ดร.

พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 13

CHAPTER 1 :
GRAMMAR
1.1) Noun
Noun (ค�ำนาม) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. ค�ำนามนับได้ คือ ค�ำนามที่สามารถนับแยกเป็นชิ้นได้ มีทั้งรูปเอกพจน์ (สิ่งของชิ้น
เดียว) และพหูพจน์ (สิ่งของหลายชิ้น) เช่น student / students (นักเรียน) car / cars
(รถยนต์) country / countries (ประเทศ)
2. ค�ำนามนับไม่ได้ คือ ค�ำนามทีไ่ ม่สามารถนับแยกเป็นชิน้ ได้ อาจเป็นผงหรือของเหลว
เช่น milk (นม) bread (ขนมปัง) chocolate (ช็อกโกแลต) paper (กระดาษ) soap (สบู่)
เนื่องจากค�ำนามเหล่านี้นับไม่ได้จึงไม่มีรูปพหูพจน์ นั่นคือเติม -s หรือ -es ไม่ได้

แนวคิดในการแยกนามนับได้และนามนับไม่ได้
“นามนับไม่ได้ คือ นามทีม่ เี พียงองค์ประกอบเดียว และไม่วา่ จะแบ่งแยกออกไปอย่างไร
เราก็ยังเรียกชื่อเดิมของมันอยู่ดี ปกติจะเป็นสารหรือของเหลวต่างๆ เช่น soap นักเรียนหลาย
คนคิดว่าสบู่นับได้ แต่ลองหั่นสบู่ออกมาสักชิ้นสิ ชิ้นที่ 1-5 เราก็เรียกว่าสบู่เหมือนเดิมใช่ไหม
และให้นกั เรียนลองเอาสิง่ ของต่อไปนีม้ าหัน่ ออกสักสิบชิน้ ได้แก่ chalk, paper, wood ผลลัพธ์
ที่ได้ก็เหมือนกับ soap ใช่ไหม ฉะนั้นสรุปได้ว่า chalk, paper, wood ก็เป็นนามนับไม่ได้”
นามนับได้ คือ นามที่แบ่งแยกแล้วจะไม่สามารถเรียกชื่อเดิมได้
นามนับไม่ได้ คือ นามที่แบ่งแยกแล้วจะมีชื่อเรียกเดิม

ค�ำนามนับไม่ได้ที่นักเรียนควรรู้จัก
soap, chalk, paper, wood, rice, beef, meat, water, tea, coffee, sugar,
bread, oil, milk, shampoo, butter, wine
ที่มา: เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ http://oporjang.com
14 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

ถ้าต้องการนับจ�ำนวนของค�ำนามนับไม่ได้จะต้องใส่ค�ำลักษณนามลงไป เช่น
a carton of milk (นม 1 กล่อง)
a loaf of bread (ขนมปัง 1 ก้อน) หรือ a slice of bread (ขนมปัง 1 แผ่น)
a bar of chocolate (ช็อกโกแลต 1 แท่ง)
a piece of paper (กระดาษ 1 แผ่น) หรือ two pieces of paper (กระดาษ
2 แผ่น)

1.1.1) Article (ค�ำน�ำหน้านาม)

1. การใช้ a และ an
a และ an มีความหมายเหมือนกัน ใช้น�ำหน้าค�ำนามนับได้เท่านั้น โดยต้องเป็น
ค�ำนามเอกพจน์ที่ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกอย่างไม่ชี้เฉพาะเจาะจง เช่น
A student came to see you this morning. (นักเรียนคนหนึ่งมาพบ
คุณเมื่อเช้านี้)
I bought a new dress yesterday. (ฉันซื้อชุดใหม่เมื่อวานนี้)
John is a clever boy. (จอห์นเป็นเด็กฉลาด)

เมือ่ เป็นค�ำนามพหูพจน์ทถี่ กู กล่าวถึงเป็นครัง้ แรกอย่างไม่ชเี้ ฉพาะเจาะจง ไม่ต้อง

มี article น�ำหน้า เช่น
Students must not smoke. (นักเรียนหลายคนต้องไม่สูบบุหรี่)
Books are expensive these days. (ทุกวันนี้หนังสือราคาแพงมาก)
John and Jimmy are clever boys. (จอห์นและจิมมี่เป็นเด็กฉลาด)

การใช้ a และ an มีข้อแตกต่างกันคือ

a ใช้น�ำหน้าค�ำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะหรือขึ้นต้นด้วยสระที่ออกเสียงเป็นเสียง
พยัญชนะ เช่น
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 15

a woman a horse a university

a European a used car a one-way street
an ใช้หน้าค�ำที่ขึ้นต้นด้วยสระ (a e i o u) หรือขึ้นต้นด้วยพยัญชนะที่ออกเสียง
เป็นเสียงสระ เช่น
an ant an island an ox
an hour an egg an honest person

ข้อสังเกต
- an honest man (ผู้ชายที่ซื่อสัตย์ 1 คน) แม้จะขึ้นต้นด้วยตัว h แต่ออกเสียงว่า
“ออ-นิส” ซึ่งเป็นเสียงสระ จะใช้ an เช่นเดียวกับค�ำว่า hour อ่านว่า “อาว-เออร์” จึงใช้ an
- a university แม้จะขึ้นด้วยตัว u แต่อ่านออกเสียงว่า “ยู” ซึ่งเป็นเสียงพยัญชนะ
จึงใช้ a เช่นเดียวกับค�ำว่า a one-way street ขึ้นต้นด้วยตัว o แต่อ่านออกเสียง “ว”

หมายเหตุ ใช้ a, an น�ำหน้าค�ำนามที่เป็นส�ำนวนเกี่ยวกับความเจ็บป่วย โดยมี

โครงสร้างคือ
have + a + อาการเจ็บป่วย เช่น
have a headache (ปวดหัว) have a pain in the chest (เจ็บหน้าอก)
have a stomachache (ปวดท้อง) have a cold (เป็นหวัด)
ยกเว้นถ้าเป็นชื่อโรค จะไม่ใช้ a, an เช่น
rheumatism (โรคปวดข้อ) diabetes (เบาหวาน)
influenza (ไข้หวัดใหญ่) cancer (มะเร็ง)

ตัวอย่าง
He had an itch in the middle of his back. (เขามีอาการคันที่กลางหลัง)
He had a pain in the neck. (เขามีอาการปวดคอ)
16 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

She is suffering from rheumatism. (เธอก�ำลังทุกข์ทรมานด้วยโรคปวดข้อ)

2. การใช้ the
ใช้น�ำหน้าค�ำนามที่ถูกกล่าวถึงอย่างชี้เฉพาะเจาะจงหรือเมื่อค�ำนามนั้นถูกกล่าวถึง
มาแล้ว เช่น
A: A boy came to see you yesterday. (เด็กผู้ชายคนหนึ่งมาพบคุณ
เมื่อวานนี้)
B: Do you know the boy’s name? (คุณทราบชื่อของเขาไหม)
ค�ำนามที่ถูกกล่าวถึงอย่างชี้เฉพาะเจาะจงนี้ อาจเป็นค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์หรือ
พหูพจน์ก็ได้

นอกจากนี้ ยังใช้น�ำหน้าค�ำนามนับไม่ได้ที่ต้องการชี้เฉพาะเจาะจง เช่น

the rice (ข้าว) the water (น�้ำ) the wood (ไม้)
the paper (กระดาษ) the wine (ไวน์) the bread (ขนมปัง)

ใช้น�ำหน้าค�ำนามเรียกสิ่งที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียว เช่น
the earth (โลก) the sun (พระอาทิตย์) the sky (ท้องฟ้า)

ใช้น�ำหน้าค�ำนามที่มีกลุ่มค�ำอื่นมาขยายท�ำให้กลายเป็นค�ำนามชี้เฉพาะเจาะจง เช่น
the girl in pink (เด็กผู้หญิงในชุดสีชมพู)
the man whom you met (ผู้ชายคนที่คุณเจอ)

ใช้น�ำหน้าค�ำคุณศัพท์ (adjective) ขั้นสูงสุด หรือค�ำบอกล�ำดับที่ เช่น first (ที่หนึ่ง),

second (ที่สอง), third (ที่สาม), น�ำหน้า เช่น
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 17

the best speech (สุนทรพจน์ที่ดีที่สุด) the last day (วันสุดท้าย)

the second row (แถวที่สอง) the only way (หนทางเดียว)

ใช้น�ำหน้าค�ำนามที่เป็นชื่อเครื่องดนตรี เช่น
Kathy plays the piano, but Nick plays the violin. (เคธี่เล่นเปียโน
แต่นิคเล่นไวโอลิน)

ใช้น�ำหน้าค�ำนามที่เป็นชื่อเฉพาะบางค�ำ โดยปกติชื่อเฉพาะไม่ต้องมี article น�ำหน้า

แต่ชื่อเฉพาะบางค�ำต้องมี the น�ำหน้า เช่น
ชื่อคลอง (canal) เช่น the Suez Canal
ชื่อแม่น�้ำ (river) เช่น the Thames, the Nile
ชือ่ ทะเลและมหาสมุทร (sea and ocean) เช่น the Red Sea, the Indian
Ocean
ชื่ออ่าว (gulf, bay) เช่น the Gulf of Mexico, the Persian Gulf
ช่องแคบ (channel, straight) เช่น the English Channel, the Bering Straight
แหลม / คาบสมุทร (peninsula) เช่น the Indo-China Peninsula
หมู่เกาะ (groups of islands) เช่น the Philippines
เทือกเขา (chains of mountains) เช่น the Alps
ข้อยกเว้น เกาะเดี่ยว หรือภูเขาลูกเดียว ไม่ใช้ article เช่น Samui Island, Mount
Whiney
ทะเลทราย (desert) เช่น the Sahara Desert
ประเทศที่มีชื่อเป็นค�ำนามพหูพจน์หรือประกอบด้วยค�ำว่า Kingdom, Union หรือ
Republic เช่น the Netherlands, the United Kingdom, the Czech Republic
ชื่อพิพิธภัณฑ์ โรงแรม โรงละคร ห้องสมุด ภัตตาคาร สมาคม องค์กร หนังสือพิมพ์
เช่น the the Erawan Hotel, the Bangkok Post
18 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

ข้อควรจ�ำ ค�ำนามบางค�ำเป็นค�ำยกเว้น ไม่ต้องมี article เช่น

ชื่อเฉพาะ เช่น Mr. Johnson
ชื่อเกม กีฬา มื้ออาหาร เช่น
We play tennis on Saturdays. (เราเล่นเทนนิสในวันเสาร์)
We had rice porridge for breakfast this morning. (เรารับประทาน
โจ๊กเป็นอาหารเช้า)
ชื่อวิชา เช่น science, mathematics
ชื่อวัน วันส�ำคัญต่างๆ เดือน ศาสนา ลัทธิ เช่น Sunday, Easter, April, Bud-
dhism, Socialism
ชื่อภาษาต่างๆ เช่น Japanese, Chinese, English, German, Thai เช่น
The letter was written in English. แต่หากมีค�ำว่า language ต่อท้าย
จะต้องใช้ the น�ำหน้าดังนี้
The letter was written in the English language. (จดหมายถูกเขียน
เป็นภาษาอังกฤษ)
ชื่อถนน สวนสาธารณะ จัตุรัส เช่น Park Avenue, Hyde Park, Siam Square
ส�ำนวนทีม่ คี ำ� ต่อไปนี้ ในความหมายปกติไม่ใช้ the ได้แก่ bed, church, court,
prison, hospital, market, class, school, college, university เช่น
go to prison แปลว่า ถูกขังคุก
go to the prison แปลว่า ไปที่คุก (เพื่อวัตถุประสงค์อื่น
เช่น ไปเยี่ยมผู้ต้องหา)
go to school แปลว่า ไปเรียนหนังสือ
go to the school แปลว่า ไปทีโ่ รงเรียน (เพือ่ วัตถุประสงค์
อื่น เช่น ไปรับลูก)
(ดัดแปลงจากเว็บไซต์สอนภาษาอังกฤษของคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัย
ธรรมาธิราช www.stou.ac.th)
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 19

ข้อควรจ�ำ การใช้ a, an และ the ที่ส�ำคัญ

1. ใช้ a, an น�ำหน้าค�ำนามที่หมายถึงอาการเจ็บป่วย เช่น have a headache
(ปวดหัว), have a stomachache (ปวดท้อง) และ have a backache (ปวดหลัง) แต่
ในกรณีที่เป็นชื่อโรค จะไม่ใช้ article ใดๆ เช่น cancer (มะเร็ง), diabetes (เบาหวาน)
influenza (ไข้หวัดใหญ่)
2. ใช้ the น�ำหน้าค�ำนามเรียกสิ่งที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียว เช่น the earth (โลก)
the sun (พระอาทิตย์) the sky (ท้องฟ้า)
3. ใช้ the น�ำหน้าค�ำคุณศัพท์ (adjective) ขั้นสูงสุด เช่น the tallest man
(ผู้ชายที่สูงที่สุด) the most beautiful girl (เด็กสาวที่สวยที่สุด) the best book (หนังสือ
ที่ดีที่สุด)
4. ใช้ the น�ำหน้าชื่อเครื่องดนตรี เช่น the piano (เปียโน) the guitar (กีตาร์)
the violin (ไวโอลิน)
5. ใช้ the น�ำหน้าชื่อแม่น�้ำ เทือกเขา และหมู่เกาะ เช่น the Nile (แม่น�้ำไนล์)
the Alps (เทือกเขาแอลป์) the Philippines (หมู่เกาะฟิลิปปินส์) หากเป็นเกาะเดี่ยว
หรือเป็นภูเขาลูกเดียว จะไม่ใช้ article น�ำหน้า เช่น Samui Island (เกาะสมุย) Mount
Everest (เขาเอเวอเรสต์)
6. ไม่ใช้ the น�ำหน้าชื่อเฉพาะ เช่น ชื่อประเทศ เช่น Thailand, Japan, China
ยกเว้น the United Kingdom (สหราชอาณาจักร) the United States of America
(สหรัฐอเมริกา) the Netherlands (เนเธอร์แลนด์) the Czech Republic (สาธารณรัฐ
เช็ก)
7. ไม่ใช้ article น�ำหน้าชื่อกีฬา เช่น Tennis (เทนนิส) Football (ฟุตบอล)
Volleyball (วอลเลย์บอล)
8. ไม่ใช้ article น�ำหน้าค�ำนามที่หมายถึงมื้ออาหาร ได้แก่ breakfast (อาหาร
เช้า) lunch (อาหารกลางวัน) dinner (อาหารค�่ำ)
9. ไม่ใช้ article น�ำหน้าชื่อวิชา เช่น mathematics (วิชาคณิตศาสตร์) science
20 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

(วิชาวิทยาศาสตร์) Statistics (วิชาสถิติ)

10. ไม่ใช้ article น�ำหน้าค�ำนามที่ตามหลังค�ำว่า go to หากเป็นการเดินทางไป
ตามวัตถุประสงค์ของสถานที่ที่จะไป เช่น
Students go to school every day. (เด็กๆ ไปโรงเรียนทุกวัน)
His mother goes to the school. (แม่ไปที่โรงเรียน - ไม่ได้ไปเรียน
แต่อาจจะไปเพื่อวัตถุประสงค์อย่างอื่น เช่น ไปส่งลูก)

ตัวอย่างข้อสอบ
1. I really like ___________ shirt you gave me yesterday.
a. a b. the
c. an d. two

2. Somsak is ___________ honest policeman.

a. a b. the
c. an d. -

3. Nid plays ___________ football, but Noi plays ___________ guitar.

a. - / the b. the / the
c. - / - d. a / a

4. My mother bought ___________ eggs from the grocery yesterday.

a. - b. two
c. an d. Both a. and b. are correct.
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 21

5. Suda always has _________ breakfast with her parents in the morning.
a. the b. a
c. an d. -

6. ___________ Chao Phraya River is located in ___________ Thailand.

a. - / - b. The / the
c. - / the d. The / -

7. Jane had _______ headache, so she decided not to go to _______school.

a. - / - b. a / a
c. - / a d. a / -

8. ___________ Mount Everest is in ___________ Himalayas, a huge mountain

range in the continent of Asia.
a. - / - b. The / the
c. - / the d. The / -

9. I have been waiting for a man with ________ umbrella for _______ hour.
a. a / a b. a / an
c. an / an d. an / a

10. I study ________ math, ________ science and _________ English.

a. - / - / - b. the / the / the
c. a / a / a d. a / a / an
22 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

11. My father bought _________ orange from the farmer. _________ orange
was juicy and sweet.
a. an / An b. the / The
c. an / The d. the / An

12. ___________ Samui Island is in the south of Thailand.

a. - b. the
c. a d. an

13. ___________ man and four girls are walking to _________ house near
that university.
a. A / - b. - / -
c. A / the d. - / the

14. ___________ ripe banana is sweet, but ___________ milk is not.

a. A / - b. - / -
c. A / a d. - / a

15. I would like to apply for an English course in _______ United Kingdom.
a. a b. -
c. the d. an

16. ___________ university is a place where one learns to think.

a. A b. An
c. - d. The
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 23

17. My family will take a trip to __________ Malaysia, ________ Maldives

and ___________ United States.
a. the / the / the b. - / the / the
c. - / - / - d. the / the / -

18. Natalie is ___________ most beautiful woman in ___________ world.

a. the/ the b. - / -
c. a / the d. a / a

19. ___________ M(m)en usually like ___________ beautiful women.

a. A / a b. The / the
c. - / - d. The / a

20. ___________ good book and _________ good movie can always make
you ___________ smile.
a. A / a / a b. A / a / -
c. The / the / - d. - / - / -

เฉลยข้อสอบ
1. ตอบข้อ b. the
อธิบาย ใช้ the น�ำหน้าค�ำนามที่ต้องการชี้เฉพาะเจาะจง ประโยค the shirt you
gave me yesterday. แปลว่า เชิ้ตที่คุณให้ฉันเมื่อวาน

2. ตอบข้อ c. an
อธิบาย ค�ำว่า honest ขึ้นต้นด้วยตัว h แต่ออกเสียง “อ” เหมือนเสียงสระ ค�ำที่อ่าน
24 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

ออกเสียงเป็นเสียงสระ จะใช้ an ประโยค Somsak is an honest policeman. แปลว่า

สมศักดิ์เป็นต�ำรวจที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง

3. ตอบข้อ a. - / the
อธิบาย ไม่ใช้ article น�ำหน้าชื่อกีฬา และใช้ the น�ำหน้าชื่อเครื่องดนตรี ประโยค
Nid plays football, but Noi plays the guitar. แปลว่า นิดเล่นกีฬาฟุตบอล แต่น้อย
เล่นกีตาร์

4. ตอบข้อ d. Both a. and b. are correct.

อธิบาย ค�ำว่า eggs เป็นค�ำนามนับได้รูปพหูพจน์ ไม่สามารถใช้ an น�ำหน้าได้ เพราะ
an จะใช้กับสิ่งที่มีจ�ำนวน 1 หน่วย ในข้อนี้ สามารถใช้ได้ 2 กรณี คือ ไม่ใช้ article เพื่อ
แสดงความไม่ชี้เฉพาะเจาะจง หรือ ใช้ two เพื่อบอกจ�ำนวนว่า มีไข่สองฟอง ในกรณีที่
ต้องการแสดงการชี้เฉพาะเจาะจง ยังสามารถใช้ the น�ำหน้าค�ำว่า eggs ได้ โดยประโยค
จะมีความหมายดังนี้
ไม่ใช้ article My mother bought eggs from the grocery
yesterday.
แปลว่า แม่ของฉันซื้อไข่หลายฟองเมื่อวานนี้
ใช้ค�ำบอกจ�ำนวน My mother bought two eggs from the grocery
yesterday.
แปลว่า แม่ของฉันซื้อไข่มาสองฟองเมื่อวานนี้

5. ตอบข้อ d. -
อธิบาย ไม่ใช้ article น�ำหน้าค�ำนามที่หมายถึงมื้ออาหาร ประโยค Suda always
has breakfast with her parents in the morning. แปลว่า สุดามักจะรับประทานอาหาร
เช้ากับครอบครัวของเธอเสมอ
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 25

6. ตอบข้อ d. The / -
อธิบาย ใช้ the น�ำหน้าชื่อแม่น�้ำ ส่วนชื่อประเทศเป็นชื่อเฉพาะ ไม่ใช้ article น�ำหน้า
ยกเว้น the United States ที่แปลว่า สหรัฐอเมริกา และ the United Kingdom ที่แปล
ว่า สหราชอาณาจักร ประโยค The Chao Phraya River is located in Thailand. แปล
ว่า แม่น�้ำเจ้าพระยาตั้งอยู่ในประเทศไทย

7. ตอบข้อ d. a / -
อธิบาย อาการป่วย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง จะใช้ a น�ำหน้า ส่วนการไปยังสถานที่
ต่างๆ หากไปตามวัตถุประสงค์ของสถานที่นั้น จะไม่ใช้ article เช่น go to school. แปล
ว่า ไปเรียนหนังสือ go to bed. แปลว่า ไปนอน ประโยค Jane had a headache, so
she decided not to go to school. แปลว่า เจนรู้สึกปวดศีรษะ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่
จะไม่ไปโรงเรียน

8. ตอบข้อ c. - / the
อธิบาย ไม่ใช้ article กับชื่อยอดเขา (มียอดเขาเดียว) แต่จะใช้ the กับเทือกเขา (มี
หลายยอดเขา) ดังนั้นจึงไม่ใส่ article ที่ Mount Everest แต่ใส่ the ที่หน้า Himalayas
ประโยค Mount Everest is in the Himalayas, a huge mountain range in the
continent of Asia. แปลว่า ยอดเขาเอเวอเรสต์อยู่ที่เทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเป็นเทือกเขาใหญ่
ในทวีปเอเชีย

9. ตอบข้อ c. an / an
อธิบาย ใช้ an น�ำหน้า umbrella เพราะตัว u ออกเสียงเป็นเสียงสระ เช่นเดียวกับ
hour ขึ้นด้วยตัว h แต่ออกเสียงเป็นเสียงสระ ประโยค I have been waiting for a man
with an umbrella for an hour. แปลว่า ฉันรอผู้ชายที่ถือร่มมาประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้ว
26 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

10. ตอบข้อ a. - / - / -
อธิบาย ไม่ใช้ article น�ำหน้าชือ่ วิชา ประโยค I study Math, Science and English
แปลว่า ฉันเรียนวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ

11. ตอบข้อ c. an / The

อธิบาย orange ตัว o ออกเสียงเป็นเสียงสระ จึงใช้ an น�ำหน้า และเมื่อถูกกล่าวถึง
เป็นครั้งที่สอง จะถือว่าเป็นการชี้เฉพาะเจาะจงถึงของสิ่งนั้น จึงใช้ The ประโยค My father
bought an orange from the farmer. The orange was juicy and sweet. แปลว่า
พ่อของฉันซื้อส้มมาหนึ่งลูกจากชาวสวน ส้มผลนี้ฉ�่ำน�้ำและหวานมาก

12. ตอบข้อ a. -
อธิบาย ค�ำนามทีเ่ ป็นชือ่ เทือกเขาและหมูเ่ กาะจะใช้ the น�ำหน้า แต่ในกรณีทเี่ ป็น ยอด
เขาเดี่ยว เกาะเดี่ยว จะไม่ใช้ article เกาะสมุยไม่ใช่หมู่เกาะ จึงไม่ใช้ the ประโยค Samui
Island is in the south of Thailand. แปลว่า เกาะสมุยตั้งอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย

13. ตอบข้อ c. A / the

อธิบาย man หมายถึง ผูช้ ายคนเดียว ไม่ชเี้ ฉพาะเจาะจง จะใช้ A น�ำหน้า ส่วน house
แปลว่า บ้าน เป็นค�ำนามนับได้ กรณีมีหลังเดียว เป็นบ้านหลังใดก็ได้ที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจงจะ
ใช้ a น�ำหน้า หากเป็นบ้านหลังที่ต้องการชี้เฉพาะเจาะจงจะใช้ the ประโยค A man and
four girls are walking to the house near that university. แปลว่า ผู้ชายหนึ่งคน
และผู้หญิงอีกสี่คนก�ำลังเดินไปบ้านที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยแห่งนั้น

14. ตอบข้อ a. A / -
อธิบาย ripe banana แปลว่า กล้วยสุก เป็นค�ำนามนับได้ จึงใช้ a น�ำหน้า ส่วน milk
เป็นค�ำนามนับไม่ได้ จึงไม่ใส่ article ประโยค A ripe banana is sweet, but milk
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 27

is not. แปลว่า กล้วยสุกหวานแต่นมไม่หวาน

15. ตอบข้อ c. the

อธิบาย United Kingdom แปลว่า สหราชอาณาจักร เป็นชื่อประเทศที่ต้องใช้ the
น�ำหน้า ประโยค I would like to apply for an English course in the United
Kingdom. แปลว่า ฉันอยากจะสมัครลงทะเบียนคอร์สเรียนภาษาอังกฤษในสหราชอาณาจักร

16. ตอบข้อ a. A
อธิบาย ค�ำว่า university ขึ้นต้นด้วยตัว u แต่ออกเสียงเป็นเสียงพยัญชนะ จึงใช้ a
น�ำหน้า และไม่ใช้ the เพราะในประโยคนีก้ ล่าวถึงมหาวิทยาลัยแห่งใดก็ได้ ไม่ชเี้ ฉพาะเจาะจง
ประโยค A university is a place where one learns to think. แปลว่า มหาวิทยาลัย
คือสถานที่ที่ผู้คนเรียนรู้ที่จะคิด

17. ตอบข้อ b. - / the / the

อธิบาย ไม่ใช้ article น�ำหน้าชื่อประเทศ ยกเว้น the United States ที่แปลว่า
สหรัฐอเมริกา และ the United Kingdom ที่แปลว่า สหราชอาณาจักร ส่วน Maldives
เป็นหมู่เกาะ จึงใช้ the น�ำหน้า ประโยค My family will take a trip to Malaysia,
the Maldives and the United States. แปลว่า ครอบครัวของฉันจะไปเที่ยวที่ประเทศ
มาเลเซีย, หมู่เกาะมัลดีฟและสหรัฐอเมริกา

18. ตอบข้อ a. the / the

อธิบาย ใช้ the น�ำหน้าค�ำคุณศัพท์ขั้นสูงสุด และค�ำว่า world แปลว่า โลก เป็นสิ่ง
ที่มีเพียงหนึ่งเดียว จึงใช้ the น�ำหน้าเช่นกัน ประโยค Natalie is the most beautiful
woman in the world. แปลว่า นาตาลีเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก
28 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

19. ตอบข้อ c. - / -
อธิบาย men และ women เป็นค�ำนามพหูพจน์ ไม่สามารถใช้ a น�ำหน้าได้ ใน
ประโยคนีก้ ล่าวถึงผู้ชายและผู้หญิงทัว่ ๆ ไป ไม่ชเี้ ฉพาะเจาะจง จึงไม่ใช้ the น�ำหน้า ประโยค
Men usually like beautiful women. แปลว่า ผู้ชาย (หลายคน) โดยปกติแล้วจะชอบผู้
หญิง (หลายคน) ที่สวยๆ

20. ตอบข้อ b. A / a/ -
อธิบาย book และ movie เป็นนามเอกพจน์ที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง จึงใช้ a น�ำหน้า
ส่วน smile เป็นค�ำกริยา จึงไม่ใส่ article ประโยค A good book and a good movie
can always make you smile. แปลว่า หนังสือดีๆ สักเล่มและภาพยนตร์ดีๆ สักเรื่อง
สามารถท�ำให้คุณยิ้มได้เสมอ

1.1.2) Singular Noun / Plural Noun

Singular Noun / Plural Noun (ค�ำนามเอกพจน์ / ค�ำนามพหูพจน์) ค�ำนาม
นับได้จะมีทั้งรูปเอกพจน์และพหูพจน์ ดังนี้
ค�ำนามเอกพจน์ (มี 1 หน่วย) ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง ให้ใช้ article คือ a หรือ an
น�ำหน้า
ค�ำนามพหูพจน์ (มีมากกว่า 1 หน่วย) ให้เติม -s ข้างหลังค�ำ เช่น books, dogs,
friends ยกเว้นค�ำนามนับได้บางค�ำ ซึ่งมีกฎการเปลี่ยนรูปค�ำเป็นรูปพหูพจน์ ดังนี้

1. ค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นสระ a, e, i, o, u

ให้เติม -s ข้างหลังค�ำได้เลย เช่น
a boy (เด็กผู้ชายหนึ่งคน) boys (เด็กผู้ชายหลายคน)
a day (วันหนึ่งวัน) days (วันหลายวัน)
a play (ละครหนึ่งเรื่อง) plays (ละครหลายเรื่อง)
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 29

2. ค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y ไม่ใช่สระ a, e, i, o, u

ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม -es ข้างหลังค�ำ เช่น
a lady (สุภาพสตรีหนึ่งท่าน) ladies (สุภาพสตรีหลายท่าน)
a country (ประเทศหนึ่งประเทศ) countries (ประเทศหลายประเทศ)
a party (งานเลี้ยงหนึ่งงาน) parties (งานเลี้ยงหลายงาน)

3. ค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s, sh, ss, ch, x, z, sh ให้เติม -es

ข้างหลังค�ำ เช่น
a class (ห้องเรียนหนึ่งห้อง) classes (ห้องเรียนหลายห้อง)
a watch (นาฬิกาข้อมือหนึ่งเรือน) watches (นาฬิกาข้อมือหลายเรือน)
a witch (แม่มดหนึ่งคน) witches (แม่มดหลายคน)
a box (กล่องหนึ่งกล่อง) boxes (กล่องหลายกล่อง)

4. ค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe ให้ตัด f หรือ fe ออก แล้ว

เติม -ves เช่น
a loaf (ก้อนขนมปังหนึ่งก้อน) loaves (ก้อนขนมปังหลายก้อน)
a wife (ภรรยาหนึ่งคน) wives (ภรรยาหลายคน)
a leaf (ใบไม้หนึ่งใบ) leaves (ใบไม้หลายใบ)
a knife (มีดหนึ่งเล่ม) knives (มีดหลายเล่ม)

5. ค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์บางค�ำมีรูปพหูพจน์เหมือนค�ำเดิม เช่น
a sheep (แกะตัวเดียว) sheep (แกะหลายตัว)
a deer (กวางตัวเดียว) deer (กวางหลายตัว)
a fish (ปลาตัวเดียว) fish (ปลาหลายตัว)

30 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

6. ค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์บางค�ำจะมีรูปพหูพจน์แตกต่างไปจากค�ำเดิม ต้องอาศัย
การจดจ�ำ เช่น
a man (ผู้ชายหนึ่งคน) men (ผู้ชายหลายคน)
a woman (ผู้หญิงหนึ่งคน) women (ผู้หญิงหลายคน)
a child (เด็กหนึ่งคน) children (เด็กหลายคน)
a person (คนหนึ่งคน) people (คนหลายคน)
a tooth (ฟันหนึ่งซี่) teeth (ฟันหลายซี่)
a foot (เท้าหนึ่งเท้า) feet (เท้าหลายเท้า)
a mouse (หนูหนึ่งตัว) mice (หนูหลายตัว)

7. ค�ำนามนับได้บางค�ำจะมีเพียงรูปพหูพจน์ คือ ต้องมี -s ข้างหลังค�ำเสมอ ให้

สังเกตว่าเป็นสิ่งของที่มีสองข้าง เช่น กางเกง แว่นตา กรรไกร เช่น
trousers (กางเกงขายาว) shorts (กางเกงขาสั้น) jeans (กางเกงยีน)
glasses (แว่นตา) scissors (กรรไกร)

ตัวอย่างข้อสอบ
1. The ___________ spent six ________ travelling in foreign _________.
a. ladies / days / countrys b. ladys / days / countrys
c. ladies / daies / countries d. ladies / days / countries

2. There are ___________ in the tank.

a. a fish b. fish
c. fishes d. one fish
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 31

3. I bought a ___________ and gave it to my friend.

a. sandwich b. sugar
c. milk d. rice

4. Two bars of ___________ are pink.

a. coffee b. soap
c. chalk d. paper

5. Please buy me a ___________ of rice.

a. dishes b. dish
c. dishs d. ditch

6. There are four ___________ in my ___________.

a. persons / family b. people / family
c. peoples / families d. people / families

7. She uses a ___________ to cut ___________.

a. knife / apples b. knives / apples
c. knife / apple d. knives / apple

8. The ___________ are playing outside the house.

a. child b. childs
c. children d. childrens
32 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

9. ___________ are different.

a. Potatoes and tomatoes b. Potato and tomato
c. Potatos and tomatos d. Potato and tomatos

10. I saw the ___________ and ___________ in the zoo.

a. deer / sheep b. deer / sheeps
c. deers / sheep d. deers / sheeps

11. A ___________ and two ___________ stood in front of the library.

a. man / woman b. man / women
c. men / womans d. men / women

12. A gang of ___________ broke into the bank last month.

a. thief b. thiefs
c. thieves d. thievs

13. One of the most interesting ___________ was written by her.

a. book b. a book
c. books d. books

14. A monster have black ___________ and ___________.

a. tooth / foot b. toothes / foots
c. teeth / feet d. teeths / feets
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 33

15. I have received ___________ from reading and searching.

a. information b. an information
c. informations d. the informations

16. The ___________ and ___________ in this shop are expensive.

a. clockes / watchs b. clocks / watchs
c. clocks / watches d. clockes / watches

17. We tried to call ___________, but the line was busy.

a. the police b. a policemen
c. a police d. policeman

18. ___________ and ___________ are raised in their farms.

a. Hen / Ox b. Hens / Oxes
c. Henes / Oxen d. Hens / Oxen

19. Please bring a bottle of ___________ to the party.

a. cake b. bread
c. wine d. pork

20. Many pieces of ___________ are nice and cheap.

a. furniture b. furnitures
c. a furniture d. a furnitures
34 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

21. She has travelled to many ___________ in the world.

a. country b. countries
c. countrys d. countryies

22. A beggar wants two ___________.

a. loafs of breads b. loaves of breads
c. loaves of bread d. loaf of bread

23. Three ___________ are now in the bin.

a. toothbrushes b. toothbrushs
c. teethbrushes d. teethbrushs

24. The girl cut the paper with ___________.

a. a scissor b. scissors
c. a scissors d. scissors

25. Please give me ___________. I want to take a message.

a. a paper b. papers
c. a piece of paper d. pieces of papers

26. I left a ___________ on the table.

a. ten-pages sheet b. ten-page sheets
c. ten-pages sheets d. ten-page sheet
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 35

27. ___________ is grown in Thailand.

a. A rice b. Rices
c. Rice d. A rices

28. ___________ fall from the trees.

a. Leaf b. Leafs
c. Leafes d. Leaves

29. ___________are sweet, but ___________ is sweeter.

a. Candys / a sugar b. Candies / sugar
c. Candys / sugar d. A candy / a sugar

30. A cat is running after ___________.

a. a mice b. a mouse
c. mices d. mouses

เฉลยข้อสอบ
1. ตอบข้อ d. ladies / days / countries
อธิบาย รูปพหูพจน์ของค�ำว่า lady และ country ต้องเปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม
-es ส่วนค�ำว่า day หน้า y เป็นสระ a จึงเติม -s ได้เลย ประโยค The ladies spent
six days travelling in foreign countries. แปลว่า สุภาพสตรีหลายคนใช้เวลาหกวัน
ในการไปเที่ยวต่างประเทศ

2. ตอบข้อ b. fish
อธิบาย ค�ำว่า there are หมายถึง มีสิ่งของหลายสิ่ง จึงใช้ค�ำนามพหูพจน์ ซึ่งรูป
36 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

พหูพจน์ของค�ำว่า fish ก็คือ fish ประโยค There are fish in the tank. แปลว่า มีปลา
มากมายอยู่ในตู้

3. ตอบข้อ a. sandwich
อธิบาย a ใช้กับค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์ จากตัวเลือก มีเพียง sandwich เท่านั้น
ที่เป็นนามนับได้รูปเอกพจน์ ส่วน sugar, milk และ rice เป็นค�ำนามนับไม่ได้ ไม่สามารถ
ใช้ a น�ำหน้าได้ ประโยค I bought a sandwich and gave it to my friend. แปลว่า
ฉันซื้อแซนด์วิชมาหนึ่งชิ้นและให้เพื่อนของฉัน

4. ตอบข้อ b. soap
อธิบาย ค�ำว่า bar เป็นลักษณะนามที่ใช้กับ soap ประโยค Two bars of soap are
pink. แปลว่า สบู่สองก้อนนั้นสีชมพู

5. ตอบข้อ b. dish
อธิบาย a ใช้น�ำหน้าค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์ ในข้อนี้คือ dish ประโยค Please buy
me a dish of rice. แปลว่า โปรดซื้อข้าวให้ฉันหนึ่งจาน

6. ตอบข้อ b. people / family

อธิบาย ค�ำว่า people เป็นรูปพหูพจน์ของ person แปลว่า บุคคล ส่วน my family
แปลว่า ครอบครัวของฉัน เป็นค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์ ประโยค There are four people
in my family. แปลว่า ครอบครัวของฉันมีสมาชิกสี่คน

7. ตอบข้อ a. knife / apples

อธิบาย a ใช้น�ำหน้าค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์ จึงใช้ค�ำว่า knife ส่วน apple เป็นค�ำ
นามนับได้ เมื่อเปลี่ยนเป็นรูปพหูพจน์จึงใช้ apples ประโยค She uses a knife to cut
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 37

apples. แปลว่า เธอใช้มีดหนึ่งเล่มเพื่อปอกแอปเปิลหลายผล

8. ตอบข้อ c. children
อธิบาย ค�ำว่า are ใช้กับค�ำนามนับได้รูปพหูพจน์ จึงเป็นค�ำว่า children ซึ่งเป็น
รูปพหูพจน์ของ a child ประโยค The children are playing outside the house.
แปลว่า เด็กหลายคนก�ำลังวิ่งเล่นอยู่ข้างนอกบ้าน

9. ตอบข้อ a. Potatoes and tomatoes

อธิบาย รูปพหูพจน์ของค�ำว่า potato คือ potatoes และ tomato คือ tomatoes
ประโยค Potatoes and tomatoes are different. แปลว่า มันฝรั่งหลายลูกและ
มะเขือเทศหลายลูกแตกต่างกัน

10. ตอบข้อ a. deer / sheep

อธิบาย รูปพหูพจน์ของค�ำว่า deer และ sheep เหมือนค�ำเดิม ประโยค I saw the
deer and sheep in the zoo. แปลว่า ฉันเห็นกวางและแกะในสวนสัตว์

11. ตอบข้อ b. man / women

อธิบาย a ใช้กับค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์ จึงใช้ a man ส่วน two หมายถึง จ�ำนวน
สอง ซึ่งเป็นรูปพหูพจน์ จึงใช้ค�ำว่า woman ในรูปพหูพจน์คือ women ประโยค A man
and two women stood in front of the library. แปลว่า ผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิง
อีกสองคนยืนอยู่ข้างหน้าห้องสมุด

12. ตอบข้อ c. thieves

อธิบาย ค�ำว่า gang แปลว่า กลุม่ คน ใช้กบั ค�ำนามนับได้รปู พหูพจน์ ซึง่ รูปพหูพจน์ของ
thief คือ thieves ประโยค A gang of thieves broke into the bank last month.
38 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

แปลว่า มีกลุ่มโจรได้บุกเข้าไปปล้นธนาคารเมื่อเดือนที่แล้ว

13 ตอบข้อ c. books
อธิบาย ค�ำว่า one of the... แปลว่า หนึ่งในบรรดา ใช้กับค�ำนามนับได้รูปพหูพจน์
ในข้อนี้ books เป็นค�ำนามพหูพจน์ ประโยค One of the most interesting books was
written by her. แปลว่า หนึ่งในบรรดาหนังสือหลายเล่มที่น่าสนใจที่สุดถูกเขียนโดยเธอ

14. ตอบข้อ c. teeth / feet

อธิบาย รูปพหูพจน์ของค�ำว่า tooth คือ teeth ส่วนรูปพหูพจน์ของค�ำว่า foot คือ
feet ประโยค A monster have black teeth and feet. แปลว่า สัตว์ประหลาดหนึ่งตัว
มีฟันและเท้าสีด�ำ

15. ตอบข้อ a. information

อธิบาย ค�ำว่า information เป็นค�ำนามนับไม่ได้ จึงไม่ใช้ an น�ำหน้าและไม่มีรูป
พหูพจน์ ประโยค I have received information from reading and searching. แปล
ว่า ฉันได้รับข้อมูลมากมายจากการอ่านและค้นคว้า

16. ตอบข้อ c. clocks / watches

อธิบาย รูปพหูพจน์ของค�ำว่า clock คือ clocks ส่วนรูปพหูพจน์ของค�ำว่า watch
คือ watches ประโยค The clocks and watches in this shop are expensive.
แปลว่า นาฬิกาแบบแขวนและนาฬิกาข้อมือหลายเรือนในร้านค้านี้มีราคาแพงมาก

17. ตอบข้อ a. the police

อธิบาย ค�ำว่า police เป็นพหูพจน์แม้ว่าจะไม่เติม -s ส่วนค�ำว่า policeman รูป
เอกพจน์จะใช้ a น�ำหน้า a policeman หมายถึง ต�ำรวจหนึ่งคน รูปพหูพจน์จะใช้ police-
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 39

men หมายถึง ต�ำรวจหลายคน ประโยค We tried to call the police, but the line
was busy. แปลว่า พวกเราพยายามโทรหาเจ้าหน้าที่ต�ำรวจแต่สายไม่ว่าง

18. ตอบข้อ d. Hens / oxen

อธิบาย รูปพหูพจน์ของค�ำว่า hen คือ hens รูปพหูพจน์ของค�ำว่า ox คือ oxen
ประโยค Hens and oxen are raised in their farms. แปลว่า แม่ไก่หลายตัวและวัว
หลายตัวถูกเลี้ยงในฟาร์มของพวกเขา

19. ตอบข้อ c. wine

อธิบาย ค�ำว่า bottle แปลว่า ขวด ใช้กับ wine ไม่สามารถใช้กับค�ำนามในข้ออื่นๆ
ได้ ประโยค Please bring a bottle of wine to the party. แปลว่า โปรดน�ำไวน์หนึ่ง
ขวดมาที่งานเลี้ยงด้วย

20. ตอบข้อ a. furniture

อธิบาย ค�ำว่า furniture เป็นค�ำนามนับไม่ได้ ไม่สามารถใช้ a น�ำหน้าได้และไม่มีรูป
พหูพจน์ ประโยค Many pieces of furniture are nice and cheap. แปลว่า เฟอร์นิเจอร์
หลายชิ้นมีคุณภาพดีและราคาถูก

21. ตอบข้อ b. countries

อธิบาย ค�ำว่า many แปลว่า มากมาย ใช้กับค�ำนามพหูพจน์ รูปพหูพจน์ของค�ำว่า
country คือ countries ประโยค She has travelled to many countries in the
world. แปลว่า เธอได้ไปเที่ยวหลายประเทศมากมายในโลก

22. ตอบข้อ c. loaves of bread

อธิบาย รูปพหูพจน์ของค�ำว่า loaf คือ loaves ส่วนค�ำว่า bread เป็นค�ำนามนับ
40 ฟิตอังกฤษ พิชิต EP

ไม่ได้ จึงไม่มีรูปพหูพจน์ ประโยค A beggar wants two loaves of bread. แปลว่า

คนขอทานคนหนึ่งอยากได้ขนมปังสองก้อน

23. ตอบข้อ a. toothbrushes

อธิบาย รูปพหูพจน์ของค�ำว่า toothbrush คือ toothbrushes ประโยค Three
toothbrushes are now in the bin. แปลว่า แปรงสีฟันสามด้ามอยู่ในถังขยะตอนนี้

24. ตอบข้อ b. scissors

อธิบาย ค�ำว่า scissors เป็นรูปพหูพจน์เสมอ ประโยค The girl cut the paper
with scissors. แปลว่า เด็กผู้หญิงตัดกระดาษด้วยกรรไกร

25. ตอบข้อ c. a piece of paper

อธิบาย ค�ำว่า paper เป็นค�ำนามนับไม่ได้ จึงไม่สามารถเติม -s ได้ แต่จะนับเป็นแผ่น
คือ piece ประโยค Please give me a piece of paper. I want to take a message.
แปลว่า ขอกระดาษให้ฉันหนึ่งแผ่น ฉันต้องการที่จะจดข้อความ

26. ตอบข้อ d. ten-page sheet

อธิบาย a ใช้กับค�ำนามนับได้รูปเอกพจน์ ในข้อนี้คือค�ำว่า sheet ส่วน ten-page
เป็นส่วนขยาย จึงไม่เติม -s ที่ page ประโยค I left a ten-page sheet on the table.
แปลว่า ฉันทิ้งเอกสารสิบหน้าไว้บนโต๊ะ

27. ตอบข้อ c. Rice

อธิบาย ค�ำว่า rice เป็นค�ำนามนับไม่ได้และไม่มรี ปู พหูพจน์ จึงไม่ใช้ a น�ำหน้า ประโยค
Rice is grown in Thailand. แปลว่า ข้าวถูกปลูกในประเทศไทย
 ดร. พี่นุ้ย - สมิตา หมวดทอง 41

28. ตอบข้อ d. Leaves

อธิบาย ค�ำว่า fall เป็นค�ำกริยาไม่เติม -s ใช้กับประธานของประโยคที่เป็นพหูพจน์
รูปพหูพจน์ของค�ำว่า Leaf คือ Leaves ประโยค Leaves fall from the trees. แปลว่า
ใบไม้หลายใบร่วงจากต้นไม้หลายต้น

29. ตอบข้อ b. Candies / sugar

อธิบาย ค�ำว่า are ใช้กับค�ำนามนับได้รูปพหูพจน์ รูปพหูพจน์ของค�ำว่า candy คือ
candies ส่วนค�ำว่า sugar เป็นค�ำนามนับไม่ได้จึงไม่มีรูปพหูพจน์ และไม่ใช้ a น�ำหน้า
ประโยค Candies are sweet, but sugar is sweeter. แปลว่า ลูกอม (หลายชิ้น) มี
รสชาติหวานแต่น�้ำตาลหวานกว่า

30. ตอบข้อ b. a mouse

อธิบาย ค�ำว่า mouse มีรูปพหูพจน์ คือ mice ประโยค A cat is running after
a mouse. แปลว่า แมวหนึ่งตัวก�ำลังวิ่งไล่หนูหนึ่งตัว

1.1.3) การใช้ many / much, a lot of / lots of, some /

any, few / a few / little / a little
1. many / much
many / much แปลว่า มากมาย
many ใช้กับค�ำนามนับได้รูปพหูพจน์ เช่น
many flowers (ดอกไม้มากมาย) many students (นักเรียนมากมาย)
many children (เด็กมากมาย) many people (ผู้คนมากมาย)
much ใช้กับนามนับไม่ได้ เช่น
much rice (ข้าวมากมาย) much sugar (น�้ำตาลมากมาย)
much milk (นมมากมาย)