Professional Documents
Culture Documents
ความรู้ความสามารถทั่วไปด้ านเหตุผล
อุปมาอุปไมย
เทคนิคการทาข้ อสอบอุปมาอุปไมย
แนวคิดในการพิจารณาความสัมพันธ์ขอ้ สอบอุปมาอุปไมย
๒.๑. ถ้ากล่าวถึงผลไม้ให้เทียบหรื อคิดจากลักษณะความสัมพันธ์ดงั ต่อไปนี้
- ลักษณะนาม
- รสชาติ เช่น หวาน/เปรี้ ยว
- ลักษณะภายนอก เช่น เปลือก สี ผวิ รู ปร่ าง เป็ นต้น
- การนาไปใช้ประโยชน์
- ประเภทเดียวกัน เช่น ใบเลี้ยงคู่/ใบเลี้ยงเดี่ยว
๒.๒. ถ้ากล่าวถึงบุคคล/กลุ่มบุคคลต่อสิ่ งของให้เทียบหรื อคิดจากลักษณะความสัมพันธ์
ดังต่อไปนี้
- เพศ
- อาชีพ
ตัวอย่าง
๑. โรงพยาบาล : ผูป้ ่ วย ? : ?
ก. ทนายความ : ลูกความ ข. โรงเรี ยน : ครู
ค. มหาวิทยาลัย : นักศึกษา ง. รัฐสภา : กฎหมาย
ตอบ ค.
เหตุผล มหาวิทยาลัยกับนักศึกษาเป็ นความสัมพันธ์ในลักษณะสถานที่ให้บริ การกับผูใ้ ช้บริ การ
เช่นเดียวกับโรงพยาบาลกับผูป้ ่ วย
ก. ทนายความไม่ใช่สถานที่
ข. ครู ไม่ใช่ผใู ้ ช้บริ การ แต่เป็ นเจ้าหน้าที่ผใู ้ ห้บริ การด้านความรู ้แก่นกั เรี ยน
ง. กฎหมายไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ผใู ้ ช้บริ การ
๒. พิณ : ระนาด ? : ?
ก. ดนตรี ไทย : เครื่ องตี ข. จะเข้ : ฆ้อง
ค. ขิม : กลองยาว ง. โบราณ : ทันสมัย
ตอบ ข.
เหตุผล จะเข้เป็ นเครื่ องดนตรี ไทยประเภทเครื่ องดีดเช่นเดียวกับพิณ ระนาดเป็ นเครื่ องดนตรี ไทยประเภท
เครื่ องตีเช่นเดียวกัน
ก. ดนตรี ไทย : เครื่ องตี มีสัมพันธ์ไม่เหมือนกับความสัมพันธ์ในโจทย์ ดนตรี ไทย : เครื่ องตี
สัมพันธ์กนั ในลักษณะของส่ วนใหญ่กบั ส่ วนย่อย ระนาดไม่ใช่ส่วนย่อยของพิณ
๓. สวิง : กุง้ ? : ?
ก. คน : หมู ข. แห : ปลา
ค. กรง : นก ง. ลอบ : กระต่าย
ตอบ ข.
เหตุผล แหเป็ นเครื่ องมือในการจับปลา (ใช้วธิ ี เหวีย่ ง) เช่นเดียวกันกับสวิง เป็ นเครื่ องมือในการจับกุง้ (ใช้
วิธีชอ้ นตัก) และปลากับกุง้ ก็เป็ นสัตว์น้ าเหมือนกัน
ก. คนไม่ใช่อุปกรณ์ที่ใช้จบั หมู และหมูเป็ นสัตว์บกไม่ใช่สัตว์น้ า
ค. นกไม่ใช่สัตว์น้ า
ง. กระต่ายไม่ใช่สัตว์น้ า
๔. เกวียน : กรรไกร ? : ?
ก. เลื่อย : สิ่ ว ข. เข็ม : ผ้า
ค. หนังสื อ : เทียนไข ง. โค : คน
ตอบ ค.
เหตุผล เกวียนกับกรรไกร ทั้งสองคาเป็ นสิ่ งของและมีลกั ษณะนามเป็ นเล่มเหมือน และหนังสื อกับเทียน
ไข ก็เป็ นสิ่ งของและมีลกั ษณะนามเป็ นเล่มเหมือนกัน
ก. เลื่อยมีลกั ษณะนามเป็ นปื้ นไม่ใช่เล่ม (สิ่ วลักษณะนามเป็ นเล่ม)
ข. ผ้ามีลกั ษณะนามเป็ นชิ้น/ผืน/ม้วน/พับ แล้วแต่ลกั ษณะและจานวนของผ้า (เข็มมีลกั ษณะนาม
เป็ นเล่ม)
ง. โคกับคน ไม่ใช่ส่ิ งของ และไม่ได้มีลกั ษณะนามเป็ นเล่ม โคมีลกั ษณะนามเป็ นตัว คนมี
ลักษณะนามเป็ นคน
๖. วันจันทร์ : วันพฤหัสบดี ? : ?
ก. กรกฎาคม : ธันวาคม ข. ๑๐.๐๐ น. : ๐๗.๐๐ น.
ค. ปี ฉลู : ปี มะโรง ง. วันหยุด : ปี ใหม่
ตอบ ค.
เหตุผล วันจันทร์ : วันพฤหัสบดี เป็ นคาที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องเวลา และระหว่าง วันจันทร์ : วันพฤหัสบดี มี
ช่วงห่างเท่ากับ ๓ ซึ่ งปี ฉลู : ปี มะโรง ก็เป็ นคาที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องเวลา และระหว่างปี ฉลู : ปี มะโรง มีช่วง
ห่างเท่ากับ ๓ เช่นเดียวกัน
ก. กรกฎาคม : ธันวาคม เป็ นคาที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องเวลาเหมือนกัน แต่ระหว่าง กรกฎาคม :
ธันวาคม มีช่วงห่างเท่ากับ ๕
ข. ๑๐.๐๐ น. : ๐๗.๐๐ น. ตาแหน่งคาผิด คาหน้าต้องเป็ นเวลาที่เกิดก่อนคาหลัง
ง. วันหยุด : ปี ใหม่ มีความสัมพันธ์คนละแบบกับโจทย์ ไม่มีคาที่สัมพันธ์กบั คาในโจทย์ และไม่
สามารถบอกช่วงห่างระหว่างทั้งสองคาได้
๘. สอบติด : ขยัน ? : ?
ก. โง่ : ฉลาด ข. ฝึ กฝน : ประหยัด
ค. ตกงาน : ไม่มีเงิน ง. ความสาเร็ จ : พยายาม
ตอบ ง.
เหตุผล ความสาเร็ จเกิดจากความพยายาม เช่นเดียวกับ การสอบติดเกิดจากความขยัน (มีความสัมพันธ์ใน
ลักษณะเหตุกบั ผลเหมือนกัน โดยที่ผลเป็ นคาที่อยูข่ า้ งหน้า เหตุเป็ นคาที่อยูข่ า้ งหลัง)
๙. ขุนช้าง : ขุนแผน ? : ?
ก. ดาบเจ็ดสี : มณี เจ็ดแสง ข. มีเงิน : รู ปหล่อ
ค. ผูร้ ้าย : ตารวจ ง. ทศกัณฐ์ : พระราม
ตอบ ง.
เหตุผล ขุนช้าง : ขุนแผน มีความสัมพันธ์กนั คือเป็ นตัวละครที่อยูใ่ นวรรณคดีเหมือนกันโดยคาหน้าเป็ น
ตัวร้าย คาหลังเป็ นพระเอก เช่นเดียวกับ ทศกัณฐ์ : พระราม ก็เป็ นตัวละครที่อยูใ่ นวรรณคดีเรื่ องเดียวกัน
ทศกัณฐ์เป็ นตัวร้ายและวางในตาแหน่งคาที่อยูข่ า้ งหน้าเหมือนกับขุนช้าง พระรามเป็ นพระเอกและเป็ นคา
ที่อยูข่ า้ งหลังเหมือนขุนแผน
ก. ดาบเจ็ดสี : มณี เจ็ดแสง ไม่ใช่ตวั บุคคลคล เป็ นอาวุธในละครไม่ใช่วรรณคดี
ข. มีเงิน : รู ปหล่อ เป็ นลักษณะเฉพาะ ไม่ใช่ตวั บุคคล ในโจทย์กล่าวถึงตัวบุคคลต้องตอบตัวเลือก
ที่เป็ นตัวบุคคล ถ้าไม่มีตวั เลือกที่เป็ นตัวบุคคลจึงพิจารณาตัวเลือกอื่นๆ
ค. ผูร้ ้าย : ตารวจ เป็ นตัวบุคคลเหมือนกับโจทย์ แต่ไม่ได้เป็ นตัวละครในวรรณคดี ดังนั้นต้อง
เลือกคาตอบที่มีความสัมพันธ์กบั โจทย์มากที่สุด นัน่ คือ ง. เพราะเป็ นทั้งบุคคลและตัวละครในวรรณคดี
เหมือนกัน
แนวข้ อสอบอุปมาอุปไมย
๑. แป้นราพึง : ? ? : ทุเรี ยน
ก. แป้นพิจิตร ชะนี ข. มะนาว กระดุม
ค. ผัก ผลไม้ ง. เปรี้ ยว หวาน
๒. ? : เล็บ ปอด : ?
ก. มือ เท้า ข. กระดูก กระเพาะอาหาร
ค. เส้นผม หัวใจ ง. จมูก ปาก
๓. ? : ปอนด์ วา : ?
ก. น้ าหนัก : ความยาว ข. เมตร : ขีด
ค. ศอก : ฟุต ง. เซนติเมตร : ลิตร
๔. บาท : ฟรังส์ ? : ?
ก. หยวน : ปอนด์ ข. เพนนี : ดอลล่า
ค. เชน : กลีบ ง. ลีร์ : สตางค์
๕. นักดนตรี : กีตาร์ ? : ?
ก. นักแต่งเพลง : นักร้อง ข. ปากกา : นักประพันธ์
ค. พยาบาล : หมอ ง. จิตรกร : พูก่ นั
๖. เครื่ องคิดเลข : ลูกคิด ? : ?
ก. เวลา : นาฬิกา ข. ถุงพลาสติก : ใบตอง
ค. ปุ๋ ยเคมี : ปุ๋ ยคอก ง. คอมพิวเตอร์ : โทรทัศน์
๗. มอเตอร์ไซด์ : จักรยาน ? : ?
ก. คน : ควาย ข. รถยนต์ : รถเข็น
ค. พาหนะ : ขับขี่ ง. เกวียน : รถบรรทุก
๘. กระซู่ : ควาย ? : ?
ก. สิ งโต : แมว ข. สุ นขั : เสื อ
ค. แรด : หมี ง. ไก่ : เป็ ด
เฉลยแนวข้ อสอบอุปมาอุปไมย
แบบการจาแนกประเภท
๑. ส่ ง คืน ให้
ก. รับ ข. เอา ค. เก็บ ง. มอบ
๒. วิง่ กระโดด ว่ายน้ า
ก. เดินทน ข. ชักเย่อ ค. มวย ง. ยูโด
๓. ทึบ อึดอัด มืดมัว
ก. ก้าวร้าว ข. ร้อน ค. ระอุ ง. อบอ้าว
๔. ซอ จะเข้ ขิม
ก. กลอง ข. แตร ค. ฆ้อง ง. ไวโอลิน
๕. เชียงใหม่ เชียงราย ลาพูน
ก. แม่ฮ่องสอน ข. ราชบุรี ค. เลย ง. ระนอง
๖. หนอง บึง บ่อ
ก. ทะเล ข. สระ ค. ลาธาร ง. น้ าตก
๗. ดัน ยก ถือ
ก. กด ข. วาง ค. อัด ง. หิ้ว
๘. พ่อ ตา พระ
ก. น้า ข. แม่ ค. เณร ง. ชี
๙. กัด แทะ เคี้ยว
ก. กลืน ข. คาย ค. ชิม ง. ขบ
๑๐. ช้าง ม้า วัว
ก. แพะ ข. แกะ ค. ควาย ง. เสื อ
๑๑. ถ้วย จาน ชาม
ก. กระทะ ข. ช้อนส้อม ค. ตะหลิว ง. ขันน้ า
๑๒. โลด โผน โจน
ก. ผ่าน ข. เลื่อน ค. เผ่น ง. กระโดด
๑๓. บังคับ คุกคาม ขู่เข็ญ
ก. เข้มงวด ข. บีบคั้น ค. ระงับ ง. รัดกุม
๑. เฉลยข้อ ง. เหตุผล คาของโจทย์ ๓ คา คือ ส่ ง คืน ให้ เป็ นคากริ ยาทั้งหมด อาการก็เป็ นการยืน่
สิ่ งของจากตัวเรา ไปให้อีกคนหนึ่ง ในคาตอบข้อ ก. – ค. รับ เอา เก็บ เป็ นคากริ ยานา
สิ่ งของเข้ามาหาตัวเรา ดั้งนั้น คาตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ จ. มอบ
๒. เฉลยข้อ ก. เหตุผล คาของโจทย์ ๓ คา คือ วิง่ กระโดด ว่ายน้ า เป็ นชนิดของกีฬาที่แข่งโดยตัวของ
นักกีฬาเองโดยไม่มีฝ่ายตรงกันข้าม ต่างคนก็ต่างแข่งเพื่อสถิติของตัวเอง ในคาตอบข้อ
ข. – ง. ชักเย่อ มวย ยูโด เป็ นกีฬาที่ตอ้ งมีคู่ต่อสู ้ ดั้งนั้น คาตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ ก. เดินทน
๓. เฉลยข้อ ง. เหตุผล คาของโจทย์ ๓ คา คือ ทึบ อึดอัด มืดมัว เป็ นการบรรยายสภาพของอากาศ ที่ไม่
โปร่ ง มีแสงสว่างน้อย คาตอบข้อ ก. ก้าวร้าว เป็ นการบรรยายสภาพเกี่ยวกับมนุษย์ จึงไม่
ถูกแน่นอน คาตอบข้อ ค. ระอุ พจนานุกรมให้ความหมายว่า ว. ร้อนมาก ในความว่า
อากาศร้อนระอุ แผ่นดินร้อนระอุ; สุ กทัว่ เช่นข้าวระอุ. ดังนั้น ข้อ ข. ร้อน ก็ตอ้ งผิดไป
ด้วย [คาตอบที่ถูกต้องต้องมีคาตอบเดียว ดังนั้น ถ้าข้อ ค. ถูกได้ ข้อ ข. ก็ตอ้ งถูกได้
เช่นเดียวกัน] คาตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ ง. อบอ้าว
๔. เฉลยข้อ ง. เหตุผล ข้อสอบข้อนี้ ต้องวิเคราะห์ให้ดี คือ ถ้าวิเคราะห์วา่ คาของโจทย์ ซอ จะเข้ ขิม
ทั้งหมดเป็ นเครื่ องดนตรี ไทย การหาคาตอบก็จะยุง่ ยากในโจทย์ขอ้ นี้ ซอ จะเข้ ขิม ถ้า
วิเคราะห์วา่ เป็ นเครื่ องสาย คาตอบที่ถูกต้องก็คือ ข้อ ง. ไวโอลิน
๕. เฉลยข้อ ก. เหตุผล คาของโจทย์ ๓ คา คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลาพูน เป็ นจังหวัดในเขตภาคเหนือ
คาตอบที่ถูกต้องจึงเป็ นข้อ ก. แม่ฮ่องสอน
๖. เฉลยข้อ ข. เหตุผล คาของโจทย์ ๓ คา คือ หนอง บึง บ่อ ทั้งหมดเป็ นแหล่งน้ าจืด ที่ไม่ติดต่อกับ
แหล่งน้ าอื่น อยูเ่ ป็ นเอกเทศ ตัวเลือกของคาตอบ ทะเล ลาธาร น้ าตก เป็ นแหล่งน้ าที่
ติดต่อกับแหล่งน้ าอื่น ดังนั้น คาตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ ข. สระ
๗. เฉลยข้อ ง. เหตุผล คาของโจทย์ ๓ คา คือ ดัน ยก ถือ เป็ นคากริ ยาที่นาพาสิ่ งของไปด้วยกับเรา
ตัวเลือกของคาตอบ กด วาง อัด เป็ นคากริ ยาที่ไม่พาสิ่ งของไปด้วยกับเรา
ดังนั้น คาตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ ง. หิ้ว
๘. เฉลยข้อ ค. เหตุผล คาของโจทย์ ๓ คา คือ พ่อ ตา พระ ทั้งหมดเป็ นเพศชาย ตัวเลือกของคาตอบ
น้า แม่ ชี เป็ นเพศหญิงทั้งหมด ดังนั้น คาตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ ค. เณร
ความรู้ความสามารถทั่วไปด้ าน ภาษาไทย
สรุ ปเนื้อหา
๔. ถอดพยางค์ "หมอบ"
๑. พยัญชนะต้น รู ป หม เสี ยง /ม/
๒. สระ รู ป ตัวออ เสี ยง ออ (ยาว)
๓. วรรณยุกต์ รู ป -(สามัญ) เสี ยง เอก
๔. พยัญชนะท้าย รู ป บ เสี ยง /ป/
๑๕. รู ปสระบางรู ปไม่ออกเสี ยง เช่น ยาธาตุ นัง่ ขัดสมาธิ พยาธิ ญาติ ประวัติ เมรุ มาตุ ฯลฯ
๑๖. สระลดรู ป คือ มองไม่เห็นรู ปสระเดิม หรื ออาจเปลี่ยนรู ปเป็ นสระอื่นได้ เพราะมันมีตวั สะกด เช่น
กัน ศร เป็ น ชน เชิง เลย สงน ฯลฯ
๒๒. พยางค์ปิด คือ พยางค์ที่มีเสี ยงตัวสะกด อา ไอ ใอ เอา เช่น กิน จิบ จา ฯลฯ
พยางค์เปิ ด คือ พยางค์ที่ไม่มีเสี ยงตัวสะกด เอีย อัว เอือ เช่น ดุ ปู เมีย ฯลฯ
๒๔. คา มูล : ข้าว อ้วน ไกล เพ็ญ โชว์ ขมิ้น ดิฉนั บะหมี่ เสวย ขจี สวรรคต ฯลฯ
๒๗. คา ซ้ า ต้องมีๆ ให้เห็น เพราะขี้เกียจเขียน ๒ ครั้ง เช่น เด็กๆ เพื่อนๆ ดังๆ ฯลฯ แต่จะเขียนใช้ ๆ
ได้ จะต้องมีลกั ษณะ ๓ ประการให้ครบต่อไปนี้
๑. คาเขียนเหมือนกัน
๒. ความหมายเหมือนกัน
๓. หน้าที่ของคา เหมือนกัน
ความหมายที่เกิดจากการซ้ าคา
๑. บอกพหูพจน์ : เพื่อนๆ น้องๆ ปี ๆ ตูๆ้ ฯลฯ
๒. เน้นความหมาย : ซ้วยสวย เด๊กเด็ก ดี๊ดี ฯลฯ
๓. ไม่เจาะจง : เช้าๆ เย็นๆ หลังๆ แถวๆ ฯลฯ
๔. แยกเป็ นส่ วน : คนๆ เรื่ องๆ ห้องๆ อย่างๆ ฯลฯ
๕. เปลี่ยนความหมายจากเดิม : หยกๆ พื้นๆ ลวกๆ หมูๆ งูๆ ปลาๆ ฯลฯ
๖. บอกความไม่ต้ งั ใจ : ส่ งๆ เขียนๆ ชอบๆ ฯลฯ
๗. ทา กริ ยานั้นไปเรื่ อยๆ : มองๆ นัง่ ๆ เดินๆ ฯลฯ
๘. บอกลักษณะ : หล่อๆ อวบๆ ดาๆ สู งๆ ฯลฯ
๒๘. คา สมาส มี ๒ Version (ต้องเป็ นภาษาอินเดีย คือ บาลี-สันสกฤต เพราะเป็ นหลักสู ตรของ
อินเดีย) ๒๘.๑ สมาสแบบสมาส ที่พดู ติดปากว่า คาสมาส (ชน)
๒๘.๒ สมาสแบบสนธิ ที่พดู ติดปากว่า คาสนธิ (เชื่อม) คือ สมาสแบบกลมกลืนเสี ยง
* ระวัง ต่อไปนี้ไม่ใช่คา สมาส เพราะมีภาษาไทยแท้ ภาษาเขมร ภาษาอังกฤษ เข้ามาปน พลเมือง
ผลไม้ คุณค่า ทุนทรัพย์ ราชวัง ราชดาเนิน พลความ พลเรื อน พระพุทธเจ้า ตรัสรู ้ สรรพสิ่ ง มูลค่า
ชานาญการ เคมีภณั ฑ์ ภูมิลาเนา เครื่ องจักร บายศรี กลเม็ด กลมท่า เมรุ มาศ กระยาสารท
สมาส สนธิ
ชน เชื่อม
แยกง่าย แยกยาก
แยกง่าย : มองเห็นศัพท์รูปเดิมเป็ นคาๆ เต็มๆ ไม่เปลี่ยนแปลง
แยกยาก : มองไม่เห็นศัพท์รูปเดิมแต่แยกแล้ว ๙๙% คาหลังขึ้นต้นด้วย "อ"
๒๘.๑ คาสมาสแบบสมาส มีสูตรง่ายๆ ๒ ข้อ (ความหมายหลักจะอยูห่ ลัง เวลาแปลจะ แปลจาก
ข้างหลังไปข้างหน้า)
๑. ล้างให้สะอาด คือ ล้าง การัน และ อะ ของคาหน้าทิง้
๒. ทากาว คือ ตรงรอยต่อของ ๒ คา ให้ออกเสี ยง "อะ"
ศิลปะ + ศาสตร์ = ศิลปศาสตร์ สวัสดิ์ + ภาพ = สวัสดิภาพ
สิ ทธิ์ + บัตร = สิ ทธิบตั ร ภูมิ + ศาสตร์ = ภูมิศาสตร์
๓๑. คาไทยแท้
๑. ๙๙% ไทยแท้จะมีพยางค์เดียว เช่น กิน นอน ฉัน ข้า ดิน น้ า บน ใน ฯลฯ
๒. ๑% จะมี ๒ พยางค์
จะมาจากการกร่ อนเสี ยง(ตัดเสี ยง) เช่น หมากพร้าว มะพร้าว ตัวขาบ ตะขาบ ฯลฯ
จะมาจากการเพิม่ เสี ยง เช่น หนึ่ง ประหนึ่ง โดด กระโดด ท้วง ประท้วง ฯลฯ
๓. ไทยแท้สะกดตรงตามมาตรา เช่น รัก คับ รัด วัง เรื อน ผม หาย ผิว ฯลฯ แต่บางครั้งสะกดตรง
ตามมาตราก็ไม่ใช่ไทยแท้
-ระวัง! โลก กาย ยาน พน ชน ราม ธน มน กนก วัย ชัย อภัย อาลัย มาจาก
บาลี-สันสกฤต
-ระวัง! จมูก เดิน ตะบันหมาก ทะเลสาบ ละออง บายศรี เลอโฉม ปล้นสะดม โง่เขลา
โปรด มาจาก เขมร
๔. ไทยแท้ไม่การันต์ ยกเว้น ผี้ว์ ม่าห์ เยียร์ = ไทยแท้
๕.ไทยแท้มีวรรณยุกต์ได แต่ภาษาอื่นไม่มีวรรณยุกต์
๖. ไทยแท้ไม่นิยมตัวอักษรหยยักๆ หัวแตกๆ หางยาวๆ เช่น ฆ ณ ญ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ธ ศ ษ ยกเว้นบาง
คาเป็ นไทยแท้ คือ หญิง หญ้า ใหญ่ ระฆัง ฆ่า เฆี่ยน เศิก ศอก ศึก ธ เธอ ณ ฯลฯ
๓๒. คา บาลี-สันสกฤต
บาลีมีสระ ๘ ตัว = อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ
สันสกฤตมีสระ ๑๔ ตัว = อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ เพิ่ม ไอ เอา ฤ ฤา ฦ ฦา
บาลีมีพยัญชนะ ๓๓ ตัว = ๕ วรรคๆ ๕ ตัว = ๒๕ + เศษวรรค ๘ = ๓๓
สันสกฤตมีพยัญชนะ ๓๕ ตัว = เหมือนบาลีทุกตัว เพิ่มพิเศษอีก ๒ = ศ ษ
คา สันสกฤต ท่องสู ตร หระนะควบหันเคราะห์กด
๑. หระ คือ ประสมสระไอ เอา ฤ ฤา ฦ ฦา เป็ นสันสกฤต เช่น ไมตรี เยาวชน ฤดู ฯลฯ
๒. นะ คือ ประสมพยัญชนะ ศ ษ เป็ นสันสกฤต เช่น ศาสนา รัศมี ศึกษา มนุษย์ ฯลฯ
๓. ควบ คือ ควบกล้ า เป็ นสันสกฤต จะควบกล้ าศัพท์หรู เลิศ เช่น ปราชญ์ จักร อินทร์ ประทีป
ฯลฯ
๓๓. คา เขมร
๑. คนเขมรชอบสะสม จาน หญิง ลิง เรื อ เสื อ = สะกดด้วย จ ญ ล ร ส
๒. คนเขมรชอบควบ = ควบกล้ า (คา ง่ายๆ ธรรมดาๆ)
๓. คนเขมรชอบนา = อักษรนา
๔. คนเขมรชอบอา = ขึ้นต้นด้วย "กา คา จา ชา ดา ตา ทา สา อา"
๕. คนเขมรชอบระบา = บา บัง บัน บรร
๕.๑.อา นาจ เสร็ จ เสด็จ เพ็ญ สราญ เจริ ญ ถกล จรัล กา นัล ธร อร ขจร จา รัส ตรัส ฯลฯ
๕.๒. กรวด กระบือ ขลาด เกลอ โปรด ประชุม ประเดิม คลัง กรม เพลา โขลน ไพร ปรุ ง
เพลิง ฯลฯ
๕.๓. ขยม เขม่า สนอง เสวย เขนย จมูก ถวาย ฉนา ขนุน ขยา ขนม จรวด สนิม ฯลฯ
๕.๔. กา เนิ ด จา แนก จา หน่าย ชา นาญ ชา รุ ด ดา เนิน ดา ริ ดา รัส ตา รา กา จัด อา
นวย ฯลฯ
๕.๕.บา เพ็ญ บา นาญ บา บัด บังควร บังอาจ บันเทิง บันดาล บรรทุก บรรจุ บรรจงฯลฯ
๓๘. มี, เป็ น + ราชาศัพท์ เช่น มีพระราชประสงค์ เป็ นพระราชโอรส มีพระราชดา ริ ฯลฯ
ทรงมี, ทรงเป็ น + คา ธรรมดา เช่น ทรงมีความสงสาร ทรงเป็ นครู ทรงเป็ นประธาน ฯลฯ
๕๔. ความหมายใกล้เคียงกัน
ภาพพจน์ = เปรี ยบเทียบ ปรบมือ = ยกย่อง
ภาพลักษณ์ = Image ตบมือ = ทัว่ ๆไป
สมรรถภาพ = คน จักรวรรดิ = Kingdom (ดินแดน)
สมรรถนะ = เครื่ องยนต์ จักรพรรดิ = King (คน)
๖๐. คาประพันธ์ในวรรณคดีไทย
๗๔. โทรเลข : สู ตรมีอยูว่ า่ สั้น กะทัดรัด ชัดเจน (วัน เวลา สถานที่) สั้น ไม่จาเป็ นต้องสั้นมาก ต้องได้
ใจความด้วย
คาในภาษาไทยที่มกั เขียนผิด
ต่อไปนี้ เป็ น รายชื่อคาในภาษาไทยที่มกั เขียนผิด เรี ยงลาดับตามตัวอักษรของ คาที่เขียนถูก ตามที่
ปรากฏในพจนานุกรมภาษาไทยหรื อตามประกาศของหน่วยงานราชการไทย
หมายเหตุ: การเขียนสะกดคาในนี้เป็ นกรณี ทวั่ ไป แต่ในกรณี เฉพาะ เช่น เป็ น วิสามานยนาม อาทิ เป็ นชื่อ
บุคคล ชื่อสถานที่ หรื อในทางร้อยกรอง สามารถเขียนสะกดคาแตกต่างได้
ก.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ก็ ก้อ
กงเกวียนกาเกวียน กงกากงเกวียน กง และ กา เป็ นส่ วนประกอบของล้อเกวียน
กงสุ ล กงศุล "กงสุ ล" มาจากคาในภาษาฝรั่งเศสว่า "consul"
กฎ ทุกอย่าง ใช้ ฎ ชฎา ยกเว้น ปรากฏ ใช้ ฏ ปฏัก ส่ วน
กฎ กฏ
กรกฎ/กรกฏ สะกดได้ท้ งั สองแบบ
กฐิน กฐิณ
กบฏ
- "กบฏ" ใช้ ฏ ปฏัก
- ในสมัยโบราณ เคยสะกดด้วย ฎ ชฎา (ดู พจนานุกรม
กบฎ, กบถ
กฎหมาย ของ ขุนสมาหารหิ ตะคดี)
- ถ้าออกเสี ยง "ขะ-บด" เขียน "ขบถ"
ข.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ขบถ ขบฏ ดู กบฏ
ขโมย โขมย
ขวาน ขวาญ
ขะมักเขม้น ขมักเขม้น
ขัณฑสกร ขัณท-, ขันท-, ขันฑ-
ขาดดุล ขาดดุลย์ ดู "ดุล", "สมดุล"
ข้าวเหนียวมูน ข้าวเหนียวมูล มูน = เอากะทิเคล้ากับข้าวเหนียวเพื่อให้มนั
ขี้เกียจ ขี้เกลียด, ขี้เกียด
ขึ้นฉ่าย คึ่น-, -ช่าย, -ไฉ่, -ไช่
เขยก ขเยก, ขะเหยก
ไข่มุก ไข่มุกข์, ไข่มุกด์, ไข่มุข
ค.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
คณบดี คณะบดี
คทา คฑา, คธา
คน ฅน ฅ ไม่เคยใช้เขียนคาว่า ฅน
ครรไล ครรลัย
ครองแครง คลองแคลง
คาว่า "ราชย์" หมายถึง ความเป็ นราชา, "ครองราชย์" จึง
หมายถึง ครองความเป็ นราชา ทั้งนี้ คาว่า "ครองราช
ครองราชย์ ครองราช สมบัติ" หมายความว่า ครองสมบัติของพระราชา ก็คือ
ครองความเป็ นราชา (มิใช่ "ครองราชยสมบัติ" อัน
แปลว่า ครองสมบัติแห่งความเป็ นพระราชา)
ฆ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ฆราวาส ฆรวาส, ฆารวาส, -วาท
ฆาตกร ฆาตรกร ฆาต แปลว่า ฆ่า, ทาลาย หรื อ ตี
ฆาตกรรม ฆาตรกรรม ฆาต แปลว่า ฆ่า, ทาลาย หรื อ ตี
ง.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
งบดุล งบดุลย์ ไม่ใช่ ดุลย์
งูสวัด งูสวัส, งูสวัสดิ์
จ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
จงกรม จงกลม การฝึ กสมาธิ
เครื่ องดนตรี ไทย เรี ยก จะเข้; ชื่อสถานที่บางแห่งยัง
จระเข้ จรเข้ สะกดว่า จรเข้ อยูเ่ ช่น คลองจรเข้บวั ตาบลจรเข้สามพัน
ตาบลจรเข้ร้อง
จลนศาสตร์ จลศาสตร์
จลาจล จราจล มาจากคา จล + อจล
จะงอย จงอย
จะจะ จะ ๆ คามูลสองพยางค์
จาละเม็ด, จาระเม็ด, จรเม็ด,
จะละเม็ด
จระเม็ด
จักจัน่ จัก๊ จัน่
จักร จักร์
จักรพรรดิ จักรพรรดิ์ อ่านว่า "จัก-กฺระ-พัด"
จักรวรรดิ จักรวรรดิ์ อ่านว่า "จัก-กฺระ-หวัด"
จักสาน จักรสาน เครื่ องใช้ที่ทาด้วยมือ
ฉ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ฉบับ ฉะบับ
ฉะนั้น ฉนั้น
ฉะนี้ ฉนี้
เสมือน เช่น ฉันญาติ ฉันมิตร; รับประทาน ใช้แก่
ฉัน ฉันท์
พระสงฆ์
ฉันท์ ฉัน ความพอใจ หรื อร้อยกรองประเภทหนึ่งมีบงั คับครุ ลหุ
เฉพาะ ฉะเพาะ, ฉเพาะ
ช.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
(พระ)ชนมพรรษา (พระ)ชนม์พรรษา อ่านว่า ชน-มะ-พัน-สา
(พระ)ชนมายุ (พระ)ชนม์มายุ มาจาก ชนฺ ม(นฺ ) + อายุ
ชมพู ชมภู
ชมพู่ ชมภู่
หมายถึง ทางน้ า เช่น กระบวนเสด็จพระราชดาเนินโดย
ชลมารค ชลมาค, ชลมาคร, ชลมาร์ค
ทางชลมารค
ช๊อกโกแลต, ช็อกโกแล็ต,
ช็อกโกเลต,
ชอคโกแลต, ช๊อคโกแลต, ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554
ช็อกโกแลต
ช็อคโกแลต ฯลฯ
ชอุ่ม ชะอุ่ม
ชะนี ชนี
ชะมด ชมด
ชัชวาล ชัชวาลย์
"ชาลา" แปลว่า ชาน "ชานชาลา" เป็ นคาซ้อน (ทานอง
ชานชาลา ชานชะลา
เดียวกับ กักขัง, ใหญ่โต ฯลฯ)
ชีพิตกั ษัย ชีพตักษัย
ชีวประวัติ ชีวะประวัติ สมาสแล้วลบวิสรรชนีย ์
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ให้
ไชเท้า, ไช้เท้า ใชเท้า
สะกดได้ท้ งั ไชเท้า และ ไช้เท้า
ผักกาดหัวที่ดองเค็มหรื อหวาน แล้วนาไปตากแห้ง;
ไชโป๊ , ไช้โป๊ ไชโป๊ ว, ไช้โป๊ ว, ไชโป้ว
ระบบเสี ยงภาษาไทยไม่มีเสี ยงสระโอว
ซ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ซวดเซ ทรวดเซ
ซ่องเสพ ส้องเสพ
ซาบซ่าน ทราบซ่าน, -ส้าน
ซาบซึ้ ง ทราบซึ้ ง
ซาลาเปา ซาละเปา, ซะละเปา
ซาวด์เสี ยง,
แปลว่า หยัง่ เสี ยงเพื่อฟังความคิดเห็น และไม่ได้มาจาก
ซาวเสี ยง ซาวน์เสี ยง,
คาภาษาอังกฤษว่า "sound"
ซาวนด์เสี ยง
ซีเม็นต์, ซีเมนท์, ซีเม็นท์, ซี
ซีเมนต์
เม็น
ซีรีส์ ซีรีย,์ ซีรี่ย ์
ซุ่ม = ซ่อน, แอบซ่อนคอยทีอยู่ / สุ่ ม = เครื่ องมือจับ
ซุ่ม สุ่ ม, สุ ้ม
ปลา, เครื่ องสานครอบขังไก่, ไม่เฉพาะเจาะจง
ซุม้ สุ ้ม สิ่ งที่เป็ นพุม่ มีทางลอดได้, ส่ วนบนของประตูหน้าต่าง
เซ็นชื่อ เซ็นต์ชื่อ จากคาอังกฤษ sign, ไม่มี ต การันต์
เซนติเมตร เซ็นติเมตร
ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554;
แซ่บ แซบ ใส่ รูปวรรณยุกต์เอกเพื่อบ่งว่าเป็ นเสี ยงวรรณยุกต์โท
และออกเสี ยงสั้น (อย่างคาว่า แน่บ)
ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554;
แซ็ว แซว
ใส่ ไม้ไต่คูเ้ พราะออกเสี ยงสั้น
ไซ้ = กิริยาที่นกหรื อเป็ ดเอาปากย้า ๆ ขนหรื อหาอาหาร
ฯลฯ, เช่น เป็ ดไซ้ขน
ไซ้ ไซร้
ไซร้ = คาสาหรับเน้นความหมายของคาหน้า, เช่น
ลูกหนี้ยงั ไม่ชาระหนี้ไซร้ ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัด
ฌ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ฌาน ฌาณ
ฌาปนกิจ ฌาปณกิจ
เฌอ กระเฌอ, กะเฌอ
ญ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ญวน ญวณ
ญัตติ ญัติ
ญาณ ญาน
ญาติ ญาต
ฎ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ฎีกา ฏีกา ใช้ ฎ ชฎา ตัวอักษรที่คล้ายกันทาให้เกิดความสับสน
ฐ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ฐาน ฐาณ
ณ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
อ่านว่า "นะ" มีความหมายว่า ที่
ในการเขียน ไม่มีจุดข้างหลังเพราะมิใช่คาย่อ แต่ "ณ"
ณ ณ.
แผลงรู ปมาจาก "ใน" และมักเว้นวรรคหน้าวรรคหลัง
"ณ" ด้วย เช่น "อยู่ ณ ที่น้ ี"
ด.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ดอกจันท์, ดอกจันทน์, ดอก
ดอกจัน เครื่ องหมาย *, ดอกของต้นจัน
จันทร์
ดอกจัน, ดอกจันท์, ดอก
ดอกจันทน์ รกหุม้ เมล็ดจันทน์เทศ
จันทร์
ดอกไม้จนั , ดอกไม้จนั ท์,
ดอกไม้จนั ทน์ ดอกไม้ประดิษฐ์สาหรับงานเผาศพ
ดอกไม้จนั ทร์
ดัตช์ ดัชต์, ดัชท์, ดัทช์
ดาดตะกัว่ ดาษตะกัว่
ดาดฟ้า ดาษฟ้า
ดาวน์ ดาว์น, ดาว คาทับศัพท์ down ตัวสะกดหลักคือ ว
ดาษดื่น ดาดดื่น
ดารง ดารงค์
ดาริ ดาหริ , ดาริ ห์ อ่านว่า "ดา-หริ ", โบราณเขียน "ดาริ ห์"
"ดุล" เป็ นคานามแปลว่า ความเท่ากัน หรื อความเสมอ
ดุล ดุลย์ กัน, ส่ วน "ดุลย์" เป็ นคาวิเศษณ์แปลว่า เท่ากัน หรื อ
เสมอกัน
ดุษณี หมายถึง นิ่ง
ดุษณี โดยดุษฎี ดุษฎี หมายถึง ยินดี
มักใช้สลับกัน เช่น ในถ้อยคาว่า "ยอมรับโดยดุษณี "
ต.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ตรรกศาสตร์ ตรรกะศาสตร์
ตรรกะ, ตรรก- ตรรกกะ
ตระเวน ตระเวณ
ตราสัง ตราสังข์
ตรึ งตรา ตรึ งตา หมายถึง ติดแน่น
ตะกร้า ตระกร้า
ตะราง ตาราง ที่คุมขัง
ตานขโมย ตาลขโมย
ตาราง ตะราง ช่องสี่ เหลี่ยม
ตารับ ตาหรับ
ติดสัด ติดสัตว์
โต๊ะ โต้ะ
ใต้ ไต้ ใช้แสดงตาแหน่ง เช่น ใต้โต๊ะ ภาคใต้ แสงใต้ (ออโรรา)
เปรี ยบเหมือนเราอยูข่ า้ งใต้ เท้าของผูม้ ีอานาจบารมี
ใต้เท้า ไต้เท้า
ทานองเดียวกับ ใต้ฝ่าพระบาท ฯลฯ
หมายถึงคบเพลิง เช่น ขี้ไต้ จุดไต้ตาตอ น้ าตาแสงไต้
ไต้ ใต้
หรื อใช้ทบั ศัพท์ภาษาอื่น
ไต้ก๋ง ใต้ก๋ง นายท้ายเรื อสาเภาหรื อเรื อประมง ทับศัพท์จากภาษาจีน
ถ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ถนนลาดยาง ถนนราดยาง ลาด หมายถึง ปู
ถ่วงดุล ถ่วงดุลย์
ถัว่ พู ถัว่ พลู ถัว่ ที่ดา้ นข้างมีรอยเป็ นพู
เถา เถาว์
ไถ่ตวั ถ่ายตัว เรี ยกค่าไถ่ ก็ใช้คานี้
ท.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ทโมน ทะโมน, โทมน
ทยอย ทะยอย
ทแยง ทะแยง, แทยง
ทรงกลด ทรงกรด
ทรมาทรกรรม ทรมานทรกรรม
- ทรราช = ผูป้ กครองบ้านเมืองที่ใช้อานาจสร้างความ
เดือดร้อน, ตามรากศัพท์หมายถึง ราชาชัว่ แต่สามารถ
ทรราช ทรราชย์ ใช้ได้กบั ทั้งที่เป็ นราชาและไม่เป็ นราชา
- ทรราชย์ = รู ปแบบ ระบบ หรื อลัทธิการปกครองแบบ
ทรราช
ทระนง, ทะนง ทรนง, ทนง
ธ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ธนบัตร ธนาบัตร
ธนาณัติ ธนานัติ, ธนาณัต
ในหนังสื อเก่า ๆ เขียน "ทาเนี ยม" ก็มี, แต่ปัจจุบนั ใช้
ธรรมเนียม ทาเนียม
"ธรรมเนียม" (มาจาก ธรรม + นิยม)
ธัญพืช ธัญญพืช
ธามรงค์ ธามรง, ทามะรงค์ แปลว่า "แหวน"
ธารง ธารง
น.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
นพปฎล นพปดล แปลว่า เก้าชั้น
นภดล นภดล เว้นแต่ "นพดล" ที่เป็ นชื่อเฉพาะ
นวัตกรรม นวตกรรม
นอต น็อต, น๊อต ทับศัพท์จาก nut ในภาษาอังกฤษที่หมายถึงอุปกรณ์ช่าง
นะ น๊ะ ออกเสี ยงวรรณยุกต์ตรี โดยไม่ปรากฏรู ป
คะ เป็ นเสี ยงตรี ไม่ตอ้ งใช้ไม้ตรี ในขณะที่ ค่ะ เป็ นเสี ยง
นะคะ นะค่ะ, นะค๊ะ
โท
นันทนาการ สันทนาการ
นัย นัยยะ อ่านได้ท้ งั ไน และ ไน-ยะ
นัยน์ตา นัยน์ตา
คาประกอบหน้ากริ ยา หมายความว่า ควร เช่น น่าจะทา
น่า หน้า อย่างนั้น น่าจะเป็ นอย่างนี้ ; ชวนให้, ทาให้อยากจะ, เช่น
น่ากิน น่ารัก
นาฏกรรม นาฎกรรม ใช้ ฏ ปฏัก
นาฑี เป็ นภาษาสันสกฤต พบบ้างในหนังสื อเก่า
นาที นาที
ปั จจุบนั พจนานุกรมให้สะกดแบบเดียวเท่านั้น
นานัปการ นานับประการ
ไม่ใช่คาซ้ า แต่เป็ นคามูลสองพยางค์ที่รับมาจากภาษา
นานา นา ๆ
บาลี แปลว่า "ต่าง ๆ"
น้ าจัณฑ์ น้ าจัน, -จัณท์, -จันท์
น้ ามันก๊าด น้ ามันก๊าซ, -ก๊าส
บ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
บรรทัด บรรทัด
บรรทุก บรรทุก
บรรลุ บรรลุ
บรรเลง บันเลง
บรั่นดี บะหรั่นดี
ป.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ปฏิกิริยา ปฏิกริ ยา
ปฏิสันถาร ปฏิสัณฐาน, ปฏิสันถาน
ปฏิทิน ปติทิน
ปฏิพทั ธ์ ประติพทั ธ์
ปฏิสังขรณ์ ปฏิสังขร
ปฐมนิเทศ ปฐมนิเทศก์, ปฐมนิเทศน์
ปณิ ธาน,
ปนิธาน, ประนิธาน ตั้งใจไว้
ประณิ ธาน
ปรนนิบตั ิ ปรณนิบตั ิ
ปรมาณู ปรมณู ปรม + อณู
ปรองดอง ปองดอง
ประกายพรึ ก ประกายพฤกษ์
ประกาศนียบัตร ประกาศณี ยบัตร
ประกาศิต ประกาษิต
ประจัญ ประจัน
• ประจัญ = ปะทะต่อสู ้ (เช่น ประจัญบาน = รบอย่าง
ประจันบาน, ประจันบาล,
ประจัญบาน ตะลุมบอน), แผลงมาจากคาเขมรว่า "ผจัญ" (ผฺ จาญ่)
ประจัญบาล
• ประจัน = กั้นเป็ นส่ วนสัด (เช่น ฝาประจันห้อง = ฝา
ประจันหน้า ประจัญหน้า
กั้นห้อง), เผชิญ (เช่น ประจันหน้ากัน), ฯลฯ
ประจันห้อง ประจัญห้อง
ประจาการ ประจาการณ์
ประณต ประนต (กริ ยา) น้อมไหว้
ประณม ประนม (อาการนาม) การน้อมไหว้
ประณาม ประนาม
ผ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ผดุง ผะดุง
ผรุ สวาท ผรุ สวาส
ผลลัพธ์ ผลลัพท์
ผล็อย ผลอย
"ผลัด" แปลว่า เปลี่ยน เช่น ผลัดเปลี่ยน ผลัดผ้า ผลัดเวร
ผลัด ผัด ส่ วน "ผัด" แปลว่า เลื่อน หรื อย้าย เช่น ผัดผ่อน ผัดฟ้อง
ผัดวัน ผัดหนี้
ผลานิสงส์ ผลานิสงฆ์
ผอบ ผะอบ
ผัดไทย ผัดไท
ผัดผ่อน ผลัดผ่อน
"ผลัด" แปลว่า เปลี่ยน เช่น ผลัดเปลี่ยน ผลัดผ้า ผลัดเวร
ผัด ผลัด ส่ วน "ผัด" แปลว่า เลื่อน หรื อย้าย เช่น ผัดผ่อน ผัดฟ้อง
ผัดวัน ผัดหนี้
มาจากคาบาลีวา่ ผาสุก [ผา-สุ -กะ] แปลว่า ความสาราญ
ผาสุ ก ผาสุ ก , ความสบาย (ไม่ได้มาจาก ผา + สุ ข); แต่ชื่อบุคคลและ
สถานที่จานวนมากยังใช้ ผาสุ ข อยู่
ผีซ้ าด้ าพลอย ผีซ้ าด้ามพลอย ด้ า เป็ นภาษาเหนื อ แปลว่า ผีเรื อน
เปรี ยบว่าเป็ นผีที่พงุ่ ออกมาเป็ นแสงเหมือนแสงไต้ หรื อ
ผีพงุ่ ไต้ ผีพงุ่ ใต้
เปรี ยบเหมือนไต้ที่ผซี ดั ออกมา
ฝ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ฝรั่งเศส ฝรั่งเศษ
ฝักฝ่ าย ฝักใฝ่ , ฝักไฝ่ พวก, ข้าง
ฝักใฝ่ ฝักฝ่ าย, ฝักไฝ่ เอาใจใส่ , ผูกพัน
ฝากครรภ์ ฝากครร
ฝี ดาษ ฝี ดาษ ไข้ทรพิษ
ฝึ กปรื อ ฝึ กปื อ, ฝึ กปลือ
ไฝ ใฝ คานอกกฎการใช้ไม้มว้ น
พ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
พงศ์พนั ธุ์ พงพันธุ์, พงษ์พนั ธุ์
พจนานุกรม พจณานุกรม พจน + อนุกรม
พณ, พณฯ, ฯพณ, ฯพณฯ เขียน "ฯพณฯ" อ่านว่า "พะ-นะ-ท่าน" ย่อมาจาก พณหัว
ฯพณฯ
ท่าน, พณ.ท่าน, พณะท่าน เจ้าท่าน (พระ ณ หัวเจ้าท่าน)
พยัก พะยัก
พยักพเยิด พะยักพะเยิด, พยักเพยิด
พยัคฆ์ พยัค, พยัคร, พยัฆ เสื อ
พยาน พญาณ, พยาณ, พะยาน
พยาบาท พญาบาท, พยาบาตร
พยุง พะยุง
พเยีย พะเยีย, เพยีย พวงดอกไม้
พรรณนา พรรณา อ่านว่า พัน-นะ-นา
พรหมจรรย์ พรมจรรย์
พระวงศ์ พระวงค์ รวมทั้ง เชื้ อพระวงศ์
พราหมณ์ พราห์มณ์, พรามณ์ อ่านว่า พฺ ราม
พร่ าพลอด พร่ าพรอด
พฤศจิกายน พฤษจิกายน
พฤษภาคม พฤศภาคม
พลการ พละการ คาสมาส
พลศึกษา พละศึกษา คาสมาส
พละกาลัง พลกาลัง
พลาสติก พลาสติค
พหูสูต พหูสูตร
ฟ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ฟังก์ชนั ฟังก์ชนั่ ไม่มีไม้เอก
ฟั่น ฟั่น เช่น ฟั่นเชื อก ฟั่นเทียน
คุด หมายถึง งอกงออยูภ่ ายในไม่โผล่ออกมาตาม
ฟันคุด ฟันครุ ฑ, ฟันครุ ท
ปรกติ ครุ ฑเป็ นสัตว์ในตานานอินเดีย
ฟาทอม ฟาธอม, แฟทอม, แฟธอม หน่วยวัดระยะทาง
ฟิ ล์ม ฟิ ลม์, ฟลิม, ฟิ มล์, ฟิ ม์ล
ฟิ วส์ ฟิ ว
ฟุลสแก๊ป ฟูลสแกป หน้ากระดาษที่มีเส้นบรรทัด
เฟิ น เฟิ ร์น ถ้านาไปเขียนคาทับศัพท์อาจอนุโลมใช้ เฟิ ร์น ได้
ไฟแช็ก ไฟแชค, ไฟแช็ค
ภ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ภคินี ภคิณี
ภวังค์ พวังศ์
"ภววิสัย" ตรงกับภาษาอังกฤษว่า "objective" บางทีใช้
"ปรนัย" (ปะระไน), "ปรวิสัย" (ปะระวิสัย) หรื อ "วัตถุ
ภววิสัย ภาววิสัย, ภาวะวิสัย
วิสัย" หมายความว่า "ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุ โดยไม่
เกี่ยวกับความคิดหรื อความรู ้สึก"
ม.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ใช้ ฎ ชฎา เช่น มกุฎราชกุมาร มกุฎราชกุมารี ยกเว้น
มกุฎ มกุฏ มหามกุฏราชวิทยาลัย และ มกุฏกษัตริ ยาราม ที่ใช้ ฏ
ปฏัก
มงกุฎ มงกุฎ ใช้ ฎ ชฎา
มณฑป มนฑป, มณทป อ่านว่า มน-ดบ
มนเทียร มนเฑียร, มณเฑียร
มนุษยสัมพันธ์ มนุษย์สัมพันธ์ คาสมาส
มรณภาพ มรณะภาพ
มฤตยู มฤตญู
มลทิน มลทิน
ย.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ยศถาบรรดาศักดิ์ ยศฐาบรรดาศักดิ์
ย่อมเยา ย่อมเยาว์ ราคาย่อมเยา
ยาเกร็ ด ยาเกล็ด หมายถึง ตารา
ยานัตถุ์ ยานัตถ์, ยานัด นัตถุ์ แปลว่า จมูก
ร.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
รกชัฏ รกชัฏ ใช้ ฏ ปฏัก
รณรงค์ รนรงค์
รถเมล์ รถเมย์
รถยนต์ รถยนตร์ อาจพบหนังสื อเก่าเขียนเป็ น รถยนตร์ บ้าง
รมณี ย ์ รมนีย,์ รมณี
รสชาติ รสชาติ อาจพบหนังสื อเก่าเขียนเป็ น รสชาด บ้าง
ร้องไห้ ร้องให้
ระบบนิเวศ ระบบนิเวศน์
ระเบงเซ็งแซ่ ระเบ็งเซ็งแซ่
ระเห็จ รเห็จ, เรห็จ
รักษาการ รักษาการณ์ ปฏิบตั ิหน้าที่แทน เช่น รักษาการในตาแหน่ง...
รักษาการณ์ รักษาการ เฝ้าดูแลเหตุการณ์ เช่น ยามรักษาการณ์
ฤ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ฤกษ์พานาที ฤกษ์ผานาที สองคาที่สับสน คือ "ฤกษ์พานาที" กับ "เลขผานาที"
ฤทธิ์ ฤทธ, ฤทธ์
ล.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ลดาวัลย์ ลัดดาวัลย์, ลดาวัณย์ ชื่อไม้เถาชนิดหนึ่ง ยกเว้นชื่อเฉพาะ
ลมปราณ ลมปราน
ลมหวน ลมหวน
ล่มหัวจมท้าย ร่ วมหัวจมท้าย ดูคาอธิบายของราชบัณฑิตยสถาน
ล็อกเกต ล็อกเก็ต
ลองไน ลองใน ชื่อจักจัน่ ขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ ง
"ละคอน" เป็ นคาไทยโบราณ ใช้เมื่อต้องการรักษา
ละคร ละคร ความดั้งเดิมไว้ เช่น สาขาศิลปะและการละคอน ดู
คาอธิบายของราชบัณฑิตยสถานที่ ละครหรื อละคอน
ละเมียดละไม ลเมียดลไม
ละโมบ ลโมบ, ละโมภ
ละเอียดลออ ลเอียดลออ, ละเอียดละออ
ลักเพศ ลักเพท, ลักเพส
ลังถึง ลังถึง
ลาดตระเวน ลาดตระเวณ มักสับสนกับ "บริ เวณ"
เรี ยกถนนที่ปูผวิ จราจรด้วยยางมะตอยผสมกับหิ นหรื อ
ลาดยาง ราดยาง
ทรายเป็ นต้นว่า "ถนนลาดยาง"
ลายเซ็น ลายเซ็นต์
ลาวัณย์ ลาวัลย์ หมายถึง ความงาม ความน่ารัก
ว.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
วงศ์, วงษ์ วงค์ วงษ์ เป็ นการสะกดแบบโบราณ
วงศ์วาน วงษ์วาน เช่น ชื่อถนน งามวงศ์วาน
วัคซีน วักซีน
วัณโรค วันโรค, วรรณโรค
วันทยหัตถ์ วันทยาหัตถ์
วันทยาวุธ วันทยวุธ
วางก้าม วางกล้าม วางโต
วาทกรรม วาทะกรรม สมาสแล้วไม่มีสระอะ
วาทิต วาฑิต วาทิต หมายความว่า ดนตรี หรื อผูบ้ รรเลงดนตรี
วายชนม์ วายชน
วารดิถี วาระดิถี สมาสแล้วไม่มีสระอะ
วาฬ วาล
วิง่ เปี้ ยว วิง่ เปรี้ ยว
วิง่ ผลัด วิง่ ผลัด
วิจาร, วิจารณ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานกาหนดไว้ท้ งั สาม
วิจารย์
, วิจารณ์ คา
วิญญาณ วิญญาน
วิดีโอ วีดีโอ, วีดิโอ ทับศัพท์จาก video หรื อใช้คาว่า วีดิทศั น์
วิตถาร วิตถาน, วิตถาล
วิตามิน วิตตามิน, วิตะมิน
วินาที วินาที
วินาศกรรม วินาศะกรรม
ศ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ศรัทธา, สัทธา ศัทธา นิยมใช้ "ศรัทธา" มากกว่า
ศรี สะเกษ ศีรษะ-, ศรี ษะ-, -เกศ เฉพาะชื่อจังหวัด
ศศิธร สสิ ธร, ศศิทร ศศิธร หมายถึง ดวงจันทร์
ศักย์ ที่หมายถึง ศักย์ไฟฟ้า ศักยภาพ ใช้ ย แต่ ศักดิ์ที่
ศักย์ ศักดิ์
กล่าวถึง ศักดินา ใช้ ด
ศัตรู สัตรู , ศตรู
ส.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
สกัด สะกัด
สกาว สะกาว
สแกน แสกน
สดับ สะดับ
สถานการณ์ สถานการ, สถาณการณ์
สถิต สถิตย์ ยกเว้น "สถิตยศาสตร์"
"สนนราคา" หมายถึง ราคา ; "สงวนราคา" หมายถึง
สนนราคา สงวนราคา
รักษาระดับราคาไว้
สบง สะบง
สบาย สะบาย
สบู่ สบู่
สไบ สะไบ, ไสบ
สเปน เสปน, สเปญ
สภาวการณ์,
สภาวะการณ์
สภาพการณ์
สมดุล สมดุลย์
สมเพช สมเพท, สมเพศ, สมเพส
สรรเพชญ สรรเพชร
สรรแสร้ง สรรค์แสร้ง
สรรหา สรรค์หา สรรค์ หมายถึง สร้าง, ทาให้เกิดขึ้น
สรวงสวรรค์ สวงสวรรค์
สร้างสรรค์ สร้างสรร
สวรรคต สวรรณคต, สวรรค์คต
ห.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
หกคะเมน หกคเมน, หกคะเมร
หงส์ หงส์
หน็อยแน่ หนอยแน่
- "หนาแน่น" ว่า คับคัง่ , แออัด, เช่น กรุ งเทพฯ มี
ประชากรหนาแน่นมาก.
- "แน่นหนา" ว่า มัน่ คง เช่น ใส่ กุญแจแน่นหนา มี
หนาแน่น แน่นหนา
หลักฐานมัดตัวแน่นหนา, แข็งแรง เช่น ประตูหน้าต่าง
แน่นหนา, บางทีก็ใช้เข้าคู่กบั ปึ กแผ่น เป็ น เป็ นปึ กแผ่น
แน่นหนา.
หน้าปัดนาฬิกา หน้าปัทม์นาฬิกา
หม้อห้อม, ม่อห้อม
หม้อฮ่อม
,ม่อฮ่อม
หมาใน หมาไน
หมามุ่ย, หมามุย้ หมาหมุย้
ของกินทาด้วยหมูเนื้ อแดงปรุ งรส ต้มเคี่ยวให้เปื่ อยจน
งวด นาไปผัดจนแห้ง ขยี้ให้เป็ นฝอย, รวมถึงที่ทาจาก
หมูหย็อง หมูหยอง
วัตถุดิบอื่นด้วย เช่น ไก่หย็อง ฯลฯ (ใส่ ไม้ไต่คูเ้ พราะ
ออกเสี ยงสั้น)
หยากไย่, หยักไย่ หยากใย่, หยักใย่
หย่าร้าง อย่าร้าง
หยิบหย่ง หยิบย่ง, หยิบโย่ง
อ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
(พระ)องค์ (พระ)องศ์
องคชาต องคชาติ
องคุลี (นิ้วมือ) + มาล (สร้อยคอ, สาย หรื อ แถว) = องคุ
องคุลีมาล, องคุลีมาร, องคุลิ
องคุลิมาล ลิมาล (สร้อยคอที่ทาจากนิ้วมือ) โดยที่ ลี ใน องคุลี ลด
มาร
เป็ น ลิ เสี ยงสั้นตามหลักการสมาส
อธิษฐาน, อธิฏฐาน อธิฐาน, -ฐาณ
อนาถ อนาจ
ฮ.
คาทีเ่ ขียนถูก มักเขียนผิดเป็ น หมายเหตุ
ฮ่อยจ๊อ หอยจ๊อ, ห้อยจ๊อ, -จ้อ
เฮโลสาระพา, เฮโลโหระพา, เฮละโล
เฮละโลสาระพา โหระพา
คาในภาษาไทยทีม่ ักอ่านผิด
คา คาอ่ านทีถ่ ูกต้ อง
กตเวทิตา กะ - ตะ - เว - ทิ - ตา
กตเวที กะ - ตะ - เว - ที
กบฏ กะ - บด
กรกฎาคม กะ - ระ - กะ - ดา - คม
กรณี กะ - ระ - นี
กรณี ยกิจ กะ - ระ - นี - ยะ - กิด
กรมขุน กฺรม - มะ- ขุน
กรมคลัง กฺรม -มะ- คฺ ลงั
กรมท่า กฺรม - มะ - ท่า
กรมธรรม์ กฺรม - มะ - ทัน
กรมนา กฺรม - มะ - นา
กรมพระ กฺรม - มะ - พฺระ
กรมวัง กฺรม -มะ-วัง
กรมเวียง กฺรม -มะ- เวียง
กรมหมื่น กฺรม - มะ - หฺ มื่น
กรมหลวง กฺรม - มะ - หฺ ลวง
กรรมวิธี กา - มะ - วิ - ที
กรรมาธิการ กา - มา - ทิ - กาน
กลวิธี กน - ละ - วิ - ที
กลอักษร กน - อัก - สอน
กาลสมัย กา - ละ - สะ - ไหฺ ม
กาฬโรค กาน - ละ - โรก
กาเนิด กา - เหฺ นิด
กุลธิดา กุน - ละ - ทิ - ดา
กุลสตรี กุน - ละ - สัด - ตฺ รี
เกษตรกรรม กะ - เสด - ตฺ ระ - กา
๙๘. ข้อใดเขียนถูกต้องทุกคา
ก. ภูวนาถ เทศกาล ข. สุ ภาษิต อิษเรศ
ค. อัสดร สังเกต ง. จารี ตร สารพัด
๙๙. พระมหากษัตริ ยไ์ ทยได้..................พระนครในช่องว่างควรเติมคาใด
ก. เสด็จนิวตั ิ ข. เสด็จนิวตั ร ค. เสด็จนิวตั ง. สเด็จนิวตั ิ
๑. ข้อใดอ่านผิด
ก. วิตถาร (วิด-ถาน) ข. วุฒิ (วุด-ทิ)
ค. วัยวุฒิ (ไว-วุด) ง. วณิ พก (วะ-นิบ-พก)
๒. ข้อใดอ่านผิด
ก. สตรี (สะ-ตรี )
ข. สัตบุรุษ (สัด-บุ-หรุ ด)
ค. สมรรถภาพ (สะ-มัด-ถะ-พาบ)
ง. สมานฉันท์ (สะ-มา-นะ-ฉัน)
๓. คาใดอ่านได้เพียงอย่างเดียว
ก. ทุนทรัพย์ ข. ภรรยา
ค. ปรกติ ง. มูลค่า
๔. คาใดไม่อ่านแบบคาสมาส
ก. รสนิยม ข. ภาพยนตร์
ค. กรรมวิบาก ง. สมณเพศ
๕. ข้อใดอ่านตามคานิยม
ก. ทรชน ข. ราชวัง
ค. วิษณุ ง. สมาธิ
๖. ข้อใดประวิสรรชนียไ์ ม่ถูกต้อง
ก. ทะวาย ทะมึน ข. ตะลึง ตะลีตะลาด
ค. ขะมุกขะมอม ขะมักขะเม้น ง. ชะลูก ชะรอย
๗. ข้อใดประวิสรรชนียถ์ ูกต้องทั้งหมด
ก. พะงา พะนอ พะแนง ข. พะหุ พะเนิน พะยอม
ค. พะยูน พะโล้ พะลี ง. พะวง พะบู พะอง
๘. ข้อใดเขียนถูกต้องทุกคา
ก. สัณฐาน หมาไน ข. บาเหน็จ สมโภชน์
ค. การ์ตูน อาเจียร ง. เกษียณอายุ เจตนารมณ์
๕๖. การพัฒนาด้านเกษตรกรรมทาให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ก. เปลี่ยนแปลงป่ าเป็ นที่สะสมธาตุอาหารในดิน
ข. เปลี่ยนแปลงป่ าให้เป็ นแหล่งต้นกาเนิดแม่น้ าลาธาร
ค. เปลี่ยนแปลงป่ าเป็ นแหล่งเพาะปลูกพืชพันธุ์ธญ ั ญาหาร
ง. เปลี่ยนแปลงป่ าให้มีที่เจริ ญเติบโตของต้นไม้และพันธุ์พืช
ข้ อความต่ อไปนีใ้ ช้ ตอบคาถามข้ อ ๕๗ – ๕๘
(๑) นกนางแอ่นที่พบในลุ่มน้ าทะเลสาบสงขลา (๒) ส่ วนมากจะอาศัยอยูใ่ นบริ เวณเกาะสี่ เกาะ
ห้า(๓)ซึ่ งตั้งอยูใ่ นทะเลสาบตอนกลางในจังหวัดพัทลุง (๔)มีลกั ษณะทางภูมิอากาศพื้นที่ราบ
เป็ นพื้นดิน มีหินโผล่โดยทัว่ ไป (๕)ส่ วนที่เป็ นหิ นจะเป็ นภูเขาหิ นปูน รายรอบด้วยผาชัน
ภายในภูเขาหิ นปูนมีโพรงถ้ าใหญ่นอ้ ยมากมาย
(ทะเลสาบสามน้ า มหัศจรรย์แห่งลุ่มน้ าทะเลสาบ)
๕๗. ข้อความตอนใดใช้คาผิดความหมาย
ก. ตอนที่ ๑ ข. ตอนที่ ๒ ค. ตอนที่ ๓ง. ตอนที่ ๔
๕๘. ข้อความตอนใดเป็ นการแสดงความคิดเห็นของผูเ้ ขียน
ก. ตอนที่ ๑ ข. ตอนที่ ๒ ค. ตอนที่ ๓ ง. ตอนที่ ๔
ฝ่ ายครัวประชานครราช คณะชาติทหารชาญ
สัตรี และส่ าบุรุษมานาน มนร่ วมสมานฉันท์
(วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ )
๗๙. บทความข้างต้นใช้โวหารการเขียนประเภทใด
ก. บรรยายโวหาร ข. พรรณนาโวหาร ค. สาธกโวหาร ง. อุปมาโวหาร
๘๐. คาสแลงคือข้อใด
ก. ตี ข. กิ๊ก ค. จาก ง. ปาด
๘๑. “ขอตีจากแต่ไม่ ยอม” คาที่พิมพ์ตวั หนาหมายถึงใคร
ก. กิ๊ก ข. ผูห้ ญิง ค. ชายหนุ่ม ง. เจ้าหน้าที่ตารวจ
๘๒. คาที่ให้ความรู ้สึกสะเทือนอารมณ์มากที่สุดคือข้อใด
ก. อามหิต ข. ปาดคอ ค. ขอตีจาก ง. รวบหนุ่ม
๘๓. พาดหัวข่าวข้างต้นคาใดแสดงภาพชัดเจนที่สุด
ก. รุ มตบ ข. ลานนา ค. ยับเยิน ง. แจ้งความ
๙. คนเราจะเข้าใจคาว่ารักแท้ได้อย่างไร
ก. อ่านจากนวนิยาย ข. ค้นพบด้วยตนเอง
ค. ขอพรจากเทพเจ้า ง. สังเกตบุคคลใกล้ชิด
๑๐. สัญชาตญาณของมนุษย์ที่ผเู ้ ขียนกล่าวถึงคือข้อใด
ก. การรักแฟน ข. การรักเพื่อน ค. การรักตัวเอง ง. การรักพ่อแม่
๑๑. ข้อใดกล่าวไม่ ถูกต้องจากบทความ
ก. ความรักเป็ นสิ่ งบริ สุทธิ์ ข. ไม่มีสิ่งใดที่อยูก่ บั เราตลอดไป
ค. การที่เราจะรักใครไม่จาเป็ นต้องมีเหตุผล
ง. ความรักที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดคือความรักที่ลูกมีต่อพ่อแม่
๑๒. บทความนี้ควรตั้งชื่อว่าอย่างไร
ก. ความรัก ข. ที่สุดของคาว่า”รัก”
ค. รักตัวเองสาคัญที่สุด ง. นิยามของคาว่า “ความรัก”
๒๖. บทความข้างต้นใช้โวหารการเขียนประเภทใด
ก. สาธกโวหาร,อธิบายโวหาร ข. สาธกโวหาร, บรรยายโวหาร
ค. บรรยายโวหาร,เทศนาโวหาร ง. พรรณนาโวหาร,อธิบายโวหาร
รู ปที่มีทุกบ้าน
ตั้งแต่เล็กยังเคยได้ถามแม่วา่ บนข้างฝาบ้านเรานัน่ ติดรู ปใคร ที่แม่คอยบูชาประจาก่อนนอน
ทุกคืน จะต้องไหว้ แม่ตอบว่าให้กราบรู ปนั้นทุกวัน ท่านเป็ นเทวดาที่มีลมหายใจ ที่เรายังพอมีกินอย่าง
วันนี้ ท่านดูแลคนไทยมานานเหลือเกิน ให้จาไว้เป็ นรู ปที่มีทุกบ้าน จะรวยหรื อจนหรื อว่าจะใกล้ไกล
เป็ นรู ปที่มีทุกบ้าน ด้วยความรัก ด้วยภักดี ด้วยจิตใจ เติบโตมากี่สิบปี ที่ผา่ น ภาพที่เห็นคือท่านทางาน
ทุกวัน เมื่อไรเราทาอะไรที่เกิดท้อแค่มองดูรูปบนข้างฝาจะได้กาลังใจ จากรู ปนั้น เป็ นรู ปที่มีทุกบ้าน
จะรวยหรื อจนหรื อว่าจะใกล้ไกล เป็ นรู ปที่มีทุกบ้าน ด้วยความรัก ด้วยภักดี ด้วยจิตใจ จะขอตามรอย
ของพ่อท่องคาว่าเพียงและพอ จากหัวใจ เป็ นลูกที่ดีของพ่อ ด้วยความรัก ด้วยภักดี ตลอดไป
มะเขือเทศ...เสน่ห์เหลือร้าย (Momypedia)
สวย อร่ อย อุดมวิตามิน สโลแกนเค้าละ
“เล่นเอาทั้งความสวยความดีประจาตัวมามัดใจ โกยคะแนนคนกินไปเสี ยหมด
อย่างนี้ แล้วจะไม่ให้บรรดาพรรณพืชด้วยกันอิจฉายายมะเขือเทศตัวแดงนี้ได้ยงั ไง”
ลองนึกเล่นๆ นะคะว่าถ้าให้เลือกพืชผักผลไม้ยอดนิยมในใจขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง
ตัวเองก็คงยกคะแนนเทใจให้กบั “มะเขือเทศ” ตัวกลม ๆ สี แดงสวยที่หมู่เพื่อนๆ ตาร้อนใส่ นี่
แหละค่ะ
ไม่ใช่เพราะว่าทั้งหน้าทั้งหุ่นคล้ายมะเขือเทศหรอก แต่ความดีในตัวเจ้ามะเขือเทศ
นี้มีมากโขต่างหากล่ะ ที่เข้าเส้นชัยชนะใจเราขาดลอย
เรื่ องรสชาติจดั จ้านและสี สันแดงเด่นอันนี้ คงไม่ตอ้ งพูดถึง แต่คุณสมบัติในตัวซึ่ ง
ซุ กซ่อนผูท่ ี่ได้รู้มานี่สิน่าสนใจกว่ากันเยอะ เริ่ มตั้งแต่อุดมไปด้วยวิตามินตัวสาคัญไม่วา่ จะเป็ น
วิตามินเอที่บารุ งสายตา และผิวพรรณให้สวยสดใส วิตามินบีซ่ ึ งช่วยให้ระบบต่างๆ ภายในตัว
ของเราไม่เกเรยอมทางานได้เป็ นปกติ และวิตามินซี ช่วยป้ องกันต้านโรคร้ายต่างๆที่จะมารัง
แก ทาให้ไม่นอนซมเป็ นไข้ไม่สบายบ่อยๆ แถมแคลอรี ก็นอ้ ย กินได้คล่องปากสบายใจ
ไม่มีเรื่ องของไขมันและน้ าหนักตัวมาทาให้หวาดหวัน่
๔๒. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของซันคลาร่ า
ก. ลดน้ าหนัก ข. ผิวพรรณสดใส
ค. ป้ องกันโรคเบาหวาน ง. ป้ องกันข้อเข่าเสื่ อม
๔๓. แหล่งโฆษณาในข้อใดไม่ ได้ เป็ นแหล่งที่เผยแพร่ ผลิตภัณฑ์ซนั คลาร่ า
ก. วิทยุ ข. โทรทัศน์ ค. แผ่นพับ ง. เว็บไซต์
๔๔. ข้อใดกล่าวไม่ ถูกต้องจากบทความข้างต้น
ก. ซันคลาร่ าเป็ นผลิตภัณฑ์เสริ มอาหารไม่ใช่ยารักษาโรค
ข. ผูจ้ ดั จาหน่ายผลิตภัณฑ์ซนั คลาร่ าคือ สตาร์ ซันไซต์ จากัด
ค. สาธารณสุ ขทุกจังหวัดคือหน่วยงานแจ้งรับข้อมูลจากผูบ้ ริ โภค
บิดามารดาจานวนมากติชมลุกหลานไม่เป็ น ทาให้ไม่เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
แต่ตรงกันข้ามอาจจะเป็ นการเพาะปฏิกิริยาทางอารมณ์อนั ไม่พึงประสงค์ข้ ึนในตัวเด็กได้
ยกตัวอย่าง เด็กล้างรถไม่สะอาดเท่าที่ควร ผูใ้ หญ่ไม่ควรประณามเด็กว่าเขาเป็ นเด็กไม่ดีทางาน
ไม่เรี ยบร้อย หรื อกล่าวหาว่าเด็กพุดปด ไม่ได้ทาความสะอาดรถจริ ง คาพูดเหล่านี้จะทาให้
เด็กเกิดความรู ้สึกตามคาพูดของผูใ้ หญ่ คิดว่าตนเองเป็ นคนไม่ดีจริ ง ขาดความพอใจภูมิใจใน
ตนเอง ทางที่ดีผใู ้ หญ่ควรชี้ให้เด็กเห็นอย่างเรี ยบๆ ว่ามีส่วนใดบ้างที่ยงั ไม่สะอาด แล้วสอน
เด็กด้วยว่า ทาอย่างไรจึงจะทางานได้ดีตามที่ผใู ้ หญ่ตอ้ งการ ทั้งนี้ ต้องพิจารณาตามอายุ
และความสามารถที่เด็กจะสนองความต้องการของผูใ้ หญ่ดว้ ย
๖๑. ข้อความข้างต้นลาดับโครงสร้างการแสดงทรรศนะอย่างไร
ก. ที่มา ข้อสนับสนุน ข้อเสนอแนะ ข. ข้อสนับสนุน ที่มา ข้อสนับสนุน
ค. ที่มา ข้อเสนอแนะ ข้อสรุ ป ง. ข้อสรุ ป ข้อสนับสนุน ที่มา ข้อสรุ ป
๖๒. ข้อความข้างต้นแสดงทรรศนะประเภทใด
ก. ทรรศนะเชิงข้อเท็จจริ ง ข. ทรรศนะเชิงนโยบาย
ค. ทรรศนะเชิงคุณค่า ง. ทรรศนะเชิ งข้อเท็จจริ ง และทรรศนะเชิงนโยบาย
๖๓. ผูเ้ ขียนกล่าวถึงประเด็นสาคัญข้อใด
ก. การเปิ ดโลกทรรศน์ของผูใ้ หญ่
ข. เด็กขาดความภาคภูมิใจในตนเอง
ค. วิธีการพูดของผูใ้ หญ่เมื่อต้องการตักเตือนหรื อกล่าวชมเด็ก
ง. ผูใ้ หญ่ตอ้ งดูอายุและความสามารถของเด็กด้วยเมื่อสั่งให้เด็กทางาน
๖๗. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ภาษาเป็ นเครื่ องมือสื่ อสาร ข. ภาษาแสดงให้เห็นเอกลักษณ์ประจาชาติ
ค. ภาษาเป็ นเครื่ องมือแสดงให้เห็นวัฒนธรรม
ง. ภาษาเป็ นเครื่ องมือปลูกจิตสานึกความเป็ นไทย
๗๖. ข้อใดเขียนสาระสาคัญของข้อความนี้ได้ถูกต้องที่สุด
ก. ชีวติ คนเราไม่ได้ราบรื่ นเสมอไป มักมีปัญหาและอุปสรรคให้แก้ไขอยูเ่ สมอ
ข. การถูกทอดทิ้ง เหยียบย่า ถูกใครต่อใครซ้ าเติม ทาให้เรามองเห็นคุณค่าของตนเอง
ค. ทุกคนต่างเคยทาผิดพลาดในชีวติ เราไม่ควรประเมินคุณค่าของผูอ้ ื่นจากความผิดพลาดเหล่านั้น
ง. คนทุกคนมีคุณค่าของความเป็ นคนเสมอ ซึ่ งความผิดพลาดในชีวติ ไม่สามารถทาลายคุณค่านั้นได้
แต่ความปวดร้าวขมขื่นทนทุกข์ทรมานให้คุณอะไรแก่คนเราบ้าง ตราบใดที่ลืมมันไม่
ได้ฉนั รู ้วา่ รื่ นและสุ ดใจต้องโศกเศร้าเสี ยใจเพียงใดในการที่ตอ้ งสู ญเสี ยลูกคนหัวปี ไป ฉันรู ้วา่
ทุกคนได้รับความทุกข์เพียงไหนด้วยการพลัดพรากจากผูท้ ี่ตนรักและทรัพย์สมบัติใดๆ ที่
อุตส่ าห์สะสมมาชัว่ อายุ รื่ นเองผ่านชีวติ มามาก ท่องเที่ยวมาไกล เข้าใจอะไรได้ดีกว่าใครๆ
สมัยปู่ ย่าตายายเราขึ้นไป ห่าลงกินคนตายทั้งเมือง ท่านยังสร้างใหม่ได้ สามะหาอะไรกับ
หมู่บา้ นสามะหาอะไรกับตาบล
ทุ่งมหาราช ของ เรี ยมเอง
ปรัชญาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง เป็ นปรัชญาชี้ถึงแนวการดารงอยูแ่ ละปฏิบตั ิตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่
ระดับครอบครัวระดับชุ มชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริ หารประเทศให้ดาเนิ นไป
ใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้กา้ วทันต่อโลกยุคโลกาภิวตั น์ ความพอ
เพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็ นที่จะต้องมีระบบภูมิคุม้ กันใน
ตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน
ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู ้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิง่ ในการนาวิชาการต่างๆมา
ใช้ในการวางแผนและการดาเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริ มสร้างพื้นฐานจิตใจ
ของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุ รกิจในทุกระดับให้มีสานึกในคุณธรรม
ความซื่อสัตย์สุจริ ต และให้มีความรอบรู ้ที่เหมาะสม ดาเนินชี วิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ
ปั ญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ วและ
กว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่ งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็ นอย่างดี
การเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวติ ประจาวัน
แนวคิด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมิพลอดุลยเดช ได้พฒั นาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อที่จะให้พสกนิกรชาวไทยได้เข้าถึงทางสายกลางของชีวติ และเพื่อคงไว้ซ่ ึงทฤษฏีของการพัฒนาที่
ยัง่ ยืน ทฤษฎีน้ ีเป็ นพื้นฐานของการดารงชีวิตซึ่ งอยูร่ ะหว่าง สังคมระดับท้องถิ่นและตลอดระดับสากล
จุดเด่นของแนวปรัชญานี้คือ แนวทางที่สมดุล โดยชาติสามารถทันสมัย และก้าวสู่ ความเป็ นสากลได้ โดย
ปราศจากการต่อต้านกระแสโลกาภิวฒั น์ และการอยูร่ วมกันของทุกคนในสังคม
คาว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” นั้นหากแปลเป็ นอังกฤษจะได้วา่ Sufficiency Economy ซึ่งเป็ นพระราช
ดารัสที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ได้พระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทยไว้เมื่อประมาณ 25 ปี
มาแล้ว อาจเรี ยกว่า เป็ นทฤษฏีใหม่ก็ได้เพราะว่าเกิดจากแนวดาริ ที่พระองค์เป็ นคนคิดค้นขึ้นมา เหตุที่
เรี ยกว่า ทฤษฏีใหม่ก็เพราะว่า คาว่า“เศรษฐกิจพอเพียง”นั้น ไม่มีบญั ญัติไว้ในพจนานุกรมมาก่อน
พระองค์ทรงคิดขึ้นมาด้วยพระองค์เอง นับได้วา่ เป็ นความอัจริ ยะภาพของพระองค์อย่างยิง่ ทาให้เป็ นที่
ยอมรับกันทัว่ โลก ในฐานะ“กษัตริ ยน์ กั ปฏิรูป” หากจะกล่าวถึงคาว่า เศรษฐกิจพอเพียงนั้น เราอาจจะคิด
ว่ามันเป็ นเรื่ องไกลตัวเป็ นเรื่ องของเศรษฐกิจน้อย ใหญ่ เป็ นเรื่ องเชย เป็ นเรื่ องของชาวนา ชาวสวน แต่
ผูเ้ ขียนก็พ่ งึ จะเข้าใจนี่ เองว่า เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้สอนให้เราจน หรื อว่า สอนให้เรามีเท่าไหร่ ก็พอแค่
นั้น ไม่หามาเพิ่ม ไม่ขวนขวายอีก อั้นนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ตอ้ งการ ปรัชญานี้สอนให้เรา เดินอยูบ่ นความ
พอดี อย่างเช่น ถ้าหากว่าเราเป็ นคนจนมากๆ อยูม่ าวันหนึ่ ง มีคนพาเราไปกินอาหารภัตตาคารที่แพงที่สุด
ในโลก ได้กินอาหารรสเลิศ ..ถ้าเราเห็นแก่กินเกินไป คือ มีเท่าไหร่ ก็กินให้หมด เอาให้คุม้ พอกินไปกินมา
ลืมไปว่า กระเพาะเราก็มีความจุจากัดเหมือนกัน กินซะจนกระเพาะแตกและตายในที่สุด …แต่หากว่า เรา
ไม่โลภ รู ้จกั ความพอดี เราก็จะกินแต่เพียงว่าอร่ อย พออิ่มท้อง พอใจในอัตภาพที่กาลังเป็ นอยู่ เราก็จะมี
ความสุ ขได้ ต่อมาก็ตรากตราทางานหาเงินเก็บ เอาไปลงทุนในทางที่สุจริ ต ซักวันเราก็รวยได้เหมือนกัน
แต่ถา้ วันนั้นเรากินจนท้องแตกตายเสี ยก่อน เราก็ไม่มีโอกาสที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ ไม่มีโอกาสที่จะ
ยกระดับครอบครัวอีกแล้ว
๖.
เว้นวิจารณ์วา่ งเว้น สดับฟัง
เว้นที่ถามอันยัง ไป่ รู ้
เว้นเล่าลิขิตสัง เกดว่าง เว้นนา
เว้นดัง่ กล่าวว่าผู ้ ปราชญ์ได้ฤามี
๗.
ทั้งการบ้านการเมืองเรื่ องใหญ่นอ้ ย มิควรปล่อยอารมณ์แรงแกล้งเหยียดหยาม
ถ้าถ้อยทีโอนอ่อนค่อยผ่อนตาม ไม่ววู่ ามงานสัมฤทธิ์ สมจิตเอย
๑๘. ข้อใดสอดคล้องกับบทประพันธ์ต่อไปนี้
ก. กุลสตรี ข. สิ ทธิสตรี
ค. ภรรยาที่ดี ง. ภาระของแม่บา้ น
๒๒. คาประพันธ์ใดตรงกับสานวนที่วา่ “กงเกวียนกาเกวียน”
ก. ความรู ้ผปู ้ ราชญ์น้ นั นักเรี ยน
ฝนทัง่ เท่าเข็มเพียร ผ่ายหน้า
คนเกียจเกลียดหน่ายเวียน วนจิต
กลอุทกในตะกร้า เปี่ ยมล้นฤๅมี
ข. รักกันอยูข่ อบฟ้า เขาเขียว
เสมออยูห่ อแห่งเดียว ร่ วมห้อง
ชังกันบ่แลเหลียว ตาต่อ กันนา
เหมือนขอบฟ้ามาป้ อง ป่ าไม้มาบัง
ค. เว้นวิจารณ์วา่ งเว้น สดับฟัง
เว้นที่ถามอันยัง ไป่ รู ้
เว้นเล่าลิขิตสัง- เกตว่าง เว้นนา
เว้นดัง่ กล่าวว่าผู ้ ปราชญ์ได้ฤๅมี
ง. สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้ อ ในตน
กินกัดเนื้ อเหล็กจน กร่ อนขร้ า
บาปเกิดแต่ตนคน เป็ นบาป
บาปย่อมทาโทษซ้ า ใส่ ผบู ้ าปเอง
บัดนั้น เสนาโยธากระบี่ศรี
ฟังราชบรรหารพระจักรี ยินดีดงั่ ได้โสฬส
ต่างตนต่างทูลอาสา โดยกาลังฤทธาด้วยกันหมด
บ้างจะโน้มพระเมรุ บรรพต ลงเป็ นทางบทจรไป
บ้างจะวิดวักตักสมุทร ให้แห้งหยุดเป็ นหนทางใหญ่
บ้างจะเอารี้ พลสกลไกร ใส่ ในหัตถาแล้วพาจร
บ้างจะนิมิตเป็ นสาเภา ใหญ่เท่าอัสกรรณสิ งขร
บ้างจะเอาหางพาดสาคร ให้วานรไต่ขา้ มชลธีฯ
(รามเกียรติ์ : รัชกาลที่ ๑)
จะพูดจากปราศรัยกับใครนั้น อย่าตะคั้นตะคอกให้เคืองหู
ไม่ควรพูดอื้ออึงขึ้นมึงกู คนจะหลู่ล่วงลามไม่ขามใจ
แม้จะเรี ยนวิชาทางค้าขาย อย่าปากร้ายพูดจาอัชฌาสัย
จึงซื้ อง่ายขายดีมีกาไร ด้วยเขาไม่เคืองจิตระอิดระอา
เป็ นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
(สุ ภาษิตสอนหญิง: สุ นทรภู่)
จงอ่านคาประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคาถามข้อที่ ๗๓ – ๗๘
๘๖. คาไทยนั้นมีดีมากมายยกเว้นข้อใด
ก. มีความหมาย ข. มีรสคา ค. มีน้ าหนัก ง. มีที่มาที่ไป
๘๗. จากคาประพันธ์ขา้ งต้นทาให้เรารู ้วา่ เดิมภาษาไทยมีลกั ษณะอย่างไร
ก. เป็ นคาโดด ข. เป็ นคาซ้อน ค. เป็ นคามูล ง. เป็ นคาประสม
๘๘. คาประพันธ์ขา้ งต้นนี้ช้ ีให้เห็นความสาคัญของอะไร
ก. ความมีอานาจของคา ข. วรรณยุกต์ที่มีใช้อยูใ่ นภาษาไทย
ค. ภาษาไทยที่มีความไพเราะดุจเสี ยงดนตรี
ง. คาในภาษาไทยคาเดียวสามารถทาให้มีความหมายขึ้นอีกมากมายได้
๘๙. คาประพันธ์ในข้อใดไม่ มีคาสัมผัสพยัญชนะ
ก. ดุจสาเนียงดนตรี ที่รื่นรมย์ ข. มีอานาจเหนือใจคนชอบกลนัก
ค. อวยประโยชน์ฟังเพราะเสนาะสม ง. เห็นหาบหามมะม่วงห่ามห้ามเหหัน
๙๐. คาประพันธ์ในข้อใดมีคาสัมผัสอักษรมากที่สุด
ก. ได้ประจักษ์คุณค่าน่าชื่นชม ข. มีความหมายมีรสคามีน้ าหนัก
ค. กระดาษขาวเขาลงข่าวข้าวแพงครัน ง. เช่นหาบห้ามมะม่วงห่ามห้ามเหหัน
การเรียงประโยค
เทคนิคการทาข้ อสอบ การเรียงประโยค
๑. หาข้อขึ้นต้นประโยค โดยยึดหลักดังนี้
คานาม รวมทั้งคา “การ+กริ ยา” และ “ความ+ วิเศษณ์”
ช่วงเวลา รวมทั้งคา เมื่อ ใน (ช่วงเวลาถ้าไม่ข้ ึนต้นก็จะอยูป่ ระโยคสุ ดท้าย)
คาเชื่อมบางคา เนื่องจาก แม้วา่ ถ้า หาก คาเหล่านี้จะขึ้นต้นได้ตอ้ งรวมกับคานาม
หนังสื อราชการ ขึ้นต้นด้วย ตาม ตามที่ ด้วย
๒. คาเชื่อม ที่ , ซึ่ง, อัน, ผู ้ ,เพื่อ, ใน, โดย, ด้วย, สาหรับ ,ของ,จาก ,ตาม
คาเหล่านี้ข้ ึนต้นประโยคไม่ได้ ยกเว้นคาว่า ใน+นาม จาก+นาม ตาม+ข้อบังคับ ตาม+หน่วยงาน และถ้าคา
เหล่านี้อยูก่ ลางประโยคถือเป็ นส่ วนขยายให้ตดั ส่ วนขยายเหล่านั้นทิ้ง
๓. คาปิ ดประโยค อีกด้วย ก็ตาม นั้นเอง ต่อไป เท่านั้น ถ้าคาเหล่านี้ลงท้ายของข้อแล้วส่ วนมากข้อนั้น
จะเป็ นข้อสุ ดท้าย ช่วงเวลา ประโยคคาถาม
๔. โครงสร้างประโยคที่ใช้บ่อย ทั้ง…และ….รวมทั้ง(ตลอดจน) นอกจาก……แล้วยัง(ยังต้อง) ไม่………
แต่ แม้…แต่ ดังนั้น+นาม+จึง ถ้า……แล้ว(ยัง)
๕. คานามที่เป็ นชื่อเฉพาะจะต้องบวกคากริ ยา เช่น ประเทศสมาชิกอาเซี ยน กระทรวงมหาดไทย
๖. หากมีขอ้ ใดขึ้นต้นด้วยคาว่า และ หรื อ ให้ใช้เทคนิคหาคาที่มีความหมายใกล้เคียงกัน
๗. หากมีขอ้ ใดขึ้นด้วยคาว่า กับ ต่อ ให้หาคากริ ยาที่ใช้คู่กนั เช่น ประสานกับ ชี้แจงกับ ผลต่อ
๘. ในการเรี ยงหากเหลือ ๒ ข้อ ให้พิจารณากริ ยาใดเกิดขึ้นก่อน หรื อเกิดทีหลัง
ตัวอย่างที่ ๑
โจทย์ : ข้อความใดอยูล่ าดับที่ ๑
ก. ที่สาคัญก็มีดินและทราย ซึ่ งกลายเป็ นขี้เถ้าหลังจากถ่านหิ นเผาไหม้
ข. ซึ่ งจะนาไปเจือปนอยูใ่ นโลหะที่ถลุง
ค. ในเนื้อของถ่านหิ น ยังมีสารอนิ นทรี ยเ์ จือปนอีกหลายอย่าง
ง. และยังมีสารประกอบของกามะถันและฟอสฟอรัส
การคิดวิเคราะห์
ข้อนี้ โจทย์ให้ตอ้ งการหาข้อความที่อยูต่ น้ ประโยคเลย ดังนั้น เพื่อให้เป็ นการประหยัดเวลาการทาในข้อนี้
และเอาเวลาที่เหลือไปใช้ในข้ออื่น เมื่อเราหาข้อความแรกได้แล้ว ก็ไม่ตอ้ งไปหาข้อความที่เหลือ
ต่อไปพิจารณาตัวเลือก คาว่า “ที่” “ซึ่ง” “และ” นั้น ไม่สามารถเป็ นคาแรกของประโยคได้ เพราะเป็ น
สันธาน ที่มีหน้าที่เชื่ อมคา หรื อข้อความ หรื อประโยค ดังนั้น จะต้องมีคาหรื อข้อความ หรื อประโยคมา
ก่อน ดังนั้น ในข้อนี้ เราสามารถชี้ชดั ได้เลยว่า ข้อ ค. คือคาตอบที่ถูกต้อง
จงเลือกคาตอบข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว
๑. ข้อความต่อไปนี้ควรจัดเรี ยงลาดับตามข้อใดจึงจะได้ความสมบูรณ์
ก. ดอกแตงโมอ่อนรวมกับผักอื่นๆ นามาแกงเลียง
ข. ยอดแตงโมอ่อนคนมักเก็บมาต้มกับกะทิจิ้มน้ าพริ กกิน
ค. ผลอ่อนเขาก็เอามาแกงส้มใช้ท้ งั เนื้อทั้งเมล็ดอร่ อยมาก
ง. ผลแก่น้ นั ใช้รับประทาน เนื้ อหวานเย็น ชุ่มคอชื่นใจดี
ก. ก.,ข.,ค.,และ ง. ข. ก.,ค.,ง.,และ ข. ค. ข.,ก.,ค.,และ ง. ง. ข.,ค.,ง.,และ ก.
๒. คาพูดของประธานในที่ประชุมต่อไปนี้ ควรเรี ยงลาดับตามข้อใดให้ถูกต้อง ตามระเบียบวาระการ
ประชุม
ก. “กรรมการท่านใดจะขอแก้ไขรายงานการประชุมครั้งนี้เชิ ญได้ครับ”
ข. “ประธานฝ่ ายจัดหารายได้ได้แจ้งมายังผมว่าป่ วย จึงขอลาประชุมในวันนี้”
ค. “ขอให้ประธานคณะกรรมการแต่ละฝ่ ายรายงานความก้าวหน้าการเตรี ยมงานวันสุ นทรภู่”
ง. “วาระต่อไปเป็ นการพิจารณาเสนอผูแ้ ทนนักเรี ยนไปร่ วมแข่งขันกลอนสดกับโรงเรี ยนประจา
จังหวัด”
ก. ข., ค.,ง., และ ก. ข. ค., ก., ง., และ ข. ค. ก.,ข.,ค.,และ ง. ง. ข.,ก.,ค.,และ ง.
๓. ข้อความใดอยูล่ าดับที่ ๓
ก. เป็ นนักรบ ที่เร่ รอนไปในบริ เวณภาคตะวันออกเฉี ยงใต้ของทะเลสาบใบคาล
ข. ซึ่งปกครองจีนระหว่าง พ.ศ. ๑๖๑๑ – ๑๙๔๙
ค. ในบันทึกเหตุการณ์ของราชวงศ์ถงั
ง. ได้กล่าวถึงพวกมองโกล
๔. ข้อความใดอยูล่ าดับที่ ๓
ก. เป็ นนามพระราชทานโดยรัชกาลที่ ๔
ข. ถือเป็ นสิ่ งพิมพ์ประเภทวารสารฉบับแรกของประเทศไทย
ค. ราชกิจจานุเบกษาเป็ นคาสันสฤต แปลว่า หนังสื อเพ่งดูราชกิจ
ง. เริ่ มออกฉบับแรกเมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๐๑
๕. ข้อความใดอยูล่ าดับที่ ๒
ก. ผูม้ ีอานาจแต่งตั้ง ซึ่ งรู ้อยูแ่ ล้วว่า ข. ไม่วา่ ด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม
ค. ตนจะต้องพ้นจากตาแหน่งหน้าที่ราชการไป ง. ไม่พึงแต่งตั้งข้าราชการพลเรื อนไว้ล่วงหน้า
๘. เฉลยตอบข้ อ ก. และอ่านด้วยวิธีการที่เหมาะสม
อธิบาย โจทย์ให้ตอ้ งการหาข้อความที่อยูใ่ นลาดับที่ ๒ ดังนั้น เราอาจจะไม่จาเป็ นต้องเรี ยงประโยค
ในครบก็ได้ เพราะ ถ้าหาข้อความแรกได้แล้ว ก็น่าจะหาข้อความที่สองได้เอง
ในตัวเลือกทั้ง ๔ ตัวเลือกนั้น คาว่า “และ”, “โดย”, “เพื่อ” ไม่สามารถเป็ นคาแรกของของประโยคได้
ดังนั้น ข้อความแรกคือ ข. ผูอ้ ่านต้องกาหนดเป้ าหมายในการอ่าน เรามาลองเรี ยงข้อความดู
แบบที่ ๑ ข. [ผูอ้ ่านต้องกาหนดเป้ าหมายในการอ่าน] ก. [และอ่านด้วยวิธีการที่เหมาะสม]
แบบที่ ๒ ข. [ผูอ้ ่านต้องกาหนดเป้ าหมายในการอ่าน] ค. [โดยใช้เวลาและแรงงานน้อยที่สุด]
แบบที่ ๓ ข. [ผูอ้ ่านต้องกาหนดเป้ าหมายในการอ่าน] ง. [เพื่อให้บรรลุเป้ าหมายมากยิง่ ขึ้น]
จะเห็นว่า ข้อความในแบบที่ 1 อ่านแล้วราบรื่ น ไม่สดุดอย่างแบบที่ ๒ กับ แบบที่ ๓ ดังนั้น ในข้อนี้
คาตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ ก.
๙. เฉลยตอบข้ อ ข. ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของพื้นที่เสี ยหาย
อธิบาย ข้อนี้ โจทย์ให้ตอ้ งการหาข้อความที่อยูใ่ นลาดับที่ ๔ ดังนั้น ต้องเรี ยงประโยคให้ครบถ้วน
เสี ยก่อน จึงจะรู ้วา่ ข้อใดถูกในตัวเลือกทั้ง ๔ ตัวเลือกนั้น คาว่า “เป็ น”, “จะ” ไม่สามารถเป็ นคาแรกของ
ของประโยคได้ ดังนั้น ข้อความแรกจะต้องเป็ นข้อ ข. หรื อ ข้อ ง. เมื่ออ่านแล้ว จะพบว่า ข้อ ง. เป็ น
ข้อความแรก เพราะ อ่านแล้วมีเนื้อหาเหมาะสมครบถ้วนกว่าข้อ ข.ลองเรี ยงข้อความดู
แบบที่ ๑ ง. [เกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือจะต้องเป็ นผูป้ ระสบภัยธรรมชาติ] ก. [เป็ นเหตุให้
พืชผลได้รับความเสี ยหายโดยสิ้ นเชิง]
แบบที่ ๒ ง. [เกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือจะต้องเป็ นผูป้ ระสบภัยธรรมชาติ] ข. [ในอัตราไม่เกิน
ร้อยละ ๓๐ ของพื้นที่เสี ยหาย]
แบบที่ ๓ ง. [เกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือจะต้องเป็ นผูป้ ระสบภัยธรรมชาติ] ค. [จะได้รับความ
ช่วยเหลือพันธุ์พืชอายุส้ นั เพื่อปลูกทดแทน]จะเห็นว่า ข้อความในแบบที่ ๑ อ่านแล้วราบรื่ น ไม่สะดุดอย่าง
แบบที่ ๒ กับ แบบที่ ๓ ดังนั้น ข้อ ก. เป็ นข้อความในลาดับที่ ๒ เรามาเรี ยงข้อความดูอีก ๑ ครั้ง
แบบที่ ๑ ง. [เกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือจะต้องเป็ นผูป้ ระสบภัยธรรมชาติ] ก. [เป็ นเหตุให้
พืชผลได้รับความเสี ยหายโดยสิ้ นเชิง] ข. [ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของพื้นที่เสี ยหาย]
แบบที่ ๒ ง. [เกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือจะต้องเป็ นผูป้ ระสบภัยธรรมชาติ] ก. [เป็ นเหตุให้
พืชผลได้รับความเสี ยหายโดยสิ้ นเชิง] ค. [จะได้รับความช่วยเหลือพันธุ์พืชอายุส้ นั เพื่อปลูกทดแทน]จะ
เห็นว่า ข้อความในแบบที่ ๒ อ่านแล้วราบรื่ น ไม่สะดุดอย่างแบบที่ ๑ การเรี ยงในแบบที่ ๒ จึงถูกต้อง
ดังนั้น คาตอบที่ถูกในข้อนี้ คือ ข้อ ข
แบบที่ ๒
ค. [ในการอนุรักษ์และพัฒนาสายพันธุ์] ข. [การจัดทาทะเบียนสัตว์น้ า] ก. [ช่วยให้เกิด
ประสิ ทธิภาพ] ง. [และเป็ นประโยชน์ต่อการวางแผน]
ดังนั้น ข้อที่ถูกในข้อนี้คือ ข้อ ง.
๒๒. เฉลยตอบข้ อ ค. ดังนั้นชาวพุทธที่ปรารถนาถวายกฐิน
อธิ บาย ข้อนี้ โจทย์ให้ตอ้ งการหาข้อความที่อยูใ่ นลาดับที่ ๓ ดังนั้น เราอาจจะต้องเรี ยงประโยคใน
ครบถ้วน จึงจะหาข้อที่ถูกต้องได้
ในตัวเลือกทั้ง ๔ ตัวเลือกนั้น คาว่า “จึง”, “ดังนั้น”, “เพราะ” ไม่สามารถเป็ นคาแรกของของ
ประโยคได้ ดังนั้น ข้อความแรกจึงเป็ น ข้อ ก. ทอดกฐินเป็ นกาลทาน เป็ นทานที่ทาได้ยาก
เรามาลองเรี ยงข้อความดู
แบบที่ ๑ ก. [ทอดกฐินเป็ นกาลทาน เป็ นทานที่ทาได้ยาก ] ข. [จึงต้องขวานขวายด้วยเจตนาอัน
แรงกล้า]
แบบที่ ๒ ก. [ทอดกฐินเป็ นกาลทาน เป็ นทานที่ทาได้ยาก ] ค. [ดังนั้น ชาวพุทธที่ปรารถนาถวาย
กฐิน]
แบบที่ ๓
ก. [ทอดกฐินเป็ นกาลทาน เป็ นทานที่ทาได้ยาก ] ง. [เพราะเวลาจากัดเพียงเดือนเดียวเท่านั้น]
จะเห็นว่า ข้อความในแบบที่ ๓ อ่านได้ราบรื่ น ไม่สะดุดอย่างแบบที่ ๑ กับ แบบที่ ๒
ข้อความต่อมาตามที่โจทย์ตอ้ งการจึงควรเป็ นข้อ ค.
หมายเหตุ
ข้อความที่ถูกต้องของโจทย์เป็ นดังนี้
ทอดกฐินเป็ นกาลทาน เป็ นทานที่ทาได้ยาก เพราะ เวลาจากัดเพียงเดือนเดียวเท่านั้น ดังนั้น ชาวพุทธที่
ปรารถนาถวายกฐิน จึงต้องขวานขวายด้วยเจตนาอันแรงกล้า
๒๓. เฉลยตอบข้ อ ก. เพราะเป็ นจิตใจที่สงบ และเยือกเย็น
อธิบาย ข้อนี้ โจทย์ให้ตอ้ งการหาข้อความที่อยูใ่ นลาดับที่ 2 ดังนั้น เราอาจจะไม่จาเป็ นต้องเรี ยง
ประโยคในครบก็ได้ เพราะ ถ้าหาข้อความแรกได้แล้ว ก็น่าจะหาข้อความที่สองได้เอง
ในตัวเลือกทั้ง 4 ตัวเลือกนั้น คาว่า “เพราะ”, “มี”, “ทาให้ ” ไม่สามารถเป็ นคาแรกของของประโยคได้
ดังนั้น ข้อความลาดับแรก คือ ข้อ ง. จิตใจสะอาด ปลอดโปร่ งจากสิ่ งรบกวนนี้สาคัญมาก ลองเรี ยง
ข้อความดู
แบบที่ ๑
ง. [จิตใจสะอาด ปลอดโปร่ งจากสิง่ รบกวนนี ้สาคัญมาก] ก. [เพราะเป็ นจิตใจที่สงบ และเยือกเย็น]
แบบที่ ๒
ง. [จิตใจสะอาด ปลอดโปร่ งจากสิ่ งรบกวนนี้สาคัญมาก] ข. [มีวจิ ารณญาณละเอียด กว้างขวาง และ
ถูกต้องตรงจุด]
แบบที่ ๓
ง. [จิตใจสะอาด ปลอดโปร่ งจากสิ่ งรบกวนนี้สาคัญมาก] ค. [ทาให้บุคคลมีสติ รู ้ตวั ]
จะเห็นว่า ข้อความในแบบที่ ๑ อ่านแล้วราบรื่ น ไม่สะดุดอย่างแบบที่ ๒ กับแบบที่ ๓ ดังนั้น ในข้อ
นี้ คาตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ ก.
๒๔. เฉลย ตอบข้ อ ค. ในเนื้อของถ่านหิ น ยังมีสารอนิ นทรี ยเ์ จือปนอีกหลายอย่าง
อธิบาย ข้อนี้ โจทย์ให้ตอ้ งการหาข้อความที่อยูต่ น้ ประโยคเลย ดังนั้น เพื่อให้เป็ นการประหยัดเวลา
การทาในข้อนี้ และเอาเวลาที่เหลือไปใช้ในข้ออื่น เมื่อเราหาข้อความแรกได้แล้ว ก็ไม่ตอ้ งไปหาข้อความ
ที่เหลือต่อไปพิจารณาตัวเลือก คาว่า “ที่” “ซึ่ง” “และ” นั้น ไม่สามารถเป็ นคาแรกของประโยคได้ เพราะ
เป็ นสันธาน ที่มีหน้าที่เชื่อมคา หรื อข้อความ หรื อประโยค ดังนั้น จะต้องมีคาหรื อข้อความ หรื อประโยค
มาก่อน ดังนั้น ในข้อนี้ เราสามารถชี้ชดั ได้เลยว่า ข้อ ค. คือคาตอบที่ถูกต้อ
๒๕. เฉลย ตอบข้ อ ง. ได้กล่าวถึงพวกมองโกล
อธิบาย ข้อนี้ โจทย์ให้ตอ้ งการหาข้อความที่อยูใ่ นลาดับที่ ๓ ดังนั้น เราจึงจาเป็ นต้องเรี ยง
ประโยคให้ได้ความหมายครบถ้วนเสี ยก่อน
ในตัวเลือกทั้ง ๔ ตัวเลือกนั้น คาว่า “เป็ น” “ซึ่ง” และ “ได้ ” ไม่สามารถเป็ นคาแรกของของประโยคได้
คาว่า “เป็ น” เป็ นคากริ ยา ซึ่ งต้องคานามเป็ นประธานอยูข่ า้ งหน้า
คาว่า “ซึ่ง” เป็ นคาเชื่ อม ที่ตอ้ งมีขอ้ ความอยูข่ า้ งหน้า
คาว่า “ได้ กล่าวถึง” เป็ นคากริ ยา ซึ่ งต้องคานามเป็ นประธานอยูข่ า้ งหน้า
แบบที่ ๑
ก. [ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ] ค. [คณะรัฐมนตรี อนุมตั ิการทาความตกลงยกเว้นการ
ตรวจลงตราหนังสื อการทูต] ข. [กับสาธารณรัฐประชาธิ ปไตยประชาชนลาว] ง. [และความตกลงยกเว้น
หนังสื อเดินทางทูตและราชการกับบราซิ ลและอาเจนติน่า]
แบบที่ ๒
ก. [ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ] ค. [คณะรัฐมนตรี อนุมตั ิการทาความตกลงยกเว้นการ
ตรวจลงตราหนังสื อการทูต] ง. [และความตกลงยกเว้นหนังสื อเดินทางทูตและราชการกับบราซิ ลและอา
เจนติน่า] ข. [กับสาธารณรัฐประชาธิ ปไตยประชาชนลาว]จะเห็นว่า ข้อความในแบบที่ ๑ อ่านแล้วราบรื่ น
ไม่สะดุดอย่างแบบที่ ๒ ดังนั้น ข้อที่ถูกในข้อนี้ คือ ข้อ ข.
๓๑. เฉลยตอบข้อ ก. โดยให้ภาคเอกชนเป็ นแกนนาในการจัดตั้งบริ ษทั
อธิ บาย ข้อความดังกล่าวนั้นเป็ นภาษาราชการ ดังนั้น ข้อ ข. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่ วมถือ
หุน้ เพื่อดาเนินการ มีโอกาสที่เป็ นข้อความในลาดับแรกมากที่สุด
อย่างไรก็ดี ในตัวเลือกทั้ง ๔ ตัวเลือกนั้น คาว่า “โดยให้ ”, “เนื่องจาก” ไม่สามารถเป็ นคาแรกของของ
ประโยคได้ ดังนั้น ข้อความแรกและข้อความที่สองจึงเป็ น ข้อ ข. ตามด้วยข้อ ง.
ข. [ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่ วมถือหุ น้ เพื่อดาเนินการ] ง. [บริ ษทั บริ หารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์
สิ่ งแวดล้อม จากัด]
ในการหาข้อความในลาดับที่ 3 เราจึงต้องลองเรี ยงข้อความทั้งหมดเพื่อพิจารณา ดังนี้
แบบที่ ๑
ข. [ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่ วมถือหุ น้ เพื่อดาเนินการ] ง. [บริ ษทั บริ หารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์
สิ่ งแวดล้อม จากัด] ก. [โดยให้ภาคเอกชนเป็ นแกนนาในการจัดตั้งบริ ษทั ] ค. [เนื่องจากมีความพร้อมอยู่
แล้ว]
แบบที่ ๒
ข. [ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่ วมถือหุ น้ เพื่อดาเนินการ] ง. [บริ ษทั บริ หารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์
สิ่ งแวดล้อม จากัด] ค. [เนื่องจากมีความพร้อมอยูแ่ ล้ว] ก. [โดยให้ภาคเอกชนเป็ นแกนนาในการจัดตั้ง
บริ ษทั ]
จะเห็นว่า ข้อความทั้ง ๒ แบบอ่านได้ราบรื่ น ไม่สะดุดพอๆ กัน แต่ในความเป็ นจริ งนั้น การตั้ง
บริ ษทั นั้น ภาคเอกชนจะมีความพร้อมกว่าภาครัฐ ดังนั้น ข้อ ค. จึงควรขยายข้อ ก.
ดังนั้น ข้อที่ถูกในข้อนี้คือ ข้อ ก.
แบบที่ ๒
ค. [รอบๆ บริ เวณที่ขา้ พเจ้ายืนอยู]่ จ. [เป็ นสนามหญ้าและไม้ยนื ต้นร่ มรื่ นน่าสบาย] ข. [ลมจาก
แม่น้ าพัดเฉื่ อยฉิ ว]
แบบที่ ๓
ค. [รอบๆ บริ เวณที่ขา้ พเจ้ายืนอยู]่ จ. [เป็ นสนามหญ้าและไม้ยนื ต้นร่ มรื่ นน่าสบาย] ง. [ก็คงจะ
รื่ นรมย์เป็ นอันมาก]
จะเห็นว่า ข้อความในแบบที่ ๒ อ่านแล้วราบรื่ น ไม่สะดุดอย่างแบบที่ 1 กับแบบที่ 3
ดังนั้น ข้อที่ถูกในข้อนี้คือ ข้อ ข.
หมายเหตุ
ข้อความที่ถูกต้องของโจทย์เป็ นดังนี้
รอบๆ บริ เวณที่ขา้ พเจ้ายืนอยู่ เป็ นสนามหญ้าและไม้ยนื ต้นร่ มรื่ นน่าสบาย ลมจากแม่น้ าพัดเฉื่ อยฉิ ว
ถ้าไม่มีกลิ่นน้ าเน่าตลบอบอวลแล้ว ก็คงจะรื่ นรมย์เป็ นอัน
๓๕. เฉลยตอบข้ อ ก. อนุชนที่กาลังเกิดมาควรรู ้ซ้ ึ งถึงความเป็ นมนุษย์
อธิ บาย ข้อนี้ โจทย์ให้ตอ้ งการหาข้อความที่อยูใ่ นลาดับที่ 4 ดังนั้น เราอาจจะต้องเรี ยงประโยคให้
ครบถ้วน จึงจะหาข้อที่ถูกต้องได้
ในตัวเลือกทั้ง ๕ ตัวเลือกนั้น คาว่า “เพื่อ”, “และ” ไม่สามารถเป็ นคาแรกของของประโยคได้
ในตัวเลือก ข้อ ก. ข้อ ข. และ ข้อ ค. ความหมายของข้อความที่จะเป็ นข้อความแรกควรเป็ นข้อ ข.
เลขาธิ การสหประชาชาติได้กล่าวว่า
ในการหาข้อความในลาดับที่ ๓ เราจึงต้องลองเรี ยงข้อความทั้งหมดเพื่อพิจารณา ดังนี้
แบบที่ ๑
ข. [เลขาธิ การสหประชาชาติได้กล่าวว่า] ก. [อนุชนที่กาลังเกิดมาควรรู ้ซ้ ึ งถึงความเป็ นมนุษย์]
แบบที่ ๒
ข. [เลขาธิ การสหประชาชาติได้กล่าวว่า] ค. [ทุกประเทศจะต้องรับรู ้สิทธิ ]
แบบที่ ๓
ข. [เลขาธิ การสหประชาชาติได้กล่าวว่า] ง. [เพื่อการสร้างสรรค์และความก้าวหน้า]
แบบที่ ๔
ข. [เลขาธิ การสหประชาชาติได้กล่าวว่า] จ. [และสนองความต้องการเป็ นพิเศษให้แก่เด็ก]
๕๑. เฉลยตอบข้ อ ก. ๑ ๒ ๓ ๔
อธิ บาย ควรเริ่ มต้นที่ขอ้ ก. ที่เป็ นใจความสาคัญหลักสาคัญที่สุดไม่ควรเอาข้อ ก. ไปวางข้างท้าย
๕๒. เฉลยตอบข้ อ ก. ข้อ ๑
อธิบาย ประโยคใจความหลัก = ประโยคสาคัญที่สุด ตัดออกไม่ได้
- ในที่น้ ีสิ่งที่ตอ้ งการเน้นมากที่สุด คือ ประโยคที่ ๑ นัน่ เอง
๕๓. เฉลยตอบข้ อ ค. ก ค ง ข
อธิ บาย เริ่ มจากบอกว่าจะจัดงานอะไร(ข้อ ก ) ที่ไหน – เมื่อไหร่ (ข้อ ค ) โดยมีแขกคือใคร(ง )
ดังนั้น ขอรบกวนใช้หอ้ ง( ข )
๕๔. เฉลยตอบข้ อ ก. บอกวัตถุประสงค์ของการจัดการสนทนา
อธิบาย บอกวัตถุประสงค์ของการจัดการสนทนา
ข้อ ข. ไม่จาเป็ นต้องบอกเลย
ข้อ ค. ก็เราบอกอยูแ่ ล้วในข้อ ก.
ข้อ ง. ให้เราเพิ่ม “ข้อมูล” ไม่ได้เพิ่มการเชิ ญ “บุคคล”
๕๕. เฉลยตอบข้ อ ค. ข ง ก ค
อธิบาย เพราะเป็ นการเรี ยงคาประพันธ์ตามฉันทลักษณ์ของกลอนสุ ภาพได้ถูกต้อง
๕๖. เฉลยตอบข้ อ ก. ๒ ๔ ๑ ๓
๕๗. เฉลยตอบข้ อ ค. ๒ ๑ ๓ ๔ ๕
๕๘. เฉลยตอบข้ อ ข. ๑ ๒ ๔ ๓
๕๙. เฉลยตอบข้ อ ง. ๔ ๑ ๒ ๓
๖๐. เฉลยตอบข้ อ ก. ๒ ๔ ๓ ๑
๖๑. เฉลยตอบข้ อ ข. ๑ ๒ ๔ ๓
๖๒. เฉลยตอบข้ อ ง. ๒ ๔ ๓ ๑
๖๓. เฉลยตอบข้ อ ง. ๓ ๑ ๔ ๒
๖๕. เฉลยตอบข้ อ ค. ๒ ๓ ๑ ๕ ๔ ๖
๖๖. เฉลยตอบข้ อ ก. ๓ ๑ ๕ ๒ ๔
๖๗. เฉลยตอบข้ อ ข. ประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ
อธิบาย ข้อนี้ โจทย์ให้ตอ้ งการหาข้อความที่อยูต่ น้ ประโยคเลย ดังนั้น เพื่อให้เป็ นการประหยัดเวลา
การทาในข้อนี้ และเอาเวลาที่เหลือไปใช้ในข้ออื่น เมื่อเราหาข้อความแรกได้แล้ว ก็ไม่ตอ้ งไปหาข้อความ
ที่เหลือต่อไปพิจารณาตัวเลือก คาว่า “ทั้ง” “เพื่อ” “ได้ดาเนิน” นั้น ไม่สามารถเป็ นคาแรกของประโยคได้
เพราะเป็ นคาเชื่อม ที่จาเป็ นจะต้องมีขอ้ ความมาก่อนหน้านี้ดงั นั้น ในข้อนี้ สามารถชี้ชดั ได้เลยว่า ข้อ ข.
คือคาตอบที่ถูกต้อง
๘๕. เฉลยตอบข้ อ ค. ๓ – ๒ – ๔ – ๑
อธิ บาย เรี ยงตามลาดับเหตุการณ์ คือ เรี ยงเวลา เช้า สาย บ่าย เย็น
๘๖. เฉลยตอบข้ อ ข. ๔ ๒ ๑ ๓
๘๗. เฉลยตอบข้ อ ค. ๒ ๑ ๔ ๓
๘๘. เฉลยตอบข้ อ ง. ๓ ๒ ๑ ๔
๘๙. เฉลยตอบข้ อ ค. ๓ ๑ ๔ ๒
๙๐. เฉลยตอบข้ อ ค. ก. ง. ค. ข.
อธิบาย การเรี ยงลาดับโครงเรื่ องเพื่อทารายงานเรื่ อง “ลาตัด ลมหายใจสุ ดท้ายของเพลงพื้นบ้าน” ตาม
ข้อที่ ค. เป็ นการเรี ยงที่เหมาะสมกว่าข้ออื่นๆ เพราะทาให้เกิดสัมพันธภาพของเนื้ อหาสาระ
๙๑.เฉลยตอบข้ อ ข. ก ค ข ง
อธิบาย เป็ นการเรี ยงลาดับได้ถูกต้องตามระเบียบวาระการประชุม
๙๒. เฉลยตอบข้ อ ง. ข้อ ค
อธิบาย ใช้ขอ้ ความที่เหมาะสมในประโยคแรกและประโยคสุ ดท้ายของการพูด
๙๓. เฉลยตอบข้ อ ง. ค ข ง ก
อธิ บาย ค. หญิงชราขาสัน่ งันงันงก ข. ขึ้นอาเภอวิตกอกหวัน่ หวัน่
ง. ยกมือไว้ปลกงกงกงัน ก. เขาตะคอกเพราะ “อิฉนั มันยากไร้”
วิธีการพิจารณาว่าจะต่อบทประพันธ์อย่างไร สามารถดูได้จากฉันทลักษณ์โดยดูสัมผัสบังคับ ลง
ท้ายตัวสะกด ถูกต้อง ดูเสี ยงวรรณยุกต์ทา้ ยวรรคดังนี้
วรรคสดับไม่นิยมเสี ยงสามัญ
วรรครับไม่นิยมเสี ยงตรี หา้ มเสี ยงสามัญ
วรรครอง ห้ามเสี ยงจัตวา ห้ามเสี ยงเดียวกับวรรครับ
วรรคส่ ง ห้ามเสี ยงจัตวา นิยมเสี ยงสามัญ หรื อเสี ยงตรี เลี่ยงเสี ยงวรรณยุกต์กบั วรรครับและ
วรรครอง ถ้าให้ดีก็ให้ดูความหมายด้วยจะได้ถูกต้องสมบูรณ์
๙๔. เฉลยตอบข้ อ ค. ง ก จ ค ข ฉ
อธิบาย ลักษณะคาประพันธ์ประเภทกาพย์ฉบัง ๑๖
ทัว่ แสนโกฏิจกั รวาลไกล จะหาผูใ้ ด
เสมอเหมือนนั้นไซร้ไป่ มี
ศรัทธามัน่ มุ่งทาดี ข. เดินโดยวิถี
อันพระพุทธองค์ทรงแสดง
๙๕. เฉลยตอบข้ อ ข. ก – ค – ง – ข – จ
อธิ บาย การกล่าวคาปราศรัยมีลาดับขั้นตอนดังนี้
ก. กล่าวถึงความสาคัญของโอกาสที่พูด ข. กล่าวเน้นถึงความสาคัญของสิ่ งนั้นๆ
ค. นาเหตุการณ์สาคัญ ๆ หรื อบุคคลที่มีบทบาทเด่นๆ มากล่าวเพื่อประโยชน์ แก่ส่วนรวม
ง. พูดถึงอดีต ปั จจุบนั และความหวังที่ดีงามในอนาคต จ. กล่าวคาอวยพร
๙๖. เฉลยตอบข้ อ ค. ง – ค – ข – ก –จ
อธิ บาย องค์ประกอบของการฟังเริ่ มจาก
ก. การได้ยนิ เป็ นขั้นแรกของการฟังเมื่อมีเสี ยงมากระทบโสตประสาท
ข. การพุง่ ความสนใจ ผูฟ้ ังจะมุ่งความสนใจไปตามเสี ยงที่ได้ยนิ นั้น
ค. การเข้าใจ ถ้าผูฟ้ ังรู ้จกั ภาษาของผูพ้ ูดก็จะรับรู ้และเข้าใจสารที่ส่งมา แต่ถา้ ผูพ้ ูดพูดภาษา
อื่นที่ผฟู ้ ังไม่รู้จกั มากก่อน ผูฟ้ ังก็ไม่สามารถรับรู ้และเข้าใจสารนั้นได้
ง. การตีความ เมื่อผูฟ้ ังเข้าใจภาษาของผูพ้ ูดแล้ว ก็ถึงขั้นของการค้นหาความหมายของ
สารที่ส่งมาว่ามีเจตนาที่แท้จริ งอย่างไร
จ. การตอบสนอง เมื่อผูฟ้ ังตีความสารที่ส่งมาได้แล้ว ก็จะตอบสนองกลับอย่างใดอย่าง
หนึ่งไปหาผูพ้ ูด เช่น พยักหน้า ส่ ายหน้า หัวเราะ พูดโต้กนั
๙๗. เฉลยตอบข้ อ ข. ข จ ค ฉ ง ก
อธิบาย ฉันทลักษณ์ที่ให้มาเป็ น “กาพย์ฉบัง ๑๖” ซึ่งจัดวรรคได้เป็ น ๖ – ๔ – ๖ = ๑ บท ดังนี้
พวกพลทุกคนคาแหง หาญเหิมฤทธิ แรง
พร้อมเพื่อผจญสงคราม
พารณคารณคาราม เสื อสิ งห์วงิ่ หลาม
แลล้วนจะน่าสยดสยอน
๙๘. เฉลยตอบข้ อ ข. ๑ ๒ ๓ ๔ ๕
๙๙. เฉลยตอบข้ อ ค. ๓ ๑ ๒ ๔
๑๐๐. เฉลยตอบข้ อ ค. ๓ ๔ ๒ ๑