You are on page 1of 34

บทเรียนแรกนี้ เราจะมาทำความรู ้จักกับบุรษ ้

ุ สรรพนามในภาษาอังกฤษและคำกริยา “to be” ทีใ่ ชใน


ประโยคแนะนำต ัว

ื่ ก ับคำบุรษ
1. แนะนำชอ ุ สรรพนามและคำกริยา “to be”
🔍 ตัวอย่าง:
I am Robert.
(ฉั น คือ Robert.)

บุรษ
ุ สรรพนาม คำกริยา “to be” ื่
ชอ
(Personal pronoun) (To be) (Name)

🔑 ในการแนะนำชอื่ , เราใชรู้ ปประโยค:

🔑 นอกจากบุรษุ สรรพนาม “I” กับคำกริยา “to be” ในรูป “am” ยังมีอกี 6 บุรษุ สรรพนามอืน่ ๆ ทีใ่ ชกั้ บคำ
กริยา “to be” อืน
่ ๆ ทีแ
่ ตกต่างกันทีเ่ ปลีย
่ นไปตามประธาน ดังตารางต่อไปนี:้

X3English│1
บุรษ
ุ สรรพนาม คำกริยา“to be”
(Personal Pronoun) (To be)

I (ฉั น) am

You (คุณ,เธอ / พวกคุณ, are


พวกเธอ)

We (พวกเรา) are

They (พวกเขา) are

He (เขา) is

She (เธอ) is

It (มัน) is

📢 ข้อควรสงเกต:

👉คำสรรพนาม“You” มี 2 ความหมาย: คุณ,เธอ( จำนวนน ้อย) หรือ พวกคุณ,พวกเธอ (จำนวนมาก)


👉คำสรรพนาม “It” สามารถใชกั้ บสตั ว์หรือสงิ่ ของ (จำนวนน ้อย)
👉คำสรรพนาม “They” สามารถใชกั้ บคนหรือสตั ว์ (จำนวนมาก)
2.รูปย่อของ “to be”
🔑 นอกจากรูปเต็ม (การแนะนำชอื่ ในสว่ นแรก) คำกริยา “to be” ยังสามารถใชในรู
้ ปย่อ ดังนี:้

รูปเต็ม (Full forms) รูปย่อ (Short forms)


I am I’m

ตัวอย่าง: I am Ella.
➜ ตัวอย่าง: I’m Ella.

We are We’re

ตัวอย่าง: We are Anna and Tom.


➜ ตัวอย่าง: We're Anna and Tom.

You are You’re

ตัวอย่าง: You are Tom.


➜ ตัวอย่าง: You’re Tom.

X3English│2
They are They’re

ตัวอย่าง: They are Robert and Ella.


➜ ตัวอย่าง: They’re Robert and Ella.

She is She’s

ตัวอย่าง: She is Anna.


➜ ตัวอย่าง: She’s Anna.

He is He’s

ตัวอย่าง: He is Captain America. ตัวอย่าง: He’s Captain America.

It is It’s

ตัวอย่าง: It is Max, my dog.


➜ ตัวอย่าง: It’s Max, my dog.

X3English│3
ในบทเรียนทีแ
่ ล ้ว เราได ้เรียนวิธก ื่ ไป ในบทเรียนนี้ เราจะมาเรียนวิธถ
ี ารแนะนำชอ ี ามแบบเป็นทางการและ
วิธก
ี ารตอบคำถามกัน

1.วิธถ ื่ แบบเจาะจง
ี ามชอ
🔍 สามารถแยกได ้ดังตัวอย่างต่อไปนี:้

🔑 เมือ่ ต ้องการถามชอื่ อย่างเป็ นทางการ เราต ้องรู ้จักการใชคำกริ


้ ยา “to be” ขึน
้ ต ้นบุรษ
ุ สรรพนาม
(ประธานในประโยค)
🔑 รูปแบบประโยคคำถาม มีการใชบุ้ รษุ สรรพนามทีแ่ ตกต่างกันดังนี:้
กริยา “to be”
(To be)
Personal Pronoun
(บุรษ
ุ สรรพนาม)
🔍(Example)
ต ัวอย่าง

Am I Are you Mary?


(เธอคือ แมรี่ ใช่ไหม?)

X3English│4
Are you + ชอื่ ? Are they Bob and Tom?
we (Name) (พวกเขาคือ บ็อบ และ ทอม ไหม?)
they
Is she Rosy?
Is she (เธอคือ โรซีใช่ไหม?)
he
it

2. วิธต ื่ อย่างเป็นทางการ
ี อบคำถามในการถามชอ
🔑 ในการตอบคำถามสำหรับประโยคถามชอื่ อย่างเป็ นทางการ มี 2 วิธหี ลัก ดังนี:้
👉 ตอบแบบรูปประโยคสนั้ ๆ ด ้วยคำว่า Yes (ใช)่ หรือ No (ไม่)
รูปแบบเต็ม
(Full forms)
รูปแบบย่อ
(Short forms) 📌 ข้อควรสงเกต

➤ หลัง“Yes” หรือ “No” จะมี


I am. I am not. I’m not.
เครือ
่ งหมายจุลภาคเสมอ (“,”) เพือ

่ ะแยกสว่ นทีเ่ หลือ
ทีจ
you are. you are not. you aren’t.
we are. we are not. we aren’t. ั ้ ๆ ขึน
➤ ประโยคตอบสน ้ ต ้นด ้วย
Yes, they are. No, they are not. they aren’t. “Yes” เราจะไม่ใชรู้ ปย่อของคำ
กริยา “to be”
ั ้ ๆ ขึน
➤ ประโยคตอบสน ้ ต ้นด ้วย
she is. she is not. she isn’t. “No” เราสามารถใชรู้ ปเต็มหรือ
he is. he is not. he isn’t.
สามารถใชรู้ ปย่อ ของคำกริยา “to
it is. it is not. it isn’t.
be” ได ้

👉 การใชร้ ปู ประโยคคำตอบทีย่ าว เพือ่ จะชว่ ยให ้มีข ้อมูลในการสนทนาเพิม่ มากขึน้ ชว่ ยให ้บทสนทนา “ไม่
ตัน”

🔍ตัวอย่าง:

X3English│5
X3English│6
ในบทเรียนนี้ พวกเราจะเรียนเกีย
่ วกับการถาม-ตอบอายุ กับประโยค “How old” การตอบรับและปฏิเสธเกีย
่ ว
กับอายุของทัง้ ของตนเองและผู ้อืน

1. การถามตอบเกีย
่ วก ับอายุ ด้วยประโยค “How old”

🔍 ตัวอย่าง:

🔑 จากตัวอย่างข ้างต ้น รูปแบบประโยคถาม-ตอบ เกีย่ วกับอายุมดี งั นี:้


ประโยคถามอายุ How old + คำกริยา“to be” + บุรษ
ุ สรรพนาม?
(To be) (Personal Pronoun)

ประโยคคำตอบ บุรษ
ุ สรรพนาม + คำกริยา“to be” + ต ัวเลข (อายุ) + year(S) old.
(Personal Pronoun) (To be) (Number)

🔑 บุรษุ สรรพนามแต่ละคำมีวธิ กี ารถามทีแ่ ตกต่างกัน ดังนี:้


บุรษ
ุ สรรพนาม คำถาม ประโยคคำตอบ

You you? ❏ I am (I’m) 18 years old.


We How old are we? ❏ We are (We’re) 18 years old.
They they? ❏ They are (They’re) 18 years old.

He he? ❏ He is (He’s) 18 years old.


She How old is she? ❏ She is (She’s) 18 years old.
It it? ❏ It is (It’s) 18 years old.

X3English│7
📌 ข้อควรสงเกต:

👉 หากอายุเป็ นเลข 1 หรือ ใช ้ “year old”.
ตัวอย่าง: She’s 1 year old.
👉 หากอายุมากกว่า 1 ให ้เติม “s” หลัง “year” เป็ น “years old”.
ตัวอย่าง: I’m 3 years old.
👉 อย่างไรก็ตามเราสามารถละ “years old” ได้
ตัวอย่าง: How old are you? - I’m 79.

2. คำถามตอบร ับและปฏิเสธเกีย
่ วก ับอายุ
I’m 79 years old.
ตัวอย่าง
ประโยคตอบร ับ I’m NOT 79 years old.

บุรษ
ุ สรรพนาม+ คำกริยา “to be” + อายุ + year(s) old.
ประโยคปฏิเสธ โครงสร ้าง
บุรษ
ุ สรรพนาม + คำกริยา “to be” + NOT + อายุ + year(s) old.

Are you eighty years old?


ตัวอย่าง
Yes, I’m eighty years old./ No, I’m not eighty years old.
ถาม
คำกริยา“to be” + บุรษ
ุ สรรพนาม +อายุ + year(s) old?

ตอบ ประโยค Yes, บุรษ
ุ สรรพนาม + คำกริยา “to be” + อายุ + year(s) old.

No, บุรษ
ุ สรรพนาม + คำกริยา “to be” + NOT +อายุ+ year(s) old.

🔑 ในการทีจ่ ะเปลีย่ นประโยคตอบรับให ้เป็ นประโยคปฏิเสธ ให ้เติม “not” หลังคำกริยา “to be”.
🔑 ในการสร ้างประโยคคำถาม ให ้ใช ้ verb to be ขึน
ประโยค)
้ ต ้นประโยค หรือวางไว ้หน ้าบุรษ
ุ สรรพนาม (ประธานของ

💡 ี ว่ ยจำ จำนวนนับ 1 ถึง 100 ง่าย ๆ


: วิธช

✅ เรียนจากเลข 1 ถึง 19.


✅ เรียนแบบเลขหลักสบิ : 20; 30; 40; 50; 60; 70; 80; 90.
✅ เลข 21 ถึง 99 คือเลขหลักสบิ รวมกับเลขหลักหน่วย ตัง้ แต่1-9
X3English│8
ตัวอย่าง: 21 - twenty one; 32 - thirty two; 43 - forty three
✅ ข ้อผิดพลาดง่าย ๆ ทีม่ กั เกิดขึน้ ในการสนทนา ดังนัน้ ต ้องฟังให ้ชดั เจน ในสว่ นBroaden Out เพือ่ ชว่ ยให ้
แยกแยะความแตกต่างได ้
ตัวอย่าง: 13 (thirteen) กับ 30 (thirty).
🎧 เลข 13, สว่ น -teen มักจะเกิดข ้อผิดพลาดได ้ง่าย เลข 30, สว่ น thir- มักจะเกิดข ้อผิดพลาดได ้ง่าย

X3English│9
ใน lesson 04 นี้ เราจะเรียนโครงสร ้างและวิธเี ปลีย
่ นรูปประโยคถาม-ตอบ “คุณมาจากไหน?”

1. คำถามทีใ่ ช ้ “Where”
🔍 ตัวอย่าง:

🔑 ในกรณีทเี่ ราต ้องการถามว่าคนไหนมาจากทีไ่ หน (ประเทศอะไร) ต ้องใช ้รูปประโยคยอดนิยม ดังนี:้


Where To be Personal pronoun from?
คำถาม
(ถามสถานที)่ (กริยา “to be”) (บุรษ
ุ สรรพนาม) (คำบุพบท)

Personal pronoun To be from Country/ City.


ประโยคคำตอบ (ประเทศ/
(บุรษ
ุ สรรพนาม) (กริยา ”‘to be”) (คำบุพบท)
เมือง)

🔑 ตัวอย่างประโยคตามบุรษุ สรรพนามต่าง ๆ ดังนี:้


บุรษ
ุ สรรพนาม ประโยคคำถาม ประโยคคำตอบ

You Where are you I am (I’m)

X3English│10
We we from? We are (We’re) from + Country/ City.
They they They are (They’re)

He Where is he He is (He’s)
She she from? She is (She’s) from + Country/ City.
It it It is (It’s)

2. ประโยคตอบร ับและประโยคปฏิเสธ
🔑 วิธเี ปลีย่ นจากประโยคตอบรับเป็ นประโยคปฏิเสธ “ใครมาจากไหน ➞ ใครคนนนไม่
ั้ ได้มาจาก (ที่
นน ่ :
่ ั )” ด ังเชน

I’m from Germany.

ประโยคตอบร ับ ตัวอย่าง
I’m NOT from Germany.

ประโยคปฏิเสธ Personal pronoun + To be + from + Country/ City.
โครงสร ้า
(บุรษ
ุ สรรพนาม) ( กริยา“to be”) (คำบุพบท) (ประเทศ/เมือง)

Personal pronoun + To be + NOT + from + Country/ City.

🔑 วิธสี ร ้างประโยคคำถาม “เขา/เธอ มาจาก...ใชไ่ หม?” และวิธกี ารตอบ ด ังต่อไปนี:้


Are you from Germany?
ตัวอย่าง
Yes, I’m from Germany./ No, I’m not from Germany.
ประโยคคำถาม

⇓ To be + Personal pronoun + from + Country/ City?

ประโยคคำตอบ โครงสร ้าง Yes, Personal pronoun + To be + from + Country/ City.

No, Personal pronoun + To be + NOT + from + Country/


City.

X3English│11
ี ารใชบุ้ รษ
ใน lesson 02 เราเรียนวิธก ื่ ไปแล ้ว ในบทเรียนนี้
ุ สรรพนามและ verb to be ในการถาม-ตอบ ชอ
เราจะมาเพิม
่ เติมรูปประโยคเกีย
่ วกับการถามชอ ื่ และอาชพี โดยใชค้ ำคุณศพท์
ั แสดงความเป็นเจ้าของ

ั แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Adjective)


1. คำคุณศพท์
🔍 ตัวอย่าง:
What’s her name? Her name is Sophia.
(หล่อน/เธอ ช่อื ว่าอะไร?) (ช่อื ของ หล่อน/เธอ คือ โซเฟีย)

🔑 คำว่า “Her” ในประโยคข ้างต ้นเรียกว่าคำคุณศพท์


ั แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive

Adjective) - ใชในการชเี้ ฉพาะ เจาะจง ใครคนใดคนหนึง่ /สงิ่ ของของใครคนใดคนหนึง่

🔑 โดยบุรษุ สรรพนามแต่ละบุรษุ สรรพนามก็จะมีคำคุณศพั ท์แสดงความเป็ นเจ ้าของทีแ่ ตกต่างกัน ดังตาราง:


บุรษ
ุ สรรพนาม ั แสดงความเป็นเจ้าของ
คำคุณศพท์
(Personal Pronoun) (Possessive Adjective)

I my (ของฉั น)

You your (ของเธอ/ของพวกเธอ)

We our (ของพวกเรา)

They their (ของพวกเขา)

She her (ของหล่อน)

He his (ของเขา)

It its (ของมัน)

X3English│12
2. วิธถ ้ ำคุณศพท์
ื่ โดยการใชค
ี ามชอ ั แสดงความเป็นเจ้าของ

🔍 ตัวอย่าง:

🔑 โครงสร ้างประโยคถาม-ตอบชอื่ โดยการใชค้ ำคุณศพท์


ั แสดงความเป็นเจ้าของ มีดงั นี:้
ประโยคคำถาม
name (full name / first name/ last name)?
What is/ What’s your / his / her / its
่ (ชือ
ชือ ่ เต็ม/ชือ
่ จริง/นามสกุล)

What are our / their names (full names / first names/ last names)?

ประโยคคำตอบ

My / His / Her / Its name (full name / first name/ last name) is name.
ื่ )
(ชอ
Our / Their names (full name / first name/ last name) are

3. วิธก
ี ารถาม-ตอบเกีย
่ วก ับอาชพ ้ ำคุณศพท์
ี โดยใชค ั แสดงความ
เป็นเจ้าของ
ประโยคคำถาม ประโยคคำตอบ

X3English│13
I am (I’m)
is your / his / her job?
➞ He is (He’s) a/ an
job. (1)
(อาชีพ)
She is (She’s)
What job? We are (We’re) jobs.
is your (อาชีพ)
➞ They are (They’re) (อาชีพ)
our
their jobs? and
are
(อาชีพ)
➞ (1 )
(และ)
(1)

🔍 ตัวอย่าง:
➤ What is his job? (เขาทำอาชีพอะไร?) ⇢ He’s a police officer. (เขาเป็ นตำรวจ)
➤ What is their job? (พวกเขาทำงานอะไร?) ⇢ They are doctors. (พวกเขาเป็ นหมอ)
➤ What are their jobs? (งานของพวกเขาคืออะไร?) ⇢ She’s a teacher and he’s a doctor. (เธอคือคุณ
ครูและเขาคือคุณหมอ)

X3English│14
ใน Lesson 06 นี,้ พวกเราจะเรียนเกีย
่ วกับรูปแบบคำถามเกีย ่ วกับคำนามเอกพจน์และวิธต ั ท์
ี อบด ้วยคำคุณศพ

ทีใ่ ชในการแสดงความเป็ ้ ำกำก ับคำนามไม่เฉพาะ “a/ an”.
นเจ ้าของ (ทีไ่ ด ้เรียนใน Lesson 05) หรือ ใชค
คำนำหน ้าคำนาม “a/an”

1. ถามตอบเกีย ั ทใี่ ชแ
่ วก ับคำนามเอกพจน์ก ับคำคุณศพท์ ้ สดงความ
เป็นเจ้าของ
🔍 ตัวอย่าง
➤ mother (แม่), doctor (หมอ), alien (มนุษย์ตา่ งดาว)
➤ bin (ถังขยะ), umbrella (ร่ม), vase (แจกัน)
➤ city (เมือง), country (ประเทศ), park (สวนสาธารณะ)

🔑 คำนามเอกพจน์ (Singular noun) คือคำนามทีใ่ ชกั้ บ คนหนึง่ คน ของหนึง่ ชนิ้ หรือสถานทีห่ นึง่ แห่ง
🔍 ตัวอย่าง:

🔑 เพือ่ ถามเกีย่ วก ับคำนามเอกพจน์ทเี่ ป็นว ัตถุ สงิ่ ของ,เรามีประโยคคำถาม “What is it?” (มันคือ
อะไร),และวิธก ้
ี ารตอบคำถามนีโ้ ดยใชคำคุ ั ท์ทแ
ณศพ ี่ สดงความเป็ นเจ ้าของ ดังนี้

X3English│15
คำถาม What is it?
my
your
It is our Noun.
คำตอบ
(It’s) their (คำนาม)
her
his

2. ถาม-ตอบเกีย
่ วก ับคำนามเอกพจน์ก ับคำกำก ับคำนามไม่เฉพาะ
“a/an”
🔍 ตัวอย่าง:

🔑 คำกำก ับคำนามไม่เฉพาะ “a/ an” มีความหมายว่า “หนึง่ ”, อยูก่ อ่ นคำนามเอกพจน์เมือ่ คำนามนัน้ ยัง
ไม่ได ้ยังไม่ได ้รับการกล่าวถึงผู ้ฟั งมาก่อน

🔑 วิธกี ารใชคำกำกั
้ บคำนาม “a/ an” ดังนี:้

👉 คำนำหน ้าคำนาม“an” อยูห่ น ้าจำนวนทีเ่ ป็ นคำนามขึน้ ต ้นโดยตัวอักษรทีเ่ ป็ นสระ (โดยเฉพาะ: a, e,


i, o, u).
🔍 ตัวอย่าง:

X3English│16
🔔 ข ้อยกเว ้น: an hour (หนึง่ ชวั่ โมง), an heir (ทายาทหนึง่ คน), ...
👉 คำนำหน ้าคำนาม “a” อยูห่ น ้าคำนามทีข่ นึ้ ต ้นด ้วยพยัญชนะ (ตัวอักษรทีเ่ หลือ).
🔍 ตัวอย่าง:

🔔 ข ้อยกเว ้น: a university (มหาวิทยาลัยแห่งหนึง่ ), a uniform (ชุดยูนฟิ อร์มหนึง่ ชุด), ...

X3English│17
ในบททีผ ่ า่ นมา เราได ้เรียนรู ้เกีย
่ วกับโครงสร ้างการ ถาม-ตอบ เกีย
่ วกับคำนามพหูพจน์ ในบทนีเ้ ราจะมาต่อ
ด ้วยรูปแบบโครงสร ้าง การถาม-ตอบเกีย ่ วกับคำนามพหูพจน์ ด ้วยกฏการเปลีย
่ นคำนามจากเอกพจน์ไปยัง
พหูพจน์ ทีม ่ ก
ั พบบ่อย

1. กฏการเปลีย
่ นคำนามเอกพจน์เป็นพหูพจน์ทพ
ี่ บบ่อย
🔍 ตัวอย่าง:
➤ mothers (เหล่าคุณแม่), doctors (เหล่าคุณหมอ), aliens (เหล่ามนุษย์ตา่ งดาว)

➤ bags (ถุงหลายใบ), boxes (กล่องหลายใบ), watches (นาฬกาหลายเรื
อน)
➤ cities (เมืองต่างๆ), countries (ประเทศต่างๆ), parks (สถานทีจ
่ อดรถต่างๆ)

🔑 คำนามพหูพจน์ (Plural noun) คือคำนามทีแ่ สดงถึงจำนวนมาก(จำนวน2อย่างขึน้ ไป) คน, วัตถุหลายสงิ่


หรือหลายแห่ง

🔑 ถ ้าจำนวนวัตถุจากสองชนิ้ ขึน้ ไปแล ้วเราต ้องใชคำนามที


้ เ่ ป็ นรูปแบบพหูพจน์ตามกฏการเปลีย
่ นแปลงดังนี้
:

📌 กฏข ้อที1่ : คำนามเอกพจน์สว่ นใหญ่ เติม 📌 กฏข้อที่ 2: สว่ นมากคำนามเอกพจน์


ท ้ายด ้วย -s เพือ
่ ทำให ้เป็ นคำนามพหูพจน์ ม ักลงท้ายด้วยต ัวอ ักษร: -s, -ss, -sh, -ch,
-x, -z, -o ต ้องต่อท ้ายด ้วย -es เพือ
่ ทำให ้เป็ น
คำนามพหูพจน์

🔍 ตัอย่าง: 🔍 ตัวอย่าง:
คำนามเอกพจน์ คำนามพหูพจน์ คำนามเอกพจน์ คำนามพหูพจน์
a book ------------→ a bus -----------→
two books five buses
one box -----------→
four boxes

X3English│18
one bag ------------→
three bags

2. ถาม-ตอบ เกีย
่ วก ับคำนามพหูพจน์
🔑 ถาม-ตอบ เกีย่ วกับคำนามพหุพจน์โดยทัว่ ไป มีรปู แบบโครงสร ้างดังนี้
คำถาม What are they? (นัน
้ คืออะไร)

ประโยคคำ
They are (They're) + Noun (s/ es). (คำนามพหูพจน์)
ตอบ

ต ัวอย่าง

X3English│19
3. ถาม-ตอบ เกีย ั ทแ
่ วก ับคำนามทีเ่ ป็นพหูพจน์ก ับคำคุณศพท์ ี่ สดง
ถึงความเป็นเจ้าของ
🔍 ดูตวั อย่างดังนี:้ 🔑 โครงสร ้าง:
คำถาม What are they?

คำตอบ my
your
They are our Noun (s/ es).
(They’re) their (คำนามพหูพจน์)
her
his

X3English│20
ใน Lesson 08, พวกเราจะเรียนเกีย ี ารใช ้ “There is/ There are” และเรียนรู ้เพิม
่ วกับวิธก ่ เติมเกีย
่ วกับกฏ
การสร ้างคำนามพหูพจน์ในภาษาอังกฤษ

ี ารใช“้ There is” และ “There are”


1. วิธก
🔑 “There is/ There are” มีความหมายว่า “มี” - ใชเพื้ อ่ บอกถึงการมีอยูข่ องสงิ่ ๆหนึง่ หรือหลายสงิ่ ของคน
หนึง่ คนหรือหลายคน(การตัง้ อยูต
่ ำแหน่งใดตำแหน่งหนึง่ )

🔑 การเลือกใชระหว่
้ าง “There is” หรือ “There are” ขึน
้ อยูก
่ บ
ั คำนามทีต
่ ามหลัง ดังต่อไปนี้ :
There is = There's There are

There is + singular noun (คำนามเอกพจน์) There are + plural noun (คำนามพหูพจน์)

🔍 ตัวอย่าง: 🔍 ตัวอย่าง:
There is a fork on the table. There are two plates on the table.
(มีส ้อมอยูบ
่ นโต๊ะ) (มีจาน2ใบอยูบ
่ นโต๊ะ)

2. กฏการสร้างคำนามพหูพจน์
🔑 นอกจากกฏทีม่ กั พบบ่อยเมือ่ เปลีย่ นคำนามเอกพจน์เป็ นคำนามพหูพจน์ทไี่ ด ้เรียนจากบททีแ่ ล ้ว ใน
บทเรียนนีพ
้ วกเรามาทำความเข ้าใจเพิม
่ อีกสองรูปแบบ ดังนี:้

📌 กฏข้อ 3: คำนามเอกพจน์ ทีล่ งท้ายด้วยต ัวอ ักษร “y”


👉 ถ ้าหน ้าตัว “y” คือตัวพยัญชนะ ➞ ตัด “y” และเติม “ies” ต่อท ้ายคำนาม.
🔍 ตัวอย่าง:

baby ➜ babies cherry ➜ cherries


👉 ถ ้าหน ้าตัว “y” คือสระ ➞ ให้คง “y” ไว้และเติม “s” ต่อท ้ายคำนาม.
X3English│21
🔍 ตัวอย่าง:

boy ➜ boys toy ➜ toys

📌 กฏข้อ 4: คำนามเอกพจน์ทลี่ งท้ายด้วยต ัวอ ักษร “f” หรือ “fe”


👉 ถ ้าคำนามทีล่ งท ้ายด ้วยตัวอักษร “f” หรือ “fe” ➞ ม ักต ัด “f”/ “fe” และเติม “ves” ต่อท ้ายคำนาม.
🔍 ตัวอย่าง:

loaf → loaves knife → knives

🔔 ข ้อยกเว ้น ➞ ยังคงตัวอักษร “f”และเพิม่ “s” ต่อท ้ายคำนาม.


🔍 Ví dụ:

roof → roofs chef → chefs

X3English│22
ในบทนี้ พวกเราจะเรียนเกีย ่ วกับคำสรรพนามบ่งช(ี้ คำศพ ั ท์ทใี่ ชแทนคำนาม)
้ “this/ these” และวีธ ี ถาม-
ตอบ เพือ ั ถุสงิ่ ของ/ สงิ่ ทีอ
่ ระบุวต ่ ยูใ่ กล้ต ัวเราคืออะไร?

1. คำสรรพนามบ่งช ี้ “this/ these”

🔍 ตัวอย่าง: 🔑 คำสรรพนามบ่งช(ี้ demonstrative pronoun)


this/ these“” (นี,่ เหล่านี)้ คือคำศพท์ ั ทแ ี่ สดงถึง
สงิ่ ของ/ สงิ่ ของทีอ ่ ยูใ่ กล้ผพ
ู้ ด
ู / ผู ้เขียน โดย
เจาะจง:
➤ This: ใชก ้ ับว ัตถุ (คำนามเอกพจน์ )
้ ับว ัตถุสองชน
➤ These: ใชก ิ้ ขึน
้ ไป(คำนาม
พหูพจน์)

👉 หญิงสาวกำลังถืออยูใ่ นมือนัน้ คือดอกไม ้จากสวน


👉 ระยะห่างของหญิงสาว (คนพูด ) กับดอกไม ้ (วัตถุที่
ของเธอ

ถูกกล่าวถึง) คือระยะใกล ้

X3English│23
่ วก ับคำนามเอกพจน์ก ับสรรพนามบ่งช“ี้ this”
2. ถาม-ตอบ เกีย
🔍 ตัวอย่าง:
What is this? (นีค
่ อ
ื อะไร?)

This is a vase. It is (It’s) my mirror.


(นีค
่ อ
ื แจกัน.) (นีค
่ อ
ื กระจกของฉั น.)

🔑 โครงสร ้าง ถาม-ตอบ โดยใช ้ “this” ดังนี:้

คำถาม คำตอบ

่ สงิ่ ของนัน
➤ เมือ ้ ยังไม่ระบุจัดเจนว่าเป็ นของใคร
This is/ It is (It’s) + a/ an + Noun.
What is this?
่ สงิ่ ของนัน
➤ เมือ ้ สามารถระบุความเป็ นเจ ้าของได ้
This is/ It is (It’s) + my/ your/ our/ their/ his/ her + Noun.

่ วก ับคำนามพหูพจน์ก ับสรรพนามบ่งช“้ี these”


3. ถาม-ตอบ เกีย
🔍 ตัวอย่าง:
* Kara: What are these? * Mandy: What are these?
Mandy: These are pillows. Kara: They are my computers.
(นีค
่ อ
ื หมอน.) (นีค
่ อ ่ งคอมพิวเตอร์ของฉั น)
ื เครือ

X3English│24
🔑 โครงสร ้าง ถาม-ตอบ ด ้วย “these” ดังนี:้
คำตาม คำตอบ

่ สงิ่ ของนัน
➤ เมือ ้ ยังไม่ระบุจัดเจนว่าเป็ นของใคร
These/ They are + Noun (s/es).
What are these?
่ สงิ่ ของนัน
➤ เมือ ้ สามารถระบุความเป็ นเจ ้าของได ้
These/ They are + my/ your/ our/ their/ his/ her + Noun (s/es).

📢 ข้อสงเกต:

พวกเราได ้เรียนกฏการเปลีย่ นคำนามเอกพจน์เป็ นคำนามพหูพจน์ในบทที8 ่ -9 แม ้ว่า มีบางคำนามบางคำไม่
ได ้เป็ นตามกฏเรียกว่าคำนามพิเศษหรือคำนามไม่ปกติ (irregular nouns).

📌 ตารางด้านล่างนีค้ อื ล่างนีค้ อื คำนามไม่ปกติ ทีพ่ บบ่อย:


Singular noun Plural noun

a person (คนหนึง่ คน) ➞ people (ผู ้คน)

a woman (ผู ้หญิงหนึง่ คน) ➞ women (ผู ้หญิงหลายคน)

a man (ผู ้ชายหนึง่ คน) ➞ men (ผู ้ชายหลายคน)

a tooth (ฟั งหนึง่ ซ)ี่ ➞ teeth (ฟั นหลายซ)ี

a foot (เท ้าหนึง่ ข ้าง) ➞ feet (เท ้าหลายข ้าง)

a child (เด็กหนึง่ คน) ➞ children (เด็กหลายคน)

X3English│25
ในบททีแ ่ ล ้ว พวกเราได ้เรียนรู ้วิธถ ่ วกับวัตถุ สงิ่ ของ / เหล่าวัตถุทอ
ี าม-ตอบ เกีย ี่ ยูใ่ นระยะใกล ้กับสรรพนามบ่ง
ช ี้ “this/ these” มาถึงบทเรียนนี้ พวกเราจะเรียนเกีย ่ วกับสรรพนามบ่งช ี้ “that/ those” ก ับวิธก ี าร ถาม-
ตอบ เพือ ่ ระบุว ัตถุ ว ัตถุทอ
ี่ ยูไ่ กล

1. สรรพนามบ่งช ี้ “that/ those”


🔑 สรรพนามบ่งชี้ “that/ those” (นั่น, เหล่านัน้ ) คือคำบ่งชถี้ งึ ว ัตถุสงิ่ ของ/ ว ัตถุสงิ่ ของอยูต่ ำแหน่ง
ไกลผูพ
้ ด
ู /ผูเ้ ขียนโดยเฉพาะ:
➤ That: หมายถึงว ัตถุสงิ่ ของอย่างหนึง่ (คำนามเอกพจน์)
➤ Those: หมายถึงว ัตถุทม
ี่ ต
ี งแต่
ั้ ิ้ ขึน
สองชน ้ ไป (คำนามพหูพจน์)

🔍 ตัวอย่าง:

That is a house. Those are houses.

่ วก ับคำนามเอกพจน์ ก ับสรรพนามบ่งช“ี that”


2. ถาม-ตอบ เกีย
🔍 ตัวอย่าง:
👱
👩
What is that? (นั่นคืออะไร?)

👩
That is a rug. (นั่นคือพรม)
It’s my rug. (นั่นคือพรมของฉั น)

🔑 โครงสร ้างการถาม-ตอบด ้วย “that” ดังต่อไปนี:้


คำถาม What is that?

คำตอบ ่ สงิ่ ของนัน


➤ เมือ ้ ยังไม่ระบุจัดเจนว่าเป็ นของใคร

X3English│26
That is/ It is (It’s) + a/ an + Noun.

่ สงิ่ ของนัน
➤ เมือ ้ สามารถระบุความเป็ นเจ ้าของได ้
That is/ It is (It’s) + my/ your/ our/ their/ his/ her + Noun.

่ วก ับคำนามพหูพจน์ก ับสรรพนามบ่งช ี้ “those”


3. ถาม-ตอบ เกีย
🔍 ตัวอย่าง:

🔑 โครงสร ้างการ ถาม-ตอบ ด ้วย “those” ดังต่อไปนี:้


คำถาม What are those?

่ สงิ่ ของนัน
➤ เมือ ้ ยังไม่ระบุจัดเจนว่าเป็ นของใคร

คำตอบ Those are/ They are (They’re) + Noun(s/es).

่ สงิ่ ของนัน
➤ เมือ ้ สามารถระบุความเป็ นเจ ้าของได ้
Those are/ They are (They’re) + my/ your/ our/ their/ his/ her + Noun(s/es).

📢 ข้อสงเกต:
ั เมือ ื่ มกันโดยคำว่า "and” (และ) จะถือว่าเป็ นพหูพจน์.
่ สองคำหรือคำนามหลายตัวถูกเชอ

X3English│27
🔍 ตัวอย่าง:

X3English│28
ในบทเรียนนนี้ พวกเราจะเรียนหัวข ้อเวลาด ้วยโครงสร ้าง การถาม-ตอบโดยทัว่ ไป

🔍 ตัวอย่าง:

🔑 ดังตัวอย่างด ้านบน พวกเรามีโครงสร ้าง ถาม-ตอบ เกีย่ วกับเวลา ดังต่อไปนี:้


คำถาม What time is it? (ตอนนีเ้ วลากีโ่ มง?)

คำตอบ It's + ชว่ ั โมง(hour) + นาที (minute).

👉 ด ้วยวิธกี ารตอบนี้ เราจะพูดชวั่ โมงก่อนนาที


🔍 ตัวอย่างเพิม่ เติม
a) b)

📢 ข้อสงเกต:

👉 ตัวเลขทีน่ ้อยกว่า10นาที เราต ้องอ่านเพิม่ เลข 0 (oh) ก่อนแล ้วจึงเติมตามด ้วยตัวเลข


🔍 ตั10:08
วอย่าง:
➞ Ten OH-eight
9:05 ➞ Nine OH-five

👉 นอกจากนัน้ ยังมีอกี บางกรณีทพี่ ดู เกีย่ วกับเวลาซงึ่ แตกต่างจากทีก่ ล่าวมาข ้างต ้น โดยเฉพาะ


เมือ
่ เวลาเต็ม (เลขนาทีคอ ่ “o'clock” หล ังเลขชว่ ั โมง
ื 0), เราเพิม

🔍 ตัวอย่าง:
X3English│29
เมือ
่ ต ้องการระบุเวลาตอนเชา, ่ ง- บ่ายหรือชว่ งเย็น, เราจะเพิม
้ ตอนเทีย ่ AM/PM
เข้าหล ังเวลา, ดูวธิ ก ้
ี ารใชงานเฉพาะขึ น
้ อยูก
่ บ
ั ระยะเวลาต่อไปนี:้

🔍 ตัวอย่าง:

X3English│30
ต่อกันด ้วยหัวข ้อเกีย
่ วกับเวลา ใน lesson 12 นี้ เราจะมาทำความเข ้าใจเกีย
่ วกับวิธก
ี ารถาม-ตอบ เกีย
่ วกับ วัน

🔍
เกิดในภาษาอังกฤษไปพร ้อม ๆ กัน
ตัวอย่าง:

🔑 ดังตัวอย่างข ้างต ้น เรามีโครงสร ้างการถามและการตอบเกีย่ วกับวันเกิด ดังนี้


คำถาม ั ทแ
When + คำกริยา “to be” + คำคุณศพท์ ี่ สดงถึงความเป็น
เจ้าของ + birthday(s)?

คำตอบ ั ทแ
คำคุณศพท์ ี่ สดงถึงความเป็นเจ้าของ + birthday + คำกริยา “to be” + เดือน
(month) + ว ัน (date).

🔑 คำคุณศพั ท์ทแี่ สดงถึงความเป็ นเจ ้าของเฉพาะ เรามีประโยคคำถามและคำตอบเกีย่ วกับวันเกิดดังนี้


คำถาม คำตอบ

My/ His/
your / his / ➞ month + date. (1)
is birthday? Her/ Its birthday is
her/ its (เดือน + วัน)

When birthday? Our/ month + date.


is your ➞ birthday is
(วันเกิดเดียว) Their (เดือน + วัน)
our
birthdays? and
are their ➞ (1 ) (1)
(วันเกิดอืน
่ ) (และ)

🔍 ตัวอย่าง
➤ When is his birthday? ⤏ His birthday is April 6th.

X3English│31
➤ When is your birthday? ⤏ My birthday is January 2nd.

➤ When is your birthday? ⤏ Our birthday is February 3rd.

➤ When are your birthdays? ⤏ My birthday is May 16th and her birthday is June 13th.

➤ When are their birthdays? ⤏ Her birthday is December 1st and his birthday is March 28th.

🔑 เพือ่ พูดเกีย่ วกับวันต่างๆในเดือน เราใชหมายเลขตามลำดั


้ บต่อไปนี้

1 first 1st 2 second 2nd 3 third 3rd 4 fourth 4th 5 fifth 5th

6 sixth 6th 7 seventh 7th 8 eighth 8th 9 ninth 9th 10 tenth 10th

11 eleventh 12 twelfth 12th 13 thirteenth 14 fourteenth 15 fifteenth


11th 13th 14th 15th

16 sixteenth 17 seventeenth 18 eighteenth 19 nineteenth 20 twentieth


16th 17th 18th 19th 20th

21 twenty-first 22 23 twenty-third 24 25 twenty-fifth


21st twenty-second 23th twenty-fourth 25th
22nd 24th

26 twenty-sixth 27 28 twenty-eighth 29 twenty-ninth 30 thirtieth


26th twenty-seventh 28th 29th
30th
27th

31 thirty-first
31st

📌 วิธกี ารจำลำด ับต ัวเลขด้านบน


👉 เรียนรู ้ตัวเลขพิเศษ:
📅 first (วันที่ 1), twenty-first (วันที่ 21), thirty-first (วันที่ 31)
📅 second (วันที่ 2), twenty-second (วันที่ 22)
📅 third (วันที่ 3), twenty-third (วันที่ 23)
📅 fifth (วันที่ 5)
👉 ลำดับตัวเลขทีเ่ หลือ (วันทีเ่ หลือ) ในเดือนลงท ้ายด ้วย “th” จะถูกเพิม่ เข้าหล ังจากการน ับ.
่ : fourth, seventh, tenth
อย่างเชน

X3English│32
👉 นอกจากนัน้
⛔ หมายเลข 9 - nine เมือ่ มีแค่วนั ที่ 9 - ninth เราตัด “e” ตัวท ้ายก่อนจะเติม “th” → ninth (9th)
⛔ หมายเลข 12 - twelve เราตัด “ve” เปลีย่ นเป็ น “fth” → twelfth (12th).
⛔ พวกหมายเลข 20 - twenty และ 30 - thirty เราตัด “y” และ เติม “ieth”: twentieth (20th), thirtieth
(30th).

X3English│33

You might also like