Professional Documents
Culture Documents
Co-Founder Agreement Template
Co-Founder Agreement Template
คำอธิบายโดยสังเขป
การใช้งาน
ข้อสังเกต
โดยที่
1
โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ก่อตั้งมักจะเป็นบุคคลธรรมดา แต่ในบางกรณีก็อาจเป็นนิติบุคคลได้เช่นกัน โปรดเลือกใช้ตามสมควรแก่กรณี
2
เพื่อประโยชน์ในการตีความว่ากรณีใดจะถือว่าเป็นกรณีที่ไม่สามารถตกลงได้ ผู้ก่อตั้งอาจพิจารณากำหนดเพิ่มเติมเหตุการณ์ที่จะถือว่าเป็น
"กรณีที่ไม่สามารถตกลงได้"
1
“ก่อภาระติดพัน” หมายถึง จำนำ จำนอง นำไปเป็ นหลักประกัน ก่อภาระผูกพันต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง ภาระติดพัน
สิทธิยึดหน่วง สิทธิเรียกร้อง สิทธิในการปฏิเสธก่อน สิทธิในการได้รับซื้อก่อน และสิทธิหรือผลประโยชน์อื่นใด การ
จำกัดสิทธิออกเสียงลงคะแนนหรือการกระทำในประการอื่นใดอันมีลักษณะเดียวกัน ยกเว้นภาระติดพันตามที่
ระบุไว้ภายใต้สัญญาฉบับนี้
“ผู้ถือหุ้นที่ไม่ให้ความร่วมมือ” หมายถึง
2
“ราคาเสนอซื้อหุ้น” มีความหมายตามที่กำหนดในข้อ 6.3(1)(ค)
3
โดยปกติ ผู้ก่อตั้งทุกฝ่ ายจะต้องร่วมกันดำเนินการจัดเตรียมข้อบังคับ (กรณียังไม่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท) หรือดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมข้อ
บังคับ (กรณีจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้ว) ให้เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขตามที่ระบุในสัญญาระหว่างผู้ก่อตั้ง และนำข้อบังคับของบริษัทฯ
ดังกล่าวไปจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้มีผลและเป็นที่รับทราบต่อบุคคลภายนอกอื่นใดที่อาจเข้าทำธุรกรรมใด ๆ กับบริษัทฯ ทั้งนี้
ข้อความที่จะระบุไว้ในข้อบังคับของบริษัทจะต้องได้รับการพิจารณาและเป็นดุลพินิจของนายทะเบียน ซึ่งหากปรากฏข้อตกลงที่สิทธิของผู้ถือหุ้น
ที่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่มีการกำหนดหน้าที่หรือจำกัดความรับผิดที่อาจขัดต่อกฎหมาย นายทะเบียนอาจขอไม่รับจดทะเบียน
ข้อบังคับที่มีข้อความดังกล่าว หรือขอให้แก้ไขข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะรับจดทะเบียน อย่างไรก็ดี ในกรณีที่ข้อตกลงในสัญญาระหว่างผู้ก่อ
ตั้งข้อได้ไม่ได้ระบุไว้ในข้อบังคับ ไม่ว่าด้วยเหตุใด ข้อตกลงดังกล่าวก็จะมีผลผูกพันบังคับใช้ได้ระหว่างคู่สัญญาของสัญญาระหว่างผู้ก่อตั้ง
เท่านั้น
4
กรณีที่บริษัทฯ ยังไม่เคยมีการจดทะเบียนข้อบังคับของบริษัทฯ กับกระทรวงพาณิชย์
5
กรณีที่บริษัทฯ ได้มีการจดทะเบียนข้อบังคับของบริษัทฯ กับกระทรวงพาณิชย์ไว้ก่อนแล้ว
3
4. ขอบข่ายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
6
โปรดนำข้อความนี้ออกหากบริษัทฯ ยังไม่จดทะเบียนจัดตั้ง ณ วันที่สัญญามีผลใช้บังคับ
7
ค่าหุ้นขั้นต่ำที่กฎหมายอนุญาต คือ ร้อยละ 25 ของมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (ราคาพาร์)
8
โดยปกติแล้ว วิสาหกิจเริ่มต้นหรือบริษัทจำกัดในช่วงแรกก่อนที่จะมีผู้ลงทุนเข้ามามักจะมีแต่หุ้นสามัญเท่านั้น แต่หากบริษัทใดมีหุ้นบุริมสิทธิ
ด้วย สามารถกำหนดเพิ่มเติมในข้อนี้ได้เช่นกัน
9
ผู้ก่อตั้งอาจพิจารณาแบ่งกลุ่มของผู้ถือหุ้นในสัญญาฉบับนี้ เพื่อกำหนดสิทธิต่าง ๆ แก่ผู้ถือหุ้นแต่ละกลุ่มได้ตามที่จะตกลงกัน เช่น สิทธิของผู้
ถือหุ้นแต่ละกลุ่มในการเสนอชื่อบุคคลเพื่อรับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ เป็นต้น ตลอดจนการกำหนดสิทธิ อำนาจ และหน้าที่ในการบริหารจัดกา
รบริษัทฯ ของกรรมการที่ได้รับการเสนอชื่อโดยผู้ถือหุ้นแต่ละกลุ่ม เช่น อำนาจในการลงนามผูกพันบริษัทฯ ที่ผู้ก่อตั้งอาจพิจารณากำหนดให้เป็น
กรณีที่กรรมการที่ได้รับแต่งตั้งจากการเสนอชื่อของผู้ถือหุ้นทั้งสองกลุ่มร่วมกันลงนาม เป็นต้น
4
ลำดับ รายชื่อผู้ก่อตั้ง หมายเลขหุ้น กลุ่มของหุ้น จำนวนหุ้น สัดส่วนการถือ
หุ้น
10
ผู้ก่อตั้งอาจพิจารณากำหนดระยะเวลาห้ามการขาย โอน หรือจำหน่ายโดยประการใด ๆ ในหุ้นหรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ในหุ้นของบริษัทฯ ให้
แก่บุคคลภายนอกเป็นระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่ง โดยเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าว ผู้ก่อตั้งอาจกำหนดเงื่อนไขและขั้นตอนต่าง ๆ ที่ผู้ก่อตั้งซึ่ง
ประสงค์จะขาย โอน หรือจำหน่ายโดยประการอื่นใดซึ่งหุ้นหรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ในหุ้นแก่บุคคลภายนอกจะต้องปฏิบัติตามก่อนการจำหน่าย
จ่ายโอนหุ้นหรือสิทธิประโยชน์ในหุ้นนั้นให้แก่บุคคลภายนอก เช่น การให้สิทธิในการซื้อหุ้นก่อน (Right of First Refusal) แก่ผู้ก่อตั้งฝ่ าย
อื่น (กล่าวคือ ผู้ก่อตั้งที่ประสงค์จะจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นของบริษัทฯ ให้แก่บุคคลภายนอก ("ผู้ก่อตั้งที่เสนอขาย") จะต้องดำเนินการทำคำเสนอ
ขายหุ้นนั้นให้กับผู้ก่อตั้งรายอื่นก่อน โดยให้ผู้ก่อตั้งรายอื่นมีสิทธิในการตัดสินใจที่จะซื้อหุ้นดังกล่าวตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทฯ ของตน
ก่อน หลังจากนั้น หากผู้ก่อตั้งรายอื่นไม่ประสงค์จะซื้อหุ้นเหล่านั้นหรือหากยังมีหุ้นที่เหลือจากการเสนอขายผู้ก่อตั้งรายอื่น ผู้ก่อตั้งที่ประสงค์จะ
โอนหุ้นให้แก่บุคคลภายนอกจึงมีสิทธิที่จะขาย โอนหรือจำหน่ายโดยประการใด ๆ ในหุ้นของบริษัทฯ ไปยังบุคคลภายนอกได้) และการให้สิทธิ
ในการขายหุ้นตาม (Tag Along Right) แก่ผู้ก่อตั้งฝ่ ายอื่น (กล่าวคือ ในกรณีที่ผู้ก่อตั้งที่เสนอขายประสงค์ที่จะจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นของตน
ในสัดส่วนใดสัดส่วนหนึ่งที่ผู้ก่อตั้งตกลงกันไว้ให้แก่บุคคลภายนอก ให้ผู้ก่อตั้งรายอื่นมีสิทธิที่จะขอเข้าร่วมการจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นให้แก่บุคคล
ภายนอกในครั้งนี้ด้ วย) เป็นต้น
11
ผู้ก่อตั้งอาจตกลงร่วมกันว่า ภายในระยะเวลาหนึ่ง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาของสัญญานี้ หรือระยะเวลาที่กำหนดภายหลังจากการเข้าทำ
สัญญานี้ ห้ามมิให้ผู้ก่อตั้งคนใดขายหรือโอนหุ้นให้กับบุคคลภายนอก เพื่อป้ องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาสวมสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ก่อตั้งที่
กำหนดไว้ในสัญญานี้ และ/หรือ ข้อบังคับของบริษัท
5
ทั้งนี้ ผู้ก่อตั้งฝ่ ายที่โอนหุ้นจะต้องดำเนินการให้บุคคลภายนอกผู้รับโอนหุ้นหรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ใน
หุ้นเข้าลงนามและผูกพันตนในหนังสือผูกพันตามสัญญาตามแบบที่กำหนดไว้ในเอกสารแนบท้าย 1
(หนังสือผูกพันตามสัญญา) ของสัญญาฉบับนี้ เพื่อเข้ามาผูกพันตามสัญญาฉบับนี้ในฐานะผู้ถือหุ้นขอ
งบริษัทฯ และผู้ก่อตั้งทั้งหมดจะต้องมาทำความตกลงกันโดยสุจริตเกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไขของ
สัญญาระหว่างผู้ก่อตั้งฉบับใหม่ที่รองรับโครงสร้างการถือหุ้นหลังจากการโอนหุ้นดังกล่าว
(ก) ชื่อของบุคคลภายนอกที่จะซื้อหุ้น
(ข) จำนวนหุ้นที่จะขายทั้งหมด
(3) หากผู้ก่อตั้งที่ได้รับคำเสนอขายหุ้นส่งหนังสือใช้สิทธิในการซื้อหุ้นก่อนให้กับผู้ก่อตั้งที่
เสนอขายภายในระยะเวลาที่กำหนดในข้อ 6.3(2) ผู้ก่อตั้งที่เสนอขายจะต้องขายหุ้นที่จะ
ขายภายใต้จำนวน ราคา และข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่นใดที่เกี่ยวข้องที่ผู้ก่อตั้งที่ได้รับคำ
เสนอขายระบุไว้ในหนังสือใช้สิทธิในการซื้อหุ้นก่อน ให้แก่ผู้ก่อตั้งที่ได้รับคำเสนอขาย
รนั้น ๆ ให้เสร็จสิ้นภายใน [30 (สามสิบ)] วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือใช้สิทธิในการซื้อหุ้น
ก่อน
(4) ในกรณีที่ผู้ก่อตั้งที่ได้รับคำเสนอขายหุ้นไม่ใช้สิทธิในการซื้อหุ้นก่อนภายในระยะเวลาที่
กำหนด หรือปฏิเสธที่จะใช้สิทธิในการซื้อหุ้นก่อน ผู้ก่อตั้งที่เสนอขายจะมีสิทธิขายหุ้นที่จะ
ขายให้แก่บุคคลภายนอกตามที่ระบุไว้ในคำเสนอขายหุ้น ภายใน [90 (เก้าสิบ)] วันนับจาก
วันที่ระยะเวลาที่กำหนดในข้อ 6.3(2) สิ้นสุด โดยราคาขายหุ้นจะต้องเท่ากับราคาเสนอซื้อ
หุ้น และมีข้อตกลงและเงื่อนไขตามที่ได้ระบุไว้ในคำเสนอขายหุ้น
(2) ในกรณีที่ผู้ก่อตั้งที่ได้รับคำเสนอขายหุ้นมีหนังสือใช้สิทธิในการขายหุ้นตามภายใน
ระยะเวลาที่กำหนดในข้อ 6.4(1) ผู้ก่อตั้งที่เสนอขายจะต้องดำเนินการให้บุคคลภายนอกดัง
กล่าวซื้อหุ้นภายใต้ราคา ข้อตกลงและเงื่อนไขอย่างเดียวกับที่เสนอให้แก่ผู้ก่อตั้งที่เสนอขาย
ภายใน [90 (เก้าสิบ)] วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือใช้สิทธิในการขายหุ้น โดยในกรณีที่
บุคคลภายนอกไม่ประสงค์จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายโดยผู้ก่อตั้งที่เกี่ยวข้อง ผู้ก่อตั้งทั้งสอง
ฝ่ ายจะต้องโอนหุ้นในส่วนของตนให้แก่บุคคลภายนอกตามสัดส่วนที่ผู้ก่อตั้งแต่ละรายถืออยู่
ในบริษัทฯ]
(1) ผู้ก่อตั้งที่ต้องขายหุ้นจะต้องดำเนินการเสนอขายหุ้นทั้งหมดที่ตนถืออยู่ให้แก่ผู้ก่อตั้งที่มี
สิทธิซื้อหุ้น โดยจะต้องทำคำเสนอขายหุ้นไปยังผู้ก่อตั้งที่มีสิทธิซื้อหุ้นแต่ละฝ่ ายภายใน
[15 (สิบห้า)] วันนับจากวันที่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้ก่อตั้งกลายเป็ นผู้ก่อตั้งที่ต้องขายหุ้น
หรือกรรมการกลายเป็ นกรรมการผู้กระทำผิด แล้วแต่กรณี และ
12
เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ก่อตั้งแต่ละรายและป้ องกันการลดลงของสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ก่อตั้ง (Anti-dilution) ผู้ก่อตั้งอาจพิจารณา
กำหนดให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ (ข้อ 6.5 และ 6.6) แก่ผู้ก่อตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นของตนในสัญญาฉบับนี้ ทั้งนี้ เนื่องจาก
สิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนเป็นสิทธิภายใต้กฎหมายอยู่แล้ว ผู้ก่อตั้งในฐานะผู้ถือหุ้นจะมีสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนอยู่แล้ว ไม่
ว่าจะกำหนดในสัญญาฉบับนี้หรือไม่ก็ตาม
7
(2) ราคาเสนอขายต่อหุ้นจะต้องเท่ากับ[ร้อยละ [25 (ยี่สิบห้า)] ของราคาตลาดที่เป็ นธรรม
(Fair Market Value)] / [ราคาพาร์]]13
7.1. การบริหารจัดการบริษัทฯ
7.2. กรรมการ
ทั้งนี้ ผู้ก่อตั้งรับทราบและตกลงว่าในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นไปจากที่ระบุ
ไว้ใน ข้อ 5.1 สิทธิของผู้ก่อตั้งแต่ละกลุ่มในการเสนอชื่อบุคคลเพื่อรับการแต่งตั้งเป็ นกรรมการ
จะเปลี่ยนแปลงไปตามสัดส่วนการถือหุ้นดังกล่าวที่มีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ สิทธิในการ
13
ในกรณีที่ผู้ก่อตั้งจะต้องร่วมกันซื้อหุ้นที่กรรมการผู้กระทำผิดถืออยู่ ผู้ก่อตั้งมักจะกำหนดให้ราคาต่อหุ้นที่ผู้ก่อตั้งคนอื่น ๆ จะซื้อนั้นต่ำกว่า
ราคาตลาด เพื่อไม่ให้เป็นการสนับสนุนการกระทำผิดของกรรมการ โดยอาจกำหนดเป็นส่วนลดจากราคาตลาดที่เป็นธรรม เช่น ร้อยละ 25 หรือ
ร้อยละ 50 หรือกำหนดเป็นราคาพาร์ของหุ้นของบริษัทก็ได้
14
ในกรณีที่สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละกลุ่มไม่เท่ากันหรือกรณีอื่นใดจากการคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ทางด้านธุรกิจ ผู้ก่อตั้งอาจพิจารณา
ปรับเปลี่ยนจำนวนกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งโดยการเสนอชื่อจากผู้ถือหุ้นแต่ละกลุ่มตามความเหมาะสม
8
เสนอชื่อบุคคลเพื่อรับการแต่งตั้งเป็นกรรมการนี้จะรวมถึงสิทธิในการถอดถอนกรรมการดัง
กล่าวออกจากการดำรงตำแหน่งไม่ว่าขณะใดขณะหนึ่งด้วย
7.3. ประธานคณะกรรมการ15
7.4. การประชุมคณะกรรมการ
15
ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับประธานกรรมการในข้อนี้ ผู้ก่อตั้งอาจตกลงแตกต่างได้ตามความเหมาะสม
16
ผู้ก่อตั้งอาจตกลงแตกต่างไปจากนี้ได้ตามความเหมาะสม
17
ในกรณีที่สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละกลุ่มไม่เท่ากันหรือกรณีอื่นใดจากการคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ทางด้านธุรกิจ ผู้ก่อตั้งอาจพิจารณา
ปรับเปลี่ยนการกำหนดองค์ประชุมของคณะกรรมการตามความเหมาะสม
9
(5) มติของที่ประชุมคณะกรรมการต้องได้รับอนุมัติด้วยคะแนนเสียงข้างมากของจำนวน
กรรมการที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง โดยกรรมการแต่ละคนมีสิทธิลงคะแนนเสียง 1
(หนึ่ง) เสียง [เว้นแต่เป็นการลงมติในเรื่องต่อไปนี้ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม
คณะกรรมการด้วยคะแนนเสียงข้างมากของกรรมการที่เข้าร่วมประชุมและมีสิทธิออกเสียง
ลงคะแนน ซึ่งต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วยอย่างน้อย 1 (หนึ่ง) เสียงจากกรรมการ
กลุ่ม ก และ 1 (หนึ่ง) เสียงจากกรรมการกลุ่ม ข จึงจะถือเป็ นมติของที่ประชุมคณะ
กรรมการ ("เรื่องที่สงวนไว้ของคณะกรรมการ")18
(ง) การประกาศจ่ายเงินปันผลไม่ว่าในรูปแบบใด ๆ
18
ในกรณีที่มีเรื่องใดที่ผู้ก่อตั้งประสงค์ที่จะกำหนดวิธีการอนุมัติเป็นพิเศษ ซึ่งจะต้องอาศัยการอนุมัติเห็นชอบจากกรรมการทุกกลุ่ม หรือ
กรรมการกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ ผู้ก่อตั้งอาจพิจารณากำหนดเรื่องนั้นให้เป็นเรื่องที่สงวนไว้ของคณะกรรมการ
19
ผู้ก่อตั้งอาจพิจารณาเพิ่มเติมเหตุการณ์ที่ผู้ก่อตั้งพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นเหตุแห่งส่วนได้เสียที่ผู้ก่อตั้งแต่ละรายจะต้องเปิด
เผยให้คณะกรรมการของบริษัทฯ ทราบในส่วนนี้ตามความเหมาะสม
10
(ก) ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไม่ว่าในรูปแบบใด ๆ ที่ผู้ก่อตั้งจะเป็ นผู้ขาย ผู้รับจ้าง ผู้ให้
บริการ หรืออย่างอื่นในทำนองเดียวกันในธุรกรรมดังกล่าว (ไม่ว่าในทางตรงหรือทาง
อ้อม)
(ข) ได้มาซึ่งหุ้นหรือเงินลงทุนในองค์กรธุรกิจอื่นที่ผู้ก่อตั้งมีส่วนได้เสียในองค์กร
ธุรกิจดังกล่าวโดยการเป็ นผู้ถือหุ้น หุ้นส่วน หรือผู้รับผลประโยชน์ (ไม่ว่าในทางตรง
หรือทางอ้อม) ในองค์กรธุรกิจนั้น
(ค) ร่วมลงทุนในธุรกิจกับบุคคลหรือองค์กรธุรกิจอื่นที่ผู้ก่อตั้งมีส่วนได้เสียโดยการเป็น
หนึ่งในผู้ร่วมลงทุนหรือโดยการเป็ นผู้ถือหุ้น หุ้นส่วน หรือผู้รับผลประโยชน์ใน
องค์กรธุรกิจที่เป็ นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุน
7.6. การลงนามผูกพันบริษัท
20
ในกรณีที่สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละกลุ่มไม่เท่ากันหรือกรณีอื่นใดจากการคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ทางด้านธุรกิจ ผู้ก่อตั้งอาจพิจารณา
ปรับเปลี่ยนการกำหนดสัดส่วนกรรมการกลุ่ม ก และกรรมการกลุ่ม ข สำหรับการลงนามผูกพันบริษัทฯ ตามความเหมาะสม
21
ในกรณีที่บริษัทได้จดทะเบียนตราประทับ
11
8.4. ในการประชุมใหญ่ทุกครั้ง (รวมถึงการประชุมที่เลื่อนออกไป เว้นแต่เป็ นการประชุมของผู้ก่อตั้งเพื่อ
ไขข้อพิพาทในกรณีที่ไม่สามารถตกลงได้ในข้อ 10 ต้องประกอบด้วยผู้ถือหุ้นหรือผู้รับมอบฉันทะรวม
กันแทนหุ้นได้[ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง]ของทุนทั้งหมดของบริษัทฯ [โดยจะต้องประกอบด้วยผู้ถือหุ้นกลุ่มที่
1 อย่างน้อย 1 (หนึ่ง) คน และผู้ถือหุ้นกลุ่มที่ 2 อย่างน้อย 1 (หนึ่ง) คน]22 เข้าร่วมประชุมจึงจะครบ
เป็นองค์ประชุม
8.6. มติของที่ประชุมใหญ่ต้องได้รับอนุมัติด้วยคะแนนเสียงข้างมากของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออก
เสียงลงคะแนน ยกเว้นเรื่องที่สงวนไว้ดังต่อไปนี้จะกระทำโดยมติพิเศษเท่านั้น ซึ่งการลงคะแนนสำหรับ
เรื่องดังกล่าวจะต้องได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 (เจ็ดสิบห้า)
ของจำนวนเสียงของผู้ถือหุ้นทั้งหมดที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง ("เรื่องที่สงวนไว้ของผู้ถือหุ้น")23
(1) การแก้ไขเปลี่ยนแปลงหนังสือบริคณห์สนธิหรือข้อบังคับของบริษัทฯ
(2) การเพิ่มทุนหรือลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
(3) การออกหุ้นเพิ่มทุนซึ่งชำระด้วยสิ่งอื่นแทนเงิน
(4) การควบรวมบริษัท
(5) การชำระบัญชีหรือเลิกบริษัท
(7) การเปลี่ยนแปลงธุรกิจหลักของบริษัทฯ
(9) เรื่องอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้โดยมติพิเศษเท่านั้น
22
ผู้ก่อตั้งอาจกำหนดเพิ่มเติมให้องค์ประชุมของการประชุมผู้ถือหุ้นต้องประกอบด้วยผู้ถือหุ้นจากแต่ละกลุ่มอย่างน้อยกลุ่มละคนได้
23
ผู้ก่อตั้งอาจกำหนดเรื่องอื่น ๆ และ/หรืออาจกำหนดให้เรื่องที่สงวนไว้จะต้องได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นรายใดรายหนึ่ง หรือกลุ่ม
ใดกลุ่มหนึ่ง เพิ่มเติมนอกเหนือไปจากที่กฎหมายกำหนดได้
12
9. เป้ าหมายและสิ่งจูงใจ
9.1. เงินปันผล
ผู้ก่อตั้งตกลงว่าบริษัทจะไม่จ่ายเงินปันผล เว้นแต่จะมีมติของที่ประชุมคณะกรรมการและมติที่ประชุม
ผู้ถือหุ้นตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาฉบับนี้และข้อบังคับของบริษัทฯ และการจ่ายเงินปันผลใด
ๆ จะต้องไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
9.2. เงินโบนัสและเงินจูงใจ
11.1. การไม่ประกอบกิจการค้าแข่งกับกิจการของผู้ก่อตั้ง
11.2. การไม่ชักชวนหรือจูงใจ
13
ผู้ก่อตั้งทุกฝ่ ายตกลงว่าทรัพย์สินทางปัญญาใด ๆ ที่บริษัทฯ ดำเนินการขอรับความคุ้มครอง พัฒนา คิดค้น
สร้างสรรค์ ไม่ว่าโดยบริษัทฯ เอง กรรมการ ลูกจ้าง ตัวแทน หรือผู้รับจ้างของบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯ รับโอนมา
ให้ตกเป็ นสิทธิ และ/หรือ กรรมสิทธิ์ของบริษัทฯ ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นกับ
บริษัทฯเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งนี้ ผู้ก่อตั้งทุกฝ่ ายจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่สำหรับการดำเนินการเพื่อการ
จดทะเบียน และ/หรือ ขอรับความคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าวในนามของบริษัทฯ อย่างสุด
ความสามารถ
13. การเก็บรักษาความลับ
14
14.3. ในกรณีที่สัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลงโดยผลของการเลิกสัญญาตามที่ระบุไว้ในข้อ 14.1 ข้างต้น ให้ข้อ 12
(ทรัพย์สินทางปัญญา) ข้อ 13 (การเก็บรักษาความลับ) ข้อ 14 (การสิ้นสุดของสัญญา) ข้อ 15.8
(กฎหมายที่ใช้บังคับ) และข้อ 15.9 (การระงับข้อพิพาท) ยังคงมีผลโดยสมบูรณ์และยังคงผูกพันผู้ก่อ
ตั้งต่อไปภายหลังวันที่สัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลง
15. เงื่อนไขทั่วไป
15.2. การแก้ไขเพิ่มเติม
15.3. การโอนสิทธิ
15.4. การสละสิทธิ
15.6. ค่าใช้จ่าย
15
เว้นแต่จะมีการระบุไว้ในสัญญาฉบับนี้เป็ นอย่างอื่น ผู้ก่อตั้งแต่ละฝ่ ายตกลงที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
ต่าง ๆ ที่ตนได้ก่อขึ้นซึ่งเกี่ยวข้องกับการเจรจาต่อรอง การเข้าทำ และการปฏิบัติตามสัญญาฉบับนี้ด้ วย
ตนเอง
15.7. หนังสือบอกกล่าวและการติดต่อสื่อสาร
(1) ถ้าส่งถึงผู้ก่อตั้งฝ่ าย ก
ที่อยู่ [•]
อีเมล [•]
(2) ถ้าส่งถึงผู้ก่อตั้งฝ่ าย ข
ที่อยู่ [•]
อีเมล [•]
(3) ถ้าส่งถึงผู้ก่อตั้งฝ่ าย ค
ที่อยู่ [•]
อีเมล [•]
(4) ถ้าส่งถึงผู้ก่อตั้งฝ่ าย ง
ที่อยู่ [•]
อีเมล [•]
15.8. กฎหมายที่ใช้บังคับ
15.9. การระงับข้อพิพาท
24
ผู้ก่อตั้งอาจพิจารณากำหนดให้มีกระบวนการอื่นก่อน เช่น การตั้งคณะกรรมการพิเศษใด ๆ ขึ้นมาพิจารณา หรือการหาคนกลางมาไกล่เกลี่ย
เป็นต้น ซึ่งหากไม่สามารถแก้ไขข้อพิพาทได้ในกำหนดเวลาใด ๆ คู่กรณีจึงสามารถที่จะนำข้อพิพาทฟ้ องเป็นคดีขึ้นสู่ศาล
16
[ส่วนนี้ตกลงให้เว้นว่าง]
17
สัญญาฉบับนี้ ทำขึ้นเป็น [4 (สี่)] ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกันทุกประการ ซึ่งผู้ก่อตั้งทุกฝ่ าย ได้อ่านและเข้าใจข้อความ
ในสัญญาฉบับนี้โดยละเอียดตลอดทั้งสัญญาแล้วจึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็ นสำคัญและตราประทับ (ถ้ามี) และแต่ละฝ่ าย
ต่างยึดถือไว้เป็ นหลักฐานเก็บไว้ฝ่ ายละหนึ่งฉบับ25
[ผู้ก่อตั้งฝ่ าย ก] [ผู้ก่อตั้งฝ่ าย ข]
[ผู้ก่อตั้งฝ่ าย ค] [ผู้ก่อตั้งฝ่ าย ง]
25
โปรดแก้ไขส่วนลงนามให้เหมาะสมกับประเภทและเงื่อนไขการลงนามของผู้ก่อตั้ง เช่น เป็นบุคคลธรรมดา ก็สามารถมีช่องลงนามเพียง 1 ช่อง
หรือ หากเป็นนิติบุคคลและตามเอกสารนิติบุคคล หรือหนังสือมอบอำนาจกำหนดให้ลงนามด้วยจำนวนบุคคลที่แตกต่างไปจากแบบก็ให้ปรับ
ตามที่กำหนด
18
เอกสารแนบท้าย 1
หนังสือผูกพันตามสัญญา
(ก) ณ วันที่ [•] (1) [ผู้ก่อตั้งฝ่ าย ก] (2) [ผู้ก่อตั้งฝ่ าย ข] (3) [ผู้ก่อตั้งฝ่ าย ค] (4) [ผู้ก่อตั้งฝ่ าย ง] ได้ลงนามในสัญญา
ระหว่างผู้ก่อตั้ง (“สัญญาระหว่างผู้ก่อตั้ง”) เพื่อกำหนดข้อตกลงและเงื่อนไขการบริหารจัดการใน [โปรดระบุชื่อ
ของบริษัทฯ] (“บริษัทฯ”) และกำหนดสถานะความสัมพันธ์ สิทธิ และหน้าที่ระหว่างผู้ถือหุ้นด้วยกัน
(ข) ผู้ถือหุ้นใหม่ ได้รับโอนหุ้นสามัญในบริษัทฯ จำนวนรวมทั้งสิ้น [•] หุ้น จาก [•] ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหม่ประสงค์ที่จะ
แสดงเจตนาตามหนังสือฉบับนี้เพื่อผูกพันตนในสัญญาระหว่างผู้ก่อตั้ง
ผู้ถือหุ้นใหม่ตกลงเข้าผูกพันตามหนังหนังสือฉบับนี้ โดยมีข้อตกลงและเงื่อนไขดังต่อไปนี้
ที่อยู่: [•]
อีเมล [•]
________________________________
( )
19
เอกสารแนบท้าย 2
หนังสือแสดงความประสงค์เพื่อเข้าชื่อซื้อหุ้นซึ่งออกใหม่
วันที่ [•]
ผู้ถือหุ้น
( )
*************************************************************************************
ข้าพเจ้า [•] คู่สมรสโดยชอบด้วยกฎหมายของ [•] รับทราบและยอมรับการเข้าซื้อหุ้นข้างต้นของคู่สมรสของข้าพเจ้า
คู่สมรส
( )
20