะเพิ่มเติมอีกว่าการกระท�ำความผิด เกิ ด ความตระหนั ก รู ้ ถึ ง ภาระหน้ า ที่ ข องตน
ของเด็ ก และเยาวชนในบริ เวณชุ ม ชนรอบวั ด ในการปกป้ อ งและป้ อ งกั น ภั ย ภายในชุ ม ชน
ประยุ ร วงศาวาสวรวิ ห าร รวมไปถึ ง บริ เ วณ ของตนเองอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
พื้นที่สาธารณะใกล้เคียงนั้นอยู่ในอ�ำนาจหน้าที่ เมือ่ รัฐบาลมีนโยบายสาธารณะได้แก่ “บวร” หรือ
รับผิดชอบของสถานีต�ำรวจบุปผาราม ซึ่งตนเอง แม้กระทั่ง โครงการจิตอาสา “เราท�ำความ ดี
รับผิดชอบมาสักระยะหนึง่ แล้ว โดยในช่วงแรกนัน้ ด้ ว ยหั ว ใจ” ยิ่ ง ท� ำ ให้ ค วามสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า ง
นโยบายการป้ อ งกั น และปราบปรามก็ จ ะมี ประชาชนกั บ เจ้ า หน้ า ที่ ฝ ่ า ยบ้ า นเมื อ งเป็ น ไป
ลักษณะทีร่ นุ แรง รวดเร็ว แต่ผลลัพธ์กลับไม่ยงั่ ยืน ในทิ ศ ทางที่ ดี ขึ้ น ถื อ เป็ น การลดช่ อ งว่ า งได้
กล่าวคือมีเด็กและเยาวชนกลับมากระท�ำผิดซ�้ำ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะปัญหาการกระท�ำความผิด
อยู่เสมอ กล่าวคือมีเยาวชนที่ตนเคยภาคทัณฑ์ ข อ ง เ ด็ ก แ ล ะ เ ย า ว ช น ใ น บ ริ เว ณ นั้ น ๆ

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 45
หากเจ้ า หน้ า ที่ ไ ด้ รั บ แจ้ ง ทั้ ง จากผู ้ ป กครอง ต้องอาศัยความพิถพี ถิ นั ในการสัมภาษณ์ จนท�ำให้
ของเด็ ก เอง หรื อ การรั บ แจ้ ง จากสาธารณะ ผู้ให้ข้อมูลรู้สึกไว้ใจจนให้ข้อมูลได้ชัดเจนและ
โดยทั่ ว ไปก็ มั ก จะให้ เ ด็ ก ๆ เหล่ า นั้ น มาร่ ว ม พิสูจน์ได้ว่า โครงการจิตอาสาเราจะท�ำความดี
โครงการจิ ต อาสาทุ ก รายถื อ เป็ น การทดลอง ที่ จั ด ขึ้ น ที่ บ ริ เวณวั ด ประยุ ร วงศาวาสวรวิ ห าร
ในการสร้างพันธะทางจิตใจของเด็กและเยาวชน สามารถเป็นอีกหนึง่ พันธะทีใ่ ช้ปอ้ งกันการกระท�ำ
เหล่ า นั้ น เพื่ อ ให้ ท� ำ กิ จ กรรมเพื่ อ สั ง คมและ ความผิดของเด็กและเยาวชนได้ตามทฤษฎีของ
ไม่หวนคิดกลับมากระท�ำความผิดซ�้ำอีก อีกทั้ง ทราวิ ส เฮอร์ ชี่ กล่ า วคื อ เด็ ก และเยาวชน
ยั ง เป็ น การเปิ ด โอกาสให้ เ ด็ ก และเยาวชน กลุ่มตัวอย่างแสดงทัศนะว่า ระยะแรกที่เข้าร่วม
เหล่ า นั้ น ด้ ว ย ทั้ ง นี้ ป ราโมทย์ จั น ทร์ บุ ญ แก้ ว โครงการก็ยังไม่ได้เห็นคุณค่าของกิจกรรมเท่าที่
ไ ด ้ น� ำ เ ส น อ วิ ธี ใ ห ้ ผู ้ ศึ ก ษ า เข ้ า ถึ ง ชุ ม ช น ควรกลั บ มี ทั ศ นคติ ที่ ไ ม่ ดี ด ้ ว ยซ�้ ำ จนกระทั่ ง
ด้ ว ยการอ้ า งอิ ง ต่ อ เนื่ อ งแบบปากต่ อ ปาก เมื่ อ เกิ ด การประชาสั ม พั นธ์ โ ครงการที่ ถู ก ต้ อ ง
กล่าวคือสัมภาษณ์ผปู้ กครองของเด็กและเยาวชน จากสถานีตำ� รวจบุปผารามและวัดประยุรวงศาวาส
ที่เคยกระท�ำความผิด พบว่าเด็กและเยาวชน วรวิ ห าร จึ ง เกิ ด ความเชื่ อ ถื อ และทดลอง
เมื่อถูกจับได้ว่ามีการมั่วสุมบริเวณสะพานพุทธ เข้าร่วมกิจกรรม เด็กเหล่านีใ้ ช้เวลาในการเข้าร่วม
กระท� ำ ความผิ ด ด้ ว ยข้ อ หาเล็ ก ๆ น้ อ ย ๆ กิ จ กรรมอย่ า งสม�่ ำ เสมอ ซึ่ ง ตามทฤษฎี ข อง
เจ้าหน้าที่ต�ำรวจได้เชิญผู้ปกครองมาร่วมรับฟัง เฮอร์ชี่ มองว่าการเข้าร่วมกิจกรรมอย่างสม�ำ่ เสมอ
ข้อกล่าวหา และได้ขออนุญาตให้เด็กและเยาวชน จะท�ำให้เด็กและเยาวชนไม่มีเวลาที่จะไปคิดที่จะ
เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา โดยให้มาร่วมกันพัฒนา กระท�ำความผิด และสุดท้ายก็จะกลายเป็นพันธะ
ทั้งพื้นที่ชุมชนและวัดวาอาราม เด็กและเยาวชน ที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจของเด็กเหล่านั้น
เหล่ า นั้ น กลั บ เริ่ ม มี ค วามคิ ด ทั ศ นะคติ ที่ ดี ขึ้ น 4) อี ก ประเด็ น หนึ่ ง ผู ้ ศึ ก ษามองว่ า
มองว่าผู้ใหญ่เริ่มให้โอกาสตนอีกครั้ง จึงหันเห การแสวงหาวิธีการป้องกันปัญหาในอีกมิติหนึ่ง
ความคิดไม่กลับไปกระท�ำความผิดอีก สิง่ ทีส่ ะท้อน ด้ ว ยการด� ำ เนิ น การยุ ท ธศาสตร์ ที่ เ รี ย กว่ า
ให้เห็นได้อย่างชัดเจนคือ การทีผ่ ศู้ กึ ษาได้มโี อกาส “บวร: บ้ า น วั ด โรงเรี ย น” สมดั ง สุ ภ าษิ ต นี้
สัมภาษณ์เยาวชนกลุ่มย่อยที่เข้าร่วมกิจกรรม ที่ มั ก จะพบเห็ น กั น ทั่ ว ไปตามวั ด ต่ า ง ๆ
จิตอาสาทีค่ ดั สรรมาจากเด็กทีเ่ คยกระท�ำความผิด เป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าบ้านและวัดขาดกันไม่ได้
ที่อยู่ในบัญชีของสถานีต�ำรวจบุปผาราม ผู้ศึกษา ที่ ว ่ า “วั ด จะดี มี ห ลั ก ฐานเพราะบ้ า นช่ ว ย

46 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


บ้ า นจะสวยเพราะมี วั ด ดั ด นิ สั ย บ้ า นกั บ วั ด โดยยึดหลักการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม
ผลัดกันช่วยก็อวยชัย ถ้าขัดกันก็บรรลัยทัง้ สองทาง” หรื อ “บวร: บ้ า น วั ด โรงเรี ย น” ซึ่ ง งาน
นอกจากนี้ ยั ง มี โ รงเรี ย นที่ เ ข้ า มามี บ ทบาท ดังกล่าวจัดขึน้ จนถึงวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558
ในสองหน่ ว ยหลั ก ทางสั ง คมเพิ่ ม อี ก หนึ่ ง ซึ่ ง เ ป ็ น ก า ร ต ่ อ ย อ ด ม า จ า ก ก า ร จั ด ง า น
บ้ า น อาจหมายถึ ง ชุ ม ชน หน่ ว ยทางสั ง คมที่ มอบรางวัลยอดเยี่ยม (อันดับ 1) หรือ Award of
ส�ำคัญหน่วยหนึ่ง ในบ้านอาจมีผู้ใหญ่บ้านหรือ Excellence ด้ า นการอนุ รั ก ษ์ ม รดกทาง
ก�ำนัน เป็นผู้น�ำ ผู้น�ำเหล่านี้จะพัฒนาทางด้าน วัฒนธรรมในภูมภิ าคเอเชียและแปซิฟกิ โครงการ
สภาพแวดล้อม ทางด้านกายภาพต่าง ๆ ภายใน บู ร ณปฏิ สั ง ขรณ์ พ ระบรมธาตุ ม หาเจดี ย ์ และ
หมู ่ บ ้ า นหรื อ ชุ ม ชน วั ด หน่ ว ยทางสั ง คม พระปริ ยั ติ ธ รรมศาลาจากองค์ ก ารการศึ ก ษา
อีกหน่วยหนึ่งที่ส�ำคัญยิ่ง ในอดีตวัดคือศูนย์รวม วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
ของทุก ๆ สิ่ง ตั้งแต่เกิดจนตายก็ว่าได้ โรงเรียน หรือ ยูเนสโก โดยรูปแบบการจัดงานในครั้งนั้น
ตั้ ง ขึ้ น เป็ น ทางการครั้ ง แรกในปี พ.ศ. 2414 จะเป็ น ลั ก ษณะของความบั น เทิ ง สอดแทรก
สมัยรัชกาลที่ 5 แต่ในสมัยก่อน วัด คือ สถาบัน สาระความรู ้ (Edutainment) ซึ่ ง นอกจาก
การศึกษาของชุมชน แม้การจัดตั้งโรงเรียนขึ้นมา ผู้เข้าร่วมชมงานจะได้นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัด
ชาวบ้านในชนบทก็ยงั ไม่นยิ มส่งบุตรหลานเข้าเรียน เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังได้ร่วมเพลิน
เนื่องจากว่ายังแปลกใหม่อยู่ เนิ่นนานหลายปี เที่ ย ววั น วาน ชมงานศาสตร์ แ ละศิ ล ป์ สั ม ผั ส
กว่ า ชาวบ้ า นจะเข้ า ใจและยอมส่ ง บุ ต รหลาน ถิ่นวัฒนธรรมล�้ำของอร่อยย่านคลองสานกุฎีจีน
เข้าในระบบโรงเรียน อีกทั้งกรณีศึกษาที่ผู้ศึกษา ทีข่ นึ้ ชือ่ ว่าเป็นชุมชน 3 ศาสนา 4 ความเชือ่ ได้แก่
ได้คดั เลือกมานี้ กล่าวคือวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร พุทธเถรวาท พุทธมหายาน คริสต์ และอิสลาม
ยังได้นำ� แนวคิดการบริหารจัดการแบบมีสว่ นร่วม ซึง่ จะรวบรวม 6 ชุมชนโบราณรอบวัด ประกอบด้วย
ของชุ ม ชนตามแนวทาง “บวร: บ้ า น วั ด ชุมชนวัดกัลยาณี ชุมชนกุฎีจีน ชุมชนกุฎีขาว
โรงเรียน” มาจัดงานสมโภช 187 ปีอย่างยิ่งใหญ่ (Thaibev, 2015) เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า
เป็นการย�้ำชัดถึงแนวคิดดังกล่าว โดยพระพรหม ชุมชนรอบวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารมีต้นทุน
บัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุร ทางวัฒนธรรมอันน�ำไปสู่รูปแบบโครงสร้างทาง
วงศาวาสวรวิหารได้ผสานมือชุมชนรอบวัดจัดงาน สังคมที่มีความผูกพันกัน และเมื่อน�ำยุทธศาสตร์
“สมโภช 187 ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร” “บวร” บ้าน วัด โรงเรียน มาปรับประยุกต์ใช้

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 47
ในการแก้ไขปัญหาการกระท�ำความผิดในเด็ก ในบริเวณนั้น ซึ่งจากการสัมภาษณ์ทั้งเจ้าหน้าที่
และเยาวชนนั้น พบสิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่ง ฝ่ า ยปกครองและฝ่ า ยป้ อ งกั น นั้ น สะท้ อ นได้
เป็นปัจจัยอันจะน�ำไปสู้การป้องกันและแก้ไข อย่างชัดเจนว่าอาณาบริเวณรวมไปถึงสิง่ แวดล้อม
ปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ นัน่ คือ แนวคิด รอบวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ไปจนถึงโดยรอบ
อาสาสมัครหรือจิตอาสา โดยแนวคิดจิตอาสานั้น ถู ก ใช้ เ ป็ น สถานที่ เชิ ง สั ญ ลั ก ษณ์ ใ นการที่ เ ด็ ก
เริ่มเกิดขึ้นอย่างจริงจังในประเทศไทยภายหลัง และเยาวชนมารวมกลุ ่ ม กั น เพื่ อ กระท� ำ การ
การเกิดธรณีพบิ ตั สิ นึ ามิ เมือ่ วันที่ 26 ธันวาคม 2547 บางสิ่ ง บางอย่ า งตามวั ฒ นธรรมของเด็ ก และ
ในครั้งนั้นอาสาสมัครจ�ำนวนมากหลั่งไหลจาก เยาวชนเหล่านั้น แต่เมื่อเกิดการจัดตั้งโครงการ
ทัว่ ประเทศและทัว่ โลก เกิดการร่วมมือกันระหว่าง จิ ต อาสานี้ ใ นชุ ม ชนและโรงเรี ย นโดยรอบขึ้ น
องค์ ก รภาครั ฐ ภาคเอกชน และภาคประชา แล้วนั้น จากการสัมภาษณ์พระพิศิษฎ์วิหารการ
สั ง คมต่ า ง ๆ เพื่ อ มาระดมความช่ ว ยเหลื อ ผู ้ ช ่ ว ยเจ้ า อาวาสวั ด ประยู ร วงศาวาส (2560)
ผู้ประสบภัย ด�ำเนินการกู้ศพ ท�ำความสะอาด ในฐานะผู ้ ดู แ ลอุ ท ยานเขามอและบ่ อ เต่ า
ในบริเวณชายทะเล 4 จังหวัดภาคใต้ ถือเป็น ของวัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่
จุดเริ่มต้นของกระแสการเป็นอาสาสมัคร และ จัดกิจกรรมตามโครงการจิตอาสา “เราท�ำความ ดี
ท� ำ ให้ ค นไทยได้ หั น กลั บ มาให้ ค วามส� ำ คั ญ ด้วยหัวใจ” โครงการนี้เป็นการการชักจูงให้เด็ก
กับความสามัคคี การมีส่วนร่วม และคุณธรรม และเยาวชนหั น มาเข้ า ร่ ว มท� ำ กิ จ กรรม
ว่าด้วยการให้อีกครั้งหนึ่ง รวมถึงการสร้างสรรค์ กับเพือ่ น ๆ โดยมีวดั เป็นศูนย์กลาง ท�ำให้เด็กและ
ประโยชน์ สุ ข ในสั ง คมโดยหน่ ว ยงานต่ า ง ๆ เยาวชนเหล่านัน้ ได้ทำ� กิจกรรมสาธารณประโยชน์
เช่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ก็ได้ให้ความส�ำคัญ ร่ ว มกั น อย่ า งสนุ ก สนานกั บ เพื่ อ น ๆ และ
กับจิตอาสา (Nantarat Pariwattitham, 2010, ในทางอ้อมได้เข้าวัด ถือเป็นการสร้างคุณลักษณะ
pp.20) อี ก ทั้ ง ชุ ม ชนรอบวั ด ประยุ ร วงศาวาส อั น พึ ง ประสงค์ ป ลู ก ฝั ง จิ ต ส� ำ นึ ก ในทางดี ง าม
วรวิ ห ารได้ เข้ า ร่ ว มโครงการและจั ด กิ จ กรรม ดังเช่นกิจกรรมจิตอาสาซึง่ จัดขึน้ ณ วัดประยุรวงศา
จิตอาสา “เราท�ำความ ดี ด้วยหัวใจ” ซึ่งมีส่วน วาสวรวิหาร ในอุทยานเขามอที่ร่มรื้นนี้ เป็นต้น
ในการป้องกันการกระท�ำผิดของเด็กและเยาวชน และทีส่ ำ� คัญ เมือ่ วันที่ 27 ตุลาคม 2560 ทีผ่ า่ นมา
ได้รวมถึงสามารถท�ำให้เกิดความสงบสุขขึ้นทั้ง พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกร รัศมีโชติ
แก่ ตั ว เด็ ก และเยาวชนเองและสั ง คมโดยรวม ได้เสด็จไปทรงร่วมท�ำกิจกรรมจิตอาสากับหน่วย

48 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


พระราชทาน ประชาชนจิตอาสาเราท�ำความดี เป็ น ผู ้ ก ระท�ำ ผิ ด คื อ เป็ น ผู ้ ที่ มี ค วามต้ อ งการ
ด้ ว ยหั ว ใจ และ จิ ต อาสาเ ฉพาะ กิ จ งาน จะก่ อ เหตุ ห รื อ ลงมื อ กระท� ำ ความผิ ด และ
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จ�ำนวน 2) ในกรณีที่เด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อ คือ
300 คน โดยในครัง้ นัน้ จิตอาสาจ�ำนวนมากเป็นเด็ก บุคคลที่ผู้กระท�ำผิดหรือคนร้าย มุ่งหมายกระท�ำ
และเยาวชนที่ ส มั ค รใจมาร่ ว มท� ำ กิ จ กรรม ต่อหรือเป็นเป้าหมายที่ต้องการโดยใช้เทคโนโลยี
ณ อุทยานเขามอ ในการนั้นพระเจ้าหลานเธอ ตามแนวคิดไทยแลนด์ 4.0 โดยมีกลุ่มการติดต่อ
พระองค์ เ จ้ า ที ป ั ง กรรั ศ มี โ ชติ ท รงน� ำ เพื่ อ น โดยช่ อ งทางสั ง คมออนไลน์ เ พื่ อ กรณี แรก คื อ
เด็ ก และเยาวชนจิ ต อาสาเก็ บ ขยะในบ่ อ น�้ ำ ช่ ว ยดู แ ลเด็ ก และเยาวชนในฐานะเป็ น เหยื่ อ
ทรงให้ อ าหารเต่ า และโปรดประทานไม้ ในการเกิดอาชญากรรม และในกรณีที่สอง คือ
ที่ ใ ห้ อ าหารเต่ า แก่ เ ด็ ก และเยาวชนจิ ต อาสา ช่วยสอดส่องพฤติกรรมเด็กและเยาวชนไม่ให้
เพื่อร่วมให้อาหารเต่าด้วย ต่อมาทรงน�ำเด็กและ กระท� ำ ผิ ด ทั้ ง นี้ สถานี ต� ำ รวจบุ ป ผาราม ซึ่ ง
เยาวชนจิตอาสากวาดใบไม้บริเวณและเก็บขยะ เป็ น สถานี ต� ำ รวจที่ เ ป็ น เจ้ า ของพื้ น ที่ โ ดยตรง
บริเวณเขามอ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า ก็ ไ ด้ มี ก ารเสริ ม สร้ า งกิ จ กรรมเครื อ ข่ า ยชุ ม ชน
ที ป ั ง กรรั ศ มี โชติ ทรงฉลองพระองค์ เ สื้ อ โปโล สั ม พั น ธ์ ใ ห้ มี ส ่ ว นร่ ว มในการป้ อ งกั น ปั ญ หา
สีด�ำพระราชทาน “ธ สถิตในดวงใจ ไทยนิรันดร์” อาชญากรรมดังกล่าวด้วย ไม่เพียงแค่เฉพาะ
ฉลองพระมาลาสี ฟ ้ า ผ้ า พั น พระศอสี เ หลื อ ง เด็ ก และเยาวชนเท่ า นั้ น ในกรณี เช่ น อาสา
พระราชทาน และปลอกแขน ทรงประทาน สมัครต�ำรวจบ้าน เป็นการแสวงหาความร่วมมือ
ขนมปังแก่จิตอาสาที่มาร่วมท�ำกิจกรรม อีกทั้ง จากประชาชนให้ เ ข้ า มาร่ ว มกั น ปฏิ บั ติ กั บ
ยั ง ทรงโบกพระหั ต ถ์ ทั ก ทายจิ ต อาสาที่ เ ฝ้ า ฯ เจ้ า หน้ า ที่ ต� ำ รวจในการป้ อ งกั น ปราบปราม
รับเสด็จด้วยพระพักตร์แจ่มใสสร้างความปลืม้ ปีติ อาชญากรรม ยาเสพติ ด และอุ บั ติ ภั ย ต่ า ง ๆ
แก่ เ หล่ า จิ ต อาสาอย่ า งหาที่ สุ ด มิ ไ ด้ (Phra รวมทั้ ง การตรวจตราของต� ำ รวจสายตรวจ
phisitwihankan, 2017) เพื่อสร้างจิตส�ำนึกแก่ประชาชนให้ตระหนักถึง
โครงการจิตอาสาดังกล่าวจึงได้กลายเป็น ความรับผิดชอบร่วมกันในการป้องกันปราบปราม
เสมือนกิจกรรมที่คอยเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล อาชญากรรมและปั ญ หายาเสพติ ด ในชุ ม ชน
พฤติ ก รรมของเด็ ก และเยาวชน ที่ มี ลั ก ษณะ เพือ่ นบ้านเตือนภัย เป็นความร่วมมือของประชาชน
2 กรณี กล่าวคือ 1) ในฐานะเด็กและเยาวชน ในการแจ้งข่าวสารและร่วมมือกับเจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจ

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 49
จะส่ ง ผลถึ ง การป้ อ งกั น ปั ญ หาอาชญากรรม ในการเข้ า รวมกิ จ กรรมให้ แ น่ ขึ้ น ภายในจิ ต ใจ
และการสร้างความสัมพันธ์ทดี่ ี ระหว่างประชาชน ของเด็กและเยาวชน นอกจากนี้แล้วกิจกรรม
กั บ เจ้ า หน้ า ที่ ต� ำ รวจในการสร้ า งความเชื่ อ มั่ น ตามโครงการจิตอาสาเราท�ำความดีด้วยหัวใจนั้น
ของประชาชนต่อการปฏิบตั หิ น้าที่ หรือการจัดตัง้ ส อดคล ้ องกั บแ นวคิ ด ศา ส ต ร ์ พ ร ะ ร า ช า
โฮมการ์ด แนวคิดการป้องกันชุมชนที่ใช้แนวคิด (Phra brahma bandit, 2017) ในเรื่ อ ง
ให้ ป ระชาชนช่ ว ยสอดส่ อ งดู แ ล (People การบ� ำ เพ็ ญ ประโยชน์ ใ ห้ แ ก่ ส ่ ว นรวมโดย
as a Sensor) ซึ่งแนวความคิดนี้เ กิดมาจาก ประชาชนสามารถปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาท
ผู้ปฏิบัติงานระดับสถานีต�ำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ ได้ โ ดยแต่ ล ะคนเห็ น คุ ณ ค่ า ของการชี วิ ต อยู ่
ต�ำรวจผู้บริการประชาชนมีปริมาณไม่เพียงพอ เพื่อคิดท�ำประโยชน์แก่คนอื่น เพราะในสังคมใด
ต่ อ ปริ ม าณประชากรอาสาป้ อ งกั น ชุ ม ชน หากต่ า งคนต่ า งให้ ใ นสั ง คมนั้ น ทุ ก คนจะได้
เป็ น ก� ำ ลั ง ส� ำ คั ญ ที่ ช ่ ว ยแจ้ ง เบาะแสข่ า วสาร ใครก็ ต ามที่ คิ ด จะให้ แ ก่ ค นอื่ น ก็ ย ่ อ มมี ธ รรม
เหตุอาชญากรรม เป็นหูเป็นตาเพือ่ ความปลอดภัย ในข้อที่เรียกว่า ทาน เขาไม่คิดเบียดเบียนคนอื่น
ในชุมชนท�ำให้การป้องกันอาชญากรรมท�ำได้ดขี นึ้ ก็มีธรรมในข้อศีล
และเป็นประโยชน์ในการบริหารข้อมูลข่าวสาร นอกจากนี้จะเห็นได้ว่า โครงการจิตอาสา
รวมทัง้ ยังมี “แอพพลิเคชัน่ โฮมการ์ด” ทีจ่ ะกลาย “เราท� ำ ความ ดี ด้ ว ยหั ว ใจ” ได้ บู ร ณาการ
เป็นเครื่องมือส�ำคัญในการบริหารจัดการควบคุม ทุ ก ภาคส่ ว นทั้ ง ภาครั ฐ และภาคประชาสั ง คม
อาชญากรรม สิ่งผิดกฎหมายในชุมชน เป็นต้น อย่างแท้จริง กล่าวคือการส่งเสริมการมีส่วนร่วม
ที่เรียกแนวคิดร่วมสมัยนี้ว่า “บ้าน วัด ราชการ”
4. บทสรุปและข้อเสนอแนะ น�ำไปสู่การผสานความร่วมมือในด้านการป้องกัน
ในทางของการป้องกันการกระท�ำความ การกระท�ำผิดของเด็กและเยาวชนซึ่งเห็นผลได้
ผิ ด ของเด็ ก และเยาวชน นั้ น พบว่ า โครงการ อย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพตามทฤษฎี ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง
จิตอาสา “เราท�ำความ ดี ด้วยหัวใจ” สามารถ เพราะเป็ น การโน้ ม น้ า วและหั น เหให้ เ ด็ ก
หั น เหความสนใจของเด็ ก และเยาวชนมิ ใ ห้ ไ ป และเยาวชนออกจากการมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน
มั่วสุมท�ำสิ่งผิดได้จริง การสอดคล้องกับการสร้าง ที่ น� ำ ไปสู ่ ก ารกระท� ำ ความผิ ด ได้ อี ก ทั้ ง ยั ง
วัฒนธรรมที่ถูกต้องและได้รับการยอมรับในทาง ส่ ง เสริ ม อั ต ลั ก ษณ์ ค ่ า นิ ย มอั น พึ ง ประสงค์ ต ่ อ
ที่ถูกที่ควร ทั้งเป็นการคบหาสมาคมกับเพื่อน สังคมโดยรวม จึงกล่าวได้ว่าโครงการจิตอาสา
ผู้ที่ร่วมกันท�ำความดี นับเป็นการสร้างพันธะ “เราท� ำ ความ ดี ด้ ว ยหั ว ใจ” เป็ น เครื่ อ งมื อ

50 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


ในการการป้องกันการกระท�ำผิดของเด็กและ จั ด กิ จ กรรมดึ ง เอาพลั ง เด็ ก และเยาวชน
เยาวชนที่ ค วรได้ รั บ การสนั บ สนุ น ให้ มี ก าร มาเข้ า ร่ ว มเป็ น อาสาสมั ค รตามโครงการ
จั ด กิ จ กรรมอย่ า งต่ อ เนื่ อ งและเป็ น วงกว้ า ง จิ ต อาสา รวมทั้ ง ควรมี ก ารอบรมความรู ้
อี ก ทั้ ง ความมี ก ารประชาสั ม พั น ธ์ ย กย่ อ งเชิ ด ชู เบื้ อ งต้ น เพื่ อ น� ำ ไปสู ่ ก ารลงมื อ ปฏิ บั ติ ไ ด้ จ ริ ง
เด็กและเยาวชนผู้เป็นจิตอาสาที่เป็นแบบอย่าง ในแต่ละประเภทงานอาสา ก็จะท�ำให้เป็นการ
อั น ดี ใ ห ้ เ กิ ด วั ฒ น ธ ร ร ม ก า ร ย อ ม รั บ แ ล ะ ส่ ง เสริ ม ความรู ้ ที่ ส� ำ คั ญ คื อ การดึ ง กลุ ่ ม เด็ ก
สร้างขวัญก�ำลังใจเพื่อน�ำไปสู่สังคม จิตสาธารณะ และเยาวชนซึ่ ง สุ ่ ม เสี่ ย งต่ อ การมี พ ฤติ ก รรม
ที่สงบสุขต่อไป เบี่ ย งเบนไปในทางการกระท� ำ ความผิ ด
ข้อเสนอแนะ ให้ ก ลั บเข้ า สู ่ วิถี ท างที่ ถู ก ต้ อ ง ภาคเอกชนเอง
ก็ ค วรให้ ก ารสนั บ สนุ น หรื อ จั ด กิ จ กรรมการ
ผู ้ ศึ ก ษาคิ ด ว่ า ภาครั ฐ ภาคเอกชน
บริ ก ารสั ง คมโดยใช้ โ ครงการจิ ต อาสาเป็ น
รวมถึงองค์กรภาคประชาสังคมที่มีความเข้มแข็ง
เครื่องในการขับเคลื่อนด้วย
ควรส่ ง เสริ ม สนั บ สนุ น การจั ด กิ จ กรรม
ที่ เ ห็ น ภาพที่ สุ ด ในการรณรงค์ ส ่ ง เสริ ม
จิตอาสาดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อต่าง ๆ
การมีส่วนร่วมโครงการจิตอาสา ในฐานะเป็น
ควรช่ ว ยกั น ส่ ง เสริ ม ภาพลั ก ษณ์ อี ก ทั้ ง
เครื่องมือป้องกันการกระท�ำความผิดในเด็กและ
หน่ ว ยงานราชการควรให้ มี ก ารจั ด กิ จ กรรม
เยาวชนนั้นก็คือ การน�ำกิจกรรมเข้าสู่โรงเรียน
การยกย่ อ งเชิ ด ชู เ กี ย รติ ก ลุ ่ ม บุ ค คลจิ ต อาสา
ในลักษณะกิจกรรมเลือก เพราะหากเปรียบเทียบ
ที่ท�ำความดีอย่างต่อเนื่อง เพราะจิตอาสานั้น
กับกิจกรรมลูกเสือที่เป็นการศึกษาภาคบังคับ
ไม่ ไ ด้ รั บ และไม่ ไ ด้ ป ระสงค์ สิ่ ง ใดตอบแทน
ก็ จ ะเห็ น ว่ า กิ จ กรรมจิ ต อาสาเป็ น กิ จ กรรมที่
จึงควรมีการจัดกิจกรรมสร้างขวัญและก�ำลังใจ
ส่ ง เสริ ม ทั ก ษะการใช้ ชี วิ ต ที่ น ่ า สนใจอี ก หนึ่ ง
ต่อบุคคลผูท้ ำ� ความดี ในส่วนของภาคการป้องกัน
กิจกรรมที่ควรส่งเสริมต่อไป
ปัญหาอาชญากรรมและการกระท�ำความผิดนั้น
ภาคราชการโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง
และเจ้ า หน้ า ที่ ต� ำ รวจควรเข้ า มาส่ ง เสริ ม ให้
ความรู ้ ไปจนถึ ง สร้ า งเครื อ ข่ า ยความร่ ว มมื อ
สอดส่ อ งพฤติ ก รรมต่ า ง ๆ ที่ ส� ำ คั ญ ที่ สุ ด
คื อ การด� ำ เนิ น การเชิ ง รุ ก ได้ แ ก่ การลงไป

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 51
บรรณานุกรม

Bangkokbiznewsกรุงเทพธุรกิจ. (2017, September 6). Yaowachonkō̜ʻātchakamphung'yāsēp-


titavudh'phœ̄m 1,212 Khadī . [Juvenile crime crush 'Drugs - weapons' added 1,212
law cases]. Retrieved from http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/635550.

Chankanit Kittaya Suriyamanee. (2011). Tritdī ʻātchavitthayarūamsamaikapkānwičhaithāng-


dānʻātchavitthayanaipatjubun
[Contemporary criminology theory and current criminological research].
Nontaburi: Yin Yang Printing.

J.Robert Lilly and others. (2015). Criminological Theory. 6th Edition. Los Angeles: Sage.

Matalak Oungrungrote. (2008). kotmāi bư̄angton kī eokap kānkratham khwāmphit thāng
ʻāyā khō̜ng dek læ yaowachon . [Basic Law on Criminal Offenses of Children and
Youth]. Bangkok: Faculty of Law Thammasat University.

Nantarat Pariwattitham. (2010). Kānsưksāpatčhaithī songphontō̜phrưttikamčhitʻāsākhō̜ng-


deklæyaowachonthī raptha nakānsưksāsamnakngānsapsinsūanphramahākasatri. [A
Study of Factors Affecting Volunteer Behavior of Children and Youth who Receive
the Crown Property Bureau's Scholarship].(master’s thesis).Thammasat University,
Thailand.

Narumol Klatookwan. (2011). kān hang out khō̜ng wairun saphān phut ... : ʻattalak khō̜ng
wairun nai phư̄nthī sāthārana.[Hang out of the Buddhist Bridge Youth: Identity
of Teenagers in Public Areas]. Journal of Sociology and Anthropology, 30 (1),
p.159 – 188., 2011

Ornauma Wachirapraditporn. (2012). sāhēt kānkratham khwāmphit khō̜ng dek læ

52 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


yaowachon kap māttrakān kǣkhai nai chœ̄ng ruk. [Causes of juvenile delinquency
and aggressive measures].Bangkok: Office of the Judiciary.

Oxford Research Encyclopedias. (2017, November 29). Criminology and criminal justice.
Retrieved from http://criminology.oxfordre.com/view/10.1093/acrefore/
9780190264079.001.0001/ acrefore-9780190264079-e-4

Parinthorn Sinpiangปรินทร สินเปียง. (2017, November 15). Phrabō̜romrāchōwātkhō̜ng-


phrabātsomdetphračhaoyū. [The King's speech]. Retrieved from http://www.
thaigoodview.com/node/201054

Phra brahma bandit (2017). Sātphrarāchā. [King of Science]. Bangkok: Printed Media Co.,
Ltd.

Phra brahma bandit พระพรหมบั ณ ฑิ ต . (2017, October 27) Interview. Abbot of


Prayurawongsawas Woravihara temple.

Phra phisitwihankanพระพิศิษฎ์วิหารการ. (2017, October 27) Interview. Abbot Assistant of


Prayurawongsawas Woravihara temple.

Pornchai Khantee.et al. (2015). Tritdī ʻātchavitthaya : Lakkān Ngānwičhai lænayōbāip-


rayuk.[Criminology: Principles of Research and Applied Policy]. Bangkok: Rangsit
University Press.

Pramote Chanbunkaew ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว, พันต�ำรวจโท ดร. (2017, November 11)


Interview. Police Lieutenant Colonel.

Prapas Ouaychai. (1974). ʻĒkkasānwičhaisūanbukkhonnailaksanawichasangkhomčhitwit-


thayā Rư̄ang Botbātsānkhadī Deklæyaowachonkapkhwāmmankhonghǣngchāt.
[Personal Research in Social Psychology, Child and Juvenile Court, and National
Security]. Bangkok: Thammasat University Press.

Somkiat Tangkitvanich, et al. สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิช และคณะ. (2017, November 28). niti

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 53
sētthasāt khō̜ng rabop yuttitham thāng ʻāyā khō̜ng Thai. [Law and Economics of
Thai criminal justice system]. Retrieved from https://tdri.or.th/2012/09/economic-
analyisi-of-criminal-laws/

Sopha Chapilaman. (1993). bukkhalikkaphāp læ phatthanākān : nǣonōm sū phrưttikam


pakati læ kānmī phrưttikam bī ang bēn khō̜ng dek læ yaowachon. [Personality and
development: Trends in normal behavior and behavior. Deviation of children and
youth]. Bangkok: O.S. Printing House.

Sunhakrisana Boonchuay. (2016). kānsưksā phrưttikam bī ang bēn læ kānkratham


khwāmphit khō̜ng dek læ yaowachon phān sư̄ banthœ̄ng Thai : kō̜ranī sưksā
lakhō̜n chut rư̄ang hō̜mōn rưdūkān thī sām [The study of deviant behavior and
juvenile delinquency through Thailand entertainment : A case study of Hormone
the series season 3].kān prachum wichākān radap chāt mahāwitthayālai rātchaphat
Nakhō̜n Pathom khrang thī 8.[8th Nakornpathom Rajabhat University Conference].
(pp.963 – 973). Thailand: Nakornpathom Rajabhat University.

Thaibev ไทยเบฟ. (2015, November 28). wat prayun wongsā wā sawa rawi hān chū nǣokhit
kānbō̜rihān čhatkān bǣp mī sūan rūam khō̜ng chumchon tām nǣothāng bō̜wō̜n
: bān wat rōngrī an čhat ngān somphōt nưngrō̜ipǣtsipčhet pī yāng yingyai. [Wat
Prayoon Wongsawat Vorawiharn "holds the concept of community-based man-
agement. According to the guideline "Bovorn: House Temple School" held a grand
celebration 187 years]. Retrieved from http://www.thaibev.com/th08/detailnews.
aspx?ngID=1059&tngID=2

ThairathOnline ไทยรัฐออนไลน์. (2014, March 30). čhap sāmrō̜i čhō mūasum bon saphān
phut[300 youngsters were arrested at the Buddhayodfa's Bridge]. Retrieved from
https://www.thairath.co.th/content/413311

Thongcherm,W. (1997). mūnhēt čhūngčhai nai kānkratham khwāmphit khō̜ng dek læ


yaowachon chāi : sưksā chapho̜ sathān rǣk rap bān mēttā khō̜ng sathān phinit

54 ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2561


læ khumkhrō̜ngdek læ yaowachon klāng . [Motives for the Offense of Children
and Youth: A Case Study of the First Place to Receive the Mercy House of the Cen-
tral Observation and Protection Center]. (master’s thesis).Thammasat University,
Thailand.

หน่วยงานผู้แต่ง: 1คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม


Affiliation: 1Faculty of Humanity and Social Science ,Nakorn Prathom Rajabhat
University, Thailand
หน่วยงานผู้แต่ง: 2คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Affiliation: 2Faculty of Political Science, Chulalongkorn University, Thailand

สำ�นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 55

You might also like