You are on page 1of 12

แบบทดสอบเก็บคะแนน

บทที่ 11 การสื บพันธุ์และการเจริญเติบโต


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องสุดเพียงข้อเดียว
1. Primordial germ cells สร้ำงมำจำก
ก. อัณฑะ ข. รังไข่
ค. อัณฑะและรังไข่ ง. เนื้อเยือ่ ที่หุม้ นอกอัณฑะและรังไข่
2. หน้ำที่สำคัญของถุงอัณฑะคือ
ก. ช่วยให้อณ ั ฑะสร้ำงฮอร์โมน
ข. ช่วยปรับอุณหภูมิให้พอเหมำะสำหรับสร้ำงตัวอสุจิ
ค. ช่วยป้องกันอันตรำยแก่อณ ั ฑะ
ง. ช่วยให้ผลิตน้ ำอสุ จิที่มีคุณภำพสูง
3. ทำรกเริ่ มมีหูในช่วงอำยุกี่สัปดำห์
ก. 3 สัปดำห์ ข. 4 สัปดำห์ ค. 5 สัปดำห์ ง. 6 สัปดำห์
4. ฮอร์โมนจำกต่อมใดที่หลัง่ มำกระตุน้ ให้กล้ำมเนื้อมดลูกบีบตัวในช่วงคลอด
ก. รังไข่ ข. มดลูก ค. ต่อมใต้สมอง ง. ทั้ง ก, ข,ค
5. หญิงอำยุประมำณเท่ำใด จึงจะเริ่ มมีประจำเดือน
ก. 12 ปี ข. 15 ปี ค. 17 ปี ง. 19 ปี
6. ในขณะที่ผหู ้ ญิงมีประจำเดือนนั้น ระดับฮอร์โมนเพศในเลือดควรจะ
ก. มีอิสโทรเจนสูงมำก ข. มีโพรเจสเทอโรนสูงมำก
ค. มีอิสโทรเจนและโพรเจสเทอโรนสูงมำก ง. มีอิสโทรเจนและโพรเจสเทอโรนต่ำมำก
7. อุณหภูมิเฉลี่ยในถุงอัณฑะของคนควรจะเป็ นเท่ำใด
ก. 37 ํ C ข. 30 ํ C ค. 34 ํ C ง. 40 ํ C
8. อวัยวะสร้ำงเซลล์สืบพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวผูค้ ือ
ก. อสุจิ ข. รังไข่ ค. อัณฑะ ง. ไข่
9. จำกกรำฟแสดงว่ำกำรตกไข่เริ่ มเกิดในวันที่
ก. 6 ข. 8 ค. 12 ง. 28
10. หญิงคนหนึ่ งมีประจำเดือนทุก 28 วัน เมื่อเดือนกุมพำพันธ์ประจำเดือนวันแรกคือวันที่ 19 มี
ประจำเดือนอยู่ 5 วัน จึงหยุด หญิงคนนี้จะตกไข่ครั้งต่อไปในวันที่เท่ำใด
ก. 4 มีนำคม ข. 10 มีนำคม ค. 14 มีนำคม ง. 28 กุมภำพันธ์
11. ข้อควำมใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับรก
ก. สร้ำงฮอร์โมนได้ ผ่ำนของเสี ยไปได้
ข. เกิดจำกกำรสร้ำงของเนื้อเยือ่ แม่และเอ็มบริ โอ
ค. เป็ นทำงรับอำหำรของลูก
ง. เป็ นอวัยวะที่มีอยูแ่ ล้วในมดลูก
12. ช่องคลอดไม่ได้ทำหน้ำที่ใด
ก. ทำงผ่ำนของทำรก ข. ทำงผ่ำนของประจำเดือน
ค. ทำงผ่ำนของปัสสำวะ ง. ทำงผ่ำนของอสุจิเข้ำผสมกับไข่
13. สมศรี แต่งงำนแล้วในเดื อนมกรำคม พอเดือนมีนำคมเริ่ มมี ประจำเดือนวันแรก 15 มี นำคม
ระยะเวลำใดที่สมศรี ร่วมหลับนอนกับสำมีแล้วตั้งครรภ์ได้ง่ำยที่สุด
ก. 1-4 เมษำยน ข. 27-30 มีนำคม
ค. 20-23 มีนำคม ง. 15-20 มีนำคม
14. ในคนเรำนั้นมีกระบวนกำรรี เจเนอเรชันที่ใด
ก. เซลล์เม็ดเลือดขำว ข. เซลล์สมอง
ค. เซลล์ตบั ง. เซลล์ผิวหนัง
15. ในรังไข่ของหนูหำกพบจำนวนโอโอไซต์ปฐมภูมิ (Primary oocyte) ที่เจริ ญมำพร้อม ๆ กัน 16
เซลล์ เมื่อเซลล์เหล่ำนี้เจริ ญถึงขั้นตกไข่ จะได้ไข่จำนวนเท่ำไร
ก. 16 ข. 32 ค. ไม่เกิน 16 ง. ไม่เกิน 32
16. ในหญิงอำยุ 20-35 ปี ไข่ที่หลุดออกจำกรังไข่โดยมำกจะเป็ นเซลล์ในระยะใดของไมโอซิ ส
และหลังจำกปฏิสนธิแล้ว ตัวอ่อนจะฝังตัวในเยือ่ บุมดลูกประมำณวันที่เท่ำใดของรอบประจำเดือน
ก. ระยะก่อนเริ่ มมีกำรแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส , ประมำณวันที่ 7
ข. ระยะหลังไมโอซิสขั้นที่ 1 แล้ว, ประมำณวันที่ 7
ค. ระยะหลังไมโอซิสขั้นที่ 2 แล้ว, ประมำณวันที่ 21
ง. ระยะหลังไมโอซิสขั้นที่ 2 แล้ว, ประมำณวันที่ 18
17. เมื่อคอร์ปัสลูเทียมสลำยตัวภำยในสองสัปดำห์ยอ่ มแสดงว่ำ
ก. กำรฝังตัวจะเกิดขึ้นภำยใน 1 สัปดำห์ ข. กำรเกิดคลีเวจของเอ็มบริ โอไม่สมบูรณ์
ค. ประจำเดือนในเดือนนั้นผิดปกติ ง. ไม่มีปฏิสนธิเกิดขึ้น
18. ผูช้ ำยผิดปกติที่มีอณ ั ฑะหลบเข้ำไปอยูใ่ นช่องท้องจะเป็ นหมันเพรำะ
ก. ไม่มีควำมรู ้สึกทำงเพศ
ข. ขำดกำรสร้ำงฮอร์โมนเพศ
ค. ไม่สำมำรถสร้ำงอสุจิได้
ง. สำมำรถสร้ำงอสุจิได้แต่อสุจิไม่มีทำงออกสู่ภำยนอกได้
19. เอ็มบริ โอในระยะหลังจำกคลีเวจเป็ นก้อนกลมภำยในกลวง เรี ยกว่ำ
ก. blastomere ข. Morula ค. blastula ง. Blastocoel
20. คลีเวจมีลกั ษณะพิเศษของกำรแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส คือ
ก. นิวเคลียสไม่แยกออกจำกกัน
ข. ไม่มีกำรเจริ ญเติบโตของเซลล์เหล่ำนั้น
ค. ไม่มีกำรสร้ำงใยสปิ นเดิลเพื่อดึงโครโมโซม
ง. เยือ่ พลำสมำของเซลล์ลูกไม่แยกจำกกัน
21. อวัยวะที่มีอตั รำกำรเติบโตน้อยที่สุดภำยหลังเกิด คือ
ก. กระดูก ข. หัวใจ ค. สมอง ง. รังไข่
22. ของเสี ยที่เป็ นสำรประกอบไนโตรเจนของเอ็มบริ โอของนกและสัตว์เลื้อยคลำนจะ
ก. แพร่ ออกจำกไข่โดยผ่ำนทำง Chorioallantoic membrane
ข. เก็บสะสมไว้ในไข่จนกว่ำจะออกเป็ นตัว
ค. ละลำยอยูใ่ น Amnion fluid
ง. ไม่มีกำรสร้ำงขึ้นมำในขณะอยูใ่ นไข่
23. โครงสร้ำงคู่ใดของเอ็มบริ โอที่ทำหน้ำที่เหมือนกัน
ก. แอลแลนทอยส์ ปอด ข. แอลแลนทอยส์ ถุงน้ ำคร่ ำ
ค. แอลแลนทอยส์ รก ง. รก ถุงน้ ำคร่ ำ
24. วุน้ ที่อยูร่ อบ ๆ ไข่กบทำหน้ำที่
ก. ป้องกันไม่ให้ได้รับอันตรำย
ข. ป้องกันตัวไรน้ ำไม่ให้เข้ำไปกินไข่
ค. ป้องกันไม่ให้ไข่แต่ละใบเบียดกันมำกเกินไป
ง. เป็ นอำหำรสำหรับเลี้ยงเอ็มบริ โอขณะเติบโต
25. รกของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีโครงสร้ำงที่ประกอบด้วย
ก. Chorion และ Allantois
ข. Uterus และ Amnion
ค. Chorionic mesoderm และ Allantois stalk
ง. เยือ่ บุ Uterus และ Allantonic mesoderm และ Chorion
26. กำรเติบโต (Growth ) ของสิ่ งมีชีวิตจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ
ก. ได้รับ Growth hormone จำกต่อมใต้สมอง
ข. เซลล์มีกำรแบ่งตัวแล้วทำให้ขนำดเพิ่มขึ้น
ค. มีกำรดูดซึมของสำรเข้ำไปในเซลล์
ง. มีกำรเพิ่มปริ มำณไซโทพลำซึมจำกกำรสังเครำะห์
27. กำรที่ระยะคลีเวจ (Cleavage) ของไก่ เกิดเฉพำะบริ เวณเล็ก ๆ ที่ปลอดจำกไข่แดง (Yolk) นั้น
เป็ นเพรำะ
ก. ไข่แดงมีมำกไม่สำมำรถแบ่งตัวได้ ข. ไข่แดงอยูใ่ นแวคิวโอล
ค. ไข่แดงอยูน่ อกเซลล์ ง. ไข่แดงเป็ นสำรอำหำรสำหรับตัวอ่อน
28. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีวิธีป้องกันไม่ให้ลูกอ่อนได้รับอันตรำยโดย
ก. สร้ำงสำยรก ข. สร้ำงกระเป๋ ำหน้ำท้อง
ค. สร้ำงเปลือกหุม้ ไข่ ง. ข้อ ก, ข และ ค ถูก
29. ระยะสุ ดท้ำยของเอ็มบริ โอของคนสิ้ นสุ ดลงเมื่อประมำณ
ก. 30 วันหลังปฏิสนธิ ข. 60 วันหลังปฏิสนธิ
ค. 90 วัน หลังปฏิสนธิ ง. ระยะที่คลอด
30. ในกระบวนกำรเจริ ญเติบโตของตัวอ่อนของสัตว์ ระบบอวัยวะที่เจริ ญก่อนระบบอื่นคือระบบ
ก. ประสำท ข. ทำงเดินอำหำร
ค. หมุนเวียนโลหิต ง. ระยะที่คลอด
31. เอ็มบริ โอของสัตว์ปีกแลกเปลี่ยนแก๊สทำงใด
ก. ถุงน้ ำคร่ ำ ข. แอลแลนทอยส์
ค. เส้นเลือดจำกเอ็มบริ โอ ง. เส้นเลือดจำกไข่แดงสู่หวั ใจ
32. ตัวอ่อนของสัตว์ที่เจริ ญอยูภ่ ำยนอกตัวแม่น้ นั กำรเจริ ญเติบโตขึ้นอยูก่ บั
ก. อำหำรจำกตัวแม่ ข. อำหำรใน Yolk
ค. ปริ มำณ Amnion ง. ปริ มำณ Allantois
33. ระยะใดที่มีกำรผลิตเม็ดเลือดขำวมำกที่สุด
ก. ตอนโตเต็มที่ ข. วัยชรำ ค. แรกเกิด ง. วัยรุ่ น

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เฉลยแบบทดสอบเก็บคะแนน
บทที่ 11 การสื บพันธุ์และการเจริญเติบโต
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เฉลยข้ อ ง เหตุ ผล Primordial germ cell เป็ นเซลล์ต้น ก ำเนิ ดของ Spermatogonium
หรื อ Oogonium Promordial germ cell เริ่ มเจริ ญมำจำกกลุ่มเซลล์ บริ เวณช่องท้องของตัวอ่อน
ซึ่งเคลื่อนเข้ำไปอยูใ่ นอวัยวะสื บพันธุ์ในช่วงกำรเจริ ญของอวัยวะสื บพันธุ์
2. เฉลยข้ อ ข เหตุ ผล ถุงอัณ ฑะท ำหน้ำที่ ป รับ อุณ หภูมิ ให้พ อเหมำะกับ กำรสร้ ำงอสุ จิ
เนื่องจำกถุงอัณฑะห้อยอยู่นอกร่ ำงกำย อุณหภูมิจึงต่ำกว่ำอุณหภูมิ ภำยในร่ ำงกำยเล็กน้อย จึงทำให้
สร้ำงอสุจิได้ หำกอุณหภูมิเท่ำกับอุณหภูมิร่ำงกำย อสุ จิที่สร้ำงขึ้นมำแล้วอำจไม่สมบูรณ์หรื อตำยได้
3. เฉลยข้อ ง เหตุผล เมื่อทำรกอยูใ่ นครรภ์อำยุ 6 สัปดำห์ เริ่ มมีหู
4. เฉลยข้ อ ค เหตุผล ในขณะที่มำรดำคลอด ฮอร์โมนออกซิโทซิ นจำกต่อมใต้สมองส่ วน
หลังจะหลัง่ ออกมำกระตุน้ กล้ำมเนื้ อมดลูกให้บีบตัวประกอบกับกำรหดตัวของกล้ำมเนื้ อหน้ำท้อง
ทำให้มดลูกเปิ ดพร้อมกับกำรหดตัวของกล้ำมเนื้ อหน้ำท้องทำให้มดลูกเปิ ดพร้อมกับดันทำรกให้
ออกทำงช่องคลอด
5. เฉลยข้อ ก เหตุผล เด็กหญิงเมื่อมีอำยุประมำณ 12 ปี จะเริ่ มมีรอบประจำเดือน
6. เฉลยข้ อ ง เหตุผล ในขณะที่ผหู ้ ญิงมีประจำเดือนนั้นระดับฮอร์โมนเพศในเลือดควรจะมี
ระดับต่ำมำก
7. เฉลยข้ อ ค เหตุ ผ ล ถุ ง อัณ ฑะอยู่น อกร่ ำงกำย อุ ณ หภู มิ จึ ง ต่ ำกว่ำอุ ณ หภู มิ ร่ำงกำย
ประมำณ 3-4 องศำเซลเซียส
8. เฉลยข้อ ค เหตุผล อวัยวะสร้ำงเซลล์สืบพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวผูค้ ืออัณฑะ
9. เฉลยข้ อ ค เหตุผล จำกกรำฟในวันที่ 12 ผนังมดลูกเริ่ มหนำตัวอย่ำงรวดเร็ วแสดงว่ำ
เป็ นจุดเริ่ มของกำรตกไข่
10. เฉลยข้ อ ก เหตุผล วันแรกที่มีประจำเดือนวันที่ 19 กุมภำพันธ์ มีประจำเดือน 5 วัน
จึงหมดประจำเดือนวันที่ 24 กุมภำพันธ์ หลังจำกเริ่ มมีประจำเดือนอีก 14 วัน ต่อมำไข่จึงตก ซึ่ ง
ตรงกับวันที่ 4 มีนำคม
11. เฉลยข้ อ ง เหตุ ผล รกไม่ ได้มี อยู่แล้วในมดลูก แต่จะเกิดต่อเมื่อตัวอ่อนฝั งตั วที่ ผนัง
มดลูก
12. เฉลยข้ อ ค เหตุผล ช่องคลอดไม่ใช่ทำงออกของน้ ำปั สสำวะ น้ ำปั สสำวะจะออกตำม
ท่อปัสสำวะ
13. เฉลยข้ อ ข เหตุผล หลังจำกมีประจำเดือนวันแรกแล้วอีก 14 วันจึ งมีกำรตกไข่ และ
ในเวลำใกล้เคียงกัน ถ้ำร่ วมหลับนอนกับสำมีแล้วในช่วงนั้นจะตั้งครรภ์ง่ำยที่สุด
14. เฉลยข้ อ ง เหตุผล ในเซลล์ทวั่ ร่ ำงกำยของคนมี เซลล์บำงกลุ่มมีกระบวนกำรรี เจเนอ
เรชันได้ ตัวอย่ำงเช่น เซลล์ที่ผิวหนังจะสร้ำงขึ้นมำใหม่ได้เรื่ อย ๆ สำหรับเซลล์สมองและเซลล์ตบั
ไม่มีรีเจเนอเรชัน เช่นเดียวกับเซลล์เม็ด เลือดขำว แต่เซลล์ไขกระดูกซึ่ งเป็ นแหล่งที่สร้ำงเม็ดเลือด
แดงและเม็ดเลือดขำวถือว่ำมีรีเจเนอเรชัน
15. เฉลยข้ อ ค เหตุผล ในเหตุกำรณ์ปกติจำกจำนวนโอโอไซต์ปฐมภูมิ 1 เซลล์จะให้ไข่ 1
เซลล์ แต่บำงเซลล์อำจไม่เจริ ญดังนั้น จำกโอโอไซต์ปฐมภูมิ 16 เซลล์ เมื่อเจริ ญเป็ นเซลล์ไข่จึงอำจ
ได้ไข่ไม่ถึง 16 เซลล์ หรื อถ้ำเจริ ญทั้งหมดก็ได้ 16 เซลล์ แต่จะไม่เกิน 16 เซลล์
16. เฉลยข้อ ค เหตุผล หญิงอำยุรำว 20-35 ปี มีโอโอไซต์ระยะแรกอยู่ในรังไข่ เมื่อตกไข่
เซลล์จะแบ่งเป็ นโอโอไซต์ระยะที่สอง และเมื่อเกิดปฏิสนธิไซโกตจะแบ่งเซลล์พร้อมกับเคลื่อนตัว
เข้ำฝังกับมดลูกหลังจำกปฏิสนธิประมำณ 1 สัปดำห์ ซึ่งหมำยถึง ตกไข่ในรำววันที่ 14 หลังจำก
ประจำเดือนครั้งที่แล้ว และไข่ถูกผสมเลยจะกินเวลำรำววันที่ 21 หรื อหลังจำกนั้นไม่เกิน 2 วันที่
ตัวอ่อนจะมำฝังตัวในเยือ่ มดลูก
17. เฉลยข้ อ ง เหตุผล ในขณะที่คอร์ปัสลูเทียมยังอยู่ผนังมดลูกจะยังหนำตัวเตรี ยมรับกำร
ฝังตัวของตัวอ่อน หรื อมีตวั อ่อนฝังตัวอยู่แล้วก็ได้ แต่เมื่อคอร์ ปัสลูเทียมสลำยตัว แสดงว่ำไม่มีกำร
ฝังตัวของตัวอ่อน หรื อ ไม่มีกำรปฏิสนธิเกิดขึ้น
18. เฉลยข้ อ ค เหตุ ผล ในชำยที่ ผิดปกติ อัณ ฑะหลบเข้ำไปอยู่ในช่ องท้องจะเป็ นหมัน
เพรำะภำยในช่ อ งท้อ งอุ ณ หภู มิ สู ง กว่ำอุ ณ หภู มิ ข องถุ ง อัณ ฑะปกติ ร ำว 4 องศำเซลเซี ย ส คื อ
อุณหภูมิเท่ำ ๆ กับอุณหภูมิร่ำงกำย อสุ จิที่ถูกสร้ำงขึ้นอำจไม่สมบูรณ์หรื อตำยได้
19. เฉลยข้อ ค เหตุผล เอ็มบริ โอก้อนกลมกลวงหลังจำกระยะคลีเวจ เรี ยกว่ำ blastula
20. เฉลยข้ อ ข เหตุผล ในกำรแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส ช่วงคลีเวจเซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นจะไม่
เติบโตใหญ่กว่ำเดิมมีแต่ขนำดเล็กลง
21. เฉลยข้ อ ง เหตุผล รังไข่จะเจริ ญช้ำที่สุดหลังจำกเกิดแล้ว เนื่องจำกกำรเจริ ญของรังไข่
จะอยูใ่ นช่วง อำยุ 13-14 ปี เมื่อฮอร์โมนเพศเจริ ญจึงไปกระตุน้ รังไข่ให้เจริ ญเต็มที่ได้
22. เฉลยข้ อ ข เหตุผล ของเสี ยที่เป็ นสำรประกอบไนโตรเจนของเอ็ มบริ โอของนก และ
สัตว์เลื้อยคลำน จะเก็บสะสมไว้ในถุงแอลแลนทอยส์ จนกว่ำจะฟักออกเป็ นตัว
23. เฉลยข้ อ ค เหตุผล โครงสร้ำงของเอ็มบริ โอที่ทำหน้ำที่ คล้ำยกัน คือ แอลแลนทอยส์
กับรก เนื่ องจำกต่ำงก็มีเส้นเลือดฝอยเอำไว้ใช้แลกเปลี่ยนแก๊ ส โดยแอลแลนทอยส์อยู่ในไข่ของ
สัตว์พวกนกและสัตว์เลื้อยคลำน แต่รกอยูใ่ นพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
24. เฉลยข้ อ ก เหตุผล วุน้ ที่ อยู่รอบ ๆ ไข่ กบ ท ำให้ไข่กบลอยน้ ำได้ ทำให้ไข่ไม่ได้รับ
อันตรำยจำกควำมแห้ง
25. เฉลยข้ อ ง เหตุ ผล รกประกอบด้วยเนื้ อเยื่อของมดลู ก (Uterine) ของแม่ส่ วนเยื่อแอ
ลแลนทอยส์ และส่วน Chorion
26. เฉลยข้ อ ข เหตุผล กำรเจริ ญเติบโตของสิ่ งมีชีวิต จะเกิดเมื่อเซลล์มีกำรแบ่งเซลล์ แล้ว
เซลล์น้ นั เจริ ญเติบโตขึ้น
27. เฉลยข้ อ ก เหตุผล ไข่ไก่หรื อไข่นกเป็ นไข่ชนิ ดที่มีไข่แดงมำก เนื่ องจำกต้องเจริ ญอยู่
นอกตัวแม่ จำเป็ นต้องใช้อำหำรที่ อยู่ในไข่แดงเลี้ยงตัวอ่อน จึงเหลือบริ เวณที่แบ่งตัวได้ เรี ยกว่ำ
Germinal disc ซึ่งเป็ นจุดขำว ๆ เหนือไข่แดงเอำไว้
28. เฉลยข้ อ ง เหตุผล สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มี วิธีป้องกันไม่ให้ลูกอ่อนได้รับอันตรำยได้
หลำยวิธี โดย
ก. เจริ ญอยู่ในมดลูกแม่ ได้อำหำรทำงสำยสะดือต่อกับทำรกทำให้ลูกไม่ได้รับอันตรำย
และได้อำหำรด้วย เช่น ในสัตว์ช้ นั สู งทัว่ ไปที่เจริ ญในมดลูกจนกระทัง่ คลอดเป็ นตัว
ข. สร้ำงกระเป๋ ำหน้ำท้องซึ่ งเป็ นที่เจริ ญเติบโตและมีต่อมน้ ำนมอยู่ภำยใน ในพวกจิงโจ้
ซึ่งเป็ นสัตว์ช้ นั ต่ำกว่ำ
ค. สร้ำงเปลือกหุม้ ไข่ในสัตว์พวกตุ่นปำกเป็ ด ซึ่งเป็ นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขั้นต่ำสุ ด
29. เฉลยข้ อ ข เหตุผล ในเอ็มบริ โอของคนเมื่ออำยุครบ 60 วัน หลังปฏิสนธิจะมีอวัยวะ
ต่ำง ๆ ครบบริ บูรณ์ จะเรี ยกใหม่วำ่ ฟี ตัส (Fetus) ไม่เรี ยกว่ำ เอ็มบริ โออีก
30. เฉลยข้ อ ข เหตุผล ในกำรเจริ ญเติบโตของสัตว์ ระบบทำงเดินอำหำรจะเกิดก่อนแรก
สุ ดโดยเริ่ มจำก Gastrocoel หรื อ Archenteron ในระยะ แก๊สทรู ลำ ซึ่งต่อไปจะกลำยเป็ นทำงเดิน
อำหำร
31. เฉลยข้ อ ข เหตุผล ที่แอลแลนทอยส์ ของสัตว์ปีกมี เส้นเลือดฝอยเต็มไปหมดเพื่ อใช้
แลกเปลี่ยนแก๊ส
32. เฉลยข้ อ ข เหตุ ผล สั ตว์ที่ ระยะตัวอ่อนเจริ ญอยู่นอกตัวแม่น้ ันได้อำหำรจำกไข่ แดง
หรื อ Yolk ที่สะสมเอำไว้ ดังนั้นจะเห็นว่ำตัวอ่อนเจริ ญนอกตัวแม่ยงิ่ นำน Yolk ก็ยงิ่ มำก
33. เฉลยข้ อ ง เหตุผล ระยะที่คนมีกำรผลิตเม็ดเลือดขำวมำกที่สุดอยูใ่ นระยะวัยรุ่ น ซึ่งเริ่ ม
เจริ ญรำวอำยุ 12-13 ปี ดังกรำฟ
แบบทดสอบชุดที่ 2
บทที่ 11 การสื บพันธุ์และการเจริญเติบโต เรื่ อง การเจริญเติบโต
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. กำรแบ่งเซลล์ของไซโกตในระยะคลีเวจ คือ จำก 1 ไปเป็ น 2 เซลล์ 2 เซลล์ไปเป็ น 4 เซลล์
และเรื่ อย ๆ ไปจนได้เอ็มบริ โอมีลกั ษณะคล้ำยผลน้อยหน่ ำนั้น ในสัตว์แต่ละชนิ ดจะได้เซลล์ที่เล็ก
ใหญ่แตกต่ำงกัน ทั้งนี้เป็ นเพรำะ
ก. กำรเจริ ญของสัตว์แตกต่ำงกัน ข. ขนำดของแม่สัตว์
ค. ขนำดของไข่ ง. ปริ มำณอำหำรำภำยในไข่
2. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ที่แท้จริ งของวุน้ ที่หุม้ อยูร่ อบ ๆ ไข่กบ
ก. เป็ นอำหำรสำหรับตัวอ่อนที่อยูภ่ ำยในไข่ จะใช้สำหรับกำรเจริ ญเติบโต
ข. ทำให้ไข่กบไม่จมน้ ำ
ค. ป้องกันไม่ให้เชื้อรำหรื อแบคทีเรี ยทำให้ไข่เน่ำเสี ย
ง. ไข่กบไม่อดั กันแน่นจนเกินไป
3. เมื่อนำไข่สัตว์ชนิดหนึ่งมำส่องดูดว้ ยกล้องจุลทรรศน์ พบว่ำมีกำรแบ่งตัวดังภำพ

อยำกทรำบว่ำ ไข่ของสัตว์ที่เห็นน่ำจะเป็ นไข่ของสัตว์ใด


ก. นก กับ เม่นทะเล ข. นก กับ งู
ค. นก กับ คน ง. คน กับ งู
4. จำกภำพแสดงกำรเปลี่ยนแปลงของไข่หลังปฏิสนธิ

แสดงว่ำอยูใ่ นช่วงใด
ก. Organogenesis ข. Gastrulation
ค. Blastulation ง. Cleavage
จากภาพข้างล่างใช้ ตอบคาถามข้อ 5-6

5. หมำยเลขใดคือบริ เวณที่จะเจริ ญไปเป็ นตัวอ่อน


ก. หมำยเลข 1 ข. หมำยเลข 2 ค. หมำยเลข 3 ง. หมำยเลข 4
6. หมำยเลขใดเป็ นอำหำรของเอ็มบริ โอ
ก. หมำยเลข 1 ข. หมำยเลข 3 ค. หมำยเลข 4 ง. หมำยเลข 5
7. หน้ำที่ของแอลแลนทอยส์ (Allantois) คือ
ก. แลกเปลี่ยนแก๊สกับภำยนอก ข. เก็บของเสี ยประเภทกรดยูริก
ค. ป้องกันกำรสู ญเสี ยน้ ำ ง. ทั้ง ก และ ข
8. หน้ำที่ของ Amnion คือ
ก. ป้องกันกำรกระเทือน ข. ป้องกันกำรสู ญเสี ยน้ ำ
ค. ทั้ง ก และ ข ง. ไม่ใช่ท้ งั ก และ ข
9. ภำพที่เห็นเป็ นไข่ของสัตว์ใด

ก. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ข. สัตว์ปีก
ค. สัตว์เลื้อยคลำน ง. สัตว์สะเทินน้ ำสะเทินบก
10. สัตว์ใดที่ไม่มีเมตำมอร์โฟซิส
ก. ดำวทะเล ข. แมลงปอ ค. นกเขำ ง. คำงคก

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เฉลยแบบทดสอบชุดที่ 2
บทที่ 11 การสื บพันธุ์และการเจริญเติบโต เรื่ อง การเจริญเติบโต
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เฉลยข้ อ ง เหตุผล คลีเวจของไซโกต สัตว์แต่ละชนิ ดจะมีกระบวนกำรที่แตกต่ำงกัน
รวมทั้งเซลล์ที่ได้แตกต่ำงกันนั้น ขึ้นกับปริ มำณอำหำรภำยในไข่ของสัตว์แต่ละชนิ ด หรื อที่เรี ยกว่ำ
ไข่แดงของสัตว์แต่ละชนิ ดมีปริ มำณแตกต่ำงกัน ยิ่งมีไข่แดงมำก กำรแบ่งเซลล์ของไซโกต ในระยะ
คลีเวจยิง่ ช้ำ เซลล์ที่ได้อำจมีขนำดแตกต่ำงกัน
2. เฉลยข้ อ ก เหตุผล วุน้ ที่อยู่รอบ ๆ ไข่กบไม่ใช่อำหำร หรื อไข่แดงภำยในไข่ที่มีสำหรับ
เอ็มบริ โอใช้ในกำรเจริ ญเติบโต แต่วุน้ นั้นทำหน้ำที่อื่น ๆ คือ ไม่ทำให้ไข่กบอัดกันแน่นจนเกินไป
ป้องกันจุลินทรี ยท์ ำลำยไข่ และทำให้ไข่กบลอยน้ ำได้
3. เฉลยข้อ ข เหตุผล คลีเวจของไข่สัตว์ที่แบ่งเซลล์ไข่ได้บำงส่ วนของเซลล์ไข่น้ นั
แสดงว่ำ เซลล์ไข่น้ นั มีไข่แดงมำก ทำให้ไม่สำมำรถแบ่งเซลล์ได้ท้ งั เซลล์ จึงเป็ นไข่ของสัตว์ปีก
และสัตว์เลื้อยคลำน
4. เฉลยข้ อ ง เหตุผล กำรแบ่งเซลล์ของไซโกตจำกระยะ 1 เซลล์ไปเป็ น 2 เซลล์ จำก 2
เซลล์ไปเป็ น 4 เซลล์และได้เอ็มบริ โอที่กลมคล้ำยผลน้อยหน่ำนั้นเกิดในช่วง Cleavage
5. เฉลยข้ อ ข เหตุผล บริ เวณนี้ คือ เจอร์ มินัล ดิสก์ ของไข่สัตว์ปีก เปรี ยบเทียบได้กับ
นิวเคลียสของเซลล์ไข่ บริ เวณนี้จะเจริ ญไปเป็ นเอ็มบริ โอ
6. เฉลยข้ อ ง เหตุ ผล หมำยเลข 5 คือ บริ เวณที่ เป็ นไข่แดงซึ่ งท ำหน้ำที่ เป็ นอำหำรให้
เอ็มบริ โอระหว่ำงเจริ ญเติบโต
7. เฉลยข้ อ ง เหตุผล หน้ำที่ของแอลแลนทอยส์ คือ เป็ นถุงแลกเปลี่ยนแก๊สกับภำยนอก
และเก็บของเสี ยประเภทกรดยูริกซึ่งเป็ นของเสี ยที่เกิดจำกเอ็มบริ โอ
8. เฉลยข้ อ ค เหตุผล Amnoin หรื อถุงน้ ำคร่ ำหุ ้ม รอบ ๆ เอ็มบริ โอภำยในถุงมี ของเหลว
บรรจุอยู่ ทำหน้ำที่ช่วยป้องกันกำรกระเทือนและป้องกันกำรสู ญเสี ยน้ ำได้ดว้ ย
9. เฉลยข้อ ก เหตุผล เซลล์ที่เห็นเป็ นเซลล์ไข่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เพรำะมีไข่แดงน้อย
หรื อไม่เห็นไข่แดง
10. เฉลยข้ อ ค เหตุ ผ ล นกเขำ หรื อสั ต ว์ปี กไม่ มี ก ำรเปลี่ ย นแปลงรู ป ร่ ำ งในกำร
เจริ ญเติบโต แสดงว่ำ ไม่มีเมตำมอร์โฟซิส (Metamorphosis)

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แบบทดสอบชุดที่ 1
บทที่ 11 การสื บพันธุ์และการเจริญเติบโต เรื่ อง การสื บพันธุ์
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ในเรื่ องของกำรผสมพันธุ์ สิ่ งใดต่อไปนี้ต่ำงจำกสิ่ งมีชีวิตชนิดอื่น
ก. ไส้เดือนดิน ข. แมลงสำบ ค. ไฮดรำ ง. พลำนำเรี ย
2. ข้อควำมใดที่ไม่จริ ง สำหรับกำรสื บพันธุ์แบบอำศัยเพศ
ก. ลูกวัวมีลกั ษณะแตกต่ำงกันได้ ข. สิ่ งมีชีวิต 2 ชีวิต แต่ละชนิดมีเพศเดียว
ค. นิวเคลียสของเซลล์สืบพันธุ์เพศผูเ้ ข้ำผสมกับนิวเคลียสเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย
ง. มีกำรผลิตเซลล์สืบพันธุ์เพศผูแ้ ละเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย
3. สิ่ งใดน่ำจะบ่งบอกได้วำ่ จะเป็ นกำรผสมพันธุ์ภำยใน
ก. ปริ มำณตัวอสุจิจำนวนมำก ข. ปริ มำณตัวอสุจิจำนวนน้อย
ค. ปริ มำณไข่จำนวนมำก ง. ปริ มำณไข่จำนวนน้อย
4. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเกือบทั้งหมดออกลูกเป็ นตัว ยกเว้นข้อใด
ก. ตัวตุ่น ข. ตุ่นปำกเป็ ด ค. จิงโจ้ ง. หมีโคอำล่ำ
5. กำรผสมเทียมหมำยถึงข้อใด
ก. กำรนำเซลล์สืบพันธุ์ไปกระตุน้ ให้เจริ ญเติบโตจนถึงระยะโตเต็มวัย
ข. กำรนำไข่ไปผสมกับอสุจิในภำชนะนอกตัวแม่
ค. กำรนำตัวอสุจิมำฉีดเข้ำไปในมดลูกของแม่ในระยะที่แม่กำลังตกไข่
ง. ข และ ค ถูก
6. ทำรกในหลอดแก้วถือว่ำเป็ น
ก. กำรผสมเทียมวิธีหนึ่ง ข. กำรถ่ำยฝำกตัวอ่อนวิธีหนึ่ง
ค. เป็ นกำรเพำะเลี้ยงเด็กในหลอดแก้วจนถึงระยะคลอด ง. ก และ ข ถูก
7. กำรสร้ำงตัวอสุจิมีกำรแบ่งเซลล์แบบใด
ก. ไมโทซิสเท่ำนั้น ข. ไมโอซิสเท่ำนั้น
ค. ไมโทซิสแล้วจึงไมโอซิส ง. ไมโอซิสแล้วจึงไมโทซิส
8. ข้อใดแสดงลำดับเส้นทำงของตัวอสุ จิสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ผ่ำนเข้ำไปผสมกับไข่หลังออกจำกท่อ
นำตัวอสุจิ (Vas deferens) แล้ว
ก. Ureter , Urethra, Vagina , Uterus ข. Urethra, Vagina , Uterus, Fallopian tube
ค. Vagina , Fallpian tube , Uterus , Ovary ง. Vagins , Urethra ,Uterus, Follopian tube
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เฉลยแบบทดสอบชุดที่ 1
บทที่ 11 การสื บพันธุ์และการเจริญเติบโต เรื่ อง การสื บพันธุ์
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เฉลยข้อ ข เหตุผล แมลงสำบ แยกเพศตัวผูแ้ ละตัวเมี ย นอกนั้นไม่ว่ำไส้เดื อนดิ น
ไฮดรำ และพลำนำเรี ย ล้วนมีสองเพศในตัวเดียวกันทั้งสิ้ น
2. เฉลยข้อ ข เหตุผล ในกำรสื บพันธุ์แบบอำศัยเพศ สิ่ งมี ชีวิตแต่ละชนิ ดไม่ได้มีเพศ
เดียว อำจมี 2 เพศในตัวเดียวกัน
3. เฉลยข้อ ง เหตุผล ในกำรที่ตวั เมียมีไข่จำนวนน้อยน่ำจะเป็ นลักษณะเด่นของสัตว์ที่
มีกำรปฏิสนธิ ภำยใน เพรำะกำรปฏิสนธิภำยในอำศัยไข่ครำวละไม่กี่ใบ ส่ วนจำนวนตัวอสุ จิไม่
สำมำรถบ่งชี้ได้อย่ำงชัดเจน เพรำะไม่วำ่ จะเป็ นกำรปฏิสนธิภำยนอก หรื อกำร ป ฏิ ส น ธิ ภ ำ ย ใ น
จำนวนตัวอสุจิตอ้ งใช้จำนวนมำกมำย
4. เฉลยข้อ ข เหตุผล ตุ่นปำกเป็ ดเป็ นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ออกลูกเป็ นไข่
5. เฉลยข้อ ง เหตุผล สำหรับกำรผสมเทียม อำจเป็ นกำรผสมพันธุ์ภำยนอกตัวแม่ โดย
นำเอำไข่และอสุจิเข้ำผสมกัน เช่น กำรผสมเทียมปลำส่ วนกำรผสมเทียมสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดย
กำรนำอสุจิฉีดเข้ำสู่โพรงมดลูกของตัวแม่ในขณะที่แม่มีกำรตกไข่
6. เฉลยข้อ ง เหตุผล ทำรกในหลอดแก้วเป็ นกำรผสมเที ย มวิธี ห นึ่ ง เพรำะเป็ นกำร
นำเอำตัวอสุ จิและไข่ผสมกัน ในจำนเพำะเลี้ยง ซึ่ งเป็ นกำรผิดธรรมชำติ ส่ วนกำรนำตัวอ่อนใส่ เข้ำ
ไปในโพรงมดลูกเป็ นกำรถ่ำยฝำกตัวอ่อน
7. เฉลยข้อ ค เหตุผล กระบวนกำรสร้ำงตัวอสุ จิ จะเริ่ มจำกเซลล์สเปอร์ มำโทโกเนี ยม
ซึ่งเป็ นเซลล์ดิ พลอยด์ แบ่งเซลล์แบบไมโทซิ สตลอดเวลำ จำกนั้นเซลล์ที่ถูกแบ่งตัวนี้ เจริ ญไป
เป็ นสเปอร์มำโทไซต์ ระยะแรกจึงมีกำรแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสต่อจนได้เซลล์สเปอร์มำทิด
8. เฉลยข้อ ข เหตุผล หลัง จำกตัวอสุ จิผ่ำนออกมำจำกท่ อน ำตัวอสุ จิ แล้วจะผ่ำนท่ อ
ปัสสำวะผ่ำนออกจำกอวัยวะเพศชำย เข้ำสู่ช่องคลอด เข้ำสู่มดลูก ผ่ำนท่อนำไข่ เข้ำปฏิสนธิกบั ไข่

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

You might also like