Professional Documents
Culture Documents
4.
สถาบันการเงินมักจะถูกใช้เป็นสถานทีฟ่ อกเงินจากเหล่าอาชญากรทางเศรษฐ
กิจ โดยเฉพาะในประเทศทีไ่ ม่มีกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน
5. ผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจถูกกฎหมาย
มีความเป็นไปได้ที่ธุรกิจถูกกฎหมายจะถูกดึงเข้าไปสู่วงจรของการฟอกเงินข
องกลุ่มอาชญากรทางเศรษฐกิจโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น
การซื้อขายแลกเปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์ หรือการซื้อขายหุ้น เป็นต้น
6. ผลกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณของประเทศ
เป็นผลจากข้อมูลด้านเศรษฐกิจและการจัดเก็บรายได้ที่คลาดเคลื่อนไป
จึงมีผลต่อประสิทธิภาพในการพัฒนาประเทศจึงลดลง
ความเป็นมาของการฟอกเงิน (ต่อ)
การศึกษาของ Vito Tanzi ยังได้ระบุด้วยว่า การจัดสรรทรัพยากรต่างๆ
ทัว่ โลกถูกบิดเบือนไปไม่ใช่แต่เฉพาะปัจจัยด้านทุนและแรงงานเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงความน่าเชือ่ ถือของรัฐบาลสำาหรับประเทศทีไ่ ม่ให้ความร่วมมือกั
บองค์กรระหว่างประเทศและในอนาคตนี้
แนวโน้มของอาชญากรข้ามชาติทขี่ ยายตัวอย่างรวดเร็วทัว่ โลกจะก่อให้เกิดปั
ญหาการฟอกเงินตามมารุนแรงขึ้นมาก
ดังนั้น ปัญหาการฟอกเงินไม่ได้เป็นปัญหาของประเทศใดประเทศหนึ่ง
แต่เป็นปัญหาของทุกประเทศในโลก
ความเป็นมาของการฟอกเงินในประเทศไทย
ประเทศไทยได้มีกฎหมายการฟอกเงินบังคับใช้เต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 27
ตุลาคม 2543 หลังจากผ่านกระบวนการทางรัฐสภาตั้งแต่วันที่ 21
เมษายน 2542 ได้ระบุความผิดทางอาญาที่เป็นความผิดมูลฐาน 7 ฐาน
และได้มีการจัดตั้งสำานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
กฎหมายฉบับนี้ได้ให้อำานาจอย่างกว้างขวางแก่ ปปง.
ในการสำารวจแหล่งทีม่ าของทรัพย์สินส่วนบุคคลต่างๆ
ความเป็นมาของการฟอกเงินในประเทศไทย (ต่อ)
ปัจจัยที่ทำาให้เกิดการฟอกเงินในประเทศไทย มีอย่างน้อย 3 ประการ
1.
ประเทศไทยมีขนาดเศรษฐกิจนอกกฎหมายขนาดใหญ่และส่งผลกระทบทางเ
ศรษฐกิจ สังคม และการเมืองค่อนข้างสูง
2. การคอร์รัปชันของราชการและนักการเมืองมีอยู่ในระดับสูง
3. ปัจจัยแวดล้อมทางภูมิศาสตร์เป็นใจหลายด้าน
นับตั้งแต่ทำาเลทีต่ ั้งของไทยเหมาะทีจ่ ะเป็นแหล่งอาชญากรรมที่ผิดกฎหมาย
รูปแบบของการฟอกเงิน
วิวัฒนาการของเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์
ทำาให้การเคลื่อนย้ายเงินทุนเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ประกอบกับสถาบันต่างๆ ก็แข่งขันกันอำานวยความสะดวกให้กับลูกค้า
ทำาให้การโอนเงินเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว
และไม่ค่อยมีการตรวจสอบถึงแหล่งที่มาของเงินโอน
ส่วนรูปแบบการฟอกเงินในเอเชียนั้นยังมาสลับซับซ้อนมากนัก
ส่วนใหญ่เป็นการฟอกเงินผ่านธนาคารของประเทศในเอเชีย
การฟอกเงินผ่านธนาคารและสถาบันการเงิน
การฟอกเงินผ่านธนาคารและสถาบันการเงิน
เป็นวิธีที่สะดวกและง่าย การฟอกเงินในประเทศไทยก็นิยมใช้วิธนี ี้
ทำาให้ดูซบ ั ซ้อนโดยการโอนเงินไปประเทศอื่นหรือบัญชีอื่น หลายๆ
ทอด แล้วกลับมาที่บัญชีต้น เพื่อกลบเกลื่อนแหล่งที่มาของเงิน
เมื่อเป็นที่สงสัยอาจย้ายธนาคาร หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นทำาแทน
วิธกี ารฟอกเงินผ่านธนาคารและสถาบันการเงินมี 6 วิธี ดังนี้
การฟอกเงินผ่านธนาคาร
1. วิธกี ารฝากเงิน
2. วิธกี ารโอนเงิน
3. วิธกี ารซื้อแคชเชียร์เช็ค ตั๋วแลกเงิน และเช็คเดินทาง
4. วิธสี งั่ จ่ายเช็ค
5. วิธกี ารกู้เงิน
6. วิธกี ารทำาบัตรเครดิต
วิธีการฝากเงิน
อาชญากรจะเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารภายในประเทศ
แล้วโอนเงินระหว่างประเทศ โดยใช้ระบบการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์
โดยจะไปเปิดบัญชีที่ต่างประเทศไว้เอง หรือโอนเข้าบัญชีผู้อื่น
เงินที่นำามาฟอกส่วนใหญ่เป็นเงินที่ผดิ กฎหมาย
โดยเงินที่ฟอกผ่านธนาคารแล้ว ก็จะโอนกลับไปสู่อาชญากร
เงินที่ผิดกฎหมายก็จะแปรสภาพเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย
วิธีการโอนเงิน
วิธีการซือ้ แคชเชียร์เช็ค ตั๋วแลกเงิน และเช็คเดินทาง
อาชญากรที่ได้เงินมาจากการทำาผิดกฎหมายจะนำาเงินสดมาแปลงเป็นแค
ชเชียร์เช็ค ตั๋วแลกเงิน และเช็คเดินทาง
โดยอาจจะมาซือ้ ครั้งละหลายฉบับที่ธนาคาร
เพื่อความง่ายต่อความสะดวกในการพกพา และสามารถนำาเงินไปขึ้นเงิน
ณ ธนาคารปลายทางที่ระบุในเอกสาร
และโดยที่ธนาคารต้นทางมักไม่ค่อยสอบถามรายละเอียดของที่มาของเงิ
นว่ามาจากไหน
วิธีสั่งจ่ายเช็ค
ทำาการเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารใดธนาคารหนึ่ง
แล้วทำาการสัง่ จ่ายเช็ค เพื่อนำาไปซื้อทรัพย์สนิ ที่มีค่าสูง เช่น ที่ดิน
อาคาร รถยนต์ หรือนำาไปชำาระหนี้ที่มีภาระผูกพันกับเจ้าหนี้
ทั้งธนาคาร และบุคคลทั่วไป ซึ่งเมื่อผูถ้ ือเช็คนำาเช็คไปขึ้นเงิน
หรือเข้าบัญชีใหม่กับธนาคาร ก็จะสามารถแปลงเป็นเงินที่สะอาดได้
วิธีการกู้เงิน
ทำาทีขอกู้เงินจากธนาคารไปเป็นจำานวนหนึ่ง
นัยว่าเพื่อใช้จ่ายในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
หลังจำาหน่ายยาเสพติดให้แล้ว ก็นำาเงินที่ได้รับมา บวกกับเงินที่กู้ไป
แล้วเอามาชำาระคืนธนาคารก็เป็นอันเสร็จสิ้นการฟอกเงินสกปรกให้เป็
นเงินสะอาด
วิธีการทำาบัตรเครดิต
อาชญากรจะไปติดต่อกับธนาคาร เพื่อขอทำาบัตรเครดิต
โดยขอทำาบัตรทอง ซึ่งได้วงเงินค่อนข้างสูง
วิธกี ารนี้อาชญากรจะนำาหลักฐานการเดินบัญชีที่มีเงินฝากสูง
เดินบัญชีสมำ่าเสมอมาเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาอนุมัติให้กับธ
นาคาร เมื่อธนาคารอนุมัติก็จะนำาบัตรไปใช้ซื้อสินค้าที่มีราคาสูง
หรือเบิกเงินสดล่วงหน้าที่ธนาคารที่ทำาบัตร หรือกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็ม
เมื่อถึงรอบการเรียกเก็บเงิน
อาชญากรก็จะนำาเงินที่ได้รับมาจากการกระทำาผิดกฎหมาย
นำามาชำาระให้กับธนาคาร ก็กลายเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย
ธนาคารต่างชาติในข่ายความเสี่ยงสูง
American International Bank (จดทะเบียนในอันติกวั )
British Bank of Latin America (จดทะเบียนในบาฮามาส)
British Trade and Commerce Bank (จดทะเบียนในโดมินิกา)
Caribbean American Bank (จดทะเบียนในอันติกัวและบาร์บูดา)
European Bank (จดทะเบียนในวานูอาตู)
Federal Bank (จดทะเบียนในบาฮามาส)
Guardian Bank and Trust (Cayman) Ltd (จดทะเบียนในหมู่เกาะเคย์แมน)
Hanover Bank (จดทะเบียนในอันติกวั และบาร์บูดา)
MA Bank (จดทะเบียนในหมู่เกาะเคย์แมน)
Overseas Development Bank and Trust (จดทะเบียนในโดมินิกา)
Swiss American Bank (จดทะเบียนในอันติกวั และบาร์บูดา)
Swiss American National Bank (จดทะเบียนในอันติกัวและบาร์บูดา)
รูปแบบของการฟอกเงินในประเทศไทย
นอกเหนือจากการผ่านระบบธนาคารทีส่ ำาคัญมีดังนี้
2. ระบบโพยก๊วน
3. การใช้ใบอินวอยซ์ (Invoice) หรือแอล.ซี. (Letter of Credit) ปลอม
4. ตลาดหุ้น
5. การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
6. การฟอกเงินโดยการจัดตั้งธุรกิจเงินสดขึ้นมาบังหน้า
7. ฟอกเงินในโลกไซเบอร์
ระบบโพยก๊วน
เป็นวิธีการส่งเงินหรือโอนเงินในแบบดั้งเดิมของชาวจีน
ระบบโพยก๊วนถูกเรียกขานว่าเป็นเหมือนกับธนาคารใต้ดิน
ไม่มีชื่อบันทึกให้รู้ว่าใครเป็นผู้โอนอย่างเป็นทางการ
ให้ความสะดวกและคิดค่าธรรมเนียมถูกกว่าระบบธนาคาร
มีพัฒนาการมาจากการที่คนจีนอพยพต้องการจะส่งเงินกลับไปให้พ่อแม่พี่น้อ
งที่ยังอยู่ในแผ่นดินใหญ่
ระบบที่เอื้ออำานวยต่อการหลีกเลี่ยงภาษี
และการทำาประโยชน์ทางด้านส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยน
เพราะทางราชการไม่สามารถตรวจสอบระบบการซื้อขายแลกเปลี่ยนและควบ
คุมการปริวรรตเงินตราได้ จึงเรียก เราเรียกว่า ตลาดมืด (Black Market)
ระบบโพยก๊วน
การใช้ใบอินวอยซ์ (Invoice)หรือแอล.ซี.(Letter of Credit) ปลอม
เป็นการโอนเงินโดยผ่านหลักฐานเท็จทางการค้าระหว่างประเทศ
เช่นการกรอกใบอินวอยซ์ปลอม
เพื่อแสดงว่าได้มีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาจากต่างประเทศ
หรือได้มีการส่งสินค้าออกไปนอกประเทศ โดยไม่ได้ส่งมอบสินค้ากันเลย
เพื่อเป็นข้ออ้างในการโอนเงิน
วิธีนี้ยังนำาไปใช้ในการโกงภาษีมูลค่าเพิ่มของประเทศไทยด้วย
ตลาดหุ้น
ช่วงทีเ่ ศรษฐกิจมีการขยายตัวค่อนข้างสูง
ส่งผลให้การซื้อขายแต่ละวันมีมูลค่าสูงมาก
และมีผู้มาซื้อขายหลักทรัพย์เป็นจำานวนมาก
ทำาให้ยากที่จะตรวจสอบทีม่ าทีไ่ ปของเงินเหล่านี้
หุ้นทีม
่ ีกจิ การไม่ดี (หุ้นเน่า)
มักเป็นหุ้นทีเ่ งินสกปรกต้องการเข้ามาซื้อเพื่อเป็นเจ้าของกิจการ
และใช้บริษัทเหล่านั้นเป็นแหล่งฟอกเงินสกปรกให้สะอาด
การทำาธุรกรรมผ่านบริษัททีม ่ ีรายชือ่ ในตลาดหุ้น
แต่ไม่ได้ทำาธุรกิจอื่นใดนอกจากการฟอกเงิน เช่น บริษัทวายบีเอ็ม แม็กเน็กซ์
อินเตอร์เนชันแนล ในตลาดหุ้นโตรอนโต เป็นต้น
การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
สามารถฟอกเงินครั้งหนึ่งๆ ได้เป็นปริมาณมาก
และมีการซื้อขายเปลี่ยนมือไปได้อีกหลายทอด
ในการโอนและเปลี่ยนมือนี้จะมีการปั่นราคาทีด่ ินขึ้นไปจนสูง
วิธีการนี้นอกจากจะมีผลต่อการฟอกเงินแล้ว
ยังมีผลต่อราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึน้ เกินความเป็นจริงหลายเท่าตัวด้วย
การฟอกเงินโดยการจัดตั้งธุรกิจเงินสดขึ้นมาบังหน้า
ตลาดโลกที่ไร้กฎเกณฑ์การควบคุม ทำาให้ง่ายต่อการทำาธุรกิจที่น่าสงสัยต่างๆ
การดำาเนิน และปฏิบตั ิการต่างๆ ถูกปกปิด
การเพิ่มขึ้นของธนาคารอิเล็กทรอนิกส์
และระบบการชำาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
ได้เปิดโอกาสทองให้แก่นักฟอกเงิน
เนื่องจากลูกค้าสามารถเป็นใครก็ได้ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ทตี่ ั้งอยู่ทใี่ ดก็ได้ใ
นโลก
มีบริการมากมายทีเ่ สนอโดยบริษัทผู้ให้บริการต่างๆ
เพื่อคนต่างด้าวผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท
แน่นอนว่าอินเตอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัย
และตัวช่วยสำาคัญในการเติบโตขึน้ ของศูนย์การเงินต่างด้าวทีไ่ ม่มที ี่มาที่ไปแน่
ฟอกเงินในโลกไซเบอร์ : การฟอกเงินแห่งศตวรรษที่ 21
กรณีศึกษา : สหรัฐอเมริกา
มาตรการต่างๆ
ทีธ่ นาคารของสหรัฐใช้เพื่อป้องกันการฟอกเงินนั้นไม่ได้เป็นเพียง
การทำาตามกฎระเบียบเท่านั้น แต่เป็นการป้องกันผลประโยชน์ของตนเองด้วย
ธนาคารทีถ่ ูกเจ้าหน้าที่กำากับดูแล หน่วยงานปราบปราม หรือสื่อมวลชน
กล่าวหาว่าฟอกเงิน ต้องประสบปัญหาทางด้านชือ่ เสียงอย่างร้ายแรง
การทีธ่ นาคารใช้ความรอบคอบทำาให้ธนาคารสามารถปฏิบตั ิตามกฎหมายแล
ะระเบียบข้อบังคับทีม่ ีอยู่
และลดโอกาสทีธ่ นาคารจะตกเป็นเหยื่อของการฟอกเงิน
และจะผลกระทบใดๆ ต่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างธนาคารกับลูกค้า
การแก้ไขและป้องกันการฟอกเงินของธนาคาร
2. ขั้นตอนในการสอดส่อง : ธนาคารต้องมีระบบภายในเพื่อระบุชี้และสอดส่อง
การทำาธุรกรรมทางการเงิน ทีน่ ่าสงสัย กิจกรรมที่น่าสงสัยได้แก่ การทำาธุร
กรรมซึง่ ไม่สามารถระบุว่า เป็นไปเพื่อกิจกรรม ที่ถกู กฎหมายอะไร
โดยธนาคารควรทบทวนการทำาธุรกรรม ว่ามีมูลค่าเกิน
กว่าเพดานทีต่ ั้งไว้สำาหรับบริการประเภทนั้นๆ
และธนาคารควรจับตาดูเมื่อมีการดำาเนินกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเพิ่มขึน้ จน
ผิดสังเกต
การแก้ไขและป้องกันการฟอกเงินของธนาคาร
5. หน่วยต่อต้านการฟอกเงิน :
ธนาคารควรจัดตั้งแผนกที่เป็นอิสระที่ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่
ที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีและมีจำานวนเพียงพอเพื่อทำาหน้าที่จัดทำานโ
ยบายและขั้นตอนใน
การต่อต้านการฟอกเงินของธนาคารและนำานโยบายและขั้นตอนเหล่านั้
นมาบังคับใช้ โดยแผนกเหล่านี้ต้องเป็นอิสระจากแผนกที่ทำาธุรกิจ
และเมื่อมีกิจกรรมที่น่าสงสัยเกิดขึ้น
ควรแจ้งให้หน่วยต่อต้านการฟอกเงินทราบ
เพื่อจะได้มีการทำารายงานตามที่กฎหมายกำาหนดไว้
กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ส่วนที่ 1
ความเป็นมาและความสำาคัญของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามก
ารฟอกเงิน
ส่วนที่ 2
การดำาเนินการป้องกันและปรายปกรามการฟอกเงินของประเทศต่างๆ
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ทไี่ ทยจะได้รับ
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัตปิ ้องกันและ
ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
ส่วนที่ 4
ปัญหาและอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอก
ส่วนที่ 1
ความเป็นมาและความสำาคัญของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ
ฟอกเงิน
ที่มาของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
อนุสัญญาและข้อตกลงระหว่างประเทศ
ความผิดมูลฐาน
ส่วนที่ 1
ความเป็นมาและความสำาคัญของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ
ฟอกเงิน (ต่อ)
ที่มาของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ความเจริญทางเทคโนโลยี มีผลทำาให้รูปแบบอาชญากรรมมีความซับซ้อนขึ้นไป เปลี่ยนแปลง
จากอาชญากรรมพื้นบ้าน ไปสู่อาชญากรรมข้ามชาติ
มุ่งหวังให้ได้เงินจำานวนมหาศาลเป็นผลตอบแทน
เงินเหล่านี้จะถูกนำาไปผ่านกระบวนการเปลีย่ นสภาพ ให้กลายเป็นเงินสะอาด
และเงินได้จากการดำาเนินการเหล่านั้นจะย้อนกลับไปเป็นเงินทุน
เพื่อประกอบอาชญากรรมขึ้นมาอีก เป็นวงจรการประกอบอาชญากรรม ที่ยากต่อการจับกุม
ปราบปราม
บัญญัติกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินออกมาบังคับใช้
มีหลักเกณฑ์แตกต่างจากกฎหมายอาญา
ในเรื่องที่เกี่ยวกับการดำาเนินการทางทรัพย์สินอยู่หลายประการ เช่น
ไม่จำาเป็นต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนว่าจำาเลยกระทำาความผิด
เพียงแต่พิสูจน์ให้เห็นว่ามีเหตุอนั ควรเชื่อได้ว่าทรัพย์ที่จะต้องถูกดำาเนินการนั้น
มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานตาม และการผลักภาระการพิสจู น์ให้แก่จำาเลย
ส่วนที่ 1
ความเป็นมาและความสำาคัญของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ
ฟอกเงิน (ต่อ)
อนุสญ
ั ญาและข้อตกลงระหว่างประเทศ
องค์การสหประชาชาติกำาหนดให้มีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการลักลอบค้ายาเ
สพติดและวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ. 1988 (Vienna Convention) ขึ้น
หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “อนุสญ ั ญากรุงเวียนนา ค.ศ.1988”
ได้กำ าหนดมาตรการสำาคัญในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เช่นมาตรการริบทรัพย์สิน
(Confistation) การส่งผูร้ ้ายข้ามแดน (Extradition) การช่วยเหลือทางกฎหมายซึง่ กันและกัน
(Mutual Legal Assistance) การโอนการดำาเนินคดี (Transfer of Proceedings)
การส่งมอบยาเสพติดภายใต้การควบคุม (Controlled Delivery) ตลอดจนการป้องกันการฟอกเงิน
(Money Laundering) เป็นต้น
ส่วนที่ 1
ความเป็นมาและความสำาคัญของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ
ฟอกเงิน (ต่อ)
อนุสัญญาและข้อตกลงระหว่างประเทศ (ต่อ)
ก่อให้เกิดผลดีดังนี้
ทำาให้การปราบปรามองค์กรอาชญากรรมได้ผลดี สามารถจับตัวผู้บงการอยู่ เบื้องหลังได้
เป็นการมุ่งกระทำาต่อแรงจูงใจของการกระทำาความผิด โดยการริบทรัพย์สิน
หรือผลประโยชน์ที่ได้จากการค้ายาเสพติดและการฟอกเงินโดยผิดกฎหมายมาเป็นของรัฐ
ส่งเสริมความร่วมมือและความเข้าใจอันดีในการดำาเนินการปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติดแ
ละการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินระหว่างประเทศ
ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศในด้านกฎหมาย อันจะนำาไปสู่
ความร่วมมือด้านอื่นๆต่อไปด้วย
ทำาให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ในด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดการลัก
ลอบค้ายาเสพติด และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
และการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินระหว่างประเทศ
โดยมีมาตรการใหม่ๆในภายภาคหน้า เพื่อที่จะเอาผิดหรือดำาเนินคดีกับผู้กระทำาความผิดเหล่านี้
ส่วนที่ 1
ความเป็นมาและความสำาคัญของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ
ฟอกเงิน (ต่อ)
อนุสัญญาและข้อตกลงระหว่างประเทศ (ต่อ)
อนุสญั ญาและข้อตกลงระหว่างประเทศอื่นๆ
ที่บรรดาหน่วยงานระหว่างประเทศได้เสนอมาตรการเรียกร้องหรือกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ
ดำาเนินการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินจากการประกอบอาชญากรรม เช่น
• ข้อเสนอ 40 ประการ (40 Recommendations) ของ Financial Action Task Force
(FATF)
• แนวทางของสภาประชาคมยุโรป (Directive of the council of the European
Communities)
• Council of Europe Convention
• คำาประกาศของคณะกรรมการ Basle
ส่วนที่ 1
ความเป็นมาและความสำาคัญของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ
ฟอกเงิน (ต่อ)
ความผิดมูลฐาน
หลักเกณฑ์ในการกำาหนดความผิดมูลฐาน
(1) ความผิดที่มีรูปแบบและวิธีการดำาเนินงานที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม
(2) ความผิดโดยที่ลักษณะของการประกอบอาชญากรรมทำาให้ได้รับผลตอบแทนสูง
(3) ความผิดที่เป็นการกระทำาที่สลับซับซ้อน ยากแก่การปราบปราม
(4) ความผิดที่มีลักษณะเป็นภัยต่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ
ส่วนที่ 1
ความเป็นมาและความสำาคัญของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ
ฟอกเงิน (ต่อ)
ความผิดมูลฐาน (ต่อ)
ความผิดมูลฐานในประเทศไทย
1) ความผิดเกีย่ วกับยาเสพติด 5) ความผิดตอตำาแหนงหนาที่ราชการ
2) ความผิดเกีย่ วกับเพศตามประมวลกฎหมายอาญา หรือความผิดตอตำาแหนงหน
ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการป้ าที่ในการยุตธิ รรม
องกันและปราบปรามการค้าหญิงและเด็ก
หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้ 6) ความผิดเกี่ยวกับการกรรโชก
องกันและปราบปรามการค้าประเวณี หรือรีดเอาทรัพยที่กระทำาโดยอ
างอำานาจอั้งยี่ หรือซ่องโจร
3) ความผิดเกีย่ วกับการฉ้อโกงประชาชน
7) ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากร
4) ความผิดเกี่ยวกับการยักยอกหรือฉ้
อโกงหรือประทุษร้ายต่อทรัพย์ 8) ความผิดเกี่ยวกับการกอการรา
หรือกระทำาโดยทุจริต
ส่วนที่ 2 การดำาเนินการป้องกันและปรายปกรามการฟอกเงินของประเทศต่างๆ
ประเทศสหรัฐอเมริกา
วัตถุประสงค์เพื่อการปราบปรามแหล่งเงินทุนขององค์กรก่อการร้ายข้ามชาติ
ประกาศใช้เมือ่ เดือนตุลาคม 2001 หลังจากเหตุการณ์ระเบิดตึก World Trade เมื่อวันที่ 11
กันยายน 2001
ในส่วนของการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
กฎหมายฉบับนี้ได้เพิ่มอำานาจให้แก่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลัง
เพื่อดำาเนินการในส่วนของเงินได้ขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ผ่านทางสถาบันการเงิน
ส่วนที่ 2 การดำาเนินการป้องกันและปรายปกรามการฟอกเงินของประเทศต่างๆ (ต่อ)
ประเทศออสเตรเลีย
มีระบบกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่สมบูรณ์มากที่สุดในโลก
แบ่งออกเป็น
– Customs Act 1901 เป็นกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ให้รัฐมีอำานาจในการยึดเช็ค
หรือทรัพย์สินอื่นใด
รวมทั้งให้อำานาจศาลในการปรับให้สูงเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับจากการซื้อขายยาเสพติ
ด
– 2) Proceed of Crime Act 1987 เป็นกฎหมายที่กำาหนดให้ศาลในการสั่งยึดทรัพย์สินที่ใช้
หรือเกี่ยวกับการกระทำาความผิดรวมตลอดไปถึงดอกผลที่เกิดจากเงินได้เหล่านั้นด้วย
– Telecommunication Act 1991
เป็นกฎหมายที่ให้มกี ารนำามาตรการพิเศษมาใช้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อความเหมาะสมกับลั
กษณะของความผิด
ได้แก่การดักฟังทางโทรศัพท์และการเข้าถึงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกต่างๆ
– FTR Act 1988
เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการรายงานธุรกรรมทางการเงินของประเทศออสเตรเลียโดยรายงานธุ
รกรรมเงินสดและธุรกรรมทางการเงินต่างๆ
และธุรกรรมที่มเี หตุอันควรสงสัยไปยังหน่วยงาน Austrac
ส่วนที่ 2 การดำาเนินการป้องกันและปรายปกรามการฟอกเงินของประเทศต่างๆ
(ต่อ)
ประเทศมาเลเซีย
Anti-Money Laundering Act 2001
ให้อำานาจในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินอย่างกว้างขวาง
เพราะได้กำาหนดความผิดมูลฐานไว้ถึง 119 ความผิดมูลฐาน
เด่นอีกประการหนึ่งก็คือ การให้ LOFSA
(สำานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของมาเลเซีย)
มีอำานาจในการพัฒนาการเปิดสถาบันการเงินใหม่
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับ
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ
ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับ จากพระราชบัญญัติป้องกันและ
ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
ประเทศไทยสามารถเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการ
ลักลอบค้ายาเสพติดและวัตถุทอี่ อกฤทธิ์ตอ่ จิตและประสาท ค.ศ. 1988
เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศในการให้ความร่วมมือป้องกันและปราบปรามก
ารฟอกเงิน
ก่อให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
ตัดวงจรการก่ออาชญากรรม
พัฒนามาตรการทางกฎหมายเพื่อการปราบปรามการกระทำาความผิดให้มีประสิ
ทธิภาพมากขึ้น
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รบั
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
2542
ผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม
การฟอกเงิน พ.ศ. 2542
ผลกระทบด้านการบริหารประเทศ
ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
ผลกระทบด้านการเมือง
ผลกระทบด้านการใช้กฎหมาย
ผลกระทบกับสถาบันการเงิน
ผลกระทบกับประชาชน
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รบั
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
2542 (ต่อ)
ผลกระทบด้านการบริหารประเทศ
ผลกระทบทางด้านดี
• ประเทศไทยสามารถเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการลักลอบการค้ายาเสพติ
ดและวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ. 1988
โดยประเทศไทยจะได้รับความร่วมมือและช่วยเหลือในด้านต่างๆ
รวมทั้งยังเป็นที่ยอมรับของอารยะประเทศอีกด้วย
• สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมโลก
• สร้างความมั่นคงทางด้านการเมืองการปกครองของประเทศ
• ค่าใช้จา่ ยในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของรัฐบาลก็จะลดลง
• รัฐบาลมีรายได้ที่จะนำาไปพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศได้เพิ่มมากขึ้น
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รบั
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
2542 (ต่อ)
ผลกระทบด้านการบริหารประเทศ (ต่อ)
ผลกระทบในด้านไม่ดี
1. รัฐบาลต้องเสียค่าใช้จา่ ยเพิ่มมากขึ้นในการจัดตั้งสำานักงานป้องกันและปราบปรามการ
ฟอกเงิน และในการดำาเนินงานของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง
2. ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจะลดลงหากพนักงาน เจ้าหน้าที่
ที่เกี่ยวข้องใช้อำานาจในทางที่มิชอบ
3. หากขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดีเกี่ยวกับภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นจากกฎหมายว่าด้วยการป้อ
งกันและปราบปรามการฟอกเงินจะทำาให้เกิดกระแสต่อต้านขึ้น
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รบั
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
2542 (ต่อ)
ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
ผลกระทบทางด้านดี
1. เมื่อเงินนอกระบบและอาชญากรรมถูกปราบปรามจะส่งผลดีถึงนักลงทุนทั่วไป
โดยเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
2. การประกอบธุรกิจแข่งขันเป็นไปอย่างมีความเป็นธรรม
3. ปัญหาเงินเฟ้อลดลง และลดปัญหาราคาสินค้าสูง
4. ลดการกีดกันทางการค้าจากประเทศต่างๆ
5. สร้างความมั่นคงแก่ระบบทางการเงินของประเทศไทย
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รบั
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
2542 (ต่อ)
ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ (ต่อ)
ผลกระทบทางด้านไม่ดี
• เงินจำานวนมากที่เคยเข้ามาหมุนเวียนเพือ่ ที่จะนำามาฟอกเงินภายในประเทศจะมีจำานวนล
ดลง ส่งผลให้ปริมาณเงินที่ไหลเข้ามาในประเทศมีจำานวนลดน้อยลง
• เกิดการชะลอตัวของการลงทุนจากภายในประเทศและจากต่างประเทศ
เนื่องจากขั้นตอนที่มากขึ้นจากมาตรการต่างๆ
• ทำาให้ต้นทุนในการลงทุนสูงขึ้นเนื่องจากต้องมีค่าใช้จา่ ยที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกรรม
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รบั
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
2542 (ต่อ)
ผลกระทบด้านการเมือง
ผลกระทบทางด้านดี
1. ส่งเสริมการปราบปรามการทุจริต
หรือการประพฤติมิชอบในวงราชการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการเมืองไทย
3. สร้างความเป็นธรรมในการเลือกตั้ง และการแข่งขันทางการเมือง
ผลกระทบทางด้านไม่ดี
1. อาจเกิดการขัดแย้งทางความคิด
ในการพิจารณากฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินซึ่งจะเป็นประเด็
นทางการเมืองก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นได้
2. อาจมีการใช้มาตรการฟอกเงินเป็นเครื่องมือในการกำาจัดศัตรูในทางการเมือง
หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องให้ได้รับผลกระทบได้
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รบั
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
2542 (ต่อ)
ผลกระทบด้านการใช้กฎหมาย
ผลกระทบทางด้านดี
1. สามารถดำาเนินการทางกฎหมายกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำาความผิดฐานฟอกเงินได้อย่างมี
ประสิทธิภาพมากขึน้
2. กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
กำาหนดให้สามารถใช้มาตรการริบทรัพย์ดำาเนินการกับทรัพย์สนิ ที่เกี่ยวกับการกระทำาความผิด
แม้ว่าจะมีการดำาเนินการกับทรัพย์สนิ นั้นตามกฎหมายอื่นอยู่ก่อนแล้วได้
3. เป็นกฎหมายทีเ่ สริมมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการประกอบอาชญากรรมต่างๆ
ของกฎหมายอื่นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. การดำาเนินคดีเกี่ยวกับความผิดฐานฟอกเงินจะมีความสะดวกและรวดเร็วมากขึน้ เนื่องจากกฎหมา
ยได้ใช้มาตรการในทางเพ่งดำาเนินการกับทรัพย์สิน
จึงเป็นการกำาหนดภาระการพิสูจน์การได้มาซึ่งเงินหรือทรัพย์สินไปยังผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สนิ ผู้มี
ส่วนได้เสีย หรือผู้รับประโยชน์ในทรัพย์สินนั้น
5. ได้รับความร่วมมือและความช่วยเหลือซึง่ กันและกันทางด้านกฎหมายจากนานาประเทศจากการเป็
นภาคีสมาชิกของอนุสัญญาเวียนนา
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รบั
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
2542 (ต่อ)
ผลกระทบด้านการใช้กฎหมาย (ต่อ)
ผลกระทบทางด้านไม่ดี
1. อาจมีผลกระทบกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ซึ่งอาจทำาให้เกิดการเข้าใจผิด
ที่ผดิ พลาดในเจตนารมณ์ของกฎหมาย
ซึ่งอาจส่งผลให้การบังคับใช้ของกฎหมายนั้นไม่มีประสิทธิภาพ
เนื่องจากอาจมีการต่อต้านของประชาชน
2. การสันนิษฐานของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ต้
องสงสัยให้เป็นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำาความผิด
ซึ่งข้อสันนิษฐานนี้อาจไม่สอดคล้องกับหลักกฎหมายบางประการ
คือต้องสันนิษฐานไว้กอ่ นเลยว่าจำาเลยบริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะพิจารณาพิพากษาถึงที่สุด
3. เมือ่ กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมีบทบัญญัติให้สามารถนำามาตรการ
ทางทรัพย์สินไปใช้กับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำาความผิดในความอื่นได้
ดังนั้นหากไม่มีการประสานงานหรือทำาความตกลงกันดีพอ จะทำาให้เกิดการใช้กฎหมายซำ้าซ้อน
ซึ่งจะก่อให้เกิดการขัดแย้งระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบได้
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รบั
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
2542 (ต่อ)
ผลกระทบกับสถาบันการเงิน
ผลกระทบทางด้านดี
1. การเพิ่มขัน้ ตอนการปฏิบัติของผู้มีหน้าที่รายงานการทำาธุรกรรมซึ่งอาจเป็นเรื่องยุ่งยากม
ากขึ้น เป็นการเสริมสร้างระบบการตรวจสอบ
และการป้องกันการทุจริตที่กระทำาโดยลูกค้าหรือพนักงานสถาบันนั้นๆ เอง
ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึน้
2. มีการแข่งขันที่เป็นธรรมในภาคธุรกิจ
3. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สถาบันการเงิน
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รบั
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
2542 (ต่อ)
ผลกระทบกับสถาบันการเงิน (ต่อ)
ผลกระทบทางด้านไม่ดี
1. เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จา่ ยในแต่ละส่วนของขัน้ ตอนของการปฏิบัติงานที่เพิ่มขึ้น
2. เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นผลสืบเนื่องจากการปฏิบัติตามขั้นตอน
3. รายรับอาจจะลดลงเนื่องจากการประกอบธุรกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
เพราะขัน้ ตอนที่เพิม่ มากขึ้น
และบางส่วนอาจจะได้รับผลกระทบเนือ่ งจากไม่มีผู้นำาเงินจำานวนมากที่ได้จากการฟอกเ
งินมาทำาธุรกรรมอีก
4. การประกอบธุระกรรมอาจจะลดลงเมื่อมีการกำาหนดวงเงินที่จะต้องรายงาน
5. ระยะเวลาในการปฏิบัติงานของสถาบันการเงินอาจจะเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากมีภาระหน้าที่เพิ่มขึ้นในแต่ละขั้นตอน
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รบั
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
2542 (ต่อ)
ผลกระทบกับประชาชน
ผลกระทบทางด้านดี
1. ทำาให้คณุ ภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นโดยใช้งบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติ
ดหรืออาชญากรรมที่ลดน้อยลง
มาเพิ่มในส่วนของสาธารณสุขและการศึกษาของประชาชน
2. ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้น
3. สามารถบริโภคสินค้าในราคาที่เป็นธรรมมากขึน้
เนื่องจากไม่มีการนำาเงินนอกระบบมาลงทุนเพือ่ ผูกขาดการค้า
ทำาให้การดำาเนินธุรกิจการค้าเป็นไปอย่างเสรี
ส่วนที่ 3 ประโยชน์ที่ไทยจะได้รบั
และผลกระทบอันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.
2542 (ต่อ)
ผลกระทบกับประชาชน (ต่อ)
ผลกระทบทางด้านไม่ดี
• อาจกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนบ้าง
ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2542 บัญญัติไว้
• ประชาชนมีภาระค่าใช้จา่ ยเพิ่มมากขึ้น
ตามขัน้ ตอนที่เพิ่มมากขึน้ จากมาตรการของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม
การฟอกเงิน
• บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เสียผลประโยชน์
จะกระทำาการต่อต้านไม่ปฏิบัติตามจนถึงการหาวิธีหลบเลี่ยงหรือหาช่องว่างของกฎหมา
ยเพือ่ ให้ได้รับผลประโยชน์เช่นเดิม
• หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขาดความพร้อม
ไม่มีการประชาสัมพันธ์ทำาความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง
จะทำาให้ประชาชนไม่เข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของกฎหมายและอาจตื่นตระหนกได้
ส่วนที่ 4 ปัญหาและอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ปัญหาและอุปสรรคในด้านกฎหมายที่บังคับใช้
ปัญหาภายในองค์กร ซึ่งนำาไปสู่อุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมาย
ทัศนคติของประชาชน
ต่อการดำาเนินงานของสำานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ส่วนที่ 4 ปัญหาและอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
(ต่อ)
ปัญหาและอุปสรรคในด้านกฎหมายที่บังคับใช้
2. ปัญหาและอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายในส่วนของความผิดมูลฐาน
มักจะถูกมองจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยว่าเป็นการกระทำาที่กระทบสิทธิ เสรีภาพของบุคคล
ปปง.ควรสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนโดยทั่วไป ผ่านสื่อต่างๆ
ความผิดมูลฐาน 8 ความผิดมูลฐาน นับว่าน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับความผิดมูลฐานของต่างประเทศ
• ประเทศสหรัฐอเมริกาได้กำาหนดความผิดมูลฐานกว่า 200 ความผิดมูลฐาน
• ประเทศออสเตรเลีย มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการฟอดเงินอยู่ 4
ฉบับ จากการศึกษาพบว่าความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงินของออสเตรเลีย
ไม่ได้กำาหนดความผิดมูลฐานไว้โดยตรงและชัดแจ้ง
• ประเทศฮ่องกงกำาหนดความผิดมูลฐานของการฟอกเงินไว้อย่างกว้างๆ คือ
ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำาความผิดโดยไม่ได้ระบุความผิดฐานต่างๆที่ชัดเจน
เพียงแต่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำาความผิด ก็มีความผิดฐานฟอกเงินแล้ว
• ประเทศไต้หวัน กำาหนดความผิดมูลฐานแบบกว้างๆ
ครอบคลุมความผิดทุกประเภทที่มีอตั ราโทษจำาคุกขั้นตำ่าตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป
ส่วนที่ 4
ปัญหาและอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
(ต่อ)
ปัญหาและอุปสรรคในด้านกฎหมายที่บงั คับใช้ (ต่อ)
2. ปัญหาเกี่ยวกับความรูค้ วามเข้าใจเกีย่ วกับกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอ
กเงิน
นับตั้งแต่ปี 2542-2544
เคยมีการจัดฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่ผู้เกีย่ วข้องกับการปฏิบัติงานตามกฎหมายดังกล่าว
มีการจัดบรรยายเผยแพร่ความรูแ้ ก่สถาบันการเงิน และประชาชนทั่วไปหลายครั้ง
แต่เนื่องจากกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นกฎหมายใหม่
ผูเ้ ชี่ยวชาญในเรื่องนี้จึงมีจำานวนไม่มากนัก งานค้นคว้าวิจับที่เกี่ยวข้องมีจำานวนน้อย
เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานยังไม่คุ้นเคยกับกฎหมายลักษณะนี้
นำาไปสู่ข้อขัดข้องต่างๆ ในการดำาเนินการตามกฎหมาย
• ปัญหาเรื่องข้อโต้แย้งของกฎหมาย
• ปัญหาเรื่องขอบเขตอำานาจหน้าที่
• ปัญหาเกี่ยวกับความเข้าใจ
• ปัญหาเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจของเจ้าพนักงานผูบ้ ังคับใช้กฎหมาย
ส่วนที่ 4
ปัญหาและอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
(ต่อ)
ปัญหาภายในองค์กร ซึ่งนำาไปสู่อุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมาย
2. ถ้าเปรียบสำานักงานป้องกันและปรายปรามการฟอกเงินเป็นเครื่องจักร
ถ้าฟันเฟืองเกิดหมุนกลับ หรือหยุดทำางานจะส่งผลต่อการทำางานของเครื่องจักรทันที
ปัญหาเรื่องเงินสินบนจากการทำางานซึ่งก่อให้เกิดการมองสำานักงานป้องกันและปราบป
รามการฟอกเงินในทางลบจากทั้งภายนอก และจากบุคคลภายใน
จากภายนอกมองว่า เงินสินบนจากการทำางาน
ทำาให้เกิดแรงจูงใจต่อเจ้าหน้าที่ในการดำาเนินการต่อทรัพย์สินให้ได้จำาน
วนมาก เพื่อที่จะได้เงินสินบนจากการทำางานมากๆ
จากภายใน มีการมองว่าการแบ่งสินบนนั้น เป็นไปอย่างไม่เป็นธรรม
ทำาให้เกิดความแตกแยกในองค์กร
ส่วนที่ 4
ปัญหาและอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
(ต่อ)
ปัญหาภายในองค์กร ซึง่ นำาไปสู่อุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมาย (ต่อ)
2. ปัญหาในเรืองอัตรากำาลัง
ไม่เพียงพอกับปริมาณตามภาระหน้าที่ที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ
สำานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้ดำาเนินการสรรหา
โดยคัดเลือกข้าราชการบรรจุใหม่ และรับโอนมาจากส่วนราชการอื่น
แต่ในปัจจุบันยังไม่เต็มกรอบอัตรากำาลังเนื่องจากมีการลาออก
โอนไปยังหน่วยงานอื่นที่มีลักษณะงานคล้ายกับสำานักงานป้องกันและปราบปรามการฟ
อกเงิน เนื่องจากมีค่าตอบแทนสูงกว่า
ส่วนที่ 4
ปัญหาและอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
(ต่อ)
ปัญหาความคิดเห็นของประชาชนต่อการดำาเนินงาน
ของสำานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ความเป็นกลางของสำานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
จากการแทรกแซงทางการเมือง
การใช้อำานาจของสำานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในสายตาของป
ระชาชน