You are on page 1of 59

กาลิเลโอไขคดี

探偵ガリレオ
ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน
อนิษา เกมเผ่าพันธ์ แปล
TANTEI GALILEO by HIGASHINO Keigo
​© 1998 HIGASHINO Keigo
​All rights reserved.
​Original Japanese edition published by Bungeishunju Ltd., Japan
​Thai translation rights in Thailand reserved by Booktime under the license
granted by HIGASHINO Keigo, Japan
arranged with Bungeishunju Ltd.
​through Japan UNI Agency, Inc., Tokyo and Arika Interrights Agency

พิมพ์ครั้งที่ 1 : ตุลาคม 2561


จัดพิมพ์โดย สำ�นักพิมพ์ไดฟุกุ-ลิท
บริษัท ไดฟุกุ ครีเอเตอร์ จำ�กัด

ฮิงาชิโนะ, เคโงะ.
กาลิเลโอไขคดี.-- กรุงเทพฯ : ไดฟุกุ ครีเอเตอร์, 2561.
296 หน้า.
1. นวนิยายญี่ปุ่น. I. อนิษา เกมเผ่าพันธ์, ผู้แปล. II. ชื่อเรื่อง.
895.63
ISBN 978-616-448-008-7

ประธานกรรมการบริหาร : จินตนา เฉลิมชัยกิจ


กรรมการผู้จัดการ : อลีน เฉลิมชัยกิจ
ที่ปรึกษา : วงศ์สิริ สังขวาสี มิยาจิ
บรรณาธิการบริหาร : วรุตม์ ทองเชื้อ
บรรณาธิการต้นฉบับแปล : สุรีรัตน์ งามสง่าพงษ์
บรรณาธิการพิเศษ : ลัลตรา วรสุมาวงษ์ นิวะบะระ
บรรณาธิการเล่ม : นันทวัชน์ สกลกูล
กองบรรณาธิการ : ณัฐหทัย นำ�ศิริวิวัฒน์, เกวลี ดวงเด่นงาม
ออกแบบปกฉบับภาษาไทย : เชนิสา เพื่อวงษ์
ศิลปกรรม : Vinussa
พิสูจน์อักษร : กัญจรี ชาญรอบ
ฝ่ายการตลาด : อัคคณัฐ ชุมนุม
ฝ่ายขาย : มนัญชยา ศิริวงษ์, อุดร ปัญญาชัย
จัดจำ�หน่ายโดย : สายส่งสุขภาพใจ บริษัท บุ๊ค ไทม์ จำ�กัด
214 ซอยพระรามที่ 2 ซอย 38 ถนนพระรามที่ 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. 10150
โทรศัพท์ : 0 2415 2621, 0 2415 6507
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์
ฮิงาชิโนะ เคโงะ เป็นนักเขียนเรื่องสอบสวนลึกลับที่มีพลังดึงดูดมหาศาล
ในจักรวาลวรรณกรรม ดอกไม้แห่งการจดจ�ำคือการวางพลอตเรื่องที่แปลกใหม่
น่าทึ่งชวนลุ้น อ่านง่ายกระชับฉับไว สนุกไปกับการคลี่คลายปมปริศนาสุดระทึกและ
เสน่ห์แห่งดราม่าที่ผู้อ่านชื่นชอบ
เข้มข้นด้วยเนื้อหาและลีลาการเขียนขนาดนี้ได้รับการแปลหลากหลายภาษา
ถึงระดับกว่าสิบล้านเล่ม ถูกน�ำไปดัดแปลงเป็น ละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ มากมาย
รวมทั้งซีรีส์กาลิเลโอที่ประสบความส�ำเร็จอย่างล้นหลาม กลลวงซ่อนตาย และ
พิษรักสั่งตาย ก็เป็นหนึ่งในซีรีส์นี้
เล่มนี้ “กาลิเลโอไขคดี (Tantei Galileo)” ปฐมบทของซีรีส์กาลิเลโอ ที่นอกจาก
การไขปริศนาอันน่าทึง่ แล้ว ตัวละครล้วนมีเอกลักษณ์ สร้างสีสนั ให้เรือ่ งราว บทสนทนา
เข้าถึงอารมณ์ความรู้สกึ อ่านเพลินเหมือนถูกจูงมือให้เดินเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์
ตัวละครเด่นในบทบาทนักสืบจ�ำเป็นอย่าง “ยุกาว่า มานาบุ” ก็ฉลาด
เฉียบคม เท่ หล่อ และเกรียนเป็นที่สุด สมกับเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะแห่ง
ห้องวิจัยที่ 13 มหาวิทยาลัยเทโตะ ผู้เปิดประตูห้องวิจัยต้อนรับทีมต�ำรวจสืบสวน
เพื่อร่วมไขคดีคลี่คลายด้วยหลักฟิสิกส์ที่ซับซ้อนแต่เข้าใจไม่ยาก
ส�ำนักพิมพ์ไดฟุกุ-ลิท เชื่อมั่นว่าผู้อ่านทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับเรื่องราว
การไขคดีปริศนาต่างๆ ด้วยวิทยาศาสตร์อันน่าทึ่ง โปรดระวัง! หัวใจท่านจะติดหนึบ
ฝันหาแต่ผลงานของฮิงาชิโนะ เคโงะ ไม่มที ี่สิ้นสุด

อลีน เฉลิมชัยกิจ
ผู้ก่อตั้งส�ำนักพิมพ์ไดฟุกุ-ลิท
ตุลาคม 2561
ค�ำน�ำนักแปล
หากจะบอกว่าผลงานเรื่องนี้เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจในฐานะ
นั ก แปลเลยก็ ค งไม่ ผิ ด เพราะโดยส่ ว นตั ว ชอบงานวรรณกรรมของ
อ. ฮิงาชิโนะ เคโงะ อยู่ก่อนแล้ว มิหน�ำซ�้ำซีรีส์กาลิเลโอนี้ยังโด่งดังเป็น
พลุแตกจนถูกน�ำมาสร้างเป็นละครทีวี ภาพยนตร์จอเงิน น�ำแสดงโดย
นักร้องหนุ่มมาดเท่ ฟุคุยามะ มาซะฮารุ ช่วง ค.ศ. 2007-2008 ซึ่งยอมรับ
เลยว่าแปลไปก็กุมขมับไป เนื่องจากศัพท์ฟิสิกส์เอย ศัพท์เฉพาะทาง
เอยมาเต็มมาก แต่ด้วยวิธีการน�ำเสนอแบบไม่เน้นความซับซ้อน อ่านง่าย
ชวนให้ลุ้นตามสไตล์ของ อ. ฮิงาชิโนะ เลยกลายเป็นแปลเพลินจนถึง
บรรทัดสุดท้าย และกล้าพูดเลยว่าคงหานิยายแนวสืบสวนซึง่ ใช้หลักฟิสกิ ส์
มาแย้งประเด็นเหนือธรรมชาติ ไขปริศนาแปลกประหลาดทั้งหลายได้
อย่างยียวนเท่ากาลิเลโอไม่ได้อกี แล้ว!!

อนิษา เกมเผ่าพันธ์
ผู้แปล
กาลิเลโอไขคดี
สารบัญ

คดีที่ 1 ลุกไหม้ 8
คดีที่ 2 คัดลอก 66
คดีที่ 3 เน่าเปื่อย 122
คดีที่ 4 จุดระเบิด 181
คดีที่ 5 หลุดลอย 237






ฮิงาชิโนะ เคโงะ
探偵ガリレオ

คดีที่ 1
ลุกไหม้

1
“...เมื่อหันกลับไปมอง ก็เห็นว่าสามีสวมหน้ากากอยู่ หน้ากากนี้
เป็นหน้ากากที่ไม่แสดงสีหน้าใดๆ ท�ำจากโลหะสีเงินวาว สามีมักหยิบมา
ใช้ยามต้องการปิดซ่อนอารมณ์ความรู้สกึ นั้น หน้ากากนี้ท�ำขึ้นให้แนบเข้า
กับแก้มผอมตอบ ล�ำคอ และกึ่งกลางหน้าผากของสามีอย่างพอดิบพอดี
มันจะเปล่งประกายแวววับ ยามสามีหยิบอาวุธขึ้นมาและจ้องมองมันนิ่ง
อาวุธนั้น”
พออ่านมาถึงตรงนี้ เขาก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์วิ่ง
ใกล้เข้ามาทุกขณะ เขาเดินไปตรงหน้าต่างโดยทีใ่ นมือยังถือ ‘จดหมายเหตุ
จากชาวอังคาร’ ของเรย์ เบรดบิวรี่ 1 และแง้มม่านออกเล็กน้อย
1
Ray Bradbury (22 สิงหาคม 1920 - 22 มิถุนายน 2012) นักแต่งนิยายชาวอเมริกัน
ผลงานส่วนใหญ่เป็นนวนิยายแนววิทยาศาสตร์ลกึ ลับ และแนวจินตนาการเพ้อฝัน

-8-
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ห้องของเขาอยู่ช้ันสอง ตรงหัวมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เมือ่ มองจากหน้าต่างด้านทิศตะวันออกลงไปด้านล่างทางซ้าย จะเห็นถนน
รูปตัว T ซึ่งเป็นทางตัน
คืนนี้มีมอเตอร์ไซค์สามคัน แต่ว่ามีคนทั้งหมดห้าคน สรุปคือมี
สองคันทีม่ คี นนัง่ ซ้อนท้าย คนพวกนัน้ บิดเร่งเสียงเครือ่ งยนต์แสนระคายหูที่
ดูอย่างไรก็คดิ ได้แค่วา่ เป็นการจงใจท�ำ ก่อนไปจับกลุม่ กันทีเ่ ดิมเช่นทุกครัง้
สถานทีค่ อื สุดถนนด้านทิศตะวันออก ตรงนัน้ เป็นป้ายรถประจ�ำทาง
มีเก้าอี้ส�ำหรับให้คนที่มารอรถประจ�ำทางตอนกลางวันได้นั่ง ดูเหมือนว่า
พวกเด็กหนุ่มสิงห์มอเตอร์ไซค์จะค่อนข้างถูกใจการนั่งตรงนั้นพลางพูดคุย
เรื่องไร้สาระเสียงดังลั่นไร้ความเกรงใจ มิหน�ำซ�้ำใกล้ๆ กันนั้นยังมีตู้ขาย
น�้ำอัตโนมัติไว้คอยบริการเสร็จสรรพเสียด้วย
จะเรียกว่าแก๊งซิ่งก็คงไม่ถึงขั้นนั้น เท่าที่ดูมีแต่พวกวัยรุ่นธรรมดาๆ
เด็ ก หนุ ่ ม สองคนย้ อ มผมสี น�้ ำ ตาล อี ก คนหนึ่ ง ใส่ ก างเกงจะหลุ ด แหล่
มิหลุดแหล่ ส่วนอีกสองคนทีเ่ หลือไม่มจี ดุ เด่นอะไรเป็นพิเศษ จะมีกแ็ ค่หนึง่
ในนั้นไว้ผมยาวลงมาถึงช่วงบ่าเท่านั้น
อย่างไรก็ดี เขาก็คดิ ว่า ถึงแม้ภายนอกจะดูเป็นแค่เด็กวัยรุน่ ธรรมดา
แต่คนพวกนี้ก็เรียกได้ว่าท�ำตัวแย่ย่งิ กว่าพวกแก๊งซิ่งเสียอีก
เขาเปิดหนังสือ ‘จดหมายเหตุจากชาวอังคาร’ ที่ถืออยู่ในมือ
เขาอ่านค้างอยู่ที่บทซึ่งมีชื่อว่า ‘เดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1999 อิลล่า’
เขาจ�ำไม่ได้ว่าตัวเองอ่านบทนี้ซำ�้ มาแล้วกี่รอบ ที่แน่ๆ คือ เขาอ่านจนถึง
ขนาดท่องปากเปล่าได้เลยทีเดียว ขืนเป็นเช่นนี้ กว่าจะอ่านจบคงต้องใช้
เวลาอีกหลายวันเป็นแน่
หนึง่ ในกลุม่ เด็กวัยรุน่ ตะโกนโหวกเหวกขึน้ มาอย่างไม่มสี าเหตุ และ
พอคนอื่นได้ยินเสียงนั้น ก็พากันระเบิดเสียงหัวเราะดังสนั่นตาม เสียง
ของพวกเขากังวานไปทั่วเมืองที่เงียบสงบ แถวนี้แทบไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่าน
ยามดึกเสียด้วย

-9-
探偵ガリレオ

เขาถอยห่างออกจากหน้าต่าง และวางหนังสือนวนิยายลงบนโต๊ะ
แล้วจึงขยับไปที่โทรศัพท์ซ่งึ วางอยู่มุมห้อง

มุคาอิ คาซึฮิโกะย้อมผมเป็นสีน�้ำตาล และรวบปอยผมไว้ด้านหลัง


เขาหวังเหลือเกินว่าผมทรงนีจ้ ะช่วยให้เขาดูแตกต่างจากคนปกติทวั่ ไปบ้าง
แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี
ปีน้ีเขาอายุสิบเก้า หลังจากเรียนจบมัธยมปลายเมื่อหนึ่งปีก่อน
เขาก็เข้าท�ำงานที่บริษัทรับจ้างทาสี แต่เนื่องจากไม่ชอบที่ต้องโดนผูกมัด
เรือ่ งเวลาท�ำงาน ซ�ำ้ ค่าแรงก็นอ้ ยไม่คมุ้ เหนือ่ ย เขาจึงลาออกเมือ่ สามเดือน
ก่อน เงินที่เก็บออมได้ในช่วงเวลาปีกว่าถูกเอาไปผลาญกับมอเตอร์ไซค์
มือสองหนึ่งคันและค่าเกม ตอนนี้เขาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ จึงไม่เดือดร้อน
เรื่องค่ากินอยู่มากนัก เพียงแต่ เขาเบื่อที่พ่อแม่เอาแต่บ่นว่าสุดทนกับ
ลูกชายที่เอาแต่ร่อนไปร่อนมาไม่เลิก และเพื่อจะได้ไม่ต้องไปเจอหน้า
พ่อแม่ เขาจึงใช้วิธีเตร็ดเตร่อยู่นอกบ้านจนดึกดื่นแบบนี้
เขายืนอยู่หน้ามอเตอร์ไซค์ของตัวเอง ปากคาบบุหรีม่ าร์โบโลเอาไว้
ส่วนมือก็หยอดเหรียญใส่ลงไปในเครื่องขายน�้ำอัตโนมัติ และกดที่ปุ่ม
เครื่องหมายโคล่า จากนั้นกระป๋องอ้วนๆ ก็ร่วงลงมาพร้อมเสียงดังกึงกัง
เขาก้มลงหยิบกระป๋องโคล่าออกมาจากช่อง แล้วสายตาก็พลันไป
เห็นสิ่งของไม่คุ้นตาวางอยู่ข้างตู้ขายน�้ำอัตโนมัตินั้น
อย่ า งแรกที่เ ห็น ก็คือ ลัง พลาสติก ส�ำ หรับ ใส่ ข วดเบีย ร์ สี่ลัง วาง
ซ้อนกัน ข้างบนนัน้ มีวสั ดุทรงสีเ่ หลีย่ มขนาดใหญ่ประมาณกระเป๋ากีฬา หุม้
ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์วางทับอยู่ น่าแปลกแฮะ คาซึฮิโกะคิด ตู้ขายน�้ำ
อัตโนมัตินี้ไม่มีเบียร์ขายสักหน่อย แล้วไอ้ที่อยู่ในกระดาษหนังสือพิมพ์น้ี
คืออะไรกัน
ทว่าหลังจากนัน้ ไม่นานเขาก็เลิกใส่ใจ คาซึฮโิ กะดึงฝากระป๋องโคล่า
แล้ ว ยกขึ้ น ดื่ ม พลางหั น ไปเข้ า ร่ ว มวงสนทนากั บ เพื่ อ นๆ สี่ ค นที่ เ หลื อ
- 10 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ซึ่ ง ก� ำ ลั ง คุ ย กั น เรื่ อ งกลุ ่ ม เด็ ก สาวมั ธ ยมปลายที่ รู ้ จั ก กั น ในแหล่ ง เที่ ย ว


กลางคืนเมือ่ ไม่นานมานี้ และคุยเลยไปถึงว่าผูห้ ญิงคนไหนดูทา่ ทางจะยอม
ให้มีอะไรด้วยง่ายทีส่ ุด สุดท้ายหัวข้อสนทนาก็มักหนีไม่พ้นเรื่องแบบนั้น
ส�ำหรับคาซึฮิโกะแล้ว สี่คนนี้ไม่ถึงขั้นที่เรียกได้ว่าเป็นมิตรแท้
ความสัมพันธ์อันน่าเบื่อหน่ายแบบนั้นเขาไม่ต้องการ ขอแค่ให้ได้ทำ� เรื่อง
สนุกด้วยกันเท่านั้นเป็นพอ และเขาเองก็ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายร้องขอ
อะไรจากตัวเขามากไปกว่านั้นด้วย
ยามาชิตะ เรียวสุเกะ หนึ่งในกลุ่มเริ่มเล่าเรื่องผู้หญิงที่ตัวเองไป
จีบมา ชายผู้ภาคภูมิใจในผมยาวสลวยของตัวเองแถมยังมีนิสัยชอบเอา
มือเสยผมไปพูดไป คาซึฮโิ กะยืนฟังเรือ่ งโม้โอ้อวดของยามาชิตะ เรียวสุเกะ
อยู่ข้างๆ มอเตอร์ไซค์ของตัวเอง อีกสองคนนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ส่วนอีกคนที่
เหลือนั่งคร่อมอยู่บนอานรถมอเตอร์ไซค์
“แล้วทีนนี้ ะเว้ย พอเข้าห้องได้ป๊บุ หล่อนก็มาบอกว่า สรุปใช้ถงุ ยาง
ดีกว่า แต่ฉันไม่อยากใช้ ตอนแรกเลยกะจะแกล้งท�ำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่เจ้า
หล่อนดันมีพกติดตัวเสียงัน้ ฉันเลยต้องจ�ำใจใส่วะ่ แต่กอ่ นใส่ฉนั ใช้เล็บจิกจน
ตรงปลายขาดเป็นรู ทีนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับไม่ใส่เลยใช่ไหม ผู้หญิงก็อุ่นใจ
เพราะเห็นว่าใส่ถงุ ยางแล้ว แต่พอมารูท้ หี ลังว่าถุงยางขาด หล่อนก็โวยวาย
ใหญ่ ฉันเลยสวนกลับไปว่าของมันขาดไปแล้วจะให้ท�ำยังไงล่ะ เพื่อเป็น
การตัดร�ำคาญ ฉันเลยให้ช่อื กับเบอร์โทรศัพท์ปลอมไป”
ดูท่าทางยามาชิตะ เรียวสุเกะจะภาคภูมิใจกับเรื่องที่ก�ำลังเล่าอยู่
นี่เสียเหลือเกิน หลักฐานที่แสดงว่าเขารู้สกึ เช่นนั้นก็คือ รูจมูกของเขาบาน
กว่าปกติเล็กน้อยขณะพูด
“แกนี่มันเลวได้ใจจริงๆ ว่ะ”
“ป่านนี้อาจท้องไปแล้วก็ได้มั้ง”
คนอื่นๆ พากันแสดงความเห็นแถมแสยะยิ้ม และดูเหมือนว่า
ยามาชิตะ เรียวสุเกะจะพึงพอใจกับท่าทีของทุกคนอยู่ไม่น้อย
- 11 -
探偵ガリレオ

“ใครจะไปสนวะ เรื่องพรรค์นั้น ถ้าไม่อยากท้องก็อย่าท�ำแต่แรก


สิวะ” เขาคุยโว
ดูเหมือนเจ้าตัวคงตั้งใจจะพูดโอ้อวดต่ออีกสักประโยคเพื่อเสริม
สรรพคุณของตัวเอง ยามาชิตะ เรียวสุเกะจึงยกมือสองข้างขึ้นเสยผม
เหมือนอย่างที่ท�ำเป็นประจ�ำ และในจังหวะที่เขาก�ำลังจะขยับปากนั้นเอง
จู่ๆ ตาของเขากลับเบิกโพลงแทบถลน และในเวลาเดียวกัน สิ่งที่
ยากจะเชื่อก็บังเกิดขึ้น
มีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นมาจากด้านหลังศีรษะของยามาชิตะ เพียง
ชั่วพริบตา เปลวไฟนั้นก็โหมลามไปทั่วทั้งศีรษะของเขา
ยามาชิตะค่อยๆ ล้มลงมาด้านหน้าอย่างเชื่องช้าโดยไม่ส่งเสียง
ร้องสักแอะ ดูแล้วไม่ต่างอะไรกับต้นไม้ใหญ่ท่ลี ้มในสภาพยังติดไฟ
ระหว่างนั้น คาซึฮิโกะและคนอื่นๆ อีกสามคนไม่สามารถเปล่ง
เสียงใดๆ ออกมาได้เลย พวกเขาได้แต่ยืนตะลึงงัน มองภาพเหตุการณ์
ที่ดูราวกับเป็นภาพช้าในจอตรงหน้านั้น
ในความเป็นจริงแล้ว ระยะเวลาที่พวกเขายืนเหม่ออยู่เป็นเวลา
แค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ทันใดนั้น ตาซ้ายของคาซึฮิโกะก็เหลือบไปเห็นว่า
ของในห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ที่เขาเห็นเมื่อสักครู่ เริ่มลุกไหม้ขึ้นมา
เช่นกัน และในวินาทีน้ันเอง ที่สัญชาตญาณของเขาบอกให้รู้ว่าตัวเอง
ก�ำลังตกอยู่ในอันตราย
เพียงเสี้ยววินาทีหลังจากนั้น ก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น
พร้อมกับคลื่นเปลวเพลิงที่โหมเข้าโอบล้อมร่างของเขา

- 12 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

2
ตอนที่คุซานางิ ชุนเปจากฝ่ายงานสืบสวนที่ 1 กองบัญชาการ
ต�ำรวจนครบาลเดินทางมาถึงสถานทีเ่ กิดเหตุดว้ ยรถคูใ่ จ เปลวเพลิงได้มอด
ไปหมดแล้ว และเจ้าหน้าที่จากหน่วยดับเพลิงก็ก�ำลังจะกลับพอดี พวก
อยากรู้อยากเห็นที่มุงดูกนั ก็เริ่มทยอยแยกย้ายทางใครทางมันเหมือนกัน
คุซานางิลงจากรถ ทว่าขณะก�ำลังจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่เกิดเหตุ
เขาเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดวอร์มสีแดงก�ำลังเดินตรงมาจากทาง
ด้านหน้า เป็นเด็กผู้หญิงตัวจ�้ำม�ำ่ หน้ากลม อายุน่าจะอยู่ช่วงก�ำลังจะขึ้น
ชั้นประถมหรือไม่ก็อยู่ชั้นประถมปีท่หี นึ่ง ไม่รู้เพราะอะไร เด็กหญิงตัวน้อย
คนดังกล่าวจึงเดินแหงนหน้ามาตลอดทาง สายตามองไปข้างบนคล้าย
กับว่าก�ำลังมองหาอะไรบางอย่าง
เดินแบบนัน้ มันอันตรายนะหนู คุซานางิตงั้ ใจจะส่งเสียงเตือนเช่นนัน้
แต่ยังไม่ทันได้พูดออกไป เด็กหญิงตัวน้อยก็สะดุดล้มหน้าคะม�ำเสียก่อน
และเธอก็ส่งเสียงร้องไห้จ้า
คุซานางิลนลานวิง่ เข้าไปอุม้ เด็กหญิงตัวน้อยให้ลกุ ขึน้ ยืนทันที และ
สังเกตเห็นว่ามีเลือดออกที่หัวเข่าของเด็กหญิง
“อ๊ะ ขอบคุณค่ะ” ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งคาดว่าคงเป็นแม่ของเด็กหญิง
วิง่ เข้ามาหา “เห็นไหมล่ะ แม่บอกว่าให้เดินมาพร้อมกันก็ไม่เชือ่ ต้องขอโทษ
ด้วยนะคะ จริงๆ เลย รออยู่ท่บี ้านก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ”
คุซานางิอยากพูดเหลือเกินว่า ก่อนดุลูก ตัวคุณเองนั่นแหละที่
ไม่ควรออกมาดูไฟไหม้ในยามวิกาลแบบนี้ แต่เขาเลือกที่จะนิ่งไว้ก่อนส่ง
ตัวเด็กหญิงให้ผู้เป็นแม่
“ก็หนูเห็นเส้นด้ายสีแดงนี่นา มันมีอยู่จริงๆ นะ” เด็กหญิงบอก
- 13 -
探偵ガリレオ

พลางร้องไห้กระซิก
“ของแบบนั้นมีที่ไหนกัน ตายแล้ว เสื้อผ้าเลอะหมดเลย”
“แต่หนูเห็นจริงๆ นะ เส้นด้ายสีแดง เป็นด้ายที่ยาวมากๆ เลย
มันมีจริงๆ นะ”
คุซานางินึกสงสัยในใจว่าเส้นด้ายสีแดงที่ว่านั้นคืออะไรหนอ ขณะ
ถอยห่างออกมาจากคู่แม่ลูก
เมื่อไปถึงสถานที่เกิดเหตุ เขาพบผู้ชายสองสามคนยืนอยู่กึ่งกลาง
ถนน ซึง่ ตรงกลางเป็นสีดำ� ปี๋ หนึง่ ในนัน้ คือสารวัตรมามิยะซึง่ เป็นหัวหน้างาน
ของคุซานางิ
“ขอโทษที่มาช้าครับ” นายต�ำรวจหนุ่มพูดขึ้นหลังวิ่งเหยาะเข้าไป
หาหัวหน้าของตัวเอง
“ว่าไง” มามิยะพยักหน้าให้เล็กน้อยแทนการทักทาย มามิยะ
มีรูปร่างเตี้ยป้อม คอก็สั้น ใบหน้าดูเป็นคนมีอัธยาศัยดี แต่ดวงตามีความ
เฉียบคมพอตัว ดูเผินๆ แล้วให้บรรยากาศเหมาะเป็นนายช่างฝีมอื ดีมากกว่า
เป็นต�ำรวจมือปราบ
“วางเพลิงหรือครับ”
“เปล่า ตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้น่ะ”
“กลิ่นน�้ำมันเบนซินหึ่งเลยนะครับนี่” คุซานางิท�ำจมูกฟุดฟิด
“ดูเหมือนว่าของที่ใส่ไว้ในถังใส่น�้ำมันจะเกิดติดไฟขึ้นมาน่ะ”
“ถังใส่น�้ำมันหรือครับ ท�ำไมถึงได้มถี ังน�้ำมันวางอยู่ได้ล่ะครับ”
“ไม่รเู้ หมือนกัน ลองดูนนั่ ซิ” มามิยะชีไ้ ปยังวัตถุซงึ่ กลิง้ อยูก่ ลางถนน
ถ้าดูไม่ผดิ มันน่าจะเป็นถังทีม่ ไี ว้ใส่นำ�้ มันก๊าด ตรงกลางด้านข้างถัง
นั้นไหม้จนละลายเป็นรูขนาดใหญ่ เรียกได้ว่าแทบจ�ำสภาพเดิมไม่ได้เลย
ด้วยซ�้ำ “ฉันลองสอบปากค�ำผู้เคราะห์ร้ายดูแล้ว แต่บอกได้ค�ำเดียวว่า
ยิ่งฟังก็ยิ่งงง ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่” หัวหน้ามามิยะส่ายหน้าไปมา
“ผู้เคราะห์ร้ายที่ว่าคือใครครับ”
- 14 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

“เป็นผู้ชายอายุยังไม่ถึงยี่สิบดี มีกันห้าคน” จากนั้นมามิยะก็พูด


ต่อชนิดขวานผ่าซากว่า “ตายหนึ่งคน”
คุซานางิซึ่งก�ำลังจดบันทึกเงยหน้าขึ้น เมื่อได้ยินประโยคนั้น
“โดนไฟคลอกตายหรือครับ”
“ก็นะ รู้สกึ ว่าจะยืนอยู่ตรงหน้าถังน�้ำมันพอดีน่ะ”
คุซานางิพยายามข่มความรู้สกึ พะอืดพะอมเอาไว้ ก่อนจดเรื่องนั้น
ลงไปในสมุดบันทึกด้วย ถึงแม้ว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่การต้อง
มาเกี่ยวพันกับคดีที่มีคนตายนั้นไม่ใช่ส่งิ ที่น่าพิสมัยสักเท่าไรนัก
“นายช่วยไปสอบถามคนที่อาศัยอยู่ละแวกนี้มาทีได้ไหม ตอนเกิด
เหตุน่าจะมีคนยังไม่นอนอยู่เยอะเหมือนกัน ถ้ายังไงลองไปดูตามห้องที่
ยังเห็นเปิดไฟก็แล้วกัน”
“ทราบแล้วครับ” คุซานางิตอบพลางเหลียวมองบริเวณโดยรอบ
เป้าหมายแรกของเขาคืออพาร์ตเมนต์ที่อยู่ตรงมุมถนนไม่ห่างออกไปนัก
หน้าต่างหลายบานยังมีแสงไฟส่องสว่างอยู่
อพาร์ตเมนต์หลังดังกล่าวเป็นอาคารสองชั้นค่อนข้างเก่า ประตู
ห้ อ งหลายบานหั น หน้ า ออกสู ่ ถ นนเส้ น ที่ วิ่ ง ระหว่ า งทิ ศ ตะวั น ออกกั บ
ทิศตะวันตก ระเบียงห้องตั้งอยู่ทางทิศใต้ หรือพูดอีกอย่างก็คือตั้งอยู่
ฝั่งตรงข้ามกับถนน ห้องที่มีหน้าต่างมีแค่ห้องที่อยู่ตรงมุมสุด ดังนั้น
ห้องที่จะชมองออกมาเห็นสถานที่เกิดเหตุได้ ก็คงมีแค่ห้องมุมสุดด้าน
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้น
คุซานางิเดินเข้าไปใกล้อพาร์ตเมนต์ ในจังหวะเดียวกันกับที่วัยรุ่น
คนหนึ่งก�ำลังจะเข้าไปในห้องพักที่อยู่มุมสุดด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ของชั้นที่หนึ่งพอดี วัยรุ่นคนนั้นหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าและสอด
เข้าไปในรูกญุ แจประตูห้อง
“ขอโทษนะครับ” คุซานางิส่งเสียงเรียกขณะที่อีกฝ่ายยังคงหัน
หลังให้อยู่
- 15 -
探偵ガリレオ

ชายหนุ่มคนนั้นหันกลับมา ดูแล้วอายุน่าจะประมาณยี่สิบกว่าๆ
ตัวสูง สวมชุดช่างสีเทา ในมือถือถุงพลาสติกสีขาว เดาได้ว่าอาจเพิ่งกลับ
มาจากซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ
“คุณรูเ้ รือ่ งอุบตั เิ หตุไฟไหม้ทเี่ กิดขึน้ ใกล้ๆ นีเ้ มือ่ กีไ้ หมครับ” คุซานางิ
ชี้ไปทางถนนรูปตัว T หลังเอ่ยแนะน�ำตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“รู้สิครับ เรื่องใหญ่ออกขนาดนั้น”
“ตอนนั้นคุณอยู่ในห้องหรือเปล่าครับ” สายตาของคุซานางิมองไป
ยังบานประตูซ่งึ มีแผ่นป้ายเขียนตัวเลข 105 ติดอยู่
“ก็อยู่ครับ” ชายหนุ่มตอบเพียงเท่านั้น
“ก่อนหรือหลังเกิดเหตุ มีอะไรผิดสังเกตบ้างไหมครับ อย่างเช่นว่า
ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว หรือว่าเห็นอะไรแปลกๆ บ้างหรือเปล่าครับ”
“อืม ไม่รู้เหมือนกันสิครับ” ชายหนุ่มเอียงคอ “ตอนนั้นผมก�ำลัง
ดูโทรทัศน์อยู่ รู้แต่ว่าไอ้พวกนั้นมาส่งเสียงดังเอะอะก็เท่านั้นเอง”
“ไอ้พวกนัน้ ทีว่ า่ นี่ หมายถึงพวกเด็กวัยรุน่ ทีข่ มี่ อเตอร์ไซค์ใช่ไหมครับ”
“ครับ” ชายหนุ่มตอบพร้อมท�ำหน้าเบ้เล็กน้อย
“เป็นประจ�ำทุกสุดสัปดาห์เลยล่ะครับ ไม่รู้ว่ามาจากไหนกัน ตีสอง
ตีสามแล้ว ไอ้พวกนั้นก็ยังส่งเสียงดังโหวกเหวกไม่เลิก ทั้งที่แถวนี้เคยเป็น
เมืองที่เงียบสงบน่าอยู่แท้ๆ...”
ผู้พูดขบริมฝีปากเล็กน้อย เห็นชัดเลยว่า ความโกรธแค้นที่อัดแน่น
อยู่ในใจจากสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจ�ำนั้นแฝงเร้นอยู่ในน�้ำเสียง
เด็กวัยรุ่นพวกนั้นคงเจอสวรรค์ลงโทษเสียแล้ว ค�ำพูดนี้เกือบหลุด
ออกมาจากปากของคุซานางิ เขาจึงต้องรีบกลืนมันกลับลงไป เพราะฟังดู
เป็นค�ำพูดที่ไม่ส�ำรวมและไม่เหมาะกับกาลเทศะสักเท่าไรนัก
“เคยมีใครออกไปตักเตือนพวกเขาหรือเปล่าครับ”
“ตักเตือนหรือ เหอะ” ชายหนุ่มยักไหล่พร้อมกับแค่นเสียงหัวเราะ
เหยียด “ในญี่ปุ่นสมัยนี้ยังมีคนท�ำอย่างนั้นอยู่อีกหรือครับ”
- 16 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

นั่นก็จริง ต�ำรวจหนุ่มพยักหน้าพลางคิดในใจ
“จากห้องคุณมองออกไปเห็นสถานที่เกิดเหตุไหมครับ”
“ก็ควรจะ...เห็นนะครับ เมื่อก่อนน่ะ” ค�ำตอบของชายหนุ่มฟังดู
ก�ำกวมอย่างไรชอบกล
“หมายความว่ายังไง”
พอคุซานางิถามกลับ อีกฝ่ายก็เปิดประตูออกกว้าง “เข้าไปดูขา้ งใน
แล้วก็จะรู้เองล่ะครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น คุซานางิก็ชะโงกหน้าเข้าไปมองส�ำรวจภายใน
ห้องพัก ห้องนั้นเป็นห้องเดี่ยวขนาดแปดเสื่อ1 กว่าๆ พื้นที่ซึ่งเป็นห้องครัว
ขนาดเล็กกะทัดรัดตั้งอยู่ตรงหน้าประตูพอดี เครื่องเรือนซึ่งเรียกได้ว่า
เป็นกรรมสิทธิ์ของชายหนุ่มมีแค่เตียง ชั้นวางหนังสือ และโต๊ะกระจก
เท่านั้น บนโต๊ะมีโทรศัพท์ไร้สายวางอยู่ แต่คุซานางิเดาว่าคนที่อยู่ที่นี่
คงไม่มีโอกาสได้ใช้โทรศัพท์ตัวลูกเสียกระมัง บนชั้นหนังสือมีม้วนวิดีโอ
กับข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจ�ำวันจิปาถะจ�ำนวนมากวางเรียงรายอยู่
มากกว่าจ�ำนวนหนังสือ
“เอ่อ แล้วหน้าต่างล่ะครับ”
“อยู่ด้านหลังนั่นครับ” พูดแล้วชายหนุ่มก็ชี้ไปที่ชั้นหนังสือ “พอดี
ไม่มีที่แล้ว ผมเลยต้องเอามาวางปิดตรงหน้าต่างไปเลยน่ะครับ”
“อย่างนี้นี่เอง”
“แต่ก็นะ ผมว่าแบบนี้มันช่วยกั้นเสียงเอะอะจากข้างนอกให้ผม
ได้อยู่ไม่มากก็น้อยล่ะครับ” ชายหนุ่มเสริม
“ท่าทางคุณจะหัวเสียกับเรื่องนั้นพอสมควรนะครับ”
“คนที่อาศัยอยู่แถวนี้เขาคิดเหมือนผมกันทั้งนั้นแหละครับ”

1
1 เสื่อ = 1.6562 ตารางเมตร

- 17 -
探偵ガリレオ

“อ้อ” สายตาของคุซานางิไปหยุดอยู่ที่หูฟังซึ่งเสียบติดอยู่กับ
โทรทัศน์ บางทีผู้ชายคนนี้คงใช้วิธีเสียบหูฟังดูโทรทัศน์แบบนี้เพื่อหลีกหนี
จากความน่าร�ำคาญของเสียงเอะอะภายนอก ถ้าอย่างนั้น หากมีเสียงดัง
ผิดปกติเกิดขึ้นจริง ก็มีความเป็นไปได้น้อยมากที่เขาจะได้ยนิ
“ขอบคุณส�ำหรับความร่วมมือครับ” คุซานางิกล่าวทิ้งท้าย แม้ว่า
จะไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่การเอ่ยค�ำขอบคุณต่อผู้ให้
ความร่วมมือนั้นถือเป็นมารยาทอย่างหนึ่งที่พึงปฏิบัติ
“เอ่อ...” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น “จะขึ้นไปถามคนที่อยู่ห้อง 205 ด้วย
หรือเปล่าครับ”
“ห้อง 205 ที่ว่านี่คือห้องที่อยู่ด้านบนเหนือห้องนี้พอดีใช่ไหมครับ
อื้ม ก็ตั้งใจไว้ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน”
“อย่างนั้นหรือครับ” อีกฝ่ายท�ำท่าเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง
“มีอะไรหรือครับ”
“เอ๊ะ เอ่อ...ที่จริง” หลังจากท�ำท่าอึกอักลังเลอยู่พักหนึ่ง ในที่สุด
ชายหนุ่มก็ยอมเปิดปาก “คนที่อาศัยอยู่ห้องข้างบนนี้เขาชื่อมาเอะจิมะ
คือว่าเขามีปัญหาเรื่องปากนิดหน่อยน่ะครับ”
“ปากรึ ที่บอกว่ามีปัญหาเรื่องปากนี่ หมายความว่ายังไงครับ”
“เขาพูดไม่ได้น่ะครับ แบบว่าไม่มีเสียงออกมา หรือพูดง่ายๆ ก็คือ
คนใบ้นั่นแหละครับ”
“อ้อ...”
คุซานางิองึ้ ไปเล็กน้อย โชคดีจริงๆ ทีไ่ ด้ผู้ชายคนนี้ช่วยเตือนไว้ก่อน
เพราะถ้าขืนขึน้ ไปเคาะประตูหอ้ งโดยทีไ่ ม่รอู้ ะไรเลย เขาคงท�ำตัวไม่ถกู แน่ๆ
“ผมไปเป็นเพื่อนเอาไหมล่ะครับ” ชายหนุ่มเสนอ “ผมกับหมอนั่น
ค่อนข้างสนิทกันน่ะครับ”
“จะดีหรือครับ”
“ดีสคิ รับ” ชายหนุ่มซึง่ เดินเข้าไปในห้องแล้ว เดินออกมาใส่รองเท้า
- 18 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ผ้าใบของตัวเองอีกรอบ
ชายหนุ่มผู้แสนมีน�้ำใจคนนี้ชื่อคาเนโมริ ทัตสึโอะ เท่าที่เขาเล่า
ให้ฟัง ดูเหมือนว่ามาเอะจิมะ คาซึยุกิซึ่งอาศัยอยู่ห้องหมายเลข 205
จะไม่มีปัญหาด้านการได้ยนิ
“หูของเขาดีกว่าพวกผมตัง้ ไม่รกู้ เี่ ท่าครับ เพราะฉะนัน้ ผมว่าเขาเอง
ก็คงหงุดหงิดเรื่องเสียงเอะอะรบกวนนั่นไม่น้อยอยู่เหมือนกัน” คาเนโมริ
พูดขณะเดินขึ้นบันไดซึ่งราวจับมีแต่สนิม
มีเสียงตอบรับกลับมาทันทีหลังจากเคาะประตูห้องหมายเลข 205
บานประตูเปิดออก จากนั้นใบหน้าผอมๆ ของวัยรุ่นคนหนึ่งก็โผล่ออกมา
จากช่องว่างของประตูที่แง้มออก วัยรุ่นคนดังกล่าวดูน่าจะอายุน้อยกว่า
คาเนโมริ คางแหลมยื่น สองแก้มซีดเซียว
มาเอะจิมะมีสีหน้าโล่งใจขึ้นบ้างเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าหนึ่งในผู้มา
เยือนยามวิกาลคือคาเนโมริ แต่ถึงกระนั้น ในดวงตาที่มองคุซานางิก็ยัง
ฉายแววความระวังตัวอยู่ให้เห็น
“คนนีเ้ ขาเป็นต�ำรวจน่ะ เขามาสอบถามเกีย่ วกับเรือ่ งอุบตั เิ หตุเมือ่ กี”้
คุ ซ านางิ ยื่ น สมุ ด ตราประจ� ำ ตั ว ต� ำ รวจออกมาให้ ช ายหนุ ่ ม ดู ใ น
จังหวะเดียวกันกับที่คาเนโมริเกริ่น มาเอะจิมะมีท่าทีลังเลอยู่เล็กน้อย
แต่ก็ยอมเปิดประตูออกกว้างให้แต่โดยดี
แน่นอนว่าห้องที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้มีลักษณะเดียวกันกับห้องของ
คาเนโมริแทบทุกประการ เพียงแต่หน้าต่างห้องทางด้านทิศตะวันออก
ไม่ได้ถูกปิดเหมือนอย่างห้องของคาเนโมริ สิ่งแรกสุดที่สะดุดตาคุซานางิ
ก็คือ ชุดเครื่องเสียงสุดหรูที่ไม่ได้เข้ากับห้องแคบๆ นี่เอาเสียเลย กับ
เทปจ�ำนวนมากซึ่งกองสุมอยู่บนพื้น คุซานางิเดาว่าคนคนนี้คงเป็นพวก
บ้าเครื่องเสียงกระมัง นอกจากนี้ยังต้องตกใจกับจ�ำนวนหนังสือซึ่งวาง
ซ้อนกันเป็นกองสูงอยู่ชิดริมผนัง หนังสือที่เห็นนั้นไม่ใช่นิตยสาร แต่เป็น
นวนิยายแทบทั้งหมด

- 19 -
探偵ガリレオ

ชายหนุ่มผู้มีงานอดิเรกเป็นการอ่านหนังสือและฟังดนตรี หลังจาก
จัดมาเอะจิมะที่อยู่ตรงหน้านี้ให้เข้าไปอยู่ในกลุ่มคนประเภทดังกล่าว
จากการพิจารณาบุคลิกลักษณะแวบแรกที่ได้เห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คุซานางิก็คิดในใจว่าคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชายหนุ่มคนนี้จะเป็นหนึ่งใน
ผู้ที่แค้นเคืองพวกไร้สามัญส�ำนึกซึ่งมาท�ำเสียงดังเอะอะกลางดึกพวกนั้น
คุ ซ านางิ เ ริ่ ม ตั้ ง ค� ำ ถามทั้ ง ๆ ที่ ยั ง คงยื น อยู ่ ต รงหน้ า ประตู ห ้ อ ง
“ตอนที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อกี้ คุณอยู่ที่ไหนครับ”
มาเอะจิมะชี้ลงไปที่พื้นห้อง คล้ายเป็นการตอบว่าอยู่ในห้องนี้
โดยที่บนใบหน้าแทบไม่แสดงสีหน้าใดๆ เลย “แล้วตอนนั้นคุณก�ำลัง
ท�ำอะไรอยู่ครับ” คุซานางิถามค�ำถามถัดไป เนื่องจากมาเอะจิมะยังอยู่ใน
ชุดเสื้อยืดคอปกกับกางเกงวอร์ม มิหน�ำซ�้ำฟูกนอนยังไม่ถูกน�ำออกมาปู
ดังนั้นจึงพอเดาได้ว่าเขายังไม่น่าจะนอน
มาเอะจิ ม ะหั น กลั บ ไปด้ า นหลั ง และชี้ ไ ปที่ โ ทรทั ศ น์ ซึ่ ง วางอยู ่
ริมหน้าต่าง
“เขาบอกว่ า ก� ำ ลั ง ดู โ ทรทั ศ น์ อ ยู ่ น ่ ะ ครั บ ” คาเนโมริ อ ธิ บ ายให้
คุซานางิเข้าใจ
“ก่อนหน้าที่จะเกิดอุบัติเหตุ ได้ยินเสียงอะไรบ้างหรือเปล่าครับ
หรือว่ามองเห็นอะไรที่ข้างนอกหน้าต่างบ้างหรือเปล่า”
มาเอะจิมะเอามือทัง้ สองข้างซุกลงไปในกระเป๋ากางเกงวอร์ม ก่อน
ส่ายศีรษะไปมาด้วยหน้าตาไม่รบั แขก
“งั้นหรือ...ขอเข้าไปดูในห้องหน่อยได้ไหมครับ ผมอยากลองมอง
ออกไปข้างนอกจากหน้าต่างบานนั้นดูน่ะ”
ได้ยินค�ำขอของคุซานางิแล้ว มาเอะจิมะก็พยักหน้าน้อยๆ พร้อม
กับผายมือไปทางหน้าต่างเป็นเชิงบอกว่า “เชิญ”
“ขออนุญาตครับ” พูดจบคุซานางิจึงถอดรองเท้าและเดินเข้าไป
ในห้อง

- 20 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ข้างใต้หน้าต่างคือถนนซึ่งวิ่งระหว่างทิศใต้กับเหนือพอดี ปริมาณ
รถที่สัญจรผ่านไปมาค่อนข้างน้อย ระหว่างที่คุซานางิชะโงกมองอยู่นี้
เขาไม่เห็นรถยนต์แล่นผ่านแม้แต่คันเดียว และนั่นท�ำให้เขานึกถึงค�ำพูด
ของคาเนโมริเมื่อสักครู่นี้ว่าที่นี่เป็นเมืองที่แสนเงียบสงบ
ถนนรูปตัว T ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุมองเห็นอยู่ทางด้านล่าง
ซ้ายมือ กระทั่งเวลานี้ก็ยังมีเจ้าหน้าที่สืบสวนหลายคนเดินวนเวียนอยู่
เพื่อหาหลักฐานที่อาจเป็นประโยชน์
คุซานางิถอยห่างออกจากหน้าต่าง เบนสายตาไปบนล�ำโพงซึ่ง
ตั้งอยู่ข้างๆ อย่างไม่ตั้งใจ บนนั้นมีหนังสือวางอยู่เล่มหนึ่ง มันคือหนังสือ
‘จดหมายเหตุจากชาวอังคาร’ ของเรย์ เบรดบิวรี่
“นี่หนังสือของคุณหรือครับ” คุซานางิหันไปถามมาเอะจิมะ
ชายหนุ่มพยักหน้า
“งั้นหรือ อ่านเข้าใจยากอยู่เหมือนกันนะครับ หนังสือเล่มนี้”
“เคยอ่านด้วยหรือครับ” คาเนโมริถามขึ้น
“สมัยก่อนนานมาแล้วน่ะครับ เคยตัง้ ใจว่าจะอ่าน แต่สดุ ท้ายก็ตอ้ ง
ยอมแพ้ เผอิญว่าผมไม่ใช่พวกรักการอ่านอยู่แล้วเสียด้วยน่ะครับ”
คุ ซ านางิ พู ด หวั ง ให้ ค นฟั ง ข� ำ ทว่ า คาเนโมริ ก ลั บ ไม่ หั ว เราะแม้
แต่แอะเดียว มิหน�ำซ�้ำยังเบิกตาค้างด้วยความงงงวยอีกต่างหาก ส่วน
มาเอะจิมะก็เอาแต่นิ่งเงียบ สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง
อยู่ที่นี่ต่อไปก็คงไม่ได้ความคืบหน้าอะไรขึ้นมา คุซานางิสรุปกับ
ตัวเอง
เขาบอกกับคนทัง้ สองว่า ถ้านึกอะไรออกก็ขอให้ตดิ ต่อไป เสร็จแล้ว
คุซานางิก็ออกจากห้องหมายเลข 205

- 21 -
探偵ガリレオ

3
คุซานางิมาเยือนห้องวิจัยที่ 13 ภาควิชาฟิสกิ ส์ คณะวิทยาศาสตร์
และวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทโตะในวันทีส่ าม หลังเกิดคดีพศิ วงขึน้
ตัวเขาเรียนจบคณะสังคมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนี้ แต่ขณะ
ที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่นั้น เขาไม่เคยย่างกรายมาที่คณะวิทยาศาสตร์และ
วิศวกรรมศาสตร์เลยแม้สักครั้ง เขาจึงนึกข�ำตัวเองที่เพิ่งจะได้เหยียบเท้า
เข้ามาในสถานที่แบบนี้หลังจากเรียนจบไปแล้วถึงกว่าสิบปี
อาคารสี่ชั้นทาสีเทาคืออาคารซึ่งมีภาควิชาฟิสิกส์รวมอยู่ คุซานางิ
วิเคราะห์ตัวเองว่าที่เขารู้สึกเหมือนร่างกายหดลีบเหลือนิดเดียวขณะ
แหงนมองเจ้าอาคารที่ตั้งอยู่ตรงหน้านั้น จะต้องมีสาเหตุมาจากการที่
เขาไม่ถูกโฉลกกับพวกวิชาวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เกิดเป็นแน่
ห้ อ งเป้ าหมายอยู่ ที่ชั้นสาม หน้ าประตูมีกระดาษเขียนรายชื่อ
ผู้ช่วยและนักศึกษาติดเอาไว้ ข้างๆ กันนั้นมีแผ่นป้ายแม่เหล็กส�ำหรับ
บอกว่าคนคนนั้นไปไหนแปะอยู่ด้วย ดูเหมือนว่าเวลานี้นักศึกษาทุกคน
ก�ำลังเข้าฟังบรรยาย คุซานางิมองไปที่นามสกุลที่เขียนว่ายุกาว่า แผ่น
ป้ายแม่เหล็กบอกว่าเจ้าของชื่อนั้น “อยู่” เขาก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ
เมื่อเห็นว่าเลยเวลาบ่ายสองโมงซึ่งเป็นเวลานัดหมายมาได้นิดหน่อยแล้ว
จึงเคาะประตู
มีเสียงตอบรับกลับมาว่า ครับ คุซานางิเปิดประตูเข้าไปหลังได้ยนิ
เสียงนั้น ทว่าทันทีที่เห็นสภาพภายในห้อง เขาถึงกับตะลึงงันไปชั่วขณะ
ภายในห้องนัน้ ปิดไฟจนมืดสนิท ไม่สิ นีย่ ังเป็นเวลากลางวัน ดังนัน้
ต่อให้ไม่เปิดไฟก็น่าจะยังพอมีแสงสว่างอยู่บ้าง การที่แทบไม่มีแสงสว่าง
จากภายนอกลอดเข้ามาทางหน้าต่างเช่นนี้ อาจเป็นเพราะมีม่านทึบแสง
กั้นอยู่ ทั้งห้องจึงกลายเป็นห้องมืดไปโดยปริยาย

- 22 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

“ยุกาว่า นายอยู่ไหนน่ะ”
คุซานางิส่งเสียงเรียก ทันใดนั้น ก็มีเสียงท�ำงานของเครื่องจักร
อะไรสักอย่างดังขึน้ ข้างตัว เป็นเสียงทีฟ่ งั ดูคล้ายเสียงเครือ่ งยนต์ มิหน�ำซ�ำ้
ยังเป็นเสียงที่คุซานางิเองก็คุ้นเคยเป็นอย่างดีเสียด้วย
ใช่แล้ว เสียงไมโครเวฟนั่นเอง และแทบจะในเวลาเดียวกันกับ
ที่ เ ขานึ ก ออกว่ า เป็ น อะไร เปลวไฟก็ พ ลั น ปรากฏขึ้ น ที่ เ บื้ อ งหน้ า ของ
คุซานางิ เมื่อมองดูดีๆ จึงรู้ว่าบนโต๊ะตรงหน้ามีไมโครเวฟขนาดเล็กตั้งอยู่
และข้างในไมโครเวฟมีหลอดไฟส่องแสงสว่าง ที่ส�ำคัญ วิธีการส่องแสง
สว่างของหลอดไฟนัน้ ไม่ใช่การส่องแสงในแบบปกติทคี่ วรเป็น ในหลอดไฟ
มีเปลวไฟก�ำลังเต้นระริกส่ายไหวไปมา

ระหว่างที่เขาจ้องมองอยู่นั้น เปลวไฟก็ค่อยๆ หรี่เล็กลงๆ กระทั่ง


มอดหายไปในที่สุด ทันทีที่เปลวไฟดับสนิท ผ้าม่านก็ถูกดึงเปิดออก
ราวกับว่ารอจังหวะนั้นอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“ขอต้อนรับต�ำรวจมือปราบคุซานางิผู้ผดุงความสงบสุขและความ
ปลอดภัยของประชาชน คงต้องบอกว่าแสงสว่างน้อยไปนิดหนึ่งล่ะมั้ง”
ชายในเสือ้ กาวน์สขี าวยืนอยู่โดยทีใ่ นมือจับริมผ้าม่านเอาไว้ ร่างสูง
ผิ ว ขาว สวมแว่ น กรอบด�ำ ใบหน้ า บ่ ง บอกว่ า เป็ น ผู ้ มี ค วามสามารถ
เฉลียวฉลาด ทุกอย่างแทบไม่ได้เปลี่ยนไปจากเมื่อสมัยเป็นนักศึกษาเลย
แม้ ก ระทั่ ง ทรงผมซึ่ ง ด้ า นหน้ า ตั ด เนี้ ย บเป็ น ระเบี ย บอยู ่ เ หนื อ คิ้ ว ขึ้ น ไป
เล็กน้อยนั้น สมัยก่อนเป็นอย่างไรปัจจุบันก็ยังเป็นอย่างนั้น
คุซานางิถอนหายใจ พลางยิ้มเฝื่อนโดยไม่ต้งั ใจ
“อย่าแกล้งให้กลัวสิวะ อายุปูนนี้แล้วยังชอบแกล้งกันอยู่ได้”
“พูดแบบนี้ฟังแล้วไม่รื่นหูเอาเสียเลย ฉันแค่ตั้งใจจะแสดงให้เห็น
ชัดๆ ว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือก็เท่านั้นเอง”
หลังเปิดม่านออกจนสุดแล้ว ยุกาว่าก็เดินมาหาคุซานางิพลาง
พับแขนเสื้อกาวน์ข้นึ ก่อนจะยื่นมือซ้ายออกมา

- 23 -
探偵ガリレオ

“สบายดีหรือเปล่า”
“ก็เรือ่ ยๆ” คุซานางิตอบพร้อมกับกระชับฝ่ามือยุกาว่า แม้ภายนอก
เขาจะดูเป็นผู้ชายอ่อนโยนกระเดียดไปทางเจ้าส�ำอาง แต่ยุกาว่าเคย
เป็นถึงมือวางอันดับหนึ่งประจ�ำชมรมแบดมินตันมาก่อน คุซานางิเคย
จับคู่ฝึกซ้อมกับยุกาว่าอยู่หลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งล้วนเป็นการต่อสู้ที่เรียก
ได้ว่าหืดขึ้นคอขนานแท้ น�้ำหนักของมือซึ่งกุมมือขวาของคุซานางิอยู่
ในเวลานี้ ท�ำให้เขาหวนนึกไปถึงเรื่องราวในสมัยนั้น
“ตั้งแต่ตอนไหนน้า” คุซานางิเกริ่นขึ้นหลังจับมือทักทายเสร็จ
ที่เขาพูดนั้นหมายถึงทั้งคู่พบกันครั้งสุดท้ายเมื่อไร
“เราเจอกันครั้งสุดท้ายวันที่ 10 ตุลาคมเมื่อสามปีก่อน” ยุกาว่า
ตอบ วิธีการพูดเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
“งั้นหรือ”
“เจอกันที่งานแต่งงานของยามาโมโตะ นั่นล่ะครั้งสุดท้าย ตอนนั้น
คนอื่นๆ ใส่ชุดทางการสีด�ำมาร่วมงาน มีแต่คุซานางิคนเดียวที่มาในชุด
สูทสีเทา”
“อ้อ” คุซานางินึกย้อนไปถึงเหตุการณ์คราวนั้นแล้วพยักหน้า
ถูกตามที่อกี ฝ่ายพูดทุกประการ เขามองยุกาว่าพลางคิดในใจว่า นอกจาก
รูปลักษณ์ภายนอกแล้ว หน่วยความทรงจ� ำของหมอนี่ก็ยังยอดเยี่ยม
เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนอีก
“งานที่มหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง ได้ขึ้นเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์
แล้ว คงล�ำบากแย่เลยสิท่า” คุซานางิจ้องไปที่เสื้อกาวน์ของผู้เป็นเพื่อน
ขณะเอ่ยถาม
“ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเป็นพิเศษนะ อีกอย่างฉันเริ่มชินกับ
ความจริง ที่ว ่ าคุณภาพของนักศึกษาสมัยนี้นับวันมีแต่จะด้อยลงแล้ว
ด้วย” ยุกาว่าตอบด้วยสีหน้าจริงจัง เป็นการบอกให้รู้ว่าที่พูดไปนั้น
ไม่ใช่การล้อเล่นแต่อย่างใด
“เขี้ยวจริงนะนาย”

- 24 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

“จะว่าไป” คราวนี้ยุกาว่าเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง “นายเองต่างหาก


ล่ะมั้งที่กำ� ลังล�ำบาก โดยเฉพาะสองสามวันที่ผ่านมานี้”
“นายหมายความว่าไง”
“เพราะงั้น ฉันถึงลองเดาจุดประสงค์การมาของนายและเตรียม
ของพวกนี้ไว้รอนี่แหละ” ยุกาว่าชี้ไปทางเตาไมโครเวฟ
“จริงสินะ เมื่อกี้นายก็พูดเกี่ยวกับความตั้งใจร่วมมือหรืออะไร
สัก อย่ างท�ำนองนั้นอยู่ เหมือ นกันนี่” คุซานางิพูดพลางยื่นมือออกไป
หมายจะแตะเตาไมโครเวฟ
“หยุด มันยังมีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่”
ว่าแล้วยุกาว่าก็รีบดึงปลั๊กไฟออกจากเต้าเสียบที่อยู่ใกล้ตัวแทบ
ไม่ทัน หากมองดีๆ จะเห็นว่า ฝาด้านหลังของเตาไมโครเวฟถูกถอดออก
และมีกลไกที่คุซานางิไม่รู้จกั เลยสักอย่างเชื่อมติดระโยงระยาง
“เรียบร้อยแล้ว” ยุกาว่าเปิดฝาด้านหน้าเตาไมโครเวฟ และหยิบ
เอาของที่อยู่ข้างในออกมา มันคือหลอดไฟซึ่งถูกวางเอาไว้บนที่เขี่ยบุหรี่
ซึ่งท�ำจากโลหะนั่นเอง
“นี่ก็คือที่มาของมายากลที่เห็นเมื่อกี้” นักวิทยาศาสตร์หนุ่มเฉลย
คุซานางิจ้องไปที่มือของยุกาว่าเขม็ง
“มันก็แค่หลอดไฟธรรมดาๆ นี่นา”
“ถูกแล้ว แค่หลอดไฟธรรมดา” ยุกาว่าวางมันลงบนโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ
“แต่ว่ากระแสไฟฟ้าซึ่งเกิดจากการชักน�ำโดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของ
ไมโครเวฟ ได้เข้าไปท�ำให้ซีนอน1 ที่อยู่ในหลอดไฟเปลี่ยนเป็นพลาสมา2
และเปล่งแสงสว่างออกมา เท่าที่เห็น ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่แสงสีม่วง
1
Xenon ธาตุเคมีชนิดหนึ่ง สัญลักษณ์คือ Xe เป็นธาตุที่มีลักษณะเป็นก๊าซมีตระกูล (Noble gases)
ไม่มีสี ไม่มกี ลิ่น น�้ำหนักมาก พบเพียงเล็กน้อยในบรรยากาศโลก ค้นพบโดย Sir William Ramsey
และ M.W. Travers ในปี ค.ศ. 1898 ประโยชน์ใช้สอยได้แก่ เป็นก๊าซในหลอดดีสชาร์จ (discharge tube)
ในตะเกียงแบบ negative glow และใช้เป็นยาสลบในการผ่าตัด เป็นต้น
2
Plasma ในทางฟิสกิ ส์และเคมี พลาสมาคือก๊าซที่มีสภาพเป็นไอออนและมักจะถือเป็นสถานะหนึ่งของสสาร
โดยถูกจัดให้อยู่ในสถานะที่ 4 ของสสาร นอกจากของแข็ง ของเหลว และก๊าซ เนื่องจากมีลักษณะเฉพาะ
ที่แตกต่างไปจากสถานะอื่นอย่างชัดเจน พลาสมาเป็นตัวน�ำไฟฟ้าที่ดี เบี่ยงเบนในสนามแม่เหล็กได้
ตัวอย่างพลาสมาที่เห็นได้ในธรรมชาติได้แก่ ฟ้าแลบ เป็นต้น

- 25 -
探偵ガリレオ

เท่านั้น แต่ยงั มีแสงสีเขียวด้วย บางทีนั่นอาจเป็นเพราะว่ามีพลาสมาของ


ทองแดง ซึ่งแผ่ออกมาจากทองแดงที่ใช้พยุงไส้หลอดไฟผสมเข้าไปด้วย
ล่ะมั้ง”
“พลาสมาหรือ ไอ้ทเี่ ห็นเมือ่ กีน้ คี้ อื พลาสมาอย่างนัน้ หรือ” คุซานางิ
ถามขึ้น เขาแทบไม่เข้าใจความหมายที่ยุกาว่าพรรณนาเสียยืดยาว จะมี
ก็แค่ค�ำว่าพลาสมานี่แหละที่ฟังคุ้นหูหน่อย
“ก็ประมาณนั้น” ยุกาว่านั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ ก่อนเอนตัวไป
กับพนักด้านหลังเต็มแรง “ทีนี้คงเข้าใจแล้วสินะ ว่าที่ฉันพูดไว้เมื่อตอน
แรกสุดหมายถึงอะไร คุซานางิอตุ ส่าห์ลงทุนมาถึงทีน่ ี่ เพือ่ จะถามฉันเกีย่ วกับ
พลาสมาใช่ไหมล่ะ”
“ฉันล่ะยอมแพ้นายเลยจริงๆ” คุซานางิยกมือขึ้นลูบหลังต้นคอ
ตัวเองไปมา พลางหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้หนั หน้าเข้าหายุกาว่าโดยมีโต๊ะ
คั่นกลาง “ท�ำไมถึงรู้ล่ะ”
“ไม่ใช่ขอ้ สันนิษฐานยากเย็นอะไรเลย ข่าวมีคนถูกไฟคลอกตายนัน่
ขนาดในมหาวิทยาลัยยังมีแต่คนพูดถึง ยิ่งมีคนตายด้วย ก็เป็นไปได้สูง
มากว่าคุซานางิจากฝ่ายงานสืบสวนที่ 1 กองบัญชาการต�ำรวจนครบาล
จะวิ่งห้อมาที่น่ี และคุซานางิผู้มีงานยุ่งล้นมือ คงไม่อุตส่าห์สละเวลาอัน
มีค่ามาที่แบบนี้เพื่อพูดคุยเรื่องเก่าเมื่อครั้งอดีตกับฉันแน่นอน”
เมื่อโดนมองออกทะลุปรุโปร่งแบบนี้แล้ว คุซานางิก็ได้แต่หัวเราะ
เจื่อนๆ
“เออ ก็ถูกอย่างที่นายว่านั่นแหละ” นายต�ำรวจหนุ่มเกาข้างแก้ม
แกรกๆ แก้เก้อ
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันชงกาแฟให้ก่อนดีกว่า แต่มีแค่กาแฟส�ำเร็จรูป
นะ” ยุกาว่าลุกขึ้นและเดินไปต้มน�้ำร้อนที่เตาแก๊ส
ระหว่างที่อีกฝ่ายก�ำลังชงกาแฟ คุซานางิหยิบสมุดบันทึกออกมา
เพื่อดูเค้าโครงหลักของคดีคร่าวๆ อีกครั้ง

- 26 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

อันทีจ่ ริง ทางต�ำรวจเองยังไม่มนั่ ใจเลยด้วยซ�ำ้ ว่า ควรเรียกเหตุการณ์


ที่เกิดขึ้นคราวนี้ว่าเป็นคดีฆาตกรรม หรือเป็นเพียงแค่อุบตั ิเหตุดี
ตอนนี้หากให้สรุปเรื่องราวที่รู้แน่ ก็คงได้ประมาณนี้คืออันดับแรก
เกิดเหตุเพลิงไหม้เฉพาะจุดขึน้ อย่างกะทันหันบริเวณริมถนนฮานายะทีไ่ ม่มี
อะไรโดดเด่นสะดุดตา หนึง่ ในวัยรุ่นห้าคนซึง่ ยืนอยู่ใกล้ๆ ต้นเพลิงเสียชีวติ
อีกสี่คนที่เหลือได้รับบาดเจ็บหนักเบาต่างกันไป ในที่เกิดเหตุคละคลุ้งไป
ด้วยกลิ่นน�้ำมันเบนซิน และจากการพบถังสีแดงซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นถังใส่
น�้ำมันก๊าดในที่เกิดเหตุ จึงคาดว่าน�้ำมันเบนซินที่อยู่ในถังคงถูกสะเก็ดไฟ
หรืออะไรบางอย่างเข้าจนเกิดลุกไหม้ข้นึ มา เพียงแต่ยงั บอกไม่ได้ว่าท�ำไม
ถึงมีของแบบนั้นวางอยู่ตรงนั้น พวกเด็กวัยรุ่นยืนยันหนักแน่นว่าไม่รู้ว่า
นั่นคือถังน�้ำมัน และพวกตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนจุดไฟ
ถ้าอย่างนั้นแล้ว เพราะอะไรจู่ๆ ถึงเกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาได้
ค�ำอธิบายเรือ่ งพลาสมา เป็นเรือ่ งทีส่ อื่ มวลชนส่วนหนึง่ พูดกันขึน้ มา
พวกเขาบอกว่า ในสภาวะอากาศที่ง่ายต่อการเกิดฟ้าผ่า บางครั้งกระแส
ไฟฟ้าเหนีย่ วน�ำจะไหลเข้าไปปะทะกับสสารซึง่ มีสถานะเป็นก๊าซ อย่างเช่น
อากาศ เป็นเหตุให้เกิดพลาสมาซึ่งมีลักษณะคล้ายสะเก็ดไฟที่มาพร้อม
กับแสงจ้าและความร้อนสูง ซึ่งสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ อาจเกิดจาก
การทีม่ รี ปู แบบหนึง่ ของพลาสมาอย่างทีว่ า่ มานัน้ เกิดขึน้ และไปท�ำให้นำ�้ มัน
เบนซินที่อยู่ในถังน�ำ้ มันเกิดติดไฟจนลุกไหม้ขึ้นมาก็เป็นได้ ที่มีคำ� อธิบาย
เช่นนี้ปรากฏขึ้นมาก็เพราะว่า เป็นที่เข้าใจกันแล้วว่ามีปรากฏการณ์เหนือ
ธรรมชาติหลายอย่างทีส่ ามารถอธิบายได้ดว้ ยพลาสมา ส�ำหรับทางต�ำรวจ
เอง ทฤษฎีพลาสมาก็เป็นทีย่ อมรับได้งา่ ยกว่าการจะบอกว่าสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ เป็น
ปรากฏการณ์เกี่ยวกับภูตผีวญ ิ ญาณ หรือพลังเหนือธรรมชาติ ดังนั้น ทันที
ทีส่ รุปกันได้วา่ จะศึกษาเรือ่ งพลาสมา คุซานางิจงึ ได้ตดั สินใจมาพบยุกาว่า
ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยอย่างที่เห็น
ยุกาว่ากลับมาพร้อมถ้วยกาแฟรสนิยมพิลกึ พิลนั่ เดาว่าคงเป็นของ

- 27 -
探偵ガリレオ

สมนาคุณที่ได้รับมาจากอะไรสักอย่างสองใบในมือ ที่แย่กว่านั้นคือ มอง


ปราดเดียวก็รู้ว่าถ้วยทั้งสองใบไม่ได้ผ่านการล้างจนสะอาดเสียเท่าไรนัก
แต่ถึงกระนั้น คุซานางิก็ยังรับแก้วมาพร้อมพูดว่า “อ้อ ขอบใจ” ก่อน
ยกกาแฟส�ำเร็จรูปขึ้นซดหนึ่งอึกอย่างเอร็ดอร่อย
“แล้วนายเห็นว่ายังไง” นายต�ำรวจหนุ่มถามหลังจากวางแก้วลง
บนโต๊ะ
“เห็นว่ายังไงที่ว่านี่หมายถึงเรื่องอะไร”
“ก็เรือ่ งคดีทวี่ า่ นัน่ ไง นายคิดยังไงเกีย่ วกับคดีไฟไหม้ทถี่ นนฮานายะ
การทีน่ ายท�ำการทดลองแบบนีใ้ ห้ฉนั ดู แสดงว่านายเองก็คดิ ว่ามันมีสาเหตุ
จากพลาสมาเหมือนกันใช่ไหม”
“ที่ท�ำการทดลองนี้ก็เพราะเห็นว่าในหนังสือพิมพ์เขียนถึงทฤษฎี
พลาสมา และคิดว่าคุซานางิเองก็คงสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
แต่ส่วนตัวของฉัน ตอนนี้ยังไม่มขี ้อคิดเห็นใดๆ ทั้งนั้น อาจใช่พลาสมาจริง
หรืออาจไม่ใช่ก็ได้ อีกอย่างหนึ่ง ไม่มีข้อมูลอะไรสักอย่างแบบนี้ จะตั้ง
ข้อสันนิษฐานก็ท�ำไม่ได้เสียด้วย”
“นายรู้เกี่ยวกับคดีนี้มากน้อยแค่ไหนเนี่ย” คุซานางิถามหยั่งเชิง
“ไม่เห็นน่าถาม ก็รู้เท่าที่มีลงอยู่ในหนังสือพิมพ์นั่นแหละ หรือ
สรุปคือ” ยุกาว่ายกกาแฟขึ้นดื่มอึกหนึ่งก่อนพูดต่อ “ไม่รู้ว่าท�ำไมถึงมี
ถังน�้ำมันเบนซินวางอยู่ข้างเครื่องขายน�้ำอัตโนมัติ และไม่รู้ว่าท�ำไมจู่ๆ
ถึงได้มีเปลวไฟพุ่งออกมาจากถังน�้ำมัน จนไปคลอกเด็กวัยรุ่นที่อยู่ใกล้ๆ
ที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ”
“แล้วสันนิษฐานอะไรจากเท่าที่รู้นั่นไม่ได้หรือ”
ยุกาว่าแทบส�ำลักกับค�ำพูดของคุซานางิ
“อย่าพูดอะไรง่ายๆ แบบนั้นได้ไหม ถ้าไม่ได้ตรวจสอบดูอย่าง
ละเอียดว่าพบอะไรในซากเพลิงไหม้บ้าง ใครมันจะไปตั้งข้อสันนิษฐานได้
พวกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็น่าจะบอกอย่างนั้นเหมือนกันไม่ใช่หรือ”

- 28 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

“ของทีพ่ บในซากเพลิงไหม้มแี ค่ถงั น�ำ้ มันอย่างเดียว มีแค่นนั้ จริงๆ”


“เห็นผูส้ อื่ ข่าวในโทรทัศน์บอกว่าบางทีอาจมีการวางกลไกบางอย่าง
ไว้ที่ถังน�้ำมันก็ได้น่”ี
“นายคิดว่าพวกฉันไม่ได้พิจารณาสิ่งที่พวกนักข่าวเอามาเขียน
หรือไง ทางกองพิสูจน์หลักฐานงมหาแล้วหาอีก ยังไงก็ไม่พบร่องรอยของ
กลไกอะไรเลย”
“แย่จังเลยเนอะ”
“อย่าเฉไฉเปลี่ยนเรื่องได้ไหม งานนี้ฉันต้องการพึ่งเชาวน์ปัญญา
ของนายจริงๆ นะเว้ย”
เมือ่ เห็นคุซานางิพดู เช่นนัน้ ด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง ยุกาว่าก็ยกั ไหล่
เล็กน้อยให้ดูทหี นึ่ง ก่อนแย้มยิ้มพร้อมบอกว่า
“ขอเล่าเรื่องน่าสนใจให้ฟังเรื่องหนึ่งนะ ในอเมริกามีการตรวจสอบ
เรื่องเล่าเกี่ยวกับ UFO โดยละเอียด และพบว่ามากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์
เป็นการมองผิดไปเอง สิ่งที่พวกเขามองเห็นเป็น UFO มักเป็นสิ่งที่อยู่
บนท้องฟ้า ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือดวงดาว และที่โดน
มองผิดมากเป็นพิเศษก็คือดาวศุกร์ แต่ก็มีคนที่นกึ ว่าดวงจันทร์เป็น UFO
อยู่เหมือนกัน”
“นายอยากพูดอะไรกันแน่”
“วิญญาณที่เราคิดว่าเห็นก็มักเป็นสิ่งธรรมดาๆ มากกว่าที่เราคิด
เอาไว้ ในกรณีนี้คือมีถังน�้ำมันเบนซินตั้งอยู่ และมีเด็กวัยรุ่นที่ยังไม่รู้จัก
ค�ำว่าผิดชอบชัว่ ดีแบบทีผ่ ู้ใหญ่พงึ มีอยู่ใกล้ๆ หลายคน เพราะฉะนัน้ ทีเ่ ป็น
ไปได้ก็มีแค่อย่างเดียวไม่ใช่หรือ”
คุซานางิเบิกตาแทบถลน
“นี่นายจะบอกว่าไอ้เด็กพวกนั้นโกหก ที่จริงแล้วพวกมันนั่นแหละ
ที่เป็นคนจุดไฟที่ถังน�้ำมันอย่างนั้นหรือ รู้ทั้งรู้ว่าขืนท�ำแบบนั้นต้องโดน
ไฟลวกเป็นแผลเหวอะแต่กย็ งั ท�ำเนี่ยนะ”

- 29 -
探偵ガリレオ

“จงใจจุดหรือเปล่านั่นคงบอกไม่ได้ บางทีคนที่เอาถังน�้ำมันมาวาง
อาจเป็นคนอืน่ ส่วนเด็กพวกนัน้ ก็ไม่รวู้ า่ ข้างในมีนำ�้ มันเบนซิน แต่ทแี่ น่ๆ ก็คอื
ไม่มีหลักฐานอะไรมาใช้ยนื ยันได้ว่าพวกเขาไม่ใช่ต้นเหตุ ถูกไหม ยังไงเสีย
เด็กพวกนั้นก็คงต้องสูบบุหรี่ และแน่นอนว่าต้องมีไฟแช็กติดตัวด้วย”
พอได้ยินที่ยุกาว่าพูด คุซานางิถึงกับท�ำหน้างอโดยไม่รู้ตวั
“ขอล่ะ อย่าพูดอะไรที่ท�ำให้ผิดหวังได้ไหม แบบนี้มันไม่ต่างกับ
หัวหน้าฝ่ายฉันน่ะสิ”
“โห หัวหน้าฝ่ายงานสืบสวนที่ 1 ก็มคี วามเห็นแบบนีเ้ หมือนกันหรือ”
“หัวหน้าฉันบอกว่า สาเหตุคงมาจากการทีไ่ อ้เด็กพวกนัน้ ไม่จดั การ
ดับไฟให้เรียบร้อยน่ะ”
“ไม่เลวนี่ เป็นเหตุเป็นผลดี ไม่มีจุดไหนค้าน”
“ถ้านายยืนกรานเห็นด้วยกับไอ้ความคิดเห็นพื้นๆ พรรค์นั้นละก็
งั้นฟังข้อมูลใหม่นี่ก่อนดีกว่า” คุซานางิพูดพลางล้วงมือเข้าไปหยิบอะไร
บางอย่างออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อสูท
“ไม่ใช่ความเห็นพื้นๆ แต่เขาเรียกคิดแบบมีเหตุผลต่างหาก อะไร
ล่ะนั่น ดูเหมือนจะเป็นเครื่องบันทึกเสียงขนาดเล็กนี่นะ”
“ฉันอัดเสียงตอนคุยกับเด็กคนหนึง่ เอาไว้นะ่ เขาโดนไฟลวกเลยขยับ
ปากไม่ค่อยได้ แต่ว่ามีสติดีอยู่ เอาเป็นว่านายลองฟังดูกแ็ ล้วกัน”
ทันทีที่คุซานางิกดสวิตช์ เสียงพูดพึมพ�ำๆ ก็ดังออกมาจากล�ำโพง
เครื่องบันทึกเสียง นายต�ำรวจเร่งเสียงให้ดังขึ้น
เริม่ ด้วยการถามชือ่ สกุลรวมไปถึงอายุ ชือ่ ของเด็กหนุม่ ผูเ้ ป็นเจ้าของ
เสียงคือ มุคาอิ คาซึฮิโกะ อายุสิบเก้าปี
จากนั้นก็เข้าสู่ประเด็นหลัก มีคุซานางิเป็นคนถามค�ำถาม
(ช่วยเล่าตอนที่เกิดไฟไหม้ให้ฟังหน่อยได้ไหม ก่อนเกิดเหตุมีอะไร
ที่ผิดสังเกตหรือเปล่า)
(อะไรที่ผิดสังเกต...หรือครับ)

- 30 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

(อะไรก็ได้ ตอนนั้นเธอท�ำอะไรอยู่)
(ผม...ผม เอ่อ ก�ำลังสูบบุหรี่อยู่มั้ง แล้วก็ฟังเรื่องที่เรียวสุเกะเล่า
ไปด้วย)
(เพื่อนคนอื่นๆ ล่ะ เขาท�ำอะไรกันอยู่)
(ก็ไม่ได้ท�ำอะไร...ทุกคนแค่ก�ำลังฟังเรื่องที่เรียวสุเกะเล่า แล้วจู่ๆ
ก็เกิดมีไฟลุกขึ้นมา ตอนนั้นผมตกใจสุดๆ)
(ไฟลุกขึ้นมาจากถังน�้ำมันสินะ)
(ไม่ใช่...จากหัวของเรียวสุเกะ...ไฟลุกขึ้นมาจากหัวของเรียวสุเกะ)
(หัวหรือ)
(ใช่ จากผมของเขา...จู่ๆ ก็มีไฟลุกพรึ่บขึ้นมาจากผมด้านหลังของ
เขา แล้วเขาก็ล้มตึง...พวกผมตกใจ แค่พริบตาเดียวไฟก็ลามมาถึงพวกผม
...หลังจากนั้น ผมก็จ�ำอะไรไม่ได้แล้ว)
(เดี๋ยวก่อน เล่าสลับกันแล้วมั้ง มันต้องไฟลามขึ้นมาก่อน จากนั้น
หัวของเพื่อนเธอถึงค่อยไหม้ไม่ใช่หรือ)
(ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ หัวของหมอนั่นติดไฟจริงๆ หัวของ
เรียวสุเกะไหม้ก่อนเป็นอย่างแรก)
คุซานางิกดปุ่มปิดเครื่องบันทึกเมื่อฟังมาได้ถงึ ตรงนี้
“เป็นไง” เขาถามพลางมองหน้าอีกฝ่าย
ยุกาว่าเปลี่ยนมานั่งเท้าคางตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ทว่าดวงตาที่อยู่หลัง
แว่นตาบอกให้คุซานางิรู้ว่า ท่าทางเช่นนั้นไม่ได้เป็นการแสดงออกถึง
ความเบื่อหน่ายแต่อย่างใด
“หัวติดไฟอย่างนั้นหรือ”
“เห็นเขาว่าอย่างนั้น”
พอรู้ว่ายุกาว่าเริ่มสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว คุซานางิก็แอบยิ้มกริ่มอยู่
ในใจพลางหยิบกล่องบุหรีข่ นึ้ มา แต่ในจังหวะทีเ่ ขาตัง้ ใจจะดึงบุหรีอ่ อกมา
มวนหนึ่งนั้นเอง ยุกาว่ากลับชี้นิ้วไปทางกระดาษที่แปะติดอยู่บนผนังโดย

- 31 -
探偵ガリレオ

ไม่พูดไม่จา บนกระดาษนั้นมีข้อความเขียนว่า ‘ห้ามสูบบุหรี่ คิดจะท�ำให้


ระบบการหมุนเวียนเลือดในสมองแย่ลงไปกว่านี้อีกหรืออย่างไร’ เมื่อเห็น
ดังนั้น คุซานางิจึงได้แต่ท�ำหน้าเอือมระอาและยอมเก็บบุหรี่ลงกระเป๋าไป
“หัวติดไฟ” คราวนี้ยุกาว่าเปลี่ยนท่ามาเป็นนั่งกอดอก “มีเฉพาะ
ส่วนหัวเท่านั้นที่ติดไฟขึ้นมาก่อน เหมือนไม้ขดี ไฟ” นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม
ค�ำรามเสียงต�่ำ “มีไฟลุกทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้มายากลหรือ ฉันเคยเห็นคน
พ่นไฟตามการแสดงข้างถนนมาบ้าง แต่คนที่เล่นก็ไม่ได้โดนไฟคลอกหัว
หรืออะไรนี่นะ”
“แต่นมี่ ไี ฟลุกท่วมหัวจริง” คุซานางิชกู ำ� ปัน้ ยืนกราน “มีแค่หวั เท่านัน้
ที่ไหม้ก่อน”
“แล้วศพเป็นยังไงบ้าง มีรอยไหม้แค่ส่วนหัวเท่านั้นหรือ”
“น่าเสียดาย ดูเหมือนว่าหลังจากที่ล้มลงไปแล้วไฟจะลุกคลอก
ทัง้ ร่างจนด�ำเป็นตอตะโก เลยพิสจู น์ไม่ได้วา่ จริงๆ แล้วไฟไหม้จากส่วนไหน
ก่อนกันแน่”
ยุกาว่าส่งเสียงค�ำรามอีกครั้ง จากนั้นจึงหันไปมองคุซานางิพลาง
ท�ำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“ว่าแต่วา่ หัวหน้าฝ่ายผูม้ เี หตุมผี ลของนาย พูดถึงเรือ่ งนีว้ า่ ยังไงบ้าง”
“เขาบอกว่าพยานคนนีอ้ าจเกิดอาการประสาทหลอน ความทรงจ�ำ
คงสับสนเพราะตกใจถึงขีดสุดน่ะ แต่เท่าที่ถามเด็กคนอื่นๆ ทุกคนต่างพูด
เป็นเสียงเดียวกันว่าหัวของเด็กหนุม่ ทีช่ อื่ เรียวสุเกะคนนัน้ ติดไฟขึน้ มาก่อน”
“อย่างนี้นี่เอง” ยุกาว่าพยักหน้าหงึกทีหนึ่งแล้วลุกขึ้นยืน “เอาล่ะ
เราไปดูกันหน่อยดีกว่า”
“ไปไหน”
“แหงอยู่แล้ว ก็ไปสถานที่เกิดเหตุพิศวงนั่นไง”
คุซานางิเหม่อจ้องหน้ายุกาว่าชั่วครู่สั้นๆ ก่อนจะลุกพรวดพราด

- 32 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ตามขึ้นมาบ้าง
“ได้เลย ฉันพาไปเอง”

4
สถานที่เกิดเหตุคือถนนรูปตัว T ซึ่งแม้จะเป็นเวลากลางวันก็ยัง
มีปริมาณรถสัญจรผ่านไปมาน้อยอยู่ดี ด้วยเหตุนี้ คุซานางิจึงสามารถ
จอดรถสกายไลน์ 1 ที่ตัวเองขับมาบนถนนซึ่งไม่ได้กว้างมากมายอะไรได้
อย่างไม่ต้องเกรงใจใคร
เครื่องขายน�้ำดื่มอัตโนมัติซึ่งมีอยู่ตั้งแต่ตอนเกิดเหตุ ถูกปล่อยทิ้ง
ไว้ในสภาพที่ส่วนล่างไหม้ดำ� ปิ๊ดปี๋ ตรงป้ายตัวอย่างสินค้ามีแผ่นกระดาษ
เขียนว่า ‘เครื่องช�ำรุด’ แปะติดเอาไว้
“ปกติเขาใช้ค�ำว่าเครื่องช�ำรุดกันด้วยหรือ” ยุกาว่าพึมพ�ำหลังมอง
แผ่นกระดาษที่แปะอยู่นั้น “เขียนแค่ ช�ำรุด ก็น่าจะสื่อกันรู้เรื่องแล้ว”
“จากค�ำให้การของพวกวัยรุ่นที่เป็นพยาน” นายต�ำรวจเริ่มต้น
อธิบายโดยไม่สนใจยุกาว่า “ดูเหมือนว่า ยามาชิตะ เรียวสุเกะผู้ตายจะ
ยืนอยู่แถวๆ นี้” เขาพูดพลางก้าวไปยืนในจุดที่อยู่ห่างจากเครื่องขายน�ำ้
อัตโนมัติออกไปประมาณสองเมตร
“เด็กหนุ่มคนนั้นยืนหันหน้าไปทางไหนหรือ” ยุกาว่าถามขึ้น
“น่าจะหันไปทางตูข้ ายน�้ำนะ ส่วนเด็กคนอืน่ ๆ ก็อยูล่ อ้ มรอบตัวเขา
1
Nissan Skyline เป็นรุ่นรถยนต์ขนาดกลางของบริษัทนิสสัน เริ่มผลิตครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500
โดยบริษัทพรินซ์มอเตอร์

- 33 -
探偵ガリレオ

สองคนนั่งอยู่ท่มี ้านั่ง อีกสองคนที่เหลือยืนอยู่ข้างมอเตอร์ไซค์”


“แล้วถังที่ใส่น�้ำมันเบนซินอยู่ตรงไหน”
“อยู่ข้างๆ ติดกับตู้ขายน�้ำตรงนั้น เห็นว่ามีลังพลาสติกส�ำหรับใส่
ขวดเบียร์ขนาดกลางวางซ้อนกันสีช่ นั้ และถังน�ำ้ มันก็วางทับอยู่ข้างบนนัน้
อีกที จากค�ำให้การของมุคาอิ คาซึฮิโกะ รู้สึกว่ามันจะถูกห่อเอาไว้ด้วย
กระดาษหนังสือพิมพ์นะ”
“ลังใส่เบียร์หรือ” ยุกาว่าเหลียวมองส�ำรวจรอบด้าน “ท�ำไมถึงมี
ของแบบนั้นมาวางอยู่ท่นี ี่ได้”
“นัน่ ก็เป็นอีกหนึง่ เรือ่ งทีย่ งั หาค�ำตอบไม่ได้” คุซานางิมองไล่ไปตาม
ถนน และชีไ้ ปทางด้านทิศตะวันออก “ดูนนั่ เห็นป้ายร้านเหล้าทีอ่ ยูต่ รงโน้น
ไหม ตอนนี้ที่รู้มีแค่ว่าลังนี้ถูกยกมาจากร้านโน้นนั่นแหละ”
“แล้วทางร้านเหล้าบอกว่ายังไงบ้าง”
“เขาบอกว่าไม่รู้เรื่องเลยว่าถูกยกไปตั้งแต่เมื่อไร”
“เหรอ” ยุกาว่ายืนอยู่ข้างตู้ขายน�้ำอัตโนมัติ พร้อมยกมือขวาขึ้น
แบฝ่ามือขนานไปกับพื้นถนนในระดับอก “ลังเบียร์สี่ลังซ้อนกัน คงสูง
ประมาณนี้ได้ล่ะมั้ง”
“ประมาณนั้นแหละ”
“ด้านบนมีถังน�้ำมันวางซ้อนไว้อกี ทีหนึ่งใช่ไหม”
“อื้ม”
“แล้ว” คราวนี้ยุกาว่าก้าวออกไปทางถนนประมาณสองเมตร
“เด็กหนุ่มคนที่ตายก็ยนื อยู่แถวๆ นี้ หันไปทางตู้ขายน�้ำ”
“ตามที่เขาว่ามา ก็เป็นอะไรท�ำนองนั้น”
“อย่างนี้นี่เอง”
ยุกาว่ากอดอก และเริ่มเดินกลับไปกลับมาระหว่างข้างตู้ขายน�้ำ
อัตโนมัติกับถนน โดยมีคุซานางิเฝ้ามองการกระท�ำนั้นอยู่เงียบๆ เพราะ
รู้สึกว่ายังไม่ควรส่งเสียงท้วงถามอะไรในเวลานี้

- 34 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ในทีส่ ดุ รองผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์หนุม่ ประจ�ำห้องวิจยั ภาควิชาฟิสกิ ส์


ก็ชะงักฝีเท้า และเงยหน้าขึ้น
“ท่าทางจะไม่ใช่พลาสมาเสียแล้วล่ะ” ชายหนุ่มพูดขึ้น
“อย่างนั้นหรือ”
“คุซานางิคิดยังไงเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ นายคิดว่ามันเป็น
การกระท�ำโดยเจตนาของใครสักคน หรือเป็นอุบัติเหตุ”
“ก็เพราะไม่รู้ ถึงได้ถ่อไปปรึกษานายนี่ไง” คุซานางิท�ำหน้ามุ่ย
เกาศีรษะแกรกแกรก จากนั้นจึงเปลี่ยนกลับมาท�ำสีหน้าขึงขังอีกครั้ง
“แต่ฉันว่าน่าจะเป็นฝีมอื ใครสักคนจงใจท�ำมากกว่า”
“มีหลักฐานอะไรที่ท�ำให้คิดอย่างนั้นหรือ”
“ก็ไอ้ถังน�้ำมันเบนซินนั่นไง มันเป็นไปได้ยากว่ะที่จะมีใครลืมทิ้งไว้
แค่ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว ฉันคิดได้แต่ว่าคนคนนั้นจะต้องเจตนาเอามาวาง
ไว้เพื่อให้เกิดอุบัติเหตุอย่างที่เห็นกันนั่น”
“เห็นด้วย แล้วทีนี้สิ่งที่เราต้องคิดกันต่อไปก็คือ คนคนนั้นท�ำให้
เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ยังไง ในจุดนี้ฉันพูดได้เต็มปากเต็มค�ำเลยว่า การจะ
ท�ำให้เกิดพลาสมาทีม่ คี วามร้อนมากถึงขนาดเผาถังน�ำ้ มันโดยไม่ทงิ้ ร่องรอย
อะไรไว้ให้เห็นเลยนั้น ในความเป็นจริงแล้วไม่มีทางเป็นไปได้”
“อ้าว แต่เมื่อกี้นี้นายเพิ่งแสดงพลาสมาให้ฉนั ดูไม่ใช่หรือ”
“ใช่ แต่ถ้าเอาสถานที่เกิดเหตุตรงนี้ใส่เข้าเตาไมโครเวฟได้ ก็เป็น
อีกเรื่องหนึ่ง” ยุกาว่าพูดหน้านิ่ง ไม่มรี อยยิ้มให้เห็นแม้แต่น้อย
“ถ้าไม่ใช่พลาสมา แล้วมันคืออะไรล่ะ”
“เรื่องนั้นฉันเองก็ยังให้ค�ำตอบแน่นอนไม่ได้เหมือนกัน” ยุกาว่า
ยกนิ้วชี้ข้างขวาขึ้นมา และกดคลึงไปมาบนขมับของตัวเอง “เรื่องที่หัว
ของเด็กหนุ่มลุกไหม้นั่นคือประเด็นส�ำคัญของเรื่องนี้ ไอ้ที่ว่าหัวไหม้ก่อน
ถังน�้ำมันนั่นน่ะ”
“นี่ก�ำลังจะบอกว่านายเชือ่ เรื่องนั้นอย่างนั้นหรือ”

- 35 -
探偵ガリレオ

“เรื่องนั้นน่ะเป็นเรื่องจริง”
“โห ชักอยากฟังขึน้ มาแล้วแฮะว่าอะไรท�ำให้นายกล้าฟันธงแบบนัน้ ”
“ถ้าเกิดถังน�้ำมันติดไฟขึ้นมาก่อน จากนั้นไฟจึงค่อยลามมาติด
ที่ส่วนหัวของเด็กหนุ่มคนนั้น ส่วนที่ควรจะไหม้ก่อนก็ควรจะเป็นใบหน้า
มากกว่าทีจ่ ะเป็นหัว ถูกไหม เพราะว่าเด็กหนุ่มคนทีต่ ายยืนหันหน้าเข้าหา
ตู้ขายน�้ำ แต่ว่าเด็กหนุ่มคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์กลับบอกว่าไฟเริ่มไหม้
ขึ้นมาจากส่วนท้ายทอย ท�ำไมไฟถึงได้ลุกขึ้นมาจากส่วนที่อยู่ตรงกันข้าม
แบบนั้นได้ล่ะ หือ”
คุซานางิเผลออุทานดัง อ๊ะ ออกมาหลังฟังจนจบ จะว่าไปก็จริง
อย่างที่อีกฝ่ายพูด
“ฉันคิดว่าหัวของเด็กหนุม่ ติดไฟก่อน จากนัน้ ถังน�ำ้ มันจึงค่อยติดไฟ
นี่ล่ะเรียงล�ำดับได้ถูกต้องแล้ว และการจะท�ำให้ทั้งสองสิ่งนี้ติดไฟได้ก็
ต้องมีความร้อน แสดงว่าจะต้องมีความร้อนจากอะไรสักอย่างเกิดขึน้ ทีห่ วั
ของเด็กหนุ่ม แล้วจึงเคลือ่ นไปทีถ่ งั น�ำ้ มัน แต่ถ้าเป็นความร้อนสูงขนาดนัน้
พวกเด็กหนุ่มคนอื่นๆ ก็น่าจะมองเห็น แต่เท่าที่ฟังนายเล่า ดูเหมือนว่า
ไม่มีใครรู้สกึ ถึงความร้อนที่ว่านั่นเลย จนกระทั่งถังน�้ำมันเกิดติดไฟขึ้นมา”
“ใช่แล้ว”
“ท�ำไมถึงเกิดความร้อนสูงเฉพาะที่แบบนั้นขึ้นมาได้...” ยุกาว่ายก
มือซ้ายขึ้นเท้าเอว ส่วนมือขวาเปลี่ยนมาแตะปลายคางท�ำท่าครุ่นคิด
“ขนาดผู้ช่วยศาสตราจารย์หนุ่มแห่งมหาวิทยาลัยเทโตะยังยอม
ยกธงเลยหรือเนี่ย”
“ตอนนี้เท่าที่คิดออกมีอยู่แค่อย่างเดียว” หลังพูดจบ ยุกาว่าก็จ้อง
มองไปยังถนนทีท่ อดตัวยาวตรงจากทีเ่ กิดเหตุไปทางทิศใต้ ทว่าเพียงไม่นาน
เขาก็กลับส่ายหน้าดิก “ไม่น่าจะเป็นไปได้”
“อะไร นายคิดอะไรออกแล้วหรือ”
“เปล่า ถึงเล่าให้นายฟังไปตอนนีก้ ไ็ ม่มปี ระโยชน์ เอาเป็นว่าเราไปหา

- 36 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ร้านกาแฟกันก่อนดีกว่าไหม ฉันอยากดื่มกาแฟตอนรวบรวมความคิดน่ะ”
“ครับ ครับ ไม่ว่าอะไรก็เชิญสั่งมาได้เลยครับ อาจารย์” คุซานางิ
ออกเดินไปทางรถสกายไลน์ มือก็ควานหากุญแจรถในกระเป๋าไปด้วย
หลังจากขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ยุกาว่าก็เอ่ยขึ้น “ก่อนไปร้านกาแฟ
ช่วยขับวนรอบแถวนี้ช้าๆ ให้หน่อยได้ไหม ฉันอยากดูสภาพภูมิทัศน์ของ
เมืองนี้สักหน่อย”
“โห สภาพภูมทิ ัศน์ของเมืองนี่เอาไปใช้อ้างอิงได้ด้วยหรือ”
“บางทีก็ใช้ได้นะ”
คุซานางิครางดัง หืม พร้อมพยักหน้าหงึกพอเป็นพิธี ก่อนออกรถ
และขับไปช้าๆ ตามที่ยุกาว่าบอก แต่ถนนหนทางที่ทอดยาวออกไปนั้น
ไม่มีความโดดเด่นอะไร จะมีก็แค่บ้านเรือนประชาชนกับร้านค้าเล็กๆ
ตั้งเรียงรายเท่านั้น
“ถ้าหากว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคราวนี้ เกิดจากความตั้งใจของใคร
บางคนจริง” ยุกาว่าซึง่ นัง่ อยูข่ า้ งคนขับเกริน่ “แล้วเป้าหมายของคนคนนัน้
คืออะไร การฆาตกรรมอย่างนั้นหรือ”
“ก่อนอื่น เราคงต้องคิดถึงประเด็นนั้นกันก่อนล่ะ เพราะอันที่จริง
ก็มีคนตายไปแล้วหนึ่งคน”
“นายจะบอกว่านี่เป็นคดีฆาตกรรมโดยมีเป้าหมายอยู่ที่เด็กหนุ่ม
ที่ชื่อยามาชิตะ เรียวสุเกะคนนั้นหรือ”
“ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคนที่ถูกเล็งไว้มีแค่เขาคนเดียวหรือเปล่า
ดีไม่ดีทุกคนอาจโดนหมายหัวเหมือนกันหมด แต่เผอิญว่ามีแค่ยามาชิตะ
คนเดียวเท่านั้นที่ตายก็ได้”
“เด็กวัยรุ่นพวกนั้นมาอยู่ตรงนั้นประจ�ำหรือ”
“เรื่องนั้นมีหลายคนเป็นพยานได้ พวกเขาเห็นเจ้าพวกนั้นมาจับ
กลุ่มกันที่นั่นทุกคืนวันพฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์น่ะ” พอพูดเรื่องนี้ คุซานางิก็
อดคิดไม่ได้ว่าควรเรียกคนเหล่านั้นว่าผู้เสียหายมากกว่าพยานเสียกระมัง

- 37 -
探偵ガリレオ

“คืนเกิดเหตุเป็นคืนวันศุกร์ใช่ไหม” ยุกาว่าทวนเพื่อความแน่ใจ
“ใช่”
จากการสอบถามผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้ ท�ำให้ยากจะบอกว่า
เด็กวัยรุน่ พวกนีเ้ ป็นทีเ่ ลือ่ งลือในทางทีด่ ี เพราะเท่าทีค่ ซุ านางิรมู้ า เด็กวัยรุน่
พวกนี้ถือโอกาสที่ถนนแถวนี้ไม่ค่อยมีรถผ่าน ขี่มอเตอร์ไซค์วนไปวนมา
โดยไม่สนใจว่าจะเป็นเวลาดึกดื่นขนาดไหน พร้อมส่งเสียงดังเอะอะ
โหวกเหวก ซ�้ำยังชอบทิ้งขยะจนเกลื่อนก่อนกลับ
จึงอาจเป็นไปได้ว่า ใครบางคนที่อาศัยอยู่ละแวกนี้ซึ่งเดือดดาลกับ
พฤติกรรมไร้ความเกรงใจเหล่านั้น จะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุเพื่อหวังสั่งสอน
พวกเด็กวัยรุ่น
แต่ถึงแม้ว่าเหตุที่เกิดคราวนี้เป็นฆาตกรรมจริง คุซานางิก็ยังจับ
เค้าโครงเรื่องไม่ได้เลยด้วยซ�้ำว่าอะไรเป็นอะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร
เขาคิดถึงเรื่องนั้นไปพลางบังคับพวงมาลัยรถ หลังขับไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งพ้นหนึ่งบล็อก คุซานางิก็หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าซอยซึ่งไม่ได้
กว้างนัก ขับไปอีกหน่อยก็เจอทางเลี้ยวแคบๆ อีก ทว่าภูมิทัศน์รอบด้าน
แทบไม่ต่างไปจากที่เห็นมาก่อนหน้าเลย สองข้างทางมีแค่บ้านเรือน
ขนาดเล็กกับอพาร์ตเมนต์ตงั้ เรียงราย นานๆ ทีถงึ จะเจอสิง่ ปลูกสร้างขนาด
ใหญ่ขนึ้ มาหน่อย ซึง่ คาดว่าคงเป็นโรงงานขนาดเล็กประจ�ำเมือง นอกจากนี้
ในพืน้ ทีแ่ ถบนีย้ งั มีโรงงานทีร่ บั งานแบบรับต่อมาอีกทอดแล้วส่งต่ออีกทอด
จากโรงงานอุตสากรรมชั้นน�ำด้วย
ไม่นานนัก รถคันที่นายต�ำรวจหนุ่มขับก็วนกลับมายังต�ำแหน่งเดิม
“มีตรงไหนอยากดูอกี หรือเปล่า” เขาหันไปถามยุกาว่า
“ไม่มีแล้ว เราไปดื่มกาแฟกันดีกว่า”
“รับทราบ”
จังหวะทีข่ บั รถออกจากทีเ่ กิดเหตุ มุง่ หน้าตรงลงไปทางทิศใต้นนั้ เอง
สายตาของคุซานางิก็เหลือบไปเห็นเด็กหญิงหน้าตาคุ้นๆ ยืนอยู่ริมถนน

- 38 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ใช่แล้ว เธอคือเด็กหญิงทีเ่ ขาช่วยพยุงให้ลกุ ขึน้ หลังหกล้มเมือ่ คืนวันเกิดเหตุ


วันนี้เธอใส่ชุดวอร์มสีแดงตัวเดียวกันกับวันนั้น และก�ำลังแหงนหน้าจ้อง
ขึ้นไปด้านบนเหมือนเมื่อวันนั้นเช่นกัน
“เด็กคนนั้นนี่...ท�ำแบบนั้นเดี๋ยวได้หกล้มอีกแหง” คุซานางิพูดขึ้น
หลังขับผ่านเด็กหญิงตัวน้อยมาแล้ว
“รูจ้ กั เด็กคนนัน้ ด้วยหรือ” ยุกาว่าถามขึน้ น�ำ้ เสียงฟังดูหว้ นๆ ชอบกล
ไม่สมเป็นเขาเลย และนั่นท�ำให้คุซานางินึกขึ้นมาได้ว่า ผู้ชายคนนี้เกลียด
เด็กมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ไม่รู้จักหรอก ฉันแค่เคยช่วยอุ้มตอนเธอหกล้มในคืนวันเกิดเหตุ
ก็เท่านั้นเอง”
“อย่างนั้นเองหรือ”
“ท่าทางนายยังเกลียดเด็กไม่เลิกแฮะ” คุซานางิปรายตามองผู้เป็น
เพื่อนเล็กน้อยขณะพูด
“เพราะว่าเด็กไม่รู้จักค�ำว่าหลักเหตุผลน่ะ” ยุกาว่าตอบ “เข้าไปยุ่ง
กับคนที่ไม่รู้จกั หลักเหตุผลก็มีแต่จะเหนื่อยเปล่า”
“พูดอย่างนั้น ระวังชาตินี้จะหาแฟนไม่ได้เอานา”
“มีผู้หญิงที่รู้จักเหตุและผลอยู่ไม่น้อย อย่างน้อยก็มีมากเท่าๆ
กับผู้ชายที่ไม่รู้จักหลักเหตุและผลนั่นแหละ”
ฟังแล้วคุซานางิก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน นิสัยหัวแข็งหัวรั้นของเขาก็ไม่ได้
เปลี่ยนไปจากสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเลย
“เหมือนเด็กคนนั้นจะก�ำลังหาอะไรอยู่นะ” ยุกาว่าพูดต่อ “ลูกโป่ง
หรือเปล่า”
“เมื่อคราวก่อน เด็กคนนั้นก็ท�ำแบบนั้นเหมือนกัน เพราะงั้นแหละ
ถึงได้หกล้ม”
“โถ โถ”
“รู ้ สึ ก ว่ า ...” คุ ซ านางิ นึ ก ย้ อ นไปถึ ง เรื่ อ งที่ เ กิ ด ขึ้ น เมื่ อ คื น ก่ อ น

- 39 -
探偵ガリレオ

“จะบอกว่าหา...ด้ายสีแดงมั้ง”
“เอ๊ะ”
“เห็นเธอบอกว่ามองเห็นด้ายสีแดง หรือว่ามองไม่เห็น หรือว่า
อะไรนี่แหละ ฉันเองฟังแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน”
ตอนนั้นเอง ยุกาว่ากระชากเบรกมือโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า
เป็นเหตุให้ความเร็วตกลงกะทันหัน มิหน�ำซ�้ำตัวรถยังส่ายไปมาอย่างแรง
คุซานางิลนลานเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ “ท�ำอะไรของนายวะ”
“ถอยกลับ”
“หา”
“ถอยรถกลับ เร็วๆ กลับไปที่เด็กผู้หญิงคนเมื่อกี้”
“เด็กผู้หญิงหรือ ท�ำไม”
ยุกาว่าส่ายหน้าซ้ายขวาแรงๆ
“ตอนนี้ฉันยังไม่มีเวลามาอธิบายให้นายฟัง และถึงอธิบายไปก็ไม่
เข้าใจอยู่ดี เอาเป็นว่ารีบถอยรถกลับไปเร็ว”
น�้ำเสียงเร่งร้อนของยุกาว่าไม่เปิดโอกาสให้คุซานางิได้คิดอะไร
ทั้งนั้น คุซานางิจงึ จ�ำต้องปล่อยคันเบรกพร้อมหักพวงมาลัยสุดแรง
โชคดีที่เด็กผู้หญิงคนดังกล่าวยังยืนอยู่ที่เดิมเมื่อพวกเขาวนรถ
กลับไป เธอยังคงแหงนหน้ามองขึ้นไปด้านบนไม่เปลี่ยน
“ไปถามเด็กผู้หญิงคนนั้นดูกนั เถอะ” ยุกาว่าบอก
“ถามเรื่องอะไร”
“แน่ละ ก็ต้องเป็นเรื่องด้ายสีแดงน่ะสิ”
พอได้ยินเช่นนั้น คุซานางิถงึ กับหันขวับไปมองหน้าผู้พูด แต่เห็นได้
ชัดเลยว่ายุกาว่าไม่ได้พูดล้อเล่น
คุซานางิจอดรถและก้าวเข้าไปหาเด็กผู้หญิง โดยมียกุ าว่าตามหลัง
มาติดๆ
“สวัสดีจะ้ ” คุซานางิสง่ เสียงทักทาย “แผลทีห่ วั เข่าหายหรือยังเอ่ย”

- 40 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

เด็กหญิงตัวน้อยแสดงท่าทีระแวดระวังให้เห็นอยู่บ้างในช่วงแรกๆ
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่ลืมหน้าของคุซานางิ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
สีหน้าของเด็กหญิงจึงค่อยผ่อนคลายจากความประหม่า ก่อนทีต่ วั เด็กหญิง
จะพยักหน้าน้อยๆ
“ก�ำลังมองอะไรอยู่หรือ ฉันเห็นเมื่อคราวก่อนหนูก็แหงนมองฟ้า
แบบนี้เหมือนกันนี่เนอะ” คุซานางิพูดพลางแหงนมองไปบนฟ้าบ้าง
“หนูไม่ได้มองสูงขนาดนัน้ หนูก�ำลังมองตรงโน้น” เด็กหญิงตัวน้อย
ชี้นิ้วออกไป แต่คซุ านางิไม่รู้หรอกว่าตรงโน้นที่เด็กหญิงบอกคือตรงไหน
“แล้วหนูมองอะไรอยู่หรือ” เขาลองถามดูอกี ครั้ง
“คือ หนูเห็นด้ายสีแดงล่ะ”
“ด้ายสีแดงงั้นหรือ” เขาได้ยินไม่ผดิ จริงๆ ว่าแล้วคุซานางิจึงหรี่ตา
จ้องตามไปยังจุดที่เด็กหญิงตัวน้อยชี้นิ้ว แต่มองอย่างไรก็ไม่เห็นอะไร
อย่างที่ว่า “ไม่เห็นมีเลย”
“อืม้ มันมองไม่เห็นแล้วน่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยพูดด้วยท่าทางเสียดาย
“คราวก่อนยังเห็นอยู่เลย”
“คราวก่อนหรือ”
“คืออย่างนี้นะ หนูเห็นเมื่อวันไฟไหม้น่ะ”
“วันไฟไหม้...”
คุซานางิเหลียวหลังไปมองยุกาว่า เพือ่ ทีจ่ ะได้เห็นว่าหนุม่ นักฟิสกิ ส์
ก�ำลังกอดอก ขมวดคิ้วจ้องหน้าเด็กหญิงตัวน้อยเขม็ง จ้องกันด้วยสายตา
แบบนั้น เด็กก็กลัวกันพอดีสิ คุซานางินึกอยากพูดเช่นนั้นใจจะขาด
ทันใดนั้นเอง ประตูบ้านที่อยู่ตรงหน้าพอดีก็เปิดอ้าออก คนที่เดิน
ออกมาคือแม่ของเด็กหญิงที่คุซานางิได้พบเมื่อวันก่อน เธอมองมาที่
ผูช้ ายสองคนซึง่ ก�ำลังพูดคุยกับลูกสาวอย่างสนิทสนมด้วยท่าทีไม่ไว้วางใจ
“สวัสดีครับ” คุซานางิผงกศีรษะทักทาย “ดูเหมือนว่าเข่าของ
ลูกสาวคุณจะดีขึ้นแล้วนะครับ”

- 41 -
探偵ガリレオ

ค�ำพูดประโยคเดียวคงเข้าไปช่วยกระตุ้นต่อมความทรงจ�ำของเธอ
เพราะพอได้ยนิ ปุ๊บ ใบหน้าของผู้เป็นแม่กป็ รากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันที
“อ้อ เมือ่ คราวก่อนต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ” พูดแล้วก็กม้ ศีรษะให้
อย่างสุภาพนอบน้อม “เอ่อ ไม่ทราบว่าเด็กคนนี้ไปท�ำอะไรไว้อกี หรือคะ”
“พอดีเราก�ำลังขอให้เธอเล่าเรื่องสนุกๆ ให้ฟังอยู่น่ะครับ เรื่องที่
เธอบอกว่ามองเห็นด้ายสีแดงอะไรนี่ล่ะ”
“อ้อ...” ผู้เป็นแม่ท�ำหน้าเหยเก “เด็กคนนี้ชอบพูดแต่เรื่องแปลกๆ
เรื่อยเลย ของแบบนั้น มันจะไปมองเห็นได้ยังไงกันล่ะคะ จริงไหม”
“หมายความว่ายังไงครับ”
“เอ่อ แหม มันเป็นแค่เรื่องไร้สาระน่ะค่ะ เมื่ออาทิตย์ก่อน...อืม
วันไหนนะ”
“วันศุกร์ใช่หรือเปล่าครับ” คุซานางิบอก “ตามที่ลูกสาวคุณเล่า
ให้ฟัง เธอบอกว่าเห็นเมื่อคืนวันที่เกิดเหตุไฟไหม้ ซึ่งตรงกับวันศุกร์”
“อ้อ ใช่ๆ อืม ใช่แล้วล่ะค่ะ คิดว่าน่าจะประมาณสักห้าทุ่มได้มั้ง
จู่ๆ เด็กคนนี้ก็วิ่งออกไปนอกบ้าน และบอกว่ามองเห็นด้ายสีแดงค่ะ”
“อือ หนูเห็นตอนมองจากหน้าต่างชั้นสองล่ะ” เด็กหญิงตัวน้อย
พูดแทรกขึ้นมา “แล้วพอออกมาข้างนอกนะ หนูกย็ ังเห็นมันอยู่เลย”
“เห็นตรงไหนหรือจ๊ะ”
“คือว่านะ อยู่แถวๆ หัวของคุณลุงคนนั้น” เด็กหญิงชี้ไปที่หน้าของ
ยุกาว่า
นั่นท�ำให้ยุกาว่ายิ่งขมวดคิ้วหนักขึ้นด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์
“ด้ายสีแดงที่ว่ามันเป็นยังไงหรือ หือ” คุซานางิถามต่อ
“มันยืดออกยาว แล้วก็ตรงเป๊ะเลย”
“ตรงเป๊ะหรือ”
“เธอคงหมายถึง มัน ถู ก ขึง เป็ น เส้ น ตรงเลีย บไปกับ ถนนน่ ะ ค่ ะ ”
ผู้เป็นแม่ขยายความ

- 42 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

“แล้วคุณแม่เห็นมันด้วยหรือเปล่าครับ”
ผู้เป็นแม่ส่ายหน้าดิก
“คือว่า ดิฉนั เองก็ออกมาดูขา้ งนอกตามทีล่ กู สาวบอกอยูเ่ หมือนกัน
แต่ไม่เห็นมีอะไรอย่างที่แกว่าเลยค่ะ”
“ไม่ใช่นะ มันมีอยู่จริงๆ” เด็กหญิงท�ำปากยื่น “ตอนที่แม่ออกมา
มันยังมองเห็นอยู่เลยด้วย”
“ก็แม่มองไม่เห็นนี่”
“หนูบอกว่ามันอยู่ตรงโน้น อยู่ตรงโน้น แต่แม่ก็พูดอยู่แต่ว่าไม่เห็น
ไม่เห็น แล้วก็เลยมองไม่เห็นจริงๆ เลย”
“พูดอย่างนี้อีกแล้ว แม่บอกว่าไม่เห็นก็ไม่เห็นสิ” ดูเหมือนว่าบท
สนทนานีจ้ ะเกิดขึน้ ซ�ำ้ ๆ ไม่รกู้ คี่ รัง้ กีห่ น ผูเ้ ป็นแม่จงึ ท�ำหน้าเอือมระอาน้อยๆ
แล้วยุกาว่าก็ขยับตัวเข้ามายืนชิดด้านหลังคุซานางิ และกระซิบที่
ข้างหูนายต�ำรวจว่า “ไอ้ทเี่ ห็นนัน่ เป็นด้ายจริงๆ หรือเปล่า” ดูทา่ ทางเขาคง
ไม่อยากถามค�ำถามกับเด็กด้วยปากของตัวเองกระมัง
“ไอ้ทหี่ นูเห็นน่ะ มันใช่ดา้ ยจริงๆ หรือ” คุซานางิถามเด็กหญิงตัวน้อย
“หนูไม่รู้ แต่หนูเห็นมันเป็นเส้นบางมากๆ เลย แถมยืดเป็นเส้นตรง
แน่วด้วย”
ยุกาว่ากระซิบอีก “ได้แตะมันหรือเปล่า”
“แล้วหนูได้แตะมันหรือเปล่า”
“เปล่า ก็หนูเอื้อมไม่ถึงนี่นา”
คุซานางิหนั ไปมองยุกาว่า เป็นเชิงถามว่ายังมีค�ำถามอะไรอีกหรือไม่
“แถวนี้ มีคนอื่นที่เห็นด้ายนั่นหรือเปล่า” หนุ่มนักฟิสิกส์พูดเบาๆ
คราวนี้คุซานางิเปลี่ยนไปถามค�ำถามนั้นกับแม่ของเด็กหญิง
“ดิฉันไม่ได้ถามเรื่องนั้นกับคนแถวนี้หรอกค่ะ ก็ขนาดตัวดิฉันเอง
ยังมองไม่เห็นเลยนี่คะ ดิฉันคิดว่าบางทีเด็กคนนี้คงตาฝาดดูผิดไปเอง
มากกว่าค่ะ”

- 43 -
探偵ガリレオ

“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่น้า” เด็กหญิงท�ำหน้าเบ้ใกล้ร้องไห้อยู่รอมร่อ


ว่าแล้ว ยุกาว่าจึงรีบกระตุกชายเสื้อนอกของคุซานางิคล้ายกับ
ต้องการบอกว่าไม่อยากอยู่ฟังเสียงร้องไห้กระจองอแงของเด็กในที่แบบนี้
คุซานางิจึงกล่าวขอบคุณแม่ของเด็กหญิงและล่าถอยไปจากตรงนั้น

ยุกาว่าเงียบมาตลอดทางเดินกลับมาที่รถ ซึ่งคุซานางิรู้เลยว่า
เพื่อนของเขาก�ำลังครุ่นคิดเรื่องด้ายสีแดงที่คุยกันเมื่อกี้อยู่แน่นอน แต่ที่
เขาไม่รู้ก็คือ ตรงไหนของเรื่องไปสะกิดต่อมความสนใจของยุกาว่าขึ้นมา
เพราะหากให้พูดตามตรงแล้ว คุซานางิเดาไม่ออกเลยจริงๆ ว่าที่จริงแล้ว
ด้ายสีแดงที่ว่านั้นคืออะไร แต่สิ่งที่เขาควรระมัดระวังในเวลานี้ก็คือ การ
ไม่ไปรบกวนหรือขัดจังหวะการใช้ความคิดของยุกาว่า
รถคู่ใจของคุซานางิยังคงจอดอยู่ที่เดิม ซ�้ำยังรอดพ้นจากการโดน
แปะสติ๊กเกอร์จอดรถผิดกฎจราจรมาได้ คุซานางิหยิบกุญแจรถขึ้นมา
และเปิดประตูฝั่งคนขับก่อน ทว่ายุกาว่ากลับไม่มีทีท่าว่าจะเดินมาขึ้นรถ
“ขอโทษนะ แต่นายกลับไปก่อนก็แล้วกัน” ยุกาว่าพูดขึ้น “ฉันจะ
ไปเดินเล่นแถวนี้สักหน่อย”
“ฉันเองก็อยากไปเดินเป็นเพื่อนนายนะ หรือว่าฉันไม่ไปด้วยจะ
ดีกว่า”
“นั่นสินะ ฉันอยากเดินคนเดียวมากกว่า” ยุกาว่าประกาศชัดเจน
ลองผู้ชายคนนี้พูดแบบนี้แล้วละก็ ต่อให้พูดอะไรหรือเกลี้ยกล่อมอย่างไร
ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนใจเขาได้ ซึ่งเรื่องนี้คุซานางิรู้ดีมาตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปี
ก่อนแล้ว
“งั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นอย่าลืมติดต่อมาล่ะ”
“อื้ม”
คุซานางิเลื่อนตัวเข้าไปนั่งในรถสกายไลน์ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์
และขับออกไปโดยไม่ลมื เหลือบดูกระจกมองหลัง สิ่งที่เห็นก็คือ ภาพของ

- 44 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ยุกาว่าเดินย้อนกลับไปทางที่เพิ่งจากมาเมื่อสักครู่นี้
“ด้ายสีแดง...อย่างนั้นหรือ”
ถึงแม้จะลองพึมพ�ำออกเสียง แต่กไ็ ม่มไี อเดียอะไรผุดขึน้ มาในสมอง
คุซานางิเลยแม้แต่น้อย

5
“...มันคล้ายเวลาที่คุณเฝ้ารอการมาของพายุ อย่างแรก มันจะ
บังเกิดความเงียบงันในช่วงที่คุณรอตั้งรับ ต่อมาอากาศจะแปรปรวน เกิด
เงาด�ำทะมึน เกิดไอน�้ำ ตามมาด้วยความรู้สกึ กดอากาศจากอากาศบางๆ
ความรู้สกึ ถึงแรงดันยามที่กระแสลมพัดลงสู่ผนื ดิน”
เขาเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ พร้อมถอนหายใจ
เขาอ่านไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้เลย จิตไม่มีสมาธิแม้แต่น้อย สมอง
คอยแต่จะคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ตลอดเวลา และเรื่องอื่นที่ว่านั้นก็มีอยู่แค่
เรื่องเดียว
เขาขยับไปยืนที่ริมหน้าต่าง และเปิดม่านออก ภาพโศกนาฏกรรม
ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นผุดขึ้นมาในสมอง
เปลวไฟลุกไหม้ อย่างงดงาม
ไม่คิดฝันเลยว่ามันจะกลายเป็นแบบนั้นไปได้ เสี้ยววินาทีแรก
เขาแทบไม่เชื่อเลยด้วยซ�้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้นคือความจริง แต่มัน
คือความจริง
เขาปิดเปลือกตา นับแต่คืนนั้น ความเงียบสงบก็หวนกลับมาสู่

- 45 -
探偵ガリレオ

เมืองนี้ ทว่าเหมือนสวรรค์จงใจกลั่นแกล้ง เพราะตัวเขาในเวลานี้กลับไม่รู้


ว่าจะรับมือกับความเงียบงันอย่างไรดี ตกกลางคืน พออยู่ตามล�ำพังใน
ห้อง ความโดดเดี่ยวและความพรั่นพรึงที่คล้ายกับเวลาพลัดตกลงไป
ในความมืดมิดซึ่งไม่รู้ว่าก้นบึ้งของมันอยู่ตรงไหนเป็นต้องถาโถมเข้าเล่น
งานเขาอยู่ร่ำ� ไป
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว จู่ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาเดินไป
ใกล้เครื่องเสียง และกดสวิตช์ที่เครื่องเสียงนั้นเพื่อเปลี่ยนเอาเทปอันใหม่
ใส่ลงในช่องเล่นเทปเสร็จสรรพ แล้วจึงกดปุ่มเล่นเทป
เสียงสดใสดังขึ้นมาให้ได้ยนิ จากเครื่องเสียง
‘พี่คะ สบายดีหรือเปล่าคะ ของส่งมาถึงแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่
ส่งนิยายน่าสนุกมาให้หนูเต็มเลย เป็นเพราะพี่น่ีแหละ ตอนนี้หนูเองเลย
กลายเป็นพวกบ้าอ่านนิยายไปด้วยเลย นิยายชุดคุณหมอเคย์ สการ์เพตตา
ของแพทริเซีย คอร์นเวล1 สนุกตื่นเต้นจนวางไม่ลงเลยล่ะค่ะ รู้สึกว่า
หนังสือที่พี่ส่งมาให้หนูคราวนี้ก็มีงานของคอร์นเวลอีกเหมือนกัน หนูดีใจ
มากเลยค่ะ แต่ตอนนี้ชักเริ่มกลุ้มขึ้นมาเสียแล้วว่าจะนอนไม่พอ เพราะมัว
แต่อ่านนิยายนี่แหละ พี่เป็นหวัดบ้างหรือเปล่าคะ ทางนี้คุณแม่มีไข้มา
ตลอดจนถึงเมือ่ สามวันก่อน แต่ว่าตอนนีห้ ายสนิทแล้วล่ะค่ะ เพราะฉะนัน้
ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูเองก็สบายดีค่ะ แต่ช่วงหลังนี้มีแต่คนชอบ
พู ด ให้ ห นู ก ลัวว่ าหนูกินเก่ ง เกินไปแล้ ว พอลองจับพุงตัว เองดู หนูว ่า
หนูชักเริ่มมีไขมันโผล่ออกมาหน่อยนึงแล้วด้วยล่ะ แต่แค่นิดเดียวเอง
นีเ่ นอะ คงไม่เป็นไรหรอกน่า คราวหน้าพีจ่ ะกลับมาได้เมือ่ ไหร่คะ ก่อนกลับ
อย่าลืมส่งจดหมายมาบอกนะคะ งานของพี่คงล�ำบากน่าดูใช่ไหมคะ
ยังไงก็พยายามเข้านะ ฮารุกะเองค่ะ’
สิ้นเสียงน้องสาวมีเสียงนักร้องผู้หญิงคนโปรดของเธอดังคลออยู่
1
Patricia Cornwell (9 มิถุนายน 1956) นักเขียนนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนชื่อดังชาวอเมริกัน
เกิดที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา เป็นที่รู้จักในงานเขียนชุดคุณหมอเคย์ สการ์เพตตา

- 46 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ด้วย เขารอกระทัง่ เสียงเพลงประกอบนัน้ จบลง แล้วจึงค่อยกดปุม่ หยุดเทป


เมื่อเบนสายตามองไปในความมืดของค�่ำคืนที่เงียบสงัด ภาพ
ทิวทัศน์ของเมืองที่บ้านเกิดก็ปรากฏขึ้นหลังเปลือกตาอย่างแจ่มชัด ไม่ว่า
จะเป็นภาพถนนที่เขาจูงมือน้องสาวไปเดินเล่น สภาพอาคารบ้านเรือน
ที่ผู้คนต่างส่งเสียงทักทายกันอย่างเป็นมิตรสนิทสนม
ฉันไม่ได้ออกจากเมืองนั้นมาเพื่อพบกับชะตากรรมเยี่ยงนี้ เขา
พึมพ�ำเช่นนั้นอยู่ในใจ

6
ชายคนนั้นมาปรากฏตัวในเวลาเลิกงาน ตอนนั้นเขาก�ำลังจะสับ
เบรกเกอร์ไฟตัวหลักลง เขาไม่รู้ว่าชายคนนั้นเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร ดังนั้น
ตอนที่ชายคนนั้นส่งเสียงขึ้นว่า “ขอโทษนะครับ” มาเอะจิมะ คาซึยุกิ
จึงสะดุ้งโหยง ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น
ชายแปลกหน้าคนนั้นยืนอยู่ด้านในของบานประตูเหล็กม้วนซึ่งมี
เอาไว้ส�ำหรับขนเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าด้านใน เขาเป็นคนร่างสูง และ
สวมแว่นตา จึงดูแล้วให้ความรูส้ กึ เหมือนตัวผอมบาง ทว่าหากดูดๆี จะเห็น
ว่าช่วงไหล่ของชายคนนัน้ กว้างผึง่ ผาย นอกจากนี้ ฝ่ามือซึง่ โผล่พ้นออกมา
จากชายแขนเสื้อนอกก็มีกล้ามเนื้อได้รูปสวยปรากฏชัด
แทนทีจ่ ะถามออกไปว่าคุณเป็นใคร มาเอะจิมะกลับค้อมศีรษะเล็ก
น้อยหนึ่งครั้งเป็นการทักทายพร้อมมองไปที่ชายคนนั้นด้วยสายตาแฝง
ไว้ด้วยความระแวดระวัง จากนั้นอีกฝ่ายก็ค้อมศีรษะทักทายกลับมาบ้าง

- 47 -
探偵ガリレオ

นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาในโรงงานแห่งนี้ ที่นี่เป็น
โรงงานขนาดเล็กซึ่งรวมผู้บริหารแล้วก็มีพนักงานอยู่แค่สามคนเท่านั้น
วันนี้ประธานซึ่งเป็นผู้บริหารคนที่ว่ามีนัดรับประทานอาหารกับลูกค้าจึง
กลับเร็วกว่าปกติ แถมคู่หูผู้พึ่งพาได้ก็ดันลางานเพราะป่วยนอนซมอยู่
บ้านเสียนี่
“ผมมีงานมาขอให้ช่วยท�ำครับ พอดีรู้มาว่าที่โรงงานนี้ขึ้นชื่อเรื่อง
การแปรรูปทีค่ อ่ นข้างละเอียดและพิถพี ถิ นั ” ชายคนนัน้ เอ่ยขึน้ ด้วยน�ำ้ เสียง
ที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สกึ ใดๆ เจืออยู่เลย และนั่นท�ำให้ผู้ฟังรู้สกึ หวาดหวั่น
อย่างบอกไม่ถูก
จะท�ำยังไงดี มาเอะจิมะคิด เขาไม่รู้ว่าควรต้อนรับลูกค้าที่มาเยือน
โดยตรงแบบนี้เช่นไรดี
มาเอะจิมะไม่ยอมตอบ ชายคนนั้นจึงยังคงยืนจ้องเขานิ่งไม่ไปไหน
ความมุ่งมั่นที่เหมือนจะสื่อว่า ถ้าไม่ได้ค�ำตอบ ฉันก็ไม่ถอยกลับเด็ดขาด
พรั่งพรูออกมาจากร่างของอีกฝ่าย
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น มาเอะจิมะเลยจ�ำใจหยิบสมุดบันทึกการ
ท�ำงานประจ�ำวันขึน้ มา และเขียนประโยคว่า ‘ผมเป็นคนใบ้ครับ พูดไม่ได้’
ชูให้ชายคนนั้นดู
ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนั้น สีหน้า
ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากที่เห็นเมื่อสักครู่แม้แต่น้อย
“ผมตัง้ ใจจะมาสัง่ แบบเป็นเรือ่ งเป็นราววันหลัง แค่อยากจะมาถาม
ให้แน่ใจก่อนว่าทางคุณสามารถท�ำให้ได้อย่างที่ผมต้องการหรือเปล่า
เอ่อ...คุณเป็นคนงานของที่นี่ใช่ไหม”
มาเอะจิมะส่ายหน้าพลางชี้นิ้วมาที่ตัวเอง จากนั้นจึงค่อยชูนิ้วขึ้น
มาสองนิ้ว
“อ้อ มีอีกคนสินะ ช่างเถอะ มีแค่คุณคนเดียวก็พอแล้ว อืม ขอผม
ดูเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตหน่อยได้ไหม”

- 48 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

คราวนี้มาเอะจิมะพยักหน้า ที่ยอมอนุญาตเนื่องจากเขาเคยเห็น
ประธานพาลูกค้ามาเยี่ยมชมโรงงานเป็นครั้งคราวอยู่เหมือนกัน อีกอย่าง
ที่นี่ไม่มขี องอะไรที่ห้ามให้คนอื่นเห็นอยู่แล้วด้วย
ชายคนนัน้ ย่างเท้าไปอย่างเชือ่ งช้าจนดูนา่ แปลก เขาขยับเข้าไปใกล้
เครื่องจักรซึ่งตั้งเรียงรายอยู่ข้างตัวก่อนเป็นอันดับแรก
“อืม มีเครื่องตัดไฟฟ้าสองตัว กับเครื่องตัดด้วยลวดสองตัวสินะ
ทั้งหมดเป็นของบริษัท M อย่างนั้นรึ มีระบบ NC 1 เสียด้วย”
เมื่ อ ได้ ยิ น ดั ง นั้ น มาเอะจิ ม ะก็ รี บ ตวั ด ปากกาเขี ย นตั ว หนั ง สื อ
หยุกหยิกที่ด้านหลังสมุดบันทึกประจ�ำวัน แล้วยื่นไปตรงหน้าอีกฝ่ายทันที
ชายแปลกหน้าอ่านประโยคนั้นออกเสียง
เครื่องจักรรุ่นเก่าแล้ว เพราะฉะนั้นถ้างานยากเกินไปอาจท�ำให้
ไม่ได้นะครับ บนหลังสมุดบันทึกเขียนไว้เช่นนั้น
ดูเหมือนชายแปลกหน้าจะหัวเราะเล็กน้อย เขาอาจจะข�ำกับการ
ที่มาเอะจิมะชิงออกตัวปฏิเสธไว้ก่อนก็เป็นได้
แต่โดยส่วนตัวแล้ว มาเอะจิมะไม่เห็นว่าการดักคออีกฝ่ายเช่นนี้
จะเป็นเรื่องไม่ดีตรงไหน เพราะถ้าขืนรับงานมาโดยไม่ดูให้ดีเสียก่อน
สุดท้ายคนที่ต้องล�ำบากก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนงานอย่างพวกเขา
โทกิตะ คือชื่อโรงงานประจ�ำเมืองแห่งนี้ และไม่ต้องสงสัยเลยว่า
ชื่ อ โทกิ ต ะนั้ น มาจากชื่ อ สกุ ล ของประธานนั่ น เอง เครื่ อ งจั ก รทั้ ง หมด
ที่อยู่ที่นี่ ล้วนแต่เป็นของที่ซื้อมาในราคาถูกแสนถูกจากบริษัทผู้ผลิต
เครื่องจักรอุตสาหกรรมหนักซึ่งเมื่อก่อนประธานโทกิตะเคยท� ำงานอยู่
อายุการใช้งานก็เกินจากที่ก�ำหนดมาแล้วไม่รู้กี่ปี แต่ถึงกระนั้น ส�ำหรับ
ผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ขนาดเล็กอย่างโรงงานโทกิตะแล้ว ถือว่าเครื่องไม้

1
ย่อมาจาก Numerical Control เป็นระบบที่ช่วยควบคุมการท�ำงานของเครื่องจักรกลอัตโนมัติต่างๆ
เช่น เครื่องเจาะ เครื่องกัด เครื่องกลึง เป็นต้น ปัจจุบันมีระบบที่ชื่อ CNC หรือ Computer Numerical Control
ซึ่งเป็นการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในกระบวนการท�ำงาน

- 49 -
探偵ガリレオ

เครื่องมือเหล่านี้ยังใช้งานได้ดอี ยู่ในทุกๆ ด้าน


“ลวดขนาด 0.4 มิลลิเมตรอย่างนั้นหรือ” ชายแปลกหน้าพูดขึ้น
หลังชะโงกหน้ามองไปที่เครื่องตัดด้วยลวด
มาเอะจิมะพยักหน้าตอบ ในใจอดทึ่งไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้ช่างเป็น
คนที่รอบรู้ดจี ริงๆ
เครื่องตัดด้วยลวดที่ว่าคือ เลื่อยฉลุซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้านั่นเอง
ปกติเลื่อยฉลุจะตัดวัสดุด้วยใบมีด แต่ในกรณีของเครื่องตัดด้วยลวด
จะใช้ประจุไฟฟ้าสถิตที่ถูกปล่อยออกมาจากเส้นลวดท�ำให้วัสดุที่จะตัด
ละลายขาดออกจากกัน นอกจากนี้ยังปรับระดับความละเอียดแม่นย�ำ
ในการตัดให้ขึ้นไปถึงหน่วยไมครอน 1 ได้ โดยการบีบประจุไฟฟ้าสถิต
ของเส้นลวดให้เล็กลง
“ถ้าแบบนี้ล่ะ ท�ำได้หรือเปล่า” ชายคนนั้นหยิบกระดาษแผ่นหนึ่ง
ออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อนอก บนกระดาษกราฟมีรูปชิ้นส่วนอะไหล่
วาดด้วยเส้นซับซ้อนยุ่งเหยิง แต่มกี ารระบุรายละเอียดรวมถึงตัวเลขต่างๆ
แสดงให้เห็นว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่มอื สมัครเล่น
เมือ่ เห็นแผนผังตรงหน้า มาเอะจิมะก็อดคิดไม่ได้วา่ ชิน้ ส่วนอะไหล่
นี้เล็กอยู่ทีเดียว โดยเฉพาะตรงส่วนมุมนี่ท่าทางจะท�ำยากพอสมควร
มาเอะจิมะอยากบอกให้อีกฝ่ายรู้เรื่องนี้ จึงชี้ไปที่ส่วนนั้นบนแผนผัง แล้ว
ส่ายหน้าไปมาให้ดู
“ตรงส่วนนี้ท�ำยากจริงๆ ด้วยสินะ ถ้าไม่ได้ตามนี้ ก็เอาเท่าที่ทาง
คุณท�ำให้ได้กแ็ ล้วกัน”
ชายคนนั้นมองส�ำรวจไปรอบโรงงานขณะเดินเลาะไปตามข้างผนัง
เมื่อสังเกตเห็นชิ้นส่วนซึ่งวางอยู่ในถาดบนชั้น เขาก็หยิบมันขึ้นมาและ
เริ่มมองพินิจพิเคราะห์ มันคืองานตัวอย่างชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่บริษัท
1
Micron สัญลักษณ์ µm เป็นหน่วยวัดความยาวมีค่าเท่ากับ 1 ใน 1,000,000 เมตร
หรือเทียบเท่า 1.000 นาโนเมตร

- 50 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

หนึ่งสั่งให้ท�ำ
มาเอะจิมะใช้ก� ำปั้นทุบโต๊ะที่อยู่ใกล้ตัวเสียงดังปัง ท� ำให้ชาย
แปลกหน้าหันมามองด้วยสีหน้าตกใจ
มาเอะจิมะชี้ไปที่ถาด ท�ำท่ามือแตะ หลังจากนั้นจึงชูมือสองข้าง
ขึน้ ท�ำเครือ่ งหมายกากบาท และดูเหมือนอีกฝ่ายจะเข้าใจในสิง่ ทีม่ าเอะจิมะ
อยากพูด
“อ๊ะ ขอโทษ ห้ามแตะผลิตภัณฑ์ที่ท�ำจากโลหะด้วยมือเปล่านี่นะ
เพราะเกลือจากร่างกายจะท�ำให้โลหะเป็นสนิมได้ง่ายๆ” ชายแปลกหน้า
รีบร้อนวางชิ้นส่วนที่อยู่ในมือกลับคืนที่ทนั ที “ว่าแต่ สรุปว่ายังไง จะท�ำให้
ผมได้ไหม”
มาเอะจิมะชี้ไปบนจุดต่างๆ อีกหลายจุดบนแผนผัง ก่อนยกนิ้ว
หัวแม่โป้งกับนิว้ ชีข้ นึ้ มาอยูใ่ นระดับสายตา โดยให้ทงั้ สองนิว้ อยูห่ า่ งจากกัน
ประมาณสามเซนติเมตร
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง อยากจะบอกว่าถ้าอะลุ่มอล่วยตรงจุดนั้นให้
ก็อาจท�ำให้ได้ใช่ไหม อื้ม” ชายคนนั้นพยักหน้าพลางท�ำหน้าเหมือนจะ
บอกว่านึกแล้วต้องพูดอย่างนี้ “ถ้าอย่างนั้น วันนี้ผมจะเอาแผนผังนั่น
กลับไปแก้ก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยเอามาให้ดูใหม่กแ็ ล้วกัน”
แบบนั้นดีกว่า มาเอะจิมะพยักหน้าเป็นการเห็นด้วยกับความคิด
ดังกล่าว และหยิบแผนผังคืนให้ชายแปลกหน้า
ทว่ า หลั ง จากที่ ไ ด้ แ ผนผั ง คื น แล้ ว ชายคนนั้ น ก็ ยั ง ไม่ ย อมกลั บ
แต่ยืนมองถังแก๊สซึ่งตั้งอยู่ชิดผนังไม่วางตา ที่ตรงนั้นมีถังแก๊สหลากชนิด
ตั้งปะปนกัน
“ที่จริง ผมยังมีเรื่องอยากถามอยู่อีกเรื่องหนึ่ง” ไม่รู้เป็นเพราะ
สังเกตได้ถึงสายตาของมาเอะจิมะหรืออย่างไร ชายคนนั้นจึงชูนิ้วชี้ขึ้นมา
พร้อมกับพูดขึ้น
มาเอะจิมะตั้งตารอค�ำถามที่อีกฝ่ายก�ำลังจะยิงมา

- 51 -
探偵ガリレオ

เขาพูดขึ้น “อาจฟังดูเป็นค�ำถามที่พิลึกพิลั่นอยู่สักหน่อย แต่ว่า


ที่ผ่านมาเคยมีปรากฏการณ์พิเศษอะไรเกิดขึ้นจากการใช้เครื่องตัดไฟฟ้า
หรือเครื่องตัดด้วยลวดบ้างหรือเปล่า”
เป็นค�ำถามที่แปลกพิลึกจริงอย่างที่เจ้าตัวเกริ่นไว้ มาเอะจิมะได้
แต่เอียงคอให้กบั ค�ำถามนั้น
“หรือพูดอีกอย่างก็คือ” ชายคนนั้นโบกมือขวาไปมาพลางพูดต่อ
“อย่างเช่นเคยเกิดปรากฏการณ์พลาสมาอะไรท�ำนองนั้นน่ะ มีไหม”
มาเอะจิมะถึงกับเบิกตาโพลงโดยไม่ต้งั ใจ
“ปรากฏการณ์การปล่อยกระแสไฟฟ้ากับพลาสมามีความสัมพันธ์
กันค่อนข้างใกล้ชดิ น่ะ ผมเลยลองถามดู”
พอฟังอีกฝ่ายพูดจบ มาเอะจิมะก็หยิบสมุดบันทึกขึ้นมาเขียน
ข้อความที่ด้านหลังว่า ‘เรื่องอุบัติเหตุตรงถนนฮานายะใช่ไหมครับ’ และ
ชูให้ชายแปลกหน้าดู
“อื้ม ก็อะไรประมาณนั้น” ชายคนนั้นยิ้มเฝื่อนๆ จากนั้นจึงค่อย
ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสือ้ นอกและหยิบเอานามบัตรออกมา “ผมท�ำงาน
ที่นี่น่ะ เผอิญว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นมันไปสร้างปัญหาให้เพื่อนของ
ผมนิดหน่อย”
เท่าทีด่ จู ากนามบัตร ดูเหมือนว่าชายแปลกหน้าคนนีจ้ ะท�ำงานเป็น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิชาฟิสิกส์อยู่ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อรู้
เช่นนั้นแล้ว มาเอะจิมะก็ชักเกิดอาการประหม่าเล็กน้อย
“ไหนๆ จะมาสั่งให้ท�ำชิ้นงานตัวอย่างแล้ว ผมเลยลองถามดูเผื่อ
จะได้อะไรมาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงบ้าง”
มาเอะจิมะพยักหน้า ก่อนก้มหน้าเขียนข้อความลงไปที่หลังสมุด
บันทึกและยกให้อกี ฝ่ายดู
‘ไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นเลยสักครั้งครับ’
“คุณหมายถึงไม่เคยมีพลาสมาปรากฏให้เห็น ใช่ไหม”

- 52 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

มาเอะจิมะพยักหน้าหงึกอีกครั้ง
“อย่างนั้นหรือ” ชายคนนั้นท�ำหน้าเหมือนเสียดายอยู่พอสมควร
เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายแล้ว มาเอะจิมะจึงเขียนข้อความเพิ่ม
‘เป็นพลาสมาจริงๆ หรือครับ’
“อืม พวกเราคิดกันว่าน่าจะใช่น่ะ แต่ตอนนี้ยังขาดหลักฐานชิ้น
ส�ำคัญอยู่ช้นิ หนึ่ง”
มาเอะจิมะเอียงคอ พลางครุน่ คิดว่าสิง่ ทีอ่ กี ฝ่ายพูดนัน้ หมายถึงอะไร
“คุ ณ สมบั ติ อ ย่ า งหนึ่ ง ของพลาสมาคื อ มั ก เกิ ด ขึ้ น ซ�้ ำ ๆ ที่ เ ดิ ม
ดังนั้นถ้าหากมีปรากฏการณ์แบบเดียวกันเกิดขึ้นอีกแถวนั้น ก็แสดงว่า
เป็นพลาสมาแน่นอน” ชายคนนั้นเคาะหัวถังแก๊สขณะอธิบาย จากนั้น
จึงค่อยหันมาทางมาเอะจิมะ “ขอโทษที่มารบกวนเวลางานนะ เอาเป็นว่า
เดี๋ยวผมขอกลับไปคิดแก้รายละเอียดตัวเลขของของที่จะให้ทำ� เสร็จแล้ว
ค่อยเอามาให้ทางคุณดูใหม่กแ็ ล้วกัน”
จะรอครับ มาเอะจิมะค้อมศีรษะลงต�ำ่ โดยไม่ลมื ใส่ความรูส้ กึ เช่นนัน้
จริงๆ ลงไป และเขายังรู้สึกดีใจที่อีกฝ่ายจะติดต่อเขาเฉกเช่นเขาเป็น
คนปกติด้วย
ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์วชิ าฟิสกิ ส์ประจ�ำมหาวิทยาลัยยกมือให้ขา้ งหนึง่
ก่อนเดินออกไปจากโรงงานทางประตูซ่งึ อยู่ตดิ กับประตูเหล็กม้วน

7
ยุกาว่ าซึ่ง ออกมาจากโรงงานโทกิตะ แล้วเดินผ่า นข้างรถของ

- 53 -
探偵ガリレオ

คุซานางิไปก่อนครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงค่อยเหลียวมองรอบด้าน เมื่อมั่นใจ


แล้วว่าไม่มใี ครมองอยู่ เขาจึงเลื่อนตัวเข้าไปนั่งบนเบาะข้างคนขับ
“ได้ความว่ายังไงบ้าง” คุซานางิเอ่ยถามทันที
“ยังบอกไม่ได้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คือ ฉันวางกับดักไว้เรียบร้อย
แล้ว”
“อะไรวะ พึง่ พาได้นอ้ ยกว่าทีค่ ดิ เสียอีก” คุซานางิบน่ อุบขณะเคลือ่ น
รถออกจากที่จอด เพราะถ้าขืนยังมัวโอ้เอ้อยู่แถวนี้ เกิดมาเอะจิมะออกมา
เห็นเข้า สิ่งที่ลงทุนท�ำไปทั้งหมดมีหวังสูญเปล่าพอดี
“ใช่วา่ มนุษย์ทกุ คนจะมีพฤติกรรมอย่างทีอ่ กี ฝ่ายคาดเดาไว้เสมอไป
ที่แสดงออกตรงกันข้ามกับที่คิดมีอยู่ถมไป”
“โธ่ ไอ้เรือ่ งนัน้ ฉันเข้าใจ ว่าแต่ ไหงนายถึงได้หมายตาโรงงานนัน่ ล่ะ
ถ้ารู้แล้วว่าไอ้ปรากฏการณ์ประหลาดนั่นคืออะไรก็บอกกันบ้าง”
“เรื่องนั้นฉันว่าให้นายเห็นด้วยตาตัวเองจะเข้าใจได้เร็วกว่าฟัง
ฉันอธิบายนะ อย่างที่เขาว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นไง”
คุซานางิเดาะลิ้น “อย่าท�ำเต๊ะนักได้ไหม”
“ไม่เป็นไรน่า ถ้าความคิดของฉันถูกต้องละก็ นายคงได้เห็น
ปรากฏการณ์นั่นอีกครั้งในเร็วๆ นี้แน่นอน ถึงตอนนั้นแล้วค่อยเล่าให้ฟัง
ก็แล้วกันว่าเพราะอะไรฉันถึงได้หมายตาโรงงานนั้น” ยุกาว่าบอกด้วย
น�้ำเสียงเปี่ยมความมั่นใจ
ทว่าส�ำหรับคุซานางิแล้ว เขาได้แต่เบะปากพลางคิดในใจว่า ได้รอ
กันเหนียงยานพอดี
ช่วงประมาณหลังเที่ยงของวัน จู่ๆ ยุกาว่าก็โทรศัพท์มาบอกว่ามี
สถานทีท่ อี่ ยากให้ไปด้วยกัน และพอเจอหน้ากันปุ๊บ คุซานางิกโ็ ดนลากตัว
มายังสถานที่นั้น ซึ่งก็คือโรงงานโทกิตะนั่นเอง
โรงงานโทกิตะตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่เกิดเหตุคราวนี้มากนัก
เรียกว่าแค่เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไปประมาณ

- 54 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ยี่สิบเมตร เดินไปสุดทางก็ถึงแล้ว ถ้ายืนหันหน้าเข้าจากปากซอยก็จะ


มองเห็นหน้าต่างของโรงงานได้
ยุกาว่าย�้ำว่าให้จ�ำสถานที่นี้เอาไว้ให้ดี
“อีกไม่นานเกินรอ จะมีปรากฏการณ์ประหลาดที่ว่าเกิดขึ้น ถึง
ตอนนั้นคุณรีบมาตรวจดูท่นี ี่ได้เลยไม่ต้องรีรอ”
“ท�ำไมนายถึงกล้าพูดเต็มปากเต็มค�ำนัก หือ ไอ้เรื่องที่ว่าจะมี
ปรากฏการณ์น่นั เกิดขึ้นน่ะ”
คุซานางิถามด้วยความสงสัยเคลือบแคลง ทว่ายุกาว่ากลับตอบ
เหมือนไม่ใช่เรื่องสลักส�ำคัญอะไร
“ไม่ เ ห็ น น่ า ถาม ก็ เ พราะว่ า ฉั น เป็ น คนวางกั บ ดั ก เพื่ อ ให้ เ กิ ด
ปรากฏการณ์ท่วี ่านั่นเองยังไงล่ะ”
“วางกับดักหรือ กับดักแบบไหน”
“ไปด้วยกันแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง เพียงแต่ ห้ามให้ทางโน้นรู้เด็ดขาดเลย
นะว่านายเป็นต�ำรวจมือปราบ”
ตกลงกันเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็มุ่งหน้าไปยังโรงงาน
แต่เมื่อเดินไปจนเกือบถึงประตูทางเข้า คุซานางิจ�ำต้องกระโดดซ่อนตัว
แทบไม่ทัน เพราะเขาจ�ำได้ว่าคนที่อยู่ในโรงงานก็คือชายหนุ่มคนที่พูด
ไม่ได้ซ่งึ เขาเคยไปสอบพยานเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั่นเอง
“สรุปคือ เขาอาศัยอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ อย่างนั้นสินะ” ยุกาว่า
ถามหลังจากทั้งคู่วกกลับมาที่รถก่อนครั้งหนึ่ง
“จะว่าใกล้ก็ใกล้ เปิดหน้าต่างออกมาก็เห็นสถานที่เกิดเหตุอยู่
ทางด้านซ้ายใต้หน้าต่างพอดี”
“อย่างนั้นหรือ” ยุกาว่าพยักหน้าตอบเพียงเท่านั้น แล้วจึงเปิด
ประตูรถ
“จะไปไหนน่ะ”
“ของมันแน่อยู่แล้ว ฉันจะไปคนเดียวน่ะสิ เพราะขืนให้นายไปด้วย

- 55 -
探偵ガリレオ

ความได้แตกหมดพอดี”
“นายคิดจะท�ำอะไร”
“ก็บอกแล้วไงว่าวางกับดัก” ยุกาว่าหยักยิ้มมุมปากข้างหนึ่งให้
ก่อนก้าวลงจากรถ
มือของคุซานางิกุมพวงมาลัยรถแน่น พลางคิดไปว่าอยากแหวะ
สมองผู้ชายคนนี้ออกมาดูจริงๆ ว่าข้างในนั้นมีอะไรบ้าง เขาไม่รู้เลยว่า
ยุกาว่ามีข้อสันนิษฐานอะไร และมีหลักฐานข้อมูลแบบไหนถึงได้กล้า
ท�ำนายว่าจะต้องมีปรากฏการณ์แบบเดียวกันเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างไม่ต้อง
สงสัย ที่เขารู้มเี พียงแค่ท�ำตามผู้เป็นเพื่อนบอกเท่านั้น

เหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นที่ถนนรูปตัว T อีกครั้ง ในอีกสามวัน


หลังจากวันที่ยุกาว่าได้ท�ำนายเอาไว้
ปรากฏการณ์ครั้งที่สองนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแรกมากทีเดียว
จู่ๆ ลังกระดาษที่ถูกน�ำมาวางไว้ข้างตู้ขายน�ำ้ อัตโนมัติก็เกิดลุกไหม้ขึ้นมา
แต่ว่าคราวนี้ไม่มผี ู้เคราะห์ร้าย
ทว่ามีพยานผู้เห็นเหตุการณ์ เขาคนนั้นคือต�ำรวจมือปราบซึ่งมา
เฝ้าดูอยู่ตลอดตั้งแต่เมื่อสามวันก่อน หรือก็คอื คุซานางินั่นเอง
ตอนแรก คุซานางิไม่เข้าใจดีนกั ว่าเกิดอะไรขึน้ และทันทีทตี่ ระหนัก
ได้วา่ นีจ่ ะต้องเป็นปรากฏการณ์ประหลาดทีว่ า่ นัน้ แน่ เขาก็รดุ ไปยังโรงงาน
ที่ยุกาว่าเคยบอกอย่างว่องไว
และเขาก็ได้พบกับสิ่งนั้น หากให้พูดตามตรง ณ เวลานั้นเขาไม่รู้
ด้วยซ�้ำว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคืออะไร สิ่งที่รู้มีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือ
เจ้านี่จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ประหลาดนั่นอย่างแน่นอน
ว่ า แล้ ว คุ ซ านางิ จึ ง หมุ น ส้ น เท้ า กลั บ ไปทางอพาร์ ต เมนต์ ห ลั ง ที่
เขาเพ่งเล็งไว้ และเมื่อไปถึงเขาก็เห็นชายคนหนึ่งก�ำลังเดินออกมาจาก
ห้องหมายเลข 205 ซึ่งอยู่บนชั้นสองพอดี คุซานางิซ่อนตัวในฉับพลัน

- 56 -
ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ผู้ชายคนนั้นออกเดินไปตามทางที่คุซานางิเพิ่งผ่านมา
เมื่อ เห็น ดัง นั้น คุซ านางิจึง สะกดรอยตามไป โดยที่รู ้ อ ยู ่ แ ล้ ว ว่ า
จุดหมายของผู้ชายคนนั้นคือที่ไหน
หลังจากรอให้ผู้ชายคนนั้นเข้าไปในโรงงานโทกิตะ และตั้งท่าจะ
ท�ำลายหลักฐาน คุซานางิก็ส่งเสียงเรียกให้หยุด
ชายหนุ่มหยุดนิ่งยืนตัวตรงแน่วอยู่ช่วั ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมา
อย่างเชื่องช้า
ใบหน้านั้นซีดเผือดแทบไม่มสี ีเลือด สองตาแดงก�่ำ
“นายนี่เอง...” คุซานางิพูดพร้อมถอนหายใจ
คนทีย่ นื อยูต่ รงนัน้ ไม่ใช่มาเอะจิมะ คาซึยกุ ิ แต่เป็นคาเนโมริ ทัตสึโอะ
คนที่ควรจะอยู่ในห้องหมายเลข 105 ของอพาร์ตเมนต์หลังนั้น
เรื่องนี้ยุกาว่าเองคงคิดไม่ถงึ เหมือนกันแน่ๆ คุซานางิคิดในใจ

8
ถ้วยกาแฟทีใ่ ช้ใส่กาแฟส�ำเร็จรูปไม่ได้รบั การขัดล้างจนสะอาดเอีย่ ม
เหมือนอย่างเคย แต่ถ้าคิดจะคบหากับผู้ชายคนนี้ต่อไป ก็มีแต่ต้องชิน
กับมันให้ได้เท่านั้น คุซานางิคิด
“ว่าแต่นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะเป็นแสงเลเซอร์ 1” นายต�ำรวจ
1
ย่อมาจาก Light Amplification by Stimulated Emission of Radiation (LASER) ในทางฟิสกิ ส์ คือ อุปกรณ์ท่ี
ให้กำ� เนิดล�ำแสง ที่มีลักษณะเฉพาะ เป็นเทคโนโลยีที่รวมกันระหว่างกลศาสตร์ควอนตัมกับอุณหพลศาสตร์
พลังงานแสงเลเซอร์ สามารถให้คณ ุ สมบัติได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กบั จุดประสงค์ในการออกแบบ

- 57 -
探偵ガリレオ

มือปราบวางถ้วยลงพลางถอนหายใจ
“พูดให้ถูกก็คือ เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ 1” ยุกาว่าพยักหน้า
ก่อนอธิบายเสริม
“ว่าไงนะ เลเซอร์มแี บ่งออกเป็นหลายหลากชนิดด้วยหรือ”
“แน่นอน ที่เรารู้จักกันดี คงมีเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ เลเซอร์
YAG เลเซอร์แก้ว 3 ล่ะมั้ง”
2

“ค�ำว่าเลเซอร์น่ะได้ยินอยู่บ่อยๆ แต่ไม่นึกเลยว่ามันจะอยู่ใกล้ตัว
เราขนาดนั้น”
“อย่างเครื่องเล่นซีดีที่เราใช้ในชีวิตประจ�ำวันก็ใช้เลเซอร์เหมือนกัน
แต่ถ้าพูดถึงแสงเลเซอร์ที่รุนแรงถึงขนาดเผาคนได้ ส่วนใหญ่คงนึกไปถึง
หนังวิทยาศาสตร์เสียมากกว่า”
“ปืนเลเซอร์สินะ แต่ไอ้ที่ฉันเจอที่โรงงานนั่นดูยังไงก็ไม่เหมือน
ปืนเลเซอร์เลยสักนิด”
เครื่องยิงเลเซอร์ที่อยู่ในโรงงานโทกิตะมีลักษณะเป็นกล่องขนาด
มโหฬารประมาณหนึง่ คันรถบรรทุก ประธานโรงงานบอกว่าเป็นของทีท่ าง
บริษัทซึ่งตัวเองเคยท�ำงานอยู่ขายให้ในราคาถูก ใช้ตัดและเชื่อมแผ่น
เหล็กกล้าเสียเป็นส่วนใหญ่
“ในการสร้างแสงเลเซอร์ที่มีกำ� ลังส่งสูงนั้น จะต้องยิงเลเซอร์แก๊ส
ซึ่งมีส่วนประกอบของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยความเร็วสูง และยัง
ต้องรักษาประจุไฟฟ้าก�ำลังสูงให้มีสถานะเสถียรด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่
เครือ่ งจะมีขนาดใหญ่ แต่ถงึ จะเป็นเครือ่ งยิงเลเซอร์ทมี่ ขี นาดใหญ่อย่างนัน้
1
Carbon dioxide laser หรือ CO2 laser เป็นแสงเลเซอร์ท่มี ีความยาวคลื่นสูง คือ
ประมาณ 10,600 นาโนเมตร (nm) คิดค้นขึ้นโดยคูมาร์ พาเทล (Kumar Patel) แห่งสถาบันวิจัยเบล (Bell Labs)
ในปี ค.ศ. 1964 จัดว่าเป็นเลเซอร์แก๊ส (Gas Laser) ชนิดแรกๆ ที่ถูกค้นพบ ปัจจุบันถูกน�ำมาใช้ประโยชน์
ในหลายด้านรวมถึงในด้านการรักษาความงาม
2
Nd:Yag (neodymium-doped yttrium aluminum garnet; Nd:Y3Al5O12)
Laser เลเซอร์ของแข็ง (Solid State Laser) ชนิดหนึ่ง มีความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร
คิดค้นโดยสถาบันวิจัยเบลในปีค.ศ.1964 ปัจจุบันทางการแพทย์น�ำมาใช้ในการก�ำจัดขนถาวร
3
Laser glass เลเซอร์ของแข็งชนิดหนึ่งที่เกิดจากการใช้แท่งแก้วนีโอดิเมียม (neodymium-glass)

- 58 -

You might also like