You are on page 1of 15

ดิน

เป็นทร ัพยากรธรรมชาติทม ี่ ป
ี ระโยชน์
และมีความสำค ัญต่อสงิ่ มีชวี ต ิ อย่าง
มาก มนุษย์อาศยดิ ั นในการสร้างทีอ ่ ยู่
อาศยั เพาะปลูกพืชทางเกษตรกรรม
นอกจากนี้ ดินย ังเป็นแหล่ง
ดินเกิดจากหินทีผ
่ พ ในการดำรงช
ุ ังตามธรรมชาติ วี ต
ผสมคลุิ ของส ั ้ากับ
กเคลตว์ บางชนิ
อินทรีดยว์ ต
ั ถุได ้
จากการเน่าเปื่ อยของซากพืชซากสต ั ว์ทับถมเป็ นชน
ั ้ ๆ บนผิวโลก
ซงึ่ การเปลีย
่ นแปลงและสลายตัวของสสารดันกำเนิดดินมีลำดับขัน ้
ตอน ดังนี้
01
กระบวนการ
เกิดดิน
การผุพังอยูก
่ บั ทีเ่ ป็ นสาเหตุให ้
หินแตกออกมีขนาดต่าง ๆเมือ ่ ถูก
ขัน
้ ที่ 1 แสงแดดและฝน หินก็จะแตกหัก
และผุพังทลายลงมากขึน ้ กลาย
เป็ นหินทีม
่ ขี นาดเล็กลง
พืชจะเจริญงอกงามตามบริเวณ
รอยแตกของหิน แมลงและสต ั ว์
อืน
่ จะเข ้ามาอาศย ั ตามบริเวณ
ขัน
้ ที่ 2
รอยแตก เมือ ่ พืชและสตั ว์ตาย
ลงจะสลายตัวกลายเป็ น ฮวิ มัส
สต ั ว์ทอ
ี่ ยูภ ายในดินจะชว่ ย
่(humus)
ทำให ้ฮวิ มัสผสมกับเศษหิน
ขัน
้ ที่ 3 และดินชน ั ้ บนแร่กลายเป็ น
ดินทีอ
่ ด
ุ มสมบูรณ์ เรียกว่า
1.1
วัตถุต ้น
กำเนิดดิน
สว่ นใหญ่ดน ิ มีต ้นกำเนิดหลัก
มาจากการ
● หินอัคนีมแี ร่เฟลด์สปาร์
เป็ นองค์ประกอบเมือ
พังทลายลงจะกลายเป็ น
่ ผุ ผุพังอยูก ่ บ ่ องหิน ซงึ่ มี
ั ทีข
อนุภาคดินเหนียว กระบวนการ
ผุพังทีแ่ ตกต่างกัน ทำให ้ดิน
แต่ละบริเวณมีปริมาณแร่ธาตุ
● หินแปรมีแร่ลคิ อนได
ออกไซค์เป็ นองค์
สด ี น
ิ เนือ้ ดิน โครงสร ้างของ
ประกอบ เมือ่ ผุพังทลาย
ลงจะกลายเป็ นอนุภาค ดิน และสมบัตท ิ างเคมีของ
ทราย
ดินแตกต่างกัน
1.2
ลักษณะ
ภูม ปิ ระเทศ
มีผลต่อการชะล้างพ ังทลายของ
หน้าดิน ต ัวอย่างเชน ่ ดินทีเ่ กิด
บริเวณทีม ่ ค
ี วามลาดชนสู ั ง ชน ั้
ของดินจะบางเนือ ่ งจากการไหล
ของน้ำอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิด
การชะล้างพ ังทลายของหน้าดิน
สว่ นดินทีเ่ กิดในบริเวณทีร่ าบ ชน ั้
ของดินจะหนาเนือ ่ งจากน้ำจะไหล การปลูกพืชแบบขนบรรไดช
ั้ ่ ยการชะลอการพ ัง


ได้คอ ่ นข้างชา้ ทำให้เกิดการ ทลายของหน้าดินบริเวณลาดชน

ชะล้างพ ังทลายของดินน้อย
นอกจากนี้ ในบริเวณที ดิน
เ่ ปที ม
่ อ
ี ายุ
็ นแอ่ ง ยาวนานกว่าจะมีหน้าต ัดดินสมบูรณ์
หรื1.อทีล เว
่ ม ั้ นจะหนา
ุ่ ต่ำชนดิ กว่าดินทีม ่ อ ี ายุนอ
้ ยกว่า ทงนี ั้ ้ ขึน้ อยูก่ ับปัจจ ัย
เนื3อ
่ งจากน้ำจะพ ัดพาเอาตะกอน
ลา
จากบริเวณทีส ่ ง
ทางสภาพอากาศร่วมด้วย เชน
ู หรือบริ เวณใกล้
เขตร้ อนขึน
่ หน้าดินทีอ
้ จะค่อนข้างสมบูรณ์ได้ในระยะเวลา
่ ยูใ่ น
ภูม ิ
1.4 อากา

ล ักษณะภูมอ ศ ำค ัญต่อการกำเนิด
ิ ากาศมีความส
และพ ัฒนาของดินมากทีส ่ ด
ุ โดยองค์ประกอบ
ทางภูมอ ่ วข้องก ับการเกิดดิน มีด ังนี้
ิ ากาศทีเ่ กีย
2) อุณหภูม ิ 3) ลม
1) ปริมาณฝน

ความชนื้ ทีไ่ ด ้รับ หินทีอ ่ ยูใ่ นเขตภูมอ ิ ากาศร ้อนจะ มีสว่ นชว่ ย
มีอต ั ราการสลายตัวเนือ ่ งจาก
จากน้ำฝน ทำให ้ ปฏิกริ ย ิ าเคมีได ้รวดเร็วกว่าหินที่
ทำให ้หินซงึ่
เกิดกระบวนการ อยูใ่ นเขตภูมอ ิ ากาศอบอุน ่ หรือ เป็ นวัตถุต ้น
ทางเคมี สง่ ผลให ้
เย็น นอกจากนี้ อุณหภูมย ิ ังมี กำเนิดแตก
ผลต่อปฏิกริ ย ิ าการย่อยสลาย
หินและแร่ธาตุ ของจุลน ิ ทรียใ์ นดินซงึ่ จะเกิดขึน ้ ออก และ
1.5
ส ่
ง ิ มี
พืชทีข
่ น
ช ว ี
ึ้ ปกคลุมดินเมือ

ิ ่ ตายไปจะ
ชว่ ยเพิม ่ อินทรียวัตถุในดิน ใน
บริเวณทีม ่ ค ี วามเจริญได ้ดี และ
จุลนิ ทรียท ์ อ ี่ ยูใ่ นดินทำงานได ้ดี ดินทีม
่ ค
ี วามอุดม
้ สง่ ผลใหดินทีใ่ ห ้ดินทีเ่ กิดจะ
ขึน สมบูรณ์
ลึกและมีชน ั ้ ของดินชด ั เจน สว่ น
ในบริเวณแห ้งแล ้ง พืชจะเจริญไม่
ดีและมีจำนวนน ้อย สง่ ผลให ้ดิน
บริเวณนัน ้ ไม่สมบูรณ์ เนือ ่ งจากอิน ดินทีไ่ ม่มค
ี วาม
อุดมสมบูรณ์
ทรียวัตถุทอ ี่ ยูภ
่ ายในดินมีน ้อย
02
สมบัต ิ
ของดิน
สมบ ัติของดินมี ้ ดิน เป็นสมบ ัติทางกายภาพของ
1 . เนือ
หลายประการ เชน ่ ดินทีส่ ามารถตรวจสอบได้จากการมอง
เห็นหรือสมผ ั ัส เชน ่ ดินบางก้อนมีเนือ ้
เนือ ้ ดิน ความ หยาบ ดินบางก ัอนมีเนือ ้ ละเอียด ทีเ่ ป็น
เป็นกรดและเบส เชน ่ นีเ้ นือ
่ งจากเนือ ้ ดินประกอบไปด้วย
ของดิน ธาตุ อนุภขนาดเม็
(1.1) าคของดิดนทราย ทีม
่ ข ี นาดแตกต่
มีขนาดอยูาร่ งก ัน าง
ะหว่
อาหารภายในดิน 0.075 โดยแบ่มิล งออกเป
ลิเมตร็ นถึง3 2ขนาด
มิลลิเได้
มตร แก่
ซงึ่ สมบ ัติเหล่านี้ (1.2) ขนาดเม็ดทรายแป้ง มีขนาดอยู่
ระหว่าง 0.002 มิลลิเมตร ถึง 0.075
สามารถนำไป มิลลิเมตร
พิจารณาร่วมก ับ (1.3) ขนาดดินเหนียว มีขนาดต่ำกว่า 0.002 มิลลิเมตรเมือ่
การเลือกใช ้ อนุภาดเหล่านีม ั ว่ นทีแ
้ ารวมต ัวก ันในสดส ่ ผล
่ ตกต่างก ัน สง
้ ดินมีล ักษณะและสมบ ัติแตกต่างก ัน
ให้เนือ
2.ความชน ้ื ของดิน ถือ น้ำที่
ผสมอยูใ่ นดินซงึ่ มีความ
สำค ัญต่อพืชและสงิ่ มีชวี ต ิ ที่

อาศยอยู เ่ นือ ่ งจากน้ำทีอ ่ ยู่
ระหว่างชอ ่ งว่างของดิน (จะ
ถูกพืชและจุลน ิ ทรียบ
์ าง
ชนิดทีอ่ ยูใ่ นดินนำไปใชใ้ น
กระบวนการสงเคราะห์ ั ดว้ ย
แสงนอกจากนี้ น้ำย ังชว ่ ย
3. สข ี องดิน เป็น
สมบ ัติเฉพาะต ัวของ
ดินทีส ่ ามารถมองเห็น
ได้ดว้ ยตาเปล่า ซงึ่ ส ี
ของดินมีความแตก
ต่างก ันอย่างชดเจนูั
เนือ
่ งจากว ัตถุต ัน
กำเนิดและแร่ธาตุโน
ดิน เชน ่ ถ้าดินมีแร่
เหล็กออกไซด์ ดินจะ
มีสแ ี ดง ถ้าดินมีอน ิ
4. ความเป็นกรด-เบสของดิน
เป็นสมบ ัติของดินอย่างหนึง่
นิยมบอกค่าความเป็นกรด
เป็นค่า PH ถ้าดินมีคา่ PH
เท่าก ับ 7 แสดงว่า ดินมีความ
เป็นกลาง ถ้ามีค ่ P! น้อยกว่า
7 แสดงว่า ดินมีความเป็นกรด
และถ้าดินมีคา่ pH มากกว่า 7
แสดงว่า ดินมีความเป็นเบส
โดยทว่ ั ไปดินจะมีคา่ PH อยู่
ระหว่าง
3-9ซงึ่ ถ้าดินมีความเป็นกรด
รุนแรง จะสง ่ ผลให้ธาตุบาง
3
ช ั
น ้ หน ้า
ตัด ดิ

โดยทั่วไปเรามองเห็นดินเป็ นแผ่นดินในพืน
้ ทีท
่ ม
ี่ ค
ี วาม
กว ้างและความยาว แต่ถ ้าหากพิจารณาดินใน 3 มิต ิ จะ
เห็นได ้ว่าดินมีความลึกหรือความหนาไปตามเเนวดิง่
ทับถมเป็ นชน ั ้ ต่างๆเรียกว่า ชน
ั ้ หน ้าตัดดิน ( soil profile )
04
การปรั บ ปรุ ง
คุณภาพของดิ น
้ ก ับดินมีสาเหตุมาจากธรรมชาติ
ปัญหาทีเ่ กิดขึน
เชน่ ดินถล่ม น้ำก ัดเซาะผิวดิน และจากการใช ้
ประโยชน์ของมนุษย์ เชน ่ การเพาะปลูกและใช ้
ื่ ปัญหาเหล่านีม
สารเคมีทท
1. ่ ี่ าดความอุ
ดินทีข ำเห็นสภาพดินเสอ
ดมสมบูมรณ์ ้ ดิ้นวี มีธิ ลี ักษณะ
คือ เนือ
เเก้เเตกต่างก ัน ด ังนี้

หยาบ ดูดซบน้ำและธาตุ อาหารได้นอ ้ ยไม่เหมาะสม
ต่อการเจริญของพีช ่ บางกรณีเนือ ้ ดินละเอียดแน่น
เกินไป ทำให้รากพืชชอนไซได้ยาก เมือ ี
่ ดินสูญเส ย
ความอุดมสมบูรณ์ทำให้เราใชป ้ ระโยชน์จากดินได้
ไม่เต็มประสท ิ ธิภาพ การแก้ไขปัญหาเนือ ้ ดิน 2
ล ักษณะนี้ ทำใด้โดยการใสอ ่ นิ ทรียว ัตถุลงในดิน
อย่างสม่ำเสมอ เพราะอินทรียว ัตถุชว ่ ยเพิม่ ความอุดม
สมบูรณ์ เพิม ั
่ การดูดซบน้ำช ่ ยให้อนุภาคดินเกาะยึด

่ ธี าตุอาหารไม่
เพียงพอต่อความ
ต้องการของพืช เชน
้ ว
2. ดินจืด 3. ดินเปรีย
ดินทีม


คือ ดินทีค
เนือ
่ า่ PH ต่ำกว่า 5.5
่ งจากมีกรดกำมะก ันอยู่
ั้
ในชนหน้ าต ัดดิน ซงึ่ เป็นผล
เมือ่ ปลูกม ันสำปะหล ังไป มาจากกระบวนการเกิดดิน
ระยะหนึง่ อินบริเวณนน ั้ หรือการใชป ้ ๋ ยเคมี
ุ เป็นเวลา
จะไม่สามารถปลูกพืช นาน การแก้ไขปัญหาดิน
ชนิดอืน ่ ได้อก ี แนวทาง เปรีย้ วทำได้โดยการใสส ่ ารที่
การแก้ไขปัญหาดินจืด มีฤทธิเ์ ป็นต่าง เชน ่ ใสป ่ น

คือ ปลูกพืชตระกูลถว่ ั ขาวลงไปในดินให้มป ี ริมาณ
หรือใสป ่ ๋ ยอิ
ุ นทรียใ์ น เท่าก ับความเป็นกรดทงหมด ั้
อ ัตราสว่ นทีเ่ หมาะสม ของดิน
4. ดินเค็ม 5. ดิน
ดินทีม ่ ธี าตุอาหารไม่
เพียงพอต่อความ
ต้องการของพืช เชน ่
ด่าง คือ ดินทีม
มากกว่า 7 เนือ
่ ค
ี า่ pH
่ งจากมีเกลือ
ไซเยมคลอไรค์ หรือเกลือ

ด่าง
เมือ่ ปลูกม ันสำปะหล ังไป โซเดียมนอยูใ่ นดิน ซงึ่ ไม่
ระยะหนึง่ อินบริเวณนน ั้ เหมาะสมต่อการเจริญของ
จะไม่สามารถปลูกพืช พืช ม ักพบบริวณพืน ้ ทีแ ่ ถบ
ชนิดอืน ่ ได้อก ี แนวทาง ภูเขาหินปูน หรือดินทีม ่ กี าร
การแก้ไขปัญหาดินจืด ใสา่ นาน การแก้ไขปัญหาดิน
คือ ปลูกพืชตระกูลถว่ ั ด่างทำได้ดว้ ยการเติม
หรือใสป ่ ๋ ยอิ
ุ นทรียใ์ น กำมะถ ันผงลงไป เพือ ่ ให้ดน ิ
อ ัตราสว ่ นทีเ่ หมาะสม ปร ับสภาพ

You might also like