Professional Documents
Culture Documents
คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป.1
ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
ตามหลักสู ตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
• ออกแบบการจัดการเรี ยนรู้ โดยใช้ มาตรฐานการเรี ยนรู้ และตัวชี้วดั ชั้นปี เป็ นเป้ าหมาย
• ออกแบบการจัดการเรี ยนรู้โดยเน้ นนักเรี ยนเป็ นศูนย์ กลาง
• ใช้ แนวคิด Backward Design ผสมผสานกับแนวคิดทฤษฎีการเรี ยนรู้ ต่าง ๆ อย่ างหลากหลาย
• ออกแบบการจัดการเรี ยนรู้ เพือ่ พัฒนาสมรรถนะสําคัญของผู้เรี ยนในการสื่อสาร การคิด
การแก้ ปัญหา การใช้ ทกั ษะชีวติ และการใช้ เทคโนโลยี
• แบ่ งแผนการจัดการเรี ยนรู้เป็ นรายชั่วโมง สะดวกในการใช้
• มีองค์ประกอบครบถ้ วนตามแนวทางการจัดทําแผนการจัดการเรี ยนรู้ของสถานศึกษา
• นําไปพัฒนาเป็ นผลงานทางวิชาการเพือ่ เลือ่ นวิทยฐานะได้
วัฒนาพานิช สํ าราญราษฎร์
216-220 ถนนบํารุ งเมือง แขวงสําราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุ งเทพฯ 10200
โทร.02 222 9394 • 02 222 5371-2 FAX 02 225 6556 • 02 225 6557
Email: info@wpp.co.th
๒
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป.1
ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
สงวนลิขสิ ทธิ์ตามกฎหมาย
ห้ ามละเมิด ทําซํา้ ดัดแปลง เผยแพร่
ส่ วนหนึ่งส่ วนใด เว้ นแต่ จะได้ รับอนุญาต
คณะผู้เขียน
อรุ ณี ลิมศิริ กศ.บ., กศ.ม.
กมลชนก สกาว์วฒั นานนท์ ศษ.บ.
คณะบรรณาธิการ
สุระ ดามาพงษ์ กศ.บ., กศ.ม.
สุดารัตน์ อุน่ เมือง วท.บ., วท.ม.
สกุนา หนูแก้ว วท.บ.
ISBN 978-974-18-5805-7
พิมพ์ที่ บริษัท โรงพิมพ์วฒ
ั นาพานิช จํากัด นายเริงชัย จงพิพฒ
ั นสุ ข กรรมการผู้จดั การ
๓
คํานํา
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 ชุดนี้เป็ นสื่ อการเรี ยนรู ้ที่จดั ทําขึ้น
เพื่อใช้เป็ นแนวทางในการจัดการเรี ยนรู ้ โดยยึดหลักการออกแบบการจัดการเรี ยนรู้แบบ Backward Design ที่เน้น
ผูเ้ รี ยนเป็ นศูนย์กลาง (Child- Centered) ตามหลักการยึดผูเ้ รี ยนเป็ นสําคัญ ส่ งเสริ มให้นกั เรี ยนมีส่วนร่ วมในกิจกรรม
และกระบวนการเรี ยนรู้ สามารถสร้างองค์ความรู ้ได้ดว้ ยตนเอง ทั้งเป็ นรายบุคคลและรายกลุ่ม โดยครู มีบทบาท
หน้าที่ อ าํ นวยความสะดวกให้ นัก เรี ย นประสบผลสําเร็ จ สนับ สนุ น ให้ นัก เรี ย นมี โอกาสฝึ กปฏิ บ ัติ ง านทั้ง ใน
ห้องเรี ยนและนอกห้องเรี ยน สามารถเชื่อมโยงความรู ้ในกลุ่มสาระการเรี ยนรู้อื่น ๆ ได้ในเชิงบูรณาการด้วยวิธีการที่
หลากหลาย เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสรุ ปความรู้ได้ดว้ ยตนเอง ทําให้นกั เรี ยนได้รับการพัฒนา
สมรรถนะสําคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่หลักสูตรกําหนดนําไปสู่การอยูร่ ่ วมกันในสังคมอย่างสันติสุข
การจัดทําคู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 เล่มนี้ ได้จดั ทําตาม หลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่ งครอบคลุมสาระการเรี ยนรู้ ได้แก่ การดํารงชีวิตและครอบครัว
การออกแบบและเทคโนโลยี และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร ภายในเล่มได้นําเสนอแผนการจัดการ
เรี ยนรู ้เป็ นรายชัว่ โมงตามหน่วยการเรี ยนรู ้ เพื่อให้ครู นาํ ไปใช้ในการจัดการเรี ยนรู้ได้สะดวกยิง่ ขึ้น นอกจากนี้ แต่ละ
หน่ วยการเรี ยนรู ้ยงั มีการวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้ท้ งั 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความรู ้ ด้านทักษะ/กระบวนการ และ
ด้านคุณธรรม จริ ยธรรม และ ค่านิยม ทําให้ทราบผลการเรี ยนรู้แต่ละหน่วยการเรี ยนรู้ของนักเรี ยนได้ทนั ที
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู้ นําเสนอเนื้อหาแบ่งเป็ น 3 ตอน คือ
ตอนที่ 1 คํ า ชี้ แ จงการจั ด แผนการจั ด การเรี ย นรู้ ประกอบด้ว ยแนวทางการใช้แ ผนการจัด การเรี ย นรู้
สัญลักษณ์ลกั ษณะกิจกรรมการเรี ยนรู ้ แนวคิดการออกแบบการเรี ยนรู ้แบบ Backward Design (BwD) เทคนิ คและ
วิธีการจัดการเรี ยนรู้–การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู ้ ตารางวิเคราะห์สาระ มาตรฐานการเรี ยนรู้ และตัวชี้วดั ชั้นปี
และโครงสร้างการแบ่งเวลารายชัว่ โมงในการจัดการเรี ยนรู้
ตอนที่ 2 แผนการจัดการเรี ยนรู้ ได้เสนอแนะแนวทางการจัดการเรี ยนรู้แต่ละหน่ วยการเรี ยนรู้ ในสื่ อการ
เรี ยนรู้ สมบู รณ์ แ บบและหนัง สื อ เรี ย น โดยมี ผ งั มโนทัศ น์ เป้ าหมาย การเรี ย นรู ้ แ ละขอบข่ ายภาระงาน ผังการ
ออกแบบการจัดการเรี ยนรู ้ และแบ่งเป็ นแผนย่อยรายชัว่ โมง ซึ่ งแผนการจัดการเรี ยนรู้แต่ละแผนมีองค์ประกอบ
ครบถ้วนตามแนวทางการจัดทําแผนการจัดการเรี ยนรู้ของสถานศึกษา
ตอนที่ 3 เอกสาร/ความรู้เสริมสํ าหรับครู ประกอบด้วยแบบทดสอบต่าง ๆ ได้แก่ แบบทดสอบก่อนเรี ยน
และหลังเรี ยน แบบทดสอบกลางปี แบบทดสอบปลายปี แบบประเมิ น ผลงาน แบบประเมิ น พฤติ กรรมและ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ดา้ นต่าง ๆ ของนักเรี ยน และความรู้เสริ มสําหรับครู อาทิ กระบวนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ใช้
ในกลุ่มสาระการงานอาชี พและเทคโนโลยี การจัดการเรี ยนรู ้แบบกลับด้านชั้นเรี ยน (Flipped Classroom) การจัด
กิจกรรมสะเต็มศึกษา (STEM Education) ซึ่งบันทึกลงในซีดี (CD) เพื่ออํานวยความสะดวกให้แก่ครู หรื อ ผูส้ อน
๔
คณะผู้จดั ทํา
๕
สารบัญ
ตอนที่ 1 คําชี้แจงการจัดแผนการจัดการเรียนรู้..................................................................................................... 1
1. แนวทางการใช้แผนการจัดการเรี ยนรู้..................................................................................................... 2
2. สัญลักษณ์ลกั ษณะกิจกรรมการเรี ยนรู้.................................................................................................... 5
3. การออกแบบการจัดการเรี ยนรู้แบบ Backward Design (BwD).............................................................. 6
4. เทคนิคและวิธีการจัดการเรี ยนรู ้–การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้........................................................ 17
5. ตารางวิเคราะห์สาระ มาตรฐานการเรี ยนรู ้ และตัวชี้วดั ชั้นปี .................................................................. 19
6. โครงสร้างการแบ่งเวลารายชัว่ โมงในการจัดการเรี ยนรู้.......................................................................... 20
ตอนที่ 2 แผนการจัดการเรียนรู้ ........................................................................................................................... 26
แผนปฐมนิเทศ ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรี ยน............................................................................................. 27
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง........................................................................................... 31
ผังมโนทัศน์เป้ าหมายการเรี ยนรู ้และขอบข่ายภาระงาน.............................................................................. 31
ผังการออกแบบการจัดการเรี ยนรู ้............................................................................................................... 32
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย.................................................................................. 35
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 วิธีการแต่งกายด้วยตนเอง................................................................................. 39
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 การแต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูกาล.................................................................. 43
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 การแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่............................................... 47
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 การดูแลรักษาเสื้ อผ้า......................................................................................... 51
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 การจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยน.............................................................................. 55
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 การจัดเก็บของเล่นและของใช้ส่วนตัว.............................................................. 59
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 การจัดโต๊ะ ตู้ และชั้น........................................................................................ 63
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 2 พืชใกล้ตวั ............................................................................................................................ 67
ผังมโนทัศน์เป้ าหมายการเรี ยนรู ้และขอบข่ายภาระงาน............................................................................. 67
ผังการออกแบบการจัดการเรี ยนรู ้.............................................................................................................. 68
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 รู้จกั พืช............................................................................................................. 70
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เครื่ องมือดูแลรักษาพืช................................................................................... 74
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 การรดนํ้าต้นไม้.............................................................................................. 78
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 การถอนและเก็บวัชพืช.................................................................................. 83
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 3 ช่ างประดิษฐ์ น้อย................................................................................................................. 87
ผังมโนทัศน์เป้ าหมายการเรี ยนรู ้และขอบข่ายภาระงาน.............................................................................. 87
ผังการออกแบบการจัดการเรี ยนรู ้............................................................................................................... 88
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือที่ใช้ทาํ ของเล่น.................................................... 90
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 การพับกระดาษเป็ นของเล่น (1) .................................................................... 94
๖
ตอนที่ 1
คําชี้แจงการจัดแผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 2
1. แนวทางการใช้ แผนการจัดการเรียนรู้
คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ การงานอาชี พและเทคโนโลยี ป. 1 เล่มนี้ จัดทําขึ้นเพื่อเป็ นแนวทางให้ครู ใช้
ประกอบการจัดการเรี ยนรู้กลุ่มสาระการเรี ยนรู ้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 ตามหลักสู ตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่ งการแบ่งหน่วยการเรี ยนรู ้สาํ หรับจัดทําแผนการจัดการเรี ยนรู้
รายชัว่ โมงในคู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้เล่มนี้ แบ่งเนื้ อหาเป็ น 4 หน่ วย สามารถใช้ควบคู่กบั สื่ อการเรี ยนรู้ การ
งานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 และหนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 ประกอบด้วยหน่วยการเรี ยนรู ้ ดังนี้
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 1 การทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 2 พืชใกล้ตวั
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 3 ช่างประดิษฐ์นอ้ ย
หน่ วยการเรียนรู้ที่ 4 ข้อมูลและแหล่งข้อมูลรอบตัว
แผนการจัดการเรี ยนรู ้เล่มนี้ ได้นาํ เสนอรายละเอียดไว้ครบถ้วนตามแนวทางการจัดทําแผนการจัดการเรี ยนรู้
ของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยออกแบบกิจกรรมการเรี ยนการสอนให้นกั เรี ยนได้พฒั นาองค์
ความรู ้ สมรรถนะสําคัญ และคุณ ลักษณะอันพึงประสงค์ไว้อย่างครบถ้วนตามหลักสู ตรแกนกลางการศึ กษาขั้น
พื้ น ฐาน พุ ท ธศัก ราช 2551 ซึ่ งครู ค วรศึ ก ษาแผนการจัด การเรี ย นรู้ น้ ี ให้ ล ะเอี ย ด เพื่ อ ปรั บ ใช้ใ ห้ ส อดคล้อ งกับ
สภาพแวดล้อม สถานการณ์ และสภาพของนักเรี ยน
ในแต่ละหน่วยการเรี ยนรู้จะแบ่งแผนการจัดการเรี ยนรู้ออกเป็ นรายชัว่ โมง ซึ่ งมีจาํ นวนมากน้อยไม่เท่ากัน
ขึ้นอยูก่ บั ความยาวของเนื้อหาสาระและในแต่ละหน่วยการเรี ยนรู้มีองค์ประกอบดังนี้
1. ผั ง มโนทั ศ น์ เป้ าหมายการเรี ย นรู้ แ ละขอบข่ า ยภาระงาน แสดงขอบข่ า ยเนื้ อ หาการจัด การเรี ย นรู้ ที่
ครอบคลุมความรู้ คุณธรรม จริ ยธรรม ค่านิยม ทักษะ/กระบวนการ และภาระงาน/ชิ้นงาน
2. กรอบแนวคิ ด การออกแบบการจั ด การเรี ย นรู้ แบบ BwD (Backward Design Template) เป็ นผัง แสดง
แนวคิดในการจัดการเรี ยนรู ้ของแต่ละหน่วยการเรี ยนรู้แบ่งเป็ น 3 ขั้น ได้แก่
ขั้นที่ 1 ผลลัพธ์ปลายทางที่ตอ้ งการให้เกิดขึ้นกับนักเรี ยน
ขั้นที่ 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรี ยนรู้ซ่ ึ งเป็ นหลักฐานที่ แสดงว่านักเรี ยนมีผลการเรี ยนรู้ตามที่
กําหนดไว้อย่างแท้จริ ง
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรี ยนรู ้ จะระบุวา่ ในหน่วยการเรี ยนรู้น้ ี แบ่งเป็ นแผนการจัดการเรี ยนรู ้กี่แผน และแต่
ละแผนใช้เวลาในการจัดกิจกรรมกี่ชวั่ โมง
3. แผนการจัดการเรี ยนรู้ เป็ นแผนการจัดการเรี ยนรู ้ตามกรอบแนวคิดการออกแบบการจัดการเรี ยนรู ้แบบ
BwD ประกอบด้วย
3.1 ชื่ อแผนการจัดการเรี ยนรู้ ประกอบด้วยลําดับที่ของแผน ชื่ อแผน และเวลาเรี ยน เช่น แผนการจัดการ
เรี ยนรู ้ที่ 1 เรื่ อง เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย เวลา 1 ชัว่ โมง
3.2 สาระสํ าคัญ เป็ นความคิดรวบยอดของเนื้อหาที่นาํ มาจัดการเรี ยนรู้ในแต่ละแผนการจัดการเรี ยนรู้
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 3
3.3 ตัวชี้วัดชั้ นปี เป็ นตัวชี้วดั ที่ใช้ตรวจสอบนักเรี ยนหลังจากเรี ยนจบเนื้ อหาที่นาํ เสนอใน แต่ละแผนการ
จัดการเรี ยนรู ้น้ นั ๆ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานการเรี ยนรู้ของหลักสูตร
3.4 จุดประสงค์ การเรียนรู้ เป็ นส่วนที่บอกจุดมุ่งหมายที่ตอ้ งการให้เกิดขึ้นกับนักเรี ยนภายหลังจากการเรี ยน
จบในแต่ละแผนการจัดการเรี ยนรู้ ทั้งในด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริ ยธรรม และค่านิ ยม (A) และด้านทักษะ/
กระบวนการ (P) ซึ่งสอดคล้องสัมพันธ์กบั ตัวชี้วดั ชั้นปี และเนื้อหาในแผนการจัดการเรี ยนรู้น้ นั ๆ
3.5 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็ นการตรวจสอบผลการจัดการเรี ยนรู ้วา่ หลังจากจัดการเรี ยนรู้ในแต่
ละแผนการจัดการเรี ยนรู ้แล้ว นักเรี ยนมีพฒั นาการ มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยนตามเป้ าหมายที่คาดหวังไว้หรื อไม่ และ
มี สิ่ งที่ จะต้อ งได้รับ การพัฒ นา ปรั บ ปรุ ง หรื อ ส่ งเสริ ม ด้านใดบ้าง ดังนั้น ในแต่ ละแผนการจัด การเรี ย นรู ้ จึง ได้
ออกแบบวิธีการและเครื่ องมือในการวัดและประเมินผลการเรี ยนรู ้ดา้ นต่าง ๆ ของนักเรี ยนไว้อย่างหลากหลาย เช่น
การทําแบบทดสอบ การตอบคําถามสั้น ๆ การตรวจผลงาน การสังเกตพฤติกรรมทั้งที่เป็ นรายบุคคลและรายกลุ่ม
โดยเน้นการปฏิบตั ิให้สอดคล้องและเหมาะสมกับตัวชี้วดั และมาตรฐานการเรี ยนรู้
วิธีการและเครื่ องมือในการวัดและประเมินผลการเรี ยนรู ้เหล่านี้ ครู สามารถนําไปใช้ประเมินนักเรี ยนได้ท้ งั
ในระหว่างการจัดการเรี ยนรู ้และการทํากิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนการนําความรู้ไปใช้ในชีวิตประจําวัน
3.6 สาระการเรี ยนรู้ เป็ นหัวข้อย่อยที่นาํ มาจัดการเรี ยนรู ้ในแต่ละแผนการจัดการเรี ยนรู้ ซึ่ งสอดคล้องกับ
สาระการเรี ยนรู ้แกนกลาง
3.7 แนวทางบูรณาการ เป็ นการเสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ในเรื่ องที่เรี ยนของแต่ละแผน
ให้เชื่ อมโยงสัม พัน ธ์กันกับ กลุ่มสาระการเรี ยนรู้ อื่ น ๆ ได้แก่ ภาษาไทย คณิ ตศาสตร์ วิท ยาศาสตร์ สังคมศึ กษา
ศาสนา และวัฒ นธรรม สุ ข ศึ กษาและพลศึ กษา ศิ ลปะ และภาษาต่ างประเทศ เพื่ อให้การเรี ยนรู้ สอดคล้องและ
ครอบคลุมสถานการณ์จริ ง
3.8 กระบวนการจัดการเรียนรู้ เป็ นการเสนอแนวทางการจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ในเนื้อหาแต่ละเรื่ อง โดยใช้
แนวคิดและทฤษฎีการเรี ยนรู ้ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ทั้งนี้เพื่อให้ครู นาํ ไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการจัดการ
เรี ยนรู ้ได้อย่างมีประสิ ทธิ ภาพ ซึ่งกระบวนการจัดการเรี ยนรู ้ประกอบด้วย 5 ขั้น ได้แก่
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้าสู่บทเรี ยน
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
ขั้นที่ 4 ขั้นฝึ กฝนนักเรี ยน
ขั้นที่ 5 ขั้นนําไปใช้
3.9 กิ จ กรรมเสนอแนะ เป็ นกิ จ กรรมเสนอแนะสํา หรั บ ให้ นั ก เรี ย นได้พ ัฒ นาเพิ่ ม เติ ม ในด้า นต่ า ง ๆ
นอกเหนื อจากที่ ได้จดั การเรี ยนรู ้มาแล้วในชัว่ โมงเรี ยน กิ จกรรมเสนอแนะมี 2 ลักษณะ คือ กิ จกรรมสําหรับกลุ่ม
สนใจพิเศษจัดให้แก่ผทู ้ ี่มีความสามารถพิเศษและต้องการศึกษาค้นคว้าในเนื้อหานั้น ๆ ให้ลึกซึ้งกว้างขวางยิง่ ขึ้นและ
กิจกรรมสําหรับฝึ กทักษะเพิ่มเติมจัดให้แก่ผทู ้ ี่ตอ้ งการเรี ยนรู ้ให้ครบตามเป้ าหมาย ซึ่ งมีลกั ษณะเป็ นการซ่ อมเสริ ม
ความรู ้ให้แก่นกั เรี ยน
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 4
3.10 สื่ อ /แหล่ งการเรี ย นรู้ เป็ นรายชื่ อ สื่ อ การเรี ย นรู ้ ทุ ก ประเภทที่ ใ ช้ในการจัด การเรี ย นรู ้ ซึ่ งมี ท้ ังสื่ อ
ธรรมชาติ สื่ อสิ่ งพิมพ์ สื่ อเทคโนโลยี และบุคคล เช่นหนังสื อ เอกสารความรู ้ รู ปภาพ เครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต ปราชญ์
ชาวบ้าน เป็ นต้น
3.11 บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ เป็ นส่วนที่ให้ครู บนั ทึกผลการจัดการเรี ยนรู้วา่ ประสบความสําเร็ จ
หรื อไม่ มีปัญหาหรื ออุปสรรคอะไรเกิดขึ้นบ้าง ได้แก้ไขปั ญหาและอุปสรรคนั้นอย่างไร และข้อเสนอแนะสําหรับ
การจัดการเรี ยนรู้ครั้งต่อไป
นอกจากนี้ยงั อํานวยความสะดวกให้ครู โดยจัดทําแบบทดสอบ แบบประเมินผลงาน แบบประเมินพฤติกรรม
ด้านต่าง ๆ ของนักเรี ยน และความรู้เสริ มสําหรับครู บนั ทึกลงในซีดี (CD) ประกอบด้วย
1. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เป็ นแบบทดสอบเพื่อใช้วดั และประเมินผลนักเรี ยนก่อนการจัดการ
เรี ยนรู ้และหลังการจัดการเรี ยนรู ้
2. แบบทดสอบกลางปี และปลายปี เป็ นแบบทดสอบเพื่อใช้วดั และประเมินผลการเรี ยนรู้ของนักเรี ยนในช่วง
กลางปี และปลายปี ซึ่งประเมินผล 3 ด้าน ได้แก่
1) ด้านความรู้ มีแบบทดสอบทั้งที่เป็ นแบบปรนัยและอัตนัย
2) ด้านคุณธรรม จริ ยธรรม และค่านิยม เป็ นตารางประเมิน
3) ด้านทักษะ/กระบวนการ เป็ นตารางประเมิน
3. แบบประเมินผลการจัดกิจกรรมต่ าง ๆ เช่น แบบจัดอันดับคุณภาพ แบบประเมินผลงาน แบบบันทึกความรู้
4. ความรู้เสริมสํ าหรับครู เป็ นการนําเสนอความรู้ในเรื่ องต่าง ๆ แก่ครู เช่น
1) หลักการจัดทําแฟ้ มสะสมผลงาน (Portfolio) และวิธีการคัดเลือกผลงานเพื่อเก็บในแฟ้ มสะสมผลงาน
2) ความรู ้เรื่ องโครงงาน
3) การจัดการเรี ยนรู้แบบกลับด้าน (Flipped Classroom)
5. แบบฟอร์ มโครงสร้ างแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ออกแบบการเรี ยนรู้แบบ Backward Design
ครู ควรศึ กษาแผนการจัดการเรี ยนรู้ เพื่ อเตรี ยมการสอนอย่างมี ป ระสิ ทธิ ภาพ จัดกิ จกรรมให้นักเรี ยนได้
พัฒนาครบทุกสมรรถนะสําคัญที่กาํ หนดไว้ในหลักสูตร ได้แก่ สมรรถนะในการสื่ อสาร การคิดการแก้ปัญหา การ
ใช้ทกั ษะชีวติ และการใช้เทคโนโลยีรวมถึงคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมเสนอแนะเพื่อการเรี ยนรู้เพิ่มเติม
ให้เต็มตามศักยภาพของนักเรี ยนแต่ละคนซึ่งได้กาํ หนดไว้ในแผนการจัดการเรี ยนรู ้น้ ีแล้ว
นอกจากนี้ ครู สามารถปรั บ ปรุ งแผนการจัดการเรี ยนรู ้ ให้สอดคล้องกับ สภาพความพร้ อ มของนักเรี ย น
และสถานการณ์ เฉพาะหน้า ซึ่ งจะใช้เป็ นผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะได้ แผนการจัดการเรี ยนรู้ น้ ี ได้อาํ นวยความ
สะดวกให้แก่ครู โดยจัดพิมพ์โครงสร้างแผนการจัดการเรี ยนรู ้ที่ออกแบบการจัดการเรี ยนรู ้แบบ Backward Design
เพื่อให้ครู เพิ่มเติมเฉพาะส่วนที่สามารถปรับปรุ งเองได้ไว้ดว้ ยแล้ว
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 5
สัญ ลักษณ์ ล กั ษณะกิ จกรรมการเรี ย นรู ้ เป็ นเครื่ อ งหมายที่ ป รากฏอยู่ในสื่ อ การเรี ย นรู ้ การงานอาชี พ และ
เทคโนโลยีสมบูรณ์ แบบ และแบบฝึ กทักษะ รายวิชาพื้น ฐาน การงานอาชี พและเทคโนโลยีทุ กเล่ม โดยกําหนด
สัญ ลักษณ์ กาํ กับ กิ จกรรมการเรี ยนรู ้ไว้ทุ กกิ จกรรม เพื่อช่ วยให้ครู และนักเรี ยนทราบลักษณะที่ ต้องการเน้นของ
กิจกรรมนั้น ๆ เพื่อที่จะจัดกิจกรรมให้บรรลุเป้ าหมาย สัญลักษณ์ลกั ษณะกิจกรรมการเรี ยนรู ้มีดงั นี้
1. สัญลักษณ์ หลักของกลุ่มสาระการเรี ยนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
โครงงาน เป็ นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาการคิด การวางแผน และการแก้ปัญหา
การทําประโยชน์ ในสั งคม เป็ นกิจกรรมที่กาํ หนดให้นกั เรี ยนนําความรู ้ไปปฏิบตั ิในการทําประโยชน์
แก่ส่วนรวม เพื่อให้อยูร่ ่ วมกันในสังคมอย่างมีความสุ ข
การศึกษาค้ นคว้า/ สื บค้ น เป็ นกิจกรรมที่กาํ หนดให้นกั เรี ยนศึกษาค้นคว้าหรื อสื บค้นข้อมูล
จากการแหล่งเรี ยนรู ้ต่าง ๆ เพื่อสร้างองค์ความรู ้ดว้ ยตนเอง
การสั งเกต เป็ นกิจกรรมที่กาํ หนดให้นกั เรี ยนรู ้จกั สังเกตสิ่ งที่ตอ้ งการเรี ยนรู้จนสามารถ
สร้างองค์ความรู ้ได้อย่างเป็ นระบบและมีเหตุผล
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 6
กิจกรรมสํ าหรับซ่ อมเสริม เป็ นกิจกรรมสําหรับให้นกั เรี ยนใช้เรี ยนซ่อมเสริ มเพื่อให้เกิดการเรี ยนรู ้
ตามตัวชี้วดั ชั้นปี
ตัวอย่ างสาระสําคัญระดับนําไปใช้
– การแต่งกายที่ดีควรแต่งกายให้เหมาะสมกับอากาศในฤดูกาลต่าง ๆ ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว
– ข้อมูลมี 4 ประเภท ได้แก่ ข้อมูลภาพ ข้อมูลตัวอักษร ข้อมูลเสี ยง และข้อมูลตัวเลข
แนวทางการเขียนสาระสํ าคัญ
1. ให้เขียนสาระสําคัญของทุกเรื่ อง โดยแยกเป็ นข้อ ๆ (จํานวนข้อของสาระสําคัญจะเท่ากับจํานวนเรื่ อง)
2. การเขียนสาระสําคัญที่ดีควรเป็ นสาระสําคัญระดับการนําไปใช้
3. สาระสําคัญต้องครอบคลุมประเด็นสําคัญครบถ้วน เพราะหากขาดส่วนใดไปแล้วจะทําให้นกั เรี ยนรับ
สาระสําคัญที่ผดิ ไปทันที
4. การเขียนสาระสําคัญที่จะให้ครอบคลุมประเด็นสําคัญวิธีการหนึ่งคือ การเขียนแผนผังสาระสําคัญ
ตัวอย่างการเขียนแผนผังสาระสํ าคัญ
ความหมายและลักษณะของ
ข้อมูลที่เป็ นข้อข้มูอลมูภาพ
ลตัวเลข
ข้ อมูลภาพ
ตัวอย่างของข้อมูลที่เป็ น
ข้อมูลภาพ
ความหมายและลักษณะของ
ข้ อมูลตัวอักษร ข้อมูลที่เป็ นข้อมูลตัวอักษร
ตัวอย่างของข้อมูลที่เป็ น
ประเภทของ ข้อมูลตัวอักษร
ความหมายและลักษณะของ
ข้ อมูลตัวเลข ข้อมูลที่เป็ นข้อมูลตัวเลข
ตัวอย่างของข้อมูลที่เป็ น
ข้อมูลตัวเลข
ความหมายและลักษณะของ
ข้อมูลที่เป็ นข้อมูลเสี ยง
ข้ อมูลเสี ยง
ตัวอย่างของข้อมูลที่เป็ น
ข้อมูลเสี ยง
วิธีการอื่ น ๆ เช่ น การทดสอบก่ อนเรี ยนและหลังเรี ยน การสัมภาษณ์ การศึ กษาค้นคว้า การฝึ กปฏิ บ ตั ิ ข ณะเรี ยน
ประกอบด้วยก็ได้
การกําหนดภาระงานและการประเมินผลการเรี ยนรู้ ซึ่งเป็ นหลักฐานที่แสดงว่ านักเรียนมีผลการเรียนรู้ ตาม
ผลลัพธ์ ปลายทางที่กาํ หนดไว้แล้ว
หลังจากที่ครู ได้กาํ หนดผลลัพธ์ปลายทางที่ตอ้ งการให้เกิดขึ้นกับนักเรี ยนแล้ว ครู ควรกําหนดภาระงานและ
วิธีการประเมินผลการเรี ยนรู้ ซึ่ งเป็ นหลักฐานที่แสดงว่านักเรี ยนมีผลการเรี ยนรู ้ตามผลลัพธ์ปลายทางที่กาํ หนดไว้
แล้ว
ภาระงาน หมายถึง งานหรื อกิ จกรรมที่ กาํ หนดให้นักเรี ยนปฏิบตั ิ เพื่อให้บรรลุตามจุดประสงค์การเรี ยนรู้ /
ตัวชี้ วดั ชั้นปี /มาตรฐานการเรี ยนรู้ที่กาํ หนดไว้ ลักษณะสําคัญของงานจะต้องเป็ นงานที่ สอดคล้องกับชี วิตจริ งใน
ชีวิตประจําวัน เป็ นเหตุการณ์จริ งมากกว่ากิจกรรมที่จาํ ลองขึ้นเพื่อใช้ในการทดสอบ ซึ่งเรี ยกว่า งานที่ปฏิบตั ิเป็ นงาน
ที่มีความหมายต่อนักเรี ยน (Meaningful Task) นอกจากนี้ งานและกิจกรรมจะต้องมีขอบเขตที่ชดั เจน สอดคล้องกับ
จุดประสงค์การเรี ยนรู ้/ตัวชี้วดั ชั้นปี /มาตรฐานการเรี ยนรู ้ที่ตอ้ งการให้เกิดขึ้นกับนักเรี ยน
ทั้งนี้ เมื่อได้ภาระงานครบถ้วนตามที่ตอ้ งการแล้ว ครู จะต้องนึกถึงวิธีการและเครื่ องมือวัดและประเมินผลการ
เรี ยนรู ้ของนักเรี ยนที่มีอยูม่ ากมายหลายประเภท ซึ่งครู จะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับภาระงานที่นกั เรี ยนปฏิบตั ิ
ตัวอย่างภาระงานเรื่ อง การแต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูกาล รวมทั้งการกําหนดวิธีการวัดและประเมินผลการ
เรี ยนรู ้ของนักเรี ยน (ดังตาราง)
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 11
ผังการออกแบบการจัดการเรียนรู้
หน่ วยการเรียนรู้ ท_ี่ ____________________________
ขั้นที่ 1 ผลลัพธ์ ปลายทางที่ต้องการให้ เกิดขึน้ กับนักเรียน
ตัวชี้วดั ชั้นปี
1. ______________________________________________________________________________________________
2. ______________________________________________________________________________________________
ความเข้ าใจทีค่ งทนของนักเรียน คําถามสําคัญทีท่ ําให้ เกิดความเข้ าใจคงทน
นักเรียนจะเข้ าใจว่ า… – _____________________________________________
____________________________________________ _______________________________________________
ความรู้ ของนักเรียนทีน่ ําไปสู่ ความเข้ าใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนทีน่ ําไปสู่
นักเรียนจะรู้ ว่า… ความเข้ าใจทีค่ งทน นักเรียนจะสามารถ…
1. ___________________________________________ 1. ____________________________________________
2. ___________________________________________ 2. ____________________________________________
3. ___________________________________________ 3. ____________________________________________
2. วิธีการและเครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้
วิธีการประเมินผลการเรียนรู้ เครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้
– _________________________________________ – ___________________________________________
– _________________________________________ – ___________________________________________
3. สิ่ งทีม่ ่ ุงประเมิน
– ______________________________________________________________________________________________
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
– _______________________________________________________________________________________________
– _______________________________________________________________________________________________
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 16
4. เทคนิคและวิธีการจัดการเรียนรู้ –การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่ งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 24 (2) และ (3) ได้ระบุแนวทางการจัดการเรี ยนรู้ โดย
เน้นการฝึ กทักษะกระบวนการคิด การฝึ กทักษะการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองจากแหล่งเรี ยนรู ้ที่หลากหลาย การฝึ ก
ปฏิบตั ิจริ ง และการประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อการป้ องกันและแก้ปัญหา ดังนั้น เพื่อให้การจัดการเรี ยนรู ้สอดคล้องกับ
นโยบายดังกล่าวนี้ การจัดทําแผนการจัดการเรี ยนรู ้ใน คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ป. 1 เล่มนี้ จึงยึดแนวทางการจัดการเรี ยนรู ้ที่เน้นผูเ้ รี ยนเป็ นสําคัญ (Child Centered) เน้นการเรี ยนรู ้จากการปฏิบตั ิ
จริ ง และเน้นการเรี ยนรู ้แบบบูรณาการที่ผสมผสานเชื่ อมโยงสาระการเรี ยนรู้ต่าง ๆ กับหัวข้อเรื่ องหรื อประเด็นที่
สอดคล้องกับชี วิตจริ ง เพื่อให้นกั เรี ยนเกิ ดการพัฒนา โดยองค์รวม เป็ นธรรมชาติ สอดคล้องกับสภาพและปั ญหาที่
เกิดในวิถีชีวิตของนักเรี ยน
แนวทางการจัดการเรี ยนรู้ที่เน้นผูเ้ รี ยนเป็ นศูนย์กลาง ได้เปลี่ยนแปลงบทบาทของครู จากการเป็ นผูช้ ้ ีนาํ หรื อ
ถ่ายทอดความรู้ไปเป็ นผูช้ ่วยเหลือ อํานวยความสะดวก และส่ งเสริ มสนับสนุ นนักเรี ยนโดยใช้วิธีการต่าง ๆ อย่าง
หลากหลายรู ปแบบ เพื่อให้นักเรี ยนเกิ ดการสร้างสรรค์ความรู้ และนําความรู ้ไปใช้อย่างมี ป ระสิ ท ธิ ภาพ คู่มือครู
แผนการจัดการเรี ยนรู้ การงานอาชี พ และเทคโนโลยี ป. 1 เล่มนี้ จึงได้นาํ เสนอทฤษฎีและเทคนิ ควิธีการเรี ยนการ
สอน ต่าง ๆ มาเป็ นแนวทางในการจัดการเรี ยนรู ้ เช่น
การจั ด การเรี ย นรู้ โดยใช้ สมองเป็ นฐาน (Brain-Base Learning–BBL) เป็ นวิ ธี ก ารจัด การเรี ยนรู ้ ที่ อิ ง
ผลการวิจยั ทางประสาทวิท ยา ซึ่ งได้เสนอแนะไว้ว่า ตามธรรมชาติ น้ ัน สมองเรี ย นรู ้ ไ ด้อ ย่างไรโดยได้กล่ าวถึ ง
โครงสร้ างที่ แท้จริ งของสมองและการทํางานของสมองมนุ ษ ย์ที่ มีการแปรเปลี่ ยนไปตามขั้นของการพัฒ นา ซึ่ ง
สามารถนํามาใช้เป็ นกรอบแนวคิดของการสร้างสรรค์การจัดการเรี ยนรู้ได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ
การจัดการเรียนรู้ แบบใช้ ปัญหาเป็ นฐาน (Problem-Based Learning – PBL) เป็ นวิธีการจัดการเรี ยนรู ้ที่ใช้
ปั ญหาที่เกิดขึ้นเป็ นจุดเริ่ มต้นและเป็ นตัวกระตุน้ ให้เกิดกระบวนการเรี ยนรู ้ โดยให้นกั เรี ยนร่ วมกันแก้ปัญหาภายใต้
การแนะนําของครู ให้นกั เรี ยนช่วยกันตั้งคําถามและช่วยกันค้นหาคําตอบโดยอาจใช้ความรู้เดิมมาแก้ปัญหา หรื อ
ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมสําหรับการแก้ปัญหา นําข้อมูลที่ ได้จากการค้นคว้ามาสรุ ปเป็ นข้อมูลในการแก้ปัญหา แล้ว
ช่วยกันประเมินผลการแก้ปัญหาเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาครั้งต่อไป
การจัดการเรี ยนรู้ แบบพหุ ปัญ ญา (Multiple Intelligences) เป็ นการพัฒนาองค์รวมของนักเรี ยนทั้งสมอง
ด้านซ้ายและสมองด้านขวา บนพื้นฐานความสามารถและสติปัญญาที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคลโดยมุ่งหมายให้
นักเรี ยนสามารถแก้ปัญหาหรื อสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ภายใต้ความหลากหลายของวัฒนธรรมหรื อสภาพแวดล้อม
การจัดการเรียนรู้ แบบร่ วมมือ (Cooperative Learning) เป็ นการจัดสถานการณ์และบรรยากาศให้นกั เรี ยน
เกิดการเรี ยนรู้ร่วมกัน ฝึ กให้นกั เรี ยนที่มีลกั ษณะแตกต่างกันทั้งสติปัญญาและความถนัดร่ วมกันทํางานเป็ นกลุ่ม และ
ร่ วมกันศึกษาค้นคว้า
การจัดการเรียนรู้ แบบใช้ หมวกความคิด 6 ใบ (Six Thinking Hats) เป็ นการให้นกั เรี ยนฝึ กตั้งคําถามและตอบ
คําถามที่ใช้ความคิดในลักษณะต่าง ๆ โดยสามารถอธิบายเหตุผลประกอบหรื อวิเคราะห์วิจารณ์ได้
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 18
การจั ดการเรี ยนรู้ แบบกระบวนการแก้ ปั ญ หา (Problem Solving) เป็ นการฝึ กให้นัก เรี ยนเรี ยนรู ้ จากการ
แก้ปัญหาที่เกิ ดขึ้นโดยการทําความเข้าใจปั ญหา วางแผนแก้ปัญหา ดําเนิ นการแก้ปัญหา และตรวจสอบหรื อมอง
ย้อนกลับ
การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Work) เป็ นวิธีการจัดการเรี ยนรู้รูปแบบหนึ่งที่ส่งเสริ มให้นกั เรี ยน
เรี ยนรู้ดว้ ยตนเองจากการลงมือปฏิ บตั ิ โดยใช้กระบวนการแสวงหาความรู ้หรื อค้นคว้าหาคําตอบในสิ่ งที่นักเรี ยน
อยากรู้หรื อสงสัยด้วยวิธีการต่าง ๆ อย่างหลากหลาย
การจัดการเรียนรู้ที่เน้ นการปฏิบัติ (Active Learning) เป็ นการให้นกั เรี ยนได้ทดลองทําด้วยตนเองเพื่อจะได้
เรี ยนรู ้ข้ นั ตอนของงานและรู ้จกั วิธีแก้ปัญหาในการทํางาน
การจัดการเรียนรู้ แบบสร้ างผังความคิด (Concept Mapping) เป็ นการสอนด้วยวิธีการจัดกลุ่มความคิดรวบ
ยอด เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์กนั ระหว่างความคิดหลักและความคิดรองลงไป โดยนําเสนอเป็ นภาพหรื อผัง
การจัดการเรี ยนรู้ จากประสบการณ์ (Experience Learning) เป็ นการจัดกิ จกรรมหรื อจัดประสบการณ์ ให้
นักเรี ยนเกิ ดการเรี ยนรู ้จากการปฏิ บ ตั ิ แล้วกระตุน้ ให้นักเรี ยนพัฒ นาทักษะใหม่ ๆ เจตคติ ใหม่ ๆ หรื อวิธีการคิ ด
ใหม่ ๆ
การเรี ยนรู้ โดยการแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing) เป็ นการจัดกิจกรรมให้นกั เรี ยนได้แสดงบทบาทใน
สถานการณ์ที่สมมุติข้ ึน โดยอาจกําหนดให้แสดงบทบาทสมมุติที่เป็ นพฤติกรรมของบุคคลอื่นหรื อแสดงพฤติกรรม
ในบทบาทของตนเองในสถานการณ์ต่าง ๆ
การจัดการเรี ยนรู้ โดยใช้ กิจกรรมสะเต็มศึกษา (STEM Education) เป็ นการจัดกิ จกรรมการเรี ยนรู้ที่บูรณา-
การวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิ ตศาสตร์เข้าด้วยกัน เพื่อให้ผเู ้ รี ยนได้วางแผนคิดค้น วิเคราะห์
ออกแบบ สร้างชิ้นงาน และปรับปรุ งแก้ไข เพื่อให้เกิดการเรี ยนรู้แบบบูรณาการและนําความรู้เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้
ในการแก้ปัญหา และสร้างชิ้นงานที่เป็ นประโยชน์ต่อการดํารงชีวิต
การจัดการเรี ยนรู้ตอ้ งจัดควบคู่กบั การวัดและการประเมินผลตามภาระงานและชิ้นงานที่สอดคล้องกับตัวชี้วดั
แผนการจัดการเรี ยนรู ้น้ ี ได้เสนอวิธีการวัดและประเมินผลครบทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านความรู ้ ด้านทักษะ/กระบวนการ
ด้านคุณธรรม จริ ยธรรม และค่านิ ยม เน้นวิธีการวัดที่หลากหลายตามสถานการณ์จริ ง การดูร่องรอยต่าง ๆ ควบคู่ไป
กับการดูกระบวนการทํางาน และผลผลิตของงาน โดยออกแบบการประเมินก่อนเรี ยน ระหว่างเรี ยน หลังเรี ยน และ
แบบทดสอบประจําหน่วย พร้อมแบบฟอร์มและเกณฑ์การประเมิน เพื่ออํานวยความสะดวกให้ครู ไว้พร้อม ทั้งนี้ครู
อาจเพิม่ เติมโดยการออกแบบเครื่ องมือวัดและประเมินด้วยมิติคุณภาพ (Rubrics)
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 19
หน่วยที่ 1 การทํางานเพื่อ แผนที่ 1 เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย ชั่วโมงที่ 2 เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
ช่วยเหลือตนเอง (1 ชัว่ โมง) 1. การแต่งกายด้วยตนเอง
(8 แผน) 1.1 เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
แผนที่ 2 วิธีการแต่งกายด้วยตนเอง ชั่วโมงที่ 3 วิธีการแต่งกายด้วยตนเอง
(1 ชัว่ โมง) 1.2 วิธีการแต่งกายด้วยตนเอง
หน่วยที่ 1 การทํางานเพื่อ แผนที่ 8 การจัดโต๊ะ ตู้ และชั้น ชั่วโมงที่ 13 การจัดโต๊ะเขียนหนังสื อ ตู้ และชั้นวางหนังสื อ
ช่วยเหลือตนเอง (2 ชัว่ โมง) 4. การจัดโต๊ะ ตู้ และชั้น
(8 แผน) 4.1 การจัดโต๊ะเขียนหนังสื อ ตู้ และชั้นวางหนังสื อ
ชั่วโมงที่ 14 การจัดตูห้ รื อชั้นวางรองเท้า
4.2 การจัดตูห้ รื อชั้นวางรองเท้า
หน่วยที่ 3 ช่างประดิษฐ์นอ้ ย แผนที่ 16 การพับกระดาษเป็ นของเล่น (3) ชั่วโมงที่ 28 การพับกระดาษเป็ นของเล่น (ต่อ)
(5 แผน) (2 ชัว่ โมง) 2.2 ตัวอย่างการพับกระดาษเป็ นของเล่น (ต่อ)
– การพับเรื อ
ชั่วโมงที่ 29 การพับกระดาษเป็ นของเล่น (ต่อ)
2.2 ตัวอย่างการพับกระดาษเป็ นของเล่น (ต่อ)
– การพับรถไฟ
ตอนที่ 2
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 27
แผนปฐมนิเทศ
ปฐมนิเทศและข้ อตกลงในการเรียน
กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
ปฐมนิเทศเป็ นการแนะนํา ชี้แนวทางเพื่อให้นกั เรี ยนมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกลุ่มสาระที่เรี ยน
วิธีการเรี ยน การสอบ และข้อตกลงในการเรี ยน
2. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรี ยนการสอนของกลุ่มสาระการงานอาชีพ (K)
2. มีความสามารถและทักษะที่สอดคล้องกับการงานอาชีพ (P)
3. มีเจตคติและมีความกระตือรื อร้นในการเรี ยนและทํากิจกรรม (A)
3. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้านคุณธรรม จริ ยธรรม
ด้านความรู ้ (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตจากความตั้งใจในการเรี ยน 1. สังเกตการให้ความร่ วมมือในการ
และการแสดงความคิดเห็น 2. สังเกตความกระตือรื อร้นในการ ปฏิบตั ิกิจกรรม
2. ประเมินการอ่านออกเสี ยง ทํากิจกรรม 2. สังเกตทัก ษะการทํางานร่ วมกับ
ของนักเรี ยน ผูอ้ ื่น
4. สาระการเรี ยนรู้
1. ทําไมจึงต้องเรี ยนการงานอาชีพและเทคโนโลยี
2. เราเรี ยนรู ้อะไรในการงานอาชีพและเทคโนโลยี
3. คําอธิ บายรายวิชาพื้นฐาน
4. โครงสร้างรายวิชาพื้นฐาน
5. เราจะเรี ยนกันอย่างไร
6. เทคนิคและวิธีการจัดการเรี ยนรู ้
7. เวลาเรี ยน
8. การเก็บคะแนนและการสอบ
9. การตัดสิ นผลการเรี ยน
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 28
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปเกี่ยวกับแนวการเรี ยนกลุ่มสาระการเรี ยนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
2. นักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปเกี่ยวกับข้อตกลงในการเรี ยน
3. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปสํ ารวจเสื้อผ้าและเครื่องแต่ งกายของตนเอง พร้ อมกับระบุว่าเป็ นเสื้อผ้า
หรื อเครื่ องแต่ งกาย แล้ วบันทึกผล และให้ นักเรียนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพื่อนํามาร่ วมกันสนทนาใน
การเรียนครั้งต่ อไป)
ขั้นที่ 4 ขั้นฝึ กฝนนักเรียน
1. ให้นกั เรี ยนดูหนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้น ป. 1 ประมาณ 5 นาที แล้ว
ซักถามข้อสงสัย
2. นักเรี ยนแบ่งเป็ นกลุ่ม 2 กลุ่มใหญ่ แล้วช่วยกันตั้งคําถามหรื อตอบคําถามเกี่ยวกับแนวทางการเรี ยนและ
ข้อตกลงในการเรี ยน กลุ่มสาระการเรี ยนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี โดยผลัดกันเป็ นฝ่ ายตั้งคําถามและฝ่ ายตอบ
คําถาม
ขั้นที่ 5 ขั้นนําไปใช้
นักเรี ยนนําความรู ้เกี่ยวกับแนวทางการเรี ยนและข้อตกลงในการเรี ยนไปปฏิบตั ิ เมื่อเรี ยนกลุ่มกลุ่มสาระ
การเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
7. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสํ าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ
ให้นกั เรี ยนไปสํารวจสื่ อและแหล่งกาเรี ยนรู้ที่บา้ นของตนเอง
2. กิจกรรมสํ าหรับฝึ กทักษะเพิม่ เติม
ให้นกั เรี ยนไปทบทวนความรู ้เกี่ยวกับแนวทางการเรี ยนและข้อตกลงในการเรี ยน
8. สื่อ/แหล่ งการเรียนรู้
1. สื่ อการเรี ยนรู้ PowerPoint กลุ่มสาระการเรี ยนรู ้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
ของ บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
2. ภาพเด็กทํางานบ้านและภาพแหล่งการเรี ยนรู ้ต่าง ๆ
3. สถานที่ เช่น ห้องสมุด
4. บัตรข้อความ หัวข้อเรื่ อง
5. แผนภูมิขอ้ ตกลงในการเรี ยน
6. หนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิ ช จํากัด
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 30
9. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสําเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 31
เวลา 13 ชั่วโมง
ผังมโนทัศน์ เป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ ายภาระงาน
ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ
1. เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย 1. ทักษะการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง
2. วิธีการแต่งกายด้วยตนเอง 2. ทักษะการใช้วสั ดุ อุปกรณ์และเครื่ องมือ
3. การแต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูกาล 3. ทักษะการทํางานกลุ่ม
4. การแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาส
และสถานที่
5. การดูแลรักษาเสื้ อผ้า
6. การจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยน
7. การจัดเก็บของเล่นและของใช้ส่วนตัว
8. การจัดโต๊ะ ตู ้ และชั้น
การทํางาน
เพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง
ผังการออกแบบการจัดการเรียนรู้
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง
ขั้นที่ 1 ผลลัพธ์ ปลายทางที่ต้องการให้ เกิดขึน้ กับนักเรียน
ตัวชี้วดั ชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป. 1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป. 1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงต่อเวลา (ง 1.1 ป. 1/3)
ความเข้ าใจทีค่ งทนของนักเรียน คําถามสํ าคัญทีท่ ําให้ เกิดความเข้ าใจทีค่ งทน
นักเรียนจะเข้ าใจว่ า... – การแต่งกายได้ดว้ ยตนเองจะเกิดผลดีอย่างไร
1. การแต่งกาย การจัดเก็บอุปกรณ์ การเรี ยน การจัดเก็บ – การแต่ งกายจําเป็ นต้องทําตามลําดับ ขั้น ตอนหรื อ ไม่
ของเล่ น ของใช้ การจั ด โต๊ ะ ตู ้ และชั้ นเป็ นงานที่ เรา เพราะอะไร
สามารถปฏิบตั ิได้ดว้ ยตนเอง – ถ้าเราเล่นของเล่น หรื อหยิบของใช้ต่าง ๆ มาใช้แล้ว
2. การแต่งกาย การจัดเก็บอุปกรณ์ การเรี ยน การจัดเก็บ ไม่เก็บเข้าที่จะเกิดผลอย่างไร
ของเล่น ของใช้ การจัดโต๊ะ ตู ้ และชั้นด้วยตนเองเป็ นงานที่ – การจัดโต๊ะ ตู ้ และชั้นจะเกิดผลด้านใดมากที่สุด
ต้องทําตามลําดับขั้นตอน
ความรู้ของนักเรียนที่นําไปสู่ ความเข้ าใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนทีน่ ําไปสู่
นักเรียนจะรู้ ว่า... ความเข้ าใจทีค่ งทน
1. คํา ที่ ค วรรู ้ ได้ แ ก่ ภาระ แต่ ง กาย ส่ วนประกอบ นักเรียนจะสามารถ...
เชื้อโรค ชําระ ฤดู โอกาส สุขภาพ ของใช้ ระเบียบ จัดเก็บ 1. เลือกเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายได้เหมาะสม
2. เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายเป็ นส่ วนประกอบของการ 2. แต่งกายด้วยตนเองตามลําดับขั้นตอนของการแต่งกาย
แต่งกาย 3. แต่งกายได้เหมาะสมกับฤดูกาล โอกาส และสถานที่
3. การแต่งกายให้สะอาดเรี ยบร้ อยด้วยตนเองมี ข้ นั ตอน 4. จัดเก็บ อุปกรณ์ การเรี ยน ของเล่ น และของใช้ทุกครั้ ง
การปฏิบตั ิตามลําดับ ได้แก่ อาบนํ้า ทาแป้ ง สวมชุดชั้นใน หลังจากใช้งานเสร็ จแล้ว
ใส่ เสื้ อ ใส่ กระโปรงหรื อ สวมกางเกง หวีผมและตรวจดู 5. จัดโต๊ะเขียนหนังสื อ และจัดวางของใช้ในตูห้ รื อชั้น
ความเรี ยบร้อยของเสื้ อผ้าที่สวมใส่ ได้อย่างมีระเบียบ
4. การแต่ งกายที่ ดีควรเลื อกสวมใส่ เสื้ อผ้าให้เหมาะสม
กับฤดูกาล โอกาสและสถานที่
5. การจัดเก็บอุปกรณ์ การเรี ยน ของเล่ น และของใช้ใส่
กล่ อ ง แล้ว เก็บ เข้าที่ ให้เรี ย บร้ อ ยจะทําให้ห ยิบ ใช้ไ ด้ง่าย
และสิ่ งของไม่สูญหาย
6. การจัดโต๊ะ ตู้ และชั้นจะทําให้บา้ นมีความเป็ นระเบียบ
และน่าอยูอ่ าศัย
7. การทํางานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชี วิตประจําวันควรทํา
ตามลําดับขั้นตอนงานจึงจะประสบผลสําเร็ จ
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 33
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 1 เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 2 วิธีการแต่งกายด้วยตนเอง 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 3 การแต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูกาล 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 4 การแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ 3 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 5 การดูแลรักษาเสื้ อผ้า 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 6 การจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยน 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 7 การจัดเก็บของเล่นและของใช้ส่วนตัว 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 8 การจัดโต๊ะ ตู ้ และชั้น 2 ชัว่ โมง
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 35
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 1
เสื้อผ้ าและเครื่องแต่ งกาย
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายใช้สาํ หรับสวมใส่ห่อหุม้ ร่ างกายทําให้เกิดความสวยงามและน่ามอง ซึ่งในการ
แต่งกายจะต้องเตรี ยมเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายให้พร้อม
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป. 1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป. 1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป. 1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. บอกประโยชน์และลักษณะของเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายได้ (K)
2. มีเจตคติที่ดีต่อการใช้เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย (A)
3. เลือกเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายได้อย่างเหมาะสม (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความสนใจเรี ยน 1. สังเกตพฤติกรรมการทํา
และการแสดงความคิดเห็น 2. ความมีเจตคติที่ดีต่อการใช้เสื้ อผ้า กิจกรรมการเรี ยนรู ้ดว้ ยตนเอง
2. ตรวจผลการปฏิบตั ิกิจกรรม และเครื่ องแต่งกาย 2. สังเกตทักษะการเลือกเสื้ อผ้า
3. ตรวจการทํา แบบทดสอบก่ อ น และเครื่ องแต่งกาย
เรี ยน (Pre-test)
5. สาระการเรี ยนรู้
เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 36
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูดแสดงความคิดเห็น การตอบคําถาม เกี่ยวกับเสื้ อผ้า
และเครื่ องแต่งกาย
คณิ ตศาสตร์ นับจํานวนเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
วิทยาศาสตร์ การสังเกตเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
สุ ขศึกษาฯ การเลือกเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายในการทํากิจกรรมร่ วมกัน
ในครอบครัว เช่น การไปออกกําลังกาย
ศิลปะ การวาดภาพระบายสี เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
1. นักเรี ยนทําแบบทดสอบก่อนเรี ยน (Pre-test) จํานวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที (โดยครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้
PowerPoint การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่วยการเรี ยนรู ้ที่ 1 หรื อคู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู้ การงาน
อาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 ตอนที่ 3 แบบทดสอบก่อนเรี ยน หน่วยการเรี ยนรู้ที่ 1)
2. ครู นาํ เสื้ อผ้าเครื่ องแต่งกายของจริ งหรื อภาพ (เสื้ อ กระโปรง กางเกง หมวกไหมพรม และรองเท้า)
มาให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น
– สิ่ งของในภาพนี้มีอะไรบ้าง
– สิ่ งของที่นาํ มานั้นมีอะไรบ้าง
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
1. ครู ตรวจบันทึกผลการสํารวจจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้
แล้วคนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสนทนาเกี่ยวกับเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายที่นกั เรี ยนสวมใส่มาโรงเรี ยน
3. ครู อธิ บายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
4. นักเรี ยนจับคู่ผลัดกันสํารวจเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายที่สวมใส่ มาโรงเรี ยน แล้วนับจํานวนเสื้ อผ้าและ
เครื่ องแต่งกายที่ประกอบกันเป็ นชุดนักเรี ยน
5. นักเรี ยนอ่านคําศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
6. ให้นกั เรี ยนแต่ละคนเล่าเกี่ยวกับเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายของตนเอง
7. ครู เสริมความรู้ อาเซี ยนเกี่ยวกับการแต่ งกายของประเทศสมาชิ กอาเซี ยน เช่ น ชาวพม่ าทั้งผู้ชายและ
ผู้หญิงนิยมสวมใส่ ผ้าโลงยีเป็ นชุ ดประจําชาติ โดยผู้ชายจะสวมใส่ คู่กับเสื้ อสี ขาวส่ วนผู้หญิงจะสวมใส่ คู่กับเสื้ อสี
สดใส
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 37
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสําคัญและประโยชน์ของเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
2. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปปฏิบัตกิ ารแต่ งกายด้ วยตนเองในช่ วงเวลาเช้ าก่อนมาโรงเรียน
แล้วบันทึกผล และให้ นักเรียนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพือ่ นํามาร่ วมกันสนทนาในการเรียนครั้งต่ อไป)
ขั้นที่ 4 ขั้นฝึ กฝนนักเรียน
1. นักเรี ยนสังเกตภาพและจําแนกว่าภาพใดเป็ นเสื้ อผ้าหรื อเครื่ องแต่งกาย
2. นักเรี ยนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายจากหนังสื อการออกแบบเสื้ อผ้า และนิตยสาร
3. นักเรี ยนทําแบบฝึ กทักษะ รายวิชาพื้นฐานการงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 กิจกรรมที่ 1 ระบายสี
กันเถอะและกิจกรรมที่ 2 วาดภาพเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
ขั้นที่ 5 ขั้นนําไปใช้
นักเรี ยนสามารถนําความรู ้เรื่ องเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายไปปฏิบตั ิในชีวิตประจําวันได้
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสํ าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ
1) นักเรี ยนออกแบบเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายที่ชอบคนละ 2 ชุด
2) นักเรี ยนศึกษาข้อมูลและสอบถามเกี่ยวกับเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายจากบุคคลอื่น ๆ เช่น ผูป้ กครอง
ครู ช่างตัดเสื้ อ เป็ นต้น
2. กิจกรรมสํ าหรับฝึ กทักษะเพิม่ เติม
นักเรี ยนระบายสี ภาพเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 39
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 2
วิธีการแต่ งกายด้ วยตนเอง
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
การแต่งกายด้วยตนเองเป็ นงานอย่างหนึ่งที่ควรทําเพื่อช่วยเหลือตนเอง โดยทําตามลําดับขั้นตอน
เริ่ มจากการชําระร่ างกายให้สะอาด สวมใส่เสื้ อผ้าที่สะอาด และตรวจสอบความเรี ยบร้อยเป็ นลําดับสุ ดท้าย
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป. 1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป. 1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป. 1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายขั้นตอนของการแต่งกายได้ (K)
2. มีความกระตือรื อร้นในการแต่งกายด้วยตนเอง (A)
3. เลือกเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายได้เหมาะสม (P)
4. สามารถแต่งกายด้วยตนเองได้ถูกวิธี (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความกระตือรื อร้น 1. สังเกตพฤติกรรมขณะทํากิจกรรม
และการบอกเหตุผล ในการทํากิจกรรม 2. สังเกตทักษะการแต่งกาย
2. ตรวจผลงานการแต่ ง กายด้ ว ย 2. สั งเก ต ค วาม มี นํ้ าใจ เอื้ อ เฟื้ อ ตามลําดับขั้นตอน
ตนเอง ในขณะทํากิจกรรมร่ วมกับเพื่อน
5. สาระการเรี ยนรู้
การแต่งกายด้วยตนเอง
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 40
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การเล่าประสบการณ์ การตั้งคําถามเกี่ยวกับการแต่งกายด้วยตนเอง
วิทยาศาสตร์ การสังเกตวิธีการแต่งกายของตนเอง
สุ ขศึกษา ฯ การแข่งขันกันแต่งกายด้วยตนเอง
ศิลปะ การวาดภาพการแต่งกาย
ภาษาต่างประเทศ การเขียนคําศัพท์เกี่ยวกับวิธีการแต่งกาย
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู นาํ ภาพเด็กผูห้ ญิงกําลังแต่งชุดนักเรี ยนมาให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและ
ความสนใจของนักเรี ยน เช่น สังเกตภาพ แล้วช่วยกันบอกว่าเด็กคนนี้กาํ ลังทําอะไร
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
1. ครู ตรวจบันทึกผลการปฏิบตั ิงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้แล้ว
คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู และนักเรี ยนสนทนาร่ วมกันเกี่ยวกับการแต่งกายชุดนักเรี ยน
3. นักเรี ยนที่แต่งกายชุดนักเรี ยนด้วยตนเองออกมาเล่าวิธีการแต่งกายของตนเองให้เพื่อนฟัง
4. นักเรี ยนที่แต่งกายชุดนักเรี ยนด้วยตนเอง ออกมาสาธิ ตวิธีการแต่งกายให้เพื่อน ๆ ในชั้นเรี ยนดู
5. นักเรี ยนที่ฟังและสังเกตการสาธิตช่วยกันตั้งคําถามเกี่ยวกับการแต่งกาย
6. ครู อธิ บายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการและขั้นตอนการแต่งกายที่ถูกต้องให้นกั เรี ยนฟัง
7. ครู เลือกนักเรี ยนในชั้นที่แต่งกายสะอาดเรี ยบร้อยมา 1 คน ให้เพื่อนในชั้นสังเกตการแต่งกาย จากนั้น
ครู ถามนักเรี ยนว่าการแต่งกายของเพื่อนถูกต้องหรื อไม่
8. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint หรื อ นําภาพที่แสดงวิธีการแต่งกายมาให้นกั เรี ยนสังเกต แล้วให้
นักเรี ยนช่วยกันบรรยายภาพ และ เล่าเรื่ องจากภาพ
9. ครู อธิ บายวิธีการแต่งกายที่ถกู ต้องให้นกั เรี ยนฟัง
10. ครูบูรณาการตามหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงด้ านความประหยัด โดยบูรณาการในขั้นตอน
การแต่ งกายด้ วยตนเอง เช่ น การอาบนํา้ ชําระร่ างกาย ขณะที่กาํ ลังถูสบู่ควรปิ ดนํา้ เพือ่ ประหยัดนํา้ การรักษาความ
สะอาดเสื้อผ้าทีส่ วมใส่ เพือ่ ให้ ใช้ ได้ นาน
11. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับการขาดแคลนนํา้ จืดในประเทศสมาชิกอาเซียน กล่าวคือ ประเทศ
สิ งคโปร์ เป็ นเกาะเล็ก ๆ ซึ่งขาดแคลนนํา้ จืดสําหรับใช้ ในการดํารงชีวติ จึงจําเป็ นต้ องซื้อนํา้ จืดมาจากประเทศมาเลเซีย
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ของการแต่งกายด้วยตนเอง
2. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน ช่วยกันสรุ ปความรู ้เกี่ยวกับวิธีการแต่งกายด้วยตนเอง
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 41
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสํ าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ
1) นักเรี ยนวาดภาพแสดงวิธีการแต่งกายของตนเอง พร้อมกับระบายสี ให้สวยงาม แล้วนําเสนอผลงาน
หน้าชั้นเรี ยน
2) นักเรี ยนศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการแต่งกายด้วยตนเองจากผูป้ กครอง ผูร้ ู้ และแหล่งการ
เรี ยนรู ้อื่น ๆ
2. กิจกรรมสํ าหรับฝึ กทักษะเพิม่ เติม
นักเรี ยนดูวิซีดีเกี่ยวกับขั้นตอนการแต่งกายด้วยตนเอง
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 43
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 3
การแต่ งกายให้ เหมาะสมกับฤดูกาล
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
อากาศในแต่ละฤดูมีความแตกต่างกัน นักเรี ยนจึงควรเลือกสวมใส่เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายให้เหมาะสม
กับสภาพอากาศ
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป. 1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป. 1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป. 1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายวิธีการแต่งกายที่เหมาะสมกับฤดูกาลได้ (K)
2. มีเจตคติที่ดีต่อการเลือกเสื้ อผ้าที่เหมาะสมกับฤดูกาล (A)
3. สวมใส่เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูกาลได้ดว้ ยตนเอง (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่านิยม (A
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความกระตือรื อร้น 1. สังเกตทักษะการเลือกเสื้ อผ้า
และการอธิบายเหตุผล และความตั้งใจเรี ยน และเครื่ องแต่งกายในฤดูกาลต่าง ๆ
2. ตรวจผลงานการเขียนอธิบาย 2. สังเกตความรับผิดชอบในการ 2. สังเกตพฤติกรรมขณะปฏิบตั ิ
วิธีแต่งกายให้เหมาะสมกับ ฤดูกาล ทํางานและความตรงต่อเวลา กิจกรรมการเรี ยนรู ้
5. สาระการเรี ยนรู้
การแต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูกาล
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 44
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูดแสดงความคิดเห็น การเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการ
แต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูกาล
วิทยาศาสตร์ การสังเกตการแต่งกาย วัสดุที่นาํ มาทําเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
ในฤดูกาลต่าง ๆ
สุ ขศึกษาฯ การแต่งกายเพื่อสร้างเสริ มสุขภาพและการป้ องกันโรค
ศิลปะ การวาดภาพธรรมชาติในฤดูกาลต่าง ๆ
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับฤดูกาลต่าง ๆ
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู นาํ ภาพเสื้ อแขนยาวและเสื้ อคอกลมไม่มีแขนมาให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและ
ความสนใจของนักเรี ยน เช่น นักเรี ยนจะเลือกใส่เสื้ อในภาพเมื่อไร เพราะอะไร
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
1. ครู ตรวจบันทึกผลการปฏิบตั ิงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้แล้ว
คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู ถามคําถามนักเรี ยนเกี่ยวกับสภาพอากาศในประเทศไทย เช่น ประเทศไทยมีกี่ฤดู อะไรบ้าง
3. ครู นาํ เสื้ อผ้า ได้แก่ เสื้ อยืด กางเกงขาสั้น เสื้ อแขนยาว และกางเกงขายาวมาให้นกั เรี ยนดู แล้วช่วยกัน
แสดงความคิดเห็นว่าเสื้ อผ้าทั้ง 2 ชุด แตกต่างกันอย่างไร และควรสวมใส่ เมื่อไร
4. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับภาพเสื้ อผ้าแลเครื่ องแต่งกายหรื อนําภาพเสื้ อผ้าและ
เครื่ องแต่งกายทีละภาพ แล้วให้นกั เรี ยนตอบคําถามว่าเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายแต่ละภาพเหมาะสม
ที่จะสวมใส่ในฤดูกาลใด
5. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับฤดูกาลในประเทศสมาชิกอาเซียน ได้ แก่
- อากาศในประเทศอินโดนีเซีย แบ่ งเป็ น 2 ฤดู ได้ แก่ ฤดูร้อน และฤดูฝน
- เมืองบาเกียวในประเทศฟิ ลิปปิ นส์ เป็ นเมืองที่ฝนตกมากที่สุดในอาเซียน
6. นักเรี ยนอาสาสมัครออกมาเล่าเกี่ยวกับการแต่งกายของตนเองในฤดูกาลต่าง ๆ
7. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน พิจารณาตัวอย่างเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายที่กาํ หนดให้ แล้วจัดกลุ่ม
เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูกาลต่าง ๆ
8. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปเกี่ยวกับการแต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูกาลต่าง ๆ
9. นักเรี ยนหาภาพการแต่งกายในฤดูต่าง ๆ จากหนังสื อและนิตยสาร แล้วจัดทําบัตรภาพหรื อสมุดภาพ
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลเสี ยต่อสุ ขภาพที่เกิดจากการแต่งกายไม่เหมาะสมกับ
สภาพอากาศ
2. นักเรี ยนแต่ละคนสรุ ปลักษณะการแต่งกายที่เหมาะสมกับตนเองในฤดูใดฤดูหนึ่งที่นกั เรี ยนชอบ
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 45
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 47
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 4
การแต่ งกายให้ เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง เวลา 3 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
ในแต่ละวันเราต้องทํากิจกรรมมากมาย การแต่งกายที่เหมาะสมจะช่วยให้ทาํ กิจกรรมได้สะดวก ดังนั้น
เราจึงควรเลือกเสื้ อผ้าที่นาํ ไปใช้ให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ต่าง ๆ
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป. 1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป. 1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป. 1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายวิธีการแต่งกายที่เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ได้ (K)
2. มีเจตคติที่ดีต่อการแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ (A)
3. เลือกสวมใส่เสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ได้ดว้ ยตนเอง (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความสนใจและ 1. สังเกตทักษะการเลือกเสื้ อผ้า และ
และอธิบายเหตุผล ความตั้งใจเรี ยน เครื่ องแต่งกายที่เหมาะสมกับโอกาส
2. ตรวจผลงานการปรับปรุ ง 2. สังเกตความขยันในการทํางาน และสถานที่
การแต่งกายของนักเรี ยน และความตรงต่อเวลา 2. สังเกตพฤติกรรมขณะปฏิบตั ิ
กิจกรรมร่ วมกับผูอ้ ื่น
5. สาระการเรี ยนรู้
การแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 48
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการแต่งกายไปร่ วมงานหรื อไปเที่ยว
ตามสถานที่ต่าง ๆ
วิทยาศาสตร์ การสังเกตและเปรี ยบเทียบการแต่งกายในโอกาสและสถานที่ต่าง ๆ
สังคมศึกษาฯ การแต่งกายตามประเพณี ไทย
ศิลปะ การวาดภาพการแต่งกายที่เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ต่าง ๆ
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู นาํ ภาพเด็กผูห้ ญิงใส่เสื้ อคอกลม ไม่มีแขน ใส่กางเกงขาสั้นมาให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้
ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น นักเรี ยนคิดว่าการแต่งกายของเด็กในภาพเหมาะสมกับการอยูบ่ า้ นหรื อไม่
เพราะอะไร
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 1 (การแต่ งกายเมือ่ อยู่ทบี่ ้ าน)
1. ครู บนั ทึกผลการสังเกตจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้แล้ว
คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. นักเรี ยนช่วยกันบอกลักษณะการแต่งกายขณะทํากิจกรรมต่าง ๆ ภายในบ้าน และเมื่อจะเข้านอน
3. ให้อาสาสมัคร 3–4 คน เล่าประสบการณ์การแต่งกายไปร่ วมงานต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานวันเกิด
ให้เพื่อน ๆ ฟัง
4. ครู ถามคําถามเพื่อให้นกั เรี ยนเปรี ยบเทียบลักษณะการแต่งกายเมื่ออยูท่ ี่บา้ นกับการแต่งกายเมื่อต้องไป
ร่ วมงานต่าง ๆ
5. ครู อธิ บายเกี่ยวกับการแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาสต่าง ๆ
ชั่วโมงที่ 2 (การแต่ งกายเมือ่ ไปโรงเรียน)
1. ครู ให้นกั เรี ยนที่แต่งกายได้ดว้ ยตนเองเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการแต่งกายชุดนักเรี ยนให้เพื่อน ๆ ฟัง
2. ครู ให้นกั เรี ยนชายและนักเรี ยนหญิงที่แต่งกายสะอาดเรี ยบร้อยออกมายืนที่หน้าชั้นเรี ยน และให้
นักเรี ยนร่ วมกันสังเกตการแต่งกายของนักเรี ยนชายและนักเรี ยนหญิง แล้วร่ วมกันแสดงความคิดเห็น
3. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับการแต่ งกายเมือ่ ไปโรงเรียนของนักเรียนชาวลาว โดยนักเรียนชาย
ชาวลาวกับชาวไทยแต่ งกายคล้ายกันจะต่ างกันที่นักเรียนชาวลาวนุ่งกางเกงขายาวสี ดํา
4. ครู อธิ บายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแต่งกายชุดนักเรี ยนที่ถูกต้อง
5. นักเรี ยนจับคู่แล้วผลัดกันสังเกตการแต่งกายของตนเองและของเพื่อนว่าเรี ยบร้อยหรื อไม่
ถ้าพบข้อบกพร่ องก็ให้ปรับปรุ งแก้ไขให้เรี ยบร้อยและถูกต้อง
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 49
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสํ าเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 51
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 5
การดูแลรักษาเสื้อผ้ า
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง เวลา 2 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
การปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวันอาจทําให้เสื้ อผ้าที่สวมใส่สกปรกหรื อชํารุ ด จึงจําเป็ นต้องดูแล
รักษาเสื้ อผ้าทั้งในขณะที่สวมใส่และภายหลังจากการสวมใส่แล้ว เพื่อให้เสื้ อผ้าสะอาด น่าสวมใส่ และใช้งาน
ได้นาน
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป. 1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป. 1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป. 1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายวิธีการดูแลรักษาเสื้ อผ้าได้ (K)
2. มีเจตคติที่ดีและมีความกระตือรื อร้นในการดูแลรักษาเสื้ อผ้า (A)
3. ดูแลรักษาเสื้ อผ้าด้วยตนเองอย่างถูกวิธี (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความเอาใส่ ในการเรี ยน 1. สังเกตทักษะ/กระบวนการเกี่ยวกับ
และการแสดงความคิดเห็น 2. สังเกตความรับผิดชอบในการทํา การดูแลรักษาเสื้ อผ้า
2. ตรวจผลงานการดูแลรักษาเสื้ อผ้า กิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย 2. สังเกตจากการทํากิจกรรมร่ วมกับ
ของนักเรี ยน ผูอ้ ื่น
5. สาระการเรี ยนรู้
1. การดูแลรักษาเสื้ อผ้าขณะสวมใส่
2. การดูแลรักษาเสื้ อผ้าที่สวมใส่แล้ว
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 52
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูดแสดงความคิดเห็น และเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแล
รักษาเสื้ อผ้า
คณิ ตศาสตร์ การนับจํานวนเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายที่ตอ้ งดูแลรักษา
วิทยาศาสตร์ การสังเกตเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกายที่สกปรกและชํารุ ด
ศิลปะ สี สนั ของเสื้ อผ้า การจัดเรี ยงเสื้ อผ้า การพับเสื้ อผ้า
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับเสื้ อผ้าและเครื่ องแต่งกาย
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู นาํ ภาพเด็ก ๆ นอนเล่นที่พ้นื สนามหญ้ามาให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและ
ความสนใจของนักเรี ยน เช่น นักเรี ยนคิดว่าการปฏิบตั ิของเด็กในภาพนี้จะทําให้เสื้ อผ้าเป็ นอย่างไร เพราะอะไร
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 1 (การดูแลรักษาเสื้อผ้ าขณะสวมใส่ )
1. ครู บนั ทึกผลการสังเกตจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้แล้ว
คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู นาํ ภาพการปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ เช่น รับประทานอาหาร เล่นกีฬา เดินทางไปโรงเรี ยน มาให้
นักเรี ยนดู แล้วสนทนาร่ วมกันเกี่ยวกับภาพ
3. นักเรี ยนระดมความคิดเกี่ยวกับวิธีการการดูแลรักษาเสื้ อผ้าขณะสวมใส่
4. ครู อธิ บายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ความระมัดระวังไม่ให้เสื้ อผ้าเปื้ อนหรื อสกปรก
5. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับการละเล่นของเด็กในประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งการละเล่ นบางอย่าง
มีวธิ ีการเล่นคล้าย ๆ กัน เช่ น เด็กชาวลาวนิยมเล่ น “ลูลขี ้ าวสาร” เด็กชาวไทยเรียกว่ า รีรีข้าวสาร
ชั่วโมงที่ 2 (การดูแลรักษาเสื้อผ้ าที่สวมใส่ แล้ ว)
1. ครู ถามคําถาม เช่น นักเรี ยนจะดูแลรักษาเสื้ อผ้าที่สวมใส่แล้วอย่างไร
2. ครู ให้นกั เรี ยนแบ่งกลุ่ม สํารวจการแต่งกายของเพื่อนในกลุ่ม แล้วคัดเลือกผูท้ ี่แต่งกายสะอาดเรี ยบร้อย
ที่สุดออกมาเล่าเกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษาเสื้ อผ้าให้เพื่อน ๆ ฟัง
3. ครู สื่อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษาเสื้ อผ้าเมื่อสวมใส่แล้ว แล้วอธิบายเพิ่มเติม
เกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษาเสื้ อผ้าเมื่อสวมใส่แล้ว เพื่อให้นกั เรี ยนเข้าใจยิง่ ขึ้น
4. ให้นกั เรี ยนอ่านเพิ่มเติมจากสื่ อการเรี ยนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ป. 1 หรื อ
หนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1
5. ครูบูรณาการตามหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงด้ านความประหยัด โดยบูรณาการการซ่ อมแซม
เสื้อผ้าที่มรี อยฉีกขาดเป็ นการใช้ สิ่งของอย่างคุ้มค่ าและช่ วยประหยัดค่ าใช้ จ่ายของครอบครัว
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 53
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ของการดูแลรักษาเสื้ อผ้า แล้วสรุ ปเป็ นแผนที่
ความคิด
2. นักเรี ยนช่วยกันสรุ ปวิธีการดูแลรักษาเสื้ อผ้าขณะสวมใส่และเมื่อสวมใส่แล้ว
3. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปสํ ารวจการจัดเก็บอุปกรณ์ การเรียนของตนเองที่บ้านแล้วบันทึกผล
และให้ นักเรียนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพือ่ นํามาร่ วมกันสนทนาในการเรียนครั้งต่ อไป)
ขั้นที่ 4 ขั้นฝึ กฝนนักเรียน
1. นักเรี ยนพิจารณาภาพการปฏิบตั ิตนที่ทาํ ให้เสื้ อผ้าเปื้ อนหรื อสกปรก และบอกเหตุผลว่า ควรปฏิบตั ิ
ตามตัวละครในภาพหรื อไม่ เพราะเหตุใด
2. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน ร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดูแลรักษาเสื้ อผ้าที่สวมใส่
แล้ว และสรุ ปเป็ นแผนที่ความคิด
3. นักเรี ยนศึกษาความรู ้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรักษาเสื้ อผ้า
4. นักเรี ยนทําแบบฝึ กทักษะ รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 กิจกรรมที่ 8 ทําตาม
ใครดี
ขั้นที่ 5 ขั้นนําไป ใช้
นักเรี ยนสามารถปฏิบตั ิการดูแลรักษาเสื้ อผ้าขณะสวมใส่และเสื้ อผ้าที่สวมใส่แล้วของตนเองได้
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสํ าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ
นักเรี ยนสอบถามผูป้ กครองเกี่ยวกับการดูแลรักษาเสื้ อด้วยวิธีการซักหรื อซ่อมแซมเสื้ อผ้า แล้วทดลอง
ฝึ กปฏิบตั ิดว้ ยตนเอง
2. กิจกรรมสํ าหรับฝึ กทักษะเพิม่ เติม
ครู ให้นกั เรี ยนจับคู่กบั เพือ่ น แล้วถาม–ตอบเกี่ยวกับการดูแลรักษาเสื้ อผ้าของตนเอง
9. สื่อ/แหล่ งการเรี ยนรู้
1. ตัวอย่างเสื้ อผ้าที่สกปรกและชํารุ ด
2. ภาพขั้นตอนวิธีการดูแลรักษาเสื้ อผ้า
3. หนังสื อคู่มือการดูแลรักษาเสื้ อผ้า วารสาร นิตยสาร
4. สื่ อ เช่น หนังสื อพิมพ์ โทรทัศน์ วีซีดี ภาพยนตร์
5. บุคคล เช่น ครู ผูป้ กครอง ผูร้ ู ้
6. สถานที่ เช่น บ้านของนักเรี ยน ห้องเรี ยน ห้องสมุด ห้างสรรพสิ นค้า
7. สื่ อการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
8. หนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
9. แบบฝึ กทักษะ รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิชจํากัด
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 54
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสําเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 55
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 6
การจัดเก็บอุปกรณ์ การเรียน
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
อุปกรณ์การเรี ยนหากวางทิ้งไว้เกะกะจะทําให้ดูรกรุ งรัง เราควรจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยนให้เป็ นระเบียบ
เรี ยบร้อย เพื่อให้หยิบใช้สอยได้สะดวกและไม่สูญหาย
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป. 1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป. 1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป. 1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายวิธีการจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยนได้ (K)
2. มีเจตคติที่ดีและมีความกระตือรื อร้นในการจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยน (A)
3. จัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยนได้ถูกวิธี (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความตั้งใจเรี ยน 1. สังเกตทักษะการจัดเก็บอุปกรณ์
2. สังเกตการแสดงความคิดเห็น 2. สังเกตความเอาใจใส่ ในการเรี ยน การเรี ยน
3. ตรวจผลงานการจัดเก็บอุปกรณ์ 2. สังเกตพฤติกรรมขณะปฏิบตั ิ
การเรี ยน กิจกรรมร่ วมกับผูอ้ ื่น
5. สาระการเรี ยนรู้
การจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยน
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 56
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยน
คณิ ตศาสตร์ การนับจํานวน การวัดความกว้าง และความยาวของอุปกรณ์
การเรี ยน
สังคมศึกษาฯ หน้าที่ของบุคคลในครอบครัวในการจัดเก็บสิ่ งของในบ้าน
ศิลปะ การร้องเพลง การวาดภาพระบายสี อุปกรณ์การเรี ยน
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์การเรี ยน
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันร้องเพลงเก็บของ
เพลงเก็บของ
เก็บ เก็บ มาช่วยกันเก็บของที
เร็ วคนดี มาเก็บเข้าที่กนั เอย
2. ครู นาํ ภาพดินสอสี ที่วางกระจัดกระจายอยูด่ า้ นนอกกล่องสี แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและ
ความสนใจของนักเรี ยน เช่น นักเรี ยนมีวิธีการแก้ไขการวางดินสอสี ที่ใช้เสร็ จแล้วดังในภาพนี้อย่างไร
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
1. ครู ตรวจบันทึกผลการปฏิบตั ิงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้แล้ว
คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. นักเรี ยนอาสาสมัครเล่าประสบการณ์การเกี่ยวกับการจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยนของตนเองให้เพื่อน ๆ ฟัง
3. ครู แสดงภาพอุปกรณ์การเรี ยนวางไว้ไม่ถูกที่ แล้วให้นกั เรี ยนแสดงความคิดเห็นว่าควรจัดเก็บสิ่ งใด
ในภาพบ้าง และจะเก็บอย่างไร
4. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–5 คน ช่วยกันคิดวิธีการจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยน เช่น หนังสื อ สมุดบันทึก
และเครื่ องเขียน แล้วออกมาสาธิ ตวิธีการจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยนให้เพื่อน ๆ กลุ่มอื่นชม
5. นักเรี ยนวาดภาพระบายสี อุปกรณ์การเรี ยนที่นกั เรี ยนควรจัดเก็บให้เรี ยบร้อยเป็ นประจํา
6. นักเรี ยนช่วยกันสรุ ปความรู ้เกี่ยวกับการจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยนโดยระบุอุปกรณ์ที่ใช้เก็บ
7. ครูบูรณาการตามหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงด้ านความพอประมาณและความมีระเบียบ โดย
บูรณาการการจัดเก็บอุปกรณ์ การเรียนนอกจากจะทําให้ หยิบใช้ ได้ สะดวก และไม่ สูญหายแล้ วยังเป็ นการใช้ สิ่งของ
อย่ างคุ้มค่ า ประหยัดค่ าใช้ จ่าย และทําให้ บ้านเป็ นระเบียบเรียบร้ อย
8. ให้นกั เรี ยนอ่านเพิ่มเติมจากสื่ อการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ป. 1 หรื อ
หนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 57
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนช่วยกันสรุ ปความรู ้เกี่ยวกับการจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยนโดยระบุอุปกรณ์ที่ใช้เก็บ
2. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปสั งเกตวิธีการจัดเก็บของเล่นของตนเองที่บ้าน แล้วบันทึกผล และให้
นักเรียนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพือ่ นํามาร่ วมกันสนทนาในการเรียนครั้งต่อไป)
ขั้นที่ 4 ขั้นฝึ กฝนนักเรียน
1. นักเรี ยนลากเส้นโยงจับคู่สิ่งของกับภาชนะหรื ออุปกรณ์ที่ใช้จดั เก็บให้ถูกต้อง
2. นักเรี ยนศึกษาวิธีการจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยนเพิ่มเติมจากพ่อแม่ หรื อผูป้ กครอง
3. นักเรี ยนทําแบบฝึ กทักษะ รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพแลเทคโนโลยี ป. 1 กิจกรรมที่ 9 เก็บให้ถูกที่
ขั้นที่ 5 ขั้นนําไปใช้
นักเรี ยนสามารถจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยนที่บา้ นของตนเองได้
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสํ าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ
นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน แข่งขันกันจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยนที่ถูกต้องพร้อมกับอธิ บายเหตุผล
2. กิจกรรมสํ าหรับฝึ กทักษะเพิม่ เติม
นักเรี ยนฝึ กจัดเก็บอุปกรณ์การเรี ยนของตนเอง โดยครู เป็ นผูใ้ ห้คาํ แนะนํา
9. สื่อ/แหล่ งการเรี ยนรู้
1. ตัวอย่างอุปกรณ์การเรี ยน
2. ภาพอุปกรณ์การเรี ยนที่เก็บไม่เป็ นระเบียบ
3. เพลงเกี่ยวกับความมีระเบียบ เช่น เพลงเก็บของ
4. อุปกรณ์วาดภาพระบายสี
5. หนังสื อภาพเกี่ยวกับการจัดเก็บสิ่ งของเครื่ องใช้
6. สถานที่ เช่น โรงเรี ยน บ้านของนักเรี ยน
7. บุคคล เช่น ผูป้ กครอง ญาติ เพื่อน และครู
8. สื่ อการเรี ยนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
9. หนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์ วัฒนาพานิช จํากัด
10. แบบฝึ กทักษะ รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
11. คู่มือการสอน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
12. สื่ อการเรี ยนรู้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์
วัฒนาพานิช จํากัด
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 58
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสํ าเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุ งแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 59
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 7
การจัดเก็บของเล่ นและของใช้ ส่วนตัว
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง เวลา 2 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
ของเล่นและของใช้ส่วนตัวหากเราวางกระจัดกระจายไม่เป็ นระเบียบ อาจทําให้สูญหายได้ ดังนั้นเมื่อเล่น
หรื อใช้เสร็ จแล้วควรนําไปเก็บเข้าที่และจัดวางให้เป็ นระเบียบเรี ยบร้อย
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป. 1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป. 1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป. 1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายวิธีการจัดเก็บของเล่นและของใช้ส่วนตัวได้ (K)
2. มีเจตคติที่ดีต่อการจัดเก็บของเล่นและของใช้ส่วนตัว (A)
3. สามารถจัดเก็บของเล่นและของใช้ส่วนตัวได้ดว้ ยตนเอง (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความตั้งใจเรี ยน 1. สังเกตทักษะการจัดเก็บของเล่น
2. ตรวจผลการจัดเก็บของเล่น 2. สังเกตความสนใจเรี ยน 2. สังเกตพฤติกรรมขณะปฏิบตั ิ
และของใช้ส่วนตัวตามขั้นตอน 3. สังเกตความรับผิดชอบในการ กิจกรรมร่ วมกับผูอ้ ื่น
ทํากิจกรรมร่ วมกับผูอ้ ื่น
5. สาระการเรี ยนรู้
1. การจัดเก็บของเล่น
2. การจัดเก็บภาชนะใส่อาหาร
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 60
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การฟังความคิดเห็นของเพื่อนในกลุ่ม การเล่าประสบการณ์
เกี่ยวกับการจัดเก็บของเล่นและของใช้ส่วนตัว
คณิ ตศาสตร์ การนับจํานวน การวัดความกว้าง และความยาวของของเล่น
สุขศึกษาฯ การร่ วมมือจัดเก็บของเล่นต่าง ๆ ในบ้าน
ศิลปะ การวาดภาพระบายสี ของเล่นและของใช้ต่าง ๆ
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับของเล่นและของใช้ต่าง ๆ
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันร้องเพลงเก็บของ
เพลงเก็บของ
เก็บ เก็บ มาช่วยกันเก็บของที
เร็ วคนดี มาเก็บเข้าที่กนั เอย
2. ครู นาํ ภาพของเล่นที่วางกระจัดกระจายและมีน้ าํ หกบนพื้น เด็กผูห้ ญิงกําลังลื่นล้มมาให้นกั เรี ยนดู แล้ว
ถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น นักเรี ยนคิดว่าเหตุการณ์ในภาพเกิดจากสาเหตุใด
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 1 (การจัดเก็บของเล่ น)
1. ครู ตรวจบันทึกผลการสังเกตจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้
แล้ว คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. นักเรี ยนบอกวิธีการจัดเก็บของเล่นที่ตนเองปฏิบตั ิ
3. ครู อธิ บายพร้อมทั้งสาธิตวิธีการจัดเก็บของเล่นให้นกั เรี ยนดู
4. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน แสดงวิธีการจัดเก็บของเล่นต่าง ๆ ที่ครู เตรี ยมมาให้
5. ให้นกั เรี ยนอ่านเพิ่มเติมจากสื่ อการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ป. 1 หรื อ
หนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1
ชั่วโมงที่ 12 (การจัดเก็บภาชนะใส่ อาหาร)
1. ครู แสดงภาพขั้นตอนการจัดเก็บภาชนะใส่ อาหาร แล้วให้นกั เรี ยนสังเกต และเล่าเรื่ องจากภาพ
2. ครู สื่อการเรี ยนรู้ PowerPoint เกี่ยวกับวิธีการทําความสะอาดและจัดเก็บภาชนะใส่อาหาร แล้วอธิ บาย
พร้อมทั้งสาธิตวิธีการทําความสะอาดและจัดเก็บภาชนะใส่อาหารให้นกั เรี ยนดู
3. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน ฝึ กปฏิบตั ิการทําความสะอาดและจัดเก็บภาชนะใส่อาหารที่โรง
อาหารของโรงเรี ยน
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 61
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนช่วยกันสรุ ปความรู ้เกี่ยวกับเรื่ องการจัดเก็บของเล่นและของใช้ส่วนตัว
2. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปสํ ารวจการจัดโต๊ ะเขียนหนังสื อ ตู้ และชั้นวางหนังสื อของตนเองที่บ้าน
แล้วบันทึกผล และให้ นักเรียนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพือ่ นํามาร่ วมกันสนทนาในการเรียนครั้งต่ อไป)
ขั้นที่ 4 ขั้นฝึ กฝนนักเรียน
1. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน แสดงบทบาทสมมุติเกี่ยวกับวิธีการจัดเก็บภาชนะใส่อาหาร
แล้วร่ วมกันแสดงความคิดเห็น
2. นักเรี ยนทําแบบฝึ กทักษะ รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 กิจกรรมที่ 10 แสดง
บทบาทสมมุติ
ขั้นที่ 5 ขั้นนําไปใช้
นักเรี ยนสามารถจัดเก็บของเล่นและของใช้ส่วนตัว เช่น ภาชนะใส่อาหารทั้งของตนเองและสมาชิก
ในครอบครัว
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสํ าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ
1) นักเรี ยนจับคู่กบั เพื่อน สาธิตวิธีการจัดเก็บของเล่นและของใช้ส่วนตัว
2) นักเรี ยนวาดภาพของเล่นและของใช้ส่วนตัว แล้วระบายสี ให้สวยงาม
2. กิจกรรมสํ าหรับฝึ กทักษะเพิม่ เติม
1) นักเรี ยนระบายสี ภาพของเล่นและของใช้ต่าง ๆ
2) นักเรี ยนบอกชื่ออุปกรณ์สาํ หรับจัดเก็บของเล่นและของใช้ส่วนตัวที่วาดในข้อ 1 ให้เพื่อนใน
ชั้นเรี ยนฟัง
9. สื่อ/แหล่ งการเรี ยนรู้
1. ภาพของเล่นและภาชนะใส่อาหาร ภาพขั้นตอนการจัดเก็บ
2. ตัวอย่างของเล่นและของใช้ส่วนตัว
3. เพลงเกี่ยวกับการเก็บสิ่ งของ
4. อุปกรณ์วาดภาพระบายสี
5. หนังสื อภาพหรื อวีซีดีแสดงวิธีการจัดเก็บสิ่ งของเครื่ องใช้
6. สถานที่ เช่น โรงเรี ยน บ้านของนักเรี ยน
7. บุคคล เช่น ผูป้ กครอง ญาติ เพื่อน และครู
8. สื่ อการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นา พานิช จํากัด
9. หนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
10. แบบฝึ กทักษะ รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช
จํากัด
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 62
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสํ าเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งที่ไม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุ งแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 63
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 8
การจัดโต๊ ะ ตู้ และชั้น
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง เวลา 2 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
การจัดโต๊ะ ตู้ และชั้นวางของในบ้านจะทําให้บา้ นเรื อนหรื อห้องของเราเป็ นระเบียบเรี ยบร้อยช่วยให้
หยิบของมาใช้ได้สะดวก และทําให้บา้ นน่าอยู่
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป. 1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป. 1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป. 1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายวิธีการจัดโต๊ะ ตู้ และชั้นได้ (K)
2. มีความกระตือรื อร้นและความรับผิดชอบต่อการจัดโต๊ะ ตู้ และชั้น (A)
3. สามารถจัดโต๊ะ ตู้ และชั้นได้ดว้ ยตนเอง (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความรับผิดชอบในการ 1. สังเกตพฤติกรรมขณะปฏิบตั ิ
2. ตรวจผลงานการจัดโต๊ะ ตู ้ ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรี ยนรู ้ กิจกรรมการเรี ยนรู ้
และชั้น 2. ประเมินพฤติกรรมตาม 2. สังเกตทักษะการทํางานตาม
3. ตรวจการทําแบบทดสอบ แบบประเมินด้านคุณธรรม จริ ยธรรม แบบประเมินด้านทักษะ/กระบวนการ
หลังเรี ยน (Post-test) และค่านิยม
5. สาระการเรี ยนรู้
การจัดโต๊ะ ตู้ และชั้น
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 64
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การฟังความคิดเห็นของเพื่อนในกลุ่ม
คณิ ตศาสตร์ การนับจํานวน การวัดความกว้าง ความยาวของโต๊ะ ตู้ และชั้น
สุ ขศึกษา ฯ ความปลอดภัยในการจัดโต๊ะ ตู้ และชั้น
ศิลปะ การวาดภาพระบายสี โต๊ะ ตู้ และชั้น
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับโต๊ะ ตู้ และชั้น
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู นาํ ภาพตูห้ รื อชั้นหนังสื อที่วางหนังสื อไม่เป็ นระเบียบให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้
ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น การจัดชั้นวางหนังสื อในภาพนี้ควรปรับปรุ งหรื อไม่ เพราะอะไร
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 1 (การจัดโต๊ ะเขียนหนังสื อ ตู้ และชั้นวางหนังสื อ)
1. ครู ตรวจบันทึกผลการสํารวจจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้
แล้ว คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู ให้นกั เรี ยนดูภาพโต๊ะ ตู้ และชั้นวางหนังสื อ แล้วอ่านคําศัพท์ภาษาอังกฤษสิ่ งของที่มีในภาพ
โดยอ่านตามครู
3. นักเรี ยนร่ วมกันบอกวิธีการจัดโต๊ะ ตู้ และชั้นวางหนังสื อในภาพ
4. ครู สื่อการเรี ยนรู้ PowerPoint เกี่ยวกับวิธีการจัดโต๊ะเขียนหนังสื อแล้วอธิ บาย พร้อมทั้งสาธิ ตวิธีการ
จัดโต๊ะเขียนหนังสื อให้นกั เรี ยนดู
5. นักเรี ยนฝึ กจัดตะเขียนหนังสื อโดยครู ให้คาํ แนะนําและตรวจสอบความเรี ยบร้อย
ชั่วโมงที่ 2 (การจัดตู้หรือชั้นวางรองเท้ า)
1. ครู ให้นกั เรี ยนออกมาสังเกตชั้นวางรองเท้าที่หน้าชั้นเรี ยน แล้วช่วยกันเสนอแนะวิธีวางรองเท้า
2. ครู อธิ บายวิธีการจัดชั้นวางรองเท้าที่ถูกต้องให้นกั เรี ยนฟัง
3. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับรองเท้ านักเรียนของเด็กในประเทศสมาชิกอาเซียน เช่ น นักเรียน
ในประเทศเวียดนาม กัมพูชา และเมียนมาเลือกสวมรองเท้ าแตะหรือรองเท้ าหุ้มส้ นไปโรงเรียนได้ ตามความต้ องการ
4. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5–6 คน แข่งขันกันจัดชั้นวางรองเท้า กลุ่มใดจัดได้เร็ วและถูกต้องเป็ นผูช้ นะ
5. นักเรี ยนทําแบบทดสอบหลังเรี ยน (Post-test) จํานวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที (โดยครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้
PowerPoint การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่วยการเรี ยนรู ้ที่ 1 หรื อคู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู้ การงาน
อาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 ตอนที่ 3 แบบทดสอบหลังเรี ยน หน่วยการเรี ยนรู้ที่ 1)
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป
1. นักเรี ยนร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อดีของการจัดโต๊ะ ตู้ และชั้น และวิธีการจัดโต๊ะ ตู้
และชั้น
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 65
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสําเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 67
เวลา 7 ชั่วโมง
ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ
1. รู ้จกั พืช 1. ทักษะการทํางานเพื่อช่วยเหลือ
2. เครื่ องมือดูแลรักษาพืช ตนเอง
3. การรดนํ้าต้นไม้ 2. ทักษะการใช้วสั ดุ อุปกรณ์
4. การถอนและเก็บวัชพืช และเครื่ องมือ
3. ทักษะการทํางานกลุ่ม
พืชใกล้ ตัว
ผังการออกแบบการจัดการเรียนรู้
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 2 พืชใกล้ ตัว
2. วิธีการและเครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้
วิธีการประเมินผลการเรียนรู้ เครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้
– การทดสอบ – แบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน
– การสนทนาซักถามโดยครู – แบบทดสอบประจําหน่วยการเรี ยนรู ้
– การฝึ กปฏิบตั ิระหว่างเรี ยน – แบบบันทึกการสนทนา
– การประเมินตนเองของนักเรี ยน – ใบความรู ้และใบงาน
– แบบประเมินด้านคุณธรรม จริ ยธรรม และค่านิยม
– แบบประเมินทักษะ/กระบวนการ
3. สิ่ งที่ม่ ุงประเมิน
– ความสามารถในการอธิบายวิธีการใช้เครื่ องมือทํางานเกี่ยวกับพืชให้ผอู ้ ื่นเข้าใจ
– ความสามารถในการเลือกและใช้เครื่ องมือเกษตร
– การปฏิบตั ิเกี่ยวกับการรดนํ้าต้นไม้ การถอน และการเก็บวัชพืช
– พฤติกรรมการปฏิบตั ิกิจกรรมเป็ นรายบุคคลและรายกลุ่ม
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 9 รู ้จกั พืช 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 10 เครื่ องมือดูแลรักษาพืช 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 11 การรดนํ้าต้นไม้ 3 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 12 การถอนและเก็บวัชพืช 1 ชัว่ โมง
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 70
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 9
รู้ จักพืช
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 2 พืชใกล้ ตัว เวลา 2 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
พืชที่อยูใ่ กล้ตวั เรามีท้ งั พืชที่เรากินเป็ นอาหาร และพืชที่ใช้ประดับตกแต่งบ้านเรื อนหรื อสถานที่ต่าง ๆ ซึ่ง
พืชแต่ละชนิดมีประโยชน์แตกต่างกัน
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป.1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป.1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป.1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. สามารถบอกชนิดและประโยชน์ของพืชได้ (K)
2. เห็นความสําคัญของพืชแต่ละชนิดและนําไปใช้ในชีวิตประจําวัน (A)
3. มีทกั ษะในการจําแนกพืช (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความสนใจเรี ยน 1. สังเกตพฤติกรรมขณะปฏิบตั ิ
2. ตรวจผลงานการจําแนกกลุ่มพืช 2. สังเกตความกระตือรื อร้น กิจกรรมการเรี ยนรู ้
3. ตรวจการทําแบบทดสอบ ในการปฏิบตั ิงาน 2. สังเกตการปฏิบตั ิงานร่ วมกับผูอ้ ื่น
ก่อนเรี ยน (Pre-test) 3. สังเกตพฤติกรรมการสํารวจ
5. สาระการเรี ยนรู้
รู้จกั พืช ได้แก่ ไม้ดอก ไม้ประดับ ผักสวนครัว และไม้ผล
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 71
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การอ่านข้อมูลเกี่ยวกับชื่อพืช และการเขียนชื่อพืช
คณิ ตศาสตร์ การนับจํานวนพืช
วิทยาศาสตร์ พืชและการจําแนกส่วนต่าง ๆ ของพืช
ศิลปะ การวาดภาพพืชชนิดต่าง ๆ
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับพืช และส่วนต่าง ๆ ของพืช
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
1. นักเรี ยนทําแบบทดสอบก่อนเรี ยน (Pre-test) จํานวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที (โดยครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู้
PowerPoint การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่วยการเรี ยนรู ้ที่ 2 หรื อคู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู้ การงาน
อาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 ตอนที่ 3 แบบทดสอบก่อนเรี ยน หน่วยการเรี ยนรู้ที่ 2)
2. ครู นาํ ภาพที่ 1) มะลิ 2) กระบองเพชร 3) แครอต 4) กล้วย มาให้นกั เรี ยนดูแล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้
ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น นักเรี ยนรู้จกั พืชในภาพนี้หรื อไม่ พร้อมทั้งบอกชื่อและประโยชน์ของพืช
นั้น ๆ
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 1 (ไม้ ดอก ไม้ ประดับ)
1. ครู ถามคําถามเกี่ ยวกับงานที่ มอบหมายให้นักเรี ยนไปศึ กษาเนื้ อหาในหน่ วยการเรี ยนรู้ที่ 2 พืชใกล้ตวั
(ซึ่ งมอบหมายในชัว่ โมงสุ ดท้ายของการเรี ยนการสอนหน่วยการเรี ยนรู้ที่ 1 คําถามเชื่ อมโยงสู่บทเรี ยนต่อไป) เช่น
ในชีวติ ประจําวันนักเรี ยนรู้จกั พืชชนิดใดบ้าง
2. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับภาพไม้ดอก ไม้ประดับชนิดต่าง ๆ หรื อนําภาพมาให้นกั เรี ยน
แล้วให้นกั เรี ยนบอกชื่อไม้ดอก ไม้ประดับชนิดอื่น ๆ ที่นกั เรี ยนรู้จกั
3. ครู อธิ บายเกี่ยวกับลักษณะและประโยชน์ของไม้ดอก ไม้ประดับ
4. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน สํารวจพืชตามฐานกิจกรรมที่กาํ หนดให้ ได้แก่
1) ฐานพืชไม้ดอก
2) ฐานพืชไม้ประดับ
5. นักเรี ยนแต่ละกลุ่มเขียนชื่อพืชเป็ นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และบอกประโยชน์ของพืชแต่ละชนิดใน
แต่ละฐาน เมื่อทํากิจกรรมครบทุกฐานแล้วให้ตวั แทนกลุ่มนําเสนอผลงานหน้าชั้นเรี ยน
6. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับไม้ ดอกที่เป็ นดอกไม้ ประจําชาติของประเทศสมาชิกอาเซียน เช่ น
ดอกบัวเป็ นดอกไม้ ประจําชาติของประเทศเวียดนาม
7. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปสํ ารวจพืชที่ปลูกในบริเวณบ้ านของตนเอง แล้วบันทึกผลและให้
นักเรียนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพือ่ นํามาร่ วมกันสนทนาในการเรียนครั้งต่ อไป)
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 72
9. สื่อ/แหล่ งการเรียนรู้
1. ตัวอย่างพืชชนิดต่างๆ
2. ภาพแสดงพืชชนิดต่างๆ
3. หนังสื อเกี่ยวกับพืชชนิดต่างๆ
4. บุคคล เช่น ผูป้ กครอง ครู ผูร้ ู้ เกษตรกร
5. สื่ อ เช่น หนังสื อพิมพ์ โทรทัศน์ วีซีดี สารคดี
6. สถานที่ เช่น ห้องสมุด ชุมชน โรงเรี ยน สวนเกษตร ตลาดต้นไม้
7. สื่ อการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
8. หนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
9. แบบฝึ กทักษะ รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
10. คู่มือการสอน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
11. สื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์
วัฒนาพานิช จํากัด
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสํ าเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุ งแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 74
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 10
เครื่องมือดูแลรักษาพืช
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 2 พืชใกล้ ตัว เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
เครื่ องมือที่ใช้ในการปลูกพืชหรื อเรี ยกว่า เครื่ องมือเกษตร เป็ นสิ่ งที่ช่วยให้เราทํางานได้สะดวกรวดเร็ วขึ้น
และช่วยผ่อนแรงในการทํางาน
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป.1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป.1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป.1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. บอกชนิดของเครื่ องมือเกษตรได้ (K)
2. เห็นความสําคัญของเครื่ องมือเกษตร (A)
3. มีทกั ษะในการเลือกใช้เครื่ องมือเกษตร (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความตั้งใจเรี ยน 1. สังเกตการปฏิบตั ิกิจกรรม
และการแสดงความคิดเห็น 2. มีความสนใจในการ การเรี ยนรู ้
2. ตรวจผลงานการใช้เครื่ องมือ ใช้เครื่ องมือดูแลรักษาพืช 2. สังเกตพฤติกรรมการใช้
เกษตร เครื่ องมือเกษตร
5. สาระการเรี ยนรู้
เครื่ องมือดูแลรักษาพืช
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 75
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีใช้ และการเก็บรักษาเครื่ องมือ
ดูแลรักษาพืช
คณิ ตศาสตร์ การวัดความยาวและขนาดของเครื่ องมือดูแลรักษาพืช
วิทยาศาสตร์ หลักการผ่อนแรงจากการใช้เครื่ องมือดูแลรักษาพืช
สังคมศึกษา ฯ การสํารวจเครื่ องมือดูแลรักษาพืชที่มีอยูใ่ นบ้าน
สุ ขศึกษาฯ ความปลอดภัยในการใช้เครื่ องมือดูแลรักษาพืช
ศิลปะ การวาดภาพระบายสี เครื่ องมือดูแลรักษาพืช
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับเครื่ องมือดูแลรักษาพืช
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู ถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น เพราะอะไรเราจึงต้องใช้เครื่ องมือ
ในการดูแลรักษาพืช
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
1. ครู ตรวจบันทึกผลการสํารวจจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้
แล้วคนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. นักเรี ยนอาสาสมัครเล่าประสบการณ์ที่เคยเห็นบุคคลในครอบครัวหรื อเพื่อนบ้านใช้เครื่ องมือในการ
ปลูกพืช
3. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับเครื่ องมือดูแลรักษาพืชหรื อนําตัวอย่างเครื่ องมือดูแลรักษา
พืชมาให้นกั เรี ยนดู
4. ครู ให้นกั เรี ยนสังเกตลักษณะของเครื่ องมือดูแลรักษาพืช แล้วสาธิตการใช้เครื่ องมือแต่ละชนิดให้
นักเรี ยนดู
5. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน ทดลองใช้เครื่ องมือดูแลรักษาพืช แล้วให้ตวั แทนกลุ่มออกมาสาธิต
ให้เพื่อนกลุ่มอื่นดู
6. ครู อธิ บายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการใช้และการเก็บรักษาเครื่ องมือดูแลรักษา
7. ครูบูรณาการตามหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงด้ านความมีเหตุผล โดยบูรณาการการใช้ เครื่องมือ
ดู แ ลรั ก ษาพื ช มาพิ จ ารณาในการเลื อ กใช้ เครื่ อ งมื อ ให้ เหมาะสมกั บ งาน เพื่ อ ให้ ทํ า งานได้ ง่ า ย สะดวก และ
ประหยัดเวลา
8. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับคําที่ใช้ เรียก ต้ นกล้า ในภาษาลาว เรียกว่ า เบีย้ ไม้
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ของเครื่ องมือดูแลรักษาพืช
2. นักเรี ยนช่วยกันสรุ ปวิธีการใช้เครื่ องมือดูแลรักษาพืชให้ปลอดภัย
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 76
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 78
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 11
การรดนํา้ ต้ นไม้
สาระที่ 1 การดํารง ชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 2 พืชใกล้ ตัว เวลา 3 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
นํ้าเป็ นอาหารสําคัญของต้นไม้ เพราะช่วยให้ตน้ ไม้เจริ ญเติบโตงอกงาม ถ้าต้นไม้ขาดนํ้า ดอกใบจะเหี่ ยว
เฉาหรื อตาย
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป.1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป.1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป.1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายวิธีการรดนํ้าต้นไม้ได้ (K)
2. มีความกระตือรื อร้นและรักษาเวลาในการรดนํ้าต้นไม้ (A)
3. เลือกใช้เครื่ องมือและปฏิบตั ิการรดนํ้าต้นไม้ได้ดว้ ยตนเอง (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความตั้งใจเรี ยน 1. สังเกตการปฏิบตั ิการรดนํ้า
2. ตรวจผลงานเลือกใช้เครื่ องมือ 2. สังเกตความกระตือรื อร้นในการ ต้นไม้
และการรดนํ้าต้นไม้ รดนํ้าต้นไม้ในเวลาเช้าและเย็น 2. สังเกตพฤติกรรมในการ
ปฏิบตั ิงานร่ วมกับเพื่อน
5. สาระการเรี ยนรู้
การรดนํ้าต้นไม้
1) การรดนํ้าต้นไม้ดว้ ยบัวรดนํ้า
2) การรดนํ้าต้นไม้ดว้ ยถังนํ้า
3) การรดนํ้าต้นไม้ดว้ ยสายยาง
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 79
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการรดนํ้าต้นไม้
คณิ ตศาสตร์ การวัดความยาวและขนาดของเครื่ องมือรดนํ้าต้นไม้
วิทยาศาสตร์ หลักการผ่อนแรงจากการใช้เครื่ องมือรดนํ้าต้นไม้
สังคมศึกษาฯ การ เรี ยนรู้เรื่ องเวลาในการรดนํ้าต้นไม้
ศิลปะ การวาดภาพระบายสี
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับเครื่ องมือรดนํ้าต้นไม้
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู ถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น นักเรี ยนเคยช่วยผูป้ กครองรดนํ้า
ต้นไม้หรื อไม่
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 1 (การรดนํา้ ต้ นไม้ ด้วยบัวรดนํา้ )
1. ครู ตรวจบันทึกผลการสอบถามจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถาม
ที่เตรี ยมไว้แล้วคนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. นักเรี ยนอาสาสมัครออกมาเล่าประสบการณ์การรดนํ้าต้นไม้ดว้ ยบัวรดนํ้าของตนเอง
3. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสนทนาเกี่ยวกับการเลือกใช้เครื่ องมือให้เหมาะสมกับต้นไม้ที่จะรดนํ้า
4. ครูบูรณาการตามหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงด้ านความพอประมาณ โดยบูรณาการการใช้ นํา้
รดนํา้ ต้ นไม้แบบประหยัด ด้ วยการกะปริมาณนํา้ ที่รดไม่ให้ มากหรือน้ อยเกินไป เพราะอาจทําให้ ต้นไม้ ตายได้
5. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับวิธีการรดนํ้าต้นไม้ดว้ ยบัวรดนํ้าหรื อพานักเรี ยนไปที่สนาม
ในบริ เวณโรงเรี ยน พร้อมทั้งอธิบายวิธีการรดนํ้าต้นไม้ดว้ ยบัวรดนํ้า และสาธิ ตให้นกั เรี ยนดู
6. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน ปฏิบตั ิการรดนํ้าต้นไม้ดว้ ยบัวรดนํ้า แล้วเขียนบันทึกผลการ
ปฏิบตั ิงาน แล้วนําเสนอหน้าชั้นเรี ยน
7. ครู มอบหมายงานให้ นักเรียนไปศึกษาการรดนํา้ ต้ นไม้ด้วยถังนํา้ จากหนังสื อเรียน รายวิชาพืน้ ฐาน
การงานอาชีพฯ ป. 1 หน้ า 35 ลงมือปฏิบัติ และบันทึกผล แล้วให้ นักเรียนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพือ่
นํามาร่ วมกันสนทนาในการเรียนครั้งต่ อไป)
ชั่วโมงที่ 2 (การรดนํา้ ต้ นไม้ ด้วยถังนํา้ )
1. ครู ตรวจบันทึกผลการปฏิบตั ิงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้แล้ว
คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู นาํ ถังนํ้ามาให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น
นักเรี ยนเคยใช้สิ่งนี้รดนํ้าต้นไม้หรื อไม่ อย่างไร
3. ครู พานักเรี ยนไปที่สนามในบริ เวณโรงเรี ยนแล้วสาธิตวิธีการรดนํ้าต้นไม้ดว้ ยถังนํ้าให้นกั เรี ยนดู
4. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน ร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการรดนํ้าต้นไม้ดว้ ยถังนํ้า
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 80
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสํ าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ
1) นักเรี ยนสอบถามเกษตรกรเกี่ยวกับวิธีของการรดนํ้าต้นไม้ที่ถกู ต้อง
2) นักเรี ยนศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรักษาพืชจากเกษตรกร ผูป้ กครอง หรื อ ผูร้ ู ้ในชุมชน
2. กิจกรรมสํ าหรับฝึ กทักษะเพิม่ เติม
นักเรี ยนปรึ กษาผูป้ กครองเกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่ องมือรดนํ้าต้นไม้ และทดลองปฏิบตั ิการใช้
เครื่ องมือนั้น ๆ
9. สื่อ/แหล่ งการเรี ยนรู้
1. เครื่ องมือที่ใช้ในการรดนํ้าต้นไม้
2. ภาพวิธีการรดนํ้าต้นไม้
3. หนังสื อเกี่ยวกับเครื่ องมือเกษตร วารสารการเกษตร
4. บุคคล เช่น ผูป้ กครอง ครู ผูร้ ู ้ เกษตรกร นักวิชาการเกษตร
5. สื่ อ เช่น หนังสื อพิมพ์ โทรทัศน์
6. สถานที่ เช่น ห้องสมุด ชุมชน โรงเรี ยน สวนเกษตร
7. สื่ อการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
8. หนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์ วัฒนาพานิช จํากัด
9. แบบฝึ กทักษะ รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชี พและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิ ช
จํากัด
10. คู่มือการสอน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
11. สื่ อการเรี ยนรู้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชี พและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษ ทั สํานักพิมพ์
วัฒนาพานิช จํากัด
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 82
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสํ าเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุ งแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 83
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 12
การถอนและเก็บวัชพืช
สาระที่ 1 การดํารง ชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 2 พืชใกล้ ตัว เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
วัชพืชเป็ นต้นไม้เล็กๆ ที่มาแย่งนํ้าและแย่งอาหารของต้นไม้ที่เราปลูกไว้ ทําให้ตน้ ไม้ไม่เจริ ญเติบโต ซึ่งเรา
สามารถป้ องกันไม่ให้วชั พืชขึ้นในกระถางหรื อแปลงปลูกได้โดยมีวิธีการถอนและการเก็บวัชพืช
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป.1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป.1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป.1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายวิธีการกําจัดวัชพืชโดยการถอนและการเก็บวัชพืชได้ (K)
2. มีความกระตือรื อร้นในการกําจัดวัชพืช (A)
3. มีทกั ษะในการถอนและเก็บวัชพืชได้ดว้ ยตนเอง (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถามและ 1. สังเกตความตั้งใจเรี ยน 1. สังเกตการปฏิบตั ิกิจกรรม
แสดงความคิดเห็น 2. สังเกตความกระตือรื อร้นในการ การ เรี ยนรู ้
2. ตรวจผลงานการถอน ดูแลรักษาพืช 2. สังเกตทักษะการทํางานตามแบบ
และเก็บวัชพืช 3. ประเมินพฤติกรรมตาม ประเมินด้านทักษะ/กระบวนการ
3. ตรวจการทําแบบทดสอบ แบบประเมินด้านคุณธรรม จริ ยธรรม
หลังเรี ยน (Post-test) และค่านิยม
4. ตรวจการทําแบบทดสอบ
กลางปี
5. สาระการเรี ยนรู้
การถอนและเก็บวัชพืช
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 84
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การเล่าประสบการณ์ การฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการกําจัดวัชพืช
คณิ ตศาสตร์ ระยะเวลาในการถอนและการเก็บวัชพืช
วิทยาศาสตร์ การเจริ ญเติบโตของพืชและวัชพืช
สังคมศึกษาฯ การศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้านเกี่ยวกับการกําจัดวัชพืช
ศิลปะ การวาดภาพเกี่ยวกับการเก็บวัชพืช
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับวัชพืชต่าง ๆ
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู นาํ ภาพหรื อวัชพืชของจริ งมาให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของ
นักเรี ยน เช่น ถ้าพบวัชพืชแซมขึ้นมาในกระถางต้นไม้ที่ปลูกไว้ นักเรี ยนจะมีวิธีการกําจัดวัชพืชอย่างไร
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
1. ครู ตรวจบันทึกผลการสังเกตจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้
แล้ว คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. นักเรี ยนร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวัชพืชว่ามีประโยชน์หรื อไม่ อย่างไร
3. นักเรี ยนอาสาสมัครเล่าประสบการณ์กาํ จัดวัชพืชของตนเองหรื อบุคคลในครอบครัวให้เพื่อนฟัง
4. ครู สื่อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับวิธีการกําจัดวัชพืชหรื อนําภาพมาให้นกั เรี ยนดู พร้อมทั้งอธิบาย
วิธีการป้ องกันหรื อกําจัดวัชพืช
5. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน สํารวจต้นไม้บริ เวณโรงเรี ยนว่ามีวชั พืชขึ้นหรื อไม่
6. นักเรี ยนปฏิบตั ิการถอนและเก็บวัชพืชบริ เวณโรงเรี ยน เสร็ จแล้วรายงานให้เพื่อนฟังหน้าชั้นเรี ยน
7. นักเรี ยนทําแบบทดสอบหลังเรี ยน (Post-test) จํานวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที (โดยครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู้
PowerPoint การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่วยการเรี ยนรู ้ที่ 2 หรื อคู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู้ การงาน
อาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 ตอนที่ 3 แบบทดสอบหลังเรี ยน หน่วยการเรี ยนรู้ที่ 2)
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปวิธีการกําจัดวัชพืช
2. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปศึกษาเนือ้ หาในหน่ วยการเรียนรู้ที่ 3 ช่ างประดิษฐ์ น้อย เพือ่ จัดการ
เรียนรู้ครั้งต่ อไป (โดยครูเปิ ดสื่ อการเรียนรู้ PowerPoint การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่ วยการเรียนรู้ที่ 2
คําถามเชื่อมโยงสู่ บทเรียนต่ อไป)
ขั้นที่ 4 ขั้นฝึ กฝนนักเรียน
1. นักเรี ยนสังเกตภาพที่กาํ หนดให้แล้วบอกเกี่ยวกับสิ่ งที่เป็ นปัญหาในภาพและวิธีการแก้ไขปัญหานั้น ๆ
2. นักเรี ยนเล่าประสบการณ์การดูแลรักษาพืช โดยให้แต่ละคนเล่าประสบการณ์การดูแลรักษาพืช แล้ว
ร่ วมกันสรุ ป
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 85
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสําเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุ งแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
ทดสอบกลางปี
ชั่วโมงที่ 22 ทดสอบกลางปี
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 87
เวลา 8 ชั่วโมง
ผังมโนทัศน์ เป้าหมายการเรียนรู้ และขอบข่ ายภาระงาน
ความรู้ . ทักษะ/กระบวนการ
1. วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือที่ใช้ 1. ทักษะการทํางาน เพื่อช่วยเหลือ
ทําของเล่น ตนเอง
2. การพับกระดาษเป็ นของเล่น 2. ทักษะการใช้ วัสดุ อุปกรณ์
3. การบํารุ งรักษาของเล่น และเครื่ องมือ
3. ทักษะการทํางานกลุ่ม
ช่ างประดิษฐ์ น้อย
ผังการออกแบบการจัดการเรียนรู้
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 3 ช่ างประดิษฐ์ น้อย
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 13
วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้ ทําของเล่ น
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 3 ช่ างประดิษฐ์ น้อย เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือที่ใช้ทาํ ของเล่นเป็ นสิ่ งที่ช่วยให้เราทําของเล่นได้สะดวกรวดเร็ วขึ้น และสําเร็ จ
เป็ นรู ปร่ างตามที่เราต้องการ
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป.1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป.1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป.1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. จําแนกชนิดและบอกประโยชน์ชนิดของวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือที่ใช้ทาํ ของเล่นได้ (K)
2. อธิ บายวิธีการใช้เครื่ องมือทํางานอย่างปลอดภัยได้ (K)
3. มีความกระตือรื อร้นที่จะประดิษฐ์ของเล่น (A)
4. พับกระดาษเป็ นของเล่นได้ดว้ ยตนเอง (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความสนใจเรี ยน 1. สังเกตการปฏิบตั ิกิจกรรม
2. ตรวจผลการใช้วสั ดุ อุปกรณ์ 2. สังเกตความกระตือรื อร้น การเรี ยนรู ้
และเครื่ องมือในการทําของเล่น ในการปฏิบตั ิงาน 2. สังเกตทักษะการใช้วสั ดุ อุปกรณ์
3. ตรวจการทําแบบทดสอบ และเครื่ องมือในการทํางาน
ก่อนเรี ยน (Pre-test)
5. สาระการเรี ยนรู้
วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือที่ใช้ทาํ ของเล่น
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 91
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การเขียน การอ่าน และการพูดเพื่อนําเสนอผลงาน
คณิ ตศาสตร์ การวัดขนาด รู ปร่ าง และรู ปทรงของวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือ
วิทยาศาสตร์ การสังเกตลักษณะของวัสดุที่ใช้ทาํ ของเล่น
ศิลปะ การจัดป้ ายนิเทศแสดงวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือที่ใช้ทาํ ของเล่น
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือที่ใช้ทาํ ของเล่น
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
1. นักเรี ยนทําแบบทดสอบก่อนเรี ยน (Pre-test) จํานวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที (โดยครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู้
PowerPoint การงานอาชี พและเทคโนโลยี ป. 1 หน่ วยการเรี ยนรู้ที่ 3 หรื อคู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู้การงาน
อาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 ตอนที่ 3 แบบทดสอบก่อนเรี ยน หน่วยการเรี ยนรู้ที่ 3)
2. ครู ถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิ ดและความสนใจของนักเรี ยน เช่ น นักเรี ยนเคยประดิ ษ ฐ์ของเล่น
หรื อไม่ แล้วใช้วสั ดุ อุปกรณ์อะไรบ้าง
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
1. ครู ถามคําถามเกี่ยวกับงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนไปศึกษาเนื้อหาในหน่วยการเรี ยนรู ้ที่ 3 ช่าง
ประดิษฐ์นอ้ ย (ซึ่งมอบหมายในชัว่ โมงสุดท้ายของการเรี ยนการสอนหน่วยการเรี ยนรู ้ที่ 2 คําถามเชื่อมโยงสู่
บทเรี ยนต่อไป) เช่น ถ้านักเรี ยนต้องการประดิษฐ์ของเล่นไว้เล่นเองจะทําอย่างไร
2. นักเรี ยนอาสาสมัครออกมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือที่ตนเองเคยใช้
3. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับวิธีการใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือที่ใช้ทาํ ของเล่น อธิบาย
พร้อมสาธิ ตวิธีการใช้และวิธีการเก็บรักษาวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือที่ใช้ทาํ ของเล่น
4. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน ทดลองฝึ กใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือที่ทาํ ของเล่นจนคล่อง
5. ครู อธิ บายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่ องมือที่มีความแหลมคมอย่างปลอดภัย
6. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับคําที่ใช้ เรียก ดินสอ ในภาษาอาเซียน เช่ น ภาษาลาว เรียกว่ า สอ
ภาษาพม่ า เรียกว่ า แคดั่น ภาษาเขมร เรียกว่ า เดกเขมา
7. ครูบูรณาการตามหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงด้ านการมีภูมคิ ุ้มกันที่ดีในตัว โดยบูรณาการ
การประยุกต์ ใช้ วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่มีในท้ องถิ่นมาใช้ ทํางานประดิษฐ์ ซึ่งเป็ นการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่อย่าง
คุ้มค่ า และสามารถป้องกันปัญหาการขาดแคลนวัสดุได้
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้เกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือที่ใช้ทาํ ของเล่น โดยเขียนเป็ นแผนที่
ความคิด
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 92
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสําเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 94
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 14
การพับกระดาษเป็ นของเล่ น (1)
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 3 ช่ างประดิษฐ์ น้อย เวลา 2 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
การพับกระดาษเป็ นของเล่นเป็ นวิธีการสร้างงานประดิษฐ์ที่ทาํ ได้ง่ายและทําได้สะดวกเพราะใช้มือพับ
ซึ่งเราสามารถทําได้และยังช่วยให้เรามีของเล่นไว้เล่นอีกด้วย
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป.1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป.1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป.1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายขั้นตอนการพับกระดาษเป็ นของเล่นได้ (K)
2. บอกประโยชน์ของการพับกระดาษเป็ นของเล่นได้ (K)
3. มีความกระตือรื อร้นและมีเจตคติที่ดีต่อการพับกระดาษเป็ นของเล่น (A)
4. มีทกั ษะในการพับกระดาษเป็ นของเล่นได้ดว้ ยตนเอง (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความเอาใจใส่ในการเรี ยน 1. สังเกตพฤติกรรมขณะพับกระดาษ
2. ตรวจผลงานการพับกระดาษ 2. สังเกตความรับผิดชอบในการ เป็ นของเล่น
เป็ นของเล่น ทํากิจกรรม 2. สังเกตทักษะการเลือกใช้วสั ดุ
และอุปกรณ์ในการพับกระดาษ
เป็ นของเล่น
5. สาระการเรี ยนรู้
การพับกระดาษเป็ นของเล่น
1) การพับแมลงตัวน้อย
2) การพับจรวด
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 95
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูดซักถาม การฟังขั้นตอนในการพับกระดาษเป็ นของเล่น
คณิ ตศาสตร์ การนับจํานวนและการวัดขนาดของกระดาษที่พบั เป็ นของเล่น
วิทยาศาสตร์ ของเล่นใกล้ตวั ที่สามารถเป็ นแบบในการพับกระดาษได้
ศิลปะ การสร้างสรรค์ศิลปะจากกระดาษ
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์ที่เป็ นชื่อของเล่นที่พบั จากกระดาษ
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู ถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น ถ้าเราสามารถประดิษฐ์ของเล่นได้
เองจะเกิดผลดีต่อตนเองอย่างไรบ้าง
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 1 (การพับแมลงตัวน้ อย)
1. ครู ตรวจบันทึกผลการสอบถามจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยม
ไว้แล้ว คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู นาํ ตัวอย่างของเล่นที่พบั จากกระดาษให้นกั เรี ยนดู แล้วสนทนาร่ วมกันเกี่ยวกับการใช้วสั ดุอุปกรณ์
และเครื่ องมือในการพับ
3. นักเรี ยนอ่านบทสนทนาของเด็กสองคนจากสื่ อการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ
ป. 1 หรื อหนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 แล้วตอบคําถามต่อไปนี้
1) นักเรี ยน 2 คนในภาพคุยกันเกี่ยวกับเรื่ องอะไร
2) นักเรี ยนคิดว่าประโยชน์ของการทําของเล่นได้เองมีอะไรบ้าง
4. ครู อธิ บายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของการทําของเล่น
5. นักเรี ยนอาสาสมัครออกมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการพับกระดาษของตนเอง
6. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับวิธีการพับแมลงตัวน้อยหรื อนําภาพวิธีการพับแมลงตัวน้อย
ติดไว้ที่กระดานดําหน้าชั้นเรี ยน พร้อมทั้งสาธิตวิธีการพับกระดาษเป็ นแมลงตัวน้อยให้นกั เรี ยนดูทีละขั้นตอน
7. นักเรี ยนฝึ กพับกระดาษเป็ นแมลงตัวน้อยตามลําดับขั้นตอน
8. นักเรี ยนนําเสนอผลงานหน้าชั้นเรี ยน
9. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับการพับกระดาษของเด็ก ๆ ในประเทศสมาชิกอาเซียน เช่ น มาเลเซีย
ฟิ ลิปปิ นส์ ชอบพับกระดาษเป็ นของเล่นเหมือนกับเด็กไทย
ชั่วโมงที่ 2 (การพับจรวด)
1. ครู นาํ จรวดที่พบั ด้วยกระดาษมาให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของ
นักเรี ยน เช่น นักเรี ยนเคยพับกระดาษเป็ นของเล่นแบบนี้หรื อไม่ (ถ้าเคย) พับด้วยกระดาษอะไร
2. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับวิดีโอขั้นตอนวิธีการพับจรวดหรื อนําภาพวิธีการพับจรวด
มาให้นกั เรี ยนดู พร้อมทั้งสาธิตให้นกั เรี ยนดูทีละขั้นตอน
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 96
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสําเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 98
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 15
การพับกระดาษเป็ นของเล่ น (2)
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 3 ช่ างประดิษฐ์ น้อย เวลา 2 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
การพับกระดาษเป็ นของเล่นเป็ นวิธีที่ง่ายและทําได้สะดวกเพราะใช้มือแทนเครื่ องมือต่าง ๆ ซึ่งจะทําให้เรา
ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป.1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป.1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป.1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายขั้นตอนการพับกระดาษเป็ นของเล่นได้ (K)
2. มีความกระตือรื อร้นและพับกระดาษเป็ นของเล่นเสร็ จตรงตามเวลา (A)
3. มีทกั ษะในการพับกระดาษเป็ นของเล่นได้ดว้ ยตนเอง (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความเอาใจใส่ ใน 1. สังเกตพฤติกรรมขณะพับ
2. ตรวจผลงานการพับกระดาษ การเรี ยน กระดาษเป็ นของเล่น
เป็ นของเล่น 2. สังเกตความรับผิดชอบ 2. สังเกตทักษะการเลือกใช้วสั ดุ
ในการทํากิจกรรม และอุปกรณ์ในการพับกระดาษ
3. สังเกตความตรงเวลา เป็ นของเล่น
5. สาระการเรี ยนรู้
การพับกระดาษเป็ นของเล่น
1) การพับกระดาษเป็ นตัวหนอน
2) การพับกระดาษเป็ นหน้ากาก
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 99
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูด การฟังเกี่ยวกับการพับกระดาษเป็ นของเล่น
คณิ ตศาสตร์ การนับจํานวนและการวัดขนาดของกระดาษที่พบั เป็ นของเล่น
วิทยาศาสตร์ ของเล่นใกล้ตวั ที่สามารถเป็ นแบบในการพับกระดาษได้
ศิลปะ การสร้างสรรค์ศิลปะจากกระดาษ
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับชื่อของเล่นที่พบั จากกระดาษ
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู นาํ ตัวหนอนที่พบั จากกระดาษมาให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจ
ของนักเรี ยน เช่น นักเรี ยนเคยเล่นของเล่นแบบนี้หรื อไม่ และมีวิธีการเล่นอย่างไร
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 1 (การพับกระดาษเป็ นตัวหนอน)
1. ครู ตรวจบันทึกผลการปฏิบตั ิงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้แล้ว
คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับวิธีการพับตัวนอนหรื อนําภาพวิธีการพับตัวนอนมาให้
นักเรี ยนดูพร้อมทั้งสาธิตให้นกั เรี ยนดูทีละขั้นตอน
3. นักเรี ยนฝึ กพับกระดาษเป็ นตัวหนอนตามลําดับขั้นตอน จากนั้นนําผลงานที่พบั เสร็ จมานําเสนอ
หน้าชั้นเรี ยน
4. ให้นกั เรี ยนอ่านเพิ่มเติมจากสื่ อการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ป. 1 หรื อ
หนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1
5. ครูนําบูรณาการตามหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงด้ านการมีภูมคิ ุ้มกันที่ดีในตัว โดยบูรณาการ
การประยุกต์ ใช้ วสั ดุที่มใี นท้ องถิ่นมาใช้ ในการพับตัวหนอน เช่ น การนําใบไม้ มาพับเป็ นตัวหนอนแทนการใช้
กระดาษ
6. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปศึกษาวิธีการพับหน้ ากาก จากหนังสื อเรียน รายวิชาพืน้ ฐาน การงาน
อาชี พฯ ป. 1 หน้ า 52–53 ลงมือปฏิบัติ แล้ วบันทึกผล และให้ นักเรียนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพื่อนํามา
ร่ วมกันสนทนาในการเรียนครั้งต่ อไป)
ชั่วโมงที่ 2 (การพับหน้ ากาก)
1. ครู ตรวจบันทึกผลการปฏิบตั ิงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้แล้ว
คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู นาํ หน้ากากมาให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น
นักเรี ยนเคยเล่นของเล่นแบบนี้หรื อไม่ (ถ้าเคย) ของเล่นแบบนี้เรี ยกว่าอะไร แล้วมีวิธีการเล่นอย่างไร
3. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับวิดีโอขั้นตอนวิธีการพับหน้ากากหรื อนําภาพวิธีการพับ
หน้ากากมาให้นกั เรี ยนดู พร้อมทั้งสาธิตให้นกั เรี ยนดูทีละขั้นตอน
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 100
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสําเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 102
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 16
การพับกระดาษเป็ นของเล่ น (3)
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 3 ช่ างประดิษฐ์ น้อย เวลา 2 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
การพับกระดาษเป็ นของเล่นเป็ นวิธีที่ง่ายและทําได้สะดวกเพราะใช้มือแทนเครื่ องมือต่าง ๆ ซึ่งจะทําให้เรา
ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป.1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป.1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป.1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. บอกขั้นตอนการพับกระดาษเป็ นของเล่นได้ (K)
2. มีความกระตือรื อร้นในการพับกระดาษเป็ นของเล่น และทําเสร็ จตรงเวลา (A)
3. มีทกั ษะในการพับกระดาษเป็ นของเล่น (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่ านิยม (A
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความเอาใจใส่ 1. สังเกตพฤติกรรมขณะพับกระดาษ
2. ตรวจผลงานการพับกระดาษ ในการ เรี ยน เป็ นของเล่น
เป็ นของเล่น 2. สังเกตความกระตือรื อร้นในการ 2. สังเกตทักษะการเลือกใช้วสั ดุ
ฝึ กพับกระดาษเป็ นของเล่น และอุปกรณ์ในการพับกระดาษ
3. ประเมินพฤติกรรมการทํางาน เป็ นของเล่น
เสร็ จตามเวลาที่กาํ หนด
5. สาระการเรี ยนรู้
การพับกระดาษเป็ นของเล่น
1) การพับเรื อ
2) การพับรถไฟ
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 103
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูดนําเสนอเกี่ยวกับการพับกระดาษเป็ นของเล่น
วิทยาศาสตร์ ของเล่นใกล้ตวั ที่สามารถเป็ นแบบในการพับกระดาษได้
คณิ ตศาสตร์ การนับจํานวนของเล่นที่พบั จากกระดาษที่ทาํ ไว้ท้ งั หมด
ศิลปะ การสร้างสรรค์ศิลปะจากกระดาษ
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับชื่อของเล่นที่พบั จากกระดาษ
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู ถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น ถ้านักเรี ยนต้องการนําของเล่นที่พบั
ด้วยกระดาษไปลอยนํ้า นักเรี ยนจะพับเป็ นรู ปอะไร
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 1 (การพับเรือ)
1. ครู ตรวจบันทึกผลการปฏิบตั ิงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้แล้ว
คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับวิธีการพับเรื อหรื อภาพวิธีการพับเรื อมาให้นกั เรี ยนดู
พร้อมทั้งสาธิตวิธีการพับเรื อให้นกั เรี ยนดู
3. นักเรี ยนฝึ กพับกระดาษเป็ นเรื อตามลําดับขั้นตอน
4. นักเรี ยนนําผลงานของตนเองที่พบั เสร็ จแล้วออกมานําเสนอชั้นเรี ยน แล้วนําไปทดลองเล่น
5. ครู มอบหมายงานให้ นักเรี ยนไปศึ กษาวิธีการพับรถไฟ จากหนั งสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงาน
อาชี พฯ ป. 1 หน้ า 55–56 ลงมือปฏิบัติ แล้ วบันทึกผล และให้ นักเรียนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพื่อนํามา
ร่ วมกันสนทนาในการเรียนครั้งต่ อไป)
ชั่วโมงที่ 2 (การพับรถไฟ)
1. ครู ตรวจบันทึกผลการปฏิบตั ิงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้แล้ว
คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู นาํ รถไฟที่พบั จากกระดาษมาให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของ
นักเรี ยน เช่น ถ้าจะทําของเล่นแบบนี้ นักเรี ยนจะต้องเตรี ยมวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือใดบ้าง
3. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับวิธีการพับรถไฟหรื อภาพวิธีการพับรถไฟมาให้นกั เรี ยนดู
พร้อมทั้งสาธิตวิธีการพับรถไฟให้นกั เรี ยนดูทีละขั้นตอน แล้วให้นกั เรี ยนลองฝึ กปฏิบตั ิตาม
4. นักเรี ยนฝึ กพับกระดาษเป็ นรถไฟตามลําดับขั้นตอน
5. นักเรี ยนนําผลงานของตนเองที่ พ บั เสร็ จแล้วออกมานําเสนอชั้นเรี ยน แล้วให้เพื่ อ น ๆ ช่ วยกัน ให้
คะแนนและนําไปทดลองเล่น
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 104
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับขั้นตอนการพับกระดาษแบบต่าง ๆ พร้อมสรุ ปเป็ นแผนที่
ความคิด
2. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปสํ ารวจของเล่ นชํารุดของตนเอง แล้ วบันทึกผล และให้ นักเรียน
ตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพือ่ นํามาร่ วมกันสนทนาในการเรียนครั้งต่ อไป)
ขั้นที่ 4 ขั้นฝึ กฝนนักเรียน
1. นักเรี ยนเลือกทําของเล่นจากกระดาษคนละ 1 ชิ้น แล้วนําเสนอผลงานหน้าชั้น แล้วเขียนบันทึกผล
การปฏิบตั ิงาน
2. นักเรี ยนศึกษาเพิม่ เติมเกี่ยวกับวิธีการพับกระดาษเป็ นของเล่น จากหนังสื องานพับกระดาษ แล้วฝึ กพับ
กระดาษด้วยตนเอง
ขั้นที่ 5 ขั้นนําไปใช้
นักเรี ยนสามารถใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์โดยการพับกระดาษเป็ นของเล่น ของใช้ หรื อของตกแต่ง
แบบต่าง ๆ ได้
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสํ าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ
1) นักเรี ยนเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการพับกระดาษของตัวเอง ให้เพื่อนในชั้นเรี ยนฟัง
2) นักเรี ยนดูวิซีดีเกี่ยวกับการพับกระดาษ แล้ววางแผนทําการพับกระดาษด้วยตนเอง
2. กิจกรรมสํ าหรับฝึ กทักษะเพิม่ เติม
1) นักเรี ยนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการพับกระดาษด้วยวิธีต่าง ๆ เพิ่มเติม
2) นักเรี ยนดูตวั อย่างของเล่นที่พบั ด้วยกระดาษแบบต่าง ๆ แล้วเลือกตัวอย่างของเล่นที่นกั เรี ยน
อยากพับ 1 อย่าง
9. สื่อ/แหล่ งการเรี ยนรู้
1. วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือพับกระดาษ
2. ภาพขั้นตอนการพับกระดาษเป็ นของเล่น เช่น การพับเรื อ การพับรถไฟ
3. หนังสื อเกี่ยวกับงานพับกระดาษ วารสาร นิตยสาร
4. บุคคล เช่น ผูป้ กครอง ญาติพี่นอ้ ง เพื่อน ๆ และครู
5. สถานที่ เช่น ห้องสมุด โรงเรี ยน
6. สื่ อการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
7. หนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
8. คู่มือการสอน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
9.. สื่ อการเรี ยนรู้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์
วัฒนาพานิช จํากัด
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 105
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสํ าเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุ งแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 106
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 17
การบํารุ งรักษาของเล่ น
สาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 3 ช่ างประดิษฐ์ น้อย เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
การบํารุ งรักษาของเล่นเป็ นการดูแลรักษาของเล่นเพื่อให้ของเล่นอยูใ่ นสภาพดี ไม่แตกหักและนํามาเล่น
ได้นาน
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
1. บอกวิธีการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป.1/1)
2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือง่าย ๆ ในการทํางานอย่างปลอดภัย (ง 1.1 ป.1/2)
3. ทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรื อร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป.1/3)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. บอกประโยชน์ของการบํารุ งรักษาของเล่นได้ (K)
2. อธิ บายวิธีการบํารุ งรักษาของเล่นได้ (K)
3. มีเจตคติที่ดีต่อการบํารุ งรักษาของเล่น (A)
4. บํารุ งรักษาของเล่นอย่างถูกวิธีได้ดว้ ยตนเอง (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความเอาใจใส่ ในการเรี ยน 1. สังเกตพฤติกรรมขณะทํา
2. ตรวจสอบผลงานการบํารุ งรักษา 2. สังเกตความรับผิดชอบในการ กิจกรรมการบํารุ งรักษาของเล่น
ของเล่นอย่างถูกวิธี ทํากิจกรรม 2. สังเกตทักษะการทํางานตาม
3. ตรวจการทําแบบทดสอบ 3. ประเมินพฤติกรรมตามแบบ แบบประเมินด้านทักษะ/กระบวนการ
หลังเรี ยน (Post-test) ประเมินด้านคุณธรรม จริ ยธรรม
และค่านิยม
5. สาระการเรี ยนรู้
การบํารุ งรักษาของเล่น
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 107
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูด การเขียน เกี่ยวกับการบํารุ งรักษาของเล่น
สุ ขศึกษาฯ หลักการและวิธีในการบํารุ งรักษาของเล่น
สังคมศึกษาฯ การเรี ยนรู ้วธิ ี การดูแลรักษาของเล่นที่เป็ นสมบัติของตนเองหรื อ
ของห้องเรี ยน
ศิลปะ การทําแผ่นป้ ายเกี่ยวกับการบํารุ งรักษาของเล่น
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับการบํารุ งรักษาของเล่น
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู นาํ ภาพหรื อของเล่นที่มีสภาพชํารุ ดมาให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความ
สนใจของนักเรี ยน เช่น ถ้านักเรี ยนต้องการนําของเล่นชิ้นนี้ไปเล่นอีกจะต้องทําอย่างไร
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
1. ครู ตรวจบันทึกผลการสํารวจจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้
แล้วคนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน ร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ของการบํารุ งรักษา
ของเล่นมีอะไรบ้าง แล้วนําเสนอผลงานหน้าชั้นเรี ยน
3. นักเรี ยนอาสาสมัครออกมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับวิธีการบํารุ งรักษาของเล่นที่บา้ นของตนเอง
4. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน สาธิ ตวิธีการบํารุ งรักษาของเล่น แล้วนําเสนอผลงานหน้าชั้นเรี ยน
5. ครูบูรณาการตามหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงด้ านความพอประมาณมาบูรณาการการ
บํารุงรักษาของเล่ น ซึ่งการบํารุงรักษาของเล่ นจะช่ วยยืดอายุของเล่ นและประหยัดค่ าใช้ จ่าย
6. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับของเล่นของเด็กในประเทศสมาชิกอาเซียน เช่ น ไทย ลาว เวียดนาม
อินโดนีเซียนิยมเล่ นลูกข่ าง ซึ่งเป็ นของเล่นพืน้ บ้ านทีท่ ําจากไม้ สามารถทําขึน้ เองได้ และเมือ่ เล่นเสร็จแล้วจะทํา
ความสะอาดโดยเช็ดด้ วยผ้า
7. นักเรี ยนทําแบบทดสอบหลังเรี ยน (Post-test) จํานวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที (โดยครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู้
PowerPoint การงานอาชีพฯ ป. 1 หน่วยการเรี ยนรู ้ที่ 3 หรื อ คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี ป. 1 ตอนที่ 3)
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปเกี่ยวกับวิธีการบํารุ งรักษาของเล่น
2. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปศึกษาเนือ้ หาในหน่ วยการเรียนรู้ที่ 4 ข้ อมูลและแหล่งข้ อมูลรอบตัว
เพือ่ จัดการเรียนรู้ครั้งต่อไป (โดยครูเปิ ดสื่ อการเรียนรู้ PowerPoint การงานอาชีพฯ ป. 1 หน่ วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง
คําถาม เชื่อมโยงสู่ บทเรียนต่ อไป
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 108
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
1. ความสํ าเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา
2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
3. สิ่ งทีไ่ ม่ ได้ ปฏิบัติตามแผน
เหตุผล
4. การปรับปรุ งแผนการจัดการเรียนรู้
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 110
เวลา 9 ชั่วโมง
ผังมโนทัศน์ เป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ ายภาระงาน
ข้ อมูลและ
แหล่ งข้ อมูลรอบตัว
ผังการออกแบบการจัดการเรียนรู้
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 4 ข้ อมูลและแหล่ งข้ อมูลรอบตัว
2. วิธีการและเครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้
วิธีการประเมินผลการเรียนรู้ เครื่องมือประเมินผลการเรียน รู้
–การทดสอบ – แบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยน
– การสนทนาซักถามโดยครู – แบบทดสอบประจําหน่วยการเรี ยนรู ้
– การแสดงความคิดเห็น – แบบบันทึกการสนทนา
– การฝึ กปฏิบตั ิระหว่างเรี ยน – ใบความรู ้และใบงาน
– การทดสอบ – แบบประเมินด้านคุณธรรม จริ ยธรรม และค่านิยม
– การตรวจ ผลงาน – แบบประเมินทักษะ/กระบวนการ
– การประเมินตนเองของนักเรี ยน
3. สิ่ งที่ม่งุ ประเมิน
– ความสามารถในการจําแนกประเภทของข้อมูล
– ความสามารถในการระบุแหล่งข้อมูลที่มีอยูร่ อบตัว
– การสังเกตและการสรุ ปผล
– ความรู ้เกี่ยวกับประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ
– พฤติกรรมการปฏิบตั ิกิจกรรมเป็ นรายบุคคลและรายกลุ่ม
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 18 ข้อมูล 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 19 ประเภทของข้อมูล 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 20 แหล่งข้อมูลรอบตัว 3 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 21 อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ 3 ชัว่ โมง
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 113
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 18
ข้ อมูล
สาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 4 ข้ อมูลและแหล่ งข้ อมูลรอบตัว เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสําคัญ
ข้อมูลเป็ นเรื่ องราวหรื อเหตุการณ์ที่เป็ นความจริ ง ซึ่งเรารับรู้ขอ้ มูลได้จากการมองเห็น การอ่านเป็ นต้น
ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่งๆเราอาจได้รับข้อมูลได้หลายทาง
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
บอกข้อมูลที่สนใจและแหล่งข้อมูลที่อยูใ่ กล้ตวั (ง 3.1 ป.1/1)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. อธิ บายความหมายและประโยชน์ของข้อมูลได้ (K)
2. เห็นประโยชน์ของข้อมูลและขยันค้นคว้าหาความรู้ (A)
3. สามารถรวบรวมข้อมูลต่างๆได้ (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรมจริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความเอาใจใส่ ในการเรี ยน 1. สังเกตพฤติกรรมการทํา
2. ตรวจกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 2. สังเกตความมีเจตคติที่ดีต่อการ กิจกรรมร่ วมกับผูอ้ ื่น
3. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรี ยน ทํากิจกรรม 2. สังเกตทักษะ/กระบวนการ
(Pre-test) เกี่ยวกับข้อมูล
5. สาระการเรี ยนรู้
ข้อมูลต่าง ๆ
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 114
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูดแสดงความคิดเห็น
สังคมศึกษาฯ การสํารวจข้อมูลและการเก็บข้อมูลรอบ ๆ ตัว
ศิลปะ การแสดงบทบาทสมมุติและการสร้างสรรค์ศิลปะจากข้อมูล
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับข้อมูล
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
1. ให้นกั เรี ยนทําแบบทดสอบก่อนเรี ยน (Pre-test) จํานวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที (โดยครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้
PowerPoint การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่วยการเรี ยนรู้ที่ 4 หรื อคู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงาน
อาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 ตอนที่ 3)
2. ครู เขียนคําว่า “ข้อมูล” บนกระดานดําให้นกั เรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความ
สนใจของนักเรี ยน เช่น นักเรี ยนเห็นคํานี้ แล้วนึกถึงอะไรบ้าง
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
1. ครู ถามคําถามเกี่ยวกับงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนไปศึกษาเนื้อหาในหน่วยการเรี ยนรู้ที่ 4 ข้อมูลและ
แหล่งข้อมูลรอบตัว (ซึ่งมอบหมายในชัว่ โมงสุ ดท้ายของการเรี ยนการสอนหน่วยการเรี ยนรู ้ที่ 3 คําถามเชื่อมโยงสู่
บทเรี ยนต่อไป) เช่น ในชีวติ ประจําวันนักเรี ยนได้รับข้อมูลจากสิ่ งใดบ้าง
2. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับภาพสวนสัตว์หรื อนําภาพสวนสัตว์มาให้นกั เรี ยนดู แล้วให้
นักเรี ยนพิจารณาภาพ แล้วตอบคําถามต่อไปนี้
1) ภาพนี้แสดงเกี่ยวกับอะไร
2) ถ้านักเรี ยนเป็ นเด็กในภาพ นักเรี ยนจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอะไรบ้าง
3. นักเรี ยนช่วยกันยกตัวอย่างข้อมูลที่พบเห็นในชีวิตประจําวัน
4. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน ช่วยกันเขียนว่ามีอะไรบ้างที่เป็ นข้อมูล
5. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับสั ตว์ ประจําชาติของประเทศสมาชิกอาเซียน เช่ น ช้ างของไทย
ลิงอุรังอุตงั ของอินโดนีเซีย สิ งโตของสิ งคโปร์
6. ครู แสดงภาพสมาชิกในบ้านที่กาํ ลังรับประทานอาหาร แล้วถามนักเรี ยนว่าในภาพนี้เราจะสามารถรับรู ้
ข้อมูลอะไรบ้าง
7. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับข้ อมูลจากการรับรู้รสของผลไม้ของประเทศสมาชิกอาเซียน เช่ น
ซาลักหรือสละเป็ นผลไม้ที่มชี ื่อเสี ยงของประเทศอินโดนีเซียเนื่องจากมีรสชาติดี อร่ อย
8. นักเรี ยนจับคู่กบั เพื่อนผลัดกันถามข้อมูลจากเพื่อน แล้วเขียนบันทึกลงสมุด
9. ให้นกั เรี ยนอ่านเพิม่ เติมจากสื่ อการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ป. 1
หรื อหนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเรื่ องความหมายและประโยชน์ของข้อมูล
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 115
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 117
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 19
ประเภทของข้ อมูล
1. สาระสําคัญ
ข้อมูลมีหลายประเภทอยูใ่ นรู ปแบบที่แตกต่างกัน เราจึงต้องแยกแยะประเภทของของข้อมูลให้ถูกต้อง
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
บอกข้อมูลที่สนใจและแหล่งข้อมูลที่อยูใ่ กล้ตวั (ง 3.1 ป.1/1)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. บอกประเภทของข้อมูลได้ (K)
2. เห็นประโยชน์ของข้อมูล (A)
3. มีทกั ษะในการค้นหาข้อมูลประเภทต่าง ๆ (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความเอาใจใส่ ในการเรี ยน 1. สังเกตทักษะในการค้นหาข้อมูล
2. ตรวจกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 2. สังเกตความรับผิดชอบจากการ 2. สังเกตการทํากิจกรรมร่ วมกับ
ทํากิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย ผูอ้ ื่น
5. สาระการเรี ยนรู้
ประเภทของข้อมูล
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การเล่าประสบการณ์และการพูดแสดงความคิดเห็น
คณิ ตศาสตร์ เปรี ยบเทียบรู ปเรขาคณิ ตกับรู ปทรงของแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
สังคมศึกษาฯ การสํารวจแหล่งข้อมูลในบริ เวณโรงเรี ยนและชุมชน
สุ ขศึกษาฯ การเล่นเกมและการฟังเพลงเพื่อรับข้อมูลเสี ยง
ศิลปะ การตกแต่งแผ่นป้ ายแสดงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับประเภทของข้อมูล
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 118
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู นาํ ภาพเด็กยืนแนะนําตนเองโดยมีคาํ บรรยายใต้ภาพ (ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปี เกิด ชั้น เลขที่) มาให้
นักเรี ยนดู แล้วถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น สิ่ งที่นกั เรี ยนเห็นนี้มีขอ้ มูลอะไรอยู่
บ้าง
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 1 (ประเภทของข้ อมูล)
1. ครู ตรวจบันทึกผลการสํารวจจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้
แล้วคนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู แจกภาพให้นกั เรี ยนคนละ 1 ภาพ นักเรี ยนพิจารณาภาพของตนเองแล้วไปรวมกลุ่มกับเพื่อนที่มี
ภาพเหมือนกัน
3. นักเรี ยนแต่ละกลุ่มช่วยกันอธิบายว่าภาพที่กลุ่มตนได้รับนั้นจัดเป็ นข้อมูลประเภทใด
4. ครู สื่อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับประเภทของข้อมูล แล้วอธิ บายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภท
ของข้อมูลเพื่อให้นกั เรี ยนเข้าใจมากยิง่ ขึ้น
5. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน เลือกตัวอย่างของประเภทของข้อมูล 1 อย่าง แล้วระบายสี
ให้สวยงาม จากนั้นนําไปติดป้ ายนิเทศ
6. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับข้ อมูลตัวเลข ซึ่งเงินตราของประเทศสมาชิกอาเซียนจัดเป็ นข้ อมูล
ตัวเลข เช่ น 1 ดอลลาร์ สิงคโปร์ เท่ ากับ 24 บาทของไทย
7. ครูมอบหมายให้ นักเรียนไปศึกษาประโยชน์ ของข้ อมูล จากหนังสื อเรียน รายวิชาพืน้ ฐาน การงาน
อาชี พและเทคโนโลยี ป. 1 หน้ า 69–70 แล้ วบันทึกความรู้ และให้ นักเรี ยนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพื่อ
นํามาร่ วมกันสนทนาในการเรียนครั้งต่ อไป)
ชั่วโมงที่ 2 (ประโยชน์ ของข้ อมูล)
1. ครู ตรวจบันทึกความรู้จากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยมไว้
แล้วคนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู ถามคําถาม เช่น นักเรี ยนคิดว่าข้อมูลที่นกั เรี ยนได้รับจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ มีประโยชน์
หรื อไม่ อย่างไร
3. นักเรี ยนร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ของข้อมูล
4. ครู สื่อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับประโยชน์ของข้อมูล แล้วอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของ
ข้อมูลเพื่อให้นกั เรี ยนเข้าใจมากยิง่ ขึ้น
5. ครูบูรณาการตามหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงด้ านความมีเหตุผล โดยบูรณาการการพิจารณา
ความน่ าเชื่อถือของข้ อมูลที่ได้ รับจากแหล่ งข้ อมูลต่ าง ๆ
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 119
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเภทและประโยชน์ของข้อมูล
2. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปสํ ารวจแหล่ งข้ อมูลที่มใี นบ้ านของตนเอง แล้วบันทึกผล และ
ให้ นักเรียนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพือ่ นํามาร่ วมกันสนทนาในการเรียนครั้งต่ อไป)
ขั้นที่ 4 ขั้นฝึ กฝนนักเรียน
1. นักเรี ยนสังเกตภาพที่กาํ หนดให้แล้วระบุวา่ เป็ นข้อมูลประเภทใด
2. นักเรี ยนทําแบบฝึ กทักษะ รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 กิจกรรมที่ 41
แยกประเภทของข้อมูล
ขั้นที่ 5 ขั้นนําไปใช้
นักเรี ยนมีความเข้าใจและสามารถแยกแยะประเภทของข้อมูลต่าง ๆ ด้วยตนเองได้
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสํ าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ
1) นักเรี ยนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของข้อมูลเพิ่มเติม แล้วร่ วมกันแสดงความคิดเห็นกับเพื่อน
2) นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของข้อมูลแต่ละประเภทแล้ว
ช่วยกันสรุ ปข้อดี และข้อเสี ย
2. กิจกรรมสํ าหรับฝึ กทักษะเพิม่ เติม
1) นักเรี ยนสอบถามผูป้ กครองเกี่ยวกับประเภทของข้อมูลต่าง ๆ ที่บา้ นของตนเอง
2) นักเรี ยนดูวีซีดีเกี่ยวกับประเภทของข้อมูลต่าง ๆ แล้วครู ถามนักเรี ยนเกี่ยวกับประเภทของข้อมูลที่
นักเรี ยนสนใจ
9. สื่อ/แหล่ งการเรี ยนรู้
1. ภาพข้อมูลประเภทต่าง ๆ เช่น ข้อมูลภาพ ข้อมูลตัวอักษร ข้อมูลตัวเลข
2. หนังสื อเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อมูลและแหล่งข้อมูล
3. บุคคล เช่น ครู ผูร้ ู ้ ผูป้ กครอง นักวิชาการ
4. สื่ อ เช่น หนังสื อพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ แผ่นพับ ใบโฆษณาสิ นค้า
5. สถานที่ เช่น โรงเรี ยน ห้องสมุด ชุมชน ห้างสรรพสิ นค้า ร้านค้า
6. สื่ อการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สมบูรณ์แบบ ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นา พานิช จํากัด
7. หนังสื อเรี ยน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
8. แบบฝึ กทักษะ รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช
จํากัด
9. คู่มือการสอน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จํากัด
10. สื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 บริ ษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช
จํากัด
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 120
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 121
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 20
แหล่ งข้ อมูลรอบตัว
1. สาระสําคัญ
แหล่งข้อมูลเป็ นสิ่ งที่ทาํ ให้เราทราบข้อมูลต่าง ๆที่เราต้องการรู ้ได้อย่างถูกต้อง
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
บอกข้อมูลที่สนใจและแหล่งข้อมูลที่อยูใ่ กล้ตวั (ง 3.1 ป.1/1)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. ระบุแหล่งข้อมูลที่มีอยูร่ อบตัวได้ (K)
2. เห็นความสําคัญของแหล่งข้อมูล (A)
3. มีทกั ษะในการเลือกใช้แหล่งข้อมูล (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความเอาใจใส่ในการเรี ยน 1. สังเกตทักษะในการหา
2. ตรวจกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 2. สังเกตจากความรับผิดชอบในการ แหล่งข้อมูลรอบตัว
ทํากิจกรรม ที่ได้รับมอบหมาย 2. สังเกตจากการทํากิจกรรม
ร่ วมกับผูอ้ ื่น
5. สาระการเรี ยนรู้
แหล่งข้อมูลรอบตัว
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การเล่าประสบการณ์และการฟังความคิดเห็นของเพื่อนในกลุ่ม
สังคมศึกษาฯ เรี ยนรู้เรื่ องแหล่งข้อมูลที่มีอยูใ่ นชุมชน
ศิลปะ การวาดภาพระบายสี แหล่งข้อมูล
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์เกี่ยวกับแหล่งข้อมูลรอบตัว
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 122
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู ถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น ในชีวติ ประจําวันนักเรี ยนได้รับ
ข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลใดบ้าง
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 1 (แหล่งข้ อมูลที่เป็ นคน)
1. ครู ตรวจบันทึกผลการสํารวจจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยม
ไว้แล้ว คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint เกี่ยวกับภาพแหล่งข้อมูลที่เป็ นบุคคลหรื อนําภาพมาให้นกั เรี ยนดู
แล้วร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบุคคลในภาพ
3. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน ไปรวบรวมแหล่งข้อมูลที่เป็ นคนในบริ เวณโรงเรี ยนมาให้ได้
มากที่สุด จดบันทึก แล้วนําเสนอผลงานหน้าชั้นเรี ยน
ชั่วโมงที่ 2 (แหล่งข้ อมูลที่เป็ นสถานที่)
1. นักเรี ยนร่ วมยกตัวอย่างแหล่งข้อมูลที่เป็ นสถานที่ที่นกั เรี ยนพบเห็นในชีวติ ประจําวัน โดยไม่ให้ซ้ าํ กัน
2. ครู พานักเรี ยนไปสํารวจแหล่งข้อมูลที่เป็ นสถานที่ในโรงเรี ยนหรื อบริ เวณชุมชนใกล้ ๆ โรงเรี ยน แล้ว
อธิ บายเพิม่ เติมเกี่ยวกับสถานที่น้ นั ๆ
3. นักเรี ยนแบ่งกลุ่ม 4–5 ช่วยกันระดมความคิดเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลที่ไปสํารวจ โดยเขียนเป็ นแผนที่
ความคิด แล้วนําเสนอผลงานหน้าชั้นเรี ยน
4. ครู เปิ ดสื่ อการเรี ยนรู ้ PowerPoint แล้วอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลที่เป็ นสถานที่
ชั่วโมงที่ 3 (แหล่งข้ อมูลที่เป็ นสิ่ งอืน่ ๆ )
1. ครู นาํ ภาพมาให้นกั เรี ยนดูแล้วให้นกั เรี ยนพิจารณาแหล่งข้อมูลจากภาพ ได้แก่
- ภาพที่ 1 เด็กกําลังนัง่ ฟังเพลง
- ภาพที่ 2 เด็กกําลังหนังดูการ์ตูน
- ภาพที่ 3 คุณพ่อกําลังนัง่ อ่านหนังสื อพิมพ์
2. นักเรี ยนบอกแหล่งข้อมูลรอบตัวที่นกั เรี ยนพบเห็นในชีวิตประจําวัน
3. ครูถามคําถามอาเซียนว่ า การค้ นคว้าความรู้ เกีย่ วกับอาเซียน นักเรียนควรเลือกค้ นคว้ าจากแหล่งข้ อมูล
รอบตัวใด (แนวคําตอบ: ครู ผู้ปกครอง ห้ องสมุด โทรทัศน์ )
4. นักเรี ยนจับคู่กบั เพื่อน ผลัดกันถามแหล่งข้อมูลรอบตัวจากเพื่อน แล้วบันทึกลงสมุด
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุ ป
1. นักเรี ยนร่ วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลรอบตัว
2. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปสํ ารวจอุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศที่บ้านของตนเอง แล้ วบันทึกผล
และให้ นักเรียนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพือ่ นํามาร่ วมกันสนทนาในการเรียนครั้งต่ อไป)
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 123
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 125
แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 21
อุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ
1. สาระสําคัญ
อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศเป็ นอุปกรณ์ที่สามารถบันทึกหรื อเผยแพร่ ความรู ้และความบันเทิงได้อย่าง
รวดเร็ วและกว้างขวาง
2. ตัวชี้วัดชั้นปี
บอกประโยชน์ของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ (ง 3.1 ป.1/2)
3. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1. บอกความหมาย ลักษณะ และอธิบายประโยชน์ของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศได้ (K)
2. เห็นคุณค่าของการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ (A)
3. มีทกั ษะในการเลือกใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศให้ปลอดภัย (P)
4. การวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ด้ านคุณธรรม จริยธรรม
ด้ านความรู้ (K) ด้ านทักษะ/กระบวนการ (P)
และค่านิยม (A)
1. สังเกตการตอบคําถาม 1. สังเกตความตั้งใจเรี ยน 1. สังเกตพฤติกรรมการทํางาน
2. ตรวจผลจากการใช้อุปกรณ์ 2. สังเกตความรับผิดชอบในการ ร่ วมกับผูอ้ ื่น
เทคโนโลยีสารสนเทศ ทํางานให้สาํ เร็ จ 2. ประเมินทักษะการทํางานตาม
3. ตรวจแบบทดสอบ หลังเรี ยน 3. ประเมินพฤติกรรมตามแบบประเมิน แบบประเมินทักษะ/กระบวนการ
(Post-test) ด้านคุณธรรม จริ ยธรรม และค่านิยม
4. ตรวจแบบทดสอบปลายปี
5. สาระการเรี ยนรู้
อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 126
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การเขียน การอ่าน และการฟังความคิดเห็นของเพื่อนในกลุ่ม
คณิ ตศาสตร์ การเปรี ยบเทียบ รู ปทรงเรขาคณิ ตกับอุปกรณ์เทคโนโลยี
สารสนเทศ
สุ ขศึกษาฯ ความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ
ศิลปะ การปั้นดินนํ้ามัน
ภาษาต่างประเทศ คําศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ
7. กระบวนการจัดการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นนําเข้ าสู่ บทเรียน
ครู ถามคําถามเพื่อกระตุน้ ความคิดและความสนใจของนักเรี ยน เช่น อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศมี
ความสําคัญต่อการดํารงชีวิตของนักเรี ยนอย่างไร
ขั้นที่ 2 ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 1 (วิทยุและโทรทัศน์ )
1. ครู ตรวจบันทึกผลการสํารวจจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยม
ไว้แล้ว คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. นักเรี ยนช่วยกันบอกอุปกรณ์เทคโนโลยีสารเทศที่บา้ นและที่โรงเรี ยนของตนเอง
3. ครู ให้นกั เรี ยนฟังวิทยุและดูโทรทัศน์แล้วช่วยกันบอกประโยชน์และวิธีการใช้
4. ครู อธิ บายเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะและประโยชน์ของวิทยุและโทรทัศน์
5. ครูเสริมความรู้อาเซียนเกีย่ วกับการรับชมรายการโทรทัศน์ ในประเทศสมาชิกอาเซียน เช่ น ผู้ชมทีวี
ดาวเทียมสามารถรับชมรายการโทรทัศน์ ของเพือ่ นบ้ านในประเทศสมาชิกอาเซียนได้ เช่ น ลาว เมียนมา โดยผ่าน
จานรับสั ญญาณดาวเทียม
6. ครูมอบหมายงานให้ นักเรียนไปสอบถามผู้ปกครองเกีย่ วกับการใช้ อุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ
(กล้องดิจิทัล,โทรศัพท์ ) แล้ วบันทึกผล และให้ นักเรียนตั้งคําถามที่สงสั ยคนละ 1 คําถาม (เพือ่ นํามาร่ วมกันสนทนา
ในการเรียนครั้งต่ อไป)
ชั่วโมงที่ 2 (กล้ องดิจิทัลและโทรศัพท์ )
1. ครู ตรวจบันทึกผลการสอบถามจากงานที่มอบหมายให้นกั เรี ยนทํา และให้นกั เรี ยนนําคําถามที่เตรี ยม
ไว้แล้ว คนละ 1 คําถามมาร่ วมกันสนทนา
2. นักเรี ยนอาสาสมัครเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้กล้องดิจิทลั ของสมาชิกในครอบครัว
3. ครู นาํ กล้องดิจิทลั มาให้นกั เรี ยนดูพร้อมทั้งอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของกล้องดิจิทลั
4. ครู ถามปริ ศนาคําทาย อะไรเอ่ยใบหน้าตัวตน ไม่เหมือนคนสักนิดตัวเล็กกระจิริด ใช้ติดต่อกับคนได้
5. ครู นาํ โทรศัพท์ของจริ งหรื อรู ปภาพรู ปแบบต่าง ๆ มาให้นกั เรี ยนดูอธิบายเกี่ยวกับรู ปร่ างลักษณะ
และประโยชน์ของโทรศัพท์
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 127
ลงชื่อ (ผู้สอน)
/ /
ทดสอบปลายปี
ชั่วโมงที่ 40 ทดสอบปลายปี
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 130
ตอนที่ 3
เอกสาร/ความรู้ เสริมสํ าหรับครู
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
สร้างสรรค์โดยนําความรู ้มาใช้กบั กระบวนการเทคโนโลยี สร้างสิ่ งของเครื่ องใช้ วิธีการหรื อเพิ่มประสิ ทธิ ภาพใน
การดํารงชีวิต
เทคโนโลยี ส ารสนเทศและการสื่ อ สาร เป็ นสาระเกี่ ย วกั บ กระบวนการเทคโนโลยี ส ารสนเทศ การ
ที่อยูใ่ กล้ตวั (ง 3.1 ป. 1/1) สัตว์ สิ่ งของ เรื่ องราว และเหตุการณ์ต่าง ๆ
2. บอกประโยชน์ของอุปกรณ์เทคโนโลยี แหล่งข้อมูลที่อยูใ ่ กล้ตวั เช่น บ้าน ห้องสมุด ผูป้ กครอง
สารสนเทศ (ง 3.1 ป. 1/2) ครู หนังสื อพิมพ์ รายการโทรทัศน์
อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น คอมพิวเตอร์
2. กระบวนการจัดการเรียนรู้
2. ทักษะกระบวนการเทคโนโลยี
กระบวนการเทคโนโลยีเป็ นกระบวนการที่ เกี่ ยวข้องกับการคิ ดแก้ปั ญ หา การคิ ดริ เริ่ ม สร้ างสรรค์ การ
ออกแบบ เพื่อนําไปสู่ การประดิษฐ์ การสร้างสิ่ งของเครื่ องใช้ อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์ ซึ่ งเป็ นการปฏิบตั ิที่ทาํ ให้
มนุ ษ ย์ใช้ส อยประโยชน์ ได้ตามความต้อ งการและช่ วยเพิ่ ม พูน ประสิ ท ธิ ภ าพในการทํากิ จกรรมต่ าง ๆ อี ก ด้วย
กระบวนการเทคโนโลยีมี 6 ขั้นตอน ดังนี้
1) การกําหนดปั ญ หาหรื อความต้ องการ โดยให้นักเรี ยนศึ กษาและกําหนดปั ญ หาที่ ต้องการแก้ไขหรื อ
กําหนดความต้องการที่จะสร้างสิ่ งต่าง ๆ โดยการร่ วมกันแสดงความคิดเห็น แล้วคัดเลือกปั ญหาหรื อความต้องการที่
แท้จริ งและชัดเจนเพื่อนํามาตั้งเป็ นวัตถุประสงค์
2) การรวบรวมข้ อมูล เป็ นขั้นตอนที่ให้นกั เรี ยนร่ วมกันสํารวจ ค้นหา หรื อแสวงหาข้อมูล แล้วรวบรวม
ข้อมูลต่าง ๆ นํามาสร้างทางเลือกหลาย ๆ ทางเลือกเพื่อนําไปสู่การแก้ปัญหา
3) การเลือกวิ ธีการแก้ ปัญหา เป็ นการพิจารณาทางเลือกแต่ละทางเลือกว่ามีขอ้ ดี และข้อเสี ยอย่างไรบ้าง
การนําทางเลือกนี้มาใช้แก้ปัญหาจะทําได้หรื อไม่ แล้วจึงตัดสิ นใจเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด
4) การออกแบบและปฏิบัติ เป็ นการให้นกั เรี ยนร่ วมกันนําทางเลือกที่ได้เลือกไว้แล้วมาลําดับความคิด เพื่อ
กําหนดแนวทางการแก้ปัญหาหรื อเพื่อสร้างชิ้ นงานและถ่ายทอดความคิดออกมาเป็ นภาพที่ มีรายละเอียด โดยใช้
ความรู้ดา้ นการออกแบบเขียนเป็ นภาพร่ าง 3 มิติ หรื อแผนที่ความคิด จากนั้นจึงลงมือปฏิบตั ิการสร้างตามขั้นตอน
ของการออกแบบจนสําเร็ จเป็ นชิ้นงาน
5) การประเมิ นผล เป็ นการตรวจสอบประสิ ท ธิ ภาพของชิ้ นงานที่ สร้ างหรื อประดิ ษ ฐ์เสร็ จแล้ว โดยให้
นักเรี ยนนําชิ้นงานไปทดลองใช้ แล้วประเมินผลการใช้งานว่ามีขอ้ บกพร่ องหรื อไม่ อย่างไร
6) การปรั บปรุ งหรื อพัฒนา เป็ นการให้นกั เรี ยนนําข้อบกพร่ องของชิ้นงานหรื อปั ญหาที่ พบมาดําเนิ นการ
ปรับปรุ งแก้ไขให้ดีข้ ึนหรื อนําผลงานที่ดีแล้วมาพัฒนาให้มีคุณภาพและมีประสิ ทธิ ภาพเพิ่มขึ้น
3. ทักษะการจัดการ
ทักษะการจัดการเป็ นความพยายามของบุคคลที่จะจัดระบบงาน (ทํางานเป็ นรายบุคคล) และจัดระบบคน
(ทํางานเป็ นกลุ่ ม ) เพื่ อ ให้ท าํ งานสําเร็ จตามเป้ าหมายอย่างมี ป ระสิ ท ธิ ภาพ ซึ่ งทักษะการจัดการเป็ นวิธีการหรื อ
รู ปแบบในการปฏิบตั ิงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้
1) การตั้งเป้ าหมาย เป็ นการกําหนดว่าสิ่ งที่กลุ่มหรื อองค์กรต้องการคืออะไร แต่ละกลุ่มหรื อองค์กรจะต้อง
มีเป้ าหมายเดียวกัน ซึ่งเป้ าหมายจะมีท้ งั เป้ าหมายระยะสั้นและระยะยาว และเป้ าหมายที่ต้ งั ขึ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง
ได้
2) การวิ เคราะห์ ทรั พยากร เป็ นการให้พิจารณาว่าทรั พยากรที่ มีอ ยู่ ได้แก่ คน วัสดุ อุ ป กรณ์ เครื่ องมื อ
งบประมาณ และเวลาจะสามารถทําให้บรรลุเป้ าหมายที่ ต้ งั ไว้หรื อไม่ ( ถ้ามี) ทรัพยากรใดไม่เพียงพอจะต้องรี บ
จัดหาทรัพยากรนั้นมาเตรี ยมไว้ให้พร้อมและเพียงพอ
3) การวางแผนและการกําหนดทรั พยากร เป็ นการให้นักเรี ยนกําหนดกิ จกรรมไว้ล่วงหน้าว่าจะต้องทํา
อะไร สิ่ งใดบ้าง เพื่อให้บรรลุเป้ าหมายที่ต้ งั ไว้ โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยูใ่ ห้เหมาะสมและใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุ ด
ได้แก่ การจัดคนทํางานในหน้าที่ต่าง ๆ การค้นหาหรื อจัดซื้ อวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือเพิ่มเติม การจัดสรรเงิน
เพื่อใช้ในการดําเนินงานด้านต่าง ๆ รวมทั้งการบริ หารเวลาในการทํางานเพื่อให้งานเสร็ จตามกําหนด
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 135
3) การปฏิบัติ นักเรี ยนฝึ กปฏิบตั ิตามขั้นตอน ฝึ กคิดวิเคราะห์ จินตนาการ สร้างสรรค์ โดยมีครู คอยอํานวย
ความสะดวกในด้านต่าง ๆ เพื่อให้นกั เรี ยนเกิดการเรี ยนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กาํ หนดไว้
4) การสรุ ปและเสนอผลการเรี ยนรู้ เป็ นขั้น ที่ นักเรี ยนแต่ล ะกลุ่มนําผลที่ ได้จากการปฏิ บ ตั ิ มาวิเคราะห์
สังเคราะห์เป็ นความรู้ใหม่ วิธีการใหม่ สรุ ป และนําเสนอความรู้ใหม่ต่อกลุ่มใหญ่ในรู ปแบบที่หลากหลาย ซึ่ งเป็ น
การแลกเปลี่ยนความรู้ซ่ ึงกันและกันทําให้เกิดการขยายเครื อข่ายความรู้อย่างกว้างขวางมากขึ้น
5) การปรั บปรุ งการเรี ยนรู้ และการนําไปใช้ ประโยชน์ เป็ นขั้นที่นักเรี ยนแต่ละกลุ่มนําข้อบกพร่ องหรื อ
ปัญหาที่พบจากการนําเสนอผลงานมาปรับปรุ งแก้ไขหรื อพัฒนาผลงานของตนเองให้ดีข้ ึน รวมถึงการได้รับแนวคิด
จากข้อเสนอแนะของครู มาประยุกต์ เพื่อสร้างผลงานใหม่ ๆ ที่สามารถนําไปใช้ประโยชน์ในชีวิตได้จริ ง
6) การประเมินผล เป็ นการนําวิธีการวัดผลประเมินตามสภาพจริ งมาใช้โดยเน้นการวัดผลจากการปฏิบตั ิ
จริ งจากแฟ้ มสะสมงาน ชิ้นงาน/ผลงาน ผูป้ ระเมินอาจเป็ นครู นักเรี ยนประเมินตนเอง สมาชิกในกลุ่มหรื อผูป้ กครอง
6. การอภิปรายกลุ่มย่ อย
วิธีน้ ี เป็ นกระบวนการที่ครู ใช้ในการช่วยให้นกั เรี ยนเกิดการเรี ยนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กาํ หนด โดยการจัด
นั ก เรี ยนเป็ นกลุ่ ม เล็ ก ๆ ประมาณ 4–8 คน ให้ นั ก เรี ยนในกลุ่ ม พู ด คุ ย แลกเปลี่ ย นข้อ มู ล ความคิ ด เห็ น และ
ประสบการณ์ในเรื่ องหรื อประเด็นที่ กาํ หนด แล้วสรุ ปผลการอภิปรายออกมาเป็ นข้อสรุ ปของกลุ่ม ซึ่ งการจัดการ
เรี ยนรู้โดยใช้การอภิปรายกลุ่มย่อยนี้ จะช่วยให้นกั เรี ยนมีส่วนร่ วมในกิจกรรมการเรี ยนรู้อย่างทัว่ ถึง มีโอกาสแสดง
ความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนประสบการณ์จะช่วยให้นกั เรี ยนเกิดการเรี ยนรู ้ในเรื่ องที่เรี ยนกว้างขึ้น
ขั้นตอนของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ การอภิปรายกลุ่มมีดงั นี้
1) การจัดกลุ่ม ครู จดั นักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มย่อย ๆ ประมาณ 4–8 คนควรเป็ นกลุ่มที่ไม่เล็กเกินไปและไม่
ใหญ่เกินไป เพราะถ้ากลุ่มเล็กจะไม่ได้ความคิดที่ หลากหลายเพียงพอ ถ้ากลุ่มใหญ่สมาชิ กกลุ่มจะมี โอกาสแสดง
ความคิ ดเห็ นได้ไม่ทวั่ ถึ ง ซึ่ งการแบ่งกลุ่มอาจทําได้หลายวิธี เช่ น วิธีสุ่มเพื่อให้นักเรี ยนมีโอกาสได้ร่วมกลุ่มกับ
เพื่อนไม่ซ้ าํ กัน จําแนกตามเพศวัย ความสนใจ ความสามารถหรื อเลือกอย่างเจาะจงตามปัญหาที่มีกไ็ ด้ ทั้งนี้ข้ ึนอยูก่ บั
วัตถุประสงค์ของครู และสิ่ งที่จะอภิปราย
2) กําหนดประเด็น ครู หรื อนักเรี ยนกําหนดประเด็นในการอภิปรายให้มีวตั ถุประสงค์ของการอภิปรายที่
ชัดเจน โดยการอภิปรายแต่ละครั้งไม่ควรมีประเด็นมากจนเกินไปเพราะจะทําให้นกั เรี ยนอภิปรายได้ไม่เต็มที่
3) อภิปราย นักเรี ยนเริ่ มอภิปรายโดยการพูดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์กนั ตามประเด็นที่
กําหนดในการอภิปรายแต่ละครั้ง ควรมีการกําหนดบทบาทหน้าที่ที่จาํ เป็ นในการอภิปราย เช่น ประธานหรื อผูน้ าํ ใน
การอภิปราย เลขานุ การ ผูจ้ ดบันทึก และผูร้ ักษาเวลา เป็ นต้น นอกจากนี้ครู ควรบอกให้สมาชิกกลุ่มทุกคนทราบถึง
บทบาทหน้าที่ของตน ให้ความรู ้ ความเข้าใจ หรื อคําแนะนําแก่กลุ่มก่อนการอภิปราย และควรยํ้าถึ งความสําคัญ
ของการให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มมีส่วนร่ วมในการอภิปรายอย่างทัว่ ถึงเพราะวัตถุประสงค์หลักของการอภิปราย คือ
การให้นัก เรี ยนมี โ อกาสแสดงความคิ ดเห็ น อย่างทั่วถึ ง และได้รับ ฟั งความคิ ดเห็ น ที่ ห ลากหลาย ซึ่ งจะช่ วยให้
นักเรี ยนมีความคิดที่ ลึกซึ้ งและรอบคอบขึ้น ในกรณี ที่มีหลายประเด็นควรมีการจํากัดเวลาของการอภิปรายแต่ละ
ประเด็นให้มีความเหมาะสม
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 137
4) การสรุ ปผลการอภิ ปราย นักเรี ยนสรุ ปสาระที่สมาชิกกลุ่มได้อภิปรายร่ วมกันเป็ นข้อสรุ ปของกลุ่ม ครู
ควรให้สัญญาณแก่กลุ่มก่อนหมดเวลา เพื่อที่แต่ละกลุ่มจะได้สรุ ปผลการอภิปรายเป็ นข้อสรุ ปของกลุ่ม หลังจากนั้น
อาจให้แต่ละกลุ่มนําเสนอผลการอภิปรายแลกเปลี่ยนกันหรื อดําเนินการในรู ปแบบอื่นต่อไป
5) การสรุ ปหน่ วยการเรี ยนรู้ หลังจากการอภิปรายสิ้ นสุ ดลง ครู จาํ เป็ นต้องเชื่ อมโยงความรู ้ที่นักเรี ยนได้
ร่ วมกันคิดกับหน่วยการเรี ยนที่กาํ ลังเรี ยนรู ้ โดยนําข้อสรุ ปของกลุ่มมาใช้ในการสรุ ปหน่วยการเรี ยนรู ้ดว้ ย
7. โครงงาน
โครงงานเป็ นการจัดการเรี ยนรู้ ที่ ส่งเสริ มให้นักเรี ยนได้ศึกษาค้น คว้าและลงมื อ ปฏิ บ ตั ิ ด้วยตนเองตาม
แผนการดําเนิ นงานที่นกั เรี ยนได้จดั ขึ้น โดยครู ช่วยให้คาํ ปรึ กษา แนะนํา กระตุน้ ให้คิด และติดตามการปฏิบตั ิงาน
จนบรรลุเป้ าหมาย โครงงานแบ่งออกเป็ น 4 ประเภท คือ
– โครงงานประเภทสํารวจ รวบรวมข้อมูล
– โครงงานประเภททดลอง ค้นคว้า
– โครงงานประเภทศึกษาความรู ้ ทฤษฎี หลักการหรื อแนวคิดใหม่
– โครงงานประเภทสิ่ งประดิษฐ์
การเรี ยนรู้ด้วยโครงงาน มีวิธีการดังนี้
1) กําหนดหั วข้ อที่จะทําโครงงาน โดยให้นกั เรี ยน คิดหัวข้อโครงงาน ซึ่งอาจได้มาจากปั ญหาคําถาม ความ
อยากรู ้ อ ยากเห็ น ของนัก เรี ยนเอง หรื อ ได้จากการอ่ านหนังสื อ บทความ การไปทัศ นศึ กษาดู งาน เป็ นต้น โดย
นักเรี ยนต้องตั้งคําถามว่า “จะศึกษาอะไร” “ทําไมต้องศึกษาเรื่ องดังกล่าว”
2) ศึ กษาเอกสารที่ เกี่ ย วข้ อ ง เป็ นการศึ ก ษาเอกสารต่ าง ๆ ที่ เกี่ ยวข้อ งกับ หัว ข้อ ที่ ท าํ โครงงาน การขอ
คําปรึ กษาจากครู หรื อผูท้ ี่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขานั้น ๆ รวมถึงการสํารวจวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่ องมือต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่ งการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องนี้จะช่วยให้นกั เรี ยนได้แนวคิดที่จะกําหนดขอบข่ายของเรื่ องที่จะ
ศึกษาให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
3) เขียนเค้ าโครงของโครงงานหรื อสร้ างแผนผังความคิด โดยทัว่ ไปเค้าโครงของโครงงานจะประกอบด้วย
หัวข้อต่าง ๆ ดังนี้
– ชื่อโครงงาน
– ชื่อผูท้ าํ โครงงาน
– ชื่อที่ปรึ กษาโครงงาน
– หลักการและเหตุผลของโครงงาน
– จุดประสงค์/ วัตถุประสงค์ของโครงงาน
– สมมุติฐานของการศึกษา (ในกรณี ที่เป็ นโครงงานทดลอง)
– ขั้นตอนการดําเนินงาน
– แผนปฏิบตั ิงาน (ระบุรายการงานที่ปฏิบตั ิและระยะเวลาดําเนินการ)
– ผลที่คาดว่าจะได้รับ
– เอกสารอ้างอิง/บรรณานุกรม
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 138
(2) ปริ ศนาความคิ ด (Jigsaw) แบ่ งกลุ่ มนักเรี ยนโดยคละความสามารถเก่ง– อ่อน เรี ยกว่า “ กลุ่ มบ้าน”
(Home Groups) ครู แบ่งเนื้ อหาออกเป็ นหัวข้อย่อย ๆ เท่ ากับจํานวนสมาชิ กกลุ่มให้สมาชิ กในกลุ่มศึ กษาหัวข้อที่
แตกต่างกัน นักเรี ยนที่ได้รับหัวข้อเดียวกันมารวมกลุ่มเพื่อร่ วมกันศึกษา เรี ยกว่า “กลุ่มผูเ้ ชี่ยวชาญ” (Expert Groups)
เมื่ อ ร่ วมกันศึ กษาจนเข้าใจแล้ว สมาชิ กแต่ ล ะคนออกจากกลุ่ มผูเ้ ชี่ ยวชาญกลับ ไปกลุ่ มบ้านของตนเอง จากนั้น
ถ่ายทอดความรู้ที่ตนศึกษามาให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มฟังจนครบทุกคน
(3) กลุ่มร่ วมมือ (Co-op) แบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่มคละความสามารถกันแต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อที่จะศึกษา
เมื่อได้หัวข้อแล้วสมาชิ กในกลุ่มช่วยกันกําหนดหัวข้อย่อย แล้วแบ่งหน้าที่กนั รับผิดชอบโดยศึกษาคนละ 1 หัวข้อ
ย่อย จากนั้น สมาชิ กนําผลงานมารวมกันเป็ นงานกลุ่ม ช่ วยกันเรี ยบเรี ยงเนื้ อหาให้สอดคล้องกัน และเตรี ยมที ม
นําเสนอผลงานหน้าห้องเรี ยน เมื่อนําเสนอผลงานแล้วทุกกลุ่มช่วยกันประเมินผลการทํางานและผลงานของกลุ่ม
9. กระบวนการคิดสร้ างสรรค์
ความคิดสร้างสรรค์เป็ นความสามารถทางสมองของมนุษย์ที่คิดได้กว้างไกลหลายแง่มุมและนําไปสู่การคิด
ประดิ ษ ฐ์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อ นําไปใช้ประโยชน์ได้อ ย่างเหมาะสม ความคิ ดสร้ างสรรค์จึงถื อว่าเป็ นคุ ณ ลักษณะทาง
ความคิดอย่างหนึ่งที่มีความสําคัญต่อนักเรี ยน ความคิดสร้างสรรค์มีองค์ประกอบที่สาํ คัญ 4 อย่างได้แก่
1) ความคิ ดริ เริ่ ม หมายถึง ความสามารถในการคิดแปลกใหม่แตกต่างจากความคิดธรรมดาหรื อความคิด
ง่าย ๆ ความคิดริ เริ่ มอาจจะเกิดจากการนําความรู้เดิมมาดัดแปลงและประยุกต์ให้เกิดเป็ นสิ่ งใหม่ข้ ึน
2) ความคล่ องในการคิ ด หมายถึง ความสามารถในการคิดตอบสนองต่อสิ่ งเร้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมาก
ได้หรื อความสามารถคิดหาคําตอบที่เด่นชัดและตรงประเด็นมากที่สุด ซึ่ งจะนับปริ มาความคิ ดที่ไม่ซ้ าํ กันในเรื่ อง
เดียวกัน
3) ความยืดหยุ่นในการคิด หมายถึง ความสามารถในการปรับสภาพของความคิดในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้
ความยืดหยุน่ เน้นในเรื่ องของปริ มาณที่เป็ นประเภทใหญ่ ๆ ของความคิดแบบคล่องแคล่ว ความยืดหยุ่นในการคิด
จึงเป็ นตัวเสริ มและเพิ่มคุณภาพของความคล่องในการคิดให้มากขึ้น ด้วยการจัดเป็ นหมวดหมู่และมีหลักเกณฑ์มาก
ขึ้น
4) ความคิ ดละเอี ยดลออ หมายถึง ความสามารถในการมองเห็นรายละเอียดในสิ่ งที่คนอื่นมองไม่เห็นและ
ยังรวมถึงการเชื่อมโยงสัมพันธ์ของสิ่ งต่าง ๆ อย่างมีความหมาย
การจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริ มให้ นักเรี ยนเกิดกระบวนการคิดสร้ างสรรค์ มีวิธีการดังนี ้
1) ขัน้ สร้ างความตระหนัก เป็ นขั้นที่ครู จะต้องกระตุน้ ให้นกั เรี ยนเกิดความอยากรู ้อยากเห็นด้วยวิธีการหรื อ
เทคนิคต่าง ๆ เช่น เกม เพลง นิทาน
2) ขั้นระดมพลังความคิ ด ครู จดั กิจกรรมการเรี ยนการสอนที่เน้นกระบวนการคิด เช่น คิดจินตนาการ คิด
วิเคราะห์ คิดแปลกใหม่ คิดหลากหลาย เพื่อดึงศักยภาพของนักเรี ยนโดยครู คอยอํานวยความสะดวกทุกขั้นตอน
3) ขั้น สร้ างสรรค์ งาน เมื่ อ นักเรี ยนได้ผ่านกระบวนการเรี ย นรู้ แ ล้วครู ค วรจัดกิ จกรรมที่ ให้นักเรี ยนได้
สร้างสรรค์ชิ้นงานด้วยตนเองหรื อทําเป็ นกลุ่ม เช่น ประดิษฐ์ชิ้นงานประเภทต่าง ๆ
4) ขั้นนําเสนอผลงาน เป็ นขั้นที่เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนได้นาํ ชิ้นงานที่สร้างเสร็ จแล้วมาแสดงให้คนอื่นได้
รับรู้ วิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการนําเสนอผลของผูอ้ ื่น ซึ่ งเป็ นขั้นที่ส่งเสริ มคุณธรรม จริ ยธรรม
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 140
และค่านิ ยมที่พึงประสงค์ การรู้จกั การยอมรับ การมีเหตุผล การประยุกต์ และการนําไปใช้ ซึ่ งจะทําให้นกั เรี ยนเกิด
ความภาคภูมิ ใจ
5) ขัน้ วัดและประเมินผล ครู ประเมินผลงานของนักเรี ยนตามสภาพจริ งและให้เกิดความหลากหลาย
พร้อมกับเปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนได้ประเมินผลร่ วมกับผูอ้ ื่น มีการยอมรับ และเสนอแนะแนวทางแก้ไขบนพื้นฐาน
ของหลักการทางประชาธิปไตย
6) ขัน้ เผยแพร่ ผลงาน เป็ นการจัดกิจกรรมที่เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนได้นาํ ชิ้นงานมาเผยแพร่ ในรู ปแบบต่าง ๆ
เช่น การจัดนิ ทรรศการและการนําผลงานสู่ สาธารณชน ซึ่ งเป็ นการนําเสนอความรู ้และความคิดสร้างสรรค์ของ
นักเรี ยน เพื่อให้เพื่อน ผูป้ กครอง ชุมชน และบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ชื่นชมผลงานของนักเรี ยน
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 141
3. แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
1. ส่ วนนํา ประกอบด้วย
– ปก
– คํานํา
– สารบัญ
– ประวัติส่วนตัว
– จุดมุ่งหมายของการทําแฟ้ มสะสมผลงาน
2. ส่ วนเนือ้ หาแฟ้ ม ประกอบด้วย
– ผลงาน
– ความคิดเห็นที่มีต่อผลงาน
– Rubrics ประเมินผลงาน
3. ส่ วนข้ อมูลเพิม่ เติม ประกอบด้วย
– ผลการประเมินการเรี ยนรู ้
– การรายงาน ความก้าวหน้า โดยครู
– ความคิดเห็นของผูท้ ี่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น
เพื่อน ผูป้ กครอง
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 145
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
– __________________________________________________________________________________
– _______________________________________________________________________________________________________
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 146
รู ปแบบแผนการจัดการเรียนรู้ รายชั่วโมง
เมื่ อครู อ อกแบบการจัดการเรี ยนรู้ ตามแนวคิ ด Backward Design แล้ว ครู สามารถเขี ยนแผนการจัดการ
เรี ยนรู ้รายชัว่ โมงโดยใช้รูปแบบของแผนการจัดการเรี ยนรู ้แบบเรี ยงหัวข้อ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ชื่อแผน…(ระบุชื่อและลําดับที่ของแผนการจัดการเรี ยนรู้)
ชื่อเรื่อง...(ระบุช่ือเรื่ องที่จดั การเรี ยนรู ้)
สาระที่...(ระบุสาระที่ใช้จดั การเรี ยนรู ้)
เวลา...(ระบุระยะเวลาที่ใช้ในการจัดการเรี ยนรู้ต่อ 1 แผน)
ชั้น...(ระบุช้ นั ที่จดั การเรี ยนรู ้)
หน่ วยการเรียนรู้ที่...(ระบุชื่อและลําดับที่ของหน่วยการเรี ยนรู ้)
สาระสํ าคัญ...(เขียนความคิดรวบยอดหรื อมโนทัศน์ของหัวเรื่ องที่จดั การเรี ยนรู้)
ตัวชี้วดั ชั้นปี ...(ระบุตวั ชี้วดั ชั้นปี ที่ใช้เป็ นเป้ าหมายของแผนการจัดการเรี ยนรู ้)
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ ...(กําหนดให้สอดคล้องกับสมรรถนะสําคัญและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของ
นักเรี ยนหลังจากสําเร็ จการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งประกอบด้วย
ด้านความรู ้ (Knowledge: K)
ด้านคุณธรรม จริ ยธรรม และค่านิยม (Affective: A)
ด้านทักษะ/กระบวนการ (Performance: P)
การวัด และประเมิ น ผลการเรี ยนรู้ ...(ระบุ วิธี ก ารและเครื่ อ งมื อ วัด และประเมิ น ผลที่ ส อดคล้อ งกับ
จุดประสงค์การเรี ยนรู ้ท้ งั 3 ด้าน)
สาระการเรียนรู้...(ระบุสาระและเนื้อหาที่ใช้จดั การเรี ยนรู้โดยเขียนเฉพาะหัวเรื่ องก็ได้)
กระบวนการจัดการเรียนรู้ ...(กําหนดให้สอดคล้องกับธรรมชาติของกลุ่มสาระและการบูรณาการข้าม
สาระ)
กิจกรรมเสนอแนะ...(ระบุรายละเอียดของกิจกรรมที่นกั เรี ยนควรปฏิบตั ิเพิ่มเติม)
แนวทางการบูรณาการ...(เสนอแนะและระบุกิจกรรมของกลุ่มสาระอื่นที่บูรณาการร่ วมกัน)
สื่ อ/แหล่ งการ เรียนรู้...(ระบุรายการสื่ อ อุปกรณ์ และแหล่งการเรี ยนรู ้ที่ใช้ในการจัดการเรี ยนรู้)
บันทึกผลหลังการจัดการเรี ยนรู้ ...(ระบุรายละเอียดของผลการจัดการเรี ยนรู ้ตามแผนที่ กาํ หนดไว้อาจ
นําเสนอข้อเด่นและข้อด้อยให้เป็ นข้อมูลที่สามารถนําไปใช้เป็ นส่วนหนึ่งของการทําวิจยั ในชั้นเรี ยนได้)
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 147
5. ใบความรู้ และใบงาน
ใบความรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1
ใบความรู้ ที่ 1
เรื่อง เคล็ดลับการดูแลรักษาเสื้อผ้ า
เคล็ดลับการดูแลผ้าขาว
การดูแลรักษาเสื้ อผ้าสี ขาวที่มีสีหม่นทําได้โดยการต้มนํ้าครึ่ งหม้อ ใส่น้ าํ ส้มสายชู ½ ถ้วยตวงลงไป รอจนนํ้า
เดือด ปิ ดไฟ แล้วตั้งพักไว้รอให้คลายความร้อนสักครู่ จากนั้นนําเสื้ อผ้าสี ขาวที่ เตรี ยมไว้ลงไปแช่น้ าํ ทิ้ งไว้ 1 คื น
นําไปซัก แล้วล้างนํ้าให้สะอาด ซึ่งจะช่วยคืนความขาวสะอาดให้กบั เสื้ อผ้าสี ขาวได้
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 148
ใบความรู้ ที่ 2
เรื่อง การกําจัดวัชพืชด้ วยแป้ งข้ าวโพด
วัชพืชเป็ นต้นไม้ตน้ เล็ก ๆ ที่ข้ ึนแซมข้าง ๆ ต้นไม้ที่ปลูกไว้ และคอยแย่งนํ้า แย่งอาหารของต้นไม้ ทําให้
ต้นไม้ไม่เจริ ญเติบโต ซึ่งเราสามารถกําจัดวัชพืชได้โดยการถอนทิ้ง
นอกจากนี้ ยัง มี วิ ธี ก ารอื่ น ๆ ที่ ช่ ว ยกําจัด วัช พื ช ด้ว ยการใช้แ ป้ งข้าวโพดที่ มี คุ ณ สมบัติ ใ นการยับ ยั้ง การ
เจริ ญเติบโตของวัชพืช โดยการโรยแป้ งข้าวโพดลงในภาชนะปลูกหรื อแปลงเพาะเมล็ดพันธุ์พืชที่เจริ ญเติบโตเป็ น
ต้นกล้าแล้วให้ทวั่ แปลง แป้ งข้าวโพดจะจับตัวกันบนผิวดินทําให้วชั พืชไม่สามารถงอกหรื อเจริ ญเติบโตได้ และยัง
ช่วยดึงดูดให้ไส้เดือนมาอาศัยอยูใ่ นบริ เวณนั้น ๆ ซึ่งจะทําให้ดินร่ วนซุยขึ้นอีกด้วย
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 149
ใบความรู้ ที่ 3
เรื่อง งานโครงสร้ างจากกระดาษ
งานโครงสร้างจากระดาษมีหลายรู ปแบบ และมีวิธีการประดิษฐ์แตกต่างกัน ดังนี้
1. งานโครงสร้ างจากกระดาษม้ วน เป็ นการนํากระดาษชนิ ดต่าง ๆ มาม้วนให้เป็ นแท่ง แล้วจัดตกแต่งให้
เป็ นโครงสร้างรู ปแบบต่าง ๆ ซึ่งมีวิธีการประดิษฐ์ดงั นี้
1) นํากระดาษมาม้วนให้ได้ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ มีความยาว หรื อสั้นตามที่ตอ้ งการ โดยทําไว้หลาย ๆ
ม้วน
2) นํากระดาษที่มว้ นไว้แล้วมาทากาว แล้ววางต่อกันในแนวตั้ง (อาจมีแนวขวางบ้างก็ได้) โดยวางต่อกัน
ให้เป็ นรู ปร่ างคล้ายอาคารหรื อสิ่ งก่อสร้างตามความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน
3) ระบายสี ดว้ ยสี น้ าํ หรื อสี โปสเตอร์ตกแต่งให้สวยงาม แต่หากใช้กระดาษสี หรื อกระดาษที่มีลวดลายอยู่
แล้วก็ไม่ตอ้ งระบายสี
2. งานโครงสร้ างจากการต่ อกระดาษแข็ง มีวิธีการประดิษฐ์ดงั นี้
1) ตัดกระดาษแข็งที่ เป็ นกระดาษสี หรื อมีลวดลายต่าง ๆ ให้เป็ นรู ปแบบที่ ตอ้ งการ เช่น รู ปสี่ เหลี่ยม รู ป
สามเหลี่ยม รู ปวงกลม หรื อรู ปร่ างอิสระ
2) นํามาต่อกันโดยวิธีการบากหรื อตัดให้ลึกเข้าไป แล้วสอดหรื อเสี ยบเข้าหากันเพื่อให้ต้ งั ได้ ซึ่ งจะต่อกี่
ชั้นก็ได้โดยพยายามให้ได้โครงสร้างที่สูงที่สุด
3) ฉี กหรื อตัดกระดาษสี เป็ นชิ้ นเล็ก ๆ นํามาติดตกแต่งโครงสร้างนั้น ๆ ก็จะได้ผลงานที่แปลกใหม่และ
สวยงามอีกรู ปแบบหนึ่ง
3. งานโครงสร้ างจากกล่ องกระดาษ กล่องกระดาษเหลือใช้ เช่น กล่องสบู่ กล่องยาสี ฟัน กล่องนม สามารถ
นํามาออกแบบตกแต่งให้เป็ นงานโครงสร้าง ซึ่งนําไปใช้ประโยชน์ได้อีกโดยมีวิธีการประดิษฐ์ดงั นี้
1) นํากระดาษสี หรื อเศษกระดาษห่อของขวัญมาปิ ดทับบนกล่องกระดาษขนาดต่าง ๆ
2) นํากล่ อ งมาทากาวยึด ต่ อ กัน ให้เป็ นโครงสร้ างรู ป แบบต่ าง ๆ ตามที่ ต้อ งการ เช่ น อาคารบ้านเรื อ น
หุ่นยนต์ รถไฟ
3) ตกแต่งเพิ่มเติมโดยนํากระดาษสี มาม้วนหรื อตัดกระดาษแข็งต่อเติมเข้าไป เพื่อให้เกิดความสวยงาม
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 150
ใบความรู้ ที่ 4
เรื่อง การใช้ โทรศัพท์ มือถือ
โทรศัพท์มือถือเป็ นอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต่อสื่ อสารแบบไร้สายที่ สามารถพกพาไปในที่ต่าง ๆ ได้ตาม
ต้องการ ซึ่งช่วยให้สามารถติดต่อสื่ อสารได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
การใช้โทรศัพท์มือถือควรใช้เมื่อต้องติดต่อสื่ อสารกับพ่อแม่หรื อบุคคลในครอบครัวเพื่อบอกเหตุการณ์
แจ้งข่าวสาร หรื อใช้ในกรณี เกิดเหตุฉุกเฉิ น เช่น พลัดหลงกับผูป้ กครอง บอกตําแหน่งที่อยูข่ องตนเอง โทรแจ้งให้
พ่อแม่หรื อผูป้ กครองไปรับ นอกจากนี้โทรศัพท์มือถือยังสามารถใช้งานในรู ปแบบอื่น ๆ ได้อีก เช่น การส่งข้อความ
ค้นหาข้อมูลความรู ้ผา่ นระบบอินเทอร์เน็ต ฟังเพลง เล่นเกม เป็ นต้น
มารยาทในการใช้ โทรศัพท์ มอื ถือ ควรปฏิบตั ิดงั นี้
1. ควรพูดด้วยถ้อยคําที่สุภาพไพเราะ ชัดเจน และได้ใจความที่ถูกต้อง
2. ควรปิ ดโทรศัพท์มือถือเมื่ออยูใ่ นที่สาธารณะ เช่น โรงเรี ยน ห้องเรี ยน ห้องสมุดโรงภาพยนตร์
3.ไม่ควรรับโทรศัพท์ขณะรับประทานอาหาร ขึ้น–ลงรถโดยสาร หรื อขณะข้ามถนน เพราะอาจเกิด
อุบตั ิเหตุได้
4. ไม่ควรพูดด้วยเสี ยงดังเพราะเป็ นการรบกวนความสงบของผูอ้ ื่น
5. เมื่อเลิกใช้โทรศัพท์ควรเก็บใส่ ซองหรื อกระเป๋ าให้เรี ยบร้อย เพื่อป้ องกันการสูญหาย
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 151
ใบงาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1
ใบงานที่ 1
เรื่อง การแต่ งกายในฤดูกาลต่ าง ๆ หน่ วยการเรียนรู้ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง
ชุ ดฤดูร้อน ชุ ดฤดูฝน
ชุ ดฤดูหนาว
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 152
ใบงานที่ 2
เรื่อง ช่ วยกันแก้ปัญหา หน่ วยการเรียนรู้ที่ 2 พืชใกล้ตวั
2. บ้านของวารี มี ไ ม้ด อกไม้ป ระดับ หลายชนิ ด ปลูกไว้ริม ทางเดิ น เข้าบ้าน วัน หนึ่ งวารี สังเกตเห็ น ว่ามี
ต้นหญ้าเล็ก ๆ ขึ้นแซมอยูใ่ ต้ตน้ ดาวกระจายและบางต้นมีหนอนตัวเล็ก ๆ เกาะอยูบ่ นใบไม้
ใบงานที่ 3
เรื่อง ควรใช้ อะไรบ้ าง หน่ วยการเรียนรู้ที่ 3 ช่ างประดิษฐ์
วิธีทํา____________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
วิธีทํา____________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 154
ใบงานที่ 4
เรื่อง แหล่ งข้ อมูลที่น่าสนใจ หน่ วยการเรียนรู้ที่ 4 ข้ อมูลและแหล่งข้ อมูลรอบตัว
6. เครื่องมือวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้
9. หลังจากเล่นของเล่นเสร็จแล้ว ควรปฏิบัตอิ ย่ างไร 10. จากภาพควรปฏิบัตอิ ย่างไร
ก วางไว้ที่เดิม เป็ นอันดับแรก
ข วางไว้หลังตูเ้ ย็น ก เช็ดโต๊ะให้สะอาด
ค วางไว้บนชั้นวางของ ข เรี ยกให้แม่ช่วยเก็บ
ค จัดเก็บหนังสื อและดินสอสี
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 157
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่ วยการเรียนรู้ที่ 2 พืชใกล้ตวั
ชื่อ ชั้น______________เลขที_่ _______________________________
คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่ วยการเรียนรู้ที่ 3 ช่ างประดิษฐ์ น้อย
ชื่อ ชั้น__________________เลขที่________________
คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว
3. วัสดุ อุปกรณ์ ใดเหมาะสํ าหรับใช้ ตกแต่ งผลงาน 8. การพับกระดาษเป็ นของเล่ นถ้ ากระดาษทีพ่ บั
ก สี เทียน มีขนาดใหญ่ กว่ าแบบควรทําอย่ างไร
ข กรรไกร ก ใช้มือฉี กออก
ค การลาเท็กซ์ ข ใช้กรรไกรตัดออก
ค ใช้ไม้บรรทัดตัดออก
5. กระดาษชนิดใดไม่ เหมาจะใช้ พบั ของเล่น 10. ของเล่นชนิดใดไม่ ควร ให้ เปี ยกนํา้
ก กระดาษสมุด ก ของเล่นที่ทาํ ด้วยไม้
ข กระดาษลูกฟูก ข ของเล่นที่มีแบตเตอรี่
ค กระดาษหนังสื อพิมพ์ ค ของเล่นที่ทาํ ด้วยพลาสติก
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 148
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่ วยการเรียนรู้ที่4 ข้ อมูลและแหล่ งข้ อมูลรอบตัว
ชื่อ ชั้น_________________เลขที่________________
คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว
1. “ดอกกุหลาบดอกนีม
้ ีสีชมพู” เป็ นข้ อมูล ทีไ่ ด้ จากข้ อใด 6. มานีได้ ยนิ เสี ยงนกแก้ วพูด “สวัสดี” ข้ อใด
ก การอ่าน เป็ นแหล่งข้ อมูล
ข การได้กลิ่น ก มานี
ค การมองเห็น ข นกแก้ว
ค คําพูด “สวัสดี”
2. “เสี ยงเหมียว ๆ อยู่ในห้ อง” เป็ นข้ อมูลที่ได้ 7. สิ่ งใด ไม่ ใช่ อุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ
จากข้ อใด ก วิทยุ
ก การได้ยนิ ข โทรทัศน์
ข การได้กลิ่น ค หนังสื อเรี ยน
ค การมองเห็น
แบบทดสอบหลังเรียน
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่ วยการเรียนรู้ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง
ชื่อ ชั้น______________เลขที_่ _______________________________
คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว
9. การจัดโต๊ ะเขียนหนังสื อสิ่ งใดจําเป็ นน้ อยทีส่ ุ ด 10. จากภาพขั้นตอนใดที่ต้องปฏิบัติ
ก เป็ นลําดับต่ อไป
ก วางรองเท้าไว้ที่เดิม
ข เรี ยกให้แม่ช่วยเก็บรองเท้า
ข ค นํารองเท้าไปวางบนชั้นวางรองเท้า
ค
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 151
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่ วยการเรียนรู้ที่ 2 พืชใกล้ตวั
ชื่อ ชั้น__________เลขที_่ _______________________________
คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่ วยการเรียนรู้ที่ 3 ช่ างประดิษฐ์ น้อย
ชื่อ ชั้น __________เลขที_่ _______________________________
คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว
1. อุปกรณ์ ใดไม่ ใช้ ในการร่ างแบบ 6. การพับหน้ ากากควรใช้ อุปกรณ์ ใดเจาะช่ องลูกตา
ก ดินสอ ก ดินสอ
ข กรรไกร ข นิ้วมือ
ค ไม้บรรทัด ค กรรไกร
2. อุปกรณ์ ใดใช้ ประโยชน์ เหมือนกัน 7. ข้ อใดไม่ ใช่ ประโยชน์ ของการบํารุงรักษาของเล่น
ก กาวกับสี เทียน ก ทําให้ของเล่นดูใหม่
ข ดินสอกับดินสอสี ข ทําให้เล่นได้ปลอดภัย
ค กรรไกรกับคัตเตอร์ ค ทําให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
3. อุปกรณ์ ใดใช้ เชื่อมกระดาษให้ ตดิ กัน 8. ของเล่นชนิดใดไม่ ควรเปี ยกนํา้
ก กาว ก ของเล่นที่ทาํ ด้วยไม้
ข ยางลบ ข ของเล่นที่มีแบตเตอรี่
ค สี เมจิก ค ของเล่นที่ทาํ ด้วยพลาสติก
4. ใครใช้ กรรไกรได้ อย่ างปลอดภัย 9. ของเล่นจากการพับกระดาษมีข้อจํากัดในเรื่องใด
ก บีแกว่งกรรไกรก่อนใช้ ก ทําให้สะอาด
ข เอเก็บกรรไกรไว้ในซอง ข ทําให้สวยงาม
ค ซี โยนกรรไกรให้เพื่อน ค ทําให้เปี ยกนํ้า
5. กระดาษชนิดใดใช้ พบั ของเล่นได้ สวยงาม 10. ใครดูแลรักษาของเล่นได้ ถูกต้ อง
ก กระดาษสี ก นิดโยนของเล่นใส่ในตู้
ข กระดาษสมุด ข หนึ่งเก็บของเล่นใส่กล่อง
ค กระดาษหนังสื อพิมพ์ ค น้อยเก็บของเล่นใส่กระเป๋ ากางเกง
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 153
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 หน่ วยการเรียนรู้ที่ 4 ข้ อมูลและแหล่งข้ อมูลรอบตัว
ชื่อ ชั้น ______เลขที_่ _____________________
คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว
1. “เสื อ้ ตัวนีส้ วยมาก” เป็ นข้ อมูลที่ได้ จากข้ อใด 6. ดาราได้ ยนิ เสี ยงสุ นัขเห่ า “โฮ่ ง ๆ ” ข้ อใด
ก การสัมผัส เป็ นแหล่ งข้ อมูล
ข การได้กลิ่น ก ดารา
ค การมองเห็น ข สุ นขั
ค โฮ่ง ๆ
2. “ไก่ ขนั เสี ยงดัง” เป็ นข้ อมูลที่ได้ จากข้ อใด 7. สิ่ งใดจัดอุปกรณ์ เทคโนโลยี
ก การได้ยนิ ก ดินสอ
ข การได้กลิ่น ข บัวรดนํ้า
ค การมองเห็น ค โทรทัศน์
3. ข้ อใดไม่ ใช่ ข้อมูลตัวเลข 8. รูปแบบของภาพเคลือ่ นไหวและเสี ยงที่ชัดเจน
ก โจอยูบ่ า้ นเลขที่ 75 จากสิ่ งใด
ข โนสอบได้ 75 คะแนน ก โทรศัพท์
ค โอซื้อเสื้ อราคา 75 บาท ข โทรทัศน์
ค กล้องดิจิทลั
4. ข้ อใดไม่ ใช่ ข้อมูลตัวอักษร 9. อุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศใดให้ ข้อมูล ในรูปแบบ
ก ป้ ายเขียนว่า “หยุด” ของเสี ยงอย่ างเดียว
ข ราคาอาหารรวม 109 บาท ก วิทยุ
ค หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 191 ข โทรศัพท์
ค โทรทัศน์
5. “เสี ยงเพลงดังมาจากวิทยุ”ข้ อใดเป็ นแหล่งข้ อมูล 10. คอมพิวเตอร์ มปี ระโยชน์ สําหรับนักเรียนในข้ อใด
ก วิทยุ มากที่สุด
ข นักร้อง ก ดูหนัง
ค เนื้อเพลง ข ฟังเพลง
ค พิมพ์รายงาน
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 154
แบบทดสอบกลางปี
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
ชื่อ ชั้น__________________เลขที_่ _____________________
ตอนที่ 1 คําชี้แจง เลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว
1. งานใดที่นักเรียนควรทําด้ วยตนเอง 6. เพราะเหตุใดจึงต้ องดูแลรักษาเสื้อผ้า
ก ใส่เสื้ อ ก เพื่อให้ทนั สมัย
ข อาบนํ้า ข เพื่อให้สะอาด
ค ถูกทุกข้อ ค เพื่อให้สีสนั สดใส
2. นักเรียนควรเลือกเสื้อผ้าข้ อใดใส่ อยู่บ้าน 7. การปฏิบัตขิ องใครจะช่ วยป้องกันไม่ให้ เสื้อผ้า
ก เสื้ อยืด กางเกงขาสั้น สกปรก
ข เสื้ อนักเรี ยน กางเกงขาสั้น ก หนึ่งเดินตากฝน
ค เสื้ อแขนยาว กางเกงขายาว ข สองใช้ผา้ เช็ดหน้าเช็ดปาก
ค สามนัง่ บนเก้าอี้ที่มีฝนเกาะ
ุ่
3. แต่ งกายไปวัดควรแต่ งกายอย่างไรจึงจะเหมาะสม 8. เสื้อผ้าที่สวมใส่ แล้วควรทําอย่ างไร
ข นุ่งกางเกงขาสั้น ใส่ เสื้ อแขนยาว ก ผึ่งแดด
ก นุ่งกระโปรงยาว ใส่เสื้ อมีแขน ข ใส่ไว้ในตะกร้า
ค นุ่งกระโปรงสั้น ใส่ เสื้ อไม่มีแขน ค เก็บใส่ตูเ้ สื้ อผ้า
4. เพราะเหตุใดจึงควรสวมใส่ เสื้อแขนยาวในวัน 9. ข้ อใดเป็ นขั้นตอนแรกของการจัดเก็บภาชนะใส่
ที่มอี ากาศหนาวเย็น อาหาร
ก ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ก รวบรวมภาชนะใส่อาหาร
ข ช่วยให้ร่างกายสะอาด ข ใช้ชอ้ นกวาดเศษอาหารทิ้ง
ค ช่วยให้ร่างกายสวยงาม ค ยกภาชนะใส่อาหารไปล้างเอง
5. สิ่ งใดควรนํามาใช้ ในฤดูฝน 10. อุปกรณ์ ใดช่ วยป้ องกันไม่ ให้ หนังสื อล้ม
ก ผ้าพันคอ ก ไม้อดั
ข ร่ ม ข ที่ก้ นั หนังสื อ
ค ร้องเท้าผ้าใบ ค แผ่นเหล็กบาง
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 155
11. อุปกรณ์ การเรียนใดมีวธิ ีจัดเก็บต่ างจากพวก 16. ใครตั้งชั้นวางรองเท้ าได้ เหมาะสม
ก ดินสอ ก เอตั้งไว้ดา้ นหลังบ้าน
ข หนังสื อ ข ซีต้ งั ไว้ดา้ นในของห้องรับแขก
ค ยางลบ ค บีต้ งั ไว้ใกล้ประตูทางเข้า–ออก
12. การจัดเก็บของเล่นข้ อใดทําถูกวิธี 17. ข้ อใดเป็ นไม้ดอกทั้งหมด
ก วางไว้บนที่สูง ก มะระและมะนาว
ข เก็บรวมกันในถุงพลาสติก ข กุหลาบและบานชื่น
ค เก็บใส่กล่องแยกตามประเภท ค เฟื่ องฟ้ าและบอนสี
13. เพราะเหตุใดจึงต้ องจัดเก็บโต๊ ะ ตู้ และชั้น 18. ถ้ าต้ องการปลูกพืชไว้ รับประทานควรเลือก
ก เพื่อป้ องกันฝุ่ นละออง ปลูกพืชชนิดใด
ข เพื่อให้เกิดความสวยงาม ก ผักกาด
ค เพื่อความเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย ข คะน้า
ค กระบองเพชร
14. ใครจัดโต๊ ะเขียนหนังสื อไม่ ถกู ต้ อง 19. ข้ อใดคือประโยชน์ ของเครื่องมือเกษตร
ก แก้ววางของเล่นไว้บนโต๊ะ ก ช่วยผ่อนแรง
ข แหวนตั้งถังขยะไว้ขา้ ง ๆ โต๊ะ ข ช่วยดูแลรักษาพืช
ค ป่ านหามุมห้องที่มีแสงสว่างตั้งโต๊ะ ค ช่วยป้ องกันวัชพืช
15. ก่ อนวางรองเท้ าบนชั้นควรทําสิ่ งใดเป็ น 20. เครื่องมือใดใช้ ประโยชน์ ต่างจากพวก
อันดับแรก ก บัวรดนํ้า
ก ล้างนํ้าให้สะอาด ข ช้อนปลูก
ข เคาะเศษดินออก ค ส้อมพรวน
ค เช็ดด้วยผ้าขนหนู
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 156
21. การรดนํา้ ต้ นไม้ที่มจี ํานวนมากควรใช้ เครื่องมือ 26. การรดนํา้ ต้ นไม้แต่ ละครั้งควรรดอย่างไร
ใด ก รดให้แฉะ
ก ถังนํ้า ข รดให้ชุ่ม
ข สายยาง ค รดเพียงเล็กน้อย
ค บัวรดนํ้า
22. ข้ อใดเป็ นสาเหตุที่ทําให้ นํา้ ในบัวรดนํา้ ไม่ ไหล 27. ข้ อใดจัดเป็ นวัชพืชในกระถางต้นไม้
ก มีเศษผงอุดที่รูฝักบัว ก เศษไม้
ข ยกฝักบัวตั้งตรงเกินไป ข ใบไม้
ค ตักนํ้าใส่บวั รดนํ้ามากเกินไป ค ต้นหญ้า
23. ข้ อใดเป็ นการรดนํา้ ต้นไม้ ด้วยถังนํา้ ที่ถูกวิธี 28. ถ้ าพบหญ้ าขึน้ ในกระถางปลูกพืช
ก ใช้ถงั นํ้าตักนํ้าจากโอ่ง ควรทําอย่ างไร
ข ยกถังนํ้าเทลงบนต้นไม้ ก ไปบอกภารโรง
ค ใช้ขนั ตักนํ้าจากถังแล้วรดนํ้า ข ถอนและเก็บไปทิ้ง
ค รดนํ้าพืชในแปลงปลูก
24. ข้ อใดเป็ นขั้นตอนแรกของการทําความสะอาด 29. วิธีการใดช่ วยป้ องกันไม่ ให้ วชั พืชขึน้ ในกระถาง
ช้ อนปลูก ต้ นไม้
ก เช็ดด้วยผ้าแห้ง ก ตั้งกระถางไว้ภายในบ้าน
ข ล้างด้วยนํ้าสะอาด ข สํารวจกระถางเป็ นระยะ ๆ
ค ขูดดินออกให้หมด ค ยกกระถางไปวางไว้ในที่ร่ม
25. ข้ อใดเป็ นขั้นตอนสุ ดท้ ายของการจัดเก็บสายยาง 30. เราควรทําอย่ างไรกับวัชพืชที่ถอนมาแล้ว
ก วางไว้เฉย ๆ ก นําไปเพาะกล้า
ข ให้ผปู ้ กครองเก็บให้ ข นําไปประกอบอาหาร
ค ม้วนสายยางเก็บเข้าที่ ค นําไปใส่ถงั ขยะ
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 157
ตอนที่ 2 ตอบคําถามต่อไปนี้
คะแนน
สรุปการประเมินผล
เต็ม ได้
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
รวม
ลงชื่อ ผู้ประเมิน
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 158
แบบทดสอบปลายปี
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1
ชื่อ ชั้น___________________ เลขที_่ _____________________
ตอนที่ 1 เลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว
1. ใครแต่ งกายไม่ เหมาะสมกับฤดูร้อน 6. เสื้อผ้าที่สวมใส่ แล้วควรทําอย่างไร
ก มดใส่เสื้ อขนสัตว์ตวั ใหญ่ ก ผึ่งแดด
ข ปิ่ นใส่เสื้ อที่มีเนื้อผ้าบางเบา ข ใส่ไว้ในตะกร้า
ค ผึ้งใส่เสื้ อยืดแขนสั้นกับกางเกงขาสั้น ค เก็บไว้ในตูเ้ สื้ อผ้า
2. ผ้าพันคอควรนํามาใช้ ในฤดูใด 7. ข้ อใดคือประโยชน์ ของการจัดเก็บสิ่ งของ
ก ฤดูฝน ก ทําให้เป็ นระเบียบ
ข ฤดูร้อน ข หาสิ่ งของได้ง่าย
ค ฤดูหนาว ค ถูกทุกข้อ
3. ชุ ดนักเรียนไม่ เหมาะที่จะสวมใส่ ไปสถานที่ใด 8. สิ่ งของเมือ่ ใช้ แล้วควรทําอย่ างไร
ก วัด ก เก็บเข้าที่
ข ทะเล ข เก็บไว้บนเก้าอี้
ค โรงเรี ยน ค เก็บไว้หลังโทรทัศน์
4. ข้ อใดเป็ นการแต่งกายด้ วยตนเอง 9. อุปกรณ์ การเรียนใดมีวธิ ีการเก็บต่ างจากพวก
ก ให้พี่หวีผมให้ ก ดินสอ
ข รี บสวมเสื้ อเอง ข หนังสื อ
ค ให้แม่อาบนํ้าให้ ค ยางลบ
5. เพราะเหตุใดจึงต้ องดูแลรักษาเสื้อผ้า 10. เมือ่ รับประทานอาหารเสร็จแล้ วควรทํา
ก เพื่อให้สะอาด อย่ างไร
ข เพื่อให้ทนั สมัย ก เก็บภาชนะ
ค เพื่อให้สีสนั สดใส ข รี บไปดูการ์ตูน
ค ล้างมือให้สะอาด
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 159
11. เด็กที่มรี ูปร่ างผอมสู งควรแต่ งกายอย่ างไร 16. พืชที่นําใบหรือดอกมารับประทานเรียกว่ าอะไร
ก เสื้ อสี อ่อน ก ไม้ดอก
ข เสื้ อสี เข้ม ๆ ข ไม้ประดับ
ค เสื้ อที่มีลายเส้นขวางสี อ่อน ค ผักสวนครัว
12. นักเรียนควรใส่ เสื้อผ้าชนิดใดไปออกกําลังกาย 17. พืชชนิดใดเป็ นไม้ ผล
ก เสื้ อเชิ้ต ก มะลิ
ข เสื้ อคอกระเช้า ข มะระ
ค เสื้ อยืดคอกลม ค มะปราง
13. สิ่ งใดควรนํามาใช้ ในฤดูฝน 18. อุปกรณ์ ใดทําให้ ดินร่ วนซุ ย
ก ร่ ม ก บัวรดนํ้า
ข หมวก ข ช้อนปลูก
ค ผ้าพันคอ ค ส้อมพรวน
14. ข้ อใดเป็ นวัตถุประสงค์ สําคัญที่สุด ของการจัดเก็บ 19. ถ้ าไม่ รดนํา้ ต้ นไม้จะเกิดอะไรขึน้
โต๊ ะ ตู้ และชั้น ก ออกดอกเร็ ว
ก เพื่อความทันสมัย ข เจริ ญเติบโตช้า
ข เพื่อความสวยงาม ค ให้ผลที่หวานและหอม
ค เพื่อความเป็ นระเบียบ
15. ขั้นตอนใดของการจัดเก็บภาชนะใส่ อาหารที่ควรให้ 20. การรดนํา้ ต้ นไม้แต่ ละครั้งควรรดอย่างไร
ผู้ปกครองเป็ นคนทํา ก รดให้ชุ่ม
ก รวบรวมภาชนะที่จะล้าง ข รดให้แฉะ
ข ยกภาชนะใส่อาหารไปล้าง ค รดเพียงเล็กน้อย
ค ใช้ชอ้ นกวาดเศษอาหารลงในถุงขยะ
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 160
21. ควรใช้ อุปกรณ์ ใดรดนํา้ ต้ นไม้ ในแปลงเพาะกล้ า 26. ข้ อใดต่ อไปนีเ้ ป็ นไม้ ดอก
ที่มปี ริมาณน้ อย ก ส้ม
ก ถังนํ้า ข มะลิ
ข สายยาง ค มะเขือเทศ
ค บัวรดนํ้า
22. ต้ นไม้ ที่แข็งแรงและปลูกไว้ จํานวนมาก 27. ไม้ดอกใช้ ประโยชน์ ด้านใดมากที่สุด
ควรใช้ อุปกรณ์ ใดรดนํา้ ก ใช้ประดับตกแต่ง
ก ถังนํ้า ข ใช้ในการค้าขาย
ข สายยาง ค ใช้เป็ นอาหาร
ค บัวรดนํ้า
31. ดินสอเป็ นเครื่องมือที่ใช้ ทําอะไร 37. ใครรู้จักบํารุงรักษาของเล่น
ก ปั้น ก นุชนําของเล่นไปแช่น้ าํ
ข ระบายสี ข นกอมของเล่นไว้ในปาก
ค ร่ างแบบ ค น้อยล้างของเล่นที่เปื้ อนโคลน
32. ถ้ าต้ องการกรีดกระดาษควรใช้ เครื่องมือใด 38. การนํากระดาษมาพับเป็ นของเล่นมีข้อดี
ก กรรไกร อย่ างไร
ข คัตเตอร์ ก ประหยัดเงิน
ค ไม้บรรทัด ข ได้ของเล่นที่คงทน
ค ได้ของเล่นที่สวยงาม
43. เมือ่ ใช้ เครื่องมือเสร็จแล้วควรทําอย่ างไร 49. ป้ายเขียนไว้ว่า “ห้ ามทิง้ ขยะ” เป็ นข้ อมูลที่
ก ให้เพื่อนเก็บ ได้ จากข้ อใด
ข วางไว้ตรงที่ทาํ งาน ก การอ่าน
ค เก็บเข้ากล่องเครื่ องมือ ข การสัมผัส
ค การได้กลิ่น
55. “เสี ยงแมวร้ องบนหลังคาบ้ าน” ข้ อใดเป็ น 58. อุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศใน ใช้ ในการ
แหล่งข้ อมูล บันทึกภาพ
ก บ้าน ก วิทยุ
ข แมว ข โทรทัศน์
ค หลังคาบ้าน ค กล้องดิจิทลั
56. “พ่ อบอกว่ าจะพาไปกินไอศกรี มที่ร้าน” 59. ประโยชน์ ของการได้ รับข้ อมูลคือข้ อใด
ข้ อใดเป็ นแหล่งข้ อมูล ก ได้ขอ้ มูลที่เราต้องการ
ก พ่อ ข รับรู ้เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้
ข ต้อม ค ได้ขอ้ มูลที่ถูกต้องทุกอย่าง
ค ร้านใกล้ตลาด
57. แหล่งข้ อมูลใดที่นักเรียนควรใช้ ค้นหาข้ อมูล 60. ข้ อใดเป็ นอุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ใช้
ด้ านความรู้ มากที่สุด ค้ นข้ อมูลและพิมพ์รายงาน
ก วิทยุ ก โทรศัพท์
ข โทรทัศน์ ข โทรทัศน์
ค ห้องสมุด ค คอมพิวเตอร์
ตอนที่ 2 ตอบคําถามต่อไปนี้
1. การแต่งกายด้วยตนเองมีข้ นั ตอนอะไรบ้าง
1. อาบนํา้ ให้ สะอาด
2. เช็ดตัวให้ แห้ งและทาแป้ ง
3. สวมชุดชั้นในและใส่ เสื ้อผ้ า
4. ตรวจดูความให้ เรี ยบร้ อย
5. สวมรองเท้ าให้ เรี ยบร้ อย
2. การกําจัดวัชพืชมีข้ นั ตอนอะไรบ้าง
1. สํารวจกระถางปลูกต้ นไม้
2. ถอนวัชพืชออกให้ หมด
3. นําไปทิ ง้ ถังขยะ
4. ล้ างมือให้ สะอาด
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 164
3. การใช้กรรไกรให้ปลอดภัยมีวิธีการอย่างไร
1. ไม่ นาํ กรรไกรใส่ กระเป๋ าเสื ้อหรื อกระเป๋ ากางเกง
2. ไม่ นาํ กรรไกรมาโยนเล่ น
3. ไม่ หยอกล้ อเล่ นกันในขณะใช้ กรรไกร
4. หลังจากใช้ กรรไกรเสร็ จควรเก็บใส่ ซองให้ เรี ยบร้ อย
4. อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง อุปกรณ์ ที่สามารถบันทึกหรื อเผยแพร่ ความรู้ หรื อความบันเทิง
อย่ างรวดเร็ วและกว้ างขวาง
5. อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศมีประโยชน์อย่างไร ทําให้ ได้ รับข้ อมูลและ ข่ าวสารที่มีประโยชน์ และสะดวก
รวดเร็ ว
คะแนน
สรุปการประเมินผล
เต็ม ได้
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
รวม
ลงชื่อ ผู้ประเมิน
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 165
7. แบบบันทึกผลการเรียนรู้
แบบบันทึกผลการสํ ารวจ
เรื่องที่สํารวจ______________________________ วันที่สํารวจ__________________________
ชื่อผู้สํารวจ ชั้น เลขที_่ ____________
แบบประเมินผลงาน
แบบประเมินคุณภาพของชิ้นงาน
รายการประเมิน
ระดับ
การ ความ ความ ความคิด คะแนน
ที่ ชื่อ-นามสกุล คุณภาพ
ออกแบบ สวยงาม ประณีต สร้ างสรรค์
5 5 5 5 20
ลงชื่อ ผู้ประเมิน
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 167
เกณฑ์การตัดสิน คุณภาพ
ช่ วงคะแนนเฉลี่ ย 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาระดับคุณภาพเฉลี่ยหาได้จากการนํา
ระดับคุณภาพ 3 2 1 คะแนนที่ได้ในแต่ละช่วงมารวมกันแล้วหารด้วย
จํานวนข้อ จากนั้นนําระดับคุณภาพเฉลี่ยมาเทียบกับ
ดีมาก, ดี พอใช้ ควรปรับปรุ ง
เกณฑ์การตัดสิ นคุณภาพและสรุ ปผลการประเมิน
เกณฑ์การตัดสิน คุณภาพ
ช่ วงคะแนนเฉลี่ ย 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาระดับคุณภาพเฉลี่ยหาได้จากการ
ระดับคุณภาพ 3 2 1 นําคะแนนที่ได้ในแต่ละช่วงมารวมกันแล้วหารด้วย
ดีมาก, ดี พอใช้ ควรปรับปรุ ง จํานวนข้อ จากนั้นนําระดับคุณภาพเฉลี่ยมาเทียบกับ
เกณฑ์การตัดสิ นคุณภาพและสรุ ปผลการประเมิน
เกณฑ์การตัดสิน คุณภาพ
ช่ วงคะแนนเฉลี่ ย 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาระดับคุณภาพเฉลี่ยหาได้จากการ
ระดับคุณภาพ 3 2 1 นําคะแนนที่ได้ในแต่ละช่วงมารวมกันแล้วหารด้วย
ดีมาก, ดี พอใช้ ควรปรับปรุ ง จํานวนข้อ จากนั้นนําระดับคุณภาพเฉลี่ยมาเทียบกับ
เกณฑ์การตัดสิ นคุณภาพและสรุ ปผลการประเมิน
เกณฑ์การตัดสิน คุณภาพ
ช่ วงคะแนนเฉลี่ ย 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาระดับคุณภาพเฉลี่ยหาได้จากการ
ระดับคุณภาพ 3 2 1 นําคะแนนที่ได้ในแต่ละช่วงมารวมกันแล้วหารด้วย
ดีมาก, ดี พอใช้ ควรปรับปรุ ง จํานวนข้อ จากนั้นนําระดับคุณภาพเฉลี่ยมาเทียบกับ
เกณฑ์การตัดสิ นคุณภาพและสรุ ปผลการประเมิน
9. เครื่องมือวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านทักษะ/กระบวนการ
การประเมินผลด้ านทักษะ/กระบวนการ
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 1 การทํางานเพือ่ ช่ วยเหลือตนเอง
เกณฑ์การตัดสิน คุณภาพ
ช่ วงคะแนนเฉลี่ ย 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาระดับคุณภาพเฉลี่ยหาได้จากการ
ระดับคุณภาพ 3 2 1 นํ า คะแนนที่ ไ ด้ ใ นแต่ ล ะช่ ว งมารวมกัน แล้ว หารด้ ว ย
ดีมาก, ดี พอใช้ ควรปรับปรุ ง จํา นวนข้อ จากนั้ นนํ า ระดับ คุ ณ ภาพเฉลี่ ย มาเที ย บกับ
เกณฑ์การตัดสิ นคุณภาพและสรุ ปผลการประเมิน
การประเมินผลด้ านทักษะ/กระบวนการ
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 2 พืชใกล้ ตวั
เกณฑ์การตัดสิน คุณภาพ
ช่ วงคะแนนเฉลี่ ย 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาระดับคุ ณภาพเฉลี่ยหาได้จากการ
ระดับคุณภาพ 3 2 1 นํ า คะแนนที่ ไ ด้ ใ นแต่ ล ะช่ ว งมารวมกัน แล้ว หารด้ ว ย
ดีมาก, ดี พอใช้ ควรปรับปรุ ง จํา นวนข้อ จากนั้ นนํ า ระดับ คุ ณ ภาพเฉลี่ ย มาเที ย บกับ
เกณฑ์การตัดสิ นคุณภาพและสรุ ปผลการประเมิน
การประเมินผลด้ านทักษะ/กระบวนการ
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 3 ช่ างประดิษฐ์ น้อย
เกณฑ์การตัดสิน คุณภาพ
ช่ วงคะแนนเฉลี่ ย 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาระดับคุณภาพเฉลี่ยหาได้จากการ
ระดับคุณภาพ 3 2 1 นํ า คะแนนที่ ไ ด้ ใ นแต่ ล ะช่ ว งมารวมกัน แล้ว หารด้ ว ย
ดีมาก, ดี พอใช้ ควรปรับปรุ ง จํา นวนข้อ จากนั้ นนํ า ระดับ คุ ณ ภาพเฉลี่ ย มาเที ย บกับ
เกณฑ์การตัดสิ นคุณภาพและสรุ ปผลการประเมิน
การประเมินผลด้ านทักษะ/กระบวนการ
หน่ วยการเรียนรู้ ที่ 4 ข้ อมูลและแหล่ งข้ อมูลรอบตัว
เกณฑ์การตัดสิน คุณภาพ
ช่ วงคะแนนเฉลี่ ย 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาระดับคุณภาพเฉลี่ยหาได้จากการนํา
ระดับคุณภาพ 3 2 1 คะแนนที่ได้ในแต่ละช่วงมารวมกันแล้วหารด้วยจํานวนข้อ
ดีมาก, ดี พอใช้ ควรปรับปรุ ง จากนั้นนําระดับคุณภาพเฉลี่ยมาเทียบกับเกณฑ์การตัดสิ น
คุณภาพและสรุ ปผลการประเมิน
2. การวางแผนการทํางาน
4 หมายถึง กําหนดวิธีการทํางานตามลําดับก่อน–หลังได้ถูกต้องเหมาะสมกับเวลาที่กาํ หนดได้ดว้ ยตนเอง
3 หมายถึง กําหนดวิธีการทํางานตามลําดับก่อน–หลังได้ถูกต้องเหมาะสมกับเวลาที่กาํ หนดและต้องการ
ความช่วยเหลือจากครู เป็ นบางครั้ง
2 หมายถึง กําหนดวิธีการทํางานตามลําดับก่อน–หลังได้ถูกต้อง แต่ใช้เวลาเกินที่กาํ หนด และต้องการ
ความช่วยเหลือจากครู
1 หมายถึง กําหนดวิธีการทํางานตามลําดับก่อน–หลังได้ไม่ถูกต้อง และไม่เหมาะสมกับเวลาที่กาํ หนด
จึงต้องการความช่วยเหลือจากครู ตลอดเวลา
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 176
3. การปฏิบัตงิ าน
4 หมายถึง ปฏิบตั ิงานตามแผนที่วางไว้ได้อย่างถูกต้องรวดเร็ ว และปลอดภัย
3 หมายถึง ปฏิบตั ิงานตามแผนที่วางไว้ได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย
2 หมายถึง ปฏิบตั ิงานตามแผนที่วางไว้ได้อย่างถูกต้อง แต่ครู ตอ้ งคอยดูแลและแนะนําเป็ นบางครั้ง
1 หมายถึง ปฏิบตั ิงานตามแผนที่วางไว้ได้อย่างถูกต้องแต่ครู ตอ้ งคอยดูแลและแนะนําบ่อยครั้ง
4. การประเมินผลการทํางาน
4 หมายถึง ตรวจสอบผลการปฏิบตั ิงานและปรับปรุ งแก้ไขข้อบกพร่ องในการปฏิบตั ิงานได้ดว้ ยตนเอง
3 หมายถึง ตรวจสอบผลการปฏิบตั ิงานและปรับปรุ งแก้ไขข้อบกพร่ องในการปฏิบตั ิงานได้แต่ครู ตอ้ งคอย
ดูแลและแนะนําเป็ นบางครั้ง
2 หมายถึง ตรวจสอบผลการปฏิบตั ิงานและปรับปรุ งแก้ไขข้อบกพร่ องในการปฏิบตั ิงานได้แต่ครู ตอ้ งคอย
ดูแลและแนะนําบ่อยครั้ง
1 หมายถึง ตรวจสอบผลการปฏิบตั ิงานและปรับปรุ งแก้ไขข้อบกพร่ องในการปฏิบตั ิงานได้บา้ งโดยครู ตอ้ ง
คอยดูแลและแนะนําตลอดเวลา
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 177
โครงงาน เป็ นการจัดการเรี ยนรู ้ที่ส่งเสริ มให้นักเรี ยนได้ลงมื อปฏิบตั ิ และ ศึ กษาค้นคว้าด้วยตนเองตาม
แผนการดําเนินงานที่นกั เรี ยนได้จดั ขึ้นโดยครู ช่วยให้คาํ แนะนําปรึ กษากระตุน้ ให้คิดและติดตามการปฏิบตั ิงานจน
บรรลุเป้ าหมาย
ตัวอย่าง
แบบประเมินโครงงาน
เรื่อง_________________________________________________________กลุ่มที่__________________
ภาคเรียนที่____________________ชั้น_______________________
เขียนรายงานนําเสนอ
ลงมือปฏิบัตติ ามแผน
รายการ
การแก้ปัญหาได้ อย่ าง
เลขที่ ชื่อ–สกุล
ในชีวติ ประจําวัน
ที่ผ่าน
เกณฑ์
เหมาะสม
ชัดเจน
ขั้นตํา่
1
2
3
4
5
เกณฑ์ การประเมิน
1. กําหนดประเด็นปัญหาชัดเจนแยกตามองค์ ประกอบย่ อย 5 ด้ าน
4 หมายถึง กําหนดประเด็นปัญหาได้ดว้ ยตนเองปั ญหาที่กาํ หนดมีความเฉพาะเจาะจงชัดเจนดีมาก
3 หมายถึง กําหนดประเด็นปัญหาได้ดว้ ยตนเองปั ญหาที่กาํ หนดมีความเฉพาะเจาะจงชัดเจนดี
2 หมายถึง กําหนดประเด็นปัญหาได้ดว้ ยตนเองเป็ นบางส่วนปั ญหาที่กาํ หนดมีความเฉพาะเจาะจง
ชัดเจนพอใช้
1 หมายถึง กําหนดประเด็นปัญหาด้วยตนเองไม่ได้
2. วางแผนกําหนดขั้นตอนการแก้ปัญหาได้ เหมาะสม
4 หมายถึง ออกแบบวิธีการ ขั้นตอนการแก้ปัญหา ระบุควบคุมตัวแปรได้ถูกต้องเหมาะสม
3 หมายถึง ออกแบบวิธีการ ขั้นตอนการแก้ปัญหา ระบุควบคุมตัวแปรได้ค่อนข้างเหมาะสม
2 หมายถึง ออกแบบวิธีการ ขั้นตอนการแก้ปัญหา ระบุควบคุมตัวแปรได้เหมาะสมพอใช้
1 หมายถึง ออกแบบวิธีการ ขั้นตอนการแก้ปัญหา ระบุควบคุมตัวแปรได้ไม่เหมาะสม
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 178
3. ลงมือปฏิบัตติ ามแผน
4 หมายถึง ลงมือแก้ปัญหาตามขั้นตอนที่กาํ หนดไว้อย่างครบถ้วนจริ งจัง สามารถค้นพบความรู้ ข้อคิด
แนวทางการปฏิบตั ิตามประเด็นปั ญหาที่ต้ งั ไว้ดว้ ยตนเองทั้งหมด
3 หมายถึง ลงมือแก้ปัญหาตามขั้นตอนที่กาํ หนดไว้อย่างครบถ้วนจริ งจัง สามารถค้นพบความรู้ขอ้ คิด
แนวทางการปฏิบตั ิตามประเด็นปั ญหาที่ต้ งั ไว้ดว้ ยตนเองเป็ นส่วนใหญ่
2 หมายถึง ลงมือปฏิบตั ิตามขั้นตอนที่กาํ หนดบ้าง แต่ไม่ครบถ้วน สามารถค้นพบความรู ้ ข้อคิด แนว
ทางการปฏิบตั ิตามประเด็นปัญหาที่ต้ งั ไว้ดว้ ยตนเองเป็ นบางส่วน
1 หมายถึง ลงมือปฏิบตั ิตามขั้นตอนที่กาํ หนดได้นอ้ ยมาก ไม่สามารถค้นพบความรู ้ ข้อคิด แนวทาง
การปฏิบตั ิตามประเด็นปัญหาที่ต้ งั ไว้
4. สามารถนําไปใช้ แก้ปัญหาในชีวติ ประจําวัน
4 หมายถึง นําข้อค้นพบ วิธีปฏิบตั ิไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจําวันได้ครบถ้วน ถูกต้องและต่อเนื่อง
3 หมายถึง นําข้อค้นพบ วิธีปฏิบตั ิไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจําวันได้ครบถ้วน ถูกต้อง แต่ขาดความ
ต่อเนื่อง
2 หมายถึง นําข้อค้นพบ วิธีปฏิบตั ิไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจําวันได้เป็ นบางส่วน และต้องกระตุน้
เตือนให้ปฏิบตั ิอย่างต่อเนื่อง
1 หมายถึง นําข้อค้นพบ วิธีปฏิบตั ิไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจําวันได้นอ้ ยมาก หรื อไม่นาํ ไปใช้เลย
5. เขียนรายงานนําเสนอ
4 หมายถึง บันทึกผลการศึกษาค้นคว้าและ นําเสนอข้อมูลได้ถูกต้องชัดเจน แสดงให้เห็นถึงขั้นตอน
การวางแผนการลงมือแก้ปัญหา และข้อค้นพบที่ได้ครบถ้วน
3 หมายถึง บันทึกผลการศึกษาค้นคว้าและนําเสนอข้อมูลได้ถูกต้องชัดเจน แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการ
วางแผนการลงมือแก้ปัญหา และข้อค้นพบที่ได้ค่อนข้างครบถ้วน
2 หมายถึง บันทึกผลการศึกษาค้นคว้าและ นําเสนอข้อมูลได้บา้ ง แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการวางแผน
การลงมือแก้ปัญหา และข้อค้นพบที่ได้เพียงบางส่วน
1 หมายถึง บันทึกผลการศึกษาค้นคว้าและ นําเสนอข้อมูลได้นอ้ ยมาก เห็นขั้นตอนการวางแผน การลงมือ
แก้ปัญหา และข้อค้นพบที่ได้ไม่ชดั เจน
เกณฑ์ การตัดสิ นผลการเรียน
นักเรี ยนต้องมีพฤติกรรมในแต่ละรายการอย่างน้อยระดับ 2 ขึ้นไปจํานวน 3 ใน 5 รายการ
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 179
แฟ้ ม สะสม ผลงาน (Portfolio) เป็ นแหล่งรวบรวมผลงานของนักเรี ยนอย่างเป็ นระบบ ที่นาํ มาใช้ประเมิน
สมรรถภาพของนักเรี ยน เพื่อช่วยให้นกั เรี ยน ครู ผูป้ กครอง หรื อผูท้ ี่เกี่ยวข้องเกิดความเข้าใจและมองเห็นอย่างเป็ น
รู ปธรรมได้วา่ การปฏิบตั ิงานและผลงานของนักเรี ยนมีคุณภาพมาตรฐานอยูใ่ นระดับใด
แฟ้ มสะสมผลงานเป็ นเครื่ องมือประเมินผลตามสภาพจริ งที่ให้โอกาสนักเรี ยนได้ใช้ผลงานจากที่ได้ปฏิบตั ิจริ ง
สื่ อสารให้ผอู ้ ื่นเข้าใจถึงความสามารถที่แท้จริ งของตน ซึ่งผลงานที่เก็บคะแนนในแฟ้ มสะสมผลงานมีหลายลักษณะ
เช่น การเขี ยนรายงาน บทความ การศึ กษาค้นคว้า สิ่ งประดิ ษฐ์ การทําโครงงาน บันทึ ก การบรรยาย บันทึ กการ
ทดลองบันทึกการอภิปรายบันทึกประจําวันแบบทดสอบ
รายการประเมิน บันทึกความคิดเห็นของนักเรียน
1. เหตุผลที่เลือกชิ้นงานนี้ไว้ในแฟ้ มสะสม ____________________________________________
ผลงาน ____________________________________________
2. จุดเด่นและจุดด้อยของงานชิ้นนี้มีอะไรบ้าง _____________________________________________
_____________________________________________
3. ถ้าจะปรับปรุ งงานชิ้นนี้ให้ดีข้ ึนควร _____________________________________________
ปรับปรุ งอย่างไร _____________________________________________
4. งานชิ้นนี้ควรได้คะแนนเท่าใดเพราะเหตุใด _____________________________________________
(ถ้ากําหนดให้คะแนนเต็ม 10 คะแนน) _____________________________________________
ความเห็นของครูหรือที่ปรึกษา ความเห็นของผู้ปกครอง
_____________________________ ______________________________
_____________________________ ______________________________
_____________________________ ______________________________
_____________________________ ______________________________
_____________________________ ______________________________
ผลการประเมินของครูหรือที่ปรึกษา
____________________________________
____________________________________
____________________________________
____________________________________
____________________________________
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 180
ตัวอย่ าง
แบบประเมินแฟ้ มสะสมผลงาน
เรื่อง____________________________________________________ กลุ่มที่_____________________
ภาคเรียนที่_______________________ชั้น_____________________
ระดับคุณภาพ
รายการประเมิน
1 2 3 4
1. โครงสร้างและองค์ประกอบ
2. แนวความคิดหลัก
3. การประเมินผล
4. การนําเสนอ
ระดับคุณภาพ รายการประเมิน
3. การประเมินผล
4 มีการประเมินความสามารถและประสิ ทธิภาพการปฏิบตั ิงานและผลงาน รวมทั้งมีการ
เสนอแนะโครงการที่เป็ นไปได้ที่จะจัดทําต่อไปไว้ อย่างชัดเจนหลายโครงการ
3 มีการประเมินความสามารถและประสิ ทธิภาพการปฏิบตั ิงานและผลงาน รวมทั้งการ
เสนอแนะโครงการที่ควรจัดทําต่อไป
2 มีการประเมินความสามารถและประสิ ทธิภาพการปฏิบตั ิงานและผลงานบ้าง รวมทั้ง
มีการเสนอแนะโครงการที่จะทําต่อไปแต่ไม่ชดั เจน
1 มีการประเมินประสิ ทธิ ภาพการปฏิบตั ิงานและผลงานน้อยมาก และไม่มีขอ้ เสนอแนะ
ใด ๆ
4. การนําเสนอ
4 เขียนบทสรุ ปและรายงานที่มีระบบดี มีข้ นั ตอน มีขอ้ มูลครบถ้วน มีการประเมินผล
ครบถ้วน แสดงออกถึงความคิดริ เริ่ มสร้างสรรค์
3 เขียนบทสรุ ปและรายงานแสดงให้เห็นว่ามีข้ นั ตอนการจัดเก็บผลงาน มีการประเมิน
ผลงานเป็ นส่วนมาก
2 เขียนบทสรุ ปและรายงานแสดงให้เห็นว่ามีข้ นั ตอนการจัดเก็บผลงาน มีการประเมินผล
เป็ นบางส่วน
1 เขียนบทสรุ ปและรายงานแสดงให้เห็นว่ามีข้ นั ตอนการจัดเก็บผลงาน แต่ไม่มีการ
ประเมินผล
เกณฑ์ การประเมินโดยภาพรวม
ระดับคุณภาพ รายการประเมิน
ผลงานมีรายละเอียดมากเพียงพอ ไม่มีขอ้ ผิดพลาดหรื อแสดงถึงความไม่เข้าใจ
มีความเข้าใจในเรื่ องที่ศึกษาโดยมีการบูรณาการหรื อเชื่อมโยงแนวความคิดหลักต่าง
4
ๆ
เข้าด้วยกัน
ผลงานมีรายละเอียดมากเพียงพอและไม่มีขอ้ ผิดพลาดหรื อแสดงถึงความไม่เข้าใจ
3 แต่ขอ้ มูลต่าง ๆ เป็ นลักษณะของการนําเสนอที่ไม่ได้บูรณาการระหว่างข้อมูลกับ
แนวความคิดหลักของเรื่ องที่ศึกษา
ผลงานมีรายละเอียดที่บนั ทึกไว้ แต่พบว่าบางส่วนมีความผิดพลาดหรื อไม่ชดั เจน
2
หรื อแสดงถึงความไม่เข้าใจเรื่ องที่ศึกษา
1 ผลงานมีขอ้ มูลน้อยไม่มีรายละเอียดบันทึกไว้
คู่มือครู แผนการจัดการเรี ยนรู ้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 182
3. การใช้ สื่อประกอบการนําเสนอ
4 หมายถึง ใช้เทคโนโลยีในการนําเสนอ ใช้ภาพ แผนภูมิ แผนผัง ประกอบการนําเสนออย่างชัดเจน
สื่ อที่ใช้ช่วยสนับสนุนเนื้อหาและการอธิบายได้เป็ นอย่างดี
3 หมายถึง ใช้ภาพ แผนภูมิ แผนผัง ประกอบการนําเสนอ สื่ อที่ใช้ช่วยสนับสนุนเนื้อหาและการอธิ บายได้
2 หมายถึง ใช้ภาพ แผนภูมิ ประกอบการนําเสนอบ้างเป็ นบางครั้ง และสื่ อนั้นไม่ค่อยสนับสนุนเนื้อหาสาระ
ที่นาํ เสนอ
1 หมายถึง ไม่ใช้สื่อประกอบการนําเสนอเลย
4. การตอบคําถาม
4 หมายถึง เปิ ดโอกาสให้ผฟู ้ ังแสดงความคิดเห็นหรื อซักถาม โดยสามารถตอบคําถามได้ถกู ต้องพร้อมทั้ง
อธิบายขยายความได้
3 หมายถึง สามารถตอบข้อซักถามได้ แต่ไม่สามารถอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม
2 หมายถึง ตอบคําถามง่าย ๆ เกี่ยวกับเนื้อหาที่นาํ เสนอได้
1 หมายถึง ไม่สามารถตอบคําถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่นาํ เสนอ