Professional Documents
Culture Documents
กำหนดการเชิงเส้น
กำหนดการเชิงเส้น
และโปรแกรม Euler
สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
ฒ
วโิ ร
นิทร
คร
ปริญญานิพนธ์
นี
ศร
it y
ของ
ers
ลยั
ยา
n iv
เกตุกนก หนูดี
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
ปริญญานิพนธ์
นี
ศร
it y
ของ
ers
ลยั
ยา
n iv
เกตุกนก หนูดี
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
บทคัดย่อ
นี
ศร
it y
ของ
ers
ลยั
ยา
n iv
เกตุกนก หนูดี
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
วโิ ร
เกาะกลุ่มจานวน 41 คน ผูว้ จิ ยั ดาเนินการสอนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการ
ทร
เชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler ทีผ่ วู้ จิ ยั สร้างขึน้ ผูว้ จิ ยั ทาการทดลองทัง้ หมด
คร
นิ
14 คาบ ในห้องคอมพิวเตอร์และประเมินผลการเรียนรูเ้ รือ่ งกาหนดการเชิงเส้นของนักเรียนกลุ่ม
นี
ศร
it y
ตัวอย่างจากคะแนนใบกิจกรรม และคะแนนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนด
ers
ลยั
ยา
n iv
การเชิงเส้น นอกจากนี้ผวู้ จิ ยั ให้นกั เรียนกลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามวัด ความพึงพอใจทีม่ ตี ่อ
tU
วทิ
ir o
งม
nw
Euler
ลา
ari
a kh
สม
rin
yS
al
และนักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อเนื้อหากาหนดการเชิงเส้น และการจัดกิจกรรมการ
Ce
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
AN ABSTRACT
นี
ศร
it y
BY
ers
ลยั
ยา
n iv
KADKANOK NUDEE
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
The purpose of this research were 1) to study the students’ achievement on linear
programming and 2) to evaluate students’ attitude toward linear programming and
instructional activities by using C.a.R. Program and Euler Program after learning through
instructional activity package created by the researcher
The study was conducted during the second semester of the 2009 academic year
ฒ
วโิ ร
with Mathyomsuksa III students at Bannasan School in Suratthani. The experiment group
ทร
of 41 students was using cluster sampling approach. The researcher taught them a total
คร
นิ
of 14 periods in a computer laboratory. Work sheets and achievement test were used in
นี
ศร
it y
assessment of the students’ performance. Moreover, the subjects were asked to complete
ers
ลยั
ยา
n iv
a questionnaire involving their attitude toward toward linear programming and instructional
tU
วทิ
activities by using C.a.R. Program and Euler Program and Euler Program.
หา
ir o
งม
nw
An analysis of the data, with at .05 level of significance, revealed that more than
ลา
ari
60% of the subjects performed better than 60% of the total score. This shows that the
ดุ ก
a kh
สม
rin
yS
instructional activity package created by the researcher. In addition, the results of the
rar
นกั
questionnaire indicated that they have positive attitude linear programming and instructional
L ib
สาํ
al
ฒ
วโิ ร
.................................................................. คณบดีบณ
ั ฑิตวิทยาลัย
ทร
(รองศาสตราจารย์ ดร.สมชาย สันติวฒ คร
นิ ั นกุล)
วันที่ ……. เดือน …………………… พ.ศ. 2553
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
คณะกรรมการควบคุมปริญญานิพนธ์ คณะกรรมการสอบปากเปล่า
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ari
a kh
สม
rin
หอ
yS
al
.............................................. กรรมการ
(อาจารย์ธนูชยั ภูอุดม)
............................................... กรรมการ
จาก
a kh ลยั
ศร
ari
nw นี คร
ir o นิ ทร
tU วโิ ร
n iv ฒ
งานวิ จยั นี้ ได้รบั ทุนสนับสนุนการวิ จยั
ers
it y
คณะวิ ทยาศาสตร์ มหาวิ ทยาลัยศรีนคริ นทรวิ โรฒ
ประกาศคุณูปการ
ฒ
ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
วโิ ร
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียน และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจ อีกทัง้ ให้ขอ้ เสนอแนะ
ทร
อันเป็นประโยชน์ต่อผูว้ จิ ยั ส่งผลให้ปริญญานิพนธ์เล่มนี้สมบูรณ์ยงิ่ ขึน้
นิ
คร
ขอกราบขอบพระคุณ รองศาสตราจารย์อุษาวดี จันทรสนธิ ทีใ่ ห้ความกรุณาเป็นประธาน
นี
ศร
it y
ers
คณะกรรมการสอบปากเปล่า และอาจารย์ ดร.พิศุทธวรรณ ศรีภริ มย์ ทีไ่ ด้ให้ความกรุณาเป็น
ลยั
ยา
n iv
กรรมการสอบปากเปล่า ทาให้ปริญญานิพนธ์เล่มนี้มคี วามถูกต้องสมบู รณ์มากยิง่ ขึน้
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
เกตุกนก หนูดี
สารบัญ
บทที่ หน้ า
1 บทนา ................................................................................................................ 1
ภูมหิ ลัง.............................................................................................................. 1
จุดมุง่ หมายของการวิจยั .................................................................................... 5
ความสาคัญของการวิจยั ……............................................................................ 6
ขอบเขตของการวิจยั …..................................................................................... 6
สมมติฐานของการวิจยั ……...........…………………………………………….….. 8
ฒ
2 เอกสารและงานวิ จยั ที่เกี่ยวข้อง…………….………………….……………….…. 9
วโิ ร
ทร
เอกสารและงานวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้องกับกาหนดการเชิงเส้น ........................................ 10
นิ
คร
ประวัตคิ วามเป็นมาของกาหนดการเชิงเส้น ................................................. 10
นี
ศร
ความหมายของกาหนดการเชิงเส้น ............................................................. 11
it y
ers
ลยั
n iv
งานวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้องกับกาหนดการเชิงเส้น ................................................... 14
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
rar
L ib
สาํ
ความหมายของชุดกิจกรรมการเรียนการสอน .............................................. 33
al
n tr
ประเภทของชุดกิจกรรมการเรียนการสอน ................................................... 33
Ce
องค์ประกอบของชุดกิจกรรมการเรียนการสอน ............................................ 35
ขัน้ ตอนการสร้างชุดกิจกรรมการเรียนการสอน ............................................ 37
งานวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้องกับชุดกิจกรรมการเรียนการสอน .................................... 39
แนวคิดเกีย่ วกับการสร้างชุดกิจกรรมโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
โปรแกรม Euler ………………………………………………………….... 42
เอกสารและงานวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้องกับความพึงพอใจ ………………………………… 43
ความหมายของความพึงพอใจ ………………………………………………… 43
ทฤษฎีทเ่ี กีย่ วกับความพึงพอใจ ……………………………………………….. 43
งานวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้องกับความพึงพอใจ …………………………………………. 45
สารบัญ (ต่อ)
บทที่ หน้ า
2 (ต่อ)
งานวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้องกับการนาเนื้อหาคณิตศาสตร์ในระดับสูงกว่ามาสอน
ในระดับต่ากว่า............................................................................................ 48
ฒ
การเก็บรวบรวมข้อมูล ...................................................................................... 62
วโิ ร
ทร
การจัดกระทาข้อมูลและการวิเคราะห์ขอ้ มูล ........................................................ 62
นิ
นี คร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
ir o
nw
ลา
ari
a kh
rin
หอ
สมมติฐานของการวิจยั ............................................................................. 73
yS
rar
นกั
การเก็บรวบรวมข้อมูล ........................................................................ 74
การวิเคราะห์ขอ้ มูล ............................................................................. 74
สรุปผลการวิจยั ................................................................................ ................. 75
อภิปรายผล ....................................................................................................... 76
ข้อสังเกตทีไ่ ด้จากการวิจยั …………………………………………..……………… 77
ข้อเสนอแนะ ..................................................................................................... 78
บรรณานุกรม .............................................................................................................. 79
สารบัญ (ต่อ)
บทที่ หน้ า
ภาคผนวก .................................................................................................................... 89
ภาคผนวก ก คุณภาพเครือ่ งมือทีใ่ ช้ในการวิจยั ....................................................... 90
ภาคผนวก ข คู่มอื การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอน ............................................ 101
ภาคผนวก ค แผนการจัดการเรียนรูเ้ รือ่ งกาหนดการเชิงเส้น
โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler..................................................... 136
ภาคผนวก ง ตัวอย่างชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น
โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler สาหรับนักเรียน
ฒ
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ....................................................................................... 164
วโิ ร
ทร
ภาคผนวก จ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียน
เรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น …………………………………………………..………. 278 นิ
นี คร
ภาคผนวก ฉ แบบสอบถามวัดความพึงพอใจทีม่ เี นื้อหากาหนดการเชิงเส้น
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 …………………………………..………… 288
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
บัญชีตาราง
ตาราง หน้ า
1 ลักษณะของโปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler ............................................. 31
2 เกณฑ์การตรวจให้คะแนนของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียน
แบบอัตนัยเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น ……………................................................ 58
3 เกณฑ์การประเมินความพึงพอใจของนักเรียนทีม่ ตี ่อเนื้อหากาหนดการเชิงเส้น
และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler ...... 63
4 ค่าเฉลีย่ เลขคณิต ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของคะแนนจากการทาใบกิจกรรม
เรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ............. 66
ฒ
5 ค่าเฉลีย่ เลขคณิต ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน ของคะแนนจากแบบทดสอบ
วโิ ร
วัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นของนักเรียนกลุ่มตัวอย่า ง
ทร
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ..................................................................................... 67
นิ
คร
6 ค่าเฉลีย่ เลขคณิต ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน คะแนนผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียน
นี
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
7 ค่าร้อยละของจานวนนักเรียนกลุ่มตัวอย่างทีไ่ ด้ค ะแนนผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียน
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ตาราง หน้ า
12 ค่าความยากง่าย (P), ค่าอานาจจาแนก (r) และค่าความเชื่อมัน่ ของแบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียน เรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น สาหรับนักเรียน
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 …………………………………………………………….... 94
13 ค่าเฉลีย่ เลขคณิต ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของแบบสอบถามของนักเรียน
ทีม่ ตี ่อเนื้อหากาหนดการเชิงเส้น และการจัดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใช้
โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler และค่าความเชื่อมันของแบบสอบถาม ่
ของนักเรียนกลุ่มนาร่อง ................................................................................... 97
ฒ
14 ค่าเฉลีย่ เลขคณิต ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของแบบสอบถามของนักเรียน
วโิ ร
ทีม่ ตี ่อเนื้อหากาหนดการเชิงเส้น และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้
โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler และค่าความเชื่อมันของแบบสอบถาม
นิ ทร ่
คร
ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ................................................................................. 99
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
บัญชีภาพประกอบ
ภาพประกอบ หน้ า
1 เมนูหลัก ............................................................................................... ............ 55
2 สารบัญย่อย....................................................................................................... 56
3 ตัวอย่างกิจกรรมการสารวจผลเฉลยทีเ่ หมาะสมทีส่ ุด ........................................... 56
ฒ
วโิ ร
นิ ทร
นี คร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
บทที่ 1
บทนา
ภูมิหลัง
ในปจั จุบนั โลกกาลังประสบกับปญั หาเศรษฐกิจตกต่า ส่งผลให้ชวี ติ ความเป็นอยูข่ อง
ประชาชนในแต่ละประเทศมีความเดือดร้อนเพิม่ ขึน้ และยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อวงการธุรกิจ
และอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก จนทาให้บริษทั หลายแห่งจาต้องปิดกิจการลง และบริษทั จานวนมาก
ต้องลดเวลาการทางานของพนักงานลงหรือลดอัตราการจ้างงาน จากปญั หาทีเ่ กิดขึน้ ย่อมทาให้เกิด
ปญั หาทางสังคมตามมาอีกมากมาย เช่น ปญั หาอาชญากรรม ปญั หายาเสพย์ตดิ ปญั หาสุขภาพจิต
ฒ
วโิ ร
และปญั หาหนี้สนิ โดยทุกประเทศกาลังหามาตรการต่างๆ เพื่อนามาบรรเทาความเดือดร้อนจากพิษ
ทร
เศรษฐกิจตกต่า รวมทัง้ ประเทศไทยทีต่ อ้ งเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจตกต่าครัง้ นี้ดว้ ย ผูป้ ระกอบการ
คร
นิ
หลายแห่งในประเทศต้องลดต้นทุนการผลิตลง เกิดการเลิกจ้างงานหรือปลดพนักงานออก ยังทาให้
นี
ศร
it y
ประชาชนในประเทศเกิดอาการเครียดจากสภาวะเศรษฐกิจทีเ่ กิดขึน้ จึงทาให้บริษทั ต่างๆ พยายาม
ers
ลยั
ยา
n iv
หามาตรการมารับมือกับปญั หาเศรษฐกิจเพื่อทาให้ธุรกิจสามารถฝา่ ฟนั วิกฤตไปได้ ซึง่ วิธกี ารทีใ่ ช้
tU
วทิ
ir o
งม
nw
ari
a kh
สม
rin
yS
ปจั จัยอื่นๆ ซึง่ วิธกี ารหนึ่งทีช่ ่วยแก้ปญั หาและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ การนาเครือ่ งมือ
al
n tr
จัดสรรปจั จัยทีม่ อี ยูอ่ ย่างจากัด เช่น ทีด่ นิ น้า ปุ๋ย แรงงานและเงินลงทุน รวมทัง้ ช่วยในการวางแผน
และตัดสินใจในการจัดการผลผลิตเพื่อให้ผลผลิตมีความเหมาะสมกับฤดูกาล และความต้องการ
ของตลาดจึงทาให้ได้ผลกาไรสูงขึน้ เพราะการมีผลผลิตทีไ่ ม่มากเกินความต้องการย่อมทาให้ราคา
ดีขน้ึ ทางด้านอุตสาหกรรมมีการนากาหนดการเชิงเส้นมาช่วยในการจัดการเกีย่ วกับการผลิต เช่น
อุตสาหกรรมถ่านหิน เหล็กกล้า กระดาษ น้ามัน เป็นต้น นอกจากนี้ ทางด้านธุรกิจมีการนากาหนด
การเชิงเส้นมาช่วยในการบริหารกิจการ เช่น ธุรกิจการขนส่งก็นากาหนดการเชิงเส้น มาใช้เพื่อลด
ค่าใช้จา่ ยในการขนส่ง และใช้สาหรับ การจัดสรรบุคคล วัตถุดบิ ให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
ในส่วนธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมก็อาศัยหลักการของกาหนดการเชิงเส้นมาใช้ในการแก้ไขปญั หา
การจัดสรรช่องสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนทีใ่ ห้เกิดประโยชน์การใช้งานสูงสุดและเพียงพอต่ อความ
ต้องการของลูกค้า โดยทาให้เกิดต้นทุนต่าสุดในกระบวนการขนส่งเคลื่อนย้ายช่องสัญญาณ
โทรศัพท์เคลื่อนที่
ฒ
วโิ ร
กาหนดการเชิงเส้นได้เริม่ บรรจุในหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายพุทธศักราช 2524
ทร
จนมาถึงปจั จุบนั ในหลักสูตรการศึกษาขัน้ พืน้ ฐานพุทธศักราช 2544 กลุ่มสาระการเรียนรู้
คร
นิ
คณิตศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิม่ เติม สาหรับช่วงชัน้ ที่ 4 โดยมีจดุ มุง่ หมายเพื่อต้องการให้
นี
ศร
it y
นักเรียนได้เห็นการประยุกต์และประโยชน์ของคณิตศาสตร์ในการนาไปใช้ แก้ปญั หาในสถานการณ์
ers
ลยั
ยา
n iv
จริงหรือเหตุการณ์ทพ่ี บเห็นในชีวติ ประจาวัน รวมทัง้ เป็นการกระตุน้ ให้นกั เรียนเกิดความสนใจใน
tU
วทิ
หา
nw
ari
a kh
สม
rin
yS
al
ฒ
วโิ ร
ประกอบการเรียนการสอนเพื่อ เป็นการช่วยให้นกั เรียนเกิดการเรียนรูอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ทาให้
ทร
นักเรียนเข้าใจแนวคิดของกาหนดการเชิงเส้นได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึน้ เช่น การเขียนกราฟ
คร
นิ
สมการเชิงเส้น อสมการเชิงเส้น และการสารวจหาผลเฉลยทีเ่ หมาะสมทีส่ ุด รวมทัง้ ทาให้นกั เรียน
นี
ศร
it y
ไม่เกิดความเบื่อหน่ายในการเรียน
ers
ลยั
ยา
n iv
ในปจั จุบนั มีการพัฒนาโปรแกรมทางคณิตศาสตร์ทม่ี ปี ระสิทธิภาพเพิม่ ขึน้ มากมายเพื่อ
tU
วทิ
หา
nw
ari
a kh
สม
rin
yS
al
ทีไ่ ด้พฒ
ั นาโปรแกรมทางคณิตศาสตร์ ทีส่ ามารถใช้และเผยแพร่ได้โดยไม่ตอ้ งเสียค่าลิขสิทธิ ์ โดยมี
Ce
ฒ
วโิ ร
และช่วยให้นกั เรียนเรียนรูเ้ นื้อหาได้รวดเร็วขึน้ จากการทีน่ กั เรียนได้ปฏิบตั ิ สังเกต และสารวจ
ทร
เช่น งานวิจยั ของปุณยพล จันทร์ฝอย (2551) ได้สร้างชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งฟงั ก์ชนั
คร
นิ
ตรีโกณมิตโิ ดยใช้โปรแกรม C.a.R. สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 4 พบว่า การใช้โปรแกรม
นี
ศร
it y
C.a.R. ประกอบการเรียนการสอนทาให้นกั เรียนมองเห็นภาพเป็นรูปธรรมมากขึน้ นักเรียนสามารถ
ers
ลยั
ยา
n iv
ทาการสารวจการสร้าง สังเกตความแตกต่างของเนื้อหาในการเรียนเรือ่ งฟงั ก์ชนั ตรีโกณมิตจิ าก
tU
วทิ
หา
nw
ari
a kh
สม
rin
yS
al
ฒ
วโิ ร
มัธยมศึกษาศึกษาปีท่ี 3 โดยนาโปรแกรม C.a.R. เข้ามาประกอบการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนด
ทร
การเชิงเส้นในครัง้ นี้ เพื่อใช้เป็นสื่อสาหรับการเรียนการสอนและการเสนอแนวคิดที่สาคัญของ
คร
นิ
กาหนดการเชิงเส้น เช่น การวาดกราฟสมการเชิงเส้น กราฟระบบสมการเชิงเส้น กราฟอสมการ
นี
ศร
it y
เชิงเส้น และการสารวจหาผลเฉลยเหมาะสมทีส่ ุดของกาหนดการเชิงเส้น และนาโปรแกรม Euler
ers
ลยั
ยา
n iv
เข้ามาประกอบการเรียนการสอน เพื่อใช้เป็นเครือ่ งมือในการคานวณและการตรวจคาตอบ ประการ
tU
วทิ
หา
nw
ari
a kh
สม
rin
yS
al
จุดมุ่งหมายของการวิ จยั
1. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษา
ปีท่ี 3 ทีเ่ รียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R.
และโปรแกรม Euler
2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ทีม่ ตี ่อเนื้อหากาหนดการ
เชิงเส้น และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
6
ความสาคัญของการวิ จยั
เพื่อให้นกั เรียนในระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 เรียนเนื้อหาทีเ่ ป็นบทประยุกต์เรือ่ งสมการ
อสมการและกราฟ เนื่องจากหลักสูตรการศึกษาขัน้ พืน้ ฐานกาหนดให้นกั เรียนช่วงชัน้ ที่ 3 เรียนเรือ่ ง
สมการ อสมการและกราฟ แต่ การจัดการเรียนการสอนยังไม่มเี นื้อหาทีเ่ ป็นบทประยุกต์โดยอาศัย
ความรูร้ ว่ มกันของเรือ่ งสมการ อสมการและกราฟ ซึง่ กาหนดการเชิงเส้นทีใ่ ช้ก ราฟในการแก้ปญั หา
เป็นเนื้อหาทีท่ าให้นกั เรียนเห็นความสาคัญของเนื้อหาเรือ่ งสมการ อสมการและกราฟ รวมทัง้ การ
นาความรูไ้ ปประยุกต์ใช้แก้ปญั หาในสถานการณ์ทเ่ี กิดขึน้ จริง นอกจากนี้การนากาหนดการเชิงเส้น
มาสอนนักเรียนในช่วงชัน้ ที่ 3 ควรมีการนาโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์เข้ามาเป็นสื่อประกอบการ
เรียนการสอน เพื่อช่วยให้นกั เรียนเกิดการเรียนรูอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโปรแกรม C.a.R.
ช่วยให้นกั เรียนเข้าใจและเห็นแนวคิดทีส่ าคัญของกาหนดการเชิงเส้น ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึน้
ฒ
และโปรแกรม Euler ช่วยอานวยความสะดวกในการคิดคานวณ นักเรียนฝึกทาโจทย์ได้มากขึน้
วโิ ร
และสามารถฝึกทักษะการแก้ปญั หาได้อย่างอิสระ
นิทร
คร
นี
ศร
ขอบเขตของการวิ จยั
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
ประชากรที่ใช้ในการวิ จยั
tU
วทิ
ir o
งม
nw
อาเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฏร์ธานี
ลา
ari
ดุ ก
a kh
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิ จยั
สม
rin
หอ
L ib
สาํ
ฒ
2 คาบ
วโิ ร
ตัวแปรที่ศึกษา
ทร
ตัวแปรอิสระ คือ ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น โดยใช้
นิ
คร
โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ทีผ่ วู้ จิ ยั สร้างขึน้
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ตัวแปรตาม คือ
ยา
n iv
tU
ir o
nw
ลา
ari
โปรแกรม Euler
ดุ ก
a kh
rin
หอ
นิ ยามศัพท์เฉพาะ
นกั
L ib
สาํ
ฒ
วโิ ร
ร้อยละ 60 ขึน้ ไปของคะแนนรวม ถือว่าผูน้ นั ้ สอบผ่านเกณฑ์
ทร
6. ความพึงพอใจที่มีต่อเนื้ อหากาหนดการเชิ งเส้ น และการจัดกิ จกรรมการ
คร
นิ
เรียนรู้โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler หมายถึง การแสดงออกของนักเรียนทีม่ ตี ่อ
นี
ศร
it y
ers
เนื้อหากาหนดการเชิงเส้น และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม
ลยั
ยา
n iv
Euler หลังจากการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
yS
rar
นกั
ของจานวนนักเรียนทัง้ หมด
Ce
บทที่ 2
เอกสารและงานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง
ฒ
วโิ ร
2. เอกสารและงานวิ จยั ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคอมพิ วเตอร์
ทร
2.1 เอกสารและงานวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้องกับโปรแกรมเรขาคณิตแบบพลวัต
คร
นิ
2.2 เอกสารและงานวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้องกับโปรแกรมระบบพีชคณิต
นี
ศร
it y
2.3 ลักษณะของโปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
ers
ลยั
ยา
n iv
3. เอกสารและงานวิ จยั ที่เกี่ยวข้องกับชุด กิ จกรรมการเรียนการสอน
tU
วทิ
หา
3.1 ความหมายของชุดกิจกรรมการเรียนการสอน
ir o
งม
nw
3.2 ประเภทของชุดกิจกรรมการเรียนการสอน
ลา
ari
3.3 องค์ประกอบของชุดกิจกรรมการเรียนการสอน
ดุ ก
a kh
สม
rin
yS
al
โปรแกรม Euler
n tr
4.1 ความหมายของความพึงพอใจ
4.2 ทฤษฎีทเ่ี กีย่ วกับความพึงพอใจ
4.3 งานวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้องกับความพึงพอใจ
5. งานวิ จยั ที่เกี่ยวข้องกับการนาเนื้ อหาคณิ ตศาสตร์ในระดับที่สงู กว่ามาสอนใน
ระดับที่ตา่ กว่า
10
ฒ
ทางคณิตศาสตร์ของปญั หากาหนดการเชิงเส้นและในปีน้เี องก็ได้เสนอวิธกี ารแก้ปญั หากาหนดการ
วโิ ร
ทร
เชิงเส้นทีเ่ รียกว่า วิธซี มิ เพล็กซ์ (Simplex Method) และต่อมาก็มกี ารพัฒนาแนวคิดของ ดานท์ซกิ
นิ
คร
โดยกองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้จดั ตัง้ คณะวิจยั คณะหนึ่งภายใต้ช่อื โครงการสคูป (SCOOP: Scientific
นี
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
ในวงการทหาร และทางเศรษฐศาสตร์ในแบบจาลอง Input-Output ของลีอองทีฟ (Leontief) และ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ส่วนบุคคลได้
al
n tr
ฒ
and Numerical Analysis, the Harvey Prize, the Silver Medal of the Operational Research
วโิ ร
Society เป็นต้น
ทร
นิ
คร
1.2 ความหมายของกาหนดการเชิ งเส้น
นี
ศร
it y
ers
ฟีรงิ (Feiring. 1986: 8) กล่าวว่า กาหนดการเชิงเส้น คือ เซตย่อยของโปรแกรมเชิง
ลยั
ยา
n iv
คณิตศาสตร์ (Mathematics Programming) ทีเ่ กีย่ วข้องกับการจัดสรรทรัพยากรทีม่ อี ยูอ่ ย่างจากัด
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ความสัมพันธ์ในรูปฟงั ก์ชนั คณิตศาสตร์ ซึง่ ฟงั ก์ชนั คณิตศาสตร์น้มี คี ุณสมบัตเิ ป็นฟงั ก์ชนั เชิงเส้น
n tr
Ce
วิจติ ร ตัณฑสุทธิ ์ วันชัย ริจริ วนิช และศิรจิ นั ทร์ ทองประเสริฐ (2548: 21) กล่าวว่า
กาหนดการเชิงเส้นเป็นเทคนิคในการแก้ ปญั หาการจัดสรรปจั จัยและทรัพยากรทีม่ ลี กั ษณะความ
สัมพันธ์ของตัวแปรต่างๆ ทีเ่ กีย่ วข้องเป็นเชิงเส้นทัง้ สิน้ เช่น กาไรสูงสุด ค่าใช้จา่ ยน้อยทีส่ ุด และ
แนวทางการดาเนินงานอื่นๆ ทีใ่ ห้ผลประโยชน์มากทีส่ ุด ต่อระบบนัน้ ๆ โดยมีเงือ่ นไขทีก่ าหนดให้
เช่น สภาวะตลาด วัตถุดบิ กาลังคน เครือ่ งจักร เงินทุน เป็นต้น
จากความหมายของกาหนดการเชิงเส้นทีก่ ล่าวมา พอสรุปได้ว่า กาหนดการเชิงเส้น
เป็นตัวแบบทางคณิตศาสตร์ทส่ี ร้างขึน้ แทนปญั หาทีเ่ กิดขึ้นเพื่อหาแนวทางในการแก้ปญั หาดีทส่ี ุด
ตามเป้าหมายทีต่ งั ้ ไว้ และสอดคล้องกับเงื่อนไขทีม่ อี ยูใ่ นปญั หานัน้ ๆ โดยทีค่ วามสัมพันธ์ของ
ตัวแปรต่างๆ ทีเ่ กีย่ วข้องเป็นเชิงเส้นทัง้ สิน้ ซึง่ จะนาไปใช้ในการแก้ปญั หาการจัดสรรทรัพยากร
หรือกิจกรรมต่างๆ ทีม่ อี ยูอ่ ย่างจากัด เพื่อ ให้ได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ทต่ี อ้ งการ เช่น กาไรสูงสุด
ฒ
ค่าใช้จา่ ยน้อยสุด เป็นต้น
วโิ ร
1.3 การประยุกต์เกี่ยวกับกาหนดการเชิ งเส้น นิทร
คร
ประกอบ จิรกิติ (2535: 2) กล่าวถึง ตัวอย่างของการประยุกต์ใช้กาหนดการเชิงเส้น ได้แก่
นี
ศร
it y
ers
1. ปญั หาการผลิต (Product Mix Problem) เป็นการพิจารณาหาปริมาณสินค้าแต่ละ
ลยั
ยา
n iv
ประเภททีค่ วรทาการผลิต เพื่อทีจ่ ะให้การใช้ทรัพยากรทีม่ อี ยูไ่ ม่ว่าจะเป็น เครือ่ งจักร วัตถุดบิ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
วโิ ร
ปจั จัยทีม่ อี ยูอ่ ย่างจากัด อันได้แก่ ทีด่ นิ น้า ปุ๋ย แรงงาน และเงินลงทุน เพื่อทีจ่ ะให้ได้รายได้จาก
ทร
ผลผลิตนัน้ สูงสุด โดยการเลือกปลูกพืชให้เหมาะสมกับฤดูกาล และจานวนผลผลิตทีไ่ ด้นั ้น จะต้องไม่
นิ
คร
มากเกินความต้องการของตลาดซึง่ จะทาให้ขายผลิตผลทางเกษตรได้ในราคาดี
นี
ศร
it y
ers
2. การอุตสาหกรรม กาหนดการเชิงเส้นได้ช่วยในการทีจ่ ะลดต้นทุนการผลิต และ
ลยั
ยา
n iv
ดาเนินกิจการให้ได้ผลกาไรสูงสุด ตลอดจนช่วยให้การทางานของบุคลและเครือ่ งมือต่างๆ นัน้ เป็นไป
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
สมการวัตถุประสงค์ ร้อยละ 49.46 และมีขอ้ บกพร่องน้อยทีส่ ุด ในจุดประสงค์การเรียนรูท้ ่ี 7
วโิ ร
การกาหนดสมการวัตถุประสงค์ ร้อยละ 6.99
สุกญ นิทร
ั ญา เรืองสุวรรณ (2542) ได้ทาการแก้ปญั หากาหนดการเชิงเส้น ด้วย Excel Solver
คร
พบว่าคาสัง่ Solver ของโปรแกรม Excel นัน้ เป็นเครือ่ งมือหนึ่งทีส่ ามารถช่วยแก้ปญั หากาหนดการ
นี
ศร
it y
ers
เชิงเส้นได้ดี ซึง่ เหมาะสาหรับผูท้ ไ่ี ม่มคี วามรูด้ า้ นกาหนดการเชิงเส้น นอกจาก Solver แล้วยังมี
ลยั
ยา
n iv
โปรแกรมสาหรับแก้ปญั หากาหนดการเชิงเส้นอีกมากมาย อาทิเช่น LINDO (Linear Interactive
tU
วทิ
หา
ir o
Discrete Optimizer), QSB+ (Quantitative System for Business Plus) เป็นต้น ทาให้การ
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
กว่ากลุ่มเรียนตามปกติ กลุ่มทีเ่ รียนด้วย WICAI สูงกว่ากลุ่มทีเ่ รียนตามปกติ แต่กลุ่มทีเ่ รียนด้วยการ
วโิ ร
ผสมผสานกับกลุ่มทีเ่ รียนด้วย WICAI ไม่แตกต่างกัน
ทร
4. ผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนในกลุ่มความสามารถระดับปานกลางและสูง พบว่า
นิ
คร
ผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนระหว่าง กลุ่มทีเ่ รียนด้วยด้วยการผสมผสาน กลุ่มทีเ่ รียนด้วย WICAI และ
นี
ศร
it y
กลุ่มทีเ่ รียนตามปกติ ไม่แตกต่างกัน ers
ลยั
ยา
n iv
อมฤทธิ ์ บุพโต (2548) ได้สร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดีย เรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
นักศึกษาชัน้ ปีท่ี 3 สาขาวิชาสถิติ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในภาคเรียนที่ 1
วโิ ร
ปีการศึกษา 2550 จานวน 34 คน ผลการศึกษาพบว่า บทเรียนบนเครือข่ายทีผ่ ศู้ กึ ษาสร้างขึน้
ทร
มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.58 ซึง่ อยูใ่ นเกณฑ์ทต่ี งั ้ ไว้ แสดงว่า บทเรียนบนเครือข่ายเหมาะที่
นิ
คร
จะนาไปใช้ประกอบการเรียนรูเ้ รือ่ งการแก้ปญั หากาหนดการเชิงเส้น ด้วยโปรแกรมสาเร็จรูป QM
นี
ศร
it y
ers
สาหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาสถิติ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ลยั
ยา
n iv
สังเวียน แผนสุพดั (2552) ได้ศกึ ษาเรือ่ งชุดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เรือ่ ง
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
ควบคุม
วโิ ร
สมิธ (Smith. 1991: Online) ได้ศกึ ษาเรือ่ งการบูรณาการของโปรแกรมระบบพีชคณิต
ทร
ในการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น เพื่อ ศึกษาผลการใช้เทคโนโลยีในการสนับสนุนการ
นิ
คร
เรียนการสอนด้วยโปรแกรมระบบพีชคณิตทีน่ ามาบูรณาการในการเรียนการสอน เพื่อสร้างความ
นี
ศร
it y
ers
เข้าใจเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นกับชัน้ เรียนทีม่ ขี นาดใหญ่โดยทาการทดลองกับนักศึกษาวิชาเอกกา ร
ลยั
ยา
n iv
บริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคโรลินาใต้ ประเทศโคลัมเบีย ซึง่ แต่ละห้องมีประมาณ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
และนักเรียนทัง้ สองกลุ่มมีเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ไม่แตกต่างกัน
al
ฒ
จากเอกสารและงานวิจยั ทัง้ ในและต่างประเทศทีก่ ล่าวมา จะเห็นได้ว่ากาหนดการเชิงเส้น
วโิ ร
มีความสาคัญในการนาไปแก้ปญั หาด้านต่างๆ อย่างกว้างขวาง เช่น ทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม
ทร
การขนส่ง และทางการลงทุน ส่วนทางด้านการศึกษามีการพัฒนาการเรียนการสอน เพื่อให้นกั เรียน
นิ
คร
มีความรูค้ วามสามารถในการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและพบว่าใน
นี
ศร
it y
ers
ต่างประเทศได้มกี ารศึกษาและพัฒนาการเรียนการสอนโดยการสอดแทรกความรูเ้ รือ่ งการวิจยั การ
ลยั
ยา
n iv
ดาเนินการเข้าไปในการเรียนการสอนระดับมัธยมศึก ษาตอนปลาย ซึง่ กาหนดการเชิงเส้น เป็นเนื้อหา
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
al
ฒ
เคลื่อนย้ายจุด เส้นตรง วงกลม มุม พร้อมทัง้ เครือ่ งมืออานวยความสะดวกเบือ้ งต้น เช่น ความยาว
วโิ ร
ทร
ขนาดของมุม ซึง่ สามารถจาแนกตามลักษณะการเผยแพร่ได้ 2 ลักษณะ (Interactive Geometry
นิ
คร
Software. 2009: Online) ดังนี้
นี
ศร
it y
1. โปรแกรมแบบ Commercial คือโปรแกรมทีใ่ ช้ในเชิงธุรกิจ อาทิเช่น
ers
ลยั
n iv
tU
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
rar
L ib
สาํ
clips.com/en/Yenka_3D_Shapes)
Ce
ฒ
วโิ ร
งานแบบ HTML โดยทีย่ งั คงคุณสมบัตติ ่างๆ ของโปรแกรมเสมือนอยูใ่ นแฟ้มงานของ C.a.R. และ
ทร
สามารถเลือกเครือ่ งมือทีเ่ คยใช้งานในโปรแกรม C.a.R. เฉพาะทีจ่ าเป็นมาใช้งานในแฟ้มงานแบบ
นิ
คร
HTML ได้
นี
ศร
it y
ers
2. สามารถสร้างงานในลักษณะแบบทดสอบการสร้างทีส่ ามารถตรวจสอบความ
ลยั
ยา
n iv
ถูกต้องได้
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
C.a.R. ได้ทนั ทีทน่ี กั เรียนสร้างได้ถูกต้อง โปรแกรม C.a.R. จะมีการตอบสนองว่า Well Done ซึง่
หอ
yS
L ib
สาํ
สร้าง
al
ฒ
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรียนศึกษานารี เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
วโิ ร
ทร
จานวน 57 คน ผลการวิจยั พบว่า นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ทีเ่ รียนโดยใช้กจิ กรรมการเรียน
นิ
การสอนเรือ่ งการแปลงทางเรขาคณิต สามารถสอบผ่านเกณฑ์ได้มากกว่าร้อยละ 60 ของจานวน
คร
นี
นักเรียนทัง้ หมด และนักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนเรือ่ งการแปลงทางเรขาคณิตโดยใช้
ศร
it y
ers
ลยั
โปรแกรมเรขาคณิตแบบพลวัตอยูใ่ นระดับปานกลาง
ยา
n iv
สุภทั รา เกิดมงคล (2550) ได้ศกึ ษาเรือ่ งกิจกรรมการเรียนการสอน เรือ่ งสมบัตขิ องวงกลม
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
เรขาคณิตแบบพลวัตอยูใ่ นระดับปานกลาง
al
ฒ
สองมิตแิ ละสามมิติ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี อาเภอเมือง
วโิ ร
จังหวัดพิษณุโลก โดยวิธกี ารเลือกแบบเจาะจง จานวน 2 ห้อง ผลการวิจยั พบว่า
ทร
1. ความสามารถเชิงปริภมู ิ เรือ่ งความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิตแิ ละ
นิ
คร
สามมิตขิ องนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ทีไ่ ด้รบั การสอนโดยประยุกต์ใช้โปรแกรม GSP สูงกว่า
นี
ศร
it y
การสอนแบบปกติอย่างมีนยั สาคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดับ .01 ers
ลยั
ยา
n iv
2. ผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรือ่ งความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิต
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
สหรัฐอเมริกา ผูว้ จิ ยั ให้กลุ่มทดลองเรียนด้วยกิจกรรมสารวจโดยใช้ โปรแกรมเรขาคณิตแบบพลวัต
วโิ ร
ส่วนกลุ่มควบคุมเรียนด้วยกิจกรรมสารวจโดยใช้กระดาษและดินสอ ผลการวิจยั พบว่า กลุ่มทดลอง
ทร
มีเจตคติต่อวิชาเรขาคณิตสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนยั สาคัญทางสถิติ
นิ
คร
บาฮาร์วานด์ (Baharvand. 2002: 552-A) ได้เปรียบเทียบผลการสอนเรขาคณิตระหว่าง
นี
ศร
it y
ers
สอนโดยใช้โปรแกรมเรขาคณิตแบบพลวัตเทียบกับการสอนของครูแบบปกติโดยใช้กระดาษ ดินสอ
ลยั
ยา
n iv
และครูเป็นผูบ้ รรยาย โดยกลุ่มควบคุมเป็ นนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 จานวน 26 คน ให้ได้รบั
tU
วทิ
หา
ir o
nw
24 คน ให้เรียนด้วยเนื้อหาเดียวกับกลุ่มควบคุมแต่ใช้โปรแกรมเรขาคณิตแบบพลวัตในการเรียน
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
เรียนการสอนเรขาคณิตในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
n tr
Ce
ฒ
โปรแกรมระบบพีชคณิต คือ โปรแกรมทีม่ คี วามสามารถทางการคานวณ และมีลกั ษณะ
วโิ ร
สาคัญคือสามารถประมวลผลเชิงสัญลักษณ์ได้ (Computer Algebra System. 2009: Online)
ทร
โปรแกรมระบบพีชคณิตเริม่ พัฒนาในปี ค.ศ.1960 โดยถูกพัฒนามาจากการค้นคว้าวิจยั
นิ
คร
สมองกลคอมพิวเตอร์หรือปญั ญาประดิษฐ์ ซึง่ มาร์ตนิ เวลแมน (Martin Veltman) เป็นผูบ้ ุกเบิก
นี
ศร
it y
ers
โดยสร้างโปรแกรมที่สามารถจัดการสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์และประยุกต์ใช้เฉพาะทางฟิสกิ ส์
ลยั
ยา
n iv
ขัน้ สูงเรือ่ งพลังงาน ชื่อ Schoonschip จนได้รบั รางวัลโนเบลสาขาฟิสกิ ส์ในปี ค.ศ.1963 คาร์ล เอนเจ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
al
ฒ
วโิ ร
4. การหาอนุ พนั ธ์ของฟงั ก์ชนั
5. หาอินทิกรัลจากัดเขตและไม่จากัดเขต นิทร
คร
6. การหาค่าเหมาะทีส่ ุด (Optimization)
นี
ศร
it y
ers
7. แก้สมการเชิงเส้นและสมการทีไ่ ม่เป็นเชิงเส้นในบางกรณี
ลยั
ยา
n iv
8. แก้สมการเชิงอนุพนั ธ์ (Differential Equation) ได้บางกรณี
tU
วทิ
หา
nw
10. การแปลงเชิงปริพนั ธ์
ลา
ari
ดุ ก
a kh
11. อนุกรมและการดาเนินการ
สม
rin
12. เมทริกซ์และการดาเนินการ
หอ
yS
13. การคานวณทางสถิติ
rar
นกั
L ib
สาํ
7. ความเทีย่ งตรงทางการคานวณ
8. สร้างภาพและแก้ไขภาพด้วย Computer Generate Imagery (CGI)
9. ความสามารถในการสังเคราะห์เสียง (Sound Synthesis)
ชนิดของนิพจน์ท่โี ปรแกรมระบบพีชคณิตสามารถจัดกระทาได้ มีดงั นี้
1. พหุนามหลายตัวแปร
2. ฟงั ก์ชนั มาตรฐาน เช่น ฟงั ก์ชนั ไซน์ ฟงั ก์ชนั เอกโปเนนเชียล เป็นต้น
3. ฟงั ก์ชนั พิเศษ เช่น ฟงั ก์ชนั เบสเซล ฟงั ก์ชนั ค่าคลาดเคลื่อน (Error Function)
เป็นต้น
4. ฟงั ก์ชนั เพิม่ เติมทีผ่ ใู้ ช้สร้างขึน้ (Arbitrary Functions of Expression)
5. ค่าเหมาะทีส่ ุด (Optimization)
ฒ
6. อนุพนั ธ์ อินทิกรัล การทาให้งา่ ย ผลรวม และผลคูณของนิพจน์
วโิ ร
7. อนุกรมปลายตัด-สัมประสิทธิ ์ (Truncated Series with Expression as
Coefficients) นิทร
คร
8. นิพจน์ของเมทริกซ์
นี
ศร
it y
ers
สาหรับโดเมนที่โปรแกรมระบบพีชคณิต สามารถรองรับได้ ได้แก่ จานวนตรรกยะ
ลยั
ยา
n iv
จานวนจริง จานวนเชิงซ้อน รวมถึงสามารถรองรับช่วง (Interval) ได้
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
4. การแยกตัวประกอบของพหุนาม
al
ฒ
วโิ ร
2.1 โปรแกรม Mathematica
2.2 โปรแกรม Maxima นิทร
คร
2.3 โปรแกรม Derive
นี
ศร
it y
2.4 โปรแกรม Maple ers
ลยั
ยา
n iv
2.5 โปรแกรม MuPAD
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
ชาญชัย สุกใส (2543) ได้ศกึ ษาผลของการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ MAPLE V
วโิ ร
ประกอบการเรียนการสอน ต่อ ผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ พีชคณิตเชิงเส้น และศึกษา
ทร
เจตคติต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ของนักศึกษาโปรแกรมวิชาคณิตศาสตร์และสถิตปิ ระยุกต์
นิ
คร
สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี ในปีการศึกษา 2543 พบว่า นักศึกษาทีเ่ รียนโดยใช้โปรแกรม
นี
ศร
it y
ers
คอมพิวเตอร์ประกอบมีผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนสูงกว่านักศึกษาทีเ่ รียนปกติในชัน้ เรียน อย่างมี
ลยั
ยา
n iv
นัยสาคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดับ .05 ในด้านเจตคติต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์พบว่า นักเรียนทีเ่ รียน
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
และศึกษาสภาพการเรียนการสอนและสภาพสังคมในชัน้ เรียนในการเรียนวิชาพีชคณิตเชิงเส้นโดย
rar
นกั
L ib
สาํ
ฒ
วโิ ร
เชิงกราฟ สามารถใช้ได้ดที งั ้ เพศหญิงและเพศชายโดยไม่มขี อ้ แตกต่างกัน
ทร
ศุภชัย เรืองเดช (2546) ได้ศกึ ษาเปรียบเทียบมโนทัศน์เชิงคณิตศาสตร์ทเ่ี กีย่ วกับปริพนั ธ์
นิ
คร
และเปรียบเทียบความสามารถในการแก้โจทย์ปญั หาเชิงคณิตศาสตร์เกีย่ วกับการประยุกต์ปริพนั ธ์
นี
ศร
it y
ers
ของนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชัน้ สูง ชัน้ ปีท่ี 1 ระหว่างกลุ่มทีใ่ ช้เครือ่ งคานวณเชิง
ลยั
ยา
n iv
กราฟกับกลุ่มทีไ่ ม่ใช้เครือ่ งคานวณเชิงกราฟประกอบการเรียน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาหลักสูตร
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
ผลการวิจยั พบว่า
หอ
yS
L ib
สาํ
ฒ
เครือ่ งมือแสดงความเข้าใจมโนมติในระดับการกระทา (CART) และระดับกระบวนการ (CPRT)
วโิ ร
ในการใช้เครือ่ งคิดเลขในกระบวนการแก้ปญั หาจะใช้ความสามารถและบทบาทของเครือ่ งคิดเลข
ทร
ในการเขียนกราฟและการหาค่าต่างๆ เกีย่ วกับกราฟของฟงั ก์ชนั กาลังสอง
นิ
คร
นี
ศร
it y
งานวิ จยั ต่างประเทศ ers
ลยั
ยา
n iv
เพอเจซี (Perjési. 2003: 43) ได้นาโปรแกรมระบบพีชคณิต (Computer Algebra System:
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
เข้าใจแนวคิดได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึน้
al
ฒ
เข้าใจในวิชาคณิตศาสตร์เพิม่ ขึน้ ส่งผลให้นกั เรียนมีเจตคติทด่ี ตี ่อวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยเหตุน้ผี วู้ จิ ยั
วโิ ร
จึงสนใจทีจ่ ะนาโปรแกรมระบบพีชคณิต มาใช้ในการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น โดย
โปรแกรมระบบพีชคณิตทีใ่ ช้งานวิจยั คือ โปรแกรม Euler นิทร
นีคร
ศร
it y
2.3 ลักษณะของโปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler ers
ลยั
ยา
n iv
เนื่องจากโปรแกรม C.a.R. เป็นโปรแกรมเรขาคณิตแบบพลวัต ชนิดหนึ่ง และโปรแกรม
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
หอ
yS
L ib
สาํ
เรขาคณิตแบบพลวัต ระบบพีชคณิต
2. ลักษณะการใช้งาน การใช้งานโดยส่วนใหญ่จะใช้เมาส์ การใช้งานโดยส่วนใหญ่จะใช้
มีการใช้คยี บ์ อร์ดบ้าง ในกรณีของ คียบ์ อร์ดพิมพ์คาสัง่
การพิมพ์ฟงั ก์ชนั เพื่อสร้างกราฟ
การพิมพ์ขอ้ ความ หรือการพิมพ์ค่า
ของพารามิเตอร์
3. ลักษณะการทางาน โปรแกรม C.a.R. เกีย่ วข้องกับการ การทางานมีลกั ษณะเป็นแบบ
สร้างและจัดกระทากับวัตถุ เช่น Input – Process – Output
การสร้างกราฟ การสร้างวงกลม
การเคลื่อนย้ายจุดหรือย้ายเส้น
32
ตาราง 1 (ต่อ)
ฒ
ใช้เมาส์ลากวัตถุเมือ่ ต้องการให้วตั ถุ
วโิ ร
เคลื่อนทีไ่ ปทางใด
4. ความสามารถใน โปรแกรม C.a.R. ยังไม่สามารถ นิ ทร โปรแกรม Euler มีความสามารถ
คร
การประมวลผลเชิง ประมวลผลเชิงสัญลักษณ์ได้ ในการประมวลผลเชิงสัญลักษณ์
นี
ศร
it y
สัญลักษณ์ ers
เนื่องจากโปรแกรม Euler มี
ลยั
ยา
n iv
โปรแกรมระบบพีชคณิตแฝงอยู่
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
เคลื่อนไหว
หอ
yS
L ib
สาํ
ทดสอบการสร้าง กล่าวคือเมือ่
n tr
Ce
ฒ
ต่างๆ ดังกล่าว ได้รบั การรวบรวมไว้เป็นระเบียบในกล่องเพื่อเตรียมไว้ให้นกั เรียนได้ศกึ ษาจาก
วโิ ร
ทร
ประสบการณ์ทงั ้ หมด
นิ
คร
กองพัฒนาการการศึกษานอกโรงเรียน (2542: 5) กล่าว่า ชุดกิจกรรม หมายถึง งานหรือ
นี
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
ร่วมในการเรียนด้วยตนเองตามทีก่ าหนดในชุดวิชา เมือ่ ทากิจกรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะสามารถ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
rar
L ib
สาํ
ฒ
ประกอบด้วยสื่อประเภทสิง่ พิมพ์ รายการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และการสอน
วโิ ร
เสริมตามศูนย์บริการการศึกษา เช่น ชุดการเรียนการสอนทางไกลมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ทร
บุญเกือ้ ควรหาเวช (2545: 94–95) ได้แบ่งประเภทของชุดกิจกรรมเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ
นิ
คร
คือ
นี
ศร
it y
ers
1. ชุดกิจกรรมการสอนประกอบคาบรรยาย เป็นชุดการสอนสาหรับผูส้ อนจะใช้สอน
ลยั
ยา
n iv
นักเรียนเป็นกลุ่มใหญ่ หรือการสอนทีต่ อ้ งการปูพน้ื ฐานให้นกั เรียนส่วนใหญ่รแู้ ละเข้าใจในเวลา
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
ได้แก่ รูปภาพแผนภูม ิ สไลด์ ฟิลม์ สคริป ภาพยนตร์ เป็นต้น ข้อสาคัญคือสื่อทีจ่ ะนามาใช้น้ตี อ้ งให้
สม
rin
นักเรียนได้เห็นอย่างชัดเจนทุกคน ชุดการสอนชนิดนี้บางคนอาจเรียกว่าชุดการสอนสาหรับครู
หอ
yS
L ib
สาํ
ฒ
2. คู่มอื การใช้ชุดกิจกรรม เป็นสิง่ ทีจ่ าเป็นมากซึง่ ผูใ้ ช้ชุดกิจกรรมนัน้ จะศึกษาจาก
วโิ ร
คู่มอื เป็นอันดับแรกดังนัน้ คู่มอื การใช้ชุดกิจกรรมจึงประกอบด้วย
ทร
2.1 หัวเรือ่ ง กาหนดเวลาเรียนและจานวนนักเรียน
นิ
คร
2.2 เนื้อหา สาระสาคัญจากรายละเอียดของเนื้อเรือ่ งทัง้ หมด ควรจะบรรยาย
นี
ศร
it y
เนื้อหาอย่างสัน้ ๆ ers
ลยั
ยา
n iv
2.3 ความคิดรวบยอด (Concept) กล่าวถึงหลักการเรียนรูท้ ม่ี งุ่ เน้น
tU
วทิ
หา
ir o
nw
นักเรียนได้รบั
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ใช้อุปกรณ์
al
2.7 การประเมินผล
n tr
Ce
ฒ
2.3 การสรุปบทเรียน
วโิ ร
บัตรคาสังนี ่ ้ มักนิยมใช้กระดาษแข็งตัดเป็นบัตร ขนาด 6 คูณ 8 นิ้ว
ทร
3. เนื้อหาสาระและสื่อ จะบรรจุไว้ในรูปของสื่อการสอนต่างๆ อาจจะประกอบด้วย
นิ
คร
บทเรียนโปรแกรม สไลด์ เทปบันทึกเสียง ฟิลม์ สคริป แผ่นภาพโปร่งใส วัสดุกราฟฟิกส์ หุ่นจาลอง
นี
ศร
it y
ers
ของตัวอย่าง รูปภาพ เป็นต้น นักเรียนจะศึกษาจากสื่อการสอนต่างๆ ทีบ่ รรจุอยูใ่ นชุดกิจกรรม ตาม
ลยั
ยา
n iv
บัตรคาทีก่ าหนดไว้ให้
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
องค์ประกอบดังนี้
al
ฒ
2.4 สื่อการเรียนการสอนต่างๆ
วโิ ร
2.5 การประเมินผล
3. ทบทวนและปรับปรุง
ทร
นิ
คร
4. ให้ผเู้ ชีย่ วชาญด้านการพัฒนาหลักสูตร ด้านเนื้อหาสาระ ด้านสื่อการสอน
นี
ศร
it y
พิจารณาให้ขอ้ เสนอแนะ ผูส้ ร้างปรับปรุงตามข้อเสนอแนะนัน้ ๆ ers
ลยั
ยา
n iv
5. ทดลองใช้และปรับปรุง โดยนาไปทดลองใช้กบั นักเรียนทีเ่ ป็นกลุ่มเป้ าหมายของ
tU
วทิ
หา
ir o
การสร้างชุดกิจกรรม ดังนี้
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
แก้ไขข้อบกพร่อง
rar
นกั
L ib
สาํ
นาคะแนนจากการทดสอบมาวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของบทเรียนตามเกณฑ์มาตรฐาน 90/90
นาเอาผลมาปรับปรุงกิจกรรม เนื้อหาสาระและสื่อต่างๆ ตามข้อสนเทศทีไ่ ด้รบั จะเห็นได้ว่าชุดการ
เรียนการสอนมี
5.3 ทดลองกับกลุ่มใหญ่ หลังจากทดลองและปรับปรุงแก้ไขชุดกิจกรรมทัง้
สองครัง้ แล้ว นาเอาชุดกิจกรรมนี้ไปทดลองใช้กบั นักเรียนหนึ่งห้องเรียน แล้วนาผลการทดสอบ
ผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนมาหาประสิทธิภาพของบทเรียนตามเกณฑ์มาตรฐาน 90/90
38
ฒ
ขัน้ ที่ 4 ทดสอบประสิทธิภาพชุดกิจกรรม
วโิ ร
เป็นการประเมินผลคุณภาพชุดการสอน ด้วยการนาชุดกิจกรรมไปทดลองใช้
แล้วปรับปรุงให้มคี ุณภาพตามเกณฑ์ทก่ี าหนดไว้
ทร
นิ
คร
จากการศึกษาขัน้ ตอนการสร้างชุดกิจกรรมการเรียนการสอนข้างต้น ผูว้ จิ ยั ได้สร้างชุด
นี
ศร
it y
ers
กิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
ลยั
ยา
n iv
โดยมีขนั ้ ตอนดังนี้
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
2. สร้างชุดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยดาเนินการสร้างดังนี้
สม
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
ขวัญ เพียซ้าย (2547) ได้การสร้างชุดการเรียนการสอนทีผ่ ู้ เรียนสาคัญทีส่ ุด เรือ่ งการ
วโิ ร
พิสจู น์ทางคณิตศาสตร์ และศึกษาความสามารถในการเรียนเรือ่ งการพิสจู น์ทางคณิตศาสตร์ รวมทัง้
ทร
เจตคติของนิสติ วิชาเอกคณิตศาสตร์ ระดับปริญญาตรี ทีม่ ตี ่อชุดการเรียนการสอนทีผ่ เู้ รียนสาคัญ
นิ
คร
ทีส่ ุดเรือ่ งการพิสจู น์ทางคณิตศาสตร์ ผลการวิจยั พบว่านิสติ วิชาเอกคณิตศาสตร์ ระดับปริญญาตรี
นี
ศร
it y
ers
ชัน้ ปีท่ี 2 หลังจากเรียนเรือ่ งการพิสจู น์ทางคณิตศาสตร์โดยใช้ชุดการเรียนการสอนทีผ่ เู้ รียนสาคัญ
ลยั
ยา
n iv
ทีส่ ุดสามารถสอบผ่านเกณฑ์คะแนนตัง้ แต่รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไปของคะแนนรวม มีจานวนมากกว่าร้อยละ
tU
วทิ
หา
ir o
50 ของจานวนนิสติ ทัง้ หมดทีร่ ะดับนัยสาคัญ .01 และนิสติ วิชาเอกคณิตศาสตร์ ชัน้ ปีท่ี 2 มีเจตคติต่อ
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 หลังจากสอนโดยใช้ชุดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เรือ่ งทฤษฎี
วโิ ร
จานวนเบือ้ งต้นทีเ่ น้นการให้เหตุผล รวมทัง้ ศึกษาเจตคติทม่ี ตี ่อเนื้อหาทฤษฎีจานวนเบือ้ งต้นและ
ทร
กิจกรรมการเรียนรูข้ องนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4
นิ
คร
โรงเรียนปทุมคงคา กรุงเทพมหานคร จานวน 40 คน ผลการวิจยั พบว่า นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษา
นี
ศร
it y
ers
ปีท่ี 4 หลังจากสอนโดยใช้ชุดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เรือ่ งทฤษฎี จานวนเบือ้ งต้น ทีเ่ น้นการ
ลยั
ยา
n iv
ให้เหตุผล มีความสามารถในการเรียนเรือ่ งทฤษฎีจานวนเบือ้ งต้น โดยใช้ชุดการเรียนการสอน
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
เห็นด้วยมาก
สม
rin
หอ
yS
L ib
สาํ
สร้างชุดการเรียนการสอนแบบบูรณาการทางวิทยาศาสตร์และสังคมศึกษา และสามารถดาเนิน
การจัดทาหลักสูตรในโรงเรียนได้
เฮิรบ์ ส์ท (Herbst. 2004) ได้ศกึ ษาการสร้างหลักสูตรวิชาคณิตศาสตร์พน้ื ฐานทีเ่ หมาะสม
สาหรับนักเรียนทีม่ คี วามผิดปกติทางอารมณ์หรือพฤติกรรม จุดมุง่ หมายในการศึกษาครัง้ นี้ คือ
1) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์โดยใช้ชุดการเรียนทีเ่ หมาะสมสาหรับนักเรียน
ทีม่ คี วามผิดปกติทางอารมณ์และพฤติกรรม 2) เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนทีม่ คี วามผิดปกติทาง
อารมณ์และพฤติกรรมทีม่ ตี ่อการเรียนแบบมีส่วนร่วม 3) เพื่อศึกษาเจตคติของครูทม่ี ตี ่อวิธกี ารแก้
สมการของนักเรียน ครูผเู้ ชีย่ วชาญพิเศษ 3 คน และครูทวไป ั ่ 9 คน จากโรงเรียนระดับประถมศึกษา
3 โรงเรียน และนักเรียนระดับประถมศึกษาปีท่ี 3 จานวน 10 คน ในจานวนนี้มนี กั เรียน 5 คน
เป็นนักเรียนทีม่ คี วามสามารถในการควบคุมอารมณ์ดว้ ยตนเองและมีวธิ ี การแก้สมการในระดับที่
ฒ
เหมาะสม ชุดการเรียนทีน่ ามาใช้มวี ธิ กี ารสอนแบบทางตรง ซึง่ เปิดโอกาสให้นกั เรียนมีการโต้ตอบ
วโิ ร
อย่างต่อเนื่อง มีการเสริมแรง การวัดผล นักเรียนได้เรียนรูส้ าระและพฤติกรรมจากจอมอนิเตอร์ และ
ทร
ครูจะสังเกตการแสดงพฤติกรรมของนักเรียนผ่านทางจอมอนิเตอร์ ผลการศึกษาพบว่า 1) นักเรียน
นิ
คร
ทีม่ คี วามผิดปกติทางอารมณ์และพฤติกรรมทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนหลังเรียนสูง
นี
ศร
it y
ers
กว่านักเรียนปกติ 2) นักเรียนทีม่ คี วามผิดปกติทางอารมณ์และพฤติกรรมมีเจตคติทด่ี ตี ่อการเรียน
ลยั
ยา
n iv
การสอนแบบมีส่วนร่วม 3) ครูมเี จตคติทด่ี ตี ่อวิธกี ารแก้สมการของนักเรียน
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
นักเรียนทีเ่ กีย่ วกับคณิตศาสตร์ ซึง่ มีส่วนประกอบอยู่ 7 ส่วน คือ ความรูเ้ กีย่ วกับคณิตศาสตร์
rar
นกั
L ib
สาํ
ฒ
การเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ผูว้ จิ ยั ได้สร้าง
วโิ ร
กิจกรรมให้นกั เรียนเกิดทักษะ/ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ 3 มาตรฐาน จาก 6 มาตรฐาน
ทร
ทีก่ าหนดในสาระที่ 6 ทักษะ/ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของหลักสูตรการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน
นิ
คร
พุทธศักราช 2544 (กรมวิชาการ. 2544: 13) ดังนี้
นี
ศร
it y
1. มาตรฐานการแก้ปญั หา ers
ลยั
ยา
n iv
1.1 สร้างกิจกรรมโดยใช้โปรแกรม C.a.R. ทีแ่ สดงให้นกั เรียนเห็นแนวคิด
tU
วทิ
หา
nw
แบบฝึกหัดโดยไม่ใช้โปรแกรม C.a.R.
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
กระบวนการในการแก้ปญั หา
rar
นกั
L ib
สาํ
2. มาตรฐานการสื่อสาร
al
ฒ
อารมณ์ ความรูส้ กึ และทัศนคติของบุคคลอันเนื่องมาจากสิง่ เร้าและแรงจูงใจ ซึง่ ปรากฎออกมาทาง
วโิ ร
ทร
พฤติกรรมและเป็นองค์ประกอบทีส่ าคัญในการทากิจกรรมต่างๆ ของบุคคล
นิ
คร
วอลเลอร์สเตน (Wallerstein. 1971: 256) กล่าวว่า ความพึงพอใจ หมายถึง ความรูส้ กึ ที่
นี
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
เท่านัน้ การทีจ่ ะทาให้คนเกิดความพึงพอใจจะต้องอาศัยปจั จัยและองค์ประกอบทีเ่ ป็นสาเหตุแห่ง
tU
วทิ
หา
ir o
ความพึงพอใจ
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
มอรส์ (Morse. 1995: 27) กล่าวว่า ความพึงพอใจ หมายถึง ทุกสิง่ ทุกอย่างทีส่ ามารถ
หอ
yS
rar
L ib
สาํ
กิจกรรม
al
n tr
4.2 ทฤษฎีที่เกี่ยวกับความพึงพอใจ
บลูม (Bloom. 1976: 72-74) มีความเห็นว่าถ้าสามารถจัดให้ผเู้ รียนได้ทาพฤติกรรมตาม
ทีต่ นเองต้องการก็น่าจะคาดหวังแน่นอนว่าผูเ้ รียนทุก คนได้เตรียมใจสาหรับกิจกรรมทีต่ นเองเลือก
นัน้ ด้วยความกระตือรือร้นพร้อมด้วยความมันใจ ่ เราสามารถเห็นความแตกต่างของความพร้อมด้าน
จิตใจได้ชดั เจนจากการปฏิบตั ขิ องนักเรียนต่องานทีเ่ ป็นวิชาบังคับกับวิชาเลือก หรือสิง่ นอกโรงเรียน
ทีผ่ เู้ รียนอยากเรียน เช่น การขับรถยนต์ การเล่นดนตรี เกม หรือสิง่ ทีผ่ เู้ รียนอาสาสมัครและสามารถ
44
ฒ
ต้องการระดับต่าได้รบั การตอบสนองแล้ว บุคคลก็จะให้ความสนใจกับความต้องการระดับสูงต่อไป
วโิ ร
ลาดับความต้องการของบุคคลมี 5 ลาดับขัน้ ดังนี้
ทร
3.1 ความต้องการทางร่างกาย (Physiological Needs) เป็นความต้องการ
นิ
คร
เบือ้ งต้นเพื่อความอยูร่ อดของชีวติ เช่น ความต้องการในเรือ่ งของอาหาร น้า อากาศ เครือ่ งนุ่งห่ม
นี
ศร
it y
ers
ยารักษาโรค ทีอ่ ยูอ่ าศัย ความต้องการทางเพศ ความต้องการทางด้านร่างกายจะมีอทิ ธิพลต่อ
ลยั
ยา
n iv
พฤติกรรมของตน ก็ต่อเมือ่ ความต้องการทัง้ หมดของคนยังไม่ได้รบั การตอบสนอง
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
a kh
rin
รวมถึงความก้าวหน้าและความอบอุ่นใจ
หอ
yS
L ib
สาํ
ฒ
การเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น
วโิ ร
4.3 งานวิ จยั ที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจ นิทร
คร
งานวิ จยั ในประเทศ
นี
ศร
it y
ers
วนิสา นิรมาณ (2545) ได้ศกึ ษาการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยวิธกี าร
ลยั
ยา
n iv
ค้นพบเรือ่ ง ฟงั ก์ชนั ตรีโกณมิติ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4
tU
วทิ
หา
ir o
nw
แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ และนักเรียนแผนการเรียนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษ
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
อินเทอร์เน็ตทีส่ ร้างขึน้ ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวสิ ต์กบั นักเรียนทีเ่ รียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้
วโิ ร
ของครู 3) เปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนทีเ่ รียนโดยบทเรียน
ทร
คอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดียบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทีส่ ร้างขึน้ ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวสิ ต์กบั นักเรียนที่
นิ
คร
เรียนจากการเรียนตามแผนการจัดการเรียนรูข้ องครู และ4) ศึกษาความพึงพอใจในการเรียนของ
นี
ศร
it y
ers
นักเรียนทีม่ ตี ่อบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดียบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต วิชาคณิตศาสตร์ ทีส่ ร้างขึน้
ลยั
ยา
n iv
ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวสิ ต์ กลุ่มตัวอย่างทีใ่ ช้ในการพัฒนาและหาประสิทธิภาพบทเรียนเป็น
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ผลการวิจยั พบว่า
1) บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดียบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทีส่ ร้างขึน้ ตามทฤษฎี
คอนสตรัคติวสิ ต์ วิชาคณิตศาสตร์ ทีผ่ ่านการตรวจสอบจากผูเ้ ชีย่ วชาญด้านเนื้อหาและด้า น
เทคโนโลยีการ ศึกษามีคุณภาพอยูใ่ นระดับดีมาก และมีประสิทธิภาพ 87.42/86.78 เป็นไปตาม
เกณฑ์ 85/85
2) ผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนของนักเรียนทีเ่ รียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์
มัลติมเี ดียบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทีส่ ร้างขึน้ ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวสิ ต์สงู กว่านักเรียนทีเ่ รียนตาม
แผนการจัดการเรียนรูข้ องครู อย่างมีนยั สาคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดับ .05
47
ฒ
ไม่มคี วามพิการซ้าซ้อน กาลังเรียนอยูใ่ นระดับช่วงชัน้ ที่ 2 (ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4-6) ภาคเรียนที่ 2
วโิ ร
ปีการศึกษา 2551 จากโรงเรียนบางบัว กรุงเทพมหานคร ผลการวิจยั พบว่า
ทร
1. ผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรือ่ งค่าของเงินและการใช้ของนักเรียนช่วง
นิ
คร
ชัน้ ที่ 2 ทีม่ คี วามบกพร่องทางสติปญั ญาระดับเล็กน้อย หลังจากใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ลีย
นี
ศร
it y
อยูใ่ นระดับดี ers
ลยั
ยา
n iv
2. ผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรือ่ งค่าของเงินและการใช้ของนักเรียน
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
rar
นกั
L ib
al
ฒ
โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 และศึกษาศึกษาความ
วโิ ร
พึงพอใจของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ทีม่ ตี ่อเนื้อหากาหนดการเชิงเส้น และการจัดกิจกรรมการ
เรียนรูโ้ ดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler นิทร
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
tU
ระดับที่ตา่ กว่า
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ari
a kh
สม
rin
yS
ได้แก่
rar
นกั
al
ฒ
ซึง่ พบว่าคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนและคะแนนเฉลีย่ หลังเรียนสูงกว่าคะแนนจุดตัด
วโิ ร
สุธรรม กิตติพุฒพิ งศ์ (2544) ได้ทาการศึกษาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์
ทร
เรือ่ งตรรกศาสตร์เบือ้ งต้นของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 และนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
นิ
คร
ถ้านักเรียนในกลุ่มตัวอย่างทีใ่ ช้ในการทดลองทาคะแนนได้ตงั ้ แต่ 50% ขึน้ ไปและมีจานวนนักเรียน
นี
ศร
it y
ers
ไม่น้อยกว่าครึง่ หนึ่งของกลุ่มตัวอย่าง ให้ถอื ว่านักเรียนกลุ่มตัวอย่างนี้มคี วามสามารถในการเรียน
ลยั
ยา
n iv
เรือ่ งตรรกศาสตร์เบือ้ งต้น ผลการวิจยั พบว่า นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ไม่มคี วามสามารถ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
เรขาคณิตวิยตุ มีประสิทธิภาพตามความคิดเห็นของผูเ้ ชีย่ วชาญ นักเรียนทีเ่ รียนหลักสูตรเรขาคณิต
วโิ ร
วิยตุ มีความสามารถด้านเนื้อหา มีความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ และมีพฤติกรรม
ทร
การให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์อยูใ่ นเกณฑ์ดี และมีเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์อยูใ่ นเกณฑ์ดี
นิ
คร
นี
ศร
it y
งานวิ จยั ต่างประเทศ ers
ลยั
ยา
n iv
กัปรัด (Gubrud. 1971: 6468-A) ได้ทาการวิจยั เพื่อศึกษา ความสามารถในการเรียน
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ผลการวิจยั สรุปว่า
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
เบือ้ งต้น
rar
นกั
L ib
สาํ
ฒ
มีความสามารถเพียงพอในการเรียนวิชาเรขาคณิตวิเคราะห์ แต่พบว่านักเรียนระดับชัน้ มัธยม
วโิ ร
ศึกษาปีท่ี 3 มีผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนสูงกว่า นักเรียนระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4
ทร
3. นักเรียนระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 และนักเรียนระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 มี
นิ
คร
ความสามารถในการเรียนวิชาเรขาคณิตวิเคราะห์มากกว่านักเรียนระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 และ
นี
ศร
it y
ers
นักเรียนระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 สรุปได้ว่าควรสอนวิชาเรขาคณิตวิเคราะห์กบั นักเรียนระดับชัน้
ลยั
ยา
n iv
มัธยมศึกษาปีท่ี 3
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
บทที่ 3
วิธีดาเนินการวิจยั
ฒ
การกาหนดประชากรและการเลือกกลุ่มตัวอย่าง
วโิ ร
ประชากร
ทร
ประชากรทีใ่ ช้ในการวิจยั ครัง้ นี้ เป็นนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนบ้านนาสาร
นิ
คร
อาเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฏร์ธานี
นี
ศร
it y
ers
ลยั
การเลือกกลุ่มตัวอย่าง
ยา
n iv
กลุ่มตัวอย่างทีใ่ ช้ในการวิจยั ครัง้ นี้เป็นนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 2
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
อยูใ่ นห้องเดียวกัน
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิ จยั
al
n tr
ฒ
วโิ ร
โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปี ที่ 3
ขัน้ ที่ 1 การเตรียมงานด้านวิชาการ นิทร
คร
ผูว้ จิ ยั ได้ศกึ ษาหนังสือและเอกสารทีเ่ กีย่ วข้อง เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างชุด กิจกรรมการ
นี
ศร
it y
ers
เรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 และเป็นแนวทางในการ
ลยั
ยา
n iv
จัดการเรียนการสอน ดังนี้
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
วโิ ร
2. หน่วยการเรียนที่ 2 การแก้ปญั หากาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ จานวน
ทร
7 คาบ คร
นิ
2.2 จัดทาบทเรียนตามกรอบเนื้อหาในหน่วยการเรียนที่ 1 และ 2
นี
ศร
it y
ers
2.3 จัดทาใบกิจกรรม โดยออกแบบใบกิจกรรมให้สอดคล้องกับเนื้อหา และจุดประสงค์
ลยั
ยา
n iv
การเรียนรู้ ในหน่วยการเรียนแต่ละหน่วยจะมีใบกิจกรรมสาหรับทดสอบนักเรียนทุกคาบเพื่อเป็น
tU
วทิ
หา
ส่วนหนึ่งของการประเมินผลการเรียนรู้
ir o
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
จัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย
หอ
yS
1. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
rar
นกั
L ib
สาํ
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
al
3. สาระการเรียนรู้
n tr
Ce
4. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
4.1 ครูผสู้ อนทาการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรม และดูแลให้คาแนะนา ช่วยเหลือ
นักเรียน
4.2 ให้นกั เรียนใช้คอมพิวเตอร์ 1 คนต่อ 1 เครือ่ ง ในการปฏิบตั ทิ ากิจกรรม
4.3 อภิปรายและสรุปผลการเรียนรู้
5. สื่อการเรียนรูห้ รือแหล่งการเรียนรู้
5.1 ใบกิจกรรม
5.2 กิจกรรมการเรียนทีส่ ร้างโดยโปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
6. การวัดและการประเมินผล
7. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
55
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
ภาพประกอบ 1 เมนูหลัก
n tr
Ce
สาํ
นกั
หอ
Ce สม
n tr ดุ ก
al ลา
L ib งม
rar หา
yS วทิ
rin ยา
a kh ลยั
ศร
ari
nw นี คร
ภาพประกอบ 2 สารบัญย่อย
ir o นิ ทร
tU วโิ ร
n iv ฒ
ers
it y
ฒ
วโิ ร
ในการสอนคณิตศาสตร์ 3 ท่าน ตรวจแก้ไขปรับปรุง เพื่อพิจารณาความเหมาะสม และชีแ้ นะ
ทร
ข้อบกพร่องรวมทัง้ ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไข คร
นิ
ขัน้ ที่ 4 นาชุดกิจกรรมการเรียนการสอนทีไ่ ด้รบั การปรับปรุงแก้ไขแล้วตามคาแนะนาของ
นี
ศร
it y
ers
คณะกรรมการควบคุมปริญญานิพนธ์และผูเ้ ชีย่ วชาญในการสอนคณิตศาสตร์แล้ว นาไปทดลองใช้กบั
ลยั
ยา
n iv
กลุ่มนาร่อง ซึง่ เป็นนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนบ้านควนใหม่ อาเภอบ้านนาสาร
tU
วทิ
หา
จังหวัดสุราษฏร์ธานี จานวน 12 คน
ir o
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
แล้วนาชุดกิจกรรมการเรียนการสอนดังกล่าวไปทาการทดลองกับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
สม
rin
yS
L ib
นอกเวลาเรียนปกติ 1 คาบ
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
วโิ ร
4.2 แบบทดสอบอัตนัย มีเกณฑ์ในการให้คะแนนในแต่ละข้อดังตาราง 2
ทร
นิ
คร
ตาราง 2 เกณฑ์การตรวจให้คะแนนของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนแบบอัตนัยเรือ่ ง
นี
ศร
it y
กาหนดการเชิงเส้น
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
ข้อจากัดได้ถูกต้องครบถ้วน
หอ
yS
L ib
ถูกต้องครบถ้วน เขียนสมการจุดประสงค์ได้ถูกต้อง
สาํ
al
และเขียนอสมการข้อจากัดได้ถูกต้องบางเงือ่ นไข
n tr
Ce
ตาราง 2 (ต่อ)
ฒ
ตรวจสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ถูกต้อง
วโิ ร
ครบถ้วน สรุปผลเฉลยเหมาะสมทีส่ ุดได้ไม่ถูกต้อง
ทร
หรือไม่สรุปผลเฉลยเหมาะสมทีส่ ุด
นิ
คร
4 เขียนกราฟอสมการข้อจากัดได้ถูกต้องครบถ้วน แสดง
นี
ศร
it y
ers
บริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ได้ถูกต้อง ระบุจดุ มุมและ
ลยั
ยา
n iv
ตรวจสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ถูกต้อง
tU
วทิ
หา
ir o
nw
หรือไม่สรุปผลเฉลยเหมาะสมทีส่ ุด
ลา
ari
ดุ ก
a kh
3 เขียนกราฟอสมการข้อจากัดได้ถูกต้องครบถ้วน แสดง
สม
rin
yS
ตรวจสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ไม่
rar
นกั
L ib
สาํ
ถูกต้องหรือไม่ตรวจสอบจุดมุม และสรุปผลเฉลย
al
เหมาะสมทีส่ ุด
2 เขียนกราฟอสมการข้อจากัดได้ถูกต้องครบถ้วน แต่
แสดงบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ไม่ถูกต้องหรือไม่ม ี
ร่องรอยการแสดงบริเวณผลเฉลยเป็นไปได้ ไม่
ตรวจสอบจุดมุม ไม่สรุปผลเฉลยเหมาะสมทีส่ ุด
1 เขียนกราฟอสมการข้อจากัดได้ถูกต้องบางส่วน และ
ไม่มรี อ่ งรอยการแสดงบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้หรือ
แสดงได้ไม่ถูกต้อง ไม่ตรวจสอบไม่สรุปผลเฉลย
เหมาะสมทีส่ ุด
60
ตาราง 2 (ต่อ)
ฒ
ซึง่ มีเกณฑ์การพิจารณาดังนี้
วโิ ร
ทร
คะแนน +1 หมายถึงแน่ใจว่าแบบทดสอบนัน้ วัดได้สอดคล้องตามจุดประสงค์
นิ
คร
คะแนน 0 หมายถึงไม่แน่ใจว่าแบบทดสอบนัน้ วัดได้สอดคล้องตามจุดประสงค์
นี
ศร
it y
คะแนน -1 หมายถึงแน่ใจว่าแบบทดสอบนัน้ วัดได้ไม่สอดคล้องตามจุดประสงค์
ers
ลยั
ยา
ir o
งม
ari
a kh
rin
หอ
yS
จานวน 20 ข้อ และแบบอัตนัยจานวน 2 ข้อ เฉพาะข้อทีม่ คี วามยากง่าย (p) ในช่วง .20-.80 และ
al
n tr
ฒ
ปีท่ี 3 จานวน 20 ข้อ โดยผูว้ จิ ยั ปรับปรุงจากแบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียน จาก
วโิ ร
วรวรรณ กฤตยากรนุพงศ์ (2551: 274-276) และปุณยพล จันทร์ฝอย (2551: 436-438) ลักษณะ
ทร
ของแบบสอบถามวัดความพึงพอใจเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า ซึง่ มี 5 ระดับ ข้อความเป็น
คร
นิ
ข้อความทางบวก ซึง่ มีเกณฑ์การตรวจ ให้คะแนนในแต่ละความพึงพอใจ ดังนี้
นี
ศร
it y
มากทีส่ ุด ให้คะแนน 5 คะแนน ers
ลยั
ยา
n iv
มาก ให้คะแนน 4 คะแนน
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
al
การเก็บรวบรวมข้อมูล
การวิจยั ครัง้ นี้ดาเนินการวิจยั ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 รวมระยะเวลาทีใ่ ช้ใน
การวิจยั 14 คาบ ซึง่ ใช้เวลาในการทดลองนอกเวลาปกติ ดังนี้
1. ระยะเวลาทีใ่ ช้สอนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้
โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 รวม 12 คาบ ดังนี้
1.1 หน่วยการเรียนที่ 1 ความรูเ้ บือ้ งต้นของกาหนดการเชิงเส้น 5 คาบ แบ่งเป็น
1. ความหมายของกาหนดการเชิงเส้น 1 คาบ
2. กราฟของระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร 2 คาบ
3. กราฟของระบบอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร 2 คาบ
1.2 หน่วยการเรียนที่ 2 การแก้ปญั หากาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ 7 คาบ แบ่งเป็น
ฒ
1. การสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น 2 คาบ
วโิ ร
2. การหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น 3 คาบ
3. การแก้โจทย์ปญั หากาหนดการเชิงเส้น
นิทร 2 คาบ
คร
2. การทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น จานวน 2 คาบ
นี
ศร
it y
ers
3. เมือ่ สิน้ สุดการสอนและการทดสอบแล้วให้นกั เรียนตอบแบบสอบถามวัดความพึงพอใจที่
ลยั
ยา
n iv
มีต่อเนื้อหากาหนดการเชิงเส้น และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
การจัดกระทาข้อมูลและการวิ เคราะห์ข้อมูล
หอ
yS
L ib
สาํ
การวิ เคราะห์ข้อมูล
ฒ
1. หาค่าสถิตพิ น้ื ฐานของคะแนนทีไ่ ด้จากการทาใบกิจกรรม แบบทดสอบวัด
วโิ ร
ผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น และคะแนนทีไ่ ด้จากการตอบแบบสอบถามวัด ความ
ทร
พึงพอใจของนักเรียนมาวิเคราะห์โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลีย่ เลขคณิต และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน
นิ
คร
2. ทดสอบสมมติฐานทีว่ ่านักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ทีเ่ รียนด้วยชุดกิจกรรมการ
นี
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
ผ่านเกณฑ์ได้มากกว่าร้อยละ 60 ของจานวนนักเรียนทัง้ หมด ด้วยการทดสอบสมมติฐานเกีย่ วกับ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
al
คะแนนเฉลีย่ ความคิดเห็น
4.50 – 5.00 นักเรียนมีความพึงพอใจอยูใ่ นระดับมากทีส่ ุด หลังจากเรียนด้วยชุดกิจกรรม
การเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
โปรแกรม Euler
3.50 – 4.49 นักเรียนมีความพึงพอใจอยูใ่ นระดับมาก หลังจากเรียนด้วยชุดกิจกรรม
การเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
โปรแกรม Euler
64
ตาราง 3 (ต่อ)
คะแนนเฉลีย่ ความคิดเห็น
2.50 – 3.49 นักเรียนมีความพึงพอใจอยูใ่ นระดับ ปานกลาง หลังจากเรียนด้วยชุดกิจกรรม
การเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
โปรแกรม Euler
1.50 – 2.49 นักเรียนมีความพึงพอใจอยูใ่ นระดับ น้อย หลังจากเรียนด้วยชุดกิจกรรม
การเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
โปรแกรม Euler
1.00 – 1.49 นักเรียนมีความพึงพอใจอยูใ่ นระดับ น้อยทีส่ ุด หลังจากเรียนด้วยชุดกิจกรรม
ฒ
การเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
วโิ ร
ทร
โปรแกรม Euler
นิ
นีคร
ศร
it y
สถิ ติที่ใช้ในการวิ เคราะห์ข้อมูล
ers
ลยั
n iv
tU
ir o
nw
ลา
ari
a kh
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
65
บทที่ 4
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ฒ
วโิ ร
ปีท่ี 3
ทร
1.1 ค่าร้อยละ ค่าเฉลีย่ เลขคณิต ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน ของคะแนนจากการทา
คร
นิ
ใบกิจกรรม ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
นี
ศร
it y
ers
1.2 ค่าร้อยละ ค่าเฉลีย่ เลขคณิต ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน ของคะแนนจากแบบทดสอบ
ลยั
ยา
n iv
วัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
ปีท่ี 3 ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง
หอ
yS
L ib
al
ผลการวิ เคราะห์ข้อมูล
ในการทาการวิจยั ครัง้ นี้ผวู้ จิ ยั ได้ทดลองกับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียน
บ้านนาสาร อาเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฏร์ธานี จานวน 1 ห้องเรียน จานวน 41 คน โดยคะแนน
ผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนประกอบด้วย คะแนนจากใบกิจกรรม คะแนนเต็ม 30 คะแนน และคะแนน
จากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น คะแนนเต็ม 70 คะแนน ซึง่ เป็น
แบบปรนัย 20 ข้อ คะแนนเต็ม 40 คะแนน แบบอัตนัย 2 ข้อ คะแนนเต็ม 30 คะแนน และคะแนน
ความพึงพอใจของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างทีม่ ตี ่อเนื้อหากาหนดการเชิงเส้น และการจัดกิจกรรมการ
เรียนรูโ้ ดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler หลังจากการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนการ
สอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล
ปรากฏผลดังต่อไปนี้
ฒ
วโิ ร
ทร
1. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนเรื่องกาหนดการเชิ งเส้นของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษา
นิ
คร
ปี ที่ 3 ผูว้ จิ ยั ดาเนินการวิเคราะห์ขอ้ มูลดังนี้
นี
ศร
it y
1.1 ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิ ต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของคะแนนจากการ
ers
ลยั
ยา
n iv
ทาใบกิ จกรรม ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างชัน้ มัธยมศึกษาปี ที่ 3 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล
tU
วทิ
ปรากฏผลดังตาราง 4
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
a kh
สม
yS
rar
นกั
ฒ
(S.D.)
วโิ ร
ทร
- ตอนที่ 1 แบบปรนัย 40 25.29 63.23 7.01
นิ
คร
- ตอนที่ 2 แบบอัตนัย 30 21.59 71.97 5.51
นี
ศร
it y
คะแนนผลสัมฤทธิ ์ (รวม) 70 46.88 66.97 11.66
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
ir o
nw
ลา
ari
a kh
rin
หอ
yS
เบีย่ งเบนมาตรฐานเท่ากับ 7.01 คะแนน ตอนที่ 2 แบบอัตนัย คะแนนเต็ม 30 คะแนน มีค่าเฉลีย่ เลข
al
n tr
ฒ
คะแนนผลสัมฤทธิ ์ (รวม) 100 72.33 72.33 11.33
วโิ ร
นิ ทร
คร
จากตาราง 6 แสดงให้เห็นว่า คะแนนผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น
นี
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
เบีย่ งเบนมาตรฐาน เท่ากับ 11.33 คะแนน
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
หอ
L ib
สาํ
ฒ
นักเรียน คะแนนตัง้ แต่รอ้ ยละ 60 Z
วโิ ร
ทร
(คน) ขึน้ ไปของคะแนนเต็ม
นิ
คร
นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 41 33 2.75* 1.645
นี
ศร
it y
* ทีร่ ะดับนัยสาคัญ .05
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
ir o
nw
ลา
ari
a kh
rin
หอ
yS
rar
L ib
สาํ
ฒ
2. เมือ่ นักเรียนเรียนเนื้อหาเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น แล้วทาให้นกั เรียน 3.88 0.56 มาก
วโิ ร
ทร
ตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล
นิ
คร
3. เมือ่ นักเรียนเรียนเนื้อหาเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น แล้วทาให้นกั เรียน 3.95 0.63 มาก
นี
ศร
คิดและทางานอย่างมีระบบ
it y
ers
ลยั
n iv
เห็นคุณค่าของคณิตศาสตร์มากขึน้
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ลา
ชีวติ ประจาวันได้
ari
ดุ ก
a kh
rin
หอ
อ่านแล้วเข้าใจง่ายและไม่สบั สน
yS
rar
L ib
สาํ
เชิงเส้นได้ดว้ ยตนเอง
al
n tr
ด้วยตนเอง
9. การเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นทาให้นกั เรียนเข้าใจเนื้อหาเรือ่ ง 3.98 0.65 มาก
สมการและอสมการมากขึน้
10. กาหนดการเชิงเส้นเป็นเนื้อหาทีน่ ่าสนใจ 4.00 0.59 มาก
รวม 3.99 0.40 มาก
71
ตาราง 9 (ต่อ)
ตอนที่ 2 ความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
ฒ
13. การจัดกิจกรรมการเรียนรูเ้ รือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม 4.05 0.49 มาก
วโิ ร
C.a.R. และโปรแกรม Euler กระตุน้ ให้นกั เรียนเกิดการแสวงหา
ความรูด้ ว้ ยตนเอง นิทร
คร
14. การจัดกิจกรรมการเรียนรูเ้ รือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม 3.98 0.72 มาก
นี
ศร
it y
C.a.R. และโปรแกรม Euler ทาให้นกั เรียนมีความกระตือรือร้น ers
ลยั
ยา
n iv
และสนุกกับการเรียนมากขึน้
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
ความคิดเห็นกับเพื่อนมากขึน้
สม
rin
yS
L ib
สาํ
เกีย่ วกับการเรียนมากขึน้
al
จากตาราง 9 แสดงให้เห็นว่าคะแนนระดับความพึงพอใจของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างต่อ
ข้อคาถามทัง้ หมด นักเรียนมีความคิดเห็นอยูใ่ นระดับมาก และเมือ่ พิจารณาคะแนนเฉลีย่ ของความ
พึงพอใจของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างทีม่ ตี ่อเนื้อหากาหนดการเชิงเส้น มีค่าเท่ากับ 3.99 และพิจารณา
คะแนนเฉลีย่ ของความพึงพอใจของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างทีม่ ตี ่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้
โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler มีค่าเท่ากับ 4.00 แสดงว่านักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีความ
พึงพอใจต่อเนื้อหากาหนดการเชิงเส้น และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
โปรแกรม Euler หลังจากเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ ง
กาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler อยูใ่ นระดับมาก
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
73
บทที่ 5
สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
ฒ
วโิ ร
เชิงเส้น และการจัดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
it y
ers
ลยั
n iv
ของจานวนนักเรียนทัง้ หมด
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ari
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิ จยั
ดุ ก
a kh
สม
rin
yS
L ib
al
และอ่อนอยูใ่ นห้องเดียวกัน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิ จยั
เครือ่ งมือทีใ่ ช้ในการวิจยั ครัง้ นี้ ประกอบด้วย
1. ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น โดยใช้โปรแกรม C.a.R.
และโปรแกรม Euler สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ทีผ่ วู้ จิ ยั สร้างขึน้ ซึง่ ผ่านการตรวจสอบ
จากผูเ้ ชีย่ วชาญ และผ่านการทดลองใช้เครือ่ งมือกับกลุ่มนาร่อง
2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น สาหรับนักเรียน
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ทีผ่ วู้ จิ ยั สร้างขึน้ ซึง่ ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชีย่ วชาญ และผ่านการทดลองใช้
เครือ่ งมือกับกลุ่มนาร่อง
74
3. แบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียนทีม่ ตี ่อเนื้อหากาหนดการเชิงเส้น
และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler ทีผ่ วู้ จิ ยั สร้างขึน้ ซึง่ ผ่าน
การตรวจสอบจากผูเ้ ชีย่ วชาญ และผ่านการทดลองใช้เครือ่ งมือกับกลุ่มนาร่อง
การเก็บรวบรวมข้อมูล
1. ผูว้ จิ ยั สอนนักเรียนกลุ่มตัวอย่างจานวน 1 ห้องเรียน นักเรียน 41 คน ด้วย
ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ซึง่ แบ่งเนื้อหาตามหน่วยการเรียนดังนี้
1.1 หน่วยการเรียนที่ 1 ความรูเ้ บือ้ งต้นของกาหนดการเชิงเส้น
1.2 หน่วยการเรียนที่ 2 การแก้ปญั หากาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ
ในส่วนของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีใบกิจกรรมให้นกั เรียนปฏิบตั ิในแต่ละหน่วย
ฒ
วโิ ร
การเรียน ผูว้ จิ ยั จะนาใบกิจกรรมไปตรวจให้คะแนนทุกครัง้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการประเมิน
ทร
ผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียน คร
นิ
2. เมือ่ นักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมในชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการ
นี
ศร
it y
ers
เชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 เสร็จแล้ว
ลยั
ยา
n iv
ผูว้ จิ ยั ดาเนินการดังนี้
tU
วทิ
หา
nw
ari
a kh
สม
rin
yS
al
n tr
การวิ เคราะห์ข้อมูล
Ce
สรุปผลการวิ จยั
ฒ
1. คะแนนทีไ่ ด้จากใบกิจกรรมของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 จานวน
วโิ ร
41 คน มีค่าเฉลีย่ เลขคณิตเป็น 25.45 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 84.83 ของคะแนนเต็ม และมีส่วน
เบีย่ งเบนมาตรฐานของคะแนนเป็น 1.92 คะแนน ทร
นิ
คร
2. คะแนนจากการทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง
นี
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
46.88 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 66.97 ของคะแนนเต็ม และมีส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของคะแนนเป็น
tU
วทิ
หา
ir o
11.66 คะแนน
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
อภิ ปรายผล
1. จากผลการวิจยั พบว่า นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ทีส่ อบผ่านเกณฑ์การเรียนเรือ่ ง
กาหนดการเชิงเส้นมีจานวนมากกว่าร้อยละ 60 ของจานวนนักเรียนทัง้ หมด ทีร่ ะดับนัยสาคัญ .05
จึงสรุปได้ว่า นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 มีความสามารถในการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น
ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม
Euler ทีผ่ วู้ จิ ยั สร้างขึน้ อาจเนื่องจากการจัดการเรียนการสอนกาหนดเชิงเส้นในครัง้ นี้ เป็นการ
ศึกษากาหนดการเชิงเส้นด้วยวิธกี ราฟโดยได้อาศัยพืน้ ฐานความรูเ้ รือ่ งสมการ อสมการและกราฟ
ซึง่ นักเรียนในระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ได้เรียนมาแล้ว จึงทาให้นกั เรียนสามารถเรียนรูเ้ นื้อหา
กาหนดการเชิงเส้นด้วยกราฟได้งา่ ยขึน้ รวมทัง้ ผูว้ จิ ยั ได้สร้างชุดกิจกรรมการเรียนการสอนสาหรับ
ใช้ประกอบการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น ประกอบด้วยบทเรียนทีเ่ รียบเรียงเนื้อหา
ฒ
วโิ ร
กาหนดการเชิงเส้นให้เหมาะสมกับวัยของผูเ้ รียน โดยในแต่ละหน่วยการเรียนรูท้ ผ่ี วู้ จิ ยั สร้างขึน้
ทร
ประกอบด้วย เนื้อหา ตัวอย่างและใบกิจกรรม สาหรับให้นกั เรียนได้ศกึ ษาและลงมือปฏิบตั ไิ ปพร้อม
นิ
คร
กับผูว้ จิ ยั รวมทัง้ มีกจิ กรรมสร้างโดยโปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler ทีจ่ ะช่วยให้นกั เรียน
นี
ศร
it y
สามารถเรียนรูเ้ นื้อหากาหนดการเชิงเส้นได้รวดเร็วขึน้ จากการทีน่ กั เรียนได้ลงมือปฏิบตั ดิ ว้ ยการ
ers
ลยั
n iv
tU
วทิ
ir o
งม
ari
a kh
rin
หอ
yS
ฒ
กาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler อยูใ่ นระดับมาก เนื่องมาจาก
วโิ ร
นักเรียนสามารถเรียนรูไ้ ด้ดว้ ยตนเองโดยการปฏิบตั ติ ามกิจกรรมทีผ่ วู้ จิ ยั สร้างขึน้ และนักเรียนได้ทา
ทร
การสารวจและสังเกตแนวคิดทีส่ าคัญของกาหนดการเชิงเส้น รวมทัง้ มีโปรแกรมช่วยอานวยความ
นิ
คร
สะดวกในการคิดคานวณและสามารถตรวจคาตอบหลังจากการทากิจกรรม จึงทาให้นกั เรียนมีความ
นี
ศร
it y
เข้าใจเนื้อหามากยิง่ ขึน้ และรูส้ กึ สนุกกับการเรียนมากขึน้ ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ข้อสังเกตที่ได้จากการวิ จยั
ir o
งม
nw
ลา
ari
a kh
rin
หอ
yS
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะทัวไป
่
1.1 ผลการวิจยั ปรากฏว่า นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 มีความสามารถเพียงพอ
ในการเรียนเรือ่ ง กาหนดการเชิงเส้น ดังนัน้ ผลการวิจยั น่าจะเป็นแนวทางเลือกที่โรงเรียนจะนาไปใช้
ในการเรียนการสอนในระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ในกลุ่มสาระคณิตศาสตร์เพิม่ เติม
1.2 การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม
C.a.R. และโปรแกรม Euler สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ทีผ่ วู้ จิ ยั สร้างขึน้ ครูผสู้ อนควร
ศึกษาคู่มอื การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอน หน่วยการเรียนรูแ้ ละใบกิจกรรม รวมทัง้ แผนการ
จัดการเรียนรูอ้ ย่างละเอียด เพื่อเป็นแนวทางในการนาชุดกิจกรรมการเรียนการสอนทีผ่ วู้ จิ ยั สร้างขึน้
ไปใช้ในครัง้ ต่อไป
ฒ
วโิ ร
1.3 ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม
ทร
Euler ครูควรมีผชู้ ่วยในการสอน เพื่อจะได้ให้คาแนะนานักเรียนได้อย่างรวดเร็วและทัวถึ ่ งมากขึน้
นิ
คร
2. ข้อเสนอแนะสาหรับงานวิจยั
นี
ศร
it y
2.1 ควรทาวิจยั เพื่อศึกษาความสามารถในการเรียน เรื่องกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้
ers
ลยั
n iv
tU
วทิ
ir o
งม
ari
a kh
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
สาํ
นกั
หอ
Ce สม
n tr ดุ ก
al ลา
L ib งม
rar หา
yS วทิ
rin ยา
a kh ลยั
ศร
นี
บรรณานุกรม
ari
nw คร
ir o นิ ทร
tU วโิ ร
n iv ฒ
ers
it y
79
80
บรรณานุกรม
ฒ
วโิ ร
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภณ ั ฑ์.
ทร
กฤติกา ชิดชู. (2550). การพัฒนาหลักสูตรทฤษฎีจานวนเบื้องต้นและคอมบินาทอริกเบื้องต้น
นิ
คร
สาหรับนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที ่ 6. ปริญญานิพนธ์ กศ.ด. (คณิตศาสตรศึกษา).
นี
ศร
it y
กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.
ers
ลยั
n iv
tU
วทิ
ir o
งม
ari
a kh
rin
หอ
yS
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย .
rar
นกั
ฒ
โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ MAPLE V ประกอบการเรียนการสอน. อุบลราชธานี:
วโิ ร
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี . ถ่ายเอกสาร.
ทร
ชัยยงค์ พรหมวงค์. (2537). หน่วยการเรียนที ่ 2 เอกสารการสอนชุดวิชาเทคโนโลยีและสือ่ สาร
นิ
คร
การศึกษา. นนทบุร:ี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช.
นี
ศร
it y
ers
ญานิศา ธิกุลวงษ์. (2546). การศึกษาผลสัมฤทธิท์ างการเรียนของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที ่ 6
ลยั
ยา
n iv
ในการเรียนเรือ่ ง ความสัมพันธ์เวียนเกิด . ปริญญานิพนธ์ กศ.ม (คณิตศาสตร์). กรุงเทพฯ:
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย . ถ่ายเอกสาร.
rar
นกั
L ib
สาํ
ฒ
มหาสารคาม. ถ่ายเอกสาร.
วโิ ร
เบญจมินทร์ อรัญเพิม่ . (2548). การศึกษาผลสัมฤทธิท์ างการเรียนเรือ่ งแบบจาลองทางคณิตศาสตร์
ทร
สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที ่ 6. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม (คณิตศาสตร์). กรุงเทพฯ:
นิ
คร
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.
นี
ศร
it y
ers
ปกเกศ ชนะโยธา. (2551). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และความ
ลยั
ยา
n iv
พึงพอใจของนักเรียนช่วงชัน้ ที ่ 2 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดียบนเครือข่าย
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
ถ่ายเอกสาร.
สม
rin
yS
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
rar
นกั
L ib
สาํ
ประคอง กรรณสูต. (2538). สถิตเิ พือ่ การวิจยั ทางพฤติกรรมศาสตร์. พิมพ์ครัง้ ที่ 2 (ฉบับปรับปรุง
al
พรรณี ชูทยั เจนจิต. (2545). จิตวิทยาการเรียนการสอน. พิมพ์ครัง้ ที่ 5. กรุงเทพฯ: เมธีทปิ ส์.
พัชรีวรรณ คุณชื่น. (2552). ศึกษาผลสัมฤทธิท์ างการเรียน เรือ่ งค่าของเงินและการใช้จา่ ย และความ
พึงพอใจต่อการเรียนของนักเรียนช่วงชัน้ ที ่ 2 ทีม่ คี วามบกพร่องทางสติปญั ญาระดับ เล็กน้อย
โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ลีย . ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การศึกษาพิเศษ).
กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.
พัลลภ คงนุรตั น์. (2547). การศึกษาผลสัมฤทธิท์ างการเรียนและความพึงพอใจในวิชาคณิตศาสตร์
ของนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที ่ 4 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดีย เรือ่ งโจทย์ปญั หา
การบวก ลบ. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การประถมศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.
พิชากร แปลงประสพโชค. (2540). การพัฒนาหลักสูตรพิเศษทางเรขาคณิตเสริมสาหรับนักเรียนชัน้
ฒ
มัธยมศึกษาตอนต้นทีม่ คี วามสามารถพิเศษ. ปริญญานิพนธ์ กศ.ด. (คณิตศาสตรศึกษา).
วโิ ร
กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.
ทร
พิจติ ร อุตตะโปน. (2550). ชุดการเรียนการสอนโดยใช้ปญั หาเป็นฐาน เรือ่ งการวิเคราะห์ขอ้ มูล
นิ
คร
เบื้องต้น ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีที ่ 3. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (คณิตศาสตร์). กรุงเทพฯ:
นี
ศร
it y
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร. ers
ลยั
ยา
n iv
เพชรหงส์ โชติกอาภา. (2535). เอกสารประกอบการสอนสาหรับกระบวนวิชาการวางแผน
tU
วทิ
หา
nw
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
วนิสา นิรมาณ. (2545). การพัฒนาบทเรียนคอมพิว เตอร์ช่วยสอนแบบมัลติมเี ดียโดยวิธกี ารค้นพบ
วโิ ร
เรือ่ งฟงั ก์ชนั ตรีโกณมิติ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที ่ 4. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การมัธยมศึกษา).
ทร
กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.
นิ
คร
วัชราภรณ์ ปราณีธรรม. (2549). การศึกษาความเข้าใจเกีย่ วกับฟงั ก์ชนั กาลังสองของนักเรียน
นี
ศร
it y
ers
ในการแก้ปญั หาทาง คณิตศาสตร์โดยใช้เครือ่ งคิดเลขกราฟิก. วิทยานิพนธ์ กศ.ม.
ลยั
ยา
n iv
(คณิตศาสตร์ศกึ ษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ถ่ายเอกสาร.
tU
วทิ
หา
nw
แอล ที เพรส.
ลา
ari
ดุ ก
a kh
วิจติ ร ตัณฑสุทธิ ์; วันชัย ริจริ วนิช; และ ศิรจิ นั ทร์ ทองประเสริฐ. (2548). การวิจยั ดาเนินงาน.
สม
rin
กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชัน. ่
หอ
yS
L ib
สาํ
ถ่ายเอกสาร.
ศุภชัย เรืองเดช (2546). ผลการใช้เครือ่ งคานวณเชิงกราฟในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที ม่ ตี ่อ
มโนทัศน์เชิงคณิตศาสตร์และความสามารถในการแก้โจทย์ปญั หาเชิงคณิตศาสตร์ ของ
นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชัน้ สูง ชัน้ ปีที ่ 1 โรงเรียนนครอาชีวศึกษา.
วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (คณิตศาสตร์). สงขลา: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยทักษิณ.
ถ่ายเอกสาร.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2545). หนังสือเรียนสาระคณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์เพิม่ เติม เล่ม 5 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที ่ 6. กรุงเทพฯ: คุรสุ ภาลาดพร้าว.
85
ฒ
สุธรรม กิตติพุฒพิ งศ์. (2544). การศึกษาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เรือ่ งตรรกศาสตร์
วโิ ร
เบื้องต้นของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที ่ 2 และชัน้ มัธยมศึกษาปีที ่ 3. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.
ทร
(คณิตศาสตร์). สงขลา: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยทักษิณ . ถ่ายเอกสาร.
นิ
คร
สุธนิ นั ท์ บุญพัฒนาภรณ์ . (2549). กิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งการแปลงเรขาคณิตโดยใช้
นี
ศร
it y
ers
ซอฟต์แวร์เรขาคณิตแบบพลวัตสาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที ่ 2. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.
ลยั
ยา
n iv
(คณิตศาสตร์). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
Benson, Carol Trinko. (1989). Effect of Computer Instruction in Finite Mathematics on Student
วโิ ร
Achievement and Attitude. Illinois State University. Retrieved February, 20, 2008,
ทร
from http://proquest.umi.com/pqdweb?did=744784751&sid=1&Fmt= 2&clientid=61839
นิ
คร
&RQT=309&VName=PQD
นี
ศร
it y
ers
Bloom, Benjamin S. (1976). Human Characteristics and School Learning. New York:
ลยั
ยา
n iv
McGraw Hill.
tU
วทิ
หา
Bruner, Jerome. (1963). The Process of Education. Harvard: Harvard University Press.
ir o
งม
nw
Bull, Michael Porter. (1993, January). Exploring the Effects on Mathematics Achievement of
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
http://en.wikipedia.org/ wiki/Computer_algebra_system
n tr
Ce
Covington, Myrna A. (1998, December). Beyond High School: Factors that Influence Student
Job Satisfaction (School to work). Dissertation Abstracts International. 56(6):
1990-A.
Dantzig, George B. (1993). Linear Programming and Extensions. 10th ed. Princeton, N.J.:
Princeton University Press.
Darst, Richard B. (1990). Introduction to Linear Programming: Applications and Extensions.
New York: MARCEL DEKKER.
87
Edward, Thomas G.; & Chelst, Kenneth R. (2004, May). The HSOR Project: Insinuating OR
into High School Mathematics Classroom. INFORM Transactions on Education.
3(4). Retrieved March 3, 2008, from http://ite.pub.inform.org/Vol4No3/
EdwardsChelst/
Feiring, Bruce R. (1986). Linear Programming an Introduction. California: Sage Publications.
Gass, Saul L. (2005, August). The Life and Farther of Linear Programming. Retrieved
November 28, 2009, from http://www.lionhrtpub.com/orms/orms-8-05/dantzig.html
rd
Good, Carter V. (1973). Dictionary of Education. 3 ed. New York: Mcgraw-Hill Book.
Gubrud, Allan Roy. (1971, June). The Effect of an Advance Organizer and a Concrete
Experience on Learning the Concept of Vector in Junior and Senior High School.
ฒ
Dissertation Abstract International. 31(12): 6468-A.
วโิ ร
ทร
Gullick, Marry Catherine. (1971, February). Achievement of Fifth, Sixth and Tenth Grades
นิ
คร
in Coordinate Geometry. Dissertation Abstract International. 31(8): 4035-A.
นี
ศร
it y
Han, Hyesook. (2007). Middle school students' quadrilateral learning: A comparison
ers
ลยั
n iv
tU
ir o
clientId=61839&RQT=309&VName= PQD
งม
nw
ลา
a kh
rin
หอ
Hoban, Micheal James. (1971, March). “Transformation Geometry in the Junior High School:
นกั
L ib
สาํ
International. 9: 5482-B.
Ce
Lester, Margaret Lynn. (1996, December). The Effects of the Geometer’s Sketchpad
Software on Achievement of Geometric Knowledge of High School Geometry
Students. Dissertation Abstracts International. 57(6): 2343-A.
Myles, Dennis E. (2006, November). Using Geometer’s Sketchpad to Develop a
Conceptual Understanding of Euclidean Geometry. Dissertation Abstracts
International. DAI-A 67/05.
Morse, Nancy C. (1955). Satisfactions in the White Collar Job. Michigan: University of
Michigan.
Perjési, Ildikó Hámori. (2003). Application of CAS for teaching of integral-transforming
theorems. ZDM. 35(2): 43-47.
ฒ
Pilipczuk, Cynthia H. (2006). The effect of graphing technology on students'
วโิ ร
understanding of functions in a precalculus course. University of Delaware.
ทร
Retrieved September, 7, 2009, from http://proquest.umi.com/pqdweb?
นิ
คร
did=1163231681&sid=3&Fmt=2&clientId=61839&RQT=309&VName=PQD
นี
ศร
it y
ers
Schrupp, Richard D. (2007). Effects of using graphing calculators to solve quadratics
ลยั
ยา
n iv
with high school mathematics students. Southwest Minnesota State University.
tU
วทิ
หา
nw
1320941031&sid=2&Fmt=2&clientld=61839&RQT=309&VName=PQD
ลา
ari
ดุ ก
a kh
Smith, Karan Barbee. (1991). An integration of the computer algebra system DERIVE into
สม
rin
yS
L ib
สาํ
clientId= 61839&RQT=309&VName=PQD
al
Sultan, Alan. (1993). Linear Programming an Introduction and Applications. San Diego:
n tr
Ce
Academic press.
Wallerstein, Harvey. (1971). Dictionary of Psychology. Maryland: Penguin Book Inc.
Yavuz, Veli Alpagut. (2003). The Effectiveness of Interactive in-class Exercises on Learning: A
Case from Linear Programming Education. Rensselaer Polytechnic Institute.
Retrieved February, 20, 2008, from http://proquest.umi.com/pqdweb?did
=764802641&sid=4&Fmt=2&clientId=61839 &RQT=309&VName=PQD
Yousif, Adil Eltayeb. (1997, November). The Effects of The Geometer’s Sketchpad on
The Attitude Toward Geometry of High School Students. Dissertation Abstracts
International. 58(5): 1631-A.
สาํ
นกั
หอ
Ce สม
n tr ดุ ก
al ลา
L ib งม
rar หา
yS วทิ
rin ยา
a kh ลยั
ศร
ภาคผนวก
ari
nw นี คร
ir o นิ ทร
tU วโิ ร
niv ฒ
ers
it y
89
สาํ
นกั
หอ
Ce สม
n tr ดุ ก
al ลา
L ib งม
rar หา
yS วทิ
rin ยา
a kh ลยั
ศร
นี
ภาคผนวก ก
ari
nw คร
ir o นิ ทร
คุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิ จยั
tU วโิ ร
niv ฒ
ers
it y
90
91
ฒ
6 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
วโิ ร
7 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
8 +1 +1 +1นิทร 3 1.00 ใช้ได้
คร
9 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
นี
ศร
it y
ers
ลยั
10 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
ยา
niv
11 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
tU
วทิ
หา
ir o
12 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
งม
nw
13 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
ลา
ari
ดุ ก
a kh
14 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
สม
rin
15 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
หอ
yS
16 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
rar
นกั
L ib
สาํ
17 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
al
18 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
n tr
Ce
19 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
20 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
21 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
22 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
23 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
24 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
25 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
26 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
27 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
28 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
92
ตาราง 10 (ต่อ)
ฒ
2 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
วโิ ร
ทร
3 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
นิ
คร
4 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
93
ตอนที่ 1 แบบปรนัยข้อที่ p r
1 0.58 0.25
2 0.75 0.25
3 0.58 0.50
4 0.67 0.25
5 0.42 0
ฒ
วโิ ร
6 0.58 0.50
ทร
7 0.58 0.75
นิ
คร
8 0.58 0.25
นี
ศร
it y
9 0.50 0
ers
ลยั
10 0.75 0.50
ยา
niv
tU
11 0.58 0.25
วทิ
หา
ir o
12 0.67 0.75
งม
nw
ลา
ari
13 0.58 0.50
ดุ ก
a kh
14 0.50 0.25
สม
rin
หอ
yS
15 0.67 0.25
rar
นกั
16 0.50 0.25
L ib
สาํ
17 0.75 0.75
al
n tr
18 0.75 0.25
Ce
19 0.50 0.25
20 0.67 0.50
21 0.67 0.25
22 0.58 0.25
23 0.50 0.50
24 0.50 0
25 0.50 -0.25
94
ตอนที่ 2 แบบอัตนัยข้อที่ p r
1 0.38 0.78
2 0.73 0.56
3 0.54 0.58
ค่าความเชื่อมันของแบบทดสอบวั
่ ดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น
คานวณโดยวิธกี ารหาสัมประสิทธิ ์แอลฟา (-Coefficient) ของครอนบัค (Cronbach) มีค่าความ
เชื่อมัน่ ดังนี้
- ค่าความเชื่อมันของแบบทดสอบตอนที
่ ่ 1 แบบปรนัยมีค่าเท่ากับ 0.64
ฒ
- ค่าความเชื่อมันของแบบทดสอบตอนที
่ ่ 2 แบบอัตนัยมีค่าเท่ากับ 0.89
วโิ ร
- ค่าความเชื่อมันของแบบทดสอบวั
่ ดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนทัง้ ฉบับมีค่าเท่ากับ 0.78
นิ ทร
คร
ตาราง 12 ค่าความยากง่าย (P), ค่าอานาจจาแนก (r) และค่าความเชื่อมันของแบบทดสอบ
่
นี
ศร
it y
วัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
ers
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
หา
ir o
ตอนที่ 1 แบบปรนัยข้อที่ p r
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
1 0.73 0.22
สม
rin
2 0.61 0.28
หอ
yS
3 0.71 0.50
rar
นกั
L ib
สาํ
4 0.71 0.48
al
5 0.71 0.36
n tr
Ce
6 0.61 0.50
7 0.59 0.50
8 0.66 0.22
9 0.44 0.29
10 0.78 0.29
11 0.49 0.28
12 0.49 0.28
13 0.71 0.36
95
ตาราง 12 (ต่อ)
ตอนที่ 1 แบบปรนัยข้อที่ p r
14 0.54 0.57
15 0.76 0.29
16 0.73 0.29
17 0.68 0.43
18 0.65 0.43
19 0.56 0.36
ฒ
วโิ ร
20 0.54 0.57
ทร
ตอนที่ 2 แบบอัตนัยข้อที่ P r
นิ
คร
1 0.54 0.78
นี
ศร
it y
2 0.53 0.72
ers
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
ค่าความเชื่อมันของแบบทดสอบวั
่ ดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น
หา
ir o
งม
nw
ari
a kh
สม
rin
- ค่าความเชื่อมันของแบบทดสอบตอนที
่ ่ 1 แบบปรนัยมีค่าเท่ากับ 0.69
หอ
yS
- ค่าความเชื่อมันของแบบทดสอบตอนที
่ ่ 2 แบบอัตนัยมีค่าเท่ากับ 0.95
rar
นกั
- ค่าความเชื่อมันของแบบทดสอบวั
่ ดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนทัง้ ฉบับมีค่าเท่ากับ 0.79
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
96
สมมติฐาน H0 : p 0.6
H1 : p 0.6
pˆ p 0
สถิตทิ ดสอบ Z =
p 0 1 p 0
n
ฒ
วโิ ร
เมือ่ p̂ คือ สัดส่วนของจานวนนักเรียนในกลุ่มตัวอย่างทีไ่ ด้คะแนนผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียน
ทร
เรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นตัง้ แต่รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไปของคะแนนเต็ม
นิ
คร
p 0 คือ สัดส่วนของจานวนนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ทีต่ อ้ งการทดสอบ
นี
ศร
it y
n คือ จานวนนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง
ers
ลยั
ยา
niv
tU
ir o
41
งม
nw
pˆ p 0
ลา
ari
ดังนัน้ Z=
p 0 1 p 0
ดุ ก
a kh
สม
rin
n
หอ
yS
0.81 0.6
=
rar
นกั
0.60.4
L ib
สาํ
41
al
n tr
= 2.75
Ce
ฒ
วโิ ร
3 25.00% 66.70% 8.30% - - 4.17 0.58 มาก
ทร
(3 คน) (8 คน) (1 คน)
นิ
คร
4 25.00% 50.00% 25.00% - - 4.00 0.74 มาก
นี
ศร
it y
(3 คน) (6 คน) (3 คน)
ers
ลยั
ยา
niv
5 16.70% 66.70% 16.70% - - 4.00 0.60 มาก
tU
วทิ
ir o
งม
nw
ari
a kh
สม
rin
yS
al
ตาราง 13 (ต่อ)
ฒ
17 33.30% 58.30% 8.30% - - 4.25 0.62 มาก
วโิ ร
ทร
(4 คน) (7 คน) (1 คน)
นิ
คร
18 25.00% 66.70% 8.30% - - 4.17 0.58 มาก
นี
ศร
it y
ers
ลยั
niv
tU
(5 คน) (7 คน)
วทิ
หา
ir o
nw
ลา
a kh
สม
rin
หอ
ค่าความเชื่อมันของแบบสอบถามของนั
่ กเรียนกลุ่มนาร่องทัง้ ฉบับมีค่าเท่ากับ 0.86
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
99
ฒ
3 17.10% 61.00% 22.00% - - 3.95 0.63 มาก
วโิ ร
ทร
(7 คน) (25 คน) (9 คน)
นิ
คร
4 12.20% 63.40% 24.40% - - 3.88 0.60 มาก
นี
ศร
it y
ers
ลยั
niv
tU
ir o
nw
ลา
ari
a kh
rin
หอ
ตาราง 14 (ต่อ)
ฒ
17 9.80% 65.90% 24.40% - - 3.85 0.57 มาก
วโิ ร
ทร
(4 คน) (27 คน) (10 คน)
นิ
คร
18 19.50% 65.90% 14.60% - - 4.05 0.59 มาก
นี
ศร
it y
ers
ลยั
niv
tU
ir o
nw
ลา
a kh
สม
rin
หอ
yS
ค่าความเชื่อมันของแบบสอบถามของนั
่ กเรียนกลุ่มตัวอย่างทัง้ ฉบับมีค่าเท่ากับ 0.78
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
สาํ
นกั
หอ
Ce สม
n tr ดุ ก
al ลา
L ib งม
rar หา
yS วทิ
rin ยา
a kh ลยั
ศร
ari
nw นี คร
ภาคผนวก ข
ir o นิ ทร
tU วโิ ร
niv ฒ
ers
คู่มือการใช้ชุดกิ จกรรมการเรียนการสอน it y
101
102
คู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรื่องกาหนดการเชิงเส้น
โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปี ที่ 3
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
จัดทาโดย
นางสาวเกตุกนก หนูดี
103
คาชี้แจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอน
ชุดกิ จกรรมการเรียนการสอน
ชุดกิจกรรมการเรียนการสอน เรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R.
และโปรแกรม Euler สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
หลักการและเหตุผล
กาหนดการเชิงเส้น (Linear Programming) เป็นเทคนิคทางคณิตศาสตร์ประยุกต์ทใ่ี ช้
ฒ
วโิ ร
ในการจัดสรรทรัพยากรทีม่ อี ยูอ่ ย่างจากัดให้แก่กจิ กรรมต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้า หมายทีก่ ่อให้เกิด
ทร
ประโยชน์สงู สุด โดยมีจดุ มุง่ หมายเพื่อแก้ปญั หา และตัดสินใจให้เกิดผลตามแนวทางการดาเนินงาน
นิ
คร
ทีด่ ที ส่ี ุด เช่น กาไรสูงสุด ค่าใช้จา่ ยน้อยสุด และแนวทางการดาเนินงานอื่น ๆ ทีใ่ ห้ผลประโยชน์มาก
นี
ศร
it y
ทีส่ ุดต่อระบบนัน้ ๆ ปจั จุบนั มีการนาไปประยุกต์ใช้กบั ปญั หาในด้านต่างๆ อย่างกว้างขวาง เพื่อช่วย
ers
ลยั
ยา
การอุตสาหกรรม การทหาร
หา
ir o
งม
ari
a kh
rin
หอ
yS
เป็นสื่อการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ มีความสามารถในการสร้างรูปเรขาคณิตได้เสมือนกับ
L ib
สาํ
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ครูใช้เป็นเครือ่ งมือในการสอน เรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
โปรแกรม Euler สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
เนื้ อหา
ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม
Euler สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ประกอบด้วย 2 หน่วยการเรียน ดังนี้
หน่วยการเรียนที่ 1 ความรูเ้ บือ้ งต้นของกาหนดการเชิงเส้น เวลา 5 คาบ
หน่วยการเรียนที่ 2 การแก้ปญั หากาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ เวลา 7 คาบ
ฒ
แนวทางการใช้กิจกรรม
วโิ ร
ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R.
และโปรแกรม Euler ประกอบด้วย นิทร
คร
1. คู่มอื การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น ประกอบด้วย
นี
ศร
it y
ers
ลยั
niv
1.2 คู่มอื การใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
tU
วทิ
หา
ir o
2. บทเรียน
งม
nw
3. แผนการจัดการเรียนรู้
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
4.1 ใบกิจกรรม
หอ
yS
L ib
สาํ
แผนการสอน
แผนการ จานวนคาบ
เรื่อง
จัดการเรียนรู้ (คาบ)
1 ความหมายของกาหนดการเชิงเส้น 1
2 กราฟของระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร 2
3 กราฟของระบบอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร 2
4 การสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น 2
5 การหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น 3
6 การแก้โจทย์ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้น 2
ฒ
วโิ ร
ทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ ง 2
ทร
กาหนดการเชิงเส้น
นิ
คร
แบบสอบถามวัดความพึงพอใจทีม่ ตี ่อเนื้อหากาหนดการ 20 นาที
นี
ศร
it y
เชิงเส้น และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้โปรแกรม
ers
ลยั
ยา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
หอ
yS
rar
นกั
ชื่อหน่ วย
L ib
สาํ
เรื่อง จุดประสงค์การเรียนรู้
การเรียน
al
n tr
ชื่อหน่ วย
เรื่อง จุดประสงค์การเรียนรู้
การเรียน
2. กราฟระบบสมการ 1. นักเรียนสามารถเขียนกราฟสมการเชิงเส้น
เชิงเส้นสองตัวแปร สองตัวแปรได้
2. นักเรียนสามารถเขียนกราฟระบบสมการ
เชิงเส้นสองตัวแปรได้
3. กราฟระบบอสมการ 1. นักเรียนสามารถเขียนกราฟอสมการ
เชิงเส้นสองตัวแปร เชิงเส้นสองตัวแปรได้
2. นักเรียนสามารถเขียนกราฟระบบอสมการ
เชิงเส้นสองตัวแปรได้
ฒ
หน่ วยที่ 2 1. การสร้างแบบจาลอง 1. นักเรียนสามารถบอกจุดประสงค์ของปญั หา
วโิ ร
การแก้ปญั หา
ทร
กาหนดการเชิงเส้น ได้
กาหนดการเชิงเส้น นิ
2. นักเรียนสามารถเขียนจุดประสงค์ของ
คร
ปญั หาในรูปสมการเชิงเส้นสองตัวแปรได้
นี
โดยวิธกี ราฟ
ศร
it y
ers
3. นักเรียนสามารถบอกข้อจากัดของปญั หาได้
ลยั
ยา
niv
4. นักเรียนสามารถเขียนข้อจากัดของปญั หา
tU
วทิ
หา
ir o
ในรูปอสมการเชิงเส้นสองตัวแปรได้
งม
nw
5. สามารถสร้างแบบจาลองกาหนดการ
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
2. การหาค่าสูงสุดและ 1. นักเรียนสามารถเขียนกราฟอสมการ
หอ
yS
rar
ต่าสุดของกาหนดการ ข้อจากัดได้ถูกต้อง
นกั
L ib
สาํ
เชิงเส้น 2. นักเรียนสามารถบอกบริเวณผลเฉลยที่
al
n tr
เป็นไปได้ของอสมการข้อจากัดได้ถูกต้อง
Ce
3. นักเรียนสามารถเขียนกราฟสมการ
จุดประสงค์ทม่ี คี ่าต่างๆ ได้ถูกต้อง
4. นักเรียนสามารถหาพิกดั ของจุดมุมของ
บริเวณผลเฉลยได้
5. นักเรียนสามารถหาค่าสูงสุดหรือต่าสุด
ของกาหนดการเชิงเส้นด้วยวิธกี ราฟ
เกณฑ์การตรวจให้คะแนนทดสอบแบบอัตนัย
เกณฑ์การตรวจให้คะแนนของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนแบบอัตนัยเรื่องกาหนดการ
เชิงเส้น
ฒ
3 วิเคราะห์สงิ่ ทีโ่ จทย์กาหนดให้และกาหนดตัวแปรได้
วโิ ร
ถูกต้องครบถ้วน เขียนสมการจุดประสงค์ได้ถูกต้อง
ทร
และเขียนอสมการข้อจากัดได้ถูกต้องบางเงือ่ นไข
คร
นิ
2 วิเคราะห์สงิ่ ทีโ่ จทย์กาหนดให้และกาหนดตัวแปรได้
นี
ศร
it y
ers
ถูกต้องครบถ้วน เขียนสมการจุดประสงค์ได้ถูกต้อง
ลยั
ยา
niv
แต่เขียนอสมการข้อจากัดทุกเงือ่ นไขไม่ถูกต้องหรือไม่
tU
วทิ
หา
เขียนอสมการข้อจากัด
ir o
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
ถูกต้องบางส่วน เขียนสมการจุดประสงค์และอสมการ
สม
rin
ข้อจากัดทุกเงือ่ นไขไม่ถูกต้องหรือไม่เขียนสมการ
หอ
yS
จุดประสงค์และอสมการข้อจากัด
rar
นกั
L ib
สาํ
ดาเนินการสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น
n tr
Ce
(ต่อ)
ฒ
ตรวจสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ไม่
วโิ ร
ทร
ถูกต้องหรือไม่ตรวจสอบจุดมุม และสรุปผลเฉลย
นิ
เหมาะสมทีส่ ุดไม่ถูกต้อง หรือไม่สรุปผลเฉลยเหมาะสม
คร
นี
ทีส่ ุด
ศร
it y
ers
ลยั
2 เขียนกราฟอสมการข้อจากัดได้ถูกต้องครบถ้วน แต่
ยา
niv
แสดงบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ไม่ถูกต้องหรือไม่ม ี
tU
วทิ
หา
ir o
ร่องรอยการแสดงบริเวณผลเฉลยเป็นไปได้ ไม่
งม
nw
ตรวจสอบจุดมุม ไม่สรุปผลเฉลยเหมาะสมทีส่ ุด
ลา
ari
ดุ ก
a kh
1 เขียนกราฟอสมการข้อจากัดได้ถูกต้องบางส่วน และ
สม
rin
yS
rar
แสดงได้ไม่ถูกต้อง ไม่ตรวจสอบไม่สรุปผลเฉลย
นกั
L ib
สาํ
เหมาะสมทีส่ ุด
al
n tr
การแก้ปญั หา
109
การประเมินผลการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นหลังจากสอนด้วยชุดกิจกรรมการเรียน
การสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler สาหรับนักเรียน
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ประเมินผลจากตารางข้างล่าง ต่อไปนี้
คะแนน
การประเมิ นผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน
(%)
ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนเรื่องกาหนดการเชิ งเส้น ประเมิ นจาก
1. คะแนนจากใบกิจกรรม 30
ฒ
2. คะแนนจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น 70
วโิ ร
ทร
- ปรนัย จานวน 20 ข้อ 40
นิ
คร
- อัตนัย จานวน 2 ข้อ 30
นี
ศร
it y
รวมคะแนนผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนเรื่องกาหนดการเชิ งเส้น ers 100
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
110
บทนา
ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม
Euler สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 เป็นชุดกิจกรรมการเรียนการสอนทีส่ ร้างขึน้ สาหรับเป็น
เครือ่ งมือในการวิจยั เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นทีใ่ ช้การแก้ปญั หา
โดยวิธกี ราฟ ซึง่ ผูว้ จิ ยั ได้นาโปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler เข้ามาใช้ประกอบการเรียน
การสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น ผูว้ จิ ยั ใช้โปรแกรม C.a.R. สร้างกิจกรรมเพื่อแสดงให้นกั เรียนเข้าใจ
ฒ
แนวคิดต่างๆ ของกาหนดการเชิงเส้นได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึน้ เช่น การเขียนกราฟของสมการ
วโิ ร
เชิงเส้น กราฟของระบบสมการเชิงเส้น กราฟของอสมการเชิงเส้น การสารวจหาผลเฉลยเหมาะสม
ทร
ทีส่ ุดของกาหนดการเชิงเส้น จากการทีน่ กั เรียนได้ลงมือปฏิบตั ิ สารวจ ตรวจสอบด้วยตนเอง
นิ
คร
ซึง่ โปรแกรม C.a.R. เป็นโปรแกรมทีม่ คี วามสามารถใช้ใ นการสร้างรูป แต่ความสามารถในเรือ่ ง
นี
ศร
it y
ers
ลยั
niv
การสอนผูว้ จิ ยั จึงนาโปรแกรม Euler เข้ามาประกอบการเรียนการสอนร่วมด้วย เนื่องจากโปรแกรม
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
111
1. โปรแกรม C.a.R.
โปรแกรม C.a.R. (Compass and Ruler) เป็นโปรแกรมเรขาคณิตแบบพลวัตกล่าวคือ
เป็นโปรแกรมทางเรขาคณิตทีส่ ามารถสร้างรูปเรขาคณิตในลักษณะเดียวกับการใช้สนั ตรงและ
วงเวียน มีลกั ษณะปฏิสมั พันธ์โดยทีผ่ ใู้ ช้สามารถเปลีย่ นแปลงรูปเรขาคณิตให้เคลื่อนไหวตามความ
ต้องการ โดยยังคงรักษาสมบัตแิ ละความสัมพันธ์ทถ่ี ูกกาหนดของรูปนัน้ ไว้เสมอ และโปรแกรม
C.a.R. เป็นโปรแกรม General Public License (GPL) คืออนุญาตให้ใช้และเผยแพร่โดยไม่เสีย
ค่าใช้จา่ ย ผูท้ พ่ี ฒ
ั นาโปรแกรม C.a.R. คือ ศาสตราจารย์ ดร.เรอเน่ กรอธมันน์ (Prof. Dr. René
Grothmann) ชาวเยอรมัน โดยมีวตั ถุประสงค์สาหรับนักเรียนตัง้ แต่ชนั ้ ประถมศึกษาจนถึงระดับสูง
รวมทัง้ ผูใ้ หญ่ การใช้โปรแกรมสามารถใช้ได้ดว้ ยการคลิกเมาส์และลากเมาส์ หรือใช้คาสังโดยตรง ่
สามารถนาเสนอเป็ นลักษณะแฟ้ม HTML ได้สะดวก อีกทัง้ ยังสามารถออกแบบกิจกรรมส่งเสริมให้
ฒ
นักเรียนได้ทดสอบข้อคาดการณ์หรือตัง้ ข้อคาดการณ์ได้จากการทดลองสร้างซ้าๆ หรือหลากหลาย
วโิ ร
วิธ ี และผูส้ อนยังสามารถเตรียมแบบฝึกหัดให้นกั เรียนสร้าง โดยโปรแกรมจะแจ้งให้ทราบเมือ่ สร้าง
ได้ถูกต้อง นิทร
คร
การใช้โปรแกรม C.a.R. สาหรับการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นในงานวิจยั นี้
นี
ศร
it y
ers
มีจดุ ประสงค์หลักคือเพื่อ ให้นกั เรียนได้เห็นแนวคิดทีส่ าคัญของเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น และเพื่อ
ลยั
ยา
niv
นักเรียนได้ทาการสารวจ สังเกต และสรุปความรูไ้ ด้ดว้ ยตนเอง ซึง่ ผูว้ จิ ยั ได้ใช้เครือ่ งมือต่างๆ ทีม่ อี ยู่
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
ari
a kh
สม
rin
หอ
yS
1. ดับเบิลคลิกที่
al
n tr
1 2
ฒ
วโิ ร
3
ทร
4
นิ
คร
6
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
หา
ir o
5
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
1. ส่วนแสดงชื่อไฟล์โปรแกรม
Ce
2. ส่วนแสดงเมนูโปรแกรม
3. ส่วนแสดงไอคอนหรือปุม่ แสดงการทางาน
4. ส่วนแสดงข้อมูลขัน้ ตอนการสร้าง
5. ส่วนแสดงช่วยเหลืออธิบายออบเจ็กต์ในขณะการสร้าง
6. ส่วนกระดานการสร้าง
117
ฒ
การสร้างวงกลมผ่านจุดๆ หนึ่ง
วโิ ร
ทร
การสร้างวงกลมทีม่ รี ศั มีเท่ากับระยะทางระหว่างจุดสองจุด
นิ
คร
การสร้างวงกลมทีส่ ามารถกาหนดรัศมีของวงกลมได้ตามต้องการ
นี
ศร
it y
สร้างเส้นขนาน
ers
ลยั
สร้างเส้นตัง้ ฉาก
ยา
niv
tU
ใช้สาหรับเลื่อน/เคลื่อนย้ายวัตถุ (object)
วทิ
หา
ir o
งม
ใช้แสดงแกน X และแกน Y
nw
ลา
ari
ใช้กาหนดฟงั ก์ชนั
ดุ ก
a kh
ใช้ในการสร้างพารามิเตอร์
สม
rin
หอ
yS
สี
rar
นกั
ใช้ในการลบวัตถุ
L ib
สาํ
ตามลาดับของออบเจ็กต์(วงกลมหรือส่วนของเส้นตรง)
Ce
สร้างข้อความ
ใช้ในการเปลีย่ นลักษณะของจุด
ใช้ในการเปลีย่ นลักษณะของเส้น
ใช้แสดงความยาวหรือค่าของออบเจ็กต์นนั ้
118
กาหนดค่าพารามิเตอร์ของ X
กาหนดฟงั ก์ชนั
ฒ
วโิ ร
นิทร
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ขัน้ ที่ 2 กาหนดฟงั ก์ชนั ทีต่ อ้ งการสร้างกราฟ (ในทีน่ ้จี ะสาธิตการสร้า งกราฟ y = 2x+1)
ดุ ก
a kh
สม
yS
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
119
ฒ
วโิ ร
นิทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ตัวอย่างที่ 2 การสร้างกราฟของระบบสมการ
ลา
ari
a kh
สม
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
สาํ
นกั
หอ
Ce สม
n tr ดุ ก
al ลา
L ib งม
rar หา
yS วทิ
rin ยา
ขัน้ ที่ 2 การหาจุดตัดของกราฟ โดยใช้คาสัง่
a kh ลยั
ศร
ari
nw นี คร
ir o นิ ทร
tU วโิ ร
และใช้คาสัง่
niv ฒ
ers
it y
เพื่อให้แสดงค่า ดังรูป
120
121
2. โปรแกรม Euler
โปรแกรม Euler เป็นโปรแกรมที่มคี วามสามารถในการคานวณและเขียนกราฟได้ รวมทัง้ มี
โปรแกรม Maxima แฝงอยู่ ซึง่ เป็นโปรแกรมระบบพีชคณิตทีม่ คี วามสามารถในการประมวลผลเชิง
สัญลักษณ์ และเป็นโปรแกรมทีไ่ ด้รบั อนุญาตให้ใช้และเผยแพร่ได้โดยไม่เสียค่า ลิขสิทธิ ์ ผูท้ พ่ี ฒ
ั นา
โปรแกรม Euler คือ ศาสตราจารย์ ดร.เรอเน่ กรอธมันน์ (Prof. Dr. René Grothmann) ชาวเยอรมัน
การใช้โปรแกรม Euler สาหรับการเรียนการสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นในงานวิจยั นี้
มีจดุ ประสงค์เพื่อใช้เป็นเครือ่ งมือในการคานวณและการตรวจคาตอบ ซึง่ การนาโปรแกรม Euler
เข้ามาใช้ในการเรียนการสอนเป็นการช่วยประหยัดเวลาในการคานวณ ทาให้นกั เรียนเข้าใจ
กระบวนการและขัน้ ตอนการแก้ปญั หาจนเกิดเป็นทักษะและความชานาญ รวมทัง้ ทาให้นกั เรี ยน
มีความมันใจในการเรี
่ ยนมากขึน้
ฒ
อุปกรณ์ทจ่ี าเป็นสาหรับการใช้ โปรแกรม C.a.R. ประกอบการเรียนตามบทเรียน มีดงั นี้
วโิ ร
1. เครือ่ งคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล พร้อมทัง้ คียบ์ อร์ด เมาส์ และจอภาพสี
ทร
2. ฮาร์ดดิสก์ ( Hard Disk ) ขนาดไม่น้อยกว่า 4 GB.
นิ
คร
3. แผ่นบันทึก 3.5 นิ้ว หรือ แผ่น CD ทีม่ ไี ฟล์ทใ่ี ช้ตามทีร่ ะบุในใบกิจกรรม
นี
ศร
it y
ers
4. ระบบปฏิบตั กิ าร Microsoft Window xp หรือรุน่ ใหม่กว่า
ลยั
ยา
niv
5. สนับสนุนเวอร์ชนตั ั ่ ง้ แต่ JAVA 1.4 ขึน้ ไป
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
จะปรากฏภาพหน้าจอดังรูปข้างล่าง
n tr
Ce
สาํ
นกั
หอ
Ce สม
n tr ดุ ก
al ลา
L ib งม
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
4. คลิก EulerSetup ในหัวข้อ Browse Files for Euler Math Toolbox จะปรากฏหน้าจอ
ลา
ari
ดุ ก
a kh
ดังนี้
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
124
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
วโิ ร
นิทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
niv
4. หลังจากนัน้ คลิก Finish ถือเป็นการเสร็จสิน้ การติดตัง้ โปรแกรม
tU
วทิ
ir o
งม
nw
ของโปรแกรม ดังภาพข้างล่าง
ลา
ari
หน้าต่างกราฟิก
ดุ ก
a kh
หน้าต่างคาสัง่
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
126
1
2
ฒ
วโิ ร
นิทร
คร
นี
ศร
it y
3
ers
ลยั
ยา
niv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
::solve([x+y=3],[x, y]) แก้สมการ x + y = 3
วโิ ร
ทร
::solve ([x + 3*y = 2, 2*x - y = 5], [x, y]) แก้ระบบสมการ x + 3y = 2 และ
นิ
คร
2x – y = 5
นี
ศร
::load(simplex); การหาค่าต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น
it y
ers
ลยั
n iv
อสมการข้อจากัดคือ 3x 2y 2
tU
วทิ
หา
ir o
x 4y 3
งม
nw
ลา
ari
x 0, y 0
ดุ ก
a kh
::load(simplex); การหาค่าสูงสุดของกาหนดการเชิงเส้น
สม
rin
หอ
::maximize_lp(3*x+2*y,[x+2*y<=6,4*x+y<=8]) สมการจุดประสงค์คอื P 3x 2y
yS
rar
อสมการข้อจากัดคือ x 2y 6
นกั
L ib
สาํ
4x y 8
al
n tr
x 0, y 0
Ce
คาสัง่ การใช้งาน
insimg(15) เป็นคาสังการน
่ ากราฟทีส่ ร้างในหน้าต่างกราฟิก
เข้ามาแทรกในหน้าต่างคาสัง่
ค่าในวงเล็บคือขนาดของกราฟทีน่ ามาแทรกใน
หน้าต่างคาสังซึ่ ง่ มีค่า default อยูท่ ่ี 15
plot2d(“2*x+1”,a=-3,b=3) สร้างกราฟของ2x+1
โดยทีค่ ่า a, b, คือกรอบด้านซ้าย, ขวา
plot2d(“x^2”,a=-3,b=3), insimg(10); สร้างกราฟของ2x+1
โดยทีค่ ่า a, b, คือกรอบด้านซ้าย, ขวาและกราฟ
เข้ามาแทรกในหน้าต่างคาสัง่
ฒ
plot2d("2*x+2*y<=4",a=-4,b=4,c=- สร้างกราฟอสมการ 2x 2y 4
วโิ ร
ทร
4,d=4,niveau=1,hue=0); insimg(15); โดยกาหนดกรอบด้านซ้าย(a) = -4 กรอบ
นิ
ด้านขวา(b) = 4 กรอบด้านล่าง(c)= -4 และ
นีคร
ศร
กรอบด้านบน(d)=4
it y
ers
ลยั
n iv
x1
tU
::limit(x^2,x,inf)
วทิ
หาค่าของ lim x 2
หา
ir o
x
งม
::diff(x^2-2*x,x)
ลา
ari
a kh
สม
rin
::integrate(1/x,x) หาค่าของ 1
หอ
yS
x
rar
นกั
::integrate(x^2,x,0,2) 2
หาค่าของ x 2
L ib
สาํ
al
0
n tr
::ratsimp(1/x-1/y) 1 1 yx
จัดรูปใหม่ของ จะได้ผลลัพธ์คอื
Ce
x y xy
::bfloat(%pi) ประมาณค่า
หมายเหตุ จะใช้ %pi แทน
หมายเหตุ คาสังที
่ ม่ ี :: อยูข่ า้ งหน้าคือคาสังที
่ ป่ ระมวลผลจากโปรแกรม Maxima ซึง่ เป็นโปรแกรม
แบบ CAS ทีแ่ ฝงอยูใ่ นโปรแกรม Euler
129
ฒ
วโิ ร
นิทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
ตัวอย่างที่ 2 การหาค่าสูงสุดของกาหนดการเชิงเส้น
rar
นกั
สมการจุดประสงค์คอื P 3x 2y
L ib
สาํ
อสมการข้อจากัดคือ
al
n tr
Ce
x 2y 6
4x y 8
x 0, y 0
สามารถดาเนินการได้โดยการพิมพ์คาสัง่
(1) ::load(simplex);
(2) ::maximize_lp(3*x+2*y,[2*x+2*y<=6,4*x+2*y<=8]) จากนัน้ Enter จะได้ผลดังรูป
130
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
นี คร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
ตัวอย่างที่ 3 การหาค่าต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น
tU
วทิ
สมการจุดประสงค์คอื P x y
หา
ir o
งม
nw
อสมการข้อจากัดคือ
ลา
ari
3x 2y 2
ดุ ก
a kh
สม
x 4y 3
rin
หอ
yS
x 0, y 0
rar
นกั
สามารถดาเนินการได้โดยการพิมพ์คาสัง่
L ib
สาํ
(1) ::load(simplex);
al
n tr
ฒ
วโิ ร
นิทร
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
3. การเข้าสู่บทเรียน
tU
วทิ
ir o
งม
ari
2. ดับเบิลคลิกที่ My Computer
ดุ ก
a kh
สม
3. ดับเบิลคลิกทีห่ น่วยขับแผ่น CD
rin
หอ
yS
ฒ
วโิ ร
นิทร
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
133
ฒ
วโิ ร
นิทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
9.1 เลือกเรือ่ งทีต่ อ้ งการทากิจกรรมในหน่วยการเรียนที่ 1 เช่น กิจกรรมกราฟของ
tU
วทิ
หา
ระบบสมการเชิงเส้น
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
วโิ ร
นิทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
nw
เฉลยทีเ่ หมาะสมของกาหนดการเชิงเส้น
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
135
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ภายในแฟ้มจะมีคาสังแฟ
่ ้ มคาสังนั
่ กเรียนสามารถใช้งานโปรแกรม Euler
136
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
ภาคผนวก ค
tU
วทิ
หา
ir o
แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องกาหนดการเชิ งเส้น
งม
nw
ลา
ari
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
137
แผนการจัดการเรียนรู้ 1
กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยที่ 1 ความรูเ้ บือ้ งต้นของกาหนดการเชิงเส้น
เรือ่ ง ความหมายของกาหนดการเชิงเส้น เวลา 1 คาบ
1. สาระสาคัญ/ความคิ ดรวบยอด
กาหนดการเชิงเส้น (Linear Programming) เป็นตัวแบบทางคณิตศาสตร์ทส่ี ร้างขึน้ แทน
ปญั หาทีเ่ กิดขึน้ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปญั หาทีด่ ที ส่ี ุดตามเป้าหมายทีต่ งั ้ ไว้ และสอดคล้อง
กับเงือ่ นไขทีม่ อี ยูใ่ นปญั หานัน้ ๆ โดยทีค่ วามสัมพันธ์ของตัวแปรต่างๆ เกีย่ วข้องเป็นเชิงเส้นทัง้ สิน้
ฒ
ซึง่ จะนาไปใช้ในการแก้ปญั หาการจัดสรรทรัพยากร หรือกิจกรรมต่างๆ ทีมอี ยูอ่ ย่างจากัด เพื่อให้ได้
วโิ ร
บรรลุตามวัตถุประสงค์ท่ตี อ้ งการ เช่น กาไรสูงสุด ค่าใช้จา่ ยน้อยสุด เป็นต้น
นิทร
คร
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ด้านความรู้
ยา
n iv
1. นักเรียนมีความรูค้ วามเข้าใจความหมายของกาหนดการเชิงเส้นได้
tU
วทิ
หา
ir o
nw
3. นักเรียนมีความรูค้ วามเข้าใจในการนากาหนดการเชิงเส้นไปประยุกต์
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
ด้านทักษะ/กระบวนการ
หอ
yS
rar
1. มีความสามารถในการให้เหตุผล
นกั
L ib
สาํ
2. มีความสามารถในการสื่อสาร และนาเสนอ
al
n tr
ด้านคุณลักษณะ
Ce
1. มีส่วนร่วมและมีความรับผิดชอบ ในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
2. มีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียนและการทางาน
3. มีความเชื่อมันในตนเอง
่ และกล้าแสดงความคิดเห็น
138
3. สาระการเรียนรู้
กาหนดการเชิ งเส้น (Linear Programming) เป็นตัวแบบทางคณิตศาสตร์ทส่ี ร้างขึน้
แทนปญั หาทีเ่ กิดขึน้ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปญั หาทีด่ ที ส่ี ุดตามเป้าหมายทีต่ งั ้ ไว้ และสอดคล้อง
กับเงือ่ นไขทีม่ อี ยูใ่ นปญั หานัน้ ๆ โดยทีค่ วามสัมพันธ์ของตัวแปรต่างๆ เกีย่ วข้องเป็นเชิงเส้นทัง้ สิน้
ซึง่ จะนาไปใช้ในการแก้ปญั หาการจัดสรรทรัพยากร หรือกิจกรรมต่างๆ ทีมอี ยูอ่ ย่างจากั ด เพื่อให้ได้
บรรลุตามวัตถุประสงค์ทต่ี อ้ งการ เช่น กาไรสูงสุด ค่าใช้จา่ ยน้อยสุด เป็นต้น
ฒ
(Marshall Wood) พร้อมทัง้ ทีมผูร้ ว่ มงานในกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาในช่วงนัน้ คณะทางานชุดนี้
วโิ ร
ได้รบั มอบหมายให้วเิ คราะห์ความเป็นไปได้ในการประยุกต์คณิตศาสตร์และเทคนิคทีเ่ กีย่ วข้องต่อ
ทร
ปญั หาการวางแผนและการวางโปรแกรมทางทหาร ภารกิจที่ ได้รบั มอบหมายนัน้ ทาให้ ดานท์ซกิ
นิ
คร
ได้เสนอวิธกี ารทีเ่ กีย่ วกับความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมต่า งๆ ขององค์กรขนาดใหญ่ เป็นแบบจาลอง
นี
ศร
it y
ers
ของกาหนดการเชิงเส้น ทาให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด ทีว่ างไว้ นับว่าเขาเป็นผูเ้ ริม่ ต้นสร้างแบบจาลอง
ลยั
ยา
n iv
ทางคณิตศาสตร์ของปญั หากาหนดการเชิงเส้นและในปีน้เี องก็ได้เสนอวิธกี ารแก้ปญั หากาหนดการ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
วโิ ร
การประยุกต์ใช้กาหนดการเชิ งเส้น
ทร
กาหนดการเชิงเส้นได้ถูกนาไปใช้ในการแก้ปญั หาด้านต่างๆ อย่างกว้างขวาง ซึง่ ได้ช่วย
นิ
คร
ให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหาร และการดาเนินงานขององค์การหรือหน่วยงานนัน้ ๆ ในปจั จุบนั นี้
นี
ศร
it y
ers
เทคนิคกาหนดการเชิงเส้นได้ถูกนาไปประยุกต์ใช้กบั ปญั หาในด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่
ลยั
ยา
n iv
1. ปญั หาการผลิต (Product Mix Problem) เป็นการพิจารณาหาปริมาณสินค้าแต่ละ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
al
4. การจัดกิ จกรรมการเรียนรู้
ขัน้ นา
1. ครูแจกเอกสารหน่วยการเรียนที่ 1: ความรูเ้ บือ้ งต้นของกาหนดการเชิงเส้น เรือ่ ง
ฒ
ความหมายของกาหนดการเชิงเส้น และบอกจุดประสงค์การเรียนรูใ้ ห้นกั เรียนทราบ
วโิ ร
ขัน้ สอน
ทร
2. ครูอธิบายความหมาย ประโยชน์ ประวัตคิ วามเป็นมาของกาหนดการเชิงเส้น และบิดา
นิ
คร
ของกาหนดการเชิงเส้น พร้อมทัง้ ให้นกั เรียนศึกษาเอกสารทีค่ รูแจกให้ ควบคู่กนั ไป
นี
ศร
it y
ers
3. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรียนซักถามข้อสงสัยต่าง ๆ และให้แนวคิดพร้อมทัง้ อธิบายสร้าง
ลยั
ยา
n iv
ความเข้าใจแก่นกั เรียน จากนัน้ ให้นกั เรียนยกตัวอย่างของปญั หาทีส่ ามารถนากาหนดการเชิงเส้นไป
tU
วทิ
หา
ประยุกต์ใช้แก้ปญั หา
ir o
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ขัน้ สรุป
al
เชิงเส้น
5. สื่อการเรียนการสอน
1. ใบกิจกรรมที่ 1 เรือ่ งความหมายของกาหนดการเชิงเส้น
2. เอกสารหน่วยการเรียนที่ 1 ความหมายของกาหนดการเชิงเส้น
6. การวัดและประเมิ นผล
1. สังเกตจากการตอบคาถามของนักเรียน
2. สังเกตจากการให้ความร่วมมือในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
3. ใบกิจกรรมที่ 1 เรือ่ งความหมายของกาหนดการเชิงเส้น
141
7. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
ฒ
...................................................................................................................................................
วโิ ร
...................................................................................................................................................
ทร
...................................................................................................................................................
นิ
คร
...................................................................................................................................................
นี
ศร
it y
ers
...................................................................................................................................................
ลยั
ยา
n iv
...................................................................................................................................................
tU
วทิ
หา
ir o
...................................................................................................................................................
งม
nw
...................................................................................................................................................
ลา
ari
ดุ ก
a kh
...................................................................................................................................................
สม
rin
...................................................................................................................................................
หอ
yS
...................................................................................................................................................
rar
นกั
L ib
สาํ
...................................................................................................................................................
al
...................................................................................................................................................
n tr
Ce
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
ลงชื่อ..................................... ผูส้ อน
วันเดือนปี……../………../………….
เวลา...............................................
142
แผนการจัดการเรียนรู้ 2
กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยที่ 1 ความรูเ้ บือ้ งต้นของกาหนดการเชิงเส้น
เรือ่ ง กราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร เวลา 2 คาบ
1. สาระสาคัญ/ความคิ ดรวบยอด
1. การเขียนกราฟสมการเชิงเส้นสองตัวแปรอย่างง่าย คือ การหาจุดตัดแกน X และจุดตัด
แกน Y แล้วเขียนเส้นตรงทีผ่ ่านจุดตัดแกน X และแกน Y
2. การเขียนกราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร เป็นการเขียนกราฟของทุกสมการ
ฒ
ทีก่ าหนดให้บนแกนพิกดั ฉากเดียวกัน กราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรมี 3 ลักษณะคือ
วโิ ร
เป็นกราฟทีต่ ดั กัน กราฟทีข่ นานกันและกราฟทีเ่ ป็นเส้นตรงเดียวกัน
ทร
นิ
คร
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
นี
ศร
it y
ด้านความรู้ ers
ลยั
ยา
n iv
1. นักเรียนสามารถเขียนกราฟสมการเชิงเส้นสองตัวแปรได้
tU
วทิ
หา
ir o
2. นักเรียนสามารถเขียนกราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรได้
งม
nw
ด้านทักษะ/กระบวนการ
ลา
ari
ดุ ก
a kh
1. มีความสามารถในการให้เหตุผล
สม
rin
2. มีความสามารถในการสื่อสาร และนาเสนอ
หอ
yS
ด้านคุณลักษณะ
rar
นกั
L ib
สาํ
1. มีส่วนร่วมและมีความรับผิดชอบ ในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
al
n tr
2. มีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียนและการทางาน
Ce
3. มีความเชื่อมันในตนเอง
่ และกล้าแสดงความคิดเห็น
3. สาระการเรียนรู้
กราฟของสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร
การเขียนกราฟสมการเชิงเส้นสองตัวแปรอย่างง่ าย สามารถทาได้โดยใช้จดุ 2 จุดคือ
จุดตัดแกน X และจุดตัดแกน Y มีวธิ กี ารดังนี้
จุดตัดแกน X หาได้จากการแทนค่า y = 0 ในสมการ
จุดตัดแกน Y หาได้จากการแทนค่า x = 0 ในสมการ
ลักษณะกราฟของสมการเชิงเส้นสองตัวแปร คือ
1. เมือ่ A 0 และ B 0 จะได้ว่า กราฟสมการจะเป็นเส้นตรง ขนานกับแกน X
2. เมือ่ A 0 และ B 0 จะได้ว่า กราฟสมการจะเป็นเส้นตรง ขนานกับแกน Y
3. เมือ่ A 0 และ B 0 จะได้ว่า กราฟสมการจะเป็นเส้นตรงทีต่ ดั แกน X และแกน Y
ฒ
วโิ ร
ระบบสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร หมายถึง สมการเชิงเส้นทีม่ ตี วั แปร
ทร
สองตัวและมีจานวนสมการจากัดมากกว่าหรือเท่ากับหนึ่งสมการ
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
คาตอบของระบบสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร คือ คู่อนั ดับ (x, y) ทีส่ อดคล้องกับ
tU
วทิ
สมการทัง้ สองของระบบสมการ หรือคู่อนั ดับ (x, y) ทีค่ ่า x และค่า y ทีท่ าให้สมการทัง้ สอง
หา
ir o
งม
nw
ของระบบสมการเป็นจริง
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
กราฟของระบบสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร
rin
หอ
yS
การเขียนกราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรเกิดจากการสร้างกราฟทุกสมการที่
rar
นกั
กาหนดให้บนแกนพิกดั ฉากเดียวกัน
L ib
สาํ
al
4. การจัดกิ จกรรมการเรียนรู้
(คาบ2)
ขัน้ นา
1. ครูแจกเอกสารหน่วยการเรียนที่ 1: ความรูเ้ บือ้ งต้นของกาหนดการเชิงเส้น เรือ่ งกราฟข
ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรและบอกจุดประสงค์การเรียนรูใ้ ห้นกั เรียนทราบ
2. ครูทบทวนเกีย่ วความหมายและความเข้าใจเกีย่ วกับสมการเชิง เส้นสองตัวแปร โดย
ให้นกั เรียนยกตัวอย่างสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
ขัน้ สอน
3. ครูอธิบายเกีย่ วกับการเขียนกราฟสมการเชิงเส้นสองตัวแปรตามเอกสารหน่วยการ
เรียนรูท้ ่ี 1: กราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร โดยให้นกั เรียนร่วมอภิปรายไปพร้อมกัน ตาม
ฒ
ตัวอย่างที่ 1
วโิ ร
4. ครูให้นกั เรียนลองฝึกปฏิบตั กิ ารเขียนกราฟสมการเชิงเส้นสองตัวแปรในตัวอย่างที่ 2, 3
ทร
และ 4 ด้วยตัวเอง โดยครูเป็นผูค้ อยดูแล ให้คาแนะนา และกระตุน้ ให้นกั เรียนฝึกปฏิบตั ดิ ว้ ยการ
นิ
คร
ถาม-ตอบ
นี
ศร
it y
ers
5. จากนัน้ ครูให้นกั เรียนเปิดแฟ้มกิจกรรมทีส่ ร้างโดยโปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม
ลยั
ยา
n iv
Euler ในหน่ วยการเรียนที่ 1 ในกิจกรรมการสร้างกราฟสมการเชิงเส้นสองตัวแปร เพื่อให้นกั เรียน
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
นักเรียนเกิดความเข้าใจทีถ่ ูกต้อง
al
(คาบ 3)
ขัน้ นา
1. ครูทบทวนเกีย่ วกับการเขียนกราฟและลักษณะกราฟสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
ขัน้ สอน
2. ครูทบทวนความหมายและความเข้าใจเกีย่ วกับระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร และ
อธิบายเกีย่ วกับกราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรตามเอกสารหน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1:
กราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร โดยให้นกั เรียนร่วมอภิปรายไปพร้อม ๆ กัน ตาม
ตัวอย่างที่ 6 โดยครูคอยกระตุน้ ให้นกั เรียนมีส่วนร่วมในการทาและร่วมกิจกรรมด้วยการตัง้ คาถาม
เพื่อให้นกั เรียนได้แสดงออกและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน
3. ครูให้นกั เรียนลองฝึกปฏิบตั กิ ารเขียนกราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรในตัวอย่างที่
ฒ
7 และ 8 ด้วยตัวเอง โดยครูเป็นผูค้ อยดูแล ให้คาแนะนา และกระตุน้ ให้นกั เรียนฝึก ปฏิบตั ดิ ว้ ยการ
วโิ ร
ถาม-ตอบ
ทร
4. ครูให้นกั เรียนเปิดแฟ้มกิจกรรมทีส่ ร้างโดยโปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
นิ
คร
ในหน่วยการเรียนที่ 1 ในกิจกรรมการเขียนกราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร เพื่อให้นกั เรีย น
นี
ศร
it y
ers
สามารถเขียนกราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรได้โดยใช้โปรแกรม C.a.R. ตัวอย่างที่ 9 โดยครู
ลยั
ยา
n iv
เปิดโอกาสให้นกั เรียนได้ปฏิบตั กิ จิ กรรมตามความสามารถของตนเอง โดยทีค่ รูมหี น้าที่ คอยดูแล
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
5. สื่อการเรียนการสอน
1. ใบกิจกรรมที่ 2 เรือ่ งกราฟของสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
2. ใบกิจกรรมที่ 3 เรือ่ งกราฟของระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
3. เอกสารหน่วยการเรียนที่ 1 ความหมายของกาหนดการเชิงเส้น
146
6. การวัดและประเมิ นผล
1. สังเกตจากการตอบคาถามของนักเรียน
2. สังเกตจากการให้ความร่วมมือในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
3. ใบกิจกรรมที่ 2 เรือ่ งกราฟสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
4. ใบกิจกรรมที่ 3 เรือ่ งกราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
ฒ
7. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
วโิ ร
...................................................................................................................................................
ทร
...................................................................................................................................................
นิ
คร
...................................................................................................................................................
นี
ศร
it y
ers
...................................................................................................................................................
ลยั
ยา
n iv
...................................................................................................................................................
tU
วทิ
หา
ir o
...................................................................................................................................................
งม
nw
...................................................................................................................................................
ลา
ari
ดุ ก
a kh
...................................................................................................................................................
สม
rin
...................................................................................................................................................
หอ
yS
...................................................................................................................................................
rar
นกั
L ib
สาํ
...................................................................................................................................................
al
...................................................................................................................................................
n tr
Ce
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
ลงชื่อ..................................... ผูส้ อน
วันเดือนปี……../………../………….
เวลา...............................................
147
แผนการจัดการเรียนรู้ 3
กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
หน่ วยที่ 1 ความรูเ้ บือ้ งต้นของกาหนดการเชิงเส้น
เรือ่ ง กราฟระบบอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร เวลา 2 คาบ
1. สาระสาคัญ/ความคิ ดรวบยอด
กราฟอสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร
ขัน้ ตอนการเขียนกราฟอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร ได้ดงั นี้
ขัน้ ที่ 1 เขียนกราฟของสมการ
ฒ
- ถ้าอสมการมีเครือ่ งหมาย หรือ ให้เขียนเป็นเส้นทึบ
วโิ ร
- ถ้าอสมการมีเครือ่ งหมาย หรือ ให้เขียนเป็นเส้นประ
ทร
ขัน้ ที่ 2 การทดสอบบริเวณทีส่ อดคล้องกับอสมการ โดยเลือกจุด (0, 0) เป็นจุดทดสอบ
นิ
คร
- ถ้าจุดทดสอบทาให้อสมการเป็นจริง แสดงว่าจุดทุกจุดในข้างเดียวกัน ของจุดทดสอบ
นี
ศร
it y
ก็จะสอดคล้องกับอสมการด้วย ers
ลยั
ยา
n iv
- แต่ถา้ จุดทดสอบทาให้อสมการเป็นเท็จ แสดงว่าจุดทุกจุดในอีกข้างหนึ่งของเส้นตรง
tU
วทิ
หา
ir o
ก็จะสอดคล้องกับอสมการ
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
หอ
yS
ด้านความรู้
rar
นกั
L ib
สาํ
1. นักเรียนสามารถเขียนกราฟอสมการเชิงเส้นสองตัวแปรได้
al
2. นักเรียนสามารถเขียนกราฟระบบอสมการเชิงเส้นสองตัวแปรได้
n tr
Ce
ด้านทักษะ/กระบวนการ
1. มีความสามารถในการให้เหตุผล
2. มีความสามารถในการสื่อสาร และนาเสนอ
ด้านคุณลักษณะ
1. มีส่วนร่วมและมีความรับผิดชอบ ในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
2. มีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียนและการทางาน
3. มีความเชื่อมันในตนเอง
่ และกล้าแสดงความคิดเห็น
148
3. สาระการเรียนรู้
ฒ
วโิ ร
ทร
กราฟอสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร คือ กราฟของคู่อนั ดับ (x, y)
นิ
คร
ซึง่ สัมพันธ์ตามเงือ่ นไขทีก่ าหนด
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ถ้าจุดทดสอบทาให้อสมการเป็นจริง แสดงว่าจุดทุกจุดในข้างเดียวกัน
al
ของจุดทดสอบก็จะสอดคล้องกับอสมการด้วย
n tr
Ce
4. การจัดกิ จกรรมการเรียนรู้
(คาบ 4)
ขัน้ นา
1. ครูแจกเอกสารหน่วยการเรียนที่ 1: ความรูเ้ บือ้ งต้นของกาหนดการเชิงเส้น เรือ่ งกราฟ
ระบบอสมการเชิงเส้นสองตัวแปรและบอกจุดประสงค์การเรียนรูใ้ ห้นกั เรียนทราบ
2. ครูทบทวนความหมายและความเข้าใจเกีย่ วกับ อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว และ
ยกตัวอย่างที่ 1 และตัวอย่างที่ 2 โดยให้นกั เรียนร่วมอภิปรายไปพร้อม ๆ กัน
ขัน้ สอน
3. ครูอธิบายความหมายและการเขียนกราฟอสมการเชิงเส้นสองตัวแปรตามเอกสารหน่วย
การเรียนที่ 1: ความรูเ้ บือ้ งต้นของกาหนดการเชิงเส้น เรือ่ งกราฟระบบอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
ฒ
และยกตัวอย่างที่ 3, 4 และ 5 ในการเขียนกราฟอสมการเชิงเส้นสองตัวแปรเพื่อเป็นแนวทางให้
วโิ ร
นักเรียนในการเขียนกราฟอสมการเชิงเส้นสองตัวแปรได้อย่างถูกต้อง
ทร
4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากตัวอย่างที่ 3, 4 และ 5 เกีย่ วกับการเขียนกราฟ
นิ
คร
อสมการเชิงเส้นสองตัวแปร จากนัน้ ครูและนักเรียนร่ วมกันสรุปขัน้ ตอนการเขียนกราฟอสมการเชิง
นี
ศร
it y
ers
ลยั
เส้นสองตัวแปร
ยา
n iv
5. จากนัน้ ครูให้นกั เรียนเปิดกิจกรรมทีส่ ร้างโดยโปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler ใน
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
C.a.R.
สม
rin
yS
L ib
สาํ
ขัน้ สรุป
8. ครูให้นกั เรียนช่วยกันสรุปขัน้ ตอนการเขียนกราฟและลักษณะของกราฟอสมการเชิงเส้น
สองตัวแปร
(คาบ 5)
ขัน้ นา
1. ครูทบทวนขัน้ ตอนการเขียนกราฟและลักษณะของกราฟอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
ขัน้ สอน
2. ครูอธิบายความหมายและการเขียนกราฟระบบอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร และ
ยกตัวอย่างที่ 6 ในการเขียนกราฟระบบอสมการเชิงเส้นสองตัวแปรเพื่อให้นกั เรียนทาความเข้าใจ
150
ฒ
7. ให้นกั เรียนส่งใบกิจกรรมที่ 5 เรือ่ งกราฟระบบอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร เพื่อเป็นส่วน
วโิ ร
หนึ่งของการประเมินผล จากนัน้ ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยใบกิจกรรม
ขัน้ สรุป นิทร
คร
8. ครูให้นกั เรียนช่วยกันสรุปขัน้ ตอนการเขียนกราฟและลักษณะของกราฟอสมการเชิงเส้น
นี
ศร
it y
สองตัวแปรและระบบอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
5. สื่อการเรียนการสอน
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
3. เอกสารหน่วยการเรียนที่ 1 ความหมายของกาหนดการเชิงเส้น
หอ
yS
L ib
สาํ
6. การวัดและประเมิ นผล
1. สังเกตจากการตอบคาถามของนักเรียน
2. สังเกตจากการให้ความร่วมมือในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
3. ใบกิจกรรมที่ 4 เรือ่ งกราฟอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
4. ใบกิจกรรมที่ 5 เรือ่ งกราฟระบบอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
151
7. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
ฒ
...................................................................................................................................................
วโิ ร
...................................................................................................................................................
ทร
...................................................................................................................................................
นิ
คร
...................................................................................................................................................
นี
ศร
it y
ers
...................................................................................................................................................
ลยั
ยา
n iv
...................................................................................................................................................
tU
วทิ
หา
ir o
...................................................................................................................................................
งม
nw
...................................................................................................................................................
ลา
ari
ดุ ก
a kh
...................................................................................................................................................
สม
rin
...................................................................................................................................................
หอ
yS
...................................................................................................................................................
rar
นกั
L ib
สาํ
...................................................................................................................................................
al
...................................................................................................................................................
n tr
Ce
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………..
ลงชื่อ..................................... ผูส้ อน
วันเดือนปี……../………../………….
เวลา...............................................
152
แผนการจัดการเรียนรู้ 4
กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยที่ 2 การแก้ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ
เรือ่ ง การสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น เวลา 2 คาบ
1. สาระสาคัญ/ความคิ ดรวบยอด
แบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้น จะประกอบด้วยส่วนต่างๆ ทีส่ าคัญ 3 ส่วน คือ
1. สมการจุดประสงค์ เป็นการแสดงความสัมพันธ์ของตัวแปรทีต่ อ้ งการทราบค่า
หรือต้องการตัดสินใจ เป้าหมายของกาหนดการเชิงเส้นมีดว้ ยกัน 2 ประเภทคือ
ฒ
1.1 การหาค่าสูงสุด (maximize) เช่น การทากาไรให้สงู สุด ต้องการผลิตมากสุด
วโิ ร
1.2 การหาค่าต่าสุด (minimize) เช่น ต้นทุนต่าสุด ใช้เวลาน้อยสุด
ทร
2. อสมการข้อจากัด เป็นสมการหรืออสมการทีแ่ สดงเงือ่ นไขและข้อจากัดของ
นิ
คร
สถานการณ์ เช่น ปริมาณทรัพยากร ความต้องการ หรือระยะเวลาของแต่ละกิจกรรม เป็นต้น
นี
ศร
it y
ers
โดยข้อจากัดจะถูกกาหนดให้อยูใ่ นรูปแบบของความสัมพันธ์เชิงเส้น
ลยั
ยา
n iv
3. ข้อกาหนดของตัวแปร ตัวแปรทุกตัวจะต้องมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับศูนย์
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
ลา
ari
ดุ ก
a kh
ด้านความรู้
สม
rin
1. นักเรียนสามารถบอกจุดประสงค์ของปญั หาได้
หอ
yS
2. นักเรียนสามารถเขียนจุดประสงค์ของปญั หาในรูปสมการเชิงเส้นสองตัวแปรได้
rar
นกั
L ib
สาํ
3. นักเรียนสามารถบอกข้อจากัดของปญั หาได้
al
4. นักเรียนสามารถเขียนข้อจากัดของปญั หาในรูปอสมการเชิงเส้นสองตัวแปรได้
n tr
Ce
3. สาระการเรียนรู้
โครงสร้างแบบจาลองของกาหนดการเชิ งเส้น
แบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้น จะประกอบด้วยส่วนต่างๆ ทีส่ าคัญ 3 ส่วน คือ
1. สมการจุดประสงค์ เป็นการแสดงความสัมพันธ์ของตัวแปรทีต่ อ้ งการทราบค่า
หรือต้องการตัดสินใจ เป้าหมายของกาหนดการเชิงเส้นมีดว้ ยกัน 2 ประเภทคือ
1.1 การหาค่าสูงสุด (maximize) เช่น การทากาไรให้สงู สุด ต้องการผลิตมากสุด
1.2 การหาค่าต่าสุด (minimize) เช่น ต้นทุนต่าสุด ใช้เวลาน้อยสุด
2. อสมการข้อจากัด เป็นสมการหรืออสมการทีแ่ สดงเงือ่ นไขและข้อจากัดของ
สถานการณ์ เช่น ปริมาณทรัพยากร ความต้องการ หรือ ระยะเวลาของแต่ละกิจกรรม เป็นต้น
โดยข้อจากัดจะถูกกาหนดให้อยูใ่ นรูปแบบของความสัมพันธ์เชิงเส้น
ฒ
3. ข้อกาหนดของตัวแปร ตัวแปรทุกตัวจะต้องมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับศูนย์
วโิ ร
ทร
นิ
คร
ขัน้ ตอนการสร้างแบบจาลองของกาหนดการเชิ งเส้น
นี
ศร
it y
สามารถสรุปได้ 4 ขัน้ ตอนดังนี้ คือ
ers
ลยั
n iv
ขัน้ ที่ 2 กาหนดสมการจุดประสงค์ของปญั หา ซึง่ อยูใ่ นรูปของหาค่าสูงสุดหรือ
tU
วทิ
หา
ir o
การค่าต่าสุด
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
สมการเชิงเส้นของตัวแปรทีต่ อ้ งการทราบค่า
สม
rin
หอ
L ib
สาํ
4. การจัดกิ จกรรมการเรียนรู้
al
n tr
(คาบ 6)
Ce
ขัน้ นา
1. ครูแจกเอกสารหน่วยการเรียนที่ 2: การแก้ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ
เรือ่ งการสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นและบอกจุดประสงค์การเรียนรูใ้ ห้นกั เรียนทราบ
ขัน้ สอน
2. ครูทบทวนความหมายและความเข้าใจเกีย่ วกับกาหนดการเชิงเส้น
3. ครูอธิบายเกีย่ วกับโครงสร้างและองค์ประกอบของแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น อย่าง
ละเอียด เพื่อให้นกั เรียนเข้าใจได้อย่างถูกต้อง
4. ครูยกตัวอย่างปญั หากาหนดการเชิงเส้นในทีต่ วั อย่างที่ 1 โดยให้นกั เรียนร่วมแสดงความ
คิดเห็นและตอบคาถาม โดยครูใช้คาถามกระตุน้ เพื่อให้นกั เรียนอ่านและวิเคราะห์ปญั หา เช่น
154
ฒ
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผล จากนัน้ ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยใบกิจกรรม
วโิ ร
ขัน้ สรุป
ทร
9. ครูให้นกั เรียนช่วยกันสรุปเกีย่ วกับโครงสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นและขัน้ ตอน
นิ
คร
การสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น
นี
ศร
it y
(คาบ 7) ers
ลยั
ยา
n iv
ขัน้ นา
tU
วทิ
หา
ir o
nw
แบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น
ลา
ari
ดุ ก
a kh
ขัน้ สอน
สม
rin
yS
L ib
สาํ
สอน
al
5. สื่อการเรียนการสอน
1. ใบกิจกรรมที่ 6 เรือ่ งโครงสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น
2. ใบกิจกรรมที่ 7 เรือ่ งการสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น
3. เอกสารหน่วยการเรียนที่ 2: การแก้ปญั หากาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ
6. การวัดและประเมิ นผล
1. สังเกตจากการตอบคาถามของนักเรียน
2. สังเกตจากการให้ความร่วมมือในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
3. ใบกิจกรรมที่ 6 เรือ่ งโครงสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น
4. ใบกิจกรรมที่ 7 เรือ่ งการสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น
ฒ
วโิ ร
7. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
ทร
...................................................................................................................................................
นิ
คร
...................................................................................................................................................
นี
ศร
it y
ers
...................................................................................................................................................
ลยั
ยา
n iv
...................................................................................................................................................
tU
วทิ
หา
ir o
...................................................................................................................................................
งม
nw
...................................................................................................................................................
ลา
ari
ดุ ก
a kh
...................................................................................................................................................
สม
rin
...................................................................................................................................................
หอ
yS
...................................................................................................................................................
rar
นกั
L ib
สาํ
...................................................................................................................................................
al
...................................................................................................................................................
n tr
Ce
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………..
ลงชื่อ..................................... ผูส้ อน
วันเดือนปี……../………../………….
เวลา...............................................
156
แผนการจัดการเรียนรู้ 5
กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยที่ 2 การแก้ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ
เรือ่ ง การหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น เวลา 3 คาบ
1. สาระสาคัญ/ความคิ ดรวบยอด
สรุปขัน้ ตอนของวิธกี ารหาผลเฉลยทีเ่ หมาะสมทีส่ ุดได้ดงั นี้
1. เขียนกราฟอสมการข้อจากัด เพื่อแสดงบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
2. หาจุดมุมของรูปหลายเหลีย่ มของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ทงั ้ หมด
ฒ
3. นาจุดมุมแต่ละจุดไปแทนค่าในสมการจุดประสงค์เพื่อหาค่าสมการจุดประสงค์
วโิ ร
4. พิจารณาจุดมุมทีท่ าให้ค่า สมการจุดประสงค์ทด่ี ที ส่ี ุด (สูงสุดหรือต่าสุด)
ทร
- ถ้าหากมีจดุ มุมเพียงจุดเดียวทีท่ าให้สมการจุดประสงค์มคี ่าสูงสุด(หรือต่าสุด)
นิ
คร
แล้วจุดมุมนัน้ จะเป็นผลเฉลยทีเ่ หมาะสมทีส่ ุดเพียงผลเฉลยเดียว
นี
ศร
it y
ers
- ถ้าหากผลเฉลยเหมาะทีส่ ุดเกิดขึน้ ทีจ่ ดุ มุมสองจุดแล้ว จุดทุกจุดบนเส้นตรง
ลยั
ยา
n iv
ระหว่างสองจุดนัน้ ก็เป็นผลเฉลยเหมาะสมทีส่ ุด
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
ลา
ari
ดุ ก
a kh
ด้านความรู้
สม
rin
1. นักเรียนสามารถเขียนกราฟของอสมการข้อจากัดได้ถูกต้อง
หอ
yS
2. นักเรียนสามารถบอกบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ของอสมการข้อจากัดได้ถูกต้อง
rar
นกั
L ib
สาํ
4. นักเรียนสามารถหาพิกดั ของจุดมุมของบริเวณผลเฉลยได้
n tr
Ce
5. นักเรียนสามารถหาค่าสูงสุดหรือต่าสุดของของกาหนดการเชิงเส้นด้วยวิธกี ราฟ
ได้ถูกต้อง
ด้านทักษะ/กระบวนการ
1. มีความสามารถในการให้เหตุผล
2. มีความสามารถในการสื่อสาร และนาเสนอ
ด้านคุณลักษณะ
1. มีส่วนร่วมและมีความรับผิดชอบ ในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
2. มีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียนและการทางาน
3. มีความเชื่อมันในตนเอง
่ และกล้าแสดงความคิดเห็น
157
3. สาระการเรียนรู้
การหาค่าสูงสุดและต่ าสุดของปญั หากาหนดการเชิงเส้น สามารถสรุปขัน้ ตอนของวิธกี ารหา
ผลเฉลยทีเ่ หมาะสมทีส่ ุดได้ดงั นี้
1. เขียนกราฟอสมการข้อจากัด เพื่อแสดงบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
2. หาจุดมุมของรูปหลายเหลีย่ มของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ทงั ้ หมด
3. นาจุดมุมแต่ละจุดไปแทนค่าในสมการจุดประสงค์เพื่อหาค่าสมการจุดประสงค์
4. พิจารณาจุดมุมทีท่ าให้ค่า สมการจุดประสงค์ทด่ี ที ่สี ุด (สูงสุดหรือต่าสุด)
- ถ้าหากมีจดุ มุมเพียงจุดเดียวทีท่ าให้สมการจุดประสงค์มคี ่าสูงสุด(หรือต่าสุด) แล้ว
จุดมุมนัน้ จะเป็นผลเฉลยทีเ่ หมาะสมทีส่ ุดเพียงผลเฉลยเดียว
- ถ้าหากผลเฉลยเหมาะทีส่ ุดเกิดขึน้ ทีจ่ ดุ มุมสองจุดแล้ว จุดทุกจุดบนเส้ นตรง
ฒ
ระหว่างสองจุดนัน้ ก็เป็นผลเฉลยเหมาะสมทีส่ ุด
วโิ ร
4. การจัดกิ จกรรมการเรียนรู้
ทร
นิ
คร
(คาบ 8)
นี
ศร
it y
ขัน้ นา ers
ลยั
ยา
n iv
1. ครูแจกเอกสารหน่วยการเรียนที่ 2: การแก้ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ทราบ
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
กาหนดการเชิงเส้น โดยการถามตอบ
หอ
yS
ขัน้ สอน
rar
นกั
L ib
สาํ
ฒ
(คาบ 9)
วโิ ร
ขัน้ นา
ทร
1. ครูทบทวนหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น
นิ
คร
ขัน้ สอน
นี
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
ทดสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ เพื่อทาให้นกั เรียนเกิดความเข้าใจในกระบวนการหา
tU
วทิ
หา
ir o
คาตอบ
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
4. ครูให้นกั เรียนลงมือทากิจกรรมการหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น
n tr
Ce
ขัน้ สรุป
7. ครูให้นกั เรียนช่วยกันสรุปขัน้ ตอนการหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น
(คาบ 10)
ขัน้ นา
1. ครูให้ทบทวนนักเรียนเกีย่ วกับขัน้ ตอนการหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น
ขัน้ สอน
2. ครูแจกใบกิจกรรมที่ 9 เรือ่ งการหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น ให้
นักเรียนลงมือทาเป็นรายบุคคล ครูคอยสังเกต และให้คาแนะนาตามความเหมาะสม
3. ให้นกั เรียนส่งใบกิจกรรมที่ 9 เรือ่ งการหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผล จากนัน้ ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยใบกิจกรรม
ฒ
ขัน้ สรุป
วโิ ร
ทร
4. ครูให้นกั เรียนช่วยกันขัน้ ตอนการหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้นอีกครัง้
นิ
นี คร
5. สื่อการเรียนการสอน
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
2. ใบกิจกรรมที่ 9 เรือ่ งการหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
6. การวัดและประเมิ นผล
al
n tr
1. สังเกตจากการตอบคาถามของนักเรียน
Ce
2. สังเกตจากการให้ความร่วมมือในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
3. ใบกิจกรรมที่ 8 เรือ่ งการเขียนกราฟของสมการจุดประสงค์และอสมการข้อจากัด
4. ใบกิจกรรมที่ 9 เรือ่ งการหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น
7. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
160
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
ฒ
...................................................................................................................................................
วโิ ร
...................................................................................................................................................
ทร
...................................................................................................................................................
นิ
คร
...................................................................................................................................................
นี
ศร
it y
ers
...................................................................................................................................................
ลยั
ยา
n iv
...................................................................................................................................................
tU
วทิ
หา
...................................................................................................................................................
ir o
งม
nw
...................................................................................................................................................
ลา
ari
ดุ ก
a kh
...................................................................................................................................................
สม
rin
...................................................................................................................................................
หอ
yS
...................................................................................................................................................
rar
นกั
L ib
สาํ
...................................................................................................................................................
al
n tr
Ce
ลงชื่อ..................................... ผูส้ อน
วันเดือนปี……../………../………….
เวลา...............................................
161
แผนการจัดการเรียนรู้ 6
กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยที่ 2 การแก้ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ
เรือ่ ง การแก้โจทย์ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้น เวลา 2 คาบ
1. สาระสาคัญ/ความคิ ดรวบยอด
กาหนดการเชิงเส้นเป็ นเครือ่ งมือทีน่ าไปใช้แก้ปญั หาได้หลายลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นปญั หา
ด้านการผลิต การจัดสรรงบประมาณ การโภชนาการ การขนส่ง ฯลฯ ซึง่ วิ ธกี ารหาคาตอบของปญั หา
กาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ สามารถชีใ้ ห้เห็นถึงลักษณะและบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
ฒ
ตลอดจนหลักเกณฑ์ในการหาคาตอบได้ชดั เจน
วโิ ร
ขัน้ ตอนการแก้โจทย์ปญั หากาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ โดยเริม่ จากการวิเคราะห์
ทร
โจทย์ เพื่อให้ทราบว่าโจทย์ตอ้ งการอะไร จุ ดประสงค์ของปญั หา และข้อจากัดของปญั หาคืออะไร
นิ
คร
แล้วนามาสร้างแบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้น หลังจากนัน้ จึงดาเนินการแก้ปญั หาโดยใช้
นี
ศร
it y
ers
กระบวนการทางคณิตศาสตร์ และสรุปผลให้สอดคล้องกับเป้าหมายของปญั หา
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
งม
nw
ด้านความรู้
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
ด้านทักษะ/กระบวนการ
หอ
yS
rar
1. มีความสามารถในการให้เหตุผล
นกั
L ib
สาํ
2. มีความสามารถในการสื่อสาร และนาเสนอ
al
n tr
ด้านคุณลักษณะ
Ce
1. มีส่วนร่วมและมีความรับผิดชอบ ในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
2. มีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียนและการทางาน
3. มีความเชื่อมันในตนเอง
่ และกล้าแสดงความคิดเห็น
3. สาระการเรียนรู้
ขัน้ ตอนการแก้โจทย์ปัญหากาหนดการเชิ งเส้น มีดงั นี้
1. วิเคราะห์โจทย์ว่าต้องการทราบอะไร เป้าหมายของปญั หาต้องการหาค่าสูงสุด
หรือต่ าสุดและมีขอ้ จากัดของปญั หาอะไรบ้าง และเขียนตารางแสดงค่าต่างๆ ทีก่ าหนดให้
2. สร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น
162
3. ดาเนินการแก้ปญั หา โดยการเขียนกราฟของอสมการข้อจากัดแสดงบริเวณของ
ผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ แล้วหาพิกดั ของจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
4. ทดสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ ทาการทดสอบโดยการนาจุดมุมไปแทน
ค่าในสมการจุดประสงค์ เพื่อพิจารณาเลือกจุดทีท่ าให้สมการจุดประสงค์มคี ่าสูงสุดหรือต่าสุดตามที่
โจทย์ตอ้ งการ
5. สรุปผลทีไ่ ด้จากข้อ 4
4. การจัดกิ จกรรมการเรียนรู้
(คาบ 11)
ขัน้ นา
ฒ
1. ครูแจกเอกสารหน่วยการเรียนที่ 2: การแก้ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ
วโิ ร
เรือ่ งการแก้โจทย์ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้นและบอกจุดประสงค์การเรียนรูใ้ ห้นกั เรียนทราบ
2. ครูให้ทบทวนนักเรียนเกีย่ วกับ
ทร
นิ
คร
- การสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น
นี
ศร
it y
- ers
ขัน้ ตอนการหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้น
ลยั
ยา
n iv
ขัน้ สอน
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
ขัน้ ตอน
สม
rin
yS
ให้นกั เรียนมีส่วนร่วมในการทาและร่วมกิจกรรม
rar
นกั
L ib
สาํ
ขัน้ สอน
2. ครูแจกใบกิจกรรมที่ 10 เรือ่ งการแก้โจทย์ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้น
ให้นกั เรียนลงมือทาเป็นรายบุคคล ครูคอยสังเกต และให้คาแนะนาตามความเหมาะสม
3. ให้นกั เรียนส่งใบกิจกรรมที่ 10 เรือ่ งการแก้โจทย์ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้น
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผล จากนัน้ ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยใบกิจกรรม
ขัน้ สรุป
3. ครูให้นกั เรียนช่วยกันสรุปขัน้ ตอนการการแก้โจทย์ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้น
5. สื่อการเรียนการสอน
1. ใบกิจกรรมที่ 10 เรือ่ งการแก้โจทย์ปญั หาของกาหนดการเชิงเส้น
ฒ
2. เอกสารหน่วยการเรียนที่ 2 การแก้ปญั หากาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ
วโิ ร
3. แฟ้มกิจกรรมทีส่ ร้างโดยโปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
ทร
4. คู่มอื การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอน เรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น โดยใช้โปรแกรม
นิ
คร
C.a.R. และโปรแกรม Euler
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
6. การวัดและประเมิ นผล
tU
วทิ
หา
ir o
1. สังเกตจากการตอบคาถามของนักเรียน
งม
nw
2. สังเกตจากการให้ความร่วมมือในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
หอ
yS
7. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
rar
นกั
L ib
สาํ
...................................................................................................................................................
al
n tr
...................................................................................................................................................
Ce
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
ลงชื่อ..................................... ผูส้ อน
วันเดือนปี……../………../………….
เวลา...............................................
164
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
ภาคผนวก ง
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ลา
ari
a kh
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
165
1. ความหมายของกาหนดการเชิ งเส้น
ฒ
แก้ไขปญั หาทางการจัดสรรปจั จัยและทรัพยากรทีม่ อี ยูอ่ ย่างจากัด โดยมีจดุ หมายเพื่อแก้ปญั หาและ
วโิ ร
ทร
ตัดสินใจให้เกิดผลตามแนวทางการดาเนินงานทีด่ ที ส่ี ุด (optimal) เช่นกาไรสูงสุด ค่าใช้จา่ ยน้อยสุด
นิ
คร
หรือแนวทางการดาเนินงานอื่นๆ ทีใ่ ห้ผลประโยชน์มากทีส่ ุดต่อระบบนัน้ ๆ โดยพิจารณาเงือ่ นไขหรือ
นี
ศร
it y
ข้อจากัดทีก่ าหนดเช่น สภาวะตลาด การขาดแคลนวัตถุดบิ กาลังคน เงินทุน สถานที่ เป็นต้น
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
yS
มิถุนายน โดยมีหวั หน้าคณะทางาน คือ ยอร์จ บี ดานท์ซกิ (George B. Dantzig) และ มาร์แชล วูด
rar
นกั
ฒ
ขนาดใหญ่ได้ผลดี ในมหาวิทยาลัยบางแห่งได้บรรจุเป็นเนื้อหาหลักสูตรในการสอนนักศึกษา
วโิ ร
แต่ไม่บรรลุผลสาเร็จเท่าทีค่ วรเนื่องจากมีความยากในการสอน และสมาคมการวิจ ัยดาเนินงาน
ทร
แห่งสหรัฐอเมริกาได้จดั ให้มกี ารอบรมเชิงปฏิบตั กิ าร ในวิธขี องคาร์มาร์คาร์ เมือ่ ปี ค.ศ.1987
นิ
คร
ในระหว่างเดือนตุลาคม ผลของการประชุมปฏิบตั กิ ารครัง้ นัน้ ได้อภิปรายถึงวิธกี ารของคาร์มาร์คาร์
นี
ศร
it y
ers
ทีย่ ากในการสอนว่าเพราะเป็นวิธกี ารยุง่ ยากและซับซ้ อนมาก นอกจากนัน้ จะเป็นการสร้างความ
ลยั
ยา
n iv
เข้าใจในเชิงเรขาคณิตต้องเขียนรูป 3 มิติ ไม่สามารถเขียนรูป 2 มิตไิ ด้ และถ้าใช้การคานวณ
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
al
ฒ
วโิ ร
ด้านประวัตแิ ละผลงานพบว่า ยอร์จ บี ดานท์ซกิ เกิดที่เมืองพอร์ตแลนด์ (Portland)
ทร
มลรัฐโอริกอน (Oregon) ประเทศสหรัฐอเมริกาเมือ่ วันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1914 บิดาชื่อ โทเบียส
นิ
คร
ดานท์ซกิ (Tobias Dantzig) ซึง่ เป็นนักคณิตศาสตร์ ส่วนมารดา ชื่อ แอนจา เอาวริสสัน (Anja
นี
ศร
it y
Ourisson) ซึง่ เป็นผูเ้ ชีย่ วชาญทางภาษา ers
ลยั
ยา
n iv
สาหรับด้านการศึกษา ในปี ค.ศ.1936 ยอร์จ บี ดานท์ซกิ จบปริญญาตรีทางคณิตศาสตร์
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
เรียนของ Jerzy Neyman ซึง่ เป็นผูค้ น้ พบสถิตแิ ผนใหม่ Neyman ได้เขียนปญั หาบนกระดานดา
L ib
สาํ
al
ฒ
วโิ ร
นิทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ในปี ค.ศ.1975 ดานท์ซกิ ได้รบั รางวัล National Medal of Science จากประธานาธิบดี
ลยั
ยา
n iv
เจอรัลด์ ฟอร์ด ในฐานะทีเ่ ป็นผูค้ ดิ ค้นกาหนดการเชิงเส้นและวิธซี มิ เพล็กซ์ นอกจากนี้ยงั มีผลงาน
tU
วทิ
หา
ต่างๆ อีกมากมาย เช่น War Department Exceptional Civilian Service Medal, the John Von
ir o
งม
nw
Neumann Theory Prize, the National Academy of Sciences Award in Applied Mathematics
ลา
ari
ดุ ก
a kh
and Numerical Analysis, the Harvey Prize, the Silver Medal of the Operational Research
สม
rin
Society, the Alfred Coors American Ingenuity Award and a Fellows Award from the Institute
หอ
yS
for Operations Research and the Management Science (INFROMS) เป็นต้น และจนกระทัง่
rar
นกั
L ib
สาํ
อาการแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานและโรคเกีย่ วกับหลอดเลือดหัวใจ
n tr
Ce
ฒ
วัตถุดบิ ชนิดต่างๆ ทีจ่ ะนามาผสมกันหรือนามาใช้ในการผลิตสินค้าประเภทต่างๆ ตามคุณสมบัตทิ ่ี
วโิ ร
ได้กาหนดไว้ เพื่อทีจ่ ะได้มคี ่าใช้จา่ ยต่าสุด
ทร
3. ปัญหาการขนส่ง (Transportation Problem) เป็นการพิจารณาปริมาณสินค้าที่
นิ
คร
จะทาการขนส่งจากแหล่งผลิตสินค้าไปยังผูบ้ ริโภคหรือจุดหมายปลายทาง เพื่อให้ค่าใช้จา่ ยในการ
นี
ศร
it y
ขนส่งทีต่ ่าสุด หรือส่งสินค้าถึงจุดหมายปลายทางได้เร็ว สุด ers
ลยั
ยา
n iv
4. ปัญหาการมอบหมายงาน (Assignment Problem) เป็นการพิจารณาการ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
ลงทุนในโครงการลงทุนต่างๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด
หอ
yS
L ib
สาํ
หรือโดยเสียค่าใช้จา่ ยในการโฆษณาน้อยสุด
Ce
ฒ
วโิ ร
1. จงบอกความหมายของกาหนดการเชิงเส้น
…………………………………………………………………..............................................
นิ ทร
คร
.........................................................................................................................................
นี
ศร
it y
ers
.........................................................................................................................................
ลยั
ยา
n iv
2. กาหนดการเชิงเส้นนาไปใช้กบั ปญั หาในลักษณะใด
tU
วทิ
หา
ir o
……………………………………………………………………………………………………
งม
nw
……………………………………………………………………………………………………
ลา
ari
ดุ ก
a kh
3. ใครเป็นบิดาของกาหนดการเชิงเส้น
สม
rin
……………………………………………………………………………………………………
หอ
yS
4. กาหนดการเชิงเส้นถูกนามาใช้ครัง้ แรกในด้านใด
rar
นกั
L ib
สาํ
…………………………………………………………………………………………………..
al
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..
171
1. กราฟสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร
ฒ
วโิ ร
Ax + By + C = 0
ทร
เมือ่ A, B และ C เป็นค่าคงตัว A ≠ 0 หรือ B ≠ 0 และ x, y เป็นตัวแปร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
จากความหมายดังกล่าว สรุปได้ว่า สมการเชิงเส้นสองตัวแปรจะเป็นสมการทีม่ ี
ลยั
ยา
n iv
ลักษณะสาคัญ ดังนี้
tU
วทิ
หา
ir o
1. มีตวั แปรสองตัว
งม
nw
2. ตัวแปรแต่ละตัวมีเลขชีก้ าลังเป็น 1
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
ให้นกั เรียนยกตัวอย่างสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
al
n tr
มา 4 สมการ
Ce
1) ………………… 2) …………………
3) ………………… 4) …………………
5) ………………… 6) …………………
172
กราฟของสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร
ตัวอย่าง 1 จงเขียนกราฟของสมการ x y 3 0
วิ ธีทา สร้างตารางความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร x และตัวแปร y
x -1 0 1 2 3
y = 3-x
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
al
n tr
มีวิธีการดังนี้
Ce
จากตัวอย่าง 1 x + y – 3 = 0 จะได้ว่า
ถ้า x = 0 แล้ว y = 3 แสดงว่า เส้นตรงตัดกับแกน Y ทีจ่ ดุ (0, 3)
ถ้า y = 0 แล้ว x = 3 แสดงว่า เส้นตรงตัดกับแกน X ทีจ่ ดุ (3, 0)
กราฟของสมการเป็นดังนี้
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
ตัวอย่าง 2 จงเขียนกราฟของสมการ 2x y 4 0
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
กราฟของสมการเป็นดังนี้
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
174
5.1) x 2y 5 0 5.2) 2x 3y 6 0
วิ ธีทา จะได้ y = ………………………. วิ ธีทา จะได้ y = ……………………….
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
จุดตัดแกน X คือ ………………………
นี
ศร
it y
จุดตัดแกน Y คือ …………………… ers
ลยั
n iv
5.3) y 3 0 5.4) y 4x 5
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
จากการเขียนกราฟในตัวอย่างข้างต้น สามารถสรุปลักษณะกราฟสมการเชิงเส้น
สองตัวแปรได้ดงั นี้
รูปทัวไป่ Ax By C 0
เมือ่ x และ y เป็นตัวแปร A, B, C เป็นค่าคงตัว และ A กับ B ไม่เป็นศูนย์พร้อมกัน
ลักษณะกราฟสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร
1. เมื่อ A 0 และ B 0 แล้ว จะได้ว่า
.............................................................................................................................
………………………………..................................................................................
…………………………………………………………………………………………….
2. เมื่อ A 0 และ B 0
ฒ
.............................................................................................................................
วโิ ร
………………………………..................................................................................
…………………………………………………………………………………………….. นิ ทร
คร
3. เมื่อ A 0 และ B 0
นี
ศร
it y
ers
ลยั
.............................................................................................................................
ยา
n iv
………………………………..................................................................................
tU
วทิ
หา
ir o
……………………………………………………………………………………………..
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
176
ฒ
วโิ ร
(1) y 2x 4 0
นิทร
คร
วิ ธีทา ………………………………………………………………………..
นี
ศร
it y
………………………………………………………………………………. ers
ลยั
ยา
n iv
……………………………………………………………………………….
tU
วทิ
หา
ir o
………………………………………………………………………………
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
177
(2) 5x y 6 0
วิ ธีทา ……………………………………………………………………
……………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
(3) 2x 4 y 6
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
วิ ธีทา ………………………………………………………………………..
al
……………………………………………………………………………….
n tr
Ce
……………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………
178
2. กราฟระบบสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร
ฒ
วโิ ร
นักเรียนสามารถเขียน
Ax + By + E = 0 ระบบสมการให้อยู่ในรูป
ทร
Cx + Dy + F = 0 Ax + By = E
นิ
คร
ว่าระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรที่ม ี x และ y เป็นตัวแปร Cx + Dy = F
นี
ศร
it y
ทีม่ ี x และ y เป็นตัวแปร
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
nw
สมการทัง้ สองของระบบสมการ หรือคู่อนั ดับ (x, y) ทีค่ ่า x และค่า y ทีท่ าให้สมการทัง้ สอง
ลา
ari
ดุ ก
a kh
ของระบบสมการเป็นจริง
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
กราฟระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรได้จากการเขียนกราฟ
Ce
ตัวอย่าง 6 จงเขียนกราฟของระบบสมการเชิงเส้นต่อไปนี้
xy5 (1)
x y 1 (2)
เขียนกราฟของสมการทัง้ สองได้ดงั นี้
ฒ
วโิ ร
ทร
-1 1 5
นิ
คร
(2) (1)
นี
ศร
it y
ers
จากการเขียนกราฟของสมการทัง้ สอง พบว่า กราฟตัดกันทีจ่ ดุ (3, 2)
ลยั
ยา
n iv
โดยที่ (3, 2) สอดคล้องกับสมการ (1) และสมการ (2)
tU
วทิ
หา
ir o
ดังนัน้ คาตอบของระบบสมการ (1) และ (2) จึงเป็น (3, 2) ซึง่ เป็นพิกดั ของจุดตัดของกราฟ
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
การหาคาตอบของระบบสมการจะใช้วธิ ใี ดได้บา้ ง
al
n tr
นอกจากการเขียนกราฟ ช่วยบอกหน่อยนะครับ!!
Ce
ฒ
(1) กาหนดให้
วโิ ร
2x 7 y 11 (1)
2x 3y 1
ทร
นิ (2)
คร
เขียนกราฟของระบบสมการได้ดงั นี้
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
(2) กาหนดให้
x 3y 3 (1)
x 3y 6 (2)
เขียนกราฟของระบบสมการได้ดงั นี้
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
จากการเขียนกราฟของสมการทัง้ สอง พบว่า ……………………………….
นี
ศร
it y
แสดงว่า ……………………………………………………………………….
ers
ลยั
ยา
n iv
ดังนัน้ คาตอบของระบบสมการ ………………………………………………
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
a kh
สม
yS
rar
นกั
1. …………………………………………………………………………….
al
n tr
…………………………………………………………………………….
Ce
2. …………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………
3. ………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
182
ฒ
วโิ ร
(1) กาหนดให้
x 2y 3
ทร
นิ
คร
นี
3x y 4
ศร
it y
เขียนกราฟของระบบสมการได้ดงั นี้ ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
183
(2) กาหนดให้
3x 5y 15
4x 3y 12
เขียนกราฟของระบบสมการได้ดงั นี้
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
(3) กาหนดให้
สม
rin
2x 4y 20
หอ
yS
8x 6y 48
rar
นกั
L ib
สาํ
เขียนกราฟของระบบสมการได้ดงั นี้
al
n tr
Ce
184
1. กราฟอสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร
ฒ
วโิ ร
อสมการ คือ ประโยคสัญลักษณ์ทก่ี ล่าวถึงความสัมพันธ์ของจานวนโดย
ทร
มีสญ
ั ลักษณ์ , , , หรือ บอกความสัมพันธ์ของจานวน
คร
นิ
นี
ศร
it y
ers
ลยั
เช่น 2x 5
ยา
n iv
tU
3x 2y 7
วทิ
หา
ir o
งม
2x 4 10
nw
ลา
ari
x 2 y2 1
ดุ ก
a kh
สม
rin
yS
rar
แล้วทาให้อสมการเป็นจริง
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
เช่น กาหนดอสมการ
นักเรียนคิดว่า
x 3 7 มีคาตอบอื่นอีกมัย้
ถ้าแทนค่า x ด้วย 5 จะได้อสมการ 5 3 7 หรือ 8 7 ซึง่ อสมการเป็ นเท็จ นอกเหนือจาก 2
ดังนัน้ 5 ไม่เป็ นคาตอบของอสมการ
ถ้าแทนค่า x ด้วย 2 จะได้อสมการ 2 3 7 หรือ 5 7 ซึง่ อสมการเป็นจริง
ดังนัน้ 2 เป็ นคาตอบของอสมการ
ถ้าแทนค่า x ด้วย…..จะได้อสมการ …………. หรือ ……. ซึง่ …………………
ดังนัน้ ……………………………………………………………….
ถ้าแทนค่า x ด้วย…..จะได้อสมการ …………. หรือ ……. ซึง่ …………………
ดังนัน้ ……………………………………………………………….
185
การเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวจะใช้เส้นจานวนจริงในการ
แสดงคาตอบ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่าง 1 จงแก้อสมการ x 2 6
วิ ธีทา x26
ฒ
นา -2 บวกทัง้ สองข้าง จะได้
วโิ ร
ทร
x 2 (2) 6 (2)
นิ
คร
x4
ดังนัน้ คาตอบของอสมการ คือ จานวนจริงทุกจานวนทีน่ ้อยกว่าหรือเท่ากับ 4
นี
ศร
it y
กราฟแสดงคาตอบบนเส้นจานวนจริง ได้ดงั นี้ ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
-1 0 1 2 3 4 5
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
ตัวอย่าง 2 จงแก้อสมการ 4x 8 12
rar
นกั
L ib
สาํ
วิ ธีทา 4x 8 12
al
……………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………..
1
นา คูณทัง้ สองข้าง จะได้
4
……………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………….
ดังนัน้ คาตอบของอสมการ คือ …………………………………………..........
กราฟแสดงคาตอบบนเส้นจานวนจริง ได้ดงั นี้
-1 0 1 2 3 4 5 6
186
ฒ
วโิ ร
ซึง่ สัมพันธ์ตามเงือ่ นไขทีก่ าหนด
นิทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
การเขียนกราฟอสมการเชิงเส้นสองตัวแปร จะแสดงโดยตัวอย่างเพื่อเป็นแนวทางในการ
ยา
n iv
เขียนกราฟอสมการเชิงเส้นต่างๆ ต่อไป
tU
วทิ
หา
ir o
ตัวอย่าง 3 พิจารณากราฟของสมการเชิงเส้นต่อไปนี้
งม
nw
ลา
ari
x=3
ดุ ก
a kh
Y
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
(1, 4) (7, 3)
Ce
(3, 3)
(-1, 2)
(5, 1)
(3, 0) XX
จากกราฟจะเห็นว่า เส้นตรงซึง่ เป็นกราฟของ x = 3 จะมีจดุ (3, 0), (3, 3), (3, 5) อยูบ่ น
เส้นตรง ซึง่ แต่ละจุดจะมีพกิ ดั x = 3 นอกจากนี้กราฟแบ่งระนาบออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนทีอ่ ยู่
ทางขวาของเส้นตรง โดยมีจดุ (5, 1), (5, 5) และ (7, 3) อยูท่ างขวาของเส้นตรง และส่วนทีอ่ ยู่
ทางซ้ายของเส้นตรง มีจดุ (-1, 2), (0, 5) และ (1, 4) อยูท่ างซ้ายของเส้นตรง
187
ถ้าต้องการกล่าวถึงจุดทุกจุดทางขวาของเส้นตรง นันคื
่ อ กล่าวถึงทุกจุดทีม่ พี กิ ดั ของ x
มากกว่า 3 จะใช้เส้นประและการแรเงาบริเวณด้านขวาของเส้นตรงซึง่ เป็นกราฟของx = 3 เพื่อแสดง
กราฟของอสมการ x 3 ดังรูป 3.1 และถ้าต้องการรวมจุดทุกจุดบนเส้นตรงซึง่ เป็นกราฟของ
x = 3 นันคื
่ อ การแสดงกราฟของอสมการ x 3 โดยใช้เส้นทึบแทนเส้นประ ดังรูป 3.2
Y x=3 Y x=3
x3 x3
ฒ
วโิ ร
X X
นิทร
คร
รูป 3.1 รูป 3.2
นี
ศร
it y
ers
สาหรับกราฟของอสมการเชิงเส้นอื่นๆ ก็สามารถเขียนได้โดยใช้เส้นประหรือเส้นทึบและ
ลยั
ยา
n iv
อาณาบริเวณทีแ่ รเงาในลักษณะทีก่ ล่าวไว้ขา้ งต้น
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ตัวอย่าง 4 พิจารณากราฟของสมการเชิงเส้นต่อไปนี้
ลา
ari
ดุ ก
a kh
Y
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
(2, 2)
al
n tr
(-1, 1)
Ce
(5, 0)
X
y = -1
(-1, -2) (2, -1) (3, -1) (6, -1)
(2, -2) (4, -2)
จากกราฟจะเห็นว่า เส้นตรงซึง่ เป็นกราฟของ y = -1 จะมีจดุ (2, -1), (3, -1), (6, -1)
อยูบ่ นเส้นตรง ซึง่ แต่ละจุดจะมีพกิ ดั y = -1 นอกจากนี้กราฟแบ่งระนาบออกเป็นสองส่วน คือ
ส่วนทีอ่ ยูเ่ หนือเส้นตรง จะมีจดุ (-1, 1), (2, 2) และ (5, 0) และส่วนทีอ่ ยูใ่ ต้ของเส้นตรง จะมีจดุ
(-1, -2), (2, -2) และ (4, -2)
188
ถ้าต้องการกล่าวถึงจุดทุกจุดด้านเหนือของเส้นตรง นันคื
่ อ กล่าวถึงทุกจุดทีม่ พี กิ ดั ของ y
มากกว่า -1 จะใช้เส้นประและการแรเงาบริเวณด้านเหนือของเส้นตรงซึง่ เป็นกราฟของy = -1 เพื่อ
แสดงกราฟของอสมการ y 1 ดังรูป 4.1 และถ้าต้องการรวมจุดทุกจุดบนเส้นตรงซึง่ เป็นกราฟ
ของ y = -1 นันคื
่ อ การแสดงกราฟของอสมการ y 1โดยใช้เส้นทึบแทนเส้นประ ดังรูป 4.2
Y Y
y 1 y 1
ฒ
วโิ ร
X X
ทร
y = -1 y= -1
นิ
คร
รูป 4.1 รูป 4.2
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
ตัวอย่าง 5 จงเขียนกราฟของอสมการ 3x 2y 6
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
การเขียนกราฟของอสมการ
หอ
yS
ต้องใช้สมการช่วยในการเขียน
rar
นกั
L ib
กราฟ
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
เขียนกราฟของอสมการ 3x – 2y < 6 ได้ดงั รูป
วโิ ร
นิทร
คร
Y
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
0 (2, 0)
rin
X
หอ
yS
(0, -3)
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
เดียวกันของจุดทดสอบก็จะสอดคล้องกับอสมการด้วย
วโิ ร
ทร
แต่ถา้ จุดทดสอบทาให้อสมการเป็นเท็จ แสดงว่าจุดทุกจุดใน
นิ
คร
อีกข้างหนึ่งของเส้นตรงก็จะสอดคล้องกับอสมการ
นี
ศร
it y
ขัน้ ที่ 3 แรเงาบริ เวณที่ได้จากขัน้ ที่ 2
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
191
ฒ
วโิ ร
(1)
ทร
x 1
นิ
คร
วิ ธีทา
นี
ศร
it y
ers
ขัน้ ที่ 1 เขียนกราฟของสมการ ……………………..อสมการมีเครือ่ งหมาย ………….
ลยั
ยา
n iv
จึงใช้เส้น …………………………………………………………………………
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
จะได้กราฟของอสมการดังนี้
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
192
(2) xy3
วิ ธีทา
ขัน้ ที่ 1 เขียนกราฟของสมการ ……………………..อสมการมีเครือ่ งหมาย ………….
จึงใช้เส้น …………………………………………………………………………
ขัน้ ที่ 2 ใช้จดุ ………………. ตรวจสอบอสมการ
จะได้ ………………………………………. ซึง่ อสมการเป็น ………………..
ขัน้ ที่ 3 แรเงาบริเวณ ………………………………………………..…………………..
จะได้กราฟของอสมการดังนี้
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
(3) 2x y 2
ลา
ari
ดุ ก
a kh
วิ ธีทา
สม
rin
yS
rar
จึงใช้เส้น …………………………………………………………………………
นกั
L ib
สาํ
2. กราฟระบบอสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร
ฒ
กราฟระบบอสมการเชิ งเส้นสองตัวแปร คือ เซตของจุดทีส่ อดคล้องกับทุกอสมการใน
วโิ ร
ทร
ระบบนัน้ หรืออาจกล่าวได้ว่า กราฟบนระนาบทีเ่ กิดจากการซ้อนทับร่วมกันของกราฟทุกอสมการ
นิ
คร
ในระบบนัน้
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
ตัวอย่าง 6 จงเขียนกราฟของระบบอสมการ และ
tU
x y 10 yx
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
สามารถแสดงอาณาบริเวณของกราฟทัง้ สองอสมการดังรูป 3
ฒ
วโิ ร
ทร
รูป 3 อาณาบริเวณของกราฟทัง้ สองอสมการ
นิ
นีคร
ศร
it y
บริเวณทีซ่ อ้ นทับกันของกราฟของอสมการ และ ers
y x เป็ นกราฟของระบบอสมการ
ลยั
x y 10
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
วโิ ร
(1) y 2
x y 1 นิทร
คร
นี
ศร
it y
วิ ธีทา สามารถเขียนกราฟของระบบอสมการเชิงเส้น ได้ดงั นี้
ers
ลยั
ยา
n iv
กราฟของระบบอสมการ คือ
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
196
(2) x 2y 4
x y 1
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
(3) x 2y 10
ดุ ก
a kh
สม
rin
2x 3y 18
หอ
yS
rar
นกั
กราฟของระบบอสมการ คือ
al
n tr
Ce
197
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
……………………………………………………………………………………………..
ดุ ก
a kh
………………………………………………………………………………………………
สม
rin
หอ
yS
………………………………………………………………………………………………
rar
นกั
………………………………………………………………………………………………
L ib
สาํ
……………………………………………………………………………………...………
al
n tr
………………………………………………………………………………………………
Ce
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
198
ฒ
วโิ ร
แปรเพียง 2 ตัว จึงสามารถชีใ้ ห้เห็นถึงลักษณะและบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ ตลอดจนหลักเกณฑ์
ทร
ในการหาคาตอบได้ชดั เจน
นิ
นีคร
ศร
it y
ขัน้ ตอนการแก้ปญั หากาหนดการเชิงเส้นโดยวิธกี ราฟ มีดงั นี้
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
วิ เคราะห์ปัญหา
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
สร้างตัวแบบ
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
คานวณหาผลลัพธ์
al
n tr
Ce
ทดสอบผลลัพธ์
สรุปผลเพื่อนาผลลัพธ์ไปใช้
199
1. โครงสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิ งเส้น
ฒ
แบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น จะประกอบด้วยส่ วนต่างๆ ทีส่ าคัญ 3 ส่วน คือ
วโิ ร
ทร
1. สมการจุดประสงค์ เป็นการแสดงความสัมพันธ์ของตัวแปรทีต่ อ้ งการทราบค่ า
หรือต้องการตัดสินใจ เป้าหมายของกาหนดการเชิงเส้นมีดว้ ยกัน 2 ประเภทคือ
นิ
คร
นี
ศร
it y
1.1 การหาค่าสูงสุด (maximize) เช่น การทากาไรให้สงู สุด ต้องการผลิตมากสุด
ers
ลยั
n iv
tU
ir o
nw
ลา
ari
โดยข้อจากัดจะถูกกาหนดให้อยูใ่ นรูปแบบของความสัมพันธ์เชิงเส้น
ดุ ก
a kh
3. ข้อกาหนดของตัวแปร ตัวแปรทุกตัวจะต้องมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับศูนย์
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
พิจารณาโครงสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นจากตัวอย่างต่อไปนี้
n tr
Ce
ฒ
กาไรรวม = กาไรจากการขาย A + กาไรจากการขาย B
วโิ ร
= …………………………………………………………….
ดังนัน้ ถ้าให้ x เป็นจานวนการผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างชนิด A
ทร
นิ
คร
y เป็นจานวนการผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างชนิด B
นี
ศร
it y
และ P เป็นกาไรรวม (บาท) จะได้ ers
ลยั
ยา
n iv
กาไรจากการขายอุปกรณ์ก่อสร้างชนิด A = …………………………….
tU
วทิ
หา
ir o
กาไรจากการผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างชนิด B = …………………………….
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
ได้ดงั นี้
หอ
yS
P = …………………………………………………………...
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
วโิ ร
ทร
ตัวอย่าง 2 โรงงานเซรามิกวางแผนทีจ่ ะทาการผลิตแจกัน ซึง่ มีรปู แบบแตกต่างกัน คือ แบบC และ
นิ
คร
แบบ D ในแต่ละแบบจะต้องผ่านกระบวนการผลิตดังนี้ การขึน้ รูป การเผา และการเคลือบสี แจกัน
นี
ศร
it y
ers
รูปแบบใหม่ทผ่ี ลิตสามารถจาหน่ายได้ทงั ้ หมด ในแต่ละกระบวนการผลิตมีขอ้ จากัดด้านจานวน
ลยั
ยา
n iv
ชัวโมงแรงงานในแต่
่ ละแผนกทีใ่ ช้สาหรับการผลิตดังตาราง
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ari
a kh
สม
C 3 4 5 250
rin
หอ
yS
D 1 2 5 200
rar
นกั
จานวนชัวโมงแรงงาน
่ 150 200 300
L ib
สาํ
จึงได้กาไรมากทีส่ ุดตามความต้องการ
Ce
ฒ
เนื่องจาก x, y แทนจานวนชิน้ ของการผลิตแจกันรูปแบบ C และ D ดังนัน้ x, y จะต้องไม่
วโิ ร
เป็นจานวนลบ นันคื ่ อ ……………………………………………………………………………………
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
203
ฒ
วโิ ร
คาสัง:่ จงตอบคาถามทีก่ าหนดให้ต่อไปนี้
นิทร
คร
นี
ศร
it y
ers
1. บริษทั แฟนต้า ผลิตน้าอัดลมชนิด M และชนิด N โดยทีน่ ้าอัดลมชนิด M แต่ละขวดใช้หวั เชือ้
ลยั
ยา
n iv
น้าตาล 4 กรัม และหัวเชือ้ น้าส้ม 1 กรัม ส่วนน้าอัดลมชนิด N แต่ละขวดใช้หวั เชือ้ น้าตาล 2 กรัม
tU
วทิ
หา
ir o
และหัวเชือ้ น้าส้ม 3 กรัม ถ้าในแต่ละวันบริษทั มีหวั เชือ้ น้าตาลเพียง 20,000 กรัม และหัวเชือ้ น้าส้ม
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
และเป็นเงินเท่าไร
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
จงตอบคาถามต่อไปนี้
1. สิง่ ทีโ่ จทย์ตอ้ งการทราบ คือ ………………………………………................................
……………………………………………………………………………………………..
2. เป้าหมายของปญั หา คือ ………….………………………………………………………
3. สมการจุดประสงค์ คือ ……………………………………………………………………..
4. ข้อจากัดของปญั หา คือ …………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………...
5. เขียนข้อจากัดของปญั หาให้อยูใ่ นรูปอสมการ
1. …………………………………………………………………………….……….
อสมการข้อจากัด คือ ……………………………………………………………………...
ฒ
2. …………………………………………………………..…………………………
วโิ ร
อสมการข้อจากัด คือ ……………………………………………………………….……..
6. ข้อจากัดของตัวแปรทีต่ อ้ งการตัดสินใจ
ทร
นิ
คร
………………………………………………………………………………………………
นี
ศร
it y
…..…..…………………………………………………………………………………….. ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
yS
L ib
สาํ
จงตอบคาถามต่อไปนี้
1. สิง่ ทีโ่ จทย์ตอ้ งการทราบ คือ ………………………………………................................
……………………………………………………………………………………………..
2. เป้าหมายของปญั หา คือ ………….………………………………………………………
3. สมการจุดประสงค์ คือ ……………………………………………………………………..
4. ข้อจากัดของปญั หา คือ …………………………………………………………………...
ฒ
……………………………………………………………………………………………...
วโิ ร
5. เขียนข้อจากัดของปญั หาให้อยูใ่ นรูปอสมการ
ทร
1. ………………………………………………………………….………………….
นิ
คร
อสมการข้อจากัด คือ ……………………………..……………………………………...
นี
ศร
it y
2. ………………………………………………………….…………….……………ers
ลยั
ยา
n iv
อสมการข้อจากัด คือ ……………………………………………………………………..
tU
วทิ
หา
6. ข้อจากัดของตัวแปรทีต่ อ้ งการตัดสินใจ
ir o
งม
nw
………………………………………………………………………………………………
ลา
ari
ดุ ก
a kh
…..…..……………………………………………………………………………………..
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
206
2. การสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิ งเส้น
ฒ
…………………………………………………………………………..........................
วโิ ร
ทร
ขัน้ ที่ 3………………………………………………………………………………
นิ
คร
……………………………………………………………………………………………
นี
ศร
it y
ขัน้ ที่ 4………………………………………………………………………………
ers
ลยั
…………………………………………………………………………………………..
ยา
n iv
tU
ir o
…………………………………………………………………………………………
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
……………………………………………………………………………...
สม
rin
หอ
yS
พิจารณาการสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นจากตัวอย่างต่อไปนี้
rar
นกั
L ib
สาํ
จงสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น
207
ฒ
วโิ ร
การเตรียมวัสดุ (ชม.) 2 2 120
ทร
การประกอบ (ชม.) 1 คร
นิ 3 160
กาไรต่อตัว(บาท) 1,200 1,500
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
ขัน้ ที่ 2 กาหนดตัวแปรให้กบั สิง่ ทีต่ อ้ งการทราบค่า
tU
วทิ
หา
ir o
x แทนจานวนของโต๊ะไม้ขนาดมาตรฐานทีผ่ ลิตในแต่ละสัปดาห์
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
P แทนกาไรทัง้ หมด
สม
rin
yS
L ib
สาํ
1. จานวนชัวโมงแรงงานในการเตรี
่ ยมวัสดุไม่เกิน 120 ชม./สัปดาห์
n tr
Ce
อสมการข้อจากัดคือ 2x 2y 120
2. จานวนชัวโมงแรงงานในการประกอบไม่
่ เกิน 160 ชม./สัปดาห์
อสมการข้อจากัดคือ x 3y 160
ขัน้ ที่ 5 ข้อกาหนดของตัวแปร
เนื่องจาก x และ y แทนจานวนของโต๊ะไม้ขนาดมาตรฐาน และขนาดพิเศษทีจ่ ะ
ถูกผลิตในแต่ละสัปดาห์ ดังนัน้ x และ y จะต้องมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับศูนย์
นันคื
่ อ x 0, y 0
208
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
209
สองตัวแปรได้
ชื่อ …………………………………………………………... ชัน้ ……………. เลขที่ …………….
คาสัง:่ จงสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นในแต่ละข้อต่อไปนี้
ฒ
วโิ ร
ทร
1. บริษทั ผลิตวงล้อจักรยาน 2 แบบ คือ แบบ A และแบบ B ในการผลิตแต่ละวงล้อต้องใช้วสั ดุ
นิ
คร
ทีส่ าคัญคือ แผ่นเหล็ก และยาง ในการผลิตวงล้อจักรยานแบบ A แต่ละอันใช้แผ่นเหล็ก 3 เส้น ยาง
นี
ศร
it y
ers
2 เส้น และการผลิตวงล้อจักรยานแบบ B ใช้แผ่นเหล็ก 1 เส้น ยาง 2 เส้น ซึง่ แต่ละวันบริษทั มีแผ่น
ลยั
ยา
n iv
เหล็ก 1,080 เส้นและยาง 840 เส้น จะได้กาไรจากการขายวงล้อจักรยานแบบ A อันละ 18 บาท และ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
เป็นจานวนเท่าไรจึงจะได้กาไรสูงสุด
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
จงสร้างแบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้น
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
ฒ
P เป็น ……………………………………………………………………….
วโิ ร
ขัน้ ที่ 3 กาหนดสมการจุดประสงค์ของปญั หา
นิทร
สมการจุดประสงค์ คือ …………………………………………………………………....
คร
ขัน้ ที่ 4 กาหนดอสมการข้อจากัด
นี
ศร
it y
ers
ลยั
1. …………………………………………………………………………………..…
ยา
n iv
อสมการข้อจากัด คือ ……………………………………………………………………
tU
วทิ
หา
ir o
2. …………………………………………………………………………………....
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
3. …………………………………………………………………...………………..
สม
rin
yS
rar
L ib
สาํ
……………………………………………………………………………………………
al
n tr
……………………………………………………………………………………………
Ce
จงสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น
ฒ
วโิ ร
สิ่ งที่โจทย์ต้องการทราบ คือ ………………………………………………………………..
ทร
……………………………………………………………………………………………………………. คร
นิ
เป้ าหมายของปัญหา คือ ……………………………………………………………………
นี
ศร
it y
ers
ข้อจากัดของปัญหา คือ …………………………………………………………………….
ลยั
ยา
n iv
…………………………………………………………………………………………………………...
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
y เป็น …………………………………………………………………..……
สม
rin
P เป็น …………………………………………………………………..……
หอ
yS
L ib
สาํ
1. …………………..…………………………………………………………………
อสมการข้อจากัด คือ ……………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………...…………..
อสมการข้อจากัด คือ ……………………………………………………………………..
3. ……………………………………………………………………………………..
อสมการข้อจากัด คือ ……………………………………………………………………..
ขัน้ ที่ 5 ข้อกาหนดของตัวแปร
……………………………………………………………………………………………
212
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
213
ตัวอย่าง 1 กาหนดแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
ฒ
วโิ ร
สมการจุดประสงค์ P 2x 3y
ทร
อสมการข้อจากัด คร
นิ
x 3y 6 (1)
นี
ศร
it y
2x 2 y 8
ers
(2)
ลยั
ยา
n iv
x0
tU
วทิ
หา
y0
ir o
งม
nw
จงหาค่าสูงสุดของ P
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
1. เขียนกราฟของอสมการข้อกาจัด
L ib
สาํ
x4
ดังนัน้ จะได้จดุ กัดบนแกน Y คือ (0, 4) และจุดตัดบนแกน X คือ (4, 0)
เขียนกราฟของสมการเงือ่ นไขบังคับข้อที่ 1 และ 2 และแสดงพืน้ ทีส่ อดคล้องกับอสมการ
ข้อจากัดนัน้ ได้ดงั รูป
ฒ
Y
วโิ ร
นิทร
นี คร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
2
วทิ
หา
ir o
งม
nw
X
ลา
6
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
รูป 1 x 3y 6
หอ
yS
rar
นกั
Y
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
4 X
รูป 2 2x 2 y 8
215
ฒ
A B
วโิ ร
ทร
O C (1)
คร
นิ X
(2)
นี
ศร
it y
รูป 3 บริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
ir o
งม
nw
ari
เมือ่ P 0 จะได้ 2x 3y 0
ดุ ก
a kh
สม
P6 จะได้ 2x 3y 6
rin
หอ
yS
P 12 จะได้ 2x 3y 12
rar
นกั
ซึง่ จากสมการข้างต้นจะได้กราฟดังรูป 4
L ib
สาํ
al
Y Y
n tr
A A B B
C (1)C X
O O (2)
P = 12
P=0 P=6
รูป 4 เส้นสมการจุดประสงค์ 3 เส้นซึง่ ให้ค่า P ต่างๆ กัน
216
ฒ
P ทีส่ งู คือ 12 แต่เนื่องจากอยูน่ อกบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ ทาให้ค่า x และ y บนเส้นตรงนี้ไม่
วโิ ร
สอดคล้องตามเงือ่ นไขข้อบังคับของปญั หา ดังนัน้ ค่า P = 12 จึงสูงเกินกว่าจะเป็นไปได้
ทร
การหาค่า P ทีส่ งู ทีส่ ุดและเป็นไปได้นนั ้ ทาได้โดยการเลื่อนเส้น สมการจุดประสงค์ออกไป
นิ
คร
ให้ไกลจากจุดกาเนิดให้มากทีส่ ุด โดยให้อยูบ่ ริเวณผลลัพธ์ทเ่ี ป็นไปได้ จากปญั หาข้างต้นจะเห็นได้ว่า
นี
ศร
it y
ers
เราสามารถเลื่อนเส้นสมการจุดประสงค์ออกไปจนสัมผัสกับจุด B (แสดงเป็นเส้นประ) นับเป็นเส้นที่
ลยั
ยา
n iv
ไกลทีส่ ุด โดยมีจดุ B เป็นจุดทีอ่ ยูใ่ นบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ (เพื่อให้เกิ ดความเข้าใจยิ่ งขึ้นให้
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
(1)
rar
x 3y 6
นกั
L ib
สาํ
2x 2 y 8 (2)
al
(1) 2; 2x 6y 12 (3)
n tr
Ce
(3) (2); 4y 4
y 1
แทนค่า y 1 ใน (1) จะได้
x 3(1) 6
x3
จุด B ซึง่ มีพกิ ดั (3, 1) เป็นจุดทีส่ อดคล้องกับเงือ่ นไขบังคับและให้ค่า P สูงทีส่ ุดจึงเป็นผล
เฉลยเหมาะทีส่ ุด แทนค่าจะได้
P 2(3) 3(1) 9
217
ตัวอย่าง 2 กาหนดแบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
สมการจุดประสงค์ P 2x 2y
อสมการข้อจากัด
5x 2y 30
x 2y 20
x0
y0
จงหาค่าต่าสุดของ P
ฒ
วโิ ร
วิ ธีทา
ทร
1. เขียนกราฟของอสมการข้อกาจัด
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
5. แทนค่าหาค่า P จะได้
P = …………………………………………………………………………………
= …………………………………………………………………………………
ฒ
วโิ ร
และจะได้ค่า P สูงสุดเป็นเท่าไร
ทร
นิ
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
ตอบ ……………………………………………………………...............
tU
วทิ
หา
ir o
……………………………………………………………………………..
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
ฒ
คาสัง:่ จงตอบคาถามทีก่ าหนดให้ต่อไปนี้
วโิ ร
ทร
นิ
คร
1. กาหนดแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
นี
ศร
it y
สมการจุดประสงค์ P 3x 4y ers
ลยั
ยา
n iv
อสมการข้อจากัด
tU
วทิ
หา
ir o
x 2y 50
งม
nw
5x 4y 140
ลา
ari
ดุ ก
a kh
x0
สม
rin
y0
หอ
yS
จงหาค่าสูงสุดของ P
rar
นกั
L ib
สาํ
al
จงหาคาตอบต่อไปนี้
n tr
Ce
1.1 จงเขียนกราฟของอสมการข้อจากัด
220
ฒ
……………………………………………………………………………………………
วโิ ร
……………………………………………………………………………………………
ทร
……………………………………………………………………………………………
นิ
คร
1.5 ค่า P สูงสุด คือ …………………………………………………………………………
นี
ศร
it y
ers
…………………………………………………………………………………………..
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
ทาด้วยความรอบคอบ
สม
rin
หอ
พยายามเข้านะจ๊ะ
yS
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
221
2. กาหนดแบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
สมการจุดประสงค์ P 4x 5y
อสมการข้อจากัด
2x y 10
2x 3y 12
x0
y0
จงหาค่าต่าสุดของ P
ฒ
จงหาคาตอบต่อไปนี้
วโิ ร
1.1 จงเขียนกราฟของอสมการข้อจากัด
นิทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
3. กาหนดแบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
สมการจุดประสงค์ P 5x 3y
อสมการข้อจากัด
2x 4y 80 (1)
5x 2y 80 (2)
x0
y0
จงหาค่าสูงสุดของ P
เขียนกราฟของอสมการข้อจากัดได้ดงั รูป
ฒ
Y
วโิ ร
ทร
40
นิ
คร
นี
30
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
20
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
10
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
40 X
10 20 30
rar
นกั
(2) (1)
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
จงตอบคาถามต่อไปนี้
3.1 จงแรเงาแสดงบริเวณทีเ่ ป็นผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
3.2 จงเขียนกราฟของสมการ P 5x 3y เมือ่ P = 15, 60, 105
223
จากการหาค่าสูงสุดและต่าสุดของกาหนดการเชิงเส้นในตัวอย่างข้างต้นพบว่า คาตอบของ
ปญั หากาหนดการเชิงเส้นจะอยูท่ จ่ี ดุ มุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ ดังนัน้ ในการแก้ปญั หา
กาหนดการเชิงเส้นอาจแสดงวิธที าอย่างกระชับโดยการนาจุดมุมทุกจุดของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไป
ได้มาหาค่าสมการจุดประสงค์เปรียบเทียบกัน จุดใดให้ค่าสมการจุดประสงค์ทด่ี ที ส่ี ุด (มากทีส่ ุดหรือ
น้อยทีส่ ุด)แสดงว่าค่าของตัวแปรทีจ่ ดุ นัน้ เป็นผลเฉลยทีเ่ หมาะสมทีส่ ุด
จากตัวอย่าง 1 รูป 3 บริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ จะได้ว่า จุด O จุด A จุด B และจุด C คือ
จุดมุมของรูปหลายเหลีย่ มของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
Y
ฒ
วโิ ร
A
ทร
นิ
คร
B
นี
ศร
it y
X
O C ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
ir o
งม
ari
a kh
rin
หอ
yS
ทดสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
Ce
224
ตัวอย่าง 4 กาหนดแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
สมการจุดประสงค์ P 6x 4y
อสมการข้อจากัด
3x 2y 12
3x 6y 18
x0
y0
จงหาค่าสูงสุดของ P
ฒ
วโิ ร
วิ ธีทา ดาเนินตามขัน้ ตอนต่อไปนี้
ทร
1. เขียนกราฟของอสมการข้อจากัด
นิ
นี คร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
3. ทดสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
จุดมุม ค่าตัวแปร (x, y) ค่า P = 6x + 4y
4. สรุป
ฒ
วโิ ร
……………………………………………………………………………………………
ทร
……………………………………………………………………………………………
นิ
คร
……………………………………………………………………………………………
นี
ศร
it y
……………………………………………………………………………………………
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
ตอบ ……………………………………………………………………..
yS
rar
นกั
……………………………………………………………………………..
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
วโิ ร
นิทร
คร
1. กาหนดแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
นี
ศร
it y
ers
ลยั
อสมการข้อจากัด
ยา
n iv
(1)
tU
3x 2y 80
วทิ
หา
ir o
2x 3y 70 (2)
งม
nw
ลา
ari
x0
ดุ ก
a kh
y0
สม
rin
จงหาค่าสูงสุดของ
หอ
yS
P
rar
นกั
L ib
สาํ
al
1. เขียนกราฟของอสมการข้อจากัด
227
ฒ
…………………………………………………………………………………………………
วโิ ร
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
ทร
นิ
คร
…………………………………………………………………………………………………
นี
ศร
it y
………………………………………………………………………………………………… ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
3. ทดสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
ir o
งม
nw
ลา
ari
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
4. สรุป
…………………………………………………………………………………………………
………….………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
228
2. กาหนดแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
สมการจุดประสงค์ P 10x 25y
อสมการข้อจากัด
3x 4y 25 (1)
x 3y 15 (2)
x0
y0
จงหาค่าต่าสุดของ P
ฒ
วโิ ร
วิ ธีทา ดาเนินตามขัน้ ตอนต่อไปนี้
1. เขียนกราฟของอสมการข้อจากัด นิทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
ฒ
3. ทดสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
วโิ ร
ทร
จุดมุม ค่าตัวแปร (x, y) ค่า P = 30x + 40y
นิ
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
4. สรุป
rar
นกั
…………………………………………………………………………………………………
L ib
สาํ
………….………………………………………………………………………………………
al
n tr
…………………………………………………………………………………………………
Ce
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
230
3. กาหนดแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
สมการจุดประสงค์ P 50x 72y
อสมการข้อจากัด
4x 4y 16 (1)
8x 24y 48 (2)
x0
y0
จงหาค่าต่าสุดของ P
ฒ
วโิ ร
วิ ธีทา ดาเนินตามขัน้ ตอนต่อไปนี้
1. เขียนกราฟของอสมการข้อจากัด
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
ฒ
…………………………………………………………………………………………………
วโิ ร
3. ทดสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
ทร
นิ
นี คร
จุดมุม ค่าตัวแปร (x, y) ค่า P = 50x +72y
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
4. สรุป
al
…………………………………………………………………………………………………
n tr
Ce
………….………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
232
ฒ
วโิ ร
3. ดาเนินการแก้ปญั หา โดยการเขียนกราฟของอสมการข้อจากัดแสดงบริเวณของ
ทร
ผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ แล้วหาพิกดั ของจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
นิ
คร
4. ทดสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้ ทาการทดสอบโดยการนาจุดมุมไป
นี
ศร
it y
แทนค่าในสมการจุดประสงค์ เพื่อพิจารณาเลือกจุดทีท่ าให้สมการจุดประสงค์มคี ่าสูงสุดหรือต่าสุด
ers
ลยั
ยา
n iv
ตามทีโ่ จทย์ตอ้ งการ
tU
วทิ
5. สรุปผลทีไ่ ด้จากข้อ 4
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
ให้นกั เรียนพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
วโิ ร
เครือ่ งจักร 2 (นาที) 1 3 300
ทร
กาไรต่อชิน้ (บาท) 10 12
นิ
คร
นี
ศร
it y
ขัน้ ที่ 2 สร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น ers
ลยั
ยา
n iv
ให้ x แทนจานวนการผลิตของขวัญแบบ A
tU
วทิ
หา
y แทนจานวนการผลิตของขวัญแบบ B
ir o
งม
nw
P แทนกาไรจากการขายของขวัญ
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
อสมการข้อจากัด
rar
นกั
L ib
(1)
สาํ
2x y 180
al
x 3y 300 (2)
n tr
Ce
x0
y0
234
A B
ฒ
วโิ ร
C
X
ทร
O
(1)
คร
นิ (2)
- หาพิกดั ของจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
นี
ศร
it y
ers
จากรูป มีจดุ มุม 4 จุด คือ O, A, B, C หาพิกดั โดยการแก้สมการได้ดงั นี้
ลยั
ยา
n iv
จุด A เป็นจุดตัดของเส้นตรง x 3y 300 ตัดกับแกน y ให้ x 0 ได้ y 100
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
วโิ ร
ทร
1. บริษทั เฟอร์นิเจอร์ผลิตโต๊ะและเก้าอี้ โดยโต๊ะแต่ละตัวเสียเวลาในการผลิตขัน้ ตอนประกอบ
นิ
คร
1 ชัวโมง
่ ขัน้ ตอนการขัดเงา 2 ชัวโมง ่ และขายได้กาไรตัวละ 30 บาท ส่วนเก้าอีแ้ ต่ละตัวเสียเวลา
นี
ศร
it y
ในการผลิตขัน้ ตอนการประกอบ 2 ชัวโมง ่ ขัน้ ตอนการขัดเงา 2 ชัวโมง ่ และขายได้กาไรตัวละ 50
ers
ลยั
n iv
tU
วันละ 8 ชัวโมง
่ และ 10 ชัวโมง ่ ตามลาดับ จงหาว่า ในแต่ละวันบริษทั ควรผลิตโต๊ะและเก้าอีแ้ ต่ละ
วทิ
หา
ir o
ชนิดเป็นจานวนเท่าใด จึงจะได้กาไรสูงสุด
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
yS
rar
L ib
สาํ
…………………………………………………………………………………………………
Ce
ฒ
……………………………………………………………………………………………
วโิ ร
……………………………………………………………………………………………
ทร
นิ
คร
ขัน้ ที่ 3 ดาเนินการแก้ปญั หา
นี
ศร
it y
ers
เขียนกราฟของอสมการข้อจากัดแสดงบริเวณของผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
237
ฒ
……………………………………………………………………………………………………………
วโิ ร
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
ทร
นิ
คร
……………………………………………………………………………………………………………
นี
ศร
it y
…………………………………………………………………………………………………………… ers
ลยั
ยา
n iv
……………………………………………………………………………………………………………
tU
วทิ
หา
……………………………………………………………………………………………………………
ir o
งม
nw
ลา
ari
a kh
สม
rin
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
สิ่ งที่โจทย์ต้องการทราบ คือ ………………………………………………………………..
วโิ ร
ทร
…………………………………………………………………………………………………
นิ
เป้ าหมายของปัญหา คือ ………………………………………………………………….
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
………………………………………………………………………………………………..
ยา
n iv
tU
ir o
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
เหล็ก(ก.ม.)
rar
นกั
เวลา(นาที)
L ib
สาํ
กาไรต่อชิน้ (บาท)
al
n tr
Ce
ฒ
เขียนกราฟของอสมการข้อจากัดแสดงบริเวณของผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
ฒ
……………………………………………………………………………………………………………
วโิ ร
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
ทร
นิ
นี คร
ศร
it y
ขัน้ ที่ 4 ทดสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
ers
ลยั
ยา
n iv
จุดมุม ค่าตัวแปร (x, y) แทนค่า P
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………….................
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
241
ฒ
สิ่ งที่โจทย์ต้องการทราบ คือ ………………………………………………………………..
วโิ ร
ทร
…………………………………………………………………………………………………
นิ
คร
เป้ าหมายของปัญหา คือ ………………………………………………………………….
นี
ศร
it y
ข้อจากัดของปัญหา คือ ……………………………………………………………………
ers
ลยั
………………………………………………………………………………………………..
ยา
n iv
tU
………………………………………………………………………………………………..
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
a kh
ชุด
สม
rin
หอ
yS
ผ้าสีพน้ื (เมตร)
L ib
สาํ
ผ้าลายดอก (เมตร)
al
n tr
ผ้าลูกไม้ (เมตร)
Ce
กาไรต่อชิน้ (บาท)
ฒ
วโิ ร
- เขียนกราฟของอสมการข้อจากัดแสดงบริเวณของผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
ฒ
……………………………………………………………………………………………………………
วโิ ร
ขัน้ ที่ 4 ทดสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
ทร
นิ
นี คร
ศร
it y
จุดมุม ค่าตัวแปร (x, y) แทนค่า P
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………….................
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
244
1. จงบอกความหมายของกาหนดการเชิงเส้น
ฒ
ตอบ กาหนดการเชิงเส้น เป็ นตัวแบบทางคณิตศาสตร์ทส่ี ร้างขึน้ แทนปญั หาทีเ่ กิดขึน้ เพื่อ
วโิ ร
หาแนวทางในการแก้ปญั หาทีด่ ที ส่ี ุดตามเป้าหมายทีต่ งั ้ ไว้ และสอดคล้องกับเงือ่ นไขทีม่ อี ยู่
ทร
ในปญั หานัน้ ๆ โดยทีค่ วามสัมพันธ์ของตัวแปรต่างๆ เกีย่ วข้องเป็นเชิงเส้นทัง้ สิน้
นิ
คร
2. กาหนดการเชิงเส้นนาไปใช้กบั ปญั หาในลักษณะใด
นี
ศร
it y
ers
ตอบ ปญั หาเกีย่ วกับการจัดสรรทรัพยากร หรือกิจกรรมต่างๆ ทีมอี ยูอ่ ย่างจากัด
ลยั
ยา
n iv
3. ใครเป็นบิดาของกาหนดการเชิงเส้น
tU
วทิ
หา
ir o
nw
4. กาหนดการเชิงเส้นถูกนามาใช้ครัง้ แรกในด้านใด
ลา
ari
ดุ ก
a kh
ตอบ ด้านการทหาร
สม
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
(1) y 2x 4 0
วโิ ร
ทร
วิ ธีทา จากสมการ y 2x 4 0 จะได้ว่า
นิ
คร
ถ้า x = 0 แล้ว y = 4 ดังนัน้ เส้นตรงตัดกับแกน Y ทีจ่ ดุ (0, 4)
นี
ศร
it y
ถ้า y = 0 แล้ว x = -2 ดังนัน้ เส้นตรงตัดกับแกน X ทีจ่ ดุ (-2, 0)
ers
ลยั
ยา
n iv
กราฟของสมการเป็นดังนี้
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
246
(2) 5x y 6 0
ฒ
วโิ ร
นิทร
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
(3) 2x 4 y 6
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
2x 4 y 6
หอ
yS
3
ถ้า x = 0 แล้ว y = ดังนัน้ เส้นตรงตัดกับแกน Y ทีจ่ ดุ (0, 3 )
rar
นกั
2 2
L ib
สาํ
กราฟของสมการได้ดงั นี้
Ce
247
ฒ
(1) กาหนดให้
วโิ ร
x 2y 3 (1)
3x y 4
ทร
นิ (2)
คร
นี
ศร
it y
กราฟของระบบสมการได้ดงั นี้
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
248
(2) กาหนดให้
3x 5y 15 (1)
4x 3y 12 (2)
กราฟของระบบสมการได้ดงั นี้
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
(3) กาหนดให้
สม
rin
2x 4y 20
หอ
yS
8x 6y 48
rar
นกั
L ib
สาํ
กราฟของระบบสมการได้ดงั นี้
al
n tr
Ce
249
(1) x 1
ฒ
วโิ ร
วิ ธีทา ขัน้ ที่ 1 เขียนกราฟของสมการ x = -1 อสมการมีเครือ่ งหมาย
ทร
จึงเส้นใช้เส้นทึบ นิ
คร
ขัน้ ที่ 2 ใช้จดุ (0, 0) ตรวจสอบอสมการ
นี
ศร
it y
จะได้ 0 1 ซึง่ อสมการเป็ นจริ ง ers
ลยั
ยา
n iv
ขัน้ ที่ 3 แรเงาบริเวณด้านทีจ่ ดุ (0, 0) อยูท่ งั ้ หมด
tU
วทิ
หา
ir o
จะได้กราฟของอสมการ
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
250
(2) xy3
ฒ
วโิ ร
นิ ทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
(3) 2x y 2
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
จึงเส้นใช้เส้นทึบ
หอ
yS
L ib
สาํ
จะได้กราฟของอสมการ
y + 2x = 2
251
(1) y 2
x y 1
ฒ
วโิ ร
วิ ธีทา สามารถเขียนกราฟของระบบอสมการเชิงเส้น ได้ดงั นี้
ทร
กราฟของระบบอสมการ คือ
นิ
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
(2) x 2y 4
al
n tr
x y 1
Ce
(3) x 2y 10
2x 3y 18
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
นี คร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ari
xy7
ดุ ก
a kh
สม
rin
3x 2y 18
หอ
yS
x0
rar
นกั
y0
L ib
สาํ
กราฟของระบบอสมการ คือ
Ce
(4, 3)
253
ฒ
วโิ ร
ทร
1. บริษทั แฟนต้า ผลิตน้าอัดลมชนิด M และชนิด N โดยทีน่ ้าอัดลมชนิด M แต่ละขวดใช้หวั เชือ้
นิ
คร
น้าตาล 4 กรัม และหัวเชือ้ น้าส้ม 1 กรัม ส่วนน้าอัดลมชนิด N แต่ละขวดใช้หวั เชือ้ น้าตาล 2 กรัม
นี
ศร
it y
ers
และหัวเชือ้ น้าส้ม 3 กรัม ถ้าในแต่ละวันบริษทั มีหวั เชือ้ น้าตาลเพียง 20,000 กรัม และหัวเชือ้ น้าส้ม
ลยั
ยา
n iv
9,000 กรัมเท่านัน้ บริษทั จะได้กาไรจากการขายน้าอัดลมชนิด M ขวดละ 1 บาทและชนิด N ขวดละ
tU
วทิ
หา
ir o
nw
และเป็นเงินเท่าไร
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
น้าตาล(กรัม) 4 2 20,000
น้าส้ม(กรัม) 1 3 9,000
กาไรต่อขวด(บาท) 1 2
จงตอบคาถามต่อไปนี้
1. สิง่ ทีโ่ จทย์ตอ้ งการทราบ คือ บริษทั ควรผลิตน้าอัดลมชนิด M และชนิด N วันละกีข่ วด
จึงได้กาไรมากทีส่ ุดและเป็นเงินเท่าไร
2. เป้าหมายของปญั หา คือ กาไรมากทีส่ ุด
3. สมการจุดประสงค์ คือ P x 2y
4. ข้อจากัดของปญั หา คือ ปริมาณหัวเชือ้ น้าตาลและหัวเชือ้ น้าส้ม
5. เขียนข้อจากัดของปญั หาให้อยูใ่ นรูปอสมการ
1. ปริมาณทีใ่ ช้หวั เชือ้ น้าตาลในการผลิตไม่เกิน 20,000 กรัม
อสมการข้อจากัด คือ 4x 2y 20,000
2. ปริมาณทีใ่ ช้หวั เชือ้ น้าส้มในการผลิตไม่เกิน 9,000 กรัม
ฒ
อสมการข้อจากัด คือ x 3y 9,000
วโิ ร
6. ข้อจากัดของตัวแปรทีต่ อ้ งการตัดสินใจ
x 0, y 0
ทร
นิ
นี คร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
L ib
สาํ
จงตอบคาถามต่อไปนี้
1. สิง่ ทีโ่ จทย์ตอ้ งการทราบ คือ จะต้องผลิตสีทาบ้านทัง้ สองชนิดเป็นจานวนเท่าใดจึงจะได้
กาไรสูงสุด
2. เป้าหมายของปญั หา คือ กาไรสูงสุด
3. สมการจุดประสงค์ คือ P 3,000x 2,000y
4. ข้อจากัดของปญั หา คือ ปริมาณสารละลายสีและสารเติมแต่งสีทใ่ี ช้ในการผลิต
5. เขียนข้อจากัดของปญั หาให้อยูใ่ นรูปอสมการ
ฒ
วโิ ร
1. ปริมาณสารละลายสีทใ่ี ช้ในการผลิตสีแต่ละวันสูงสุดไม่เกิน 34 ตัน
อสมการข้อจากัด คือ 3x 4y 34
ทร
นิ
คร
2. ปริมาณสารเติมแต่งสีทใ่ี ช้ในการผลิตสีแต่ละวันสูงสุดไม่เกิน 28 ตัน
นี
ศร
it y
อสมการข้อจากัด คือ 4x y 28 ers
ลยั
ยา
n iv
6. ข้อจากัดของตัวแปรทีต่ อ้ งการตัดสินใจ
tU
วทิ
หา
ir o
x 0, y 0
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
256
สองตัวแปรได้
คาสัง:่ จงสร้างแบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้นในแต่ละข้อต่อไปนี้
ฒ
1. บริษทั ผลิตวงล้อจักรยาน 2 แบบ คือ แบบ A และแบบ B ในการผลิตแต่ละวงล้อต้องใช้วสั ดุ
วโิ ร
ทีส่ าคัญคือ แผ่นเหล็ก และยาง ในการผลิตวงล้อจักรยานแบบ A แต่ละอันใช้แผ่นเหล็ก 3 เส้น ยาง
ทร
2 เส้น และการผลิตวงล้อจักรยานแบบ B ใช้แผ่นเหล็ก 1 เส้น ยาง 2 เส้น ซึง่ แต่ละวันบริษทั มีแผ่น
นิ
คร
เหล็ก 1,080 เส้นและยาง 840 เส้น จะได้กาไรจากการขายวงล้อจักรยานแบบ A อันละ 18 บาท และ
นี
ศร
it y
ers
กาไรจากการขายวงล้อจักรยานแบบ B อันละ 12 บาท บริษทั จะต้องผลิตวงล้อจักรยานแต่ละแบบ
ลยั
ยา
n iv
เป็นจานวนเท่าไรจึงจะได้กาไรสูงสุด
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
จงสร้างแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้น
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
yS
L ib
สาํ
เท่าไร จึงจะได้กาไรสูงสุด
n tr
Ce
ฒ
อสมการข้อจากัด คือ 2x 2y 840
วโิ ร
ขัน้ ที่ 5 ข้อกาหนดของตัวแปร
นิทร
คร
x 0, y 0
สรุป แบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้น คือ
นี
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
อสมการข้อจากัด
tU
วทิ
หา
ir o
3x y 1,080
งม
nw
ลา
ari
2x 2y 840
ดุ ก
a kh
x0
สม
rin
หอ
y0
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
258
2. โรงงานกระดาษแห่งหนึ่งผลิตกระดาษเพื่อทาสมุดวาดเขียนและสมุดบันทึก โดยผลิตสมุดทัง้
สองได้อย่างมาก 200 โหลต่อวัน ในแต่ละวันจะมีลกู ค้าประจาสังซื
่ อ้ สมุดวาดเขียนอย่างน้อย 10
โหล และสังซื่ อ้ สมุดบันทึกอย่างน้อย 80 โหล ถ้ากาไรในการขายสมุดวาดเขียนโหลละ 50 บาท
และกาไรในการขายสมุดบันทึกโหลละ 35 บาท โรงงานจะต้องผลิตสมุดวาดเขียนและสมุดบันทึก
วันละกีโ่ หล จึงจะได้กาไรจากการขายมากสุด
จงสร้างแบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้น
ฒ
วโิ ร
สิ่ งที่โจทย์ต้องการทราบ คือ โรงงานจะต้องผลิตสมุดวาดเขียนและสมุดบันทึกวันละ
ทร
กีโ่ หล จึงจะได้กาไรจากการขายมากทีส่ ุด
นิ
คร
เป้ าหมายของปัญหา คือ กาไรสูงสุด
นี
ศร
it y
ข้อจากัดของปัญหา คือ จานวนการผลิตสมุดวาดเขียนและสมุดบันทึก
ers
ลยั
ยา
n iv
ขัน้ ที่ 2 กาหนดตัวแปรให้กบั สิง่ ทีต่ อ้ งการทราบค่า
tU
วทิ
หา
nw
y เป็นจานวนการผลิตสมุดบันทึกในแต่ละวัน (โหล)
ลา
ari
a kh
สม
yS
L ib
al
ฒ
วโิ ร
นิ ทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
260
ฒ
วโิ ร
1. กาหนดแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
ทร
สมการจุดประสงค์ P 3x 4y คร
นิ
อสมการข้อจากัด
นี
ศร
it y
x 2y 50
ers
ลยั
ยา
n iv
5x 4y 140
tU
วทิ
หา
ir o
x0
งม
nw
y0
ลา
ari
ดุ ก
จงหาค่าสูงสุดของ P
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
จงหาคาตอบต่อไปนี้
al
1.1 จงเขียนกราฟของอสมการข้อจากัด
n tr
Ce
P=96
P=24 P=72
261
ฒ
วโิ ร
40
x
ทร
3
นิ
คร
ดังนัน้ จุด B มีพกิ ดั ( 40 , 55 )
3 3
นี
ศร
it y
40 55
1.5 ค่า P สูงสุด คือ P 3( ) 4( ) 113.33
ers
ลยั
ยา
n iv
3 3
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
ทาด้วยความรอบคอบ
rin
หอ
yS
พยายามเข้านะจ๊ะ
rar
นกั
al
n tr
Ce
262
2. กาหนดแบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
สมการจุดประสงค์ P 4x 5y
อสมการข้อจากัด
2x y 10
2x 3y 12
x0
y0
จงหาค่าต่าสุดของ P
ฒ
จงหาคาตอบต่อไปนี้
วโิ ร
1.1 จงเขียนกราฟของอสมการข้อจากัด
นิ ทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
P= 60
นกั
P= 50
L ib
P= 20
สาํ
al
3. กาหนดแบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
สมการจุดประสงค์ P 5x 3y
อสมการข้อจากัด
2x 4y 80 (1)
5x 2y 80 (2)
x0
y0
จงหาค่าสูงสุดของ P
เขียนกราฟของอสมการข้อจากัดได้ดงั รูป
ฒ
Y
วโิ ร
นิ ทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
X
L ib
(1)
สาํ
(1) (2)
al
P = 15 P=60 P=105
n tr
Ce
จงตอบคาถามต่อไปนี้
3.1 จงแรเงาแสดงบริเวณทีเ่ ป็นผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
3.2 จงเขียนกราฟของสมการ P 5x 3y เมือ่ P = 15, 60, 105
264
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
1. สมการจุดประสงค์ P 2y x 2. สมการจุดประสงค์ P x 5y
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
1. กาหนดแบบจาลองกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
วโิ ร
ทร
สมการจุดประสงค์ P 15x 10y
นิ
คร
อสมการข้อจากัด
นี
ศร
(1)
it y
3x 2y 80
ers
ลยั
2x 3y 70 (2)
ยา
n iv
tU
วทิ
x0
หา
ir o
y0
งม
nw
จงหาค่าสูงสุดของ
ลา
ari
P
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
L ib
สาํ
1. เขียนกราฟของอสมการข้อจากัด
al
n tr
Ce
266
ฒ
วโิ ร
0 (0, 0) 15(0) + 10(0) = 0
ทร
A (0, 70
) 15(0) + 10( 70 ) = 233.33
นิ
3
คร 3
B (20, 10) 15(20) + 10(10) = 400
นี
ศร
it y
C ( 80 , 0) ers
15( 80 ) + 10(0) = 400
ลยั
ยา
n iv
3 3
tU
วทิ
หา
ir o
4. สรุป
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
267
2. กาหนดแบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
สมการจุดประสงค์ P 10x 25y
อสมการข้อจากัด
3x 4y 25 (1)
x 3y 15 (2)
x0
y0
จงหาค่าต่าสุดของ P
ฒ
วโิ ร
วิ ธีทา ดาเนินตามขัน้ ตอนต่อไปนี้
1. เขียนกราฟของอสมการข้อจากัด
ทร
นิ
นี คร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
3. ทดสอบจุดมุมของบริเวณผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
จุดมุม ค่าตัวแปร (x, y) ค่า P 10x 25y
A (0, 25 ) 10(0) + 25( 25 ) = 156.25
4 4
B (3, 4) 10(3) + 25(4) = 130
C ( 80 , 0) 10( 80 ) + 25(0) = 266.67
3 3
4. สรุป
ค่าต่าสุดอยูท่ จ่ี ดุ B เป็นผลเฉลยทีเ่ หมาะสมทีส่ ุด จะได้ P = 130
ฒ
วโิ ร
3. กาหนดแบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
ทร
นิ
คร
สมการจุดประสงค์ P 50x 72y
นี
ศร
it y
ers
ลยั
อสมการข้อจากัด
ยา
n iv
4x 4y 16 (1)
tU
วทิ
หา
ir o
8x 24y 48 (2)
งม
nw
ลา
ari
x0
ดุ ก
a kh
y0
สม
rin
จงหาค่าต่าสุดของ
หอ
yS
P
rar
นกั
L ib
สาํ
al
2. เขียนกราฟของอสมการข้อจากัด
269
ฒ
วโิ ร
B (3, 1) 50(3) + 72(1) = 222
C (6, 0) นิทร 50(6) + 72(0) = 300
คร
นี
ศร
it y
4. สรุป ers
ลยั
ยา
n iv
จะเห็นได้ว่าค่าต่าสุดอยูท่ จ่ี ดุ B คือ x = 3 และ y = 1 เป็นผลเฉลยเหมาะสมทีส่ ุด
tU
วทิ
หา
และได้ P = 222
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
270
ฒ
วโิ ร
1 ชัวโมง
่ ขัน้ ตอนการขัดเงา 2 ชัวโมง ่ และขายได้กาไรตัวละ 30 บาท ส่วนเก้าอีแ้ ต่ละตัวเสียเวลา
ทร
ในการผลิตขัน้ ตอนการประกอบ 2 ชัวโมง ่ ขัน้ ตอนการขัดเงา 2 ชัวโมง ่ และขายได้กาไรตัวละ 50
นิ
คร
บาท ในแต่ละวันบริษทั กาหนดเวลาในการผลิตขัน้ ตอนการประกอบและการขัดเงาทางานไม่เกิน
นี
ศร
it y
วันละ 8 ชัวโมง
่ และ 10 ชัวโมง ่ ตามลาดับ จงหาว่า ในแต่ละวันบริษทั ควรผลิตโต๊ะและเก้าอีแ้ ต่ละ
ers
ลยั
ชนิดเป็นจานวนเท่าใด จึงจะได้กาไรสูงสุด
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
หอ
จึงจะได้กาไรสูงสุด
L ib
สาํ
ฒ
y0
วโิ ร
ขัน้ ที่ 3 ดาเนินการแก้ปญั หา
ทร
เขียนกราฟของอสมการข้อจากัดแสดงบริเวณของผลเฉลยทีเ่ ป็นไปได้
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
ฒ
วโิ ร
จากตารางจะพบว่า P มีค่าสูงสุดเท่ากับ 210 เมือ่ x = 2 และ y = 3
ทร
แสดงว่า ในแต่ละวันบริษทั ควรผลิตโต๊ะจานวน 2 ตัว และผลิตเก้าอี้ จานวน 3 ตัว
นิ
คร
จึงจะได้กาไรสูงสุดเป็นเงิน 210 บาท
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
273
ฒ
ขัน้ ที่ 1 ทาความเข้าใจโจทย์
วโิ ร
สิ่ งที่โจทย์ต้องการ คือ จะผลิตโครงเหล็กแบบใด จานวนเท่าใด จึงจะได้กาไรสูงสุด
นิทร
คร
เป้ าหมายของปัญหา คือ กาไรสูงสุด
นี
ศร
it y
ข้อจากัดของปัญหา คือ จานวนเหล็กและเวลาทีใ่ ช้ในการผลิต
ers
ลยั
n iv
tU
วทิ
ir o
งม
กระบวนการผลิต
nw
ลา
ari
a kh
rin
หอ
yS
กาไรต่อชิน้ (บาท) 20 15
rar
นกั
L ib
สาํ
y แทนจานวนการผลิตโครงเหล็กแบบ B (ชิน้ )
P แทนกาไรทัง้ หมด (บาท)
ดังนัน้ จะได้ แบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้นดังนี้
สมการจุดประสงค์ คือ P 20x 15y
อสมการข้อจากัด
3x 4y 1,000 (1)
6x 3y 1,200 (2)
x0
y0
274
ฒ
วโิ ร
- หาพิกดั ของจุดมุมของบริเวณผลเฉลยที่เป็นไปได้
ทร
จากรูป มีจดุ มุม 4 จุด คือ O, A, B, C, หาพิกดั โดยการแก้สมการได้ดงั นี้
นิ
คร
จุด A เป็นจุดตัดของเส้นตรง 3x 4y 1,000 ตัดกับแกน Y
นี
ศร
it y
ดังนัน้ จุด A มีพกิ ดั (0, 250) ers
ลยั
ยา
n iv
จุด B เป็นจุดตัดของเส้นตรง 3x 4y 1,000 และ 6x 3y 1,200
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
หอ
yS
L ib
สาํ
275
ฒ
ขัน้ ที่ 1 ทาความเข้าใจโจทย์
วโิ ร
ทร
สิ่ งที่โจทย์ต้องการ คือ ช่างตัดเสือ้ ควรจะตัดชุดทางานและชุดราตรีอย่างละกีช่ ุดจึงจะได้
นิ
คร
กาไรมากทีส่ ุด
นี
ศร
it y
เป้ าหมายของปัญหา คือ กาไรมากทีส่ ุด
ers
ลยั
n iv
tU
ทีใ่ ช้ในการตัดชุดทางานและชุดราตรี
วทิ
หา
ir o
nw
ลา
ari
ชุด
ดุ ก
a kh
rin
หอ
yS
rar
นกั
ผ้าสีพน้ื (เมตร) 2 1 16
L ib
สาํ
ผ้าลายดอก (เมตร) 1 2 11
al
n tr
ผ้าลูกไม้ (เมตร) 1 3 15
Ce
ฒ
วโิ ร
ทร
Y
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
B
งม
A
nw
C
ลา
ari
X
ดุ ก
a kh
D
(3)
สม
rin
หอ
yS
(1) (2)
rar
นกั
L ib
สาํ
ฒ
วโิ ร
แสดงว่า ช่างตัดเสือ้ ควรจะตัดชุดทางาน 7 ชุดและชุดราตรี 2 ชุดจึงจะได้กาไรมากทีส่ ุด
ทร
เป็นเงิน 3,100 บาท
นิ
นีคร
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
278
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ภาคผนวก จ
ers
ลยั
ยา
n iv
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนเรื่องกาหนดการเชิ งเส้น
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
279
คาชี้แจง
1. แบบทดสอบฉบับนี้สร้างขึน้ เพื่อวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น
ของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ทีเ่ รียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเรือ่ ง
กาหนดการเชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
2. แบบทดสอบฉบับนี้ม ี 2 ตอน จานวน 22 ข้อ ดังนี้
ฒ
ตอนที่ 1 เป็นแบบปรนัยจานวน 20 ข้อ
วโิ ร
ตอนที่ 2 เป็นแบบอัตนัยจานวน 2 ข้อ
ทร
3. แบบทดสอบแบบปรนัย ให้นกั เรียนเลือกคาตอบทีถ่ ูกทีส่ ุดเพียงข้อเดียวในข้อ ก – ง
นิ
คร
แล้วให้นกั เรียนเขียนเครือ่ งหมาย X ลงในกระดาษคาตอบ
นี
ศร
it y
ers
ลยั
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
1. ข้อใดไม่ใช่ลกั ษณะของกาหนดการเชิงเส้น
ก. เป็นการหาทางเลือกทีด่ ที ส่ี ุดเพื่อต้องการผลตอบแทนสูงสุด
ข. ช่วยในการแก้ปญั หาการจัดสรรทรัพยากรทีม่ อี ยูอ่ ย่างจากัด ให้เกิดประโยชน์สงู สุด
ค. ช่วยในการหากาไรสูงสุดและค่าใช้จา่ ยน้อยสุด ภายใต้ขอ้ จากัด
ง. ช่วยในการวางแผนและการตัดสินใจในการทางาน ภายใต้เงือ่ นไขข้อจากัด
2. กราฟของอสมการ 2x y 8 คือข้อใด
ฒ
ก. ข.
วโิ ร
ทร
นิ
8
คร
นี
8
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
0
งม
4
nw
0 4
ลา
ari
ดุ ก
a kh
ค. ง.
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
8 8
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
0 4 0 4
281
3. กราฟของอสมการ 2x 3y 12 คือข้อใด
ก. ข.
ฒ
ค. ง.
วโิ ร
ทร
นิ
คร
4
นี
ศร
it y
4
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
0 6 6
งม
nw
0 6
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
4. กราฟของระบบอสมการ x y 1
หอ
yS
x 2y 6 คือข้อใด
rar
นกั
L ib
สาํ
ก. ข.
al
n tr
Ce
3 3
1 6
-1 1 6
-1
282
ค. ง.
3 3
1 6 1 6
-1 -1
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
ก. A(0, 6), B(3, 5), C(7, 0) ข. A(0, 6), B(5, 3), C(7, 0)
rar
นกั
L ib
สาํ
ค. A(0, 7), B(5, 3), C(6, 0) ง. A(0, 7), B(3, 5), C(6, 0)
al
n tr
Ce
6. กาหนดระบบอสมการ คือ 3x 2y 8
2x 4 y 8
x 0, y 0
จุดในข้อใดไม่ใช่จดุ มุมของระบบอสมการ
ก. (0, 0) ข. (0, 2)
ค. (2, 1) ง. ( 3 , 0)
8
283
7. กาหนดแบบจาลองของกาหนดการเชิงเส้นต่อไปนี้
สมการจุดประสงค์ P 4x 5y
อสมการข้อจากัด x 3y 9
xy5
x0
y0
ค่าสูงสุดของ P เป็นเท่าใด
ก. 15 ข. 21
ค. 22 ง. 27
จากโจทย์ต่อไปนี้จงตอบคาถามข้อ 8 – 10
ฒ
วโิ ร
บริษทั แห่งหนึ่งต้องการผลิตพัดลม 2 ชนิด คือ พัดลมตัง้ พืน้ และพัดลมติดผนัง โดยทีพ่ ดั
ทร
ลมตัง้ พืน้ แต่ละตัวจะต้องเสียเวลาในการผลิตโดยใช้เครือ่ งจักร 2 ชัวโมง
่ ใช้แรงงานคน 1 ชัวโมง ่
นิ
คร
และขายได้กาไรตัวละ 80 บาท สาหรับพัดลมติดผนัง แต่ละตัวจะต้องเสียเวลาในการผลิตโดยใช้
นี
ศร
it y
เครือ่ งจักร 1 ชัวโมง
่ ใช้แรงงานคน 3 ชัวโมง่ และขายได้กาไรตัวละ 100 บาท ถ้าในแต่ละวันใช้
ers
ลยั
ยา
n iv
เครือ่ งจักรได้ไม่เกิน 6 ชัวโมง
่ และใช้แรงงานคนทางานได้ไม่เกิน 8 ชัวโมง ่ ต้องการทราบว่า
tU
วทิ
ir o
งม
nw
ลา
ari
8. เป้าหมายของปญั หาคือข้อใด
ดุ ก
a kh
สม
yS
10. ข้อใดเป็นข้อจากัดของปญั หา
ก. จานวนการผลิตพัดลมแต่ละชนิด
ข. ขัน้ ตอนการผลิตพัดลม
ค. ค่าใช้จา่ ยในการผลิต
ง. เวลาในการใช้เครือ่ งจักรและแรงงานคนในการผลิต
จากโจทย์ต่อไปนี้จงตอบคาถามข้อ 11 – 15
นักวิจยั ทดลองผสมอาหารสัตว์ โดยมีขอ้ กาจัดว่าในแต่ละวันต้องประกอบด้วยโปรตีนไม่
น้อยกว่า 29 หน่วย และไขมันไม่น้อยกว่า 20 หน่วย มีอาหาร 2 ชนิดทีใ่ ช้ในการผสม คือ ชนิด A
และชนิด B ซึง่ อาหารชนิด A แต่ละถุงจะมีโปรตีน 3 หน่วย ไขมัน 4 หน่วย ราคาถุงละ 3 บาท
ฒ
ส่วนอาหารชนิด B แต่ละถุงจะมีโปรตีน 5 หน่วย ไขมัน 2 หน่วย ราคาถุงละ 4 บาท จงหาว่าจะใช้
วโิ ร
อาหารชนิดใดจานวนเท่าใดผสมกันจึงจะได้สารอาหารครบตามต้องการ และเสียค่าใช้จา่ ยน้อยสุด
กาหนดให้ x เป็นตัวแปรการตัดสินใจ
ทร
นิ
คร
y เป็นตัวแปรการตัดสินใจ
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
11. ตัวแปรการตัดสินใจ แทนสิง่ ใดต่อไปนี้
tU
วทิ
หา
nw
ari
ดุ ก
a kh
rin
yS
rar
นกั
al
15. ขอบเขตของตัวแปรคือข้อใด
ก. x 0, y 0 ข. x 0, y 0
ค. x 0, y 0 ง. x 0, y 0
ฒ
จากโจทย์ต่อไปนี้จงตอบคาถามข้อ 16 – 20
วโิ ร
โรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งผลิตเครื่องสาอาง 2 ชนิด คือ ดินสอเขียนคิว้ และลิปสติก
ทร
โดยดินสอเขียนคิว้ แต่ละชิน้ ใช้เวลาในการผลิตขัน้ แรก 2 ชัวโมง
นิ ่ ขัน้ ทีส่ อง 1 ชัวโมง
่ และขายได้กาไร
คร
ชิน้ ละ 40 บาท ลิปสติกแต่ละชิน้ ใช้เวลาในการผลิตขัน้ แรก 1 ชัวโมง
่ ขัน้ ทีส่ อง 2 ชัวโมง
่ และขายได้
นี
ศร
it y
ers
กาไรชิน้ ละ 50 บาท เครือ่ งจักรใช้เวลาในการผลิตสินค้าทัง้ สองชนิดในขัน้ แรกและขัน้ ทีส่ องวันละไม่
ลยั
ยา
n iv
เกิน 10 และ 11 ชัวโมง
่ จงหาว่าโรงงานจะได้กาไรมากทีส่ ุดในการผลิตสินค้าทัง้ สองชนิดเท่าใด
tU
วทิ
หา
nw
y จานวนชิน้ ในการผลิตลิปสติก
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
yS
L ib
สาํ
ฒ
ค. ง.
วโิ ร
นิทร
คร
นี
ศร
it y
ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
L ib
สาํ
ฒ
วันละ 30 ตัว ทางโรงงานต้องการจ้างคนงานเพิม่ ซึง่ มีผมู้ าสมัครเข้าทางาน 2 คน โดยคนแรก
วโิ ร
สามารถผลิตเสือ้ แจ็คเก็ตได้ 4 ตัวและผลิตเสือ้ หนังได้ 5 ตัวในเวลาหนึ่งชัวโมงและมี
่ ค่าแรง 25 บาท
ต่อชัวโมง
ทร
่ ส่วนคนทีส่ องสามารถผลิตเสือ้ แจ็คเก็ตได้ 6 ตัวและผลิตเสือ้ หนังได้ 5 ตัวในเวลาหนึ่ง
นิ
คร
ชัวโมงและมี
่ ค่าแรง 30 บาทต่อชัวโมง่ จงหาว่าโรงงานควรจะจ้างคนงานคนใดเข้าทางาน และทางาน
นี
ศร
it y
กีช่ วโมง
ั ่ เพื่อต้องการเสียค่าใช้จา่ ยน้อยทีส่ ุด ers
ลยั
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
288
ฒ
วโิ ร
ทร
นิ
คร
นี
ศร
it y
ภาคผนวก ฉ ers
ลยั
ยา
n iv
แบบสอบถามวัดความพึงพอใจที่มีต่อเนื้ อหากาหนดการเชิ งเส้น
tU
วทิ
หา
ir o
nw
ลา
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
289
คาชี้แจง
1. แบบสอบถามวัดความพึงพอใจฉบับนี้เป็นแบบวัดความพึงพอใจมีต่อเนื้อหากาหนดการ
เชิงเส้น และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler สาหรับนักเรียน
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 มีจานวน 20 ข้อ แบ่งเป็น 2 ตอน คือ
ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามวัดความพึงพอใจต่อเนื้อหาเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น
ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามวัดความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใช้
ฒ
วโิ ร
โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler
ทร
2. ให้นกั เรียนทาเครือ่ งหมาย ✓ ลงในช่องทางขวามือหลังข้อความทีต่ รงกับความรูส้ กึ ที่
คร
นิ
แท้จริงของนักเรียนเพียงช่องเดียว คาตอบทีน่ กั เรียนตอบนัน้ ไม่มถี ูกหรือผิด เพราะแต่ละคนย่อมมี
นี
ศร
it y
ers
ความรูส้ กึ แตกต่างกันไป และคาตอบทีน่ กั เรียนตอบนัน้ ไม่มผี ลต่อการให้คะแนน
ลยั
ยา
n iv
3. ในแต่ละช่องทีแ่ สดงความพึงพอใจ มีความหมายดังนี้
tU
วทิ
หา
nw
ari
a kh
สม
rin
yS
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
290
ระดับความพึงพอใจ
ข้อที่ ข้อความ มาก มาก ปาน น้ อย น้ อย
ที่สดุ กลาง ที่สดุ
1 เมือ่ นักเรียนเรียนเนื้อหาเรือ่ งกาหนดการ
เชิงเส้น แล้วนักเรียนมีความสุข สนุกสนาน
2 เมือ่ นักเรียนเรียนเนื้อหาเรือ่ งกาหนดการ
เชิงเส้น แล้วทาให้นกั เรียนตัดสินใจได้อย่าง
มีเหตุผล
ฒ
วโิ ร
3 เมือ่ นักเรียนเรียนเนื้อหาเรือ่ งกาหนดการ
ทร
เชิงเส้น แล้วทาให้นกั เรียนคิดและทางาน
นิ
คร
อย่างมีระบบ
นี
ศร
it y
4 เมือ่ นักเรียนเรียนเนื้อหาเรือ่ งกาหนดการ
ers
ลยั
ยา
คณิตศาสตร์มากขึน้
หา
ir o
งม
ari
กาหนดการเชิงเส้นไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้
ดุ ก
a kh
6 ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์
สม
rin
หอ
yS
ในเนื้อหากาหนดการเชิงเส้นอ่านแล้วเข้าใจ
rar
นกั
ง่ายและไม่สบั สน
L ib
สาํ
8 นักเรียนสามารถทาการแก้โจทย์ปญั หาของ
กาหนดการเชิงเส้นได้ดว้ ยตนเอง
9 การเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น ทาให้
นักเรียนเข้าใจเนื้อหาเรือ่ งสมการและอสมการ
มากขึน้
10 กาหนดการเชิงเส้นเป็นเนื้อหาทีน่ ่าสนใจ
291
ระดับความพึงพอใจ
ข้อที่ ข้อความ มาก มาก ปาน น้ อย น้ อย
ที่สดุ กลาง ที่สดุ
11 การจัดกิจกรรมการเรียนรูเ้ รือ่ งกาหนดการ
เชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
โปรแกรม Euler ทาให้นกั เรียนมีความเข้าใจ
เนื้อหามากยิง่ ขึน้
ฒ
วโิ ร
12 การจัดกิจกรรมการเรียนรูเ้ รือ่ งกาหนดการ
ทร
เชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
นิ
คร
โปรแกรม Euler ทาให้นกั เรียนสามารถสรุป
นี
ศร
it y
แนวคิดทีส่ าคัญได้สะดวกมากขึน้
ers
ลยั
n iv
tU
ir o
nw
ลา
ari
เกิดการแสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเอง
ดุ ก
a kh
rin
หอ
yS
กระตือรือร้น และสนุกกับการเรียนมากขึน้
al
n tr
15 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรือ่ งกาหนดการ
Ce
ระดับความพึงพอใจ
ข้อที่ ข้อความ มาก มาก ปาน น้ อย น้ อย
ที่สดุ กลาง ที่สดุ
17 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรือ่ งกาหนดการ
เชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
โปรแกรม Euler ช่วยฝึกทักษะการคิด
คานวณ และมีความละเอียดรอบคอบ
18 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรือ่ งกาหนดการ
เชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
โปรแกรม Euler มีความหลากหลาย
ฒ
วโิ ร
ชวนให้คดิ และไม่น่าเบื่อ
ทร
19 การจัดกิจกรรมการเรียนรูเ้ รือ่ งกาหนดการ
นิ
คร
เชิงเส้นโดยใช้โปรแกรม C.a.R. และ
นี
ศร
it y
โปรแกรม Euler ทาให้นกั เรียนมีกาลังใจ
ers
ลยั
และตัง้ ใจเรียนมากขึน้
ยา
n iv
tU
วทิ
ir o
งม
คณิตศาสตร์
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
สาํ
นกั
หอ
Ce สม
n tr ดุ ก
al ลา
L ib งม
rar หา
yS วทิ
rin ยา
a kh ลยั
ศร
นี
ภาคผนวก ช
ari
nw คร
รายนามผูเ้ ชี่ยวชาญ
ir o นิ ทร
tU วโิ ร
n iv ฒ
ers
it y
293
294
รายนามผูเ้ ชี่ยวชาญ
รายนามผูเ้ ชีย่ วชาญการสอนคณิตศาสตร์ ทีไ่ ด้รบั ความอนุเคราะห์ตรวจสอบความถูกต้อง
ด้านเนื้อหาและความเหมาะสมของชุดกิจกรรมการเรียนการสอน เรือ่ งกาหนดการเชิงเส้นโดยใช้
โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler ความเทีย่ งตรงของเนื้อหา ความเหมาะสมของแผนการ
จัดการเรียนรู้ ความเหมาะสมของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ทางการเรียนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น
และการใช้ภาษาในแบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียนทีไ่ ด้เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียน
การสอนเรือ่ งกาหนดการเชิงเส้น โดยใช้โปรแกรม C.a.R. และโปรแกรม Euler มีดงั นี้
ฒ
วโิ ร
2. อาจารย์เมตต์ แย้ มวงษ์
ทร
อาจารย์ภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
นิ
คร
นี
ศร
it y
3. อาจารย์ กาญจนา พานิ ชการ
ers
ลยั
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce
สาํ
นกั
หอ
Ce สม
n tr ดุ ก
al ลา
L ib งม
rar หา
yS วทิ
rin ยา
a kh ลยั
ศร
ari นี
ประวัติย่อผู้วิจยั
nw คร
ir o นิ ทร
tU วโิ ร
n iv ฒ
ers
it y
295
296
ประวัติย่อผู้วิจยั
ฒ
วโิ ร
จาก โรงเรียนบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฏร์ธานี
ทร
พ.ศ. 2549 วิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.) สาขาวิชาคณิตศาสตร์
นิ
คร
จาก มหาวิทยาลัยทักษิณ
นี
ศร
it y
พ.ศ. 2553 การศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม.) สาขาวิชาคณิตศาสตร์
ers
ลยั
จาก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ยา
n iv
tU
วทิ
หา
ir o
งม
nw
ลา
ari
ดุ ก
a kh
สม
rin
หอ
yS
rar
นกั
L ib
สาํ
al
n tr
Ce