You are on page 1of 10

แนะนำเทคนิคกำรใช้ Sketchup เพื่อกำรประมำณรำคำ

Sketchup ที่ผมใช้ เป็ น Version SketchUp Pro 2017 ข้ อแนะนำมีดังนี ้


1.Template
Template ที่ผมเลือกใช้ อยู่เป็ นประจำในกำรเปิ ดใช้ งำน คือ Construction Documentation – Meters
เพรำะเป็ น Template ที่กินทรัพยำกรณ์เครื่องน้ อย เนื่องจำกไม่มีพื ้นหลังอะไรเลย เป็ นพื ้นที่โล่งๆเหมำะแก่กำร
ทำโมเดลที่มีรำยละเอียดและข้ อมูลมำกๆ

2.กำรสร้ ำงโมเดลชิ ้นงำนเป็ น Component


Component ถือเป็ นหัวใจสำคัญของกำรสร้ ำงโมเดลยุคใหม่ เพรำะสำมำรถนำไปต่อยอดด้ ำนข้ อมูลได้ มำกมำย
และข้ อดีอีกอย่ำงที่สำคัญมำกในกำรจัดกำรโมเดลขนำดใหญ่ที่มีชิ ้นงำนซ ้ำๆเยอะ คือ กำรที่เรำสร้ ำงเป็ นชิ ้นงำนเป็ น
Componentแล้ ว copy นำไปใช้ งำน แล้ วเรำจะมีกำรเพิ่มเติมแก้ ไขชิ ้นงำน ชิ ้นงำนที่เป็ น Component เดียวกัน จะ
ได้ รับกำรแก้ ไขไปพร้ อมๆกันทีเดียว

1.)สร้างกล่องขึ้นมาคลิกที่
พื้นผิวกล่องสามครั้ง ก็จะเป็ น
การเลือกทั้งหมด แล้วคลิก
ขวาเลือก Make Component

2.)ตั้งชื่อ Box A แล้วก็กด


Create เพียงเท่านี้ชิ้นงานของ
เราก็เป็ น Component แล้วครับ
3.ฝึกใช้ สำรบัญโมเดล Outliner ( สำรบัญโมเดล คำนี ้ผมตั ้งขึ ้นมำเพื่อใช้ เรียกเองง่ำยๆ)

Outliner จะเก็บข้ อมูลชิ ้นงำนที่เรำสร้ ำงเป็ น Group หรือ Component ไว้ ทั ้งหมด เนื่องจำกเวลำทำงำนจริงอำจจะมี
ชิ ้นงำนมำกมำยที่เรำสร้ ำงไว้ กำรจะเลือกชิ ้นงำนอำจจะช้ ำและลำบำกในโมเดลขนำดใหญ่ กำรเลือกชิ ้นงำนผ่ำน
สำรบัญโมเดล Outliner จะช่วยให้ เรำหำได้ ง่ำยและประหยัดเวลำ กำรตั ้งชื่อชิ ้นงำนให้ ดี จะทำให้ เรำสำมำรถเลือก
ชิ ้นงำนในส่วนต่ำงๆของโมเดลที่เรำสร้ ำงได้ ง่ำย
1.)สมมุติว่าผม copy ชิ้นงาน Box
A ที่เราสร้างเป็ น Component
ออกไปใช้งานดังภาพ ซึ่ งก็ไม่รู้ว่า
จานวณเท่าไหร่ ที่แถบเครื่ องมือ
Tray ให้เราเปิ ด สำรบัญ
โมเดล Outliner ขึ้นมา จะ
ปรากฏชื่อชิ้นงาน Box A ที่เรา
สร้างขึ้นมาทั้งหมด

2.)กดเลือกชื่อแรก แล้วกด
Shift ที่แป้ นพิมพ์เราค้างไว้
แล้วเลื่อนลงไปยังชื่อสุ ดท้าย
3.)ให้กดเลือก Entity Info ที่แถบ ที่เราอยากเลือกแล้วคลิก๊ 1
Tray มันจะแสดงจานวนโมเดลที่ ครั้ง จะเป็ นการเลือก
เราเลือกให้ทราบ โดยให้สังเกตที่ ชื่อชิ้นงานที่อยู่ระหว่าง ด้าน
Definition จะแสดงชื่อ Box A บนสุ ดและด้านล่างสุ ด
นั้นก็เพราะว่าที่เราเลือกจะมีเฉพาะ ทั้งหมดในทีเดียว
ชิ้นงานที่ชื่อ Box A เท่านั้น ถ้ามี
ชิ้นงานที่มีชื่ออื่นอยู่ดว้ ย มันจะนับ
จานวณให้อย่างเดียว มันจะไม่
แสดง Definition นี่กเ็ ป็ นการ
ตรวจสอบชื่อชิ้นงานเราได้ดว้ ย
เช่นกัน
4. Double Component (เพิ่มพลัง Component ทวีคณ
ู )

เรำรู้ถึงข้ อดีของ Component แล้ ว คือเมื่อมีกำรแก้ ไขชิ ้นงำนชื่อเดียวกันจะได้ รับกำรแก้ ไขไปพร้ อมๆกันทีเดียว
แต่ว่ำเรำไม่สำมำรถใส่อะไรเพิ่มเติมลงไปใน Componentได้ เพรำะจะทำให้ ศนู ย์เสียคุณสมบัติของชิ ้นงำนดั ้งเดิมและไม่
สำมำรถอ่ำนปริมำตรของชิ ้นงำนได้ ในกำรทำงำนในโมเดลขนำดใหญ่ กำรทำ Double Component ไว้ จึงเป็ นกำรใช้
ประโยชน์ที่เพิ่มพลังกำรทำงำนเป็ นอย่ำงมำก

1.)ให้เราคลิกเลือก Component ที่เราสร้างไว้ แล้ว


สังเกตที่ Entity Info ในแทบ Volume จะแสดง
ปริ มาตรของชิ้นงานของเราเอาไว้ 0.13 m3

เป็ นประโยชน์อีกอย่างที่เราได้จากการสร้างชิ้นงาน

2.)ผมสร้าง Component ชื่อ Box B ขึ้นมา 1 ชิ้น


ผมจะเอาไปวางไว้บนกล่อง Box A ทั้ง 24 ใบ
เรามีวิธีที่จะใช้ประโยชน์จาก Component ตรงนี้
และเพื่อให้ดูง่ายผมจะเทสี Box B ให้เป็ นสี เทาเข้ม

3.)ผมคลิ๊กเลือก Box B แล้วกด Ctrl+C ที่แป้ นพิมพ์


เพื่อ Copy แล้วผมไป Double คลิก๊ ที่
Component Box A หนึ่งอัน เพื่อเข้าภายใน
ของ Box A พอมันเป็ นกรอบภายในให้เราเห็นแล้ว
ให้เรากดที่แป้ นพิมพ์ Ctrl+V เพื่อเป็ นการวาง
ชิ้นงาน Box B ภายใน Box A ก็จะปรากฏเห็น
Box B เข้ามาดังภาพ

4.)ให้เราคลิ๊ก 1 ครั้ง เพื่อวางชิ้นงาน Box B ลงไป


ทีน้ ีเราจะสังเกตเห็นว่า Box A ชิ้นอื่นๆก็ได้รับการ
แก้ไขไปด้วยพร้อมกัน
4.)ให้สังเกตที่ Outliner จะปรำกฏชื่อ
Box B อยู่ใต้ Box A นั้นคือการแสดงว่า
ได้เข้ามาอยู่กลุ่ม Box A แล้ว

5.)พอเราคลิ๊กที่ชิ้นงาน ภายใน Box A เราจะ


พบว่า ชิ้นงาน Box A ไม่ได้เป็ นกลุ่มแล้วแต่
เป็ นพื้นผิวมาปะกันเป็ นกล่องสี่ เหลี่ยมในขณะที่
ชิ้นงาน Box B ยังเป็ นกลุ่มอยู่ ที่คือปั ญหาที่เรา
จะเจอเวลานาอะไรไปใส่ ใน Component ที่
สร้างไว้ เพื่อหวังจะให้งานมันแก้ไขได้พร้อม
กันทีเดียว แต่กต็ อ้ งสู ญเสี ยคุณสมบัติบางอย่าง
ของ Component เดิมที่เราสร้างไว้

มีสองวิธี ในกำรแก้ ปัญหำกำรสูญเสียคุณสมบัติ ของ Component เวลำเรำเข้ ำไปเพิ่มชิน้ งำนภำยใน


วิธีแรก คือ คลิกที่ชิ ้นงำนเดิมแล้ วสร้ ำง Component ขึ ้นมำใหม่ ภำยในชิ ้นงำนเดิม และเรำต้ องตั ้งชื่อใหม่เพรำะชื่อเดิม
โดนใช้ งำนไปแล้ ว ไม่สำมำรถตั ้งซ ้ำกันได้

1.)คลิกที่ผิวกล่อง 3 ครั้ง เพื่อเป็ นการเลือก


พื้นผิวทั้งหมด แล้วคลิกขวา Make Component
ตั้งชื่อ Box C

2.)พอเราไปดูที่ Outliner จะสังเกตว่า ภายใน


กลุ่ม Box A จะมีชิ้นงาน ชื่อ Box B และ Box C
อยู่
3.)เราสามารถเช็คความเป็ น Component ได้โดย
คลิกขวาที่ชิ้นงาน เลือก Dynamic Component
= > Component Attributes

4.)จะปรากฎหน้าต่าง Component Attributes


ขึ้นมาโดยเราจะพบชื่อ กลุ่ม Component ที่เรา
สร้างเอาไว้ ซึ่ งจุดนี้เองที่เป็ นหัวใจสาคัญของ
Component ในการบริ หารจัดการข้อมูลต่างๆ
ภายใน Component

5.)โดยหน้าต่าง Component Attributes เรา


สามารถเพิ่มข้อมูลต่างๆให้ Component ของเรา
ได้ ทั้ง ขนาด ต่ าแหน่ง ฟังชัน่ ทางคณิ ตศาสตร์
ของสู ตร Excel ก็สามารถนามาใช้ได้ในนี้ โดย
เราสามารถตรวจสอบที่แถบ Functions ว่า
สามารถใช้สูตรสมการไหนได้บา้ ง และยัง
สามารถกาหนดค่าต่างๆอย่างอื่นได้อีกมากมาย
นี้คือความสุ ดยอดอีกอย่างของ SketchUp ที่
เตรี ยมไว้ให้เราใน Component Attributes มันจะ
สามารถทาอะไรได้บา้ ง ตัวผมก็ไม่สามารถ
จินตนาการถึงได้ท้ งั หมด ถ้าท่านที่มีความสนใจ
เป็ นพิเศษก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ใน
อินเตอร์เน็ต ซึ่ งของไทยเราเองมีคนเก่งที่
แบ่งปั นสอนไว้มากมาย ก็นบั เป็ นโชคดีของเรา
ครับ
วิธีท่ สี อง คือ วำงแผนสร้ ำง Double Component (เพิ่มพลัง Component ทวีคณ
ู ) ตั ้งแต่แรก เป็ นวิธีที่ผมเลือกใช้ งำน
เป็ นหลัก เพรำะสำมำรถช่วยประหยัดเวลำกำรทำงำนเรำได้ มำกทีเดียว

1.)ผมเริ่ มต้นใหม่โดยการสร้างชิ้นงาน
Component Box A ขึ้นมา และเนื่องจากชิ้นงาน
เราเป็ น Component ไปแล้ว เราไม่สามารถทา
Double Component ได้โดยตรงกับชิ้นงานนี้
เพราะ 1 ชิ้นงานสามารถเป็ นได้เพียง 1
Component

2.)ผมทาการขีดเส้นหนึ่งเส้นไว้นอก
Component ย้านะครับ ขีดเส้นภายนอก
ทีน้ ีพอเรามีสิ่งใหม่เพิ่มเติมเข้ามา เราก็เลือก
ทั้งหมด ทั้งเส้นและ Box A เราก็มีสองอย่างละ
ไม่ติดกฎเกณฑ์ 1 ชิ้น 1 Component เราก็คลิ๊ก
ขวาแล้วสร้าง Component ขึ้นมา และตั้งชื่อเป็ น
Group Box

3.)เราก็จะได้ Group Box ที่เป็ น Component


ครอบ Box A ไว้อีกที ส่ วนเส้นเราจะลบทิ้งเลย
ก็ได้เพราะเราบรรลุวตั ถุประสงค์การทา
Double Component แล้ว
จากนั้นเรามาดูต่อว่าเราจะได้อะไรจากการทา
แบบนี้
4.)ผมนา Double Component ที่
สร้างไว้ ไปใช้งานในการสร้างโมเดล
โดยผมวางลงไปในต่าแหน่งที่ตอ้ งการต่างๆ
ทีน้ ีเราจะมาใช้พลัง ทวีคูณ ของ Double
Component กันครับ และสมมุติว่า
Group Box คือ ฐานรากคอนกรี ต

4.)ทีน้ ีคลิ๊กเข้าไปภายใน Box A ชิ้นใดชิ้น


หนึ่งก็ได้ แล้วสร้าง ชิ้นงาน Box B ขึ้นมา
อีกชิ้น มันก็จะไปเพิ่มให้ช้ินงานอื่นๆภายใน
โมเดลทั้งหมดที่เรานาไปใช้

5.)ผมทาการใส่ เหล็กเสริ มเข้าไปที่ชิ้นงาน 1


ชิ้น ใส่ เสาเข็มสี่ เหลี่ยมตันเข้าไป โมเดล
ทั้งหมดของเราก็จะได้รับการเพิ่มเติมชิ้นงาน
ไปพร้อม ๆ กันทีเดียว และนี้คือพลังทวีคูณ
ของ Double Component ครับ

วิธี Double Component ถ้ ำเรำวำงแผนขั ้นตอนกำรสร้ ำงโมเดลดี ๆ จะทำให้ เรำทำงำนได้ ง่ำยขึ ้น เพรำะเรำไม่ต้องสร้ ำง
ทั ้งหมดทีเดียว แล้ ว Copy ไปวำงเรื่อยๆ ซึง่ จะให้ กินพลังงำนของเครื่องคอมฯเรำจนเกินไป แล้ วกำรที่เรำมีชิ ้นงำนมำกมำย
แล้ วต้ อง Copy ชิ ้นงำนเยอะๆลำกไป ลำกมำ คงจะรกรุงรังน่ำดู เพรำะบำงทีเรำอำจจะยังไม่จำเป็ นต้ องใช้ ชิ ้นงำนบำงชิ ้น
และเรำก็จะไม่ต้องเสียเวลำในกำรสร้ ำงรูปแบบในช่วงเริ่มต้ นมำก เพรำะถ้ ำเรำวำงแผนทำ Double Component ไว้ ดี
แล้ ว หลำยๆอย่ำง เรำมำเติมลงทีหลังได้ ครับ พลังจะทวีคนู เท่ำไหร่ ก็ขึ ้นอยู่กบั กำรใช้ งำนแล้ วครับ
5. Layer กำรแยกแยะ แจกแจง แบ่งประเภท

กำรที่เรำจะทำงำนในโมเดลขนำดใหญ่ ซึง่ มีชิ ้นงำนมำกมำย เรี ยงรำยเต็มหน้ ำจอเรำ กำรจัดแบ่ง Layer ให้
โมเดลเรำจะช่วยลดปั ญหำควำมยุ่งยำกซับซ้ อนลงไป ส่วนไหนที่เรำยังไม่ได้ ใช้ เรำก็สำมำรถปิ ด Layer ทำให้ ชิ ้นงำน
เหล่ำนั ้นหำยไปก่อน เมื่อจำเป็ นต้ องใช้ ก็ค่อยเปิ ดกลับมำ และสำหรับกำรส่งถ่ำยข้ อมูล หลำย ๆ Extension ก็ต้องใช้
Layer เป็ นตัวเชื่อมกำรส่งผ่ำนข้ อมูล อย่ำงเช่น Profile Builder แยกแยะวัสดุรำคำจำก Layer ที่เรำตั ้งไว้

1.)จาก Group Box ที่เราสร้างไว้ บางทีเราก็


ไม่อยากให้มนั แสดงทั้งหมดพร้อมกัน
ดังนั้นผมจึงตั้ง Layer ไว้ท้ งั หมด 4 Layer

แยกเป็ น Layer ต่างๆดังนี้

= >เหล็ก DB12mm

= >ตอม่อ

= >ฐานราก

= >เสาเข็ม

2.)การจะกาหนดหรื อเปลี่ยนแปลง Layer ให้


ชิ้นงานนั้น เราสามารถทาได้ที่ Entity Info.
โดยเราคลิ๊กเลือกชิ้นงาน แล้วมาคลิ๊กที่ช่อง
Layer เพื่อเลือก Layer ได้ แต่บางครั้งการจะ
คลิกเลือกที่ช้ินงานโดยตรงก็ทาได้ยาก แต่
เราสามารถมาคลิ๊กเลือกที่ Outliner ได้
อย่าง Group Box ที่เราสร้างเอาไว้ เมื่อเรา
คลิ๊กเข้าไป เราก็สามารถเลือกชิ้นงานแล้ว
เลือกกาหนด Layer ได้เลย ซึ่ งจากคุณสมบัติ
ของ Component เราแก้ Group Box ชิ้นเดียว
ชิ้นงานภายใน Group Box ทั้งหมดก็จะ
ได้รับการตั้ง Layer พร้อมกันทีเดียว

3.)ทีน้ ีเราลองเปิ ดปิ ด Layer ดูครับ ใน


ตัวอย่างผมปิ ด Layer อื่นหมด คงเหลือ
Layer เหล็กเอาไว้ และการทางานทัว่ ไป
Layer 0 คือตัวเริ่ มต้น เราจะไม่ค่อยปิ ดกัน
และเราควรวางแผนการตั้ง Layer ตั้งแต่เริ่ ม
สร้างชิ้นงานครับ
โลกของการทางานมันมีหลายๆอย่างให้เราได้เรี ยนรู้อยู่เสมอ
เราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะดีกว่า จนกว่าจะได้ลอง
ผมได้ติดตาม เพจบ้าน sketchup ทาง Facebook มานาน และเห็นว่าน่าสนใจดี

ในที่สดุ ผมก็ได้ตดั สินใจเข้าร่วม อบรมในปี 2015

จนได้รู้ความสามารถทีท่ รงพลังของ Sketchup คือความอิ สระในการจัดการข้อมูล


คือด้วยความง่ายของ sketchup บวกเข้ากับพลังความสามารถในการจัดการข้อมูลอย่าง Excel
มันทาให้งานของผมง่ายและสนุกยิ่งขึ้นกว่าเดิ ม ยิ่ งหลังๆมานี้ มี extension เสริ มมากมายให้เลือกใช้
อย่าง ที่ทาให้การถอด BOQ เป็ นเรื่องสนุกขึ้นไปอีก
โปรแกรม sketchup อาจจะไม่ใช่โปรแกรมสาเร็จรูป แต่สิ่งที่คณ
ุ จะได้ก็คือ
“ความอิสระในการสร้ างสรรค์ ”
ยิ่ งคุณชานาญเท่าไหร่ คุณยิ่ งจะทางานได้เร็วขึ้น สร้างสรรค์ขึ้น
ตามวันเวลาและประสบการณ์ ของตัวคุณเอง

แต่ ไม่ ว่ำจะมี มี extension เสริมมากมายเพียงใด


สิ่งสำคัญก็ยงั เป็ นหลักกำรณ์ พนื ้ ฐำนของ Sketchup กำรฝึ กฝนของตัวผู้ใช้
ควำมเข้ ำใจในสิ่งที่ทำ

You might also like