You are on page 1of 2

ปี 1 ทั้ง 2 เทอมมีเรียน Longitudinal Course

ศาลายา ปี 2 จะจัดทุกวันศุกร์ เป็นการเสริม skill 3 ด้าน ได้แก่


เทอม 1
ยังเรียน ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ แคล 1. Clinical foundation (Clinical skill)
แต่อ.ปรับเนื้อหาให้เบาลง และมี application ทางการแพทย์มากขึ้น - Early clinical exposure (ECE) คือเจอคนไข้แต่เนิ่นๆ เรียนในบล็อคมาแล้ว ก็มา
เทอม 2 เจอคนไข้
1. Organic Chem
2. Biochem ปูพื้นคลินิก ตั้งแต่อยู่พรีคลินิก
3. Basic Anatomy ซึ่งจะมีระบบ mentoring system อาจารย์ 1 คน นศพ. 5 คนครับ
4. Basic Micro
วิชาที่ 2-4 เป็นวิชาที่อ.รามาสอนเอง อาจารย์พาไปดูวอร์ด ไปคุยกับคนไข้ตั้งแต่ ปี 2
และมี Introduction to research เพื่อปูพื้นฐานการทําวิจัย ไปวอร์ดผู้ป่วย ไปห้องผ่าตัด ห้องคลอด หรือ OPD เพื่อให้น้องได้เห็นสภาพความเป็น
ปี 2 อยู่ผู้ป่วยจริงๆ ตั้งแต่ยังอยู่พรีคลินิก
มาอยู่ที่จักรีจะมี เรียนเป็น block ดังนี้
เทอม 1 พาไปกินข้าว 4 ครั้งต่อปีเป็นอย่างน้อย เพื่อรับ feedback จากนศพ. จะมีให้นศพ.
1. Anatomy 7 Wk สอบในบล็อค Reflection ว่าตัวเองได้อะไรบ้างจากกิจกรรมในแต่ละครั้ง
2. Principle of Physio &Pharmaco และยังมีการสอน Communication Skill ทักษะในการพูดคุยกับผู้ป่วย พร้อมไปคุยกับ
3. Antimicrobial Agents
สอบ ผู้ป่วยจริงๆ
4. Basic Immuno - Physical Examination (การตรวจร่างกาย)
5. Hematology
สอบ ฝึกการตรวจร่างกายระบบต่างๆ เรียนในเทอม 2
เทอม 2 สอดคล้องไปกับระบบที่เรียนในวันจันทร์-พฤหัสบดี (CVS, Respire, GI)
1. Cardio ระบบหลอดเลือและหัวใจ - Symptomatology (อาการวิทยา) เช่น ผู้ป่วยมาด้วยเป็นลมหน้ามืด มาด้วยเจ็บ
2. Respire ระบบหายใจ
3. Renal ไตและระบบขับถ่าย หน้าอก มาด้วยนํ้าหนักเปลี่ยนแปลง มาด้วยเหลือง มาด้วยแขนขาอ่อนแรง
4. GI ระบบทางเดินอาหาร
เรียนตั้งแต่ 2. Teamwork and Leadership
"Structure"ได้แก่ ฝึก soft skill เช่น active listening feedback ทํางานเป็นทีม
- ทบทวน Anatomy และ Embryology 3. Research Skill
ที่เคยเรียนมาตอนเทอม 1
- ส่องกล้อง Histology สอนเพื่อให้มีทักษะการทําวิจัย เน้นให้มี research mind เรียนต่อเนื่องจากปี 1
ปี 3
"Normal Function" ใน Physiology สรีรวิทยา
เทอม 1
"Abnormal Function" ใน Pathophysiology
มักเรียนต่อเนื่องจาก Physiology 1. Genetics
2. Endocrine
Abnormal Structure เมื่อเรียนปกติแล้วก็มาดูที่ผิดปกติใน Pathology
3. Repro
การใช้ยาเบื้องต้น ใน Pharmacology
4. Neuro I
และปิดท้ายด้วย Clinical Correlation ที่จะเป็นเคสผู้ป่วย และมีอาจารย์คลินิกมาสอน 5. Neuro 2
6. Musculoskeletal
เทอม 2
1. Community Medicine
2. Clinical Immuno and Micro
3. Nutrition
4. Transfusion Medicine
เรียน longitudinal วันพฤหัส สามวิชา ภาคต่อจากปี 2
ปี4-6
อยู่บนวอร์ดที่จักรีเช่นกัน
มีมาวนพญาไทด้วย
ปี 6 เทอมนึงจะได้ไปวนข้างนอก โคราช สุพรรณ บุรีรัมย์ อยุธยา เลือก 2 จาก 4 ครับ
อาจารย์คลินิกที่จักรีโคตรจะใจดี รับฟังปัญหาเด็ก เราคิดว่าไม่จําเป็นต้อง pain ก็ gain
ได้ เราคุยกันด้วยเหตุผล อาจารย์ young staff ที่เราเยอะมากพอสมควร และด้วย
ความที่เราอยู่ภายใต้โรงเรียนแพทย์ พันธกิจหลักคือเรื่องการสอนนศพ. และแน่นอนว่า
อาจารย์จะ manage case หากมี case ไหนน่าเรียนรู้ในระดับนศพ.ชั้นคลินิก ก็จะพาไป
เรียนตรงนั้น ตอนนี้เคสที่จักรีอาจยังไม่เยอะมาก แต่เคสสวย เหมาะกับการเรียนรู้ ผม
ไม่แน่ใจว่าอาจจะมีบางวอร์ดน้องจะได้ไปวนที่รามาพี่ใหญ่ (พญาไท) ด้วยเช่นกัน เคสก็จะ
ซับซ้อนขึ้น

จักรีถูกตั้งขึ้นมาส่วนนึงเพื่อที่ให้น้องได้เรียนเคสที่พอเหมาะกับนศพ.ด้วย และไล่ลําดับ
ความยาก ความซับซ้อน ก็ที่พญาไท และยังไงปี 6 จะมีเทอมนึงที่ไปตจว.อยู่แล้ว
สนุกสนาน

หลักสูตรที่รามาเพิ่งปรับปีแล้ว ปีที่แล้วครับ ปีหนึ่งที่เข้าปี 63 เป็นปีแรกที่ได้เรียนหลักสูตร


ใหม่ครับ
เรารองรับรูปแบบการเรียนการสอนที่หลากหลายขึ้น เพราะเราเชื่อว่านักศึกษาแต่ละคนมีวิธี
การ input ข้อมูลที่ไม่เหมือนกัน บางคนชอบ e-learning ชอบสอนสด ชอบvdo ทบทวน
Self-pace learning คือเชื่อว่าแต่ละคนมีความเร็วในการเข้าใจเนื้อหาไม่เท่ากัน

ด้วยความที่อ.ทุกท่านจะต้องเข้าอบรม Medical Education ก่อน จึงมีความเข้าใจนักศึกษา


มากขึ้นด้วยครับ เรามีการเพิ่ม interactive lecture เข้ามา และมีการทดสอบ ที่ไม่เก็บ
คะแนน แต่จะเป็นการให้คําอธิบายว่าน้องผิดตรงไหน เพื่อเตรียมตัวก่อนการสอบจริงครับ

อาจารย์เซตใหม่ที่เข้ามาสอนพรีคลินิก ก็จะต้องผ่านการอบรม med ed เช่นกันครับ ดังนั้น mindset ตั้งต้น


คือเราจะเริ่มที่เด็กก่อนครับ ว่าเด็กต้องการแบบไหน เพิ่ม student engagement เข้าไป ล่าสุดมีแพลนว่า
อาจจะให้เด็กเข้ามามีส่วนร่วมในการปรับปรุงหลักสูตรด้วยครับ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูความเหมาะสมอีกทีครับ

สอบก็จะไม่ถี่เท่าเดิม จะกลายเป็นเทอมละสองถึงสามครั้งแทน

ตารางโล่งขึ้น เพื่อให้มีเวลาให้น้องได้ทวนเนื้อหา ทําความเข้าใจเนื้อหา คัดเท่าที่จําเป็นและนําไปใช้ได้ต่อ


ตอนอยู่คลินิก ตอนนี้มีแพลนว่าถ้าขึ้นคลินิกแล้วอาจจะให้อ.พรีคลินิกขึ้นไปทบทวนเนื้อหา เป็นการเรียนแบบ
spiral เพื่อทวนเนื้อหาที่เคยเรียนไปแล้ว แต่ตรงนี้อยู่ที่ตารางอีกทีนึงครับว่าจะสามารถจัดได้มั้ย

ตารางที่หลวมเพราะตัดที่ซํ้าและไม่จําเป็น แต่ถ้ามีตรงไหนต้องปรับปรุง ปลายเทอมเรามีการรับ feedback


นศพ.เพื่อนําไปปรับปรุงครับ เพื่อให้ดียิ่งๆขึ้นไป
อาจารย์ที่นี่ทั้งเก่าและใหม่ ขึ้นชื่อเรื่องการ empathy เด็กครับ รับฟัง ร่วมแก้ไข และปรับปรุง

หากน้องมีปัญหาสุขภาพใจ ก็มีทีมอาจารย์จากจิตเวชคอยให้คําแนะนําอย่างใกล้ชิดครับ

You might also like