หน่ วยการเรียนรูท ้ ี่ 7 (I usually get up at seven .

)
กลุม
่ สาระการเรียนรู ้ ……….............….. ภาษาต่างประเทศ ………….......…….. รายวิชา
………….......…..…. ภาษาอังกฤษ …………......……
ภาคเรียนที่ ……...…....…… 2 ….….…...…… ชัน ้ ………..…....….….… ม.1 …..…….….………. เวลา
……........…......… 9 ………..….......….. ชั่วโมง
_________________________________________________________________________
______________________________________

1. มาตรฐานการเรียนรูแ
้ ละตัวชี้วดั (Learning Standard and Indicators)
สาระที่ 1 ภาษาเพือ
่ การสือ
่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 ม.1/2 อ่านออกเสียงข้อความ นิทานและบทร้อยกรองสัน ้ ๆ
ถูกต้องตามหลักการอ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลี่ ย นข้ อ มู ล เกี่ ย วกับ ตนเอง กิ จ กรรม
และสถานการณ์ ตา่ ง ๆ ในชีวต
ิ ประจาวัน
มาตรฐาน ต 1.3 ม.1/1 พู ดและเขี ยนบรรยายเกี่ย วกับตนเอง กิจวัตรประจ าวัน
ประสบการณ์ และสิง่ แวดล้อมใกล้ตวั
2. สาระสาคัญและความคิดหลัก (Rationale & Main Concept)
การเรี ย นรู ้ค าศัพ ท์ เ กี่ ย วกับ ชี วิ ต ประจ าวัน และโครงสร้า งประโยค Present
Simple Tense ท าให้ ผู้ เ รี ย นสามารถพู ด และเขี ย นเกี่ ย วกับ ชี วิ ต ในของตนเองได้
ซึ่งช่วยให้นก
ั เรียนใช้ภาษาในการสือ ่ สารในชี วิตประจาวันทัง้ การฟัง พูด อ่าน และเขียน
พ ร้ อ ม ทั้ ง ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล แ ล ะ น า เ ส น อ ด้ ว ย ก า ร เ ขี ย น
ถือเป็ นการเรียนรูภ
้ าษาเพือ ่ การสือ ่ สารในชีวต ิ จริงทางหนึ่ง
3. สาระการเรียนรู ้ (Content)
3.1 Language Features and Functions
Vocabulary: Daily routine (get up, brush your teeth, have a
shower, have breakfast, go to school, have lunch, go
home, have dinner, do homework, go to bed)
The time (o’clock, past, quarter past, half past, to,
quarter to)
Grammar: Present simple (affirmative form and spelling
variations)
Prepositions of time (in, on, at)
Functions: Talking about daily routines
(I get up early in the morning. Then I have breakfast.)
Asking the time
(What’s the time, please? Have you got the time,
please? What time is it?)
 Telling the time
(It’s five o’clock. It’s half past two. It’s ten past three.
It’s twenty to ten)
Asking for and giving personal information
(What’s your name? Where are you from? What’s
your favourite subject?)

3.2 Language Skills

Reading: อ่านเพือ
่ ความเข้าใจ (Sara’s e-mail: period 1)
อ่านเพือ่ หารายละเอียดจาเพาะ (Sara’s e-mail: period 1)
Listening: ฟังและจับใจความ (Sara and David: period
5)
ฟังเพือ
่ หารายละเอียดจาเพาะ (Chad’s story: period 9)
Speaking: พูดบอกกิจวัตรประจาวัน (My Partner's Daily Life
Activity: period 4)
พูดถาม-ตอบเกีย่ วกับเวลา (Telling Time: period 7)
พู ดขอและให้ข้อมู ลส่วนตัวเกี่ย วกับ อายุ โรงเรี ย น งานอดิเรก
และสิง่ ทีช
่ อบ
(Find Someone Who activity:
period 9)
Writing: เขียนบรรยายสัน
้ ๆ เกีย่ วกับกิจวัตรประจาวันของตนเอง
(Routine mini book: period 9)
4. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน (Competencies of learners)
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Desired Characteristics)
1. ใฝ่ เรียนรู ้
2. จิตสาธารณะ
6. สือ
่ อุปกรณ์ และแหล่งการเรียนรู ้ (Teaching Aids)
› หนังสือเรียน Team Up in › Fly Swatters
English 1 › How often do you ........?
› Class Audio CDs worksheet
› Daily routines flashcards › Numbers worksheet
set › Telling time worksheet
› What time do you ........? › Find Someone Who ........
worksheet worksheet
7. หลักฐานการเรียนรู ้
7.1 ชิน
้ งาน/ภาระงาน งานเดีย่ ว
 My Partner's Daily Life Speaking Activity
(3 คะแนน)
 A paragraph from “What time do you ...?
Survey” (2 คะแนน)
 Daily routine mini book (5 คะแนน)
8. การประเมินผลการเรียนรู ้
8.1 การประเมินชิน
้ งาน/ภาระงาน
1. การประเมินทักษะการพูด My Partner's Daily Life
2. การประเมินทักษะการเขียน What time do you ...? Survey Report
3. การประเมินผลชิน
้ งาน Daily routine mini book
9. กิจกรรมการเรียนรู ้ (Teaching procedures)
9.1 ชั่วโมงที่ 1 แผนการจัดการเรียนรูท
้ ี่ 1 Reading

จุดประสงค์การเรียนรู ้
ด้านความรู ้ (K)
1. นักเรียนสามารถบอกความหมายของคาศัพท์เกีย่ วกับ Daily routine ได้
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
2. นักเรียนสามารถจับคูภ่ าพกับคาศัพท์เกีย่ วกับ Daily routine ได้
3. นักเรียนสามารถตอบคาถามหลังจากอ่าน Sara’s email ได้
ด้านจิตพิสยั (A)
4. นั ก เ รี ย น ใ ห้ ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ใ น ก า ร ท า กิ จ ก ร ร ม
มีพฤติกรรมใฝ่ เรียนรูแ
้ ละมีจต
ิ สาธารณะ
Teaching procedures
Pre-reading
1. Teacher reviews vocabulary about daily routines.
 Hold up a flashcard (any from the daily routines set) and
shout out the verb (e.g. eat dinner). Then proceed through all
of the flashcards quickly
2. Teacher asks students to match terms to the given pictures on
page 66.
3. Teacher checks the answers together with students.
4. Teacher shows the picture from page 66 and introduces the
characters.

 “This is Sara. She is writing an e-mail to someone.”

 “Can you guess who she is going to send an email to?”
 “She is writing an e-mail to Melissa, her friend.”
5. Teacher teaches more additional vocabulary before reading.
 early (adv.) before the time that an event or activity happens
 reception (n.) a room where visitors are checked in for hotel
stay.
 guest (n.) a customer of a hotel
 tired (adj.) in need of sleep or rest
 excited (adj.) If you are excited, you are so happy that you
cannot relax.
6. Teacher helps students review the words and its definitions by
Flyswatter Game.
 Write each vocabulary word on the board. Then, divide the
class into 2 teams. Have one student from each team come
to the board holding a flyswatter.
 Read the definition of a vocabulary word. Students should
race to see who can locate the correct word on the board the
fastest. When they find it, they should hit the word on the
board with the flyswatter.
7. Teacher activates students' prior knowledge.
 “What do you like to do when you are on school holidays?”
 “In the United States, a summer camp is a place where
parents can pay to send their children during the very long
school summer holidays. Their parents can’t take all that time
off work to look after them so they send them off to camp
where children can take part in many outdoor and social
activities.”
While-reading
8. Teacher shows the passage to students.
 “There are three parts in the passage that we are going to
read.”

9. Teacher provides a guiding question for each part. Then, let

students read each part for 3-5 minutes and answer the question.
 “I will give you the guiding questions and let you read each
part for two minutes. After reading, you have to answer the
guiding question before reading next part.”
 Part 1: Where is Sara? (At the Harrow Summer Camp)
How many days does she work? (Six days)
 Part 2: What time does she start work? (At 8 o’clock)
When is her lunch time? (About 1 o’clock)
What does she always do at lunchtime? (She always
chats to the guests.)
On what day does she play tennis with Natalie?
(Tuesday)
 Part 3: What does she sometimes do in the evening? (She
plays volleyball or football.)
 Will Sara be at the Camp tomorrow? (No.)
Post-reading
10. Teacher asks students to read the sentences the passage on
page 66. They decide if they think the sentences are true or false.
11. Teacher checks the answers together with students.

การวัดการประเมิน (Assessment & Evaluation)

สิง่ รายการ เครือ

่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
ทีว่ ั
ด

1. นักเรียนสามารถบอกความหมา
แบบฝึ กหัดหน้า 66
คว นักเรียนสามารถบอกความห ยของค าศัพ ท์ เ กี่ ย วกับ Daily
าม ม า ย ข อ ง ค า ศัพ ท์ เ กี่ ย ว กับ routine ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง ม า ก ก ว่ า
รู ้ Daily routine ได้ 50%
(K)
2 . นักเรียนสามารถทาแบบฝึ กหัดไ
นักเรียนสามารถจับคูภ ่ าพกับ แบบฝึ กหัดหน้า 66 ด้ถูกต้องมากกว่า 50%
ทัก ค า ศั พ ท์ เ กี่ ย ว กั บ Daily
ษะ routine ได้
(P) 3. นักเรียนสามารถทาแบบฝึ กหัดไ
นักเรียนสามารถตอบคาถาม แบบฝึ กหัดหน้า 67- ด้ถูกต้องมากกว่า 50%
หลัง จากอ่า น Sara’s email 68
ได้

4. - -
นักเรียนให้ความร่วมมือในก แบบสัง เกตพฤติก รร นักเรียนมีพฤติกรรมอยูใ่ นระดับ
เจต า ร ท า กิ จ ก ร ร ม มนักเรียน พอใช้ขน ึ้ ไป
คติ มีพฤติกรรมใฝ่ เรียนรูแ
้ ละมีจิ - -
( ตสาธารณะ แบบประเมินคุณลักษ นักเรียนมีคณ ุ ลักษณะอันพึงประ
A) ณะอันพึงประสงค์ ้ ไป
สงค์อยูใ่ นระดับผ่านขึน

9.2 ชั่วโมงที่ 2-4 แผนการจัดการเรียนรูท

้ ี่ 2 Grammar Focus

จุดประสงค์การเรียนรู ้
 ด้านความรู ้ (K)
1. นักเรียนสามารถระบุโครงสร้างของ Present simple ได้
2. นักเรี ย นสามารถยกตัว อย่างการน า Present simple ไปใช้กบ ั Daily
routine ได้
3. นักเรียนสามารถเลือกใช้ Adverbs of Frequency ตามความถีไ่ ด้
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
4. นักเรียนสามารถเติมคากริยาทีก ่ าหนดให้ ลงในประโยคได้
5. นักเรียนสามารถแต่งประโยคโดยใช้ Present simple ได้
6. นักเรียนสามารถพูดรายงานความถีใ่ นการทากิจกรรมในชีวต ิ ประจาวันข
องคูต่ นเองได้
ด้านจิตพิสยั (A)
7. นั ก เ รี ย น ใ ห้ ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ใ น ก า ร ท า กิ จ ก ร ร ม
มีพฤติกรรมใฝ่ เรียนรูแ
้ ละมีจต
ิ สาธารณ
Teaching procedures: Period 2
Presentation: present simple tense
1. Teacher makes a list of the thing teacher does every day as a
routine.
 I work from Monday to Friday.
 I always wake up at 5:00 in the morning.
 I usually have breakfast at 7:00.
 I sometimes go to the cinema with my friends in the evening.
 I never go to bed after midnight.
2. Teacher goes around the class and has students tell what they do
every day or what some of their habits are. They should give more
examples in the first person singular.
3. Teacher asks students to open their book on page 66, and writes
some sentences from Sara’s e-mail on the board.
 Sara works from Monday to Saturday.
 Sara usually gets up at 7 o’clock.
 Sara plays tennis with Natalie on Tuesday.
 Sara sometimes plays volleyball or football in the evening.
 Sara always go to bed at 11 o’clock.
4. Teacher multiple examples is critical as it gives the students the
opportunity to see the patterns and makes sure students notice
that he or she has added the s for the third person singular.
 “I work from Monday to Friday. Sara works from Monday to
Saturday.”
  “I always wake up at 5:00 in the morning. Sara usually gets
up at 7 o’clock.”
 “I sometimes go to the cinema with my friends in the evening.
Sara sometimes plays volleyball or football in the evening.”
 “I never go to bed after midnight. Sara always go to bed at
11 o’clock.”
5. Teacher asks the students to figure out the rule based on the
examples they have seen or heard during the course of the lesson.
6. Students will not be able to discover the rules in full, especially the
exceptions to the rule. At this time, the teacher might need to
explain present simple tense on page 70-71 a bit.
 “we use the present simple tense when talking about daily
routines.”
 The present tense is the base form of the verb:
I always wake up at 5:00 in the morning.
I sometimes go to the cinema with my friends in the
evening.
You usually catch the bus to school.
We never start studying at 8:30.

 But with the third person singular (she/he/it), we add an -s or

-es.:
Sara usually gets up at 7 o’clock.
Sara plays tennis with Natalie on Tuesday.
Jack usually has cereal and toast.
He never goes to bed early.
Focused practice: present simple tense
7. Teacher checks students’ understanding by showing these
sentences, and let students speak out the sentences with the
correct verb:
1) You usually ________ (read) a lot of books.
2) He often ________ (drink) milk in the morning.
3) We ________ (listen) to music every evening.
4) It ________ (sleep) at the door.
5) I and my friend often ________ (go) to the cinema.
6) A cat and a dog never ________ (play) together.
7) A dog ________ (eat) its food.
 8. Teacher asks students to complete exercises on page 70.
9. Teacher checks the answers together with students.

Teaching procedures: Period 3

Presentation: spelling variations
1. Teacher shows how to add -s to verbs in the simple present.
 “We use the present simple tense when talking about daily
routines. In general, in the third person (she/he/it), we add 'S'
in the third person.”
 Some verbs that end in -O, -CH, -SH, -SS, -X, or -Z we add -
ES in the third person.
› go – goes › wash – washes
› catch – catches › fix – fixes
 For verbs that end in a consonant + Y, we remove the Y and
add -IES.
› marry – marries › carry – carries
› study – studies › worry – worries
 For verbs that end in a vowel + Y, we just add -S.
› play – plays
› enjoy – enjoys
Focused practice: spelling variations
2. Teacher asks students to complete exercises on page 71.
3. Teacher checks the answers together with students.
 Communicative practice present simple tense
4. Teacher starts sentence race activity. (see sentence race activity
note)
a. Divide the class into two teams. Have one student from each
team come to the front of the class and randomly choose one
card each. The first student to write a grammatically correct
sentence (using present simple) – without spelling mistakes – is
awarded one point for their team. The game continues as the
remaining students take turns to come to the board.

Teaching procedures: Period 4

Presentation: adverbs of frequency
1. Teacher shows the picture of Sara and asks whether students can
remember what this e-mail talks about. (Sara tells Melissa about
what she does on a typical day at the Harrow Summer Camp)
2. Teacher writes frequency adverbs in Sara’s e-mail: always,
usually, often, sometimes, never.
3. Teacher explains the concept of adverbs of frequency.
 “We use adverbs of frequency, like sometimes or usually, to
say how often we do things, or how often things happen.”
 “The verb goes next to the adverb. For example, Sara usually
gets up at 7 o’clock. She always chats to the guest at
lunchtime.”
  “We use how often to ask questions about frequency. How
often comes at the beginning of the clause.”
 For example: How often do you do your homework?
How often do you watch TV?
How often do you get up late?
Communicative practice: adverbs of frequency
(My Partner's Daily Life Speaking Activity: 3 คะแนน)
4. Teacher asks students to work in pairs.
 Students are going to find out about their partner’s daily life
using the questions on their worksheet record their partner’s
answer.
 They take it in turn to ask the question, e.g. how often do you
........?
 Their partner responds using one of the frequency adverbs,
e.g. I usually........
 Teacher should monitor and listen to students’
conversations and assist those that need help.
 This step should be done in 15 minutes.
5. When all students have finished, everyone takes turns to report
what they found out about their partner in present simple.
6. When everyone is seated again, teacher provides feedback to
students.
 tells students what they have done right as well as what they
have done wrong
 corrects their mistakes and tells students what they could do
to improve
การวัดการประเมิน (Assessment & Evaluation)

สิง่ ที่ รายการ เครือ

่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
วัด
1.นักเรียนสามารถระบุโ นักเรียนสามารถระบุโครงสร้างขอ
ครงสร้า งของ Present การถาม – ง Present simple
simple ได้ ตอบในชัน
้ เรียน ได้ถูกต้องมากกว่า 50%
ควา
มรู ้ 2. นักเรียนมีทกั ษะการพูดอยู่ในระดั
แบบประเมินการพูด ้ึ ไป
(K) นักเรียนสามารถยกตัวอย่ บพอใช้ขน
า ง ก า ร น า Present
 simple ไปใช้ ก บ
ั Daily
routine ได้
3. นักเรียนมีทกั ษะการพูดอยู่ในระดั
นักเรียนสามารถเลือกใช้ แบบประเมินการพูด บพอใช้ขนึ้ ไป
Adverbs of
Frequency
ตามความถีไ่ ด้
4. - แ บ บ ฝึ ก หั ด นักเรียนสามารถทาแบบฝึ กหัดได้
นักเรียนสามารถเติมคาก Focused practice ถูกต้องมากกว่า 50%
ริ ย า ที่ ก า ห น ด ใ ห้ - แบบฝึ กหัด หน้ า 70-
ลงในประโยคได้ 71
ทัก 5. นักเรียนสามารถทาแบบฝึ กหัดได้
นักเรียนสามารถแต่งประ กิจกรรม sentence ถูกต้องมากกว่า 50%
ษะ
โ ย ค โ ด ย ใ ช้ Present race
(P)
simple ได้
6. นักเรียนมีทกั ษะการพูดอยู่ในระดั
นักเรียนสามารถพูดรายง แบบประเมินการพูด บพอใช้ขนึ้ ไป
า น My Partner's
Daily Life ได้
7. - -
นักเรียนให้ความร่วมมือ แบบสัง เกตพฤติก รรม นักเรียนมีพฤติกรรมอยูใ่ นระดับพ
เจต ใ น ก า ร ท า กิ จ ก ร ร ม นักเรียน อใช้ขน ึ้ ไป
คติ มีพฤติกรรมใฝ่ เรียนรูแ ้ ล - -
( ะมีจติ สาธารณะ แบบประเมิน คุ ณ ลัก ษ นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประส
A) ณะอันพึงประสงค์ ้ ไป
งค์อยูใ่ นระดับผ่านขึน

9.3 ชั่วโมงที่ 5 แผนการจัดการเรียนรูท

้ ี่ 3 Listening

จุดประสงค์การเรียนรู ้
ด้านความรู ้ (K)
1. นักเรียนสามารถบอกความหมายของคาศัพท์ในบทสนาได้
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
2. นักเรียนสามารถเติมคาลงในช่องว่าง หลังจากฟังบทสนทนาได้
ด้านจิตพิสยั (A)
3. นั ก เ รี ย น ใ ห้ ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ใ น ก า ร ท า กิ จ ก ร ร ม
มีพฤติกรรมใฝ่ เรียนรูแ
้ ละมีจต
ิ สาธารณะ
Teaching procedures
Pre-listening
1. Teacher shows the picture on page 68 and asks questions.

 Who are they? (Sara and David)

 Where are they? (In the office)
 Why is Sara holding a tennis racket? (She wants to play
tennis during the break.)
2. Teacher pre-teaches key vocabulary.
 Information (n.) facts or details
 Address (n.) the number of the house, name of the road and the
town where a person lives
 Mealtime (n.) time when you eat breakfast, lunch, or dinner
3. Teacher checks that students know all the words by saying it in
English while having students say its meaning in Thai or by
saying its meaning in Thai while having students say it in English.
While-listening
4. Teacher tells students that they are going to listen to the
conversation between Sara and David.
 Teacher plays the audio track of the conversation through
once.
 While students are listening, they are also reading the
dialogue on page 68.
5. Teacher divides students into two groups. So, students can take
turns reading out loud.
 Post-listening
6. Teacher has students complete the information on the camp
website on page 68 and checks the answers together with
students.

การวัดการประเมิน (Assessment & Evaluation)

สิง่ รายการ เครือ

่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
ทีว่ ั
ด
นักเรียนสามารถบอกความหมายขอ
1. การถาม – งคาศัพท์ในบทสนาได้ถูกต้องมากก
คว นัก เรี ย นสามารถบอกความ ตอบในชัน
้ เรียน
าม หมายของคาศัพท์ในบทสนา ว่า 50%
รู ้ ได้
(K
)
นักเรียนสามารถทาแบบฝึ กหัดได้ถู
2. แบบฝึ กหัดหน้า กต้องมากกว่า 50%
ทัก นักเรียนสามารถเติมคาลงใ 68
ษะ น ช่ อ ง ว่ า ง
(P หลังจากฟังบทสนทนาได้
)
 - -
3. แบบสังเกตพฤติกร นักเรียนมีพฤติกรรมอยูใ่ นระดับพอ
เจ นักเรียนให้ความร่วมมือใน รมนักเรียน ึ้ ไป
ใช้ขน
ตค ก า ร ท า กิ จ ก ร ร ม - -
ติ ( มีพฤติกรรมใฝ่ เรียนรูแ
้ ละมี แบบประเมิน คุณ ลั นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสง
A) จิตสาธารณะ กษณะอันพึงประส ้ ไป
ค์อยูใ่ นระดับผ่านขึน
งค์

9.4 ชั่วโมงที่ 6-8 แผนการจัดการเรียนรูท

้ ี่ 4 Grammar Focus

จุดประสงค์การเรียนรู ้
ด้านความรู ้ (K)
1. นักเรียนสามารถอ่านตัวเลขในภาษาอังกฤษได้
2. นักเรียนสามารถบอกเวลาเป็ นภาษาอังกฤษได้
3. นั ก เ รี ย น สาม ารถ ระ บุ ค วาม แ ต ก ต่ า ง ใน ก าร ใช้ บุ พบ ท in, on, at
บอกเวลาได้
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
4. นักเรียนสามารถเขียนตัวเลขในภาษาอังกฤษได้
5. นักเรียนสามารถเขียนเวลาเป็ นภาษาอังกฤษได้
6. นักเรียนสามารถเลือกบุพบท in, on, at มาเติมในช่องว่างได้
7. นักเรียนสามารถพูดขอและบอกเวลาในการทากิจกรรมต่าง ๆ ได้
8. นักเรียนเขียนสรุปผลจากการทาแบบสารวจสัน ้ ๆ ได้
ด้านจิตพิสยั (A)
9. นั ก เ รี ย น ใ ห้ ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ใ น ก า ร ท า กิ จ ก ร ร ม
มีพฤติกรรมใฝ่ เรียนรูแ ้ ละมีจติ สาธารณะ
Teaching procedures: Period 6
Presentation: Reading and writing numbers in words
1. Teacher helps students gain a greater understanding of how to
read and write numbers in words.
 Teacher writes a list on the board and points to the numbers,
asking student to repeat after.
2. Teacher has students copy as teacher writes words next to each
number.
 Teacher emphasizes how eleven and twelve are awkward.
0 Zero 10 Ten
1 One 11 Eleven
2 Two 12 Twelve
3 Three 13 Thirteen
4 Four 14 Fourteen
 5 Five 15 Fifteen
6 Six 16 Sixteen
7 Seven 17 Seventeen
8 Eight 18 Eighteen
9 Nine 19 Nineteen

 Teacher writes out a list of the tens and points to them one
by one, asking the students to repeat after, emphasizing the
different sounds at the end of the teen numbers and tens
numbers e.g. thirteen and thirty.
10 Ten 20 Twenty
11 Eleven 30 Thirty
12 Twelve 40 Forty
13 Thirteen 50 Fifty
14 Fourteen 60 Sixty
15 Fifteen 70 Seventy
16 Sixteen 80 Eighty
17 Seventeen 90 Ninety
18 Eighteen 100 One hundred
19 Nineteen

3. Teacher revises how 2-digit numbers have tens and units, writing
a capital U above the units and a capital T above the tens.
 Teacher revises how to read 2-digit numbers e.g. 32 by
looking at the tens number first and saying it e.g. thirty, then
saying the units number e.g. two
 This will allow students cover all the numbers up to 100.
Practice: Reading and writing numbers in words
4. Teacher distributes the exercises for practicing cardinal numbers
in English.
5. Teacher checks the answers together with students.
Teaching procedures: Period 7
Presentation: Telling Time
1. Teacher has students say the times shown in the conversation and
asks whether they can remember what words are used by Sara
and David in telling the time.
 Teacher writes down their answer on the board.
› 7.30 a.m. half past seven
› 9 o’clock nine o’clock
› 1.15 p.m. a quarter past one
 › 6 o’clock six o’clock
› 2.15 a quarter past two
› 3.15 a quarter past three
2. Teacher describes how to tell the time in English by first
introducing hours.
 Draw a clock face on the board. Introduce a number line
which contains the numerals one through twelve. Provide a
worksheet with a large circle. Ask the students to place the
numerals inside the circle to make a clock face.
 Teacher shows times such as 7:00 and writing them on the
board next to clock faces. Example: 7 o’clock, And write out
the time next to it (7:00) so students can see what it looks
like in both analog and digital time.

 Has students repeat after “One o’clock, two o’clock…”. Make

sure students know only use “o’clock” for on-the-hour times.
All other times you do not include “o’clock”
 Ask students to come to the board to both write and draw
times you give them. For example, say “It is 9 o’clock.” The
student should write 9:00 and draw a clock indicating that
time.
3. Teacher moves on to minutes.
 Review that the minute hand points to the twelve, while the
hour hand indicates the hour.
 Show that there are 60 minutes in an hour and that the long
hand indicates minutes which should be said and written
after the hour.
 Demonstrate times such as 3:15/30/45 and say It is three
fifteen/thirty/forty-five.
 Show 3:09, 3:37, etc., allowing students to practice their
knowledge of higher numbers
 Explain to students that for numbers :01-09 you say “oh one”
or “oh nine”.
4. Teacher tells another way to tell time.
 “We use ‘past’ to tell times after the hour.”
 Repeat setting the clock to a number of differ net quarters
past an hour, e.g. quarter past four, five, etc.

 “We use ‘half past’ to talk about any time ending in :30”
 Repeat setting the clock to a number of differ net halves past
an hour, e.g. half past four, five, etc.

 “We use ‘to’ to tell times before the hour.”

 Repeat setting the clock to a number of different quarters to
an hour, e.g. quarter to four, five, etc.

5. Teacher includes the minutes.

 Set the clock to a 'minutes to' or 'minutes past' the hour
 What time is it? It's seventeen (minutes) past three.
  Change the hour on the clock, ask a question.
 Continue this exercise around the room with each of the
students. Watch out for students using o'clock improperly.
Practice: Telling Time
6. Teacher has students match the sentences to the clocks on page
69.

7. Teacher checks the answers together with students.

8. Teacher show students the model dialogue below:
A: Excuse me. What time is it? B: It’s 9:30’
9. Teacher has students practice the dialogue in pairs using clock
faces printed on page 69. Students should take turns being A and
B.

10. Teacher distributes the exercises about telling the time as

homework.
Teaching procedures: Period 8
Presentation: in-on-at
1. Teacher asks students to have a look on page 69.
2. Teacher introduces AM and PM.
 Make clear that AM is for the morning, and PM is for
afternoon/evening
 Everything between midnight and noon is AM, and between
noon and midnight is PM.
  Explain to students that at 3 AM you are sleeping, but it is the
morning, so it is AM.
3. Teacher asks students “what time is it” but this time adding ‘am’ or
‘pm’ to the time.
4. Teachers tells students to find and circle in, on, at, in the
conversation between Sara and David on page 66. Then, teacher
lets students draw their own conclusions from the what they found.
 Students notice how the concept is used and figure out, and
verbalize the rule.
5. Teacher teaches preposition of time.
 “We use prepositions of time (in/ on/ at) to say when
something is happening.”
 “on + days of the week and dates, while in + times of the day,
months, seasons, years”
In On
on Tuesday
in the morning
morning
on Saturday
in the mornings
mornings
on Sunday
in the afternoon(s)
afternoons
on Monday
in the evening(s)
evening
 “at + the weekend, hours, breakfast, lunch, dinner”
Expression Example
at night The stars shine at night.
I don’t usually work at the
at the weekend
weekend.
I stay with my family at
at Christmas/Easter
Christmas.

Focused practice: in-on-at

6. Teacher asks students to do exercise on page 71.
7. Teacher checks the answers together with students.
 Communicative practice: in-on-at
(A paragraph from What time do you ...? Survey: 2 คะแนน)
8. Teacher gives each student the survey worksheet and explain that
they are going to ask 6 people in the class (or less, depending on
class size) about their daily routines.
 Before starting, go through the survey sheet with everyone
and make sure they write an additional activity on the last
row. Then model with a student, showing writing their name
at the top of the column and asking and answering questions
using the following structure:
Student A: What time do you (wake up)?
Student B: I (wake up) at (7 o'clock) (in the morning).
 This step must be done in class.
9. Teacher has students write a survey report as homework.
 Students describe what they found out about their
classmates. They may include graphs or charts to visualize
their survey results.
การวัดการประเมิน (Assessment & Evaluation)

สิง่ รายการ เครือ

่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
ทีว่ ั
ด
1 . การถาม – นักเรียนสามารถอ่านตัวเลขใน
นักเรียนสามารถอ่านตัวเลขใ ตอบในชัน
้ เรียน ภาษาอังกฤษได้ถูกต้องมากกว่า
คว นภาษาอังกฤษได้ 50%
าม 2 . แบบฝึ กหัด Telling นักเรียนสามารถทาแบบฝึ กหัดไ
รู ้ นักเรียนสามารถบอกเวลาเป็ น Time ด้ถูกต้องมากกว่า 50%
(K ภาษาอังกฤษได้
) 3 . นัก เรี ย นสามารถเลื อ กบุ พ บท
นักเรียนสามารถระบุความแต แบบฝึ กหัดหน้า 71 in, on, at
กต่างในการใช้บพ
ุ บท in, on, มาเติมในช่องว่างได้ถูกต้องมาก
at บอกเวลาได้ กว่า 50%
 4 . แบบฝึ กหัด นักเรียนสามารถทาแบบฝึ กหัดไ
นักเรียนสามารถเขียนตัวเลขใ numbers in ด้ถูกต้องมากกว่า 50%
นภาษาอังกฤษได้ English
5 . แบบฝึ กหัด Tellingนักเรียนสามารถเขียนเวลาเป็ น
นักเรียนสามารถเขียนเวลาเป็ Time ภาษาอังกฤษได้ถูกต้องมากกว่า
นภาษาอังกฤษได้ 50%
6 . นัก เรี ย นสามารถเลื อ กบุ พ บท
ทัก แบบฝึ กหัดหน้า 71 in,
นัก เรี ยนสามารถเลือ กบุพบท on, at
ษะ
in, on, at มาเติมในช่องว่างได้ถูกต้องมาก
(P
มาเติมในช่องว่างได้ กว่า 50%
)
7 . แบบประเมินทักษะกา นักเรียนสามารถพูดขอและบอก
นักเรียนสามารถพูดขอและบ รพูดขอและบอกเวลา เวลาในการท ากิจ กรรมต่า ง ๆ
อกเวลาในการทากิจกรรมต่าง ได้ในระดับพอใช้ขน ึ้ ไป
ๆ ได้
8. แบบประเมินทักษะกา นักเรียนมีทกั ษะการเขียนอยูใ่ น
นักเรียนเขียนสรุปผลจากการ ร เ ขี ย น What time ระดับพอใช้ขน ึ้ ไป
ทาแบบสารวจสัน ้ ๆ ได้ do you...? Survey
Report
9. - -
นักเรียนให้ความร่วมมือในกา แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนมีพฤติกรรมอยู่ในระดั
เจ ร ท า กิ จ ก ร ร ม - บพอใช้ขน ึ้ ไป
ตค มีพฤติกรรมใฝ่ เรียนรูแ้ ละมีจิ แบบประเมินคุณลักษ -
ติ ( ตสาธารณะ ณะอันพึงประสงค์ นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงปร
A) ้ ไป
ะสงค์อยูใ่ นระดับผ่านขึน

9.5 ชั่วโมงที่ 9 แผนการจัดการเรียนรูท

้ ี่ 5 Listening

จุดประสงค์การเรียนรู ้
ด้านความรู ้ (K)
1. นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ ย ก ตั ว อ ย่ า ง ก า ร น า Present simple ไ ป ใ ช้ กั บ
frequency adverbs และ prepositions of time ได้
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
2. นักเรียนสามารถทาเครือ ่ งหมาย ✓ ในคาตอบทีถ ่ ูกต้องหลังฟังคลิปเสียงได้
3. นักเรียนสามารถพูดขอและให้ขอ ้ มูลส่วนตัวเกีย่ วกับอายุ งานอดิเรก
และสิง่ ทีช ่ อบได้
4. นักเรียนสามารถเขียนประโยคเกีย่ วกับกิจวัตรของตนเองเป็ นย่อหน้าสัน ้
ๆ โดยใช้ Present simple, frequency adverbs และ prepositions
of time ได้
ด้านจิตพิสยั (A)
5. นั ก เ รี ย น ใ ห้ ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ใ น ก า ร ท า กิ จ ก ร ร ม
มีพฤติกรรมใฝ่ เรียนรูแ ้ ละมีจต ิ สาธารณะ
Teaching procedures
Pre-listening
1. Teacher shows the picture from page 72 and introduces the
characters.

 “This is Chad.”
 “What do you think he is doing?” (He’s delivering
newspapers.)
2. Teacher describes the job.
 “He is a paperboy. A paperboy is someone who gives
newspapers away to homes or offices, usually by bicycle or
automobile. This is often a young person's first job, and is
often undertaken before or after school.”
3. Teacher asks students to pay attention to the questions on page
72, so that they can grab what they need when listening.

While-listening
4. Teacher tells to students that today they are going to listen to
Chad’s everyday life.
 Teacher plays the audio track of the conversation through
once.
 While students are listening at a second time, they are also
answering the questions.
 Audio script
Hello! My name’s Chad. I’m 12 years old. I go to Garden
City Junior High School in Washington DC. I’m in 7th grade. I go
to school from Monday to Friday.
During the week I usually get up at 7.15 a.m. I have
breakfast – orange juice and pancakes. School starts at 8.15 and
finishes at 3.15 p.m. I like school – I see my friends and we always
chat at break time. My favourite subject is Science. At lunchtime
I usually eat in the school cafeteria.
On Saturdays I get up at 7.00 a.m.! I deliver newspapers
in the morning. It’s called a ‘paper route’.
My favourite day is Sunday.
Post-listening
On Sundays I always relax. I watch baseball on TV with
5. Teacher checks the answers together with students.
my dad.

Pre-speaking
6. Teacher models with students, asking and answering questions
using the following structure:
 How old are you? I am ............ years old.
 What is your favourite ..........? My favourite .......... is
...........
 Can you ..........? Yes, I can .......... / No, I can’t
..........
 Do you ..........? Yes, I do .......... / No, I don’t
..........
 Are you ..........? Yes, I am .......... / No, I am not
..........

While-speaking
7. Teacher introduces the ‘Find Someone Who’ activity.
 Students go through the items on their worksheet and go
around the classroom asking the questions. When a
classmate replies with the same expression that is written on
the worksheet, the student writes down their name in the
appropriate column and asks a follow-up question. They can
only have the same name once.
Feedback and correction
(Daily routine mini book: 5 คะแนน)
8. When everyone is seated again, teacher provides feedback to
students.
 tells students what they have done right as well as what they
have done wrong
  corrects their mistakes and tells students what they could do
to improve
9. Teacher tells students to make their routine mini book as
homework.
 Explain to students that they will make their own A5-size mini
book.
 Students write some of the daily activities that they do for 7
days. They have to use adverbs of frequency and
prepositions of time with the simple present tense. Each
page contains a picture and a short paragraph about what
they do in a day. From Sunday to Saturday.
Example:
My Daily Routine

I wake up at half past seven. I have a shower and then I have

breakfast. I get to school just before nine o'clock. I have lunch at school
at one o'clock. The food is always horrible! At six o'clock I do my
homework. I have dinner at eight o'clock and I go to bed at half past
nine.

On Saturday mornings I play football with my friends. In the

afternoon my friend comes to my house and we play computer games.
On Sundays my cousins come and my uncle does a barbeque in the
garden. On Sunday evenings I do my homework because the next day
is Monday.

การวัดการประเมิน (Assessment & Evaluation)

สิง่ รายการ เครือ

่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
ทีว่ ั
ด
1. แบบประเมิน ผลชิ้ นักเรียนมีทกั ษะการเขียนอยูใ่
คว นัก เรี ย นสามารถยกตัว อย่า งการ น ง า น Daily นระดับพอใช้ขน ึ้ ไป
าม น า Present simple ไ ป ใ ช้ กั บ routine mini
รู ้ frequency adverbs แ ล ะ book
(K prepositions of time ได้
)
2. นักเรียนสามารถทาเครือ ่ งหมาย นักเรียนสามารถทาเครือ ่ งหมา
✓ แบบฝึ กหัดหน้า ย ✓
ในคาตอบทีถ ่ ูกต้องหลังฟังคลิปเสีย 72 ในคาตอบที่ถูกต้องหลังฟัง คลิ
งได้ ป เ สี ย ง ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง ม า ก ก ว่ า
50%
 3 . แบบสังเกตการพูด นักเรียนมีทกั ษะการพูดขอแล
ทัก นักเรียนสามารถพูดขอและให้ข้อ ้ มูล ะให้ข้อ มูลอยู่ในระดับพอใช้ขึ้
ขอและให้ขอ
ษะ มูลส่วนตัวเกีย่ วกับอายุ งานอดิเรก นไป
(P และสิง่ ทีช
่ อบได้
) 4 . แบบประเมิน ผลชิ้ นักเรียนมีทกั ษะการเขียนอยูใ่
นักเรียนสามารถเขียนประโยคเกีย่ น ง า น Daily นระดับพอใช้ขน ึ้ ไป
วกับกิจวัตรของตนเองเป็ นย่อหน้า routine mini
สั้น ๆ โดยใช้ Present simple, book
frequency adverbs แ ล ะ
prepositions of time ได้
5. - -
นักเรียนให้ความร่วมมือในการทา แบบสังเกตพฤติกร นักเรียนมีพฤติกรรมอยูใ่ นระดั
เจ กิ จ ก ร ร ม รมนักเรียน บพอใช้ขนึ้ ไป
ตค มีพฤติกรรมใฝ่ เรียนรูแ ้ ละมีจต
ิ สาธ - -
ติ ( ารณะ แบบประเมินคุณ ลั นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงป
A) กษณะอันพึงประส ้ ไป
ระสงค์อยูใ่ นระดับผ่านขึน
งค์