Professional Documents
Culture Documents
ปิยลักษณ์ โพธิวรรณ์**
บทนำ
ประวัตเิ รือ่ งของเพศ (sex) ในอดีตนัน้ ถือว่าเป็ นเรือ่ งส่วนตัวของ
มนุษย์และปลอดจากความเป็ นการเมือง อีกทัง้ เรือ่ งของเพศยังถูกมองว่า
เป็นเรือ่ งของธรรมชาติ เป็นความต้องการพืน้ ฐานของความเป็นมนุษย์ เรือ่ ง
ของเพศทีถ่ ูกต้องดีงามมักถูกจัดวางให้สอดคล้องกับความเป็ นธรรมชาติท่ี
มนุ ษย์ในสังคมสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ในสังคมส่วนใหญ่แล้ว
บุคคลแยกประเภทของความสัมพันธ์ทางเพศโดยใช้ธรรมชาติเป็นเกณฑ์ มี
ความเชือ่ ว่าเพศนัน้ ไม่สามารถทีจ่ ะเปลีย่ นแปลงได้ นันคื
่ อเรือ่ งของเพศเป็น
มิตขิ องระบบความคิด ความเชื่อ การแสดงออก ทีย่ อมรับได้เพียงแค่
นั น้ จำเป็ น อย่ า งยิ่ง ที่จ ะต้อ งทำความเข้า ใจเกี่ย วกับ สภาวการณ์ ท่ีเ อื้อ
อำนวยต่อการสร้างตัวตนของคนข้ามเพศทีม่ คี วามแตกต่างกัน ทัง้ นี้เป็ น
เพราะคนข้ามเพศมีความซับซ้อนของตัวตนทีห่ ลากหลาย ดังนัน้ การสร้าง
ความหมาย การสร้างตัวตนของคนข้ามเพศนัน้ จึงมีความแตกต่างกันตาม
แต่ละช่วงเวลาและพืน้ ที่ คนข้ามเพศจึงมีการจัดวางตำแหน่งทีท่ างของตัว
ตนผ่านกระบวนการสร้างอัตลักษณ์ทท่ี ำให้รบั รูไ้ ด้วา่ ตนเองเป็นใคร มีความ
สัมพันธ์กบั บุคคลอืน่ อย่างไรและยิง่ ไปกว่านัน้ บางครัง้ คนข้ามเพศยังต้องมี
การใช้อตั ลักษณ์รว่ ม (collective identity) เพือ่ เป็ นสัญลักษณ์ในการอ้างอิง
ความเป็ นตัวตน และการรวมกลุม่ เพือ่ สร้างพืน้ ทีใ่ ห้กบั ตนเอง เมือ่ เป็ นเช่นนี้
พืน้ ทีข่ องคนของคนข้ามเพศจึงไม่ใช่สงิ่ ทีเ่ กิดจากการกระทำของคนข้าม
เพศเท่านัน้ แต่เป็ นการเกิดขึน้ จากการหล่อหลอมทางสังคมควบคูก่ นั
พื้น ที่ท างสัง คมของคนข้า มเพศนั น้ เป็ น พื้น ที่ซ่ึง เป็ น เครือ ข่า ย
ของความสัมพันธ์เชิงอำนาจทีเ่ หลือ่ มลำระหว่างกลุม่ ต่างๆ ทัง้ ทีเ่ ป็ นกลุม่
ของสถาบันทางสังคมย่อย เช่น ครอบครัว สถานศึกษา จนไปถึงกลุม่ ของ
อำนาจรัฐ ไม่เว้นแม้แต่ในกลุม่ ของความสัมพันธ์กบั คนรักเพศเดียวกัน การ
ทีค่ นข้ามเพศถูกกระบวนการทางสังคมกระทำให้เป็ นชายขอบ การถูก
เบียดขับถูกทำให้ดอ้ ยอำนาจในการต่อรอง เป็ นกลุม่ ทีอ่ ยูใ่ นลำดับชัน้ ตำ
สุดในความสัมพันธ์เชิงอำนาจของกลุม่ คนรักเพศเดียวกัน และถูกทำให้
เป็นคนทีไ่ ร้พน้ื ที่ ทำให้คนข้ามเพศต้องเผชิญกับภาวะความเป็นคนชายขอบ
ในมิตติ ่างๆ อย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้
อย่างไรก็ตาม คนข้ามเพศนัน้ ได้พยายามดิน้ รนต่อรองต่อสภาวะ
ชายขอบและการถูกเบียดขับทีต่ นเองเผชิญ เพือ่ สร้างพืน้ ทีท่ างสังคมให้กบั
ตนเอง แต่การถูกเบียดขับทัง้ จากกลุม่ คนส่วนใหญ่ในสังคมและในกลุม่ คน
รักเพศเดียวกันในบางครัง้ ส่งผลให้คนข้ามเพศด้อยอำนาจในการต่อรอง
คนข้ามเพศ : ตัวตน วัฒนธรรมย่อย และพืน้ ทีท่ างสังคม 103
วัตถุประสงค์ของการวิ จยั
ศึกษากระบวนการสร้างตัวตน วัฒนธรรมย่อยและพืน้ ทีท่ างสังคม
ของคนข้ามเพศ
ระเบียบวิ ธีวิจยั
การศึกษาในครัง้ นี้เป็นการศึกษาแบบมุง่ เน้นการศึกษาโดยใช้หลัก
ของการวิจยั เชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เพือ่ เก็บรวบรวมข้อมูล
ทีเ่ กีย่ วข้องกับกระบวนการสร้างตัวตน วัฒนธรรมย่อยและพืน้ ทีท่ างสังคม
ของคนข้ามเพศ ผลของการสร้างพืน้ ทีท่ างสังคมและการต่อสู้ ต่อรอง ต่อ
ความสัมพันธ์เชิงอำนาจของกลุม่ คนข้ามเพศ ซึง่ เป็ นการบูรณาการข้อมูล
ทัง้ ทางด้านพฤติกรรมทางสังคม การรวมกลุ่ม ของคนข้ามเพศโดยใช้
หลักการของระเบียบวิธวี จิ ยั แบบ Oral History เพือ่ เป็ นการศึกษา Life
History ภายใต้กระบวนทัศน์ สร้างสรรค์สงั คม ในการบอกเล่าหรือการ
เล่าเรือ่ งทีเ่ คยถูกละเลย หรือปฏิเสธไม่ให้มกี ารกล่าวถึง เพือ่ ให้ทราบถึง การ
ดำรงชีวติ ประจำวันและกระบวนการต่อสูใ้ นชีวติ ประจำวัน
คนข้ามเพศ : ตัวตน วัฒนธรรมย่อย และพืน้ ทีท่ างสังคม 105
ภาพที1 กรอบแนวคิดในการวิจยั
กลุ่มเป้ าหมาย
คือคนข้ามเพศทีเ่ ป็ นชายรักเพศเดียวกันทีเ่ ปิ ดเผยตนเองว่าเป็ น
คนข้ามเพศ ทัง้ ทีแ่ ปลงเพศและยังไม่ผา่ นการแปลงเพศ รวมถึงบุคคลทีอ่ ยู่
ระหว่างการตัดสินใจ และตรวจสอบทางด้านจิตวิทยาก่อนตัดสินใจตามกระบวน
การแปลงเพศ ซึง่ เป็ นผูท้ ย่ี นิ ดีให้ความร่วมมือและพร้อมทีจ่ ะมีสว่ นร่วมใน
การศึกษาอย่างแท้จริง โดยทีก่ ลุม่ เปาหมายเป็นบุคคลข้ามเพศทีม่ อี ายุมาก
กว่า 18 ปี ทีอ่ าศัยอยูใ่ นประเทศ จำนวน 30 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิ จยั
ในการศึกษาครังนี
้ ้ ผูว้ จิ ยั เป็นเครือ่ งมือหลักในการเก็บรวบรวมข้อมูล
และวิเคราะห์ขอ้ มูล โดยใช้วธิ กี ารดังต่อไปนี้
คนข้ามเพศ : ตัวตน วัฒนธรรมย่อย และพืน้ ทีท่ างสังคม 107
การวิ เคราะห์ข้อมูล
1) การวิ เคราะห์เชิ งเนื้ อหา (content analysis) ผูว้ จิ ยั ทำการ
อ่านข้อมูลทีไ่ ด้จากการเก็บรวบรวมข้อมูล รวมทังฟ ้ งเสียงจากการสัมภาษณ์/
สนทนากลุม่ ทีบ่ นั ทึกมา เพือ่ ให้เห็นรายละเอียดทังหมด
้ เพือ่ ให้ผวู้ จิ ยั สามารถ
หาสาระหลักและหยิบยกขึน้ มาเป็นประเด็นข้อความรูห้ ลัก (theme) และรอง
ทีไ่ ด้จากการประมวลข้อมูลดังทีก่ ล่าวถึง
2) การวิ เคราะห์โดยใช้ตาราง (matrix analysis) ข้อมูลทีไ่ ด้
จากการศึกษาถูกนำมาจัดกลุม่ ข้อมูลโดยใช้ตาราง (matrix) เพือ่ ให้เห็นความ
ชัดเจน ซึง่ จะทำให้ผวู้ จิ ยั สามารถนำไปใช้รว่ มในการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาที่
กล่าวถึงข้างต้น
ผลการวิ จยั
ภาพปจจุบนั : ร้านเสริ มสวย พืน้ ที่แห่งการสะท้อนตัวตนคนข้ามเพศ
คนข้ามเพศทีพ่ บเห็นทัวไปในพื
่ น้ ทีต่ า่ งๆ ไม่วา่ จะเป็นตามร้านอาหาร
ตามคณะหมอลำ ตามร้านเสริมสวยในสังคมไทย จะเห็นว่ามีจำนวนมาก
และนับวันยิง่ มองเห็นได้ชดั เจนมากขึน้ ไม่วา่ จะเป็ นการดำรงชีวติ แบบไม่
เปิดเผย และเปิดเผย ทัง้ ทีผ่ า่ นการผ่าตัดแปลงเพศแล้ว และยังไม่ผา่ นการ
ผ่าตัดแปลงเพศ ทัง้ ทีท่ ำหน้าอกแล้ว และทีย่ งั ไม่ทำ ทัง้ หมดล้วนแต่เป็นการ
สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลาย และยังถูกทำให้เป็ นชายขอบแห่งเพศ
ทีต่ งั ้ อยู่บนพืน้ ฐานของการยอมรับได้ของสังคมทีม่ รี ะดับการยอมรับแตก
ต่างกัน รวมถึงการเป็ นพืน้ ทีร่ ะหว่างการสร้างการยอมรับ สร้างตัวตน และ
การแสดงออกซึง่ ความสามารถพิเศษในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้
คนข้ามเพศ : ตัวตน วัฒนธรรมย่อย และพืน้ ทีท่ างสังคม 109
เส้นทางของการเข้าสู่อาชีพให้บริ การด้านความงาม
พีห่ ญิง คนข้ามเพศวัย 45 ปี เป็ นช่างแต่งหน้าฝีมอื ดี เป็ นชาว
จังหวัดร้อยเอ็ดโดยกำเนิด พืน้ เพฐานะครอบครัวรับราชการ และมีฐานะดี
โดยหญิงได้สำเร็จการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต แต่ไม่ได้ใช้
ความรูค้ วามสามารถด้านวิทยาศาสตร์ในการสร้างอาชีพ หญิงเป็นเจ้าของ
ร้านเสริมสวยและร้านเช่าชุดไทย ชุดวิวาห์ทม่ี ชี อ่ื เสียง จนทุกวันนี้หญิงมี
รายได้ไม่ตำ กว่าเดือนละ 50,000 บาท จากการรับจ้างแต่งหน้านอกสถานที่
และการรับตัดชุดไหม ชุดไทย และชุดวิวาห์ หญิงให้ความสำคัญกับคน
ข้ามเพศรุ่นน้องทีต่ อ้ งการจะเรียนวิชาการตัดเย็บ และการแต่งหน้าจาก
ตนเองเสมอ
พวกเรารูด้ วี า่ การทีจะไปแย่
่ งคนอืนหางานทำนั
่ น้ เป็นไปได้ยากการ
สร้างอาชีพและการทำงานอิสระจะเหมาะสมกับกะเทยมากกว่า ด้วยเหตุน้ี
หญิงจึงบอกน้องเสมอว่าต้องทำตัวเองให้มคี วามสามารถ และสร้างอาชีพ
110 ดำรงวิชาการ
ตัวตนที่หลากหลายของคนข้ามเพศ
การนิยามความหมายของเพศ และการทบทวนความเป็ นหญิงและ
ความเป็ นชาย เริม่ ต้นมาตัง้ แต่ชว่ งศตวรรษที่ 17-18 ในอังกฤษและฝรังเศส ่
และช่วงศตวรรษที่ 19 - 20 ในยุโรปและอเมริกา (สุชาดา ทวีสทิ ธิ ์, 2547
อ้างถึงใน Nicholson, 2000 : 290) แต่ในสังคมไทย ประวัตศิ าสตร์ของผู้
รักร่วมเพศนัน้ ไม่มคี วามชัดเจนว่าเริม่ ต้นเมือ่ ใด และไม่มกี ารบันทึกไว้เป็ น
หลักฐานอย่าง แต่อย่างไรก็ตาม มีความเชือ่ ว่าน่าจะมีการรับรูห้ รือมองเห็น
ปญหาของ พฤติกรรมรักร่วมเพศมาตัง้ แต่ในอดีต เพราะทัง้ นี้ได้มบี นั ทึก
ไว้ในเรือ่ งราวของพระพุทธศาสนา ไม่วา่ จะเป็ นในรูปแบบของนิทาน และ
ภาพพฤติกรรมรักเพศเดียวกันทีป่ รากฏบนจิตรกรรมฝาผนังของวัดต่างๆ
ในประเทศไทย นอกจากนี้ในพระไตรปิฎกอันประกอบด้วย พระวินยั ปิฎก
อภิธรรมปิฎก และ สุตตันตปิฎก เป็ นหลักธรรมทีส่ ำคัญของพุทธศาสนา
ได้กล่าวในเรือ่ งของ “กะเทย” หรือ “บันเฑาะก์” โดยที่ “บันเฑาะก์” ถือเป็ น
ข้อห้ามหนึ่งทีไ่ ม่ยนิ ยอมให้บวชได้ ความเชือ่ ในทางพระพุทธศาสนาเชือ่ ว่า
เพศของฆราวาสและเพศของบรรพชิตนัน้ สามารถ หลุดพ้น ได้ และพฤติ-
กรรมรักเพศเดียวกันได้มกี ารบัญญัตวิ า่ เป็นสิง่ ทีผ่ ดิ และไม่ดงี ามต่อพุทธศาสนา
โดยเฉพาะในพระวินยั ปิฎกได้ระบุเป็ นข้อห้ามข้อหนึ่งของพระสงฆ์วา่ จะ
กระทำมิได้ อันทำให้ไม่ใส่ใจช่วยเผยแผ่พระศาสนาอันเป็ นกิจของสงฆ์
ก่อนหน้าทีจ่ ะมีการใช้คำเรียกว่าคนข้ามเพศ ในอดีตคนข้ามเพศ
ถูกเรียกว่า กะเทย ซึง่ ในปจจุบนั กะเทยได้รบั ความสนใจจากสังคม และได้
เป็ นหัวข้อของการศึกษาหรือทำวิจยั อย่างกว้างขวางไม่ว่าจะเป็ นมิตทิ าง
ด้านการแพทย์ จิตวิทยา และมานุษยวิทยา กะเทยนัน้ ได้ถกู เหมารวมให้
อยูใ่ นกลุม่ ของชายรักร่วมเพศ (male homosexual) (Jackson, 1998 อ้างถึง
ใน Winter and Udomsak, 2002 : 4) แต่ในทางวิทยาศาสตร์ได้ให้
112 ดำรงวิชาการ
ถึงแม้วา่ ในบางครังพวกเราจะมี
้ การรวมตัวกัน แต่ในเรืองที
่ นำมาพู
่ ดคุยหรือ
ปรึกษากันก็ยงั เป็นเรืองเฉพาะกลุ
่ ม่ เช่น พวกมีเงินเค้าก็จะคุยกันเรืองเรี
่ ยน
ต่อ เรือ่ งไปต่างประเทศ และเค้าก็ไม่ได้ให้เราแสดงความคิดเห็นอันใด คง
เพราะคิดว่าเราไม่มกี ารศึกษาค่ะ (กบ คนข้ามเพศ)
แต่ถงึ อย่างไรก็ตามคนข้ามเพศก็พยายามแสวงหาทางออก โดย
การสร้างชุดความหมายใหม่ขน้ึ มา เพือ่ เป็ นการสร้างวาทกรรมอันใหม่นนั ่
คือ การพยายามหาความหมายทีไ่ ม่ใช่เพียงแค่มองว่า แท้จริงแล้วคนข้าม
เพศก็เป็ นเพียงแค่ กะเทย เท่านัน้
ดังนัน้ การทีค่ นข้ามเพศจะหลุดออกจากการครอบงำทางสังคม จำ
เป็ นอย่างยิง่ ที่คนข้ามเพศจะต้องสร้างตัวตนให้แตกต่างออกไปจากการ
นิยามโดยสังคม จากการศึกษาคนข้ามเพศ ทำให้ทราบว่า การนิยามตัวตน
ของคนข้ามเพศ และการใช้ชวี ติ ประจำวันของคนข้ามเพศเป็นส่วนหนึง่ ของ
การสร้างพืน้ ทีท่ างสังคมเช่นกัน
(นำฝน คนข้ามเพศ)
วัฒนธรรมย่อยของการพูดจาและการแต่งกายของคนข้ามเพศมี
รูปแบบทีแ่ ตกต่างกันเมือ่ คนข้ามเพศต้องอยูใ่ นพืน้ ทีส่ าธารณะ นันเป็่ นเพราะ
อิทธิพลของความแตกต่างในการนิยามลักษณะของตัวตน แต่ถงึ อย่างไร
ก็ตาม หากคนข้ามเพศได้มาอยูพ่ น้ื ทีท่ เ่ี ป็ นของตนเองแล้ว คนข้ามเพศไม่
ว่าจะเป็ นผูท้ อ่ี า้ งอิงเพศหญิงทีส่ ดุ โต่ง และไม่สดุ โต่ง ก็สามารถแสดงออก
ซึง่ ตัวตนของตนเองได้ โดยไม่จำเป็ นต้องปิดบัง
นอกเหนือจากการพูดจา และการแต่งกายแล้ว อิทธิพลของระดับ
การนิยามตัวตนของคนข้ามเพศก็สง่ ผลต่อการมีความสัมพันธ์กบั เพศชาย
ด้วยเช่นกัน คนข้ามเพศทีม่ ฐี านะทางเศรษฐกิจและสังคมทีอ่ ยูใ่ นระดับสูง
จะมีโอกาสได้รจู้ กั ผูช้ ายในระดับทีส่ งู กว่าคนข้ามเพศทีม่ ฐี านะทางเศรษฐกิจ
ไม่ดี นันคื่ อโอกาสทางเศรษฐกิจจะบ่งบอกถึงรสนิยมในการแต่งกาย การ
ใช้เครือ่ งประดับของคนข้ามเพศ ซึง่ คนข้ามเพศทีม่ ฐี านะทางการเงินทีด่ จี ะ
มีการใช้สนิ ค้ายีห่ อ้ ดัง และมีราคาแพง ทีส่ ามารถสือ่ ให้เพศชายรูว้ า่ เธอผู้
นี้สามารถทีจ่ ะเลีย้ งดูปเู สือ่ เพศชายได้อย่างดี แต่แม้คนข้ามเพศทีม่ ฐี านะ
ทางเศรษฐกิจทีไ่ ม่ดี และไม่มอี ำนาจทางการเงิน ก็พยายามทีจ่ ะแสดงออก
ซึง่ การจับจ่ายและการเอาอกเอาใจเพศชายเท่าทีต่ นเองจะทำได้
...เราก็มอี าชีพเป็ นลูกจ้างร้านเสริมสวย ได้รบั เงินเป็ นรายวันซึง่ ก็
ไม่ได้มากมาย แต่กบเองก็พยายามเจือจานให้หนุ่มเต็มที ่ อย่างน้อยก็พอ
ได้ซอ้ ื เหล้าซือ้ เบียร์ เพราะลำพังอาชีพขับรถรับจ้างของหนุ่มก็ไม่พอใช้จา่ ย
แต่หากจะให้เราจ่ายประจำเป็นรายเดือนก็ไม่มปี ญ ญาเลยค่ะ... (กบ คนข้ามเพศ)
...เงินเดือนมันคงค่
่ ะ รับราชการ ก็แบ่งให้แฟนใช้เป็นรายเดือน พา
เค้าไปเทียวบ้่ างบางโอกาส ส่วนเราเองก็แบ่งไว้เก็บไว้ใช้สว่ นตัว ซือ้ เสือ้ ผ้า
เครืองสำอาง
่ ทำตัวให้สวยเสมอ เพราะก็กลัวเขาจะตีจากไปหาสาวๆ เหมือน
คนข้ามเพศ : ตัวตน วัฒนธรรมย่อย และพืน้ ทีท่ างสังคม 119
สำคัญ ที่ค นข้า มเพศเลือ กในการจัด การกับ ความสัม พัน ธ์เ ชิง อำนาจใน
สังคม คือ การพยายามสร้างความหมายใหม่ให้กบั ตนเองด้วยการแสวงหา
พืน้ ทีท่ างสังคม รวมไปถึงการสร้างพืน้ ทีท่ างสังคมทีเ่ ป็นทีย่ อมรับเพือ่ ดำรง
คุณค่าของตนเอง (อานันท์ กาญจนพันธุ,์ 2545: 6)
การสร้างพื้นที่ทางสังคมของคนข้ามเพศเกิดจากเครือข่ายทาง
สังคมทีพ่ วกเขามีรว่ มกัน ซึง่ เป็ นความสัมพันธ์ในทุกๆ ด้านทีม่ ตี ่อกัน ทัง้
ในด้านเศรษฐกิจ สังคม การพูดคุย ปรึกษา แลกเปลีย่ นประสบการณ์ รวม
ถึงการช่วยเหลือซึง่ กันและกัน โดยเครือข่ายทางสังคมนัน้ มีอทิ ธิพลในการ
กำหนดแนวทางพฤติกรรมเพราะความสัมพันธ์ระหว่างกันนำมาซึ่งการ
แลกเปลีย่ นซึง่ กันทังในด้
้ านวัตถุและไม่ใช่วตั ถุ อันหมายถึงสิง่ ของความช่วย
เหลือต่างๆ เช่น ด้านการเงินหรือความผูกพันทางใจ ดังนัน้ ความสัมพันธ์
ระหว่างคนข้ามเพศจึงหมายถึงการได้รบั ประโยชน์ทงั ้ สองฝา่ ย การพบปะ
กันบ่อยๆ นำมาซึง่ เครือข่ายทางสังคมทีด่ ภี ายในกลุม่ คนข้ามเพศ (พิมพวัลย์
ปรีดาสวัสดิ,์ 2530:151)
การสร้างพื้นที่ทางสังคมของคนข้ามเพศก่อกำเนิ ดขึ้นจากการ
ไม่ได้รบั การยอมรับจากสังคมทัง้ ในด้านตัวตนและพฤติกรรม ส่งผลให้คน
ข้ามเพศต้องรวมกลุม่ กันเองและเกิดเป็นวัฒนธรรมย่อยขึน้ มา ซึง่ วัฒนธรรม
ย่อยของคนข้ามเพศคือ วัฒนธรรมใหม่ทส่ี ร้างขึน้ ในรูปของกิจกรรมต่างๆ ที่
ทำร่วมกันจนทำให้เกิดประเพณีทเ่ี ด่นชัดขึน้ ในกลุม่ ซึง่ จะชีใ้ ห้เห็นถึงวิธคี ดิ
ความรูส้ กึ และพฤติกรรม โดยปจจัยทีก่ ่อให้เกิดวัฒนธรรมย่อยมาจาก
ประสบการณ์ทเ่ี ป็นปญหา ทำให้เกิดกลุม่ สังคมและมีการรวมตัวเพือ่ หาทาง
ออกให้กบั ปญหาและเกิดจากการสร้างครือข่ายทางสังคมของผูท้ ป่ี ระสบ
ปญหาทีค่ ล้ายคลึงกัน จนนำมาสูก่ ารรวมกลุม่ ในขนาดใหญ่ขน้ึ ทัง้ นี้กเ็ พือ่
จัดการกับความสัมพันธ์เชิงอำนาจทีม่ อี ยูท่ วไปในสั
ั่ งคม
122 ดำรงวิชาการ
ข้อเสนอแนะ
การนำข้อมูลทีไ่ ด้จากการศึกษาตัวตน วัฒนธรรมย่อย และพืน้ ที่
ทางสังคมของคนข้ามเพศ จะทำให้มองเห็นลักษณะของการรวมกลุม่ อัน
จะไปสูก่ ารทำความเข้าใจขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมของคนข้ามเพศ
ได้ รวมถึงสามารถทำความเข้าใจปรากฏการณ์ทางสังคมทีค่ ล้ายคลึงกัน
เช่น การศึกษาวิถที างสังคมของกลุม่ คนรักเพศเดียวกัน กลุม่ ของชายรัก
ชาย และหญิงรักหญิงได้
กิ ตติ กรรมประกาศ
การศึกษาครังนี
้ ส้ ำเร็จลุลว่ งได้ดว้ ยความกรุณาของผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์
ดร.เยาวลักษณ์ อภิชาติวลั ลภ และดร.มณีมยั ทองอยู ่ ผูช้ ว่ ยศาสตรจารย์
และอาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น และงานการศึกษาครัง้ นี้ได้รบั ทุนสนับสนุนการทำ
วิจยั จากบัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทุนสนับสนุนการเผยแพร่
ผลงานการวิจยั จากศูนย์วจิ ยั พหุลกั ษณ์สงั คมลุม่ นำโขง มหาวิทยาลัย
ขอนแก่น ทีไ่ ด้ชแ้ี นะ ให้ทนุ สนับสนุนตลอดจนกรุณาเป็ นทีป่ รึกษาตลอด
การวิจยั ขอกราบขอพระคุณไว้ ณ ทีน่ ้ีดว้ ย
124 ดำรงวิชาการ
เอกสารอ้างอิ ง