Professional Documents
Culture Documents
อังคณา ใหม่วงษ์
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง เรื่องการกาหนดกลยุทธ์การตลาดของธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็ก
- กรณีศกึ ษา ร้านสะดวกซือ้ 7- Eleven บริษทั ซีพอี อลล์ จากัด (มหาชน) โดยมีวตั ถุประสงค์เพื่อ
ศึกษาและวิเคราะห์สภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับองค์กร การกาหนดกลยุทธ์ในการแก้ไขปญั หา
ขององค์กรทัง้ ระดับองค์กร, ระดับธุรกิจ, กลยุทธ์การตลาดและเพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้บริการ
ร้านค้าสะดวกซือ้ 7- Eleven ผลการศึกษาพบว่า
ในการศึกษาครัง้ นี้ใช้เครื่องมือในการศึกษา 2 ส่วนคือการสัมภาษณ์ลูกค้าที่มาใช้บริการ
ร้านค้าสะดวกซือ้ 7-Eleven 10 ท่าน และใช้แบบสอบถามจานวน 100 ชุด จากการสัมภาษณ์ลูกค้า
จานวน 10 ท่าน พบว่า
- ด้านสินค้าและบริการของ 7- Eleven มีความหลากหลายของสินค้า สินค้าครบ สะดวก สบายใน
การมาใช้บริการ ใกล้บา้ น สาขามีเยอะ เนื่องจากให้บริการ 24 ชัวโมง
่
- 7- Eleven ควรปรับปรุงเรือ่ งของสินค้า สินค้าหมด ไม่เพียงพอต่อความต้องการ หรือบางสินค้าก็
หมดอายุแล้วยังมาวางจาหน่ าย พนักงานบางสาขาไม่ค่อยเต็มใจบริการ บางสาขาก็พูดจาไม่ดกี บั
ลูกค้า และกระบวนการรชาระเงิน ทอนเงินผิด ใช้เวลานานในการรอชาระเงินค่าสินค้า
-ประสบการณ์ทล่ี ูกค้าไม่พงึ พอใจเกี่ยวกับสินค้า คือ ราคาของสินค้าแต่ละสาขาของ 7- Eleven ไม่
เท่ากัน จึงทาให้ลกู ค้าเกิดข้อสงสัยในมาตรฐานราคาของสินค้าใน 7- Eleven เป็นอย่างมาก
สินค้าบางชนิดหมดอายุ แล้วยังวางจาหน่ ายใน 7- Eleven และสินค้าที่ลูกค้าต้องการหมด ไม่ม ี
สินค้า การรอชาระเงิน เนื่องจากเป็ นพนักงานใหม่ จึงทาให้ขนั ้ ตอนในการชาระเงินมีความล่าช้า
จ
กิ ตติ กรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศ .....…………………………………………………………………..….. ฉ
สารบัญ ..…………………………………………………………………………………..... ช
สารบัญตาราง ……...………………………………………………………………..……… ฌ
บทที่
1. บทนา .................................................................................................................... 1
องค์กร และลักษณะของธุรกิจองค์กร……………………………………..……..... 1
ปญั หาและลักษณะปญั หาทีเ่ กิดขึน้ ภายในองค์กร…............................................ 25
ความสาคัญและผลกระทบทีเ่ กิดขึน้ กับองค์กร………......................................... 28
วัตถุประสงค์ของการศึกษา............................................................................... 29
ขอบเขตการศึกษา…........................................................................................ 29
ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รบั ............................................................................... 29
2. แนวคิดทฤษฎีและงานวิจยั ทีเ่ กี่ยวข้อง ..................................................................... 30
แนวคิดและทฤษฎีเกีย่ วกับกระบวนการจัดการเชิงกลยุทธ์................................. 31
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางสังคม(Analysis the societalenvironment)........ 31
ทฤษฎีการวิเคราะห์สภาวะการแข่งขันภายในอุตสาหกรรม(Five Forces Model) 32
การวิเคราะห์สถานการณ์ (Situational Analysis: SWOT)..………….………….. 33
ทฤษฎีการกาหนดกลยุทธ์โดย TOWS Matrix ………………………….…….….. 34
กลยุทธ์ระดับองค์กร, กลยุทธ์ระดับธุรกิจ และกลยุทธ์ระดับหน้าที่….………..….. 35
แนวคิดและทฤษฎีเกีย่ วกับการจัดการและกลยุทธ์การตลาด……………...……… 44
กลยุทธ์การตลาดตามเป้าหมาย(STP Strategy)................................................. 44
ทฤษฎีส่วนประสมทางการตลาดบริการ (7P’s Service Marketing Mix)……..…. 47
แนวคิดและทฤษฎีเกีย่ วกับพฤติกรรมผูบ้ ริโภค(Customer Behavior)................. 48
ซ
สารบัญ (ต่อ)
หน้า
ความภักดีในตราสินค้า(Brand Loyalty)............................................................ 51
กลยุทธ์ดา้ นราคา(Price Strategy).......................................…………………… 53
งานวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้อง.................................................................………………… 58
3. ระเบียบวิธกี ารศึกษาและผลการศึกษา...................................................................... 60
การออกแบบงานวิจยั (Research Design)......................................................... 60
การเก็บรวบรวมข้อมูล(Data Collection)........................................................... 60
การวิเคราะห์ขอ้ มูล(Data Analysis)................................................................... 63
การกาหนดกลยุทธ์(Strategic Formulation)...................................................... 73
4. สรุปและข้อเสนอแนะ................................................................................................ 82
สรุปผลการศึกษา.............................................................................................. 83
ข้อจากัดของการศึกษา..................................................................................... 86
ข้อเสนอแนะ..................................................................................................... 86
บรรณานุกรม................................................................................................................ 87
ภาคผนวก..................................................................................................................... 88
ตารางที่ หน้า
1.1 โครงสร้างรายได้......................................................................………………… 5
1.2 ร้าน 7-Eleven แบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามลักษณะความเป็นเจ้าของ.……….… 6
1.3 ผูถ้ อื หุน้ .....................…………………………………………………………...…. 9
1.4 บุคลากร........................................................................................................... 10
1.5 จานวนสาขาของร้านสะดวกซือ้ ทัง้ ในชุมชนและสถานีบริการน้ ามัน..…………… 12
1.6 มูลค่าตลาดของร้านค้าสะดวกซือ้ ....................................................................... 21
1.7 ช่องทางจัดจาหน่าย (Place).............................................................................. 27
3.1 สรุปผลจากการสัมภาษณ์ผใู้ ช้บริการร้านค้าสะดวกซือ้ 7-Eleven…...…………… 68
3.2 สรุปผลจาการสัมภาษณ์ผใู้ ช้บริการร้านค้าสะดวกซือ้ 7-Eleven ด้านส่วนประสม 69
การตลาดบริการ...............................................................................................
3.3 แสดงการวิเคราะห์ SWOT ระดับองค์กร (Corporate Level)…………………….. 73
3.4 แสดงกลยุทธ์ระดับองค์กร (Corporate Level).......................…………………… 74
3.5 สรุปทางเลือกกลยุทธ์และการประเมินกลยุทธ์ระดับองค์กร.................................. 75
3.6 แสดงการวิเคราะห์ SWOT ระดับธุรกิจ (Business Level).................................. 76
3.7 แสดงกลยุทธ์ระดับธุรกิจ (Business Level)...........................…………………… 77
3.8 สรุปทางเลือกกลยุทธ์และการประเมินกลยุทธ์ระดับธุรกิจ.................................... 78
3.9 แสดงการวิเคราะห์ SWOT ระดับหน้าที่ (Function Level)................................. 79
3.10 แสดงกลยุทธ์ระดับหน้าที่ (Function Level)....................................................... 80
3.11 สรุปทางเลือกกลยุทธ์และการประเมินกลยุทธ์ระดับหน้าที.่ .................................. 81
4.1 แสดงแผนการดาเนินกิจกรรมทางการตลาด (Action Plan) สาหรับปี 2555…….. 94
แผนการศึกษา (Gantt Chart)........................................................................... 97
บทที่ 1
องค์กรและลักษณะของธุรกิ จขององค์กร
1. องค์กร และลักษณะธุรกิ จขององค์กร
ชื่อองค์กร บริษทั ซีพี ออลล์ จากัด (มหาชน)
ชื่อย่อ 7- Eleven
ที่อยู่ บริษทั ซีพี ออลล์ จากัด (มหาชน) 283 อาคารสีบุญเรือง 1 ถนนสีลม
แขวงสี ลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Tel 0-2677-9000 ต่อ 1726 หรือ 1719 Fax: 0-2677-1870
Email recruit@cpall.co.th
Website www.cpall.co.th
ประเภทธุรกิ จ ร้านค้าสะดวกซือ้
โครงสร้างองค์กร
โครงสร้างองค์กร ปี 2554
บริษทั ซีพี ออลล์ จากัด (มหาชน)
3
ภาพรวมการประกอบธุรกิ จ
บริษทั ซีพ ี ออลล์ จากัด (มหาชน) ก่อตัง้ ขึน้ เมื่อปี 2531 โดยบริษทั ในเครือเจริญโภค
ภัณฑ์ เพื่อให้เป็ นบริษทั ของคนไทยที่ประกอบธุรกิจหลักด้านค้าปลีกประเภทร้านค้าสะดวกซื้อ
ในประเทศไทยภายใต้เครื่องหมายการค้า “7-Eleven” โดยบริษทั ได้รบั สิทธิการใช้เครื่องหมาย
การค้าดังกล่าวจาก 7-Eleven, Inc. สหรัฐอเมริกา และได้เปิดร้านสาขาแรกทีซ่ อยพัฒพงษ์ เมื่อ
ปี 2532
ณ สิน้ ปี 2553 บริษทั มีรา้ น 7-Eleven ทัวประเทศรวม
่ 5,790 สาขา (ถือเป็ นประเทศทีม่ ี
ร้าน 7-Eleven มากเป็ นอันดับที่ 3 ของโลกรองจากประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา) โดยเป็ น
ร้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 2,786 สาขา (คิดเป็ นร้อยละ 48) เป็ นร้านในต่างจังหวัด 3,004
สาขา (คิดเป็ นร้อยละ 52) เมื่อแบ่งตามประเภทของร้านพบว่า มีรา้ นสาขาบริษทั 2,834 สาขา
(คิดเป็นร้อยละ 49) ส่วนทีเ่ หลือเป็ นร้านแฟรนไชส์ 2,541 สาขา (คิดเป็ นร้อยละ 44) และร้านค้า
ทีไ่ ด้รบั สิทธิช่วงอาณาเขต 415 สาขา (คิดเป็นร้อยละ 7) ปจั จุบนั มีลูกค้าเข้าร้าน 7-Eleven เฉลีย่
วันละ 7.1 ล้านคน
ทัง้ นี้ในปี 2553 บริษทั ได้ขยายสาขาร้าน 7-Eleven อย่างต่อเนื่องรวม 520 สาขา ทัง้ ใน
รูปแบบของร้านในทาเลปกติ และร้านในสถานีบริการน้ ามันของบริษทั ปตท. จากัด (มหาชน)
เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทัง้ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดย ณ สิ้นปี
2553 บริษทั มีรา้ นในทาเลปกติ 4,920 สาขา (คิดเป็ นร้อยละ 85) และร้านในสถานีบริการน้ ามัน
ปตท. 870 สาขา (คิดเป็นร้อยละ 15)
นอกจากนัน้ บริษทั ได้ขยายการลงทุนไปในธุรกิจทีช่ ่วยสนับสนุ นธุรกิจร้านค้าสะดวกซือ้
ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ดังต่อไปนี้
- บริษทั เคาน์เตอร์เซอร์วสิ จากัด (CS) เพื่อประกอบธุรกิจเป็ นตัวแทนรับชาระเงินค่า
สินค้าและบริการ
- บริษทั ซี.พี. ค้าปลีกและการตลาด จากัด (CPRAM) เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและ
จาหน่ายอาหารแช่แข็งและเบเกอรี่
- บริษทั รีเทลลิงค์ (ไทยแลนด์) จากัด (RTL) เพื่อประกอบธุรกิจการจาหน่ ายและ
ซ่อมแซมอุปกรณ์คา้ ปลีก
- บริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จากัด (TSC) (ลงทุนร่วมกับพันธมิต รทางธุ รกิจ) เพื่อ
ให้บริการชาระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรเติมเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Smart Purse)
- บริษทั โกซอฟท์ (ประเทศไทย) จากัด (GOSOFT) เพื่อให้บริการออกแบบและพัฒนา
ระบบงานด้านสารสนเทศ
- บริษัท เอ็ม เอ เอ็ม ฮาร์ท จากัด (MAM) เพื่อให้บริการปรึกษาวางแผนกิจกรรม
ทางการตลาด
4
Counter C.P. Retailing Retailink Gosoft MAM Heart Suksapiwat Dynamic Thai Panyatara
Service & Marketing (Thailand) (Thailand) Management Smart Card
Thailand
100%
Lotus Distribution
Investment Ltd.*
Successor
Investments Ltd.**
Hong Kong
* As of October 31, 2008, the restructuring of supercenter business in the PRC was completed.
** LDI has invested 100% in Successor Investments Limited (“SI”) on September 9, 2010
5
โครงสร้างรายได้
รายได้ส่วนใหญ่ของบริษทั มาจากรายได้จากการขายสุทธิและรายได้การให้บริการ ซึ่ง
สามารถแบ่งตามกลุ่มธุรกิจได้เป็ น 3 กลุ่ม ดังต่อไปนี้ (โปรดดูรายละเอียดเพิม่ เติมในข้อ 11
ฐานะการเงินและผลการดาเนินงาน)
Kudsan Xta
7-Catalog Retailink
บริ การด้านการเงิ น
CPRAM
สถาบันการจัดการ สถาบันอบรม
ปัญญาภิ วฒ
ั น์ ปัญญธารา
บริ การด้านสารสนเทศ
Gosoft
9
บริ การด้านการสื่อการตลาด
MAM Heart
Dynamic
Management
ทุนจดทะเบียน จานวนพนักงาน
โครงสร้างเงิ นทุน
หลักทรัพย์ของบริษทั
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 บริษทั มีทุนจดทะเบียน 4,500,000,000 บาท เป็ นทุนเรียก
ชาระแล้ว 4,493,148,024 บาท แบ่งเป็ นหุ้นสามัญ 4,493,148,024 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1
บาท
ผูถ้ ือหุ้น
ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2553
ผูถ้ ือหุ้นใหญ่
จานวนหุ้น ร้อยละ
1. บริษทั ซี.พี.เมอร์แชนไดซิง่ จากัด* 1,214,642,200 27.03
2. บริษทั เครือเจริญโภคภัณฑ์ จากัด* 764,946,000 17.02
3. American International Assurance Company, Limited- 327,184,400 7.28
Di-Life
4. State Street Bank and Trust Company 278,113,045 6.19
5. บริษทั ไทยเอ็นวีดอี าร์ จากัด 186,007,339 4.14
6. Chase C.S. Central Nominees Limited 165,586,213 3.69
7. HSBC (Singapore) Nominees Pte Ltd 123,513,387 2.75
8. Albouys Nominees Limited 116,533,400 2.59
9. Government of Singapore Investment Corporation 106,015,600 2.36
10. บริษทั กรุงเทพโปรดิว๊ ส์ จากัด (มหาชน)* 91,505,200 2.04
11. อื่นๆ 1,119,101,240 24.91
รวม 4,493,148,024 100.00
* เป็ นบริษทั ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึง่ ถือหุน้ รวมกันร้อยละ 46.09 ของทุนจดทะเบียนทีเ่ รียกชาระแล้ว
10
นโยบายการจ่ายเงิ นปันผล
คณะกรรมการบริษทั มีนโยบายทีจ่ ะเสนอให้ทป่ี ระชุมผูถ้ อื หุน้ พิจารณาจ่ายเงินปนั ผลแก่
ผูถ้ อื หุ้นเป็ นจานวนประมาณร้อยละ 50 ของกาไรสุทธิจากการดาเนินงานจากงบการเงินเฉพาะ
กิจการหลังหัก ภาษีเ งินได้แ ละส ารองตามกฏหมายในแต่ ล ะปี โดยพิจารณาประกอบกับงบ
การเงิน รวม ทัง้ นี้ น โยบายการจ่ า ยเงิ น ป นั ผลดั ง กล่ า วอาจมีก ารเปลี่ ย นแปลงได้ หาก
คณะกรรมการบริษทั พิจารณาฐานะการเงิน ภาวะเศรษฐกิจ และผลการดาเนินงานของบริษัท
รวมทัง้ โครงการในอนาคตแล้วเห็นว่าควรเสนอทีป่ ระชุมผูถ้ อื หุน้ เป็ นประการอื่น
ในส่วนของบริษทั ย่อย คณะกรรมการบริษทั ของบริษทั ย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปนั ผล
ตามผลประกอบการของแต่ละบริษทั โดยมิได้กาหนดอัตราการจ่ายเงินปนั ผลทีแ่ น่ นอนแต่ขน้ึ อยู่
กับฐานะการเงินและแผนการลงทุนในอนาคตของบริษทั ย่อย
บุคลากร
กลุ่มลูกค้าหลักและส่วนแบ่งการตลาดขององค์กร
ลักษณะลูกค้า
บริษทั ให้บริการความสะดวกซื้อกับลูกค้าผ่านเครือข่ายร้านค้าที่กระจายอยู่ทุกชุมชน
ดังนัน้ กลุ่มลูกค้าของบริษทั จึงมีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย และหลากหลาย
อาชีพ ซึง่ อยู่อาศัยและดาเนินกิจกรรมในชีวติ ประจาวันอยู่ใกล้ๆ ร้าน 7-Eleven โดยภาพรวม
จานวนลูกค้าทีเ่ ข้าร้านมาซือ้ สินค้าและบริการในร้าน 7-Eleven ทัวประเทศเฉลี
่ ย่ วันละ 7.1 ล้าน
คนในปี 2553 เพิม่ ขึน้ จาก 6.1 ล้านคนในปี 2552
ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้าน 7-Eleven ในแต่ละสาขามีความต้องการสินค้าบริการ
แตกต่างกันออกไป บริษทั จึงมีการวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าตามทาเล
ทีต่ งั ้ โดยมีการจัดแบ่งกลุ่มร้านสาขา (Store Cluster) ออกเป็ น ทีพ่ กั อาศัย ตลาด สถานศึกษา
สานักงาน โรงพยาบาล ปมน ั ๊ ้ ามัน โรงงาน สถานทีท่ ่องเทีย่ ว สถานบันเทิง และจุดต่อรถ เพื่อใช้
11
ในการวางแผนกลยุทธ์การบริหารจัดการสินค้าและบริการตามทาเลทีต่ งั ้ ให้ตอบสนองกับความ
ต้องการของลูกค้ามากทีส่ ุด โดยคัดเลือกประเภทสินค้าให้เหมาะกับกลุ่ มลูกค้าทีเ่ ข้ามาใช้บริการ
ในร้านตามทาเลทีต่ งั ้ จัดเตรียมสินค้าและบริการให้เพียงพอกับช่วงเวลาทีล่ ูกค้าเข้ามาใช้บริการ
โดยเฉพาะช่วงขายดี ซึ่งแต่ละทาเลร้าน จะมีช่วงเวลาที่ขายดีแตกต่างกันทัง้ กลางวันกลางคืน
หรือวันทางานกับวันหยุด หรือแม้กระทังช่ ่ วงทีม่ เี ทศกาลหรือเหตุการณ์สาคัญในแต่ละพืน้ ที่ ล้วน
ส่งผลให้รา้ น 7-Eleven สามารถเพิม่ ยอดขายและกาไรอย่างต่อเนื่องในปีทผ่ี ่านมา
การตลาดและภาวะการแข่งขันของธุรกิ จร้านสะดวกซื้อ
ปี 2553 ยัง คงเป็ นอีก ปี ท่ภี าคธุ ร กิจค้าปลีก ต้อ งเผชิญ กับหลากหลายปจั จัย ที่เ ข้ามา
กระทบรายได้และกาลังซื้อของผู้บริโภค ทัง้ จากด้านเศรษฐกิจและความผันผวนทางการเมือง
รวมไปถึงภัยธรรมชาติ ทัง้ ภัยแล้งและน้ าท่วมที่ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรและกาลังซื้อของ
ประชาชน โดยดัชนีความเชื่อมันของผู ่ บ้ ริโภคตลอดทัง้ ปี 2553 ลดต่ ากว่า 100 มาโดยตลอด ซึง่
ต่ ากว่า 100 ติดต่อกันมาถึง 78 เดือน อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมันของผู ่ บ้ ริโภคในปี 2553
ได้ปรับตัวดีขน้ึ เมือ่ เทียบกับปี 2552
เมือ่ ผูบ้ ริโภคยังคงมีความกังวลเรือ่ งภาวะเศรษฐกิจและค่าใช้จ่าย ในขณะทีค่ วามเชื่อมัน่
ยังไม่ฟ้ื นตัว ย่อมมีผลต่อพฤติกรรมและอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค โดยพบว่า
ผู้ บ ริโ ภคจะหัน มาให้ ค วามส าคัญ กั บ ความคุ้ ม ค่ า ของเงิน ที่ จ ับ จ่ า ยใช้ ส อยเพิ่ ม มากขึ้น
ขณะเดียวกันก็มคี วามคาดหวังและความต้องการจากสินค้าและบริการเพิม่ ขึ้น อย่างไรก็ตาม
คาดว่าภาวะการค้าปลีกในปี 2553 จะขยายตัวขึน้ จากภาวะติดลบในปี 2552 โดยมูลค่าค้าปลีก
ในระบบภาษีภาพรวมในปี 2553 อยูท่ ป่ี ระมาณ 2.8 ล้านล้านบาท เพิม่ ขึน้ ร้อยละ 12
ในส่วนของการแข่งขันในตลาดรวมค้าปลีกปี 2553 ยังคงรุนแรงต่อเนื่องจากปี 2552
โดยส่วนใหญ่เป็ นการขยายการลงทุนเพื่อปรับปรุง พัฒนา และสร้างความทันสมัยให้กบั สาขา
เดิม รวมถึงการพัฒนารูปแบบร้านค้าให้มคี วามหลากหลายมากขึน้ ในขณะเดียวกันก็ยงั คงให้
ความสาคัญกับกลยุทธ์เดิมทัง้ กลยุทธ์ส่งเสริมและกระตุน้ การขายในรูปแบบต่างๆ การเพิม่ สินค้า
Private Brand รวมไปถึงการสร้างความผูกพันและการซื้ออย่างต่อเนื่องผ่านบัตรสมาชิก ทัง้ นี้
เพื่อดึงดูดผูบ้ ริโภค และรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ให้ได้มากทีส่ ุด
แม้ว่าการขยายสาขาของค้าปลีกรูปแบบเดิมโดยเฉพาะขนาดใหญ่ได้ชะลอตัวลง แต่
ทัง้ นี้คาดว่าในปี 2554 จะเริม่ มีความเคลื่อนไหวมากขึ้น หลังจากมีการควบรวมกันของธุรกิจ
ตลาดค้า ปลีก ขนาดใหญ่ ซึ่ง มีแ นวโน้ ม ในการขยายสาขาเพื่อ ให้ค รอบคลุ ม พื้น ที่เ พื่อ เจาะ
กลุ่มเป้าหมายในวงกว้างยิง่ ขึน้ โดยเฉพาะพืน้ ทีแ่ ถบชานเมือง และต่างจังหวัด อีกทัง้ พบว่าผูค้ า้
ปลีกหลายรายให้ความสนใจกับร้านค้าปลีกรูปแบบขนาดเล็ก ที่สามารถเข้าถึงชุมชน รองรับ
ความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ท่มี พี ฤติกรรมการจับจ่ายซื้อสินค้าใกล้บ้านหรืออยู่ในชุมชน
อาทิ บริเวณโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆ ที่เกิดขึน้ จานวนมาก ขณะเดียวกัน Community
12
สภาพการแข่งขันและคู่แข่งหลักขององค์กร
7- Eleven
ปี 2554
แผนการดาเนินธุ รกิจของเซเว่นอีเลฟเว่น ยังคงรักษาอัตราเร่งในการเปิ ดสาขาใหม่
450-500 สาขาต่อปี พร้อมกันนี้ยงั เตรียมพัฒนาธุรกิจร้านคัดสรร และร้านเบเกอรี่-กาแฟ "ยูร"ิ
ซึง่ จะมีการวางแนวทางการทาตลาดทีช่ ดั เจนอีกครัง้ เบือ้ งต้นจะเป็ นการผนวกรวมร้านคัดสรร
และร้านเบเกอรี่-กาแฟยูรเิ ข้าด้วยกัน หลังจากนัน้ จะสร้างการรับรู้ใหม่มุ่งเน้ นสัดส่วนของการ
จาหน่ ายเบเกอรี่ กาแฟ มากขึน้ สอดรับตาแหน่ งทางการตลาดหลักของเซเว่นอีเลฟเว่นในการ
เป็ น ร้า นอิ่ม สะดวก ขณะเดีย วกัน จะมุ่ ง พัฒ นาและขยายบริก ารของบัต รสมาร์ท เพิร์ส ให้
ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากขึน้ ปจั จุบนั มีสมาชิกกว่า 3 ล้านราย ในจานวนนี้มกี ารใช้
จ่ายอย่างสม่าเสมอ 1 ล้านราย ล่าสุดบริษทั อยูร่ ะหว่างการเจรจาทางธุรกิจในการเติมเงินบัตรอีซ่ี
พาส ผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่นได้
นอกจากนี้ยงั อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรธุรกิจกลุ่มอาหารจากประเทศญี่ ปุ่นในการตัง้
โรงงานผลิตอาหารแช่เย็นในไทย ซึง่ จะเป็ นการร่วมทุน 3 ฝ่ายประกอบด้วย ซีพอี อลล์ ซีพเี อฟ
และพัน ธมิต รจากประเทศญี่ปุ่ น ซี่ง มีโ นว์ฮ าวและความเชี่ย วชาญในการผลิต เบนโต๊ ะ ป้ อ น
เครือข่ายร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในญี่ปุ่น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนโรงงานนับพันล้านบาท เพื่อรองรับ
การเติบโตและการขยายตัวของกลุ่มอาหารแช่เย็นในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทีจ่ ะมีการขยายให้ครบ
7,000 สาขา ในปี 2556 จากเดิมทีอ่ าหารกล่องทีข่ ายในเซเว่นฯผลิตจากโรงงาน 2 แห่ง ได้แก่ ที่
ซีพเี อฟและซีพแี รมฯส่วนกลยุทธ์ในช่วงครึง่ ปีหลังได้มุ่งขยายสินค้าประเภทอาหารเพิ่ มขึน้ สู่รา้ น
อิม่ สะดวกอย่างต่อเนื่อง เพื่อทีจ่ ะสร้างความแตกต่างระหว่าง ร้าน 7-11 กับร้านค้าปลีกอื่น โดย
ได้เพิม่ เมนูอาหารกล่องแช่เย็นพร้อมรับประทาน (Chilled Food) เช่น แซนด์วชิ อบร้อน อาหาร
กล่องพร้อมรับประทาน ซึง่ เป็ นตลาดที่ใหญ่และเริม่ ได้รบั ความนิยมเหมือน อาหารกล่องพร้อม
รับประทาน แช่แข็ง (Frozen Food) รวมถึงผลิตภัณฑ์กลุ่ม เบเกอรี่ ซึง่ ขายมาก่อนหน้า
แฟมิ ลี่มาร์ท
บริษทั แฟมิลม่ี าร์ท จากัด ประเทศญีป่ นุ่ ได้กาหนดนโยบายในการขยายสาขาทีม่ อี ยู่ทวั ่
โลก จาก 17,923 สาขา ณ ปจั จุบนั เพิม่ เป็ น 20,000 สาขา ,ณ สิน้ เดือน เมษายน พ.ศ. 2554
เรามีจานวนสาขาอยู่ทงั ้ สิน้ 631 สาขา ดังนัน้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว ทางบริษทั
สยามแฟมิล่มี าร์ท จากัด จึงมีแผนที่จะเสริมสร้างความหนักแน่ นของฐานการบริหารเครือข่าย
แฟมิล่มี าร์ททุก สาขา รวมทัง้ มีก ารตอกย้าในด้านภาพลักษณ์ของแฟมิล่มี าร์ท เพื่อ ให้เ ป็ นที่
ยอมรับมากยิง่ ขึน้
นอกจากนี้ เรายังมุง่ เน้นในด้านประสานความร่วมมือกับบริษทั สยาม ดีซเี อ็ม จากัด ซึง่
เป็ น บริษัท ร่ว มทุ น ของเรา ด าเนิ น ธุ ร กิจ ด้า นโลจิส ติก ส์ และการกระจายสิน ค้า โดยอาศัย
14
รูปแบบร้าน
จากเป้าหมายที่ต้องการให้ลูกค้าจับจ่ายได้อย่างสะดวก เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส จึง
จัดรูปแบบร้านเป็ นร้านค้าชัน้ เดียว และตัง้ อยู่ใกล้แหล่งชุมชนหรือจุดแวะพัก ได้แก่ ตามชุมชน
ต่างๆ หรือตามสถานีบริการน้ ามัน โดยมีขนาดพืน้ ที่ขาย ตัง้ แต่ 150-360 ตารางเมตร พร้อม
บริการทีจ่ อดรถ
สิ นค้าและบริ การ
ทีเ่ ทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส เรามีสนิ ค้ากว่า 2,600 รายการ ได้แก่
สินค้าบริโภค / Grocery Food
น้ามันพืชและเครือ่ งปรุง / Cooking needs
ผลิตภัณฑ์แปรรูปการเกษตร / Agricultural product
บะหมีแ่ ละอาหารกึง่ สาเร็จรูป / Pasta & instant food
อาหารกระป๋อง / Canned food
แยม, มาการีน / Baking needs
ขนมขบเคีย้ ว / Confectionery & snack
นมผงและอาหารเสริม / Food supplement
เครือ่ งดื่ม / Beverage
สินค้าอุปโภค / Grocery Non-Food
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม / Health & beauty
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพปากและฟนั / Oral hygiene
ผลิตภัณฑ์ดแู ลเส้นผม / Hair care
เครือ่ งสาอาง / Cosmetics
เคมีภณ ั ฑ์ภายในบ้าน / Household chemical
กระดาษทิชชู / Paper goods
อาหารสัตว์เลีย้ ง / Pet food & supplies
อาหารสด / Fresh Food
ขนมปงั / Bakery
ผัก ผลไม้ / Produce
หมู เนื้อ ไก่ / Meat
ปลาและอาหารทะเล / Fish
เครือ่ งดื่มแช่เย็น / Dairy
บุหรีแ่ ละเครือ่ งดื่มแอลกอฮอล์ / Liquor & Tobacco (เครือ่ งดื่มแอลกอฮอล์มจี าหน่ายทุกสาขา
ยกเว้นสาขาทีต่ งั ้ อยูใ่ นสถานีบริการน้ ามัน)
18
การบริ หารงาน
เพื่อความเป็ นมาตรฐานเดียวกันด้านคุณภาพสินค้าและการบริการ เทสโก้ โลตัสเอ็กซ์
เพรสทุกสาขา ดาเนินการบริหารโดยเทสโก้ โลตัส เช่นเดียวกับร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต , ตลาดโลตัส
และร้านคุ้มค่า โดยยังไม่มกี ารเปิดร้านในลักษณะของแฟรนไชส์แต่อย่างใด ทัง้ นี้เพื่อการรักษา
19
ผูป้ ระกอบการในธุรกิจร้านสะดวกซือ้
บริษทั ตราสินค้า
บริษทั ซีพ ี ออลล์ จากัด (มหาชน) เซเว่นอีเลฟเว่น
บริษทั สยามแฟมิลม่ี าร์ท จากัด แฟมิลม่ี าร์ท
บริษทั ซันร้อยแปด จากัด 108 ช็อป
บริษทั เฟรชมาร์ท อินเตอร์เนชันแนล
่ จากัด เฟรชมาร์ท
บริษทั มินิมาร์ทเอ็กซ์เพรส จากัด (มหาชน) วี.ช็อป
20
ผูป้ ระกอบการในตลาดซูเปอร์มาร์เก็ต
บริษทั ตราสินค้า
บริษทั เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จากัด (CRC) ท็อปส์ เดลี่
บริษทั กรุงเทพผลิตภัณฑ์อาหาร จากัด ซีพี เฟรชมาร์ท
บริษทั เอก-ชัย ดิสทริบวิ ชัน่ ซิสเทม จากัด เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส
บริษทั สรรพสินค้าตัง้ ฮัวเส็
่ ง จากัด เก็ตอิต
บริษทั เซ็นคาร์ จากัด คาร์ฟูรซ์ ติ ้ี
บริษทั บิก๊ ซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จากัด (มหาชน) มินิบกิ๊ ซี
มูลค่าตลาดของร้านค้าสะดวกซื้อ
มูลค่าตลาดร้านสะดวกซือ้
ปี มูลค่าตลาด (ล้านบาท)
2550 105,130
2551 125,982
2552 147,220
2553 176,320
ส่วนแบ่งทางการตลาด
ส่ วนแบ่ งตลาดร้ านสะดวกซื้อ ปี 2550
9%
6%
68 %
11 %
ตราสินค้า ส่วนแบ่งการตลาด(%)
7- Eleven 68
วีชอป 11
แฟมิลม่ี าร์ท 6
เฟรชมาร์ท 6
108 ช็อป 2
อื่น ๆ 7
22
36 %
2%
55 %
7%
ส่วนแบ่งตลาดร้านสะดวกซือ้ ปี 2551
ตราสินค้า ส่วนแบ่งการตลาด(%)
7- Eleven 55
แฟมิลม่ี าร์ท 7
108 ช็อป 2
อื่น ๆ 36
35 %
2%
56 %
7%
23
ส่วนแบ่งตลาดร้านสะดวกซือ้ ปี 2552
ตราสินค้า ส่วนแบ่งการตลาด(%)
7- Eleven 56
แฟมิลม่ี าร์ท 7
108 ช็อป 2
อื่น ๆ 35
28 %
2%
65 %
5%
ส่วนแบ่งตลาดร้านสะดวกซือ้ ปี 2553
ตราสินค้า ส่วนแบ่งการตลาด(%)
7- Eleven 65
แฟมิลม่ี าร์ท 5
108 ช็อป 2
อื่น ๆ 28
ทีม่ า : สานักวิจยั ธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย จากัด (มหาชน)
24
แนวโน้ ม
คาดการณ์ว่าอีก 10 ปี จากนี้ต ลาดรวมร้านสะดวกซื้อจะเพิม่ ขึ้นถึง 50,000-60,000
ร้านค้า จากเดิมที่มอี ยู่กว่า 10,000 ร้านค้า การเติบโตดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงใน
หลายๆด้าน เช่น การที่กลุ่มคนชนชัน้ เกษตรกรก้าวสู่ชนชัน้ กลาง มีรายได้สูงขึ้น จากผลผลิต
ทางการเกษตรทีม่ มี ูลค่าสูงขึน้ และการที่เอเชียก้าวสู่แห่งยุคสมัยแห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ั่
เพราะจะมีการลงทุนเข้ามาสูงทัง้ จากฝงอเมริ กา ยุโรป รวมถึงประเทศจีนและญี่ปุ่นที่ประกาศที่
จะมีก ารลงทุนนอกประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเจริญตามมา พร้อ มส่ งผลต่ อพฤติกรรม
ผูบ้ ริโภคเปลี่ยนแปลงไป มีไลฟ์สไตล์ในการเข้าถึงห้างค้าปลีก และต้องการความสะดวกสบาย
มากยิง่ ขึน้
ทีม่ า : บริษทั มาร์เก็ตอินโฟ แอนด์ คอมมิวนิเคชัน่ จากัด วันที่ 07 ต.ค 2554
25
2. ปัญหาและลักษณะปัญหาที่เกิ ดขึ้นภายในองค์กร
ธุ ร กิ จ ค้ า ปลีก ยัง มีก ารแข่ ง ขัน ค่ อ นข้ า งสู ง และมีก ารเปลี่ย นแปลงไปมาก ท าให้
ผู้ประกอบการต้อ งมีก ารปรับตัว รองรับ พร้อ มมองหานวัต กรรมใหม่ๆ เพื่อ ตอบสนองความ
ต้องการของผูบ้ ริโภคให้ดยี งิ่ ขึน้
โดยธุรกิจค้าปลีกกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ตหรือดิสเคาน์สโตร์อย่างเทสโก้ โลตัส , บิก๊ ซี ต่าง
เร่งขยายสาขาซูเปอร์มาร์เก็ตไซส์เล็กลง จากถนนใหญ่มาอยู่ในตรอกซอกซอย ขณะทีก่ ลุ่มคอน
วีเนี่ยนสโตร์อย่างเซเว่น อีเลฟเว่น ก็ได้พฒ ั นาสาขาใหม่ทม่ี ใี หญ่ขน้ึ และรีโนเวตสาขาเดิมจาก 1
ห้อง เป็ น 2 ห้อง เป็ น 3 หรือบางแห่งก็เต็มทีไ่ ด้ถงึ 4 ห้อง เพื่อสร้างอานาจในการแข่งขันกับ
คู่แข่งขันรายใหญ่ๆได้ โดยเฉพาะเมื่อบิก๊ ซีรวมกับคาร์ฟูรท์ าให้ยงิ่ ได้เปรียบในการต่อรองกับซัพ
พลายเออร์ และกาหนดราคาจาหน่ ายสินค้าได้ถูกกว่า ประกอบกับเมื่อกลุ่มนี้มนี โยบายขยาย
สาขาไซส์เล็กมากขึน้ 7- Eleven ก็ต้องปรับกลยุทธ์โดยวางยุทธศาสตร์การทาให้รา้ น 7- Eleven
มีสนิ ค้าครบในขนาดของร้านทีใ่ หญ่ขน้ึ
ส่วนสถานการณ์ปญั หาต้นทุนสินค้ากาลังขยับตัวสูงขึน้ หลายกลุ่ม เช่น นม หรือ น้ ามัน
พืช ส่งผลให้มแี นวโน้ มที่จะขยับราคาจาหน่ ายเพิม่ สูงขึ้น นัน้ เป็ นเพียงปจั จัยลบระยะสัน้ ที่จะ
ส่งผลต่อธุรกิจค้าปลีกเท่านัน้
7- Eleven ใช้งบลงทุนรวมกว่า 3,600 ล้านบาท สาหรับการขยายสาขาใหม่ 500 แห่ง
การปรับปรุงสาขาเก่าที่มอี ายุเกินกว่า 5 ปี ประมาณ 500 แห่ง โดยเป็ นการปรับปรุงระบบ
คอมพิวเตอร์ ไอที การขยายคลังสินค้า เป็นต้น
นอกจากนี้ยงั มีนโยบายมุ่งพัฒนาและขยายธุรกิจ “ห้องที่ 3” มากขึน้ ทัง้ ร้านสุขภาพและ
ความงาม “เอ็กซ์ตา้ ” ร้านเบเกอรี่ กาแฟ ชา “ยูร-ิ คัดสรร” และบุ๊กสไมล์ ในรูปแบบการผสมผสาน
ในแต่ละทาเล กล่าวคือ ในทาเลใกล้กนั จะพิจารณาเปิดธุรกิจห้องที่ 3 แตกต่างกัน
สาหรับร้าน “ยูร-ิ คัดสรร” มีทงั ้ หมด 30 สาขา มีแผนขยายเพิม่ ไม่ต่ ากว่า 12 สาขา ส่วน
ปีต่อไปมีแผนขยายอีกหลาย 10 สาขา ขณะทีร่ า้ นเอ็กซ์ต้า มีทงั ้ หมด 30 สาขา มีแผนขยายต่อ
อีกกว่า 10 สาขา เพื่อให้ส อดคล้อ งกับการขยายสาขาของ7- Eleven และให้ทนั กับการ
เปลีย่ นแปลงของผูบ้ ริโภค โดยเน้นขยายสาขาในพื้นทีก่ รุงเทพฯเป็ นหลัก ซึง่ จะเลือกโมเดลที่
เหมาะสมลงไปตามแต่ละพืน้ ที่ ส่วนร้านหนังสือบุ๊คสไมล์มคี รบทุกสาขาที่มขี นาด 2 คูหาขึน้ ไป
นอกจากนี้ยงั มีแผนทดลองรูปแบบสาขาขนาด 4 คูหา หลังจากก่อนหน้านี้เคยทดลองไปแล้ว
และหยุดไปพักหนึ่ง ภายใต้คอนเซปต์การมีพ้นื ที่ให้ลูกค้านัง่ ทานอาหาร โดยนาร่องสาขาใน
สถานีบริการน้ ามันปตท. ทีเ่ ปิดให้ลูกค้าทีซ่ อ้ื อาหารพร้อมรับประทานกลุ่ม RTE (Ready to Eat)
แล้ว การมีพ้นื ที่นงั ่ ในร้านทาให้ 7- Eleven ก้าวสู่การเป็ น “คอนซูเมอร์สโตร์” เพราะการมานัง่
รับประทาน มีโอกาสที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าอื่นๆ อย่างน้อยเช่นน้ าดื่ม และขนม รวมถึงสินค้าใน
ชีวติ ประจาวัน จึงมีโอกาสทายอดขายมากขึน้ ตามไปด้วย
26
ช่องทางจัดจาหน่ าย (Place)
เปรียบเทียบจานวนสาขาในธุรกิจร้านคอนวีเนียนสโตร์
ตราสินค้า ปี 2549 ปี 2550 ปี 2551 ปี 2552 ปี 2553
7-11 3,761 4,450 5,000 5,200 5,790
วีชอ้ ป 1,110 991 1,100 1,180 -
แฟมิลม่ี าร์ท 450 510 552 555 600
เฟรชมาร์ท 420 500 611 700 600
108 ช็อป 715 846 975 700 1,100
เปรียบเทียบจานวนสาขาในธุรกิจร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต
ตราสินค้า ปี 2550 ปี 2551 ปี 2552 ปี 2553
เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส - 420 460 548
มินิบกิ๊ ซี 2 5 11 30
ท็อปส์เดลี่ 5 8 22 102
คาร์ฟูรซ์ ติ ้ี - - 1 -
ซีพเี ฟรชมาร์ท 330 420 500 650
เก็ตอิต - 1 3 3
3. ความสาคัญและผลกระทบของปัญหาที่เกิ ดขึ้นกับองค์กร
คาดการณ์ว่าอีก 10 ปี จากนี้ต ลาดรวมร้านสะดวกซื้อจะเพิม่ ขึ้นถึง 50,000-60,000
ร้านค้า จากเดิมที่มอี ยู่กว่า 10,000 ร้านค้า การเติบโตดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงใน
หลายๆด้าน เช่น การที่กลุ่มคนชนชัน้ เกษตรกรก้าวสู่ชนชัน้ กลาง มีรายได้สูงขึ้น จากผลผลิต
ทางการเกษตรทีม่ มี ูลค่าสูงขึน้ และการที่เอเชียก้าวสู่แห่งยุคสมัยแห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ
เพราะจะมีการลงทุนเข้ามาสูงทัง้ จากฝงอเมริ ั่ กา ยุโรป รวมถึงประเทศจีนและญี่ปุ่นที่ประกาศที่
จะมีก ารลงทุนนอกประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเจริญตามมา พร้อ มส่ งผลต่ อพฤติกรรม
ผูบ้ ริโภคเปลี่ยนแปลงไป มีไลฟ์สไตล์ในการเข้าถึงห้างค้าปลีก และต้องการความสะดวกสบาย
มากยิง่ ขึน้
จากราคาน้ ามันทีเ่ พิม่ สูงขึน้ ส่งผลต่อรูปแบบพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผูบ้ ริโภค
โดยส่วนหนึ่งมีการลดความถี่ในการซือ้ ลงและอาจจะมีการซือ้ ครัง้ เดียวในปริมาณทีม่ ากขึน้ รวม
ไปถึงการซือ้ สินค้าจากร้านค้าปลีกใกล้บา้ นหรือทีท่ างานมากขึน้ เพื่อตอบสนองความต้องการ
ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปประกอบกับมาตรการควบคุมผังเมือง ทาให้ร้านค้าปลีกขนาด
ใหญ่เริม่ มีการปรับรูปแบบไปสู่รา้ นค้าปลีกขนาดเล็กมากยิง่ ขึ้น ร้านสะดวกซื้อจึงเป็ นตลาดที่
น่ าสนใจเข้ามาลงทุนทัง้ จากผูป้ ระกอบการรายเดิมและผู้ค้าปลีกในตลาดอื่น ซึ่งมีทงั ้ รูปแบบที่
ประกอบการเองและขยายสาขาด้วยระบบแฟรนไชส์
คู่แข่งทางตรงของบริษัท คือ ร้านค้าปลีกขนาดเล็กทัง้ ที่เป็ นร้านค้าปลีกดัง้ เดิมและ
ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ในลักษณะ Chain Store ในขณะทีค่ ่แู ข่งทางอ้อมคือ ร้านอาหารฟาสต์ฟ้ ูด
ร้านกาแฟ หรือร้านค้าทีเ่ ป็ นทางเลือกของลูกค้า แม้ว่ามีการขยายสาขาอย่างมากของร้านค้า
ปลีกขนาดเล็กทัง้ ผูป้ ระกอบการทีม่ อี ยู่เดิม และผูป้ ระกอบการรายใหม่ แต่กพ็ บว่ายังคงมีโอกาส
ในการขยายสาขาเพื่อเข้าถึงชุมชนได้อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการและพฤติกรรม
ของผู้บริโภคที่ต้อ งการความสะดวกและรวดเร็ว มากขึ้น อีกทัง้ นโยบายของภาครัฐก็มกี าร
สนับสนุ นให้เกิดการลงทุนด้านสาธารณู ปโภคและการกระจายความเจริญไปสู่ชุมชน สิง่ ต่างๆ
เหล่านี้เป็ นปจั จัยสนับสนุ นให้เกิดการขยายตัวของร้านค้าปลีกขนาดเล็กเข้าไปสู่ชุมชน ทาให้
ผูบ้ ริโภคมีทางเลือกมากขึน้ ในการใช้บริการร้านค้าปลีก
4. วัตถุประสงค์ของการศึกษา
1. เพื่อศึกษาและวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเกี่ยวข้องกับองค์กร และกาหนดกลยุทธ์ใน
การแก้ไขปญั หาขององค์กรทัง้ ระดับองค์กร, ระดับธุรกิจ และกลยุทธ์การตลาด
2. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้บริการร้านค้าสะดวกซือ้ 7- Eleven
5. นิ ยามศัพท์
พฤติ กรรมของผู้บริ โภค (Consumer Behavior) หมายถึง การแสดงออกของแต่ละ
บุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้สนิ ค้าและบริกรทางเศรษฐกิจ รวมทัง้ กระบวนการในการ
ตัดสินใจทีม่ ผี ลต่อการแสดงออก
ร้านสะดวกซื้อ (Convenient Store หรือ Minimart) เป็ นร้านค้าปลีกทีพ่ ฒ
ั นามาจาก
ร้านค้าปลีกแบบเก่า หรือร้านขายของชา (Grocery Store) ผสมกับซูเปอร์มาร์เก็ต แต่มขี นาด
เล็กกว่า โดยส่วนใหญ่จาหน่ ายสินค้า Fast Food เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคอื่น ๆ เน้นการ
ให้บริการที่สะดวก ส่วนใหญ่ให้บริการ 24 ชัวโมง
่ ตัวอย่างผู้ประกอบการค้าปลีกประเภทนี้
ได้แก่ 7 - eleven และ Family Mart เป็นต้น
6. ประโยชน์ ที่คาดว่าจะได้รบั
1. เพื่อศึกษากลยุทธ์ต่างๆ ด้านการแข่งขันในตลาดธุรกิจร้านค้าสะดวกซือ้ ข้อมูลของ
คู่แข่งในตลาดพฤติกรรมการใช้บริการร้านค้าสะดวกซือ้ ของลูกค้า เพื่อรักษาความเป็ นผูน้ าธุรกิจ
ร้านค้าสะดวกซือ้
2. เพื่อประโยชน์ แ ก่ผู้ประกอบการรายใหม่ท่จี ะดาเนินธุรกิจร้านค้าปลีก ในการสร้าง
ระบบการให้บริการอย่างมีคุณภาพ เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็ น
อย่างดี
3. เพื่อ เป็ น ประโยชน์ แ ก่ นัก วิจ ยั นั ก ศึก ษา ตลอดจนผู้บ ริโ ภคหรือ บุ ค คลทัว่ ไป ใน
การศึกษาค้นคว้าในเรือ่ งการให้บริการ การบริหารการงานอย่างมีคุณภาพของร้านค้าสะดวกซือ้
7- Eleven เพื่อใช้งานวิจยั นี้เป็นแหล่งอ้างอิงต่อไป
30
บทที่ 2
แนวคิ ดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
- รัฐบาลมีนโยบายทางด้านเศรษฐกิจอย่างไร
- รัฐบาลกาลังทาสัญญาทางการค้าหรือไม่
ข้อ จากัด คือ งบประมาณที่ไ ด้รบั การสนับ สนุ นจากภาครัฐมีไม่เ พีย งพอที่จ ะสามารถจัด ตัง้
หน่ วยงานของตนเองอยู่ทุกจังหวัดทัวประเทศได้
่ ทัง้ หมดสามารถนามากาหนดยุทธศาสตร์เชิง
ป้องกัน คือ ยุทธศาสตร์การสร้างความร่วมมือกับโรงเรียนในพืน้ ทีท่ ุกจังหวัดทัวประเทศ
่
3) กลยุท ธ์เ ชิง แก้ ไ ข (WO Strategy) ได้ม าจากการน าข้อ มูล การประเมิน
สภาพแวดล้อ มที่เ ป็ นจุดอ่ อ นและโอกาสมาพิจารณาร่ว มกัน เพื่อ ที่จะนามากาหนดเป็ นยุทธ์
ศาสตร์หรือกลยุทธ์ในเชิงแก้ไข ทัง้ นี้เนื่องจากองค์การมีโอกาสทีจ่ ะนาแนวคิดหรือวิธใี หม่ ๆ มา
ใช้ในการแก้ไขจุดอ่อนทีอ่ งค์การมีอยู่ได้ ตัวอย่าง ระบบราชการมักมีจุดอ่อน คือ มีขนั ้ ตอนการ
ทางานที่ยาว ใช้เวลามาก ขณะเดียวกันก็มโี อกาส คือ โอกาสของการนาเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสารมาใช้ ทัง้ หมดสามารถนามากาหนดยุทธศาสตร์เชิงแก้ไข คือ ยุทธศาสตร์การ
ส่ ง เสริม ให้ม ีก ารนาเทคโนโลยีส ารสนเทศและการสื่อ สารมาใช้ใ นการบริห ารจัดการและใน
กระบวนการทางานของราชการให้มากขึน้ (e-Administration )
4) กลยุทธ์เชิงรับ (WT Strategy) ได้มาจากการนาข้อมูลการประเมินสภาพแวดล้อมที่
เป็ นจุดอ่อนและข้อจากัดมาพิจารณาร่วมกัน เพื่อทีจ่ ะนามากาหนดเป็ นยุทธ์ศาสตร์หรือกลยุทธ์
ในเชิงรับ ทัง้ นี้เนื่องจากองค์การเผชิญกับทัง้ จุดอ่อนและข้อจากัดภายนอกทีอ่ งค์การไม่สามารถ
ควบคุมได้ ตัวอย่าง ประเทศไทย จุดอ่อน คือ ต้องนาเข้าน้ ามันดิบจากต่างประเทศ ประกอบกับ
พบข้อจากัด คือ ราคาน้ ามันในตลาดโลกเพิม่ ขึน้ อย่างมาก ทัง้ หมดนามากาหนดยุทธศาสตร์ใน
เชิงรับ คือ ยุทธศาสตร์การรณรงค์ประหยัดพลังงานทัวประเทศอย่ ่ างจริงจัง และยุทธศาสตร์การ
หาพลังงานทดแทนทีน่ าทรัพยากรธรรมชาติในประเทศทีม่ อี ยู่มาใช้มากขึน้
ข้อดีของกลยุทธ์ความแตกต่าง
1. เมือ่ สินค้าทีแ่ ตกต่างจากบริษทั อื่น ทาให้ลูกค้าจงรักภักดีต่อสินค้านัน้ และตัดสินใจ
ซือ้ สินค้านัน้ ตลอดไปเรือ่ ยๆ
2. คู่แข่งมีน้อย เพราะพัฒนาสินค้าให้เหมือนกันได้ยาก
3. คู่แข่งรายใหม่จะเข้ามาแข่งขันก็ทาได้ยาก เพราะสินค้าติดตลาดเป็นทีน่ ิยมเรียบร้อย
ข้อควรระวังของกลยุทธ์ความแตกต่าง
1. คู่แข่งลอกเลียนแบบ เมื่อสินค้าใดเป็ นทีต่ ้องตาต้องใจของลูกค้า คู่แข่งก็จะพยายาม
เลียนแบบให้ได้ เพื่อสน้าคของตนเองจะขายได้ดใี นท้องตลาดด้วย ดังนัน้ คู่แข่งต้องพยายามทุก
วิถที างในการลอกเลียนแบบให้ได้
2. คู่แข่งขันไปทาธุรกิจทีต่ นเองเชีย่ วชาญ ในตลาดทีม่ ศี กั ยภาพ (Niche Market) เพราะ
ในตลาดทีม่ ศี กั ยภาพนี้ สามารถทให้บริษทั มีกาไรดีพอสมควร คือบริษทั สามารถอยูร่ อดได้
3. บางครัง้ สินค้าทีแ่ ตกต่างจากผูอ้ ่นื ไม่เป็ นทีน่ ิยม เมื่ออยู่ไปซักพักหนึ่ง ลูกค้าเห็นว่า
เป็นสิง่ ไม่เหมือนคนอื่น ลูกค้าก็ไม่สนใจต่อไป กลับสนใจในสิง่ ทีค่ นอื่นเขาสนใจกันมากกว่า
4. สินค้าทีม่ คี วามแตกต่างมากเกินไปทาให้ราคาขายสูงขึน้ ไม่จงู ใจลูกค้าเท่าทีค่ วร
5. บางครัง้ ลูกค้าเห็นว่าความแตกต่างของสินค้านัน้ เกินความจาเป็ น ก็ไม่เป็ นทีด่ งึ ดูดใจ
ลูกค้า
6. สินค้าทีแ่ ตกต่างบางครัง้ ไม่ได้สร้างคุณค่าทีแ่ ท้จริงในตัวสินค้า ก็ทาให้สนิ ค้าไม่ตดิ ใจ
กลยุทธ์ผสมกันระหว่างต้ นทุนตา่ และความแตกต่ าง การทีน่ ากลยุทธ์อย่างใดอย่างหนึ่งมา
ใช้ในตลาดโลกใบเดียวกัน เป็ นการยากทีจ่ ะประสบความสาเร็จ เช่น การสร้างกลยุทธ์ต้นทุนต่ า
ลูกค้าอาจคิดว่าสินค้ามีคุณภาพไม่ดพี อ จึงขายราคาต่ าได้ หรือสินค้าทีแ่ ตกต่ างจากผูอ้ ่นื ทาให้
ราคาแพงขึน้ ลูกค้าอาจไม่สามารถซือ้ ได้ เพราะฉะนัน้ การนากลยุทธ์สองอย่างนี้มาผสมกัน คือ
สินค้าราคาถูกและแตกต่างจากผูอ้ ่นื ก็เป็นสินค้าทีม่ คี ุณภาพดีแบะราคาก็ควรไม่แพงจนเกินไป
การสร้างกลยุทธ์ต้นทุนตา่ และความแตกต่างมีวิธีบริ หารจัดการที่ทนั สมัย ดังต่อไปนี้
1. ระบบการผลิ ตที่ ยืดหยุ่น (Flexible Manufacturing System) คือ ใช้กระบวนการ
ผลิตให้ได้สนิ ค้าหลายชนิดในเวลาเดียวกัน รวดเร็วยิง่ ขึน้ ใช้เวลาน้อยกว่าเดิม ในโลกของการ
เปลี่ยนแปลงรูปแบบสินค้า รสนิยมของผู้บริโภค เวลาในการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป ดังนั ้ น
ระบบการผลิตก็ตอ้ งตอบรับให้ทนั กับสิง่ เหล่านี้ดว้ ย เครือ่ งจักรทีด่ จี ะต้องออกแบบการผลิตสินค้า
ให้ได้หลายอย่าง
2. ระบบเครือข่ายข้อมูล (Information Network System) เช่น ห้าง Tesco Lotus
จะมีระบบเครือข่ายข้อมูลทีด่ มี าก ในการตรวจเช็คผูผ้ ลิต ผูข้ ายวัตถุดบิ ผู้แทนจาหน่ าย ทาให้
สนองตอบต่อความต้องการสินค้าได้ทนั เวลา มีระบบ Logistic ทีด่ ี มีการบริหารเครือข่ายข้าม
บริษทั ได้ดี
41
3.การกาจัดหรือทิง้ (Disposing)
หมายถึงการติดตามดูว่า ผู้บริโภคใช้ส้นิ ค้าหรือบริการ และหีบห่อของสินค้าหมดไป
อย่างไร โดยติดตามดูพฤติกรรมผู้บริโภคที่ดาเนินไป และที่กระทบต่อสภาพแวดล้อมรอบตัว
ด้วย รวมไปถึงการดาเนินการโดยวิธอี ่นื กับสินค้าหรือบริการทีใ่ ช้แล้ว
ปจั จัยทีม่ ตี ่อการตัดสินใจของผูบ้ ริโภค
ผูบ้ ริโภคแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันในด้านต่างๆ ซึง่ มีผลมาจากความแตกต่างกัน
ของลักษณะทางกายภาพ และสภาพแวดล้อมของแต่ละบุคคล ทาให้การตัดสินใจซื้อและใช้
บริการของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน ดังนัน้ จึงจาเป็ นต้องศึกษาถึงปจั จัยต่างๆ โดยทีเ่ รา
สามารถแบ่งปจั จัยทีจ่ ะมีผลต่อพฤติกรรมของผูบ้ ริโภค ออกเป็น 2 ประการ ได้แก่
ปจั จัยภายใน (InternaI Factors)
ปจั จัยภายในเป็ นปจั จัยทีเ่ กิดขึน้ จากตัวบุคคล ในด้านความคิดและการแสดงออก ซึง่ มี
พืน้ ฐานมาจากสภาพแวดล้อมต่างๆ โดยทีป่ จั จัยภายในประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆ ได้แก่
ความจาเป็น ความต้องการ หรือความปรารถนา แรงจูงใจ บุคลิกภาพ ทัศนคติ การรับรู้
1. ความจาเป็ น (Needs) ความต้องการ (wants) และความปรารถนา (Desires) ความ
จาเป็ น ความต้องการ และความปรารถนา เป็ นคาทีม่ คี วามหมายใกล้เคียงกันและสามารถใช้
เเทนกันได้ ซึง่ เราจะใช้คาว่าความต้องการในการสื่อความเป็ นส่วนใหญ่ โดยทีค่ วามต้องการสิง่
หนึ่งสิง่ ใดของบุคคลจะเป็ นจุดเริม่ ต้นของความต้องการในการใช้สนิ ค้าหรือบริการ คือ เมื่อเกิด
ความจาเป็ นหรือความต้องการ ไม่ว่าในด้านร่างกายหรือจิตใจขึน้ บุคคลก็จะหาทางทีจ่ ะสนอง
ความจาเป็ นหรือความต้องการนัน้ ๆเราอาจจะกล่าวได้ว่า ความต้องการของมนุ ษย์ หรือความ
ต้องการของผูบ้ ริโภคเป็นเกณฑ์สาหรับการตลาดยุคใหม่ และเป็ นปจั จัยสาคัญของแนวความคิด
ทางการตลาด (Market concepts)
2. แรง จูงใจ (Motive) เมื่อบุคคลเกิดปญั หาทางกายหรือในจิตใจขึน้ และหากปญั หา
นัน้ ไม่รนุ แรงเขาอาจจะปล่อยวาง ไม่คดิ ไม่ใส่ใจ หรือไม่ทาการตัดสินใจใดๆ แต่หากปญั หานัน้ ๆ
ขยายตัวหรือเกิดความรุนเเรงยิง่ ขึ้น เขาก็จะเกิดแรงจูงใจในการพยายามที่จะแก้ไขปญั หาที่
เกิดขึน้ นัน้ ซึง่ เป็ นเรื่องทีส่ าคัญที่เรา ต้องศึกษาถึงความต้องการ และความคิดของผู้บริโภค
เพื่อทีจ่ ะสร้างแรงจูงใจในการซือ้ สินค้าหรือบริการแก่ผบู้ ริโภคให้ได้
3. บุคลิกภาพ (Personality) เป็ นลักษณะนิสยั โดยรวมของบุคคลทีพ่ ฒ ั นาขึน้ มาจาก
ความ คิด ความเชื่อ อุปนิสยั และสิง่ จูงใจต่างๆ ระยะยาวและแสดงออกมาในด้านต่างๆ ซึง่ มีผล
ต่อการกาหนดรูปแบบในการสนอง (Reaction) ของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน ซึง่ จะเป็ นลักษณะ
การตอบสนองในรูปแบบทีค่ งทีต่ ่อตัวกระตุ้นทางสภาพแวดล้อม เช่น ผูท้ ม่ี ลี กั ษณะเป็ นผูน้ าจะ
แสดงออก หรือตอบ- สนองต่อปญั หาด้วยความมันใจ ่ และกล้าแสดงความคิดเหนือมีความเป็ น
ตัวเองสูง ในขณะทีผ่ ทู้ ข่ี าดความมันใจในตนเองไม่
่ กล้าเสนอแนะความคิดเห็นและรับอิทธิพลจาก
ผูอ้ ่นื ได้งา่ ย จะมีลกั ษณะเป็นคนทีช่ อบตามผูอ้ ่นื
50
การกาหนดนโยบายและกลยุทธ์ด้านราคา
1. การตัง้ ราคาตามแนวภูมศิ าสตร์ (geographical pricing)
1.1 การตัง้ ราคาสินค้าแบบ F.O.B. เป็ นการตัง้ ราคาทีไ่ ม่รวมค่าขนส่ง โดยค่าขนส่งเป็ น
ภาระทีผ่ ซู้ อ้ื ต้องเสียเอง ผูข้ ายจะจ่ายให้เฉพาะค่าขนย้ายสินค้าเท่านัน้
1.2 การตัง้ ราคาส่งมอบราคาเดียว (การตัง้ ราคาแบบแสตมป์ไปรษณีย)์ เป็ นการตัง้ ราคา
สินค้าที่เท่ากันสาหรับผู้ซ้อื ทุกรายไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล โดยจะมีการรวมค่าขนส่งไว้ในราคา
สินค้าแล้ว
1.3 การตัง้ ราคาตามเขต เป็ นการตัง้ ราคาให้แตกต่างกันตามเขตทางภูมศิ าสตร์ท่ี
กาหนด โดยจะคิดราคาสาหรับผูซ้ อ้ื ทีอ่ ยูใ่ นเขตเดียวกันในราคาทีเ่ ท่ากัน
1.4 การตัง้ ราคาแบบผูข้ ายรับภาระค่าขนส่ง เป็ นการตัง้ ราคาทีผ่ ขู้ ายรับภาระค่าขนส่ง
จริงทัง้ หมดหรือเพียงบางส่วน
1.5 การตัง้ ราคาจากจุดฐานทีก่ าหนด วิธนี ้ีจะมีการกาหนดจุดฐานหรือจุดเริม่ ต้นสาหรับ
การคิดค่าขนส่งให้กบั ผูซ้ อ้ื ในจานวนทีเ่ ท่ากันไม่ว่าผูซ้ อ้ื จะอยู่ทใ่ี ดก็ตาม
2. นโยบายการให้ส่วนลดและส่วนยอมให้
ส่วนลด (discounts) ส่วนทีล่ ดให้จากราคาทีก่ าหนดไว้ในรายการเพื่อให้ผซู้ อ้ื กระทา
หน้าทีท่ างการตลาดบางอย่างทีเ่ ป็นประโยชน์ต่อผูข้ าย
ส่วนยอมให้ (allowances) ส่วนลดทีผ่ ขู้ ายลดให้กบั ผูซ้ อ้ื เพื่อให้ผซู้ อ้ื ทาการส่งเสริม
การตลาดให้กบั ผูข้ าย
2.1 ส่วนลดปริมาณ เป็ นจานวนเงินทีผ่ ขู้ ายยอมให้ผซู้ อ้ื หักออกจากราคาทีก่ าหนดไว้
โดยมีวตั ถุประสงค์เพื่อกระตุน้ ให้ซอ้ื ในปริมาณทีม่ ากขึน้
2.2 ส่วนลดการค้าหรือส่วนลดตามหน้าที่ เป็ นส่วนลดทีผ่ ผู้ ลิตจ่ายให้กบั คนกลางใน
ช่องทางการจาหน่าย เพื่อให้ผซู้ อ้ื ทาหน้าทีท่ างการตลาดบางอย่างแทนผูผ้ ลิต
2.3 ส่วนลดเงินสด เป็ นส่วนลดจากราคาขายทีผ่ ซู้ อ้ื ได้รบั จากการชาระค่าสินค้าภายใน
ระยะเวลาทีก่ าหนด เช่น 2/10, n/30หมายความว่า ถ้าชาระค่าสินค้าภายใน 10 วันนับจากวันที่
ประกฎในใบอินวอยซ์ จะได้รบั ส่วนลด 2% และต้องไม่เกิน 30 วัน
2.4 ส่วนลดตามฤดูกาล เป็ นส่วนลดทีใ่ ห้กบั ผูซ้ อ้ื ทีม่ กี ารสังซื่ อ้ สินค้าในช่วงนอกฤดูกาล
ขาย หรือช่วงทีข่ ายไม่ดี เช่น การลดราคาค่าห้องพักโรงแรม ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเทีย่ ว เป็ น
ต้น
2.5 ส่วนยอมให้จากการนาสินค้าเก่ามาแลก คือการทีผ่ ขู้ ายขายสินค้าใหม่โดยยอมให้ผู้
ซือ้ นาสินค้าเก่าที่ยงั มีมลู ค่ามาแลกซือ้ เป็ นจานวนเงินทีผ่ ผู้ ลิตยอมให้หกั ออกจากราคาขาย เพื่อ
เป็ นการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการตลาดบางอย่าง เช่น การโฆษณา การจัดแสดง
สินค้า เป็นต้น
56
ประโยชน์ ที่คาดว่าจะได้รบั
- ทราบถึงวิถชี วี ติ ของคนในเขตกรุงเทพฯและปริมลฑล
- ทราบถึงรสนิยมของกลุ่มผูบ้ ริโภคทีม่ ตี ่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ
- ช่วยให้เข้าใจถึงปจั จัยทีม่ อี ทิ ธิพลต่อการตัดสินใจซือ้ สินค้าของผูบ้ ริโภค
- ช่วยให้ผู้เกี่ยวข้อ งสามารถหาทางแก้ไขพฤติกรรมในการตัดสินใจซื้อสินค้าของ
ผูบ้ ริโภคในสังคมได้
60
บทที่ 3
ระเบียบวิ ธีการศึกษาและแผนการศึกษา
http://www.thaifranchisecenter.com/info/show.php?etID=820
บทสัมภาษณ์ของ คุณนายก่อศักดิ ์ ไชยรัศมีศกั ดิ ์ ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร บริษทั ซีพี ออลล์
จากัด (มหาชน)
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=158709
หนังสือพิมพ์เนชัน่
ข้อมูลปฐมภูม ิ (Collection of Primary Data) โดยทาการสัมภาษณ์
- ลูกค้าทีม่ าใช้บริการร้านค้าสะดวกซือ้ 10 ท่าน
โดยใช้รปู แบบการสัมภาษณ์เชิงลึก (Dept Interview) และ survey 400 ชุด
การกาหนดประชากรและเลือกกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ ใช้ในการศึกษาวิ จยั
ประชากรทีใ่ ช้ในการวิจยั คือ ผูใ้ ช้บริการร้านค้าสะดวกซือ้ 7 - Eleven ของบริษทั ซีพี
ออลล์ จากัด (มหาชน) ที่อาศัยอยู่เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจานวนประชากรทัง้ สิ้น
5,701,394 คน ( ทีม่ า : กรมการปกครองปี 2553, สืบค้นเมือ่ วันที่ 30 มกราคม 2555 )
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิ จยั
กลุ่มตัวอย่างทีใ่ ช้ในการวิจยั คือ ผูใ้ ช้บริการร้านค้าสะดวกซือ้ 7 - Eleven ของบริษทั ซี
พีออลล์ จากัด (มหาชน) ที่อ าศัยอยู่เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เนื่อ งจากทราบจานวน
ประชากรที่แน่ นอน ดังนัน้ ผู้วจิ ยั จึงทาการหาขนาดของกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สูตรคานวณแบบ
Taro Yamane (วิษณุ เหลืองลออ, 2549: 9-13) ทีร่ ะดับความเชื่อมัน่ 95% ซึง่ แทนค่าตามสูตร
ดังนี้
=
= ขนาดของตัวอย่าง
N = จานวนประชากร
e = ค่าความคลาดเคลื่อน
แทนค่า ดังนี้
62
= 399.99
≈ 400
สรุป จากการสารวจข้างต้น จึงได้ค่าจานวนกลุ่มตัวอย่างเท่ากับ 400 ตัวอย่าง
**หมายเหตุ เนื่องจากผูว้ จิ ยั มีขอ้ จากัดในเรื่องระยะเวลาในการทา จึงได้กาหนดกลุ่มตัวอย่างไว้
เพียง 100 ชุด เท่านัน้
วิ ธีการสุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่างทีใ่ ช้ในการศึกษาวิจยั ในครัง้ นี้คอื ผูใ้ ช้บริการร้านค้าสะดวกซือ้ 7 - Eleven
ของบริษทั ซีพอี อลล์ จากัด (มหาชน) ที่อาศัยอยู่เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร จานวนทัง้ สิ้น
400 คน โดยผูว้ จิ ยั จะทาการแจกแบบสอบถาม เมื่อลูกค้าใช้บริการทางร้านเสร็จ จะทาการแจก
แบบสอบถามให้กบั ลูกค้า
ผู้ว ิจยั ใช้ว ิธ ีก ารสุ่ มตัว อย่างแบบบังเอิญ หรือ การเลือ กตัว อย่างแบบใช้ค วามสะดวก
(Accidental sampling or Convenience sampling) เป็ นการเลือกตัวอย่างที่ ผูว้ จิ ยั เผอิญพบใน
สถานที่ทผ่ี ทู้ าวิจยั กาหนดไว้และตัวอย่างยินดีทจ่ี ะให้ความร่วมมือหรืออาจจะเป็ นการเลือกตาม
ความสะดวกของผูท้ าวิจยั ก็ได้ ตัวอย่างที่ถูกเลือกจะขึน้ อยู่กบั ผูท้ าวิจยั จะเลือกถามตามความ
สะดวกโดยผู้ตอบสมัครใจที่จะให้ข้อมูล ให้ค รบตามจานวนที่กาหนดไว้ (วิษ ณุ เหลืองลออ,
2549: 9-9)
การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
การวิจยั เชิงปริมาณนี้ เป็ นการวิจยั เพื่อศึกษา กลยุทธ์ส่วนผสมทางการตลาด 7P’s มี
ความสัมพันธ์กบั พฤติกรรมผูบ้ ริโภคอย่างมีนัยสาคัญหรือไม่ โดยใช้แบบสอบถามเป็ นเครื่องมือ
ทีใ่ ช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ซึง่ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 สอบถามเกีย่ วกับ Customer Profile ของผูต้ อบแบบสอบถาม
ในส่วนของ Customer Profile คือ ข้อมูลเกี่ยวกับประชากรศาสตร์ ได้แก่ เพศ , อายุ ,
ระดับการศึก ษา , อาชีพ , รายได้เฉลี่ยต่อ เดือน รวมทัง้ สิ้นมีค าถามทัง้ หมด 5 คาถาม โดย
ลักษณะคาถามเป็นแบบปลายปิด (Close-ended)
ส่วนที่ 2 สอบถามเกีย่ วกับ ความพึงพอใจผูใ้ ช้บริการร้านสะดวกซือ้
ในส่ ว นของความพึง พอใจผู้ใ ช้บ ริก ารร้า นสะดวกซื้อ โดยใช้ก ลยุท ธ์ส่ ว นผสมทาง
การตลาด 7P’s ลักษณะคาถามเป็ นแบบมาตราส่วน (Likert Scale) ทัง้ หมด สามารถจาแนกได้
ดังนี้
63
อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว
10. ชื่อผูส้ มั ภาษณ์ คุณจิราภรณ์ ถมทอง อายุ 25 ปี
อาชีพ พนักงานเอกชน
ตารางที่ 3.1 สรุปผลจากการสัมภาษณ์ผใู้ ช้บริการร้านค้าสะดวกซือ้ 7-Eleven ด้าน
พฤติกรรมผูบ้ ริโภค
ประเด็นคาถามสัมภาษณ์ สรุปเนื้ อหาที่สาคัญจากการสัมภาษณ์
พฤติ กรรมผูบ้ ริ โภค มีความหลากหลายของสินค้า สินค้าครบ สะดวก สบายใน
- มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง การมาใช้บริการ ใกล้บา้ น สาขามีเยอะ เนื่องจาก
เกีย่ วกับ สินค้าและการบริการของ ให้บริการ 24 ชัวโมง
่
ร้านค้าสะดวกซือ้ 7- Eleven
- คิดว่าร้านค้าสะดวกซือ้ ควรปรับปรุงในเรือ่ งของสินค้า สินค้าหมด ไม่เพียงพอต่อ
7- Eleven ควรปรับปรุงเรือ่ ง ความต้องการ หรือบางสินค้าก็หมดอายุแล้วยังมาวาง
อะไรบ้าง จาหน่าย พนักงานบางสาขาไม่ค่อยเต็มใจบริการ บาง
สาขาก็พดู จาไม่ดกี บั ลูกค้า และกระบวนการรชาระเงิน
ทอนเงินผิด ใช้เวลานานในการรอชาระเงินค่าสินค้า
- ประสบการณ์ทล่ี กู ค้าไม่พงึ พอใจ ประสบการณ์ทล่ี กู ค้าไม่พงึ พอใจเกีย่ วกับสินค้า คือ
เกีย่ วกับสินค้าและบริการของ - ราคาของสินค้าแต่ละสาขาของ 7- Eleven ไม่เท่ากัน จึง
ร้านค้าสะดวกซือ้ 7- Eleven ทาให้ลกู ค้าเกิดข้อสงสัยในมาตรฐานราคาของสินค้าใน 7-
Eleven เป็นอย่างมาก
- สินค้าบางชนิดหมดอายุ แล้วยังวางจาหน่ ายใน 7-
Eleven และสินค้าทีล่ กู ค้าต้องการหมด ไม่มสี นิ ค้า
ประสบการณ์ทล่ี กู ค้าไม่พงึ พอใจเกีย่ วกับบริการ คือ
- การรอชาระเงิน เนื่องจากเป็นพนักงานใหม่ จึงทาให้
ขัน้ ตอนในการชาระเงินมีความล่าช้ากว่าปกติ และใน
บางครัง้ เกิดการผิดพลาด
- ช่องชาระเงินเปิดให้บริการไม่ครบทุกช่อง เช่น บาง
สาขามีช่องชาระเงินมี 3 ช่องแต่เปิดให้บริการเพียงช่อง
เดียว ทาให้ลกู ค้าคอยนาน
69
ส่วนที่ 1 ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ของผู้ตอบแบบสอบถาม
ในการศึก ษาจานวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามจาแนกตามเพศ จากกลุ่ ม
ตัวอย่างจานวน 100 คน พบว่า ผูต้ อบแบบสอบถามเป็ นเพศชาย จานวน 42 คน เพศหญิง 58
คน
ในการศึก ษาจานวนและร้อ ยละของผู้ตอบแบบสอบถามจาแนกตามอายุ จากกลุ่ ม
ตัวอย่างจานวน 100 คน พบว่า ผูต้ อบแบบสอบถามอายุ 24-30 ปี เป็ นอันดับ 1 จานวน 48 คน
คิดเป็ นร้อยละ 48.00, อายุ 19-23 ปี เป็ นอันดับ 2 จานวน 24 คน คิดเป็ นร้อยละ 24.00 และ
อายุ 16-18 ปี เป็นอันดับ 3 จานวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 15.00
ในการศึกษาจานวนและร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถามจาแนกตามระดับการศึกษา จาก
กลุ่มตัวอย่างจานวน 100 คน พบว่า ผูต้ อบแบบสอบถามมีระดับการศึกษา ในระดับปริญญาตรี
เป็นอันดับ 1 จานวน 56 คน คิดเป็นร้อยละ 56.00, ในระดับปริญญาโท เป็ นอันดับ 2 จานวน 18
คน คิดเป็นร้อยละ 18.00
ในการศึกษาจานวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามจาแนกตามอาชีพ จากกลุ่ม
ตัวอย่างจานวน 100 คน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามประกอบอาชีพนักศึกษา เป็ นอันดับ 1
จานวน 37 คน คิดเป็นร้อยละ 37.00, พนักงานเอกชน เป็ นอับดับ 2 จานวน 19 คน คิดเป็ นร้อย
ละ 19.00 และนักเรียน เป็นอันดับ 3 จานวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 18.00
ในการศึกษาจานวนและร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถามจาแนกตามรายได้เฉลีย่ ต่อเดือน
จากกลุ่มตัวอย่างจานวน 100 คน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีรายได้เฉลี่ย 9,001 – 15,000
บาทต่อเดือน เป็นอันดับ 1 จานวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 30.00, มีรายได้เฉลีย่ 6,001 – 9,000
บาทต่อเดือน เป็ นอันดับ 2 จานวน 27 คน คิดเป็ นร้อยละ 27.00 และมีรายได้เฉลี่ย 15,001 –
20,000 บาทขึน้ ไปต่อเดือน เป็นอันดับ 3 จานวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 22.00
สรุปผลจากการศึกษาข้อมูลด้านประชากรศาสตร์
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็ นเพศหญิง อายุประมาณ 24-30 ปี ระดับการศึกษาอยู่ท่ปี ริญญาตรี
เป็นนักศึกษา มีรายได้เฉลีย่ ประมาณ 9,001 – 15,000 บาทต่อเดือน
ตารางที่ 3.4 แสดงกลยุทธ์ระดับองค์กร (Corporate Level) บริษทั ซีพอี อลล์ จากัด (มหาชน) หรือ 7- Eleven
จุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses)
S1. ภาพลักษณ์ขององค์กรมีความน่าเชือ่ ถือ และมีชอ่ื เสียง W1. การขยายสาขาเพิม่ ขึน้ นัน้ มีส่วนทาให้กาไรสุทธิลดลงเนื่องจากมีค่าใช้จ่าย
SWOT Analysis S2. ส่วนแบ่งตลาดมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในการขายและบริหารเพิม่ ขึน้ ด้วยเหตุน้อี าจทาให้การจ่ายเงินปนั ผลให้กบั ผูถ้ อื
S3. มีความแข็งแกร่งเรื่องเงินทุนและมีศกั ยภาพในการขยายสาขา และเพิม่ ยอดขายให้ หุน้ เปลีย่ นไป อาจสร้างความไม่พงึ พอใจให้กบั ผูถ้ อื หุน้ ได้
สูงขึน้ เป็ นอย่างมาก
โอกาส (Opportunities) SO Strategy ST Strategy
O1. บริษทั ซีพอี อลล์ จากัด (มหาชน) เป็ นบริษทั ทีร่ จู้ กั โดยทัวไป
่ กลยุทธ์การเจริ ญเติ บโต (Growth strategies) กลยุทธ์ความคงที่ (Stability strategy)
หากมีความจาเป็ นในการระดมทุนเพิม่ ก็มคี วามสามารถในการ เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจค้าปลีกมีแนวโน้มเติบโตสูง การทีก่ ลุ่มคนชนชัน้ เกษตรกรก้าวสู่ชน ปจั จุบนั ค่าครองชีพทีส่ งู ขึน้ ส่งผลให้อตั ราค่าเช่าร้านสูงขึน้ มาก อีกทัง้ แหล่งทาเล
ระดมทุนได้ง่าย ชัน้ กลาง มีรายได้สงู ขึน้ จากผลผลิตทางการเกษตรทีม่ มี ูลค่าสูงขึน้ และการทีเ่ อเชียก้าวสู่ ทีต่ งั ้ ร้าน ตามชุมชนต่าง ๆ มีราคาแพง ซึง่ จะส่งผลทาให้ ค่าใช้จ่ายของร้านโดยรวม
O2. การขยายเพิม่ ของแฟรนไชส์ จะช่วยให้บริษทั ไม่ตอ้ งลงทุนใน แห่งยุคสมัยแห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจเพราะจะมีการลงทุนเข้ามาสูงทัง้ จากฝงอเมริ ั่ กา สูงขึน้ และจะส่งผลให้กาไรสุทธิของบริษทั ลดน้อยลง แต่เนื่องจากภาพลักษณ์ของ
การเพิม่ สาขามากนัก แต่สามารถมีสาขาเพิม่ ขึน้ ได้ ยุโรป รวมถึงประเทศจีนและญี่ปุ่นทีป่ ระกาศทีจ่ ะมีการลงทุนนอกประเทศ ซึง่ จะส่งผลให้ องค์กรมีความน่าเชือ่ ถือ และความชือ่ เสียงของบริษทั ซีพอี อลล์ จากัด (มหาชน) จึง
O3. เทคโนโลยีมพี ฒ ั นาการอย่างต่อเนื่อง เกิดความเจริญตามมา พร้อมส่งผลต่อพฤติกรรมผูบ้ ริโภคเปลีย่ นแปลงไป มีไลฟ์สไตล์ใน รักษาระดับ Switching cost ไม่ให้ลดลงมากนัก ทัง้ นี้เพื่อรักษาระดับของบริษทั ให้
O4. ตลาดของร้านค้าปลีกมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การเข้าถึงร้านค้าปลีก และต้องการความสะดวกสบายมากยิง่ ขึน้ บริษทั ซีพอี อลล์ จากัด คงที่
O5. กลุ่มคนชนชัน้ เกษตรกรก้าวสู่ชนชัน้ กลาง มีรายได้สงู ขึน้ จาก (มหาชน) จึงเตรียมการขยายสาขาให้ครบ 7,000 สาขา ภายใน 3 ปี ขา้ งหน้า โดยวางแผน (S1,S3,T1)
ผลผลิตทางการเกษตรทีม่ มี ลู ค่าสูงขึน้ ลงทุนไว้ปีละ 4,000 ล้านบาท เพื่อให้ครอบคลุมทุกพืน้ ที่ทม่ี โี อกาสเติบโต มีประชากร
O6. การเติบโตทางเศรษฐกิจเพราะมีการเข้ามาลงทุนสูง ทัง้ จาก อาศัยหนาแน่น เพื่อประกบคู่แข่ง และพัฒนาสินค้าและบริการให้มคี ุณภาพยิง่ ขึน้ เพื่อ
ั่
ฝงอเมริ กา ยุโรป รวมถึงประเทศจีนและญี่ป่นุ ทีป่ ระกาศทีจ่ ะมีการ รองรับพฤติกรรมผูบ้ ริโภคทีเ่ ปลีย่ นแปลงตามสถานการณ์ในอนาคต
ลงทุนนอกประเทศ (S2,S3,O2,O3,O4,O5,O6)
อุปสรรค (Threats) WO Strategy WT Strategy
T1. ปจั จุบนั ค่าครองชีพทีส่ งู ขึน้ ส่งผลให้อตั รา กลยุทธ์การขยายตัวให้ มากขึ้น (Intensive growth strategy) ตลาดของร้านค้าปลีกใน กลยุทธ์การพัฒนาผลิ ตภัณฑ์ (Product development strategy) การขยาย
ค่าเช่าร้านสูงขึน้ มาก อีกทัง้ แหล่งทาเลที่ตงั ้ ร้าน ตามชุมชนต่าง ๆ มี ปจั จุบนั มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความทันสมัยของเทคโนโลยีต่างๆ สาขาเพิม่ ขึน้ นัน้ มีส่วนทาให้กาไรสุทธิลดลงเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการขายและ
ราคาแพง ซึง่ จะส่งผลทาให้ ค่าใช้จ่ายของร้านโดยรวมสูงขึน้ และจะ ในปจั จุบนั และพฤติกรรมผูบ้ ริโภคได้เปลีย่ นไป จึงต้องตอบสนองความต้องการของ บริหารเพิม่ ขึน้ ด้วยเหตุน้อี าจทาให้การจ่ายเงินปนั ผลให้กบั ผูถ้ อื หุน้ เปลีย่ นไป
ส่งผลให้กาไรสุทธิของบริษทั ลดน้อยลง ผูบ้ ริโภคทัง้ สินค้าและบริการอย่างทัวถึ ่ ง แต่เนื่องจากการขยายสาขาเพิม่ ขึน้ นัน้ มีส่วนทา อาจสร้างความไม่พงึ พอใจให้กบั ผูถ้ อื หุน้ ได้
ให้กาไรสุทธิลดลงเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิม่ ขึน้ ด้วยเหตุน้อี าจทาให้ ประกอบกับปจั จุบนั ค่าครองชีพทีส่ งู ขึน้ ส่งผลให้อตั รา
การจ่ายเงินปนั ผลให้กบั ผูถ้ อื หุ้นเปลีย่ นไป อาจสร้างความไม่พงึ พอใจให้กบั ผูถ้ อื หุน้ ได้ ค่าเช่าร้านสูงขึน้ มาก อีกทัง้ แหล่งทาเลที่ตงั ้ ร้าน ตามชุมชนต่าง ๆ มีราคาแพง
บริษทั ซีพอี อลล์ จากัด (มหาชน) จึงเน้นการขยายเพิม่ ของแฟรนไชส์ จะช่วยให้บริษทั ไม่ ซึง่ จะส่งผลทาให้ ค่าใช้จ่ายของร้านโดยรวมสูงขึน้ และจะส่งผลให้กาไรสุทธิของ
ต้องลงทุนในการเพิม่ สาขามากนัก แต่สามารถมีสาขาเพิม่ ขึน้ ได้อกี ด้วย บริษทั ลดน้อยลง เพื่อหลีกเลีย่ งจุดอ่อนและอุปสรรคดังกล่าว จึงเสนอให้ บริษทั
(W1,O2,O4) ซีพี ออลล์ จากัด (มหาชน) ได้ขยายการร่วมมือกับธนาคาร เพื่อการปล่อย
สินเชือ่ ให้กบั แฟรนไชส์
เพื่อลดภาระทางการเงินในการขยายแฟรนไชส์
(W1,T1)
74
74
75
77
77
78
80
81
บทที่ 4
สรุปผลการศึกษา อภิ ปรายผล และข้อเสนอแนะ
4.1 สรุปและอภิปรายผลการศึกษา
4.2 ข้อจากัดทางการศึกษา
4.3 ข้อเสนอแนะ
4.3.1 ข้อเสนอแนะสาหรับบริษทั ซีพอี อลล์ จากัด (มหาชน)
4.3.2 ข้อเสนอแนะสาหรับการศึกษาครัง้ ต่อไป
กิ จกรรม สื่อ (Media) ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ .ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
85
86
4.2 ข้อจากัดทางการศึกษา
1. ข้อจากัดด้านระยะเวลาในการทาการศึกษาข้อมูลของบริษทั พีออลล์ จากัด (มหาชน)
หรือ 7- Eleven เนื่องจากปญั หาภัยธรรมชาติท่ที าให้เกิดความล่าช้าในการศึกษา สารวจ และ
เก็บข้อมูล จึงทาให้อาจเกิดความผิดพลาดของข้อมูลได้
2. ข้อมูลบางอย่างเป็ นความลับของทางบริษทั ไม่สามารถที่จะเปิ ดเผยต่อสาธารณชน
ได้ จึงทาให้ยากต่อการเข้าถึงข้อมูล
4.3 ข้อเสนอแนะ
4.3.1 ข้อเสนอแนะสาหรับบริ ษทั ซีพีออลล์ จากัด (มหาชน)
เนื่องจาก บริษทั ซีพอี อลล์ จากัด (มหาชน) หรือ 7- Eleven เป็ นบริษทั ที่ใหญ่และมี
ชื่อเสียงทางด้านธุรกิจค้าปลีกเป็นอย่างมาก ในการทาโปรโมชันต่ ่ างๆ ประสบความสาเร็จเพราะ
เป็นทีช่ ่นื ชอบของลูกค้าเป็ นอย่างมาก แต่ละแคมเปญทีอ่ อกมามีการตอบรับของลูกค้าเป็ นอย่าง
ดี
แต่เนื่องจากปจั จุบนั ธุรกิจค้าปลีกมีแนวโน้มการเติบโตสูง การทา Brand Loyalty มี
ความสาคัญกับองค์กรมาก เพราะลูกค้ามีทางเลือกมากขึน้ ประกอบกับราคาสินค้าและบริการ
ของ 7- Eleven มีราคาทีส่ ูงกว่าคู่แข่ง มีคากล่าวว่าการสร้างลูกค้าใหม่ 1 คน จะมีต้นทุนสูงกว่า
การรักษาลูกค้าเก่า 1 คน ถึง 5 – 10 เท่า และในปจั จุบนั เกิดความหลากหลายในตราสินค้า
ประกอบกับการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดของคู่แข่งมากมายเพื่อดึงดูดใจให้ผบู้ ริโภคเปลีย่ นหรือ
หันไปใช้สนิ ค้าตราใหม่ๆ อยู่เสมอ ดังนัน้ กลยุทธ์ทส่ี าคัญทางการตลาดคื อ การสร้างความภักดี
ในตราสินค้า หรือ Brand Loyalty การสร้างความภักดีในตราสินค้าจึงมีความจาเป็ นมาก และทา
ให้ลกู ค้าเกิดต้นทุนทีจ่ ะเปลีย่ นไปใช้สนิ ค้าตราอื่น
ดังนัน้ 7- Eleven ควรเน้นเรือ่ งการทา Brand Loyalty เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมัน่ ใน
ตราสินค้า ความง่ายในการเข้าถึงลูกค้า และเข้าไปอยูใ่ นใจของลูกค้าตลอดไป
บรรณานุกรม
ภาษาไทย
ข้อมูลการจัดลาดับจาก : http://guru.google.co.th/
ข้อมูลการจัดลาดับจาก : http://mbaru.blogspot.com/
ข้อมูลการจัดลาดับจาก : http://www.bloggang.com/
ข้อมูลการจัดลาดับจาก : http://www.drmanage.com/
ข้อมูลการจัดลาดับจาก : http://www.thaifranchisecenter.com/
ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น. จากัด (มหาชน), บริษทั . ข้อมูลองค์กร: แบบรายงาน 56-1 [ออนไลน์].
______เข้าถึงจาก: http://www.cpall.co.th/corporate.aspx?mnu=th
เทสโก้ โลตัส : http://www.tescolotus.com/
บริษทั ซีพ ี ออลล์ จากัด (มหาชน) : http://www.cpall.co.th/
แฟมิล่ี มาร์ท : http://www.familymart.co.th/
ศิรวิ รรณ เสรีรตั น์ และคณะ. 2541. กลยุทธ์การตลาด การบริ หารการตลาด และ ______
๘๘๘๘๘กรณี ศึกษา. กรุงเทพมหานาคร: ธีระฟิลม์ และไซเท็กซ์.
หนังสือพิมพ์เนชัน่ สุดสัปดาห์ : http://www.oknation.net/
หนังสือพิมพ์ผจู้ ดั การ. 2554. กรุงเทพมหานคร. เข้าถึงจาก: http://www.oknation.net
88
ภาคผนวก
89
ภาคผนวก ก
แบบสอบถาม
เรื่อง พฤติกรรมผูบ้ ริโภค กลยุทธ์การตลาด และ การจัดการเชิงกลยุทธ์ ของธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็ก - กรณีศกึ ษา
ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven บริษทั ซีพอี อล์ จากัด (มหาชน)
ค าชี้ แ จง แบบสอบถามฉบั บ นี้ เ ป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของการศึ ก ษาค้ น คว้ า แบบอิ ส ระ เพื่ อ การศึ ก ษาของ
นักศึกษาหลักสูตรปริญญามหาบัณฑิต สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยมีวตั ถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรม
ผูบ้ ริโภคและกาหนดเชิงกลยุทธ์การตลาด ของธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็ก กรณีศกึ ษา ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven บริษัท ซีพอี อล์
จากัด (มหาชน)
ดังนัน้ ผูด้ าเนินการศึกษาหวังว่าจะได้รบั ความร่วมมือจากท่านในการตอบแบบสอบถามด้วยดี และขอขอบคุณในการ
ให้ความร่วมมือมา ณ โอกาสนี้ดว้ ย
90
7-11ไล่ประกบโลตัสเอ็กซ์เพรสทัวปท.
่ ผนึ กแบงก์หนุน"แฟรนไชส์"สปี ดสาขา
เมือ่ เร็ว ๆ นี้ นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศกั ดิ์ ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร บริษทั ซีพ ี ออลล์ จากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
บริษทั เตรียมทุ่มงบฯลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาทขยายสาขาของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นให้ครบ 7,000 สาขา ภายใน 3 ปีขา้ งหน้า
โดยวางแผนลงทุนไว้ปีละ 4,000 ล้านบาท และเน้นขยายสาขาใหม่ในอาเภอขนาดเล็ก ทีม่ โี อกาส การเติบโต มีประชากรอาศัย
หนาแน่ น "ผมบอกไม่ได้ว่า เราจะไปหยุดทีก่ ส่ี าขาเมือ่ ไหร่ เราอาจไปหยุดที่ 10,000 แห่ง เศษ ๆ หรือไม่แน่ เลย 10,000 แห่ง
เราอาจจะไปได้อกี การเปิดขยายสาขาเราจะเปิดไปเองแบบไม่หยุดเลย ทุกวันเปิด 3 วัน 5 สาขา เราไม่รอคุยกับแฟรนไชส์
เปิ ดดะเลย ร้านแฟรนไชส์เราต้องเปิ ดเป็ นของเราก่อน แล้วเราค่อยให้แฟรนไชส์มาสวมเข้าไป อย่างไรก็ตาม ปี 2552
ยอดขาย 96,000-97,000 ล้านบาท ปี 2553 คาดว่า ยอดขายเกิน 100,000 ล้านบาทอยู่แล้ว ถึงปี 2554 ยอดขายคงประมาณ
110,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมือ่ วิเคราะห์ถงึ ทิศทางธุรกิจของยักษ์ใหญ่รายนี้พบว่า จะเดินไปพร้อม ๆ กันทัง้ 3 แนวทาง คือการ
เร่งขยายสาขา โดยมีเป้ าหมายอยู่ที่ 7,000 สาขา ภายในปี 2556 การขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อลดภาระการ
ลงทุน และการใช้กลยุทธ์การเปิ ดสาขาประกบ เพื่อปิ ดทางโตของคู่แข่ง ล่าสุด บริษทั ซีพ ี ออลล์ จากัด (มหาชน) ได้ขยาย
การร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยสินเชื่อให้กบั แฟรนไชซี จากเดิมทีม่ เี พียงธนาคารนครหลวงไทย ก็มธี นาคารกสิกร
ไทย ธนาคารไทยพาณิชย์เข้ามาร่วมด้วย
93
5.1 พนักงานมีความถูกต้องในการให้
บริการ
5.2 พนักงานมีความรูค้ วามสามารถใน
การให้บริการ
5.3 พนักงานมีจานวนเพียงพอ
5.4 พนักงานมีความสุภาพออ่นน้อม มีมารยาทใน
การต้อนรับ
5.5 พนักงานมีการติดต่อสือ่ สารกับลูกค้าโดยใช้
คาพูดสุภาพ เข้าใจง่าย
6. ด้านการสร้างและนาเสนอลักษณะทางกายภาพ
6.1 ความสะอาดและความเป็นระเบียบ
6.2 ความกว้างขวางของร้านสะดวกซื้อ
6.3 ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสินค้าทีจ่ ดั วาง
6.4 อุปกรณ์อานวยความสะดวก เช่น ตะกร้า
เป็นต้น
7. ด้านกระบวนการ
7.1 ขันตอนในการรั
้ บและทอนเงินรวดเร็ว ชัดเจน
7.2 ขันตอนในการออกใบเสร็
้ จถูกต้อง และรวดเร็ว
ตารางที่ 2 แสดงกลุ่มตัวอย่างจาแนกตามอายุ
อายุ จานวน ร้อยละ
13-15 ปี 6 6.00
16-18 ปี 15 15.00
19-23 ปี 24 24.00
24-30 ปี 48 48.00
31 ปีขน้ึ ไป 7 7.00
รวม 100 100.00
จากตารางที่ 2 ในการศึกษาจานวนและร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถามจาแนกตามอายุ จากกลุ่มตัวอย่างจานวน 100
คน พบว่า ผูต้ อบแบบสอบถามอายุ 24-30 ปี เป็นอันดับ 1 จานวน 48 คน คิดเป็นร้อยละ 48.00, อายุ 19-23 ปี เป็นอันดับ 2
จานวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 24.00 และอายุ 16-18 ปี เป็นอันดับ 3 จานวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 15.00
ตารางที่ 3 แสดงกลุ่มตัวอย่างจาแนกตามระดับการศึกษา
ระดับการศึกษา จานวน ร้อยละ
มัธยมศึกษาตอนต้น 6 6.00
มัธยมศึกษาตอนปลาย 16 16.00
ปวช. 2 2.00
ปวส. 2 2.00
ปริญญาตรี 56 56.00
ปริญญาโท 18 18.00
ปริญญาเอก 0 0
รวม 100 100.00
จากตารางที่ 3 ในการศึกษาจานวนและร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถามจาแนกตามระดับการศึกษา จากกลุ่มตัวอย่าง
จานวน 100 คน พบว่า ผูต้ อบแบบสอบถามมีระดับการศึกษา ในระดับปริญญาตรี เป็นอันดับ 1 จานวน 56 คน คิดเป็นร้อยละ
56.00, ในระดับปริญญาโท เป็นอันดับ 2 จานวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 18.00
ตารางที่ 4 แสดงกลุ่มตัวอย่างจาแนกตามอาชีพ
อาชีพ จานวน ร้อยละ
นักเรียน 18 18.00
นักศึกษา 37 37.00
96
สรุปผลจากการศึกษาข้อมูลด้านประชากรศาสตร์
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุประมาณ 24-30 ปี ระดับการศึกษาอยู่ทป่ี ริญญาตรี เป็นนักศึกษา มีรายได้เฉลีย่
ประมาณ 9,001 – 15,000 บาทต่อเดือน
ขันตอนในการออกใบเสร็
้ จถูกต้อง และรวดเร็ว 3.91 0.88 มาก
ค่าเฉลี่ย 3.86 0.89 มาก
จากตารางที่ 12 ในการศึกษาความพึงพอใจผูใ้ ช้บริการด้านกระบวนการของผูต้ อบแบบสอบถาม จากกลุ่มตัวอย่าง
จานวน 100 คน พบว่า ผูต้ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจเรือ่ งขัน้ ตอนในการรับและทอนเงินรวดเร็ว ชัดเจนและขัน้ ตอนใน
การออกใบเสร็จถูกต้อง และรวดเร็ว อยู่ในระดับมาก
สรุปผลจากการศึกษาข้อมูลด้านความพึงพอใจผู้ใช้บริ การร้านสะดวกซื้อ
ลูกค้าส่วนใหญ่มคี วามพึงพอใจด้านช่องทางการจัดจาหน่ายอยู่ในระดับมากทีส่ ุด มีความพึงพอใจด้านผลิตภัณฑ์ ด้าน
ส่งเสริมการตลาด ด้านบุคคลหรือพนักงาน ด้านการสร้างและนาเสนอลักษณะทางกายภาพ และด้านกระบวนการอยู่ในระดับ
มาก และมีความพึงพอใจในด้านราคา อยู่ในระดับปานกลาง
100
ประวัติผศ้ ู ึกษา