You are on page 1of 64

แนวข้อสอบ

พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540


(ชุดที่ 1) โดยประพันธ์ เวารัมย์
***************************
1. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ มีผลบังคับเมื่อใด ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. วันที่ 11 กันยายน 2540
ค. เมื่อพ้นกําหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง. ข้อ ก. และข้อ ข.
*****************************************************
2. ข้อใดเป็นเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ให้ประชาชนมีโอกาสรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดําเนินการต่างๆของรัฐ
ข. รับรองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. ข้อมูลข่าวสารของราชการทั้งหมด หรือส่วนใหญ่สามารถเปิดเผยได้ ภายใต้หลักการที่ว่า “เปิดเผยเป็น
หลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น”
ง. ประชาชนต้องเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของทางราชการได้ทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น
*****************************************************
3. ข้อใด เป็นข้อมูลข่าวสาร
ก. แฟ้มข้อมูลรายงานของนายประสพดี
ข. ภาพถ่าย ฟิล์มของนายบัญชา
ค. การบันทึกภาพเสียงโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ของนายอาทิตย์
ง. ถูกทุกข้อ
*****************************************************
4. ข้อใด เป็นความหมายของข้อมูลข่าวสารของราชการ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองของอําเภอ
ข. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในการควบคุมดูแลของจังหวัด
ค. ข้อมูลข่าวสารในการครอบครองและควบคุมไม่ว่าเป็นข้อมูลเกี่ยวกับข่าวสารเกี่ยวกับเอกชน
ง. ไม่มีข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
*****************************************************
5. หน่วยงานของรัฐ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. จังหวัด อําเภอ
ข. อบจ. เมืองพัทยา เทศบาล อบต.
ค. ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา
ง. ศาลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการพิจารณาพิพากษาคดี
*****************************************************
รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 1
6. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล หมายความว่า ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ประวัติการมีภรรยาน้อยของนายอาทิตย์
ข. ประวัติการทํางานของนายสุดที่รัก
ค. ประวัติการตายของนายทองดี
ง. หมายเลขบัตรประจําตัวประชาชนของนายจุงเบย
*****************************************************
7. ความหมายของคนต่างด้าว ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ถ้าผู้จัดการหรือกรรมการ สมาชิกของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนเกินกึ่งหนึ่งเป็นของคนต่างด้าว ไม่ให้ถือว่า
เป็นคนต่างด้าว
ข. สมาคมลามามีสมาชิกเกินกึ่งหนึ่งเป็นคนต่างด้าว
ค. มูลนิธิใส่ใจมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของคนต่างด้าว
ง. นายลองจีที่ไม่มีสัญชาติไทยและไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
*****************************************************
8. ตําแหน่งเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และมีอํานาจออกฎกระทรวงเพื่อปฎิบัติตามพระราชบัญญัติ
นี้
ก. นายจุงเบยเป็นนายกรัฐมนตรี
ข. นางโอเคเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. นายสุดยอดเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย
ง. นายโปรโมชั่นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
*****************************************************
9. กฎกระทรวงเพื่อปฎิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540มีผลบังคับเมื่อใด
ก. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
ค. ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
ง. มีผลบังคับใช้ทันที
*****************************************************
10. สํานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการจัดตั้งอยู่ในหน่วยงานใด
ก. สํานักนายกรัฐมนตรี
ข. สํานักปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี
ค. สํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
ง. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
*****************************************************
11. สํานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ มีหน้าที่ปฎิบัติงานดังนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. เกี่ยวกับงานวิชาการและธุรการให้แก่คณะกรรมการและคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 2
ข. สอดส่องดูแลและให้คําแนะนําเกี่ยวกับการดําเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐ
ค. ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ
ง. ให้คําปรึกษาแก่เอกชนเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
*****************************************************
12. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 กําหนดหลักการสําคัญเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารของ
ทางราชการที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐไว้อย่างไร
ก. ปกปิดเป็นหลัก เปิดเผยเป็นข้อยกเว้น
ข. เปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น
ค. เปิดเผยบ้าง ปกปิดบ้างตามความเหมาะสม
ง. เปิดเผยบ้าง ขึ้นอยู่กับหัวหน้าหน่วยงาน
*****************************************************
13. ข้อมูลข่าวสารประเภทใดบ้าง ที่หน่วยงานของรัฐต้องนําไปลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา ข้อใดกล่าวไม่
ถูกต้อง
ก. โครงสร้างและการจัดองค์กรในการดําเนินงาน
ข. แผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจ่ายประจําปีของปีที่กําลังดําเนินการ
ค. สรุปอํานาจหน้าที่ที่สําคัญและวิธีการดําเนินงาน
ง. กฎ มติคณะรัฐมนตรี ข้อบังคับ คําสั่ง หนังสือเวียน ระเบียบ แบบแผน นโยบาย หรือการตีความ ทั้งนี้
เฉพาะที่จัดให้มีขึ้นโดยมีสภาพอย่างกฎ เพื่อให้มีผลเป็นการทั่วไปต่อเอกชนที่เกี่ยวข้อง
*****************************************************
14. ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 กําหนดให้ข้อมูลข่าวสารที่ต้องเปิดเผยเป็น
การทั่วไป โดยพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา คือข้อมูลประเภทใด
ก. คู่มือหรือคําสั่งเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีผลกระทบถึงสิทธิหน้าที่ของเอกชน
ข. กฎ มติคณะรัฐมนตรี ข้อบังคับ คําสั่ง หนังสือเวียน ระเบียบที่มีสภาพอย่างกฎ
ค. สัญญาสัมปทาน
ง. ผลการพิจารณา หรือคําวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน
*****************************************************
15. ข้อมูลข่าวสารของราชการในข้อใดที่ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูได้
ก. นโยบาย และแผนงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ข. โครงการ และงบประมาณรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ค. สัญญาร่วมทุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับเอกชนในการจัดบริการสาธารณะ
ง. ถูกทุกข้อ
*****************************************************
16. ข้อใดไม่ใช่ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล
ก. ประวัติอาชญากรรมของนายเหี่ยม

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 3


ข. ประวัติสุขภาพของนายอ่อนหวาน
ค. ฐานะทางการเงินของนายรวย
ง. ข้อมูลเกี่ยวกับรัฐบาลปัจจุบัน
*****************************************************
17. ข้อใดไม่ใช่ข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ประวัติการสมรสของนายมี
ข. ประวัติสถิติสํามะโนครัวของประชากร
ค. ข้อมูลทะเบียนราษฎรของอําเภอ
ง. ประวัติพนักงานบริษัท
*****************************************************
18. บุคคลย่อมมีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสําเนาหรือขอสําเนาที่มีคํารับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร ข้อใดกล่าว
ไม่ถูกต้อง
ก. บุคคลไม่ว่าจะมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม
ข. คนต่างด้าวจะมีสิทธินั้น ให้เป็นตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
ค. ในการนี้ให้คํานึงถึงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยประกอบด้วย
ง. ต้องเป็นบุคคลมีส่วนได้เสียและเกี่ยวข้องเท่านั้น
*****************************************************
19. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ข่าว ความรู้ต่างๆที่คนอ่านได้
ข. ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งเฉพาะบุคคล เช่น การศึกษา ประวัติสุขภาพ
ค. ภาพวาด แผนที่ ภาพถ่ายต่างๆ ซึ่งบอกความหมาย
ง. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความรับผิดชอบหรือการครอบครองของราชการ
*****************************************************
20. หน่วยงานไม่ใช่หน่วยงานของรัฐที่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก.รัฐวิสาหกิจ เช่น การไฟฟ้า
ข.ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา
ค.หน่วยงานอิสระของรัฐ เช่น สํานักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
ง.ศาลที่เกี่ยวกับการพิจารณาพิพากษาคดี
*****************************************************
21. คนต่างด้าว จะมีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสําเนาหรือขอสําเนาที่มีคํารับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสารให้เป็น
ตามกฎหมายใด
ก. กฎกระทรวงออกโดยนายกรัฐมนตรี
ข. กฎกระทรวงออกโดยคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. กฎกระทรวงออกโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 4
ง. ระเบียบกระทรวงมหาดไทย
*****************************************************
22. ถ้ามีบุคคลใด ขอข้อมูลข่าวสารอื่นใดของราชการและคําขอของผู้นั้นระบุข้อมูลข่าวสารที่ต้องการใน
ลักษณะที่อาจเข้าใจได้ตามสมควร ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ให้บุคคลนั้นร้องขอต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารก่อน
ข. ให้หน่วยงานของรัฐผู้รับผิดชอบจัดหาข้อมูลข่าวสารนั้น
ค. จัดหาข้อมูลข่าวสารนั้นให้แก่ผู้ขอภายในเวลาอันสมควร
ง. จัดหาข้อมูลข่าวสารนั้นภายในเวลาอันสมควรเว้นแต่ผู้นั้นขอจํานวนมากหรือบ่อยครั้งโดยไม่มีเหตุผลอัน
สมควร
*****************************************************
23. ข้อมูลข่าวสารของราชการใด มีสภาพที่อาจบุบสลายง่าย ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. หน่วยงานของรัฐอาจขอขยายในการจัดหาให้ในสภาพอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ข้อมูล
ข่าวสารนั้นก็ได้
ข. หน่วยงานของรัฐอาจขอขยายในจัดทําสําเนาให้ในในสภาพอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่
ข้อมูลข่าวสารนั้นก็ได้
ค. เป็ น การแปรสภาพเป็ น เอกสารจากข้ อ มู ล ข่ า วสารที่ บั น ทึ ก ไว้ ใ นระบบบั น ทึ ก ภาพหรื อ เสี ย ง ระบบ
คอมพิวเตอร์ หรือระบบอื่นใด
ง. หากเป็นการจัดทํา วิเคราะห์ จําแนก รวบรวม หรือจัดให้มีขึ้นใหม่ ห้ามไม่ให้หน่วยงานของรัฐจัดหาให้
*****************************************************
24. หน่วยงานของรัฐจะจัดหาข้อมูลข่าวสารข้อมูลข่าวนั้นให้ก็ได้ หากเห็นว่าผู้ขอนั้น
ก. มิใช่แสวงหาผลประโยชน์ทางการค้า
ข. เป็นเรื่องจําเป็น เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพสําหรับผู้นั้น
ค. เป็นเรื่องที่จะเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ
ง. ถูกทุกข้อ
*****************************************************
25. แม้ว่าข้อมูลข่าวสารที่ขอจะอยู่ในความควบคุมดูแลของหน่วยงานหรืออยู่ในครอบครองของหน่วยงานของ
รัฐอื่นก็ตาม ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ให้หน่วยงานของรัฐที่รับคําขอให้คําแนะนํากับผู้ยื่นคําขอข้อมูลข่าวสาร
ข. ให้คําแนะนําเพื่อไปยื่นขอต่อหน่วยงานของรัฐที่ควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสารนั้นโดยไม่ชักช้า
ค. ถ้าหน่ ว ยงานผู้ รั บคํ าขอเห็น ว่ าข้ อมูล ข่าวสารจัดทํ าโดยหน่ วยงานของรัฐ แห่งอื่ น และได้ร ะบุห้ ามการ
เปิดเผยไว้ ให้ส่งคําขอนั้นให้หน่วยงานของรัฐผู้จัดทําข้อมูลข่าวสารนั้นพิจารณาเพื่อมีคําสั่งต่อไป
ง. หน่วยงานผู้รับคําขอต้องปฎิเสธทันทีกรณีไม่อยู่ในความควบคุมของหน่วยงานตน
*****************************************************

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 5


26. ผู้ใดเห็นว่าหน่วยงานรัฐไม่จัดพิมพ์ข้อมูลข่าวสาร หรือปฎิบัติหน้าที่ล่าช้า หรือเห็นว่าตนไม่ได้รับความ
สะดวกโดยไม่เหตุอันสมควร ผู้นั้นมีสิทธิร้องเรียนต่อใคร
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. หัวหน้าหน่วยงานนั้น
ค. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสร
ง. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
*****************************************************
27. ในกรณีที่มีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการ คณะกรรมการต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน
*****************************************************
28. ในคณะกรรมการพิจารณาไม่เสร็จ กรณีจําเป็นที่มีเหตุจําเป็นให้ขยายเวลาออกไปได้ แต่ต้องแสดงเหตุแ
รวมเวลาทั้งหมดแล้วต้องไม่เกินกี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน
*****************************************************
29. ข้อมูลข่าวสารราชการใด ที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีคําสั่งมิให้เปิดเผยก็ได้ ข้อใดกล่าว
ไม่ถูกต้อง
ก. การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือ
ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจหรือการคลังของประเทศ
ข. การเปิดเผยจะก่อให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ หรือไม่อาจสําเร็จตามวัตถุประสงค์ได้
ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการฟ้องคดี การป้องกัน การปราบปราม การทดสอบ การตรวจสอบ หรือการรู้แหล่งที่มา
ของข้อมูลข่าวสารหรือไม่ก็ตาม
ค. รายงานการแพทย์หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลซึ่งการเปิดเผยจะเป็นการรุกล้ําสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่
สมควร
ง. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
*****************************************************
30. ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีคําสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารใด ผู้ยื่นคําขออาจอุทธรณ์ต่อใคร
ก. คณะกรรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ข. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. หัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ง. นายกรัฐมนตรี
*****************************************************
31. ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีคําสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารใด ผู้ยื่นคําขออาจอุทธรณ์ภายในกี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน
*****************************************************

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 6


32. ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเห็นว่า การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการใด อาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสีย
ของผู้ใด ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐแจ้งให้ผู้นั้นเสนอคําคัดค้านภายในเวลาที่กําหนด ซึ่งต้องไม่น้อยกว่ากี่วันนับแต่
วันที่ได้รับแจ้ง
ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน
*****************************************************
33.ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีคําสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารใด หรือมีคําสั่งไม่รับฟังคําคัดค้านของผู้มี
ประโยชน์ได้เสีย ผู้นั้นอาจอุทธรณ์นับแต่วันวันที่รับแจ้งคําสั่งนั้น โดยยื่นคําอุทธรณ์ต่อใคร
ก. คณะกรรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ข. คณะกรรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. หัวหน้าหน่วยงานกํากับดูแลข้อมูล
ง. นายกรัฐมนตรี
*****************************************************
34.การพิจารณาเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารที่มีคําสั่งมิให้เปิดเผยนั้นไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาของคณะกรรมการ
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารหรือศาลก็ตาม ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ต้องดําเนินการพิจารณาโดยมิให้ข้อมูลข่าวสารนั้นเปิดเผยบุคคลอื่น
ข. มิให้ข้อมูลข่าวสารนั้นเปิดเผยบุคคลอื่นที่จําเป็นแก่การพิจาณา
ค. ในกรณีจําเป็นจะพิจารณาลับหลังคู่กรณีหรือคู่ความฝ่ายใดก็ได้
ง. ต้องพิจารณาอย่างเปิดเผยโดยให้คู่ความทั้งสองฝ่ายรับทราบด้วย
*****************************************************
35. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารใดแม้จะเข้าข่ายต้องมีความรับผิดชอบตามกฎหมายใด ให้ถือว่าเจ้าหน้าที่ของ
รัฐไม่ต้องรับผิดหากเป็นการกระทําโดยสุจริต ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ดําเนินการโดยถูกต้องตามระเบียบ
ข. เจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับตามกําหนดในกฎกระทรวงมีคําสั่งเปิดเผยเป็นการทั่วไป
ค. เฉพาะแก่บุคคลใดเพื่อประโยชน์อันสําคัญยิ่งกว่าที่เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ หรือชีวิต ร่างกาย สุขภาพ
หรือประโยชน์อื่นของบุคคล
ง. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามข้างต้น ให้หน่วยงานของรัฐพ้นจากความรับผิดตามกฎหมายหากจะมีใน
กรณีดังกล่าว
*****************************************************
36. เพื่อประโยชน์แห่งหมวดนี้ “บุคคล” หมายความว่าพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.
2540 ตามข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย
ข. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทยแต่มีถิ่นอยู่ในประเทศไทย
ค. บุคคลธรรมดาที่ได้เสียภาษีตามกฎหมาย
ง. ไม่มีข้อกล่าวไม่ถูกต้อง
*****************************************************
รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 7
37.หน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดระบบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ต้ อ งจั ด ให้ มี ร ะบบข้ อ มู ล ข่ า วสารส่ ว นบุ ค คลเพี ย งเท่ า ที่ เ กี่ ย วข้ อ งและจํ าเป็ น เพื่ อ การดํ า เนิ น งานของ
หน่วยงานของรัฐให้สําเร็จตามวัตถุประสงค์เท่านั้น
ข. หน่วยงานของรัฐต้องแจ้งเจ้าของข้อมูลทราบล่วงหน้า ลักษณะการใช้ข้อมูลตามปกติ และกรณีที่ขอข้อมูล
นั้นเป็นกรณีที่อาจใช้ข้อมูลได้โดยสมัครใจเท่านั้น กฎหมายบังคับมิได้
ค. พยายามเก็บข้อมูลข่าวสารโดยตรงจากเจ้าของข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่จะกระทบถึงประโยชน์
ได้เสียโดยตรงของบุคคลนั้น
ง. ตรวจสอบแก้ไขข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลในความรับผิดชอบให้ถูกต้องอยู่เสมอ
*****************************************************
38. หน่วยงานของรัฐจะเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่อยู่ในความควบคุมดูแลของตนต่อหน่วยงานของรัฐ
แห่งอื่นหรือผู้อื่น โดยปราศจากความยินยอมเป็นหนังสือของเจ้าของข้อมูลที่ให้ไว้ล่วงหน้าหรือขณะนั้นมิได้
เว้นแต่เป็นการเปิดเผยดังนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. เปิ ด เผยต่ อเจ้ าหน้ า ที่ ข องรั ฐ เพื่ อ การป้ อ งกั น การฝ่ าฝื น หรื อ ไม่ ป ฏิ บั ติต ามกฎหมาย การสื บ สวน การ
สอบสวน หรือการฟ้องคดี ไม่ว่าเป็นคดีประเภทใดก็ตาม
ข. บริษัทสายสืบในการสืบหาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ค. เป็นการให้ซึ่งจําเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิตหรือสุขภาพของบุคคล
ง. ต่อหน่วยงานของรัฐที่ทํางานด้านการวางแผนหรือการสถิติหรือสํามะโนต่างๆ
*****************************************************
39.ข้อมูลใด ที่หน่วยงานรัฐอาจมีคําสั่งมิให้เปิดเผยก็ได้
ก. การบังคับใช้กฎหมายเสื่อประสิทธิภาพได้ถ้าเปิดเผย
ข. รายงานการแพทย์หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลซึ่งอาจก่อให้เกิดการรุกล้ําสิทธิส่วนบุคคล
ค. สิ่งพิมพ์ที่ต้องพิมพ์อ้างอิงในราชกิจจานุเบกษา
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และข้อ ข.
*****************************************************
40.ข้อมูลข่าวสารของราชการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จะเปิดเผยได้ เพื่อ
คัดเลือกไว้ให้ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้า เมื่อครบกี่ปี
ก. 20 ปี ข. 30 ปี ค. 70 ปี ง. 75 ปี
*****************************************************
41.การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหาต่อความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือความ
มั่นคงในทางเศรษฐกิจหรือการคลังประเทศ เพื่อคัดเลือกไว้ให้ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้า เมื่อครบกี่ปี
ก. 20 ปี ข. 30 ปี ค. 70 ปี ง. 75 ปี
*****************************************************
42. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่หน่วยงานของรัฐ ไม่ประสงค์จะเก็บรักษาหรือมีอายุครบกําหนด นับแต่วันที่
เสร็จสิ้นการจัดให้มีข้อมูลข่าวสารนั้น ให้หน่วยงานของรัฐส่งมอบให้หน่วยงานใด หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
ตามกําหนดในพระราชกฤษฎีกา เพื่อคัดเลือกไว้ให้ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้า

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 8


ก. สํานักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร
ข. สํานักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
ค. สํานักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร
ง. สํานักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร
*****************************************************
43. ถ้าหน่วยงานของรัฐไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบต่อการกระทําดังกล่าวมีสิทธิ
ดําเนินการอย่างไร
ก. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ และอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ
ราชการ
ข. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ และอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผย
ข้อมูลข่าวสาร
ค. ร้องเรียนต่อหน่วยงาน และฟ้องต่อศาลปกครอง
ง. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ และอุทธรณ์ต่อนายกรัฐมนตรี
*****************************************************
44. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ข้อมู ลข่ าวสาร หมายความรวมถึง สิ่งที่ สื่ อความหมายให้ รู้ เรื่ องราว ข้ อมูล ด้ว ยการบั นทึ กโดยเครื่ อง
คอมพิวเตอร์
ข. ข้อมูลข่าวสารของราชการ หมายความรวมถึง ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเอกชนที่อยู่ในความครอบครองของ
รัฐ
ค. ข้ อ มู ล ข่ า วสารส่ ว นบุ ค คลหมายความถึ ง ข้ อมู ล ข่ า วสารเกี่ ย วกั บ สิ่ งเฉพาะตั ว ของบุ ค คลที่ อยู่ ใ นความ
ครอบครองของรัฐ
ง. เจ้าหน้าที่ของรัฐหมายถึงผู้ปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานของรัฐ
*****************************************************
45. หน่วยงานของรัฐต้องส่งข้อมูลข่าวสารประเภทใด ลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ก. โครงสร้าง และการจัดองค์การในการดําเนินงานของหน่วยงานของรัฐ
ข. รายชื่อ ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างในหน่วยงานของรัฐ
ค. คําสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานภายในส่วนราชการ
ง. งบประมาณรายจ่ายประจําปีของปีที่กําลังดําเนินการของหน่วยงานของรัฐ
*****************************************************
46. ข้อใดไม่ใช่ข่าวสารประเภทที่หน่วยงานของรัฐต้องจัดไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้
ก. ผลการพิจารณาของหน่วยงานของรัฐที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน
ข. สรุปอํานาจหน้าที่ที่สําคัญและวิธีการดําเนินงาน
ค. มติคณะรัฐมนตรี หรือมติคณะกรรมการแต่งตั้งโดยกฎหมาย
ง. แผนงาน โครงการและงบประมาณรายจ่ายประจําปีของปีที่กําลังดําเนินการ
*****************************************************

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 9


47. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ส่งข้อมูลข่าวสารของราชการลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ข. จัดข้อมูลข่าวสารไว้ให้ประชาชนตรวจดู
ค. จัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ขอในเวลาอันสมควร
ง. จัดทําสําเนาและรับรองข้อมูลข่าวสารให้กับประชาชนทุกครั้งตามประสงค์ที่ขอ
*****************************************************
48. ข้อใดเป็นข่าวสารที่กําหนดว่าห้ามเปิดเผย เว้นแต่จะครบเจ็ดสิบห้าปี
ก. ข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ
ข. ข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ค. ข่าวสารที่อาจให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ง. ถูกทุกข้อ
*****************************************************
49. ข้อใดเป็นข่าวสารที่หน่วยงานของรัฐอาจมีคําสั่งมิให้เปิดเผย ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ข. ข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ค. ข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ง. ถูกเฉพาะข้อ ข และ ค
*****************************************************
50. กรณีที่มีการคัดค้านคําสัง่ เปิดเผยข้อมูล และเจ้าหน้าที่ของรัฐมีคําสั่งไม่รับฟ้องคําคัดค้าน เจ้าหน้าที่ของรัฐ
จะเปิดเผยข้อมูลข่าวสารนั้นได้เมื่อใด
ก. เปิดเผยได้ทันที
ข. เปิดเผยเมื่อได้ล่วงพ้นกําหนดระยะเวลาอุทธรณ์
ค. เปิดเผยได้เมื่อล่วงพ้น 30 วันไปแล้ว
ง. เปิดเผยเมื่อได้ล่วงพ้น 45 วันไปแล้ว
*****************************************************
51. การอุทธรณ์คําสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ต้องอุทธรณ์ต่อใคร
ก. ศาลปกครอง
ข. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ง. ศาลอุทธรณ์
*****************************************************
52.ข้ อใดเป็ นการออกระเบี ยบเพื่ อยกเว้ น การบั งคั บใช้ เกี่ ยวกับหลั กเกณฑ์การเปิด เผยข้ อมู ลข่ า วสารของ
ราชการที่ถูกต้องที่สุด
ก. สํานักข่าวกรองแห่งชาติเป็นผู้ออกระเบียบ
ข. สํานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้ออกระเบียบ

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 10


ค. หน่วยงานของรัฐอาจออกระเบียบ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ง. ถูกทุกข้อ
*****************************************************
53. ข้อใดเป็นการวางระบบข้อมูลข่าวสารของราชการที่ถูกต้อง ข้อใดกล่าวผิด
ก. ตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลในความรับผิดชอบให้ถูกต้องอยู่เสมอ
ข. จัดให้มีระบบรักษาความปลอดภัยให้แก่ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล
ค. จัดให้มีการลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ง. ตรวจสอบแก้ไขข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลใความรับผิดชอบให้ถูกต้องเป็นประจําทุกปี
*****************************************************
54. ผู้ขอข้อมูลมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการในกรณีหน่วยงานของรัฐไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในข้อใดกล่าว
ไม่ถูกต้อง
ก. ไม่จัดข้อมูลข่าวสารไว้ให้ประชาชนดู
ข. ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า
ค. ไม่อํานวยความสะดวกโดยไม่มีเหตุอันควร
ง. ไม่จัดทํา กรณีต้องจัดทํา วิเคราะห์ จําแนก รวบรวม หรือจัดให้มีขึ้นใหม่
*****************************************************
55. กรณีคณะกรรมการได้รับข้อร้องเรียนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมู ลข่าวสาร ของราชการของ
หน่วยงานของรัฐ คณะกรรมการต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน
*****************************************************
56. ข้อใดไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับการปฏิบัติงานหน่วยงานของรัฐในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล ที่อยู่ใน
ความควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ
ก. การเปิดเผยต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลซึ่งได้ให้ไว้ล่วงหน้า
ข. การเปิดเผยต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลในเวลาที่จะเปิดเผย
ค. หน่วยงานของรัฐมีอํานาจเปิดเผยข้อมูลที่อยู่ในความควบคุมดูแลได้ทุกรณีไม่จําเป็นต้องได้รับความยินยอม
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
*****************************************************
57. กรณีหน่วยงานของรัฐไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้ตรงตามคําขอของเจ้าของข้อมูล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ
อุทธรณ์ต่อใครภายในระยะเวลาเท่าใด
ก. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ภายใน 15 วัน
ข. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ภายใน 30 วัน
ค. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ภายใน 30 วัน
ง. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์ ภายใน 30 วัน
*****************************************************
58. หน่วยงานที่มีหน้าที่เก็บรักษาเอกสารประวัติศาสตร์ตามพระราชบัญญัตินี้ คือ บุคคลในข้อใด

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 11


ก. พิพิธภัณฑ์
ข. หอจดหมายแห่งชาติ
ค. กรมสารสนเทศ
ง. สํานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
*****************************************************
59. ตําแหน่งใดเป็นประธานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร ตามที่กําหนดในพระราชบัญญัตินี้
ก. นายจุงเบยดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรี.
ข. นายโดดเด่นรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ค. นายแน่นหนารัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี
ง. นางแน่นอกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
*****************************************************
60. ตํา แหน่ งใดต่อไปนี้ ไม่ ได้ เป็น กรรมการในคณะกรรมการข้อมู ลข่า วสารของราชการ ตามที่กําหนดใน
พระราชบัญญัตินี้
ก. นายชงมาปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี นายปราบภัยปลัดกระทรวงกลาโหม นายโคนมปลัดกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ นายคงเดชปลัดกระทรวงมหาดไทย
ข. นายการดีเป็นผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ นายสุดลับผู้อํานวยการสํานักข่าวกรองแห่งชาติ และนายชง
ดีเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายรับรู้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
ค. นายหนักแน่นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายเรียนดีเลขาธิการข้าราชการพลเรือน นายตีความ
เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
ง. นายใส่ ใจปลั ดกระทรวงพาณิ ช ย์ นายยอดเยี่ ย มปลั ดกระทรวงยุ ติธ รรม นายเอิ กเกริ กปลั ดกระทรวง
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
*****************************************************
61. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. สอดส่องการดูแลการดําเนินงานของหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ
ข. ให้คําแนะนําเกี่ยวกับการดําเนินงานของหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ
ค. ให้คําปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการปฎิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ตามที่ได้
รับคําขอ
ง. กําหนดหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการ
*****************************************************
62. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ มีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละกี่ปี
ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด
ก. 2 ปี นับแต่วันที่รับแต่งตั้ง
ข. 3 ปี นับแต่วันที่รับแต่งตั้ง
ค. 3 ปี นับแต่วันที่รับแต่งตั้ง อาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้
ง. 4 ปี นับแต่วันที่รับแต่งตั้ง อาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 12


*****************************************************
63. ใครเป็นผู้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ประธานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ข. นายกรัฐมนตรี
ค. รัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ง. คณะรัฐมนตรี
*****************************************************
64. กรรมการในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ มีจํานวนทั้งสิ้นกี่คน
ก. 19 คน
ข. 21 คน
ค. 23 คน
ง. 25 คน
*****************************************************
65. กรรมการในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ รวมกับเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ รวมเป็นกี่
คนทั้งหมด
ก. 20 คน
ข. 24 คน
ค. 25 คน
ง. 26 คน
*****************************************************
66. ใครเป็นผู้แต่งตั้งข้าราชการของสํานักปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีเป็นเลขานุการและและผู้ช่วยเลขานุการ
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ค. คณะรัฐมนตรี
ง. ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี
*****************************************************
67. คํา สั่งขยายเวลาไม่ เปิ ดเผยข้อมูลข่า วสารของราชการของหน่ วยงานของรัฐมีกําหนดคราวละเกิ นกี่ ปี
ไม่ได้
ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 4 ปี
ง. 5 ปี
*****************************************************
68. กรณีที่หน่วยงานของรัฐปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลข่าวสารตามที่มีคําขอ ถ้าผู้ขอไม่เชื่อว่าเป็นความจริงควร
ดําเนินการอย่างไร

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 13


ก. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเพื่อให้ตรวจสอบ
ข. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ตรวจสอบ
ค. ยื่นคําร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคําสั่ง
ง. ถูกทุกข้อ
*****************************************************
69. การแต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ต้องดําเนินการอย่างไร
ก. นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ใช้อํานาจในการแต่งตั้ง
ข. คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งตามข้อเสนอของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเป็นผู้มีอํานาจแต่งตั้ง
ง. เลือกตั้งคณะกรรมการในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
*****************************************************
70. อํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. วินิจฉัยอุทธรณ์คําสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ข. วินิจฉัยอุทธรณ์คําสั่งไม่รับฟังคําคัดค้านการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ค. วินิจฉัยอุทธรณ์คําสั่งไม่ให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล
ง. เสนอแนะในการตราพระราชกฤษฎีกาและการออกกฎกระทรวงหรือระเบียบของคณะรัฐมนตรา
พระราชบัญญัตินี้
*****************************************************
71. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร แต่ละคณะจะต้องมีกรรมาการไม่น้อยกว่ากี่คน
ก. 3 คน
ข. 5 คน
ค. 7 คน
ง. 9 คน
*****************************************************
72. การส่งคําอุทธรณ์ จากคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการไปยังคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผย
ข้อมูลข่าวสารเพื่อพิจารณา จะต้องทําภายในกี่วันนับแต่วันที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการได้รับ
อุทธรณ์
ก. 3 วัน
ข. 5 วัน
ค. 7 วัน
ง. 15 วัน
*****************************************************
73. การไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ที่สั่งให้เรียกบุคคลมาให้ถ้อยคําหรือ
ส่งให้ส่งพยานหลักฐาน มีโทษเพียงใด
ก. โทษทั้งจําทั้งปรับ

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 14


ข. โทษปรับสถานเดียวไม่มีโทษจําคุก
ค. มีโทษจําคุกสถานเดียว ไม่มีโทษปรับ
ง. ไม่มีโทษทางอาญา
*****************************************************
74. ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อจํากัดหรือเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกําหนดตามพระราชบัญญัติข้อมูล
ข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 มีโทษอย่างไร
ก. ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ข. ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ค. ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท
ง. ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
*****************************************************
75. ใครเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540
ก. พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
ข. นายชวน หลีกภัย
ค. ค.นายบรรหาร ศิลปอาชา
ง. ตํารวจโททักษิณ ชินวัตร
*****************************************************
76. สํานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการมีชื่อย่อว่าอะไร
ก. สขร.
ข. สขม.
ค. สขก.
ง. สขช.
****************************************************
77. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 บังคับใช้เมื่อพ้นกําหนดกี่วัน
ก. ถัดจากวัดประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. 90 วัน
ค. 120 วัน
ง. 180 วัน
****************************************************
78. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 บังคับใช้วันที่
ก. 9 มกราคม 2540
ข. 9 ธันวาคม 2539
ค. 9 ธันวาคม 2540
ง. 10 ธันวาคม 2540

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 15


****************************************************
79. ข้อมูลข่าวสารคือ
ก. สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริงข้อมูล หรือสิ่งใด ๆ
ข. การสื่อสารถึงกัน
ค. ข่าวที่นักข่าวนําเสนอ
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
80. ข้อมูลข่าวสารของราชการคือ
ก. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ
ข. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของเอกชน
ค. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของรัฐและเอกชน
ง. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของมูลนิธิ
****************************************************
81. ข้อใดคือความหมาของคนต่างด้าว
ก. บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย แต่ไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ข. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทย แต่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ค. บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย และมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ง. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทย และไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
****************************************************
82. ข้อใดต่อไปนี้ถือว่าเป็นคนต่างด้าว
ก. บริษัทชุมชนของเราจํากัดมีคนต่างด้าวถือหุ้นไม่เกินกึ่งหนึ่ง
ข. สมาคมรักไทยมีสมาชิกทั้งหมด 988 คน เป็นคนต่างด้าว 450 คน
ค. มูลนิธิไก่ชนไทยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของคนต่างด้าว
ง. สมาคมสู้เพื่อแผ่นดิน ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของคนไทย
****************************************************
83. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของสํานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ก. ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานวิชาการและธุรการให้แก่ คณะกรรมการ
ข. ให้คําปรึกษาแก่เอกชนในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. นี้
ค. ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ
ง. ให้คําปรึกษาแก่หน่วยงานรัฐในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. นี้
****************************************************
84. ข้อมูลข่าวสารตามข้อใดต้องลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ก. โครงสร้างและการจัดองค์กรในการดําเนินงาน
ข. สรุปอํานาจหน้าที่ที่สําคับและวิธีดําเนินงาน

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 16


ค. สถานที่ติดต่อเพื่อของรับข้อมูลข่าวสาร
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
85. ข้อมูลข่าวสารตามข้อใดต้องจัดไว้ให้ประชาชนได้เข้าตรวจดู
ก. ผลการพิจารณาหรือคําวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน
ข. แผนงาน โครงการ งบประมาณรายจ่ายปะจําปี
ค. สัญญาสัมปทานที่เป็นการผูกขาดตัดตอน
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
86. ผู้ใดเห็นว่าหน่วยงานของรัฐไม่จัดข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้เข้าตรวจดูสามารร้องเรียนต่อหน่วยงานใด
ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ข. คณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ค. ศาลปกครอง
ง. คตส.
****************************************************
87. เมื่อมีการร้องเรียนว่าหน่วยงานของรัฐไม่จัดข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้เข้าตรวจดูให้คณะกรรมการ
พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 60 วัน
ง. 90 วัน
****************************************************
88. กรณีมีเหตุจําเป็นคณะกรรมการไม่สามารถพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเวลา ให้ขยายเวลาออกไปได้ แต่
ต้องแสดงเหตุผลและรวมเวลาทั้งหมดแล้วต้องไม่เกินกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 60 วัน
ง. 90 วัน
****************************************************
89. ข้อมูลข่าวสารตามข้อใดจะเปิดเผยมิได้
ก. ข้อมูลข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ข. มติคณะรัฐมนตรี
ค. รายงานแพทย์
ง. ข้อมูลส่วนตัว
****************************************************

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 17


90. ข้อมูลข่าวสารข้อใดที่หน่วยงานของรัฐอาจมีคําสั่งมิให้เปิดเผย
ก. ข้อมูลข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ
ข. การเปิดเผยอาจทําให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ
ค. การเปิดเผยอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
91. เจ้าหน้าที่ของรัฐเห็นว่าการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารอาจกระทบกับส่วนได้เสียของผู้ใด ให้เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้
นั้นคัดค้านภายในกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 60 วัน
****************************************************
92. ถ้าเจ้าหน้าที่มีคําสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารผู้นั้นอาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรมวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูล
ข่าวสารภายในกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 60 วัน
****************************************************
93. ถ้าเจ้าหน้าที่มีคําสั่งไม่รับฟังคําคัดค้านของผู้มีประโยชน์ได้เสียผู้นั้น อาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรมวินิจฉัยการ
เปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายในกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 60 วัน
****************************************************
94. “บุคคล” ในความหมายข้อใดถูกต้อง
ก. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทย
ข. บุคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย
ค. บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย และไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
95. หน่วยงานของรัฐจะเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลได้ในกรณีใด

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 18


ก. ได้โดยไม่ต้องได้ความยินยอม
ข. ไม่ได้เลยไม่ว่ากรณีใดๆ
ค. ถ้าได้รับความยินยอมเป็นหนังสือไว้ล่วงหน้า
ง. ได้ถ้าบุคคลที่เกี่ยวข้องยินยอม
****************************************************
96. หน่วยงานของรัฐจะเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมได้ในกรณีใดบ้าง
ก. ต่อหน่วยงายของรัฐด้านการวางแผน
ข. เป็นการให้เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย
ค. ต่อจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
97. ผู้ใดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนไม่ถูกต้องให้ ยืนคําร้องเพื่อขอแก้ไขต่อหน่วยงานใด
ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ค. หน่วยงานของรัฐที่ควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสาร
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
98. ผู้ใดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนไม่ถูกต้องให้ ยืนคําร้องเพื่อขอแก่ไข เปลี่ยนแปลง ถ้า
หน่วยงานของรัฐไม่แก่ไข เปลี่ยนแปลง ให้อุทธรณ์ต่อใคร
ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ค. หน่วยงานของรัฐที่ควบคุมดูแล
ง. ศาลปกครอง
****************************************************
99. ผู้ใดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนไม่ถูกต้องให้ ยืนคําร้องเพื่อขอแก่ไข เปลี่ยนแปลง ถ้า
หน่วยงานของรัฐไม่แก่ไข เปลี่ยนแปลง ให้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการดังกล่าว ภายในกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 60 วัน
****************************************************
100. ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ประสงค์จะเก็บรักษา หรือมีอายุครบกําหนดให้ส่งมอบให้แก่หน่วยงานใด
ก. สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ
ข. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 19


ค. กระทรวงวัฒนธรรม
ง. กรมการศาสนา
****************************************************
101. ข้อมูลข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จะจัดให้ประชาชนได้ศึกษา
ค้นคว้าเมื่อมีอายุครบกี่ปี
ก. 60 ปี
ข. 75 ปี
ค. 80 ปี
ง. 100 ปีขึ้นไป
****************************************************
102. ข้อมูลที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงขอประเทศ จะจัดให้ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้าเมื่อ
มีอายุครบกี่ปี
ก. 20 ปี
ข. 25 ปี
ค. 35 ปี
ง. 75 ปีขึ้นไป
****************************************************
103. รายงานแพทย์ซึ่งการเปิดเผยจะเป็นการรุกล้ําสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่สมควร จะจัดให้ประชาชนได้ศึกษา
ค้นคว้าเมื่อมีอายุครบกี่ปี
ก. 20 ปี
ข. 25 ปี
ค. 35 ปี
ง. 75 ปีขึ้นไป
****************************************************
104. หน่วยงานของรัฐเห็นว่าข้อมูลข่าวสารใดไม่สมควรเปิดเผย ให้ขยายเวลาได้ไม่เกินคราวละกี่ปี
ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 5 ปี
ง. 7 ปี
****************************************************
105. บุคคลใดไม่ได้เป็นคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ข. ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
ค. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ง. ปลัดกระทรวงยุติธรรม

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 20


****************************************************
106. ใครเป็นผู้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. รัฐสภา
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. พระมหากษัตริย์
****************************************************
107. ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการมีทั้งหมดกี่คน
ก. 6 คน
ข. 9 คน
ค. 12 คน
ง. 15 คน
****************************************************
108. ใครเป็นเลขานุการคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี
ข. บุคคลที่ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง
ค. เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ง. บุคคลที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง
****************************************************
109. ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการได้กี่คน
ก. 1 คน
ข. 2 คน
ค. 3 คน
ง. 4 คน
****************************************************
110. ผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ มีวาระในการดํารงตําแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 3 ปี นับแต่วันที่ได้รับการสรรหา
ข. 3 ปี นับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
ค. 4 ปี นับแต่วันที่ได้รับการสรรหา
ง. 4 ปี นับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
****************************************************
111. การพ้นจากตําแหน่งของผู้ทรงคุณวุฒิในข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ตาย
ข. คณะรัฐมนตรีให้ออกเพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 21


ค. ลาออก
ง. นายกรัฐมนตรีให้ออกเพราะมีความบกพร่อง
****************************************************
112. ใครเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. รัฐสภา
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. พระมหากษัตริย์
****************************************************
113. ข้อใดไม่ใช่ความรู้ความเชี่ยวชาญของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ก. ความมั่นคงของประเทศ
ข. เศรษฐกิจและการคลังของประเทศ
ค. การบริหารประเทศ
ง. การบังคับใช้กฎหมาย
***************************************************
114. ให้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการส่งคําอุทธรณ์ให้คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูล
ข่าวสารภายในกี่วัน นับแต่ที่ได้รับคําอุทธรณ์
ก. 7 วัน
ข. 12 วัน
ค. 15 วัน
ง. 30 วัน
***************************************************
115. ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของคณะกรรมการ (ตามมาตรา 32) ไม่มาให้ถ้อยคํา ส่งวัตถุเอกสาร หรือ
พยานหลักฐาน ต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. จําคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ข. จําคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ค. จําคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ง. จําคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 15,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
***************************************************
116. ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อจํากัดหรือเงือนไขที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกําหนด (ตามมาตรา 20) ต้องระวาง
โทษตามข้อใด
ก. จําคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ข. จําคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ค. จําคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ง. จําคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 22


***************************************************
117. ค่าธรรมเนียมในการทําขอทําสําเนาจากหน่วยงานของรัฐข้อใดไม่ถูกต้อง (ออกตามประกาศ)
ก. เอ 4 หน้าละไม่เกิน 1 บาท
ข. บี 4 หน้าละไม่เกิน 2 บาท
ค. กระดาษพิมพ์เขียวเอ 2 หน้าละไม่เกิน 8 บาท
ง. กระดาษพิมพ์เขียวเอ 1 หน้าละไม่เกิน 20 บาท
***************************************************
118. กฎหมายใดถ้าไม่ขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ให้บังคับใช้ต่อไป
ก. ระเบียบว่าด้วยการักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2517
ข. ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544
ค. พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
ง. พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
***************************************************
119. พระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มีกี่หมวด
ก. 5 หมวด และบทเฉพาะกาล
ข. 6 หมวด และบทเฉพาะกาล
ค. 7 หมวด และบทเฉพาะกาล
ง. 8 หมวด และบทเฉพาะกาล
***************************************************
120. พระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มีกี่มาตรา
ก. 40 มาตรา
ข. 41 มาตรา
ค. 43 มาตรา
ง. 45 มาตรา
***************************************************
แนวข้อสอบชุดนี้อาจเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย
ขอเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปัน (แจกฟรี)
ติดตามแนวข้อสอบ พ.ร.บ.อื่นๆที่เกี่ยวกับสอบท้องถิ่น ได้ที่เว็บไซต์ผมเอง หรือเว็บไซต์ชุมชนคนท้องถิ่น
ตอนนี้กําลังรวบรวมแนวข้อสอบ พ.ร.บ.ต่างๆ
ขอให้โชคดีในการสอบทุกคน

จากเว็บไซต์
http://valrom2012.fix.gs
http://pun.fix.gs

รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 23


เฉลยแนวข้อสอบพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540
(ชุดที่ 1) โดยประพันธ์ เวารัมย์ ดังนี้ครับ
ข้อ 1 ง. ข้อ 31 ก. ข้อ 61 ง. ข้อ 91 ก.
ข้อ 2 ง. ข้อ 32 ก. ข้อ 62 ค. ข้อ 92 ก.
ข้อ 3 ง. ข้อ 33 ข. ข้อ 63 ง. ข้อ 93 ก.
ข้อ 4 ง. ข้อ 34 ง. ข้อ 64 ค. ข้อ 94 ข.
ข้อ 5 ง. ข้อ 35 ง. ข้อ 65 ง. ข้อ 95 ค.
ข้อ 6 ก. ข้อ 36 ค. ข้อ 66 ง. ข้อ 96 ง.
ข้อ 7 ก. ข้อ 37 ข. ข้อ 67 ง. ข้อ 97 ค.
ข้อ 8 ก. ข้อ 38 ข. ข้อ 68 ง. ข้อ 98 ข.
ข้อ 9 ข. ข้อ 39 ง. ข้อ 69 ข. ข้อ 99 ข.
ข้อ 10 ข. ข้อ 40 ง. ข้อ 70 ง. ข้อ 100 ข.
ข้อ 11 ข. ข้อ 41 ก. ข้อ 71 ง. ข้อ 101 ข.
ข้อ 12 ข. ข้อ 42 ข. ข้อ 72 ค. ข้อ 102 ก.
ข้อ 13 ข. ข้อ 43 ข. ข้อ 73 ก. ข้อ 103 ก.
ข้อ 14 ข. ข้อ 44 ค. ข้อ 74 ก. ข้อ 104 ค.
ข้อ 15 ง. ข้อ 45 ก. ข้อ 75 ก. ข้อ 105 ง.
ข้อ 16 ง. ข้อ 46 ข. ข้อ 76 ก. ข้อ 106 ก.
ข้อ 17 ง. ข้อ 47 ง. ข้อ 77 ข. ข้อ 107 ข.
ข้อ 18 ง. ข้อ 48 ค. ข้อ 78 ค. ข้อ 108 ข.
ข้อ 19 ง. ข้อ 49 ก. ข้อ 79 ก. ข้อ 109 ข.
ข้อ 20 ง. ข้อ 50 ข. ข้อ 80 ก. ข้อ 110 ข.
ข้อ 21 ก. ข้อ 51 ค. ข้อ 81 ง. ข้อ 111 ง.
ข้อ 22 ก. ข้อ 52 ค. ข้อ 82 ค. ข้อ 112 ก.
ข้อ 23 ง. ข้อ 53 ง. ข้อ 83 ง. ข้อ 113 ก.
ข้อ 24 ง. ข้อ 54 ง. ข้อ 84 ง. ข้อ 114 ก.
ข้อ 25 ง. ข้อ 55 ก. ข้อ 85 ง. ข้อ 115 ก.
ข้อ 26 ง. ข้อ 56 ค. ข้อ 86 ก. ข้อ 116 ข.
ข้อ 27 ข. ข้อ 57 ค. ข้อ 87 ข. ข้อ 117 ง.
ข้อ 28 ง. ข้อ 58 ข. ข้อ 88 ค. ข้อ 118 ก.
ข้อ 29 ง. ข้อ 59 ข. ข้อ 89 ก. ข้อ 119 ค.
ข้อ 30 ก. ข้อ 60 ง. ข้อ 90 ง. ข้อ 120 ค.

ด้านล่าง เป็นคําเฉลย และอ้างอิงระเบียบกฎหมายลองไปอ่านดูครับ


เผื่อใช้ประโยชน์ได้ครับ (เดี๋ยวมาลงเพิ่มให้ กําลังรวบรวม)
รวบรวมเผยแพรโดย ประพันธ เวารัมย http://pun.fix.gs และ http://valrom2012.fix.gs หนา 24
ตัวอย่างข้อสอบ พรบ.ข้อมูลข่าวสารของทาง
ราชการ พ.ศ.2540 5. ข้อใดไม่เป็ นข้อมูลข่าวสาร
ข้ อสอบ พรบ. ข้ อมูลข่ าวสารของราชการ ก. แฟ้ ม
พ.ศ. 2540 ข. รู ปถ่าย
ค. ภาพวาด
1. สํานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร ง. ภาพถ่าย
ของราชการมีชือย่อว่าอะไร
ก. สขร. 6. ข้อมูลข่าวสารของราชการคือ
ข. สขม. ก. ข้อมูลข่าวสารทีอยูใ่ นความครอบครอง
ค. สขก. หรื อควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ
ง. สขช. ข. ข้อมูลข่าวสารทีอยูใ่ นความครอบครอง
หรื อควบคุมดูแลของเอกชน
2. พรบ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ค. ข้อมูลข่าวสารทีอยูใ่ นความครอบครอง
2540 บังคับใช้เมือพ้นกําหนดกีวัน หรื อควบคุมดูแลของรัฐและเอกชน
ก. ถัดจากวัดประกาศในราชกิจจานุเบกษา ง. ข้อมูลข่าวสารทีอยูใ่ นความครอบครอง
ข. 90 วัน หรื อควบคุมดูแลของมูลนิธิ
ค. 120 วัน
ง. 180 วัน 7. ข้อใดไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ ตาม พรบ.
ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
3. พรบ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ก. ราชการส่ วนท้องถิน
2540 บังคับใช้วนั ที ข. ราชการสังกัดรัฐสภา
ก. 9 มกราคม 2540 ค. ศาล
ข. 9 ธันวาคม 2539 ง. ศาลเฉพาะทีไม่เกียวกับการพิจารณา
ค. 9 ธันวาคม 2540 พิพากษาคดี
ง. 8 ธันวาคม 2540
8. ข้อใดไม่ใช่ขอ้ มูลข่าวสารส่ วนบุคคล
4. ข้อมูลข่าวสารคือ ก. รู ปถ่าย
ก. สิ งทีสื อความหมายให้รู้เรื องราวข้อเท็จจริ ง ข. ประวัติการทํางาน
ข้อมูล หรื อสิ งใด ๆ ค. ฐานะการเงิน
ข. การสื อสารถึงกัน ง. การบันทึกภาพหรื อเสี ยง
ค. ข่าวทีนักข่าวนําเสนอ
ง. ถูกทุกข้อ 9. ข้อใดคือความหมาของคนต่างด้าว
ก. บุคคลธรรมดาทีมีสัญชาติไทย แต่ไม่มีถิน
ทีอยูใ่ นประเทศไทย 13. ข้อใดไม่ใช้หน้าทีของสํานักงาน
ข. บุคคลธรรมดาทีไม่มีสัญชาติไทย แต่มีถิน คณะกรรมการข้อมูลข่าสาร
ทีอยูใ่ นประเทศไทย ก. ปฏิบตั ิงานเกียวกับงานวิชาการและธุ รการ
ค. บุคคลธรรมดาทีมีสัญชาติไทย และมีถินที ให้แก่ คณะกรรมการ
อยูใ่ นประเทศไทย ข. ให้คาํ ปรึ กษาแก่เอกชนในการปฏิบตั ิตาม
ง. บุคคลธรรมดาทีไม่มีสัญชาติไทย และไม่มี พรบ. นี
ถินทีอยูใ่ นประเทศไทย ค. ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ
ง. ให้คาํ ปรึ กษาแก่หน่วยงานรัฐในการปฏิบตั ิ
10. ข้อใดต่อไปนีถือว่าเป็ นคนต่างด้าว ตาม พรบ. นี
ก. บริ ษทั ชุมชนของเราจํากัดมีคนต่างด้าวถือ
หุ น้ ไม่เกินกึงหนึง 14. ข้อมูลข่าวสารตามข้อใดต้องลงพิมพ์ใน
ข. สมาคมรักไทยมีสมาชิกทังหมด 988 คน ราชกิจจานุ เบกษา
เป็ นคนต่างด้าว 450 คน ก. โครงสร้างและการจัดองค์กรในการ
ค. มูลนิธิไก่ชนไทยทีมีวตั ถุประสงค์เพือ ดําเนินงาน
ประโยชน์ของคนต่างด้าว ข. สรุ ปอํานาจหน้าทีทีสําคับและวิธี
ง. สมาคมสู ้เพือแผ่นดิน ทีมีวตั ถุประสงค์เพือ ดําเนินงาน
ประโยชน์ของคนไทย ค. สถานทีติดต่อเพือของรับข้อมูลข่าวสาร
ง. ถูกทุกข้อ
11. ใครเป็ นผูร้ ักษาการตาม พรบ. ข้อมูล
ข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 15. ข้อมูลข่าวสารตามข้อใดต้องจัดไว้ให้
ก. นายกรัฐมนตรี ประชาชนได้เข้าตรวจดู
ข. รัฐมนตรี วา่ การกระทรวงมหาดไทย ก. ผลการพิจารณาหรื อคําวินิจฉัยทีมีผล
ค. รัฐมนตรี วา่ การกระทรวงการคลัง โดยตรงต่อเอกชน
ง. ถูกทุกข้อ ข. แผนงาน โครงการ งบประมาณรายจ่ายปะ
จําปี
12. ให้จดั ตังสํานักงานคณะกรรมการข้อมูล ค. สัญญาสัมปทานทีเป็ นการผูกขาดตัดตอน
ข่าสารขึนในหน่วยงานใด ง. ถูกทุกข้อ
ก. สํานักนายกรัฐมนตรี
ข. สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี 16. ผูใ้ ดเห็นว่าหน่วยงานของรัฐไม่จดั ข้อมูล
ค. สํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ข่าวสารให้ประชาได้เข้าตรวจดูสามาร
ง. สํานักข่าวกรองแห่งชาติ ร้องเรี ยนต่อหน่วยงานใด
ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทาง อาจมีคาํ สังมิให้เปิ ดเผย
ราชการ ก. ข้อมูลข่าวสารทีอาจก่อให้เกิดความ
ข. คณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสารของ เสี ยหายต่อความมันคงของประเทศ
ทางราชการ ข. การเปิ ดเผยอาจทําให้การบังคับใช้
ค. ศาลปกครอง กฎหมายเสื อมประสิ ทธิ ภาพ
ง. คตส. ค. การเปิ ดเผยอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต
ง. ถูกทุกข้อ
17. เมือมีการร้องเรี ยนว่าหน่วยงานของรัฐไม่
จัดข้อมูลข่าวสารให้ประชาได้เข้า ตรวจดูให้ 21. เจ้าหน้าทีของรัฐเห็นว่าการเปิ ดเผยข้อมูล
คณะกรรมการตามข้อ 16พิจารณาให้แล้ว ข่าวสารอาจกระทบกับส่ วนได้เสี ยของผูใ้ ด
เสร็ จภายในกีวัน ให้เจ้าหน้าทีแจ้งให้ผนู ้ นั
ก. 15 วัน คัดค้านภายในกีวัน
ข. 30 วัน ก. 15 วัน
ค. 60 วัน ข. 30 วัน
ง. 90 วัน ค. 45 วัน
ง. 60 วัน
18. กรณี มีเหตุจาํ เป็ นไม่สามารถพิจารณาให้
แล้วเสร็ จภายในเวลาตามข้อ ข้อ 17 ให้ขยาย 22. ถ้าเจ้าหน้าทีมีคาํ สังมิให้เปิ ดเผยข้อมูล
เวลาออกไปได้อีกไม่เกินกีวัน ข่าวสารผูน้ นอาจอุ
ั ทธรณ์ต่อคณะกรรม
ก. 15 วัน วินิจฉัยการเปิ ดเผยข้อมูลข่าว
ข. 30 วัน สารภายในกีวัน
ค. 45วัน ก. 15 วัน
ง. 60วัน ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
19. ข้อมูลข่าวสารตามข้อใดจะเปิ ดเผยมิได้ ง. 60 วัน
ก. ข้อมูลข่าวสารทีอาจก่อให้เกิดความ
เสี ยหายต่อสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ 23. ถ้าเจ้าหน้าทีมีคาํ สังไม่รับฟังคําคัดค้าน
ข. มติคณะรัฐมนตรี ของผูม้ ีประโยชน์ได้เสี ยผูน้ นั อาจอุทธรณ์ต่อ
ค. รายงานแพทย์ คณะกรรมวินิจฉัยการเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร
ง. ข้อมูลส่ วนตัว ภายในกีวัน
ก. 15 วัน
20. ข้อมูลข่าวสารข้อใดทีหน่วยงานของรัฐ ข. 30 วัน
ค. 45 วัน ข่าวสาร
ง. 60 วัน ค. หน่วยงานของรัฐทีควบคุมดูแล
ง. ถูกทัง 3 ข้อ
24. “บุคคล” ในความหมายข้อใดถูกต้อง
ก. บุคคลธรรมดาทีไม่มีสัญชาติไทย 28. ผูใ้ ดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่ วนบุคคล
ข. บุคลธรรมดาทีมีสัญชาติไทย เกียวกับตนไม่ถูกต้องให้ ยืนคําร้องเพือขอแก่
ค. บุคคลทีไม่มีสัญชาติไทย และไม่มีถินทีอยู่ ไข เปลียนแปลง ถ้าหน่วย
ในประเทศไทย งานของรัฐไม่แก่ไข เปลียนแปลง ให้อุทธรณ์
ง. ถูกทุกข้อ ต่อใคร
ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทาง
25. หน่วยงานของรัฐจะเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร ราชการ
ส่ วนบุคคลได้ในกรณี ใด ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิ ดเผยข้อมูล
ก. ได้โดยไม่ตอ้ งได้ความยินยอม ข่าวสาร
ข. ไม่ได้เลยไม่วา่ กรณี ใดๆ ค. หน่วยงานของรัฐทีควบคุมดูแล
ค. ถ้าได้รับความยินยอมเป็ นหนังสื อไว้ ง. ศาลปกครอง
ล่วงหน้า
ง. ได้ถา้ บุคคลทีเกียวข้องยินยอม 29. ผูใ้ ดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่ วนบุคคล
เกียวกับตนไม่ถูกต้องให้ ยืนคําร้องเพือขอแก่
26. หน่วยงานของรัฐจะเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร ไข เปลียนแปลง ถ้าหน่วย
ส่ วนบุคคลโดยไม่ตอ้ งได้รับความยินยอมได้ งานของรัฐไม่แก่ไข เปลียนแปลง ให้อุทธรณ์
ในกรณี ใดบ้าง ต่อ คณะกรรมการตาม ข้อ 28 ภายในกีวัน
ก. ต่อหน่วยงายของรัฐด้านการวางแผน ก. 15 วัน
ข. เป็ นการให้เพือประโยชน์ในการศึกษาวิจยั ข. 30 วัน
ค. ต่อจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร ค. 45 วัน
ง. ถูกทุกข้อ ง. 60 วัน

27. ผูใ้ ดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่ วนบุคคล 30. ข้อมูลข่าวสารทีไม่ประสงค์จะเก็บรักษา


เกียวกับตนไม่ถูกต้องให้ ยืนคําร้องเพือขอแก่ หรื อมีอายุครบกําหนดให้ส่งมอบให้แก่
ไขต่อหน่วยงานใด หน่วยงานใด
ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทาง ก. สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ
ราชการ ข. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิ ดเผยข้อมูล ค. กระทรวงวัฒนธรรม
ง. กรมการศาสนา ค. 5 ปี
ง. 7 ปี
31. ข้อมูลข่าวสารทีอาจก่อให้เกิดความ
เสี ยหายต่อสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ จะจัดให้ 35. บุคคลใดเป็ นประธานคณะกรรมการ
ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้า ข้อมูลข่าวสารของราชการ
เมือมีอายุครบกีปี ก. นายกรัฐมนตรี
ก. 60 ปี ข. รัฐมนตรี ซึงนายกรัฐมนตรี มอบหมาย
ข. 75 ปี ค. รัฐมนตรี วา่ การกระทรวงมหาดไทย
ค. 80 ปี ง. รองนายกรัฐมนตรี ซึงนายกรัฐมนตรี
ง. 100 ปี ขึนไป มอบหมาย

32. ข้อมูลทีอาจจะก่อให้เกิดความเสี ยหายต่อ 36. บุคคลใดไม่ได้เป็ นคณะกรรมการข้อมูล


ความมันคงขอประเทศ จะจัดให้ประชาชนได้ ข่าวสารของราชการ
ศึกษาค้นคว้าเมือมีอายุครบกีปี ก. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ก. 20 ปี ข. ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
ข. 25 ปี ค. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ค. 35 ปี ง. ปลัดกระทรวงพาณิ ชย์
ง. 75 ปี ขึนไป
37. ใครเป็ นผูแ้ ต่งตังผูท้ รงคุณวุฒิใน
33. รายงานแพทย์ซึงการเปิ ดเผยจะเป็ นการ คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
รุ กลําสิ ทธิ ส่วนบุคคลโดยไม่สมควร จะจัดให้ ก. คณะรัฐมนตรี
ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้าเมือมีอายุครบกีปี ข. รัฐสภา
ก. 20 ปี ค. นายกรัฐมนตรี
ข. 25 ปี ง. พระมาหากษัตริ ย ์
ค. 35 ปี
ง. 75 ปี ขึนไป 38. ผูท้ รงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูล
ข่าวสารของราชการมีทงหมดกี
ั คน
34. หน่วยงานของรัฐเห็นว่าข้อมูลข่าวสารใด ก. 6 คน
ไม่สมควรเปิ ดเผย ให้ขยายเวลาได้ไม่เกิน ข. 9 คน
คราวละกีปี ค. 12 คน
ก. 2 ปี ง. 15 คน
ข. 3 ปี
39. ใครเป็ นเลขานุการคณะกรรมการข้อมูล การเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร
ข่าวสารของราชการ ก. คณะรัฐมนตรี
ก. ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี ข. รัฐสภา
ข. บุคคลทีปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี แต่งตัง ค. นายกรัฐมนตรี
ค. เลขาธิ การสภาผูแ้ ทนราษฎร ง. พระมาหากษัตริ ย ์
ง. บุคคลทีนายกรัฐมนตรี แต่งตัง
44. ข้อใดไม่ใช้ความรู ้ความเชียวชาญของ
40. ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี แต่งตัง คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิ ดเผยข้อมูล
ผูช้ ่วยเลขานุการได้กีคน ข่าวสาร
ก. 1 คน ก. ความมันคงของประเทศ
ข. 2 คน ข. เศรษฐกิจแลการคลังของประเทศ
ค. 3 คน ค. การบริ หารประเทศ
ง. 4 คน ง. การบังคับใช้กฎหมาย

41. ผูท้ รงคุณวุฒิทีเป็ นคณะกรรมการข้อมูล 45. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิ ดเผยข้อมูล


ข่าวสารของราชการ มีวาระในการดํารง ข่าวสาร คณะหนึง ๆ ประกอบด้วยบุคคลไม่
ตําแหน่งคราวละกีปี น้อยกว่ากีคน
ก. 3 ปี นับแต่วนั ทีได้รับการสรรหา ก. 3 คน
ข. 3 ปี นับแต่วนั ทีได้รับการแต่งตัง ข. 5 คน
ค. 4 ปี นับแต่วนั ทีได้รับการสรรหา ค. 9 คน
ง. 4 ปี นับแต่วนั ทีได้รับการแต่งตัง ง. 12 คน

42. การพ้นจากตําแหน่งของผูท้ รงคุณวุฒิใน 46. ให้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ


ข้อใดไม่ถูกต้อง ราชการส่ งคําอุทธรณ์ให้คณะกรรมการ
ก. ตาย วินิจฉัยการเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร
ข. คณะรัฐมนตรี ให้ออกเพราะมีความ ภายในกีวัน นับแต่ทีได้รับคําอุทธรณ์
ประพฤติเสื อมเสี ย ก. 7 วัน
ค. ลาออก ข. 12 วัน
ง. นายกรัฐมนตรี ให้ออกเพราะมีความ ค. 15 วัน
บกพร่ อง ง. 30 วัน

43. ใครเป็ นผูแ้ ต่งตังคณะกรรมการวินิจฉัย 47. ผูใ้ ดไม่ปฏิบตั ิตามคําสังของ


คณะกรรมการ (ตามมาตรา 32) ไม่มาให้ ง. กระดาษพิมพ์เขียวเอ 1 หน้าละไม่เกิน 20
ถ้อยคํา ส่ งวัตถุเอกสาร หรื อพยานหลัก บาท
ฐาน ต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. จําคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5,000 50. กฎหมายใดถ้าไม่ขดั หรื อแย้งกับ พรบ.
บาท หรื อทังจําทังปรับ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ให้
ข. จําคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท บังคับใช้ต่อไป
หรื อทังจําทังปรับ ก. ระเบียบว่าด้วยการักษาความปลอดภัย
ข. จําคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 แห่งชาติ พ.ศ. 2517
บาท หรื อทังจําทังปรับ ข. ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทาง
ง. จําคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 15,000 บาท ราชการ พ.ศ. 2544
หรื อทังจําทังปรับ ค. พรบ. วิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ.
2539
48. ผูใ้ ดฝ่ าฝื นหรื อไม่ปฏิบตั ิตามข้อจํากัดหรื อ ง. พรบ. คุม้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541
เงือนไขทีเจ้าหน้าทีของรัฐกําหนด (ตาม
มาตรา 20) ต้องระวางโทษ
ตามข้อใด
ก. จําคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000
บาท หรื อทังจําทังปรับ
ข. จําคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
หรื อทังจําทังปรับ
ค. จําคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000
บาท หรื อทังจําทังปรับ
ง. จําคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000
บาท หรื อทังจําทังปรับ

49. ค่าธรรมเนียมในการทําขอทําสําเนาจาก
หน่วยงานของรัฐข้อใดไม่ถูกต้อง (ออกตาม
ประกาศ) เฉลยข้ อสอบ พรบ. ข้ อมูลข่ าวสารของ
ก. เอ 4 หน้าละไม่เกิน 1 บาท ราชการ พ.ศ. 2540
ข. บี 4 หน้าละไม่เกิน 2 บาท
ค. กระดาษพิมพ์เขียวเอ 2 หน้าละไม่เกิน 8 1. ก. สขร.
บาท 2. ข. 90 วัน
3. ค. 9 ธันวาคม 2540 27. ค. หน่วยงานของรัฐทีควบคุมดูแล
4. ก. สิ งทีสื อความหมายให้รู้เรื องราว 28. ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิ ดเผย
ข้อเท็จจริ งข้อมูล หรื อสิ งใด ๆ ข้อมูลข่าวสาร
5. ข. รู ปถ่าย 29. ข. 30 วัน
6. ก. ข้อมูลข่าวสารทีอยูใ่ นความครอบครอง 30. ข. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
หรื อควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ 31. ข. 75 ปี
7. ค. ศาล 32. ก. 20 ปี
8. ง. การบันทึกภาพหรื อเสี ยง 33. ก. 20 ปี
9. ง. บุคคลธรรมดาทีไม่มีสัญชาติไทย และ 34. ค. 5 ปี
ไม่มีถินทีอยูใ่ นประเทศไทย 35. ข. รัฐมนตรี ซึงนายกรัฐมนตรี มอบหมาย
10. ค. มูลนิธิไก่ชนไทยทีมีวตั ถุประสงค์เพือ 36. ง. ปลัดกระทรวงพาณิ ชย์
ประโยชน์ของคนต่างด้าว 37. ก. คณะรัฐมนตรี
11. ก. นายกรัฐมนตรี 38. ข. 9 คน
12. ข. สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี 39. ข. บุคคลทีปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี
13. ง. ให้คาํ ปรึ กษาแก่หน่วยงานรัฐในการ แต่งตัง
ปฏิบตั ิตาม พรบ. นี 40. ข. 2 คน
14. ง. ถูกทุกข้อ 41. ข. 3 ปี นับแต่วนั ทีได้รับการแต่งตัง
15. ง. ถูกทุกข้อ 42. ง. นายกรัฐมนตรี ให้ออกเพราะมีความ
16. ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทาง บกพร่ อง
ราชการ 43. ก. คณะรัฐมนตรี
17. ข. 30 วัน 44. ค. การบริ หารประเทศ
18. ง. 60วัน 45. ก. 3 คน
19. ก. ข้อมูลข่าวสารทีอาจก่อให้เกิดความ 46. ก. 7 วัน
เสี ยหายต่อสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ 47. ก. จําคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5,000
20. ง. ถูกทุกข้อ บาท หรื อทังจําทังปรับ
21. ก. 15 วัน 48. ข. จําคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000
22. ก. 15 วัน บาท หรื อทังจําทังปรับ
23. ก. 15 วัน 49. ง. กระดาษพิมพ์เขียวเอ 1 หน้าละไม่เกิน
24. ข. บุคลธรรมดาทีมีสัญชาติไทย 20 บาท
25. ค. ถ้าได้รับความยินยอมเป็ นหนังสื อไว้ 50. ก. ระเบียบว่าด้วยการักษาความปลอดภัย
ล่วงหน้า แห่งชาติ พ.ศ. 2517
26. ง. ถูกทุกข้อ
กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ ข้อ 1-25 5. ข้อใดไม่ใช่หน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติขอ้ มูล
1. พระราชบัญญัติขอ้ มูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
บังคับใช้วนั ที่ • ราชการส่วนภูมิภาค
• 10 ธันวาคม 2540 • ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา
• 9 ธันวาคม 2541 • ราชการส่วนท้องถิ่น
• 10 ธันวาคม 2540 • ศาลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการพิจารณาพิพากษาคดี
• 9 ธันวาคม 2540
6. ข้อใดถือเป็ นข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล
2. พระราชบัญญัติขอ้ มูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 • ประวัติสขุ ภาพ
บังคับใช้เมื่อพ้นกาหนดกี่วนั นับแต่วนั ประกาศในราช • ประวัติอาชญากรรม
กิจจานุเบกษา • สิ่งเฉพาะตัวของผูท้ ่ถี ึงแก่กรรม
• 30 วัน • ถูกทุกข้อ
• 60 วัน
• 90 วัน 7. ข้อใดคือคนต่างด้าวตามพระราชบัญญัติขอ้ มูลข่าวสาร
• 120 วัน ของราชการ พ.ศ. 2540
• บุคคลธรรมดาที่มีสญ
ั ชาติไทยแต่ไม่มีถ่ินที่อยูใ่ นประเทศ
3. ข้อใดเป็ นข้อมูลข่าวสาร ไทย
• หนังสือ • บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสญ
ั ชาติไทยแต่มีถ่ินที่อยูใ่ นประเทศ
• การบันทึกภาพหรือเสียง ไทย
• แผนผัง • บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสญั ชาติไทยและไม่มีถ่ินที่อยูใ่ น
• ถูกทุกข้อ ประเทศไทย
• บุคคลธรรมดาที่มีสญั ชาติไทยและมีถ่นิ ที่อยูใ่ นประเทศ
4. ข้อใดต่อไปนีค้ ือข้อมูลข่าวสารของราชการ
ไทย
• ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแล
ของเอกชน 8. นิติบคุ คลตามข้อใดถือว่าเป็ นคนต่างด้าวตาม
• ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแล พระราชบัญญัติขอ้ มูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
ของหน่วยงานของรัฐ • สมาคมที่มีสมาชิกเกินกึง่ หนึ่งเป็ นคนต่างด้าว
• ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแล • สมาคมหรือมูลนิธิท่มี ีวตั ถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของคน
ของเอกชน ไม่วา่ จะเป็ นข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการ ต่างด้าว
ดาเนินงานของรัฐหรือข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเอกชน • บริษัทหรือห้างหุน้ ส่วนที่มีทนุ เกินกึ่งหนึ่งเป็ นของคนต่าง
• ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแล ด้าว
ของเอกชน ไม่วา่ จะเป็ นข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับการ • ถูกทุกข้อ
ดาเนินงานของรัฐหรือข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเอกชน
9. ผูด้ ารงตาแหน่งตามข้อใดเป็ นผูร้ กั ษาการตาม • ผลการพิจารณาหรือคาวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน
พระราชบัญญัติขอ้ มูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 • มติคณะรัฐมนตรี
• นายกรัฐมนตรี • แผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจ่ายในปี ท่ี
• รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ดาเนินการ
• อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
14. ข้อใดเป็ นสิทธิของบุคคลไม่ว่าจะมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้อง
• ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
หรือไม่ก็ตามกับข้อมูลข่าวสารนัน้
10. สานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ • ขอสาเนา
สังกัดส่วนราชการใด • ขอสาเนาที่มีคารับรองถูกต้อง
• สานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี • เข้าตรวจดู
• สานักนายกรัฐมนตรี • ถูกทุกข้อ
• กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
15. ผูใ้ ดเห็นว่าหน่วยงานของรัฐไม่จดั พิมพ์ขอ้ มูลลงในราช
• ไม่ได้สงั กัดส่วนราชการใดเพราะเป็ น
กิจจานุเบกษาหรือเห็นว่าตนไม่ได้รบั ความสะดวกโดยไม่
11. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของสานักงานคณะกรรมการข้อมูล มีเหตุอนั สมควร ให้มีสิทธิรอ้ งเรียนต่อคณะกรรมการ
ข่าวสารของราชการ ตามข้อใด
• ประสานงานกับเอกชน • คณะกรรมการวินจิ ฉัยการเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร
• ปฏิบตั ิงานเกี่ยวกับงานธุรการให้แก่คณะกรรมการข้อมูล • คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ข่าวสารของราชการ • คณะกรรมการอุทธรณ์การเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร
• ให้คาปรึกษาแก่เอกชน • ถูกทุกข้อ
• ปฏิบตั ิงานเกี่ยวกับงานวิชาการคณะกรรมการวินิจฉัย
16. ผูใ้ ดเห็นว่าหน่วยงานของรัฐไม่จดั พิมพ์ขอ้ มูลลงในราช
การเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร
กิจจานุเบกษาหรือเห็นว่าตนไม่ได้รบั ความสะดวกโดยไม่
12. ข้อมูลข่าวสารตามข้อใดที่ไม่ตอ้ งลงพิมพ์ในราชกิจจา มีเหตุอนั สมควร ให้มีสิทธิรอ้ งเรียนต่อคณะกรรมการ
นุเบกษา ตามข้อ 15 คณะกรรมการต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ
• โครงสร้างและการจัดองค์กรในการดาเนินงาน ภายในกี่วนั
• แผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจ่ายประจาปี • 15 วัน
ของปี ท่กี าลังดาเนินการ • 30 วัน
• สถานที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารหรือคาแนะนาใน • 45 วัน
การติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ • 60 วัน
• สรุปอานาจหน้าที่ท่สี าคัญและวิธีการดาเนินงาน

13. ข้อมูลข่าวสารที่ตอ้ งจัดไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดู ยกเว้น


ข้อใด
• สัญญาสัมปทาน
17. คณะพิจารณาเรื่องร้องเรียนในกรณีท่ม
ี ีเหตุจาเป็ นให้ 21. ในกรณีท่เี จ้าหน้าที่ของรัฐมีคาสั่งมิให้เปิ ดเผยข้อมูล
ขยายเวลาออกไปได้รวมแล้วไม่เกินกี่วนั ข่าวสารที่เจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีคาสั่งมิให้เปิ ดเผย ผูน้ นั้
• 15 วัน มีสิทธิอทุ ธรณ์คณะกรรมการตามข้อ 20 ภายในกี่วนั
• 30 วัน • 15 วัน
• 45 วัน • 30 วัน
• 60 วัน • 45 วัน
• 60 วัน
18. ข้อมูลข่าวสารของราชการตามข้อใดหน่วยงานของรัฐ
หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีคาสั่งมิให้เปิ ดเผยก็ได้ 22. หน่วยงานของรัฐจะเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล
• รายงานการแพทย์ ต้องได้รบั ความยินยอมเป็ นหนังสือตามเวลาในข้อใด
• การเปิ ดเผยจะทาให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อม • ในขณะนัน้
ประสิทธิภาพหรือไม่อาจสาเร็จตามวัตถุประสงค์ • ล่วงหน้าหรือในขณะนัน้
• การเปิ ดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคง • ย้อนหลัง
ของประเทศ • เวลาใดก็ได้
• ถูกทุกข้อ
23. หน่วยงานของรัฐจะเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลได้
19. การเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสารถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐเห็นว่าการ ยกเว้นข้อใด
เปิ ดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการใดอาจกระทบถึง • เปิ ดเผยต่อหน่วยงานของรัฐที่ทางานด้านการวางแผน
ประโยชน์ได้เสียของผูใ้ ด ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐแจ้งให้ผนู้ นั้ หรือการสถิติหรือสามะโนต่าง ๆ
เสนอคาคัดค้านภายในระยะเวลาไม่นอ้ ยกว่ากี่วนั • รายงานการแพทย์หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล
• 15 วัน • เปิ ดเผยเพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจยั โดยไม่ระบุช่ือ
• 30 วัน • เปิ ดเผยต่อหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
• 45 วัน
24. ถ้าบุคคลใดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับ
• 60 วัน
ตนส่วนใดไม่ถกู ต้องมีสิทธิย่ืนขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือ
20. ในกรณีท่เี จ้าหน้าที่ของรัฐมีคาสั่งมิให้เปิ ดเผยข้อมูล ลบข้อมูล ถ้าหน่วยงานของรัฐไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือ
ข่าวสารที่เจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีคาสั่งมิให้เปิ ดเผย ผูน้ นั้ ลบข้อมูล ให้ผนู้ นั้ มีสิทธิอทุ ธรณ์ต่อคณะกรรมการตาม
มีสิทธิอทุ ธรณ์คณะกรรมการตามข้อใด ข้อใด
• คณะกรรมการวินจิ ฉัยการเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร • คณะกรรมการวินจิ ฉัยการเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร
• คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ • คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
• คณะกรรมการอุทธรณ์การเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร • คณะกรรมการอุทธรณ์การเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร
• ถูกทุกข้อ • ถูกทุกข้อ
25. ถ้าหน่วยงานของรัฐไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลผู้
29. ข้อมูลข่าวสารที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
นัน้ มีสิทธิย่ืนอุทธรณ์ภายในกี่วนั
• 15 วัน
อาจมีคาสั่งมิให้เปิ ดเผย ให้หน่วยงานของรัฐส่งมอบ
• 30 วัน
ให้แก่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร เมื่อครบ
• 45 วัน
กาหนดกี่ปี
• 20 ปี
• 60 วัน
• 40 ปี

• 50 ปี
• 75 ปี
26 .หน่วยงานของรัฐตามข้อใดสามารถออกระเบียบมาใช้บงั คับ
กับข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลได้ 30. การเก็บข้อมูลข่าวสารที่ไม่ประสงค์จะเก็บรักษาหรือมี

• สานักข่าวกรองแห่งชาติ อายุครบกาหนด เพื่อวัตถุประสงค์ตามข้อใด


• หน่วยงานของรัฐแห่งอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง • เพื่อความมั่นคงของประเทศ
• สานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ • ประชาชนได้ศกึ ษาค้นคว้า
• ถูกทุกข้อ • เพื่อป้องกันการรุกลา้ สิทธิสว่ นบุคคล
• เก็บไว้เพื่อทาลาย
27. ข้อใดไม่ถกู ต้องเกี่ยวกับจัดระบบข้อมูลข่าวสารส่วน
บุคคล 31. ถ้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่าข้อมูลข่าวสารของราชการนัน

• จัดระบบรักษาความปลอดภัยให้แก่ระบบข้อมูลข่าวสาร ยังไม่ควรเปิ ดเผยโดยมีคาสั่งขยายเวลาแต่จะกาหนด
ส่วนบุคคลตามความเหมาะสม เกินคราวละกี่ปีไม่ได้
• ตรวจสอบแก้ไขข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลในความ • 4 ปี

รับผิดชอบให้ถกู ต้องอยู่เสมอ • 5 ปี

• พยายามเก็บข้อมูลข่าวสารจากบุคคลอื่นโดยไม่จะเป็ น • 6 ปี

ต้องเก็บจากเจ้าของข้อมูล • 20 ปี

• ต้องจัดให้มีระบบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลเพียงเท่าที่
32. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการมีจานวน
เกี่ยวข้องและจาเป็ น
ทัง้ หมดกี่คน
28. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย • 23 คน

ต่อสถาบันพระมหากษัตริย ์ ให้หน่วยงานของรัฐส่งมอบ • 30 คน

ให้แก่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร เมื่อครบ • 33 คน

กาหนดกี่ปี • 42 คน

• 20 ปี
33. ผูด้ ารงตาแหน่งตามข้อใดเป็ นประธานคณะกรรมการ
• 40 ปี
ข้อมูลข่าวสารของราชการ
• 50 ปี
• นายกรัฐมนตรี
• 75 ปี
• รัฐมนตรีชว่ ยซึ่งรัฐมนตรีมอบหมายเป็ นประธาน
• รัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรี 38. ผูท
้ รงคุณวุฒใิ นคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ
• รัฐมนตรีซง่ึ นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็ นประธาน ราชการมีวาระการดารงตาแหน่งตามข้อใด
• 4 ปี วาระเดียว
34. ผูด้ ารงตาแหน่งตามข้อใดไม่ได้เป็ นคณะกรรมการข้อมูล
• 3 ปี แล้วอาจได้รบั แต่งตัง้ ใหม่ได้
ข่าวสารของราชการ • 4 ปี ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
• ปลัดกระทรวงกลาโหม • 3 ปี แล้วอาจได้รบ ั สรรหาใหม่ได้
• เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
• เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม 39. ผูด้ ารงตาแหน่งตามข้อใดเป็ นผูแ้ ต่งตัง้ เลขานุการและ
แห่งชาติ ผูช้ ่วยเลขานุการในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ
• ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ราชการ
• นายกรัฐมนตรี
35. ผูด้ ารงตาแหน่งตามข้อใดเป็ นคณะกรรมการข้อมูล
• ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
ข่าวสารของราชการ • ปลัดกระทรวงการคลัง
• เลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร • ปลัดกระทรวงพาณิชย์
• ปลัดกระทรวงยุติธรรม
• ปลัดกระทรวงคมนาคม 40. การแต่งตัง้ เลขานุการและผูช้ ว่ ยเลขานุการใน
• เลขาธิการวุฒิสภา คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการให้แต่งตัง้ จาก
ข้าราชการสังกัดส่วนราชการใด
36. ผูท
้ รงคุณวุฒใิ นคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ • สานักนายกรัฐมนตรี
ราชการมาจากการแต่งตัง้ ของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลตาม • สานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
ข้อใด • สานักข่าวกรองแห่งชาติ
• คณะรัฐมนตรี • สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
• นายกรัฐมนตรี
• ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี 41. ข้อใดคือจานวนที่ถกู ต้องของเลขานุการและ
• รัฐมนตรีซง่ึ นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็ นประธาน ผูช้ ่วยเลขานุการในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ
ราชการ
37. ผูท
้ รงคุณวุฒใิ นคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ • เลขานุการจานวน 1 คนและผูช้ ่วยเลขานุการจานวน 1
ราชการมีจานวนกี่คน คน
• 6 คน
• เลขานุการจานวน 2 คนและผูช้ ่วยเลขานุการจานวน 2
• 7 คน
คน
• 9 คน
• เลขานุการจานวน 1 คนและผูช้ ว่ ยเลขานุการ
• 14 คน
จานวน 2 คน
• เลขานุการจานวน 2 คนและผูช้ ่วยเลขานุการจานวน 1
คน
42. การพ้นจากตาแหน่งเพราะเหตุอน
ื่ ของผูท้ รงคุณวุฒใิ น 46. บุคคลหรือกลุ่มบุคคลตามข้อใดเป็ นผูแ้ ต่งตัง้ เลขานุการ
คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการข้อใดไม่ถกู ต้อง และผูช้ ่วยเลขานุการในคณะกรรมการวินิจฉัยการ
• ลาออก เปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร
• รัฐมนตรีให้ออกเพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย • คณะรัฐมนตรี
บกพร่อง • ผูท้ รงคุณวุฒใิ นคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิ ดเผยข้อมูล
• ตาย ข่าวสาร
• เป็ นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ • ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
• คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
43. อานาจหน้าที่ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ
ราชการข้อใดไม่ถกู ต้อง 47. ข้อใดไม่ใช่สาขาความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของ
• เสนอแนะในการตราพระราชบัญญัติและการออก คณะกรรมการวินจิ ฉัยการเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร
กฎกระทรวง • ความมั่นคงของประเทศ
• ให้คาปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ • เศรษฐกิจและการคลังของประเทศ
• สอดส่องดูแลและให้คาแนะนาเกี่ยวกับการดาเนินงาน • การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ของเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐ • การบังคับใช้กฎหมาย
• พิจารณาและให้ความเห็นเรื่องร้องเรียน
48. ให้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการพิจารณาส่ง
44. คณะกรรมการวินจิ ฉัยการเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร คาอุทธรณ์ให้คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิ ดเผยข้อมูล
ประกอบด้วยบุคคลไม่นอ้ ยกว่ากี่คน ข่าวสารภายในกี่วนั
• 3 คน • 3 วัน
• 5 คน • 5 วัน
• 9 คน • 7 วัน
• 14 คน • 9 วัน

45. บุคคลหรือกลุ่มบุคคลตามข้อใดเป็ นผูแ้ ต่งตัง้ 49. ผูใ้ ดไม่ปฏิบต


ั ิตามคาสั่งของคณะกรรมการข้อมูล
คณะกรรมการวินจิ ฉัยการเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร ข่าวสารของราชการที่เรียกมาให้ถอ้ ยคาหรือให้ส่งวัตถุ
• คณะรัฐมนตรี เอกสาร หรือพยานหลักฐานมาประกอบการพิจารณา
• ผูท้ รงคุณวุฒใิ นคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิ ดเผยข้อมูล ต้องระวางโทษตามข้อใด
ข่าวสาร • จาคุกไม่เกิน 5 เดือน หรือปรับไม่เกิน 3,000 บาท
• ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี • จาคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท
• คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ • จาคุกไม่เกิน 5 เดือน หรือปรับไม่เกิน 3,000 บาทหรือ
ทัง้ จาทัง้ ปรับ
• จาคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือ
ทัง้ จาทัง้ ปรับ
50. ผูใ้ ดฝ่ าฝื นหรือไม่ปฏิบต
ั ิตามข้อจากัดหรือเงื่อนไขที่
เจ้าหน้าที่ของรัฐกาหนดต้องระวางโทษตามข้อใด
• จาคุกไม่เกิน 1 ปี
• จาคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทัง้
จาทัง้ ปรับ
• จาคุกไม่เกิน 2 ปี
• จาคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทัง้
จาทัง้ ปรับ
ชุดใหม่
ข้อ 1.พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 นี้ ให้ใช้บังคับเมื่อใด
ก.พ้นกำหนดหกสิบวันนัยแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกศาเป็นต้นไป
ข.พ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกศาเป็นต้นไป
ค.พ้นกำหนดร้อยยี่สิบห้าวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกศาเป็นต้นไป
ง.พ้นกำหนดร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกศาเป็นต้นไป
ตอบ ก.พ้นกำหนดหกสิบวันนัยแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกศาเป็นต้นไป (มาตรา2) เฉลยผิด
ข้อ 2.บรรดากฏหมาย กฏ ระเบียบ และข้อบังคับอื่น ในส่วนที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือซึ่งขัด
หรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ จะมีผลอย่างไร
ก.ใช้บังคับได้บางส่วน
ข.ให้ใช้พระราชบัญญัติแทน
ค.เป็นโมฆะ
ง.ไม่มีผลทางกฏหมายแต่ประการใด
ตอบ ข.ให้ใช้พระราชบัญญัติแทน (มาตรา3)
ข้อ 3.ในพระราชบัญญัตินี้ “ข้อมูลข่าวสาร” หมายความว่าอย่างไร
ก.ข้อมูลต่างๆ ของทางราชการที่ถูกบันทึกในระบบคอมพิวเตอร์เท่านั้น
ข.สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใดๆ ไม่ว่าการสื่อความหมายนั้นจะทำได้
โดยสภาพของสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่านวิธีการใดๆ
ค.สิ่งบันทึกโดยทำเป็นรูปแบบของข้อมูลในรูปแบบเอกสารเท่านั้น
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ข.สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใดๆ ไม่ว่าการสื่อความหมายนั้น
จะทำได้โดยสภาพของสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่านวิธีการใดๆ (ตามมาตรา 4)
ข้อ 4.ในพระราชบัญญัตินี้ ข้อใดคือความหมายของ “ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ” ที่ถูกต้อที่สุด
ก.ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐ
ข.ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ
ค.ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็นข้อมูล
ข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐหรือข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเอกชน
ง.ข้อมูลข่าวสารที่อยุ่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็นข้อมูล
ข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐหรือข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเอกชนรวมถึงข้อมูลที่เอกชนเก็บ
รักษาไว้ด้วย
ตอบ ค.ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็น
ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐหรือข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเอกชน (ตามมาตรา 4)
ข้อ 5.แนวคิดในการจัดทำกฏหมายข้อมูลข่าวสารในประเทศไทยเกิดขึ้นอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกใน
สมัยนายกรัฐมนตรีท่านใด
ก.นายชวน หลีกภัย
ข.นายอานันท์ ปันยารชุน
ค.พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ
ง.นายสมัคร สุนทรเวช
ตอบ ข.นายอานันท์ ปันยารชุน
ข้อ 6.ร่างกฏหมายเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารของทางราชการได้ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาและประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2540 ในสมัยนายยกรัฐมนตรีท่านใด
ก.นายชวน หลีกภัย
ข.นายอานันท์ ปันยารชุน
ค.พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ
ง.นายสมัคร สุนทรเวช
ตอบ ค.พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ
ข้อ 7.ผู้ใดเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ก.นายกรัฐมนตรี
ข.คณะรัฐมนตรี
ค.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีฯ
ง.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ตอบ ก.นายกรัฐมนตรี (ตามมาตรา 5)
ข้อ 8.ให้ผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ในข้อ 12. มีอำนาจออกกฏกระทรวง เพื่อปฏิบัติตาม
พระราชบัญญัตินี้ ซึ่งกฏกระทรวงจะใช้บังคับได้ต่อเมื่อได้กระทำการตามข้อใด
ก.ทันที่ที่ประกาศกฏกระทรวงนั้น
ข.เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ค.เมื่อรัฐสภาได้รับรอง
ง.เมื่อได้ปิดประกาศไว้ต่อหน้าศาลและที่ทำการอำเภอทุกท้องที่
ตอบ ข.เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ตามมาตรา 5 วรรคสอง)
ข้อ 9.ข้อใดเป็นจุดหลักที่มาสำคัญของการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
ข.ประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์
ค.พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนฯ
ง.มติคณะรัฐมนตรี
ตอบ ก.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
ข้อ 10.ให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการขึ้นในสำนักงานใด
ก.สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม
ข.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ค.สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ค.สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ตามมาตรา 6 )
ข้อ 11.หน่วยงานของรัฐต้องส่งข้อมูลข่าวสารของราชการอย่างน้อยดังต่อไปนี้...”ลงพิมพ์ในข้อใด
ก.หนังสือพิมพ์รายวัน
ข.ราชกิจจานุเบกษา
ค.หนังสือเวียน
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ข.ราชกิจจานุเบกษา (ตามมาตรา 7)
ข้อ 12.ภายใต้บังคับมาตรา 14 และมาตรา 15 ในพระราชบัญญัตินี้ หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีข้อมูล
ข่าวสารของราชการอย่างน้อยดังต่อไปนี้.........ไว้เพื่อวัตถุประสงค์ตามข้อใดเป็นสำคัญ
ก.เป็นประชาสัมพันธ์ข่าวสารของทางราชการ
ข.เป็นข้อปฏิบัติแก่ข้าราชการในหน่วยงานนั้นๆ
ค.ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ค.ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด (ตามมาตรา 9)
ข้อ 13.บุคคลที่มีอำนาจในการเข้าตรวจดูเอกสาร ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (ข้อมูลข่าวสารของราชการ)
จะต้องมีส่วนได้เสียในเรื่องนั้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
ก.ต้องมีส่วนได้เสีย เพราะเป็นข้อมูลข่าวสารของราชการ ราชการจำต้องปกปิด
ข.ต้องมีส่วนได้เสีย เพราะเป็นข้อมูลข่าวสารของราชการ ราชการจะปกปิดหรือไม่ไม่สำคัญ
ค.ต้องมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ได้เพราะเป็นข้อมูลข่าวสารราชการที่ประชาชนมีอำนาจตรวจดูได้
อยู่
ง.ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ ค.ต้องมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องหรือไม่กไ็ ด้เพราะเป็นข้อมูลข่าวสารราชการที่ประชาชนมี


อำนาจตรวจดูได้อยู่ (ตามมาตรา 9 วรรคสาม)
ข้อ 14.บุคคลที่มีสิทธิในการตรวจสอบดูเอกสาร นอกจากทำการตรวจดูแล้ว ยังมีสิทธิอย่างใดกับ
เอกสารนั้นได้อีก
ก.ขอสำเนา
ข.ขอสำเนา หรือขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้อง
ค.ขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องรวมทั้งการนำต้นฉบับออกจากสถานที่ราชการได้
ง.ขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องนำต้นฉบับออกจากสถานที่ราชการร้องขอคัดสำเนาโดยไม่เสีย
ค่าธรรมเนียมได้
ตอบ ข.ขอสำเนา หรือขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้อง (ตามมาตรา 9 วรรคสาม)
ข้อ 15.ข้อมูลข่าวสารของราชการที่ประชาชนสามารถตรวจดูได้ ตามหลักเกณฑ์ที่กฏหมายกำหนดนั้น
หากเป็นคนต่างด้าวจะมีสิทธิตามมาตรานี้เพียงใด กรณีนี้ให้เป็นไปตามที่ผู้ใดกำหนด
ก.คำสั่งนายกรัฐมนตรี
ข.มติคณะรัฐมนตรี
ค.กฏกระทรวง
ง.คำสั่งของแต่ละหน่วยงานนั้นๆ
ตอบ ค.กฏกระทรวง (ตามมาตรา 9 วรรคท้าย)
ข้อ 16. นอกจากข้อมูลข่าวสารของราชการที่ลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว หรือที่จัดไว้ให้
ประชาชนเข้าตรวจดูได้แล้วหรือที่มีการจัดให้ประชาชนได้ค้นคว้าตามมาตรา 26 แล้ว ถ้าบุคคลใดขอ
ข้อมูลข่าวสารอื่นใดของราชการอีก คำขอของผู้นั้นต้องระบุรายละเอียดอย่างไร
ก.ระบุข้อมูลข่าวสารที่ต้องการในลักษณะที่อาจเข้าใจได้ตามควร
ข.ระบุรายละเอียดของข้อมูลข่าวสารนั้นๆตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ค.ไม่ต้องระบุสิ่งใด สามารถขอข้อมูลที่ต้องการได้ทันที
ง.ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ก.ระบุข้อมูลข่าวสารที่ต้องการในลักษณะที่อาจเข้าใจได้ตามควร (ตามมาตรา 11 วรรค
หนึ่ง)
ข้อ 17.ข้อมูลข่าวสารของราชการที่หน่วยงานของรัฐจัดหาให้ ต้องเป็นข้อมูลข่าวสารตามข้อใด
ก.ต้องเป็นข้อมูลที่ต้องไปจัดทำวิเคราะห์ จำแนก รวบรวม หรือจัดใหมีขึ้นใหม่
ข.ที่มีอยู่แล้วในสภาพที่พร้อมจะให้ได้
ค.ถูกทั้ง ก. และ ข.
ง.ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข.ที่มีอยู่แล้วในสภาพที่พร้อมจะให้ได้ (ตามมาตรา 11 วรรคสาม)
ข้อ 18.ในกรณีที่มีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ที่ผู้ขอตรวจข้อมูลข่าวสารของราชการมีสิทธิ
ร้องเรียนต่อคณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้ และคณะกรรมการต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ ภายใน
กี่วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ก.ภายใน 30 วัน
ข.ภายใน 60 วัน
ค.ภายใน 90 วัน
ง.ภายใน 120 วัน
ตอบ ก.ภายใน 30 วัน (ตามมาตรา 13 วรรคสอง)
ข้อ 19. ข้อมูลข่าวสารของราชการตามข้อใด ที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ อาจมีคำสั่งมิให้
เปิดเผยก็ได้
ก.รายงานทางวิชาการ
ข.ความเห็นหรือคำแนะนำภายในหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการเรื่องใด
ค.ข้อมูลข่าวสารที่นำมาใช้ในการทำความเห็น
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ข.ความเห็นหรือคำแนะนำภายในหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการเรื่องใด (ตามมาตรา 13
วรรคสอง)
ข้อ 20.คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการห้ามกำหนดเงื่อนไข
ก.คำสั่งมิใหเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการห้ามกำหนดเงื่อนไข
ข.คำสั่งมิใหเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็ได้แต่ต้องระบุไว้ด้วยว่าที่
เปิดเผยไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลข่าวสารประเภทใด
ค.คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็แต่แต่ต้องระบุไว้ด้วยว่าที่
เปิดเผยไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลข่าวสารประเภทใดเพระเหตุใด
ง.คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็ได้ไม่ต้องระบุไว้แต่อย่างใด
ตอบ ค.คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็แต่แต่ต้องระบุไว้
ด้วยว่าที่เปิดเผยไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลข่าวสารประเภทใดเพระเหตุใด (ตามมาตรา15 วรรคสอง)
ข้อ 21.การมีคำสั่งเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการ ให้ถือมีผลเป็นไปโดยอย่างไร
ก.เป็นไปตามระเบียบของหน่วยงานของรัฐนั้นๆ
ข.เป็นดุลพินิจโดยเฉพาะของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามลำดับสายการบังคับบัญชา
ค.เป็นดุลพินิจโดยเฉพาะของเจ้าหน้าที่นั้นๆ
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ค.เป็นดุลพินิจโดยเฉพาะของเจ้าหน้าที่นั้นๆ (ตามมาตรา 15 วรรคสอง)
ข้อ 22.การอุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารฯ อาจอุทธรณ์ได้ต่อผู้ใด
ก.คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์
ข.คณะกรรมการการปกครอง
ค.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ค.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร (ตามมาตรา 15 วรรคสอง) คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูล
ข่าวสารของราชการจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็ได้ แต่ต้องระบุไว้ด้วยว่าที่เปิดเผยไม่ได้เพราะเป็นข้อมูล
ข่าวสารประเภทใดและเพราะเหตุใด และให้ถือว่าการมีคำสั่งเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการเป็นดุลพินิจ
โดยเฉพาะของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามลำดับสายการบังคับบัญชาแต่ผู้ขออาจอุทธรณ์ตอ่ “คณะกรรมการการ
วินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร” ได้ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้
ข้อ 23. เพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติว่าข้อมูลข่าวสารของราชการจะเปิดเผยต่อบุคคลใดได้
หรือไม่ภายใต้เงื่อนไขเช่นใด และสมควรมีวิธีรักษามิให้รั่วไหลให้หน่วยงานของรัฐกำหนด วิธีการ
คุ้มครองข้อมูลข่าวสารนั้น ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในข้อใด
ก.ตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนดว่าด้วยการักษาความลับของทางราชการ
ข.ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ
ค.ตามระเบียบที่นายกรัฐมนตรีกำหนดว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ
ง.ตามมติของคณะรัฐมนตรี
ตอบ ก.ตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนดว่าด้วยการักษาความลับของทางราชการ (ตามมาตรา
16)

ข้อ 24.ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเห็นว่า การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการใดอาจกระทบถึง


ประโยชน์ได้เสียของผู้ใด ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติอย่างไหร่
ก.แจ้งให้ผู้นั้นเสนอคำคัดค้าน ภายในเวลาที่กำหนดแต่ต้องให้เวลาอันสมควรที่ผู้นั้นอาจเสนอคำ
คัดค้านได้
ข.ให้ปฏิเสธไม่อนุญาตในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารนั้น
ค.เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่มีหน้าที่แต่อย่างใด
ง.ถุกทั้ง ข้อ ก. และ ข้อ ข.
ตอบ ก.แจ้งให้ผู้นั้นเสนอคำคัดค้าน ภายในเวลาที่กำหนดแต่ต้องให้เวลาอันสมควรที่ผู้นั้นอาจ
เสนอคำคัดค้านได้ (ตามมาตรา 17 วรรคแรก)
ข้อ 25.ผู้ที่ได้รับแจ้ง หรือผู้ที่ทราบว่าการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการใดอาจกระทบถึงประโยชน์
ได้เสียของตน มีสิทธิคัดค้านการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารนั้นได้ โดยกระทำตามข้อใด
ก.โดยทำเป็นหนังสือหรือแจ้งเป็นวาจาถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบ
ข.โดยทำเป็นหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบ
ค.โดยทำเป็นหนังสือร้องเรียนถึงหน่วยงานของรัฐต้นสังกัดนั้น
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ข.โดยทำเป็นหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบ (ตามมาตรา 17 วรรคสอง)
ข้อ 26.ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีคำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารใดตามมาตรา 14 หรือ มาตรา 15
หรือมีคำสั่งไม่รับฟังคำคัดค้านของผู้มีประโยชน์ได้เสียตามมาตรา 17 ผู้นั้นอาจอุทธรณ์ต่อผู้ใด
ก.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ข.คณะรัฐมนตรี
ค.คณะกรรมการการพิจารณาอุทธรณ์
ง.นายกรัฐมนตรี
ตอบ ก.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร (ตามมาตรา 18)
ข้อ 27.ในกรณีที่เก็บข้อมูลข่าวสารโดยตรงจากเจ้าของข้อมูล หน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติอย่างไร
ก.แจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบล่วงหน้าหร้อมกับการขอข้อมูลถึงวัตถุประสงค์ที่จะนำมาใช้ลักษณะการใช้
ข้อมูลตามปกติ
ข.หน่วยงานของรัฐสามารถนำข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลได้โดยตรงไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตเป็น
อำนาจของรัฐโดยเฉพาะ
ค.ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
ง.ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ก.แจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบล่วงหน้าหร้อมกับการขอข้อมูลถึงวัตถุประสงค์ที่จะนำมาใช้
ลักษณะการใช้ข้อมูลตามปกติ (ตามมาตรา 23 วรรณสอง)
ข้อ 28.หน่วยงานของรัฐต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบในกรณีตามข้อใด
ก.ในกรณีที่มีการให้จัดส่งข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลไปยังที่ใดซึ่งจะเป็นผลให้บุคคลทั่วไปทราบข้อมูล
ข่าวสารนั้นได้
ข.ในกรณีที่มีการเข้าตรวจสอบข้อมูลนั้นโดยหน่วยงานรัฐผู้เป็นเจ้าของข้อมูลนั้น
ค.ไม่มีข้อใดถูก
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ก.ในกรณีที่มีการให้จัดส่งข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลไปยังที่ใดซึ่งจะเป็นผลให้บุคคลทั่วไป
ทราบข้อมูลข่าวสารนั้นได้ (ตามมาตรา 23 วรรคท้าย)
ข้อ 29.ข้อใด ไม่ใช่ ข้อยกเว้ณให้หน่วยงานของรัฐมีอำนาจในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่อยู่
ในความควบคุมดูแลของตนต่อหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นได้ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมของเจ้าของ
ข้อมูลนั้น
ก.เป็นการเปิดเผยเพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัยโดยไม่ระบุชื่อหรือส่วนที่ทำให้รู้ว่าเป็นข้อมูลข่าวสาร
ส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลใด
ข.เป็นการเปิดเผยต่อบริษัทมหาชนจำกัด เพื่อประโยชน์ต่อผลประโยชน์ของบริษัทฯนั้น
ค.เป็นการเปิดเผยต่อหอจดหมายแห่งชาติ กรมศิลปากร หรือหน่วยงานอื่นของรัฐตามมาตรา 26 วรรค
หนึ่ง เพื่อการตรวจดูคุณค่าในการเก็บรักษา
ง.เป็นการเปิดเผยต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อการป้องกันการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย การ
สืบสวน การสอบสวน หรือการฟ้องคดี ไม่ว่าเป็นคดีประเภทใดก็ตาม
ตอบ ข.เป็นการเปิดเผยต่อบริษัทมหาชนจำกัด เพื่อประโยชน์ต่อผลประโยชน์ของบริษัทฯนั้น (ตา
มาตรา 24)
ข้อ 30.การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามมาตรา 24 วรรคหนึ่ง (3)(4)(5)(6)(7)(8)และ(9) จะต้องมีการปฏิบัติ
อย่างไร
ก.ให้มีการจัดทำรายชื่อผู้เป็นเจ้าของข้อมูลและผลเสียหายที่อาจจะได้รับจากการเปิดเผยข้อมูลนั้น
ข.ให้มีการจัดทำบัญชีแสดงการเปิดเผยกำกับให้กับข้อมูลข่าวสารนั้น
ค.ให้หน่วยงานรัฐวางประกันเงินความเสียหายแก่เจ้าของข้อมูลเพื่อความเสียหายในอนาคต
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ข.ให้มีการจัดทำบัญชีแสดงการเปิดเผยกำกับให้กับข้อมูลข่าวสารนั้น (ตามมาตรา 24 วรรค
สอง)
ข้อ 31.ถ้าบุคคลใดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนส่วนใดไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง ให้มี
สิทธิอย่างไร
ก.แจ้งเป็นวาจาโดยเร่งด่วน เพื่อให้หน่วยงานนั้นแก้ไขข้อมูล แก่ไม่มีอำนาจลบข้อมูล
ข.ยื่นคำขอเป็นหนังสือให้หน่วยงานของรัฐที่ควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสารแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบ
ข้อมูลข่าวสารนั้นได้ซึ่งหน่วยงานของรัฐต้องพิจารณาคำของดังกล่าว
ค.ไม่มีสิทธิอย่างใด เพราะเป็นข้อมูลของทางราชการ
ง.ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข.ยื่นคำขอเป็นหนังสือให้หน่วยงานของรัฐทีค่ วบคุมดูแลข้อมูลข่าวสารแก้ไขเปลี่ยนแปลง
หรือลบข้อมูล (ตามมาตรา 25 วรรคสาม)
ข้อ 32.ข้อมูลข่าวสารของราชการที่หน่วยงานรัฐไม่ประสงค์จะเก็บรักษาหรือมีอายุครบกำหนดแล้ว
ตามพระราชบัญญัตินี้ นับแต่วันที่เสร็จสิ้นการจัดให้มีข้อมูลข่าวสารนั้น ให้หน่วยงานของรัฐส่งมอบ
ให้แก่หน่วยงานใด
ก.หอจดหมาย
ข.กรมศิลปากร
ค.หน่วยงานอื่นของรัฐตามที่กำหนดในพระราชกฤษฏีกาเพื่อคัดค้านเลือกไว้ให้ประชาชนได้ศึกษา
ค้นคว้า
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ (ตามมาตรา 26 )
ข้อ 33.การตรวจสอบหรือทบทวนมิให้มีการขยายระยะเวลาไม่เปิดเผยจนเกินความจำเป็น ให้เป็นไป
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในข้อใด
ก.คำสั่งนายกรัฐมนตรี
ข.มติคณะรัฐมนตรี
ค.กฏกระทรวง
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ค.กฏกระทรวง (ตามมาตรา 26)
ข้อ 34.ผู้ใดเป็นประธานในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก.รัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ข.ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ค.ปลัดกระทรวงกลาโหม
ง.ปลัดรกะทรวงมหาดไทย
ตอบ ก.รัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย (ตามมาตรา 24 )
ข้อ 35.ผู้ใด เป็นผู้แต่งตั้งข้าราชการของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี คนหนึ่งเป็นเลขานุการและ
อีกสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ ในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก.นายกรัฐมนตรี
ข.ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ค.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ง.รองนายกรัฐมนตรี
ตอบ ข.ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ตามมาตรา 27 วรรคสอง)
ข้อ 36.กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทางราชการซึ่งได้รับแต่งตั้งตาม
มาตรา 24 มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละกี่ปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง
ก.2 ปี
ข.3 ปี
ค.4 ปี
ง.5 ปี
ตอบ ข.3 ปี (ตามมาตรา 29)
ข้อ 37.การประชุมของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ต้องมีกรรมการประชุมไม่น้อยกว่า
เท่าใด ของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุมตามกฏหมาย
ก.ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม
ข.ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
ค.ไม่น้อยกว่าสองในสาม
ง.ไม่น้อยกว่าสามในสี่
ตอบ ข.ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึง่ (ตามมาตรา 31)
ข้อ 38.ให้ประธานกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ เป็นประธานในที่สุด แต่ถ้าประธานกรรมการ
ไม่ม่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กระทำตามข้อใด
ก.ให้กรรมการที่มาประชุมผู้มีอาวุโสสูงสุดทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
ข.ให้รองประธานทำหน้าที่แทนประธานเป็นการชั่วคราว
ค.ให้กรรมการที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
ง.ให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อน จนกว่าจะได้ผู้ทำหน้าที่ประธาน
ตอบ ค.ให้กรรมการที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม (ตามมาตรา 31 วรรค
สอง)
ข้อ 39.การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ให้ถือเสียงเท่าใด จึงจะ
เป็นเสียงชี้ขาดที่ถูกต้องตามกฏหมาย
ก.ให้ถือเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่ง
ข.ให้ถือเสียงข้างมาก
ค.ให้ถือเสียงเกินกว่าสองในสาม
ง.ให้ถือเสียงเอกฉันท์
ตอบ ข.ให้ถือเสียงข้างมาก (ตามมาตรา 31 วรรคสาม)
ข้อ 40.ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลข่าวสารตามที่มีคำขอไม่ว่าจะเป็นกรณีตาม
มาตรา 11 หรือ มาตรา 25 ถ้าผู้มีคำขอไม่เชื่อว่าเป็นความจริงและร้องเรียนต่อคณะกรรมการตาม
มาตรา 13 คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการจะมีอำนาจตามข้อใด
ก.ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารของราชการที่เกี่ยวข้องได้
ข.แจ้งผลการตรวจสอบให้ผู้ร้องเรียนทราบ
ค.ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
ง.ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค.ถูกทัง้ ข้อ ก. และ ข. (ตามมาตรา 33 )
ข้อ 41.ให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาต่างๆ ตามความเหมาะสม โดยผู้ใด
เป็นผู้แต่งตั้งตามข้อเสนอของคณะกรรมการฯ
ก.นายกรัฐมนตรี
ข.คณะรัฐมนตรี
ค.รัฐมนตรีว่าการรกระทรวงมาหาดไทย
ค.ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ตอบ ข.คณะรัฐมนตรี (ตามมาตรา 35 )
ข้อ 42.คณะกรรมการวินัจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารคณะหนึ่งๆประกอบด้วยบุคคลตามความ
จำเป็นแต่ต้องไม่น้อยกว่ากี่คน
ก.3 คน
ข.4 คน
ค.5 คน
ง.6 คน
ตอบ ก.3 คน (ตามมาตรา 35 )
ข้อ 43.ให้คณะกรรมการพิจารณาส่งคำอุทธรณ์ให้คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร โดย
คำนึงถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของคณะกรรมการวินิจฉับการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารแต่ละสาขา
ภายในกี่วันนับแต่วันที่คณะกรรมการได้รับคำอุทธรณ์
ก.3 วัน
ข.7 วัน
ค.15 วัน
ง.30 วัน
ตอบ ข.7 วัน (ตามมาตรา 37 )
ข้อ 44.อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารแต่ละสาขาวิธีพิจารณาและ
วินิจฉัยและองค์คณะในการพิจารณาและวินิจฉัยให้เป็นไปตามข้อใด
ก.มติคณะรัฐมนตรี
ข.คำสั่งของนายกรัฐมนตรี
ค.ระเบียบที่คณะกรรมการกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง.ข้อกำหนดที่คณะกรรมการกำหนด
ตอบ ค.ระเบียบที่คณะกรรมการกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ตามมาตรา 38 )
ข้อ 45.ให้หน่วยงานของรัฐจัดพิมพ์ข้อมูลข่าวสารหรือจัดให้มีข้อมูลข่าวสารตามพระราชบัญญัตินี้
เพื่อให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้ใดกำหนด
ก.นายกรัฐมนตรี
ข.คณะรัฐมนตรี
ค.คณะกรรมการ
ง.ปลัดกระทรวง
ตอบ ค.คณะกรรมการ (ตามมาตรา 42 วรรคสอง)
ชุดต่อไป
1. คำว่า “ข้อมูลข่าวสาร” หมายความถึงข้อใด*
ก. ทุกสิ่งทุกอย่างที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใด ๆ ซึ่งอาจจะเป็นอะไรก็ได้ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ
สิ่งของ กระดาษ ข้อความ รูปภาพ ฯลฯ
ข. เป็นการสื่อความหมายโดยสภาพของสิ่งนั้นเอง เช่น พิมพ์ข้อความในแผ่นกระดาษ
ค. เป็นการสื่อความหมายโดยจัดทำไว้ในรูปของเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ฯลฯ
ง. ถูกทุกข้อ
2. คำว่า “ข้อมูลข่าวสารของราชการ” หมายความถึงข้อใด*
ก. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐและเอกชน
ข. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือในความควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ
ค. ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐที่อยู่ในความครอบครองของเอกชน
ง. ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐที่อยู่ในความควบคุมของเอกชน
3. ข้อมูลข่าวสารของราชการใดต่อไปนี้ที่สามารถเปิดเผยได้เป็นการทั่วไป*

ก. ข้อมูลข่าวสารของทุกสถาบันในสังคม
ข. ข้อมูลข่าวสารที่กระทบกระเทือนถึงความมั่นคงของหน่วยงานราชการ
ค. ข้อมูลข่าวสารทุกอย่างที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยราชการ
ง. ข้อมูลข่าวสารที่เกีย่ วกับโครงสร้าง การจัดองค์กรของหน่วยงานรัฐ
4. ผู้ที่จะใช้ดลุ พินิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องคำนึงถึงข้อใด*

ก. รู้กฎหมายอาญาเป็นอย่างดี
ข. พิจารณาข้อเท็จจริงประกอบการใช้วิจารณญาณอย่างเหมาะสม
ค. ตัดสินใจได้รวดเร็ว
ง. การปฏิบัติหน้าที่ ประโยชน์สาธารณะและประโยชน์เอกชน
5. ข้อใดเป็นขั้นตอนการเตรียมการที่ดี เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน*

ก. เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร
ข. เตรียมความพร้อมด้านแนวทางการค้นหา
ค. ปรับปรุงระบบจัดเก็บข้อมูลข่าวสารให้สามารถค้นหาได้สะดวก
ง. จำแนกประเภทเอกสารประวัตศิ าสตร์และเอกสารส่วนบุคคลให้ชดั เจน
6. บุคคลย่อมมีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสําเนาหรือขอสําเนาทีม่ ีคํารับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร ข้อใดไม่ถูกต้อง*

ก. บุคคลไม่ว่าจะมีส่วนได้เสียเกีย่ วข้องหรือไม่ก็ตาม มีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสําเนาหรือขอสําเนาทีม่ ีคํารับรองถูกต้อง


ข. คนต่างด้าวจะมีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสําเนาหรือขอสําเนาที่มคี ํารับรองถูกต้อง ต้องเป็นตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
ค. การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการขอสําเนาหรือขอสําเนาที่มีคํารับรองถูกต้องนี้ ให้คํานึงถึงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
ประกอบด้วย
ง. ต้องเป็นบุคคลมีส่วนได้เสียและเกี่ยวข้อง
7. หากข้อมูลใดกระทบประโยชน์ได้เสียของบุคคลอื่น ขั้นตอนสำคัญก่อนใช้ดุลพินิจเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร คือ*
ก. พิจารณาว่าข้อมูลที่ขอนั้นเปิดเผยได้หรือไม่
ข. พิจารณาว่าข้อมูลที่ขอนั้นอยู่ในความครอบครองของหน่วยงานหรือไม่
ค. เปิดโอกาสให้คู่กรณีที่อาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียได้ทราบข้อเท็จจริงและคัดค้าน
ง. ให้เจ้าของข้อมูล ลงนามยินยอมไว้ล่วงหน้า
8. หากข้อมูลข่าวสารที่ขอไม่ได้อยูใ่ นความครอบครองของหน่วยงานท่าน สิ่งที่ควรให้บริการแก่ประชาชน คือ*

ก. แนะนำให้ไปปรึกษาเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ข. แนะนำให้ไปยื่นคำขอต่อหน่วยงานของรัฐที่ครอบครองข้อมูลข่าวสาร
ค. แนะนำให้ไปอุทธรณ์ต่อหน่วยงานของรัฐที่ครอบครองข้อมูลข่าวสาร
ง. ตอบปฏิเสธว่าหน่วยงานของท่านไม่มีข้อมูลข่าวสารนี้
9. การใช้ดลุ พินิจให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการ ข้อใดไม่ถูกต้อง*

ก. เปิดเผยบางส่วน หรือมีเงื่อนไขในการเปิดเผย
ข. เปิดเผยทั้งหมด หรือเปิดเผยบางส่วน หรือไม่เปิดเผย
ค. ห้ามนำไปเปิดเผยกับบุคลอื่น
ง. ห้ามนำไปใช้ประโยชน์ทางการค้า
10. คำว่า “ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล” ตรงกับความในข้อใด*
ก. เป็นข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับสิ่งเฉพาะตัวของบุคคล และสิ่งที่ทำให้รู้ว่าบุคคลนั้นเป็นใคร
ข. เป็นข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับสิ่งเฉพาะตัวของบุคคล และรวมถึงนิติบุคคลด้วย
ค. ข้อมูลที่เกี่ยวกับสิ่งเฉพาะตัวของบุคคล
ง. ข้อมูลข่าวสารของผู้ที่ถึงแก่กรรมแล้ว
11. ในการจัดพิมพ์เกี่ยวกับระบบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลในราชกิจจานุเบกษา ต่อไปนี้ ข้อใดที่กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ต้อง
ดำเนินการจัดพิมพ์และแก้ไขให้ถูกต้องอยู่เสมอ*
ก. วิธีการขอให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูล
ข. ประเภทของบุคคลที่มีการเก็บข้อมูลไว้
ค. ชื่อเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลข้อมูล
ง. ลักษณะของการใช้ข้อมูลตามปรกติ
12. ประชาชนจะอุทธรณ์หน่วยงานของรัฐได้ในกรณีใด*

ก. เมื่อหน่วยงานของรัฐไม่เปิดเผยข้อมูลตามที่ขอ
ข. เมื่อหน่วยงานไม่รับฟังคำคัดค้าน
ค. เมื่อหน่วยงานของรัฐจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตนไว้ไม่ถูกต้องตามจริง
ง. ถูกทุกข้อ
13. ประชาชนสามารถร้องเรียนหน่วยงานของรัฐกรณีไม่ปฏิบตั ิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ต่อ
คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการได้ในกรณีใด*
ก. ไม่จัดพิมพ์ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดแห่งพระราชบัญญัตินลี้ งพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ข. ไม่จัดข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดู
ค. ไม่จัดหาข้อมูลข่าวสารให้ตามคำขอ
ง. ปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามคำขอ
14. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่มคี ุณค่าที่หน่วยงานของรัฐไม่ประสงค์จะเก็บรักษา จะต้องดำเนินการอย่างไร*

ก. ส่งมอบให้แก่หอจดหมายเหตุ
ข. ทำลายตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ
ค. มอบให้หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
ง. ข้อ ก. และ ข้อ ข
15. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารมีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำ หรือส่งวัตถุ เอกสารพยานหลักฐานได้ หากฝ่า
ฝืนจะมีโทษอย่างใด*
ก. ต้องระวางโทษจำคุก หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร
ข. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ข้อ ก. ข้อ ข.
เฉลย
1.4 2.2 3.4 4.4 5.3

6.4 7.3 8.2 9.3 10.1


11.3 12.4 13.3 14.1 15.3
ชุดต่อไป

1. ผู้ใดเป็นผูร้ ักษาการตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540


ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

2. ให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการขึ้นในสังกัดใด
ก. สำนักนายกรัฐมนตรี
ข. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ค. สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม
ง. สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย

3. หน่วยงานของรัฐต้องส่งข่าวสารของราชการพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา ข้อใดถูกต้อง
ก. โครงสร้างและการจัดองค์กรในการดำเนินงาน สรุปอำนาจหน้าที่ที่สำคัญและวิธีการดำเนินงาน
ข. สถานที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารหรือคำแนะนำในการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ
ค. กฎ มติคณะรัฐมนตรี ข้อบังคับ คำสั่ง หนังสือเวียน ระเบียบแบบแผน นโยบาย
ง. ถูกทุกข้อ

4. ข้อมูลข่าวสารที่จดั ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ถ้ามีส่วนที่ต้องห้ามมิให้เปิดเผยอยูด่ ้วย ข้อใดถูกต้อง


ก. ให้ลบข้อมูลข่าวสารส่วนนั้น
ข. ให้ตัดทอนข้อมูลข่าวสารส่วนนัน้
ค. กระทำโดยประการอื่นที่ไม่เป็นการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนนั้น
ง. ถูกทุกข้อ

5. ผู้ใดเห็นว่าหน่วยงานของรัฐไม่จัดพิมพ์ข้อมูลข่าวสารลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษาหรือไม่จดั หาข้อมูลข่าวสารไว้ให้ประชาชน
ตรวจดูได้ หรือไม่จัดหาข่าวสารให้แก่ตน หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า ผู้นั้นมีสิทธิ
ดำเนินการตามข้อใด
ก. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ข. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ค. ร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ง. ร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
6. ในกรณีที่มีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ต้องพิจารณาให้
แล้วเสร็จ ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ข. ภายใน 30วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ค. ภายใน 60วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ง. ภายใน 90วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน

7. ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นให้ขยายเวลาออกไปได้ แต่ต้องแสดงเหตุผลและรวมเวลาทั้งหมด ข้อใดถูกต้องที่สุด


ก. ต้องไม่เกิน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ข. ต้องไม่เกิน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ค. ต้องไม่เกิน 60 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ง. ต้องไม่เกิน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
8. ข้อมูลข่าวสารของราชการจะเปิดเผยมิได้ ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ข. การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือความมั่นคงในทาง
เศรษฐกิจหรือการคลังของประเทศ
ค. การเปิดเผยจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการฟ้องคดี
การป้องกัน การปราบปราม การทดสอบ การตรวจสอบ หรือ การรู้แหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสารหรือไม่ก็ตาม
ง. การเปิดเผยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

9. ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเห็นว่า การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการใดอาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียของผู้ใด ให้เจ้าหน้าที่


ของรัฐแจ้งให้ผู้นั้นเสนอคำคัดค้านภายในเวลาที่กำหนด ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. ต้องไม่น้อยกว่า 7 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
ข. ต้องไม่น้อยกว่า 15 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
ค. ต้องไม่น้อยกว่า 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
ง. ต้องไม่น้อยกว่า 60 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
10. ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ขอองรัฐมีคำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร หรือมีคำสั่งไม่รับฟังคำคัดค้านของผูม้ ีประโยชน์ได้เสีย ผู้ขออาจ
ดำเนินการตามข้อใด
ก. ร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
ข. ร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รบั แจ้งคำสั่ง
ค. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสัง่
ง. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง

11. ถ้าบุคคลใดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนส่วนใดไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง ให้มีสิทธิยนื่ คำขอเป็นหนังสือให้


หน่วยงานของรัฐที่ควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสารแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลข่าวสารส่วนนั้น หากหน่วยงานของรัฐไม่แก้ไข
เปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลข่าวสารให้ตรงตามที่มีคำขอ ให้ผู้นั้นมีสิทธิดำเนินการตามข้อใด
ก. ร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายใน 30 วันนับแต่วันได้รับแจ้งคำสั่งไม่ยินยอมแก้ไขเปลี่ยนแปลง
หรือลบข้อมูลข่าวสาร
ข. ร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการภายใน 30 วันนับแต่วันได้รับแจ้งคำสั่งไม่ยินยอมแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบ
ข้อมูลข่าวสาร
ค. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายใน 30 วันนับแต่วันได้รับแจ้งคำสั่งไม่ยินยอมแก้ไขเปลี่ยนแปลง
หรือลบข้อมูลข่าวสาร
ง. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการภายใน 30 วันนับแต่วันได้รับแจ้งคำสั่งไม่ยินยอมแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบ
ข้อมูลข่าวสาร

12. ข้อมูลข่าวสารของราชการสถาบันพระมหากษัตริยเ์ มื่อครบกำหนดกี่ปีนับแต่วันที่เสร็จสิ้นการจัดให้มีข้อมูลข่าวสารนั้น ให้


หน่วยงานของรัฐส่งมอบให้แก่จดหมายเหตุแห่งชาติ
ก. เมื่อครบ 75 ปี
ข. เมื่อครบ 60 ปี
ค. เมื่อครบ 25 ปี
ง. เมื่อครบ 20 ปี
13. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลอายุเมื่อครบกำหนดกีป่ ีนับแต่วันที่เสร็จสิ้นการจัดให้มีข้อมูลข่าวสารนั้น ให้หน่วยงานของรัฐส่งมอบ
ให้แก่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ
ก. เมื่อครบ 75 ปี
ข. เมื่อครบ 60 ปี
ค. เมื่อครบ 25 ปี
ง. เมื่อครบ 20 ปี
14. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการมีวาระอยู่ในตำแหน่งตามข้อใด
ก. คราวละ 1 ปีนับแต่วันทีไ่ ด้รับแต่งตั้ง ผู้ที่พ้นตำแหน่งแล้วอาจได้รบั แต่งตั้งใหม่ได้
ข. คราวละ 2ปีนับแต่วันทีไ่ ด้รบั แต่งตั้ง ผู้ที่พ้นตำแหน่งแล้วอาจได้รบั แต่งตั้งใหม่ได้
ค. คราวละ 3ปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง ผู้ที่พ้นตำแหน่งแล้วอาจได้รบั แต่งตั้งใหม่ได้
ง. คราวละ 4ปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง ผู้ที่พ้นตำแหน่งแล้วอาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้

15. ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลข่าวสารตามที่มีคำขอ ถ้าผู้มีคำขอไม่เชื่อว่าเป็นความจริงผู้นั้นสามารถดำเนินการ


ได้ตามข้อใด
ก. ร้องเรียนต่อผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
ข. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. ร้องทุกข์ต่อผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
ง. ร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ

16. ผู้ที่เสนอแต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารคือใคร
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ค. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ง. ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

17. ผู้ที่แต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารคือใคร
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ค. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ง. เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ

18. ให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาต่าง ๆ ตามความเหมาะสม คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูล


ข่าวสารคณะหนึ่ง ๆ ประกอบด้วยบุคคลตามความจำเป็นโดยให้แต่งตั้งตามสาขา เชี่ยวชาญเฉพาะด้านของข้อมูลข่าวสารของ
ราชการจำนวนเท่าใด
ก. จำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน
ข. จำนวนไม่น้อยกว่า 5 คน
ค. จำนวนไม่น้อยกว่า 7 คน
ง. จำนวนไม่น้อยกว่า 9 คน

19. ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ที่สั่งเรียกให้บุคคลใดมาให้ถอ้ ยคำหรือให้ส่งวัตถุ เอกสาร


หรือพยานหลักฐานมาประกอบการพิจารณาได้ ผู้นั้นมีความผิดตามข้อใด
ก. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

20. กรณีการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารทางราชการที่จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำเร็จตาม
วัตถุประสงค์ได้ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการฟ้องคดี การป้องกัน การปราบปราม การทดสอบ การตรวจสอบ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามผู้
นั้นมีความผิดตามข้อใด

ก. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ข. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เฉลย
1.1 7.4 13.4 19.2
2.2 8.1 14.3 20.4
3.4 9.2 15.2
4.4 10.3 16.3
5.1 11.3 17.1
6.2 12.1 18.1
ชุดเพิม่ เติม
1.1 2. 4
3.3 4.3
5.4 6.3
7.4 8.1
9.1 10.2

You might also like