Professional Documents
Culture Documents
ยูซุเกะ, ยามาดะ.
เรนทัล ชิลเดรน ลูกไม่ใช่ลูก.-- กรุงเทพฯ : ไดฟุกุ ครีเอเตอร์, 2561.
174 หน้า.
1. นวนิยายญี่ปุ่น. I. บัณฑิต ประดิษฐานุวงษ์, ผู้แปล. II. ชื่อเรื่อง.
895.63
ISBN 978-616-448-010-0
ขอให้นักอ่านมีความสุขกับความคิดสร้างสรรค์ ประเด็นชวนค้นหา
และส�ำนวนแปลชั้นครูของ “เร็นทัล ชิลเดรน ลูกไม่ใช่ลูก” ได้ ณ บัดนี้
อลีน เฉลิมชัยกิจ
ผู้ก่อตั้งส�ำนักพิมพ์ไดฟุกุ-ลิท
13 กันยายน 2561
บทน�ำ
-6-
เมื่อแดดส่องเข้ามาในรถอีกครั้ง เขาก็เห็นตัวเมืองชิบุโนะอยู่ด้านล่าง
อาคารแต่ละหลังดูเล็กจิ๋ว มีเพียงรถยนต์ท่พี อจะมีความเคลื่อนไหวให้เห็น
คุมาโมโตะแตะบ่าชุนตะพลางชี้ให้ดูหลังคาบ้าน
“ตรงนั้นเป็นสีแดง สีฟ้า สีเขียวก็มี ดูนั่นสิ เห็นไหมมีหลังคา
สีเหลืองด้วย”
ชุนตะหันหน้าไปทางที่ถูกชี้เพียงเล็กน้อย คุมาโมโตะยิ้มคนเดียว
ได้ยินเสียงเครื่องบินแต่ไกล ปีกสีขาวบินตัดผ่านทัศนียภาพซึ่งคุมาโมโตะ
ก�ำลังมองอยู่
“ดูนั่นสิชนุ ตะ ใหญ่จังเลย”
ตอนนั้นเองที่คุมาโมโตะเห็นรถสปอร์ตสีแดงแล่นลงเขามาด้วย
ความเร็วสูง
คุมาโมโตะร้องเสียงหลง รถสปอร์ตไม่เห็นรถบัสหรืออย่างไรถึงวิ่ง
ออกนอกช่องทาง
แย่แล้ว เขาปิดตาลงในขณะรถชนประสานงา รถบัสโยกอย่างแรง
ผู้โดยสารหญิงกรีดร้อง พนักงานขับรถสับสนกับเหตุกะทันหัน จึงหัก
พวงมาลัยเข้าด้านรั้วกั้นริมถนน คุมาโมโตะรู้สกึ ถึงอันตราย เขาดึงชุนตะ
เข้ามากอด
รถบัสชนทะลุรั้วกั้นสีขาวและตกลงจากหน้าผา
ท่ามกลางเสียงร้องของผู้คน คุมาโมโตะกระเด็นจากที่นั่ง หลัง
กระแทกเพดานรถอย่างแรง แต่เขาก็ยังปกป้องชุนตะอย่างสุดความ
สามารถ สองมือกอดแน่นขึ้นอีก
ร่างของคนโดยสารทั้ง 41 คน และสัมภาระลอยไปคนละทิศคนละ
ทาง กระจกหน้าต่างแตกกระจาย บางคนกระเด็นออกนอกรถ
ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไร
เขาเฝ้าบอกที่ข้างหูชุนตะขณะกลิ้งอย่างแรงทั้งซ้ายขวาบนล่าง
แต่ทันใดนั้นศีรษะเขากระแทกกับราวจับจนสติเลือนราง ร่างของชุนตะที่
-7-
ชิน ไอดะนั่งสูบบุหรี่เพ่งดูนาฬิกาบนโซฟาห้องพักรอของศูนย์
ยามานาชิที่ 1
“ยังอีกเหรอ เฮ้ย”
เวลาผ่านไปแล้ว 30 นาที เขานัง่ รอจนเบือ่ เต็มที แต่ไม่เป็นไรหรอก
เพราะเวลาท�ำงานยิ่งมาก เงินก็เข้ามากเท่านั้น
หลังศึกษาจบมหาวิทยาลัย ระหว่างใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไม่ท�ำงาน
ท�ำการ เขาก็มาพบงานนีเ้ ข้า ค่าจ้างก็ดมี ากเมือ่ เทียบกับเนือ้ งาน ทีส่ ดุ ยอด
คือเงินดีงานสบาย ไม่ถูกใจก็ตรงต้องใส่สูทนี่แหละ
ไอดะใช้สองมือจับผมยาวประบ่า
หมูน่ รี้ อ้ นฉิบ คงต้องตัดผมแล้ว เสือ้ ผ้าก็ตอ้ งซือ้ ใหม่ แถมยังสัญญา
ว่าจะให้กระเป๋าแบรนด์เนมเป็นของขวัญแฟนสาวอีก
“เร็วหน่อยได้ไหม”
หลุดค�ำบ่นออกไปไม่ทนั ไร ประตูกเ็ ปิดออก ไอดะหยุดเขย่าขา ลุกยืน
ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เด็กชาย 2 เด็กหญิง 2 รวม 4 คน ยืนอยู่หลังชายในเสื้อกาวน์
สวมแว่น ทุกคนอายุราว 5 ขวบ จ้องไอดะด้วยสีหน้านิ่งเฉยจนน่าขนลุก
-8-
เขาคิดแบบนี้ทุกครั้งที่เห็น
พวกมันนี่นะเหรอ
“นี่ ไอดะ”
ชายในเสื้อกาวน์เอ่ยขึ้น
“ครับ”
“ครั้งนี้ช่วยพา 4 คนนีไ้ ปด้วย”
ไอดะผงกศีรษะเล็กน้อย
“ได้ครับ”
ชายในเสื้อกาวน์หนั หาเด็ก 4 คน แล้วว่า
“พวกเธอตามพี่คนนี้ไปนะ”
เสียงกลุ่มเด็กขานรับพร้อมกัน
“ครับ/ค่ะ”
ไอดะออกจากห้องนัง่ รอไปนอกศูนย์ เขาเปิดประตูรถให้เด็กคนหนึง่
นั่งข้างคนขับ อีก 3 คนให้น่งั เบาะหลัง
“งั้นไปละนะ”
ไม่มีค�ำตอบ
ไอดะเหยียบคันเร่งอย่างแรงทั้งที่ยังไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย
“โอ๊ย”
ศีรษะของเด็กชายที่นั่งเบาะหลังคงชนเบาะหน้าจึงร้องออกมา
แต่ไอดะยังซิ่งรถต่อโดยไม่ขอโทษ
เรามีหน้าที่พาพวกมันไปส่งส�ำนักงานใหญ่เท่านั้น
ผู้คนเรียกเด็กพวกนี้ว่า
เร็นทัล ชิลเดรน ลูกให้เช่า...
-9-
สัญญา
พวก
ภรรยาผมแน่น
เรา 3 คนเดินบนถนนที่คุ้นเคย จูงมือแกว่งแขนยู ลูก
ผู้เพิ่งครบ 5 ขวบมุ่งหน้าสู่สวนสาธารณะ ยูจับมือฟุยูมิ
“วันนี้ไปเล่นชิงช้าอีกไหม”
ผมถามยู
“เล่น”
เสียงสดใสตอบกลับมา ผมและฟุยูมิมองหน้ากันแล้วยิ้ม
ยูชอบชิงช้ามาก ที่สวนสาธารณะมีเครื่องเล่นมากมาย ทั้งเครื่อง
ปีนป่าย กระดานลื่น ม้ากระดก และบาร์โหน แต่ยูเล่นชิงช้าเป็นอย่างแรก
ถึงขนาดบางครั้งเล่นจนไม่ยอมลงจากชิงช้าจนถึงเวลากลับบ้าน ผมยัง
เอือมระอาว่าท�ำไมถึงได้ไม่เบื่อ
“พ่อ”
- 10 -
ยูดึงแขนผม
“อะไรเหรอ”
“วันนี้ผลักให้สดุ แรงเลยนะ”
“เอาสิ ยูอย่ากลัวแล้วกัน”
ผมตอบด้วยความเต็มใจ
“สบายมาก”
“จริงสิ”
ฟุยูมิที่อยู่ข้างๆ หัวเราะคิกคัก
“อย่าให้เจ็บตัวล่ะ”
ฟุยูมิพูด แต่ยูไม่ย่หี ระ
“ไม่เป็นไรหรอก”
“ท�ำเป็นเก่ง คราวที่แล้วตอนลงเสียหลักจนขาถลอกไม่ใช่เรอะ”
“นั่นแค่พลาดไปหน่อย แล้วเลือดก็ไหลนิดเดียวเอง”
ยิ่งแก้ตัวพัลวันแบบเด็กๆ กลับยิ่งน่ารัก
“โธ่ ยังไงวันนี้ระวังหน่อยก็แล้วกัน”
จากบ้านถึงสวนสาธารณะที่ไปประจ�ำใช้เวลา 3 นาที พอเห็นชิงช้า
เท่านั้น ยูก็ปล่อยมือพวกเราแล้วออกวิ่ง
“เฮ้อ”
ผมพึมพ�ำ วิง่ ไล่ตามยูไปพร้อมกับฟุยมู ิ เมือ่ เราไปถึงสวน ยูนงั่ แกว่ง
ชิงช้าเองแล้ว แต่คงยังกลัวเกินกว่าจะยืนแกว่งจากพืน้ ได้แต่นงั่ แกว่งเบาๆ
“พ่อ รีบผลักที”
คงเพราะนั่งแกว่งไม่ค่อยถนัด จึงเรียกหาผมทันที
“จ้า จ้า”
ผมอ้อมไปด้านหลังแล้วผลักหลังยูเบาๆ แต่ยูยังไม่พอใจ ส่งเสียง
ต่อว่า
“แรงอีกหน่อย”
- 11 -
“รู้แล้วน่า”
ผมออกแรงมือขวาหนักขึ้น
“คุณขา เอาแค่พอประมาณนะคะ”
ผมพยักหน้าให้ฟยุ ูมิ
“จับให้แน่นนะ เอ้า”
ว่าแล้วผมก็ผลักหลังยูไปข้างหน้า
“เย้”
ยูยกเท้าลอยร้องด้วยความยินดี
“เอาอีก เอาอีก”
“ยู เอาแค่พอประมาณนะ”
ค�ำเตือนของฟุยูมิไม่ได้เข้าหูยูเลย
“พ่อ แกว่งอีก”
ทันใดนั้น ลมกระพือฝุ่นฟุ้ง จนต้องก้มหน้าไม่ให้ผงเข้าตา แต่เมื่อ
มองขึ้นมา ยูผู้ควรจะอยู่บนชิงช้าหายตัว ราวกับถูกลมพัดพาไป...
เหลือแต่ชงิ ช้าแกว่งไกว ผมสบตากับฟุยูมิท่เี ลื่อนลอย
“ยู ยู อยู่ไหน”
ผมกับฟุยมู หิ ากันให้ควัก่ แต่ไม่พบยูเลย แค่พริบตาเดียวจะไปซ่อน
ที่ไหนได้
“ยู ออกมานะ ยู”
ไม่ว่าจะตะโกนสักเท่าไร บุตรชายก็ไม่โผล่มา
“ยู อยู่ไหนน่ะ”
เสียงของฟุยมู กิ ระจายหายไปกับท้องฟ้าอย่างไร้ความหมาย ผมวิง่
วนรอบสวนเรียกชื่อยูไม่หยุด
“ยู ยู ยู”
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของยูร้องว่า พ่อ แม่ ผมกับฟุยูมิสะดุ้ง
ออกจากสวนไปที่ถนน
- 12 -
เห็นแต่หลังไวๆ ของยู
แต่ค่อยๆ ห่างออกทีละน้อย
“ยู”
ไล่ตามเท่าไรยูกไ็ ม่หนั กลับ มีแต่จะห่างออกไป
“รอก่อน ยู”
“หยุดนะ ยู”
ดูเหมือนยูจะไม่ได้ยนิ หลังของยูค่อยๆ หายไปในหมอก
“ยู”
ผมล้มพับลงตรงนั้น...
วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม
ยาสุชิ ซาโตยะสะดุ้งตื่นโดดผลุง เหงื่อท่วมตัวทั้งที่เป็นฤดูใบไม้ร่วง
ผมซึ่งปกติแสกกลางยุ่งเหยิง คงจะละเมอดิ้นมากจนผ้าห่มกับฟูกนอน
ไปอยู่คนละที่ ผ้าปูที่นอนก็หลุดลุ่ย
ยาสุชิถอนหายใจไหล่ตก จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ฝันร้ายที่แสนเศร้า เพิ่งเหมือนจะได้เจอยูอกี ครั้งก็ต้องห่างหาย...
ยาสุชินั่งจุมปุ๊กในห้องนอนแคบ ฟุยูมิไม่อยู่ข้างๆ แล้ว อยู่ไหนกัน
พับที่นอนเรียบร้อย
นาฬิกาบอกเวลา 9 โมง 40 นาที ยาสุชิลงคุกเข่าหน้าหิ้งเล็ก จุดธูป
พนมมือ
“ยู...สวัสดี”
มองภาพถ่ายผู้ตายอยู่พกั ใหญ่ ภาพนั้นยิ้มตลอด
ยาสุชิลุกขึ้น ปล่อยที่นอนยุ่งเหยิงไว้อย่างนั้น
คอแห้งผาก รู้สกึ หนักอึ้งไปทั้งตัว พอเปิดประตูห้องรู้สกึ เย็น
ทุกห้องสลัวไร้แสงสว่าง อาจเพราะภายนอกครึ้ม แต่เหมือนแสดง
ถึงสภาพครอบครัวตอนนี้ บรรยากาศทึมทึบน่าอึดอัด
- 13 -
“สะ...สวัสดี”
ยาสุชิร้องทัก ฟุยูมิจึงขยับปากเล็กน้อย
“สวัสดีค่ะ”
เสียงไร้เรี่ยวแรง
“อยู่นี่...เองเหรอ”
“ค่ะ”
“เพลียรึเปล่า เมื่อวานคงเหนื่อย”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“...เหรอ”
ฟุยูมิหันกลับไปมองภาพถ่ายอีกครั้ง และพึมพ�ำว่า
“ยูตายไป 2 ปีแล้วสินะ เร็วจัง”
“ใช่ จริงๆ เลย”
จู่ๆ ฟุยูมกิ ็ตัวสั่นเทิ้ม
“ท�ำไมจ�ำเพาะต้องเป็นยู...”
ยาสุชิไม่รู้จะปลอบอย่างไร เดินจากห้องเสื่อทาทามิขึ้นชั้นสอง
แล้วท�ำไมถึงมาที่นี่ ทั้งที่รู้ว่าจะยิ่งเศร้า
เขาเปิดประตูท่มี ีป้ายเขียนว่า “ยู” ในห้องมืดมิด เขาจึงเปิดไฟ
บนโต๊ะส�ำหรับเด็กมีของเล่นเต็มไปหมด บนพืน้ ก็มโี มเดลพลาสติก
กลิ้งอยู่ หลังจากยูตาย พวกเขาจงใจทิ้งห้องไว้ในสภาพเดิม
ยาสุชิหยิบปืนเด็กเล่นของโปรดของยูท่วี างไว้ข้างหมอน
เป็นของเล่นทีซ่ อื้ ให้ตอนคริสต์มาส มีเสียงเวลาลัน่ ไก ยูแทบไม่ยอม
ปล่อยให้หา่ งกาย หัวเราะดีใจเวลาหันปืนทางเขาแล้วร้อง ปัง ปัง เขาต้องเล่น
ด้วยโดยแกล้งท�ำเป็นตาย ฟุยูมกิ ็เหมือนกัน พวกเรามีรอยยิม้ ไม่เคยขาด...
นึกไม่ถึงว่าจากนัน้ ไม่ถึงปี ยูจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ อีก
ยาสุชิหยิบกรอบรูปบนโต๊ะขึ้นมาด้วย
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิม้ ของยูแผ่กว้างเต็มภาพ ถ่ายตอนงานกีฬา
- 15 -
ของโรงเรียนอนุบาล
ผมม้าเรียงเสมอสวยงาม เพราะยาสุชิเพิ่งตัดในวันก่อนหน้า
ตากลมเหมือนฟุยูมิ กับคิ้วบางเหมือนตนเอง ส่วนปากกว้างนั้น
เหมือนใครกันนะ
เป็นเด็กชายที่กระฉับกระเฉง เมื่ออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลเหมือนจะ
เป็นผู้นำ� ที่คอยช่วยเด็กคนอื่นอยู่เสมอ ครูยังชมว่า พูดจาฉาดฉานจนคน
แถวบ้านบอกไม่น่าจะเป็นแค่เด็กอนุบาล
อนาคตต้องดีแน่ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมาจากโลกนี้ด้วยอายุ
เพียง 5 ขวบ...
สาเหตุของการตายคือ โลหิตเป็นพิษ โรคที่ไม่เคยได้ยนิ ชื่อมาก่อน
เห็นว่าสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย ถ้าเชื้อออกฤทธิ์แล้วโอกาสรอดต�่ำมาก
แม้จะได้หมอที่ดูแลเป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย แต่คำ� อธิบายก็ยากเกิน
กว่าคนธรรมดาจะรู้เรื่อง ที่แน่ๆ คืออาการของยูแย่ลงเรื่อยๆ
แม้จะให้ยาในไอซียกู ไ็ ร้วแี่ ววว่าจะดีขนึ้ ความดันโลหิตมีแต่จะตกลง
ถึงจะต่อสู้จนถึงที่สุดแต่กห็ าเอาชนะโรคภัยได้ไม่ วันที่ 1 ตุลาคม 5.40 น.
พบว่าหัวใจหยุดเต้น
ในตอนนั้น เขาโกรธแค้นพระเจ้า ท�ำไมจึงมาคร่าชีวิตน้อยๆ แบบนี้
ท�ำไมถึงไม่ใช่ตวั เองแต่เป็นลูกชาย...
ตั้งแต่วนั นั้นทุกอย่างผิดเพี้ยน
ลูกชายคนส�ำคัญเสียชีวิต ฟุยูมิแทบจะประสาทเสีย จนเดี๋ยวนี้
ก็ยังไม่ดีขึ้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะลากยาวได้ถึงปานนี้ เพราะเป็นลูกคนแรก
จึงช็อกมากเป็นพิเศษ
ยาสุชิเองจะท�ำอะไรก็เหมือนไร้เรี่ยวแรง ถึงคิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง
แต่ไม่วายหวนคิดถึงอดีตอยู่เนืองๆ
ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ป่านนี้ยูอยู่ ป.1 แล้ว...นึกถึงภาพลูกแบกกระเป๋า
นักเรียนไปโรงเรียนด้วยความกระปรี้กระเปร่า
- 16 -
โบกมือบอกว่าไปโรงเรียนแล้วนะ...
2 ปีก่อนยูอยู่ในห้องนี้ น�้ำเสียงสดใสกังวานทั่วบ้าน บ้านของเรา
ซึ่งซื้อด้วยเงินผ่อน 30 ปีเป็นเพียงที่พักนอน ทั้งที่ก่อนหน้านี้รอไม่ไหว
อยากกลับบ้านเร็วๆ
เสียงกริ่งหน้าบ้านดัง ยาสุชิได้สติ วางปืนเด็กเล่นกับกรอบรูปคืน
ที่เดิม เขารีบลงบันไดเปิดประตู แม่ของยาสุชิในชุดกิโมโนยืนรออยู่
“คุณแม่ เป็นยังไงมายังไง”
เมื่อวานก็เพิ่งเจอ มีธุระด่วนหรืออย่างไร
“มีเรื่องอยากคุยด้วยหน่อย ขอเข้าไปในบ้านนะ”
วันนี้ท่าทางขุ่นเคือง สังหรณ์ว่าไม่ใช่เรื่องดี
“ดะ...ได้”
ยาสุชิรีบหยิบรองเท้าส�ำหรับใส่ในบ้านจากชัน้ วางตรงเท้าของแม่
“ฟุยูมิล่ะ”
“อยู่ แต่...”
“อยากคุยด้วยกัน 3 คนเลย”
ผู้เป็นแม่น่งั ลงบนโซฟาห้องนั่งเล่น
“ธุระอะไรเหรอ”
“เอาเถอะ รอพร้อมกันแล้วค่อยคุย”
ไม่อยากให้ฟุยูมิต้องหนักใจ แต่จะไล่กลับก็ใช่ที่ ยาสุชิหวนกลับ
ห้องเสื่อทาทามิอีกครั้ง
ฟุยูมิยกน�้ำชาจากในครัว
“เชิญค่ะ”
วางถ้วยน�ำ้ ชาลงตรงหน้าแม่สามี แต่คำ� ขอบคุณสักค�ำก็ไม่มี ไม่พอใจ
อะไรหรือ
“เธอก็นั่งลงด้วย”
- 17 -
ผู้เป็นแม่เร่งรัด ฟุยูมิพยักหน้าแล้วนั่งลงข้างยาสุชิ
ยาสุชกิ ลับเป็นคนเอ่ยปากก่อน ค้อมศีรษะให้แม่ตนผูน้ งั่ ฝัง่ ตรงข้าม
“เมื่อวานขอบคุณมากครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก”
“คงเหนื่อยใช่ไหม”
“ไม่เหนื่อยหรอก”
ฟุยูมิเอาแต่ก้มหน้าฟังค�ำสนทนาของทั้งสอง
“แล้ววันนี้มีอะไรเหรอ”
เมื่อถามอีกครั้ง ผู้เป็นแม่จงึ เข้าประเด็น
“ยูเสียไปก็ 2 ปีแล้ว พวกเธอน่าจะมีลกู กันอีกได้แล้ว ตระกูลซาโตยะ
ต้องการทายาทสืบสกุลนะ”
“นึกว่าอะไร เรื่องนี้เอง...”
ยาสุชิพลั้งปาก แม่เขาตอบโต้อย่างฉับไว
“เรื่องนี้เองนี่หมายความว่าไง เรื่องส�ำคัญเลยนะเนี่ย ฉันเป็นห่วง
พวกเธอถึงได้...”
“ผมเข้าใจ แต่”
“พวกเธอ 34 แล้วนะ ยิง่ แก่ยงิ่ มีลกู ยากนะ ผูห้ ญิงยิง่ อายุมากร่างกาย
ต้องแบกภาระหนักขึ้น”
“รู้น่า ก็ก�ำลังพยายาม...”
เขาโกหก ตั้งแต่ยูตายไม่เคยแตะต้องฟุยูมิเลย
“งั้นท�ำไมถึงยังไม่มีล่ะ ฟุยูมิ”
หางเสียงดัง ฟุยูมิสะดุ้งเงยหน้าขึ้น
“คะ...”
“เธอเป็นสาเหตุใช่ไหม”
ยาสุชิต้องห้ามทันควัน
“แม่ พอทีเถอะ อย่าพูดอย่างนั้น”
- 18 -
บรรยากาศในห้องอึดอัด ผู้เป็นแม่เชิดหน้า
แม่แคร์เสียงชาวบ้านมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเด็กโดนจู้จี้เรื่องเรียน
จนพี่ชายเขาเกลียดแม่เป็นพิเศษ มีอะไรต้องบ่นว่ายายแก่แร้งทึ้งอยู่เรื่อย
แต่พ่อไม่จกุ จิกเหมือนแม่
ตั้งแต่พ่อเสียไป 5 ปีก่อน คงเพราะเหงา แม่ชอบมาหาและพูดจา
แดกดันบ่อยครั้ง นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้จะพูดถึงขนาดนี้...มีแต่จะท�ำให้ฟุยูมิ
เจ็บปวด จิตใจเธอย�่ำแย่ลง
จู่ๆ แม่กล็ ุกขึ้น
“จะไปไหนน่ะ”
“ห้องน�้ำ”
ไม่กล้าบอกว่าให้กลับไปเสียที พอได้ยินเสียงประตูปิด จึงวางมือ
บนไหล่ของฟุยูมิ
“ไม่ต้อง...คิดมาก”
ฟุยูมิไม่แม้แต่จะพยักหน้า...
- 19 -
วัน
อาหารเช้า
จันทร์ที่ 13 ตุลาคม เช้านีอ้ ากาศเย็นเป็นพิเศษ ตัง้ นาฬิกาปลุก
ไว้ 7 โมงครึง่ แต่ตนื่ ก่อน ฟุยมู ไิ ม่อยูข่ า้ งๆ แล้ว คงก�ำลังเตรียม
ยาสุชิพับที่นอนอย่างลวกๆ แล้วนั่งคุกเข่าหน้าหิ้ง
พอหลับตา ความทรงจ�ำเกี่ยวกับยูก็ย้อนกลับ ครั้นเปิดตาก็ถูก
ดึงให้กลับสู่ความเป็นจริง ช่วงเวลาสั้นๆ นั้นแสนปวดร้าว
“อรุณสวัสดิ์ ไปก่อนนะ”
เขาพูดกับยูก่อนจะหยิบสูทออกจากตู้เสือ้ ผ้าแล้วออกจากห้องนอน
ล้างหน้าแปรงฟันในห้องน�้ำ จัดผมเสร็จจึงไปห้องครัว
ฟุยูมิก�ำลังเรียงอาหารเช้าบนโต๊ะ
“สวัสดี”
“สวัสดีค่ะ”
เสียงเนือยๆ ตอบกลับ
“เมื่อวาน...”
ขอโทษนะ ก่อนจะกล่าวค�ำนั้น ฟุยูมิเริ่มล้างถ้วยจานโดยไม่แม้แต่
จะมองมา ยาสุชินั่งเก้าอี้หยิบตะเกียบแล้วเริ่มคีบข้าวสีขาวเข้าปากอย่าง
เหงาหงอย
เขาถอนหายใจ ต้องใช้ชวี ติ แบบนีถ้ งึ เมือ่ ไหร่ อยากท�ำอะไรสักอย่าง
- 20 -
- 22 -
ยาสุชิก้มศีรษะนอบน้อมแล้วกลับโต๊ะตน เตรียมตัวออกไปรับรถ
ที่เสียของลูกค้า
ถึงบ้านลูกค้าที่ห่างจากบริษัทราว 10 กิโล ส่งมอบรถให้ใช้แทน
แล้วขับรถที่เสียกลับบริษัท
ดูเหมือนเครื่องยนต์จะติดยาก และมีปัญหาระบบไฟฟ้า เขาบอก
ลูกค้าว่าเมื่อรู้ก�ำหนดซ่อมเสร็จจะรีบแจ้งให้ทราบ ก�ำหนดการจะเปลี่ยน
ไปแล้วแต่ช่างซ่อมจะเห็นว่าเป็นอย่างไร
เขาน�ำรถเข้าอู่ อธิบายอาการให้ผรู้ บั ผิดชอบงานซ่อมและส่งกุญแจ
รถให้
“งั้นฝากไว้ด้วยนะ”
ออกจากอู่แล้วถึงรู้ตัว โทรศัพท์มือถือดังตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เขาดึง
มือถือจากกระเป๋าดูหน้าจอ และสบถว่าอะไรกัน
เป็นโทรศัพท์จากพี่ชายอายุมากกว่า 3 ปีชื่อมาซาชิ เวลางานโทร.
มาท�ำไม คงไม่มเี รือ่ งใหญ่อะไร เพราะแม้แต่เรือ่ งเล็กน้อยพีช่ ายก็ชอบโทร.
มารายงานทันที วันนีค้ งเป็นวันหยุด เขาเคยบอกว่างานส�ำนักพิมพ์อสิ ระดี
“ฮัลโหล มีอะไร”
เสียงคล้ายตนเองดังมาจากปลายสาย
“เฮ้ ยาสุชิ ตอนนี้อยู่ไหน”
ยาสุชิท�ำหน้าเหย
“ก็ต้องที่บริษัทอยู่แล้ว แล้วมีอะไรน่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ ตอนนี้ฉันมาอยู่ใกล้ๆ บริษัทแกน่ะ ว่าไง ไปกิน
ข้าวกันนะ”
นิสัยแบบนี้แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเปลี่ยน ไม่เคยคิดถึงอีกฝ่าย ชวน
แล้วจะเอาให้ได้เสมอ
“ยังไม่ถงึ เวลาพักเที่ยงเลย ไปคนเดียวก็ได้น่”ี
“งั้นรอ มีเรื่องส�ำคัญอยากบอกแก”
- 23 -
เวลา
12.15 น. ยาสุชิเปิดประตูร้านสปาเกตตีที่พี่ชายรออยู่
เสียงกระดิ่งกังวานไปทั่วร้าน
“ยินดีต้อนรับค่ะ คนเดียวหรือคะ”
บริกรสาวถาม ยาสุชิส่ายหน้า
“เปล่า นัดกันไว้...”
“เฮ้ ยาสุชิ ทางนี้ๆ”
พี่ชายโบกมือ ยาสุชิส่งสายตาให้บริกรรู้แล้วเดินไปที่โต๊ะ นั่งเก้าอี้
ตรงข้าม วางสองมือที่กุมกันลงบนโต๊ะ
- 24 -
“ธุระอะไร”
เขาถาม
“อ้าว อย่ารีบร้อน สั่งอะไรกันก่อน”
พี่ชายส่งเมนูให้ เขาสั่งอย่างขอไปที
“งานล่ะ”
พี่ชายถามขณะดื่มน�้ำ
“มีสิ นี่ก�ำลังจะกลับบริษัท”
“เหรอ”
อาชีพบรรณาธิการคงไม่จำ� เป็นต้องใส่สทู มาซาชิสวมเสือ้ สเวตเตอร์
เนื้อบางสีน้ำ� ตาลกับกางเกงยีนส์ สวมหมวกสีด�ำ เกือบจะเป็นชุดไปเที่ยว
ไว้หนวดอีกต่างหาก แต่งตัวตามสบายจริงๆ หรืออาจแค่เพราะไม่ชอบ
ชุดทางการที่อึดอัด แต่กไ็ ม่เกี่ยวกับตัวเองสักหน่อย
“เมื่อวานแม่มา”
ไม่ได้คิดจะบอก แต่ส่วนลึกในใจคงอยากบ่นกับใครสักคน จึงหลุด
ปากโดยไม่รู้ตวั
พี่ชายท�ำหน้าขยะแขยงจากก้นบึ้ง
“อีกแล้วเรอะ เขาว่าไง”
“แม่บอกให้รบี มีลกู ไว้สบื สกุลซาโตยะ เขาคงไม่คาดหวังกับพีเ่ ลยนะ”
พี่ชายปีนี้อายุ 37 ยังไม่ได้แต่งงาน บอกเสมอว่ามีครอบครัวแล้ว
รังแต่จะถูกเมียผูกมัด
“ไม่ตอ้ งมาคาดหวังน่ะดีแล้ว ข้าขอเป็นโสดตลอดชีวติ ว่าแต่เขาคิด
อะไรของเขานะ น่าจะคิดถึงหัวอกของฟุยมู จิ งั บ้าง ยูเสียไปเพิง่ จะ 2 ปีเอง”
“จริงอยู่ แต่แม่กเ็ ป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
“ช่างเขาเถอะ อยากพูดอะไรก็พูดไป”
“เออ...”
เขากับพี่ชายมักคิดต่างและกระทบกระทั่งกันมาแต่เล็ก แต่ถ้าเป็น
- 25 -
เรื่องแม่ ความเห็นจะตรงกัน
ค่อยโล่งอกหน่อย แค่น้กี ็อาจจะคุ้มที่ได้เจอแล้ว
ดูให้ดีพี่ชายก็แก่ไป หางตาเริ่มมีรอยตีนกา ผมที่โผล่พ้นหมวก
เริ่มมีสีขาวปน พุงเริ่มยื่น รูปร่างตอนนี้ท�ำให้อดีตที่เคยเล่นแฮนด์บอล
จนเป็นตัวแทนระดับประเทศเหมือนเรื่องโกหก เอาไงได้ ก็อายุ 30 ปลายๆ
แล้วนี่นา ช่วยไม่ได้
“เป็นอะไร”
ยาสุชิหลบตา แสร้งท�ำเป็นดื่มน�้ำ
“แกเหมือนจะเหนื่อยมากเลยนะ”
“เหรอ...เหรอ”
ความเหนื่อยล้าคงออกมาที่หน้า
“คิดมากไปก็ไม่ดีนะ นิสัยไม่ดขี องแกเลย”
หาค�ำมาเถียงไม่เจอ ยาสุชเิ ลยเลี่ยงถามเข้าประเด็น
“แล้วเรื่องที่จะคุยด้วยคืออะไร”
“จริงสิ นี่แก...”
“อะไร”
“ตอนนี้เห็นว่ามีข่าวลือ ไม่รู้รู้จักหรือเปล่าเรื่องเร็นทัล ชิลเดรน”
ค�ำที่ไม่เคยได้ยนิ มาก่อนหลุดจากปากของพี่ชาย
ยาสุชิเอียงคอฉงน
“เร็นทัล ชิลเดรนเหรอ”
“ใช่ ไม่ได้บอกให้ลมื ยูนะ แต่ถ้าได้ดูแลเด็ก แกกับฟุยูมิจังอาจจะ
สดชื่นขึ้นบ้าง”
ฟังแล้วจับสาระไม่ได้เลย
“เดี๋ยว นี่มันอะไรกัน เร็นทัล ชิลเดรนคืออะไร”
“ฉันก็ได้ยินมาจากคนรู้จักอีกที ไม่ค่อยรู้รายละเอียดหรอก แต่ดู
เหมือนจะมีทที่ รี่ วบรวมเด็กทีถ่ กู ทิง้ แล้วมีระบบให้เช่าเด็กเหล่านัน้ ช่วงระยะ
- 26 -
- 27 -
ไม่ทันไรบทสนทนาก็ขาดตอน
“เออ...ข้าวเย็น”
แต่ละค�ำต้องระมัดระวัง เราเป็นผัวเมียกันจริงๆ หรือนี่
“บนโต๊ะ”
“เหรอ...ขอบคุณนะ”
เสียจังหวะเปิดประเด็น ยาสุชิยืนแน่นิ่ง ฟุยูมริ ีดผ้าต่ออย่างเงียบๆ
“เอ่อ คือวันนี้ เจอพี่ตอนกลางวัน”
“...เจอคุณมาซาชิ”
“ใช่ จู่ๆ เขาชวน ทั้งที่งานยุ่งจะแย่”
ยาสุชิหัวเราะแห้งๆ ดังแหะๆ แต่ไม่มเี สียงตอบ
“นี่ ฟุยูมิ”
สีหน้ายาสุชิเปลี่ยนเป็นจริงจัง
“...คะ”
“อยากได้ลูกมั้ย”
แทนทีจ่ ะอธิบาย เขาลองถามตรงๆ สีหน้าฟุยมู เิ กิดการเปลีย่ นแปลง
ตาขยิบเล็กน้อย
“ความจริงคือพี่เอาเรื่องนี้มาบอก เหมือนมีบริษัทที่ให้รับฝากเด็ก
ถูกทิ้งช่วงนึงได้ เห็นว่าตอนนี้ลือกันไปทั่ว”
ค�ำว่าให้เช่าฟังดูไม่ดเี ลยไม่พูด
“คิดว่าเป็นโอกาสดี ถ้าฟุยูมิโอเค ลองไปดูสักหนไหม”
“ไม่ค่ะ”
เธอตอบทันควัน
“ทะ...ท�ำไม”
“ฉันคงคิดถึงใครไม่ได้นอกจากยู”
“เข้าใจนะ เข้าใจ แต่ฉนั ทนเห็นเธอเป็นอย่างนี้ไม่ได้อกี แล้ว”
“ท�ำไมหรือคะ”
- 29 -
“ท�ำไมนะเหรอ”
มือขวาฟุยูมิหยุดกึก
“ฉันปกติดีน่”ี
ปกติเข้าไปได้ยงั ไง แต่ยาสุชิกลืนค�ำนั้นไว้
“ยังไงจะรับเลีย้ งหรือเปล่าเอาไว้กอ่ น แค่ลองไปดูเท่านัน้ ไปได้มยั้ ”
เขาโน้มน้าว ฟุยูมิคิดชั่วครู่ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย
“ค่ะ”
ยาสุชิโล่งอก
“งั้นไปวันเสาร์นี้เลย โอเคนะ”
เสียงตอบของฟุยูมิเบาจนแทบไม่ได้ยนิ
ยาสุชิพยักหน้าก่อนออกจากห้อง...
ตลอด
สัปดาห์ในหัวยาสุชมิ แี ต่เรือ่ งเร็นทัล ชิลเดรน ถึงจะ
เชือ่ ครึง่ ไม่เชือ่ ครึง่ แต่เขาคิดว่าอาจต้องเช่าเด็กก็ได้
ถ้าเป็นช่วงสั้นๆ อาจลองดูได้ไม่ใช่หรือ
วันที่ 8 ตุลาคม วันเสาร์ตามสัญญามาถึง ยาสุชิตื่นตอน 8 โมง
ซึ่งช้ากว่าปกติเล็กน้อย และเตรียมพร้อมออกข้างนอกตอน 9 โมง
ฟุยูมินั่งอยู่คนเดียวบนโซฟาห้องนั่งเล่น ชุดวันพีซเนื้อหนาสีขาว
ปล่อยผมทิ้งตรง ไม่แต่งหน้า แต่ยาสุชไิ ม่คิดจะบ่นว่าอะไร
- 30 -
“งั้นไปกันเถอะ”
“ค่ะ”
ถึงจะเห็นเสื้อโปโลสีด�ำส�ำหรับฤดูใบไม้ร่วงซึ่งยาสุชิใส่ ฟุยูมิก็ไม่มี
ปฏิกิริยาใด
ทั้งที่เป็นของขวัญวันเกิดที่ฟุยูมิซื้อให้สมัยยูยงั มีชีวิต ปีนี้เพิ่งน�ำมา
ใส่ครั้งแรก แต่เหมือนเธอจะลืมมันหมดแล้ว
“วันนี้อากาศอาจอุ่นหน่อย”
วันนี้ฟ้าโปร่งไร้เมฆจนแสงแดดแสบสายตา วันอากาศดีแบบนี้ไม่มี
มานาน
“...จริงสินะคะ”
ยาสุชิและฟุยูมขิ ึ้นรถซึ่งจอดในโรงรถ ติดเครื่อง คาดเข็มขัดนิรภัย
ก่อนเหยียบคันเร่ง ยาสุชิหยิบกระดาษโน้ตที่ได้จากพี่ชายออกมา บันทึก
ที่อยู่ในระบบน�ำทาง
เขตชินจูกุ โตเกียว...
พอใส่เลขที่เสร็จ ระบบน�ำทางแสดงแผนที่ทันที เหมือนอยู่ริม
ถนนใหญ่
ในใจเขาตื่นเต้น
ยาสุชิกดปุ่มสตาร์ต จากนั้นเพียงขับตาม ถ้าทุกอย่างราบรื่น ไม่ถึง
ชั่วโมงคงถึงจุดหมาย ยาสุชิกุมพวงมาลัย เหยียบคันเร่งเบาๆ
“อีกสามร้อยเมตร เลี้ยวซ้าย”
ในรถมีเพียงเสียงของระบบน�ำทาง ฟุยมู เิ อาแต่มองทิวทัศน์ดา้ นนอก
คงเสียเวลาเปล่า จนป่านนี้ยาสุชิยังคิดแบบนั้น
- 31 -
- 32 -
- 33 -
ยาสุชิลุกขึ้น ส่งแบบฟอร์มที่กรอกเสร็จให้
“คุณยาสุชิ และคุณฟุยูมิ ซาโตยะนะครับ ขอบคุณที่ใช้บริการครับ
เชิญที่ห้องเลยครับ”
“ฟุยูมิ ไปกัน”
ยาสุชิและฟุยูมติ ามหลังชายคนนั้นขึ้นลิฟต์ไปชั้นสอง
“ทางนี้ครับ”
โถงทางเดินเงียบสงัด มีประตูหลายบาน ในแต่ละห้องมีลูกค้าอยู่
หรือเปล่านะ ดูท่าไม่น่ามี
ชายคนนั้นหยุดที่ห้องที่ 5
“เชิญเลยครับ”
เขาให้ยาสุชิและฟุยูมิเข้าไปก่อนแล้วปิดประตู
“เชิญนั่งครับ”
ห้องขนาดราว 10 ตารางเมตร ตรงกลางวางโซฟาสีขาวและโต๊ะ
สีด�ำ บนพื้นปูพรมสีครีม ผ้าม่านสีฟ้าสีเดียวกับสูทของชายเจ้าหน้าที่
ที่เห็นมีเพียงนี้
พอยาสุชิและฟุยูมินั่งลง ชายคนนั้นก็นั่งลงตรงข้าม
“ขออภัยทีย่ งั ไม่ได้แนะน�ำตัว ผมชือ่ โอกาโมโตะ ยินดีทไี่ ด้รจู้ กั ครับ”
ยาสุชิรับนามบัตร
ซาดาฮารุ โอกาโมโตะ ดูดีๆ อายุอานามน่าจะใกล้เคียงกับเขา
ดวงตาใจดี ปากอมยิ้ม ใบหน้าอ่อนโยนเหมือนแม้แต่แมลงก็ฆ่าไม่ลง
โอกาโมโตะถามขึ้นก่อน
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ารู้จกั ที่นี่จากไหนครับ”
ยาสุชิเงยหน้าขึ้นจากนามบัตร
“คือ จริงๆ แล้วคนรู้จกั ของพี่ชาย มา...เอ่อ ที่นี่”
ถึงเวลากลับไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี
“หรือครับ”
- 34 -