Professional Documents
Culture Documents
่ กิจกรรมบำบ ัด
และแนวทางในการ
จ ัดกลุม
่ กิจกรรม
บำบ ัด
อ.เลอล ักษณ์ แทนเกษม
ว ัตถุประสงค์
1. ผู้เรี ยนมีความเข้ าใจเกี่ยวกับการกลุ่มกิจกรรมบำบัดและ
แนวทางในการจัดกลุ่มกิจกรรมบำบัด
2. ผู้เรี ยนสามารถวางแผนกลุ่มกิจกรรมบำบัดและแนวทาง
ในการจัดกลุ่มกิจกรรมบำบัด
3. ผู้เรี ยนมีความเข้ าใจบทบาทของพยาบาลในการจัดกลุ่ม
กิจกรรมบำบัด
4. ผู้เรี ยนสามรถประเมินผลการทำกลุ่มกิจกรรมบำบัดได้
กิจกรรมบำบัด
หมายถึง การบำบัดรั กษาและฟื ้ นฟูสมรรถภาพ ผู้ท่ ม
ี ีความ
พิการทัง้ ทางด้ านร่ างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม โดย
ประยุกต์ ดัดแปลงกิจกรรมต่ างๆ ในชีวติ ประจำวันของผู้ป่วย
ให้ เป็ นสื่อสำหรั บการรักษา เพื่อให้ ผ้ ูป่วยสามารถกลับไปใช้
ชีวติ อยู่ในสังคมได้ อย่ างมีความสุข และพึ่งตนเองได้ มากที่สุด
กลุ่มกิจกรรมบําบัด
(activity therapy group)
เป็ นองค์ประกอบหนึง่ ของการจัดสิง่ แวดล้ อม เพื่อการ
บำบัด กิจกรรมที่จะเป็ นการบำบัดได้ นนั ้ ควรเป็ น
กิจกรรมช่วยส่งเสริ มให้ ผ้ ปู ่ วยอยูก่ บั ความเป็ นจริ ง
ป้องกันการถดถอย และส่งเสริ มให้ ผ้ ปู ่ วยมีการพัฒนา
ทักษะทางสังคม โดยมีกิจกรรมเป็ นสื่อกลางในการช่วย
ให้ ผู้ป่วยมีโอกาสปฏิสมั พันธ์กบั บุคคลอื่นมากขึ ้น
วัตถุประสงค์ ท่ วั ไปของการจัดกลุ่มกิจกรรมบำบัด
1. เพื่อสังเกตพฤติกรรมที่ผ้ ูป่วย
2. เป็ นข้ อมูลที่ช่วยประกอบการวินิจฉัย ใช้ ประเมินผลการ
รักษาพยาบาล
3. ให้ ผ้ ูป่วยได้ เปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางสร้ างสรรค์ และ
เป็ นที่ยอมรั บของสังคม
4. กระตุ้นและสนับสนุนให้ ผ้ ูป่วยมีโอกาสสร้ าง
สัมพันธภาพกับบุคคลอื่น ๆ ได้ ด้วยความมั่นใจ
ว ัตถุประสงค์ทว่ ั ไปของการจ ัดกลุม ่ กิจกรรม
บำบ ัด
5. เสริมสร้ างความภาคภูมใิ จ และความมีคุณค่ าของตนเอง
6. ให้ โอกาสผู้ป่วยฟื ้ นฟูความสามารถและส่ งเสริ มทักษะตนเอง
สอดคล้ องกับแผนการบำบัดโดยใช้ พลังงานและความสนใจ
7. บรรเทา/ขจัดอาการเกร็ งของกล้ ามเนือ ้ และข้ อต่ อ ช่ วยผ่ อน
คลายความตึงเครี ยดทางร่ างกายและจิตใจ
8. ให้ โอกาสผู้ป่วยได้ เรี ยนรู้ ส่ งิ ใหม่ ๆ เป็ นการช่ วยกระตุ้นและส่ ง
เสริมความคิด ความสามารถและมีผลสำเร็จของงานเป็ นสิ่งจูงใจ
ผู้นำกลุ่มควรมีทกั ษะพืน้ ฐาน
1. ทักษะการแสดงปฏิกริ ิ ยาโต้ ตอบ (Reaction skills)
2. ทักษะการปฏิสัมพันธ์ (Interaction skills)
3. ทักษะการแสดงออก (Action skill)
องค์ ประกอบของกลุ่มกิจกรรมบำบัด
สถานที่ (Structure) มีสถานที่สำหรับดำเนินกิจกรรมที่
สะดวก ปลอดภัย และมีอปุ กรณ์เพียงพอตามความจำเป็ น
ผู้นำกลุ่ม (Leader) ได้ แก่ บุคลากรในทีมจิตเวชทำหน้ าที่
เป็ นผู้นำกลุม่ ทำหน้ าที่ดแู ลกลุม่ ให้ ดำเนินไปด้ วยความ
เรี ยบร้ อยตามวัตถุประสงค์ เป็ นผู้ฟังที่ดี ช่างสังเกต
สมาชิกกลุ่ม (Member) เป็ นองค์ประกอบที่สำคัญที่สด ุ การ
จัดกลุม่ ไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอนขึ ้นอยูก่ บั วัตถุประสงค์ของ
รู ปแบบกลุ่มบําบัดในผู้ป่วยจิตเวช
1. กลุ่มกิจกรรม (activity groups)
2. กลุ่มให้ ความรู้ (educational groups)
3. กลุ่มบําบัดเพื่อการรั กษา (therapeutic groups)
4. กลุ่มเรี ยนรู้ แบบมีส่วนร่ วม (Participatory Learning)
1. กลุ่มกิจกรรม (activity groups)
กลุ่มที่มีเป้าหมายเน้ นให้ ผ้ ูป่วยได้ มีปฏิสัมพันธ์ กับบุคคลอื่น
ช่ วยให้ มีการสื่อสาร ส่ งเสริมให้ ผู้ป่วยอยู่ในความเป็ นจริง
เพิ่มทักษะทางสังคม ป้องกันการถดถอยของผู้ป่วย เป็ น
กิจกรรมอย่ างง่ าย ทําให้ ผ้ ูป่วยเกิดความภาคภูมใิ จในตนเอง
2.กลุ่มให้ ความรู้ (educational groups)
เป็ นกลุ่มที่มีเป้าหมายเน้ นเกี่ยวกับการให้ ข้อมูลความรู้
ต่ างๆ ส่ งเสริมให้ เกิดทักษะในการดูแลตนเอง เช่ น
กลุ่มให้ ความรู้ เรื่องยา การผ่ อนคลายความเครี ยด กลุ่ม
ทักษะทางสังคม กลุ่มสุขภาพจิตศึกษา เป็ นต้ น
3.กลุ่มบําบัดเพื่อการรักษา (therapeutic groups)
เป็ นกลุ่มที่มีเป้าหมายให้ ผ้ ูป่วยเกิดความเข้ าใจ
และพัฒนาความตระหนักรู้อารมณ์ ความรู้สึก
ของตนเองเพื่อให้ เกิดการเปลี่ยนแปลง
4. กลุ่มเรี ยนรู้ แบบมีส่วนร่ วม
(Participatory Learning)
เป็ นการเรี ยนรู้ในเชิงประสบการณ์และการเรี ยนรู้ด้วย
กระบวนการกลุม่ ซึง่ มีข้อดี คือ ผู้เรี ยนได้ มีการดึงเอา
ประสบการณ์ของตนเองที่ติดตัวออกมาใช้ ในการเรี ยนรู้ ผู้เรี ยน
ได้ ร่วมกันแสดงความคิดเห็น เกิดการแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ซงึ่ กัน
และกัน ซึง่ จะทำให้ ผ้ เู รี ยนได้ รับประสบการณ์ใหม่ๆ จากเพื่อน
ในกลุม่ เพิ่มมากขึ ้น
หล ักสำค ัญของการเรียนรูแ
้ บบ
่ นร่วม
มีสว
1. ประสบการณ์เดิมของผู้เรี ยนซึง่ เป็ นพื ้นฐานในการต่อเติมความรู้
ใหม่
2. มีการเรี ยนใหม่ๆ เกิดขึ ้นตลอดเวลา (active learning)
3. เน้ นการมีปฏิสม ั พันธ์
4. การมีปฏิสม ั พันธ์ทำให้ เกิดการขยายความรู้
5. เน้ นให้ ผ้ เู รี ยนทุกคนได้ แสดงออกทังด้้ านความคิดเห็น ความรู้สกึ
หรื อประสบการณ์ตา่ ง ๆ โดยผ่านการสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ
ข้อควรปฏิบ ัติเพือ่ ให้เกิดการ
เรียนรูแ
้ บบมีสว่ นร่วม
1. ต้ องทำให้ เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์
ประสบการณ์
- สมาชิกแลกเปลี่ยนประสบการณ์กนั
- ผู้สอนกระตุ้นให้ สมาชิกเล่าประสบการณ์
การสะท้ อนความคิดและอภิปราย
ผู้สอนจะเป็ นผู้กำหนดประเด็นการวิเคราะห์ วิจารณ์
ผู้เรี ยนจะได้ เรี ยนรู้ ถงึ ความคิด ความรู้ สก
ึ ของคนอื่นที่ตา่ งไป
กลุ่มผู้เรี ยนจะได้ เรี ยนรู้ ถงึ การทำงานเป็ นทีม บทบาทของสมาชิกที่ดีที่
จะทำให้ งานเสร็จ การควบคุมตนเอง และการยอมรับความคิดเห็นของ
ผู้อื่น
ข้อควรปฏิบ ัติเพือ่ ให้เกิดการ
เรียนรูแ
้ บบมีสว่ นร่วม
ความคิดรวบยอด (concept) จากการบรรยายของผู้สอน โดยมอบ
หมายงานให้ อา่ นหรื อจากการสะท้ อนความคิดเห็นและการอภิปราย
ผู้สอน สรุปความคิดรวบยอดจากการอภิปรายและการนำเสนอของผู้
เรี ยนแต่ละกลุม่
ผู้เรียน เกิดความเข้ าใจและเกิดความคิดรวบยอด จะส่งผลไปถึงการ
เปลี่ยนแปลงเจตคติหรื อความเข้ าใจในเนื ้อหาขันตอนของการฝึ
้ กทักษะ
ต่าง ๆ ที่ทำให้ ผ้ เู รี ยน
ปฏิบตั ิได้ งา่ ยขึ ้น
ข้อควรปฏิบ ัติเพือ่ ให้เกิดการ
เรียนรูแ
้ บบมีสว่ นร่วม
การทดลอง/การประยุกต์ แนวคิด
(experimental/application) ให้ ผ้ เู รี ยนได้ ทดลองใช้ ความคิด
รวบยอดหรื อผลิตขันความคิ
้ ดรวบยอดในรูปแบบต่าง ๆ เช่น
การสนทนาสร้ างคำขวัญ ทำแผนภูมิ แผนภาพ เล่นบทบาท
สมมติ ฯลฯ เป็ นการแสดงถึงผลของความสำเร็จของการเรี ยนรู้
ข้อควรปฏิบ ัติเพือ่ ให้เกิดการ
เรียนรูแ
้ บบมีสว่ นร่วม
ทำให้ เกิดการเรี ยนรู้ สูงสุดด้ วยกระบวนการกลุ่ม (group
process) ซึง่ จะช่วยทำให้ ผ้ เู รี ยนได้ มีสว่ นร่วมและบรรลุงานสูงสุด
โดยออกแบบกลุ่มให้ ผ้ เู รี ยนได้ พด ู คุยได้ ทำงานได้ แลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นซึง่ กันและกันอย่างทัว่ ถึง ให้ ผ้ ูเรียนทำในกลุ่มย่ อยๆ
ก่ อน แล้ วจึงรวบรวมเป็ นกลุ่มใหญ่ อีกครั ง้
ข้อควรปฏิบ ัติเพือ่ ให้เกิดการ
เรียนรูแ
้ บบมีสว่ นร่วม
การออกแบบใบงาน
กำหนดกิจกรรมที่ชด
ั เจน
กำหนดบทบาทของกลุม ่ หรื อสมาชิกให้ ชดั เจน
รายละเอียดของกิจกรรม ได้ แก่ ใบกิจกรรม
กลุ่มกิจกรรมบําบัด
(activity therapy group)
การเลือกผูป
้ ่ วยจิตเวชเข้ากลุม
่
กิจกรรมบำบ ัด
เหมาะสมกับวัย
ระยะของโรคหรื อการเกิดอาการทางจิต
ผู้บันทึก
คัดเลือกสมาชิกให้ เหมาะสมกับกิจกรรม
และเลือกวัตถุประสงค์
เตรี ยมสถานที่ทำกลุ่ม
เตรี ยมอุปกรณ์ (ถ้ ามี)
สงิ่ สำค ัญ
เลือกสรรกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย ระยะของโรค เช่น ผู้
ป่ วยที่ไม่อยูใ่ นโลกของความเป็ นจริ ง (Out of reality) ไม่
เหมาะกับการเข้ ากลุม่ ที่ต้องใช้ ความคิด
ระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดจากกิจกรรมที่จด ั ให้ ซึง่ อาจ
เกิดจากการทำกิจกรรมที่ไม่สำเร็จ หรื อทำให้ เกิดการเห็น
คุณค่าในตนเองต่ำ
ระมัดระวังการจัดกิจกรรมในผู้ป่วยที่ได้ รับยารักษาอาการ
ทางจิตที่ยงั มีอาการข้ างเคียงจากการรับการรักษาด้ วยยา
øć÷úđą Ă÷é ñî ÖćøÝĆ
ĊĒ éÖúčöÖÝ
Š ĉÖøøöï Ğ
ćï Ć
é
ßî ĉé×ĂÜÖúčŠ ö……………………………………………………………………………………………….……………………………………….
đøęČ
ĂÜ……………………………………………………………………………………………………….……………………………………………
üĆ
îìĊ …………………………………đüúć………………………..ÿëćî ì Ċ ę………………………………………………………………………
ßČĂ
ęñĎšîĞ ćÖúčŠ
ö(Leader) …………………………………………..…………øĀĆ ÿðøÝĞ
ą ćêĆüî ĉĉ..............................................
ÿê
ßČĂ
ęñĎ šîĞćÖúčŠ
öøŠüö(Co-leader) …………………………………………..øĀĆ ÿðøÝĞ
ą ćêĆüî ĉĉ..............................................
ÿê
ßČĂ
ęñĎ šÿĆ
ÜđÖêÖćøèÖ ŤúčŠ
ö (Observer) …………………………………….øĀĆ ÿðøÝĞ
ą ćêĆüî ĉĉ........................
ÿê ......................
üĆêëč ðøÿÜ
ą Ùđ ŤÞóćą
1. ………………………………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………………………………
3. ……………………………………………………………………………………………..
đîĚ
ĂđøČ
Č Ă
ęÜé÷
ē ÷ĂŠ (ï ĂÖúĆ
Ā ÖÖćøĒúąđêč
Ā ñúì đ
ęúČ
Ċ ĂÖì Ğ
ćÖúčŠ
öóøšĂöì Ć
Ü
ĚÿøčðđîČ
Ă
ĚđøČ
Ă
ęÜé÷
ē ÷Š
Ăêćö×Ć
îĚêĂî )
Ăč
ðÖøèŤ
1.………………………………………………………………………………………………
2. ……………………………………………………………………………………………….
üíĉĊ
ÖćøéĞ
ćđîĉî Öćø
: ………………………………………………………………………………………………
×Ě
î đêøĊ
Ć ÷öÖćøÖúč ö
Š
: …………………………………………………………………………………….....................
×Ě
î éĞ
Ć ćđîĉî Öćø(øï ą čđüúćĒêŠúą×Ě
î êĂî )
Ć
(1) ǰ×Ě
îĆđøĉęöÖúčŠ
ö
……………………………………………………………………………………………………
(2) ×ĚîĆéĞćđîĉî Öćø
……………………………………………………………………………………………
(3) ×Ě îĆÿøčð
…………………………………………………………………………………………………
Öćøðøđą öĉî ñú
1. ðøđ ą öîĉñúđîČ
Ă
ĚĀć
2. ðøđ ą öîĉñúÖøïą üî ÖćøÖúčŠö
3. ðøđ ą öîĉñúÖćøì Ğ
ćÖúčŠ
öĒúą×šĂđÿî ĂĒî ąÝćÖñšĎ
ÿĆ
ÜđÖêÖćøèÖ
ŤúčŠ
ö
4. ךĂđÿî ĂĒî ąÝćÖĂćÝćø÷Ťĉ î đì ý
ขนตอนการดำเนิ
ั้ นการกลุม
่
กิจกรรมบำบ ัด
ขัน้ เริ่มต้นหรือระยะสร้าง
สัมพันธภาพ
เป็ นระยะที่ผ้ นำ
ู กลุม่ และสมาชิกทำความรู้จกั คุ้นเคย
สร้ างสัมพันธภาพต่อกัน ขันตอนต่
้ อไปนี ้จะเกิดขึ ้นได้ เร็วหรื อ
ช้ าขึ ้นกับทักษะของผู้นำกลุม่ ระลึกเสมอว่ ากระบวนการ
กลุ่มจะไม่ เกิดขึน้ หากไม่ มีสัมพันธภาพที่ดีในขัน้ ตอนนี ้
ขัน้ ดำเนินการ (The working phase)
เป็ นขันดำเนิ
้ นการตามวัตถุประสงค์พฒ
ั นาความไว้ วางใจในกลุม่ นำมาสู่
การมีความเข้ าใจจุดมุง่ หมายของกลุม่ สมาชิกกลุม่ เปิ ดเผยตนเองมากขึ ้น มี
การระบายความรู้สกึ เกิดความรู้สกึ เป็ นส่วนหนึง่ ของกลุม่ ร่วมทำกิจกรรม
ในกลุม่ แก้ ไขปั ญหาร่วมกัน ให้ กำลังใจกัน สมาชิกมีบทบาทเป็ นทังผู
้ ้ ให้ และ
ผู้รับ และมีสว่ นร่วมในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดเห็นในกลุม่
เพื่อให้ กลุม่ สามารถบรรลุวตั ถุประสงค์
วิธก
ี าร
ผู้นำกลุม
่ กล่าวเปิ ดประชุมกลุม่ อาจเริ่มต้ นด้ วยการพูดคุยเรื่ องทัว่ ๆไป
ก่อน เรี ยกว่า “small talk”
กล่าวทักทายสมาชิกกลุม ่
สร้ างบรรยากาศกลุม ่ ให้ สนทนากันอย่างผ่อนคลายทำให้ สมาชิกรู้สกึ
ปลอดภัยและไว้ วางใจ
ผู้นำกลุม่ ใช้ น้ำเสียง ท่าทีและการแสดงออกที่เป็ นมิตร
แนะนำตัวผู้นำกลุม ่ และทีมทุกคน จากนันให้
้ สมาชิกกลุม่ แนะนำตัว
เองทุกคน(แล้ วแต่เทคนิค)
2. ขนดำเนิ
ั้ นการ
ผู้นำกลุม
่ นำเข้ าสูเ่ นื ้อหาสาระโดยย่อหรื อเกริ่นบทนำเนื ้อหา (สามารถ
ปรับได้ ตามความเหมาะสม)
อธิบายอุปกรณ์ตา่ งๆ ที่ใช้ ในการทำกลุม ่
เข้ าสูเ่ นื ้อหากระบวนการกลุม ่ โดยมีผ้ ูนำกลุม่ ทำหน้ าที่เป็ นผู้เชื่อมโยง
เรื่ อง กระตุ้นให้ สมาชิกในกลุม่ ได้ แสดงความคิดเห็น
ผู้นำกลุม ่ เป็ นผู้ฟังที่ดี ปฏิบตั ิกิจกรรมดำเนินการตามที่วางแผนและ
ประคับประคองให้ กลุม่ ดำเนินต่อไปตามขันตอนและแผนที ้ ่เตรี ยมมา
รับฟั งการถกเถียง รับฟั ง ข้ อเสนอแนะต่างๆและสังเกตพฤติกรรมของผู้
ป่ วยด้ วย
ขัน้ สิน้ สุดการทำกลุ่ม (Terminate phase)
จำเป็ นต้ องทำทุกครัง้ ที่สิ ้นสุดการทำกลุม
่ ซึง่ จะช่วยให้ สมาชิกได้
สะท้ อนความคิด ทบทวนตนเอง รวบรวมประสบการณ์ได้ เรี ยนรู้
อะไรจากกลุม่ บ้ าง จะนำไปใช้ เป็ นประโยชน์ได้ อย่างไรในสภาพ
แวดล้ อมที่เป็ นจริ ง ผู้นำกลุม่ ต้ องสรุปประสบการณ์ทงหมดที
ั้ ่
เกิดขึ ้นในกลุม่ ช่วยให้ สมาชิกประเมินความก้ าวหน้ าการ
เปลี่ยนแปลง ความสำเร็จของกลุม่
วิธีการ
ผู้นำกลุม
่ ควรบอกสมาชิกให้ ทราบล่วงหน้ า หากสมาชิกกังวลจะต้ อง
เปิ ดโอกาสให้ ระบายความรู้สกึ
ผู้นำกลุม
่ ต้ องสรุปประสบการณ์ทงหมดที
ั้ ่เกิดขึ ้นในกลุม่
ช่วยให้ สมาชิกประเมินความก้ าวหน้ าการเปลี่ยนแปลง ความสำเร็ จ
ของกลุม่
มีการบอกเล่าความรู้ สก ึ ก่อนสิ ้นสุดกลุม่
ชี ้แนะให้ สมาชิกเห็นถึงประโยชน์ที่สมาชิกจะได้ รับเมื่อออกจากกลุม
่
การประเมินผล
ประเมินร่ วมกันระหว่างผู้นำกลุม
่ ผู้ชว่ ยผู้นำกลุม่ ผู้สงั เกตการณ์และ
ผู้บนั ทึก ตามประเด็นต่อไปนี ้ได้ แก่ ความเหมาะสมของกลุม่ เนื ้อหา
กลุม่ กระบวนการกลุม่ ผู้นำกลุม่ บรรยากาศกลุม่ ปั ญหาและ
อุปสรรค การเรี ยนรู้ของกลุม่ การบรรลุวตั ถุประสงค์ การมีสว่ นร่วม
ของสมาชิก