บริษัท FI222 จํากัด

งบแสดงฐานะการเงิน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565
(หน่วย: บาท)
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะกิจการ
ณ วันที่ ณ วันที่ ณ วันที่ ณ วันที่
หมายเหตุุ 31 ธันวาคม 2565 31 ธันวาคม 2564 31 ธันวาคม 2565 31 ธันัวาคม 2564
สินทรัพย์
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินสดและรายการเทียบเท่า เงินสด 200,000 200,000 200,000 200,000
ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น 70,000 70,000 70,000 70,000
เจ้าหนี้การค้า 105,000 105,000 105,000 105,000
เงินกู้จากธนาคารกสิกร 400,000 400,000 400,000 400,000
ทุนเรือนหุ้นจดทะเบียนหุ้นสามัญ 550,000 550,000 550,000 550,000
กำไรสะสมต้นงวด 250,000 250,000 250,000 250,000
รายได้ค่าบริการ 875,0000 875,000 875,000 875,000
ต้นทุนค่าบริการ 290,000 290,000 290,000 290,000
เงินเดือนพนักงาน 150,000 150,000 150,000 150,000

รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 1,870,000 1,870,000 1,870,000 1,870,000

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
เงินฝากสถาบันการเงินที่มีภาระคํ้าประกัน 450,000 450,000 450,000 450,000
วัสดุสำนักงาน 85,000 85,000 85,000 85,000
เครื่องจักรการผลิต 350,000 350,000 350,000 350,000
ค่าเสื่อมราคาสะสม - เครื่องจักรบริการ 150,000 150,000 150,000 150,000
ค่าเสื่อมราคา - เครื่องจักรบริการ 50,000 50,000 50,000 50,000
ค่าเช่าอาคาร 100,000 100,000 100,000 100,000
ค่าน้ำค่าไฟ 65,000 65,000 65,000 65,000

ดอกเบี้ยจ่าย 20,000 20,000 20,000 20,000

รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 500,000 500,000 500,000
500,000
รวมสินทรัพย์
2,370,000 2,370,000 2,370,000 2,370,000

หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงิน
นี้

1
ข้อที่ 2: สมมติให้มีการนำเข้าอุปกรณ์จากประเทศจีนราคา 20,000 บาท
มีค่าขนส่งและภาษี 5,000 บาท อายุ การใช้งาน 4 ปี ราคาซากตามบัญชี
2,000 บาท (3 คะแนน)
จงพิจารณาเลือกวิธีการคิดค่าเสื่อมราคาวิธีใด โดยคำนึงถึงผลประโยชน์
ทางภาษีและจะต้องคิดค่าเสื่อมราคาในแต่ ละปีมีจำนวนเท่าใด หากพิจารณา
ระหว่างวิธีเส้นตรง(SL) และวิธีผลรวมจำนวนปี (SYD) ทั้งนี้กำหนดให้
อัตราภาษี 20% อัตราผลตอบแทน 10% ให้เหตุผลประกอบการเลือกวิธี
การคิดค่าเสื่อมราคานั้นๆ

วิธีการคิดค่าเสื่อมราคา

เพื่อที่จะเลือกวิธีการคิดค่าเสื่อมราคาที่เหมาะสมสำหรับการนำเข้าอุปกรณ์
จากประเทศจีนโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ทางภาษีและจำนวนปีที่ต้องคิดค่า
เสื่อมราคาในแต่ละวิธี จะต้องพิจารณาตามข้อมูลที่กำหนดให้:
ราคาเครื่องจากประเทศจีน: 20,000 บาท
ค่าขนส่งและภาษี: 5,000 บาท
อัตราภาษี: 20%
อัตราผลตอบแทน: 10%
ราคาซากตามบัญชี: 2,000 บาท
วิธีการคิดค่าเสื่อมราคา

วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาที่สามารถใช้ได้คือวิธีเส้นตรง (Straight-line
method, SL) และวิธีผลรวมจำนวนปี (Sum-of-years-digits
method, SYD) โดยมีการคิดค่าเสื่อมราคาในแต่ละวิธีดังนี้:

1. วิธีเส้นตรง (Straight-line method, SL):

ค่าเสื่อมราคาในแต่ละปี = (ราคาเริ่มต้น - ราคาซากตามบัญชี) / อายุการใช้
งาน
ค่าเสื่อมราคาในแต่ละปี = (20,000 - 2,000) / 4 = 4,500 บาทต่อปี

2. วิธีผลรวมจำนวนปี (Sum-of-years-digits method, SYD):

ก่อนอื่นเราต้องหาผลรวมของจำนวนปี ซึ่งคำนวณได้ดังนี้:
ผลรวมของจำนวนปี = 4 + 3 + 2 + 1 = 10

ค่าเสื่อมราคาในแต่ละปี = (อายุการใช้งาน - จำนวนปีที่ผ่านไป) / ผลรวม

ของจำนวนปี * (ราคาเริ่มต้น - ราคาซากตามบัญชี) * อัตราภาษี

ในที่นี้เรากำหนดอัตราภาษีเป็น 20% ซึ่งจะนำไปใช้ทั้งในวิธีการเส้นตรง (SL)

และวิธีผลรวมจำนวนปี (SYD) ในการคำนวณผลประโยชน์ทางภาษี
วิธีการคิดค่าเสื่อมราคา

เราสามารถคำนวณผลประโยชน์ทางภาษีในแต่ละปีจากการคิดค่าเสื่อมราคาได้
ดังนี้:

วิธีเส้นตรง (SL):
ปีที่ 1: ค่าเสื่อมราคา = 4,500 บาท
ภาษีที่ประหยัด = 4,500 * 20% = 900 บาท

ปีที่ 2: ค่าเสื่อมราคา = 4,500 บาท

ภาษีที่ประหยัด = 4,500 * 20% = 900 บาท

ปีที่ 3: ค่าเสื่อมราคา = 4,500 บาท

ภาษีที่ประหยัด = 4,500 * 20% = 900 บาท

ปีที่ 4: ค่าเสื่อมราคา = 4,500 บาท

ภาษีที่ประหยัด = 4,500 * 20% = 900 บาท

ผลประโยชน์ทางภาษีทั้งหมดในระยะเวลา 4 ปี = 900 + 900 + 900 +

900 = 3,600 บาท
วิธีการคิดค่าเสื่อมราคา

วิธีผลรวมจำนวนปี (SYD):
ปีที่ 1: ค่าเสื่อมราคา = (4 - 1) / 10 * (20,000 - 2,000) = 5,400
บาท
ภาษีที่ประหยัด = 5,400 * 20% = 1,080 บาท

ปีที่ 2: ค่าเสื่อมราคา = (4 - 2) / 10 * (20,000 - 2,000) = 4,320

บาท
ภาษีที่ประหยัด = 4,320 * 20% = 864 บาท

ปีที่ 3: ค่าเสื่อมราคา = (4 - 3) / 10 * (20,000 - 2,000) = 3,600

บาท
ภาษีที่ประหยัด = 3,600 * 20% = 720 บาท

- ปีที่ 4: ค่าเสื่อมราคา = (4 - 4) / 10 * (20,000 - 2,000) = 2,000

บาท
ภาษีที่ประหยัด = 2,000 * 20% = 400 บาท

ผลประโยชน์ทางภาษีทั้งหมดในระยะเวลา 4 ปี = 1,080 + 864 + 720 +

400 = 3,064 บาท
สรุป

จากการพิจารณาผลประโยชน์ทางภาษีและจำนวนปีที่ต้องคิดค่าเสื่อมราคาใน
แต่ละวิธี จะเห็นว่าผลประโยชน์ทางภาษีในวิธีเส้นตรง (SL) มีมูลค่าสูงกว่า
วิธีผลรวมจำนวนปี (SYD) ซึ่งเป็น 3,600 บาท ต่อ 3,064 บาท ดังนั้น
วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาที่เหมาะสมสำหรับการนำเข้าอุปกรณ์จากประเทศจีน
คือวิธีเส้นตรง (SL) เนื่องจากมีผลประโยชน์ทางภาษีสูงกว่าและไม่ต้องคิด
ค่าเสื่อมราคาในแต่ละปีมากเกินไป