You are on page 1of 16

สรุปและเปรียบเทียบการตั้งเงินเดือนและผลตอบแทนกรรมการ

กรณีศึกษาที่ 1 กรณีศึกษาที่ 2 กรณีศึกษาที่ 3 กรณีศึกษาที่ 4 กรณีศึกษาที่ 5


เงินเดือน : 26K/เดือน เงินเดือน : 50K/เดือน เงินเดือน : 100K/เดือน เงินเดือน 50K/เดือน ค่าเช่าบ้าน 70K/เดือน
ลดหย่อน : โสด/พ่อและแม่มีรายได้ ลดหย่อน : โสด/พ่อแม่เกิน 60 ปี ลดหย่อน : สมรส/ภรรยาไม่มีราย ค่าเช่าบ้าน 50K/เดือน ค่าเช่ารถ 30K/เดือน
ไม่มีรายได้/มีประกันชีวิต/มีดอกเบี้ย ได้/มีบุตร 2 คน (คนที่ 2 เกิดปี ลดหย่อน : สมรส/ภรรยามีรายได้/มี ลดหย่อน : สมรส/ภรรยามีรายได้/มี
หน่วย :- บาท
บ้าน 2563/พ่อแม่เกิน 60 ปีไม่มีรายได้/มี บุตร 1 คน /พ่อและแม่ไม่มีรายได้/มี บุตร 1 คน /แม่ไม่มีรายได้/มีประกัน
ประกันชีวิต/มีดอกเบี้ยบ้าน ประกันชีวิต/มีดอกเบี้ยบ้าน ชีวิต

รายได้ 312,000.00 600,000.00 1,200,000.00 1,200,000.00 1,200,000.00


ค่าลดหย่อน 60,000.00 320,000.00 470,000.00 350,000.00 220,000.00
ภาษีเงินได้บุคคล 100.00 1,500.00 47,000.00 38,000.00 45,500.00
เสียภาษีเป็นกี่ % จากรายได้ 0.03% 0.25% 3.92% 3.17% 3.79%
หัก ณ ที่จ่าย (ถูกหัก) - - - 30,000.00 60,000.00
จ่ายเพิ่ม/ (ได้คืนภาษี) 100.00 1,500.00 47,000.00 8,000.00 (14,500.00)
จ่ายเพิ่ม จ่ายเพิ่ม จ่ายเพิ่ม จ่ายเพิ่ม ได้คืน

ประหยัดภาษีนิติบุคคล (บาท)
SME (15%)
NON SME (20%)
กรณีที่ 1 กรรมการมีรับรายได้เป็นเงินเดือนจากกิจการเดือนละ 26,000 บาท
ประเภทรายได้ และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

รายได้ ค่าใช้จ่าย เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย


1เงินเดือน 312,000.00 (100,000.00) 212,000.00

2รับจ้าง ฯลฯ -

ลิขสิทธิ์
3 - 0.00 -

4ดอกเบี้ย เงินปันผล - ห้ามกรอก -

5ค่าเช่าทรัพย์สิน - 0.00 -

6วิชาชีพอิสระ - 0.00 -

7รับเหมาก่อสร้าง - 0.00 -

8อื่นๆ - 0.00 -

312,000.00 (100,000.00)

รวมเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 212,000.00

จากกรณีศึกษาที่ 1 กรรมการมีเงินเดือน ๆ ละ 26,000 บาท มีข้อสรุปได้ว่า


1.กรรมการมีรายได้จากเงินเดือนที่ได้รับจากกิจการ เดือนละ 26,000 บาท
2.กรรมการมีค่าลดหย่อนตนเอง 60,000 บาท
3.กรรมการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 100 บาท
กรณีที่ 1 กรรมการมีรับรายได้เป็นเงินเดือนจากกิจการเดือนละ 26,000 บาท
ลดหย่อนที่สามารถใช้ได้ ปี 2564

1. ค่าลดหย่อนผู้มีเงินได้ 60,000 บาท


60,000.00
60,000 บาท (กรณีคู่สมรสไม่มีรายได้) และกฎหมายอนุญาตให้มีได้สูงสุด 1 คน
2. ค่าลดหย่อนคู่สมรส
บุตรคนแรก 30,000 (บุตรคนที่ 2 ขึ้นไปและเกิดตั้งแต่ปี 2561 ได้ค่าลดหย่อนเพิ่มเป็น 60,000 บาท)
3. ค่าลดหย่อนบุตร

ตามจริงแต่ไม่เกินท้องละ 60,000 บาท (เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลจากการตั้งครรภ์และ


คลอดบุตร ไม่ว่าจะเป็นค่าตรวจครรภ์ รับฝากครรภ์ ค่าบำบัดทางการแพทย์ ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ ค่าทำคลอด
4. ค่าใช้จ่ายฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร ค่ากินอยู่ในโรงพยาบาล )

คนละ 30,000 บาท (บิดามารดาต้องมีอายุเกิน 60 ปี และมีเงินได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี) (ได้ทั้งบิดา


5. ค่าลดหย่อนบิดามารดา มารดาเราและคู่สมรส)
คนละ 60,000 บาท (ต้องมีบัตรประจำตัวคนพิการ)
6. ค่าลดหย่อนผู้พิการหรือทุพพลภาพ
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท (กรมธรรม์อายุ 10 ปีขึ้นไป)
7. เบี้ยประกันชีวิต
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท (ได้ทั้งบิดามารดาเราและคู่สมรส)
8. เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา
ตามจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท แต่เมื่อรวมกับการหักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตและการเงินฝากที่มีเงื่อนไข
9. ค่าเบี้ยประกันสุขภาพตนเอง ประกันชีวิตทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
10. ดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัย
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 500,000 บาท
11. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กบข./สงเคราะห์ครู
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 500,000 บาท
12. ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) (RMF)/กบข./กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ/กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 13,200 บาท และเมื่อรวมกับ ข้อ 11. และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญแล้วต้องไม่
13. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เกิน 500,000 บาท

ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับข้อ 11.


14. เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ลดหย่อนตามที่ได้จ่ายไปจริงแต่ไม่เกิน 5,100 บาท
15. ประกันสังคม
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับข้อ 11.
16. ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
17. เงินบริจาคการศึกษา การกีฬา การพัฒนา 2 เท่าของเงินบริจาคตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน การศึกษา การกีฬา การ
สังคม พัฒนาสังคม
ตามที่จ่ายจริงเมื่อไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน
18. เงินบริจาคทั่วไป

19. ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต กรณีเงินได้ 1เท่าของที่จ่ายจริงเมื่อมีเงินได้จากค่าเช่า ค่าวิชาชีพอิสระ,ค่ารับเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ หรือเงินได้การ


ประเภท 5-8 ที่มีเครื่องรูด (EDC) ประกอบธุรกิจอื่น ๆ

20. เงินบริจาคพรรคการเมือง ตามจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท

รวมค่าลดหย่อน 60,000.00
กรณีที่ 1 กรรมการมีรับรายได้เป็นเงินเดือนจากกิจการเดือนละ 26,000 บาท
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

Range of Net Income Net Income Tax Rate Tax Amount

1 - 150,000 150,000.00 0% -

150,001 - 300,000 2,000.00 5% 100.00

300,001 - 500,000 - 10% -

500,001 - 750,000 - 15% -

750001 - 1,000,000 - 20% -

1,000,000 - 2,000,000 - 25% -

2,000,001-5,000,000 - 30% -

5,000,001 - 35% -

152,000.00 100.00 ต่อปี

8.33 ต่อเดือน

รวมเงินได้พึงประเมิน หลังหักค่าใช้จ่าย 212,000.00

รวมค่าลดหย่อน ทั้งสิ้น 60,000.00

รวมเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน 152,000.00

ภาษีที่เสีย 100.00

-
ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย

100.00 0.03%

ประหยัดภาษีนิติบุคคล SME 15% 46,800.00


NON SME 20% 62,400.00
กรณีที่ 2 กรรมการมีรับรายได้เป็นเงินเดือนจากกิจการเดือนละ 50,000 บาท
ประเภทรายได้ และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

รายได้ ค่าใช้จ่าย เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย


1เงินเดือน 600,000.00 (100,000.00) 500,000.00

2รับจ้าง ฯลฯ -

ลิขสิทธิ์
3 - 0.00 -

4ดอกเบี้ย เงินปันผล - ห้ามกรอก -

5ค่าเช่าทรัพย์สิน - 0.00 -

6วิชาชีพอิสระ - 0.00 -

7รับเหมาก่อสร้าง - 0.00 -

8อื่นๆ - 0.00 -

600,000.00 (100,000.00)

รวมเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 500,000.00

จากกรณีศึกษาที่ 214 กรรมการมีเงินเดือน


กรรมการไม่มีเงินเดือน แต่รับรายได้เป็นค่าเช่ารถยนต์
ๆ ละ 26,000 บาท สถานะโสด
50,000 มีข้อสรุปได้ว่า 1 คัน เดือนละ 36,000 บาท มีข้อสรุปได้ว่า
พ่อและแม่มีรายได้
1.กรรมการมีรายได้จากการให้กิจการเช่ารถยนต์ 1 คัน
1.กรรมการมีรายได้จากเงินเดือนที่ได้รับจากกิจการ
มีข้อสรุปได้ว่า ใช้เพื่อกิจการโดยในกรณีศึกษานี้กรรมการได้รับค่าเช่าเดือนละ
เดือนละ 50,000 บาท 36,000 บาท
1.กรรมการมีรายได้จากเงินเดือนที่ได้รับจากกิจการ
2.กรรมการมีค่าลดหย่อนตนเอง 60,000 บาท เดือนละ 26,000 บาท
3.การหักลดหย่อนดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัยหักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
2.กรรมการมีค่าลดหย่อนตนเอง
3.กรรมการใช้ลดหย่อนพ่อและแม่คนละ 60,000 30,000
บาท บาทรวม 2 คนเป็น 100,000
60,000บาท
บาทในที่นี้กรรมการหักได้ตามจริงเลยคือ 50,000 บาท
เนื่องจากพ่อและแม่อายุเกิน 60 ปีและไม่มีรายได้
4.กรรมการได้รับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคืนเนื่องจากระหว่างปีที่รับรายได้นั้นได้ถูกหักภาษี
3.การหักลดหน่อยเบี้ยประกันชีวิตให้ได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
4.กรรมการมีลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต 100,000 บาทในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่
100,000 บาท และดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย ณ ที่จ่ายจากการมีรายได้ค่าเช่าทั้
100,000 บาท ซึ่งใช้เต็มจำนวน100,000 บาทบาททั้งง2ปี อัน
100,000 จำนวน 21,600 บาท ซึ่งรวม
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งปีที่กรรมการต้องเสียทั้
4.การหักลดหย่อนดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัยหักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
5.กรรมการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 1,500 บาทงปีอยู่ที่ 2,120100,000
บาท ดังนั้น
บาทกรรมการจึงได้ภาษีเงินได้คืนจำนวน
ในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่ 1000,000
19,480 บาท
บาท
5.กรรมการได้รับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคืนเนื่องจากระหว่างปีที่รับรายได้นั้นได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายจากการมีรายได้ค่าเช่าทั้งปี จำนวน 36,000 บาท ซึ่งรวม
ข้อควรระวัง รายได้ที่เกิดจากค่าเช่ารถยนต์เป็นรายได้จากการให้เช่าสังหาริมทรัพย์(สินทรัพย์ที่เคลื่อนย้ายได้)
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้ งปีที่กรรมการต้องเสียทั้งปีอยู่ที่ 4,700 บาท ดังนั้น กรรมการจึงได้ภาษีเงินได้คืนจำนวน ดังนั้นถ้าหากมีรายได้จากส่วนนี้เกิน
31,300 บาท 1.8 ล้าน/ปี
ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือกลายเป็นบุคคลที่ต้องจด VAT นั้นเอง
กรณีที่ 2 กรรมการมีรับรายได้เป็นเงินเดือนจากกิจการเดือนละ 50,000 บาท
ลดหย่อนที่สามารถใช้ได้ ปี 2564

1. ค่าลดหย่อนผู้มีเงินได้ 60,000 บาท


60,000.00
60,000 บาท (กรณีคู่สมรสไม่มีรายได้) และกฎหมายอนุญาตให้มีได้สูงสุด 1 คน
2. ค่าลดหย่อนคู่สมรส
บุตรคนแรก 30,000 (บุตรคนที่ 2 ขึ้นไปและเกิดตั้งแต่ปี 2561 ได้ค่าลดหย่อนเพิ่มเป็น 60,000 บาท)
3. ค่าลดหย่อนบุตร

ตามจริงแต่ไม่เกินท้องละ 60,000 บาท (เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลจากการตั้งครรภ์และ


คลอดบุตร ไม่ว่าจะเป็นค่าตรวจครรภ์ รับฝากครรภ์ ค่าบำบัดทางการแพทย์ ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ ค่าทำคลอด
4. ค่าใช้จ่ายฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร ค่ากินอยู่ในโรงพยาบาล )

คนละ 30,000 บาท (บิดามารดาต้องมีอายุเกิน 60 ปี และมีเงินได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี) (ได้ทั้งบิดา


5. ค่าลดหย่อนบิดามารดา 60,000.00 มารดาเราและคู่สมรส)
คนละ 60,000 บาท (ต้องมีบัตรประจำตัวคนพิการ)
6. ค่าลดหย่อนผู้พิการหรือทุพพลภาพ
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท (กรมธรรม์อายุ 10 ปีขึ้นไป)
7. เบี้ยประกันชีวิต 100,000.00
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท (ได้ทั้งบิดามารดาเราและคู่สมรส)
8. เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา
ตามจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท แต่เมื่อรวมกับการหักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตและการเงินฝากที่มีเงื่อนไข
9. ค่าเบี้ยประกันสุขภาพตนเอง ประกันชีวิตทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
10. ดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัย 100,000.00
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 500,000 บาท
11. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กบข./สงเคราะห์ครู
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 500,000 บาท
12. ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) (RMF)/กบข./กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ/กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 13,200 บาท และเมื่อรวมกับ ข้อ 11. และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญแล้วต้องไม่
13. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เกิน 500,000 บาท

ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับข้อ 11.


14. เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ลดหย่อนตามที่ได้จ่ายไปจริงแต่ไม่เกิน 5,100 บาท
15. ประกันสังคม
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับข้อ 11.
16. ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
17. เงินบริจาคการศึกษา การกีฬา การพัฒนา 2 เท่าของเงินบริจาคตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน การศึกษา การกีฬา การ
สังคม พัฒนาสังคม
ตามที่จ่ายจริงเมื่อไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน
18. เงินบริจาคทั่วไป

19. ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต กรณีเงินได้ 1เท่าของที่จ่ายจริงเมื่อมีเงินได้จากค่าเช่า ค่าวิชาชีพอิสระ,ค่ารับเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ หรือเงินได้การ


ประเภท 5-8 ที่มีเครื่องรูด (EDC) ประกอบธุรกิจอื่น ๆ

20. เงินบริจาคพรรคการเมือง ตามจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท

รวมค่าลดหย่อน 320,000.00
กรณีที่ 2 กรรมการมีรับรายได้เป็นเงินเดือนจากกิจการเดือนละ 50,000 บาท
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

Range of Net Income Net Income Tax Rate Tax Amount

1 - 150,000 150,000.00 0% -

150,001 - 300,000 30,000.00 5% 1,500.00

300,001 - 500,000 - 10% -

500,001 - 750,000 - 15% -

750001 - 1,000,000 - 20% -

1,000,000 - 2,000,000 - 25% -

2,000,001-5,000,000 - 30% -

5,000,001 - 35% -

180,000.00 1,500.00 ต่อปี

125.00 ต่อเดือน

รวมเงินได้พึงประเมิน หลังหักค่าใช้จ่าย 500,000.00

รวมค่าลดหย่อน ทั้งสิ้น 320,000.00

รวมเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน 180,000.00

ภาษีที่เสีย 1,500.00

-
ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย

1,500.00 0.25%

ประหยัดภาษีนิติบุคคล SME 15% 90,000.00


NON SME 20% 120,000.00
กรณีที่ 3 กรรมการมีรับรายได้เป็นเงินเดือนจากกิจการเดือนละ 100,000 บาท
ประเภทรายได้ และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

รายได้ ค่าใช้จ่าย เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย


1เงินเดือน 1,200,000.00 (100,000.00) 1,100,000.00

2รับจ้าง ฯลฯ -

ลิขสิทธิ์
3 - 0.00 -

4ดอกเบี้ย เงินปันผล - ห้ามกรอก -

5ค่าเช่าทรัพย์สิน - 0.00 -

6วิชาชีพอิสระ - 0.00 -

7รับเหมาก่อสร้าง - 0.00 -

8อื่นๆ - 0.00 -

1,200,000.00 (100,000.00)

รวมเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 1,100,000.00

จากกรณีศึกษาที่ 315 กรรมการมีเงินเดือน


กรรมการไม่มีเงินเดือน แต่รับรายได้ค่าที่ปรึกษาจากกิจการ
ๆ ละ 26,000 บาท
100,000 บาทสถานะโสด
มีข้อสรุปได้ว่า 1,200,000 ต่อปี มีข้อสรุปได้ว่า
พ่อและแม่มีรายได้
1.กรรมการไม่มีเงินเดือนแต่รับรายได้เป็นค่าที่ปรึกษาเดือนละ
1.กรรมการมีรายได้จากเงินเดือนที่ได้รับจากกิจการ
มีข้อสรุปได้ว่า 1,200,000 บาทต่อปี
100,000 บาท
1.กรรมการมีรายได้จากเงินเดือนที่ได้รับจากกิจการ
2.กรรมการมีค่าลดหย่อนตนเอง 60,000 บาท เดือนละ 26,000 บาท
3.การหักลดหน่อยเบี้ยประกันชีวิตให้ได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
2.กรรมการมีค่าลดหย่อนตนเอง
3.กรรมการมีค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000
60,000 บาท 100,000 บาทในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่ 100,000 บาท
บาทเนื่องจากคู่สมรสไม่มีรายได้
4.การหักลดหย่อนดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัยหักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
3.การหักลดหน่อยเบี้ยประกันชีวิตให้ได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
4.กรรมการมีค่าลดหย่อนบุตรจำนวน 2 คน คนที่ 1 จำนวน100,000 100,000
30,000 บาทในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่
บาท ในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่
บาท และคนที่ 100,0001000,000
บาท บาท
2 จำนวน 60,000 บาทเนื่องจากบุตรคนที่ 2 เกิดปี 2563
5.การหักลดหย่อนโครงการช้อปดีมีคืนหักได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงรวมแล้วไม่เกิน
4.การหักลดหย่อนดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัยหักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
5.กรรมการใช้ลดหย่อนพ่อและแม่คนละ 30,000 บาทรวม 2 คนเป็น 100,000
60,000บาท
บาทในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่
30,000 บาท ในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่
เนื่องจากพ่อและแม่อายุเกิน 601000,000 บาท30,000 บาท
ปีและไม่มีรายได้
6.กรรมการมีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้100,000
5.กรรมการได้รับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคืนเนื่องจากระหว่างปีที่รับรายได้นั้นได้ถูกหักภาษี
6.กรรมการมีลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต งปีเป็นจำนวนเงิน 77,000 บาท แต่ชำระภาษีเพียง
บาท และดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย 100,000 บาท41,000 ณ ที่จ่ายจากการมีรายได้ค่าเช่าทั้
บาท เนื่องจากระหว่างปีมีมียอดภาษีหัก
ซึ่งใช้เต็มจำนวน 100,000 บาททั้งง2ปี อัน
จำนวน 36,000
ณ ที่จ่าย
บาทจำนวน
ซึ่งรวม
36,000 บาท
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้ งปีที่กรรมการต้องเสียทั้
7.กรรมการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา งปีอยู่ที่ 4,700 บาท ดังนั้น กรรมการจึงได้ภาษีเงินได้คืนจำนวน 31,300 บาท
47,000 บาท

ข้อควรระวัง รายได้ค่าที่ปรึกษา ถ้าหากมีรายได้จากส่วนนี้เกิน 1.8 ล้าน/ปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือกลายเป็นบุคคลที่ต้องจด VAT นั้นเอง


กรณีที่ 3 กรรมการมีรับรายได้เป็นเงินเดือนจากกิจการเดือนละ 100,000 บาท
ลดหย่อนที่สามารถใช้ได้ ปี 2564

1. ค่าลดหย่อนผู้มีเงินได้ 60,000 บาท


60,000.00
60,000 บาท (กรณีคู่สมรสไม่มีรายได้) และกฎหมายอนุญาตให้มีได้สูงสุด 1 คน
2. ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000.00
บุตรคนแรก 30,000 (บุตรคนที่ 2 ขึ้นไปและเกิดตั้งแต่ปี 2561 ได้ค่าลดหย่อนเพิ่มเป็น 60,000 บาท)
3. ค่าลดหย่อนบุตร 90,000.00

ตามจริงแต่ไม่เกินท้องละ 60,000 บาท (เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลจากการตั้งครรภ์และ


คลอดบุตร ไม่ว่าจะเป็นค่าตรวจครรภ์ รับฝากครรภ์ ค่าบำบัดทางการแพทย์ ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ ค่าทำคลอด
4. ค่าใช้จ่ายฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร ค่ากินอยู่ในโรงพยาบาล )

คนละ 30,000 บาท (บิดามารดาต้องมีอายุเกิน 60 ปี และมีเงินได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี) (ได้ทั้งบิดา


5. ค่าลดหย่อนบิดามารดา 60,000.00 มารดาเราและคู่สมรส)
คนละ 60,000 บาท (ต้องมีบัตรประจำตัวคนพิการ)
6. ค่าลดหย่อนผู้พิการหรือทุพพลภาพ
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท (กรมธรรม์อายุ 10 ปีขึ้นไป)
7. เบี้ยประกันชีวิต 100,000.00
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท (ได้ทั้งบิดามารดาเราและคู่สมรส)
8. เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา
ตามจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท แต่เมื่อรวมกับการหักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตและการเงินฝากที่มีเงื่อนไข
9. ค่าเบี้ยประกันสุขภาพตนเอง ประกันชีวิตทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
10. ดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัย 100,000.00
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 500,000 บาท
11. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กบข./สงเคราะห์ครู
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 500,000 บาท
12. ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) (RMF)/กบข./กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ/กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 13,200 บาท และเมื่อรวมกับ ข้อ 11. และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญแล้วต้องไม่
13. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เกิน 500,000 บาท

ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับข้อ 11.


14. เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ลดหย่อนตามที่ได้จ่ายไปจริงแต่ไม่เกิน 5,100 บาท
15. ประกันสังคม
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับข้อ 11.
16. ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
17. เงินบริจาคการศึกษา การกีฬา การพัฒนา 2 เท่าของเงินบริจาคตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน การศึกษา การกีฬา การ
สังคม พัฒนาสังคม
ตามที่จ่ายจริงเมื่อไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน
18. เงินบริจาคทั่วไป

19. ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต กรณีเงินได้ 1เท่าของที่จ่ายจริงเมื่อมีเงินได้จากค่าเช่า ค่าวิชาชีพอิสระ,ค่ารับเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ หรือเงินได้การ


ประเภท 5-8 ที่มีเครื่องรูด (EDC) ประกอบธุรกิจอื่น ๆ

20. เงินบริจาคพรรคการเมือง ตามจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท

รวมค่าลดหย่อน 470,000.00
กรณีที่ 3 กรรมการมีรับรายได้เป็นเงินเดือนจากกิจการเดือนละ 100,000 บาท
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

Range of Net Income Net Income Tax Rate Tax Amount

1 - 150,000 150,000.00 0% -

150,001 - 300,000 150,000.00 5% 7,500.00

300,001 - 500,000 200,000.00 10% 20,000.00

500,001 - 750,000 130,000.00 15% 19,500.00

750001 - 1,000,000 - 20% -

1,000,000 - 2,000,000 - 25% -

2,000,001-5,000,000 - 30% -

5,000,001 - 35% -

630,000.00 47,000.00 ต่อปี

3,916.67 ต่อเดือน

รวมเงินได้พึงประเมิน หลังหักค่าใช้จ่าย 1,100,000.00

รวมค่าลดหย่อน ทั้งสิ้น 470,000.00

รวมเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน 630,000.00

ภาษีที่เสีย 47,000.00

-
ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย

47,000.00 3.92%

ประหยัดภาษีนิติบุคคล SME 15% 180,000.00


NON SME 20% 240,000.00
กรณีที่ 4 กรรมการมีรับรายได้เป็นเงินเดือนจากกิจการเดือนละ 50,000 บาทและค่าเช่าบ้านเดือนละ 50,000 บาท
ประเภทรายได้ และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

รายได้ ค่าใช้จ่าย เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย


1เงินเดือน 600,000.00 (100,000.00) 500,000.00

2รับจ้าง ฯลฯ -

ลิขสิทธิ์
3 - 0.00 -

4ดอกเบี้ย เงินปันผล - ห้ามกรอก -

5ค่าเช่าทรัพย์สิน 600,000.00 (180,000.00) 420,000.00

6วิชาชีพอิสระ - 0.00 -

7รับเหมาก่อสร้าง - 0.00 -

8อื่นๆ - 0.00 -

1,200,000.00 (280,000.00)

รวมเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 920,000.00

จากกรณีศึกษาที่ 416 กรรมการมีเงินเดือน


รับเงินเดือนประจำเดือนละ 120,000บาท
ๆ ละ 50,000
26,000 บาทและค่าเช่าบ้านเดือนละ
มีข้อสรุปได้ว่า
สถานะโสด พ่อและแม่มีรายได้
50,000 บาท
1.กรรมการมีรายได้จากเงินเดือนประจำเดือนละ 120,000 บาท
มีข้อสรุปได้ว่า
2.กรรมการมีค่าลดหย่อนตนเอง 60,000 บาท
1.กรรมการมีรายได้จากเงินเดือนที่ได้รับจากกิจการ เดือนละ 50,000
26,000 บาท และต่าเช่าบ้านเดือนละ 50,000 บาทรวมแล้วเป็น 100,000 บาทต่อเดือน
3.การหักลดหน่อยเบี้ยประกันชีวิตให้ได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
2.กรรมการมีค่าลดหย่อนตนเอง 60,000 บาท 100,000 บาทในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่ 100,000 บาท
4.การหักลดหย่อนดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัยหักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
3.การหักลดหน่อยเบี้ยประกันชีวิตให้ได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
3.กรรมการมีค่าลดหย่อนบุตร1 100,000100,000
คน จำนวน 30,000 บาท เนื่องจากบุตรเกิดก่อนปีบาท ในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่
บาทในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่
2561 100,000100,000
บาท บาท
5.การหักลดหย่อนโครงการช้อปดีมีคืนหักได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงรวมแล้วไม่เกิน
4.การหักลดหย่อนดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัยหักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
4.กรรมการใช้ลดหย่อนพ่อและแม่คนละ 30,000 บาทรวม 2 คนเป็น 100,000
60,000บาท 30,000 บาท ในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่
บาทในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่
เนื่องจากพ่อและแม่อายุเกิน 601000,000 บาท30,000 บาท
ปีและไม่มีรายได้
6.กรรมการมียอดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ต้องชำระเป็นจำนวนเงิน
5.กรรมการมีลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต 127,500100,000
100,000 บาท และดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย บาท บาท ซึ่งใช้เต็มจำนวน
5.กรรมการได้รับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคืนเนื่องจากระหว่างปีที่รับรายได้นั้นได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายจากการมีรายได้ค่าเช่าทั้
100,000 บาททั้งง2ปี อัน
จำนวน 36,000 บาท ซึ่งรวม
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งปีที่กรรมการต้องเสียทั้
6.กรรมการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 38,000 บาท
งปีอยู่ที่
แต่เนื่องจากมีการจ่ายภาษีหัก
4,700 บาท ดังนั้น กรรมการจึงได้ภาษีเงินได้คืนจำนวน
ณ ที่จ่ายระหว่างปี จำนวน 30,000
31,300บาททำให้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
บาท
เพิ่มอีก 8,000 บาท
กรณีที่ 4 กรรมการมีรับรายได้เป็นเงินเดือนจากกิจการเดือนละ 50,000 บาทและค่าเช่าบ้านเดือนละ 50,000 บาท
ลดหย่อนที่สามารถใช้ได้ ปี 2564

1. ค่าลดหย่อนผู้มีเงินได้ 60,000 บาท


60,000.00
60,000 บาท (กรณีคู่สมรสไม่มีรายได้) และกฎหมายอนุญาตให้มีได้สูงสุด 1 คน
2. ค่าลดหย่อนคู่สมรส
บุตรคนแรก 30,000 (บุตรคนที่ 2 ขึ้นไปและเกิดตั้งแต่ปี 2561 ได้ค่าลดหย่อนเพิ่มเป็น 60,000 บาท)
3. ค่าลดหย่อนบุตร 30,000.00

ตามจริงแต่ไม่เกินท้องละ 60,000 บาท (เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลจากการตั้งครรภ์และ


คลอดบุตร ไม่ว่าจะเป็นค่าตรวจครรภ์ รับฝากครรภ์ ค่าบำบัดทางการแพทย์ ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ ค่าทำคลอด
4. ค่าใช้จ่ายฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร ค่ากินอยู่ในโรงพยาบาล )

คนละ 30,000 บาท (บิดามารดาต้องมีอายุเกิน 60 ปี และมีเงินได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี) (ได้ทั้งบิดา


5. ค่าลดหย่อนบิดามารดา 60,000.00 มารดาเราและคู่สมรส)
คนละ 60,000 บาท (ต้องมีบัตรประจำตัวคนพิการ)
6. ค่าลดหย่อนผู้พิการหรือทุพพลภาพ
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท (กรมธรรม์อายุ 10 ปีขึ้นไป)
7. เบี้ยประกันชีวิต 100,000.00
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท (ได้ทั้งบิดามารดาเราและคู่สมรส)
8. เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา
ตามจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท แต่เมื่อรวมกับการหักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตและการเงินฝากที่มีเงื่อนไข
9. ค่าเบี้ยประกันสุขภาพตนเอง ประกันชีวิตทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
10. ดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัย 100,000.00
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 500,000 บาท
11. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กบข./สงเคราะห์ครู
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 500,000 บาท
12. ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) (RMF)/กบข./กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ/กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 13,200 บาท และเมื่อรวมกับ ข้อ 11. และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญแล้วต้องไม่
13. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เกิน 500,000 บาท

ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับข้อ 11.


14. เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ลดหย่อนตามที่ได้จ่ายไปจริงแต่ไม่เกิน 5,100 บาท
15. ประกันสังคม
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับข้อ 11.
16. ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
17. เงินบริจาคการศึกษา การกีฬา การพัฒนา 2 เท่าของเงินบริจาคตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน การศึกษา การกีฬา การ
สังคม พัฒนาสังคม
ตามที่จ่ายจริงเมื่อไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน
18. เงินบริจาคทั่วไป

19. ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต กรณีเงินได้ 1เท่าของที่จ่ายจริงเมื่อมีเงินได้จากค่าเช่า ค่าวิชาชีพอิสระ,ค่ารับเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ หรือเงินได้การ


ประเภท 5-8 ที่มีเครื่องรูด (EDC) ประกอบธุรกิจอื่น ๆ

20. เงินบริจาคพรรคการเมือง ตามจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท

รวมค่าลดหย่อน 350,000.00
กรณีที่ 4 กรรมการมีรับรายได้เป็นเงินเดือนจากกิจการเดือนละ 50,000 บาทและค่าเช่าบ้านเดือนละ 50,000 บาท
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

Range of Net Income Net Income Tax Rate Tax Amount

1 - 150,000 150,000.00 0% -

150,001 - 300,000 150,000.00 5% 7,500.00

300,001 - 500,000 200,000.00 10% 20,000.00

500,001 - 750,000 70,000.00 15% 10,500.00

750001 - 1,000,000 - 20% -

1,000,000 - 2,000,000 - 25% -

2,000,001-5,000,000 - 30% -

5,000,001 - 35% -

570,000.00 38,000.00 ต่อปี

3,166.67 ต่อเดือน

รวมเงินได้พึงประเมิน หลังหักค่าใช้จ่าย 920,000.00

รวมค่าลดหย่อน ทั้งสิ้น 350,000.00

รวมเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน 570,000.00

ภาษีที่เสีย 38,000.00

30,000.00
ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย

8,000.00 3.17%

ประหยัดภาษีนิติบุคคล SME 15% 180,000.00


NON SME 20% 240,000.00
กรณีที่ 5 กรรมการมีรับรายได้ค่าเช่าบ้านเดือนละ 70,000 บาทและค่าเช่ารถเดือนละ 30,000 บาท
ประเภทรายได้ และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

รายได้ ค่าใช้จ่าย เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย


1เงินเดือน - 0.00 -

2รับจ้าง ฯลฯ -

ลิขสิทธิ์
3 - 0.00 -

4ดอกเบี้ย เงินปันผล - ห้ามกรอก -

5ค่าเช่าทรัพย์สิน 1,200,000.00 (360,000.00) 840,000.00

6วิชาชีพอิสระ - 0.00 -

7รับเหมาก่อสร้าง - 0.00 -

8อื่นๆ - 0.00 -

1,200,000.00 (360,000.00)

รวมเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 840,000.00

จากกรณีศึกษาที่ 7 กรรมการรับเงินเดือน
จากกรณีศึกษาที่
จากกรณีศึกษาที่
1 กรรมการมีเงินเดือน
4 กรรมการมีเงินเดือน ๆๆละละ
ๆ60,000
ละ
26,000 บาท
50,000 รับค่าเช่าบ้านที่ใช้เป็นสำนักงาน
บาทบาทสถานะโสด
และค่าเช่าบ้านเดือนละ
พ่อและแม่มีรายได้ 50,000เดือนละ
บาท 30,000 บาท และรับค่าเช่ารถยนต์ เดือนละ
20,000 บาท มีข้อสรุปได้ว่า
มีข้อสรุปได้ว่า
1.กรรมการมีรายได้เป็นเงินเดือน ๆเดือนละ
ละ 60,000 บาทเดือนละ
1.กรรมการมีรายได้จากเงินเดือนที่ได้รับจากกิจการ
1.กรรมการมีรายได้จากค่าเช่าบ้าน 70,000 รับค่าเช่าบ้านเดือนละ
บาท 26,000 บาท 30,000
และต่าเช่ารถเดือนละ บาทบาทรวมแล้วเป็น
30,000 และค่าเช่ารถยนต์เดือนละ 20,000 บาท
100,000 บาทต่อเดือน
2.กรรมการมีค่าลดหย่อนตนเอง 60,000 บาท
3.การหักลดหย่อนดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัยหักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
3.การหักลดหน่อยเบี้ยประกันชีวิตให้ได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
3.กรรมการมีค่าลดหย่อนบุตร1 100,000100,000
คน จำนวน 30,000 บาท เนื่องจากบุตรเกิดก่อนปี บาท ในที่นี้กรรมการหักได้ตามจริงเลยคือ
บาทในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่
2561 100,000 บาท
100,000 บาท
4.การหักลดหย่อนดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัยหักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน
4.กรรมการใช้ลดหย่อนแม่ 30,000 เนื่องจากแม่อายุเกิน 60 ปีและไม่มีรายได้ 100,000 บาท
100,000 บาท ในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่ 1000,000 บาท
5.การหักลดหย่อนโครงการช้อปดีมีคืนหักได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงรวมแล้วไม่เกิน
100,000 บาท ซึ่งใช้ลดหย่อนเต็มจำนวน 30,000 บาทณในที่นี้กรรมการหักลดหย่อนได้ที่
5.กรรมการได้รับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคืนเนื่องจากระหว่างปีที่รับรายได้นั้นได้ถูกหักภาษี
5.กรรมการมีลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต ที่จ่ายจากการมีรายได้ค่าเช่าทั้งปี30,000
จำนวนบาท
36,000 บาท ซึ่งรวม
6.กรรมการมีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้
6.กรรมการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา งปีจำนวนเงิน
งปีที่กรรมการต้องเสียทั้
45,500 บาท 65,000
งปีอยู่ที่ บาทบาทแต่ชำระภาษีเพียง
แต่เนื่องจากมีการจ่ายภาษีหัก
4,700 ณ51,000 บาท เนื่องจากระหว่างปีกรรมการได้ถูกหักภาษี
ดังนั้น กรรมการจึงได้ภาษีเงินได้คืนจำนวน
ที่จ่ายระหว่างปี จำนวน 60,000 ณ ที่จ่ายรวมแล้ว
31,300บาททำให้ได้คืนภาษีเป็นจำนวนเงิน
บาท
เป็นเงิน บาท
14.500 30,000 บาท ภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ถูกหักดังกล่าวเกิดจากการมีรายได้ค่าเช่าบ้านและเช่ารถยนต์
กรณีที่ 5 กรรมการมีรับรายได้ค่าเช่าบ้านเดือนละ 70,000 บาทและค่าเช่ารถเดือนละ 30,000 บาท
ลดหย่อนที่สามารถใช้ได้ ปี 2564

1. ค่าลดหย่อนผู้มีเงินได้ 60,000 บาท


60,000.00
60,000 บาท (กรณีคู่สมรสไม่มีรายได้) และกฎหมายอนุญาตให้มีได้สูงสุด 1 คน
2. ค่าลดหย่อนคู่สมรส
บุตรคนแรก 30,000 (บุตรคนที่ 2 ขึ้นไปและเกิดตั้งแต่ปี 2561 ได้ค่าลดหย่อนเพิ่มเป็น 60,000 บาท)
3. ค่าลดหย่อนบุตร 30,000.00

ตามจริงแต่ไม่เกินท้องละ 60,000 บาท (เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลจากการตั้งครรภ์และ


คลอดบุตร ไม่ว่าจะเป็นค่าตรวจครรภ์ รับฝากครรภ์ ค่าบำบัดทางการแพทย์ ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ ค่าทำคลอด
4. ค่าใช้จ่ายฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร ค่ากินอยู่ในโรงพยาบาล )

คนละ 30,000 บาท (บิดามารดาต้องมีอายุเกิน 60 ปี และมีเงินได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี) (ได้ทั้งบิดา


5. ค่าลดหย่อนบิดามารดา 30,000.00 มารดาเราและคู่สมรส)
คนละ 60,000 บาท (ต้องมีบัตรประจำตัวคนพิการ)
6. ค่าลดหย่อนผู้พิการหรือทุพพลภาพ
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท (กรมธรรม์อายุ 10 ปีขึ้นไป)
7. เบี้ยประกันชีวิต 100,000.00
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท (ได้ทั้งบิดามารดาเราและคู่สมรส)
8. เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา
ตามจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท แต่เมื่อรวมกับการหักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตและการเงินฝากที่มีเงื่อนไข
9. ค่าเบี้ยประกันสุขภาพตนเอง ประกันชีวิตทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
10. ดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัย
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 500,000 บาท
11. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กบข./สงเคราะห์ครู
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 500,000 บาท
12. ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) (RMF)/กบข./กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ/กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 13,200 บาท และเมื่อรวมกับ ข้อ 11. และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญแล้วต้องไม่
13. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เกิน 500,000 บาท

ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับข้อ 11.


14. เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ลดหย่อนตามที่ได้จ่ายไปจริงแต่ไม่เกิน 5,100 บาท
15. ประกันสังคม
ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับข้อ 11.
16. ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
17. เงินบริจาคการศึกษา การกีฬา การพัฒนา 2 เท่าของเงินบริจาคตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน การศึกษา การกีฬา การ
สังคม พัฒนาสังคม
ตามที่จ่ายจริงเมื่อไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน
18. เงินบริจาคทั่วไป

19. ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต กรณีเงินได้ 1เท่าของที่จ่ายจริงเมื่อมีเงินได้จากค่าเช่า ค่าวิชาชีพอิสระ,ค่ารับเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ หรือเงินได้การ


ประเภท 5-8 ที่มีเครื่องรูด (EDC) ประกอบธุรกิจอื่น ๆ

20. เงินบริจาคพรรคการเมือง ตามจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท

รวมค่าลดหย่อน 220,000.00
กรณีที่ 5 กรรมการมีรับรายได้ค่าเช่าบ้านเดือนละ 70,000 บาทและค่าเช่ารถเดือนละ 30,000 บาท
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

Range of Net Income Net Income Tax Rate Tax Amount

1 - 150,000 150,000.00 0% -

150,001 - 300,000 150,000.00 5% 7,500.00

300,001 - 500,000 200,000.00 10% 20,000.00

500,001 - 750,000 120,000.00 15% 18,000.00

750001 - 1,000,000 - 20% -

1,000,000 - 2,000,000 - 25% -

2,000,001-5,000,000 - 30% -

5,000,001 - 35% -

620,000.00 45,500.00 ต่อปี

3,791.67 ต่อเดือน

รวมเงินได้พึงประเมิน หลังหักค่าใช้จ่าย 840,000.00

รวมค่าลดหย่อน ทั้งสิ้น 220,000.00

รวมเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน 620,000.00

ภาษีที่เสีย 45,500.00

60,000.00
ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย

(14,500.00) 3.79%

ประหยัดภาษีนิติบุคคล SME 15% 180,000.00


NON SME 20% 240,000.00

You might also like