Professional Documents
Culture Documents
วัฒนะ วรรณ
ประชาธิปไตย ต้องไม่มีนักโทษการเมือง
ในหน้ากระดาษของผมที่พอมีเสรีภาพ ในการแสดงความคิดอยู่บ้างในตอนนี้ ผมขอมอบเสรีภาพอันน้อยนิด
นี้ ให้กับสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด หรือ หนูหริ่ง ผู้ซึ่งอุทิศตนเพื่อการต่อสู้ให้ได้มาซึ่งเสรีภาพ
แห่งความคิด มันไม่มีประเทศประชาธิปไตยที่ไหนหรอก ที่มีนักโทษการเมืองอยู่เต็มคุกตารางเช่นนี้ ไม่ว่า
พวกท่านจะกล่าวอ้างมันด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หนูหริ่ง คงหวังว่าข้อความของเขา และการถูกจองจำ� จะได้
รับการเผยแพร่ และช่วยกระตุ้นเตือนให้มีการพูดถึงการปลดปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมด…..
@@@
via;@สมบัติ บุญงามอนงค์
เลี้ยวซ้าย กรกฎาคม 53 หน้า 2
สังคมใหม่
ลั่นทมขาว
พวกสลิ่มชนชั้นกลาง
ความขัดแย้งในสังคมที่เรามักเห็น มักจะเกี่ยวข้อง
กับความรู้สึกของคนกลุ่มหนึ่งว่ามันมี “ความไม่เป็น
ธรรม” เกิดขึ้น หรือ “ความไม่ถูกต้อง” เกิดขึ้น ซึ่งทุก
ครั้งจะเกี่ยวกับสภาพการดำ�เนินชีวิตในโลกจริง หรือ
ที่ชาวมาร์คซิสต์เรียกว่า “วัตถุนิยม” และที่น่าสนใจคือ
ในการอธิบายว่าทำ�ไมมันเป็นความไม่เป็นธรรมหรือ
ความไม่ถูกต้อง คนเราสามารถใช้ชุดความคิดที่หลาก
หลายในการอธิบายได้ เช่นอาจใช้ศาสนาอิสลาม อาจ
ใช้เรื่องสิทธิมนุษยชน อาจใช้เรื่องชาตินิยม อาจใช้แนว
สังคมนิยม หรืออาจใช้แนวคิดอนุรักษ์นิยม แต่นั้นไม่ได้
หมายความว่าความไม่พอใจไม่ได้เกี่ยวกับชนชั้นและ
ความขัดแย้งและการต่อสู้ในสังคมมนุษย์ทั่วโลก ผลประโยชน์ทางวัตถุแต่อย่างใด
ในทุกยุค ล้วนแต่เป็นการต่อสู้ที่มีรากฐานจากความขัด ในระบบทุนนิยมที่ครอบคลุมทั้งโลกมานานแล้ว
แย้งทางชนชั้น แต่เราต้องเข้าใจว่าความขัดแย้งและผล กลุ่มคนที่แบ่งเป็นชนชั้นต่างๆ จะมีความสัมพันธ์ที่แตก
ประโยชน์ทางชนชั้นมีหลายมิติ และบ่อยครั้งจะไม่เผย ต่างกันกับปัจจัยการเลี้ยงชีพ ซึ่งมีผลกระทบต่ออำ�นาจ
ตัวในลักษณะบริสุทธิ์ ทางการเมือง โดยมีชนชั้นหลักๆ สามกลุ่ม
ทำ�ไมความขัดแย้งและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจาก นายทุนมีอำ�นาจในการควบคุมปัจจัยการผลิตและ
ความขัดแย้ง ล้วนแต่มีรากฐานจากความขัดแย้งทาง การควบคุมมูลค่าใหม่ที่กรรมาชีพผลิต ดังนั้นมีอำ�นาจ
ชนชั้น? คำ�ตอบคือ “ชนชั้น” เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง ทางเศรษฐกิจและสังคมสูงมาก เขาเป็นชนชั้นปกครอง
มนุษย์ในสังคม ความสัมพันธ์ทางชนชั้นที่พูดถึงนี้ คือ ที่ควบคุมอำ�นาจรัฐอันประกอบไปด้วย ทหาร ศาล คุก
ความสัมพันธ์ระหว่างคน (ผม คุณ เพื่อนๆ พี่น้อง ผู้ใหญ่ ตำ�รวจ ในไทยทหารระดับนายพลเป็นทั้งนายทุนเอง
ในสังคม ฯลฯ) กับปัจจัยการเลี้ยงชีพหรือปัจจัยการ และเป็นผู้บัญชาการกองกำ�ลังของชนชั้นนายทุน เพื่อ
ผลิต ซึ่งแปลว่ามันเป็นความสัมพันธ์เชิงอำ�นาจ และ ปกป้องผลประโยชน์นายทุนอีกด้วย การแบ่งอำ�นาจ
ความขัดแย้งทั้งปวง ไม่ว่าจะมีหน้าตาแปลกๆ อย่างไร และหน้าที่กันระหว่างทหาร นายทุน ข้าราชการชั้นสูง
(เช่นอาจดูเหมือนเป็นเรื่องการกู้ชาติ เรื่องศาสนา เรื่อง หรือประมุข อาจแตกต่างกันในประเทศต่างๆ แต่รวม
วัฒนธรรม ฯลฯ ) สุดท้ายแล้วมันเป็นเรื่องการแย่งกัน กันแล้วคนกลุ่มนี้คือชนชั้นนายทุนที่เป็นชนชั้นปกครอง
ควบคุมทรัพยากรและผลผลิตที่จำ�เป็นและเกี่ยวข้องกับ ชนชั้นกรรมาชีพเป็นกลุ่มคนที่ทำ�งานรับจ้าง
การดำ�เนินชีวิตมนุษย์
เลี้ยวซ้าย กรกฎาคม 53 หน้า 3
ควบคุมปัจจัยการผลิตไม่ได้ และเมื่อทำ�งานให้นายทุน บางส่วนของชนชั้นกลางอาจสนับสนุนฝ่ายหนึ่ง ใน
เรียบร้อยแล้ว ผลการทำ�งานตกอยู่ในมือนายทุน ขณะที่อีกส่วนสนับสนุนฝ่ายตรงข้าม
นายทุนจะเป็นผู้นำ�มูลค่านั้นไปลงทุนหรือบริโภคตาม นอกจากนี้ ในยามวิกฤต หรือในยามที่ชนชั้นกลาง
การตัดสินใจของนายทุน แต่กรรมาชีพมีอำ�นาจต่อรอง มองว่ามีวิกฤต อาจมีผู้นำ�เกิดขึ้นที่อาศัยการปลุกปั่น
กับนายทุน เพราะเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม และเป็น ด้วยนิยายการเมือง เพื่อให้ชนชั้นกลางหลายส่วน
ผู้ผลิตที่แท้จริง อำ�นาจของกรรมาชีพมาจากการรวม รวมตัวกันเป็นม็อบฟาสซิสต์ เช่นในกรณีพวกนาซีใน
ตัวกัน อย่างเช่นในสหภาพแรงงาน เยอรมัน หรือพันธมิตรฯ ในไทย ม็อบของคนชั้นกลาง
ระหว่างสองชนชั้นใหญ่ที่กล่าวถึงไปแล้ว มีกลุ่ม แบบนี้จะเกลียดนายทุนใหญ่ที่กดทับตนเองหรือที่เขา
ชนชั้นกลางๆ ที่ไม่ใช่นายทุนและไม่ใช่กรรมาชีพ ใน มองว่าโกงกิน และจะเกลียดกรรมาชีพกับคนจน เพราะ
ประเทศอย่างประเทศไทย กลุ่มหนึ่งคือเกษตรกรราย มองว่าพวกนั้นจะมาแย่งอภิสิทธิ์หรือฐานะความเป็น
ย่อยที่มีที่ดินของตนเอง แต่เลี้ยงชีพด้วยความยาก อยู่ดีๆ ของเขาไป ส่วนใหญ่เขาจะมองว่ากรรมาชีพ
ลำ�บาก เกษตรกรรายย่อยจำ�นวนมากกำ�ลังค่อยๆ ล่ม หรือคนจน “ถูกหลอก” จากผู้ใหญ่ไม่หวังดีให้กลายเป็น
สลายและถูกกลืนโดยนายทุนการเกษตร นักธุรกิจราย มวลชนของเขาไป ในกรณีฮิตเลอร์ในเยอรมัน มีการ
ย่อยก็เช่นกัน ล่มสลายและถูกกดดันจากทุนใหญ่ บาง เสนอว่าพวกนายธนาคารยิวไปจ้างพวกคอมมิวนิสต์ให้
คนล้มเหลว บางคนตั้งกิจการใหม่ เปลี่ยนแปลงตลอด ทำ�ลายชาติ ในกรณีไทย จะมองว่าทักษิณจ้างคนจนมา
เวลา ชนชั้นกลางอีกกลุ่มหนึ่งคือพวกผู้บริหารที่เป็น เป็นฐานสนับสนุนเพื่อให้ทักษิณโกงชาติ แต่ไม่ว่าม็อบ
ลูกจ้างของนายทุน พวกนี้มีฐานะดี เงินเดือนดี และ ชนชั้นกลางจะเกลียดนายทุนใหญ่แค่ไหน ในที่สุดถ้า
มีอำ�นาจให้คุณให้โทษ เพราะถูกจ้างมาเพื่อควบคุม จะมีพลัง เขาจะต้องพึ่งพาคนใหญ่คนโต พึ่งพานายทุน
แรงงานหรือลูกจ้างธรรมดา พึ่งพาอำ�มาตย์ ดังนั้นจำ�ต้องมีชุดความคิดนิยาย
ชนชั้นกลางเป็น “กลุ่มชนชั้น” ไม่ใช่ชนชั้นเดียว การเมืองเข้ามาเพื่อเบี่ยงเบนความโกรธแค้นของเขา
ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน และที่สำ�คัญคือไม่มีความมั่นคง ต่อนายทุนใหญ่ ในกรณีเยอรมันมีการโทษแค่นายทุน
และไม่มีพลังทางเศรษฐกิจ ไม่มีความมั่นคงในกรณี ใหญ่เชื้อสายยิว ในไทยมีการโทษแค่ทักษิณและมีการ
เกษตรกรรายย่อยและนักธุรกิจรายย่อยเพราะกำ �ลัง โบกธงสีเหลืองสนับสนุนเจ้าและนายทุนสีเหลือง มี
ล่มสลายยากลำ�บากตลอดเวลา ไม่มีอำ�นาจต่อรองกับ การด่าการโกงกินของทักษิณ แต่มองข้ามการโกงกิน
นายทุนในกรณีผู้บริหาร เพราะตั้งสหภาพแรงงานที่ อย่างเป็นระบบของทหาร นายทุน และส่วนอื่นๆ ของ
เข้มแข็งไม่ได้ และถูกบีบและกดดันระหว่างนายทุนกับ อำ�มาตย์
กรรมาชีพ เป็นคนที่ค่อนข้างจะโดดเดี่ยวปัจเจก ด้วย นอกจากนี้แล้ว ภาพความขัดแย้งทางชนชั้นถูกทำ�ให้
เหตุนี้ชนชั้นกลางเป็นชนชั้นที่มักคล้อยตามสองชนชั้น ซับซ้อนมากขึ้นจากเรื่องของสิ่งที่คนคิดอยู่ในหัว หรือที่
ใหญ่ในสังคม คือชนชั้นนายทุนที่เป็นชนชั้นปกครอง เรียกว่า “จิตสำ�นึก” เช่นลูกจ้างกรรมาชีพจำ�นวนหนึ่ง
หรือชนชั้นกรรมาชีพ สิ่งที่กำ�หนดว่าชนชั้นกลางจะเอน ที่แต่งตัวดีๆ จบมหาวิทยาลัย ทำ�งานในห้องแอร์ อาจ
ไปทางไหนคืออำ�นาจต่อรองหรือความเข้มแข็งในการ หลงคิดว่าตนเองเป็น “ชนชั้นกลาง” ทั้งๆ ที่เป็นลูกจ้าง
ต่อสู้ของสองชนชั้นใหญ่ พูดง่ายๆ ชนชั้นกลางบางครั้ง ดีๆ นี้เอง และไม่มีอำ�นาจบริหารและอำ�นาจให้คุณให้
เข้าข้างคนยากคนจน บางครั้งเข้าข้างประชาธิปไตย โทษกับลูกจ้างอื่นๆ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยก็ตัวดี ไม่
บางครั้งเข้าข้างอำ�มาตย์ที่เป็นชนชั้นปกครอง บางครั้ง ยอมตั้งสหภาพแรงงานเพราะคิดว่าตนเองสูงกว่าคน
สนับสนุนเผด็จการ และเนื่องจากไม่เป็นเนื้อเดียวกัน งานเป็นต้น หรือคนที่เข้าใจว่าตนเองเป็นกรรมาชีพ
เลี้ยวซ้าย กรกฎาคม53 หน้า 4
หรือเป็นเกษตรกรรายย่อย อาจใช้ระบบคิดของชนชั้น คนเสื้อแดงส่วนใหญ่เป็น “คนจน” หรือกรรมาชีพ
ปกครอง เช่นอาจมองว่าชนชั้นไม่สำ�คัญ ความเป็น ในเมืองกับเกษตรกรรายย่อยในชนบท แต่มีคนชั้น
“คนไทยที่จงรักภักดี” เป็นสิ่งที่สำ�คัญที่สุด สิ่งที่เราต้อง กลางแบบนักธุรกิจรายย่อยเข้าร่วมด้วย และแกนนำ�
เข้าใจคือ ท่ามกลางความขัดแย้งทางชนชั้นหรือการ ระดับชาติมาจากพรรค ไทยรักไทย การที่คนจนไม่
แย่งกันเป็นใหญ่ระหว่างชนชั้น มีการแข่งแนวกันทาง ได้มีแกนนำ�ของตนเองในช่วงแรก เป็นเพราะพรรค
ความคิดตลอด และแต่ละฝ่ายแต่ละกลุ่มมีการเสนอคำ� คอมมิวนิสต์และฝ่ายซ้ายในไทยล่มสลายหรืออ่อนแอ
อธิบายสังคมที่เข้าข้างตนเอง และมีการชักชวนให้คน และเป็นเพราะนโยบายทางการเมืองของ ไทยรักไทย
อื่นเชื่อตาม สอดคล้องกับสิ่งที่คนจนต้องการ แต่เรารู้ว่าตอนนี้
วิกฤตการเมืองไทยระเบิดขึ้นจากความขัดแย้ง แกนนำ�รากหญ้าเกิดขึ้นในทุกชุมชนแล้ว เสื้อแดงคือ
ระหว่างทักษิณกับคนอื่นในชนชั้นปกครอง ทักษิณ ตั ว อย่ า งของขบวนการเคลื่ อ นไหวทางสั ง คมที่ ใ หญ่
เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของชนชั้ น นายทุ น และชนชั้ น ปกครอง ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย มันเป็นขบวนการทางชนชั้น
ไทยที่รักเจ้า แต่ทักษิณมีลักษณะพิเศษคือเขาครองใจ และไม่ใช่ขบวนการประเด็นเดียวอีกด้วย เพราะเรียก
ประชาชนคนยากคนจนจำ�นวนมากด้วยนโยบายที่เป็น ร้องทั้งประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ
ประโยชน์ต่อคนจน เขาจึงมีอำ�นาจทางการเมืองที่มาก สังคม แน่นอนมันไม่ใช่ขบวนการทางชนชั้นในลักษณะ
จากฐานคะแนนเสียงในระบบเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ บริสุทธิ์นามธรรม แต่มันไม่ใช่อะไรอื่นนอกจาก
สำ�หรับชนชั้นปกครองไทย ฝ่ายตรงข้ามที่เราปัจจุบัน ขบวนการของคนชั้นล่าง ที่เรียกตัวเองว่า “ไพร่”
เรียกว่า “อำ�มาตย์” เป็นพวกที่เคยชินกับการกดขี่ขูดรีด แล้วพวกสลิ่มละ? มันเป็นขบวนการชนชั้นเช่น
คนจนโดยไม่สนใจที่จะเอาใจและดึงมาเป็นพวกอย่าง กัน เติบโตจากขบวนการชนชั้นกลางคลั่งเจ้าที่เรียก
จริงจัง พวกนี้แข่งกับทักษิณไม่ได้ในเวทีประชาธิปไตย ตัวเองว่าพันธมิตรฯ มีแกนนำ�เป็นนายทุนใหญ่ มี
จึงทำ�รัฐประหาร แต่นั้นเป็นแค่ครึ่งหนึ่งของคำ�อธิบาย นิยายการเมืองอนุรักษ์นิยม แต่มีอิทธิพลได้ก็ด้วยการ
ไม่ใช่ภาพรวม และวิภาษวิธีสอนเราว่าถ้าไม่ดูภาพรวม ที่ชนชั้นปกครอง(อำ�มาตย์)ถือหางให้ ภายในพวกสลิ่
จะมองไม่เห็นภาพจริง มนี้ ส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลางประเภทผู้บริหารและนัก
อีกส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง คือประชาชนเป็น ธุรกิจรายย่อย แต่ก็มีกรรมาชีพผสมอยู่บ้าง เช่น พวก
ล้านๆ คน ที่ลงคะแนนเสียงให้ ไทยรักไทย เพราะ รัฐวิสาหกิจบางส่วน อาจมีคนจนหลงเข้ามาด้วย มี
ต้องการฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เขาเหล่านั้นไม่ใช่ นายทุนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และมีเอ็นจีโอ.... หัวหน้า
“เหยื่อโง่” ที่ไม่รู้อะไร อย่างที่นักวิชาการและเอ็นจีโอ เอ็นจีโอทุกวันนี้ทำ�ตัวเหมือนผู้ประกอบการรายย่อย
ฝ่ายอำ�มาตย์มักจะคิด พวกเขาเป็นคนที่ใช้สติปัญญา ขอทุนมาแล้วจ้างลูกน้องมาทำ�งาน ภายในองค์กรไม่มี
และเขาเรียนรู้จากประสบการณ์ของรัฐบาล ไทยรักไทย ประชาธิปไตย แถมยังมีวัฒนาธรรมแบบ “พี่เลี้ยง” ที่
ว่าการมีส่วนร่วมในทรัพยากรและการพัฒนา และ ดูถูกคนยากคนจนอีกด้วย พวกสลิ่มเป็นพวกที่กลัวและ
การมีสวัสดิการ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ พอพวกอำ�มาตย์ เกลียดคนจน เกรงว่าในยุคแห่งความไม่มั่นคง เขาจะ
ก่อรัฐประหาร เขารู้สึกอีกว่าเขาถูกปล้นสิทธิเสรีภาพ สูญเสียอภิสิทธิ์เล็กๆ น้อยๆ ที่เขามี เขาเลยตัดสินใจ
ทางการเมืองและทางเศรษฐกิจไป เลยมีการรวมตัวกัน เข้าข้างอำ�มาตย์
เป็นเสื้อแดง และท่ามกลางการต่อสู้กับอำ�มาตย์โหด สรุปแล้ว ชนชั้นกลางไม่ใช่พลังก้าวหน้าที่ปกป้อง
ร้าย เขาพัฒนาประสบการณ์และความเข้าใจมากขึ้น หรื อ เสริ ม สร้ า งประชาธิ ป ไตยและความเป็ น ธรรมใน
เป็นลำ�ดับ สังคมแต่อย่างใด
เลี้ยวซ้าย กรกฎาคม 53 หน้า 5
Speak Out
โดย นารี สีแดง
ความสัมพันธ์ของคนในสังคม
ตามปรัชญารัฐแบบไทยๆ
ความสัมพันธ์ของคนภายใต้ระบอบการปกครองโดย รัฐทุนนิยม ในขณะที่งบประมาณพัฒนาด้านการศึกษาให้แก่
พระเจ้าแผ่นดินของรัฐไทยโบราณ ที่สมมติตนเองว่าเป็น คนชั้นล่าง และด้านเกษตรกรรมมีน้อยมาก
เทพเจ้าลงมาให้ความเมตตาต่อผู้อื่น ใช้อำ�นาจอย่างเด็ด กรอบความสัมพันธ์ทางชนชั้นนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ขาด มีการสร้างระบบความสัมพันธ์แบบไพร่/ทาสกับนาย กับความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมตามกรอบประชาธิปไตย ซึ่ง
ที่ไพร่ถูกสอนให้เชื่อในเรื่องผู้ใหญ่ผู้น้อย ยึดมั่นเรื่องความ ค่อยๆ เริ่มมาจากแนวคิดความเป็นมนุษย์ของ อิมมานูเอล
จงรักภักดี ความกตัญญูรู้คุณ ความนอบน้อมสมถะ ส่วนคน คานท์ นักปรัชญาก้องโลก กล่าวคือ เนื่องจากธรรมชาติ
ที่ทำ�หน้าที่เป็นเจ้าเป็นนายก็จะได้รับการอบรมเรื่องการให้ สร้างมนุษย์มาให้มีความสามารถในการคิดหาเหตุผลได้อัน
ความเมตตา ความเที่ยงธรรมและจริยธรรมในการปกครอง ต่างจากสัตว์ มนุษย์ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่มีเหตุผล จึงต้องมี
ด้วยเหตุนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันจึงอยู่บนฐาน เจตจำ�นงที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อเป็นหนทางให้
แห่งความไม่เสมอภาค มีมาตรฐาน 2 ระดับ โดยมาตรฐาน บรรลุเป้าหมายต่างๆ ที่วางไว้
คุณธรรมระดับเจ้านายคอยควบคุมมาตรฐานระดับไพร่คน แต่ถ้าไม่รู้จักตรวจสอบว่า ตนเองมีความสามารถหรือ
ธรรมดา อิทธิพลของระบอบการปกครองเช่นนี้ส่งผลให้ พรสวรรค์อะไร และไม่มีความเป็นอิสระที่จะพัฒนาความ
ราษฎรยอมรับอำ�นาจของผู้เป็นนาย ถูกทำ�ลายความมั่นใจ สามารถนั้น จะถือว่ายังไม่บรรลุถึงความเป็นมนุษย์ และ
ผ่านกระบวนการทางวัฒนธรรมและการขัดเกลาทางสังคม ความเป็นมนุษย์ไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้ เพราะมีระดับขึ้นไป
โดยสถาบันการศึกษา สถาบันทหาร ระบบราชการ อีกว่า มนุษย์ต้องใช้ความเป็นมนุษย์ของตนเองและของผู้อื่น
ความสัมพันธ์ของคนที่เหลื่อมล้ำ�นี้ได้รับการสถาปนา เป็นเป้าหมายของชีวิต นั่นคือยึดถือคุณค่าแห่งเหตุผลและ
อย่างจริงจังตั้งแต่การปฏิรูปการปกครองแผ่นดินสมัยรัชกาล เสรีภาพเป็นเป้าหมาย
ที่ 5 ที่ทำ�ให้อำ�นาจรัฐรวมศูนย์อำ�นาจทางการเมืองมาก แต่ไม่ใช่ใช้ตัวเองและผู้อื่นเป็นเครื่องมือแสวงหา
ระจุกที่ส่วนกลางกรุงเทพฯ และก่อนการเปลี่ยนแปลงการ ประโยชน์ หาความสุข กดขี่ข่มเหงซึ่งกันและกัน และใน
ปกครอง 2475 สมัยรัชกาลที่ 7 ถ้ามองในกรอบเศรษฐกิจ ระดับสูงขึ้นคือ มนุษย์ต้องเป็นผู้ตรากฎหมาย (common
การเมือง law) ร่วมกันในชุมชนสังคมของตนและอยู่ภายใต้กฎหมายที่
รูปแบบรัฐใหม่ที่ถูกปฏิวัติในสมัยรัชกาลที่ 5 มีลักษณะ สร้างขึ้นนั้นอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือ การปกครองตนเอง
เป็นรัฐทุนนิยม การมองแบบนี้เพิ่มแง่มุมให้เราเห็นความ และมีศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกัน อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของ
เป็นจริงและเจตนาที่แฝงเร้นไปด้วยผลประโยชน์ทางชนชั้น ความเป็นมนุษย์ แนวคิดพื้นฐานดังที่กล่าวมานี้คือ แนวคิด
มากกว่าการมองเพียงแค่เป็นรัฐข้าราชการ-อุปถัมภ์เท่านั้น เหตุผลนิยม เสรีนิยม และความเสมอภาค อันประกอบเป็น
ในยุคนี้เริ่มสร้างหน่ออ่อนของระบบทุนนิยมที่สอดคล้อง ความหมายของประชาธิปไตย
กับระบบการปกครองแบบรวมศูนย์อำ�นาจเด็ดขาดเพื่อให้ แต่ก่อนที่จะบรรลุถึงการปกครองตนเองได้นั้น มนุษย์
เกิดระบบทุนนิยมแบบผูกขาดโดยรัฐอย่างเป็นรูปธรรม และ ต้องเชื่อมั่นในตัวเองเป็นพื้นฐาน คือเชื่อว่าตนสามารถ
สร้างระบบกลไกที่เพิ่มศักยภาพในการขูดรีดกลุ่มคนที่ไร้ พัฒนาเหตุผลและมโนสำ�นึกของตัวเองที่จะบังคับพฤติกรรม
อำ�นาจ ตัวอย่างเช่น การกำ�หนดเป้าหมายของระบบการ ของตนได้ โดยไม่ยอมให้ใครมาออกคำ�สั่งบังคับยัดเยียดให้
ศึกษาไทยสมัย ร.5 ให้ผลิตคนออกมารับใช้ระบบราชการ ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ขัดกับหลักความถูกต้องของตน และ
และเป็นแรงงานรับจ้างที่มีประสิทธิภาพในการทำ�งานให้แก่ กำ�หนดอนาคตเองได้โดยไม่หวังพึ่งผู้ใด
ตื่นแล้วชาวไทย
ประชาธิปไตยคือการออกเสียงของคนส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้ ที่ชนชั้นรากหญ้าได้ต่อสู้และเรียกร้อง เพื่อให้เป็นประเด็น
เสียงของคนส่วนใหญ่ในประเทศไทยนั้นไม่ได้มีอำ�นาจทางการ ทางการเมืองซึ่งจะนำ�ไปสู่จากการแก้ไขอย่างจริงจัง โดยมีจุด
เมืองแต่อย่างใดเลย ในช่วงการบริหารบ้านเมืองโดยรัฐบาล เริ่มจากการที่ประชาชนนั้นตื่นเต้นกับนโยบายประชานิยมของ
ขี้ข้าอำ�มาตย์ ที่นายอภิสิทธิ์เป็นหน้าฉากสร้างความชอบธรรม อดีตนายกทักษิณ ที่เป็นรูปธรรม เห็นจริง ใช้ได้จริง และ
โดยมีผู้กำ�กับหลังฉากเป็นกองทัพทหารที่คอยชักใยสั่งการอยู่ เป็นประโยชน์ต่อชนชั้นรากหญ้า
เบื้องหลัง และใช้อำ�นาจมืดเผด็จการเหนือประชาธิปไตยที่ใช้ จนทำ�ให้หลายครอบครัวไม่ต้องสูญเสียเสาหลักหรือ
ในการปราบปรามผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง คนที่รักไป เพราะมีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค หลาย
ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยรัฐไทยก็ยังคงมีกลิ่นอายแห่งเผด็จการ ครอบครั ว ที่ เ ป็ น เกษตรกรได้ ลื ม ตาอ้ า ปากได้ จ ากโครงการ
และการออกมาใช้กำ�ลังปราบปรามกับมวลชนที่เห็นต่างอยู่ พักหนี้เกษตรกร และบางครอบครัวที่ได้รับเงินจากโครงการ
เสมอ และมักจะกล่าวหากลุ่มคนที่เห็นต่างว่าเป็นคอมมิวนิสต์ กองทุนหมู่บ้านนั้น ได้มีเงินก้อนไปต่อยอดพัฒนาการประกอบ
เป็นผู้ก่อการร้าย เป็นกบฏทรยศชาติ และวาทะศัพท์ต่างๆ อาชีพ เช่น ซื้อแม่หมูมาเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์ ซื้อเครื่องมือ
นานาที่ เ ป็ น การใส่ ร้ า ยป้ า ยสี ใ ห้ กั บ กลุ่ ม ที่ มี แ นวคิ ด เห็ น ต่ า ง เครื่องใช้ในการประกอบการทำ�มาหากิน
ทางการเมือง สิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศเลย และไม่มี
และในทุกรัฐก็จะมีสองชนชั้นคือ ชนชั้นนายทุนและชนชั้น รัฐบาลใดเคยทำ�ได้มาก่อน จึงไม่แปลกใจที่คนรากหญ้าจะรัก
กรรมาชีพ ชนชั้นนายทุนที่เป็นชนชั้นนำ�จะใช้รัฐในการปกป้อง และเทคะแนนเสียงอย่างท้วมท้น ให้กับรัฐบาลที่นำ�ทัพการ
คุมครอง และสนับสนุนผลประโยชน์ของชนชั้นนายทุน ชนชั้น บริหารประเทศโดยทักษิณ
นายทุนได้ใช้รัฐเป็นตัวกลางในการสลายการชุมนุม และ แต่ถ้าจะบอกว่าคนเสื้อแดงรักที่ตัวทักษิณก็คงเป็นการ
บิดเบือนความขัดแย้งทางชนชั้น เพื่อป้องกันการรวมตัวกัน ดูถูกกันมากเกินไป เพราะตอนนี้การเรียกร้องของคนเสื้อแดง
ของชนชั้นกรรมาชีพ และชนชั้นล่างที่จะเป็นอันตรายต่อระบบ ขยับเข้าใกล้เข้าใกล้การปฏิรูปเป็นรัฐสวัสดิการเข้ าไปทุกที
ทุนนิยม แล้ว เพราะประชาชนมีการตื่นตัวต่อคำ�ว่าประชาธิปไตย และ
กระบวนการทำ�งานของรัฐไทย ก็จะใช้สื่อกระแสหลัก ในชุมชนก็มีการจัดตั้งของกลุ่ม นปช ที่ให้ความรู้ที่ตรงข้ามกับ
ในการละลายสันดานการกบฏที่มีติดมนุษย์มาตั้งแต่เกิดโดย กระแสการสร้างภาพของรัฐบาล
ใช้กรอบของศีลธรรมและศาสนา ให้คนไทยนั้นไม่เห็นคุณค่า จากการต่อสู้ของคนเสื้อแดงนี้เอง ที่ทำ�ให้นักเคลื่อนไหว
การต่อสู้ เช่นใช้ศาสนาในการกล่อมเกลาให้คนยอมรับกับ เพื่อสังคมและองค์กรที่รณรงค์เรื่องรัฐสวัสดิการ ต้องกลับมาก
ชะตากรรมที่เป็นอยู่ ใช้วัฒนธรรมสร้างนิสัยให้ประชาชนรู้จัก ระชุ่มกระชวยและใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อหาพื้นที่ที่
ที่ต่ำ�ที่สูง ผู้น้อยไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น จะเสนอแนวคิดที่ไปไกลมากกว่าประชานิยมหรือรัฐสวัสดิการ
วิธีที่ทำ�ให้คนยอมจำ�นนต่อสภาพความเป็นอยู่ จนกลายเป็น แต่มันควรพัฒนาเป็นการเรียกร้องที่สามารถปลดแอกชนชั้น
เหมือนกับทาสของทุนนิยมเชื่องๆ ที่ไม่คิดจะปลดแอกตนเอง กรรมาชีพ
แต่ ณ ประเทศไทยในตอนนี้กระแสการต่อสู้ทางชนชั้น โอกาสนี้เหมาะสมที่สุดที่จะรื้อฟื้นความคิดซ้ายสังคมนิยม
และการพูดถึงปัญหาความเลื่อมล้ำ�ทางสังคมในไทย เป็นเรื่อง ขึ้นมาอีกครั้ง ในขบวนการของกรรมกรและคนเสื้อแดง
”
ทำ�ไม พรรค ในมุมมองมาร์คซิสต์ “
ต้องเคลื่อนไหวทั้งในและนอกรัฐสภา
แม้ในงาน เทศกาลฟุตบอลโลก
ค่าจ้าง และสิทธิแรงงานก็ยังไม่เว้น ถูกเอาเปรียบ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและพนักงาน จัดการแข่งขันครั้งนี้ ที่กำ�ลังทำ�ความเสื่อมเสียให้กับ
บริการของสนามแข่งขันที่ใช้ในงานฟุตบอลโลก ถูก งานแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ ชิงถ้วยรางวัลระดับโลก ในครั้ง
ไล่ออก พวกเจ้านายของบริษัท Stallion รักษาความ นี้ เพียงเพราะความโลภ
ปลอดภัยที่แอฟริกาใต้ ได้ไล่พนักงานที่ออกมา สหพันธ์ฯ ได้ชี้ให้เห็นสาเหตุของปัญหาว่า มา
ประท้วงเรื่องค่าจ้าง ในระหว่างเทศกาลแข่งขันให้ จากการที่ ฟีฟ่า ได้ว่าจ้างแรงงานจากบริษัทนาย
ออกจากงาน พวกคนงานออกมาผละงานประท้วง หน้าตัวแทน แทนที่จะว่าจ้างคนงานโดยตรง ทั้งนี้ก็
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาในเรื่องค่าจ้างแรงงานที่ต่ำ� ที่ เพื่อไม่ต้องการให้สหภาพแรงงานใดๆ มีโอกาสเข้า
สนามที่ใช้แข่งขันฟุตบอลโลก Durban’s Moses มาเกี่ยวข้อง
Mabhida Stadium และต้องพบกับ ระเบิดแก๊สน้ำ�ตา พนักงานรักษาความปลอดภัย กล่าวว่า พวก
และกระสุนยาง จากตำ�รวจ เขาได้รับค่าจ้างเพียง R135 (£12) ต่อ งานหนึ่งคู่ที่
สหพันธ์สหภาพแรงงานแห่งแอฟริกาใต้ Co- แข่งขันกัน และต้องอยู่ทำ�งานเป็นเวลา ระหว่าง ๑๒
satu ออกมาประณามการกระทำ�ต่อพวกคนงาน – ๑๖ ชั่วโมงต่อวัน และพวกเขาต้องยอมรับซื้อชุด
สนามกีฬาเหล่านั้น และรวมถึง ฟีฟ่า ผู้ดำ�เนินการ ทำ�งานในราคา R1,200 (£107)
นายกิตติชัย งามชัยพิสิฐ, นายประดิษฐ์ ลีลานิมิต, นายบารมี ชัยรัตน์ สถาบันสันติประชาธรรม, นายเขมทัศน์ ปาลเปรม กลุ่มปฏิบัติการเพื่อสิทธิ
คนจน, นางสาวพรพิมล สันทัดอนุวัตร, นายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ, นายพันศักดิ์ ศรีเทพ รองเลขาธิการศูนย์อำ�นวยการเยียวยาสถานการณ์
ฉุกเฉิน, นางสาวศิริพร พรมวงศ์, นางสาวจารุวรรณ สาทาลัย, นางสาววลสุดา โพเย็น, นางสาวจิราพร หิรัญบูรณะ, นายรัชพงษ์ โอชาพงศ์, นาย
สันติ โชคชัยชำ�นาญกิจ, นางสาวพัชรี อังกูรทัศนียรัตน์, นางสาววิรพา อังกูรทัศนียรัตน์, นางสาววัชรินทร์ สังขาระ, นางสาววนิดา สุรคาย, นางสาว
อุลัยรัตน์ ชูด้วง, นางสาวพนิดา บุญเทพ, นายญัฐพงษ์ ภูแก้ว, นายอรรถพล บุญไพโรจน์, นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย, นางสาวปาริดา ปะการะโพธิ์,
นางสาวสลิลทิพย์ ณ พัทลุง, นางสาวอรุณวนา สนิกะวาที, นายสุพัดตรา ธานีวรรณ, นายสุวิทย์ นาดี, นายธิติ มีแต้ม, นายวิทยา แสงระวี, นาย
กิตติศักดิ์ จันทร์ใหม่, นายอรรถพร ขำ�มะโน, นายกิตติเดช บัวศรี, นายตะวัน พงศ์แพทธ์, นางสาวสุปราณี คันธะชัย, นางสาวปณิธิตา เกียรติ์สุข
พิมล, นายธิกานต์ ศรีนารา, นายเจษฎา โชติกิจวิภาค, นายปราการ กลิ่นฟุ้ง, นายรอมฎอน ปันจอร, นางสาวอัญญรัตน์ อ่อนสุทธิ, นายชล เจนประภา
พันธ์, Edward Creed, นายชัยวัฒน์ ไชยจารุวณิช, นางภาวิณี ไชยจารุวณิช, นางสาวแก้วตา ธิมอิน, นางสาวสุธารี วรรณศิริ, นายอภิศักดิ์ สุขเกษม,
นางสาวกิ่งกร นรินทรกุล, นางสาวอรชพร นิมิตกุลพร, นางสางสุลักษณ์ หลำ�อุบล, นางสาวขวัญระวี วังอุดม, นายติรัฐสรรพ์ ประมวลศิลป์, นางสาว
นฤมล ทักชุมพล, นางสาวอธิษฐาน์ คงทรัพย์, นางสาวปาริชาด สุวรรณบุปผา, นางสาวแก้วตา เพชรรัตน์, นางสาวพรพิมพ์ แซ่ลิ้ม, นายสันติ ศรีมัน
ตะ, นางสาวประไพ กระจ่างดี
เลี้ยวซ้าย กรกฎาคม 53 หน้า 14
กวี
อาเศียรวาท: ถ้าพี่ถูกจับ...
คณะ ราษฎรผู้ปฏิวัติประชาชน ใส่เสื้อแดงไปเยี่ยมด้วยนะ
24 มิถุนายน 2475 โดย เพียงคำ� ประดับความ
โดย Homo erectus ถ้าพี่ถูกจับ...ใส่เสื้อแดงไปเยี่ยมด้วยนะ
สิ้นสุดแล้ว... การปกครอง อันกดขี่ แล้ววาระ...นี้ก็เดินทางมาถึง
ทำ�คนไร้ สิทธิ์เสรี เป็นเพียงไพร่ ท่ามกลางกระแสลมอึงคะนึง
ต่อจากนี้ เราเป็น “คน” ใช่เดนใคร เสรีภาพพี่ถูกขึงตรึงโซ่ตรวน
ประชาชน ตระหนักใน ลำ�แข้งตน แม้รู้ว่าจะปวดเจ็บและเหน็บหนาว
กัดกลืนก้อนขื่นคาวร้าวลมหวน
สิ้นสุดแล้ว... การก้ม คลานหมอบกราบ หัวจิตหัวใจพี่มั่นคงไม่เรรวน
ที่เคยซาบ ซึ้งซึมซ่าน เป็นล้นพ้น ดาวแสงนวลไม่ได้เห็นไม่เป็นไร
ณ บัดนี้ เราเป็น ประชาชน ขอหยัดยืนขึ้นท้าท้องฟ้ามืด
มิยินยอม จำ�นน อีกต่อไป จันทร์แสงจืดชืดชาลาลับหาย
อยู่ที่นั่นนอนหลับบ้าง...นะพี่ชาย
24 มิถุนายน 2475 ฟูกแข็งไหมไหนผ้าห่มกันลมแรง
วันที่ฟ้า สีทอง ผ่องไสว บนดินแดนที่แร้นแค้นเสรีภาพ
คณะราษ- ฎรนำ� สังคมไทย คนเปื้อนบาปซ่อนกายในคราบแฝง
สู่ประชา- ธิปไตย อันเท่าเทียม คุกคือที่ขังคนกล้ามิเปลี่ยนแปลง
รู้ว่าพี่เข้มแข็งแกร่งเพียงพอ
สิทธิ เสรี เสมอภาค
แล้วจะใส่เสื้อแดงไปเยี่ยมนะ
ทำ�ลายซาก ศักดินา กุมบังเหียน
เสรีภาพอาจไม่ได้มา...ด้วยร้องขอ
หลักทั้ง 6 ประการ เปรียบดั่งเทียน
แต่อย่างไรผองเราจะเฝ้ารอ
สาดส่องแสง เปลี่ยนยุค สมัยใหม่
ให้ บก. กลับมา... “อาทิตย์สีแดง”
คารวะ แด่คณะ ราษฎร
ปฏิวัติ ถ่ายถอน ความเป็นไพร่
เราคือคน ใช่เศษฝุ่น ใต้ตีนใคร
ประกาศชัด ได้ยินไหม ฟ้าอมร !
สหพันธ์แรงงานธนาคารฯ ประณามการสั่งพนักงาน
สละสิทธิ์หยุดงานในวันหยุดครึ่งปี
1 ก.ค. 2553 - สหพันธ์แรงงานธนาคารและการเงินแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ด่วนโดยมีมติประณามธนาคาร
พาณิชย์ที่สั่งการให้พนักงานละเมิดประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยการสั่งการให้เปิดสาขาในห้างสรรพสินค้า
และสาขาที่เปิดดำ�เนินการ 7 วัน และกำ�หนดให้พนักงานต้องจำ�ใจให้ความยินยอมโดยการสละสิทธิหยุดงานในวันที่ 1
กรกฎาคม 2553 ซึ่งเป็นวันหยุดภาคครึ่งปีของธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ โดยธนาคาร
พาณิชย์ทุกแห่งยึดถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานและต่อเนื่องจนเป็นที่ยอมรับของลูกค้าและ
ประชาชนทั่วไป ว่าวันดังกล่าวเป็นวันหยุดธนาคาร
โดยรายละเอียดของแถลงการณ์มีดังต่อไปนี้
สหพันธ์แรงงานธนาคารและการเงินแห่งประเทศไทย
แถลงการณ์ ด่วน !
๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓
เรื่อง มติประณามธนาคารพาณิชย์ที่สั่งการให้พนักงานละเมิดประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ถึง สมาชิกสหภาพแรงงานทุกแห่ง และพนักงานลูกจ้างสถาบันการเงินทุกคน
สืบเนื่องมาจากสหพันธ์แรงงานธนาคารและการเงินแห่งประเทศไทย(สธง.)ได้มีหนังสือถึงนายกกรรมการธนาคาร
พาณิชย์แห่งหนึ่ง เพื่อขอให้ทบทวนการละเมิดประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ฉบับที่ สนส.12/2553 เรื่อง
วันหยุดทำ�การของสถาบันการเงิน โดยแจ้งว่าฝ่ายจัดการของธนาคารแห่งนั้น ได้สั่งการให้เปิดสาขาในห้างสรรพสินค้า
และสาขาที่เปิดดำ�เนินการ 7 วัน และกำ�หนดให้พนักงานต้องจำ�ใจให้ความยินยอมโดยการสละสิทธิหยุดงานในวันที่ 1
กรกฎาคม 2553 ซึ่งเป็นวันหยุดภาคครึ่งปีของธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ โดยธนาคาร
พาณิชย์ทุกแห่งยึดถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานและต่อเนื่องจนเป็นที่ยอมรับของลูกค้าและ
ประชาชนทั่วไป ว่าวันดังกล่าวเป็นวันหยุดธนาคาร ความละเอียดแจ้งอยู่แล้วนั้น
แต่ปรากฏว่าในปี 2553 นี้ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งกำ�ลังร่วมมือกันสั่งการให้พนักงานสาขาในห้างสรรพสินค้าและ
สาขาที่เปิดดำ�เนินงาน 7 วัน ต้องเปิดทำ�การในวันที่ 1 กรกฏาคม 2553 โดยให้เหตุผลว่า มีความจำ�เป็นต้องเปิดให้บริการ
ลูกค้า เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานการให้บริการอย่างต่อเนื่อง และไม่ทำ�ให้สูญเสียลูกค้าเนื่องจากธนาคารอื่น ๆ ส่วนใหญ่
ได้เปิดให้บริการ ไม่เพียงเท่านั้น ยังกล่าวอ้างว่าพนักงานยินยอมที่จะมาปฏิบัติงาน สำ�หรับพนักงานที่มีความจำ�เป็นและ
ไม่สามารถทำ�งานในวันดังกล่าวได้ สามารถหยุดงานโดยให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาจัดหาพนักงานทดแทน พร้อมกับจ่าย
ผลตอบแทนให้แก่พนักงานตามระเบียบของธนาคาร
การที่ธนาคารพาณิชย์สั่งให้สาขาเปิดดำ�เนินงานดังกล่าว เป็นการจงใจฝ่าฝืน ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารจะอ้างว่าได้รับการยินยอมจากพนักงานผู้ปฏิบัติงาน แต่ธนาคารไม่สามารถแสดงหลักฐานหนังสือยินยอมของ