Professional Documents
Culture Documents
ประกันด้วยบุคคลและทรัพย์
ประกันด้วยบุคคลและทรัพย์
บทที่ 8
ประกันดวยบุคคลและทรัพย
ค้ําประกัน
ค้ําประกันนั้น คือ สัญญาซึ่งบุคคลภายนอกคนหนึ่ง เรียกวา ผูค้ําประกันผูกพันตนตอ
เจาหนี้ คนหนึ่ง เพื่อชําระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไมชําระหนี้นั้น
หลักสําคัญของการค้ําประกัน
1. ผูค้ําประกันตองเปนบุคคลภายนอก ลูกหนี้จะทําสัญญาค้ําประกันตนเองไมได
2. หนี้ที่ค้ําประกันจะเปนหนี้อะไรก็ได เชน กูยืม เชาทรัพย ซื้อขาย จางทําของ เชาซื้อ
ฯลฯ แตตองเปนหนี้ที่สมบูรณ
3. เปนสัญญาที่ผูค้ําประกันผูกพันตนวาจะชําระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไมชําระ แตถาลูกหนี้
ตอง ปฏิบัติชําระหนี้ดวยตนเอง เชน แสดงภาพยนตรทีวี ผูค้ําประกันหนี้แทนไมได แตอาจค้ําประกัน
ในทํานองใหเบี้ยปรับ หรือคาเสียหายก็ได เชน นาย ก. ไปศึกษาตอตางประเทศ จึงทําสัญญากับ
กรมเจาสังกัดวาเมื่อศึกษาจบแลวจะกลับมารับราชการเปน 2 เทาของเวลาที่รับทุน มิฉะนั้นจะใหปรับ
เปนเงิน 2 เทาของเงินทุนและเงินเดือนที่ไดรับไประหวางลาและมี นาย ข. เปนผูค้ําประกันโดยตรง
ลงวา ถานาย ก. ผิดสัญญาตนจะชําระหนี้นั้นแทน ดังนี้เปนสัญญาค้ําประกัน
4. ไมจําเปนที่ลูกหนี้จะตองรูเห็นยินยอมในการค้ําประกัน
5. ถาไมใชค้ําประกันแลว ก็ไมตองนําบทบัญญัติซึ่งเปนลูกหนี้ในเรื่องค้ําประกันมา ใช
บังคับ เชน ก. ลูกหนี้กับ ข. เจาหนี้ ค. ทําสัญญาค้ําประกัน ก. ซึ่งเปนลูกหนี้
ตอมายังมีสัญญาระหวาง ค. กับ ง. อีกบอกวาถา ค. ตองเสียหายจากการค้ําประกัน
ก. ภายหลัง ง. จะรับผิดชดใชให ค. เชนนี้ไมใชการค้ําประกันเพราะเหตุวา ค. ไมใชลูกหนี้ที่ ง. จะเขา
ไปทําสัญญาค้ําประกันไดตามหลักกฎหมายในเรื่องค้ําประกันที่บอกวา “เพื่อชําระหนี้ ในเมื่อลูกหนี้
ไมชําระ ค. ยังไมตกเปนลูกหนี้แตอยางใด ง. จึงจะมาทําสัญญาค้ําประกันไมได หากจะทําก็ไดแตเรา
ไมเรียกวาอยูในหลักกฎหมายค้ําประกันดังกลาว
86
ผูรับเรือน
การเปนผูรับเรือน ก็ตองมีหลักฐานเปนหนังสือ เหมือนผูค้ําประกันจึงจะฟองรอง บังคับ
คดีกันได
ตัวอยาง ก. กูเงิน ข. มี ค. ค้ําประกัน และมี ง. เขารับเรือนค้ําประกัน ค. อีกชั้นหนึ่ง
โดยสัญญาวาถาเจาหนี้เรียกรองเอากับ ค. ไมได ง. จะใชหนี้ใหเอง เชนนี้ ค. เปนผูค้ําประกัน ง. เปนผู
รับเรือน
ผูรับเรือนไมใชผูค้ําประกันลูกหนี้ ความรับผิดชอบมิไดเกิดขึ้นเมื่อลูกหนี้ไมชําระหนี้
แตเกิดขึ้นเมื่อผูค้ําประกันไมใชหนี้ในกรณีที่ลูกหนี้ไมชําระ
หนี้รายเดียวกันมีคนค้ําประกันหลายคน ผูค้ําประกันก็ตองรับผิดอยางลูกหนี้รวมกัน แมวา
จะมิไดเขารับค้ําประกันรวมกันก็ตาม
ขอสังเกต
1. การเพิ่มผูค้ําประกันไมทําใหผูค้ําประกันคนเดิมหลุดพนจากความรับผิด
2. เจาหนี้ปลดหนี้จํานวนหนึ่งใหผูค้ําประกันคนหนึ่ง การปลดหนี้นั้นเปนประโยชน
แก ผูค้ําประกันคนอื่นเพียงสวนที่เจาหนี้ ปลดหนี้ให 13 เชน นาย ก. เปนหนี้ นาย ข. 1,000,000 บาท มี
นาย ค. นาย ง. นาย จ. เขาค้ําประกัน นาย ข. เจาหนี้ปลดหนี้ให นาย ค. 100,000 บาท นาย ง. นาย
87
จ. ก็ตองรับผิดอีก 900,000 บาท ก็คือ การปลดหนี้ให นาย ค. เปนประโยชนแก นาย ง. กับ นาย
จ. เพียง 100,000 บาทเทานั้น เปนตน
3. ผูค้ําประกันคนหนึ่ง ใชหนี้แทนลูกหนี้ไป ก็มีสิทธิไลเบี้ยเอาจากคนอื่นตามสวน เชน
ตัวอยาง ขอ 2. นาย ง. ใชหนี้ให นาย ข. ไป 1,000,000 บาท นาย ง. ก็มีสิทธิไปไลเบี้ยเอากับ นาย
ค. นาย จ. ตามสวนเฉลี่ยของผูค้ําประกันแตละคน
ผลของสัญญาค้ําประกัน
1. ผลกอนชําระหนี้
หากลูกหนี้ผิดนัดลง เมื่อใด ทานวาเจาหนี้ชอบที่จะเรียกใหผูค้ําประกันชําระหนี้ ไดแต
นั้น หมายความวา แมวาหนี้ยังไมถึงกําหนดชําระ ผูค้ําประกันก็ตองรับผิดถาลูกหนี้ผิดนัด เชน
นาย ก. ให นาย ข. กูยืมเงิน 50,000 บาท มี นาย ค. เปนผูค้ําประกัน นาย ข. สัญญาวาจะใหดอกเบี้ย
แตไมไดกําหนดเวลาชําระคืนเงินกูกันไว ก็เลยเรียกให นาย ข. ชําระไดทันที (ตามกฎหมาย) นาย ก.
ก็บอก เตือนให นาย ข. ชําระ นาย ข. ก็เพิกเฉยเสีย เชนนี้แสดงวา นาย ข. ผิดนัดแลว นาย ก. ก็
สามารถเรียกให นาย ค. ผูค้ําประกันชําระหนี้แทน นาย ข. ไดทันที
ถากําหนดเวลาเดียวกันไวตามปฏิทิน นาย ข. ผิดนัดทันทีที่ถึงกําหนดเวลาที่ไดตกลง
กันไว ตัวอยางเชน ถามีขอสัญญากําหนดใหลูกหนี้ชําระเงินวันที่ 1 พฤศจิกายน 2538 เมื่อถึง
กําหนด 1 พฤศจิกายน 2538 ก็ถือวาถึงเวลากําหนดชําระหนี้ ถาลูกหนี้ไมชําระก็ถือวา ลูกหนี้ผิดนัด
โดยเจาหนี้ ไมตองเตือนอีกเลย เชนนี้เจาหนี้ก็เรียกผูค้ําประกันชําระหนี้ไดตั้งแตนั้นเปนตนไป
อีกกรณีหนึ่ง กฎหมายบอกวาผูค้ําประกันไมจําเปนตองชําระหนี้กอนถึงเวลากําหนด
ที่จะชําระ แมวาลูกหนี้จะไมอาจถือเอาซึ่งประโยชนแหงเงื่อนเวลาเริ่มตนหรือเวลาสิ้นสุดได ตอไป
แลว เวนแต ผูค้ําประกันจะไดตกลงยินยอมกับเจาหนี้ โดยตรงหรือปริยาย วาจะยอมชําระหนี้แทน
ลูกหนี้ แมวา หนี้นั้นยังไมถึงกําหนด
กรณีที่ลูกหนี้ ไมอาจถือเอาประโยชนแหงเงื่อนเวลาเริ่มตนหรือสิ้นสุดไดมีดังนี้
1. ลูกหนี้ถูกศาลสั่งใหเปนคนลมละลาย
2. ลูกหนี้ไดทําลายหรือทําใหลดนอยถอยลงซึ่งประกันอันไดใหไว
3. ลูกหนี้ไมใหประกันเมื่อจําตองให
4. ลูกหนี้นําทรัพยสินของบุคคลอื่นมาใหเปนประกัน โดยเจาของทรัพยสิน
นั้นมิได ยินยอมดวย
88
2. สิทธิของผูค้ําประกัน เมื่อถูกทวงถามใหชําระหนี้
หลักในเรื่องนี้ตองดูกอนวา ผูค้ําประกันรับผิดชอบชําระหนี้แทนลูกหนี้แคไหน
ถาผูค้ําประกันรับผิดรวมกับลูกหนี้เลย คืออยูในฐานะเดียวกับลูกหนี้ ก็ไมอาจอางสิทธิตาง ๆ ที่จะ
กลาว ตอไปนี้ได
แตถาผูค้ําประกันไมตองรับผิดรวมกับลูกหนี้ คือ ค้ําประกันธรรมดา ผูค้ําประกันมี
สิทธิ ดังตอไปนี้
1. เมื่อเจาหนี้ทวงใหผูค้ําประกันชําระหนี้ ผูค้ําประกันก็จะขอใหเจาหนี้เรียก
ใหลูกหนี้ ชําระเงินกอนก็ได เวนแตวาลูกหนี้ถูกศาลพิพากษา ใหลมละลาย หรือไมปรากฏวาลูกหนี้ไป
อยูแหงใด ในพระราชอาณาจักรเชนนี้ ผูค้ําประกันจะใชสิทธิในขอนี้ไมได 20
2. ถาผูค้ําประกันพิสูจนไดวา
ก. ลูกหนี้มีทางที่จะชําระหนี้ได
ข. กรณีที่จะบังคับใหลูกหนี้ชําระหนี้นั้นไมเปนการยาก เชนนี้เจาหนี้จะ
ตองบังคับการชําระหนี้เอาจากทรัพยสินของลูกหนี้กอน
3. ถาเจาหนี้มีทรัพยของลูกหนี้ยึดถือไวเปนประกัน ผูค้ําประกันอาจรองขอ
ใหเจาหนี้เอาทรัพยสิน ซึ่งถือไวเปนประกันนั้น ๆ ชําระหนี้เสียกอน
ตัวอยางเชน รถยนตจํานําเปนประกันขางตนผูค้ําประกัน อาจขอใหเอารถ
ยนตชําระหนี้กอนได อยาลืมวาถาผูค้ําประกันตองรับผิดรวมกับลูกหนี้ ก็จะอางสิทธิตามขอ 1,2,3 ขาง
ตนไมได
89
3. ผลภายหลังการชําระหนี้
เมื่อผูค้ําประกันชําระหนี้ใหกับเจาหนี้แทนลูกหนี้แลว จะทําใหมีสิทธิดังตอไปนี้
1. เมื่อผูค้ําประกันชําระหนี้ไปแทนลูกหนี้แลว ยอมมีสิทธิที่จะไลเบี้ยเอา
จากลูกหนี้ทั้งตนเงินกับดอกเบี้ยรวมถึงการใดที่ตองสูญหายหรือเสียหายไปอยางใด เพราะการค้ํา
ประกันนั้น 23 เชน ผูค้ําประกันใชหนี้ไป 50,000 บาท ดอกเบี้ยอีก 2,000 บาท ก็ไลเบี้ยเอาจากลูกหนี้
ได 52,000 บาท เปนตน
2. ผูค้ําประกันยังมีสิทธิรับชวงสิทธิของเจาหนี้บรรดามีเหนือลูกหนี้ดวย
ตัวอยางเชน ลูกหนี้กูเงินโดยจํานองที่ดินของตัวเองเปนประกัน เมื่อผูค้ํา
ประกัน ชําระหนี้แทนไปแลว ก็มีสิทธิไลเบี้ยเอาจากลูกหนี้ตามขอ 1 และก็ยังมีสิทธิที่จะรับชวงสิทธิ
ของเจาหนี้ ฟองบังคับจํานองที่ดินของลูกหนี้ ไดในนามตนเองอีกดวยซึ่งจริง ๆ แลว สิทธิในการบังคับ
จํานอง อยูที่เจาหนี้ไมใชเปนของผูค้ําประกันเพราะลูกหนี้จํานองที่ดินกับเจาหนี้ แตเมื่อผูค้ําประกันได
สิทธิรับ ชวงสิทธิก็ใชสิทธิของเจาหนี้ได ตามหลักกฎหมายขางตน
ขอตอสูของผูค้ําประกัน
1. ยกขอตอสูของตนเองขึ้นตอสูกับเจาหนี้ และยกขอตอสูของลูกหนี้ขึ้นตอสู
(1) ยกขอตอสูของตนเองขึ้นตอสูกับเจาหนี้ เชน สัญญาค้ําประกัน ไมไดทํา
หลักฐานเปนหนังสือลงลายมือชื่อผูค้ําประกัน เจาหนี้ก็ฟองรองบังคับคดีไมได หรือวาสัญญาค้ํา
ประกัน ทําไปเพราะโดยขมขูหรือสําคัญผิด สัญญาค้ําประกันตกเปนโมฆียะ
(2) ยกขอตอสูของลูกหนี้ขึ้นตอสู เชน หนี้ที่ลูกหนี้ทําสัญญาไวไมไดมีหลัก
ฐาน เปนหนังสือก็ฟองรองบังคับคดีไมไดหรือวาหนี้ของลูกหนี้ขาดอายุความ หรือหนี้ของลูกหนี้มีวัตถุ
ประสงค ขัดตอความสงบเรียบรอย ศีลธรรมอันดีของประชาชน ก็ยกขึ้นอางไดเชนกัน
2. ถาผูค้ําประกันรูวามีขอตอสูของลูกหนี้อยู แตไมยกขึ้นมาเปนขอตอสูเจาหนี้ ก็
ทําให ผูค้ําประกันสิ้นสิทธิที่จะไลเบี้ยเอาแกลูกหนี้ เพียงเทาที่ไมยกขึ้นเปนขอตอสูก็คือ เมื่อไมยกขอ
ตอสูของ ลูกหนี้ขึ้นยันตอเจาหนี้ ก็ไมมีสิทธิไปเรียกรองเอาอะไรกับลูกหนี้ เวนแตพิสูจนไดวาการที่
ตน ไมไดยกขอตอสูนั้นเปนเพราะวาตนเองไมรูวามีขอตอสูอยู โดยไมใชความผิดของตน ตัวอยางเชน
ลูกหนี้กูเงิน 10,000 บาท ผูค้ําประกันรูวาลูกหนี้ชําระหนี้ไปแลว 7,000 บาท แตผูค้ําประกัน ก็ยังไป
ชําระใหเจานี้เต็มจํานวน 10,000 บาท อีก เชนนี้ผูค้ําประกันก็มีสิทธิไลเบี้ยจากลูกหนี้ไดเพียง
90
ตัวอยาง มาตรา 697 เชน นาย ก. กูเงิน นาย ข. ไป 100,000 บาท โดยจํานอง
ของ ที่ดินของตนราคา 80,000 บาท เปนประกันแลวก็มี นาย ค. เปนผูค้ําประกัน ตอมา นาย ข.
ปลดจํานองให นาย ก.ก็เลยทําให นาย ค.เสียหาย เพราะทําใหไมอาจรับชวงสิทธิบังคับจํานอง นาย ก.
ได ดังนั้น นาย ค. จึงหลุดพนความรับผิดเทาที่ตนเสียหาย คือ 80,000 บาท ตามราคา ที่ทรัพยที่
จํานองไว นาย ข. เจาหนี้มีสิทธิฟองรองจาก นาย ค. ไดเพียง 20,000 บาท เพราะการปลดจํานองให
นาย ก. ของนาย ข. ทําให นาย ค. เสียหายที่ไมอาจรับสิทธิได 80,000 บาท
ตามตัวอยางแรกแทนที่ นาย ก. จํานองที่ดินแต นาย ก. ไดเอาแหวนเพชร
ราคา 50,000 บาท จํานําไวเปนประกันหนี้ นาย ข. คืนแหวนให นาย ก. ไป ( จํานําระงับ เพราะมีการ
คืนของ ใหผูรับจํานําไป ) นาย ค. ผูค้ําประกันไมอาจรับชวงสิทธิจํานําได นาย ค. ก็หลุดพนความรับ
ผิดชอบ ในราคาแหวน 50,000 บาท นาย ข. เจาหนี้มีสิทธิฟองเรียกจาก นาย ค. เพียง 50,000 บาท
ตัวอยางที่เกี่ยวกับหนี้บุริมสิทธิ เชน บุริมสิทธิในมูลพักอาศัยในโรงแรม นาย
ก. เชา ที่พักโรงแรมของ นาย ข. เปนหนี้คาหองพัก 10,000 บาท โดยมี นาย ค. ค้ําประกันคาหองพัก
ใหที่นี้ นาย ก. ก็มีเครื่องเดินทาง กระเปาเดินทางและมีของอยูขางใน เชน เครื่องประดับราคา
ประมาณ 3,000 บาท แทนที่ นาย ข. จะยึดเอาเครื่องเดินทางเอาไว กลับปลอยให นาย ก. เอาคืนไปดวย
เชนนี้เห็นวาทําให นาย ค. ผูค้ําประกันไมอาจเรียกรองสิทธิ 3,000 บาท เอาจาก นาย ก. ได นาย ค.
ก็หลุดพนไป 3,000 บาท นาย ค. รับผิดตอ นาย ข. 7,000 บาท เทานั้น
ความระงับสิ้นไปแหงการค้ําประกัน
อันผูค้ําประกันยอมหลุดพนความรับผิดชอบในเมื่อหนี้ของลูกหนี้ระงับสิ้นไป ไมวา เพราะ
เหตุใด
1. ความระงับแหงหนี้ตามกฎหมายลักษณะหนี้ เชน ลูกหนี้ชําระหนี้ เจาหนี้ปลด
หนี้ให หักกลบลบหนี้ แปลงหนี้ใหม หนี้เกลื่อนกลืนกัน เชนนี้ หนี้ของลูกหนี้ระงับสิ้นไป ก็เลยทําให
ผูค้ําประกันหลุดพนความรับผิดชอบตามหลักกฎหมายมาตรา 698 ขางตน
2. เหตุอื่น ๆ เชน หนี้ของลูกหนี้ขาดอายุความ หนี้ค้ําประกันไมสมบูรณ หนี้ค้ํา
ประกัน ไมมีหลักฐานเปนหนังสือเชาซื้อไมไดทําเปนหนังสือ เปนตน
เมื่อผูค้ําประกันหลุดพนความผิด ผูรับเรือนก็หลุดพนไปดวย เพราะถือวาเปนผูค้ํา
ประกัน เหมือนกัน เมื่อหนี้ประธานระงับไป
3. หนี้ค้ําประกันระงับไปเพราะเหตุค้ําประกันหลายคราวเปนการค้ําประกัน เพื่อ
92
- กิจการตอเนื่องกันเปนหลายคราว43 หรือ
- ค้ําประกันไมจํากัดเวลา
กฎหมายใหสิทธิผูค้ําประกันบอกเลิกสัญญาค้ําประกันได เชน นาย ก. ทําสัญญา
เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคาร 1,000,000 บาท โดยมี นาย ข. ค้ําประกันโดยไมจํากัดเวลาไว ตอมา
นาย ก. เบิกเงินมาใช 600,000 บาท ดังนี้เมื่อสัญญาค้ําประกันไมไดจํากัดเวลาไว นาย ข. ก็บอกเลิกไป
ที่ ธนาคารจะรับผิดชอบแค 600,000 บาท เชนนี้หากภายหลังบอกเลิกแลว นาย ก. เบิกเงินมาใชอีก
นาย ข. ก็ไมตองรับผิดในสวนที่เกิดภายหลังนี้
4. ถาหนี้ไดกําหนดชําระกันแนนอน หากเจาหนี้ผอนเวลาชําระหนี้ใหแกลูกหนี้
โดยที่ ผูค้ําประกันไมยินยอม ผูค้ําประกันก็ยอมหลุดพนความรับผิด สาระสําคัญอยูที่หนี้นั้นตองได
กําหนดเวลาชําระกันอยางแนนอนแลว เชน กําหนดชําระภายใน 1 ป หรือวันที่นั้น วันที่นี้ ตาม
ปฏิทิน
ตัวอยาง เชนนี้ของลูกหนี้กําหนดชําระกันในวันที่ 31 ตุลาคม 2538 พอถึงวัน
ดังกลาว เจาหนี้ก็บอกวาไมเปนไร เอามาใหทีหลังก็ได เชนนี้ยังไมถือวาเจาหนี้ผอนเวลาชําระหนี้ให
ลูกหนี้ ผูค้ําประกันยังไมพนความรับผิดชอบเจาหนี้ตองบอกวาถึงกําหนดชําระแลว ไมเปนไรเอามา
ใหทีหลังก็ได และก็ตองตกลงวาในระหวางที่ผอนเวลาใหนี้ จะไมดําเนินการฟองรองคดี เชนนี้จึงถือวา
ผอนเวลาให ผูค้ําประกันจึงหลุดพนความรับผิด
บทสรุป
จากลักษณะสําคัญของการค้ําประกันดังกลาวขางตน จะสรุปหลักเกณฑที่สําคัญไดดังนี้
1. ตองเปนหนี้ที่มีกําหนดชําระกันแนนอน
2. ตองเปนกรณีที่เจาหนี้ตกลงผอนเวลาให โดยมีการตกลงผอนเวลากันแนนอน
และ ในระหวางที่ผอนเวลาใหนั้น จะใหสัญญาวาจะไมใชสิทธิเรียกรองแตอยางใด จึงจะเปนการผอน
เวลา ที่ทําใหผูค้ําประกันหลุดพนความรับผิด
ความระงับสิ้นไปของสัญญาค้ําประกันอีกกรณีหนึ่งก็คือ เมื่อหนี้ถึงกําหนดชําระ
แลว ผูค้ําประกันขอชําระหนี้แตเจาหนี้ไมยอมรับชําระหนี้ ผูค้ําประกันก็หลุดพนความรับผิด เชน
นาย ก. กูเงิน นาย ข. มี นาย ค. ค้ําประกัน กําหนดเวลาชําระเงินกูกันภายใน 1 ป พอถึง 1 ป นาย ค.
ก็ขอ ชําระหนี้ ให นาย ข. แทน นาย ก. นาย ข. เจาหนี้ไมยอมรับเงินคืน เพราะยังอยากไดดอกเบี้ย จาก
นาย ก. อยูเชนนี้ถือวา นาย ค. ผูค้ําประกันหลุดพนความผิด เพราะขอชําระหนี้แลว เจาหนี้ไมยอมรับ
93
จํานํา
ความหมาย
จํานํา หมายถึง สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกวา ผูจํานําสงมอบสังหาริมทรัพยสิ่งหนึ่งใหแก
บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกวาผูรับจํานํา เพื่อเปนประกันการชําระหนี้
ลักษณะสําคัญของจํานํา
จะพิจารณาลักษณะที่สําคัญของสัญญาจํานําไดดังนี้
1. กฎหมายไมไดบังคับวาจะตองทําเปนหนังสือหรือตองมีหลักฐานเปนหนังสือ
2. จํานํา ไดเฉพาะสังหาริมทรัพย อสังหาริมทรัพยจํานําไมได กฎหมายบอกวา
การสงมอบ สังหาริมทรัพยใหผูรับจํานํา เพราะฉะนั้นอสังหาริมทรัพยสงมอบไมได ก็จํานําไมได
3. การจํานําตองมีการสงมอบทรัพยที่จํานําใหแกผูรับจํานําไว เพื่อเปนการประกัน
การชําระหนี้ หากไมมีการสงมอบทรัพยจํานําใหแกผูรับจํานํา ก็ไมเปนการจํานําตามกฎหมาย แต
อาจจะมีการสงมอบทรัพยที่จํานําใหบุคคลภายนอกเปนผูเก็บรักษาไวก็ได โดยผูจํานํากับผูรับจํานํา ตก
ลงกัน
4. จํานําจะมีผลบังคับไดตองเปนการประกันหนี้ที่สมบูรณ หากเปนหนี้ที่ไม
สมบูรณ แลวก็ บังคับการจํานําไมได ตัวอยางเชน หนี้กูยืมเงินเพื่อเอาไปคาเฮโรอีน หรือเอาไปจางยิง
คนถือวาขัดตอ ความสงบเรียบรอยเมื่อมีการจํานําประกันหนี้ดังกลาวก็บังคับไมได
5. ผูจํานําอาจเปนลูกหนี้ หรือบุคคลอื่นก็ได ที่นําทรัพยสินของตนจํานําประกัน
หนี้เหมือน การจํานอง
94
6. การจํานําจํานองผูที่เปนเจาของทรัพยสินเทานั้น จึงจะจํานองได
7. สิทธิของผูรับจํานําในการรับชําระหนี้ จะไดรับชําระหนี้จากสินทรัพยที่จํานํา
กอนเจาหนี้ สามัญ เชนเดียวกับผูรับจํานอง
8. การที่ลูกหนี้หรือผูค้ําประกันมอบโฉนด54 ใหเจาหนี้ยึดถือไวไมเปนการจํานํา
จํานองหรือค้ําประกัน
สังหาริมทรัพยที่จํานําได
สังหาริมทรัพยทุกชนิด เชน รถ นาฬิกา แวนตา ฯลฯ สังหาริมทรัพยเปนสิทธิซึ่งมี
ตราสาร เชน หนังสือสัญญากู หนังสือสัญญาเชาซื้อ เช็ค ตั๋วแลกเงิน ใบหุน การจํานําดังกลาว
ตองสงมอบตราสารนั้น ๆ ใหแกผูรับจํานํา และตองบอกกลาวเปนหนังสือแจงถึงการจํานําแก ลูกหนี้
แหงสิทธิ มิเชนนั้นเปนโมฆะ เชน การกูเงินมีหนังสือสัญญาตอกัน ระหวางที่หนี้ยังไมถึงกําหนด เจา
หนี้อยากไดรับชําระเงินกอน ก็นําเอาหนังสือสัญญากูไปจํานําตอบุคคลภายนอก ก็โดยสงมอบสัญญา
กู ใหแกผูรับจํานําและทําเปนหนังสือแจงใหลูกหนี้ทราบถาไมเชนนั้นการจํานําดังกลาวเปนโมฆะ
ขอตกลงใหทรัพยสินเปนของผูรับจํานํา เปนประการอื่นนอกจากบทบัญญัติของกฎหมาย
ขอตกลงดังกลาวไมสมบูรณ กลาวคือ การที่จะตกลงกันไวเสียแตกอนเวลาหนี้ถึงกําหนดชําระเปน ขอ
ความอยางใดอยางหนึ่ง ถาไมชําระหนี้ ใหผูรับจํานําเปนเจาของทรัพยสินจํานําหรือ ใหจัดการแก
ทรัพยสินนั้นเปนประการอื่น นอกจากตามบทบัญญัติทั้งหลายวาดวยการบังคับจํานํา ขอตกลงเชนนั้น
ทานวาไมสมบูรณ
บทบัญญัตินี้เหมือนกับการจํานอง57 ก็คือ จะตกลงกันกอนหนี้ถึงกําหนดชําระวา ถาผูจํานํา
ไมชําระหนี้ ใหผูรับจํานําเปนเจาของทรัพยสินที่จํานํา หรือใหจัดการแกทรัพยสินที่จํานําเปนประการ
อื่น ขอตกลงดังกลาวไมสมบูรณเปนโมฆะแตถาตกลงกันจากหนี้ถึงกําหนดชําระแลวสามารถทําได
สิทธิและหนาที่ของผูจํานําและผูรับจํานํา
สําหรับสิทธิและหนาที่ของคูสัญญาจํานํา จะพิจารณาไดดังนี้
1. ผูรับจํานํา ชอบที่จะยึดของจํานําไวไดทั้งหมด จนกวาจะไดรับชําระหนี้และคา
อุปกรณ ครบถวน
2. ผูรับจํานําตองรักษาทรัพยสินไวใหปลอดภัย และตองสงวนสิทธิในทรัพยสิน
อันจํานํานั้น อยางเชน วิญูชนจะพึงสงวนทรัพยสินของตนเอง เชนวา มีการจํานําเครื่องทองรูป
95
การบังคับจํานํา
เมื่อจะบังคับจํานํา ผูรับจํานําตองบอกกลาวเปนหนังสือไปยังลูกหนี้เสียกอนวาใหชําระหนี้
และอุปกรณภายในเวลาอันสมควร ซึ่งกําหนดใหในคําบอกกลาวนั้น ถาลูกหนี้ละเลย ไมปฏิบัติตาม คํา
บอกกลาว ผูรับจํานําชอบที่จะเอาทรัพยสินจํานําออกขายได แตตองขายทอดตลาด
96
สรุป หลักเกณฑในการจะบังคับจํานํา
1. ตองทําเปนหนังสือบอกกลาวไปยังลูกหนี้ วาใหชําระหนี้ภายในกําหนดเวลาอันสม
ควร ตองกําหนดระยะเวลาชําระหนี้ไวดวย แมวาหนี้ถึงกําหนดชําระแลวก็ตาม การบังคับจํานําจะตอง
บอกกลาวเปนหนังสือเสมอ
2. ถาระยะในหนังสือบอกกลาว สิ้นสุดไปแลว ลูกหนี้ก็ยังไมชําระหนี้ผูรับจํานํา จึงจะ
เอา ทรัพยสินที่จํานําออกขายไดแตตองขายทอดตลาดเทานั้น
3. การจะขายทอดตลาด ก็จะตองบอกกลาวเปนจดหมายไปยังผูจํานํา โดยบอกเวลา
สถานที่ ที่จะขายทอดตลาดดวย
4. ผูรับจํานํามีสิทธิที่จะเอาทรัพยสินที่จํานําออกขายทอดตลาดได โดยไมตองฟองรอง
เปนคดีตอศาล
5. ถาไมอยากบังคับจํานําเจาหนี้ก็สามารถฟองลูกหนี้บังคับใหชําระหนี้ อยางเจาหนี้
สามัญได
ตัวอยาง นาย ก. กูเงิน นาย ข. โดยมี นาย ค. จํานํารถยนต นาย ค. เปนประกันเงินกู
กําหนด ชําระภายใน 1 ป พอ 1 ป นาย ก. ไมชําระเงินกู นาย ข. สามารถฟอง นาย ก. ใหชําระเงินกูได
หรือ นาย ข. สามารถบังคับจํานําเอากับรถยนตของนาย ค. ไดตามหลักการบังคับจํานํา ก็โดยทํา
หนังสือบอกวาจะบังคับ จํานําไปยัง นาย ก. กําหนดใหชําระหนี้ใหม ภายในเวลาสมควร สมมุติวา
ภายใน 1 เดือน
พอหลังจาก 1 เดือน ก็ยังไมชําระหนี้เงินกู นาย ข. สามารถเอารถยนตของ นาย ค.
ออกขายทอดตลาดได โดยบอกเวลาสถานที่ขายทอดตลาดรถยนตให นาย ค. ทราบเสียกอน จึงจะ
ขายทอดตลาดได
เมื่อบังคับจํานําเอาทรัพยสินออกขายทอดตลาดแลว กฎหมายกําหนดใหเอาเงินที่ขาย ทอด
ตลาดไดนั้น ชําระคาดอกเบี้ยกับอุปกรณกับเงินตนเพื่อเสร็จสิ้นไป ถามีเงินเหลือ ก็ตองสงคืน ใหผู
จํานํา
97
ความระงับสิ้นไปแหงการจํานํา
สัญญาจํานําจะระงับลง ดังนี้
1. เมื่อหนี้ซึ่งจํานําเปนประกัน ระงับสิ้นไปดวยเหตุการณอื่น มิใชเพราะ อายุความ
เหมือนกรณีจํานอง เหตุประการอื่นก็คือ มีการชําระหนี้ เจาหนี้ปลดหนี้ให หักกลบลบหนี้ แปลง
หนี้ใหม หนี้เกลื่อนกลืนกัน เปนตน
แตกรณีหนี้ที่จํานําเปนประกันขาดอายุความ การจํานําไมระงับ เชน หนี้กูยืม
ที่มี การจํานํา เปนประกัน อายุความมี 10 ป แตเจาหนี้ไมฟองรองคดี ภายใน 10 ป หนี้กูยืม
ขาดอายุความฟองรอง แตหนี้จํานําเปนประกันไมระงับไปดวย เจาหนี้ยังคงใชสิทธิบังคับทรัพยสินที่
จํานําได
2. เมื่อผูรับจํานํายอมใหทรัพยสินจํานํากลับคืนไปสูครอบครัวของผูจํานํา การจํานํา
ยอม ระงับสิ้นไป เพราะการจํานําทําโดยสงมอบทรัพยสินใหแกผูรับจํานําเปนประกัน เมื่อมีการคืน
ทรัพยสิน ใหแกผูจํานําไป การจํานํายอมระงับสิ้นไป
การจํานําตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยกับการจํานําของโรงจํานํา
บทบัญญัติทั้งหลายในเรื่องจํานํา ทานใหใชบังคับแกสัญญาจํานําที่ทํากับผูตั้งโรงรับจํานํา
โดยรัฐบาลอนุญาต แตเพียงที่ไมขัดกับกฎหมายหรือกฎขอบังคับวาดวยโรงจํานํา
แสดงวา หากไมมีกฎหมายแพงหรือขอบังคับวาดวยโรงรับจํานําโดยเฉพาะแลวก็ใหนํา
บทบัญญัติจํานําไปใชบังคับได
การจํานําตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ผูจํานําจะตองเปนเจาของทรัพยสิน
ที่จํานําตามมาตรา 747 ถาไมใชเจาของแลว ผูที่เปนเจาของที่แทจริงมีสิทธิติดตามเอาทรัพยที่จํานํา คืน
ไดโดยไมตองเสียเงินไถถอนทรัพยที่จํานําไว เวนแตเจาของทรัพยสินนั้นประมาทเลินเลอ
98
ขอแตกตางของการจํานองกับจํานําและค้ําประกัน
การบังคับจํานองบังคับแลว ไดเงินจากการขายทอดตลาดเทาใด หากยังชําระหนี้ ไมพอหนี้
ยังขาดอยูลูกหนี้ไมตองรับผิดในสวนที่ขาดนั้น82
การบังคับจํานํา ถาไดเงินนอยกวาหนี้ที่คางชําระลูกหนี้ยังตองรับผิดในหนี้ที่ขาดอยู83
สวนการค้ําประกันก็บอกวาถาบังคับตามสัญญาค้ําประกันแลวหนี้ยังขาด หรือเหลืออยูเทา
ใด ลูกหนี้ยังตองรับผิดชอบตอเจาหนี้ในหนี้ที่ยังขาด84 หรือในสวนที่เหลืออยูนั้นแสดงวา ถาเปนการ
จํานอง และบังคับแลวหนี้ขาดเทาใด ลูกหนี้ไมตองรับ ถาเปนกรณีอื่น ๆ เชน จํานําหรือค้ําประกัน
บังคับแลว หนี้ขาดอยูเทาใด ลูกหนี้ยังตองรับผิดอยู
99
จํานอง
ลักษณะสําคัญของสัญญาจํานอง
จํานองนั้นคือสัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกวาผูจํานอง เอาทรัพยสินตราไวแกบุคคลอีกคน
หนึ่ง เรียกวา ผูรับจํานองเปนประกันการชําระหนี้ โดยไมสงมอบทรัพยสินนั้นใหแกผูรับจํานอง
จากหลักกฎหมายดังกลาว หลักของการจํานองทรัพยสิน สรุปไดเปนขอ ๆ ดังนี้
1. ผูจํานองจะเปนตัวลูกหนี้เอง หรือบุคคลอื่นก็ได
2. การจํานองทําโดยเพียงแตเอาทรัพยสินตราไวเปนประกันโดยไมตองสงมอบ
ทรัพยสิน ตราไวก็คือ ทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่ ดังนั้น โดยทั่วไปการที่
มอบโฉนดหรือ น.ส. 3 ไวเปนประกันจึงไมใชการจํานองตามกฎหมาย เจาหนี้ไมมีสิทธิอะไร เหนือ
ทรัพยสินนั้น ๆ เลย ก็แสดงวาถือกระดาษไวเปนประกันหนึ่งใบเทานั้น
3. สิทธิของผูรับจํานอง ยอมไดรับชําระหนี้จากทรัพยสินที่จํานองกอนเจาหนี้อื่น
เชน นาย ก. กูเงิน นาย ข. 100,000 บาท โดยจํานองที่ดินของตนเองเปนประกัน นาย ก. เปนหนี้
เจาหนี้ อื่น ๆ อีก 3 ราย ๆ ละ 50,000 บาท ตอมาเมื่อ นาย ก. ไมชําระหนี้ นาย ข. ก็บังคับ
จํานอง โดยเอาที่ดินออกขายทอดตลาดไดเงินมา 100,000 บาท พอดี ดังนี้ นาย ข. ก็ไดรับเงินไป
100,000 บาท โดยเจาหนี้อื่น ๆ อีก 3 รายไมไดอะไรเลย ก็ตองไปบังคับเรียกรองเอาจาก นาย ก. ใน
ทรัพยสินอื่น ๆ ตอไป ดวยเหตุที่วา นาย ข. ผูรับจํานองยอมไดรับชําระหนี้จากทรัพยสินที่จํานองกอน
เจาหนี้อื่น ๆ ของนาย ก.
ทรัพยสินที่จะจํานองได
สรุปไดวาทรัพยสินที่อาจจํานองไดก็ คือ
1. อสังหาริมทรัพย 90
2. สังหาริมทรัพยชนิดพิเศษ เชน เรือกําปน หรือ เรือมีระวางตั้งแต 6 ตันขึ้นไป
เรือกลไฟหรือเรือยนตมีระวางตั้งแต 5 ตันขึ้นไป แพ สัตว พาหนะ91 ฯลฯ ทรัพยสิน
ดังกลาวเหมือนกับลักษณะซื้อขายที่บอกวาทรัพยสินเหลานี้ ถาจะซื้อขาย ตองทําเปนหนังสือและ จด
ทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่ มิเชนนั้นเปนโมฆะตามมาตรา 456 ในลักษณะซื้อขาย
100
ผูมีสิทธิจํานองทรัพยสิน
การจํานองทรัพยสินนั้น นอกจากผูเปนเจาของในขณะนั้นแลว ใครอื่นจะจํานองไมได92
เจาของก็หมายถึงผูมีกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครองเทานั้นที่จะจํานองไดบุคคลอื่น ๆ ไมมีสิทธิเอา
ทรัพยสินของผูอื่นไปจํานอง (กรณีเจาของรวม สามารถจํานองไดเฉพาะสวนตัวเทานั้น )
มาตรา 706 บอกอีกวา “บุคคลมีกรรมสิทธิ์ในทรัพยสินแตภายในบังคับเงื่อนไข เชนใด
จะจํานองทรัพยสินนั้นไดแตภายในบังคับเงื่อนไขเชนนั้น”
ตัวอยางเชน กรณีขายฝาก เราไดเรียนมาแลววากรรมสิทธิ์ในทรัพยสินที่ขายฝากตกไป
เปน ของผูรับซื้อฝาก โดยมีขอกําหนดเกี่ยวกับการไถคืนไว
นาย ก. ขายฝากที่ดินไวกับ นาย ข. กําหนดไถถอนใน 5 ป เชนนี้ นาย ข. ก็นําที่ดิน
ไปจํานองไดเพราะถือวากรรมสิทธิ์ในที่ดินตกเปนของ นาย ข. นาย ข. ก็จํานองได แตก็ตองอยู ใน
เงื่อนบังคับของการขายฝากที่มีอยูวา นาย ก. สามารถไถคืนไดภายใน 5 ป ดังนั้นแมจํานองได นาย ก.
สามารถไปไถทรัพยสินไดเมื่อไถแลว การจํานองก็หมดสิ้นไปตามมาตรา 502 ที่บอกวา “ทรัพยสิน
ซึ่งไถนั้น เมื่อไถแลวผูไถยอมรับคืนไปโดยปลอดจากสิทธิใด ๆ ซึ่งผูซื้อเดิม ทายาทหรือผูรับโอน จาก
ผูซื้อเดิมกอใหเกิดขึ้นกอนเวลาไถ”
หรือถาเปนกรณีทรัพยสินอยางอื่นๆ เชน สิทธิเหนือพื้นดิน สิทธิเก็บกินสิทธิอาศัย ฯลฯ
เมื่อจํานองก็ตองอยูในเงื่อนไขวามีทรัพยสิทธิ์ติดอยูตลอดไป
วิธีการจํานอง
อันสัญญาจํานองนั้น ทานวาตองทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่
จํานองแลวยังจํานองกับบุคคลอื่นในระหวางที่สัญญากอนยังมีอายุอยูก็ได
เชน กูเงิน 100,000 บาทและจํานองที่ดินเปนประกัน ตอมาที่ดินมีมูลคาถึง 1,000,000
บาท ก็เลยสามารถเอาไปจํานองประกันหนี้รายอื่นไดอีกเมื่อถึงเวลาการบังคับจํานองก็ตองเอา ใชหนี้
ใหกับ ผูรับจํานํารายแรกกอนตามกฎหมาย ใครจดทะเบียนกอนก็ไดรับชําระหนี้กอน
สิทธิจํานองครอบเพียงใด
1. ทรัพยสินซึ่งจํานองยอมเปนประกัน เพื่อการชําระหนี้กับทั้งอุปกรณตอไปนี้ดวย คือ
ดอกเบี้ย คาสินไหมทดแทนในการไมชําระหนี้ คาฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดีจํานอง
101
2. จํานองยอมครอบไปถึงทรัพยสินที่จํานองหมดทุกอยาง แมจะไดชําระหนี้แลวบางเชน
นาย ก. กูยืมเงิน นาย ข. ไป 300,000 บาท โดยจํานองบาน 1 หลัง กับที่ดิน 1 แปลง เปนประกัน
ตอมา นาย ก . ก็ชําระหนี้เงินกูไป 200,000 บาท เราก็ยังถือวาบานและที่ดินยังคงเปน
ทรัพยสินที่จํานองเปนประกันหนี้อยูอีก 100,000 บาท แตก็อาจตกลงกันไดวาทรัพยสินสวนไหน
จํานอง ประกันในราคาเทาไรก็ตองเปนไปตามนั้น
3. จํานองยอมครอบไปถึงทรัพยทั้งปวงอันติดพันอยูกับ ทรัพยสินซึ่งจํานองแตตองอยูใน
บังคับ 3 ขอตอไปนี้ (ขอยกเวน)
เชน นาย ก. กูเงิน นาย ข. โดยจํานองที่ดินไวเปนประกัน ปรากฏวาในขณะจํานอง ที่
ดินนั้น มีบานของ นาย ก. ปลูกอยูติดกับที่ดิน เชนนี้การจํานองที่ดินยอมครอบไปถึงบานดวย แมวา
การจํานอง ไมไดกลาวถึงบานของ นาย ก. ก็ตาม (บานเปนสวนควบของที่ดินตามลักษณะทรัพย ใน
เรื่องสวนควบ)
ขอยกเวน มีดังตอไปนี้
(1) จํานองที่ดินไมครอบไปถึงเรือนโรง อันผูจํานองปลูกสรางในที่ดินไวภายหลังวัน
จํานอง เวนแตจะมีขอความกลาวไว โดยเฉพาะในสัญญาวาใหครอบไปถึง แตกระนั้นก็ดีผูรับจํานอง
จะใหขาย โรงเรือนนั้นรวมไปกับที่ดินดวยก็ได แตผูรับจํานองอาจใชบุริมสิทธิของตนไดเพียงแคราคา
ที่ดินเทานั้น
ยกตัวอยางเชน จํานองที่ดินแลวปลูกบานทีหลังเชนนี้การจํานองไมครอบไปถึงบาน
แตผูรับจํานองเวลาบังคับจํานอง ก็อาจขอใหขายบานรวมไปกับที่ดินไปในขณะเดียวกันได แตก็มี
บุริมสิทธิ ใชบังคับไดเพียงที่ดินเทานั้น
(2) จํานองเรือนโรงหรือสิ่งปลูกสรางอยางอื่นซึ่งไดทําขึ้นไวบนดินหรือใตดินในที่ดิน
อันเปนของคนอื่นนั้น ยอมไมครอบไปถึงที่ดินนั้นดวยฉันใดกลับกันก็ฉันนั้น
เชน บานของ นาย ก. ปลูกอยูบนที่ดินของ นาย ข. นาย ก. ก็จํานองบาน ของตนเอง
ประกันเงินกู เชนนี้การจํานองไมครอบครองไปถึงที่ดินของนาย ข. ในทางกลับกัน นาย ข. จํานองที่ดิน
ของตน ที่มีบานของ นาย ก. ปลูกอยูการจํานองก็ไมครอบไปถึงบานของ นาย ก.
ทีนี้ปญหาเกิดขึ้น เมื่อบานเปนของ นาย ข. ที่ดินก็เปนของนาย ข. ที่ดินของนาย ข.
นาย ข. จํานองบานก็ไมครอบไปถึงที่ดินเพราะที่ดินไมใชทรัพยที่อยูติดกับบาน แตถา นาย ข. จํานองที่
102
สิทธิของผูรับจํานอง
สิทธิดังกลาวจะเกิดขึ้นเมื่อกรณีลูกหนี้ ไมชําระหนี้ผูรับจํานองก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกใชสิทธิ ดัง
นี้
(1) บังคับจํานอง วิธีทําก็คือ ผูรับจํานองตองมีหนังสือบอกกลาว ไปยังลูกหนี้ กอน
วา ใหชําระหนี้ภายในเวลาอันสมควร ถาลูกหนี้ละเลยไมชําระ ผูรับจํานองจะตองนําคดีขึ้นฟองรอง
ตอศาล ขอใหศาลยึดทรัพยสิน ซึ่งจํานองแลวเอาออกขายทอดตลาด
(2) เอาทรัพยจํานองหลุดมีสิทธิ เงื่อนไขมีอยูวา
ก. ลูกหนี้ขาดสงดอกเบี้ยมาแลวถึง 5 ป
ข. ผูจํานองมิไดแสดงใหเปนที่พอใจแกศาลวา ราคาทรัพยสินทวมเงิน
อันคางชําระ หมายความวา พิสูจนไมไดวาทรัพยสินที่จํานองมีราคาสูงกวาหนี้ที่เปนอยู
ค. ไมมีการจํานองรายอื่น หรือบุริมสิทธิอื่นใดจดทะเบียนไวเหนือทรัพยสิน
อันเดียว นี้เอง ก็หมายถึงวา ผูรับจํานองไมอยากใหขายทอดตลาดทรัพยสิน อยากใหทรัพยสินนั้น ๆ
ตกเปนสิทธิ ของตนเลย ก็ตองเขาเงื่อนไข 3 ขอ ขางตน และตองมีการบอกกลาวเปนหนังสือ ตาม
หลักเรื่องการบังคับ ในขอ (1) ดวย
หากมีการตกลงกัน ใหทรัพยสินตกเปนสิทธิแกผูรับจํานอง โดยไมตองมีการฟองรอง
คดีถือวาขอตกลงไมสมบูรณ แตการจํานองยังคงสมบูรณอยู ขอตกลงถือวาไมมีผลผูกพัน
103
สิทธิของผูจํานอง
1. ผูจํานองอยากชําระหนี้เสียเองแทนลูกหนี้เพื่อมิใหเจาหนี้บังคับจํานองทานวา ผูจํานอง
ชอบที่จะไดรับเงินใชคืนจากลูกหนี้ตามจํานวนที่ตนไดชําระไป
เชน ผูจํานองไมอยากใหเจาหนี้บังคับจํานองเอาแกทรัพยสินของตนก็สามารถ เอาเงิน
ไปชําระหนี้ใหแกเจาหนี้เสียเอง เมื่อชําระแลวก็มีสิทธิที่จะไลเบี้ยเอาเงินจํานวนดังกลาวคืนจาก ลูกหนี้
ได
2. หากวามีการบังคับจํานอง ผูจํานองชอบที่จะไดรับเงินใชคืนจากลูกหนี้ตามจํานวน ซึ่ง
ผูรับจํานองจะไดรับใชหนี้จากการบังคับจํานองนั้น 113 เชน กรณีเจาหนี้ฟองบังคับจํานองเอาที่ดิน ของผู
จํานองออกขายทอดตลาด ไดเงินไป เทาไร ผูจํานองก็ชอบที่จะไดเงินจํานวนนั้น คืนจากลูกหนี้ ตาม
จํานวนที่ขายทอดตลาดได
ความรับผิดของผูจํานองกับลูกหนี้หลังจากมีการบังคับจํานอง
ถาเอาทรัพยจํานองหลุด และราคาทรัพยสินนั้นมีประมาณต่ํากวาจํานวนเงินที่คางชําระกัน
อยูก็ดีหรือถาเอาทรัพยซึ่งจํานองออกขายทอดตลาดใชหนี้ไดเงินจํานวนสุทธินอยกวา จํานวนเงินที่คาง
ชําระกันอยูก็ดีเงินยังขาดจํานวนอยูเทาใดลูกหนี้ไมตองรับผิดในเงินนั้น หลักกฎหมายมาตรานี้ถือเปน
หลักฐานของลักษณะจํานอง ซึ่งจะแตกตางกับจํานําหรือค้ําประกัน
ตัวอยาง เชน นาย ก. กูเงิน นาย ข. 1,000,000 บาท โดยมี นาย ค. จํานองที่ดิน
ประกัน กําหนดชําระคืนภายใน 1 ป พอ 1 ป นาย ก. ไมชําระ นาย ข. ก็เลยฟองทั้ง นาย ก. และ นาย
ค. ให นาย ก. ชําระหนี้และใหบังคับจํานองเอาที่ดินของ นาย ค. ออกขายทอดตลาด
ปรากฏวาที่ดินของ นาย ค. ขายทอดตลาดได 800,000 บาท ตามหลักกฎหมายก็คือ
หนี้ที่เหลืออีก 200,000 บาท นาย ก. ไมตองรับผิดชําระใหแก นาย ข. อีก แตถาเปนการจํานํา เชน
นาย ก. เอารถยนตของตนมาจํานําให นาย ข. พอ นาย ก. ไมชําระเงิน นาย ข. ก็เอารถยนต ตีใชหนี้
โดยไดราคา 400,000 บาท เชนนี้ นาย ก. ก็ตองใชหนี้สวนที่เหลือ 600,000 บาท ให นาย ข. อยูดี
ขอยกเวน
หากคูสัญญาตกลงกันวาแมบังคับจํานองแลว ไดเงินนอยกวาเปนหนี้ ลูกหนี้ก็ยังคง
ตองรับผิดอยูขอตกลงนั้น ๆ ใชบังคับไดไมขัดตอความเรียบรอยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ก็
คือตกลงยกเวนหลักกฎหมาย มาตรา 733 ดังกลาวขางตน สามารถทําไดและในปจจุบันบรรดา ผู
104
สิทธิและหนาที่ของผูรับโอนทรัพยสินซึ่งจํานอง
เกิดขึ้นจากกรณีที่ทรัพยสินที่จํานอง กฎหมายไดบอกวาเอาตราไวกับบุคคลอีกคนหนึ่งเทา
นั้น เพราะฉะนั้นจึงมีการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพยสินนั้น ๆ ตอไปอีกได เชน นาย ก. กูเงิน นาย ข.
โดยมี นาย ค. จํานองที่ดินเปนประกัน ตอมา นาย ค. ก็ขายที่ดินดังกลาวให นาย ง. ไปเชนนี้ทําได ก็
จะมาดูวาสิทธิและหนาที่ของ นาย ง. ผูรับโอนที่ดินไปมีอะไรบาง
กฎหมายกําหนดวา จํานองยอมตกติดไปกับทรัพยสินซึ่งจํานองเสมอ เพราะฉะนั้น
การจํานองของ นาย ค. ที่ทําไวกับ นาย ข. ยอมติดไปถึงดวย แมวา นาย ง. ไดที่ดินมาจาก การซื้อขายก็
ตาม การจํานองก็ยังคงติดไปอยู
สิทธิของผูรับโอนทรัพยสินซึ่งติดจํานอง
ผูจํานองมีสิทธิไถถอนจํานอง ถามิไดเปนตัวลูกหนี้หรือผูค้ําประกันหรือทายาทของ
ลูกหนี้หรือผูค้ําประกัน และจะไถถอนจํานองเมื่อใดก็ได แตถาผูรับจํานองบอกกลาววาจะบังคับจํานอง
ผูรับโอนทรัพยสินซึ่งติดจํานองไปตองไถถอนภายใน 1 เดือน นับแตรับคําบอกกลาว จาก ผูรับ
จํานอง117
หนาที่ของผูรับโอนทรัพยสินซึ่งติดจํานอง
1. ตองไมทําใหทรัพยสินเสื่อมราคา 118
2. ตองยอมรับการถูกบังคับจํานอง หากตนไมแสดงการไถถอนจํานอง จนผูรับจํานอง
ฟอง บังคับเอาทรัพยสินออกขายทอดตลาด
105
การไถถอนจํานอง
ทําไดโดยชําระเงินเทากับจํานวนหนี้ หรือชําระเงินเทากับราคาทรัพยสิน สุดแตวา ผู
รับโอนจะเลือกเอาอยางไหน ถาทรัพยสินจํานองราคาสูงกวาหนี้ ผูรับโอนก็เลือกใชราคาตามราคา
ทรัพยสินนั้น ๆ ไมจําเปนตองชําระหนี้ที่คางชําระอยูทั้งหมด
ความระงับสิ้นไปแหงสัญญาจํานอง
สําหรับสัญญาจํานองจะระงับสิ้นไปดวยเหตุดังจะกลาวตอไปนี้
1. หนี้ที่ประกันระงับสิ้นไป ดวยเหตุประการอื่นใดมิใชเหตุอายุความ เชน มีการ
ชําระหนี้ เจาหนี้ปลดหนี้ให หักกลบลบหนี้ แปลงหนี้ใหม หนี้เลื่อนกลืน ปกติแลว หนี้ที่ขาดอายุ
ความนั้น หนี้ไมไดระงับไปเพียงแตกฎหมายมิใหเจาหนี้ฟองรองลูกหนี้เทานั้น เพราะฉะนั้นแมหนี้ที่
เปนประกัน ขาดอายุความฟองรองไปแลว การจํานองยังคงมีอยู ผูจํานองยังไมหลุดพนจากความรับ
ผิด
2. ปลดจํานองเปนหนังสือ เชน นาย ก. กูเงิน นาย ข. มี นาย ค. จํานองที่ดิน เปน
ประกันตอมา นาย ข. ก็ทําหนังสือปลดจํานองให นาย ค. เชนนี้จํานองก็ระงับสิ้นไป แตหนี้ระหวาง
นาย ก. กับ นาย ข. ยังมีอยูเหมือนเดิม
3. เมื่อผูจํานองหลุดพน คือ กรณีผูจํานองหลุดพนจากความรับผิดชอบ โดยนําเรื่อง
การค้ําประกันมาบังคับใชในกรณีนี้ เชน นาย ก. กูเงิน นาย ข. กําหนดชําระภายใน 1 ป โดยมี
นาย ค. จํานองที่ดินเปนประกัน ตอมาหนี้ถึงกําหนดชําระ นาย ข. ก็ไปตกลงผอนเวลาให นาย ก. โดย
นาย ค. มิไดยินยอมดวย เชนนี้ นาย ค. ผูจํานอง ยอมหลุดพนจาก ความรับผิดชอบ การจํานองที่ดิน
ของ นาย ค. ยอมระงับสิ้นไป เพราะมีเวลาการผอนเวลาชําระหนี้ใหลูกหนี้ เชนเดียวกับลักษณะค้ํา
ประกัน
4. จํานอง ระงับเมื่อถอนจํานอง เปนกรณีที่ผูรับโอนทรัพยสินซึ่งจํานอง ขอไถ
ถอน จํานองโดยเสนอราคาตามสมควรกับราคาทรัพยสินซึ่งจํานอง การจํานองก็ระงับสิ้น
ไป ถาผูรับจํานอง ยอมรับการไถถอนจํานองของผูรับโอนทรัพยสิน
5. เมื่อมีการขายทอดตลาด เปนกรณีที่ผูรับจํานองฟองบังคับจํานอง ใหศาล
นําทรัพยสินที่จํานองออกขายทอดตลาด เชนนี้เมื่อขายทอดตลาดแลวการจํานองก็ระงับสิ้นไป
6. เมื่อเอาทรัพยสินซึ่งจํานองหลุด เปนกรณีที่ผูรับจํานองไมฟองบังคับจํานองให
เอา ทรัพยสินออกขายทอดตลาด แตตองการทรัพยสินนั้น ๆ เปนของตนก็ เรียกวา เอาทรัพยจํานอง
106