You are on page 1of 12987

คําโปรย

นาง มู่เกอ ตายเพราะถูกพวกเดียวกันหักหลัง


วิญญาณกลับไม่ไปสู่ปรภพอย่างทีคิด กลับมาเข้า
ร่างของ มู่ชงิ เกอ คนทีมีชอคล้
ื ายตนในอีกมิตหิ นึง
แทน ด้วยความจําเป็ นทําให้ร่างนีต้องปลอมฐานะ
เป็ นชาย อีกทังโลกใบใหม่ทวัี ดพลังความแข็งแกร่ง
กันด้วยขันสีแห่งพลัง และร่างทีนางมาอาศัยอยู่นีก็
ดันขึนชือว่าเป็ น ‘คนไร้ค่า’ เสียด้วย เพราะไร้ซงึ
พรสวรรค์ไม่สามารถฝึ กฝนขันพลังจึงทําให้ต้องถูก
หลอกให้ไปตายอย่างน่าอนาถ แต่ไม่เป็ นไร นาง มู่
เกอ จะไม่มที างยอมอยู่เป็ นคนไร้ค่าเช่นนีต่อไปแน่
ถ้าต้องเป็ นเช่นนันนางขอยอมตายเสียดีกว่า!

2
________________________________________
________________________________________
____

[ส่วนที 1 ภาคหลินชวน] ตอนที 1 ทะลุมิติ ยืมร่าง

หน้า 17 ของหนังสือสุภาษิ ตเล่มหนึงของจีนได้กล่าวไว้


ว่า จักรวาลนีประกอบด้วย 1.จักรวาลขนาดเล็ก 2.
จักรวาลขนาดกลาง 3.จักรวาลขนาดใหญ่ แต่มีเพียง
จักรวาลเดียวเท่านันทีพระอาทิตย์และพระจันทร์
สามารถส่องแสงไปถึง และจักรวาลนันมีชือว่าโลก

3
**

ในจักรวาลนีมีโลกอยูก่ ีใบ มูเ่ กอไม่รูห้ รอก เธอรูเ้ พียงว่า


เธอตายแล้วและร่างของเธอได้แตกสลาย แต่พอเธอได้
สติอีกครังกลับรูส้ กึ ถึงความอบอ้าวในช่องว่างทีมืดมน
และเต็มไปด้วยกลินคาวเลือด………

หลินชวน คือชือของสถานทีแห่งนี

เม็ดทรายปลิวไปมาอยูเ่ หนือพืนดินทีรกร้าง ร่องทีเกิด


จากการขุดด้วยจอบเพือเตรีมทําการเกษตร ถูกท่วมไป
ด้วยโลหิตสดๆ

4
แสงประกายจากโลหิต สะท้อนขึนไปยังท้อง
ฟ้าทีมืดครึม พระอาทิตย์ทีส่องแสงจ้าถูกห่อหุม้ ไปด้วยสี
แดงจนกลบความร้อนของมัน

ซากศพในชุดนักรบจํานวนนับไม่ถว้ นนอนอยู่
อย่างสงบ รวมเป็ นเนือเดียวกับพืนทรายสีเหลืองหรือใน
วินาทีทีชีวิตของพวกเขาดับดินลงก็ได้กลายเป็ นส่วนหนึง
ของพืนทีรกร้างแห่งนีไปแล้ว

ทันใดนัน พืนทีทีมีศพกองสูงเป็ นภูเขา ก็มี


การเคลือนไหวเล็กน้อย

5
ในช่องว่างบนกองศพ มีมือข้างหนึงทีอาบย้อมไปด้วย
โลหิต ร่องเล็บเต็มไปด้วยคราบเลือดสกปรก ดินรนทีจะ
ยืนออกมา ทังน่าหวาดผวาและน่ากลัว

มือข้างนันยืนออกมาเหนือกองศพ พอสัมผัสเข้ากับลม
เย็นทีพัดผ่านก็อดไม่ได้ทีจะสันขึนมาเบาๆ

จากนัน มือข้างทีย้อมแดงไปด้วยเลือดก็ใช้ดาบปั ดศพที


สัมผัสกับมือออก ไม่นานช่องว่างนันก็ใหญ่ขนึ

“ฮู--------”

นําเสียงอึดอัดดังออกมาจากช่องว่างนันอย่างเลือนราง
6
เสียงนันทีดังออกมา เป็ นเสียงถอนหายใจราวกับว่าในที
สุดก็ได้รบั การปลดปล่อย และเหมือนเสียงทีอดทนจาก
ความเจ็บปวดทีบาดลึกถึงกระดูก

บนกองศพ กลางช่องว่างทีถูกขยายจนใหญ่ขนด้
ึ วยฝี มือ
มนุษย์ มืออีกข้างทีถูกย้อมแดงไปด้วยเลือดก็ยืนออกมา
มือทังสองข้างออกแรงแข็งขันอย่างไม่เหน็ดเหนือยราว
กับเป็ นเครืองจักร ในทีสุด ในทีสุด ช่องว่างทีเดิมยืนมือ
ออกมาได้เพียงข้างเดียว ก็ขยายใหญ่ถงึ ขนาดสามารถจุ
ร่างคนได้ทงคน

ศพทีกองสูงเป็ นภูเขาในตอนแรก ก็ไหลเลือนตกลงรอบๆ

7
รวมไปกับกองศพ

“แค่ก แค่ก…………” สูบอากาศภายนอกเฮือกใหญ่


ด้วยความกระหาย แต่กลับส่งผลกระทบต่อช่วงอกทําให้
ไอออกมาอย่างรุนแรง

ร่างทีเล็กและผอมบาง งอขาทังสองข้างนังอยูใ่ น “หลุม”


ทีตนเองขุดขึน หลังพิงกับกองศพเงยหน้าขึนมองฟ้าสี
แดงในวันทีจันทร์เป็ นสีเลือดนี

สีดาํ สีแดง คราบโลหิตและสิงสกปรกต่างๆ บดบังโฉม


หน้าของเธอ ปรากฏออกมาเพียงดวงตาทีสว่างและสด
ใสราวกับกระจ่างแจ้งในทุกสรรพสิงบนโลกใบนี

8
เธอสงบนิง ชุดออกศึกสีแดงราวกับเปลวเพลิงในตอน
แรก มองไม่เห็นสีสนั ในตอนแรกและฉีกขาดจนไม่อาจใส่
ได้อีก

เธอนังพิงกองศพ กลินคาวเลือดและเนือทีเหม็นเน่าวน
เวียนอยูท่ ีปลายจมูก แต่เธอไม่ได้รูส้ กึ อะไรเลยแม้แต่
น้อย ราวกับว่าคุน้ ชินแล้วอย่างไรอย่างนัน หากไม่ใช่
เพราะดวงตาใสกระจ่างเปี ยมด้วยชีวิตทังคู่ เกรงว่าก็คง
ไม่มีอะไรแตกต่างจากซากศพทีเรียงรายอยูร่ อบๆ

“ฉันตายแล้ว และกลับมีชีวิตขึนมาอีกงันเหรอ?”

9
“ชิ----!” เสียงสบถเย็นชา พ่นออกมาจากจมูก เธอยกมือ
ทีเปื อนจนดูไม่ได้ขนมาปั
ึ ดเส้นผมซึงเปรอะไปด้วยคราบ
เลือดแห้งกรังทีตกลงลงมาโดนใบหน้าด้วยท่าทางสง่า
งาม

ในบรรยากาศและสถานการณ์แบบนี ถ้าคนอืนมาทําท่า
อย่างนี เกรงว่าคงจะชวนให้คนรูส้ กึ สยอง สะอิด
สะเอียน น่ารังเกียจ แต่ เมือเธอเป็ นคนทํา กลับชวนมอง
และดูสงู สง่า

ความเงียบสงบ แผ่ซา่ นไปทัวบริเวณ

ในดวงตาทังคูท่ ีสว่างใสเป็ นประกาย กลับผุดความโศก

10
เศร้าขึนมาจางๆ

แต่เพียงครูเ่ ดียว ก็จางหายไปอย่างไร้รอ่ งรอย

ใช่ เธอตายและคืนชีพขึนมาใหม่

ความตาย มันก็แค่เรืองราวเก่าๆ ของความภักดีและการ


หักหลังบ้าบอ

ชาติทีแล้ว มีคนเปรียบเทียบว่าเธอสวยสะดุดตาดังดวง
จันทร์ ท่ามกลางหมูด่ วงดาว ? หรือว่า นีคือสาเหตุ ทีทํา
ให้เธอต้องเดินทางมาพบกับจุดจบของชีวิต ความอิจฉา
ของมนุษย์ถา้ มันประทุออกมาก็สามารถทําลายโลกทัง
11
ใบได้

ในวินาทีนี สิงเดียวทีเธอรูช้ ดั คือ เธอยังมีชีวิตอยู่ ยัง


สามารถหายใจได้อย่างเต็มปอดสามารถสัมผัสได้ถงึ
ความรูส้ กึ ทีเลือดไหลเวียนอยูท่ วร่
ั างกาย

ความเจ็บปวดทัวทังร่างกายราวกับกระดูกแตกหัก ทํา
ให้เธอเข้าใจถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่

เสือผ้าทีห่อหุม้ ร่างกาย ทุกสิงทุกอย่างทีเห็นรอบๆ ตัว


กําลังบอกเธอว่า ทีนีไม่ใช่โลกใบเดิมทีตนคุน้ เคย หรือว่า
ทีนีอาจจะเป็ นนรก? หรือเป็ นโลกอีกใบทีไม่มีใครรูจ้ กั ?

12
“เฮอะ!”

รอยยิมกําเริบแฝงความโอหัง ผุดขึนทีมุมปากของเธอ
เผยให้เห็นฟั นขาวเป็ นระเบียบ

มือทังคูอ่ อกแรงดันกับพืน ใช้แรงนี ยับตัวลุกขึน ไม่สนใจ


กระดูกทัวร่างทีส่งเสียงอย่างต่อเนือง เจ็บปวดเหมือน
เส้นเอ็นพันกัน แล้วเธอก็กา้ วยาวๆ ไปข้างหน้า

เธอออกจากภูเขาศพทีถมทับเธอไว้ได้ แต่ก็ยงั ยืนอยูท่ า่ ม


กลางกองศพมากมายอยูด่ ี

เงาหลังทียืดตรงและมันคงจนแทบจะดูไม่ออกว่าเธอ
13
กําลังทนทุกข์ทรมานต่อความเจ็บปวด ราวกับว่า แม้วา่
ฟ้าจะถล่มลงมา ก็ไม่สามารถทําให้หลังของเธองอลงได้

“ไม่วา่ จะเป็ นนรกขุมไหนหรือว่าเป็ นโลกของเทพมาร


อะไร ในเมือฉันมาแล้ว ถ้าฉันเป็ นพระโพธิสตั ว์……..ใต้
หล้านีต้องไร้มาร แต่ถา้ ฉันเป็ นมาร ถ้าอย่างนัน……พระ
โพธิสตั ว์จะทําอะไรฉันได้!

ฉันเป็ นผูล้ ขิ ิตชีวิตตัวเองไม่ใช่ฟา้ ”

สิงทีตามมากับเสียงอันมันคงนัน คือหัวใจทีเต้นอย่าง
อ่อนแรงอยูใ่ นอก เริมเต้นแรงขึน เสียงหัวใจทีเต้นอย่าง
รุนแรงนันสะท้อนถึงความหัวแข็งไม่ยอมใคร เหมือน

14
เสียงฟ้าผ่าทีดังอยูข่ า้ งหู

เธอหายใจเข้าลึกๆ เมืออากาศทีเย็นเยียบแทรกเข้ามา
ร่างกาย ก็นาํ มาซึงความสุขอันเจ็บปวดชนิดหนึง

เธอพลันหันหลัง ดวงตาอันสดใสมองกองศพทีเคยถม
ทับเธอเอาไว้อีกครัง สมองของเธอไม่ได้เลอะ
เลือนและไม่ใช่ไม่รู ้ กลับกันเธอมีประสบการณ์มากมาย
แค่มองแวบเดียว ก็รูถ้ งึ สาเหตุการตายของนายทหารชุด
เกราะเต็มยศพวกนีแล้ว

พวกเขาตายเพราะช่วยชีวิตเธอ

15
เพือปกป้องเธอ แผ่นหลังของทหารพวกนีถูกปั กเต็มไป
ด้วยลูกธนูทีแหลมคม

ดูจากนิวมือทังสิบทีกําแน่น ท่าทางสุดท้ายของทหารทุก
นายทีกระโจนเข้าสูจ่ ดุ กึงกลางทําให้เธอมองเห็นความ
สินหวัง โกรธแค้น ไม่ยินยอมและยังมีปณิธานทีจะยอม
สละชีวิต

แต่เสียดายพวกเขาสละชีวิต ใช้ศพเป็ นร้อยเป็ นพันศพ


สร้างหลุมหลบภัยทีมันคงและปลอดภัยให้เธอ แต่สดุ
ท้ายกลับไม่สามารถปกป้องคนทีพวกเขาคิดจะปกป้อง
แต่กลับทําให้เธอได้กาํ ไรไปเต็มๆ

16
ในเข็มขัดหนังทีคาดอยูต่ รงเอวของเธอมีไต้ไฟอยูอ่ นั หนึง

ของเล่นนีคือไฟแช็คสมัยโบราณ แม้วา่ จะไม่เคยใช้มา


ก่อน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เธอดึงจุกออกด้วยท่าทางงามสง่า
รอให้ผงฟอสฟอรัสสัมผัสกับอากาศ เพือจะจุดไฟขึน

เปลวไฟลุกไหม้ขนมาเต้
ึ นระริกอยูบ่ นไต้ไฟ

เธอไม่แม้กระทังจะมอง ยกมือขึนสะบัดมือออกไป

ไต้ไฟหมุนคว้างกลางอากาศสุดท้ายก็ตกบนภูเขาซาก
ศพนัน

17
พรึบ___________!

แสงไฟลุกโชนขึนสูฟ่ า้ ทําให้พวกเขาตกอยูท่ า่ มกลาง


แสงไฟสีแดงส้ม

“ไหนๆ ก็จะมาสิงร่างของคนทีพวกนายต้องการจะปก
ป้อง ฉันจะไม่ทาํ ให้พวกนายต้องกลายเป็ นศพไม่มีญาติ
กองไฟนีถือเป็ นการส่งพวกนาย ขอให้พวกนายไปสู่
สุคติ”

ปากขยับพึมพําแต่เสียงนันกลับมีความเยือกเย็นแปลก
ประหลาดและเกียจคร้านเยือกเย็นราวกับมีหิมะเพิมขึน

18
มาชันหนึง ทําให้คนไม่กล้าดูถกู

กองไฟ แผ่ขยายไปในทีรกร้างแห่งนี

เธอหันหลังกลับอย่างไร้เยือใย สิงเดียวทีส่งเธอจากไป มี
เพียงแสงไฟทีลุกโหมอยูด่ า้ นหลัง

คนตายก็ตายไปแล้ว แต่เธอ ยังคงต้องมีชีวิตอยูต่ อ่ ไป!

กุบกุบ-------- กุบกุบ----------

เสียงเกือกม้าเคลือนใกล้เข้ามาเรือยๆ เหมือนว่าในอีกไม่

19
กีวินาที มันก็จะมาปรากฏอยูต่ รงหน้าเธอ

ดวงตากระจ่างใสเยือกเย็น เธอหยุดฝี เท้าทีกําลังจะเดิน


จากไป เงยหน้าขึนมองไปไกลๆ เห็นเพียงแค่มา้ เร็ว 10
กว่าตัวกําลังวิงมาทางเธอ

“ไวมาก!”

เธอหรีตา ม้าเร็วพวกนันวิงเร็วราวกับสายลม ความเร็ว


ระดับนีมันมากกว่าความเร็วของม้าในนิยามของเธอ

“ลูกพี ยังมีคนทีมีชีวิตอยู่ ”

20
เมือม้าเข้ามาใกล้ เสียงสนทนาก็ลอยแว่วมาเข้าหูเธอ
พร้อมสายลม

“จะเป็ นหรือตายก็ช่างมัน สิงทีข้าต้องการคือทรัพย์


สมบัติ ตอนนีทุกอย่างใต้ดวงตะวันนีเป็ นของข้า” เสียง
อันหยิงยโส มาพร้อมกับเสียงหัวเราะอันบ้าคลัง

รูก้ นั อยูแ่ ล้ว

มีคนอยูจ่ าํ พวกหนึง ชอบคิดเอารัดเอาเปรียบกับคนตาย


เพือหาผลประโยชน์

“ลูกพี แล้วทียังมีชีวิตอยูจ่ ะเอาอย่างไร?” ลูกน้องถามอีก


21
“มีชีวิตอยูเ่ หรอ?” เสียงทีโหดเ**◌้ยมและเลือดเย็นดังขึน
มา “หน้าตาดีหน่อยก็เอากลับไป ขาย หน้าตาอัปลักษณ์
ก็ฆา่ เสีย จะพูดไร้สาระไปทําไมให้มากความ”

เอาไปขาย? ฆ่าทิง ?

ตาทังคูห่ รีลงเล็กน้อย สายตาคมกริบเลือดเย็นสาด


ประกาย มุมปากทีแห้งแตกของเธอปรากฏรอยยิมคล้าย
ยิมคล้ายไม่ยมออกมา

22
ตอนที 2 ความสามารถ ชาย หญิง ในร่างเดียวกัน

23
เศษฝุ่ นลอยฟุง้ เหนือพืนดิน ม้าเร็วทีล้อมรอบตัว
เธอ ดูสงู ใหญ่และว่องไวผิดปกติ

อย่างไรก็ตามถ้าเทียบกับม้าเร็วทีเธอรูจ้ กั แล้ว
แม้จะมีรูปลักษณ์ภายนอกทีเหมือนกัน แต่อย่างอืนไม่
สามารถเอามาเทียบกันได้เลย

ม้ายังคงวิงไปมาไม่หยุด ทําให้เศษฝุ่ นปลิว


กระจายจนเธอมองอะไรได้ไม่คอ่ ยชัด

นีจงใจสินะ!

ต้องการจะเอาม้ามาล้อมเธอไว้ เพือให้เธอตกใจ
24
กลัวงันเหรอ?

“เหอะ โดนดูถกู บ้างก็เป็ นประสบการณ์ทีแปลก


ใหม่อย่างหนึง ประสบการณ์*เล่นเป็ นหมูเพือจะกินเสือ
แบบนี เหมือนว่าจะยังไม่เคยเล่นมาก่อน”

“เฮ้ย!เจ้าหนู แกมัวพึมพําอะไรอยู่ เห็นข้าแล้ว


ยังจะไม่โขกหัวร้องขอชีวิตอีก! ฮ่าๆๆๆ-------- ”ผูน้ าํ ทีนัง
อยูบ่ นหลังม้าน่าจะเรียกได้วา่ *หลังกว้างเหมือนเสือ เอว
ใหญ่เหมือนหมี รูปลักษณ์ของเขาแทบจะทําให้ทกุ คน
มองข้ามเขาไป แต่เสียงพูดทีหยิงยโสและกวนประสาท
นันกลับทําให้คนจดจําได้ไม่ลืม

25
“ไม่ใช่สิ ลูกพี เหมือนจะเป็ นผูห้ ญิงเลย”

“หืม?” ลูกพีมองมาแวบหนึง เถียงคําพูดของลูก


น้อง “ตาแกบอดรึไง? ดูก็รูว้ า่ เป็ นเด็กผูช้ ายผอมแห้งคน
หนึง!”

“ใช่ๆๆ ลูกพีพูดถูก เป็ นเด็กผูช้ าย “ในนําเสียง


นันนอกจากการคล้อยตามแล้ว ยังดูมีความสงสัยอยู่
หลายส่วน

ผูช้ าย ? หรือผูห้ ญิง ?

หรือว่าหญิงสาวทีปลอมตัวเป็ นชาย?
26
มูเ่ กอทีไม่เคยสงสัยเกียวกับเพศของตัวเองมา
ก่อน หลังจากใช้ศพคืนชีพแล้วก็ยงั คงไม่เคยสงสัยเกียว
กับเพศของตัวเอง

ชาติทีแล้วเธอเคยมีประสบการณ์อยูใ่ นสงคราม
จนลืมไปแล้วว่า ก่อนยุคปั จจุบนั ทีเจริญแล้ว สนามรบ
และการทําสงครามเป็ นหน้าทีของผูช้ าย ไม่ได้เกียวข้อง
อะไรกับผูห้ ญิง

“หึ ! เจ้าหนู คุกเข่าลงดีๆ โขกหัวให้ขา้ ดังๆ


สามครัง เลียรองเท้าของข้าให้สะอาด แล้วข้าจะยอม
เมตตารับเจ้ากลับไปด้วย ให้ขา้ วเจ้ากิน” ลูกพีคนนัน
มอง ‘เด็กชาย’ ผูโ้ ชคดีผรู้ อดชีวิตมาจากสงครามที
27
ถูกล้อมอยูต่ รงกลางวงอย่างได้ใจ

“คนเลว มักตายเพราะพูดไร้สาระมากเกินไป!”

มูเ่ กอเงยหน้าขึน 45 องศา ถอนหายใจแล้วพูด


มาประโยคหนึง

“แกพูดว่าอะ………..”

พลัก!

ฮี-----------!

28
ม้าร้องเสียงแหลมด้วยความเจ็บปวด และยังมี
เสียงตกกระแทกพืนหนักๆ ตัดบทคําพูดชายร่างกํายํา
คนนัน

เศษฝุ่ นลอยฟุง้ ขึนเหนือพืนดิน ปกคลุมตัวของมู่


เกอเอาไว้

ท่าทางมูเ่ กอราวกับเสือซีตา้ แล้วเริมเกมส์ทีตน


คุน้ เคยดี---------การล่านันเอง

“ฆ่ามันซะ!”

29
ชายคนนันพอตกลงมาจากหลังม้าก็รูส้ กึ เหมือน
ว่ากระดูกทังตัวแตกหัก เขาสะบัดมือชีสังให้ลกู น้องโจม
ตีรา่ งอันผอมบางนัน

แต่มเู่ กอ กลับไม่รูส้ กึ ตืนกลัวแม้แต่นอ้ ย ทีมุม


ปากเผยรอยยิมกระหายเลือดออกมา ดวงตาทังคูน่ อก
จากความสงบนิงแล้วก็ไร้ซงระลอกคลื
ึ นใดๆ

คนสิบกว่าคนชูอาวุธขึนมา บนร่างมีแสงสีแดง
ปรากฏขึน แตกต่างกันเพียงแค่ความเข้มของสีเท่านัน

มูเ่ กอดวงตาสาดประกายแวบหนึง ไม่ทนั ได้


สังเกต “เรืองแปลก” ทีเกิดขึนบนตัวคนพวกนี อาศัยแค่

30
ความสามารถและประสบการณ์ของเธอ เธอก็สามารถ
จบสงครามได้ในเวลาอันสัน

อย่างน้อย ทุกอย่างก็ตอ้ งจบก่อนทีร่างกายของ


เธอจะไม่ไหว

การเคลือนไหวรวดเร็วคล่องแคล่ว ทุกกระบวน
ท่าล้วนหมายชีวิต มูเ่ กอหลบการโจมตีจากอาวุธทีมีแสง
สีแดงพวกนัน ใช้กระบวนท่าของตนเด็ดทุกชีวิต

“มือลืนเป็ นปลาไหลเลยนะ……….อ้า!”

‘กร็อบ!’
31
เสียงกระดูกคอหัก จบคําพูดนันลง

มูเ่ กอหัวเราะอย่างไร้เสียง หันหลังสะบัดหมัด


เข้าตรงหัวใจของคนทีคิดจะลอบกัดจากทางด้านหลัง
ตอนทีถอนมือกลับมา ไม่มีใครทันสังเกตเห็นแสงสีมว่ ง
อ่อนจางหลายสายทีค่อยๆ จางหายไปจากหมัดของเธอ

ในตอนนีเอง มูเ่ กอสัมผัสได้ถงึ พลังอย่างหนึงทีคุน้


เคย ดวงตาทีสงบนิงมีแววยินดีวาบผ่าน เพราะมันทําให้
การลงมือของเธอมีกาํ ลังมากขึนอีกหลายเท่า

“อ๊าก--------!”

32
ผูถ้ กู โจมตี กระเด็นไปด้านหลังเหมือน
โดนกระสุนปื นใหญ่ วินาทีทีล้มลงพืนนัน ก็ไร้ซงเสี
ึ ยง
ใดๆ เหลือเพียงกลินไหม้จางๆ บนร่างกาย

คนสิบกว่าคนรวมทังลูกพีร่างกํายําคนนัน ถูกมู่
เกอจัดการในเวลาอันสัน

ในทีสุดทุกอย่างก็จบลง ในขณะทีมูเ่ กอคุกเข่า


ลงข้างหนึงอย่างไร้เรียวแรง ปรับลมหายใจของตัวเองให้
คงทีพร้อมกับมองมือทังสองข้างของตัวเอง

ระหว่างนิวทังสิบมีแสงสีมว่ งราวกับเส้นด้ายวูบ

33
วาบขึนมา เกียวพันราวกับเด็กน้อยทีแสนซุกซน

“เจ้ายังอยู่ งัน…….”

มูเ่ กอพึมพํา พลันหลับตาลง เหมือนกําลัง


สัมผัสถึงอะไรบางอย่าง

แต่วา่ วินาทีตอ่ มา เธอก็ลืมตาขึน ดวงตาสงบ


นิงใสกระจ่างทังคูป่ รากฏความยินดีเป็ นอย่างยิง เธอเกิด
ใหม่แล้ว แต่กลับไม่คิดว่าความสามารถในการใช้สาย
ฟ้าและช่องว่างของเธอเมือชาติก่อนจะติดตามตัวเธอมา
ด้วย

34
ใช่แล้ว! ชาติทีแล้ว เธอเกิดมาเป็ นผูท้ ีมีสองพลัง

เพราะความกล้าหาญของเธอ ประเทศจึงรับตัว
เธอไปอย่างลับ ๆ เพือเข้ากระบวนการทําการฝึ กฝนใน
แต่ละด้าน จนในทีสุดเธอก็กลายเป็ นมีดแหลมคมทีมี
ประโยชน์มากทีสุดเล่มหนึง เพือทีจะเป็ นมีดเล่มนี เธอ
ต้องเสียสละทุกสิงทุกอย่างทีคนธรรมดามี แต่วา่ ตอน
จบกลับไม่ได้สวยงามอย่างทีหวัง สุดท้ายเธอกลับต้อง
มาตายอย่างอยุติธรรมเพราะกับดักของพวกเดียวกันเอง

“แค่กๆ!”

เพราะความอ่อนแอของร่างกาย ทําให้ไม่

35
สามารถเปิ ดช่องว่างได้ มูเ่ กอแค่สามารถรับรูไ้ ด้ถงึ การมี
อยูข่ องช่องว่างของตนเองเท่านัน

แต่วา่ นีก็เป็ นข่าวดีมากแล้ว

อย่างน้อยก็ทาํ ให้ความรูส้ กึ แปลกแยกในการมา


อยูใ่ นโลกทีไม่เคยรูจ้ กั มาก่อนของเธอลดน้อยลงได้บา้ ง

“แสงสีแดงทีเกิดขึนจากตัวของคนพวกนัน เป็ น
เพราะอะไรกันนะ” เธออดทนต่อความเจ็บปวด และ
พลิกตัวขึนนังบนหลังม้า มูเ่ กอจึงได้มีเวลาคิดทบทวนถึง
ความแปลกประหลาดทีเกิดขึนตอนต่อสูเ้ มือครูน่ ี

36
อาศัยกําลังของม้าเร็ว จึงทําให้มเู่ กอเดินทางมา
ถึงสุดขอบของพืนทีรกร้างแห่งนี แต่วา่ แรงสันสะเทือน
ตอนทีนังอยูบ่ นหลังม้า ก็เกือบจะเอาชีวิตเธออยูห่ ลาย
ครัง

นอกพืนทีรกร้าง เต็มไปด้วยสีเขียวขจีของพืช
พรรณ นําในแม่นาไหลเอื
ํ อยใสจนเห็นก้น

ถ้าไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเองไม่วา่ ใครก็คงยาก
จะจินตนาการว่าพืนทีทีห่างกันแค่เส้นกันบางๆ กลับมี
ทิวทัศน์ทีแตกต่างราวฟ้ากับเหวขนาดนี

“ฮี--------!”

37
ม้าทีขโมยมา พามูเ่ กอมาหยุดอยูท่ ีริมแม่นาสาย

หนึงซึงล้อมรอบด้วยต้นกก

ตอนนีพระจันทร์ขนเหนื
ึ อยอดไม้ รอบๆ เงียบ
สงบ นานๆ ทีจะมีเสียงร้องของแมลง

มูเ่ กอกัดฟั นแน่น อดทนต่อความเจ็บปวดของ


บาดแผลแล้วโดดลงม้า สภาพแวดล้อมทีเห็น ยังมี
หิงห้อยทีบินตําๆ ไปมา แสงสีเขียวทีส่องประกายวิบวับ
พวกนัน ทําให้แววตาทีเย็นชาของเธออ่อนโยนลงหลาย
ส่วน

38
เธอทิงเชือกม้าไว้แถวๆ นัน มูเ่ กอหันไปยักคิวให้
ม้า พูดกับมันว่า” แกนีเข้าใจเลือกทีจริงๆ”

พูดจบ เธอก็เดินไปทางแม่นาํ เพราะปี นออกมา


จากกองศพทังตัวจึงมีแต่กลินเหม็นทียากจะทานทน ได้
ล้างทําความสะอาดและพักผ่อนสักหน่อย เป็ นสิงทีเธอ
อยากทํามากทีสุดในเวลานี

ในนําทีใสบริสทุ ธิ สะท้อนให้เห็นดวงจันทร์เย็น
เยียบท่ามกลางสีรตั ติกาล

ถ้าไม่ได้รูส้ กึ ไปเอง มูเ่ กอรูส้ กึ ว่าพระจันทร์ดวงที


จมอยูใ่ นนํา ถ้าเทียบกับดวงทีอยูบ่ นโลกแล้ว ทังใหญ่

39
กว่าและกลมกว่า

*คืนพระจันทร์เต็มดวง เวลาทีครอบครัวได้อยู่
พร้อมหน้า?

มูเ่ กอสะบัดหัว รูส้ กึ ดูแคลนตัวเองทีอยูด่ ีๆ ก็รูส้ กึ


เศร้าขึนมา เธอคุกเข่าลงข้างริมแม่นาํ มือทังคูจ่ ่มุ ลงไป
ในนํา รูส้ กึ ได้ถงึ ความเย็นเฉียบของนําใต้แสงจันทร์

ซ่า!

เสียงนําไหลดังขึน มูเ่ กอวักนําด้วยมือทังสอง


ก้มหน้าลงเพือจะล้างคราบสกปรกบนใบหน้า
40
ทันใดนัน การกระทําของเธอก็หยุดชะงัก

เธอเบิกตาโต จ้องเงาของตัวเองทีสะท้อนอยูใ่ น
นํา จนนําทีวักขึนมาไหลลงมาตามร่องนิวแต่เธอก็ยงั ไม่
รูส้ กึ ตัว

เฮ้ย ใครตอบเธอได้บา้ งว่าไอ้เงาครึงหญิงครึง


ชายในนํานันเป็ นใครกัน?!

ใบหน้าเล็กๆ สกปรกจนมองไม่ชดั ว่าหน้าตาเป็ น


อย่างไร ยิงไม่สามารถแบ่งแยกได้วา่ เป็ นหญิงหรือชาย
แต่วา่ ‘สิงที’ปรากฏอยูบ่ นลําคอนอกเสือของเธออย่าง

41
ผลุบๆ โผล่ๆ นันกลับทําให้มเู่ กอทีปี นออกมาจากกองศพ
รูส้ กึ ตืนตระหนกเป็ นครังแรก

ลูกกระเดือก สิงทีบ่งบอกว่าเป็ นเพศชายหรือ


หญิงได้ชดั เจนทีสุด

เธอตืนตระหนก! ทําไมเจ้าสิงทีเป็ นของผูช้ ายนีถึงมาอยู่


บนร่างเธอได้

เธอไม่ใช่ผหู้ ญิง …………..

เธอสูดอากาศทีเย็นๆ เข้าไปเฮือกหนึง บท
สนทนาก่อนหน้านีของคนพวกนันลอยขึนมาในหัวของ
42
เธอ

มูเ่ กอทีร่างแหลกเป็ นชินๆ เพราะระเบิด มูเ่ กอที


ปี นออกมาจากกองศพ คนทีสงบนิงไม่เคยตืนกลัว ในที
สุดก็มารูส้ กึ เสียศูนย์เอาวินาทีนี

เธอนังอึงอยูต่ รงริมแม่นาที
ํ เปี ยกชืน ไม่ใส่ใจต่อ
ดินโคลนใต้รา่ ง

มือหนึงยันอยูบ่ นพืน อีกมือคลําลําคอของตัวเอง


โดยไม่รูต้ วั

ตอนมือส่งสัมผัสมาถึงตัวเธอนัน เธอก็สนไปทั
ั ง
43
ร่าง ก้มมองหว่างขาของตัวเองโดยไม่รูต้ วั เมือคาดเดา
ได้ถงึ ความเป็ นไปได้บางอย่างขึนมา เลือดในตัวของเธอ
ก็พลันเย็นเฉียบจนติดลบ

ใต้ผา้ ผืนนันไม่สามารถมองออกได้วา่ มีอะไรผิด


ปกติ

แต่วา่ มูเ่ กอทีไม่กลัวฟ้ากลัวดิน ในตอนนีกลับไม่


กล้าทีจะยืนมือออกไปพิสจู น์

ถ้า……….. ถ้าตรงนันมีอะไรเพิมขึนมาจริงๆ
ล่ะ……………

44
มูเ่ กอตัวสัน เลือดสูบฉีดขึนทีสมอง ทําให้แก้ม
และหูทงสองข้
ั างแดงเห่อ

ถ้าการทะลุมิติ การใช้รา่ งของคนอืนกลับมามี


ชีวิตอีกครังของเธอ ทําให้เธอต้องกลายเป็ นผูช้ ายหรือ
เป็ นตัวประหลาดครึงหญิงครึงชาย………..ผลลัพธ์แบบ
นี คงทําให้เธอโกรธและอับอายจนยอมตาย
แน่ๆ…………..

*เล่นเป็ นหมูเพือจะกินเสือ มีทีมามาจากการทีนายพราน


ต้องการทีจะจับเสือ จึงเรียนเสียงร้องของหมูเพือล่อให้
เสืออกมา จึงหมายถึงการทําท่าทางซือๆ ยิมแย้มตลอด
แต่แอบลับมีดเอาไว้ขา้ งหลัง เป็ นวิธีหลอกล่อเพือให้ศตั รู
45
ทีแข็งแกร่งกว่าตายใจแล้วค่อยลงมือ

*หลังกว้างเหมือนเสือ เอวใหญ่เหมือนหมี หมายถึงตัว


ใหญ่แข็งแรงกํายํา

*คืนพระจันทร์เต็มดวง เวลาทีครอบครัวได้อยูพ่ ร้อมหน้า


หมายถึง เวลาทีพระจันทร์เต็มดวง ก็ควรจะเป็ นคืนที
ครอบครัวได้อยูพ่ ร้อมหน้ากันเหมือนพระจันทร์ทีกลม
เต็มไม่เว้าแหว่ง ดังนันในนิยายหรือคํากลอนของจีนจึง
มักจะใช้ประโยคนีมาบรรยายถึงความเหงา คิดถึงครอบ
ครัว

46
ตอนที 3 วิญญาณของเจ้าของร่างคนเดิม ถํามอง

47
“สบายใจเถอะ ภายในและภายนอกของร่างนี
เป็ นผูห้ ญิงทังหมด ”

ในขณะทีมูเ่ กอกําลังจะแข็งเป็ นหินและกําลังจะ


พังทลายเป็ นเศษฝุ่ นในอีกไม่กีวินาที ก็พลันมีเสียงเยือก
เย็นดังมาจากข้างหลังเธอ

เสียงตอบกลับนัน สําหรับมูเ่ กอในตอนนีแล้ว


เป็ นเสมือนเสียงจากสวรรค์

เธอหันหลังทันที เพือหาต้นเสียง แต่ก็ตอ้ ง


48
ประหลาดใจ ทําไมเสียงทีดังขึนอย่างกะทันหันนีไม่ทาํ ให้
สัญชาตญาณในการระวังภัยของเธอทํางาน

แต่วา่ เมือเธอได้เห็นผูท้ ีพูดก็องงั


ึ นไป

“คน? ผี? หรือเทพ ?” บริเวณถัดจากตรงหน้า


เธอประมาณครึงเมตรมีเงาโปร่งแสงลอยอยู่ มูเ่ กอเอ่ย
ปากถามอย่างไม่ตืนตระหนก

ใช่ เธอเป็ นคนทีเคยเห็นโลกกว้างมาก่อน ‘สิง


ที’อยูต่ รงหน้า ยังไม่ถงึ ขันทีจะทําให้เธอตกใจได้

‘คน’ตัวโปร่งแสงมองมาทีเธอนิงๆ แล้วละสาย
49
ตาอย่างเย่อหยิง พร้อมพูดอย่างเย็นชาว่า “*นกพิราบ
ครอบครองรังของนกกางเขน”

“!” มูเ่ กอยกมุมปาก หรีตาลงพิจารณาอย่างถี


ถ้วน

เสือคลุมยาวสีแดงเป็ นประกายราวกับเปลวไฟ
เสือเกราะเบาทีประเมินค่าไม่ได้ ผมเงาดําถูกมัดรวบไว้
ด้วยทีเกล้าผมหยก ใบหน้าอ่อนเยาว์งดงามสะดุดตา

‘งาม งามมาก” สามารถทําให้มเู่ กอยอมรับเรือง


นีได้ เป็ นเรืองทีไม่ง่ายเลย แต่วา่ .......มูเ่ กอทีตาเป็ น
ประกายคิดในใจว่า ‘น่าเสียดาย ไอดําทีหว่างคิวทังสอง

50
ข้างเข้มเกินไป จึงทําลายความสวยงามทีหาได้ยากนี

มูเ่ กอมองประเมินอย่างไม่หลบเลียงทําให้ ‘คน’


โปร่งแสงคนนันหัวเราะเย้ยหยันขึนมา สายตายิงดู
ถูกกว่าเดิม “สมองเชืองช้า ไม่คิดเลยว่าร่างของข้าจะถูก
คนแบบเจ้ายึดครอง”

เฮอะ !

สมองเชืองช้า หมายถึงเธอเหรอ?

มูเ่ กอกะพริบตา มันใจว่ารอบข้างไม่มีบคุ คลที


สามอยู่ คิวงามดกดําก็ขมวดเข้าหากันน้อยๆ
51
“เจ้าไม่ยินยอมรึ?” มูเ่ กอพลันยิมเย็น

ความสามัคคีของคนและผีคนู่ ีในตอนแรก กลาย


เป็ นความเคร่งเครียดขึนมาภายในเวลาอันสัน

ไม่ยินยอม? จะให้ยินยอมได้อย่างไรกัน?

หลังจากทีมูเ่ กอพูดจบ ใบหน้าของเจ้าของร่าง


คนเดิมก็แสดงความขัดแย้งออกมาอย่างชัดเจน ส่วนลึก
ในดวงตาราวกับมีเปลวไฟแห่งความไม่ยินยอมลุกโชน
ขึนมา แต่สดุ ท้ายก็ดบั มอดลงอย่างเงียบๆ

52
“ไม่ยินยอมแล้วอย่างไร ข้าตายไปแล้ว แม้วา่ จะ
ไม่มีเจ้า ก็ไม่สามารถฟื นขึนมาได้อยูด่ ีสดุ ท้ายก็ถกู เผา
ร่างสลายหายไปก็เท่านัน” ความรูส้ กึ โศกเศร้าค่อยๆ แผ่
ซ่านออกมา ความรูส้ กึ เจ็บปวดไม่ยินยอมต่อความ
อยุติธรรมทีได้รบั ทําให้หิงห้อยรอบข้างบินออกห่าง ไม่
กล้าเข้าใกล้

ความโศกเศร้าเสียใจไม่ได้สง่ ผลกระทบอะไรต่อ
มูเ่ กอเลย ราวกับว่าทุกอย่างไม่ได้เกียวข้องอะไรกับเธอ
เธอไม่ได้เป็ นคนทีไปขโมยร่างของคนอืนมา

เธอพยักหน้าพูดอย่างเห็นด้วยว่า “ทีพูดมาก็จริง
อยู่ มองจากความเป็ นจริงบางมุมแล้ว การปรากฏตัว
ของข้าช่วยรักษาให้รา่ งของเจ้ายังคงอยูไ่ ม่เสือมสลาย
53
ไป”

พูดจบ ก็ปรากฏสีหน้า ‘ไม่ตอ้ งซาบซึงก็ได้ ข้าชือ


เหลยฟง’ออกมา

ใบหน้าของเจ้าของร่างคนเดิมกระตุกทีหนึง
สําหรับการกระทําหน้าไม่อายแบบนีแล้ว นางก็ทาํ ได้แค่
แค่นเสียง ‘ฮึ’ ออกมาคําหนึง

“พูดมาสิอยูๆ่ ก็มาปรากฏตัวตรงหน้าข้าแบบนี
ต้องการอะไร อยากจะเอาร่างกลับคืนไป หรือหวังให้ขา้
ละอายใจทีใช้รา่ งของเจ้าแล้วให้ขา้ รับปากสัญญาเหลว
ไหลอะไรพวกนัน ถ้าเป็ นเช่นนัน ก็เลิกคิดเถอะ” หลังจาก

54
ทีรูว้ า่ ตัวเองไม่ได้เป็ นผูช้ าย มูเ่ กอก็กลับไปเป็ นคนเดิมที
แม้วา่ ฟ้าจะถล่มลงมาข้าก็จะไม่ขยับไปไหนคนนนันอีก
ครัง

พูดทิงท้ายอย่างเกียจคร้านแล้วก็ขีเกียจจะล้าง
ตัวต่อ เธอนอนตะแคงบนพืนหญ้า ใช้ขอ้ ศอกพยุงร่าง
ของตัวเองเอาไว้ ยกขาขึนข้างหนึงขึนด้วยท่าทางสูงสง่า
โอหังเป็ นทีสุด

ตาทังสองข้างของเธอหรีลง ราวกับจะเคลิมหลับ
ยิมมุมปากจางๆ ทําให้หน้าทีเปื อนไปด้วยคราบสกปรกดู
เปล่งปลังราวกับได้เกิดใหม่ ท่าทางสบายอกสบายใจ ดู
ไม่เหมือนตกอยูใ่ นสถานการณ์ยากลําบากแม้แต่นอ้ ย

55
เจ้าของร่างคนเดิมนิงมองมูเ่ กอ ความรูส้ กึ อิจฉา
และริษยาวาบผ่านขึนในใจ

นางมีชีวิตอยูอ่ ย่างสง่าผ่าเผย ราวกับว่าในโลกนี


ไม่มีอะไรจะหยุดยังนางได้ ใช้ชีวิตอย่างเอาแต่ใจ แต่
ชีวิตทีผ่านมาของนาง นางกลับไม่กล้าทีจะคาดหวัง

นางไม่กล้า ไม่อาจทีจะลืมฐานะของตนเอง อีก


ทังภาระทีตัวเองแบกรับอยูไ่ ด้

พลังพลาดไปเพียงนิด สิงทีรอต้อนรับนางอยู่ นัน


ก็คือ ความหายนะ!

56
“ข้าก็ไม่รูว้ า่ เหตุใดถึงปรากฏตัวให้เจ้าเห็นได้”
เจ้าของร่างคนเดิมละสายตาจากมูเ่ กอแล้ว มองออกไป
ไกล ราวกับว่าหากหลีกเลียงไม่สบตากับมูเ่ กอ จะทําให้
นางสามารถรักษาเกียรติและความภาคภูมิใจเอาไว้ได้
บ้าง “แต่ขา้ รูแ้ ค่วา่ หลังจากสีสิบเก้าวัน ข้าก็จะหายไป
ตลอดกาล”

หายไปตลอดกาลหรือ? นีถือว่าเป็ นข่าวดี

มูเ่ กอกวาดสายตาผ่านร่างโปร่งแสงของเจ้าของ
ร่างคนเก่าไปอย่างเย็นชา

57
สายตาแบบนี ไม่ได้ทาํ ให้เจ้าของร่างคนเดิมรูส้ กึ
อะไร นางเม้มริมฝี ปากทีโปร่งแสงแน่น มองความมืดทึบ
ข้างหน้าแล้วพูดพึมพําขึนว่า “มูช่ ิงเกอ หลานชายสาย
ตรงผูส้ ืบสายเลือดเพียงคนเดียวของหย่งหนิงกงแม่ทพั
ใหญ่แคว้นฉิน ปี นีอายุ 15 ปี นิสยั ดือรัน คาดเดาใจยาก
เป็ นคนลัวตู ทีบ้านนอกจากท่านปู่ มซู่ งแล้ว ญาติสาย
เลือดเดียวกันก็เหลือแค่ทา่ นอามูเ่ หลียนหรง ทหาร 500
นายทีปกป้องข้าอย่างไม่คิดชีวิตนัน เป็ นองครักษ์ของข้า
เอง ครังนีพวกเราจากลัวตูมาแสนไกล ถึงสนามรบทีลัว
รือก็เพราะว่า………. ”

มูเ่ กอไม่ได้ขดั จังหวะการพูดของเจ้าของร่างคน


เดิม แต่กลับฟั งอย่างตังใจ

58
หลังจากทีเธอเกิดใหม่ ก็ไม่ได้รบั เอาความทรง
จําเกียวกับตัวของเจ้าของร่างคนเดิมมาด้วย แต่ตอนนี
สิงทีเจ้าของร่างคนเดิมทํา ราวกับว่ากําลังช่วยเธอให้รบั
ร่างนีต่อได้อย่างราบรืนยิงขึน ใช้ตวั ตนใหม่นีเพือมีชีวิต
อยูต่ อ่ ไป

เมือฟั งสิงทีเจ้าของร่างกล่าวจบ มูเ่ กอก็ยนั ตัวลุกขึน นัง


ขัดสมาธิอยูบ่ นพืนหญ้า ดึงหญ้าป่ าบนพืนจนกระจุย
กระจาย แล้วถามว่า “ถ้าอย่างนัน ทีบุคคลสูงส่งอย่าง
เจ้ามาโผล่อยูท่ ีสนามรบแบบนีก็เพราะถูกยัวยุจากเจ้า
อะไรนันน่ะทีมีเจตนาร้าย เจ้าจึงออกมาอย่างวูว่ าม เป็ น
อย่างนีใช่หรือไม่?

เจ้าของร่างเดิมเม้มปากแน่น ไม่โต้ตอบอะไรแต่
59
พยักหน้า และไม่ทนั ได้สงั เกตแววตาทีเยียบเย็นของมูเ่ ก

ตรงตําแหน่งของหัวใจ พลันเกิดโทสะทําให้รา่ ง
กายของเธอทีบาดเจ็บอยูแ่ ล้ว เจ็บมากขึนไปอีกราวกับ
ราดนํามันลงบนองไฟ ชาติทีแล้ว เธอเป็ นทหาร เข้าใจว่า
อะไรคือหน้าทีของคนเป็ นทหาร แต่วา่ ตอนนีเธอกลับไม่
สามารถยอมรับได้ การตายของทหาร 500 นายนัน เป็ น
เพราะอารมณ์ชววู
ั บของไอ้คนเสเพลแค่คนหนึง

“สิงทีข้าติดค้างพวกเขา เกรงว่าคงไม่อาจชดใช้
ได้หมด แต่คนทีมันตังใจทําร้าย ข้าขอให้เจ้าอย่าปล่อย
มันเอาไว้” เหมือนเป็ นเพราะคําเตือนของมูเ่ กอ เจ้าของ
ร่างคนเดิมจึงไม่ได้พดู ว่า “เพราะเจ้าครอบครองร่างของ
60
ข้า จึงต้องช่วยข้าทําอย่างนันทําอย่างนี” แต่ขอร้องออก
มาโดยตรงเลย

ไอสังหารของมูเ่ กอค่อยๆ สลายไป

แม้วา่ คนทีทหาร 500 นายนันต้องการจะปก


ป้องไม่ใช่เธอ แต่เธอกลับได้ประโยชน์จากเรืองนี ลองคิด
ดู หากไม่ได้รบั การปกป้องอย่างไม่คาํ นึงถึงชีวิตของ
ทหารทัง 500 นาย ร่างทีเธอจะใช้ก็คงจะพรุนเป็ นรังผึง
ไปนานแล้ว จะมีโอกาสเกิดใหม่ได้อย่างไรกัน

ช่างเถอะ หนีในครังนีสนองคืนไปก็หมดเรือง

61
พอคิดแบบนี มูเ่ กอจึงพยักหน้า ถือว่าตอบตกลง
แล้ว

พอได้คาํ ตอบทีต้องการมือของเจ้าคนร่างคน
เดิมทีกําแน่น ก็คอ่ ยๆ คลายออก ถ้ามูเ่ กอไม่ยินยอม
นางก็ไม่มีวิธีอะไรแล้ว

“เพราะเหตุใดคนผูน้ นถึ
ั งต้องทําร้ายเจ้าด้วย?
ร่างครึงหญิงครึงชายของเจ้านีมันเป็ นเพราะอะไรกัน
แน่?” มูเ่ กองอนิวเคาะกับพืนหญ้า ขมวดคิวถาม

เจ้าของร่างคนเดิมยิมอย่างสินหวัง ท่าทางโศก
เศร้า ความหยิงยโสในตัวหายไปทันที “เพราะข้าดันไป

62
รักคนทีไม่ควรรักเข้า คนอืนเห็นแล้วขัดตา ก็ตอ้ งสังสอน
เป็ นธรรมดา แต่ไม่คิดเลยว่าการสังสอนครังนีคือต้อง
การจะเอาชีวิตของข้า ถ้าเขารูว้ า่ ข้าตายแล้ว ไม่รูว้ า่
จะ………..”

“เฮ้ย! ข้าไม่มีเวลามานังฟั งเรืองรักรักใคร่ใคร่


ของเจ้านะ” มูเ่ กอพูดขัดจังหวะ กลับพึมพําออกมาว่า
“อายุแค่นี ริจะมีความรัก อย่าบอกนะว่าเพิงจะข้ามมิติ
มาก็ตอ้ งมาเจอกับเรืองความรักผิดศีลธรรมอะไรแบบนี
เนีย”

คําพูด แม้จะไร้เยือใย แต่มเู่ กอกลับสัมผัสได้ถงึ


ความรูส้ กึ อาลัยอาวรณ์ตอ่ คนรักของเจ้าของร่างคนเดิม
ได้เป็ นอย่างดี
63
แต่วา่ เพือคนๆ นัน มันคุม้ กันแล้วเหรอ?

เกรงว่าคําตอบนัน ก็คงจะเป็ นความจริงทีมูช่ ิงเก


อกําลังหนีอยูก่ ระมัง

ช่างเถอะ จะคุม้ หรือไม่คมุ้ วันหน้าเจอกันเดียวก็


รู ้

เวลานี สิงทีมูเ่ กอเป็ นกังวลมากกว่าสิงอืนใดก็


คือสภาพของร่างนี

“ความจริงแล้วตัวข้านันเป็ นหญิง แต่เพือท่านปู่


64
เพือตระกูลมู่ ข้าจึงจําต้องเก็บงําความเป็ นหญิงและ
ปลอมตัวเป็ นชาย ทีข้าสามารถปิ ดบังสถานะทีแท้จริงได้
ไม่ใช่เพราะข้าปลอมตัวได้แนบเนียน แต่เป็ นเพราะ
เครืองมือมายาชินเดียวทีท่านแม่ทิงไว้ให้ นันก็คือตุม้ หูสี
ม่วงบนหูขา้ งซ้ายของเจ้านันไง” พูดจบ สายตาของเจ้า
ของร่างคนเดิมก็หยุดมองทีหูซา้ ยของมูเ่ กอ

“เครืองมือมายา?” มูเ่ กอยกมือขึน ปลายนิวลูบ


คลําตุม้ หูสีมว่ งนัน เป็ นเพราะของเล็กๆ ชินนีน่ะเหรอ? ที
ทําให้ตวั เธอเดียวก็เป็ นหญิง เดียวก็เป็ นชาย?

เจ้าของร่างคนเดิมพูดอีกว่า “เครืองมือมายาบน
หูซา้ ยของเจ้าชินนี เกรงว่าอาจจะมีเพียงชินเดียวในหลิน
ชวน ข้าก็ไม่รูว้ า่ ท่านแม่ไปได้มาจากไหน รูแ้ ค่วา่ เครือง
65
มือมายาชินนีสามารถเปลียนเพศของผูส้ วมใส่ เพราะ
ทุกอย่างจะเป็ นภาพลวงตา ทําให้คนยากแยกจริงเท็จ
ตอนนีเครืองมือมายาได้รบั ความเสียหาย จึงทําให้รา่ ง
กายมีการเปลียนแปลงเป็ นธรรมดา แต่วา่ ถ้าผ่านคืนนี
ไป มันก็จะซ่อมแซมตัวเอง พรุง่ นีเช้า เจ้าก็จะกลายเป็ น
คุณชายตระกูลมู่ คุณชายผูส้ ืบสายเลือดแห่งจวนหย่ง
หนิง ”

เมือเจ้าของร่างคนเดิมพูดจบ ร่างทีโปรงแสงก็
จางลงไปเรือยๆ

“เฮ้ย!” มูเ่ กอตกใจและรีบลุกขึนยืน

66
“คืนนีพูดมากเกินไปแล้ว ข้าเหนือยแล้ว สีสิบ
เก้าวันถัดจากนี ข้าจะคอยติดตามอยูข่ า้ งกายเจ้า ถ้าเจ้า
ต้องการพบข้า แค่เรียกข้าก็พอ ” เมือเสียงจางหายไป
เงาของมูช่ ิงเกอก็หายไปอย่างไร้รอ่ งรอยเช่นกัน

“ไปแบบนีเลยเหรอ?” มูเ่ กอขมวดคิว นัยน์


ตากระจ่างใสทังคูม่ องไปรอบๆ พอมันใจว่ามูช่ ิงเกอไม่
อยู่ ก็ยกมือขึนจับตุม้ หูสีมว่ งบนหูซา้ ย

ตุม้ หูสีมว่ งทีไม่มีแสงใดๆ ในตอนแรก แต่พอมูเ่ กอสัมผัส


กับก็มีแสงประหลาดสายหนึงวาบผ่านราวกับมีชีวิต
อย่างไรอย่างนัน

67
“มีการปลอมตัวทีน่าอัศจรรย์แบบนี ดูเหมือนว่า
โลกใบนีจะไม่น่าเบืออย่างทีคิด ” วางมือลง แล้วมูเ่ กอก็
ปลดเสือตัวยาวทีฉีกขาดบนร่างออก

อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็ปรากฏตัวขึน ขัดจังหวะความคิด


ทีจะล้างทําความสะอาดตัวของเธอ ความสงสัยในใจก็
ได้คลายลงไปแล้ว ภายใต้แสงจันทร์ทีส่องสว่างจะได้
ล้างเนือล้างตัวให้สะอาดสักที

เธอถอดเสือคลุม เกราะเบาออก มูเ่ กอมีเอียม


เพียงตัวติดกายยืนอยูก่ ลางสายนํา ใช้ผา้ ขาดๆ เช็ด
คราบเลือดบนตัวออก

68
คืนทีเงียบเหงา ไร้ซงดวงดาว
ึ มีเพียงแสงจันทร์ที
ส่องสว่างลงมาบนตัวเธอ ลมพัดผ่านเบาๆ เสียงเดียวที
ยังคงดังอยูค่ ือเสียงหยดนํา

ทันใดนัน ก็มีกลินหอมรุนแรงลอยปะปนมาตาม
สายลม

มูเ่ กอหยุดทุกการเคลือนไหว กอดอกแน่น พลัน


แยกทิศทางของกลินหอมออกในทันที พร้อมพูดเสียง
แข็ง “ออกมา!”

*นกพิราบครอบครองรังของนกกางเขน หมายถึง การ


แย่งชิงทีอยูข่ องคนอืนมาเป็ นของตัวเอง

69
70
ตอนที 4 ผูส้ งู สง่า กับ ร่างกายทีไร้ประโยชน์

“ออกมา!”

เสียงใสอันเยือกเย็น แฝงด้วยการเอ่ยเตือน

มูเ่ กอคว้าเสือเปื อนๆ ขึนมาปกปิ ดผิวกายอัน


เนียนละเอียดราวหยกของตนเองไว้

71
เธอไม่รูว้ า่ ตอนนีเครืองมือมายาอันนี ทําให้คน
อืนเห็นเธอเป็ นอย่างไร แต่ตวั เธอก็ไม่อาจยอมเสีย
เปรียบมิใช่หรือ? พอมันใจว่าตัวเองไม่ได้เปลือยกายอยู่
มูเ่ กอก็รบี จัดการกับตัวเอง แล้วหันหน้าเข้าหาทีมา
ของกลินหอมนัน

พระจันทร์ใกล้จะลาฟ้า พระอาทิตย์กาํ ลังจะขึน

มันคือช่วงเวลาทีมืดทีสุด แสงเดียวทีมีคือแสง
ของหิงห้อยเหล่านันทีบินวนไปมา

แสงประกายสีเขียวโปร่งใส ยามปกติก็ชวนให้
รูส้ กึ หวาดกลัวมากพออยูแ่ ล้ว แต่ตอนนีกลับส่องสะท้อน

72
ใบหน้าทีล้างจนสะอาดแล้วของมูเ่ กอให้ดรู าวกับภาพ
ฝันทีไม่มีอยูจ่ ริง

ทีจริงแล้วร่างของมูเ่ กอถูกปกป้องอย่างถวาย
ชีวิตจากทหารทัง 500 นายจึงทําให้ไม่ได้บาดเจ็บอะไร
มาก ตอนทีมูเ่ กอรูส้ กึ ตัว ความรูส้ กึ เจ็บปวดรุนแรงราว
กับกระดูกแตกป่ นไปทังร่างนัน เป็ นเพราะถูกทับถมอยู่
ด้านล่างทีลึกทีสุดของกองศพต่างหาก

เพราะฉะนัน สาเหตุทีแท้จริงในการตายของมูช่ ิง
เกอ กลับเป็ นเพราะว่าถูกปกป้องมากเกินไป ถูกกดทับ
จนขาดอากาศหายใจตาย แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่มีคน
พวกนีคอยปกป้อง มูช่ ิงเกอก็ยากทีเอาชีวิตรอด การตาย
ก็จะยิงน่าอนาถ
73
เมือผ่านการพักฟื นในระยะสันๆ มูเ่ กอก็รูส้ กึ ว่า
ความเจ็บปวดในร่างกายเริมจางหายไปแล้ว เธอมอง
ลึกเข้าไปในดงต้นกกซึงเป็ นทีมาของกลินหอม แสงสีมว่ ง
ทีส่องประกายอยูก่ ลางฝ่ ามือของเธอมีเสียงดัง ‘ซือๆ’
ราวกับเสียงไฟฟ้า

“หึ โลกชันล่างแบบนี กลับปรากฏผูท้ ีมีราก


วิญญาณสายฟ้าแบบนีด้วย”

ทันใดนัน เสียงชายหนุ่มทีฟั งดูเรียบเฉย เนิบช้า


แต่กลับไพเราะชวนให้คนฟั งรูส้ กึ ใจอ่อนยวบก็ลอยมา
ในนําเสียงนันเหมือนมีความประหลาดใจ และเหมือน
สงสัยใคร่รู ้ มูเ่ กอสัมผัสได้ถงึ นําเสียงทีดูขีเล่นอยูห่ ลาย
74
ส่วน

มูเ่ กอหรีตาทังคู่ ใบหน้าแฝงความระแวดระวัง

เธอไม่รูว้ า่ คําว่า ‘โลกชันล่าง’ ‘รากวิญญาณสาย


ฟ้า’ ทีเขาพูดคืออะไร เธอรูแ้ ค่วา่ สิงทีเธอใช้นนเป็
ั นพลัง
สายฟ้าทีเธอใช้และติดตัวมาตังแต่ชาติทีแล้ว

“ออกมา!” ลมกลางคืนพัดไปมาท่ามกลางต้น
กก มูเ่ กอขมวดคิว เอ่ยปากเตือนอีกครัง

เสียดายทีไม่มีใครสนใจคําเตือนของเธอเลย

75
แค่เสียง ก็ชวนให้ผคู้ นรูส้ กึ สูงค่าหาใดเปรียบ
เสียงของคนผูน้ นกล่
ั าวขึนอีกครังว่า “แต่น่าเสียดาย แม้
ว่าจะมีรากวิญญาณสายฟ้า แต่รา่ งกายไร้ประโยชน์
แบบนีก็คงจะไม่สามารถฝึ กฝนบําเพ็ญได้หรอก”

แม้จะบอกว่าเสียดาย แต่มเู่ กอกลับจับอารมณ์


ความเสียดายในนําเสียงของเขาไม่ออกเลย สิงเดียวที
สัมผัสได้ ก็คือในตอนนีตัวเธอเหมือนเป็ นวัตถุชินหนึง ที
ถูกประเมินค่าและรอให้คนมาประมูลออกไป

กรอด!

เสียงบดฟั นดังขึน ท่ามกลางความเงียบเช่นนี จึง

76
ฟั งดูชดั เจนมากเป็ นพิเศษ

เห็นได้ชดั ว่า ท่าทีหยิงยโสไม่เห็นหัวคนอืนของ


อีกฝ่ าย กําลังยัวโทสะมูเ่ กอ

ถึงกับทําให้ชวขณะหนึ
ั งเธอคิดไม่ทนั ว่าคําว่า
‘ร่างทีไร้ประโยชน์’ นันมันมีความหมายว่าอย่างไร

แน่นอน ว่านีไม่ใช่ความภาคภูมิใจของมูเ่ กอแน่


นอน เป็ นคนมีหรือไม่มีประโยชน์ เธอไม่ตอ้ งการให้ใคร
มายืนยัน เธอรูด้ ีวา่ ตัวเองไม่ใช่คนไร้ประโยชน์

คนสิบกว่าคนทีเธอฆ่าเมือช่วงฟ้ามืดทีผ่านมา ก็
77
เป็ นการพิสจู น์ทีชัดเจนทีสุดแล้วไม่ใช่หรือ?

“หึหึ เจ้าตัวเล็กโกรธเสียแล้วรึ?” เสียงกัดฟั น


ลอยไปเข้าหูของคนผูน้ นั แต่วา่ เขากลับรูส้ กึ เบิกบานเสีย
อย่างนัน

“เอาแต่หดหัว ” ทันใดนัน ไฟโทสะของมูเ่ กอที


ถูกจุดขึนก็พลันสงบลง เธอแค่นเสียงเย็นออกมาคําหนึง
ตอกกลับไปอย่างดูถกู ดูแคลน

เสียงเงียบหายไปสักพัก พลันมีเสียงหัวเราะเริง
ร่าดังขึน “ข้าอยูต่ รงนีมาตังแต่แรก เจ้าต่างหากทีมองไม่
เห็น ยังจะโทษข้าอีกเหรอ น่าสนใจ น่าสนใจ ช่างน่า

78
สนใจจริงๆ”

อยูต่ รงนีมาตังแต่แรก ?!

มูเ่ กอตะลึง ดวงตาทีไร้ความรูส้ กึ กวาดมองไป


ทัวอีกครัง

แต่วา่ สิงทีเห็นนอกจากต้นกกทีเป็ นพัดไปมา


เบาๆ ราวกับเกลียวคลืนแล้ว ก็มีแค่ลาํ ธารใต้รา่ งเธอเท่า
นัน อีกทังเสียงและกลินทีเกิดขึนนัน ก็ลอยมาจากในดง
ต้นกก จนถึงตอนนีกลินนันยังติดจมูกของเธอไม่หาย

ไม่มี! ก็ยงั ไม่มีอยูด่ ี!


79
มูเ่ กอตรวจสอบอีกครัง บริเวณทีเธอสามารถ
มองเห็นได้ นอกจากตัวเองแล้วก็ไม่มีใครอืนอีก

“เจ้าหนูนอ้ ย อย่ามัวแต่สนใจพืนสิ” อยูๆ่ เสียง


นันก็แสดงความคิดเห็น

ไม่อยูบ่ นพืนดิน หรือว่าจะอยูบ่ นฟ้า?

มูเ่ กอเงยหน้าขึนมองท้องฟ้าโดยไม่รูต้ วั แต่วา่ ก็


ยังไม่พบอะไรอยูด่ ี

มูเ่ กอทีรูส้ กึ เหมือนตัวเองโดนกลันแกล้ง ดวงตา


80
ใสกระจ่างพลันมีโทสะสายหนึงวาบผ่าน เธอละสายตาที
มองขึนไปกลับมา แค่นเสียงเย็น “ตลกแหกตา”

“หึ หึ………” เสียงทีลอยมา ราวกับดังมา


จากรอบด้าน สะท้อนไปมารอบๆ

มูเ่ กอลอบเตรียมพร้อม แสงสายฟ้าสีมว่ งทีกลาง


ฝ่ ามือสาดประกายกว่าเดิม

ทันใดนัน มูเ่ กอก็รูส้ กึ ว่าขาทังคูท่ ีเหยียบอยูใ่ นนํา


ของเธอมีบางอย่างผิดปกติ นําในลําธารเริมไหลย้อน
กลับ ตอนทีไหลผ่านน่องของเธอ ทําให้เธอรูส้ กึ จักจี

81
มูเ่ กอตกใจ ปรากฏการณ์ผิดธรรมชาติแบบนีทํา
ให้เธอรีบถอยขึนมาอยูข่ า้ งลําธาร เบิกตากว้างมองนําที
ไหลย้อนกลับ

ลําธารสายนี กว้างไม่ถงึ ครึงจัง ลึกไม่เกินสองฉือ

ตอนนี กลับไหลย้อนกลับอย่างแปลกประหลาด
เข้าไปรวมตัวกันอยูท่ ีกลางลําธาร

ซู-่ ---------!

ทันใดนัน นําในลําธารพลันไหลพุง่ ขึนสูท่ อ้ งฟ้า


รวมตัวกันเป็ นเสานํานับไม่ถว้ น เกียวรัดรวมตัวกันราว
82
อสรพิษอยูก่ ลางอากาศ

มูเ่ กอเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ปากอ้าค้างเล็ก


น้อย ร่างกายเหมือนถูกสะกด จ้องมองฉากตรงหน้า

เธอเคยเห็นผูท้ ีมีพลังนํา แต่ผทู้ ีมีพลังนําส่วน


มากจะมีไว้เพือเยียวยา แม้จะมีพลังในการโจมตี แต่ก็มี
แค่ธนูนาหรื
ํ อโล่นาที
ํ เอาไว้ปอ้ งกันเท่านัน

ฉากตรงหน้า ทําให้เธอนึกถึงผูม้ ีพลังนําที


เก่งกล้า แต่วา่ ในใจกลับมีเสียงหนึงบอกเธอว่า เรืองราว
ทังหมดอาจจะไม่ได้ง่ายดายขนาดนัน

83
ทันใดนัน นําทีราวกับมีชีวิตนันก็ถกู สูบขึนมาจน
แห้ง นําทีไหลวนอยูต่ รงหน้าเธอในตอนแรก กลายเป็ น
พืนทีแห้งสนิท

นําในลําธารทีถูกสูบขึนไปบนฟ้า ค่อยๆ ปรากฏ


เป็ นเก้าอีขึนมาตัวหนึง

เก้าอีทีทําจากนําเนียนะ ?

มูเ่ กอราวกับว่ายังเห็นนําในตัวเก้าอีทีไหลไปมา
โปร่งใสแวววาว เป็ นประกายไร้ทีติ สวยงามประณีตจน
ไม่อาจเทียบได้ แรงกดดันทีมองไม่เห็นแผ่ซา่ นอกมาจาก
ตัวเก้าอีลงบนร่างของมูเ่ กอ กดทับจนกระดูกของเธอส่ง

84
เสียงดัง ‘กึก กึก’

ความรูส้ กึ ไร้ทีมาบอกเธอว่า ความกดดันทีแผ่


ออกมานีถือว่าออมมือมากแล้ว

ยอดฝี มือ!

มูเ่ กอหรีตา ลอบคิดในใจ

ในขณะทีนําหยดสุดท้ายไหลรวมกันเป็ นเก้าอี
สิงสาราสัตว์บนเก้าอีคํารามก้อง ชวนให้ตกตะลึง เก้าอีที
สาดประกายสีเงินยวง กลายเป็ นแสงสว่างเดียว ณ ที
แห่ง นี
85
มูเ่ กอตกใจจนต้องถอยหลังไปก้าวหนึง มอง
เก้าอีกลางอากาศอย่างไม่อยากจะเชือ

เก้าอีตัวนีมีทีพิงเป็ นหัวมังกร มีสตั ว์ทีเธอไม่รูจ้ กั


ชือหน้าตาน่ากลัวเป็ นทีเท้าแขน บรรดาสรรพสัตว์หมอบ
คลานอยู่ แสดงท่าทางจงรักภักดี

“ยิงใหญ่จริงๆ”

มูเ่ กอพึมพํา ดวงตาเป็ นประกาย

‘บางที การเกิดใหม่ในโลกประหลาดทีไม่รูจ้ กั ใบ
86
นี ก็ไม่ใช่เรืองทีน่าเบือเสียทีเดียว’ หลังจากทีเกิดใหม่
เป็ นครังแรกทีมูเ่ กอรูส้ กึ ว่าตนเองมีจดุ มุง่ หมายขึนมา

‘ฉันจะแข็งแกร่งขึน จะต้องมีสกั วันหนึง ทีฉันจะ


สร้างเก้าอีแบบนีได้สกั ตัว!’

อยูๆ่ ก็เกิดลมพัดกระโชกแรงขึนรอบๆ พัดไป


ทางเก้าอีตัวนัน มูเ่ กอเอามือบังตาไว้ เพือป้องกันเศษฝุ่ น
แต่ตาทีหรีเล็กคูน่ นยั
ั งคงมองไปทีตัวเก้าอี

หัวใจ พลันเต้นรัวเร็ว

สายลม หยุดลงแล้ว
87
มูเ่ กอเบิกตาโต สิงทีเธอเห็นคืออะไร ลม สายลม
ทีมองไม่เห็นและจับต้องไม่ได้ กลับปรากฏขึนเป็ นตัว
เป็ นตนอย่างชัดเจนอยูต่ รงหน้าเธอในตอนนี

บนเก้าอีตัวนัน มีแสงสีฟา้ อ่อนไหลวนไปมาไม่หยุด


แทรกมาด้วยดอกไม้ทีลอยมาจากทุกทิศ

กลินหอมเข้มข้นมากขึนกว่าเดิม ไม่ได้ทาํ ให้คน


รูส้ กึ รังเกียจ กลับชวนให้รูส้ กึ สดชืนเบาสบาย

มูเ่ กอไม่ทนั ได้ตะลึง ลมม้วนหอบนันก็สลายไป

88
ในขณะทีสายลมกระจายหายไป กลับมีเงาร่าง
สูงสง่าร่างหนึงปรากฏตัวขึนบนเก้าอีแทน

อาภรณ์ขาวดังหิมะสะอาดหมดจด ชายเสือและ
ปลายแขนเสือสีมว่ งเดินด้วยด้ายสีทองลวดลายซับซ้อน
ดูสงู ส่งลึกลับ ผมยาวเงาดําปลิวไสวไปมาแม้ไร้ซงสาย

ลม จนกลายเป็ นส่วนหนึงของท้องฟ้ามืดมิด

ร่างสูงโปร่ง แค่นงสบายๆ
ั อยูบ่ นเก้าอี ก็ทาํ ให้
รูส้ กึ ได้ถงึ ความสูงส่งของเขา

เขาทีปรากฏตัวตรงหน้ามูเ่ กอ ราวกับดวงดารา
อันเจิดจ้า แสงทีมาจากตัวเขา ส่องประกายระยิบระยับ

89
ราวกับเพชรนํางาม หาร่องรอยตําหนิไม่เจอแม้เส้นขน

คิวกระบีเรียวยาว ตาเรียวตวัดขึนเล็กน้อย จมูก


สูงโด่ง ปากบางยังคงมีรอยยิมประดับอยู่ ริมฝี ปากแดง
เรือดึงดูดใจคน

‘ คุณชายงดงามดังหยก ใต้หล้าไร้ผใู้ ดเทียม ’

อยูๆ่ คํากลอนทีเธอรูจ้ กั เมือชาติทีแล้วก็โผล่ขนึ


มาในหัว ทําให้เธอพยักหน้าเห็นด้วยอย่างไม่รูต้ วั

คนตรงหน้า ทําให้เธอสูญเสียความสามารถใน
การมองผูค้ น วินาทีทีแล้ว เธอยังรูส้ กึ พึงพอใจกับรูป
90
ลักษณ์ของมูช่ ิงเกออยูเ่ ลย แต่ตอนนีกลับถูกชายตรง
หน้ากลบจนไม่เหลืออะไรเลย

มูช่ ิงเกอขีเหร่หรือ?

ก็ไม่!

แม้วา่ มูช่ ิงเกอจะอายุยงั น้อย แต่ดจู ากเค้าโครง


ใบหน้าก็ดอู อกได้ไม่ยากถึงรูปโฉมในวันหน้า แต่เรืองนัน
ก็ยงั อีกหลายปี จะไปเทียบกับความหล่อเหลาบาดตา
ของคนตรงหน้าได้อย่างไร

มูเ่ กอรูส้ กึ ว่าตนไม่ใช่คนทีให้ความสําคัญกับรูป


91
ลักษณ์ภายนอก แต่หลังจากเห็นหน้าตาของผูช้ ายตรง
หน้า ก็ยงั อดถอนใจด้วยความน้อยใจไม่ได้ : ไม่เปรียบ
เทียบก็ไม่เจ็บ

“เจ้าหนูนอ้ ย คราวนี เจ้าคงเห็นข้าแล้วนะ” ริม


ฝี ปากของชายหนุ่มเผยอน้อยๆ รอยยิมบนใบหน้าไม่ได้
ลดน้อยลงเลยแม้แต่นอ้ ย เขาไม่รูส้ กึ ว่าพิเศษอะไร แต่
กลับทําให้องครักษ์สองคนทีคอยอารักขาอยูล่ บั ๆ ตกใจ
ไม่นอ้ ย

ท่านประมุขของพวกเขา รูส้ กึ สนใจในตัวเด็กคน


หนึงของโลกชันล่างมากขนาดนีตังแต่เมือไรกัน ไม่ตอ้ ง
พูดถึงว่านีเป็ นโลกชันล่าง แม้จะเป็ นโลกชันสูงขึนไป ก็
ไม่มีผใู้ ดเข้าตาท่านประมุขเลยสักคน
92
ทังสองแลกเปลียนสายตาคิดเหมือนกันว่า

‘อากาศของโลกชันล่างแย่จริง ทําให้ทา่ นประมุข


ป่ วยเสียแล้ว’

‘อืม ป่ วยไม่นอ้ ยเลยจริงๆ ’

“เครืองมือมายาทีไม่สมควรจะมีอยูใ่ นหลินชวน
ร่างอันไร้คา่ ทีครอบครองรากวิญญาณสายฟ้า หนูนอ้ ย
เจ้าช่างน่าสนใจจริงๆ!”

มูเ่ กอตระหนกวูบ ดวงตาใสกระจ่างพลันปรากฏ


93
กลินอายฆ่าฟั นเย็นเยียบ แค่คาํ พูดไม่กีคําของชายผูน้ ีก็
มองเธอได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ?!

“กลับมีไอสังหารได้ขนาดนี หึหึ ข้าจะเฝ้ารอว่า


เจ้าจะมีอะไรมาทําให้ขา้ แปลกใจได้อีก ” ไอสังหารอัน
รุนแรงนัน ทําให้องครักษ์ทงสองนายที
ั กําลังกระซิบ
กระซาบกันนันเตรียมพร้อมระวังภัยในทันที แต่ตวั ต้น
เรืองกลับทําราวกับว่าได้เจอของเล่นชินใหม่อย่างไร
อย่างนัน

ในพริบตา ไอสังหารในตัวของมูเ่ กอก็สลายหาย


ไป เธอมองเขานิงๆ แวบหนึง หันกายและพูดทิงท้ายว่า
“มีธุระ ก็พดู ไม่มี ก็ไสหัวไป!”

94
*คุณชายงดงามดังหยก ใต้หล้าไร้ผใู้ ดเทียม มา
จากคํากลอนของกวีทีเขียนขึนหลังจากทีเจอชายผูง้ ด
งามจน ไม่มีผใู้ ดใต้หล้านีเทียบได้

95
96
ตอนที 5 คุณชายมู่ และ รุย่ อ๋อง

ในยามเช้า ปลายหญ้าเต็มไปด้วยหยาดนําค้าง

มูเ่ กอนอนอยูท่ า่ มกลางดงต้นกก ต้องอดทนต่อ


การทิมแทงของต้นกกทีทับอยูใ่ ต้รา่ ง

เธอตืนนานแล้ว ตาทังคูม่ องดูทอ้ งฟ้าสีฟา้ ใสทีไร้


ซึงมลภาวะใดๆ ยังมีกอ้ นเมฆทีเปลียนรูปทรงไปเรือยๆ
บริเวณถัดจากตัวเธอไม่ไกลนัก ยังคงมีเสียงนําไหลราว
กับไม่เคยมีอะไรเกิดขึนมาก่อน
97
นีเธอมาอยูใ่ นทีแบบไหนกันแน่?

ในแววตากระจ่างใสของมูเ่ กอกําลังครุน่ คิด

หลังจากทีเกิดใหม่ เธอหนีตายเกือบเอาชีวิตไม่
รอด ฝื นกําลังเพือฆ่าศัตรู หลังจากนันก็ตอ้ งมาสงสัยใน
เรืองเพศของตัวเอง ไม่นานวิญญาณเจ้าของร่างคนเดิม
ก็ปรากฏตัวขึน สุดท้ายมีชายหนุ่มทีเก่งกล้ามากจนไม่
น่าเชือโผล่ออกมาและทําราวกับมองไพ่ในมือเธอ
ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

จนถึงตอนนี เธอถึงค่อยมีเวลาให้ขบคิดปั ญหา

98
บางข้อ

จากข้อมูลทีมีอยูใ่ นตอนนี ชัดเจนแล้วว่า เธอ


ทะลุมิติมายังโลกอีกใบหนึงทีไม่เหมือนโลกใบเดิม

และความสามารถของเธอ ก็ถือว่าเก่งกาจ
สําหรับทีนี

อีกอย่างโลกใบนีน่าจะมีขนตอนสํ
ั าหรับการ
ฝึ กฝนพลัง แต่รา่ งทีเธอยืมมานีอ่อนแอจนไม่สามารถจะ
ฝึ กฝนมันได้

ยังมี แม่ในนามของเธอ ทีดูเหมือนว่าจะมีทีมาที


99
ไปลึกลับ ถึงกับมีเครืองมือมายาทีฝื นชะตาฟ้าได้ขนาดนี
แต่จากคําทีมูช่ ิงเกอพูด ดูเหมือนว่าผูห้ ญิงคนนีจะไม่ได้
อยูก่ บั มูช่ ิงเกอ

สุดท้าย ฐานะของเธอนันซับซ้อนมาก ในสายตาของทุก


คน เธอเป็ นผูช้ ายคนหนึง และยังเป็ นทายาทตระกูลทีสูง
ส่ง และมีศตั รู

ศัตรู

คิดถึงตรงนี ตาทังคูข่ องมูเ่ กอก็หรีลงฉายแวว


อันตราย

100
เธอยังไม่ลืมเรืองทีตกลงกับมูช่ ิงเกอเอาไว้ และ
ไม่วา่ เธอจะเต็มใจหรือไม่ แต่หลังจากทีเธอรับร่างของมู่
ชิงเกอมาแล้ว ครอบครัวและศัตรูของนาง ก็ตอ้ งเป็ นของ
เธอเหมือนกัน

“ข้อมูลยังไม่เพียงพอ ตอนนีก็รูเ้ พียงเท่านีก่อน


สงสัยต้องหาเวลานังคุยกับมูช่ ิงเกออย่างจริงจังแล้ว ” มู่
เกอคายต้นกกทีคาบอยูใ่ นปากออก พยุงตัวลุกขึน

“ยังมีผชู้ ายทีฝี มือแข็งแกร่งสามคนเมือคืนนีอีก”


มูเ่ กอทีเพิงลุกขึนนังคิดย้อนกลับไปถึงภาพเหตุการณ์
เมือคืนวาน ในใจก็พลันดําดิงลงไปอีกครัง

101
เมือคืนหลังจากทีเธอพูดคําว่า “ไร้คณ
ุ ธรรม” จบ
เธอก็รูส้ กึ ถึงรังสีสงั หารสองสายทีพุง่ ตรงมาหาเธอ ซึง
สามารถฉีกร่างเธอออกเป็ นชินเล็กชินน้อยได้ในพริบตา

และความรูส้ กึ นัน ทําให้เธอไม่อาจขัดขืนต่อ


ต้าน แม้วา่ เธอจะมีพลังความสามารถทีตนถนัดก็ตาม

โชคดีทีในขณะทีเธอรูส้ กึ ว่าผิวหนังกําลังจะปริ
แยกออกจากกันนัน ชายหนุ่มผูห้ ล่อเหลาเกินคําบรรยาย
นันแค่สะบัดแขนเสือ ก็สลายรังสีสงั หารน่าหวาดผวา
สองสายนันให้หายไปได้

และเริมจากตอนนัน เธอถึงเพิงกระจ่างว่า ใน

102
ความมืดยังมีอีกสองคนทีหลบซ่อนตัวอยู่

ก่อนชายหนุ่มคนนันจะจากไป ได้พดู กับเธอ


ประโยคหนึง

เขาบอกว่า ก่อนทีเธอจะมีความสามารถมากพอ
จนสามารถปกป้องตัวเองได้ ทางทีดีจงอย่าแสดงพลัง
สายฟ้าของตัวเองออกมาให้ใครเห็น และเขาสามารถ
ช่วยให้เธอสามารถฝึ กฝนพลังได้

คําพูดก่อนหน้า ทําให้เธอรูส้ กึ สงสัย

แต่คาํ หลัง กลับจูงใจเธอได้เป็ นอย่างมาก


103
แต่ เธอก็เลือกทีจะปฏิเสธไป

เพราะว่า เธอรับไม่ได้จริงๆ กับสายตาน่าตายที


เขาทําเหมือนเกิดความคิดว่าอยากจะรับแมวจรจัดข้าง
ถนนไปเลียงแบบนัน

สุดท้ายชายคนนันก็จากไปด้วยรอยยิมทีมีเลศ
นัย ตังแต่ตน้ จนจบ มูเ่ กอก็ยงั ไม่รูว้ า่ เขาเป็ นใครกันแน่
แน่นอนว่าเธอก็ไม่ได้สนใจและรอคอยทีจะพบเขาอีก
ครังหรอก

แต่หากว่ามีวนั ใด ทีเธอสามารถเหยียบเขาให้

104
จมฝ่ าเท้าและหัวเราะเยาะใส่หน้าเขาได้ ตอนนันเธอคง
จะยินดีเป็ นอย่างยิงทีจะได้พบเขาอีกครัง

มูเ่ กอก้มลงมองปลายนิวเรียวยาวราวกับต้น
หอมของตัวเอง กํามือแน่น พูดอย่างไม่ชอบใจ “ทําไมถึง
ใช้พลังไม่ได้?” นีคือสิงเดียวทีเธอสามารถพึงพาได้ แต่
เขากลับบอกเธอว่าหากใช้ตามใจแบบนีจะนํามาซึง
เภทภัย

แล้วต่อจากนี ควรจะทําอย่างไรดี?

“เดินไปทางทิศเหนือ เพราะเมืองลัวตูแห่งแคว้น
ฉินอยูข่ อบแดนทางเหนือ ข้าออกจากบ้านมานาน ท่าน

105
ปู่ จะต้องออกมาตามหาข้าแน่ๆ ถ้าเจอท่านปู่ เจ้าก็จะ
ปลอดภัย” ทันใดนันก็มีเสียงหนึงดังขึน ทําให้มเู่ กอที
กําลังตกอยูใ่ นภวังค์ตกใจ

พอหันไปมองก็เห็นเงาร่างโปร่งแสงยืนอยูก่ ลาง
แสงแดด มูเ่ กอทําหน้าแปลกประหลาด “เจ้าไม่กลัวแสง
แดดหรือ?”

“เหตุใดข้าต้องกลัว” มูช่ ิงเกอถามกลับไปอย่าง


สงสัย

อืม! ผีบนโลกนีก็ไม่เหมือนผีบนโลกนัน

106
มูเ่ กอกระตุกยิม ไม่คิดจะเปิ ดประเด็นต่อ

…………….

ดวงอาทิตย์สอ่ งแสงเจิดจ้าอยูบ่ นท้องฟ้า


อากาศแจ่มใส

บนเส้นทางสายหลักสูล่ วตู
ั คนและม้าคูห่ นึงท่า
ทางเหน็ดเหนือย ค่อยๆ เดินไปเรือยๆ

“ทีราบลัวรืออยูท่ างทิศตะวันตกเฉียงใต้ของลัวตู
เดินไปตามเส้นทางนีขึนเหนือไป หากเจ้าเดินเร็วกว่านี
อีกราว 10 วันก็จะถึงลัวตู” วิญาณของมูช่ ิงเกอทีลอยอยู่
107
กลางอากาศ เดินทางไปพร้อมกับมูเ่ กอทีนังอยูบ่ นหลัง
ม้า

ระหว่างทาง นางแนะนําลักษณะทัวไปของลัวตู
ให้มเู่ กอฟั ง แต่วา่ ไม่แน่ใจว่าสําหรับมูเ่ กอทีเหมือนจะ
หลับแหล่ไม่หลับแหล่นนจะฟั
ั งเข้าหูไปมากน้อยแค่ไหน

“หนวกหู”

เสียงเรียบเฉยลอยมา ทําให้มชู่ ินเกออึงไป สี


หน้าพลันมืดครึม พูดอย่างไม่ชอบใจว่า “เจ้าว่าอะไร
นะ?”

108
มูเ่ กอมองเธอ ตอบไม่ตรงคําถามว่า “เจ้าลอย
ผ่านไปมาอยูต่ รงหน้าข้าแบบนี ไม่กลัววิญาณจะกระจัด
กระจายสลายไปรึไง?”

“เจ้า!” ปากร้ายๆ ของมูเ่ กอ ทําให้มชู่ ิงเกอโกรธ


จนร่างทีโปร่งแสงวูบวาบ เหมือนจะกระจายหายไปได้
ตลอดเวลา “หึ เจ้าไม่ตอ้ งมาห่วงหรอก ” มูช่ ิงเกอข่ม
ความโกรธเอาไว้ แค่นเสียงเย็น สะบัดหน้าใส่อย่างหยิง
ยโส

มูเ่ กอเบะปาก หลับตาพักผ่อนต่อ

เดินทางต่อไปอีกพักหนึง บนถนนไม่มีแม้กระทัง

109
เงาคนแม้ครึงคน

แล้วก่อนทีมูเ่ กอจะนอนหลับไปจริงๆ บริเวณ


ไกลๆ ทีสามารถมองเห็นได้ กลับปรากฏฝุ่ นทรายสี
เหลืองฟุง้ ตลบ เสียงเกือกม้าสับสนวุน่ วายดังมา

มูเ่ กอลืมตาทังสองข้างขึนอย่างไม่รบี ร้อน มอง


เศษฝุ่ นทีปลิวกระจายเหมือนเกิดพายุดว้ ยสายตาสงบนิง

“มีทพั ทหารมา เป็ นมูจ่ ือฉี!” มูช่ ิงเกอทีลอยขึน


บนฟ้าตังแต่เมือไหร่ก็ไม่รูพ้ ลันตืนเต้นขึนมา

มูเ่ กอเงยหน้าขึนมองนางแล้วถามว่า “เจ้าไม่


110
ต้องหลบรึ?” ได้ยินชือมูจ่ ือฉีทีมูช่ ิงเกอพูดถึง เธอก็พอจะ
เดาออกแล้วว่าผูม้ าเป็ นใคร

ใครจะรู ้ อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็สลดไป ลอยตัวลงมา ยืน


อยูข่ า้ งๆ มูเ่ กอ “นอกจากเจ้าแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถมอง
เห็นข้าได้”

“……….”เป็ นครังแรกทีมูเ่ กอได้ยินนางพูดแบบ


นี

มูช่ ิงเกอพลันมองไปยังเงาร่างทีเริมเด่นชัดขึน
เรือยๆ ด้านหน้าอย่างใจลอย พึมพําว่า “เขาก็มาด้วย! ”
อารมณ์ซบั ซ้อนทีปรากฏบนใบหน้านาง ทําให้มเู่ กอต้อง

111
เบือนหน้าหนี

แต่วา่ มูช่ ิงเกอกลับไม่มองต่อ แต่มองมูเ่ ก


อพร้อมกับพูดอย่างจริงจังว่า “จําไว้ ตังแต่บดั นีไป เจ้า
คือมูช่ ิงเกอ ทายาทเพียงหนึงเดียวของตระกูลมู”่

ทายาทเพียงหนึงเดียวเหรอ?

มูเ่ กอยกมือขึนจับตุม้ หูบนหูซา้ ยของตัวเอง

ตุม้ หูทีภายนอกดูธรรมดานีฟื นฟูสภาพเสร็จ


สมบูรณ์แล้ว เมือเช้าตอนตืนขึนมา เธอก็พบว่าตัว
เองกลายเป็ นหนุ่มน้อยหน้าตาหล่อเหลาหมดจด แม้วา่
112
ร่างกายจะดูออ่ นแอ แต่ไม่อาจทําลายความองอาจไปได้
เกรงว่าอย่างเดียวทีแตกต่างกับมูช่ ิงเกอตัวจริง นันก็คือ
กล่นอายสีดาํ เข้มตรงหว่างคิวนันได้จางหายไปเหลือไว้
เพียงความนิงเฉยเป็ นอิสระไร้ซงการผู
ึ กมัด

“เกอเอ๋อร์!”

เสียงดังสะเทือนฟ้าสะเทือนดินดังขึน มูเ่ กอยัง


ไม่ทนั ได้ตอบสนอง ก็ถกู ดึงเข้าไปอยูใ่ นอ้อมกอดอัน
กว้างใหญ่และอบอุน่ แล้ว

ไวมาก!

113
มูเ่ กอทีจมอยูใ่ นอ้อมกอดอันหนาใหญ่ ตกใจใน
ความน่าเกรงขามของผูม้ าใหม่ จึงขมวดคิวแน่น เมือสัก
ครูเ่ ธอเหมือนจะเห็นแสงสีนาเงิ
ํ นเข้มวาบผ่านตาไป จาก
นันตัวเธอก็ตกอยูใ่ นอ้อมกอดนี

“เกอเอ๋อร์อยากโดนลงโทษใช่ไหม ถึงกล้าแอบ
ข้าไปลัวรือ” เสียงชราแต่หนักแน่นดังผ่านหัวของมูเ่ ก
อไป วินาทีตอ่ มาเธอก็ถกู ดึงออกมาอ้อมกอดนัน

ตอนนี เธอถึงเพิงสังเกตว่าตนลงมาจากหลังม้า
และยืนอยูบ่ นพืนดินแล้ว

แม้วา่ ในนําเสียงนันจะเต็มไปด้วยความตําหนิ

114
แค่ไหน แต่เธอก็สมั ผัสได้วา่ สายตาคมกริบทีมอง
ประเมินมานันแฝงไปด้วยความเป็ นห่วงและเคร่งเครียด

“ท่านปู่ ……..” เสียงของมูช่ ิงเกอลอยมาข้างหู

มูเ่ กอเงยหน้าขึนมองคนทีจับแขนทังสอข้างของ
เธอไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเธอจะหายตัวไปอีก

“ท่านปู่ ” คําเรียกขานออกจากปากไปโดยไม่ทนั
รูต้ วั

“อืม” มูซ่ งตอบแบบโกรธๆ

115
แต่มเู่ กอก็ฟังออกถึงความสันทีอยูใ่ นนําเสียง
และนําตาทีเขากลันเอาไว้

คนทีสามารถทําให้ทา่ นแม่ทพั ชราผูผ้ า่ นศึกมา


อย่างโชกโชนหลังนําตาได้อยูเ่ รือย เกรงว่านอกจาก
หลานรักคนนีแล้ว ก็คงไม่มีใครอืนอีก

“นายท่านผูเ้ ฒ่า แสดงว่าชิงเกอเป็ นคนดีฟา้ คุม้


ครองจึงกลับมาได้อย่างปลอดภัย” ทันใดนัน นําเสียง
เรียบเย็นสูงส่งก็ดงั แทรกขึนมา

มูซ่ งตัวสัน มองคุณชายผูส้ งู ส่งทียืนอยูท่ า่ ม


กลางกลุม่ คนด้วยสายตาไม่สดู้ ีนกั

116
สายตาของมูเ่ กอมองผ่านไหล่ของท่านปู่ ไป พริบ
ตาเดียวสายตาก็จบั อยูท่ ีคนทีเพิงพูดเมือครู ่ เพราะรูป
โฉมและกริยาท่าทางของคนผูน้ นั โดดเด่นสะดุดตาแตก
ต่างจากผูอ้ ืน

เสือคลุมสีดาํ ลวดลายงู ทําให้รา่ งเขาดูสงู


ตระหง่านดังกระบี ใบหน้าตาเยียบเย็นนิงเฉย กลับชวน
ให้ผคู้ นอยากจะเข้าใกล้ ราวกับว่า แค่เขาหันมามองก็
เป็ นโชควาสนามากแล้ว

กลางหว่างคิวทรงกระบี ปรากฏกลินอายแห่ง
ความสูงศักดิทีติดตัวมาตังแต่กาํ เนิด แม้วา่ จะยืนอยู่
ท่ามกลางฝูงชน ก็ยงั คงดูสะดุดตา ทําให้คนไม่อาจมอง
117
ข้ามไปได้

“เขาคือรุย่ อ๋อง ฉินจินห้าว ” เสียงของมูช่ ิงเก


อดังขึนได้จงั หวะพอดี

มูช่ ิงเกอมองหน้ามูเ่ กอเหมือนไม่มีอะไร แม้วา่ มู่


ชิงเกอจะพยายามปิ ดบังความรูส้ กึ มากเพียงใด แต่เธอก็
ยังสังเกตได้ถงึ นําเสียงสับสนทีเหมือนมีอะไรซุกซ่อนอยู่
ในนันได้

118
ตอนที 6 ทัณฑ์เฆียนด้วยแส้

119
ทีมูซ่ งนําทหารออกจากเมืองในครังนี ก็เพือจะ
ตามหามูช่ ิงเกอผูท้ ีเป็ นลูกหลานเพียงคนเดียวของตระกู
ลมู่

หลังจากเจอแล้ว เขาก็สงให้
ั คนกางกระโจมเพือ
พักกองทัพก่อนทีจะเดินทางกลับ

ตอนนี มูเ่ กอจึงค่อยรูจ้ ากปากของมูช่ ิงเกอว่า


สนามรบทีตัวเองมาเกิดใหม่นนั สรุปแล้วใครรบกับใคร
อยู่

ทีราบลัวรือ เป็ นชายแดนทางตะวันออกของ

120
แคว้นฉิน

แต่ทว่า มันกลับไม่ใช่พืนทีของแคว้นฉิน เพราะ


แคว้นทีติดกันนอกจากแคว้นฉินแล้ว ยังมีอีกสองแคว้น
แคว้นหนึงอยูท่ างด้านตะวันตกของฉินชือแคว้นถู อีก
แคว้นอยูท่ างใต้ของฉินชือแคว้นอวี พืนทีนีจึงเป็ นดังเขต
อิสระทีซึงแคว้นใดก็ไม่อาจอ้างสิทธิ

ครังนี แคว้นทีทําสงครามกับฉินคือแคว้นถู

แคว้นถูชอบการทําสงคราม ประกอบกับแคว้น
ตังอยูท่ างด้านตะวันตกของแผ่นดินหลินชวน เสบียง
อาหารจึงขาดแคลน ฉะนันทุกๆ ปี จงึ มักจะทําสงคราม

121
รบพุง่ กับแคว้นฉินอยูบ่ อ่ ยครัง เป็ นอย่างนีเรือยมา ความ
สัมพันธ์ของทังสองแคว้นจึงไม่ดีมาโดยตลอด

และนันก็เป็ นสาเหตุของการก่อสงครามในทุกๆ
ครัง……….

จริงๆ แล้ว เรืองเกียวกับแผนการเบืองลึกเบือง


หลังของสงครามและจุดประสงค์ของการรบกันพวกนี
คุณชายเสเพลอย่างมูช่ ิงเกอจะไปรูไ้ ด้อย่างไร?

ทีนางมาปรากฏตัวทีสนามรบ ก็เพราะว่าคน
สนิทของฉินจินห้าวบอกกับนางว่า “ข้างกายรุย่ อ๋องไม่
เก็บคนทีไร้ประโยชน์ไว้” ประกอบกับคํายุยงจากคนรอบ

122
ข้าง คําเยาะเย้ยว่าจวนหย่งหนิงนันไร้ซงคนมี
ึ ฝีมือ เมือ
ได้ยินดังนันนางจึงนําทหารห้าร้อยนายออกไปทํา
สงครามด้วยความโมโห

คนในตระกูลมู่ ขอแค่เป็ นทายาทสายตรง ต่างก็


มีองครักษ์เป็ นของตัวเอง

ข้อปฏิบตั ิเดียวทีองครักษ์พวกนีต้องทําตามก็คือ
จงรักภักดีตอ่ ผูเ้ ป็ นนาย ก็เหมือนองครักษ์ของมูช่ ิงเกอที
จะไม่มองข้ามคําสังนางไปทําตามคําสังมูซ่ งเด็ดขาด

และเพราะความจงรักภักดีนี จึงทําให้ทหารพวก
นีตายหมด

123
ถ้าตอนทีมูช่ ิงเกอกําลังวูว่ าม พวกเขาห้ามนาง
เอาไว้ หรือให้คนไปแจ้งแก่มซู่ ง เรืองทุกอย่างก็คงจะไม่
เกิดขึน แน่นอนว่า มูเ่ กอเองก็ไม่สามารถใช้รา่ งนีในการ
คืนชีพใหม่ได้

ทังหมดนี เป็ นเพราะการตัดสินใจของมูช่ ิงเก


อ ถ้าจะคิดบัญชี ก็ไม่ควรคิดกับพวกเขา แต่ตอ้ งไปหาผู้
ทียุยงให้นางเข้าไปทีสนามรบนันต่างหาก

แต่ตอนนี สิงทีมูเ่ กอสงสัยคือ เมือมีคนยุยง แล้ว


กุญแจสําคัญของเรืองนีอย่างฉินจินห้าวจะรูเ้ รืองนีด้วย
หรือเปล่า?

124
มูเ่ กอมองดวงตาเรียวเล็กของมูช่ ิงเกอ อย่าคิด
นะว่าจะปิ ดเธอได้

“เจ้าชอบเขาหรือ?” มูเ่ กอทีนังขัดสมาธิอยูบ่ น


พรมในกระโจม จู่ๆ ก็มองไปทีมูช่ ิงเกอแล้วถามขึน

“อะไรนะ?” มูช่ ิงเกอรีบหลบตา

มูซ่ งยุง่ อยูก่ บั การกางกระโจม การลงมือทําด้วย


ตนเองเป็ นความเคยชินทีบ่มเพาะมาจากในสนามรบ
ฉะนัน ตอนนีในกระโจมจึงเหลือมูเ่ กอเพียงคนเดียวทีนัง
พักอยู่

125
มูเ่ กอหรีตา โน้มตัวเข้าไปใกล้วิญญาณของมูช่ ิง
เกอ “เจ้ารักชืนชมเชือพระวงศ์ โดยทีอยูใ่ นร่างผูช้ ายแบบ
นี เกรงว่าทีผ่านมาชีวิตคงไม่ราบรืนนักใช่หรือไม่?”

มูช่ ิงเกออึงไป ใบหน้าแม้จะโปร่งแสง แต่ก็มเู่ ก


อก็มองออกว่าใบหน้านางดูซีดลง

มูเ่ กอยืดตัวกลับไปด้วยท่าทางเกียจคร้าน ใช้นาํ


เสียงอันตรายพูดว่า “ตอนนี ข้าต่างหากทีเป็ นเจ้า ถ้าไม่
อยากให้มชู่ ิงเกอหายสาบสูญไปอีกครัง ทางทีดีเจ้าจง
เล่าเรืองทีปิ ดบังข้าเอาไว้ออกมาให้หมด”

126
มูช่ ิงเกอเม้มปาก พูดนิงๆ ว่า “เดิมทีขา้ ก็ไม่ได้
ตังใจจะปิ ดบังเจ้า”

“พูด” มูเ่ กอเงยหน้าขึน

……………

หลังจากธูปหมดไปครึงดอก ในกระโจมก็เงียบ
สงบ

“เสเพล ทารุณ โหดเ**◌้ยม อารมณ์รา้ ย หยิง


ยโส และ…….รักร่วมเพศ? ดี ดีมาก! ” มูเ่ กอกัดฟั น สี
หน้ายําแย่
127
เธอเข้ามาอยูใ่ นร่างของคนประเภทไหนกันเนีย

เมือก่อน เธอคิดว่าเป็ นเพราะฐานะทีแท้จริงของ


มูช่ ิงเกอ จึงจําต้องแสดงนิสยั เป็ นคนเจ้าอารมณ์ไร้
เหตุผล แต่กลับไม่คิดเลยว่านางจะทิงชือเสียงอันดีงาม
ขนาดนีเอาไว้ให้เธอ!

อย่างอืนก็ช่างมันเถอะ แต่ชือเสียงเรืองการเป็ น
รักร่วมเพศนี…….การต้องมาเป็ นแพะรับบาปแบบนี
มัน………..

แค่มองแวบเดียวก็รูว้ า่ ฉินจินห้าวนันเป็ นคนร้าย

128
ลึก เป็ นถึงเชือพระวงศ์ จะไร้เดียงสาได้แค่ไหนกัน?

ในเมือความรักของคุณชายของตระกูลมูท่ ีมีตอ่
ท่านอ๋องรุย่ ทุกคนต่างก็รูก้ นั ดีอยู่ แต่ทาํ ไมท่านอ๋องยัง
ต้องจงใจเข้ามาใกล้ชิด ถ้าฟั งจากทีมูช่ ิงเกอเล่ามา ส่วน
มากแล้วฉินจินห้าวเป็ นคนเริมก่อน

แม้วา่ เขาจะไม่ได้แสดงออกว่ารัก แต่วา่ สําหรับ


สาวน้อยทีจําเป็ นต้องปิ ดบังฐานะทีแท้จริงของตัวเอง
แล้ว การเข้ามาใกล้ชิดโดยไม่หวังผลแบบนี ก็ทาํ ให้นาง
เกิดความคิดทีอยากจะพึงพิงเขา

“ข้าเป็ นผูไ้ ร้พลัง เกิดมาก็ไม่อาจจะฝึ กฝนพลังได้

129
หากข้าไม่ทาํ ตัวหยิงยโส ตระกูลมูก่ ็คงจะมีแต่คนรังแก”
มูช่ ิงเกอเหมือนกําลังแก้ตวั ให้ตวั เอง

แต่วา่ คําพูดนีกลับทําให้มเู่ กอหัวเราะเยาะ


“ตอนนีเจ้าก็แค่พงพาบุ
ึ ญบารมีของท่านปู่ เจ้า แต่หากวัน
ใดท่านปู่ ไม่อยูแ่ ล้ว เจ้าคิดว่าท่าทางหยิงยโสของเจ้าจะ
สามารถรักษาชือเสียงของจวนหย่งหนิงเอาไว้ได้งนรึ
ั ?”

“ข้ารู”้ ใครจะคิดว่ามูช่ ิงเกอกลับไม่โกรธเพราะ


คําดูถกู นัน แต่กลับหลุบตาลง “ดังนัน ข้า……….”

ตึง-------!ตึง-------!ตึง--------!

130
จู่ๆ ก็มีเสียงกลองดังขึน ตัดบทคําทีมูช่ ิงเก
อกําลังจะพูดออกมา

“เกิดอะไรขึน?” มูเ่ กอมองไปทีนอกกระโจมทีมี


เสียงกลองดังมาเลิกคิวถามขึน

มูช่ ิงเกอกัดริมฝี ปาก “เป็ นเสียงกลองรวมพลของ


ทหาร ต้องเป็ นคําสังของท่านปู่ แน่ๆ”

ยังไม่ทนั จะสินเสียง มูเ่ กอก็เห็นผ้าคลุมกระโจม


ถูกคนข้างนอกเลิกขึน ทหารสองนายสวมเสือเกราะสี
หน้าเคร่งเครียดปรากฏตัวขึนตรงหน้าเธอ

131
มูเ่ กอเลิกคิวขึนสูงอีกครัง ไม่ได้เอ่ยปาก

“เรียนคุณชาย ท่านแม่ทพั ให้มาเรียนเชิญขอ


รับ ” ทังสองพูดขึนพร้อมกัน

ในกองทัพ พวกเขายังคงเคยชินในการเรียกขานมูซ่ งว่า


ท่านแม่ทพั

มูเ่ กอเลียริมฝี ปาก ลุกขึนยืน ยืนมือไปปั ดตาม


เสือทียับเล็กน้อย แล้วเดินตัวตรงออกจากกระโจมไป

ฝี เท้าก้าวอย่างมันคง ยืดอกตัวตรง ราวกับว่าแม้


ข้างหน้าจะมีภเู ขาดาบทะเลเพลิง ก็ไม่อาจจะทําให้เธอ
132
แม้แต่จะขมวดคิวได้

ทหารสองนายทีได้รบั คําสังมองตากัน ในดวงตา


ต่างก็ฉายแววประหลาดใจ คนตรงหน้า ดูไม่เหมือนคุณ
ชายทีพวกเขาคุน้ เคยเลยแม้แต่นอ้ ย

คุณชายไม่ตอ่ ต้าน

ทังยังเดินออกมาเองอีก?

ทหารทังสองนายคิดในใจอย่างโมโหว่า ‘คุณ
ชาย ท่านต้องชีหน้าด่าพวกข้าก่อนหนึงยกหลังจากนันก็
เตะอีกสองที ให้พวกข้าคุกเข่าขอขมาต่อหน้าท่าน ถึงจะ
133
ค่อยฝื นใจยอมยรุยาตรออกมาไม่ใช่หรือ? ท่านเดินมา
อย่างสบายอารมณ์แบบนี มันผิดปกติไม่ใช่รไึ ง? หา!’

น่าเสียดายทีมูเ่ กอไม่อาจได้ยินเสียงความคิด
ของทังสองได้ เธอเดินตรงไปตามเสียงกลองและคิดว่า
มูซ่ งกําลังเตรียมจะทําอะไรกันแน่

เดินเข้ามาทีละก้าวทีละก้าว สายตาของมูเ่ กอก็


ยิงเป็ นประกายขึนเรือยๆ

แค่ชวเวลาไม่
ั ถงึ หนึงชัวยาม พืนทีราบเรียบใน
ตอนแรกก็กลับมีคา่ ยทหารทีเป็ นระเบียบเรียบร้อยผุดขึน
มา ทุกนายต่างยืนประจําทีเตรียมพร้อม เห็นได้ชดั ว่า

134
ความสามารถในการนําทัพของมูซ่ งนันไม่ใช่การโอ้อวด
แน่นอน

กลองของทัพทหารตังอยูบ่ ริเวณพืนทีว่าง
นอกกระโจมกลาง มูซ่ งนังอยูบ่ นแท่นสูงประจําตําแหน่ง
ประธาน ทางด้านขวามือคือรุย่ อ๋องฉินจินห้าว ทหารที
ติดตามท่านแม่ทพั มาก็แบ่งออกเป็ นสองฝังซ้ายขวา

ไม่เพียงเท่านี นายทหารธรรมดาก็ยืนเรียงแถว
กันอย่างเงียบเชียบไม่เปล่งเสียงใดๆ ออกมาแม้แต่นอ้ ย

มูเ่ กอกวาดตามองครูห่ นึง แล้วหยุดสายตาลง


ตรงแท่นสูงทีสร้างขึนเพือมูซ่ ง

135
บอกว่าเป็ นแท่นสูง แต่ก็สงู จากพืนขึนมาเพียง
แค่สามฉือเท่านัน

แต่บนแท่นสูงกลับมีเสาอยูส่ องต้น บนตัวเสามี


ตะปูตรึงวงเหล็กไว้สองวงแยกกัน บนแท่นสูง ยังมีชาย
คนหนึงยืนอยู่ มัดกล้ามตึงแน่น เขายืนเอามือไพล่หลัง
ในมือถือแส้ยาวหนาหยาบขนาดเท่าข้อมือเด็กทารกเอา
ไว้เส้นหนึง สีหน้าเย็นชา

มูเ่ กอคิวกระตุก เริมเกิดลางสังหรณ์เลวร้าย


บางอย่างขึน

136
“มูช่ ิงเกอ ยังไม่คกุ เข่าลงอีก!” มูซ่ งพลันตวาดขึน
ทําให้มเู่ กอหันกลับมามอง

“เพราะเหตุใด?” ใบหน้าเล็กๆ ทีงดงามแต่ดอู อ่ น


เยาว์ของมูเ่ กอไร้ซงความรู
ึ ส้ กึ หวาดกลัวใดๆ เพียงมอง
มูซ่ งนิงๆ ร่างผอมบางยืนตัวตรงราวกับกระบี ท่าทางแม้
ไม่หยิงยโสแต่ก็ไม่ยอมอ่อนข้อ

มูซ่ งทําตาดุ แต่กลับรูส้ กึ ชืนชมในท่าทีของหลาน


ชาย “หึ! เจ้าแอบหนีออกนอกเมืองโดยพลการ เข้าไปใน
สนามรบ ทําให้ทหารทังห้าร้อยนายผูบ้ ริสทุ ธิต้องมาสละ
ชีวิต ยังไม่รูค้ วามผิดอีกรึ?”

137
มูซ่ งเป็ นคนรักทหารในบังคับบัญชา ทหารใต้
บัญชาของเขาทุกนายก็เปรียบเสมือนลูกหลาน เขาจะลง
โทษมูช่ ิงเกอ ไม่ใช่เพราะต้องการแสดงละคร แต่มชู่ ิงเก
อจะต้องมีคาํ อธิบายให้กบั ทหารเหล่านัน เพือคืนความ
เป็ นธรรมให้กบั เหล่าทหารทีตายไป และทีสําคัญกว่านัน
คือเขาอยากให้มชู่ ิงเกอเข้าใจว่าผลตอบแทนของการเอา
แต่ใจเป็ นอย่างไร

คําพูดนัน แทรกมาด้วยพลังวัตร ทําให้มเู่ กอต


กตะลึงเลือดลมติดขัด

แต่วา่ เธอกลับไม่โกรธแม้แต่นิด และไม่ได้โต้


ตอบ

138
เธอเงียบ

แต่ฉินจินห้าวทีนังอยูท่ างขวามือของมูซ่ งกลับ


เอ่ยปากขึนมาว่า “นายท่านผูเ้ ฒ่า ทหารทังห้าร้อยนาย
ยอมสละชีวิตอย่างกล้าหาญทีลัวรือ ชิงเกอเองก็คง
เสียใจมาก ตอนนีเขาเพิงจะรอดพ้นจากอันตรายมา ขอ
ให้นายท่านผูเ้ ฒ่าลงโทษแค่เพียงสถานเบาเถิด”

พูดจบ เขาก็มองไปทางมูช่ ิงเกอ แต่ทว่า กลับไม่


เห็นสายตาแห่งความซาบซึงใจและความรักอย่างทีคาด
ไว้ในตอนแรก

139
ฉินจินห้าวอึง กดความเดียดฉันท์เอาไว้ในใจ มือ
ทีวางอยูบ่ นทีเท้าแขนค่อยๆ บีบเข้าหากัน รูส้ กึ ราวกับว่า
มีบางสิงกําลังหลุดออกจากการควบคุมของตน

มูซ่ งมองฉินจินห้าวแวบหนึง ก่อนจะหันกลับไป


มองมูเ่ กอแล้วถามว่า “มูช่ ิงเกอ เจ้าก็คิดว่าควรจะปล่อย
เรืองนีให้ผา่ นไปเช่นนีหรือ?” คําพูดนีซ่อนความตึงเครียด
เอาไว้ ราวกับกลัวว่าคําตอบของหลานจะทําให้เขาต้อง
ผิดหวัง ทําให้เหล่าทหารหมดความนับถือ

หลานของตระกูลมูเ่ ป็ นผูไ้ ร้พลังนันไม่เป็ นไร ขอ


เพียงแค่สามารถทําให้เหล่าทหารยอมรับได้ แม้วนั หนึงที
เขาตายไป หลายชายก็คงสามารถปกป้องตัวเองได้ แต่
ว่า………..
140
“ท่านปู่ คิดว่าจะลงโทษอย่างไร?” มูเ่ กอถามกลับ
นิงๆ สําหรับคําขอร้องของฉินจินจ้าวแล้ว เธอทําเหมือน
กับไม่ได้ยิน

“เฆียนด้วยแส้ หนึงร้อยที” มูซ่ งตอบ

คําตอบนี ทําให้ทกุ คนเหลือบมองด้วยหางตา


ราวกับกําลังคาดเดาว่าแผ่นหลังบางๆ ของมูช่ ิงเกอจะ
สามารถรับการลงทัณฑ์โดยการเฆียนด้วยแส้ทงหนึ
ั ง
ร้อยทีนีได้หรือไม่?

มูเ่ กอเม้มปาก หันกายไม่กล่าวอะไร ก้าวเท้า

141
ยาวๆ เดินขึนไปทีเสาลงทัณฑ์บนแท่นสูง

ทุกคนเงียบ ขนาดคนมากแผนการอย่างฉินจิน
ห้าวก็ยงั รอดูวา่ เธอจะทําอะไรต่อไป

มูเ่ กอขึนไปบนแท่นสูง ไม่ได้ยืนอยูร่ ะหว่างเสา


ทังสองต้น แต่กลับหันหน้าเข้าหาทหารทุกผูท้ ีอยูด่ า้ น
ล่าง ยืนเอามือไพล่หลัง พูดกับคนลงทัณฑ์อย่างเรียบ
เฉยว่า “ท่านแม่ทพั ลงโทษข้าหนึงร้อยที ข้าขอเพิมอีก
หนึงร้อย เพือไว้อาลัยให้กบั วิญญาณทหารกล้าทังห้า
ร้อยนาย! ตี !”

142
ตอนที 7 เกียวมังกรพยัคฆ์วายุ มาสิ เสียวเกอเอ๋อร์

143
เฆียนสองร้อยที แม้วา่ จะเป็ นยอดฝี มือขันพลังสี
เขียวมาโดนเองก็คงจะปางตาย

แล้วมูช่ ิงเกอล่ะเป็ นใคร? ก็เป็ นแค่คนไร้คา่ คน


หนึงเท่านัน ไม่ตอ้ งพูดถึงขันพลังสีเขียวเลย คนทีขนาด
ขันพลังสีแดงขันตําสุดก็ยงั ไม่ได้ กลับกล้ามาพูดโอ้อวด
ว่าจะยอมรับทัณฑ์แส้ถงึ สองร้อยครัง ?

เขาบ้าไปแล้วหรือไร!

หรือว่าอยากจะใช้แผนรุกเพือถอย พยายามทํา
144
ให้ทา่ นแม่ทพั สงสารจนยอมปล่อยเขาไป?

เวลานี ทุกคนต่างก็คิดไปต่างๆ นาๆ พากันคาด


เดาเจตนาของมูเ่ กอ

สายตาทีมองขึนไปบนแท่น บ้างก็ดถู กู บ้างก็


เยาะเย้ย บ้างก็ฉงน และบ้างก็เมินเฉย

ขนาดสีหน้าของมูซ่ งเองก็ยากทีจะคาดเดาได้วา่
รูส้ กึ อะไรอยู่ ราวกับกําลังใคร่ครวญว่าควรจะหยุดความ
บ้าคลังของมูเ่ กอดีไหม

ฉินจินห้าวใบหน้านิงเฉย ดูไม่ออกว่าตอนนีเขา
145
กําลังคิดอะไรอยู่ เขารูแ้ ค่วา่ มูช่ ิงเกอทีเขารูจ้ กั ไม่ใช่แบบ
นี

“ลงแส้!” ผ่านไปเนินนานแต่แส้ยงั ไม่ลงหลังสักที มูเ่ กอม


องผูล้ งทัณฑ์ดว้ ยความไม่พอใจ

ฝ่ ายหลังถูกสายตาโหดเ**◌้ยมของเธอวาดผ่าน
ในใจก็ไม่กล้าต่อต้าน ชูแส้ในมือขึนสูง สะบัดฟาดลงบน
แผ่นหลังเหยียดตรงของมูเ่ กอสุดแรง

ควับ----------!

“อึก”
146
เสียงแส้กลบเสียงลมหายใจสะดุดและเสียงกัด
ฟั นของมูเ่ กอจนมิด

หลังจากทีแส้แรกฟาดลงไป เสือผ้าทีมูเ่ กอเพิง


เปลียนมาใหม่ก็ฉีกออก โลหิตไหลซึมออกมา

รอบข้าง เงียบสงบ

สายตาทุกคูพ่ ลันเปลียนเป็ นตกตะลึง

คิวทีขมวดแน่นของมูซ่ งคลายออก หมัดทีกํา


แน่นก็ปล่อยออกเช่นกัน แต่ในแววตามีความห่วงใยซ่อน
147
อยู่ และคอยสังเกตอาการของมูเ่ กออย่างใกล้ชิด

กลัวว่าเขาจะทนไม่ไหว

ฉินจินห้าวเองก็แปลกใจ คิวขมวดน้อยๆ ท่าทาง


ดือรันของมูช่ ิงเกอ ทําให้เขารูส้ กึ รังเกียจมันทําให้เขานึก
ถึงตอนทีนางมาคอยพัวพันเขา แม้วา่ นันจะเป็ นสิงทีเขา
ตังใจให้เกิดก็ตาม

บนแท่น หลังจากทีผูล้ งทัณฑ์หวดแส้แรกลงไป


ก็นิงอึง ราวกับไม่รูว้ า่ ทําไมตนต้องหวดแส้ลงไปด้วย

“หยุดทําไม ตีตอ่ สิ!” จู่ๆ ก็หยุดตีไป ทําให้มเู่ กอข


148
มวดคิว

จะรับมือกับการทัณฑ์แบบนี ต้องให้ผา่ นไปใน


อึดใจเดียว หากหยุดลงกลางคัน เกรงว่าจะต่อไม่ติดแล้ว
การทําแบบนีเป็ นการใช้แรงใจล้วนๆ

ผูล้ งทัณฑ์มองไปยังมูซ่ งทีนังประจําตําแหน่ง


ประธาน หลังจากทีท่านแม่ทพั พยักหน้า เขาจึงกัดฟั น
และยกแส้ขนอี
ึ กครัง

ควับ----------!

ควับ ควับ-------------!
149
ควับ----------!

แส้แล้วแส้เล่า ทุกเสียงแส้ทีหวดลงมาล้วนเข้า
เนือ ไม่มีการเสแสร้งแม้แต่นิด

ไม่ชา้ แผ่นหลังของมูเ่ กอก็เต็มไปด้วยเลือดสี


แดงสดทิมแทงนัยน์ตาไหลลงมาตามเสือ เลือดและเศษ
เนือหยดลงตรงข้างขาของเธอ แต่วา่ ตังแต่เริมจนถึง
ตอนนีมูเ่ กอไม่รอ้ งเลยสักแอะ และไม่ได้ขอให้ละเว้น

แผ่นหลังทียังคงยืดตรง ราวกับดาบวิเศษทีตัง
ตระหง่านขึนสูฟ่ ากฟ้าและกําลังรอคอยการลับคมอย่าง

150
ไรอย่างนัน

ทังค่ายดัง ก้องไปด้วยเสียงแส้ทีสะท้อนไปมา

มือทังคูข่ องมูซ่ งกําแน่นอีกครัง จนเล็บจิกเข้าไป


ในเนือ จ้องมองเงาร่างผอมบางบนแท่นตาไม่กะพริบ

‘90……98……100……101……103……’

ไม่รูว้ า่ ตังแต่เมือใดทีในใจของทหารทุกนายด้าน
ล่างเริมนับจํานวนแส้ทีมูเ่ กอโดนเงียบๆ เด็กหนุ่มทีพวก
เขาดูถกู เจ้าหนุ่มจอมเสเพลทีทําให้พีน้องทหารทีจงรักษ์
ทังห้าร้อยนายต้องตาย เจ้าคนไร้คา่ ทีไม่อาจจะฝึ กฝนขัน
151
พลัง ยามนีกลับยืนนิงไม่ขยับราวกับขาทังคูถ่ กู ตอกติด
อยูก่ บั แท่น ทนรับทุกอย่างทีคนธรรมดาไม่อาจรับได้

เขาบอกว่าอีกหนึงร้อยทีทีเพิมเข้ามา ก็เพือไว้
อาลัยให้วิญญาณทหารกล้าทังห้าร้อยนาย

เขาใช้เลือดเนือของเขาเพือส่งทหารพวกนันไปสู่
สุขติ

ใช้การกระทําทีไร้เสียงเป็ นการยอมรับผิดต่อ
หน้าเหล่าทหาร

ฉินจินห้าวแววตายากจะเข้าใจ แต่ก็ยากทีจะปิ ด
152
บังสีหน้าตกตะลึงเอาไว้ได้ มองดูคนบนแท่น เขารูส้ กึ
เหมือนตัวเองเข้าใจอะไรผิดไป ‘สายเลือดของตระกูลมู่
ไม่วา่ จะอย่างไรก็ยงั คงเป็ นสายเลือดของตระกูลมูง่ นั
สินะ แม้วา่ จะเป็ นแค่คนไร้ประโยชน์ แต่ก็ยงั สามารเอา
ชนะใจเหล่าทหารได้! ’ มือทีซ่อนอยูใ่ นแขนเสือกําแน่น
เสียงลันของกระดูกทีดังออกมาไม่มีใครได้ทนั สังเกต

“159…….168……..”จากทีนับอยูเ่ บาๆ กลาย


เป็ นเสียงทีดังชัดเจน

เสียงนับเลขทีพร้อมเพียงกัน ราวกับช่วยเพิม
พลังให้กบั มูเ่ กอ

153
มูซ่ งเม้มปากแน่น มองจ้องไปยังเด็กหนุ่มบน
แท่น ทังภูมิใจและเจ็บปวดใจ ในมือกํายาลูกกลอนฟื นฟู
พลังชันดีไว้ตลอดเวลา ยาเม็ดนีสามารถช่วยคนตายให้
ฟื นคืนชีพได้ ยาเม็ดนีเขาได้มาเพราะความบังเอิญ ตอน
นีก็แค่รอให้การลงทัณฑ์สนสุ
ิ ดลง แล้วรีบให้มชู่ ิงเกอกิน
เข้าไป เพือรักษาชีวิตของเขาเอาไว้

“199 200!”

เมือเสียงเฆียนเงียบลง แส้ทีหยาบหนาเท่าข้อ
มือทารกเส้นนันกลับขาดสะบันเป็ นสองท่อนในทีสดุ ท้าย

“คุณชาย!” ผูล้ งทัณฑ์หน้าเปลียนสี คุกเข่าลง

154
ข้างเดียวลงบนพืน เงยหน้าขึนมองมูเ่ กอทียังคงยืนตรง

“เสร็จแล้วหรือ?” มูเ่ กอเงยหน้าขึนมองท้องฟ้า


นําเสียงเรียบเฉยเอ่ยถาม ราวกับว่าคนทีได้รบั การลง
ทัณฑ์นนไม่
ั ใช่เธอ

“คุณชาย ครบทังสองร้อยครัง ไม่มีขาดแม้แต่ที


เดียว!”

เสียงทีดังขึนอย่างพร้อมเพรียงกันตอบกลับเธอ

มูเ่ กอรูส้ กึ ว่าเงาคนดํามืดตรงหน้าหดเล็กลงไป


หลายส่วน ความเจ็บปวดบริเวณแผ่นหลังแผ่กระจายไป
155
ทัวทังตัวนานแล้ว ทําให้เธอรูส้ กึ ชาไปทังร่าง

ไม่ขาดแม้แต่ทีเดียว

คําตอบนี ทําให้รมิ ฝี ปากของมูเ่ กอโค้งขึนเป็ น


รอยยิมจางๆ ภาพตรงหน้าค่อยๆ มืดลง แล้วล้มลงไป

“คุณชาย!” เหล่าทหารทีคุกเข่าอยูเ่ ห็นมูเ่ กอล้ม


ลงก็ตกใจ แทบจะพุง่ ตัวขึนไปบนแท่น

แต่ทว่า มีคนเร็วกว่าพวกเขา

แสงสีนาเงิ
ํ นวาบผ่าน มูซ่ งยืนอยูบ่ นแท่นรับร่าง
156
ของมูเ่ กอเอาไว้ได้ ป้อนยาเข้าปากของเธออย่างไม่ลงั เล
และใช้พลังในการละลายยาให้เธอ

“ท่านแม่ทพั ขอให้ขา้ น้อยเป็ นองครักษ์ของคุณ


ชายด้วยเถิด!”

“ท่านแม่ทพั ข้าน้อยด้วย!”

“ข้าน้อยก็ดว้ ย!”

เสียงฝูงชน ทําให้ฉินจินห้าวลุกขึนช้าๆ เขามอง


หนึงเด็กหนึงแก่ของตระกูลมูท่ ีถูกรายล้อมไปด้วยเหล่า
ทหารของแคว้นฉินด้วยสายตาริษยา ใบหน้าเย็นชา
157
อารมณ์แปรเปลียนไปมา “ตระกูลมู.่ ......ตระกู
ลมู…
่ ……มูซ่ ง.…….มูช่ ิงเกอ!”

“เอาล่ะ! เรืององครักษ์รอให้อาการบาดเจ็บของ
เกอเอ๋อร์หายดีก่อนแล้วค่อยหารือกันอีกที ตอนนีแยก
ย้ายกันไปได้แล้ว” หลานสามารถทําให้ทหารทุกคนยอม
รับในตัวหลานได้ มูซ่ งดีใจมาก แต่เวลานีทีเขาเป็ นห่วง
คือบาดแผลของมูช่ ิงเกอมากกว่า

ฮือ--------! กรรร์----------!

จู่ๆ บนท้องฟ้าก็มีเสียงคํารามของสัตว์ดงั แว่วมา


ขัดความกระตือรือร้นของเหล่าทหาร

158
ทุกคนต่างก็มองขึนไปบนท้องฟ้า ขนาดมูซ่ งและ
ฉินจินห้าวเองก็ไม่เว้น มูช่ ิงเกอทีถูกประคองอยูใ่ นอ้อม
กอดของมูซ่ งก็ลืมตาขึนไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะฤทธิยาหรือ
เสียงคํารามจากบนท้องฟ้ากันแน่ เธอมองขึนไปบนท้อง
ฟ้าสดใสด้วยความอ่อนแรงพร้อมกับทุกคน

“นันมัน……”

บนท้องฟ้า มีจดุ สีดาํ หลายจุดใกล้เข้ามาเรือยๆ


ราวกับกําลังทะลุทอ้ งฟ้ามา

“มันคือมังกรพยัคฆ์วายุ!” นัยน์ตาของมูซ่ งเคร่ง

159
ขรึมลง

ระหว่างทีพูด จุดสีดาํ นันก็ใกล้เข้ามาอีก และทํา


ให้ฝงุ ชนบนพืนมองเห็นชัดมันได้ชีดขึน

มังกรพยัคฆ์วายุ?

มูเ่ กอตาลาย แต่ก็ยงั คงมองเห็นรูปร่างของสัตว์


ประหลาด 9 ตัวนัน ทีกําลังลากเกียวอันหรูหราผ่าท้อง
ฟ้ามาราวกับหลุดออกมาจากจินตนาการ

สัตว์นนั มีหวั เป็ นมังกร แต่กลับมีรา่ งกายเป็ น


เสือดาว ทัวทังลําตัวเป็ นสีเขียว มีลวดลายจางๆ สีทอง ดู
160
ลึกลับสูงศักดิ บนหลังยังมีปีกทีบางราวปี กจักจันหลาย
ชันกางอออก ทุกครังทีขยับปี กก็ทาํ ให้เกิดลมแรงราวกับ
พายุ กรงเล็บตะปบเหยียบเมฆพุง่ ตรงมา ท่าทางคล่อง
แคล่วว่องไว เพียงแค่กา้ วเดียวก็ไปได้ไกลกว่าสิบจ้าง

หางเสือนันเต็มไปด้วยหนามแหลมอันน่ากลัว
แค่สะบัดก็สามารถแหวกท้องฟ้าออกจากกันได้ กล้าม
เนือเต็มไปด้วยเรียวแรงมหาศาล

เมือเทียบกับมังกรพยัคฆ์วายุแล้ว เกียวหลังนัน
ดูเรียบง่ายกว่ามาก เกียวทังหลังเป็ นสีดาํ ประกายทอง
ตกแต่งด้วยหัวสัตว์น่ากลัวแบบเดียวกัน ม่านสีดาํ ปิ ดบัง
ด้านในของเกียวเอาไว้ ทําให้ไม่สามารถมองเห็นข้างใน
ได้
161
“เป็ นมังกรพยัคฆ์วายุ 6 ปี ก ผูท้ ีสามารถใช้มงั กร
พยัคฆ์ในการลากรถทังหลินชวนนีมีเพียงคนเดียวเท่า
นัน” ฉินจินห้าวนําองครักษ์ของตนมายืนอยูต่ รงทีว่าง
ของค่ายนานแล้ว ยืนมองแขกทีไม่ได้รบั เชิญพร้อมกับ
ทุกคน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความตืนเต้นและพลุง่
พล่าน แฝงไว้ดว้ ยความอิจฉาลึกๆ ‘หากวันหนึงเขาได้นงั
บนเกียวหลังนันล่ะก็……..’

“มหาปราชญ์ผซู้ งอยู
ึ เ่ คียงข้างองค์ฮ่องเต้แห่ง
อาณาจักรเซิงหยวน! ” มูซ่ งพูดด้วยความตกใจ

ผูท้ ีอยูเ่ คียงข้างฮ่องเต้? มหาปราชญ์? อาณา

162
จักรเซิงหยวน?

ทุกๆ คําทีพูดมา ล้วนแปลกประหลาดสําหรับมู่


เกอ ขณะทีเธอกําลังฉงน คนรอบข้างกระทังมูซ่ งและฉิน
จินห้าวก็คกุ เข่าลงข้างหนึง ทําความเคารพแขกทีมาจาก
ฟากฟ้า--------------

“น้อมต้อนรับองค์มหาปราชญ์!”

ร่างทีอ่อนแรงของมูเ่ กอพิงอยูบ่ นตัวของมูซ่ ง แม้


ว่าไม่อยากก้มหัวให้ใคร แต่ก็ไม่อาจขัดขืนได้

มังกรพยัคฆ์วายุหยุดลงทีบนท้องฟ้าของกองทัพ
163
ทุกคนเงยหน้าขึนมอง

ภายในเกียวทีถูกปิ ดเอาไว้ มีเสียงหนึงทีทําให้มู่


เกอขนตังชันดังแว่วออกมา “ เสียวเกอเอ๋อร์ มาสิ”

164
ตอนที 8 คืนทีปู่ หลานนังคุยกัน

กลางดึก ในกระโจมของกองทัพ มูซ่ งกับมูเ่ ก


อกําลังมองกันไปมา

165
สักพัก มูซ่ งก็กระแอมเบาๆ แล้วถามอย่างระมัด
ระวัง “เกอเอ๋อร์ รูจ้ กั กับท่านมหาปราชญ์ร?ึ ”

ผีสถิ งึ จะรูจ้ กั ไอ้ถามองนั


ํ น!

มูเ่ กอปฏิเสธอย่างเดือดดาลในใจ แต่ไม่ได้แสดง


ท่าทีอะไรออกมาทางสีหน้า เธอยังจําใบหน้าทีเต็มไป
ด้วยความตืนเต้นของท่านปู่ ตอนทีคนผูน้ นปรากฏตั
ั วขึน
มาได้

“ไม่รูจ้ กั ” มูเ่ กอตอบนิงๆ

166
“ไม่รูจ้ กั รึ?” มูซ่ งไม่เชือ “หากไม่รูจ้ กั เขาจะรูช้ ือ
เจ้าได้อย่างไร แล้วยังให้ยาวิเศษทีทําให้เจ้าหายเป็ น
ปลิดทิงได้แบบนีมาอีก”

มูเ่ กอเงียบ

เธอจะไปรูไ้ ด้ไงว่าไอ้เจ้าบ้านันเป็ นบ้าอะไร ต่อ


หน้าสาธารณะชนกลับใช้คาํ เรียกขานทีชวนขนลุกขน
พองแบบนันมาเรียกเธอ แล้วยังดีดยาวิเศษประกายสี
ม่วงลงมาเข้าปากเธอจากเกียวต่อหน้าทุกคนอีก

ตอนทียานันเข้าไปในปากก็ละลายทันที เธอ
อยากคายก็คายไม่ออก จากนัน บาดแผลของเธอก็มี

167
การเปลียนแปลงอย่างน่าทึง รอยแผลทีแทบจะแยกไม่
ออกว่าอันไหนเลือดอันไหนเนือก็ประสานเป็ นเหมือน
เดิมทันตาเห็น

แล้ว ระหว่างทีเธอกําลังตะลึง เขาก็พดู ออกมา


อย่างไม่อายฟ้าอายดิน---------

“ดูแลตัวเองดีๆ ถ้าเจ้าบาดเจ็บอีก ข้าคงจะปวด


ใจ ”

ปวดใจ ปวดใจกับผีส!ิ เราสนิทกันมากรึไง?

สุดท้าย ก็พดู อย่างเมตตากับบรรดาฝูงชนว่า


168
“ พอดีขา้ ผ่านแคว้นฉินมาโดยบังเอิญ เห็นว่าทิวทัศน์
กําลังงดงาม จึงหยุดพักอยูช่ วครู
ั ่ ได้ยินมาว่า ดอกมูต่ าน
ทีลัวตูไม่เลวเลย ไว้วนั หลังข้าจะแวะไปเป็ นแขกทีจวน
ตระกูลมู”่

จากนัน ก็ลอยจากไปอย่างนุ่มนวล

ตังแต่ตน้ จนจบ เขาไม่ได้ปรากฏกายออกมาให้


ใครเห็นแม้แต่นอ้ ย

“เรืองทีท่านมหาปราชญ์บอกว่าจะมาจวนตระกู
ลมูก่ ็ไม่รูว้ า่ จริงหรือเท็จแค่ไหน ” มูซ่ งพึมพําเหมือนคิด
อะไรอยู่

169
มูเ่ กอยิมมุมปาก เธอกลับคิดว่า คําพูดทีไอ้เจ้า
นันพูดทิงท้ายไว้นนั เหมือนต้องการจะพูดให้ฉินจินห้าว
ฟั งมากกว่า ศักดิฐานะของตระกูลมูใ่ นแคว้นฉิน มูช่ ิงเก
อเล่าให้เธอฟั งมาไม่นอ้ ย ครังนีทีเจอกับมูซ่ ง และท่าทีที
แสดงออกของรุย่ อ๋อง ก็ทาํ ให้เธอพอจะเดาอะไรออกได้
หลายส่วน

เธอรูส้ กึ ว่า ไอ้เจ้านันเหมือนจะรูต้ ืนลึกหนาบาง


ของตระกูลมูใ่ นแคว้นฉินดี จึงจงใจพูดแบบนัน เพือให้
ฮ่องเต้ฉินเกิดความเกรงกลัว

แต่วา่ ทําไมเขาต้องทําแบบนัน ดูอย่างไรเขาก็

170
ไม่เหมือนพวกคนดีทีชอบยุง่ เรืองชาวบ้านเลยสักนิด

ตระกูลมู่ เกียวข้องอะไรกับเขา?

“เกอเอ๋อร์”

เสียงของมูซ่ งขัดจังหวะความคิดของมูเ่ กอ

เธอเงยหน้าขึนมองมูซ่ ง มูซ่ งเขกแรงๆ หน้าผาก


ของเธอจนแดง “คิดอะไรอยู่ ปู่ พดู อยูย่ งั จะเหม่อลอยอีก”

มูเ่ กอนวดหน้าผากด้วยความเจ็บแล้วตอบ “ไม่มี

171
อะไร”

“ถ้าอย่างนัน เมือกีข้าพูดว่าอะไร เจ้าได้ยิน


ไหม? ”

“ไม่” มูเ่ กอตอบความจริง

คําตอบห้วนๆ ง่ายๆ นี ทําเอามูซ่ งหมดอารมณ์ที


จะโกรธ ทําได้แค่ยอมพูดใหม่อีกครัง “ถ้าท่านมหา
ปราชญ์โปรดปรานเจ้าจริงๆ เจ้าก็ควรจะคว้าโอกาสนี
เอาไว้ให้มนั เจ้าไม่สามารถฝึ กฝนพลังได้ แต่ถา้ ได้รบั การ
ปกป้องจากเหล่าทหาร และมีองค์มหาปราชญ์เป็ นทีพึง
ถ้าวันหนึงข้าไม่อยูแ่ ล้ว ก็จะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้า”

172
เอ่อ!

มูเ่ กออึง ไม่คิดว่ามูซ่ งจะคิดแบบนี

ชาติทีแล้ว เธอชินกับการพึงตัวเอง ชาตินี มูซ่ งก


ลับวางแผนแทนเธอ คิดให้เธอทุกอย่าง ทําให้จิตใจทีเดิม
แข็งกระด้างของเธอ เริมเปลียนแปลงไป

เธอไม่ได้ตอบมูซ่ ง แต่มเู่ กอกลับถามอีกคําถาม


ทีเธอสนใจมากกว่า “มหาปราชญ์เป็ นผูใ้ ดกัน ทําไมทุก
คนถึงทําท่าเหมือนหวาดกลัวเขานัก”

173
มูซ่ งถอนหายใจ มือใหญ่ลบู หัวมูเ่ กอแล้วเล่าให้
เธอฟั งว่า “องค์มหาปราชญ์ เป็ นราชาสูงสุดอันดับหนึง
เพียงหนึงเดียวของแผ่นดินหลินชวน ตามตํานานกล่าว
ขานกันว่า เขามีชีวิตอยูต่ งแต่
ั ตอนทีอาณาจักรเซิงหยวน
เริมก่อตังขึนแล้ว จนถึงบัดนี พันปี ผา่ นไป อาณาจักรเซิง
หยวนเปลียนฮ่องเต้ไปพระองค์แล้วพระองค์เล่า แต่มหา
ปราชญ์นนกลั
ั บมีเพียงแค่ผเู้ ดียว เขาไม่ใช่เจ้าแผ่นดิน
แต่เป็ นยิงกว่าเจ้าแผ่นดิน เป็ นผูท้ ีแม้กระทังองค์ฮ่องเต้
แห่งอาณาจักรเซิงหยวนก็ไม่กล้าขัด”

“อยูม่ าพันปี ! ถ้าอย่างนันก็เป็ นตัวประหลาด


เฒ่าทีพันปี ผา่ นมาก็ยงั ไม่ตายน่ะสิ!” มูเ่ กอพูดด้วยความ
ตกใจ ยากทีจะเชือมระหว่างผูส้ งู ส่งงดงามนันกับตัว
ประหลาดอมตะนีเข้าด้วยกันได้

174
“เจ้าจะตกใจขนาดนีทําไมกัน?” มูซ่ งเขกหัวมูเ่ ก
ออีกครัง แต่มเู่ กอกลับหลบทัน

“แต่วา่ เพราะเจ้าฝึ กฝนพลังไม่ได้ ถ้าจะไม่คอ่ ย


เข้าใจเรืองพวกนีก็สมควรอยู”่ มูซ่ งพูดต่อ“ในการฝึ กฝน
เวทย์พลังของหลินชวนแบ่งเป็ น 7 สี อันนีเจ้ารูอ้ ยูแ่ ล้ว
แบ่งเป็ นแดง ส้ม เหลืองเขียว คราม นําเงินและม่วง ซึงสี
แดงเป็ นขันทีตําสุด สีมว่ งเก่งกาจทีสุด ในความเป็ นจริง
แล้วขอเพียงไม่เป็ นผูท้ ีไม่อาจฝึ กฝนพลังก็จะสามารถ
ฝึ กฝนเข้าไปยังขันพลังสีแดงได้อย่างง่ายดาย หากมี
พรสวรรค์สกั หน่อย ก็จะสามารถทะลวงชันพลังไปได้
เรือยๆ ส่วนผูท้ ีไร้ซงพรสวรรค์
ึ ก็ตอ้ งวนเวียนอยูใ่ นชัน
พลังสีแดงต่อไป”

175
ในขณะทีมูซ่ งพูด ก็สงั เกตอาการของหลานชาย
ไปด้วย เมือเห็นว่าเขาไม่ได้แสดงอาการเสียใจใดๆ ออก
มา จึงพูดต่อ “ยิงเข้าใกล้ชนพลั
ั งสีมว่ งก็จะฝึ ก
ยากขึนตามลําดับ เท่าทีข้ารูม้ า แคว้นฉินของเรา แคว้นถู
แคว้นอวี และแคว้นปาใกล้ๆ นี ยอดฝี มือทีสามารถฝึ ก
ถึงชันพลังสีมว่ งได้นนแทบจะนั
ั บนิวได้ แคว้นฉินมีเพียง
บรรพกษัตริยเ์ พียงองค์เดียวเท่านันทีสามารถเหยียบเข้า
สูช่ นพลั
ั งสีมว่ งได้ เมือสามารถฝึ กได้ถงึ ขันพลังสีมว่ ง
อายุจะยืนขึนเป็ นเท่าตัว คนธรรมดามีอายุอยูไ่ ด้ถงึ 102
หรือ 103 ปี แต่ยอดฝี มือชันสีมว่ งจะมีอายุได้ราว 800
ถึง 900 ปี รูปโฉมก็จะอ่อนเยาว์ตลอดไป”

“ถ้าอย่างนัน มหาปราชญ์ก็เป็ นยอดฝี มือทีทะลุขนั

176
พลังสีมว่ งมาแล้วน่ะสิ” มูเ่ กอลูบคางตัวเอง เหมือนกําลัง
คิดอะไรอยู่

นึกถึงครังแรกทีพบกันไอ้เจ้านันทําให้เธอตกใจได้
แสดงว่าต้องเป็ นยอดฝี มือแน่นอน กระทังท่านปู่ ทีเป็ น
ยอดฝี มือขันสูงสีนาเงิ
ํ นเองก็ไม่แน่วา่ จะสามารถเป็ นคู่
ต่อสูข้ องหนึงในลูกน้องทังสองคนของเขาได้

ในขณะนี มูเ่ กอเองก็เข้าใจแล้ว ว่ายอดฝี มือ


ระดับสูงชันนําเงิน และยังเป็ นผูท้ ีเหล่าทหารนับถือ
สําหรับราชวงศ์ฉินนันมันหมายความว่าอย่างไร

มูซ่ งพยักหน้า “มหาปราชญ์เป็ นยอดฝี มือชันม่วง

177
โดยไม่ตอ้ งสงสัย ขนาดข้าเองก็สงสัยว่าท่านผูเ้ ฒ่าผูน้ ีคง
จะผ่านชันสีมว่ งมาตังนานแล้ว ต้องเข้าใจว่ามังกร
พยัคฆ์วายุ 6 หางนี ไม่ใช่ของผืนแผ่นดินนี ทีพวกเรารูจ้ กั
มันก็เพราะท่านมหาปราชญ์”

ทุกครังทีมูซ่ งพูดว่าผูเ้ ฒ่า มูเ่ กอก็รูส้ กึ ตลกจบหุบ


ยิมไม่ได้

“ท่านปู่ ทําไมข้าถึงไม่อาจฝึ กฝนขันพลังได้” จู่ๆ มู่


เกอก็เปลียนเรือง วกเข้าเรืองของตัวเอง

มูซ่ งอึง สีหน้าดูนิงไป แต่ก็แกล้งหัวเราะ พูด


ปลอบใจมูเ่ กอ “ไม่เป็ นไร แม้วา่ เกอเอ๋อร์จะไม่สามารถ

178
ฝึ กฝนพลังได้ แต่ก็ยงั เป็ นหลานชายคนเล็กของตระกูลมู่
เป็ นหย่งหนิงกงในอนาคต”

“ท่านปู่ ” มูเ่ กอขมวดคิว เธอไม่ได้อยากฟั งคําพูด


พวกนี แต่วา่ อยากรูเ้ หตุผลทีตัวเองไม่สามารถฝึ กฝนพลัง
ได้

แต่วา่ มูซ่ งกลับไม่ยอมพูดเรืองนีต่อ ตบไหล่เธอ


แล้วพูดว่า “เกอเอ๋อร์บางเรืองมันถูกกําหนดมาแล้ว ก็ถือ
เสียว่าสวรรค์ลงโทษทีปู่ เข่นฆ่าสังหารผูอ้ ืนมาทังชีวิตก็
แล้วกันนะ”

“............” มูเ่ กอเงียบ

179
“จริงด้วย ไอ้สารเลวบ้านเหอนันข้าจับมันขังไว้ที
จวน ครังนีถ้าไม่ใช่วา่ เขาพูดจาเหลวไหลไร้สาระต่อหน้า
เจ้า เจ้าก็คงจะไม่ตอ้ งออกไปเสียงอันตรายแบบนี แต่
เมือกลับไปแล้วไม่วา่ เจ้าอยากจะระบายแค้นแค่ไหนแต่
ก็ฆา่ เขาไม่ได้” จู่ๆ มูซ่ งก็พดู ขึน

มูเ่ กอก็องึ ไม่ได้พดู อะไรต่อ

ไม่ตอ้ งอธิบายเธอก็รูจ้ กั เจ้าคนแซ่เหอนีว่าเป็ น


คนทียุยงให้เธอมาลัวรือ ตอนแรกเธอคิดว่าหลังจากกลับ
ไปแล้ว จะไปแก้แค้นมันด้วยตัวเอง คิดไม่ถงึ ว่ามูซ่ งจะ
จับตัวเขาเอาไว้แล้ว

180
“เกอเอ๋อร์ เรืองนีทําให้ปเู่ สียใจมาก แต่การ
ตัดสินใจของเจ้าในวันนี กลับทําให้ขา้ รูส้ กึ ภูมิใจ ผ่าน
เรืองนีมาได้ เจ้าเองก็เติบโตขึนมาก เอาเถอะ รีบพักผ่อน
เสีย หลังจากกลับไปแล้วก็ไปมาหาสูก่ บั รุย่ อ๋องให้นอ้ ย
ลง ตระกูลมูข่ องเราไม่ตอ้ งการเข้าไปพัวพันกับเรือง
โสมมของพวกเชือพระวงศ์” พูดจบมูซ่ งก็ลกุ ขึน แล้วเดิน
ออกจากกระโจมไป ทิงมูเ่ กอไว้คนเดียว

พอมูซ่ งออกไป วิญญาณของมูช่ ินเกอก็ปรากฏ


ตัวขึน

ความจริงแล้วตังแต่ตน้ จนจบนางก็อยูข่ า้ งกายมู่


เกอมาโดยตลอด แต่ก็เป็ นอย่างทีนางว่า นอกจากมูเ่ ก
181
อแล้วไม่มีผใู้ ดทีสามารถมองเห็นนางได้

“เจ้าเหมือนคนตระกูลมูม่ ากกว่าข้าเสียอีก” มูช่ ิง


เกอมองไปยังทิศทางทีมูซ่ งเดินจากไปแล้วพูดเสียงตํา
นางไม่อาจไม่ยอมรับว่า ตอนทีมูเ่ กอยอมรับการลงทัณฑ์
และยังเพิมโทษให้ตนเองเพือไว้อาลัยให้กบั วิญญาณ
ของทหารกล้านัน นางตกใจมาก

ตอนทีนางเห็นแววตาชืนชมของท่านปู่ นางถึง
เพิงตระหนักว่าการกระทําทังหมดทีผ่านมาของนางนัน
มันผิดพลาดไปมากเพียงใด ทายาทของตระกูลมู่ ไม่ควร
จะเป็ นจอมเสเพลทีเอาแต่ตนเองเป็ นใหญ่แต่ควรจะเป็ น
ผูท้ ีเย้ยฟ้าท้าดินเก่งกล้าไม่ทอ้ ถอย แม้วา่ จะไม่สามารถ
ฝึ กฝนพลังได้และถูกกําหนดให้เป็ นแค่คนไร้ประโยชน์ก็
182
ตาม

“ท่านไม่รูฐ้ านะทีแท้จริงของเจ้า?” มูเ่ กอไม่ได้ตอ่


ประเด็นทีมูช่ ิงเกอพูด แต่เลิกคิวถามขึน

มูช่ ิงเกอเงียบไปสักพักแล้วพูดว่า “ท่านปู่ คิดว่า


ข้าเป็ นหลานชายของตระกูลมูม่ าโดยตลอด”

183
184
ตอนที 9 ฆ่าไม่ได้ใช่ไหม ได้ !

“บางทีในโลกนี คนทีรูว้ า่ เจ้าเป็ นผูห้ ญิงอาจจะมีแค่เจ้า


เพียงคนเดียว” มูช่ ิงเกอพลันพูดขึน

มูเ่ กอขมวดคิวเงยหน้าขึน เหมือนกําลังรอคอยว่าเธอจะ


พูดอะไรต่อ แต่ในใจแอบเถียงว่า :ผิดแล้ว ยังมีไอ้ถามอง

น่าตายนันอีกคน

ตอนทีเขาปรากฏตัว เป็ นตอนทีเครืองมือมายากําลัง


185
ซ่อมแซมตัวเอง ประกอบกับเธอกําลังอาบนําล้างตัว
อะไรๆ ก็คงจะถูกเขาเห็นจนหมดแล้ว

ยังดี ทีตอนนีร่างแบนเรียบเป็ นไม้กระดานนีไม่มีอะไรน่า


ดู และยังมีเอียมปิ ดบังอยู่ ก็ไม่ถือว่าจะทําให้เธอต้องเสีย
เปรียบอะไรมากนัก

“ตอนนีข้าจําได้แค่วา่ ในตอนทีข้ายังเด็ก ท่านแม่เคย


บอกกับข้าว่า ถ้าอยากทําให้ทา่ นปู่ มีความสุข ทําให้ตระ
กูลมูอ่ ยูอ่ ย่างสงบสุขก็หา้ มถอดตุม้ หูนี” มูช่ ิงเกอหลุบตา
ลงพูดสียงเบา ราวกับกําลังจมลงสูภ่ วังค์ในอดีต

มูเ่ กอยังคงเงียบ

186
เธออาจจะพอเดาความเกียวโยงบางอย่างออกแล้ว

ตระกูลมูม่ ีฐานะซับซ้อนในแคว้นฉิน แม่ทพั มูซ่ งเองก็มี


คุณความชอบทางการทหารมากมาย ถ้าจะนํามาซึง
ความหวาดระแวงขององค์ฮ่องเต้ก็ไม่ใช่เรืองแปลก แต่
ถ้าตระกูลมูไ่ ร้ซงผู
ึ ส้ ืบสกุลชาย ฮ่องเต้ก็จะสามารถอ้าง
ริบตําแหน่งกลับมาได้อย่างชอบธรรม และหากเ**◌้ยม
กว่านีอีกหน่อย ก็ยกเธอให้กบั องค์ชายสักองค์ ตระกูลมู่
ก็อาจถูกยืดอํานาจโดยไม่รูต้ วั และยังเป็ นการกําจัดมูซ่ ง
อีกด้วย

แต่ถา้ หากว่าตระกูลมูม่ ีทายาทมารับช่วงต่อ แม้วา่ จะไม่


ได้เก่งกาจ แต่ฮ่องเต้ก็คงไม่อาจลงมือกับตระกูลมูไ่ ด้
187
ง่ายๆ แต่กลับต้องระมัดระวังและรีบสร้างความสัมพันธ์
อันดีกบั ตระกูลมูเ่ อาไว้ ไม่วา่ เบืองหลังจะเป็ นอย่างไร แต่
ต่อหน้าก็ควรจะแสดงถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันไว้ก่อน
หาไม่แล้ว ผูท้ ีจะผิดหวังก็คือเหล่าทหารและปวงประชา
ของแคว้นฉิน

นีเป็ นครังทีสองทีมูเ่ กอรูส้ กึ สงสัยเกียวกับแม่บงั เกิดเกล้า


ของเจ้าของร่างนี ว่าเป็ นคนแบบใดกันแน่

ไม่ใช่แค่มีเครืองมือมายา แต่ยงั ใช้ลกู สาวแท้ๆ ของตัว


เองมาเป็ นหมากแบบนี

มูเ่ กอหันหน้ามาหยุดสายตาอยูท่ ีร่างอันโปร่งแสงของมู่

188
ชิงเกอ “เหมือนเจ้าจะเคยบอกว่า สายเลือดใกล้ชิดทีหลง
เหลืออยูม่ ีเพียงท่านปู่ และท่านอา แล้วท่านพ่อ ท่านแม่
ของเจ้าล่ะ?”

ท่านพ่อ ท่านแม่……

คําคํานีราวกับกระทบจุดต้องห้ามในใจของมูช่ ิงเกอเข้า
ในดวงตาของนางมีความเจ็บปวดวาบผ่าน นางพูดช้าๆ
ว่า “ตอนข้าอายุสขวบ
ี ท่านพ่อเสียชีวิตในสงคราม ท่าน
แม่ไม่เชือเรืองนีจึงออกไปตามหาท่านพ่อในสนามรบ
ด้วยตัวเอง จากนันก็หายสาบสูญไป ท่านแม่เป็ นเด็ก
กําพร้า รูจ้ กั กับท่านพ่อในสนามฝึ ก ตอนทีท่านแม่หาย
ไป ท่านปู่ ก็เคยส่งคนออกไปตามหา แต่สดุ ท้ายก็ยงั ไร้ซงึ
ข่าวคราว”
189
4 ขวบ........ตอนนีมูช่ ินเกออายุ 15 แล้ว

11 ปี ผา่ นมายังไม่มีข่าวคราวอะไร เกรงว่าคงจะ……..

มูเ่ กอมองมูช่ ิงเกอโดยไม่พดู อะไรเหมือนจะเริมเข้าใจการ


กระทําทีไม่เหมาะสมต่างๆของมูช่ ิงเกอตอนยังมีชีวิตอยู่
ขึนมาแล้ว

เด็กอายุไม่กีขวบ ต้องเก็บรักษาความลับทีสะเทือนฟ้านี
เอาไว้คนเดียว ต้องรับภาระอันหนักหน่วงของวงศ์
ตระกูลตังแต่ยงั เด็ก มูช่ ินเกอไม่เหมือนเธอทีคิดแบบคน
ทีโตแล้ว นางเพียงอาศัยกําลังของตนเพือทําในสิงทีแม่

190
นางบอกไว้ให้สาํ เร็จ

เสียดายทีนางเป็ นคนไร้ประโยชน์ ไม่สามารถฝึ กพลังได้


ภายใต้ความกดดันนี นางคงทําได้แค่ใช้ชือเสียงไม่ดีของ
ตนทําให้ผคู้ นในแคว้นฉินจดจําตระกูลมูไ่ ด้

หนึงคนหนึงวิญญาณเงียบไปนาน สุดท้ายมูเ่ กอก็เป็ น


คนทําลายความเงียบนัน “ลองเล่าเรืองของคนแซ่
เหอสิ” มูเ่ กอเอามือรองท้ายทอย เอนตัวนอนลงบนพรม

จ้องมองหลังคากระโจม

เมือพูดถึงเรืองนี แววตาของมูช่ ิงเกอก็เกิดแรงอาฆาตอัน


191
เข้มข้น เสียงเยียบเย็นกัดฟั นพูดชือหนึงออกมา “เห
อเฉิง”

“เหอเฉิงเหรอ?” มูเ่ กอนัยน์ตาสันไหว แววตาดํามืดยาก


จะเข้าใจ “ด้วยนิสยั ของท่านปู่ แล้ว ถ้ามีคนคิดร้ายกับ
หลานรัก หลานคนเดียวของตระกูลมู่ และยังทําให้ทหาร
องครักษ์ทงั 500 นายต้องตายในทีเดียว ไม่ตอ้ งให้เจ้า
พูดอะไร ท่านปู่ ก็คงจะฉีกร่างมันออกเป็ นหมืนๆชิน แต่
ทําไมท่านปู่ กลับบอกข้าว่าห้ามฆ่ามัน”

มูช่ ิงเกอหลับตา “เพราะตระกูลเหอเป็ นคนของรุย่ อ๋อง


ถ้าเหอเฉิงไม่ตาย ตระกูลเหอก็คงจะว่าอะไรไม่ได้ แต่ถา้
ตาย ตระกูลเหอก็จะถือโอกาสนีเล่นงานตระกูลมู่ เบือง
บนอาจจะใช้เรืองนีในการยึดอํานาจทางทหารบางส่วน
192
ของท่านปู่ ตระกูลมูไ่ ม่เคยเข้าไปยุง่ เรืองการแก่งแย่งของ
เหล่าองค์ชาย แต่เพราะข้าทําให้ความสัมพันธ์ระหว่าง
ตระกูลมูแ่ ละรุย่ อ๋องแย่ลง ตอนนีฮ่องเต้พระชนมายุมาก
แล้ว องค์ชายแต่ละองค์ก็เตรียมวางแผนจะเคลือนไหว
ท่านปู่ ไม่อยากให้ถกู ดึงเข้าไปพัวพันด้วย ฉะนันท่านจึง
ไม่ให้เจ้าฆ่าเหอเฉิง และให้เจ้ารักษาระยะห่างกับรุย่ อ๋อง
ไว้”

“เจ้าก็รูด้ ีนี” มูเ่ กอพูดพร้อมยิมเยือกเย็น เหมือนกําลัง


ประชดและว่าแดกดัน

มูช่ ิงเกอไม่ตอบคํา จมเข้าสูภ่ วังค์ความคิดของตน

193
เห็นท่าทางแบบนีของนาง มูเ่ กอพอจะเดาออกว่าในใจ
นางยังคงอาลัยอาวรณ์ตอ่ รุย่ อ๋อง

ทังสองจึงไม่ได้คยุ เรืองนีกันต่อ มูเ่ กอแอบคิดในใจว่า


เรืองของเหอเฉิงคงไม่ได้มีคนร้ายแค่คนเดียว รุย่ อ๋องผู้
นัน………ครังนีทีเขามาพร้อมกับท่านปู่ เกรงว่านอก
จากอยากจะมาดูให้เห็นกับตาว่ามูเ่ กอเป็ นตายอย่างไร
แล้ว ก็คงจะมาเพราะเหอเฉิงสินะ

คิดจะเอาตัวเหอเฉิงออกจากจวนตระกูลมูร่ ?ึ

มูเ่ กอพลันเผยรอยยิมโอหังชัวร้ายออกมา ดวงตาสดใส


นันมีแววสนุกสนานเพิมขึนมาหลายส่วน

194
ก็ตอ้ งดูวา่ เธอจะเห็นด้วยหรือไม่!

‘ฆ่าไม่ได้เหรอ ไม่เป็ นไร เก็บเอาไว้คอ่ ยๆ เล่น’ รอยยิม


ของมูเ่ กอโหดเ**◌้ยมขึน เธอจะทําให้คนทีกล้ายัวโมโห
เธอได้เข้าใจว่า แบบไหนทีเรียกว่าอยูไ่ ม่สตู้ าย

แค่ชีวิตของสารเลวคนเดียว จะเทียบชีวิตกับทหารกล้า
ทัง 500 นายของตระกูลมูไ่ ด้อย่างไร?!

195
196
ตอนที 10 จวนตระกูลมู่ ช่องว่างทีถูกเปิ ดออก

เดินทางมาเกือบ 10 วัน ในทีสุดมูเ่ กอก็ตามมูซ่ งกลับมา


ถึงเมืองหลวงของแคว้นฉิน--------ลัวตู

ม้าทีเข้าเมืองมามีไม่ถงึ 10 ตัว ด้านหน้าทีคอยเบิกทาง


ให้ เป็ นองครักษ์คนสนิทสองคนของมูซ่ ง ปู่ หลานสองคน
ต่างขีม้าของตัวเองอยูต่ รงกึงกลางขบวน

ทหารทีออกไปตามมูช่ ิงเกอก่อนหน้านี ก็กลับไปพักฟื นที


ค่ายใหญ่ก่อนหน้านีแล้ว
197
และรุย่ อ๋องฉินจินห้าว ก็ขอตัวแยกไปก่อนตังแต่ตอนที
เพิงเข้าเมืองมาแล้ว พูดถึงท้ายไว้ประโยคหนึงว่า วัน
หลังค่อยมาเยียมมูช่ ิงเกอทีจวน และจะเตรียมของเล่น
เล็กน้อยมาปลอบขวัญเธอด้วย

ฉะนัน ขบวนทีมีเกือบ 1000 คนในตอนแรก ก็เหลือแค่


มูซ่ งกับมูช่ ิงเกอสองปู่ หลาน และทหารคนสนิทอีกแปด
คนของตระกูลมูเ่ ท่านัน

เมือเข้าสูล่ วตู
ั สิงแรกทีมูเ่ กอสัมผัสได้คือลักษณะบ้าน
เมืองของโลกใบใหม่นี

198
ระหว่างทางมาลัวตู มูเ่ กอก็เข้าใจแล้วว่า แคว้นฉินทีเธอ
อยูน่ นั เป็ นแคว้นหนึงในบรรดาแคว้นต่างๆ ของหลิน
ชวน อยูใ่ นระดับ 3 ทีจัดว่าตําทีสุด

ไม่ตอ้ งพูดถึงระดับสามทีไม่ได้มีแค่สองสามแคว้น แค่


คิดว่าเหนือกว่าระดับสามก็มีระดับสอง และระดับสองก็
ยังมีระดับหนึงทีเหนือกว่า ก็พอจะจินตนาการได้วา่ การ
ทีฮ่องเต้ของแคว้นฉินจะปกครองทังหมดนีได้ก็ไม่ใช่
ง่ายๆ เลย

ระดับของแคว้นทีต่างกันนัน แบ่งตามจํานวนของยอด
ฝี มือชันพลังสีมว่ ง และทุกแคว้นจะมาร่วมกันจัดลําดับ
ระดับยิงสูงก็ยงแข็
ิ งแกร่ง ทรัพยากรทีจะได้รบั ก็ยงมี
ิ มาก

199
ถ้าพูดตามความเป็ นจริงคือ ยอดฝี มือชันม่วงของแคว้น
ระดับสามนันอย่างมากก็มีแค่ 1 ถึง 2 คน เมืองระดับ
สองมากสุดก็แค่ 10 คน แม้กระทังอาณาจักรระดับหนึง
เพียงหนึงเดียวของแผ่นดินหลินชวน อาณาจักรเซิง
หยวน จํานวนยอดฝี มือชันม่วงของอาณาจักรนีไม่มีใคร
ล่วงรู ้ แต่คนภายนอกต่างก็คาดเดาเอาว่าน่าจะมีไม่ตาํ
กว่า 100 คน

ยอดฝี มือชันม่วงสามารถมีอายุยืนยาวได้ถงึ 1000 ปี ยิง


มีอายุอยูน่ านเท่าไร ก็ยงแกร่
ิ งกล้าขึนเท่านัน

ตํานานเล่าว่า ยอดฝี มือชันม่วงหนึงคน ถ้าทุม่ พลังโจมตี


สุดแรง ก็จะสามารถทําลายล้างเมืองขนาดเล็กเมืองหนึง
200
ได้เลยทีเดียว

ความแข็งแกร่งแตกต่างกันมากขนาดนี ก็ไม่แปลก
ขนาดแม่ทพั ทีเจนสนามรบอย่างมูซ่ งเอง ตอนทีเจอเกียว
ของมหาปราชญ์ ยังต้องแสดงความเคารพอย่าง
นอบน้อมขนาดนัน

ความเข็งแกร่ง! ไม่วา่ จะอยูโ่ ลกไหน ก็ยงั คงวัดกันด้วย


ความแข็งแกร่ง!

มูเ่ กอกําหมัดไว้แน่นอย่างเงียบๆ

“เกอเอ๋อร์ กลับถึงบ้านแล้วเจ้าต้องพักผ่อนให้มาก เรือง


201
อืนรอให้เจ้าพักฟื นจนหายดีแล้วค่อยว่ากัน” เสียงของ
มูซ่ งดังขึน ขัดจังหวะการคิดของมูเ่ กอ

เธอหันไปมองท่านปู่ ทีเดินอยูเ่ คียงข้างเธอ แล้วพยักหน้า


เงียบๆ

เธอต้องการเวลา ในการทําความรูจ้ กั กับโลกใบนี รวมทัง


เหอเฉิงทีถูกขังไว้ในจวนตระกูลมู.่ ........มูซ่ งไม่รบี ฉินจิน
ห้าวไม่รบี เธอเองยิงไม่รบี

มูเ่ กอยิมมุมปาก สายตาหยุดลงทีนครหลวงของแคว้น


ฉินอีกครัง

202
อืม ถนนกว้างขวาง กําแพงเมืองก็สงู ร้านรวงมากมาย
เสียงผูค้ นครึกครืน บรรยากาศคึกคัก ดูสงู ศักดิยิงใหญ่
สมกับการเป็ นนครหลวงโดยแท้

แต่วา่ ทําไมสายตาทีมองเธอจากรอบๆ ถึงได้ดหู ลบเลียง


เธอราวกับเธอเป็ นอสรพิษอย่างนันล่ะ?

ดวงตาเย็นชากวาดมองคนทีเดินผ่านไปมาด้วยแววตา
เรียบนิง มูเ่ กอขมวดคิวอย่างไม่เข้าใจ

“คุณชายของตระกูลมูก่ ลับมาแล้ว!”

“สวรรค์! เพิงหายตัวไปจากลัวตูได้ไม่เท่าไร ข้ายังไม่ทนั


203
ได้ใช้ชีวิตสบายๆให้พอใจเลย ทําไมกลับมาอีกแล้วเล่า?”

“ชู่ว เบาๆ หน่อย ! กลัวว่าตัวเองจะอายุยืนเกินไปรึไง”

“ใช่! ถ้าไอ้ปีศาจนีได้ยินเข้า กรีดเนือเจ้าออกมาชันหนึงก็


ถือว่ายังน้อยไป”

สายตาทีตืนกลัวและรังเกียจ หยุดลงทีร่างของมูเ่ กอ ทํา


ให้เธอรูสกึ อึดอัดไปทังตัว เธอเหลือบมองมูซ่ งทีอยูข่ า้ งๆ
แวบหนึง สีหน้าของเขาดูแย่มากตามทีคิดไว้ไม่มีผิด

มูเ่ กอเบะปากและพึมพําในใจ เมือครู ่ ‘คําพูดเหลวไหล


ของพวกคนพาล’ พวกนี เธอได้ยินมันทังหมด ยอดฝี มือ
204
ชันนําเงินอย่างมูซ่ งเหตุใดจะไม่ได้ยิน?

เธอถอนสายตาจากมูซ่ ง สายตาหยุดลงทีร่างของมูช่ ิงเก


อทีเดินตามอยูข่ า้ งๆ แม้ไม่พดู อะไรแต่มชู่ ิงเกอก็เข้าใจ

“ข้าก็แค่เคยจัดการ พวกทีกล้าไม่ให้เกียรติตระกูลมูส่ อง
สามคนกลางตลาดก็เท่านันเอง” มูช่ ิงเกอ อธิบายอย่าง
เรียบเฉย

มูเ่ กอหันหน้าหนี ขีเกียจจะถามต่อ

ลัวตูเป็ นเมืองหลวงของแคว้นฉิน ซึงใช้กฎระเบียบตาม


แบบเมืองชันใน
205
ทังหมดแบ่งเป็ น เมืองชันนอก เมืองชันใน และราชวัง

พูดง่ายๆ ก็คือ เมืองชันนอกเป็ นพืนทีของประชาชน เป็ น


เขตทําการค้าสําคัญทีเจริญรุง่ เรือง เมืองชันใน เป็ นพืนที
ทีเหล่าขุนนางอาศัยอยู่ พระราชวังก็เป็ นพืนทีของบรรดา
เชือพระวงศ์

ในราชวัง ยังมีพระราชวังหลวง ซึงก็คือทีประทับขององค์


ฮ่องเต้

จวนตระกูลมู่ แม้จะจะได้รบั พระราชทานให้เป็ นจวนหย่ง


หนิง แต่อย่างไรก็ไม่ใช่เชือพระวงศ์ จึงอยูไ่ ด้เพียงเมือง

206
ชันใน แต่ทีตังของจวนตระกูลมูน่ นใกล้
ั กบั พระราชวัง
มาก เป็ นพืนทีทีดีทีสุดของเมืองชันใน ครอบครองพืนที
กว้างขวาง ตามทีมูช่ ิงเกอบอก เธอโตขนาดนีแล้ว ยังเดิน
เล่นไม่ทวจวนตระกู
ั ลมูเ่ ลย

แน่นอนมูเ่ กอเข้าใจเรืองนีทีมูช่ ินเกอยังเดินไม่


ทัวตําหนักตระกูลมูเ่ พราะว่าไปสร้าง
‘ชือเสียงอันกว้าง’ ขวางอยูข่ า้ งนอกนันเอง

เอาเป็ นว่าจวนตระกูลมูก่ ว้างใหญ่มากแล้วกัน!

“จวนทีองค์ฮ่องเต้โปรดให้สร้าง……” ทีบันไดขันล่างสุด
มีจารึกสลักอยูห่ นึงแผ่น เมือเงยหน้าขึนมองก็เห็นประตู

207
ใหญ่ทีดูใหญ่โตโอ่อา่

ชายคาสูงหลายจ้าง เสาสีแดงตังตระหง่าน มีตะปูยดึ สี


ดํามะเมือม และวงเคาะประตูรูปหัวสัตว์ ด้านซ้ายและ
ขวาของประตูใหญ่ ยังมีประตูขา้ ง ทีบันไดขันทีเจ็ดยังมี
รูปปั นแกะสลักของสัตว์หน้าตาแปลกประหลาด ท่าทาง
ยิงใหญ่น่าเกรงขามตังอยู่

เมือมองไปทีประตูใหญ่ มูเ่ กอเหมือนได้ยินแต่เสียงลัน


กลองรบ ดังก้องไปทัว เลือดในกายไหลเวียนเร็วขึนอย่าง
ควบคุมไม่ได้ เธอก็เคยเป็ นทหารนายหนึง จวนตระกูลมู่
ก็เป็ นตระกูลทหาร เธอเหมือนหาสิงทีเหมือนกันระหว่าง
เธอและมูช่ ิงเกอเจอแล้ว

208
บนกรอบประตู มีปา้ ยแขวนอยูส่ ามแผ่น

ป้ายบนสุด แผ่นป้ายสีแดงเงาวาวเขียนด้วยตัวอักษรสี
ทอง นันก็คือคําทีมูเ่ กอพูดพึมพําอยูเ่ มือสักครูน่ ี

องค์ฮ่องเต้โปรดให้สร้าง นีเป็ นเกียรติทีคนมาก


มายอยากได้แต่ก็ไม่ได้

องค์ฮ่องเต้โปรดให้สร้าง นันหมายความว่าฐานะของ
ตระกูลมูใ่ นลัวตูนนก็
ั ยงใหญ่
ิ มาก

ป้ายทีสอง เป็ นป้ายสีดาํ สนิท ตัวหนังสือใช้ชาดแทนหมึก


209
เขียนว่า ‘จวนท่านแม่ทพั ผูป้ กปั กษ์แคว้น’ คําพวกนีมี
ความหมายลึกซึง ราวกับทําให้ผคู้ นเห็นภาพสงคราม

ป้ายสุดท้าย เมือเทียบกับทังสองป้ายทีผ่านมาแล้ว ดู
เรียบง่ายธรรมดากว่ามาก เป็ นป้ายทีทําจากไม้ธรรมดา
สลักว่า ‘จวนตระกูลมู’่

“เข้าไปสิ คงไม่ใช่วา่ ออกจากบ้านไปไม่กีวัน ก็จาํ ประตู


บ้านตัวเองไม่ได้แล้วนะ?” มูซ่ งเห็นว่ามูเ่ กอไม่ขยับตัว ก็
ตบไหล่เธอ เร่งให้เธอเข้าจวนไป

..............

210
สวนสระเมฆา

ในจวน ทิวทัศน์งดงามเป็ นหนึง บริเวณรอบๆ เงียบสงบ


เหมาะกับเป็ นทีตังเรือนพํานักส่วนตัวของนายน้อยตระกู
ลมู่

จวนตระกูลมูม่ ีผคู้ นอยูไ่ ม่มาก และต่างก็เป็ นผูฝ้ ึ กยุทธ์


ดังนัน จึงไม่ได้มีการแบ่งเรือนนอกเรือนในทีชัดเจน นอก
จากเรือนทีประมุขตระกูลอยูแ่ ล้ว เรือนส่วนมากก็ปิด
ตายมานานหลายปี

บวกกับการทีภายนอกของมูช่ ิงเกอเป็ นผูช้ าย ฉะนัน


เรือนสวนสระเมฆาของเธอและเรือนของผูห้ ญิงใน

211
ตําหนักนันห่างกันไกลแสนไกล พูดได้วา่ ถ้าไม่ได้ตงใจไป

หา ในจวนมูน่ นั ยากทีเธอจะได้เจอกับผูห้ ญิงสักคน

ประกอบกับมูช่ ิงเกอค่อนข้างอ่อนไหวเรืองเพศจริงๆ ของ


ตนเอง และเพราะนิสยั ของนางด้วย จึงทําให้สาวใช้และ
เด็กรับใช้ชายในเรือนของนางมีนอ้ ยมาก คนทีคอยดูแล
นางในแต่ละวันก็มีแค่สาวใช้คนสนิทสองคน โย่วเหอผู้
อ่อนโยนดังสายนํา และฮวาเยวีย ผูง้ ดงามร่าเริง

สาวใช้สองคนนีอายุพอๆ กับมูช่ ิงเกอ ในแต่ละวันหลัง


จากทีปรนนิบตั ิรบั ใช้มชู่ ิงเกอเสร็จแล้วก็ไม่เคยเฝ้าอยูใ่ น
ห้องของมูช่ ิงเกอตอนกลางคืน เพราะนีเป็ นคําสังของมู่
ชิงเกอ

212
สําหรับมูเ่ กอแล้ว ถือเป็ นการทําให้เรืองทุกอย่างง่ายขึน

นอกจากสองคนนี มูช่ ิงเกอยังมีเด็กรับใช้ชายอีกคนที


เรียนหนังสือกับนางชือว่ามัวหยาง แต่วา่ นางก็เป็ นแค่
คนเสเพลคนหนึง สําหรับกาพย์กลอนยึกยืออะไรพวก
นันนางไม่ได้สนใจแม้แต่นอ้ ย จึงส่งเด็กรับใช้ชายทีคอย
เป็ นเพือนเรียนให้กบั นางไปเรียนทีโรงเรียนแทนนางตัง
นานแล้ว

โย่วเหอกับฮวาเยวียรูจ้ กั มูช่ ิงเกอดี แต่มเู่ กอไม่คนุ้ เคยกับ


พวกนางเลย

213
ภายใต้การช่วยเหลือของมูช่ ิงเกอ หลังจากทีไล่สองคน
นันออกไป เธอก็ขงั ตัวเองไว้ในห้อง อ้างว่าอยากพัก
ผ่อน ไม่ให้ใครรบกวน ในความเป็ นจริง กลับนังขัดสมาธิ
อยูบ่ นเตียง เข้าฌาณทําสมาธิ

ชาติทีแล้ว นอกจากฝี มือการสังหารอันโหดเ**◌้ยมของ


เธอแล้ว เธอก็พงความสามารถทั
ึ งสองอย่างของเธอ ขัด
เกลาความสามารถนัน และการทีจะฝึ กความสามารถ
ให้เก่งกล้ามากขึนกว่าเดิมก็ตอ้ งพึงการนังสมาธิเข้า
ฌาณเพือพัฒนาพลังจิตให้สงู ส่งยิงขึน

ตอนนี ในทีสุดทุกอย่างก็สงบลง เธอก็จะได้มีเวลาดูวา่


ช่องว่างของเธอยังเหลืออะไรทิงไว้บา้ ง

214
ระเบิดนัน ไม่เพียงทําให้เธอร่างแหลกเป็ นผุยผง แต่ยงั
ทําให้คนทีลอบทําร้ายเธอตายหมด เกรงว่าก่อนตาย
คนๆ นันก็คงคิดไม่ถงึ ว่าเธอจะลงมืออํามหิตได้ถงึ เพียงนี
ดึงเขาลงนรกไปด้วยกัน

จนถึงตอนนีทุกครังทีมูเ่ กอหลับตา ก็จะเห็นสายตาสุด


ท้ายทีหวาดกลัวและตกตะลึงของคนๆ นัน

ท่ามกลางเสียงระเบิดในตอนนัน มูเ่ กอรูส้ กึ ว่าช่องว่าง


ของตนเองฉีกขาด หรือว่าจะเกียวกับการทีกําลังภายใน
ร่างของเธอลดลง

215
หลังจากทีเกิดใหม่ เธอสังเกตว่าพลังสายฟ้าและพลังที
ว่างยังคงอยู่ ในใจจึงมีความหวังขึนมาเล็กน้อย

วันนันทีปฏิเสธข้อเสนอของไอ้บา้ นันไป นอกจากเพราะ


เธอหยิงในศักดิศรีของตัวเองแล้ว ก็เป็ นเพราะเธอมีช่อง
ว่าง เธอจําได้แม่นว่า ภารกิจครังสุดท้ายของตัวเองคือ
การโจรกรรมอะไรบางอย่าง และเธอก็เอาของลําค่าทีทุก
ประเทศหวังจะได้นนั ใส่ไว้ในนัน

ครืด--------!

เสียงหนึงดังขึนเบาๆ ในหัวของมูเ่ กอ

216
ความรูส้ กึ ทีคุน้ เคย และความรูส้ กึ ดีใจพุง่ ทะลักออกจาก
ใจเธอ: ‘ เปิ ดได้แล้ว’

217
ตอนที 11 ยาวิเศษทะลุมิติ เปลียนธาตุเกิดใหม่

ช่องว่าง เป็ นสิงของนามธรรมอย่างหนึง

ช่องว่างของมูเ่ กอ เป็ นห้องขนาด 50 ลูกบาศก์เมตรห้อง


หนึง สิงทีต่างจากห้องธรรมดาคือห้องนีไม่มีประตูและ
หน้าต่าง จะพูดให้ถกู คือมันเป็ นช่องว่างทีสร้างด้วย
กําลังจิตของมูเ่ กอ

สามารถจุของได้ แต่คนไม่สามารถเข้าไปได้

1
ตอนนีมูเ่ กอหลับตา นังขัดสมาธิอยูบ่ นเตียง จิต
วิญญาณเข้าไปอยูใ่ นช่องว่างของตัวเอง

ช่องว่างขนาด 50 ลูกบาศก์เมตรนี เต็มไปด้วยเเสงระยิบ


ระยับ เหมือนดังเพชรเม็ดงาม ข้างในว่างโล่ง ของสะสม
ทีมูเ่ กอเคยสะสมเอาไว้ก็หายไปเพราะการตายของเธอ

สิงเดียวทียังอยู่ คือตูเ้ ซฟทีลอยอยูต่ รงกลางของช่องว่าง

ตูเ้ ซฟนีมีความวิเศษ ดูมนคงกว่


ั าตูเ้ ซฟธรรมดา และเป็ น
สีเหลียมจัตรุ สั ทีเหลียมมาก เหมือนตังใจทําขึน วัตถุดิบ
ทีใช้ก็เป็ นทองอย่างดี

2
จิตวิญญาณของมูเ่ กอเข้าไปอยูใ่ นช่องว่าง ตาก็ไปหยุด
อยูบ่ นตูเ้ ซฟทีลอยอยู่

ความตืนเต้นในแววตายากจะปิ ดบัง

“ยังอยูน่ ี ฟ้าเมตตาข้าจริงๆ!” มูเ่ กอพูดด้วยความตืนเต้น

เธอเดินมาหยุดตรงหน้าตูเ้ ซฟในทันที

เธอไม่ตอ้ งทําอะไร ตูเ้ ซฟทีลอยอยูก่ ็คอ่ ยๆ ลดระดับลง


มาช้าๆ และหยุดอยูต่ รงหน้าเธอ

มูเ่ กอไม่ได้สงั เกตว่าตอนนีร่างทีเธอถอดจิตมานันสัน


3
และทีชัดเจนคือปลายนิวทีขาวซีดกําแน่นและ
คลายออกอยูห่ ลายครัง

เธอหายใจเข้าลึกๆ มูเ่ กอพยายามสงบจิตใจ

เธอจ้องตูเ้ ซฟแล้วพึมพําว่า “เจ้าคือความหวังเดียวของ


ข้า อย่าทําให้ขา้ ผิดหวัง” พูดจบเธอก็เปิ ดตูเ้ ซฟอย่าง
คล่องแคล่ว ลมหนาวเย็นพัดออกมาจากตูเ้ ซฟ

ทีจริงแล้ว ตูเ้ ซฟทีทําขึนพิเศษนี ยังเป็ นตูอ้ ณ


ุ หภูมิคงที

บริเวณสวนสระเมฆา ไร้ซงสรรพสํ
ึ าเนียงใดๆ

4
ในเรือนทีประตูปิดสนิท โย่วเหอและฮวาเยวียมองหน้า
กันไปมา แล้วหันไปมองประตูหอ้ งทีปิ ดสนิทอย่างเป็ น
ห่วง ข้างในไร้ซงการเคลื
ึ อนไหวใดๆ

แม้วา่ ชือเสียงข้างนอกของมูช่ ิงเกอจะเลวร้ายเพียงใด


แต่กลับปฏิบตั ิตอ่ สาวใช้ของตัวเองเป็ นอย่างดี ฉะนัน
ความจริงใจทีโย่วเหอและฮวาเยวียมีให้กบั มูช่ ิงเกอนันมิ
ได้เสแสร้งแกล้งทํา

“พอคุณชายกลับมา ก็สงว่
ั าห้ามรบกวน หรือว่าจะบาด
เจ็บแล้วไม่อยากให้พวกเรารู”้ ฮวาเยวียถามโย่วเหอที
อายุมากกว่าเธอสองสามเดือนด้วยความเป็ นห่วง

5
โย่วเหอเป็ นคนอ่อนโยน ท่าทางสุขมุ เมือได้ยินคําถาม
แบบนีจากฮวาเยวียก็หนั ไปมองด้วยสายตาทีเป็ นห่วงไม่
แพ้กนั เม้มปากพร้อมกับส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าคุณ
ชายได้รบั บาดเจ็บนายท่านก็คงตามหมอหลวงมาทีจวน
แล้ว คิดว่า เคราะห์กรรมครังนีคงทําให้จิตใจของคุณ
ชายได้รบั ความกระทบกระเทือนมาก อาจจะอยากอยู่
คนเดียว พวกเราอย่าไปรบกวนเลย”

ฮวาเยวียพยักหน้า ไฝรองนําตาทีหางตาขยับไปตามการ
เคลือนไหว ทําให้นางดูเย้ายวนขึนหลายส่วน

ในห้องมูเ่ กอทีตาทังสองข้างปิ ดสนิท ในทีสุดก็คอ่ ยๆ ลืม


ตาขึนมา

6
เธอหลุบตาลงมองมือขวาของตนเองเป็ นสิงแรก

ตอนแรกในมือของเธอไม่มีอะไรเลย แต่ตอนนีมือ
ขวากลับมีหลอดทดลองโปร่งแสงหลอดหนึงเพิมขึนมา
ในหลอดทดลอง มีสารสีฟา้ ม่วงส่องแสงเป็ นประกาย
ไหลเวียนราวกับมีชีวิต

มูเ่ กอชูมือขวาของตนเองขึน ตาทังคูจ่ อ้ งอยูท่ ียาใน


หลอดทดลองในมือ พึมพําว่า “ยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอ
ยาทีทันสมัยทีสุดของโลกนัน ว่ากันว่า 100 ลูกบาศก์
เซนติเมตรสามารถทําให้รา่ งกายทีอ่อนแอ กลายเป็ น
ยอดคนทีสามารถขึนฟ้าลงดินได้ วันนีข้าจะลองดูวา่ เจ้า
จะร้ายกาจขนาดนันจริงหรือเปล่า คุม้ กับการทีคนๆ นัน
7
ใช้เจ้าเป็ นเหยือล่อเพือลวงให้ขา้ เข้าไปติดกับและทําให้
ข้าต้องตายหรือเปล่า”

พูดจบมูเ่ กอก็ใช้นิวโป้งข้างขวา เปิ ดฝาของหลอดทดลอง


อย่างไม่ลงั เล เธอเทยา 100 ลูกบาศก์เซนติเมตรเข้าไป
ในปาก

มูเ่ กอไม่รูว้ า่ สภาพร่างกายของตนเองในตอนนีเป็ นอย่าง


ไร แต่ทกุ คนบอกว่าร่างของเธอคือร่างทีไม่สามารถ
ฝึ กฝนพลังเวทได้ ต่อมาเพราะเธอถามมูซ่ งถึงได้รูว้ า่ เธอ
ไม่สามารถรวบรวมพลังได้ตงแต่
ั เกิดและไม่สามารถเข้า
สูข่ นพลั
ั งสีแดงได้ คนทีเข้าไม่ได้แม้กระทังชันพลังสีแดง
ก็ตอ้ งกลายเป็ นคนไร้คา่ เป็ นธรรมดา ยิงไม่ตอ้ งพูดถึงจะ
ฝึ กฝนอะไรเลย
8
และยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอนี ก็คือยาทีทําให้ดีเอ็นเอ
สามารถทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึนกว่าเดิม

ในโลกของมูเ่ กอ มีผเู้ ชียวชาญหลายคนคิดว่า ดีเอ็นเอ


เป็ นสิงทีสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ และไม่สามารถ
เปลียนแปลงได้ แต่ดีเอ็นเอของคน สามารถแสดง
ศักยภาพออกมาได้ไม่ถงึ ร้อยละ 1 ส่วน 10 และความ
สามารถนีเหมือนจะถูกกําหนดมาแล้วไม่สามารถแก้ไข
ได้ จึงมีการทดลองเกียวกับการเปลียนแปลงดีเอ็นเอ
เกิดขึน เพือให้คนสามารถแสดงศักยภาพและซ่อมแซม
ส่วนทีสึกหรอของดีเอ็นเอในขณะเดียวกัน

สําหรับผูส้ งั เกตการณ์แล้ว การทดลองนีถือว่าดี และถ้า


9
สําเร็จผูป้ ่ วยหนักจํานวนมากก็จะได้เกิดใหม่อีกครัง

แต่วา่ กลับมีคนคิดไม่ซือกับการทดลองนี อยากจะใช้มนั


ในสงคราม จึงทําให้มเู่ กอมีโอกาสขโมยมันออกมา

ยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอนี แต่เดิมจะส่งมอบให้กบั
ประเทศ เสียดายทีสุดท้ายก็ไม่มีโอกาสนัน

จริงๆ แล้วยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอในช่องว่างของมูเ่ ก
อนันยังเป็ นแค่ตวั ทดลอง ยังไม่ใช่ยาทีเสร็จสมบูรณ์รอ้ ย
เปอร์เซ็นต์ แต่วา่ ในตอนนี ในสถานการณ์แบบนี การจะ
ทําให้เธออยูใ่ นโลกนีได้ คือต้องแข็งแกร่งขึน สําหรับการ
ทดลองนี จึงไม่เสียงไม่ได้

10
หากสําเร็จ บางทีเธออาจจะสามารถเข้าการฝึ กฝนพลัง
ของโลกนีได้

แต่หากล้มเหลว ……..ก็ไม่มีใครรูว้ า่ ผลทีตามมาคือ


อะไร

การมัวห่วงหน้าพะวงหลังไม่กล้าตัดสินใจขาดไม่ใช่ตวั มู่
เกอ ดังนัน เธอจึงดืมยาทังหลอดทดลองเข้าไปอย่างไม่
ลังเล ซึงนันเท่ากับปริมาณ 10 เท่าของคน
ธรรมดา………ถ้าไม่รอดก็ตาย

เพราะว่ามูเ่ กอไม่เคยยอมแพ้ใคร!

11
‘จืดๆไม่ได้มีรสชาติพิเศษอะไร แต่ให้ความรูส้ กึ เหนียวๆ’
ยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอไหลเข้าสูร่ า่ งกายของมูเ่ กอ แต่
เธอยังจะมีเวลามาให้คาํ วิจารณ์ยาแบบนีอีก !

“อุก่ !”

เพล้ง----------!

เสียงแก้วแตกดังขึน เพราะมือสันๆ ของมูเ่ กอไม่สามารถ


จับหลอดทดลองว่างเปล่านันไว้ได้ ทําให้มนั ตกแตก
กระจายบนพืน ในร่างกายรูส้ กึ ราวกับถูกไฟเผาไหม้ ทํา
ให้เธออุทานออกมาอย่างกลันไม่อยู่

12
อึก ----------- อึก --------------

‘ร้อน! ร้อนมาก! รูส้ กึ เหมือนตัวเองกําลังจะละลาย ’ มือ


ทังคูข่ องเธอจับชายเสือเอาไว้แน่น ล้มลงบนเตียงด้วย
ความเจ็บปวด

ร่างกายของเธอกลายเป็ นสีมว่ งคลําในทันใด มีเสียง


เหมือนนําเดือดดังออกมาจากร่างกายของเธอ บนผิว
หนังเกิดเป็ นถุงเล็กๆ เวียนว่ายไปมาไม่หยุด และบิดร่าง
กายของเธอจนเปลียนรูปไปเรือยๆเหมือนดินนํามัน

“อือ……..” มูเ่ กอทีล้มอยูบ่ นเตียงอย่างไร้เรียวแรงกัด

13
ฟั นแน่น ไม่ตอ้ งการจะส่งสียงร้องแสดงความเจ็บปวด
ใดๆ ออกมา

เธออยากจะแกร่งขึน ก็จาํ เป็ นต้องยอมรับบททดสอบ


ของผูแ้ ข็งแกร่ง

เหงือจํานวนมากไหลออกจากรูขมุ ขนทัวทังร่างกายของ
มูเ่ กอ ร่างกายเสียนําไปมาก และทําให้ผา้ ห่มใต้รา่ งเธอ
เปี ยกชุ่ม

มูเ่ กอจับปลายผ้าห่มเเน่น ใช้แรงใจทังหมดทียังมีอยูฝ่ ื น


ต้านไว้

14
เธอรูส้ กึ ว่ากระดูกและเลือดเนือทัวทังร่างกายของเธอ
ถูกโยนเข้าไปในเตาไฟอันใหญ่ ถูกหลอมละลายด้วย
อุณหภูมิสงู กลายเป็ นนํากองหนึงและนํากองนันก็
ถูกระเหยด้วยอุณหภูมิสงู เช่นกัน จนไม่เหลืออะไรเลย

“ยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอ……..ความเจ็บปวดขนาดนี
มันจะมีไอ้บา้ กีคนวะทีสามารถทนรับได้?!” มูเ่ กอเค้น
เสียงลอดไรฟั นออกมาด้วยความโกรธ แต่เธอกลับลืมไป
ว่าจํานวนทีเธอกินเข้าไปนันมากกว่าคนปกติถงึ 10 เท่า
เพราะฉะนันความเจ็บปวดทีต้องรับมือก็ตอ้ งมีมากกว่า
10 เท่าเช่นกัน

มันไม่ได้ง่ายเหมือน 1 + 1 เท่ากับ 2 นะ

15
‘อวดเก่ง! จะทําตัวเองตายแล้ว…….’ ในขณะทีจิตใต้สาํ
นึกของมูเ่ กอเริมเข้าสูค่ วามมืดมน เธอได้ให้คาํ วิจารณ์ที
เหมาะกับการกระทําของตนเองในครังนีไว้แบบ
นี............

16
ตอนที 12 ท่านอามาเยียม แรกพบแม่นางดอกบัวขาว

พระจันทร์สอ่ งแสงสว่าง ประตูหอ้ งยังคงปิ ดสนิท และไม่

17
ได้เปิ ดออกเลย ในห้องไม่มีแม้กระทังแสงเทียนลอดมา
มืดสนิท ราวกับไม่มีใครอยู่

สาวใช้ผซู้ ือสัตย์สองคน เฝ้าอยูห่ น้าประตูตลอดเวลา แม้


ว่ารอบข้างจะไม่มีคน พวกนางก็ไม่กล้าขัดคําสัง

ทังสองหันหลังไปมองประตูทีอยูข่ า้ งหลังด้วยความเป็ น
ห่วงตลอดเวลา และสบตากันเพือเป็ นการปลอบใจซึงกัน
และกัน คําคืนนีลมกลางคืนพัดมาหนาวเย็น ทังสองทียัง
ไม่ได้เข้าไปในห้อง รูส้ กึ ว่าร่างกายหนาวเย็น อดกอดตัว
เองโดยไม่รูต้ วั

ทันใดนันเสียงฝี เท้าก็ดงั แว่วมาจากนอกเรือน

18
พอสาวใช้ทงสองรู
ั ส้ กึ ตัวก็สบตากัน แล้วพยายามดูวา่
ใครมา

เขายังเดินมาไม่ถงึ ประตู โคมไฟในมือก็สอ่ งแสงสว่างบน


ตัวของโย่วเหอและฮวาเยวีย ทําให้ความมืดของบริเวณ
นันจางหายไป และช่วยขจัดความหนาวเย็นลงไปได้บา้ ง

ใต้แสงเทียน ผูห้ ญิงตัวสูงท่าทางองอาจ สวมใส่เสือผ้า


เครืองแต่งกายของสตรี สวมเกราะอ่อน ใบหน้างดงาม
เด่นชัดของนางไร้ซงการแต่
ึ งเติม ผมยาวรวบขึนสูงบน
ศีรษะมีเพียงเครืองประดับผมทีดูสะดุดตาประณีต ผม
ยาวปลิวไสว เพิมความสง่างามน่าดึงดูดให้นางได้อีก

19
หลายส่วน

ตรงเอวของนางประดับด้วยกระบีสันหนึงเล่ม ตัวด้ามงด
งามประณีตหาใดเปรียบ แสงเทียนทําให้อญ
ั มณีทีฝังอยู่
ด้านบนนันส่องแสงแวววาวท่ามกลางความมืด

อารมณ์บนใบหน้าของนาง ดูคล้ายมูช่ ิงเกออยูห่ ลาย


ส่วน

แต่วา่ อายุมากกว่ามูช่ ินเกออยูม่ าก

“คุณหนูใหญ่!”

20
เมือเห็นผูม้ าเยือน โย่วเหอและฮวาเยวีย ก็คกุ เข่าลงทํา
ความเคารพ

“ลุกขึนเถอะ” มูเ่ หลียนหรงผลักโคมไฟในมือของคนใช้


ออก มองทังสองทีคุกเข่าอยูข่ า้ งหน้า พูดเสียงเรียบๆ

“เจ้าค่ะ”

โย่วเหอและฮวาเยวียลุกขึนอย่างเชือฟั ง

ตอนนีพวกนางเพิงสังเกตเห็นว่า ข้างหลังคุณหนูใหญ่
ประจําตระกูลมูท่ า่ นนียังมีคนเดินตามมาอีกสองคน คน
หนึงสวมชุดกระโปรงสีขาวพลิวไหว หน้าตางดงามจับใจ
21
ยืนอยูข่ า้ งหลังมูเ่ หลียนหรงอย่าสงบเสงียม ส่วนอีกคน ก็
คือสาวใช้คนสนิทของคนผูน้ ี

ฮวาเยวียแอบขยิบตาใส่โย่วเหอ เหมือนอยากบอกว่า
‘ท่านนีก็มาหรือ?’

โย่วเหอทําเหมือนไม่เห็น ยืนก้มหน้า

มูเ่ หลียนหรงสังเกตเห็นว่าทังคูแ่ ลกเปลียนสายตากันไป


มา ก็มองไปรอบๆ เห็นเรือนยังคงมืดอยู่ จึงอดทีจะขมวด
คิวไม่ได้ “มืดแล้วทําไมพวกเจ้าไม่จดุ ไฟ แล้วคุณชาย
ของพวกเจ้าเล่า?”

22
โย่วเหอเดินไปข้างหน้าก้าวหนึง ค่อยๆ ค้อมตัวลงแล้ว
พูดด้วยนําเสียงเรียบนิงว่า “หลังจากทีคุณชายกลับมา
ก็เข้าไปพักผ่อน บ่าวเกรงว่าหลังจากทีคุณชายตืนขึนมา
แล้วจะมีอะไรให้รบั ใช้ ไม่กล้าไปไหนไกล จึงทําให้จดุ ไฟ
ช้า ก่อนทีคุณหนูใหญ่จะมา พวกเรากําลังจะไปจุดไฟพอ
ดีเจ้าคะ”

มูเ่ หลียนหรงพยักหน้า แล้วมองห้องมืดๆ ข้างหลังสอง


คนนัน พร้อมถามว่า “ตังแต่ไอ้เด็กบ้านันกลับมาก็นอน
จนถึงตอนนีเลยรึ?”

โย่วเหอและฮวาเยวียพยักหน้าพร้อมกัน พวกนางก็เป็ น
ห่วงคุณชายไม่แพ้กนั แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปรบกวน

23
ยามนี ร่างอ้อนแอ้นในชุดสีขาวพลิวไหวก็เดินมาหยุดอยู่
ข้างๆ มูเ่ หลียนหรง พูดด้วยความเป็ นห่วงเป็ นใยว่า
“ท่านอาหรง พีมูเ่ พิงกลับจากการสนามรบ หลับจนถึง
ตอนนีหรือว่าจะเป็ นอะไรไปรึเปล่า?”

ยามคําคืน ไร้ซงแสงเที
ึ ยน ดวงตาใสซือบริสทุ ธิดังกวาง
น้อยของนางจึงดูสว่างไสวเป็ นพิเศษ

นางพูดแบบนี มูเ่ หลียนหรงจึงพลันขมวดคิวแน่น สายตา


ทีแกร่งกล้ามีความเป็ นห่วงซ่อนอยู่

โย่วเหอเงยหน้าขึน แอบเหลือบมองไปทางหญิงชุดขาว

24
แวบหนึงแล้วก้มลงไป โดยไม่ได้พดู อะไร ฮวาเยวียแอบ
แบะปากแต่ก็รกั ษาความเงียบสงบไว้

ท่าทางทีทังสองแสดงต่อหญิงชุดขาวนัน ไม่ได้ดเู ป็ นมิตร


มากนัก

“ข้าจะเข้าไปดูสกั หน่อย” มูเ่ หลียนหรงตัดสินใจ ก้าวไป


ทางห้องนอน

โย่วเหอและฮวาเยวียมองหน้ากันแล้ว รีบเดินตามไป

ตามจริงแล้ว พวกนางทีเป็ นสาวใช้สว่ นตัวของมูช่ ิงเก


อ จะต้องขัดขวางมูเ่ หลียนหรงทีทําท่าราวกับจะบุกเข้า
25
ไปแบบนีเอาไว้ แม้วา่ จะเป็ นอาแท้ๆ ของนายน้อยก็ตาม
แต่จนใจเพราะพวกนางก็เป็ นห่วงอาการเจ้านาย จึงแอบ
เข้าข้างการกระทําของคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลมู่

ข้างหลังของโย่วเหอและฮวาเยวีย หญิงสาวชุดขาวทีดู
ห่วงใยคุณชายในทีแรกสายตาพลันเย็นชา แต่แล้วก็แปร
เปลียนเป็ นความกังวลอย่างรวดเร็ว นําคนใช้รบี รุดตาม
ทุกคนไป

“ไอ้เด็กบ้า เปิ ดประตูให้อาเดียวนี! ได้ยินไหม?” มูเ่ หลี


ยนหรงยืนอยูห่ น้าประตู ยกมือขึนตบประตูอย่างแรง

แต่วา่ ข้างในกลับไร้ซงการโต้
ึ ตอบ

26
คราวนีมูเ่ หลียนหรงเริมใจไม่ดี พูดเสียงแข็ง “ไอ้เด็กบ้า
ถ้ายังไม่เปิ ดประตูอีก เชือไหมว่าอาสามารถตีเจ้าให้กน้
ลายได้?”

ยังคงไม่มีการตอบกลับ

โย่วเหอและฮวาเยวียยิงใจไม่ดี

จริงๆ แล้วไม่วา่ คุณชายจะหลับสนิทแค่ไหน ถูกคุณหนู


ใหญ่รบกวนแบบนี ก็คงต้องตืนแล้ว และคุณชายก็กลัว
คุณหนูใหญ่มาโดยตลอด ได้ยินเสียงคุณหนูใหญ่ แม้
ต้องคลานหรือกลิงมาก็คงจะรีบมาเปิ ดประตูตอ้ นรับ

27
แทบไม่ทนั แต่ครังนีเคาะประตูมานานขนาดนีแล้วข้าง
ในกลับไม่ตอบรับเลย

ชิง--------

เสียงชักดาบสันออกจากฝักดังขึน

มูเ่ หลียนหรงทีเริมร้อนรน ทําท่าเหมือนคิดจะพังประตู


เข้าไป

แต่วา่ ขณะทีดาบในมือของมูเ่ หลียนหรงกําลังจะฟั นไป


ทีประตูเพือให้เปิ ดออกนัน ภายในห้องก็มีเสียงเบาๆ
ลอยออกมา ‘แกรก’
28
ประตูทีปิ ดแน่นค่อยๆ เปิ ดออกมาเผยให้เห็นร่างทีผอม
บาง

“ท่านอาหรง พีมูอ่ อกมาแล้ว ” หญิงสาวชุดขาวเดินเข้า


มาจับมือทีชูมีดขึนสูงของมูเ่ หลียนหรงเอาไว้อย่างรวด
เร็ว ใบหน้าอ่อนโยนใสบริสทุ ธิของนางเต็มไปด้วยความ
ตระหนก

จริงๆ ไม่ตอ้ งให้นางทําแบบนี ดาบสันของมูเ่ หลียนหรงก็


ไม่มีทางฟั นลงไปแน่ มูเ่ หลียนหรงยืนอยูห่ น้าประตู ตอน
ทีมูช่ ิงเกอออกมาคนทีจะเห็นเป็ นคนแรกก็ยอ่ มเป็ น
นางอยูแ่ ล้ว

29
เพียงแต่ สําหรับการกระทําของหญิงสาวชุดขาว มูเ่ หลี
ยนหรงเองก็ไม่ได้พดู อะไร แค่มองเธอแวบหนึงแล้วเก็บ
ดาบ

“คุณชาย!”

“คุณชาย ทําไมเสือผ้าถึงเปี ยกขนาดนี”

ฮวาเยวียและโย่วเหอ วิงไปยืนข้างๆ มูเ่ กอด้วยความดีใจ


ยืนอยูซ่ า้ ยขวาอย่างรูห้ น้าที โย่วเหอสังเกตเห็นถึงการ
เปลียนแปลงในตัวของมูเ่ กอ

30
ตอนนี อาการของมูเ่ กอไม่คอ่ ยจะดี ร่างกายไร้เรียวแรง
สีหน้าขาวซีด เสือผ้าเปี ยกชุ่มไปด้วยเหงือดูยบั ย่นและสี
หน้าของเธอก็ไม่สดู้ ีนกั

เธอเพิงหนีพน้ จากความตายมาได้ รอดชีวิตมาจากฤทธิ


ของยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดงั
ก้องจนหูแทบหนวก ทําให้จิตใจทีเหนือยล้าของเธอพลัน
รูส้ กึ หงุดงหงิดงุ่นง่านขึนมา

จึงทําให้สายตาของเธอทีมอง ‘ผูก้ ่อการร้าย’ ตรงหน้านี


ไม่ดีเอามากๆ

เพราะสายตาทีเย็นชาของมูเ่ กอ ทําให้มเู่ หลียนหรงตกใจ

31
จนลืมพูด

เจ้าของวนตระกูลมูม่ ายืนจ้องกันแบบนีทําให้บรรยากาศ
ดูแปลกประหลาดนัก

ยังดีทีโย่วเหอได้สติ รีบพูดกับมูเ่ กอว่า “คุณชาย คุณหนู


ใหญ่มาเยียมท่าน”

คุณหนูใหญ่?

คําเรียกขานนีหมุนอยูใ่ นหัวของมูเ่ กอสักพัก แล้วไปเชือม


โยงคนตรงหน้ากับข้อมูลทีมีอยูจ่ นสําเร็จ ทีแท้เธอก็คือ
ลูกสาวคนเล็กของมูซ่ ง ท่านอาของมูช่ ิงเกอและเป็ นแม่
32
ทัพหญิงคนเดียวของกองทัพฉิน

แน่นอนว่า ตําแหน่งแม่ทพั หญิงนี ได้มาเพราะฮ่องเต้ฉิน


เห็นแก่หน้ามูซ่ งจึงประทานให้ มูเ่ หลียนหรงไม่เคย
ออกรบ เคยแค่เข้าร่วมกระบวนการต่อต้านกบฏ แม้วา่
จะเป็ นเช่นนี แต่เมือนํานางมาเปรียบกับคุณหนูผสู้ งู ศักดิ
คนอืนๆ แล้ว ก็ยงั ดูมีความองอาจห้าวหาญมากกว่าอยู่
หลายส่วน นับประสาอะไรกับทีตัวนางเองก็เป็ นคนของ
ตระกูลมูอ่ ยูแ่ ล้วด้วย

คนของตระกูลมู่ ไม่วา่ จะหญิงหรือชายก็ถกู กําหนดให้


อยูใ่ นสนามรบทังนัน !

33
พอรูฐ้ านะของผูม้ าเยือน สายตาของมูเ่ กอก็เริมมีความ
มืดพาดผ่าน หลุบตาลงแล้วพูดว่า “ขอโทษทีทําให้ทา่ น
อาเป็ นห่วง ชิงเกอแค่ไม่ได้พกั ผ่อนดีๆ ติดกันหลายวัน
จึงรูส้ กึ ง่วงมาก”

“ไม่เป็ นอะไรก็ดีแล้ว ดูสิ พอเจ้าหนีออกจากบ้าน ไม่ใช่


แค่ทา่ นปู่ และข้าทีเป็ นห่วง ซีเยวียเองก็สวดมนต์ขอพรให้
เจ้าทุกวันทุกคืน” มูเ่ หลียนหรงเก็บสายตาแปลกๆ ของมู่
เกอเมือสักครูเ่ อาไว้ในใจ ดึงหญิงสาวชุดขาวข้างตัวเธอ
ออกมา

‘คนนีใครอีกแล้วล่ะ’

34
มูเ่ กอกวาดสายตามองนางนิงๆ

สายตาทีใสกระจ่างดังลมเย็นแบบนี ทําให้ไหล่ของหญิง
เสือขาวสันน้อยๆ ในใจพลันเกิดความรูส้ กึ หวาดกลัว
อย่างไร้ทีมา นางมองดูเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาหมด
จดตรงหน้า ในดวงตาเกิดความสงสัย

มูช่ ิงเกอไม่คอ่ ยเหมือนเดิม เมือก่อนสายตาทีเขามอง


นางนันจะเต็มไปด้วยเย็นชาและไม่ชอบใจ แต่เมือสักครู ่
นางรูส้ กึ ว่า เขาไม่ได้มีนางอยูใ่ นสายตา ตัวนางไม่ได้
แตกต่างจากต้นไม้และก้อนหินรอบๆ เลยแม้แต่นอ้ ย

“นางชือป๋ ายซีเยวีย ท่านพ่อของนางเคยเป็ นรองแม่ทพั

35
ให้ทา่ นปู่ ในกองทัพ ห้าปี ทีแล้วตายเพราะช่วยชีวิตท่านปู่
ท่านแม่ก็ตรอมใจตายตาม เหลือนางแต่เพียงผูเ้ ดียว
ท่านปู่ เป็ นห่วงว่านางไม่มีพอ่ แม่จะโดนคนอืนรังแก จึง
รับตัวนางเข้ามาอยูใ่ นจวนด้วย คนในจวนต่างเรียกนาง
ว่าแม่นางป๋ าย ถือว่าเป็ นเจ้าของจวนด้วยครึงหนึง” มูช่ ิง
เกอทีอยูใ่ นร่างโปร่งแสงลอยเข้ามาอยูข่ า้ งตัวมูเ่ กอ เอ่ย
ปากอย่างเฉยชา

มูช่ ิงเกอไม่มองป๋ ายซีเยวียแม้หางตา สายตาไปหยุดทีมู่


เหลียนหรงมากกว่า แต่เสียดายทีมูเ่ หลียนหรงไม่รู ้

มูเ่ กอมีความรูส้ กึ แปลกๆ เกิดขึนในใจ นึกย้อนกลับไป


แล้ว ทุกครังทีมูช่ ิงเกอเเนะนําคนรอบข้างให้เธอได้รูจ้ กั
จะเป็ นการแนะนําในมุมมองของคนนอก ไม่ได้มีความ
36
รูส้ กึ ส่วนตัวเลย เหมือนกับว่า ให้ทกุ อย่างเป็ นการตัดสิน
ของเธอ ผูท้ ีมารับช่วงต่อ

เธอเลิกคิว ในใจรูส้ กึ ชืนชม ‘ควรบอกว่าเธอฉลาดหรือ


เหมือนจะฉลาด’ ถ้ามูช่ ิงเกอใส่ความรูส้ กึ ส่วนตัวเข้าไป
ก็คงจะทําให้เธอเกิดความรูส้ กึ รังเกียจคนตรงหน้าจน
สะบัดหนีไป

“เจ้าเด็กบ้า เหตุใดไม่พดู อะไรเลย? ซีเยวียเป็ นห่วงเจ้า


ขนาดนี ยังจะไม่ดีใจอีก” เห็นมูเ่ กอเงียบ มูเ่ หลียนหรง
จึงพูดเสียงแข็ง

มูเ่ กอเงยหน้าขึนด้วยความสงสัย เธอต้องดีใจอะไรหรือ?

37
38
ตอนที 13 รุย่ อ๋องมาเยือนถึงจวนทีแท้ก็เพราะชาเขียว

“ท่านอาหรง ทุกสิงทุกอย่างทีซีเยวียทําเพือพีมูน่ นั ซีเย


วียทําด้วยความเต็มใจ”

มูเ่ กอทียังคงสงสัยเกียวกับคําพูดของมูเ่ หลียนหรง พอได้


ยินคําพูดแม่พระของซีเยวีย ก็ทาํ ให้เธอหันไปมองซีเยวีย
โดยไม่รูต้ วั

เมือสัมผัสได้ถงึ สายตาทีกําลังสังเกตการณ์ของมูเ่ กอ ทํา


ให้ป๋ายซีเยวียยิมอย่างเขินอาย แต่มเู่ กอรูส้ กึ ขนลุกชันขึน
39
มาทันที

เอ่อ........

เหมือนเพราะความอายจึงทําให้บา่ ยซีเยวียไม่กล้ามองมู่
เกออีก นางหันหลังกลับไปพูดกับมูเ่ หลียนหรงว่า “ท่าน
อาหรง ในเมือพีมูไ่ ม่เป็ นอะไร ซีเยวียก็ขอตัวกลับก่อน
พรุง่ นีค่อยมาเยียมพีมูใ่ หม่”

“อืม ก็ใช่ เจ้าเป็ นผูห้ ญิงมาเจอผูช้ ายในตอนกลางคืนดู


จะไม่เหมาะสม กลับไปพักผ่อนเถอะ ข้าจะอยูอ่ ีกสักพัก”
มูเ่ หลียนหรงรีบพูดอย่างเข้าใจ

40
เมือมูเ่ หลียนหรงอนุญาตแล้ว บ่ายซีเยวียก็คอ่ ยๆ หัน
หลังกลับพร้อมกับสาวใช้

ท่าทางทีดูมีการศึกษาและมีมารยาทแบบนี ทําให้มเู่ หลี


ยนหรงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

หลังจากทีป๋ ายซีเยวียกลับไปแล้ว มูเ่ หลียนหรงก็บอกกับ


โย่วเหอและฮวาเยวียว่า “ข้ามีเรืองจะคุยกับเจ้านายพวก
เจ้า พวกเจ้าไปเตรียมนําอาบและสํารับเถอะ”

ทังสองไม่ได้ไปในทันทีแต่มองมูเ่ กอ พอมูเ่ กอพยักหน้า


ทังสองจึงหันหลังเดินออกไป

41
“ท่านอาเชิญ” มูเ่ กอหลีกทางต้อนรับมูเ่ หลียนหรงเข้าไป
ภายในเรือน

พอมูเ่ หลียนหรงเข้ามาในเรือน ก็สงให้


ั มเู่ กอปิ ดประตู

ในเรือนเหลือแค่อาหลานสองคน

มูเ่ หลียนหรงนังอยูบ่ นเก้าอีในเรือน ตอนนีเทียนในเรือน


ถูกจุดสว่างแล้ว ทังสองนังอยูร่ ะหว่างเปลวเทียนทีเต้น
ระริกไปมา มูเ่ หลียนหรงมองมูเ่ กอด้วยสายตาซับซ้อน
พูดด้วยความโมโห “ชิงเกอ ครังนีทําไมเจ้าวูว่ ามขนาดนี
เจ้าเป็ นความหวังเดียวของตระกูลมู่ ถ้าเกิดอะไรขึนกับ
เจ้า ตระกูลมูก่ ็จบสิน ปกติเจ้าจะเหลวไหลยังไง ข้าก็ไม่

42
เคยว่า เพราะว่าในลัวตู ตระกูลมูส่ ามารถปกป้องเจ้า แต่
เจ้าไม่ควรจะออกจากลัวตูคนเดียว ทําให้ตนเองตกอยู่
ในอันตรายหรือว่าเจ้าไม่รูว้ า่ ในแคว้นฉินนี มีคนมากมาย
เท่าไรทีหวังอยากให้เจ้าตาย”

คําพูดเหล่านีดูรุนแรงมาก แต่มเู่ กอก็รบั รูไ้ ด้ถงึ ความเป็ น


ห่วง

มูเ่ กอไม่ได้ตอบ เหมือนยอมรับคําตักเตือนของมูเ่ หลี


ยนหรงแต่โดยดี มูเ่ หลียนหรงถอนหายใจ สายตาซับซ้อน
มองออกไปไกล มีทงความเจ็
ั บปวดและเคียดเเค้น “ทุก
คนคิดว่าเมือ 10 ปี ก่อนเพราะตระกูลมูด่ วงไม่ดีจงึ เกิด
เคราะห์รา้ ยไม่จบไม่สนิ แต่ความจริงน่ะรึ? ก็แค่มีคนทน
เห็นตระกูลมูม่ ีหน้ามีตาไม่ได้ ตอนนันท่านอารองและ
43
ท่านย่าของประสบเหตุไม่คาดฝันร่วงตกเหว แต่ขา้ โชคดี
ทีรอดมาได้ ท่านปู่ ของเจ้าจําเป็ นต้องรีบปลีกตัวกลับมา
จากสงคราม ทิงให้พอ่ เจ้าต้องอยูต่ า้ นศึกเพียงลําพัง คิด
ไม่ถงึ เมือกลับมาเหยียบลัวตู ก็มีข่าวว่าพ่อเจ้าตายใน
สงคราม ตายในสงครามหรือ หึ.........”

มูเ่ หลียนหรงพลันยิมเย็นชา นัยน์ตาทีเข้มแข็งปกคลุมไป


ด้วยความโกรธเกลียด “พวกนันเป็ นแค่ชาวเขาทีมารวม
ตัวกัน พ่อเจ้าออกสนามรบตังแต่อายุ 13 ไม่เคยมี
ประวัติพา่ ยแพ้ จะถูกพวกชาวเขาพวกนันตีแตกได้อย่าง
ไร กระทังชีวิตก็ยงั ต้องเอาไปทิง แม้แต่ศพก็ยงั หาไม่เจอ”

แท้จริงแล้วตระกูลมูย่ งั มีทา่ นอารองอีกคน แท้จริงแล้ว


พ่อของมูช่ ิงเกอตายแบบนี
44
แววตาของมูเ่ กอดูสบั สน ในใจกลับรูส้ กึ เห็นใจสิงทีตระกู
ลมูต่ อ้ งพบเจอ ยอมตายเพือชาติ หลังจากมีความดี
ความชอบแล้วกลับถูกฆ่าเพราะความอิจฉาของผูน้ าํ
เรืองพวกนีเหมือนว่าจะเป็ นกันทุกโลก

ทันใดนันมูเ่ กอก็รูส้ กึ ว่ามือของเธอได้รบั สัมผัสทีนุ่มนวล


และอบอุน่ ทําให้เธอต้องเงยหน้าขึน สบตากับสายตาทีดู
เป็ นกังวลของมูเ่ หลียนหรง

“ชิงเกอ ท่านปู่ อายุมากแล้ว ไม่วา่ อย่างไร ข้าก็เป็ นแค่ลกู


สาว ในอนาคตตระกูลมูต่ อ้ งพึงเจ้า ข้าไม่หวังให้เจ้าเป็ น
ผูช้ ายทีแกร่งกล้า ขอแค่ให้เจ้าอยูร่ อดปลอดภัย” พูดจบ
นางก็ดงึ มือของตนเองออกจากหลังมือของมูเ่ กอ ปั ดผม
45
ข้างหูเธอออก พูดเบาๆ ว่า “บางที การทีเจ้าเป็ นแบบนี
อาจทําให้คนพวกนันวางใจได้”

คําพูดของมูเ่ หลียนหรง เหมือนจะทําให้มเู่ กอเข้าใจอะไร


มากขึน

คนอย่างมูซ่ ง และฐานะอย่างตระกูลมูท่ ีสามารถทน


พฤติกรรมอันก้าวร้าวของมูช่ ิงเกอข้างนอกได้ก็ถือว่าไม่
ธรรมดาแล้ว เกรงว่าคงเพราะไร้ซงทางเลื
ึ อกแล้วจริงๆ
พวกเขาจึงยอมทีจะเห็นอันธพาลทีขายหน้าตระกูลมู่ ดี
กว่าทีวันหนึงวันใดต้องเห็นศพของมูช่ ิงเกอ

ตระกูลมูท่ ีดูมีเกียรติยศ อํานาจล้นฟ้าในสายตาของทุก

46
คนกลับต้องมีชีวิตอยูอ่ ย่างทนทุกข์ทรมานแบบนี

ความโกรธแค้นปะทุขนภายในใจของมู
ึ เ่ กอ

ตอนนีเธอก็แยกไม่ออกว่าความรูส้ กึ แบบนีมาจากตัวเธอ
เองหรือมาจากร่างทีเป็ นของมูช่ ิงเกอกันแน่

“และอีกอย่างป๋ ายซีเยวียเด็กคนนีก็ไม่เลวเลย ข้าเห็นว่า


นางจริงใจกับเจ้า แม้เจ้าจะไม่สามารถแต่งนางให้เป็ น
ภรรยาเอกได้ แต่ให้นางได้เป็ นอนุของเจ้าก็ยงั ดี เจ้าก็
ลองคิดดู” อยูๆ่ มูเ่ หลียนหรงก็พดู แบบนี

“..............” มูเ่ กออึง อะไรคือภรรยาเอก? อะไรคืออนุ?


47
หรือว่าจะให้เธอแต่งภรรยา แต่งอนุเพือช่วยตระกูลมูส่ ืบ
ทอดทายาท?

เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจมูเ่ กอ เธอตะโกนในใจ “ข้าทําลูก


ไม่ได้โว้ย!”

มูเ่ หลียนหรงไม่ได้อยูใ่ นเรือนนานนัก พอโย่วเหอยก


สํารับเข้ามา นางก็ออกไปเลย แล้วมูเ่ กอก็รบั ประทาน
อาหาร อาบนําให้สบายตัว เปลียนเสือผ้า ยังไม่ทนั ได้
รูส้ กึ ถึงการเปลียนแปลงของร่างกายก็หลับไปแล้ว

ยามเช้า มูเ่ กอตืนขึนพราะเสียงอันไพเราะของฮวาเยวีย

48
เธอนังอยูบ่ นเก้าอีอย่างสะลึมสะลือ มีฮวาเยวียและโย่ว
เหอเปลียนเสือผ้าและสางผมให้ มูเ่ กอเพลียจนลืมตาไม่
ขึน

“คุณชาย วันนีเกล้าผมด้วยทีครอบผมหยกเขียวทีแกะ
สลักเป็ นดอกเหมยอันนีดีนีไหมเจ้าคะ?” ในมือของโย่ว
เหอถือทีเกล้าผมทีแกะสลักประณีตงดงามฝังด้วย
อัญมณีสีแดงอ่อนขึนมา เอ่ยถามมูเ่ กอเสียงตํา

มูเ่ กอลืมตาขึนเพียงเล็กน้อย มองทีเกล้าผมในมือของ


โย่วเหอแล้วพูดเบาๆ “ฉูดฉาดเกินไป” พูดจบก็เลือกที
เกล้าผมบนโต๊ะส่งๆ ยืนให้โย่วเหออันหนึง : “อืม ! อันนี
ค่อยยังชัว”

49
โย่วเหอขมวดคิวมองทีเกล้าผมทีมูเ่ กอเลือก ซึงเป็ นที
เกล้าผมทีธรรมดามาก ไม่มีการประดับตกแต่งด้วยเพชร
พลอยใดๆ ทีเกล้าผมอันนี เธอทีเป็ นสาวใช้สว่ นตัวก็จาํ
ไม่ได้วา่ เอาเข้ามาไว้ในเรือนตังแต่เมือไหร่

โย่วเหอถือทีเกล้าผมไว้ รูส้ กึ แปลกใจในการเลือกของมู่


เกอ

ฮวาเยวียเองก็มองทีเกล้าผมเรียบๆ ดูธรรมดาอันนัน
ปากไวพูดว่า “ทุกครังทีคุณชายไปพบรุย่ อ๋องจะต้องแต่ง
ตัวอย่างประณีตทุกครังไม่ใช่รเึ จ้าคะ? ทีเกล้าผมนี
มัน.......”

50
เมือรูส้ กึ ได้ถงึ สายตาทีแผ่ไอเย็นเยียบออกมาของมูเ่ ก
อ โย่วเหอรีบจ้องฮวาเยวีย ฮวาเยวียกลับเเลบลิน ก้ม
หน้าไม่กล้าพูดต่ออีก และจัดเสือผ้าให้มเู่ กออย่างตังใจ

จากนันมูเ่ กอก็สวมชุดผ้าไหมสีแดงดังเปลวเพลิงทังตัว
เดินออกจากสวนสระเมฆาไป บนศีรษะประดับด้วยที
เกล้าผมธรรมดาทีไม่เข้ากับชุดอันร้อนแรงเลยแม้แต่นอ้ ย

เรือนหน้า โถงหลักของจวนตระกูลมู่ มูซ่ งนังอยูใ่ น


ตําแหน่งประธานอยูก่ บั รุย่ อ๋องฉินจินห้าวทีมาเยียม ทังคู่
กําลังดืมชาและสนทนากัน

51
การปรากฏตัวของฉินจินห้าวไม่ได้สร้างความประหลาด
ใจให้กบั ทุกคนเพราะเมือวานก่อนกลับเขาบอกว่าจะมา
จวนตระกูลมู่ แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี

ถ้าไม่ใช่เพราะฉินจิวห้าวมาเยียมแต่เช้าตอนนีมูเ่ กอก็คง
จะยังไม่ตืน

โย่วเหอ ฮวาเยวียและมูเ่ กอมาถึงโถงหลัก กําลังตัดสินใจ


จะเดินเข้าไป กลับพบว่า ป๋ ายซีเยวียทีไม่ควรจะมาอยูท่ ี
นีกลับยืนอยูข่ า้ งๆ มูซ่ งและฉินจินห้าว ชงชาให้พวกเขา
ดืม

มูเ่ กอเลิกคิว ได้ยินเสียงพึมพําของฮวาเยวียทีอยูข่ า้ งหลัง

52
ว่า “แม่นางป๋ ายช่างร้ายกาจยิงนัก ทุกครังทีรุย่ อ๋องมาที
จวน ก็จะปรากฏตัวขึนอย่างบังเอิญเสียทุกครัง”

ได้ยินแบบนี มูเ่ กอกวาดสายตามองป๋ ายซีเยวียและฉิน


จินห้าว

“เกอเอ๋อร์ ในเมือมาถึงแล้วเหตุใดไม่เข้ามา” มูซ่ งเห็นมู่


เกอยืนอยูจ่ งึ ถาม

มูเ่ กอเดินเข้าไป ทว่ายังไม่ทนั ได้เข้าไป ก็ได้ยินเสียง


ขลาดกลัวอ่อนแอดังขึนว่า “พีมูม่ าแล้ว ข้า.......ข้าไม่ได้
จงใจมาปรากฏตัวต่อหน้ารุย่ อ๋องนะเจ้าคะ ท่านปู่ เรียก
ให้ขา้ มาชงชา ชงชาเสร็จข้าก็จะไป”

53
เมือนางพูดจบ ทุกสายตาก็หยุดอยูบ่ นร่างนาง ไหล่ทงั
สองข้างสันระริกและท่าทางน่าสงสารนัน เพียงพอทีจะ
กระตุน้ ความต้องการจะปกป้องของเหล่าผูก้ ล้าขึนมาได้

“น่ารังเกียจ! ครังทีแล้วคุณชายก็แค่ตกั เตือนว่าไม่ให้นาง


มาพบหน้ารุย่ อ๋องอีก ตอนนันนางยังร้องห่มร้องไห้
บอกว่าตนเองไม่ได้มีอะไรกับรุย่ อ๋อง ตอนนีเห็นนายท่าน
กับรุย่ อ๋องอยูด่ ว้ ยกัน จึงเสแสร้งทําตัวน่าสงสาร”

คําพูดของฮวาเยวีย ทําให้มเู่ กอพูดอะไรไม่ออก ทีแท้


ความสัมพันธ์ระหว่างมูช่ ิงเกอและป๋ ายซีเยวีย มีเรืองราว
ทีซับซ้อนวุน่ วายแบบนีด้วยหรือ?

54
“นีมันเรืองอะไรกัน? รุย่ อ๋องแค่เอ่ยถึงฝี มือการชงชาของ
ซีเยวีย ข้าจึงเรียกให้นางมาก็เท่านัน” มูซ่ งอธิบาย

แต่ตวั เอกของเรืองอย่างรุย่ อ๋องฉินจินห้าวกลับไม่ได้


อธิบายอะไรออกมาเลยแม้แต่นอ้ ย เพียงแต่สายตาที
มองบ่ายซีเยวียนันแฝงด้วยความสงสารไม่เหมือนสาย
ตาเย็นชาทีมองมูเ่ กอ

คําพูดของมูซ่ ง ยิงพิสจู น์ความบริสทุ ธิให้ป๋ายซีเยวีย

มูเ่ กอมองนางด้วยสายตาเสียดสี พูดยิมๆ กับมูซ่ งว่า


“ท่านปู่ ชิงเกอเหมือนจะยังไม่ได้พดู อันใดเลยนะ” พูดจบ

55
เธอก็เดินผ่านป๋ ายซีเยวียไปนังตรงทีว่างข้างมูซ่ ง

ป๋ ายซีเยวียหน้าซีด ก้มหน้าลงตํากว่าเดิม ไม่มีใครเห็นว่า


ในสายตาอันใสซือบริสทุ ธิของนางวาววาบไปด้วยความ
โกรธแค้น

เพิงนังลง มูเ่ กอก็พดู ยิมๆ กับฉินจินห้าวว่า “รุย่ อ๋อง


อุตส่าห์มีใจมาเยียมกระหม่อม แต่วา่ เวลานีจะไม่เช้าไป
หน่อยหรือ?” หลังจากนันก็พดู ต่อแฝงไว้ซงอารมณ์
ึ ขนั
“หรือเป็ นเพราะ เอาแต่คะนึงถึงกลินหอมใบชาทีจวน
ตระกูลมูไ่ ม่รูค้ ลาย จึงต้องรีบรุดมาแต่เช้าตรูเ่ ช่นนี?”

คําพูดทีแฝงไปด้วยความนัยและหยอกเย้า ทําให้ใบหน้า

56
ของซีเยวียทีก้มตําอยูแ่ ดงขึนมา ดวงตาแฝงความเขิน
อายและรอคอยแอบมองใบหน้าเย็นชาของฉินจินห้าว

มูซ่ งพูดตําหนิ “เกอเอ๋อร์ อย่าพูดเลวไหล”

มูเ่ กอเบะปาก แต่ในแววตาเต็มไปด้วยความสนุกสนาม

ในดวงตาของฉินจินห้าวมีความกรุน่ โกรธวาบผ่าน แต่ก็


ยังเก็บอาการไว้ “ก็แค่ตอนมาเยียมจวนมูค่ รังก่อน ได้มี
โอกาสลิมรสชาฝี มือแม่นางป๋ าย วันนีมานังสนทนากับ
นายท่านผูเ้ ฒ่าแล้วนึกถึงก็เท่านัน”

สักพักฉินจินห้าวก็พดู ด้วยนําเสียงรักใคร่ตามใจว่า“ข้า
57
รับปากกับชิงเกอว่าจะเอาของเล่นมาปลอบใจ แต่หลัง
จากทีกลับถึงตําหนักเมือคืน พยายามคิดอย่างไรก็คิดไม่
ออกว่าจะเอาของขวัญอะไรมาดีจงึ จะเหมาะสม ฉะนัน
วันนีตอนเช้าพอออกจากท้องพระโรง จึงมาพร้อมกับ
นายท่านผูเ้ ฒ่า คิดว่าจะชวนชิงเกอออกไปเทียวเล่นข้าง
นอก หากเจอของขวัญอะไรทีชอบขอเพียงเจ้าเอ่ยปาก”
ตังแต่ตน้ จนจบ เขาไม่ได้มองป๋ ายซีเยวียแม้แต่นิด ราว
กับว่าตรงนีไม่มีคนๆ นีอยูอ่ ย่างไรอย่างนัน

ป๋ ายซีเยวียทีแอบมองฉินจินห้าวอยูต่ ลอดเวลา พอได้ยิน


คําพูดประโยคนี ในแววตาก็ยากจะปิ ดบังความผิดหวัง
และความริษยา

“อย่างนีนีเอง” มูเ่ กอยิม มองป๋ ายซีเยวียแล้วถามว่า


58
“น้องซีเยวีย เจ้าอยากไปกับพวกเราไหม?”

59
ตอนที 14 งามเป็ นหนึงในลัวตู

มูเ่ กอเดินโดยไม่ได้นงรถซึ
ั งไม่เหมือนมูช่ ิงเกอคนเดิม ทีมี
ทังคนและม้าตามไปทุกที ไปตลาดครังนี เธอไม่ได้พาคน
ใช้ไปแม้แต่คนเดียว

เห็นแบบนี ฉินจิวห้าวก็พาองครักษ์มาแค่คนเดียวเท่านัน

60
ป๋ ายซีเยวียทีถูกชวนมาด้วยกัน ก็มีแค่ผา้ ปิ ดหน้าและชุด
สีขาวทีพลิวไหวไปมา ท่าทางงดงามเดินอยูข่ า้ งหลังเขา
ทังสองคน สาวใช้สว่ นตัวของนาง คอยปกป้องนางจาก
ซ้ายและขวาและช่วยปิ ดบังเธอจากสายตาแอบมอง
จากรอบๆ ทังในทีลับและทีแจ้ง

มูเ่ กอเห็นท่าทางราวกับกวางน้อยขีตกใจของป๋ ายซีเยวีย


แล้วก็ไม่คอ่ ยชอบใจ

ชวนนางมาด้วยไม่เพียงแค่มซู่ งทีไม่เห็นด้วย กระทังสาว


ใช้ของเธอในแววตาก็ก็เขียนเอาไว้อย่าชัดเจนว่าไม่เห็น
ด้วย

61
แต่วา่ เธอกลับไม่ได้ปฏิเสธ

เธออยากจะรูว้ า่ จะเกิดอะไรขึนบ้างระหว่างป๋ ายซีเยวีย


และฉินจินจ้าวภายใต้การจับตามองของเธอ ยังมีอีก ท่า
ทางเป็ นห่วงเป็ นกังวลทีป่ ายซีเยวียแสดงออกมาต่อหน้า
เธอเมือคืน แต่ทาํ ไมวันนีพอพบฉินจินห้าว ก็เหมือนตรึง
สายตาอยูท่ ีตัวเขาตลอด

หญิงสาวกําพร้าทีมาอาศัยอยูใ่ นตระกูลมูน่ นั ในใจกําลัง


คิดคํานวณอะไรอยู่ มูเ่ กอรูส้ กึ สงสัยมาก

ไม่เพียงแค่ป๋ายซีเยวีย ฉินจินห้าวเองก็มีทา่ ทีแปลกๆ

62
ท่าทางเย็นชาของเขา ไม่เหมือนเจ้าชู้ แต่แต่เขาก็ยงั
แสดงท่าทีสงสารออกมาอย่างชัดเจนแต่กลับแกล้งทํา
เป็ นไม่สนใจ

‘เหอๆ มีแต่พวกหลอกลวงแท้ๆ’ ไม่วา่ จะเป็ นป่ ายซีเยวีย


หรือฉินจินห้าว มูเ่ กอก็ไม่ชอบตังแต่แรกเห็น

หรือว่านิสยั ของเธอจะเหมาะกับคนซือๆ ตรงไปตรงมา

ลัวตูมีถนนหลักอยู่ 9 สาย ทีถือเป็ นเส้นทางหลัก และ


สายอืนๆ ทีแยกออกไปเหมือนใยแมงมุมอีกจํานวนนับ
ไม่ถว้ น โดยมีพระราชวังเป็ นศูนย์กลาง

63
ถนนหลักเป็ นบริเวณทีเจริญรุง่ เรืองทีสุดของลัวตู มีรา้ น
ค้าทีมีชือเสียงหลายร้านตังอยูท่ ีนี เพราะฉะนันตาม
ภาษาบนโลกแล้วถนนสายหลักก็คือเขตการค้า แถมยัง
เป็ นเขตการค้าคุณภาพสูงเสียด้วย

รายได้ของคนธรรมดาหนึงปี คงจะยังไม่พอค่าอาหารมือ
หนึงของร้านอาหารในตลาดหลักแห่งนี

ทีตามฉินจินห้าวออกมา ไม่ใช่เพราะอยากได้ของขวัญ
จากเขา แต่เธออยากจะรูว้ า่ ชายผูส้ งู ศักดินีทําไมถึงได้
อ่อนโยนกับเธอแบบนี

64
ท่าทางทีเขามีให้เธอนันแตกต่างจากคนอืน จึงทําให้ใจ
ของมูช่ ิงเกอคนเดิมเกิดความหวังไม่ใช่หรือ?

มูเ่ กอหันหลัง มองไปทีเงาโปร่งแสงทีตามเธอมา จริงเสีย


ด้วย สายตาทังคูข่ องเธอนัน พอออกจากจวนตระกูลมูก่ ็
เอาแต่จอ้ งมองฉินจินห้าว

มูเ่ กอส่ายหน้าเงียบๆ ความสามารถในการดูคนของมูช่ ิง


เกอนัน มูเ่ กอไม่เห็นด้วยเป็ นอย่างมาก

แน่นอนว่า ฉินจินห้าวสูงศักดิ หน้าตาหล่อเหลา เครือง


หน้าคมเข้ม เป็ นชายทีหาได้ยาก และยังมีศกั ดิฐานะเป็ น
ถึงองค์ชาย แม้วา่ ในอนาคตจะไม่ได้เป็ นฮ่องเต้ แต่ก็ยงั

65
เป็ นท่านอ๋องคนหนึง

ผูช้ ายแบบนี ช่างสมบูรณ์แบบตามความเพ้อฝันของสาว


น้อยจริงๆ

แต่วา่ คนแบบนี จะเป็ นคนทีให้ความสําคัญกับความรัก


ขนาดนันจริงหรือ? อย่างน้อย จากทีมูเ่ กอได้สมั ผัสนิสยั
ใจคอของฉินจินห้าวมาสองสามครัง แม้วา่ อีกฝ่ ายจะ
แสดงท่าทีเป็ นห่วงเธอออกนอกหน้าแค่ไหน เธอก็ยงั มอง
ไม่เห็นความอ่อนโยนและความจริงใจในดวงตาของเขา
เลย

ทุกอย่างก็เป็ นแค่การแสดงละครเพือให้บรรลุจดุ ประสงค์

66
เท่านัน

หลงรักคนแบบนี ก็ถกู ลิขิตมาแล้วให้ไม่มีความสุข มูช่ ิง


เกอเป็ นเช่นนี ป่ ายซีเยวียผูอ้ อ่ นโยนก็เป็ นเช่นเดียวกัน

ฉินจินห้าวไม่มีวนั ทีจะหยุดหัวใจไว้ทีผูห้ ญิงคนไหน

เหตุผลตืนๆ แบบนี ทําไมผูห้ ญิงซือบือพวกนีถึงดูไม่ออก


มูเ่ กอแอบคิดในใจ แต่เธอกลับลืมไปว่า ไม่มีใครจะเห็น
ทุกอย่างได้ชดั เจนเหมือนผูส้ งั เกตการณ์อย่างเธอ

“ชิงเกอมีอะไรทีอยากได้หรือยัง? เรามาเดินเล่นอยูใ่ น
ตลาดแบบนีมันไม่คอ่ ยดี” ทันใดนัน ฉินจินห้าวก็หยุด
67
เดิน แล้วถามมูเ่ กออย่างอ่อนโยน

มูเ่ กอก็หยุดเดิน มองเขาอย่างไม่เข้าใจ

สายตาทีคลุมเครือแบบนัน ทังใสกระจ่างแต่กลับมีความ
เย็นยะเยือกเบาบาง จู่ๆ ก็ทาํ ให้ฉินจินห้าวใจเต้นเเรงโดย
ไม่รูต้ วั หัวใจทีเต้นอย่างมันคงมาโดยตลอด จู่ๆ ก็พลัน
สับสน ราวกับว่า ใบหน้าทีมักจะปรากฏความรักลุม่ หลง
ทีมีตอ่ เขาดวงนี ดูไม่ได้น่ารังเกียจถึงเพียงนันแล้ว

“มีอะไรไม่ดีหรือ?” มูเ่ กอถามอย่างไม่เข้าใจ ก็แค่เดิน


ตลาด หน้าตาของเธอทําให้ทกุ คนตกใจหรือ หรือว่ากฎ
ของแคว้นฉินกําหนดว่าห้ามเธอออกมาเดินตลาดใน

68
ตอนกลางวัน

มูเ่ กอถามกลับ ทําให้ฉินจินห้าวรูส้ กึ ตัว เขาไม่ได้ตอบคํา


ถามของเธอในทันที แต่วา่ ค่อยๆขมวดคิวราวกับไม่เข้า
ใจการกระทําสูญเสียการควบคุมของตนเองเมือครูแ่ ละ
ไม่ชอบใจเอามากๆ

เห็นฉินจินห้าวเงียบไป ป่ ายซีเยวียก็รบี เดินขึนมาใกล้กบั


ทังสอง แล้วพูดกับมูเ่ กอ “พีมูจ่ าํ ชือเสียงในลัวตูของตน
เองไม่ได้แล้วหรือเจ้าคะ?”

ชือเสียง?!

69
มูเ่ กอหันไปมองป๋ ายซีเยวียแล้วหัวเราะ: “ชือเสียงของข้า
งันรึ? ใช่ เอาแต่ใจ รังแกคนดีหวาดกลัวคนชัว โอ้อวด
ก้าวร้าว อันธพาลหรือว่า.....ชอบผูช้ ายเล่า?” พูดจบมูเ่ ก
อก็มองฉินจินห้าว

“ทําไมพีมูว่ า่ ตัวเองแบบนีล่ะเจ้าคะ” ป๋ ายซีเยวียเอามือ


ปิ ดปากอย่างตกใจ นัยน์ตาพลันปรากฏไอนําบางๆ คลอ
ขึนมา ราวกับว่าคนทีมูเ่ กอพูดถึงคือเธออย่างไรอย่างนัน

ฉินจินห้าวอึงตัวเเข็งทือเพราะสายตาของมูเ่ กอ ใบหน้าที
เย็นชาเหมือนมีความโกรธจางๆ แต่วา่ เขาเก็บความรูส้ กึ
ได้ดีมาก ถ้าไม่ใช่คนทีได้รบั การฝึ กมาอย่างดีละ่ ก็ ก็คง
ยากจะดูออก

70
“ชิงเกอพูดเล่นอีกแล้ว ความสัมพันธ์ฉนั พีน้องของเรา
คนนอกจะเข้าใจได้อย่างไร อย่าให้คาํ นินทามาทําร้าย
จิตใจของเราเลย” ฉินจินห้าวฝื นความรูส้ กึ ขยะแขยงแล้ว
พูดยิมๆ

คําพูดนีของเขาดูธรรมดามาก แต่วา่ ถ้าคิดดูดีๆแล้ว ก็


คงจะทําให้คนฟั งเสียใจมาก แต่ยงั ดีทีเธอไม่ใช่คนเดิม
แล้ว ไม่มีทางแอบเสียใจเพราะคําพูดแก้ตวั ของเขาแน่

ทีน่าสงสารคือวิญญาณลุม่ หลงทีอยูข่ า้ งๆ ต่างหาก

“ใช่! พีมู่ ทีซีเยวียพูดเมือครูไ่ ม่ใช่คาํ นินทาไม่เข้าหูพวก

71
นัน อย่าบอกนะว่าพีมูล่ ืมไปแล้ว ว่าท่านมีชือเสียงทีว่า
งามเป็ นหนึงในลัวตู ท่านดูสิ พอท่านออกมาแบบนี ทุก
คนต่างมองมาทางเรา รุย่ อ๋องก็คงเป็ นกังวลว่าท่าน
จอารมณ์ไม่ดี เมือครูจ่ งึ ได้.......”

“เจ้าแน่ใจรึวา่ คนทีพวกเขามองไม่ใช่เจ้า ข้าก็เป็ นแค่


อันธพาลคนหนึง งามเป็ นหนึงในลัวตูอะไรกัน ! เหอะ
น่าขัน” มูเ่ กอตัดบทป๋ ายซีเยวียอย่างทนไม่ได้ ยิงทําให้
เจ้าชาเขียวน้อยนําตาคลอ กัดริมฝี ปากอย่างน้อยใจ

ขาทีซ่อนอยูใ่ ต้ชดุ ของป๋ ายซีเยวียแอบขยีเบาๆ กัดปาก


พูดเขินๆ ว่า “พีมูห่ วั เราะเยาะข้า ร่างกายผอมบางอย่าง
ซีเยวีย จะไปสูท้ า่ นได้อย่างไร อีกอย่างซีเยวียปิ ดหน้าอยู่
จะมีใครรูว้ า่ หน้าตาของข้าเป็ นอย่างไร” ในความอ่อน
72
เยาว์ปรากฏความเย้ายวนออกมาอย่างเป็ นธรรมชาติ
ราวกับนําค้างทีหยาดหยดลงบนเกสรดอกไม้ ทําให้ฉิน
จินห้าวทียืนดูอยูข่ า้ งๆ ใจสันไหว

“เรืองนีเจ้าคงไม่เข้าใจ บางครังคความรูส้ กึ ลึกลับจาก


การปิ ดหน้าปิ ดตา ก็ยงดึ
ิ งดูดความสนใจจากคนอืน” มู่
เกอยิมเบาๆ แล้วยักคิวให้เธอ

ป๋ ายซีเยวียฟั งจนหน้าแดง แล้วมองสายตารอบๆ ตัว ราว


กับรูส้ กึ ว่าคนทีพวกเขามองไม่ใช่มชู่ ิงเกอแต่เป็ นตนเอง
จริงๆ

“ร้านชาข้างหน้าดูไม่เลว ไม่สเู้ ราเข้าไปพักในนันก่อน รอ

73
ให้ชิงเกอคิดออกว่าอยากได้อะไรแล้วเราค่อยไป” ฉินจิน
ห้าวเหมือนตัดสินใจไปแล้วพูดจบไม่เปิ ดโอกาสให้ใคร
ปฏิเสธ ก็เดินไปยังร้านชาตรงทางเเยก

ป๋ ายซีเยวียมองมูเ่ กอ แล้วมองฉินจินห้าว สุดท้ายก็กดั ริม


ฝี ปากแล้วเดินตามไป

ตามองแผ่นหลังของทังสองทีเดินจากไป มูเ่ กอใช้นาํ


เสียงทีไม่อยากจะเชือถาม “งามเป็ นหนึงในลัวตูน่ ีมัน
เรืองอะไรกัน?”

ประโยคนีชัดเจนอยูแ่ ล้วว่าถามมูช่ ิงเกอ

74
เงาทีโปร่งแสงยิม “นีเป็ นเรืองเมือสีห้าปี ทีแล้ว ตอนนัน
ข้ายังเด็ก ยังไม่ได้อนั ธพาลและก้าวร้าวแบบนี ครังหนึง
ตอนงานเฉลิมฉลองวันประสูติของไทเฮา ข้าวิงเล่นอยูใ่ น
วัง บังเอิญวิงผ่านสวนดอกไม้ แต่ไม่คิดว่าดอกไม้ที
ตูมอยูพ่ วกนันพลันเบ่งบานขึนมา ดึงดูดให้ผีเสือมาก
มายมาตอม ปปรากฏการณ์ประหลาดนีทําให้คนใหญ่
คนโตในวังต่างมาดู ตอนทีไทเฮามองมาเห็นเหตุการณ์นี
เข้าก็ถอนหายใจตรัสกับผูค้ นรอบข้างว่า “ในวังนีเต็มไป
ด้วยดอกไม้ใบหญ้าแปลกประหลาดมากมายล้วนเป็ น
ของมีคา่ สูง จริงๆ แล้วยังไม่ถงึ เวลาบาน แต่กลับบาน
สะพรังเพราะเจ้าหนูนอ้ ยตระกูลมู่ เห็นได้ชดั ว่า คุณชาย
ของตระกูลมูช่ ่างเป็ นยอดคนจริงๆ ให้ขนานนามว่างาม
เป็ นหนึงในลัวตู ขนาดดอกไม้ยงั อดไม่ได้ทีจะประชัน
ความงามกับเขา”จากนันเมือคําพูดนีแพร่ออกไป ทุกครัง
ทีข้าออกจากจวน ก็จะมีคนแอบมองมาด้วยความสงสัย
75
เสมอ

มูเ่ กอฟั งแล้วพูดอะไรไม่ออก นามงามเป็ นหนึงในลัวตู


นันช่างมีทีมาจากจินตนาการทีสูงส่งเหลือเกิน ทําให้เธอ
นึกถึงเหตุการณ์ทีจักรพรรดินีอแู่ ห่งราชงศ์ตา้ โจวทีเดิน
เล่นอยูใ่ นสวนแล้วสามารถสังให้ดอกไม้ทงหลายบานได้

ขึนมา

คนเค้าเป็ นถึงจักรพรรดินีอย่างน้อยยังต้องออกคําสัง
ข่มขู่จงึ จะได้ ส่วนคุณชายตระกูลมูเ่ ล่า ไม่ตอ้ งทําอะไร
เลย แค่ยืนอยูแ่ บบนันดอกไม้ก็บานสะพรังออกมาได้

“เหอะๆ หลังจากนันเหตุการณ์แบบนียังเกิดขึนอีกไหม?”

76
มูเ่ กอถามด้วยความสงสัย

มูช่ ินเกอกลอกตา “ข้าไม่ได้มีความสามารถแบบนัน” พูด


แล้วนางก็หวั เราะเยาะตัวเอง “หลังจากนันชือเสียงจอม
เสเพลของข้าก็คอ่ ยๆ เกิดขึน ทําให้คนลืมภาพลักษณ์นนั
ของข้าไป จําได้แค่นามความยิงใหญ่ของข้าในลัวตู”

มูเ่ กอไร้ซงคํ
ึ าพูด

มูช่ ิงเกอยักคิวแล้วหัวเราะ “วันนี หากไม่เพราะรุย่


อ๋องออกมากับเจ้า เจ้าจะได้เห็นภาพปรากฏการณ์
ประหลาดอีกแบบหนึงแน่ๆ”

77
“อะไร” มูเ่ กอรีบถาม

มูช่ ิงเกอพยักเพยิด “ปรากฏการณ์ ทุกคนจะหลบเลียง


เจาราวกับเจออสรพิษ ถนนเส้นหลักของลัวตูทวตรอก

ซอกซอยจะว่างปล่า”

“..........” มูเ่ กอเงียบ

............

ในร้านชา ฉินจินห้าวอยูใ่ นห้องพิเศษ เตรียมถ้วยชาสวย


ประณีตไว้ให้กบั มูเ่ กอทีเข้ามาคนสุดท้ายนานแล้ว ความ
เอาใจใส่แบบนี จะมีผหู้ ญิงสักกีคนทีสามารถต้านทาน
78
ได้

สิงทีพิเศษคือเรืองแบบนี องค์ชายผูเ้ ย็นชาเป็ นคนทํา

มันจะไม่…. มูเ่ กอทีเพิงเข้ามาสัมผัสได้ถงึ ความอิจฉา


จากป๋ ายซีเยวีย ในดวงตามีแววตัดพ้อซ่อนอยู่

ป๋ ายซีเยวียไม่ได้นงลง
ั แต่กลับรับช้อนชงชาจากคนชง
ชาของร้าน มารับหน้าทีต้มชาต่อ

สําหรับการดืมชา มูเ่ กอไม่ได้มีความสนใจอะไรมากนัก

มูเ่ กอนังอยูต่ รงหน้าฉินจินห้าวอย่างผ่อนคลาย เล่นแก้ว


79
ชาในมือ รอคอยประโยคต่อไปทีฉินจินห้าวจะพูด อยูก่ บั
เขามานานขนาดนี เธอไม่เชือว่าผูช้ ายคนนีจะทนไม่พดู
ต่อไปได้

จริงเสียด้วย ทันทีทีป๋ ายซีเยวียต้มชากาแรกเสร็จ แล้วริน


ให้กบั ทังสอง ฉินจินห้าวก็พดู ขึนเบาๆ “ชิงเกอ ครังนีเจ้า
คงตกใจมาก จริงๆ แล้วก็เป็ นความผิดของเหอเฉิง แต่
เขาก็ไม่ได้ตงใจ
ั เขาถูกนายท่านผูเ้ ฒ่าขังไว้ในจวนตระกู
ลมู่ พ่อของเขามาขอร้องให้ขา้ มาช่ยพูดหลายครังแล้ว
ข้าก็ไม่อยากจะสนใจ แต่วา่ ตอนนีเจ้ากลับมาอย่าง
ปลอดภัยแล้ว ไม่สปู้ ล่อยเขาไป จะได้ไม่ทาํ ให้นายท่านผู้
เฒ่าต้องลําบากเวลาอยูใ่ นราชสํานักด้วย”

ในทีสุดก็พดู จุดประสงค์ทีแท้จริงออกมาได้แล้วรึ?
80
มูเ่ กอหัวเราะเย็นในใจ มาเยียมเธออะไรกัน ซือของมา
ปลอบขวัญเธอรึ? ทังหมดก็แค่อยากให้เธอปล่อยตัวเห
อเฉิง

“แม้วา่ ท่านปู่ จะไม่ฆา่ เหอเฉิง แต่ก็ไม่อาจปล่อยเขาไปได้


ง่ายๆ!” ทันใดนันเสียงทีเต็มไปด้วยความแค้นก็ดงั มา
จากข้างตัวมูเ่ กอ

มูเ่ กอรูส้ กึ แปลกใจ ทีเเรกเธอคิดว่าถ้าฉินจินห้าวเอ่อปาก


ขอเอง มูช่ ิงเกอจะใจอ่อน

“เหอเฉิงงันหรือ?.......”

81
“ลูกพีมู่ ลูกพี-------! ท่านอยูข่ า้ งในใช่ไหม? ข้าได้ยินว่า
ท่านอยูข่ า้ งใน ข้าเข้าไปแล้วนะ”

ยังไม่ทนั ทีมูเ่ กอจะตอบคําถามของฉินจินห้าว เสียงของ


ชายหนุ่มคนหนึงดังแทรกเข้ามาจากข้างนอก พอสิน
เสียง ประตูอนั หรูหราก็ถกู ผลักออก องครักษ์ตาํ หนักอ๋อง
ยืนทีเฝ้าอยูต่ รงประตู ชักดาบออกมาชีไปทางผูม้ าใหม่
ทันที

ฉินจินห้าวทีถูกขัดจังหวะตอนคุยกับมูเ่ กอ ตอนนีก็ขมวด
คิวอย่างไม่ชอบใจ อุณหภูมิในห้องพิเศษลดลงหลาย
องศา

82
มีแค่มเู่ กอคนเดียวทีไม่คนุ้ เคยกับเสียงนัน เธอมองมูช่ ิง
เกอ กลับเห็นสีหน้าอันแปลกประหลาดของนาง..........

83
ตอนที 15 เพือนกินทียอดเยียมทีสุด แอบฟั ง

“ลูก.........ลูกพี.....ช่วยข้าด้วย” เจ้าอ้วนทีบุกเข้ามาใน
ห้อง ชีดาบทีทาบอยูบ่ นคอตัวเอง ตามองดาบทีจ่ออยูจ่ น
ตาแทบเหล่ พุงกลมๆ ทีอยูใ่ ต้ชดุ ผ้าไหมหรูหราสันระริก

เจ้าเป็ นใคร? ทําไมต้องช่วย?

สายตาของมูแ่ กอมองไปยังมูช่ ิงเกอโดยไม่พดู อะไร

“เซ่าเย่เจ๋อ เจ้าอ้วนเซ่า มีพอ่ เป็ นผูบ้ ญ


ั ชาการทหาร และ
เป็ นหนึงในจอมเสเพลของลัวตู นับว่าเป็ น.......เพือนทีดี
ของข้า” มูช่ ิงเกออธิบายสันๆ
84
มูเ่ กอยักคิวพูดหน้านิง “เจ้าอ้วนเซ่า เจ้ามาทําไม” พูดจบ
ก็มองไปทีฉินจินห้าว

คนทีถือดาบเป็ นองครักษ์ของฉินจินห้าว ก็ตอ้ งฟั งคําสัง


ของเขา ตอนนีฉินจินห้าวกําลังมีเรืองต้องขอร้องเธอ ให้
เขาตอบแทนนําใจเล็กน้อย ก็ไม่ใช่เรืองยากอะไร

ตามคาด เมือสัมผัสได้ถงึ สายตาของมูเ่ กอ ฉินจินห้าวก็


พยักหน้าให้กบั องครักษ์

ชิง------!

85
กระบีทีแหลมคม เก็บเข้าฝักในทันที องครักษ์คนนันกลับ
ไปยืนทีเดิม ราวกับไม่เคยขยับไปไหน

มูเ่ กอมององครักษ์คนนันนิงๆ แสงสีเขียวทีสาดประกาย


ออกมาเมือสักครูน่ นทํ
ั าให้เธอรูถ้ งึ ระดับของคนๆ นี แค่
องครักษ์ยงั เป็ นถึงยอดฝี มือชันสีเขียวแล้วฉินจินห้าวจะ
อยูใ่ นระดับไหนกัน

“โอย! ถ้ารูว้ า่ รุย่ อ๋องกําลังคุยธุระกับพีมูล่ ะ่ ก็ ข้าไม่มีทาง


เข้ามารบกวนแน่นอน” เจ้าอ้วนเซ่ายิมให้ฉินจินห้าวแล้ว
วิงเข้าไปถามมูเ่ กออย่างรวดเร็ว “ลูกพีข้าได้ยินข่าวว่าพี
ไปทีลัวรือ ทีนันมีสงครามไม่ใช่เหรอ ท่านไม่เป็ นไรนะ?”

86
“ถ้าเป็ นอะไรแล้วยังจะมานังดืมชากับรุย่ อ๋องอยูแ่ บบนี
ได้ยงั ไงเล่า?” มูเ่ กอปั ดมือทีอ้วนเหมือนขาหมูของเจ้า
อ้วนเซ่าออกแล้วกลอกตา

“แหะๆ ก็จริง” เจ้าอ้วนเซ่าเกาหัวแกรกแล้วแอบมองฉิน


จินห้าว เมือเห็นว่าเขาไม่ได้มองตนเอง จึงเข้าไปใกล้ๆ มู่
เกอ แล้วกระซิบว่า"พีมู่ ท่านอยูน่ ีก็ดีแล้ว ข้าได้ยินมาว่า
คืนนีทีหอเด็ดบุปผาจะมีการแสดง ไม่สทู้ า่ นไปดูกบั ข้า
เถอะ ดืมชามันไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนุกเลย"พูดจบเขาก็
ยักคิวนัยน์ตาเต็มไปด้วยรอยยิม

หอเด็ดบุปผา?

87
พอได้ยินชือนี ไม่ตอ้ งให้มชู่ ิงเกออธิบายมูเ่ กอก็เดา
ออกว่ามันเป็ นสถานทีแบบไหน

ตอนแรกว่าจะปฏิเสธแต่พอเธอสบกับสายตาเย็นชาของ
ฉินจินห้าวเข้า ก็เปลียนใจ ปั ดเสือตัวเอง แล้วมูเ่ กอก็ยืน
ขึนมาตบบ่าของเจ้าอ้วนเซ่า “นําทางไปเลย”

เจ้าอ้วนเซ่าดีใจรีบเงยหน้าหลังตรง

“ชิงเกอ......เจ้า” ฉินจินห้าวขมวดคิว บทสนทนาระหว่าง


มูเ่ กอกับเจ้าอ้วนเซ่า เขาได้ยินทังหมด พอรูว้ า่ มูเ่ กอจะ
ไปทีมัวสุมแบบนัน ขณะทีในใจรูส้ กึ ไม่ชอบก็มีความรูส้ กึ
ดูถกู เพิมเข้ามาด้วย

88
ก็อย่างว่า เสเพลก็คือเสเพล

ป๋ ายซีเยวียเองก็ไม่คอ่ ยชอบใจ เธอตามมูช่ ิงเกอออกมา


ถ้ามูช่ ิงเกอออกไปกลางคันแบบนี แล้วเธอจะทําอย่างไร

มูเ่ กอกระตุกยิม คาราวะฉินจินห้าวอย่างสง่างาม “เรือง


ทีรุย่ อ๋องพูด ข้าจะไปพูดกับท่านปู่ ให้” พูดจบเธอก็หนั ไป
มองป๋ ายซีเยวีย หัวเราะอย่างชอบใจ “ข้ามีธุระ คงต้อง
รบกวนรุย่ อ๋องส่งน้องซีเยวียกลับจวนตระกูลมูเ่ สียแล้ว”

เมือได้ยินการจัดแจงของมูช่ ิงเกอทําให้ป๋ายซีเยียว
ประหลาดใจ เผลอหลุดสีหน้ายินดีออกมา

89
เธอจะไปคิดได้อย่างไรว่ามูช่ ิงเกอทีไม่ชอบให้เธอพบกับ
รุย่ อ๋องนัน วันนีไม่ใช่แค่จะพาเธอออกมา แต่ยงั ให้
โอกาสทังสองได้อยูด่ ว้ ยกันตามลําพังอีกด้วย

นีมัน........

ความยินดีทีเกิดขึนอย่างกะทันหันนีทําให้หางตาของ
ป๋ ายซีเยวียแฝงไปด้วยความเขินอาย แลดูเย้ายวนใจ

ฉินจินห้าวหันมามองนางพอดี เมือเห็นภาพทีชวนให้ใจ
สันแบบนันก็พยักหน้าโดยไม่รูต้ วั รอจนสติเขากลับมา
จึงเพิงสังเกตว่าในห้องพิเศษนี ไหนเลยจะเหลือเงาของ

90
พวกมูช่ ิงเกออยูอ่ ีก

ท่าทางจากไปโดยไม่หนั กลับของมูช่ ิงเกอ ทําลายภาพ


อันสวยงามในใจเมือครูข่ องฉินจินห้าว แววตาเขาเคร่ง
ขรึม ไม่รูว้ า่ กําลังคิดอะไรอยู่

ป๋ ายซีเยวียก้าวเนิบๆ ไปอยูข่ า้ งๆ ฉินจินห้าว ชุดขาวปลิว


ไหว พูดอย่างนิมนวลว่า “ซีเยวียรบกวนรุย่ อ๋องแล้ว”

หญิงสาวสดงดงามราวกับสายนํายืนอยูต่ รงหน้าและ
รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นดังกิงหลิวของนางนันก็ทาํ ให้ฉินจิน
ห้าวลืมความผิดปกติของมูช่ ิงเกอไปชัวขณะ ยกมือขึน
ประคองป๋ ายซีเยวีย

91
สัมผัสเนียนลืนทีเข้าสูฝ่ ่ ามือ ท่าทางสันๆ ราวกับสัตว์
น้อยขีตกใจ ทําให้ฉินจินห้าวใจสัน สายตาทีเย็นชาพลัน
มีความรูส้ กึ แปลกๆ บางอย่างเกิดขึน

ตอนนี ป๋ ายซีเยวียเองก็รูส้ กึ จิตใจไม่สงบแล้ว

นางอยากเข้าใกล้ผสู้ งู ส่งเทียมฟ้าอย่างรุย่ อ๋องก็จริงอยู่


แต่วา่ ก็มีโอกาสน้อยนักทีจะได้พบกับเขา ยิงไม่ตอ้ งพูด
ถึงว่าการสัมผัสผิวกายกันแบบตอนนี ทันใดนันแก้มขาว
ผ่องของนางก็แดงเรือราวกับดอกเถาแรกแย้ม ยิงเพิม
ความน่าดึงดูดให้นางหลายส่วน

92
................

หอเด็ดบุปผา ทีมัวสุมไม่อนั ดับหนึงก็อนั ดับสองของลัวตู

และเป็ นหนึงในทีทีมูช่ ิงเกอเคยแสดงเป็ นจอมเสเพล


และคูห่ ขู องเธอ ก็คือเจ้าอ้วนเซ่าทีใบหน้าเต็มไปด้วย
ความโหดเ**◌้ยมและกําลังตามหลังเธอมาในตอนนี

ช่วงเวลาทีอยูก่ บั เจ้าอ้วนเซ่านัน มูช่ ิงเกอก็ไม่ได้เล่าอะไร


มากนัก บอกแค่สนๆ
ั ว่าทังสองเพือทีจะแย่งชิงความเป็ น
ใหญ่ในหอเด็ดบุปผาจึงต่อยตีกนั หลังจากทีตีกนั ยก
ใหญ่ หากไม่ตอ่ ยตีก็ไม่รูจ้ กั จากนันก็กลายเป็ นเพือนกิน
ทีมีอดุ มการณ์เดียวกัน

93
เซ่าเย่เจ๋อ แม้จะเป็ นลูกชายของผูบ้ งั คับบัญชาทหาร แต่
ความสามารถก็ไม่เท่าไร วนเวียนอยูใ่ นขันแรกของชัน
พลังสีแดง ตระกูลเซ่าก็ไม่ได้มีลกู ชายแค่คนเดียว จึงไม่
ได้ตงความหวั
ั งกับเขามากนัก ปล่อยให้เขาก่อความ
วุน่ วายข้างนอกได้ตามสบาย

ยังไงเสีย หากไม่ได้ก่อเรืองใหญ่โตอะไรมากนัก ก็ปล่อย


เลยตามเลย

แต่วา่ แม้วา่ เจ้าอ้วนเซ่าจะมีพรสวรรค์ไม่ถงึ แต่เมือเทียบ


กับคนไร้คา่ อย่างมูช่ ิงเกอแล้ว อย่างน้อยเขายังสามารถ
ฝึ กเวทพลังได้มิใช่หรือ?

94
ภายใต้การนําทางของแม่เล้า ทังสองคนก็เข้าไปในห้องที
เต็มไปด้วยกลินแป้งฉุน และตกแต่งอย่างฉูดฉาด

พอแม่เล้าหอบเงินเดินออกไป เจ้าอ้วนเซ่าก็รบี ถอด


รองเท้าแล้วขึนไปบนเตียงทันที ดึงรูปวาดรูปหนึงบนผนัง
ออก เอาอุปกรณ์ทีเตรียมไว้ตงแต่
ั แรกเสียบเข้าไปในรู
ของผนัง

มูเ่ กอมองเขาทําทุกอย่างอย่างชํานาญเงียบๆ แล้วขมวด


คิวพูดเสียงเบากับวิญญาณของมูช่ ิงเกอว่า “ไม่คิดเลย
ว่าเธอจะเสพอะไรแบบนีด้วย”

95
“แคว้นฉินมีกฎว่าผูช้ ายทียังไม่บรรลุนิติภาวะห้าม
ประพฤติผิดในกาม ไม่วา่ จะเป็ นผูใ้ ดผูฝ้ ่ าฝื นจะต้องรับ
ทัณฑ์เฆียนตี เป็ นเพราะอยากให้ประชาชนมีสมาธิ
ฝึ กฝนพลัง นับประสาอะไรกับทีตัวข้านันเป็ นหญิง ของ
แบบนีพวกเราไม่สามารถไปสัมผัสด้วยตัวเองได้ เพือไม่
ให้เสือมเสียชือเสียงจอมเสเพล เจ้าอ้วนก็เลยคิดวิธีนีขึน
มา” มูช่ ิงเกอตอบอย่างไม่รูส้ กึ รูส้ า

เหอะ น่าสนใจ กินยากระตุน้ ได้แต่หา้ มมีอะไรไป


มากกว่านัน กฎนีคือจะทรมานคนหรือว่าจะฆ่าคนกัน
แน่? มูเ่ กอแอบคิดในใจ

“แฮ่กๆ.......”เจ้าอ้วนเซ่าส่งเสียงอันน่าขนลุกและชอบใจ
ออกมา
96
มูเ่ กอมองไป เห็นหน้าอ้วนเหมือนหมูนนแดงมาก
ั ดวงตา
หรีเล็ก เหมือนสัตว์กาํ ลังร้องหาคู่ หูแนบอยูก่ บั ท่อนไผ่ที
ติดกับผนัง ตกอยูใ่ นความฝันของสิงทีเกิดขึนทังหมดข้าง
ห้อง

สักพัก เจ้าอ้วนเซ่าก็ตืนจากความฝันเห็นว่ามูเ่ กอยังคง


นังอยูอ่ ีกด้านจึงรีบเรียก “ลูกพี นิงอยูท่ าํ ไม ข้างห้อง
กําลังมันต่อเนืองเลย”

เมือเจอกับคําชวนของเจ้าอ้วนเซ่า มูเ่ กอกระตุกมุมปาก


ท่าทางไม่สนใจจริงๆ

97
เธอไม่ได้อาย ชาติทีแล้วภาพอะไรบ้างทีเธอยังไม่เคย
เห็น เธอไม่ใช่ทหารทีอยูแ่ ต่ในกฏระเบียบอันเคร่งครัด
ภารกิจทีต้องทําส่วนมากเป็ นภารกิจลับอย่าว่าแต่แอบ
ฟั งเลย เธอเคยเห็นภาพพวกนีกับตา

“โอ้ย ไม่ไหว เร้าอารมณ์เกินไปแล้ว ข้าไม่ไหวแล้ว เดียว


มานะลูกพี” เจ้าอ้วนเซ่าทิงท่อนไผ่ลงตรงอกของมูเ่ ก
อ พุง่ ออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

ส่วนจะไปทําอะไรนัน..................

อืม มูเ่ กอเข้าใจวัยรุน่ ผูช้ ายดี ว่าถ้าฮอร์โมนขึนหัวก็ตอ้ งมี


ปฏิกิรยิ าเป็ นธรรมดา

98
ไม่นานนัก เจ้าอ้วนเซ่าก็กลับเข้ามาในห้องอย่างสันๆ
เห็นมูเ่ กอยังคงนังอยู่ ก็ไม่ไปแอบฟั งต่อ แต่นงลงตรง

ข้ามเธอ เติมนําชาในแก้วของทังสอง

“ลูกพี วันนันเกิดอะไรขึนกันแน่ ทําไมตอนทีข้ามาถึงก็ได้


ยินพวกเขาบอกว่าลูกพีโกรธจัดจนหุนหันจากไปแล้ว ไอ้
เจ้าเหอเฉิงหน้าตากระหยิมยิมย่องมาก จากนันก็ได้ข่าว
ว่าลูกพีพาองครักษ์ออกจากลัวตูไปลัวรือ” เจ้าอ้วนเซ่า
ถามอย่างจริงจัง

วันนันทีเจ้าอ้วนเซ่าพูด มูเ่ กอรูด้ ีวา่ วันไหน เรืองราวทัง


หมดมูช่ ิงเกอก็เคยบอกเธอไปแล้ว ตอนนี เธอก็แค่เล่า

99
เรืองทังหมดทีเกิดขึน

ปั ง!

“เหอเฉิงกล้าว่าลูกพีแบบนีเลยหรือ! ไป เราไปจัดการมัน
กัน วันนันข้าไอ้อว้ นไม่อยูแ่ ต่วนั นีจะช่วยให้ลกู พีได้แก้
แค้น” มูเ่ กอเพิงพูดจบ เจ้าอ้วนเซ่าก็ตบโต๊ะยืนขึนด้วย
ความโมโห

พูดแล้วก็ดงึ แขนเสือของมูเ่ กอจะออกจากหอเด็ดบุปผา

มูเ่ กอหลบการดึงแขนเสือได้ทนั พูดนิงๆ ว่า “ท่านปู่ ขา้


จับเหอเฉิงขังเอาไว้แล้ว เมือสักครูร่ ุย่ อ๋องก็มาขอตัวเขา
100
จากข้า”

เจ้าอ้วนเซ่าฟั งแล้วรีบเดินกลับมาถาม “ลูกพี ลูกพีคงจะ


ไม่ฟังคําขอร้องของรุย่ อ๋องปล่อยไอ้เจ้านันไปแบบนีนะ”

“แน่นอนว่าไม่” มูเ่ กอแสยะยิม ทันใดนันดวงหน้าอันงด


งามก็พลันเปลียนเป็ นโหดเ**◌้ยม

ความโหดเ**◌้ยมนันทําให้เจ้าอ้วนเซ่าเห็นแล้วขนลุก แต่
ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก และตบหน้าอกตัวเองรับรองว่า “ลูก
พี ลูกพีพูดมาเลยว่าจะจัดการไอ้นนยั
ั งไง แม้วา่ จะต้อง
แหวกฟ้า ไอ้อว้ นก็จะไปทํากับลูกพี”

101
มูเ่ กอหยุดสายตาทีเจ้าอ้วนเซ่า สักพัก หลังจากทีมองจน
ขนของฝ่ ายหลังลุกชันแทบทังตัวแล้วนัน เธอก็หวั เราะ
ขึนมา “เจ้าอ้วนเซ่า เจ้านีถือเป็ นยอดคน”

102
ตอนที 16 ไม่สมบูรณ์ ร่างกายทีเต็มไปด้วยบาดแผล

ตระกูลเหอ มีรุย่ อ๋องเป็ นทีพึง

และเสด็จแม่ของรุย่ อ๋องเจียงกุย้ เฟยก็เป็ นพระสนมทีได้


รับความโปรดปรานจากองค์ฮ่องเต้มากทีสุดในตอนนี
แม้วา่ รุย่ อ๋องจะไม่ใช่รชั ทายาท แต่ฮ่องเต้กลับรักและ
103
โปรดปรานเขามากกว่ารัชทายาทเสียอีก

ขอแค่องค์ฮ่องเต้ยงั อยู่ ใครจะได้เป็ นรัชทายาทก็ยงั ไม่แน่

แม้วา่ พ่อของเจ้าอ้วนเซ่าจะเป็ นผูบ้ งั คับบัญชา แต่ก็ยาก


ทีจะต่อกรกับตระกูลเหอ เกียวกับเรืองเหอเฉิง ตระกูลเห
อไม่กล้าทําอะไรตระกูลมู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่
กล้าเอาตระกูลเซ่ามาเป็ นแพะรับบาป

เหตุผลข้อนี มูเ่ กอเชือว่าเจ้าอ้วนเซ่าดูไม่ออก

แต่วา่ เขากลับยืนอยูข่ า้ งเดียวกับเธออย่างเด็ดเดียว


เพราะฉะนันเธอจึงบอกว่าเขาก็เป็ นยอดคนๆ หนึง
104
“ เจ้าอ้วน สังเด็กรับใช้ของเจ้าให้ไปทีจวนตระกูลมู”่ มูเ่ ก
อหรีตาพูดกับเจ้าอ้วนเซ่า ตอนออกจากบ้านเธอไม่ได้พา
ใครมาด้วยแม้แต่คนเดียว ตอนนีก็เพิงจะมารูส้ กึ ว่าไม่
สะดวกเอาเสียเลย

เจ้าอ้วนเซ่ากลอกตาไปมา ไม่ได้ถามอะไรมาก พยักหน้า


ให้มเู่ กอ แล้วหันหลังเดินออกไป

เหอเฉิงถูกมูซ่ งขังไว้ทีจวนตระกูลมู่ แต่มซู่ งกลับไม่ได้ทาํ


อะไรมัน เพราะว่าเหอเฉิงยังเป็ นเด็ก ด้วยฐานะของมูซ่ ง
แล้ว แค่จบั มันกลับมาก็ทาํ ให้ผคู้ นวิพากษ์วิจารณ์มาก
พอแล้ว

105
“ฆ่ามันไม่ได้ แต่ก็ยงั สามารถเล่นกับมันได้นี รุย่ อ๋องต้อง
การคน ข้าก็ให้ได้ ข้าใจกว้างพอ!” มูเ่ กอทีพิงอยูบ่ นพนัก
เก้าอี หรีตาลงในดวงตามีประกายเย็นชาวาบผ่านแล้ว
หายไปอย่างไร้รอ่ งรอย มุมปากกลับยกยิมเจิดจ้า

หลังจากทีเจ้าอ้วนสังให้เด็กรับใช้ไปทําตามคําสังแล้ว ก็
กลับมาทีห้อง พอเห็นมูเ่ กอทีกําลังแสยะยิมเย็นออกมา
พอดี ไขมันทัวร่างก็สนขึ
ั นมาโดยไม่รูต้ วั

เจ้าอ้วนเซ่าดืมนําไปคําหนึง ย่อเอวลงถามเสียงเบา “ลูก


พีเราจะทํายังไงต่อ?”

106
“ไปเรียกแม่เล้ามาให้ขา้ อย่างอืนเจ้าก็ไม่ตอ้ งสนใจแล้ว”
มูเ่ กอสัง

ใครจะรู ้ เจ้าอ้วนเซ่ายังคงจ้องมูเ่ กอตาเขม็ง ยืดตัวตรง


แล้วแย้งขึนว่า “ได้ยงั ไง ก็ตกลงกันแล้วว่าข้ากับลูกพีจะ
สังสอนไอ้สารเลวเหอเฉิงด้วยกันยังไงเล่า”

มูเ่ กอมองเขา แล้วยกมือตบไหล่ทีเต็มไปด้วยเนือของเขา


ทีหนึง "นําใจของเจ้าข้ารับเอาไว้แล้ว แต่เรืองของข้า ข้า
ต้องจัดการเอง เจ้าก็ดอู ยูห่ า่ งๆ เถอะ” เจ้าอ้วนเซ่าไม่
สนใจตระกูลเซ่าของตนเลือกมาอยูข่ า้ งเธอ แต่วา่ เธอไม่
อาจดึงให้พีน้องมาลําบากด้วยกันได้

107
“ลูกพี ลูกพีดูถกู ข้าใช่ไหม” เจ้าอ้วนเซ่ากําหมัดแน่น
หายใจฮึดฮัด

มูเ่ กอหัวเราะ แฝงแววขีเล่น “เจ้าคิดว่า แค่เจ้าคนไม่


สําคัญนัน คูค่ วรให้เราสองพีน้องลงมือรึ?”

เจ้าอ้วนเซ่าพูดอะไรไม่ออก

สักพักเขาถึงออกไปหาแม่เล้าอย่างจํายอม

ไม่วา่ สิงทีมูเ่ กอพูดจะจริงหรือไม่ เขาก็ยอมแพ้แล้ว

แต่วา่ หลังจากทีเขาออกประตูไป ก็แอบสูดจมูก เขาไม่


108
ใช่คนโง่ แน่นอนว่าจะต้องสัมผัสได้ถงึ ความเป็ นห่วงใน
คําพูดของมูเ่ กอ

ตระกูลเซ่าจะลําบากเพราะเขาไม่ได้

เขาก้มหน้าลงมองนิวอันอ้วนสันของตนเอง กลางฝ่ ามือ


มีแสงสีแดงผุดขึนมาจางๆ แต่ไรมา เขา เจ้าอ้วนเซ่าไม่
เคยเห็นว่าการฝึ กเวทพลังมันจะมีดีทีตรงไหน เรืองใหญ่
ทีสุดในชีวิตคนควรจะเป็ นการดืมกินหาความสําราญ
ต่างหาก

แต่วา่ วันนี เป็ นครังแรกทีเขารูส้ กึ ว่าตนเองอ่อนแอ ไร้


สามารถ พีน้องมีปัญหา เขาไม่เพียงแต่ช่วยไม่ได้แต่ยงั

109
ต้องยืนอยูข่ า้ งหลังให้พีน้องคอยปกป้อง

นีมันช่างน่าอายบัดซบจริงๆ!

เจ้าอ้วนเซ่ากําหมัดด้วยความโมโห กัดฟั นแน่น แล้วเดิน


ไปหาแม่เล้า

...............

ณ ตระกูลมู่ เหอเฉิงเดินออกมาจากด้านใน ถ่มนําลาย


ใส่หน้าจวนกตระกูลมูท่ นั ที

แววตามีความดูแคลนและโกรธแค้นอย่างชัดเจน “จวน
110
ตระกูลมูข่ ีหมาอะไร กล้าทําแบบนีกับข้า ตอนนีก็ตอ้ ง
ปล่อยนายท่านอย่างข้าออกมาแต่โดยดีไม่ใช่ร?ึ มูช่ ิงเก
อ เจ้าคนไร้คา่ วิปริตรักเพศเดียวกัน ค่อยก่อนเถอะ
หลายวันทีข้าโดนขังเอาไว้ในนี ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน!”

หลังจากระบายความเเค้นทังหมดในใจออกไป เหอเฉิงก็
จงใจสะบัดแขนเสือด้วยท่าทางงามสง่า เงยหน้ายืดอก
ท่าทางลําพองใจ ค่อยๆ เดินออกจากอาณาเขตของจวน
มูไ่ ป

จวนตระกูลเหอเองก็อยูใ่ นเขตเมืองชันใน เหมือนกับจวน


ตระกูลมู่ แต่วา่ ห่างกันค่อนข้างไกล สภาพแวดล้อมและ
พืนทีรอบๆ ไม่อาจนํามาเทียบกันได้เลย

111
เลียวอีกตรอกหนึง ก็จะเห็นประตูจวนตระกูลเหอแล้ว

ระหว่างทาง เหอเฉิงเอาแต่คิดว่าจะแก้แค้นมูช่ ิงเกออ


ย่างไร และนึกถึงร่างกายอันนุ่มลืนเนียนละเอียดของ
สาวใช้อนุ่ เตียงของตน

ทันใดนัน ก็มีเงาสีดาํ ทอดลงมาจากฟ้า ปกคลุมตัวเขาไว้


ในทันที

ยังไม่ทนั ทีเขาจะดินรน ก็รูส้ กึ เจ็บตรงท้ายทอย จากนันก็


สลบไป

112
รอจนเหอเฉิงค่อยๆ รูส้ กึ ตัวก็รูว้ า่ ตนเองเหมือนถูกมัดอยู่
ในกระสอบข้าวสาร

“อือๆๆๆๆ-------”

ใครกล้ามัดนายท่านอย่างข้า!

เสียงอันย่อหยิงทีออกมาจากปาก กลับกลายเป็ นเพียง


เสียงอูอ้ ีทีฟั งได้ไม่ชดั เจน

ตอนนี เหอเฉิงเพิงรูต้ วั ว่าปากของตนเองนันถูกถุงเท้า


เหม็นๆ ยัดอยู่ ทังแขนและขาก็ถกู มัด ไม่สามารถขยับได้
เลย
113
“อือ---------! อือๆ-------” ในใจเหอเฉิงเริมกังวล ตาทีเล็ก
เท่าเม็ดถัวเขียวเบิกโต

ตอนนี นอกถุงข้าวสารมีเสียงทีเขาคุน้ เคยมากเสียงหนึง


ดังขึน---------

“ฟั งให้ดีนะ วันนี ข้าจะมาสอนวิธีเล่นของเล่นชินใหม่ให้


แก่พวกเจ้า ใครเล่นได้ดีทีสุด ข้าจะมีรางวัลให้”

จากนันก็มีเสียงฮือฮาดังขึนมา

มู่ ชิง เกอ!


114
ความรูส้ กึ เคียดแค้นอันเข้มข้นของเหอเฉิงสะท้อนออก
มาทางแววตา

ไอ้ไร้คา่ นันกลับกล้ามัดตัวเขาไว้ ถ้าเขาออกไปได้เมือไหร่


จะให้รุย่ อ๋องคิดบัญชีกบั ไอ้ไร้คา่ นีให้สาสม !

เสียดายทีความโกรธแค้นในใจของเหอเฉิงนันคนข้าง
นอกไม่ได้รบั รูด้ ว้ ย

บทสนทนา ยังคงดังอย่างต่อเนือง

“ตายแล้ว~! คุณชาย กระสอบใหญ่ขนาดนี ดูก็รูว้ า่ ต้อง


115
หนักมากแน่ๆ พีสาวน้องสาวทังหลายต่างก็มีเท้าอัน
บอบบาง จะเตะไหวได้อย่างไร” เสียงใสๆ เสียงหนึงดัง
ขึนมา ทังออดอ้อนและยัวยวน

สินเสียงของนาง ก็มีเสียงเห็นด้วยจํานวนมากดังขึน

มูเ่ กอยกมือขึน หยุดเสียงของสาวๆ พวกนัน แล้วเชยคาง


ของหญิงนางโลมคนหนึงขึนมา พูดอย่างองอาจว่า
“เพราะฉะนันข้าถึงอนุญาตให้พวกเจ้าใช้มือผลัก ใช้เท้า
เตะได้ แต่หากยังไม่ขยับอีก จะใช้ไม้ขา้ ก็อนุญาต” พูด
จบเธอก็ยมอย่
ิ างโหดเ**◌้ยม ทําให้ใบหน้าอันงดงาม
ของเธอนันดูเปี ยมเสน่หเ์ กินผูใ้ ด

116
“สามารถใช้ไม้ได้!” หญิงนางโลมคนหนึงพูดอย่างชอบ
ใจ

มูเ่ กอพยักหน้า ริมฝี ปากเย้ายวนได้รูปรับเหล้าทีหญิง


นางโลมส่งมาให้ หลังจากทีดืมเข้าไปแล้ว ก็เอาปากกัด
จอกเหล้าไว้แล้วสะบัดจอกลงพืน จนจอกเหล้าแตก
กระจาย

ท่าทางอันน่าดึงดูดนี ทําให้นางโลมจํานวนไม่นอ้ ยร้อง


ออกมาอย่างเขินอาย

“มา ข้าจะเป็ นกรรมการด้วยตัวเอง ดูวา่ คะแนนใครสูงที


สุด” มูเ่ กออ้าปากพูดพร้อมโอบกอดนางโลมทีงามเย้า

117
ยวนดังดอกไม้สองคนข้างกาย กําชับกับทุกคน

พอเธอสังให้เริม สวนด้านหลังของหอเด็ดบุปผาก็เต็มไป
ด้วยเสียงร้องเล่นอย่างสนุกสนานดังขึนทันที

นางโลมของหอเด็ดบุปผาทีไม่ได้รบั แขก ต่างก็ถกู เรียก


ให้มารวมตัวกันทีนี เพือร่วมออกกําลังกายเพือสุขภาพ
กายใจทีแข็งแรง-----------อเมริกนั ฟุตบอล!

ด้วยแรงของเหล่านางโลมแล้วไม่อาจทําให้เหอเฉิงทีอยู่
ในกระสอบข้าวเคลือนทีได้เลย เพราะฉะนันแทบจะทุก
คนจึงถือไม้เข้าไปร่วม

118
แข่งกันมาตังนาน เหอเฉิงก็ไม่ขยับเขยือนแม้แต่นิด ไม้
พวกนันไม่รูว้ า่ ฟาดลงมาแรงๆ ไปกีทีแล้ว

มูเ่ กอหรีตานังมองฉากตรงหน้าแล้วหัวเราะ เห็นเหล่า


นางโลมใช้แรงสุดแรงเกิดในการชูไม้ขนแล้
ึ วฟาดลงไป
บนกระสอบข้าวสาร ฟาดไปก็บน่ ไปว่าคนในกระสอบ
ข้าวสารหนักเกินไป

ท่าทางทีเหล่านางโลมพยายามทําตามกฎ ทําให้มเู่ ก
ออารมณ์ดีมากนางโลมในอ้อมกอดก็ยืนเหล้าให้เขาดืม
อีกครัง

เหอเฉิงในกระสอบข้าวสาร โดนนางโลมพวกนีฟาดอย่าง

119
น่าสงสาร ความโกรธแค้นในใจทีมีตอ่ มูช่ ิงเกอนันมีมาก
จนยากทีจะอธิบาย

ร่างกายทีเจ็บระบมไปทัวทําให้เขาทังหวาดกลัวและ
เคียดแค้น กัดฟั นแน่นหวังว่าจะทนผ่านเคราะห์รา้ ยครัง
นีไปให้ได้ แล้วคราวหน้าค่อยหาโอกาสแก้แค้น

แต่เขาไม่รูว้ า่ สิงทีมูช่ ิงเกอเตรียมให้เขานันไม่ได้มีเพียง


แค่นี

สุดท้าย เหอเฉิงก็ถกู ฟาดจนสลบไปอีกครัง

พอเขารูส้ กึ ตัวอีกครังตัวเขาก็ได้ออกจากกระสอบข้าว
120
สารแล้ว ตอนนีร่างของเขานอนอยูบ่ นเตียงในห้องทีไม่
คุน้ เคยห้องหนึง

เพราะเจ็บไปหมดทังตัวทําให้เหอเฉิงสูดปาก ส่วนทีไม่
โดนฟาดเหลือแค่ช่องว่างบริเวณดวงตาเท่านันทียังดีอยู่
เขากวาดตามองรอบๆ กลับเห็นว่าข้างมือของตนนันมี
กระจกอยูบ่ านหนึง

ไม่ทนั ได้คิดว่าตัวเองมาอยูท่ ีนีได้อย่างไร ทําไมถึงมี


กระจกบานหนึงวางอยูข่ า้ งตนเอง เหอเฉิงก็หยิบกระจก
บานนันขึนมาสองหน้าตัวเอง

“อ้ากกก-------!” เสียงร้องก้องอยูภ่ ายในห้อง

121
เหอเฉิงมองหัวหมูในกระจกและรอยเขียวชําบนตัว แทบ
จะเสียสติ นีคือเขาหรือ? คือเขาทีหน้าตาหล่อเหลาสง่า
งามคนนันน่ะรึ?

“นายท่าน ท่านตืนแล้วหรือ หากว่าตืนแล้วพวกข้าจะเข้า


ไปปรนนิบตั ิทา่ น” ตอนนีข้างนอกมีเสียงทีไม่มีทีมาทีไป
ดังขึน

ไม่ทนั ทีเหอเฉิงจะตอบก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาอ่อนโยน
คนหนึงพาชายหน้าตาอัปลักษณ์รา่ กายกํายําสองคน
เดินเข้ามา

122
ชายหน้าตาอ่อนโยนทีเดินนําหน้าเข้ามา สวมเพียงชุด
คลุมตัวยาวไม่มีกระดุมตัวเดียว สองคนทีเดินตามเขา
เข้ามานอกจากผ้าเตียวแล้วก็ไม่มีอะไรปกปิ ดร่างกาย
เลย

ใต้ผืนผ้า เจ้าสิงนันเห็นเป็ นรูปร่างทีน่าเกลียดน่ากลัว

เหอเฉิงเบิกตากว้าง ความหวาดกลัวทีก่อนหน้านีไม่เคย
มีก่อตัวขึนในจิตใจของเขา เขากอดขาทังสองข้างของตัว
เองไว้แล้วตะคอกราวกับหญิงสาวทีโดนข่มเหง “พวกเจ้า
จะทําอะไร? อย่าเข้ามานะ! ข้าเป็ นคนตระกูลเหอและ
เป็ นคนของรุย่ อ๋องนะ!”

123
เสียดายทีทังสามคนทําราวกับไม่ใส่ใจ ยังคงเดินเข้าหา
เขา

หนึงในนัน แสยะยิมออกมา นัยน์ตากลอกไปมา แอบคิด


ในใจ: ทีคุณชายพูดไว้ไม่มีผิด หลังจากทีคนๆ นีตืนขึน
มา ก็จะพูดจาเหลวไหลไปเรือย ท่าทางแบบนียังจะกล้า
แอบอ้างถึงรุย่ อ๋อง”

“นายท่าน พวกบ่าวแค่จะเข้ามาปรนนิบตั ิทา่ นเท่านัน


เอง!" ชายหนุ่มสะบัดผงขาวในมือ ชีหน้าหนุ่มร่างใหญ่
สองคนแล้วสังการว่า” ฟั งข้าให้ดี นายท่านผูน้ ีเป็ นแขก
คนสําคัญ แสดงความสามารถทังหมดของพวกเจ้าออก
มา ดูแลปรนนิบตั ิให้ดี หากนายท่านไม่พอใจ พวกเจ้าจง
ระวังตัวไว้ให้ดี”
124
พูดจบเขาก็เดินออกไป ทิงชายหนุ่มร่างใหญ่สองคนทีดูมี
เรียวเเรงมหาศาล ทีตอนนีใบหน้าเริมเเดงขึนเอาไว้

“เจ้า........เจ้าจะทําอะไร? ไสหัวไป ข้าบอกให้ไสหัวออก


ไปให้หมด!” เหอเฉิง ร้องด้วยความกลัว

แต่กลับไม่มีประโยชนอะไรแม้แต่นอ้ ย

“อ้าาา---------!”

“พวกแก ไอ้พวก.....เลว..... ”

125
“อุก่ ...... อุก่ ........... ”

เสียงของเหอเฉิงถูกกลบ ม่านทีกันอยูร่ อบๆ เริมสันไหว


เบาๆ และทันใดนันไม่ทนั มีใครได้คาดคิด ม่านพวกนันก็
พลันปลดลง

ห้องทีถูกปิ ดตายในตอนแรก พลันกลายเป็ นศาลาโล่ง


แจ้งทีไม่มีอะไรกําบังในทันที

รอบๆ ศาลา มีคนใหญ่คนโตผูส้ งู ศักดิรวมทังบรรดาขุน


นางของลัวตูนงอยู
ั เ่ ต็มไปหมด

126
เมือเห็นภาพโสมมตรงหน้า ทุกคนพลันเงียบสงบไม่สง่
เสียงแม้แต่คาํ เดียว แต่ละคนเบิกตาโตจ้องมองภาพร่วม
รักในศาลา

สิงทีน่าตืนตะลึงยิงกว่านัน ก็คือ สามคนทีกอดรัดกันเป็ น


ก้อนกลมนัน เป็ นผูช้ ายทังหมด!

ภาพทีเห็นตรงหน้ามันช่างกระตุน้ อารมณ์เกินไปแล้ว ลูก


ชายข้าต้องสงบจิตสงบใจสักพัก

คืนนีพวกเขามางานประมูลคืนแรกของนางโลมแห่งหอ
เด็ดบุปผาไม่ใช่หรือ?

127
ทําไมถึงได้เจอฉากปลุกเร้าอารมณ์แบบนีได้เล่า นีเป็ น
การแสดงเปิ ดงานทีหอเด็ดบุปผาจัดขึนเพือเรียกนําย่อย
งันรึ?

“เอ้ะ? หนึงในนันดูคล้ายเหอเฉิงบุตรชายตระกูลเหอมาก
เลยนะ”

ท่ามกลางผูค้ น คนทีมูเ่ กอจ้างไว้ตะโกนขึนมาอย่างทัน


ท่วงที ทันใดนัน สายตาคาดเดาต่างก็ตกลงบนร่างชาย
หนุ่มสามคนนัน

“ไสหัวไป!” เหอเฉิงทีหมดหวังในทีสุดก็ระเบิดขึน

128
แสงสีแดงเข้มสาดประกายออกจากตัวเขาทําให้ชายสอง
คนทีคร่อมทับเขาไว้กระเด็นออกไป

ตอนนี เขาจึงเพิงรูต้ วั ว่าตนเองอยูท่ ีไหน และรอบด้านยัง


เต็มไปด้วยกลุม่ คนทีนังอยู่

“คุณชายเหอจริงๆ ด้วย”

ตูม-------!

สายตาของเหอเฉิงระเบิดความเคียดแค้นและอัปยศ
อดสูออกมา เขาไม่สนใจร่างกายทีเปลือยเปล่าต่อสาย
ตาผูค้ น สายตาทีเต็มไปด้วยความแค้นสบเข้ากับสายตา
129
ทีเย็นชาไร้ความรูส้ กึ ท่ามกลางกลุม่ คนคูน่ นั

มูเ่ กอทีนังดูละครท่ามกลางผูค้ นสบตากับเหอเฉิงอย่าง


ไม่เกรงกลัว ยกเหล้าในมือขึนคาราวะ ยิมน้อยๆ แล้วดืม
มันลงไป.........

‘เหอเฉิง ของขวัญชินนีทีข้าให้เจ้า เจ้าชอบหรือไม่เล่า ไม่


ต้องรีบ บัญชีระหว่างเราสองนันค่อยๆ คิดกันไป’

130
ตอนที 17 สัญญาการแต่งงานตระกูลมู่ องค์หญิงฉาง
เล่อ

131
เหอเฉิงเดือดดาลนัก!

เพราะเเม้วา่ เขาจะหลบอยูแ่ ต่ในบ้าน แต่เสียงหัวเราะ


เยาะและสายตาอุจาดลามกของผูค้ นยังคงวนเวียนอยู่
ในหัวไม่หยุด

เขายังไม่ตาย แต่วา่ ถ้าตายได้คงดีกว่านี

หากเป็ นเมือก่อน เหตุผลทีเขาคิดไม่ซือกับมูช่ ิงเกอก็


เพราะรุย่ อ๋อง แต่ตอนนีระหว่างเขาและมูช่ ิงเกอนันกลาย
เป็ นศัตรูกนั อย่างแท้จริงแล้ว!

ในใจเขาคิดแต่เรืองทีจะแก้แค้น แต่วา่ มูเ่ กอสนใจหรือ?


132
สวนสระเมฆา จวนตระกูลมู่

“เจ้าอํามหิตจริงๆ” ร่างอันโปร่งแสงของมูช่ ิงเกอลอยอยู่


ข้างตัวมูเ่ กอ ในแววตาเต็มไปด้วยความเลือมใส

นางยอมรับว่าถ้าเป็ นนางจัดการกับเหอเฉิงเอง อย่าง


มากก็แค่ทาํ ร้ายร่างกายเพือระบายความโกรธเกลียดใน
ใจ แต่ถา้ ถึงขันทําให้แขนขาขาดคงทําไม่ได้ เพราะนาง
เป็ นห่วงตระกูลมู่ ไม่อยากให้ทา่ นปู่ ตอ้ งได้รบั ความเดือด
ร้อนจากอํานาจมืด

แต่มเู่ กอล่ะ ตอนแรกเธอแกล้งปล่อยตัวเหอเฉิงไปอย่าง

133
เปิ ดเผย จากนันให้คนไปคุมตัวเขามาอีกครัง

จากนัน ก็ยืมมือผูท้ ีตําต้อยทีสุดในสังคมมาจัดการกับเห


อเฉิงอย่างสาสม ไม่ใช่แค่ทาํ ร้ายร่างกาย แต่ทาํ ให้อบั
อายและทําลายชือเสียง หลังจากนีหากรุย่ อ๋องยังต้อง
การจะใช้เขาอีก ก็คงจะต้องโดนคํานินทาจากภายนอก
ตามมาอีกมากมาย

เสียทีพึงใหญ่อย่างรุย่ อ๋องไป ตระกูลเหอสูญเสียความ


โปรดปราน การล่มสลายก็คงขึนอยูก่ บั เวลาแล้ว

คําพูดของมูช่ ิงเกอไม่ได้ทาํ ให้มเู่ กอรูส้ กึ อะไร เธอแค่ยมๆ



สายตายังคงเย็นชา

134
เธอมีคาํ คมอยูค่ าํ หนึง แต่ไม่เคยบอกใครมาก่อนเพราะ
ว่าเธอทําทุกอย่างตามตรรกะนีมาโดยตลอด---------

ผูอ้ ืนไม่ระรานข้า ข้าก็ไม่ระรานผูอ้ ืน แต่หากผูอ้ ืนระราน


ข้า ข้าก็จะถอนรากมันให้ถงึ โคน!

เพราะฉะนันเป้าหมายตังแต่แรกของเธอไม่ได้มีแค่เห
อเฉิงเพียงคนเดียวแต่เป็ นตระกูลเหอทังตระกูลรวมถึงรุย่
อ๋องเองก็เป็ นหนึงในคนทีเธอต้องการจะแก้แค้น

แม้วา่ ตอนนีจะยังไม่มีหลักฐานมายืนยันว่ารุย่ อ๋องมีสว่ น


เกียวข้องกับเรืองนี แต่จิตใต้สาํ นึกของเธอกําลังบอกเธอ

135
ว่ารุย่ อ๋องเองก็คงไม่ธรรมดา

แววตามูเ่ กอสาดประกาย เก็บซ่อนอารมณ์ในแววตา

เธอนังอยูบ่ นเก้าอีโยก โยกเก้าอีไปมา มองมูช่ ิงเกอแล้ว


พูดว่า “แม้วา่ เจ้าจะไม่สามารถฝึ กฝนเวทพลังได้แต่ก็คง
จะรูเ้ คล็ดวิชาในการฝึ กอยูบ่ า้ งใช่ไหม?”

มูช่ ิงเกอพยักหน้า “แน่นอน เมือก่อนท่านปู่ ไม่ยอมเชือ


ว่าข้าเป็ นผูไ้ ร้พลัง จึงให้ขา้ เรียนเคล็ดวิชาในการฝึ ก แต่
น่าเสียดายทีร่างกายของข้าก็ยงั คงไม่สามารถรวบรวม
พลังจิตพวกนันเอาไว้ได้”

136
“ลองท่องมาสิ” มูเ่ กอพูดหน้านิง

หลายวันมานี เธอเข้าใจแล้วว่าในแผ่นดินแห่งนี เคล็ด


วิชาการฝึ กจิตเพือเข้าสูช่ นพลั
ั งนันต่างกันไม่มาก
ประลองกับคนในระดับเดียวกัน สิงทีแตกต่างกันก็คือ
ทักษะการสงคราม และทักษะนีจะต้องเข้าสูช่ นพลั
ั งสี
เหลืองก่อนจึงจะสามารถฝึ กได้ เพราะฉะนัน สําหรับ
ทักษะนีมูเ่ กอยังไม่รบี

ตอนนีเธออยากรูโ้ ดยด่วนว่า ร่างกายทีได้รบั การเปลียน


แปลงดีเอ็นเอของเธอนันจะสามารถฝึ กเวทพลังของโลก
นีได้หรือเปล่า

137
มูช่ ิงเกอมองหน้าเธอ คงคิดว่าเธออาจจะยังไม่ยอมแพ้
อยากจะลองฝึ กดูอีกครัง จึงไม่ได้พดู อะไรมาก ท่องเคล็ด
วิชาทีจําได้ขนใจออกมา
ึ “ควบคุมจิตใจ ดึงปราณเข้าสู่
ร่าง..........”

เคล็ดวิชาไม่ยาวมาก แต่ก็ลกึ ซึงจนยากทีจะเข้าใจ

ท่องเคล็ดวิชาในใจวนไปวนมา ฉวยโอกาสทีอากาศดีลม
พัดเย็นสบาย มูเ่ กอจึงอยากจะเริมลองฝึ กตอนนีเลย

แต่ทว่ายังไม่ทนั จะได้ลงมือ ฮวาเยวียก็วงเข้


ิ ามาบอกเธอ
ว่า “คุณชาย นายท่านผูเ้ ฒ่าให้คนมาตามคุณชายไปพบ
ทีห้องหนังสือเจ้าค่ะ”

138
การฝึ กฝนถูกขัดจังหวะทําให้มเู่ กอสีหน้าขรึมลง

แต่พอรูว้ า่ มูซ่ งเป็ นคนให้มาตาม เธอก็ทาํ ได้แค่ลกุ จาก


เก้าอีโยกแล้วเดินนําฮวาเยวียไปยังห้องหนังสือของมูซ่ ง

พอมาถึงหน้าห้องหนังสือ มูเ่ กอก็สงฮวาเยวี


ั ยให้รออยู่
ข้างนอก แล้วเคาะประตูเดินเข้าไปเพียงลําพัง

พอเข้าไปในห้องมูเ่ กอจึงเห็นว่าในนันไม่ได้มีแค่มซู่ งเท่า


นันแต่มเู่ หลียนหรงเองก็อยูด่ ว้ ย

“ไอ้เด็กบ้า คราวนีเจ้าทําได้ดีมาก!” ทันทีทีเห็นมูเ่ กอเดิน


139
เข้ามา มูเ่ หลียนหรงก็เดินเข้ามาต่อยไหล่เธอแรงๆ หนึง
หมัด แต่วา่ หมัดนันเป็ นเพียงแค่แรงของตัวเธอเองไม่ได้
ใช้กาํ ลังภายในแต่อย่างใด

“ท่านอา เจ็บ” ถึงจะเป็ นอย่างนัน มูเ่ กอก็แกล้งลูบหัว


ไหล่ อ้อนอย่างน่าเอ็นดู

ทีเธอทําท่าทางเสแสร้งเช่นนีสาเหตุหลักๆ เป็ นเพราะเธอ


ไม่อยากให้ตนเองดูเปลียนไปมากนัก เพราะจะทําให้คน
ในบ้านเกิดความสงสัยได้ เรืองทีว่ามูช่ ิงเกอตายไปแล้ว
และเธอยืมร่างนางเพือมาคืนชีพนี เกรงว่าคงไม่ใช่เรือง
ราวทีใครจะสามารถยอมรับได้ง่ายๆ

140
“เสแสร้งอะไรกัน อาลงมือรูจ้ กั แยกแยะน่า จะตีเจ้าจริง
ได้อย่างไร?” ขณะทีพูดมือก็ยืนไปนวดหัวไหล่ของมูเ่ กอ

“พอได้แล้ว สองอาหลานเลิกทะเลาะกันได้แล้ว เข้าเรือง


สําคัญเถอะ” มูซ่ งพูดขัดจังหวะแต่ในแววตาไม่ได้ดเู ข้ม
งวดอะไร

มูเ่ กอรูส้ กึ ตัว ดึงเก้าอีในห้องหนังสือมาตัวหนึงแล้วนังลง

มูเ่ หลียนหรงก็กลับไปนังทีเดิม มองมูเ่ กอด้วยความห่วย


ใย

ห้องหนังสือเงียบลงในทันที สักพักเสียงของมูซ่ งก็ดงั ขึน


141
“เจ้าเด็กบ้านี เพิงกลับมาแค่วนั เดียวก็ก่อเรืองใหญ่โต
ขนาดนีแล้ว แต่วา่ ก็ถือเสียว่าเป็ นการสังสอนเจ้าสารเลว
ตระกูลเหอนัน”

ทีแท้ก็พดู เรืองของเหอเฉิง มูเ่ กอรูอ้ ยูแ่ ก่ใจจึงไม่ได้พดู


อะไร

“แต่ปไู่ ม่เข้าใจ ในเมือเจ้าปล่อยมันไปแล้ว แล้วจับมัน


กลับมาใหม่ ทําไมถึงยังให้มนั รูว้ า่ เจ้าเป็ นคนทําอีกเล่า”
มูซ่ งพูดจบก็มองมูเ่ กอด้วยความสงสัย

ในขณะทีในสายตาของมูเ่ หลียนหรงเองก็เต็มไปด้วยคํา
ถามเช่นกัน

142
มูเ่ กอยิม “หลานปล่อยเหอเฉิงไปโดยไม่มีสว่ นใด
บุบสลายเป็ นเรืองทีทุกคนต่างก็รบั รูก้ นั ทัว แต่เรืองที
หลานจับตัวมันกลับมา มีหลักฐานงันหรือ?” ตังแต่ตน้
จนจบ นางโลมพวกนันไม่รูว้ า่ คนในกระสอบข้าวสารก็
คือเหอเฉิง และผูช้ ายสามคนนันจะแยกแยะได้อย่างไร
ว่าคนทีถูกอัดเสียจนหน้าบวมเหมือนหัวหมูจะเป็ นคุณ
ชายแห่งตระกูลเหอ? แค่อาศัยคําพูดปากเปล่าของเขา
ใครเล่าจะเชือ

“ไม่มีหลักฐานว่าหลานเป็ นคนทํา แต่หลานจะทําให้มนั รู ้


ว่าหลานเป็ นคนทํา ทีมันต้องมาตกอยูใ่ นสภาพนี ก็
เพราะว่ามันทําหลานก่อน หลานจะทําให้มนั ทรมานแต่
ก็พดู อะไรไม่ได้ ความทุกข์ครังนีทนไม่ได้ก็ตอ้ งทน!” พูด

143
จบแววตาทีใสกระจ่างก็ฉายแววโหดเ**◌้ยม

ถึงเธอจะทําให้เหอเฉิงโมโหจนตาย แต่แล้วจะอย่างไร
เล่า? เมือเทียบกับวิญญาณของทหารกล้าทัง 500 นาย
นันแล้วบทลงโทษนียังถือว่าเบาเกินไปเสียด้วยซํา

ความโหดเ**◌้ยมทีพุง่ ผ่านตัวมูเ่ กอออกมา ทําให้


มูซ่ งและมูเ่ หลียนหรงนิงอึง แต่พวกเขาก็ไม่ได้รูส้ กึ ว่ามัน
แปลกประหลาดแต่อย่างใด เหมือนว่า การเป็ นคนตระกู
ลมู่ ก็ควรเป็ นแบบนีถูกแล้ว

มูซ่ งพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ความเปลียนแปลงของมูช่ ิง


เกอสามารถทําให้เขาสงบใจลงได้บา้ ง บางทีเคราะห์

144
กรรมทีเขาประสบในครังนี คงจะทําให้เขาโตขึนแล้ว
จริงๆ

“เกอเอ๋อร์ เรืองของเหอเฉิงก็ช่างมันเถอะ แต่ทางรุย่ อ๋อง


แม้วา่ ตระกูลเราไม่ควรจะไปใกล้ชิดสนิมสนมกับเขามาก
นัก แต่ก็ไม่อาจล่วงเกินเขาได้ อย่างไรเสีย เจ้าก็ยงั มี
สัญญาการแต่งงานติดตัวอยู”่ จู่ๆ มูซ่ งก็พดู ขึนมา

“สัญญาการแต่งงาน!? สัญญาการแต่งงานอะไร!” มู่


เกอตกใจ เหมือนใต้เก้าอีมีเข็มทิมแทงจนเธอเกือบจะ
กระโดดขึนมา

มูซ่ งจ้องหน้าเธอ มูเ่ หลียนหรงถามด้วยความสงสัย

145
“ทําไม? ออกจากบ้านไปไม่กีวันกลับมาก็ลืมเสียแล้ว
หรือว่าตัวเองมีคหู่ มายอยูแ่ ล้ว? แม้วา่ ข้ากับท่านปู่ ของ
เจ้าจะไม่ยินดีกบั การแต่งงานครังนี แต่นีเป็ นสมรสทีองค์
ฮ่องเต้ทรงประทานให้ ให้องค์หญิงแต่งออก องค์หญิงผู้
เพียบพร้อมทีสุดในแคว้นฉินของเราคูก่ บั จอมเสเพล
อย่างเจ้า ก็นบั ว่าเป็ นบุญวาสนาของเจ้าแล้ว”

คูห่ มาย ! องค์หญิง !

มูเ่ กอลืมตาโตราวกับได้รบั การกระทบกระเทือนใจสุดขีด

สักพัก มูซ่ งพูดอีกว่า “องค์หญิงฉางเล่อเป็ นพีน้อง


ฝาแฝดกับรุย่ อ๋อง นับๆ ดูแล้วในอนาคตรุย่ อ๋องก็จะเป็ น

146
พีภรรยาของเจ้า ฉะนันต่อจากนีไปปู่ ไม่อยากได้ยินคํา
นินทาเสียๆ หายๆเกียวกับเจ้าและรุย่ อ๋องอีก แน่นอนว่า
แม้วา่ ในอนาคตตระกูลเรากับรุย่ อ๋องจะกลายเป็ นญาติ
กัน ปู่ ก็ไม่อยากให้เจ้าต้องถูกดึงเข้าไปเกียวข้องกับวังวน
การแก่งแย่งชิงดีกนั พวกนัน ปู่ เองก็อายุมากแล้ว ตระกูล
เราก็เหลือแค่เราสามคน ท่านอาของเจ้าก็สาบานว่าจะ
ไม่แต่งงานตลอดชีวิต ปู่ หา้ มนางไม่ได้ แต่เจ้าจะต้องเชือ
ฟั งคําของปู่ เลิกนิสยั ไม่ดีพวกนันเสีย แล้วมีชีวิตอยูต่ อ่
ไปอย่างปลอดภัย สืบทอดสายเลือดตระกูลมู"่

".........." มูเ่ กอฟั งแล้ว ตาโตค้างพูดอะไรไม่ออก

สายตาของเธอหยุดอยูท่ ีร่างอันโปร่งแสงของมูช่ ิงเก


อ ทันใดนันเธอก็รูส้ กึ ตัวเองต้องซวยเพราะผีตนหนึงเข้า
147
เสียแล้ว

148
ตอนที 18 เจียงกุย้ เฟย แผนร้ายของสองแม่ลกู

กลางดึก ณ พระราชวังแคว้นฉิน

ภายในกําแพงวังอันสูงตระหง่าน สิงทีซ่อนตัวอยูค่ ือ
ความงดงามแห่งราชวังขององค์ฮ่องเต้แคว้นฉิน

ตําหนักฟ่ งหยี เป็ นตําหนักประทับของพระสนมทีเป็ นที


โปรดปรานขององค์ฮ่องเต้ ตําหนักของเจียงกุย้ เฟย แค่
149
ฟั งชือตําหนักก็สามารถคาดเดาได้ถงึ ฐานะของนางใน
พระราชวังแห่งนี (ฟ่ ง หมายถึง นกฟิ นิกซ์ หรือหงส์ไฟ ซึง
ในจีนจะถือว่าหงส์เป็ นสัตว์สงู ส่งคูก่ บั มังกร หงส์จงึ ถูก
นํามาใช้เป็ นตัวแทนของ ฮองเฮา)

หนําซํา นางยังเป็ นมารดาบังเกิดเกล้าของรุย่ อ๋องฉินจิน


ห้าวอีกด้วย

สาวใช้ในตําหนักต่างช่วยกันจุดไฟ สลายความมืดใน
ยามคําคืน

วันนี วันที 1 ตามปฏิทินสุรยิ คติของจีนคือวันพระ

150
วังหลังของแคว้นฉินมีกฎว่า ทุกวันที 1 และวันที 15 ของ
ทุกเดือน ฮ่องเต้ตอ้ งประทับอยูใ่ นตําหนักของฮองเฮา
เพราะฉะนันคืนนีตําหนักฟ่ งหยีจงึ ดูเงียบเหงา

ภายในตําหนักอันงดงาม มีผา้ ม่านโปร่งบางปกคลุมอยู่


ทัวตําหนัก

หนึงหญิงผูส้ งู ศักดิ สวมอาภรณ์ทีสวยงามหรูหรา แต่บน


ศีรษะกลับไร้ซงเครื
ึ องประดับ ราวกับว่าพระนางพร้อมที
จะเข้าบรรทมแล้ว แต่กลับถูกเรียกให้ออกมาอย่าง
กะทันหัน

“ออกไปให้หมด” พอมาถึงหลังม่าน หญิงผูส้ งู ศักดิก็ใช้

151
นําเสียงหยิงยโสเอ่ยสังนางกํานัลเฝ้าตําหนักซ้ายขวาทัง
คู่

นางกํานัลต่างก็โค้งคํานับและถอยออกไปตามคําสัง ใน
ตําหนักอันโอ่อา่ เหลือเพียงเงาร่างสง่างามเย้ายวนทียืน
อยูห่ ลังม่าน และเงาของร่างสูงใหญ่ทียืนอยูห่ น้าม่าน
เท่านัน

“มากลางดึกกลางดืนแบบนี มีเรืองด่วนอะไรหรือ?”
เสียงของหญิงนางนันดังขึนอีกครัง ถามเงาร่างสูงใหญ่
อย่างเป็ นธรรมชาติ

เงาสูงใหญ่นนั สวมชุดสีดาํ สนิทตลอดทังร่าง เผยให้เห็น

152
รูปร่างกํายําได้อย่างชัดเจน แม้วา่ จะยืนอยูเ่ พียงลําพัง
แต่ก็ยากจะปิ ดบังความโดดเด่นสง่างาม เมือได้ยินคํา
ถาม เขาก็โค้งคํานับแสดงความเคารพแล้วพูดว่า “เสด็จ
แม่ เหอเฉิงกลับไปแล้ว แต่วา่ .....” เขาเล่าเรืองทุกอย่างที
เกิดขึนทีหอเด็ดบุปผาให้นางฟั งคร่าวๆ

พอเขาเล่าจบ มือขาวเนียนละเอียดข้างหนึงก็ยืนออกมา
จากหลังม่าน ดึงม่านออกเบาๆ แล้วค่อยๆ ก้าวออกมา

แสงเทียนส่องกระทบลงบนร่างนัน เห็นเพียงใบหน้าอัน
งดงามหยาดเยิมของนาง กริยาท่าทีเย้ายวน งามเฉิดฉัน
ดังดอกไม้ แต่ก็ออ่ นโยนดุจสายนํา ทุกท่าทางของนางดู
งามสง่า ยัวยวนชวนให้หลงใหล

153
แต่แววตานันซ่อนแฝงไว้ดว้ ยความหยิงยโส ท่าทางสูงส่ง
ยากจะเข้าถึง

นางก็คือนางสนมทีฮ่องเต้โปรดปรานมากทีสุดในตอนนี
นามว่าเจียงกุย้ เฟย และเป็ นพระมารดาของรุย่ อ๋องฉิน
จินห้าวและองค์หญิงฉางเล่อ

สายตาเย็นชาของเจียงกุย้ เฟยมองลูกชายด้วยความเข้ม
งวด ลูกชายเป็ นความภาคภูมิใจของนาง ถ้าเทียบกับลูก
ชายของนังแพศยานันแล้ว นางรูส้ กึ ว่าลูกชายของตนเอง
เหมาะทีจะเป็ นรัชทายาทมากกว่าเสียอีก

154
แต่น่าเสียดายทีต้องเรียงตามลําดับอาวุโสและเพราะ
ฐานะทีแตกต่างกัน แม้วา่ นางจะได้รบั ความโปรดปราน
มากเพียงไหน ก็ไม่อาจเปลียนความจริงทีว่าลูกชายของ
นางเป็ นเพียงลูกของภรรยาน้อยไปได้

“ห้าวเอ๋อร์ ครังนีลูกประมาทเกินไปแล้ว” เจียงกุย้ เฟย


ตําหนิ

ฉินจินห้าวทีหยิงยโสเย็นชาต่อหน้าทุกคน ในตอนนีกลับ
ไม่กล้าแก้ตวั สักคําเพราะว่าในใจของเขา เสด็จแม่คือ
สตรีทีเก่งกล้าเหนือบุรุษ วิธีการแต่ละอย่างชวนให้คน
เลือมใส

155
เจียงกุย้ เฟยลูบปอยผมตัวเองแล้วพูดขึน “ทีลูกมาคืนนี
คงจะมาบอกแม่ให้ทิงหมากตระกูลเหอเม็ดนีไปสินะ”

ฉินจินห้าวไม่ได้ปฏิเสธ “พะยะค่ะ เสด็จแม่ ตอนนีเหอเฉิ


งกลายเป็ นตัวตลกในลัวตูไปแล้ว หากลูกยังใช้เขาต่อไป
เกรงว่าจะทําให้ชือเสียงต้องแปดเปื อน อีกอย่างเพราะเห
อเฉิงเองก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร เรืองแค่เล็กน้อยก็
ยังทําพลาด”

ในนําเสียงของฉินจินห้าวนันเต็มไปด้วยความโกรธและ
ไม่พอใจ ซึงทุกอย่างไม่สามารถเล็ดรอดไปจากสายตา
ของเจียงกุย้ เฟยได้

156
สีหน้าของเจียงกุย้ เฟยเปลียนไป “ทีลูกพูดถึง ก็คือเรืองที
ให้เหอเฉิงไปสังสอนมูช่ ิงเกอแห่งตระกูลมูใ่ ช่ไหม”

ฉินจินห้าวเงียบ

เห็นลูกชายผู้ เก่งกล้าเก็บอารมณ์ไม่อยูแ่ บบนี ทําให้


เจียงกุย้ เฟยโกรธมาก นางเดินลงมาตามขันบันได มา
หยุดอยูข่ า้ งๆ “ฉินจินห้าว ข้าบอกเจ้ากีครังแล้วว่าให้อด
ทน ให้นกึ ถึงงานใหญ่เข้าไว้ แต่เจ้ากลับแอบส่งเหอเฉิง
ไปทําให้มชู่ ิงเกอต้องอับอาย จนเขาต้องไปพบกับ
อันตราย ครังนีถ้าไม่ใช่องครักษ์ของเขาช่วยไว้ เขาอาจ
จะตายไปแล้ว และถ้าเขาตาย เรืองทังหมดทีเราวางแผน
ไว้ก็จะได้รบั ผลกระทบไปหมด ยังมีมซู่ งอีก ใครจะรูว้ า่
เขาจะทําอะไรออกมาบ้าง”
157
ฉินจินห้าวถูกตําหนิจนสีหน้าเริมดูไม่ดี แต่ก็ยงั อดไม่ได้ที
จะแก้ตา่ งให้ตนเอง “ลูกทนสายตาทีมูช่ ิงเกอมองลูกแบบ
นันไม่ไหวจริงๆ เสด็จแม่ หรือว่าเสด็จแม่ไม่รูว้ า่ ตอนนีใน
หมูป่ ระชาชนมีข่าวลือของลูกกับเขาว่าดูใกล้ชิดสนิท
สนมกัน เป็ นพวกมีใจรักชอบเพศเดียวกัน ลูกจะทนเรือง
แบบนีได้อย่างไร อีกอย่างถ้าเสด็จพ่อทรงเชือข่าวลือ
พวกนัน มันก็จะไม่เป็ นผลดีตอ่ แผนการใหญ่อนาคตของ
ลูกด้วย ทีลูกให้เหอเฉิงจัดการ ตอนแรกก็แค่อยากจะสัง
สอนเขาให้เขาได้อาย ให้เขาหยุดเสียที ใครจะรูว้ า่ เขาจะ
วิงไปหาความตายถึงลัวรือ อีกอย่างพอรูเ้ บาะแสของเขา
เพือแสดงถึงความเป็ นห่วง ลูกก็ไปตามหาเขาทีลัวรือ
พร้อมกับมูซ่ งแล้วนีพะยะค่ะ”

158
“เหลวไหล! เจ้าช่างเหลวไหลจริงๆ! แค่สายตาของมูช่ ิง
เกอเจ้าก็ทนไม่ได้แล้วจะทําการใหญ่สาํ เร็จได้อย่างไร?!
หากมูช่ ิงเกอไม่รูจ้ กั แยกแยะเพศ หลงรักเจ้าขึนมาจริงๆ
ก็ถือเป็ นเรืองน่ายินดีสาํ หรับเจ้าไม่ใช่ร?ึ ” เจียงกุย้ เฟยอด
ไม่ได้ทีจะชีช่องทางให้คนตรงหน้า

“เสด็จแม่!” ฉินจินห้าวตกใจ

เห็นเขายังไม่เข้าใจอะไรเลย เจียงกุย้ เฟยถึงกับส่ายหน้า


แล้วถอนหายใจ “ลูกอย่าลืมว่ามูช่ ิงเกอเป็ นน้องเขยใน
นามของลูก ตอนแรกแม่ให้ลกู เข้าใกล้เขา เพือหาโอกาส
ตีสนิท และทังหมดก็เพือฉางเล่อ ฉางเล่อเป็ นน้องสาว
แท้ๆ ของลูก กลับถูกไทเฮาสังให้แต่งงานกับมูช่ ิงเกอ ที
เป็ นแค่คนไร้คา่ แม้วา่ เขาจะหน้าตาหล่อเหลาเป็ นหนึง
159
เพียงใด แต่จะคูค่ วรกับลูกสาวของแม่ได้อย่างไร แต่วา่ นี
เป็ นคําสังของไทเฮา ขนาดฮ่องเต้เองก็ไม่อาจขัดพระ
บัญชาได้ เราก็ทาํ ได้แค่ทน แต่ถงึ แม้จะเป็ นอย่างนัน แต่
เราก็ตอ้ งทําให้มชู่ ิงเกอมีคา่ ขึนมา ให้เขามาเป็ นเครือง
มือของเรา มูช่ ิงเกอเป็ นหลานชายสายตรงเพียงคนเดียว
ของมูซ่ ง ถ้าลูกสามารถทําให้เขามาเป็ นพวกเดียวกับเรา
ได้ จะเป็ นผลดีตอ่ สิงทีลูกจะทําในอนาคต อีกอย่าง ยิง
เพราะมีความสัมพันธ์กบั ฉางเล่อ ก็จะไม่มีใครกล้าพูดได้
ว่าลูกแอบวางแผนเพือจะดึงเอาทายาทของตระกูลทีมี
เส้นสายเพือมาเพิมกําลังให้กบั ตนเองอย่างลับๆ แต่ลกู
กลับ......”

สีหน้าของฉินจินห้าวทีถูกตําหนิดเู ปลียนไป เอ่ยอย่างขอ


ลุแก่โทษว่า “เสด็จแม่......”

160
เหตุผลพวกนีไม่ใช่วา่ เขาไม่เข้าใจ แต่วา่ เสด็จแม่ไม่รูว้ า่
ความอึดอัดจากการทีต้องใกล้ชิดมูช่ ิงเกอ แล้วต้องทํา
เป็ นฝื นยิมแกล้งทําตัวเป็ นคนอ่อนโยนนันมันทรมาน
ขนาดไหน

เป็ นแค่คนไร้คา่ และเป็ นจอมเสเพลทีไร้ประโยชน์ เจ้าคน


ชอบไม้ป่าเดียวกันน่ารังเกียจ ทําไมเขาต้องไปเสียเวลา
เข้าใกล้คนแบบนันด้วย แค่คิดก็ทาํ ให้เขารูส้ กึ ขยะแขยง
จนกินอะไรไม่ลงแล้ว

ในตระกูลมู่ ถ้าเปลียนเป็ นใครอีกคนทีมาหลงรักเขาแบบ


นีล่ะก็……อย่างเช่นเป็ นป๋ ายซีเยวีย ทีอาศัยอยูใ่ นจวน

161
ตระกูลมูน่ างนัน

ผิวพรรณขาวเนียนนุ่ม เงาร่างอันบอบบางพลันโผล่เข้า
มาในหัว ทําให้ฉินจินห้าวตกอยูใ่ นภวังค์

“ห้าวเอ๋อร์ ห้าวเอ๋อร์?”

เสียงไม่พอใจของเจียงกุย้ เฟยดึงสติของฉินจินห้าวกลับ
มา

ตอนทีเขาสบตากับนาง ก็ได้ยินการอบรมสังสอนอย่าง
เข้มงวด “ลูกคิดอะไรอยู?่ แม่คยุ กับลูกอยู่ ลูกกลับ
เหม่อ? ถ้าจิตใจลุกไม่อยูก่ บั เนือกับตัวแบบนี ดูแล้ว
162
เหมือนว่าลูกจะไม่อยากดําเนินแผนการขันต่อไปแล้ว
เรืองของตระกูลมูค่ รังนี สิงทีลูกทําทําให้แม่ผิดหวังจริงๆ
เพือให้ลกู จําเรืองนีให้ขนใจ
ึ และต่อไปจะได้รูจ้ กั ควบคุม
ตัวเอง แม่ขอลงโทษลูกด้วยการกักบริเวณ 10 วัน ใน 10
วันนี ลูกต้องอยูแ่ ต่ในตําหนักรุย่ อ๋อง ศึกษาแผนและ
กลยุทธ์ทางการทหาร เรืองตระกูลเหอก็คงต้องหยุดไป
ก่อน รอให้ข่าวลือเงียบไปลูกค่อยไปปลอบใจตระกูลเห
อ ลูกยังไม่ได้ขนนั
ึ งบัลลังก์ หากไปตัดขาดตระกูลเห
อแบบนัน เกรงว่าจะทําให้ใครต่อใครไม่พอใจ พอเถอะ
แม่เหนือยแล้ว ลูกกลับไปก่อนเถอะ”

ฉินจิวห้าวเดินออกจากตําหนักฟ่ งหยีดว้ ยสีหน้าไม่คอ่ ยดี


นัก

163
หลายปี ทีผ่านมา เขาไม่เคยได้รบั คําติเตือนทีรุนแรง
ขนาดนีมาก่อนเลย!

เป็ นเพราะมูช่ ิงเกอคนเดียว!

หลังจากโทษทุกอย่างว่าเป็ นความผิดของคนทีตน
เกลียดแล้ว ใบหน้าอันหล่อเหลาของฉินจินห้าวก็ยงั คงดู
บูดเบียวอยูเ่ ล็กน้อย มือทีซ่อนอยูใ่ นแขนเสือกําแน่นเป็ น
หมัด

‘จะต้องมีสกั วัน ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย เพือล้างความอัปยศ


อดสูทีเจ้านํามาให้ขา้ !’

164
ตอนที 19 ร่างกายทีเปลียนไป เชิญเธอเข้าวัง

165
สวนสระเมฆา ตระกูลมู่

ฟ้าค่อยๆ สว่าง ช่วงรอยต่อระหว่างความมืดและแสง


สว่าง ปรากฏแสงสีสม้ อมแดงทีเริมส่องประกาย

มูเ่ กอทีนังขัดสมาธิฝึกเวทพลังอยูบ่ นเตียงลืมตาทังสอง


ข้างขึนแล้วถอนหายใจออกมา

เมือลืมตาขึน ก็สบตาเข้ากับร่างโปร่งแสงทีลอยอยูห่ า่ ง
จากเธอไปไม่ถงึ 3 ฉือ

166
“เจ้าฝึ กฝนพลังได้แล้ว!” นําเสียงเต็มไปด้วยความดีใจ
บวกกับท่าทางทีตืนเต้น

เป็ นครังแรกทีมูเ่ กอเห็นมูช่ ิงเกอมีอารมณ์ทีหลากหลาย


แบบนี

“ได้แล้วหรือ ทีแท้ความรูส้ กึ ทีเหมือนมีอะไรพุง่ เข้ามาใน


ทุกส่วนของร่างกายแบบนัน เป็ นผลจากการทีดึงพลังเข้า
ไปในตัวหรือ” เทียบกับความดีใจและไม่อยากจะเชือ
ของมูช่ ิงเกอแล้ว มูเ่ กอดูนิงมาก

มูเ่ กอไม่ได้อธิบายให้มชู่ ิงเกอหายข้องใจ เธอก้มหน้าลง


ค่อยๆ คิดย้อนไปถึงความรูส้ กึ จากการฝึ กเวทพลังเมือ

167
คืน

เมือคืน หลังจากทีกลับจากห้องหนังสือของมูซ่ ง เธอก็สงั


ให้โย่วเหอและฮวาเยวียออกไป หลังจากนัน เธอถึงมี
เวลาฝึ กเวทพลังตามทีมูช่ ิงเกอบอก

เริมแรก เธอไม่ได้รูส้ กึ อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

ราวกับว่า เป็ นเพราะวิญญาณของเธอเป็ นวิญญาณของ


คนในยุคปั จจุบนั จึงไม่อาจรับรูไ้ ด้ถงึ เคล็ดในการฝึ กเวท
พลังของคนยุคโบราณ

แต่วา่ ตอนทีเธอพยายามท่องเคล็ดวิชานันในใจซําไปมา
168
สงงบจิตใจของตนเองลง เธอก็รูส้ กึ เเปลกๆ ราวกับว่าเธอ
สามารถสัมผัสได้วา่ รอบๆ ตัวเธอมีอะไรบางอย่างทีส่อง
ประกายแววววาว เต็มไปด้วยพลังจํานวนมากวนเวียน
ไปมาอยูร่ อบๆ ตัว แสงพวกนันไม่สามารถจับต้องได้ แต่
ราวกับว่ามันโดนเรียก ให้วิงเข้าสูผ้ ิวหนังทุกส่วนของตัว
เธอ และไหลเวียนไปตามเส้นเลือด

ความรูส้ กึ อบอุน่ ค่อยๆ พุง่ ขึนมาจากก้นบึงของจิตใจ

ความรูส้ กึ แบบนีเหมือนอยูเ่ พียงแค่ครูเ่ ดียวเท่านัน พอ


เธอหลุดจากความรูส้ กึ แบบนัน เธอก็ลืมตาขึน คําว่าชัว
ครูห่ นึงของตัวเธอ ในความเป็ นจริงแล้ว มันคือทังคืน

169
“ดูเหมือนว่า ยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอนีจะไม่ทาํ ให้ขา้ ผิด
หวัง” มูเ่ กอพึมพํา ไม่วา่ อย่างไร เธอก็สามารถฝึ กฝนพลัง
ได้แล้ว มิใช่หรือ?

เมือสามารถฝึ กพลังได้แล้ว เธอจะค่อยๆ ทําให้คนบาง


คนรูว้ า่ อะไรทีเรียกว่า คนไร้คา่ !

นึกถึงอันตรายรอบด้านทีตระกูลมูต่ อ้ งเผชิญ และเธอก็


ถูกดึงเข้าไปอยูใ่ นนันด้วย มูเ่ กอก็ยมอย่
ิ างเยือกเย็น

“เจ้าทําอย่างไร? เหตุใดจึงฝึ กได้” มูช่ ิงเกอคิดย้อนไปถึง


ร่างกายในอดีตของนาง ในสายตาเต็มไปด้วยความ
สับสน

170
ถ้าเกิดปาฏิหาริยแ์ บบนีขึนตอนนางยังมีชีวิตอยู่ บางที
ทุกอย่างก็อาจจะไม่เป็ นเช่นนีก็ได้

มูเ่ กอเหลือบมองนาง ลุกขึนปั ดชุดผ้าไหมสีแดงดังเปลว


เพลิงของตนเอง พูดอย่างเรียบเฉยว่า “ไม่ได้ทาํ อะไรนี
ไม่แน่วา่ นีอาจจะเป็ นสิงทีฟ้าส่งมาให้เป็ นของขวัญหลัง
การฟื นคืนชีพก็ได้”

มูช่ ิงเกอไม่ได้ติดตามตัวเธออยูต่ ลอดเวลา หรือควรจะ


บอกว่า นางจะปรากฏตัวขึน ในเวลาทีมูเ่ กอต้องการ
เพราะฉะนัน เรืองการเปลียนแปลงดีเอ็นเอ มูช่ ิงเกอไม่รู ้
และมูเ่ กอก็ไม่คิดทีจะบอกด้วย

171
“เจ้าสามารถฝึ กฝนเวทพลังได้แล้ว นีถือว่าเป็ นข่าวดี รีบ
ไปบอกท่านปู่ เร็วเข้า!” จริงๆแล้ว มูช่ ิงเกอก็รูว้ า่ ตอนนีตน
เองเป็ นแค่วิญญาณ แม้วา่ ร่างกายจะสามารถฝึ กเวท
พลังได้แล้ว แต่ก็ไม่เกียวข้องอะไรกับนาง แต่นางเพียง
อยากจะให้มเู่ กอบอกเรืองราวปาฏิหาริยน์ ีให้มซู่ งได้รบั รู ้

บางที อาจเป็ นเพราะการทีร่างกายนางไม่อาจฝึ กเวท


พลังได้ จึงทําให้ภายในจิตใจลึกๆ ของหญิงสาวรูส้ กึ ผิด
ต่อมูซ่ งนัก

แต่วา่ มูเ่ กอกลับส่ายหน้าปฏิเสธ “สถานการณ์ของตระกู


ลมูใ่ นตอนนี เรืองบางเรืองไม่พดู จะดีกว่า” มูเ่ กอยกมือ
ขึนหยุดสิงทีมูช่ ิงเกอกําลังจะพูด สายตากระจ่างใสแต่
172
เย็นชามองไปทีนาง “จะบอกเมือไหร่นนั ข้าจะตัดสินใจ
เอง”

ไม่ใช่วา่ เธอไม่เชือใจมูซ่ ง แต่เรืองนีมีคนรูม้ ากขึน 1 คน ก็


จะต้องเสียงอันตรายมากขึนอีก 1 ส่วน

ในสถานการณ์ทีไม่สามารถปกป้องตัวเองได้แบบนี เธอ
ไม่อยากตกเป็ นเป้าหมายของใคร

ตอนนีเรืองทีตระกูลมูม่ ีผสู้ ืบสกุลทีเป็ นจอมเสเพลไร้คา่ ที


ไม่อาจฝึ กเวทพลังได้อยูน่ นเป็
ั นสิงทีทุกคนคิดว่าเหมาะ
สมดีแล้ว

173
มูช่ ิงเกอเงียบ ในสายตาแฝงด้วยความรูส้ กึ ไม่เห็นด้วย

มูเ่ กอไม่อยากจะสนใจ แต่เลิกคิวถามนางว่า “เจ้าลอง


คิดดูวา่ ยังมีเรืองอะไรอีกทีปิ ดบังข้าอยู่ คิดดูให้ละเอียด
แล้วเรียบเรียงให้ดี จากนันก็คอ่ ยเล่าให้ขา้ ฟั งอย่างไม่มี
ตกหล่น”

เมือคืนตอนทีเธออยูใ่ นห้องหนังสือของมูซ่ ง เรืองของคู่


หมายทําให้เธอตกใจจนแทบจะตังสติไม่ได้

มูเ่ กอใช้นาเสี
ํ ยงแฝงแววข่มขู่ ทําให้รา่ งโปร่งแสงของมูช่ ิง
เกอเสียงสัน นางเม้มปากแน่นแล้วก้มหน้าลง

174
“คุณชายตืนหรือยังเจ้าคะ? มีกงกงจากในวังมาถ่ายทอด
ราชโองการ นายท่านผูเ้ ฒ่าให้บา่ วมาตามท่าน” จู่ๆ
เสียงของโย่วเหอก็ดงั ขึนทีด้านนอกประตู

คนจากในวังมาหรือ?

มูเ่ กอขมวดคิวอย่างแปลกใจ กวาดสายตามองมูช่ ิงเก


อแวบหนึง เปิ ดประตูแล้วเดินออกไป

ฝึ กจิตมาทังคืน เธอไม่เพียงแต่ไม่รูส้ กึ เหน็ดเหนือย แต่


กลับเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

..................
175
เมือมาถึงโถงหลักในเรือนหน้าของตระกูลมูพ่ ร้อมกับโย่ว
เหอ มูเ่ กอก็เห็นขันทีทีมาถ่ายทอดราชโองการจากในวัง

เขานังอยูบ่ นเก้าอีในโถงหลัก มือข้างหนึงประคองม้วน


ผ้าไหมสีเหลือง ส่วนมืออีกข้างก็ใช้นิวกรีดกรายยกชาขึน
ดืม ใบหน้าทาแป้งหนากว่าผูห้ ญิงเสียอีก

เอวทีแค่บิดก็คงจะหักนันรัดไว้ดว้ ยสายรัดเอวทีด้านบน
ปั กด้วยภาพปั กทีหลากหลาย

คนแบบนีมาปรากฏตัวทีจวนตระกูลมู่ ทําให้มเู่ กอรูส้ กึ


เย็นวูบ

176
ทีตําแหน่งประธานมีมซู่ งนังอยูด่ ว้ ย แน่นอนไม่ใช่เพราะ
ว่าตัวกงกงมีอาํ นาจยศศักดิมาก แต่เป็ นเพราะม้วนผ้า
ไหมสีเหลืองในมือเขาต่างหาก

“โอ คุณชายมาแล้ว! ท่านให้ขา้ รอนานมาก”

เสียงทีจงใจดัดให้ฟังดูนิมนวล พลันทําให้มเู่ กอรูส้ กึ ขน


ลุกขนพองทันที ในใจนึกอยากจะอาเจียนอออกมา

‘เจ้าตัวประหลาด! ไปให้ไกลๆ จากข้าเลยนะ!’

มูเ่ กอก็ทาํ หน้านิง ปั ดกลินแป้งทีลอยมาจากใบหน้าเขา


177
แล้วเดินไปหามูซ่ ง

มูซ่ งเห็นปฏิกิรยิ าของหลานชาย ก็แอบหัวเราะแล้วพูดว่า


“หวงกงกง เกอเอ๋อร์ก็มาแล้ว ท่านอ่านราชโองการเถิด
อย่าทําให้เรืองขององค์ฮ่องเต้ตอ้ งล่าช้า”

หวงกงกงเห็นว่ามูเ่ กอหลบเลียงเขาอย่างชัดเจนถึงเพียง
นี ก็ใช้สายตาปั นปึ งมองเธอครูห่ นึง จากนันจึงค่อย
กระแอมไอทีหนึง ก่อนเปิ ดม้วนผ้าไหมสีเหลืองในมือ ชู
คอขึนอ่านเสียงดัง “รับราชโองการ ฝ่ าบาทมีรบั สัง.......
เรียกตัวมูช่ ิงเกอเข้าวัง เป็ นพระกรุณาธิคณ
ุ ยิงแล้ว!”

ระหว่างทีถ่ายทอดคําสังนันสองปู่ หลานไม่คกุ เข่าไม่

178
คารวะ ขันทีผถู้ ่ายทอดราชโองการก็ไม่รูว้ า่ จะพูดอย่างไร

อย่างไรเสีย ทีเขามาก็เพือมาส่งข่าว ไม่ได้มีเรืองใหญ่โต


อะไร อีกอย่างด้วยฐานะของหย่งหนิงกงในแคว้นฉิน แน่
นอนว่าไม่ตอ้ งโขกหัวคํานับ ส่วนคุณชายก็เป็ นจอม
เสเพลหยิงยโสทีมีนายท่านผูเ้ ฒ่าคอยรักและให้ทา้ ย แน่
นอนว่าก็ไม่ตอ้ งทําเช่นกัน

หวงกงกงรูด้ ี ว่าท่าทีของสองปู่ หลานนี แม้วา่ จะไปอยูต่ อ่


หน้าฮ่องเต้ก็คงจะยังเป็ นเหมือนเดิม

เพราะฉะนันก็ทาํ เป็ นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่เสียจะดีกว่า

179
"คุณชาย ท่านเตรียมตัวเสร็จหรือยังขอรับ ถ้าเสร็จแล้ว ก็
ไปพร้อมกับข้าเถิด อย่าทําให้องค์ฮ่องเต้ตอ้ งคอยนาน"
หวงกงกงส่งราชโองการให้แก่มเู่ กอ พูดด้วยใบหน้า
ประจบประแจง

ในมือของมูเ่ กอถือราชโองการสีเหลืองของฮ่องเต้เอาไว้
พึมพําในใจว่า : เข้าวังไปพบฮ่องเต้งนรึ
ั ?

180
ตอนที 20 ไทเฮาทรงเรียกพบ คูห่ มายมาแล้ว

ตําหนักฉือเสียง พระราชวังแคว้นฉิน

181
สถานทีแห่งนีเป็ นทีประทับขององค์ไทเฮา ห่างไกลจาก
ท้องพระโรงและสามวังหกตําหนักของฮ่องเต้

ไทเฮาในตอนนี ซึงก็คือพระมารดาผูใ้ ห้กาํ เนิดฮ่องเต้

หลังจากทีฮ่องเต้ขนครองราชย์
ึ พระนางก็อยูแ่ ต่ในตํา
หนักฉือเสียงน้อยครังนักทีจะออกมา

วันปกติ หากไทเฮาไม่ได้เรียกให้เข้าเฝ้า ไม่วา่ จะเป็ นผูใ้ ด


ก็ยากทีจะเข้าไปในตําหนักฉือเสียงได้ แต่วนั นี ประตูตาํ
หนักฉือเสียงกลับเปิ ดกว้าง ดูทา่ จะต้องมีผใู้ ดมาแน่ๆ

เสียงหัวเราะดังมาจากด้านในตําหนักฉือเสียง
182
เสียงหัวเราะนันมีความน่าเกรงขามด้วยวัยทีมากกว่า ไร้
ซึงความหยิงยโส

แม้จะเป็ นแบบนัน แต่คนทีมาเข้าเฝ้าถวายพระพรก็ไม่มี


ใครกล้าประมาทเจ้าของเสียงนีแม้แต่นอ้ ย กระทังผูท้ ี
องค์ฮ่องเต้โปรดปรานมากทีสุดในตอนนีอย่างเจียงกุย้
เฟยเอง ยามนีก็ทาํ ได้เพียงยิมๆ สังเกตอารมณ์ของผูท้ ี
นังอยูบ่ นทีพระนังอย่างระมัดระวัง

ในตําหนักหลัก นอกจากนางกํานัลแล้ว มีคนอยูไ่ ม่เกิน 4


คน

183
ในนันมีหญิงชราคนหนึงนังอยูบ่ นเก้าอีเจ้าของตําหนัก
แม้วา่ ใบหน้าจะดูชรา แต่ก็ยากทีจะลบเลือนความสง่า
งามเมือครังอดีตไปได้ นางสวมชุดตัวยาวทีทํามาจากผ้า
ไหมเนือดีหรูหรางดงาม ด้ายสีทองปั กเป็ นลวดลายหงส์
ทีเป็ นสัญลักษณ์ของหญิงสูงศักดิในราชวงศ์ บนศีรษะ
กลับไม่ได้ประดับเครืองประดับอะไรมากนัก บนข้อมือ
ซ้ายของนางสวมลูกประคําทีทํามาจากไม้ของต้นโพธิที
แกะสลักออกมาอย่างประณีต

ด้านหลังนาง มีแม่นมชราคนหนึงยืนอยู่ แม่นมผูน้ นใบ



หน้ามีรอยยิมบางๆ ยืนอยูด่ า้ นข้างอย่างสงบ

การยืนแบบนี ทําให้สามารถรับรูไ้ ด้วา่ แม่นมชราทีอยูต่ อ่


หน้าหญิงผูส้ งู ศักดิทีสุดในแคว้นฉิน มีตาํ แหน่งใด
184
ด้านซ้ายขวาของไทเฮา มีหญิงสาวสองนางนังตัวตรง
ด้วยท่าทางเรียบร้อย ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกทีดูคล้าย
กันอยูห่ ลายส่วนของพวกนาง และความห่างกันของอายุ
แล้ว ก็พอจะดูออกว่าพวกนางเป็ นแม่ลกู กัน

แต่วา่ เมือเทียบกับใบหน้าอันเย้ายวนของผูเ้ ป็ นมารดา


แล้ว บนร่างของสาวน้อยผูส้ งู ศักดินางนันมีความเป็ น
กุลสตรีทีมันใจในตัวเอง ดูสงู ส่งและนิงสงบเพิมเข้ามา
ด้วย

“ไทเฮา ท่านทรงอย่าล้อเหยาเอ๋อร์เล่นเลยเพคะ นางยัง


เด็ก หม่อมฉันยังอยากให้นางอยูเ่ ป็ นเพือนหม่อมฉันไป
อีกหลายๆ ปี ” เจียงกุย้ เฟยเอาผ้าเช็ดหน้าทีถือไว้มาปิ ด
185
ปากแล้วหัวเราะเบาๆ ท่าทางออดอ้อน

เกรงว่า ผูท้ ีกล้าเสแสร้งแสดงท่าทางออดอ้อนแบบนีกับ


ไทเฮาต่อหน้าบุตรสาวคงจะมีแต่เจียงกุย้ เฟยผูน้ ีเท่านัน
ทีทําได้

สําหรับการแสดงออกของผูเ้ ป็ นมารดานัน องค์หญิงฉาง


เล่อฉินอีเหยาทีนังอยูข่ า้ งๆ ไม่ได้แสดงความรูส้ กึ อะไร
ออกมามากนัก ใบหน้าสงบนิง ราวกกับว่าผูท้ ีไทเฮาพูด
ถึงเมือครูน่ นไม่
ั ใช่ตวั นางอย่างไรอย่างนัน

ไทเฮานับลูกประคําในมืออย่างเนิบช้า หัวเราะเเล้วต
◌ํ าหนิเจียงกุย้ เฟยว่า “ยังเด็กอะไรกัน? ในแคว้นฉินเรา

186
ผูห้ ญิงอายุ 13 ปี ก็ถงึ วัยปั กปิ น สามารถแต่งงานออก
เรือนได้แล้ว อายุของเหยาเอ๋อร์ปีนีก็ 15 โตเป็ นสาวแล้ว
หากไม่ใช่เพราะว่าต้องรอให้เจ้าหนุ่มตระกูลมูเ่ ข้าพิธี
สวมหมวกเสียก่อน ป่ านนีเจ้าก็คงจะได้อมุ้ หลานแล้ว”

เจียงกุย้ เฟยริมฝี ปากแข็งทือ แอบมองลูกสาวเเวบหนึง


แต่เห็นเพียงนางนังนิงราวกับรูปสลักอันสง่างาม ไม่ได้มี
ท่าทีเขินอายแบบทีหญิงสาวทัวไปพึงมีเมือได้ยินเรือง
แต่งงานของตนเองเลยสักนิด สีหน้าก็เคร่งขรึมลง

ดีทีไทเฮาไม่ได้ทรงสังเกต แต่ตรัสเอาเองว่า “ลองนับวัน


เวลาดูแล้ว เจ้าหนุ่มบ้านตระกูลมูก่ ็ใกล้ถงึ เวลาเข้าพิธี
สวมหมวกแล้วสินะ”

187
คําพูดของพระนาง เหมือนพึมพํากับองค์เอง แต่ก็ราวกับ
กําลังกําลังเอ่ยถาม

แม่นมทีคุน้ ชินกับท่าทางของพระนางแล้ว ค่อยๆ ค้อม


กายลงแล้วพูดเสียงตําว่า “ใช่แล้วเพคะ อีก 1 ปี คุณชาย
ตระกูลมูก่ ็จะเข้าพิธีสวมหมวกแล้ว” ถ้าได้เข้าพิธีสวม
หมวก ก็แสดงว่าโตเป็ นผูใ้ หญ่แล้ว ถ้าอย่างนัน เรืองงาน
มงคลระหว่างตระกูลมูก่ บั ทางราชวงศ์ก็ควรจะเริม
กําหนดวันได้แล้ว

ไทเฮาพยักหน้า ในพระทัยได้มีแผนเอาไว้แล้ว

188
เท่าทีนางเห็น เลือดเนือเชือไขของตระกูลมูก่ ็เหลือพียงมู่
ชิงเกอคนเดียวและมูช่ ิงเกอก็เป็ นแค่พวกเสเพลไม่เอา
ไหน ถ้าให้เขาสืบทอดตระกูลมู่ แน่นอนว่าตระกูลมูจ่ ะ
ต้องจบสินลงอย่างแน่นอน บัดนี ทางราชวงศ์ได้ยกองค์
หญิงผูส้ งู ศักดิให้แต่งเข้าตระกูลมู่ ยังไม่ตอ้ งพูดถึงว่าใน
อนาคตเชือสายของตระกูลมูจ่ ะถูกกลืนด้วยอํานาจของ
ราชวงศ์ ชือเสียงของตระกูลมูเ่ องก็จะดีขนด้
ึ วย แล้วจะ
ลําบากคิดวางแผนจนนํามาซึงการนองเลือดทําไม?

ไทเฮาดําริในใจ มองไปทางฉินอีเหยาทีไม่พดู อะไรสักคํา


ใบหน้าดวงนัน ได้จดุ เด่นของบิดามารดามา ใบหน้างด
งามเปี ยมเสน่หด์ งดอกไม้
ั สวยงามดังเทพธิดา จนได้รบั
การขนานนามว่า งามเป็ นหนึงในปฐพี และสิงทีพิเศษ
กว่านันคือ นางเกิดมาพร้อมกับความสูงศักดิและโดด

189
เด่น ยิงทําให้นางดูน่าดึงดูดยิงกว่าหญิงสาวทัวไป

ยกคนแบบนีให้กบั จอมเสเพลตระกูลมู่ ก็ไม่ถือว่าทําให้


พวกเขาเสียเปรียบแต่อย่างใด

ไทเฮาแอบถอนหายใจ ตรัสกับฉินอีเหยาด้วยความรัก
และเอือเอ็นดูวา่ “เหยาเอ๋อร์ของเรายิงโตก็ยงสวย
ิ เจ้า
เด็กตระกูลมูน่ ีช่างโชคดีจริงๆ เลย”

“เสด็จย่าก็ชมเกินไปเพคะ” เมือโดนไทเฮาระบุชือ ฉินอี


เหยาใบหน้าก็ยงั คงนิงเฉย เพียงตอบไปตามมารยาท
ของวังหลวงเท่านัน

190
นําเสียงตอบแบบพอเป็ นพิธีและเย็นชา ทําให้เจียงกุย้
เฟยเริมกลัวว่าลูกสาวจะทําให้ไทเฮาไม่พอพระทัยและ
อาจทําให้ไทเฮาหาเรืองลงโทษนางได้

ฉะนันนางจึงตําหนิวา่ “เหยาเอ๋อร์ควรต้องตอบไทเฮา
อย่างไร ธรรมเนียมปฏิบตั ิทีแม่สอนเจ้าไป เจ้าลืมหมด
แล้วรึ?”

"เหยาเอ๋อร์ไม่กล้าลืมหรอกเพคะ” ฉินอีเหยาก้มหน้า นํา


เสียงทีตอบกลับยังคงนิงสงบเหมือนเดิม

“พอเถอะ พอเถอะไม่ใช่เรืองใหญ่อะไรเสียหน่อย นิสยั


เย็นชาของหยาเอ๋อร์ ข้าก็ไม่ได้เพิงรูจ้ กั วันนีเสียเมือไร ที

191
เรียกให้พวกเจ้ามาในวันนี เพราะว่าฮ่องเต้ มีรบั สังให้เจ้า
หนุ่มตระกูลมูเ่ ข้าวัง” ไทเฮาพูดพร้อมโบกหัตถ์ไปมา

เจียงกุย้ เฟยได้ยินแล้วนิงอึง แอบคิดในใจ : ฮ่องเต้มีคาํ


สังให้มชู่ ิงเกอเข้ามาในวัง ทําไมนางถึงไม่รูข้ ่าวอะไรเลย

และฉินอีเหยาทีทําท่าทางเย็นชาไม่รูส้ กึ รูส้ าราวกับเป็ น


คนนอกก็มีปฏิกิรยิ าขึนมาในทันที ขนตางอนยาวงอน
ราวกับปี กผีเสือสันระริกเบาๆ

ยังไม่ทนั ทีเจียงกุย้ เฟยจะเอ่ยอะไร ไทฮาก็ตรัสต่อว่า “ข้า


ให้คนไปเรียกเจ้าหนุ่มตระกูลมูม่ าแล้ว ได้ข่าวว่าช่วงที
ผ่านมาเจ้าหนุ่มนันต้องประสบกับความทุกข์ยากมาไม่

192
น้อย พวกเจ้าทังสอง คนหนึงเป็ นแม่ยายในอนาคตของ
เขาอีกคนเป็ นว่าทีภรรยา วันนีต้องแสดงความเป็ นห่วง
เป็ นใยต่อเขาให้ดีละ่ โดยเฉพาะเจ้าเหยาเอ๋อร์ เจ้ากับชิง
เกอก็นบั ได้วา่ เติบโตมาด้วยกัน แต่วา่ ชายหญิงมีความ
แตกต่าง จึงทําให้คอ่ ยๆ ห่างเหินกันไป ยังไงสักวันเจ้าก็
ต้องแต่งเข้าตระกูลมู่ ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา
ยิงลึกซึง อนาคตของเจ้าก็จะยิงมีความสุข วันนีเจ้าก็พา
ชิงเกอไปเดินเล่นในตําหนักเสียหน่อย รอเขาจะออกจาก
วังเมือไร เจ้าค่อยออกไปพร้อมเขา หลังจากนันเจ้าก็คอ่ ย
กลับตําหนักองค์หญิงฉางเล่อของเจ้าก็แล้วกัน”

สิงทีไทเฮาตรัสออกมาคือสิงทีพระนางตัดสินพระทัยแล้ว
ไม่เหลือพืนทีให้ปฏิเสธได้เลยแม้แต่นอ้ ย

193
กฎหมายของแคว้นฉินกําหนดว่าองชายและองค์หญิง
เมือเติบโตเป็ นหนุ่มเป็ นสาวแล้วจะต้องย้ายออกจากวัง
เพือไปสร้างตําหนักเป็ นของตัวเอง ตอนนีทียังอยูใ่ น
พระราชวังก็คงมีแค่องค์ชายองค์ที 7 ทีพระชนมายุเพียง
9 ชันษาเท่านัน

“ไทเฮา คือ........อย่างไรเสีย เหยาเอ๋อร์ก็ยงั ไม่ได้แต่ง


งาน......” เจียงกุย้ เฟยไม่ได้ยินดีกบั การแต่งงานของบุตร
สาวตนเองตังแต่แรก จากทีนางดูนางสามารถหลอกใช้มู่
ชิงเกอจากการแต่งงานครังนีได้ก็จริงอยู่ แต่กลับไม่คมุ้
ค่ากับบุตรสาวของนางเลย บุตรสาวของนางควรจะใช้
ประโยชน์ได้มากกว่านี

เช่น แต่งงานเชือมสัมพันธ์กบั องค์ชายเมืองอืน แลกมา


194
ซึงความช่วยเหลือทีจะมีให้นางในอนาคต หรือจะใช้
ความสามารถอันโดดเด่นและรูปลักษณ์อนั งดงามของ
บุตรสาว เพือให้ได้มาซึงพวกพ้องทีมีความสามารถ

อย่างไรก็ตาม บุตรสาวของนางทําไมจะต้องไปเสีย
เปรียบให้กบั เจ้าเสเพลทีไม่สามารถกลับตัวกลับใจได้
แบบนันด้วย

แต่วา่ ไทเฮากลับไม่เข้าใจ สะบัดแขนเสือกล่าวว่า “พอ


เถอะ ใต้หล้านีผูใ้ ดบ้างทีไม่รูว้ า่ สวามีในอนาคตของเห
ยาเอ๋อร์เป็ นผูใ้ ด ความสัมพันธ์ทีชัดเจนของทังสองคน
คนมากมายต่างก็อิจฉา ยังจะมาพูดไร้สาระอยูไ่ ย”

195
พูดจบไทเฮาก็ใช้สายตาทีเต็มไปด้วยความฉลาดหลัก
แหลมมองไปทีฉินอีเหยาแล้วกล่าวว่า “ทีย่าพูด เจ้าเข้า
ใจแล้วใช่ไหม”

ฉินอีเหยาเม้มปาก แพขนตาสันเทาอยูห่ ลายครัง แล้วจึง


ค่อยพยักหน้า “เหยาเอ๋อร์ทราบแล้วเพคะ”

“แบบนันสิถงึ จะเป็ นเด็กดี เป็ นหลานรักของย่า องค์หญิง


แห่งแคว้นฉิน” ไทเฮาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

196
ตอนที 21-1 พบฉางเล่อครังแรก เปิ ดตํานานการจีบสาว

มูเ่ กอทีเดินออกมาจากห้องทรงพระอักษร หันหลังไป


มองประตูใหญ่ขา้ งหลังตัวเธอทีค่อยๆ ปิ ดลง แล้วปั ดเสือ
เบาๆ ซึงทีจริงแล้วมันไม่ได้มีฝนุ่ เกาะอยูเ่ ลยแม้แต่นอ้ ย
แล้วเดินตามขันทีนอ้ ยไปทีตําหนักของไทเฮา

พอเธอเข้าวังมา ก็เข้าไปรออยูใ่ นห้องทรงพระอักษร

ไม่คิดว่ายังไม่ทนั ทีจะได้พบฮ่องเต้ กลับมีขนั ทีของ


ไทเฮามาหาแทน
1
บอกว่า หลังจากทีเธอคุยกับฮ่องเต้เสร็จแล้ว ให้ไปพบ
ไทเฮาเพือถวายพระพร

สุดท้ายฮ่องเต้ทียังไม่ปรากฏตัว ไม่รูว้ า่ ทรงทราบข่าวนี


ได้อย่างไร ไล่เธอออกมาเหมือนไล่ขอทาน แล้วยัง
บอกอย่างใจกว้างว่า ถ้าไทเฮาทรงอยากพบ ก็ไม่กล้าที
จะให้พระองค์ตอ้ งรอนาน ให้เธอรีบไปก่อน วันหลังค่อย
เรียกเธอเข้าวัง

ฮ่องเต้เฮงซวย เอาเเต่ใจอย่างนีเลยรึ?

มูเ่ กอสายตาเย็นเยียบ ระหว่างทาง ก็สงั เกตบรรยากาศ

2
ของพระราชวังไปด้วย และคาดเดาจุดมุง่ หมายของการ
กระทําของฮ่องเต้ไปด้วย

อยากจะให้คนอืนๆ เห็นว่าเขายังคงปลาบปลืมตระกูลมู่
อยู่ แต่ก็ขีเกียจทีจะเสวนากับจอมเสเพลอย่างเธอ ดังนัน
จึงไล่เธอออกไปซึงๆ หน้าอย่างนี

หรือว่าทีเรียกเธอเข้าวังในวันนี ก็เพือทีจะทําให้เธออับ
อายขายขีหน้า

เหอๆ~!

จิตใจของฮ่องเต้นนั ยากทีจะเข้าใจจริงๆ
3
มูเ่ กอแอบด่าในใจแล้วส่ายหน้า ไม่ได้มีความประทับใจ
ทีดีกบั ฮ่องเต้ของฉินเลยแม้แต่นอ้ ย

แน่นอนว่าตอนนีตระกูลมูก่ าํ ลังจะแย่ คงจะให้เธอเกิด


ความประทับใจทีดีกบั หัวหน้าผูร้ า้ ยแบบนีไม่ได้หรอก

มูเ่ กอยังจําได้แม่นว่าคืนแรกทีเธอกลับมาถึงจวนตระกู
ลมู่ คําพูดทีท่านอามูเ่ หลียนหรงพูดกับเธอ ‘อุบตั ิเหตุ’ ที
เกิดขึนครังแล้วครังเล่าและพรากชีวิตของหนุ่มสาวตระกู
ลมูไ่ ปนัน

ท่านอาไม่เชือว่านันเป็ นเพียงแค่อบุ ตั ิเหตุ ดูจาก

4
ประสบการณ์เมือชาติทีแล้วของเธอแล้ว เธอเองก็ไม่เชือ
เช่นกัน

ถ้าอย่างนัน คนร้ายทีอยูเ่ บืองหลังเป็ นใครกันแน่นะ?

ราวกับว่า ขอเพียงหาผูท้ ีไม่ตอ้ งการให้ตระกูลมูส่ ืบทอด


ตระกูลต่อไปได้จนเจอ ก็จะสามารถรูไ้ ด้วา่ ผูต้ อ้ งสงสัย
เป็ นใคร

คนๆ นันคือใครกันนะ?

ตอนนี มูเ่ กอออกห่างจากห้องทรงพระอักษรมามากแล้ว


มองไปข้างหน้า เห็นเพียงชายคาทรงแหลม แววตาอัน
5
กระจ่างใส พลันมีความมืดครึมวาบผ่าน เธอเก็บซ่อน
อารมณ์บนใบหน้า เดินตามคนของตําหนักฉือเสียงไป
ข้างหน้าเรือยๆ

มูช่ ิงเกอคนก่อนเคยมาตําหนักฉือเสียงของไทเฮาหรือ
เปล่านัน มูเ่ กอไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม สําหรับเธอแล้วนี
เป็ นครังแรกทีได้เข้าไปยังห้องนอนของผูท้ ีสูงส่งทีสุดใน
แคว้นฉิน

สายตาไม่หยุดทีจะมองไปรอบๆ สุดท้ายก็มาหยุดทีหญิง
ชราผูส้ งู ส่งเจ้าของตําหนักฉือเสียง

มูเ่ กอก้มหน้าลงทําความเคารพตามแบบทหาร “มูช่ ิง

6
เกอถวายพระพรองค์ไทเฮา ทรงพระเจริญ พันปี พันปี
พันพันปี ”

ไทเฮายิมและพยักหน้าเบาๆ ตอบรับ

แต่วา่ เธอยังไม่ทนั ได้พดู อะไรเสียงแหลมสูงของเจียงกุย้


เฟยก็ดงั ขึน “บังอาจ! ทําไมถึงทําความเคารพไทเฮาตาม
แบบทหารเช่นนี? แล้วทําไมไม่คกุ เข่าลง”

มูเ่ กอมองนางนิงๆ ขมวดคิวคิดในใจ : ในวังช่างเป็ นทีๆ


เต็มไปด้วยสีสนั จริงๆ พีสาวคนสวยคนนีเป็ นใครกัน?
และยังมี-------

7
มูเ่ กอมองไปข้างๆ เห็นสาวน้อยทีหน้าตาคล้ายคลึงกับ
ผูห้ ญิงนางนี

เป็ นเด็กสาวทีเย็นชาจัง ใบหน้านันบึงตึงราวกับทุกคน


ติดค้างอะไรนางอยูอ่ ย่างนันล่ะ

มูเ่ กอกระตุกมุมปาก ถอนสายตากลับมา เงยหน้ายืดอก


พูดกับไทเฮา “ในตระกูลมูต่ งแต่
ั ทา่ นปู่ ลงมาก็เป็ นทหาร
กันหมดถึง แม้วา่ ชิงเกอจะไร้สามารถ แต่ก็คลุกคลีอยูก่ บั
พวกม้าพวกทหาร คุน้ ชินกับการทําสงคราม ชิงเกอคิดว่า
การทําความเคารพไทเฮาตามแบบของทหารจึงจะเป็ น
การแสดงความเคารพนับถือทีสูงสุดพะยะค่ะ” แน่นอน
ว่าเธอจะไม่พดู ว่าเธอไม่อยากคุกเข่าลงต่อหน้าหญิงชรา
ทีไม่รูจ้ กั ก็เลยแกล้งทําแบบนัน
8
“เจ้า ! เถียงคําไม่ตกฟาก” เจียงกุย้ เฟยโกรธจนควันออก
หู

ไอ้เจ้าเด็กบ้านี ยังคงอวดดีไม่เลิก ลูกสาวของนางจะคู่


ควรกับคนแบบนีได้อย่างไร ทังหมดเป็ นความผิดของ
ไทเฮา เลือกคนมัวซัว แล้วยังขอให้ฮ่องเต้พระราชทาน
สมรสให้อีก

คิดถึงตรงนี สายตาทีเจียงกุย้ เฟยมองไทเฮานันก็แฝงไป


ด้วยความโกรธ

“ไม่เป็ นไร พวกเจ้าทุกคนพอเจอข้า ต่างก็คกุ เข่าลง การ

9
ทําความเคารพตามแบบทหารนี ข้ายังไม่เคยได้รบั เจ้า
หนุ่มตระกูลมูช่ ่างรูว้ ิธีการมาทําให้ขา้ เบิกบานใจเสีย
จริง”

เห็นได้ชดั ว่าไทเฮาเข้าข้างมูช่ ิงเกอ

ตรงจุดนี ไม่ใช่แค่เจียงกุย้ เฟยทีดูออก แต่มเู่ กอก็สมั ผัส


ได้

ดวงตาเธอสาดประกาย แอบคิดในใจว่า : แปลกมาก


แปลกจริงๆ ลูกชายไม่สนใจไยดีเธอ แต่องค์ไทเฮากลับ
ลําเอียงเข้าข้างเธอแบบนี น่าสนุกนี จะมาไม้ไหนอีกล่ะที
นี

10
“เจ้าหนุ่มตระกูลมู่ เจ้ายังไม่เคยเจอแม่ยายในอนาคต
และว่าทีภรรยาของตัวเองใช่ไหม?” จู่ๆ ไทเฮาก็
พูดกระเซ้าเธอ ขัดจังหวะความคิดและอารมณ์ของมูเ่ ก
อลง

เมือวาน เธอเพิงรูว้ า่ ตัวเองมีคหู่ มันทีมีฐานะไม่ธรรมดา


วันนีก็ตอ้ งเจอทังเด็กทังแก่พร้อมกันเลยงันเหรอ

มูเ่ กอโค้งริมฝี ปาก ฐานะของสองแม่ลกู ทีทําให้เธอสงสัย


ในตอนแรก เพราะ ‘คําชีเเนะ’ ของไทเฮา ตอนนีเธอรูแ้ ล้ว

โชคร้ายอะไรของเธอต้องมาเจอกับเรืองแบบนีนะ

11
ว่าทีภรรยา.....ว่าทีภรรยา......อีๆ ชาติทีแล้วเธอไปทํา
กรรมอะไรไว้

มูเ่ กอสีหน้าเปลียนไปมา หันหน้าไปหาเจียงกุย้


เฟยและองค์หญิงฉางเล่อ ทําความเคารพ “ชิงเกอคาร
วะกุย้ เฟยเหนียงเหนียงและองค์หญิง” หลังจากทีรูว้ า่ ตน
เองมีคหู่ มัน มูเ่ กอได้ขอ้ มูลจากมูช่ ิงเกอมาอีกมาก

เธอรูว้ า่ มารดาขององค์หญิงฉางเล่อทีมีสญ
ั ญาแต่งงาน
กับเธอเป็ นกุย้ เฟยทีฮ่องเต้รกั มากทีสุดในตอนนี แซ่เจียง
ไม่เพียงเท่านัน หญิงแซ่เจียงนียังเป็ นแม่แท้ๆ ของฉินจิน
ห้าวด้วย

12
นันก็หมายความว่า ถ้าเธอเเต่งงานกับองค์หญิงฉางเล่อ
รุย่ อ๋องฉินจินห้าวทีเจ้าของร่างคนเดิมรักก็จะกลายเป็ นพี
ภรรยาของนางไป

ความสัมพันธ์บา้ บออะไรยุง่ วุน่ วายขนนาดนีเนีย! มูเ่ ก


อทําความเคารพไปด้วย พลางคํารามด้วยความโกรธใน
ใจไปด้วย

13
ตอนที 21-2 พบฉางเล่อครังแรก เปิ ดตํานานการจีบสาว

“หึ” พอเห็นว่ามูเ่ กอยังคงไม่คกุ เข่าให้นาง แต่เพราะมี


ไทเฮาอยูด่ ว้ ย เจียงกุย้ เฟยจึงทําได้เพียงแค่นเสียงเย็นชา
ออกมาคําหนึง สีหน้าไม่ได้ดีมากนัก ลืมคําสังก่อนหน้านี
14
ของไทเฮาไปแล้ว

แต่ฉินอีเหยากลับไม่ได้แสดงอาการไม่พอใจใดๆ หลัง
จากทีทําความเคารพตอบกลับ ก็ยงั คงรักษาท่าทางนิง
สงบไม่ขยับเขยือนดังเดิม

ปฏิกิรยิ าของสองแม่ลกู ไม่ใช่แค่มเู่ กอเท่านันทีเห็น แต่


ไทเฮาก็เห็นเช่นกัน

การกระทําของเจียงกุย้ เฟย ทําให้ไทเฮายิมเย็น แต่กลับ


ไม่วา่ อะไร

“วันนีข้าเหนือยมากแล้ว เหยาเอ๋อร์ก็พาเจ้าหนุ่มตระกู
15
ลมูไ่ ปเดินเล่นแทนข้าที” ไทเฮานังอิงอยูบ่ นเก้าอี ท่าทาง
ดูเหนือยล้า

พอคําสังนีจบ ทุกคนต่างลุกขึน เตรียมออกไป

ตอนนี ไทเฮาก็พดู กับมูช่ ิงเกอว่า "เจ้าหนุ่มตระกูลมู่ ข้า


ได้ยินว่าก่อนหน้านีเจ้าไปเทียวเล่นทีลัวรือมา ทีนันไม่ใช่
ทีดีงามอะไร คราวหลังไม่ตอ้ งไปแล้วนะ ทุกคนจะได้ไม่
ต้องเป็ นห่วง เจ้าก็ใกล้จะเข้าพิธีสวมหมวกแล้ว ต้องสงบ
จิตสงบใจ ว่างๆ ก็ไปหาเหยาเอ๋อร์บา้ ง อายุพวกเจ้าใกล้
เคียงกัน และยังเป็ นคูห่ มันคูห่ มาย ผูกความสัมพันธ์ทีดี
กันไว้ถงึ จะถูก”

16
พูดจบ นางก็พดู กับฉินอีเหยาต่อว่า “เหยาเอ๋อร์ก็เหมือน
กัน หลังจากนีถ้าจะไปเข้าร่วมงานเลียง ล่าสัตว์ หรือไป
เทียวเล่นข้างนอกก็ชวนชิงเกอไปด้วย เจ้าเป็ นหญิงสาว
ทีมีคหู่ มันแล้ว เวลาออกไปไหนมาไหนมีคหู่ มันไปด้วย
จะดีกว่า”

ความหมายของไทเฮา คือให้ทงสองใช้
ั ชีวิตผูกติดกัน

มูเ่ กอทําหน้านิง ในคําพูดพวกนัน เธอไม่ชอบการเปรียบ


เทียบโดยคําว่า “เทียวเล่น” มากทีสุด

ทหารตระกูลมูต่ ายไป 500 นาย เธอก็เกือบจะ....ไม่ มูช่ ิง


เกอตัวจริงก็ตายไปแล้ว นางกลับใช้คาํ ว่าเทียวเล่นมา

17
เปรียบเทียบกับสงครามอันเต็มไปด้วยเลือดนัน

ฉินอีเหยาก็สีหน้าเปลียนไป จึงค่อยตอบแบบจํานนว่าเพ
คะ

ในนัน คนทีสีหน้าดูไม่ดีทีสุดน่าจะเป็ นเจียงกุย้ เฟย

นางไม่เข้าใจจริงๆ เลยว่า ทําไมไทเฮาต้องรีบร้อนจับเด็ก


ทังสองมาอยูด่ ว้ ยกันด้วย

หลังจากออกจากตําหนักฉือเสียง เจียงกุย้ เฟยลอบ


กําชับฉินอีเหยาว่า “ระวังตัวเองดีๆ อย่าให้ตวั เองต้อง
เสียเปรียบ”
18
เมือเดินห่างออกไปไกล ความโกรธในใจนางจึงค่อยๆ
ลดลง แอบคิดอย่างเสียใจว่า : ตนเองบอกเองว่าลูกชาย
ไม่มีความอดทน แต่นางเองก็เกิดโทสะกับมูช่ ิงเกอมิใช่
หรือ? แม้วา่ ตนอยากจะเถียงมากเพียงใด แต่ก็ไม่ควร
ทําแบบนันอยูด่ ี !

คิดอยูต่ งนานเจี
ั ยงกุย้ เฟยก็คิดหาเหตุผลทีแท้จริงไม่ออก
ได้แต่ตะโกนในใจ : มูช่ ิงเกอมีความสามารถในการ
ทําลายบรรยากาศดีๆ เสียจริง ช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน!

หลังจากทีทุกคนออกจากตําหนักฉือเสียงแล้ว ไทเฮาจึง
เลิกยิมอย่างเมตตา และเผยรอยยิมเยือกเย็นน่ากลัว

19
ออกมาแทน

แม่นมทียืนอยูด่ า้ นหลังนางพูดว่า “ปกติเจียงกุย้ เฟยไม่


ใช่ผทู้ ีจะเก็บอารมณ์ไม่อยูเ่ ยียงนี แต่วนั นี ไม่รูว้ า่ เป็ น
อะไร”

นางสงสัย แต่ไทเฮาไม่ได้เป็ นเช่นนัน พระนางตอบกลับ


ด้วยนําเสียงเยือกเย็นว่า "นางได้รบั ความรักจากฮ่องเต้
มากเกินไป ก็เลยทนให้ใครมาขัดใจตนเองไม่ได้ ก็แค่
อาศัยวิชามารยา แล้วยังจะอยากได้ในสิงทีไม่คคู่ วร ข้า
จะรอดู ว่านางจะตายอย่างไร!"

.............

20
ในอีกทางหนึง มูเ่ กอทีอยากจะออกจากพระราชวังจน
แทบทนไม่ไหว ถูกองค์หญิงฉางเล่อทีเงียบมาตลอดทาง
พามาจนถึงอุทยาน

เงาร่างของฉางเล่อ ราวกับ ‘ศพเดินได้’ ทําให้มเู่ กออกไม่


ได้ทีจะพูดขึนมาก่อนว่า “หากองค์หญิงไม่อยากชมดอก
ไม้ ความจริงแล้วก็ไม่จาํ เป็ นต้องฝื นองค์เอง ไม่สู้
เรา.........”

“ท่านย่าให้ขา้ พาเจ้ามาเดินเล่นทีวัง” ฉินอีเหยาพูดด้วย


นําเสียงเรียบนิง ขัดจังหวะคําพูดของมูเ่ กอราวกับว่าสิงที
นางทําอยูใ่ นตอนนีก็แค่ทาํ ตามคําสังของไทเฮาเท่านัน

21
มูเ่ กอพูดอะไรไม่ออก

จึงทําได้แค่เดินตามหลังองค์หญิงฉางเล่อ เดินเล่นอยูใ่ น
อุทยาน

แน่นอนว่าทังสองไม่ได้มีกะจิตกะใจจะชืนชมดอกไม้
รอบๆ เลยสักนิด ดอกไม้นานาชนิดทีส่งกลินหอมฟุง้ แต่
กลับไม่ได้ทาํ ให้ทงสองสนใจแต่
ั อย่างใด

หลังจากทีอดทนเดินอยูก่ บั องค์หญิงฉางเล่อสักพัก มูเ่ ก


อประกาศว่าหมดความอดทนแล้ว

22
อยูๆ่ เธอก็หยุดเดิน ขมวดคิวเรียกองค์หญิงฉางเล่อทีเดิน
อยูด่ า้ นหน้า

ฉินอีเหยาหันกลับมาทําหน้านิง

“องค์หญิงเล่อ กระหม่อมมีธุระต่อ วันนีคงไม่สามารถ


เดินเล่นเป็ นเพือนองค์หญิงได้แล้ว ขอตัวก่อน” พูดจบ มู่
เกอหันหลังกําลังจะเดินออกไป เหมือนกับว่าอยูต่ อ่ อีก
แค่ 15 นาทีก็จะทําให้เธอตายเพราะโดนยาพิษ

“องค์หญิง เขาไม่เห็นความสําคัญของพระองค์แบบนีได้
อย่างไร?” สาวใช้ขา้ งตัวของฉางเล่อเห็นมูเ่ กอเดินไป
อย่างสง่างามไม่เหลียวหลัง ก็รูส้ กึ ไม่พอใจแทนเจ้านาย

23
ตนเอง

แต่ในขณะทีนางกําลังบ่นอยู่ ก็ไม่ทนั ได้สงั เกตว่าสายตา


ของเจ้านายของนางนัน มีอะไรแปลกๆ แวบผ่านไป

สักพักลมก็พดั แรงขึนโดยไม่มีปีมีขลุย่

ลมแรงพัดดอกไม้ในอุทยานจนดอกไม้พวกนันส่ายไหว
ไปมาราวจะหักได้ตลอดเวลา ฝุ่ นบางส่วนก็ถกู พัดขึน
เหนือพืนดิน ทําให้ตอ้ งยกมือขึนบังเศษฝุ่ นไม่ให้เข้าตา

ทันใดนันสายตาพลันเปลียนเป็ นพร่ามัว ทางเดินที


ถูกลมและฝุ่ นบดบังอยู่ ทําให้มเู่ กอทีกําลังจะจากไปต้อง
24
หยุดลงในทีๆ ไม่ไม่ไกลจากฉินอีเหยานัก

ในพริบตา ลมก็คอ่ ยๆ หยุดลง เห็นทุกอย่างชัดขึน

เธอกําลังจะเดินจากไปแต่กลับได้ยินเสียงตืนตกใจดังมา
จากทางด้านหลัง

"องค์หญิง เป็ นอะไรไปเพคะ?"

"เหตุใดนําตาขององค์หญิงไหลไม่หยุดเลย"

พูดจบ เสียงอันตืนตระหนกนันก็ตะโกนเสียงดังว่า “เรียก

25
หมอหลวงเร็วเข้า!”

ฉินอีเหยายืนอยูท่ ีเดิม ก้มหน้าลงเหมือนกําลังใช้ผา้ เช็ด


หน้าเช็ดฝุ่ นทีเข้าตา

‘ก็แค่ฝนุ่ เข้าตาไม่ใช่เหรอ ทําไมต้องโวยวายกันด้วย’ มูเ่ ก


อแอบคิดในใจแล้วเดินไปทางฉินอีเหยา

เพิงเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงนิงๆ ของฉินอีเหยาพูดว่า
“ไม่เป็ นอะไร ก็แค่ฝนุ่ เข้าตาน่ะ”

คําพูดนีของนางไม่ได้ช่วยปลอบคนใช้ขา้ งๆ นางเลย แต่


กลับทําให้พวกนางยิงเคร่งเครียดยิงกว่าเดิมเสียอีก
26
จู่ๆ สายตาอันพร่ามัว ก็มองเห็นเสีแดงดังเปลวเพลิงกอง
หนึงลอยเข้าใกล้มากขึนเรือยๆ ต่อมา ก็มีนิวเย็นๆ เชย
คางของนางขึน ทําให้นางต้องเงยหน้าขึนมอง

รอบข้าง เสียงของสาวใช้หายไปในทันที ฉินอีเหยาแปลก


ใจมาก เหตุการณ์กะทันหันแบบนี ทําให้จิตใจทีนิงสงบ
มาตลอดของนางเต้นอย่างรุนแรง

กลินหอมอ่อนบาง ลอยเข้าจมูกนาง ไม่เหมือนกลิน


เครืองสําอางแต่เหมือนเป็ นกลินประจําตัวทีมีมาแต่เกิด

ในขณะทีฉินอีเหยากําลังหัวใจเต้นแรง จู่ๆ ก็รูส้ กึ ว่า

27
นัยน์ตาทีมีฝนุ่ ปลิวเข้าไปนัน เหมือนมีคนใช้มือเปิ ด
เปลือกตานางขึนอย่างอ่อนโยน

"ฟู่ ว---------"

ลมร้อนพัดเข้าดวงตาของนาง ความอบอุน่ ทีเกิดขึนทํา


ให้ฉินอีเหยาตกใจ รูส้ กึ ว่าสิงทีกดทับนัยน์ตาของนางอยู่
นันหายไป

“องค์หญิง ทรงไม่เป็ นอะไรใช่ไหมเพคะ?”

เสียงของสาวใช้ทีดังขึน และความอบอุน่ ทีอยูๆ่ ก็หายไป


ทําให้ฉินอีเหยาค่อยๆ ลืมตาทีถูกสัมผัสด้วยไอร้อนทัง
28
สองข้างขึนน้อยๆ แล้วอดไม่ได้ทีจะปิ ดตาแน่น

เมือลืมตาขึน นางไม่ได้มองท่าทางร้อนใจของนางกํานัล
สายตาเรียบเฉยเลือนไปหยุดอยูท่ ีเงาร่างอันร้อนเเรงราว
กับเปลวไฟ เงาหลังสง่างามทีห่างไกลออกไปเรือยๆ.......

29
ตอนที 22 เลือนชันและเลือนชัน

คําคืน มาเยือนอีกตามเคย

บริเวณตําหนัก โย่วเหอและฮวาเยวียต่างก็กลับไปพัก

30
ผ่อนตามคําสังของเจ้านาย

ในเรือนมืดๆ เหลือแค่มเู่ กอเพียงคนเดียวทีนังขัดสมาธิ


อยูบ่ นเตียง ราวกับว่ากําลังเตรียมพร้อมทีจะฝึ กฝนพลัง

ทันใดนัน ลมพัดผ่านเบาๆ ร่างอันโปร่งแสงของมูช่ ิงเกอก็


ปรากฏตัวขึนตรงหน้าของมูเ่ กอ ดวงตาอันงดงามนัน
เหมือนกําลังคิดอะไรอยู่

มูเ่ กอขมวดคิวถาม “มองอะไร”

“เจ้าดูไม่เหมือนคนทีชอบยุง่ เรืองชาวบ้านเลย”

31
มูเ่ กอยิมมุมปาก

เธอรูว้ า่ มูช่ ิงเกอหมายถึงเรืองวันนีตอนทีเธอเป่ าฝุ่ นออก


จากตาขององค์หญิงฉางเล่อทีอุทยาน

“เจ้าเป็ นคูห่ มันของนางไม่ใช่หรือ? เป็ นว่าทีสามีเห็นว่าที


ภรรยาได้รบั ความเดือดร้อนก็ตอ้ งช่วยเป็ นธรรมดา” มูเ่ ก
อพูดยิมๆ ถ้าเธอไม่ช่วย อยูก่ ลางพระราชวังแบบนัน
องค์หญิงได้รบั ความตกพระทัย เธอจะจากไปแบบนันได้
อย่างไร

มูช่ ิงเกอสีหน้าเปลียนไป รูว้ า่ เจ้าคนทีครอบครองร่างของ


ตนยังคงโกรธทีตนเองปิ ดบังเรืองนี

32
เธอเม้มปาก ก้มหน้าลงพูด “ถึงแม้วา่ จะมีสญ
ั ญาแต่ง
งาน แต่ระหว่างข้ากับองค์หญิงฉางเล่อไม่ได้มีความ
สัมพันธ์อะไรกัน และการพบกันในวันนีก็เป็ นการพบกัน
ในรอบสามปี นางกับข้าต่างก็โดนบังคับเรืองการแต่ง
งานครังนีเหมือนกัน คราวหน้าเจ้าอย่าไปยุง่ กับนางอีก”

มูเ่ กอหรีตา รังสีอนั ตรายส่งผ่านสายตาเธอออกมาปก


คลุมห้องทังห้อง : “เจ้ากําลังสอนข้ารึ?”

ไอสังหารรุนแรงมาก!

ใบหน้าอันโปร่งแสงของมูช่ ิงเกอเต็มไปด้วยความตกใจ

33
เป็ นครังแรกทีเธอรูส้ กึ ถึงไอสังหารจากตัวมูเ่ กอ ความ
รูส้ กึ แบบนีเหมือนกับว่าห้องทังห้องนีแขวนเต็มไปด้วย
มีดอันแหลมคม แค่ขยับตัวก็จะถูกหันออกเป็ นชินๆ

‘เจ้าเคยเป็ นคนอย่างไรกันแน่?’ มูช่ ิงเกอแอบถามตนเอง


ในใจ

นางเม้มปากแน่น พอรูส้ กึ ว่าไอสังหารในตัวของมูเ่ กอลด


น้อยลงแล้ว จึงพูดเสียงตํา “ข้าไม่ได้สอนเจ้า ก็แค่ไม่
อยากให้เจ้าทําให้ทกุ อย่างมันวุน่ วายกว่าเดิม”

ทันใดนัน ไอสังหารของมูเ่ กอก็สลายหายไป เปลียนเป็ น

34
ยิมอย่างมีเลศนัย : “เจ้าไม่ให้ขา้ ยุง่ กับองค์หญิงฉางเล่อ
เจ้าทําเพือตัวนางเองหรือเพือฉินจิวห้าวกันแน่?”

เมือพูดถึงชือฉินจินห้าว ร่างอันโปร่งแสงของมูช่ ิงเกอก็


สันระริกราวกับจะหายไปได้ตลอดเวลา

ปฏิกิรยิ านีไม่ได้รอดจากพ้นสายตาของมูเ่ กอ เธอส่าย


หน้า “เจ้ายังไม่ตดั ใจอีกหรือ หรือว่าเจ้าดูไม่ออก ว่า
ดอกไม้ขาวดอกนันของบ้านเจ้าก็มีใจให้กบั ฉินจินห้าว
และความสนใจทีเขามีให้กบั นางคนนันก็มีมากกว่าทีมี
ให้เจ้าอย่างชัดเจน”

มูช่ ิงเกอสีหน้าดูไม่คอ่ ยดีนกั และไม่พดู อะไรอีก

35
มูเ่ กอยิมเย็น ค่อยๆ ปิ ดตาลง แล้วพูดด้วยนําเสียงนิงๆ
“ข้าจะฝึ กเวทพลัง เจ้าคอยช่วยคุม้ ครองข้า ข้ายังไม่
อยากให้ใครรูเ้ รืองทีข้าสามารถฝึ กเวทพลังได้”

มูช่ ิงเกอตอบอย่างเลือนลอยว่า : “วางใจเถอะ หากยังไม่


ได้ทะลวงเข้าขันเขียวไปขันคราม ก็จะไม่ทาํ ให้พลัง
วิญญาณของฟ้าดินแปรปรวน ถึงแม้วา่ เจ้าจะเข้าสูข่ นั
เหลืองภายในหนึงคืน ก็จะไม่มีใครตรวจพบได้เลยแม้แต่
นิด”

“อ้อ?” มูเ่ กอลืมตาขึน ขมวดคิวถามว่า : “เจ้ายังไม่เคย


บอกข้า ว่าคนทีสนิทสนมกับเจ้าอยูใ่ นขันไหนกันบ้าง”

36
มูช่ ิงเกอมองเธอ ถึงแม้วา่ จะไม่รูว้ า่ ทําไมนางถึงถามคํา
ถามนี แต่ก็ตอบไปตามจริงว่า “เท่าทีข้ารูร้ ุย่ อ๋องตอนนี
อยูใ่ นชันสูงของขันสีเหลือง องค์หญิงฉางเล่ออยูใ่ นชัน
ต้นของขันสีเหลือง พรสวรรค์ของพวกเขาทังสองคนนัน
ร้อยปี ยากจะพานพบ เพราะฉะนันจึงสามารถเข้าสูข่ นสี

เหลืองได้แม้อายุยงั น้อย”

มูเ่ กอขมวดคิวถามต่อ “ข้าเคยเห็นองครักษ์ของฉินจิน


ห้าวมีประกายสีเขียว” คนๆ นันก็ไม่ถงึ กับว่าอายุมาก ถ้า
ขันสีเหลืองของฉินจินห้าวถือว่าเป็ นอัจฉริยะ แล้ว
องครักษ์ขนสี
ั เขียวล่ะจะเป็ นอะไร

ความแปลกใจของมูเ่ กอทําให้มชู่ ิงเกอรีบอธิบาย : “พวก


37
นันผ่านการใช้ยาลับเข้าช่วย ความสามารถทังชีวิตก็อยู่
ได้แค่ระดับสูงขันสีเขียว”

แบบนีนีเอง

มูเ่ กอยังคงสงสัยถามอีกว่า “แล้วป๋ ายซีเยวียล่ะ” ท่าทาง


ทีไร้เรียวแรงของเธอเหมือนไม่รูก้ ารฝึ กเวทเลยแม้แต่นอ้ ย

“นางน่าจะเป็ นขันสีแดงระดับสูง” มูช่ ิงเกอก็พดู อย่างไม่


แน่ใจ “นางไม่คอ่ ยแสดงความสามารถออกมา ถ้าเจ้าไม่
พูดถึงข้าก็คงลืมไปแล้วว่านางเองก็เป็ นคนฝึ กเวทพลัง”

ขันสีแดงระดับสูงงันเหรอ
38
มูเ่ กอแปลกใจ ในโลกทีใช้พลังเป็ นตัวกําหนดฐานะ
ทําไมนางถึงไม่คอ่ ยแสดงความสามารถออกมา ถึงกับ
ทําให้มชู่ ิงเกอเกือบจะลืมไปแล้ว

แต่วา่ -------------

มูช่ ิงเกอคิดถึงขันสีนาเงิ
ํ นระดับสูงของมูซ่ ง ขันสีเขียว
ระดับสูงของมูเ่ หลียนหรง มองกลับมาทีตนเองแล้วถอน
หายใจ “ข้าเป็ นไก่ออ่ นทีสุดจริงๆ เสียด้วย”

มูเ่ กอสงบจิตสงบใจ เข้าสูก่ ารฝึ กฝน

39
............

บริเวณไกลออกไปจากสวนสระเมฆา มีเรือนทีสวย
งามอยูเ่ รือนหนึง หน้าประตูเรือนเขียนไว้วา่ ‘เรือนจันทร์
คล้อย’ ในเรือนตอนนีเงียบสงบ

เหลือเพียงห้องๆ เดียวทีมีแสงเทียนส่องจางๆ ลอดออก


มา

การตกแต่งในห้องทําให้รูว้ า่ เป็ นห้องนอนของสตรีผหู้ นึง

เตียงกว้างใหญ่ทีมีมา่ นปิ ดคลุมปั กไว้ดว้ ยดอกไม้ หญิง


ชุดขาวนางหนึงนังขัดสมาธิอยูบ่ นเตียง หลับตาทังสอง
40
ข้างแน่น รอบตัวมีแสงสีเหลืองส่องประกายออกมา

สักพักใหญ่ แสงสีเหลืองรอบตัวนางก็ซมึ ซับเข้าไปในร่าง


กาย แล้วนางก็คอ่ ยๆ ลืมตาขึนมา

‘ก็อกๆ-----‘

เสียงเคาะประตูดงั ขึน ทําให้นางขมวดคิวอย่างไม่ชอบใจ


แต่ก็ตอบกลับไปว่า “เข้ามา”

ประตูหอ้ งทีปิ ดสนิทมีคนเปิ ดออก ลวีจือถือถาดเดินเข้า


มา บนถาดมีถว้ ยหยกใบหนึงในนันมีโจ๊กรังนกร้อนๆ

41
“คุณหนูฝึกเวทพลังคงจะเหนือยแล้ว ทานโจ๊กรังนกบํารุง
ร่างกายก่อนนะเจ้าคะ” ลวีจือวางโจ๊กรังนกตรงหน้าป๋ าย
ซีเยวีย

ป๋ ายซีเยวียมองนางแวบหนึง ลุกขึนมาจากเตียงรับถ้วย
หยกมาทานทีละนิด

ระหว่างทียืนเฝ้าป๋ ายซีเยวีย ลวีจือก็ถามด้วยความสงสัย


“คุณหนูถา้ คุณหนูมีใจให้กบั รุย่ อ๋อง แล้วเหตุใดไม่บอก
ท่านไปว่าตอนนีคุณหนูอยูใ่ นระดับกลางของขันสีเหลือง
แล้ว ถ้าเขารูถ้ งึ ความสามารถของคุณหนูแน่นอนว่าต้อง
มาขอคุณหนูกนั ายท่านผูเ้ ฒ่าแน่”

42
ป๋ ายซีเยวียวางช้อนในมือลง คิดทบทวนแล้วตอบว่า
“ท่านอาหรงหวังให้ขา้ แต่งงานกับจอมเสเพลไร้พลัง
อย่างมูช่ ิงเกอ ถ้าให้เป็ นภรรยาเอกก็วา่ ไปอย่าง จวนหย่ง
หนิงกงเองถือว่ามีหน้ามีตาในแคว้นฉิน แต่วา่ กลับจะให้
องค์หญิงเป็ นภรรยาเอก ทําให้ขา้ ต้องถูกลดฐานะ ส่วน
รุย่ อ๋องแม้วา่ จะเป็ นตัวเลือกทีดี แต่วา่ ด้วยฐานะของเขา
แล้ว ถ้าข้าเข้าตําหนักไปแม้แต่ตาํ แหน่งชายารองเกรงว่า
ก็คงจะไม่ได้เป็ น ตอนนีข้ายังไม่ตดั สินใจว่าจะเลือกจวน
หย่งหนิงหรือว่าตําหนักของรุย่ อ๋อง ฉะนันเรืองแบบนี
อย่าให้ใครรูง้ ่ายๆ จะดีกว่า” พูดจบก็พดู ด้วยความ
เสียดายอีกว่า “ครังนีหากมูช่ ิงเกอตายอยูข่ า้ งนอกนัน
จริงๆ ข้าก็ไม่ตอ้ งมาเสียเวลามานังคิดอะไรแบบนีแล้ว”

ลวีจือพยักหน้าเหมือนเข้าใจและไม่เข้าใจ

43
ป๋ ายซีเยวียเงยหน้าขึนมองนาง สายตาอันอ่อนโยนนัน
เปลียนเป็ นสายตาทีโหดเ**◌้ยมนางเตือนลวีจือ “เรือง
ของข้า เจ้าอย่าได้บอกใครเด็ดขาด ไม่อย่างนันเจ้าก็รูอ้ ยู่
แล้วนีว่าข้าจะจัดการอย่างไร”

ลวีจือหน้าซีดแล้วพูด “คุณหนูวางใจเถอะ ข้าไม่พดู แน่


นอน”

ป๋ ายซีเยวียพยักหน้าพอใจ ไม่ได้มองนางอีก

ในมุมทีลวีจือไม่อาจมองเห็น สายตาของนางก็ฉายแวว
เย็นชา นางเป็ นเด็กกําพร้าก็จริงอยู่ แต่หากไม่ใช่เพราะ

44
ตระกูลมู่ ท่านพ่อของนางก็ไม่ตอ้ งตายในสงคราม ท่าน
แม่ก็จะไม่ทิงนางไว้ให้อยูค่ นเดียว ถ้าท่านพ่อยังอยู่ นาง
ก็จะเป็ นคุณหนูผสู้ งู ศักดิแห่งแคว้นฉิน จะเหมือนกับการ
ทีต้องมาอาศัยอยูใ่ นบ้านคนอืนราวกับคนไร้ทีพึงอย่างนี
ได้อย่างไร ตระกูลมูท่ าํ ให้นางต้องเป็ นแบบนี นางก็ตอ้ ง
เหยียบหัวตระกูลมูเ่ พือปี นให้สงู ขึนไป แบบนีมันผิดตรง
ไหนกัน

............

ท้องฟ้าเริมสว่าง

ในเรือนสวนสระเมฆา มูเ่ กอฝึ กเวทพลังมาทังคืน

45
วิญญาณของมูช่ ิงเกอก็เฝ้าอยูท่ งคื
ั นเช่นกัน ในระหว่างที
นางรูส้ กึ ว่ามูเ่ กอกําลังจะตืนจากการฝึ กเวทนัน จู่ๆ ก็มี
อะไรแปลกๆ เกิดขึน

มูเ่ กอทีนังขัดสมาธิอยูบ่ นเตียงตาทังสองข้างปิ ดสนิท


อยูๆ่ ก็มีแสงสีแดงส่องประกายขึนทําให้ใบหน้าเล็กๆ อัน
งามสง่าของนาง เย้ายวนเป็ นหนึง

“เข้าสูข่ นสี
ั แดงแล้ว!” มูช่ ิงเกอพูดอย่างตืนเต้น นางไม่คิด
เลยว่ามูเ่ กอฝึ กแค่สองคืนก็สามารถเข้าสูข่ นสี
ั แดงได้แล้ว
ต้องรูว้ า่ ถึงแม้วา่ จะเป็ นผูท้ ีมีพรสวรรค์มากเพียงใด จะ
เริมฝึ กฝนจนเข้าขันสีแดงได้นนั อย่างน้อยก็ตอ้ งไม่ตาํ

46
กว่าครึงเดือนหรือหนึงเดือน

แต่วา่ สิงทีเธอทําให้นางตกตะลึงนันก็คือ---------

แสงสีแดงบนตัวของมูเ่ กอค่อยๆ เปลียนเป็ นเข้มขึน


เรือยๆ สุดท้ายกลายเป็ นสีแดงเจิดจ้าแสบตา สักพักก็
เปลียนจากสีแดงเป็ นสีสม้ แล้วก็เข้มขึนเรือยๆ ไม่นานก็
เปลียนจากสีสม้ อ่อนจางเป็ นเข้มขึน แล้วก็มีการเปลียน
แปลงขึนอีกครังกลายเป็ นประกายสีเหลือง เมือ
แสงกลายเป็ นสีเหลืองเข้มแล้วจึงค่อยๆ สงบลง

แต่มชู่ ิงเกอรูส้ กึ ได้วา่ ถ้ายังคงฝึ กต่อไป แสงประกายสี


เหลืองนัน มีความเป็ นไปได้ทีจะกลายเป็ นสีเขียวแต่

47
ความเป็ นไปได้นีถูกยับยังไว้เสียก่อน

“เป็ น.......เป็ นไปได้อย่างไรกัน? เหตุใดถึงมีคนสามารถ


ฝึ กฝนพลังจากขันสีแดงเลือนไปจนถึงขันสีเหลืองระดับ
สูงสุดได้ภายในคืนเดียว เจ้าเป็ นตัวประหลาดอะไรกัน”
มูช่ ิงเกอตกใจจนทําได้แค่พมึ พํากับตนเอง

48
ตอนที 23 คนงามป่ วย

วันนีมูเ่ กออารมณ์ดีเป็ นอย่างมาก!

เหตุผลไม่ใช่อืนใด แต่เป็ นเพราะว่าผลลัพธ์ของยา


เปลียนแปลงดีเอ็นเอทีน่าทึง

49
ความจริงแล้ว หลังจากทีได้กินยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอ
นอกจากจะเจ็บปวดปางตายแลว มูเ่ กอก็ไม่เคยได้ยินว่า
มีอะไรนอกจากนีอีก

จนถึงวันก่อนหน้านี.......

ในทีสุดเธอก็ได้เรียนรูถ้ งึ การเปลียนแปลงแรก คือเธอ


สามารถฝึ กเวทมนต์ได้แล้ว จะไม่ตอ้ งเป็ นคนไร้คา่ อีกต่อ
ไป

และเมือคืนนี เธอรับรูถ้ งึ การเปลียนแปลงทีสอง คือเธอ


เลือนขันเวทพลังได้อย่างรวดเร็วราวกับติดจรวด

50
หลังจากทีฝึ กไปแล้วทังคืน พอตืนมาจากคนไร้คา่ ที
ฝึ กฝนอะไรไม่ได้เลย ก็กลับกลายเป็ นยอดฝี มือสูงสุดของ
ขันสีเหลืองไป นีเป็ นประสบการณ์แบบไหนกันนะ

อย่าลืมว่าคนทีมูเ่ กอเห็นแล้วขัดตาอย่างรุย่ อ๋อง ฉินจิน


ห้าว ก็เป็ นเพียงสีเหลืองขันสูงเท่านัน

ฮ่าๆๆๆ-----------

ในพริบตา จากไก่ออ่ นกลายเป็ นยอดฝี มือ และยังแซง


หน้าคนทีตนเองไม่ชอบ ความรูส้ กึ แบบนีมันดีจนไม่รูจ้ ะ
ดีอย่างไร

51
“วันนีคุณชายดูอารมณ์ดีจงั เลย”

“อืม หรือว่าเมือวานในวังจะมีอะไรทีทําให้คณ
ุ ชายดีใจ”

ฮวาเยวียและโย่วเหอทียืนอยูข่ า้ งหลังมูเ่ กอคุยกันเบาๆ

สาวใช้ทงสองรั
ั บรูไ้ ด้ถงึ ความสุขของมูเ่ กอตังแต่เช้า เจ้า
นายมีความสุข สาวใช้อย่างพวกนางก็พลอยมีความสุข
ไปด้วย

รอยยิมของโย่วเหออ่อนโยนกว่าปกติ กระทังไฝนําตาบน
ใบหน้าของฮวาเยวียเองก็ดสู ดใสเป็ นประกายขึนมาก
52
ทําให้ใบหน้าของนางดูน่ารักเป็ นพิเศษ

“ฮวาเยวีย มานวดให้ขา้ ที” มูเ่ กอทีนังอยูบ่ นเก้าอีโยก สัง


สาวใช้ทียืนอยูข่ า้ งหลัง

เมือฮวาเยวียได้ยินดังนัน ใบหน้าเล็กๆ น่ารักก็เผยยิม


อย่างน่าดึงดูด เดินเข้าไป มือเล็กทีเนียนนุ่มราวกับไร้
กระดูกก็วางลงบนไหล่ของมูเ่ กอ

“คุณชาย แรงประมาณนีพอได้ไหมเจ้าคะ” ฮวาเยวีย


ถามอย่างอ่อนโยน

มูเ่ กอทีกําลังดืมดําความสุขพยักหน้าช้าๆ ตอบเสียงขึน


53
จมูกว่า “อืม” คําเดียว

โย่วเหอเห็นแบบนีก็สา่ ยหน้ายิมๆ ค่อยๆ เดินออกไป


เพือไปเตรียมของหวานทีมูเ่ กอ ชอบ

ลมพัดผ่าน เสียงใบไม้กระทบกันดังซ่าๆ

บริเวณสวนสระเมฆาราวกับเป็ นภาพวาดภาพหนึง

สาวใช้หน้าตาสวยน่ารัก และเจ้านายผูง้ ดงามเป็ นหนึงมี


ความสุขมากจริงๆ

โย่วเหอป้อนของหวานเข้าปากมูเ่ กอ แล้วปอกเปลือกผล
54
ไม้ตอ่ พร้อมพูดว่า “จริงสิ คุณชาย วันนีเป็ นวันหยุด คน
ใหญ่คนโตทุกคนต่างก็ไม่ตอ้ งเข้าท้องพระโรง นักเรียนที
โรงเรียนก็สามารถกลับบ้านได้ 3 วัน มัวหยางให้คนมา
ถามว่า เขาไม่ได้เจอคุณชายมาเป็ นเดือนแล้ว เขารูส้ กึ
คิดถึง ในวันหยุดแบบนีจะขอกลับจวนมาสัก 3 วันจะได้
ไหม?”

มูเ่ กอทีปิ ดตาและกําลังกินของหวานฝี มือฮวาเยวีย พอ


ได้ยินทีโย่วเหอพูด ก็คอ่ ยๆ ลืมตาขึน

ดวงตาทีใสกระจ่างราวกับหิมะมองโย่วเหอแวบหนึงแล้ว
พูดนิงๆ ว่า “ถ้าเขาอยากกลับมาก็กลับมาเถอะ” เธอก็
อยากเห็นว่าเจ้าคนรับใช้ทีมูช่ ิงเกอส่งไปเรียนนันหน้าตา
เป็ นอย่างไร
55
“โย่วเหอขอขอบคุณคุณชายแทนมัวหยางมากๆ เลยเจ้า
ค่ะ” โย่วเหอวางลูกองุ่นทีเพิงปอกเสร็จลง ลุกขึนคาราวะ
มูเ่ กอ

มูเ่ กอโบกมือบอกให้หยุด ไม่ได้สนใจมากนัก

ทันใดนัน นางก็ยืดตัวตรง ดวงตาเป็ นประกาย

“คุณชาย ยังนวดไม่เสร็จเลยนะเจ้าคะ” ฮวาเยวีย


พยายามดึงตัวมูเ่ กอกลับมานอนบนเก้าอีโยก

แต่วา่ มูเ่ กอกลับจับมือของฮวาเยวียไว้แล้วดึงออก เธอ


56
ลุกขึนปั ดเสือเบาๆ แล้วพูดกับสาวใช้ทงสองว่
ั า “วันนีถ้า
ไม่มีธุระอะไร เราไปรับมัวหยางทีโรงเรียนกัน”

“หา !”

“คุณชาย...........”

สาวใช้ทงสองมองเธอด้
ั วยความแปลกใจ

เหมือนว่าจะไม่คอ่ ยเข้าใจการตัดสินใจอย่างกะทันหัน
ของเจ้านายสักเท่าไหร่ เป็ นถึงเจ้านายไปรับเด็กรับใช้
ถือว่าเด็กรับใช้นนช่
ั างมีเกียรติเหลือเกิน

57
มูเ่ กอทีถูกโจมตีดว้ ยสายตาทีเต็มไปด้วยความสงสัย ก็
รีบทําสีหน้ารําคาญแล้วพูดว่า : “ยังไม่รบี ไปเตรียมรถม้า
อีก ไปบอกพ่อบ้านว่าข้าจะออกไปข้างนอก”

เธอจะไม่ยอมรับง่ายๆ หรอกว่าอยูแ่ ต่ในตําหนักตระกูลมู่


ทุกวันแบบนี มันไม่มีอะไรให้ทาํ จริงๆ น่าเบือมาก เธอ
อยากออกไปเปิ ดหูเปิ ดตาข้างนอก

ใช่!เธอก็แค่อยากจะหาเรืองออกไปข้างนอกเท่านัน
เอง

โย่วเหอและฮวาเยวียจัดการทุกอย่างอย่างเร่งรีบ ไม่นาน
ก็เตรียมทุกอย่างพร้อมเตรียมออกจากจวน

58
ออกจากจวนครังนีไม่เหมือนเมือ 2 วันก่อน มูเ่ กอเตรียม
พร้อมทังคนและม้า ไม่เพียงแค่โย่วเหอกับฮวาเยวียเท่า
นันทีติดตามไป แต่ตระกูลมูย่ งั เตรียมทหารองครักษ์ให้
เธออีก 20 นาย ทังหมดออกเดินทางไปยังสถานศึกษา
เพียงแห่งเดียวของลัวตู--------โรงเรียนจือหยาง

โรงเรียนจือหยางเป็ นสถานศึกษาทีดีทีสุดในแคว้นฉิน

เริมแรกโรงเรียนแห่งนีถูกสร้างขึนโดย ผูส้ ืบทอดลัทธิ


ขงจือท่านหนึง แต่ไม่นานก็มีผมู้ ีวิชาความรูแ้ ละ
วรรณกรรมมาเข้าร่วม โรงเรียนจือหยางบ่มเพาะคน
จํานวนไม่นอ้ ยให้เป็ นผูท้ ีมีความสามารถ เป็ นเสาหลัก

59
ของแคว้นฉิน

ฉะนัน โรงเรียนแห่งนีจึงค่อยๆ กลายเป็ นโรงเรียนทีดีที


สุดในแคว้นฉินและเป็ นโรงเรียนเพียงแห่งเดียวของลัวตู

ในโรงเรียนแห่งนี ไม่แบ่งแยกรวยจนและอายุ

หากแต่มีใจรักในการเรียน ก็สามารถเข้าเรียนได้ แต่เมือ


เข้าไปแล้ว จะสามารถเรียนรูไ้ ด้เท่าไหร่ และจะประสบ
ความสําเร็จได้ไหมนัน ก็ขนอยู
ึ ก่ บั ความสามารถของแต่
ละบุคคล

ฉะนันในโรงเรียนแห่งนีไม่เพียงแต่มีลกู หลานของ
60
ประชาชนทัวไป แต่ยงั มีลกู หลานเชือพระวงศ์และ
ตระกูลทีมีฐานะทางสังคมด้วย เพียงแต่วา่ เป้าหมาย
ของทังสองกลุม่ นีต่างกัน

นอกจากจะหาความรูแ้ ล้ว ลูกหลานของประชาชนทัวไป


นันก็หวังจะได้รูจ้ กั คนใหญ่คนโต ให้ตนเองสามารถไปได้
ไกลขึน ส่วนลูกหลานของเชือพระวงศ์และตระกูลใหญ่ๆ
ทีมีฐานะก็หวังทีจะเป็ นคนทีมีความสามารถและสร้าง
ชือเสียงให้กบั วงศ์ตระกูลต่อไป

ด้วยฐานะของมูช่ ิงเกอแล้ว นางก็เคยเป็ นนักเรียนคน


หนึงของโรงเรียนจือหยาง

61
แต่วา่ เพราะ ความไร้คา่ ของตัวนางและชือเสียงทีไม่ดีนกั
ทําให้ชีวิตในโรงเรียนของนางไม่คอ่ ยดีสกั เท่าไหร่
อาจารย์ไม่ชอบ นักเรียนทีเป็ นประชาชนทัวไปหวาดกลัว
นักเรียนทีมีฐานะสูงส่งก็คอยค่อนขอดหัวเราะเยาะ
เพราะฉะนันสุดท้ายนางจึงตัดสินใจเลิกเรียนและส่งเด็ก
รับใช้ขา้ งตัวทีรักการเรียนอย่างมัวหยางเข้ามาเรียนแทน

และชือเสียงของมูช่ ิงเกอในโรงเรียนแห่งนีคือ----ในด้าน
บู๊ ก็เป็ นคนไร้ประโยชน์ ด้านบุน๋ ก็ยงั ไร้ประโยชน์เช่นดี
ยวกัน

เพึงจะเข้าใกล้โรงเรียน แต่ยงั ไม่ได้เข้าไป มูเ่ กอก็รูส้ กึ ถึง


กลินอายของหนังสือท่ามกลางภูเขาสูงและแม่นาที
ํ อยู่
รอบๆ
62
มูเ่ กอให้ฮวาเยวียเปิ ดผ้าม่านบนรถม้า แล้วมองไปยัง
ภูเขาและต้นไม้ทีอยูข่ า้ งหน้า เธอพยักหน้าชมว่า “โรง
เรียนจือหยางแห่งนี เลือกทีได้ดีจริงๆ มีทงภู
ั เขาและแม่
นําบรรยากาศดีมาก”

ระหว่างพูด รถม้าทีแขวนป้ายจวนตระกูลมูข่ องเธอก็


หยุดตรงหน้าป้ายขนาดใหญ่ทีทําด้วยหยก

ด้านบนของบันได อาณาเขตหลังป้ายนีคือโรงเรียนจือ
หยาง

รถม้าหยุดลงโดยไม่ได้สงั

63
มูเ่ กอขมวดคิวถาม : “เข้าไปไม่ได้หรือ?”

เห็นเจ้านายทําหน้างง โย่วเหอก็อธิบาย : “คุณชาย คุณ


ชายลืมกฎของโรงเรียนแห่งนีแล้วหรือเจ้าคะ หากไม่ได้
รับเชิญ ถึงแม้วา่ ฮ่องเต้เสด็จมาเองก็ตอ้ งรออยูด่ า้ นนอก”

“วัวแยกจริงๆ !” มูเ่ กอเลิกคิวขึนสูง

“คุณชาย วัวแยกแปลว่าอะไรรึเจ้าคะ” ฮวาเยวีย


ถามอย่างจริงจัง ในอีกด้านหนึงโย่วเหอก็หนั มามองด้วย
ความสงสัย

64
เอ่อ..............

“แค่กๆ วัวแยกก็แปลว่าร้ายกาจมากอย่างไรล่ะ” มูเ่ กออ


ธิบายสันๆ

พูดแล้ว เธอก็นงตั
ั วตรง

ในรถม้านันกว้างมากก็จริง แต่ก็ยงั ทําให้เธอรูส้ กึ อึดอัด


มูเ่ กอไม่ฟังทีสาวใช้ทงสองห้
ั าม โดดลงจากรถม้ามายืน
อยูบ่ นพืนดินแล้วบิดขีเกียจอย่างสบาย

โย่วเหอและฮวาเยวียไม่รูว้ า่ จะทําอย่างไร ทําได้แค่โดด


ลงรถม้าตามเธอ และยืนอยูข่ า้ งซ้ายและขวาของเธอ
65
มูเ่ กอเงยหน้าขึนมองป้ายหยกสีขาวแกะสลัก แล้วสังทุก
คนว่า “อย่างไรก็ยงั ไม่เลิกเรียน ข้าขอเดินเล่นรอบๆ ก่อน
พวกเจ้ารออยูต่ รงนี เดียวข้ากลับมา”

“คุณชายจะไปไหนเจ้าคะ? พาบ่าวไปด้วยเถิดเจ้าค่ะ?”
โย่วเหอรีบพูด

ฮวาเยวียพยักหน้าอยูข่ า้ งๆ ในสายตาเต็มไปด้วยความ
น้อยใจทีมูเ่ กอจะทิงพวกนางไว้

หัวหน้าองครักษ์ยืนขึนคาราวะมูเ่ กอแล้วพูด : “คุณชาย


ข้าน้อยยอมสละชีวิตเพือปกป้องความปลอดภัยของ

66
ท่าน ถ้าคุณชายจะไปไหนก็ขอให้พาข้าน้อยไปด้วย”

มูเ่ กอเบ้ปาก

ครังนีทีพาทุกคนออกมาด้วย เพราะไม่อยากให้เหมือน
ครังก่อน ทีจะส่งข่าวหรือจะทําอะไรก็ไม่มีคนช่วย

แต่ไม่คิดว่าคนพวกนีพอพาออกมาแล้วก็เหมือนพา
แมลงน่ารําคาญกลุม่ หนึงออกมาด้วย

“ข้าเป็ นนาย คําสังของข้าถ้าใครกล้าขัด ก็อย่ามาให้ขา้


เห็นหน้าอีก” มูเ่ กอหน้าเครียดปฏิเสธทีจะให้ทกุ คนตาม
ไปด้วย
67
พอห้ามทุกคนเสร็จแล้ว มูเ่ กอก็รบี พลิวกายเข้าไปในพุม่
ไม้อย่างรวดเร็ว

“คุณชาย รอบ่าวด้วย” ฮวาเยวียตกใจ รีบตามไป

แต่วา่ โย่วเหอดึงนางเอาไว้ก่อน โย่วเหอส่ายหน้าแล้วพูด


กับนางว่า“ฮวาเยวีย คุณชายบอกแล้วว่าห้ามตามไป
เราก็อย่าขัดคําสังเลย นิสยั ของนายน้อยพวกเราต่างก็รูด้ ี
กว่าใคร หากทําให้ทา่ นโกรธมากๆ กลัวแต่วา่ เราสองคน
จะถูกขับออกจากเรือนสวนสระเมฆาน่ะสิ”

“แต่วา่ คุณชายออกไปคนเดียว.......”ในแววตาของฮวา

68
เยวียสับสน นําเสียงเป็ นห่วงเป็ นใย

โย่วเหอลูบหลังมือนาง แล้วปลอบใจ “วางใจเถอะ ทีนี


เป็ นโรงเรียน ในป่ าคงไม่มีสตั ว์รา้ ยอะไรโผล่ออกมาแน่ๆ
เจ้าไม่เห็นเหรอว่าพีชายทหารพวกนันก็ไม่ได้ตามไป
แสดงว่าข้างในต้องปลอดภัย”

พูดแล้วสาวใช้ทงสองก็
ั มองไปทีหัวหน้าทหารของตระกู
ลมู่

ทหารร่างใหญ่กาํ ยําเมือถูกสาวใช้ทงสองมองแบบนี
ั ก็
หน้าแดง พูดอายๆ ว่า “แม่นางโย่วเหอพูดถูก ในป่ าแถบ
นีไม่มีสตั ว์รา้ ยอะไร เพราะอยูใ่ กล้เขตโรงเรียน และไม่มี

69
พืนทีอันตรายอะไร คุณชายไม่เป็ นอะไรหรอก” เมือครูท่ ี
เขาจะตามไปก็เพราะหน้าที แต่สดุ ท้ายถูกปฏิเสธ เขาก็
ทําได้แค่ยืนรออยูท่ ีเดิม แน่นอนว่าถ้าทีนีมีอนั ตรายอะไร
ถึงแม้วา่ ต้องขัดคําสังเขาก็จะไม่ให้มชู่ ิงเกอออกไปแน่
นอน

.................

พอมูเ่ กอสลัดหลุดจากพวกแมลงน่ารําคาญพวกนันแล้ว
ก็เอามือไขว้หลัง เดินเล่นอยูใ่ นป่ าอย่างสบายอารมณ์
ชุดแดงทังตัวดังเปลวไฟ กลายเป็ นสีสว่างสีเดียวทีส่อง
สว่างไปทัวผืนป่ าสีเขียว จัดจ้าราวกับดวงอาทิตย์

70
ทันใดนัน มีเสียงพิณดังขึน

เสียงพิณนันฟั งแล้วให้ความรูส้ กึ สงบ ราวกับมีพลังช่วย


ให้หา่ งไกลจากความวุน่ วาย

มูเ่ กอหยุดเดิน คิดอยูค่ รูห่ นึง แล้วเดินตามเสียงพิณไป

ไม่นาน เธอเดินลึกเข้าไปในป่ า มาหยุดอยูต่ รงหน้า


กระท่อมหลังหนึง

กระท่อมหลังนันไม่ใหญ่มาก ข้างในมีอยูไ่ ม่เกินสองห้อง


ตังอยูก่ ลางป่ าไผ่ทีเขียวขจีภายในกระท่อมมีเสียงเทียน
ส่องสว่างและกลินหอมจางๆ ลอยออกมา ทีหน้า
71
กระท่อมมีคนงามสวมชุดสีเหลืองนวลตัวยาวแขนกว้าง
อยูผ่ หู้ นึง ผมเงาดําไม่ได้รวบมัด มือคูใ่ หญ่ของเขา
วางอยูบ่ ทพิณตรงหน้า

ฉากนีช่างเหมือนกับภาพวาดภาพหนึง ทําให้มเู่ กอตา


เป็ นประกาย พินิจมองชายทีใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือดผู้
นัน

ในป่ ามีลมเย็นๆ พัดผ่าน

เสียงใบไผ่กระทบกันดังซ่าๆ แขนเสือยาวแผ่วพลิวเต้น
ระบํา ราวกับว่า ทุกสิงทุกอย่างหมุนไปตามโน้ตพิณของ
เขา

72
ใบหน้าของเขางดงามมาก แต่กลับให้ความรูส้ กึ เปราะ
บาง ราวกับว่า ทุกอย่างบนโลกใบนีสามารถทําให้เขา
แตกสลายได้ ดูแล้วชวนให้คนเกิดความรูส้ กึ อยากปก
ป้องขึนมาทันที

มูเ่ กอรูส้ กึ สงสัย เธอกําลังอึงกับภาพทีอยูต่ รงหน้า ทุก


ครังทีเส้นผมเงาดําราวกับหมึกของเขาพัดผ่านใบหน้า
ของเขาไปนัน เธอยังกลัวว่าผมนันจะบาดเข้าผิวหน้าที
เปราะบางจนแทบจะโปร่งแสงนัน จนอยากจะยืนมือ
ออกไปปั ดผมนันออก

“เจ้าเป็ นใคร!” ทันใดนัน เสียงระแวดระวังก็ดงั ออกมา

73
จากประตูกระท่อม

มูเ่ กอตืนจากภวังค์ เงยหน้าขึน กลับสบเข้ากับดวงตาอัน


ลึกลําราวกับทะเลสาบทีนิงสงบ ตาขาวกับดําตัดกัน
อย่างชัดเจน

74
ตอนที 24 ส่งสารกลางดึก อาจารย์?

ในยามคําคืน มูเ่ กอนังอยูบ่ นเก้าอีโยกในสวน ในหัวยัง


คงคิดถึงคนทีเจอในป่ าบริเวณโรงเรียนจือหยางเมือ
ตอนกลางวัน

75
ตอนนีข้างตัวเธอนอกจากโย่วเหอและฮวาเยวียแล้ว ยังมี
คนอีกคนหนึง

คนๆ นี สวมชุดสําหรับนักศึกษา ยืนตัวตรงราวกับต้นสน


ถือว่าเป็ นคนหน้าตาดีคนหนึง และดูเป็ นคนมีความกล้า
หาญ เขายืนอยูข่ า้ งมูเ่ กออย่างเรียบร้อย เงียบเสียจนทุก
คนเกือบลืมไปแล้วว่าเขายืนอยูต่ รงนีด้วย

“มัวหยาง เจ้ารูไ้ หมว่าในป่ าบริเวณโรงเรียนจือหยางมี


ใครอยู”่ อยูๆ่ มูเ่ กอก็พดู ขึน

ถูกเจ้านายถามคําถามโดยไม่ทนั ได้ตงตั
ั วเช่นนี ทําให้มวั

76
หยางอึงไปแล้วขมวดคิวตอบ “ตอบคําถามคุณชายขอ
รับ ในป่ าบริเวณโรงเรียนจือหยางเหมือนกับว่าจะมีคน
อาศัยอยูจ่ ริงๆ ได้ข่าวว่าคนๆ นันพักรักษาตัวอยูใ่ นป่ า
แต่ไม่รูว้ า่ เป็ นใคร”

พักรักษาตัว ?

มูเ่ กอแปลกใจ

ในกระท่อมทีหอมไปด้วยกลินยา และคนทีผิวขาวซีดท่า
ทางเปราะบางเหมือนจะขาดใจตายได้ตลอดเวลา
เหมือนจะตรงกับนิยามของคนป่ วยทีต้องการรักษาตัว

77
ตอนกลางวันถูกคนรับใช้ของคนผูน้ นทํ
ั าให้ตกใจ มูเ่ กอก็
แปลกใจทีตนเองเหม่อลอยดวงตาคูน่ นที
ั นัยน์ตาขาว
และดําแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ราวกับจะดูด
วิญญาณของเธอเข้าไป

‘อยูท่ ีนีนานคงไม่ดีนกั ’

มูเ่ กอทีเคยประสบกับเหตุการณ์อนั ตรายมามากมาย


หลังจากทีสัญชาตญาณของเธอเตือนแบบนี เธอก็หนั
หลังเดินจากไปอย่างไม่อาวรณ์เลยสักนิด

ตังแต่ตน้ จนจบเธอไม่ได้คยุ กับคนผูน้ นเลยแม้


ั แต่คาํ เดียว

78
และคนผูน้ นเอง
ั ก็เหมือนจะไม่ได้หา้ มตอนทีเธอเดินออก
มา

ทังสองคนเหมือนเส้นขนานทีไม่มีวนั บรรจบทีสวนทาง
กันไป

ในขณะทีเธอยังเดินมาไม่ถงึ หน้าป้ายโรงเรียน นักเรียน


ในโรงเรียนต่างก็เลิกเรียนแล้ว มัวหยางทีพวกเขามารอ
รับก็ยืนอยูข่ า้ งรถม้าตังนานแล้ว

มูเ่ กอมองชายหนุ่มทีตนเองส่งมาทิงไว้ทีโรงเรียนจือ
หยางแวบหนึง แล้วก็ขนรถม้
ึ าไป สังให้กลับตําหนัก

79
ทีไปรับมัวหยาง เพียงเพราะเธอเบือ จึงตัดสินใจจะออก
ไปอย่างกะทันหัน แต่ไม่คิดว่า จะทําให้เธอไปพบกับ
คนๆ หนึงทีน่าสนใจมากเข้า

คนทีสามารถทําให้เธอจําได้แม่นมีไม่มาก ถ้าไม่ใช่ศตั รู
ก็คือเพือน

ไม่รูว้ า่ ------------เขาจะเป็ นประเภทไหน

มูเ่ กอก้มหน้า แอบคิดในใจ : ในอนาคตจะได้เจอกันอีก


ไหมก็ไม่รู ้ แล้วทําไมต้องมาเสียเวลานังคิด

คิดแล้ว มูเ่ กอก็คอ่ ยๆ เงยหน้าขึน ขนตาอันยาวงอน


80
บดบังความรูส้ กึ ในแววตา เธอมองมัวหยางแล้วถามว่า :
“อยูท่ ีโรงเรียนเจ้าได้เรียนอะไรบ้าง”

มัวหยางหลุบตาลงแล้วตอบ : “อาจารย์สอนบทเพลงบท
กลอน คุณธรรมจริยธรรม แต่เมือครึงเดือนทีแล้ว มี
วิชาการยิงธนูมาเปิ ดสอน ถือว่าน่าสนใจมาก” เป็ นคนใช้
ของมูช่ ิงเกอก็ยอ่ มรูด้ ีวา่ นายของตนเองไม่ถนัดทาง
วิชาการ ฉะนันจึงไม่ได้พดู เกียวกับพวกการเรียนมากนัก
แต่เล่าในสิงทีคิดว่าจะทําให้มชู่ ิงเกอเกิดความสนใจ

“ยิงธนู? น่าสนใจจริงๆ ด้วย” นําเสียงของมูช่ ิงเกอมี


ความขีเล่น

81
แต่เธอก็ไม่ได้พดู อะไรมาก นอกจากบอกมัวหยางว่า
“นานๆ ทีเจ้าจะได้หยุดพักผ่อน กลับมาทีจวนแล้วอยาก
ทําอะไรก็ไปทําเถอะ ไม่ตอ้ งเฝ้าข้าตลอดเวลา ตรงนีข้ามี
โย่วเหอและฮวาเยวียก็พอแล้ว”

มัวหยางเงยหน้าขึนมองมูเ่ กอด้วยความสงสัย แต่ไม่ได้


ถามอะไรมาก คาราวะมูเ่ กอแล้วเดินออกไป

ท่าทางรูเ้ รืองแบบนี ทําให้มเู่ กอชอบใจมาก

ความเชือใจและเชือฟั งคําสังเป็ นกฎข้อแรกทีมูเ่ กอใช้


ตัดสินคนๆ หนึงว่าจะทํางานได้หรือไม่ ดูเหมือนว่ามัว
หยางคนนีจะสร้างความประทับใจแรกพบให้กบั เธอได้ดี

82
ไม่นอ้ ยเลย

มัวหยางเดินออกจากบริเวณเรือน แล้วเดินไปทางทีพัก
ของตนเอง

ตังแต่ทีเขาไปเรียนหนังสือทีโรงเรียนจือหยางเขาก็ยา้ ย
ออกจากบริเวณเรือนของมูช่ ิงเกอไปอยูก่ บั พวกคนรับใช้
ในตําหนัก แน่นอนว่านีเป็ นคําสังของมูช่ ิงเกอ ถึงแม้วา่
เขาจะไม่เข้าใจว่าทําไมเจ้านายถึงทําแบบนี แต่ก็ทาํ ตาม
คําสังโดยดี

เขาคงคิดยังไงก็คิดไม่ถงึ ว่าทีมูช่ ิงเกอทําแบบนี ก็เพราะ


ไม่อยากจะอยูร่ ว่ มกับผูช้ าย

83
“เอ้ะ ! มัวหยางนี?”

มัวหยางทีเดินผ่านสวนดอกไม้ไปได้ยินคนเรียกชือตน
เอง

เสียงนันอ่อนโยนดังสายนํา ทีผูช้ ายคนไหนได้ยินก็คงจะ


จมลงไป แต่มวหยางเพี
ั ยงแค่ขมวดคิว หันหน้าไปมอง
สองนายบ่าวทีเดินมาทางเขา

“มัวหยางคารวะแม่นางป๋ าย” มัวหยางก้มหน้าลง สิงที


เห็นคือรองเท้าและกระโปรงสีขาว

84
เขาไม่ได้เงยหน้าขึนและไม่ได้มองหน้าป๋ ายซีเยวียเลย

“มัวหยาง กลับมาแล้วหรือไปพบพีมูแ่ ล้วหรือยัง?” ป๋ ายซี


เยียวถามเบาๆ นําเสียงฟั งดูใกล้ชิดสนิทสนม

“ขอรับ เมือสักครูน่ ีมัวหยางไปพบคุณชายแล้ว” มัวหยาง


ตอบสันๆ “หากแม่นางป๋ ายไม่มีอะไรให้รบั ใช้ มัวหยาง
คงต้องขอตัวก่อน ชายหญิงมายืนกันอยูด่ ว้ ยกัน
ตอนกลางคืน เกรงว่าจะทําให้เสือมเสียถึงชือเสียงของเม่
นางป๋ าย” พูดจบ เขาไม่รอให้ป๋ายซีเยวียพูดอะไรก็หนั
หลังเดินออกไป

พอเขาเดินจากไปไกลลวีจือทีเดินตามป๋ ายซีเยียวมา ก็

85
พูดเบาๆ ด้วยนําเสียงดูถกู ว่า “พวกไม่รูจ้ กั ดีชวั ไม่ได้มี
อะไรดีเลยสักนิด เป็ นได้แค่หมาตัวหนึงทีเฝ้าอยูข่ า้ งๆ
คุณชายแท้ๆ คิดว่าได้เข้าไปเรียนหนังสือในโรงเรียนจือ
หยางแล้ว จะกลายเป็ นชนชันสูงงันรึ? เสียแรงคุณหนู
อุตส่าห์ทาํ ดีดว้ ย”

นําเสียงนันเหมือนเป็ นการทวงความเป็ นธรรมให้กบั ป๋ าย


ซีเยวีย แต่ความจริงแล้วเป็ นเพราะความอิจฉาทีมัว
หยางโชคดีได้ไปเรียน

โรงเรียนจือหยางนันเป็ นทีอะไร ถ้าโชคดีหน่อยและรูจ้ กั


รักษาโอกาสเอาไว้ จากคนใช้ไม่แน่วา่ อาจจะได้กลาย
เป็ นเจ้าคนนายคนในพริบตา

86
สายตาทีอ่อนโยนของป๋ ายซีเยวียค่อยๆ เต็มไปด้วย
ความเยือกเย็น

คําพูดของลวีจือ ไม่ได้สง่ ผลกระทบอะไรต่อนาง นางพูด


นิงๆ “มัวหยางได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนจือหยาง ถ้า
สามารถเอาเขามาเป็ นพวกเดียวกับเราได้ ไม่แน่วา่ เรา
อาจจะได้รบั ประโยชน์จากเขา”

นางรูอ้ ยูแ่ ล้วว่าวันนีเป็ นวันหยุดทีมัวหยางจะกลับมา


เพราะฉะนันจึงมารอโอกาสอยูท่ ีนีนานแล้ว

ไม่คิดว่าจะโดนตอกหน้ากลับมาแบบนี

87
แต่วา่ ป๋ ายซีเยวียก็ไม่ได้โกรธอะไรมากนัก คนยิงจัดการ
ยากมากเท่าไหร่ นางก็ยิงสนใจ มากขึนเท่านัน แบบนีถึง
จะคูค่ วรให้นางลงมือ!

...................

ในเรือน มูเ่ กอสังให้โย่วเหอและฮวาเยวียกลับไปพักผ่อน


ก่อน

เมือเดินเข้าไปในห้อง ในขณะทีกําลังจะเริมการฝึ กเวท


พลังสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับกระดาษแผ่นหนึงบนโต๊ะ
กลม

88
เธอเดินเข้าไปใกล้ แล้วก้มหน้าลงมอง

บนกระดาษมีตวั หนังสือเขียนอยูแ่ ถวหนึง ‘ยามสามก่อน


รุง่ สางมาพบข้า’

มูเ่ กอขมวดคิวหยิบกระดาษบนโต๊ะขึนมา พูดเสียงตํา “มู่


ชิงเกอออกมานีหน่อย”

พอพูดจบร่างอันโปร่งแสงของมูช่ ิงเกอก็ปรากฏขึนตรง
หน้าเธอ

“ถ้าเจ้าอธิบายอะไรหน่อยจะดีมากนะ” มูเ่ กอถือ


89
กระดาษในมือขึนมาสะบัดตรงหน้ามูช่ ิงเกอ

ใครจะไปรูว้ า่ สีหน้าบนใบหน้าอันโปร่งแสงของมูช่ ิงเก


อนันดูแย่มาก ในแววตาเต็มไปด้วยความกลัว ร่างทีโปร่ง
แสงเริมสัน

มูเ่ กอขมวดคิวถามอีก “เจ้าเป็ นอะไร แล้วคนๆ นีเป็ น


ใคร”

“อา.......อาจารย์......” มูช่ ิงเกอเหมือนเปล่งเสียงลอดไร


ฟั นออกมา

90
ตอนที 25 ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง

91
บริเวณแม่นาแถบชานเมื
ํ องของแคว้นลัวตู ร่างอันผอม
บาง ถูกเสือคลุมสีดาํ บดบังเอาไว้ อาศัยแสงจากดวงดาว
และแสงเทียนในการนําทาง ภายใต้เสือคลุมทีปลิวไหว
ไปมา ทําให้มองเห็นเสือสีแดงดังเปลวไฟด้านในได้อย่าง
เลือนราง

เกรงว่า ขนาดมูซ่ งเองก็คงคาดไม่ถงึ ว่าในจวนของตนเอง


จะมีทางลับออกไปยังนอกเมืองและทางลับนันอยูใ่ น
ห้องของมูช่ ิงเกอ

เท่าทีมูช่ ิงเกอบอก ทางลับนี เป็ นทางลับทีอาจารย์ผู้


เก่งกาจผูน้ นของนางแอบสร้
ั างเอาไว้ ทังหมดก็เพือให้คน
ไร้คา่ อย่างนางสามารถออกมาตามคําสังของเขาได้
ตลอดเวลา
92
นอกชานเมืองของแคว้นลัวตูเป็ นผืนป่ าผืนใหญ่ ใน
ตอนกลางคืนดูน่ากลัวมากเป็ นพิเศษ

มูเ่ กอถือโคมไฟส่องทาง ข้างหูมีเสียงของมูช่ ิงเกอคอย


บอกทาง

แสงไฟสีสม้ ทําให้ใบหน้าอันงดงามของมูเ่ กอดูไม่ชดั เจน


แววตาราวกับเก็บซ่อนอะไรบางอย่างไว้

“ข้าไม่ได้ตงใจจะปิ
ั ดบังเจ้า แต่ไม่คิดว่าเขาจะมาหาข้า
เร็วถึงเพียงนี” มูช่ ิงเกอเม้มปาก แต่ในนําเสียงก็ฟังออก
ถึงความกลัวได้ไม่ยากนัก

93
มูเ่ กอไม่สนใจนาง

ทุกครังทีเธอคิดว่าตัวเธอได้รูท้ กุ อย่างแล้ว แต่ก็คิดไม่ถงึ


ว่าจะยังมีความจริงมาทําให้เธอต้อง ‘เซอร์ไพรส์’ อยูไ่ ด้
ตลอด

มูเ่ กอไม่สนใจมูช่ ิงเกอ ทําให้แววตาของมูช่ ิงเกอยิงดูเศร้า


นางเดินตามมูเ่ กอทีละก้าวไปทางภูเขาทีดูน่ากลัว มูช่ ิง
เกอกัดฟั นแล้วลอยไปอยูต่ รงหน้ามูเ่ กอ ขวางทางเธอเอา
ไว้

“เจ้าไม่ตอ้ งไปแล้ว!” มูช่ ิงเกอห้าม

94
มูเ่ กอเงยหน้าขึนมองนาง แววตาทีใสกระจ่างนันไร้ซงึ
ความรูส้ กึ ใดๆ

เธอเดินอ้อมตัวมูช่ ิงเกอและเตรียมทีจะเดินหน้าต่อไป

“เจ้าไม่ตอ้ งไปแล้ว!” มูช่ ิงเกอมาขวางอยูต่ รงหน้าเธออีก


ครัง ครังนีถึงกับกางแขนทังสองข้างออก นางทําไปตาม
สัญชาตญาณ แต่กลับลืมไปว่าตนเองเป็ นแค่วิญญาณ
ไม่สามารถทีจะห้ามการกระทําของมูเ่ กอได้ ถ้ามูเ่ กอคิด
จะเดินทะลุตวั นางไปก็สามารถทําได้

มูเ่ กอเงยหน้าขึนมองช้าๆ สายตาอันเย็นชาทีให้ความ

95
รูส้ กึ เยือกเย็นนัน จ้องมองนางอยู่

ในแววตาของมูช่ ิงเกอเต็มไปด้วยการคัดค้าน นางรีบ


พูด : “ตอนนีเจ้าสามารถฝึ กเวทพลังได้แล้ว ไม่จาํ เป็ น
ต้องไปพึงพาพวกไสยศาสตร์พวกนันแล้ว พวกเรากลับ
จวนกันเถอะ”

นําเสียงของเธอฟั งออกถึงความรีบร้อน

ราวกับว่าหากมูเ่ กอไม่กลับไปจะเกิดเหตุการณ์น่ากลัว
อะไรขึนอย่างนันล่ะ

แต่วา่ ความรีบร้อนของนางไม่ได้สง่ ผลกระทบอะไรต่อมู่


96
เกอเลย พอมูเ่ กอฟั งนางพูดจนจบก็ยมเย็
ิ นอย่างอดไม่ได้
แววตาเต็มไปด้วยการเสียดสี : “มูช่ ิงเกอ ตอนนีข้าต่าง
หากทีเป็ นมูช่ ิงเกอ ต้องมาค่อยมาตามล้างตามเช็ดทีเจ้า
ทําวุน่ วายเอาไว้โดยทีข้าก็ไม่ได้เต็มใจ แต่จะไม่ทาํ ก็ไม่
ได้ เพราะฉะนันตังแต่นีเป็ นต้นไป เจ้าหุบปากไว้จะดี
กว่า”

ใบหน้าอันโปร่งแสงของมูช่ ิงเกอดูขาวซีดขึนหลายระดับ
ขนาดริมฝี ปากทีดูเป็ นสีแดงเรือจางๆ ในตอนแรกก็กลาย
เป็ นสีเทา

“นําทาง” มูเ่ กอพูดอย่างเย็นชา

97
มูช่ ิงเกอยังคงดือดึงมองมูเ่ กอแล้วขอร้องเป็ นครังสุด
ท้าย : “ถ้าเกิดอะไรขึนกับเจ้า ท่านปู่ กบั ท่านอาจะทํา
อย่างไร”

ในดวงตามูเ่ กอยิงฉายแววเสียดสี นางหัวเราะแต่ก็ไม่


คล้ายว่าจะหัวเราะ : “เอาคนพวกนีมาข่มขู่ขา้ เวลานีเนีย
นะ? แล้วตอนทีเจ้าทําเรืองพวกนีเจ้าเคยคิดถึงพวกเขา
บ้างไหม ข้าเพิงรูจ้ กั พวกเขาได้แค่ไม่กีวัน เจ้าคิดว่าข้าจะ
สนใจหรือว่าพวกเขาจะเป็ นอย่างไร”

“เจ้าคิดว่าข้าอยากให้มนั เป็ นแบบนีรึ!” อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็


ระเบิดอารมณ์ออกมา

98
สายตาของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหลือล้น มือทัง
สองกุมศีรษะแน่น “ข้าก็ไม่อยากให้เป็ นแบบนี แต่ขา้ จะ
ทําอย่างไรได้ ข้าเป็ นแค่คนไร้คา่ ไร้คา่ ! เป็ นทายาทและ
เป็ นหลานชายคนเดียวของมูซ่ งแต่กลับไม่อาจฝึ กเวท
พลังได้ ข้าไม่เพียงแต่ไม่สามารถสร้างชือเสียงให้กบั ตระ
กูลมูไ่ ด้ แต่ยงั ต้องใช้ชือเสียงของตระกูลมูใ่ นการปกป้อง
ตนเอง ข้าก็เป็ นแค่คนไร้คา่ ! เจ้าเคยเข้าใจความรูส้ กึ ของ
ข้าบ้างไหม? ในตอนทีข้าหมดหวังและโกรธเกลียดตน
เอง มีคนบอกว่าสามารถเปลียนแปลงธาตุในร่างกาย
ของข้าได้ แล้วข้าจะไม่หวันไหวได้หรือ จะไม่กล้ายอม
เสียงได้หรือ ถึงแม้วา่ ข้าจะรูว้ า่ คนๆ นันอาจจะไม่บริสทุ ธิ
ใจและความจริงทังหมดอาจจะไม่ได้เป็ นอย่างทีเขาพูด
แต่หากว่ามีความหวังแม้เพียงเศษเสียว ข้าก็จะไม่ยอม
ปล่อยมันไป”

99
เธอมองมูช่ ิงเกอทีควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างเงียบๆ

เป็ นครังแรกทีมูช่ ิงเกอเผยอีกด้านหนึงทีดูเจ็บปวดและไร้


ซึงทีพึงออกมา ทีผ่านมานางดูเหมือนไม่ใส่ใจ นางจะ
แสดงความรูส้ กึ ของตัวเองออกมาก็ตอ่ เมืออยูต่ อ่ หน้าคน
สนิทเท่านัน

แต่ตอนนี..........

บางทีอาจจะเหมือนทีมูช่ ิงเกอบอก เธอไม่สามารถเข้าใจ


ความรูส้ กึ แบบนันได้

100
ในผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่แห่งนี ทีซึงทุกคนสามารถฝึ ก
เวทพลังได้นอกจากนาง หากนางเป็ นเพียงแค่คน
ธรรมดาก็ช่างเถิด แต่นางกลับมีฐานะอันโดดเด่นทีไม่
ธรรมดา

นางถูกกดดันมานาน แบกรับความลับมามากมายเกิน
ไป ในใจคิดแต่อยากจะเก่งขึน อยากจะรักษาและ
เปลียนแปลงโชคชะตาของตนเอง แต่วา่ เสียดายทีสุด
ท้ายก็กลับกลายเป็ นเพียงวิญญาณตนหนึง

นอกจากเธอ ก็ไม่มีใครรูว้ า่ มูช่ ิงเกอตัวจริงตายแล้ว ตาย


โดยไม่มีแม้กระทังสุสาน

101
สีหน้าของมูเ่ กอเปลียนไป นําเสียงก็ออ่ นโยนขึน “มูช่ ิงเก
อ เจ้าต้องเข้าใจว่าเรืองนี ไม่ใช่วา่ จะแก้ไขได้ดว้ ยการ
หนี” คืนนีถึงแม้วา่ เธอจะไม่ไปตามนัด แล้วพรุง่ นีล่ะ ถ้า
ไปทําให้คนทีมูช่ ิงเกอบอกว่าเป็ นคนแปลกประหลาดนัน
โกรธ ด้วยความสามารถทางไสยศาสตร์ของคนๆ นัน
แล้ว ถ้าจะแอบใช้ทางลับทีสร้างขึนในตระกูลมูเ่ พือเด็ด
หัวของใครคนใดคนหนึงในจวนก็ไม่ใช่เรืองยาก

มูช่ ิงเกอเม้มปาก ในแววตาเต็มไปด้วยความกระวน


กระวาย

บางทีในตอนทีนางตัดสินใจเข้าสูส่ งคราม นางก็คงคาด


ไม่ถงึ ว่าโชคชะตาของตนเองจะกลายเป็ นอย่างวันนี

102
“เราไปขอให้ทา่ นปู่ ช่วยได้......”

“ตัวเองก่อเรืองเอาไว้ แล้วจะไปให้ผใู้ หญ่คอยแก้ไขให้ มู่


ชิงเกอเจ้าช่างเป็ นคนไร้คา่ ขนานแท้จริงๆ เลย” นําเสียง
อันเย็นชาของมูเ่ กอขัดจังหวะเสียงพึมพําของมูช่ ิงเกอ

ร่างอันโปร่งแสงของมูช่ ิงเกอเริมสัน เสมือนโดนดูด


พลังงานทังหมดออกจากร่างกาย

“ข้าก็วา่ ทําไมยังมาไม่ถงึ ทีแท้ก็ไปสะดุดเข้ากับ


วิญญาณในป่ านีเอง ศิษย์รกั อาจารย์จะช่วยจัดการผี
ตนนีให้เจ้าเดียวนีเลย”

103
ทันใดนัน เสียงอันเย็นชาและแหลมสูงก็ดงั มาจากฟาก
ฟ้า

ในขณะทีมูเ่ กอยังไม่ทนั ได้มีปฏิกิรยิ าใดๆ ก็เห็น


วิญญาณของมูช่ ิงเกอพลันลอยขึนไปบนท้องฟ้า กลาย
เป็ นควันและถูกคนเก็บไปในทันที

มูเ่ กอทีเพิงจะรูส้ กึ ตัว พอขยับขาก็รูส้ กึ ราวกับว่าทังร่าง


ตกไปอยูใ่ นถํานําแข็ง แข็งจนขยับไม่ได้

‘เกิดอะไรขึน’ มูเ่ กอทีไม่สามารถขยับตัวได้ยืนอยูท่ ีเดิม


ดวงตาสดใสคูน่ นยั
ั งคงสามารถกลอกไปมาได้

104
เธอพยายามทีจะหมุนเวียนพลังวิญญาณในร่าง แต่กลับ
พบว่าพลังวิญญาณทีอยูใ่ นระดับสูงทีสุดของขันสีเหลือง
ทีสามารถควบคุมได้แล้วในตอนแรก กลับดูหนักหน่วง
ราวกับเหล็ก จนไม่สามารถเอาออกมาใช้ได้เลย

แม้กระทัง ตอนทีเธอคิดจะใช้ความสามารถของตนเอง
กลับพบอีกว่าความสามารถด้านพลังสายฟ้าและช่อง
ว่างของเธอเหมือนจะหายไปหมดอย่างไรอย่างนัน

ตัวเธอเหมือนกลายเป็ นเพียงหุน่ ไม้ทีใช้ได้เพียงแค่ความ


คิด

105
‘ประมาทเกินไป’ มูเ่ กอร้องในใจ

คนทีมีความสามารถสองสิง และครอบครองความเร็วใน
การฝึ กเวทพลังได้อย่างน่าทึงกลายเป็ นยอดฝี มือชันสูง
สุดของขันพลังสีเหลืองได้ภายในคืนเดียว ทําให้เธอรูส้ กึ
หยิงยโสในตนเอง คิดว่าใช้ความสามารถของตนเองก็
สามารถแก้ไขปั ญหานีได้ แต่กลับคิดไม่ถงึ ว่า ยังไม่ทนั
ได้เจอกัน เธอก็ตกลงไปในหลุมพรางเสียแล้ว

และทีสําคัญ วิญญาณของมูช่ ิงเกอก็หายไปอีกด้วย

ทันใดนัน เธอก็คิดถึงความเป็ นจริงทีน่าตืนตะลึงได้เรือง


หนึง

106
คนๆ นันสามารถมองเห็นมูช่ ิงเกอได้ จึงเอาตัวนางไปได้
อย่างง่ายดาย!

แกร่ก------แกร่ก---------

เสียงราวกับเหยียบลงไปบนนําแข็งแผ่นบางๆ ดังขึน
กระตุน้ ความตืนตัวมูเ่ กอ

เธอจ้องไปยังทีมาของเสียง เห็นเพียงแค่เงาร่างค่อมงุม้
ค่อยๆ ปรากฏตัวขึนในชุดคลุมสีดาํ ผมสีเงินยาวสยาย
นันร่วงออกมาจากหมวกแล้วตกลงไปบนพืน

107
การปรากฏตัวของเขาทําให้อณ
ุ หภูมิในป่ าแห่งนีลดลง
หลายองศา

มูเ่ กอรูส้ กึ ถึงแรงกดดันทีพุง่ เข้ามาอย่างไม่เคยเป็ นมา


ก่อน

แกร่ง ! แข็งแกร่งมาก !

ตังแต่ทีมูเ่ กอมาเกิดใหม่ นีคือคนที 5 ทีทําให้เธอรูส้ กึ ได้


ถึงความแข็งแกร่ง และคนคนนีเมือจัดลําดับแล้วในห้า
คนเขาอยูใ่ นลําดับทีสอง นอกจากมหาปราชญ์ทีทําให้
เธอรูส้ กึ ได้ถงึ ความความลึกลับยากจะคาดเดานันแล้ว
ไอเย็นเยียบทีแผ่ออกมาจากทัวร่างของคนตรงหน้านี ทํา

108
ให้เธอรูส้ กึ ได้ถงึ วิกฤตมากกว่าครังไหนๆ

‘ผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง’ ในตอนนีมูเ่ กอนึกฐานะของผูม้ า


เยือนออกแล้ว

109
ตอนที 26 ใช้เธอเป็ นหนูทดลอง

“ศิษย์รกั ทําไมเจ้าเจออาจารย์แล้วไม่คารวะ”

110
ในป่ ามืดทึบแห่งนี ราวกับคนตรงหน้าเป็ นวิญญาณ
จริงๆ และตอนนีกําลังจะฟื นคืนชีพ

มูเ่ กอไม่สามารถขยับตัวได้ แต่แน่ใจว่าคนๆ นันกําลัง


ค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้เธอ

ใกล้เข้ามาเรือยๆ-------

เพราะแสงจากโคมไฟ ทําให้มเู่ กอเห็นหน้าตาของคนใน


เสือคลุม

แต่วา่ พอเห็นชัดแล้ว เธอก็สดู หายใจเย็นเยียบในใจใอ


111
ย่างอดไม่ได้ มันช่าง แปลกประหลาดเหลือเกิน มูเ่ กอก
ล้าสาบานต่อสวรรค์วา่ รูปร่างหน้าตาของคนผูน้ ีถือว่า
เป็ นคนน่าเกลียดทีสุดในทังสองโลกเท่าทีเธอเคยเห็นมา
เลย

ใบหน้านัน ดูแย่กว่าผูท้ ีประสบอุบตั ิเหตุบนถนนเสียอีก


ชวนให้คนรูส้ กึ เวทนา

แม้วา่ นิสยั เธอจะเย็นชา แต่พอเห็นใบหน้าน่ากลัวนีเข้าก็


อดทีจะหวันใจไม่ได้

หน้าตาน่าเกลียดนี ไม่ได้เป็ นมาตังแต่เกิด แต่เป็ นเพราะ


การกระทําบางอย่างทีทําให้เป็ นแบบนี ใบหน้าเต็มไป

112
ด้วยตุม่ ทีมีหนองไหลออกมาไม่หยุด หน้าตาอันน่า
เกลียดน่ากลัวของเขาไม่ได้อยูใ่ นนิยามของคําว่าคนตัง
นานแล้ว

“หึๆ อาจารย์ลืมไปว่าตอนนีเจ้าขยับตัวไม่ได้” ท่านผูเ้ ฒ่า


เป่ ยหมิงหัวเราะเบาๆ ดวงตาทีมองมูเ่ กอเต็มไปด้วย
ความเยือกเย็นโหดร้าย

ทันใดนันรอบตัวเธอก็มีแสงสีมว่ งอ่อนๆ ส่องประกาย


แสงสีมว่ งพวกนันเหมือนจะมีหมอกสีดาํ แทรกปะปนมา
ด้วย

“ขันม่วง!” มูเ่ กอกะพริบตา ดวงตาใสกระจ่างนันมอง

113
ด้วยความไม่อยากจะเชือ

ไหนบอกว่าขันม่วงมีนอ้ ยมากไง ไหนบอกว่าในแคว้นฉิน


มีขนม่
ั วงแค่คนเดียวแล้วก็เป็ นเชือพระวงศ์ไง แล้วสิงที
ปรากฏอยูต่ รงหน้าเธอนีคืออะไรกัน

มูช่ ิงเกอไอ้ตวั ปั ญหา! รูห้ รือเปล่าว่าไปยุง่ กับคนแบบไหน


เข้าแล้ว?

มูเ่ กอรูส้ กึ โกรธในใจ

แต่แววตากลับยิงสงบนิงลง

114
“ลูกศิษย์ เจ้าเดินด้วยสองขาช้าเกินไป อย่าทําให้ขา้ ต้อง
เสียเวลา ให้ขา้ ช่วยพาเจ้าไปจะดีกว่าไหม” พูดจบแสงสี
ม่วงทีมีหมอกดําปะปนอยูก่ ็พดั เข้าหามูเ่ กอเหมือนมีชีวิต
ม้วนตัวของเธอจนกลายเป็ นรังไหมดิบรูปคนขนาดใหญ่

ทุกอย่างเกิดขึนเร็วมาก ทําให้เธอไม่สามารถโต้ตอบได้

มูเ่ กอทีถูกห่อหุม้ อยูใ่ นรังไหมดิบขนาดใหญ่ รูส้ กึ ว่าร่าง


กายของตนเองลอยอยูก่ ลางอากาศ จากนันก็เริมเคลือน
ตัวไปอย่างรวดเร็ว

มูเ่ กอไม่ได้รูส้ กึ ถึงความลําบากแต่อย่างใด สิงเดียวทีเธอ


ไม่ชอบใจคือเธอไม่สามารถขยับตัวได้

115
มูเ่ กอแอบนับเลขในใจ พอเธอนับถึง 129 เธอก็เริมรูส้ กึ
ว่าร่างกายของเธอลอยลงมาและกระแทกกับพืนอย่าง
แรง

แสงสีมว่ งหายไปในทันที ความเจ็บปวดแผ่ซา่ นทันทีที


ก้นของเธอกระแทกลงกับพืน

ตึง~!

แม้วา่ ก้นกบจะเป็ นส่วนทีมีเนือเยอะทีสุดในร่างกาย แต่


แรงกระแทกจากการตกลงมาจากกลางอากาศก็ทาํ ให้มู่
เกอรูส้ กึ ว่าตัวของเธอได้ชาไปแล้วครึงหนึง

116
“ทีนีทีไหน”

พอสัมผัสกับความเย็นและพืนทีขรุขระ มูเ่ กอรูส้ กึ ว่าร่าง


กายของตนเองสามารถเคลือนไหวได้แล้ว

สิงแรกทีทําก็คือดูวา่ ตนเองอยูท่ ีไหน

ทีนีเหมือนเป็ นถํา

อากาศทีเย็นและชืน และผนังรอบๆ ซึงขรุขระ ทําให้มเู่ ก


อแอบเดาในใจ

117
ไม่แน่วา่ ทีนีอาจจะเป็ นทีอยูข่ องคนทีมูช่ ิงเกอเรียกว่า
ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง

มูเ่ กอตาเป็ นประกาย สังเกตรอบๆ ด้วยใบหน้านิงๆ

ทีนีเป็ นถําจริงๆ ด้วย บนถํามีหินย้อยลงมามากมาย หิน


แหลมมีหยดนําหยดลงพืนตลอดเวลา ถํานีไม่ถือว่าใหญ่
มาก แต่ก็เกือบ 50 ฉือ

มูเ่ กอสังเกตความกว้างในถําแล้วสายตาก็ไปหยุดทีเตา
ไฟอันหนึงในถํา ข้างเตาไฟมีชนวางของมากมายที
ั เต็ม
ไปด้วยดอกไม้ใบหญ้า ซึงส่งกลินหอมคล้ายกับยา

118
มูเ่ กอหรีตามอง

มูช่ ิงเกอเคยบอกว่า ทีนางนับถือคนประหลาดคนนีเป็ น


อาจารย์ เพราะเขาเป็ นอาจารย์หลอมโอสถ ว่ากันว่า เขา
สามารถปรุงยาทีสามารถเปลียนแปลงร่างกายคนไร้คา่
อย่างนางได้

และสิงทีนางต้องทําก็คือคอยเป็ นหนูทดลองให้กบั ท่านผู้


เฒ่าเป่ ยหมิงจนกว่ายานีจะประสบความสําเร็จ

มูเ่ กอตกใจ

119
คืนนีทีท่านผูเ้ ฒ่าเป่ หมิงเรียกเธอมา คงไม่ใช่วา่ จะ.........

เคร้ง!

ขวดกระเบืองเคลือบสีดาํ สนิทใบใหญ่ถกู คนๆ หนึงโยน


มาลงบนชุดผ้าไหมของมูเ่ กอ

เสียงอันเย็นชาของท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงดังขึน “นีเป็ นยาที


ข้าต้มขึนใหม่ กินมันซะ แล้วบอกปฏิกิรยิ าของร่างกาย
เจ้าให้ขา้ รู”้

สายตาของมูเ่ กอปรากฏไอสังหารวาบผ่าน เธอเงยหน้า


ขึนมองท่านผูเ้ ฒ่า เห็นเขานังอยูบ่ นทีนอนและไม่ได้มอง
120
เธอเลย ในมือถือขวดโปร่งแสงใบหนึง ในนันมีแสงสี
เขียวกลุม่ หนึงทีเหมือนกําลังต่อสูด้ นรนกั
ิ บอะไร
บางอย่าง

ไม่รูท้ าํ ไม มูเ่ กอรูส้ กึ ว่าแสงสีเขียวนันเป็ นวิญญาณของมู่


ชิงเกอ

เมือความคิดนีแวบผ่านเข้ามาในหัว มูเ่ กอก็หวั ใจกระตุก


ทีหนึง แล้วมองท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงอย่างระมัดระวัง
เหมือนหวังจะได้เห็นอารมณ์บางอย่างจากสีหน้าของ
เขา

แต่วา่ เสือคลุมสีดาํ ปกปิ ดใบหน้าของท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิ

121
งจนเห็นแค่มมุ ปากของเขาทีมีรอยยิมอันแปลก
ประหลาด

‘หรือว่าเขาจะดูออก’ มูเ่ กอแอบเดาในใจ

ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงสามารถเห็นวิญญาณได้เป็ นเพราะ


อะไรนัน มูเ่ กอไม่รู ้ ตอนนีเธอเป็ นห่วงว่าท่านผูเ้ ฒ่า
เป่ ยหมิงจะทําอะไรมูช่ ิงเกอ เขาจะรูห้ รือเปล่าว่านันเป็ น
วิญญาณของมูช่ ิงเกส่วนตัวเธอนัน.........

ตนเองยืมร่างคนอืนในการเกิดใหม่ เป็ นความลับทีมูเ่ ก


อจะเก็บไปจนตาย ถ้าคนตรงหน้ารู ้ แต่ไม่พดู อะไรเลย
แบบนี เขาคิดจะทําอะไรกันแน่?

122
ในขณะทีมูเ่ กอเหม่อตาค้าง เสียงของท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิ
งก็ดงั ขึนอีกครัง แต่กลับโหดเ**◌้ยมกว่าเดิมหลายเท่า
นัก

“ยังนิงอยูท่ าํ ไม คิดว่าอยูๆ่ ตัวเองสามารถฝึ กเวทพลังได้


และกลายเป็ นยอดฝี มือสูงสุดของขันพลังสีเหลืองแล้วจะ
หนีพน้ เงือมมือข้าไปได้ร?ึ หึ”

มูเ่ กอตาโตทันที

ความสามารถของเธอในตอนนี แค่พริบตาเดียวก็ถกู ผู้


เฒ่าเป่ ยหมิงมองออกแล้ว

123
อยูๆ่ ก็มีลมเย็นพัดผ่าน

เงาคนสีดาํ มาหยุดตรงหน้ามูเ่ กอ เธอหรีตา สายตาใส


กระจ่างคูน่ นมี
ั เงาหน้าตาอันอัปลักษณ์ดวงนันสะท้อน
อยู่

คางของเธอถูกบีบ ความรูส้ กึ เสียการควบคุมแบบนัน


กลับมาอีกครัง และมูเ่ กอยังคงไม่ทนั ได้ปอ้ งกันเหมือน
เคย

ปากถูกบังคับให้อา้ กว้าง ขวดทีมียาอยูถ่ กู เปิ ดออกและ


เทลงในปากเธอทันที

124
ยาเมือเข้าปากก็ละลายในทันที ส่งกลินเหม็นยากจะ
บรรยายจนอยากอาเจียนออกมา

หลังจากทีมูเ่ กอกินยาในขวดนันเข้าไป ก็รูส้ กึ ว่าคางทีถูก


จับอยูน่ นเป็
ั นอิสระ และโดนผลักอย่างแรง

ข้างหูมีเสียงเย่อหยิงดังขึน “ฮึ ไม่รูจ้ กั ดีชว”


มูเ่ กอล้มลงบนพืนสายตาเยียบเย็นดังนําแข็ง

ไม่พอ ! ยังไม่พอ ! ยังแข็งแกร่งไม่พอ !

125
“อุก่ .............”

ทันใดนัน ก็รูส้ กึ เจ็บทีช่องท้องและลามไปทัวร่าง


กายอย่างรวดเร็วราวกับมีหนอนนับหมืนตัวแหวกว่ายอยู่
อย่างไรอย่างนัน

‘ยาออกฤทธิแล้ว !’

หน้าผากของมูเ่ กอเต็มไปด้วยเหงือ เธอกัดฟั นแน่น ไม่ให้


ตนเองส่งเสียงใดๆ ออกมา

ความเจ็บปวดนัน มูเ่ กอไม่กลัวและทนได้ แต่วา่ ยานีทํา


126
ให้รูส้ กึ เหมือนกําลังจะขาดใจตาย มูเ่ กอเห็นกับตาว่าผิว
บนหลังมือของเธอเริมเน่า ส่งกลินเหม็นและแน่ใจว่าทัว
ร่างกายของเธอก็คงไม่ตา่ งจากนี

‘นีไม่ใช่ยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอแน่ๆ แต่เป็ นยาพิษทีเอา


ไว้ทรมานคน!’ แม้วา่ มูเ่ กอจะไม่มีความรูเ้ รืองยา แต่ก็พอ
จะเดาออกถึงสรรพคุณทีผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงให้เธอกิน

‘บัดซบ ! นีข้าจะต้องทนเห็นร่างกายตนเองเน่าตายไป
กับตางันหรือ?’ มูช่ ิงเกอโกรธและไม่ยินยอม

เสียดาย ทีเมืออยูต่ อ่ หน้าท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง เธอก็ไม่


ต่างอะไรกับเด็กทารกคนหนึงทีไม่สามารถปกป้องตัวเอง

127
ได้เลยแม้แต่นอ้ ย

ได้แต่เป็ นไปตามทีเขาต้องการ

ทันใดนัน ความเจ็บปวดในร่างกายเหมือนสัมผัสได้ถงึ
อะไรบางอย่าง นําใสๆ ทีไหลออกมาจากจุดตันเถียน
ของเธอไหลเข้าสูร่ า่ งกายอย่างรวดเร็ว บีบไล่ยาพิษทีอยู่
ภายในร่างกายของเธอออกมา

ความเจ็บปวดบรรเทาลงมาก

และมูเ่ กอก็องที
ึ เห็นเนือแขนทีเน่าเปื อยของเธอกลับคืนสู่
สภาพเดิมราวกับย้อนเวลา
128
เกิดอะไรขึน?

หรือว่านีเป็ นยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอ?

มูเ่ กอแอบเดา

ทันใดนัน มูเ่ กอก็พน่ เลือดสีดาํ เหนียวส่งกลินเหม็น


คาวออกมาจากปาก ความเจ็บปวดทัวร่างสลายหายไป
แต่มีพลังบางอย่างพุง่ เข้าสูต่ วั เธอ ทําให้การฝึ กฝนของ
เธอก้าวหน้าขึนไปคืบหนึง

แม้วา่ แค่คืบเดียวจะสามารถมองข้ามไป หรือไม่นบั ก็ได้


129
แต่ก็ยงั ถือว่าก้าวหน้าขึนไปอยูด่ ี

มูเ่ กอไม่ได้สงั เกตถึงความเปลียนแปลงนี

ตาทังสองข้างจ้องกองเลือดสีดาํ กลินนีเธอคุน้ เคยมาก


ในตอนทีร่างกายของเธอได้รบั ยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอ
ในร่างกายของเธอเคยมีเลือดสีดาํ แบบนีออกมาและ
จํานวนมากกว่านีหลายสิบเท่านัก

แบบนีนีเอง เธอคิดมาตลอดว่านันเป็ นสิงสกปรกทีถูกขับ


ออกมาจากร่างกายหลังจากทีร่างกายอันไร้คา่ ของมูช่ ิง
เกอได้รบั การเปลียนแปลงดีเอ็นเอ

130
แต่ตอนนีเธอเข้าใจแล้วว่าเลือดดําพวกนีเป็ นยาพิษที
แฝงซ่อนอยูใ่ นตัวของมูช่ ิงเกอ! ส่วนทีมา เกรงว่าคงจะ
หนีไม่พน้ ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงผูน้ ีนีแหละ

มูช่ ิงเกอค่อยๆ เงยหน้าขึน มองท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงทียัง


ไม่สงั เกตเห็นเธอ

131
ตอนที 27 ล้างอาจารย์ ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต

“หืม?” ความเงียบภายในถํา ทําให้ผเู้ ฒ่าเป่ ยหมิงรูส้ กึ


แปลกๆ

เขายัดขวดอันโปร่งแสงเข้าในแขนเสือตนเอง แล้วเงย

132
หน้าขึนมองมูเ่ กอทีนอนอยูบ่ นพืน

“ทําไมเงียบอย่างนี? หรือว่ายาพิษครังนีร้ายแรงเกินไป
ทําให้เจ้าเด็กนีตายเสียแล้ว” ผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงพลันมา
ปรากฏตรงหน้ามูเ่ กอด้วยความสงสัยทันที

เขาคุกเข่าลงด้วยขาอันผอมแห้งราวกับไม้ฟืน มือรีบจับ
ทีชีพจรตรงข้อมือของมูเ่ กอ แล้วตรวจชีพจรดู

ชีพจรยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปลกไป

ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงยิมเย็น เพิมแรงจับทีข้อมือ เล็บอัน


แหลมคมแทบจะแทงเข้าไปในเนือของมูเ่ กอ
133
“หึ ไอ้เด็กหน้าเหม็น แกล้งตายรึ” ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิ
งแทบจะบีบข้อมือของมูเ่ กอจนหัก

มูเ่ กอทนกับความเจ็บปวด ไม่แสดงอาการใดๆ โต้ดอบ

ราวกับว่าได้สลบไปแล้วจริงๆ

ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงยิมอย่างโหดเ**◌้ยม ออกแรงทีฝ่ ามือ


เพียงได้ยินเสียง ‘กร็อบ!’ ดังขึน เสียงหนึง แขนของมู่
เกอหัก ภายใต้ผิวหนังบริเวณทีกระดูกหัก กระดูกนูนปูด
ขึนมาราวกับจะแทงผิวหนังทะลุออกมาได้ตลอดเวลา

134
ความเจ็บปวดจากกระดูกทีหัก ทําให้หน้าผากของมูเ่ ก
อผุดเหงือเย็นออกมา แต่เธอยังคงไม่รอ้ งแสดงความเจ็บ
ปวดแม้สกั คําและไม่มีปฏิกิรยิ าใดๆ เลย

นิง รอจังหวะทีเหมาะสม

นีเป็ นปั จจัยพืนฐานของการเตรียมพร้อมเพือเป็ นนักล่าที


ดี

มูเ่ กอคิดว่าตนเองเป็ นนักล่าทีดีคนหนึง

"หึๆ ทนได้ขนาดนีเลยรึ" รอยยิมของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงชวน


ให้ขนลุก เขาจับมือทีกระดูกหักของมูเ่ กอแล้วดึงขึน ยก
135
ตัวเธอขึนมาอยูก่ ลางอากาศเหมือนเธอเป็ นแค่ไก่ตวั หนึง

มีแค่ขอ้ มือทีกระดูกหักข้างนันทีรับนําหนักตัวเธออยู่

ความเจ็บปวดแบบนี แทบจะทําให้มเู่ กอขาดสติแต่เธอก็


ยังทนไว้ หัวห้อยลงมาเหมือนไม่รบั รูอ้ ะไรแล้ว แต่ทว่าใบ
หน้าทีก้มอยูข่ องเธอ และดวงตาทีปิ ดสนิทนันมีแรง
อาฆาตแค้นทีเยือกเย็นปรากฏอยู่

ทรมานมูเ่ กอมาสักพักแล้วก็ยงั ไม่มีปฏิกิรยิ าใดๆ

ผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงเหมือนจะหมดความอดทน โยนเธอลงพืน


อย่างแรง ทําให้ไหล่ของมูเ่ กอ ชนเข้าอย่างจังกับก้อนหิน
136
ก้อนหนึงในถํา มีเสียงกระดูกแตกดังขึน เกือบจะทําให้
เธอสลบไปแล้วจริงๆ

“ฮึ ไร้ประโยชน์” ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงหันหลังให้เธอ


พึมพําอย่างไม่พอใจ

เหมือนกับว่า หลังจากแน่ใจว่ามูเ่ กอไม่ได้แกล้งสลบ เขา


จึงเริมคิดว่ายาพิษของตนเองรุนแรงเกินไป ทําให้เธอเป็ น
แบบนี

มูเ่ กอทีทรมานแสนสาหัส ใบหน้าแนบติดอยูก่ บั พืนดินที


เย็นเฉียบและเปี ยกชืน ตาทีปิ ดอยูค่ อ่ ยๆ หรีขึนมอง เธอ
เห็นท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงเหมือนกําลังก้มหน้าทําอะไรอยู่

137
“ช่างเป็ นคนไร้ประโยชน์เสียจริงๆ ถ้าเจ้าตายแบบนีก็
ลําบากข้าต้องไปหาหนูทดลองใหม่น่ะสิ” ท่านผูเ้ ฒ่า
เป่ ยหมิงบ่นพึมพํา โดยทีไม่รูว้ า่ มูเ่ กอทีนอนอยูบ่ นพืน
ข้างหลังนัน แววตาเยียบเย็นราวกับนําแข็ง

แล้วสักพัก ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงก็หนั กลับมา ตอนนีในมือ


ของเขามียาสีดาํ เม็ดหนึง

เสียงฝี เท้าใกล้เข้ามาเรือยๆ ร่างผอมบางทีนอนคุด้ คูอ้ ยู่


ของมูเ่ กอ ถูกเงาสีดาํ ปกคลุมไว้

เสียงแหลมเยือกเย็นของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงดังขึนอีกครัง “ถ้า

138
กินยาวิเศษของข้าเข้าไปแล้วเจ้ายังไม่ฟืน ข้าจะเอาเจ้า
ไปต้มเป็ นยา ยาของข้าจะได้ไม่เสียเปล่า"

พูดแล้ว เขาก็ดงึ คอเสือของมูเ่ กอขึนใช้มือบีบคอและใบ


หน้าของเธอ บังคับให้เธออ้าปาก

มืออีกข้างหนึงถือยากําลังจะยัดเข้าปากของมูเ่ กอ

ตอนนีแหละ!

มูเ่ กอตัดสินใจและลืมตาขึนอย่างไม่ลงั เล

ในสายตาทังคูเ่ ยือกเย็นราวกับหิมะ เย็นชาดังนําแข็ง


139
และแหลมคมราวมีดดาบ แต่ก็ยงั คงสงบนิงไร้ซงระลอก

คลืน นัยน์ตากระจ่างใสมีภาพใบหน้าของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิ
งสะท้อนอยู่ แล้วเธอก็ยมิ

มุมปากสีแดงสดเหมือนกําลังยิมและไม่ยมในเวลาเดี
ิ ยว
กัน

สิงทีเธอต้องการ ก็คือท่าทางตกใจของเขา

มือซ้ายทีห้อยลงอย่างไร้เรียวแรงมีแสงสีมว่ งปกคลุมอยู่
นานแล้ว กลางอากาศราวกับมีสายฟ้าไหลผ่านเสียงดัง
‘ซือๆ’ มูเ่ กอคว้าโอกาสทีผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงไม่ทนั ได้ตงตั
ั ว
มือซ้ายทีมีแสงสายฟ้าซัดเข้าไปทีหน้าอกของผูเ้ ฒ่า

140
เป่ ยหมิงอย่างไม่ลงั เล

ปั ง--------!

เสียงปะทะดังก้องอยูใ่ นถํา

มูเ่ กอรูส้ กึ เหมือนเอามือไปชกกับเหล็กกล้า เจ็บปวด


เหมือนกับว่ากระดูกกําลังจะหัก

แต่สงที
ิ มันใจได้คือ เธอซัดโดนตัวเขาแล้ว !

“อ้าก---------!” ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทําให้ผเู้ ฒ่า


เป่ ยหมิงปล่อยมือจากเสือของเธอ แล้วถอยไปข้างหลัง
141
ตรงหน้าอกชุดสีดาํ ของเขาขาดเป็ นรูใหญ่ บริเวณรูนนั
ไหม้เป็ นสีดาํ

เสือผ้าด้านในก็ฉีกขาดเช่นกัน ทําให้เห็นผิวหนังทีผอม
แห้ง บนผิวกลายเป็ นสีดาํ และมีกลินไหม้

ทีสําคัญทีสุด ภายในร่างของเขามีพลังอันมหาศาลกลุม่
หนึงกําลังทําลายอวัยวะภายในของเขาอยู่

“เจ้า!” ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงเอามือกุมหน้าอกเอาไว้ มอง


มือซ้ายของมูเ่ กอทียังมีแสงสีมว่ งหลงเหลืออยูอ่ ย่างไม่
อยากจะเชือ

142
มูเ่ กอยืนอยูบ่ นพืนอย่างโซเซ มือขวาห้อยลงอย่างไร้เรียว
แรง มือซ้ายค่อยๆ ยกขึน แสงสีมว่ งทีวนเวียนอยูร่ อบๆ
ส่องสว่างใบหน้าอันงดงามของเธอให้ดโู หดเ**◌้ยม เต็ม
ไปด้วยแรงอาฆาต

“ขันม่วง! เป็ นไปไม่ได้! เจ้าไม่มีทางเป็ นขันม่วงไปได้!” ผู้


เฒ่าเป่ ยหมิงตกใจทําให้มมุ ปากของมูเ่ กอคลีรอยยิมน่า
หลงใหลออกมา

ใช่ เธอไม่ใช่ขนม่
ั วง แต่เป็ นผูม้ ีความสามารถและ
ชํานาญในด้านพลังสายฟ้าตัวจริง

แม้วา่ เจ้านันจะเคยเตือนเธอว่าอย่าแสดงความสามารถ

143
ออกมา แต่ตอนนีจะตายอยูแ่ ล้ว เธอยังจะต้องสนใจ
อะไรอีก

เธอเป็ นขันเหลืองระดับสูงสุด ถึงแม้วา่ จะใช้แรงและพลัง


ทังหมดทีมีก็ไม่สามารถทําอะไรขันม่วงชันต้นอย่างผู้
เฒ่าเป่ ยหมิงได้ ทําได้เพียงฉวยโอกาสตอนทีอีกฝ่ ายไร้
การป้องกันใช้พลังสายฟ้าลอบทําร้ายจึงจะมีโอกาสชนะ

“อาจารย์หมัดนีของลูกศิษย์เป็ นอย่างไรบ้าง?” แสงสี


ม่วงดังงูทีมีชีวิตโลดเต้นอยูบ่ นมือของมูเ่ กอ เธอหัวเราะ
อย่างเยือกเย็น

“นีมันไม่ใช่ขนม่
ั วงนี มันคืออะไร? พูด ! เจ้าไปได้ของดี

144
อะไรมา!” ผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงอยากจะจับตัวมูเ่ กอมาทรมาน
เพือคันเอาความจริงว่าเธอไปประสบกับเหตุการณ์อะไร
มา แต่เขาประเมินพลังลึกลับทีเคลือนไหวอยูใ่ นกายตํา
ไป

เพิงจะขยับ เขาก็พน่ เลือดเหม็นคาวมากมายออกจาก


ปาก

ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงมองมูเ่ กอด้วยสายตาทีเต็มไปด้วย


ความแค้น ในใจเริมรูส้ กึ เสียใจขึนมา

ตอนแรก หลังจากทีเขาเห็นวิญญาณนัน ก็รูส้ กึ ได้วา่ มูช่ ิง


เกอไม่เหมือนเมือก่อน ภายหลังลองสังเกตดู จึงพบว่า

145
เจ้าไร้คา่ นีสามารถฝึ กเวทพลังได้แล้วและยังกลายเป็ น
ระดับสูงสุดของขันเหลืองได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

เขาก็เดาออกเลยว่า นางต้องไปพบปาฏิหาริยอ์ ะไรเข้า


ให้แล้ว ตอนแรกเขาวางแผนว่าจะให้นางเป็ นหนูทดลอง
ยาเหมือนเมือก่อนเสียก่อน พอลองเสร็จแล้ว จึงค่อย
ถามเรืองปาฏิหาริยท์ ีนางไปเจอมา แต่ไม่คิดว่าไอ้เด็กนี
กลับทรยศ แถมยังลอบกัดเขาอย่างอํามหิตเสียได้

คืนนีควรจะเป็ นคืนทีน่ายินดีของเขา หากเขากลืน


วิญญาณนันเข้าไปพลังของเขาจะเพิมพูนขึน และจะ
สามารถหลอมยาทีร้ายกาจกว่านีขึนมาได้ แต่
ทุกอย่างกลับถูกทําลายจนย่อยยับด้วยฝี มือไอ้เลวทีอยู่
ตรงหน้านี!
146
ตาทังคูข่ องท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงเริมแดงกํา เต็มไปด้วย
ความโกรธเกลียด เขาพุง่ เข้าหามูเ่ กออย่างไม่สนใจอะไร
แล้ว “ไอ้เด็กโสโครก เจ้าคิดว่าจะฆ่าข้าได้อย่างนันหรือ!”

ทันใดนัน ร่างกายของเขามีแสงสีมว่ งส่องสว่าง เหมือน


กลายเป็ นคนตัวสีมว่ ง พลังคุกคามอันหนักหน่วง ทําให้มู่
เกอนิงอึงอยูท่ ีเดิม

‘นีเป็ นพลังของขันม่วงงันเหรอ’ มูเ่ กอรับมือกับแรงกดดัน


อันมหาศาล จ้องท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงหน้าเครียด เธอรูด้ ี
ว่าพลังทีตนใช้ไปกับการโจมตีเมือครูน่ นมากเพี
ั ยงใด

147
ด้วยระดับขันทีเธอได้จากการฝึ กเวทพลังแล้ว เธอรับรูไ้ ด้
ว่าความสามารถในชาติทีแล้วของเธอก็เริมกลับมา

การโจมตีเมือครู ่ ถ้าเป็ นคนอืน ไม่วา่ จะเป็ นขันเขียวหรือ


ขันนําเงิน ต่างก็ตอ้ งตายอย่างไม่เหลือแม้เศษซาก แต่ถา้
เป็ นขันม่วงคงทําได้แค่ให้คนๆ นันบาดเจ็บสาหัส

ตอนนีมูเ่ กอไม่รูว้ า่ ขันม่วงของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงนัน ได้มา


เพราะอาศัยยาในการเลือนชันไม่สามารถนํามาเทียบกับ
ขันม่วงจริงๆได้ สิงทีต่างกันโดยสินเชิงคือ เมือครูท่ ีเธอใช้
ความสามารถด้านสายฟ้านันมันไม่สามารถทําอะไรคน
ทีเป็ นขันม่วงจริงๆได้เลย ยิงไม่ตอ้ งคิดว่าจะทําให้บาด
เจ็บ

148
“ตายเสียเถอะ!” ผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงโจมตีมเู่ กอด้วยความ
โกรธ แรงดันเหมือนคลืนทะเลนันพัดเข้าหามูเ่ กออย่าง
จัง ทําให้เธอลอยขึนกลางอากาศแล้วชนกับผนังถํา

“ปึ ก--------!”

มูเ่ กอทนกับความปั นป่ วนในทรวงอกไม่ไหว กระอัก


เลือดจํานวนมากออกจากปาก

ดีเอ็นเอทีได้รบั การเปลียนแปลง กําลังรีบฟื นฟูรา่ งกาย


ของเธออย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่สามารถรับมือกับการโจมตี
ต่อเนืองของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงได้

149
หลังจากทีโจมตีไปแล้วครังหนึง ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงก็เอา
ขวดจํานวนมากออกมาจากร่างกายของเขาแล้วโยนทัง
หมดขึนกลางอากาศ

เพล้ง!

ขวดแตกกระจายและยาในขวดก็ไหลออกมา

ผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงสูดหายใจเข้าแรง ยาทังหมดพุง่ เข้าสูป่ าก


เขา ละลายกลายเป็ นของเหลวซ่อมแซมส่วนทีได้รบั บาด
เจ็บของร่างกาย

150
ภาพตรงหน้า ทําให้มเู่ กอทีดูอยูเ่ ริมกระวนกระวายใจ

พอรับรูถ้ งึ พลังอันมหาศาลในถํา มูเ่ กอกัดฟั น รวบรวม


แรงทังหมดทีมีในการลุกขึนยืนพุง่ เข้าหาท่านผูเ้ ฒ่า
เป่ ยหมิง

‘ข้าขอสูต้ าย !’

151
ตอนที 28 มูช่ ิงเกอ !

ร่างของมูเ่ กอร่วงลงพืนเหมือนถูกพายุฝนพัดอย่างรุนแรง
จนรูส้ กึ เหมือนกับว่ากระดูกทัวร่างกายของเธอแตก
ละเอียด เธอกัดฟั นแน่น พยายามรวบรวมพลังสายไฟทัง
152
หมดให้มาอยูท่ ีปลายนิว

กลางฝ่ ามือซ้ายมีกริชสีมว่ งโปร่งแสงปรากฏขึนมาเล่ม


หนึง

บทกริชเล่มนัน มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านรัดพันไปมาบน
มือของมูเ่ กอราวกับงูทีมีชีวิต แล้วค่อยๆ แผ่ขยายจากข้อ
มือไปยังแขน

พลังกดดันของขันม่วงทําให้ผิวหนังของมูเ่ กอเกิดรอย
แผลเป็ นริวๆ

เธอพุง่ เข้าหาผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงอย่างไม่ลงั เล สายฟ้าในมือที


153
กลายเป็ นกรีชถูกวาดไปทางเขาหมายเอาชีวิต

แคว่ก----------!

กรีชกรีดเสือผ้าของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงจนขาด ขวดโปร่งแสง


ใบหนึงทีบรรจุแสงสีเขียวตกลงบนพืน

ตรงหน้าอกของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงถูกกรีดจนกลายเป็ นรอย


แผลน่ากลัว ในอากาศยังคงมีกลินเหม็นไหม้

แต่มเู่ กอก็เหมือนถูกแรงอันมหาศาลดีดออก จนกระเด็น


ไปทางด้านหลัง เลือดพุง่ กระจายอยูก่ ลางอากาศ

154
“อ๊ากๆๆ------! ไอ้สวะข้าจะฆ่าเจ้า! เอาเจ้ามาต้มเป็ นยา
เสีย!” รอยแผลเก่ายังไม่ทนั ได้รกั ษา ก็มีรอยแผลใหม่มา
เพิม ทําให้ผเู้ ฒ่าเป่ ยหมิงแทบเป็ นบ้า

เขาก็ไม่แน่ใจว่าพลังทีมูเ่ กอใช้เป็ นพลังแปลกประหลาด


อะไรกัน แต่วา่ แม้วา่ เขาจะกินยารักษาแผลชันเลิศเข้าไป
แล้ว แต่ก็สามารถรักษาแผลได้เพียงเล็กน้อยเท่านัน

แต่ไอ้เจ้ามดปลวกนี กลับถือโอกาสทีเขากําลังรักษาแผล
ลอบโจมตีเขา

วิธีทีโหดเ**◌้ยมและตรงไปตรงมาแบบนี ทําให้เขาตกใจ
ความเป็ นจริงแล้วคนธรรมดาไม่กล้าสูก้ บั ขันม่วงระดับ

155
สูง ทําได้แค่ออ่ นน้อมถ่อมตนอย่างเจียมตัว

แต่นาง ทังๆ ทีเป็ นเพียงแค่มดปลวกตัวหนึงแต่ไม่รูว้ า่


เป็ นโชคดีอะไรถึงได้รบั พลังทีคาดไม่ถงึ นี จากคนไร้คา่
กลายเป็ นขันเหลืองชันสูงสุดและกล้าสูก้ บั เขา ทําให้เขา
บาดเจ็บหนักครังแล้วครังเล่า

แสงสีมว่ งทีส่องประกายอยูร่ วมตัวกันเป็ นพลังอัน


มหาศาลบนมือของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง แรงทําลายล้างแบบ
นัน ทําให้มเู่ กอคิดถึงแรงระเบิดทีทําให้เธอตายเมือชาติ
ทีแล้ว

ความหวาดกลัว พลันโหมซัดใส่เธอ

156
แต่เธอไม่คิดจะถอย ยังคงพุง่ ไปข้างหน้า!

แม้จะต้องตายแต่ก็ตอ้ งลากไอ้ตวั ประหลาดนีลงนรกไป


ด้วยให้ได้!

นัยน์ตากระจ่างของมูเ่ กอเต็มไปด้วยความมันใจ ปากที


เม้มแน่นมีเลือดสดไหลซึมออกมา กรีชในมือของเธอ
แทงเข้าทีจุดสําคัญบนร่างกายของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง

ท่าทางของเธอคล่องแคล่ว กระบวนท่าอํามหิตเลือกโจม
ตีแต่บริเวณจุดสําคัญของฝ่ ายตรงข้าม

157
ผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงเหมือนจะกลัวพลังแปลกประหลาดในมือ
เธอ ในขณะทีหลบการโจมตีก็คิดจะปล่อยพลังทีรวบรวม
มาไว้ในมือ

“ฮ่าๆๆ--------! ไอ้มดปลวก ตายซะ!” และแล้วผูเ้ ฒ่า


เป่ ยหมิงก็ปล่อยพลังทีรวบรวมเอาไว้

แสงสีมว่ งพุง่ เข้าหามูเ่ กอ ถําทังถําสันไหวราวกับจะ


ทลายลงมา

ในดวงตาของมูเ่ กอปกคลุมไปด้วยแสงสีมว่ ง ราวกับว่า


เพียงพริบตาเดียว เธอก็จะถูกแสงสีมว่ งนันกลืนกินจนไม่
เหลือแม้แต่ซาก

158
ทันใดนันก็มีกลุม่ แสงสีเขียวส่องประกายพุง่ ขึนมาจาก
พืนดิน พุง่ เข้าหาแสงสีมว่ งนัน------------

ในห้วงสติอนั เลือนราง มูเ่ กอเหมือนเห็นแสงสีเขียวใหญ่


ประมาณฝ่ ามือ เปล่งแสงเป็ นเงาร่างของคนๆ หนึง ชุดสี
แดงทรงเสน่หแ์ ละใบหน้าเล็กทีสวยงามและอ่อนเยาว์
เต็มไปด้วยความรีบร้อนและแน่วแน่

“หลบไป---------!”

ข้างหูเหมือนได้ยินเสียงเร่งทีฟั งดูรบี ร้อนแว่วมา

159
แล้วเงาร่างของคนๆ นันก็ถกู แสงสีมว่ งกลืนหายไป

ปั งๆๆๆ--------!

รอบๆ มีเสียงระเบิดดังขึน แสงสีมว่ งอันน่ากลัวระเบิด


ห่างจากมูเ่ กอไปไม่ถงึ 3 ฉือ

พลังอันมหาศาลทําให้ถาสั
ํ นสะเทือน มูเ่ กอก็ชนกับผนัง
ถําเพราะแรงระเบิด ด้านนอกถําก็เกิดแรงสันสะเทือน
ราวกับวันสินโลกกําลังมาถึง สัตว์ป่านับไม่ถว้ นร้อง
โหยหวนด้วยความหวาดกลัว

เศษหินชนร่างของมูเ่ กออย่างไม่ปรานี “แค่กๆ............”


160
เธอไออย่างแรงจนกระเทือนไปถึงเส้นประสาทในร่าง
กาย หลังจากทีฟ้าดินกลับคืนสูค่ วามสงบ มูเ่ กอก็ลกุ ยืน
ขึนบนเศษดินเศษหินร่างกายเต็มไปด้วยเลือดและบาด
แผล

ตรงหน้าไม่ใช่ถาอี
ํ กต่อไป กลับกลายเป็ นหลุมลึกหลุม
หนึง

ในหลุมนันเต็มไปด้วยเศษฝุ่ นทีฟุง้ กระจายมองเห็นได้ไม่


ชัดนัก

ต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ แตกกระจายเป็ นชินๆ จากแรง


ระเบิดอันมหาศาล จากทีเคยเป็ นป่ าทึบในทีแรก ก็กลับ

161
กลายเป็ นเพียงทีราบโล่งผืนหนึง

ภาพตรงหน้าทําให้จิตใจของมูเ่ กอหนักอึง

มูเ่ กอเดินโซซัดโซเซไปอยูท่ ีขอบหลุม ก้มหน้าลงตะโกน :


“มู-่ ------ชิง-------เกอ!”

รอบข้างมีเพียงเสียงลมพัดจากแรงทําลายล้างของผูใ้ ช้
พลังขันม่วง

“อ๊าก------! ออกมานะ-------!”

เสียงของมูเ่ กอดังก้อง แต่ไม่ได้รบั การตอบกลับจากมูช่ ิง


162
เกอ เธอได้ยินเพียงเสียงร้องอย่างบ้าคลังของผูเ้ ฒ่า
เป่ ยหมิง

ทันใดนัน ก็มีแสงสีมว่ งพุง่ ออกมาจากใต้หลุม

มูเ่ กอถอยหลังไปหลายก้าว เห็นชุดสีดาํ ของผูเ้ ฒ่า


เป่ ยหมิงฉีกขาดจนไม่เหลือชินดี เขาเอามือกุมหัวด้วย
ความเจ็บปวด แล้วกลิงไปมากับพืน

เกิดอะไรขึน!

มูเ่ กอหรีตามอง แต่ไม่ได้เข้าใกล้ แค่มองอยูห่ า่ งๆ

163
ในมือซ้ายยังคงมีสายฟ้าวนอยูร่ อบๆ แต่ไม่สามารถ
แปลงเป็ นกรีชได้อีก เหลือเพียงแค่แสงสีมว่ งจางๆ

ตรงพืนทีห่างจากป่ าไม่กีเมตร แรงโจมตีจากผูเ้ ฒ่า


เป่ ยหมิงทีก่อให้เกิดระลอกคลืน ถูกหยุดยังเอาไว้ในแสง
ทีโปร่งใส ไม่ได้แผ่กระจายไปยังลัวตูจนทําให้ยอดฝี มือ
ในเมืองลัวตูตอ้ งตกใจแม้แต่นอ้ ย

ภายนอกแสงนัน มีรา่ งคนลอยอยูเ่ หนือพืน ทัวทังร่าง


ขาวดังหิมะ เรือนร่างสูงใหญ่ ผมสีดาํ ยาวถึงเข่า แม้ไร้ลม
พัดแต่ก็สะบัดไหวไปมา เขาเอามือข้างหนึงไพล่หลัง เสือ
คลุมแขนกว้างปิ ดบังข้อนิวทีขาวไร้ตาํ หนิราวกับหยกนัน
ไว้

164
มืออีกข้างกางออก แขนเสือลูล่ ง แรงมหาศาลไร้รูปร่าง
กําลังโจมตีแสงโปร่งใสนันไม่หยุด

ทันใดนัน เขาก็กาํ มือแน่น มีเสียงปริแตกดังขึนกลาง


อากาศ แสงอันโปร่งใสถูกทําลายลงอย่างไม่มีสาเหตุ ดูด
กลืนแรงสะท้อนนันจนหายไปอย่างไร้รอ่ งรอย

พอจัดการทุกอย่างเสร็จ เขาก็คลายมือ ดึงมือทีงดงามไร้


ทีตินนไว้
ั ทีเดิม

ทันใดนัน เงาสีดาํ สายหนึงก็ปรากฏขึนกลางอากาศ มา


หยุดอยูข่ า้ งหลังตัวเขาและคุกเข่าลงข้างหนึงพูดสันๆ

165
ว่า : “นายท่าน เสียงดังมาจากทิศใต้ของป่ า”

ภายใต้ชดุ สีขาว สายตาไร้ความรูส้ กึ นันก็มองไปยังทิศใต้


อย่างรวดเร็ว

วินาทีตอ่ มา ดวงตางดงามราวกับจะดูดวิญญาณของผูท้ ี
พบเห็น แต่ดวงตาทีดูราวกับไม่ใส่ใจคูน่ นพลั
ั นเปลียน
เป็ นแข็งกร้าวขึนมาแล้วพลันหายตัวไป

“อ๊ากๆๆ-----! ออกมา! ไสหัวออกมาเดียวนี! หากออก


มาข้าจะละเว้นไม่ฆา่ เจ้า” ใบหน้าเจ็บปวดของผูเ้ ฒ่า
เป่ ยหมิง ทีเดิมก็อปั ลักษณ์อยูแ่ ล้วยิงดูน่ากลัวมากขึนไป
อีก

166
มูเ่ กอหรีตา ในหัวรีบคิดวางแผนอย่างรวดเร็ว

นีกลับเป็ นโอกาสอันดี ไม่วา่ ผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงจะเป็ นอะไร


แต่ก็เป็ นโอกาสในการลงมือของเธอ

หลังจากทีตัดสินใจแน่วแน่แล้ว มูเ่ กอก็รวบรวมพลังสาย


ฟ้าทังหมดอีกครัง พุง่ ออกไปหาผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงราวกับ
เสือชีตา้ เธอเหยียดนิวมือทังห้าแล้ว ฟาดฝ่ ามือทีส่อง
ประกายสีมว่ งลงกลางศีรษะของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงสุดแรง

ปั ง!

167
พลังนันสะท้อนกลับทําให้รา่ งของมูเ่ กอลอยกลับมาร่วง
ลงกับพืนอย่างแรงและกระอักเลือดออกจากปากอีกครัง

ร่างกายของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงราวกับแข็งค้างไป สายตาที


เต็มไปด้วยความโกรธเกลียดจ้องมองเธอนิง หากสายตา
นันสามารถฆ่าคนได้ ไม่รูว้ า่ มูเ่ กอจะถูกเขาฆ่าตายไป
แล้วกีครังต่อกีครัง

ตึง--------!

ผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงล้มลงบนพืนโดยไม่สง่ เสียงใดๆ และไม่


อาจดินรนได้อีก

168
มูเ่ กอเห็นฉากทังหมดตรงหน้า ทําให้เธอรูส้ กึ โล่งใจ ผ่อน
คลายกล้ามเนือ ความเจ็บปวดจากบาดแผลทีได้รบั ก่อน
หน้านีสาดม้วนขึนมาอีกครัง ทําให้เธออดไม่ได้ทีจะสูด
หายใจเย็นเยียบ

ทันใดนัน แสงสีเขียวกลุม่ หนึงก็ลอยออกมาหามูเ่ ก


อจากกลางศีรษะของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง ในขณะนันก็กลาย
เป็ นเงาร่างคน

“มูช่ ิงเกอ” มูเ่ กอเสียงอ่อนแรง สายตาทีสดใสเหมือน


หยดนํามองร่างอันโปร่งแสงไม่กะพริบ ร่างของเธอ
เหมือนจะโปร่งแสงขึนกว่าเดิมและดูออ่ นแอมาก

169
“เมือครูน่ ีคือเจ้าเองงันหรือ?” มูเ่ กอถาม

มูช่ ิงเกอยิมบางๆ ไม่สนใจทีจะตอบคําถาม “หากไม่ใช่


เจ้าทําให้เขาบาดเจ็บหนัก ข้าก็คงไม่สามารถออกมาได้
อย่างทีเจ้าบอก ปั ญหานีข้าเป็ นสร้างเอาไว้ ข้าก็ตอ้ งเป็ น
คนแก้” สายตาของมูช่ ิงเกอมองร่างทีบาดเจ็บสาหัสของ
มูเ่ กอ อดไม่ได้ทีจะรูส้ กึ สินหวัง “แต่สดุ ท้ายก็ทาํ ให้เจ้า
ต้องลําบาก”

“เจ้าไม่เป็ นไรใช่ไหม” ไม่รูว้ า่ ทําไมมูเ่ กอรูส้ กึ ว่าตอนนีท่า


ทางของมูช่ ิงเกอดูแปลกๆ

มูช่ ิงเกอก้มหน้าลงค่อยๆ ส่ายหน้า “ไม่เป็ นไร แค่เหนือย

170
เจ้าพักก่อน ค่อยคิดหาวิธีออกจากทีนี” พูดจบเธอก็หาย
ไปต่อหน้าต่อตามูเ่ กอ

มูเ่ กอขมวดคิว เธอบาดเจ็บมากก็ใช่ แต่สงที


ิ ทําให้เธอ
วางใจก็คือเธอรูส้ กึ ได้วา่ ร่างกายของเธอกําลังค่อยๆ
ฟื นฟูตวั เองอย่างช้าๆ

ความสามารถเหนือฟ้าแบบนี เห็นได้ชดั ว่า เกิดขึนเพราะ


ยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอทีกินเข้าไป

พอคิดถึงเหตุผลนี มูเ่ กอก็แอบหวันใจ ยาเปลียนแปลงดี


เอ็นเอนี ทําเรืองทีไม่คาดคิดให้กบั ตัวเธอมากขึนเรือยๆ

171
เพราะฉะนันเมือเทียบกับสภาพของตนเองแล้วเธอเป็ น
ห่วงมูช่ ิงเกอมากกว่า นางจากไปอย่างรวดเร็วเกินไป
และหลังจากทีผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงตาย ก็ดสู งบนิงผิดปกติ

ทันใดนัน ก็มีพลังอันมหาศาลกลุม่ หนึงเกิดขึน ทําให้มเู่ ก


อรูส้ กึ ประสาททังร่างเกร็งแน่น ลอบคิดในใจ ‘แย่แล้ว!’
ร่างกายทีเละไม่เป็ นท่าของเธอในตอนนีจะไปสูใ้ ครได้

172
ตอนที 29 เสียวเกอเอ๋อร์ดือ

ลมหายใจทีรุนแรงกดทับทุกสรรพสิงในป่ า

173
มูเ่ กอแอบด่าในใจ : ‘ซวยแล้ว!’ แล้วอยูๆ่ มูเ่ กอก็ได้ยิน
เสียงทียากจะลืมเสียงหนึง---------

“เสียวเกอเอ๋อร์ดืออีกแล้ว”

นําเสียงทีควรจะสูงส่งและเย็นชานันกลับมีความรักใคร่
หวานเลียนชนิดหนึงเจือปนอยูด่ ว้ ย

มูเ่ กออึง วินาทีตอ่ มา เธอก็รูส้ กึ ว่าตนเองตกอยูใ่ นอ้อม


กอดกว้างอันอบอุน่ แม้จะห่างกันเพียงแค่เสือผ้ากันแต่
เธอก็รูส้ กึ ได้ชดั เจนถึงความกํายําของอีกฝ่ าย

กลินหอมประหลาดทีคุน้ เคยลอยเข้ามาแตะจมูก
174
แล้วใบหน้าทีหล่อเหลาเป็ นหนึงก็สะท้อนเข้ามาในดวง
ตาของเธอ ใบหน้านันงดงามไร้ทีติราวกับเทพเซียน หา
จุดบกพร่องไม่เจอแม้แต่นอ้ ย ราวกับส่องแสงประกาย
ออกมาจางๆ

“ไอ้ถามอง!”
ํ มูเ่ กอกัดฟั นพูดสามพยางค์นี

ผูม้ าอึงไป คําว่า‘ไอ้ถามอง’


ํ ราวกับมดตัวเล็กๆ ทีไหล
ผ่านเข้าไปในหูเขา และเข้ายึดครองจิตใจ สามพยางค์ที
เธอกัดฟั นพูดออกมา ทําให้เขานึกถึงครังแรกทีพวกเขา
พบกัน

175
สาวน้อยทีร่างกายสกปรกมอมแมม ยืนล้างตัวอยูใ่ นแม่
นําเพียงลําพัง ท่ามกลางแสงจันทร์และแสงจากหิงห้อย

นางเป็ นคนเดียวทีกล้าสบตาและกล้าตังคําถามกับเขา

แต่คนผูน้ นกลั
ั บฝึ กฝนพลังไม่ได้แม้กระทังขันสีแดง

ตอนทีเขาแสดงพลังอันแข็งแกร่งต่อหน้านาง ทีเขาเห็น
ไม่ใช่ความหวาดกลัวและหวันเกรง แต่เขากลับเห็นเพียง
การอยากเอาชนะอันแรงกล้าจากกตัวนาง

และทียิงไปกว่านัน เมือนางได้เห็นใบหน้าอันงดงามน่า
ตืนตะลึงของเขาแล้ว กลับไม่ได้รูส้ กึ หลงใหลเคลิบเคลิม
176
เหมือนกับหญิงสาวคนอืนๆ นอกจากแวบแรกทีดูตกใจ
แล้ว เขาก็มองไม่เห็นถึงอารมณ์ความรูส้ กึ อย่างอืนบน
ใบหน้าของนางเลยแม้เศษเสียว

สายตาทีดูสงบนิงคูน่ นั ทําให้จิตใจทีมันคงมาตลอด
หลายปี นีพลันเต้นแรงขึน ราวกับว่า เขาอยากให้เงาของ
ตนเข้าไปอยูใ่ นส่วนลึกของดวงตาคูน่ นั อยากเห็นสาย
ตาคูน่ นแสดงความรู
ั ส้ กึ ออกมา

นาง ช่างพิเศษ

ใบหน้าทีหล่อเหลาดวงนันพลันเปลียนเป็ นอ่อนโยนขึน
มุมปากมีรอยยิมเล็กๆ เขาก้มหน้าลงมองคนชุดแดงใน

177
อ้อมกอดทีบาดเจ็บมาไม่นอ้ ย สีแดงสดเป็ นสีทีเขา
เกลียดมากทีสุด แต่เมือมันอยูบ่ นตัวนาง เขาไม่เพียงแต่
เกลียดไม่ลง แต่ยงั รูส้ กึ ว่ามันสวยงามมาก

ราวกับว่า บนโลกใบนีมีแค่สีแดงสดสีนีเท่านันจึงจะ
สามารถแยกนางออกจากคนธรรมดาทัวไปได้

ชุดสีแดงทีฉีกขาดไม่เหลือชินดี มีเลือดสดและดินโคน
เปื อนอยูไ่ ม่นอ้ ย ถึงแม้วา่ จะบาดเจ็บสาหัสแต่ใบหน้าอัน
งดงามดวงนัน กลับยังเต็มไปด้วยความเย่อหยิงและไม่
ยอมแพ้

“ปล่อยข้านะ ไอ้ตวั ประหลาดเฒ่า!” มูเ่ กอทีอยูใ่ นอ้อม

178
กอดของชายหนุ่มชุดขาวดังหิมะไม่มีความอ่อนโยนเลย
แม้แต่นอ้ ย รูว้ า่ สูค้ นตรงหน้าไม่ได้ เธอจึงทําได้แค่ใช้นาํ
เสียงแสดงถึงความไม่พอใจ

ตัวประหลาดเฒ่า?

คิวตรงราวกับกระบีของซือมัวขมวดมุน่ เบาๆ ตัว


เองกลายเป็ นตัวประหลาดเฒ่าตังแต่เมือใดกัน

“เจ้าบาดเจ็บ” แม้ในใจจะมีคาํ ถาม แต่ซือมัวก็เก็บคํา


ถามนันเอาไว้ แล้วเอ่ยเตือนมูเ่ กอ

มูเ่ กอแอบกลอกตาในใจไม่ตอ้ งเตือนเธอก็รูอ้ ยูแ่ ล้วว่าตน


179
เองกําลังบาดเจ็บ

“ไร้สาระ” มูเ่ กอลืมตาขึนพูดอย่างเย็นชา

แต่เสียงนันไม่เพียงแต่ไม่สามารถยัวให้ซือมัวโกรธได้ แต่
ยังทําให้เขาเกิดความสนใจในตัวนางมากยิงขึน

“เขาทําเจ้าบาดเจ็บหรือ?” พอละสายตาจากมูเ่ กอสาย


ตาของซือมัวก็กลับไปเย็นชาและสูงส่งอีกครัง ในขณะที
มองศพของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง ส่วนลึกของดวงตาอันน่าดึง
ดูดนัน มีไอสังหารวนเวียนอยู่

มีคนกล้าทําร้าย คนทีเขาให้ความสนใจงันรึ?
180
“อืม มันทําร้ายข้า แล้วข้าก็ฆา่ มัน ก็ถือว่าไม่ติดค้างต่อ
กันแล้ว” มูเ่ กอตอบอย่างเย็นชา เธอก็ไม่รูว้ า่ อะไรดลใจ
ให้ตนเองต้องอธิบายเรืองราวทังหมดให้เขาฟั งด้วย

ซือมัวอึง และแอบหัวเราะในใจ

แบบนีก็ได้แล้วรึ? มีคนทําร้ายนางแล้วนางก็ฆา่ อีกฝ่ าย


เสีย ก็ถือว่ายุติธรรมแล้วหรือ แม้วา่ ดูเหมือนจะมีอะไรไม่
ถูกต้องนัก แต่ซือมัวก็ไม่ปฏิเสธ เขาชอบวิธีคิดแบบนี

และยิงไปกว่านัน หากเป็ นมูเ่ กอทีคิดแบบนี เขาก็รูส้ กึ ว่า


มันสมเหตุสมผลดีแล้ว

181
แน่นอนว่าหากเป็ นนางทีทําร้ายคนอืนเล่า?

อืม ทําร้ายไปแล้วก็ช่างสิ ถ้าเสียวเกอเอ๋อร์ ไม่ได้ฆา่ คนๆ


นัน เจ้านันก็ควรจะซาบซึงในบุญคุณและขอบคุณที
เสียวเกอเอ๋อร์เมตตาไม่ใช่หรือ?

หากตอนนีสิงทีซือมัวคิดในใจ ถูกกูหยาและกูเย่ทีแอบ
ติดตามเขามาอย่างลับๆ ล่วงรูเ้ ข้าล่ะก็ เกรงว่าพวกเขา
คงจะกุมหัวร้องไห้เสียใจทีตรรกะความคิดของท่าน
ประมุขถูกทําเสียจนผิดเพียนไปได้ถงึ เพียงนี

“เด็กดี กินยานีเสีย” ระหว่างทีพูด บนฝ่ ามือกว้างของซือ

182
มัวก็มียาทีส่องประกายสีเขียวเพิมขึนมาเม็ดหนึง กลิน
หอมของตัวยารุนแรงมาก

มูเ่ กอมองยานันแล้วหันหน้าหนีปฏิเสธ : “ไม่จาํ เป็ น”

สําหรับการปฏิเสธของมูเ่ กอ ในสายตาของซือมัวแล้วก็
เหมือนกับเด็กน้อยทีเอาแต่ใจเท่านัน เขาขมวดคิว พูด
ปลอบเสียงเบาว่า : “หากกินยาแล้ว ก็จะหาย”

“ไม่จาํ เป็ น ไม่ตอ้ ง ไม่กิน”

“เสียวเกอเอ๋อร์อย่าดือนะ กินเม็ดเดียว”

183
“ไม่กิน! ข้าขอเตือนเจ้านะ ว่าอย่าเรียกข้าด้วยคํา
สรรพนามทีน่าขนลุกแบบนันอีก!”

“ถ้าเจ้ายอมกินยา ข้าก็จะเก็บข้อเสนอของเจ้าไปลองคิด
ดู”

“ไสหัวไปซะ!”

บทสนทนาราวกับเด็กน้อยกําลังคุยกันแบบนี ลอยตาม
ลมมาเข้าหูขององครักษ์ทงสองที
ั คอยเฝ้าอยูล่ บั ๆ

ทังสองอดสันสะท้านขึนมาไม่ได้ พร้อมแลกเปลียนสาย
ตากัน
184
‘ท่านประมุขป่ วยจริงๆ เสียแล้ว’

‘ป่ วยไม่นอ้ ยทีเดียว’

‘ทําอย่างไรดี’

‘ข้าก็ไม่อาจตอบได้......’

คนเศร้าทังสองคนส่ายหน้าไปมาพร้อมกัน เหตุใดถึงได้
รูส้ กึ เหมือนเทพแห่งการต่อสูท้ ีแสนเก่งกาจ ท่านประมุข
ทีสูงส่งในใจผูน้ นั กําลังค่อยๆ ห่างไกลพวกเขาออกไป
กันนะ
185
ตอนที 30 ผูช้ ายทีน่ากลัว!

186
“วุย้ ! นีเจ้าคิดจะทําอะไร” มูเ่ กอทีทนชายหนุ่มบ่นไม่ไหว
ในทีสุดก็ระบิดออกมา

“กินยา” ซือมัวยังคงมองเธอแล้วยิมด้วยความเอ็นดู ใน
มือยังถือยาสีเขียวส่องประกายเม็ดนันเอาไว้

“..........” มูเ่ กอพลันรูส้ กึ หมดหวัง

เธอไม่เข้าใจจริงๆ เธอกับชายคนนีเคยมีความสัมพันธ์
กันสักนิดไหม ทําไมต้องตือให้เธอกินยาขนาดนี ถ้าเธอ
187
จะไม่กินยาและตายอยูท่ ีนีก็มนั เป็ นเรืองของเธอนี

“ถ้าเจ้ามีความเห็นใจมากนัก ก็ไปหาคนอืน ข้าไม่ตอ้ ง


การ” มูเ่ กอกัดฟั นพูดกับซือมัว อย่างดุรา้ ย

แล้วซือมัวก็พดู ประโยคหนึง ทีทําให้เธอสะดุง้ ----------

“ข้าต้องการทําดีแค่กบั เจ้าเท่านัน”

ร่างอันผอมบางรีบดินหนีออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม
ทันที ดวงตาใสกระจ่างของมูเ่ กอ เต็มไปด้วยความตืน
ตัวเตรียมพร้อม

188
“ไอ้วิปริต ไอ้ตวั ประหลาดเฒ่าทีพันปี ไม่ตาย ไสหัวออก
ไปไกลๆ ข้าเลยนะ!”

ตัวเขาเป็ นโรคติดต่อรึไงกัน?

ซือมัวมองมูเ่ กอทีหลบหลีกตนเองพลางยิมขมขืน เขาก็


แค่รูส้ กึ ว่านางน่าสนใจ จึงยินยอมทีจะเข้าใกล้นาง
หลายปี มานี คนทีสามารถทําให้เขาสนใจได้นนมี
ั นอ้ ยยิง
กว่าน้อยเสียอีก ยากทีจะพบเจอสักคน แน่นอนว่าเขาจะ
ไม่ยอมปล่อยไป

ไอ้วิปริต.........ไอ้ตวั ประหลาดเฒ่า.......อืม ไม่เคยมีใคร


ว่าเขาแบบนีมาก่อน

189
ซือมัวตัวแข็งทือ สายตาทีใสราวกับแก้วของเขาเป็ น
ประกาย ทําให้มองไม่ออกว่าจริงๆแล้ว ตอนนีเขากําลัง
คิดอะไรอยู่

“หากเจ้าไม่ยอมกินเอง ข้าก็คงต้องป้อนเจ้าด้วยตัวเอง
แล้วล่ะ” ซือมัวอมยิม แต่นาเสี
ํ ยงกลับเต็มไปด้วยการข่ม
ขู่ ทําให้มเู่ กอใจกระตุก

ข้าสูม้ นั ไม่ได้ !

มูเ่ กอถูกคําขู่ของซือมัวทําให้ตกใจ ในใจแม้โศกเศร้าแต่


ก็ตอ้ งยอมรับว่ามันเป็ นเรืองจริง จึงรีบดึงแขนเสือขึนเผย

190
ให้เห็นท่อนแขนผุดผาดดังหยก แล้วพูดกับเขาว่า “เจ้าดู
ข้าไม่เป็ นไร ไม่ตอ้ งกินยาหรอก จริงๆ นะ!”

ซือมัวขมวดคิวเล็กน้อย

ความจริงแล้ว หากดูจากสภาพเสือคุมทีฉีกขาดของนาง
แขนของนางได้รบั บาดเจ็บอย่างแน่นอน และทีสําคัญ
คือมือขวาน่าจะสาหัสทีสุด แต่ตอนนี มือทังสองข้างของ
นางรวมทังท่อนแขนมีบาดแผลเสียทีไหนกัน

ซือมัวเก็บความสงสัยไว้ในใจ ยืนมือใหญ่ของตนเองออก
มา ดึงแขนเสือของมูเ่ กอให้ปกปิ ดผิวกายอันเนียนนุ่มใน
ขณะทีเธอเผลอ เอ่ยเตือนเสียงตํา “ระวังหนาว”

191
พูดจบ สายตาอันเยียบเย็นทีเต็มไปด้วยการข่มขู่และไอ
สังหารก็กวาดมองไปทางตําแหน่งทีชายหนุ่มทังสองเฝ้า
สังเกตการณ์อยูอ่ ย่างแนบเนียน

ชายหนุ่มทังสองทีหลบซ่อนตัวอยู่ จู่ๆ ก็รูส้ กึ ได้ถงึ รังสี


สังหารอันเย็นเยียบทีกรีดผ่านผิวหนังไป ทําให้พวกเขา
อดหวาดระแวงขึนมาไม่ได้ ในใจรูส้ กึ ราวกับไม่ได้รบั
ความเป็ นธรรม

“ท่านประมุข ข้าน้อยไม่ได้ให้คณ
ุ หนูทา่ นนันถลกแขน
เสือขึนสียหน่อย!”

192
“ท่านประมุข ทุกอย่างมันเกิดขึนกะทันหัน ข้าน้อยไม่ทนั
ได้ปิดตา!”

“ท่านประมุข พวกเราไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ นะขอรับ!”

ทังสองส่ายหน้าแรงๆ อย่างแข็งขัน ในขณะเดียวกัน ก็


แอบร้องไห้อยูใ่ นใจ ท่านประมุขทีเย็นชาไม่ยอมเข้าใกล้
ผูห้ ญิงของพวกเขาหายไปไหนแล้ว ยิงกว่านันยังถูก
ครอบงําด้วยความต้องการมากมายถึงเพียงนี

ห่างกันไกลถึงเพียงนี มืดก็มืด พวกเขามองอะไรไม่ชดั


เลยจริงๆ นะ และ อีกอย่างก็เพียงแค่ทอ่ นแขนสองข้าง
เอง ต้องเคร่งเครียดขนาดนีเลยหรือ?

193
มูเ่ กอออกแรงดึงแขนเสือของตนเองออกจากมือของซือ
มัว แล้วถอยหลังไปสองก้าว เอ่ยเตือนซือมัวว่า : “เจ้าก็
เห็นแล้วว่าข้าไม่เป็ นอะไร ไปได้แล้ว”

แม้วา่ ท่านปู่ จะเคยบอกว่า ให้สร้างสัมพันธ์ทีดีกบั ชาย


คนนีเอาไว้ เพือเป็ นหลักประกันความปลอดภัยใน
อนาคตของเธอ แต่ในใจมูเ่ กอนึกรังเกียจความคิดทีจะ
อาศัยพึงพิงผูม้ ีอาํ นาจแบบนีมากทีสุด

เพราะฉะนัน เมือพบชายคนนีอีกครัง เธอจึงไม่ได้ตืนเต้น


เลยแม้แต่นอ้ ย แทบจะอยากให้เขาหายไปจากสายตา
ของเธอให้เร็วทีสุดเสียด้วยซํา

194
ซือมัวพิจารณาสายตาของเธอ แล้วดวงตาก็พลันเปล่ง
ประกาย หรีตาทังสองข้างลง แล้วพูดเสียงอบอุน่ ว่า :
“จู่ๆ ก็ได้ครอบครองความสามารถเยียวยาตัวเองทีแข็ง
แกร่งถึงเพียงนี อีกทังยังสามารถฝึ กเวทพลังได้แล้วด้วย”

คําพูดราวกับไม่ใส่ใจนี ทําให้ใจของมูเ่ กอกระตุก ดวง


ตากระจ่างของมูเ่ กอ แผ่ไอสังหารรุนแรงออกมา

ผูช้ ายคนนี........น่ากลัวมากจริงๆ

ราวกับว่า เมืออยูต่ อ่ หน้าเขาแล้ว เธอไม่สามารถมีความ


ลับอะไรได้เลย ทุกสิงทุกอย่างของเธอ เขาสามารถมอง

195
มันออกได้อย่างง่ายดายและชัดเจน

แต่ ซือมัวไม่ได้สนใจไอสังหารนันเลยแม้แต่นิด

เขาพูดเองเออเอง “ดูเหมือนว่า ช่วงระหว่างทีข้าไม่อยู่


เจ้าจะไปพบเจอเรืองราวอัศจรรย์อะไรเข้าสินะ จึง
สามารถเปลียนแปลงร่างกายได้ นีถือเป็ นเรืองทีน่ายินดี
แต่วา่ ........”

แต่วา่ ? แต่วา่ อะไร ?

มูเ่ กอใจกระตุกอีกครัง จ้องเขม็งไปทีใบหน้าหล่อเหลา


ตรงหน้า
196
จู่ๆ ซือมัวก็ยมิ มือใหญ่บีบปลายจมูกโด่งของมูเ่ กออดใจ
ไม่ไหว กว่ามูเ่ กอจะรูต้ วั เขาก็ดงึ มือกลับราวกับไม่มีอะไร
เกิดขึน : “เจ้าไม่เชือฟั งข้า ใช้รากวิญญาณสายฟ้าอีก
แล้ว”

“...........” ในหัวของมูเ่ กอเต็มไปด้วยความหวาดระแวง

ไอ้โรคจิตนี มาปรากฏตัวขึนหลังจากทีการต่อสูจ้ บลง


และทีสถานทีต่อสูถ้ กู ระเบิดเสียจนกลายเป็ นสภาพนี
ส่วนใหญ่ก็เป็ นเพราะความโหดเ**◌้ยมของผูเ้ ฒ่า
เป่ ยหมิงทังนัน

197
แต่เขา กลับรูส้ กึ ได้วา่ เธอใช้พลังสายฟ้า?

เขาน่ากลัวเกินไปแล้ว ! สายตาทีงดงามเป็ นหนึงในหล้า


สามารถมองทะลุทกุ สิงทุกอย่างได้จริงอย่างนันหรือ ยังมี
อะไรอีกไหมทีเขาไม่รู?้

มูเ่ กอรูส้ กึ ว่า แผ่นหลังของเธอชุ่มโชกไปด้วยเหงือเย็น


พอลมพัดมารูส้ กึ เย็นวาบ

แต่ซือมัวไม่ได้สงั เกต ว่าคําพูดของตนสร้างความ


ตระหนกให้มเู่ กอได้เพียงไหน จึงกําชับอีกครังว่า “คราว
หลังก็อย่าดือ พยายามใช้รากวิญญาณสายฟ้าให้นอ้ ยที
สุดเท่าทีจะทําได้ อย่าพึงพามันมากเกินไปรูไ้ หม คนไม่

198
ผิด ผิดตรงสิงทีเขาครอบครอง เหตุผลข้อนี เจ้าเข้าใจ
ไหม?”

หมายความว่ายังไง?

คําพูดของซือมัวยังคงวนเวียนอยูใ่ นหัวของมูเ่ กอ

หรือว่า ความสามารถของเธอ จะดึงดูดความโลภของ


คนอืนงันหรือ? แต่วา่ แล้วอย่างไรเล่า? จะแย่งความ
สามารถของเธอไปได้รไึ ง?

“เรืองบางเรือง ตอนนีเจ้ายังไม่ควรรู ้ เจ้าแค่จาํ คําพูดของ


ข้าเอาไว้ จําไว้วา่ ข้าจะไม่มีวนั ทําร้ายเจ้าก็พอ” ซือมัวพูด
199
สายตาอันกระจ่างใสของมูเ่ กอ มีใบหน้าของซือมัว
สะท้อนอยู่ เธอจ้องเขาอย่างตังใจ เหมือนกําลังแยกแยะ
ความจริงเท็จในคําพูดของเขา ผ่านไปครูห่ นึง เธอจึง
หลุบตาลงทําให้ขนตายาวงอนบดบังสายตาของเธอเอา
ไว้ แล้วพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “อืม”

บรรยากาศ พลันเงียบสงบลง

เพราะบรรยากาศเงียบสงบนัน ทําให้ความอึดอัดค่อยๆ
เกิดขึนระหว่างคนทังสอง และยังมีความอบอุน่ ทีอธิบาย
ไม่ถกู เพิมขึนมาอีกด้วย

200
ครึงชัวยามผ่านไป มูเ่ กอเงยใบหน้าเล็กๆ ของตนขึน
แล้วมองไปทางใบหน้าเย็นชาของชายหนุ่ม แต่กลับสบ
เข้ากับดวงตาทีแฝงไปด้วยรอยยิมลําลึก ราวกับว่าตัว
เธออยูก่ ลางหมูด่ าวบนท้องฟ้ายามคําคืนอย่างไรอย่าง
นัน

“อะแฮ่ม” มูเ่ กอลืมตาขึนอย่างอึดอัด แล้วยันตัวลุกขึน

จนถึงเมือครูน่ ี หลังจากทีร่างกายของเธอกลับสูส่ ภาวะ


ปกติ เธอก็มนใจแล้
ั วว่ายาเปลียนแปลงดีเอ็นเอนี นอก
จากจะช่วยขับพิษแล้ว ความสามารถทีสองของมันก็คือ
ความสามารถในการเยียวยาตัวเองอันแข็งแกร่ง

201
ในข้อนี แทบจะไม่ทาํ ให้เธอพ่ายแพ้อย่างแน่นอน นอก
เสียจากว่า จะฆ่าเธอให้ตายในทันที เพือตัดโอกาสใน
การฟื นฟูบาดแผลของเธอ

มูเ่ กอลุกขึนใช้มือปั ดดินโคนทีติดอยูบ่ นตัว

เธอรูส้ กึ ไม่พอใจ ทําไมทังสามครังทีได้เจอกับเจ้านีจะ


ต้องเป็ นตอนทีตนเองกําลังอยูใ่ นสภาพทีดูไม่ได้ตลอด
เลย ชวนให้คนหัวเราะเยาะนัก

สายตาของซือมัวมองตามมูเ่ กอไป เห็นท่าทางทําอะไร


ไม่ถกู ของนางแล้ว ก็พลันรูส้ กึ ว่านางน่ารักเหลือเกิน ชุด
สีแดงทีนางสวมอยูถ่ งึ แม้จะทังเปื อนทังขาด แต่ก็ไม่ได้

202
ทําลายความสง่างามของนางลงเลยแม้แต่นอ้ ย

เมือรูส้ กึ ถึงสายตาคูห่ นึงทีกําลังจับจ้องตนเองอยู่ มูเ่ ก


อก็กดั ฟั นอยูใ่ นใจ แสร้งทําเป็ นมองไม่เห็นแล้วเดินไป
ทางศพของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง..........

203
ตอนที 31 แหวนซวีหมี ป้ายไร้อกั ษร

ท้องฟ้า ค่อยๆ สว่างขึนแล้ว

พอรูว้ า่ จะถึงเวลาทีโย่วเหอและฮวาเยวียจะมาช่วยแต่ง
ตัว มูเ่ กอก็รูว้ า่ เวลาทีจะมาเตร่อยูข่ า้ งนอกแบบนีหมดลง
แล้ว

ถํา ถูกทําลายเสียจนราบคาบ

พอมูเ่ กอเดินมาหยุดตรงหน้าศพของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง ก็คกุ


1
เข่าลง มือทังคูค่ ลําสํารวจบนตัวเขาอย่างละเอียด

ปกติแล้ว ของมีคา่ ทีสุดจะต้องพกติดตัวเอาไว้

แม้วา่ คุณชายตระกูลมูจ่ ะไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง แต่วา่


เจ้าเฒ่าบัดซบนีทรมานเธอมาทังคืนและยังทําให้เธอ
เกือบตาย ยังไงก็ตอ้ งได้ของอะไรมาปลอบประโลมจิตใจ
ดวงน้อยทีได้รบั การกระทบกระเทือนของเธอเสียหน่อย

แต่วา่ พอมูเ่ กอค้นทัวร่างกายของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงดูแล้ว


กลับต้องเศร้าทีพบว่า เจ้าเฒ่าบัดซบนี ไม่ได้พกอะไรติด
ตัวเลย

2
ซือมัวมองท่าทางของมูเ่ กอ ก็เดาออกว่านางคิดจะทํา
อะไร

เขายิมมุมปาก ในแววตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู ไม่ได้มี


ท่าทีจะห้ามปรามแต่อย่างใด แต่วา่ เมือเห็นมือทังคูท่ ีนุ่ม
นิมเนียนละเอียดลูบไปตามศพของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง รอย
ยิมในดวงตาเขาก็ถกู แทนทีด้วยไอสังหารทันที เขาจ้อง
มองศพของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงเหมือนอยากจะลงมือกับศพ
ของเขาเพือระบายความแค้น

ตอนทีมูเ่ กอยังไม่ยอมแพ้ อยากจะตรวจสอบดูอีกรอบ


นัน........จู่ๆ ก็มีลมแรงพัดผ่านทีด้านหลัง มือทีเธอยืน
ออกไปถูกฝ่ ามือใหญ่อนั อบอุน่ กุมเอาไว้ ข้างหูมีเสียงอัน
น่าดึงดูดดังขึนว่า : "เสียวเกอเอ๋อร์ ร่างกายของมัน
3
สกปรกเกินไป อย่าทําให้มือของเจ้าต้องแปดเปื อน"

สรรพนามทีชวนขนลุกนี ทําให้มเู่ กอขมวดคิว กัดฟั นพูด


"อย่าเรียกข้าว่าเสียวเกอเอ๋อร์อะไรแบบนีอีก"

"ได้ ข้ารับปาก บนโลกใบนีจะมีเพียงข้าคนเดียวที


สามารถเรียกเจ้าแบบนีได้ หากใครกล้าเรียกเจ้าแบบนี
ข้าจะฆ่ามัน" ซือมัวตอบอย่างจริงจัง

หน้า ด้าน มาก!

มูเ่ กอโกรธจนอารมณ์ขนึ ดึงมือของตนเองออกอย่าง


รุนแรงและจ้องมองคนผูน้ นั "อย่างนัน เจ้าก็ฆา่ ตัวเอง
4
ก่อนเลย"

เสียดายทีซือมัวทําเป็ นไม่ได้ยิน สายตาจ้องมองไปทีผู้


เฒ่าเป่ ยหมิง หัวเราะแล้วพูดกับมูเ่ กอว่า "เสียวเกอเอ๋อร์
ไม่ได้อะไรกลับไปเลยหรือ?"

"พูดมาก" มูเ่ กอไม่พอใจ

คําตอกกลับทีไร้เหตุผลนี ซือมัวไม่เห็นมันอยูใ่ นสายตา


แต่กลับยิมน้อยๆ แล้วชีไปทีนิวมืออันผอมแห้งของผูเ้ ฒ่า
เป่ ยหมิง

ทันใดนัน ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึน
5
ตอนแรกมูเ่ กอเห็นว่านิวมือของท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงนันไม่
มีอะไรอยูเ่ ลย แต่อยูๆ่ ก็มีแหวนโบราณสีดาํ วงหนึง
ปรากฏขึน

มูเ่ กอรีบไปดึงแหวนวงนันออกจากนิวมือของผูเ้ ฒ่าเป่ ยห


มิงอย่างไม่ลงั เล แล้วมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หน้าตา
หล่อเหลาทียืนอยูข่ า้ งกายอย่างอึงๆ

"ก็แค่วิชาลวงตาธรรมดาๆ" ซือมัวพูดนิงๆ

แต่วา่ ในใจของมูเ่ กอรูด้ ีวา่ คําเปรียบเทียบว่าธรรมดาๆ


ของเขานัน ไม่ใช่วา่ ยอดฝี มือทุกคนจะดูออกได้

6
เป็ นอีกครัง ทีมูเ่ กอรูส้ กึ ได้ถงึ ความแข็งแกร่งของซือมัว
ในใจพลันเกิดแรงกดดันบางอย่างขึน แต่นนก็
ั เป็ นแรง
ผลักดันด้วยเช่นกัน

'ข้าจะเก่งขึน แล้วสักวันหนึงข้าจะยืนอยูบ่ นจุดสูงสุดของ


โลกใบนี!'

ซือมัวไม่ได้สงั เกตว่ามูเ่ กอกําลังคิดอะไรอยู่ แต่กลับมอง


ไปทีแหวนวงนัน พูดยิมๆ ว่า "ทีหลินชวน ผูท้ ีมีแหวนซวี
หมีวงนีไว้ในครอบครอง ถือว่าเป็ นผูท้ ีมีโชควาสนามาก"

มูเ่ กอเบ้ปากอย่างไม่ใส่ใจ วาสนาดีแล้วอย่างไร สุดท้าย

7
ก็ตอ้ งตายด้วยนํามือของเธอและมูช่ ิงเกอ

แล้ว........ก็แค่แหวนจะมีอะไรพิเศษ?

มูเ่ กอมองแหวนสีดาํ ในมือด้วยความสงสัย

พอเห็นท่าทางแบบนีของนาง ซือมัวก็อธิบายว่า "แหวน


ซวีหมีนนั ความจริงแล้วเป็ นแหวนทีจะทํามาจากวัสดุ
พิเศษบางชนิด เป็ นอาวุธวิญญาณแห่งช่องว่างทีจอม
ขมังเวทย์ได้สร้างขึน สามารถจุสงของไว้
ิ ดา้ นในได้"

ถ้าอย่างนันก็เป็ นแหวนทีมีพลังช่องว่างน่ะสิ!

8
มูเ่ กอเข้าใจแล้ว นอกจากพลังสายฟ้า เธอเองยังมีพลัง
ช่องว่างอีกด้วย ตรรกะเกียวกับการเก็บสิงของไว้ในช่อง
ว่างนัน เธอเข้าใจ แต่วา่ เธอไม่คิดว่าทะลุมิติมายังคนละ
โลกแบบนีแล้วจะยังมีช่องว่างทีทํามาจากของวิเศษแบบ
นี

เธอคิดทบทวนคําพูดของซือมัวแล้วรูส้ กึ ว่าแหวนซวีหมี
ในมือเธอ ก็คงจะเหมือนกับตุม้ หูสีมว่ งบนหูซา้ ยของเธอ
ทีหาได้ยากมากในหลินชวน

แหวนซวีหมีนีเธอไม่ตอ้ งการหรอก ตัวเธอเองก็มีพลัง


ช่องว่างอยูแ่ ล้ว และยังดูปลอดภัยกว่าด้วย แต่ตอนนีสิง
ทีเธอสงสัยคือ ในแหวนซวีหมีทีผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงซุกซ่อนอา
ไว้อย่างดีนี มันมีสมบัติอะไรอยูข่ า้ งในกันแน่
9
"เปิ ดอย่างไร?" มูเ่ กอถือแหวนขึนมา แล้วถามซือมัวทีอยู่
ข้างๆ

เธอพบว่าบนโลกใบนีไม่มีอะไรทีผูช้ ายคนนีไม่รู ้ เพราะ


อย่างนีเธอจึงต้องใช้ Google เคลือนทีนีให้เป็ น
ประโยชน์

มูเ่ กอชวนคุยก่อน ทําให้ซือมัวอารมณ์ดีเป็ นอย่างมาก


พร้อมตอบว่า : "ปกติแล้ว แหวน ซวีหมีจะรูว้ า่ ใครเป็ น
เจ้าของ และนอกจากเจ้าของของมันแล้ว ก็ไม่มีใคร
สามารถเปิ ดได้ แต่วา่ ตอนนีเจ้าของของมันได้ตายไป
แล้ว แหวนซวีหมีนีก็ไม่มีเจ้าของ ขอเพียงเจ้าเพ่งพลังจิต

10
ก็จะสามารถเปิ ดแหวนและเอาของข้างในออกมาได้"

พลังจิตเป็ นสิงทีคุน้ เคยมากสําหรับมูเ่ กอ

อย่าลืมว่า เมือชาติทีแล้ว การทีเธอจะสามารถพัฒนา


ฝี มือได้นนต้
ั องอาศัยการฝึ กฝนพลังจิต จนเธอแอบสงสัย
ว่าทีเธอตายแล้วสามารถฟื นคืนชีพได้นนั เป็ นเพราะว่า
เธอมีพลังจิตเข้มแข็งกว่าคนธรรมดา

หลังจากทีได้รบั คําแนะนําจากซือมัว มูเ่ กอปล่อยจิตให้


ว่าง ค่อยๆ ปลดปล่อยพลังจิตของตนเองออกมา

พลังจิตทีไม่มีรูปกายในจิตสํานึกของมูเ่ กอ ส่งผ่านพลัง
11
ไปทีแหวนซวีหมีในมือของเธอราวกับเส้นใย

เมือพลังจิตทีรวบรวมไว้มาอยูท่ ีแหวนซวีหมี มูเ่ กอไม่ได้


รีบร้อนเข้าไปในทันที แต่คอ่ ยๆสังเกตการณ์ จนแน่ใจ
แล้วว่าไม่มีอนั ตราย เธอจึงเข้าไปยังอาณาเขตของแหวน
ซวีหมี

เพราะพลังจิต ทําให้มเู่ กอรูส้ กึ ว่าตนเองเข้าไปอยูใ่ นพืนที


เกือบ 10 กว่าตารางเมตร ในช่องว่างนีเหมือนกับช่อง
ว่างของเธอ คือไม่มีประตูและหน้าต่าง

แต่วา่ สิงทีต่างกันคือช่องว่างของเธอมีแสงส่องเป็ น
ประกายระยิบระยับ แต่ช่องว่างในแหวนซวีหมีวงนีกลับ

12
ดูมืดทึบ

เมือเปรียบเทียบกันเสร็จแล้ว มูเ่ กอก็เริมค้นหาสมบัติ


ของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง

สิงทีผูเ้ ฒ่าเป่ หมิงสะสมไว้นนั ส่วนมากเป็ นพวกยา


สมุนไพรทีหายากแต่วา่ สําหรับมูเ่ กอแล้วยาสมุนไพร
พวกนีไม่ตา่ งอะไรกับวัชพืชเลย

นอกจากนีก็เป็ นพวกเครืองเงินกับเครืองทอง

มูเ่ กอทีผิดหวังเล็กน้อย รูส้ กึ ไม่อยากจะยอมรับ อย่าบอก


นะว่าเสียเวลาไปทังคืนกลับได้แต่ของไร้สาระพวกนีมา
13
เธอทียังไม่ยอมแพ้ ยังคงค้นหาต่อไป

ทันใดนันเธอก็พบว่าตรงมุมของช่องว่างมีกล่องไม้ใบ
ใหญ่ประมาณเท่าฝ่ ามือวางอย่างเงียบเชียบ

'มันคืออะไร' ความแปลกใจทําให้มเู่ กอเดินไปหยิบกล่อง


ไม้ทีดูแสนจะธรรมดานันขึนมา แต่วา่ ในขณะทีเธอกําลัง
จะเปิ ดออก กลับพบว่า ไม่วา่ ตนเองจะทําอย่างไรก็ไม่
สามารถเปิ ดกล่องไม้ออกได้

"เกิดอะไรขึน" มูเ่ กอขมวดคิว เงียบไปสักพักก็นาํ กล่องไม้


ใบนันออกจากช่องว่างของแหวนซวีหมี

14
พอลืมตาขึนในมือของมูเ่ กอก็มีกล่องไม้ทีเธอเอาออกมา
มาจากช่องว่างวางอยู่

มูเ่ กอยืนกล่องไม้ให้ซือมัวอย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่นอ้ ย
"เปิ ดไม่ออก"

ซือมัวยืนมือมารับพร้อมรอยยิม ไม่ได้รูส้ กึ ไม่พอใจทีโดน


สังเลยแม้แต่นอ้ ย เขาพิจารณากล่องไม้นนอยู
ั ค่ รูห่ นึง
แล้วจึงตอบข้อสงสัยของมูเ่ กอ "กล่องนีมีคนสะกดมัน
เอาไว้ ต้องคลายมนต์สะกดเสียก่อนถึงจะสามารถเปิ ด
ได้

15
"สะกดไว้?" มูเ่ กอไม่คอ่ ยเข้าใจว่ามันแปลว่าอะไร แต่รูว้ า่
สิงทีสําคัญทีสุดตอนนีคืออะไร : "เจ้าคลายมนต์ได้ไหม?"
แม้จะเป็ นคําถามแต่นาเสี
ํ ยงของเธอยังคงเต็มไปด้วย
ความมันใจ

ซือมัวพยักหน้ารับ ยืนยันคําพูดของมูเ่ กอ

มูเ่ กอยักคิวทีหนึง และพยักเพยิดเบาๆ ราวกับกําลังบอก


กับซือมัวว่า "ลําบากเจ้าแล้ว"

ซือมัวถือกล่องไม้นนไว้
ั ดวงตากระจ่างราวอําพันเปลียน
ไปยามร่ายเวท แต่เพียงพริบตาเดียวก็กลับคืนสูส่ ภาวะ
ปกติ

16
"ได้แล้ว" ซือมัวยืนกล่องไม้ให้กบั มูเ่ กอ

เสร็จแล้วเหรอ ?

มูเ่ กอรูส้ กึ สงสัย เธอคิดว่าจะได้เห็นฉากทีน่าตืนตาตืนใจ


แต่ไม่คิดว่าเพียงพริบตาเดียวก็เสร็จแล้ว?

มูเ่ กอยังคงสงสัย แล้วจึงยืนมือไปรับกล่องไม้ใบนันมา

พอปลายนิวแตะเบาๆ ลงบนฝากล่อง ก็มีเสียง 'แกร๊ก'


ดังขึน

17
เปิ ดได้แล้วจริงด้วย

มูเ่ กอหรีตา ในแววตาเต็มไปด้วยความดีใจ

กล่องไม้ทีถูกเปิ ดออก ด้านในมีแผ่นป้ายไร้อกั ษรแผ่น


หนึงนอนนิงสงบอยูใ่ นนัน และยังมียาเม็ดทีส่องแสง
ประกายระยิบระยับอีกเม็ดหนึง ยาเม็ดนันขนาด
ประมาณเท่าเม็ดลําไย ส่องแสงสดใสเป็ นประกายราว
กับแก้วและมีตวั อักษรสีทองจางๆ

เมือเทียบกันแล้ว ป้ายไร้อกั ษรดูดอ้ ยค่ามาก แต่เพราะ


ถูกเก็บไว้ในกล่องไม้ทีมีมนต์ตอ้ งห้ามคุมกันอยูแ่ บบนี

18
มันจะเป็ นของธรรมดาได้ทีไหนกัน

สิงทีอยูใ่ นกล่อง ซือมัวก็เห็นเช่นกัน

ในแววตามีความตกตะลึงวาบผ่าน และถอดถอนใจพูด
กับมูเ่ กอ "เสียวเกอเอ๋อร์ ข้าต้องยอมรับจริงๆ ว่าเจ้าช่าง
โชคดีเหลือเกิน"

19
ตอนที 32 ยาวิเศษสืบทอดพลัง

“ข้าก็เป็ นคนทีโชคดีมาโดยตลอดอยูแ่ ล้ว” มูเ่ กอหรีตาแล


ดูน่าดึงดูด

20
แม้จะไม่รูม้ ลู ค่าของสิงทีอยูใ่ นกล่องไม้ แต่หากสามารถ
ทําให้ผทู้ ียิงใหญ่ทีสุดในหลินชวนพูดแบบนีได้ ไม่ตอ้ งคิด
อะไรมาก มูเ่ กอก็รูเ้ ลยว่าตนเองเจอของมีคา่ เข้าให้แล้ว

ริมฝี ปากแดงเรือของมูเ่ กอโค้งขึนเป็ นรอยยิมจางๆ มอง


ไปทีป้ายและยาในกล่องไม้ มูเ่ กอในเวลานีได้ลืมความ
โกรธหลายๆ ครังทีมีตอ่ ชายผูน้ ีไปชัวขณะ

มูเ่ กอเขียยาเม็ดนันไปไว้ขา้ งๆ แล้วยืนมือไปหยิบป้ายไร้


อักษรขึนมาเป็ นอันดับแรก

‘หนักมาก’

21
เมือหยิบป้ายนันขึนมา มูเ่ กอรูส้ กึ ว่าของในมือเธอน่าจะ
มีนาหนั
ํ กไม่นอ้ ยกว่า 50 กิโล

ถ้าไม่ใช่วา่ ตอนนีเธอเป็ นระดับชันสูงสุดของขันเหลือง


เธออาจจะถือป้ายนีไม่ไหวและขายหน้าต่อหน้าชายตรง
หน้านีอีกครัง

มูเ่ กอขมวดคิวรูส้ กึ สงสัยกับนําหนักของป้ายแผ่นนี ใน


ขณะเดียวกันก็ใช้ปลายนิวสัมผัสกับตัวผิวของป้ายเพือ
วิเคราะห์วา่ มันทํามาจากอะไร

แต่ทว่า คลําอยูน่ านมูเ่ กอก็ยงั ไม่แน่ใจว่าป้ายทําจาก

22
อะไร

ป้ายนีเรียบลืน แต่สีสนั ของมันดูซีดจางไปไม่นอ้ ย เมือ


สัมผัสดูก็รูส้ กึ ถึงได้ความเย็นเล็กน้อย แต่กลับไม่เนียน
ละเอียดเหมือนหยก

โลหะเหรอ? มูเ่ กอปฏิเสธในใจ

แม้ไม่รูว้ า่ โลหะในโลกนีมีวิธีการผลิตอย่างไร แต่


ประสบการณ์เมือชาติทีแล้วของเธอกําลังบอกเธอว่าสิง
ทีอยูใ่ นมือเธอนันไม่ใช่โลหะ

หิน? แต่ความเงาของมันนันมีมากกว่าหิน
23
และทีสําคัญคือ สิงทีดูเหมือนจะมีคา่ มากกว่าทีเห็นนีไม่
สามารถเอาไปเปรียบกับอะไรทีเธอรูจ้ กั ได้เลย

“ป้ายอันนีมันมีประโยชน์อย่างไร?” ถ้าเทียบกับวัตถุดิบ
ทีใช้ทาํ แล้ว มูเ่ กอสนใจประโยชน์ใช้สอยของมันมากกว่า

พอเธอคลายมือ ป้ายทีหนัก 50 กว่าโลก็ตกไปอยูใ่ นมือ


ของซือมัว มือทีดูสวยงามของเขาดูเหมาะสมกับป้ายนี
มากเป็ นพิเศษ

มูเ่ กออึงไป พอรูส้ กึ ตัวก็คาํ รามว่า “นี! เจ้าแย่งของของ


ข้าทําไม”

24
ซือมัวมองท่าทางทีเหมือนสัตว์ตวั น้อยถูกรังแกของมูเ่ ก
อแล้วหัวเราะชอบใจแล้วถามกลับว่า “เจ้ารูห้ รือไม่วา่ สิง
นีคืออะไร?”

“ไร้สาระ ข้าจะรูไ้ ด้อย่างไร?” มูเ่ กอตอบอย่างไม่ชอบใจ

“ถ้าเจ้าไม่รู ้ ข้าจะบอกให้เอาไหม?” ซือมัวไม่ใส่ใจนํา


เสียงของมูเ่ กอ

“เจ้ารูห้ รือ?” มูเ่ กอตาเป็ นประกาย ใช่ เธอลืมไปได้อย่าง


ไรว่าคนทียืนอยูต่ รงหน้าเธอนันเป็ นเจ้าตัวประหลาดเฒ่า
ทีมีชีวิตยาวนานมาร่วม 1000 กว่าปี แล้ว จะยังมีอะไรที

25
เขาไม่รูอ้ ีกหรือ เป็ น Google เวอร์ชนมนุ
ั ษย์เลยก็วา่ ได้

ซือมัวพยักหน้า ป้ายเมือมาอยูใ่ นมือเขาก็เหมือนกลาย


เป็ นของเล่นชินหนึง

ถ้าอย่างนันก็รบี พูดมาสิ!

สายตาทีรอคอยของมูเ่ กอ ทําให้ซือมัวอารมณ์ดี

เขาพูดนิงๆ “แม้วา่ หลินชวนจะจบสินไปแล้ว แต่ของ


โบราณจํานวนไม่นอ้ ยในตํานานก็ยงั คงเหลืออยูใ่ นพืนที
แห่งนี ป้ายไร้อกั ษรนี หากไม่มีอะไรผิดพลาด ก็คงจะ
เป็ นวัตถุโบราณทีหลงเหลืออยูท่ ีนี สิงทีเป็ นวัตถุโบราณ
26
ทังหมดต่างก็เป็ นสมบัติลาค่
ํ า ป้ายไร้อกั ษรนีเป็ นป้ายคํา
สังทีใช้เปิ ดช่องว่าง”

“ป้ายทีใช้เปิ ดช่องว่างแปลว่าอะไร” มูเ่ กอขมวดคิวถาม

หรือว่าป้ายนีจะทําให้สามารถเข้าไปกระโดดโลดเต้น
ภายในช่องว่างได้ หรือจะสามารถทะลุมิติเข้าไปในช่อง
ว่างได้?

ซือมัวมองมูเ่ กอด้วยสายตาทีกําลังบอกว่า ‘ไม่ตอ้ งรีบ


ร้อน’ แล้วอธิบายต่อว่า “บนป้ายนีไม่มีรอ่ งรอยตัวอักษร
สลักอยูเ่ ลย ความเป็ นไปได้เพียงอย่างเดียวคือความ
สามารถในการเปิ ดช่องว่างของมันได้ถกู ทําลายลงไป

27
แล้ว หรือไม่ก็ได้สญ
ู เสียเจ้าของไปแล้ว ถ้าเจ้าสามารถ
กระตุน้ ป้ายนีให้กลับมามีพลังได้อีกครัง ไม่แน่วา่ หาก
โชคดีเจ้าก็จะสามารถกลายเป็ นเจ้าของของช่องว่างนัน
ได้ อีกทังยังสามารถเข้านอกออกในช่องว่างนีได้อย่าง
อิสระ จะทําให้เจ้ามีขอ้ ได้เปรียบเพิมขึนมาอีก”

“ร้ายกาจขนาดนีเลย!” มูต่ กตะลึง

แม้วา่ ตัวเธอเองก็มีช่องว่าง แต่ช่องว่างของเธอนัน ใช้จุ


ได้เพียงสิงของเท่านัน ตัวเธอเข้าไปได้เพียงจิตวิญญาณ
โดยทีกายเนือยังอยูภ่ ายนอก

แต่หากเป็ นไปตามทีเจ้าเฒ่าพันปี นีพูด หากเธอสามารถ

28
ทําให้ปา้ ยนีกลับมามีพลังได้อีกครัง ก็จะสามารถเข้าไป
ในช่องว่างนันได้อย่างอิสระ มันเป็ นถึงกระดองเต่า
10,000 ปี เลยนะเนีย

หากเจอกับคนทีมีความสามารถเหนือตนเองแล้วสูไ้ ม่ได้
อย่างน้อยก็สามารถเอาตัวรอดได้

“จะคืนพลังให้มนั ได้อย่างไร” มูเ่ กอทียิงคิดก็ยิงเห็นถึงข้อ


ดีของมันถามอย่างตืนเต้น

แต่ ครังนีซือมัวไม่ได้ตอบคําตอบทีเธอต้องการ แต่พดู


เป็ นปรัชญาว่า “วิธีทีจะทําให้ปา้ ยสามารถกลับมาใช้ได้
นันไม่เคยมีบนั ทึกมาก่อน จะสามารถทําได้หรือไม่ก็ตอ้ ง

29
ดูวา่ มันมีวาสนาสัมพันธ์กบั เจ้าหรือเปล่า”

มูเ่ กอสลด

ในใจรูส้ กึ เหมือนตกลงมาจากยอดเมฆ เจ็บใจจนเธอ


อยากจะกระอักเลือด

ความรูส้ กึ ทีมีกญ
ุ แจแต่หาช่องเสียบกุญแจไม่เจอ พวก
เจ้าเคยเป็ นไหม?

“ไม่ตอ้ งรีบ หากมันเป็ นของเจ้า อย่างไรเสียมันก็ตอ้ งเป็ น


ของเจ้า” ซือมัวไม่อยากเห็นเธอหมดหวังจึงคืนป้ายให้
กับเธอแล้วปลอบใจอย่างอ่อนโยน
30
นําหนักเกือบ 50 กิโลกรัม ของมันไม่ได้ทาํ ให้แขนของมู่
เกองอลงเลยแม้แต่นอ้ ย

เธอจับป้ายไว้แน่น ทันใดนันป้ายก็หายไปจากมือของ
เธอ เหมือนกับป้ายนันถูกเธอเก็บกลับคืนเข้าไปในแหวน
ซวีหมีแต่ความเป็ นจริงแล้วเธอเอาป้ายนันใส่ไว้ในช่อง
ว่างของตนเอง

พูดเป็ นเล่น ของมีคา่ แบบนีจะเก็บไว้ในแหวนซวีหมีได้


อย่างไร เก็บไว้ในช่วงของตนเองปลอดภัยทีสุด

แต่วา่ แหวนซวีหมีวงนีก็ถือว่าเป็ นเครืองอําพรางชันยอด

31
เพราะแบบนีแล้วก็จะไม่มีใครรูว้ า่ เธอมีช่องว่างทีเป็ นของ
เธอเอง มูเ่ กอแอบมองซือมัวเห็นเขาไม่ได้สงสัยอะไรก็
แอบถอนหายใจ

เธอตังใจเก็บป้ายนันเข้าไปในช่องว่างของตนเองต่อหน้า
เจ้าเฒ่าประหลาดนี เพือจะดูวา่ เจ้าคนน่ากลัวนีจะดูออก
หรือเปล่าว่าเธอมีช่องว่างของตนเอง หากไม่ ช่องว่าง
ของเธอก็ถือว่าปลอดภัยในแผ่นดินหลินชวน

ดูเหมือนว่า เธอจะยังสามารถรักษาความลับเอาไว้ได้
บางส่วน

แต่เธอไม่รูว้ า่ ในตอนทีเธอเก็บป้ายนัน แววตาของซือมัว

32
เปลียนไปเล็กน้อย ช่องว่างทีไม่เหมือนแหวนซวีหมีนนั
เขารูต้ งนานแล้
ั ว เพียงแต่เขารูว้ า่ มูเ่ กอไม่ไว้ใจในตัวเขา
จึงเก็บเรืองนีเอาไว้ในใจ

หลังจากหยิบป้ายออก ในกล่องไม้ก็เหลือเพียงยาเม็ดที
แผ่ซา่ นพลังลึกลับบางอย่างออกมา

มูเ่ กอเขย่ากล่องไม้ เม็ดยาจึงกลิงไปมาอยูใ่ นกล่อง

“ยานีดูแปลกๆ” มูเ่ กอพึมพํา หลังจากทีเกิดใหม่มาเกือบ


เดือนกว่า เธอกินยาแปลกๆ เข้าไปมากมาย แต่ไม่วา่ จะ
เป็ นยาของมูซ่ งหรือยาของเจ้าเฒ่าประหลาดคนนี ก็
เทียบไม่ได้กบั ยาในกล่องไม้ใบนี

33
“ยานีใช้รกั ษาอะไร” สิงสําคัญคือต้องรูส้ รรพคุณของมัน
ก่อน มูเ่ กอหยิบยาเม็ดนันออกจากกล่องไม้ แล้วสังเกต
อย่างละเอียด

“อย่าเม็ดนีก็มีมนต์ตอ้ งห้ามปิ ดผนึกไว้เช่นกัน” จู่ๆ ซือมัว


ก็พดู ขึนมา

มนต์ตอ้ งห้ามอีกแล้ว

มูเ่ กอขมวดคิว

“มนต์ตอ้ งห้ามมันคืออะไรกันแน่ ทําไมข้าไม่เคยได้ยิน


34
มาก่อน” ในระยะนี เธอก็เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างใน
หลินชวนแห่งนีมากขึน แต่คาํ ว่ามนต์ตอ้ งห้ามนีเธอได้
ยินเป็ นครังแรกจากปากของซือมัว

ซือมัวหันหน้ามามองเธอ แล้วเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูด


พร้อมหัวเราะว่า : “เสียวเกอเอ๋อร์หมันฝึ กฝนพลังเข้าไว้
สักวันเจ้าจะเข้าใจว่าอะไรคือมนต์ตอ้ งห้ามและมันก็ไม่
ใช่ของแผ่นดินหลินชวนแห่งนี”

มูเ่ กอขมวดคิวมากขึนอีก เธอมองด้วยความไม่เข้าใจ


“เจ้าเคยบอกว่าตุม้ หูของข้าเป็ นสิงทีไม่ควรอยูใ่ นหลิน
ชวน แล้วบอกว่าการทีแหวนซวีหมีมาอยูใ่ นหลินชวนเป็ น
เรืองทียากจะเกิดขึน ตอนนีก็บอกว่ามนต์ตอ้ งห้ามไม่
ควรปรากฏขึนทีนี ถ้าของพวกนีไม่ควรอยูใ่ นหลินชวน
35
แล้วควรจะไปปรากฏอยูท่ ีใด”

คําถามของมูเ่ กอทําให้รอยยิมของซือมัวกดลึดมากขึน
แต่เขาก็ยงั คงไม่ตอบคําถามของเธอและเปลียนเรือง :
“หากเสียวเกอเอ๋อร์ตงใจฝึ
ั กฝน เจ้าก็จะรูว้ า่ โลกใบนีมัน
กว้างใหญ่กว่าทีเจ้าจินตนาการเอาไว้มากนัก หลินชวนก็
เป็ นเพียงส่วนเล็กๆ มีเรืองบางเรืองหากรูเ้ ร็วเกินไป ก็ไม่
ใช่ผลดีตอ่ ตัวเจ้า”

“เจ้าเคยไปทีโลกอืนใช่ไหม? ท่านปู่ บอกว่าทีหลินชวนไม่


มีมงั กรพยัคฆ์วายุ แต่เจ้ากลับพาพวกมันมา มาปรากฏ
ต่อสายตาทุกคน” มูเ่ กอพูดข้อสงสัยในใจของตนเองออก
มา

36
หากผูช้ ายคนนีสามารถทะลุมิติไปโลกอืนได้จริง ถ้า
อย่างนันเขาจะเก่งกล้าถึงขันไหนกัน

ซือมัวส่ายหน้าเบาๆ แล้วหัวเราะโดยไม่พดู อะไร

ขีงก!

มูเ่ กอแอบเบะปากในใจ บ่นทีเขามาหยุดเล่าเอาช่วง


สําคัญแบบนี

แต่อยูๆ่ มือข้างทีถือยาอยูข่ องเธอก็สนอย่


ั างรุนแรง

37
“เกิดอะไรขึน?” มูเ่ กอตกใจ กํายาไว้แน่น

แต่อยูๆ่ ยาเม็ดนันก็หลุดจากการควบคุมของเธอ ยาเม็ด


นันเคลือนไหวอย่างรวดเร็วพุง่ มาทีใบหน้าของเธอ เห็น
เพียงเงาทีสะท้อนเข้ามาในนัยน์ตากระจ่างใสของเธอ
เท่านัน ยานันราวกับเป็ นกระสุนปื นทีถูกยิงพุง่ มาทาง
เธอ

ทันใดนัน มันก็ฝังเข้าไปอยูต่ รงกลางหว่างคิวของเธอ

วินาทีตอ่ มามูเ่ กอรูส้ กึ ว่าภาพตรงหน้ามืดมิด จากนันก็ไม่


รูส้ กึ ตัวอีก

38
“เสียวเกอเอ๋อร์!” ซือมัวรีบเข้ามาพร้อมยืนมือออกไปรับ
ร่างทีกําลังจะร่วงลงพืนของมูเ่ กอไว้ ใบหน้าเขาไม่ได้ดู
ตกใจหรือกังวล เพียงพึมพําอย่างเรียบเฉยว่า “เสียวเก
อเอ๋อร์ ข้าบอกแล้วว่าหากโอกาสเป็ นของเจ้า มันก็ตอ้ ง
เป็ นของเจ้า”

ในมุมมืด กูหยาพูดกับกูเย่วา่ : “เจ้าลองคิดดูวา่ ในโลก


ใบนี คนทีทําให้ทา่ นประมุขของเราถ่ายทอดเวทคุม้ กัน
ให้ดว้ ยตนเองแบบนี คงจะมีแค่คนตรงหน้าใช่ไหม?”

39
ตอนที 33 ไอ้เจ้าเฒ่าประหลาดตําช้า

40
ท่ามกลางความมึนงง มูเ่ กอรูแ้ ค่วา่ ตนเองถูกดูดเข้าไป
อยูใ่ นทีทีซึงสับสนวุน่ วาย

ความรูส้ กึ นันเหมือนตอนทีเธอทะลุมิติมาเกิดใหม่

“หรือว่า ข้าจะเกิดใหม่อีกครัง? เฮ้ย! นีข้าตายเพราะไอ้


ยาเม็ดนีเหรอ?!” พอได้สติมเู่ กอก็ตอ้ งตกใจกับความคิด
ของตนเอง

ทันใดนัน ในหัวก็มีความรูส้ กึ ราวกับมีอะไรฉีกขาด ขัด


จังหวะสิงทีเธอกําลังคิดทําให้จิตใต้สาํ นึกของเธอไหล
ย้อนกลับอย่างรวดเร็ว

41
“เกิดอะไรขึน!” มูเ่ กอเอามือกุมหัวแน่น นิวทังสิบ จิกเข้า
ไปทีหนังศีรษะ

อ๊ากๆๆ------!

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทําให้มเู่ กออดไม่ได้ทีจะร้อง
ออกมาด้วยความเจ็บปวด นีไม่ใช่สงที
ิ คนธรรมดาจะ
ทานทนได้ เคยปวดหัวไมเกรนไหม? ถ้าเคย ก็จะรู ้ แต่
ทว่าความเจ็บปวดในตอนนีของมูเ่ กอมันมากกว่าการ
ปวดหัวไมเกรนเป็ นร้อยเท่า

ความรูส้ กึ เจ็บปวดนีทําให้มเู่ กออยากจะกัดลินตัวเอง

42
ตายไปเสีย

เธอกํามือแน่นทุบหัวตัวเองราวกับว่าการทําร้ายตัวเอง
แบบนีจะทําให้ความเจ็บปวดลดน้อยลง

ตัวอักษรแปลกประหลาดจํานวนมากมายปรากฏขึนใน
สมองของเธอ ราวกับบังคับให้เธอจดจํามันให้ขนใจ
ึ จน
ยากทีจะลืมเลือน

ไม่เพียงแต่อกั ษรพวกนัน แต่ยงั มียาสมุนไพรนานาชนิด


และซากสัตว์จาํ นวนมากทีหมุนวนซําไปมาในหัวของเธอ
ราวกับฉายหนัง เทียบยามากมายวนเวียนอยูใ่ นสมอง
ของเธอจนแทบจะทําให้หวั ของเธอระเบิด

43
และยาเม็ดนันทีพุง่ เข้าไปฝังตัวอยูต่ รงหว่างคิวของเธอ ก็
กําลังหมุนคว้างอย่างรวดเร็ว มันค่อยๆ ละลายเล็กลง
ตามแรงหมุนนัน

“ข้าทนไม่ไหวแล้ว!” มูเ่ กองอตัวลงกลิงไปมาบนพืนที


สับสนวุน่ วายนี

ความเจ็บปวดของร่างกายนันเธอสามารถทนได้

แม้วา่ จะถูกเฉือนเนือเลาะกระดูก เธอก็จะไม่รอ้ งสักคํา

แต่ทว่าความเจ็บปวดทางจิตนี กลับทําให้เธออยากจะ
44
รีบตายไปซะเพือจะได้หลุดพ้น

พลังจิตแม้วา่ จะแข็งแกร่งแต่มนั ก็เปราะบางและไวต่อ


ความรูส้ กึ หากพลังจิตได้รบั การกระทบกระเทือน เกรง
ว่าชาตินีทังชาติก็คงยากทีจะรักษา แล้วตอนนีความเจ็บ
ปวดทางจิตทีเธอได้รบั ก็พงุ่ สูงถึงขีดสุดแล้ว

หากทนไม่ไหว ไม่แน่วา่ พลังจิตของเธออาจะสูญเสียการ


ควบคุมและพังทลายลง จากนีก็อาจจะต้องกลายเป็ น
อัมพาต เป็ นเจ้าหญิงนิทราหรือไม่ก็กลายเป็ นคนสติไม่
สมประกอบ

ทันใดนัน แสงสีเขียวก็มาปรากฏขึนทีข้างตัวมูเ่ กอก่อน

45
จะกลายร่างเป็ นคนโปร่งแสง

มูช่ ิงเกอมองท่าทางเจ็บปวดของมูเ่ กออย่างตกใจ นาง


สามารถรับรูไ้ ด้วา่ พลังจิตของมูเ่ กออ่อนแอลงเรือยๆ และ
ใกล้จะพังทลายเต็มที “เข้มแข็งไว้นะ!”

แต่มเู่ กอทีตกลงไปในความเจ็บปวดอันแสนสาหัสนัน
กลับไม่ได้ยินสิงทีนางพูดแม้แต่นอ้ ย ไม่รูแ้ ม้กระทังว่า
นางมาปรากฏตัวอยูต่ รงนี

ทําไมจู่ๆ มูเ่ กอถึงกลายเป็ นแบบนี

มูช่ ิงเกอมีรา่ งเป็ นวิญญาณโปร่งแสง สามารถมองเห็น


46
อะไรๆ ได้ชดั เจนกว่ามูเ่ กอ

นางรูว้ า่ มูเ่ กอกําลังอดทนกับความเจ็บปวดแสนสาหัสที


ได้รบั นีเป็ นชะตาของมูเ่ กอและเป็ นชะตาของนางด้วย
เช่นกัน เพราะว่ามูเ่ กอคือมูช่ ิงเกอและมูช่ ิงเกอก็คือมูเ่ กอ

หากทนไม่ได้ เช่นนันเกรงว่ามูช่ ิงเกอคงต้องตายไปจริงๆ

มูช่ ิงเกอเม้มปากแน่น คิวขมวดมุน่

ทําอย่างไรดี ข้าจะช่วยเจ้าอย่างไรดี

สมองของมูช่ ิงเกอรีบคิดหาวิธีอย่างว่องไว ทันใดนัน ดวง


47
ตาของนางก็เป็ นประกาย นางคิดออกแล้วว่าจะช่วยให้มู่
เกอ ผ่านพ้นวิกฤติครังนีไปได้อย่างไร

หลังจากทีไตร่ตรองดูดีแล้ว สายตาของมูช่ ิงเกอก็เต็มไป


ด้วยประกายเด็ดเดียว

นางพูดกับมูเ่ กอเบาๆ “ต่อไปนี ตระกูลมู่ ท่านปู่ และท่าน


อา คงต้องพึงเจ้าแล้ว!” พูดจบนางก็นงขั
ั ดสมาธิ ดวงตา
ทังคูป่ ิ ดสนิท

ร่างทีโปร่งแสงพลันสันไหวอย่างรุนแรง ใบหน้าของนาง
บิดเบียวด้วยความเจ็บปวด

48
หลังจากนันพลังโปร่งแสงบริสทุ ธิกลุม่ หนึงก็พวยพุง่ ออก
มาจากศีรษะของนางราวกับเชือกเส้นหนึง และหมุนวน
ขึนเป็ นเกลียว เข้าไปกลางศีรษะของมูเ่ กอ

เมือพลังเข้าสูร่ า่ งกายของมูเ่ กอ ร่างของมูช่ ิงเกอจากเดิม


ทีโปร่งแสงอยูแ่ ล้วก็ซีดจางลงหลายส่วนตามไปด้วย

ทังหมดนี มูเ่ กอไม่รูเ้ ลยแม้แต่นอ้ ย

เธอในตอนนีกําลังรับมือกับความเจ็บปวดทีทวีมากขึน
เรือยๆ

ทันใดนัน ก็มีความร้อนกลุม่ หนึงปรากฏขึนมาห่อหุม้ ตัว


49
เธอเอาไว้และค่อยๆ หลอมรวมเป็ นหนึงเดียวกับพลังจิต
ของเธอ พลังทีเกิดขึนนี ทําให้ความเจ็บปวดของเธอ
บรรเทาลง ราวกับว่าอาณาเขตพลังจิตในตัวเธอ มีพืนที
ในการรับมือกับความเจ็บปวดเพิมมากขึน

มูเ่ กอตกใจ ไม่รูว้ า่ เกิดอะไรขึน แต่รูว้ า่ คราวนีตนเองคง


รอดแล้ว

ในป่ าซือมัวอุม้ ร่างของมูเ่ กอไว้ คิวทีขมวดแน่นค่อยๆ


คลายออก เขายังเป็ นห่วงกลัวว่านางจะทนไม่ไหว ขณะ
ทีกําลังจะยืนมือเข้าช่วยนัน กลับไม่คิดว่านางจะทนผ่าน
มันมาได้

50
ท่ามกลางความสับสนวุน่ วาย ร่างทีโปร่งแสงของมูช่ ิงเก
อ จู่ๆ ก็เริมโปร่งแสงมากขึนเรือยๆ ราวหมอกควันที
สามารถสลายหายไปได้ตลอดเวลา

แต่รา่ งกายทีได้รบั ความเจ็บปวดแสนสาหัสจนเกร็งแน่น


ของมูเ่ กอกลับค่อยๆ ผ่อนคลายลงราวกับวิชาทีถ่ายทอด
มาสูต่ วั เธอจนเกือบจะคร่าชีวิตเธอนี ได้เดินทางมาจนถึง
จุดสุดท้ายแล้ว

ผ่านไปครูห่ นึง พลังสายสุดท้ายของมูช่ ิงเกอก็เข้าไปสถิต


อยูใ่ นร่างของมูเ่ กอ

มูเ่ กอสงบลง นอนนิงอยูท่ า่ มกลางความสับสนแล้ว

51
ค่อยๆ ลืมตาขึน

สิงทีเห็น คือภาพทีพร่ามัว

มูเ่ กอรีบลุกขึนนังขัดสมาธิ สบตากับสายตาทีประเดียว


ชัดเจนประเดียวพร่าเลือนของมูช่ ิงเกอ “นีมันเกิดอะไร
ขึน?” มูเ่ กอตกใจ

มูช่ ิงเกอยิมบางๆ รอยยิมนันมีความโล่งใจราวกับได้รบั


การปลดปล่อย “ข้าต้องไปแล้ว คงจะอยูก่ บั เจ้าได้ไม่ถงึ
49 วันแล้ว”

“เกิดอะไรขึน” มูเ่ กอขมวดคิวเธอรับรูไ้ ด้ถงึ ความอ่อนแอ


52
และอ่อนแรงของมูช่ ิงเกอในตอนนี

มูช่ ิงเกอยังคงยิมแต่ไม่ได้ตอบคําถามของมูเ่ กอ “เจ้าลอง


พูดมาก่อนดีกว่าว่าเจ้าได้รบั การถ่ายทอดอะไรมา”

มูช่ ิงเกอทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึนทําให้มเู่ กอเม้มปาก


แต่เธอก็ยงั คงตอบคําถามของมูช่ ิงเกอ : “ศาสตร์ในการ
ปรุงยา เหมือนเป็ นสิงทีนักปรุงยาสมัยบรรพกาลเคย
เรียนรูม้ า”

“ดีเหลือเกิน!” สายตาทีดูมืดมนของมูช่ ิงเกอ เป็ น


ประกายขึนบ้าง

53
นางดีใจจริงๆ ดีใจกับความโชคดีของมูเ่ กอ

จากนียิงมูช่ ิงเกอเก่งกาจมากขึนเพียงใด นางก็จะจากไป


อย่างสบายใจมากเพียงนัน

มูเ่ กอจ้องมูช่ ิงเกอและพูดขึนว่า “ในตอนทีข้าเกือบจะทน


ไม่ไหว พลังจิตทีมาหลอมรวมกับพลังจิตของข้า มันเป็ น
พลังจิตของเจ้าใช่ไหม?”

มูช่ ิงเกอพูดนิงๆ “วิญญาณแต่เดิมก็เป็ นพลังจิตชนิดหนึง


อยูแ่ ล้ว ถือว่าพวกเราโชคดีทีข้าได้ดดู พลังวิญญาณของ
เจ้าเฒ่าสารเลวเป่ ยหมิงนันเข้าไปในร่างกาย ประจวบ
เหมาะกับตอนทีพลังจิตของเจ้าไม่เพียงพอสําหรับการ

54
ถ่ายทอดพลัง ข้าจึงหลอมพลังวิญญาณนันให้เป็ นพลัง
จิตทีบริสทุ ธิแล้วถ่ายมันให้แก่เจ้า”

“แล้วจะเกิดอะไรขึนกับเจ้า?” มูเ่ กอพูดเสียงแข็ง

เมือรับรูไ้ ด้ถงึ นําเสียงทีเป็ นห่วงเป็ นใย มูช่ ิงเกอจึงยิม


พร้อมพูดว่า “อย่างไรก็ตาม ข้าก็ตอ้ งสลายหายไปและ
จากทีนีไปอยูด่ ี ไม่วา่ จะเร็วหรือช้า เจ้าเองก็ไม่ตอ้ งรูส้ กึ
ว่าติดค้างอะไรข้าเจ้ากับข้านันมีรา่ งกายเดียวกัน ช่วย
เจ้าก็เหมือนช่วยตัวข้าเอง”

มูเ่ กอเงียบไปสักพักแล้วถามอย่างจริงจังว่า “วิญญาณ


ของเจ้าจะแตกสลายไปไหม”

55
มูช่ ิงเกออึงไปสักพักแล้วพูดพร้อมรอยยิมว่า “ถึงบอกว่า
พวกเราโชคดีอย่างไรเล่า หากข้าใช้พลังของตนเองเพียง
คนเดียวในการช่วยเจ้า ไม่แน่วา่ วิญญาณอาจแตกสลาย
ไปจริงๆ”

คําพูดของมูช่ ิงเกอ มูเ่ กอเข้าใจดี

เรืองบางเรืองคงจะถูกฟ้ากําหนดเอาไว้แล้ว ผูเ้ ฒ่า


เป่ ยหมิงเอาเธอมาทดลองยา กระทังคิดจะสังหารเธอ
แต่สดุ ท้ายกลับต้องถูกฆ่าตาย สมบัติทีมีคา่ ก็ถกู มูเ่ กอข
โมยมา สุดท้ายแล้วแม้กระทังพลังของวิญญาณก็ยงั ต้อง
มาช่วยเธอในการสืบทอดวิชา

56
“ข้าต้องไปแล้ว ต่อจากนี มูเ่ กอก็จะกลายเป็ นมูช่ ิงเกอตัว
จริง ข้าฝากท่านปู่ และท่านอาด้วย” พอพูดจบร่างของ
นางก็ดซู ีดจางมากขึนเรือยๆ

มูเ่ กอเม้มปากแน่นเป็ นเส้นตรง ไม่ได้พดู อะไร เพียงพยัก


หน้า

เมือได้รบั คํามันจากมูเ่ กอ มูช่ ิงเกอก็ราวกับหมดห่วง ร่าง


กายแตกกระจายเป็ นละอองล่องลอยขึนสูฟ่ ากฟ้า
หลอมรวมกลายเป็ นส่วนหนึงของความสับสนวุน่ วายนี

มูเ่ กอเงยหน้าขึนใช้สายตาคูน่ นส่


ั งมูช่ ิงเกอเป็ นครังสุด

57
ท้าย

เธอไม่รูจ้ ดุ หมายปลายาทางของมูช่ ิงเกอ แต่เธอรูว้ า่ เป็ น


อย่างทีมูช่ ิงเกอบอกนับแต่นีเธอจะกลายเป็ นมูช่ ิงเกอที
แท้จริง

ระหว่างทีค่อยๆ ฟื นสติ มูเ่ กอ….ไม่สิ หลังจากนีคงต้อง


เรียกว่ามูช่ ิงเกอแล้ว......... มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ ว่าแก้มของตน
เองสัมผัสกับเข้าลมหายใจอุน่ ๆ ขนตานางขยับไหวเบาๆ
พร้อมกับลืมตาขึนมาอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นดวงตาสุก
ใสเป็ นประกาย

มูช่ ิงเกอเพิงลืมตาขึน ก็มองเห็นใบหน้าอันงดงามหล่อ

58
เหลาทีแนบชิดกับผิวของนาง สีหน้านางพลันแปรเปลียน
กําหมัดขวาและสะบัดออกไปอย่างไม่ลงั เล : “เจ้าคนตํา
ช้า!”

59
ตอนที 34 องค์หญิงมาเยียม

หลังกลับมาจากป่ าก็ผา่ นไปสองวันแล้ว

สองวันมานี มูช่ ิงเกอไม่ได้ฝึกเวทพลังเลย เพราะกําลังทํา


ความเข้าใจกับความทรงจําทีเพิมเข้ามาในหัวอย่าง
ละเอียด

นักปรุงยาเป็ นอาชีพสูงส่งมีเกียรติและเป็ นทีต้องการ


60
อาชีพหนึง

เพราะว่า การทีจะเป็ นนักปรุงยาได้นนต้


ั องมีคณ
ุ สมบัติที
สูงส่ง พูดได้วา่ ในหมืนคน แทบจะไม่มีผสู้ าํ เร็จเลยสักคน
และการจะสําเร็จเป็ นปรมาจารย์ขนสู
ั งและได้รบั การ
ยอมรับนันก็มีโอกาสทีน้อยมาก

การทีจะเป็ นนักปรุงยานัน ก็หมายถึงการทีจะต้องสร้าง


เส้นสายให้กว้างขวาง

สําหรับผูก้ ล้าทังหลาย การจะผูกสัมพันธ์กบั นักปรุงยา


สักคน จะขอยาต่อชีวิตสักเม็ด หรือกระทังยาชันเลวทีสุด
ก็ยงั ถือเป็ นเรืองทียากเย็นมาก

61
และหากต้องติดหนีบุญคุณนักปรุงยา ยิงเป็ นสิงทีพวก
เขาไม่ตอ้ งการ

เท่าทีมูช่ ิงเกอรู ้ ในแคว้นฉิน จํานวนของนักปรุงยามีแทบ


จะนับนิวได้ อีกทังระดับของพวกเขาก็ไม่ได้สงู มากนัก

วันนัน ยาเม็ดทีมูซ่ งใช้ช่วยชีวิตนาง ไม่ใช่ยาทีนักปรุงยา


ในแคว้นฉินจะสามารถปรุงออกมาได้ ยาเม็ดนัน เป็ นยา
ทีมูซ่ งในวัยหนุ่มได้มาจากแคว้นอวีตอนออกไปท่อง
เทียว ขณะทีเดินทางผ่านแคว้นอวีเขาได้บงั เอิญช่วยชีวิต
คนผูห้ นึงไว้ คนผูน้ นเลยมอบยาเม็
ั ดนันให้เป็ นการตอบ
แทน แม้ตอนนัน มูซ่ งจะไม่ได้ถาม แต่ก็พอดูออกว่าเขา

62
เป็ นนักปรุงยาขันสูงท่านหนึง

แต่วา่ มูซ่ งก็มีศกั ดิศรีในตนเองและไม่ได้ตอ้ งการสิงตอบ


แทน หากอีกฝ่ ายไม่อยากเปิ ดเผยฐานะทีแท้จริง เขาก็
คร้านจะถาม แต่สดุ ท้ายก็ตอ้ งรับยาเม็ดมานันมาตาม
ความต้องการของอีกฝ่ าย

เขาเก็บรักษายาเม็ดนันมาทังชีวิต แต่สดุ ท้ายก็มาใช้กบั


มูช่ ิงเกอ

และตอนนี มูช่ ิงเกอได้รบั การถ่ายทอดตํารายาจากเทพ


แห่งยา นางเองก็ไม่รูว้ า่ เทพแห่งยาจะอยูใ่ นฐานะอะไร
ในบรรดานักปรุงยา แต่ก็มนใจว่
ั ามันคงจะสุดยอดมาก

63
ไม่อย่างนันจะกล้าเรียกว่าเทพได้อย่างไร?

อีกอย่างตํารายาทีสืบทอดมานันมีจาํ นวนมหาศาล นาง


เรียบเรียงมาสองวันสองคืนแล้วก็ยงั ไม่หมด และทีเรียบ
เรียงมานันก็เป็ นเพียงหนึงในสิบของตํารายาทังหมดเท่า
นัน

โชคดีทียาและรูปภาพพร้อมสรรพคุณพวกนัน ราวกับ
สลักไว้ในหัวของมูช่ ิงเกออย่างไรอย่างนัน หากจะให้นาง
ท่องตํารายาทังหมดคงต้องใช้เวลาครึงชีวิต

ตํารายาทีสืบทอดมานีเหมือนสลักอยูใ่ นหัวของนางและ

64
ตอนนีสิงทีนางต้องทําก็คือเรียบเรียงทําความเข้าใจและ
นําไปใช้

“นี ! ฮวาเยวีย-----! ฮวาเยวีย-------!” มูช่ ิงเกอเอามือ


นวดขมับพร้อมตะโกนเรียกเสียงดัง

พอสินเสียง ก็เห็นเงาร่างสีชมพู ดังผีเสือบินเดินเข้ามา


และทันใดนันใบหน้าเล็กๆ เย้ายวนของฮวาเยวียก็
ปรากฏขึนในสายตาของมูช่ ิงเกอ

“คุณชาย ฮวาเยวียมาแล้ว ท่านมีอะไรจะสังเจ้าคะ?”


ฮวาเยวียก้มหน้าลงแล้วมองไปทางชายหนุ่มชุดแดงที
นอนอยูบ่ นเก้าอีโยกในสวน ตาทังคูห่ ลับอยูแ่ ละดูไม่คอ่ ย

65
ผ่อนคลายนัก

มูช่ ิงเกอลืมตาขึนด้วยความเกียจคร้าน ทังร่างราวกับไร้


กระดูกพูดว่า : “ข้าปวดไหล่แล้วก็ปวดหัว”

ฮวาเยวียหัวเราะ ‘คิกคัก’ พร้อมขยับกายและเดินมาอยู่


ด้านหลังมูช่ ิงเกอ มือทังคูว่ างลงบนศีรษะมูช่ ิงเกออย่าง
เป็ นธรรมชาติ แล้วกดให้นางเบาๆ

มูช่ ิงเกอหลับตาเสพสุข “โย่วเหอเล่า?”

“โย่วเหอไปเตรียมสํารับให้คณ
ุ ชายเจ้าค่ะ” ฮวาเยวียนวด
ให้มชู่ ิงเกอไปด้วยพลางตอบคําถามไปด้วย
66
มูช่ ินงกอตอบว่า “อืม” คําเดียว และไม่พดู อะไรต่อ
เหมือนกําลังจะหลับ

ในสวนสระเมฆา อบอวลไปด้วยกลินดอกไม้

ดอกมูจ่ ินในสวนปลิวไปมากับสายลม เกสรสีชมพูลอย


อยูก่ ลางสายลม แล้วค่อยๆ ร่วงหล่นลงบนพืน ท่าม
กลางดอกไม้ทีปลิวไสว ชายในชุดแดงผูห้ นึงนอนอยูบ่ น
เก้าอีโยกด้วยความเกียจคร้าน ด้านหลังมีสาวใช้รูปโฉม
งดงามกําลังบีบนวดให้

สิงทีฉินอีเหยาเห็นตอนเดินเข้ามาพร้อมมูเ่ หลียนหรงก็

67
คือภาพนี

สีแดงสดราวกับกองเพลิงทีลุกโชนอยูก่ ลางสวนนัน
เทียบกับดวงอาทิตย์ทีเจิดจ้าแล้วยังดูงดงามยิงกว่า ใบ
หน้าทีงดงาม แม้จะยังดูเยาว์วยั แต่ก็ยงั แฝงไปด้วย
ความสุขมุ บางอย่างทียากจะอธิบายโดยเฉพาะรอยยิม
โอหังน้อยๆ ทีมุมปากนัน ราวกับไม่เห็นโลกนีอยูใ่ นสาย
ตาอย่างนัน

อาจเป็ นเพราะภาพตรงหน้าสวยงามเกินไป จึงทําให้ฉิน


อีเหยาหลงใหลจนลืมจุดประสงค์ทีมาไปเสียสนิท

มูเ่ หลียนหรงทีเดินเข้ามาพร้อมกับนางก็ตกใจกับภาพ

68
ตรงหน้า ในใจก็นกึ ตําหนิวา่ : เจ้าเด็กบ้านี เจ้าชูเ้ สียจริง
อีกหน่อยก็ไม่รูว้ า่ จะทําร้ายผูห้ ญิงอีกมากน้อยเพียงใด

พอนางได้สติก็พบว่าองค์หญิงฉางเล่อทีอยูข่ า้ งๆ นาง ว่า


ทีหลานสะใภ้ในอนาคตของตระกูลมูเ่ วลานียืนอึงอยูท่ ี
เดิม

ทันใดนัน มูเ่ หลียนหรงก็อดไม่ได้ทีจะรูส้ กึ ภาคภูมิใจว่า


หลานชายของตนเองนันช่างสุดยอดเสียจริง!

“อะแฮ่ม องค์หญิง?” มูเ่ หลียนหรงยกยิมอย่างอดไม่ได้


ร้องเรียกฉินอีเหยา ทําให้ฉินอีเหยาทีเหม่อลอยอยูไ่ ด้สติ

69
ฉินอีเหยาทีถูกดึงสติกลับมา เห็นสายตามองประเมินที
แฝงด้วยท่าทีมีเลศนัยของมูเ่ หลียนหรง ใบหน้าขาว
ผุดผาด จึงค่อยๆ แดงระเรืออย่างห้ามไม่ได้ แต่ก็กลับคืน
สูท่ า่ ทีเย็นชาสูงส่งเหมือนปกติในทันที

เห็นท่าทางขององค์หญิงฉางเล่อกลับไปเป็ นดังเดิม มูเ่ ห


ลียนหรงก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ

มูเ่ หลียนหรงก้าวเท้ายาวๆ เข้าไปหามูช่ ิงเกอ ไม่ได้รูส้ กึ


ผิดเลยสักนิดทีต้องไปทําร้ายฝันดีของใครเข้า : “ไอ้เด็ก
บ้า กลางวันแสกๆ แบบนียังจะมาแอบหลับอยูท่ ีนี ดูซิวา่
ใครมาหาเจ้า”

70
คําพูดนีก็มีความหมายแอบแฝงเช่นกัน

ประโยคนีทําให้นยั น์ตาของฉินอีเหยาเปลียนไป แต่สดุ


ท้ายก็กลับเป็ นเรียบเฉยดังเดิม

นางบอกกับตนเองในใจตลอดเวลาว่า ทีตนเองมาเยือน
จวนมูใ่ นวันนีก็เพราะได้รบั คําสังจากเสด็จย่าให้มาถ่าย
ทอดพระเสาวนียเ์ ท่านัน

มีคนมารบกวนฝันอันแสนหวาน ทําให้มชู่ ิงเกอลืมตาขึน


อย่างไม่คอ่ ยชอบใจนัก

เมือนางลืมตาขึน ใบหน้ายิมน้อยยิมใหญ่ของมูเ่ หลียนห


71
รงก็สะท้อนเข้าสูด่ วงตากระจ่างใสของนาง มูเ่ หลียนหรง
อึงกับสายตาของมูช่ ิงเกอ สายตาสุกใสแบบนีเหมือนกับ
คนทีเพิงตืนนอนเสียทีไหนกัน?

“ท่านอา” มูช่ ิงเกอลุกขึนยิมบางๆ ให้กบั มูเ่ หลียนหรง

ตอนนีเองนางจึงเพิงจะเห็นร่างอันสง่างามขององค์หญิง
ฉางเล่อทียืนอยูข่ า้ งประตูตาํ หนักผ่านไหล่ของมูเ่ หลียนห
รง

นางเกิดมาพร้อมกับความสูงส่งแห่งราชวงศ์ แม้อายุไม่
มากแต่กลับมีรูปโฉมหยาดฟ้า อาภรณ์ไหมสีฟา้ ทําให้
นางยิงดูเยือกเย็น

72
มูช่ ิงเกอกะพริบตา แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “องค์หญิงก็
เสด็จมาด้วย”

มูเ่ หลียนหรงเดินห่างออกไปเพือให้หนุ่มสาวทังสองคุย
กันเอง

ในเมือมูช่ ิงเกอเห็นนางแล้ว ฉินอีเหยาเองก็ไม่ได้ขดั เขิน


อะไร ค่อยๆ เดินหน้าไปสองสามก้าวแล้วพูดอย่างตรงไป
ตรงมาว่า “เสด็จย่าให้ขา้ มาเชิญท่านไปเข้าร่วมงานเลียง
ในวังคืนนี”

งานเลียงในวัง? เหตุใดนางต้องเข้าร่วมด้วย? มูช่ ิงเกอม

73
องหน้ามูเ่ หลียนหรงอย่างสงสัย

มูเ่ หลียนหรงรูไ้ ด้ในทันทีวา่ นางมีขอ้ สงสัย จึงยิมพร้อม


พูดว่า “ข้ากับท่านปู่ ก็จะไป”

ในเมือเป็ นเช่นนี เหตุใดยังต้องให้องค์หญิงฉางเล่อมา


เชิญนางด้วยองค์เองแบบนี มูช่ ิงเกอมองฉินอีเหยาและ
เข้าใจจุดประสงค์ของไทเฮาในทันที

ดูเหมือนว่าหญิงชราผูน้ ีกําลังคิดสร้างโอกาสในการบ่ม
เพาะความสมพันธ์ระหว่างพวกเขาอยูต่ ลอดเวลา

เพียงแต่วา่ ---------
74
สุดท้าย เกรงว่าแผนการของหญิงชราผูน้ ี คงต้องสูญ
เปล่าเสียแล้ว

75
ตอนที 35 เข้าวัง ห้ามยัวหญิงสาว

มูช่ ิงเกอทีถูกมูเ่ หลียนหรงบังคับให้ขนรถม้


ึ าขององค์
หญิงฉางเล่อไม่รูว้ า่ ควรจะรูส้ กึ อย่างไรดีในตอนนี

อะไรคือการคลุมถุงชน นางเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว

โชคดีทีองค์หญิงฉางเล่อเหมือนจะไม่คอ่ ยเต็มใจนักกับ
งานแต่งงานครังนี เพราะฉะนันในรถม้าอันกว้างใหญ่
ทังสองนังจึงห่างกันมากและไม่ได้พดู คุยอะไรกันเลย
76
ใช่ เท่าทีมูช่ ิงเกอสังเกต องค์หญิงฉางเล่อจะต้องไม่เห็น
ชอบกับการแต่งงานครังนีเป็ นแน่

เพราะผูห้ ญิงปกติทวไปก็
ั คงไม่หวังให้สามีเป็ นผูช้ าย
เสเพลเจ้าชู้ เป็ นคนทีไร้ประโยชน์บนุ๋ บู๊ไม่ได้สกั อย่าง ถึง
แม้วา่ จะได้รบั ขนานนามว่างดงามทีสุดในลัวตู แต่ความ
งามนีก็ไม่อาจลบล้างความจริงทีว่านางเป็ นเพียงคนไร้
ค่าไปได้

อีกอย่าง ได้ยินมาว่าองค์หญิงฉางเล่อเป็ นองค์หญิงฟ้า


ประทานผูโ้ ด่งดังแห่งแคว้นฉิน ไม่เพียงแต่เปี ยมไปด้วย
พรสวรรค์ ยังมีความสามารถทีโดดเด่น ทังยังมีรูปโฉมงด

77
งาม

ทีนีเป็ นโลกทีบูชานับถือพลังในการต่อสู้ หากไม่แข็ง


แกร่ง ก็จะเป็ นอะไรไม่ได้เลย

มูช่ ิงเกอเอาหัวพิงกับเสาบนรถม้าหลับตาแกล้งหลับ

ในวันนัน ก่อนทีจะจากกัน นางถามชายหนุ่มทีว่ากันว่า


เก่งกาจทีสุดในหลินชวนอย่างไม่อายว่าจะมีเวทลึกลับ
ใดทีจะสามารถปิ ดบังกระแสพลังและซ่อนเร้นไอการ
ต่อสูบ้ นร่างนางได้บา้ ง

และเขาก็ไม่ทาํ ให้มชู่ ิงเกอผิดหวังจริงๆ เขาบอกวิธีง่ายๆ


78
แต่ได้ผลวิธีหนึงให้กบั นาง ทําให้สามารถปิ ดบังระดับ
ความสามารถของนางในตอนนีเอาไว้ได้

ตอนนีในสายตาของคนรอบข้าง นางก็ยงั คงเป็ นคนไร้คา่


ทีทําอะไรไม่เป็ นเลยเช่นเดิม

นอกจากว่านางจะต้องต่อสูก้ บั ใครสักคน จนทําให้กลิน


อายของพลังเกิดขึน จึงจะทําให้คนอืนๆ ล่วงรูร้ ะดับของ
นางได้

“ถึงแล้ว” เสียงแผ่วเบาทีเยือกเย็นเสียงหนึงดังขึนในรถ
ม้า

79
มูช่ ิงเกอค่อยๆ ลืมตาทังสองข้างขึน เปิ ดผ้าม่านบนรถม้า
แล้วมองออกไปข้างนอก ทีแท้ก็มาถึงหน้าประตูวงั แล้ว

วันนีงานเลียงในวังคงไม่ใช่งานเล็กๆ ด้านนอกประตูวงั ก็
มีชนชันสูงลูกท่านหลานเธอจํานวนไม่นอ้ ยหยุดรถม้า
เพือตรวจตราก่อนเข้าไปภายในวัง แต่รถม้าของฉินฉินอี
เหยาสามารถเข้าไปได้โดยไม่จาํ เป็ นต้องมาจอดทีนี

พอผ่านด่านตรวจตรงบริเวณประตูวงั รถม้าก็เข้าไปยัง
กําแพงเมืองทีสูงประมาณ 3 เมตร

เมือม่านรถถูกปล่อยลง มูช่ ิงเกอก็หนั มาถามว่า “งาน


เลียงวันนีเชิญคนใหญ่คนโตทีใดมารึ?”

80
นําเสียงของนางไม่มีความเคารพอยูเ่ ลยและเหมือนจะ
ไม่เห็นองค์หญิงอยูใ่ นสายตา นีอาจจะเป็ น ‘อาการค้าง’
ของวิญญาณทีมาจากยุคปั จจุบนั อย่างนาง แต่เมือยูใ่ น
สาตาของฉินอีเหยากลับยิงทําให้นางรูส้ กึ ว่ามันเข้ากับ
ชือเสียงจอมเสเพลของนางนัก

ไม่เรียน ไร้ความสามารถ ไร้มารยาท ไม่รูจ้ กั ทีตําทีสูง


หยิงยโส มีเพียงเปลือกนอกทีงดงามแต่ขา้ งในนันว่าง
เปล่า.......

ทันใดนันคําวิจารณ์ทงหมดที
ั คนภายนอกมีให้กบั มูช่ ิงเก
อแห่งตระกูลมูก่ ็ลอยเข้ามาในหัวของฉินอีเหยา

81
ฉินอีเหยาพยายามเก็บอาการ แล้วพูดอย่างเยือกเย็น :
“มหาปราชญ์แห่งอาณาจักรเซิงหยวนมาเยือนแคว้นฉิน”

ทีแท้ก็เป็ นเจ้านัน!

สายตาขอบมูช่ ิงเกอดูเปลียนไป ในใจไม่ตืนเต้นกับงาน


เลียงในวังนีอีกต่อไป

ในใจของนางปฏิเสธการจะต้องเจอกับไอ้เฒ่าตายยาก
นันเป็ นอย่างมาก ความรังเกียจแบบนี ไม่รูว้ า่ เกิดขึน
เพราะเขาเป็ นกันเองกับนางเกินไปหรือเป็ นเพราะทุกครัง
ทีเจอกันเขามักจะเห็นตอนทีนางกําลังบาดเจ็บจนไม่

82
สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และอาจจะเพราะว่านาง
รูส้ กึ ว่าเวลาทีอยูก่ บั เขา

ตัวนางเองเหมือนไม่สามารถเก็บความลับอะไรไว้ได้เลย

“ข้าได้ยินมาว่า ระหว่างทางทีเจ้ากลับมาจากทีราบลัวรือ
ได้พบกับองค์มหาปราชญ์หรือ? เขาเคยบอกว่าจะมาที
แคว้นฉิน มาเยียมเจ้าทีตระกูลมูใ่ ช่ไหม” เสียงของฉินอี
เหยาดังขึนอีกครัง

มูช่ ิงเกอยักคิวมองนางมุมปากเผยรอยยิมมีเลศนัย ถาม


กลับว่า “แล้วองค์หญิงท่านคิดว่าเป็ นอย่างไรเล่า?”

83
เหอะ ได้ยินมาว่า ได้ยินจากใครหรือ?

วันนัน คนทีอยูใ่ นเหตุการณ์ นอกจากทหารของมูซ่ งก็มี


แค่รุย่ อ๋องฉินจินห้าว และองค์หญิงฉางเล่อคนนีก็เป็ นพี
น้องฝาแฝดกับรุย่ อ๋องฉินจินห้าว.........

เกรงว่า ว่าคําถามเมือครูน่ ีจะเป็ นการมาสืบข่าวให้พีชาย

สายตาของมูช่ ิงเกอฉายแววคมปลาบ

นางรูว้ า่ คําพูดทีไอ้แก่ตายยากนันทิงท้ายเอาไว้ตอ้ งทําให้


หลายคนเกิดคําถามและการทีฉินอีเหยาทําเป็ น
ถามอย่างไม่ใส่ใจแบบนี มากสุดก็แค่อยากรูค้ วามจริง
84
และอยากจะแอบสังเกตปฏิกิรยิ าของนาง ว่านางอาจจะ
มีความสัมพันธ์กบั มหาปราชญ์แห่งอาณาจักรเซิงหยวน

“ถ้าเจ้าไม่อยากเล่า ก็ช่างเถอะ” ฉินอีเหยาเม้มปาก และ


หันหลังกลับไปและเงียบลงอีกครัง

ยอมแพ้ง่ายๆ แบบนีเลยรึ?

มูช่ ิงเกอรูส้ กึ แปลกใจ เมือสังเกตว่าฉินอีเหยาไม่ได้พดู


อะไรอีก นางถึงแอบคิดในใจว่า : ช่างเป็ นสายลับทีขาด
คุณสมบัติเสียจริง

รถม้าขององค์หญิงเดินไปได้สกั พักก็หยุดลงอีกครัง
85
“ลงรถเถอะ” ฉินอีเหยาพูดอย่างเยือกเย็นและลงรถไป
ก่อน

มูช่ ิงเกอเดินตามลงไป และเพิงสังเกตุเห็นว่าพวกเขามา


ถึงสถานทีจัดงานเลียงในวังแล้ว

งานเลียงจัดขึนในศาลาทีอยูท่ า่ มกลางดอกไม้ แบบนีก็


แสดงว่าขุนนางทัวไปก็สามารถเข้าได้ เพราะไม่ได้เป็ น
พืนทีตําหนักส่วนลึกในวัง

นางกํานัลและองครักษ์ฝ่ายในต่างก็เดินไปมาอยูใ่ นสวน
ดอกไม้ เพือจัดเตรียมของจําเป็ นในงานเลียง

86
ตอนนี บริเวณทีมูช่ ิงเกอยืน อีกไม่อีกก้าว ก็จะถึงงาน
เลียงแล้ว

ฉินอีเหยาทีอยูใ่ นชุดสีฟา้ ทังชุด เยือกเย็นราวกับเซียนนํา


แข็ง พอพามูช่ ิงเกอมาถึงที นางก็พดู นิงๆ ว่า “ข้าจะไป
รายงานตัวกับเสด็จย่า คุณชายรออยูท่ ีนีสักครู ่ อีกหนึง
ชัวยามงานเลียงจึงจะเริม”

พูดจบฉินอีเหยาก็พานางกํานัลของตนเองเดินจากไป

“........” มูช่ ิงเกอเงยหน้าถอนหายใจ พูดเบาๆ ว่า: “ยอม


ล่วงเกินบัณฑิต ดีกว่าล่วงเกินคนตําช้าและผูห้ ญิง

87
จริงๆ ”

ทีไทเฮาให้องค์หญิงฉางเล่อไปรับนางเข้ามาในวัง เห็นได้
ชัดว่าอยากให้ทงสองได้
ั มีเวลาอยูด่ ว้ ยกัน ทําความรูจ้ กั
กัน ตอนอยูบ่ นรถม้า ตนเองทําให้องค์หญิงฉางเล่อปวด
หัวไม่นอ้ ย ตอนนีเลยกรรมตามสนอง

กว่างานเลียงจะเริมในอีกตังหนึงชัวยาม นางต้องยืน
ตากลมอยูต่ รงนี

มูเ่ กอมองไปรอบๆ ยังไม่มีแขกคนใดมาถึงเลย ชุดสีแดง


ราวกับพระอาทิตย์ทีส่องแสงเจิดจ้า ดูสะดุดตาเป็ นอย่าง
มาก

88
ช่างเถิด ตอนมาพระราชวังครังทีแล้ว ยังไม่ทนั ได้เดิน
เล่น ก็ถือโอกาสนีในการเดินดูรอบๆ แล้วกัน

คิดว่า องค์ผหู้ ญิงฉางเล่อผูเ้ พียบพร้อมไปด้วยความ


สามารถ ตอนทีจะทิงมูช่ ิงเกอไว้ทีนี ก็คงจะคาดการณ์
เอาไว้แล้วว่า คนอย่างคุณชายตระกูลมู่ มีหรือจะยอม
ยืนอยูก่ บั ที

89
ตอนที 36 เด็กสาวกลางสวนทีรกร้าง

มูช่ ิงเกอเดินเล่นอยูใ่ นสวน

90
ด้วยฐานะและชุดสีแดงของนาง องครักษ์ฝ่ายในพบนาง
แล้วต่างก็ตอ้ งโน้มตัวลงทําความเคารพและปล่อยให้
นางเดินต่อไป

พูดได้วา่ หากนางไม่เดินเข้าไปในส่วนลึกของตําหนักใน
ไม่เข้าไปในเขตหวงห้ามของราชวัง นางก็จะสามารถเดิน
ไปไหนก็ได้ภายในวังแห่งนี

เพราะว่า ท่านปู่ ของนางคือมูซ่ ง

เพราะว่า นางเป็ นคุณชายผูส้ ืบทอดสายเลือดโดยตรง

91
และเพราะว่า นางเป็ นคูห่ มายขององค์หญิงฉางเล่อ

แล้วทีสําคัญเพราะเมือก่อนไทเฮาเคยให้อภิสทิ ธิพิเศษ
นางให้สามารถเดินเล่นภายในวังได้ตามใจชอบ

ผูท้ ีได้รบั ความโปรดปรานเช่นนี ขอถามหน่อย นอกจาก


คุณชายแห่งตระกูลมู่ มูช่ ิงเกอผูน้ ีแล้วจะยังมีใครอีก

‘พระราชวัง ก็แค่นีเอง’ มูช่ ิงเกอทีกําลังเดินเล่นฆ่าเวลา


หลังจากความรูส้ กึ แปลกใหม่ในตอนแรกแล้ว ก็ไม่ได้ถกู
ใจความโอ่อา่ ฟุง้ เฟ้อในพระราชวังแคว้นฉินเลยแม้แต่
น้อย

92
“เฮ้อ~ น่าเบือ! เวลานีข้าควรจะกําลังมีความสุขกับฝี มือ
การนวดของฮวาเยวีย และอาหารอันเลิศรสของโย่วเห
อสิจงึ จะถูก” มูช่ ิงเกอรูส้ กึ เสียใจทีตัดสินใจเข้าวังมาอีก
ครัง

“เจ้าเป็ นใคร?” ทันใดนัน มีเสียงใสๆ เสียงหนึงทีแฝงไป


ด้วยความกลัวดังมาจากทางด้านหลังนาง

มูช่ ิงเกออึง รีบหันไปมองหาต้นเสียง ตอนนีจึงเพิงพบว่า


ตนเดินเข้ามายืนอยูใ่ นสวนทีรกร้างเพียงคนเดียวโดยไม่รู ้
ตัว

ทีบอกว่าเป็ นสวนร้างนัน ไม่ได้พดู โดยไม่มีเหตุผล

93
เพราะสวนแห่งนี มีหญ้าขึนสูง ก้อนหินทีเห็นก็มีตะไคร่
นําเกาะเต็มไปหมด ประตูหน้าต่างของเรือนในสวนแห่ง
นีก็บิดเบียวไม่เป็ นรูปทรง และยังเต็มไปด้วยใยแมงมุม
ในพระราชวังอันใหญ่โตแห่งนี มีทีแบบนีอยู่ จะไม่ให้
เรียกว่าสวนร้างได้อย่างไรกัน

แต่วา่ หากเป็ นสวนร้างจริงๆ ถ้าอย่างนันนอกจากนางที


เดินเข้ามาโดยไม่ได้ตงใจแล้
ั วยังจะมีใครอยูท่ ีนีอีกหรือ?

มูช่ ิงเกอหันไปดูรอบๆ เห็นดวงตากลมโตอันใสซือบริสทุ ธิ


คูห่ นึงแอบอยูบ่ ริเวณกอหญ้า

94
บริสทุ ธิมาก!

สายตาคูน่ นไม่
ั มีอะไรเจือปนเลยแม้แต่นอ้ ย ทําให้มชู่ ิงเก
ออึง

หรือว่าเพราะนางเคยประสบกับสิงทีซับซ้อนวุน่ วายมาก
มากมาย ดังนันสําหรับความไร้เดียงสาและความ
บริสทุ ธิ นางจึงมักจะเกิดความรูส้ กึ ดีทกุ ครังทีได้พบ

มูช่ ิงเกอค่อยๆ เดินอย่างแผ่วเบาเข้าไปหาสายตาคูน่ นั

“เจ้าเป็ นใคร? เหตุใดถึงมาอยูท่ ีนี?” เจ้าของสายตาคูน่ นั


เหมือนจะตกใจมาก แอบถอยไปด้านหลังและถามขึนมา
95
อีกครัง

หญ้าทีสูงประมาณเอวเคลือนไหวไปตามการกระทําของ
นาง และเผยให้เห็นร่างของนางชัดเจนขึนเรือยๆ

“แล้วเจ้าล่ะเป็ นใคร?” มูช่ ิงเกอเดินเข้าไปใกล้ ก้มตัวลง


ถาม

จากเสียงทียังดูเด็ก นางจึงรูว้ า่ คนทีแอบอยูใ่ นกอหญ้า


เป็ นสาวน้อยทียังอายุยงั น้อยนางหนึง ในตอนนีนางเห็น
หญิงสาวทีม้วนอยูใ่ นกอหญ้าทีรกชัฏนันชัดเจนแล้ว พบ
ว่าอายุของนางไม่น่าจะเกิน 12 หรือ 13 ขวบและเด็ก
กว่าตนเองเล็กน้อย

96
บนใบหน้ากลมดังซาลาเปาน่ารักของนาง สิงทีน่าดึงดูด
ทีสุดคือแววตาทีดูใสซือบริสทุ ธิดังกวางตัวน้อยคูน่ นั
นําตาทีคลออยูใ่ นดวงตาอันสดใสบริสทุ ธิดังนําทีไหลลง
มาจากภูเขา ไม่ถกู สิงใดปนเปื อนเลยแม้แต่นอ้ ย

นางมวยผมเป็ นทรง *ยิงจีคู่ ประดับด้วยดอกอินฮวา


หว่างคิวถูกแต้มด้วยชาดเป็ นแต้มคนงาม ทําให้นางไม่
เพียงแต่น่ารัก แต่ยงั เพิมเสน่หใ์ ห้ไม่นอ้ ย

ท่อนล่างเป็ นกระโปรงอย่างสาวชาววัง สีเขียวอ่อน ดู


จากลักษณะเสือผ้าและการแต่งกายทีดูซบั ซ้อนของนาง
ฐานะของนางต้องไม่ตอ้ ยตําแน่นอน

97
“ข้าชือเหลียนเหลียน” สาวน้อยตอบเบาๆ

พอคําตอบออกมาจากปากนาง นางก็ได้สติและรีบเอา
มือปิ ดปาก เหมือนกําลังตกใจทีตนเองตอบคําถามคน
แปลกหน้าอย่างง่ายดาย

“เหลียนเหลียนหรือ?” ท่าทางทีดูน่ารักของสาวน้อย ยิง


ทําให้มชู่ ิงเกอยิงรูส้ กึ เบิกบานจนเผลอยิมออกมาโดยไม่รู ้
ตัว

รอยยิมนีทําให้สาวน้อยหลงใหล และกล่าวชืนชมอย่าง
ไม่รูต้ วั “พีชายหน้าตางดงามยิงนัก ยิงยิมก็ยิงงาม”

98
เอ่อ !

มูช่ ิงเกอยิมค้าง ในใจแอบหัวเราะ ‘เหอะๆ’

อืม พีชายก็พีชาย

มูช่ ิงเกอยกมือขึนลูบศีรษะของสาวน้อยอย่างยอมแพ้
พูดด้วยนําเสียงทีอ่อนโยน “เหลียนเหลียนเองก็สวย
มาก”

ระหว่างทีสนทนากันสาวน้อยเกือบจะลืมไปว่าจริงๆ แล้ว
ตนเองไม่ได้รูจ้ กั มูช่ ิงเกอ พอมูช่ ิงเกอพูดจบนางก็ทาํ ปาก
99
จู๋น่ารักพร้อมส่ายหน้า “เหลียนเหลียนไม่สวยหรอก
เสด็จแม่บอกว่า ความน่ารักของข้าไม่มีผใู้ ดสามารถ
เทียบได้ แต่ความสวยนันเทียบพีเหยาไม่ได้เลยสักนิด”
ใน นําเสียงของสาวน้อยเหมือนกําลังเสียใจมองมูช่ ิงเก
อแวบหนึงแล้วพูดเบาๆ ว่า “ยิงกับพีชายข้ายิงแทบไม่ได้
เลยแม้แต่นอ้ ย”

เสด็จแม่?!

คําเรียกขานนีทําให้มชู่ ิงเกอแอบเดาอะไรบางอย่างในใจ

เด็กสาวตรงหน้านางนีอาจจะเป็ นพระธิดาองค์ใดองค์
หนึงของฮ่องเต้ พอคิดถึงความสัมพันธ์อนั ซับซ้อนใน

100
พระราชวัง ความรูส้ กึ ดีๆทีมูช่ ิงเกอมีให้กบั นางในตอน
แรกก็ลดน้อยลงไปมาก

“เจ้าอยากสวยหรือ?” อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็ถามขึน นําเสียง


เยือกเย็นลงหลายส่วน

เด็กสาวแทบจะไม่รูส้ กึ ถึงนําเสียงทีผิดปกติไป และส่าย


หน้ายังใสซือ “เหลียนเหลียนพอใจกับหน้าตาของตนเอง
แล้ว เสด็จแม่บอกว่า รูปร่างหน้าตาแบบนีของข้า เป็ น
หน้าตาของคนมีวาสนา” พูดจบก็พยักหน้าให้มชู่ ิงเกออ
ย่างจริงจัง

มูช่ ิงเกอหรีตา เชือมโยงสิงทีเด็กหญิงสาวผูน้ ีพูด แล้วเริม

101
เข้าใจ

คิดว่า องค์หญิงทีเติบโตในพระราชวัง เห็นคนรอบข้าง


ต่างก็หน้าตางดงาม จึงผิดหวังกับความเรียบง่ายของตน
เอง แต่นางมีแม่ทีแสนดี ทําให้นางไม่หลงลืมความเป็ น
ตัวเอง ท่ามกลางสถานทีหลอกลวงแห่งนี

“แล้วเจ้ามาทําอะไรอยูท่ ีนี” มูช่ ิงเกอถามด้วยสายตาดุๆ

เด็กสาวกะพริบตา ขนตาของนางยาวงอนราวกับใบพัด
นางตอบอายๆ ว่า “เหลียนเหลียนขาแพลง ชิงเอ๋อร์กาํ ลัง
ไปตามคนมาช่วย"

102
มูช่ ิงเกอมองข้อเท้าของนางทีถูกชายกระโปรงปกปิ ดไว้

มูช่ ิงเกอก้มหน้าลงพูดนิงๆ “ถ้าอย่างนัน ข้าไม่รบกวนเจ้า


แล้ว” พูดจบ ก็เตรียมจะเดินจากไป

“พีชายจะไปแล้วหรือ?” องค์หญิงตัวน้อยรีบเรียกมูช่ ิงเก


มูช่ ินเกอค่อยๆ หันข้างมาเล็กน้อย พร้อมยกยิมจางๆ


“ข้าแค่หลงทางเข้ามาและกําลังจะไปแล้ว”

“พีชายอยูเ่ ป็ นเพือนเหลียนเหลียนจนชิงเอ๋อร์มาได้หรือ
ไม่?” เสียงใสๆ ขององค์หญิงตัวน้อยพูดด้วยนําเสียง
103
อ้อนวอน

มูช่ ิงเกอหันหน้ากลับมา และสบตากับสายตาอันไร้


เดียงสาคูน่ นั

ความงดงามนี ทําให้จิตใจทีไม่อยากจะยินยอมของนาง
ต้องพ่ายแพ้

นางแอบบ่นในใจ ก่อนทีจะเดินเข้าไปหาองค์หญิงตัว
น้อยอีกครัง

จริงๆ แล้วนางไม่อยากจะเข้าไปยุง่ เกียวกับคนใน


ราชวงศ์มากเกินไป แต่ไม่คิดว่าสุดท้ายก็แพ้ให้ใจตัวเอง
104
“ให้ขา้ ดึงเจ้าขึนมาก่อน” มูช่ ิงเกอเดินไปอยูต่ รงหน้าองค์
หญิงตัวน้อย

แต่องค์หญิงตัวน้อยกลับส่ายหน้าอย่างน่าสงสารพร้อม
พูดว่า : “เหลียนเหลียนเจ็บขามากเดินไม่ไหวแล้ว”

ขาแพลงแน่นอนว่ามันต้องเจ็บอยูแ่ ล้ว

มูช่ ิงเกอแอบสงสัยว่าระหว่างทีทังสองสนทนากันมานาน
ขนาดนี ทําไมองค์หญิงตัวน้อยผูน้ ีไม่ได้แสดงความตืน
ตกใจกับความเจ็บปวดออกมาเลย

105
องค์หญิงตัวน้อยทีอยูท่ า่ มกลางกอหญ้าเงยหน้าขึนมอง
นาง ทําให้มชู่ ิงเกอใจอ่อนโน้มตัวลงอุม้ นางไว้ในอ้อม
แขน แล้วเดินออกจากกอหญ้า

ทุกอย่างมันกระทันหันมาก ทําให้องค์หญิงตัวน้อยตกใจ

แก้มนวลทังสองข้างของนางเริมแดง

“พีชาย รีบปล่อยข้าลง” องค์หญิงตัวน้อยพูดเบาๆ

มูช่ ิงเกอวางองค์หญิงตัวน้อยลงตรงขันบันได นางลืมคิด


ไปว่าตอนนีตนเองมีฐานะเป็ นผูช้ ายเข้าใกล้ผหู้ ญิงขนาด
นีมันเป็ นการเสียมารยาท
106
“นังตรงนีสบายกว่าตรงกอหญ้านะ” มูช่ ิงเกอปั ดเสือผ้า
ของตนเองพร้อมพูดนิงๆ

องค์หญิงตัวน้อยพยักหน้า ไม่เพียงแต่ใบหน้าทีแดง
ตอนนีหูก็เริมแดงแล้ว

“ทีนีทีไหนกัน” พอสังเกตเห็นรอบข้างทีรกร้างมูช่ ิงเกอก็


ถามขึน

เหลียนเหลียนเลิกอายแล้วค่อยๆ เงยหน้าขึน นัยน์ตาใส


ดังนํา มองใบหน้าอันงดงามของมูช่ ิงเกอ “ทีนีเป็ นฐาน
ลับของเหลียนเหลียน ไม่มีคนอยูท่ ีนีมานานแล้ว เหลียน

107
เหลียนและชิงเอ๋อร์ชอบมาเล่นทีนี จริงด้วย! แล้วยังมีพี
เฉิง แต่วา่ เขาไม่คอ่ ยสบายเลยไม่ได้มานานแล้ว”

มูช่ ิงเกอคิดว่าสาวน้อยคนนีไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ไม่ตอ้ ง


ให้ใครพูดอะไร ก็เล่าความจริงออกมาเองหมดเลย

“ทีนีมีอะไรน่าสนุกงันรึ?” มูช่ ิงเกอเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

“ซ่อนแอบไง” สายตาของนางเต็มไปด้วยความตืนเต้น
ท่าทางเหมือนเด็กน้อยชอลเล่นสนุกทีเจอของเล่นทีตน
เองชอบ

‘เหอะๆ’
108
ทีนีเหมาะกับการเล่นซ่อนแอบจริงๆ

มูช่ ิงเกอไม่เถียง

ทันใดนัน รอบบริเวณรกร้างแห่งนีมีเสียงดังขึน มูช่ ิงเก


อได้ยินแล้วก็พดู กับองค์หญิงตัวน้อยว่า “คาดว่าชิงเอ๋อร์
ของเจ้าคงใกล้มาถึงแล้ว ข้าคงต้องขอตัวก่อน"

พูดจบเงาร่างของมูช่ ิงเกอก็ออกจากสวนทีรกร้างอย่าง
รวดเร็ว

นางไม่อยากสร้างปั ญหาให้ตวั เองมากไปกว่านี


109
“อ๊ะ พีชาย........” ใบหน้าทีกลมเหมือนซาลาเปาขององค์
หญิงตัวน้อยดูเสียใจมาก ริมฝี ปากสีชมพูบน่ พึมพํา “ข้า
ยังไม่รูช้ ือของท่านเลย”

*ยิงจีคู่ เป็ นทรงผมทีมวยผมสูง แบ่งผมเป็ นสองส่วนแล้ว


ยึดตรงกลางไว้ แล้วหลังจากนันก็มวยผมทังสองข้างขึน
สูงให้เด่นอยูบ่ นศีรษะ

110
ตอนที 37 พบคนงามอมโรคอีกครา มหาปราชญ์เสด็จ
แล้ว!

เพราะความจําทีดีเยียม ทําให้มชู่ ิงเกอกลับมายังสถานที

111
จัดงานเลียงได้อย่างง่ายดาย

เมือนางกลับมาถึง ก็เห็นคนจํานวนมากอยูใ่ นงานเลียง


แล้ว

สามารถปรากฏตัวในงานเลียงในพระราชวังแบบนี แน่
นอนว่า ฐานะของคนพวกนี ย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่
นอน แต่มชู่ ิงเกอแทบจะไม่รูจ้ กั ใครเลย

เห็นผูค้ นทักทายกัน นางก็ยงรู


ิ ส้ กึ ว่าตนเองแปลกแยก

แน่นอนว่า สายตาเสียดสีและรอยยิมเย้ยหยันทีดูราวกับ
มองมาอย่างไม่ใส่ใจของคนพวกนันทีมองมายังนาง ทํา
112
ให้นางรูว้ า่ ตนเองดูไม่น่าคบหาเท่าใดนัก

มูช่ ิงเกอเบะปากอย่างไม่สนใจ และในขณะทีตัดสินใจจะ


เดินไปหาทีนังทีจัดไว้ให้กบั ตระกูลมู่ ก็ได้ยินเสียงของ
ท่านอาดังขึน

“ชิงเกอ ทางนี”

พอเงยหน้าขึน มูช่ ิงเกอเห็นมูเ่ หลียนหรงกําลังโบกมือให้


นางท่ามกลางฝูงชนและข้างกายนางก็มีมซู่ งทีสวมชุด
ขุนนางยืนอยูด่ ว้ ย

ท่าทางเปี ยมพลังและความน่าเกรงขามของมูซ่ ง ดูสะดุด


113
ตายิงนักแม้อยูท่ า่ มกลางฝูงชน

หลายคนอยากจะเดินเข้าไปคารวะแต่เพราะท่าทางที
เปี ยมไปด้วยอํานาจของเขา ทําให้ไม่มีใครกล้าเข้าไป

ในแคว้นฉิน พูดได้วา่ มูช่ ิงเกอทําให้คนรูส้ กึ รังเกียจ แต่


มูซ่ งกลับชวนให้ผคู้ นรูส้ กึ เลือมใส

คามแตกต่างกันทีเห็นได้ชดั เจนนี หากเป็ นมูช่ ิงเกอคน


เก่า คงจะรูส้ กึ ผิดหวังเสียใจแต่มชู่ ิงเกอในตอนนีกลับไม่
ได้รูส้ กึ ว่ามีอะไรผิดปกติเลยแม้แต่นอ้ ย นางเผยรอยยิม
เรียบเฉยให้กบั ทังสองแล้วเดินเข้าไปหา

114
ท่าทีสง่างามกําเกริบเสิบสานและความสงบนิงแบบนัน
ของนางทําให้คนรอบข้างต่างก็จบั จ้อง

ราวกับว่า ในใจของพวกเขาอดทีจะคิดไม่ได้วา่ นันคือ


คุณชายตระกูลมูแ่ น่หรือ เหตุใดจึงเหมือนมีสงใดไม่

เหมือนเดิม

“ท่านปู่ ท่านอา” เมือเดินเข้าไปใกล้ มูช่ ิงเกอก็ทกั ทายทัง


สองก่อน

มูซ่ งทีแอบสังเกตท่าทางของนางอยู่ ยิงรูส้ กึ พอใจ

เป็ นคนไร้คา่ แล้วอย่างไร! แต่ก็ยงั สามารถทําให้ทกุ คนไม่


115
กล้าดูถกู และเกรงกลัวอํานาจของตระกูลมูไ่ ด้อยูด่ ี!

“เด็กบ้า เจ้าไปไหนมา แล้วองค์หญิงเล่า?” มูเ่ หลียนหรง


ยืนมือไปดึงมูช่ ิงเกอมาใกล้แล้วกระซิบถามเสียงเบาที
ข้างหูนาง

มูช่ ิงเกอแอบคิดในใจว่า : นางจะรูไ้ ด้อย่างไรเล่า?

แต่ปากก็ยงั ตอบว่า “องค์หญิงมีธุระต้องไปจัดการ ข้าจึง


เดินเล่นอยูใ่ นอุทยานเพียงลําพัง” ความจริงแล้ว บางทีมู่
ชิงเกอก็ไม่เข้าใจความคิดของมูเ่ หลียนหรงนัก

เรืองราวของตระกูลมู่ เท่าทีมูเ่ หลียนหรงเคยเล่าให้ฟัง


116
เห็นได้ชดั ว่า นางสงสัยบรรดาเชือพระวงศ์ ถ้าอย่างนัน
เหตุใดถึงยังต้องการให้มีการแต่งงานระหว่างนางกับคน
ในเชือพระวงศ์เกิดขึนด้วย?

ราวกับว่ากลัวว่านางจะไม่ได้แต่งงานกับองค์หญิง ถึงขัน
จะยัดเยียดแม่ดอกบัวขาวนันให้กบั นางด้วย

“เจ้าซือบือ! ปกติบอกว่าตนเป็ นจอมเจ้าชู้ เสเพล แต่มี


โอกาสดีๆ แบบนีไยไม่รูจ้ กั รักษาเอาไว้ ปี หน้าเจ้าก็จะ
เข้ารับการสวมหมวกแล้ว เมือกลายเป็ นผูใ้ หญ่ก็ตอ้ งเข้า
พิธีวิวาห์และมีลกู หลานเพือสืบทายาทให้แก่ตระกูลมูส่ ืบ
ไป แต่หากไปทําให้พระคูห่ มันไม่พอใจ แล้วไม่ยอมแต่ง
งานกับเจ้า ข้ากับท่านปู่ เจ้าจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน”
มูเ่ หลียนหรงบ่นยืดยาว
117
มูช่ ิงเกอพลันเข้าใจทุกอย่างในทันที

ความเป็ นจริงแล้วมูเ่ หลียนหรงทําไปก็เพราะ.......

แต่วา่ นางคงต้องผิดหวังเสียแล้ว

ไม่ตอ้ งพูดเรืองทีว่าร่างกายแต่เดิมเป็ นหญิง ไม่อาจมีลกู


กับผูห้ ญิงด้วยกันได้ ถึงแม้วา่ เครืองมือมายาจะเหมือน
จริงเพียงไหน แต่เรืองแบบนีมันก็เป็ นไปไม่ได้ หากสักวัน
ฐานะทีแท้จริงของนางปรากฏ แล้วให้นางไปหาผูช้ ายสัก
คนเพือให้กาํ เนิดทายาท แค่คิด นางก็รูส้ กึ ขนลุกไปทังตัว
แล้ว

118
“เหอะๆ ท่านอา ท่านช่างว่างเสียจริง” มูช่ ิงเกอยิมเย้ย

มูเ่ หลียนหรงอึงทีได้ยินคําพูดกับนําเสียงเอือมระอาของ
หลานชาย นางยกมือขึนกําลังจะตีแต่ถกู มูซ่ งห้ามเอาไว้

“พอเถอะ จะทําอะไรก็ดกู ่อนว่าทีนีคือทีไหน”

พูดจบเขาก็นาํ ทังสองเดินไปยังทีนังประจําของตระกูลมู่

พอได้ยินท่านปู่ สงั มูเ่ หลียนหรงก็ไม่พดู อะไรต่ออีก แต่


จ้องมูช่ ิงเกอ เพือเป็ นการตักเตือน

119
มูช่ ิงเกอยิมบางเดินตามมูซ่ งไปอย่างไม่สนใจ สายตาที
เต็มไปด้วยความขีเล่นของมูช่ ิงเกอทําให้มเู่ หลียนหรง
โกรธจนเกือบจะเดินไปดึงหูของมูช่ ิงเกออย่างไม่ให้
เกียรติสถานที

ทีนังของตระกูลมูถ่ กู จัดให้อยูถ่ ดั จากทีนังขององค์ฮ่องเต้

เดิมทีทีนังขององค์ฮ่องเต้ตอ้ งอยูส่ งู ทีสุด แต่วนั นีกลับไม่


เหมือนเดิม ตําแหน่งทีนังของฮ่องเต้ เหมือนจงใจจะทํา
ให้ตาลงกว่
ํ าเดิมเล็กน้อย ด้านบนทีนังยังจงใจเว้นทีนัง
กว้างไว้อีกทีหนึง ทีนังนันมีเก้าอีและโต๊ะทีแกะสลักจาก
หยกขาวโปร่งแสงดังหิมะวางอยู่

120
ด้านบนวางอุปกรณ์ รับประทานอาหารเอาไว้ เมือเทียบ
กับของฮ่องเต้แล้วดูสวยงามและหรูหรากว่าเล็กน้อย
ทุกอย่างดูสงู ค่ากว่าคนธรรมดา 1 ระดับ

มูช่ ิงเกอตามมูซ่ งไปนังตรงทีนังของตระกูลมู่ ค่อยๆ


กวาดสายตามองทีนังสูงตรงนัน ไม่ตอ้ งให้ผใู้ ดมาบอก
นางก็รูไ้ ด้ในทันทีวา่ นันเป็ นทีนังของใคร นางกล้ายืนยัน
ว่าทีตรงนีเตรียมไว้ให้เจ้าเฒ่าประหลาดนันแน่นอน

‘ดูไม่ออกเลยนะ ว่าเจ้าแก่ฮ่องเต้ฉินนีจะเคารพนับถือ
นายตัวประหลาดมากขนาดนี’ มูช่ ิงเกอแอบคิด
ในใจ นายตัวประหลาดเป็ นสรรพนาม ‘ด้วยความ
เคารพ’ ทีนางใช้เรียกซือมัว ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะอะไร ทุก
121
ครังทีคิดว่าเขามีอายุเป็ น 1000 ปี แล้วก็ทาํ ให้นางนึกถึง
สัตว์ประหลาดผีรา้ ยทีอยูค่ บั ฟ้า ทีนางเคยได้ยินมาเมือ
ชาติทีแล้ว แน่นอนว่ารูปโฉมอันหล่อเหลาเป็ นหนึงของ
ซือมัวทําให้เขาดูเหมือนเพทเซียนเสียมากกว่า แต่วา่
หากจะให้นางเรียกไอ้ถามองคนนั
ํ นว่า “พีชายเซียน” มัน
คงเป็ นเรืองทีเป็ นไปไม่ได้!

“เกอเอ๋อร์ องค์มหาปราชญ์มาทีแคว้นฉินจริงๆ แล้วท่าน


เคยไปหาเจ้าหรือเปล่า” อยูๆ่ มูซ่ งก็ถามเสียงตํา ขัด
จังหวะความคิดของมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอรีบดึงสติตวั เองกลับมามองท่านปู่ แล้วตอบว่า :


“ข้าอยูใ่ นตําหนักทุกวัน เจอใครบ้างท่านปู่ ก็น่าจะรูด้ ีที
สุด”
122
สายตาทีดูมีความหวังของมูซ่ งเปลียนเป็ นความผิดหวัง
เพราะคําตอบแสน ‘จริงใจ’ นี

เขาถอนหายใจแล้วพูดเองเออเองว่า : “หรือว่า วันนัน


มหาปราชญ์จะพูดไปอย่างนันเอง? ท่านผูเ้ ฒ่าคงลืมเจ้า
ไปแล้วกระมัง”

คําพูดของมูซ่ ง มูช่ ิงเกอได้ยินทุกคําและทําให้นางรูส้ กึ


อึดอัด

นางรูว้ า่ ท่านปู่ ผเู้ ก่งกล้าในชาตินีของนาง ยังไม่ลม้ เลิก


ความคิดทีจะให้นางพึงบุญบารมีของผูม้ ีอาํ นาจในการมี

123
ชีวิตอยูอ่ ย่างปลอดภัยต่อไป

แต่นางกลับไม่หวังให้มนั เป็ นเช่นนัน!

มูช่ ิงเกอไม่ได้พดู อะไรต่อและสังเกตแขกรอบๆ อีกครัง


ทันใดนันนางเห็นเจ้าอ้วนเซ่าทีโบกมือให้นางสุดแรงเกิด
อยูบ่ นทีนังซึงอยูค่ อ่ นข้างไกลจากนาง

ไม่คิดว่างานเลียงครังนีจะเชิญตระกูลเซ่ามาด้วย

มูช่ ิงเกอยิมให้เขา ยังไม่ทนั ได้หบุ ยิม ก็รูส้ กึ ถึงสายตาที


เต็มไปด้วยแรงอาฆาตและความโกรธแค้นทีมองนางอยู่

124
มูช่ ิงเกอค่อยๆ หันหน้าไปมองทีนังตรงมุมทีดูมืดๆ เห็น
เป็ นเหอเฉิงทีนังอยูเ่ พียงลําพัง

เหอะ เขาก็มาด้วยรึ?

จะว่าไปแล้ว ตระกูลเหอก็ช่างกล้า ทําเรืองไว้ขนาดนัน


ยังกล้าปล่อยเขาออกมาให้ขายหน้า หรือว่า งานเลียง
ครังนีมีจดุ ประสงค์อืน จึงจําเป็ นต้องให้หนุ่มสาวทุก
ตระกูลมาเข้าร่วม?

ในใจพลันสว่างวาบ มูช่ ิงเกอดไม่ได้ทีจะแสยะยิมหยอก


เย้าไปให้เหอเฉิง ในใจวางแผนอะไรบางอย่าง

125
แม้วา่ การปรากฏตัวของเจ้าอ้วนเซ่า จะทําให้นางรูส้ กึ
แปลกใจ และเหอเฉิงทีควรจะหลบคํานินทาอยูท่ ีบ้านก็
มาปรากฏตัวในทีแห่งนี

พอมองไปรอบๆ อีกครัง--------

อืม เป็ นการรวมพลหนุ่มสาวผูม้ ากความสามารถแห่ง


เมืองลัวตูแคว้นฉินโดยแท้

เมือสักครูน่ างไม่ทนั ได้สงั เกต แต่ตอนนีมูช่ ิงเกอรูแ้ ล้วว่า


งานเลียงต้อนรับของนายตัวประหลาดในครังนีเหมือน
จะเชิญคนหนุ่มสาวจํานวนไม่นอ้ ยมาเข้าร่วม

126
และใบหน้าของหนุ่มสาวทังหลายต่างก็เต็มไปด้วยความ
ตืนเต้นและความอยากรูอ้ ยากเห็น

ราวกับว่า งานเลียงต้อนรับในครังนี เป็ นงานเลียงเลือกคู่


และสาวงามทีทุกคนต่างก็อยากจะแย่งชิงก็คือนายตัว
ประหลาดอย่างนันแหละ

หืม ! มูช่ ิงเกอตกใจกับความคิดของตนเอง

แม้จะเป็ นไปไม่ได้ แต่ความรูส้ กึ ของนางกําลังบอกนาง


ว่าการคาดเดานีใกล้เคียงความเป็ นจริงมากทีสุดแล้ว

ในระหว่างทีสายตาของมูช่ ิงเกอกําลังกวาดมองไปรอบๆ
127
ก็มีอะไรบางอย่างสีเหลืองนวลวาบผ่านตานางไป นาง
อึง และจ้องนิงทีคนๆ นันในทันที

‘เป็ นเขา!’ พอเห็นใบหน้าอันขาวซีดดวงนันชัดเจนแล้ว มู่


ชิงเกอก็แอบคิดในใจ

สีเหลืองนวลทีกระจ่างนัน เมือสวมใส่อยูบ่ นตัวเขา


แล้วกลับดูโดดเด่น หน้าตางดงามดังภาพวาด แต่เพราะ
ความขาวซีดทีต่างจากคนทัวไปของเขาทําให้ไม่มีใคร
กล้าเข้าใกล้ เพราะกลัวว่าจะทําให้เขาแตกสลายโดยไม่รู ้
ตัว

ราวกับว่า ภายในอาณาเขต 6 ฟุต รอบตัวเขาเป็ นพืนทีที

128
ห้ามเข้าใกล้

มาร่วมงานเลียงในพระราชวังแบบนี ผมยาวของเขา
กลับไม่ได้รวบขึนเลยแม้แต่นอ้ ย แต่ปล่อยให้มนั ปลิวไสว
ไปตามสายลม เขานังดืมเหล้าเงียบๆ อยูบ่ นเก้าอีราวกับ
ว่าทุกสิงทุกอย่างตรงหน้าไม่เกียวข้องกับตัวเขาเลย

ทําไมเขาถึงมาอยูท่ ีนี? เขาเป็ นใครกัน?

มูช่ ิงเกอถามตัวเองในใจ

แต่ดว้ ยความบังเอิญจึงสบเข้ากับดวงตานิงสงบไร้
อารมณ์คนู่ นเข้
ั า ฉับพลัน ทุกอย่างรอบด้านค่อยๆ เงียบ
129
ลง ราวกับว่าโลกทังใบมีเพียงนางกับเจ้าของสายตาคู่
นัน

เย็นชาเสียจริง !

มูช่ ิงเกอพยายามดึงสติของตนเองกลับมา ดึงเสียงฮือฮา


รอบข้างกลับมา อุณหภูมิทีลดลงก็ราวกับค่อยๆ เพิมขึน
ดังเดิม นางเม้มปากแน่นไม่พดู อะไรแต่ยงั คงสบตากับ
คนทีนังอยูไ่ กลลิบๆ ผูน้ นั

‘ต้องอยูใ่ นสภาพแวดล้อมแบบไหนหรือพบเจอกับอะไร
ถึงจะทําให้สายตาของคนๆ หนึงเย็นชาได้ถงึ เพียงนี ราว
กับว่าเขาขังตัวเองไว้ทา่ มกลางปราสาทหิมะ ไม่ยอมให้

130
อุณหภูมิทีสูงเกินไปได้เข้าใกล้’

“ท่านอา คนๆ นันคือใครกัน” มูช่ ิงเกอโน้มตัวไปหามูเ่ หลี


ยนหรงแล้วถามเบาๆ

มูเ่ หลียนหรงเงยหน้าขึนมองตามมูช่ ิงเกอแค่ชวขณะ



เดียวแล้วรีบดึงสายตากลับมา พูดกับนางเสียงเบาว่า
“เขาคือเสียนอ๋อง เกิดมาก็ทาํ ให้เสด็จแม่ของตนเองต้อง
ตาย ร่างกายก็ไม่คอ่ ยแข็งแรง ชอบเก็บตัวไม่คอ่ ยได้รบั
ความโปรดปรานจากฮ่องเต้นกั ก็ไม่แปลกทีเจ้าจะไม่
รูจ้ กั ไม่แน่วา่ กระทังคนในวังเองก็อาจจะไม่รูจ้ กั เขาด้วย
ซํา”

131
เสียนอ๋อง ? คนทีทําให้เสด็จแม่ของตนต้องตาย ? ร่าง
กายไม่แข็งแรง ?

สิงทีมูเ่ หลียนหรงอธิบาย ก็ดเู ข้ากันกับท่าทางอันเยือก


เย็นของเขา บางทีความเยือกเย็นแบบนันอาจบ่งบอกถึง
ความผิดหวังและใช้ชีวิตบนโลกโดยไม่หวังสิงใด

มูช่ ิงเกอเม้มปากก้มหน้าลงไม่มองเขาอีก

ถ้าไม่เกียวข้องกับตัวนาง นางก็จะไม่เสียเวลาไปคิด ใน
ตอนนีสิงทีนางสนใจคือข่าวทีมูเ่ หลียนหรงเผลอหลุด
ออกมา

132
นันก็คือสายข่าวของตระกูลมู่

องค์ชายทีแม้กระทังคนในวังก็ไม่รูจ้ กั แต่มเู่ หลียนหรงแค่


มองไกลๆ ก็รูแ้ ล้วว่าเขาเป็ นใคร นอกจากพวกเขาจะรูจ้ กั
และสนิทสนมกันอยูแ่ ล้ว ก็มีอีกความเป็ นไปได้ที
สามารถอธิบายเรืองนีได้ นันก็คือมูเ่ หลียนหรงมีขอ้ มูล
ของเสียนอ๋องผูน้ ีอย่างละเอียด จึงทําให้สามารถบอกได้
ในแวบแรกทีเห็น

สายข่าวแบบนี ถือเป็ นของดี! มีคา่ มหาศาลเชียวนะ!

มูช่ ิงเกอกลืนนําลายด้วยความอยากรูอ้ ยากเห็น แต่นาง


ก็รูว้ า่ ตอนนีตนเองเป็ นเพียงจอมเสเพล ไม่มีสทิ ธิจะรู ้

133
ความลับของตระกูลมู่

ไม่ใช่ไม่เชือใจ แต่กลัวว่าหากนางยิงรูค้ วามจริงมาก


เพียงใด ก็จะยิงง่ายต่อการตกเป็ นเครืองมือของคนรอบ
ข้างเพียงนัน

ตอนนี คนกลุม่ หนึงทีมีคนคอยคุมกันอย่างดีก็เดินเข้ามา

การเข้ามาของพวกเขา ทําให้บรรยากาศในงานเลียงเริม
เงียบ ทุกคนต่างลุกขึนยืน

มูช่ ิงเกอยืนขึนตามมูซ่ ง และเห็นคนกลุม่ หนึงทีนางรูจ้ กั


ฉินจินห้าว ฉินอีเหยา ยังมีไทเฮา และเจียงกุย้
134
เฟย...................

ชายชุดสีเหลืองทองอร่ามลายมังกรทีเดินอยูห่ น้าสุด ไม่


รูจ้ กั ก็พอจะเดาออกว่าเป็ นใคร

น่าจะเป็ นฮ่องเต้ทีปล่อยให้นางรอเก้อในวันนัน

หน้าตาก็ดพู อใช้ได้ ท่าทางกล้าหาญเกรียงไกร แต่ใน


แววตามากแผนการ ทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ ไม่ชอบ ข้างๆ ตัว
เขามีหญิงสาวทีสวยใสผุดผ่องยืนอยูส่ องนาง แต่เหมือน
จะอายุไม่นอ้ ยแล้ว นางทีบนศีรษะประดับด้วย
มงกุฏหงส์ทา่ ทางสูงสง่าเปี ยมศักดิ น่าจะเป็ นภรรยาเอก
ของฮ่องเต้ ฮองเฮาแห่งแคว้นฉิน และอีกคนทีสวมชุดผ้า

135
ไหมสีขาวปั กลายดอกไม้สีมว่ ง หน้าตาสวยสดงดงาม
ท่าทางดูออ่ นโยนดุจสายนํา ดูจากการแต่งตัวของนาง
แล้ว น่าจะเป็ นหนึงในสนมคนใดคนหนึงของฮ่องเต้

ข้างหลังฮองเฮามีชายคนหนึงเดินตามมา รูปร่างหน้าตา
คล้ายคลึงกับฉินจินห้าวหลายส่วน แต่เหมือนฮองเฮา
มากกว่า เพียงแต่ดวงตาเต็มไปด้วยความหยิงยโส
ทําลายความสูงส่งทีถ่ายทอดมาจากฮองเฮาไปเสียหมด
เขาสวมชุดสีเหลืองสีออ่ นกว่าของฮ่องเต้เล็กน้อย และ
มงกุฏทีประดับบนศีรษะก็บง่ บอกถึงฐานะของเขาได้เป็ น
อย่างดี

ทังนีไม่ตอ้ งให้มเู่ หลียนหรงบอก มูช่ ิงเกอก็เดาออกว่า


ชายคนนีเป็ นลูกชายของฮ่องเต้แล้วยังเป็ นรัชทายาทที
136
ฮองเฮาให้กาํ เนิด

‘เหอๆ เป็ นคนเหมือนกันแต่โชคชะตาไม่เหมือนกันเลย


จริงๆ ต่างก็เป็ นลูกชายของฮ่องเต้เหมือนกันแท้ๆ แต่เสีย
นอ๋องกลับถูกลืม’ มูช่ ิงเกอแอบถอนหายใจแต่ไม่ได้แสดง
อาการอะไรออกมา

ในกลุม่ คนทีเดินมานางไม่เห็นองค์หญิงตัวน้อยทีเจอเมือ
ตอนเย็นเลย พอคิดทบทวนสักพักนางก็เข้าใจแล้วว่าใน
พระราชวังแห่งนีผูท้ ียังไม่บรรลุนิติภาวะคงจะไม่สามารถ
ร่วมงานเลียงแบบนีได้และอาจจะเป็ นเพราะฮ่องเต้ผทู้ ี
เต็มไปด้วยเล่หก์ ลผูน้ ี ในใจมีแผนการอะไรบางอย่าง

137
มูช่ ิงเกอหยุดคิดและยืนอยูข่ า้ งๆ มูซ่ งอย่างสงบเสงียม

แต่วา่ ฮ่องเต้ทีมาช้ากลับไม่ได้นงประจํ
ั าที แต่นาํ ทุกคน
ยืนอยูท่ ีเดิมเหมือนกําลังรอคอยอะไรบางอย่าง

อยูๆ่ ท้องฟ้าก็มืดลงเล็กน้อย เสียงกระดิงลมดังขึน

ทุกคนเงยหน้าขึน สิงทีเห็นคือมังกรพยัคฆ์วายุทา่ ทางดุ


ร้ายน่าเกรงขามหลายตัวกําลังลากรถสีดาํ หนักอึงใกล้
เข้ามาเรือยๆ

138
ตอนที 38 เขาเป็ นเซียน!

มังกรพยัคฆ์วายุพวกนีไม่มีอยูใ่ นหลินชวน และพวกมัน

139
เป็ นสัญลักษณ์ของชายผูเ้ ก่งกาจทีสุดในผืนแผ่นดินนี

ว่ากันว่าทุกทีๆ เขาปรากฏกายจะต้องมีมงั กรพยัคฆ์วายุ


ลากรถให้เขา

และลือกันว่า มังกรพยัคฆ์วายุทีดูน่าเกรงขาม ท่าทางดุ


ร้าย และมีระดับฝี มือไม่ยอ่ หย่อนไปกว่ายอดฝี มือขัน
นําเงินเลยสักนิด เป็ นสัตว์ทีเขานํากลับมา ตอนออกไป
เทียวเล่นนอกเขตอาณาจักร สัตว์ทีดูดรุ า้ ยขนาดนีกลับคู่
ควรแค่ลากรถให้กบั เขา

แสดงว่า ความแข็งแกร่งของเขาคงจะเหนือระดับของ
แผ่นดินผืนนีไปมากแล้ว กระทังมาปรากฏตัวอยูต่ รงหน้า

140
ก็ยงั ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึนมอง

ฮ่องเต้ของแคว้นฉิน ฉินชาง ยอมรับว่าเคยเจอลมพายุที


รุนแรงมาก่อน แต่แวบเเรกทีเห็นเกียวสีดาํ สนิททีมังกร
พยัคฆ์วายุลากมา ก็สนไปทั
ั งตัวอย่างอดไม่ได้

ต้องเข้าใจว่า ในหลินชวนมีแคว้นมากมาย

และระหว่างแคว้นด้วยกันก็มกั จะมีปัญหาขัดแย้งกัน
ตลอด แต่อาณาจักรเซิงหยวนก็ยงั สามารถคงอยูใ่ นแผ่น
ดินนีได้อย่างมันคง เป็ นอาณาจักรอันดับ 1 เพียงหนึง
เดียว ส่วนใหญ่แล้วก็พงพาชายผู
ึ เ้ ก่งกล้าท่านนี

141
ถ้า.....ถ้า ความโชคดีแบบนีจะเกิดขึนในหลินชวนล่ะก็
เขาก็จะ.......

ฉินชางตืนเต้นมากขึนเรือยๆ แม้กระทังริมฝี ปากก็เริมสัน


ระริก

ไม่วา่ อย่างไร จะต้องคิดว่าวิธี ให้องค์มหาปราชญ์รงอยู


ั ท่ ี
แคว้นฉินให้ได้! แม้จะไม่สามารถอยูต่ ลอดไป ก็ตอ้ งรีบ
สร้างสัมพันธ์เข้าไว้

เพราะตัดสินใจเอาไว้แต่แรกแล้ว เมือเห็นเกียวมังกร
พยัคฆ์วายุ ก็ยงรู
ิ ส้ กึ มุง่ มันยิงกว่าเดิมสายตาคนทีลึกลํา
ของฉินชาง ค่อยๆ กวาดมองบรรดาชายหนุ่มแต่ละคน

142
ในงานเลียงโดยไม่พดู อะไร

เหมือนกับว่า ทุกอย่างจะสําเร็จตามเป้าหมายหรือไม่นนั
กุญแจสําคัญอยูท่ ี ‘กําลังหลักของแคว้น’ กลุม่ นี

ในขณะนัน ฉินชางราวกับได้ยินบรรดาแคว้นอืนๆ
สรรเสริญเยินยอตัวเขา ภาพของการประจบประแจงนี
ทําให้เขายิมอย่างเปี ยมสุข

เกียวมังกรพยัคฆ์วายุ เพียงพริบตาก็วบู จากขอบฟ้ามา


ปรากฏอยูบ่ นท้องฟ้าบริเวณงานเลียงของพระราชวังใน
ทันที

143
ความเร็วอันน่าตืนกลัวนัน ทําเอาผูค้ นทีอยูข่ า้ งล่างตกใจ

ความแตกต่างเห็นได้ชดั อีกครัง

ฉินชางทีเพิงได้สติจากความตกใจ รีบนําทุกคนคุกเข่าลง
ทําความเคารพ : “ฮ่องเต้แคว้นฉิน ฉินชาง ประชาชน
และราชวงศ์ น้อมต้อนรับองค์มหาปราชญ์!”

ขณะทีทุกคนจะคุกเข่า มูเ่ กอทีต้องคุกเข่าลงทังทีในใจไม่


ยิมยอม แอบบ่นและจดบัญชีนีไว้ในใจ ทันใดนัน เงาสี
ดําเงาหนึงก็วาบผ่านไป ปรากฏตัวหน้าเกียวมังกร
พยัคฆ์วายุ

144
คนผูน้ นพู
ั ดอย่างเย็นชาว่า : “ท่านประมุขสังว่า ไม่ตอ้ ง
คุกเข่า”

หืม ?

คําสังนีหยุดทุกคนทีกําลังจะคุกเข่าไว้ทนั ทําให้มชู่ ิงเก


อทีไม่ยอมคุกเข่าไม่ตอ้ งตกเป็ นเป้าสายตาของใคร

นางยักคิวเบาๆ รูส้ กึ เหมือนคนเสือดําผูน้ นกวาดตามอง



นางแวบหนึง

“ขอบพระทัยองค์มหาปราชญ์ ขอบพระคุณใต้เท้าท่าน
นี” ฉินชางพูดด้วยนําเสียงทีเต็มไปด้วยการสํานึกบุญ
145
คุณ ในใจรูส้ กึ ว่ามหาปราชญ์ให้ความสําคัญกับแคว้น
ฉิน

“ไม่ตอ้ ง” กูหยาตอบกลับอย่างเยือกเย็นและมองฮ่องเต้
ทียืนอยูค่ รูห่ นึง หากไม่ใช่วา่ ท่านประมุขของพวกเขารูว้ า่
แม่นางผูน้ นจะต้
ั องไม่ยอมคุกเข่าลง และไม่อยากสร้าง
ปั ญหาให้นางแล้วล่ะก็ หาไม่จะสังเช่นนีทําไม?

เอ ~! ตังแต่พบกับคนผูน้ ี ท่านประมุขของพวกเขาจากที
เป็ นภูเขานําแข็งก็ละลายกลายเป็ นเพียงแม่นาอบอุ
ํ น่
สายหนึง

“ท่านปู่ ท่านยืนกลางอากาศได้หรือไม่” อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็

146
ถามมูซ่ งเสียงตํา

มูซ่ งตอบว่า : “ถ้าทะลวงขันนําเงินขันไปได้ก็จะสามารถ


ยืนกลางอากาศได้ แต่จะได้นานแค่ไหนนัน ก็ตอ้ งดูพลัง
จิตอีกที ปู่ ของเจ้า สามารถยืนได้เพียงแค่ชวหนึ
ั งก้านธูป
เท่านัน”

พูดจบก็มองคนทียืนอยูก่ ลางอากาศอย่างง่ายดายด้วย
ความอิจฉา

ความจริงแล้วการกูหยาสามารถยืนบนอากาศหรือเดิน
กลางอากาศได้ไม่ใช่เรืองแปลก คนทีสามารถอยูข่ า้ ง
กายคนผูน้ นได้
ั จะอ่อนฝี มือได้อย่างไรเล่า?

147
ไม่แน่ นีอาจจะเป็ นพลังฝี มือขันม่วงในตํานานก็เป็ นได้

เอาผูแ้ ข็งแกร่งระดับขันม่วงมาเป็ นผูร้ บั ใช้ ?

เมือความคิดนีแพร่กระจายไปในหมูล่ กู ชายตระกูลต่างๆ
สายตาทีพวกเขามองเกียวมังกรพยัคฆ์วายุก็รอ้ นขึนมา

แม้กระทังองค์หญิงฉางเล่อทีปกติแล้วเย็นชาเหมือนนํา
แข็ง ตอนนีก็มองไปยังเกียวสีดาํ สนิทด้วยความตืนเต้น
ราวกับว่าคนในเกียวคือความหวังเดียวของนาง หาก
สามารถกราบเขาเป็ นอาจารย์ได้ละ่ ก็ ก็จะสามารถหลุด
พ้นจากชะตากรรมทีต้องตกเป็ นตัวหมากตัวหนึงใน

148
วังวนราชวงศ์แห่งนีได้

ก่อนหน้านี ทีนางถามเรืองของมหาปราชญ์จากมูช่ ิงเก


อ นางไม่ได้ถามเพือท่านแม่หรือพีชาย แต่เพือตนเอง

“เรียนท่านมหาปราชญ์ งานเลียงตระเตรียมพร้อมแล้ว
ขอเชิญท่านมหาปราชญ์" ฮ่องเต้ผสู้ ง่ ศักดิกลายเป็ นคน
เชิญแขกไปเสียแล้ว แต่เมือนึกถึงผลประโยชน์ในอนาคต
ฉินชางก็ตอ้ งยอมแต่โดยดี

รุย่ อ๋องฉินจินห้าวแอบสบตากับรัชทายาทฉินจินซิว ใน
สายตาของทังสองเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งการแก่ง
แย่ง

149
ฉินจินห้าวแค่นเสียงเย็น เขามันใจในความสามารถของ
ตนเองเต็มร้อย

ครังทีแล้วเขาไม่ได้คว้าโอกาสในการทําความรูจ้ กั กับ
มหาปราชญ์ไว้ให้ดี ครังนีเขาจะไม่ทาํ ผิดซําสอง และยิง
กว่านันคือมหาปราชญ์เหมือนจะมีความรูส้ กึ ดีๆให้กบั
เจ้าคนไร้คา่ อย่างมูช่ ิงเกอ และไอ้เจ้าไร้คา่ นันก็แอบมีใจ
คิดไม่ซือกับเขาไม่ใช่หรือ?

บางทีนีอาจจะเป็ นโอกาส!

แม้วา่ ฉินจินห้าวจะไม่รูว้ า่ ทําไมมหาปราชญ์ถงึ ได้พอใจ

150
คนไร้คา่ คนหนึงแต่เขากลับเชือว่า มหาปราชญ์ก็คงเพียง
หลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอกของมูช่ ิงเกอเท่านัน คงจะ
คิดว่าเขาเป็ นผูม้ ีพรสวรรค์คนหนึงแต่รอให้เขารูว้ า่ มูช่ ิงเก
อก็เป็ นได้แค่คนไร้คา่ เขาก็จะต้องเลิกสนใจมูช่ ิงเกอและ
หันเหสายตาอาทรนันมาทีเขาแทนแน่

อีกอย่าง ในแคว้นฉินแห่งนีความสามารถของเขาเองก็
ถือว่ายากจะพานพบในรอบร้อยปี

และเขาก็มีนอ้ งสาวทีมีพรสวรรค์ไม่แพ้กนั นีไม่ใช่จะยิง


เข้าตามหาปราชญ์มากกว่าผูอ้ ืนหรอกรึ?

กรรร์------!

151
อยูๆ่ มังกรพยัคฆ์วายุทงหลาย
ั ก็สง่ เสียงขู่อย่างพร้อม
เพรียงกัน

กระแสกดดันทะลุกอ้ นเมฆลงมา ทําให้คนบนพืนต่างก็


ตืนตระหนก

ความคิดของทุกผูพ้ ลันหยุดลง ต่างแหงนหน้าขึนมอง


เกียวมังกรพยัคฆ์วายุบนท้องฟ้าด้วยความหวาดกลัว

กูหยา ยืนกอดกระบี มองด้านล่างอย่างไม่แยแส

ฉินชางรีบพูดด้วยความตืนตระหนก : “ใต้เท้า เรา.......


152
ข้าทําอะไรให้ทา่ นไม่พอใจหรือเปล่า?”

‘เจ้าไม่ได้ทาํ แต่ทา่ นประมุขของพวกข้าไม่พอใจทีเจ้าคิด


ไม่ซือกับตระกูลมู่ และตังใจใช้พวกเขาเป็ นเครืองมือให้
แก่ตวั เอง’ กูหยาคิดในใจ แต่ไม่ได้ตอบฉินชาง

ท่าทางไม่เห็นเขาอยูใ่ นสายตาทําให้ฉินชางทีเคยชินกับ
การถูกทุกคนปกป้องเอาใจเกิดโทสะ แต่ก็ไม่กล้าทํา
อะไร

เขาแค่หวังว่างานเลียงในคืนนีจะไม่ลม้ เหลว

ทันใดนัน ในขณะทีทุกคนกําลังตกใจ เสียงอันน่าดึงดูด


153
ยากจะคาดเดาของชายหนุ่มคนหนึงก็ดงั ขึนจากไม่ใกล้
ไม่ไกล “หนวกหู”

คําคําเดียว ราวกับเป็ นมนต์สาปแช่งทีร้ายแรงก็ไม่ปาน


ทําให้มงั กรพยัคฆ์วายุตา่ งเงียบและก้มหน้าลง

ทุกผูท้ ีอยูบ่ นพืนดินยิงไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ราวกับว่าทีทัง


หมดต่างเงียบลงกะทันหันเพราะคนผูน้ ีบอกว่าเสียงดัง
เกินไป

คําๆ นี ไม่มีนาเสี
ํ ยงของการกดดันข่มขู่เลยแม้แต่นอ้ ย
แต่กลับทําให้ทกุ คนบนพืนรูส้ กึ ราวกับว่ารอบด้านถูกปิ ด
ตายไว้ทาํ ให้ไม่สามารถขยับตัวได้ และคนเดียวเป็ นข้อ

154
ยกเว้น ก็คือมูช่ ิงเกอทีรูจ้ กั คนๆ นีอยูแ่ ล้ว

อยูๆ่ เกียวก็พลันเปลียนรูป

ในสายตาของทุกคน คือ มีพายุสีดาํ พัดผ่าน เกียวสีดาํ


นําหนักมหาศาลหลังนันพลันหายไปมีบนั ไดสีดาํ เป็ น
ขันๆ จากบนลงล่างขึนมาแทนที

มังกรพยัคฆ์วายุทงแปดตั
ั ว แบ่งเป็ นสองฝังก้มลงคารา
วะอย่างนอบน้อม

มังกรพยัคฆ์วายุตวั ทีเหลือเป็ นตัวทีศีรษะใหญ่ทีสุดและ


ดูน่าเกรงขามทีสุด เวลานีกลับอยูใ่ ต้รา่ งคนผูห้ นึง เป็ น
155
เก้าอีให้แก่เขา

ชุดสีขาวทีปลิวไปมาแม้ไร้ซงแรงลม
ึ ราวกับเป็ นเพียง
แสงสว่างแสงเดียวทีมีอยูท่ า่ มกลางรัตติกาล ปลายแขน
เสือสีมว่ งดูสงู ส่งน่าค้นหา ราวกับเป็ นสีทีเกิดขึนมาเพือ
เขาโดยเฉพาะ

ผมยาวราวหมึกดํานัน เพียงรวบไว้อย่างลวกๆ ประกอบ


กับชุดสีขาว ก็ราวกับสีขาวและดําทังหมดบนโลกนีอยู่
ภายใต้การควบคุมของเขา

เจิดจ้าดังดวงตะวัน เกรงว่านีคงเป็ นความประทับใจแรก


ของทุกคนตอนทีเห็นซือมัว

156
เพราะ เจ้าจะเห็นหน้าเขาไม่ชดั จะรูส้ กึ ได้เพียงว่าตัวเขา
เหมือนดวงอาทิตย์ทีส่องแสงแรงกล้า จนไม่กล้าสบมอง
ตรงๆ กลับเป็ นความรูส้ กึ อดไม่ได้ทีจะต้องคุกเข่า

ในตอนทีเขาเผยใบหน้าอันงดงามไร้ทีติให้ทกุ คนด้าน
ล่างได้เห็นอย่างชัดเจนนัน

แทบจะทุกคนต่างก็สดู หายใจเย็นเยียบ ถูกใบหน้า


ละเอียดงามเป็ นหนึงดังหยก งามราวชาวสวรรค์จนลืม
สินทุกสิงอย่าง

เวลานี ความแตกต่างระหว่างมนุษย์สามัญและเซียน

157
ช่างชัดเจนเหลือเกิน

พวกเขาเป็ นมนุษย์สามัญ แต่ทา่ นนี.....คือเซียน!

158
ตอนที 39 ใครเข้าตาเขาบ้าง?

ฉินจินห้าวเงยหน้าขึนมองอย่างไม่รูต้ วั เงาร่างสีขาวที
เดินลงมาทีละก้าวทีละก้าวจากขันบันไดสีดาํ บนฟากฟ้า
ทําให้สายตาทีสูงส่งเย็นชามาโดยตลอดของเขาเต็มไป
ด้วยความอิจฉาเป็ นครังแรก

มีสทิ ธิอะไร ?! มีสทิ ธิอะไร ?!


159
คนไร้คา่ ทีไม่สามารถฝึ กฝนพลังได้ รูจ้ กั แต่ทาํ ตัวเสเพล
ไปวันๆ มีสทิ ธิอะไรทีจะได้รบั ความโปรดปรานจากท่าน
ผูน้ ี?

เมือก่อน ถ้ามีคนบอกว่าสักวันเขาทีเป็ นถึงรุย่ อ๋องจะมี


วันหนึงทีต้องอิจฉาตระกูลมูเ่ จียนบ้า เขาก็จะหัวเราะ
เบาๆ และสังให้คนไปตัดลินเจ้าปากมากนันทิงเสีย

แต่ตอนนี----------

ฉินจินห้าวไม่อาจไม่ยอมรับว่า เขาอยากจะไปแทนทีมูช่ ิง
เกอและอยากจะเป็ นคนทีเข้าตามหาปราชญ์และวันหนึง

160
เขาก็จะได้เป็ น ‘เซียน’ ผูเ้ ป็ นทีเคารพนับถือและยืนอยู่
เหนือทุกคนเหมือนคนทีอยูต่ รงหน้านี

เป็ นผูช้ าย ใครบ้างทีไม่มีความทะเยอทะยาน

และความทะเยอทะยานในตัวของฉินจินห้าวมีแต่จะเพิม
พูนมากขึนเรือยๆไม่มีถดถอยลงแม้แต่นิด

ขอแค่คว้าโอกาสตรงหน้าเอาไว้ให้มนั เขาก็อาจจะได้ขนึ
ครองบัลลังก์และยืนอยูใ่ นจุดทีสูงขึนกว่าเดิม

มือทังสองข้างทีซ่อนอยูใ่ ต้แขนเสือของฉินจินห้าว กํา


เป็ นหมัดแน่น ในสายตาของเขามีประกายแห่งความ
161
ต้องการแรงกล้า ราวกับว่า ไม่วา่ ใครก็ตามทีมาขัดขวาง
เขาก็จะฆ่ามันอย่างไร้ซงปรานี

นีหรือผูแ้ ข็งแกร่งทีไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ใคร?

ฉินอีเหยาจ้องชายชุดขาวตาไม่กะพริบ ราวกับว่า การ


ปรากฏตัวของคนผูน้ ี เป็ นการเปิ ดทางสว่างทางใหม่ให้
กับนาง

บางที นางอาจจะไม่ตอ้ งทนทุกข์ทรมานอยูใ่ นวังอีกต่อ


ไป

บางที วันหนึงนางก็อาจจะกลายเป็ นคนยิงใหญ่ทีมีชือ


162
เสียงขจรขจายไปทุกทิศเหมือนคนทีอยูต่ รงหน้า

แค่-------นางต้องเข้มแข็งขึน!

คนจํานวนมากทียืนอยูบ่ นพืนดิน จ้องเงาร่างสีขาวนัน


แล้วค่อยๆ ก้มหน้าลง

ในใจทังเกรงกลัวและชืนชม แต่ทีมากทีสุดคือการยอม
ศิโรราบโดยไม่อาจต่อต้าน

มีคนเดียวทีได้รบั การยกเว้นจากความรูส้ กึ พวกนี คนๆ


นันก็คือ มูช่ ิงเกอ

163
สําหรับการปรากฏตัวทุกครังของนายตัวประหลาด นาง
มีเพียงคําเดียวมอบให้ “โอ้อวด”!

มูช่ ิงเกอละสายตาจากท้องฟ้า มองคนตัวสูงสวมเสือสี


เหลืองนวลนันโดยไม่รูต้ วั ไหล่ของเขากว้างมาก แต่กลับ
ดูออ่ นแอมากเช่นกัน

ในตอนนี เขาก็เงยหน้าขึนมองผูท้ ีแกร่งกล้าทีสุดในแผ่น


ดินนีเช่นกัน

แต่ดวงตาทีตาขาวและตาดําตัดกันอย่างชัดเจนคูน่ นั
เหมือนไร้ซงความรู
ึ ส้ กึ ใดๆ ยังคงแนบนิงเหมือนเดิม ราว
กับว่า ไม่มีเรืองใดในโลกใบนีทีจะทําให้เขาตืนตระหนก

164
ได้เลย

เขาเหมือนเป็ นคนนอก ทีคอยเฝ้าสังเกตการณ์เรืองทัง


หมดทีเกิดขึนเท่านัน

บางที อาจจะเป็ นเพราะมูช่ ิงเกอตังใจมองเขาเกินไป

จึงทําให้คนบางคนไม่พอใจ

ทันใดนัน แรงกดดันรอบด้านก็พลันเพิมขึน ราวกับขุน


เขาทีกดทับทุกคนเอาไว้ โดยเฉพาะบริเวณของชายชุด
เหลืองนวลทีได้รบั ‘การดูแล’ เป็ นพิเศษ

165
“อึก… ” เสียงอึดอัดดังขึนทําลายความเงียบ

แววตาของมูช่ ิงเกอสาดประกายวาบ มองเห็นคนงามผู้


นันกําลังใช้มือหนึงเพือจับขอบโต๊ะไว้ มือหนึงปิ ดปากตัว
เองไว้ รอยยแยกตรงปลายนิวทีซีดขาวมีโลหิตสีแดง
สะดุดตาให้เห็นอยูร่ างเลือน

นางขมวดคิว สายตากวาดไปทีชายผูเ้ หมือน ‘เทพเซียน’


ผูน้ นั

ฉับพลันแรงกดรอบด้านก็สลายไป ฝูงชนต่างพากันถอน
ใจโล่งอก ราวกับว่าได้เดินกลับมาจากความตายอย่างไร
อย่างนัน

166
และซือมัวในชุดตัวยาวสีขาว ก็เหินลงมาสูพ่ ืนดินอย่าง
‘สง่างาม’ และไปนังบนเก้าอีลายมังกรทีทําจากหยกขาว
ซึงเป็ นทีๆ ฮ่องเต้เตรียมไว้ให้

มังกรพยัคฆ์วายุทีเขานังมาเอาขาเหยียบพรมนุ่มหลาก
สีสนั ทีปูเอาไว้บนพืน แหงนหน้าคํารามเสียงตําขึนฟ้าไป
เสียงหนึง มังกรพยัคฆ์วายุทงั 8 ตัว ก็กลายเป็ นแสง
สว่าง 8 ดวงในทันที ลอยเข้าไปในปากของมันและถูก
มันกลืนลงไป

จากนัน มันก็คลานเข้าไปอยูข่ า้ งๆ เท้าของเจ้าของแล้ว


หลับตาลงนอน

167
กูหยาทียืนอยูข่ า้ งหลังเก้าอีลายมังกรก็ทาํ ตัวดังเงา แฝง
ตัวอยูต่ รงมุมมืด

ฉากทังหมด เหมือนเป็ นภาพมายา จนกระทังบันไดสีดาํ


นันหายไป ทุกคนจึงค่อยๆได้สติ

มูช่ ิงเกอเองก็ไม่ใช่ขอ้ ยกเว้น

อย่างไรก็ตาม ภาพทีมังกรพยัคฆ์วายุกลืนพวกเดียวกัน
มันช่างน่าทึงเหลือเกิน มากทีสุดเท่าทีเคยเห็นมา

‘เขาเก่งกาจระดับไหนเชียว ? มากกว่าขันม่วงเลยรึ?’
168
“แค่ก แค่ก ” เสียงฝื นกลันอาการไอ ดังขึน

สายตาของซือมัวทีราวกับหยุดได้ทกุ สรรพสิงนัน ค่อยๆ


ปรายตามองไปตามเสียงนัน

ฮ่องเต้แคว้นฉิน เป็ นผูท้ ีมีความรูส้ กึ ทีเฉียบไว ตอนฉินชา


งมองตามสายตาของเขาไปและมองเห็นร่างของคนทีทํา
ให้เขาเดียดฉันท์ นัยน์ตาก็มีความเย็นเยียบวาบผ่าน
รีบออกคําสัง : “เสียนอ๋องไม่สบาย ยังไม่รบี ส่งตัวเขา
ออกไปอีก”

นําเสียงแบบนัน ราวกับสังให้คนเอาของไร้คา่ ชินหนึงไป

169
ทิง ไม่มีนาเสี
ํ ยงของความเป็ นห่วงเป็ นใยอยูเ่ ลยแม้แต่
น้อย ยิงไปกว่านันไม่มีแม้แต่คาํ สังให้ไปเชิญหมอหลวง

องครักษ์ในวังรับคําสัง ท่ามกลางความน่าเกรงขามของ
ซือมัว พวกเขารีบพยุงฉินจินเฉินออกไปอย่างรวดเร็ว
ตังแต่ตน้ จนจบเงาร่างสีเหลืองนันไม่ได้ตอบโต้เลยแม้แต่
น้อย

พอคนทีตนเองเกลียดจากไปแล้ว ฉินชางจ้องฮองเฮา
อย่างตําหนิแวบหนึง

หานฮองเฮารีบอธิบายเสียงเบาว่า : “หม่อมฉันคิดว่า
อย่างไรเขาก็เป็ นโอรสองค์หนึงของฝ่ าบาท”

170
เจาตัวอัปมงคลแบบนัน คูค่ วรกับการจะเป็ นลูกชายของ
เขาหรือ? หากไม่ใช่เพราะต้องรักษาชือเสียง เขาคงจะ
ทําให้ไอ้เด็กผลาญบิดามารดาคนนีตายไปตังนานแล้ว

ฉินชางแอบคิด แต่ไม่กล้าพูดออกมา

เพราะเขาไม่กล้าให้ทา่ นทีนังอยูบ่ นตําแหน่งทีสูงทีสุดใน


งานเลียงรูว้ า่ เขามีใจคิดจะฆ่าลูกของตนเอง

“นัง” เสียงทีฟั งดูเย็นชาจนทําให้ผคู้ นไม่อาจต่อต้านดัง


ขึนอีกครัง

171
ทุกคนถอนหายใจเฮือกใหญ่ โน้มตัวลงขอบพระทัย แล้ว
นังลงกับที ในเวลานี ราวกับว่าคนชุดขาวทีนังอยูบ่ น
แท่นสูงนีต่างหากจึงจะเป็ นเจ้าของตัวจริงของทีนี

หลังจากทีฉินชางนังลง ก็แอบส่งสายตาให้กบั ไทเฮา พอ


ไทเฮาพยักหน้าทีหนึง เขาจึงหันกลับมาเหมือนไม่มีอะไร
เกิดขึน และพูดว่า : “มหาปราชญ์ เสด็จมายังเมืองฉิน
ของข้า ถือเป็ นเกียรติของแคว้นเรายิงนัก วันนี ในวังจึง
จัดงานเลียง ข้อแรก เพือต้อนรับองค์มหาปราชญ์ และ
ข้อสอง เพือให้องค์มหาปราชญ์ทรงเมตตา ลองดูวา่ หนุ่ม
สาวรุน่ ใหม่คนใดในแคว้นฉินทีฝี มือพอใช้ได้ ไม่ทราบ
มหาปราชญ์ทรงคิดเห็นว่าอย่างไร?”

คําพูดพวกนี ถือว่าพูดอย่างชาญฉลาด
172
ไม่ได้พดู ตรงๆ ว่า ไหนๆ ท่านก็มาแคว้นฉินแล้ว ข้าก็
ต้อนรับท่านอย่างดี ท่านรับหนุ่มสาวของแคว้นฉินกลับ
ไปเป็ นศิษย์ ให้พวกเราสร้างความสัมพันธ์อนั ดีกนั ไว้

เพียงแต่ ซือมัวเป็ นใครกัน?

เมือได้ยินคําพูดอ้อมค้อมประโยคนี มุมปากเขาก็ยกยิม
อย่างมีเลศนัย

ความเยือกเย็นนัน ทําให้ทกุ คนทีนังอยูป่ ระหม่าขึนมาอีก


ครัง พวกแก่ๆ ก็กลัวจะทําให้ทา่ นไม่พอใจ หนุ่มสาว ก็
กําลังคิดอยูว่ า่ จะแสดงฝี มือของตนเองอย่างไรดี

173
หน้าผากสองด้านของฉินชางเต็มไปด้วยเม็ดเหงือ ใน
ตอนทีเขาใกล้จะรับไม่ไหวแล้วกล่าวขออภัยกับคําทีพูด
ไปนัน เสียงคล้ายจะหัวเราะเสียงหนึงก็ดงั ขึนว่า ‘ดี’

174
ตอนที 40 จอมเสเพลสวะ เศษขยะไร้คา่

พอสินเสียงคําว่า "ดี"

ทุกคนค่อยๆ ได้สติกลับมาต่างก็เต็มไปด้วยความดีใจ
อย่างหาทีสุดไม่ได้

175
โอกาสแบบนี ไม่เพียงแต่เป็ นโอกาสทีหายากสําหรับ
แคว้นฉิน แต่ยงั เป็ นโอกาสทียากจะได้รบั ของตระกูล
พวกเขาด้วย เพราะไม่แน่วา่ เมือพ้นคืนนีไป วงศ์ตระกูล
ของพวกเขาอาจจะเปลียนแปลงชนิดทีว่าพลิกจากหน้า
มือเป็ นหลังมือเลยก็ได้

ทันใดนัน ผูอ้ าวุโสของทุกตระกูลต่างก็ดงึ ตัวชายหนุ่ม


ของตระกูลตนเองมากําชับเบาๆ ว่าภารกิจคือเข้าตาของ
คนผูน้ นให้
ั ได้

แม้กระทังเจ้าอ้วนเซ่าทีถูกตระกูลเซ่าลอยแพก็ไม่ได้รบั
การยกเว้น ถูกสังสอนชุดใหญ่

176
จะว่าไปแล้วการทีเขามาอยูท่ ีนีได้ ก็เพราะมูช่ ิงเกอ

ในตอนแรก ตระกูลเซ่าทราบข่าวโดยบังเอิญว่ามหา
ปราชญ์เหมือนจะพอใจในตัวคุณชายของตระกูลมู่ แม้
จะไม่รูต้ น้ สายปลายเหตุ แต่ก็ไม่เสียหายหากพวกเขาจะ
พาเจ้าอ้วนเซ่าของตระกูลตนเองทีเป็ นจอมเสเพลเหมือน
กันมาด้วย

ไม่แน่วา่ มหาปราชญ์ทีดูลกึ ลับอาจจะมีรสนิยมชอบพวก


เจ้าสําราญก็ได้?

มูซ่ งเองก็ตืนเต้น มือหยาบใหญ่ขยุม้ ชุดผ้าไหมของตน


เองแล้วคลายออก ซําไปซํามาหลายครังจนเสือยับย่น

177
ทําให้สายตาของมูช่ ิงเกอทีนังอยูด่ า้ นข้างเต็มไปด้วย
ความสงสัย

ท่าทางสับสนของมูซ่ ง มูเ่ หลียนหรงเองก็เห็นเช่นกัน

นางถอนหายใจและพูดกับบิดาว่า : “ท่านพ่อไม่ตอ้ งคิด


แล้ว ถึงแม้วา่ ตระกูลมูข่ องเราจะไร้สามารถอย่างไร แต่ก็
จะไม่ไปพึงพาอํานาจของผูใ้ ดอย่างแน่นอน”

ได้รบั ความโปรดปรานจากชายผูย้ งใหญ่


ิ ทีสุดในหลิน
ชวนนัน ถือว่าเป็ นเรืองน่ายินดีมาก สําหรับตระกูลมูก่ ็
เช่นกัน แต่ตอ้ งอยูใ่ นสถานการณ์ทีทายาทของตระกูลมู่
เป็ นผูท้ ีเต็มเปี ยมไปด้วยความสามารถด้วย

178
หากความสามารถของมูช่ ิงเกออยูเ่ หนือทุกคน และได้รบั
การชีนําจากมหาปราชญ์ ในหนทางแห่งการฝึ กฝนนัน
ถือว่ามีประโยชน์มาก

แต่ทว่ามูช่ ิงเกอกลับเป็ นคนทีไม่สามารถฝึ กพลังได้

หากเป็ นเช่นนี หากต้องไปเข้าไปใกล้ชิดท่านมหา


ปราชญ์ ก็จะกลายเป็ นว่าไปพึงพาท่านเสียมากกว่า

เท่าทีมูเ่ หลียนหรงสังเกต ตระกูลมูอ่ าจพ่ายแพ้ได้ แต่จะ


ทอดทิงทายาทไม่ได้ หากยังคงมีสายโลหิตทีสืบทอดต่อ
ไป สักวันหนึงตระกูลมูจ่ ะต้องกลับมายิงใหญ่ เพราะ

179
ฉะนันไม่วา่ มหาปราชญ์จะสนับสนุนมูช่ ิงเกอหรือไม่ นาง
ไม่ได้ใส่ใจเหมือนมูซ่ ง

มูซ่ งยิมขืนไม่พดู อะไร เป็ นครังแรกทีเขาแสดงความรูส้ กึ


ของตนเองออกมาให้ลกู หลานได้รบั รู ้ : “ตระกูลมูช่ นะ
หรือแพ้แล้วมีประโยชน์อนั ใด เพราะข้ารูอ้ ยูแ่ ก่ใจแล้ว
ตอนนีข้าแค่อยากให้เรา มีชีวิตอยูอ่ ย่างปลอดภัย ไม่ตอ้ ง
พบกับอันตรายอะไรอีก และตอนนีเราเหมือนติดอยูใ่ น
คลืนทะเลจะเดินหน้าก็ไม่ได้ จะถอยหลังกลับหลังก็ไม่ได้
อีกแล้ว คนแก่อย่างข้าสามารถคุม้ ครองพวกเจ้าได้แค่ใน
เวลานี แต่ไม่สามารถคุม้ ครองพวกเจ้าได้ทงชี
ั วิตได้
โอกาสในวันนีคาดว่าคง..........” ยังไม่ทนั พูดจบ เขาก็
พยักหน้าเบาๆ

180
ความหมายนันชัดเจนอยูแ่ ล้ว

วันนันมหาปราชญ์อาจเพียงแค่บงั เอิญผ่านมาเห็นมูช่ ิง
เกอรับโทษด้วยความกล้าหาญ จึงรูส้ กึ พอใจ แต่ตอนนี
เขาอาจจะรูแ้ ล้วว่าหลานชายของมูซ่ งเป็ นคนไร้คา่
ประกอบกับผูท้ ีมีความสามารถของแต่ละตระกูลและ
เชือพระวงศ์ทีคอยจับตามอง

เกรงว่า เขาคงจะไม่เหลือบแลมูช่ ิงเกออีกแล้ว

‘ทีแท้ ท่านผูเ้ ฒ่าก็ยงั คงเป็ นห่วงเรืองนี’ บทสนทนาของ


ทังสอง ทําให้มชู่ ิงเกอเข้าใจทุกอย่างแล้ว ริวรอยความ
กังวลทีหางตาของมูซ่ งทําให้นางเกือบจะอดไม่ไหวบอก

181
ความลับเรืองทีว่านางสามารถฝึ กพลังได้แล้วออกไป

แต่สดุ ท้ายนางก็กดั ฟั นอดทนไว้

หากสถานการณ์ของตระกูลมูย่ งั ไม่มงคง
ั นางจะไม่เปิ ด
เผยความจริงเด็ดขาด เพราะไม่อย่างนันจะยิงทําให้ตระ
กูลมูถ่ กู สังเก็บเร็วกว่าเดิม

ระหว่างทีทุกตระกูลกําลังเตรียมการ งานเลียงก็เริมขึน

นางกํานัลในวังยกสุราชันเลิศและกับแกล้มออกมา นาง
รําก็เริมร่ายรํา

182
พอดืมกันได้สกั พัก ในทีสุดก็ถงึ เวลาสําคัญ

ฮ่องเต้แคว้นฉิน ฉินชางยกมือขึน นางรําทังหลายก็หยุด


ร่ายรําและค่อยๆ ถอยออกไป เหลือพืนทีตรงกลางเวที
ทรงกลมทียกสูงเอาไว้

ฉินชางแอบมองคนผูน้ นแวบหนึ
ั ง เห็นเขาหรีตา และยก
มุมปากขึนเบาๆ ไม่ได้แสดงอาการไม่พอใจ จึงค่อยๆ พูด
ขึนมาว่า : “วันนีถือเป็ นโอกาสทีสําคัญ หนุ่มสาวของแต่
ละตระกูลจงออกมาแสดงฝี มือทังหมดทีพวกเจ้าเคยรํา
เรียนมาให้องค์มหาปราชญ์ได้ชืนชม”

พอพูดจบเขาก็มองโอรสทีเป็ นทีโปรดปรานของตนพร้อม

183
ส่งสายตา

ตามกําหนดการองค์ชายทังหลายจะยังไม่ขนเวที
ึ แสดงฝึ
มือ แต่ให้ทายาททีมีฝีมืออยูใ่ นระดับปานกลางของแต่
ละตระกูลขึนไปก่อน เพราะเมือเวลาองค์ชายขึนไป จะ
ได้เปรียบเทียบกันได้อย่างชัดเจน

การวางแผนแบบนีถือว่าดี แต่พวกเขาประเมินซือมัวผิด
ไป

ในขณะทีทุกอย่างกําลังจะเริมตามแผน พอชายหนุ่มคน
แรกของตระกูลหนึงขึนเวทีไป ซือมัวพูดขึนมาว่า :
“แสดงพรสวรรค์ดา้ นพลังนันน่าเบือเกินไป ในเมืออยาก

184
จะแสดงความสามารถของตนเอง ลองคิดดูวา่ ตนเอง
สามารถทําอะไรอย่างอืนได้บา้ งจะดีกว่า"

นีเป็ นประโยคทียาวทีสุดเท่าทีเขาเคยพูดในคืนนีแต่กลับ
ทําลายแผนการทีฮ่องเต้แคว้นฉินวางไว้เสียป่ นปี

สีหน้าฮ่องเต้ดแู ย่ลง ทรงเม้มปากเงียบๆ

และคุณชายคนทียืนอยูบ่ นเวทีคนนัน ก็ตะลึงยืนตัวแข็ง


อยูก่ บั ที ไม่รูว้ า่ ควรทําอย่างไรต่อ

“หากไม่มีความสามารถพิเศษอะไรก็ลงไป” กูหยา
ปรากฏตัวขึน พูดอย่างเย็นชาคําหนึงจบแล้วก็ยกมือขึน
185
ปล่อยพลังโจมตี ทําให้คนผูน้ นตกจากเวที
ั ไป

ฉากตรงหน้าทําให้คนจํานวนไม่นอ้ ยตืนจากฝันหวาน
ค่อยๆ เริมเปลียนกลยุทธ์

คุณชายพวกนี วันๆ คิดแต่จะฝึ กพลังแล้วจะมีกระ


จิตกระใจอะไรไปเรียนพวกดนตรี คํากลอน หมากรุก
วาดภาพพวกนีกัน?

มหาปราชญ์อยากจะชมการแสดงความสามารถพิเศษ
ตอนนีในใจของคนจํานวนมากมีความรูส้ กึ เหมือนอยาก
ร้องไห้แต่รอ้ งไม่ออก

186
ในบรรดาตระกูลต่างๆ นอกจากตระกูลมูท่ ีวางตัวอยู่
เหนือเรืองๆ นีแล้ว ตระกูลทีดูตืนเต้นทีสุดคือตระกูลเซ่า
ผูน้ าํ ตระกูลเซ่าซึงก็คือบิดาของเจ้าอ้วนเซ่าพลันรูส้ กึ ว่า
การทีตนเองพาเจ้าอ้วนเซ่ามาเป็ นความคิดทีชาญฉลาด
แล้ว

แต่ฉบั พลันเขาก็ตอ้ งหมดหวังอีกรอบ

เพราะลูกชายของตนเองนอกจากกิน เทียว เล่นการพนัน


ก็ไม่มีความสามารถอะไรทีจะเอาออกมาแสดงได้

ภายในงานเลียงดูเย็นยะเยือกขึนมาในทันที

187
ฉินชางกังวลจนหน้าผากเต็มไปด้วยเม็ดเหงือ สบตากับ
ไทเฮาอยูห่ ลายครัง เจียงกุย้ เฟยและฮองเฮารีบสังให้ลกู
ชายของตนเองออกไปแสดงความสามารถ แต่พระสนม
ทีสวมใส่อาภรณ์สีขาวใบหน้ากลับดูเรียบเฉยและดูจิตใจ
ไม่อยูก่ บั เนือกับตัว ในสายตาเหมือนซ่อนความกังวลไว้

ไม่มีใครกล้าขึนไปบนเวที ทําให้คาํ สังของฉินชางเหมือน


เป็ นแค่เรืองน่าขบขัน

ซือมัวมองสถานการณ์นิงๆ ราวกับทุกอย่างอยูใ่ นการ


ควบคุมของเขา ตังแต่ตน้ จนจบเขาแทบจะไม่ได้มองมูช่ ิง
เกอเลย แต่ทกุ การกระทําของมูช่ ิงเกอกลับไม่รอดพ้น
จากสายตาของเขาเลยแม้แต่นอ้ ย

188
ทีเขามาทีนีในวันนีก็เพราะแค่อยากจะเห็นเสียวเกอเอ๋อร์
นานๆ

หลังจากทีลังเลไปสักพัก ฉินอีเหยามองเวทีทีไม่มีใคร
เลยพร้อมเม้มปากก้าวเท้าเดินออกไป

“เจ้าจะทําอะไร?”

แต่วา่ นางเพิงจะก้าวเท้าออกไป ก็ได้ยินเสียงอันเยือก


เย็นและอยูๆ่ ข้อมือของนางก็ถกู คนๆ หนึงคว้าไว้ แรง
บีบนันเกือบทําให้นางคิดว่ากระดูกของตนเองคงหักไป
แล้ว

189
นางเงยหน้าขึนมองและสบเข้ากับสายตาอันเยือกเย็น
ของเสด็จพีตน “เสด็จพี” นางพึมพําเบาๆ

ฉินจินห้าวจ้องนางด้วยสายตาเย็นชาแล้วพูดว่า :
“สถานการณ์แบบนีผูห้ ญิงอย่างเจ้าทําได้แค่ดอู ยูห่ า่ งๆ
ทําไม? เจ้าอยากจะขึนไปแสดงความสามารถ จงใจจะ
แย่งโอกาสกับข้างันรึ?”

“ข้า เปล่า” ความกล้าทังหมดทีฉินอีเหยารวบรวมมาได้


ถูกทําลายจนหมดสิน

“หึ ไม่คิดก็ดี” ฉินจินห้าวปล่อยข้อมือของฉินอีเหยาและ

190
ไม่มองหน้านางอีก

การกระทําของทังสองนอกจากฉินจินซิวทีนังอยูข่ า้ งๆ
แล้ว ก็ไม่มีใครเห็นอีก เขาเพียงหัวเราะเย้ยหยันเบาๆ
แล้วหันหน้าหนี

‘นีแหละคือ ความสัมพันธ์ฉนั พีน้องของคนในราชวงศ์’


ในขณะทีมองแผ่นหลังของพีชายในใจของฉินอีเหยาก็
เต็มไปด้วยความอ้างว้าง

สําหรับไทเฮาและเสด็พอ่ นางก็เป็ นเพียงหมากทีมีไว้ใช้


จัดการกับตระกูลมู่

191
และสําหรับเสด็จแม่และเสด็จพี นางก็ยงั เป็ นหมากที
ต้องพร้อมจะเสียสละทุกอย่างในเวลาทีพวกเขาต้องการ

ไม่มีคนขึนไปบนเวที ก็จะไม่มีการเปรียบเทียบ ฉินจิน


ห้าวเห็นฉินจินซิวขยับตัวเล็กน้อย ก็รบี กัดฟั นลุกขึนยืน
และเดินขึนเวทีไป

ท่าทางทีเต็มไปด้วยความมันใจและรูจ้ กั แก้ไข
สถานการณ์เฉพาะหน้าทําให้ฮ่องเต้ฉินพึงพอใจ แต่ทาํ
ให้สายตาของรัชทายาทดูมืดครึมลง

บนใบหน้าอันสวยงามของเจียงกุย้ เฟยทังภาคภูมิใจและ
ได้ใจ

192
ฉินจินห้าวยืนอยูก่ ลางเวที หันไปคารวะซือมัวอย่าง
นอบน้อม แล้วพูดว่า “มหาปราชญ์ ยามปกติจินห้าวเอา
แต่มงุ่ มันฝึ กฝนพลังจนไม่ได้ใส่ใจความสามารถอืนๆ ข้า
น้อยก็มีเพียงความสามารถในการบรรเลงเพลงพิณทีพอ
จะดูได้อยูบ่ า้ ง เพือความสําราญของมหาปราชญ์ หวัง
ว่าพระองค์จะไม่ทรงตําหนิ”

พูดจบองครักษ์ก็นาํ พิณโบราณขึนมาถวาย

ฉินจินห้าวนังลงอย่างสง่า นิวทังสิบค่อยๆ สัมผัสกับตัว


พิณ

193
ไม่อาจไม่ยอมรับว่า ความสามารถในการเล่นพิณของ
ฉินจินห้าวนันไม่เลวเลย

มูช่ ิงเกอก้มหน้าลงฟั ง แอบเสพความสุนทรีย ์ เพียงแต่น่า


เสียดายจริง..........

มูช่ ิงเกอส่ายหน้าโดยไม่รูต้ วั รูส้ กึ เย้ยหยันความรูส้ กึ รักที


ผูช้ ายโง่ๆ คนหนึงยอมเพือหญิงสาวได้ทกุ อย่างทีเนือ
เพลงกําลังสือ เพราะหากเนือเพลงสือถึงสงครามคงจะ
เหมาะกับตัวเขามากกว่า

เสียดายจริงๆ

194
ถ้าจะโทษก็ตอ้ งโทษบางคนทีขึนมาแต่ไม่ได้เอาสมองมา
ด้วย

มูช่ ิงเกอค่อยๆ ก้มหน้าลงสิมรสสุราในใจก็วิพากษ์


วิจารณ์

เมือการแสดงของฉินจินห้าวจบลง รอบข้างก็มีเสียง ‘ฮือ


ฮา’ ดังขึน แต่ซือมัวกลับไม่แสดงอาการใดๆ และไม่ได้
เอ่ยชมอะไรทังนัน

ผลลัพธ์นี ทําให้ฉินจินห้าวสีหน้าดูเปลียนไปก่อนจะลง
จากเวที

195
มีรุย่ อ๋องขึนเปิ ดฉากก่อน ต่อมาชายหนุ่มจากหลาย
ตระกูลก็ขนเวที
ึ อย่างต่อเนืองและสิงทีแสดงก็เป็ นอะไรที
ซําไปซํามา มูช่ ิงเกอชมการแสดงจนเริมเอือม ตอนทีชาย
หนุ่มของตระกูลสุดท้ายขึนแสดง เป็ นการแสดงฟั นดาบ
แต่ก็ยงั คงไม่ทาํ ให้มวซื
ั อรูส้ กึ อะไรได้เลย

งานเลียง ดูเหมือนกําลังจะเลิกราแล้ว

มูช่ ิงเกอกําลังคิดว่าในทีสุดก็จะได้กลับบ้านไปนอนแล้ว

แต่ไม่คิดว่า อยูๆ่ นําเสียงลึกลับแปลกประหลาดก็ดงั


ขึน : “คุณชายตระกูลมูผ่ ทู้ ีมีชือเสียงไปขจรไกลไปทัว
เหตุใดถึงไม่ยอมขึนมาแสดงความสามารถถวายมหา

196
ปราชญ์สกั หน่อยเล่า?”

มูช่ ิงเกอน่ะหรือมีชือเสียงขจรไกล?

เป็ นชือเสียงฉาวโฉ่ละ่ สิไม่วา่ !

ทุกคนทีได้ยินคําพูดนี ต่างหัวเราะเยาะพร้อมกันโดยมิได้
นัดหมาย

มูช่ ิงเกอทีเริมจะเคลิมๆ พอได้ยินคําพูดนีก็เบิกตาโตใน


ทันที สายตาอันเยือกเย็นเหมือนมีไหนเลยจะเหลือความ
ง่วงงุนอยูอ่ ีก แทบไม่ตอ้ งเสียแรงนางก็หาเจ้าของเสียง
นันเจอในทันที
197
เหอเฉิงนังอยูป่ ระจําทีของตน นางเห็นรอยยิมอันเยือก
เย็นของเหอเฉิง

“นันสิ! คุณชายตระกูลมูไ่ ม่สามารถฝึ กฝนพลังได้ คิดว่า


คงใช้เวลามากมายไปกับเพลงกลอน ไม่สใู้ ห้คณ
ุ ชายตระ
กูลมูอ่ อกมาแสดงให้ดหู น่อยเล่า”

ท่ามกลางผูค้ น ชายหนุ่มบางตระกูลทีสนิทสนมกับเห
อเฉิง ก็เริมส่งเสียงสนับสนุน

และบางคน แม้วา่ จะไม่สนิทกับเหอเฉิง แต่กลับเอา


ความไม่พอใจทีได้รบั จากสายตาเย็นชาของซือมัว

198
มาระบายใส่มชู่ ิงเกอแทน

“ใช่ๆๆ! ขึนชือว่าเป็ นจอมเจ้าชูเ้ สเพล ชือเสียงโด่งดัง


สามารถเป็ นหนุ่มเจ้าสําราญอันดับ 1 ในลัวตูได้ ก็ถือ
เป็ นความสามารถหนึง ถ้าอย่างนัน วันนีก็ลองแสดง
ความสามารถนีออกมาให้พวกเราได้ชืนชมเสียหน่อย
เป็ นไร”

“เพียงแต่ไม่รูว้ า่ มูช่ ิงเกอจะแสดงความสามารถว่าจะ


ประมูลแย่งพวกนางโลมอย่างไร หรือจะแสดงว่าท่าทาง
โอ้อวดเป็ นอย่างไร”

เสียงหัวเราะจากรอบๆ ดังขึน จนพวกเขาลืมไปแล้วว่า

199
ซือมัวก็อยูต่ รงนี และลืมไปแล้วว่าทีนีคือพระราชวัง แต่
พยายามจะระบายความไม่พอใจทุกอย่างลงกับกับเจ้า
จอมเสเพลนี

“ถ้าอย่างนันลองให้คณ
ุ ชายตระกูลมูแ่ สดงความ
สามารถในการแต่งกลอนดูเถิด ได้ข่าวว่า คุณชายตระกู
ลมู่ *สามารถทําให้ผหู้ ญิงเปี ยกด้วยมือได้นีนา” (พ้อง
เสียงกับคําว่าแต่งกลอนอันไพเราะให้กบั หญิงสาว)

คําดูถกู ยังคงดังขึนเรือยๆ

แต่ฮ่องเต้ฉินกลับไม่ได้หา้ มปราม เพียงนังชมสีหน้าทีแย่


ลงเรือยๆ ของมูซ่ ง

200
“ไอ้พวก.....อือ.....” เจ้าอ้วนเซ่าอยากจะลุกขึนมาตอบ
แต่ถกู พีน้องเลยตระกูลของตนเองเอามือปิ ดปากและ
หยุดเสียงของเขาเอาไว้

ชายหนุ่มของทุกตระกูลต่างก็มาลงทีมูช่ ิงเกอ ใช้นางมา


เป็ นทีระบายอารมณ์ และไม่มีใครสังเกตเห็นประกาย
เย็นเยียบจากสายตาของซือมัวทีกําลังมอง ‘กําลัง
สําคัญ’ ผูท้ ีไม่รูจ้ กั ทีตําทีสูงแห่งแคว้นฉินพวกนีสายตา
ราวกับมองดูคนทีตายแล้ว

201
ตอนที 41 การร่ายรําเคียงคูท่ ีไม่เคยเห็นมาก่อน

พระราชวังแห่งแคว้นฉินทีกําลังคึกคัก แต่ในสายตาอัน
เยือกเย็นของซือมัว ราวกับพืนทีแห่งนีได้กลายเป็ นสถาน
ทีเต็มไปด้วยซากศพ เมือสัมผัสได้ถงึ กระแสสังหารของผู้
เป็ นนาย กูหยาก็กาํ กระบีในมือของตนเองแน่น

“คุณชายตระกูลมูท่ าํ ไมท่านยังไม่ขนไปอี
ึ กเล่า แบบนีจะ
ได้ทาํ ให้ได้หน้าได้ตานะ!”

“ไม่ตอ้ งเร่ง คุณชายมูเ่ ขารําเรียนมาเยอะความรูก้ ว้าง


1
ขวาง คงกําลังคิดว่าจะแสดงอะไรดี”

“คุณชายให้ขา้ ออกความเห็นให้ไหมล่ะ ท่านลองแสดง


ให้พวกข้าดูวา่ ท่านทําตัวติดกับรุย่ อ๋องของพวกข้า
เหมือนปลิงได้อย่างไรก่อน แล้วค่อยแสดงว่าทีท่าน
พาทหาร 500 นายไปร่วมสงครามและทหารทัง 500
นายตายหมด เหลือแค่ทา่ นเพียงคนเดียวทีรอดมาได้นนั
เป็ นอย่างไร”

เสียงของเหอเฉิงราวกับอาบไปด้วยยาพิษ พูดโดยไม่ใส่
ใจอะไรทังสิน และไม่สนใจด้วยว่าคําพูดเหล่านีไม่ได้ลว่ ง
เกินเพียงมูช่ ิงเกอเท่านัน

2
เหมือนว่าเขาอยากจะยัวโทสะมูช่ ิงเกอ ให้มนั ขึนเวทีไป
ขายหน้า จะดีทีสุดหากทําให้มหาปราชญ์ทรงกริว ทําให้
มันเละกลายเป็ นเพียงเนือบด เพือล้างแค้นให้กบั ตัวเขา
เอง

พอเขาพูดจบ คนแรกทีสีหน้าดูเปลียนไปคือฉินจินห้าว

เขาคิดว่าความรักทีมูช่ ิงเกอมีให้เขาเป็ นเรืองน่าอับอาย


แต่ตอนนีไอ้เหอเฉิงกลับประกาศมันต่อหน้ามหาปราชญ์
ถ้าท่านเข้าใจเขาผิดจะทําอย่างไร

แต่ คนทีเขาเกลียดทีสุดในตอนนีไม่ใช่เหอเฉิง แต่เป็ นมู่


ชิงเกอทียังคงนิงเงียบ ความเงียบของมันเป็ นยิงทําให้คาํ

3
พูดของเหอเฉิงดูเป็ นความจริง

ส่วนตระกูลเหอ พอได้สติ อยากจะพาตัวเหอเฉิงออกไป


แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว ในตอนแรกพวกเขาพาเหอเฉิง
มาทีแห่งนีก็เพือสร้างโอกาส แต่ไม่คิดว่าไอ้ตวั บัดซบนี
จะก่อเรือง ล่วงเกินตระกูลมูย่ งั ไม่เท่าไหร่ แต่ยงั ล่วงเกิน
ไปถึงรุย่ อ๋องและเจียงกุย้ เฟยอีกด้วย อย่างนันตระกูล
เหอของพวกเขาคง.........

เจ้าบ้านตระกูลเหอแอบมองเจียงกุย้ เฟย เห็นคิวทีขมวด


ด้วยความไม่พอใจของพระนางดังคาด

เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่รูจ้ ะพูดอย่างไร

4
หากว่าเขาพูดอะไรออกไปในตอนนี ก็จะยิงทําให้เรืองยิง
ยุง่ ไปกันใหญ่ไม่ใช่หรือ

“ไอ้พวกเลว !” มูซ่ งหมดความอดทน กําหมัดแน่นพร้อม


ยืนขึน

“ท่านปู่ ” ข้อมือถูกมูช่ ิงเกอดึงไว้ เพือห้ามการกระทําของ


เขา พอมูซ่ งหันหน้ามา นางก็พดู พร้อมรอยยิมว่า : “ไย
ต้องลดตัวด้วย?”

เพราะตังแต่ตน้ จนจบผูท้ ีพูดยัวยุทงหมดเป็


ั นผูท้ ีอายุนอ้ ย
กว่า

5
หากว่ามูซ่ งพูดอะไรออกไปเพือปกป้องนางในตอนนี จะ
ไม่ยงทํ
ิ าให้ถกู เจ้าพวกจิงจอกเฒ่าพวกนีถือโอกาสเอาจุด
นีมาโจมตีได้หรือ?

นาง มูช่ ิงเกอ ไม่เคยมีนิสยั ชอบหลบอยูข่ า้ งหลัง


ใคร

หากคนพวกนีกล้าเปิ ดศึกกับนาง นางก็จะทําให้


พวกเขาได้เห็นว่า อะไรคือการทําให้ตวั เองต้องเสียหน้า
ก็แค่แสดงความสามารถไม่ใช่ร?ึ

พวกกบในกะลา เบิกตาสุนขั ของพวกเจ้าแล้ว

6
ตังใจดูให้ดี!

มูช่ ิงเกอค่อยๆ ลุกขึนยืน กดไหล่ชองมูซ่ งให้เขา


นังลง

ร่างในชุดแดง ยืนขึนพร้อมกับสายลม ใบหน้ารูป


ไข่อนั สวยงามดวงนันไร้ซงความกั
ึ งวล กลับยิมน้อยๆ ดู
สงบเย็นชา ราวกับว่า คนทีทุกคนดูถกู ไม่ใช่ตนอย่างนัน

ท่าทางโอหังสง่างามและอยูเ่ หนือทุกสิงของนาง
ทําให้คาํ ดูถกู รอบด้านค่อยๆ เงียบลง

ราวกับว่า หากพวกเขายังไม่หยุดพูด ก็จะกลาย


7
เป็ นดังเด็กน้อยเอาแต่ใจทีกําลังงอแงใส่ผใู้ หญ่อย่างนัน

ตอนนีสายตาของทุกผูต้ า่ งจับจ้องทีร่างอันงด
งามของนาง

ไทเฮาทีเห็นมูช่ ิงเกอลุกขึนยืน ก็ยมอย่


ิ างมีเลศนัยขึน
หลายส่วน : “เจ้าเด็กตระกูลมูถ่ ือว่าใช้ได้ คําพูดกําเริบ
ของเจ้าเด็กพวกนี ฮ่องเต้ตอ้ งออกหน้าสักหน่อยแล้วล่ะ
เพราะตระกูลมูก่ ็ถือเป็ นทองแผ่นเดียวกับเรา”

สายตาของฉินชางดูเปลียนไป แต่ไม่ได้เถียงหรือ
แก้ตวั อะไร ก้มหน้าลงแล้วตอบกลับว่า : “พะยะค่ะ”

8
“ชิงเกอ เจ้า……..” มูเ่ หลียนหรงดึงชายเสือของ
มูช่ ิงเกอเอาไว้ แล้วมองด้วยความห่วงใย

แต่มชู่ ิงเกอกลับดึงชายเสือของตนเองออกจาก
มือของมูเ่ หลียนหรง พร้อมยิมปลอบใจ แล้วเดินออกไป
ทางเวทีโดยไม่แสดงความกังวลใดๆ ทังสิน

การปรากฏตัวของมูช่ ิงเกอ ทําให้กระไอสังหาร


เยียบเย็นของซือมัวสลายไป

เหมือนเขาจะพอเดาได้ถงึ เจตนาของเจ้าพวกชันตําเหล่า
นีแต่ก็ยงั ชมการแสดงต่อไปอย่างวางใจ

9
นีเป็ นการแสดงทีเสียวเกอเอ๋อร์แสดงให้กบั เขา
เป็ นครังแรก

ตอนนีชายคนนีได้ลืมเหตุผลทีแท้จริงทีทําให้มู่
ชิงเกอต้องขึนมาแสดงบนเวทีไปแล้ว และกําลังรอคอย
ว่าการแสดงต่อไปจะทําให้เขาหวันไหวได้เพียงใด

แม้วา่ มูช่ ิงเกอจะแค่ขนมายื


ึ นนิงๆ อยูบ่ นเวที ก็
สามารถทําให้เขาชืนใจ หากเทียบกับการแสดงวุน่ วายไร้
สาระพวกนันแล้ว ดีกว่าไม่รูต้ งกี
ั ร้อยเท่า

มูช่ ิงเกอเดินไปคิดไปทีละก้าวๆ ความเป็ น


ธรรมชาติแบบนัน ทําให้ทกุ คนไพล่คิดไปถึงตอนทีซือมัว

10
เหินลงมาจากฟากฟ้า

นางเดินไปหานักบรรเลงดนตรี แล้วคุยกับพวก
เขาเบาๆ

พอนักบรรเลงดนตรีพยักหน้าด้วยสายตาทีเต็ม
ไปด้วยความสงสัย นางก็เดินมาอยูก่ ลางเวที พูดกับ
ฮ่องเต้วา่ : “ฝ่ าบาท การแสดงของชิงเกอพิเศษมาก จึง
ต้องการผูช้ ่วยคนหนึง”

“หืม?” ฉินชางตอบด้วยความสงสัย แล้วตอบว่า:


“ต้องการผูใ้ ด?”

11
พูดแบบนี แสดงว่ามอบอํานาจในการตัดสินใจ
ให้กบั มูช่ ิงเกอ

ทันใดนัน ฉินจินห้าวก็รูส้ กึ ตึงเครียดขึนมา ราว


กับว่าเขามันใจเป็ นอย่างยิงว่าคนทีมูช่ ิงเกอจะเลือก็คือ
ตัวเขา แต่เขาไม่สมัครใจทีจะคูก่ บั มูช่ ิงเกอทีเป็ นทังคนไร้
พลังและพวกรักร่วมเพศเด็ดขาด ไม่วา่ จะเป็ นการแสดง
อะไรก็ตาม

ความโกรธเกลียดแทบจะทะลุสายตาอันเยือก
เย็นคูน่ นออกมา

ฉินจิวห้าวเห็นมูช่ ิงเกอเดิมมาหาตนเอง ในใจก็

12
ยิงรังเกียจ แอบคิดในใจว่า : มูช่ ิงเกอ เจ้าไม่ได้เปลียนไป
เลยจริงๆ ก่อนหน้านีทีจงใจทําเย็นชากับข้า ก็คงเพราะ
ต้องการเรียกร้องความสนใจจากข้า ตอนนีก็ถือโอกาส
มาเอาเปรียบข้าอย่างนันหรือ!

มูช่ ิงเกอมาหยุดอยูต่ รงหน้าฉินจิวห้าว สายตา


อันน่ากลัวและเต็มไปด้วยความไอสังหารไม่ได้รอดพ้น
ไปจากสายตาของนาง ในขณะทีฉินจินห้าวกําลังจะ
ปฏิเสธ มูช่ ิงเกอกลับยกแขนขึนชีไปทีข้างๆ เขา กระตุก
ยิมแล้วพูดว่า : “ข้าต้องการนาง”

ทันใดนัน ทุกสายตาจดจ้องไปยังผูท้ ีมูช่ ิงเกอชี

13
ฉินอีเหยาทีถูกเลือกตะลึงไป เหมือนจะยังไม่
รูส้ กึ ตัว

ไอ้เจ้าบัดซบ ! กล้าแกล้งข้างันรึ !

ฉินจิวห้าวหน้าเสีย โกรธจนกัดฟั นกรอด

เขามันใจว่ามูช่ ิงเกอแกล้งทํา เพราะเขาเห็นสาย


ตาเยาะเย้ยทีมูช่ ิงเกอมองเขา หลังจากทีเลือกฉินอีเหยา

“นีมัน............” ฉินชางลังเล

แต่ไทเฮากลับพูดขึนอย่างประจวบเหมาะ
14
ว่า :“ฮ่องเต้ พวกเขาเป็ นคูห่ มายกันอยูแ่ ล้ว ภรรยาช่วย
สามีในการทําการแสดง มีอะไรทีไม่สมควรเล่า?”

พูดแบบนี แม้ฮ่องเต้อยากจะปฏิเสธก็ไม่รูจ้ ะพูด


อย่างไร ได้แต่พยักหน้าเงียบๆ

คูห่ มาย ?

คําๆ นีค่อยๆ ลอยเข้าหูของซือมัว ทําร้ายความ


รูส้ กึ ดีๆ ทีมูช่ ิงเกอเลือกผูห้ ญิงมาเป็ นคูแ่ สดงจนหมดสิน

เมือมองฉินอีเหยาอีกครัง สายตานันก็มีรงั สี
สังหารแผ่ออกมาอย่างชัดเจน หากเขาไม่ได้พยายาม
15
เก็บอาการไว้ ก็คงทําให้หญิงผูน้ นตกใจจนฉี
ั ราดไปแล้ว

‘ท่านประมุข ผูห้ ญิง ผูห้ ญิง ! คนพวกนีคงไม่รูถ้ งึ


ฐานะทีแท้จริงของคุณชายจึงได้จบั คูใ่ ห้พวกเขาเช่นนี’ กู
หยาถอนใจอย่างไม่รูจ้ ะทําอย่างไรดี

เจ้านายสูงศักดิผูเ้ ก่งกาจของเขา กําลังค่อยๆ


กลายร่างเป็ น*ไหนําส้มแล้ว! (หึงหวง)

กูหยากังวลแทนเจ้านาย แต่เขากลับไม่รูว้ า่ ตอน


นีเจ้านายของตนเองยังไม่รูว้ า่ ตนเองรูส้ กึ อย่างไรต่อมูช่ ิง
เกอ

16
บางที นีอาจจะเป็ นเหมือนคําพูดทีว่า คนนอก
ย่อมรูด้ ีกว่าคนใน !

ฉินอีเหยาเดินขึนเวทีไปยืนอยูต่ รงหน้ามูช่ ิงเก


อ พูดอย่างเย็นชาว่า : “เจ้าจะให้ขา้ ทําอะไร”

มูช่ ิงเกอพูดพร้อมรอยยิม : “เต้นรํา”

“เต้นรํา” ฉินอีเหยาตาโต นางไม่เคยเต้นรํามา


ก่อนเลย “ข้าเต้นไม่เป็ น” นางพูดความจริงออกมาอย่าง
ไร้ซงความลั
ึ งเล

แต่มชู่ ิงเกอกลับพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า : “ไม่เป็ นไร


17
กระหม่อมจะนําพระองค์เอง”

ฉินอีเหยาตกใจยิงกว่าเดิม การเต้นอะไรแบบ
ไหนกัน ไม่ตอ้ งฝึ กฝนก็สามารถขึนแสดงได้เลย?

ท่ามกลางความตกใจของนางและการรอคอย
ของทุกคน ผูบ้ รรเลงเพลงก็เริมบรรเลงบทเพลงทีไม่เคย
ได้ยินมาก่อนตามทีมูช่ ิงเกอสังเอาไว้

เสียงกลองดังเบาสลับกัน จังหวะรวดเร็วสดใส
เสียงทํานองแบบโบราณแต่แฝงด้วยความหนักแน่น
ค่อยๆ ดังขึน

18
มูช่ ิงเกอถอนใจอย่างชืนชม นักดนตรีของวัง
หลวงพวกนีถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว สามารถบรรเลงให้ไม่
ต่างจากบทเพลงดังเดิมมากนัก

เพลงทีไม่เคยได้ยินมาก่อนทําให้ทกุ คนตกใจ
พวกเขาไม่ลืมว่า เมือสักครูม่ ชู่ ิงเกอยืนคุยกับนักดนตรี
อยูน่ านมาก หากคาดไม่ผิด เพลงทีมีทาํ นองไพเราะราว
กับเพลงจากสรวงสวรรค์จนทุกคนอยากลุกขึนมาเต้นนี
เป็ นเพลงทีมูช่ ิงเกอเป็ นคนแต่งขึนมาเอง

เจ้าจอมเสเพลนี อยูๆ่ ก็กลายเป็ นผูแ้ ต่งเพลง


มากฝี มืออย่างนี! เรืองแบบนี จะเป็ นไปได้อย่างนันหรือ?

19
มูช่ ิงเกอยืนมือไปหาฉินอีเหยาท่ามกลางความ
ตกตะลึงของทุกคน

ลมยามคําคืนโชยผ่านมา พัดจนผมของนางยุง่
เหยิง โชยสะบัดจนชุดไหมสีแดงของนางพลิวไหว มือ
ขาวดุจหยกอยูต่ รงหน้า ฉินอีเหยาวางมือของตนเองลง
บนนันโดยไม่รูต้ วั

พลันนันมือก็รูส้ กึ ถึงความกระชับแน่น ความ


อบอุน่ สายหนึงไหลผ่านปลายนิวก่อนจะกระจายไปทัว
ทังร่างกาย

ไม่ทนั ทีฉินอีเหยาจะทําอะไร มือข้างหนึงก็แนบ

20
เข้ากับเอวของนาง และดึงตัวนางเข้าไปใกล้ พอได้สติ
นางก็เห็นใบหน้าอันงดงามของมูช่ ิงเกออยูใ่ กล้นางมาก

ในสายตาของฉินอีเหยาเต็มไปด้วยความตกใจ
อยากจะดึงมือของมูช่ ิงเกอทีอยูบ่ นเอวของตนเองออก
แต่รา่ งกายของนางกลับถูกมูช่ ิงเกอบังคับให้เคลือนไหว
ไปพร้อมกับจังหวะทีไม่เคยได้ยินมาก่อน...............

21
ตอนที 42 แผนร้ายหาเรืองใส่ตวั

ชายแขนเสือพลิวสะบัดเบาๆ กระโปรงสีฟา้ อ่อน


อ่อนโยนดุจสายนํา ชุดสีแดงสด ดังดวงอาทิตย์รอ้ นแรง

ทุกจังหวะทีขาของมูช่ ิงเกอเหยียบลงไปตรงกับทํานอง
ของเพลงอย่างแม่นยํา ฉินอีเหยาแทบจะไม่ตอ้ งทําอะไร
22
แค่ขยับไปตามนางก็พอแล้ว

“ผ่อนคลายเถอะ มีกระหม่อมอยู”่ เมือรับรูถ้ งึ ความ


ประหม่าของฉินอีเหยา มูช่ ิงเกอก็พดู เบาๆ ข้างหูนาง

ไออุน่ ของลมหายใจรินรดผ่านหูนางไป

ฉินอีเหยาหัวใจเต้นรัวเร็วโดยไม่มีสาเหตุ หูเริมแดงอย่าง
รวดเร็ว ‘ผ่อนคลายเถอะ มีกระหม่อมอยู’่ คําธรรมดาๆ
เพียงไม่กีคํากลับทําให้นางรูส้ กึ เหมือนมีทีพึง

ความรูส้ กึ แบบนีนางไม่คนุ้ ชินเลย

23
ตอนแรกนางอยากจะขัดขืนแต่รา่ งกายกลับผ่อนคลาย
ความตืนเต้นลงมาก

แก้มสีขาวสองข้างเริมอาบย้อมไปด้วยสีแดงเรือ ใน
ขณะทีเต้นรําฉินอีเหยาแอบมองใบหน้าหันข้างทีอยูห่ า่ ง
กับนางเพียงไม่กีนิว สายตาอันกระจ่างใสนันเหมือนไม่
ได้คิดอะไรอยูเ่ ลย สะอาดสดใสจนทําให้นางรูส้ กึ ผิด
อยูๆ่ ใบหน้างดงามดวงนีอยูๆ่ ก็ไม่ได้ดนู ่ารังเกียจถึงเพียง
นันอีก ทําให้นางอยากจะใช้สายตาของตนมองสํารวจ
เค้าโครงของใบหน้านันโดยไม่รูต้ วั

การเต้นแทงโก้ เป็ นการแสดงถึงความร้อนแรงเปี ยมด้วย


ชีวิตชีวา

24
แต่ลีลาและทํานองการเต้นของมูช่ ิงเกอ ทําให้นางเต้น
ออกมาในอีกแบบหนึง คนสองคนทีกําลังเต้นพลิวไหว ดู
เหมือนคูร่ กั ทีรักกันมาก และเหมือนคูร่ กั ทีจากลากันมา
นาน

จังหวะฝี เท้ากระชับว่องไว ร่างยืดเอวตรง ขยับไปตาม


แรงหมุน สัมผัสทีอ่อนโยนรับ ทําให้บทเพลงนี ดังก้องไป
ทัวท้องฟ้าแห่งพระราชวังอันโอ่อา่

ลม ค่อยๆ พัดไหว

โบกพัดจนดอกไม้รว่ งพลิว เกสรสีชมพูถกู ม้วนขึนกลาง

25
อากาศมาสูก่ ลางเวที

ราวกับว่า ดอกไม้นนโดนดึ
ั งดูดจากการร่ายรําอันแปลก
ใหม่ และเริงระบําพร้อมไปกับพวกเขา

การก้าวย่างร่ายรําอันแปลกใหม่ และความรูส้ กึ แปลก


ประหลาดแบบนัน ทําให้ฉินอีเหยาตกอยูใ่ นภวังค์ นาง
เคลือนไหวไปตามการกระทําของมูช่ ิงเกอราวกับผีเสือ
โบยบิน มีความรูส้ กึ เกิดขึน เหมือนหลุดพ้นและได้รบั
การปลดปล่อยให้เป็ นอิสระ

ลมทีพัดผ่านข้างแก้ม กลีบดอกไม้รว่ งทีปลิวไปมาตรง


หน้า ทําให้นางลืมสินทุกสิงราวกับทีนีมีแค่นางและผูร้ ว่ ม

26
เต้นกับนางนีเท่านัน

“สวยงามเหลือเกิน ! นีมันการร่ายรําแบบใดกัน?”

“ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

“เพลงและทํานองแบบนีคงจะมีเพียงบนสรวงสวรรค์เท่า
นันจึงจะมี ในโลกมนุษย์นนั ยากทีจะพบสดับสักครัง”

เพลงดังซําไปมาไม่หยุด จังหวะการเต้นทีต่อเนืองไม่ขาด
ในตอนนี ราวกับว่า ทุกคนแทบจะลืมบรรยากาศความ
ขัดแย้ง และการหัวเราะเยาะกันในตอนแรกไปแล้ว

27
ทุกคนต่างไม่อยากให้เพลงๆนีหยุดลง

กระทังในสายตาของฉินจินห้าวเอง ก็เต็มไปด้วยความ
ตกตะลึง จ้องมองเงาร่างสีแดงราวเปลวเพลิงทีโลดแล่น
ไปมาอยูบ่ นเวที

ในดวงตาลึกลําของซือมัว มืดมนไร้จดุ ดสินสุด สายตาที


แววใสดังแก้วนันบดบังความรูส้ กึ ของเขาเอาไว้ เวลานี
สายตาของเขา ส่องสะท้อนเพียงเงาร่างสีแดงและ
ดอกไม้ทีปลิวไปมาเท่านัน

อยูๆ่ ความคิดหนึงก็แวบเข้ามาในหัว จนเขาเกือบจะ


ควบคุมตัวเองไม่อยู่

28
‘หากคูเ่ ต้นของมูช่ ิงเกอเป็ นเขา จะดีเพียงไหนกันนะ’

นัยน์ตาทีกําลังมองผูท้ ีเต้นอยูเ่ หมือนมีอะไรเปลียนไป ใน


จินตนาการ เงาร่างสีฟา้ อ่อนค่อยๆ จางหายไป แทนที
ด้วยเสือขาวบริสทุ ธิของตัวเขา เขาโอบประคองเงาร่างสี
แดงนัน พานางเต้นรําท่ามกลางกลีบดอกไม้ทีพร่าง
พราว......

“ท่านพ่อ ชิงเกอเต้นรําเป็ นตังแต่เมือใดกัน?” มูเ่ หลียนห


รงถามด้วยความงุนงง

สายตาของนาง โดนการเต้นรําอันน่าทึงนีทําให้ตกตะลึง

29
ไป กระทัง นางยังสงสัยเลยด้วยซําว่าตอนนีนางกําลังฝัน
อยู่

มูซ่ งทีถูกถามก็สงสัยเช่นกัน เขาไม่เคยเห็นการเต้นแบบ


นี และไม่เคยเห็นว่ามูช่ ิงเกอเต้นรําได้ จึงไม่อาจตอบคํา
ถามของลูกสาวได้ เขาทําได้เพียงส่ายหน้า

ในขณะเดียวกัน ในใจก็แอบโทษตัวเอง ทีใส่ใจหลาน


ชายไม่มากพอ

ในงานเลียง นอกจากเสียงเพลงทีกึกก้อง ก็ไม่มีเสียงอืน


เลยแม้แต่นอ้ ย ทุกคนต่างเบิกตาโต ชืนชมท่าเต้นอันน่า
ทึงของมูช่ ิงเกอ

30
กระทัง นักปราชญ์หลายคนทีมองว่ามูช่ ิงเกอไม่รูจ้ กั
ระมัดระวังว่าชายหญิงไม่พงึ ใกล้ชิดกันก่อนหน้านี ตอน
นีก็กลับเปลียนความคิด อืม บางทีการมีศิลปะติดตัวก็
เป็ นสิงทีน่านับถือ อีกอย่าง พวกเขาก็เป็ นคูห่ มายกัน
ด้วยไม่ใช่หรือ?

บริเวณทีห่างจากงานเลียง เงาร่างในชุดสีเหลืองนวล
ยาว ยืนอยูเ่ พียงลําพังบนภูเขาจําลองกลางศาลา มอง
ผ่านรอยแยกของแมกไม้ไปทีคนสองคนทีกําลังเต้นรําอยู่
ในสายตาทีไร้ระลอกคลืนใดของเขาแทบจะดูไม่ออกเลย
ว่ากําลังรูส้ กึ อะไรอยู่ การเต้นนี ราวกับซึมเข้าสูจ่ ิต
วิญญาณของเขา และก็ราวกับจะไม่สามารถทําให้เขา
รูส้ กึ อะไรเลยในเวลาเดียวกัน

31
“ลูกพี ! สุดยอดมาก ! ข้าขอนับถือท่านเลย!” สายตาเจ้า
อ้วนเซ่าเต็มไปด้วยความนับถือ ในใจคิดว่าจะต้องถาม
วิธีการฝึ กการแสดงขันเทพแบบนีจากมูช่ ิงเกอให้ได้!

ผูค้ น ต่างหลงใหลอยูใ่ นท่วงทํานองของจังหวะการเต้น

แต่มีเพียงคนเดียวทีแตกต่าง นันก็คือ เหอเฉิงทีใบหน้า


เต็มไปด้วยความอิจฉาและโกรธเกลียด เขาอยากจะทํา
ให้มชู่ ิงเกออับอาย แต่กลับกลายเป็ นว่าทําให้มนั กลาย
เป็ นตัวเด่นเสียอย่างนัน

เขาไม่ยอม!

32
มูช่ ิงเกอเต้นช้าลง ฉินอีเหยาทีค่อยๆ ตืนจากภวังค์รูแ้ ล้ว
ว่า การเต้นกําลังจะจบลง

ตอนนี ในใจของนาง เหมือนตกลงมาจากทีสูง ทําให้นาง


รูส้ กึ เหมือนกลับมาสูพ่ ระราชวังทีทังหนาวเย็นและน่าอึด
อัดอีกครัง

นางปิ ดบังดวงตาโศกสลดของตน ใบหน้าของนางกลับ


ไปเยือกเย็นและสันโดษเหมือนก่อน

เสียงเพลงค่อยๆ เงียบลง มูช่ ิงเกอก็คอ่ ยๆ ปล่อยตัวฉินอี


เหยา พูดพร้อมรอยยิมว่า : “ขอบพระทัยองค์หญิงทีช่วย

33
เหลือ”

ข้าไม่ได้ทาํ อะไรเลยสักนิด

ฉินอีเหยาตังใจจะตอบแบบนี แต่ในขณะทีกําลังจะเงย
หน้าขึน ก็สมั ผัสถึงแสงสีแดงสายหนึง พุง่ มาทางด้าน
หลังของมูช่ ิงเกอ

“ระวัง !” ดวงตางดงามพลันเบิกกว้าง ไม่ทนั ได้คิดอะไร


มาก ฉินอีเหยาก็ยืนมือไปผลักมูช่ ิงเกอ ระหว่างนันก็สะ
บัดมือเเสงสีเหลืองพุง่ ออกไปปะทะเข้ากับแสงสี
แดงกลางอากาศ เสียงดังกึกก้องจนทําให้ทกุ คนในงาน
เลียงตกใจ

34
“เกอเอ๋อร์!”

“ชิงเกอ!”

สิงทีเกิดขึนอย่างกะทันหัน ทําให้มซู่ งและมูเ่ หลียนหรง


รีบเคลือนตัวไปอยูข่ า้ งกายมูช่ ิงเกอทันที ยืนปกป้อง
นางอย่างแน่นหนาจากซ้ายขวา

ทันใดนัน แสงสีนาเงิ
ํ นเจิดจ้าและแสงสีเหลืองเสียดแทง
นัยน์ตานันก็ทาํ ให้ทกุ คนได้สติ

ใครกล้ามาลอบสังหารคนกลางงานเลียง!
35
“ขอบพระทัยองค์หญิง” มูเ่ หลียนหรงประคองหมัดคารา
วะขอบคุณฉินอีเหยา ด้วยฐานะของมูซ่ ง แน่นอนว่าจะ
ไม่กล่าวคําขอบคุณผูท้ ีอายุนอ้ ยกว่า จึงให้มเู่ หลียนหรง
ทําหน้าทีนันแทน

ฉินอีเหยาส่ายหน้า นางก็ไม่รูว้ า่ ตนเองลงมือทําไม

เงยหน้าขึนมองใบหน้านิงเฉยของมูช่ ิงเกอ นางเม้มปาก


แน่น

ซือมัวไม่ได้ขยับ ทุกคนไม่รูพ้ ลังทีแท้จริงของมูช่ ิงเกอ แต่


เขารูอ้ ยูแ่ ก่ใจว่าแค่ไก่ออ่ นขันพลังสีแดงผูห้ นึง จะลอบทํา

36
ร้ายขันเหลืองระดับสูงสุดสําเร็จได้อย่างไร?

ถึงแม้วา่ มูช่ ิงเกอจะยืนนิงให้เฆียนตีได้ตามใจชอบ นางก็


จะไม่บาดเจ็บแม้แต่นอ้ ย แล้วนับประสาอะไรกับทีนางมี
ความสามารถในการเยียวยาอันน่าทึงนันอีก

แต่ถงึ แม้จะเป็ นอย่างนี แต่คนทีเขาถูกใจจะต้องเป็ นคน


ทีไม่วา่ ใครก็หา้ มแตะต้องแม้แต่ปลายเล็บ

กูหยา ทียืนอยูข่ า้ งหลังซือมัวรูว้ า่ ตอนนีท่าทางของเจ้า


นายแม้จะดูไม่แตกต่าง แต่ในใจมีความคิดทีจะสังหาร
คนเกิดขึนแล้ว

37
เกรงว่า ไอ้โง่ทีกล้าคิดร้ายกับตระกูลมูผ่ นู้ นั แม้ฟา้ จะคุม้
ครองอย่างไรก็คงจะมีชีวิตรอดไม่ถงึ พรุง่ นีเช้าแล้ว

กูหยาแอบจุดเทียนไว้อาลัยให้คนๆ นันในใจเงียบๆ

“ใครกล้าปองร้ายหลานชายของเขา!” เกอเอ๋อร์ เกือบได้


รับบาดเจ็บแบบนี มูซ่ งไม่สนใจอีกต่อไป ว่าทีนีคือทีไหน
เสียงทีเขาเปล่งออกมาแทรกไว้ดว้ ยพลังวิญญาณเสียง
ดังกัมปนาทไปทัวทังงานเลียง

เรืองมันเกิดขึนรวดเร็วเกินไป เขาไม่เคยคิดว่าจะมีคน
กล้าฆ่าหลานชายของเขาต่อหน้าต่อตา เขาจึงไม่ได้
สังเกตว่าแสงสีแดงนันมาจากทีไหน

38
แต่มชู่ ิงเกอกลับรูส้ กึ แตกต่างออกไป ตอนทีแสงสีแดง
กําลังจะพุง่ เข้ามาโดนเสือของนางนัน นางก็รูส้ กึ ได้ถงึ
รังสีสงั หารทีอยูเ่ บืองหลังแล้ว แม้วา่ ฉินอีเหยาจะไม่ลง
มือ นางก็สามารถหลบมันได้อย่างปลอดภัย

แต่การกระทําของฉินอีเหยาก็ช่วยปกปิ ดความสามารถ
ของนางได้ดีขนก็
ึ เท่านัน

ในขณะทีมูซ่ งคํารามด้วยความโกรธเกรียว ดวงตาใส


กระจ่างของมูช่ ิงเกอก็จอ้ งไปทีใบหน้าอันขาวซีดและ
สายตาทีเต็มไปด้วยความตืนตระหนกของเหอเฉิง

39
นางแอบยิมอย่างเยือกเย็น : ‘เหอเฉิงเอ๋ยเหอเฉิง เจ้าช่าง
แสดงให้เห็นถึงคําพูดทีว่า ‘หาเหาใส่หวั ’ ได้ดีจริงๆ’

40
ตอนที 43 หากเจ้าจะลงนรก ข้าก็ขอถีบส่ง

เหอเฉิงกําลังตืนตระหนกอย่างถึงทีสุด!

เขาไม่รูเ้ ลย ว่าตนเองลงมือไปได้อย่างไร ตอนนัน เขาแค่


เกลียดใบหน้านันของมูช่ ิงเกอยิง ไม่ตอ้ งการจะเห็นมัน
อีกต่อไป อยากให้มนั ตายๆ ไปเสีย จึง...........

41
พอเขารูส้ กึ ตัว ก็สบสายตาเข้ากับแววตารูท้ นั ของมูช่ ิงเก
อ ไหนจะยังเปลวไฟแห่งความโกรธทีลุกโชนของมูซ่ งอีก

‘ทําอย่างไรดี? เขาควรทําอย่างไรดี?’

“ผูเ้ ฒ่าตระกูลมู่ มหาปราชญ์ยงั อยูท่ ีนี อย่าเกินไปนัก”


ฉินชางค่อยๆ ลุกขึนยืน พูดพร้อมขมวดคิว เหมือนกําลัง
เตือนด้วยความหวังดี

แต่ในสายตาของเขา ซ่อนความเสียดายจางๆ ไว้

จริงๆ แล้ว สิงทีเขาอยากเห็นคือสีหน้าของมูซ่ ง หลังจาก


42
ทีทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลมูต่ าย หากการปอง
ร้ายเมือสักครูส่ าํ เร็จ เขาอาจจะดึงเสียมหนามตําใจ
อย่างตระมูลมูอ่ อกได้สาํ เร็จ

แต่น่าเสียดาย........

ฉินชางเหลือบมองฉินอีเหยาอย่างตํานิทีนางเข้ามายุง่ ไม่
เข้าเรือง

มูซ่ งหันหน้ากลับไป กระแสพลังสีนาเงิ


ํ นบนร่างก็ลดลง
เล็กน้อย แต่ความโกรธเกรียวกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่นิด
พูดเสียงดังว่า : “ฝ่ าบาท มีคนคิดจะปองร้ายหลานชาย
ของข้า ในงานเลียงทีพระองค์ทรงจัดขึนเพือองค์มหา

43
ปราชญ์ หรือว่านีไม่ใช่การดูหมินพระองค์และองค์มหา
ปราชญ์?”

“เอ่อ.....” ฉินชางขมวดคิว ตามองไปยังทีนังของตระกูล


เหอ

ก่อนทีจะเกิดเรือง กลุม่ คนยังไม่มีใครให้ความสนใจกับ


ตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลเหอ แต่ตอนนี สายตาทีเต็มไป
ด้วยแววเยาะเย้ยของมูช่ ิงเกอ และเหอเฉิงทีนังหน้าเสีย
อยูก่ บั ทีเป็ นการอธิบายทุกอย่างได้เป็ นอย่างดี

ตอนนีบิดาของเหอเฉิงสีหน้าซีดขาวและสันไปทังร่าง
เมือเห็นสายตาอันเยือกเย็นของฮ่องเต้ จึงรีบคุกเข่าลง

44
โขกหัวกับพืนไม่หยุด : “ฝ่ าบาท! กระหม่อมผิดไปแล้ว !
เจ้าบัดซบนีช่างกําแหงเกินไปแล้วจริงๆ กล้าทําเรืองชัว
ร้ายแบบนีในงานเลียงของพระองค์ ตายสักหมืนครังก็ไม่
พอชดใช้ความผิด ! แต่ ขอให้ฝ่าบาททรงเห็นแก่ที
ตระกูลเหอจงรักภักดีเสมอมา ลงโทษสถานเบาด้วย
เถิด!” พูดแล้วก็หนั ไปพูดกับมูซ่ งทังนําตา : “นายท่านผู้
เฒ่า เด็กไม่รูเ้ รือง ทําอะไรไม่รูจ้ กั แยกแยะ โชคดีทีคุณ
ชายไม่เป็ นอะไร ขอให้นายท่านผูเ้ ฒ่าโปรดระงับโทสะ
และไว้ชีวิตมันด้วยเถิด!”

คําพูดทังนําตาแบบนี ราวกับเหอเฉิงเป็ นผูบ้ ริสทุ ธิอย่าง


ไรอย่างนัน

มูซ่ งสีหน้าดําคลํา ริมฝี ปากเกร็งแน่นแค่นเสียงเย็นชาคํา


45
หนึง คร้านจะดูเขาแสดงละคร ฉินชางทีแอบสังเกตท่า
ทางของมูซ่ ง ก็รูแ้ ล้วว่าคราวนีมูซ่ งโกรธเข้าแล้วจริงๆ ใน
ขณะเดียวกันเขาก็แอบมองชายชุดขาวแท่นสูงแวบหนึง
แต่กลับต้องตกใจเพราะใบหน้าทีเหมือนยิมและไม่ยมใน

ขณะเดียวกันนัน

‘แย่แล้ว! เรืองขบขันพวกนีคงจะทําให้องค์มหาปราชญ์
ไม่พอใจมาก’

ในความคิดของฮ่องเต้ ความเป็ นความตายของมูช่ ิงเก


อเป็ นเพียงเรืองน่าขบขัน

ในขณะทีหันหน้ากลับมา ฉินชางก็ตดั สินใจบางอย่าง

46
ตอนนี มูช่ ิงเกอจะเป็ นอย่างไร มูซ่ งจะเป็ นอย่างไรและ
ตระกูลเหอจะเป็ นอย่างไรนันไม่สาํ คัญเท่าทําให้ชาย
หนุ่มผูน้ ีเบิกบานใจ

“บัดซบ! ยังไม่คกุ เข่าลงเพือขอให้มหาปราชญ์และท่านผู้


เฒ่าเมตตาไว้ชีวิตสุนขั ของเจ้าอีกรึ!” เพราะความเงียบ
ของฝูงชน ทําให้ผเู้ ป็ นบิดาคิดว่าเรืองราวอาจยังมีโอกาส
แก้ไข จึงรีบเอ่ยเตือนเหอเฉิง

เหอเฉิงทีตืนกลัวจนสติจะแตกอยูแ่ ล้วนัน พอได้ยินคํา


พูดของบิดา ก็รบี รับคํา สองขาคุกเข่าลงพืน พูดด้วย
ความตืนตระหนกจนควบคุมสติตนเองไม่ได้ : “ฝ่ าบาท
โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ท่านผูเ้ ฒ่าโปรดไว้ชีวิตด้วย ! ข้า.....
47
ข้าแค่พลังมือไป”

ดวงตาเหอเฉิงกลอกไปมารวดเร็ว อยากจะหาเหตุผลที
ฟั งขึนสักข้อ

แต่ เขาไม่รูจ้ กั ยืดหยุน่ พลิกแพลงและไม่ได้เฉียบแหลม


นัก ทําให้เหตุผลทีหลุดพูดออกมา ยิงทําให้มซู่ งโกรธ
แค้นหนักกว่าเดิม

มูซ่ งพูดอย่างโหดเ**◌้ยม : “หึ พลังมือ ! หากข้าตบเจ้า


จนตายตรงนีก็เรียกว่าพลังมือเช่นกันใช่หรือไม่?”

ครังทีแล้ว เพราะคําพูดของเหอเฉิง ทําให้เขาเกือบจะ


48
เสียหลานชายและทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลไป ที
เขามูซ่ ง ไม่ได้ฆา่ มันก็เพราะเห็นแก่สว่ นรวม ไม่คิดว่า
ครังนี มันจะกล้าลอบฆ่าหลานชายต่อหน้าต่อตาเขา!

ท่าทางโกรธจนยากระงับของมูซ่ ง ทําให้เหอเฉิงตกใจจน
เกือบจะควบคุมตนเองไม่ได้

เขารูส้ กึ เหมือนดาบนับพันเล่มกําลังจะตกสูต่ วั เขา และ


ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้

ในความสินหวัง เหอเฉิงมองฉินจินห้าว ตะโกนอย่างเจ็บ


ปวดว่า : “รุย่ อ๋อง ช่วยข้าด้วย!”

49
ฝูงชนพลันวิจารณ์เซ็งแซ่

ทําไมไปโยงกับรุย่ อ๋องได้เล่า?

ทุกสายตาเต็มไปด้วยความสงสัยจ้องไปฉินจินห้าว
รัชทายาทกลับยิมเยาะเย้ยด้วยมุมปาก

ความสัมพันธ์ของรุย่ อ๋อง ตระกูลเหอ หรือเหอเฉิงนันฉิน


ชางเองก็คงพอรูเ้ รืองนีมาบ้าง

ถ้าอย่างนัน เหอเฉิงทีกล้าปองร้ายมูช่ ิงเกอในทีแบบนี


เพราะเป็ นความคิดของตัวเขาเอง หรือเพราะคําสังของ
ใคร ทีเขาขอความช่วยเหลือแบบนี เพราะท่าทางตอบ
50
สนองไปตามธรรมชาติ หรือเป็ นเพราะต้องการขอความ
ช่วยเหลือจากผูอ้ ยูเ่ บืองหลัง?

ทันใดนัน การคาดเดาต่างๆ นานาก็เกิดขึน

สีหน้าของฉินจินห้าวและเจียงกุย้ เฟยดูแย่ลงเรือยๆ

ทังฉินชางและมูซ่ งก็มองฉินจินห้าวด้วยสายตาทีเต็มไป
ด้วยความสงสัย

ฉินจินห้าวทีตกเป็ นเป้าสายตาของทุกคน ในใจร้อนรน


ดังไฟเผา สายตาทีมองเหอเฉิงราวกับดาบแหลมคม
อยากจะฆ่าไอ้สวะไร้ประโยชน์ทีทํางานพลาดไม่พอยัง
51
จะสร้างปั ญหานีนัก

“เหอเฉิง เจ้ากล้าทําเรืองกําเริบเยียงนี จะให้ขา้ ช่วยอย่าง


ไร? แม้ขา้ จะเสียดายคนมีความสามารถเช่นเจ้า แต่ก็ผิด
หวังกับการกระทําของเจ้าในวันนียิงนัก” ฉินจินห้าวกด
อารมณ์เกรียวกราดเอาไว้ในใจ เผยท่าทางปวดใจออก
มา

คําพูดทีเหมือนเป็ นการสังสอนเหอเฉิง ในความเป็ นจริง


ก็เป็ นการประกาศกับทุกคนว่า เขาไม่เกียวข้องกับเรืองนี

แต่การทีเขาแก้ตวั อย่าง ‘เร่งรีบ’ เช่นนี กลับยิงทําให้ทกุ


คนรูส้ กึ ว่าเขากําลังต้องการจะปกปิ ดความจริง ทําให้

52
สายตาของทุกคนยิงดูสงสัย

“รุย่ อ๋อง !” เพียงคนเดียวทีสามารถช่วยเขาได้ก็ทอดทิง


เขาไปแล้ว ทําให้ความหวังสุดท้ายของเขาถูกทําลายลง
คําพูดของบิดา เหมือนจะเป็ นการช่วยเขา แต่ความจริงก็
คิดจะทอดทิงเขาเช่นกัน พูดไปพูดมา ก็หวังแต่จะไม่ให้
ตระกูลเหอต้องเข้าไปเกียวข้องกับเรืองนี

และสายตาทีไร้ความรูส้ กึ ของรุย่ อ๋อง ก็บง่ บอกอย่าง


ชัดเจนว่าสลัดเขาทิงโดยไม่แยแส

ทันใดนัน ในใจของเหอเฉิงรูส้ กึ ถึงความเจ็บปวด ‘ข้าทํา


ทุกอย่างเพือท่าน แต่เหตุไฉนท่านจึงทํากับข้าเยียงนี’

53
และในขณะนันเอง มูช่ ิงเกอทีดูงิวฉากตรงหน้ามาสักพัก
ก็ยกยิมและพูดด้วยนําเสียงทีไม่คอ่ ยใส่ใจว่า : “เหอเฉิง
เจ้าจะขอความช่วยเหลือ ก็ไม่ตอ้ งถึงขันต้องขอร้องรุย่
อ๋องหรอก เจ้าไม่เห็นหัวข้าหรืออย่างไร?”

เสียงอันเยือกเย็นดังขึน ทุกคนจึงได้สติ

ตัวละครหลักอีกคนของเรือง เหมือนจะยังไม่ได้พดู อะไร


เลยมาตังแต่ตน้

ทันใดนัน ทุกสายตาก็ไปรวมอยูท่ ีร่างของคนชุดแดงทีถูก


ปกป้องอย่างแน่นหนาบนเวที

54
มูช่ ิงเกอยืนเอามือไพล่หลัง ยิมกว้างขึนกว่าเดิม หรีตา
จนทําให้ทกุ คนไม่เห็นอารมณ์ทีแท้จริงของนาง ท่าทาง
แบบนี ลึกลับและน่าดึงดูด ทําให้ทกุ คนเกิดความรูส้ กึ
หนึงขึนมา

เหมือนกับว่า คนทีอยูต่ รงหน้าพวกเขาไม่ใช่คณ


ุ ชายจอม
เสเพล แต่เป็ นยอดฝี มือผูม้ ีพลังลําลึกทีปิ ดบังฝี มือของ
ตนเองเอาไว้อย่างนัน

“มูช่ ิงเกอ เจ้าจะให้ขา้ ขอความช่วยเหลือจากเจ้างันรึ?


ฝันไปเถอะ!” เหอเฉิงกัดฟั น จ้องเขม็งไปทีมูช่ ิงเกอ ในนํา
เสียงเต็มไปด้วยความโกรธเกลียด

55
“ถือว่ามีศกั ดิศรี” มูช่ ิงเกอยักคิว นําเสียงยังคงเรียบนิง

ซือมัวทีนังอยูบ่ นแท่น มองชุดสีแดงสดนันจากข้างบน


แล้วยิมโดยไม่รูต้ วั ในส่วนลึกของสายตาเต็มไปด้วย
ความอ่อนโยน

ราวกับว่า การมองการกระทําทุกอย่างของนางเงียบๆ
อยูต่ รงนี เป็ นเรืองทีน่าเบิกบานใจทีสุดแล้ว

มูช่ ิงเกอค่อยๆ เดินไปหยุดตรงขอบเวที หันหน้าไปหาเห


อเฉิงและคุกเข่าลง เอียงศีรษะ แล้วยิมอย่างมีเลศนัย :
“ถ้าจะเลือกศักดิศรี ก็คงต้องทิงชีวิต”

56
ทันใดนันสีหน้าของเหอเฉิงพลันแปรเปลียน

ยังไม่ทนั ทีเขาจะพูดอะไร มูช่ ิงเกอก็แสยะยิมเผยฟั นขาว


และเตือนด้วยความหวังดีวา่ : “ไม่อย่างนัน เมือสักครู ่
เจ้ากําลังคิดจะโยนความผิดทังหมดให้กบั รุย่ อ๋องรึ? ปอง
ร้ายคุณชายอย่างข้า ยังไงเจ้าก็ยากจะหนีพน้ โทษ
ตายอยูแ่ ล้ว ตอนนี ยังเพิมความผิดฐานใส่ความเชือพระ
วงศ์เข้าไปอีก เจ้าอยากจะให้ตระกูลเหอของเจ้าทังสาม
ร้อยคนจูงมือกันลงนรกงันรึ?”

“เจ้า ! เหลวไหล ! ข้าไม่เคยใส่ความรุย่ อ๋อง!” เหอเฉิง


ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโห

57
แต่ พอเขาพูดจบ ท่านพ่อและคนอืนๆในตระกูลเหอต่าง
ก็นิงอึงอยูก่ บั ที สันไปทัวทังร่าง

ฉินจินห้าวทีนังมองเงาร่างในชุดสีแดงอยูไ่ กลๆ ในใจรูส้ กึ


เหมือนมีอะไรแปลกๆ

“ไม่เคยใส่ความ?” มูช่ ิงเกอค่อยๆ ลุกขึน สะบัดมือไป


ไพล่หลังอย่างเป็ นธรรมชาติพร้อมพูดเสียงสูงว่า : “นันก็
หมายความว่า ทีเจ้าคิดจะปองร้ายข้า เป็ นคําสังของรุย่
อ๋องสินะ!”

“มูช่ ิงเกอ เจ้าพูดเหลวไหลอะไร! ข้าเคยออกคําสังแบบนี

58
เมือไหร่กนั ” ไม่รอให้เหอเฉิงโต้ตอบ ฉินจินห้าวก็ลกุ ขึน
พูดเสียงดัง

ริมฝี ปากสีแดงเย้ายวนยกยิม มูช่ ิงเกอค่อยๆ หันหลังเข้า


ประจันหน้ากับรุย่ อ๋องทีกําลังโกรธจัด ยักไหล่อย่างไม่
สนใจพร้อมพูดว่า : “ข้าไม่ได้พดู นะ เขาพูดของเขาเอง”
พูดจบนางก็พลิกมือไปชีเหอเฉิงทีอึงตัวแข็งอยูท่ ีเดิม

เหอเฉิง ?!

คําพูดชักนําทีมูช่ ิงเกอจงใจพูดเมือสักครูไ่ ม่ดงั มากนัก


ฉินจินห้าวอยูไ่ กลมาก แน่นอนว่าได้ยินไม่ชดั ตอนนี เห็น
นางชีไปทีเหอเฉิงทีอึงตัวแข็งอยูก่ บั ที สายตาเขาก็พลัน

59
สาดประกายเข่นฆ่าขึนมา.........

60
ตอนที 44 ให้นางอยูต่ อ่

“ไอ้ตวั สวะบัดซบ! สร้างความวิบตั ิให้ตระกูลเหอแล้ว!”


บิดาของเหอเฉิงทีหมอบอยูบ่ นพืน สายตาเต็มไปด้วย
ความสินหวัง

ทําให้ตระกูลมูไ่ ม่พอใจ ไม่แน่วา่ อาจจะยังพอได้รบั


โอกาส

แต่หากทําให้เชือพระวงศ์ไม่พอใจ

61
เพือหลีกเลียงคําครหาและเพือไม่ให้ตนเองมีสว่ นเกียว
ข้องกับเรืองนี ฮ่องเต้ของพวกเขามีอะไรบ้างทีทําไม่ลง?

บิดาของเหอเฉิงเป็ นข้าราชการมาทังชีวิตรูจ้ กั นิสยั ของ


ฉินชางดี สําหรับเรืองนี ไม่วา่ จะเกียวกับรุย่ อ๋องหรือไม่
นัน มันก็ไม่ใช่เรืองสําคัญอีกต่อไป

สิงทีสําคัญคือตอนนีเชือพระวงศ์ไม่อาจเป็ นศัตรูกบั มูซ่ ง


ได้

เพือรักษาหน้าตาและความสัมพันธ์อนั ดี ตระกูลเหอข
องเขาทําได้เพียงเสียสละ และเขาจะโทษใครได้ หากจะ
โทษก็ตอ้ งโทษตนเองทีตอนแรกควรจะอดทนหน่อย ไม่

62
ควรให้กาํ เนิดเจ้าสวะบัดซบอย่างเหอเฉิงออกมาเลย จะ
ได้ไม่ทาํ ให้วงศ์ตระกูลเขาต้องวิบตั ิอย่างนี

เพราะคําชักนําเหลวไหลของมูช่ ิงเกอเหมือนกําลังทําให้
ประเด็นเปลียนไปกลายเป็ นว่าใครเป็ นคนสังการแทน

ตอนแรกนางถูกเหอเฉิงปองร้ายนันเป็ นความจริง ถ้าแค่


เรืองนีอย่างมากก็มีแค่เหอเฉิงเพียงคนเดียวทีซวย และ
นางเองก็เป็ นประเภททีไม่อาจยอมให้ใครมาหาเรืองได้
ต้องขุดรากถอนโคนมันสถานเดียวเท่านัน ในเมือเหอเฉิง
เองมีเมตตามอบโอกาสนีให้แก่นาง ทําไมนางถึงไม่ใช้
โอกาสในการสร้างเรืองขึนมาเสียเลยเล่า

63
นางเชือมันว่าการปองร้ายครังนีไม่เกียวข้องกับรุย่ อ๋อง

เพราะรุย่ อ๋องไม่ใช่คนโง่ถงึ เพียงนัน

แต่เรืองนีสําคัญด้วยหรือ ฉินจินห้าวจะแอบสังการหรือ
เปล่านันไม่สาํ คัญ แค่มีคนเริมสงสัยก็พอแล้ว

จัดการตระกูลเหอให้สนซาก
ิ และสาดโคลนใส่ฉินจิน
ห้าว ในขณะเดียวกันก็เด็ดปี กของเขาลงข้างหนึง แบบนี
มันยิงปื นนัดเดียวได้นกสามตัวจริงๆ แล้วนางจะไม่ยินดี
ทําได้อย่างไร?

เพราะฉะนัน นางจึงล่อหลอกให้เหอเฉิงพูดจาคุมเครือดู
64
มีความนัยและลากฉินจิวห้าวลงนําไปด้วย

ครังนี ตระกูลเหอคงรอดยาก เพราะฉินจินห้าวไม่เคย


เป็ นคนทีเสียสละศักดิศรีของตนเองเพือใคร

มูช่ ิงเกอยิมมุมปากอย่างเยือกเย็น ในสายตาเต็มไปด้วย


ความเย็นชา

นางใช้สายตาไร้ความรูส้ กึ มองใบหน้าทีเริมจะบิดเบียว
ของฉินจินห้าวเหมือนกําลังชมภาพวาดทีงดงามทีสุดใน
โลกอย่างไรอย่างนัน

“เสด็จพ่อ ! ลูกไม่เกียวข้องกับเรืองนี ขอให้เสด็จพ่อให้


65
ความเป็ นธรรมด้วย!” ฉินจินห้าวเก็บความแค้นในใจเอา
ไว้ คุกเข่าลงแสดงความบริสทุ ธิ

ตอนนีสีหน้าของฉินชางดูแย่มากแล้ว ตอนแรกจะได้งิว
สนุกๆ สักฉาก แต่ไม่คิดว่าไฟจะกลับมาเผาตนเองเสียได้

ลูกชายของเขาทีชือฉินจินห้าวคนนี เป็ นคนทีทําให้เขา


ภูมิใจมาตลอด แต่ครังนีกลับทําให้เขาผิดหวัง

ในสายตาของฉินชางมีความผิดหวังซ่อนอยู่ แม้คนรอบ
ข้างจะไม่สงั เกต แต่เจียงกุย้ เฟยและฮองเฮาทีจับตามอง
ท่าทีของเขาตลอดเวลานันเห็นทังหมด เจียงกุย้ เฟยรูส้ กึ
ตกใจ กําลังคิดว่าควรจะทําอย่างไร แต่ฮองเฮายิมร่า

66
เบาๆ แล้วละสายตาจากฉินชาง

“ฝ่ าบาท ห้าวเอ๋อร์แต่ไรมาก็เถรตรง แล้วจะทําเรืองแบบ


นีได้อย่างไร อีกอย่างพวกเราและตระกูลมูถ่ ือเป็ นทอง
แผ่นเดียวกัน หากห้าวเอ๋อร์คิดจะฆ่าคุณชายตระกูลมู่
จริงๆ ก็ตอ้ งทนเห็นน้องสาวแท้ๆ ของตนเองเป็ นหม้ายไม่
ใช่หรือเพคะ?” เจียงกุย้ เฟยบิดเอวทีอ่อนราวกับงู จนตัว
ของเธอแทบจะจมเข้าไปอยูใ่ นอ้อมกอดของฉินชางแล้ว
พูดด้วยนําเสียงอ้อนๆ

ตอนนีนางลืมฐานะของตนเองและสถานทีไปแล้ว และ
ลืมไปแล้วว่าบนแท่นทีสูงทีสุดยังมีบคุ คลทีแม้แต่ฉินชา
งก็ไม่กล้าทําให้ไม่พอใจนังอยู่ คิดแต่จะใช้วิธีทีตนเอง
ถนัดทีสุดในการทําให้ลกู ชายรอดผลจากข้อกล่าวหา
67
ฉากๆ นี ทําให้สีหน้าของฮองเฮายิงดูเหยียดหยาม ราว
กับว่าเจียงกุย้ เฟยทีงดงามทีสุดในวังหลังเป็ นเพียงตัว
ตลกในสายตาของพระนาง

แผ่นอกทีสัมผัสกับความอ่อนนุ่ม ทําให้ฉินชางใจสัน

แต่โชคดีทีเขายังมีสติสมั ปชัญญะ ค่อยๆ ผลักเจียงกุย้


เฟยทีตัวอ่อนราวไร้กระดูกออกไป และพูดกับฉินจิน
ห้าวอย่างเยือกเย็นว่า : “หากเจ้าบริสทุ ธิจริง เหตุใดเห
อเฉิงถึงไม่ขอความช่วยเหลือจากรัชทายาทหรือเรา
เล่า?” เขาจําเป็ นต้องพูดแบบนี เพราะด้านบนยังมีเซียน
ท่านนันนังมองอยู่

68
“เสด็จพ่อ!” ฉินจินห้าวมองเสด็จพ่อของตนด้วยความ
ตกใจ เขาควรจะอธิบายอย่างไรดี?

ในดวงตาของเจียงกุย้ เฟยต็มไปด้วยความตืนตระหนก
นางมองหาตระกูลตนเองท่ามกลางงานเลียง แต่ทว่า
เมือนางสบสายตาเข้ากับผูเ้ ป็ นบิดา บิดากลับส่ายหน้า
ให้กบั นาง

“ฮ่องเต้ทรงพระปรีชา!” อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็พดู ขึนด้วยรอย


ยิม พอสายตาของทุกคนจ้องไปทีนาง นางจึงพูดต่อว่า :
“ข้าก็ไม่เชือว่าเรืองนีจะเกียวข้องกับรุย่ อ๋อง แต่เหอเฉิง
พูดแบบนี หากไม่จดั การให้รูค้ วามจริง แล้วลือกันออก
ไป เกรงว่าจะทําให้องค์ชายและเชือพระวงศ์เสือมเสียชือ
69
เสียง รวมทังความเคารพนับถือจากผูค้ นได้”

“ถูกต้อง เรืองนีขอให้องค์ฮ่องเต้ให้ความเป็ นธรรมกับ


ตระกูลมูด่ ว้ ย คนตระกูลของข้าทัง 2 รุน่ ต่างเสียเลือด
เสียเนือเพือแคว้นฉิน วันนีทายาทเพียงคนเดียวของ
ตระกูลถูกเจ้าคนตําช้าลอบสังหารในงานเลียง หากข่าว
ถูกแพร่ออกไป เกรงว่าไม่ใช่แค่ขา้ ทีเป็ นท่านแม่ทพั เท่า
นันทีจะหมดความนับถือ” มูซ่ งพูดเสียงดัง ไม่ยอมความ

คําพูดของปู่ หลานตระกูลมู่ ไม่มีคาํ ใดทีชีตัวฉินจินห้าว


เลย แต่คาํ อธิบายกลับเต็มไปด้วยการข่มขู่

ใช่ ! ข่มขู่แล้วอย่างไร?

70
ตระกูลมูน่ นมี
ั ศกั ดิศรี ใครก็อย่าหวังจะมาเหยียบบนหัว
ตระกูลมูไ่ ด้

ทีฝื นทน เป็ นเพราะมูซ่ งไม่อาจทนเห็นประชาราษฏ์


แคว้นฉินต้องทุกข์ยากก็เท่านัน

ไม่อย่างนัน ทหารในปกครองของเขา คงจะถล่ม


พระราชวัง ตังแต่ตอนทีลูกชายทัง 2 คนและภรรยาของ
เขาตายโดยไม่ทราบสาเหตุนนแล้
ั ว

‘ตระกูลเหอ ครังนีคงจบสินแน่แล้ว!’

71
คนของตระกูลเหอต่างหน้าเสียและมองไปทีเหอเฉิงที
แทบจะละลายอยูบ่ นพืน นัยน์ตามีความโกรธเกลียดที
ไม่สามารถปิ ดบังได้

ฉินจินห้าวทีคุกเข่าอยูก่ บั พืนได้รบั สัญญาณลับจากท่าน


แม่ รีบพูดว่า : “เสด็จพ่อ ลูกบริสทุ ธ์ใจ หากตระกูลเหอมี
หลักฐานว่า ลูกคิดร้ายต่อตระกูลมู่ ลูกก็จะยอมรับผิดแต่
หากไม่มี ก็ขอให้ทา่ นพ่อลงโทษพวกเขาทีใส่ความลูก
ด้วย!”

หลักฐานหรือ?

พวกเขาจะมีหลักฐานได้อย่างไร?

72
แบบนีก็หมายความชัดแล้วว่าจะให้ฮ่องเต้เอาชีวิตของ
คนทังตระกูลเหอเพือสยบเรืองนีลง !

“ใช่ ตระกูลเหอ พวกเจ้ามีหลักฐานหรือไม่” ฉินชางหรีตา


พูดด้วยนําเสียงเย็น

บิดาของเหอเฉิงหลับตาลงอย่างหมดหวัง หมอบอยูบ่ น
พืนอย่างรูช้ ะตากรรมของตนเองและอ้อนวอนว่า : “ฝ่ า
บาท กระหม่อมต้องมาเป็ นเช่นนีเพราะลูกชายทรพี
กระหม่อมเองก็คงไม่อาจพูดอะไรได้ แต่ขอให้ฝ่าบาท
ทรงเห็นแก่ความบากบันในการรับใช้พระองค์ และทรง
เมตตาต่อเด็กน้อยในตระกูลเหอทีไม่รูเ้ รืองด้วย ทรงอย่า

73
ประหารชีวิตพวกเขาเลย”

‘ตระกูลเหออยากจะเก็บทายาทเอาไว้สกั คนอย่างนัน
หรือ’ มูช่ ิงเกอก้มหน้าลง ขนตาอันยาวงอนปิ ดบังรอยยิม
ทีเย็นชาและแสนเยือกเย็นเอาไว้

ไม่ตอ้ งให้นางลงมือทําอะไร ครังนีฉินจินห้าวและตระกูล


เหอก็กลายเป็ นศัตรูกนั แล้ว หากครังนีฮ่องเต้จะปล่อย
ลูกหลานตระกูลเหอไปจริงๆ ภายใต้การตามไล่ลา่
สังหารของรุย่ อ๋อง พวกเขาก็คงไม่สามารถมีชีวิตอยูต่ อ่
ไปได้หรอก

นางเลือดเย็นไร้นาใจงั
ํ นหรือ?

74
เหอะ นางก็เพียงยุยงไปไม่กีคํา ต้องการแค่คาํ อธิบาย
และคําตัดสินเท่านัน แต่การตัดสินใจของราชวงศ์ตา่ ง
หากทีเลือดเย็นอย่างแท้จริง

หากวันนีการปองร้ายของเหอเฉิงสําเร็จ หากนางตายอยู่
ตรงนี นางกล้ารับรองว่า ในขณะทีตระกูลมูก่ าํ ลังพบเจอ
กับความเจ็บปวดครังยิงใหญ่นนั จะเป็ นโอกาสอันงาม
ในการลงมือของบรรดาเชือพระวงศ์ทงหลาย

ตระกูลมู่ จะไม่มีอยูอ่ ีกต่อไป ท่านปู่ และท่านอาของนาง


ทังสองคนทีเป็ นญาติทีสนิททีสุดของนางก็คงยากจะ
หลบเคราะห์กรรมครังนีพ้น เกรงว่ากระทังตายไปแล้วแม้

75
แต่ทีจะฝังกระดูกก็ยงั ไม่มี

เรืองมาถึงขนาดนีแล้ว ก็ไม่ควรจะยืดเยืออีกต่อไป

ฉินชางทียังไม่ลืมเรืองสําคัญของคืนนี ในใจคิดแต่จะ
จัดการเรืองนีให้ไวทีสุด “เหอเฉิงวางแผนปองร้ายมูช่ ิงเก
อคุณชายตระกูลมู่ ตามกฏหมายแล้วต้องประหาร แล้ว
ยังกล้าใส่ความรุย่ อ๋อง จึงต้องโทษประหาร 9 ชัวโคตร
แต่ เราเห็นแก่ตระกูลเหอทีทํางานเพือแผ่นดินมานาน
หลายปี ลกู หลานตระกูลเหอทียังไม่บรรลุนิติภาวะ ให้
ละเว้นโทษตาย แต่ปลดลงเป็ นทาส เนรเทศไปอยูช่ าย
แดน”

76
“ฝ่ าบาททรงไว้ชีวิตด้วย------!”

ขณะทีถูกทหารลากตัวไป เหอเฉิงจึงร้องเสียงแหลม
เหมือนเพิงตืนจากฝันร้าย

แต่กลับไม่มีผใู้ ดสนใจเขาอีกต่อไป

หลังจากทีคนตระกูลเหอถูกพาตัวออกไป ไม่มีใครคิด
เลยว่างานเลียงต้อนรับมหาปราชญ์ในครังนี กลับกลาย
เป็ นตัวเร่งให้พวกเขาตายเร็วยิงขึน ท่ามกลางเสียงจอแจ
ของทุกคน ฉินชางมองไปยังฉินจินห้าวทีคุกเข่าอยูบ่ น
พืนแล้วพูดว่า “แม้รุย่ อ๋องจะถูกใส่ความ แต่โทษของ
ความไม่รอบคอบก็ไม่สามารถปล่อยไปได้ เราขอลงโทษ

77
ให้เจ้าไปสงบสติอารมณ์ในอารามหลวงเป็ นเวลา 3
เดือน เพือคัดลอกพระคัมภีรแ์ ทนไทเฮาและอธิษฐานขอ
พรให้กบั แคว้นฉิน”

แบบนีโอกาสทีจะเป็ นคนทีมหาปราชญ์เลือกก็คงจะ
หมดไปแล้วสินะ

ฉินจินห้าวอึง ความเกลียดทีมีตอ่ ตระกูลมูเ่ พิมมากขึน


หลายเท่า แต่ก็ทาํ ได้แค่ยอมรับกรรมและเก็บอารมณ์
โกรธภายในใจเอาไว้

“คืนนีมูช่ ิงเกอชิงเสียขวัญ เราจะมอบทอง 20,000 ชัง


ของมีคา่ อีกมากมายให้กบั เจ้า เพือเป็ นการปลอบใจ”

78
“ขอบพระทัยฝ่ าบาท” มูช่ ิงเกอรับด้วยรอยยิม พาท่านปู่
และท่านอาของตนเองกลับไปยังทีนังของตระกูลมู่

ในทีสุดก็จดั การเรืองทังหมดจนเสร็จสิน ฉินชางค่อยๆ


หันไปมองชายหนุ่มทีหน้าเย็นชาเหมือนพระจันทร์วนั
เดือนดับ : “มหาปราชญ์ ขายหน้าพระองค์แล้ว ถ้าอย่าง
นัน ในบรรดาหนุ่มๆ ในแคว้นฉินมีใครพอจะเข้าตา
พระองค์บา้ งหรือไม่?”

ตาสองชันของซือมัวค่อยๆ ลืมขึน มือทีซ่อนอยูใ่ นแขน


เสืออันกว้างใหญ่ชีไปทีไกลๆ แล้วพูดว่า : “เขาแล้วกัน”

79
80
ตอนที 45 ถุย้ ! ไอ้พวกคนหน้าซือใจคด

“เขาแล้วกัน”

ซือมัวกระดิกนิวมือ ทําให้มชู่ ิงเกอตกเป็ นเป้าสายตาของ


ทุกผูอ้ ีกครัง

สายตาทีมองมายังตัวนาง ทังตกใจ อิจฉา ไม่ยินยอม


และไม่อยากจะเชือ........

81
ดังทีว่า ร้อยคนพันความคิด

คนทีดีใจกับนางด้วยความจริงใจ คงแทบจะนับนิวได้
ท่านปู่ และท่านอาของนาง เจ้าอ้วนเซ่าทีดีใจยิงกว่าตน
ถูกเลือกเองเสียอีก

และยังมีอีกคน.........

หางตาของมูเ่ กอค่อยๆ กวาดมองใบหน้าของนาง

เรืองราวทีเกิดขึนในงานเลียงเมือสักครู ่ นางก็ทาํ ตัว


เหมือนคนนอกทีไม่ได้อยูใ่ นเหตุการณ์ นอกจากตอนแรก
ทีลงมือช่วย เรืองราวหลังจากนันก็ราวกับไม่เกียวข้อง
82
อะไรกับนาง

ตอนนี สิงทีมูช่ ิงเกอเห็นบนใบหน้าของนาง คือความรูส้ กึ


อิจฉาแวบหนึงและความผิดหวังทีไม่ชดั เจนนัก

“นีมัน......” ฉินชางเองก็องึ ถามซือมัวให้แน่ใจอีกครัง :


“มหาปราชญ์ ท่านหมายถึงมูช่ ิงเกอ คุณชายตระกูลมู่
หรือ”

นอกจากเสียวเกอเอ๋อร์แล้ว ยังจะมีใครทีเข้าตาเขาอีก

ซือมัวแอบหัวเราะเยาะในใจ แต่กลับตอบโดยการพยัก
หน้าเบาๆ อดทนแสดงการตัดสินใจของตนเองออกมา
83
อีกครัง

เป็ นมูช่ ิงเกอไอ้คนไร้พลังนันจริงๆ เสียด้วย!

ครังนีสายตาริษยาและไม่ชอบใจทีมองมูช่ ิงเกอนัน ไม่


อาจจะปิ ดบังได้อีกต่อไป แต่แสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้ง

“มหาปราชญ์ ใครๆ ก็รูว้ า่ คุณชายตระกูลมูผ่ นู้ ีเป็ นผูไ้ ร้


พลัง ไม่สามารถฝึ กฝนพลังได้ พระองค์อย่าทรงโดนมัน
หลอก!”

“ใช่ เขาไม่ได้เป็ นแค่คนไร้พลังเท่านัน แต่ยงั เอาแต่เทียว


เล่น ไม่มีวิชาความรู ้ มีแค่รูปลักษณ์ภายนอกอันงดงาม
84
แต่ความจริงเป็ นแค่จอมเสเพล ขอให้มหาปราชญ์ทรง
ไตร่ตรองดูให้รอบคอบด้วยเถิด”

“ขอให้มหาปราชญ์ทรงไตร่ตรองดูอีกครังเถิด จะได้ไม่ถกู
คนแบบนีหลอก”

“แม้วา่ ข้าจะไม่สามารถเป็ นคนทีพระองค์ทรงเลือกได้ แต่


ก็ไม่อาจทนเห็นพระองค์โดนหลอก! หากคนแบบนีไป
เกียวพันกับพระองค์ ก็คงจะใช้พระอํานาจในการอวด
เบ่งไปทัว ทําให้ชือเสียงพระองค์ตอ้ งมัวหมอง”

คุณชายทีมีฐานะสูงส่งของแต่ละตระกูลต่างช่วยกันพูด

85
ราวกับว่า มูช่ ิงเกอเป็ นหนอนทีทุกคนรังเกียจ ใครเข้า
ใกล้เป็ นต้องพังพินาศ ทุกคนต่างไม่สนใจสีหน้าทีดูแย่ลง
เรือยๆ ของมูซ่ งเลย

คนพวกนี ต่างหน้ามืดตามัวเพราะความอิจฉา

หากตอนนีผูท้ ีถูกเลือกเป็ นผูอ้ ืน พวกเขาอาจจะไม่ทาํ


แบบนี แต่จะเป็ นมูช่ ิงเกอไม่ได้

หากคนไร้พลังคนหนึงยังเข้าตามหาปราชญ์ นันก็หมาย
ความว่าพวกเขาเทียบไม่ได้กบั คนไร้พลังคนหนึงเลย

ชายหนุ่มผูม้ ากพรสวรรค์ของแคว้นฉิน ต่างพูดกันคนละ


86
คําสองคํา แทบจะเปรียบมูช่ ิงเกอเป็ นคนทีทําผิดมหันต์
ไม่อาจจะให้อภัยได้ ฉากตรงหน้านี เป็ นสิงทีฉินชางต้อง
การ เท่าทีเขาดู ผูท้ ีองค์มหาปราชญ์ผทู้ รงอํานาจทีสุดใน
หลินชวนควรจะต้องตา ควรเป็ นพวกโอรสของตนต่าง
หากจึงจะถูก และเจ้ามูช่ ิงเกอนันเป็ นตัวอะไรกัน ก็แค่ไอ้
คนทีแม้กระทังปราณวิญญาณยังไม่สามารถเข้าสูร่ า่ ง
กายได้ก็เท่านัน

เพราะฉะนัน เขาทีเป็ นฮ่องเต้แห่งแคว้นจึงเงียบ รอให้มู่


ชิงเกอโดนทุกคนโจมตีจนต้องถอยฉากออกไปเงียบๆ
และรอให้คาํ พูด ‘ไร้มารยาท’ ของบรรดาชายหนุ่มจาก
ตระกูลต่างๆ ทําให้คนผู้ นันเกรียวกราดขึนมา และสุด
ท้ายลูกชายของเขาก็จะเป็ นผูถ้ กู เลือกโดยทีไม่ตอ้ งลง
แรงอะไรเลยสักนิด

87
แต่ ลูกชายทีดูเหมาะสมทีสุดของเขา เพราะมีสว่ นเกียว
ข้องกับตระกูลเหอ เกรงว่าจะไม่มีโอกาสแล้ว ก็ตอ้ งดูวา่
รัชทายาทจะเป็ นอย่างไร

คิดถึงตรงนี ฉินชางก็สง่ สายตาให้กาํ ลังใจรัชทายาทฉิน


จินซิว

ฉากนี ทําให้ฉินจินห้าวทีมองอยูเ่ จ็บปวด ในใจเหมือน


โดนเพลิงกําลังเผาไหม้

‘สายตาให้กาํ ลังใจแบบนันของเสด็จพ่อ มันควรจะเป็ น


ของเขา!’

88
แต่ ตอนนีเขาทําได้เพียงเงียบ มองท่าทางได้ใจของผูท้ ี
ตนทังแค้นทังเกลียดมากทีสุด

‘ฉินจินซิว มูช่ ิงเกอ และยังมีเจ้าเหอเฉิงทีควรตายไปสัก


หมืนรอบนัน ! พวกเจ้าตังหน้าตังตารอข้าไว้ให้ดีเถอะ!’

ตาของฉินจินห้าวลุกเป็ นไฟ จนเล็บจิกลึกเข้าไปในเนือก็


ยังไม่รูส้ กึ ตัว

มูช่ ิงเกอทีถูกทุกคนวิพากษ์วิจารณ์จนสาดเสียเทเสียยิม
มุมปาก เหมือนสิงทีออกจากปากของทุกคนไม่เกียวข้อง
กับนางและไม่ได้พดู ถึงนางอย่างนัน ในมือของนางกําลัง

89
หมุนเหล้าในแก้ว สายตากระจ่างใส บวกกับกลินเหล้า
อ่อนๆ ให้ความรูส้ กึ น่าหลงใหลและน่าเอ็นดู

“แบบนีมันเกินไปแล้ว!” อยูๆ่ มูเ่ หลียนหรงก็กาํ หมัดชก


กับโต๊ะ รอบๆ มือทีกําหมัดเอาไว้มีแสงสีเหลืองส่อง
ประกาย โต๊ะทีดูหนาแข็งแรงมีเศษไม้หลุดออกมาอย่าง
ง่ายดาย

“เหลียนหรง” มูซ่ งพูดเสียงแข็ง ทําไมในใจเขาจะไม่โกรธ


แต่ ตอนเรืองของเหอเฉิงเมือสักครูท่ ีผ่านมา ทําให้มซู่ ง
เห็นแล้วว่า ถ้ายังคงใช้ไม้แข็ง อาจจะทําให้มหาปราชญ์
ไม่หลงเหลือความประทับใจดีๆ จนทําลายโอกาสของมู่
ชิงเกอ

90
เพราะฉะนัน พวกเขาต้องอดทน

ตังแต่ตน้ จนจบ มูซ่ งยังคงรูส้ กึ ว่ามหาปราชญ์เอ็นดูชิง


เกอของเขา บางที อาจจะเพราะเห็นชิงเกอโดนเฆียนเมือ
ครังก่อน ท่าทางไม่กลัวฟ้าไม่เกรงดิน ทําให้ชายผูย้ งิ
ใหญ่คนนีจดจําได้โดยไม่ได้ตงใจ

เพราะฉะนัน เขามันใจว่า ไม่วา่ คนพวกนีจะพูดอะไร ก็


จะไม่สง่ ผลกระทบต่อการตัดสินใจของท่านผูเ้ ฒ่าท่านนี
แน่นอน

“ท่านอา ไยท่านต้องใส่ใจเจ้าพวกคนใจแคบชอบคิดเล็ก

91
คิดน้อยแบบนีด้วยเล่า” มูช่ ิงเกอกวาดตามองผ่านมือ
ของมูเ่ หลียนหรงพร้อมพูดยิมๆ

“พวกเขาว่าเจ้าขนาดนี!” มูเ่ หลียนหรงโกรธจนกัดฟั น


เสียงดัง นางไม่เข้าใจเลยว่า ถูกคนด่าว่าขนาดนี ทําไมมู่
ชิงเกอยังคงนิงเฉย ไม่เหมือนมูช่ ิงเกอในอดีต

“สิงทีพวกเขาพูดก็เป็ นความจริง” มูช่ ิงเกอยักไหล่อย่าง


ไม่สนใจ

นางไม่ได้อยากให้ไอ้เฒ่าประหลาดผูน้ ีเลือกตนเลยสัก
นิด ใครชอบคนนันก็เอาไปเถอะ

92
“เจ้า......” มูเ่ หลียนหรงถูกคําพูดคํานีของมูช่ ิงเกอทําให้
สะอึกไป ในแววตาโกรธขึงฉายแววจนปั ญญามองไปทีมู่
ชิงเกอ สุดท้ายทุกคําพูดก็กลายเป็ นเพียงเสียงถอน
หายใจ

“นี! พวกเจ้าจะพอได้รยึ งั ! ลูกพีของข้าเป็ นคนทีพวกเจ้า


เอามาพูดแบบนีได้หรือ มหาปราชญ์พอใจในตัวของลูก
พีข้า นันก็หมายความว่า ลูกพีของข้าฉลาด มีพรสวรรค์
ฟ้าประทาน ร่างกายแข็งแรงสูงใหญ่ ไม่ใช่คนทีคน
ธรรมดาเดินดินแบบพวกเจ้าจะเข้าใจได้ ข้าว่า พวกเจ้า
คงจะอิจฉาและโกรธแค้นเสียมากกว่า ถึงได้ใส่รา้ ยลูกพี
ของข้า”

ทางนี มูช่ ิงเกอเพิงจะทําให้มเู่ หลียนหรงใจเย็นลงบ้าง


93
ทางนัน นําเสียงทีประกาศว่าไม่ชอบใจก็ดงั ขึน

มูช่ ิงเกอขมวดคิวมองไป เห็นตัวกลมๆ ของเจ้าอ้วนเซ่าที


ไม่สนใจการห้ามปรามของคนในครอบครัว ลุกขึนยืน
ด้วยใบหน้าทีเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

ในขณะนัน มูช่ ิงเกอกระตุกยิมหัวเราะออกมา

น้องชายอย่างเจ้าอ้วนเซ่านีใช้ได้เลยจริงๆ

นางแอบตําหนิในใจ : มูช่ ิงเกอนะมูช่ ิงเกอ คนนอกทีอยู่


ข้างเจ้าในวินาทีคบั ขันแบบนี ก็คงจะมีแค่เจ้าอ้วนนีเท่า
นันแหละ ในชีวิตคนเราได้มีเพือนดีๆ แบบนีสักคน แต่
94
เจ้ากลับไม่เห็นค่ามัน

“เหอะ ข้าก็นกึ ว่าใคร ทีแท้ก็เจ้าเสเพลไร้คา่ ชือดังอีกคน


ของแคว้นลัวตูของเรานีเอง เซ่าเยว่เจ๋อเจ้าคิดว่าเจ้าเป็ น
ใคร เป็ นผูไ้ ร้พลังเหมือนกัน ถนัดแค่เขียนบทความบน
หน้าท้องของผูห้ ญิงก็เท่านันแหละ” คนหนึงหัวเราะเยาะ
ขึนมา

อีกคนรีบพูด : “ฮ่าๆๆ พวกเสเพลทังสองของแคว้นลัวตู


นอกจากตัวกร่างไปทัวตามตลาดแล้ว เกรงว่าสถานทีที
คุน้ เคยมากทีสุดคงจะเป็ นสถานทีทีเต็มไปด้วยแสงสี
สกปรกโสมสินะ”

95
“ฉลาดมีพรสวรรค์ฟา้ ประทาน ร่างกายแข็งแรงสูงใหญ่
หากอย่างพวกเจ้ายังสามารถเรียกแบบนันได้ ถ้าอย่าง
นันพวกเราก็เป็ นยอดคนในบรรดาหมูผ่ มู้ ีพรสวรรค์แล้ว”

“พวกเจ้า ! ไอ้พวกคนขีอิจฉาไร้ประโยชน์ คิดว่าตัวเองมี


อะไรดี? ถุย้ !ไอ้พวกคนหน้าซือใจคด” ไอ้อว้ นเซ้าถ่ม
นําลายลงบนพืน ตาเล็กๆ นันเต็มไปด้วยการดูถกู

96
ตอนที 46 พาพวกมารุมอย่างนันหรือ ข้าก็จะสูจ้ นถึงที
สุด!

พูดจบ ใบหน้าของชายหนุ่มหลายตระกูลดูเย็นชาขึน
มาก พูดจาข่มขู่อย่างไม่สนใจสถานการณ์ : “ไอ้อว้ นเซ่า
97
ข้าว่าเจ้าไม่อยากมีชีวิตอยูต่ อ่ แล้วสินะ อยากจะประลอง
ตัดสินกับข้าต่อหน้ามหาปราชญ์อย่างนันรึ?”

ผูพ้ ดู เป็ นขันส้มชันสูงสุด หากคิดรับมือกับขันแดงชันต้น


ก็ถือเป็ นเรืองทีทําได้ง่ายดายมาก

และบนสนามประลอง จะเป็ นหรือตายก็ตอ้ งขึนอยูก่ บั


ชะตาฟ้าลิขิต

เห็นได้ชดั ว่า เขาต้องการชีวิตของเจ้าอ้วนเซ่า

“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้ารึ!”

98
“เจ้าอ้วน”

มูช่ ิงเกอเรียกสติเจ้าอ้วนเซ้าทีกําลังรนหาทีตาย
เอาไว้ได้ทนั เวลา

ทีแรกนางไม่อยากจะยุง่ กับเรืองนี แต่จะให้เจ้า


อ้วนเซ้ามาเกียวข้องกับเรืองนีเพราะนางไม่ได้

นางค่อยๆ ลุกขึน ส่งเหล้าทีอยูใ่ นมือเข้าปาก ชุด


สีแดงปลิวสะบัด ผมดําราวหมึกปลิวไหวไปมา ดูน่าดึง
ดูดอย่างหาทีเปรียบไม่ได้

เมือดืมหมดแก้ว มูช่ ิงเกอทีตกเป็ นเป้าสายตา


99
ของทุกคนอยูใ่ นตอนนี ก็ทิงแก้วไปด้านหลังอย่างไม่
แยแส พูดกับซือมัวทีนังอยูบ่ นทีสูงว่า : “จะไปได้รยึ งั ?”

พอพูดจบสีหน้าทุกคนก็พลันแปรเปลียน

กลัวว่าคําพูดไม่เข้าหู ความเสเพลและโง่เง่าของ
มูช่ ิงเกอจะทําให้มหาปราชญ์ทรงกริว จนทําให้แคว้นฉิน
ทังแคว้นต้องเดือดร้อน

“มูช่ ิงเกอ เจ้าเป็ นใคร? กล้าพูดแบบนีกับมหา


ปราชญ์ได้อย่างไร?”

“บังอาจ! มูช่ ิงเกอ ยังไม่รบี คุกเข่าลงสํานึกผิด


100
อีก!”

“ข้าว่าพวกเจ้าพอได้รยึ งั ?” นําเสียงของมูช่ ิงเก


อทังเยือกเย็นและอบอุน่ ในเวลาเดียวกัน กลบเสียงทุก
เสียงในทันใด

ทัวทังบริเวณเงียบลงอย่างกะทันหัน ทุกคนมอง
นางด้วยความตกใจ มองราวกับกําลังส่งนางไปสูต่ วาม
ตาย ขนาดมูซ่ งและมูเ่ หลียนหรงเองก็ตาโตค้างด้วย
ความตืนตระหนก สายตาของฉินอีเหยาทีนังอยูท่ า่ ม
กลางเชือรพะวงศ์ก็มีความกังวลพาดผ่าน

มีเพียงคนเดียว ทีนัยน์ตามีรอยยิมแฝงอยู่

101
นันก็คือซือมัวทีนังอยูด่ า้ นบนสุด

มูช่ ิงเกอใช้สายตาอันเยือกเย็นและเรียบเฉยมอง
ไปรอบๆ รอยยิมเยาะเย้ยตรงมุมปากกดลึกยิงขึน : “ก็
แค่พวกจอมปลอม มีสทิ ธิอะไรมาว่าข้า? ใช่ ข้าซ้อมคน
คนกลางตลาด แล้วอย่างไร หากเทียบกับผูท้ ีกล้าแอบ
ปองร้ายข้าแล้ว ก็ถือว่าทําอย่างสง่างามเปิ ดเผย ข้าไป
ค้างทีตรอกนางโลม แล้วอย่างไรเล่า ก็แค่ไปฟั งเพลง ชม
การแสดงเต้นรํา ข้าให้เกียรติพวกนางโลมมาก แม้วา่ จะ
เอาเปรียบไปบ้าง แต่ก็จ่ายเงิน ไม่เหมือนบางคน ภาย
นอกก็ทาํ ตัวเป็ นวิญ ชู น แต่ในทีลับกลับฉุดคร่าหญิง
สาวชาวบ้าน รังแกสาวใช้ในตําหนัก ยังไม่ทนั จะเข้าพิธี
สวมหมวก ก็มีสาวใช้อนุ่ เตียงอยูเ่ ต็มตําหนัก เหมือน

102
พวกม้าตัวเมียติดสัดก็ไม่ปาน ข้าไม่อาจฝึ กฝนพลังได้
แต่อย่างไรมหาปราชญ์ก็ทรงชืนชอบข้า แล้วมันเกียว
อะไรกับเจ้าพวกว่างงานชอบยุง่ เรืองชาวบ้านอย่างพวก
เจ้าด้วย จงเก็บซ่อนความรูส้ กึ อิจฉาริษยาของพวกเจ้าไว้
ให้ดีเถอะ อย่าให้ขา้ เห็นมันอีก ไม่เช่นนัน เจอหน้าทีไหน
ข้าจะเหยียบมันให้จมดินทีนัน อยากจะเอาพวกมารุม
ข้าก็จะสูใ้ ห้ถงึ ทีสุด!”

พูดจบ นางก็ไม่สนใจสีหน้าตระหนกของคนรอบ
ข้าง กวาดสายตาคมปลาบไปทางซือมัวทีนังอยูบ่ นสุด :
“ท่านน่ะ จะไปหรือไม่ไป!”

คําพูดโอหังสามหาว และใบหน้าหยิงยโส แทบ


จะทําให้ทกุ คนตกใจจนฉีราด
103
ซือมัวยิมมุมปาก ท่าทางดูโมโหของคนชุดแดง
ทําให้เขามีความสุข เงาร่างอันสูงใหญ่เพียงพลิวกายก็
พามูช่ ิงเกอหายไปจากครรลองสายตาของทุกคน

เหลือไว้เพียงผูค้ นทีงงเป็ นไก่ตาแตก

เกรงว่า จะไม่มีใครคาดคิดว่า จอมเสเพลไร้พลัง


ของตระกูลมู่ จะกล้าพูดอุกอาจแบบนีออกมา

และทีสําคัญก็คือ ไม่ได้ทาํ ให้มหาปราชญ์ทรง


กริว แต่กลับทําให้พระองค์พาเขาจากไปแล้วด้วย

104
ทุกคนมองไปยังเก้าอีมังกรทีทําจากหยกขาว
บรรยากาศเงียบสงบไร้เสียง

มังกรพยัคฆ์วายุทีดูน่าเกรงขามพวกนันก็หายไป
เช่นเดียวกัน ราวกับกลายเป็ นสายลมหอบหนึงทีพัดไป

ทันใดนัน ในมุมมืดหลังเก้าอีมังกรทีทําจากหยก
สีขาว ก็มีเงาร่างอันผอมบางเดินออกมา เขาสวมชุดดํา
สนิทตลอดทังร่าง กอดกระบีไว้แนบอก ใบหน้าดูเยือก
เย็นไร้ความรูส้ กึ

เขาค่อยๆ เดินออกมา กวดสายตามองทุกคน


จากหัวจรดเท้าด้วยสายตาอันเยือกเย็น และหยุดสายตา

105
ทีมูซ่ ง

“ท่านผูเ้ ฒ่ามู่ เจ้านายของข้าให้มาบอกท่านว่า


อีกสักครูค่ ณ
ุ ชายมูจ่ ะกลับตําหนักเอง ท่านไม่ตอ้ งเป็ น
กังวลไป” กูหยาพูดอย่างเย็นชา

ในใจ รูส้ กึ สลดยากจะระงับ

ใต้หล้านี มีคนทีทําให้เจ้านายของตนเองคิดก่อน
ทําอย่างรอบคอบขนาดนีด้วยหรือ

ถ้าคนพวกนันรับรูท้ กุ เรืองทีเกิดขึนทีนี คงจะเกิด


ความโกลาหลครังยิงใหญ่ ทําให้หลายคนต้องตกใจจน
106
ลูกตาหลุดออกเบ้าแน่

มูซ่ งทีถูกขานชือ ในใจเต็มไปด้วยความสับสน


วุน่ วาย แต่ก็ยงั คงยกมือขึนประสานหมัดแสดงความ
เคารพ เพือเป็ นการขอบคุณทีกูหยานําข่าวมาแจ้ง

การให้ความเคารพคล้อยตามผูท้ ีแข็งแกร่งกว่า
ตรงกันข้ามกับนิสยั ของคนตระกูลมู่

แต่ มูช่ ิงเกอได้รบั เกียรติจากมหาปราชญ์ ทําให้


เขารูส้ กึ โล่งใจ ราวกับว่า หากวันหนึงเขาไม่สามารถปก
ป้องเลือดเนือเชือไขเพียงคนเดียวของตระกูลมูไ่ ด้ ก็คง
จะไม่ถงึ ขันโดนใครมาโขกสับเอาได้ง่ายๆ

107
ท่ามกลางท้องฟ้าในยามคําคืน มูช่ ิงเกอรูส้ กึ แค่
ว่าตนเองเหมือนไร้ซงนํ
ึ าหนักไปชัวขณะและตกสูอ่ อ้ ม
กอดอันอบอุน่ ในทันที สายลมทีพัดอยูร่ อบๆ ถูกกันเอาไว้
ด้านนอก

เมือนางตังใจสังเกต กลับเห็นว่าตนเองกําลังนังอยูบ่ นรถ


ม้าอันกว้างใหญ่และคนทีโอบตัวนางก็คือนายตัว
ประหลาดทีอยูใ่ นชุดขาวอันงดงาม

ถูกคนทีมีอายุมากกว่าพันปี กอด มูช่ ิงเกอรูส้ กึ ขนลุกขึน


มาทันที

108
นางแกะมือของชายหนุ่มออกโดยไม่ลงั เล แล้วดินออก
มาจากอ้อมกอดอันอบอุน่ ไปเบียดอยูต่ รงมุมๆ หนึงของ
รถม้า

นางมองชายหนุ่มทีกําลังยิมแวบหนึงแล้วจึงเริม
พิจารณาสภาพภายในรถม้าหลังนี

รถม้านีกว้างมากใหญ่มากจริงๆ

ในใจนางกําลังคํานวณว่า นีคงจะประมาณ 100 ตาราง


เมตรเห็นจะได้ ใหญ่กว่าทีเห็นภายนอกมากนัก ในรถม้า
มีทกุ อย่างทีต้องการ ถือเป็ นห้องนอนของชายคนนีโดย
สมบูรณ์

109
แต่วา่ --------

มูช่ ิงเกอขมวดคิวอย่างไม่เข้าใจ

หลายครังทีเจอกับเจ้าเฒ่าประหลาดคนนี เขาก็มกั จะ
สวมชุดสีขาว ทีแรกนางคิดว่าสีโปรดของเขาคงจะเป็ นสี
ขาวบริสทุ ธิเสียอีก แต่ไม่คิดว่าทุกสิงทุกอย่างในรถม้า
หลังนีกลับเป็ นสีดาํ ล้วน

เบาะนุ่ม ทีนอน หมวก ล้วนเป็ นสีดาํ ทังหมด รวมทัง


กระถางธูป โต๊ะเก้าอีต่างก็เป็ นสีดาํ สีดาํ สนิทแบบนี ราว
กับจะกลืนสีแดงสดบนตัวของนางไปทังหมด

110
111
ตอนที 47 พลังระดับสวรรค์

ซือมัวทีนังเท้าเปล่าอยูบ่ นทีนอนกลับกลายเป็ นแสงสว่าง


เพียงหนึงเดียวในรถม้าหลังนี

แต่วา่ ความลําค่าของสิงของทีวางประดับอยูใ่ นรถม้า สํา


หรับมูช่ ิงเกอทีตาไม่ถงึ แล้วนางจึงไม่มีความตืนเต้นแม้
แต่นอ้ ย นอกเสียจากจะมีคนมาบอกนางตรงๆ ว่า แค่
หยิบสิงของทีดูไม่เข้าตาสักชินทีตกแต่งอยูใ่ นห้องนีออก
ไป ก็จะสามารถซือเมืองเมืองหนึงได้อย่างง่ายดาย นาง
จึงจะยอมประจบเขาว่า : “ท่านเศรษฐี เป็ นเพือนกับข้า

112
เถอะ!”

“เสียวเกอเอ๋อร์......”

ซือมัวเพิงอ้าปากพูดก็เห็นมูช่ ิงเกอยืนมือออกมาทําท่าให้
หยุดพูด เขาปิ ดปากด้วยท่าทางขําๆ อยากจะรูว้ า่ แม่หนู
คนนีจะทําอะไร

มูช่ ิงเกอเก็บซ่อนสายตาพิจารณาเอาไว้ แล้วพูดด้วยใบ


หน้าทีเย็นชาว่า : “เจ้าอยากจะเล่นอะไรอีก?”

“เล่น?” ซือมัวขมวดคิวเหมือนไม่เข้าใจ แต่สีหน้ากําลัง


บ่งบอกถึงความสุข
113
มูช่ ิงเกอยิมเยาะเย้ย : “แม้จะไม่สนิทกับเจ้า แต่ขา้ ว่าเจ้า
ไม่เหมือนคนทีว่างถึงขนาดไปปรากฏตัวอยูใ่ นงานเลียง
พระราชวังให้คนนับหมืนต้องกราบไหว้”

“เสียวเกอเอ๋อร์ ช่างเข้าใจข้าดีจริงๆ เลย” ซือมัวพูด


พร้อมรอยยิม ในเสียงหัวเราะนันหอมหวานดังสุราชันดี
ดังกึกก้องอยูใ่ นรถม้าเหมือนเพิมความน่าดึงดูดให้กบั
ทุกสิงทุกอย่างในนี

เข้าใจเจ้ากับผีน่ะสิ!

ในใจของมูช่ ิงเกอดูถกู ไอ้เจ้าคนชอบคิดเองเออเองผูน้ ีนัก

114
พยายามรักษาระยะห่างระหว่างพวกเขาสองคนไว้

การเตรียมพร้อมและตืนตัวตลอดเวลาภายใต้ชดุ สีแดง
อันสวยงามนัน ทําให้ซือมัวไม่คอ่ ยจะชอบใจนัก

เขาไม่ได้พดู อะไรและตอบคําถามของมูช่ ิงเกอตาม


ปกติ : “ข้าก็แค่อยากเจอเจ้าอีกครังก็เท่านัน” และอยาก
จะเห็นว่านางเป็ นอย่างไรในสายตาของคนอืนๆ

“จะอ้วก” มูช่ ิงเกอสะบัดแขนทีกําลังขนลุกไปมา พูด


อย่างเหลืออด : “ขอร้องเถอะ เจ้าเฒ่าประหลาดทีมีอายุ
มาแล้วไม่รูก้ ีปี พูดจาชวนอ้วกให้นอ้ ยลงกว่านีหน่อย”
เห็นเรืองน่าขนลุกเป็ นเรืองสนุกตลอดเลย

115
“เจ้าเฒ่าประหลาดอย่างนันหรือ?” ซือมัวทวน ‘ชือเล่น’
ทีมูช่ ิงเกอใช้เรียกเขา นัยน์ตามีรอยยิมและค่อยๆ ยอม
รับมัน

หากกูหยาและกูเย่เห็นฉากนีเข้า คนไว้ใจได้ทงสองคนที

กว่าจะเก็บมาได้ ก็คงจะสลายหายไปอีกครัง

“รถม้านีและมังกรพยัคฆ์วายุของเจ้ามันคืออะไรแน่”
อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็ถามขึนด้วยความสงสัย สองตาทีสว่างสด
ใสและเต็มไปด้วย ความอยากรูอ้ ยากเห็น

รถม้าสีดาํ สนิททีมีอยูจ่ ริงกลายเป็ นหมอกควันไปได้

116
อย่างไร แล้วมังกรพยัคฆ์วายุทีเห็นๆกันอยูก่ ลับสามารถ
กลืนกินพวกเดียวกันได้อย่างไร?

มูช่ ิงเกอยิงค้นพบก็ยงรู
ิ ส้ กึ ว่าเจ้าเฒ่าตัวประหลาดทีมี
ชีวิตอยูม่ านานนันไม่ธรรมดาจริงๆ

ซือมัวตอบด้วยรอยยิม : “เครืองมือมายา แม้จะสูงค่าหา


ยากก็จริงอยู่ แต่ก็ไม่ใช่เจ้าคนเดียวทีมี”

มูช่ ิงเกอตะลึงกับคําตอบทีได้รบั และรีบดึงสติกลับมา


แล้วมองไปรอบๆ รถม้าด้วยความตกใจอีกครังพร้อม
พึมพําว่า : “เจ้าหมายความว่ารถม้านีเป็ นแค่เครืองมือ
มายาอย่างนันหรือ?”

117
ซือมัวยอมรับทังรอยยิม

ตอนนี ในใจของคนบางคนเริมกังวลมากขึน

เมือเปรียบเทียบเครืองมือมายาอันสูงส่งและยิงใหญ่ของ
เขากับตุม้ หูปิดบังเพศชายหญิงบนหูซา้ ยของตนเอง
แล้ว.......

นางเอามือจับหูตนเองไว้โดยไม่รูต้ วั มูช่ ิงเกอพึมพําด้วย


ความสงสัย : “เครืองมือมายาเกิดขึนได้อย่างไรกันแน่?”

ซือมัวได้ยินเสียงพึมพําของนาง แต่ไม่ได้ตอบในสิงทีนาง
118
สงสัยเพียงแต่ยืนมือขวาออกมาทําให้เกิดลมหมุนสีฟา้
วงหนึงทีดึงดูดความสนใจจากมูช่ ิงเกอ

ขณะทีนางกําลังสนอกสนใจอยูน่ นั ลมหมุนสีฟา้ วงนันก็


กลายเป็ น มังกรพยัคฆ์วายุขนาดเล็ก ทีกําลังเล่นสนุก
ออดอ้อนอยูใ่ นมือของซือมัว ดูน่ารักเป็ นอย่างยิง ไม่
เหลือท่าทางเปี ยมด้วยอํานาจ และไอสังหารอยูเ่ ลยแม้
แต่นอ้ ย

“สําหรับมังกรพยัคฆ์วายุ...........” ซือมัวมองนาง แล้ว


พูดว่า : “สิงทีสัตว์เทพให้ความสําคัญคือการสืบสาย
เลือด เลือดยิงเป็ นบริสทุ ธิมากเท่าไหร่ พลังก็ยงมากขึ
ิ น
เท่านัน สําหรับมังกรพยัคฆ์วายุแล้ว ปี กเนือตรงหลังยิง
มาก เลือดก็จะยิงบริสทุ ธิ และเจ้าพวกนีก็จะเคารพมังกร
119
พยัคฆ์วายุหกปี กมากทีสุด มังกรพยัคฆ์วายุหกปี กจะมี
ความสามารถพิเศษอย่างหนึงก็คือ สามารถแบ่งร่างได้
ตัวหนึงของมันสามารถแบ่งออกได้เก้าร่างเป็ นร่างทีมี
ลักษณะแตกต่างกันไป

ในขณะทีซือมัวอธิบาย มูช่ ิงเกอก็ตกตะลึงจนตาทังสอง


ข้างเบิกกว้าง

ทีแรก นางรูส้ กึ ว่าในโลกทีแตกต่างใบนีถือว่าเหนือ


จินตนาการมากแล้ว ไม่คิดว่าในบรรดาสัตว์ยงั มีสงที

เหนือจินตนาการมากกว่าเสียอีก และสัตว์ทีแค่ฟังก็รูส้ กึ
ว่าเทพแบบนี กลับถูกผูช้ ายคนนีเอามาใช้เป็ นเก้าอีนัง
เนียนะ?

120
“มังกรพยัคฆ์วายุไม่ใช่ของหลินชวนจริงๆ เสียด้วย” หลัง
จากทีมูช่ ิงเกอหายตกใจ ก็พมึ พําขึนมา

ช่วงทีผ่านมา น้อยมากทีนางจะออกจากจวน นอกจาก


ฝึ กพลังและเรียบเรียงตํารายา ก็จะอ่านหนังสือในหอ
ตํารา เพือให้ตนเองเข้าใจโลกทีกําลังอยูโ่ ดยเร็วทีสุด

แต่นางไม่เคยเจอสัตว์แปลกๆ อย่างมังกรพยัคฆ์วายุใน
หนังสือเลย

สิงเดียวทีสามารถอธิบายได้ก็คือมังกรพยัคฆ์วายุไม่ได้มี
อยูใ่ นหลินชวน สิงทีท่านปู่ ของนางพูดในตอนแรก ตอนนี

121
ในใจนางเริมเชือครึงไม่เชือครึงแล้ว

“นอกหลินชวน ยังมีโลกแบบไหนอยูก่ นั นะ?” มูช่ ิงเก


อถามอย่างจริงจัง นัยน์ตากระจ่างใสมีประกายไฟแห่ง
ความมุง่ มันลุกโชนขึน

ราวกับว่า ในหัวของเธอกําลังมีโลกแปลกๆ หลายใบผุด


ขึนมา

น่าเสียดาย ทีซือมัวไม่คิดทีจะเล่ารายละเอียด

แต่กลับคว้าแพรต่วนกลางอากาศมาผืนหนึงแล้วโยนให้
มูช่ ิงเกอ
122
นางได้สติและรับเอาไว้ ลายผ้าทีอยูใ่ นมือนันดูละเอียด
ละออ เบาราวกับขนนก นางก้มหน้าลงมองแล้ว ขมวด
คิวถามว่า : “นีคืออะไร?”

ซือมัวพูดอย่างขีเล่นว่า : “ในเมือเลือกเจ้าท่ามกลางผูค้ น
ขนาดนันแล้ว แน่นอนว่าต้องให้ของดีอะไรกับเจ้าเสีย
หน่อย ลองเปิ ดดูส”ิ

‘ของดี’ สองพยางค์นีทําให้มชู่ ิงเกอตาเป็ นประกายแอบ


คิดในใจ : สิงทีเจ้าเฒ่าประหลาดทีมีชีวิตอยูม่ านาน
ขนาดนีมอบให้ ไม่ตอ้ งคิดก็รูว้ า่ ต้องไม่ธรรมดา

123
“พลังระดับสวรรค์อย่างนันหรือ?”

ซือมัวยิมยอมรับ : “พลังต่อสูใ้ นหลินชวน แบ่งออกเป็ น


ภาคสวรรค์และพิภพ โดยพลังจากสวรรค์จะสูงค่าและมี
จํานวนน้อยมาก คัมภีรพ์ นั สายฟ้าในมือของเจ้า นับได้
ว่าเป็ นพลังระดับสวรรค์ทีเหมาะสมกับการต่อสูข้ องเจ้า
รอให้เจ้าถึงขันม่วงเมือไหร่ ข้าจะหาสิงทีดีกว่านีให้กบั
เจ้า”

ระดับขันของพลังในหลิงชวน มูช่ ิงเกอรูม้ าตังนานแล้ว

และรูเ้ ป็ นอย่างดีวา่ พลังทีท่านปู่ และท่านอาของตนเอง


กําลังฝึ กอยูเ่ ป็ นขันสูงของระดับสวรรค์ ถือว่าเป็ นพลังที

124
สูงทีสุดในแคว้นฉินแล้ว ในบรรดาคัมภีรท์ ีวังหลวงเก็บ
รักษาไว้ ทีสูงกว่าระดับนีก็คงมีแค่หนึงถึงสองเล่มเท่านัน
แต่เจ้าเฒ่าประหลาดนี แค่พลิกฝ่ ามือก็มีคมั ภีรภ์ าค
สวรรค์ในตํานานออกมาแล้ว?

“นีมันระดับไหนของระดับสวรรค์” มูช่ ิงเกอรูส้ กึ ว่าปาก


ลินของตนเองเริมแห้ง

“อืม......” ซือมัวค่อยๆ ขมวดคิว พูดราวกับรังเกียจ : “ก็


แค่ขนสู
ั งของระดับสวรรค์ แม้จะไม่ถือว่าเก่งกาจอะไร
มาก แต่ก็อยูใ่ นขันสูงทีสุดเท่าทีจะสามารถปรากฏออก
มาในหลินชวนได้แล้ว เสียวเกอเอ๋อร์อย่าได้รงั เกียจไป
เลย”

125
รังเกียจ! รังเกียจกับผีส!ิ หากเจ้ารังเกียจก็ยกคัมภีรท์ งั
ระดับสวรรค์และพิภพอะไรนันให้ขา้ ทังหมดสิ ถึงจะเรียก
ว่าดีจริง

126
ตอนที 48 ความแตกต่างของพลัง เดินทางออกจากจวน

เคล็ดวิชาพันสายฟ้า ใช้โดยการรวบรวมพลังจิตในตัว
ทําให้ฟา้ ดินแปรปรวนก่อกําเนิดฟ้าร้องฟ้าแลบได้ตามที
ใจต้องการ........

หลังจากทีมูช่ ิงเกออ่านเนือหาทีซือมัวให้นางมา ตัว


หนังสือบนผืนผ้าพวกนันก็คอ่ ยๆ จาง หายไป ผ้าผืนนัน
เหมือนกลายเป็ นแค่ผา้ ธรรมดาทีไม่มีความพิเศษอีกต่อ
127
ไป

ใครจะคิดว่าบนนีเคยมีเคล็ดวิชาระดับสวรรค์ทีคนนับไม่
ถ้วนในหลินชวนอยากจะได้และครอบครองอยู่

อยูๆ่ ในหัวของมูช่ ิงเกอเหมือนมีอะไรเพิมเข้ามา

ราวกับว่าในส่วนลึกของจิตสํานึกของนางมีคนตัว เล็กๆ
สีมว่ ง เพิมเข้ามาและกําลังแสดงความมหัศจรรย์พนั ลึก
ของเคล็ดวิชาพันสายฟ้าให้นางดูซาแล้
ํ วซําเล่า

เคล็ดวิชานี หากเข้าสูข่ นสี


ั เหลืองก็สามารถฝึ กได้เลย

128
เพือเป็ นการสนับสนุนให้ประชาชนฝึ กยุทธ์ แคว้นฉินจึง
เปิ ดโรงฝึ กยุทธ์สว่ นกลางขึน ในนันมีเคล็ดวิชาสําหรับ
สายเหลืองขันต้นไปจนขันตําจํานวนมากให้ประชาชนใน
แคว้นได้หยิบยืม

แต่สาํ หรับตระกูลทีสูงส่ง ต่างก็มีหอตําราหรือกระทัง


เคล็ดวิชาทีตกทอดกันมาเป็ นของตนเอง

พวกนีส่วนมากจะใช้เคล็ดวิชาภาคพิภพขันสูงเป็ น
พืนฐานและภาคสวรรค์ระดับสูงจึงจะเป็ นระดับสูงทีสุด
เช่นเดียวกับตระกูลมูต่ าํ ราประจําตระกูลของตระกูลมูก่ ็
คือ เคล็ดวิชาภาคสวรรค์ระดับสูงทีมูซ่ งบังเอิญพบตอน
ยังเป็ นหนุ่มทีมีชือว่า ‘ปั กษาราชสีหค์ าํ ราม’ (กริฟฟอน)

129
แค่ฟังชือก็รูว้ า่ เป็ นเคล็ดวิชาทีเกียวกับพลังเสียง

แต่ในความเป็ นจริงหากฝึ กจนถึงจุดสูงสุด ก็จะสามารถ


ใช้พลังจิตในการสร้างปั กษาราชสีหอ์ อกมา คํารามเพียง
ครังเดียวก็ทาํ ให้ศตั รูชีพจรขาดสะบันต้องถอยร่นกลับไป
ด้วยความหวาดกลัว

‘ปั กษาราชสีหค์ าํ ราม’ ต้องใช้พลังจิตอย่างมากในการ


ระเบิดพลังเสียงออกมาถือเป็ นเคล็ดวิชาอันแข็งแกร่งแต่
ตอนนีในตระกูลจะมีเพียงมูซ่ งคนเดียวทีฝึ กฝนอยู่

เพราะว่ามูช่ ิงเกอไม่สามารถฝึ กพลังได้และท่านอามูเ่ หลี

130
ยนหรงเองก็เป็ นหญิง ไม่สามารถฝึ กเคล็ดวิชาทีแข็ง
แกร่งแบบนีได้เช่นกัน สิงทีนางฝึ กคือพลังภาคสวรรค์ขนั
กลางทีมูซ่ งทุม่ เงินมหาศาลซือมาในงานประมูลมีชือว่า
‘ก้าวซ่อนเงา’

นีถือเป็ นเคล็ดวิชาตัวเบา เหมาะทีจะให้ผหู้ ญิงฝึ ก


ประกอบกับกระบวนท่าสังหารขันสูงหากฝึ กจนถึงขันสูง
สุดก็สามารถทําให้คนอืนตกตะลึงได้เช่นกัน สามารถ
ปลิดชีพอีกฝ่ ายได้อย่างง่ายดาย

ในสวนสระเมฆา บนเก้าอีโยกมีชดุ สีแดงสดปลิวไหวไป


ตามลมอย่างงดงาม

131
มูช่ ิงเกอทีนอนหลับตาอยู่ ทําให้ผมปลิวไสวไปมาตาม
สายลม นางจดจําทุกท่วงท่าของคนตัวเล็กๆ ในจิตใต้
สํานึกเอาไว้ ส่งสัมผัสไปทัวทุกเส้นชีพจร

นางรูว้ า่ คนตัวเล็กนีจะไม่คงอยูต่ ลอดไป หลังจากทีนาง


เข้าใจวิธีการใช้พนั สายฟ้ามันก็จะหายไป

เพราะฉะนันนางกําลังเร่งทําเวลาหวังว่าจะค้นพบอะไร
มากขึน

สักพักใหญ่มชู่ ิงเกอก็คอ่ ยๆ ลืมตาทังสองข้างขึน

ดวงตาทังคูท่ ีสว่างสดใสเปล่งประกายแสงสีมว่ งขึนมา


132
ราวกับว่าในนันมีสายไฟฟ้าวาบอยูช่ วขณะ
ั หลังจากนัน
ก็กลับไปเป็ นปกติแทบจะทันที

“พันสายฟ้าคิดค้นขึนมาเพือข้าจริงๆ!” มูช่ ิงเกอถ


อนหายใจอย่างมีเลศนัยแอบคิดด้วยความตืนเต้น

นางมีพลังสายฟ้าอยูแ่ ล้วสําหรับการตอบสนองต่อพลัง
สายฟ้าแบบนีน่าจะเก่งกล้ากว่าทุกคน ซึงถือว่าเป็ นตัว
ช่วยทีดีในการรับรูถ้ งึ พลังพันสายฟ้า ทีสําคัญหากใน
ภายภาคหน้านางมีความจําเป็ นต้องใช้พลังสายฟ้าก็จะ
ใช้พนั สายไฟมาเป็ นตัวช่วยในการปิ ดบังพลังทีแท้จริง

สําหรับนางแล้ว ช่างดีจนไม่อาจดีไปกว่านีได้แล้วจริงๆ

133
เป็ นครังแรกทีภายในใจของนางรูส้ กึ ดีกบั ซือมัวทีให้ของ
ขวัญชินพิเศษนีกับนาง

“คุณตัวประหลาด ครังนีถือว่าข้าติดหนีนําใจเจ้าแล้ว” มู่


ชิงเกอพูดเบาๆ

“คุณชาย คุณชาย!”

นอกเรือนฮวาเยวียวิงเข้ามาราวกับผีเสือสีชมพู ใบหน้า
อันขาวสว่างเป็ นสีชมพูออ่ นๆ เพราะความเหน็ดเหนือย
จากการวิงยิงทําให้นางดูน่าดึงดูด

134
หากมูช่ ิงเกอเป็ นผูช้ ายจริงๆ แล้วล่ะก็ ไม่แน่วา่ อาจจะ
หลงเสน่หข์ องปี ศาจน้อยตนนีเข้าแล้วก็ได้

“รีบร้อนขนาดนีมีอะไร?” มูช่ ิงเกอยืนมือขึนเชยคางนาง


ขึน จนฮวาเยวียต้องหลบด้วยกริยาแง่งอน

“คุณชายท่านอย่าเล่นอีกเลย นายท่านผูเ้ ฒ่ายังรอ


ท่านอยูน่ ะเจ้าคะ”

ท่านปู่ เรียกพบงันหรือ?

มูช่ ิงเกอมองด้วยหางตา ท่าทางไม่เข้าใจ

135
ฮวาเยวียเห็นใบหน้างามอันงดงามของเจ้านายเต็มไป
ด้วยความมึนงง จึงดึงตัวเขาขึนมาจากเก้าอีโยกแล้วพูด
ว่า : “นายท่านมูซ่ งบอกว่าจะพาท่านไปค่ายนอกเมือง
เพือคัดเลือกทหารตอนนีรอท่านอยูน่ อกประตูจวนแล้ว
เจ้าค่ะ”

คัดเลือกทหาร ? ทําไมท่านปู่ ไม่บอกก่อน ?

มูช่ ิงเกอทีอยูใ่ นความสงสัยถูกฮวาเยวียลากตัวออกจาก


ประตูเรือน และมุง่ หน้าออกนอกจวน

เพิงถึงหน้าประตูจวนนางไม่เพียงแต่เห็นมูซ่ งทีใส่ชดุ
ทหารเต็มยศ แต่ยงั เห็นโย่วเหอทีแต่งตัวดูดีกว่าปกติ

136
และ....... สายตาของมูช่ ิงเกอกวาดผ่านไปยังมัวหยางที
แต่งตัวดูดีกว่าปกติเช่นกัน

เจ้าเด็กนีทําไมถูกท่านปู่ เอาตัวออกมาจากโรงเรียนจือ
หยางด้วยล่ะ?

“เจ้าเด็กบ้า ยังไม่ขนม้
ึ าอีก” มูซ่ งทีอยูบ่ นหลังม้าจ้องหน้า
หลานชายแล้วพูด

สักพักก็มีองครักษ์คนหนึงของตระกูลมูจ่ งู ม้าตัวหนึงเดิน
มาให้มชู่ ิงเกอเหยียบโกลนขึนหลังม้าไป

พอพลิกตัวขึนหลังม้า ทังขบวนก็เริมออกเดินทาง
137
คิดไม่ถงึ ว่าโย่วเหอและฮวาเยวียสาวใช้ทงสอง
ั รวมทัง
มัวหยางต่างก็เป็ นหนึงในขบวนด้วย คอยตามประกบอยู่
ซ้ายขวาของนางอย่างใกล้ชิด

รอจนกระทังทังขบวนออกเดินทางไปสักพัก เงาสีขาว
ของคนผูน้ งึ ก็ปรากฏขึนตรงประตูจวนตระกูลมู่ มองเงา
หลังของขบวนทีกําลังจากไป

ลวีจือรีบพุง่ ตัวเข้ามาพูดกับป๋ ายซีเยวียว่า : “คุณหนู ได้


ข่าวว่าครังนีคุณชาย โดดเด่นมากในพระราชวังและยัง
ได้รบั ความเอ็นดูจากผูย้ งใหญ่
ิ ทา่ นหนึง วันนีนายท่านก็
พาทุกคนในเรือนสวนสระเมฆาทังหมดออกไปด้วย หรือ

138
ว่าท่านคิดจะทําอะไร?”

พวกนางอยูใ่ นจวนทังวัน ข่าวสารทีได้รบั นันมีจาํ กัดจึง


ไม่รูว้ า่ วันนันในพระราชวังเกิดอะไรขึนกันแน่

คําพูดของลวีจือทําให้ความโกรธในดวงตาของป๋ ายซีเย
วียเข้มข้นขึน

จริงๆ แล้วนางเองก็มีสทิ ธิเข้าร่วมงานเลียงของ


พระราชวังแต่เสียดายทีบิดาสินชีพไปในสนามรบ ตอนนี
นางก็เป็ นเพียงแค่เด็กกําพร้าทีอาศัยอยูใ่ นจวนตระกูลมู่
จะมีใครจดจํานางได้?

139
ทุกอย่างคงต้องพึงตนเองแล้ว!

“เราไปตําหนักรุย่ อ๋องกันเถอะ” ป๋ ายซีเยวียกัดปากพูด

พูดจบก็เอาผ้ามาปิ ดหน้าแล้วพาลวีจือออกจากตระกูลมู่
ไป

แต่วา่ นางกลับไม่รูว้ า่ การไปครังนีของนางจะต้องเปล่า


ประโยชน์เพราะรุย่ อ๋องทีนางมีใจให้นนั ยามนีถูกลงโทษ
อยูท่ ีอารามหลวง

140
ตอนที 49 แรกเข้าค่ายตระกูลมู่

มูช่ ิงเกอตามท่านปู่ ของตนเองออกจากเมือง

141
บางทีอาจจะเพราะว่าช่วงนีนางไม่ได้ก่อความเดือดร้อน
ตามตลาด นางจึงสัมผัสได้วา่ ความกลัวและเกลียดชังที
ประชาชนมีให้กบั นางเหมือนไม่ได้มีมากดังแต่ก่อนแล้ว

มูซ่ งพาทังขบวนออกจากเมืองไปยังค่ายพักแรมของ
ทหารโดยไร้ซงอุ
ึ ปสรรคใดๆ

กองทัพทีขึนตรงต่อมูซ่ ง ทหารของตระกูลมู่ ส่วนมากไม่


ได้อยูใ่ นลัวตู แต่เฝ้าอยูต่ ามชายแดน ผูท้ ีรับผิดชอบเรือง
เล็กๆ น้อยๆ ภายในกองทัพ ก็คือมือซ้ายและมือขวาของ
มูซ่ ง

142
ทหารตระกูลมูท่ ีประจําอยูใ่ นลัวตู มีอยูเ่ พียงไม่ถงึ หนึง
หมืนคน

และกองทัพนี หากไม่ได้รบั คําสังจากฮ่องเต้ก็หา้ มออก


จากค่ายโดยเด็ดขาด ไม่อย่างนันจะต้องโทษฐานสมคบ
กันก่อกบฏ

แม้เป็ นทหารตามชายแดนของตระกุลมูก่ ็เช่นกัน หากไม่


ได้รบั พระบัญชาเรียกตัวจากองค์ฮ่องเต้ ก็ไม่อาจทิงชาย
แดนไปได้ง่ายๆ มูซ่ งทีอยูใ่ นลัวตูจงึ เป็ นกุญแจสําคัญที
ฮ่องเต้จะใช้กวาดล้างทหารของกองทัพตระกูลมู่

องครักษ์คนสนิทของตระกูลมู่ ก็คดั เลือกมาจากทหาร

143
กองทัพตระกูลมูท่ งสิ
ั น

กองทหารตระกูลมู่ รับใช้มซู่ งมาทังชีวิต ความซือสัตย์


นันมาจากใจจริงอย่างแน่นอน

ค่ายพักแรมของตระกูลมูอ่ ยูใ่ นทีราบระหว่างภูเขาซึงเป็ น


ทีลับตาคน คนภายนอกยากทีจะเข้าไปในบริเวณนันได้
ภายในอาณาเขตร้อยเมตรถือเป็ นพืนทีของกองทหาร ไม่
มีใครสามารถเข้าไปได้

จากจุดนี เห็นได้ชดั ถึงความสามารถของมูซ่ ง

กองทหารตระกูลมูท่ ีจงรักภักดีตอ่ มูซ่ ง สําหรับฮ่องเต้ฉิน


144
ชางแล้วเหมือนดังหญิงสาวทีงดงามและเย็นชา ทําให้
พระองค์ทงหวาดกลั
ั วและอยากจะครอบครอง

พระองค์อยากจะล้วงความลับจากทหารตระกูลมู่ แต่
เสียดายทีไม่เคยสําเร็จเลยแม้แต่ครังเดียว

เห็นได้ชดั ว่า การนําทัพของมูซ่ งนันยอดเยียมมาก

บางที อาจจะเป็ นเพราะกองทัพตระกูลมูร่ กั ใคร่


ปรองดองและซือสัตย์เกินไปจึงยิงทําให้ฮ่องเต้หวาดกลัว
มูซ่ ง

หากฮ่องเต้อยากจะกล่าวโทษใครสักคน ผูใ้ ดจะกล้าว่า


145
อันใดได้ ฮ่องเต้อยากจะสังหารผูใ้ ด ไม่จาํ เป็ นต้องมีเหตุ
มีผล หากเจ้าได้กลายเป็ นภัยมหันต์ในใจของกษัตริย ์
แล้วไซร้ แม้วา่ เจ้าจะไม่มีใจคิดกบฏ ก็มีแต่ตอ้ งตาย
สถานเดียวเท่านัน ทุกคําพูดและทุกการกระทํา ล้วน
กลายเป็ นความผิดได้ทงนั
ั น

มูช่ ิงเกอค่อยๆ เดินเข้าไปในอาณาเขตค่ายพักทหารตาม


มูซ่ ง

ระหว่างทางเต็มไปด้วยเวรยาม ทีมีการจัดวางไว้อย่าง
แยบคายโดยไร้ซงช่
ึ องโหว่ใดๆ

แม้วา่ มูซ่ งจะนําทัพมาด้วยตนเอง แต่ก็ตอ้ งตรวจสอบให้

146
ละเอียด ความเคร่งครัดในการทหารแบบนี ทําให้จิต
วิญญาณของมูช่ ิงเกอทีมาจากกองทหารในยุคปั จจุบนั
รูส้ กึ ชืนชม

ในทีสุดมูช่ ิงเกอก็มองเห็นค่ายทหารทีซ่อนอยูร่ ะหว่าง


ภูเขา

ภายในค่ายเต็มไปด้วยกระโจม เสียงของเหล่าทหารที
กําลังฝึ กกันอยูด่ งั ราวกับฟ้าร้อง ทําให้สรรพสัตว์ในป่ า
ต่างตืนตระหนก

“เกอเอ๋อร์ ทีนีคือค่ายทหารของตระกูลมู่ นีคงเป็ นครัง


แรกทีเจ้ามาทีนี” มูซ่ งนังหลังตรงอยูบ่ นหลังม้า นัยน์ตา

147
เปี ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ

สิงทีมูช่ ิงเกอเห็นคือทหารทีเข้าแถวกันอย่างเป็ นระเบียบ


เรียบร้อย การเคลือนไหวทุกท่วงท่าทีพร้อมเพียงกัน ทุก
คนต่างยืดอกหลังตรง

แม้จะเป็ นแค่การฝึ กแปรรูปขบวนทัพ แต่ทกุ คนต่างก็


ตังใจอย่างจริงจังและทะมัดทะแมงยิง

ทหารแบบนี หากไปอยูใ่ นสนามรบ คงจะทําให้ศตั รูเกรง


กลัวได้จริงๆ แต่มนั ก็ยงั ไม่เพียงพอ

มูช่ ิงเกอเม้มปากเบาๆ
148
ชาติทีแล้วนางเป็ นผูน้ าํ ของค่ายบังคับบัญชาพิเศษ ได้
รับการฝึ กฝนมา ทหารธรรมดาก็ไม่อาจเทียบได้ และใน
โลกนัน ในยุคสมัยนัน การทําสงครามอย่างเป็ นจริงเป็ น
จังนันมีนอ้ ยมาก สิงทีมีมากคือการแทรกซึมเข้าไปในถิน
ศัตรู

นางชํานาญการต่อสูว้ ิธีพิเศษ นันก็คือ การฆ่าคน ปลิด


ชีพอีกฝ่ ายโดยทีใบหน้ายังคงยิมอยู่

เพราะฉะนัน บรรดาทหารตระกูลมูต่ รงหน้า แม้วา่ จะไม่


ธรรมดา แต่ก็ไม่อาจทําให้นางตืนกลัวได้

149
หลังจากทีรูว้ า่ มูซ่ งจัดองครักษ์ให้ตนเองใหม่ในใจของมู่
ชิงเกอก็มีความคิดหนึงเกิดขึนมา บางที นางอาจจะ
สามารถก่อตังค่ายทหารฝี มือดีของตัวเองขึนมาในโลกนี
เป็ นทหารทีเก่งกาจไม่มีอะไรทีทําไม่สาํ เร็จและไม่เคย
พ่ายแพ้ในสงคราม

มูช่ ิงเกอเก็บความคิดในใจของตนเองไว้ก่อน แล้วลงจาก


หลังม้าตามมูซ่ งไปทางสนามฝึ กทหาร

ระหว่างทางผูบ้ งั คับบัญชาการทหารหลายคนเริมเข้ามา
ต้อนรับเมือได้รบั ข่าว

คนพวกนีมูช่ ิงเกอรูจ้ กั แต่ไม่รูว้ า่ ชืออะไรจําได้เพียงเลือน

150
รางว่าในวันทีนางโดนเฆียน พวกเขาก็เฝ้าอยูข่ า้ งๆ มูซ่ ง

“ท่านแม่ทพั คุณชาย!”

ในขณะที ทุกคนประสานมือขึนคาราวะ เสือเกราะทีสวม


อยูบ่ นกายก็กระทบกันจนเกิดเสียงดัง

มูช่ ิงเกอค่อยๆ พยักหน้าแล้วถอยหลังไปหนึงก้าว


สถานการณ์แบบนีปล่อยให้ทา่ นปู่ จดั การจะดีทีสุด

มูซ่ งเองก็พยักหน้าแล้วพูดกับพวกเขาว่า “บอกเหล่า


ทหารแล้วหรือยัง”

151
รองแม่ทพั หลายคนมองหน้ากันและพูดเป็ นเสียงเดียว
กันว่า : “เรียนท่านแม่ทพั เรืองทีคุณชายจะมาคัดเลือก
องครักษ์ขา้ น้อยได้บอกทหารทุกนายแล้ว ขณะนีทหาร
กองตระกูลมูม่ ีทงหมดหนึ
ั งหมืนนายถ้วน ตอนนีรอท่าน
แม่ทพั และคุณชายไปตรวจสอบอยูท่ ีสนามฝึ กขอรับ”

มูซ่ งยิมและพูดด้วยความพอใจเป็ นอย่างมากว่า : “พอ


เถอะ ครังนีทีมาเพราะเกอเอ๋อร์เจ้าเด็กบ้านีจะคัดเลือก
องครักษ์ ไม่ได้มีเรืองใหญ่โตอะไร ไม่ตอ้ งเป็ นทางการ
อะไรมาก”

พูดจบ ก็บอกกับรองแม่ทพั หลายคนว่า : “พวกเจ้าไป


เตรียมการก่อน ข้ากับเกอเอ๋อร์จะตามไปทีหลัง”

152
รองแม่ทพั หลายคนรับคําสังและเดินออกไป

ตอนนี รอบข้างของมูซ่ ง เหลือคนอยูไ่ ม่กีคนซึงต่างก็เป็ น


ผูต้ ิดตามทีเดินทางมาพร้อมกัน

มูซ่ งพยักหน้าให้กบั มูช่ ิงเกอทีเดินอยูข่ า้ งๆ เขา

ผูต้ ิดตามทีรูห้ น้าทีรูว้ า่ เจ้านายทังสองมีเรืองจะพูดคุยกัน


ก็เดินช้าลง พร้อมทังสังเกตความเคลือนไหวรอบๆ เพือ
ไม่ให้มีคนแอบฟั ง

แม้วา่ ทหารของกองทัพตระกูลมูจ่ ะไม่ทาํ แบบนันก็ตาม


153
แต่ปฏิกิรยิ าพวกนีได้รบั มาจากการฝึ กฝน เป็ นการตอบ
สนองอัตโนมัติของพวกเขาทีถูกหยังรากลึกมา

มูช่ ิงเกอแอบกวาดสายตามองแล้วจึงรูว้ า่ ไม่ใช่แค่


องครักษ์ของมูซ่ งเท่านัน แต่สาวใช้ทงสองของนางและ

เด็กรับใช้อย่างมัวหยางเองก็เช่นกัน

สายตาของพวกเขามีสงหนึ
ิ งทีเหมือนกันมาก นันก็คือ
ความซือสัตย์อย่างหาทีสุดไม่ได้

“เกอเอ๋อร์ ครังนีองครักษ์ของเจ้า ปู่ ให้เจ้าเลือกเอง” อยูๆ่


มูซ่ งก็พดู ขึนมา

154
ให้นางเลือกเอง ? ตรงกับความคิดของนางพอดี

155
ตอนที 50 คุณชายคัดเลือกองครักษ์

มูช่ ิงเกอไม่รอช้าและตอบอย่างยินดี

ความนิงของนางทําให้มซู่ งรูส้ กึ ชืนชมจนพยักหน้าโดยไม่


รูต้ วั พร้อมพูดว่า : “เจ้าโตขึนแล้วจริงๆ แม้เจ้าจะไม่
สามารถฝึ กพลังได้ แต่หากมีองครักษ์ทีซือสัตย์ตอ่ เจ้า
ใครก็ยากทีจะปองร้ายเจ้าได้ หลังจากทีเจ้าคัดเลือก
156
องครักษ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ระหว่างทีฝึ กก็ให้สาวใช้ทงั
สองอย่างโย่วเหอ ฮวาเยวีย และเจ้าเด็กมัวหยางมาด้วย
พวกเขาต่างก็เป็ นคนรับใช้ใกล้ชิดเจ้า มีความสามารถ
หลากหลายไว้ถือเป็ นเรืองทีดี”

เหตุผลทีแท้จริงทีมูซ่ งพาสามคนนีมาเพราะมีจดุ ประสงค์


แบบนีนีเอง

มูช่ ิงเกอเข้าใจแล้ว

สําหรับการตัดสินใจของมูซ่ งนางไม่ได้คดั ค้านใดๆ ใน


ทางกลับกัน นางกลับเห็นด้วย

157
“หลังจากทีเจ้าเลือกองครักษ์เสร็จเรียบร้อยแล้วข้าจะส่ง
ตัวพวกเขาไปฝึ กกับท่านลุงฉงถึงตอนนัน.......”

“ท่านปู่ องครักษ์ทีเลือกวันนี ข้าขอเป็ นคนฝึ กเอง”

“ห๊ะ อะไรนะ!” มูซ่ งได้สติ แล้วตะโกนถามด้วยความ


ตกใจ

การตอบกลับของเขาทําให้องครักษ์ทียืนอยูร่ อบๆ ต่างก็


หันมามอง

“อะแฮ่มๆ” มูซ่ งแสร้งไอเพือกลบเกลือน พอทุกคนหัน


กลับไปแล้วเขาก็พดู กับมูช่ ิงเกออย่างจริงจังว่า : “เก
158
อเอ๋อร์เจ้าพูดเล่นหรือเปล่า เจ้าจะฝึ กได้หรือ ฝึ กทหารไม่
ใช่เรืองล้อเล่นนะ”

“ท่านปู่ ข้าจริงจัง” มูช่ ิงเกอมองมูซ่ งด้วยนัยน์ตาอันสดใส


สงบนิง

มูซ่ งขมวดคิวเหมือนกําลังอ่านความคิดของมูช่ ิงเกอ แต่


กลับพบว่าไม่รูต้ งแต่
ั เมือไหร่ทีเขาอ่านใจหลานชายของ
ตนเองไม่ออกเสียแล้ว

“ท่านปู่ ไม่เชือใจข้าหรือ?” มูช่ ิงเกอย้อนถาม

มูซ่ งเริมกังวลใจ
159
เขาเชือในตัวของหลานชาย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะ
วางใจว่ามูช่ ิงเกอจะฝึ กทหารให้เก่งกาจได้

ทีลัวรือ ตังแต่มชู่ ิงเกอทําให้ทหาร 500 นายต้องตายก็


กลายเป็ นจุดดํามืดในใจของเหล่าทหารเสียแล้ว หากไม่
ใช่เพราะหลังจากนันนางยอมรับความผิดอย่างกล้า
หาญได้รบั การลงโทษด้วยการเฆียนโดยไม่ปฏิเสธ ทําให้
ทหารพวกนีเลือมใสแล้วล่ะก็ ในวันนีจะมีคนยอมเป็ น
องครักษ์ของนางได้อย่างไร

การยอมเป็ นองครักษ์ให้กบั มูช่ ิงเกอกับยอมรับการฝึ ก


จากนางนันเป็ นคนละเรืองกัน

160
หลานชายคนนีของเขายังคงมีความคิดเป็ นเด็กๆ และ
หยิงยโสเกินไป

คิดว่าทหารพวกนีฝึ กง่ายรึ?

“เกอเอ๋อร์ นีมัน.....” ในใจมูซ่ งปฏิเสธ

แต่เมือสบเข้ากับสายตาอันสว่างและสดใสของหลาน
ชายทีเหมือนอ่านใจคนออกเขากลับปฏิเสธไม่ลง

“หากท่านปู่ เชือใจข้า ก็เอาตามนีเถิด การคัดเลือกในครัง


นีในเมือยอมให้ขา้ เป็ นผูเ้ ลือก ถ้าอย่างนันก็ตอ้ งทําตาม
161
วิธีการของข้า คนทีได้รบั การคัดเลือกไม่ตอ้ งรบกวนท่าน
ลุงฉง ข้าจะเป็ นคนฝึ กพวกเขาด้วยตัวของข้าเอง หาก
ท่านปู่ ยงั กังวลใจ งันเรามาพนันกันไหม?” มูช่ ิงเกอพูดไป
ตามทีคิด

“พนันอะไร” พอได้สติมซู่ งก็โดนมูช่ ิงเกอจูงจมูกเอาเสีย


แล้ว

ทังทีควรจะคัดค้านความคิดเอาแต่สนุกของมูช่ ิงเกอ แต่


กลับกลายเป็ นว่ายอมรับข้อเสนอของนางไปเสียอย่าง
นัน

เพียงแต่วา่ ตอนนีท่านปู่ เองก็ยงั ไม่รูต้ วั

162
มูช่ ิงเกอยิมอย่างขีเล่น : “ท่านปู่ เป็ นกังวลว่าข้าจะไม่
สามารถฝึ กทหารได้ไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างนัน 3 เดือนหลัง
จากนีให้นาํ ทหารทัง 500 นายของข้ามาประลองกับ
ทหารทีเหลือของท่านปู่ ดวู า่ ใครจะเหนือกว่ากัน ผูแ้ พ้
ต้องทําตามสัญญาข้อหนึง”

หนวดของมูซ่ งเริมกระตุกเล็กน้อย ดวงตาเบิกโต : “เจ้า


เด็กนี เจ้ากล้ามาก ทหารแค่ 500 นายของเจ้าจะสูก้ บั
ทหารนับหมืนของข้าได้อย่างไรกัน”

“ไม่ลองจะรูไ้ ด้อย่างไรว่าไม่ได้” มูช่ ิงเกอยิมอย่างมีเลศ


นัยแต่กลับชวนให้ผคู้ นเชือในคําพูดของนาง

163
มูซ่ งพยักหน้าอย่างไม่คอ่ ยรูต้ วั รอจนเขารูส้ กึ ตัวก็เดินมา
จนถึงสนามฝึ กแล้ว เขามองไปทีร่างผอมบางในชุดสีแดง
แสบตาแล้วจึงพบว่าตนเองถูกหลานชายมัดมือชกเข้าให้
แล้ว

ในสนามฝึ ก ทหารนับหมืนยืนเรียงกันเป็ นแถวอย่างเป็ น


ระเบียบเรียบร้อย

รองแม่ทพั ทังหลายทีเจอก่อนหน้านี ก็ยืนรออยูบ่ นเวที


แล้ว

พอมูช่ ิงเกอเดินตามมูซ่ งขึนเวทีไป ก็รูส้ กึ ถึงสายตาอัน

164
แรงกล้าทีมองมายังนาง

คนพวกนีส่วนใหญ่แล้วก็เป็ นคนทีไปตามหานางทีลัวรือ
และเห็นนางรับทัณฑ์เฆียนตีกบั ตาตัวเอง

แม้จะไม่ใช่อะไรทีผิดปกติ แต่ก็เป็ นฉากทีน่าตกตะลึง


มากฉากหนึง

ทําให้ชายหนุ่มผูแ้ ข็งแกร่งทนงตัวพวกนียอมให้อภัยใน
ความบ้าบินของมูช่ ิงเกอและยอมรับในตัวเจ้านายน้อยผู้
นี

แน่นอนว่าหนึงในนันคือสายตามองประเมินทีแสดง
165
ความสงสัยและอยากรูอ้ ยากเห็นราวกับยากทีจะเชือม
โยงชายชุดแดงกับชายหนุ่มผูห้ นักแน่น กายเหยียดตรง
ราวกับกระบี พูดคําไหนคํานันในชุดแบบเดียวกันนีเข้า
ด้วยกันได้

มูช่ ิงเกอเลิกสนใจสายตาพวกนัน แล้วเดินไปข้างหน้า


หนึงก้าว เอามือไพล่หลัง พูดเสียงดังว่า : “วันนีข้าจะมา
คัดเลือกองครักษ์ ข้าเป็ นใครคิดว่าทุกท่านคงจะเคยได้
ยินมาบ้าง ตอนนี ข้าขอถามคําเดียวว่าในทีนี ผูใ้ ดทีไม่
สมัครใจจะเป็ นองครักษ์ของข้าเชิญถอยหลังไปห้าก้าว”

พูดจบภายในสนามฝึ ก ก็เต็มไปด้วยเสียงดังเซ็งแซ่

166
เลือกองครักษ์สว่ นตัวก็แค่เลือกคนทีรูส้ กึ ว่าเข้าตาก็พอ
แล้วไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงต้องมีอะไรแบบนีด้วย?

ไม่ใช่แค่พวกเขาขนาดรองแม่ทพั หลายคนก็มองมูซ่ งด้วย


ความสงสัย แต่มซู่ งกลับไม่ได้พดู อะไรทําได้เพียงยิมขืน
แล้วส่ายหน้า เพือบอกให้พวกเขาใจเย็นๆ

ไม่รูว้ า่ มูช่ ิงเกอกําลังคิดอะไรอยู่ หลังจากเงียบไปสักพัก


ทหารจํานวนสองสามพันนายก็กา้ วถอยหลัง 5 ก้าวไป
อย่างลังเล

บางที พวกเขาอาจจะไม่เต็มใจทีจะเป็ นองครักษ์ของมู่


ชิงเกอและบางทีพวกเขาอาจจะคิดว่าการเป็ นองครักษ์

167
อาจเทียบไม่ได้กบั การได้ฆา่ ฟั นศัตรูในสนามรบ แต่
ทหารส่วนมากก็ยงั คงยืนอยูก่ บั ทีด้วยความสงสัย

สําหรับทหารสองสามพันนายนัน มูช่ ิงเกอไม่ได้มองเลย


แม้ชวแวบเดี
ั ยว สายตาของนางสนใจแค่เพียงทหารทียัง
เหลืออยู่ แล้วพูดว่า : “บรรดาคนทีเหลืออยู่ คนทีอายุ
มากกว่า 20 ปี โปรดถอยหลังไป 5 ก้าว”

ผูค้ นส่งเสียงฮือฮาอีกครัง

ทําไมต้องมีการจํากัดอายุ? แม้หากว่ามี คนทีอายุมาก


จะดีกว่าไม่ใช่หรอกหรือ อายุยงมาก
ิ ก็จะหมายถึงระดับ
ขันของพลังทีเหนือกว่า

168
คัดเลือกเด็กๆ ทียังอยูใ่ นระดับขันแดงไปทําไมกัน? ไป
เป็ นเพือนเล่นกับคุณชายอย่างนันหรือ?

รองเม่ทพั ฉงส่ายหน้าอย่างผิดหวัง เดินก้าวใหญ่ไปหา


มูซ่ งพร้อมพูดอย่างจริงจังว่า : “ท่านแม่ทพั อย่าให้มชู่ ิง
เกอเล่นสนุกแบบนีต่อไปอีกเลย”

มูซ่ งขมวดคิว ‘หลานชายกําลังเล่นสนุกอยูจ่ ริงหรือ’

หลังจากทีคิดทบทวนสักพัก มูซ่ งก็พดู กับรองแม่ทพั


ฉงว่า : “ดูตอ่ ไปก่อน”

169
การตัดสินใจของมูซ่ ง แน่นอนว่ารองแม่ทพั ทังหลายไม่
อาจขัดขืน ทําได้เพียงถอนหายใจ แล้วเดินถอยไปหา
ทหารคนอืนๆ

เมือไม่มีคนห้าม ทหารทังเจ็ดแปดพันนายถอยหลังไปห้า
พันกว่าคน ทีเหลือเป็ นทหารทีอายุประมาณ 16 ถึง 17
ปี ชายหนุ่มทีอายุประมาณ 20 ปี ส่วนมากก็ยงั ฝึ กขัน
แดงอยูเ่ ท่านัน

คัดเลือกมาสองรอบจากหมืนคนเหลือแค่เพียงไม่ถงึ
3,000 คน

จํานวนองครักษ์ของมูช่ ิงเกอคือ 500 นาย นันหมาย

170
ความว่า คนทีเหลืออยูม่ ีอตั ราส่วนเป็ นหนึงในห้าหรือไม่
ก็เป็ นหนึงในหกของจํานวนทหารเหล่านัน

สายตาทีทังสว่างและสดใส ต่างจ้องทุกคนทียังคงเหลือ
อยู่ พอมองทุกคนอย่างละเอียดแล้ว มูช่ ิงเกอก็พดู ต่อ
ว่า : “ตอนนีให้คนทีเหลือ แบกของหนักสิบต้านและวิง
รอบสนามร้อยรอบ”

พูดจบ มูช่ ิงเกอก็มองมัวหยางท่ามกลางความมึนงงของ


เหล่าทหาร : “เจ้าก็ไปด้วย”

มัวหยางไม่ลงั เลและพยักหน้าเงียบๆ โดดลงมาจากเวที


คัดเลือก ลงมือกระทําเป็ นคนแรก การกระทําของเขา ทํา

171
ให้สายตาของมูช่ ิงเกอเต็มไปด้วยความชืนชม

พอมัวหยางทําเป็ นคนแรก อีกสองสามพันคนทีเหลือก็


เริมลงมือ

ไม่นาน บนสนามอันกว้างใหญ่ก็เริมมีคนพันกว่าคนวิง
ไปรอบๆ

ร้อยรอบ คํานวณแล้ว เป็ นระยะประมาณ 100 กิโลเมตร

รับนําหนักสิบต้าน เปรียบได้กบั นําหนัก 30 กิโลกรัม

หากไม่มีรา่ งกายทีแข็งแรง และความมุมานะ ก็ยากทีจะ


172
วิงไปได้

สุดท้าย ก่อนตะวันจะลับฟ้า คนทีวิงเสร็จร้อยรอบ มีไม่


ถึงเจ็ดร้อยคน และต่างก็ลม้ นอนลงไปพืน

มัวหยางก็อยูใ่ นนันเช่นกัน ใบหน้าเขาขาวซีด ริมฝี ปาก


กลับเม้มแน่นแต่ตงแต่
ั ตน้ จนจบกลับไม่สง่ สียงโอด
ครวญออกมาเลยแม้แต่นอ้ ย

มองทหาร 670 นายแวบหนึง แล้วมูช่ ิงเกอหันไปพูดกับ


มูซ่ งว่า : “ท่านปู่ การเลือกในขันตอนแรกของข้าได้เสร็จ
สินลงแล้ว ทหารหกร้อยเจ็ดสิบนายนีเป็ นองครักษ์ทีข้า
เลือกเอาไว้ สําหรับอีก 170 คนจะคัดใครออกบ้างนัน

173
อีก 10 วันข้างหน้า ข้าจะให้คาํ ตอบ”

มองแค่แวบเดียวก็นบั จํานวนคนได้อย่างถูกต้อง ดู
เหมือนว่า คุณชายน้อยท่านนีจะไม่ได้เป็ นอย่างทีเล่าลือ
กันมาว่าเป็ นคนไร้คา่ ขนาดนันแล้วสิ แต่วา่ เขาคิดจะทํา
อะไรกันแน่

รองแม่ทพั หลายคนลอบสบตากัน ในใจก็ตา่ งคาดเดาไป


ต่างๆ นานา

174
ตอนที 51 ไม่ควรหยุดจีบสาว!

ท่ามกลางดอกท้อทีร่วงหล่นจนเต็มพืนที

พืนทีขนาดใหญ่หลังแม่นาคดเคี
ํ ยวสายหนึง เต็มไปด้วย
ป่ าท้อทีมีดอกเบ่งบานสะพรัง

บนผิวนํา มีเรือลําเล็กมากมายล้อมรอบเรือชมทิวทัศน์
สวยงามลําใหญ่ลาํ หนึงอยู่ ทังหมดไหลไปตามกระแสนํา
ภายในเรือ เงาร่างอันงดงามในชุดผ้าแพรบางเบาร่ายรํา
ไปตามจังหวะเพลงทีลอยมา ดูดงึ ดูดยัวยวนใจยิงนัก
1
ความอลังการและความฟุ่ มเฟื อยเช่นนีทําให้มชู่ ิงเกออด
ไม่ได้ทีจะถอนหายใจยาวออกมา ในโลกแปลก
ประหลาดใบนีช่างเต็มไปด้วยสีสนั เสียจริงๆ

บนเรือทีตกแต่งอย่างประณีตงดงาม มูช่ ิงเกอทีอยูใ่ นชุด


สีแดงในมือถือแก้วสุราสีเขียวอ่อนใบหนึง ในแก้วมีของ
เหลวสีสม้ เข้มเกือบแดงเคลือนไหวไปมาตามการขยับ
เบาๆ ของมูช่ ิงเกอ

นางยืนรับลมอยูบ่ นหัวเรือ

สายตากระจ่างใสทังคูห่ รีลง ราวกับกําลังดืมดํากับสาย

2
ลมทีตีเข้าทีใบหน้า ผมสีดาํ ปลิวไสวขึนราวกับกําลังชืน
ชมทิวทัศน์อนั งดงามนี

ด้านหลังตัวนาง เต็มไปด้วยเสียงจอแจ

หญิงนางโลมรูปร่างสวยงามท่าทางเย้ายวนกําลังเล่นปิ ด
ตาไล่จบั กับเจ้าอ้วนเซ่าอยู่

ร่างอันกลมอ้วนของเจ้าอ้วนเซ่าเล่นเกมอยูใ่ นเรือลําเล็ก
แบบนี กลับไม่รูส้ กึ ว่าเขาเคลือนไหวลําบากเลยแม้แต่
น้อย กลับดูคล่องแคล่วเป็ นอย่างมาก แต๊ะอังบรรดา
สาวๆ อย่างเต็มอิม

3
“ฮีๆ เจ้ายังจะหนีอีกหรือ? ข้าจับโดนมือเล็กๆ ของเจ้าได้
แล้ว” เจ้าอ้วนเซ่ายิมลามก

จากนันก็มีเสียงออดอ้อนดังขึน

“คุณชายช่วยข้าน้อยด้วย!”

เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากทางด้านหลัง

มูช่ ิงเกอยังไม่ทนั หันหลังกลับไป ก็ได้กลินหอมเคลือน


มาทางนาง

เมือนางหันกลับไปก็พบว่ามีเงาร่างสีเขียวพุง่ เข้ามาสู่
4
อ้อมกอดของตน

นางยิมแล้วเอียงตัวหลบการพุง่ ชนตรงๆ เอาไว้ได้ทนั แต่


กลับยืนมือออกไปคว้าเอวคอดบางของหญิงสาวในชุดสี
เขียวเอาไว้

ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของหญิงสาวทีถูกนางหมุนไป
รอบหนึงจากนันก็ดงึ หญิงสาวนางนันเข้ามาในอ้อมกอด

หญิงสาวซบอยูบ่ นท่อนแขนของมูช่ ิงเกอ มองเข้าไปยัง


ดวงหน้าอันงดงามของนางในทันที ดวงตาอันสว่างสด
ใสทังคูแ่ ฝงด้วยความเกียจคร้านและเย็นชา ริมฝี ปาก
ปากแดงสดค่อยๆ ยกยิมขึน แสดงถึงความโดดเด่นของ

5
ชายหนุ่มอย่างหาทีเปรียบไม่ได้

“คุณชาย......”ท่ามกลางความมึนงง หญิงสาวหรีตาร้อง
เรียกเสียงเบา

ราวกับหวันไหวไปนานแล้ว

มูช่ ิงเกอยิมกว้างขึน ยกแก้วสุราในมือขึนมา แล้วยืนสุรา


ทียังไม่ได้ดืมแม้แต่หยดเดียวไปจรดตตรงริมฝี ปากของ
หญิงสาวแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า : “เด็กดี ดืมสุราให้
หายตกใจก่อนนะ เดียวข้าจะจัดการเจ้าอ้วนเซ่าให้”

ราวกับโดนควบคุม หญิงสาวอ้าปากอย่างว่าง่ายและดืม
6
สุราในแก้วเข้าไปทันที

หลังจากทีสุราอุน่ ๆ ไหลสูล่ าํ คอและเส้นประสาทในกาย


ของนาง นางจึงตืนจากความมึนงง ใบหน้าเต็มไปด้วย
ความเขินอายดูน่าหลงใหล

ราวกับไม่อยากออกจากอ้อมกอดของชายชุดแดงง่ายๆ

“ลูกพี!” ตอนนี เจ้าอ้วนเซ่าพาสาวๆ เดินออกมาจากตัว


เรือ เขาดึงผ้าปิ ดตาออก ชีหญิงสาวในอ้อมกอดของมูช่ ิง
เกอแล้วหัวเราะพร้อมพูดว่า : “ดีจริง! ข้าก็วา่ ทําไมเจ้าถึง
ไม่ยอมให้ขา้ จับ ทีแท้ก็ถกู ใจลูกพีข้านีเอง”

7
ไม่รูว้ า่ เพราะถูกเดาความคิดออกหรือกลัวว่าจะเกิดการ
เข้าใจผิด

หญิงสาวชุดเขียวจึงรีบยืนตรงแล้วถอยหลังไปหนึงก้าว
ผละออกจากอ้อมกอดของมูช่ ิงเกอ

แน่นอนว่ามูช่ ิงเกอไม่ได้รงนางไว้
ั เพียงคลายมือออก

หญิงสาวพูดอย่างแง่งอนว่า : “คุณชายเซ่าล้อข้าเล่นอีก
แล้ว ข้าไม่ยอมด้วย” พูดจบก็กระทืบเท้า หน้าแดงและ
เดินเข้าตัวเรือไป ก่อนไป ยังใช้ดวงตาอันเย้ายวนหันมา
มองมูช่ ิงเกอทียืนสง่างามเป็ นหนึงอยูต่ รงหัวเรือแวบหนึง

8
สายตานี มูช่ ิงเกอไม่รูส้ กึ ถึง แต่กลับถูกเจ้าอ้วนเซ่าจับ
ผิดได้

เขาหัวเราะ ‘เหอๆ’ แล้วยกมือขึนสังให้สาวๆ ออกไปก่อน


เขาหัวเราะอย่างคลุมเครือพร้อมพูดว่า : “ลูกพีก็คือลูกพี
แม้วา่ ดอกไม้เป็ นหมืนดอกพัดผ่าน แต่ใบไม้ใบเดียวก็ไม่
มีติดแม้แต่นิด ไม่รูว้ า่ จะมีหญิงสาวมากเท่าไหร่ทีต้อง
ร้องไห้เสียใจ”

มูช่ ิงเกอมองเขาด้วยหางตา สะบัดแขนเสือเบาๆ ทีนงึ


แล้วเงยหน้าขึนพร้อมพูดว่า: “คุณชายอย่างข้ารักนวล
สงวนตัว”

9
“แหยะ!” เจ้าอ้วนเซ่าทําเบะปาก ตาเรียวเล็กมองอวัยวะ
ส่วนล่างของมูช่ ิงเกออย่างลามก : “เหอะ รักนวลสงวน
ตัวอะไรกัน อย่าบอกนะว่าลูกพียังไม่เคยลองเปิ ดโลกดู
น่ะ”

พูดจบก็ทาํ หน้าตกใจ เหมือนมูช่ ิงเกอไปทําความผิด


ใหญ่โตอะไรเอาไว้

มูช่ ิงเกอยิมเล็กน้อย

นางไม่อาจอธิบายกับเจ้าอ้วนเซ่าได้ จึงทําได้เพียงพูดติด
ตลกว่า : “เจ้าคงไม่ได้แอบกินในตําหนักไปแล้วหรอก
นะ” กฎหมายของแคว้นฉิน ผูท้ ียังไม่บรรลุนิติภาวะไม่

10
สามารถประพฤติผิดในกามข้างนอกได้ แต่ไม่นบั สาวใช้
อุน่ เตียงในตําหนัก ดูจากท่าทางเจ้าเล่หข์ องเจ้านีแล้วไม่
แน่วา่ อาจจะจริงก็ได้.......

เจ้าอ้วนเซ่าหน้าแดง บิดตัวไปมา

พอบิดตัวไปมาได้สกั พัก จึงพูดทังทีสายตาของมูช่ ิงเก


อยังจ้องเขาอยูว่ า่ : “ข้า เมือวานก่อนข้ายัง.......”

“.........”มูช่ ิงเกอเงียบไปในทันที

เจ้าอ้วนเซ้าอายุเท่าไหร่กนั ดูทา่ แล้วจะอายุนอ้ ยกว่าร่าง


นีของนางเสียอีก
11
มากทีสุดก็คงจะอายุ 14-15 ปี อายุนีมัน......

มูช่ ิงเกออยากจะพูดด้วยความเป็ นห่วงว่า : “ระวัง เดียว


ไตพัง” คําพูดมาถึงปากแล้วแต่กลับต้องกลืนมันลงไปอีก
ครัง

ใครจะรูว้ า่ ถึงแม้นางจะไม่ไปยุง่ เรืองของเจ้าอ้วนเซ่าแต่


เขากลับเป็ นคนมาชวนนางเสียนี

“ลูกพี ท่านก็อย่ารอช้าเลย รสชาตินนั เหอๆ........ต้องได้


สัมผัสเท่านันถึงจะรูถ้ งึ ความรูส้ กึ การได้ขนสวรรค์
ึ ” ใบ
หน้าของเจ้าอ้วนเซ่าเต็มไปด้วยความลุม่ หลง “โย่วเห

12
อและฮวาเยวียในเรือนของท่านก็ถือว่าสวยสดงดงาม
ต่างก็มีจดุ เด่นเป็ นของตัวเอง อย่าทิงไว้ให้เสียดายของ
สิ”

ให้นางกอดโย่วเหอและฮวาเยวียนอนกลิงไปมาอยูบ่ น
เตียงน่ะนะ?

เหอะๆ ถึงแม้จะเป็ นอย่างนัน ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึนเข้าใจ


ไหม?

มูช่ ิงเกอตัวสันแล้วพูดด้วยหน้าตาเย็นชาว่า : “ข้ามีแผน


ของข้าน่า”

13
“ลูกพีท่านจะเก็บครังแรกของท่านไว้ให้องค์หญิงฉางเล่อ
ผูเ้ ย็นชาอย่างนันเหรอ” ใครจะรูว้ า่ เจ้าอ้วนเซ่าจะเข้าใจ
คําตอบของนางผิดไป

มูช่ ิงเกอแทบจะกระอักเลือดออกมาจากปาก รูส้ กึ


เลือมใสในความคิดของเจ้าอ้วนเซ่าจริงๆ

นางไม่อยากพูดเรืองนีต่อ จึงมองไปยังดอกท้อทีบาน
สะพรังอยูบ่ นฝังแล้วถามว่า : “นีก็ฤดูรอ้ นแล้วทําไมยัง
มีดอกท้อทีบานสะพรังขนาดนีอีก”

เพราะเห็นว่ามูช่ ิงเกอไม่อยากจะพูดเรืองนีต่อ เจ้าอ้วน


เซ่าก็หบุ ปากลงอย่างรูง้ าน

14
แต่วา่ ในใจกลับมันใจว่าความรูส้ กึ ทีมูช่ ิงเกอมีให้กบั องค์
หญิงฉางเล่อนันจะต้องสูงส่งกว่าผืนฟ้าลึกกว่า
มหาสมุทรเป็ นแน่ เพือนางแล้วถึงกับยอมทีจะเก็บความ
บริสทุ ธิเอาไว้ เรืองนีสําหรับหนุ่มเจ้าสําราญแล้วถือว่า
เป็ นเรืองทีหาได้ยากมาก

“ลูกพีท่านลืมแล้วหรือว่าสวนท้อแห่งนีเป็ นสถานทีทีกง
ซุนฮูหยินสร้างขึนตอนทีนางยังมีชีวิตอยู่ นางใช้เวลาไป
10 กว่าปี จงึ จะสามารถทําให้พืนทีแห่งนีมีตน้ ท้อทีออก
แต่ดอกไม่ออกผลออกมาได้ ต้นท้อนีจะออกดอก
ประมาณครึงปี ตังแต่ตน้ ฤดูใบไม้ผลิ จนถึงปลายฤดู
ร้อน” เจ้าอ้วนเซ่าอธิบายด้วยความสงสัย

15
ทีนีเขากับมูช่ ิงเกอไม่ได้มาครังแรกแต่ทาํ ไมรูส้ กึ เหมือนมู่
ชิงเกอไม่มีความทรงจําใดใดเลย?

มูช่ ิงเกอเลิกคิวโดยไม่ได้พดู อะไร ราวกับกําลังชืนชม


ทิวทัศน์ทีริมฝัง

ทังสองเงียบไปสักพัก เสียงเพลงบนเรือยังคงดังวนเวียน
อยูร่ อบๆ

เจ้าอ้วนเซ่าค่อยๆ เข้ามาใกล้ ยิมอย่างประจบ : “ลูกพี


ท่าทีท่านเต้นในงานเลียงในวัง ท่านสอนข้าหน่อยสิ”

มูช่ ิงเกอได้ยินแล้วหันหน้ากลับมา สายตาอันสว่างสดใส


16
มองร่างกลมๆ ของเจ้าอ้วนเซ่าแล้วพูดอย่างไม่ปราณี
ว่า : “อยากจะเรียนรึ? เอาไขมันสามชันนันออกก่อนแล้ว
ค่อยว่ากัน”

เจ้าอ้วนเซ่าทีได้รบั การกระทบกระเทือนจิตใจอย่างมาก
พูดเศร้าๆ ว่า : “แม้ขา้ จะอ้วนแต่ก็เป็ นคนอ้วนทีคล่อง
แคล่ว ! ลูกพีท่านอย่ามาดูถกู ข้านะ”

“ข้าก็มองเจ้าดีมากอยูแ่ ล้ว แต่การเต้นนัน แม้รา่ งของ


เจ้าจะฝื นฝึ กจนสําเร็จ แต่เมือเจ้าเต้นคูก่ บั หญิงงามก็จะ
กลายเป็ นโฉมงามกําลังเล่นลูกดิงไปน่ะสิ น่าเกลียด” มู่
ชิงเกอพูดด้วยใบหน้ารังเกียจ

17
เหมือนโฉมงามกําลังเล่นลูกดิงอย่างนันหรือ?

เจ้าอ้วนเซ่าจินตนาการภาพในหัว ทําให้เปลวไฟอัน
แรงกล้าในใจดับมอดลง

เจ้าอ้วนเซ่าท่าทางเหมือนลูกหนังทีถูกปล่อยลมออก พูด
พึมพําอย่างไม่พอใจว่า : “อ้วนแล้วผิดเหรอ? สักวันหนึง
เถอะ จะต้องมีหญิงสาวมากมายทีมองข้ามรูปกายภาย
นอกของข้าและหลงใหลในตัวข้า!”

มูช่ ิงเกอได้ยินแล้วแทบจะกัดลินตัวเอง ในใจแอบคิดว่า :


เจ้าอ้วนนีถือว่ามีความทะเยอทะยานไม่นอ้ ยเลย! ทีคาด
หวังไม่ใช่เพียงแค่จะให้หญิงงามคนหนึงหันมามองเขา

18
บ้าง แต่เป็ นหญิงงามมากมายเสียด้วย........

“อืม มีความฝันถือเป็ นเรืองทีดี ถ้ามันเกิดกลายเป็ นจริง


ขึนมาล่ะ!” มูช่ ิงเกอตบไหล่อนั กลมๆ ของเจ้าอ้วนเซ่า
ด้วยใบหน้าทีจริงจัง

19
ตอนที 52 คนงามทีให้ความรูส้ กึ ราวกับเทพเซียน

บรรยากาศบนฝัง อธิบายง่ายๆ ก็คือราวกับว่า


ทิวทัศน์รอบๆ ดูหลอมรวมเข้าเป็ นหนึงเดียวกับบ้าน
เมืองอันเจริญรุง่ เรืองทีค่อยๆ ปรากฏขึน เรือค่อยๆ ลอย
เข้าไปใกล้เรือยๆ

20
พอเรือเทียบฝัง เจ้าอ้วนเซ่าก็ลงจากเรือเป็ นคน
แรก

หลังจากนัน มูช่ ิงเกอก็เหยียบพืนโคลนทีเต็มไป


ด้วยกลีบดอกไม้สีชมพู

คนทังกลุม่ ในมือถือถาดอาหารและอุปกรณ์สรุ า
ค่อยๆ ขึนฝังเดินตามจอมเสเพลทังสองของลัวตูเข้าไป
ยังสวนดอกท้อ

พอเดินไปตามหนทางทีคดเคียวได้สกั พัก ทันใด


นันเสียงพิณโบราณก็ดงั แว่วมา

21
เสียงของพิณราวกับก้อนเมฆบนขอบฟ้า และ
ราวกับหมอกหนากลางหุบเขา ล่องลอยไม่อาจจับต้อง
ได้

เพราะความคุน้ เคยจางๆ ทีเกิดขึนในใจของมูช่ ิง


เกอ ทําให้นางเดินตามทีมาของเสียงไปโดยไม่รูต้ วั

เจ้าอ้วนเซ่าและคนอืนๆ ก็ทาํ ได้แค่เดินตามไป

ดอกท้อดูน่าหลงใหล จนทําให้อยากจะอยูใ่ นป่ า


แห่งนีต่อไป

เดินอยูใ่ นป่ าทีเต็มไปด้วยกลีบดอกไม้สกั พัก มู่


22
ชิงเกอก็เดินทะลุป่าท้อออกไปยังลานโล่งกว้างแห่งหนึง
ขณะนีเสียงพิณเหมือนดังก้องอยูข่ า้ งหู สิงทีเห็นตรงหน้า
ทําให้นางหรีตาลง

“เป็ นเขา !”

กลีบดอกท้อสีชมพูออ่ น ปลิวไปมาตามสายลม
อยูก่ ลางป่ า

พืนทีว่างทียากจะพบได้ในป่ าแห่งนี มีศาลา


หลังคาแปดมุมอยูห่ ลังหนึง

ภายในศาลา มีกระถางธูปทีเต็มไปด้วยควันและ
23
ชายหนุ่มในชุดตัวยาวสีเหลืองนวลทีกําลังนังขัดสมาธิ
มือวางอยูบ่ นพิณ ผมดําของเขาไม่ได้เกล้าขึนมันจึงพริว
ไหวไปมาตามสายลม

กลีบดอกไม้หล่นลงมาสัมผัสกับเส้นผมของเขา
แล้วหล่นลงทีกลางสายพิณ

แขนเสือเปิ ดกว้างเพราะการเคลือนไหวของ
ปลายนิวทีดีดผ่านสายพิณอย่างแผ่วเบา อ่อนโยนราว
กับสัมผัสลงบนใบหน้าของคนทีรัก

ผิวทีขาวเหมือนไร้ซงเลื
ึ อด และใบหน้าทีงดงาม
ดังภาพวาด ราวกับเป็ นเซียนในป่ าท้อแห่งนี ทําให้คน

24
ยากทีจะละสายตาจากเจ้าของเรือนร่างนีได้

แต่กลับดูเปราะบางกว่าใคร กลัวว่าหากสายลม
ในป่ าพัดแรงไปกว่านี ก็จะสามารถพัดให้ตวั เขาปลิว
กระจายหายไปได้

“เสียนอ๋อง!”

มูช่ ิงเกอรูส้ กึ สงสัย

นางคิดไม่ถงึ ว่าจะได้พบกับเขาอีกครังทีนี

ทังสามครังทีได้พบกัน ชายหนุ่มทีสงบนิงเหมือน
25
นําทีไร้ระลอกคลืนผูน้ ี ทําให้นางเกิดความรูส้ กึ หนึงที
ยากจะอธิบาย เขาดูเปราะบางจนราวกับต้องการการปก
ป้องจากทุกคน และเหมือนกับจะปฏิเสธไม่ยอมให้ใคร
เข้าใกล้ในรัศมีพนั ลี

เขามีชีวิตอยูบ่ นโลก แต่กลับเหมือนกับว่าเขาได้


ปลิวหายไปตามสายลมนานแล้ว

มูช่ ิงเกอหากลินอายความมีชีวิตชีวาทีควรมีบน
ร่างของเขาไม่เจอเลยแม้เศษเสียว หากว่าเขาเป็ นหุน่ ไม้
ก็คงเป็ นหุน่ ไม้ทีชวนให้คนรูส้ กึ อยากทะนุถนอม ไม่อยาก
จะทําร้าย

26
แต่.........ฐานะของเขา

สีหน้าของมูช่ ิงเกอมืดครึมลงในทันที นางไม่ลืม


ว่า ชายหนุ่มตรงหน้าเป็ นใคร เขาเป็ นบุตรชายของ
ฮ่องเต้แคว้นฉิน ฉินจินเฉินผูท้ ีได้รบั การอวยยศเป็ นเสีย
นอ๋องและเป็ นผูไ้ ม่ได้รบั ความรัก

เสียนอ๋อง เสียนอ๋อง (คําว่า เสียน นีออกเสียง


เหมือนคําว่า เสียน ทีแปลว่าว่าง)

เกรงว่า พระนามทีพระราชทานให้นี อาจจะ


บ่งบอกถึงความในพระทัยของฮ่องเต้

27
บุตรชายทีไม่ได้ทาํ ให้เขารูส้ กึ รัก เป็ นแค่คนไร้ตวั
ตนไปเสียยังจะดีกว่า ไม่ตอ้ งมีเหตุผลใดๆ แค่เกิดขึนมา
แล้วก็ดบั สลายไปเอง

ใบหน้าอันงดงามนันกลับทําให้นางรูส้ กึ เจ็บปวด
ใจขึนมาอย่างไม่มีสาเหตุ นางเป็ นผูท้ ีไร้พลัง แต่กลับได้
รับความรักทังหมดจากท่านปู่ และท่านอา

เขาเป็ นถึงองค์ชายผูส้ งู ศักดิ แต่กลับถูกบิดา


แท้ๆ รังเกียจเพียงเพราะร่างกายอ่อนแอขีโรคเกิดมาก็ไม่
เป็ นมงคล

ฐานะและสิงทีต้องประสบทีต่างจากคนอืนๆ นี

28
อาจจะเป็ นต้นเหตุหลักทีทําให้เขาเป็ นแบบนี ทังๆ ทีสิงที
มูช่ ิงเกอมองเห็นคือความงดงามขาวสะอาดอันเปราะ
บาง แต่สงที
ิ นางรูส้ กึ กลับเป็ นความสินหวังทีมืดมนไร้จดุ
สินสุด

เสียงพิณพลันหยุดลง

ราวกับว่าผูด้ ีดพิณ รูต้ วั แล้วว่ามีคนบุกรุกเข้ามา

สายตาของมูช่ ิงเกอสันไหวเล็กน้อย และสบเข้า


กับสายตาอันสงบนิงไร้ความรูส้ กึ คูน่ นั

ยังคงเป็ นดวงตาคูท่ ีตาขาวและดําแยกออกจาก


29
กันอย่างชัดเจน และไม่มีความรูส้ กึ ใดๆ หรืออาจ
เพราะ..........เก็บซ่อนไว้ลกึ จนเกินไป?

เรืองนีมูช่ ิงเกอไม่อาจรูไ้ ด้

แต่มาโดยไม่ได้รบั เชิญและถูกเขาจับได้แล้ว แน่


นอนว่าจะต้องกล่าวทักทายสักหน่อย

แต่ก็แค่คิดในใจ นางค่อยๆ เดินออกจากหลังกิง


ไม้ทีบดบัง มายังพืนทีโล่ง

เจ้าอ้วนเซ่า และหญิงสาวพวกนันเองก็เดินตาม
มา ทังหมดปรากฏตัวหน้าศาลาตรงหน้าฉินจินเฉิน แต่ก็
30
ยังไม่สามารถทําให้สายตาคูน่ นของเขามี
ั ความรูส้ กึ ใดๆ
ขึนมาได้

มูช่ ิงเกอเดินเข้าไปใกล้ แต่กลับไม่ได้เข้าไปยัง


ศาลาแปดเหลียม

นางยืนอยูข่ า้ งนอกพร้อมยกมือขึนคาราวะ
พร้อมพูดกับคนในศาลา : “วันนีออกมาเทียวป่ ากับ
สหาย แล้วบังเอิญ ได้ยินเสียงพิณจากในศาลา มูช่ ิง
เกอก็เลยตามเสียงเพลงมา แต่กลับมารบกวนอารมณ์
สุนทรียข์ องพระองค์ ขอเสียนอ๋องโปรดประทานอภัย
ด้วย”

31
“อะไรนะ ! เขาคือเสียนอ๋องผูล้ กึ ลับอย่างนันรึ?”
เจ้าอ้วนเซ่าอึงและแอบพึมพําอยูข่ า้ งหลังมูช่ ิงเกอ

เสียนอ๋องผูล้ กึ ลับอย่างนันหรือ

มูช่ ิงเกอเลิกคิวทังสองข้างขึนเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าข่าวกรองของตระกูลมูจ่ ะเป็ นความ


จริงสินะ เสียนอ๋องผูน้ ีค่อนข้างเก็บตัวไม่คอ่ ยออกมาข้าง
นอกจริงๆ เสียด้วย ขนาดเจ้าอ้วนเซ่าทีเป็ นจอมเสเพลยัง
ไม่รูจ้ กั เลย

“เจ้าอ้วน ยังไม่รบี ถวายพระพรเสียนอ๋องอีก” มู่


32
ชิงเกอกล่าวเตือน

“ห๊ะ ! โอ้ๆ เซ่าเย่เจ๋อแห่งตระกูลเซ่าถวายบังคม


เสียนอ๋อง ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญพันปี พนั พันปี ”
เจ้าอ้วนเซ่าทีได้ยินคําเตือน รีบถวายความเคารพ รวม
ทังบรรดาหญิงนางโลมเหล่านันต่างก็คกุ เข่าลงด้วย
ความเกรงกลัว

ทันใดนันก็เหลือเพียงมูช่ ิงเกอคนเดียวทียังยืน
อยู่

ดวงตาอันสงบนิงของฉินจินเฉินค่อยๆ ละสาย
ตาจากมูช่ ิงเกอ และมองข้ามร่างกายอันอ้วนท้วนของ

33
เจ้าอ้วนเซ่าไปหยุดสายตาทีเหล่าสาวงาม

สักพักเขาก็กม้ หน้าลง ขนตาอันยาวงอนปกปิ ด


นัยน์ทีขาวและดําแยกจากกันอย่างชัดเจน

“ในเมือมาเทียว ก็ไม่จาํ เป็ นต้องมีพิธีรตี องอะไร


ขนาดนีก็ได้”

นีเป็ นครังแรกทีมูช่ ิงเกอได้ยินเสียงของเขา ใน


นําเสียงนันมีความรูส้ กึ เย็นชาห่างเหินซ่อนอยู่ แต่มนั
กลับอบอุน่ และสงบนิง ใบหน้าดูขาวซีดแต่แฝงไปด้วย
ความสะอาดสะอ้าน พร้อมทังกลินอายของผูส้ งู ส่งโดย
กําเนิด

34
ต่างกับความเยือกเย็นและหยิงยโสของฉินจิน
ห้าว ความลึกลับน่าค้นหาของนายตัวประหลาด

แต่กลับทําให้นางรูส้ กึ ว่า เสียงนีสามารถถ่าย


ทอดความรูส้ กึ ทีแท้จริงจากใจได้ดงไข่
ั มกุ ทีตกกระทบกับ
จานแก้วก็ไม่ปาน

35
ตอนที 53 เคยพบกัน?

“ขอบพระทัยเสียนอ๋อง” เจ้าอ้วนเซ่ารีบลุกขึนยืน

36
ความรวดเร็วของการยืนบ่งบอกว่าเขาเป็ นคนอ้วนที
คล่องแคล่วอย่างทีเขาบอก

เหล่านางโลมก็พากันลุกขึนยืน แต่ไม่ได้ทาํ ตัวตามสบาย


เหมือนเมือครูอ่ ีก ดูเพิมความระมัดระวังมากยิงขึน

ไม่วา่ อย่างไร คนตรงหน้าก็เป็ นองค์ชายโดยแท้

พบกันครังแรก ก็ไม่กล้าทีจะทําตัวไม่สาํ รวมจนเกินไป


หากเกิดไม่ระวังไปล่วงเกินองค์ชายเข้า แล้วถูกปลิดชีพ
มันจะไม่คมุ้ กัน

หลังจากทีถามไถ่กนั ตามมารยาทเรียบร้อยแล้ว รอบ


37
ด้านก็เงียบสงบลงอีกครัง

และในบรรยากาศก็ราวกับมีความอึดอัดเพิมเข้ามา

โชคดีทีมูช่ ิงเกอไม่อยากยุง่ เกียวกับเชือพระวงศ์นกั แม้


เขาจะไม่ใช่ลกู รักของฮ่องเต้ และแม้วา่ เขาจะสร้างความ
ประทับใจทีดีให้กบั นางก็ตาม

มูช่ ิงเกอยิมพร้อมพูดว่า : “ถ้าอย่างนัน พวกกระหม่อมไม่


รบกวนเสียนอ๋องแล้ว” นางพูดเหมือนจะขอตัวออกไป
ก่อน

การทีมูช่ ิงเกอจะออกไปจากตรงนี คนทีดีใจก็คง


38
หนีไม่พน้ เจ้าอ้วนเซ่าและเหล่าหญิงงามทังหลาย

บรรยากาศในศาลามันอึดอัดและกดดันมาก
จริงๆ ทําให้ไม่กล้าแม้กระทังจะหายใจเสียงดัง

“เจ้า.......จะไปแล้วหรือ?” แต่กลับคิดไม่ถงึ ว่า


ชายหนุ่มทีเงียบสงบผูน้ นั อยูๆ่ ก็พดู ประโยคนีขึนมา

เจ้าอ้วนเซ่าทีท่าทางตืนเต้นยังไม่ทนั จะได้ยมิ
ออกมา ในใจก็ราไห้
ํ : ไม่จริงนะ ! ช่วงเวลาดีๆ แบบนี
เขาไม่อยากจะเสียมันไปเพราะต้องอยูเ่ ป็ นเพือนองค์
ชายทีนิงเฉยราวกับท่อนไม้ผนู้ ีนะ

39
มูช่ ิงเกอทีกําลังจะหันหลังกลับได้ยินแล้วจึง
ค่อยๆ หันมามองศาลาหลังคาแปดเหลียมพร้อมพยัก
หน้า : “ชิงเกอมาโดยไม่ได้รบั เชิญ แน่นอนว่าไม่ควรอยู่
รบกวนเสียนอ๋องต่อ ยิงไปกว่านัน.........”

นางหันหน้ามามองเหล่าหญิงสาวทียืนอยูด่ า้ น
หลังตัวนาง ยิมพร้อมพูดอย่างเข้าอกเข้าใจว่า : “หากยัง
อยูต่ อ่ กลัวว่าเหล่าสาวงามจะไม่คนุ้ ชิน อีกอย่าง
พระองค์ก็มีฐานะสูงส่ง พวกนางก็คงกลัวว่าจะไปล่วง
เกินพระองค์เข้าโดยไม่ได้ตงใจ”

คําพูดพวกนีของนางทําให้เหล่าสาวงามรูส้ กึ
ซาบซึงเป็ นอย่างมาก

40
ดวงตาเย้ายวนทุกคูเ่ ต็มไปด้วยความซาบซึง
ราวกับจะยอมพลีกายเพือตอบแทนนางอย่างไรอย่างนัน

“คุณชายช่างเป็ นผูท้ ีห่วงใยหญิงสาวจริงๆ” ฉิน


จินเฉินหลุบตาลง คําพูดดูคลุมเครือ

“ขอบพระทัยทีทรงชม สาวงามพวกนีก็เปรียบดัง
ดอกไม้ทีผูช้ ายอย่างเราควรจะทะนุถนอม” มูช่ ิงเกอกระ
ตุกยิมพูดขึน โดยไม่อาจรูไ้ ด้เลยว่าคําพูดของนางทําให้มี
หญิงสาวมากมายลอบมอบหัวใจให้กบั นางไปแล้ว

“ถ้าอย่างนันก็ไปเถอะ” ฉินจินเฉินดีดพิณโดยไม่

41
ได้ใส่ใจทีหนึง เสียงพิณดังขึนเหมือนเป็ นการส่งแขก

สายตาของมูช่ ิงเกอมองสายพิณทีสันอยูแ่ วบ
หนึง แล้วยิมพร้อมพาทุกคนเดินจากไป

คนกลุม่ หนึง หายไปจากสายตาของฉินจินเฉิน


ราวกับสายลม

หลังจากทีมองส่งจนเงาคนหายลับไปจากสาย
ตาท่ามกลางป่ าดอกท้อแล้ว นิวมือทีกดสายพิณของฉิน
จินเฉินขาวซีดราวกระดาษ สักพักใหญ่ๆ เขาจึงค่อยๆ
คลายมือออก สายของพิณทิงรอยลึกหลายสายไว้บนนิว
มือของเขา

42
ใบหน้าทีสงบนิงค่อยๆ จางหายไป เขามองไปยัง
ทีๆ มูช่ ิงเกอมาเยือนและจากไป แล้วพึมพําว่า : “สุดท้าย
เจ้าก็จาํ ข้าไม่ได้แล้ว”

…………..

หลังจากทีเดินวนอยูใ่ นป่ าท้อได้สกั พัก

พอรูส้ กึ ว่าห่างไกลจากศาลาหลังคาแปดเหลียม
แล้ว เจ้าอ้วนเซ่าก็เดินเข้าไปใกล้มชู่ ิงเกอ พร้อม
ถามอย่างระมัดระวังว่า : “ลูกพี ทําไมข้ารูส้ กึ ว่าเสีย
นอ๋องผูน้ ีให้ความรูส้ กึ เหมือนมีไอสยดสยองอยูเ่ ลยล่ะ”

43
พูดจบ ก็ถแู ขนอ้วนๆ ของตนเองอย่างเห็นภาพ

มีไอสยดสยองอย่างนันหรือ? นีมันการเปรียบ
เทียบแบบไหนกัน

มูช่ ิงเกอแอบเถียงในใจ

แต่ตอ่ หน้ากลับทําเพียงกลอกตาแล้วพูดว่า :
“ข้าจะรูไ้ ด้อย่างไร ถ้าเจ้าอยากรู ้ ก็กลับไปถามเขาสิ”

“ไม่มีทาง !” ร่างอ้วนๆ ของเจ้าอ้วนเซ่าสันทีหนึง


ปฏิเสธโดยไม่คิดทันที
44
มูช่ ิงเกอยิมและไม่แกล้งเขาต่อ

“คุณชาย คุณชายเซ่า เราไปไหนกันดีเจ้าคะ?”


หญิงนางโลมผูห้ นึงเดินเข้ามาถามอย่างอ่อนโยน

เจ้าอ้วนเซ่าหันไปมองมูช่ ิงเกอเหมือนให้เขาเป็ น
คนตัดสินใจ

มูช่ ิงเกอมองเข้าไปยังสวนดอกท้อ พูดอย่างไม่


ค่อยใส่ใจว่า : “หาพืนทีกว้างๆ หน่อย แล้วปูผา้ สะอาดๆ
ให้ทกุ คนนังก็พอแล้ว”

45
แบบนีถึงจะเป็ นการเทียวป่ าอย่างถูกวิธี!

เสียดาย ถ้าเตรียมให้พร้อมกว่านี ยังสามารถ


เอาอะไรมาปิ งย่างกันได้!

มูช่ ิงเกอแอบคิดด้วยความเสียดาย ชาติทีแล้ว


นางไม่คอ่ ยมีเวลาได้พกั ผ่อนหย่อนใจแบบนีเลย
ประสบการณ์การออกไปปิ กนิกทังสองครังในชีวิต ก็ไป
กับเพือนในร่วมรบ ในช่วงทีหยุดยาวหลังจากเสร็จสิน
ภารกิจใหญ่สองอย่าง

รูส้ กึ โหยหาความรูส้ กึ ของการได้ทาํ ตามใจตน


เอง โดยไม่ตอ้ งมีกฎเกณฑ์มาควบคุมแบบนันเหลือเกิน

46
แต่ในชาตินี หากไม่ใช่เพราะนางต้องใช้ฐานะ
ของจอมเสเพลเพือกลบเกลือนแล้วล่ะก็ นางก็คงจะ
ทุม่ เทเวลาทังหมดไปกับการฝึ กพลัง ไม่มาเสียเวลากับ
การเทียวเล่นชมธรรมชาติแบบนีแน่นอน

เพราะคําชีแนะของมูช่ ิงเกอ ทําให้ทกุ คนไม่เดิน


อย่างไม่รูจ้ ดุ หมายในป่ าแห่งนีอีกต่อไป

แต่มีจดุ มุง่ หมายคือการหาสถานทีๆ เหมาะสม

สักพัก ตาคมๆ ของเจ้าอ้วนเซ่าก็หาทีเหมาะๆ


เจอ

47
ท่ามกลางต้นดอกท้อมีพืนทีว่างรูปวงกลมแห่ง
หนึง มีพืนทีอยูป่ ระมาณ 10 จ้าง หญ้าเขียวขจี พร้อมทัง
ก้อนหินทีกระจายไปทัว ทียิงไปกว่านันคือ อีกฝังหนึง
ของพืนหญ้ามีแม่นาที
ํ นําไหลเอือยอยูส่ ายหนึง

นําทีไหลผ่านก้อนหินส่งเสียงไพเราะ บวกกับ
เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของเหล่าหญิงงามแล้วราว
กับเป็ นแดนเซียนในโลกมนุษย์ สวยงามมีเอกลักษณ์

พอปูผา้ ทีเตรียมมาลงบนพืนหญ้าเสร็จเรียบร้อย
แล้ว ก็นาํ ถาดอาหาร และอุปกรณ์สรุ าต่างๆ ออกมาวาง
ตรงหน้าแล้วเปิ ดออก

48
เพียงเสียวนาที อาหารและเครืองดืมอันเลิศรสก็
วางอยูใ่ ต้ตน้ ดอกท้อ ราวกับภาพวาดร้องเล่นสนุกสนาน
อันงามประณีตอย่างไรอย่างนัน

มูช่ ิงเกอนอนตะแคงอยูบ่ นผ้าด้วยท่าทางโอหัง


สง่างาม ในมือถือแก้วสุราทีมีกลินหอมอบอวล มองดู
เหล่าหญิงงามทีกําลังเล่นสนุกอยูท่ า่ มกลางสายนํา

ท่อนแขนงามราวบัวหยก เท้าทีอยูท่ า่ มกลาง


สายนํา ดวงตาทีมองมุง่ ไปข้างหน้า……..

สายนําอันใสสะอาดถูกสาวงามสาดขึนบนท้อง

49
ฟ้า ส่องแสงระยิบระยับประกายทองท่ามกลางแสงแดด
ทําให้ผมของเหล่าหญิงสาวเปี ยกชุ่มติดแนบอยูบ่ ริเวณ
ใบหน้าและลําคอ

ชุดกระโปรงตัวบาง ก็ยบั เพราะการยอกล้อกัน


บริเวณเสือผ้าทีโดนนํา แนบติดกับผิวหนัง

ภาพตรงหน้า ทําให้เจ้าอ้วนเซ่าทีดูอยูน่ าลาย



ไหล

มูช่ ิงเกอมองเขาทีหนึง พูดพร้อมหัวเราะว่า :


“สุราไม่ทาํ ให้เมา แต่มนุษย์ทาํ ให้ตวั เองมัวเมาโดยแท้”
พูดจบ ก็ยกมือขึนด้วยท่าทางสูงสง่า ของเหลวสีสม้ อม

50
แดงในแก้วทีถืออยูไ่ หลโค้งในอากาศแล้วไหลลงสูป่ ากที
อ้าอยูน่ อ้ ยๆ ของนางอย่างแม่นยํา

ท่าทางงามสง่าตรงหน้า ทําให้ตาเล็กๆ ของเจ้า


อ้วนเซ่าเต็มไปด้วยความอิจฉาและนับถือ

มูช่ ิงเกอกลืนสุรารสเลิศในปากลงไป แล้วเด็ด


องุ่นมาเม็ดหนึง กระทังเปลือกก็ยงั ขีเกียจจะปอกแล้ว
โยนเข้าปากทังอย่างนัน เคียวพร้อมพูดกับเจ้าอ้วนเซ่า
ว่า : “หากเจ้าอยากไปร่วมสนุกกับพวกนาง ก็ไปเถอะ ไม่
จําเป็ นต้องมาทนทุกข์ทรมานเฝ้าข้าอยูแ่ บบนี”

เจ้าอ้วนเซ่าส่งเสียงหัวเราะ “ฮีๆ” แล้วรีบพูดว่า :

51
“ได้อยูเ่ ป็ นเพือนลูกพีไม่ได้เสียใจอะไรเลย แต่ถือเป็ น
เกียรติของข้า แต่วา่ หากเราทังสองไม่ช่วยกันดูแลสาว
งามทังหลายให้ดีๆ ก็คงจะฝ่ าฝื นหลักการของสุภาพบุรุษ
ถือเป็ นโทษหนัก เพราะฉะนัน หากลูกพีไม่อยากอยูเ่ ป็ น
เพือนหญิงงาม น้องชายอย่างข้าก็คงจะต้องทําแทนเสีย
แล้ว”

ทันทีทีพูดจบ แก้วสุราใบหนึงก็ฟาดลงมาที
พุงกลมๆ ของเจ้าอ้วนเซ่าทันที จนทําให้เขาร้อง “โอ๊ย”

มูช่ ิงเกอตําหนิอย่างขบขันว่า : “เจ้าน่ะ ตัวเอง


บ้ากามก็ยอมรับเสีย อย่าดึงข้าเข้าไปเกียวข้อง ไสหัวไป
สิ!”

52
เจ้าอ้วนเซ่าลูบท้อง แล้วยิมพร้อมพูดว่า : “ข้า
น้อยไปเดียวนีแหละ ไปอยูก่ บั สาวงามแล้วนะ หากลูกพี
เกิดความปรารถนาขึนมาละก็ ไม่ตอ้ งเก็บกดไว้นะ รีบๆ
ตามมาล่ะ!”

พูดจบเขาก็ลกุ ขึนยืนอย่างคล่องแคล่ว ร้อง


ตะโกนอย่างมีความสุขพร้อมพุง่ ลงไปยังแม่นาสายน้
ํ อย
ทีห้อมล้อมไปด้วยบรรยากาศอันงดงามทันที

ซูม !

เสียงดังเสียงหนึงมาพร้อมกับสายนําทีพุง่

53
กระจายไปทัว ทําให้หญิงงามทังหลายตกใจ

ตอนที 54 จับองค์หญิงผูน้ ่ารักบริสทุ ธิได้องค์หนึง

54
มูช่ ิงเกอหัวเราะ ‘หึๆ’ แล้วละสายตาจากร่างอ้วนๆ
เปี ยกๆ พร้อมพูดว่า “อัสนีบาตฟาดพิภพ ก็คงใช้เปรียบ
เทียบฉากๆ นีนีแหละ”

มีเจ้าอ้วนเซ่ามาเข้าร่วม มีเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ
และขอความช่วยเหลือดังมาไม่หยุด

มูช่ ิงเกอขยับตัวเปลียนท่าทาง หันหลังให้กบั ริมนํา ขี


เกียจจะดูภาพสวยงามนันต่อ

55
ทันใดนัน นางก็มองไปเห็นบริเวณกิงไม้สนไหวที
ั หนึง
เห็นเป็ นแพรเนือดีสีเหลืองอ่อนอยูท่ า่ มกลางดอกท้อสี
ชมพู

มูช่ ิงเกอหรีตาลงแล้วค่อยๆ ลุกขึนนังขัดสมาธิ

ในมือขวาของนางมีขวดเหล้าขวดใหญ่มือซ้ายวางอยูบ่ น
น่องกําหมัดเกยคางเอาไว้ มุมปากยิมอย่างเกียจคร้าน
และอวดดี พร้อมพูดกับคนทีแอบมองอยูห่ ลังต้นไม้วา่ :
“ออกมา”

เงาคนทีแอบอยูเ่ หมือนรูส้ กึ ตกใจจึงทําให้กิงไม้สนยิ


ั งกว่า
เดิม

56
หลังจากทีลังเลไปสักพักนางก็เดินออกมา

คนทีหลบอยูเ่ ดินออกจากด้านหลังของต้นดอกท้อ มูช่ ิง


เกอพบว่าทีแท้ก็เป็ นองค์หญิงตัวน้อยทีบังเอิญเจอในวัน
ทีมีงานเลียงในพระราชวังวันนันนันเอง แต่วา่ วันนีข้างๆ
นางมีเด็กสาวทีดูอายุรุน่ ราวคราวเดียวกันแต่ดรู ะมัด
ระวังมากกว่าคนหนึงเพิมมาด้วย

คิดว่าเด็กสาวทีดูไม่คนุ้ หน้าคนนีคงจะเป็ นชิงเอ๋อร์ทีองค์


หญิงตัวน้อยพูดถึงมากกว่าหนึงครังในวันนัน

“พีชาย เป็ นท่านเองหรือ!”

57
ในขณะทีมูช่ ิงเกอจํานางได้ ฉินยีเหลียนเองก็จาํ มูช่ ิงเก
อได้เช่นกัน

หลังจากทีจดจําชายหนุ่มในชุดแดงผูง้ ดงามราวกับเทพ
เซียนในภาพวาดทีนางพบในวันทีมีงานเลียงพระราชวัง
ได้ ดวงตาอันกลมโตของฉินอีเหลียนก็เป็ นประกายขึนใน
ทันที ขนตาทียาวงอนราวขนนกขยับหลายที ใบหน้า
ซาลาเปาอันน่ารักเผยรอยยิมทีสดใส ยกกระโปรงแล้ว
ขึนวิงเข้าไปหามูช่ ิงเกอ

“ตายแล้ว ! องค์หญิง” ชิงเอ๋อร์ยืนมือออกมาหมายจะ


หยุดยังการกระทําของฉินยีเหลียน แต่หลังจากทีหลุดคํา
เรียกขานไปเพราะความตืนตระหนกแล้วนางก็รบี เอามือ
58
ปิ ดปากของตนเองอย่างรวดเร็ว พร้อมคอยสังเกตรอบ
ข้าง

พอสังเกตว่าไม่มีใครสนใจตนเอง จึงค่อยลอบถอน
หายใจแล้วรีบตามไป

“พีชาย เป็ นท่านจริงๆ ด้วย” ร่างเล็กๆ เดินไปหยุดตรง


หน้าของมูช่ ิงเกอแล้วคุกเข่าลงตรงหน้านาง พยักหน้าไม่
หยุดมองนางอย่างไม่ละสายตา นัยน์ตากลมโตนันใส
สะอาดบริสทุ ธิ

มูช่ ิงเกอก็คอ่ ยๆ นังตัวตรง เขย่าขวดเหล้าในมือเบาๆ


แล้วพูดกับองค์หญิงตัวน้อยว่า : “ทําไมท่านถึงมาอยูต่ รง

59
นี?”

“ข้ามากับพีเฉินแต่วา่ ข้าไม่สนุกเลยและพีเฉินเองก็ไม่
สนใจเหลียนเหลียนเลยด้วย ข้าก็เลยพาชิงเอ๋อร์มาเดิน
เล่นในป่ า พอได้ยินเสียงคนก็เลยเดินเข้ามาแต่ไม่คิดว่า
จะถูกพีชายพบเข้า” พูดจบใบหน้าน้อยนันก็กม้ ลงท่า
ทางดูเสียใจ

“องค์......คุณหนู” ชิงเอ๋อร์ทีตามมาจากด้านหลัง คิดไม่


ถึงเลยว่าเจ้านายของตนเองจะพูดต้นสายปลายเหตุเสีย
ชัดเจนในเวลาอันสันแบบนี

พีเฉินอย่างนันหรือ?

60
มูช่ ิงเกอทวนคําพูดขององค์หญิงตัวน้อยในใจ ความคิด
กระตุกนิดหนึง แล้วก็ได้คาํ ตอบ

พีเฉินทีนางหมายถึงแน่นอนว่าต้องเป็ นต้องเป็ นฉินจิน


เฉิน

เพียงแต่ไม่คิดว่าคนทีเย็นชาขนาดนี จะสนิทสนมกับองค์
หญิงตัวน้อยทีไร้เดียงสาองค์นีได้

ชิงเอ๋อร์เงยหน้ามองมูช่ ิงเกออย่างระมัดระวังครูห่ นึง


นัยน์ตาผุดความตืนตะลึงออกมาราวกับว่านางไม่คิดว่า
ชายหนุ่มในชุดแดงผูน้ ี จะมีรูปโฉมทีงดงามได้ถงึ เพียงนี

61
แม้วา่ นางจะเห็นผูค้ นทีมีรูปโฉมงดงามในพระราชวังมา
มากมายจนเคยชิน แต่ก็รูส้ กึ ว่าเมือนํามาเทียบกับชาย
หนุ่มทีอยูต่ รงหน้าแล้ว เหล่าสาวงามทีคัดสรรมาจากทัง
ใต้หล้ากลับกลายเป็ นเพียงหญิงสาวรูปโฉมดาษดืนเท่า
นัน

ทันใดนัน ชิงเอ๋อร์ก็ถกู เสียงหัวเราะสดใสทําให้ตืนจาก


ภวังค์ นางจึงค่อยหันหน้าไปมองตรงแม่นาที
ํ มีคนกกลุม่
หนึงกําลังเล่นนํากันอยูอ่ ย่างสนุกสนาน

พวกเขาเหมือนไม่ได้สงั เกตเห็นสองคนทีอยูบ่ นฝัง ยังคง


เล่นกันอย่างมีความสุข

62
ท่าทางระหว่างเจ้าอ้วนเซ่าและเหล่าสาวงามทําให้ชิง
เอ๋อร์ทีมองอยูแ่ ล้วหน้าแดงรีบดึงองค์หญิงตัวน้อยเอาไว้
แล้วเอ่ยเร่ง : “คุณหนูเรากลับกันเถอะเจ้าค่ะ ไม่อย่างนัน
คุณชายจะเป็ นห่วงเอา”

แต่ฉินอีเหลียนกลับไม่ยอมทําตาม นางทําปากจู๋
ปฏิเสธ : “แต่กว่าข้าจะได้เจอพีชายอีกครังมันไม่ง่ายเลย
นะ พีเฉินจะดีดพิณอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู ้ ไม่เป็ นห่วงอะไร
หรอก”

“โธ่ คุณหนู!” ความตรงไปตรงมาขององค์หญิงน้อยจน


ทําให้ชิงเอ๋อร์เกือบจะร้องไห้ดว้ ยความร้อนใจ

63
นางเกือบจะหลุดปากพูดออกมาแล้วว่า “คนพวกนีไม่ใช่
คนดีอะไร! ท่านไม่เห็นหรือว่าทางโน้นชายหญิงเหล่านัน
กอดรัดกันกลมแล้ว”

หากเกิดเรืองไม่คาดฝันขึนกับองค์หญิงหย่งฮวนแล้วล่ะก็
เกรงว่าให้นางตายสักสิบรอบก็คงไม่พอ

“คุณหนู พวกเราไปกันเถิดเจ้าค่ะ อย่ารบกวนคุณชาย


ท่านนีเลย” ชิงเอ๋อร์ขอร้อง

ฉินอีเหลียน ยังคงส่ายหน้าและเข้าไปใกล้มชู่ ิงเกอกว่า


เดิม : "ไม่ ชิงเอ๋อร์คนดี เจ้าให้ขา้ เล่นกับพีชายอีกสักพัก
ได้หรือไม่? จริงด้วย ข้าลืมบอกเจ้าไป เมือครังก่อนทีข้า

64
เท้าแพลงแล้วเจ้าไปตามหมอหลวง เป็ นพีชายคนนีนี
แหละทีคอยนังเป็ นเพือนข้า"

ชิงเอ๋อร์องไป

ด้วยนิสยั ขององค์หญิงตัวน้อย คงจะปิ ดบังเรืองทีเจอมู่


ชิงเกอในคราวก่อนกับนางกํานัลใกล้ชิดไม่ได้

เพราะฉะนัน ชิงเอ๋อร์ทีรูเ้ รืองนีอยูแ่ ล้ว ตอนนีคําพูดนีของ


องค์หญิงตัวน้อยทําให้นางคาดเดาไปต่างๆ นานา

ในเมือชายหนุ่มหน้าตางดงามตรงหน้านีสามารถไป
ปรากฏกายอยูก่ ลางพระราชวังได้อย่างนีก็สามารถบอก
65
ได้วา่ ฐานะของเขาต้องไม่ธรรมดาน่ะสิ? และเขาเองก็รู ้
ฐานะขององค์หญิง?

คิดถึงตรงนี ชิงเอ๋อร์ก็ลอบถอนหายใจอยูใ่ นใจ

จากทีนางดู ในเมืออีกฝ่ ายก็เป็ นผูท้ ีมีฐานะแล้วก็รู ้


สถานะขององค์หญิงน้อยดีแน่นอนว่าคงจะไม่ได้มีจิตคิด
ร้ายอะไร

“พีชาย ข้าให้ลกู อมท่านนะ!” องค์หญิงน้อยล้วงถุงผ้า


แพรใบหนึงออกมาจากอก ค่อยๆ เปิ ดออกอย่างระมัด
ระวังแล้วเอาลูกอมหลายเม็ดในนันยืนให้กบั มูช่ ิงเกอ

66
เดิมมูช่ ิงเกอทีกําลังฟั งบทสนทนาของนายบ่าวทังสองอยู่
อย่างเงียบๆ เมือเห็นลูกอมทียืนมาตรงหน้านางก็ดนั
ออกแล้วพูดกับฉินอีเหลียนว่า : “ท่านพาสาวใช้มาแค่คน
เดียว ไม่ควรออกมาเดินเพ่นพ่านในป่ าแบบนี”

ต้องรูว้ า่ ป่ าดอกท้อแห่งนีเป็ นทีสาธารณะทีไม่วา่ ใครก็


สามารถเข้ามาได้ อีกอย่างในป่ าก็กว้างขวางหากหลง
ทางอยูใ่ นนีแล้วเจอกับคนร้ายเข้า ยิงไม่ใช่จะเป็ นการส่ง
แกะเข้าปากเสือรึ?

เสียนอ๋องผูน้ ี นับว่าใจกล้ามาก

ลูกอมทียืนออกไปถูกผลักคืนมา ในแววตาขององค์หญิง

67
ตัวน้อยเต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่กลับไม่ดือดึงอีกต่อ
ไป ค่อยๆ เอาลูกอมใส่คืนถุงอย่างระมัดระวัง

“เหลียนเหลียนรูแ้ ล้ว” เพราะนําเสียงตําหนิของมูช่ ิงเก


อ ทําให้องค์หญิงตัวน้อยเชือฟั งแต่โดยดี

68
ตอนที 55 ว่าทีคูห่ มันภูเขานําแข็งมาตามหา

“เหลียนเหลียน รูแ้ ล้ว” ฉินอีเหลียนทําท่างทางเชือฟั ง

กับคําพูดของมูช่ ิงเกอ นางเหมือนไม่ตอ่ ต้านเลยแม้แต่

69
น้อย ฉากตรงหน้าทําให้ชิงเอ๋อร์ทีดูอยูถ่ งึ กับตาค้างรูอ้ ยู่
แล้วว่าองค์หญิงตัวน้อยผูน้ ีของนางแม้จะน่ารักและเชือ
ฟั งแค่ไหน แต่ก็มีมมุ ทีดือรันอยูบ่ า้ ง ขนาดคําพูดของ
เสด็จแม่ของอย่างพระสนมอวินเฟยยังไม่คอ่ ยเชือฟั งเลย
แต่กบั ชายหนุ่มชุดแดงคนนีกลับเชือฟั งได้ถงึ เพียงนี ชาย
หนุ่มผูง้ ดงามสว่างสดใสราวกับดวงอาทิตย์ทีร้อนแรงผูน้ ี
เป็ นใครกันแน่?

“กระหม่อมจะไปส่งพระองค์” มูช่ ิงเกอพูดจบก็ลกุ ขึนยืน


ในขณะเดียวกันก็ยืนมือไปทางฉินอีเหลียน

ฉินอีเหลียนทําปากจู๋ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
แต่สดุ ท้ายก็ยอมวางมือบนมือของมูช่ ิงเกอแต่โดยดี มูช่ ิง
เกอหันไปทางแม่นาตะโกนใส่
ํ เจ้าอ้วนเซ่า : “เจ้าอ้วน ข้า
70
ออกไปสักพักนะ” นางพูดโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ ายจะได้
ยินหรือไม่ แล้วพาองค์หญิงตัวน้อยและชิงเอ๋อร์เดินเข้า
ป่ าดอกท้อไป

แน่นอนว่าเจ้าอ้วนเซ่าทีถูกสาวสวยรายล้อมเห็น
เหตุการณ์ทงหมด
ั และได้ยินคําพูดทีมูช่ ิงเกอพูดทิงท้าย
เอาไว้ เขายิมอย่างมีเลศนัย พร้อมพึมพําว่า “ฮีๆ ลูกพีก็
คือลูกพีจริงๆ พาสาวน้อยทีไม่รูท้ ีมาเข้าป่ าไปแล้ว ทีแท้
ลูกพีไม่ได้ชอบแค่องค์หญิงฉางเล่อทีเป็ นสาวงามแห่ง
ภูเขานําแข็ง นันเท่านันสินะ แต่ยงั ชอบสาวน้อยหน้าตา
งดงามทีดูน่ารักเชือฟั งแบบนีอีกด้วย!” ความคิดสกปรก
ของเจ้าอ้วนเซ่า มูช่ ิงเกอไม่รู ้

ตอนนี นางเดินจูงมือองค์หญิงตัวน้อยเดินไปตามทางใน
71
ความทรงจําไปตรงบริเวณทีเจอฉินจินเฉินในศาลา
หลังคาแปดเหลียม

ความสูงของมูช่ ิงเกอ ถือว่าสูงในบรรดาผูห้ ญิงด้วยกัน


บวกกับอายุของนางทีมากกว่าฉินอีเหลียน ความสูงของ
ฉินอีเหลียนจึงพอๆ กับหัวไหล่ของนางเท่านัน ซึงเตีย
กว่าถึงหนึงศีรษะ

ชุดสีแดงทีปลิวอย่างเป็ นธรรมชาติ เดินจูงมือ


หญิงสาวในชุดสีเหลืองอยูใ่ นสวนดอกท้อ ภาพนันช่าง
งดงามหาใดเปรียบ ขนาดคนทีเดินอยูข่ า้ งหลังพวกเขา
ทังสองอย่างชิงเอ๋อร์ยงั มองจนเหม่อลอย

72
ศาลาหลังคาแปดเหลียมอยูแ่ ค่เอือมมือแล้ว

เลียวข้างหน้าอีกโค้งและเดินต่อไปอีกนิดก็ถงึ
แล้ว

แต่เพราะต้นดอกท้อทีเต็มป่ า ทําให้บดบัง
ทัศนวิสยั ของแต่ละฝ่ าย

มูช่ ิงเกอพาองค์หญิงตัวน้อยเดินเลียวออกจาก
ป่ า แต่ยงั ไม่ทนั ได้เงยหน้าขึน ก็เห็นรองเท้าปั กลายคูส่ วย
หลายคู่

เมือเงยหน้าขึน มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ ได้ถงึ ความสนุกใน


73
ทันที

วันนีทําไมถึงพบแต่คนคุน้ เคยหรือว่าวันนีจะเป็ น
วันดีอะไร ทีทุกคนมายังป่ าดอกท้อพร้อมๆ กันขนาดนี

แต่วา่ มีความคิดหนึงแวบเข้ามาในหัวของนาง

ทําไมป๋ ายซีเยวียถึงอยูก่ บั ฉินอีเหยาด้วย

“พีเหยา ท่านเองก็มาเทียวเล่นทีนีหรือ?”

เจอกับคนตังมากมาย แต่คนแรกทีพูดขึนก่อน

74
คือฉินอีเหลียนผูไ้ ร้เดียงสา

สายตาอันเยือกเย็นเหมือนนําแข็งของฉินอีเหยา
มองมือของมูช่ ิงเกอและฉินอีเหลียนทีจับกันแวบหนึง
และตอบอย่างเย็นชาว่า : “อืม”

“คุณชาย!”

เมือเห็นชุดแดงสดทีทีคุน้ ตา โย่วเหอและฮวาเย
วียทีอยูข่ า้ งหลังฉินอีเหยาและป๋ ายซีเยวียก็เต็มไปด้วย
ความดีใจ เดินไปอยูข่ า้ งหลังของมูช่ ิงเกอทันที

มูช่ ิงเกอมองพวกนางแล้วพยักหน้าเบาๆ
75
โย่วเหอเข้าไปใกล้มชู่ ิงเกอและกระซิบข้างหูนาง
ว่า : “คุณชาย ท่านออกจากตําหนักไม่นาน องค์หญิง
ฉางเล่อก็มาหาท่าน พอรูว้ า่ ท่านมาทีสวนดอกท้อ ก็
ตัดสินใจให้สงพวกบ่
ั าวทังหลายนําทางมาหาท่าน บ่าว
เห็นว่าท่าทางองค์หญิงดูรบี ร้อน ก็คิดว่าอาจจะเกิดเรือง
อะไรขึน จึงไม่ได้ปฏิเสธ ตอนออกจากจวนก็พบกับแม่
นางป๋ ายเข้าพอดีนางจึงร่วมเดินทางมาด้วยเจ้าค่ะ”

คําง่ายๆ เพียงไม่กีคํา ทําให้มชู่ ิงเกอรูเ้ หตุผลทีคนพวกนี


มาทีนี

ทีแท้ ก็ไม่ใช่เรืองบังเอิญอะไร แต่คนพวกนีตังใจ

76
มาหานาง

“พีมู่ องค์หญิงฉางเล่อเหมือนมีธุระจึงมาหาท่าน
ซีเยวียคิดว่าเผือมีอะไรให้ช่วยจึงตามออกมาโดยพลการ
ท่านคงไม่ถือโทษโกรธซีเยวียใช่มย”
ั ป๋ ายซีเยวียทําท่า
ทางไร้เดียงสา มองมูช่ ิงเกออย่างขลาดๆ

ช่วงนียากทีนางจะได้พบกับมูช่ ิงเกอ

วันนี ในป่ าดอกท้อแห่งนี เขาเหมือนจะงด


งามมากขึนกว่าเดิม รูปโฉมอันงดงามนัน ขนาดนางที
เป็ นหญิงก็ยงั อดไม่ได้ทีจะตืนตะลึงในความงามนัน แต่
น่าเสียดาย.........เขาเป็ นแค่คนไร้พลัง ไม่อย่างนัน หาก

77
มอบกายให้กบั เขา และเป็ นนายหญิงแห่งจวนหย่งหนิง
กงได้จงึ จะดีทีสุด

ป๋ ายซีเยวียหลุบตาลงปิ ดบังความรูส้ กึ ภายในใจ


เอาไว้

มูช่ ิงเกอยิมพร้อมพูดอย่างไม่ใส่ใจ : “ไม่แน่


นอน” พูดจบ ก็มองฉินอีเหยาและถามในทันทีวา่ : “องค์
หญิงฉางเล่อมาหากระหม่อมมีเรืองอันใดหรือ?”

แต่ฉินอีเหยาไม่ตอบ แต่จอ้ งฉินอีเหลียนแล้ว


ถามว่า : “หย่งฮวนเหตุใดเจ้าถึงมาอยูท่ ีนีได้?”

78
องค์หญิงตัวน้อยกะพริบตาปริบๆ แอบหลบหลัง
มูช่ ิงเกอเหมือนต้องการทีพึงพา ฉากนีอยูใ่ นสายตาของ
ฉินอีเหยาและป๋ ายซีเยวีย ในใจพวกนางต่างก็คาดเดา
แตกต่างกันไป

ฉินอีเหยาเห็นความสนิทสนมของทังสองแล้วก็
รูส้ กึ ไม่คอ่ ยสบายใจนัก

แต่ป๋ายซีเยวียกําลังคาดเดาฐานะทีแท้จริงของ
องค์หญิงตัวน้อยอยู่

ฉินอีเหลียนเหมือนกลัวฉินอีเหยา นางเม้มปาก
แน่นไม่ยอมพูดมูช่ ิงเกอจึงต้องตอบแทน : “องค์หญิงมา

79
กับเสียนอ๋อง พอแยกกันก็บงั เอิญมาเจอกับกระหม่อม
กระหม่อมกําลังจะพาองค์หญิงไปส่งให้เสียนอ๋อง”

ฉินอีเหยายิมทีหนึง แล้วมองชิงเอ๋อร์ : “เสีย


นอ๋องอยูท่ ีใด?”

ชิงเอ๋อร์รบี ทําความเคารพพร้อมตอบว่า : “เรียน


องค์หญิง เมือสักครูเ่ สียนอ๋องดีดพิณอยูท่ ีศาลาในป่ า
ดอกท้อ”

ฉินอีเหยาหันไปบอกองครักษ์สองคนทันทีวา่ :
“พวกเจ้าทังสองพาองค์หญิงหย่งฮวนไปหาเสียนอ๋อง
ก่อน หากหาไม่เจอก็พาองค์หญิงกลับวัง”

80
องครักษ์ทงสองรั
ั บคําสัง

ตอนนี ป๋ ายซีเยวียกําลังมองมูช่ ิงเกอและฉินอี


เหยาด้วยความแปลกใจ

คิดไม่ถงึ ว่า มูช่ ิงเกอไม่เพียงแต่จะมีคหู่ มันคู่


หมายเป็ นถึงองค์หญิงองค์หนึง แต่ยงั สนิทสนมกับองค์
หญิงอีกองค์ในวังเป็ นอย่างมากด้วย

คนไร้พลังคนหนึงจะเป็ นทีโปรดปรานได้เพียงนี
เลยหรือ หรือว่านางจะพลาดอะไรไป?

81
ป๋ ายซีเยวียค่อยๆ ขมวดคิวพลางแอบคิดในใจ

องค์หญิงตัวน้อยปล่อยมือมูช่ ิงเกออย่างอ้อยอิง
ไม่เต็มใจแล้วเดินไปหาฉินอีเหยา พอเดินได้ไม่กีก้าวก็
หันไปถามมูช่ ิงเกอว่า : “พีชาย ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลย
ว่าท่านคือใคร”

มูช่ ิงเกอเงียบ

เป็ นความจริงทีว่า ทังสองครังทีพบกัน เหมือน


นางจะยังไม่เคยแนะนําตัวเอง

“กระหม่อมคือมูช่ ิงเกอแห่งตระกูลมู”่ มูช่ ิงเกอต


82
อบพร้อมรอยยิมจางๆ

“มูช่ ิงเกออย่างนันหรือ?” ฉินอีเหลียนเอียงศีรษะ


เพราะกําลังใช้ความคิด แล้วพูดขึนอย่างตืนเต้น : “อ๋อ !
ข้ารูแ้ ล้ว ท่านคือคุณชายมูช่ ิงเกอของตระกูลมูใ่ ช่ไหม?
ได้ยินมาว่า เมือหลายปี ก่อนในวังหลวง ท่านสามารถทํา
ให้ดอกไม้นานาพรรณบานสะพรังเพราะความงดงาม
ของท่านได้ และยังเป็ นว่าทีราชบุตรเขยของพีเหยาใช่
หรือไม่? ”

“หย่งฮวน เจ้าควรไปได้แล้ว” ฉินอีเหยาพูดตัด


บทองค์หญิงตัวน้อย ราวกับนางอยากจะมองข้ามความ
ว้าวุน่ ในใจตนทีเกิดขึนจากคําว่า “ว่าทีราชบุตรเขย” นี

83
เมือก่อนนางไม่เคยรูส้ กึ อะไรกับเรืองนีเลยแต่
เหตุใดตอนนี.............เป็ นเพราะอะไรกันแน่นะ?

ฉินอีเหลียนทีถูกสังให้หยุดพูดนางจู๋ปากเล็กๆ
ของตน ยังคงมองมูช่ ิงเกออย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วเดิน
ออกจากสายตาของทุกคนไป

พอองค์หญิงจากไป บรรยากาศภายในป่ าก็ดู


แปลกประหลาด

84
ตอนที 56 กฎเกณฑ์การคบเพือนของคุณชาย!

85
ตอนแรกฉินอีเหยาคิดว่าหลังจากทีพบกับมูช่ ิงเกอแล้ว
พูดคุยธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะจากไปเลย แต่ตอนนี
ราวกับไม่อยากจากไปแบบนี ส่วนป๋ ายซีเยวีย......

ครังก่อนนางไปหารุย่ อ๋อง กลับเจอแต่ประตูทีปิ ดอยู่

สุดท้ายต้องลงทุนลงแรง จึงรูว้ า่ รุย่ อ๋องโดนลงโทษให้อยู่


ทีอารามหลวงเป็ นเวลาสามเดือน คงไม่อาจพบกันได้สกั
พัก

เหตุใดรุย่ อ๋องถึงได้รบั โทษนัน นางเองก็สดุ รู ้

86
เพราะฉะนันทีนางมายังป่ าดอกท้อแห่งนีกับองค์หญิง
ฉางเล่อก็เพือทีจะสืบข่าวคราวจากของมูช่ ิงเกอ นางเชือ
ว่ามูช่ ิงเกอให้ความสําคัญกับรุย่ อ๋องมากเพียงนัน เขาจะ
ต้องรูแ้ น่ๆ ว่าเกิดอะไรขึน

แน่นอนว่าก่อนทีจะบรรลุเป้าหมาย นางเองจะไม่ยอมไป
ไหนแน่

โย่วเหอและฮวาเยวียทียืนอยูข่ า้ งหลังมูช่ ิงเกอสบตากัน


อย่างไม่เข้าใจ

ตอนทีองค์หญิงไปทีจวน ก็ดเู หมือนทรงมีเรืองด่วนต้อง


การจะหาคุณชาย แต่ตอนนีพอได้พบกันแล้วเหตุใดถึง

87
ไม่ยอมพูดอะไรเลยเล่า?

“องค์หญิง ทรงมาหากระหม่อมมีเรืองอันใดรึ?” มูช่ ิงเก


อพูดขึนอย่างจนปั ญญา

คนหลายคนทียืนอยูใ่ นป่ า ท่ามกลางกลีบดอกไม้ทีร่วง


หล่น มองหน้ากันไปมาแบบนีนีมันยังไงกัน?

ฉินอีเหยาเม้มปาก สายตาทีเยือกเย็นมีความไหวระริก
วาบผ่าน แต่ยงั คงตอบอย่างเย็นชาว่า : “ทีนีทิวทัศน์ไม่
เลว เดินไปด้วยคุยไปด้วยจะดีกว่า”

มูช่ ิงเกอทียังเดาใจสาวงามไม่ออกในตอนนีทําได้เพียง
88
แค่เดินตาม

สาวงามเคียงคูก่ บั บรรยากาศรอบข้างทีสวยสด แต่มชู่ ิง


เกอไม่ได้สนใจกับสิงเหล่านีเลยแม้แต่นอ้ ย

นางกําลังคิดว่าเหตุใดองค์หญิงฉางเล่อถึงเป็ นฝ่ ายมา


หานางก่อน จากการเจอกันเมือครังก่อนๆ ทีผ่านมา องค์
หญิงจะต้องไม่อยากไปมาหาสูก่ บั นางสิจงึ จะถูก

แม้วา่ ในวันงานเลียงทีวังหลวงนันเป็ นเพราะองค์หญิง


ยืนมือเข้าช่วยเหลือ แต่หลังจากเรืองนันทังสองก็ไม่ได้
ติดต่อกันอีกเลย

89
นอกเสียจากว่า-------

“องค์หญิง ไทเฮาทรงมีรบั สังอะไรใช่หรือไม่?” อยูๆ่ มูช่ ิง


เกอก็ถามขึน

ฉินอีเหยาชะงักฝี เท้า เม้มปากเบาๆ มองมูช่ ิงเกอด้วย


สายตาอันสว่างสดใส : “หรือว่าต้องมีพระบัญชาจาก
เสด็จย่าเท่านัน ข้าจึงจะมาหาเจ้าได้?”

เอ่อ......

“แน่นอนว่าไม่ใช่” มูช่ ิงเกอยกยิมน้อยๆ

90
ทังสองเริมพูดคุยกัน ราวกับว่าทิงไปป๋ ายซีเยวียไว้อีก
ด้านหนึงทําให้ดวงตาอันงดงามของนางดูเยือกเย็นลง
เล็กน้อยและมองทังสองอย่างไม่คอ่ ยชอบใจ

ฉินอีเหยามองไปรอบๆ ป่ าดอกท้อ : “ได้ยินสาวใช้ของ


เจ้าบอกว่าวันนีคนทีนัดเจ้าออกมาคือคนตระกูลเซ่า
อย่างนันหรือ?”

นีก็ไม่ได้มีอะไรน่าปิ ดบัง

มูช่ ิงเกอพยักหน้าโดยไม่ตอ้ งคิด

เห็นมูช่ ิงเกอยอมรับ ฉินอีเหยาก็หยุดคิดสักพักแล้วเอ่ย


91
ว่า : “ต่อไปเจ้าก็อย่าไปไหนมาไหนกับเขาให้มากนัก ข้า
ได้ยินว่าชือเสียงของเขา.......ไม่คอ่ ยจะดีนกั ”

นําเสียงนีมีความสนิทสนมขึนมาบ้าง แต่ก็ยงั คงเย็นชา


แต่ก็ไม่เหมือนคนแปลกหน้าเหมือนเมือก่อน

แต่มนั กลับทําให้สีหน้าของมูช่ ิงเกอเย็นชาขึน นางหยุด


เดินและพูดติดตลกว่า : “ชือเสียงของเขาไม่คอ่ ยดีอย่าง
นันหรือ หรือว่าองค์หญิงจะไม่ทรงทราบว่าชือเสียง
ของกระหม่อมเองก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมากเช่นเดียวกัน จอม
เสเพลแห่งแคว้นลัวตู เขาเป็ นอันดับสอง ส่วนกระหม่อม
ก็อนั ดับหนึง”

92
ตอนแรกนางคิดว่าจะอดทนอยูเ่ ป็ นเพือนองค์หญิงองค์นี
ไปก่อน

แต่กลับไม่คิดว่าคําพูดของนางจะทําให้มชู่ ิงเก
อหมดอารมณ์ และไม่สนใจว่านางจะเป็ นอย่างไร มูช่ ิงเก
อก็เดินก้าวเท้ายาวๆ ไปยังทีๆ แยกกับเจ้าอ้วนเซ่าทันที

“คุยกันอยูด่ ีๆ เหตุใดจึงเป็ นแบบนีไปได้?”

ฮวาเยวียถามโย่วเหอเบาๆ ทังสองมองหน้ากันแล้วรีบ
เดินตามมูช่ ิงเกอไป

ฉินอีเหยาอึงมองตามเงาร่างของมูช่ ิงเกอไปและรูว้ า่ ตน
93
เองเหมือนพูดอะไรผิดไป แต่ทีนางพูดก็เพราะหวังดีกบั
เขา ด้วยความรูส้ กึ ผิดและนึกขึนได้วา่ เรืองทีจะมาแจ้งยัง
ไม่ได้พดู นางจึงนําทุกคนเดินตามไป

หลังจากทีทังสองเดินจากไป ป๋ ายซีเยวียทีไม่มีใครสนใจ
หยุดคิดสักพักแล้วพาลวีจือรีบเดินตามไป

“คุณหนู คุณชายไม่สนใจพวกเราเลย เรากลับกันเถิดเจ้า


ค่ะ” ลวีจือเทียบไม่ได้กบั ความแข็งแกร่งของป๋ ายซีเยวีย
ทีมีพลังขันเหลืองชันกลาง นางเดินจนหอบเหนือยไป
หมดและรีบพูดขึน

แต่ป๋ายซีเยวียมีหรือจะยอมฟั งนาง?

94
นางยังคงเดินต่อไปไม่หยุดพร้อมพูดว่า : “วันนีข้าจะต้อง
รูใ้ ห้ได้วา่ เหตุใดรุย่ อ๋องถึงโดนลงโทษ ข้าถึงจะรูว้ า่ ข้าควร
ทําอย่างไรต่อไป”

ทีนางมองรุย่ อ๋องว่าดีและรักเขานัน นอกจากรูปลักษณ์


ภายนอกของรุย่ อ๋องแล้วยังมีความสูงส่งและพรสวรรค์ที
มากกว่าผูอ้ ืน เรียกได้วา่ รักในฐานะของเขานันเอง

หากวางแผนจัดการให้ดีๆไม่แน่วา่ วันหนึงข้างหน้านาง
อาจจะได้เป็ นฮองเฮาของแคว้นก็เป็ นได้

แต่หากว่ารุย่ อ๋องสูญเสียความโปรดปรานจากฮ่องเต้

95
และเสียสิทธิในการแย่งชิงบัลลังก์ไป ถ้าเป็ นอย่างนัน
นางก็ตอ้ งไตร่ตรองให้ดีวา่ คุม้ หรือไม่ทีจะเทหมดหน้าตัก
เพือวางเดิมพันข้างเขา

ตอนนีนางยังอยูใ่ นสถานะทีได้เปรียบ

ในตระกูลมู่ นางมีฐานะพิเศษ และมูเ่ หลียนหรงเองก็


อยากให้นางแต่งกับมูช่ ิงเกอ อีกทังรุย่ อ๋องก็เริมมองนาง
เปลียนไปบ้างแล้ว ทุกอย่างก็ขนอยู
ึ ก่ บั ตัวนางเอง เพราะ
ฉะนันนางต้องรวบรวมข้อมูลทีแม่นยํามากกว่านีมาเพือ
มาวิเคราะห์วา่ ควรจะอยูข่ า้ งใคร จึงจะสามารถยืนอยูใ่ น
จุดทีสูงกว่าเดิมได้

96
ใช่แล้ว ! ฮ่องเต้ยงั มีองค์ชายองค์อืนๆ อีกนี

อยูๆ่ ป๋ ายซีเยวียก็นกึ ถึงเสียนอ๋องทีได้ยินในบทสนทนา


ของมูช่ ิงเกอกับองค์หญิงฉางเล่อขึนมา

นางจําชือนีได้ลางๆ แต่รูเ้ พียงว่าองค์ชายองค์นีเก็บองค์


มาก

แล้วยังมีรชั ทายาทแห่งวังตะวันออกอีก.........

มือของป๋ ายซีเยวียทีซ่อนอยูใ่ นแขนเสือ ค่อยๆ กําแน่น


ทันใดนัน นางก็รูส้ กึ ว่าตัวเลือกของตนเองไม่ได้มีเพียง
แค่มชู่ ิงเกอกับรุย่ อ๋องเท่านัน แต่แน่นอนว่าหากไม่มีอะไร
97
ผิดพลาด รุย่ อ๋องก็ยงั คงเป็ นตัวเลือกอันดับหนึงของ
นางอยูด่ ี

เพราะถึงอย่างไร นางก็หวันไหวไปกับเขาแล้วจริงๆ

98
ตอนที 57 หนุนตักคนงาม ช่างงามและเย้ายวนเหลือ
เกิน!

ด้านหลังมีคนกลุม่ หนึงตามมา แต่มชู่ ิงเกอก็คร้านจะไป


สนใจ พาสาวใช้ทงสองของตนเองเลี
ั ยวเข้าไปยังป่ าดอก
ท้อ

“พวกเจ้าสองคนจําไว้ให้ดีวา่ ข้าต่างหากทีเป็ นเจ้านาย


ของพวกเจ้า อย่าทําอะไรเพือคนอืนอีก ยิงไม่ตอ้ งกลัวว่า
99
จะทําให้เชือพระวงศ์พวกนันไม่พอใจ” อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็
พูดขึนมา

โย่วเหอและฮวาเยวียทีเดินอยูด่ า้ นหลังพอได้ยินก็รูว้ า่
เจ้านายโกรธเรืองในวันนี

ทังสองรีบพูด : “นายท่านอย่าโกรธเลย ตอนนีพวกบ่าว


วรูแ้ ล้ว และเรืองแบบนีจะไม่เกิดขึนอีกเป็ นครังทีสอง”

มูช่ ิงเกอเดินช้าลงยิมอย่างโอหังชัวร้ายพร้อมพูดว่า :
“หากยังมีครังต่อไปพวกเจ้าก็ไม่ตอ้ งกลับมาเรือนสวน
สระเมฆาอีกตลอดไป”

100
“นายท่าน!”

“นายท่าน ไม่นะ!”

ครังนี ทังสองรับรูไ้ ด้ถงึ ความโกรธของมูช่ ิงเกออย่างแท้


จริง ไม่กล้าทําพลาดอีกแล้ว

พวกนางไม่ใช่ไม่ซือสัตย์ตอ่ มูช่ ิงเกอ แต่วา่ เพราะซือสัตย์


มากจนเกินไป คิดเผือมูช่ ิงเกอมากเกินไป เพราะฉะนัน
จึงถูกมูเ่ หลียนหรงควบคุมคิดว่าเจ้านายของตนเองควร
จะดีกบั องค์หญิงฉางเล่อเข้าไว้

สืบทอดทายาทให้กบั ตระกูลมูเ่ หมือนจะกลายเป็ นเป้า


101
หมายหลักและเรืองสําคัญมากสําหรับตระกูลมู่ หลังจาก
ทีแน่ใจว่ามูช่ ิงเกอไม่อาจฝึ กฝนพลังได้

เห็นทังสองรูส้ กึ ผิดมูช่ ิงเกอก็ไม่ถามอะไรอีก

เดินเลียงต้นดอกท้อทีอยูต่ รงหน้า ไปตามเส้นทางสาย


เล็กๆ ทีเต็มไปด้วยโคลนและกลีบดอกไม้ ทังสามคนก็
กลับไปถึงแม่นาสายเล็
ํ กๆ ทีเปิ ดโล่ง

ฉินอีเหยาและป๋ ายซีเยวียทีห่างจากพวกนางไม่ไกลก็รบี
ตามมา

เสียงร้องรําทําเพลงดังมาจากพืนหญ้าข้างแม่นาํ
102
เจ้าอ้วนเซ่าทีเปี ยกไปทังตัว ถูกคนเอาผ้าปิ ดตาไว้เล่นไล่
จับอยูท่ า่ มกลางเหล่าหญิงงาม

เสียงหัวเราะทําให้โย่วเหอและฮวาเยวียอึงจนดวงตาโต
เบิกกว้าง

ยิงไม่ตอ้ งพูดถึงฉินอีเหยา ป๋ ายซีเยวียและคนอืนๆ ทีเดิน


ตามมา

ชือเสียงความเสเพลทีได้ยินมากับสิงทีได้เห็นกับตานัน
ไม่เหมือนกัน

103
ฉินอีเหยายืนอึงอยูก่ บั ที มองบรรดาหญิงสาวทีอยูต่ รง
นันแล้วทําอะไรไม่ถกู ในทันที

“ว้าย ! คุณชายกลับมาแล้ว!”

“คุณชาย!”

“คุณชาย รีบมานังพักก่อนเจ้าค่ะ ประเดียวข้าน้อยจะริน


สุราให้”

“คุณชาย ข้าน้อยปลอกเปลือกองุ่นไว้ให้ทา่ นแล้ว”

พอมูช่ ิงเกอปรากฏตัว เหล่าหญิงงามก็ทิงเจ้าอ้วนเซ่า


104
แล้วต่างก็โผเข้ามาหาชายหนุ่มชุดแดงราวกับผีเสือ ฉาก
ตรงหน้าทําให้สาวใช้ทงสองยั
ั งไม่ทนั ได้ทาํ อะไรก็เห็นเจ้า
นายของตนเองถูกหญิงสาวพายังไปยังผ้าสีเหลียมผืน
ใหญ่ผืนหนึง

เจ้าอ้วนเซ่าทีถูกทิงดึงผ้าปิ ดตาลง แต่ก็ไม่โกรธ รีบเดิน


ตามไป

“คุณชายรีบนังลงก่อน”

หญิงงามคนหนึงนังคุกเข่าอยูบ่ นผ้า ใช้ตนเองต่างเก้าอี


ให้มชู่ ิงเกอนัง

105
มูช่ ิงเกอเองก็ไม่ลงั เลสะบัดแขนเสือแล้วนังลงไปอย่าง
เป็ นธรรมชาติเข้าไปอยูใ่ นอ้อมกอดของหญิงงามทันที

การกระทํานีทําให้หญิงงามยิมไม่หบุ

สาวงามอีกสองคนเดินออกมาจากบรรดาพีน้องนังอยู่
ข้างซ้ายและขวาของมูช่ ิงเกอ คนหนึงป้อนสุราให้กบั มูช่ ิง
เกอ อีกคนป้อนองุ่นทีปลอกเปลือกแล้วเข้าไปทีปาก
แดงๆ ของนาง

สาวงามหลายคนทีแพ้การแย่งชิง ทําได้แค่นงอยู
ั ข่ า้ งขา
ของนางและนวดขาให้นาง

106
ป่ าดอกท้อแห่งนีประดับไปด้วยเหล่าสาวงาม เป็ นความ
งามไม่มีทีสินสุด ดูไกลห่างราวกับเทพเซียน........

ชุดสีแดงสดและผมสีดาํ ดังเส้นไหม

กลินหอมอบอวล ดอกท้อปลิดปลิวลงพืนดิน

แม้จะถูกสาวงามหลายคนกอด แต่ก็ไม่อาจปิ ดบังความ


งดงามนันได้

ราวกับว่าหญิงสาวทีอยูข่ า้ งหน้าชายชุดแดงท่าทางเจ้าชู้
นันเป็ นเพียงตัวประกอบเท่านัน

107
ฉากทีควรชวนให้รูส้ กึ รังเกียจนัน แต่เมือนางเป็ นคน
แสดงมันออกมา กลับดูเพลิดเพลินและชวนให้คนหวัน
ไหว

ความโกรธทีฉินอีเหยาซ่อนอยูล่ กึ ๆ ก็คอ่ ยๆ ดับมอดลง

ภาพทีนางเห็นไม่ได้ดนู ่ารังเกียจเลยแม้แต่นอ้ ยและไม่ได้


ดูตาช้
ํ าน่าละอายแต่อย่างใด สิงทีมีคือความตังใจทีจะ
ทําเพือชายหนุ่ม ราวกับว่า มูช่ ิงเกอเป็ นเทพบุตรในป่ า
แห่งนี เป็ นภูตพรายเจ้าเสน่หแ์ ห่งสวนบุปผาและภูผาทัง
หลายทีแค่อยากลองใช้ชีวิตอยูท่ า่ มกลางมนุษย์ก็เท่านัน

นางมองไม่เห็นการฝื นใจและการยัวยวนทีน่ารังเกียจใน

108
แววตาของผูห้ ญิงพวกนีเลยแม้แต่นิด

ราวกับว่าพวกนางก็แค่อยากจะปรนนิบตั ิให้มชู่ ิงเก


อสบายขึนกว่าเดิม

มูช่ ิงเกอเองแม้จะนังอยูใ่ นอ้อมกอดของหญิงงามแต่ก็ไม่


ได้มีทา่ ทีตอ้ งการล่วงเกิน สายตานันดูนิงสงบเหมือนกับ
ตอนทีได้ใกล้ชิดกับนางตอนเต้นรําเคียงคูด่ ว้ ยกันในวัน
นัน

ในใจของฉินอีเหยาค่อยๆ สงบลงเหลือเพียงความตก
ตะลึงเท่านันทียังไม่จางหายไป

109
“คุณชาย ท่านไปเชิญเหล่าหญิงงามทีสวยปานนางฟ้า
พวกนีมาจากทีใดกัน หรือว่าท่านรังเกียจว่าพวกข้ารูป
โฉมธรรมดาเจ้าคะ” หญิงงามคนหนึงปลอกเปลือกองุ่น
ให้มชู่ ิงเกอแล้วถามออดอ้อน

การปรากฏตัวของฉินอีเหยา ป๋ ายซีเยวียและอีกหลาย
คนพวกนางเห็นตังนานแล้ว

แต่วา่ พวกนางทําเป็ นไม่สนใจ จะบอกว่าเหยียดเพศ


เดียวกันหรือจะบอกว่าไม่อยากให้ใครมาแย่งชิงความรัก
ของมูช่ ิงเกอไปก็ดี สรุปว่าพวกนางจงใจให้เป็ นแบบนี!

มูช่ ิงเกอยังไม่ทนั จะได้ตอบเหล่าสาวงามเจ้าอ้วนเซ่าก็

110
เดินมาเข้ามาใกล้นางแล้วกระซิบทีข้างหูนางเบาๆ ว่า :
“โอ๋ๆ ลูกพีทําไมท่านไปครูเ่ ดียวถึงไปขนภูเขานําแข็ง
อย่างองค์หญิงฉางเล่อมาด้วยได้ละ่ ? อีกอย่างสาวชุด
ขาวนันเป็ นใครกัน ดูทา่ ทางรูส้ กึ คุน้ ๆ หรือว่าจะเป็ นหญิง
สาวในจวนท่านนางนัน ทีท่านอาเหลียนเคยบอกว่าเป็ น
ว่าทีสะใภ้ทีเตรียมไว้ให้กบั ท่าน หากไม่ตอ้ งการให้ขา้ คิด
เหลวไหล แล้วเหตุใดวันนีเมียหลวงและเมียน้อยถึงมา
รวมตัวอยูด่ ว้ ยกันได้ละ่ ? โอ๊ย!”

เจ้าอ้วนเซ่าทีกําลังพูดอยูถ่ กู มูช่ ิงเกอเขกหัวจนต้องหยุด


พูด

“ฉา BBให้มนั น้อยๆ หน่อย” มูช่ ิงเกอพูดตักเตือน

111
เจ้าอ้วนเซ่ากะพริบตาเล็กๆ ของตนเองแล้วถามอย่าง
งงๆ ว่า : “ลูกพีอะไรคือ ฉา BB (ศัพท์วยั รุน่ สมัยนีแปลว่า
พูดไปเรือย ใช้บอกให้อีกฝ่ ายหุบปาก)”

มูช่ ิงเกอเบะปาก นางโมโหเจ้าอ้วนเซ่าจนหลุดปากพูด


คําศัพท์จากโลกทีทะลุมิติมา แล้วค่อยอธิบายอย่างไม่
พอใจ : “แปลว่าพูดไปเรือยไงเล่า”

“ข้าไม่ได้พดู ไปเรือย ท่านอาเหลียนเองก็พดู เช่นนี”เจ้า


อ้วนเซ่าพูดอย่างน้อยอกน้อยใจ

แต่ตอนทีมูช่ ิงเกอจะลงมืออีกครัง เจ้าอ้วนเซ่าก็รบี ล้มลุก

112
คลุกคลานยืนขึนมา จัดการกับเสือผ้ายับๆ ของตนเอง
แล้วเดินไปทางฉินอีเหยา

“เซ่าเย่เจ๋อถวายพระพรองค์หญิงฉางเล่อ” องค์หญิงว่าที
ภรรยาท่านนีไม่ใช่คหู่ มันของเขาและเขาก็ไม่ได้มีฐานะ
เป็ นทายาทสายตรงและมีทา่ นปู่ สดุ เก่งกาจเช่นมูช่ ิงเก
อ อยูต่ อ่ หน้าองค์หญิงแน่นอนว่าจะต้องทําความเคารพ

พอสินเสียงของเจ้าอ้วนเซ่า เสียงเซ็งแซ่ทงหมดก็
ั คอ่ ยๆ
เงียบลง

ตอนแรกพวกนางอิจฉารูปโฉมของฉินอีเหยาความ
บริสทุ ธิงดงามของป๋ ายซีเยวีย แต่ตอนนีพอรูว้ า่ ฐานะ

113
ของทังสองไม่ธรรมดาจึงไม่กล้าทําตัวยโสโอหังอีกต่อไป

ภายใต้สายตาสบายอกสบายใจของมูช่ ิงเกอ พวกนาง


ต่างก็คกุ เข่าลงทําความเคารพฉินอีเหยา

“ไม่ตอ้ งมากพิธี” ฉินอีเหยาพูดอย่างเย็นชาแล้วเดินผ่าน


เจ้าอ้วนเซ่าไปหามูช่ ิงเกอ

114
ตอนที 58 คําเชือเชิญจากองค์หญิงภูเขานําแข็ง

องค์หญิงฉางเล่อเดินมาด้วยท่าทางสง่า

พร้อมกับทีฉินอีเหยาเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวข้างกาย

115
ของมูช่ ิงเกอต่างก็ถอยออกไป เหลือพืนทีว่างไว้ให้กบั ทัง
สอง

สถานการณ์เหมือนจะดูตงึ เครียดขึน

ถือว่าเจ้าอ้วนเซ่าฉลาด เมือเห็นว่าองค์หญิงเสด็จมาหา
มูช่ ิงเกอและดูเหมือนว่ามีเรืองจะคุยด้วยจึงเรียกเหล่า
หญิงงามให้กลับไปอยูข่ า้ งแม่นาํ

โย่วเหอและฮวาเยวียเป็ นสาวใช้คนสนิทของมูช่ ิงเกอ แน่


นอนว่าต้องคอยอยูร่ บั ใช้ทงสอง

ป๋ ายซีเยวียเองก็รูก้ าลเทศะไม่ได้ตามเข้าไป เพียงยืนรอ


116
อยูไ่ กลๆ

โย่วเหอตังใจหาแก้วสะอาดใบหนึง ล้างด้วยสุราแล้วริน
สุรามาแก้วหนึงยืนให้กบั ฉินอีเหยา

แต่มชู่ ิงเกอไม่จาํ เป็ นต้องใช้แก้ว ใช้มือจับขวดสุราขึนมา


เลย

ฉินอีเหยาดืมสุราไปคําหนึงแล้ววางลงพูดกับมูช่ ิงเก
อว่า : “อีกสิบวันหลังจากนี ทีเขตล่าสัตว์ของเชือพระวงศ์
จะมีการจัดงานชุมนุมล่าสัตว์ชมไม้ ข้าหวังว่าเจ้าจะไป
ร่วมงานกับข้า”

117
“เป็ นพระดําริของไทเฮาหรือ?” มูช่ ิงเกอขมวดคิวแล้ว
ถาม

จริงๆ แล้วมูช่ ิงเกอไม่รูเ้ ลยว่าการมาเชิญครังนีเป็ นการ


ตัดสินใจของฉินอีเหยาเอง แต่ก็อาจจะเกียวข้องกับ
ไทเฮาบ้าง เพราะก่อนหน้านีไทเฮาเคยยําเตือนฉินอี
เหยาว่า หากนางจะไปร่วมงานเลียงอะไรเพือเป็ นการ
ป้องกันการเข้าใจผิดและเป็ นการรักษาชือเสียงอัน
บริสทุ ธิของนาง ให้พามูช่ ิงเกอไปด้วยจึงจะดีทีสุด

เพราะฉะนันฉินอีเหยาจึงเงียบไม่รูว้ า่ การตัดสินใจนี นาง


ทําเพือเหตุผลของตนเองหรือเพราะคําทีไทเฮาทีเคยตรัส
ไว้กนั แน่

118
“ล่าสัตว์ชมไม้อย่างนันรึ? คนเสเพลอย่างกระหม่อมจะ
ไปทําอะไรกัน?” มูช่ ิงเกอโยนขวดเหล้าในมือทิง เอามือ
สองข้างประคองท้ายทอยแล้วนอนลงไปกับผืนผ้า

“เจ้า ! ก็ถือว่าไปเป็ นเพือนข้าไม่ได้ร?ึ ” ฉินอีเหยาโดนมู่


ชิงเกอต้อนจนจมมุมไม่รูว้ า่ จะพูดอะไรดี จนกระทังนํา
เสียงขอร้องออกมาจากปาก นางจึงได้สติ นีนางเป็ น
อะไรกันแน่?

มูช่ ิงเกอมองฉินอีเหยาทีอยูใ่ นชุดสีฟา้

นึกขึนได้วา่ ตอนงานเลียงทีวังหลวง สาวน้อยนางนีเคย

119
ช่วยชีวิตตนเอาไว้ก็ลกุ ขึนนังและตะโกนคุยกับเจ้าอ้วน
เซ่าว่า : “เจ้าอ้วน อีกสิบวันเจ้าว่างหรือเปล่า?”

เจ้าอ้วนเซ่าทีไม่รูว้ า่ เกิดอะไรขึน แต่ก็ยงั พยักหน้าตอบไป


ตามความเป็ นจริง

มูช่ ิงเกอมองฉินอีเหยาทันทีและพูดว่า : “หากกระหม่อม


ไป ต้องพาเจ้าอ้วนเซ่าไปด้วย”

ฉินอีเหยาเม้มปาก พยักหน้าบอกว่า : “ได้”

เมือได้รบั คํายืนยันจากฉินอีเหยา มูช่ ิงเกอก็ยมิ และพูด


กับเจ้าอ้วนเซ่าอีกว่า : “เจ้าอ้วน เจ้ากลับไปเตรียมตัวนะ
120
อีกสิบวันไปงานล่าสัตว์ชมไม้ทีเขตล่าสัตว์หลวงกับข้า”

คําเชิญนี ทําให้เจ้าอ้วนเซ่าดีใจมาก กระโดดโลดเต้น


อย่างมีความสุข ตอบว่า : “ได้เลย!”

พูดจบ ก็พงุ่ ตัวเข้าหาเหล่าสาวงามเราวกับเหยียวไล่จบั


ลูกเจียบ ทําให้เกิดเสียงกรีดร้อง

พอเห็นฉากตรงหน้า ทําให้มชู่ ิงเกอยิมออกมาอย่างไม่รู ้


ตัว

ฉินอีเหยาเห็นรอยยิมตรงมุมปากของนาง แล้วมองเจ้า
อ้วนเซ่าทีกําลังเริงร่าแล้วขมวดคิวด้วยความสงสัย ถาม
121
ด้วยความแปลกใจว่า : “แม้วา่ พวกเจ้าจะถูกเรียกว่า
พวกเสเพลเหมือนกัน แต่ขา้ ดูออกว่าพวกเจ้าไม่เหมือน
กันเลย ทําไม ทําไมพวกเจ้าถึงเป็ นเพือนรักกันได้?”

ครังนี คําพูดของฉินอีเหยาแตกต่างกับตอนทีนางบอกให้
ออกห่างจากเจ้าอ้วนเซ่า เพราะมันไม่มีความเดียดฉันท์
หรือดูแคลน เป็ นเพียงความสงสัยธรรมดา

ดังนัน มูช่ ิงเกอจึงยิมพร้อมตอบว่า : “ท่านไม่รูส้ กึ ว่าเขาดู


จริงใจกว่าหลายคนหรือ?”

“จริงใจอย่างนันหรือ?” ฉินอีเหยาทวนคําตอบของมูช่ ิงเก


อ มองตัวอ้วนๆ กลมๆ ของเจ้าอ้วนเซ่าแล้วหยุดคิด

122
“พีมู”่

เสียงอันอ่อนโยนดังสายนําดังขึนมา ทําให้มชู่ ิงเกอต้อง


หันไปมอง ขัดจังหวะความคิดของฉินอีเหยา

ป๋ ายซีเยวียยืนอยูต่ รงหน้าทังสอง ดูออ่ นโยนและเปราะ


บางดังดอกไม้ ดูน่าทะนุถนอม

แต่ มูช่ ิงเกอเพียงมองนางอย่างเย็นชา

ฉินอีเหยาเองก็มองอย่างเย็นชาแวบหนึงแล้วละสายตา
ไป
123
ป๋ ายซีเยวียกัดริมฝี ปากสีชมพูของตนเองเบาๆ แล้วเอ่ย
อย่างระมัดระวังว่า : “งานล่าสัตว์ชมไม้นี ข้าไปด้วยได้
หรือไม่?” นีเป็ นโอกาสอันดีงาม นางจะพลาดไม่ได้เด็ด
ขาด

“เจ้าอยากไปอย่างนันหรือ?” มูช่ ิงเกอเลิกคิวหยอกเย้า

ป๋ ายซีเยวียก้มหน้าลง กัดริมฝี ปากท่าทางดูวา้ วุน่

ราวกับ มูช่ ิงเกอกําลังรังแกนางอย่างไรอย่างนัน

ทําให้ฉินอีเหยาทีดูอยูข่ า้ งๆ ค่อยๆ ขมวดคิว มองป๋ ายซี


124
เยวียอย่างค้นหา

มูช่ ิงเกอยิมเย็นในใจ ยกมือขึนชีฉินอีเหยา แล้วพูดว่า :


“งานล่าสัตว์ชมไม้ในครังนี องค์หญิงเป็ นผูเ้ อ่ยชวน”
ความนัยของคําพูดนีก็คือ หากป๋ ายซีเยวียอยากจะไป
คนทีนางต้องขอร้องก็คือฉินอีเหยาไม่ใช่นาง

“ถ้าอย่างนันก็ไปด้วยกัน” ฉินอีเหยาพูดขึนอย่างเย็นชา

เมือได้สงที
ิ ต้องการในใจของป๋ ายซีเยวียก็เต็มไปด้วย
ความตืนเต้น แต่นางเก็บอาการไว้ได้เป็ นอย่างดี แล้วพูด
กับมูช่ ิงเกอว่า : “พีมูข่ า้ บังเอิญได้ยินมาว่ารุย่ อ๋องถูกกัก
บริเวณให้อยูภ่ ายในเขตอารามหลวง ไม่ทราบว่าท่านรู ้

125
หรือไม่วา่ เป็ นเพราะเหตุใด?”

นางมันใจว่า ด้วยความสําคัญทีมูช่ ิงเกอมีให้กบั รุย่ อ๋อง


หากได้ยินนางพูดถึงเรืองของรุย่ อ๋อง แน่นอนว่าจะ
ต้องออกหน้ารับแทน ไม่ตอ้ งให้นางเปลืองแรงถาม ก็จะ
รูเ้ รืองราวทังหมดว่าเหตุใดรุย่ อ๋องถึงโดนลงโทษ

ทว่า พอนางพูดจบ เรืองทังหมดกลับไม่ได้คืบหน้าอย่าง


ทีนางคิดไว้

พูดถึงรุย่ อ๋อง นอกจากรอยยิมทีชวนให้ผคู้ นรูส้ กึ งุนงง


แล้ว มูช่ ิงเกอก็ไม่ได้มีความรูส้ กึ อืนใดอีก ไม่ได้ดเู ศร้า
สร้อยหรือตึงเครียดทังสิน

126
“อ้อ? เจ้าอยากรูว้ า่ เหตุใดรุย่ อ๋องถึงโดนลงโทษอย่างนัน
หรือ? ถามองค์หญิงโดยตรงเลยไม่ดีกว่ารึ? พระองค์เป็ น
พีน้องแท้ๆ กันนะ” มูช่ ิงเกอโยนบอลลูกนีให้กบั ฉินอีเหยา

ป๋ ายซีเยวียไม่ทนั ได้สงั เกตการเปลียนแปลงของมูช่ ิงเก


อ สายตาอันใสซือนันรีบจ้องไปทีฉินอีเหยา

ฉินอีเหยาพูดอย่างเรียบเฉยว่า : “เสด็จพีไม่ได้ถกู ลงโทษ


เพียงแค่ตอ้ งการแสดงความกตัญ ตู อ่ ไทเฮา จึงอาสา
ไปรักษาศีลทีอารามสามเดือน เพืออธิษฐานให้กบั ไทเฮา
และแคว้นของเรา”

127
“แบบนีนีเอง” ป๋ ายซีเยวียรูส้ กึ โล่งใจเล็กน้อย นางก็นกึ ว่า
รุย่ อ๋องทําความผิดอะไรไว้ ถึงได้โดนลงโทษแต่หาก
ขนิษฐาแท้ๆออย่างองค์หญิงฉางเล่อยังไม่ใส่พระทัย ก็
บ่งบอกว่าไม่ได้ทาํ อันใดให้ฮ่องเต้ไม่พอใจ

นางมองฉินอีเหยาแล้วมองมูช่ ิงเกอทีไม่ได้สนใจมองนาง
แวบหนึง ในทีสุดก็พดู ขึนมาว่า : “ซีเยวียไม่รบกวนการ
สนทนาขององค์หญิงและพีมูแ่ ล้ว” พูดจบก็พาลวีจือเดิน
ไกลออกไป

หลังจากทีนางเดินห่างไปไกล มูช่ ิงเกอก็มองฉินอีเหยา


พร้อมยิมและพูดว่า : “องค์หญิงช่างคิดเผือพระเชษฐา
ของพระองค์อย่างดีเลยจริงๆ”

128
ฉินอีเหยาตอบนิงๆ : “ข้าเพียงแต่ไม่ตอ้ งการให้ผทู้ ีคิดไม่
ซือรูก้ ็เท่านัน”

“พระองค์ไม่ทรงโปรดนางหรือ?” มูช่ ิงเกอขมวดคิวแล้ว


ถาม

ฉินอีเหยาขมวดคิว

เห็นนางเป็ นแบบนีแล้ว มูช่ ิงเกอก็หวั เราะ : “แต่วา่ พระ


เชษฐาของพระองค์ทรงโปรดนางมากเลยนะ!”

คําพูดนีทําให้ฉินอีเหยาถึงกับมองป๋ ายซีเยวียแล้วขมวด
129
คิว

130
ตอนที 59 ทดลองหลอมโอสถ

หลังจากทีกลับจากป่ าดอกท้อมูช่ ิงเกอก็สงให้


ั โย่วเห
อและฮวาเยวียเฝ้าประตูเรือนไว้ให้ดี ห้ามผูใ้ ดเข้ามารบก
วน อาหารทังสามมือก็ตอ้ งมาส่งในห้องของนาง พอนาง
รับประทานเสร็จแล้วค่อยมาเก็บออกไป

ในห้องปี กข้างของมูช่ ิงเกอ เป็ นห้องทีมีขนาดไม่กว้าง


มากนัก เต็มไปด้วยตูย้ าทังสามฝังของผนังห้อง

131
ในทุกลินชักต่างก็เขียนชือยาสมุนไพรชนิดนันๆ กํากับ
เอาไว้

กลางห้องมีกระถางสามขาและโต๊ะยาวตัวหนึงทีเตรียม
เอาไว้สาํ หรับใช้แบ่งยาและปรุงยา

มูช่ ิงเกอทียืนอยูใ่ นห้องนี เดินไปเดินมารอบหนึงแล้ว


พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

สิงทีเทพโอสถสืบทอดมาให้แก่นาง บอกไว้วา่ ถ้าหากจะ


เรียนการหลอมโอสถ สิงทีจําเป็ นต้องทําเป็ นลําดับแรก
คือเรียนรูก้ ารปรุงยาขันพืนฐาน

132
ให้เตรียมสมุนไพรหลายชนิดในปริมาณทีแตกต่างกัน
แล้วเริมใช้พลังจิตในการเริมพัฒนาไปตามระดับขันตอน
เพือผ่านกระบวนการปรุงยา

ต้องฝึ กปรุงยาไปสักประมาณสิบครัง เมือถึงครังทีสิบ


สัดส่วนของยาเข้ากันไม่ขาดไม่เกินแล้ว จึงจะถือว่าเชียว
ชาญขันตอนการปรุงยาขันพืนฐาน

ต้องผ่านขันนีไปให้ได้เสียก่อน จึงจะเข้าสูก่ ารขันตอนขัน


พืนฐานของการหลอมโอสถและเริมฝึ กหลอมโอสถระดับ
ตําออกมาได้

ทีเรียกว่าโอสถระดับตํานัน ก็คือยารักษาบาดแผลทัวไป

133
ทีมูช่ ิงเกอรูจ้ กั ซึงไม่ตา่ งอะไรกับยาหัวเซียซ่าน (ยาแดง
ยารักษาแผลชนิดหนึงในปั จจุบนั ) หากจะพูดให้เห็น
ภาพมากขึนก็คือยาสามัญประจําบ้านทีทุกบ้านต้องมี
เช่น ยาแก้หวัด ยาล้างแผลเป็ นต้น

แม้จะเป็ นโอสถขันตําสรรพคุณธรรมดาๆ แต่ก็ไม่คอ่ ยมี


ในแคว้นฉิน พูดได้วา่ ในแคว้นฉินจะมีเป็ นแบบยานําหรือ
แบบแผนโบราณแต่ไม่มีโอสถเป็ นเม็ด

เพราะว่าในแคว้นฉินไม่คอ่ ยมีนกั ปรุงยา ทีมีอยูไ่ ม่กีคนก็


ถูกเชือพระวงศ์และตระกูลทีมีอาํ นาจเอาตัวไปเป็ นหมอ
ประจําตระกูลของตนเองหมดแล้ว ยาทีพวกเขา
หลอมออกมาได้ก็เป็ นโอสถระดับกลางถึงระดับตํา โดย
ในจํานวนทังหมดนันมีขนตํ
ั ามากกว่า ขันกลางถือว่ามี
134
น้อยมาก

โอสถทีมูซ่ งมอบให้กบั มูช่ ิงเกอในตอนนัน แคว้นฉินแห่ง


นีไม่มีผใู้ ดสามารถปรุงออกมาได้อย่างแน่นอน ยิงไม่ตอ้ ง
พูดถึงการมีไว้ในครอบครอง

เมือเตรียมทุกอย่างเสร็จสิน มูช่ ิงเกอก็บิดขีเกียจเหมือน


กําลังจะลงมือทําการใหญ่

นางหันหน้าไปมองมัวหยางทีเตรียมทุกสิงทุกอย่างทีนี
เสร็จแล้ว นางจึงพูดว่า : “งานนีถือว่าทําได้ดี แต่จาํ ไว้วา่
ต้องเก็บเป็ นความลับ แม้แต่นายผูเ้ ฒ่าก็หา้ มบอก”

135
“ขอรับ” มัวหยางพยักหน้าอย่างไม่ลงั เล

ในเรืองทีทําตามคําสังนัน เขาทําได้ดีกว่าโย่วเหอและ
ฮวาเยวีย

มูช่ ิงเกอยกมือขึนโบกไล่แล้วพูดว่า : “เจ้าออกไปก่อน ถ้า


หากข้าไม่เรียกเจ้าไม่วา่ จะเกิดอะไรขึนก็ตามอย่าได้เข้า
มาเด็ดขาด”

มัวหยางรับคําสังแล้วหันหลังกลับเดินออกจากห้องไป
พร้อมปิ ดประตู

ภายในห้องเต็มไปด้วยกลินยาสมุนไพรนานาชนิด ทําให้
136
มูช่ ิงเกอเองก็รูส้ กึ ไม่คนุ้ ชินนัก แต่สดุ ท้ายก็ตอ้ งอดทนเอา
ไว้

“ก็แค่ฝึกปรุงยาและหลอมโอสถไม่ใช่หรือ ข้าไม่คิดว่ามัน
จะยากขนาดนัน!” มูช่ ิงเกอยืดเส้นยืดสายแล้วเดินไปยัง
หน้าโต๊ะยาว เริมระลึกถึงการเข้าสูก่ ารฝึ กปรุงยาขันพืน
ฐาน

“ปรุงยาก่อนแล้วค่อยแบ่งยา ชังนําหนัก บดให้เป็ นผง


หลังจากนันก็หลอมเป็ นเม็ด!”

พอท่องวิธีการหลอมโอสถได้ขนใจแล้
ึ ว มูช่ ิงเกอก็ดงึ แขน
เสือขึนลงมือปฏิบตั ิ

137
ยาทีนางจะปรุงคือยาทีง่ายทีสุดอย่างชิงซินซ่าน (จิตใจ
ปลอดโปร่ง)

ยาชนิดนีมีสรรพคุณเรืองควบคุมเลือดลมภายในร่าง
กายและช่วยในด้านระบบประสาท ซึงมีสรรพคุณทําให้
จิตใจสงบคล้ายกับนํามันหอมระเหยในยุคปั จจุบนั

เพราะโชคดีได้รบั การถ่ายทอดวิชามาทําให้นางไม่ตอ้ ง
เสียแรงไปจดจํารูปร่างของสมุนไพรและสรรพคุณชนิด
ต่างๆ การเสริมและต้านกันของฤทธิยา ความรูด้ า้ นยา
ขันพืนฐานตรงนันฝังอยูใ่ นใจของนางจนยากทีจะลืมได้
ลง

138
พูดได้วา่ จะไม่มีผใู้ ดทีมีความรูด้ า้ นยาไปมากกว่ามูช่ ิงเก
อแล้ว เพราะแม้แต่นกั ปรุงยาทีเก่งทีสุดในหลินชวนก็ไม่
อาจสูน้ างได้

แต่ทว่าถ้าจะแข่งด้านการลงมือปรุงยานัน แค่ลกู ศิษย์


ธรรมดาๆ สักคน นางก็สไู้ ม่ได้แล้ว

เอายาสมุนไพรทีจะหลอมเป็ นชิงซินซ่านออกจากลินชัก
แล้วมูช่ ิงเกอก็ทาํ สมองให้โล่งแล้วเริมจากการแยกชนิด

หลังจากนันก็คดั สรร เด็ดหญ้าและยาสมุนไพรส่วนทีไม่


มีประโยชน์ออก

139
หลังจากทีคัดสรร แบ่งแยกเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เริมชัง
นําหนัก

ในขันตอนอันยุง่ ยากนี มูช่ ิงเกอแอบถอนหายใจ : ขัน


ตอนการปรุงยาและหลอมโอสถนีเป็ นสิงทีต้องพึงทังพลัง
กายและพลังใจ แล้วทีสําคัญคือ ต้องอดทนต่อความ
โดดเดียวให้ได้

เพราะว่า ในขันตอนการทํานันน่าเบือเป็ นอย่างยิง

มูช่ ิงเกอเม้มปาก นางจ้องยาสมุนไพรทีวางอยู่


บนตราชัง แล้วชังยาชุดสุดท้าย

140
ก่อนหน้านีได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว และตอนนีก็
ผ่านมาแล้ว 3 ชัวยาม

มูช่ ิงเกอทานอาหารทีโย่วเหอนํามาให้ในระหว่างทีนาง
กําลังเตรียมการ แล้วก็นงขั
ั ดสมาธิรวบรวมพลังจิตอยู่
หน้าหม้อหลอมโอสถ

ตามตํารายาแล้วบดยาสมุนไพรต่างๆ ให้เป็ นผง และ


การจะทําให้ยาต่างชนิดกันรวมเป็ นเนือเดียวกันได้นนไม่

ใช่เรืองง่าย เพราะสรรพคุณของยาแต่ละชนิดไม่เหมือน
กัน หากไม่ระวังผสมโดนสมุนไพรทีมีฤทธิคานกันก็อาจ
ทําให้เกิดระเบิด และทําให้การหลอมโอสถเกิดผิดพลาด

141
ได้

ดังเช่นครังนีต้องใช้พลังจิตเป็ นคูม่ ือ จึงจะประสบความ


สําเร็จได้ ต้องแผ่พลังจิตของตนเองไปสูห่ ม้อหลอมโอสถ
เพือประสานสัดส่วนของสมุนไพรแต่ละชนิดและทําให้
มันหลอมรวมเป็ นเนือเดียวกัน

เพราะฉะนันก่อนทีมูช่ ิงเกอจะเข้าสูข่ นต่


ั อไปนันจะต้อง
ฝึ กพลังจิตให้ดีเตรียมพร้อมรับศึกหนัก

หนึงก้านธูปผ่านไป มูช่ ิงเกอก็ลืมตาทังสองข้างขึน สาย


ตาทีสว่างสดใสมีแสงหนึงวาบผ่านเข้ามา ในขณะนัน
พลังจิตของนางก็เต็มเปี ยมและเตรียมพร้อมทีจะลงมือ

142
นางหยิบส่วนผสมของชิงซินซ่านออกมาวางไว้ตรงหน้า
หนึงชุดและเปิ ดฝาหม้อทีจะใช้หลอมโอสถ

นางดึงไต้จดุ ไฟออกมา แล้วโยนเข้าไปในเตาไฟใต้หม้อ

ทันใดนัน----------ฟื นและนํามันทีอยูใ่ นเตาไฟตังแต่แรก


ก็คอ่ ยๆ เผาไหม้ขนึ

ควันสีสม้ แดงลอยขึนกลางอากาศ เปลวไฟลามเลีย


สัมผัสกับหม้อไม่หยุด

พอสัมผัสได้วา่ อุณหภูมิในหม้อค่อยๆ สูงขึน มูช่ ิงเกอก็


143
เอายาสมุนไพรชุดแรกใส่เข้าไปในหม้อ

พลังจิตนันเป็ นนามธรรม ถ้าหากมีคนทีสัมผัสได้ก็จะรับรู ้


ว่ามันคืออะไร แต่คนทีไม่สามารถสัมผัสได้ ไม่วา่ ใครจะ
อธิบายอย่างไร ก็ไม่สามารถรับรูไ้ ด้วา่ มันคืออะไรกันแน่

สําหรับมูช่ ิงเกอแล้ว พลังจิตนันไม่ใช่สงที


ิ แปลกใหม่อะไร

พลังจิตอันโปร่งแสงทีแตกกิงก้านสาขาค่อยๆ ออกมา
จากบริเวณหว่างคิวของนาง เข้าไปในหม้อต้มยา กลาย
เป็ นมือเล็กๆ ทีมีขนาดเท่ามือของเด็กแรกเกิดคนยาทีอยู่
ในหม้อต้ม

144
ตอนที 60 ผิดพลาดและพัฒนา

145
ภายในหม้อหลอมโอสถ เสมือนเป็ นโลกอีกใบหนึง

ท่ามกลางความสับสนวุน่ วาย รอบๆ หม้อหลอมถูกเผา


ไหม้ไปด้วยเพลิงสีแดงอันเร่าร้อนรุนแรง

ภายในหม้อ เต็มไปด้วยไอร้อน และภายใต้การควบคุม


ของมือโปร่งแสงคูน่ นผงสมุ
ั นไพรก็คอ่ ยๆ กลายเป็ นกลุม่
ก้อน แล้วเริมหลอมรวมกัน

“ปั ง!---------!”
146
เสียงหนึงดังขึนออกมาจากหม้อ

มูช่ ิงเกอลืมตาขึน มองหม้อหลอมทีเต็มไปด้วยควันสีดาํ

ไม่สาํ เร็จ

ยาสมุนไพรทีถูกบดเป็ นผง ในเวลานีได้กลายเป็ นควันสี


ดําและหลอมรวมกันอยูใ่ นหม้อหลอม

มูช่ ิงเกอเม้มปาก และไม่ได้เริมใหม่ในทันที แต่รวบรวม


ประสบการณ์ทีผิดพลาดครังแรก เพราะนางรูอ้ ยูแ่ ล้วว่า
จะไม่สาํ เร็จในครังเดียว ฉะนันนางจึงเตรียมยาเอาไว้สบิ
147
ชุด

นันหมายความว่า นางสามารถทดลองสิบครังติดต่อกัน
ได้ หากไม่สาํ เร็จ นางจะต้องคัดเลือกยา แบ่งยาเป็ น
ส่วนๆ และทําตามขันตอนก่อนหน้านี

ในความเป็ นจริงแล้ว ขันตอนก่อนหน้าพวกนีสามารถ ใช้


ลูกน้องทําก็ได้

แต่มชู่ ิงเกอรูส้ กึ ว่า ตนเองได้รบั การถ่ายทอดจากเทพ


โอสถ ก็ถือว่าในขันตอนของการฝึ กปรุงยาและหลอม
โอสถนันนางได้เปรียบกว่าผูอ้ ืน แต่ในขณะเดียวกันก็เสีย
โอกาสทีจะได้ใกล้ชิดสัมผัสกับยาสมุนไพรพวกนี เพราะ

148
ฉะนันนางจึงต้องการทําทุกอย่างตังแต่เริมต้นด้วยตน
เอง เพือเป็ นการเพิมความเข้าใจในตัวยา

พักผ่อนเป็ นเวลาหนึงถ้วยชา แล้วมูช่ ิงเกอก็เริมปรุงยา


อีกครัง

ปั ง!

ปั งปั ง!

ปั งปั งปั ง!

149
ไม่สาํ เร็จ ไม่สาํ เร็จอีกแล้ว!

ใบหน้าอันงดงามของมูช่ ิงเกอกลายเป็ นสีดาํ เพราะควัน


เขม่าจากหม้อหลอม

ยาสมุนไพรบนโต๊ะหมดแล้ว แต่นางกลับยังหลอมโอสถ
ไม่สาํ เร็จเลยแม้แต่หม้อเดียว

มูช่ ิงเกอปั ดฝุ่ นบนเสือ แล้วลุกขึนยืน เดินกลับไปคัด


เลือกยาจากตูย้ าใหม่........

“การหลอมโอสถนัน ยากกว่าทีข้าคิดไว้” มูช่ ิงเกอพึมพํา

150
นําเสียงของนางนิงเรียบมาก ไม่ได้หมดกําลังใจ หรือ
เสียใจทีผิดพลาดมาโดยตลอด

ราวกับว่า นางไม่สงสัยในความสามารถด้านการปรุงยา
หลอมโอสถของตนเองเลย

อืม นางเชือแบบนี เพราะในเมือตํารายานีสืบทอดมาให้


กับนาง แสดงว่านางต้องมีความสามารถในด้านนี มิเช่น
นัน ตํารายาอันยิงใหญ่นนั ไม่มีเหตุผลใดทีจะตกทอดมา
ยังผูท้ ีไร้ความสามารถด้านการปรุงยาเลยแม้แต่นอ้ ย

เพราะมีความเชือแบบนี มูช่ ิงเกอจึงเตรียมยามาอีก 15


ชุด

151
มูช่ ิงเกออยูใ่ นห้องปรุงยามาทังวันทังคืนแล้ว นางวางยา
ทีเตรียมเอาไว้ และไม่ได้เริมปรุงในทันที แต่กาํ ลังฝึ กฝน
พลังจิต

การใช้พลังจิตติดต่อกันเป็ นเวลายาวนาน ทําให้นางเริม


มีอาการวิงเวียน

นางจึงต้องการพักสมองเปลียนไปทําอย่างอืนบ้าง

ในตอนนี การฝึ กพลังจิตของตนเอง จึงเป็ นตัวเลือกทีดีที


สุด

152
พลังเวทสายเหลืองขันสูงสุด สําหรับคนอืนๆ แล้ว ถือว่า
เก่งกาจแล้ว แต่สาํ หรับนาง ยังถือว่าอ่อนมาก

หลังจากตืนจากการฝึ ก ก็ผา่ นมาแล้วหนึงคืน

มูช่ ิงเกอรับประทานอาหารและเริมฝึ กปรุงยา

ตังแต่ตน้ จนจบ มูช่ ิงเกออยูใ่ นห้องเป็ นเวลา 5 วัน 6 คืน

พอวันที 6 มูช่ ิงเกอจมอยูใ่ นการฝึ กฝนพลังไม่ได้ตืนขึน


มาเหมือนยามปกติ แต่วา่ ขมวดคิว พลังในร่างกาย
เคลือนไหวอย่างรุนแรง

153
ทันใดนัน ร่างกายของนางก็มีแสงสีเหลืองดังทองคําอัน
เข้มข้นสาดประกายไปทัวห้อง

หากไม่ใช่เพราะในห้องนีไม่มีหน้าต่าง ไม่แน่วา่ แสงสี


เหลืองนันอาจจะส่องออกไป ทําให้คนข้างนอกเข้าใจผิด
ว่า ในห้องมีพระอาทิตย์อีกดวง

แสงสีเหลืองส่องประกายไม่นาน ก็เริมค่อยๆ จางลง แต่


สีก็คอ่ ยๆ เปลียนไป

แสงทีเคยเป็ นสีเหลืองค่อยๆ เปลียนเป็ นสีเขียว..........

หลังจากนันแสงสีเหลืองบนตัวของมูช่ ิงเกอก็หายไป สิงที


154
มาแทนคือแสงสีเขียวอ่อนๆ ทีเคลือนไหวอยูร่ อบตัวนาง
ราวกับนางเป็ นมนุษย์หยกก็ไม่ปาน

สักพัก แสงสีเขียวก็แทรกเข้าสูร่ า่ งกายของมูช่ ิงเกอ และ


หายไป ในห้องไม่มีแสงสีเหลืองหรือแสงสีเขียวอยูอ่ ีกเลย

มูช่ ิงเกอค่อยๆ ลืมตาขึน ริมฝี ปากทีปิ ดสนิทค่อย


คลายออก : “สายเขียวขันต้น”

นางไม่คิดว่า หลังจากทีตังใจฝึ กปรุงยามาหลายวัน


ความสามารถในการปรุงยาไม่ได้เพิมขึนแม้แต่นอ้ ย แต่
กลับทําให้พลังเวทของตนเองมากขึนแทน จากสาย
เหลืองขันสูงสุดเข้าสูส่ ายเขียว

155
มูช่ ิงเกอเก็บความรูส้ กึ ในใจเอาไว้ แล้วก็เริมฝึ กปรุงยาอีก
ครัง

สําหรับนางแล้ว การเลือนขันพลังเวทไม่ใช่อะไรทีน่าดีใจ
ขนาดนัน นอกจากว่า ตืนมา นางได้กลายเป็ นสายม่วง
ในตํานาน

หลังจากทีผ่านการฝึ กมาหลายวัน การคัดยาของมูช่ ิงเก


อคล่องแคล่วมากขึน

ตอนนี นางไม่จาํ เป็ นต้องใช้ตราชังชังยาอีกต่อไป แค่ใช้


มือจับก็สามารถชังยาได้อย่างแม่นยํา ขนาดการแบ่งยา

156
ก็ไม่ตอ้ งละเอียดอ่อนมาก แค่ใช้มือปั ด พวกสมุนไพรที
ไม่มีคณ
ุ ภาพก็จะถูกทิงออกไปโดยไม่คลาดเคลือน

มูช่ ิงเกอเอาตัวยาทีเตรียมเอาไว้ ใส่ลงในหม้อหลอม------

มือคูเ่ ล็กๆ ทีโปร่งเเสง บดยานานาชนิดในหม้อให้กลาย


เป็ นผง และค่อยๆ หลอมรวมมันเข้าด้วยกัน

จากประสบการณ์ทีผ่านมาในครังก่อนๆ มูช่ ิงเกอเหมือน


จะจับจุดการหลอมรวมได้ ขนาดของยานันไม่ผิดพลาด
แต่ตอ้ งหาจุดเชือม และหลอมเหลวยา

ในขันตอนของการหลอมรวมนี มูช่ ิงเกอทําช้ามาก


157
นางไม่กลัวว่าจะพลาดอีกครัง แต่ตอ้ งดูทกุ ขันตอนอย่าง
ละเอียด

การปรุงยาชิงซินซ่าน ต้องใช้ตวั ยาทังหมด 15 ชนิด การ


หลอมรวมแบบนี เป็ นการหลอมรวมยาทัง 15 ชนิดทีไม่
ง่ายเลย เพราะต้องใช้การหลอมรวมเป็ นเท่าตัว

การหลอมรวมยิงใกล้ถงึ ตอนท้าย ก็ยงมี


ิ โอกาสผิดพลาด
ได้ง่าย

การหลอมรวมในขันตอนแรกๆ มูช่ ิงเกอผ่านมาได้อย่าง


ง่ายดาย

158
เพราะการหลอมรวมขันกลางๆ มูช่ ิงเกออิงจาก
ประสบการณ์ความผิดพลาดในครังก่อนๆ จึงผ่านมาได้
อย่างไม่น่าเชือ

ไม่นาน การหลอมรวมครังสุดท้ายก็มาถึง

หากการใช้พลังจิตครังนีสําเร็จ นางก็จะหลอมยาหม้อ
แรกสําเร็จ

หน้าผากของมูช่ ิงเกอเริมมีเหงือไหลออกมา นางส่งพลัง


จิตเข้าไปในหม้อหลอมมากกว่าเดิม เพือคุม้ กันผงยาที
ไม่คอ่ ยคงที

159
ภายในหม้อ มือคูเ่ ล็กๆ ทีโปร่งแสงเอาผงยาชุดสุดท้าย
ลงในหม้อ

ทันใดนัน ผงยาพวกนันหลอมรวมเป็ นเนือเดียวกันและ


สันอย่างรุนแรง

มือเล็กๆ ทีโปร่งแสงล้อมรอบผงยา เหมือนผงยาทีกําลัง


สันอย่างรุนแรงนันเป็ นรูบิตก็ไม่ปาน

ในทีสุด ผงยาพวกนันก็นิงลง

กลินหอมของยาสมุนไพรลอยออกมาจากหม้อหลอม ทํา
160
ให้มชู่ ิงเกอรีบลืมตาขึน ตาคูท่ ีสว่างและสดใสเป็ น
ประกายขึนมา : สําเร็จแล้ว!

161
ตอนที 61 เคยเล่นกิจกรรม 30 คน 31 ขาหรือไม่

วันนันทีคัดเลือกทหารออกมาเตรียมเป็ นองครักษ์ของมู่
ชิงเกอมีจาํ นวนทังหมด 670 นาย

นางเคยบอกมูซ่ งไว้วา่ 10 วันหลังจากนันจะคัดออกอีก


170 นาย

วันนีก็ยา่ งเข้าวันที 10 แล้ว

มูช่ ิงเกอออกจากห้องปรุงยาแต่เช้า หลังจากทีอาบนํา


1
เสร็จ ก็พามัวหยางออกจากจวนตระกูลมมูเ่ พือไปยัง
พืนทีว่างโล่งในค่ายทหารตระกูลมู่

ทหารจํานวน 670 นายยืนเรียงกันอย่างเป็ นระเบียบ


เรียบร้อย เสือเกราะถูกถอดออกตามคําสังของมูช่ ิงเก
อเหลือเพียงแค่เสือและกางเกงทีใส่ติดตัวกับรองเท้าอีก
คูห่ นึง

ชายหนุ่มพวกนีใบหน้าต่างก็ยงั ดูไร้เดียงสาแต่ก็ถกู
ฝึ กฝนจนดูมีพลังและความอดทน

มูช่ ิงเกอมองไปกับรอบๆ สําหรับการคัดเลือกในครังนี


นางยังคงพอใจอยูบ่ า้ ง

2
ขอแค่พวกเขาอดทนผ่านการฝึ กของนางไปได้ นางจะพา
พวกเขาเข้าสูก่ ารฝึ กฝนขันทีสูงกว่า มอบโลกอีกใบทีต่าง
จากเดิมแก่พวกเขาเหล่านี

“มัวหยาง เตรียมของเรียบร้อยหรือยัง” มูช่ ิงเกอพูดกับ


มัวหยางทีอยูข่ า้ งๆ

มัวหยางลุกขึนยืนได้ ในมือถือถุงผ้าใบหนึง พูดกับมูช่ ิง


เกอว่า : “คุณชาย เตรียมเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วขอรับ”

“ดี” มูช่ ิงเกอพยักหน้าและสังอีกว่า : “แจกเลย”

3
มัวหยางถือถุงผ้าเดินไปยังทหารทัง 670 นายและเปิ ดถุง
ผ้าท่ามกลางความสงสัยของทุกคนแล้วล้วงเอาของใน
นันออกมา

“แถบผ้าอย่างนันหรือ?”

เมือรับของทีมัวหยางยืนมาให้แล้วทุกคนก็ยงดู
ิ สงสัย

วันนันพวกเขาถูกคัดเลือกจากวิธีการแปลกประหลาด
ของคุณชาย ในตอนแรกคิดว่าจะได้เป็ นองครักษ์ของ
คุณชายเลยแต่สดุ ท้ายคุณชายให้เวลาพวกเขาถึง 10 วัน

พวกเขาต้องทนสายตาแปลกๆ จากเพือนทหารทีมองมา
4
ยังพวกเขาในเวลา 10 วันทีผ่านมานี และยังมีการคาด
เดาต่างๆ นานาทีไม่เข้าหูบา้ ง วันนีมาปรากฎตัวอยูใ่ นที
แห่งนี ตอนนีมูช่ ิงเกอแจกแถบผ้าให้พวกเขาคนละแถบ
จะเล่นอะไรกัน?

หรือว่าจะเหมือนทีคนอืนๆ พูดกันว่า แท้จริงแล้วคุณชาย


ไม่ได้หาองครักษ์ แต่เพียงหาสหายไปเล่นด้วย

ไม่นานทุกคนก็ถือแถบผ้าใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย

หลังจากทีแจแถบผ้าเสร็จ มัวหยางไม่ได้กลับไปยืนข้างๆ
มูช่ ิงเกอแต่อย่างใด กลับไปยืนอยูต่ รงท้ายแถว

5
มูช่ ิงเกอมองสีหน้าของทุกคนแล้วยิมพร้อมพูดว่า : “ตอน
นีหากมีใครอยากจะถอนตัวไม่อยากเป็ นองครักษ์ของข้า
แล้ว ก็ไปเถิด ข้าจะไม่ตาํ หนิอะไร”

พอนางพูดจบก็เต็มไปด้วยเสียงฮือฮา

คนทีลังเลอยูแ่ ล้วยิงมีอาการลังเลมากขึน

ครูห่ นึง ก็มีคนถอยออกจากแถว สายตาทีมองมูช่ ิงเก


อนันมีความรูส้ กึ ผิดอยูบ่ า้ ง

พอคนสุดท้ายทีออกจากแถวเดินออกไปก็เหลืออยูเ่ พียง
537 นาย
6
นันหมายความว่ามูช่ ิงเกอยังต้องคัดออกอีก 37 นาย

การฝึ กของนางจะให้ใครรูไ้ ม่ได้ เพราะฉะนันนางยอมที


จะทุม่ เทเลือกทหารทัง 500 นายอย่างละเอียดรอบคอบ
ในตอนแรก เพราะทหารทัง 500 นายนันเมือถูกเลือก
แล้วก็ตอ้ งอยูก่ บั นางไปชัวชีวิต

หากมีผใู้ ดกล้าทรยศ นางจะส่งมันไปโลกหน้าด้วยตัวเอง

สายตาอันสว่างสดใสนันมีความเยือกเย็นแฝงอยู่ นาง
เดินไปหาทหารทัง 537 นายแล้วยิมพลันพูดว่า : “เคย
เล่นกิจกรรม 30 คน 31 ขาไหม?”

7
30 คน 31 ขาอะไรกัน? พวกเขาไม่ใช่ตะขาบนะ

คนทีเหลือใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย

ไม่มีใครรู ้ มูช่ ิงเกอคิดอยูแ่ ล้ว เพราะหากมีคนรูค้ งจะทํา


ให้นางแปลกใจอยูไ่ ม่นอ้ ย

“30 คน 31 ขา คือให้พวกเจ้าแบ่งกลุม่ กันเอง กลุม่ ละ


30 คนส่วน 9 คนทีเกินมาให้ยา้ ยไปอยูอ่ ีก 9 กลุม่ ใดก็ได้
ทีเหลือ หลังจากแบ่งเสร็จแล้วก็จดั เป็ นแถวแล้วมัดขา
ของพวกเจ้ากับคนข้างๆ” มูช่ ิงเกออธิบายกับทุกคนหลัง
จากนันก็ชีไปยังเส้นชัยทีห่างออกไป 100 กิโลเมตร

8
พร้อมพูดว่า : “หลังจากนันพวกเจ้าเดินไปยังเส้นชัยทีปั ก
ธงอยูต่ รงนันก็ถือว่าสําเร็จ ก่อนฟ้ามืดคนทีถึงก่อนจะได้
เป็ นองครักษ์ของข้า อีก 37 คนทีเหลือถือว่าไม่ผา่ นการ
คัดเลือก แน่นอนว่าเพราะจํานวนคนทําให้ยากทีจะคัด
ออก 37 คนเพราะฉะนันหลังจากทีมีกลุม่ ทีชนะจํานวน
คนของกลุม่ ทีเหลือก็จะมีการเปลียนแปลง จนกว่าจะ
เหลือแค่ 37 คนทีช้าทีสุด”

“คุณชายนีหมายความว่าอย่างไร เป็ นการละเล่นรึ?” ใน


ทีสุดก็มีคนทนไม่ไหวถามคําถามในใจออกมา

มูช่ ิงเกอยิมพร้อมตอบว่า : “เจ้าก็ถือเสียว่ามันเป็ นการ


เล่นก็แล้วกัน เล่นกิจกรรมนีมีประโยชน์อะไรนันข้าหวัง
9
ว่า 500 คนทีได้รบั การคัดเลือกจะตอบคําถามแก่พวก
เจ้าแทนข้า”

มูช่ ิงเกอไม่ได้ให้โอกาสทุกคนได้ดงึ สติกลับคืนมาก็สงว่


ั า
เริมการคัดเลือกในกิจกรรมนี ณ บัดนี

หลังจากนันคนเกือบ 100 คนทีนังดูอยูไ่ กลๆ ในใจเต็ม


ไปด้วยความยินดีคิดว่าตนเองโชคดี

และแอบคิดในใจว่า : หากตนเองไม่ได้ถอนตัวก็คงจะมี
สภาพเหมือนพวกนีต้องเล่นเป็ นเพือนคุณชาย

มูช่ ิงเกอไม่ได้สนใจความคิดของคนอืนๆ และกลับไปนัง


10
เก้าอีข้างๆ ดูการแข่งขันของทุกคนท่ามกลางแสงแดด
เจิดจ้า

ตอนแรก 537 กว่าคนไม่มีกลุม่ ไหนเลยทีสามารถเดินได้


ถึง 10 ก้าวหรืออาจจะเดินแค่ 2 ก้าว เป็ นต้องล้มกลิงลง
บนพืน

ความสับสนวุน่ วายแบบนีเป็ นไปเรือยๆ จนดวงตะวันเริม


จะลับขอบฟ้า

มีบางกลุม่ หลังจากทีล้มกลิงไม่หยุดก็เหมือนพอจะเริม
จับเคล็ดได้ และเริมเดินได้คล่องแคล่วและว่องไวขึน

11
กลุม่ แรกได้ผา่ นเส้นชัยไปแล้ว เมือมูช่ ิงเกอมองไปแล้ว
พบว่ามัวหยางก็เป็ นหนึงในนัน

นางยิมนิงๆ แล้วดูตอ่ ไป

หลังจากทีมีกลุม่ แรกทีชนะก็มีกลุม่ ทีสองและกลุม่ ที


สาม..........

คนเกือบ 100 คนทีถอนตัวออกไปก็ไม่ได้ไปไหนยังคงดู


อยูแ่ ละเหมือนจะเริมมองหลักการของการเล่นครังนีออก
ความดีใจและความยินดีบนใบหน้าก็คอ่ ยๆ จางหายไป
บางคนทีมีสติปัญญาก็เริมคิดทบทวนในแววตามีความ
ผิดหวังแฝงอยู่

12
ในทีสุดก่อนฟ้ามืด ก็ได้คดั เลือก 500 คนสําเร็จแล้ว

พวกเขายืนอยูต่ รงหน้ามูช่ ิงเกออย่างขันแข็ง แต่ละคน


ยืนตัวตรงดุจปื นยาว

คนจํานวนเกือบ 100 คนทีถอนตัวออกไป ยามนีไม่พดู


อะไรอีกแต่ยงั คงยืนเงียบอยูน่ อกสนามและมองสนามรบ
ทีควรจะเป็ นของตนเอง

และ 37 คนทีตกรอบใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเสียใจ
และผิดหวัง

13
ทหารตระกูลมูน่ นไม่
ั ใช่คนโง่เขลา พวกเขาเห็นจุดหมาย
ในกิจกรรมนีของมูช่ ิงเกอ รูว้ า่ คุณชายผูน้ ีไม่ธรรมดา

มูช่ ิงเกอเดินไปอยูต่ รงหน้าทหารทีเคยถามคําถามกับ


นาง : “ตอนนีเจ้าตอบข้าได้หรือยังว่ากิจกรรมนีทําเพือ
อะไร?”

ทหารคนนันไม่คิดว่ามูช่ ิงเกอจะจําตนเองได้ เขายังจํา


บทสนทนาของทังสองก่อนหน้านีได้ ท่ามกลางความตืน
ตระหนก เขาก็พดู อย่างเขินอายว่า : “ข้า...... ข้าก็ไม่รูว้ า่
จะพูดอย่างไรแต่คิดว่ากิจกรรมนีไม่ได้ง่ายเลยและหลัง
จากทีจบเกมแล้ว เหมือนเรากับเหล่าเพือนทหารกลม
เกลียวกันมากยิงขึน”

14
มูช่ ิงเกอยิมเดินไปหามัวหยางแล้วถามคําถามเดียวกัน

มัวหยางขมวดคิวคิดแล้วตอบว่า : “ คุณชาย ข้าไม่รูว้ า่


ควรจะตอบอย่างไร ตอนแรกพวกข้าเหมือนทรายทีฟุง้
กระจาย แต่สดุ ท้ายฝี เท้าก็พร้อมเพรียงเป็ นหนึงเดียวกัน
จนได้รบั ชัยชนะ”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ ถอยไปด้านหลังหลายก้าวพร้อม


พูดกับทัง 500 คนว่า : “นับตังแต่บดั นี พวกเจ้าเป็ น
องครักษ์ของข้าและข้าจะเป็ นคนฝึ กพวกเจ้าด้วยตัวเอง”

ข่าวทีมูช่ ิงเกอจะเป็ นคนฝึ กพวกเขาด้วยตนเองนัน พวก

15
เขาไม่เคยทราบมาก่อน

แต่หลังจากทีนางพูดจบ คนในแถวทีควรจะแสดงความ
แปลกใจกลับดูเงียบลงอย่างน่าประหลาด

มูช่ ิงเกอยิมอย่างพอใจแล้วพูดต่อว่า : “ข้ากับท่านแม่ทพั


มีสญ
ั ญาต่อกันว่าสามเดือนหลังจากนีจะมีการประลอง
พวกเจ้ามีความมันใจหรือไม่?”

“มี!”

ท่าทางองอาจ เสียงดังสนันลันฟ้า

16
คําตอบทีเป็ นเสียงเดียวกันนีมีความเข้มแข็งอยู่

มูช่ ิงเกอยิมมุมปากแล้วเน้นยําว่า : “เมือครู ่ พวกเจ้าถาม


ข้าว่ากิจกรรมนีทําเพือเหตุใด ข้าคิดว่าพวกเจ้าทีได้
สัมผัสด้วยตัวเองคงจะเริมเข้าใจ แต่ไม่รูว้ า่ จะพูดออกมา
อย่างไร ถ้าอย่างนันข้าจะเป็ นคนพูดเอง กิจกรรมนี ต้อง
การทดสอบความเป็ นหนึงเดียว การร่วมแรงร่วมใจกัน
ของกลุม่ การช่วยเหลือกันและทําตามคําสัง เหล่า
องครักษ์ก็ถือเป็ นกลุม่ ๆ หนึง มีกนั ทังหมด 500 คน แต่
ละคนต่างก็มีทศั นคติและความคิดเห็นของตนเอง แต่ใน
ตอนทีต้องทําตามคําสังและต้องพบเจอกับการเปลียน
แปลง การแก้ไขสถานการณ์ทีอยูต่ รงหน้า ไม่ใช่วา่ ทุกคน
จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เพราะเช่นนัน พวกเจ้า
ต้องมีนาหนึ
ํ งใจเดียวกันทีเข้มแข็งทีจะสามารถจัดการให้

17
ทุกคนมีความคิดเป็ นหนึงเดียวกันเพือทําตามเป้าหมาย
ให้สาํ เร็จลุลว่ งได้ เพียงสามเดือน เวลาของข้าไม่ได้มาก
นัก เพราะฉะนันข้าไม่มีเวลามาขัดเกลาพวกเจ้า ทําได้
เพียงใช้กิจกรรมในการคัดเลือกต้นกล้าทีดีทีสุด"

มูช่ ิงเกอชูนิวขึน 3 นิวพูดด้วยนําเสียงทีหนักแน่นว่า :


“สามเดือน สามเดือนหลังจากนี ข้าเชือว่าพวกเจ้าจะไม่
เสียใจกับการยืนหยัดในวันนี”

คําพูดเหล่านีทําให้ทงั 500 นายเลือดสูบฉีดอย่างรุนแรง


และทําให้อีก 100 กว่าคนทีถอนตัวออกไปใบหน้าเริม
แดงกําเพราะความละอาย

18
ตอนที 62 คุณชายผูห้ ยิงยโส

19
หลังจากได้รบั คําเชิญของฉินอีเหยา มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ สงสัย
มาตลอดว่าล่าสัตว์กบั ชมดอกไม้มนั เกียวข้องอย่างไรต่อ
กัน

เมือถึงวันนัดหมาย หลังจากทีนางพาเจ้าอ้วนเซ่าและ
ป๋ ายซีเยวียตามฉินอีเหยาเดินเข้าไปยังเขตบริเวณเขตล่า
สัตว์หลวงแล้ว จึงค่อยเข้าใจว่าเหตุใดทังสองสิงทีไม่
เกียวข้องกันเลยถึงสามารถนํามารวมด้วยกันได้

ทีแท้ ในสนามล่าสัตว์ของพวกเชือพระวงศ์ มีพระราชวัง

20
ตากอากาศทีไว้ประทับยามทีฮ่องเต้เสด็จประพาสอยู่
ด้วย

เวลานี เป็ นช่วงเวลาทีบุปผานานาพรรณในพระราชวัง


ตากอากาศกําลังบานสะพรังแข่งกันประชันความงดงาม

ในทุกปี แคว้นฉินจะมีการจัดงานล่าสัตว์ชมไม้ สาวใหญ่


น้อยทีมีศกั ดิฐานะสูงส่งทีได้รบั คําเชิญจะอยูใ่ น
พระราชวังตากอากาศชมบุปผาอยูใ่ นบริเวณวัง ส่วน
บรรดาเชือพระวงศ์และทายาทตระกูลต่างๆ ก็จะแข่งขัน
กันล่าสัตว์ในสนาม

ตระกูลมูไ่ ม่มีชายหนุ่มมาเป็ นเวลานานแล้ว

21
หญิงเพียงหนึงเดียวทีมี ก็คือมูเ่ หลียนหรงคุณหนูใหญ่
ของจวนหย่งหนิงกง

แต่นางดูหา้ วหาญเพียงนัน จะมาเข้าร่วมชมดอกไม้ไร้


สาระแบบนีได้อย่างไรกัน หรือให้มาฟั งเรืองซุบซิบของ
ตระกูลอืนๆ งันหรือ?

และผูส้ ืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูลมูซ่ งก็


ึ คือมูช่ ิงเก
อก็กลับเป็ นชายหนุ่มเสเพล ไม่สามารถฝึ กเวทพลังได้
หากให้มาแข่งขันล่าสัตว์แบบนี สําหรับนางแล้วมันคือ
การทําให้ตนเองอับอายขายขีหน้าเสียมากกว่า เพราะ
ฉะนันในทุกๆ ปี ทีผ่านมาจึงไม่มีใครเชิญนาง และนาง

22
เองก็ไม่เคยมาร่วมงานนี

ในตอนแรกกิจกรรมล่าสัตว์ชมไม้ในครังนีมีเจียงกุย้ เฟย
สนมทีฮ่องเต้โปรดปรานมากทีสุดในตอนนีเป็ นผูค้ วบคุม
ดูแล แต่เป็ นเพราะเรืองของฉินจินห้าวภายหลังจึง
เปลียนให้ฮองเฮาผูด้ แู ลวังหลังมาเป็ นผูร้ บั หน้าทีนีแทน
ในขณะเดียวกันผูน้ าํ ในการล่าสัตว์ก็คือรัชทายาทองค์
ปั จจุบนั ฉินจินซิว

มูช่ ิงเกอไม่รูว้ า่ เจียงกุย้ เฟยทีอยูใ่ นวังต้องเสียผ้าเช็ดหน้า


ไปกีผืน เพราะหลังจากทีนางเข้ามายังเขตล่าสัตว์ของ
พระราชวังก็เห็นเพียงภาพทีดูคกึ คัก

23
“พวกเราไปพบฮองเฮาทีพระราชวังตากอากาศก่อน หลัง
จากนันจะอยูห่ รือจะไปก็แล้วแต่เจ้า” ก่อนเข้าพระราชวัง
ฉินอีเหยาพูดขึน

มูช่ ิงเกอเลิกคิว แอบมองคนทีตามมาจากด้านหลัง เจ้า


อ้วนเซ่าทีใบหน้าเต็มเปี ยมไปด้วยความปี ติและป๋ ายซีเย
วียทีตืนตาตืนใจกับทุกสิงทุกอย่างในนี แล้วมองฉินอี
เหยา : “วันนีให้กระหม่อมมาเดินเป็ นคูค่ วงของพระองค์
หรือ?”

สายตาของฉินอีเหยาเริมแสดงออกถึงความอึดอัด การ
พูดตรงๆ ของมูช่ ิงเกอ ทําให้นางยากทีจะปฎิเสธ : “ข้า
เองก็ไม่คอ่ ยชอบบรรยากาศแบบนีนัก แม้วา่ เจ้าจะปฎิเส
ธคําชวน ข้าก็คงจะมาเพียงทักทายแล้วหาโอกาสหลบ
24
ออกไป”

“หากเป็ นเช่นนันพระองค์จะบังคับให้กระหม่อมมาทีนี
เพืออะไรกัน” มูช่ ิงเกอหยุดเดิน

ฉินอีเหยายิมขืน มองนางอย่างไม่คอ่ ยพอใจนัก: “เจ้ายัง


ไม่เข้าใจอีกหรือ?”

เข้าใจอะไรรึ?

ลองคิดดูอีกแง่ นางก็เข้าใจแล้วจริงๆ ด้วย ไม่ตอ้ งเดา


เลยว่าสาเหตุทีเรียกให้นางมาก็คงจะมาจากการกดดัน
ของไทเฮา
25
และการทีฮองเฮาและเจียงกุย้ เฟยคอยชิงไหวชิงพริบกัน
ทังในทีลับและทีแจ้ง ฉินอีเหยาทีเป็ นบุตรสาวแท้ๆ ของ
เจียงกุย้ เฟยเมืออยูต่ อ่ หน้าฮองเฮาก็คงจะหนีไม่พน้ ต้อง
ตกทีนังลําบาก

งานแบบนีนางทีมีคหู่ มายอยูแ่ ล้ว หากมาเพียงคนเดียว


ก็คงจะเป็ นทีติฉินนินทา อีกอย่างฉินอีเหยาทีหน้าตางด
งาม การวางตัวก็เย็นชาเฉกเช่นองค์หญิงแห่งธารนําแข็ง
ทีอยูไ่ กลแสนไกล หญิงสาวแบบนี สําหรับชายหนุ่มส่วน
มากแล้วเป็ นความน่าหลงใหลอย่างหนึง ผูท้ ีชืนชมนาง
เองก็คงมีอยูไ่ ม่นอ้ ย และหากมีผทู้ ีใจกล้ามาสารภาพ
ความในใจกับนาง แม้วา่ นางจะปฏิเสธ แต่หากเรืองไป
ถึงหูฮองเฮา ก็คงจะกลายเป็ นประพฤติตนไม่งาม ผิดต่อ

26
หลักศีลธรรมสตรี

ฉินอีเหยามีพรสวรรค์แล้วอย่างไร?

ขอแค่นางไม่ใช่บตุ รสาวแท้ๆ ของฮองเฮา ก็ตอ้ งโดน


กําจัดและถูกฮองเฮาใช้เป็ นหมากตัวหนึงเพือจะเล่นงาน
เจียงกุย้ เฟยและรุย่ อ๋อง

งานเลียงนี ฉินอีเหยาทีเป็ นองค์หญิงนันไม่มาไม่ได้

เพราะว่านีเป็ นงานทีฮองเฮาทรงจัดขึนและเป็ นงานเลียง


ตามพระราชประเพณี หากไม่มาก็จะถือว่าเป็ นการ
หยามเกียรติฮองเฮา
27
เพราะฉะนัน เมือใคร่ครวญดูแล้ว การเรียกตัวคูห่ มายที
ฮ่องเต้ชีตัวไว้ให้กบั นางมาด้วย จึงจะเป็ นการยุติเรืองราว
และไม่ทาํ ให้เกิดเรืองยุง่ ยากขึน

มูช่ ิงเกอพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วไม่พดู อะไรต่อ

ทังหมดเดินหน้าไปอีกหลายก้าว อยูๆ่ ฉินอีเหยาก็หยุด


เดิน มองสองคนทีอยูด่ า้ นหลังมูช่ ิงเกอแล้วพูดว่า : “เจ้า
อ้วนเซ่าไม่ตอ้ งไปแล้ว เพราะอย่างไรในงานกิจกรรมล่า
สัตว์ชมดอกไม้นีก็มีคนอยูม่ ากมาย ฮองเฮาและ
รัชทายาทคงไม่อาจจดจําได้หมดหรอก”

28
เจ้าอ้วนเซ่าทีได้ยินว่าไม่ตอ้ งไปเข้าพบฮองเฮาใบหน้า
เหมือนหมูนนก็
ั เต็มไปด้วยความยินดี งานทีเป็ นพิธีรตี อง
เช่นนี ไม่เหมาะกับเขาเลยจริงๆ

แล้วเขาก็พดู ขึนว่า : “ขอบพระทัยองค์หญิง ลูกพี ข้าจะ


รออยูท่ ีเขตล่าสัตว์นะ จะไปสอดส่องดูให้ทา่ นก่อนว่ามี
อะไรน่าสนุกบ้าง”

พูดจบก็หายไปจากสายตาของทุกคนดังหมอกควัน

หลังจากทีเจ้าอ้วนเซ่าออกไป ฉินอีเหยาก็มองไปทีป๋ ายซี


เยวีย เมือถูกมองป๋ ายซีเยวีก็เผยท่าทางขลาดกลัวน่า
สงสารออกมา ทําให้นางขมวดคิวเล็กน้อยและพูดเสียง

29
เย็นว่า : “เดิมที เจ้าจะไม่เข้าถวายพระพรฮองเฮาก็ได้
เพราะอย่างไรเสียเจ้าก็ไม่ได้เป็ นผูท้ ีถูกเชิญมา แต่เพราะ
เจ้าเป็ นหญิงสาวต้องอยูใ่ นพระราชวังตากอากาศ เพือ
หลีกเลียงความยุง่ ยาก เจ้าก็ตามพวกข้าไปเข้าพบ
ฮองเฮาด้วยแล้วกัน แต่จงจําเอาไว้วา่ หากการวางตัว
ของเจ้าไม่เหมาะสม ทําให้ฮองเฮาทรงกริว ข้าเองก็ไม่
อาจช่วยเจ้าได้”

คําพูดทีแฝงการตักเตือน ทําให้ไหล่ทงสองข้
ั างของป๋ ายซี
เยวียสันขึนมาเบาๆ นางก้มหน้าลงตํากว่าเดิม ท่าทาง
น่าสงสารนันราวกับกระต่ายน้อยทีเปราะบาง

เห็นนางทําท่าทางแบบนัน ฉินอีเหยาจึงพูดขึนอีกว่า :
“แน่นอนว่า หากเจ้าอยากจากไปตอนนี ข้าจะให้คนไป
30
ส่งเจ้าทีจวนตระกูลมู”่

เมือพูดจบ ป๋ ายซีเยวียก็รบี เงยหน้าขึนทันที ดวงตาสอง


ข้างนองไปด้วยนําตาแห่งความน้อยอกน้อยใจ มองมูช่ ิง
เกออย่างสับสน พร้อมพูดว่า : “พีมู่ ซีเยวียสร้างความ
เดือดร้อนให้ทา่ นและองค์หญิงใช่หรือไม่?”

มูช่ ิงเกอแอบยิมเย็นในใจ มองฉินอีเหยาแล้วบอกว่า :


“ไปเถิด องค์หญิง”

ฉินอีเหยาพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินไปพร้อมกับมูช่ ิงเก


อ ทิงป๋ ายซีเยวียทีไม่รูว้ า่ จะเดินไปต่อหรือหยุดดีไว้ขา้ ง
หลังคนเดียว

31
นางมองเงาหลังของทังสองทีเดินจากไป สุดท้ายก็กดั ฟั น
และเดินตามไป

พอรูส้ กึ ว่ามีคนเดินตามมา ฉินอีเหยาก็พดู นิงๆ ว่า : “แม่


นางป๋ ายผูน้ ีก็ถือว่าใจกล้ามาก”

มูช่ ิงเกอยิมแล้วพูดว่า : “หากไม่มีความอดทน นางก็ไม่คู่


ควรให้องค์หญิงสนพระทัย”

ฉินอีเหยามองนางแล้วละสายตา

.............
32
ตอนทีมูช่ ิงเกอพบกับฮองเฮานัน พระนางกําลังถูกท่าน
หญิงกลุม่ หนึงรายล้อม ในรอยยิมนันปิ ดบังความ
กระหยิมยิมย่องเอาไว้ไม่มิด อาจจะเป็ นเพราะว่าการ
แย่งชิงในครังนีนางเป็ นผูช้ นะ

รูปปั นแกะสลักและความหรูหราต่างๆ ภายในวังทําให้


ป๋ ายซีเยวียตาเป็ นประกาย

แต่เพราะคําเตือนจากฉินอีเหยาก่อนหน้านี ทําให้นางไม่
กล้ามองสุม่ สีสุม่ ห้า ทําได้แค่เดินตามทังสองคนไปอย่าง
ใกล้ชิด

33
ในทีนีหญิงสาวทุกคนมีฐานะสูงส่งกว่านาง

ในจุดนีนางทังริษยาและชืนชม ความทะเยอทะยานใน
ใจยิงร้อนแรงมากขึน

“อีเหยาถวายพระพรเสด็จแม่ ขอเสด็จแม่ทรงพระเจริญ
พันปี พันปี พันพันปี ”

“มูช่ ิงเกอถวายพระพรฮองเฮา ขอฮองเฮาทรงพระเจริญ


พันปี พันปี พันพันปี ”

เมือไปยืนอยูต่ รงหน้าฮองเฮาทังสองก็ทาํ ความเคารพ

34
ทว่ามูช่ ิงเกอยังคงไม่คกุ เข่าลง

ฮองเฮาทีกําลังพูดคุยอยูเ่ หลือบตาขึนมองพวกเขาแล้ว
ตรัสว่า : “ไม่ตอ้ งมากพิธี”

ตอนนีท่านหญิงผูห้ นึงทียืนอยูข่ า้ งฮองเฮาก็พดู ขึนมาว่า :


“คุณชายมู่ เจ้าพบฮองเฮาแล้วกลับไม่ยอมคุกเข่าลงทํา
ความเคารพ เกรงว่าจะไม่เหมาะสม หากเรืองนีแพร่ออก
ไป ผูอ้ ืนอาจจะคิดว่าจวนหย่งหนิงกงขาดการอบรมสัง
สอน”

เมือนําเสียงเลือดเย็นนันดังขึน ท่านหญิงทังหลายทีอยู่
รอบๆ ก็พากันปิ ดปากหัวเราะเบาๆ ความเหยียดหยามดู

35
ถูกในดวงตานันเหมือนไม่พอใจในความไร้สมั มาคารวะ
ของมูช่ ิงเกอ

ฉินอีเหยายืนเงียบ หากนางพูดอะไรออกไปจะยิงทําให้
เรืองยิงแย่ลงกว่าเดิม

มูช่ ิงเกอยิมอย่างเปิ ดเผย แล้วพูดกับท่านหญิงนางนัน


ว่า: “ฮูหยินผูน้ ีช่างมีนาใจจริ
ํ งๆ เป็ นห่วงถึงการอบรมสัง
สอนของจวนตระกูลมูเ่ สียด้วย หรือว่าเป็ นเพราะท่านคิด
ว่าตระกูลสามีของท่านในยามนีไม่ดีพอ จึงอยากจะย้าย
เข้ามายังจวนตระกูลมูเ่ พือเป็ นสาวใช้อนุ่ เตียงให้กบั ท่าน
ปู่ ของข้า?”

36
พรืด------!

เสียงหัวเราะค่อยๆ ดังขึน กระทังใบหน้าดังเจ้าหญิงนํา


แข็งอย่างฉินอีเหยาเองก็มีรอยยิมซ่อนอยู่

“เจ้า!” ท่านหญิงทีถูกตอกกลับไปแบบนี โกรธจนยกนิวที


ประดับด้วยเล็บสีแดงสดขึนมาชีหน้ามูช่ ิงเกอ

“พอเถิด” ฮองเฮาพูดขึน : “ต่อหน้าไทเฮามูช่ ิงเกอยังไม่


ต้องคุกเข่าแล้วนับประสาอะไรกับฮองเฮาอย่างข้า” คํา
พูดนีเหมือนเป็ นคําแก้ตวั ให้มชู่ ิงเกอ แต่ความจริงแล้ว
หมายความว่านางหยิงยโส

37
ขนาดต่อหน้าไทเฮายังไม่คกุ เข่า แล้วจะเห็นฮองเฮา
อย่างนางอยูใ่ นสายตาได้อย่างไร?

แบบนีไม่เรียกว่าหยิงยโสแล้วจะให้เรียกว่าอะไร?

38
ตอนที 63 เจ้าอ้วนได้รบั บาดเจ็บ!

สายตาของเหล่าท่านหญิงทีอยูต่ รงนันพลันมองมูช่ ิงเก


อด้วยสายตาดูถกู เหยียดหยามและไม่พอใจ แต่สายตาที
มองฉินอีเหยากลับเต็มไปด้วยความเห็นใจและความ
เสียดาย

เพราะอย่างไรก็ตาม ฉินอีเหยาก็ถือว่าเป็ นองค์หญิงและ


39
นับได้วา่ เป็ นหญิงสาวทีมีความสามารถเป็ นอันดับหนึง
ในลัวตู

น่าเสียดายทีต้องมาคูก่ บั คนเสเพลไร้พลังอย่างนี

การเต้นรําเคียงคูใ่ นงานเลียงคําคืนนัน เมือเรืองแพร่ออก


ไปจากปากของเหล่าชายหนุ่มทีมีจิตใจคิดไม่ซือจึงกลาย
เป็ นการเต้นรําทีลามกอนาจารแทน ทําให้ชือเสียงของมู่
ชิงเกอนันไม่ได้เปลียนไปจากแต่ก่อน ยิงกลับยิงตอกยํา
การเป็ นผูช้ ายเสเพลเจ้าชูข้ องนาง

โชคดีทีนางไม่ใส่ใจ

40
ผลลัพธ์แบบนีเป็ นสิงทีนางหวังให้เป็ นอยูแ่ ล้ว มูช่ ิงเก
อยิงเป็ นผูช้ ายเสเพลมากเท่าใด สําหรับตระกูลมูแ่ ล้วก็
ยิงเป็ นเรืองทีปลอดภัยมากเท่านัน หากใจรักชาติของ
ท่านปู่ ของนางยังไม่ดบั มอดไปสถานการณ์แบบนีจึงจะดี
ทีสุด

มูช่ ิงเกอแอบยิมอย่างเย้ยหยันในใจ ฮองเฮาผูน้ ีก็ช่าง


หน้าเนือใจเสือเสียจริง แค่คาํ พูดเพียงไม่กีคํา ก็ทาํ ให้
นางกลายเป็ นศัตรูของทุกคนในทีแห่งนี

“เอ้ะ หญิงสาวผูน้ ีช่างงดงาม เป็ นคุณหนูตระกูลใดรึ?”


ฮองเฮาตรัสพลันมองป๋ ายซีเยวียทียืนอยูข่ า้ งหลัง

41
ไม่ตอ้ งให้มชู่ ิงเกอหรือฉินอีเหยาอธิบาย ป๋ ายซีเยวียก็
ยอบกายลงแล้วเอ่ยว่า : “เรียนฮองเฮา ข้าน้อยแซ่ป๋าย
ชือซีเยวีย เป็ นเด็กกําพร้าไร้บิดามารดา ตอนนีพักอาศัย
อยูท่ ีจวนตระกูลมูช่ วคราวเพคะ”

‘เด็กกําพร้า’ คํานีเรียกความสงสารจากเหล่าท่านหญิง
ทังหลายได้เป็ นอย่างดี

ตอนสายตาของท่านหญิงทังหลายมองไปทีมูช่ ิงเกออีก
ครังนัน ในแววตาก็ราวกับมีอะไรบางอย่างเพิมเข้ามา
ราวกับว่า นางเป็ นผูใ้ ช้กาํ ลังบังคับให้ป๋ายซีเยวียเข้าไป
อยูใ่ นจวนอย่างนันล่ะ

42
ความคิดพวกนี มูช่ ิงเกอไม่รูแ้ ม้แต่นิด เพราะหากรูก้ ็คง
จะชืนชมความคิดของท่าหญิงพวกนีไม่นอ้ ย

“อ้อ ข้านึกออกแล้ว หลายปี ก่อนเหมือนจะมีแม่ทพั แซ่


ป๋ ายผูห้ นึงสละชีพช่วยชีวิตนายผูเ้ ฒ่ามูเ่ อาไว้ หลังจาก
นันไม่นานฮูหยินของแม่ทพั ผูน้ นก็
ั ตายตามไป ทิงลูกสาว
เอาไว้เพียงลําพัง จึงถูกนายผูเ้ ฒ่ามูร่ บั ไปอยูใ่ นจวนตระ
กูลมู่ เจ้าคงจะเป็ นบุตรสาวของแม่ทพั ผูน้ นสิ
ั นะ”

ป๋ ายซีเยวียไม่คิดเลยว่าจะฮองเฮาจะรูเ้ บืองหลังของนาง
ทําให้นางพยักหน้า นัยน์ตามีนาตาเอ่
ํ อคลอ

เห็นนางยอมรับ ฮองเฮาก็พยักหน้าและพูดออกมาว่า :

43
“ช่างน่าเสียดาย แท้จริงแล้วเจ้าควรจะเป็ นคุณหนูทีสูง
ส่งคนหนึงแท้ๆ”

คําพูดนีเมือเข้าหูป๋ายซีเยวียไป ก็ทาํ ให้นางสันสะท้าน


อย่างรุนแรง จนนางเกือบคิดว่าฮองเฮาเป็ นผูร้ ูใ้ จของ
นางแล้ว

ทันใดนันองครักษ์ของฉินอีเหยาก็วงเข้
ิ ามาอย่างเร่งรีบ
และกระซิบทีข้างหูนางกํานัลคนสนิทของนาง นางกํานัล
คนนันหน้าเปลียนสี นางวิงไปหาฉินอีเหยาอย่างระมัด
ระวัง แล้วบอกต่อคําพูดขององครักษ์นายนัน

หลังจากทีฟั งจบ ฉินอีเหยาเองสีหน้าก็เปลียนไปแล้ว

44
มองไปทางมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอทีไม่รูว้ า่ เกิดอะไรขึนขมวดคิวถาม : “มีเรือง


อะไร?”

ฉินอีเหยาเม้มปาก แล้วบอกไปตามความเป็ นจริง : “เมือ


ครู ่ ในบริเวณเขตล่าสัตว์แจ้งข่าวมาว่าเซ่าเย่เจ๋อประลอง
ล่าสัตว์แล้วได้รบั บาดเจ็บ”

เจ้าอ้วนบาดเจ็บ !

ข่าวนีทําให้มชู่ ิงเกอตืนตระหนก.........

45
นางเป็ นคนพาเจ้าอ้วนเซ่ามา แล้วตอนนีเขาได้รบั บาด
เจ็บอย่างนันหรือ?

ความตืนตระหนกของมูช่ ิงเกอค่อยๆ ลดลงดวงตาที


สว่างสดใสคูน่ นกลายเป็
ั นความเยียบเย็นเสียดแทง

“ฮองเฮา มูช่ ิงเกออยูท่ ีวังตากอากาศนานกว่านีเกรงว่า


จะไม่เหมาะ จึงขอทูลลาก่อน วันหลังจะไปเข้าวังถวาย
พระพรพระองค์” มูช่ ิงเกอขัดจังหวะบทสนทนาของ
ฮองเฮาและป๋ ายซีเยวีย ไม่รอให้ฮองเฮาอนุญาตก็หนั
หลังเดินจากไป

นางก้าวเท้าอย่างว่องไว ราวกับว่าจะไม่หยุดเลยแม้แต่

46
วินาทีเดียว

ฉินอีเหยาทีมองตามด้วยความเป็ นห่วง พูดกับฮองเฮา


ว่า : “เสด็จแม่ อีเหยาเองก็ขอทูลลา” พูดจบนางก็ไม่ลืม
ทีจะบอกกับป๋ ายซีเยวียว่า : “แม่นางป๋ ายจะไปหรือจะรัง
อยู?่ ”

คําพูดนีทําให้ป๋ายซีเยวียลังเล

ไม่ใช่เรืองง่ายเลยทีนางจะได้รบั โอกาสดีๆ แบบนีอีก


อย่างฮองเฮาเองก็มีความประทับใจในตัวนางไม่นอ้ ย
จากไปแบบนีนางรูส้ กึ เสียดาย แต่ฉินอีเหยาก็เป็ น
ขนิษฐาแท้ๆ ของรุย่ อ๋อง หากข่าวทีนางมาใกล้ชิดกับ

47
ฮองเฮาไปเข้าหูของรุย่ อ๋องเข้าจะเป็ นอย่างไร ยิงตอนนี
เป็ นช่วงเวลาอ่อนไหวในการแก่งแย่งของรุย่ อ๋องและ
รัชทายาทอีกด้วย เกรงแต่วา่ จะทําให้รุย่ อ๋องไม่พอใจ

จะอยูห่ รือจะไป?

ป๋ ายซีเยวียยากทีจะตัดสินใจ มองซ้ายมองขวาแล้วมอง
ฮองเฮาอย่างลําบากใจ แล้วพูดอย่างนอบน้อมว่า :
“วันนีซีเยวียมากับองค์หญิงและคุณชาย พวกเขาจะ
กลับแล้ว ซีเยวียเองก็ไม่สะดวกจะอยูต่ อ่ ขอบพระทัยใน
พระเมตตาของฮองเฮาในวันนีเพคะ"

ฮองเฮาแอบหัวเราะเยาะในใจ ข้าเมตตาเจ้าตังแต่เมือ

48
ไหร่กนั ? คิดเองเออเองจริงๆ

แต่บนใบหน้าของพระนางกลับเต็มไปด้วยรอยยิมพลาง
พยักหน้าอย่างเมตตาและตรัสว่า : “ถ้าเช่นนัน ก็ไปเถิด
สาวน้อยหากวันหลังเข้าวังมากับคุณชายตระกูลมูก่ ็คอ่ ย
มาเยียมข้าอีก ข้ากับเจ้านันมีเรืองต้องพูดคุยกันอีกมาก”

ป๋ ายซีเยวียดีใจ รีบกล่าวคําขอบพระทัย

หลังจากนันก็รบี ตามฉินอีเหยาทีรอจนจะหมดความอด
ทนไปยังเขตล่าสัตว์ทนั ที

ตอนนีมูช่ ิงเกอทีออกมาก่อนถึงเขตล่าสัตว์เป็ นทีเรียบ


49
ร้อยแล้ว และเห็นเจ้าอ้วนเซ่าทีได้รบั บาดเจ็บ

“ไอ้พวกเลวกล้าลอบทําร้ายข้า บอกว่าตัวเองเป็ น
วิญ ชู นอะไรกัน ฝากไว้ก่อนเถอะ รอให้ขา้ หายดีเมือ
ไหร่ คอยดูวา่ ข้าจะจัดการกับสารเลวอย่างพวกเจ้าอย่าง
ไร” เสียงทีเต็มไปด้วยโทสะของเจ้าอ้วนเซ่าดังออก
มากลุม่ คน

ท่าทางทียังสมบูรณ์ดเู หมือนว่าจะไม่ได้บาดเจ็บอะไร
มากนัก ทําให้มชู่ ิงเกอทีรีบวิงมาก้าวเท้าช้าลงบ้าง

“เหอะ ไอ้อว้ นอย่างเจ้าน่ะหรือ!”

50
“ข้าว่า เนือหนังทีเต็มไปด้วยไขมันทังตัวของเจ้ามันคง
คันใช่ไหม ให้ขา้ ช่วยเกาให้เจ้าไหมล่ะ?”

"แค่สวะไร้คา่ สายแดงยังจะกล้าประลองล่าสัตว์กบั ข้า เฮ


อะ ดูเหมือนว่าขนาดม้าก็ยงั ดูถกู เจ้าเลย จึงได้ดีดเจ้าลง
มาจากหลังแบบนี”

มูช่ ิงเกอเดินฝ่ าเข้าไปท่ามกลางผูค้ น เห็นคุณชายทีเป็ น


หัวโจกคนหนึงยืนอยูก่ บั ชายหนุ่มอีกหลายคนกําลัง
หัวเราะเยาะเจ้าอ้วนเซ่าทีนังกอดเข่าอยูบ่ นพืน

“เจ้าโกหก! เห็นอยูช่ ดั ๆ ว่าพวกเจ้าลอบทําร้ายข้า พวก


เจ้าจงใจใช้พลังซัดทีกลางกีบเท้าม้า ทําให้เจ้าม้านันเจ็บ

51
จนสะบัดข้าตกลงมา” เจ้าอ้วนเซ่าพูดด้วยโทสะ

“สวะไร้พลังเช่นเจ้า มีคา่ อะไรทีนายท่านอย่างข้าต้องใช้


ลูกไม้ดว้ ย” คุณชายสูงศักดิทีเป็ นหัวโจกพูดด้วยนําเสียง
เย้ยหยัน ใบหน้าคมเข้มเต็มไปด้วยความยโสโอหัง

“ใช่ คุณชายหานเป็ นถึงสายเหลืองขันต้น จะไปกลัวสาย


แดงไร้คา่ อย่างเจ้าได้อย่างไร? พูดออกไปแล้วคงจะต้อง
มีคนหัวเราะจนฟั นหลุด” ทุกคนรีบพูดเสริม

พวกเขาตังใจให้ เจ้าอ้วนอับอายขายขีหน้า อยากจะแข่ง


กับเขาก็ไม่ลองส่องกระจกชะโงกดูเงาตนเองเสียก่อน
เนือหนังทีเต็มไปด้วยไขมันแบบนันคูค่ วรแล้วหรือ?

52
“ถุย้ ! สิงทีข้าแข่งกับเขาคือล่าสัตว์เกียวอะไรกับขันพลัง
ด้วย?” เจ้าอ้วนเซ่าตะโกนอย่างไม่พอใจ

แต่เพราะฐานะทีต้อยตํา ทําให้คาํ พูดไร้ซงนํ


ึ าหนัก เห็น
อยูแ่ ล้วว่าคนๆ นันมีฐานะสูงกว่าเขา จึงไม่มีใครสนใจคํา
พูดของเจ้าอ้วนเซ่าเลย

ฟั งถึงตรงนีมูช่ ิงเกอก็พอจะเดาเรืองราวทังหมดได้

นางผลักคนข้างหน้าออก พลันก้าวเท้ายาวๆ เดินออกไป


ข้างหน้า : “เจ้าอ้วน”

53
54
ตอนที 64 แก้แค้นให้กบั จ้าอ้วนเซ่า !

คนทีถูกนางผลักออก ขณะทีกําลังจะโมโห แต่ทว่าพอ


เห็นเงาร่างในชุดสีแดงทีส่องประกายดังดวงอาทิตย์และ
ใบหน้าอันงดงาม ทําให้เขาอึงอยูก่ บั ทีและลืมสินทุกสิง
ทุกอย่าง

“ลูกพี !” พอได้ยินเสียงของมูช่ ิงเกอและเห็นเงาร่างอัน


55
คุน้ เคย เจ้าอ้วนเซ่าก็ทาํ ท่าทางประหนึงเห็นญาติของตน
เองทันที

เสียงทีฟั งดูกลํากลืนเหมือนเด็กน้อยทีถูกรังแกนอกบ้าน
แล้วในทีสุดก็เห็นผูป้ กครองออกมาช่วยเหลือ

มูช่ ิงเกอเดินตรงไปหาเจ้าอ้วนเซ่า คุกเข่าลงแล้วมองเจ้า


อ้วนทีกอดขาอ้วนๆ ของตนเองเอาไว้ แล้วถามว่า : “เจ้า
ไม่เป็ นอะไรใช่ไหม”

เจ้าอ้วนเซ่าสูดนํามูก : “ไม่เป็ นอะไร ก็แค่ฟกชําภายนอก


นิดหน่อยอีกสักสิบวันหรือครึงเดือนก็คงจะหายและกลับ
มากระโดดโลดเต้นเหมือนเดิมได้แล้ว”

56
นางฟั งออกว่าเจ้าอ้วนเซ่าอยากปลอบใจนาง มูช่ ิงเก
อยิมแล้วพูดว่า : “ถ้าฟกชําแบบนีในช่วง 100 วัน เจ้า
ห้ามประมาทรูไ้ หม”

“รูแ้ ล้ว ลูกพี!” ใบหน้าของเจ้าอ้วนเซ่าเต็มไปด้วยความ


ซาบซึงใจ แม้วา่ ใบหน้าเหมือนหมูของเขานันจะไม่ได้
แสดงอาการออกมาชัดเจนมากนักก็ตาม

“เฉากุย้ ?” เสียงทีไม่คนุ้ เคยแทรกขึนท่ามกลางผูค้ น

คุณชายทีประลองกับเจ้าอ้วนเซ่าเงยหน้าขึนมอง ทันใด
นันสายตาทีดูไม่คอ่ ยสนใจอะไรมากนัก กลับมีความ

57
หลงใหลซ่อนอยู่ : “องค์หญิงฉางเล่อนีเอง”

ฉินอีเหยาเดินเข้ามาท่าทางผูค้ น มองเจ้าอ้วนเซ่าทีนังอยู่
บนพืนเเวบหนึงแล้วเผลอขมวดคิวโดยไม่รูต้ วั พลางพูด
ว่า : “เมือสักครูเ่ จ้าประลองกับเซ่าเย่เจ๋อหรือ?”

“ไม่ผิด” เฉากุย้ พูดอย่างได้ใจ : “ก่อนหน้านีไอ้อว้ น......


เซ่าเย่เจ๋อ ขอประลองล่าสัตว์กบั กระหม่อม โดยตกลงกัน
ไว้แล้วว่าให้ขีม้าของตนเองแล้วยิงธนูทงหมด
ั 9 ดอก
ของผูใ้ ดเข้าเป้ามากทีสุดเป็ นผูช้ นะ แต่วา่ เจ้าอ้วนนีไม่
ค่อยสันทัดการขีม้า ตัวเองตกลงมาจากหลังม้าเอง แล้ว
มาใส่ความผูแ้ ซ่เฉา ขอให้องค์หญิงคืนความเป็ นธรรมให้
กับผูแ้ ซ่เฉาด้วยพะยะค่ะ”

58
สายตาของเฉากุย้ ทีมองฉินอีเหยานันดูไม่สบายใจเป็ น
อย่างมาก

นางแอบขยับเข้าไปยืนใกล้ๆ ตรงทีมูช่ ิงเกอยืนอยูอ่ ย่าง


แนบเนียนและพูดกับเฉากุย้ นิงๆ ว่า : “ข้าเองก็เพิงเข้ามา
ไม่มีสทิ ธิทีจะตัดสินใจ หากเจ้าอยากจะทวงความเป็ น
ธรรมก็ไปหารัชทายาทเถิด แต่วา่ ก็แค่การประลอง อย่าง
ไรเสียเจ้าก็ชนะแล้ว แล้วทําไมยังจะต้องทับถมกันอีก
ด้วย?” นางเพิงจะมาถึง คําพูดก่อนหน้านีถึงแม้นางจะ
ไม่ได้ยินทังหมดเหมือนกับมูช่ ิงเกอ แต่ดว้ ยสติปัญญา
อันเฉียบแหลมของนางมีหรือจะเดาไม่ออกว่าเกิดอะไร
ขึน?

59
แต่นางอยากจะยุติเรืองทังหมดนี เพราะกลัวว่ามูช่ ิงเก
อจะเดือดร้อน แต่มชู่ ิงเกอกลับไม่รบั ความหวังดีนีเลย

เมือมันใจแล้วว่าเจ้าอ้วนเซ่าไม่ได้เป็ นอะไรมากนางก็
ค่อยๆ ยืนขึนบังฉินอีเหยาเอาไว้พร้อมพูดว่า : “เมือสักครู ่
เจ้าอ้วนแค่ตกจากม้า เจ้าและเขายังไม่ทนั ได้ยิงธนูแม้
แต่ดอกเดียว แล้วรูไ้ ด้อย่างไรว่าผูใ้ ดแพ้ผใู้ ดชนะ?”

“ทีแท้คณ
ุ ชายตระกูลมูน่ ีเอง” เฉากุย้ หัวเราะเยาะ :
“ทําไม? หรือว่าคุณชายอยากจะแก้ตวั ให้กบั เจ้าอ้วนนี”

“แก้ตวั นันไม่จาํ เป็ นหรอก” มูช่ ิงเกอปั ดเสือเบาๆ พลาง


ยิมแล้วพูดว่า : “คนอย่างข้าชอบพิสจู น์ทกุ อย่างด้วยการ

60
กระทํา”

“หมายความว่าอย่างไร?” เฉากุย้ ขมวดคิวถาม

“ถ้าอย่างนัน....” มูช่ ิงเกอยิมมุมปากอย่างขีเล่น : “การ


ประลองทียังไม่จบนี ให้ขา้ ลงสนามแทนเป็ นอย่างไร?”

ทุกคนอึง

ในแคว้นลัวตูนีไม่มีใครไม่รูว้ า่ คุณชายตระกูลมูน่ นไม่


ั มี
พรสวรรค์ในด้านใดเลยสักด้าน เป็ นเพียงแค่กอ้ นหญ้าไร้
ค่าเท่านัน

61
แต่วนั นี กลับมาท้าประลองขีม้ายิงธนูกบั เฉากุย้

ไม่ใช่แค่เฉากุย้ เท่านันทีคิดว่าตนเองหูฝาด แต่ฉินอีเหยา


ทียืนอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอก็ขมวดคิวเช่นเดียวกัน.........

“เฉากุย้ เป็ นคนของรัชทายาท เจ้าจะวูว่ ามแบบนีไม่ได้”


ฉินอีเหยายืนอยูข่ า้ งหลังออกปากเตือนมูช่ ิงเกอ

ทีแท้ก็เป็ นคนของรัชทายาท

มูช่ ิงเกอเข้าใจแล้ว ช่วงนีรุย่ อ๋องและรัชทายาทกําลังแย่ง


ชิงกันอย่างดุเดือดและตอนนีรุย่ อ๋องก็ยงั ถูกกักบริเวณอยู่
ในอารามหลวงจึงเสียอํานาจไปบ้าง ทําให้รชั ทายาทได้
62
ใจ

แต่วา่ พวกเขาจะกัดกัน หรือจะสูก้ นั ด้วยวิธีใดก็แล้วแต่


แต่มีสทิ ธิอะไรมายุง่ กับคนของนาง

ไอ้พวกตําพวกนี แค้นนีต้องชําระ

“คุณชายจะประลองกับข้าจริงๆ อย่างนันหรือ?” เฉากุย้


ค่อยๆ หรีตาถามยําเพือความแน่ใจอีกครัง ในสายตานัน
เต็มไปด้วยแผนการ

มูช่ ิงเกอพูดพลางหัวเราะออกมา : “ทําไมรึ? หรือว่าข้าไม่


มีเกียรติมากพอ” ฐานะของนางนันสูงส่งกว่าเฉากุย้ มาก
63
บวกกับการทีนางยังมีทา่ นปู่ ผแู้ สนดีทีรักหลานเท่าชีวิต
อยูด่ ว้ ย

เชือหรือไม่วา่ หากวันนีเฉากุย้ กล้าพูดว่ามูช่ ิงเกอไม่มี


เกียรติมากพอแม้แต่คาํ เดียว พรุง่ นีมูซ่ งก็จะพาทหารบุก
เข้าตระกูลเฉา พูดกับคนตําๆ พวกนีว่า : “หลานชายของ
ข้าไม่มีเกียรติมากพอ แล้วเกียรติของข้าพอหรือไม่?”

เฉากุย้ ใบหน้ากระตุก ฝื นยิมพลางพูดว่า : “จะเป็ นอย่าง


นันได้อย่างไรเล่า?”

มูช่ ิงเกอยักคิว : “ถ้าอย่างนันเรามาพนันกัน”

64
“คุณชายจะพนันอะไร?” เฉากุย้ ถามและแอบสังคนไป
ตามรัชทายาท

ประลองกับเจ้าอ้วนเซ่านันเขาสามารถเล่นขีโกงอย่างไร
ก็ได้ แต่กบั มูช่ ิงเกอ-------ฐานะของมูซ่ งทีพิเศษกว่า
เหล่าทหารทีอยูใ่ นอํานาจปกครองนันน่าเกรงขาม เขาไม่
ระวังไม่ได้

พูดได้วา่ ตอนนีระหว่างรุย่ อ๋องและรัชทายาท หากผูใ้ ด


สามารถดึงตัวมูซ่ งไปเป็ นพวกเดียวกันได้ ก็ถือว่าได้นงั
บนบัลลังก์ไปแล้วครึงหนึง

65
การแต่งงานของมูช่ ิงเกอกับองค์หญิงฉางเล่อและความ
สัมพันธ์อนั แน่นแฟ้นทีมูช่ ิงเกอมีให้กบั รุย่ อ๋องทําให้
รัชทายาทไม่รูจ้ ะลงมืออย่างไร จึงทําได้แค่ตงตั
ั วเป็ นศัตรู
เท่านัน

ตอนนีรุย่ อ๋องโดนลงโทษ ถือว่าเป็ นโอกาสอันดีสาํ หรับ


รัชทายาท

พูดได้วา่ เฉากุย้ นันคิดเผือรัชทายาทด้วยความจริงใจ


เพราะฉะนันหลังจากทีมูช่ ิงเกอ ปรากฏตัว เขาจึงไม่ได้
พูดจาเสียดสีอะไรมากนัก เพราะเกรงว่าจะทําให้ความ
สัมพันธ์ยาแย่
ํ และเสียการใหญ่ของรัชทายาท

66
อย่างไรก็ตามจะดึงมูช่ ิงเกอมาเป็ นพวกเดียวกันหรือจะ
เป็ นศัตรู รัชทายาทเท่านันทีจะเป็ นผูต้ ดั สิน

มูช่ ิงพูดด้วยรอยยิม : “หากเจ้าแพ้ตอ้ งคุกเข่าโขกหัวให้


กับเจ้าอ้วนและตะโกนว่า ข้าสูเ้ ซ่าเย่เจ๋อไม่ได้”

เฉากุย้ หน้าเสีย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโหดเ**◌้ยม


เขาไม่คิดว่ามูช่ ิงเกอจะมีขอ้ เสนอแบบนี ช่างรังแกกันเกิน
ไปแล้วจริงๆ

โชคดีทีว่า เขาทีเป็ นถึงคนของรัชทายาท จึงมีความ


สามารถในการเก็บความรูส้ กึ ได้บา้ ง

67
เขาเก็บความโกรธเอาไว้ในใจแล้วยิมอย่างเยือกเย็น
พร้อมพูดว่า : ถ้าหากคุณชายแพ้เล่า?”

“หากข้าแพ้ ข้าก็จะคุกเข่าโขกหัวให้กบั เจ้า พร้อมพูดว่า


เจ้าเหนือกว่าข้าสามรอบ แบบนียุติธรรมดีแล้วใช่หรือ
ไม่?” มูช่ ิงเกอพูดต่อว่า : “หรือว่าเจ้าไม่กล้ารับคําท้า
กลัวแพ้ขา้ หรือ?”

68
ตอนที 65 ฮ่า! หนึงดอกอัศจรรย์!

รอยยิมขีเล่น เจิดจ้าจนเฉากุย้ แสบตา

เขาไม่ทนั ได้ไตร่ตรองก็ตอบรับคําท้า

69
และในขณะนันเอง มีชายชุดยาวสีเหลืองสว่างทีดูสงู ส่ง
รูปโฉมหล่อเหลาหมดจดผูห้ นึงเดินเข้ามา

ทันใดนัน ทุกคนก็เรียกชายผูน้ นว่


ั า รัชทายาท

โชคดีที ในวันนีทุกคนต่างสวมชุดขีม้ามายังเขตล่าสัตว์
แห่งนี จึงไม่ตอ้ งคุกเข่าลงทําความเคารพ

ทันทีทีรัชทายาทปรากฏกาย เฉากุย้ ก็เดินเข้าไปหาทันที


พร้อมเล่าเรืองราวทีเกิดขึนโดยคร่าวๆ แน่นอนว่า เรือง
ของเจ้าอ้วนเซ่านัน เขาพูดผ่านๆ เพียงเล็กน้อย แต่
ประเด็นสําคัญคือการท้าพนันกันของเขากับมูช่ ิงเกอ

70
“เจ้าประมาทเกินไปแล้ว เหตุใดจึงไปท้าพนันเช่นนัน?”
ฉินอีเหยาถือโอกาสทีทังสองคุยกัน ดึงตัวมูช่ ิงเกอมา
ข้างๆ ตัวเองแล้วตําหนิ

มูช่ ิงเกอยิม : “พระองค์เองก็ทรงคิดว่ากระหม่อมจะแพ้


งันรึ?”

ฉินอีเหยาอึง รอยยิมนันราวกับมีพลังแปลกประหลาด
ชวนให้รูส้ กึ วางใจ จนนางพูดอะไรไม่ออก

“ลูกพีต้องชนะแน่ๆ! ลูกพีจัดการเจ้าสารเลวนันแทนข้า
เลย” เจ้าอ้วนเซ่ากลับมันใจในตัวมูช่ ิงเกอเต็มร้อย

71
ป๋ ายซีเยวียทียืนอยูท่ า่ มกลางผูค้ นไม่ได้เดินขึนมา แต่
แอบวิเคราะห์รชั ทายาท แล้วเปรียบเทียบเขากับรุย่
อ๋องอยูใ่ นใจ

แน่นอนว่า นางไม่สนใจการประลองครังนี เท่าทีนาง


สังเกต มูช่ ิงเกอไม่มีทางชนะ ก็แค่ชอบโอ้อวดจนเป็ น
นิสยั คิดว่าตนเองเก่งกาจก็เท่านันล่ะ

วันนี มูช่ ิงเกอต้องอับอายขายหน้าเป็ นแน่

ในอีกด้านหนึง รัชทายาทก็รูเ้ รืองราวทังหมดแล้ว สําหรับ


ตระกูลมูน่ นั เขาก็อยากจะตีสนิท แต่เสด็จแม่เคยบอกว่า

72
มูซ่ งนันเป็ นพวกตาแก่หวั แข็งยากจะดึงมาเป็ นพวกเดียว
กันได้

เพราะฉะนัน การปฏิบตั ิตอ่ ตระกูลมูน่ นั อย่าจงใจไปเข้า


ใกล้จะเป็ นการดีทีสุด วางเฉยสักหน่อยอาจจะเป็ นผลดี
มากกว่า

อีกอย่าง เสด็จแม่เคยบอกว่า เสด็จพ่อเตรียมพร้อมทีจะ


จัดการกับตระกูลมูอ่ ย่างลับๆ แล้ว หากเข้าใกล้ตระกูลมู่
มากเกินไป เมือถึงวันทีตระกูลมูถ่ งึ จุดจบ อาจจะถูกลาก
เข้าไปเกียวข้องด้วยได้

แต่เหล่าทหารในปกครองของมูซ่ งนันเหมือนสิงเสพติดที

73
กําลังล่อใจฉินจินซิว

“รัชทายาท การแข่งขันครังนี ข้าต้องแพ้หรือชนะ” เฉากุย้


ถามอย่างระมัดระวัง ใจจริงเขาไม่อยากทีจะแพ้ให้กบั มู่
ชิงเกอ เพราะข้อหนึง เขาไม่อยากแพ้ตอ่ หน้าองค์หญิง
ฉางเล่อ และข้อสอง เพราะการท้าพนันนัน

แต่ตอ่ หน้ารัชทายาทเขาต้องเก็บอาการเอาไว้บา้ ง

ฉินจินซิวเม้มปากคิด พลางเงยหน้าขึนมองมูช่ ิงเกอใน


ชุดแดงท่าทางดูโอหังแต่งามสง่า ส่วนลึกในดวงตา
ปรากฏความตืนตะลึงวาบผ่าน แต่สดุ ท้ายก็ตดั สินใจได้
“ทําให้ดีทีสุด”

74
เฉากุย้ เข้าใจแล้ว

ดูเหมือนว่า รัชทายาทจะไม่ได้อยากญาติดีกบั มูช่ ิงเก


อมากนัก

หลังจากทีเดาใจรัชทายาทออกแล้ว เฉากุย้ ก็ยืดตัวตรง


สายตาทีมองมูช่ ิงเกอนันมีแววเยาะเย้ยและไม่ชอบใจ
เพิมขึนมาหลายส่วน

ราวกับว่า การทีมูช่ ิงเกอจะมาประลองกับเขา ก็เปรียบ


ดังเด็กน้อยทีเพิงหัดเดิน ไม่รูจ้ กั ประมาณตนมาท้าทาย
ผูใ้ หญ่อย่างไรอย่างนัน

75
มีรชั ทายาทออกหน้า ทําให้การประลองเริมขึนอย่างรวด
เร็ว

ตามกฎกติกา มูช่ ิงเกอและเฉากุย้ ต้องขีม้าไปไกล 100


ก้าว จากนันก็หนั หลังไปยิงธนูทงหมด
ั 9 ดอก ในเป้ามีวง
กลมอยู่ 10 วง ยิงไกลจากเป้า คะแนนก็ยิงน้อย

ธนู 9 ดอกเมือนํามารวมกันแล้วหากใครทําคะแนนได้
มากทีสุดก็ถือว่าเป็ นผูช้ นะ

เพือความยุติธรรม ม้าทีมูช่ ิงเกอและเฉากุย้ ขีนันต่างก็


เป็ นม้าทีเลือกมาจากม้าในเขตล่าสัตว์

76
ตอนขึนหลังม้าทีจุดเริมต้น อยูๆ่ เฉากุย้ ก็พดู กับมูช่ ิงเก
อว่า : “คุณชาย หากข้าโชคดีได้รบั ชัยชนะ ข้าไม่ตอ้ งการ
ให้คณ
ุ ชายคุกเข่าต่อหน้าข้า แต่ขอให้ทา่ นพาข้าไปแนะ
นํากับมหาปราชญ์ได้หรือไม่?”

มูช่ ิงเกอแสยะยิม : “ชนะก่อน แล้วค่อยว่ากัน” พูดจบ ก็ขี


ม้าวิงออกไป เหมือนไม่อยากจะเสวนากับเขา

เฉากุย้ นัยน์ตามืดครึม ความอํามหิตสายหนึงวาบผ่าน


ในดวงตา

รัชทายาททีเป็ นผูต้ ดั สิน สังให้เริมการประลอง

77
ทันใดนัน เสียงม้าก็ดงั ขึน ม้าสองตัววิงหันหลังให้เป้ายิง

เฉากุย้ ใช้แซ่ฟาดม้าอย่างโหดเ**◌้ยม กระตุน้ ให้มา้ วิงไว


ขึนเรือยๆ

เขาหันหลังกลับไปมองมูช่ ิงเกอ สิงทีเห็นกลับเป็ นท่าทาง


งดงามวางตัวอยูเ่ หนือทุกสิง จนทําให้เขาถึงกับต้อง
ขมวดคิว

ความรูส้ กึ เหมือนชัยชนะอยูใ่ นมือแบบนัน ทําให้เขารูส้ กึ


เป็ นกังวลแปลกๆ

78
ฝี มือการขีม้าของมูช่ ิงเกอนันถือว่าไม่เลว เพราะชาติที
แล้ว นางเคยไปปฏิบตั ิภารกิจในพืนทีทุง่ หญ้ามาระยะ
หนึง และได้ฝึกการขีม้ามาเป็ นอย่างดี

สําหรับความสามารถในการยิงธนูนน..........

มูช่ ิงเกอกระตุกรอยยิมชัวร้ายกระชากวิญญาณเหมือน
นางจะไม่เคยบอกผูใ้ ดสินะว่าตอนทีนางปฏิบตั ิภารกิจ
อยูท่ ีทุง่ หญ้านันนอกจากทักษะการขีม้าแล้ว นางยังได้
รําเรียนทักษะอีกแขนงหนึงมาด้วย

ระยะทางแค่รอ้ ยก้าวนัน พริบตาเดียวก็ถงึ แล้ว

79
เฉากุย้ เบนหัวม้ากลับมาอย่างรวดเร็วก่อน จนม้าเกือบ
จะเสียศูนย์ลม้ ลงกับพืน

ม้าส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด แต่มชู่ ิงเกอกลับเบน


หัวม้ากลับมาได้อย่างสบายๆ ท่าทางทีคล่องแคล่วแบบ
นัน ทําให้คนรอบข้างต่างตืนตาตืนใจ

คนทียิงธนูก่อนนัน แน่นอนว่าคือเฉากุย้

เหมือนเป็ นเพราะว่าฝี มือการขีม้าของมูช่ ิงเกอ จึงทําให้


เขาดูตืนตระหนก เพิงจะวางลูกธนูบนคันศรก็ยิงออกไป
เลย ดอกแรกโดนวง 8 คะแนน

80
เขาขมวดคิวแอบมองรัชทายาทแวบหนึงแล้วตังสติยิงอีก
ครัง

ฟิ วๆๆ-------

แปดดอกทีเหลือตามออกไป คะแนนทีได้คือ 9 คะแนน


10 คะแนนทังสิน

คะแนนทังเก้านัดรวมกันได้ถงึ 86 คะแนน ห่างจาก


คะแนนเต็ม 90 คะแนนเพียง 4 คะแนนเท่านัน

ผลคะแนนแบบนี ทําให้เฉากุย้ โล่งใจ เผยท่าทางได้ใจ


เหมือนได้รบั ชัยชนะแล้วออกมา
81
การแสดงจบลงแล้ว เฉากุย้ จึงหันไปมองมูช่ ิงเกอ พบว่า
นางยังเล็งดอกเเรกอยู่ จึงหัวเราะเยาะว่า : “คุณชาย ให้
ข้าน้อยไปประคองลูกธนูให้ทา่ นไหม?”

ทันใดนัน รอบข้างก็มีเสียงหัวเราะเยาะดังขึน

มูช่ ิงเกอแสยะยิมไม่ตอบ สายตาทีสว่างสดใสนันไร้


ความรูส้ กึ ยกธนูในมือขึน.......

ฟิ ว------!

ธนูดอกแรก ยิงขึนไปเป็ นเส้นโค้งตรงไปทางเป้า


82
หลังจากนัน ไม่รอให้ถงึ เป้า มูช่ ิงเกอก็ยิงดอกที 2 ต่อ
อย่างรวดเร็ว

การกระทําของนาง ทําให้ทกุ คนเสียงดังเซ็งแซ่

“เจ้าคิดจะทําอะไร?” ฉินอีเหยาขมวดคิวถามอย่างไม่เข้า
ใจ

“ฮ่าๆๆๆ....นีคือการยิงธนูหรือ? หลุดมือมากกว่าละมัง!”

“คุณชายท่านร่างกายสูงส่งปานนัน จะขีม้ายิงธนูเป็ นได้


อย่างไร?”
83
“เมือครูข่ า้ เห็นว่าฝี มือการขีม้าของคุณชายไม่เลว ก็คิด
ว่าจะมีอะไรดีๆ ให้ดู สงสัยข้าจะคิดมากเกินไป”

“เฮ้ย คุณชายท่านเป็ นคนทีเข้าตาท่านมหาปราชญ์นะ


ไม่แน่วา่ อาจจะมีอะไรเหนือกว่าคนอืนๆ รึเปล่า?”

“เหนือกว่าคนอืนอะไรกัน ไม่แน่วา่ อาจจะใช้เรืองคารม


เจ้าชูใ้ นการเอาใจคนก็ได้ ก่อนหน้านีได้ข่าวว่าชอบพอ
รุย่ อ๋องอยูไ่ ม่ใช่หรือ?”

“ฮ่าๆๆๆ เจ้าชักจะรูม้ ากไปแล้ว”

84
เสียงหัวเราะเยาะดังขึนเรือยๆ คําพูดก็ยิงฟั งก็ยงไม่
ิ เข้าหู

แต่กลับไม่ได้กระทบต่อมูช่ ิงเกอเลย นางยังคงยิงธนูดอก


ทีเหลือต่อไป

“จบกัน ! ลูกพีบ้าไปแล้วหรือไร แบบนีจะโดนเป้าได้


อย่างไรกัน”เจ้าอ้วนเซ่าทําหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่แล้ว
เขาก็พดู ขึนมาอย่างตัดสินใจได้แล้วว่า : “หึ อย่างมาก
สัญญาท้าประลองของลูกพี ข้าก็จะเป็ นคนทําแทนเอง
ไม่เห็นเป็ นไร”

คําพูดของเขา ทําให้ฉินอีเหยาแปลกใจ นางไม่คิดว่าผูท้ ี


ทุกคนต่างก็เรียกว่าจอมเสเพลนันจะทําเพือมูช่ ิงเกอได้

85
ถึงเพียงนี

ในสายตาป๋ ายซีเยวียทีอยูท่ า่ มกลางผูค้ นเต็มไปด้วย


ความเยาะเย้ย ราวกับเห็นมูช่ ิงเกอทีพ่ายแพ้แล้วได้รบั
การดูถกู เหยียดหยาม

ในขณะทีทุกคนต่างคาดเดาไปต่างๆ นาๆ มูช่ ิงเกอก็ยิง


นัดที 9 ออกไปเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว

และ ตอนนี ดอกแรกทีนางยิงออกไปก็เพิงจะปั กลงตรง


เป้าสีแดง

ฟิ วๆๆ-----
86
เสียงธนูแหวกผ่านอากาศดังขึน ธนูทีมูช่ ิงเกอยิงออกไป
ทะลุธนูก่อนหน้านีเข้าไปปั กลงตรงกลางเป้าโดยไม่
คลาดเคลือนเลยแม้แต่นอ้ ย

ในขณะทีลูกธนูดอกสุดท้ายทะลุปลายธนูดอกแรกไปปั ก
เข้าทีตรงกลางเป้าสีแดงนัน รอบๆ ก็พลันเงียบสงบลง

เนินนาน จึงค่อยมีคนเอ่ยออกมาด้วยท่าทางตกใจจนตัว
สันระริกว่า: “นี....นีมัน....เก้าดาราเรียง!”

87
88
ตอนที 66 ให้ทา้ ยคุณชาย

นีคือเก้าดาราเรียง!

ตูม------!

พอได้ยินคําว่าเก้าดาราเรียงทุกคนในเขตล่าสัตว์ตา่ งก็
ตืนเต้น

ทีเรียกว่าเก้าดาราเรียงนันก็คือการยิงธนูทงั 9 ดอกออก
ไปอย่างรวดเร็วและลูกธนูทกุ ๆดอก นอกจากดอกแรก
89
จะต้องทะลุปลายธนูดอกก่อนหน้านีกลางอากาศ ทัง
หมดเก้านัดทียิงออกไปเหลือไว้เพียงแค่รูธนูเพียงรูเดียว
เท่านัน

การยิงธนูแบบนีเหมือนมีอยูแ่ ค่ในตํานาน

เพราะว่าการทดสอบนีไม่ใช่แค่ตอ้ งใช้สายตาทีแม่นยํา
เท่านัน ยังต้องใช้ความสามารถในการตัดสินใจทีเฉียบ
คมอีกด้วย

ไม่มีใครคิดว่าระดับความสามารถในการยิงธนูใน
ตํานานแบบนี วันนีกลับได้มาเห็นจากเจ้าคนเสเพลไร้คา่
คนหนึง

90
คนจํานวนไม่นอ้ ยคิดว่าตนเองตาฝาด จนขยีตาไม่หยุด

จนกระทังทหารเอาเป้าลูกศรของมูช่ ิงเกอมาให้กบั
รัชทายาท รัชทายาทหน้าเสียแต่ไม่ได้พดู อะไร ทว่า
ความตืนตระหนกบนใบหน้านัน ก็ยากทีจะปกปิ ด

ทันใดนัน สายตาทีทุกคนมองมูช่ ิงเกอนันก็พลันเปลียน


ไป นีคือมูช่ ิงเกอทีพวกเขารูจ้ กั หรือ นีคือเจ้าเสเพลทีไม่
เอาไหนคนนันหรือ?

เฉากุย้ ทีท้าพนันกับมูช่ ิงเกอ ตอนนีสีหน้าเขาราวกับ


ตกลงไปในถํานําแข็ง สีหน้าดูยาแย่
ํ ยากทีจะบรรยาย

91
ฉินอีเหยามองมูช่ ิงเกออย่างอึงสุดขีด ดวงตาอันงดงาม
นันเต็มไปด้วยความฉงนสงสัย

ขนาดป๋ ายซีเยวียทีอยูท่ า่ มกลางผูค้ นก็ตกใจจนอ้าปากสี


ชมพูของตนเองค้าง ราวกับว่าไม่รูจ้ กั ชายในชุดขีม้าผูน้ นั

คนทีหัวเราะเยาะมูช่ ิงเกอเมือสักครูต่ อนนีก็หน้าแดง


เหมือนถูกตบอย่างแรง

“สุดยอด........ สุดยอดมากเลย!” เจ้าอ้วนเซ่าพูดอย่าง


ตะลึง รูส้ กึ ราวกับฝันไป

92
“ฮ่าๆๆๆ......” เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลังดังออกมาจาก
ชายหนุ่มชุดสีแดง “เอาเหล้ามา!”

พอมูช่ ิงเกอตะโกนขึนมา ทหารข้างๆ ก็หยิบขวดเหล้า


แล้วโยนไปให้นาง

ขวดเหล้าดินเผาหยาบๆ ลอยขึนกลางอากาศแล้วตกลง
ตรงมูช่ ิงเกอในทันที

นางยืนมือออกไปรับ จนแขนเสือตกลง ปรากฏท่อนแขน


ทีขาวดังหยก

นิวทังห้าของนางกําคอของขวดเหล้าไว้แน่น แล้วพูดทัง
93
รอยยิมกับทหารทีโยนขวดเหล้าให้กบั นางว่า “ขอบใจ ไอ้
น้องชาย!” ท่าทางทีดูเป็ นธรรมชาติแบบนัน สันไหวจิต
ใจทุกผูใ้ นทีนัน

ชายหนุ่มบนหลังม้าสวมชุดสีแดงสดพร้อมกับใบหน้าอัน
งดงาม เพราะลมพัดผ่านทําให้แขนเสือสีแดงของนางนัน
ปลิวขึนมา ผมสีดาํ ก็พลิวไปตามสายลมอย่างเป็ น
ธรรมชาติราวกับกลมกลืนเป็ นเนือเดียวไปกับผืนฟ้า

รอยยิมของมูช่ ิงเกอทําให้ทหารองครักษ์ผนู้ นตกอยู


ั ใ่ น
ภวังค์ เหม่อลอย อีกทังยังทําให้ผคู้ นจดจําฉากอันน่าตืน
ตาตืนใจนีเอาไว้

94
พอเอียงขวด เหล้าสีใสก็ไหลลงจากปากขวดผ่านกลาง
อากาศลงไปในปากกลีบสีแดงของนาง เหล้าบางส่วนที
ไหลเลอะออกมาจากมุมปากไหลลงไปตามแนวคางได้
รูปผ่านลําคออันงามสง่าเข้าไปตรงบริเวณไหปลาร้า

ฉากตรงหน้า ทําให้หลายคนกลืนนําลายนัยน์ตาร้อน
ผ่าว

“ฮึ เสียวเกอเอ๋อร์......” บนท้องฟ้า ในบริเวณหนึง


ระหว่างผืนฟ้าทีโดนควบคุมไว้ มีเสียงหัวเราะแผ่วเบา
เย็นเยือกไปถึงกระดูกดังลอยมา เสียงหัวเราะทีคล้ายมี
แต่ก็คล้ายไม่มี

95
ภาพบรรยากาศบริเวณล่าสัตว์เหมือนอยูต่ รงหน้าเขา

รวมทังความงามล่มเมืองของชายชุดแดงและยังมีสาย
ตากระหายอยากของไอ้พวกน่าตายพวกนันอีก

คนสองคนทียืนอยูข่ า้ งหลังเขาเดินถอยหลังไปหลายก้าว
โดยพร้อมเพรียง จะได้ไม่โดนลูกหลงจากสายตาอัน
เยือกเย็นทําร้ายเข้า

หลังจากดืมเหล้าไปหนึงคํามูช่ ิงเกอก็หรีตาลงท่าทางสะ
ลืมสะลือ ฝื นยิมออกมาอย่างลําบากแล้วกล่าวว่า : “โลก
นีทุกคนเหนือกว่าข้า โตขึนเข้าสูส่ งั คมช่างลําบาก ตอนนี
มีเวลาว่างจึงมาเล่า ความจริงรูอ้ ยูแ่ ก่ใจ โลกภายนอก

96
ช่างโหดร้ายแต่สดุ ท้ายก็ถกู ชักนําโดยสังคม”

กลอนบทนีเป็ นกลอนทีนางได้ยินบ่อยทีสุดเมือชาติที
แล้ว เพือนตายในสนามรบของนางจะท่องกลอนบทนีทุก
ครังทีเมา จนทําให้นางจําได้ขนใจ

สําหรับตอนนีแล้วช่างเหมาะกับสถานการณ์

เก้าดาราเรียงเป็ นความสามารถทีนางเรียนมาเมือชาติที
แล้ว ถึงแม้วา่ ไม่คอ่ ยได้ใช้ แต่เมือสักครูต่ อนนางยิงธนู
ทัง 9 ดอก นางเหมือนกลับไปยังทุง่ หญ้าแห่งนัน ทีกว้าง
ขวาง เต็มไปด้วยวัว แพะ และหญ้าสีเขียว เป็ นทีๆ นาง
ได้แสดงความสามารถของตนเองออกมา

97
“โลกภายนอกช่างโหดร้ายแต่สดุ ท้ายก็ถกู ชักนําโดย
สังคม” ฉินอีเหยาพูดตามเบาๆ แล้วมองมูช่ ิงเกอที
เหมือนกับว่ากําลังเมา

“ลูกพีช่างหล่อเหลางามสง่าโดยแท้ ! ช่างเป็ นต้นแบบ


จริงๆ” ตาเล็กๆ ของเจ้าอ้วนเซ่านันเหมือนมีรูปหัวใจ
โผล่ออกมาหลายดวง

“จอมเสเพลไร้ความสามารถผูห้ นึงแต่งกลอนได้ถงึ ขนาด


นีเชียวหรือ”

“ไม่แน่วา่ อาจจะขโมยมาจากทีอืนก็ได้นะ”

98
“ไม่วา่ เขาจะเป็ นคนแต่งหรือไม่ แต่เท่าทีฟั งช่างถูกใจเสีย
จริง!”

หลังจากทีรําลึกถึงชาติทีแล้วจบ มูช่ ิงเกอใช้นิวหนีบขวด


เหล้าเอาไว้ เท้าสะเอวอยูบ่ นหลังม้าพูดกับเฉากุย้ ด้วย
รอยยิมชัวร้ายว่า : “เจ้าแพ้แล้วรึยงั ?”

ไม่วา่ จะไม่พอใจสักแค่ไหน ท่ามกลางสายตาของทุกคน


เฉากุย้ ก็ยงั ไม่กล้าพูดอะไรทีไม่เข้าหู

เขาเก็บความรูส้ กึ โกรธเกลียดเอาไว้ในใจ พูดอย่างจํานน


ว่า : "ข้าแพ้แล้ว"

99
พอเขายอมรับ มูช่ ิงเกอก็ลงจากหลังม้าทันที แล้วเดินไป
หาเจ้าอ้วนเซ่า พูดพลางหัวเราะเยาะเฉากุย้ ว่า “เจ้าอ้วน
รอนานแล้วนะ”

พูดถึงการท้าประลอง เฉากุย้ ก็หน้าเสียแล้วมอง


รัชทายาท กลับเห็นใบหน้าของรัชทายาทนันไร้ความรูส้ กึ
เหมือนกําลังไม่พอใจเขา

เฉากุย้ รูส้ กึ ตกใจ แต่ทาํ ได้แค่กดั ฟั นแล้วค่อยๆ เดินไปหา


เจ้าอ้วนเซ่าพร้อมคุกเข่าลงพืนดัง “ฟึ บ” หลับตาแล้วโขก
หัวสามที

100
พอโขกหัวเสร็จ ในขณะทีเขากําลังจะลุกขึนนัน

มูช่ ิงเกอกลับเตือนว่า : “เหลืออีกสามคํา”

ใบหน้าของเฉากุย้ กระตุกทีหนึง กัดฟั นแน่นแล้วพูดว่า :


“คุณชาย วันนีฝากไว้เพียงเท่านีก่อน วันหน้าค่อยเจอ
กัน”

“โอ้” มูช่ ิงเกอแกล้งทําเป็ นคิดแล้วยักไหล่ : “แต่ขา้ ไม่


อยากเจอเจ้าอีก เพราะฉะนันไม่ตอ้ งฝากอะไรไว้หรอก”

“ใช่ ! ยังไม่รบี พูดอีก” ในขณะนีเองเจ้าอ้วนเซ่าก็ได้สติ


และพูดขึน
101
เฉากุย้ โกรธจนเกือบจะกัดฟั นตนเองจนแตกละเอียด

เขากําหมัดแน่น ถ้าไม่ใช่เพราะเกรงใจสถานทีและ
สถานการณ์ เขาคงจะยกมือขึนมาสังสอนไอ้เจ้าเสเพล 2
คนนีไปนานแล้ว

“ข้าเฉากุย้ สูเ้ ซ่าเย่เจ๋อไม่ได้!”

“ข้าเฉากุย้ สูเ้ ซ่าเย่เจ๋อไม่ได้!”

“ข้าเฉากุย้ สูเ้ ซ่าเย่เจ๋อไม่ได้!”

102
เฉากุย้ พูดจบสามรอบก็พดู อย่างเย็นชากับมูช่ ิงเกอว่า :
“คุณชาย คราวนีท่านคงพอใจแล้วนะ”

มูช่ ิงเกอยิมอย่างเยือกเย็น พลางจูงมือของฉินอีเหยาที


ยืนอยูข่ า้ งหลัง พูดกับเฉากุย้ ในขณะทีฉินอีเหยากําลัง
มึนงง : “คราวหลังควบคุมตาสุนขั ทังสองข้างของตนเอง
เอาไว้ให้ดี หากยังกล้าแอบมองผูห้ ญิงของข้าสุม่ สีสุม่ ห้า
อีกล่ะก็ ข้าจะควักมันออกมาทําเป็ นทีรองเท้า” อย่าคิด
ว่านางจะไม่รูว้ า่ ตาสุนขั ของเฉากุย้ นันกําลังแอบมอง
และเอาเปรียบฉินอีเหยาทางสายตา

คําพูดของมูช่ ิงเกอทําให้ฉินอีเหยาหัวใจเต้นรัว แก้มที

103
เยือกเย็นนันเป็ นสีแดงขึนมา

เฉากุย้ ริมฝี ปากกระตุก พลางกัดฟั นเค้นเสียงพูดว่า :


“ทราบแล้ว”

เรืองราว จบลงเพียงเท่านี

และยังไม่ทนั ทีมูช่ ิงเกอ เจ้าอ้วนเซ่าหรือคนอืนจะได้ทนั


พูดอะไร

ก็ได้ยินเสียงอันอันตรายเสียงหนึงดังลอยมา : “คุณชาย
ท่านช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”

104
ตอนที 67 ลงโทษ ! ลงโทษบ้าอะไรกัน !

105
“คุณชาย ท่านช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”

ทันใดนันเสียงทีดังอยูใ่ นหัว ทําให้มชู่ ิงเกอตัวสัน

ราวกับมีคนพูดอยูใ่ นหัวของนาง

"ลูกพี ท่านเป็ นอะไร" เห็นมูช่ ิงเกอเงียบไป เจ้าอ้วนเซ่าจึง


รีบร้องเรียก

106
มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ

เสียงนันเป็ นเสียงทีคุน้ เคย นางจึงไม่ได้ใส่ใจ

“เจ้าอ้วน ขาเจ้าได้รบั บาดเจ็บ ข้าจะส่งเจ้ากลับไปก่อน”


มูช่ ิงเกอพูดกับเจ้าอ้วนเซ่า

เจ้าอ้วนเซ่าหัวเราะพลางพูดว่า : “ไม่เป็ นไร ข้ากลับไป


เองได้” พูดจบก็ยกั คิวหลิวตาให้กบั มูช่ ิงเกอ

คําพูดทีว่า “อย่าจ้องมองผูห้ ญิงของข้าสุม่ สีสุม่ ห้า” ที


นางพูด ทําให้เจ้าอ้วนเซ่าเข้าใจผิดเข้าแล้ว

107
แน่นอนว่าคนทีเข้าใจผิดไม่ได้มีแค่เจ้าอ้วนเซ่าเพียงคน
เดียว

ความจริงแล้วมูช่ ิงเกอแค่ปกป้องฉินอีเหยาในมุมของ
ผูห้ ญิง นางมองเห็นความไม่ชอบใจและรังเกียจทีเก็บ
ซ่อนอยูใ่ นแววตาของฉินอีเหยา

สิงทีฉินอีเหยาไม่สะดวกทีจะพูดออกไปนัน นางทีเป็ น
จอมเสเพลจะพูดแทนเอง

เพราะหลังจากหลายครังทีเจอกันหลายครัง นางไม่ได้มี
ความคิดในแง่ลบกับองค์หญิงแห่งราชวงศ์องค์นีอีกแล้ว
ในทางกลับกัน นางกลับรูส้ กึ ว่าฉินอีเหยานันดูมีสติมาก

108
ทีสุด แต่ก็แค่โดนชักนําแค่นนั

ปั ญหาของตระกูลมูก่ บั เหล่าราชวงศ์นนั ไม่จาํ เป็ นต้อง


ไปลงกับคนทีไม่เกียวข้อง

‘ท่าทางรูก้ นั ’ ของเจ้าอ้วนเซ่านันมูช่ ิงเกอไม่ได้สงั เกต แต่


กลับทําให้ฉินอีเหยาทีอยูข่ า้ งๆรูส้ กึ ร้อนผ่าวตรงใบหน้า
เพือไม่ให้อดึ อัดแบบนีต่อไป นางจึงพูดว่า : “ให้ทหาร
องครักษ์ของข้าส่งเขากลับไปเถอะ เฉากุย้ เสียเปรียบไป
มากถึงเพียงนัน คงไม่กล้าทําอะไรเจ้าแต่ก็ไม่ได้หมาย
ความว่าจะไม่ใช้เซ่าเย่เจ๋อในการระบายอารมณ์”

พอเจ้าอ้วนเซ่าได้ยินแบบนีก็เบิงตาโต พูดด้วยท่าทาง

109
โอหังว่า : “เขากล้ารึ! ถ้าไอ้หลานเต่านันกล้ามา นาย
ท่านอย่างข้าจะ.....โอ๊ย......” ความพลุง่ พล่านนีทําให้
กระทบกับแผลบนขาและทําลายความโอหังของเจ้าอ้วน
เซ่าลง

มูช่ ิงเกอหัวเราะอย่างขบขัน พลางแซวว่า : “พอเถอะ


หากจะจัดการกับไอ้หลานเต่านัน เจ้าควรรักษาแผลให้
หายก่อน ไม่เช่นนันเจ้าจะได้สง่ ตัวเองไปเป็ นลูกบอลให้
เขาเตะเล่นแทน”

เจ้าอ้วนเซ่าก็หน้าหุบลงท่าทางน้อยใจ แต่ก็ไม่ได้เถียงคํา
พูดของมูช่ ิงเกอ

110
เห็นมูช่ ิงเกอไม่ปฏิเสธ ฉินอีเหยาจึงสังทหารให้ไปส่งเจ้า
อ้วนเซ่ากลับจวน

พอเจ้าอ้วนเซ่าขึนรถม้าไป มูช่ ิงเกอจึงถามว่า : “จะทรง


อยูท่ ีนีต่อไหม?”

ฉินอีเหยาส่ายหน้า : “วันนีข้ามาแล้ว จะอยูต่ อ่ ก็คงไม่มี


ประโยชน์อะไร”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าอย่างไม่สาวความยาวต่อ หันไปมอง


หาป๋ ายซีเยวีย ช่วยไม่ได้ นางเป็ นคนพามา อย่างไรก็
ต้องพากลับไม่ใช่ร?ึ

111
แต่วา่ พอมองไปรอบๆ กลับไม่เห็นป๋ ายซีเยวียเลย

ทําให้มชู่ ิงเกอขมวดคิว

คนทีสังเกตสายตาของมูช่ ิงเกออยูข่ า้ งๆ ตลอดเวลา


อย่างฉินอีเหยารีบสังนางกํานัลข้างๆว่า : “พวกเจ้าแยก
ย้ายกันไปตามหาแม่นางป๋ าย อย่าทําให้เป็ นเรืองใหญ่
ล่ะ”

นางกํานัลหลายคนรีบแยกย้ายกันออกไปหา

คําสังของฉินอีเหยา ทําให้มชู่ ิงเกอทีขมวดคิวอยูก่ ็พลัน


คลายออก นางพยักหน้าตอบกลับว่า : “ขอบพระทัย
112
มาก”

ฉินอีเหยาเม้มปาก แล้วมองนางสักพักจึงพูดว่า : “เจ้าโต


มาพร้อมกับแม่นางป๋ ายสินะ” ในนําเสียงนันมีความรูส้ กึ
แปลกๆ ซ่อนอยู่ แม้แต่นางเองก็ยงั ไม่รูต้ วั

มูช่ ิงเกอยกยิม นางไม่ใช่มชู่ ิงเกอคนเดิมและมูช่ ิงเกอคน


เดิมก็เหมือนจะไม่คอ่ ยชอบป๋ ายซีเยวีย แน่นอนว่าเรือง
พวกนีไม่สามารถบอกกับฉินอีเหยาได้จงึ พูดส่งๆไปว่า :
“นางหวังสูงเกินไปและจวนตระกูลมูค่ งไม่สงู ส่งพอ”

ฉินอีเหยาอึงและเข้าใจคําพูดพวกนีในทันที

113
ทังสองเงียบไปสักพักแล้วเดินไปสุดขอบเขตล่าสัตว์ ฉินอี
เหยาจึงพูดว่า : “เมือสักครู ่ ขอบใจเจ้ามาก”

มูช่ ิงเกอทีไม่ได้คิดอะไรมากถามส่งๆ ไปว่า : “อะไรรึ?”

ใบหน้าทีดูไร้เดียงสาของนางกลับทําให้ฉินอีเหยาไม่รูจ้ ะ
อธิบายอย่างไร แต่ทกุ ครังทีนึกถึงคําพูดทีมูช่ ิงเกอทิง
ท้ายไว้ให้กบั เฉากุย้ คําว่า ‘ผูห้ ญิงของข้า’ ทําให้หวั ใจที
แนบนิงดังสายนําของนางเต้นรัว

ในขณะนันเอง นางกํานัลคนหนึงของฉินอีเหยาก็วงเข้
ิ า
มาอย่างเร่งรีบ พูดอย่างหอบเหนือยว่า : “องค์หญิง คุณ
ชาย บ่าวเจอแม่นางป๋ ายแล้วเจ้าค่ะ แต่นางอยูก่ บั องค์

114
รัชทายาท บ่าวไม่กล้าเข้าไป”

ป๋ ายซีเยวียไปเกียวข้องอะไรกับรัชทายาทตังแต่เมือไหร่
กัน สายตาของมูช่ ิงเกอก็พลันเปลียนเป็ นเยือกเย็น รูส้ กึ
ว่าผูห้ ญิงคนนีไม่ธรรมดาเลย ท่านอามองว่านางเชือฟั ง
และรูจ้ กั สัมมาคารวะจากตรงไหนกัน?

พอรับรูถ้ งึ สายตาอันเยือกเย็นของมูช่ ิงเกอ ฉินอีเหยาจึง


พูดว่า : “ถ้าอย่างนัน ข้าจะลองไปดู” อย่างไรนางก็เป็ น
ถึงองค์หญิง หากไปขอคนจากรัชทายาทคงจะไม่ยาก
มากนัก

แต่มชู่ ิงเกอกลับส่ายหน้า : “ไม่ กระหม่อมไปเองดีกว่า”

115
นางอยากจะรูว้ า่ ป๋ ายซีเยวียคนนีคิดจะทําอะไรกันแน่

ใครจะรูว้ า่ คําพูดนีของนางกลับทําให้ฉินอีเหยาเข้าใจผิด

คิดว่าเพราะตนเองเป็ นลูกสาวของเจียงกุย้ เฟย ไม่


สะดวกทีจะเข้าไปก้าวก่ายเรืองของรัชทายาท เพือตัด
ปั ญหา จึงตัดสินใจเข้าไปเอง

เพราะฉินอีเหยาคิดแบบนีในสายตาอันเย็นชาคูน่ นเมื
ั อ
มองมูช่ ิงเกออีกครังก็เหมือนมีความอบอุน่ ซ่อนอยู่

“องค์หญิงรอกระหม่อมอยูต่ รงนี” มูช่ ิงเกอพูดจบก็พดู


เสริมอีกคําว่า : “หรือจะทรงล่วงหน้าไปก่อนก็ได้”
116
“ไม่ ข้าไปพร้อมเจ้าดีกว่า” มูช่ ิงเกอใส่ใจความรูส้ กึ นาง
ขนาดนี นางจะทิงเขาไปแบบนีได้อย่างไรกัน ฉินอีเหยา
ทําตามใจตนเองอีกครัง

มูช่ ิงเกอคิดทบทวนแล้วรูส้ กึ ว่าการพาองค์หญิงไปด้วย


อะไรต่อมิอะไรอาจจะดูง่ายขึน จึงพยักหน้าแล้วพูดว่า :
“ก็ดี ถ้าอย่างนันก็ไปด้วยกัน”

หลังจากทีทังสองตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางกํานัล
ทีมาบอกข่าวก็นาํ ทางไปยังทีๆรัชทายาทและป๋ ายซีเยวี
ยอยู่

117
ในขนาดนันเอง ภายใต้จิตสํานึกของมูช่ ิงเกอก็เหมือนมี
เสียงหนึงดังขึนอีกครัง : “เสียวเกอเอ๋อร์ชอบยุง่ เรืองชาว
บ้าน ตอนนีจะให้ทาํ ตามใจตัวเองไปก่อน แล้วเดียวค่อย
ลงโทษเจ้า”

พูดจบ เสียงนันก็เหมือนหายสาบสูญไปจากจิตใต้สาํ นึก


ของนาง

แต่มชู่ ิงเกอทีได้ยินคําพูดนีอย่างชัดเจน สีหน้าพลันดํา


คลํา

ลงโทษ ! ลงโทษบ้าอะไร ไอ้ตวั ประหลาดเฒ่า!

118
ตอนที 68 ปี กตําหนัก

119
“ชิงเกอเจ้าเป็ นอะไรไป?” ฉินอีเหยาทีรับรูถ้ งึ ท่าทางของ
มูช่ ิงเกอทีผิดแปลกไปถามขึน นีเป็ นครังแรกทีนางเรียก
ชือของมูช่ ิงเกอ ก่อนพูดนันนางดูเขินอาย แต่สดุ ท้ายเมือ
พูดออกมา ก็พบว่าเรียกได้คล่องปากเป็ นอย่างมาก

มูช่ ิงเกอทีโกรธเพราะคนบางคนอยูไ่ ม่นอ้ ย ไม่ได้สงั เกต


ว่าท่าทีขององค์หญิงฉางเล่อดูเปลียนไป นางแค่ยมแล้
ิ ว
พูดว่า : “อ่อ ไม่มีอะไร”

นางไม่ยอมตอบ ฉินอีเหยาจึงไม่คดั ค้านเอาความอีก

นางกํานัลทังสองเดินอ้อมจากบริเวณทีเต็มไปด้วยผูค้ น

120
ไปยังวังตากอากาศ

ยิงเดินลึกเข้าไป มูช่ ิงเกอก็ยงรู


ิ ส้ กึ ฉงนใจ ในทีทีเปล่า
เปลียวขนาดนี ป๋ ายซีเยวียกล้ามากับรัชทายาทได้อย่าง
ไร และรัชทายาทจะพานางมาทําอะไรในทีเปลียวเช่นนี

“องค์หญิง คุณชาย ตรงห้องโถงข้างหน้านีแหละเจ้าค่ะ”


นางกํานัลพูดพลางชีไปยังประตูอนั ลึกลับบานหนึง

“ทีนีหรือ?” ฉินอีเหยาขมวดคิว เหมือนรูว้ า่ มีบางอย่างที


ไม่ชอบมาพากล

“ทีนีคือทีไหนกัน?” มูช่ ิงเกอมาทีนีครังแรก รูส้ กึ ไม่เข้าใจ


121
การออกแบบของวังตากอากาศนัก จึงถามตรงๆ

“นีทีคือปี กตําหนัก ไม่มีใครมาทีนีมานานมากแล้ว พูดได้


ว่าเป็ นตําหนักร้าง”

“รัชทายาทพาป๋ ายซีเยวียมาทําอะไรทีนี” พอฉินอีเหยา


อธิบายแล้วก็หนั กลับไปถามนางกํานัล : “พวกเจ้าเห็น
ใครตามมาอีกหรือไม่?”

นางกํานัลส่ายหน้าพลางพูดว่า : “บ่าวเห็นแม่นางป๋ าย
เดินตามรัชทายาทเข้ามาทีนี รอบข้างไม่มีใครคอย
ปรนนิบตั ิเลย แน่ใจว่าพวกเขาเดินเข้าไปทีปี กตําหนัก
บ่าวจึงรีบไปบอกองค์หญิงกับคุณชาย”

122
ฉินอีเหยามองมูช่ ิงเกอ เหมือนรอการตัดสินใจของนาง

ตังแต่เมือไหร่กนั ทีนางเริมใส่ใจกับความคิดเห็นของมูช่ ิง
เกอ แต่พอรูต้ วั ชายชุดแดงผูง้ ดงามไร้ทีติคนนีก็กลาย
เป็ นคนทีนางเชือฟั งไปเสียแล้ว

มูช่ ิงเกอคิดทบทวนแล้วพูดว่า : “ลองไปดูก่อนแล้วค่อย


ว่ากัน” พูดจบก็บอกกับนางกํานัลว่า : “เจ้ารออยูต่ รงนี
หากครึงชัวยามแล้วยังไม่เห็นข้ากับองค์หญิงกลับมา ก็
รีบไปตามฮองเฮามา กระจายเรืองทีรัชทายาทพาตัวแม่
นางป๋ ายมาออกไปให้ทวั ยิงมีคนรูเ้ ยอะยิงดี”

123
นางกํานัลพยักหน้าในทันที จําคําพูดของมูช่ ิงแล้วก็ไป
หลบอยูข่ า้ งภูเขาจําลอง

นางไม่เข้าใจจุดประสงค์ของมูช่ ิงเกอ แต่ก็ไม่กล้าฝ่ าฝื น


คําสัง

“ไปเถอะ” มูช่ ิงเกอพูดกับฉินอีเหยา

ทังสองเดินหน้าไปหลายก้าว ไปทางปี กตําหนัก

“เจ้าสงสัยอะไร?” ฉินอีเหยาถาม

มูช่ ิงเกอส่ายหน้า : “ตอนนีกระหม่อมยังไม่รู ้ แค่ปอ้ งกัน


124
เอาไว้ก่อนก็เท่านัน” หวังว่านางจะคิดมากไปจริงๆ
รัชทายาทคนนันคงไม่กล้าทําถึงขันนัน

ในทีสุดมูช่ ิงเกอและฉินอีเหยาก็เดินไปถึงปี กตําหนัก แต่


ยังไม่ทนั ได้เปิ ดประตู ก็ได้ยินเสียงสนทนาของชายหญิง
คูห่ นึง

มูช่ ิงเกอหยุดเดิน แล้วรีบคว้ามือของฉินอีเหยามาจับไว้


แล้วเดินไปทีหน้าต่าง ฉินอีเหยาทีถูกจับมืออย่างกะหัน
ทันหัวใจก็พลันเต้นแรง แต่ก็ไม่ได้ดงึ มือออก ปล่อยให้
นางจับอยูอ่ ย่างนัน

“รัชทายาท ท่านพาข้าน้อยมาทีนีทําไมหรือเพคะ?” เสียง

125
ของป๋ ายซีเยวียดังขึนมา

ฟั งจากนําเสียงแล้ว เหมือนนางจะไม่เป็ นอะไร

เพราะฉะนัน มูช่ ิงเกอจึงไม่ได้รบี เข้าไป

“มาทําอะไรทีนีอย่างนันหรือ? แน่นอนว่าจะมาดูเอวของ
เจ้าทีข้าไม่ทนั ระวังจนชนเข้าอย่างไรเล่าว่าเคล็ดหรือ
เปล่า” เสียงของฉินจินซิวเอ่ยดังขึนมา

แต่ฟังแล้ว มูช่ ิงเกอกลับรูส้ กึ เหมือนมีความคลุมเครือ


แอบแฝงอยู่

126
“รัชทายาทเมตตาข้ามาก ซีเยวียไม่รูจ้ ะตอบแทนอย่าง
ไร” ป๋ ายซีเยวียตอบอย่างอ่อนโยน ราวกับไม่รูถ้ งึ ความ
นัยทีซ่อนอยูใ่ นคําพูดของรัชทายาท

แค่บทสนทนา 2 ประโยค ก็ทาํ ให้มชู่ ิงเกอเข้าใจได้แล้ว

ทีแท้ ป๋ ายซีเยวียก็ใช้ไม้นีเพือเข้าใกล้รชั ทายาท

ฉินอีเหยาหันมามองมาทางมูช่ ิงเกอแต่มชู่ ิงเกอกลับส่าย


หน้าเบาๆ

ทังสองยังคงรอต่อไป

127
“ไม่ตอ้ งกลัว มาให้ขา้ ดูก่อน หากบาดเจ็บอะไร จะได้ไป
ตามหมอหลวงมาดูแลเจ้า” ฉินจินซิวพูดเบาๆ ปลอบใจ
ป๋ ายซีเยวีย

มูช่ ิงเกอยิมอย่างเย็นอยูน่ อกหน้าต่าง : ไม่คิดว่าผูท้ ีชาย


ภายนอกดูเป็ นคนสง่างามเปิ ดเผยอย่างรัชทายาทจะ
เป็ นคนตําช้าเช่นนี เกรงว่าครังนีป๋ ายซีเยวียคงเหมือนยก
ก้อนหินขึนมาทุม่ ใส่เท้าตัวเองเสียแล้ว

ถ้าหากป๋ ายซีเยวียไม่มีสว่ นเกียวข้องกับตระกูลมู่ นางก็


ไม่อยากจะยุง่ กับเรืองนี

และ ป๋ ายซีเยวียอยูใ่ นจวนตระกูลมูม่ านานขนาดนี ครังนี

128
ก็ออกมากับนาง หากเกิดอะไรขึน เกรงว่าท่านปู่ จะใช้วิธี
ทางทหารในการจัดการน่ะสิ

เพือปกป้องตนเอง ไม่วา่ อย่างไร นางก็ตอ้ งพาป๋ ายซีเยวี


ยกลับไปอย่างสมบูรณ์

แต่วา่ ก่อนหน้านัน ก็ขอให้ดอกบัวขาวดอกนีรับรูถ้ งึ


ความยากลําบากสักหน่อยแล้วกัน

มูช่ ิงเกอยิมอย่างขบขัน ยังคงจับมือฉินอีเหยาแอบฟั งอยู่


ข้างผนัง อย่างไรก็ตาม ถ้ายังไม่ถงึ ขันตอนสุดท้าย ป๋ ายซี
เยวียก็คงจะไม่เสียหายอะไรมากขนาดนันไม่ใช่หรือ

129
ทันใดนัน มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ เสียดายกับคําสังทีได้สงไปแล้
ั ว
ก่อนหน้านี

หากฮองเฮามาถึงก่อนเวลา ก็จะทําลายละครฉากสนุก
เสียหมดน่ะสิ

“เสด็จพีรัชทายาทคิดจะทําอะไร?” อย่างไรก็ตามฉินอี
เหยาก็เป็ นผูห้ ญิง แม้จะดูโตและรูค้ วามแต่เรืองทํานองชู้
สาวระหว่างชายหญิงนัน ก็ยงั คงอ่อนประสบการณ์อยูด่ ี

นางฟั งออกว่าบทสนทนาของทังสองทีออกจากห้องนันดู
แปลกพิกล แต่ไม่รูถ้ งึ อันตรายทีซ่อนอยูภ่ ายในนัน

130
มูช่ ิงเกอยิมขยับพูดโดยไร้เสียงว่า : “รอดูตอ่ ไปก็จะรู”้

131
ตอนที 69 พลังฝึ กฝนถูกเปิ ดเผย!

“เมือครู ่ เป็ นข้าน้อยเองทีเดินไม่ระวังจึงชนเข้ากับ


รัชทายาท แต่ขา้ น้อยไม่ได้เป็ นอะไรมาก และถึงแม้วา่ จะ
เป็ นอะไรก็เป็ นเพราะข้าน้อยไม่ระวังเอง ไม่ได้เกียวกับ
รัชทายาทเลย พระองค์ช่างมีเมตตาพาข้าน้อยมาพักทีนี
แค่นีข้าน้อยก็ซาบซึงในพระมหากรุณาธิคณ
ุ อย่างหาที
สุดมิได้แล้วเพคะ” ป๋ ายซีเยวียพูดอย่างหนักแน่น

“ไม่เปนไร ข้าเป็ นคนมีความรับผิดชอบอยูแ่ ล้ว หากเจ้า

132
เป็ นอะไรไป ข้าจะรับผิดชอบให้ถงึ ทีสุด” ฉินจินซิวเริมรุก
ไล่

“รัชทายาท” ป๋ ายซีเยวียถอยหลังไปหนึงก้าวเพือหลบมือ
ของฉินจินซิวทียืนออกมา ขณะนันเองนางก็เริมรูส้ กึ ถึง
ความผิดปกติ จริงๆ แล้วนางอยากจะใช้โอกาสนีในการ
ทําให้รชั ทายาทจดจํานางได้เผือว่าในอนาคตจะใช้
ประโยชน์อะไรได้ แต่ไม่คิดว่าเรืองราวทังหมด จะค่อยๆ
อยูเ่ หนือการควบคุมของนาง

เห็นฉินจินซิวสีหน้าเริมบูดบึง นางก็รบี พูดอย่างอ่อนโยน


ว่า : “รัชทายาท ชายหญิงอย่างไรก็แตกต่าง ไม่เหมาะ
สมจริงๆ เพคะ”

133
ฉินจินซิวยิมเยาะในใจและพูดด้วยความอดทนว่า : “จะ
เป็ นอะไรไป ทีนีไม่มีคนนอก หากต้องรอเรียกคนมา
ตรวจให้ แล้วทําให้บาดแผลแย่ลงยิงกว่าเดิมจะทําอย่าง
ไร”

เมือสักครูต่ อนทีอยูข่ า้ งนอก เขาโมโหกับภาพทีมูช่ ิงเก


อดืมเหล้าอยูบ่ นหลังม้าจนควันออกหู ไม่สนใจแม้กระทัง
จะตําหนิเฉากุย้ ว่าไร้ประโยชน์ กําลังอยากจะกลับ
ตําหนักเพือหานางกํานัลในตําหนักมาช่วยบรรเทา
อารมณ์รอ้ น กลับไม่คิดว่าจะมีหญิงงามบริสทุ ธินางหนึง
พุง่ เข้ามาในอ้อมอกของเขา

134
ในเมือเป็ นเช่นนี มีเหตุผลอะไรทีจะผลักไสนางเล่า

แต่ไม่คิดว่าพอมาถึงทีนีผูห้ ญิงคนนีกลับมาเกิดอายอะไร
ขึนมา ทําให้เขาไม่พอใจนัก

โชคดีทีว่า เขายังเตรียมพร้อมทีจะลงมือ เพือป้องกัน


ความเสียงต่างๆ ทีอาจจะเกิดขึนไว้แล้ว

คําพูดทีชัดเจนเพียงนี หากป๋ ายซีเยวียยังตีความไม่ได้ก็


คงจะปั ญญาอ่อนแล้ว ความคิดชัวร้ายของรัชทายาททํา
ให้นางรูส้ กึ ไม่ชอบใจและนึกถึงความดีของรุย่ อ๋องขึนมา

อย่างน้อยรุย่ อ๋องก็ไม่ทาํ แบบนีกับนาง


135
ป๋ ายซีเยวียทีเสียใจกับการกระทําของตนเองในวันนี
พยายามฝื นปลอบโยนรัชทายาท หาโอกาสปลีกตัวออก
ไป

“รัชทายาทนีก็นานมากแล้ว ข้าน้อยต้องกลับไปแล้ว”
ป๋ ายซีเยวียพูดอย่างเร่งรีบ

แต่ พอนางกําลังจะจากไปก็พบว่าตนเองหน้ามืดตาลาย
ในกายเหมือนมีอะไรปั นป่ วนอยู่ ความรูส้ กึ ทีไม่คนุ้ เคยนี
ทําให้นางรูส้ กึ ถึงความไม่ปลอดภัย

ร่างกายโอนเอนสักพักฉินจินซิวก็รบี เดินมาดึงนางเข้าไป

136
ในอ้อมกอด : “เจ้าดูตวั เองสิ แม้แต่เดินยังไม่มนคงเลย

ยังจะบอกว่าไม่เป็ นอะไรอีก เด็กดี มาให้ขา้ ช่วยตรวจดู
ให้ละเอียดเถอะ”

“ท่าน!” ป๋ ายซีเยวียตัวอ่อน เพราะความใกล้ชิดของฉิน


จินซิวทําให้ใจทีตืนตระหนกของนางแปรเปลียนเป็ น
เดือดดาล นางเข้าใจทุกอย่างแล้ว

ความเย็นเยียบพุง่ ออกมาจากดวงตาทีไร้เดียงสาคูน่ นั
นางพูดขู่วา่ : “รัชทายาทท่านรีบปล่อยข้าออกไปเถิด ข้า
เป็ นคนของจวนตระกูลมู่ หากเกิดอะไรขึนกับข้าท่านปู่ มู่
และท่านพีมูไ่ ม่ปล่อยท่านไปง่ายๆ แน่”

137
“เจ้าเป็ นคนของจวนตระกูลมูร่ ?ึ ” เมือได้ยินคําพูดนีฉิน
จินซิวก็หยุดการกระทําทังหมด

หญิงสาวทีจงใจพุง่ เข้ามาในอ้อมอกของเขาเอง กลับมา


จากจวนตระกูลมู่ เรืองนีทําให้เขารูส้ กึ ประหลาดใจ

นอกหน้าต่าง มูช่ ิงเกอทีพอได้ยินป๋ ายซีเยวียพูดถึงจวน


ตระกูลมูก่ ็ยืดคอยาวมองเข้าไปด้านในผ่านรอยแยกของ
หน้าต่าง

ภาพทีเห็นคือป๋ ายซีเยวียและฉินจินซิวยือกันไปยือกันมา

ปฏิกิรยิ าของฉินจินซิวทําให้ป๋ายซีเยวียคิดว่าจะมีหวัง
138
จึงรีบพยักหน้าพลางพูดว่า : “ใช่ ข้าเป็ นคนของจวนตระ
กูลมู”่

น่าเสียดายทีนางประเมินความใจกล้าของฉินจินซิวตํา
เกินไป

หลังจากทีได้ยินป๋ ายซีเยวียพูดถึงฐานะของตนเอง เขาก็


หัวเราะอย่างเยือกเย็น ในแววตานันเต็มไปด้วยความดู
ถูก : “เจ้าเป็ นคนของจวนตระกูลมู่ คงจะเป็ นสาวใช้อนุ่
เตียงทีไอ้แก่นนหามาให้
ั หลานชายมันสินะ วันนีมูช่ ิงเก
อได้มีหน้ามีตา ข้านอนกับผูห้ ญิงของมัน ก็ถือว่าเจ๊ากัน
แล้ว”

139
คําพูดของฉินจินซิวทําให้ป๋ายซีเยวียตกใจและมูช่ ิงเกอที
อยูน่ อกหน้าต่างเองก็ขมวดคิว

“ปล่อยข้านะ!” เมือเห็นว่าการใช้วาจาไม่มีประโยชน์
ป๋ ายซีเยวียจึงต่อต้านด้วยการใช้กาํ ลัง

แต่ ร่างกายทีแปลกไป ทําให้นางหนีจากเงือมมือของ


สายเหลืองขันกลางอย่างฉินจินซิวไม่พน้

“ปล่อยเจ้าอย่างนันหรือ เจ้าวางใจเถอะ รอข้าเสพสุข


จากเจ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะปล่อยเจ้าไปเอง” ฉินจินซิว
ยิมเย็น ไม่หยุดการกระทํา

140
แคว่ก------

เสียงผ้าฉีกขาดดังขึน เสือผ้าทีป๋ ายซีเยวียสวมอยูน่ นถู


ั ก
เขาฉีกออก

“ไม่ ! ปล่อยข้านะ ! ช่วยด้วย!” ป๋ ายซีเยวียร้องเสียงดัง


ด้วยความหวาดกลัว

รอยยิมของฉินจินซิวนันมีความโหดเ**◌้ยมเพิมเข้ามา :
“ไม่มีใครมาทีนีหรอก เจ้าร้องขอให้ช่วยไปก็เปล่า
ประโยชน์”

คําพูดนีทําให้นยั น์ตาของป๋ ายซีเยวียพลันเกิดความสิน


141
หวัง

หากวันนีนางเสียตัวให้กบั รัชทายาทแล้วในอนาคตนาง
จะทําอย่างไร? ‘รุย่ อ๋องช่วยข้าด้วย!’

นอกหน้าต่าง สิงทีเกิดขึนข้างในทําให้ฉินอีเหยาขมวดคิว
อันงดงามแน่น นางดึงชายเสือของมูช่ ิงเกอ : “ชิงเก
อเรา.....”

“ไม่รบี ” มูช่ ิงเกอพูดนิงๆ

บอกแล้วว่าจะให้ป๋ายซีเยวียได้รบั บทเรียนเสียบ้าง นาง


จะไม่คืนคําเด็ดขาด
142
ฉินอีเหยาอ้าปากแต่สดุ ท้ายก็ไม่ได้พดู อะไร เพียงมองมู่
ชิงเกอทีไม่รูว้ า่ คิดอะไรอยู่

“อ๊า-----“

อยูๆ่ ป๋ ายซีเยวียก็กรีดร้อง มือทีขยุม้ อยูต่ รงหน้าอกของ


ฉินจินซิวนันมีแสงสีเหลืองส่องประกายออกมา นางไม่
สนใจอะไรทังสินพลางตบลงไปสุดแรง

‘สายเหลืองขันกลาง!’

มูช่ ิงเกอทีแอบดูอยูข่ า้ งนอกเบิกตากว้าง แววตาปรากฏ


143
ความเย็นเยียบฉาบไว้ชนหนึ
ั ง

ป๋ ายซีเยวียคนนีช่างปกปิ ดได้แนบเนียนจริงๆ !

144
ตอนที 70 ท่านพีมู่ ช่วยข้าด้วย!

ป๋ ายซีเยวียถึงกับเก็บซ่อนพลังไว้ได้ดีถงึ เพียงนี

นางเคยถามกับวิญญาณของมูช่ ิงเกอ รูว้ า่ ป๋ ายซีเยวียอยู่


ในสายแดง แต่ไม่คิดว่า นางจะเก็บซ่อนความแข็งแกร่ง
ของตนเองไว้แบบนี

นางอายุแค่นี มีพลังสายเหลืองขันกลาง หากเรืองนี


แพร่ออกไป ไม่วา่ จะอยูห่ รือจะไปจากจวนตระกูลมู่ ก็จะ
145
มีชีวิตอยูต่ อ่ ไปได้อย่างสุขสบาย แต่นางกลับเลือกทีจะ
ปิ ดบังซ่อนเร้นเอาไว้จดุ ประสงค์นนชวนให้
ั ตืนตะลึงจริงๆ

แทบจะชัวพริบตาทีมูช่ ิงเกอคาดเดาถึงความเป็ นไปได้


ต่างๆ นานาทีป๋ ายซีเยวียปกปิ ดพลังของตัวเองเอาไว้ แต่
ไม่มีจดุ ประสงค์ใดทีเป็ นเรืองดีเลย

ฉินจินซิวถูกโจมตีโดยไม่ทนั ได้ตงตั
ั วทําให้หงายหลังลง
ไป

เขาเองก็เป็ นสายเหลืองขันกลางเหมือนกับป๋ ายซีเยวีย


แต่วา่ เคล็ดวิชาในการฝึ กนันเหนือกว่า ฉินจินซิวเป็ นถึง
รัชทายาทมีทรัพยากรสําหรับการฝึ กทีพรังพร้อม แต่สาํ

146
หรับป๋ ายซีเยวียแล้วเพราะการปกปิ ดของตัวนางเอง ใน
ด้านทรัพยากรสําหรับฝึ กฝนนันนางจึงต้องขวนขวาย
ด้วยตนเอง เคล็ดวิชาทีนางหาได้นนแน่
ั นอนว่าไม่อาจ
เทียบฉินจินซิวได้

ในเสือผ้าของฉินจินซิวนันมีเกราะอ่อนอยู่ ซึงปกป้อง
พลังจากป๋ ายซีเยวียได้ไม่นอ้ ย ฉินจินซิวเอามือจับหน้า
อกทีเจ็บแปลบแล้วลุกขึนยืน ใบหน้าหล่อเหลาหมดจด
นันมืดครึม สายตาเองก็เปี ยมไปด้วยไอสังหาร

“รนหาทีตาย!” เสียงทีเยียบเย็นเปล่งออกมาจากปาก
ของฉินจินซิว

147
ในใจของป๋ ายซีเยียวนันตืนตระหนกเป็ นทีสุด การโจมตี
เมือสักครูน่ นนางได้
ั ใช้พลังทังหมดของตนเองไปแล้ว

นางต้องออกไปจากทีนีและไปหามูช่ ิงเกอให้เร็วทีสุดจึง
จะหนีรอดปลอดภัย

เมือหลุดจากการควบคุมของฉินจินซิว ป๋ ายซีเยวียก็ดมู ี
สติมากขึน

นางรูว้ า่ ในขณะนี มีเพียงมูช่ ิงเกอผูเ้ ดียวเท่านันที


สามารถช่วยนางได้

แต่นางไม่รูว้ า่ คนทีนางอยากจะเจอนันตอนนีอยูท่ ีนอก


148
ผนังห้องและเห็นทุกสิงทุกอย่างทีเกิดขึนแล้ว

ป๋ ายซีเยวียพุง่ ไปทีข้างประตูแต่กลับรูส้ กึ ปวดหัวจีดขึน


มากะทันหัน หลังจากนันทังร่างก็ลม้ ลงไปกับพืน

ฉินจินซิวดึงผมยาวของป๋ ายซีเยวียอย่างไม่ปราณีและ
เหยียบบนหน้าอกของนางอย่างแรง

“พรูด!”

เลือดสีแดงสดพุง่ ออกจากปากของป๋ ายซีเยวีย ในปาก


นางเต็มไปด้วยเลือดเหม็นคาว

149
ความเจ็บปวดทีหน้าอก ทําให้นางเจ็บจนทนไม่ไหว

ตังแต่เล็กจนโต นีเป็ นครังแรกทีนางบาดเจ็บมากเพียงนี


แม้วา่ นางจะเป็ นสายเหลืองขันกลาง แต่ก็ไม่มี
ประสบการณ์ในการรบและไม่เคยได้รบั บาดเจ็บใดๆ มา
ก่อน

ขณะนีเองนางเกิดรูส้ กึ หวาดกลัวขึนมาจับใจ และเป็ น


ครังแรกทีนางรูส้ กึ ถึงความสินหวังลึกๆ

นางเสียใจ เสียใจทีไปหาเรืองรัชทายาททีเป็ นดังปี ศาจผู้


นัน

150
ในสายตาของนางนันเต็มไปด้วยความโกรธเกลียด และ
โยนความผิดทังหมดนีให้กบั ตระกูลมู่

หากไม่ใช่เพราะตระกูลมูน่ างก็จะไม่กลายเป็ นเด็ก


กําพร้าและหากนางมีฐานะทีสูงส่งรัชทายาทก็จะไม่กล้า
ทําเช่นนีกับนางและเพราะหากไม่ใช่เพราะมูช่ ิงเกอ......
นางก็จะไม่ตอ้ งมาอยูท่ ีนี ไม่ตอ้ งมาเข้าปากเสืออย่าง
รัชทายาท

ป๋ ายซีเยวียทีตกอยูใ่ นความแค้นและความหวาดกลัวทํา
ได้เพียงระบายความสินหวังในใจออกมา

ราวกับว่านางจะลืมไปแล้วว่างานเลียงล่าสัตว์ชมไม้ใน

151
ครังนี นางเป็ นคนอยากจะตามมาเอง และการมาพบกับ
รัชทายาทก็เป็ นเรืองทีนางวางแผนเอาไว้ทงนั
ั น

“ช่วยด้วย..........ปล่อยข้าไป.......” ป๋ ายซีเยวียร้องขอ
ด้วยความเจ็บปวด

ขณะนันเอง นําตาพลันไหลออกมาจากหางตาของนาง
และในขณะทีนางพูดเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปาก

ฉินจินซิวยิมอย่างโหดเ**◌้ยม ดึงเสือผ้าของตนเองออก
มองนางหัวจรดเท้า : “ถึงขนาดนีแล้วยังจะร้องขอให้ขา้
ปล่อยเจ้าไปอีกรึ? ก่อนเจ้าจะตาย เจ้าจะเป็ นได้เพียง
ทาสของข้าและเป็ นได้แค่สนุ ขั ตัวหนึงทีข้าเลียงเอาไว้เท่า

152
นัน”

นังผูห้ ญิงคนนีกล้าทําร้ายเขาถึงเพียงนี เขาจะต้อง


ทรมานให้นางรูส้ กึ เหมือนตายทังเป็ น

“ไม่.....ไม่นะ.....” ป๋ ายซีเยวียส่ายหน้าอย่างแรง แต่กลับ


ทําได้แค่มองเสือผ้าของตนเองทีถูกฉินจินซิวปลดออกที
ละชิน

นอกหน้าต่างฉินอีเหยารีบลุกขึนกําหมัดแน่น

นางเหมือนจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้วา่ นางจะไม่


ชอบป๋ ายซีเยวียแต่ก็ทนเห็นนางถูกเสด็จพีของตนเอง
153
รังแกแบบนีไม่ได้

“ได้เวลาแล้ว” ทันใดนันมูช่ ิงเกอก็ลกุ ขึนยืน ปั ดฝุ่ นบน


เสือผ้าของตนเองทีหนึง ตอนแรกยังกังวลว่าจะให้เวลา
กับฉินจินซิวไม่มากพอ แต่ไม่คิดว่าเขาจะช่วยนางได้
มากขนาดนี

แน่นอนว่ามันทําให้นางได้เห็นถึงมุมทีโหดเ**◌้ยมของ
รัชทายาท

มูช่ ิงเกอเดินอยูข่ า้ งหน้าฉินอีเหยาและถีบประตูทีปิ ด


สนิทออกอย่างง่ายดาย ทําให้ทงสองที
ั อยูใ่ นห้องตกใจ

154
“ใครกัน!” ฉินจินซิวทีคร่อมอยูบ่ นตัวของป๋ ายซีเยวียและ
กําลังจะลงมือขืนใจนาง ช่วงกําลังเข้าด้ายเข้าเข็ม กลับ
มีคนบุกเข้ามา ทําให้เขารีบหันกลับไปมอง

ชุดสีแดงสุดแสบตานันทําให้เขาต้องหรีตาลงน้อยๆ

ได้ยินเพียงเสียงร้องเรียกทีตืนตระหนกของหญิงสาวที
อยูข่ า้ งหลัง : “ท่านพีมู่ รีบมาช่วยข้าด้วย!”

“มูช่ ิงเกอ!” หลังจากทีฉินจินซิวรูแ้ ล้วว่าใครมา พระ


ขนิษฐาทีอยูข่ า้ งหลังมูช่ ิงเกอนันถูกเขามองข้ามไป แต่
เขาก็ไม่ได้ปล่อยตัวป๋ ายซีเยวีย แต่ใช้นาเสี
ํ ยงเยือกเย็น
เอ่ยเตือนว่า : “เจ้ากล้ามายุง่ เรืองของรัชทายาทอย่างข้า

155
อย่างนันหรือ?”

มูช่ ิงเกอยิมและพูด ดูไม่ได้รูส้ กึ รูส้ าอะไรจากนําเสียงอัน


เยือกเย็นนันเลยสักนิด : “กระหม่อมไม่กล้ารบกวน
อารมณ์สนุ ทรียข์ องรัชทายาทหรอก กระหม่อมเพียงมา
รับตัวน้องซีเยวียกลับจวนเท่านัน”

“ท่านพีมู”่ ป๋ ายซีเยวียร้องเรียกทังนําตา

ฉินอีเหยาเมือเห็นร่างกายอันเปล่าเปลือยของป๋ ายซีเย
วียก็อดไม่ได้ทีจะเอ่ยออกมาว่า : “เสด็จพี รีบปล่อยนาง
เถอะ”

156
“เจ้ามันเป็ นตัวอะไร คูค่ วรทีจะมาชีนิวสังข้างันรึ!” ฉินจิน
ซิวตวัดสายตาไปมองเสียดสีฉินอีเหยา

ฉินอีเหยาหน้าซีด นางรูด้ ีวา่ เมือเสด็จพีคนนีของตนเอง


บ้าคลังขึนมาเมือไหร่ ก็จะไม่สนใจใครหน้าไหนทังนัน
ทันใดนันเงาร่างชุดแดงร่างหนึงก็มาปรากฏอยูต่ รงหน้า
นาง บดบังนางจากสายตาเย็นยะเยือกคูน่ นั ทําให้นาง
รูส้ กึ โล่งใจ

เมือนางเงยหน้าขึนมอง จึงพบว่ามูช่ ิงเกอยืนอยูข่ า้ งหน้า


ปกป้องนางให้อยูด่ า้ นหลังเขา

“รัชทายาท เมือสักครูท่ ีกระหม่อมมาหาน้องซีเยวียกระ

157
หม่อมได้ให้คนไปกล่าวทูลเรืองนีกับฮองเฮาไว้แล้ว
พระองค์คงไม่ทรงทราบว่าน้องซีเยวียของกระหม่อม
เป็ นทีรักของฮองเฮา ได้ยินว่านางหายตัวไปไม่แน่วา่ อาจ
จะทรงพาคนออกมาตามหา พระองค์ลองคิดดูหากภาพ
ตรงหน้านีให้ทา่ นหญิงทังหลายของแคว้นฉินของเรามา
เห็นเข้า.......”มูช่ ิงเกอหัวเราะอย่างชัวร้ายเป็ นทีสุด

อะไรนะ ! ฮองเฮาจะมาอย่างนันหรือ !

ป๋ ายซีเยวียตกใจ แอบโกรธการกระทําของมูช่ ิงเกอ

“เจ้าขู่ขา้ หรือ” ฉินจินซิวกัดฟั น พูดอย่างเยือกเย็น

158
“มิบงั อาจ มิบงั อาจ กระหม่อมเพียงพูดความจริงเท่านัน
อีกอย่างกระหม่อมเองก็เป็ นห่วงชือเสียงของรัชทายาท
น้องสาวคนนีของกระหม่อมถึงแม้วา่ จะมีใครมาเห็นเข้า
อย่างมากก็คงจะแค่ตอ้ งไปจากลัวตูและใช้ชีวิตอยูไ่ ด้
อย่างดี แต่หากมีคนมาเห็นรัชทายาทในสภาพนีเข้า ยัง
ไม่ตอ้ งพูดถึงว่าพระองค์จะต้องอยูท่ ีแคว้นฉินไม่อาจไป
ไหนได้ เกรงว่าแม้แต่ตาํ แหน่งรัชทายาทของพระองค์เอง
จะรักษาไว้ได้หรือไม่ก็ยากทีจะบอกได้ คิดดูแล้วฮองเฮา
เองก็คงจะไม่อยากให้ทรงทําพฤติกรรมเช่นนีหรอก” มูช่ ิง
เกอยิมพลางกระดิกขา

ทันใดนันสายตาของนางก็ไปหยุดอยูบ่ นกระถางธูปใบ
หนึงทีไม่ดสู ะดุดตามากนัก ตัวกระถางเหมือนควันลอย
ขึนมา ทําให้นางยิมเย็น

159
คําพูดของป๋ ายซีเยวียก่อนหน้านี ทําให้นางรูว้ า่
รัชทายาทวางกับดักเอาไว้

เมือสักครูห่ ลังจากทีเข้ามา ระหว่างทีสนทนากับ


รัชทายาท นางก็มองหาของน่าสงสัยตามซอกมุมของ
ตําหนักไปด้วย ในทีเปล่าเปลียวไร้คนอาศัยเช่นนี มีธูป
ถูกจุดอยูจ่ ะไม่แปลกได้อย่างไรเล่า

อีกอย่างกลินหอมนี จะมีผลกับเฉพาะผูห้ ญิงเท่านัน.......


กับผูช้ าย เช่นผูช้ ายอย่างฉินจินซิวจะไม่มีผลอะไรเลย

นางไม่ได้เป็ นห่วงตนเองเพราะร่างกายของนางได้รบั การ

160
เปลียนแปลงดีเอ็นเอ สามารถกําจัดพิษออกจากร่างกาย
ของตนเองได้แต่ฉินอีเหยาล่ะ

มูช่ ิงเกอหันไปพูดกับฉินอีเหยาทีอยูข่ า้ งหลัง : “องค์หญิง


ทรงออกไปรอกระหม่อมข้างนอกก่อน”

161
ตอนที 71 สุดท้ายก็หลงกล !

ฉินอีเหยามองนางอย่างไม่เข้าใจแวบหนึง คิดว่านางเป็ น
ห่วงความสัมพันธ์ระหว่างนางกับรัชทายาทจึงส่ายหน้า
ปฏิเสธ : “ไม่ตอ้ ง วันนีข้าจะอยูก่ บั เจ้า อีกอย่างดูจากอา
การของป๋ ายซีเยวียตอนนี มีผหู้ ญิงสักคนดูแลจะดีกว่า”

‘โง่!’ มูช่ ิงเกอแอบด่าในใจ

ตอนนี นางจะบีบคันฉินจินซิวมากไปกว่านีไม่ได้ ไม่


อย่างนันหากเจ้านีเกิดบ้าขึนมา วันนีก็ยากจะบอกได้วา่
1
เรืองราวจะจบลงอย่างไร

ฉินอีเหยาไม่ยอมออกไป มูช่ ิงเกอจึงต้องรีบไล่ฉินจิน


ซิวออกไป แล้วจัดการกับกระถางธูป

มูช่ ิงเกอหันหน้าไป พูดเองเออเองว่า : “เอ๊ะ? เหมือน


กระหม่อมจะได้ยินเสียงฝี เท้า หรือว่าฮองเฮาจะทรงพา
คนเข้ามาแล้ว”

ฉินจินซิวสะดุง้ แม้คาํ พูดของมูช่ ิงเกอจะบาดหูเพียงใด


แต่กลับทําให้เขาสงบลงได้

ด้านหน้าเขามีเสด็จพ่อคอยจับตามองอยู่ ส่วนด้านหลัง
2
ก็มีรุย่ อ๋องคอยจ้อง เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ตนเองโดนคน
อืนจับจุดได้เด็ดขาด เขาเก็บความโกรธแค้นเอาไว้ในใจ
เอาไว้ ในทีสุดฉินจินซิวก็ปล่อยป๋ ายซีเยวียแล้วลุกขึนยืน

“จัดการเรืองนีให้ดีๆ เล่า ไม่อย่างนัน......หึ” ทิงคําพูดอัน


หยิงยโสเอาไว้ แล้วฉินจินซิวก็เดินออกจากตําหนักไป
ราวกับกลัวว่าหากช้าไปอีกเพียงก้าวเดียวจะมีคนจับได้
อย่างนัน

พอฉินจินซิวออกไป ฉินอีเหยาก็วงเข้
ิ าไปหาป๋ ายซีเยวีย
ดึงผ้าลงมาผืนหนึงมาห่อตัวนางเอาไว้

มูช่ ิงเกอเดินไปทีกระถางธูปทันที แค่นเสียงเย็นคําหนึง

3
แล้วผลักกระถางธูปตกลงไปบนพืน เหยียบธูปทีจุดอยู่
ให้ดบั

เมือจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว มูช่ ิงเกอจึงพูดกับ


ฉินอีเหยาว่า : “ช่วยดุแลนางด้วย” พูดจบก็เดินออกจาก
ห้องโถง แล้วรออยูต่ รงระเบียง

ไม่นานนัก ฮองเฮาก็นาํ คนกลุม่ ใหญ่เดินเข้ามาอย่าง


เกรียงไกร

เห็นมูช่ ิงเกอทียืนอยูน่ อกตําหนักจากทีไกลๆ จึงทรงถาม


ว่า : “คุณชายมู่ ทําไมถึงไปยืนอยูต่ รงนีได้? ข้าได้ยินว่า
แม่นางป๋ ายหายตัวไป กําลังให้คนไปตามหาให้ทวอยู
ั ”่

4
มูช่ ิงเกอแอบยิมเยือกเย็นในใจ หญิงผูน้ ีคงได้ยินข่าวว่า
ลูกชายของตนเองและป๋ ายซีเยวียหายตัวไปด้วยกัน จึง
รีบร้อนมาขนาดนี

และก็ไม่รูจ้ ะบอกปั ดบรรดาท่านหญิงทังหลายทีมาด้วย


อย่างไร จึงได้แต่จาํ ใจให้พวกนางมาด้วย

“ทูลฮองเฮา พบตัวป๋ ายซีเยวียแล้วพะยะค่ะ แค่ประมาท


จึงหกล้ม ตอนนีองค์หญิงฉางเล่อกําลังดูแผลและเสือผ้า
ทีเปื อนให้นางอยูใ่ นตําหนักพะยะค่ะ” มูช่ ิงเกอพูดด้วย
รอยยิม ฟั งดูไม่มีพิรุธแม้แต่นิด

5
คําตอบของนาง ทําให้พระทัยทีบีบเกร็งของฮองเฮาผ่อน
คลายลง พระนางยิมจางๆ พลางพยักพระพักตร์แล้ว
ตรัสว่า : “เจอก็ดีแล้ว มีฉางเล่ออยูต่ รงนีแล้ว ถ้าอย่างนัน
ข้าก็จะไม่เข้าไปล่ะ หากต้องการอะไร ก็เรียกใช้นาง
กํานัลแล้วกัน”

“ขอบพระทัยฮองเฮา” มูช่ ิงเกอก้มหน้าลงพูด

จากนัน ฮองเฮาก็เหลือบมองประตูตาํ หนักทีปิ ดสนิท


ด้านหลังมูช่ ิงเกอ แล้วจึงนําทุกคนเดินออกไปอย่างสง่า
งาม

พอฮองเฮาและคนอืนๆ ลับตาไป มูช่ ิงเกอจึงค่อยๆ เปิ ด

6
ประตู

ฉินอีเหยาเดินออกมา พูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “แม่นางป๋ าย


เหมือนจะได้รบั บาดเจ็บทีกระดูก ห้ามเคลือนไหวร่าง
กาย ข้าจะให้คนไปเอารถม้า เราไปกันตอนนีเลย”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ เห็นด้วยกับการจัดการของนาง

เมือเห็นว่ามูช่ ิงเกอเห็นด้วย ฉินอีเหยาก็รบี ไปจัดการ


ทุกอย่าง องค์หญิงภูเขานําแข็งผูน้ ี ค่อยๆ เปิ ดเผยด้านที
ดีงามออกมา

สักพัก รถม้าขององค์หญิงฉางเล่อก็เข้าสูพ่ ืนทีตําหนัก


7
แห่งนี

ฉินอีเหยาพูดกับมูช่ ิงเกออย่างลําบากใจ : “อย่างไรก็


ตามแม่นางป๋ ายก็ยงั เป็ นหญิงทียังไม่ได้ออกเรือน ทหาร
องครักษ์ของข้าจะไปแตะต้องตัวนางก็คงจะไม่สมควร
เหล่านางกํานัลก็กลัวว่าจะไม่ระวัง จนทําให้กระดูก
เคลือน”

มูช่ ิงเกอมองนาง หลังจากทีฟั งนางพูดจบก็ถามว่า :


“ทรงคิดจะทําอย่างไร?”

ฉินอีเหยากัดปาก พลางก้มหน้าลง : “เจ้าโตมาพร้อมกับ


นาง งันเจ้าก็อมุ้ นางขึนรถม้าเถิด”

8
มูช่ ิงเกอคล้ายยิมคล้ายไม่ยมิ : “พระองค์ช่างหวังดี”

ฉินอีเหยาหน้าซีดไม่พดู อะไร ใจจริงแล้วนางไม่อยากให้


มูช่ ิงเกอใกล้ชิดป๋ ายซีเยวีย

แต่ทา่ ทางของป๋ ายซีเยวียทําให้นางเกิดความเห็นใจขึน


มาอีกครัง

ความเงียบของนาง ทําให้มชู่ ิงเกอแอบถอนหายใจ ยืน


มือออกไปตบแก้มนางเบาๆ สองที : “มีใจทีเมตตานันดี
แต่ตอ้ งดูคนด้วย นิทานชาวนากับงูเห่าทรงเคยฟั งหรือ
ไม่?”

9
ฉินอีเหยาส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ

มูช่ ิงเกอยกยิมพลางพูดว่า : “วันหลังกระหม่อมค่อยเล่า


ให้ฟัง” พูดจบก็เดินเข้าตําหนักไป

แต่ในความเป็ นจริงแล้ว ฉินอีเหยาไม่ได้ฟังว่ามูช่ ิงเก


อพูดอะไรไปบ้าง แต่จิตใจพลันหวันไหวไปกับความ
สนิทสนมกะทันหันนัน

รอจนนางรูส้ กึ ตัว มูช่ ิงเกอก็อมุ้ ป๋ ายซีเยวียเดินออกมา


แล้วขึนรถม้าไปแล้ว

10
ฉินอีเหยามองทังสองทีขึนรถม้าไป ในใจก็รูส้ กึ ขมฝาด

ในขณะทีนางกําลังทําหน้าอมทุกข์ มูช่ ิงเกอผูเ้ ป็ นเจ้า


ของชุดสีแดงทีขึนรถม้าไปแล้ว ก็ตะโกนเรียกนางว่า :
“ยังไม่ขนมาอี
ึ ก รออะไร”

จิตใจทีเย็นชาของฉินอีเหยา เมืออยูใ่ นสายตาของมูช่ ิงเก


อก็ผดุ ความหวานละมุนขึนมา

นีเป็ นครังแรกทีนางยิมอย่างอ่อนโยน แล้วขึนรถไป

รถม้า ค่อยๆ ออกจากบริเวณเขตล่าสัตว์ของราชวงศ์

11
ป๋ ายซีเยวียทีเสนอตัวมา คิดอย่างไรก็คงคิดไม่ถงึ เลยว่า
ตนเองจะต้องกลับจวนตระกูลมูใ่ นสภาพทียําแย่ขนาดนี

ผูม้ ีฐานันดรศักดิก็ยงั ไม่ทนั ได้รูจ้ กั แต่กลับเกือบถูก


รัชทายาท.........

เมือคิดถึงความอันตรายในตําหนักเมือครู ่ นําตาของ
ป๋ ายซีเยวียก็ไหลลงมาอีกครัง

กระดูกได้รบั บาดเจ็บ ทําได้แค่นอนเฉยๆ เพราะหากไม่


ระวังไปโดนเข้า ก็อาจจะทําให้ภายในได้รบั ความกระทบ
กระเทือนหนักกว่าเดิม

12
เพราะฉะนัน พืนทีกว่าครึงในรถม้าจึงให้ป๋ายซีเยวียนอน
ลง

โชคดีทีว่า นางเป็ นสายเหลืองขันกลาง บาดแผลแค่นียัง


พอทนได้ ขอเพียงรักษาตัวดีๆ ก็คงไม่เป็ นอะไรมาก เรือง
นีค่อยทําให้นางวางใจ

ตอนแรกคิดว่า คราวนีตนเองต้องแย่แน่ๆ แต่ไม่คิดว่า


สุดท้ายกลับเป็ นมูช่ ิงเกอทีมาช่วยตนเองไว้

คนเสเพลไร้คา่ ผูน้ ี เหมือนจะไม่ได้ไร้ประโยชน์เพียงนัน

ป๋ ายซีเยวียทีนอนอยู่ นึกถึงภาพก่อนหน้านีทีมูช่ ิงเก


13
อเจรจากับรัชทายาททีดูน่ากลัวถึงเพียงนัน แต่เพียงแค่
สองสามประโยคก็ช่วยตนเองเอาไว้ได้ ไม่รูท้ าํ ไมถึงได้
รูส้ กึ หวันไหวขึนมา

เพราะร่างกายได้รบั บาดเจ็บทําให้ความรูส้ กึ ปั นป่ วนอัน


แปลกประหลาดทีมองข้ามไปในตอนแรก ขณะนีเหมือน
จะกําเริบขึนมา

ใบหน้าอันขาวซีดของป๋ ายซีเยวียค่อยๆ เปลียนเป็ นสี


แดงและรูส้ กึ ร้อน

แต่เพราะนางนอนอยู่ ทําให้ทงสองที
ั นังอยูข่ า้ งๆไม่รู ้

14
“ชิงเกอ.....” ป๋ ายซีเยวียทีกินพืนทีในรถม้ามากกว่าครึง
ทําให้ฉินอีเหยาต้องเบียดอยูก่ บั มูช่ ิงเกอ

เมือได้ยินเสียงสันๆ ดังขึนจากข้างหลัง มูช่ ิงเกอจึงหัน


กลับไปมอง

สิงทีเห็นคือ สายตาอันอ่อนโยนดุจสายนํา และท่าทางที


ดูงดงามเย้ายวน

“ทรงเป็ นอะไรไป?” มูช่ ิงเกอขมวดคิว

“ข้า.....ข้าไม่รู ้ รูส้ กึ ร้อนไปทังตัว ร่างกายก็ไร้เรียวแรง”


ฉินอีเหยาพูดเบาราวกับเสียงยุง นําเสียงอันเย็นชานัน
15
แฝงไปด้วยความยัวยวน

16
ตอนที 72 วางยาบ้าอะไร!

“ชิงเกอ ข้าร้อนมาก” เสียงของฉินอีเหยาไม่ได้เยือกเย็น


เหมือนเคย แต่กลับมีความยัวยวนแฝงอยู่

ในขณะทีพูด ร่างกายของนางก็ขยับเข้ามาใกล้รา่ งของมู่


ชิงเกออย่างไร้เรียวแรง ราวกับว่าการได้สดู ดมกลินอาย
ของนางจะทําให้ความรูส้ กึ อันรุม่ ร้อนสงบลงได้

มูช่ ิงเกอเบิกตาโพลง รับร่างของฉินอีเหยาทีเอนตัวเข้า


มาหาเอาไว้ ยังไม่ทนั ได้พดู อะไร ก็ได้ยินเสียงอีกเสียง
17
หนึงทีอยูอ่ ีกฝังดังขึนมา จึงรีบหันไปมอง

ป๋ ายซีเยวียทีนอนอยู่ ยามนีขดตัวเป็ นก้อนอย่างไม่สนใจ


บาดแผลของตนเอง และเอาแก้มถูกบั เสือผ้าบนร่างไม่
หยุด นางหรีตาลงสีหน้าราวกับกําลังมึนเมา

“ชิงเกอ.....” ในตอนนีฉินอีเหยาไม่หลงเหลือความเย็นชา
สูงส่งเฉกเช่นยามปกติอีก แต่นางเหมือนกลายร่างเป็ นงู
ก็ไม่ปาน ต้องการจะเกียวรัดพันอยูบ่ นตัวของมูช่ ิงเกอ

มือเล็กค่อนข้างเย็นคูน่ นั กระทังทําท่าอยากจะล้วงเข้า
ไปในชายเสือของมูช่ ิงเกอ ทําให้มชู่ ิงเกอตกใจรีบตะครุบ
ไว้แล้วดึงมือนางออกมา

18
หากมูช่ ิงเกอไม่รูม้ าก่อนก็คงจะสงสัยว่าทังสองนางเป็ น
อะไร

แต่ตอนนี นางเข้าใจทุกอย่างแล้ว!

คําตอบนัน ทําเอานางยําแย่ไปหมด : ฉินจินซิวไอ้เลว


เอ๊ย! วางยาโดนน้องสาวตัวเอง!

“ชิงเกอ ข้าทรมานมาก” ฉินอีเหยาทีแนบตัวติดกับนาง


ค่อยๆ พูดด้วยนําเสียงทีชวนหลงใหล

มูช่ ิงเกอห่อไหล่ในทันที สีหน้าพลันเปลียนเป็ นดูไม่ได้ขนึ


19
มา

หลังจากทีขมวดคิวคิดสักพัก นางก็เอาขวดกระเบือง
เล็กๆ ขวดหนึงออกจากพืนทีว่าง ของในขวดนีคือยาชิงซิ
งซ่านทีนางเคยปรุงเอาไว้ ถึงแม้วา่ จะไม่ใช่ยาแก้พิษ แต่
อย่างน้อยก็สามารถบรรเทาสถานการณ์ไว้ได้บา้ ง

มูช่ ิงเกอเทยาครึงขวดลงในปากของฉินอีเหยาอย่างไม่
ลังเล ทีเหลืออีกครึงขวดก็เทให้ป๋ายซีเยวีย

บางทีฤทธิของยาชิงซิงซ่านอาจจะช่วยต้านฤทธิยาบาง
ประเภทได้จริงๆ ทังสองนางทีกินยาชิงซิงซ่านเข้าไป ก็ไม่
ได้มีอาการเหมือนเมือสักครูแ่ ล้ว

20
ฉินอีเหยาพิงอยูบ่ นตัวของมูช่ ิงเกออย่างอ่อนแรงท่าทาง
เหมือนกําลังสะลึมสะลือ

อาการของป๋ ายซีเยวียทีนอนอยูอ่ ีกด้านก็ไม่ได้ดีมากนัก


กลินธูปหอมทีนางสูดเข้าไปมากกว่าฉินอีเหยา และยัง
บาดเจ็บภูมิตา้ นทานก็ยิงแย่

เห็นชุดสีขาวของป๋ ายซีเยวียย้อมไปด้วยเลือด มูช่ ิงเกอก็


ขมวดคิว

ตอนแรกนางคิดว่า หลังจากทีกลับจวนไปแล้วค่อยหา
หมอมารักษาป๋ ายซีเยวีย แต่เมือสักครูน่ างขยับตัวเพราะ

21
ฤทธิของยาพิษ เหมือนบาดแผลจะหนักกว่าเดิม ถ้ายือ
ต่อไปเกรงว่าจะ.........

ยุง่ ยาก!

มูช่ ิงเกอแอบด่าในใจคําหนึง แล้วเปิ ดผ้าม่านรถม้า สาย


ตาอันสดใสกําลังมองหาอะไรบางอย่าง

ทันใดนัน นางพลันตาเป็ นประกาย ป้ายโรงหมอแห่ง


หนึงสะท้อนเข้าสูส่ ายตา

“หยุด” นางรีบสัง

22
อาจจะเพราะคําสังก่อนหน้านีของฉินอีเหยา นางกํานัล
และทหารของตําหนักองค์หญิงต่างก็หยุดรถม้าลงอย่าง
เชือฟั ง

นอกรถม้า นางกํานัลคนหนึงเปิ ดผ้าม่านออกมาแล้วเอ่ย


ถาม : “คุณชาย มีอะไรหรือเจ้าคะ?”

มูช่ ิงเกอวางตัวฉินอีเหยาลงอย่างระมัดระวัง พลางพูด


กับนางกํานัลว่า : “บาดแผลของแม่นางป๋ ายนันยือต่อไป
คงไม่ได้ เราพานางไปโรงหมอให้หมอรักษาก่อน ส่วน
พวกเจ้าไปจวนตระกูลมู่ ให้คนในจวนตระกูลส่งรถม้า
ออกมาคันหนึง”

23
“เจ้าค่ะ” นางกํานัลลงมือปฏิบตั ิโดยไร้ซงข้
ึ อสงสัยใดๆ

มูช่ ิงเกอหันกลับไป อุม้ ป๋ ายซีเยวียทีนอนอยูบ่ นรถม้าขึน


มา แล้วลงจากรถม้า สังไม่ให้ใครเข้าใกล้รถม้า จากนันก็
เดินเข้าโรงหมอไป

ในระหว่างทีป๋ ายซีเยวียรักษาตัว คนทีสังให้ไปทีตระกูลมู่


ก็นาํ รถม้าและองครักษ์เร่งตามมาถึงพอดี

ในขณะทีรอ มูช่ ิงเกอก็สงให้


ั หมอจัดเทียบยานําสงบใจ
ให้กบั ป๋ ายซีเยวีย เพือต้านพิษภายในร่างกายของนาง

โชคดีที ฉินจินซิวไม่ได้ใช้ยาพิษทีมีฤทธิรุนแรงมากนัก
24
แต่เป็ นยาพิษทีมีสว่ นช่วยเพิมความสนุกสนานเท่านัน ผู้
ทีโดนยาพิษ หากสามารถทนผ่านจุดทีทรมานทีสุดไปได้
ก็จะค่อยๆ สงบลงเอง ไม่จะเป็ นต้องหาชายหนุ่มมาเป็ น
ยาถอนพิษ

แต่ป๋ายซีเยวียแม้วา่ จะโดนพิษรุนแรงกว่า แต่เพราะ


ความเจ็บปวดจากบาดแผลและฤทธิของยาชิงซินซ่าน
และยาสงบใจ พิษในตัวนันก็ไม่ได้มีอนั ตรายอะไรมาก
แล้ว ตอนทีรถม้าและทหารองครักษ์ของจวนตระกูลมูม่ า
ถึงโรงหมอ นางก็รกั ษาเสร็จแล้วแต่ยงั สลบอยู่

แต่พิษในตัวของฉินอีเหยานันยังไม่สลายไปทังหมด ภาย
ในรถม้ายังคงมีเสียงร้องครางแผ่วเบาชวนให้ผคู้ นจิตใจ
เตลิดเปิ ดเปิ งดังออกมา
25
“คุณชาย” ทหารของตระกูลมูต่ า่ งก็รบี ทําความเคารพ
เมือพบกับมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอพยักหน้ารับ เห็นสาวใช้คนสนิททีชือลวีจือของ


ป๋ ายซีเยวียท่ามกลางคนทีมาจากจวนตระกูลมู่

“ลวีจือ”

ลวีจือรีบเดินมาด้วยนัยน์ตาตืนตระหนก : “ลวีจือคารวะ
คุณชาย ขอบังอาจถามคุณชาย คุณหนูของข้าเป็ นอย่าง
ไรบ้างเจ้าคะ”

26
“นางไม่ระวังจึงบาดเจ็บในสนามล่าสัตว์ ตอนนีไม่เป็ น
อะไรมากแล้ว” มูช่ ิงเกออธิบายผ่านๆ ในใจแอบคิดว่า
นางกํานัลในตําหนักขององค์หญิงฉลาดจริงๆ ตอนไป
แจ้งข่าวทีตระกูลมูย่ งั รูจ้ กั พาตัวลวีจือมาด้วย ทําให้นาง
ไม่ตอ้ งยุง่ ยาก

“คุณหนูได้รบั บาดเจ็บหรือ!” ลวีจือพลันรูส้ กึ ตืนตระหนก


ขึนมา

ปฏิกิรยิ าแบบนี ทําให้มชู่ ิงเกอขมวดคิว

นางบอกว่าไม่ได้เป็ นอะไรมากไม่ใช่หรือ อีกอย่าง เจ้า


นายของนางก็เป็ นสายเหลืองขันกลาง บาดเจ็บเพียงเท่า

27
นีไม่เป็ นอะไรมากกระมัง

พอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของมูช่ ิงเกอเปลียนไป ลวีจือจึง


รีบก้มหน้าลงกล่าวขอโทษ : “ขออภัยด้วยเจ้าค่ะคุณชาย
ลวีจือแค่เป็ นห่วงคุณหนู”

“เอาเถอะ” มูช่ ิงเกอยกมือขึนโบก “เจ้านายของเจ้าบาด


เจ็บทีกระดูก จะเคลือนไหวส่งเดชไม่ได้ เดียวเจ้าก็พา
นางกลับไปรักษาตัวต่อทีจวน หากต้องการสิงใดก็ให้ไป
หาพ่อบ้านแล้วกัน”

“คุณชาย ท่านไม่กลับจวนหรือเจ้าคะ?” ลวีจือถามด้วย


ความสงสัย สายตานันเหมือนกําลังบอกว่า ‘คุณหนูของ

28
ข้าก็บาดเจ็บขนาดนีแล้ว แล้วยังเป็ นเพราะออกไปกับ
ท่านจึงได้รบั บาดเจ็บด้วย ท่านจะทิงนางไว้แบบนีได้
อย่างไร ตนเองยังจะออกไปเทียวเล่นทีนอกจวนอีกรึ?’

“ข้าจะไปไหนต้องรายงานเจ้ารึ?” มูช่ ิงเกอมองนางด้วย


สายตาเย็นเยียบ

สายตานันทําให้ลวีจือตกใจ รูส้ กึ เพียงว่ามีไอเย็นพุง่ เข้า


มาหาตัวนาง จึงรีบส่ายหน้าพลางพูดว่า : “ลวีจือไม่รู ้
กาลเทศะเองเจ้าคะ”

มูช่ ิงเกอแอบยิมเย็นในใจ หันกลับกลับไปสังการทหาร


จวนตระกูลมู่ แล้วเดินออกจากโรงหมอเข้าไปยังรถม้า

29
ขององค์หญิงฉางเล่อ

หลังจากทีนางขึนรถ รถม้าก็คอ่ ยๆ เคลือนออกไปยัง


ตําหนักขององค์หญิง

ลวีจือจ้องรถม้า ความไม่พอใจทังหมดแสดงออกมาทาง
สีหน้า

30
ตอนที 73 ป๋ ายเสียวเจียนทีคิดมากไป

“แม่นางลวีจือยาของแม่นางป๋ ายจัดไว้เรียบร้อยแล้ว
หากไม่มีอะไรแล้ว พวกข้าจะคุม้ ครองแม่นางทัง
สองกลับจวน” ทหารของตระกูลมูเ่ ดินมาเดินหยุดด้าน
31
หลังของลวีจือแล้วพูดขึนนิงๆ

ลวีจือรีบดึงความคิดของตนกลับมา หันหลังกลับไปพูด
พร้อมรอยยิม : “ถ้าเช่นนันก็รบกวนพีชายด้วย”

“มิกล้า ข้าน้อยเพียงทําตามคําสังของคุณชาย” ทหาร


ตอบอย่างมีมารยาท

ป๋ ายซีเยวียถูกส่งตัวขึนรถม้าของจวนแล้วย้อนกลับไปยัง
จวนตระกูลมูโ่ ดยมีทหารของจวนคอยอารักขา ส่วนมูช่ ิง
เกอก็พาฉินอีเหยากลับไปส่งทีตําหนักองค์หญิง เพือ
ป้องกันเรืองไม่คาดฝันทีอาจเกิดขึนได้ ทันทีทีกลับไปถึง
ตําหนัก นางก็สงให้
ั คนอาบนําเย็นให้กบั ฉินอีเหยา แล้วก็

32
ให้นางพักผ่อนอยูใ่ นห้องคนเดียว

จากนันก็สงให้
ั นางกํานัลในตําหนักองค์หญิงให้เอาเก้าอี
โยกตัวหนึงมา และเตรียมนําชาและอาหารเลิศรสไปวาง
ตรงสวนบริเวณเรือนของฉินอีเหยา

ในขณะนันทันทีทีกลับถึงจวน ป๋ ายซีเยวียทีนอนอยูบ่ น
เตียงภายในเรือนของตนเองก็คอ่ ยๆ รูส้ กึ ตัว

ภาพตรงหน้าทีดูคนุ้ เคยซึงต่างจากภาพก่อนหน้าทีตน
เองจะหมดสติลง ทําให้นางตกใจ พอรูส้ กึ ตัวก็รบี จับเสือ
ของตนเองแน่น พอเห็นด้านหลังของลวีจือทีกําลังยุง่ ง่วน
อยูจ่ งึ ค่อยๆ คลายมือออก

33
“ลวีจือ” ป๋ ายซีเยวียเรียกเสียงเบา

ความเจ็บปวดทีแผ่ซา่ นตรงทรวงอก ทําให้ความทรงจํา


อันโหดร้ายก่อนหน้านีของตนเองค่อยๆ กลับมา

เสียงทีดังจากข้างหลัง ทําให้ลวีจือหันกลับไปมอง

เมือเห็นว่าป๋ ายซีเยวียฟื นแล้ว นางจึงรีบวิงเข้าไปอยู่


ข้างๆ พลางพูดอย่างดีใจว่า : “คุณหนู ท่านฟื นแล้วหรือ”

ป๋ ายซีเยวียเม้มปากผงกศีรษะ พลางถามว่า : “ข้ากลับ


มาได้อย่างไร” ท่ามกลางความมึนงง นางจําได้วา่ เพียง
34
ว่าตนเองถูกมูช่ ิงเกออุม้ ขึนรถม้าของตําหนักองค์หญิง
หลังจากนันในความทรงจําของนางก็เต็มไปด้วยความ
สับสนวุน่ วายจนถึงตอนนีก็ยงั รูส้ กึ มึนๆ อยู่

“แน่นอนว่าบ่าวเป็ นคนไปรับท่านกลับมา” ลวีจือพูด


เสียงดัง

หลังจากนันก็พดู ใส่สีตีไข่วา่ : “ท่านไม่รูห้ รอกว่าคุณชาย


ทังๆ ทีรูอ้ ยูแ่ ล้วว่าท่านบาดเจ็บแต่ก็ยงั ทิงท่านไว้ทีโรง
หมอข้างทาง แล้วไปอีอ๋อกับองค์หญิงนัน บ่าวเป็ นคนไป
รับท่านกลับมาจากโรงหมอเองเจ้าค่ะ”

ในสายตาของป๋ ายซีเยวียเย็นชา คําพูดของลวีจือทําให้

35
ความโกธเกรียวในใจของนางกลบความเจ็บปวดของร่าง
กายไปหมด

นางถูกมูช่ ิงเกอทิงไว้ทีโรงหมอข้างทางอย่างไม่ไยดีอย่าง
นันรึ ?!

ไม่ส!ิ

อยูๆ่ ความทรงจําอันเลือนรางบนรถม้าก็กลับมา ป๋ ายซี


เยวียจําได้รางๆ ว่าองค์หญิงฉางเล่อพิงอยูบ่ นตัวของมู่
ชิงเกอด้วยท่าทางทีแปลกๆ ส่วนนางนัน............

ทันใดนัน ใบหน้าของป๋ ายซีเยวียก็กลายเป็ นสีแดงและ


36
เห่อร้อน

นางกลับให้มชู่ ิงเกอเห็นด้านทีน่าอับอายของนาง แม้วา่


จะเป็ นเพราะผลกระทบจากฤทธิยาก็เถิด แต่ถงึ อย่างไร
นางเป็ นผูห้ ญิงและขนาดนางทําท่าทีแบบนันต่อหน้ามู่
ชิงเกอแต่เขาก็ยงั ทิงตนเองเอาไว้ แล้วกระโจนเข้าสูอ่ อ้ ม
กอดขององค์หญิงฉางเล่องันรึ?

ทันใดนันแก้มสองข้างอันแดงกําของนางก็เปลียนเป็ น
ขาวซีดและดูน่ากลัว

เขาเห็นร่างกายของนาง........เห็นแล้วแท้ๆ หรือว่าไม่ควร
จะแสดงความรับผิดชอบหรือ?

37
สายตาอันเย็นยะเยือกพลันมีเปลวไฟแห่งความโกรธ
เกรียวปะทุขนึ

“คุณหนูทา่ นเป็ นอะไรหรือว่าจะรูส้ กึ ไม่คอ่ ยสบายอีก


ทําไมใบหน้าเดียวแดงเดียวซีดเช่นนี ให้บา่ วไปตามหมอ
ให้ทา่ นอีกรอบนะเจ้าคะ” ลวีจือรีบหันหลังกลับไป

“เจ้าหยุดนะ!” แต่ความเยียบเย็นของป๋ ายซีเยวียหยุดยัง


การกระทําของลวีจือเอาไว้

“คุณหนู?” ลวีจือหันกลับมามองป๋ ายซีเยวียทีนอนเหงือ


โชกบนเตียงอย่างไม่เข้าใจ

38
ป๋ ายซีเยวียมองนางด้วยสายตาน่ากลัว พลางกัดฟั นพูด
ว่า : “เจ้าเล่าเรืองทีไปรับข้ามาให้หมด ห้ามปิ ดบังแม้แต่
น้อย”

ลวีจือตกใจ คิดว่าป๋ ายซีเยวียรูใ้ นสิงทีตนเองปกปิ ดเอาไว้


จึงรีบคุกเข่าลงพลางพูดว่า : “คุณหนูใจเย็นๆ ก่อนเจ้า
ค่ะ ลวีจือไม่ได้ตงใจจะปิ
ั ดบังแม้แต่นอ้ ย ลวีจือแค่โมโห
คุณชายทีรูอ้ ยูแ่ ก่ใจว่าคุณหนูบาดเจ็บ แต่ก็ยงั มีกะจิตกะ
ใจไปเทียวเล่นข้างนอกจึง.........”

ป๋ ายซีเยวียฟั งแล้วขมวดคิว แต่เดาออกว่าลวีจือเหมือน


จะกําลังเข้าใจอะไรผิด

39
เห็นเจ้านายขมวดคิวลวีจือยิงตืนตระหนก รีบพูดว่า :
“คือ.......คือคุณชายพาคุณหนูเข้าไปรักษาตัวทีโรงหมอ
แล้วสังคนให้มาเรียกทหารและบ่าวรับใช้ในจวนให้ไปที
โรงหมอด้วย หลังจากทีคุณหนูรกั ษาตัวเสร็จเรียบร้อย
แล้ว คุณชายก็สงให้
ั บา่ วดูแลคุณหนูให้ดีและสังให้เหล่า
ทหารไปรับยา จากนันให้พาตัวคุณหนูกลับมา”

“สิงทีข้าอยากรูไ้ ม่ใช่เรืองนี” ป๋ ายซีเยวียตัดบทคําพูดของ


ลวีจือในทันที นางไม่สนใจสักนิดว่ามูช่ ิงเกอจะจัดการ
เรืองนีได้รอบคอบเพียงใด แต่เรืองทีเขาทิงนางนันเป็ น
ความจริง

“ถ้าอย่างนัน.......แล้วคุณหนูอยากรูเ้ รืองอะไรหรือเจ้า
40
คะ?” ใบหน้าของลวีจือเต็มไปด้วยความสงสัย ป๋ ายซีเย
วียหรีตาพูดเสียงแข็งว่า : “ตอนเจ้าไปถึงสถานพยาบาล
เจ้าเห็นองค์หญิงฉางเล่อหรือไม่”

เอ่อ......

ลวีจืออึง เหมือนตามความคิดของเจ้านายตนเองไม่ทนั
แต่นางก็ยงั ตอบตามความเป็ นจริงว่า : “บ่าวไม่เห็นองค์
หญิง แต่เห็นรถม้าของตําหนักองค์หญิงจอดอยูท่ ีนอก
ประตูโรงหมอ รอบๆรถม้ามีนางกํานัลและทหารของจวน
องค์หญิงรายล้อมอยู”่

“หลังจากทีมูช่ ิงเกอออกจากโรงหมอก็ไปขึนรถม้าของ

41
ตําหนักองค์หญิงอย่างนันหรือ?” ป๋ ายซีเยวียถามขึนอีก
ครัง

ลวีจือพยักหน้าอย่างแรง : “บ่าวเห็นเองกับตาว่าคุณชาย
ขึนรถม้าของตําหนักองค์หญิงไป พอเขาขึนรถ รถม้าก็
ออกไปในทันที”

ใบหน้าของป๋ ายซีเยวียดูโหดเ**◌้ยมเป็ นทีสุดและไม่


สามารถสะกดความโกรธเกลียดในใจเอาไว้ได้

‘มูช่ ิงเกอ เจ้ากล้าทํากับข้าถึงเพียงนีเลยรึ ตอนนัน ท่าน


พ่อของข้าต้องมาสินชีพในสนามรบเพราะช่วยชีวิตปู่ ของ
เจ้า เพราะการตายของท่านพ่อทําให้ทา่ นแม่สนหวั
ิ งและ

42
ตายตามไป ข้าทีควรจะเป็ นคุณหนูผสู้ งู ศักดิกลับต้องมา
เป็ นเพียงแค่เด็กกําพร้าทีอาศัยอยูใ่ นจวนตระกูลมู่ ตระกู
ลมูต่ ิดหนีข้าเท่าไหร่ตอ่ เท่าไหร่แล้ว และตอนนีข้าและ
องค์หญิงฉางเล่อโดนยาพิษพร้อมกัน และข้าก็ยงั บาด
เจ็บโดนยาพิษหนักกว่านาง แต่เจ้ากลับทิงข้าไป ไม่ยอม
ช่วยข้าคิดแต่จะไปช่วยองค์หญิงผูส้ งู ศักดิคนนันอย่าง
นันหรือ?’ อยูๆ่ ภายในใจของป๋ ายซีเยวียก็รอ้ นเป็ นไฟ
และทําให้นางรูส้ กึ อ่อนแรงในทันที ความรูส้ กึ ตืน
ตระหนกทังสองครังทีผ่านมา ทําให้นยั น์ตาของนางเต็ม
ไปด้วยความสินหวัง

“หึๆๆ....” ป๋ ายซีเยวียหัวเราะเสียงเย็นด้วยความทุกข์
ระทม นางรูอ้ ยูแ่ ล้วว่าพิษนันยังไม่ได้รบั การถอน

43
ยาพิษประเภทนัน หากไม่ได้......กับใครสักคน แล้วจะ
ถอนได้อย่างไร หากนางปล่อยให้นานต่อไปจนสติ
สัมปชัญญะถูกทําลาย นางควรจะยอมตายหรือหาใคร
สักคนมาแก้พิษดี

ความโกรธเกลียดและความหมดหวังภายในจิตใจ ทําให้
ร่างกายของป๋ ายซีเยวียแผ่กลินอายน่าหวาดผวาออกมา
ทําให้ลวีจือตกใจจนต้องถอยหลังไปสองก้าวอย่างอดไม่
ได้

ในความเป็ นจริงแล้ว ป๋ ายซีเยวียไม่รูว้ า่ ความผิดปกติใน


ร่างกายตอนนีเป็ นเพียงอาการปั นป่ วนสุดท้ายก่อนที
ฤทธิยาจะสลายไป หากนางอดทนและผ่านมันไปได้ก็จะ
ไม่เป็ นอะไร
44
นางคิดแต่วา่ ยาพิษทีตนเองโดนนันเป็ นยาพิษทีมีฤทธิ
ร้ายแรง ผลลัพธ์สดุ ท้ายหากไม่ใช่ตายก็ตอ้ งเสียตัวให้กบั
คนอืน มีแต่ยาแบบนีเท่านันจึงจะเข้ากับนิสยั อันโหดร้าย
อํามหิตของรัชทายาทอย่างฉินจินซิว

ไม่ ! นางไม่อยากตาย !

ยังไม่ทนั ได้ทวงทุกอย่างทีเป็ นของนางคืน นางจะตายได้


อย่างไร!

ในสายตาของป๋ ายซีเยวียมีความไม่จาํ นนเกิดขึน

45
ทว่า______

หากไม่อยากตาย นางต้องให้ใครสักคนมาแก้พิษให้กบั
นาง

*เสียวเจียน หมายถึง ตําช้า น่ารังเกียจ

46
ตอนที 74 ฝ่ าบาทช่วยหม่อมฉันด้วย

แต่วา่ -------

หากไม่อยากตาย นางจะหาใครมาถอนพิษให้เล่า?

47
ในแววตาของป๋ ายซีเยวียเต็มไปด้วยความสับสนและ
ทุกข์ใจ สําหรับหญิงสาวแล้วความบริสทุ ธินันสําคัญ
มากเพียงใด แต่ตอนนีเพือต้องการมีชีวิตอยูต่ อ่ ไป นาง
จําเป็ นต้องแลกด้วยสิงนีอย่างนันหรือ?

“เป็ นเพราะเจ้า! เป็ นพระเจ้า! ทีทําให้ขา้ ต้องเป็ นแบบ


นี!” ป๋ ายซีเยวียกรีดร้องด้วยความโกรธ แม้วา่ แผลตรง
หน้าอกจะเจ็บเพียงใดแต่นางก็ไม่รูส้ กึ ตัวเลยสักนิด

หากมูช่ ิงเกอยอมช่วยนาง ถึงแม้วา่ ในภายหลังนางจะ


ต้องเจ็บปวดหรือต้องจําทน แต่ก็ถือว่าเป็ นตัวเลือกทีพอ
ฝื นทําใจยอมรับได้

48
แต่มชู่ ิงเกอกลับทิงนางแล้วเลือกช่วยชีวิตองค์หญิงฉาง
เล่อ

แล้วนางเล่า?

นางควรจะหาใครมาช่วยดี? เด็กรับใช้ภายในจวน?
องครักษ์? หรือว่าขีเหล้าข้างถนน?

พอคิดถึงความเป็ นไปได้ทงหมดที
ั มี ความโกรธเกลียดที
นางมีให้กบั มูช่ ิงเกอก็พงุ่ ทะลุถงึ ขีดสุดอย่างทนไม่ได้

มูช่ ิงเกอ เจ้าคอยดูนะ ข้าจะทําให้เจ้าเสียใจเหมือนกับที


เจ้าทํากับข้าในวันนี
49
“คุณหนู....คุณหนู....” ท่าทางแบบนีของป๋ ายซีเยวียทํา
ให้ลวีจือตกใจจนทําอะไรไม่ถกู และไม่กล้าเข้าใกล้นาง

“ใส่เสือผ้าให้ขา้ ข้าจะออกจากจวน” ป๋ ายซีเยวียพลันสัง


อย่างเรียบนิง

แต่ แม้ทา่ ทางของนางจะดูเรียบเฉย แต่ภายในใจนัน


ร้อนรนถึงขีดสุด

นางจะต้องถอนพิษก่อนทีมันจะแสดงอาการอย่างเต็มที
และเรืองนีจะให้ใครรูไ้ ม่ได้ วิธีเดียวทีทําได้คือออกไปหา
คนมาถอนพิษ นอกจากนันหลังจากทีถอนพิษสําเร็จแล้ว

50
จะต้องฆ่าคนผูน้ นทิ
ั งเสีย !

หลังจากทีคิดแผนการไว้ในใจเสร็จเรียบร้อยแล้ว นัยน์
ตาของป๋ ายซีเยวียก็เต็มไปด้วยความเยือกเย็นและไอ
สังหาร

“คุณหนูทา่ นกําลังบาดเจ็บ ในเวลาแบบนีจะออกจาก


จวนได้อย่างไร?” ลวีจือพูดเตือน

“สังให้เจ้าไปเตรียมเจ้าก็ไปเตรียม จะมาพูดมากความ
เช่นนีเพืออะไร” ป๋ ายซีเยวียพูดด้วยโทสะ เวลาของนาง
เหลือน้อยมากแล้ว แต่นางนีก็กลับยังถามไม่หยุดจน
อยากจะซัดลงไปสักฝ่ ามือหนึง ตีนางให้ตายเสียจะได้

51
สินเรืองกันไป

ลวีจือโดนดุจนตืนตระหนก จึงรีบไปเตรียมการด้วยใบ
หน้าทีขาวซีด

ป๋ ายซีเยวียต่อหน้าผูอ้ ืนนันดูออ่ นโยนบอบบาง แต่มี


เพียงนางผูเ้ ดียวเท่านันทีเป็ นสาวใช้คนสนิทจึงรูน้ ิสยั ที
แท้จริงของเจ้านาย

ป๋ ายซีเยวียสวมชุดขาวบริสทุ ธิเสร็จเรียบร้อยภายในเวลา
อันสันและยังสวมเสือคลุมเพิมไปด้วยหนึงตัว

หลังจากทีเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วป๋ ายซีเยวีย
52
ก็ตอ้ งอดทนต่อความเจ็บปวดจากแผลตรงหน้าอกและ
ความปั นป่ วนทีแผ่ลามไปตามแขนขา พร้อมเตือนลวีจือ
ว่า : “เจ้าไปอยูใ่ นห้องห้ามผูใ้ ดเข้ามาโดยเด็ดขาด หากมี
คนมาถาม ให้บอกไปว่าข้าพักผ่อนอยูใ่ นห้องห้าม
รบกวน”

ลวีจือรีบพยักหน้า

ป๋ ายซีเยวียหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไป

ด้วยพลังระดับนางแล้ว จะไม่ให้ถกู จับได้วา่ ออกจาก


จวนตระกูลมูน่ นไม่
ั ใช่เรืองยาก อีกอย่างนางคุน้ เคยกับ
การเปลียนเวรยามและชีวิตประจําวันของจวนตระกูลมูด่ ี

53
ป๋ ายซีเยวียออกจากจวนด้วยความรูส้ กึ ไม่ยินยอมและ
ความโกรธแค้น แต่ในใจก็มีความกลัวอยู่

นางควรจะไปหาใคร? ไปหาใครดีละ่ ?

ทันใดนันในใจก็รูส้ กึ ไร้ทีพึงพิงราวกับว่าในโลกใบนีมีนาง
เพียงคนเดียวทีล่องลอยไปมาอย่างโดดเดียว ไร้ซงที
ึ พึง
และไม่มีใครสนใจ

ผูค้ นทีอยูต่ ามท้องถนนนันไม่ได้มีสว่ นเกียวข้องกับนาง


เลยแม้แต่นอ้ ย

54
ไอ้พวกผูช้ ายแปลกหน้าทีน่ารังเกียจพวกนัน ทําให้นาง
รูส้ กึ อยากจะอาเจียน แล้วนางจะยอมให้ไอ้คนธรรมดาๆ
พวกนี......ได้อย่างไร

ความรูส้ กึ ไม่สบายในร่างกายค่อยๆ สงบลง แต่วา่ ป๋ ายซี


เยวียทีจมอยูใ่ นความโกรธเกลียดอันมากมายนันไม่ได้
สังเกตถึงสิงนี ในตอนนีนางคิดอยูอ่ ย่างเดียวว่าหากหา
คนมาถอนพิษให้ไม่ได้นางก็ตอ้ งตายไปอย่างน่าเวทนา

ท่ามกลางความมึนงงป๋ ายซีเยวียได้ชนเข้ากับคนผูห้ นึง

ร่างกายอ่อนช้อยดังกิงหลิวกระเด็นไปข้างหลังและมือ
ใหญ่ขา้ งหนึงก็คว้าเอวของนางเอาไว้ได้ทนั เวลา พร้อม

55
ดึงนางกลับมา

ป๋ ายซีเยวียเงยหน้าขึนมอง ในขณะทีเห็นใบหน้าของคน
ทีโอบตนเองไว้ชดั เจนแล้วนางก็พดู ด้วยความตืนเต้นราว
กับว่าคว้าฟางช่วยชีวิตเอาไว้ได้ : “รุย่ อ๋อง ช่วยหม่อมฉัน
ด้วย!”

ฉินจินห้าวทีเพิงจะถูกปล่อยออกมาจากอารามหลวง
ขมวดคิว ใบหน้าอันเย็นชานันมีความสงสัยอยู่

เขาถูกลงโทษให้อยูใ่ นอารามหลวงเป็ นเวลาสามเดือน


แต่เพราะความพยายามของเสด็จแม่ทาํ ให้เขาถูกปล่อย
ออกมาก่อนเวลา ความทุกข์ใจก่อนหน้านีทําให้เขารูส้ กึ

56
จิตใจยําแย่เป็ นอย่างมาก ขณะทีกําลังเตรียมออกไปเดิน
เล่นผ่อนคลายกับผูต้ ิดตามสองสามคน กลับไม่คิดว่าจะ
พบกับป๋ ายซีเยวียทีอาศัยอยูใ่ นจวนตระกูลมูเ่ ข้า

และสิงทีทําให้เขาคาดไม่ถงึ ก็คือคําแรกทีทังสองพบกัน
คือคําร้องขอความช่วยเหลือจากนาง

“แม่นางป๋ าย เจ้าเป็ นอะไรไป?” ฉินจินห้าวจึงถามนิงๆ

ใบหน้าของคนทีนางคิดถึงทังวันทังคืนมาปรากฏกายอยู่
ตรงหน้า ทําให้นางรูส้ กึ ว่าทังหมดนีเป็ นชะตาฟ้าลิขิต
เทพบุตรของนางถูกลิขิตไว้ให้เป็ นรุย่ อ๋อง

57
ในขณะทีร่างกายและความคิดกําลังอดทนต่อความเจ็บ
ปวด นางก็อดไม่ได้ทีจะพุง่ เข้าไปยังอ้อมกอดของฉินจิน
ห้าวและกอดเอวเขาไว้แน่น ไม่สนใจเลยว่ากําลังยืนอยู่
บนถนนใหญ่

ท่าทางใจกล้าของป๋ ายซีเยวียทําให้สายตาของฉินจิน
ห้าวเย็นชาเล็กน้อย

เขาเพิงจะถูกปล่อยออกมา ยังไม่อยากมีข่าวเสียๆ หายๆ


อะไรอีก

เขาส่งสายตาให้กบั ผูต้ ิดตามทีอยูข่ า้ งหลังแล้วหลังจากที


ทังหมดเดินออกไป เขาก็คอ่ ยๆดันตัวป๋ ายซีเยวียออก

58
พยายามใช้นาเสี
ํ ยงทีอ่อนโยนถามว่า : “ข้างหน้ามีรา้ น
นําชา ข้าให้คนไปจองแล้ว แม่นางป๋ ายไปกับข้าไหม ดืม
ชาก่อนให้สงบลงแล้วค่อยเล่าว่าเกิดอะไรขึนก็ยงั ไม่สาย
หากมีอะไรทีข้าช่วยได้ ข้าก็จะไม่ปฏิเสธ”

ในเวลาแบบนีป๋ ายซีเยวียจะปฏิเสธได้อย่างไรกันเล่า?

รุย่ อ๋องคือยาถอนพิษชันดีทีสวรรค์ประทานให้กบั นาง ไม่


ว่าอย่างไรนางก็จะไม่ปล่อยให้ผา่ นไป

อีกอย่าง นางมันใจว่า หากนางมีความสัมพันธ์ฉนั สามี


ภรรยากับรุย่ อ๋อง ตําแหน่งฮองเฮาแห่งแคว้นฉินใน
อนาคตต้องเป็ นของนางแน่!

59
ถึงตอนนันไม่วา่ จะจวนตระกูลมู่ มูช่ ิงเกอและรัชทายาท
ผูน้ นนางก็
ั จะแก้แค้นให้หมด ให้พวกมันต้องร้องขอชีวิต
อย่างเจ็บปวดต่อหน้านาง!

ป๋ ายซีเยวียเดินตามฉินจินห้าวไปยังร้านนําชา และเข้า
ไปยังห้องพิเศษ

ในขณะนีเอง นางก็รูส้ กึ ว่าร่างกายของตนเองกําลังเริม


สันและทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว

ในขณะทีฉินจินห้าวรินนําชา นางก็รบี พูดว่า : “ฝ่ าบาท


หม่อมฉันมีเรืองจะทูล ให้คนอืนออกไปก่อนได้หรือไม่เพ

60
คะ?”

ฉินจินห้าวหยุดทุกการกระทํา เงยหน้าขึนมองนาง เห็น


สายตาของนางนันดูตืนตระหนกเป็ นอย่างมาก จึงพูด
กับผูต้ ิดตามว่า : “ถ้าอย่างนันพวกเจ้าออกไปก่อน”

แน่นอนว่าผูต้ ิดตามไม่กล้าสงสัยอะไรและต่างก็เดินออก
ไป

ภายในห้องเหลือเพียงแค่ฉินจินห้าวและป๋ ายซีเยวียแค่
สองคน

“แม่นางป๋ ายมีอะไร ตอนนีสามารถพูดได้แล้ว” เขาพูด


61
ใช่ ! ไม่มีเวลาแล้ว

ป๋ ายซีเยวียตัวสันยืนขึนมา นางเม้มปากสีชมพู ดวงตา


งดงามดุจสายนํามองฉินจินห้าวแล้วอยูๆ่ ก็พลันปลด
เสือคุมของตนเองออก ทิงลงกับพืน

ฉินจินห้าวทําหน้าเคร่ง ใบหน้าขมึงตึงพลางถามว่า “แม่


นางป๋ าย เหตุใดจึงทําเช่นนี?”

นําตาของป๋ ายซีเยวียไหลออกจากดวงตาทังสองข้าง
นางพุง่ เข้าหาอ้อมกอดของฉินจินห้าวอย่างไม่สนใจอะไร
อีก และกอดเขาแน่น แนบใบหน้ากับหน้าอกของเขาจน

62
ได้ยินเสียงหัวใจเต้น พลางพูดด้วยนําเสียงอันสันเครือ
ว่า : “ฝ่ าบาทได้โปรดช่วยซีเยวียด้วย ทรงต้องการซีเยวีย
ด้วยเถอะ!”

63
ตอนที 75 หนุ่มน้อยผูห้ ล่อเหลาหยอกล้อหญิงงาม

ณ ตําหนักองค์หญิงฉางเล่อ มูช่ ิงเกอเฝ้าจนล่วงเวลา


พลบคํา แต่ภายในห้องก็ยงั คงเงียบสงบไร้วีแวว

“เสียวเกอเอ๋อร์ ฤทธิยาพิษในร่างกายขององค์หญิงหาย
ไปหมดแล้ว ในตอนนียังคงสลบอยู”่ อยูๆ่ เสียงอันเลว
ร้ายก็ดงั ขึนในหัวของมูช่ ิงเกออย่างคาดไม่ถงึ

ทําให้มชู่ ิงเกอทีกําลังดืมชาเกือบจะสําลักตายเพราะนํา
64
ชาในปาก

“แค่กๆๆ.....” เวรเอ๊ย! อย่าทําให้ตกใจได้ไหม!

หลังจากลมหายใจกลับเป็ นปกติ มูช่ ิงเกอสีหน้าดํามืด


ลุกขึนจากเก้าอีโยก หันหลังกลับไปมองห้องนอนทาง
ด้านหลัง สําหรับคําพูดของนายตัวประหลาดนันนางไม่
นึกสงสัย

เพราะถึงแม้วา่ เขาจะไม่บอก คํานวณดูจากเวลาแล้ว


ฤทธิของยานันก็ควรจะสลายไปได้แล้ว

ถ้าอย่างนันก็ไม่มีเหตุผลทีนางจะอยูต่ อ่
65
มูช่ ิงเกอปั ดชุดทีไม่มีฝนุ่ ผงติดอยูอ่ ย่างสง่างาม แล้วก็
เดินออกไป ผมสีดาํ ปลิวไปตามสายลมอย่างเป็ น
ธรรมชาติ

เพิงก้าวขาออกจากตําหนักองค์หญิงฉางเล่อ สายตาที
มองบรรยากาศนอกตําหนักนันสะท้อนความมืดมิดอยู่
ชัวขณะแล้วสายตานางก็คอ่ ยกลับไปเป็ นเหมือนเดิม

แต่ภาพตรงหน้าไม่ใช่วิวทิวทัศน์เมือครู ่

นางไม่ได้ยืนอยูบ่ นถนนหน้าตําหนักองค์หญิงอีก แต่


กลับยืนอยูก่ ลางแผ่นดินเซียน

66
รอบๆ นันมีแต่ไอเซียนบางเบาเป็ นหมอกสีขาวดุจเส้น
ด้าย

รอบๆ ตัวนาง เต็มไปด้วยต้นสาลีทีงดงามไร้ทีติ ต้นสาลี


นันมีดอกสีขาวดังหิมะ งดงามจนยากละสายตา

มูช่ ิงเกอในชุดสีแดง ยืนอยูต่ รงหน้าต้นสาลี เย้ายวนราว


กับเลือดทีหยดลงมาจากบนฟากฟ้า มีความน่าหลงใหล
ดึงดูดบางอย่างอยู่

บรรยากาศรอบข้าง เห็นต้นสาลีมากมายทีไม่มีทีสินสุด
บนท้องฟ้าทีไกลออกไปถูกหมอกสีขาวปกคลุม บดบัง

67
ภาพทิวทัศน์ในทีอันไกลพ้น

ทันใดนัน เหล่าต้นสาลีตรงหน้านางพลันแยกออกเป็ น
สองฝัง เผยให้เห็นเส้นทางตรงสายหนึง

มูช่ ิงเกอขมวดคิว เดินเข้าไปด้วยอารมณ์สงบนิง

พอนางเดินเข้าไป ต้นสาลีทีอยูข่ า้ งหลังตัวนางก็กลับมา


ประสานเข้ากันดังเดิม ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึน

ยิงเดินลึกเข้าไป ต้นสาลีสองข้างก็ยงเปล่
ิ งประกายเป็ นสี
ขาว และมีกลินหอมแปลกประหลาดจางๆ บางอย่างโชย
มา มูช่ ิงเกอเดินไปตามทาง ได้ยินเสียงนําไหลดังลอยมา
68
เข้าหู

แม้จะได้ยินเสียง ฝี เท้าของมูช่ ิงเกอก็ไม่ได้หยุดหรือเดิน


ช้าลงเลย

ในทีสุดปลายทางก็อยูต่ รงหน้า

มูช่ ิงเกอเห็นบ่อนําแห่งหนึงทีห้อมล้อมไปต้นสาลี

บนผิวบ่อ มีหมอกสีขาวลอยอยูใ่ นนําและยังมีฟองนํา


เล็กๆ ผุดออกมา ชายคนหนึงยืนหันหลังให้นาง เส้นผมสี
ดําทีเปี ยกปอน ลอยอยูบ่ นผิวนําเกียวพันกันไปมา มีไอ
นําจากความร้อนลอยวนเวียนอยู่ ในบ่อ มีคลืนนําบางๆ
69
ค่อยๆ ไหลผ่านกล้ามเนืออันตึงแน่นของเขา ร่างกาย
เหยียดตรงสูงสง่า ไหล่กว้างกํายํา ทุกทีทีกวาดตามองไป
ดูงดงามราวกับฟ้าบันดาล หยดนําเป็ นประกายไหลลืน
ลงไปตามร่างกายอันสมบูรณ์แบบของเขา ราวฟ้าปั น
แต่งร่างกายอันงดงามของเขาออกมา ทุกส่วนดูน่าดึงดูด
เย้ายวนเป็ นทีสุด!

มูช่ ิงเกอมองจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก ร่างกายทีเหมือน


มีฮอร์โมนความเป็ นชายอันร้อนแรงนัน ทําให้รมิ ฝี ปาก
ของนางเหมือนมีอะไรบางอย่างไหลออกมา

กล้าสาบานกับทุกคนได้วา่ ในตอนทีนางเดินเข้ามาตาม
ทางนัน คิดอย่างไรก็คิดไม่ถงึ ว่า จะมีภาพอันงดงามยวน
ใจเช่นนีกําลังรอนางอยู่
70
อยูๆ่ นําในบ่อก็กระเพือมเป็ นระลอกคลืน ชายหนุ่มคน
นันหมุนกลับมาอย่างสง่างาม ปรากฏใบหน้าอันงดงาม
ราวรูปสลัก คิวตาและริมฝี ปากสีแดง ดูสมบูรณ์แบบเป็ น
ทีสุด ทําให้อดไม่ได้ทีจะอุทานออกมา ในโลกมนุษย์และ
บนสวรรค์ก็ยากจะหาใครมาเทียบเทียมได้

ปากของเขาเป็ นสีแดงน่าดึงดูด แม้สีจะไม่ได้เข้มมากนัก


แต่ก็ดเู ปี ยมเสน่ห ์

ต้นสาลีทีเป็ นประกายสีขาวรอบๆ เมือเทียบกับริมฝี ปาก


ของเขาแล้วพลันดูสญ
ู เสียความเปล่งประกายไปเลย

71
นัยน์ตาอันลึกลํานันดูลางเลือนดังภาพมายา ราวกับถูก
ประกายแสงสีนาตาลปกคลุ
ํ มอยู่ แววตาอันตรายผสม
ผสานกับความเย้ายวนกลายเป็ นสีสนั ทีดูแปลกตา

นีไม่ใช่ครังแรกทีมูช่ ิงเกอเห็นหน้าตานายตัวประหลาด
จอมชัวร้ายนี แต่ ไม่มีครังไหนเลยทีตกตะลึงมากถึง
เพียงนี

บางที จากการพบกันหลายครังทีผ่านมา สิงทีทําให้นาง


จดจําได้มากทีสุดคือความแข็งแกร่งอันน่าหวาดหวัน
ของเขา

“มองพอหรือยัง?” เห็นท่าทางอึงงันของนาง ทําให้ความ

72
ไม่พอใจทีมีมานานของซือมัว ค่อยๆ ดีขนบ้
ึ างในทีสุด

เมือก่อน หากมีผหู้ ญิงกล้ามองเขาอย่างโอหังเช่นนี คง


จะโดนเขาปั นจนเป็ นเศษธุลีไปแล้ว ต่างจากตอนนีทีมูช่ ิง
เกอมองเขาเช่นนี เขากลับไม่ได้รูส้ กึ โกรธเลยแม้แต่นอ้ ย
ในใจกลับรูส้ กึ ได้ใจและชอบมากเวลาเห็นเสียวเกอเอ๋อร์
ตกตะลึงในความงามของเขา

‘อืม ดูเหมือนว่า นิสยั ของเขาจะดีขนกว่


ึ าแต่ก่อนมาก’
ซือมัวค่อยๆ ยกยิมมุมปาก

น่าเสียดาย ทีกูหยาและกูเย่ถกู สังให้แยกไปก่อนไม่ได้อยู่


ตรงนี เพราะหากพวกเขารับรูไ้ ด้ถงึ ความในใจของเจ้า

73
นายตนเอง ก็คงจะเอามือปิ ดหน้า แล้วพูดอย่างสินหวัง
ว่า : “ท่านประมุขนิสยั ของท่านไม่ได้ดีไปกว่าเดิมหรอก
แต่ตา่ งกันทีตัวบุคคลต่างหาก! ไม่อย่างนัน ท่านลอง
เปลียนเป็ นใครอีกคนมาทําแบบนีดูสิ รับรองเลยว่าท่าน
จะค่อยๆ ต้มคนๆ นันจนเปื อยแน่”

กลินหอมเข้มข้นดังสุรา เสียงทุม้ ทีแฝงความแข็งแกร่ง


ปลุกให้สติของมูช่ ิงเกอกลับคืนมา

นางกะพริบตา ไม่มีทา่ ทีเขินอายเลยแม้แต่นอ้ ย : “เจ้า


พาตัวข้ามาทีนี ก็เพือจะให้ขา้ มาดูไม่ใช่หรือ? เจ้าใจ
กว้างถึงเพียงนี ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร?” ระหว่างทีพูด
ความตกตะลึงจากความงามก็คอ่ ยๆ ลดลง กลับคืนสู่
ความนิงสงบดังเดิม
74
พูดจบนางก็มองไปรอบๆ

บริเวณข้างบ่อนําร้อน จัดวางโต๊ะเตียๆ และเบาะรองนัง


อยูต่ รงมุมหนึง บนโต๊ะ ยังวางจานผลไม้สดและกาสุราสี
เขียวดังหยกไว้กาหนึงด้วย

นางไม่คิดอะไรก็สาวเท้าเดินเข้าไปและสะบัดแขนเสือนัง
ลงอย่างสบายอกสบายใจ ยกกาสุราขึนดืมไปอึกหนึง
ดวงตาทังสองหรีตาและพูดด้วยความมึนเมาว่า : “สุราดี
จริงๆ บรรยากาศงาม คนงาม เหล้างาม ไม่เลว ไม่เลว!”

ท่าทางขีเกียจและดูมีเสน่หอ์ นั ชัวร้ายแบบนัน เหมือนกับ

75
หนุ่มน้อยผูห้ ล่อเหลา กําลังหยอกล้ออยูก่ บั สาว
งามอย่างนัน.........

76
ตอนที 76 คุณชายเป็ นคนช่างโน้มน้าว

ซือมัวมองนาง นัยน์ตาสีนาตาลมื
ํ ดครึมลง เหมือนมี
อะไรกําลังเคลือนตัวรอปะทุอยูใ่ นมุมมืด

“ถือว่าเจ้าฉลาด รูว้ า่ ข้าเป็ นคนพาเจ้ามาทีนี” ตังแต่แรก


จนถึงตอนนี ไม่เห็นว่านางจะอึดอัดขัดเขินอะไรเลยสัก
นิด

มูช่ ิงเกอยักคิว ปลายนิวดังต้นหอมขาวหยิบผลไม้ผล


77
หนึงทีไม่รูว้ า่ ชืออะไรมาจ่อทีปากแล้วกัดลงไปแรงๆ คํา
หนึง

ผลไม้นนเมื
ั อเข้าปากก็ละลายทันที พอนําหวานสดชืน
จากผลไม้เข้าสูร่ า่ งกาย ทําให้รูส้ กึ อบอุน่ มากขึน ราวกับ
ว่า พลังทีนางฝึ กฝนมานันสันไหวเล็กน้อย

นางอึง มองผลไม้ในมือด้วยความแปลกใจ และตอบคํา


ถามของซือมัว : “ในบรรดาคนทีข้ารูจ้ กั คนเดียวทีมี
ความสามารถมากถึงขนาดพาข้ามาจากถนนหน้า
ตําหนักองค์หญิงมาถึงทีนีได้ มีแค่เจ้าผูเ้ ดียว”

ริมฝี ปากอันงดงามของเขา มีรอยยิมอีกครังเพราะนาง

78
มูช่ ิงเกอไม่ได้มองตัวเอกในบ่อนําอีกต่อไป แต่กดั ผลไม้
สดในมืออีกคํา

ความรูส้ กึ นันกลับมาอีกครัง มูช่ ิงเกอแปลกใจ ถามเขา


ตรงๆ ว่า : “นีมันผลไม้อะไร” พูดพลางมองไปรอบๆ หรี
ตาถามอีกว่า : “แล้วทีนีทีไหนกัน?”

ทุกอย่างในนีต่างทําให้นางรูส้ กึ ว่ามันไม่สมจริง เหมือนที


นีไม่ใช่หลินชวนอย่างนันล่ะ

แต่วา่ ถ้าไม่ใช่หลินชวน แล้วจะเป็ นทีไหนได้

79
หรือว่า คุณตัวประหลาดผูน้ ี จะมีความสามารถใน
การพาตัวนางเข้าไปยังพืนทีว่างอีกแห่ง

คําถามของมูช่ ิงเกอ ซือมัวไม่ได้รูส้ กึ รําคาญแม้แต่นอ้ ย

เขาตอบในขณะทีจุ่มตัวลงในนํา : “ผลไม้ในมือเจ้าคือผล
ไม้แห่งเวทพลัง ในเนือผลไม้บรรจุพลังจิตอยู่ คนทีอยูใ่ น
ระดับทีตํากว่าสายม่วงกินเข้าไปแล้วสามารถทดแทน
พลังจิตทีสูญเสียไปได้ ผลไม้อืนๆ ทีอยูต่ รงหน้าเจ้าก็มี
ฤทธิเช่นเดียวกัน และสถานทีนี ถือว่าเป็ นทีของข้า หาก
ข้าไม่อนุญาต ไม่วา่ ใครก็ไม่สามารถเข้ามาได้”

คําพูดของซือมัว ทําให้มชู่ ิงเกออึงเป็ นทีสุด

80
ในใจนันรูส้ กึ ประหลาดใจมาก ราวกับว่านางทีเป็ นคน
ธรรมดาๆ คนหนึงแอบเข้ามายังดินแดนเทพ ทีเต็มไป
ด้วยสิงมหัศจรรย์อย่างนัน

“เสียวเกอเอ๋อร์ไม่ตอ้ งแปลกใจ อีกหน่อยเจ้าก็จะทําแบบ


นีได้” อยูๆ่ เสียงของซือมัวก็ดงั ขึนทีข้างหู

มูช่ ิงเกอหันหน้ากลับไปในทันที แต่กลับเห็นใบหน้างด


งามเป็ นหนึงมาอยูต่ รงหน้า ดวงตากระจ่างใสของนาง
เบิกกว้าง เจ้าตัวประหลาดเฒ่าจอมชัวร้ายนีขึนมาจาก
บ่อนําตังแต่เมือไหร่กนั และยังมาปรากฎตัวอยูข่ า้ งกาย
นางด้วยเสือผ้าทีเรียบร้อยขนาดนีด้วย?

81
ท่าทางตืนตระหนกแบบนี ยิงทําให้ซือมัวอารมณ์ดีมาก
ขึน

เขายืนนิวมือทีเห็นแต่ละท่อนกระดูกได้ชดั เจนออกมา
วาดบนปลายจมูกอันสูงโด่งของมูช่ ิงเกอ

ความรูส้ กึ ชาวาบทีเกิดขึนตรงปลายจมูก ทําให้มชู่ ิงเก


อรีบยืนมือออกมาจับจมูกของตนเอง สายตาอันสดใส
นันค่อยๆ มีเปลวไฟแห่งความโกรธปะทุขนึ

นางรูส้ กึ ว่าเมือสักครูต่ นเองโดนหยอกล้อ!

82
ฉ่า ! ความอับอายเกิดขึนภายในจิตใจ ทีผ่านมานางเป็ น
คนหยอกล้อคนอืนทังนัน เมือไหร่กนั ทีมีคนกล้ามาหยอก
ล้อนาง

ดีมาก ! ไอ้คนทีอยูต่ รงหน้า กระตุกโดนจุดของนางเข้า


อีกครังแล้ว

ปั ง!

กําปั นราวกับชนเข้ากับแผ่นเหล็ก ความรูส้ กึ เจ็บทีแผ่


ลามมาจากบริเวณมือทําให้มชู่ ิงเกอขมวดคิว

“มือเจ็บรึ?” มือใหญ่กมุ มือเล็กเอาไว้ ราวกับว่าความเจ็บ


83
ปวดตรงปลายนิวได้สลายหายไปในทันที

มูช่ ิงเกอทําหน้าเย็นชา ดึงมือของตนเองออกมา สายตา


ทีแหลมคมดังมีดจ้องหน้าอกของใครบางคนแทบอยาก
จะควักมันให้เป็ นรูสกั หลายๆ รู

ให้ตายเถอะ ! ร่างกายของเจ้านีทําด้วยเพชรหรืออย่าง
ไร?

“เจ้าพาข้ามาทีนีทําไม มาเพือดูเจ้าอาบนําหรือ?” มูช่ ิงเก


อพลันถามอย่างเย็นชา

คําพูดของมูช่ ิงเกอ ช่วยเตือนซือมัวว่าตอนแรกจะพานาง


84
มาทีนีเพราะเหตุใด

นึกถึงภาพบรรยากาศตอนทีนางนังดืมเหล้าอยูบ่ นหลัง
ม้า และอิรยิ าบถต่างๆ ทีแสดงต่อหน้าผูค้ นทีรายล้อมอยู่
อารมณ์ทีเดิมทีเริมดีขนของเขาก็
ึ ปะทุขนมาอี
ึ กครัง

อยูๆ่ เขาก็เกิดความคิดอยากจะซ่อนเด็กน้อยนางนีเอา
ไว้ ทําเช่นนีก็จะไม่มีใครสามารถแอบมองดูความงดงาม
ของนางได้อีก

“นี!” เวลาล่วงผ่านไปเนินนาน แต่ยงั ไม่ได้คาํ ตอบจากซือ


มัว มูช่ ิงเกอจึงเรียกอีกครัง

85
“ซือมัว”

“อะไร”

คําว่าซือมัวทําให้ใบหน้าของมูช่ ิงเกอเกิดความสงสัย

ท่าทางงงๆ และสายตาทีเต็มไปด้วยความสงสัยทําให้หวั
ใจของซือมัวเกิดอ่อนยวบ เท่าทีนางสังเกตเขาถึงกับพูด
จาอ่อนโยนขึนและมีความอดทนมากขึนกว่าเดิม : “ซือ
มัวคือชือของข้า”

ทีแท้เจ้าตัวประหลาดเฒ่าก็ชือซือมัวนีเอง

86
มูช่ ิงเกอเข้าใจแล้วแต่ก็เกิดความสงสัยขึนมาอีก เขาจะ
ชืออะไร แล้วมันเกียวอะไรกับนางด้วย? จู่ๆ มาบอกนาง
แบบนีเพืออะไร?

“ต่อไปนี เรียกข้าว่ามัว” ซือมัวพูดขึนอีกครัง

มูช่ ิงเกอกระตุกยิม รูส้ กึ ขนลุกเพราะคําพูดของซือมัว

“เหอะๆ” หลังจากทีขยับไปข้างๆ หลายที เว้นระยะห่าง


ระหว่างทังสองคนให้มากขึนแล้ว มูช่ ิงเกอก็พดู อย่างไม่
กลัวตายว่า : “ข้าคิดว่าคุณตัวประหลาดเหมาะกับเจ้า
มากกว่า”

87
“ทําไมถึงเรียกข้าว่า ‘คุณ’ ” ซือมัวขมวดคิวถาม ตัว
ประหลาดนันเขาสามารถเข้าใจได้ เหมือนกับว่าหลัง
จากทีนางรูป้ ระวัติของตนเองในหลินชวนแล้ว ก็เคยเรียก
เขาว่า ไอ้ตวั ประหลาดเฒ่าไม่ยอมตาย แต่สาํ หรับคําว่า
“คุณ” นีไม่ใช่คาํ เรียกอาจารย์ผสู้ อนหรอกหรือ เขาไม่ได้
เป็ นอาจารย์นี

นัยน์ตาสีนาตาล
ํ มีความน้อยใจอยูเ่ ล็กน้อย ราวกับว่า
กําลังบีบบังคับมูช่ ิงเกอให้หาคําอธิบายทีสมเหตุสมผล
มากพอมา

เอ่อ......

88
เรืองนีจะอธิบายอย่างไรดี

มูช่ ิงเกอเกาหัว ลังเลสักพัก เริมทําท่าทางเพืออธิบาย :


“คุณ คํานีถือเป็ นคําเรียกทีให้เกียรติ เจ้าก็รูว้ า่ ก่อนหน้านี
ข้าฝึ กเวทพลังไม่ได้ ไม่มีความสามารถ ทําได้แค่พฒ
ั นา
วิชาความรู ้ แม้วา่ ข้าจะไม่ได้อะไรจากสิงทีอาจารย์สอน
เลย แต่ ข้ายกย่องในวิชาความรูอ้ นั กว้างไกลของ
อาจารย์มาก เพราะฉะนัน มีแต่คนทีข้าเคารพเท่านัน ที
ข้าจะเรียกว่าคุณ” (先生 หรือ คุณ ในอดีตใช้เรียก
อาจารย์ ปั จจุบนั แปลว่าคุณ ใช้เรียกแทนผูช้ าย)

สําหรับการโกหกพวกนีแล้ว มูช่ ิงเกอไม่ได้รูส้ กึ ผิดเลยแม้


แต่นอ้ ย

89
แต่เดิมนัน ไม่วา่ จะชาติทีแล้วหรือชาตินี ‘คุณ’ คํานีไม่ใช่
คําด่าว่าอะไร เพียงแต่ ก็ไม่ได้เป็ นคําทีแสดงการเคารพ
อะไรอย่างนัน ในชาติก่อนทีโลกพัฒนาแล้ว คําๆ นีได้
กลายเป็ นคําเรียกขานแทนตัวผูช้ ายไปตังนานแล้ว
แสดงถึงว่าคนผูน้ ีเป็ นผูม้ ีความรูเ้ ท่านัน

เพราะฉะนัน ใช่ มูช่ ิงเกอเป็ นทีมีความรูม้ ากคนหนึงเลย


ล่ะ!

“จริงหรือ” ซือมัวเงียบฟั งคําอธิบายของมูช่ ิงเกอ รูส้ กึ ไม่


น่าเชือถืออย่างไรก็ไม่รู ้

90
“แน่นอนสิ!” มูช่ ิงเกอตอบอย่างไม่รูส้ กึ รูส้ า

91
ตอนที 77 นายท่านมัวป่ วย

เห็นท่าทางจริงใจของนาง ซือมัวก็ไม่อยากสาวความต่อ
ความยืดว่านางพูดจริงหรือไม่

ทีพานางมาทีนี จริงๆ แล้วเพียงอยากจะลงโทษนาง

ลงโทษนางทีไม่รูจ้ กั เก็บซ่อนสายตาอันงดงามต่อหน้าผู้
อืน ทําให้มีสายตาหืนกระหายแอบมองนางตามมามาก
มาย สิงเหล่านันทําให้เขาไม่พอใจ

92
ทว่า พอมูช่ ิงเกอปรากฎตัวต่อหน้าเขา เขาก็ไม่เหลือกะ
จิตกะใจทีจะลงโทษนางเลยแม้แต่นิด เพียงแค่อยากจะ
พูดคุยกับนางอย่างผ่อนคลายและไม่ตอ้ งสนใจสิงใด
เหมือนดังตอนนี

อืม......ควรจะบอกว่า นางปฏิบตั ิตอ่ เขาอย่างกําเริบไม่


สนใจสิงใด

และเขา ก็เหมือนจะทนความกําเริบแบบนีได้

‘หรือว่า ข้าจะป่ วยเหมือนทีกูหยาและกูเย่บอก’ ซือมัว


ถามตนเองในใจ

93
“นี เจ้าพาข้ามาทําอะไรทีนี หากไม่มีอะไร ก็รบี ปล่อยข้า
กลับไป” เห็นแก่ซือมัวทีให้เคล็ดวิชาพันสายฟ้ากับนาง
นางจึงถามอย่างอดทน

“มัว” ซือมัวช่วยแก้

คิวทีขมวดอยู่ ทําให้นางแทบจะอดไม่ได้อยากจะเอามือ
ไปคลายให้ตรง

และมูช่ ิงเกอก็เกือบจะทําแบบนันแล้ว แต่โชคดีตอนทีมือ


ของนางกําลังจะยืนออกไปนางรีบดึงกลับมาได้อย่างทัน
ท่วงที หยุดยังการกระทําอันน่าขายหน้าของตนเองไว้ได้

94
บางคนก็ยงั คงมองนางอย่างแน่วแน่ ทําให้นางยักไหล่
พูดอย่างจนปั ญญาว่า : “เอาเถอะ ถอยกันคนละก้าว
คุณตัวประหลาด”

“.......” ซือมัวเงียบ

เอาเถอะ คุณตัวประหลาดก็คณ
ุ ตัวประหลาด สักวันหนึง
เขาจะต้องได้ยินชือของตนเองออกมาจากปากเล็กๆ ที
แสนจะน่าดึงดูดนีให้ได้

“คุณตัวประหลาดหากไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อนได้
หรือไม่ ข้ารีบ!” มูช่ ิงเกอพูดขึนอีกครัง

95
“เสียวเกอเอ๋อร์ไม่ชอบทีนีและอยากออกจากทีนีถึงเพียง
นันเลยหรือ?” ซือมัวพูด

มูช่ ิงเกอพูดอีกว่า : “เจ้าไม่เคยได้ยินคําว่าปราสาทเงิน


ปราสาททอง มิอาจเท่าเพิงหมาของตนเอง (เปรียบเทียบ
ทีใดก็ไม่เท่าบ้านตนเอง) รึ?” นางรีบจริงๆ ไม่มีเวลามา
พูดคุยอย่างสบายอารมณ์กบั คนแก่เช่นนี

เรืองทีป๋ ายซีเยวียบาดเจ็บ นางต้องกลับไปอธิบายให้


ท่านผูเ้ ฒ่าได้ทราบ

องครักษ์อีก 500 กว่านายยังรอให้นางไปทรมาน อ้อ ไม่


สิ ไปฝึ กฝน

96
และตํารายาทีเพิงได้มา........พันสายฟ้าก็ยงั ฝึ กได้ไม่
ชํานาญมากพอ......นางยุง่ มาก ยุง่ มากๆ จริงๆ รูห้ รือไม่

“ปราสาทเงินปราสาททอง มิอาจเท่าเพิงหมาของตน
เอง” ซือมัวทวนคําพูดของมูช่ ิงเกอพลางยิมพลันพูดว่า :
“ถือเป็ นการอุปมาทีใช้ได้” เงียบไปพักหนึงก็พดู ต่อว่า :
“ก็เหมือนบทกลอนทีเสียวเกอเอ๋อร์ประพันธ์ขนในวั
ึ นนัน
ช่างน่าอัศจรรย์ใจ”

มูช่ ิงเกอตกใจ พลางถามว่า : “เจ้ารูไ้ ด้อย่างไร?” ตังแต่


วันทีนางทะลุมิติมาจนถึงตอนนี นางแอบขโมยใช้คาํ
กลอนไปแค่บทเดียวเท่านัน และในตอนนัน นางเองก็มนั
ใจว่า คุณตัวประหลาดไม่ได้อยูต่ รงนัน แต่เขารูไ้ ด้อย่าง
97
ไร?

ซือมัวยิมอย่างลึกลับ : “สําหรับเรืองของเสียวเกอเอ๋อร์
แล้ว ข้ารูท้ กุ อย่าง”

ไม่นะ ! ความเป็ นส่วนตัวล่ะ พืนทีส่วนตัวล่ะ ทําไมนาง


ต้องใช้ชีวิตอยูภ่ ายใต้การสอดส่องของไอ้เฒ่าผูน้ ีด้วย

ใบหน้าเล็กๆ อันงดงามของมูช่ ิงเกอดําคลําดังก้นหม้อ

หากนางสูช้ นะผูช้ ายตรงหน้าได้ นางจะเหยียบเขาให้จม


ดิน

98
“เสียวเกอเอ๋อร์กาํ ลังโกรธหรือ?” ซือมัวถาม

ชัด! เจน! มาก! ใช่ไหมล่ะ?

มูช่ ิงเกอไม่อยากจะพูดคุยกับใครบางคนอีกต่อไปแล้ว

“เพราะเหตุใด?” ซือมัวถามอีกครัง

ไม่นะ! ไม่นะ! ไม่นะไม่นะ! กล้าใช้คาํ ถามราวกับตัวเอง


เป็ นผูบ้ ริสทุ ธิเช่นนีมาถามนางว่าทําไมงันรึ?

ราวกับเปลวเพลิงพวยพุง่ ออกจากดวงตาทังคูข่ องมูช่ ิงเก

99

นางกัดฟั น พยายามควบคุมอารมณ์ของตนเองพลางพูด
ว่า : “หลังจากนี ห้ามติดตามชีวิตข้าอีก ไม่อย่างนัน เรา
สองคนถือเป็ นศัตรูกนั !”

“เสียวเกอเอ๋อร์โกรธเพราะเรืองนีเองหรือ” ในทีสุด ซือมัว


ก็เหมือนจะเข้าใจเหตุผลทีมูช่ ิงเกอโกรธ

“ได้” เขาตอบอย่างไม่ลงั เล เหมือนไม่ได้เป็ นเรืองสลัก


สําคัญอะไร

ปฏิกิรยิ าเช่นนี ทําให้มชู่ ิงเกอเกือบจะรูส้ กึ เศร้าใจ


100
ผูเ้ ก่งกาจทําไมถึงเป็ นเช่นนี นางก็เคยเป็ นคนเก่งกาจคน
หนึง แต่ไม่ได้อวดดีขนาดนี มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึนมองฟ้า
โดยไม่พดู อะไร

ทันใดนัน นางก็รูส้ กึ เหมือนชกเข้าไปยังสําลีกอ้ นใหญ่


ทําให้รูส้ กึ ไม่! ดี! มาก!

เหมือนจะรูส้ กึ ว่ามูช่ ิงเกอจะโกรธจริงๆ ซือมัวจึงไม่บงั คับ


แต่พดู อย่างมีความสุขว่า : “ข้าจะส่งเจ้ากลับไป”

หลังจากนัน มูช่ ิงเกอทันมองหน้าเขาแค่แวบเดียว ก็


หายออกไปจากสวนต้นสาลี

101
ซือมัวนังอยูท่ ีเดิม หยิบขวดเหล้าทีมูช่ ิงเกอเคยดืมขึนมา
ดืมด้วยท่าทางแบบเดียวกันกับนาง

อยูๆ่ ตรงหน้าเขาก็ปรากฏเงาร่างสีดาํ ของคนสองคน

เงาคนชัดขึนเรือยๆ เป็ นกูหยาและกูเย่นีเอง

“มหาปราชญ์!”

ทังสองพูดพร้อมกัน

102
ซือมัวทําเหมือนไม่ได้ยิน พึมพําว่า : “ตอนแรกอยากจะ
เรียนวิธีการเต้นเพลงแปลกๆนัน แต่ดเู หมือนว่าคงต้อง
รอครังหน้าตอนทีนางอารมณ์ดีแล้ว”

พอคําพูดนีเข้าหูกหู ยาและกูเย่ นัยน์ตาของทังสองพลัน


มีความแปลกประหลาดขึนมา

อาการของเจ้านายหนักขึนเรือยๆ

“ทําไมรึ?” จบความเสียดายภายในใจแล้ว ซือมัวก็พดู


กับทังสอง

กูเย่รบี พูดว่า : “หลังจากทีคนพวกนันรูว้ า่ มหาปราชญ์ไม่


103
ได้อยูใ่ นอาณาจักรแล้ว ก็เหมือนจะเริมไม่สงบ”

นัยน์ตาสีนาตาลลึ
ํ กลําของซือมัว มีรงั สีสงั หารอันเยือก
เย็นพวยพุง่ ออกมา อุณหภูมิทวร่
ั างกายเพิมสูงขึน ความ
รุนแรงของความเยือกเย็นนันชวนให้ผคู้ นหายใจติดขัด

ในสายตาของกูหยาและกูเย่มีเปลวเพลิงรุม่ ร้อนลุกโชน
ขึน พูดอย่างพร้อมเพรียงกันในใจว่า : ‘แบบนีสิถงึ จะเป็ น
มหาปราชญ์ทีพวกเขาคุน้ เคย ถือเป็ นการปลดปล่อยที
ถูกวิธี’

“ดูเหมือนว่า จะได้เวลากลับไปอีกรอบแล้ว” ซือมัวตัดสิน


ใจ

104
คิดแล้วเขาก็พดู ว่า : “กูเย่กลับไปกับข้า กูหยาอยูท่ ีนี
คอยปกป้องเสียวเกอเอ๋อร์อย่างลับๆ จําไว้ หากนางไม่
ได้มีอนั ตรายถึงชีวิต เจ้าห้ามปรากฏตัวเด็ดขาด และ
ห้ามไปติดตามชีวิตประจําวันของนาง ยิงห้ามไม่ให้นาง
รูส้ กึ ถึงการมีตวั ตนอยูข่ องเจ้า”

บนใบหน้าอันเย็นชาหล่อเหลาของกูเย่ทีได้ไปกับซือมัว
นัน ปรากฏความกระหยิมยิมย่อง ส่วนเด็กน้อยผูถ้ กู ทอด
ทิงอย่างกูหยาก็ทาํ หน้าอยากจะร้องไห้ มองซือมัวอย่าง
น่าสงสาร

ไม่ใช่วา่ เขาไม่อยากดูแลมูช่ ิงเกอ แต่เขาไม่อยากจากเจ้า


นายของตนเองไป ฮือๆๆ~! ทําไมคนทีอยูท่ ีนีถึงไม่ใช่กเู ย่
105
ไอ้คนเลวนัน!

เสียดาย ทีซือมัวหายไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่มองเขาเลย
แม้แต่แวบเดียว

หลังจากทีมันใจว่าเจ้านายไปแล้ว กูเย่ก็ตบไหล่ของกู
หยาอย่างเห็นใจ พลางปลอบใจว่า : “น้องชาย ปล่อย
วางเถิด หลายปี ผา่ นมา การตัดสินใจของมหาปราชญ์
เคยเปลียนไหม?”

“อยากจะลองแข่งกันสักตังหรือ?” กูหยามองอย่างเย็น
ชาพลางกัดฟั นพูด

106
กูเย่ไม่ได้โง่ทีจะไปเป็ นทีระบายอารมณ์ให้เขาในตอนนี
จึงจากไป ทิงกูหยาไว้เพียงผูเ้ ดียว

107
ตอนที 78 เขาเป็ นคนอย่างไร?

ภายในตําหนักองค์หญิงฉางเล่อ ตังแต่ทีฉินอีเหยาสลบ
ไป ตอนนีก็ยามสองแล้ว

ในขณะทีนางกํานัลจุดตะเกียงจนในห้องสว่างไสว ใน
ความคิดของนางก็มีภาพความทรงจําลอยไปมาไม่หยุด
และในภาพความทรงจําเหล่านันนางเหมือนจะเปลียน
เป็ นคนละคนจากเดิม

ฉินอีเหยาหน้าแดงกําไปชัวขณะ แต่ก็กลับสูส่ ภาพปกติ


108
แทบจะทันที

คนฉลาดอย่างนาง รูแ้ ล้วว่าเกิดอะไรขึนกับร่างกายของ


ตนเอง และเรืองแบบนี นางเองก็กลัว ในขณะเดียวกันก็
ดีใจทีตนเองไม่ได้ทาํ สิงใดอันผิดศีลธรรม

“องค์หญิงทรงหิวหรือยังเพคะ? ข้าน้อยไปเตรียมสํารับ
มาให้นะเพคะ” หลังจากทีจุดตะเกียงเสร็จ นางกํานัลก็
เดินเข้ามาถามฉินอีเหยา

“เดียวก่อน” ฉินอีเหยาสังคําสังกับนาง เม้มปากพลาง


ถามเบาๆ ว่า : “ระหว่างทางกลับตําหนัก ข้ารูส้ กึ ไม่
สบาย จําไม่ได้วา่ เกิดเรืองอะไรขึน เจ้าลองเล่าให้ขา้ ฟั ง

109
อีกสักรอบสิ”

“ได้เพคะ” นางกํานัลไม่ปฏิเสธ และเล่าทุกอย่างให้แก่


นางฟั ง

รวมถึงเรืองทีมูช่ ิงเกอพลันเปลียนใจให้ป๋ายซีเยวียรักษา
ตัวทีโรงหมอริมทาง จากนันก็ให้คนจากจวนตระกูลมูม่ า
รับตัวนางกลับจวนไป แล้วมูช่ ิงเกอก็เฝ้าอยูห่ น้าประตู
เป็ นเวลาเนินนานจึงค่อยกลับไป นางกํานัลเล่าทุกอย่าง
ให้องค์หญิงฟั งอย่างละเอียด

ฟั งนางกํานัลพูดจบ หัวใจของฉินอีเหยาก็เต้นรัว

110
นางสังให้นางกํานัลออกจากห้องไปแล้วมองไปยังเปลว
ไฟ และเหม่อลอยท่ามกลางไฟทีกําลังลุกโชนนัน

“มูช่ ิงเกอ เจ้าเป็ นคนอย่างไรกันแน่?” ฉินอีเหยาพึมพํา


ด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ

ใครๆ ก็บอกว่า มูช่ ิงเกอเป็ นคนเสเพลไร้คา่ ทว่าเมือนาง


ได้สมั ผัสกับเขาจริงๆ แล้ว กลับพบว่าไม่ได้เป็ นแบบนัน
เลย เขาให้ความรูส้ กึ ปลอดภัยมากกว่าใคร และเป็ น
สุภาพบุรุษอย่างแท้จริง

สําหรับเรืองยาพิษ การจัดการของเขาเหมาะสมมาก ไม่


ได้ทาํ ให้นางเสียชือเสียงเลยแม้แต่นอ้ ยและเพราะไม่ไว้

111
ใจ จึงมาเฝ้าด้วยตนเอง หลังจากทีมันใจว่านางไม่ได้เป็ น
อะไรแล้วจึงกลับไปโดยไม่บอกไม่กล่าว

หลังจากทีคิดทบทวนโดยละเอียดถีถ้วนแล้ว หัวใจอัน
เยือกเย็นของฉินอีเหยาก็อบอุน่ ขึนเรือยๆ บนใบหน้าอัน
งดงาม ผุดรอยยิมทีออกมาจากใจจริง

ณ ตําหนักองค์หญิง จิตใจของฉินอีเหยานันเต็มไปด้วย
อบอุน่ แต่ในอีกด้านหนึงของแคว้นลัวตู ณ ร้านชา
ธรรมดาๆ ร้านหนึง ในทีสุดฉากรักอันยวนใจก็ได้จบลง

ป๋ ายซีเยวียใส่เสือผ้าของตนเอง ผิวอันขาวผ่องนันยัง
หลงเหลือรอยสีชมพูอยู่

112
“องค์ชาย ต่อไปนีซีเยวียก็เป็ นคนขององค์ชายแล้ว” หลัง
จากทีใส่เสือผ้าให้กบั ฉินจินห้าวเสร็จแล้ว ป๋ ายซีเยวียจึง
กอดเขาจากด้านหลัง เอาใบหน้าของตนเองแนบกับแผ่น
หลังอันกว้างใหญ่ของเขา

ฉินจินห้าวตาเป็ นประกาย เผยรอยยิมตรงมุมปาก ตบ


มือเล็กๆ ทีกอดเอวตนเอง แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า :
“วางใจเถอะ ข้าไม่ทิงเจ้าหรอก”

พูดจบ เขาก็ดงึ มือของนาง และดึงนางเข้ามาอยูต่ รงหน้า


ตนเองพลางถามว่า : “ตอนนี บอกข้าได้รยึ งั ว่าเกิดอะไร
ขึน”

113
การทีรุย่ อ๋องจะถามถึงต้นสายปลายเหตุนนั เป็ นเรืองที
ป๋ ายซีเยวียคาดการณ์เอาไว้แล้ว

เพราะฉะนัน นางจึงพยักหน้าอย่างไม่เร่งรีบ พูดในสิงที


คิดมาดป็ นอย่างดีแล้ว

นางคิดไว้แล้วว่า นางจะพูดตามความจริงกับรุย่ อ๋อง


แบบนีก็จะสามารถให้รุย่ อ๋องแก้แค้นแทนนางได้ แน่นอน
ว่า บางอย่างทีควรปิ ดบัง และรายละเอียดทีไม่ควรให้รุย่
อ๋องรู ้ นางจะไม่พดู ถึงอย่างแน่นอน

สายตาทีแนบนิงดังสายนําพลันมีไอร้อนชืนเกาะกุมชัน

114
หนึง ป๋ ายซีเยวียตัวอ่อนราวกับไร้กระดูกพิงอยูบ่ นหน้า
อกของฉินจินห้าว พลางพูดว่า : “ซีเยวียไปงานล่าสัตว์
ชมไม้กบั องค์หญิงฉางเล่อและพีมู่ แต่วา่ ข้าไม่ได้พบ
พระองค์มานาน หวังจะได้แอบมองท่านห่างๆ อีกสักครัง
ทว่ายังไม่ทนั จะเจอพระองค์ ข้าก็ชนเข้ากับรัชทายาท”

เรืองทีตนเองโดนลงโทษ ไม่ได้ถกู ป่ าวประกาศออกไป


เพราะฉะนันหญิงสาวทีอยูแ่ ต่ในจวนอย่างนางจะไม่รู ้
ฉินจินห้าวก็คิดว่าเป็ นเรืองปกติ

แน่นอนว่า ในใจของเขารูส้ กึ ซาบซึงกับความรูส้ กึ ที


ผูห้ ญิงในอ้อมกอดมีให้กบั ตน แต่วา่ มันก็แค่ช่วงเวลา
หนึงเท่านัน

115
พอได้ยินคําว่า ‘รัชทายาท’ ในสายตาของเขาก็พลันเยือก
เย็น ตรงหางตามีความโหดเ**◌้ยมปรากฏขึน

ป๋ ายซีเยวียทีไม่ได้รบั รูถ้ งึ การเปลียนแปลงของฉินจินห้าว


พูดสิงทีอยูใ่ นใจต่อว่า : “หลังจากนัน รัชทายาทก็พาซีเย
วียไปยังทีเปล่าเปลียว และคิดจะ.....จะ.....” คิดถึงความ
หมดหวังในตอนนัน ในใจของป๋ ายซีเยวียนอกจากโกรธ
เกลียดแล้ว ยังคงมีความหวาดกลัว

ร่างกายของนางสันอย่างอดไม่ได้ นําตาไหลออกมาไม่
หยุด

116
ฉินจินห้าวขมวดคิว เพือให้เข้าใจเรืองราวทังหมดต่อจาก
นีโดยเร็วทีสุด เขาจึงกอดหญิงสาวในอกเเน่นขึน เพือ
เป็ นการปลอบโยนนาง

สําหรับการกระทําของฉินจินซิวแล้ว เขาแค่ใช้หวั แม่เท้า


เดายังเดาออก โกรธหรือ? ฉินจินห้าวไม่ได้รูส้ กึ แบบนัน
แม้แต่นอ้ ย กลับรูส้ กึ สมใจ

ผูห้ ญิงทีฉินจินซิวตีตราเอาไว้ สุดท้ายกลับกลายเป็ น


ผูห้ ญิงของตนเอง คิดแล้วก็ช่างสะใจจริงๆ

รูส้ กึ ได้วา่ สองแขนทีโอบกอดตนเองนันแน่นขึน ป๋ ายซีเย


วียพลันอุน่ ใจมากขึน รูส้ กึ ว่าตนเองเลือกไม่ผิด องค์ชาย

117
มีใจให้แก่นางและเห็นใจนาง ทังยังปลอบใจนางด้วย
การกระทํา

“โชคดีทีหลังจากนันองค์หญิงฉางเล่อไปทันเวลาทําให้
รัชทายาทจําเป็ นต้องออกไป แต่ฤทธิยาพิษในตัวข้า
นัน.......แล้วข้าทังบาดเจ็บและโดนยาพิษ หลังจากนัน
ถูกส่งตัวกลับจวน ข้าคิดว่าคงจะไม่มีใครช่วย เพือหา
ทางรอด ข้าจึงแอบออกจากจวนมา ทําให้ซีเยวียมาพบ
กับองค์ชาย ทังหมดนีราวกับเป็ นเพราะชะตาฟ้าลิขิต”
พูดจบนัยน์ตาของป๋ ายซีเยวียพลันเกิดความอิมเอมใจ

ฟั งคําอธิบายของป๋ ายซีเยวียจบ ฉินจินห้าวก็กะพริบตา


ไปหลายหน พลางประทับรอยจูบกลางศีรษะนาง พูด
อย่างเห็นใจว่า : “ทําให้เจ้าลําบากเข้าแล้ว วางใจเถอะ
118
ข้าจะทวงความยุติธรรมให้แก่เจ้าเอง”

คําพูดนี กําลังเป็ นคําพูดทีป๋ ายซีเยวียอยากได้ยิน และ


ตอนนีพอได้ยินองค์ชายยุย้ เป็ นคนเอ่ยปากก่อน ในใจจึง
รูส้ กึ พอใจเป็ นอย่างมาก

“แล้วมูช่ ิงเกอล่ะ” ฉินจินห้าวพลันถามขึน

พูดถึงมูช่ ิงเกอ ในสายตาของป๋ ายซีเยวียก็เกิดความ


เยือกเย็นขึนและหลังนําตาและทําท่าทางน่าสงสารใน
ทันที : “พีมูจ่ ะมีกะจิตกะใจอะไรมาสนใจข้า หลังจากที
ช่วยชีวิตข้าน้อยแล้ว เขาก็ทิงเขาไว้ตรงสถานพยาบาล
ข้างตลาดแล้วก็สง่ องค์หญิงฉางเล่อกลับตําหนักไป”

119
“เขากล้าไม่ใส่ใจและไม่สนใจเจ้าหรือ” ฉินจินห้าวรูส้ กึ
สงสัย นําเสียงมีความคลุมเครือยากทีจะตัดสินว่าดีใจ
หรือเสียใจ

120
ตอนที 71 สุดท้ายก็หลงกล !

ฉินอีเหยามองนางอย่างไม่เข้าใจแวบหนึง คิดว่านางเป็ น
ห่วงความสัมพันธ์ระหว่างนางกับรัชทายาทจึงส่ายหน้า
ปฏิเสธ : “ไม่ตอ้ ง วันนีข้าจะอยูก่ บั เจ้า อีกอย่างดูจากอา
การของป๋ ายซีเยวียตอนนี มีผหู้ ญิงสักคนดูแลจะดีกว่า”

‘โง่!’ มูช่ ิงเกอแอบด่าในใจ

ตอนนี นางจะบีบคันฉินจินซิวมากไปกว่านีไม่ได้ ไม่


อย่างนันหากเจ้านีเกิดบ้าขึนมา วันนีก็ยากจะบอกได้วา่
1
เรืองราวจะจบลงอย่างไร

ฉินอีเหยาไม่ยอมออกไป มูช่ ิงเกอจึงต้องรีบไล่ฉินจิน


ซิวออกไป แล้วจัดการกับกระถางธูป

มูช่ ิงเกอหันหน้าไป พูดเองเออเองว่า : “เอ๊ะ? เหมือน


กระหม่อมจะได้ยินเสียงฝี เท้า หรือว่าฮองเฮาจะทรงพา
คนเข้ามาแล้ว”

ฉินจินซิวสะดุง้ แม้คาํ พูดของมูช่ ิงเกอจะบาดหูเพียงใด


แต่กลับทําให้เขาสงบลงได้

ด้านหน้าเขามีเสด็จพ่อคอยจับตามองอยู่ ส่วนด้านหลัง
2
ก็มีรุย่ อ๋องคอยจ้อง เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ตนเองโดนคน
อืนจับจุดได้เด็ดขาด เขาเก็บความโกรธแค้นเอาไว้ในใจ
เอาไว้ ในทีสุดฉินจินซิวก็ปล่อยป๋ ายซีเยวียแล้วลุกขึนยืน

“จัดการเรืองนีให้ดีๆ เล่า ไม่อย่างนัน......หึ” ทิงคําพูดอัน


หยิงยโสเอาไว้ แล้วฉินจินซิวก็เดินออกจากตําหนักไป
ราวกับกลัวว่าหากช้าไปอีกเพียงก้าวเดียวจะมีคนจับได้
อย่างนัน

พอฉินจินซิวออกไป ฉินอีเหยาก็วงเข้
ิ าไปหาป๋ ายซีเยวีย
ดึงผ้าลงมาผืนหนึงมาห่อตัวนางเอาไว้

มูช่ ิงเกอเดินไปทีกระถางธูปทันที แค่นเสียงเย็นคําหนึง

3
แล้วผลักกระถางธูปตกลงไปบนพืน เหยียบธูปทีจุดอยู่
ให้ดบั

เมือจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว มูช่ ิงเกอจึงพูดกับ


ฉินอีเหยาว่า : “ช่วยดุแลนางด้วย” พูดจบก็เดินออกจาก
ห้องโถง แล้วรออยูต่ รงระเบียง

ไม่นานนัก ฮองเฮาก็นาํ คนกลุม่ ใหญ่เดินเข้ามาอย่าง


เกรียงไกร

เห็นมูช่ ิงเกอทียืนอยูน่ อกตําหนักจากทีไกลๆ จึงทรงถาม


ว่า : “คุณชายมู่ ทําไมถึงไปยืนอยูต่ รงนีได้? ข้าได้ยินว่า
แม่นางป๋ ายหายตัวไป กําลังให้คนไปตามหาให้ทวอยู
ั ”่

4
มูช่ ิงเกอแอบยิมเยือกเย็นในใจ หญิงผูน้ ีคงได้ยินข่าวว่า
ลูกชายของตนเองและป๋ ายซีเยวียหายตัวไปด้วยกัน จึง
รีบร้อนมาขนาดนี

และก็ไม่รูจ้ ะบอกปั ดบรรดาท่านหญิงทังหลายทีมาด้วย


อย่างไร จึงได้แต่จาํ ใจให้พวกนางมาด้วย

“ทูลฮองเฮา พบตัวป๋ ายซีเยวียแล้วพะยะค่ะ แค่ประมาท


จึงหกล้ม ตอนนีองค์หญิงฉางเล่อกําลังดูแผลและเสือผ้า
ทีเปื อนให้นางอยูใ่ นตําหนักพะยะค่ะ” มูช่ ิงเกอพูดด้วย
รอยยิม ฟั งดูไม่มีพิรุธแม้แต่นิด

5
คําตอบของนาง ทําให้พระทัยทีบีบเกร็งของฮองเฮาผ่อน
คลายลง พระนางยิมจางๆ พลางพยักพระพักตร์แล้ว
ตรัสว่า : “เจอก็ดีแล้ว มีฉางเล่ออยูต่ รงนีแล้ว ถ้าอย่างนัน
ข้าก็จะไม่เข้าไปล่ะ หากต้องการอะไร ก็เรียกใช้นาง
กํานัลแล้วกัน”

“ขอบพระทัยฮองเฮา” มูช่ ิงเกอก้มหน้าลงพูด

จากนัน ฮองเฮาก็เหลือบมองประตูตาํ หนักทีปิ ดสนิท


ด้านหลังมูช่ ิงเกอ แล้วจึงนําทุกคนเดินออกไปอย่างสง่า
งาม

พอฮองเฮาและคนอืนๆ ลับตาไป มูช่ ิงเกอจึงค่อยๆ เปิ ด

6
ประตู

ฉินอีเหยาเดินออกมา พูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “แม่นางป๋ าย


เหมือนจะได้รบั บาดเจ็บทีกระดูก ห้ามเคลือนไหวร่าง
กาย ข้าจะให้คนไปเอารถม้า เราไปกันตอนนีเลย”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ เห็นด้วยกับการจัดการของนาง

เมือเห็นว่ามูช่ ิงเกอเห็นด้วย ฉินอีเหยาก็รบี ไปจัดการ


ทุกอย่าง องค์หญิงภูเขานําแข็งผูน้ ี ค่อยๆ เปิ ดเผยด้านที
ดีงามออกมา

สักพัก รถม้าขององค์หญิงฉางเล่อก็เข้าสูพ่ ืนทีตําหนัก


7
แห่งนี

ฉินอีเหยาพูดกับมูช่ ิงเกออย่างลําบากใจ : “อย่างไรก็


ตามแม่นางป๋ ายก็ยงั เป็ นหญิงทียังไม่ได้ออกเรือน ทหาร
องครักษ์ของข้าจะไปแตะต้องตัวนางก็คงจะไม่สมควร
เหล่านางกํานัลก็กลัวว่าจะไม่ระวัง จนทําให้กระดูก
เคลือน”

มูช่ ิงเกอมองนาง หลังจากทีฟั งนางพูดจบก็ถามว่า :


“ทรงคิดจะทําอย่างไร?”

ฉินอีเหยากัดปาก พลางก้มหน้าลง : “เจ้าโตมาพร้อมกับ


นาง งันเจ้าก็อมุ้ นางขึนรถม้าเถิด”

8
มูช่ ิงเกอคล้ายยิมคล้ายไม่ยมิ : “พระองค์ช่างหวังดี”

ฉินอีเหยาหน้าซีดไม่พดู อะไร ใจจริงแล้วนางไม่อยากให้


มูช่ ิงเกอใกล้ชิดป๋ ายซีเยวีย

แต่ทา่ ทางของป๋ ายซีเยวียทําให้นางเกิดความเห็นใจขึน


มาอีกครัง

ความเงียบของนาง ทําให้มชู่ ิงเกอแอบถอนหายใจ ยืน


มือออกไปตบแก้มนางเบาๆ สองที : “มีใจทีเมตตานันดี
แต่ตอ้ งดูคนด้วย นิทานชาวนากับงูเห่าทรงเคยฟั งหรือ
ไม่?”

9
ฉินอีเหยาส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ

มูช่ ิงเกอยกยิมพลางพูดว่า : “วันหลังกระหม่อมค่อยเล่า


ให้ฟัง” พูดจบก็เดินเข้าตําหนักไป

แต่ในความเป็ นจริงแล้ว ฉินอีเหยาไม่ได้ฟังว่ามูช่ ิงเก


อพูดอะไรไปบ้าง แต่จิตใจพลันหวันไหวไปกับความ
สนิทสนมกะทันหันนัน

รอจนนางรูส้ กึ ตัว มูช่ ิงเกอก็อมุ้ ป๋ ายซีเยวียเดินออกมา


แล้วขึนรถม้าไปแล้ว

10
ฉินอีเหยามองทังสองทีขึนรถม้าไป ในใจก็รูส้ กึ ขมฝาด

ในขณะทีนางกําลังทําหน้าอมทุกข์ มูช่ ิงเกอผูเ้ ป็ นเจ้า


ของชุดสีแดงทีขึนรถม้าไปแล้ว ก็ตะโกนเรียกนางว่า :
“ยังไม่ขนมาอี
ึ ก รออะไร”

จิตใจทีเย็นชาของฉินอีเหยา เมืออยูใ่ นสายตาของมูช่ ิงเก


อก็ผดุ ความหวานละมุนขึนมา

นีเป็ นครังแรกทีนางยิมอย่างอ่อนโยน แล้วขึนรถไป

รถม้า ค่อยๆ ออกจากบริเวณเขตล่าสัตว์ของราชวงศ์

11
ป๋ ายซีเยวียทีเสนอตัวมา คิดอย่างไรก็คงคิดไม่ถงึ เลยว่า
ตนเองจะต้องกลับจวนตระกูลมูใ่ นสภาพทียําแย่ขนาดนี

ผูม้ ีฐานันดรศักดิก็ยงั ไม่ทนั ได้รูจ้ กั แต่กลับเกือบถูก


รัชทายาท.........

เมือคิดถึงความอันตรายในตําหนักเมือครู ่ นําตาของ
ป๋ ายซีเยวียก็ไหลลงมาอีกครัง

กระดูกได้รบั บาดเจ็บ ทําได้แค่นอนเฉยๆ เพราะหากไม่


ระวังไปโดนเข้า ก็อาจจะทําให้ภายในได้รบั ความกระทบ
กระเทือนหนักกว่าเดิม

12
เพราะฉะนัน พืนทีกว่าครึงในรถม้าจึงให้ป๋ายซีเยวียนอน
ลง

โชคดีทีว่า นางเป็ นสายเหลืองขันกลาง บาดแผลแค่นียัง


พอทนได้ ขอเพียงรักษาตัวดีๆ ก็คงไม่เป็ นอะไรมาก เรือง
นีค่อยทําให้นางวางใจ

ตอนแรกคิดว่า คราวนีตนเองต้องแย่แน่ๆ แต่ไม่คิดว่า


สุดท้ายกลับเป็ นมูช่ ิงเกอทีมาช่วยตนเองไว้

คนเสเพลไร้คา่ ผูน้ ี เหมือนจะไม่ได้ไร้ประโยชน์เพียงนัน

ป๋ ายซีเยวียทีนอนอยู่ นึกถึงภาพก่อนหน้านีทีมูช่ ิงเก


13
อเจรจากับรัชทายาททีดูน่ากลัวถึงเพียงนัน แต่เพียงแค่
สองสามประโยคก็ช่วยตนเองเอาไว้ได้ ไม่รูท้ าํ ไมถึงได้
รูส้ กึ หวันไหวขึนมา

เพราะร่างกายได้รบั บาดเจ็บทําให้ความรูส้ กึ ปั นป่ วนอัน


แปลกประหลาดทีมองข้ามไปในตอนแรก ขณะนีเหมือน
จะกําเริบขึนมา

ใบหน้าอันขาวซีดของป๋ ายซีเยวียค่อยๆ เปลียนเป็ นสี


แดงและรูส้ กึ ร้อน

แต่เพราะนางนอนอยู่ ทําให้ทงสองที
ั นังอยูข่ า้ งๆไม่รู ้

14
“ชิงเกอ.....” ป๋ ายซีเยวียทีกินพืนทีในรถม้ามากกว่าครึง
ทําให้ฉินอีเหยาต้องเบียดอยูก่ บั มูช่ ิงเกอ

เมือได้ยินเสียงสันๆ ดังขึนจากข้างหลัง มูช่ ิงเกอจึงหัน


กลับไปมอง

สิงทีเห็นคือ สายตาอันอ่อนโยนดุจสายนํา และท่าทางที


ดูงดงามเย้ายวน

“ทรงเป็ นอะไรไป?” มูช่ ิงเกอขมวดคิว

“ข้า.....ข้าไม่รู ้ รูส้ กึ ร้อนไปทังตัว ร่างกายก็ไร้เรียวแรง”


ฉินอีเหยาพูดเบาราวกับเสียงยุง นําเสียงอันเย็นชานัน
15
แฝงไปด้วยความยัวยวน

16
ตอนที 72 วางยาบ้าอะไร!

“ชิงเกอ ข้าร้อนมาก” เสียงของฉินอีเหยาไม่ได้เยือกเย็น


เหมือนเคย แต่กลับมีความยัวยวนแฝงอยู่

ในขณะทีพูด ร่างกายของนางก็ขยับเข้ามาใกล้รา่ งของมู่


ชิงเกออย่างไร้เรียวแรง ราวกับว่าการได้สดู ดมกลินอาย
ของนางจะทําให้ความรูส้ กึ อันรุม่ ร้อนสงบลงได้

มูช่ ิงเกอเบิกตาโพลง รับร่างของฉินอีเหยาทีเอนตัวเข้า


มาหาเอาไว้ ยังไม่ทนั ได้พดู อะไร ก็ได้ยินเสียงอีกเสียง
17
หนึงทีอยูอ่ ีกฝังดังขึนมา จึงรีบหันไปมอง

ป๋ ายซีเยวียทีนอนอยู่ ยามนีขดตัวเป็ นก้อนอย่างไม่สนใจ


บาดแผลของตนเอง และเอาแก้มถูกบั เสือผ้าบนร่างไม่
หยุด นางหรีตาลงสีหน้าราวกับกําลังมึนเมา

“ชิงเกอ.....” ในตอนนีฉินอีเหยาไม่หลงเหลือความเย็นชา
สูงส่งเฉกเช่นยามปกติอีก แต่นางเหมือนกลายร่างเป็ นงู
ก็ไม่ปาน ต้องการจะเกียวรัดพันอยูบ่ นตัวของมูช่ ิงเกอ

มือเล็กค่อนข้างเย็นคูน่ นั กระทังทําท่าอยากจะล้วงเข้า
ไปในชายเสือของมูช่ ิงเกอ ทําให้มชู่ ิงเกอตกใจรีบตะครุบ
ไว้แล้วดึงมือนางออกมา

18
หากมูช่ ิงเกอไม่รูม้ าก่อนก็คงจะสงสัยว่าทังสองนางเป็ น
อะไร

แต่ตอนนี นางเข้าใจทุกอย่างแล้ว!

คําตอบนัน ทําเอานางยําแย่ไปหมด : ฉินจินซิวไอ้เลว


เอ๊ย! วางยาโดนน้องสาวตัวเอง!

“ชิงเกอ ข้าทรมานมาก” ฉินอีเหยาทีแนบตัวติดกับนาง


ค่อยๆ พูดด้วยนําเสียงทีชวนหลงใหล

มูช่ ิงเกอห่อไหล่ในทันที สีหน้าพลันเปลียนเป็ นดูไม่ได้ขนึ


19
มา

หลังจากทีขมวดคิวคิดสักพัก นางก็เอาขวดกระเบือง
เล็กๆ ขวดหนึงออกจากพืนทีว่าง ของในขวดนีคือยาชิงซิ
งซ่านทีนางเคยปรุงเอาไว้ ถึงแม้วา่ จะไม่ใช่ยาแก้พิษ แต่
อย่างน้อยก็สามารถบรรเทาสถานการณ์ไว้ได้บา้ ง

มูช่ ิงเกอเทยาครึงขวดลงในปากของฉินอีเหยาอย่างไม่
ลังเล ทีเหลืออีกครึงขวดก็เทให้ป๋ายซีเยวีย

บางทีฤทธิของยาชิงซิงซ่านอาจจะช่วยต้านฤทธิยาบาง
ประเภทได้จริงๆ ทังสองนางทีกินยาชิงซิงซ่านเข้าไป ก็ไม่
ได้มีอาการเหมือนเมือสักครูแ่ ล้ว

20
ฉินอีเหยาพิงอยูบ่ นตัวของมูช่ ิงเกออย่างอ่อนแรงท่าทาง
เหมือนกําลังสะลึมสะลือ

อาการของป๋ ายซีเยวียทีนอนอยูอ่ ีกด้านก็ไม่ได้ดีมากนัก


กลินธูปหอมทีนางสูดเข้าไปมากกว่าฉินอีเหยา และยัง
บาดเจ็บภูมิตา้ นทานก็ยิงแย่

เห็นชุดสีขาวของป๋ ายซีเยวียย้อมไปด้วยเลือด มูช่ ิงเกอก็


ขมวดคิว

ตอนแรกนางคิดว่า หลังจากทีกลับจวนไปแล้วค่อยหา
หมอมารักษาป๋ ายซีเยวีย แต่เมือสักครูน่ างขยับตัวเพราะ

21
ฤทธิของยาพิษ เหมือนบาดแผลจะหนักกว่าเดิม ถ้ายือ
ต่อไปเกรงว่าจะ.........

ยุง่ ยาก!

มูช่ ิงเกอแอบด่าในใจคําหนึง แล้วเปิ ดผ้าม่านรถม้า สาย


ตาอันสดใสกําลังมองหาอะไรบางอย่าง

ทันใดนัน นางพลันตาเป็ นประกาย ป้ายโรงหมอแห่ง


หนึงสะท้อนเข้าสูส่ ายตา

“หยุด” นางรีบสัง

22
อาจจะเพราะคําสังก่อนหน้านีของฉินอีเหยา นางกํานัล
และทหารของตําหนักองค์หญิงต่างก็หยุดรถม้าลงอย่าง
เชือฟั ง

นอกรถม้า นางกํานัลคนหนึงเปิ ดผ้าม่านออกมาแล้วเอ่ย


ถาม : “คุณชาย มีอะไรหรือเจ้าคะ?”

มูช่ ิงเกอวางตัวฉินอีเหยาลงอย่างระมัดระวัง พลางพูด


กับนางกํานัลว่า : “บาดแผลของแม่นางป๋ ายนันยือต่อไป
คงไม่ได้ เราพานางไปโรงหมอให้หมอรักษาก่อน ส่วน
พวกเจ้าไปจวนตระกูลมู่ ให้คนในจวนตระกูลส่งรถม้า
ออกมาคันหนึง”

23
“เจ้าค่ะ” นางกํานัลลงมือปฏิบตั ิโดยไร้ซงข้
ึ อสงสัยใดๆ

มูช่ ิงเกอหันกลับไป อุม้ ป๋ ายซีเยวียทีนอนอยูบ่ นรถม้าขึน


มา แล้วลงจากรถม้า สังไม่ให้ใครเข้าใกล้รถม้า จากนันก็
เดินเข้าโรงหมอไป

ในระหว่างทีป๋ ายซีเยวียรักษาตัว คนทีสังให้ไปทีตระกูลมู่


ก็นาํ รถม้าและองครักษ์เร่งตามมาถึงพอดี

ในขณะทีรอ มูช่ ิงเกอก็สงให้


ั หมอจัดเทียบยานําสงบใจ
ให้กบั ป๋ ายซีเยวีย เพือต้านพิษภายในร่างกายของนาง

โชคดีที ฉินจินซิวไม่ได้ใช้ยาพิษทีมีฤทธิรุนแรงมากนัก
24
แต่เป็ นยาพิษทีมีสว่ นช่วยเพิมความสนุกสนานเท่านัน ผู้
ทีโดนยาพิษ หากสามารถทนผ่านจุดทีทรมานทีสุดไปได้
ก็จะค่อยๆ สงบลงเอง ไม่จะเป็ นต้องหาชายหนุ่มมาเป็ น
ยาถอนพิษ

แต่ป๋ายซีเยวียแม้วา่ จะโดนพิษรุนแรงกว่า แต่เพราะ


ความเจ็บปวดจากบาดแผลและฤทธิของยาชิงซินซ่าน
และยาสงบใจ พิษในตัวนันก็ไม่ได้มีอนั ตรายอะไรมาก
แล้ว ตอนทีรถม้าและทหารองครักษ์ของจวนตระกูลมูม่ า
ถึงโรงหมอ นางก็รกั ษาเสร็จแล้วแต่ยงั สลบอยู่

แต่พิษในตัวของฉินอีเหยานันยังไม่สลายไปทังหมด ภาย
ในรถม้ายังคงมีเสียงร้องครางแผ่วเบาชวนให้ผคู้ นจิตใจ
เตลิดเปิ ดเปิ งดังออกมา
25
“คุณชาย” ทหารของตระกูลมูต่ า่ งก็รบี ทําความเคารพ
เมือพบกับมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอพยักหน้ารับ เห็นสาวใช้คนสนิททีชือลวีจือของ


ป๋ ายซีเยวียท่ามกลางคนทีมาจากจวนตระกูลมู่

“ลวีจือ”

ลวีจือรีบเดินมาด้วยนัยน์ตาตืนตระหนก : “ลวีจือคารวะ
คุณชาย ขอบังอาจถามคุณชาย คุณหนูของข้าเป็ นอย่าง
ไรบ้างเจ้าคะ”

26
“นางไม่ระวังจึงบาดเจ็บในสนามล่าสัตว์ ตอนนีไม่เป็ น
อะไรมากแล้ว” มูช่ ิงเกออธิบายผ่านๆ ในใจแอบคิดว่า
นางกํานัลในตําหนักขององค์หญิงฉลาดจริงๆ ตอนไป
แจ้งข่าวทีตระกูลมูย่ งั รูจ้ กั พาตัวลวีจือมาด้วย ทําให้นาง
ไม่ตอ้ งยุง่ ยาก

“คุณหนูได้รบั บาดเจ็บหรือ!” ลวีจือพลันรูส้ กึ ตืนตระหนก


ขึนมา

ปฏิกิรยิ าแบบนี ทําให้มชู่ ิงเกอขมวดคิว

นางบอกว่าไม่ได้เป็ นอะไรมากไม่ใช่หรือ อีกอย่าง เจ้า


นายของนางก็เป็ นสายเหลืองขันกลาง บาดเจ็บเพียงเท่า

27
นีไม่เป็ นอะไรมากกระมัง

พอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของมูช่ ิงเกอเปลียนไป ลวีจือจึง


รีบก้มหน้าลงกล่าวขอโทษ : “ขออภัยด้วยเจ้าค่ะคุณชาย
ลวีจือแค่เป็ นห่วงคุณหนู”

“เอาเถอะ” มูช่ ิงเกอยกมือขึนโบก “เจ้านายของเจ้าบาด


เจ็บทีกระดูก จะเคลือนไหวส่งเดชไม่ได้ เดียวเจ้าก็พา
นางกลับไปรักษาตัวต่อทีจวน หากต้องการสิงใดก็ให้ไป
หาพ่อบ้านแล้วกัน”

“คุณชาย ท่านไม่กลับจวนหรือเจ้าคะ?” ลวีจือถามด้วย


ความสงสัย สายตานันเหมือนกําลังบอกว่า ‘คุณหนูของ

28
ข้าก็บาดเจ็บขนาดนีแล้ว แล้วยังเป็ นเพราะออกไปกับ
ท่านจึงได้รบั บาดเจ็บด้วย ท่านจะทิงนางไว้แบบนีได้
อย่างไร ตนเองยังจะออกไปเทียวเล่นทีนอกจวนอีกรึ?’

“ข้าจะไปไหนต้องรายงานเจ้ารึ?” มูช่ ิงเกอมองนางด้วย


สายตาเย็นเยียบ

สายตานันทําให้ลวีจือตกใจ รูส้ กึ เพียงว่ามีไอเย็นพุง่ เข้า


มาหาตัวนาง จึงรีบส่ายหน้าพลางพูดว่า : “ลวีจือไม่รู ้
กาลเทศะเองเจ้าคะ”

มูช่ ิงเกอแอบยิมเย็นในใจ หันกลับกลับไปสังการทหาร


จวนตระกูลมู่ แล้วเดินออกจากโรงหมอเข้าไปยังรถม้า

29
ขององค์หญิงฉางเล่อ

หลังจากทีนางขึนรถ รถม้าก็คอ่ ยๆ เคลือนออกไปยัง


ตําหนักขององค์หญิง

ลวีจือจ้องรถม้า ความไม่พอใจทังหมดแสดงออกมาทาง
สีหน้า

30
ตอนที 73 ป๋ ายเสียวเจียนทีคิดมากไป

“แม่นางลวีจือยาของแม่นางป๋ ายจัดไว้เรียบร้อยแล้ว
หากไม่มีอะไรแล้ว พวกข้าจะคุม้ ครองแม่นางทัง
สองกลับจวน” ทหารของตระกูลมูเ่ ดินมาเดินหยุดด้าน
31
หลังของลวีจือแล้วพูดขึนนิงๆ

ลวีจือรีบดึงความคิดของตนกลับมา หันหลังกลับไปพูด
พร้อมรอยยิม : “ถ้าเช่นนันก็รบกวนพีชายด้วย”

“มิกล้า ข้าน้อยเพียงทําตามคําสังของคุณชาย” ทหาร


ตอบอย่างมีมารยาท

ป๋ ายซีเยวียถูกส่งตัวขึนรถม้าของจวนแล้วย้อนกลับไปยัง
จวนตระกูลมูโ่ ดยมีทหารของจวนคอยอารักขา ส่วนมูช่ ิง
เกอก็พาฉินอีเหยากลับไปส่งทีตําหนักองค์หญิง เพือ
ป้องกันเรืองไม่คาดฝันทีอาจเกิดขึนได้ ทันทีทีกลับไปถึง
ตําหนัก นางก็สงให้
ั คนอาบนําเย็นให้กบั ฉินอีเหยา แล้วก็

32
ให้นางพักผ่อนอยูใ่ นห้องคนเดียว

จากนันก็สงให้
ั นางกํานัลในตําหนักองค์หญิงให้เอาเก้าอี
โยกตัวหนึงมา และเตรียมนําชาและอาหารเลิศรสไปวาง
ตรงสวนบริเวณเรือนของฉินอีเหยา

ในขณะนันทันทีทีกลับถึงจวน ป๋ ายซีเยวียทีนอนอยูบ่ น
เตียงภายในเรือนของตนเองก็คอ่ ยๆ รูส้ กึ ตัว

ภาพตรงหน้าทีดูคนุ้ เคยซึงต่างจากภาพก่อนหน้าทีตน
เองจะหมดสติลง ทําให้นางตกใจ พอรูส้ กึ ตัวก็รบี จับเสือ
ของตนเองแน่น พอเห็นด้านหลังของลวีจือทีกําลังยุง่ ง่วน
อยูจ่ งึ ค่อยๆ คลายมือออก

33
“ลวีจือ” ป๋ ายซีเยวียเรียกเสียงเบา

ความเจ็บปวดทีแผ่ซา่ นตรงทรวงอก ทําให้ความทรงจํา


อันโหดร้ายก่อนหน้านีของตนเองค่อยๆ กลับมา

เสียงทีดังจากข้างหลัง ทําให้ลวีจือหันกลับไปมอง

เมือเห็นว่าป๋ ายซีเยวียฟื นแล้ว นางจึงรีบวิงเข้าไปอยู่


ข้างๆ พลางพูดอย่างดีใจว่า : “คุณหนู ท่านฟื นแล้วหรือ”

ป๋ ายซีเยวียเม้มปากผงกศีรษะ พลางถามว่า : “ข้ากลับ


มาได้อย่างไร” ท่ามกลางความมึนงง นางจําได้วา่ เพียง
34
ว่าตนเองถูกมูช่ ิงเกออุม้ ขึนรถม้าของตําหนักองค์หญิง
หลังจากนันในความทรงจําของนางก็เต็มไปด้วยความ
สับสนวุน่ วายจนถึงตอนนีก็ยงั รูส้ กึ มึนๆ อยู่

“แน่นอนว่าบ่าวเป็ นคนไปรับท่านกลับมา” ลวีจือพูด


เสียงดัง

หลังจากนันก็พดู ใส่สีตีไข่วา่ : “ท่านไม่รูห้ รอกว่าคุณชาย


ทังๆ ทีรูอ้ ยูแ่ ล้วว่าท่านบาดเจ็บแต่ก็ยงั ทิงท่านไว้ทีโรง
หมอข้างทาง แล้วไปอีอ๋อกับองค์หญิงนัน บ่าวเป็ นคนไป
รับท่านกลับมาจากโรงหมอเองเจ้าค่ะ”

ในสายตาของป๋ ายซีเยวียเย็นชา คําพูดของลวีจือทําให้

35
ความโกธเกรียวในใจของนางกลบความเจ็บปวดของร่าง
กายไปหมด

นางถูกมูช่ ิงเกอทิงไว้ทีโรงหมอข้างทางอย่างไม่ไยดีอย่าง
นันรึ ?!

ไม่ส!ิ

อยูๆ่ ความทรงจําอันเลือนรางบนรถม้าก็กลับมา ป๋ ายซี


เยวียจําได้รางๆ ว่าองค์หญิงฉางเล่อพิงอยูบ่ นตัวของมู่
ชิงเกอด้วยท่าทางทีแปลกๆ ส่วนนางนัน............

ทันใดนัน ใบหน้าของป๋ ายซีเยวียก็กลายเป็ นสีแดงและ


36
เห่อร้อน

นางกลับให้มชู่ ิงเกอเห็นด้านทีน่าอับอายของนาง แม้วา่


จะเป็ นเพราะผลกระทบจากฤทธิยาก็เถิด แต่ถงึ อย่างไร
นางเป็ นผูห้ ญิงและขนาดนางทําท่าทีแบบนันต่อหน้ามู่
ชิงเกอแต่เขาก็ยงั ทิงตนเองเอาไว้ แล้วกระโจนเข้าสูอ่ อ้ ม
กอดขององค์หญิงฉางเล่องันรึ?

ทันใดนันแก้มสองข้างอันแดงกําของนางก็เปลียนเป็ น
ขาวซีดและดูน่ากลัว

เขาเห็นร่างกายของนาง........เห็นแล้วแท้ๆ หรือว่าไม่ควร
จะแสดงความรับผิดชอบหรือ?

37
สายตาอันเย็นยะเยือกพลันมีเปลวไฟแห่งความโกรธ
เกรียวปะทุขนึ

“คุณหนูทา่ นเป็ นอะไรหรือว่าจะรูส้ กึ ไม่คอ่ ยสบายอีก


ทําไมใบหน้าเดียวแดงเดียวซีดเช่นนี ให้บา่ วไปตามหมอ
ให้ทา่ นอีกรอบนะเจ้าคะ” ลวีจือรีบหันหลังกลับไป

“เจ้าหยุดนะ!” แต่ความเยียบเย็นของป๋ ายซีเยวียหยุดยัง


การกระทําของลวีจือเอาไว้

“คุณหนู?” ลวีจือหันกลับมามองป๋ ายซีเยวียทีนอนเหงือ


โชกบนเตียงอย่างไม่เข้าใจ

38
ป๋ ายซีเยวียมองนางด้วยสายตาน่ากลัว พลางกัดฟั นพูด
ว่า : “เจ้าเล่าเรืองทีไปรับข้ามาให้หมด ห้ามปิ ดบังแม้แต่
น้อย”

ลวีจือตกใจ คิดว่าป๋ ายซีเยวียรูใ้ นสิงทีตนเองปกปิ ดเอาไว้


จึงรีบคุกเข่าลงพลางพูดว่า : “คุณหนูใจเย็นๆ ก่อนเจ้า
ค่ะ ลวีจือไม่ได้ตงใจจะปิ
ั ดบังแม้แต่นอ้ ย ลวีจือแค่โมโห
คุณชายทีรูอ้ ยูแ่ ก่ใจว่าคุณหนูบาดเจ็บ แต่ก็ยงั มีกะจิตกะ
ใจไปเทียวเล่นข้างนอกจึง.........”

ป๋ ายซีเยวียฟั งแล้วขมวดคิว แต่เดาออกว่าลวีจือเหมือน


จะกําลังเข้าใจอะไรผิด

39
เห็นเจ้านายขมวดคิวลวีจือยิงตืนตระหนก รีบพูดว่า :
“คือ.......คือคุณชายพาคุณหนูเข้าไปรักษาตัวทีโรงหมอ
แล้วสังคนให้มาเรียกทหารและบ่าวรับใช้ในจวนให้ไปที
โรงหมอด้วย หลังจากทีคุณหนูรกั ษาตัวเสร็จเรียบร้อย
แล้ว คุณชายก็สงให้
ั บา่ วดูแลคุณหนูให้ดีและสังให้เหล่า
ทหารไปรับยา จากนันให้พาตัวคุณหนูกลับมา”

“สิงทีข้าอยากรูไ้ ม่ใช่เรืองนี” ป๋ ายซีเยวียตัดบทคําพูดของ


ลวีจือในทันที นางไม่สนใจสักนิดว่ามูช่ ิงเกอจะจัดการ
เรืองนีได้รอบคอบเพียงใด แต่เรืองทีเขาทิงนางนันเป็ น
ความจริง

“ถ้าอย่างนัน.......แล้วคุณหนูอยากรูเ้ รืองอะไรหรือเจ้า
40
คะ?” ใบหน้าของลวีจือเต็มไปด้วยความสงสัย ป๋ ายซีเย
วียหรีตาพูดเสียงแข็งว่า : “ตอนเจ้าไปถึงสถานพยาบาล
เจ้าเห็นองค์หญิงฉางเล่อหรือไม่”

เอ่อ......

ลวีจืออึง เหมือนตามความคิดของเจ้านายตนเองไม่ทนั
แต่นางก็ยงั ตอบตามความเป็ นจริงว่า : “บ่าวไม่เห็นองค์
หญิง แต่เห็นรถม้าของตําหนักองค์หญิงจอดอยูท่ ีนอก
ประตูโรงหมอ รอบๆรถม้ามีนางกํานัลและทหารของจวน
องค์หญิงรายล้อมอยู”่

“หลังจากทีมูช่ ิงเกอออกจากโรงหมอก็ไปขึนรถม้าของ

41
ตําหนักองค์หญิงอย่างนันหรือ?” ป๋ ายซีเยวียถามขึนอีก
ครัง

ลวีจือพยักหน้าอย่างแรง : “บ่าวเห็นเองกับตาว่าคุณชาย
ขึนรถม้าของตําหนักองค์หญิงไป พอเขาขึนรถ รถม้าก็
ออกไปในทันที”

ใบหน้าของป๋ ายซีเยวียดูโหดเ**◌้ยมเป็ นทีสุดและไม่


สามารถสะกดความโกรธเกลียดในใจเอาไว้ได้

‘มูช่ ิงเกอ เจ้ากล้าทํากับข้าถึงเพียงนีเลยรึ ตอนนัน ท่าน


พ่อของข้าต้องมาสินชีพในสนามรบเพราะช่วยชีวิตปู่ ของ
เจ้า เพราะการตายของท่านพ่อทําให้ทา่ นแม่สนหวั
ิ งและ

42
ตายตามไป ข้าทีควรจะเป็ นคุณหนูผสู้ งู ศักดิกลับต้องมา
เป็ นเพียงแค่เด็กกําพร้าทีอาศัยอยูใ่ นจวนตระกูลมู่ ตระกู
ลมูต่ ิดหนีข้าเท่าไหร่ตอ่ เท่าไหร่แล้ว และตอนนีข้าและ
องค์หญิงฉางเล่อโดนยาพิษพร้อมกัน และข้าก็ยงั บาด
เจ็บโดนยาพิษหนักกว่านาง แต่เจ้ากลับทิงข้าไป ไม่ยอม
ช่วยข้าคิดแต่จะไปช่วยองค์หญิงผูส้ งู ศักดิคนนันอย่าง
นันหรือ?’ อยูๆ่ ภายในใจของป๋ ายซีเยวียก็รอ้ นเป็ นไฟ
และทําให้นางรูส้ กึ อ่อนแรงในทันที ความรูส้ กึ ตืน
ตระหนกทังสองครังทีผ่านมา ทําให้นยั น์ตาของนางเต็ม
ไปด้วยความสินหวัง

“หึๆๆ....” ป๋ ายซีเยวียหัวเราะเสียงเย็นด้วยความทุกข์
ระทม นางรูอ้ ยูแ่ ล้วว่าพิษนันยังไม่ได้รบั การถอน

43
ยาพิษประเภทนัน หากไม่ได้......กับใครสักคน แล้วจะ
ถอนได้อย่างไร หากนางปล่อยให้นานต่อไปจนสติ
สัมปชัญญะถูกทําลาย นางควรจะยอมตายหรือหาใคร
สักคนมาแก้พิษดี

ความโกรธเกลียดและความหมดหวังภายในจิตใจ ทําให้
ร่างกายของป๋ ายซีเยวียแผ่กลินอายน่าหวาดผวาออกมา
ทําให้ลวีจือตกใจจนต้องถอยหลังไปสองก้าวอย่างอดไม่
ได้

ในความเป็ นจริงแล้ว ป๋ ายซีเยวียไม่รูว้ า่ ความผิดปกติใน


ร่างกายตอนนีเป็ นเพียงอาการปั นป่ วนสุดท้ายก่อนที
ฤทธิยาจะสลายไป หากนางอดทนและผ่านมันไปได้ก็จะ
ไม่เป็ นอะไร
44
นางคิดแต่วา่ ยาพิษทีตนเองโดนนันเป็ นยาพิษทีมีฤทธิ
ร้ายแรง ผลลัพธ์สดุ ท้ายหากไม่ใช่ตายก็ตอ้ งเสียตัวให้กบั
คนอืน มีแต่ยาแบบนีเท่านันจึงจะเข้ากับนิสยั อันโหดร้าย
อํามหิตของรัชทายาทอย่างฉินจินซิว

ไม่ ! นางไม่อยากตาย !

ยังไม่ทนั ได้ทวงทุกอย่างทีเป็ นของนางคืน นางจะตายได้


อย่างไร!

ในสายตาของป๋ ายซีเยวียมีความไม่จาํ นนเกิดขึน

45
ทว่า______

หากไม่อยากตาย นางต้องให้ใครสักคนมาแก้พิษให้กบั
นาง

*เสียวเจียน หมายถึง ตําช้า น่ารังเกียจ

46
ตอนที 74 ฝ่ าบาทช่วยหม่อมฉันด้วย

แต่วา่ -------

หากไม่อยากตาย นางจะหาใครมาถอนพิษให้เล่า?

47
ในแววตาของป๋ ายซีเยวียเต็มไปด้วยความสับสนและ
ทุกข์ใจ สําหรับหญิงสาวแล้วความบริสทุ ธินันสําคัญ
มากเพียงใด แต่ตอนนีเพือต้องการมีชีวิตอยูต่ อ่ ไป นาง
จําเป็ นต้องแลกด้วยสิงนีอย่างนันหรือ?

“เป็ นเพราะเจ้า! เป็ นพระเจ้า! ทีทําให้ขา้ ต้องเป็ นแบบ


นี!” ป๋ ายซีเยวียกรีดร้องด้วยความโกรธ แม้วา่ แผลตรง
หน้าอกจะเจ็บเพียงใดแต่นางก็ไม่รูส้ กึ ตัวเลยสักนิด

หากมูช่ ิงเกอยอมช่วยนาง ถึงแม้วา่ ในภายหลังนางจะ


ต้องเจ็บปวดหรือต้องจําทน แต่ก็ถือว่าเป็ นตัวเลือกทีพอ
ฝื นทําใจยอมรับได้

48
แต่มชู่ ิงเกอกลับทิงนางแล้วเลือกช่วยชีวิตองค์หญิงฉาง
เล่อ

แล้วนางเล่า?

นางควรจะหาใครมาช่วยดี? เด็กรับใช้ภายในจวน?
องครักษ์? หรือว่าขีเหล้าข้างถนน?

พอคิดถึงความเป็ นไปได้ทงหมดที
ั มี ความโกรธเกลียดที
นางมีให้กบั มูช่ ิงเกอก็พงุ่ ทะลุถงึ ขีดสุดอย่างทนไม่ได้

มูช่ ิงเกอ เจ้าคอยดูนะ ข้าจะทําให้เจ้าเสียใจเหมือนกับที


เจ้าทํากับข้าในวันนี
49
“คุณหนู....คุณหนู....” ท่าทางแบบนีของป๋ ายซีเยวียทํา
ให้ลวีจือตกใจจนทําอะไรไม่ถกู และไม่กล้าเข้าใกล้นาง

“ใส่เสือผ้าให้ขา้ ข้าจะออกจากจวน” ป๋ ายซีเยวียพลันสัง


อย่างเรียบนิง

แต่ แม้ทา่ ทางของนางจะดูเรียบเฉย แต่ภายในใจนัน


ร้อนรนถึงขีดสุด

นางจะต้องถอนพิษก่อนทีมันจะแสดงอาการอย่างเต็มที
และเรืองนีจะให้ใครรูไ้ ม่ได้ วิธีเดียวทีทําได้คือออกไปหา
คนมาถอนพิษ นอกจากนันหลังจากทีถอนพิษสําเร็จแล้ว

50
จะต้องฆ่าคนผูน้ นทิ
ั งเสีย !

หลังจากทีคิดแผนการไว้ในใจเสร็จเรียบร้อยแล้ว นัยน์
ตาของป๋ ายซีเยวียก็เต็มไปด้วยความเยือกเย็นและไอ
สังหาร

“คุณหนูทา่ นกําลังบาดเจ็บ ในเวลาแบบนีจะออกจาก


จวนได้อย่างไร?” ลวีจือพูดเตือน

“สังให้เจ้าไปเตรียมเจ้าก็ไปเตรียม จะมาพูดมากความ
เช่นนีเพืออะไร” ป๋ ายซีเยวียพูดด้วยโทสะ เวลาของนาง
เหลือน้อยมากแล้ว แต่นางนีก็กลับยังถามไม่หยุดจน
อยากจะซัดลงไปสักฝ่ ามือหนึง ตีนางให้ตายเสียจะได้

51
สินเรืองกันไป

ลวีจือโดนดุจนตืนตระหนก จึงรีบไปเตรียมการด้วยใบ
หน้าทีขาวซีด

ป๋ ายซีเยวียต่อหน้าผูอ้ ืนนันดูออ่ นโยนบอบบาง แต่มี


เพียงนางผูเ้ ดียวเท่านันทีเป็ นสาวใช้คนสนิทจึงรูน้ ิสยั ที
แท้จริงของเจ้านาย

ป๋ ายซีเยวียสวมชุดขาวบริสทุ ธิเสร็จเรียบร้อยภายในเวลา
อันสันและยังสวมเสือคลุมเพิมไปด้วยหนึงตัว

หลังจากทีเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วป๋ ายซีเยวีย
52
ก็ตอ้ งอดทนต่อความเจ็บปวดจากแผลตรงหน้าอกและ
ความปั นป่ วนทีแผ่ลามไปตามแขนขา พร้อมเตือนลวีจือ
ว่า : “เจ้าไปอยูใ่ นห้องห้ามผูใ้ ดเข้ามาโดยเด็ดขาด หากมี
คนมาถาม ให้บอกไปว่าข้าพักผ่อนอยูใ่ นห้องห้าม
รบกวน”

ลวีจือรีบพยักหน้า

ป๋ ายซีเยวียหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไป

ด้วยพลังระดับนางแล้ว จะไม่ให้ถกู จับได้วา่ ออกจาก


จวนตระกูลมูน่ นไม่
ั ใช่เรืองยาก อีกอย่างนางคุน้ เคยกับ
การเปลียนเวรยามและชีวิตประจําวันของจวนตระกูลมูด่ ี

53
ป๋ ายซีเยวียออกจากจวนด้วยความรูส้ กึ ไม่ยินยอมและ
ความโกรธแค้น แต่ในใจก็มีความกลัวอยู่

นางควรจะไปหาใคร? ไปหาใครดีละ่ ?

ทันใดนันในใจก็รูส้ กึ ไร้ทีพึงพิงราวกับว่าในโลกใบนีมีนาง
เพียงคนเดียวทีล่องลอยไปมาอย่างโดดเดียว ไร้ซงที
ึ พึง
และไม่มีใครสนใจ

ผูค้ นทีอยูต่ ามท้องถนนนันไม่ได้มีสว่ นเกียวข้องกับนาง


เลยแม้แต่นอ้ ย

54
ไอ้พวกผูช้ ายแปลกหน้าทีน่ารังเกียจพวกนัน ทําให้นาง
รูส้ กึ อยากจะอาเจียน แล้วนางจะยอมให้ไอ้คนธรรมดาๆ
พวกนี......ได้อย่างไร

ความรูส้ กึ ไม่สบายในร่างกายค่อยๆ สงบลง แต่วา่ ป๋ ายซี


เยวียทีจมอยูใ่ นความโกรธเกลียดอันมากมายนันไม่ได้
สังเกตถึงสิงนี ในตอนนีนางคิดอยูอ่ ย่างเดียวว่าหากหา
คนมาถอนพิษให้ไม่ได้นางก็ตอ้ งตายไปอย่างน่าเวทนา

ท่ามกลางความมึนงงป๋ ายซีเยวียได้ชนเข้ากับคนผูห้ นึง

ร่างกายอ่อนช้อยดังกิงหลิวกระเด็นไปข้างหลังและมือ
ใหญ่ขา้ งหนึงก็คว้าเอวของนางเอาไว้ได้ทนั เวลา พร้อม

55
ดึงนางกลับมา

ป๋ ายซีเยวียเงยหน้าขึนมอง ในขณะทีเห็นใบหน้าของคน
ทีโอบตนเองไว้ชดั เจนแล้วนางก็พดู ด้วยความตืนเต้นราว
กับว่าคว้าฟางช่วยชีวิตเอาไว้ได้ : “รุย่ อ๋อง ช่วยหม่อมฉัน
ด้วย!”

ฉินจินห้าวทีเพิงจะถูกปล่อยออกมาจากอารามหลวง
ขมวดคิว ใบหน้าอันเย็นชานันมีความสงสัยอยู่

เขาถูกลงโทษให้อยูใ่ นอารามหลวงเป็ นเวลาสามเดือน


แต่เพราะความพยายามของเสด็จแม่ทาํ ให้เขาถูกปล่อย
ออกมาก่อนเวลา ความทุกข์ใจก่อนหน้านีทําให้เขารูส้ กึ

56
จิตใจยําแย่เป็ นอย่างมาก ขณะทีกําลังเตรียมออกไปเดิน
เล่นผ่อนคลายกับผูต้ ิดตามสองสามคน กลับไม่คิดว่าจะ
พบกับป๋ ายซีเยวียทีอาศัยอยูใ่ นจวนตระกูลมูเ่ ข้า

และสิงทีทําให้เขาคาดไม่ถงึ ก็คือคําแรกทีทังสองพบกัน
คือคําร้องขอความช่วยเหลือจากนาง

“แม่นางป๋ าย เจ้าเป็ นอะไรไป?” ฉินจินห้าวจึงถามนิงๆ

ใบหน้าของคนทีนางคิดถึงทังวันทังคืนมาปรากฏกายอยู่
ตรงหน้า ทําให้นางรูส้ กึ ว่าทังหมดนีเป็ นชะตาฟ้าลิขิต
เทพบุตรของนางถูกลิขิตไว้ให้เป็ นรุย่ อ๋อง

57
ในขณะทีร่างกายและความคิดกําลังอดทนต่อความเจ็บ
ปวด นางก็อดไม่ได้ทีจะพุง่ เข้าไปยังอ้อมกอดของฉินจิน
ห้าวและกอดเอวเขาไว้แน่น ไม่สนใจเลยว่ากําลังยืนอยู่
บนถนนใหญ่

ท่าทางใจกล้าของป๋ ายซีเยวียทําให้สายตาของฉินจิน
ห้าวเย็นชาเล็กน้อย

เขาเพิงจะถูกปล่อยออกมา ยังไม่อยากมีข่าวเสียๆ หายๆ


อะไรอีก

เขาส่งสายตาให้กบั ผูต้ ิดตามทีอยูข่ า้ งหลังแล้วหลังจากที


ทังหมดเดินออกไป เขาก็คอ่ ยๆดันตัวป๋ ายซีเยวียออก

58
พยายามใช้นาเสี
ํ ยงทีอ่อนโยนถามว่า : “ข้างหน้ามีรา้ น
นําชา ข้าให้คนไปจองแล้ว แม่นางป๋ ายไปกับข้าไหม ดืม
ชาก่อนให้สงบลงแล้วค่อยเล่าว่าเกิดอะไรขึนก็ยงั ไม่สาย
หากมีอะไรทีข้าช่วยได้ ข้าก็จะไม่ปฏิเสธ”

ในเวลาแบบนีป๋ ายซีเยวียจะปฏิเสธได้อย่างไรกันเล่า?

รุย่ อ๋องคือยาถอนพิษชันดีทีสวรรค์ประทานให้กบั นาง ไม่


ว่าอย่างไรนางก็จะไม่ปล่อยให้ผา่ นไป

อีกอย่าง นางมันใจว่า หากนางมีความสัมพันธ์ฉนั สามี


ภรรยากับรุย่ อ๋อง ตําแหน่งฮองเฮาแห่งแคว้นฉินใน
อนาคตต้องเป็ นของนางแน่!

59
ถึงตอนนันไม่วา่ จะจวนตระกูลมู่ มูช่ ิงเกอและรัชทายาท
ผูน้ นนางก็
ั จะแก้แค้นให้หมด ให้พวกมันต้องร้องขอชีวิต
อย่างเจ็บปวดต่อหน้านาง!

ป๋ ายซีเยวียเดินตามฉินจินห้าวไปยังร้านนําชา และเข้า
ไปยังห้องพิเศษ

ในขณะนีเอง นางก็รูส้ กึ ว่าร่างกายของตนเองกําลังเริม


สันและทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว

ในขณะทีฉินจินห้าวรินนําชา นางก็รบี พูดว่า : “ฝ่ าบาท


หม่อมฉันมีเรืองจะทูล ให้คนอืนออกไปก่อนได้หรือไม่เพ

60
คะ?”

ฉินจินห้าวหยุดทุกการกระทํา เงยหน้าขึนมองนาง เห็น


สายตาของนางนันดูตืนตระหนกเป็ นอย่างมาก จึงพูด
กับผูต้ ิดตามว่า : “ถ้าอย่างนันพวกเจ้าออกไปก่อน”

แน่นอนว่าผูต้ ิดตามไม่กล้าสงสัยอะไรและต่างก็เดินออก
ไป

ภายในห้องเหลือเพียงแค่ฉินจินห้าวและป๋ ายซีเยวียแค่
สองคน

“แม่นางป๋ ายมีอะไร ตอนนีสามารถพูดได้แล้ว” เขาพูด


61
ใช่ ! ไม่มีเวลาแล้ว

ป๋ ายซีเยวียตัวสันยืนขึนมา นางเม้มปากสีชมพู ดวงตา


งดงามดุจสายนํามองฉินจินห้าวแล้วอยูๆ่ ก็พลันปลด
เสือคุมของตนเองออก ทิงลงกับพืน

ฉินจินห้าวทําหน้าเคร่ง ใบหน้าขมึงตึงพลางถามว่า “แม่


นางป๋ าย เหตุใดจึงทําเช่นนี?”

นําตาของป๋ ายซีเยวียไหลออกจากดวงตาทังสองข้าง
นางพุง่ เข้าหาอ้อมกอดของฉินจินห้าวอย่างไม่สนใจอะไร
อีก และกอดเขาแน่น แนบใบหน้ากับหน้าอกของเขาจน

62
ได้ยินเสียงหัวใจเต้น พลางพูดด้วยนําเสียงอันสันเครือ
ว่า : “ฝ่ าบาทได้โปรดช่วยซีเยวียด้วย ทรงต้องการซีเยวีย
ด้วยเถอะ!”

63
ตอนที 75 หนุ่มน้อยผูห้ ล่อเหลาหยอกล้อหญิงงาม

ณ ตําหนักองค์หญิงฉางเล่อ มูช่ ิงเกอเฝ้าจนล่วงเวลา


พลบคํา แต่ภายในห้องก็ยงั คงเงียบสงบไร้วีแวว

“เสียวเกอเอ๋อร์ ฤทธิยาพิษในร่างกายขององค์หญิงหาย
ไปหมดแล้ว ในตอนนียังคงสลบอยู”่ อยูๆ่ เสียงอันเลว
ร้ายก็ดงั ขึนในหัวของมูช่ ิงเกออย่างคาดไม่ถงึ

ทําให้มชู่ ิงเกอทีกําลังดืมชาเกือบจะสําลักตายเพราะนํา
64
ชาในปาก

“แค่กๆๆ.....” เวรเอ๊ย! อย่าทําให้ตกใจได้ไหม!

หลังจากลมหายใจกลับเป็ นปกติ มูช่ ิงเกอสีหน้าดํามืด


ลุกขึนจากเก้าอีโยก หันหลังกลับไปมองห้องนอนทาง
ด้านหลัง สําหรับคําพูดของนายตัวประหลาดนันนางไม่
นึกสงสัย

เพราะถึงแม้วา่ เขาจะไม่บอก คํานวณดูจากเวลาแล้ว


ฤทธิของยานันก็ควรจะสลายไปได้แล้ว

ถ้าอย่างนันก็ไม่มีเหตุผลทีนางจะอยูต่ อ่
65
มูช่ ิงเกอปั ดชุดทีไม่มีฝนุ่ ผงติดอยูอ่ ย่างสง่างาม แล้วก็
เดินออกไป ผมสีดาํ ปลิวไปตามสายลมอย่างเป็ น
ธรรมชาติ

เพิงก้าวขาออกจากตําหนักองค์หญิงฉางเล่อ สายตาที
มองบรรยากาศนอกตําหนักนันสะท้อนความมืดมิดอยู่
ชัวขณะแล้วสายตานางก็คอ่ ยกลับไปเป็ นเหมือนเดิม

แต่ภาพตรงหน้าไม่ใช่วิวทิวทัศน์เมือครู ่

นางไม่ได้ยืนอยูบ่ นถนนหน้าตําหนักองค์หญิงอีก แต่


กลับยืนอยูก่ ลางแผ่นดินเซียน

66
รอบๆ นันมีแต่ไอเซียนบางเบาเป็ นหมอกสีขาวดุจเส้น
ด้าย

รอบๆ ตัวนาง เต็มไปด้วยต้นสาลีทีงดงามไร้ทีติ ต้นสาลี


นันมีดอกสีขาวดังหิมะ งดงามจนยากละสายตา

มูช่ ิงเกอในชุดสีแดง ยืนอยูต่ รงหน้าต้นสาลี เย้ายวนราว


กับเลือดทีหยดลงมาจากบนฟากฟ้า มีความน่าหลงใหล
ดึงดูดบางอย่างอยู่

บรรยากาศรอบข้าง เห็นต้นสาลีมากมายทีไม่มีทีสินสุด
บนท้องฟ้าทีไกลออกไปถูกหมอกสีขาวปกคลุม บดบัง

67
ภาพทิวทัศน์ในทีอันไกลพ้น

ทันใดนัน เหล่าต้นสาลีตรงหน้านางพลันแยกออกเป็ น
สองฝัง เผยให้เห็นเส้นทางตรงสายหนึง

มูช่ ิงเกอขมวดคิว เดินเข้าไปด้วยอารมณ์สงบนิง

พอนางเดินเข้าไป ต้นสาลีทีอยูข่ า้ งหลังตัวนางก็กลับมา


ประสานเข้ากันดังเดิม ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึน

ยิงเดินลึกเข้าไป ต้นสาลีสองข้างก็ยงเปล่
ิ งประกายเป็ นสี
ขาว และมีกลินหอมแปลกประหลาดจางๆ บางอย่างโชย
มา มูช่ ิงเกอเดินไปตามทาง ได้ยินเสียงนําไหลดังลอยมา
68
เข้าหู

แม้จะได้ยินเสียง ฝี เท้าของมูช่ ิงเกอก็ไม่ได้หยุดหรือเดิน


ช้าลงเลย

ในทีสุดปลายทางก็อยูต่ รงหน้า

มูช่ ิงเกอเห็นบ่อนําแห่งหนึงทีห้อมล้อมไปต้นสาลี

บนผิวบ่อ มีหมอกสีขาวลอยอยูใ่ นนําและยังมีฟองนํา


เล็กๆ ผุดออกมา ชายคนหนึงยืนหันหลังให้นาง เส้นผมสี
ดําทีเปี ยกปอน ลอยอยูบ่ นผิวนําเกียวพันกันไปมา มีไอ
นําจากความร้อนลอยวนเวียนอยู่ ในบ่อ มีคลืนนําบางๆ
69
ค่อยๆ ไหลผ่านกล้ามเนืออันตึงแน่นของเขา ร่างกาย
เหยียดตรงสูงสง่า ไหล่กว้างกํายํา ทุกทีทีกวาดตามองไป
ดูงดงามราวกับฟ้าบันดาล หยดนําเป็ นประกายไหลลืน
ลงไปตามร่างกายอันสมบูรณ์แบบของเขา ราวฟ้าปั น
แต่งร่างกายอันงดงามของเขาออกมา ทุกส่วนดูน่าดึงดูด
เย้ายวนเป็ นทีสุด!

มูช่ ิงเกอมองจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก ร่างกายทีเหมือน


มีฮอร์โมนความเป็ นชายอันร้อนแรงนัน ทําให้รมิ ฝี ปาก
ของนางเหมือนมีอะไรบางอย่างไหลออกมา

กล้าสาบานกับทุกคนได้วา่ ในตอนทีนางเดินเข้ามาตาม
ทางนัน คิดอย่างไรก็คิดไม่ถงึ ว่า จะมีภาพอันงดงามยวน
ใจเช่นนีกําลังรอนางอยู่
70
อยูๆ่ นําในบ่อก็กระเพือมเป็ นระลอกคลืน ชายหนุ่มคน
นันหมุนกลับมาอย่างสง่างาม ปรากฏใบหน้าอันงดงาม
ราวรูปสลัก คิวตาและริมฝี ปากสีแดง ดูสมบูรณ์แบบเป็ น
ทีสุด ทําให้อดไม่ได้ทีจะอุทานออกมา ในโลกมนุษย์และ
บนสวรรค์ก็ยากจะหาใครมาเทียบเทียมได้

ปากของเขาเป็ นสีแดงน่าดึงดูด แม้สีจะไม่ได้เข้มมากนัก


แต่ก็ดเู ปี ยมเสน่ห ์

ต้นสาลีทีเป็ นประกายสีขาวรอบๆ เมือเทียบกับริมฝี ปาก


ของเขาแล้วพลันดูสญ
ู เสียความเปล่งประกายไปเลย

71
นัยน์ตาอันลึกลํานันดูลางเลือนดังภาพมายา ราวกับถูก
ประกายแสงสีนาตาลปกคลุ
ํ มอยู่ แววตาอันตรายผสม
ผสานกับความเย้ายวนกลายเป็ นสีสนั ทีดูแปลกตา

นีไม่ใช่ครังแรกทีมูช่ ิงเกอเห็นหน้าตานายตัวประหลาด
จอมชัวร้ายนี แต่ ไม่มีครังไหนเลยทีตกตะลึงมากถึง
เพียงนี

บางที จากการพบกันหลายครังทีผ่านมา สิงทีทําให้นาง


จดจําได้มากทีสุดคือความแข็งแกร่งอันน่าหวาดหวัน
ของเขา

“มองพอหรือยัง?” เห็นท่าทางอึงงันของนาง ทําให้ความ

72
ไม่พอใจทีมีมานานของซือมัว ค่อยๆ ดีขนบ้
ึ างในทีสุด

เมือก่อน หากมีผหู้ ญิงกล้ามองเขาอย่างโอหังเช่นนี คง


จะโดนเขาปั นจนเป็ นเศษธุลีไปแล้ว ต่างจากตอนนีทีมูช่ ิง
เกอมองเขาเช่นนี เขากลับไม่ได้รูส้ กึ โกรธเลยแม้แต่นอ้ ย
ในใจกลับรูส้ กึ ได้ใจและชอบมากเวลาเห็นเสียวเกอเอ๋อร์
ตกตะลึงในความงามของเขา

‘อืม ดูเหมือนว่า นิสยั ของเขาจะดีขนกว่


ึ าแต่ก่อนมาก’
ซือมัวค่อยๆ ยกยิมมุมปาก

น่าเสียดาย ทีกูหยาและกูเย่ถกู สังให้แยกไปก่อนไม่ได้อยู่


ตรงนี เพราะหากพวกเขารับรูไ้ ด้ถงึ ความในใจของเจ้า

73
นายตนเอง ก็คงจะเอามือปิ ดหน้า แล้วพูดอย่างสินหวัง
ว่า : “ท่านประมุขนิสยั ของท่านไม่ได้ดีไปกว่าเดิมหรอก
แต่ตา่ งกันทีตัวบุคคลต่างหาก! ไม่อย่างนัน ท่านลอง
เปลียนเป็ นใครอีกคนมาทําแบบนีดูสิ รับรองเลยว่าท่าน
จะค่อยๆ ต้มคนๆ นันจนเปื อยแน่”

กลินหอมเข้มข้นดังสุรา เสียงทุม้ ทีแฝงความแข็งแกร่ง


ปลุกให้สติของมูช่ ิงเกอกลับคืนมา

นางกะพริบตา ไม่มีทา่ ทีเขินอายเลยแม้แต่นอ้ ย : “เจ้า


พาตัวข้ามาทีนี ก็เพือจะให้ขา้ มาดูไม่ใช่หรือ? เจ้าใจ
กว้างถึงเพียงนี ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร?” ระหว่างทีพูด
ความตกตะลึงจากความงามก็คอ่ ยๆ ลดลง กลับคืนสู่
ความนิงสงบดังเดิม
74
พูดจบนางก็มองไปรอบๆ

บริเวณข้างบ่อนําร้อน จัดวางโต๊ะเตียๆ และเบาะรองนัง


อยูต่ รงมุมหนึง บนโต๊ะ ยังวางจานผลไม้สดและกาสุราสี
เขียวดังหยกไว้กาหนึงด้วย

นางไม่คิดอะไรก็สาวเท้าเดินเข้าไปและสะบัดแขนเสือนัง
ลงอย่างสบายอกสบายใจ ยกกาสุราขึนดืมไปอึกหนึง
ดวงตาทังสองหรีตาและพูดด้วยความมึนเมาว่า : “สุราดี
จริงๆ บรรยากาศงาม คนงาม เหล้างาม ไม่เลว ไม่เลว!”

ท่าทางขีเกียจและดูมีเสน่หอ์ นั ชัวร้ายแบบนัน เหมือนกับ

75
หนุ่มน้อยผูห้ ล่อเหลา กําลังหยอกล้ออยูก่ บั สาว
งามอย่างนัน.........

76
ตอนที 76 คุณชายเป็ นคนช่างโน้มน้าว

ซือมัวมองนาง นัยน์ตาสีนาตาลมื
ํ ดครึมลง เหมือนมี
อะไรกําลังเคลือนตัวรอปะทุอยูใ่ นมุมมืด

“ถือว่าเจ้าฉลาด รูว้ า่ ข้าเป็ นคนพาเจ้ามาทีนี” ตังแต่แรก


จนถึงตอนนี ไม่เห็นว่านางจะอึดอัดขัดเขินอะไรเลยสัก
นิด

มูช่ ิงเกอยักคิว ปลายนิวดังต้นหอมขาวหยิบผลไม้ผล


77
หนึงทีไม่รูว้ า่ ชืออะไรมาจ่อทีปากแล้วกัดลงไปแรงๆ คํา
หนึง

ผลไม้นนเมื
ั อเข้าปากก็ละลายทันที พอนําหวานสดชืน
จากผลไม้เข้าสูร่ า่ งกาย ทําให้รูส้ กึ อบอุน่ มากขึน ราวกับ
ว่า พลังทีนางฝึ กฝนมานันสันไหวเล็กน้อย

นางอึง มองผลไม้ในมือด้วยความแปลกใจ และตอบคํา


ถามของซือมัว : “ในบรรดาคนทีข้ารูจ้ กั คนเดียวทีมี
ความสามารถมากถึงขนาดพาข้ามาจากถนนหน้า
ตําหนักองค์หญิงมาถึงทีนีได้ มีแค่เจ้าผูเ้ ดียว”

ริมฝี ปากอันงดงามของเขา มีรอยยิมอีกครังเพราะนาง

78
มูช่ ิงเกอไม่ได้มองตัวเอกในบ่อนําอีกต่อไป แต่กดั ผลไม้
สดในมืออีกคํา

ความรูส้ กึ นันกลับมาอีกครัง มูช่ ิงเกอแปลกใจ ถามเขา


ตรงๆ ว่า : “นีมันผลไม้อะไร” พูดพลางมองไปรอบๆ หรี
ตาถามอีกว่า : “แล้วทีนีทีไหนกัน?”

ทุกอย่างในนีต่างทําให้นางรูส้ กึ ว่ามันไม่สมจริง เหมือนที


นีไม่ใช่หลินชวนอย่างนันล่ะ

แต่วา่ ถ้าไม่ใช่หลินชวน แล้วจะเป็ นทีไหนได้

79
หรือว่า คุณตัวประหลาดผูน้ ี จะมีความสามารถใน
การพาตัวนางเข้าไปยังพืนทีว่างอีกแห่ง

คําถามของมูช่ ิงเกอ ซือมัวไม่ได้รูส้ กึ รําคาญแม้แต่นอ้ ย

เขาตอบในขณะทีจุ่มตัวลงในนํา : “ผลไม้ในมือเจ้าคือผล
ไม้แห่งเวทพลัง ในเนือผลไม้บรรจุพลังจิตอยู่ คนทีอยูใ่ น
ระดับทีตํากว่าสายม่วงกินเข้าไปแล้วสามารถทดแทน
พลังจิตทีสูญเสียไปได้ ผลไม้อืนๆ ทีอยูต่ รงหน้าเจ้าก็มี
ฤทธิเช่นเดียวกัน และสถานทีนี ถือว่าเป็ นทีของข้า หาก
ข้าไม่อนุญาต ไม่วา่ ใครก็ไม่สามารถเข้ามาได้”

คําพูดของซือมัว ทําให้มชู่ ิงเกออึงเป็ นทีสุด

80
ในใจนันรูส้ กึ ประหลาดใจมาก ราวกับว่านางทีเป็ นคน
ธรรมดาๆ คนหนึงแอบเข้ามายังดินแดนเทพ ทีเต็มไป
ด้วยสิงมหัศจรรย์อย่างนัน

“เสียวเกอเอ๋อร์ไม่ตอ้ งแปลกใจ อีกหน่อยเจ้าก็จะทําแบบ


นีได้” อยูๆ่ เสียงของซือมัวก็ดงั ขึนทีข้างหู

มูช่ ิงเกอหันหน้ากลับไปในทันที แต่กลับเห็นใบหน้างด


งามเป็ นหนึงมาอยูต่ รงหน้า ดวงตากระจ่างใสของนาง
เบิกกว้าง เจ้าตัวประหลาดเฒ่าจอมชัวร้ายนีขึนมาจาก
บ่อนําตังแต่เมือไหร่กนั และยังมาปรากฎตัวอยูข่ า้ งกาย
นางด้วยเสือผ้าทีเรียบร้อยขนาดนีด้วย?

81
ท่าทางตืนตระหนกแบบนี ยิงทําให้ซือมัวอารมณ์ดีมาก
ขึน

เขายืนนิวมือทีเห็นแต่ละท่อนกระดูกได้ชดั เจนออกมา
วาดบนปลายจมูกอันสูงโด่งของมูช่ ิงเกอ

ความรูส้ กึ ชาวาบทีเกิดขึนตรงปลายจมูก ทําให้มชู่ ิงเก


อรีบยืนมือออกมาจับจมูกของตนเอง สายตาอันสดใส
นันค่อยๆ มีเปลวไฟแห่งความโกรธปะทุขนึ

นางรูส้ กึ ว่าเมือสักครูต่ นเองโดนหยอกล้อ!

82
ฉ่า ! ความอับอายเกิดขึนภายในจิตใจ ทีผ่านมานางเป็ น
คนหยอกล้อคนอืนทังนัน เมือไหร่กนั ทีมีคนกล้ามาหยอก
ล้อนาง

ดีมาก ! ไอ้คนทีอยูต่ รงหน้า กระตุกโดนจุดของนางเข้า


อีกครังแล้ว

ปั ง!

กําปั นราวกับชนเข้ากับแผ่นเหล็ก ความรูส้ กึ เจ็บทีแผ่


ลามมาจากบริเวณมือทําให้มชู่ ิงเกอขมวดคิว

“มือเจ็บรึ?” มือใหญ่กมุ มือเล็กเอาไว้ ราวกับว่าความเจ็บ


83
ปวดตรงปลายนิวได้สลายหายไปในทันที

มูช่ ิงเกอทําหน้าเย็นชา ดึงมือของตนเองออกมา สายตา


ทีแหลมคมดังมีดจ้องหน้าอกของใครบางคนแทบอยาก
จะควักมันให้เป็ นรูสกั หลายๆ รู

ให้ตายเถอะ ! ร่างกายของเจ้านีทําด้วยเพชรหรืออย่าง
ไร?

“เจ้าพาข้ามาทีนีทําไม มาเพือดูเจ้าอาบนําหรือ?” มูช่ ิงเก


อพลันถามอย่างเย็นชา

คําพูดของมูช่ ิงเกอ ช่วยเตือนซือมัวว่าตอนแรกจะพานาง


84
มาทีนีเพราะเหตุใด

นึกถึงภาพบรรยากาศตอนทีนางนังดืมเหล้าอยูบ่ นหลัง
ม้า และอิรยิ าบถต่างๆ ทีแสดงต่อหน้าผูค้ นทีรายล้อมอยู่
อารมณ์ทีเดิมทีเริมดีขนของเขาก็
ึ ปะทุขนมาอี
ึ กครัง

อยูๆ่ เขาก็เกิดความคิดอยากจะซ่อนเด็กน้อยนางนีเอา
ไว้ ทําเช่นนีก็จะไม่มีใครสามารถแอบมองดูความงดงาม
ของนางได้อีก

“นี!” เวลาล่วงผ่านไปเนินนาน แต่ยงั ไม่ได้คาํ ตอบจากซือ


มัว มูช่ ิงเกอจึงเรียกอีกครัง

85
“ซือมัว”

“อะไร”

คําว่าซือมัวทําให้ใบหน้าของมูช่ ิงเกอเกิดความสงสัย

ท่าทางงงๆ และสายตาทีเต็มไปด้วยความสงสัยทําให้หวั
ใจของซือมัวเกิดอ่อนยวบ เท่าทีนางสังเกตเขาถึงกับพูด
จาอ่อนโยนขึนและมีความอดทนมากขึนกว่าเดิม : “ซือ
มัวคือชือของข้า”

ทีแท้เจ้าตัวประหลาดเฒ่าก็ชือซือมัวนีเอง

86
มูช่ ิงเกอเข้าใจแล้วแต่ก็เกิดความสงสัยขึนมาอีก เขาจะ
ชืออะไร แล้วมันเกียวอะไรกับนางด้วย? จู่ๆ มาบอกนาง
แบบนีเพืออะไร?

“ต่อไปนี เรียกข้าว่ามัว” ซือมัวพูดขึนอีกครัง

มูช่ ิงเกอกระตุกยิม รูส้ กึ ขนลุกเพราะคําพูดของซือมัว

“เหอะๆ” หลังจากทีขยับไปข้างๆ หลายที เว้นระยะห่าง


ระหว่างทังสองคนให้มากขึนแล้ว มูช่ ิงเกอก็พดู อย่างไม่
กลัวตายว่า : “ข้าคิดว่าคุณตัวประหลาดเหมาะกับเจ้า
มากกว่า”

87
“ทําไมถึงเรียกข้าว่า ‘คุณ’ ” ซือมัวขมวดคิวถาม ตัว
ประหลาดนันเขาสามารถเข้าใจได้ เหมือนกับว่าหลัง
จากทีนางรูป้ ระวัติของตนเองในหลินชวนแล้ว ก็เคยเรียก
เขาว่า ไอ้ตวั ประหลาดเฒ่าไม่ยอมตาย แต่สาํ หรับคําว่า
“คุณ” นีไม่ใช่คาํ เรียกอาจารย์ผสู้ อนหรอกหรือ เขาไม่ได้
เป็ นอาจารย์นี

นัยน์ตาสีนาตาล
ํ มีความน้อยใจอยูเ่ ล็กน้อย ราวกับว่า
กําลังบีบบังคับมูช่ ิงเกอให้หาคําอธิบายทีสมเหตุสมผล
มากพอมา

เอ่อ......

88
เรืองนีจะอธิบายอย่างไรดี

มูช่ ิงเกอเกาหัว ลังเลสักพัก เริมทําท่าทางเพืออธิบาย :


“คุณ คํานีถือเป็ นคําเรียกทีให้เกียรติ เจ้าก็รูว้ า่ ก่อนหน้านี
ข้าฝึ กเวทพลังไม่ได้ ไม่มีความสามารถ ทําได้แค่พฒ
ั นา
วิชาความรู ้ แม้วา่ ข้าจะไม่ได้อะไรจากสิงทีอาจารย์สอน
เลย แต่ ข้ายกย่องในวิชาความรูอ้ นั กว้างไกลของ
อาจารย์มาก เพราะฉะนัน มีแต่คนทีข้าเคารพเท่านัน ที
ข้าจะเรียกว่าคุณ” (先生 หรือ คุณ ในอดีตใช้เรียก
อาจารย์ ปั จจุบนั แปลว่าคุณ ใช้เรียกแทนผูช้ าย)

สําหรับการโกหกพวกนีแล้ว มูช่ ิงเกอไม่ได้รูส้ กึ ผิดเลยแม้


แต่นอ้ ย

89
แต่เดิมนัน ไม่วา่ จะชาติทีแล้วหรือชาตินี ‘คุณ’ คํานีไม่ใช่
คําด่าว่าอะไร เพียงแต่ ก็ไม่ได้เป็ นคําทีแสดงการเคารพ
อะไรอย่างนัน ในชาติก่อนทีโลกพัฒนาแล้ว คําๆ นีได้
กลายเป็ นคําเรียกขานแทนตัวผูช้ ายไปตังนานแล้ว
แสดงถึงว่าคนผูน้ ีเป็ นผูม้ ีความรูเ้ ท่านัน

เพราะฉะนัน ใช่ มูช่ ิงเกอเป็ นทีมีความรูม้ ากคนหนึงเลย


ล่ะ!

“จริงหรือ” ซือมัวเงียบฟั งคําอธิบายของมูช่ ิงเกอ รูส้ กึ ไม่


น่าเชือถืออย่างไรก็ไม่รู ้

90
“แน่นอนสิ!” มูช่ ิงเกอตอบอย่างไม่รูส้ กึ รูส้ า

91
ตอนที 77 นายท่านมัวป่ วย

เห็นท่าทางจริงใจของนาง ซือมัวก็ไม่อยากสาวความต่อ
ความยืดว่านางพูดจริงหรือไม่

ทีพานางมาทีนี จริงๆ แล้วเพียงอยากจะลงโทษนาง

ลงโทษนางทีไม่รูจ้ กั เก็บซ่อนสายตาอันงดงามต่อหน้าผู้
อืน ทําให้มีสายตาหืนกระหายแอบมองนางตามมามาก
มาย สิงเหล่านันทําให้เขาไม่พอใจ

92
ทว่า พอมูช่ ิงเกอปรากฎตัวต่อหน้าเขา เขาก็ไม่เหลือกะ
จิตกะใจทีจะลงโทษนางเลยแม้แต่นิด เพียงแค่อยากจะ
พูดคุยกับนางอย่างผ่อนคลายและไม่ตอ้ งสนใจสิงใด
เหมือนดังตอนนี

อืม......ควรจะบอกว่า นางปฏิบตั ิตอ่ เขาอย่างกําเริบไม่


สนใจสิงใด

และเขา ก็เหมือนจะทนความกําเริบแบบนีได้

‘หรือว่า ข้าจะป่ วยเหมือนทีกูหยาและกูเย่บอก’ ซือมัว


ถามตนเองในใจ

93
“นี เจ้าพาข้ามาทําอะไรทีนี หากไม่มีอะไร ก็รบี ปล่อยข้า
กลับไป” เห็นแก่ซือมัวทีให้เคล็ดวิชาพันสายฟ้ากับนาง
นางจึงถามอย่างอดทน

“มัว” ซือมัวช่วยแก้

คิวทีขมวดอยู่ ทําให้นางแทบจะอดไม่ได้อยากจะเอามือ
ไปคลายให้ตรง

และมูช่ ิงเกอก็เกือบจะทําแบบนันแล้ว แต่โชคดีตอนทีมือ


ของนางกําลังจะยืนออกไปนางรีบดึงกลับมาได้อย่างทัน
ท่วงที หยุดยังการกระทําอันน่าขายหน้าของตนเองไว้ได้

94
บางคนก็ยงั คงมองนางอย่างแน่วแน่ ทําให้นางยักไหล่
พูดอย่างจนปั ญญาว่า : “เอาเถอะ ถอยกันคนละก้าว
คุณตัวประหลาด”

“.......” ซือมัวเงียบ

เอาเถอะ คุณตัวประหลาดก็คณ
ุ ตัวประหลาด สักวันหนึง
เขาจะต้องได้ยินชือของตนเองออกมาจากปากเล็กๆ ที
แสนจะน่าดึงดูดนีให้ได้

“คุณตัวประหลาดหากไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อนได้
หรือไม่ ข้ารีบ!” มูช่ ิงเกอพูดขึนอีกครัง

95
“เสียวเกอเอ๋อร์ไม่ชอบทีนีและอยากออกจากทีนีถึงเพียง
นันเลยหรือ?” ซือมัวพูด

มูช่ ิงเกอพูดอีกว่า : “เจ้าไม่เคยได้ยินคําว่าปราสาทเงิน


ปราสาททอง มิอาจเท่าเพิงหมาของตนเอง (เปรียบเทียบ
ทีใดก็ไม่เท่าบ้านตนเอง) รึ?” นางรีบจริงๆ ไม่มีเวลามา
พูดคุยอย่างสบายอารมณ์กบั คนแก่เช่นนี

เรืองทีป๋ ายซีเยวียบาดเจ็บ นางต้องกลับไปอธิบายให้


ท่านผูเ้ ฒ่าได้ทราบ

องครักษ์อีก 500 กว่านายยังรอให้นางไปทรมาน อ้อ ไม่


สิ ไปฝึ กฝน

96
และตํารายาทีเพิงได้มา........พันสายฟ้าก็ยงั ฝึ กได้ไม่
ชํานาญมากพอ......นางยุง่ มาก ยุง่ มากๆ จริงๆ รูห้ รือไม่

“ปราสาทเงินปราสาททอง มิอาจเท่าเพิงหมาของตน
เอง” ซือมัวทวนคําพูดของมูช่ ิงเกอพลางยิมพลันพูดว่า :
“ถือเป็ นการอุปมาทีใช้ได้” เงียบไปพักหนึงก็พดู ต่อว่า :
“ก็เหมือนบทกลอนทีเสียวเกอเอ๋อร์ประพันธ์ขนในวั
ึ นนัน
ช่างน่าอัศจรรย์ใจ”

มูช่ ิงเกอตกใจ พลางถามว่า : “เจ้ารูไ้ ด้อย่างไร?” ตังแต่


วันทีนางทะลุมิติมาจนถึงตอนนี นางแอบขโมยใช้คาํ
กลอนไปแค่บทเดียวเท่านัน และในตอนนัน นางเองก็มนั
ใจว่า คุณตัวประหลาดไม่ได้อยูต่ รงนัน แต่เขารูไ้ ด้อย่าง
97
ไร?

ซือมัวยิมอย่างลึกลับ : “สําหรับเรืองของเสียวเกอเอ๋อร์
แล้ว ข้ารูท้ กุ อย่าง”

ไม่นะ ! ความเป็ นส่วนตัวล่ะ พืนทีส่วนตัวล่ะ ทําไมนาง


ต้องใช้ชีวิตอยูภ่ ายใต้การสอดส่องของไอ้เฒ่าผูน้ ีด้วย

ใบหน้าเล็กๆ อันงดงามของมูช่ ิงเกอดําคลําดังก้นหม้อ

หากนางสูช้ นะผูช้ ายตรงหน้าได้ นางจะเหยียบเขาให้จม


ดิน

98
“เสียวเกอเอ๋อร์กาํ ลังโกรธหรือ?” ซือมัวถาม

ชัด! เจน! มาก! ใช่ไหมล่ะ?

มูช่ ิงเกอไม่อยากจะพูดคุยกับใครบางคนอีกต่อไปแล้ว

“เพราะเหตุใด?” ซือมัวถามอีกครัง

ไม่นะ! ไม่นะ! ไม่นะไม่นะ! กล้าใช้คาํ ถามราวกับตัวเอง


เป็ นผูบ้ ริสทุ ธิเช่นนีมาถามนางว่าทําไมงันรึ?

ราวกับเปลวเพลิงพวยพุง่ ออกจากดวงตาทังคูข่ องมูช่ ิงเก

99

นางกัดฟั น พยายามควบคุมอารมณ์ของตนเองพลางพูด
ว่า : “หลังจากนี ห้ามติดตามชีวิตข้าอีก ไม่อย่างนัน เรา
สองคนถือเป็ นศัตรูกนั !”

“เสียวเกอเอ๋อร์โกรธเพราะเรืองนีเองหรือ” ในทีสุด ซือมัว


ก็เหมือนจะเข้าใจเหตุผลทีมูช่ ิงเกอโกรธ

“ได้” เขาตอบอย่างไม่ลงั เล เหมือนไม่ได้เป็ นเรืองสลัก


สําคัญอะไร

ปฏิกิรยิ าเช่นนี ทําให้มชู่ ิงเกอเกือบจะรูส้ กึ เศร้าใจ


100
ผูเ้ ก่งกาจทําไมถึงเป็ นเช่นนี นางก็เคยเป็ นคนเก่งกาจคน
หนึง แต่ไม่ได้อวดดีขนาดนี มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึนมองฟ้า
โดยไม่พดู อะไร

ทันใดนัน นางก็รูส้ กึ เหมือนชกเข้าไปยังสําลีกอ้ นใหญ่


ทําให้รูส้ กึ ไม่! ดี! มาก!

เหมือนจะรูส้ กึ ว่ามูช่ ิงเกอจะโกรธจริงๆ ซือมัวจึงไม่บงั คับ


แต่พดู อย่างมีความสุขว่า : “ข้าจะส่งเจ้ากลับไป”

หลังจากนัน มูช่ ิงเกอทันมองหน้าเขาแค่แวบเดียว ก็


หายออกไปจากสวนต้นสาลี

101
ซือมัวนังอยูท่ ีเดิม หยิบขวดเหล้าทีมูช่ ิงเกอเคยดืมขึนมา
ดืมด้วยท่าทางแบบเดียวกันกับนาง

อยูๆ่ ตรงหน้าเขาก็ปรากฏเงาร่างสีดาํ ของคนสองคน

เงาคนชัดขึนเรือยๆ เป็ นกูหยาและกูเย่นีเอง

“มหาปราชญ์!”

ทังสองพูดพร้อมกัน

102
ซือมัวทําเหมือนไม่ได้ยิน พึมพําว่า : “ตอนแรกอยากจะ
เรียนวิธีการเต้นเพลงแปลกๆนัน แต่ดเู หมือนว่าคงต้อง
รอครังหน้าตอนทีนางอารมณ์ดีแล้ว”

พอคําพูดนีเข้าหูกหู ยาและกูเย่ นัยน์ตาของทังสองพลัน


มีความแปลกประหลาดขึนมา

อาการของเจ้านายหนักขึนเรือยๆ

“ทําไมรึ?” จบความเสียดายภายในใจแล้ว ซือมัวก็พดู


กับทังสอง

กูเย่รบี พูดว่า : “หลังจากทีคนพวกนันรูว้ า่ มหาปราชญ์ไม่


103
ได้อยูใ่ นอาณาจักรแล้ว ก็เหมือนจะเริมไม่สงบ”

นัยน์ตาสีนาตาลลึ
ํ กลําของซือมัว มีรงั สีสงั หารอันเยือก
เย็นพวยพุง่ ออกมา อุณหภูมิทวร่
ั างกายเพิมสูงขึน ความ
รุนแรงของความเยือกเย็นนันชวนให้ผคู้ นหายใจติดขัด

ในสายตาของกูหยาและกูเย่มีเปลวเพลิงรุม่ ร้อนลุกโชน
ขึน พูดอย่างพร้อมเพรียงกันในใจว่า : ‘แบบนีสิถงึ จะเป็ น
มหาปราชญ์ทีพวกเขาคุน้ เคย ถือเป็ นการปลดปล่อยที
ถูกวิธี’

“ดูเหมือนว่า จะได้เวลากลับไปอีกรอบแล้ว” ซือมัวตัดสิน


ใจ

104
คิดแล้วเขาก็พดู ว่า : “กูเย่กลับไปกับข้า กูหยาอยูท่ ีนี
คอยปกป้องเสียวเกอเอ๋อร์อย่างลับๆ จําไว้ หากนางไม่
ได้มีอนั ตรายถึงชีวิต เจ้าห้ามปรากฏตัวเด็ดขาด และ
ห้ามไปติดตามชีวิตประจําวันของนาง ยิงห้ามไม่ให้นาง
รูส้ กึ ถึงการมีตวั ตนอยูข่ องเจ้า”

บนใบหน้าอันเย็นชาหล่อเหลาของกูเย่ทีได้ไปกับซือมัว
นัน ปรากฏความกระหยิมยิมย่อง ส่วนเด็กน้อยผูถ้ กู ทอด
ทิงอย่างกูหยาก็ทาํ หน้าอยากจะร้องไห้ มองซือมัวอย่าง
น่าสงสาร

ไม่ใช่วา่ เขาไม่อยากดูแลมูช่ ิงเกอ แต่เขาไม่อยากจากเจ้า


นายของตนเองไป ฮือๆๆ~! ทําไมคนทีอยูท่ ีนีถึงไม่ใช่กเู ย่
105
ไอ้คนเลวนัน!

เสียดาย ทีซือมัวหายไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่มองเขาเลย
แม้แต่แวบเดียว

หลังจากทีมันใจว่าเจ้านายไปแล้ว กูเย่ก็ตบไหล่ของกู
หยาอย่างเห็นใจ พลางปลอบใจว่า : “น้องชาย ปล่อย
วางเถิด หลายปี ผา่ นมา การตัดสินใจของมหาปราชญ์
เคยเปลียนไหม?”

“อยากจะลองแข่งกันสักตังหรือ?” กูหยามองอย่างเย็น
ชาพลางกัดฟั นพูด

106
กูเย่ไม่ได้โง่ทีจะไปเป็ นทีระบายอารมณ์ให้เขาในตอนนี
จึงจากไป ทิงกูหยาไว้เพียงผูเ้ ดียว

107
ตอนที 78 เขาเป็ นคนอย่างไร?

ภายในตําหนักองค์หญิงฉางเล่อ ตังแต่ทีฉินอีเหยาสลบ
ไป ตอนนีก็ยามสองแล้ว

ในขณะทีนางกํานัลจุดตะเกียงจนในห้องสว่างไสว ใน
ความคิดของนางก็มีภาพความทรงจําลอยไปมาไม่หยุด
และในภาพความทรงจําเหล่านันนางเหมือนจะเปลียน
เป็ นคนละคนจากเดิม

ฉินอีเหยาหน้าแดงกําไปชัวขณะ แต่ก็กลับสูส่ ภาพปกติ


108
แทบจะทันที

คนฉลาดอย่างนาง รูแ้ ล้วว่าเกิดอะไรขึนกับร่างกายของ


ตนเอง และเรืองแบบนี นางเองก็กลัว ในขณะเดียวกันก็
ดีใจทีตนเองไม่ได้ทาํ สิงใดอันผิดศีลธรรม

“องค์หญิงทรงหิวหรือยังเพคะ? ข้าน้อยไปเตรียมสํารับ
มาให้นะเพคะ” หลังจากทีจุดตะเกียงเสร็จ นางกํานัลก็
เดินเข้ามาถามฉินอีเหยา

“เดียวก่อน” ฉินอีเหยาสังคําสังกับนาง เม้มปากพลาง


ถามเบาๆ ว่า : “ระหว่างทางกลับตําหนัก ข้ารูส้ กึ ไม่
สบาย จําไม่ได้วา่ เกิดเรืองอะไรขึน เจ้าลองเล่าให้ขา้ ฟั ง

109
อีกสักรอบสิ”

“ได้เพคะ” นางกํานัลไม่ปฏิเสธ และเล่าทุกอย่างให้แก่


นางฟั ง

รวมถึงเรืองทีมูช่ ิงเกอพลันเปลียนใจให้ป๋ายซีเยวียรักษา
ตัวทีโรงหมอริมทาง จากนันก็ให้คนจากจวนตระกูลมูม่ า
รับตัวนางกลับจวนไป แล้วมูช่ ิงเกอก็เฝ้าอยูห่ น้าประตู
เป็ นเวลาเนินนานจึงค่อยกลับไป นางกํานัลเล่าทุกอย่าง
ให้องค์หญิงฟั งอย่างละเอียด

ฟั งนางกํานัลพูดจบ หัวใจของฉินอีเหยาก็เต้นรัว

110
นางสังให้นางกํานัลออกจากห้องไปแล้วมองไปยังเปลว
ไฟ และเหม่อลอยท่ามกลางไฟทีกําลังลุกโชนนัน

“มูช่ ิงเกอ เจ้าเป็ นคนอย่างไรกันแน่?” ฉินอีเหยาพึมพํา


ด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ

ใครๆ ก็บอกว่า มูช่ ิงเกอเป็ นคนเสเพลไร้คา่ ทว่าเมือนาง


ได้สมั ผัสกับเขาจริงๆ แล้ว กลับพบว่าไม่ได้เป็ นแบบนัน
เลย เขาให้ความรูส้ กึ ปลอดภัยมากกว่าใคร และเป็ น
สุภาพบุรุษอย่างแท้จริง

สําหรับเรืองยาพิษ การจัดการของเขาเหมาะสมมาก ไม่


ได้ทาํ ให้นางเสียชือเสียงเลยแม้แต่นอ้ ยและเพราะไม่ไว้

111
ใจ จึงมาเฝ้าด้วยตนเอง หลังจากทีมันใจว่านางไม่ได้เป็ น
อะไรแล้วจึงกลับไปโดยไม่บอกไม่กล่าว

หลังจากทีคิดทบทวนโดยละเอียดถีถ้วนแล้ว หัวใจอัน
เยือกเย็นของฉินอีเหยาก็อบอุน่ ขึนเรือยๆ บนใบหน้าอัน
งดงาม ผุดรอยยิมทีออกมาจากใจจริง

ณ ตําหนักองค์หญิง จิตใจของฉินอีเหยานันเต็มไปด้วย
อบอุน่ แต่ในอีกด้านหนึงของแคว้นลัวตู ณ ร้านชา
ธรรมดาๆ ร้านหนึง ในทีสุดฉากรักอันยวนใจก็ได้จบลง

ป๋ ายซีเยวียใส่เสือผ้าของตนเอง ผิวอันขาวผ่องนันยัง
หลงเหลือรอยสีชมพูอยู่

112
“องค์ชาย ต่อไปนีซีเยวียก็เป็ นคนขององค์ชายแล้ว” หลัง
จากทีใส่เสือผ้าให้กบั ฉินจินห้าวเสร็จแล้ว ป๋ ายซีเยวียจึง
กอดเขาจากด้านหลัง เอาใบหน้าของตนเองแนบกับแผ่น
หลังอันกว้างใหญ่ของเขา

ฉินจินห้าวตาเป็ นประกาย เผยรอยยิมตรงมุมปาก ตบ


มือเล็กๆ ทีกอดเอวตนเอง แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า :
“วางใจเถอะ ข้าไม่ทิงเจ้าหรอก”

พูดจบ เขาก็ดงึ มือของนาง และดึงนางเข้ามาอยูต่ รงหน้า


ตนเองพลางถามว่า : “ตอนนี บอกข้าได้รยึ งั ว่าเกิดอะไร
ขึน”

113
การทีรุย่ อ๋องจะถามถึงต้นสายปลายเหตุนนั เป็ นเรืองที
ป๋ ายซีเยวียคาดการณ์เอาไว้แล้ว

เพราะฉะนัน นางจึงพยักหน้าอย่างไม่เร่งรีบ พูดในสิงที


คิดมาดป็ นอย่างดีแล้ว

นางคิดไว้แล้วว่า นางจะพูดตามความจริงกับรุย่ อ๋อง


แบบนีก็จะสามารถให้รุย่ อ๋องแก้แค้นแทนนางได้ แน่นอน
ว่า บางอย่างทีควรปิ ดบัง และรายละเอียดทีไม่ควรให้รุย่
อ๋องรู ้ นางจะไม่พดู ถึงอย่างแน่นอน

สายตาทีแนบนิงดังสายนําพลันมีไอร้อนชืนเกาะกุมชัน

114
หนึง ป๋ ายซีเยวียตัวอ่อนราวกับไร้กระดูกพิงอยูบ่ นหน้า
อกของฉินจินห้าว พลางพูดว่า : “ซีเยวียไปงานล่าสัตว์
ชมไม้กบั องค์หญิงฉางเล่อและพีมู่ แต่วา่ ข้าไม่ได้พบ
พระองค์มานาน หวังจะได้แอบมองท่านห่างๆ อีกสักครัง
ทว่ายังไม่ทนั จะเจอพระองค์ ข้าก็ชนเข้ากับรัชทายาท”

เรืองทีตนเองโดนลงโทษ ไม่ได้ถกู ป่ าวประกาศออกไป


เพราะฉะนันหญิงสาวทีอยูแ่ ต่ในจวนอย่างนางจะไม่รู ้
ฉินจินห้าวก็คิดว่าเป็ นเรืองปกติ

แน่นอนว่า ในใจของเขารูส้ กึ ซาบซึงกับความรูส้ กึ ที


ผูห้ ญิงในอ้อมกอดมีให้กบั ตน แต่วา่ มันก็แค่ช่วงเวลา
หนึงเท่านัน

115
พอได้ยินคําว่า ‘รัชทายาท’ ในสายตาของเขาก็พลันเยือก
เย็น ตรงหางตามีความโหดเ**◌้ยมปรากฏขึน

ป๋ ายซีเยวียทีไม่ได้รบั รูถ้ งึ การเปลียนแปลงของฉินจินห้าว


พูดสิงทีอยูใ่ นใจต่อว่า : “หลังจากนัน รัชทายาทก็พาซีเย
วียไปยังทีเปล่าเปลียว และคิดจะ.....จะ.....” คิดถึงความ
หมดหวังในตอนนัน ในใจของป๋ ายซีเยวียนอกจากโกรธ
เกลียดแล้ว ยังคงมีความหวาดกลัว

ร่างกายของนางสันอย่างอดไม่ได้ นําตาไหลออกมาไม่
หยุด

116
ฉินจินห้าวขมวดคิว เพือให้เข้าใจเรืองราวทังหมดต่อจาก
นีโดยเร็วทีสุด เขาจึงกอดหญิงสาวในอกเเน่นขึน เพือ
เป็ นการปลอบโยนนาง

สําหรับการกระทําของฉินจินซิวแล้ว เขาแค่ใช้หวั แม่เท้า


เดายังเดาออก โกรธหรือ? ฉินจินห้าวไม่ได้รูส้ กึ แบบนัน
แม้แต่นอ้ ย กลับรูส้ กึ สมใจ

ผูห้ ญิงทีฉินจินซิวตีตราเอาไว้ สุดท้ายกลับกลายเป็ น


ผูห้ ญิงของตนเอง คิดแล้วก็ช่างสะใจจริงๆ

รูส้ กึ ได้วา่ สองแขนทีโอบกอดตนเองนันแน่นขึน ป๋ ายซีเย


วียพลันอุน่ ใจมากขึน รูส้ กึ ว่าตนเองเลือกไม่ผิด องค์ชาย

117
มีใจให้แก่นางและเห็นใจนาง ทังยังปลอบใจนางด้วย
การกระทํา

“โชคดีทีหลังจากนันองค์หญิงฉางเล่อไปทันเวลาทําให้
รัชทายาทจําเป็ นต้องออกไป แต่ฤทธิยาพิษในตัวข้า
นัน.......แล้วข้าทังบาดเจ็บและโดนยาพิษ หลังจากนัน
ถูกส่งตัวกลับจวน ข้าคิดว่าคงจะไม่มีใครช่วย เพือหา
ทางรอด ข้าจึงแอบออกจากจวนมา ทําให้ซีเยวียมาพบ
กับองค์ชาย ทังหมดนีราวกับเป็ นเพราะชะตาฟ้าลิขิต”
พูดจบนัยน์ตาของป๋ ายซีเยวียพลันเกิดความอิมเอมใจ

ฟั งคําอธิบายของป๋ ายซีเยวียจบ ฉินจินห้าวก็กะพริบตา


ไปหลายหน พลางประทับรอยจูบกลางศีรษะนาง พูด
อย่างเห็นใจว่า : “ทําให้เจ้าลําบากเข้าแล้ว วางใจเถอะ
118
ข้าจะทวงความยุติธรรมให้แก่เจ้าเอง”

คําพูดนี กําลังเป็ นคําพูดทีป๋ ายซีเยวียอยากได้ยิน และ


ตอนนีพอได้ยินองค์ชายยุย้ เป็ นคนเอ่ยปากก่อน ในใจจึง
รูส้ กึ พอใจเป็ นอย่างมาก

“แล้วมูช่ ิงเกอล่ะ” ฉินจินห้าวพลันถามขึน

พูดถึงมูช่ ิงเกอ ในสายตาของป๋ ายซีเยวียก็เกิดความ


เยือกเย็นขึนและหลังนําตาและทําท่าทางน่าสงสารใน
ทันที : “พีมูจ่ ะมีกะจิตกะใจอะไรมาสนใจข้า หลังจากที
ช่วยชีวิตข้าน้อยแล้ว เขาก็ทิงเขาไว้ตรงสถานพยาบาล
ข้างตลาดแล้วก็สง่ องค์หญิงฉางเล่อกลับตําหนักไป”

119
“เขากล้าไม่ใส่ใจและไม่สนใจเจ้าหรือ” ฉินจินห้าวรูส้ กึ
สงสัย นําเสียงมีความคลุมเครือยากทีจะตัดสินว่าดีใจ
หรือเสียใจ

120
ตอนที 79-1 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

“เขากล้าไม่ใส่ใจและไม่สนใจเจ้าหรือ” ฉินจินห้าวรูส้ กึ
สงสัย นําเสียงมีความคลุมเครือยากทีจะตัดสินว่าดีใจ
หรือโกรธเกรียว

ทว่า เท่าทีป๋ ายซีเยวียสังเกต รุย่ อ๋องเหมือนจะโกรธ และ


เหตุผลของเขาก็เหมือนของนางคือโกรธเกลียดมูช่ ิงเกอ

ป๋ ายซีเยวียแอบยิมมุมปากอย่างลําพองใจ แต่ทา่
ทางกลับยิงดูน่าสงสาร นางผลักฉินจินห้าวออกเบาๆ
1
เดินถอยหลังสองก้าว พลางพูดอย่างน่าสงสารว่า : “ซีเย
วียเป็ นเพียงเด็กกําพร้าทีอาศัยอยูใ่ นจวนของคนอืน จะ
สูงส่งสูอ้ งค์หญิงได้อย่างไร ซีเยวียเข้าใจในการกระทํา
ของท่านพีมูด่ ี”

ฉินจินห้าวเกิดความสงสัย จนเดินเข้าไปใกล้หนึงก้าว
พลางถามว่า : “ช่วงนีมูช่ ิงเกอสนิทกับขนิษฐาของข้างัน
รึ"

ป๋ ายซีเยวียพยักหน้า พูดตามความจริงว่า : “องค์หญิง


เองก็มาหาท่านพีมูบ่ อ่ ยๆ”

ข่าวนีทําให้สายตาของฉินจินห้าวพลันมืดมนในทันที

2
เท่าทีเขาดูแล้ว หากน้องสาวคนนีของตน แต่งงานกับคน
ไร้คา่ อย่างมูช่ ิงเกอก็ถือว่าเสียเปรียบ แต่หากแต่งกับองค์
ชายแคว้นรอบๆ ก็คงจะเป็ นแรงเกิอหนุนให้เขาได้ขนึ
ครองแคว้นได้

เพราะฉะนัน การทีมูช่ ิงเกอและฉินอีเหยาสนิทสนมกัน


มากขึนนัน ไม่ใช่สงที
ิ เขาอยากเห็น

ความคิดของเขากับเสด็จแม่เหมือนกัน ในตอนทีตระกู
ลมูย่ งั มีอาํ นาจ พวกเขาสามารถแย่งชิงอํานาจมาเป็ น
ของตนเองได้จะเป็ นการดีทีสุด การทีฮ่องเต้จะจัดการกับ
จวนตระกูลมูน่ นเป็
ั นเรืองทีแน่นอนอยูแ่ ล้ว พอเข้ายึด
อํานาจทังหมดจากตระกูลมูเ่ สร็จแล้วก็ให้เสด็จพ่อ
3
จัดการจวนตระกูลมูเ่ สียให้สนซาก
ิ สุดท้ายค่อยให้นอ้ ง
สาวของตนเองแต่งงานเชือมสัมพันธ์กบั แคว้นเพือนบ้าน
หากเป็ นเช่นนันแล้วในบรรดาองค์ชายแห่งแคว้นฉินจะมี
ผูใ้ ดทีกล้าสูก้ บั เขาอีก อาศัยรัชทายาทไร้สามารถทีคุม้ ดี
คุม้ ร้ายนันน่ะรึ?

ไม่ได้การ เขาต้องทําอะไรสักอย่าง ต้องทําให้ตระกูลมู่


เกิดความโกลาหล เขาจึงจะสามารถฉวยโอกาสนีได้

ฉินจินห้าวหรีตา และตัดสินใจบางอย่าง

เขาพูดกับป๋ ายซีเยวียว่า : “ซีเยวีย ความรูส้ กึ ทีเจ้ามีตอ่


ข้านัน ข้ารับรูแ้ ล้ว แต่วา่ เจ้าต้องรูว้ า่ ด้วยฐานะของข้า

4
แล้ว แม้วา่ อีกหน่อยจะพาเจ้าเข้าตําหนักไป ตําแหน่ง
ชายาเอกนันก็คงไม่อาจเป็ นของเจ้าได้ แม้กระทัง
ตําแหน่งชายารองเองก็คง....” ในขณะทีพูด เขาก็เผยท่า
ทางทุกข์ใจออกมา

ป๋ ายซีเยวียรูส้ กึ ตืนตระหนก

ชายาเอกก็ไม่ได้ ชายารองก็ไม่เหมาะ? แล้วจะให้นางอยู่


ในฐานะอะไร สิงทีนางต้องการคือหัวใจดวงนันของรุย่
อ๋อง และทีปรารถนายิงก็คือฐานะอันสูงส่งอย่าง
ตําแหน่งฮองเฮา

แต่นางก็รูว้ า่ สิงทีรุย่ อ๋องพูดเป็ นความจริง ใครใช้ให้นาง

5
เป็ นได้แค่เด็กกําพร้าเล่า?

เขาทีสังเกตถึงอาการทีเปลียนไปของป๋ ายซีเยวีย ใน
ขณะทีนางเผยความรูส้ กึ หมดหวังออกมาฉินจินห้าวก็
พูดต่อว่า : “ความจริงแล้วก็ไม่ใช่วา่ จะไม่มีวิธีทีจะทําให้
ข้าสามารถแต่งเจ้ามาเป็ นชายาอย่างเปิ ดเผยได้”

“วิธีอะไรเพคะ!” ป๋ ายซีเยวียถามในทันที

ฉินจินห้าวลูบผมอันสวยงามของนางพลางพูดอย่างอ่อน
โยนว่า : “แน่นอนว่าต้องช่วยงานเสด็จพ่อ สร้างความดี
ความชอบ ถึงตอนนันเสด็จพ่อก็จะให้ฐานะทีเหมาะสม
แก่เจ้า เจ้าก็จะไม่เพียงแต่จะสามารถทวงความยิงใหญ่

6
ของตระกูลป๋ ายกลับคืนมาได้ กลับยังสามารถเป็ น
ภรรยาของข้าได้อย่างเปิ ดเผย โดยทีไม่ตอ้ งตกเป็ นขีปาก
ของใคร”

ภาพความฝันอันสวยงามทีฉินจินห้าวสร้างขึนทําให้ป๋าย
ซีเยวียคล้อยตาม

นางเดินตามทาง ‘สว่าง’ ทีเขาปูไว้ให้ และถามว่า : “แต่


ว่า หม่อมฉันเป็ นเพียงผูห้ ญิงตัวเล็กๆ คนหนึง จะทํางาน
ให้กบั องค์ฮ่องเต้แล้วสร้างความดีความชอบได้อย่าง
ไร?”

“เจ้าทําได้ ทําได้แน่ๆ” ฉินจินห้าวพูดจูงใจอีกครัง : “อย่า

7
ลืมว่า ตอนนีเจ้าอยูใ่ นจวนตระกูลมู่ และตอนนีจวนตระ
กูลมูก่ ็เป็ นปั ญหาใหญ่ในใจของเสด็จพ่อไปแล้ว”

ป๋ ายซีเยวียตกใจ ฮ่องเต้คิด.......กับจวนตระกูลมู่ นางดู


ไม่ออกเลยแม้แต่นอ้ ย

ยังดี โชคยังดี ! โชคยังดีทีนางมาเจอกับรุย่ อ๋องและกลาย


เป็ นคนของเขา ในใจของป๋ ายซีเยวียคิดว่า ตนจะต้องมี
ความสุขในภายหน้า เหมือนรูส้ กึ ว่าหากตระกูลมูล่ ม่
สลายจริงๆ ก็จะมีรุย่ อ๋อง คอยช่วยเหลือนางอยู่ ชีวิตของ
นางก็จะไม่ตกตําเหมือนกับคนในจวนตระกูลมู่

“องค์ชาย ซีเยวียต้องทําเช่นไร” ชัวขณะ ป๋ ายซีเยวียก็

8
ตัดสินใจได้ นางเลือกทอดทิงคนในจวนตระกูลมูท่ ีเลียงดู
นางมา

พอปลาติดเบ็ด ฉินจินห้าวก็พดู ด้วยรอยยิมว่า : “ตอนนี


เสด็จพ่อยังไม่ได้ตดั สินใจขันเด็ดขาด เจ้าไม่ตอ้ งเป็ น
กังวล” พลางถอนหายใจพูดว่า “ความจริงแล้ว พวกเราที
เป็ นขุนนางต่างก็ได้รบั ผลกระทบด้วยกันทังนัน ข้าก็หวัง
ว่าเสด็จพ่อจะไม่เล่นงานตระกูลมู่ เพราะอย่างไรก็ตาม
เขาก็เป็ นคูห่ มายของน้องสาวข้า แต่ก็เถิด หากฮ่องเต้มี
พระบัญชาให้ตายก็ตอ้ งตาย หากเสด็จพ่อคิดจะเล่นงาน
ตระกูลมู่ ข้าก็คงผิดต่อความสัมพันธ์อนั ดีระหว่างข้าและ
ตระกูลมู่ เพราะต้องคิดเผือใต้หล้า”

“ความเจ็บปวดในใจขององค์ชายนัน ซีเยวียเข้าใจ” ป๋ าย
9
ซีเยวียอยูใ่ นอ้อมกอดของรุย่ อ๋องด้วยท่าทาง ‘เข้าอกเข้า
ใจ’ : “ก็เหมือนกับทีตระกูลมูเ่ ลียงดูขา้ มานานหลายปี
ข้าก็มีไมตรีตอ่ จวนตระกูลมูไ่ ม่นอ้ ย แต่ พระบัญชาก็ยาก
ทีจะฝ่ าฝื น เป็ นประชาชนแห่งแคว้นฉิน การได้แบ่งเบา
ความกังวลของเจ้าแผ่นดินเป็ นสิงทีสําคัญทีสุด”

“ซีเยวีย เจ้าช่างฉลาดยิงนัก” ฉินจินห้าวกล่าวชม

ป๋ ายซีเยวียก้มหน้าลงอย่างขวยเขิน ในระหว่างทีสนทนา
กับฉินจินห้าว นางเหมือนจะรูเ้ หตุผลทีแท้จริงทีจําเป็ น
ต้องเหยียบตระกูลมูใ่ ห้จมดินแล้ว

ฉินจินห้าวกอดป๋ ายซีเยวียเอาไว้ พลางพูดเสียงตําว่า :

10
“ต่อจากนี หากเจ้าได้ยินอะไรจากจวนตระกูลมู่ ให้แอบ
มาบอกข้า แน่นอนว่า หากเจ้าทําให้ทา่ นผูเ้ ฒ่ามูแ่ ละมู่
ชิงเกอเกิดช่องว่างต่อกันได้จะเป็ นการดีทีสุด”

สิงทีฉินจินห้าวพูด คือสิงเดียวกับทีป๋ ายซีเยวียคิด

มูช่ ิงเกอทําแบบนีกับนาง นางจะไม่ยอมปล่อยเขาไป


ง่ายๆ แน่

เพราะฉะนัน นางจึงรับปากโดยไม่ตอ้ งคิดอะไร

ในทีสุดก็สามารถแอบวางหมากลับไว้ในจวนตระกูลมูไ่ ด้
สําเร็จ ฉินจินห้าวอารมณ์ดีนกั เขาก้มหน้าลงมองหญิง
11
สาวในอ้อมกอดทีหลังจากผ่านศึกอันโหมกระหนํามาแต่
ก็ยงั ดูเย้ายวน ช่วงล่างก็รูส้ กึ ตืนตัวขึนมาอีกครัง

เขายืนมือเรียวยาวของตนเองออกมา อุม้ ป๋ ายซีเยวียขึน


และเดินไปยังตังหลังฉากกบังลมทีจัดไว้สาํ หรับให้แขก
ได้งีบหลับ

ชัวข้ามคืน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ท้องฟ้าเพิงจะเริมสว่าง ฉินจินห้าวก็กลับเข้าวัง และไป


เข้าพบเสด็จแม่ของตนเอง

หลังจากทีพบกับเจียงกุย้ เฟยทีสวมมงกุฎอันงดงาม เขา


12
ก็เล่าเรืองทีป๋ ายซีเยวียไปหาตนออกมาอย่างละเอียด

เจียงกุย้ เฟยเงียบฟั ง แล้วขมวดคิวกล่าวว่า : “ห้าวเอ๋อร์


ข้าให้เจ้าไปสร้างสัมพันธ์อนั ดีกบั ตระกูลมู่ เพือให้เจ้ารับ
ช่วงต่อทหารจวนตระกูลมูอ่ ย่างง่ายดาย แต่เจ้ากลับสัง
ให้ป๋ายซีเยวียไปทําให้ปหู่ ลานตระกูลมูแ่ ตกคอกัน และ
ยังไปบอกแผนการของเสด็จพ่อของเจ้ากับนางอีก........
เจ้าคิดจะทําอะไร?”

ฉินจินห้าวยิม นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรูส้ กึ เหมือนกุม


ชัยชนะอยูใ่ นมือ : “เสด็จแม่คงยังไม่รู ้ ว่าตังแต่ทีมูช่ ิงเก
อกลับจากทีราบลัวรือ ก็เหมือนจะดูตา่ งไปจากเดิม เมือ
ก่อนเขาเป็ นแค่แมลงวันตัวหนึง ทีบินวนไปวนมาอยูร่ อบ
ตัวลูก ไม่กล้าไปไหน แต่ตอนนี เขากลับไม่คอ่ ยสนใจลูก
13
กลับไปสนิทสนมกับน้องสาวแทน ทีลูกให้ป๋ายซีเยวียทํา
เช่นนี ก็เพือทีจะรอไปแสดงความเป็ นห่วงเป็ นใยในตอน
ทีความสัมพันธ์ของมูช่ ิงเกอและมูซ่ งอยูใ่ นขันวิกฤติ ทํา
ให้เขาเห็นลูกเป็ นทีพึงดังเดิม ให้ได้รบั ความเชือใจทัง
หมดจากเขา สําหรับเรืองทีบอกแผนการของเสด็จพ่อให้
กับป๋ ายซีเยวียนัน.......”

หยุดไปสักพัก เขาก็หวั เราะเสียงเย็นอย่างเหยียดหยาม:


“หญิงผูน้ นั จิตใจทะเยอทะยาน แต่กลับโง่เขลานัก แล้ว
ยังคิดว่าตนเองฉลาดเกินใคร ในเมือนางไม่ชอบใจจวน
ตระกูลมูอ่ ยูแ่ ล้ว และตอนนีก็มีเป้าหมายอยูท่ ีตัวลูก หาก
ไม่ใช้เป็ นเครืองมือสักหน่อยก็คงจะเสียดายน่าดู”

เจียงกุย้ เฟยพยักหน้าเบาๆ : “หากนางไม่พอใจในจวน


14
ตระกูลมูอ่ ยูแ่ ล้ว บอกแผนการของเสด็จพ่อกับนางก็ไม่
เลว จะทําให้นางมาอยูข่ า้ งเราได้ไวขึน”

เงียบไปสักพัก นางก็กล่าวต่อว่า : “มีนางเป็ นหนอนบ่อน


ไส้เช่นนี สําหรับตระกูลมูแ่ ล้วถือว่าเราถือไพ่เหนือกว่า
เจ้าต้องรักษาโอกาสเอาไว้ให้ดี อย่าให้มีอะไรผิดพลาด
อีก สําหรับเหยาเอ๋อร์ ทีนางไปสนิทกับมูช่ ิงเกอก็เพราะ
คําสังของไทเฮาทังนัน เจ้าอย่าเป็ นกังวล เหยาเอ๋อร์เป็ น
คนเย่อหยิง ไม่ไปชอบคนไร้คา่ อย่างมูช่ ิงเกอหรอก”

ไร้คา่ อย่างนันหรือ?

ในใจของฉินจินห้าวเกิดคําถาม

15
มูช่ ิงเกอใช้กระบวนท่าเก้าดาราเรียงยิงธนูในสนามล่า
สัตว์ พอข่าวนีมาเข้าหูเขา เขาก็ไม่คอ่ ยเชือนักว่าคนไร้
ค่าผูห้ นึงจะทําได้ถงึ เพียงนี

และมันก็ฝังรากลึกอยูใ่ นหัวใจของฉินจินห้าวมาโดย
ตลอด เขาจึงปล่อยวางสิงทีเขาสงสัยนีให้เป็ นเพียงแค่
ความบังเอิญเท่านัน

16
ตอนที 79-2 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

วังตะวันออก

ท้องฟ้าเพิงจะสว่าง ภายในตําหนักอันโดดเด่นเป็ นสง่าก็

17
มีเสียงสิงของแตกหักดังขึนไม่หยุด

หลังจากนัน หญิงสาวสามสีคนทีแต่งกายไม่เรียบร้อย ก็
ก้มหน้าวิงออกมาจากตําหนักอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัว
ว่าหากช้าไปกว่านีแม้กา้ วเดียว จะต้องสูญเสียชีวิตอย่าง
นัน

ในขณะทีหญิงสาวคนสุดท้ายวิงออกจากตําหนัก ด้าน
หลังตัวนางพลันมีแก้วกระเบืองเคลือบใบหนึงถูก
โยนออกมาและกกระแทกเข้าทีน่องของนาง

นางร้องด้วยความเจ็บปวดและล้มลงพืนมัน น่องอาบ
ย้อมไปด้วยเลือดสดๆ แก้วกระเบืองเคลือบตกลงบนพืน

18
อันเงางามและกระจายเกลือน

“ยังไม่รบี เอาตัวนางออกไปอีก” ขันทีคนหนึงรีบสังนาง


กํานัลให้ลากหญิงสาวทีบาดเจ็บออกไป

หลังจากนันก็สงนางกํ
ั านัลและขันทีคนอืนๆ ให้รบี ทํา
ความสะอาดส่วนทีรกเลอะเทอะ

ทุกคนในตําหนักตะวันออก ต่างก็ตืนตระหนก กลัวว่า


ตนเองจะเป็ นผูโ้ ชคร้าย

ในขณะทีทุกคนในตําหนักตะวันออกกําลังวุน่ วาย
ฮองเฮาแซ่หานแห่งแคว้นฉินก็ได้นาํ ขบวนเสด็จมายัง
19
ตําหนักตะวันออก

เพิงจะก้าวเท้าขึนมายังบันไดของตําหนัก พระนางก็เห็น
ถึงความวุน่ วายทียังไม่ได้จดั การเก็บกวาดให้เรียบร้อย
พระนางขมวดคิวอย่างไม่ชอบใจ และห้ามไม่ให้คนอืน
ติดตาม พร้อมเข้าไปในตําหนักเพียงลําพัง

“ไสหัวไป ! ข้าบอกให้ไสหัวออกไป ! หากใครกล้าเข้ามา


ข้าจะฆ่ามันให้หมด!”

เพิงจะเข้าไปภายในตําหนัก ด้านหลังม่านก็มีเสียงร้อง
อย่างบ้าคลังดังขึน

20
คําพูดนียิงทําให้ฮองเฮาไม่ชอบใจ นําเสียงพลันเยือก
เย็นขึนหลายระดับโดยไม่รูต้ วั : “จะฆ่าข้าด้วยอย่างนัน
รึ?”

ด้านหลังม่านเงียบลงในทันที สักพักก็มีเสียงวุน่ วายดัง


ขึน หลังจากนันฉินจินซิวทีแต่งกายไม่เรียบร้อยก็เดิน
ออกมาด้วยใบหน้าทีไม่สดู้ ีนกั พลางพูดกับฮองเฮาว่า :
“เสด็จแม่ทา่ นมาได้อย่างไร?”

ทรงผมของฉินจินซิวดูรุย่ ร่าย ตรงคางมีรอยสีเขียวชําวง


หนึง บนร่างมีกลินเหล้าเหม็นหึง พร้อมกลินเหม็นพิกล

ฮองเฮาขมวดคิวพลางต่อว่า : “ดูเจ้าสิ ยังเหลือภาพ

21
ลักษณ์รชั ทายาทอยูไ่ หม?”

ฉินจินซิวถูกต่อว่าจนไม่กล้าพูดอะไร แต่ในสายตาของ
เขายังคงเต็มไปด้วยโทสะ เพียงแต่พยายามปกปิ ดเอาไว้
ก็เท่านัน

อยูต่ อ่ หน้าสาธารณชน เขาเป็ นถึงรัชทายาททีความ


เมตตาและความอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ลบั หลัง......... ใคร
จะรูว้ า่ นิสยั อารมณ์รอ้ นขีโมโหต่างหากทีเป็ นตัวตนทีแท้
จริงของเขา

ตลอดเวลาทีผ่านมา เขาทําตามคําสังของเสด็จแม่ใน
การเป็ นรัชทายาททีสมบูรณ์แบบ

22
แต่ครังนีเขากลับปล่อยวางไม่ได้

ฉินจินซิวเงียบ พระพักตร์เคร่งเครียดเย็นเยียบของ
ฮองเฮาจึงค่อยอ่อนโยนลงบ้าง พระนางถามด้วยความ
อ่อนโยนและเอือเอ็นดู : “ครังนี ใครทําให้เจ้าโกรธได้ถงึ
เพียงนี?”

ใบหน้าหล่อเหลางดงามของฉินจินซิวดูหงิกงอขึนมา ท่า
ทางพลันเปลียนไปดูน่ากลัวมากกว่าเดิม

“มูช่ ิงเกอ!” เขากัดฟั นขานชือนีออกมา

23
“เขาเองรึ?” ฮองเฮาขมวดพระขนง

ฉินจินซิวหรีตาทีเยือกเย็นทังสองข้าง แผ่กลินอายเแห่ง
ความอันตรายออกมา

มูช่ ิงเกอไอ้คนไร้คา่ ไม่เพียงแต่ชนะคนของเขาต่อหน้าผู้


คนมากมาย แต่ยงั บังคับให้เฉา กุย้ ขอโทษไอ้สวะไร้คา่
นันต่อหน้าทุกคน หลังจากนันยังทําลายเรืองดีๆ ของเขา
จนป่ นปี หมด ไม่เพียงแค่ข่มขู่แต่ยงั เอาเนือทีกําลังจะเข้า
ปากของเขาไปอีก

เหยียดหยามกันถึงเพียงนี เขาจะลืมได้อย่างไร

24
“เสด็จแม่ ข้าอยากให้มนั ตาย!” ฉินจินซิวพูดคําขอของ
ตนเองออกมาเหมือนเด็กน้อยทีเอาแต่ใจ

ฮองเฮามองเขาอย่างจนปั ญญาค่อยๆ ส่ายพระพักตร์


พลางตรัสว่า : “ตราบใดทีมูซ่ งยังอยู่ แม้จะเป็ นเสด็จพ่อ
ของเจ้าก็ทาํ อะไรมูช่ ิงเกอไม่ได้ง่ายๆ”

คําตอบนีทําให้ฉินจินซิวโกรธกว่าเดิม กลินอายรอบกาย
แฝงด้วยความโหดร้าย “เป็ นเช่นนันก็ให้มซู่ งตายก่อน ไม่
มีคนให้ทา้ ย ข้าอยากรูน้ กั ว่ายังจะมีผใู้ ดช่วยมันได้อีก รอ
ให้ขา้ ทรมานมันจนพอใจ ข้าก็จะส่งมันไปโลกหน้าด้วย
ตัวเอง”

25
ในขณะทีพูด ฮองเฮาไม่ได้สงั เกตว่า ในสายตาของฉิน
จินซิวนันเกิดประกายแปลกประหลาดขึนมา

รัชทายาทผูน้ ี มีรสนิยมทียังคงเป็ นความลับ ทีแม้กระทัง


ฮองเฮาเองก็ยงั ไม่ทรงทราบ

นันก็คือเขาสนใจทังผูห้ ญิงและผูช้ ายทีมีใบหน้าอันงด


งาม

เมือก่อนมูช่ ิงเกอเป็ นเพียงชายเสเพลไร้คา่ คนหนึง จึงไม่


เป็ นทีสนใจของเขา แต่เมือวานบนสนามล่าสัตว์ เขา
กลับถูกดึงดูดด้วยท่าขีม้า ความเป็ นธรรมชาติและโอหัง
ของชายผูน้ นั

26
หากไม่ใช่เพราะมูช่ ิงเกอกระตุน้ อารมณ์ของเขา เขาก็คง
จะไม่รบี ร้อนอยากให้ป๋ายซีเยวียมาช่วยบรรเทาหรอก

หากมูซ่ งตาย มูช่ ิงเกอสูญเสียทีพึงพิง ถ้าอย่างนันเขาก็


จะทําตามใจตนเองได้ไม่ใช่หรือ?รอให้เขาเล่นจนเบือ ก็
ค่อยฆ่ามันซะ เพือคิดบัญชีทีมันทําให้เขาต้องได้รบั
ความอัปยศเมือวาน

“เจ้าก็พดู ง่ายไป หากสามารถสังหารมูซ่ งได้ง่ายดาย


เพียงนัน เสด็จพ่อของเจ้าจะต้องรอจนถึงตอนนีหรือ”
ฮองเฮาส่ายพระพักตร์พลางถอนพระทัย สําหรับลูกชาย
คนนีแล้ว พระนางผิดหวังเป็ นอย่างมาก แต่จะทําอย่าง
ไรได้เล่า? ใครใช้ให้พระนางมีเพียงเขาทีเป็ นลูกชายแท้ๆ
27
เพียงคนเดียวล่ะ

ฉินจินซิวฟั งนําเสียงทีไม่หนักแน่นในคําพูดของฮองเฮา
ออก จึงรีบเดินเข้าไปจับมือของพระนาง ออดอ้อน
เหมือนตอนเด็กๆ ว่า : “เสด็จแม่ทรงฉลาดถึงเพียงนี ต้อง
คิดวิธีดีๆ ได้อย่างแน่นอน อีกอย่างเสด็จพ่อก็ไม่ชอบใจ
ตระกูลมูม่ าแต่ไหนแต่ไร หากเราช่วยกันกําจัดเสียน
หนามนีให้พระองค์ได้ พระองค์ก็จะให้ความสําคัญกับ
เรามากขึนไม่ใช่หรือ ถึงตอนนันฉินจินห้าวยังจะเหลือ
สิทธิอะไรมาแย่งชิงตําแหน่งกับข้าอีก”

“เจ้าน่ะ” ฮองเฮาเหมือนถูกคําพูดพวกนีโน้มน้าว ลูบหัว


ของเขาอย่างเหลือทน พลางปลอบใจว่า : “เรืองนีจะรีบ
ร้อนไม่ได้ หากโอกาสมาถึง เสด็จแม่จะบอกเจ้าเองว่า
28
ควรทําอย่างไร ตอนนี เจ้ารีบไปแต่งตัวและไปช่วยเสด็จ
พ่อว่าราชการเถิด”

“ลูกรับบัญชา” เมือได้รบั คํายืนยันจากฮองเฮา อารมณ์


ของฉินจินซิวก็ดีขนมาบ้
ึ างแล้ว

เขาหันหลังเดินเข้าไปยังห้องทีใช้ชาํ ระล้างร่างกายด้าน
ใน แค่คิดว่าอีกไม่นาน มูช่ ิงเกอก็จะต้องบิดกายด้วย
ความหฤหรรษ์อยูใ่ ต้รา่ งของเขา ไฟร้อนในร่างกายทีเพิง
จะมอดดับไปก็ปะทุขนมาอี
ึ กครัง

……

29
ในคําคืนนี เหมือนกับว่าชะตาชีวิตของทุกคนจะเปลียน
แปลงไป เพราะการเลือกทางเดินทีแตกต่างกัน

และ ตัวเอกสําคัญของเรืองอย่างมูช่ ิงเกอทีถูกคุณตัว


ประหลาดส่งกลับมายังสวนสระเมฆาจวนตระกูลมูก่ ็
กําลังหลับฝันหวานอย่างสบาย

วันต่อมา นางตืนเพราะเสียงดังอันตืนตระหนกของฮวา
เยวีย

“มีอะไร?” มูช่ ิงเกองัวเงีย ในนําเสียงแฝงไปด้วยความขี


เกียจ

30
สีหน้าของฮวาเยวียนันดูไม่ดีนกั พลางพูดกับมูช่ ิงเก
อว่า : “นายท่านผูเ้ ฒ่าให้มาตามคุณชายไปทีห้อง
โถงกลางเจ้าค่ะ”

นายท่านผูเ้ ฒ่าให้มาตามงันหรือ?

มูช่ ิงเกอลืมตาขึน ความพร่ามัวของนัยน์ตาพลันกลาย


เป็ นความสว่างสดใส

“กียามแล้ว?” มูช่ ิงเกอยืนมือมาเลิกผ้าห่มออกแล้วลุกขึน


นัง ยกมือขึนนวดหัวของตนเอง

“เพิงจะเข้ายามเฉินเจ้าค่ะ ( 7 -9 โมงเช้า)” ฮวาเยวีย


31
ตอบพลางเอาเสือผ้ามาให้

มูช่ ิงเกอตกใจ และรูส้ กึ แปลกใจ : “เพิงจะยามเฉินเอง


หรือ? เช้าถึงเพียงนี นายท่านผูเ้ ฒ่าคงจะเพิงกลับจาก
ท้องพระโรงสินะ”

ฮวาเยวียพยักหน้า : “นายท่านผูเ้ ฒ่าเพิงกลับมาได้สกั


พักเจ้าค่ะ”

“เพิงกลับมาก็ตามตัวข้าเลยรึ มีเรืองด่วนอะไร?” มูช่ ิง


เกอขมวดคิวถาม

“เพราะนายท่านผูเ้ ฒ่าเพิงจะกลับมา แม่นางป๋ ายก็รอ้ ง


32
ห่มร้องไห้ไปหาท่าน” โย่วเหอแหวกผ้าม่านแล้วเดินเข้า
มา เทนําลงในอ่างให้มชู่ ิงเกอล้างหน้า

ป๋ ายซีเยวียไปหานายท่านผูเ้ ฒ่ารึ?

มูช่ ิงเกอหรีตาทังสองข้างลง

ทําไมนางถึงได้กลินความไม่ชอบมาพากลจากเรืองนี
นะ?

“แล้วอย่างไรต่อ” นางถามในขณะทีหรีตาลง

โย่วเหอสบตากับฮวาเยวีย แล้วโย่วเหอก็พดู ว่า : “ได้ยิน


33
ว่า หลังจากทีแม่นางป๋ ายไปหานายท่าน นายท่านก็โกรธ
และสังให้มาเรียกท่านทีเรือน รูส้ กึ ว่า ทางฝังคุณหนูใหญ่
เองก็ถกู เรียกตัวมาด้วยเช่นกันเจ้าค่ะ”

มูช่ ิงเกอเผยรอยยิมทีเยือกเย็น

นางประเมินความสามารถในการสร้างเรืองของป๋ ายซีเย
วียตําเกินไปจริงๆ ยังบาดเจ็บอยูแ่ ท้ๆ แต่ไม่พกั รักษาตัว
อยูบ่ นเตียงดีๆ มาทําให้จวนตระกูลมูว่ นุ่ วายแต่เช้า

ในขณะทีคิดแบบนี มูช่ ิงเกอก็ลงจากเตียง วางขาลงบน


พืน พูดกับหญิงสาวทังสองว่า : “เปลียนเสือผ้าให้ขา้ ข้า
จะไปดูสวิ า่ งิวเรืองนีจะแสดงไปได้ถงึ ขันไหน”

34
ด้วยมืออันคล่องแคล่วของทังคู่ ไม่นานมูช่ ิงเกอก็แต่ง
กายเสร็จเรียบร้อย และออกจากเรือนไปอย่างรวดเร็ว

ยังคงเป็ นชุดสีแดงอันไร้ทีติ โดดเด่นเป็ นประกาย

พอนางพาโย่วเหอและฮวาเยวียเดินมาจนถึงห้อง
โถงกลาง ก็พบว่า บรรยากาศด้านในตึงเครียดเป็ นอย่าง
มาก

ท่านปู่ ของนาง มูซ่ ง ผูน้ าํ ทีแท้จริงของจวนตระกูลมู่ มีสี


หน้าเคร่งขรึม ใบหน้าดูเคร่งเครียดนังอยูใ่ นตําแหน่ง
ประธาน

35
ส่วนคนสร้างเรือง ก็นงร้
ั องไห้อยูข่ า้ งๆ อย่างเงียบๆ

มูเ่ หลียนหรงนังปลอบใจนางอยูไ่ ม่หา่ ง พอเห็นมูช่ ิงเก


อปรากฏตัวขึนก็ตวัดสายตาคมปลาบดังมีดทีแฝงไว้ดว้ ย
การกล่าวโทษมาทางนาง

เหอะ~! ทําไมนางถึงรูส้ กึ เหมือนกําลังจะมีการตัดสินคดี


ในศาลเกิดขึนกันนะ?

มูช่ ิงเกอแอบหัวเราะเยาะ

“มูช่ ิงเกอ ไสหัวเข้ามาเดียวนี!” มูซ่ งพูดเสียงดังจน


36
สะเทือนฟ้าดิน

ในขณะนัน ป๋ ายซีเยวียทีกําลังร้องไห้ ก็เงยหน้าขึนมองที


นอกประตู หลังจากทีเห็นมูช่ ิงเกอในชุดสีแดง ก็อดกลัน
ความเสียใจเอาไว้ไม่ได้ ร้องไห้ดว้ ยท่าทางเจ็บปวดใจดู
น่าสงสารยิงกว่าเดิมเสียอีก

ความรูส้ กึ เปราะบาง ไร้ทีพึง และท่าทางอ่อนแอราวกับ


ดอกสาลีต้องฝนแบบนัน ทําให้ทกุ คนในห้องโถงกลาง
รูส้ กึ สงสาร ไม่เว้นแม้แต่บา่ วและองครักษ์ของจวนตระกู
ลมูท่ ียืนอยูท่ งสองฝั
ั งของห้องโถง ต่างก็มองมายังมูช่ ิงเก
อด้วยสายตาดูแคลน

37
38
ตอนที 79-3 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

วะ ! ข้าไปทําอะไร? ทําไมทุกคนต้องมองข้าราวกับข้าทํา
ความผิดมหันต์อย่างนัน?

มูช่ ิงเกอแอบเคืองเล็กน้อย

สายตาของนางมีประกายเย้ยหยันพาดผ่าน สะบัดแขน
เสืออันกว้างใหญ่หลายที ยืดอกเดินเข้าไปยังโถงกลาง
ไปหามูซ่ ง

39
“ท่านปู่ เรียกข้ามาแต่เช้า มีเรืองอะไรหรือ”

“เรืองป๋ ายซีเยวียจะย้ายออกจากจวนตระกูลมู่ เจ้ารูห้ รือ


ไม่?” มูซ่ งถามนิงๆ

ป๋ ายเสียวเจียนจะไปแล้วรึ? นีตัดสินใจเมือไหร่กนั ?

มูช่ ิงเกอกะพริบตา ตอบไปตามความจริงว่า : “หลานไม่


ทราบ”

“แล้วเจ้ารูห้ รือไม่ ว่าทําไมนางจึงจะย้ายออก” มูซ่ งโกรธ


จนหนวดกระดิก พลางถามเสียงเข้ม

40
ข้าจะรูไ้ ด้อย่างไร?

มูช่ ิงเกอเบะปากพลางส่ายหน้า

“ไอ้เลวนี” มูซ่ งโกรธจนเกือบจะลงมือ แต่เพิงจะยกมือขึน


มา ก็ทาํ ใจไม่ได้จงึ วางมือลงอย่างเก่า

ป๋ ายซีเยวียแอบเห็นฉากนี ก็รบี เอาผ้าเช็ดหน้าทีปิ ดหน้า


อยูล่ ง ทําให้เห็นดวงตาทังคูท่ ีร้องไห้จนแดงกํา แล้วพูด
อย่างอ่อนแอว่า : “ท่านปู่ มอู่ ย่าโทษท่านพีมูเ่ ลย ซีเยวีย
ผิดเอง ทีซีเยวียจะย้ายออกจากจวนตระกูลมูน่ นไม่
ั มี
ส่วนเกียวข้องกับท่านพีมู่ แต่เดิมข้าก็เป็ นเด็กกําพร้าไร้
บิดามารดาและจวนตระกูลมูก่ ็ดแู ลข้ามานานแล้ว ข้าจะ

41
อยูใ่ ห้จวนตระกูลมูเ่ ลียงข้าไปตลอดชีวิตก็คงไม่ได้ ตอน
นีซีเยวียโตแล้ว เลยจะพาลวีจือย้ายออกไป หาทีสักสอง
หมูท่ ีนอกเมืองปลูกกระท่อมอาศัย เราสองคนนาย
บ่าวจะอยูก่ นั อย่างเรียบง่าย อย่างน้อยก็มีทีซุกหัวนอน”

“ซีเยวีย เจ้าอย่าพูดเหลวไหล อาไม่อนุญาตให้เจ้าออก


จากจวนตระกูลมู่ เจ้าเป็ นผูห้ ญิง ออกไปคนเดียวจะอยูด่ ี
ได้อย่างไร” มูเ่ หลียนหรงปฏิเสธความคิดของป๋ ายซีเยวีย
ในทันที

“ท่านอาเหลียน ข้ารูว้ า่ ท่านเอ็นดูซีเยวีย แต่ซีเยวียตัดสิน


ใจแล้ว” ป๋ ายซีเยวียแสร้งพูดด้วยความเสียใจ

42
ทุกคนทีมองฉากนีต่างแสดงสีหน้าทังเห็นใจและสงสาร
สายตาทีมองมูช่ ิงเกอนันกลับยิงเต็มไปด้วยการกล่าว
โทษและไม่ยอมรับ

มูช่ ิงเกองุนงงไปหมด เหมือนทุกคนจะคิดว่านางเป็ นคน


ไล่ป๋ายซีเยวียไปอย่างนันละ

นางพูดพลางหัวเราะว่า : “ข้าขอทราบเหตุผลทีน้องซีเย
วียจะไปได้หรือไม่?”

“เจ้ายังจะกล้าพูดอีก!” มูเ่ หลียนหรงยกนิวขึนชีหน้ามูช่ ิง


เกอทันที

43
มูซ่ งก็ทาํ หน้าเคร่งและไม่มีรอยยิมราวกับว่ากําลัง
พยายามเก็บความโกรธไว้ในใจ

ในความคิดของเขา ท่านพ่อของป๋ ายซีเยวียตายเพราะ


เขา จวนตระกูลมูก่ ็มีหน้าทีต้องดูแลนางไปตลอดชีวิต
เขาไม่ได้มีความคิดทีจะยกป๋ ายซีเยวียให้กบั มูช่ ิงเกออ
ย่างทีมูเ่ หลียนหรงคิด กลับคิดอย่างเรียบง่ายว่า ป๋ ายซีเย
วียก็เหมือนหลานแท้ๆ ของเขา เมือถึงเวลาอันสมควรที
ต้องออกเรือนก็จะหาชายหนุ่มจากตระกูลดีๆ ให้กบั นาง
มีตระกูลมูค่ อยหนุนหลังอยู่ เด็กทีน่าสงสารคนนีก็คงจะ
สามารถมีความสุขไปตลอดชีวิตได้ไม่ยาก

“ทําไมจะไม่กล้า?” มูช่ ิงเกอพูดตรงๆ

44
สายตาของนางเลือนจากมูเ่ หลียนหรงไปหามูซ่ ง พลาง
พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า : “หากจะตัดสินประหารใครก็ตอ้ ง
ให้คนผูน้ นรู
ั ก้ ่อนว่าทําไมตนเองต้องตายไม่ใช่หรือ?”

มูช่ ิงเกอพูดจากใจจริง ทําให้มซู่ งอึง

สายตาทีเคร่งเครียด มีความสงสัยพาดผ่าน

“ท่านปู่ ของเจ้าคร้านจะว่าเจ้าแล้ว ข้าจะเป็ นคนพูดเอง”


มูเ่ หลียนหรงกอดป๋ ายซีเยวียเพือปลอบใจพลางพูดกับมู่
ชิงเกอว่า : “ข้าขอถามเจ้า เจ้าพาตัวซีเยวียออกไปแล้ว
เหตุใดไม่ดแู ลนางให้ดี มิหนําซํายังทําให้นางต้องได้รบั

45
บาดเจ็บ แค่นีก็ผิดแล้ว จากนัน เจ้ายังทิงนางไว้กลาง
ทาง ห่วงแต่จะส่งองค์หญิงฉางเล่อกลับตําหนัก แยก
แยะความสําคัญไม่ได้เช่นนีเป็ นสิงทีลูกผูช้ ายพึงกระทํา
หรือ?”

มูช่ ิงเกอได้ยินเช่นนีก็หรีตา แววตาเปลียนไป

นางเงียบ มูเ่ หลียนหรงจึงคิดว่า นางไม่มีอะไรจะเถียง จึง


สังสอนต่อว่า : “องค์หญิงฉางเล่อมีมือมีขาและยังมีนาง
กํานัลและองครักษ์ ยังต้องให้เจ้าไปส่งอีกหรือ? ซีเยวีย
โตมากับเจ้า แม้วา่ เจ้าจะไม่ได้คิดเช่นนัน แต่นางก็เป็ น
เหมือนน้องสาวของเจ้า เจ้าทิงนางไว้ทีโรงหมอแล้วจาก
ไปโดยไม่สนใจใยดีได้อย่างไร?”

46
ไม่สนใจใยดี?

สายตาของมูช่ ิงเกอทีเลือนไปหยุดอยูท่ ีป๋ ายซีเยวียเย็น


เฉียบราวกับนําค้างแข็ง แต่อีกฝ่ ายยังคงทําท่าทางน้อย
อกน้อยใจแทบจะไม่ได้มองนางเลยแม้แต่นอ้ ย

นางเดินเข้าไปก้าวใหญ่ หยุดตรงหน้าป๋ ายซีเยวียแล้ว


พูดกับนางอย่างเยือกเย็นว่า : “ข้าไม่สนใจและไม่เป็ น
ห่วงเจ้าหรือ?”

“ไอ้เด็กบ้า เจ้าจะทําอะไร?” มูเ่ หลียนหรงรีบกอดป๋ ายซี


เยวียเอาไว้แน่น สําหรับนาง คําพูดของมูช่ ิงเกอเหมือน

47
เป็ นคําข่มขู่ป๋ายซีเยวีย

มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึนมองมูเ่ หลียนหรง ด้วยนัยน์ตาทีสงบ


นิง

มูเ่ หลียนหรงตกใจเพราะสายตานีและตอนทีเอ่ยปากอีก
ครัง นําเสียงพลันอ่อนโยนลงอย่างอดไม่ได้ : “เจ้าไม่รู ้
หรือเป็ นเพราะการกระทําของเจ้า ทําให้ซีเยวียเข้าใจผิด
คิดว่าตนเองเป็ นส่วนเกิน รูส้ กึ ว่า ตนเองขัดขวางเจ้ากับ
องค์หญิงจึงขอออกจากจวนตระกูลมู”่

มูช่ ิงเกอเผยรอยยิม

48
ทว่ารอยยิมนันกลับประดับไปด้วยความเยือกเย็น

มองหน้าป๋ ายซีเยวียแล้วนางไม่รูจ้ ริงๆ ว่าควรจะยกนิว


โป้งให้กบั นางดีหรือไม่

กลับหัวกลับหางความเป็ นจริง ตัดบางส่วนออก เรือง


ราวทังหมดก็เปลียนไปราวกับเป็ นหนังคนละม้วน หลัง
จากฟั งเรืองเล่าของนางจบแล้ว นางยังรูส้ กึ ว่าตน
เองกลายเป็ นคนเลวเลย

แล้วนางแน่ใจหรือว่าตนเองจะไม่พดู เรืองราวทังหมดที
นางปิ ดบังไว้ออกมา?

49
ไม่คิดบ้างหรือว่ามูช่ ิงเกออาจจะไม่สนใจความบริสทุ ธิ
ของนาง ไม่หว่ งชือเสียงขององค์หญิงฉางเล่อและ
รัชทายาท แล้วพูดความจริงออกมาบ้างหรือ?

นางกล้ายืนยันว่าในตอนทีองครักษ์ตระกูลมูเ่ อารถม้าไป
รับป๋ ายซีเยวียกลับจากโรงหมอนัน ทังมูซ่ งและมูเ่ หลี
ยนหรงเองต่างก็รู ้

และสิงทีพวกเขาพวกเขาเข้าใจคือป๋ ายซีเยวียอยูใ่ นจวน


ตระกูลมูม่ าตังแต่เด็ก ตระกูลมูต่ ิดหนีบุญคุณท่านพ่อ
ของนาง ไม่วา่ จะเป็ นด้านคุณธรรมหรือความรูส้ กึ นางจึง
สําคัญกว่าฉินอีเหยา

50
แต่นางกลับทิงป๋ ายซีเยวียทีบาดเจ็บไว้ให้กลับกับ
องครักษ์ แล้วตนเองก็ไปส่งองค์หญิงฉางเล่อทีไม่ได้เป็ น
อะไรเลย

การกระทําแบบนีในความคิดของคนตระกูลมูแ่ ล้วเป็ น
การไม่รูจ้ กั บุญคุณ

จึงไม่แปลกทีมูซ่ งและมูเ่ หลียนหรงจะโกรธถึงเพียงนี ไม่


ใช่เพียงพวกเขาผูค้ นรอบข้างในจวนตระกูลมูก่ ็มองนาง
ด้วยสายตาทีรังเกียจและโกรธแค้น หากไม่ใช่เพราะมูซ่ ง
นังอยูต่ รงนี ก็คงจะมีไข่เน่า ก้อนหินจํานวนไม่นอ้ ยถูก
โยนมาหานาง

51
หึๆ.....

“ไอ้เวรเจ้ายังจะหัวเราะอีก!” การหัวเราะอย่างไร้เสียง
ของมูช่ ิงเกอ ทําให้มซู่ งขมวดคิวแน่น

มูช่ ิงเกอค่อยๆ เงยหน้าขึนมองตาของมูซ่ งอย่างไร้ซงึ


ความหวาดกลัว พูดอย่างเรียบเฉยว่า : “ท่านปู่ ก็คิดว่า
เป็ นความผิดของชิงเกออย่างนันหรือ?”

พอคํานีออกจากปาก สายตาของผูค้ นรอบข้างก็ยงดู


ิ ไม่
ชอบใจ ราวกับกําลังโกรธแค้นมูช่ ิงเกอทีไม่รูจ้ กั แก้ไข
ความผิดของตัวเอง

52
ขนาดมูเ่ หลียนหรงเองก็ควขมวดจนเป็
ิ นปม

ป๋ ายซีเยวียทีพิงอยูใ่ นอ้อมอกของมูเ่ หลียนหรงแอบมอง


มูช่ ิงเกอ ไม่รูว้ า่ เพราะเหตุใดในขณะทีนางได้ยินเสียงอัน
มันคงสงบนิงของมูช่ ิงเกอในใจก็รูส้ กึ ลนลานเป็ นอย่าง
มาก

เขาอยากจะอธิบายอย่างนันหรือ?

ไม่ เรืองนีอธิบายอย่างไรก็ยากทีจะเข้าใจ

หากเขาจะพูดความจริงทังหมด แสดงว่าต้องพูดเรืองที
เกิดขึนทีปี กตําหนักด้วย แต่เรืองนีจะถูกโยงเข้าไปหา
53
รัชทายาทและองค์หญิง เพราะฉะนันเขาต้องไม่กล้าพูด
แน่ๆ

ใช่ ! เขาไม่กล้าพูด อย่าตืนตระหนก อย่าตืนตระหนก


เขาเพียงแค่ตอ้ งการทําให้ทกุ คนสับสน ก็แค่ปากแข็งเท่า
นัน

ป๋ ายซีเยวียปลอบใจตนเอง

“มูช่ ิงเกอเจ้าจะพูดอะไร” มูซ่ งไม่ได้ตอบคําถามของมูช่ ิง


เกอ แต่ยอ้ นถาม

มูช่ ิงเกอมองป๋ ายซีเยวียอย่างเยือกเย็น พูดด้วยนําเสียง


54
ติดตลกว่า : “น้องซีเยวียบาดเจ็บก็จริง แต่เหตุใดนางถึง
ได้บาดเจ็บ ชิงเกอเองก็ไม่รู ้ เมือวานชิงเกอท้าพนันกับ
เฉากุย้ เสร็จ พอหันกลับไปอีกทีก็ไม่เจอน้องซีเยวียแล้ว
ข้ากับองค์หญิงตามหาตังนานกว่าจะพบนาง ก็อยากจะ
ถามว่าน้องซีเยวียเหมือนกันว่าแผลในร่างกายของเจ้า
นันมาได้อย่างไร? ทีแห่งนันเป็ นเขตล่าสัตว์ของ
พระราชวัง เจ้าเข้าไปครังแรก เหตุใดจึงไม่อยูข่ า้ งๆ ข้า
และองค์หญิง แต่กลับเดินไปมามัวซัว ทําให้ตนเองต้อง
บาดเจ็บ เมือวานรีบร้อนแต่จะรักษาแผลให้เจ้า จึงไม่ได้
ถามอย่างละเอียด ถ้าอย่างนันวันนีเจ้าก็อธิบายกับข้า
ต่อหน้าท่านปู่ และท่านอาดีไหม?”

เพือจะยืนยันความบริสทุ ธิของตนเอง ต้องเล่าความจริง


ทังหมดหรือ?

55
มูช่ ิงเกอแอบหัวเราะเย้ยหยันในใจ แค่ชีช่องโหว่ในคําพูด
ของนาง ก็พอแล้ว

“ข้า....” ป๋ ายซีเยวียอึง นางไม่คิดว่ามูช่ ิงเกอจะตอบ


สนองไวถึงเพียงนี ไม่แก้ตวั ให้ตวั เอง แต่กลับชีจุดทีเป็ น
ปั ญหาในตัวนางออกมา

นางไม่กล้าพูดถึงเรืองทีเกิดขึนในปี กตําหนักเมือวาน
แล้วจะดําเนินเรืองราวต่อไปอย่างไรดีเล่า?

“น้องซีเยวีย เจ้าก็พดู สิ” รอยยิมทีประดับอยูบ่ นปากสี


แดงของมูช่ ิงเกอนันน่าดึงดูดเป็ นอย่างมาก

56
“นันสิ ซีเยวีย อาก็ลืมถามเจ้าว่าแผลบนร่างของเจ้านัน
ไปโดนอะไรมา” มูเ่ หลียนหรงเองก็ถาม แต่เป็ นคําถามที
มีเป้าหมายทีต่างไปจากมูช่ ิงเกอ นางเป็ นห่วงหญิงสาวที
นางเห็นมาแต่เล็กผูน้ ีจริงๆ

“ข้า.....ข้า.....” ป๋ ายซีเยวียอําอึง ยิงทําให้มซู่ งสงสัย

รอยยิมทีประดับอยูบ่ นปากของมูช่ ิงเกอนันยิงชัดเจนขึน


กว่าเดิม พลางพูดกับตัวเองว่า : “จะว่าไปแล้วก็แปลก
เมือวานในเขตล่าสัตว์ เจ้าอ้วนเซ่าบาดเจ็บเพราะการ
ประลองและหลังจากทีเจ้าหายตัวไปก็กลับมาพร้อมกับ
บาดแผล และทีน่าฉงนไปมากกว่านันคือ หลังจากทีองค์
หญิงฉางเล่ออุตส่าห์ใจดีดแู ลเจ้า แต่ในระหว่างการเดิน
57
ทางกลับองค์หญิงก็กลับทรงประชวรขึนมา ข้าเองก็
สงสัยเหลือเกิน ว่ามันเกิดอะไรขึนกันแน่?”

พูดจบสายตาอันสว่างและสดใสของนางก็มองไปทีป๋ าย
ซีเยวีย

ป๋ ายซีเยวียหน้าซีด

การโต้กลับของมูช่ ิงเกอ ทําให้นางต้านทานไม่ไหว

มูซ่ งเห็นสีหน้าของป๋ ายซีเยวียพลันเปลียนไปก็ขมวดคิว


ถามว่า : “แม่หนูซีเยวีย ไม่วา่ จะเรืองอะไรเจ้าก็พดู ออก
มาได้ ปู่ จะออกหน้าให้เจ้าเอง”
58
ขิงแก่อย่างไรก็เผ็ดกว่า เขาดูออกว่าป๋ ายซีเยวียกําลังปิ ด
บังอะไรบางอย่างอยู่

เมือโดนต้อนถามเรือยๆ ป๋ ายซีเยวียทําได้แค่ตอ้ งฝื นพูด


ต่อไปว่า : “ข้าเข้าไปยังเขตล่าสัตว์ของราชวงศ์ครังแรก
เพราะความอยากรูอ้ ยากเห็นทําให้ไม่ทนั ระวังจึงหลงกับ
ท่านพีมู่ หลังจากนัน....หลังจากนัน ข้า..... ข้าก็ไปเจอ
กับสัตว์รา้ ยเข้าในขณะทีหนีเอาชีวิตรอดก็ได้รบั บาดเจ็บ
ตอนทีองค์หญิงมาตามหาข้าก็เลยอาจจะทรงตกพระทัย
เพราะเลือดบนร่างของข้า ดังนันจึงทรงเกิดประชวรขึน
มา”

“ทีแท้องค์หญิงฉางเล่อประชวรเพราะน้องซีเยวียนีเอง!”
59
มูช่ ิงเกอพยักหน้าอย่างเข้าใจ

60
ตอนที 79-4 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

มูช่ ิงเกอไม่อยากจะสนใจว่าจะมีใครเชือคําแก้ตวั โง่ๆ


ของป๋ ายซีเยวียบ้าง นางเพียงกวาดสายตามองผูค้ นรอบ
ข้างครูห่ นึง เห็นทุกคนต่างขมวดคิวเป็ นปม นางจึง
หัวเราะเสียงเย็น พลางพูดว่า : “องค์หญิงฉางเล่อต้อง
ทรงประชวรเพราะน้องซีเยวีย คนทีเป็ นพีชายของน้องซี
เยวียอย่างข้าก็คิดว่าจะส่งองค์หญิงกลับตําหนักไปพัก
ผ่อนด้วยตัวเองเพือเป็ นการแสดงความขอบคุณ สําหรับ

61
น้องซีเยวีย แม้จะบาดเจ็บก็จริงแต่ขา้ ก็ได้สง่ ตัวนางไป
รักษาตัวทีโรงหมอและพ้นขีดอันตรายแล้ว อีกทังข้ายัง
สังให้ทหารจวนตระกูลมูส่ ง่ นางกลับจวน ผูร้ ว่ มเดินทาง
ยังมีสาวใช้คนสนิทของน้องซีเยวียอย่างลวีจือกลับมา
ด้วย”

ในขณะทีพูด นางก็หนั ไปมองป๋ ายซีเยวียทีหน้าซีดพลัน


พูดต่อด้วยความรูส้ กึ ผิดว่า : “น้องซีเยวีย พีมูเ่ องก็อยาก
จะมาส่งเจ้าด้วยตัวเอง แต่ก็จนใจเพราะไม่สามารถทํา
สองเรืองในเวลาเดียวกันได้ องค์หญิงฉางเล่อตกพระทัย
เพราะเจ้า ตามหลักเหตุและผลแล้วข้าทีเป็ นพีชายและ
เป็ นคุณชายของตระกูลมูม่ ิหนําซํายังเป็ นคูค่ รองใน
อนาคตขององค์หญิง ควรจะส่งพระองค์กลับตําหนักถึง
จะถูก หรือว่า น้องซีเยวียจะออกจากจวนตระกูลมูเ่ พราะ

62
เรืองนีน่ะหรือ?”

พอพูดจบ ทุกสายตาทีมองป๋ ายซีเยวียพลันเปลียนไป

จากความสงสารและเห็นใจในตอนแรกกลายเป็ นกล่าว
โทษ โทษทีนางไม่รูจ้ กั กาลเทศะและโทษทีนางไม่รูจ้ กั คิด
ด้วยเหตุผล

คุณชายนันคิดเผือนางทุกอย่าง ไปส่งองค์หญิงด้วยตัว
เองก็เพราะต้องการแสดงความขอบคุณแทนนาง แต่
นางกลับจะย้ายออกจากตระกูลมูเ่ พราะแค่เรืองเล็กน้อย
ทีคุณชายไม่มาส่งนางทีจวนอย่างนันหรือ?

63
จิตใจคับแคบ ไร้เหตุผล

“ไม่ ไม่ใช่แบบนัน” ป๋ ายซีเยวียรูส้ กึ ว่าสายตารอบข้าง


เปลียนไป จึงรีบแก้ตวั

“ซีเยวีย หากเจ้าจะออกจากจวนเพราะเหตุผลเพียงเท่านี
อาก็จะตําหนิเจ้า แม้วา่ ชิงเกอจะไม่ได้สง่ เจ้ากลับมาแต่
เขามีเหตุผล เจ้าจะไปโทษเขาได้อย่างไร?” มูเ่ หลียนหรง
ก็พดู พลางส่ายหน้า ก่อนหน้านีนางไม่รูด้ ว้ ยว่าองค์หญิง
ทรงประชวรและมีสาเหตุมาจากป๋ ายซีเยวีย

“ท่านอาเหลียน....” ป๋ ายซีเยวียเห็นความผิดหวังในสาย
ตาของมูเ่ หลียนหรงก็พลันรูส้ กึ ตืนตระหนกขึนมาและ

64
มองมูซ่ งทีดูนิงเฉยปราศจากความโกรธใดๆ นางจึงรูว้ า่
ตนเองทําพลาดไปเสียแล้ว

ไม่เพียงแค่พลาด แต่นางยังรูส้ กึ ว่าแก้มทังสองข้างของ


นางกําลังปวดแสบปวดร้อน ราวกับว่าภาพลักษณ์อนั ดี
งามในจวนตระกูลมูท่ ีนางสร้างมานานหลายปี นนได้
ั พงั
ทลายลงเพียงเพราะคําพูดเพียงไม่กีคําของมูช่ ิงเกอ

ทันใดนัน นําตาก็พลันเอ่อล้นออกมา

ป๋ ายซีเยวียพูดอย่างน่าสงสารว่า : “ไม่ ไม่ ไม่ ข้าไม่รูว้ า่ พี


มูท่ าํ เพือข้า หลังจากทีบาดเจ็บ ข้าก็สลบไป ตืนมาก็ได้
ยินลวีจือเล่าว่าท่านพีมูท่ ิงข้าไว้ทีโรงหมอแล้วส่งองค์

65
หญิงกลับไป ข้าแค่คิดว่าเพราะข้าทําให้พีมูต่ อ้ งมาคอย
พะวง จึงไม่สามารถดูแลองค์หญิงได้อย่างเต็มที ดังนัน
จึงคิดว่าหากจากไปก็คงจะลดปั ญหาให้พีมูไ่ ด้บา้ ง”

เพือกูภ้ าพลักษณ์ของตัวเองกลับมา ป๋ ายซีเยวียจึงผลัก


สาวใช้สว่ นตัวของตนเองออกมาอย่างไม่ลงั เล

ลวีจือทีถูกเจ้านายกล่าวหาหน้าซีดในทันที รีบคุกเข่าลง
ตบหน้าตนเองพลางพูดไม่หยุดว่า : “นายท่าน คุณชาย
คุณหนูใหญ่ บ่าวไม่ดีเองทีพูดความเท็จกับคุณหนู จน
คุณหนูคิดมากและยังเข้าใจคุณชายผิด”

“ลวีจือ เจ้าทําเช่นนีได้อย่างไร?” คําพูดของลวีจือยิงทํา

66
ให้ป๋ายซีเยวียปรากฏท่าทีข่นุ เคืองออกมา ราวกับนาง
เป็ นผูเ้ สียหายอีกคน

“พอเถอะ” มูซ่ งขมวดคิวและค่อยๆ ยืนขึน ฉากตรงหน้า


เหมือนกลายเป็ นเรืองขบขัน

เขามองป๋ ายซีเยวียอย่างลึกลําแวบหนึง แล้วหันไปพูด


กับมูช่ ิงเกอว่า : “เกอเอ๋อร์ ตามข้ามา”

มูช่ ิงเกอพยักหน้ารับแล้วเดินจากไปพร้อมกับมูซ่ งทังรอย


ยิม สําหรับป๋ ายซีเยวียแล้ว นางไม่มองเลยแม้แต่นอ้ ย

หลังจากทีเจ้าบ้านทังสองของจวนตระกูลมูอ่ อกไปแล้ว
67
มูเ่ หลียนหรงก็สงทุ
ั กคนด้วยนําเสียงอันเยือกเย็นว่า :
“ออกไปเถอะ มีอะไรควรทําก็ไปทํา”

ทุกคนต่างก็เดินออกไป แต่วา่ ในขณะทีกําลังจะออกไป


นัน สายตาทีมองป๋ ายซีเยวียต่างก็แตกต่างกันไป

เมือทุกคนออกไปจากห้องโถงกลาง มูเ่ หลียนหรงก็มอง


ป๋ ายซีเยวียและพูดอย่างมีนยั ว่า : “ซีเยวีย อาเหลียนเห็น
เจ้ามาตังแต่เล็ก ในสายตาของอาเจ้าเป็ นหญิงสาวทีไร้
เดียงสาและคอยเป็ นห่วงเป็ นใยผูอ้ ืนเสมอ เรืองนีก็ได้
ผ่านไปแล้ว และเจ้าเองก็ยงั บาดเจ็บ กลับไปพักผ่อน
ก่อนเถอะ”

68
พูดจบนางก็มองลวีจือและพูดด้วยนําเสียงทีเยือกเย็น
กว่าเดิม : “ลวีจือการคิดเผือเจ้านายนันเป็ นหน้าทีของ
เจ้า แต่เจ้าเองก็ตอ้ งรูห้ น้าทีของสาวใช้ดว้ ย”

“ท่านอาเหลียน เป็ นซีเยวียทีคิดมากไปเอง” ป๋ ายซีเยวีย


ลุกขึนอย่างอ่อนโยนทังนําตา

มูเ่ หลียนหรงมองนางโดยไม่พดู อะไร

สักพักก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินออกจากห้องโถงกลาง
ไป

“คุณหนู” พอส่งมูเ่ หรียญหรงกลับไป ลวีจือก็ลกุ ขึนและ


69
เดินไปหาป๋ ายซีเยวีย

ใครจะรูว้ า่ ป๋ ายซีเยวียจะยกมือขึนและผลักลวีจืออย่าง
แรงทําให้ลวีจือล้มลงไปกับพืน

“โอ๊ย!”

“นังคนไร้ประโยชน์!” ป๋ ายซีเยวียด่าทอ ระบายอารมณ์


ทังหมดใส่ลวีจือ

“ขอโทษเจ้าค่ะ คุณหนู” ลวีจือกลันนําตา พูดสันๆ

ป๋ ายซีเยวียสีหน้ามืดครึม พูดเสียงแข็งว่า : “ยังไม่รบี พา


70
ข้าออกไปอีก ยังขายขีหน้าไม่พอหรือไร?” หากก่อนหน้า
นีการจะย้ายออกจากจวนตระกูลมูเ่ ป็ นเพียงการแสดง
ตอนนีนางก็อยากจะออกจากจวนตระกูลมูจ่ ริงๆ ไม่
อยากจะอยูต่ อ่ เลยแม้แต่เสียววินาทีเดียว

มูช่ ิงเกอกลายเป็ นคนร้ายกาจเช่นนีตังแต่เมือไหร่กนั เหตุ


ใดถึงฉลาดได้ถงึ เพียงนี?

นางคิดทบทวนหลายรอบแล้วว่าไม่มีทางมีขอ้ ผิดพลาด
แน่นอน จึงตัดสินใจทําเช่นนี แต่เพราะเหตุใดเรืองราวจึง
ได้กลับตาลปั ตรพลิกผันเพียงเพราะคําพูดไม่กีคําของ
นางเองได้เล่า

71
สายตาของป๋ ายซีเยวียมืดดํา

ความผิดพลาดในวันนี นางคงไม่กล้าบอกกับรุย่ อ๋อง


เพราะกลัวว่าจะทําให้เขาผิดหวังและคิดว่าตนเองไร้
ประโยชน์

ไม่ ! นางจะต้องทําลายความสัมพันธ์ของมูซ่ งและมูช่ ิง


เกอให้ได้

ป๋ ายซีเยวียเม้มปากและกลับมายังเรือนของตนเองได้
เพราะมีลวีจือคอยประคอง

หลังจากทีออกมาจากห้องหนังสือของมูซ่ ง มูช่ ิงเกอก็เงย


72
หน้าขึนมองท้องฟ้าสีฟา้ พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

เรืองทีเกิดขึนในห้องโถงกลางทําให้มซู่ งรูส้ กึ สงสัย แน่


นอนว่าไม่ได้สงสัยในตัวนาง แต่กลับสงสัยการเปลียน
แปลงของป๋ ายซีเยวีย และเท่าทีนางสังเกต เกรงว่านีต่าง
หากจึงจะเป็ นนิสยั ทีแท้จริงทีป๋ ายซีเยวียค่อยๆ เผยออก
มา

แต่วา่ สิงทีทําให้นางรูส้ กึ สงสัยคือ ภายในคําคืนเดียว เห


ตุใดป๋ ายซีเยวียถึงเปลียนไปได้ถงึ เพียงนี? จากทีอดทน
อดกลันมาตลอดกลายมาเป็ นฝ่ ายลงมือก่อนในวันนีงัน
หรือ?

73
แน่นอนว่า มูซ่ งเองก็สงสัยในท่าทีของนางเช่นกัน

แต่คาํ ตอบของนาง ก็คือนางโตแล้ว และไม่ได้เป็ นชาย


เสเพลทีมีความคิดเป็ นเด็กๆ เฉกเช่นแต่ก่อน

สําหรับเรืองความจริงทีเกิดขึนเมือวาน มูซ่ งไม่ได้ถาม


และนางก็คงไม่มีทางเป็ นฝ่ ายเล่าก่อนแน่ๆ

ก่อนทีนางจะออกไป มูซ่ งกําชับเพียงคําเดียวว่า : “ระวัง


ด้วย”

มูช่ ิงเกอยิมพลางพึมพําว่า : “ดูเหมือนว่าในจวนตระกู


ลมูน่ ี คนทีดูจะอันตรายมากทีสุดก็คงจะเป็ นนายท่านผู้
74
เฒ่าแล้วล่ะ”

เสียดายนัก ทีท่านทิงประชาราษฏร์แคว้นฉินไม่ลง

ไม่เช่นนัน ตระกูลมูจ่ ะตกเป็ นเป้าขนาดนีได้อย่างไร?

มูช่ ิงเกอยิมอย่างอับจนปั ญญา สะบัดแขนเสือจากไป


นางไม่ได้กลับเรือน แต่พาโย่วเหอและฮวาเยวียออกจาก
ประตูจวนไปยังค่ายทหารของตระกูลมู่

ทังสามเดินทางโดยการขีม้า

อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็ถามขึนว่า : : “พวกเจ้าคิดว่าสําหรับ


75
แคว้นฉินแล้วจวนตระกูลมูเ่ ป็ นอย่างไร?”

โย่วเหอและฮวาเยวียอึงไปพร้อมๆ กัน เหมือนไม่เข้าใจ


ว่าเหตุใดมูช่ ิงเกอถึงถามแบบนี สุดท้ายยังคงเป็ นโย่วเห
อทีความรูส้ กึ ไวกว่า นางเงียบไปสักพักแล้วพูดว่า :
“นายท่านทําสงครามมา 10 กว่าปี คอยปกปั กษ์ให้
แคว้นฉินสงบสุข ตระกูลมูส่ าํ หรับแคว้นฉินแล้วก็คือ
กําแพงเหล็กทีมีไว้เพือปกป้องแคว้นฉิน”

“แล้วเหตุใด คนผูน้ นของแคว้


ั นฉินจึงพยายามทีจะ
ทําลายกําแพงนีเล่า?” มูช่ ิงเกอถามซําอีกหน

ทังสองนางสงสัยยิงกว่าเดิม

76
พวกนางรูส้ กึ ว่าคําตอบของคําถามนี คุณชายน่าจะเข้า
ใจดี แล้วเหตุใดจึงต้องมาถามพวกนางอีก?

ทังสองไม่เข้าใจความคิดของมูช่ ิงเกอทําได้เพียงแต่ตอบ
ไปตามความเป็ นจริง

ครังนี ฮวาเยวียเป็ นคนพูด : “เพราะคนผูน้ นกลั


ั วว่าจะ
ควบคุมกําแพงนีไว้ไม่อยู่ กลัวว่ากําแพงนีจะล้มลงมาทับ
ตัวเขาเอง แล้วยึดอํานาจในแคว้นของเขาไป”

มูช่ ิงเกอยิมอย่างเยือกเย็นและพูดอีกว่า : “ในเมือเป็ น


เช่นนี เหตุใดนายท่านผูเ้ ฒ่าถึงยังปล่อยวางไม่ลงอีกเล่า”

77
นางเป็ นทหารก็จริงแต่วา่ จะไม่มีทางจงรักภักดีแบบโง่
เขลาเช่นนีเด็ดขาด ในเมือผูม้ ีอาํ นาจไร้ซงคุ
ึ ณธรรม นาง
ก็จะขอถอนตัวออกไปอย่างสง่างาม

ทําเพือประชาชนนันเป็ นความคิดทีพึงมีของทหาร แต่


สําหรับนางปณิธานทีฝังลึกอยูใ่ นเลือดเนือก็คือ ทําอย่าง
ไรจึงจะสามารถทําให้ภารกิจลุลว่ งไปได้อย่างมี
ประสิทธิภาพสูงสุดและทําตามทุกคําสังได้อย่างสมบูรณ์
แบบ

เพราะฉะนันในบางมุมนางต่างจากมูซ่ ง

นางเข้าใจว่าเหตุใดมูซ่ งจึงต้องอดทน แต่นางไม่อาจ

78
คล้อยตามได้ แม่ทพั ทังสองและฮูหยินผูเ้ ฒ่าแห่งตระกู
ลมูต่ า่ งก็ตอ้ งตายอย่างไร้สาเหตุ กระทังพวกเขาเองก็
สงสัยว่าคนร้ายผูอ้ ยูเ่ บืองหลังของเรืองนีก็คือผูท้ ีนังอยู่
บนบัลลังก์ผนู้ นั

แต่มซู่ งกลับเลือกทีจะอดทนเก็บซ่อนความรูส้ กึ เอาไว้ ยัง


คงคิดถึงประชาราษฏร์และกลํากลืนความทุกข์ทรมานนี
ไว้

79
ตอนที 79-5 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

80
หากเป็ นนาง นางจะสืบหาความจริงให้กระจ่างเพือทวง
ความยุติธรรมให้แก่ลกู เมีย แล้วออกจากแคว้นไปอย่าง
โล่งใจ คนทีนีไม่ตอ้ นรับก็ตอ้ งสักทีทีเขาต้อนรับ คิดว่าใต้
หล้านีพวกตนเป็ นผูส้ ร้างขึนมาหรือไร

แม้วา่ แคว้นฉินจะล่มสลายเพราะเหตุนีหรือว่าประชาชน
จะต้องตกอยูใ่ นสภาวะสงคราม แล้วอย่างไรเล่า? นีเป็ น
ความผิดของคนเป็ นผูน้ าํ ในเมือแผ่นดินนีเป็ นของ
ตระกูลฉิน งันจะเกียวอะไรกับตระกูลมูเ่ ล่า?

อีกอย่าง แผ่นดินนีไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึงอยูแ่ ล้ว ก็


ต้องมีผลัดเปลียนหมุนเวียนกันไปไม่มีผใู้ ดจะครอบครอง
สิงใดไว้ได้ตลอดกาลหรอก เป็ นธรรมดาของประวัติ
ศาสตร์
81
มูช่ ิงเกอคิดตกแล้วแต่มซู่ งยังคิดไม่ตก ตรงจุดนีทําให้มู่
ชิงเกอปวดหัวเป็ นอย่างมาก

“นายท่านเพียงสงสารอาณาประชาราษฏร์ เป็ นทีรูก้ นั ดี


ว่าตอนนีแคว้นฉินสงบสุข เพราะแสนยานุภาพของตระกู
ลมูเ่ รา จึงทําให้แคว้นข้างเคียงได้เพียงแค่มอง แต่ไม่กล้า
ทําอะไร” โย่วเหอพูดเบาๆ เหมือนนางจะเข้าใจแล้วว่า
เพราะเหตุใดมูช่ ิงเกอถึงถามคําถามนี

นันสินะ ! ประชาราษฏร์

ในสายตาของมูช่ ิงเกอมีความขบขันผุดขึนมา

82
ในห้องหนังสือ ยังมีบทสนทนาอีกช่วงหนึงของนางและ
มูซ่ ง

นางถามมูซ่ งว่าในเมือเป็ นกังวล แล้วเหตุใดถึงไม่ใช้


โอกาสนีจากไปเสียเล่า? ด้วยชือเสียงของมูซ่ งและความ
เกรียงไกรของตระกูลมู่ ไม่วา่ พวกเขาไปทีใดก็คงไม่
ลําบาก

ทว่า มูซ่ งกลับส่ายหน้าปฏิเสธ

เหตุผลของเขาคือความรุง่ โรจน์ทงชี
ั วิตเขา ไม่ใช่ได้มา
เพราะฮ่องเต้แคว้นฉินแต่ได้มาเพราะประชาชนแคว้นฉิน

83
เพราะฉะนัน เขาจําเป็ นต้องตอบแทนพวกเขา

ในอนาคต เขาไม่สนใจว่ามูช่ ิงเกอจะเลือกอย่างไร แต่


ตราบใดทีเขายังมีชีวิตอยูอ่ ีกหนึงวันก็จะปกป้องให้แคว้น
ฉินสงบสุขไปอีกหนึงวัน คําพูดเช่นนี ทําให้มชู่ ิงเกอไม่รู ้
ว่าจะตอบอย่างไรดี

เพราะฉะนัน ก่อนจากมา นางจึงเงยหน้าขึนมองฟ้า แล้ว


ถอนหายใจ

ท่ามกลางบทสนทนาอันตึงเครียด ทังสามได้ออกจาก
เมืองหลวงและเข้าเขตค่ายทหารเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว

84
ออกจากจวนในครังนี โย่วเหอและฮวาเยวียต่างก็แต่ง
กายอย่างเรียบร้อย ไม่มีความประณีตบรรจงตามแบบ
ฉบับของหญิงสาว แต่มีความองอาจห้าวหาญของชาย
หนุ่มเพิมขึนมาหลายส่วน

พอถึงค่ายทหารของตระกูลมู่ มูช่ ิงเกอก็ทกั ทายรองแม่


ทัพสองสามคน แล้วพาหญิงสาวทังสองเดินไปทางหลัง
เขา

บริเวณหลังเขา มูช่ ิงเกอเลือกทีทีเหมาะสมแห่งหนึงไว้


เพือเป็ นสนามฝึ กให้กบั เหล่าองครักษ์ดว้ ยตัวเอง

มัวหยางอยูท่ ีนีตังแต่หลายวันก่อน เพือนําองครักษ์ทงั

85
500 นายมาเตรียมการทังหมดนีก่อน

เดินอ้อมป่ า ผ่านหน้าผา ข้ามแม่นาและหลั


ํ งจากทีเดิน
ทะลุเข้าไปในทางเดินสายเล็กอันลึกลับ ทัง 3 ก็เดินมา
ถึงกลางหุบเขาแห่งหนึง

หุบเขานันรูปทรงคล้ายนําเต้า บริเวณทางเข้าเล็กแคบ
แต่ภายในกลับเหมือนเป็ นสถานทีอีกแห่งหนึง

บริเวณรอบหุบเขา เต็มไปด้วยหน้าผาทีเหมือนโดน
มีดกรีดออกและด้านบนตรงจุดหนึงก็มีนาตกไหลดิ
ํ งลง
มา หยดนําหยดลงมาเรือยๆ สะสมกันมาเป็ นเวลายาว
นาน จนทําให้หินยักษ์ทีอยูด่ า้ นล่างทะลุเป็ นรู

86
หลังจากทีทังสามเดินเข้าไปยังหุบเขา บริเวณทีว่างแห่ง
หนึงกลางหุบเขา ก็มีสงของแปลกประหลาดหลายอย่
ิ าง
จัดวางไว้ แม้แต่บนหน้าผาก็ยงั มีเชือกปี นเขาห้อยลงมา

อุปกรณ์การฝึ กหน้าตาประหลาดพวกนี สําหรับมัวหยาง


และคนอืนๆ แล้ว ถือว่าแปลกมาก

แต่สาํ หรับมูช่ ิงเกอแล้ว กลับรูส้ กึ คุน้ เคยเป็ นอย่างมาก

ทังหมดนี เป็ นอุปกรณ์การฝึ กขันพืนฐานทีนางคัดลอก


มาจากความทรงจํา

87
ทีกีดขวาง เชือกปื นเขา ศิลปะการต่อสู้ การสอบกําลัง
กาย ความว่องไว การตอบสนอง รวมทังความสามารถ
ด้านการต่อสูแ้ ละทฤษฎีความรูต้ า่ งๆ นางก็ไม่ปล่อยผ่าน
นางต้องการให้ทหารทัง 500 นาย กลายเป็ นสุดยอดนัก
รบผูก้ ล้าหาญเจนการศึก

นักรบจากยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอทีทุกประเทศต่างก็
กระหายจะได้มาในชาติทีแล้วนัน จะต้องเกิดขึนในมือ
นางอย่างแน่นอน

มูช่ ิงเกอค่อยๆ กวาดสายตามองทังหมดในหุบเขาและ


ผุดรอยยิมทีมุมปาก

88
“คุณชาย!” มัวหยางเดินมาอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอ

หลายวันทีอาศัยอยูใ่ นค่าย ทําให้กลินอายของหนังสือใน


ตัวเขาลดน้อยลง ใบหน้าอันผอมแห้งมีความหนักแน่น
มากขึน

มูช่ ิงเกอค่อยๆ พยักหน้า : “เรียกพวกเขาออกมา”

มัวหยางรับคําสังและออกไป ครูหนึงทหารทัง 500 นาย


ก็ยืนอย่างเป็ นระเบียบอยูต่ รงหน้ามูช่ ิงเกอ

บนร่างกายของพวกเขา ไม่ได้สวมเสือเกราะแบบ
มาตรฐานของตระกูลมูแ่ ละไม่ได้สวมเสือทีปั กเครือง
89
หมายขององครักษ์ตระกูลมู่ แต่กลับสวมเสือธรรมดาที
สะอาดสะอ้านดูเรียบร้อยตามคําสังของมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอค่อยๆ เดินมาอยูต่ รงหน้าทัง 500 นาย กวาด


สายตามองพวกเขา

ผลลัพธ์ถือว่าน่าพอใจ

ชายหนุ่มทัง 500 นายต่างมีสายตาทีเต็มไปด้วยความ


มันใจและหนักแน่น นีเป็ นก้าวแรกของความสําเร็จ

มูช่ ิงเกอยืนเอามือไพล่หลังอยูต่ รงหน้าทหารทัง 500


นาย พลางพูดกับโย่วเหอและฮวาเยวียว่า : “โย่วเห่อ ฮ
90
วาเยวีย ตังแต่วนั นีพวกเจ้าต้องได้รบั การฝึ กพร้อมกับ
พวกเขา หากไม่ผา่ นด่าน ก็ไม่สามารถกลับมารับใช้ขา้ ง
กายข้าได้อีก”

การตัดสินใจนี หลังจากทีมูช่ ิงเกอพาพวกนางมายังค่าย


หลายต่อหลายครัง พวกนางได้ทาํ ใจไว้แล้ว

ดังนัน พอมูช่ ิงเกอพูดจบพวกนางก็ไม่ได้แปลกใจอะไร


และยืนอย่างเรียบร้อยอยูข่ า้ งมัวหยาง แต่ชายหนุ่มทัง
500 นายต่างหากทีมองหญิงสาวทีอ่อนโยนทังสองด้วย
ความสงสัย ไม่เข้าใจว่าคุณชายคิดจะทําอะไร

มูช่ ิงเกอพูดด้วยนําเสียงทีเชืองช้าและนิงสงบว่า : “ไม่

91
ต้องแปลกใจ ข้างกายข้าจะไม่เก็บคนไร้ประโยชน์เอาไว้
พวกนางอยากจะติดตามรับใช้ขา้ ก็ตอ้ งพัฒนาตนเองให้
เก่งขึน พวกเจ้าก็เช่นกัน”

ประโยคหลัง ทําให้ทหารทัง 500 นายยืดหลังตรง เก็บ


ความรูส้ กึ ไว้ในใจ

มูช่ ิงเกอกวาดสายตามอง แล้วพูดต่อว่า : “ข้ารู ้ ว่าในใจ


ของพวกเจ้ากําลังคิดว่า ข้าจะสอนอะไรแก่พวกเจ้าได้
บ้าง ไม่ตอ้ งรีบร้อน อีกไม่นานพวกเจ้าก็จะรูว้ า่ มันไม่ทาํ
ให้พวกเจ้าผิดหวังแน่นอน ตอนนีสิงทีข้าบอกพวกเจ้าได้
มีเพียงแค่.....ทังหมดทีพวกเจ้าจะได้เรียน เป็ นบท
ทดสอบทีไม่มีใครเคยสัมผัส พวกเจ้าอยากแข็งแกร่งก็
ต้องได้รบั การเจียระไน พวกเจ้าทุกคนในนี ไม่มีสทิ ธิทีจะ
92
ยอมแพ้ เหตุผลทีจะไปจากทีนีได้มีเพียงสองข้อเท่านัน
ข้อแรกคือ ผ่านการฝึ ก ข้อสองคือตาย พวกเจ้ากลัวหรือ
ไม่?”

“ไม่กลัว!”

“ไม่กลัว-----!”

เสียงอันพร้อมเพรียง ดังกึกก้องไปทัวหุบเขา

มูช่ ิงเกอยิมอย่างโหดเ**◌้ยมและอันตราย : “ข้าหวังว่า


หลังจากทีพวกเจ้าได้สมั ผัสถึงนรกทีแท้จริงแล้ว พวกเจ้า
จะยังยืนยันทีจะพูดแบบนี”
93
ทัง 503 คนใช้ความเงียบทีหนักแน่นในการตอบกลับ
นาง

อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็หบุ ยิม และพูดอย่างหนักแน่นว่า : “กลุม่


องครักษ์ในอดีตของข้า มีนามว่า ‘เลียเกอ’ เป็ นชือทีท่าน
แม่ทพั ของพวกเจ้าตังด้วยตนเอง แม้วา่ พวกเขาได้สละ
ชีวิตไปแล้ว แต่นามนีจะยังคงอยูค่ กู่ บั ความกล้าหาญ
ของพวกเขาตลอดไป สําหรับพวกเจ้า หลังจากทีได้รบั
การยอมรับจากข้า จะได้รบั อีกนามหนึงทีดังระบือไกลไป
มากกว่าเดิม ตอนนีข้าจะยังไม่บอกพวกเจ้าว่านามนัน
คืออะไร เพราะตอนนีพวกเจ้ายังไม่คคู่ วรทีจะรู ้ ตังแต่
วันนีเป็ นต้นไป ข้าก็จะฝึ กไปกับพวกเจ้า ข้าทําอะไรพวก
เจ้าก็ตอ้ งทําตามข้า หากข้าทําได้ แต่พวกเจ้าทําไม่ได้

94
นันก็หมายความว่า แม้กระทังคนไร้คา่ ผูห้ นึงพวกเจ้าก็
ยังไม่อาจเทียบได้”

คําพูดพวกนี ทําให้ทหารทัง 500 นายทําหน้าเครียด


อุณหภูมิในร่างกายตําลงกว่าเดิม

พวกเขาไม่ตอบมูช่ ิงเกอ แต่คิดว่าจะใช้การกระทําในการ


พิสจู น์เรืองราวทังหมด นีคือทหารตระกูลมูท่ ีแท้จริงทีไม่
พูดโอ้อวดแต่วดั กันทีความสามารถ

คุณชายบอกว่าพวกเขายังไม่มีสทิ ธิคูค่ วรทีจะรูน้ ามนัน


งันก็ดี พวกเขาก็จะขอสูส้ ดุ ชีวิต ดูสวิ า่ คราวนีจะมีสทิ ธิ
แล้วหรือยัง!

95
นัยน์ตาเด็กน้อยพวกนัน มีเปลวเพลิงลุกโหมขึน มูช่ ิงเก
อยิมอย่างคลุมเครือ

นางหันหลัง เดินไปยังฐานแรก พลางพูดว่า : “ตังแต่วนั นี


เป็ นต้นไป ตอนกลางวันฝึ กตามวิธีของข้าและตอนกลาง
คืนก็ฝึกฝนพลังตามขันของพวกเจ้า ใครกล้าเกียจคร้าน
วันต่อไปฝึ กหนักขึนอีกสองเท่า!”

“ขอรับ” ทุกคนคํารามเสียงดังเป็ นเสียงเดียวกัน สายตา


มองตามมูช่ ิงเกอ

พวกเขาประหลาดใจมาก เครืองมือแปลกๆ พวกนีมีวิธี

96
ใช้อย่างไรกัน?

มูช่ ิงเกอถอดเสือคลุมอันหลวมใหญ่ออกและมัดก้อน
ตะกัวทีกองอยูบ่ นพืนบนขา หน้าอกและหลังของตนเอง

หลังจากทีเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางมองไปข้าง
หน้า จู่ๆ ก็พงุ่ ออกไปอย่างรวดเร็ว เริมการแสดงการข้าม
สิงกีดขวาง

วิงตามทางเรียบร้อยเมตรและโค้งไปตามทางอย่างว่อง
ไว วิงข้ามตอไม้ ก้าวข้ามคูนา.......โดดกํ
ํ าแพงเตีย ไต่
ตาข่าย หลบกระสอบทราย ทุกอย่างเกิดขึนอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางสายตาของทุกคน

97
รอจนมูช่ ิงเกอมายืนอยูต่ รงหน้าพวกเขาอย่างหน้าไม่
แดงทังยังไม่มีอาการหอบ ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไป
ด้วยความมึนงง

ในตอนนี มีตวั หนังสือลอยขึนจากความคิดของพวก


เขา-------

ของพวกนีเล่นแบบนีเองหรือ!

คุณชายสุดยอดมาก!

มูช่ ิงเกอยกนําชาขึนถ้วยหนึง ดืมช้าๆ ไปคําหนึง และ


98
หลังจากทีปิ ดฝาถ้วยชา นางก็พดู ว่า : “เริมกันเลย แสดง
ความสามารถของพวกเจ้าออกมาให้ขา้ เห็น แต่วา่ ห้าม
ใครใช้พลังเวท ให้อาศัยพลังกายของตนเองเท่านัน เมือ
จบในทุกๆ ด่าน 100 คนทีช้าทีสุดต้องไปวิงรอบภูเขา
หนึงรอบแล้วกลับมาฝึ กต่อ หากแพ้ก็กลับไปวิงอีก การ
ลงโทษในทุกครังนันคูณสอง”

โห-----!

พีๆ ทหารทัง 500 นาย ตอนนีคงรับรูแ้ ล้วใช่หรือไม่


ว่านรกทีคุณชายพูดนันหมายความว่าอย่างไร

ห้ามใช้พลังเวท ใช้ได้แค่พลังกายเท่านัน

99
การลงโทษทีน่ากลัวพวกนัน ถลกหนังออกมาชันหนึงยัง
ไม่พอเลย!

ทว่า กลับไม่มีใครกล้าปฏิเสธ

เพราะว่า มูช่ ิงเกอแสดงให้ทกุ คนเห็นแล้ว หากพวกเขา


ยอมแพ้ ก็จะด้อยกว่าคนไร้คา่ คนหนึง

แอบจุดเทียนให้กบั ตนเองในใจเล่มหนึง พีๆ ทหารทัง


500 นาย กระทังพวกมัวหยางอีกสามคนเองต่างก็เดิน
ไปยังจุดเริมต้นด้วยท่าทางขลาดๆ

100
โดยเฉพาะโย่วเหอและฮวาเยวีย หลังจากทีได้ยินคําพูด
ของมูช่ ิงเกอ พวกนางก็มีใจคิดจะยอมแพ้แล้ว

101
ตอนที 79-6 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

การฝึ กเช่นนี แม้จะเป็ นผูช้ ายก็ไม่แน่วา่ จะอดทนผ่านไป


ได้ พวกนางเป็ นหญิงสาวทีเปราะบางจะอดทนให้ผา่ น
ไปได้สกั แค่ไหนกัน?

แต่พวกนางก็รูถ้ งึ นิสยั ของมูช่ ิงเกอดี ฉะนันพวกนางจึง


ไม่กล้าปฏิเสธ ทังสองนางทําได้เพียงให้กาํ ลังใจและ
อธิษฐานให้กนั และกัน

102
พอฐานแรกเริมต้นขึน มูช่ ิงเกอก็คอ่ ยๆ พูดขึนว่า : “นีแค่
เริมต้น เป็ นแค่ฐานทีง่ายทีสุดเท่านัน”

ประโยคนี ทําให้ทกุ คนตกใจจนเกือบจะล้มลงไปกับลง


พืน

นีง่ายทีสุดแล้วหรือ?!

ทุกคนแอบนําตาตกใน แต่ก็ทาํ ได้แค่ยืนอยูบ่ นเส้นเริมวิง

……

103
ฝึ กจนฟ้ามืด

ในวันนี แทบจะไม่มีใครทีไม่ได้ไปวิงรอบภูเขา บางคนวิง


ไปเจ็ดแปดรอบ โย่วเหอและฮวาเยวียเองก็เป็ นหนึงใน
นัน

ตอนแรก พีๆ ทหารคิดว่ามูช่ ิงเกอจะทะนุถนอมทังสอง


สาว กลับคิดไม่ถงึ เลยว่าจะใจแข็งได้ถงึ เพียงนี ทําเป็ น
มองไม่เห็นร่างอันสันไหวเหมือนจะแตกสลายของทัง
สองเลยแม้แต่นอ้ ย

เห็นแบบนี พีๆ ทหารต่างก็ตอ้ งทําใจ

104
ปาดเหงือจากความเหน็ดเหนือย ในทีสุดพวกเขาก็พบว่า
การจะให้คณ
ุ ชายใจอ่อนนัน ยากยิงกว่าทําให้ดวงตะวัน
ขึนมางทิศตะวันตกเสียอีก

คําคืนนี หลายร้อยคนต่างก็ใช้เวลาไปกับการฝึ กพลังเวท


และมูช่ ิงเกอก็อยูใ่ นหุบเขาโดยไม่ได้กลับจวน

เป็ นเพราะนางไม่ชอบความวุน่ วายในลัวตู อยูฝ่ ึ กกับ


ทหารทีนีทําให้นางสบายใจมากกว่า

วันทีสอง ยังไม่รุง่ สาง

เสียงสัญญาณก็ดงั ก้องไปทัวทังหุบเขา ปลุกทหารนับ


105
ร้อยทีเหนือยราวกับสุนขั ตายจากการฝึ กฝนเมือวานให้
ตืนขึน

แม้วา่ จะผ่านการฝึ กมาทังคืน แต่เพราะระดับขันทีไม่เท่า


กัน ทําให้การฟื นตัวของทุกคนต่างกัน พอเห็นหลายคนดู
เหน็ดเหนือย มูช่ ิงเกอก็ยมเผยให้
ิ เห็นฟั นขาวพลางพูด
ว่า : “เริมการฝึ กแล้ว เรามาอบอุน่ ร่างกายกันก่อน วิง
รอบภูเขาสามรอบ”

โห่----!

ฮือๆๆ คุณชายไม่ใช่คนแล้วแต่เป็ นปี ศาจ!

106
ทัง 503 คนเริมวันอันยากลําบากพร้อมคําบ่นในใจ แต่
ว่าครังนี มูช่ ิงเกอมาวิงด้วยและวิงอยูห่ น้าสุด

เห็นร่างอันผอมบางตรงหน้า เหล่าพีทหารเจ็บปวดใจจน
แทบจะร้องไห้อีกครัง

ไหนบอกว่าคุณชายฝึ กเวทพลังไม่ได้ แล้วเหตุใดถึงมี


พละกําลังมากกว่าพวกเขาเล่า?

ในทีสุดก็มีคนสังเกตเห็นว่า การก้าวเท้าของมูช่ ิงเกอนัน


ดูแตกต่าง ราวกับว่าทุกก้าวของเขานันดูตงใจที
ั จะไม่ใช้
กําลังสินเปลืองเกินไปอย่างนัน

107
หลังจากทีเห็นถึงความแตกต่างนี ก็เริมมีคนทําตาม สัก
พักพวกเขาก็ลืมความเหน็ดเหนือยและวิงได้อย่างสบาย
มากขึน

มูช่ ิงเกอทีวิงอยูข่ า้ งหน้า ก็รูส้ กึ ถึงความเปลียนแปลงที


เกิดขึนข้างหลังตนเอง ริมฝี ปากอดไม่ได้ทีจะเผยรอยยิม
ออกมา

การฝึ กดําเนินอย่างต่อเนืองทุกวัน เหล่าทหารต่างมีการ


พัฒนาขึนในทุกวัน

เพียงพริบตาก็ผา่ นไปครึงเดือนแล้ว มูช่ ิงเกอไม่ได้ออก


จากหุบเขาเลยแม้แต่กา้ วเดียวจึงไม่รูข้ ่าวคราวของลัวตู

108
เลย

ในวันนี มูช่ ิงเกอตัดสินใจจะไปลัวตูสกั ครังเพราะออก


แบบอุปกรณ์เอาไว้ จะต้องกลับไปทีลัวตูเพือหาคน
มาสร้างมัน

โย่วเหอและฮวาเยวียถูกสังให้ฝึกต่อ มูช่ ิงเกอขีม้ากลับ


ลัวตูแต่เพียงผูเ้ ดียว

……

หลังจากทีกลับมาถึงจวนตระกูลมู่ มูช่ ิงเกอจึงทราบข่าว


จากพ่อบ้านว่า ช่วงทีนางไม่อยู่ องค์หญิงฉางเล่อมาหา
109
นางหลายครังแต่ก็ตอ้ งกลับไปพร้อมความเสียดาย

ครังสุดท้าย องค์หญิงฉางเล่อฝากพ่อบ้านมาบอกนางว่า
องค์หญิงจะไปถือศีลกับไทเฮาคงจะไม่อยูเ่ ป็ นเดือน พอ
นางกลับมาค่อยมาหามูช่ ิงเกอใหม่

สําหรับเรืองนี มูช่ ิงเกอไม่ได้ใส่ใจมากนัก

ตอนนี นางคิดเพียงแต่จะสร้างทหารของตนให้ยอดเยียม

“คุณชาย โย่วเหอและฮวาเยวียไม่ได้กลับมาด้วย ให้ขา้


ส่งบ่าวอีกสองคนไปปรนนิบตั ิทา่ นทีเรือนดีไหมขอรับ?”
พ่อบ้านทีเดินตามมาส่งมูช่ ิงเกอทีเรือนถามขึน
110
มูช่ ิงเกอปฏิเสธในทันที : “ครังนีข้ากลับมาเพราะมีเรือง
ต้องจัดการ ไม่กีวันก็จะกลับไป ไม่ตอ้ งลําบากหรอก”

“คุณชายจะกลับไปไวขนาดนีเลยหรือขอรับ?” พ่อบ้าน
เหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็หยุดไป

มูช่ ิงเกอรับรูถ้ งึ ความลังเลในคําพูดของพ่อบ้านจึงหัน


กลับไปมองเขาพลางพูดว่า : “มีอะไรก็รบี พูดมา”

พ่อบ้านก้มหน้าลงพลางพูดว่า : “ช่วงทีคุณชายไม่อยู่ แม่


นางป๋ ายมักจะบอกกับนายท่านและคุณหนูใหญ่วา่ คุณ
ชายก็อายุไม่นอ้ ยแล้ว ควรจะทําตัวดีๆ ไม่ออกไปเทียว

111
เล่นตามใจแม้แต่จวนก็ยงั ไม่กลับเช่นนี ยิงไปกว่านันนาง
ถึงกับเสนอให้นายท่านส่งคนไปตามท่านกลับมา”

มูช่ ิงเกอขมวดคิว : “นางไม่รูห้ รือว่าข้าไปไหน?” เรืองที


นางไปค่ายทหารในจวนตระกูลแห่งนีไม่ได้เป็ นความลับ
อะไรเลย ไม่คิดว่าป๋ ายซีเยวียจะไม่รู ้

พ่อบ้านยิม : “หลังจากเรืองนัน......ความคิดของคนใน
จวนทีมีตอ่ แม่นางป๋ ายก็....นางเคยส่งให้ลวีจือออกมา
สืบหลายครัง แต่ทกุ คนต่างก็คิดว่านางจุน้ จ้านมากเกิน
ไป จึงเลือกทีจะเงียบและปิ ดบังไว้ขอรับ”

เฮอะ~! ถึงขนาดนีเลยรึ? นีนับว่าเป็ นความโชคดีทีคิดไม่

112
ถึงเลยจริงๆ !

มูช่ ิงเกอชอบใจมาก

นางไม่รูว้ า่ ตอนนีความสัมพันธ์ระหว่างป๋ ายซีเยวียกับ


คนในจวนตระกูลมูแ่ ย่ได้ถงึ เพียงนี

“ท่านปู่ กบั ท่านอาก็ไม่ได้บอกนางรึ?” มูช่ ิงเกอถามขึนอีก

พ่อบ้านพยักหน้า

สําหรับเรืองของป๋ ายซีเยวีย พวกเขาไม่ได้คิดลึกอะไร


มาก เพียงคิดว่า ไม่วา่ จะอย่างไรป๋ ายซีเยวียก็เป็ นแค่
113
แขกของตระกูลมู่ ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด
และไม่ได้แต่งงานกับคุณชายของพวกเขา คนทีพูดจาไม่
เข้าหูทา่ ทางก็ไม่เข้าท่าแบบนี อยากจะมาก้าวก่ายอิสระ
ของคุณชาย ก็เกินไปหน่อยจริงๆ นายหญิงตัวจริงของ
ตระกูลมูอ่ ย่างองค์หญิงฉางเล่อยังไม่ทาํ ถึงเพียงนี แล้ว
นางมีสทิ ธิอะไร?

พูดจากใจจริงแล้ว พวกบ่าวอย่างพวกเขาสุดท้ายก็ปก
ป้องแค่เจ้านายแซ่มทู่ ีแท้จริงเพียงสามคนเท่านัน

มูช่ ิงเกอยิมพลางพยักหน้า : "ข้ารูแ้ ล้ว ไม่ตอ้ งไปสนใจ"


นางพูดจบแล้วกําลังจะเดินเข้าเรือนไปแต่อยูๆ่ ก็หยุด
และถามว่า : “นอกจากองค์หญิงฉางเล่อ ยังมีใครมา
จวนตระกูลมูอ่ ีกหรือไม่?”
114
พ่อบ้านทบทวนครูห่ นึงแล้วพูดว่า : “ยังมีรุย่ อ๋องทีเสด็จ
มา แต่วา่ ทุกครังทีเสด็จมาพระองค์ก็จะบอกว่ามาพบ
นายท่าน พอทราบว่านายท่านไม่อยู่ ก็เสด็จกลับไปขอ
รับ”

“แล้วเขามาพูดคุยกับใครหรือไม่” มูช่ ิงเกอถามพลาง


กะพริบตาหลายที

เห็นว่ามูช่ ิงเกอซักไซ้อย่างละเอียด พ่อบ้านเฒ่าจึงแอบ


คิดในใจว่า : คุณชายยังมีใจให้กบั รุย่ อ๋องอยูอ่ ีกหรือ?

พอคิดเช่นนี เขาก็ถอนหายใจ

115
ช่วงนีไม่เห็นคุณชายไปหารุย่ อ๋องก็คิดว่าเขาจะเปลียน
ความคิดแล้ว แต่กลับไม่คิดว่า........

“ทําไมรึ?” พ่อบ้านเงียบไป ทําให้มชู่ ิงเกอขมวดคิว

“อ้อ!” พ่อบ้านเฒ่าพลันได้สติและรีบพูดว่า : “มีสอง


สามครังทีแม่นางป๋ ายผ่านทางมาพอดีและนางก็เป็ นคน
ส่งรุย่ อ๋องออกจากจวนขอรับ”

มูช่ ิงเกอหรีตาทังสองข้าง : “ช่วงทีผ่านมานีป๋ ายซีเยวียอ


อกจากจวนบ้างหรือเปล่า?”

116
พ่อบ้านพยักหน้า : “ออกไปหลายครังขอรับ แต่บอกว่า
ออกไปซือพวกชาดสําหรับผูห้ ญิงและผ้าทีใช้สาํ หรับปั ก”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเหมือนกําลังไตร่ตรองอะไร
บางอย่างอยูแ่ ต่ก็ไม่ได้ถามต่อ

“อ้อ จริงด้วย!” พ่อบ้านเหมือนคิดอะไรออก จึงพูดกับ


นางว่า : “วันก่อนมีเทียบเชิญจากในวังเชิญคุณชายเข้า
วัง ประจวบเหมาะกับทีองค์หญิงฉางเล่อประทับอยูท่ ี
จวนพอดี จึงทรงตอบรับแทนคุณชายไปแต่ไม่รูว้ า่ ใครใน
วังเป็ นคนเชิญ”

คําเชิญจากในวังอย่างนันหรือ?

117
มูช่ ิงเกอแอบคิดในใจ ใครเชิญนางเข้าวังกัน?

หากเป็ นฮ่องเต้สงก็
ั คงส่งคนมาประกาศราชโองการแล้ว
จะส่งเทียบเชิญมาทําไมกัน? หรือจะเป็ นไทเฮา? ก็ไม่น่า
จะเป็ นไปได้เพราะฉางเล่อไปถือศีลกับพระนางไม่ใช่
หรือ? แล้วยังจะมีผใู้ ดอีก? เจียงกุย้ เฟย? หรือหาน
ฮองเฮา?

หลังจากทีมูช่ ิงเกอเรียบเรียงความเป็ นไปได้ทงหมดในใจ



แล้ว ก็ยงั คงคิดไม่ออกว่าใครต้องการพบนางกันแน่

คิดไม่ออกก็ช่างเถอะ หลังจากทีมูช่ ิงเกอสังให้พอ่

118
บ้านกลับไป ก็เดินเข้าไปในเรือนของตนเอง

ครังนีนอกจากจะมาเพือผลิตอาวุธแล้ว ยังต้องปรุงยา
ระดับตําทีช่วยฟื นฟูและเพิมพลังภายใน เพือเตรียม
พร้อมสําหรับการฝึ กในวันข้างหน้าไว้อีกด้วย

สําหรับอาวุธ นางไม่คิดจะให้ทา่ นปู่ ช่วยจัดการให้ เพราะ


อย่างไรทังสองก็มีสญ
ั ญาสามเดือนนันอยู่ สําหรับฝ่ ายที
เป็ นศัตรูแล้วมูช่ ิงเกอจะยอมให้รูไ้ พ่เด็ดของตนเองง่ายๆ
ได้อย่างไร?

เพราะฉะนันนางจึงต้องหาช่างเหล็กมาผลิตเอง เรืองนี
เจ้าอ้วนเซ่าอาจจะช่วยได้ เพราะอย่างไรเสีย ท่านพ่อ

119
ของเขาก็เป็ นผูบ้ ญ
ั ชาการทหารของราชสํานัก และรูว้ า่
ใครบ้างทีสามารถผลิตอาวุธทีมีคณ
ุ ภาพได้

ก่อนกลับ นางได้ให้คนไปบอกข่าวกับเจ้าอ้วนเซ่า นัดกัน


ว่าจะไปจัดการเรืองนีในวันนี

ภายในเรือนสวนสระเมฆา มูช่ ิงเกอคิดทบทวนเรืองอาวุธ


ทางด้านการทหารทีคุน้ เคยในความทรงจําและหลังจาก
ทีมันใจว่าชนิดไหนบ้างทีสามารถนํามาใช้และสร้างใน
โลกนีได้อย่างเปิ ดเผย ก็วาดทุกอย่างลงในกระดาษอย่าง
ชัดเจน

พอเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ก็รอเจ้าอ้วนเซ่ามาหา

120
เพิงจะยกรูปวาดทังหมดขึนมา ก็มีคนมาบอกว่าเจ้าอ้วน
เซ่ามาแล้ว

มูช่ ิงเกอเดินออกจากเรือนในทันที

ไม่ได้เจอเจ้าอ้วนเซ่ามาหลายวัน การเจอกันครังนีมามู่
ชิงเกอรูส้ กึ ว่าเจ้าอ้วนเซ่าอ้วนขึนกว่าเดิมอีกแล้ว ทังร่าง
กายก็กลมขึนคล้ายกับลูกบอลโยคะ

หลังจากทีหลบจากอ้อมกอดอันเต็มไปด้วยความยินดี
ของเจ้าอ้วนเซ่า มูช่ ิงเกอก็พดู อย่างรังเกียจว่า: “เจ้าอ้วน
เจ้าควรลดนําหนักได้แล้ว”

121
เจ้าอ้วนเซ่าก็หน้าเสียไปในทันทีและบ่นด้วยความน้อย
อกน้อยใจว่า : “ลูกพี ขนาดท่านเองก็พดู กับข้าเช่นนี”

“หืม มีใครว่าเจ้าเช่นนีอีกหรือ?” มูช่ ิงเกอกลอกตาไปมา


รูถ้ งึ ความนัยแฝงของประโยคนี

“ยังจะมีใครอีกล่ะ ก็ทา่ นแม่ของข้าไง” ใบหน้าของเจ้า


อ้วนเซ่าเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ : “ข้าก็ไม่อยากอ้วน
แบบนีเสียหน่อย! แต่วา่ ให้แค่ดืมนําก็อว้ นขึนสองสาม
กิโลข้าจะทําอย่างไรได้?แล้วจะเร่งให้ขา้ ลดนําหนัก
บอกว่าหากอ้วนไปกว่านีจะหาเมียไม่ได้ ท่านคิดดู แช่ง
ลูกชายแท้ๆของตนเองเช่นนีได้อย่างไรกัน?”

122
มูช่ ิงเกอเข้าใจเรืองราวทังหมดในทันที

เจ้าอ้วนเซ่าอายุพอๆ กับนาง ปี หน้าก็จะต้องเข้าพิธีสวม


หมวกแล้ว ด้วยกฏหมายของแคว้นฉินหลังจากทีเข้าพิธี
สวมหมวกแล้ว ก็ถือว่าบรรลุนิติภาวะเป็ นผูใ้ หญ่แล้ว
ต้องคิดถึงเรืองแต่งงาน ถึงว่าท่านแม่เจ้าอ้วนเซ่าถึงได้
รีบร้อนแบบนี

มูช่ ิงเกอตบไหล่ของเจ้าอ้วนเซ่าด้วยความเห็นใจ : “ไอ้


น้องชาย เรืองนีข้าคงช่วยเจ้าไม่ได้” แต่จริงๆ แล้ว เมือ
สักครูน่ างมีความคิดหนึงแวบเข้ามาในหัว นางอยากจะ
ใช้ยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอในการเปลียนแปลงธาตุในร่าง
กายของเจ้าอ้วน แต่วา่ นางไม่ได้เป็ นคนคิดค้นยานีขึนมา
123
และไม่รูถ้ งึ ส่วนประกอบโดยแท้ของมัน นางก็แค่บงั เอิญ
เจอความได้เปรียบจากยาทีสร้างเอาไว้แล้วก็เท่านัน ถ้า
เจ้าอ้วนกินเข้าไปหากไม่ผอมลงแต่อว้ นขึน แล้วนางจะ
เรียกร้องความเป็ นธรรมจากใครได้?

คิดทบทวนสักพัก สุดท้ายนางก็ลม้ เลิกความคิดนี

อีกอย่างหลังจากทีกินยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอเข้าไปแล้ว
ต้องอดทนต่อความเจ็บปวดก็ไม่รูว้ า่ เจ้าอ้วนเซ่าจะทนได้
หรือไม่

“ขาเจ้าเป็ นอย่างไรบ้าง?” มูช่ ิงเกอมองขาของเจ้าอ้วน


เซ่าแล้วถาม

124
เจ้าอ้วนเซ่าพูดอย่างกระหยิมใจว่า : “หายตังนานแล้ว !”

125
ตอนที 79-7 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

ต่างก็บอกกันว่าหากบาดเจ็บโดนกระดูกต้องใช้เวลาใน
การรักษากว่า 100 วัน แม้วา่ กระดูกของเจ้าอ้วนจะไม่ได้
หัก แต่วา่ แค่เพียงครึงเดือนก็สามารถกระตือรือร้นและ
โมโหได้เพียงนีแล้ว ทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ แปลกใจจริงๆ นัน
ล่ะ

วันนี นางคิดว่าจะได้เห็นภาพตลกๆ ทีเจ้านีใช้ไม้เท้าเสีย


อีก

126
“หากไม่เป็ นอะไร งันก็ไปกันเถิด” มูช่ ิงเกอละสายตา
จากขาของเขา ขาคูน่ นให้
ั ความรูส้ กึ ราวกับเป็ นขาหมู
เสียจริงๆ เลย

ทังคูเ่ ดินออกจากจวนไปพร้อมกัน เพิงถึงประตูก็พลัน


เห็นรถม้าคันหนึงกําลังใกล้เข้ามาและค่อยๆ หยุดลงตรง
หน้าประตูจวนตระกูลมู่

มูช่ ิงเกอรูส้ กึ ฉงนใจ ว่าใครมาเยียมเยียนตระกูลมูก่ นั

ทันใดนันก็มีเสียงอันคุน้ เคยเสียงหนึงดังออกมาจากรถ
ม้าทียังจอดไม่สนิท

127
เสียงนิมๆ เสียงนันพูดว่า : “พีเฉิน เรามาถึงแล้ว รีบลง
จากรถกันเถอะ เหลียนเหลียนอยากให้พีชายประหลาด
ใจ”

“ไม่ตอ้ งรีบ ระวังล้ม” เสียงทุม้ ๆ ของชายหนุ่มยังคงเย็น


ชา แต่ภายใต้ความเย็นชานันมีความห่วงใยซ่อนอยู่

มูช่ ิงเกอยิม แล้วนางก็พลันคิดออกว่า เทียบเชิญจากวัง


หลวงทีพ่อบ้านพูดถึงนันเป็ นของผูใ้ ด

คาดว่า คงจะเป็ นของราชธิดาอีกองค์ของฮ่องเต้ องค์


หญิงหย่งฮวน สาวน้อยไร้เดียงสาทีรูจ้ กั กับนางด้วย
ความบังเอิญผูน้ นั

128
“ลูกพี เสียงของชายผูน้ นคุ
ั น้ หูยงนั
ิ ก” เจ้าอ้วนเซ่าทีอยู่
ข้างๆ มูช่ ิงเกอพูดขึน

ต้องคุน้ เป็ นธรรมดา

มูช่ ิงเกอแอบคิดในใจว่า : “ไม่คิดว่าคนผูน้ นจะเสด็


ั จมา
กับองค์หญิงหย่งฮวนด้วย”

หลังจากทีเดินลงบันได มูช่ ิงเกอเพิงจะเดินไปอยูต่ รงหน้า


รถม้าก็มีสาวน้อยในชุดสีชมพูสวยงามประณีตกระโดด
ลงมาจากรถม้า

129
มูช่ ิงเกอกะพริบตา ประสานหมัดทังสองข้าง : “คารวะ
เสียนอ๋องและองค์หญิงหย่งฮวน”

ฉินอีเหลียนทีเพิงจะลงจากรถม้า พอได้ยินเสียงของมูช่ ิง
เกอก็รบี หันหลังกลับไป โผเข้าหามูช่ ิงเกอราวกับผีเสือตัว
น้อยสีชมพูพลางพูดด้วยนําเสียงทีเต็มไปด้วยความยินดี
ว่า : “พีชาย เหลียนเหลียนคิดว่าจะมาทําให้ทา่ น
ประหลาดใจเสียหน่อย”

ส่วนสูงของสาวน้อยเท่ากับหน้าอกของนาง มูช่ ิงเกอขยี


ทรงผมอันน่ารักของนาง รอยยิมทีประดับอยูบ่ นใบหน้า
นันดูออ่ นโยน

130
จิตใจของฉินอีเหลียนนันบริสทุ ธิและงดงาม ไม่ได้แปด
เปื อนจากราชวงศ์ เรืองนีถือว่าสูงค่าและหาได้ยากอย่าง
มาก

ในขณะนี มีมืออันขาวซีดแต่น่ามองข้างหนึงก็ยืนออก
จากประตูรถม้าพร้อมกับแขนเสือสีเหลืองนวล

หลังจากนัน ประตูรถม้าก็ถกู เปิ ดออก ร่างอันผอมสูงเดิน


ลงมา

“เสียนอ๋องจริงๆ เสียด้วย!” เจ้าอ้วนเซ่าพูดด้วยความอึง


และพลันนึกขึนได้วา่ จะต้องทําความเคารพ

131
“ไม่ตอ้ งมากพิธี” ฉินจินเฉินพูดอย่างเรียบเฉย พูดจบก็
มองมูช่ ิงเกอด้วยดวงตาทีตาขาวและดําแยกออกจากกัน
อย่างชัดเจน ดูสงบนิงเป็ นพิเศษและไม่มีความรูส้ กึ ใดๆ
ปะปนอยูเ่ ช่นเดิม: “วันนีข้ามาเป็ นเพือนเหลียนเหลียน”

ราวกับว่า กําลังแก้ตวั กับมูช่ ิงเกอว่าเหตุใดตนเองถึงมา


อยูท่ ีนีได้

มูช่ ิงเกอค่อยๆ พยักหน้าโดยไม่ได้พดู อะไรมาก

ฉินอีเหลียนจับแขนของมูช่ ิงเกอขึนมาอย่างเป็ น
ธรรมชาติ พลางทําปากจู๋แล้วพูดว่า : “พีชาย ครังก่อน
ตอนวันเกิดเหลียนเหลียน อยากจะชวนพีชายเข้าไปใน

132
วัง แต่พีกลับไม่อยู่ เหลียนเหลียนเสียใจมาก”

ครังทีแล้วเป็ นวันประสูติขององค์หญิงตัวน้อยนีเอง มูช่ ิง


เกอยักคิว มองดวงตาอันกลมโตและสดใสคูน่ นั พลาง
พูดว่า : “กระหม่อมเองก็เพิงกลับมา ในเมือพลาดงาน
วันเกิดองค์หญิงไปแล้ว งันวันนีกระหม่อมจะให้ของ
ขวัญวันเกิดย้อนหลังดีไหม”

ฉินอีเหลียนตาเป็ นประกาย โดยไม่เก็บซ่อนความดีใจ


ของตนเองแต่อย่างใด พูดอย่างตืนเต้นว่า : “ดีเลย !
เหลียนเหลียนไม่คอ่ ยได้ออกจากวัง ถ้าอย่างนันพีชายก็
อยูเ่ ป็ นเพือนเล่นกับเหลียนเหลียนหนึงวัน ถือว่าเป็ นการ
ฉลองวันเกิดให้เหลียนเหลียนย้อนหลัง”

133
มูช่ ิงเกอคิดแล้วก็ตอบตกลง

จะว่าไปแล้ว หากให้นางไปซือของขวัญวันเกิดนางก็ไม่
ได้มีความประสบการณ์เรืองพวกนีเลย

เห็นมูช่ ิงเกอตอบตกลง ฉินอีเหลียนก็พลันลากนางไป


โดยไม่คิดจะเข้าไปในจวนตระกูลมูอ่ ีก เจ้าอ้วนเซ่าทีถูก
ลืมไว้ยมแห้
ิ งๆ ให้กบั เสียนอ๋องแล้วรีบตามไป

ฉินจินเฉินยังคงยืนอยูท่ ีเดิม สายตานันไม่ได้มององค์


หญิงหย่งฮวน แต่กลับจดจ้องชายชุดแดงทีนางจับมืออยู่

134
ดวงตาอันสงบนิงกะพริบแวบหนึง แล้วเดินตามไปอย่าง
ไม่เร่งรีบ

นางกํานัลและองครักษ์ทีมาด้วยก็ทาํ ได้เพียงทิงรถม้า
เอาไว้และเดินตามเจ้านายไปห่างๆ

บนถนนฉินอีเหลียนเหมือนนกทีถูกปล่อยออกจากกรง
ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยและความตืนเต้น มูช่ ิงเก
อมองนางจู่ๆ ก็พลันถามขึนว่า : “องค์หญิงสนิทกับเสีย
นอ๋องหรือ?”

ฉินอีเหลียนหันกลับมาพูดว่า : “พีชาย เรียกข้าว่าเหลียน


เหลียนเถิด ไม่ตอ้ งเรียกว่าองค์หญิงหรอก”

135
มูช่ ิงเกออึงเห็นใบหน้าซาลาเปาของนางเต็มไปด้วย
ความมุง่ มันก็ยมพลางพยั
ิ กหน้า

ฉินอีเหลียนดีใจพูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “พีเฉินน่าสงสารมาก


เพิงจะเกิดมาเสด็จแม่ก็สนพระชนม์
ิ ร่างกายของเขา
อ่อนแอ ไม่สบายบ่อย เสด็จพ่อก็ไม่ชอบเขา ต่อมาเสด็จ
แม่ของข้าก็รบั เขามาเลียงดูขา้ งกายและหลังจากนันก็
คลอดข้า พีเฉินก็เหมือนเป็ นพีน้องท้องเดียวกันกับข้านัน
แหละ”

คําพูดขององค์หญิงตัวน้อยทําให้มชู่ ิงเกอคิดถึงภาพ
บรรยากาศวันงานเลียง ภายในวังทีมีสนมนางหนึงที
ปรากฏตัวพร้อมกับฮ่องเต้ดสู ง่างาม สงบเสงียมและไม่
136
แย่งชิง

หลังจากนัน มูช่ ิงเกอจึงรูว้ า่ นางผูน้ นคื


ั ออวินเฟยและเป็ น
เสด็จแม่ขององค์หญิงหย่งฮวน

เท่าทีองค์หญิงตัวน้อยพูด อวินเฟยก็ถือเป็ นพระมารดา


เลียงของเสียนอ๋องฉินจินเฉิน

มิน่าเล่า สองคนนีถึงได้สนิทสนมกัน

“ว้าว! ว่าวนันสวยกว่าทีนางกํานัลในวังทําเสียอีก” ฉินอี


เหลียนถูกว่าวสีสนั สดใสทีวางขายอยูด่ งึ ดูดและวิงไป
ทันที
137
มูช่ ิงเกอส่งสายตาให้เจ้าอ้วนเซ่า เจ้าอ้วนเซ่าจึงรีบวิง
ตามไปปกป้องไม่ให้ใครชนฉินอีเหลียน

มีจอมเสเพลขึนชือของลัวตูคอยปกป้อง ยังจะมีใครกล้า
ชนอีกเล่า?

138
ตอนที 79-8 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

“เหลียนเหลียนไม่คอ่ ยได้ออกจากวัง ครังนีก็เพือมาพบ


เจ้า นางจึงขอร้องเสด็จแม่อยูน่ านกว่าจะได้มา
หากรบกวนเวลาของเจ้า ข้าก็ขอโทษแทนนางด้วย” อยูๆ่
เสียงของฉินจินเฉินก็ดงั ขึนข้างหูมชู่ ิงเกอ
139
มูช่ ิงเกอหันกลับไป มองสายตาอันแนบนิงของเขา พลาง
พูดว่า : “ไม่เป็ นไร กระหม่อมเองก็ชอบเหลียนเหลียน
นางน่ารักและไร้เดียงสามาก”

ฉินจินเฉินพยักหน้าเห็นด้วยและมองฉินอีเหลียนทีกําลัง
เลือกว่าวพร้อมกับประชาชนทัวไป: “นางขาวบริสทุ ธิดัง
กระดาษ ก็ไม่รูว้ า่ เป็ นความโชคดีหรือโชคร้าย”

“คําพูดของเสียนอ๋องดูมองโลกในแง่รา้ ยไปหน่อยไหม?”
มูช่ ิงเกอมองเขาพลางขมวดคิว

ก่อนหน้านี นางก็เริมรูส้ กึ ว่าชายผูน้ ีจมอยูใ่ นความเจ็บ

140
ปวด แต่ตอนนีเมือได้ใกล้ชิดก็รูส้ กึ ว่าความรูส้ กึ แบบนี
ชัดเจนมาก

“มองโลกในแง่รา้ ยอย่างนันหรือ?” ฉินจินเฉินยิมจางๆ


เขาหันกลับไปมองมูช่ ิงเกอด้วยสายตาอันสงบนิง
เหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่ได้พดู

ชายผูน้ ี......

มูช่ ิงเกอขมวดคิวแล้วละสายตาจากเขา

ในขณะนี องค์หญิงตัวน้อยก็ได้เลือกว่าวทีตนเองชอบ
เป็ นทีเรียบร้อย แล้ววิงกลับมาด้วยความดีใจพูดกับมูช่ ิง
141
เกอว่า : “พีชาย ไปปล่อยว่าวกับข้าเถอะ”

หลังจากนันก็มองฉินจินเฉินพลันพูดว่า : “พีเฉินก็ไปกับ
เราด้วยดีไหม?”

ฉินจินเฉินพยักหน้าอย่างไม่ลงั เล แน่นอนว่ามูช่ ิงเกอเอง


ก็ไม่ได้ปฎิเสธ

แต่วา่ นางแอบส่งสายตาให้เจ้าอ้วนเซ่า ดูเหมือนว่าเรือง


ทีจะไปจัดการในตอนแรกคงต้องรอจนถึงตอนเย็นหลัง
จากทีส่งองค์หญิงตัวน้อยกลับไปก่อนเสียแล้ว

คนกลุม่ หนึงเดินไปบนสนามหญ้าทีไม่คอ่ ยมีคนมากนัก


142
ซึงเหมาะกับพวกเขาทีมีฐานะพิเศษ

หลังจากทีออกจากตลาดทีเต็มไปด้วยผูค้ นแล้ว เหล่า


องครักษ์ทีแอบตามองค์หญิงหย่ง ฮวนก็โล่งใจ เป็ นครัง
แรกทีรูส้ กึ ว่าจอมเสเพลทังสองของลัวตูก็ไม่เลว

“พีชาย ท่านจับว่าวให้เหลียนเหลียนแล้วให้หลี
ยนเหลียนปล่อยได้ไหม?” ฉินอีเหลียนพูดกับมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอพยักหน้าด้วยท่าทางยินดี

แม้วา่ นางจะไม่เคยเล่นว่าว แต่การจะทําให้ของเล่นชนิด


นีบินขึนฟ้าได้นนไม่
ั ได้เป็ นเรืองทียากมากนัก
143
มูช่ ิงเกอยืนอยูท่ ีเดิมตามคําสังของฉินอีเหลียน มือทัง
สองข้างถือว่าวลายผีเสือไว้ทีระดับอก ฉินอีเหลียนถือ
ด้าย ดึงกระโปรงขึนพลันวิงออกไป

วิงออกไปสักพักนางก็หนั มามองมูช่ ิงเกอทีคงถือว่าวและ


ยืนอยูท่ ีเดิมจึงตะโกนเสียงดังว่า : “พีชาย ทําไมท่านยัง
ไม่ปล่อยมือล่ะ!”

เอ่อ?

มูช่ ิงเกอได้สติก็รบี ปล่อยมือและว่าวลายผีเสือก็ตกลงไป


บนพืนหญ้า

144
ฟุบ!

มูช่ ิงเกอริมฝี ปากกระตุกเล็กน้อยและก้มลงไปเก็บว่าว


พลางพูดกับฉินอีเหลียนทียืนเอามือเท้าเอวและหัวเราะ
อย่างสะใจว่า : “เหลียนเหลียน มาลองกันอีกรอบเถิด”

ฉินอีเหลียนพยักหน้าอย่างแรง แล้ววิงเก็บด้ายกลับมา

ครังนี นางตังใจอธิบายให้มชู่ ิงเกอฟั งอย่างชัดเจนว่าให้


ปล่อยว่าวตอนไหนและมูช่ ิงเกอก็ฟังอย่างตังอกตังใจ

ท่าทางใจจดใจจ่อเช่นนัน ทําให้ฉินจินเฉินทียืนอยูข่ า้ งๆ
145
อดมองอย่างหลงใหลไม่ได้ ในสายตาราวกับมีเพียงชาย
ชุดแดงเย้ายวนผูน้ ี

หลังจากทีรูว้ ิธีการปล่อยว่าว มูช่ ิงเกอก็กาํ ลังจะลองใหม่


อีกครังด้วยความมันใจเต็มร้อย

ฉินอีเหลียนวิงออกไปอีกครังและมูช่ ิงเกอก็รบั รูไ้ ด้วา่ ว่าว


ในมือได้รบั ผลกระทบจากลม และเตรียมพร้อมรอเวลา
เพือทีจะปล่อยให้ลอยไป……….

ฟึ บ------!

ว่าวลายผีเสือสีสนั สดใสอันหนึง ลอยละล่องขึนและลอย


146
สูงขึนเรือยๆ จนขึนสูท่ อ้ งฟ้า

“ว้าว! ว้าว! สําเร็จแล้ว” ฉินอีเหลียนกระโดดขึนมาด้วย


ความดีใจและโบกมือให้กบั มูช่ ิงเกอไม่หยุด

ใบหน้าของมูช่ ิงเกอประดับไปด้วยรอยยิม ความสดใส


จากองค์หญิงตัวน้อยผูน้ ี ทําให้นางรูส้ กึ ผ่อนคลายมาก
ในเวลานีและลืมเรืองราวต่างๆ ไปจนหมดสิน

……

บนพืนหญ้า มีวา่ วขององค์หญิงหย่งฮวนวางนิงอยู่

147
หลังจากทีเล่นสนุกมาหนึงชัวยาม องค์หญิงตัวน้อยผูไ้ ร้
เดียงสาก็รูส้ กึ เหนือยล้าและนอนหลับอยูบ่ นตักของมูช่ ิง
เกอ

เพราะความจริงแล้ว มูช่ ิงเกอเองก็เป็ นหญิง สําหรับการ


ใกล้ชิดกับองค์หญิง นางจึงไม่ได้คิดอะไรมาก

แต่ ทีน่าสงสัยคือ เสียนอ๋องฉินจินเฉินก็เหมือนจะไม่ได้


ห้ามปรามความใกล้ชิดขององค์หญิงทีมีตอ่ นางเลย ราว
กับว่าเขาลืมไปแล้ว ว่าคูห่ มายของมูช่ ิงเกอคือน้องสาว
อีกคนของเขา

มูช่ ิงเกอก้มลง มองใบหน้าทีหลับอยูข่ ององค์หญิงตัว

148
น้อย แก้มสีชมพูราวกับแอปเปิ ลสีแดง ชวนให้ลองกัด
เสียสักคํา

“ฉางเล่อและหย่งฮวน เป็ นองค์หญิงสองพระองค์ที


ฮ่องเต้ทรงรักมากทีสุด” อยูๆ่ นางก็พมึ พําขึนมา

ฉินจินเฉินค่อยๆ เงยหน้าขึน ใช้สายตาอันสงบนิงมอง


นาง เหมือนอยากรูค้ วามหมายทีแท้จริงในคําพูดของ
นาง

น่าเสียดาย ทีนอกจากรอยยิมทีคล้ายยิมและไม่ยมของมู
ิ ่
ชิงเกอแล้ว นางก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ความรูส้ กึ อืนใดอีก
เขาจึงค่อยๆ ละสายตาจากนางและมองไปสุดขอบฟ้า :

149
“ชือฉางเล่อและหย่งฮวนต่างก็เป็ นชือทีไทเฮาทรงเลือก
ให้”

มูช่ ิงเกอมองเขาด้วยความสงสัยแวบหนึง

ความหมายของสิงทีเขาพูด ไม่ได้เกียวข้องถึงความรักที
ฮ่องเต้มีตอ่ นางทังสองเลยแม้แต่นอ้ ยและจากคําพูด
พวกนัน ทําให้นางฟั งความรูส้ กึ ของเขาทีมีตอ่ ฮ่องเต้องค์
ปั จจุบนั ออก

พอละสายตาจากเขา มูช่ ิงเกอก็ไม่ได้พดู อะไรอีก


บรรยากาศรอบๆ ก็พลันเงียบลง

150
สายลมค่อยโชยพัดมา ทําให้ตน้ หญ้าสะบัดไหวเป็ นคลืน

ความเงียบท่ามกลางหุบเขา ชวนให้ผคู้ นหลงใหลจนไม่


อยากจากไป

ในสายตาของมูช่ ิงเกอสะท้อนความงดงามนีอยู่ แม้จะ


ไม่อยากจากไปมากเพียงใด แต่สดุ ท้ายก็ตอ้ งไป เพราะ
นางยังมีอีกหลายเรืองทีต้องจัดการ

มูช่ ิงเกอวางองค์หญิงตัวน้อยทียังคงหลับอยูล่ งบนพืน


หญ้าแล้วใช้วา่ ววางปิ ดลงบนตัวนางอย่างระมัดระวัง

“เจ้าจะไปแล้วหรือ? ไม่รอให้เหลียนเหลียนตืนก่อน
151
หรือ?” ฉินจินเฉินมองนางนิงๆ ในขณะทีนางลุกขึนยืน
และจะหันกายจากไป เขาก็พลันพูดขึน

มูช่ ิงเกอเหลือบตามองเขา ค่อยๆ ส่ายหน้า : “เมือองค์


หญิงตืนแล้ว ขอเสียนอ๋องบอกลาองค์หญิงแทน
กระหม่อมด้วย”

ฉินจินเฉินพยักหน้าตอบรับเงียบๆ

152
ตอนที 79-9 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

ไม่รูว้ า่ เพราะเหตุใด เวลาทีสบกับดวงตาทีสีขาวและดํา


แยกออกจากกันอย่างชัดเจนคูน่ นั มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ ราวกับ

153
โดนแอบอ่านใจอย่างนัน

นางขมวดคิวน้อยๆ สายตาทีบ่งบอกถึงความคิดภายใน
จิตใจคูน่ นก็
ั ละกลับไปอย่างเงียบๆ

มูช่ ิงเกอมองฉินจินเฉินครูห่ นึงแล้วหันไปตะโกนใส่เจ้า


อ้วนเซ่าว่า : “เจ้าอ้วน ไปกันเถอะ”

เจ้าอ้วนเซ่าทีรอมาเป็ นเวลานาน พอได้ยินคํานีก็รบี วิง


เข้ามาตามคําเรียกทันทีใบหน้าอ้วนๆ นันเต็มไปด้วยรอย
ยิม

บอกลาเสียนอ๋อง มูช่ ิงเกอและเจ้าอ้วนเซ่าก็เตรียมทีจะ


154
จากไป

อยูๆ่ ฉินจินเฉินก็พดู ขึนมาว่า : “หากไม่ชอบ เหตุใดไม่


จากไปเล่า?”

มูช่ ิงเกอหยุดเดิน ขมวดคิวพลางหันไปมองฉินจินเฉิน

เหมือนกําลังถามถึงความหมายของคําทีเขาพูดออกมา

ช่างน่าเสียดาย สิงทีนางเห็นมีเพียงสายตาอันนิงสนิท
เท่านัน

หลังจากทีหันหลังเดินไป เสียงของมูช่ ิงเกอก็คอ่ ยๆ จาง


155
และหายไปจากสายตาของฉินจินเฉิน ในสายตาทีสงบคู่
นันเหมือนผุดความผิดหวังออกมาจางๆ

หลังจากทีเดินออกมาจากภูเขาเล็กๆ นัน เจ้าอ้วนเซ่าก็


ถามว่า : “ลูกพี ทีเสียนอ๋องพูดหมายความว่าอย่างไร?”

“ไม่รู”้ มูช่ ิงเกอตอบอย่างง่ายดาย

“หืม? ท่านก็ไม่รูห้ รือ?” ใบหน้าของเจ้าอ้วนเซ่าเต็มไป


ด้วยความแปลกใจ

มูช่ ิงเกอมองเขาชัวขณะหนึงพลันหัวเราะออกมา : “ดูทา่


ทางของเจ้าสิ ทําเหมือนกับว่าข้าต้องรูเ้ รืองราวทุกเรือง
156
บนโลกนีอย่างนันล่ะ”

ใครจะรูว้ า่ เจ้าอ้วนเซ่าคิดเช่นนีจริงๆ : “แน่นอนสิ ท่าน


เป็ นใครกัน? ท่านเป็ นถึงลูกพีของเซ่าเย่เจ๋อเลยนะ”

มูช่ ิงเกอพูดอะไรไม่ออก

นางยอมรับว่านางยอมแพ้ให้กบั คําตอบของเจ้าอ้วนนี
เลยจริงๆ

แค่การทีนางเป็ นลูกพีของเขา นางก็ตอ้ งรูไ้ ปหมดทุกเรือง


งันรึ? แล้วสองเรืองนีมันมีสว่ นเกียวข้องอะไรกันตรง
ไหน?
157
“ลูกพี เราต้องฉลองวันเกิดย้อนหลังให้กบั องค์หญิงน้อย
ไม่ใช่หรือ? เราออกมาเช่นนี ไม่เป็ นไรใช่ไหม?” เจ้าอ้วน
เซ่ารีบวิงตามมาแล้วถาม

“หากเจ้าอยากอยูต่ อ่ ข้าก็ไม่หา้ ม” มูช่ ิงเกอพูด

“ไม่ๆๆ! ข้าเป็ นถึงคุณชายเจ้าสําราญทีมีชือเสียงแห่งลัว


ตู กลับต้องมาเป็ นเพือนเล่นกับแม่นางน้อยแบบนี หากผู้
ใดรูก้ ็คงจะอับอายขายขีหน้า อีกอย่างอยูต่ อ่ ก็เบือ โดย
เฉพาะการอยูก่ บั เสียนอ๋อง ทําให้ขา้ หายใจแทบจะไม่
เป็ นจังหวะ ข้าก็แค่เป็ นห่วงว่าหากเราออกมาเช่นนี จะ
ทําให้องค์หญิงน้อยไม่พอพระทัยหรือเปล่า?” เจ้าอ้วน

158
เซ่าระบายความกังวลในใจออกมาในทันที

เขาไม่อยากอยูก่ บั บรรดาเชือพระวงศ์เลย จะพูดอะไรจะ


ทําอะไรก็ตอ้ งคอยระมัดระวัง

มองครูเ่ ดียวมูช่ ิงเกอก็เข้าใจความคิดของเจ้าอ้วนเซ่า ยิม


พลางอธิบายว่า : “องค์หญิงหย่งฮวนไม่ใช่คนใจคอคับ
แคบ อีกอย่างเราก็เล่นเป็ นเพือนนางมาหลายชัวยาม
แล้ว ตามกฎของวังหลวงพอนางตืนมาก็จวนจะได้เวลา
ต้องกลับวังแล้ว เพราะฉะนันการทีเราออกมาตอนนีหรือ
รอให้นางตืนก่อน มันก็ไม่ได้ตา่ งกันมากนักหรอก”

เจ้าอ้วนเซ่าพยักหน้าอย่างเข้าใจและพูดอย่างประจบ

159
ประแจงว่า : “ลูกพีก็คือพีอยูว่ นั ยังคํา!หากเป็ นข้าก็คงดู
ความซับซ้อนในเรืองนีไม่ออกหรอก”

“เพราะฉะนันเจ้าก็เหมาะกับการเป็ นหนุ่มเจ้าสําราญที
ไม่สนใจสิงใดอย่างไรเล่า” ไม่ใช่วา่ มูช่ ิงเกอจะไม่เคยคิด
ทีจะใช้ยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอกับเจ้าอ้วนเซ่า แต่วา่ นาง
รูจ้ กั นิสยั ของเขาดี เขาไม่ได้สนใจเกียวกับการต่อสูห้ รือ
พลังเวทมากนัก กลับเลือกทีจะรักสนุก ไม่เช่นนัน พลัง
เวทของเขาแม้จะธรรมดา แต่ก็จะไม่ถงึ ขันไร้คา่ เหมือน
ดังทุกวันนีแน่นอน

“ตอนนีท้องฟ้ายังสว่างอยู่ เราไปเจอคนทีเจ้าพูดถึงกัน
เถอะ” มูช่ ิงเกอไม่อยากจะยุง่ เรืองเขาต่อไป จึงพูดเรือง
จริงจังขึนมา
160
เจ้าอ้วนเซ่าตบหน้าอกของตนเองด้วยความมันใจพลาง
พูดยืนยันว่า : “วางใจเถอะลูกพี เรืองทีท่านสังนันข้า
จัดการได้เป็ นอย่างดีทกุ เรือง”

……

พอกลับจวนมา ดวงจันทร์ก็ขนสู
ึ ท่ อ้ งฟ้าแล้ว

มูช่ ิงเกอกลับมายังจวนคนเดียวแล้วนังบนเก้าอีพลางริน
นําชาให้กบั ตนเอง

คนทีเจ้าอ้วนเซ่าแนะนํามานัน ฝี มือไม่เลว ฉะนันภาพ


161
วาดทีเตรียมเอาไว้ทงหมด
ั นางจึงทิงไว้ให้เขา ทังสอง
ฝ่ ายนัดกันว่าอีกหนึงเดือนหลังจากนีจะมารับสินค้า

นางไม่กงั วลว่าภาพอาวุธทีไม่ใช่ของโลกนีจะรัวไหลออก
ไป เพราะอุปกรณ์พวกนันนอกจากนางแล้ว ก็ไม่มีใคร
สามารถประกอบและเดาวิธีการใช้ทีแท้จริงของมันออก
แน่นอน

มูช่ ิงเกอค่อยๆ ดืมนําชาอุน่ ๆไปคําหนึง ความทรงจําของ


นางย้อนกลับไปยังคําพูดของฉินจินเฉิน

“หากไม่ชอบ เหตุใดไม่จากไปเล่า?” หมายความว่าอะไร

162
มูช่ ิงเกอใช้ปลายนิวลูบบริเวณปากถ้วยอย่างช้าๆ พลาง
คิดทบทวน

ทําไม ทําไมเสียนอ๋องทีไม่ได้มีปฏิสมั พันธ์อะไรกับนาง


เลย แต่กลับทําให้นางรูส้ กึ แปลกๆ เกียวกับตัวของเขาได้
เสียนอ๋องผูน้ นั คนทีนิงเงียบขนาดนัน เหตุใดถึงพูดเช่นนี
กับนาง

ไม่ชอบ? หมายถึงอะไร ไม่ชอบคนทีนี ไม่ชอบสภาพแวด


ล้อมทีนีหรือว่าไม่ชอบใจกับชีวิตตอนนี

ไป? ไปอย่างไร นางตัวคนเดียวก็ถือว่าสบายแต่นางรับ


ปากกับมูช่ ิงเกอตัวจริงไว้วา่ จะคุม้ ครองตระกูลมู่ อยูก่ บั

163
มูซ่ งและมูเ่ หลียนหรงต่อไป

สิงทีเดียวทีมันใจได้คือตอนทีฉินจินเฉินพูดคํานันออกมา
นางรับรูไ้ ด้ถงึ ความจริงใจ

มูช่ ิงเกอหลับตาแล้วพึมพําว่า : “มูช่ ิงเกอนะมูช่ ิงเกอเจ้า


จากไปอย่างสบาย แล้วทิงความยุง่ ยากวุน่ วายไว้ให้ขา้
จัดการ ระหว่างเจ้ากับเสียนอ๋องนันมีความเกียวพันอะไร
กันแน่”

มูช่ ิงเกอวางถ้วยนําชาลง ในขณะทีถ้วยนําชากระทบกับ


โต๊ะ นางก็พลันถอนหายใจ

164
มูช่ ิงเกอลุกขึนยืนและเดินไปยังห้องปรุงยา คิดไม่ได้ก็ไม่
ต้องคิด ตอนนีนางไม่ได้มีเวลาเหลือมากพอทีจะไป
จัดการกับความสัมพันธ์ของมูช่ ิงเกอ

วันต่อมา ตอนทีนางออกจากเรือนไป แม้จะมีความเหน็ด


เหนือยอยูบ่ า้ ง แต่โดยภาพรวมแล้วถือว่านางอารมณ์ดี

ใช้เวลาไปทังคืน นางไม่เพียงแต่ปรุงผงยาส่วนทีจําเป็ น
ประสบความสําเร็จไปเป็ นจํานวนมาก แต่ยงั หลอมโอสถ
ระดับตําออกมาได้อีกสองหม้อ เมือเทียบกับความผิด
พลาดในครังแรกทีนางได้สมั ผัสมานันถือว่าพัฒนาขึน
มาก!

165
ยาระดับตําสองหม้อนันทําได้แค่ฟืนฟูพลังและผ่อน
คลายกล้ามเนือ

แม้วา่ ระดับจะไม่สงู มาก การรักษาก็ธรรมดาแต่สาํ หรับมู่


ชิงเกอในตอนนีแล้ว มันเป็ นสิงทีจําเป็ นทีสุด

เรืองทีควรจะจัดการก็จดั การเสร็จหมดแล้ว มูช่ ิงเกอก็ไม่


รอช้าและเตรียมตัวออกจากจวนตระกูลมู่ ไปยังค่าย
ทหารของตระกูล

เพิงเดินไปถึงห้องรับแขกกลางเห็นด้านในมีคนนังอยู่ มู่
ชิงเกอพลันขมวดคิว

166
อีกฝ่ ายก็เห็นนางเช่นกัน เขาวางถ้วยนําชาในมือลงทันที
พลางลุกขึนยืน : “ชิงเกอ ในทีสุดข้าก็ได้เจอเจ้าเสียที”
รอยยิมทีผุดขึนบนใบหน้าอันเยือกเย็นนัน ชวนให้รูส้ กึ ผู้
คนไม่คนุ้ เคยเป็ นอย่างมาก

มูช่ ิงเกอก็เป็ นเช่นนี

นางแอบเว้นระยะห่างอย่างแนบเนียน ยิมจางๆ พลาง


พูดว่า : “รุย่ อ๋อง ทรงเป็ นแขกผูม้ ีเกียรติจริงๆ”

ฉินจินห้าวส่ายหน้า : “ข้ามารอเจ้าโดยเฉพาะ”

“รอกระหม่อมรึ?” มูช่ ิงเกอพูดอย่างขีเล่น : “รุย่ อ๋อง


167
หากระหม่อมมีเรืองอะไรหรือ”

มูช่ ิงเกอทีเป็ นเช่นนี ทําให้ฉินจินห้าวไม่คนุ้ เคยเป็ นอย่าง


มาก เขาขมวดคิว เม้มปากแต่ไม่พดู อะไร

ในขณะนีเอง ใครคนหนึงทีมากับเขาก็กระโดดออกมา ชี
หน้ามูช่ ิงเกอและสังสอนว่า : “มูช่ ิงเกอรุย่ อ๋องทรง
อุตส่าห์เสด็จมาหาเจ้าด้วยเจตนาดี อยากจะชวนเจ้า
ออกไปเทียวเล่นด้วยกัน อุตส่าห์ไว้หน้าเจ้าแล้วเจ้าห้าม
ปฏิเสธ”

มูช่ ิงเกอรูส้ กึ ฉงนมากกว่าเดิม นางเหล่ตามองฉินจินห้าว


ทีดูนิงสงบครูห่ นึง แล้วหันไปมองเจ้าของเสียงนัน : “แล้ว

168
เจ้าเป็ นผูใ้ ดเล่า?”

“มูช่ ิงเกอ เจ้าอย่ามาแสร้งทําเป็ นโง่! เจ้าจะไม่รูไ้ ด้อย่าง


ไรว่าข้าเป็ นใคร!” เขาแค่นเสียงเย็นเสียดสีราวกับว่า
กําลังดูถกู มูช่ ิงเกอมาก

มูช่ ิงเกอเลิกคิว ใบหน้าอันงดงามนันแทบจะไม่เผยให้


เห็นความโกรธเลยสักนิด : “คุณชายอย่างข้าควรจะรูจ้ กั
เจ้าด้วยอย่างนันหรือ?”

“เจ้า!” การเย้ยหยันของมูช่ ิงเกอทําให้คนผูน้ นโกรธมาก



เมือเห็นว่ารุย่ อ๋องไม่หา้ มปราม เขาก็ยงรู
ิ ส้ กึ กล้ามากขึน
ชีหน้ามูช่ ิงเกอแล้วด่าว่า : “เจ้ามันเป็ นไอ้คนไร้คา่ ไม่ใช่

169
แค่เพียงไร้คา่ ความจํายังสันอีก ดีเพียงใดแล้วทีรุย่ อ๋อง
เห็นความสําคัญของเจ้ามากถึงเพียงนี แต่เจ้ากลับไม่รูด้ ี
ชัวเช่นนี จะให้ขา้ ลวีซ่งผูน้ ีทนเป็ นสหายกับเจ้านันไม่ได้
จริงๆ”

พูดจบ เขาก็หนั ไปหาฉินจินห้าว แล้วคารวะด้วยความ


ภักดีวา่ : “รุย่ อ๋อง มูช่ ิงเกอเป็ นเพียงจอมเสเพลผูห้ นึง
การมีปฏิสมั พันธ์กบั เขานันถือว่าทําให้ฐานะของ
พระองค์ตอ้ งมัวหมอง ขอให้พระองค์ทรงไตร่ตรองให้ดี
เรืองทีจะไปมาหาสูก่ บั คนเช่นนี”

ฉินจินห้าวขมวดคิวพลันตอบว่า : “ลวีซ่ง เจ้าอย่าไร้


เหตุผล เขาอายุยงั น้อยเจ้าควรจะปฏิบตั ิกบั เขาเหมือน
น้องชาย สําหรับข้าแล้วชิงเกอก็ถือเป็ นน้องชายของข้า
170
เช่นกัน”

หลังจากทีสังสอนลวีซ่งเสร็จแล้ว ฉินจินห้าวก็หนั กลับมา


และเตรียมจะปลอบใจมูช่ ิงเกอ

ก็เหมือนทุกๆ ครังทีผ่านมา หากเขาเจอคนรอบข้างด่า


ทอหรือเสียดสี แค่ตนเองออกหน้าพูดให้สกั หน่อย เขาก็
จะซาบซึงใจยิงนัก วิธีนีเป็ นวิธีเอาใจเขาทีดีวิธีหนึง

แต่วา่ ไม่รอให้คาํ ปลอบใจออกมาจากปากของเขา

เสียงอันเยือกเย็นของมูช่ ิงเกอก็ดงั ขึนว่า : “ลวีซ่งสินะ”

171
ลวีซ่งอึง แอบลอบมองรุย่ อ๋อง เรืองราวไม่ควรเป็ นเช่นนี
สิ!

เห็นแค่ฉินจินห้าวทีกําลังจะพูด แต่ถกู คําพูดของมูช่ ิงเก


อตัดบทไป ทําให้สีหน้าเขาไม่สดู้ ีนกั แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร
มาก ทําได้เพียงแค่นเสียง ‘หึ’ ใส่มชู่ ิงเกอคําหนึง

ใบหน้าของมูช่ ิงเกอมีรอยยิมมากกว่าเดิม เบิกบานราว


ดอกไม้

แต่วา่ นําเสียงของนางนันกลับเยือกเย็นดังนําแข็ง : “เจ้า


เอาความกล้านีมาจากไหนกัน ถึงได้พดู จาเช่นนีกับข้า
ภายในจวนตระกูลมูไ่ ด้?” คําถามอันเย็นชาทําให้ลวีซ่ง

172
ตัวสันและรูส้ กึ เหมือนว่ามีความเย็นเยียบตีขนมา

173
ตอนที 79-10 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

เขาหวังให้รุย่ อ๋องพูดอะไรสักอย่างในเวลานี ทว่า


พระองค์กลับยืนเงียบและไม่มีทีทา่ จะพูดอะไร

พอเห็นสายตาคาดหวังของลวีซ่ง มูช่ ิงเกอก็หวั เราะเยาะ


แล้วเดินไปหาเขา : “ดูเหมือนว่าคนไร้คา่ จะเป็ นเจ้านะไม่
ใช่ขา้ ถึงแม้ขา้ จะไม่สามารถฝึ กฝนพลังได้แต่อย่างน้อย
ก็ยงั มีประโยชน์ แล้วเจ้าเล่า?”

174
การเข้ามาใกล้ของนางบีบให้ลวีซ่งต้องถอยหลังไปหลาย
ก้าว สีหน้าดูแย่เป็ นอย่างมาก

ใช่ ! เขาพูดถูก !

ลวีซ่งรูส้ กึ ตืนตระหนก

แม้วา่ มูช่ ิงเกอจะไม่มีความสามารถ แต่อย่างไรก็ตามเขา


ก็ยงั มีฐานะเป็ นคุณชายและยังเป็ นหลานชายของมูซ่ ง
แต่เขานันเป็ นแค่ลกู ของขุนนางขันสามเล็กๆ ทีกล้ารังแก
คุณชายตระกูลมูเ่ ป็ นเพราะว่ามีอาํ นาจบารมีของรุย่ อ๋อง
คอยคุม้ ครองอยู่

175
หากรุย่ อ๋องยังไม่สนใจเขาอีกต่อไป อย่างนันผลลัพธ์จาก
การทําให้มชู่ ิงเกอไม่พอใจ..........

ชือเรียกมูช่ ิงเกอเป็ นอันธพาลเสเพลอันดับหนึงของลัวตู


นันไม่ได้ได้มาด้วยความบังเอิญ

เมือลวีซ่งคิดถึงจุดสําคัญของเรืองนีได้แล้ว สีหน้าก็ซีดลง
ในทันที

ลวีซ่งพยายามอย่างสุดชีวิตในการขอความช่วยเหลือ
จากฉินจินห้าว แต่เขากลับทําเหมือนไม่เห็น ราวกับว่า
ตัดสินใจแล้วว่าจะใช้เขามาเป็ นเครืองมือระบายอารมณ์
ให้กบั มูช่ ิงเกอ

176
“ทหาร!” ทันใดนันมูช่ ิงเกอก็หยุดทุกการกระทํา แล้วเงย
หน้าตะโกนขึนมาเสียงดัง

ทหารตระกูลมูพ่ ลันปรากฏตัวขึนตรงหน้าพวกเขาทัง
สามคน

“คุณชาย!” หัวหน้าองครักษ์ประกบมือคาราวะ

ในสายตาของเขา ราวกับมีแค่มชู่ ิงเกอเพียงผูเ้ ดียวอย่าง


นัน

ฉินจินห้าวทียืนเงียบอยูข่ มวดคิวมากกว่าเดิม เพราะ


177
ทหารองครักษ์ทาํ เป็ นเมินเฉยต่อเขา ทําให้เพลิงแห่ง
โทสะในใจของเขาเพิมพูนยิงขึน

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปากพูดว่า : “เอาตัวไอ้สนุ ขั ทีอวดอ้าง


บารมีผอู้ ืนตัวนีออกไป หากยังกล้าเข้าใกล้จวนตระกูลมู่
อีก ก็ตดั ขาทังสองข้างของมันทิงเสีย!”

“ขอรับ!” ทหารของตระกูลมูไ่ ม่รอช้า

ทุกคนเดินอ้อม รุย่ อ๋องทีมีสีหน้าดําคลําไปใช้ฝักดาบตรึง


แขนทังสองข้างของลวีซ่งแล้วเตะไปทีเข่าของเขาอย่าง
ไม่ไว้หน้า ทําให้เขาเจ็บจนร้องขอความช่วยเหลือ

178
“รุย่ อ๋อง ช่วยกระหม่อมด้วย!”

ลวีซ่งถูกพาตัวออกไป เสียงร้องขอให้ช่วยอันเจ็บปวดนัน
ดังก้องไปทัวห้องโถงกลางของจวนตระกูลมู่

ฉินจินห้าวพยายามอดทนต่อความรูส้ กึ อับอายแสบร้อน
บนใบหน้า แล้วพูดกับมูช่ ิงเกอด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า :
“เจ้าคงพอใจแล้วนะ?” ทีเขาไม่พดู อะไรเลยเมือสักครู ่
เพราะคิดว่ามูช่ ิงเกอกําลังเอาแต่ใจ จึงปล่อยให้เขาทํา
ตามใจถึงขันนี

ดังนันยามนี ตอนทีถามคําถามนี นําเสียงจึงดูเป็ นการ


กล่าวโทษ

179
สําหรับคําถามของฉินจินห้าว มูช่ ิงเกอแค่ยมบางๆ
ิ : “รุย่
อ๋องดูถกู กระหม่อมมากไปเสียแล้ว หากพระองค์จากไป
ด้วยกระหม่อมถึงจะพอใจ” พอพูดจบนางก็เดินออกไป
ไม่ยอมทีจะอยูก่ บั รุย่ อ๋องต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว

ฉินจินห้าวสีหน้าบึงตึง จ้องมองมูช่ ิงเกอทีจากไปอย่าง


สบายใจเขม็ง ดวงตาคมคูน่ นค่
ั อยๆ หรีลง

นีคือมูช่ ิงเกอหรือ? ไม่เพียงแต่ไม่แสดงความรักใคร่ตอ่


เขา แต่กลับรังเกียจทีจะเข้าใกล้เขา?

การได้รบั รูเ้ ช่นนี ทําให้ฉินจินห้าวรูส้ กึ แย่มาก

180
มีอารมณ์บางอย่างทียากจะเอ่ยออกมา ทําให้เขาหงุด
หงิดจนอยากสังหารคนเหลือเกิน! ราวกับว่าเขาสามารถ
เล่นกับความรูส้ กึ ของนางอย่างไรก็ได้ แต่นางกลับไม่
สามารถแสดงความไม่พอใจต่อเขาออกมาได้เลยแม้แต่
น้อย

‘มูช่ ิงเกอ ข้าทนเจ้ามามากพอแล้ว อยากจะใช้แผนการ


บ้าๆ เช่นนีในการโน้มน้าวและเรียกร้องความสนใจจาก
ข้ารึ’ ดวงตาทังคูข่ องฉินจินห้าว คมปลาบดังมีดดาบ

ชุดสีขาวชุดหนึง โผล่ออกมาจากด้านหลังห้องโถงกลาง

181
เมือเห็นแผ่นหลังแข็งแรงในชุดสีดาํ สนิททังร่างของรุย่
อ๋อง ในสายตาของนางก็มีความอ่อนโยนเกิดขึนและ
ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เขา

“เจ้าสืบได้ความหรือยัง ว่าช่วงนีมูช่ ิงเกอยุง่ อยูก่ บั อะไร?”


ยังไม่ทนั ทีนางจะเข้าใกล้ เสียงอันเยือกเย็นก็ดงั ขึน

ป๋ ายซีเยวียหยุดก้าวเท้าเพราะคําพูดนี พอเห็นถึงความ
คาดหวังของคนรักแล้ว นางก็ตืนตระหนก : “หม่อมฉัน
ยังเพคะ”

ยัง คําตอบนีไม่ใช่คาํ ตอบทีฉินจินห้าวต้องการ

182
เขาค่อยๆ หันกลับมา มองป๋ ายซีเยวียด้วยสายตาอันโหด
เ**◌้ยม ใบหน้าอันเย็นชานันไม่มีความอ่อนโยนอยูเ่ ลย :
“นานถึงเพียงนีแล้วยังไม่ได้ความอีกรึ?”

“รุย่ อ๋อง ทรงให้เวลาหม่อมฉันอีกหน่อย” เสียงอันเยือก


เย็นของชายหนุ่ม ทําให้ป๋ายซีเยวียหัวใจเต้นรัวและเต็ม
ไปด้วยความตืนตระหนก

ฉินจินห้าวแค่นเสียงเยือกเย็นคําหนึง พูดทิงท้ายไว้สคํี า
ว่า “สามวันสุดท้าย” แล้วก็เดินจากไปอย่างไม่ไยดี

ป๋ ายซีเยวียมองเงาร่างอันสูงใหญ่ทีเดินจากไป ในใจรูส้ กึ
เสียใจเป็ นอย่างมาก นางโหยหาความอ่อนโยนและ

183
ความรักทีมีตอ่ นาง ดังวันนันของรุย่ อ๋อง ‘ทุกอย่างเป็ น
เพราะมูช่ ิงเกอ!’ อยูๆ่ ป๋ ายซีเยวียก็โยนความผิดทังหมด
ให้กบั มูช่ ิงเกอ ดวงตาทีหวาดกลัวคมกริบขึนมา

มูช่ ิงเกอไปไหนกันแน่นะ?

เรืองนีไม่ใช่ความลับ หลังจากทีฉินจินห้าวรูว้ า่ มูช่ ิงเก


อไม่อยูใ่ นเมืองหลวง ก็ได้สงให้
ั คนไปสืบแล้ว

แต่วา่ ข่าวทีสืบมาได้คือมูช่ ิงเกอไปยังค่ายทหารของตระ


กูลมู่

เขาทีเป็ นคนไร้คา่ และไม่สามารถฝึ กฝนพลังได้ จะไปทํา


184
อะไรทีค่ายทหาร? เรืองนีต่างหากทีเป็ นสิงทีฉินจินห้าว
เคลือบแคลงใจ

ครังนีเขาได้ข่าวจากป๋ ายซีเยวียว่ามูช่ ิงเกอ กลับมายัง


จวน จึงเร่งมาหาและจุดประสงค์ในการมาครังนี
ประการแรก คืออยากจะสานสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคน
เพราะในเวลานีเขารูส้ กึ ว่ามูช่ ิงเกอไม่ได้มองเขาเป็ นทียึด
เหนียวทางจิตใจเหมือนเดิมแล้ว และจุดประสงค์
ประการทีสองคืออยากจะมาถามว่ามูช่ ิงเกอไปทําอะไรที
ค่ายทหาร

น่าเสียดาย ทีตอนนีทุกอย่างกลับพังไม่เป็ นท่า

185
เรืองนีทําให้ความอดทนทีฉินจินห้าวมีตอ่ มูช่ ิงเกอถึงขีด
สุดแล้ว

……

มูช่ ิงเกอรีบกลับไปยังค่ายทหารของตระกูลมู่ นางรีบไปดู


ผลลัพธ์การฝึ กของเหล่าองครักษ์จงึ จะได้รูว้ า่ ควรทํา
อย่างไรในขันต่อไป

หลังจากทีกลับไปบนภูเขาทัง 503 คนกําลังฝึ กฝนร่าง


กายตามคําสังของนาง

จากตอนเริมต้นทีรูส้ กึ ไม่คนุ้ เคยตอนนีพวกเขายอมรับ


186
การฝึ กฝนเช่นนีแล้วและในขณะเดียวกันก็รูส้ กึ ถึงความ
แข็งแกร่งทีมากขึนเรือยๆ ของร่างกายและจิตใจ

หลังจากทีดูมารอบหนึงแล้ว มูช่ ิงเกอก็เรียกมัวหยางเข้า


มาหา

พอมัวหยางทีร่างกายท่วมไปด้วยเหงือปรากฏตัวขึนตรง
หน้านาง นางก็โยนผงยาและเม็ดโอสถทีนางปรุงไปตรง
หน้าเขาแล้วสังว่า : “ผงยาพวกนี ตังแต่วนั นีเป็ นต้นไปให้
ใส่ในนําทีใช้อาบ จะให้ความอบอุน่ และช่วยบํารุงกระดูก
ของพวกเจ้า และโอสถพวกนีก็แจกให้ทกุ คน ให้กินวัน
เว้นวันครังละเม็ด”

187
โอสถระดับตําทีนางปรุงในครังนี ไม่ได้มีมากนัก หลัง
จากทีแบ่งให้กบั ทัง 503 คนแล้วก็เหลือเพียงคนละสาม
เม็ดเท่านัน

แม้จาํ นวนโอสถจะไม่มาก แต่หากบวกกับผงยาก็คงจะ


ได้ผลลัพธ์ตามทีหวัง

ตํารายาในหัวของมูช่ ิงเกอนัน ทําให้นางสามารถปรุง


โอสถและผงยาทีเหมาะกับคนพวกนีได้

มัวหยางถือของแล้วเดินออกไป มูช่ ิงเกอพักผ่อนสักพัก


แล้วเริมเข้าร่วมการฝึ กฝนด้วย

188
ตอนนีนางเป็ นสายเขียวขันแรกแล้ว ด้วยฤทธิของยา
เปลียนแปลงดีเอ็นเอ ทําให้ความแข็งแกร่งของร่างกาย
เพิมขึนมาก ความจริงแล้วการฝึ กฝนเช่นนีไม่ได้มีผลและ
ช่วยอะไรนางได้มากนัก แต่นางยังคงต้องฝึ กฝนไป
พร้อมๆ กับทหารเหล่านี

ไม่ได้เพืออะไรเพียงแต่ในชาติทีแล้วนางคุน้ ชินกับการที
จะฝึ กสิงเหล่านี ในขณะเดียวกันก็ทาํ ให้นางเข้าใจจุด
เด่นและจุดด้อยของทุกคนได้รวดเร็วมากขึน

การฝึ กฝนภายในหุบเขาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

จากการฝึ กฝนทีปิ ดตายทังเดือนทีผ่านมานี คุณ

189
ชายอย่างนางและอีก 503 คนได้กลายเป็ นหัวข้อสนทนา
ทีเหล่าทหารในตระกูลมูต่ า่ งก็กล่าวถึง

พวกเขาสงสัยว่าคุณชายพาองครักษ์ไปทําอะไรบนภูเขา
ในขณะเดียวกันก็ได้ข่าวว่าอีกสองเดือนจะประลองกับ
ทหารทีเหลือ

มูซ่ งสังการเอาไว้แล้วว่า ห้ามใครเข้าใกล้บริเวณหุบเขาที


มูช่ ิงเกอใช้ฝึก ตังแต่รองแม่ทพั จนถึงเหล่าทหารต่างก็ทาํ
ตามคําสังของเขาอย่างเคร่งครัด เพราะฉะนันมูช่ ิงเกอที
อยูใ่ นหุบเขาจึงเหมือนสลายหายไปต่อหน้าทุกคน

ฉินจินห้าวสังให้สายสืบทังหมดของตนเองกระจายกําลัง

190
กันออกไป แต่ก็ยงั ไม่ได้ข่าวทีมีประโยชน์เลยแม้แต่นอ้ ย

ในวันนีมูช่ ิงเกอหยุดการฝึ ก

นางเรียกทุกคนมารวมกันและยืนอยูบ่ นหุบเขาเพือเริม
เตรียมการขันต่อไปของนาง

ยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอทีนางขโมยมานัน ไม่ได้มีแค่
หลอดเดียว

นางใช้ไปแล้วหลอดหนึง แล้วตอนนีในตูเ้ ซฟเก็บ


อุณหภูมิทีอยูใ่ นช่องว่างของนางนันยังเหลืออีกเก้า
หลอดทียังวางนิงอยูอ่ ย่างสงบ
191
มูช่ ิงเกอเหลือหลอดหนึงเพือเก็บไว้ใช้ในยามจําเป็ น แล้ว
เอาอีกแปดหลอดมาเจือจางเพือแบ่งเป็ น 503 ถ้วย

ในตอนนีบริเวณบนโต๊ะยาวด้านหลังของนาง มีถว้ ยอยู่


503 ใบ วางเรียงกันอย่างเป็ นระเบียบเรียบร้อย

มูช่ ิงเกอยืนเอามือไพล่หลัง สายตากระจ่างใสนันกวาด


มองเหล่าทหารทีอยูต่ รงหน้า

ชายหนุ่มเหล่านีหลังจากทีฝึ กฝนอย่างทรหดมาเป็ น
เดือนก็ดแู ข็งแกร่งมากขึน ลดความเหลาะแหละไปได้ไม่
น้อย ขนาดสาวใช้อย่างโย่วเหอและฮวาเยวียก็ไม่ได้ออ่ น

192
นุ่มราวสายนําดังเดิมแต่ใบหน้านันก็ดอู งอาจขึนหลาย
ส่วน

“วันนีข้ามีเรืองหนึงจะมาประกาศ” มูช่ ิงเกอพูดขึน

เพราะเสียงของนางทําให้ทกุ คนตังสติและฟั งอย่างตังใจ

“ถ้วยด้านหลังตัวข้า มียาระดับเทพเจ้าชนิดหนึงที
สามารถแก้ไขธาตุและพรสวรรค์ในกายของพวกเจ้าได้
หลังจากทีกินเข้าไปแล้วพวกเจ้าจะเจ็บปวดเกินทานทน
แต่จะเป็ นหรือตายนันข้าไม่รบั ประกัน แต่ทีข้ายืนยันได้ก็
คือ หลังจากทีพวกเจ้าอดทนจนผ่านพ้นมาได้ พวกจ้าจะ
ได้รบั ในสิงทีทังชีวิตนีก็ไม่อาจฝันถึง พวกเจ้าจะยอมดืม

193
หรือไม่นนก็
ั แล้วแต่พวกเจ้าเถิด”

คําพูดของมูช่ ิงเกอทําให้ทงั 503 คนตืนตระหนกจนเบิก


ตากว้าง พวกเขาลืมไปแล้วว่าต้องเอ่ยคําพูดอย่างไร ราว
กับว่ากําลังซึมซับคําพูดของมูช่ ิงเกอและเข้าสูก่ ระบวน
การวิเคราะห์เกียวกับคําพูดทีมูช่ ิงเกอพูดออกมา

เปลียนแปลงธาตุในตัว เปลียนแปลงพรสวรรค์ ยาวิเศษ


พลิกฟ้าเช่นนีมีอยูจ่ ริงหรือ? และยังอยูห่ า่ งจากพวกเขา
ไปเพียงไม่กีฉือเท่านัน?

อยูๆ่ มัวหยางก็กา้ วเข้ามาข้างหน้า มองมูช่ ิงเกอแล้วพูด


อย่างมุง่ มันว่า : “คุณชาย มัวหยางพร้อมทีจะเป็ นตัว

194
ทดลองยาให้แก่คณ
ุ ชาย”

มูช่ ิงเกออึงพลันกะพริบตาอย่างไม่รูต้ วั

แต่วา่ ทุกคนกลับเข้าใจผิดเพราะคําพูดของมัวหยาง

และต่างก็พดู ว่า : “คุณชาย ข้าน้อยพร้อมทีจะเป็ นตัว


ทดลองยาให้แก่ทา่ น”

ขนาดสาวใช้เช่นโย่วเหอและฮวาเยวียเองก็ไม่ยอมทีจะ
แสดงความอ่อนแอออกมา

ท่ามกลางคําพูดทีว่าเป็ นตัวทดลองยา ทําให้มชู่ ิงเกอเข้า


195
ใจในทีสุด นางไม่รูว้ า่ จะหัวเราะหรือจะร้องไห้ดีแล้วพูด
กับมัวหยางว่า : “เจ้าคิดว่าตัวเองฉลาดมากหรือไง? ข้า
ต้องการใช้พวกเจ้าในการทดลองยารึ?”

ฉับพลันนัน ฝ่ ามือของนางก็มีประกายแสงสีเขียวปรากฏ
ขึน

ทันใดนัน สายตาของทุกคนทีอึงงันอยู่ ต่างก็คอ่ ยๆ มอง


ตําลง

“นี....นีมันสายเขียว!”

196
ตอนที 79-11 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

197
“นี....นีมันสายเขียว!”

"สวรรค์! คุณชายกลายเป็ นยอดฝี มือสายเขียวแล้ว!"

"ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม สายเขียวจริงๆ ใช่ไหม?"

มูช่ ิงเกอแค่นเสียงเย็นคําหนึง แล้วดึงพลังบนฝ่ ามือกลับ


ไป แสงประกายสีเขียวนันค่อยๆ จางหายไป นางทําหน้า
เคร่ง พูดกับทุกคนว่า : “หากจะบอกว่าเป็ นตัวทดลองยา
ก็ตอ้ งบอกว่าข้าเป็ นตัวทดลองยาให้กบั พวกเจ้าถึงจะ
ถูก"

198
พูดจบ ท่ามกลางสีหน้ารูส้ กึ ผิดของทุกคน นางมองมัว
หยางทีอับอายจนก้มหน้าพลางพูดว่า : “เจ้าคิดว่าข้าได้
ยาวิเศษชนิดนีมา แต่เพราะไม่มนใจในสรรพคุ
ั ณและผล
ข้างเคียงจึงคิดจะเอาส่วนหนึงมาทดลองกับพวกเจ้า
อย่างนันหรือ? หากสําเร็จ ข้าก็ได้ประโยชน์ไป แต่หาก
ไม่สาํ เร็จก็ไม่เป็ นไรใช่ไหม? ในใจของพวกเจ้าข้าเป็ นคน
ทีเห็นแก่ตวั ไร้มโนธรรมขนาดนันเลยรึ?”คําถามอันเยือก
เย็นทําให้ทกุ คนรูส้ กึ ผิดมากกว่าเดิม

โย่วเหอและฮวาเยวียต่างคุกเข่าลงพูดกับมูช่ ิงเกอว่า :
“คุณชาย ข้าน้อยไม่เคยมีความคิดเช่นนัน แต่พวกข้า
ยอมทีจะเป็ นตัวทดลองยาให้แก่คณ
ุ ชาย" เจ้านายจู่ๆ ก็
ฝึ กพลังเวทได้และยังกลายเป็ นยอดฝี มือสายเขียว เป็ นที
รูก้ นั ว่า ในแคว้นฉินนัน ยอดฝี มือสายเขียว แม้จะมีไม่

199
น้อยแต่ดว้ ยอายุขนาดนีของมูช่ ิงกอก็สามารถฝึ กจนถึง
ขันนันแล้ว ไม่เคยมีใครทําสําเร็จมาก่อนแน่ มีแต่สวรรค์
เท่านันทีรูว้ า่ ในใจของพวกนางนันยินดีมากเพียงใด

ฟุบ!

มัวหยางเองก็คกุ เข่าทังสองข้างลงกับพืนและพูดอย่าง
รูส้ กึ ผิดว่า : “คุณชาย มัวหยางไม่กล้าทีจะคิดเช่นนัน แค่
คิดว่าร่างกายของคุณชายนันสูงค่า ไม่ควรจะเสียง การ
ทีพวกข้ามีโอกาสได้ทดลองยาให้กบั คุณชายนันถือเป็ น
เกียรติ ความภักดีทีข้ามีตอ่ ท่านนัน ฟ้าดินเป็ นพยานได้"

"ความภักดีทีข้ามีตอ่ ท่านนัน ฟ้าดินเป็ นพยานได้!"

200
ตามด้วยคําพูดของมัวหยาง ทหารทัง 500 นายต่างก็คกุ
เข่าลงแสดงความภักดีตอ่ มูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอถอนหายใจ นางไม่ได้โกรธจริงๆ ตอนทีมัวหยาง


พูดคําพูดเหล่านัน นางก็รบั รูไ้ ด้ถงึ ความจริงใจทีไร้ซงการ

เติมแต่ง

แต่วา่ นางเพียงหงุดหงิดทีพวกเขาคิดแบบนี ดูถกู นาง


มากไปแล้วจริงๆ

“ลุกขึนมาเถิด” มูช่ ิงเกอพูดหน้าเคร่งจากนันก็เตือนทุก


คนว่า : “เรืองทีข้าฝึ กพลังได้แล้วนอกจากพวกเจ้าก็ยงั ไม่

201
มีผใู้ ดรู ้ พวกเจ้าต้องช่วยข้าเก็บความลับ ข้าไม่หวังให้ใน
ช่วงเวลาทีมีแต่เรืองวุน่ ๆ แบบนี ทําให้ตระกูลมูต่ อ้ งเข้า
มาเกียวข้องด้วย” หากเรืองทีนางสามารถฝึ กพลังเวทถูก
พูดออกไปก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อแคว้นฉิน เกรง
ว่าความอดทนทีเก็บซ่อนมานานปี ก็คงจะหมดลงเพราะ
เรืองนี

ให้เป็ นอย่างคําทีว่า ตระกูลมูม่ ีอนั ธพาลเสเพลไร้คา่ เป็ น


ผูส้ ืบทอด ยังจะทําให้ตระกูลมูป่ ลอดภัยกว่าการทีมีผสู้ ืบ
ทอดทีมีพลังเหนือฟ้า

"คุณชายวางใจเถิด ข้าและทุกคนจะไม่แพร่งพรายออก
ไปแม้แต่คาํ เดียว หากผิดคําสาบาน ขอให้ฟา้ ดินลง
ทัณฑ์!"
202
มูช่ ิงเกอพยักหน้า มองถ้วยทีวางอยูข่ า้ งหลัง พลางพูด
ต่อว่า : "หากพวกเจ้าดืมสิงนีเข้าไป แล้ว ทังชีวิตนีก็ตอ้ ง
ติดตามแต่ขา้ เชือฟั งคําสังและภักดีตอ่ ข้าแต่เพียงผูเ้ ดียว
หากใครในพวกเจ้าคิดจะทรยศหักหลังข้า ข้าก็จะเป็ นคน
สังหารมันผูน้ นเองกั
ั บมือ เพือทวงทุกอย่างทีข้าให้กลับ
คืนมา"

คําพูดของนาง โหดเ**◌้ยมเย็นชา ไอสังหารบีบคันผูค้ น

แม้เป็ นทหารทีมีประสบการณ์เคยผ่านสนามรบมาแล้ว
เมือเจอไอสังหารของนางก็ทาํ ให้พวกเขารูส้ กึ ราวกับ
ตกลงไปในโพรงนําแข็ง ทัวทังร่างเย็นเยียบ

203
อยูๆ่ ก็มีคนตะโกนขึนมาว่า : “คุณชายท่านวางใจเถิด
หากในหมูพ่ วกข้ามีใครกล้าหักหลังท่าน หักหลังพวกเรา
ทุกคน ไม่ตอ้ งให้ทา่ นลงมือ ข้าและพีน้องคนอืนๆไม่วา่
จะต้องตามล่าพลิกฟ้ามหาสมุทรก็จะเด็ดหัวของมันมา
ไว้ตรงหน้าท่านให้ได้”

“ไม่มีวนั ทรยศ ภักดีไปจนตาย!”

“ไม่มีวนั ทรยศ ภักดีไปจนตาย!”

“ไม่มีวนั ทรยศ ภักดีไปจนตาย!”

204
เสียงสาบานอันเป็ นเสียงเดียวกันนี ดังกึกก้องไปทัวหุบ
เขา

ในขณะทีมูช่ ิงเกอยกมือขึนทุกคนก็เงียบ มูช่ ิงเกอพูดต่อ


ว่า : “การฝึ กฝนก่อนหน้านีส่วนหนึงก็เพือฝึ กฝนกําลัง
และร่างกายของพวกเจ้าให้พวกเจ้าซึมซับยานีเข้าไปได้
อย่างมีประสิทธิภาพ ตอนนีคนทีกล้ากินยานีก็เข้ามาเอา
ไปคนละถ้วย”

พูดจบนางก็ถอยไปอยูข่ า้ งๆ โต๊ะยาว ดึงเก้าอีออกมาตัว


หนึงแล้วนังลงไป

สายตาของทัง 503 คนต่างก็มองไปยังถ้วยทัง 503 ถ้วย

205
โย่วเหอและฮวาเยวียมองหน้ากันแล้วทังคูก่ ็จบั มือกันขึน
ไปเป็ นอันดับแรกและหยิบถ้วยทีอยูใ่ กล้ทีสุดดืมเข้าไป
อย่างไม่ลงั เล

มีความชืนชมเกิดขึนในสายตาของมูช่ ิงเกอ แล้วนางก็


พูดกับทังสองว่า : “กลับไปรอในห้องของพวกเจ้า จําไว้
ว่าไม่วา่ จะเกิดอะไรขึน ไม่วา่ จะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตอ้ งอด
ทนและผ่านมันไปให้ได้”

โย่วเหอและฮวาเยวียพยักหน้าแล้วเดินออกไป

หลังจากทีพวกนางเดินออกไป มัวหยางก็เดินขึนมาแล้ว

206
ดืมยาในถ้วย

อีก 500 คนต่างก็เข้ามาหยิบถ้วยคนละใบและดืมเข้าไป


อย่างต่อเนือง

ไม่นานนักถ้วยทัง 503 ใบก็กลายเป็ นถ้วยเปล่า ทุกคน


ต่างก็กลับไปยังห้องของตนเองในค่ายพักแรมเพือรอ
คอยสิงทีจะเกิดขึน.......

มูช่ ิงเกอนังอยูบ่ นเก้าอีคนเดียว เอามือพิงกับโต๊ะและใช้


นิวเคาะโต๊ะเบาๆ

สักพักภายในห้องพักก็เริมมีเสียงร้องโอดครวญด้วย
207
ความเจ็บปวดดังขึน เสียงพวกนันดังเข้าไปในหูของมูช่ ิง
เกอราวกับเสียงฟ้าร้อง ทําให้นางมีความสุขจนหรีตาทัง
สองข้างลง

ตังแต่เช้าจนพลบคํามูช่ ิงเกอก็นงอยู
ั ท่ ีเดิม

ในทีสุดก็มีเสียงเปิ ดประตูดงั ขึนจากด้านหลัง มัวหยางที


หน้าซีดเผือดเดินออกมาเป็ นคนแรก

“คุณชาย” มัวหยางเดินมาหยุดตรงหน้ามูช่ ิงเกอแล้ว


ประสานมือคารวะ

“เป็ นอย่างไรบ้าง?” มูช่ ิงเกอขมวดคิวถาม


208
มัวหยางยิมขืน ส่ายหน้าพลางพูดว่า : “ข้ายังไม่รูแ้ ละไม่
รูว้ า่ จะสําเร็จไหม”

แม้จะตอบแบบนี แต่มชู่ ิงเกอกลับรูแ้ ล้วว่า มัวหยาง


ประสบความสําเร็จเพราะว่าหลังจากทีนางดืมยาเปลียน
แปลงดีเอ็นเอเข้าไป หลังจากทีทุกอย่างจบลง นางก็ไม่
ได้รูส้ กึ อะไรเป็ นพิเศษจนถึงตอนทีฝึ กพลังเวท นางจึง
รูส้ กึ ถึงการเปลียนแปลง

เพราะฉะนัน นางจึงพยักหน้าและพูดกับมัวหยางว่า :
“ไม่ตอ้ งรีบ จะสําเร็จหรือไม่นนต้
ั องรอดูตอนทีเจ้าฝึ ก
พลังเวท” อยูๆ่ นางก็หยิบมีดเล่มหนึงออกมา
จากกระเป๋ ามาวางไว้บนโต๊ะ พยักหน้าแล้วสังว่า : “ใช้
209
มีดกรีดมือตนเอง แล้วไม่ตอ้ งใส่ยา หลังจากมันประสาน
กันแล้วค่อยบอกข้า” นางอยากจะรูว้ า่ หลังจากทีมัว
หยางและคนอืนๆ ดืมยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอทีได้รบั การ
ปรับแก้เข้าไปแล้วจะสามารถเยียวยาบาดแผลตัวเอง
และแก้พิษได้เหมือนอย่างนางหรือไม่

มัวหยางรูส้ กึ แปลกใจ แต่สาํ หรับคําสังของมูช่ ิงเกอแล้ว


เขากลับไม่รอช้า

เขาหยิบมีดขึนมาอย่างไม่ลงั เลแล้วกรีดลึกเข้าไปบน
ท่อนแขน บาดแผลเช่นนี ถึงแม้วา่ จะใส่ยาก็ตอ้ งใช้เวลา
ประมาณครึงเดือนกว่าจะประสานเป็ นเนือเดียวกัน

210
เขาเอาผ้ามาพันแผลเพือห้ามเลือดเงียบๆ แล้วมัวหยาง
ก็เงยหน้าขึนมองมูช่ ิงเกอ

“ดีมาก” มูช่ ิงเกอพยักหน้าชืนชม แล้วหยิบยาเม็ดหนึง


ออกมาวางบนโต๊ะตรงหน้า

มัวหยางมองยาเม็ดนันทีกลิงไปมาอยูบ่ นโต๊ะแล้วเม้ม
ปาก ยืนมือออกไปหยิบยาแล้วใส่เข้าปากตนเอง

“นีคือยาพิษ” มูช่ ิงเกอมองหน้ามัวหยางแล้วพูด

สีหน้าของมัวหยางไม่เปลียน พลางยิมแล้วพูดว่า : “ข้า


น้อยรู”้
211
“รูแ้ ล้วเจ้ายังกินอีกรึ?” มูช่ ิงเกอหรีตาทังคูอ่ ย่างขบขัน
แล้วพิงตัวลงบนเก้าอีด้วยรอยยิม

มัวหยางนิงพลางตอบกลับว่า : “หากคุณชายอยากจะ
ให้ขา้ น้อยกินก็ตอ้ งมีเหตุผลอันสมควร ข้าน้อยเชือใน
การตัดสินและการจัดการของคุณชาย”

มูช่ ิงเกอยิมบางๆ ไม่ได้อธิบายอะไรมาก : “เจ้าไปเถอะ


จดจําการเปลียนแปลงในร่างกายของตัวเองเอาไว้แล้ว
มาบอกข้า”

“ขอรับ!” มัวหยางเดินออกไป

212
ไม่นานคนอืนๆ ก็คอ่ ยๆ ทยอยออกมา

มูช่ ิงเกอตังใจเลือกคนประมาณสิบคนแล้วทําเช่นเดียว
กันกับทีทํากับมัวหยาง จากนันสังให้พวกเขาลองกลับไป
ฝึ กพลังเวทดู

ในคืนนีในหุบเขาเงียบมาก นอกจากเสียงแมลงทีดังขึน
เป็ นครังคราวแล้วก็มีแต่เสียงลมพัด

เมือเวลาฟ้าสางมาถึง ภายในห้องพักแรมก็ปกคลุมไป
ด้วยแสงสีสม้ ดังฟ้าดินเกิดเหตุอาเพศก็ไม่ปาน

213
“ข้าทะลวงได้แล้ว!”

“ข้าก็ทะลวงแล้ว!”

“ข้าก็เช่นกัน ข้าทีอยูใ่ นสายแดงขันกลางอยูๆ่ ก็พลัน


เลือนขันกลายเป็ นสายส้มขันต้น!”

“เจ้าเลือนไปสองขันเลยหรือ เหอะๆ ขอโทษด้วยนะ ข้า


เลือนไปสามขัน”

“เจ้าเลือนไปสามขันมีอะไรน่าอวดกัน? ข้าได้ยินว่าเจ้า
เด็กมัวหยางนันเลือนไปตังห้าขัน ขนาดโย่วเหอและฮวา
เยวียเด็กสาวสองคนนันก็เลือนไปถึงสีขัน!”
214
“อะไรนะ! บ้าไปแล้ว!”

“หึ ถ้าจะบอกว่าบ้าใครจะบ้าได้เท่ากับคุณชายของพวก
เราอีก? เขาเป็ นผูท้ ีไม่สามารถฝึ กพลังเวทได้แต่กลับ
กลายเป็ นยอดฝี มือสายเขียวขันต้น!”

การฝึ กฝนของมูช่ ิงเกอกลายเป็ นประเด็นสุดท้ายทีถูกพูด


ถึง

นางค่อยๆ ลืมตาทังสองข้างขึน สายตาอันสงบนิงนันราว


กับคาดเดาผลลัพธ์ลว่ งหน้าได้ตงนานแล้
ั ว

215
แต่เดิมคนพวกนีอยูใ่ นสายแดง มีเพียงไม่กีคนเท่านันที
เป็ นสายส้มขันต้น แต่ตอนนีทุกคนต่างเข้าสูข้ นส้
ั ม
กระทังบางคนก็กาํ ลังจะเข้าสูส่ ายเหลือง นีทําให้ความ
แข็งแกร่งของพวกเขาเพิมพูนมากขึนอย่างก้าวกระโดด

มูช่ ิงเกอค่อยๆ ยิม ทันใดนันนอกห้องพลันมีเสียงเคาะ


ประตูดงั ขึนมา

“เข้ามา” มูช่ ิงเกอเก็บอารมณ์ แล้วนังขัดสมาธิอยูใ่ นห้อง

ประตูถกู เปิ ดออก ผูท้ ีเข้ามาคือมัวหยาง

เขาเดินเข้ามาอยูต่ รงหน้ามูช่ ิงเกอ จากนันก็ดงึ แขนเสือ


216
ของตนเองขึน แขนอันเรียบเนียนทําให้มชู่ ิงเกอตาเป็ น
ประกาย

รอยแผลทีอยูบ่ นแขนของเขาเมือวาน ตอนนีกลับหายไป


อย่างไร้รอ่ งรอย

มัวหยางดึงแขนเสือลง แล้วพูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “ตามคํา


สังของคุณชายข้าน้อยไม่ได้ใส่ยาทีบาดแผลเลย แต่เมือ
สักครูใ่ นขณะทีข้าน้อยฝึ กพลังเวทเสร็จสินก็พบว่าบาด
แผลของตนเองนันได้ประสานเป็ นเนือเดียวกันแล้ว ส่วน
ยาพิษภายในร่างกายนอกจากกําเริบในตอนแรกแล้ว
หลังจากนันมันก็คอ่ ยๆ สลายไป”

217
หนึงคืนหรือ?

มูช่ ิงเกอก้มหน้าลงแอบคิดในใจ

ตอนนางสูก้ บั ท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง นางบาดเจ็บมากกว่านี


แต่วา่ บาดแผลนันก็หายไปในทันที แต่มวหยางบาดเจ็
ั บ
แค่นนต้
ั องใช้เวลาเป็ นคืน

“แล้วคนอืนๆ ล่ะ?” มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึนถาม

“พวกเขาก็เหมือนข้าน้อย” มัวหยางกลับตามความจริง
แต่ในใจของเขานันคาดการณ์อะไรบางอย่างได้แล้ว

218
ดูเหมือนว่าจะมีสว่ นเกียวข้องกับยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอ
นี มูช่ ิงเกอได้ขอ้ สรุปในใจแล้วก็พดู กับมัวหยางว่า : “ยา
ชนิดนีไม่เพียงแต่สามารถเปลียนแปลงธาตุในร่างกาย
และพรสวรรค์ของพวกเจ้าเท่านัน ยังสามารถทําให้พวก
เจ้าได้ครอบครองความสามารถในการเยียวยาบาดแผล
ของตนเองและแก้พิษได้ นีถือเป็ นเกราะป้องกันอย่าง
หนึงสําหรับพวกเจ้า” พูดได้วา่ ขอแค่ทหารฝ่ ายตรงข้าม
ไม่ได้ฆา่ องครักษ์ของนางให้ตายในดาบเดียว และถึงแม้
พวกเขาจะได้รบั บาดเจ็บมากเพียงใดก็มีความสามารถ
ในการทําให้บาดแผลหายไปได้โดยไม่เหลือร่องรอยใดๆ

ได้ยินคํายืนยันหนักแน่นจากปากของมูช่ ิงเกอ มัวหยางที


สงบนิงเฉลียวฉลาดมาตลอดก็เผยสีหน้าตืนเต้นยินดี
ออกมา

219
มูช่ ิงเกอบอกกับเขาว่า : “ไปบอกเรืองนีกับทุกคน หลัง
จากนันก็สงบใจฝึ กพลังเวทกันตามสบาย อย่าลืมว่าสอง
เดือนหลังจากนียังมีการประลองรอพวกเจ้าอยู”่

มัวหยางถอยออกไปด้วยความตืนเต้น ก่อนออกไปเขา
มองมูช่ ิงเกอด้วยสายตาทีเปี ยมไปด้วยความซาบซึง

เขาสามารถคาดเดาถึงปฏิกิรยิ าของคนอืนๆ หลังจากทีรู ้


ผลของฤทธิยาได้เลยว่าจะเป็ นอย่างไร คนทีเปลียน
แปลงพวกเขาคือมูช่ ิงเกอ ตังแต่บดั นีเป็ นต้นไป ชีวิตของ
พวกเขากลายเป็ นของมูช่ ิงเกอเพียงผูเ้ ดียวเท่านัน!

220
ตอนที 79-12 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

221
เวลาสองเดือน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หนึงเดือนก่อนหน้านี มูช่ ิงเกอสังให้มวหยางพาคนไปเอา



อาวุธทังหมดทีสังทําไว้กลับมา

นางประกอบชินส่วนของอาวุธหน้าตาแปลกประหลาด
ต่อหน้าทุกคนอย่างรวดเร็วราวกับมีเวทมนตร์ กลายเป็ น
อาวุธ 4 ชิน

สิงหนึงคือ กรงเล็บทีสามารถยืดหดได้
222
อีกสิงคือ หน้าไม้เล็กทีสามารถซ่อนไว้ในแขนเสือและยิง
ติดต่อกันได้

และมีดทีมีการใส่ลกู เล่นหลายอย่างและสปริงเข้าไป

สิงสุดท้ายคือ มีดยาวแหลมทีซ่อนไว้บริเวณต้นขาทัง
สองข้าง

อาวุธพวกนีเสริมให้ทกุ คนมีพลังการต่อสูท้ ีเพิมมากขึน


และทําให้สายตาของทุกคนทีมองมาทีมูช่ ิงเกอนันดู
เลือมใสและเคารพบูชานางมากยิงขึน

223
ใช้เวลาไปทังวัน ในการเรียนรูก้ ารประกอบและแยกชิน
ส่วนสําเร็จ มูช่ ิงเกอก็เริมให้พวกเขาใช้อาวุธพวกนีในการ
ฝึ กร่วมด้วย ในขณะเดียวกันก็ให้พวกเขาฝึ กพลังเวทที
เป็ นพืนฐานอยูแ่ ล้ว

เวลาสันๆ เพียง 2 เดือน เกือบครึงหนึงของคนพวกนีก็


เข้าสูส่ ายเหลืองแล้ว อีกครึง ส่วนใหญ่ก็ทะลวงเข้าและ
วนเวียนอยูใ่ นสายส้มและอาจเข้าสูส่ ายเหลืองได้ตลอด
เวลา

สําหรับทหารตระกูลมูแ่ ล้ว สายเหลืองถือว่าค่อนข้างสูง


เลยทีเดียว

224
โดยพืนฐานแล้ว นอกจากรองแม่ทพั บางคนทีเป็ นสาย
เขียว ทหารคนอืนๆ ก็อยูร่ ะหว่างสายแดง สายส้มและ
สายเหลือง ภายในนันมีสายแดงมากทีสุด

สําหรับทหารจวนตระกูลมูแ่ ล้ว สิงทีทําให้พวกเขาดูน่า


เกรงขามนันคือการฝึ ก การรวบรวมพลังและความไม่
กลัวตาย

แม้จะเป็ นยอดฝี มือสายนําเงินขันสูง แต่หากต้องเจอกับ


ทหารตระกูลมูท่ ียืนหยัดเพียงคนเดียวก็ไม่กล้าสูต้ อ่ และ
ต้องหลบหนีไป

ในตอนกลางคืน มูช่ ิงเกอสวมชุดดําพรางตัว นําพาเหล่า

225
องครักษ์ทงั 500 นายมายืนอยูบ่ นยอดเขาทีด้านล่าง
เป็ นค่ายทหารของตระกูลมู่

ทัง 500 นายก็สวมชุดสีดาํ พรางกาย บนตัวนันมีอาวุธที


มูช่ ิงเกอเตรียมไว้ติดอยูแ่ ละยืนนิงเงียบไม่เคลือนไหว

เห็นด้านล่างภูเขาคือค่ายทหารของตระกูลมูท่ ีดูลกึ ลับ


และปลอดภัย มูช่ ิงเกอก็พลันยิม

ยากนักทีครังนีนางไม่ได้สวมชุดสีแดง แต่ภายใต้สี
รัตติกาลอันดํามืด นางก็ยงั งดงามน่าดึงดูด

ลมยามดึกพัดผมของนางพลิวผ่านข้างแก้ม นัยน์ตาอัน
226
สดใสนันเต็มไปด้วยความตืนเต้น

ราวกับว่า นางกลับไปยังยุคสมัยทีตนเองคุน้ เคยและทํา


เรืองทีตนเองคุน้ เคย

นางพูดอย่างเคร่งขรึมว่า : “ใต้เขาเป็ นค่ายทหารของตระ


กูลมู่ ภารกิจของพวกเจ้าก็คือควบคุมตัวทุกคนและเอา
ธงในค่ายมาให้ได้”

สิงทีตอบกลับนางมาคือความเงียบ

นางมองค่ายทหารแล้วยิม การนัดหมายของนางกับมูซ่ ง
ทุกคนในค่ายอาจจะคิดว่าการประลองจะเริมเมือฟ้าสาง
227
แต่อีกชัวยามก็จะเป็ นวันใหม่แล้ว ใครบอกว่านางไม่
สามารถลงมือก่อนฟ้าสางในขณะทีทุกคนกําลังหลับ
ใหลได้

คน 500 คนสูก้ บั 9000 กว่าคน นางไม่โง่ไปเผชิญหน้า


โดยตรงเป็ นแน่

“จําทุกอย่างทีข้าให้พวกเจ้าไว้ให้ดี อย่าทําให้ขา้ ผิดหวัง


ไปเถิด” ริมฝี ปากสีแดงของมูช่ ิง เกอโดดเด่นท่ามกลาง
ความมืด

พอนางพูดจบทัง 500 นายก็พงุ่ ลงภูเขาไปและเป้าหมาย


ก็คือ----ค่ายทหารอยูข่ า้ งหน้า

228
ชุดสีดาํ ของมูช่ ิงเกอรวมเป็ นเนือเดียวกับความมืดและ
แอบเข้าไปยังค่ายตระกูลมูร่ าวกับภูติผี......

ใต้เขา ภายในค่ายทหารของจวนตระกูลมู่

ในกระโจมหลักจุดไฟจนสว่าง

รองแม่ทพั หลายคนนังกันเป็ นวงกลม โต๊ะกลมนันมีถวั


ลิสงวางอยูแ่ ละยังมีอาหารอีกมากมาย ในค่ายนีไม่ให้
ดืมเหล้า พวกเขาก็ไม่ฝ่าฝื นกลับดืมชาแทน

เห็นพวกเขาในชุดทหารเต็มยศแบบนีแต่กลับมีทา่ ทีผอ่ น
229
คลาย ช่างดูขดั แย้งกันเสียจริง

รองผูแ้ ม่ทพั คนหนึงยืนขึน ริมนําชาให้กบั คนทีมีฐานะสูง


กว่าแล้วนังลง พลางยิมแล้วพูดว่า : “ไม่รูว้ า่ ท่านแม่ทพั
คิดอย่างไรจึงตอบตกลงเล่นสนุกกับคุณชายเช่นนันไม่
ต้องพูดถึงว่าองครักษ์ทงั 500 นาย ในมือของคุณชาย
นันอยูใ่ นค่ายก็ไม่ได้มีฝีมือโดดเด่นอะไร แต่ถงึ แม้วา่ ทัง
500 นายจะเป็ นยอดฝี มือระดับหัวกะทิ หากอยากจะใช้
กําลังทางทหารเพียงเท่านีบุกเข้ามาเพือคว้าธงภายใน
ค่าย ก็ไม่มีทางเป็ นไปได้อยูด่ ี”

พอเขาพูดจบ ก็มีคนพยักหน้าเห็นด้วยทันที พลางพูด


เสริมว่า : “ใช่ พวกเรานําทหารรบมาทังชีวิต แม้มีนอ้ ย
กว่าก็ยงั สามารถเอาชนะได้ แต่ทหารทีมีความแตกต่าง
230
ถึงเพียงนี ยังคิดอยากจะได้ชยั ชนะ ฝันกลางวันเสีย
จริงๆ”

รองผูบ้ ญ
ั ชาการอีกคนยิม พลางพูดตรงๆ ว่า : “หากเป็ น
เช่นนีแล้วคุณชายยังสามารถเอาชนะได้ ไม่ตอ้ งให้ทา่ น
แม่ทพั ลงโทษ ข้าเองก็ไม่ควรจะนําทัพอีกต่อไป”

“ท่านแม่ทพั ก็ปล่อยให้คณ
ุ ชายเล่นสนุก ทัง 500 คนนี
หากให้รองแม่ทพั ซงเป็ นผูด้ าํ เนินการฝึ ก ไม่แน่วา่ อาจจะ
พอมีหวังอยูบ่ า้ ง แต่คณ
ุ ชายก็ยงั เอาไปฝึ กเองแล้วยังท้า
ประลองบ้าๆ นีอีกด้วย หึ” รองผูบ้ ญ
ั ชาการทีพูดนี นํา
เสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ราวกับว่า หากไม่เห็นแก่
หน้ามูซ่ งแล้วล่ะก็ นําเสียงของเขาจะยิงแสดงไม่เคารพ
มากกว่านีอีก
231
ความจริงแล้ว พวกเขาหลายคนก็คิดเช่นนี

มูช่ ิงเกอจะฝึ กทหารได้อย่างนันหรือ ยังคิดจะเอาทหาร


500 นายมาสูก้ บั ทหารนับหมืน

ล้อเล่นอะไรกัน !

หลายคนไม่ชอบใจ แต่เพราะมูซ่ ง จึงพูดตรงๆไม่ได้ ตอน


นี พวกเขาอยากให้การประลองจบลงและเห็นความพ่าย
แพ้ของมูช่ ิงเกอ

ถึงตอนนันพวกเขาก็สามารถพูดกับท่านแม่ทพั ตรงๆได้
232
ว่าเอาตัวคุณชายกลับไปเสียเถอะทีค่ายนีไม่ใช่ทีทีคุณ
ชายผูส้ งู ศักดิอย่างเขาควรมา ทีไหนสงบสุขก็ไปอยูท่ ีนัน
เล่นสนุกเช่นนีมามากพอแล้ว

หลายคนสบตากัน ไม่ได้คิดว่าการประลองในครังนีจะมี
ความสําคัญอะไร ทําราวกับเป็ นแค่การก่อกวนของเด็กก็
ไม่ปาน

แต่วา่ เพราะท่านแม่ทพั มูซ่ งของพวกเขารักหลานชาย


มาก จึงให้พวกเขาทีสามารถชีเป็ นชีตายศัตรูในสนามรบ
ได้มาเล่นเป็ นเพือนเด็กก็เท่านันเอง

ทุกคนทีใช้นาชาแทนเหล้
ํ า ชนแก้วกันแล้วก็ดืมนําชา

233
ทันใดนัน พวกเขาก็รูส้ กึ ว่ารองแม่ทพั ซงทีนังอยูบ่ น
ตําแหน่งประธานนันดูเงียบมาก จึงรูส้ กึ กดดันในใจ

ใครคนหนึงวางถ้วยชาในมือลงแล้วถามด้วยความสงสัย
ว่า : “รองแม่ทพั ซงท่านเป็ นอะไรไป?”

รองแม่ทพั ซงได้ยินคําถามก็คอ่ ยๆ เงยหน้าขึนแต่ไม่ได้


พูดอะไร

คนอืนๆ ก็สบตากันและคนทีถามในตอนแรกก็พดู อีกว่า :


“รองแม่ทพั หรือว่าท่านจะเป็ นห่วงกลัวว่าพวกข้าจะเสีย
เปรียบคุณชาย หากเป็ นเช่นนันท่านก็ดถู กู พวกเราพีน้อง

234
มากเกินไปแล้ว”

พอพูดจบ สีหน้าเขาก็แสดงความไม่พอใจออกมา

อีกหลายคนก็พดู เสริมอีกว่า “ใช่ พวกข้าไม่ใช่คนอ่อนแอ


รองแม่ทพั เป็ นกังวลแบบนีก็ออกจะเกินความจําเป็ นไป
เสียหน่อย มาๆ พวกเราดืมนําชาเป็ นเพือนท่าน”

หลายคนยกชาขึนแล้วบีบบังคับเขาด้วยสายตา

รองแม่ทพั ไม่รูจ้ ะทําอย่างไร ได้แต่หยิบถ้วยนําชาขึนมา


ดืมพร้อมทุกคน

235
เขาวางถ้วยชาลง พลางถอนหายใจแล้วพูดว่า : “ข้าไม่
ได้เป็ นห่วงเรืองทีจะประลองกับคุณชาย ข้าก็มนใจในตั
ั ว
เหล่าทหารเหมือนกับพวกเจ้า คุณชายอยากจะใช้ 500
คนในการประลอง อย่าว่าแต่เขาเลย ขนาดท่านแม่ทพั
มาเองก็ยงั ยาก”

หลายคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย

“แล้วเมือสักครูท่ า่ นกังวลอะไร?” หนึงในนันถามขึนด้วย


ความสงสัย

รองแม่ทพั ซงมองพวกเขาครูห่ นึงแล้วพูดอย่างเคร่ง


เครียดว่า : “ข้าเป็ นห่วงท่านแม่ทพั ”

236
“ท่านเป็ นห่วงท่านปู่ ของข้าหรือ?” ทันใดนันบริเวณทาง
เข้ากระโจมก็พลันมีเสียงเยือกเย็นของชายหนุ่มดังลอย
มาราวกับลมอันหนาวเหน็บทีพัดผ่าน ทําให้แม่ทพั หลาย
คนในกระโจมรูส้ กึ ตืนตะลึงจนตัวแข็งไปหมด

“คุณชาย! ท่านมาอยูท่ ีนีได้อย่างไร?” รองแม่ทพั ซงลุก


ขึนอย่างตืนตระหนก

รองแม่ทพั ทีเหลือต่างก็ลกุ ขึนยืน มองมูช่ ิงเกอทียืนเอา


มือไพล่หลังอยูน่ อกประตูกระโจมด้วยใบหน้าทีเต็มไป
ด้วยความตืนตกใจ

237
คุณชายมาถึงหน้ากระโจม แต่พวกเขากลับไม่รูต้ วั เลย
สักนิด ไม่ใช่เพียงเท่านี ข้างนอกก็ยงั ไม่มีใครเข้ามา
รายงานเลย

เอ๊ะ ! นีไม่ถกู ต้องสิ!

รองแม่ทพั หลายคนทีผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน
พลันได้สติขนมาในทั
ึ นที

รอบข้างเงียบผิดปกติ ขนาดเสียงเดินลาดตระเวนของ
เหล่าทหารก็ไม่มีเลย

เกิดอะไรขึน ?!
238
หลายคนใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ค่อยๆ มองรอง
แม่ทพั ซง แล้วก็มองมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอทีสวมชุดสีดาํ ก้าวเข้ามาในกระโจม ใบหน้าอัน


งดงามและริมฝี ปากสีแดงประดับไปด้วยดวงตาอันเยือก
เย็นดังนําแข็งทําให้ทกุ คนรูส้ กึ ถึงความหนาวเหน็บ

นางเดินไปด้านหลังรองแม่ทพั ซงแล้วยืนมือออกไปหยิบ
ธง จากนันจึงโยนให้กบั มัวหยางทีตามเข้ามาด้วย มัว
หยางรับแล้วยืนอยูท่ ีเดิมโดยไม่พดู อะไร

รองแม่ทพั หลายคนมองการกระทําของมูช่ ิงเกอ ในใจ

239
เต็มไปด้วยคําถามและความตืนตระหนก ทําให้พวกเขา
ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูดอะไรเลย

มูช่ ิงเกอเดินไปหยุดตรงหน้ารองแม่ทพั ซง จ้องมองเขา


ด้วยดวงตาอันกระจ่างใส พลางถามว่า : “ท่านปู่ ของข้า
ทําไม?”

“คือ......” ใบหน้ารองแม่ทพั ซงปรากฏสีหน้าปั นยาก ราว


กับไม่สะดวกจะเอ่ยปาก

“พูด” มูช่ ิงเกอพูดอย่างเย็นชา

รองแม่ทพั ซงตกใจ เมืออยูต่ อ่ หน้าคุณชายทีเป็ น


240
อันธพาลเสเพลผูน้ ี เขากลับผุดเหงือออกมาเต็มศีรษะ
ราวกับว่าคนทีอยูต่ รงหน้าเขาไม่ใช่มชู่ ิงเกอแต่เป็ น
มูซ่ ง.....ไม่ คนทีทําให้ผอู้ ืนกดดันได้มากกว่ามูซ่ ง กดดัน
จนแทบจะทําให้เขาหายใจไม่ออก

“เดิมท่านแม่ทพั จะประลองกับคุณชายด้วยตนเอง แต่วา่


เมือ 5 วันก่อนกลับมีพระบัญชาเรียกตัวกลับจากองค์
ฮ่องเต้ จนถึงตอนนีก็ยงั ไม่กลับมาเลย” รองแม่ทพั ซงพูด
ทังหมดทีรูอ้ อกมา ท่ามกลางสายตาทีจ้องมองมาของมู่
ชิงเกอ

มูช่ ิงเกอหรีตา เหมือนนางจะได้กลินอะไรบางอย่างทีไม่


ชอบมาพากล

241
ท่านปู่ จะหายไปโดยไม่บอกกล่าวสักคําเช่นนีได้อย่างไร
เกิดอะไรขึนกันแน่ถงึ ทําให้เขาไม่มีแม้โอกาสจะบอก

“ส่งคนไปสืบหรือยัง?” มูช่ ิงเกอถามอย่างเคร่งเครียด

แต่วา่ ความเคร่งขรึมของนางกลับทําให้รองแม่ทพั ซงที


อยูใ่ กล้นางมากทีสุดรูส้ กึ ถึงความดุดนั ท่ามกลางความ
นิงสงบนัน

รองผูแ้ ม่ทพั ซงตอบตามความจริงว่า : “ส่งไปแล้วแต่


กลับบอกว่าท่านแม่ทพั ไม่ได้อยูใ่ นจวน คุณหนูหรงเองก็
ไม่อยู”่

242
สายตาของมูช่ ิงเกอพลันเยือกเย็นมากกว่าเดิม

ระบบสายข่าวและทัพทหารของตระกูลมูเ่ ป็ นเอกเทศไม่
ขึนตรงต่อผูใ้ ด ผูท้ ีควบคุมสายข่าวทังหมดในตระกูลมูก่ ็
คือมูเ่ หลียนหรง แต่นางกลับไม่อยู?่ หากทางฝังวังหลวง
เกิดเหตุอะไรขึน แต่ทหารตระกูลมูท่ ีค่ายยังคงนิง
เงียบอยูแ่ บบนี คงไม่ใช่เรืองดีแน่

มูช่ ิงเกอส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจและปฏิเสธสิงทีคาดเดา
ในใจ

นางมองรองแม่ทพั ซงแล้วถามว่า : “ช่วงทีผ่านมามีอะไร

243
ผิดปกติหรือไม่?”

เหมือนเพราะท่าทางดุดนั ของมูช่ ิงเกอก่อนหน้านีทําให้


หลังจากทีรองแม่ทพั ซงคิดโดยละเอียดแล้วจึงตอบอย่าง
จริงจังว่า : “ไม่มีเลย”

ทุกอย่างยังปกติ? แล้วท่านปู่ หายไปไหนกัน?

ภายในจิตใจของมูช่ ิงเกอมีความร้อนรนพาดผ่าน

นางเม้มปากแน่น เงยหน้าขึนมองรองแม่ทพั ซง พลางพูด


เสียงเย็นว่า : “มากับข้า”

244
พูดจบก็หนั หลังเดินออกจากกระโจมไป

ในขณะทีเดินผ่านรองแม่ทพั คนอืนๆ สายตาของนางก็


กวาดไปยังพวกเขาและอาหารทีวางอยูบ่ นโต๊ะ ทันใดนัน
ก็ทาํ ให้บรรดาจอมพลทีผ่านการสูร้ บมามากมายต้อง
หน้าแดง

มูช่ ิงเกอค่อยๆ ดึงสายตากลับแล้วพูดกับพวกเขาว่า :


“พวกเจ้าก็ตามมาด้วย”

จากนันนางก็เดินออกจากกระโจมไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นานทีด้านหลังนาง รองแม่ทพั ซงก็พารองแม่ทพั คน


245
อืนๆ เดินออกมาจากกระโจมหลัก

แต่วา่ พอพวกเขาเห็นฉากตรงหน้าก็เบิกตากว้าง จนลูก


ตาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า ตกใจจนเกือบจะกัดลิน
ของตนเองขาด

ด้านหน้าพวกเขา ถูกล้อมเป็ นวงใหญ่ดว้ ยคนชุดสีดาํ


500 คน คนทีอยูบ่ ริเวณใกล้ๆ ถูกมัดเอาไว้ให้นงคุ
ั กเข่า
อยูก่ บั พืน ในปากมีผา้ สีขาวอุดอยู่ เสือผ้าของทุกคนก็ไม่
เรียบร้อย ผมเผ้าหลุดรุย่ ยุง่ เหยิง ในแววตามีความไม่
ยินยอมแต่กลับทําอะไรไม่ได้

ราวกับว่า พวกเขาพ่ายแพ้อย่างราบ และโดนวิธีการรบที

246
ไม่เคยเห็นมาก่อนทําให้ตกใจจนหมดข้อจะโต้แย้ง

247
ตอนที 79-13 คุณชายตบหน้าอย่างรุนแรง

พอทังห้าร้อยนายเห็นมัวหยางออกมาพร้อมธง ต่างก็ยืน
หลังตรงด้วยความภาคภูมิใจอย่างอดไม่ได้ ในแววตานัน
มีประกายไฟเจิดจ้าอยู่

“นี......นีมันเป็ นไปได้อย่างไร?” รองแม่ทพั ชงตกใจจน


เสียงสัน

“ไม่มีอะไรทีเป็ นไปไม่ได้” มูช่ ิงเกอเอามือไพล่หลัง พลาง


พูดเสียงนิงเรียบ : “คนของพวกเจ้าดูถกู คนของข้าตังแต่
248
แรก คิดเองเออเองว่าการประลองอย่างน้อยก็ตอ้ งเริม
ตอนฟ้าสว่าง ต่างก็กลับไปพักผ่อนแต่เช้าเพือรอให้ฟา้
สว่าง แต่คนของข้าให้ความสําคัญกับการประลองครังนี
มาตังแต่ตน้ พอผ่าน*ยามจือไปก็เป็ นเวลาทีนัดหมาย
แล้ว พวกเขาแบ่งกันเป็ นกลุม่ ย่อยแล้วเข้าไปยังค่ายพัก
ควบคุมตัวแต่ละคนทียังหลับฝันดีอยู่ แล้วมันจะยากตรง
ไหนกัน?”

ความนิงสงบของนาง ราวกับว่า ทุกอย่างตรงหน้าเป็ น


เรืองปกติและสมเหตุสมผลดี

แต่สงที
ิ รองผูบ้ งั คับบัญชาซงและคนอืนๆ ได้ยินกลับทํา
ให้อดไม่ได้ทีจะร้องด้วยความขมขืนในใจ

249
ใช่ ไม่ยาก การควบคุมตัวพวกเขาในขณะทีพวกเขาหลับ
อยูน่ นไม่
ั ยาก จะยากก็ยากตรงทีทําอย่างไรให้ไม่สง่ เสียง
ดังในระหว่างทีเข้าไปควบคุมตัวคนกว่าหมืนคนโดยไม่
ทําให้ใครตืนตระหนกเลยมากกว่า หรือพูดได้วา่ สามารถ
ควบคุมสถานการณ์ไม่ให้มีการเคลือนไหวทีจะทําให้
แผนล้มเหลว “อือๆๆ.......” ในวงกลมวง
ในสุดทีอยูใ่ กล้ๆ มีคนดินรนอยากจะลุกขึนมา มู่
ชิงเกอกวาดตามองเขา แล้วก็มีคนเดินไปแก้มดั และเอา
ผ้าทีอุดปากออกให้เขา “ข้าไม่ยอมรับ พวกเจ้า
มันฉวยโอกาส ทําเช่นนีไม่ยตุ ิธรรม” พอได้รบั อิสระ คน
คนนันก็ตะโกนอย่างสุดแรง คําพูดของเขา
เหมือนจะได้รบั การยอมรับจากทหารจํานวนไม่นอ้ ยและ
พวกเขาทีไม่สามารถพูดได้ในตอนนีทําได้แค่ใช้สายตา
ในการยืนยัน ไม่ใช่เพียงแค่เหล่าทหาร แต่รอง
250
แม่ทพั ซงและรอองแม่ทพั อีกหลายคนต่างก็เงียบ
เหมือนกําลังแสดงความไม่พอใจเกียวกับการท้า
ประลองในครังนี “ไม่ยอมรับรึ?” มูช่ ิงเกอยิม
อันตราย นัยน์ตานันเยือกเย็นราวกับนําแข็ง แล้วมองคน
ผูน้ นแล้
ั วพูดว่า : “จะบอกว่านีเป็ นการฉวยโอกาสหรือ
แต่ขา้ กลับเรียกมันว่าความไม่เกียจคร้าน จะบอกว่าไม่
ยุติธรรม แล้วแค่ 500 คนต้องสูก้ บั พวกเจ้ากว่าหมืนคน
เป็ นความยุติธรรมในสายตาของพวกเจ้าแล้วหรือ?!”
สองคําหลังนางตะโกนออกมาเสียงดังทําให้ทกุ คนต่าง
ตกใจ นางเงยหน้าขึนพูดอย่างหยิงยโสว่า :
“พวกเจ้าจะเสาะหาความยุติธรรมอะไรกัน ในสนามรบ
นันมีความยุติธรรมอยูจ่ ริงหรือ หากศัตรูของพวกเจ้า
ฝึ กฝนจนมีระดับเหนือกว่าเจ้า เจ้าจะบอกให้เขาหยุด
การฝึ กแล้วรอให้เจ้าอยูใ่ นระดับเดียวกันกับเขาก่อนแล้ว
ค่อยมาประลองกันได้หรือ หรือว่าศัตรูมีอาวุธทีเหนือกว่า
251
เจ้า เจ้าก็จะบอกให้เขาทิงอาวุธในมือแล้วสูก้ บั เจ้ามือ
เปล่า ถ้าอย่างนันจะสูก้ นั ไปเพืออะไร? ไม่สทู้ ิงสังเวียนไว้
แบบนันเพือคืนความยุติธรรมให้กบั พวกเจ้าไม่ดีกว่า
หรือ? ตอนนีพวกเจ้าจะมาทวงความยุติธรรมกับข้า ข้า
ว่าพวกเจ้าก็เป็ นเพียงพวกคนขีขลาดเท่านันแหละ!”
“พวกข้าไม่ได้เป็ นเช่นนัน!” ทหารนายนันปฏิเสธ
“แล้วเป็ นอะไร?” สายตาอันเฉียบแหลมของมูช่ ิงเกอทํา
ให้เขาพูดอะไรไม่ออกทันที มูช่ ิงเกอละสายตา
จากเขาแล้วไปมองรองแม่ทพั ทียืนเงียบ ใบหน้าอันงด
งามนันคมกริบราวกับมีดดาบและพูดนิงๆ ว่า : “ข้าคิด
ว่าในสนามรบนันคือการใช้ความพยายามทังหมดแลก
มา เพราะในสนามรบนันไม่มีคาํ ว่าคุณธรรม สิงเดียวที
ทําได้ก็คือ จะใช้ทรัพยากรทีมีอยูอ่ ย่างไรให้ได้มาซึงชัย
ชนะและในขณะเดียวกันก็ตอ้ งรักษาชีวิตของทหารใน
มือไว้ดว้ ย ในเมือมีวิธีทีได้มาซึงชัยชนะโดยไม่สนเปลื
ิ อง
252
ทหารหรืออาวุธแม้แต่ชินเดียว แล้วเหตุใดต้องยอมไม่ใช้
มันเพือไปขอความยุติธรรมจอมปลอมนันด้วยเล่า? หรือ
ว่า พวกข้าแพ้ถงึ จะเป็ นความยุติธรรมสําหรับพวกเจ้า
ถึงจะเป็ นผลลัพธ์ทีสมเหตุสมผล หากพวกเจ้ายังคิดเช่น
นี อย่างนันพวกเจ้าไม่ใช่พวกขีแพ้ทีแพ้ไม่เป็ นแล้วเป็ น
อะไร? รองแม่ทพั ซงท่านช่วยบอกคุณชายอย่างข้าหน่อย
เถอะว่าผลการประลองเป็ นอย่างไร?” นางมอง
รองแม่ทพั ซง ผูม้ ีอาํ นาจสูงสุดในทีนี รองแม่ทพั
ซงถูกพูดถึงใบหน้าก็แสบร้อนขึนมาทันทีแต่ก็ไม่ปฏิเสธ
ความไม่ยินยอมในใจของเขานันถูกคําพูดของมูช่ ิงเก
อปลุกให้ตืน ในสนามรบ มีความยุติธรรมทีไหน
กัน? ใครชนะผูน้ นก็
ั คือความยุติธรรม เขาก้ม
หน้าลงอย่างรูส้ กึ ละอาย ประสานมือแล้วกัดฟั นพูดว่า :
“การประลองในครังนี คุณชายชนะ พวกข้าแพ้แล้ว!” แพ้
การทีคําคํานันจะออกมาจากปากของทหารตระกูลมูน่ นั
253
ถือว่ายากมาก แต่พวกเขากลับไม่ปฏิเสธ หลัง
จากทีสงบสติอารมณ์ พวกเขาก็รบั รูถ้ งึ ความน่ากลัวของ
มูช่ ิงเกอ ภายใน 3 เดือน สามารถฝึ กทหารให้
ปรากฏตัวอย่างไร้รอ่ งรอยได้เช่นนี ก็ชวนให้คนรูส้ กึ กลัว
แล้ว หากเป็ นยอดฝี มือทีต้องการจะเด็ดหัวของพวกเขา
เล่า นันก็ไม่ยง....ง่
ิ ายดายยิงกว่าพลิกฝ่ ามือหรือ?

คิดไปแล้ว รองแม่ทพั ซงและคนอืนๆ ก็รูส้ กึ ถึง


ความน่ากลัวของมูช่ ิงเกอ “มัวหยาง” หลังจากที
คนนับหมืนโต้เถียงกัน มูช่ ิงเกอก็พดู เสียงดังกับมัวหยาง
ว่า : “เจ้ากลับจวนกับข้า” ต่อมาก็พดู กับทหารทังห้าร้อย
นายว่า “พวกเจ้ารีบย้อนกลับไปทีค่าย ไปเอาสัมภาระ
มาเตรียมไว้ให้พร้อมแล้วกลับมารอคําสังจากข้าทีค่าย
ใหญ่” ทัง 500 นายตอบรับเป็ นเสียงเดียวกัน

254
กองทัพเช่นนี ทําให้รองแม่ทพั ซงและคนอืนๆ อึง
จนพูดอะไรไม่ออกอีกครัง

พอได้สติ ก็เพิงจะรูต้ วั ว่าคุณชายกําลังมองตน


เอง จึงรีบเก็บสายตาประหลาดใจ แล้วค่อยๆ พยักหน้า

“ท่านรองแม่ทพั ซง ข้าจะกลับไปสืบหาร่องรอย
ของท่านปู่ ขา้ ตอนนีเลย ท่านรังอยูท่ ีค่าย ทหาร รวบรวม
กําลังทหารทังหมดระวังความปลอดภัยโดยรอบ แล้วรอ
ฟั งคําสังจากข้า” มูช่ ิงเกอสังอย่างจริงจัง

“รับทราบ” รองผูบ้ งั คับบัญชาเป็ นห่วงการไป

255
ของมูซ่ งอยูแ่ ล้ว ตอนนี พอได้ยินคําพูดของมูช่ ิงเกอก็
รูส้ กึ ถึงความผิดปกติ เขาไม่ได้ปฏิเสธ กลับทําตามคําสัง
ของมูช่ ิงเกอ

หลังจากทีจัดการทุกอย่างสร็จแล้ว มูช่ ิงเกอก็สงั


ให้โย่วเหอและฮวาเยวียอยูใ่ นค่ายตระกูลมูต่ อ่ แล้วพา
มัวหยางไปเปลียนชุดออก จากนันก็รบี ควบม้าเร็วไปทาง
ลัวตูอย่างรวดเร็ว……..

*ยามจือ เวลา 23:00~01:00

256
ตอนที 80-1 หากสามีจะไป ภรรยาจะติดตามไปด้วย

ณ วังตะวันออก ทีพํานักของรัชทายาทแคว้นฉิน

ในเวลานี ฉินจินซิวกําลังเดินไปเดินมาภายในตําหนัก
อย่างตืนเต้น ใบหน้านันเต็มไปด้วยความร้อนรนยากจะ
ปิ ดได้มิด

ทันใดนัน นอกประตูก็พลันมีเสียงดังขึนมา—

1
“ฮองเฮาเสด็จ—!”

เสียงนีทําให้ฉินจินซิวดีใจและรีบก้าวเท้ายาวๆ เดินออก
นอกประตูไป

“ลูกน้อมรับเสด็จเสด็จแม่!”

ฉินจินซิวคุกเข่าอยูน่ อกตําหนัก พลางพูดกับหญิงผูม้ ี


ฐานะสูงศักดิและสง่างามนางนัน

หานฮองเฮายังคงรักษารอยยิมอันสูงส่ง เครืองประดับ
บนศีรษะสันเล็กน้อย พระนางก้มลงพยุงตัวบุตรชายคน
เดียวของตนเองขึนพลันยิมแล้วพูดว่า : “รีบลุกขึน พืน
2
มันเย็น”

ฉินจินซิวลุกขึนตามคําสัง เดินไปจับพระหัตถ์ของหาน
ฮองเฮาแล้วเดินเข้าตําหนักไป

หานฮองเฮาเดินเข้าไปภายในตําหนัก เมือพบว่าบุตร
ชายของตนเองไม่ได้สร้างเรือง จึงพยักพระพักตร์อย่าง
พอพระทัย

หลังจากทีสังให้ทกุ คนออกไป ภายในตําหนักอันกว้าง


ใหญ่ก็เหลือเพียงสองแม่ลกู

“เสด็จแม่ ท่านแน่ใจแล้วหรือไม่วา่ มูซ่ งไปครานีจะไม่มี


3
ชีวิตกลับมาอีก” ฉินจินซิวถามอย่างไม่รอช้า

หานฮองเฮามองเขาพลันแย้มสรวลตรัสว่า : “เจ้าน่ะ
นิสยั ใจร้อนแบบนี ชวนให้คนอืนปวดหัวเสียจริงๆ”

พอเห็นพระนางตอบไม่ตรงคําถาม ฉินจินซิวก็ขมวดคิว
ถามอีกครังว่า : “เสด็จแม่ มูซ่ งต้องตายแน่ๆ ใช่ไหม?”
ในนําเสียงนันเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและโหดเ**◌้ยม

หานฮองเฮาพยักพระพักตร์รบั นิงๆ เต็มไปด้วยความได้


พระทัย

“ถ้าอย่างนัน ก็ดีเลย ดูสวิ า่ มูช่ ิงเกอยังจะกล้าอวดดีไร้


4
มารยาทต่อหน้าข้าอีกไหม” ใบหน้าของฉินจินซิวเต็มไป
ด้วยตืนเต้น แต่ภายในใจนันกลับคิดมากกว่าทีพูด

เช่นว่า หากมีข่าวการตายของมูซ่ ง เขาจะเอาตัวมูช่ ิงเก


อเข้ามาทรมานในตําหนักอย่างไรดี?

ช่วงเวลาทีผ่านมา เขาแทบจะอดหลับอดนอนเฝ้ารอให้
วันนีมาถึง!

“นิสยั แบบเด็กๆ ของเจ้า เมือไหร่จะแก้ได้เสียที” หาน


ฮองเฮาพูดอย่างจนอับปั ญญา หากไม่ใช่เพราะว่ามูซ่ ง
เป็ นเสียนหนามทีต้องกําจัดทิง นางจะตามใจบุตรชาย
เช่นนีได้อย่างไรกัน

5
“มูช่ ิงเกอแค่พดู จาเสียดสีเจ้ามิใช่หรือ? มันคุม้ กับการที
รัชทายาทผูส้ งู ส่งเช่นเจ้าจะไปใส่ใจรึ?” หานฮองเฮาตรัส
ถามด้วยความเคลือบแคลงพระทัย

ฉินจินซิวยิมและเก็บความรูส้ กึ เอาไว้

เหตุผลทีแท้จริงทีเขาอยากได้ตวั มูช่ ิงเกอนันเขาไม่คิดจะ


บอกหานฮองเฮา ถึงแม้วา่ พระนางจะเป็ นพระมารดา
แท้ๆ ของตนเองก็ตาม

สิงทีมูช่ ิงเกอยัวยุเขานันไม่ใช่คาํ พูด แต่ทว่าเป็ นใบหน้า


อันงดงามทีชวนตืนตะลึงนันต่างหาก

6
พอนึกว่าสายตาอันนิงสงบทีแฝงความกล้าคูน่ นั อีกไม่
นานก็จะมาคุกเข่าลงร้องขอชีวิตต่อหน้าตนเอง เขาก็มี
ความสุขขึนมาทันที!

เห็นเขาไม่พดู อะไร หานฮองเฮาจึงไม่ได้ทรงคิดอะไรมาก


พลางกล่าวว่า : “ข้ากําชับท่านน้าของเจ้าแล้วว่าให้
พยายามถ่วงเวลากําลังเสริมทีจะไปช่วยทําสงครามให้
มากทีสุดเท่าทีจะทําได้ เมืองอีนันเป็ นแบบไหนก็รูก้ นั อยู่
ในภูเขาแห้งแล้งแบบนัน หากไม่มีกาํ ลังเสริมไปช่วย ไม่
ว่ามูซ่ งจะเก่งกาจถึงเพียงใดก็ตอ้ งตายอยูใ่ นนัน” พูดจบ
ในสายตาของพระนางก็เต็มไปด้วยความโหดเ**◌้ยม

พอได้ยินแผนการทังหมดของหานฮองเฮา ฉินจินซิวก็คิด
7
ว่าใกล้ความสําเร็จเข้ามาอีกขันแล้ว

แต่เขาก็ยงั คงถามว่า : “แล้วเสด็จพ่อสงสัยพวกเราหรือ


ไม่?” อย่างไรก็ตามเมือเทียบระหว่างมูช่ ิงเกอกับบัลลังก์
แล้ว อย่างหลังต่างหากทีเป็ นสิงทีเขาเสียไปไม่ได้

“เรืองเสด็จพ่อของเจ้านัน ไม่ตอ้ งเป็ นกังวล” หานฮองเฮา


แย้มสรวลพลางตรัสว่า : “แม้วา่ จะไม่ได้พดู อะไร
พระองค์ก็ไม่อยากให้มซู่ งมีชีวิตอยูอ่ ีกต่อไป ถึงจะรู ้ ใน
ตอนนันมูซ่ งก็ตายไปแล้ว จะทรงทําอะไรได้อีก รอให้
พระองค์ได้ควบคุมทหารจวนตระกูลมูม่ าไว้ในมือเสีย
ก่อน ไม่แน่วา่ อาจจะทรงจดจําความชอบครังนีของเจ้า
ไว้ก็ได้

8
ถ้าเป็ นเช่นนันก็ดี ฉินจินซิวยิม เมือใบหน้าไร้ความโหด
เ**◌้ยมกลับดูหล่อเหลาหมดจดมากขึนอีกหลายเท่า

……

ในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึงของวังหลวง รุย่ อ๋องก็กาํ ลัง


เผชิญหน้ากับเสด็จแม่ของตนเองเช่นกัน

คิวกระบีดกหนาของเขาขมวดแน่น พลางพูดกับเจียงกุย้
เฟยว่า : “เสด็จแม่ ทีเสด็จพ่อสังให้มซู่ งไปปราบปราม
การรุกรานครังนี เหตุใดลูกถึงคิดว่ามันมีอะไรไม่ชอบมา
พากล”

9
เจียงกุย้ เฟยจัดดอกไม้ในแจกัน กระตุกยิมพลางพูดว่า :
“แน่นอนว่ามันเป็ นแผนการของใครบางคน”

ฉินจินห้าวสงสัย จึงถามว่า : “พวกรัชทายาทและฮองเฮา


รึ”

เจียงกุย้ เฟยพยักหน้า ภายนอกตําหนักบางทีข่าวก็ไว


กว่าในตําหนัก

ฮองเฮาคิดว่าตนเองคิดอย่างรอบคอบ แต่คิดไม่ถงึ ว่า


นางได้สง่ คนไปเป็ นหนอนบ่อนไส้ขา้ งตัวฮองเฮาแล้ว
เจียงกุย้ เฟยแอบยิมอย่างได้ใจ จากนันก็จดั ดอกไม้อนั

10
สวยงามทีเก็บมาจากสวนใส่แจกันต่อ

“ทีพวกเขาทําเช่นนันก็เพือตัดไฟเสียตังแต่ตน้ ลม” สีหน้า


ของฉินจินห้าวนันดูแย่มาก

เขาเองก็หวังให้มซู่ งตายและตระกูลมูล่ ม่ จม แต่


ว่าเขายังอยากได้อาํ นาจทางการทหารของจวนตะกูลมู่
อยู่ ในวันนีเรืองนียังจัดการไม่สาํ เร็จ หากมูซ่ งตายเขาก็
จะไม่ได้รบั ประโยชน์อะไรเลย

ถึงตอนนัน ทางตระกูลหานยังเหลือหานอวี ทีมีทหาร


จํานวนสามแสนกว่าคนในมือ แล้วเขามีอะไร? จะเอา
อะไรไปสูร้ บกับรัชทายาทได้

11
พอนึกถึงผลลัพธ์ทีมูซ่ งต้องตายอย่างกะทันหัน ในใจของ
ฉินจินห้าวก็รูส้ กึ โกรธแค้น ใบหน้านันดูไม่ชอบใจมากขึน
เรือยๆ ด้วย

“เจ้าตืนตูมอะไร?” เจียงกุย้ เฟยขมวดคิวมองฉินจินห้าว

ฉินจินห้าวเงยหน้าขึนพูดกับเสด็จแม่ของตนเองว่า :
“เสด็จแม่ ลูกจะไม่ตืนตูมได้อย่างไร”

เจียงกุย้ เฟยส่ายหน้า : “เจ้ายังเด็กไปจริงๆ ทําไมเจ้าไม่


คิดว่าตอนนีตระกูลหานมีทหาร สามแสนนายแล้ว
สําหรับอํานาจทหารของตระกูลมู่ ฮ่องเต้จะให้กบั พวก

12
เขาได้อย่างไรเล่า หากมูซ่ งตาย ทหารตระกูลมูก่ ็ตกเป็ น
ของฮ่องเต้เพียงผูเ้ ดียว พออํานาจทหารของตระกูลมูอ่ ยู่
ในมือของฮ่องเต้ ด้วยความรักทีพระองค์มีให้กบั เจ้า ขอ
เพียงเจ้าสร้างความดีความชอบสักหน่อยแล้วค่อยๆ รับ
ช่วงต่อทหารตระกูลมูต่ อ่ จะยากสักแค่ไหนกันเชียว
เพราะฉะนันทางหานฮองเฮาทําเรืองนีไปก็ไม่ได้มี
ประโยชน์อะไรขึนมา แค่เป็ นการปูทางให้แก่เจ้าก็เท่า
นัน”

ฉินจินห้าวโล่งใจเหมือนรูส้ กึ ว่าคําพูดของเสด็จแม่นนมี

เหตุผลมาก

ทันใดนันเขาก็สบายใจ พลางพูดว่า : “พวกเขาอาจจะไม่


ได้คิดถึงข้อนี” ในตอนนีเค้าอยากให้มซู่ งตายและหลัง
13
จากนันเขาก็ไม่ตอ้ งอดทนดูสีหน้าของมูช่ ิงเกอ พอตระกู
ลมูส่ นแล้
ิ วและตอนทีมูช่ ิงเกอมาขอความช่วยเหลือจาก
ตนเอง เขาควรจะทรมานมันอย่างไรให้สาแก่ใจดี?

ในเวลานีแทบจะทุกคนทีกําลังคาดหวังให้มซู่ งตายและ
กําลังคํานวณผลได้ผลเสียของตนเอง

เจียงกุย้ เฟยเสียบดอกไม้ดอกสุดท้ายลงไปพลางพูดกับ
ฉินจินห้าวว่า : “เจ้าต้องตังใจคิดว่าจะทําอย่างไรให้
รัชทายาทและฮ่องเต้บาดหมางกันมากกว่านีและดึงเขา
ลงจากตําแหน่งรัชทายาท”

ฉินจินห้าวยิมอย่างมันใจ : “เสด็จแม่วางพระทัยเถิด ลูก

14
จะไปรวบรวมเหล่าเสนาธิการเพือเตรียมของขวัญอันมี
ค่าไว้รอเสด็จพีของข้า”

เจียงกุย้ เฟยสะบัดแขนเสือ พลางกล่าวว่า : “ไปเถอะๆ”

……

เมือเข้าไปยังลัวตู มูช่ ิงเกอไม่ได้รูส้ กึ ว่ามีอะไรเปลียนไป

นางพามัวหยางกลับจวนมาพร้อมความสงสัยในใจ พอ
เข้าประตูจวนมาก็บงั เอิญพบกับมูเ่ หลียนหรง

15
นางยืนหันหลังเข้าหาประตู ราวกับกําลังคุยกับใครอยู่

มูช่ ิงเกอนํามัวหยางเดินเข้าไป มูเ่ หลียนหรงทีกําลัง


สนทนาอยูไ่ ด้ยินเสียงฝี เท้าก็รบี หันกลับมาและเห็นว่า
เป็ นมูช่ ิงเกอ ในขณะเดียวกันก็ทาํ ให้มชู่ ิงเกอรูว้ า่ นาง
กําลังคุยกับใคร

ป๋ ายซีเยวียเองหรือ?

ร่างในชุดขาวนัน ดูช่างน่าสงสารมาก

แต่หว่างคิวของนางกลับมีความเจ็บแค้นทียากจะปกปิ ด
มูช่ ิงเกอขมวดคิว แล้วเดินไปหาท่านอา นางไม่รูว้ า่ ทีป๋ าย
16
ซีเยวียแค้นนันเป็ นเพราะตัวนาง

หลังจากทีไม่สามารถสืบได้วา่ มูช่ ิงเกอกําลังทําอะไรอยู่


ป๋ ายซีเยวียจึงไม่ได้รบั ความพึงพอใจจากรุย่ อ๋อง ทําให้
นางรูส้ กึ ร้อนรนใจเป็ นอย่างมาก

แต่ตอนนีมูช่ ิงเกอกลับมาปรากฏตัวตรงหน้านาง ทําให้


นางตาเป็ นประกายและรีบถามว่า : “พีมูท่ า่ นกลับมา
แล้วหรือ?” เสียงนีเต็มไปด้วยความจริงใจ

มูช่ ิงเกอมองนาง พลางพูดกับมูเ่ หลียนหรงว่า : “ท่านอา


ข้ามีเรืองจะคุยกับท่าน”

17
มูเ่ หลียนหรงเองขมวดคิว ราวกับว่านางก็มีเรืองจะ
ปรึกษากับมูช่ ิงเกอ ดังนันนางจึงสังป๋ ายซีเยวียว่า : “ซีเย
วีย เจ้ากลับไปก่อนเถอะ”

18
ตอนที 80-2 หากสามีจะไป ภรรยาจะติดตามไปด้วย

มูเ่ หลียนหรงเป็ นสายเขียวขันสูง ป๋ ายซีเยวียจึงไม่กล้า


แอบฟั งอยูข่ า้ งนอก

หากถูกจับได้ กลัวว่านางจะไม่สามารถอยูใ่ นจวนตระกู


ลมูไ่ ด้อีกต่อไป หากเป็ นเช่นนันนางจะช่วยรุย่ อ๋องได้
อย่างไร?

19
ป๋ ายซีเยวียทําได้แค่กดั ฟั นแล้วเดินออกไป

แต่วา่ นางจากไปแต่แอบทิงของลําค่าอะไรบางอย่างที
ได้จากรุย่ อ๋องเอาไว้

เท่าทีรุย่ อ๋องบอก ของลําค่าชินนีในโลกนีไม่มีผใู้ ดมีอย่าง


แน่นอน มันเป็ นของทีเซียนทิงเอาไว้ สามารถดักฟั งเสียง
การสนทนาได้ แม้วา่ จะเป็ นยอดฝี มือระดับสายม่วง ก็ไม่
มีทางตรวจจับได้

รุย่ อ๋องให้มนั ไว้กบั นาง เพือทีจะแอบล้วงความลับจาก


จวนตระกูลมู่

20
หลังจากทีนางแอบเอาหยกครึงหนึงวางไว้ในห้องรับแขก
แล้ว นางก็เดินออกไปพร้อมกับหยกอีกครึง

สักพักหยกชินนันก็สอ่ งแสงจางๆ และมีเสียงคนพูดดัง


ลอยออกมา

ภายในห้องรับแขกกลาง มูช่ ิงเกอและมูเ่ หลียนหรงคงไม่


มีทางคิดถึงว่าป๋ ายซีเยวียจะมีของลําค่าเช่นนี ในตอนนี
จุดสนใจของพวกนางคือมูซ่ ง

“ท่านอา ท่านปู่ ไปไหน” มูช่ ิงเกอถามตรงๆ

มูเ่ หลียนหรงตบไหล่ของนางพลางปลอบว่า : “ท่านปู่


21
ของเจ้าไม่ได้เป็ นอะไร แค่ทางเขตเทือกเขาฉินมีสตั ว์ป่า
รุกราน ฮ่องเต้จงึ สังให้ทา่ นไปนําทหารตระกูลมูท่ ี
รักษาการณ์อยูท่ ีนันไปต่อต้าน”

สัตว์ป่ารุกรานรึ?

นีเป็ นครังแรก ทีนางได้ยินชือนี

นางรูจ้ กั เทือกเขาฉิน เพราะในขณะทีดูแผนทีแคว้นฉิน


นางก็รูว้ า่ ทางชายแดนตะวันตกของแคว้นฉินนัน มีแถบ
เทือกเขาฉินอยู่ เป็ นส่วนเล็กๆ ของเทือกเขาทีพาดผ่าน
หลินชวน ภายในหุบเขาฉินคืออาณาจักรของสรรพสัตว์
และสัตว์วิญญาณทังหลาย

22
และระหว่างคนและสัตว์นนน้
ั อยมากทีจะมีสงครามกัน

แล้วสัตว์ป่ารุกรานนันมันเรืองอะไรกัน?

“ทําไมอยูๆ่ ถึงมีการรุกรานของสัตว์ได้เล่า” มูช่ ิงเกอถาม


นิงๆ

มูเ่ หลียนหรงเองก็สงสัย นางจึงส่ายหน้าด้วยท่าทางทีดู


เหน็ดเหนือย : “เหตุผลนันไม่แน่ชดั ธรรมดาแล้วปี สองปี
ถึงจะมีการรุกรานของสัตว์ป่าสักครัง แต่ไม่ได้กินวงกว้าง
อะไรมากนัก ไม่ตอ้ งถึงกับให้ทา่ นปู่ ของเจ้าไปช่วย ทหาร
รักษาการณ์ทีอยูท่ ีเมืองอีของเราก็สามารถจัดการได้ แต่

23
ครังนี แปลกจริงๆ หลายวันนีข้าไปตามหาเบาะแสแต่
กลับไม่พบอะไรเลย”

แท้จริงแล้วทีช่วงนีมูเ่ หลียนหรงหายตัวไป ก็เพือสืบเรือง


นีให้ชดั เจน

มูช่ ิงเกอเข้าใจแล้ว

แต่นางก็พอจะฟั งความกังวลทีอยูใ่ นนําเสียงของมูเ่ หลี


ยนหรงออก : “ท่านอากําลังกังวลอะไร?”

มูเ่ หลียนหรงหรีตา พลางขมวดคิวและพูดว่า : “ก่อนท่าน


ปู่ ของเจ้าจะไป ท่านเคยบอกว่า ให้ขา้ เกาะติด
24
สถานการณ์ของเมืองอีไว้ หากได้ข่าวอะไรไม่ดีก็ให้ขา้ พา
เจ้าหนีไปทันที อย่าได้ลงั เล กองทหารนอกเมืองนันมีไว้
เพือปกป้องเจ้า เพราะบางทีทา่ นเองก็คงจะรูส้ กึ ว่ามี
อะไรแปลกๆ”

มูช่ ิงเกอใจกระตุกวูบ

นางไม่คิดว่า ก่อนมูซ่ งจากไปยังเป็ นห่วงความปลอดภัย


ของนางและจัดการทุกอย่างให้เข้าทีเข้าทาง

แต่ การจัดการของมูซ่ งเป็ นการเผยให้เห็นถึงความ


อ่อนแอของตระกูลมู่

25
ตระกูลมูท่ ีดูมีศกั ดิศรีในสายตาของประชาชนนัน หาก
เสียมูซ่ งไปเสียคนหนึงก็จะหมดสินอํานาจทุกด้าน

สายตาของมูช่ ิงเกอพลันเยือกเย็นลง : “ท่านอา ท่านปู่


ออกไปกีวันแล้ว”

“ท่านปู่ ของเจ้าออกไป 5 วันแล้ว ตอนนีคงถึงเมืองอีเป็ น


ทีเรียบร้อย แต่กลับไม่มีการส่งข่าวคราวอะไรกลับมา
เลย” มูเ่ หลียนหรงถอนหายใจหลายครังติด การไม่มีข่าว
คราวเช่นนีทําให้นางรูส้ กึ เป็ นห่วง

5 วันแล้วทีไม่มีข่าวคราวอะไรเลย

26
มูช่ ิงเกอแอบคาดการณ์ในใจ

เมืองอีนันเป็ นผืนทีดินศักดินาของตระกูลมู่ บอกว่า


เป็ นพืนทีศักดินาพูดว่าเป็ นพืนทีรกร้างยังจะเหมาะกว่า
ทีเมืองอีอยูไ่ ด้ก็เพราะอาศัยเทือกเขาฉิน เพราะแต่เดิม
เมืองอีก็สร้างขึนเพือใช้ในการต่อต้านการรุกรานของ
สัตว์ป่าอยูแ่ ล้ว แล้วจะมีใครยินยอมเข้าไปอยูเ่ ล่า?

เมืองอีทีไม่มีประชาชนอาศัยอยู่ ทังเศรษฐกิจ คุณภาพ


ชีวิตประชาชนก็พฒ
ั นาไม่ได้ หากไม่เรียกว่าทีรกร้าง
แล้วจะเรียกว่าอะไรได้เล่า?

สิงเดียวทีคอยเฝ้าทีนันอยูก่ ็มีแค่กองทัพของตระ

27
กูลมู่ ทหารตระกลูมจู่ าํ นวน 500,000 นาย ใช้ชีวิตและ
เลือดเนือของตนเองเป็ นดังปราการเหล็กขวางกันเพือปก
ป้องแคว้นฉินไว้

เมืองอี เมืองอี อี แปลว่าอะไร? ปกของเสือผ้า ขอบของ


เสือผ้า ทีแสนห่างไกล มีคาํ หนึงกล่าวว่า เป็ นประชาชน
เมืองอี แล้วหมายถึงอะไร? หมายถึงเป็ นประชาชนทีถูก
ปล่อยไว้ในอาณาเขตอันน่ากลัวน่ะหรือ?

ฮ่องเต้แคว้นฉินประทานเมืองอีให้เป็ นกรรมสิทธิของตระ
กูลมู่ ก็ลองคิดดูวา่ เพืออะไร

“ถ้าไม่มีข่าวคราวอะไร ข้าจะไปเมืองอี” ในสาย

28
ตาของมูช่ ิงเกอนันเต็มไปด้วยความมุง่ มัน

“ว่าอย่างไรนะ?” มูเ่ หลียนหรงตกใจในความมุง่ มันของมู่


ชิงเกอ จึงรีบคัดค้าน : “ชิงเกอ ตอนนีไม่ใช่เวลามาก่อ
เรืองนะ” หากจะต้องไป นางก็จะไปเอง ยังไม่ถงึ คราวที
จะต้องให้เจ้าเด็กอวดเก่งนีไปเสียหน่อย

มูช่ ิงเกอส่ายหน้า : “ท่านอา ข้าไม่ได้จะสร้างเรือง ท่าน


รออยูท่ ีนี เพือติดตามเรืองราวทังหมด หากมีอะไรผิด
ปกติก็ทาํ ตามทีท่านปู่ บอก รีบออกจากแคว้นไป กองทัพ
นอกเมืองข้าไม่พาไปด้วยข้าทิงไว้ให้ทา่ น ข้าพาองครักษ์
ส่วนตัวไปก็เพียงพอแล้ว”

29
“ไม่ได้! เจ้าไปไม่ได้!” มูเ่ หลียนหรงปฏิเสธทันที

มูช่ ิงเกอจับมือมูเ่ หลียนหรงและพูดกับนางอย่างจริงจัง


ว่า : “ท่านอา ท่านฟั งข้านะ” ก่อนหน้านีทีนางให้รองแม่
ทัพซงเตรียมการทุกอย่างเอาไว้ ก็เพราะกลัวว่ามูซ่ งจะ
ถูกควบคุมตัว หากเป็ นอย่างนันนางจะบุกเข้าไปในวัง
แต่ตอนนีสถานการณ์ไม่ได้เป็ นเช่นนัน นางไม่อาจสัง
การเคลือนย้ายทหารจํานวนมากแบบนันได้ ทําได้เพียง
แค่พาองครักษ์ 500 นายไปยังเมืองอี มีพวกรองแม่ทพั
ซงอยู่ นางก็ไม่เป็ นห่วงความปลอดภัยของมูเ่ หลียนหรง
แล้ว

มูเ่ หลียนหรงส่ายหน้าไม่หยุด : “ไม่วา่ เจ้าจะพูดอย่างไร


ข้าก็ไม่ให้เจ้าไปเผชิญอันตรายหรอก การรุกรานของสัตว์
30
ป่ าในครังนี หากโดนจับได้ สัตว์พวกนันก็จะกินเจ้า ไม่ไว้
ชีวิตเจ้ารอให้เจ้าไปเจรจากับมันแน่”

“ท่านอา ท่านวางใจเถอะ ข้าดูแลตัวเองได้ อีกอย่างยังมี


ท่านปู่ อีกคนไม่ใช่หรือ” มูช่ ิงเกอจับมือของมูเ่ หลียนหรง
แน่น พลันมีแสงสีเขียวส่องประกายออกมา

มูเ่ หลียนหรงแสบตาเพราะแสงสีเขียวนัน นางตกใจจน


พูดอะไรไม่ออก

แสงสีเขียวเป็ นประกายส่องแสงออกมาชัวขณะหนึงแล้ว
จางหาย

31
มูเ่ หลียนหรงรีบถาม : “ชิงเกอ เมือครู.่ .....”

“ท่านอา เรืองบางเรืองเรารูอ้ ยูแ่ ก่ใจก็พอแล้ว” มูช่ ิงเก


อรีบกุมมือของมูเ่ หลียนหรงแล้วพูด

มูเ่ หลียนหรงพยักหน้าอย่างอึงๆ พยายามเก็บความ


ตกใจและตืนเต้นเอาไว้

“ท่านปู่ ของเจ้ารูห้ รือไม่?” มูเ่ หลียนหรงไม่รูว้ า่ ตอนนีนํา


เสียงของตนเองนันเต็มไปด้วยความตืนตระหนก

มูช่ ิงเกอส่ายหน้า:“เพราะฉะนัน ข้าไปครังนีไม่มี


อะไรหรอก ถึงจะเกิดอะไร ข้าก็สามารถหนีกลับมาได้
32
แต่ทางท่านปู่ นนมี
ั เพียงคนเดียว ท่านอาไม่วางใจ ข้าเอง
ก็เช่นกัน”

มูเ่ หลียนหรงตกอยูท่ า่ มกลางความตืนตะลึง ไม่สามารถ


ตอบสนองคําพูดของมูช่ ิงเกอได้ ทําได้เพียงพยักหน้าไป
ตามสัญชาตญาณ

พอนางรูส้ กึ ตัว ตรงหน้าก็ไม่มีเงาร่างของมูช่ ิงเกออีกแล้ว

“มูช่ ิงเกอไอ้เด็กบ้านี !”มูเ่ หลียนหรงกระทืบเท้าด้วย


ความโกรธ แต่ทว่ากลับรูส้ กึ อุน่ ใจ ในทีสุดต้นกล้าของ
ตระกูลมูก่ ็สามารถฝึ กพลังเวทได้แล้วและยังมีพรสวรรค์
เหนือฟ้าถึงเพียงนี อายุแค่นีเข้าสูส่ ายเขียวแล้ว

33
มีความสามารถถึงเพียงนี ถึงแม้จะไปเมืองอีก็คงไม่มี
อะไรหนักหนา

มูเ่ หลียนหรงพยายามปลอบใจตนเอง ให้ยอมรับการ


ตัดสินใจของมูช่ ิงเกอ

ทางนี ได้จบการสนทนาแล้ว

ในอีกด้านหนึง ป๋ ายซีเยวียทีแอบฟั งทุกอย่างจากแผ่น


หยก ก็รบี ออกจากจวนไป

มูช่ ิงเกอกล้าไปเมืองอีอย่างไม่กลัวตาย ข่าวนีทําให้นาง


34
ต้องรีบไปบอกรุย่ อ๋อง

……

เพราะเป็ นการตัดสินใจอย่างกะทันหัน ป๋ ายซีเยวียจึง


ต้องไปหารุย่ อ๋องฉินจินห้าวถึงตําหนัก

แต่วา่ สิงทีนางไม่รูค้ ือ ฉินอีเหยาทีเพิงกลับจากการถือศีล


กับไทเฮาก็อยูใ่ นตําหนักรุย่ อ๋องเช่นกัน

ทีนางมา ก็เพือทีจะมาเยียมเยือนเสด็จพีของตนเอง

ภายในวัด ไทเฮาได้อธิษฐานให้กบั พระราชวงศ์ทกุ


35
พระองค์ฉินอีเหยาจึงนําบุญและวัตถุมงคลมาฝาก

ฉินจินห้าวเก็บวัตถุมงคลทีฉินอีเหยาเอามาไว้ในอก แล้ว
พูดกับน้องสาวว่า : “เหยาเอ๋อร์นานๆ จะมาหาข้าทีนีสัก
ที วันนีไม่สอู้ ยูท่ านอาหารด้วยกันเถอะ”

ฉินอีเหยานังเม้มปาก คิดทบทวนอยูบ่ นเก้าอี แล้วค่อย


พยักหน้า

อยูๆ่ นางก็ลกุ ขึนพลางพูดกับฉินจินห้าวว่า : “เสด็จพี


หลังจากทีน้องกลับมาลัวตูกบั ไทเฮา ก็รบี รุดมาหาท่านที
ตําหนักรุย่ อ๋องเลย เนือตัวเลอะไปด้วยฝุ่ น เสด็จพีทรง
เตรียมห้องให้นอ้ งได้ชาํ ระกายผลัดเปลียนอาภรณ์หน่อย

36
ได้หรือไม่?”

ฉินจินห้าวพยักหน้า แล้วสังพ่อบ้านให้พาฉินอีเหยาออก
ไป หลังจากทีเข้าไปยังห้องรับแขกภายในตําหนักของรุย่
อ๋อง นางกํานัลคนสนิทก็ถามฉินอีเหยาว่า : “องค์หญิง
เพคะ ในเมือไม่ทรงอยากอยูต่ อ่ เหตุใดทรงรับปากเล่าเพ
คะ?”

37
ตอนที 80-3 หากสามีจะไป ภรรยาจะติดตามไปด้วย

ฉินอีเหยาถอดเสือคลุมแล้วตอบนางกํานัลว่า : “เสด็จพี

38
ของข้าคนนีเอาแต่ใจมาแต่ไหนแต่ไร การตัดสินใจของ
เขาไม่ยอมให้ใครมาขัดได้ แล้วข้าจะไปทะเลาะกับเขา
เพราะเรืองเล็กน้อยแค่นีไปทําไม อีกอย่างก็แค่อาหารมือ
เดียว ทานเสร็จแล้วข้าก็คอ่ ยกลับตําหนัก”

นางกํานัลฟั งแล้วก็ไม่ได้พดู อะไรมากและคอยปรนนิบตั ิ


นางเปลียนเสือผ้า

ในความเป็ นจริงแล้ว ฉินอีเหยายังอยากเจอใครอีกคน


แต่รูว้ า่ จะได้เจอในวันนีหรือไม่

ในขณะทีฉินอีเหยาเปลียนเสือผ้า ป๋ ายซีเยวียก็ถงึ
ตําหนักรุย่ อ๋องพอดี

39
หลังจากทีได้รบั การเรียกตัว ป๋ ายซีเยวียก็เข้าไปใน
ตําหนักรุย่ อ๋อง และพบกับฉินจินห้าว

“ฝ่ าบาท!”กว่าจะได้เจอคนรักนันไม่ใช่เรืองง่าย ใบหน้า


ของป๋ ายซีเยวียเต็มไปด้วยความดีใจและพุง่ เข้าสูอ่ อ้ ม
กอดของเขาด้วยท่าทางสนิทสนม

แต่วา่ ฉินจินห้าวกลับดูไม่มีความสุขเท่านาง

เขาไม่อยากให้ฉินอีเหยาเห็นป๋ ายซีเยวียในตําหนักของ
ตนเอง จึงพูดไปตามตรงว่า : “เจ้ามาหาข้าถึงทีนี มี
อะไรเร่งด่วนรึ”

40
คําพูดนีทําให้ป๋ายซีเยวียสงบลงในทันที

นางรีบพยักหน้าพลางพูดว่า : “มูช่ ิงเกอจะพาองค์รกั ษ์


ไปเมืองอี”

ฉินจินห้าวตกใจ นังลงบนเก้าอีทันทีและทวนคําพูดอีก
ครัง : “เจ้าบอกว่ามูช่ ิงเกอจะองครักษ์ไปหามูซ่ งทีเมืองอี
รึ?”

ป๋ ายซีเยวียพยักหน้าหลายที

“เขาไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน?”ฉินจินห้าวหรีตา
41
ทังสองข้างลง แววตาเย็นชา

ครังก่อน มูช่ ิงเกอพาองครักษ์หา้ ร้อยนายออกไปยังทีราบ


ลัวรือ สุดท้ายมีเขากลับมาเพียงคนเดียว

ครังนี ทางเมืองอีนันมีสตั ว์ป่ารุกรานอย่างหนัก ขนาด


เขาเองก็ยงั ไม่กล้าเข้าใกล้ แล้วแค่อนั ธพาลไร้คา่ คนหนึง
กล้าพาคนแค่ไม่กีร้อยคนไปรนหาทีตายรึ

ช่างโง่เขลานัก !

ฉินจินห้าวครุน่ คิดอย่างรวดเร็ว แล้วคิดว่าควรจะไปห้าม


มูช่ ิงเกอทีจะไปรนหาทีตายหรือจะแกล้งทําเป็ นไม่รูด้ ี
42
ผ่านไปสักพักเขาก็รูส้ กึ ว่าหากมูช่ ิงเกอตายทีเมืองอี คง
จะดีกว่า

เพราะหากเป็ นแบบนี ตระกูลมูก่ ็จะสลายหายไปจาก


แคว้นฉินอย่างแท้จริง

และยิงไม่ตอ้ งให้เขาเปลืองแรงเปลืองสมองไปคิดหาวิธี
จัดการกับมูช่ ิงเกอและไม่ตอ้ งทําตัวเป็ นพีชายทีแสนดีให้
กับมันอีก

เพียงแต่มชู่ ิงเกอก็จะมีแต่ได้น่ะสิ

43
ในตาของฉินจินห้าวสาดประกายความเจ็บใจออกมา
หากมูช่ ิงเกอตายทีเมืองอี ความอัปยศอดสูในใจของเขา
ก็จะไม่ได้รบั การปลดปล่อยน่ะสิ

ถูกไอ้เจ้าอันธพาลเสเพลคนหนึงมาชืนชมบูชา ถือเป็ น
เรืองทีน่าอับอายขายขีหน้าในใจของเขา

แล้วยิงไปกว่านัน ไอ้คนไร้คา่ ผูน้ ี ยังกล้าเล่นกับความ


รูส้ กึ ของเขาหลายครังหลายครา ทําให้เขาโกรธเกลียด
มันจนถึงทีสุด

“องค์ชาย เราควรทําอย่างไร?” ป๋ ายซีเยวียถาม

44
ฉินจินห้าวเผยรอยยิมทีเยือกเย็นและโหดเ**◌้ยม
:“ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ เรืองนีข้าจัดการเอง”

ไม่ได้รบั คําตอบจากฉินจินห้าว ทําให้ป๋ายซีเยวียรูส้ กึ ผิด


หวังเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าต่อต้าน จึงรีบกล่าวลา การมา
ครังนีนางไม่ได้รบั คําพูดทีอ่อนโยนจากรุย่ อ๋องตามทีคิด
เอาไว้ ทําให้นางแอบรูส้ กึ น้อยใจ

ฉินจินห้าวกล้าคุยกับป๋ ายซีเยวียในห้องรับแขกกลาง
เพราะคิดว่าอย่างไรฉินอีเหยาก็คงจะทําธุระส่วนตัวไม่
เสร็จในเร็วๆ นีแน่

แต่วา่ เขากลับไม่รูว้ า่ ฉินอีเหยาไม่ได้อาบนําหวีผม เพียง

45
แค่เปลียนเสือผ้าและเดินกลับมา

ช่างบังเอิญ ทีนางได้ยินข่าวทีมูช่ ิงเกอจะไปเสียง


อันตรายทีเมืองอี ตอนจะเดินเข้าประตูมาพอดี

สีหน้าของนางพลันเปลียนไป ยังไม่ทนั ทีจะได้บอกลา


เสด็จพีของตนเอง นางก็พาคนของตนเองออกไปจาก
ตําหนักรุย่ อ๋อง ทางหนึงก็สงให้
ั คนไปสืบว่าช่วงนีในลัวตู
เกิดอะไรขึนบ้าง อีกทางก็สงให้
ั คนไปแกะรอยมูช่ ิงเกอ

ส่วนตัวนางก็รบี รุดไปนอกเมือง คิดจะไปห้ามมูช่ ิงเก


อระหว่างทางออกจากลัวตู เพือไม่ให้เขาทําอะไรวูว่ าม

46
……

ระหว่างทางทีออกจากลัวตูไปยังเมืองอี ฉินอีเหยาทีอยู่
บนหลังม้ามองออกไปไกล

สักพักนางก็เห็นว่าข้างหน้ามีฝนุ่ ฟุง้ ปลิวกระจายจากมา


จากทีไกลๆ และเสียงเกือกม้าราวกับพายุดงั ก้องใกล้เข้า
มา

“องค์หญิง มีคนมาแล้ว จะใช่คณ


ุ ชายหรือไม่เพคะ” นาง
กํานัลของฉินอีเหยายืดคอยาวไปดู

จะใช่เขาหรือ?
47
ฉินอีเหยาแอบถามตนเองในใจ

บนหลังม้าทีควบมาด้วยความเร็วสูง มูช่ ิงเกอทีอยูด่ า้ น


หน้าสุดเห็นเงารางๆ ของหญิงสาวทียืนอยูบ่ ริเวณเนิน
ข้างทางเล็กๆ บนเส้นทางหลัก

แต่วา่ เพราะไกลมากจึงมองไม่ชดั ว่าเป็ นผูใ้ ด

พอค่อยๆ เข้ามาใกล้นางจึงพบว่าเป็ นองค์หญิงฉางเล่อ


คูห่ มายของนาง ฉินอีเหยา

“ฮี——!” นางกระตุกเชือกม้าทันที เกือกม้ายังคง


48
ยําอยูก่ บั ทีไม่หยุด

มูช่ ิงเกอเห็นฉินอีเหยาจึงถามว่า : “องค์หญิงทรงมาอยูท่ ี


นีได้อย่างไร”

นางในชุดสีแดง ขีอยูบ่ นหลังม้าสีดาํ ปลอดตัวใหญ่ ดูเต็ม


ไปด้วยความกล้าหาญ ใบหน้าอันงดงามเป็ นหนึงนัน
เพราะไม่ได้เจอกันนานจึงดูเหมือนจะเติบโตและน่าดึง
ดูดขึนมาก

ฉินอีเหยามองนาง แล้วลืมเป้าหมายในการมาทีนีของ
ตนเองไปชัวขณะ

49
ได้ยินคําถามจะมูช่ ิงเกอ นางจึงขีม้าเข้ามาใกล้ แล้วถาม
ว่า :“เจ้าจะไปเมืองอีรึ?”นางพูดพลางเงยหน้าขึน
มองไปทีด้านหลังของมูช่ ิงเกอ ทหารหลายร้อยนายที
สวมชุดเกราะ ทําให้นางรูส้ กึ แปลกใจ ขณะเดียวกันก็
เป็ นห่วงความปลอดภัยของมูช่ ิงเกอด้วย

“องค์หญิงทรงทราบมาจากไหน” มูช่ ิงเกอหรีตาลง สาย


ตาอันตราย

ฉินอีเหยากัดปาก พลางพูดว่า : “ตอนทีป๋ ายซีเยวียมายัง


ตําหนักรุย่ อ๋อง ข้าอยูก่ บั เสด็จพีพอดี”

นางไม่ได้ตอบคําถามของมูช่ ิงเกอโดยตรง แต่กลับใช้คาํ

50
พูดอย่างชาญฉลาดเพียงไม่กีคํา อธิบายทุกอย่างได้
กระจ่าง

ป๋ ายซีเยวีย ฉินจินห้าว?

ในสายตาของมูช่ ิงเกอนันฉายแววเย็นชาออกมา ดู
เหมือนว่าสองคนนีจะสมคบคิดกันจริงๆ สินะ

แต่วา่ แล้วป๋ ายซีเยวียรูไ้ ด้อย่างไรว่าตนเองจะไปเมืองอี


ท่านอาบอกบอกรึ? ไม่น่าจะใช่ เรืองแบบนีท่านอาไม่
บอกป๋ ายซีเยวียแน่ๆ

แต่ตอนนีไม่ใช่เวลาทีจะมาหาคําตอบเรืองนี
51
มูช่ ิงเกอพยายามเก็บซ่อนไอเยียบเย็นในดวงตา มองฉิน
อีเหยาพลางพูดว่า : “แล้วทําไมองค์หญิงทรงมาอยูท่ ี
นี…….”

“เจ้าไปไม่ได้นะ มันอันตรายเกินไป” ฉินอีเหยาบอกจุด


มุง่ หมายในการมาของตนเอง ในช่วงทีนางรอคอย คนที
นางสังให้ไปสืบก็นาํ ข่าวมาแจ้งนางแล้ว

เหตุการณ์สตั ว์ป่ารุกรานในครังนีเป็ นเหตุการณ์ทียากจะ


พานพบในรอบร้อย ปี มูช่ ิงเกอไปครังนีไม่เท่ากับไปตาย
หรือ?

52
แม้วา่ มูซ่ งจะอยูท่ ีนัน แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้วา่ มู่
ชิงเกอจะปลอดภัย!

“องค์หญิงทรงคิดมากไปแล้ว ข้าแค่ไปหาท่านปู่ จะมี


อันตรายได้อย่างไร อีกอย่างทีเมืองอียังมีทหารกองทัพ
ใหญ่จากตระกูลมูอ่ ีกนับห้าแสนนายคอยคุม้ ครองอยู”่ มู่
ชิงเกอพูด

เห็นเขายังยืนยันฉินอีเหยาจึงบอกว่า :“เจ้าจะไป
จริงๆ รึ”

มูช่ ิงเกอไม่เสียเวลาคิดพยักหน้าทันที

53
“ได้ ถ้าอย่างนันข้าจะไปกับเจ้า”ฉินอีเหยาบอกการ
ตัดสินใจของตนเอง

มูช่ ิงเกอเบิกตาโตหลุดปากพูดว่า : “บ้าไปแล้วหรือ!” ที


นางไปเพราะว่ามีเหตุผลจําเป็ น แต่ฉินอีเหยาจะไปทําไม

“คุณชาย องค์หญิงของข้าห่วงความปลอดภัยของท่าน
เป็ นทีสุด จึงกล้าเสียงอันตรายแบบนี ทําไมท่าน.....”

“เงียบนะ!” ฉินอีเหยาพูดเสียงเย็น หยุดนางกํานัลที


กําลังไม่พอใจแทนนาง

ฉินอีเหยาค่อยๆ หันไปมองมูช่ ิงเกอ นางเม้มปากแล้วพูด


54
ว่า : “เจ้าไม่จาํ เป็ นต้องไปสนใจทีนางพูด หากเจ้ายืนยัน
ว่าจะไป ก็ตอ้ งให้ไปกับเจ้าด้วย”

“นีไม่ใช่เวลามาล้อเล่นนะ” มูช่ ิงเกอขมวดคิวพูดเสียงเข้ม

ฉินอีเหยายิมและพูดอย่างจริงจังว่า : “ข้าก็ไม่เคยล้อ
เล่น”

คําตอบดึงดันนีทําให้มชู่ ิงเกอหรีตาลง นางทีอยูบ่ นหลัง


ม้าควบม้าไปทางฉินอีเหยาหลายก้าว เมือมาอยูข่ า้ งๆ
นางก็โน้มตัวไปพูดข้างหูนางเบาๆ ว่า : “พระองค์ทรงรู ้
หรือไม่วา่ การไปครังนีอาจจะไม่ได้กลับมา”

55
“ข้ารู”้ ฉินอีเหยาตอบตรงๆ

มูช่ ิงเกอขมวดคิวเล็กน้อย : “ไม่ทรงกลัวหรือ?”

ฉินอีเหยามองนาง เม้มปากแล้วส่ายหน้าเบาๆ

มูช่ ิงเกอหรีตา ขยับกายกลับมาทีเดิม อยูๆ่ ก็ยมแล้


ิ วถาม
ว่า : “หากกระหม่อมยืนยันจะไม่พาพระองค์ไปด้วย
เล่า?”

ฉินอีเหยาเองก็ยมพลางตอบว่
ิ า : “ทางไปเมืองอีนันไม่ใช่
แค่เจ้าคนเดียวทีรูจ้ กั ”

56
ในแววตาของมูช่ ิงเกอมีประกายความเยือกเย็นวาบผ่าน
นางมองใบหน้าอันงดงามแต่เย็นชาของฉินอีเหยา แล้ว
พูดอย่างเย็นชาว่า “ตามมา”แล้วหวดแส้เฆียนม้าพุง่ ตรง
ไปข้างหน้าทันที

พอนางจากไป คนข้างหลังอีกหลายร้อยคนก็รบี ตามไป


เกือกม้าทําให้ฝนุ่ ฟุง้ กระจายบดบังใบหน้าและดวงตาทัง
คู่

57
ตอนที 80-4 หากสามีจะไป ภรรยาจะติดตามไปด้วย

“แค่กๆ องค์หญิงพวกเราทําอย่างไรดีเพคะ?” นางกํานัล

58
ทีสําลักเพราะฝุ่ นทีฟุง้ ตลบปิ ดปากถามขึน

ฉินอีเหยามองมูช่ ิงเกอทีจากไป สายตานางเยือกเย็นเป็ น


ประกายดังนําค้างแข็ง นางพูดกับนางกํานัลด้วยใบหน้า
คล้ายยิมคล้ายไม่ยมิ นางยกแส้ขนและกํ
ึ าชับนางกํานัล
ว่า: “เจ้ากลับลัวตูไป แล้วไปแจ้งข่าวแทนข้าว่า......”

ฉินอีเหยาเงียบไปสักพัก พวงแก้มทังสองข้างก็แดงขึนมา
อย่างรวดเร็ว นางพูดกับนางกํานัลด้วยความเขินอาย
ว่า : “ไปบอกว่า ฉางเล่อเป็ นสะใภ้ของตระกูลมู่ ตอนนี
สามีกาํ ลังจะไปสนามรบ ฉางเล่อจําเป็ นต้องตามไป”

เมือพูดจบ นางก็เอาแส้หวดม้า ทําให้มา้ ร้องเสียงแหลม

59
และวิงพุง่ ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“องค์หญิง——” นางกํานัลทีถูกทิงไว้ขา้ งหลังอึงไป


นางอยากจะร้องเรียกเจ้านายของตนเองไว้ แต่อีก
ฝ่ ายกลับทิงไว้เพียงแผ่นหลังอันสง่างามเด็ดเดียว

เมือทําอะไรไม่ได้ นางจึงทําได้แค่มองส่งทุกคนแล้วกลับ
ลัวตูไปพร้อมกับความไม่สบายใจ

……

ม้าทีฉินอีเหยาขีนันแน่นอนว่าเหนือกว่าทหารทังห้าร้อย
นาย
60
ไม่นาน นางก็แซงหน้าทังหลายร้อยนาย ไปอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิง
เกอ

นางมองคนชุดแดงเจิดจ้าสะดุดตาพร้อมรอยยิม ราวกับ
ว่า ทีทีนางไปนันไม่ใช่พืนทีทีมีสตั ว์ดรุ า้ ย แต่เป็ นการออก
ไปเทียวกับคนรัก

คนรัก......

ฉินอีเหยาตกใจกับคํานีไม่นอ้ ย สายตาอันเยือกเย็นแฝง
ไปด้วยความตระหนก

61
“ทรงตามมาจริงๆ รึ” เสียงอันเรียบนิงของมูช่ ิงเกอดังขึน
ทีข้างหู ทําลายความคิดอันหอมหวานในใจนาง

ประโยคนี ฟั งดูไม่ยินดีนกั

แต่ฉินอีเหยารูว้ า่ เป็ นเพราะนําเสียงทีแฝงไปด้วยการข่ม


ขู่ของนางในประโยคสุดท้าย ทําให้ชายชุดแดงทีอยูต่ รง
หน้าโกรธ

หลังจากทีมองใบหน้าอันสวยงามนันแวบหนึง ฉินอีเหยา
ก็เม้มปากและไม่ได้พดู อะไร

ฉินอีเหยาเงียบ ไม่รอให้มชู่ ิงเกอมีปฎิกริยาตอบกลับ


62
นางก็กลับบังคับม้าให้เร็วขึน

ขบวนของคนหลายร้อยคนเดินทางไปยังเมืองอีอย่าง
รวดเร็วราวกับสายลม

มูช่ ิงเกอไม่มีเวลามากพอทีจะมาใส่ใจนาง ในเมือ


นางอยากจะไป ก็ไปเถอะ รอจนถึงเมืองอีแล้วเห็นสัตว์
ร้ายอันน่ากลัวล้อมเมืองอยู่ ก็คงจะทําให้องค์หญิงทีเกิด
มาในวังหลวงอย่างนางต้องผิดหวังกับการตัดสินใจใน
ครังนี

แต่วา่ ถึงตอนนันก็คงต้องส่งนางกลับ วุน่ วายเสียจริง

63
มูช่ ิงเกอแววตาเคร่งขรึม แส้ในมือตีไปบนตัวม้าอย่างแรง
ทําให้มา้ ร้องเสียงแหลมแล้ววิงไวขึน

จากลัวตูไปเมืองอีนัน หากเป็ นคนปกติตอ้ งใช้เวลา


ประมาณสิบกว่าวัน

หากเป็ นม้าเร็วและลงแส้หนักๆ เดินทางไม่หยุดตลอดทัง


คืนก็จะประหยัดเวลาได้กว่าครึง

ตอนนี มูซ่ งหายไปอย่างไร้รอ่ งรอยห้าวันแล้ว มูช่ ิงเก


อต้องรีบไปให้ถงึ เพือดูวา่ เกิดอะไรขึนกันแน่

……
64
ณ ลัวตู ฉินจินห้าวถูกเรียกตัวให้เข้าวังอย่างกะทันหัน
หลังจากทีฉินอีเหยาหายไปจากตําหนักของเขาอย่างไม่
บอกกล่าว เขาเองก็รูแ้ ล้วว่าต้องมีเรืองอะไรไม่ดีเกิดขึน
เป็ นแน่

พอเข้าไปยังตําหนักฟ่ งหยี ฉินจินห้าวก็พบเสด็จแม่ทีสี


หน้าดูมืดครึม ส่วนนางกํานัลของน้องสาวตนตอนนีก็นงั
คุกเข่าตัวสันอยูบ่ นพืนตําหนัก

ฉินจินห้าวมองนางกํานัลคนนันแล้วแอบคิดในใจ พูดกับ
เจียงกุย้ เฟยว่า : “เสด็จแม่เกิดอะไรขึนพ่ะยะค่ะ”

65
เพราะกดเก็บอารมณ์โกรธไว้ทาํ ให้ใบหน้าของเจียงกุย้
เฟยนันดูแย่มาก

พอได้ยินคําถามของฉินจินห้าว นางก็กดั ฟั นและหัวเราะ


อย่างเย็นชา พลางใช้สายตาอันแหลมคมจ้องนางกํานัล
ทีตัวสันนังคุกเข่าอยูบ่ นพืน : “เจ้าช่างมีนอ้ งสาวทีแสนดี
เสียจริงๆ”

เกียวกับฉางเล่อจริงๆ ด้วย !

ฉินจินห้าวแปลกใจ ในใจคาดเดาอะไรบางอย่าง

“น้องเป็ นอะไร นางเพิงไปตําหนักลูก หลังจากนันก็กลับ


66
ไปโดยไม่บอกกล่าว ก่อนเข้าวัง ลูกยังคิดจะไปหานางที
ตําหนักองค์หญิงอยูเ่ ลย” ฉินจินห้าวแสดงความแปลกใจ
ต่อเจียงกุย้ เฟย

ท่าทางอันไร้เดียงสาแบบนันทําให้เจียงกุย้ เฟยไม่รูว้ า่ จะ
แสดงความโกรธออกมาอย่างไร ทําได้แค่ยืนนิวทีประดับ
ไปด้วยเล็บสีแดงสดชีไปนางกํานัลและพูดอย่างเยือก
เย็นว่า : “เจ้าถามนางสิ”

ฉินจินห้าวรีบหันไปมองนางกํานัลทีนังคุกเข่าอยู่

นางกํานัลไม่กล้าปิ ดบัง จึงพูดคําพูดทีฉินอีเหยาทิงท้าย


ไว้ก่อนจากไปออกมา

67
อยูๆ่ สีหน้าของฉินจินห้าวก็ดแู ย่ขนมา

“เจ้าคิดดู น้องสาวคนนีของเจ้าช่างก้าวหน้าเสียจริงๆ
ปกติเห็นนิสยั เย็นชาเรียบเฉย แต่วนั นีกับทําเรืองขายขี
หน้าเช่นนี รักใครไม่รกั กลับไปรักอันธพาลไร้คา่ คนหนึง
ยังไม่ได้เป็ นอะไรกันกับเขาก็ไปร่วมเป็ นร่วมตายกับเขา
เสียแล้ว” เจียงกุย้ เฟยยิงพูดก็ยิงโมโห สายตาทีมองนาง
กํานัลนันอยากจะทุบนางให้ละเอียด ราวกับว่าคนทีคุก
เข่าอยูน่ นเป็
ั นมูช่ ิงเกอก็ไม่ปาน

สีหน้าของฉินจินห้าวดูปลียนไป เขามองนางกํานัลทีคุก
เข่าอยูแ่ ละสังว่า : “เจ้าออกไปก่อน”

68
นางกํานัลราวกับได้รบั การอภัยโทษรีบเงยหน้าขึนมอง
เขาด้วยความซาบซึง

แต่นางก็ไม่กล้าจากไปเช่นนีจึงมองเจียงกุย้ เฟยผูท้ ีมี


อํานาจในการตัดสินใจคนสุดท้าย พอเห็นเจียงกุย้ เฟยไม่
ปฏิเสธ นางก็รบี กล่าวขอบพระทัยและออกไปจาก
ตําหนักทันที

หลังจากทีนางกํานัลออกไปฉินจินห้าวก็มองเสด็จแม่
ของตัวเอง พลางพูดว่า : “ครังนีฉางเล่อใจร้อนเกินไป
จริงๆ เสด็จแม่อย่าถือโทษนางเลย”

69
เจียงกุย้ เฟยหัวเราะอย่างเยือกเย็น ในใจรูส้ กึ ไม่พอใจกับ
การตัดสินใจของบุตรสาวตนเองเป็ นอย่างมาก

ไทเฮาอยากจับคูฉ่ างเล่อกับมูช่ ิงเกอ ตอนแรกนางคิดว่า


ลูกสาวของตนเองเป็ นคนหัวสูงเย่อหยิง ความสามารถ
ระดับนัน ชายผูม้ ีคณ
ุ สมบัติเพียบพร้อมนางยังไม่ชอบ
แล้วจะไปชอบคนไร้คา่ ทีไม่สามารถฝึ กฝนพลังคนหนึงได้
อย่างไร เพราะฉะนันนางจึงไม่ได้ไปก้าวก่ายอะไรมาก
มายแต่กลับไม่คิดว่าขณะทีนางเผลอนันลูกสาวของ
นางกลับถูกมูช่ ิงเกอหลอกเอาไป ไม่รูว้ า่ จะเสียเปรียบ
อะไรหรือไม่

เมือคิดถึงตรงนี สีหน้าของเจียงกุย้ เฟยก็ดแู ย่ลงเรือยๆ


ในใจคิดเพียงแต่ฉินอีเหยาได้เสียเปรียบให้แก่มชู่ ิงเก
70
อแล้ว

ลูกสาวของนางควรได้ดีกว่านี แล้วตอนนีทําไมต้องตก
เป็ นของอันธพาลคนหนึง

ยิงคิดก็ยิงเคืองใจ ใบหน้าทีเจียงกุย้ เฟยบรรจงแต่งอย่าง


สวยงามนันดูบิดเบียว

“ห้าวเอ๋อร์ เจ้านํากําลังคนไปตามตัวฉางเล่อกลับมา!”
เจียงกุย้ เฟยพูดด้วยนําเสียงโหดเ**◌้ยม

ฉินจินห้าวนิงไปสักพัก : “เสด็จแม่ ฉางเล่ออยากไปเอง


และด้วยนิสยั ของนางแล้ว คงจะไปยอมกลับมาแต่โดยดี
71
แน่”

“เจ้าต้องพานางกลับมาให้ได้!” เจียงกุย้ เฟยพูดด้วยสี


หน้าดุดนั

“นีมัน.....” ฉินจินห้าวยืนอยูท่ ีเดิม ไม่ขยับ

“ทําไมรึ เจ้าไม่อยากไปตามตัวน้องสาวตนเองกลับมารึ”
เจียงกุย้ เฟยพูดฉินจินห้าวด้วยสายตาอันโหดเ**◌้ยม

ฉินจินห้าวก้มหน้าลง พูดตรงๆ ว่า : “ลูกเพียงกําลังคิดว่า


การไปหรืออยูข่ องฉางเล่อจะส่งผลกระทบต่อแผนการ
ของเราหรือไม่”
72
“หมายความว่าอย่างไร?” เจียงกุย้ เฟยสงสัย การวาง
แผนทีฉินจินห้าวพูดถึง ทําให้นางสงบลงในทันที

ฉินจินห้าวแอบเงยหน้าขึนมองนาง เห็นนางไม่ได้โกรธจึง
พูดต่อว่า : “หากเสด็จแม่รบั ปากว่าจะไม่โกรธลูก ลูกถึง
จะกล้าพูด”

“เจ้าอธิบายมาให้ละเอียด” ในตอนนีเจียงกุย้ เฟยลืม


ความโกรธทีฉินอีเหยาแอบออกไปชัวขณะ

สิงทีนางใส่ใจในตอนนีคือคําพูดทีบุตรชายกําลังจะพูด

73
ฉินจินห้าวเรียบเรียงคําพูดในใจสักพักจึงพูดว่า : “ทังลูก
และเสด็จแม่ตา่ งก็ไม่รูว้ า่ ความสัมพันธ์ของมูช่ ิงเกอกับ
ฉางเล่อนันพัฒนาไปถึงขันไหนแล้ว หากทังสอง.....กัน
แล้ว ถึงแม้วา่ จะพาตัวฉางเล่อกลับมาก็คงจะมีประโยชน์
อะไรไม่มากนัก และอาจจะขัดขวางเราได้ เสด็จแม่ก็รูจ้ กั
นิสยั ของฉางเล่อดี หากทําให้นางผิดหวังเสียใจ เทียบกัน
แล้วนางยังไร้เยือใยได้มากกว่าพวกเราเสียอีก”

เจียงกุย้ เฟยหรีดวงตาอันสวยสะดุดตา นิวมือเรียวยาวที


ทาเล็บสีแดงสดนันลูบไล้ขนสัตว์บนทีวางมือของเก้าอี
ขนสัตว์ทีได้รบั การทําความสะอาดมาแล้วทะลุออกมา
ตามร่องนิวมือและลูข่ นลงไปตามการเคลื
ึ อนไหวของ
นาง

74
“ตอนนีอย่างไรเสียฉางเล่อก็ตามไปแล้ว หากสามารถ
กลับมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว เสด็จแม่คอ่ ยต่อว่านางก็
ยังไม่สาย แต่หากไม่สามารถกลับมาได้........” ฉินจิน
ห้าวแอบมองเสด็จแม่ของตนเองอีกครัง เมือเห็นว่านาง
ยังคงนิงเงียบจึงพูดต่อว่า : “ข้อหาในการจัดการกับตระ
กูลมูข่ องเราก็จะมากขึนอีกข้อไม่ใช่หรือ ลักพาตัวองค์
หญิง ทําให้องค์หญิงต้องสินพระชนม์ มีโทษประหาร
สถานเดียว”

เจียงกุย้ เฟยกําขนสัตว์แน่น นัยน์ตาหงส์เป็ นประกายแต่


ดูเย็นเยียบเป็ นทีสุด

นางเม้มปากแน่นไร้ซงคํ
ึ าพูดใดๆ

75
ฉินจินห้าวเองก็ไม่ได้พดู อะไรเช่นกัน

เขารูว้ า่ เสด็จแม่ของเขากําลังคิดและพิจารณาสิงทีเขา
พูดเมือสักครูน่ ี พอนางคิดทบทวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็
จะให้คาํ ตอบทีน่าพอใจทีสุดกับเขาเอง

หลังจากนันสักพัก เจียงกุย้ เฟยก็คลายนิวมือทังห้าออก

นางกวาดตามองฉินจินห้าวอย่างเย็นชา พูดด้วยนําเสียง
อันสูงส่งว่า : “ห้าวเอ๋อร์ เจ้าต้องจําไว้วา่ น้องสาวของ
เจ้านันเพือการใหญ่ของเจ้าแล้วนางต้องเสียสละสิงใด
ไปมากมายเพียงใดรอให้เจ้าจัดการเรืองทังหมดเสร็จสิน

76
แล้ว หากเจ้าไม่มอบเกียรติยศตอบแทนในสิงทีนางพึงได้
ข้าไม่ยอมอย่างเด็ดขาด”

ฉินจินห้าวฟั งประโยคนีแล้วก็เข้าใจทันที

เขาตอบกลับว่า : “เสด็จแม่วางใจเถิด ฉางเล่อเสียสละ


เพือลูก ลูกจะไม่มีวนั ลืม”

เจียงกุย้ เฟยหลับตาลง พลางยกมือขึน พูดอย่างเหน็ด


เหนือยว่า : “ข้าเหนือยแล้ว เจ้ากลับไปเถอะ”

“ขอเสด็จแม่ถนอมสุขภาพด้วย อย่าหักโหมเกินไป ลูกขอ


ทูลลาก่อน!” ฉินจินห้าวค่อยๆ เดินออกไป
77
ตําหนักหว่านเสีย อีกหนึงตําหนักของสนมทีได้รบั การ
โปรดปรานจากฮ่องเต้ฉินชาง

เจ้าของตําหนักนี ถูกพระราชทานยศให้เป็ นอวินเฟย


กิรยิ าเรียบนิงเรียบร้อยไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี จึงทําให้
สามารถใช้ชีวิตอยูอ่ ย่างสงบสุขทีสุด ท่ามกลางการแย่ง
ชิงของหานฮองเฮาและเจียงกุย้ เฟย

เสียงพิณอันเศร้าโศกดังออกมาจากตําหนักหว่านเสีย ใน
เสียงเพลงนันเต็มไปด้วยความทุกข์และเย็นชา นอกจาก
นียังมีเกราะบางๆ ทีคนนอกไม่สามารถเข้าใกล้ได้

78
ภายในตําหนัก ชายชุดเหลืองนวลกําลังนังตัวตรงและ
ตังใจดีดพิณ

ฉินอีเหลียนเอามือเท้าใบหน้าซาลาเปาน่ารักเอาไว้ มอง
คนดีดพิณไม่กะพริบตา

หญิงกลางคนบอบบางในชุดสีขาวนังอยูบ่ ริเวณไม่ใกล้
ไม่ไกล ในมือนันกําลังปั กผ้า คอยเงยหน้าขึนมองบุตร
ชายและบุตรสาวด้วยใบหน้าทีเต็มไปด้วยรอยยิมอัน
แสนอ่อนโยน

เสียงพิณค่อยๆ เงียบลง มืออันเรียวยาวงดงามวางอยู่

79
บนพิณ

“เพราะมากเลย!” ฉินอีเหลียนพยายามอดทนกับการ
อยากหาวของตนเองและปรบมืออย่างสุดแรง

ฉินจินเฉินค่อยๆ เงยหน้าขึน มองใบหน้าซาลาเปาทีดู


เหมือนจะตังใจฟั งมากแล้วยิมพลางพูดด้วยเสียงอัน
ไพเราะว่า : “เหลียนเหลียนช่างให้เกียรติพีเฉินเสียจริง
เพลงนีเป็ นเพลงทีเจ้าไม่ชอบมากทีสุดเลยนะ”

ฉินอีเหลียนทีถูกจับได้แอบแลบลิน นางลุกขึนและเดิน
ไปหาฉินจินเฉิน พลางจับมือของเขาแล้วพูดอ้อนว่า : “พี
เฉิน เหลียนเหลียนเบือมาก ถ้าเช่นนันท่านพาเหลียน

80
เหลียนออกจากวัง แล้วเราไปหาพีชายกันเถอะ”

พอได้ยินคําร้องขอของลูกสาว อวินเฟยพลันขมวดคิว
แล้วตําหนิวา่ : “เหลียนเหลียน อย่าเหลวไหล”

องค์หญิงตัวน้อยทีหมดหวังทําปากจู๋ นัยน์ตาอันสว่าง
สดใสนันเต็มไปด้วยความรูส้ กึ เสียใจ

สายตาอันเรียบนิงของฉินจินเฉินทีมองนางนันเต็มไป
ด้วยความอ่อนโยน ไม่อยากให้นางเสียใจเช่นนีจึงพูด
ว่า : “ตอนนี พีชายของเจ้าไม่อยูใ่ นลัวตู แม้วา่ เจ้าจะ
ออกจากวังไปก็ไม่เจอเขาหรอก”

81
“พีชายไม่อยูใ่ นเมืองลัวตูหรือ? แล้วเขาไปไหนกัน” ฉินอี
เหลียนถามด้วยความสงสัย

“เขา......”

“เหลียนเหลียน เจ้าควรากลับไปพักได้แล้ว”อวินเฟย
พลันพูดขึนมาขัดจังหวะการพูดของฉินจินเฉิน แล้วเรียก
นางกํานัลในวังมาพาตัวฉินอีเหลียนทีท่าทางไม่ยินยอม
เดินออกไป

หลังจากทีฉินอีเหลียนออกไป สายตาของฉินจินเฉินก็หนั
กลับไปมองพิณของตนเองเหมือนเดิม

82
อวินเฟยวางผ้าทีกําลังปั กอยูล่ งแล้วเดินไปหาเขา

พอเดินมาข้างๆ ตัวเขา อวินเฟยก็กม้ หน้าลงมองและยก


มือขึนจับผมของเขา พลางพูดอย่างรักใคร่วา่ : “เฉิน
เอ๋อร์ เจ้าเคยรับปากกับข้าว่า จะไม่ไปแย่งชิงอะไรพวก
นันและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปทังชีวิต”

ฉินจินเฉินก้มหน้าลง ขนตาอันยาวงอนปิ ดบังความรูส้ กึ


ของเขา เขาพูดอย่างเย็นชาว่า : “ลูกไม่ลืม”

พอได้รบั การยืนยัน อวินเฟยก็โล่งใจ : “ไม่ลืมก็ดีแล้ว ข้า


รูว้ า่ เจ้ายังคํานึงถึงไมตรีทีคุณชายตระกูลมูเ่ คยมีให้แก่
เจ้า แต่เรืองบางเรืองดวงชะตาเราไม่อาจฝื น ข้าหวัง

83
เพียงให้เจ้ากับเหลียนเหลียนปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว”

“เสด็จแม่ลกู รู ้ อีกอย่าง.....” ฉินจินเฉินยิมอย่างคลุม


เครือ : “เหมือนว่าเขาจะลืมเรืองในอดีตไปแล้ว บางที
สําหรับเขาแล้วเรืองพวกนันอาจจะเป็ นเพียงเรืองเล็ก
น้อย”

“เจ้าปล่อยวางได้ ข้าก็ดีใจ” อวินเฟยพูดด้วยความเอ็นดู

ฉินจินเฉินเงยหน้าขึน เขายิมจางๆ ให้กบั อวินเฟย จาก


นันก็ลกุ ขึนพลางกอดพิณของตนเองแล้วเดินออกไป.....

84
ตอนที 81-1 มูช่ ิงเกอไม่ใช่คนไร้คา่ !

เมืองอี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นฉิน

ทีแห่งนีคือเมืองทีถูกปิ ดตาย ด้านซ้ายติดกับแคว้นถูที


เป็ นศัตรูคแู่ ค้นกับแคว้นฉิน ด้านขวาติดกับเทือกเขาฉิน
อันดุรา้ ย ในเวลากลางคืน สามารถได้ยินแต่เสียงสัตว์
ร้ายคํารามจากในหุบเขาฉิน

แคว้นถูและยอดเขาฉิน ล้อมเมืองอีเอาไว้ตรงกลาง กอง


ทหารตระกูลมูท่ ีประจําอยูท่ ีนีไม่เพียงพอ ไม่เพียงแต่ตอ้ ง
1
สังเกตความเคลือนไหวทียอดเขาฉิน แต่ยงั ต้องคอย
สังเกตการเปลียนแปลงภายในแคว้นถูทกุ วินาทีอีกด้วย

พืนทีทีมีความสําคัญทางการทหารแบบนี กลับ
ต้องกลายมาเป็ นพืนทีรกร้างเพียงเพราะความหวาด
ระแวงของฮ่องเต้

ทีนีไม่มีประชากรอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่เป็ นทีทีพาตัวนัก


โทษมาปล่อยไว้ในกองทัพตระกูลมูเ่ พือเป็ นทหารทาส

ในเมืองอี การใช้ชีวิตทังหมดต้องพึงตระกูลมูท่ ีอยูใ่ นลัวตู


ให้คอยขนย้ายปั จจัยพืนฐานในการใช้ชีวิตมาให้อย่างไม่
ขาดและทีแบบนีก็คือพืนทีศักดินาของตระกูลมู่

2
ในขณะทีมูช่ ิงเกอรูค้ รังแรกว่าพืนทีอันเลวร้ายแบบนีเป็ น
พืนทีศักดินาของตระกูลมู่ นางก็อยากจะตบหัวไอ้ฮ่องเต้
เฒ่าแล้วถามว่า : “ไอ้ฮ่องเต้สารเลว นีมันเจตนาดีตรง
ไหนกัน?”

โชคดีทีมูซ่ งเป็ นคนทีมีความอดทน ทนมาได้ถงึ สิบยีสิบปี

ตระกูลอืนๆ ทีมีพืนทีศักดินา ต่างก็ขดู เลือดขูดเนือของ


ประชาชนในพืนทีจนมังมี แล้วตระกูลมูเ่ ล่า? ไม่เพียงแค่
ไม่สามารถเก็บส่วยแต่ยงั ต้องเสียเงินให้กบั ทีแห่งนีอีก
ด้วย

3
ภายในเมืองอี ไม่มีรา้ นค้า มีเพียงค่ายของกองทหารและ
ป้อมปราการ

บนเทือกเขาทีเป็ นกําแพงสูงชัน ป้อมปราการทีสร้างเรียง


ตัวกันบนเทือกเขา ก็คือทีของเจ้าของเมืองแห่งนี ใน
ขณะเดียวกันก็เป็ นศูนย์กลางการสังการของค่ายทหาร
ตระกูลมู่

ทางทิศตะวันตกของป้อมปราการ จะเห็นทิวทัศน์ของ
แคว้นถู ทางขวาด้านนอกกําแพงเมืองทีคดเคียว คือ
อาณาจักรแห่งสัตว์ป่าทีผูค้ นไม่กล้าเข้าใกล้อย่างยอด
เขาฉิน

4
ในตอนนี เหนือท้องฟ้าในอาณาบริเวณของเมืองอีดัง
ก้องไปด้วยเสียงคํารามของสัตว์รา้ ยนับไม่ถว้ น ใน
อากาศและทัวทุกหนแห่งเต็มไปด้วยกลินคาวเลือด ทัง
ในและนอกเมืองถูกย้อมไปด้วยเลือด แขนขาทีขาด เศษ
เนือสามารถพบเห็นได้ทวทุ
ั กที

เปลวเพลิง โลหิต ส่องสะท้อนกัน ทําให้เมืองอีกลายเป็ น


นรกบนดิน

กลุม่ ควันหนาแน่นและไฟสงครามทีไม่มีทีสินสุด ทันใด


นันพลันมีเสียงแตรเขาสัตว์ดงั ขึนและกึกก้องไปทัวฟ้า
เมืองอี

5
จําไม่ได้วา่ เป็ นครังทีเท่าไหร่ทีเกิดการโจมตีจากสัตว์รา้ ย
แต่เมือมันเริมถอยกลับไป ก็ตอ้ งรีบอาศัยช่วงเวลาอัน
ยากทีจะมีนี ทหารตระกูลมูใ่ นเมืองอีทีในมือต่างถือ
อาวุธทีชํารุดผุพงั ก็จะปรากฏตัวขึนนังพักพิงทีกําแพง
เมืองและบนพืนดินอันหนาวเหน็บ

ทหารทีรับผิดชอบแจกอาหารหลังการสูร้ บสองคน ช่วย


กันยกกระบอกไม้ไผ่มาแจก*ชุยปิ ง (แผ่นแป้งนึง) ในนัน
ให้ทกุ คนทีละคน

แต่ทว่า สิงทีแจกจ่ายไปถึงมือของเหล่าทหาร ล้วนไม่ใช่


ชุยปิ งทีมีสภาพสมบูรณ์ แต่กลับเป็ นชุยปิ งทีถูกแบ่งครึง
แต่ละคนได้เพียงครึงชิน

6
พวกเขามองชุยปิ งทีมีขนาดเท่าฝ่ ามือ ทหารบางคนอด
ทนต่อความโกรธแค้นในใจ แล้วกินอย่างมูมมาม บาง
คนกําชุยปิ งไว้แน่น ให้มนั เป็ นเนือเดียวกันกับเลือดเนือ
ในมือของตนเอง

พวกเขาต้องเป็ นแนวหน้าเผชิญหน้ากับความตาย แต่


ท้องยังไม่ได้รบั แม้กระทังความอิม

นีมันเป็ นเพราะอะไรกัน!

ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ความแค้น
ความรูส้ กึ หลากหลายพุง่ เข้ามาหาพวกเขาดังสายนํา

7
หากไม่ใช่เพราะคนทีพวกเขาเคารพนับถือยืนอยูต่ รงนี
พวกเขาคงเลิกทําไปตังนานแล้ว

ทันใดนัน เพราะว่าพักสงคราม แต่ในบริเวณสนามรบที


เงียบสงบกลับมีเสียงเกือกม้าดังขึน

นีทําให้ทหารตระกูลมูท่ ีกําลังโหยหิวต่างลุกขึนและมอง
นอกกําแพงเมืองเป็ นตาเดียวกัน นีเป็ นม้าของคนส่งสาร
ของพวกเขาและเป็ นความหวังเดียวของพวกเขา

ข้างล่างของกําแพงเมืองทีสูงเสียดฟ้า คนส่งสารทีเนือตัว
เต็มไปด้วยฝุ่ นละอองลงจากหลังม้า เดินเข้ามายัง
กําแพงเมืองตรงป้อมปราการโดยไม่หยุดพัก

8
ทหารนับหมืนนับแสนของตระกูลมูต่ า่ งนิงเงียบ มองเขา
ทีเดินลับตาไป นัยต์ตานันเต็มไปด้วยความหวัง

“รายงาน——!”

ผูส้ ง่ สารตะโกนเสียงดังตลอดทาง เดินเข้าสูป้ อ้ มปราการ


อันเป็ นทีสังการกองทัพ

มูซ่ งทีกําลังสังเกตทิศทางสงครามเงยหน้าขึนมาอย่าง
กะทันหัน พลางมองผูส้ ง่ สารทีวิงเข้าประตูใหญ่มา
เพราะการวิงอย่างรวดเร็วทําให้เสือเกราะบนตัวของเขา
มีเสียงเหล็กกระทบกัน

9
“เป็ นอย่างไร?” มูซ่ งถามนิงๆ แต่ในสายตาทีดูเหนือยล้า
ของเขานันแสดงให้เห็นถึงความตืนเต้นจนหาทีสุดไม่ได้

ผูส้ ง่ สารเม้มปากแน่นพลางเงยหน้าขึน ในตาอันแดงกํา


นัน เต็มไปด้วยความทุกข์และกล่าวโทษตัวเอง เขาสบ
ดวงตาทีเต็มไปด้วยความหวังของมูซ่ งแล้วพูดด้วยความ
โกรธแค้นว่า : “ท่านแม่ทพั พวกเขาคิดจะบีบเราให้ตาย
ทีนี!”

“นีมันเกิดอะไรขึนกันแน่?” มูซ่ งสงสัยและรีบถาม

รองแม่ทพั ในชุดเกราะทหารตระกูลมูท่ ียืนอยูร่ อบๆ ต่าง

10
ก็เริมตึงเครียดขึนมาและมองผูส้ ง่ สารเป็ นตาเดียวกัน

ผูส้ ง่ สารปากสันไม่หยุด ในขณะเดียวกันก้อนเนือตรงอก


ซ้ายก็เร่งจังหวะการเต้น

เขาประสานมือทีมีแผลถลอกเข้าด้วยกันแน่น พลางพูด
กับมูซ่ งด้วยนําเสียงตะกุกตะกักว่า : “ข้าน้อยรับคําสังให้
ไปเร่งเสบียง ผลทีได้รบั กลับมาคือไม่มีเสบียงหลงเหลือ
อยูเ่ ลย ทังๆ ทีข้าน้อยเองเห็นกับตาว่าคนในเมืองฮันนัน
ผูค้ นรํารวยมังมี อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ เมือหา
ทางออกไม่ได้ สุดท้ายข้าน้อยจึงไปขอความช่วยเหลือ
จากแม่ทพั หานอวี แต่เขากลับบอกว่าเสบียงของพวก
เขาเองก็ไม่เพียงพอ กอรปกับทีไม่มีพระบัญชาจากองค์
ฮ่องต้ พวกเขาจึงไม่กล้าตัดสินใจโดยพลการ”
11
“ขุนศึกเล่า?” มูซ่ งถามเสียงแข็ง ในแววตาเต็มเปี ยมไป
ด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธแค้น

ไม่ใช่แค่เขา แต่บนใบหน้าของเหล่ารองแม่ทพั ก็เต็มไป


ด้วยความดุดนั เกิดความคิดอยากจะไปแย่งเสบียง
อาหารจากเมืองอืนๆ มา

“ขุนศึกอย่างนันรึ?” สายตาของผูส้ ง่ สารดูโกรธแค้น


มากกว่าเดิม : “ข้าน้อยไปขอความช่วยเหลือจากเขา
หลายรอบ แต่กลับถูกเขาปฏิเสธ โดยอ้างว่าเขากําลัง
เตรียมการอยูท่ กุ ครังไป ให้เราอดทนรอไปก่อน ข้าน้อย
ไม่เชือ จึงแอบสะกดรอยตาม กลับพบว่าเขาไม่ได้กาํ ลัง
เตรียมการอะไรทังนัน แต่หาความสําราญอยูท่ กุ วัน ไม่
12
ได้ไปเตรียมเสบียงอาหารให้กบั เหล่าทหารแต่อย่างใด
ด้วยความโกรธแค้นข้าน้อยจึงอดไม่ได้ทีจะไปหาเขา
อีกรอบ แต่กลับถูกโบย 20 ไม้ ท้ายทีสุดก็ถกู ไล่ออกมา”

“ไอ้บดั ซบ!”

“ไอ้เจ้าสัตว์เดรัจฉาน!”

“ไอ้เฮงซวย!”

คําพูดของผูส้ ง่ สาร ทําให้เหล่ารองแม่ทพั โกรธจนแทบจะ


ระเบิด

13
มูซ่ งหน้าเคร่ง เม้มปากจนเป็ นเส้นตรงไม่พดู อะไรสักคํา

“ท่านแม่ทพั เราส่งข่าวกลับไปทางคุณหนูหรงเถิด! ขืน


ยือไว้แบบนีต่อไป พวกเราเหล่าทหาร 5 แสนกว่านาย
อาจจะต้องตายอยูท่ ีนี” รองแม่ทพั คนหนึงอ้อนวอน

มูซ่ งส่ายหน้าอย่างทุกข์ใจ : “ข้าส่งข่าวไปทางลัวตูตงั


นานแล้ว แต่กลับไม่ได้รบั การตอบกลับอะไรเลย ไม่เพียง
แค่ทางฮ่องเต้ทีไม่ตอบกลับ แต่เหลียนหรงเองก็ไม่
ตอบกลับเช่นกัน”

“อะไรนะ!”

14
“เหตุใดถึงเป็ นเช่นนี!”

“ถ้าเช่นนี เมืองอีของเราก็โดนลอยแพแล้วใช่หรือไม่”

ทุกคนตืนตระหนก

“ไม่มีเสบียงอาหารแบบนี จะรบต่อไปได้อย่างไร” ใน
ขณะนีเองก็เริมมีคนหมดกําลังใจแล้ว

มูซ่ งหายใจเข้าลึกๆ ในอกนันเต็มไปด้วยความโกรธแค้น


พลางกล่าวด้วยสายตาเฉียบคมว่า : “ต้องรบ! หากพวก
เราพ่ายแพ้ แล้วประชาชนนับล้านทีอยูเ่ บืองหลังเราเล่า
จะทําอย่างไร? พวกเรากองทหารตระกูลมูไ่ ม่ได้ทาํ เพือ
15
ใคร ทีทําก็เพือประชาชนทีสนับสนุนพวกเราทังนัน!”

คําพูดของมูซ่ งทําให้ทกุ คนเงียบ

ในใจพวกเขาทังไม่ยินยอมและโกรธมาก แต่จะทําอย่าง
ไรได้ พวกเขาเป็ นลูกผูช้ ายผูแ้ ข็งแกร่งของตระกูลมู่ จะไม่
สนใจความเป็ นความตายของประชาชนได้อย่างไร

หากเมืองอีแตก ทางขอบทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ
แคว้นฉินก็ไม่เหลือพืนทีทีจะกันเหล่าสัตว์รา้ ยไม่ให้เข้าสู้
แคว้นได้แล้ว อีกอย่าง หากเมืองอีล่มสลาย หมดสินกอง
ทหารตระกูลมู่ แคว้นถูทีคอยจับจ้องแคว้นฉินอยูก่ ็คงจะ
ถือโอกาสโจมตีในตอนนัน

16
‘ฝ่ าบาท เหตุใดพระองค์ถงึ ดูไม่ออกนะ! กระหม่อมไม่
เคยมีจิตคิดเป็ นอืน เหตุใดพระองค์ถงึ ยังสงสัยในตัว
กระหม่อมเช่นนี?’ มูซ่ งเงยหน้าขึนโดยไม่พดู อะไร ได้แต่
กลํากลืนนําตาร้อนผ่าวทีกําลังจะเอ่อล้นออกมาไว้ในใจ

วู——!

เสียงแห่งการสูร้ บดังขึนอีกครัง

เสียงสัญญาณทีเกิดขึนอย่างกะทันหันนัน เป็ นสัญญาณ


บ่งบอกว่าการโจมตีกาํ ลังจะเริมต้นขึนอีกครัง

17
มูซ่ งตกใจ พลันรีบจัดการกับความรูส้ กึ ทีสับสนวุน่ วาย
ของตนเอง นําเหล่าทหารเดินออกจากห้องไป ยืนอยูบ่ น
กําแพงเมืองทีเต็มไปด้วยกลุม่ ควันสีดาํ

กรร——!

กรร กรร——!

อะวูว้ ——!

วูว้ ว——!

สัตว์นบั หมืนตัวรวมเสียงคําราม ราวกับทังพืนดินนีกําลัง


18
สันสะเทือน

ภายในยอดเขาฉินมีเหล่าสัตว์ทีไร้ซงความคิ
ึ ดรวมไปถึงมี
สัตว์วิญญาณมีพลังวิเศษทีมีความนึกคิดอันแรงกล้า แต่
ตอนนี กองทหารตระกูลมูท่ ียืนอยูบ่ นกําแพงเมืองกลับ
แยกไม่ออกเลยว่าตัวไหนเป็ นสัตว์ธรรมดาและตัวไหน
เป็ นสัตว์วิญญาณทีมีพลังวิเศษ

สิงทีอยูต่ รงหน้าพวกเขา คือเหล่าสัตว์รา้ ยทีกําลังจู่โจม


เข้ามาเรือยๆ อย่างบ้าคลัง สัตว์พวกนันหน้าตา
อัปลักษณ์ การเคลือนไหวว่องไว ในตาสีแดงกําบนร่าง
อันเต็มไปด้วยแรงมหาศาลนัน กําลังพุง่ เข้ามาพังทลาย
กําแพงเมืองอี อยากจะพังกําแพงเมืองอีเข้ามาเพือโจมตี
ภายในกําแพงแคว้นฉินอย่างโหดเ**◌้ยม
19
“ป้องกัน——!”

บนกําแพงเมือง มีเสียงสัญญาณดังไม่หยุด

กองทหารตระกูลมูท่ ีเหนือยล้าและหิวโหยเป็ นทีสุด ยืน


ขึนมาได้เพราะปณิธานอันแรงกล้า ในมือถืออาวุธทีแทบ
จะเป็ นของไร้ประโยชน์ พร้อมเริมสูร้ บ

ตอนนีธนูก็ไร้สนลู
ิ กศร คันธนูก็แตกหักไปแล้ว มีดดาบก็
เริมชํารุด หม้อทีต้มนํามันให้เดือดก็เหือดแห้งไปจนหมด
แล้ว ก้อนหินก้อนใหญ่ก็ถกู โยนลงไปหมดแล้ว

20
ไร้สนอาวุ
ิ ธและเสบียงอาหาร คํานีเป็ นคําจํากัดความ
สภาพของกองทหารตระกูลมูใ่ นตอนนี

21
ตอนที 81-2 มูช่ ิงเกอไม่ใช่คนไร้คา่ !

ทว่าตอนนี นอกกําแพงเมืองทีถูกพังทลายลงแล้วนัน ยัง


มีกองทัพสัตว์จาํ นวนนับไม่ถว้ น พยายามเข้ามาโจมตี
เข้ามา

“ท่านแม่ทพั พวกเราจะบุกเข้าไปสูต้ ายกับเหล่าสัตว์


เดรัจฉานพวกนี!” รองแม่ทพั ผูห้ นึงยืนนําตาคลออยู่
ข้างๆ มูซ่ ง เขาเห็นสภาพลูกน้องของตนเองร่างฉีกขาด
คากรงเล็บของสัตว์รา้ ยกับตา อดไม่ได้ทีจะตะโกนเสียง

22
ดังกับมูซ่ ง

สูต้ าย? สูอ้ ย่างไรเล่า?

มูซ่ งทําหน้าเคร่ง เม้มปากแน่น

แม้วา่ เขาเป็ นถึงสายนําเงินขันสูง แต่จะไปต้านทานกับ


สัตว์รา้ ยจํานวนนับไม่ถว้ นได้อย่างไรกัน อีกอย่างใน
บรรดาสิงสาราสัตว์ทงหลาย
ั ความสามารถของสัตว์ทีมี
พลังวิเศษนันแทบเทียบเท่ามนุษย์ ใครจะรูว้ า่ ท่ามกลาง
สัตว์นานาชนิดนี จะมีสตั ว์ทีมีพลังแฝงตัวอยูม่ ากเท่าไหร่

หากเขาเปิ ดประตูเมือง แล้วให้ทกุ ตัวกระโจนเข้ามา จุด


23
จบมีเพียงอย่างเดียวคือ กองทัพตระกูลมูด่ บั สิน เมืองอี
ตกสูอ่ นั ตราย

ตอนนี เพียงหนทางเดียวทีทําได้คือ คุม้ ครองกําแพง


เมืองเอาไว้ ไม่ให้สตั ว์รา้ ยเข้ามาได้ อีกทังต้องเร่งให้คน
ไปเร่งเสบียงมา เพือเป็ นการเพิมพลังในการสูร้ บ ไม่แน่
อาจจะสูใ้ ห้คราวนีผ่านไปได้ ถ้าไม่อย่างนัน คนพวกนี
ต้องตายเป็ นแน่!

“ทหาร!” อยูๆ่ มูซ่ งก็ตะโกนขึนมา

จากนันก็มีคนส่งสารมาคุกเข่าอยูต่ รงหน้าเขาในทันที

24
มูซ่ งจ้องเขม็งไปยังการต่อสูน้ อกกําแพงเมือง แรงสัน
สะเทือนจากกําแพงเมืองทีพังทลายลงเรือยๆ ไม่ได้เป็ น
จุดสนใจของเขาเลย

เขาพูดเสียงเข้มว่า : “อย่าหยุดสังการเร่งเสบียงอาหาร
หากมีใครขัดขวางก็จงฆ่ามันเสีย!” พูดจบ เขาก็โยนธนู
ของตนเองให้กบั ผูส้ ง่ สาร

ผูส้ ง่ สารออกไปในทันที สักพักมีผสู้ ง่ สารกลุม่ หนึง ขีม้า


มุง่ เข้าไปในเมืองฮันทีเป็ นเมืองใกล้เคียง

เมืองฮันเป็ นเมืองรํารวยทีมีอาณาเขตใกล้กบั เมืองอีมาก


ทีสุด ขุนศึกจากท้องพระโรงก็อยูท่ ีนัน มูซ่ งมองผูส้ ง่ สาร

25
จนลับสายตาไป เขาไม่เชือว่าผูน้ าํ ของเมืองฮันจะไม่รูจ้ กั
การช่วยเหลือพึงพาซึงกันและกัน

หากเมืองอีสินแล้ว เมืองฮันจะรอดหรือ?

มูซ่ งฝากความหวังทังหมดไว้กบั ผูส้ ง่ สาร แล้วพารองแม่


ทัพกลับไปยังห้องสังการ เพือหากลยุทธ์มายือเวลา

แต่วา่ ทุกคนต่างไม่มีอาหารและนํา

ขาดแคลนอาหารและอาวุธ กองทหารตระกูลมู่ เหน็ด


เหนือยทังกายใจ แล้วจะยือเวลาในการถูกสัตว์รา้ ยโจมตี
เพือรอเสบียงได้อย่างไร?
26
“สองวัน อย่างน้อยต้องยือเวลาไปให้ได้ถงึ สองวัน” นี
เป็ นระยะเวลาทีสันทีสุดในการใช้ไปกลับระหว่างเมืองอี
และเมืองฮัน หากการถ่ายทอดคําสังครังนีสําเร็จ อย่าง
น้อยทีสุดก็ตอ้ งใช้เวลาสองวันในการขนย้ายเสบียง
อาหารกลับมายังเมืองอี มูซ่ งบอกเวลาทีต้องการออกไป

แต่ทกุ คนกลับเงียบไป

สองวันรึ? อย่างว่าแต่สองวันเลย แค่สองชัวยามก็ไม่รูว้ า่


พวกเขาจะทนต่อไปได้ไหม

รองแม่ทพั ท่านหนึงพลันพูดทังนําตาว่า : “ท่านแม่ทพั

27
ทหารของเราสูร้ บมาหลายวันติด กัน แต่ไม่ได้กินอิมท้อง
มา 3 วันแล้ว อาวุธของพวกเขาเองก็ไม่อาจใช้ได้อีกแล้ว
หากเป็ นเช่นนีต่อไป เกรงว่าจะต้องยือเวลาโดยการใช้
ชีวิตแลกชีวิต ”

มูซ่ งหลับตาลงอย่างเจ็บปวดใจ เขาจะไม่รูเ้ หตุผลข้อนีได้


อย่างไร

แต่ทว่า แม้จะไม่มีวิธีก็ตอ้ งคิดหาวิธีให้จงได้

มูซ่ งปากสันเพราะแรงสะอืน เขาอยูก่ บั กองทัพและผ่าน


การสงครามมาแล้วนับครังไม่ถว้ น ครังนีถือว่าเป็ นครังที
เจ็บปวดและเสียใจมากทีสุด

28
เพราะว่า เขาไม่ได้แพ้เพราะศัตรูแต่กลับแพ้เพราะแคว้น
ทีเขาให้ความจงรักภักดี

“รายงาน! รายงานท่านแม่ทพั ท่านแม่ทพั เจินและท่าน


แม่ทพั ชิวขอเข้าพบขอรับ” อยูๆ่ ก็มีผสู้ ง่ สารมารายงาน
ข่าว

มูซ่ งลืมตาขึนในทันที : “เข้ามา” แต่ในใจกลับรูส้ กึ แปลก


ใจ เมือวานสองท่านนีบาดเจ็บสาหัสในขณะสูร้ บมิใช่
หรือ

ทันใดนัน แม่ทพั สองคนทีแขนขาเต็มไปด้วยผ้าพันแผลสี

29
ขาวและแดงเพราะเลือดก็เดินเข้ามา

มูซ่ งรีบลุกขึนมาต้อนรับ : “พวกท่านทังสอง เหตุใดถึงไม่


พักรักษาตัว มาทําอะไรทีนี”

ท่านแม่ทพั เจินและท่านแม่ทพั ชิวมองหน้ากัน จากนันก็


ประกบมือทังคูต่ รงหน้ามูซ่ ง

ท่านแม่ทพั เจินพูดว่า : “ท่านแม่ทพั ข้ามีวิธียือเวลา”

มูซ่ งตาเป็ นประกาย พลางถามอย่างตืนเต้นว่า : “วิธี


อะไร รีบพูดออกมา”

30
ท่านแม่ทพั เจินยิม : “วิธีของข้าก็คือ รวบรวมทุกคนที
บาดเจ็บนําโดยข้าทังสอง แล้วเปิ ดประตูเมืองออกไปสู้
กับสัตว์รา้ ยให้รูด้ าํ รูแ้ ดงกันไปเลย”

“เจ้าว่าอย่างไรนะ! ไม่ได้!” มูซ่ งปฏิเสธอย่างตืนตระหนก

จะให้เขาส่งทหารของตนเองไปตาย จะเป็ นไปได้อย่างไร

รองแม่ทพั คนอืนๆ เม้มปากเงียบ ในดวงตานันพร่าเลือน


ไปด้วยนําตา

ท่านแม่ทพั ชิวยิม : “ท่านแม่ทพั พวกข้าติดตามท่านมา


สิบกว่าปี มีความเป็ นความตายอะไรบ้างทีไม่เคยเผชิญ
31
ครังนี เป็ นการชีเป็ นชีตายของกองทัพตระกูลมูข่ องเรา
หากข้าสามารถสละตนเองเพือสร้างโอกาสได้ แล้วยังมี
อะไรทีจะต้องลังเลอีกเล่า อีกอย่าง ภายในค่ายของเรา
ไม่มียารักษาเลย แม้วา่ พวกเขาจะไม่ไป อีกไม่กีวันก็คง
จะกลายเป็ นคนพิการ เมือเทียบกันแล้ว ให้พวกข้าจาก
ไปอย่างยิงใหญ่ดีกว่า ”

“ไม่ รอก่อน ข้าให้คนไปเร่งเสบียงอาหารและยาแล้ว


พวกเจ้าจะไม่เป็ นอะไรหรอก” มูซ่ งอดทนต่อความเจ็บ
ปวดภายในใจ

ท่านแม่ทพั เจินหัวเราะพลางกล่าวว่า : “ท่านแม่ทพั นีไม่


ใช่ความคิดของพวกข้าทังสองคนหรอก แต่เป็ นความคิด
ของพีน้องทุกคนทีนอนอยูบ่ นเตียงในค่าย พวกข้านอน
32
ติดเตียงมาหลายวัน ได้ยินเสียงการสูร้ บของเหล่าพีน้อง
ในใจก็รูส้ กึ ละอายเป็ นอย่างมาก ท่านให้พวกข้ามีโอกาส
ได้ทาํ อะไรเพือกองทหารตระกูลมูอ่ ีกหน่อยเถิด”

มูซ่ งเม้มปากแน่น ไม่พดู อะไร

กัดฟั นจนไม่รูส้ กึ ถึงความเจ็บปวดแล้ว

……

ในระหว่างทางไปเมืองอี ฝุ่ นปลิวกระจายอยูเ่ หนือพืนดิน


มูช่ ิงเกอยังคงพาองครักษ์เร่งเดินทาง โดยไม่หยุดเลยแม้
แต่เสียววินาทีแม้กระทังในยามคําคืน
33
“คุณชาย อีกไม่กีชัวยามเราก็จะถึงเมืองอีแล้ว” องครักษ์
ทีคุน้ เคยเส้นทางนีซึงตอนนีอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอพูดขึน

มูช่ ิงเกอทําหน้าเคร่ง ค่อยๆ พยักหน้า

อยูๆ่ ตรงหน้าก็มีเสียงเกือกม้าดังขึนมา

ในเหล่าองครักษ์พลันมีคนทําให้มา้ ดีดขาขึน ซึงการ


กระทําแบบนีเป็ นผลจากการฝึ กทีดีเยียม และการตอบ
สนองทีดีมากทําให้ฉินอีเหยาทีตามมาตลอดทางรูส้ กึ
แปลกใจ

34
“คุณชาย เป็ นพวกมัวหยาง” เมือองครักษ์คนนันเห็น
อย่างแน่ชดั แล้วผูม้ าเป็ นใคร ก็รบี พูดกับมูช่ ิงเกอ

มัวหยางทีพาคนไปสํารวจทางและอยูด่ า้ นหน้ามาตลอด
ตอนนีได้กลับมาแล้ว แต่วา่ เกิดอะไรขึน?

มูช่ ิงเกอรูส้ กึ สงสัย จึงรีบขีม้าตามไป

“คุณชาย!” มัวหยางหยุดม้าตรงหน้ามูช่ ิงเกอ ใบหน้า


หล่อเหลาเย็นชาดังนําแข็งพลางพูดว่า : “พวกเราเจอศพ
ของผูส้ ง่ สารของกองทัพตระกูลมูข่ า้ งหน้าขอรับ”

ในสายตาของมูช่ ิงเกอดูเย็นเยียบ นางพูดอย่างเย็นชา


35
ว่า : “ไป”

ทันใดนัน ทุกคนก็มงุ่ ไปทางศพนัน

เกิดเรืองอะไรขึนแล้วจริงๆ หรือ?

ฉินอีเหยาตกใจ มองแผ่นหลังของมูช่ ิงเกออย่างกังวล


แล้วจึงรีบตามไป

ทันใดนัน มูช่ ิงเกอก็เห็นร่างของผูส้ ง่ สารแห่งกองทหาร


ตระกูลมูท่ ีมัวหยางบอก บนถนนนัน มีรา่ งจํานวนเจ็ดถึง
แปดร่างทีสวมใส่ชดุ ของกองทหารตระกูลมูน่ อนเกลือน
กลาดอยู่
36
ก่อนตาย พวกเขาได้ผา่ นการต่อสูท้ ีดุเดือดมา

แต่กลับไม่มีศพของอีกฝ่ าย ทําให้เห็นว่า ฝ่ ายศัตรูนนมี



กําลังเหนือกว่าพวกเขา

จะมีใครกล้าลงมือกับผูส้ ง่ สารของตระกูลมู่

มูช่ ิงเกอลงจากหลังม้าไปคุกเข่าตรงหน้าร่างไร้วิญญาณ
นันแล้วสังเกตอย่างละเอียด

สภาพร่างทียับเยิน ทําให้มชู่ ิงเกอรูว้ า่ สถานการณ์การ


รบของเมืองอีนันไม่ดีมากนัก ปากแผลทีเรียบเฉียบพวก
37
นัน ทําให้นางพอจะประเมินความสามารถของฝ่ ายศัตรู
ออก

“คุณชาย!” อยูๆ่ มัวหยางก็เรียกขึนมา

มูช่ ิงเกอลุกขึนยืน หันหลังไปเห็นมัวหยางถืออะไร


บางอย่างแล้วเดินมาหานางอย่างรวดเร็ว

มูช่ ิงเกอต้องจ้องมองของในมือของเขาโดยอัตโนมัติ

มีเหล็กชินหนึง ทีมีปลายแหลมเหมือนศรธนู ข้างบนมี


สลักอักษรคําว่า ‘มู’่ อยู่ : “คุณชาย นีเป็ นลูกศรธนูของ
นายท่าน ดูเหมือนว่าครังนีเมืองอีคงเกิดเรืองใหญ่ขนแน่

38
แล้ว เพราะไม่อย่างนันนายท่านคงไม่มอบธนูประจํากาย
ให้ผสู้ ง่ สารแบบนี”

มูช่ ิงเกอรับธนูจากมัวหยางมาและกําแน่น พลิกกายขึน


หลังม้าไป : “ไป”

ผูค้ นหลายร้อยคนขีม้าและมุง่ ไปทางเมืองอีอีกครัง ท้าย


ขบวน ต่างก็รูก้ นั จึงทิงคนไว้สองสามคนเพือจัดการกับ
ร่างของผูส้ ง่ สารตระกูลมู่

39
ตอนที 81-3 มูช่ ิงเกอไม่ใช่คนไร้คา่ !

ณ เมืองอี กําแพงเมืองทีคดเคียวซึงมีอาณาบริเวณติด

40
อยูก่ บั ยอดเขาฉินอันผ่านสมรภูมิรบกันมาแล้วนับครังไม่
ถ้วนจนกลายเป็ นพืนทีทีจมอยูบ่ นกองเลือด

นอกกําแพงเมือง กองทหารห้าหกหมืนนายทีกําลังบาด
เจ็บ ยืนรายเรียงกันเป็ นแถวอย่างเป็ นระเบียบเรียบร้อย
โดยมีทา่ นแม่ทพั เจินและท่านแม่ทพั ชิวเป็ นผูน้ าํ กลาย
เป็ นกําแพงมนุษย์เพือขวางกันไม่ให้เหล่าสัตว์เดรัจฉาน
เข้ามาโจมตีภายในอาณาบริเวณได้

ร้อยเมตรถัดจากนี เหล่าสัตว์เดรัจฉานจํานวนนับไม่ถว้ น
ค่อยๆ ทยอยเข้ามาเรือยๆ เหล่าทหารทียืนอยูบ่ ริเวณ
นอกเมืองราวกับเป็ นเพียงอาหารอันเลิศรสแค่มือเดียว
ในสายตาของพวกมัน

41
ท่านแม่ทพั เจินดึงมีดดาบออกมาแล้วชูขนฟ้
ึ า พลาง
หัวเราะอย่างแช่มชืน : “พีน้องเราจงฟั ง หากเราต่อสูก้ บั
คน แม้วา่ จะตายก็ยงั เหลือร่างไร้วิญญาณ แต่การสูก้ บั
สัตว์เดรัจฉานนัน เมือตายไปแล้วซากศพทีเหลืออยูน่ นั
อาจจะแยกไม่ได้วา่ ใครเป็ นใคร แต่ก็ไม่เป็ นไรเมือเหล่า
สัตว์รา้ ยกล้ากินพวกเรา เราก็ตอ้ งทําให้มนั อิมจนท้อง
แตกตาย เจอกันในนรกเราค่อยล้างแค้นพวกมันยังไม่
สาย!”

“โห่—”

คําพูดของท่านแม่ทพั เจิน เหมือนเป็ นการปลุกพลัง

42
พลังทีทหารหลายหมืนคนรวมพลังกัน ราวกับส่งผล
กระทบต่อชันบรรยากาศเหนือเมืองอี

มูซ่ งยืนมองภาพทังหมดอยูบ่ นกําแพงเมือง ความทุกข์


ในใจนันยากทีจะบรรยายออกมาเป็ นคําพูดได้ มือทีจับ
อยูบ่ นกําแพงแคว้นกําแน่นจนแทบจะทําให้เศษหินแตก
ละเอียดเป็ นเถ้าธุลี แสงสีนาเงิ
ํ นเจิดจ้าปรากฏขึนในฝ่ า
มือของเขา

การรวมพลังและอาวุธของกองทหารตระกูลมู่ ราวกับ
กําลังกระตุน้ ให้สตั ว์เดรัจฉานเหล่านันโมโห

43
สายตาของพวกมันพลันโหดเ**◌้ยม พวกมันกัดฟั น
คําราม จากนันก็พงุ่ เข้าหากองทัพทหารพิการเหล่านัน
ทันที

ท่ามกลางสัตว์เดรัจฉานทีกําลังจู่โจมเข้ามา สามารถเห็น
ได้ถงึ แสงประกายสีสม้ แดง เขียว คราม นําเงินอย่างต่อ
เนือง

เมือเห็นแสงพวกนัน ในสายตาของมูซ่ งพลันสินหวัง

เขารูว้ า่ ทหารพวกนีของเขาจะไม่อาจหวนคืนกลับมาได้
อีกแล้ว

44
“ทุกคนสู—
้ !” ท่านแม่ทพั ชิวและท่านแม่ทพั เจินชูอาวุธ
ในมือขึนสูง เพือนําทุกคนพุง่ เข้าหาสัตว์รา้ ยและเปิ ดฉาก
เผชิญหน้ากับพวกมัน

คนและสัตว์ทีพุง่ เข้าหากัน เป็ นภาพทีดูสบั สนวุน่ วาย แม้


จะทําให้ความกดดันของคนทีอยูบ่ ริเวณกําแพงแคว้นลด
น้อยลง แต่เหล่ากองทหารตระกูลมูท่ ียืนอยูบ่ นกําแพง
ต่างก็ทกุ ข์ใจ ในใจนันครําครวญอยูต่ ลอดเวลา นัยน์ตา
อันแดงกําเต็มไปด้วยความโกรธแค้นทีเห็นเหล่าพีน้อง
ทหารของตนเองถูกฉีกป็ นชินๆ แล้วกลายเป็ นอาหาร
ของพวกสัตว์เดรัจฉาน

เหล่าทหารทีเฝ้าคอยอยูท่ งซ้
ั ายและขวาของมูซ่ ง เห็น
ภาพเหล่านีทังหมดด้วยตาตนเอง
45
จนพวกเขาอดไม่ได้ทีอยากจะกระโดดลงไปสูก้ บั พวก
สัตว์เดรัจฉานพวกนันด้วยตนเอง

ทุกคนต่างก็วางมือไว้บนด้ามดาบทีอยูบ่ นเอว ในขณะ


เดียวกันก็มีแสงประกายสีตา่ งๆ สว่างวาบขึน

“ท่านแม่ทพั พวกเราก็สตู้ ายเถอะ!” มีทหารคนหนึงทีทน


ไม่ไหวอีกต่อไป ตะโกนเสียงดังพูดกับมูซ่ ง

“อ๊ากๆๆๆๆ——ให้ขา้ ลงไปเถิด ฮือๆๆ....”

“ไอ้พวกสัตว์เดรัจฉาน—สัตว์เดรัจฉาน”
46
“ท่านแม่ทพั ท่านสังการได้เลย ให้พวกข้าได้รว่ มรบกับ
เราพีน้องทหารทีอยูข่ า้ งล่างด้วยเถิด!”

เหล่าทหารต่างนําตานองหน้า ในใจนันได้ถกู เปลวไฟ


แห่งความโกรธเผาไหม้จนทําให้พวกเขาไร้สติ ในตอนนี
เพราะเขาไม่อยากจะไปสนใจประชาชนหรือแม้กระทัง
ชีวิตของตนเอง แล้ว คิดเพียงแต่จะกระโดดลงกําแพงไป
ร่วมเป็ นร่วมตายกับเหล่าพีน้องทหารของตนเอง

“ท่านแม่ทพั ....” รองแม่ทพั ทีอยูใ่ กล้มซู่ งทีสุด อดไม่ได้ที


จะนําตาไหล และหันไปมองเขา

47
ทันใดนันเขาก็พลันรูส้ กึ แปลกใจแล้วยืนมือไปหามูซ่ งใน
ทันที พลางตะโกนว่า : “ท่านแม่ทพั ! ท่านเป็ นอะไรไป!”

ร่างทีสง่าผ่าเผยและท่าทางอันแข็งแกร่งของมูซ่ ง ตอนนี
กลับดูโซซัดโซเซ เขายืนมือออกไปบังมือของรองแม่ทพั ที
ยืนเข้ามา แล้วใช้หลังมือเช็ดเลือดสดทีปากออก

เขาไม่ได้บาดเจ็บ แต่เจ็บใจจนกระอักเลือด

ให้เขาทนเห็นเหล่าทหารตนเองไปตายเพือยือเวลาให้กบั
คนทียังมีชีวิตอยู่ ความเจ็บปวดเช่นนีมากกว่าทีตัวเขา
เองต้องตายเป็ นพันเท่าหมืนเท่า

48
เมือทนไม่ไหวอีกต่อไป มูซ่ งก็กระอักเลือดสีแดงออก
มากลางอากาศ

“ท่านปู่ — ”

เสียงอันตืนตระหนกและเยือกเย็นดังขึน ทําให้มซู่ งเบิก


ตากว้างเงยหน้าขึนมองชายชุดแดงทีวิงมาทางกําแพง
เมืองในทันที

ทันใดนัน เขาพลันเบิกตากว้าง พูดด้วยนําเสียงดุดนั ว่า :


“เจ้ามาทําอะไร!”

มูช่ ิงเกอเม้มปากไม่พดู อะไร สายตากระจ่างเห็นแค่เลือด


49
ทีติดอยูต่ รงมุมปากของมูซ่ ง

คนทีตามหลังนางมา คือฉินอีเหยาและองครักษ์อีก 500


นาย กองทหารของเมืองอีก็ตามนางมาด้วย เพราะจะมา
รายงานแต่มาช้ากว่ามูช่ ิงเกอ

“ท่านปู่ !” มูช่ ิงเกอไปอยูข่ า้ งๆ มูซ่ งและพยุงตัวเขาไว้ใน


ทันที

“ข้าถามว่า เจ้ามาทําอะไรทีนี” ในสายของมูซ่ งมีความ


เยือกเย็นอยู่ พูดด้วยนําเสียงเคร่งเครียดทีอ่อนแรง

“ข้ามาหาท่านปู่ ของข้า” มูช่ ิงเกอตอบด้วยนําเสียงสงบ


50
นิง

“เจ้า!” มูซ่ งโกรธจนหัวใจเต้นถี ตอนนีเขาถึงค่อยเห็นฉิน


อีเหยาทีตามมาด้วย อยูๆ่ ตรงหน้าก็พลันมืดลงและรูส้ กึ
โมโหถึงขีดสุดในทันที

“ยุง่ ยาก! มาเพิมความยุง่ ยากรึไง! เจ้ารีบไสหัวกลับไป


เลยนะ!” มูซ่ งด่าอย่างรุนแรง

แต่วา่ ในเมือมูช่ ิงเกอมาแล้ว จะกลับไปง่ายๆ ได้อย่างไร

นางหันไปมองการรบนอกกําแพงเมือง เมือภาพเหล่า
ทหารพิการพวกนันสะท้อนเข้าไปในดวงตาของนาง นาง
51
ก็เบิกตาทีเต็มไปด้วยความตกใจและอึงงันออกกว้าง

“พวกเขา....พวกเขา....” ฉินอีเหยาทีเห็นฉากนี อุทาน


ออกมาด้วยความไม่อยากเชือ

ราวกับว่าเพราะเห็นฉากการสูร้ บจริงๆ กับตาทําให้ตก


ตะลึงไปและเหมือนกําลังมีคาํ ถามว่าทําไมทหารทีอยูใ่ น
สนามรบถึงเป็ นทหารทีพิการ

รองแม่ทพั ทีสังเกตเห็นว่ามูซ่ งอาการไม่คอ่ ยดีเป็ นคน


แรก ก็อาสาอธิบายว่า : “กองทหารตระกูลมูส่ รู้ บฟาดฟั น
ทีเมืองอีมานานหลายวัน เสบียงอาหารก็หมดไปตังนาน
แล้ว กองกําลังเสริมยังมาไม่ถงึ สักที ทหารพวกนีก็บาด

52
เจ็บจนไม่สามารถรักษาได้ เพือเป็ นการถ่วงเวลาให้กบั
พวกข้าเพือทีจะรอกําลังเสริม ทหารพวกนีจึงเสียสละ
ชีวิตของตนเอง ใช้ชีวิตแลกชีวิต” ประโยคตอนท้ายนัน
เขาสะอืนจนไม่สามารถพูดต่อไปได้แล้ว

“เป็ นอย่างนีได้อย่างไร?” ฉินอีเหยาเอามือปิ ดปาก ใน


สายตาทีเต็มไปด้วยความตกใจมีนาตาเอ่
ํ อล้นออกมา

นางคิดว่าตัวนางทีอยูใ่ นวังหลวงนัน สามารถรับรูไ้ ด้ถงึ


ความโหดเ**◌้ยมของการสงคราม แต่วา่ พอได้มาเห็น
เองกับตา กลับต้องตกใจเพราะกองทหารตระกูลมู่ ถูก
การสละชีพของเหล่าทหารพิการพวกนันทําให้สะเทือน
ใจ

53
“ทําไมกองกําลังเสริมยังไม่มา” มูช่ ิงเกอพูดเสียง
ตําด้วยนําเสียงอันเยือกเย็น

รองแม่ทพั อีกคนหัวเราะเยาะ : “พวกข้าส่งผูส้ ง่ สารไป


แล้วไม่รูเ้ ท่าไหร่ตอ่ เท่าไหร่ แต่คาํ ตอบทีได้ก็คือไม่มี
เสบียงอาหาร นีมันกําลังมีคนจงใจให้เป็ นเช่นนีชัดๆ
อยากยืมมือสัตว์เดรัจฉานพวกนีในการกําจัดพวกเรา
เหล่ากองทหารตระกูลมู”่

แววตากระจ่างของมูช่ ิงเกอพลันเยือกเย็นมากขึน

ด้านหลังตัวนาง คือเหล่าองครักษ์ทีมากับนางและพวก

54
เขาเองก็โกรธแค้นเพราะสนามรบอันนองเลือดตรงหน้า
มาตังนานแล้ว

เพียงแค่มชู่ ิงเกอสังการพวกเขาก็กล้าทีจะกระโดดลงไป
ท่ามกลางสัตว์รา้ ยและฆ่าสัตว์เดรัจฉานพวกนันเสีย !

“ก่อนทีท่านแม่ทพั เจินและท่านแม่ทพั ชิวจะออกจาก


เมือง ท่านแม่ทพั ได้ให้ผสู้ ง่ สารนําลูกศรประจํากายของ
ท่านแม่ทพั ไปขอเสบียงอาหารแล้ว ลองดูสวิ า่ จะยังมีใคร
กล้าเล่นสกปรกอีก!” รองแม่ทพั ทุบกําแพงเมืองอย่าง
แรงเหมือนเป็ นการระบายความโกรธเกลียดในใจ

ได้ยินประโยคนี นัยน์ตาของมูช่ ิงเกอก็มีประกาย

55
บางอย่างพาดผ่าน ธนูทีอยูต่ รงอกนันนางไม่ได้เอาออก
มา

“เกอเอ๋อร์ เจ้าพาองค์หญิงกลับไปก่อน” อยูๆ่ มูซ่ งก็พดู


กับมูช่ ิงเกอ ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความเด็ดขาด :
“หลังจากทีกลับไปแล้วก็รบี ไปหาท่านอาของเจ้า จากนัน
ก็ออกจากแคว้นฉินไปแล้วไม่ตอ้ งกลับมาอีก”

คําพูดนีของเขา เป็ นความลับมีแค่มชู่ ิงเกอเพียงคนเดียว


ทีได้ยิน

มูช่ ิงเกอมองเขา ในสายตาทีเต็มไปด้วยความมุง่ มันนัน


ทําให้นางรูส้ กึ ปวดใจ นางไม่รูว้ า่ นีเป็ นความรูส้ กึ ของตัว

56
นางเองหรือเป็ นความรูส้ กึ ของเจ้าของร่างคนเก่ากันแน่
แต่อย่างไรก็ตาม ในเมือนางมาถึงทีนีแล้ว นางจะไม่ยอม
ให้มซู่ งเป็ นอะไรแม้แต่นอ้ ย

นางยิมแล้วพูดกับมูซ่ งว่า : “ท่านปู่ ทหารในเมืองต่างก็มี


ฝี มือ ท่านยอมเห็นพวกเขาเดินเข้าสูจ่ ดุ จบของชีวิตได้
อย่างไร”

พูดจบ นางก็พลันสลัดหลุดจากการควบคุมของมูซ่ งใน


ทันที แล้วกระโดดข้ามกําแพงเมืองลงไป

57
ตอนที 81-4 มูช่ ิงเกอไม่ใช่คนไร้คา่ !

58
ภาพทีทุกคนเห็นคือคนในชุดสีแดงดังดอกอิงซู่ (ป๊ อปปี )
สีเลือดสด ลอยอยูก่ ลางอากาศลงไปด้านล่าง

“เกอเอ๋อร์——!” คนทีรูส้ กึ ตัวเป็ นคนสุดท้ายคือมูซ่ ง

เขายืนมือออกไป เหมือนอยากจะจับแขนเสือของมูช่ ิงเก


อเอาไว้และดึงนางขึนมา แต่เสียดายทีจับต้องได้เพียง
อากาศทีลอยทะลุผา่ นร่องนิวออกไป

ฟุบ——!

เสียงของมูซ่ งยังไม่ทนั ได้จางหายไป องครักษ์ทงั 500


59
นายทีตามมูช่ ิงกอมาก็ปีนขึนกําแพงมืองไป พลางโดดลง
กําแพงตามมูช่ ิงเกอไป

ทันใดนัน บนกําแพงเมืองอีก็เกิดแสงประกายส้มและ
เหลืองไม่ขาดสาย แสงพวกนันตกลงกลางอากาศและ
พุง่ เข้าสูส่ นามรบไป

“ปกป้องคุณชาย——!” มัวหยางตะโกนเสียงดัง ทหาร


ทัง 501 นายล้อมรอบมูช่ ิงเกอเอาไว้และปกป้องนางไว้
อย่างแน่นหนา

ภายในกําแพงเมืองก็พลันโกลาหลขึนมา

60
ภายในนัน คนทีตกใจทีสุดคือมูซ่ ง

แม้วา่ คนอืนๆ จะไม่รู ้ แต่เขากลับรูด้ ีทีสุดว่า องครักษ์หา้


ร้อยนายทีมูช่ ิงเกอพามานัน เมือ 3 เดือนก่อนหน้าคน
พวกนียังเป็ นเพียงสายแดง แต่ตอนนีต่างก็กลับกลาย
เป็ นสายส้มและเหลืองกันแล้ว!

นีมัน......นีมัน.......

ฉินอีเหยาทีได้สติจากความกลัว มองเงาร่างอันสง่างาม
ด้านล่างกําแพงแล้วกัดฟั น จากนันก็กระโดดตามลงไป

“องค์หญิง!” มูซ่ งยังคงคว้าเอาไว้ได้เพียงแค่อากาศ


61
จนเขาเกือบจะตามลงไปด้วย!

“ท่านแม่ทพั เราควรทําอย่างไรดี” รองแม่ทพั ทีอยูข่ า้ งๆ


ถามขึน

ปฏิเสธไม่ได้วา่ พวกเขาชืนชมกับการทีมูช่ ิงเกอกระโดด


ลงกําแพงมืองไป แต่พวกเขาก็ยงั ไม่ลืมว่า คุณชายนันไม่
สามารถฝึ กพลังเวทได้ เขากระโดดลงไปแบบนีไม่เท่ากับ
เป็ นการเอาอาหารไปสังเวยให้กบั สัตว์รา้ ยเพิมหรอกหรือ

แต่ พวกเขากลับลืมไปแล้วว่า มูช่ ิงเกอกระโดดลงไปก่อน


แต่กลับยืนอยูบ่ นพืนได้อย่างมันคง

62
มูซ่ งยังไม่ทนั ได้พดู อะไร ก็ได้ยินเสียงมูช่ ิงเกอดังขึนมา
จากด้านล่างกําแพงเมือง : “ปกป้องกับผีส!ิ ตามข้าเข้า
ไปโจมตี ช่วยชีวิตคนสิ!”

ไอ้เด็กจองหองนี!

มูซ่ งฟั งแล้วโกรธจนลูกตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า

เขาโน้มตัวลงบนกําแพงเมือง ขณะทีสติสมั ปชัญญะ


กําลังจะโดนอารมณ์กลืนกลินและเปิ ดประตูเมืองเพือจะ
ออกไปช่วยมูช่ ิงเกอนัน อยูๆ่ เขาก็พลันนิงอึงอยูก่ บั ที

63
มารดามันเถอะ ! นีเขาแก่จนตาฝาดไปแล้วหรือเปล่า!

เขาเห็นบนร่างกายของหลานชายของตนเองมีแสงสี
เขียวส่องประกาย เสียงสีเขียวนันเมืออยูท่ า่ มกลางพืนที
ทีเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดแล้ว ช่างดูโดดเด่นเป็ นทีสุด

มูซ่ งขยีตาอย่างไม่อยากจะเชือ เขามองมูช่ ิงเกออีกครัง


กลับเห็นแสงสีเขียวบนร่างกายของเขาไม่เพียงแต่ไม่ลด
ลงกลับยังเพิมมากขึน นีมันสายเขียวขันต้น!

“สายเขียว!” “คุณชายเป็ นถึงยอดฝี มือสายเขียว!”

“สวรรค์ช่วย! นีข้าฝันไปหรือเปล่า”
64
“ฮ่าๆๆๆๆๆ! คุณชายเป็ นถึงยอดฝี มือสายเขียว ความ
สามารถระดับนี ยังจะมีใครกล้าบอกว่าคุณชายเป็ นคน
ไร้คา่ อีก?”

“คุณชาย!”

“คุณชาย! คุณชาย!”

ด้านบนกําแพง เหล่ากองทหารตระกูลมูท่ ีได้สติตา่ งพา


กันร้องเสียงดังอย่างพร้อมเพรียง ราวกับว่านีเป็ น
เกียรติยศความภูมิใจของพวกเขา!

65
“เขา……ทําไมเขา……” ฉินอีเหยาอึงกับแสงสีเขียวตรง
หน้า

นางมองมูช่ ิงเกออย่างไม่อยากจะเชืออีกครัง นางตกใจ


จนลืมไปว่าตอนนีตนเองอยูท่ ีไหน

เขาเป็ นถึงสายเขียวเลยหรือ แล้วข้าทีเป็ นแค่สายเหลือง


ขันกลางคิดอยากจะมาปกป้องเขา?ช่างไม่เจียมความ
สามารถของตนเองเสียจริง ความรูส้ กึ ขัดแย้งเกิดขึนภาย
ในจิตใจของฉินอีเหยา วินาทีนี นางลืมความจริงทีว่ามู่
ชิงเกอเป็ นคนไร้คา่ ไปแล้ว ในขณะเดียวกันก็ลืมแม้
กระทังตังคําถามว่าทําไมเขาถึงกลายเป็ นยอดฝี มือสาย
เขียวไปได้ นางรูเ้ พียงว่า การทีนางอยูท่ ีนีตอนนีถือเป็ น
เรืองทีน่าตลกและเป็ นส่วนเกินมากเพียงใด
66
ฉึก——!

เลือดสีแดงสดเหม็นคาวกระจายอยูต่ รงหน้าฉินอีเหยา
ทําให้นางได้สติ

นางเงยหน้าขึน มองมูช่ ิงเกอทีอยูใ่ นระยะประชิดอีกครัง

มูช่ ิงเกอพูดอย่างเย็นชา : “ยืนอยูก่ บั ทีไม่โต้ตอบเช่นนี


อยากตายนักหรือไร?”

แม้คาํ พูดจะดูเย็นชาแต่กลับทําให้ฉินอีเหยารูส้ กึ อุน่ ใจ


ร่างของสัตว์รา้ ยทีอยูแ่ ทบเท้าตนเองในตอนนีแยกออก
67
จากกันเป็ น 2 ส่วน ‘เขายังคงเป็ นห่วงตนเอง จึงมาช่วย
ได้ทนั เวลาไม่ใช่หรือ?’ ความคิดนีทําให้ฉินอีเหยาได้สติ
กลับคืนมา ดาบยาวส่องประกายสีเหลืองในมือสะบัดที
หนึง แสงประกายวาดผ่านสัตว์รา้ ยทีจะลอบกัดมูช่ ิงเก
อจากทางด้านหลัง

ร่างของสัตว์รา้ ยขาดออกจากกันในทันที เลือดนัน


กระเซ็นโดนด้านหลังมูช่ ิงเกอราวกับฝนโลหิต ท่ามกลาง
ความดุเดือด มันเย้ายวนดังยาพิษและดูงดงามจนน่า
กลัว

แววตาของฉินอีเหยาประดับไปด้วยความกลัว แต่ก็ยงั
คงจัดการกับมันได้อย่างรวดเร็ว

68
นางกําดาบยาวไว้แน่น พลางไปอยูข่ า้ งหลังของมูช่ ิงเก
อ เพือป้องกันการจู่โจมของศัตรูจากทางด้านหลัง

ท่าทางรูใ้ จโดยไม่ตอ้ งเอ่ยคําพูดนี ทําให้มชู่ ิงเกอมองนาง


แวบหนึง แววตาส่องประกายเข้าใจ แสงสีเขียวในมือ
เคลือนไหวอีกครัง

มูช่ ิงเกอเป็ นสายเขียวและยังเข้าใจทักษะการสังหารใน


แต่ละรูปแบบเป็ นอย่างดี

ทุกครังทีลงมือ ก็จะสามารถดับชีวิตหนึงลงได้

69
ข้างหลังยังมีฉินอีเหยาคอยเฝ้าระวัง ท่ามกลางความ
ร่วมมือของทังสองทําให้ทางเดินทีพวกนางแหวกเข้าไป
เต็มไปด้วยเลือดในทันทีและองครักษ์ทงั 500 นายของ
นางทีมีมวหยางเป็
ั นผูน้ าํ ก็ทาํ งานกันเป็ นกลุม่ ต่างคน
ต่างแยกออกจากกันเป็ นห้ามุมแล้วทําการสังหาร
ทะลวงเข้าสูส่ นามรบราวกับสว่านและค่อยๆ แบ่งแยก
สนามรบทีสับสนวุน่ วายให้ออกเป็ นสัดส่วนได้อย่าง
ชัดเจน

ปฏิกิรยิ าทีว่องไวดุดนั และการปฏิบตั ิการทีไม่ยืดเยือเช่น


นีทําให้มซู่ งทีอยูบ่ นกําแพงแปลกใจ

เขาไม่อยากจะเชือเลยว่าเวลาเพียงสามเดือน หลานชาย
ของเขาทีใครๆ ต่างบอกว่าเป็ นจอมเสเพลไร้คา่ จะ
70
สามารถฝึ กทหารธรรมดาให้มีความสามารถได้ถงึ เพียงนี

ยิงไปกว่านัน อาวุธหน้าตาแปลกประหลาดในมือของ
พวกเขานันมันอะไรกัน?

มูซ่ งทีสายตาเฉียบคมเห็นนานแล้วว่าบนสนามรบนันมี
อาวุธทีมีความสามารถแปลกประหลาดอยูแ่ ละสิงทีน่า
แปลกกว่านันคืออาวุธพวกนีเมืออยูใ่ นมือของเหล่า
องครักษ์ของมูช่ ิงเกอจะเพิมประสิทธิภาพมากขึนถึงห้า
เท่า

แทบจะในพริบตา เหล่าทหารพิการทียังเหลือรอดอยู่ ก็
ถูกรวบรวมให้อยูด่ า้ นหลังขององครักษ์ทงั 500 นาย

71
มูซ่ งตาเป็ นประกายยกมือขึนพลางตะโกนว่า : “เปิ ด
ประตูเมือง แล้วไปรับเหล่าพีน้องทหารของพวกเราเข้า
มา!” ในขณะเดียวกันเขาก็ชกั กระบีของตนเองออกมา
กระโดดลงกําแพงและเข้าสูส่ นามรบไป

หลานชายของตนเองกําลังเผชิญหน้ากับการฆ่าฟั นกัน
ในสงคราม เขาทีเป็ นท่านปู่ จะแอบอยูใ่ นเมืองเหมือนเต่า
ในกระดองได้อย่างไร

มูซ่ งไม่ได้สงการให้
ั ออกโจมตี เขาเพียงกระโดดลงไปคน
เดียว เป็ นตัวแทนของตัวเขาเองไม่ใช่ตวั แทนจากกองทัพ
ตระกูลมู่

72
แต่เขาทีเป็ นผูน้ าํ สูงสุดกระโดดลงไป แล้วคนทีเหลือจะ
ทนต่อไปได้อย่างไร?

ในขณะทีมูซ่ งกระโดดลงไป เหล่ารองแม่ทพั ต่างก็


กระโดดลงไปเช่นกัน ทหารทีเฝ้าประตูพลางเปิ ดประตู
เมืองเพือรับคนเจ็บเข้ามาและเข้าสูส่ นามรบ

ในชัวขณะ การออกไปเพือคุม้ กันในตอนแรกกลับกลาย


เป็ นการโจมตี

ความเลือดร้อนของมูช่ ิงเกอจุดประกายความบ้าคลัง
ภายในจิตใจของกองทัพตระกูลมู่ พวกเขาเข้าสูส่ นามรบ

73
อย่างรวดเร็วดังลมพายุ จนลืมไปแล้วว่าดาบและอาวุธ
ในมือนันทือจนไม่สามารถตัดอะไรได้แล้ว ในขณะเดียว
กันก็ลืมไปว่าหลายวันทีผ่านมานีพวกเขาไม่ได้กินอิมเลย
แม้แต่มือเดียว

อาวุธไม่คม พวกเขาก็พร้อมจะใช้ฟันของตนเอง

กองทหารตระกูลมูท่ ีทิงอาวุธในมือ ใช้ฟันในการฉีกเนือ


ของสัตว์รา้ ยออกเป็ นชินๆ โดยไม่สนใจร่างกายชุ่มโชกไป
ด้วยเลือดของตนเอง

นีเป็ นการประชันความป่ าเถือนกันโดยแท้

74
ณ ทีแห่งนี ไม่มีการแบ่งแยกคนหรือสัตว์อีกต่อไป มี
เพียงแพ้หรือชนะเท่านัน

มูช่ ิงเกอยิงลงมือฆ่านัยต์ตายิงนิงสงบ ก่อนทีจะมานางรู ้


มาจากมูเ่ หลียนหรงว่า การโจมตีของสัตว์ครังนีนันไม่
ธรรมดา พอได้มาเห็นกับตาถึงทีนี ก็ยงรู
ิ ส้ กึ เห็นด้วย

สัตว์พวกนี พุง่ เข้ามาโจมตีเมืองอีอย่างไม่สนใจอะไรทัง


สิน

อะไรทีสามารถยัวให้พวกมันคลังได้ถงึ เพียงนี?

แล้วนางจะหยุดการโจมตีนีได้อย่างไรกัน?
75
จะฆ่าสัตว์รา้ ยเหล่านีให้หมด? นันย่อมไม่มีทางเป็ นไป
ได้ สัตว์รา้ ยพวกนีไม่ได้มีเพียงพันหรือหมืนตัว อย่าว่าแต่
นางทีเป็ นสายเขียวเลย ถึงแม้วนั หนึงนางได้กลายเป็ น
สายม่วง แล้วให้สตั ว์พวกนีเรียงแถวกันมาให้นางฆ่าทีละ
ตัว ใช้เวลาเป็ นร้อยปี ก็ยงั ฆ่าไม่หมดเลย

มือของมูช่ ิงเกอพุง่ เข้าเสียบตรงหัวใจของสัตว์รา้ ยราวกับ


ดาบอันแหลมคม

ฉินอีเหยาเริมรูส้ กึ หมดแรง แต่ก็ยงั คงปกป้องมูช่ ิงเก


อจากข้างหลังอย่างสุดความสามารถ

76
องครักษ์ทงั 500 นาย คอยคุมกันนางจากรอบด้าน

โชคดีทีเหล่าทหารพิการถูกนําตัวกลับมาแล้ว มูซ่ งบ
ดขยีสัตว์วิญญาณสายเหลืองตัวหนึงจนเป็ นผุยผงแล้ว
เงยหน้าขึนมอง กลับเห็นคนชุดแดงอยูใ่ นระยะไกลๆ

เขาตกใจ รีบร้องเรียก : “เกอร์เอ๋อร์ กลับมา— ”

เสียงนันลอยมาเข้าหูของมูช่ ิงเกอ นางได้ยิน แต่ไม่


สามารถปลีกตัวออกไปจากทีนันได้

ครังนี นางสร้างพลังใจจากความทุกข์ใจของกองทหาร
ตระกูลมู่ โดยคําพูดทีว่า ผูต้ กอับมักจะมีแรงผลักดันใน
77
การต่อสูจ้ นได้มาซึงชัยชนะ เมือกองทัพตระกูลมูเ่ ห็น
บรรดาทหารพิการทีต่อลมหายใจให้กบั พวกเขา ในใจ
ของพวกเขาก็เต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความโกรธแค้น

เพราะฉะนันด้วยแรงกระตุน้ ของนาง จึงสามารถทําให้


เหล่าทหารระเบิดประสิทธิภาพในการรบออกมาได้

แต่หากถอยตอนนี ไม่นานสัตว์รา้ ยก็จะโจมตีมาอีก ถึง


ตอนนันจะยังรวบรวมกําลังในการรบอีกครังได้หรือไม่
นันก็ยงั พูดได้ยาก

นางไม่ลืมว่า กองทหารตระกูลมูไ่ ม่ได้กินอะไรมาหลาย


วันแล้วและในมือต่างก็ไม่มีอาวุธใดๆ เลย

78
ยิงไปกว่านัน นางไม่ลืมว่า ผูส้ ง่ สารทีมูซ่ งส่งออกไปนัน
ตายไปตังนานแล้ว ลูกศรประจํากายของมูซ่ งก็อยูท่ ีอก
ของนาง ไม่มีทางมีกาํ ลังเสริมมาช่วยแน่

เพราะฉะนันครังนี นางจะต้องทําให้พวกสัตว์เดรัจฉาน
พวกนันรูจ้ กั กลัวให้ได้ ทําให้พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้เมือง
อีอีกภายในเวลาอันใกล้นี

ในส่วนลึกของดวงตา เปล่งประกายความมุง่ มัน

ความว่องไวในมือของมูช่ ิงเกอเพิมมากขึนว่าเดิม

79
“ชิงเกอ เราคงเข้าไปลึกกว่านีไม่ได้แล้ว” ข้างหูมีเสียงอัน
ตืนตระหนกของฉินอีเหยาดังขึน

เป็ นครังแรกทีต้องสูร้ บอย่างจริงจังขนาดนี ทําให้องค์


หญิงในวังอย่างนางขาชาไปตังนานแล้ว บนตัวยังอาบ
ชุ่มไปด้วยเลือด ใบหน้าตอนแรกทีเยือกเย็นดังภูเขานํา
แข็ง ยามนียิงเหมือนเทพธิดาแห่งสงครามมากกว่าเดิม

มูช่ ิงเกอหยุดเดินและเรียกเสียงดัง : “มัวหยาง”

หลังจากทีหันหลังกลับไปสังหารหมาป่ าเสร็จเรียบร้อย
แล้ว มัวหยางก็รบี กลับมาอยูข่ า้ งกายมูช่ ิงเกออย่างรวด
เร็ว

80
“พาองค์หญิงไป และพวกเจ้าทุกคนถอยทัพไป” มูช่ ิงเก
อสังการด้วยนําเสียงเย็นเยียบ

มัวหยางตกใจ แต่ก็ตอบรับคําสังในทันที

ฉินอีเหยาใช้แรงทีมีในการจับแขนของนางเอาไว้ พลาง
พูดว่า : “เจ้าจะทําอะไร?”

มูช่ ิงเกอใช้แววตาเรียบนิงมองนาง พลางถามว่า : “เจ้า


จะยอมเชือข้าหรือไม่”

ฉินอีเหยาพูดอะไรไม่ออก แววตากระจ่างคูน่ นั ทําให้นาง


81
ไม่กล้าทีจะปฏิเสธ นางรูส้ กึ ว่าหากเป็ นคําพูดทีมูช่ ิงเก
อพูดและการตัดสินใจทังหมดของมูช่ ิงเกอทังหมดล้วน
แล้วแต่จะกลายเป็ นความจริง

เมือได้สติ นางจึงพยักหน้า

มูช่ ิงเกอยิมพลางพูดนิงๆ : “หากเชือมันในตัวข้าก็ออกไป


พร้อมกับพวกเขาก่อน เรืองทีข้าจะทําต่อไปนี หากมีเจ้า
อยูข่ า้ งๆ จะไม่สะดวก”

ฉินอีเหยาคลายมือออกจากแขนทังสองข้างของมูช่ ิงเกอ

ในขณะนันเอง มูช่ ิงเกอก็รอ้ งเรียก : “มัวหยาง”


82
มัวหยางเม้มปาก ดึงตัวฉินอีเหยาถอยหลังไป

หากจะติดตามมูช่ ิงเกอ ข้อแรกทีต้องเรียนรูค้ ือ ต้องทํา


ตามคําสังโดยไม่มีขอ้ ยกเว้น

องครักษ์ทงั 500 นายค่อยๆ ถอยทัพด้วยความแปลกใจ


เหลือเพียงแค่มชู่ ิงเกอคนเดียวทีอยูท่ า่ มกลางสัตว์รา้ ย
และยังคงสังหารต่อไป

ท่ามกลางเหล่าสัตว์รา้ ยจํานวนมากคอยบดบัง มูซ่ งเห็น


องครักษ์ถอยทัพกลับมา จึงคิดว่ามูช่ ิงเกอจะเป็ นหนึงใน
นัน ใจทีกังวล ค่อยๆ ผ่อนคลายลง

83
ในขณะนันเอง เหล่าสัตว์รา้ ยพลันบ้าคลังกว่าเดิมและ
ระบายความเคียดแค้นทุกอย่างลงบนตัวของมนุษย์ทียัง
อยูต่ รงใจกลาง

ชุดสีแดงอันงามสง่า ร้อนแรงดังเปลวเพลิง เจิดจ้าดังดวง


อาทิตย์ ฝ่ ามือนางพลิกอย่างรวดเร็วปลิดชีพสัตว์รา้ ย
ด้วยท่าทางสงบนิง

หลังจากทีมันใจแล้วว่า ฉินอีเหยาและคนอืนๆ เดิน


ห่างออกไปไกลแล้ว มูช่ ิงเกอก็เก็บฝ่ ามือกลับมา มุมปาก
เผยรอยยิมโอหังชัวร้าย ดูอนั ตรายแต่ก็น่าดึงดูด : “ให้
พวกเจ้าได้รูถ้ งึ ความหวาดกลัวเสียบ้าง”

84
พอพูดจบ นางก็ผายมือทังสองข้างออก สิบนิวพลิกอย่าง
รวดเร็ว ใช้มือต่างดาบ เพือเป็ นการรวมพลังวิญญาณ
จากฟ้าดิน กลินอายอันลึกลับน่ากลัวเคลือนตัวตําลงมา
จากท้องฟ้า ราวกับถูกนางเรียกให้ลงมา......

เปรียงๆๆ—

ทันใดนันก็พลันมีเสียงฟ้าร้องฟ้าแลบดังขึนเหนือบนท้อง
ฟ้าเมืองอี

เสียงฟ้าผ่า ทําให้มซู่ งต้องเงยหน้าขึนมอง

85
ตอนนี มัวหยางและทุกๆ คนกลับมายังประตูเมืองแล้ว

มูซ่ งรีบไปหามูช่ ิงเกอท่ามกลางผูค้ น แต่กลับไม่พบ

“มัวหยาง เจ้านายของเจ้าล่ะ?” มูซ่ งดึงตัวมัวหยางไว้


แล้วถาม

มัวหยางหันไปมองจุดกึงกลางฝูงสัตว์เดรัจฉานด้วยใบ
หน้าไม่สดู้ ีนกั : “คุณชายสังให้พวกข้ากลับมาก่อนขอ
รับ”

“อะไรนะ!” มูซ่ งได้ยินแล้วตกใจจนลูกตาแทบจะทะลุ


ออกมา เกือบจะบีบมัวหยางให้ตายคามือ
86
ยามนี ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ท้องฟ้าสดใสปลอดโปร่งใน
ตอนแรก ถูกกลุม่ เมฆสีดาํ บดบัง ก้อนเมฆลอยตําจน
เหมือนจะกระทบพืนดินอย่างไรอย่างนัน

87
ตอนที 81-5 มูช่ ิงเกอไม่ใช่คนไร้คา่ !

ปรากฏการณ์แปลกประหลาดนี ทําให้กองทหารตระกู
ลมูล่ ืมว่าตนเองกําลังทําอะไรอยูแ่ ละเงยหน้าขึนมองบน
ท้องฟ้า ไม่เว้นแม่แต่มซู่ ง

บรรดาสัตว์รา้ ยก็คอ่ ยๆ สงบลง แต่พวกมันยังคงล้อม


รอบมูช่ ิงเกอไม่ไปไหน

88
อยูๆ่ สัตว์รา้ ยจํานวนนับไม่ถว้ นก็พลันออกมาจากทัวทุก
สารทิศ บนร่างกายของพวกมันมีแสงประกายสีคราม
กระทังบางตัวยังเริมเข้าระดับสีมว่ งแล้ว

สัตว์รา้ ยทีมีความสามารถอยูใ่ นขันตําต่างถอยหลังไป


เหลือไว้เพียงแต่สตั ว์วิญญาณทีมีพลังเหนือกว่ามูช่ ิงเกอ

สายตาอันเยือกเย็นไร้เมตตาของพวกมัน กําลังจ้องมอง
มาทีมูช่ ิงเกอ

ชุดสีแดงสดดังโลหิตสีแดง เป็ นสิงเดียวทีสะท้อนอยูใ่ น


แววตาของพวกมัน

89
ฟั นอันแหลมคมของมันมีเลือดเนือติดอยู่ กรงเล็บทีคม
กริบและหน้าตาอันโหดเ**◌้ยมพวกนันรายล้อมตัวมูช่ ิง
เกอไว้

มูช่ ิงเกอยิมเย็นในใจ คิดไม่ถงึ ว่าตนเองจะดึงดูดสัตว์ทีมี


ความสามารถมาได้มากถึงเพียงนี ในเมฆครึมสีดาํ สนิท
สายฟ้าแลบส่องประกายให้เห็นเป็ นระยะ

ราวกับว่า ขุมพลังได้ถกู รวบรวมเอาไว้จนพร้อมแล้ว ขอ


เพียงแค่มชู่ ิงเกอสังการมาคําเดียว ก็จะร่วงหล่นลงมา
จากฟากฟ้า

อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็พลันรูส้ กึ ว่าข้างหูของตนเองมีสายลมพัด

90
ผ่าน เงาคนในชุดสีดาํ ผูห้ นึงปรากฏตัวขึนตรงหน้านาง

“เจ้าเองรึ!” มูช่ ิงเกอเบิกตากว้าง นางรูจ้ กั คนผูน้ ี เขาเป็ น


องครักษ์ของคุณตัวประหลาด ผูท้ ีเคยปรากฏตัวในวัง
หลวงคนนัน

กูหยามองมูช่ ิงเกออย่างปวดหัว รับรูถ้ งึ กลินอายความ


ร้ายแรงของกระแสสายฟ้า พูดอย่างหนักแน่นว่า : “ท่าน
ประมุขให้ขา้ อยูท่ ีนี เพือดูแลเจ้าอยูห่ า่ งๆ ด้วยความ
สามารถของเจ้าแล้ว แม้จะสามารถทําให้เกิดพันสายฟ้า
ได้ แต่ก็อาจจะหมดแรงจนเสียการควบคุม ความ
สามารถระดับเจ้าตอนนี หากใช้พนั สายฟ้า ก็ไม่อาจบด
ขยีสัตว์วิญญาณทังหมดในทีนีได้ ถึงตอนนันเจ้านัน
แหละทีจะกลายเป็ นอาหารของพวกมัน ข้าจะพาเจ้า
91
ออกไปจากทีนีก่อน”

มูช่ ิงเกอหรีตา พลางส่ายหน้าปฏิเสธ : “ข้าไปไม่ได้”

กูหยาขมวดคิว พูดอย่างจริงจังว่า : “เจ้ากําลังเอาชีวิต


ตัวเองมาล้อเล่นนะ”

อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็ยมิ : “ยังมีเจ้าอยูไ่ ม่ใช่หรือ? หากข้าหมด


แรงแล้ว เจ้าค่อยพาข้าออกจากทีนีก็ยงั ไม่สายไม่ใช่
หรือ?”

กูหยาพูดอะไรไม่ออก

92
ความเอาแต่ใจของมูช่ ิงเกอ ทําให้เขารูส้ กึ หมดแรง

แต่วา่ เขาจะทําอย่างไรได้

ดังนัน เขาทําได้เพียงระบายความอึดอัดภายในใจบน
ร่างของสัตว์รา้ ยพวกนัน

ตอนแรก การทีเขาอยูๆ่ ก็ปรากฏตัว ทําให้สตั ว์รา้ ยบาง


ตัวเริมระวังตัว แต่การทีเขาพุง่ เข้าไปจู่โจม กลับทําให้
สัตว์พวกนันโกรธ พุง่ เข้าหาเขาอย่างไม่คิดชีวิตและ
อยากจะฉีกเขาออกเป็ นชินๆ

มีกหู ยาออกมารับหน้าอีกคนทําให้สตั ว์รา้ ยพวกนันเริม


93
เบนความสนใจไปหาเขา ความกดดันทีมูช่ ิงเกอต้องรับก็
น้อยลง นางรวบรวมพลังวิญญาณทังหมด พลัง
วิญญาณสีเขียวในมือเหมือนมีผา้ ผืนบางเบาบดบังอยู่

เปรียงๆๆ—

เสียงฟ้าแลบ ทําให้มชู่ ิงเกอเงยหน้าขึนผมสีดาํ ปลิวสยาย

“พันสายฟ้า— ”

เมือสินเสียง งูสายฟ้าตัวเล็กๆ ก็เกิดขึนบนก้อนเมฆสีดาํ


จากนันก็พงุ่ ลงเข้าหาสัตว์รา้ ยพวกนันทันที

94
กรรรจ์—

โฮกกก!—

สัตว์รา้ ยทีโดนสายฟ้าต่างก็รอ้ งโหยหวนด้วยความเจ็บ


ปวด บางตัวก็ตายไปโดยไม่มีแม้กระทังโอกาสจะได้รอ้ ง

ภาพอันน่าตืนตะลึงนี ทําให้มนุษย์ทกุ คนทียืนอยูต่ รง


กําแพงเมืองนิงอึง

ภาพดังวันสินโลกนี ทําให้พวกเขาจ้องมองคนชุดแดงดัง
เปลวเพลิงโดยไม่ละสายตา

95
หลังจากการโจมตีในครังแรก ใบหน้าของมูช่ ิงเกอก็เริมดู
ขาวซีด ริมฝี ปากไร้ซงสี
ึ เลือด

กูหยาพลันมาปรากฏตัวทีข้างกายนาง เอ่ยปากเตือน แต่


สายตานันยากจะปกปิ ดความตืนตะลึงไว้ได้ : “ใช้พนั
สายฟ้าเป็ นวงกว้างขนาดนี พลังของเจ้าเสียไปมากแล้ว
ห้ามลงมืออีก ข้าจะพาเจ้าออกไปจากทีนี!”

มูช่ ิงเกอส่ายหน้า เม้มปากแน่นพลางพูดว่า : “ข้ายังใช้


พลังได้อีกครัง!” หากไม่ทาํ ให้สตั ว์เดรัจฉานพวกนันกลัว
พวกมันจะยอมแพ้และล้มเลิกความคิดทีจะโจมตีเมืองอี
ได้อย่างไร

96
พูดจบ นางก็รวบรวมพลังวิญญาณทียังเหลืออยูใ่ นร่าง
อีกครัง เพือขับเคลือนเคล็ดวิชาระดับสวรรค์ขนสู
ั ง—พัน
สายฟ้า

สายฟ้าผ่าลงกลางพืนดินอีกครัง แต่ครังนีเหมือนจะเบา
กว่ารอบแรกหลายเท่า ความเยือกเย็นในแววตาของมูช่ ิง
เกอไม่ลดน้อยลงเลย มือทังสองข้างทีกําอยูก่ ็ยงั คงมีสาย
ฟ้าวิงผ่านไปมา

แม้พลังวิญญาณจะหมดไป แต่นางยังมีความสามารถ
ของนางอยู!่ นางไม่เชือว่านางจะทําให้สตั ว์เดรัจฉาน
พวกนีกลัวไม่ได้!

97
……

ส่วนลึกทีสุดของหุบเขาฉิน ซึงเป็ นศูนย์กลางของทีนี

ทีทีควรจะเป็ นทีอยูข่ องสัตว์ในตอนแรก ในยามนีกลับไม่


เห็นสัตว์วิญญาณสักตัวกระทังกลินไอก็ไม่มีแม้แต่นอ้ ย

ภายในหลุมลึกหลุมหนึง พลันมีเสียงประหลาดใจดังขึน
‘เอ๊ะ?’ และอีกเสียงหนึงก็ถามต่อว่า : “เกิดอะไรขึนรึ?”

เสียงทีแสดงความประหลาดใจในตอนแรกพูดขึนอีกว่า :
“ภายในเขตแคว้นระดับสามของโลกชันล่างนี กลับมีผู้
ครอบครองเคล็ดวิชาระดับสวรรค์ได้”
98
“มีอะไรน่าสนใจกัน เคล็ดวิชาระดับสวรรค์แม้จะหาได้
ยาก แต่ก็ใช่วา่ จะไม่มี ไม่แน่อาจจะเป็ นเพราะโอกาส
และวาสนาสัมพันธ์กนั ก็เท่านัน” เสียงนันพูดอย่างไม่ใส่
ใจ

อยูๆ่ คนผูน้ นก็


ั พดู ต่ออีกว่า : “ไม่สิ เหมือนข้าจะได้กลิน
อายธาตุวิญญาณ”

“เจ้าล้อเล่นอะไร? สถานทีผุๆ เช่นนีจะมีธาตุวิญญาณ


อะไรกัน? ข้ารูว้ า่ จมูกของเจ้านันมีความสามารถในการ
หาสิงลําค่า แต่พวกเราอย่าเสียเวลาอีกเลย ไล่พวกสัตว์
ร้ายพวกนีไปให้หมด เกรงว่าหากยือไว้นานกว่านี กลัวว่า
จะทําให้คนอืนๆ สงสัย ถึงตอนนัน ขุมทรัพย์นีจะยังเป็ น
99
ของเราสองคนอยูห่ รือเปล่าก็ไม่รู”้

เสียงนัน พลันเงียบลง

บริเวณขอบแดนของเทือกเขาฉิน นอกเมืองอี หลังจากที


มูช่ ิงเกอใช้แรงเฮือกสุดท้ายของตนเองดับลมหายใจของ
สัตว์วิญญาณทีมีพลังระดับเดียวกับนางไปแล้ว นางก็
ล้มลง

สัตว์พวกนันตกอยูใ่ นความตืนกลัว จึงพุง่ เข้ามาโจมตีมู่


ชิงเกอ

ราวกับว่า ทางเดียวทีจะทําให้มนั หายกลัวได้ คือฆ่าคน


100
ตรงหน้าทิงเสีย

แต่ในตอนนี กูหยาเองก็ยงั ถูกสัตว์วิญญาณจํานวนมาก


รุมล้อมจนไม่สามารถมาช่วยเหลือในตอนนีได้

ในวินาทีแห่งความอันตรายนี มูช่ ิงเกอรูส้ กึ ถึงรังสีเข่นฆ่า


ทีพุง่ เข้ามาหาตัวนาง ราวกับจะแล่เนือนางออกเป็ นพัน
เป็ นหมืนชิน!

แต่ในขณะทีนางกําลังจะสัมผัสกับพืนนัน นางพลัน
ตกลงไปในอ้อมกอดทีแสนจะอบอุน่

ความรูส้ กึ อบอุน่ นัน ราวกับได้สมั ผัสแสงอาทิตย์ยาม


101
แรกวัน แสงสีขาวจนแสบตานันห่อหุม้ ตัวนางไว้ดา้ นใน
จนไม่มีอะไรสามารถทําร้ายนางได้

“เสียวเกอเอ๋อร์ เจ้าดืออีกแล้วนะ!” ข้างหูมีเสียงอันคุน้


เคยดังขึนมาและยังมีกลินหอมประหลาดลอยมาเป็ น
ระยะๆ

ไม่รูว้ า่ ทําไม หลังจากทีได้ยินเสียงนัน มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ ผ่อน


คลาย วางใจทิงตัวลงนอนหลับในอ้อมกอดของเขา.......

102
ตอนที 82-1 พวกเจ้าไม่ยอมรับ ข้าก็ไม่ยอมรับ !

พอมูช่ ิงเกอตืนมา ข้างกายก็ไม่มีกลินอายทีชวนให้รูส้ กึ


ปลอดภัยนันแล้ว แม้กระทังเงาร่างของกูหยาเองก็หาย
ไปอย่างไร้รอ่ งรอย ราวกับว่าเรืองราวทังหมดทีเกิดขึน
ก่อนทีนางจะหมดสติไปนันเป็ นเพียงแค่ความฝัน

มูช่ ิงเกอมองไปรอบๆ ห้องทีไม่คนุ้ เคย รูส้ กึ ทรมานราว


กับว่ากระดูกทัวทังร่างของนางเหมือนจะแยกออกจาก
กัน

1
ทันใดนันประตูก็ถกู เปิ ดออก

ฉินอีเหยาเดินเข้ามาพร้อมกับนําถ้วยหนึง

พอเห็นว่ามูช่ ิงเกอฟื นแล้ว นางก็รบี เดินเข้ามาหาอย่าง


รวดเร็วด้วยความดีใจ : “ชิงเกอ เจ้าฟื นแล้วหรือ”

มูช่ ิงเกอใช้มือข้างหนึงพยุงตัวเองขึนมานังและรับถ้วยนํา
จากมือของนางมาดืมเข้าไปคําใหญ่จนหยดสุดท้าย
หลังจากนันนางถึงจะรูส้ กึ ว่าตนเองได้ฟืนขึนมาแล้ว
จริงๆ

“กระหม่อมกลับมาได้อย่างไร? แล้วหมดสติไปนานแค่
2
ไหน? ทหารของกองทัพตระกูลมูเ่ ป็ นอย่างไรบ้าง?” หลัง
จากทีดืมนําเสร็จแล้ว มูช่ ิงเกอก็ตงคํ
ั าถามกับสิงทีนาง
เป็ นห่วงหลายคําถาม

ฉินอีเหยาตอบทังรอยยิม : “คนขององค์มหาปราชญ์พา
เจ้ากลับมา เจ้าหมดสติไปเพียงแค่คืนเดียว สําหรับกอง
ทหารตระกูลมู่ ตอนนีเหล่าสัตว์รา้ ยได้ถอยร่นกลับไป
แล้ว ท่านผูเ้ ฒ่ามูก่ าํ ลังดูแลกองทัพอยู”่

โชคดีทีผ่านไปเพียงแค่คืนเดียว

มูช่ ิงเกอโล่งใจ

3
แต่ทว่า พอรูว้ า่ กูหยาเป็ นคนพานางกลับมาทีนี ไม่ใช่คน
ในชุดสีขาวในความทรงจําของนาง ในใจก็พลันเกิด
ความรูส้ กึ ไม่สบายใจทีไม่เคยคุน้ ขึนมา

เมือสวมรองเท้าเสร็จแล้ว มูช่ ิงเกอก็พดู ว่า : “ท่านปู่ อยูท่ ี


ไหน?”

“ท่านผูเ้ ฒ่ามูอ่ ยูใ่ นค่ายทหาร” ฉินอีเหยาช่วยจัดเสือผ้า


ให้กบั นางประหนึงเป็ นภรรยาทีแสนอ่อนโยน

มูช่ ิงเกอมองการกระทําของฉินอีเหยาอย่างแปลกใจ
พลางกะพริบตาหลายที แต่สดุ ท้ายก็เดินออกไปโดยไม่
ได้พดู อะไร

4
ฉินอีเหยาไม่ได้สงสัยอะไรและเดินตามไป

พอเปิ ดประตูออกไป มูช่ ิงเกอก็เห็นกองทัพตระกูลมู่

ใบหน้าของทุกคนยังคงมีคราบเลือดติดอยู่ แต่หลังจากที
เห็นนางเดินออกมาทุกคนต่างก็ใช้สายตาอันเต็มเปี ยม
ไปด้วยความนับถือบูชามองมาทีนาง ในขณะเดียวกันก็
ทักทายนางด้วยความเคารพนอบน้อม: “คุณชาย!”

มูช่ ิงเกอรูส้ กึ สงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากและเดินตรงไป


หามูซ่ ง

5
แต่ฉินอีเหยาทีเดินตามมูช่ ิงเกอมาพอเห็นว่ามูช่ ิงเกอได้
รับการเคารพนับถือจากเหล่าทหารตระกูลมูก่ ็มีพลันรูส้ กึ
ภาคภูมิใจ

ตอนทีมูช่ ิงเกอมาพบกับมูซ่ งนัน มูซ่ งกําลังประชุมเรือง


ปั ญหาเสบียงอาหารกับบรรดารองแม่ทพั อยู่ พอได้ยินว่า
ทุกคนฝากความหวังไว้กบั ผูส้ ง่ สาร มูช่ ิงเกอก็เดินเข้าไป
เงียบๆ แล้วเอาลูกศรในอกทีเก็บได้ออกมาทิงลงตรงหน้า
มูซ่ ง

“ธนูคาํ สังของข้า!” มูซ่ งมองมูช่ ิงเกอด้วยความ


แปลกใจ พลางถามว่า : “ไปอยูท่ ีเจ้าได้อย่างไร?”

6
มูช่ ิงเกอก้มหน้าลง : “ระหว่างทางมาทีนี ข้าพบศพของผู้
ส่งสารกองทัพตระกูลมู”่

กึก—

ทุกคนภายในห้องตืนตระหนกขึนมาในทันที

ความหวังของทุกคนถูกพังทลายลงเพราะคําพูดเพียงไม่
กีคําของมูช่ ิงเกอ

ไม่มีกาํ ลังมาสนับสนุนและเสบียงอาหารทีขาดแคลนก็
ไม่มีวนั ถูกส่งมาแน่นอน

7
ทันใดนัน ทุกคนภายในห้องนีต่างก็จมอยูท่ า่ มกลาง
ความสินหวัง

ความโกรธแค้นเกิดขึนภายในใจของทุกคนและมันได้เข้า
มาแทนทีความดีใจจากการชนะสงครามเมือวานไปจน
หมด

“พวกเขาตายได้อย่างไร”มูซ่ งถือหยิบศรคําสังประจํา
กายของตนเองขึนมาลูบอย่างทะนุถนอม

มูช่ ิงเกอบอกการคาดเดาของตนเองออกมา : “ ยอดฝี มือ


ซุม่ โจมตี สูจ้ นตัวตาย”

8
มูซ่ งหลับตาลงความเจ็บปวดอันแสนสาหัสปกคลุมตัว
เขาไว้ พักใหญ่เขาจึงพูดว่า : “ดี ดี! ไม่เสียแรงทีเป็ นลูก
ผูช้ ายของกองทัพตระกูลมู”่

“ท่านแม่ทพั พวกเราจะทําอย่างไรดี!” รองแม่ทพั คนหนึง


ถามอย่างปวดร้าว

มูซ่ งลืมตาขึน นัยน์ตาสาดประกาย

ครังนีเห็นได้ชดั ว่า มีคนอยากจะยืมมือสัตว์เดรัจฉาน


พวกนีทําให้เขาถึงทีตายและทําให้กองทัพตระกูลมูจ่ ม
มุม

9
“ทําอย่างไรอย่างนันหรือ? ตรงหน้ามีเสบียงอาหารมาก
มายขนาดนัน พวกเจ้ามองไม่เห็นรึไง?” เสียงอันเยือก
เย็นของมูช่ ิงเกอดังขึน ทําให้ทกุ คนอึง

มูซ่ งมองนางเหมือนกําลังรอคอยคําพูดต่อไปของนาง

“คุณชาย อาหารอยูท่ ีไหนกัน?” รองแม่ทพั คนหนึงถาม

สายตาอันสว่างสดใสของนางดูแน่วแน่ : “นอกเมืองมี
ศพของสัตว์มากมาย ไม่ใช่อาหารแล้วเป็ นอะไร? สุด
ยอดเสบียงพวกนีกลับถูกพวกเจ้าทําให้เสียเปล่าไปไม่
น้อย”

10
ทุกคนตาเป็ นประกายในทันที

จริงด้วย! ทําไมพวกเขาถึงคิดไม่ถงึ นะ? สัตว์ป่าและสัตว์


วิญญาณพวกนันก็คือเสบียงอาหารไม่ใช่หรือไร? ก่อน
หน้านี ตอนอยูใ่ นสนามรบพวกเขาถือว่าสัตว์รา้ ยพวกนี
เป็ นศัตรูจงึ ไม่ได้คิดถึงเรืองนี หากไม่ใช่เพราะคุณชาย
เตือนสติ….

รองแม่ทพั ทีได้สติกลับมาเผยให้เห็นถึงรอยยิม พลางพูด


กับมูช่ ิงเกออย่างนับถือว่า : “ฮ่าๆๆ ยังคงเป็ นคุณชายที
หัวไวกว่า เสบียงอาหารวางอยูต่ รงหน้าพวกข้าแท้ๆ แต่
พวกข้ากลับไม่เห็น”

11
ในขณะทีพูดทุกคนก็มองทีมูซ่ งเพือรอการตัดสินใจจาก
เขา

หลังจากนัน ประตูเมืองก็ถกู เปิ ดออก ทหารจํานวนนับไม่


ถ้วนเบียดกันออกไปหาอาหารทีสามารถกินได้ภายใน
สนามรบ ซากศพของสัตว์ตา่ งๆ ถูกขนย้ายเข้ามาภายใน
เมือง ใบหน้าอันเหนือยล้าของเหล่าทหาร มีรอยยิมขึน
มาในทีสุด

หลังจากทีสังให้มวหยางออกไปแจกจ่
ั ายผงยาทีนาง
เหลือเก็บไว้ในช่องว่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว มูช่ ิงเกอและ
ฉินอีเหยาก็กลับไปยังห้องเดิมทีนางฟื นขึนมา

12
พอเข้าไปภายในห้องก็ได้กลินหอมของเนือย่างลอยโชย
มา

มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึนก็เห็นว่าบนโต๊ะกลมนันมีจานวางอยู่
ใบหนึง ภายในจานนันมีเนือย่างของสัตว์บางชนิด
วางอยู่

เนือบางส่วนถูกย่างจนไหม้ บางส่วนก็ยา่ งไม่สกุ และมี


เลือดติดอยู่

ฉินอีเหยาเห็นแล้วรูส้ กึ แน่นอกและคลืนไส้ขนมาอย่
ึ างอด
ไม่ได้

13
มูช่ ิงเกอหันไปมองหน้านางแวบหนึงโดยไม่พดู อะไร แล้ว
เดินไปหยุดตรงหน้าโต๊ะกลมใช้กริชทีเตรียมเอาไว้แล้ว
หันเนือทีมีเลือดติดอยูแ่ ล้วกินเข้าไปไม่แม้แต่จะกะพริบ
ตา

ฉินอีเหยามองมูช่ ิงเกอตาโต จนนางกลืนเนือเข้าไปก็ยงั


คงรูส้ กึ รับไม่ได้

มูช่ ิงเกอมองนาง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า : “เมือการอยู่


รอดกลายเป็ นเป้าหมายเดียวทีมีในตอนนี ยังจะมีอะไรที
กินไม่ลงอีก ทหารในกองทัพตระกูลมูร่ วมถึงข้า ต่างก็
อยากมีชีวิตอยูต่ อ่ ไป หากไม่กินก็ไม่มีเรียวแรง เมือไม่มี
เรียวแรงก็ยากทีจะมีชีวิตอยูใ่ นสนามรบ เรืองมันง่ายแค่
นีเอง”
14
พูดจบนางก็โยนกริชในมือลงหันหลังและเดินตรงไป
บริเวณทีนอน

ฉินอีเหยาฟั งคําพูดของมูช่ ิงเกอจนจบด้วยความอึง แล้ว


มองเนือย่างในจาน ในขณะเดียวกันก็คอ่ ยๆ เดินเข้าไป
ใกล้

ในทีสุดนางก็รวบรวมความกล้าทังหมด หยิบกริชทีมูช่ ิง
เกอทิงเอาไว้ขนมาหั
ึ นเนือให้กบั ตนเองชินหนึง แล้วยัด
เข้าปากโดยไร้ซงเครื
ึ องปรุงใดๆ มีเพียงกลินคาวเลือด
จนฉินอีเหยาเกือบจะทนไม่ได้และอยากคายมันออกมา
แต่สดุ ท้ายก็อดทนเอาไว้และกลืนมันเข้าไป

15
เมือเคียวเนือในปากเสร็จเรียบร้อยแล้วก็หนั หลังกลับไป
ก็เห็นว่ามูช่ ิงเกอนังขัดสมาธิและเข้าสูก่ ารฝึ กพลังเวทบน
เตียงเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว

นางอ้าปากค้าง แต่สดุ ท้ายก็เลือกทีจะเดินออกจากห้อง


ไปอย่างเงียบๆ

ในใจของนางมีคาํ ถามมากมาย แต่พอเจอกับมูช่ ิงเก


อแล้วกลับพูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่นอ้ ย

ทําไมอยูๆ่ มูช่ ิงเกอถึงสามารถฝึ กพลังเวทได้? อีกอย่าง


ความสามารถทีนางแสดงออกมาอย่างต่อเนืองภายใน

16
กองทหารตระกูลมูแ่ ห่งนี ทําให้ทกุ คนทังสงสัยและทึงไป
ตามๆ กัน

ฉินอีเหยาค่อยๆ เดินไปบริเวณกําแพงเมืองทีได้รบั ความ


เสียหายทีเหล่าทหาพยายามรีบซ่อมแซมมัน ในระยะที
ไกลออกไปก็คือสถานทีทีมีการรบเกิดขึนเมือวาน ภาพ
เลือดทีสาดไปมานันยังคงวนเวียนอยูใ่ นความคิดของ
นาง

การได้ทาํ สงครามเคียงบ่าเคียงไหล่ไปพร้อมๆ กับมูช่ ิงเก


อทําให้นางรูส้ กึ อุน่ ใจและนีก็กลายเป็ นความทรงจําที
ยากจะลืมของนาง

17
ตอนที 82-2 พวกเจ้าไม่ยอมรับ ข้าก็ไม่ยอมรับ !

18
มูช่ ิงเกอตืนขึนมาจากการฝึ กพลังเวทและพบว่าภายใน
ห้องนันมีใครคนหนึงเพิมขึนมา

กูหยายืนอยูท่ ีข้างเตียง พอเห็นว่ามูช่ ิงเกอตืนขึนมาจาก


การฝึ กพลังเวทแล้ว เขาก็โยนอะไรบางอย่างทีมีกลินดิน
ติดอยูใ่ ห้กบั นาง

นางยืนมือออกไปรับและเปิ ดผ้าสีขาวทีพันอยูอ่ อก พอ
เห็นของทีอยูข่ า้ งในก็เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ : “ผล
มังกรอสรพิษ!”

19
นางไม่ได้รูจ้ กั ผลไม้ทีมีสีแดงราวกับองุ่นนี แต่ความทรง
จําเกียวกับตํารายาในจิตใต้สาํ นึกของนางบอกกับนาง

ผลมังกรอสรพิษเป็ นผลไม้ทีเกิดขึนโดยการหลอมรวม
พลังจากฟ้าดิน ปกติแล้วจะเติบโตอยูใ่ นถําทีมืดทึบและ
เปี ยกชืน เพราะพลังของมันอาจจะเคลือนทีได้ตลอด
เวลาดังนันจึงยากมากทีจะรูแ้ น่ชดั ว่ามันอยูต่ รงไหน

หากเป็ นคนธรรมดา เมือกินเข้าไปแล้วจะสามารถเพิม


พลังวิญญาณได้ในทันที มันช่วยขยายหลอดเลือด ใน
ขณะเดียวกันก็สามารถเพิมพลังชีวิตให้อายุยืนยาวได้

หากนํามาปรุงยาโดยผสมกับยาสมุนไพรนานาชนิด จะ

20
ได้รบั ผลลัพธ์ทีคาดไม่ถงึ

พูดได้วา่ ผลมังกรอสรพิษนันหายากมาก แต่สามารถนํา


ไปใช้สอยได้มากมายนับว่าเป็ นยาสมุนไพรทีลําค่าเป็ น
อย่างยิง

คิดไม่ถงึ ว่าผลไม้ทีเหนือฟ้าเช่นนี กลับมาอยูใ่ นมือของ


นาง!

พอเห็นว่ามูช่ ิงเกอรูจ้ กั ผลมังกรอสรพิษ กูหยาก็ไม่ตอ้ ง


เสียแรงอธิบายอะไรมาก จึงพูดต่อไปว่า : “มหาปราชญ์
ให้ขา้ มาบอกกับเจ้าว่า ทีสัตว์รา้ ยคุกคามถึงเพียงนี เป็ น
เพราะว่ามีคนรูว้ า่ ภายในหุบเขาฉินนันมีผลมังกรอสรพิษ

21
อยู่ จึงต้องไล่สตั ว์พวกนีออกไป เพือตามหามัน เมือสัตว์
พวกนันสูญเสียบ้านไปจึงโจมตีบา้ นเมืองของมนุษย์”

มูช่ ิงเกอหรีตา นางคิดไม่ถงึ ว่า เบืองหลังการบุกรุกของ


สัตว์รา้ ยจะมีเหตุผลเช่นนีอยู่

“แม่นางมู.่ .....”

เมือได้ยินคําสรรพนามจากกูหยา มูช่ ิงเกอพลันขมวดคิว


แล้วพูดแก้วา่ : “เรียกข้าว่าคุณชายมู”่ กูหยายิมกว้าง
แล้วเปลียนสรรพนาม : “คุณชายใช้รากวิญญาณสายฟ้า
คนพวกนันก็สมั ผัสได้ ท่านประมุขกลัวว่ามันจะเป็ น
อันตรายต่อคุณชายจึงฆ่าพวกมันทิงแล้ว ผลมังกร

22
อสรพิษลูกนีถือเสียว่าเป็ นสิงชดใช้ของพวกมันทังสอง
ท่านประมุขบอกว่าก่อนทีคุณชายจะมีความสามารถ
มากพอทีจะปกป้องตนเองได้ ทางทีดีอย่าใช้ราก
วิญญาณสายฟ้าอีก ตอนนี ภายในแคว้นหลินชวนไม่
ค่อยสงบนัก”

มูช่ ิงเกอได้ยินแววก็พลันตาสาดประกาย นางหรีตาแล้ว


ถามว่า : “ถ้าเช่นนัน ตอนทีข้าหมดสติไปและรูส้ กึ ว่าเจ้า
นายของเจ้าปรากฏตัวขึนนันไม่ใช่ภาพลวงตารึ?”

กูหยาเงียบไปสักพักแล้วจึงพูดว่า : “นันเป็ นเพียงจิตที


ท่านประมุขถอดออกมา ท่านไม่ได้อยูใ่ นหลินชวน บางที
อาจจะเป็ นเพราะท่านรับรูไ้ ด้วา่ เจ้าใช้รากวิญญาณสาย
ฟ้า จึงทําให้ทา่ นเร่งตามมา”
23
ทีแท้ เขาก็มาจริงๆ

มูช่ ิงเกอจิตใจไหววูบพลันขมวดคิวแน่น : “เหตุใดถึงไม่


ให้ขา้ ใช้พลังสายฟ้า ไม่สิ รากวิญญาณสายฟ้า”

คําตอบของคําถามนี ทําให้มชู่ ิงเกอคิดทบทวนมานาน

แต่ทว่า กูหยาไม่ได้ตอบคําถามนีแล้วค่อยๆ หายไปต่อ


หน้าต่อตามูช่ ิงเกอ

“นี!” มูช่ ิงเกอห้ามเอาไว้ไม่ทนั ทําได้เพียงกัดฟั นพูดว่า :


“เฮงซวยเหมือนเจ้านายของเจ้าไม่มีผิด!”
24
ในขณะนันเอง ประตูหอ้ งของมูช่ ิงเกอก็ถกู เปิ ดออก

เสียงของมูซ่ งดังขึน : “ไอ้จองหอง เจ้าด่าใคร?”

มูช่ ิงเกออึง ในทีสุดมูซ่ งก็มาเอาความ

แน่นอนว่าเรืองแรกทีมูซ่ งต้องรูค้ ือ ทําไมอยูๆ่ นางถึงฝึ ก


พลังเวทได้

โชคดีทีมูช่ ิงเกอคิดเอาไว้ก่อนแล้วว่าจะพูดอย่างไร นาง


โยนความผิดทังหมดให้กบั กูหยาและไอ้เฒ่าตัว
ประหลาด
25
นางจึงบอกเหตุผลทีเตรียมเอาไว้แก่มซู่ ง

มูซ่ งเงียบไปสักพัก : “เจ้าหมายความว่า ท่านมหา


ปราชญ์ช่วยให้เจ้าเปลียนธาตุในกายสอนการฝึ กพลัง
เวทให้แก่เจ้า และยังมอบเคล็ดวิชาระดับสวรรค์ให้ดว้ ย
อย่างนันรึ?”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ

อย่างไรเสีย คําพูดนีก็มีความจริงอยูค่ รึงหนึง แล้วมูซ่ งก็


ไม่สามารถจะไปถามความจริงเอาจากกูหยาได้

26
“ดีๆ! ดีแล้ว! ในทีสุดฟ้าก็มีตาและมองเห็นตระกูลมูข่ อง
ข้าแล้ว” มูซ่ งพูดอย่างปลาบปลืมใจเป็ นทีสุด

นางจ้องหน้าผูเ้ ฒ่าทีอยูต่ รงหน้า แม้เขาจะยังดูแข็งแรง


แต่ในสายตานันเต็มไปด้วยความอ่อนล้า ทําให้มชู่ ิงเก
อทนไม่ได้ทีจะถอนหายใจ

วันต่อมา องครักษ์ทีมูช่ ิงเกอสังให้ไปสอดแนมพวกสัตว์


เดรัจฉานก็ได้กลับมายังเมืองอี และนําข่าวดีทีว่าสัตว์
ร้ายพวกนันได้ถอยร่นกลับไปแล้ว ทันใดนันทังเมืองอีก็
ตกอยูท่ า่ มกลางความยินดี

สําหรับเรืองนีมูช่ ิงเกอรูต้ งนานแล้


ั ว

27
นางสามารถตัดสินได้จากคําพูดของกูหยา หากต้นเหตุ
ของปั ญหาได้ถกู ซือมัวจัดการไปแล้ว สัตว์รา้ ยทีถูกไล่
ออกมาก็คงจะกลับไปยังอาณาจักรของตนเอง นันก็คือ
กลับไปยังหุบเขาฉินนันเอง

ท่ามกลางความดีใจของทุกคน มูช่ ิงเกอแอบเรียกมัว


หยางมาพบ แล้วกระซิบสังการทีข้างหูเขา หลังจากนัน
มัวหยางก็พาองครักษ์สบิ กว่านายหายไปจากเมืองอี

พอพวกเขาปรากฏตัวขึนอีกครัง ก็ยา่ งเข้าวันทีสีทีพวก


เขามาอยูท่ ีเมืองอีแล้ว

28
มัวหยางทีท่าทางเหน็ดเหนือยจากการเดินทาง ตามหามู่
ชิงเกอทีนังอยูก่ บั มูซ่ งจนเจอ ใบหน้าของเขานันมีความ
เคร่งเครียดอยู่

“คุณชาย หานเซิงหนีไปแล้วขอรับ”

มูช่ ิงเกอทําหน้าเคร่ง

ตอนนีมูซ่ งถึงค่อยรูว้ า่ สองวันทีผ่านมานีมัวหยางหายไป


ไหนมา

“หนีอย่างนันหรือ? เขาจะหนีไปไหนได้?” มูช่ ิงเกอหรีตา


ในแววตานันเต็มไปด้วยความเย็นชา มุมปากผุดรอยยิม
29
อันตรายออกมา

……

หานเซิงทีมูช่ ิงเกอคิดถึงอยูต่ ลอดเวลานัน พอได้ข่าวจาก


เมืองอีก็รบี หนีกลับลัวตูไป

เพราะเขารูด้ ีวา่ หากมูซ่ งไม่ตาย ต้องมาหาเรืองตนเอง


เป็ นแน่ เขาจึงต้องไปหาคนทีพึงได้ จึงจะรักษาชีวิตของ
เขาเอาไว้ได้

ตัวเป็ นถึงขุนศึกแต่ไม่ได้ตามไปสูร้ บทีแนวหน้าร่วมกับ


ท่านแม่ทพั แล้วยังแอบยึดเสบียงอาหารของกองทัพทีไป
30
ทําสงครามเอาไว้ มูซ่ งกลับมาแล้วจะไม่ฆา่ เขาให้ตายได้
อย่างไรกัน?

หานเซิงทีเร่งรีบเดินทางกลับลัวตูโดยไม่หยุดแม้กระทัง
ยามกลางคืน พอถึงลัวตูก็รบี เข้าวังหลวงโดยไม่แม้แต่
กลับจวนของตนเองเพือเข้าพบฮองเฮาผูเ้ ป็ นพีสาวของ
เขา

หานฮองเฮาทีอยูใ่ นวังพอได้ยินว่าหานเซิงมาขอเข้าพบ
จึงคิดว่าภารกิจจะสําเร็จแล้ว แต่ไม่คิดว่าน้องชายผูท้ ีไม่
เคยอะไรสําเร็จเลย กลับมาบอกกับนางว่าแผนการล้ม
เหลว

31
หานฮองเฮามองชายวัยกลางคนทียืนตัวสันงันงกอยูด่ า้ น
ข้างด้วยใบหน้าดําคลํา อยากจะตบหน้าเขาสักทีสองที
จริงๆ

กว่าจะมีโอกาสแบบนีได้มนั ไม่ใช่เรืองง่ายเลย นางสูว้ าง


แผนทุกอย่างอย่างละเอียดรอบคอบ แต่สดุ ท้าย
ทุกอย่างกลับกลายเป็ นศูนย์อย่างนันหรือ จะให้นางยอม
รับผลแบบนีได้อย่างไรกัน?

สิงทีน่าโมโหทีสุดคือน้องชายคนนีของนางพอได้ข่าวว่า
สัตว์รา้ ยถอยทัพไปแล้วและมูซ่ งยังไม่ตาย เพียงเท่านีก็
ทําให้เขากลัวจนปั สสาวะอุจาระราดรีบวิงแจ้นกลับมา
โดยทียังไม่รูเ้ ลยแม้แต่นิดว่าเกิดอะไรขึนในเมืองอีบ้าง

32
สัตว์รา้ ยทีโหดเ**◌้ยมถึงเพียงนัน เหตุใดคิดจะถอยทัพก็
พลันถอยออกไปเสียดือๆ

“เจ้าช่างเป็ นสวะไร้คา่ เสียจริง!” หานฮองเฮาตวาดด่า


ด้วยความโกรธ

หานเซิงไม่กล้าพูดอะไรมาก ทําได้เพียงรอให้พีสาว
ระบายความโกรธแค้นออกมา

เขาเองก็หวังให้มซู่ งตาย ถ้าเป็ นเช่นนันเขาก็ไม่ตอ้ งกลัว


ว่าจะตกอยูใ่ นสถานการณ์ดงเช่
ั นตอนนีอีก แต่วา่ สวรรค์
ยังไม่รบั มูซ่ งไป เขาจะยังทําอย่างไรได้

33
หานเซิงรูส้ กึ ยําแย่อยูพ่ กั ใหญ่ แล้วจึงเอ่ยปากพูดว่า
“ท่านพี ท่านรีบคิดหาหนทางเร็วเข้าเถิด หากมูซ่ งกลับ
มาคงไม่ปล่อยข้าไว้แน่ ข้าเป็ นน้องชายคนเดียวของท่าน
นะ และทีข้าต้องมาตกอยูใ่ นสภาพนีก็เพราะหลานชาย
รัชทายาทด้วย”

“เจ้ารีบร้อนอะไร” หานฮองเฮาพูดด้วยความโมโห

นางเดินกลับไปกลับมาอยูน่ าน กําลังคิดว่าควรจะทํา
อย่างไรต่อไป หากมูซ่ งตายฮ่องเต้ก็คงจะไม่ตรัสอะไร
มาก แต่หากมูซ่ งไม่ตาย เพือเป็ นการปลอบใจเขา ฮ่องเต้
จะต้องหาแพะมารับบาปไปแน่

34
เป็ นสามีภรรยากับฉินชางมานานหลายปี แน่นอนว่า
หานฮองเฮาต้องรูถ้ งึ ความเลือดเย็นของฮ่องเต้เป็ นอย่าง
ดี

หานฮองเฮาขมวดคิวแล้วพูดกับน้องชายว่า : “ตอนนีเจ้า
รีบกลับไปก่อนแล้วร่างฏีกาขอรับโทษกับฮ่องเต้ โดยเนือ
หาในฏีกานันให้เขียนไว้วา่ ตัวเจ้าทีเป็ นถึงขุนศึกนัน
กระทําความผิด ส่งกําลังเสริมไปล่าช้า ทําให้กองทัพตระ
กูลมูต่ อ้ งได้รบั ความเสียหาย ขอให้ฮ่องเต้ทรงลงพระ
อาญาเจ้าสําหรับสิงทีเจ้าทําผิดไป”

พอหานเซิงได้ยิน สีหน้าก็พลันเปลียนไป: “ ท่านพี ท่าน

35
กําลังช่วยน้องหรือกําลังทําร้ายน้องกันแน่”

“โง่!” หานฮองเฮาด่า : “เจ้าต้องรีบฉวยโอกาสให้ฮ่องเต้


ลงอาญาเจ้าก่อนทีมูซ่ งจะกลับมา พอมูซ่ งกลับมาถึง
หากคิดจะเล่นงานเจ้าก็คงจะยากแล้วเพราะเขาไม่อาจ
จะขัดต่อราชโองการขององค์ฮ่องเต้ได้”

หลังจากทีได้รบั คําอธิบาย หานเซิงก็เข้าใจในทันทีและ


ขอตัวออกจากวังเพือไปทําตามคําสังทังหมดของพีสาว

……

36
ตอนที 82-3 พวกเจ้าไม่ยอมรับ ข้าก็ไม่ยอมรับ !

37
สิบวันผ่านไป ณ ลัวตู แคว้นฉิน

ณ เมืองหลวงอันงดงามและน่าเกรงขาม เช้าวันนี
ประชาชนต่างออกมายืนเรียงกันสองข้างถนนทางเข้า
เมืองสายหลักกันอย่างเป็ นระเบียบเรียบร้อย

ทหารทีรักษาความปลอดภัยในเมืองยืนอยูข่ า้ งถนนทัง
สองฝังเพือดูแลความเรียบร้อย

วันนี เป็ นวันทีมูซ่ งผูเ้ ป็ นเทพแห่งสงครามของแคว้นฉิน


กลับแคว้นพร้อมชัยชนะ

ข่าวการบุกรุกของสัตว์รา้ ยนัน ประชาชนในลัวตูรูม้ านาน


38
แล้วและประชาชนทีอยูแ่ ห่งนีต่างก็รูว้ า่ หากไม่ใช่เพราะ
ท่านแม่ทพั พากองทัพทหารออกไปสูส้ ดุ ชีวิตพวกเขาก็คง
กลายเป็ นอาหารของสัตว์รา้ ยพวกนันไปแล้ว

เพราะฉะนัน สําหรับการต้อนรับครังนี พวกเขาต่างเต็ม


เปี ยมไปด้วยความจริงใจทีจะต้อนรับผูก้ ล้าทังหลายกลับ
บ้าน

ในระยะห่างจากประตูเมืองหลายร้อยจ้างนันมี
รัชทายาทและรุย่ อ๋องทีมาตามพระบัญชาของฮ่องเต้อยู่
ด้วย สีหน้าของทังสองนันดูแย่มากและใจของทังสองแม้
จะมีความคิดทีแตกต่างกันแต่ก็มีเป้าหมายเดียวกัน

39
ในวันนีแผนการทุกอย่างล้มเหลว แล้วพวกเขาจะดีใจได้
อย่างไรกัน?

โดยเฉพาะเวลาทีได้ยิน การยกย่องสรรเสริญและชืนชม
ท่านแม่ทพั จากปากของประชาชนรอบข้างยิงทําให้พวก
เขารูส้ กึ ไม่ชอบใจ

“เสด็จพี วันนีสีหน้าของท่านดูไม่คอ่ ยดีเลยนะ!” ฉินจิน


ห้าวทีนังอยูห่ น้าบนหลังม้าสูงใหญ่มองรัชทายาทอย่าง
ฉินจินซิวแวบหนึงแล้วพูดอย่างนิงเฉย

ความเจ็บแค้นวาบผ่านสายตาของฉินจินซิว เขา
พยายามเก็บความโกรธเอาไว้ในใจแล้วยิมอย่างเยือก

40
เย็นพลางตอกกลับว่า : “ข้าสบายดี แต่ขา้ ว่าสีหน้าของ
ด้วยรุย่ อ๋องต่างหากทีดูแย่ มีเรืองอะไรไม่ได้ดงใจรึ
ั ?”

ฉินจินห้าวหรีตา สายตาคูน่ นประดั


ั บไปด้วยความเย็นชา
พลางพูดเบาๆ ว่า : “เสด็จพีคิดมากไปแล้ว ทีสีหน้าของ
ข้าดูไม่ดีนนเป็
ั นความจริง แต่เพราะเป็ นห่วงน้องสาว
ต่างหากเล่า”

“ฉางเล่อก็ทาํ เกินไปจริงๆ” ฉินจินซิวหัวเราะอย่างเยือก


เย็นและเห็นสายตาของฉินจินห้าวนันมีความอาฆาต
แฝงอยู่

ทังสองเสียดสีกนั ด้วยคําพูด แต่ก็ไม่ได้ทาํ ให้ใครรูส้ กึ ดี

41
ขึนมาเลย

สําหรับฉินจินห้าวแล้ว แม้วา่ ครังนีเรืองทีมูซ่ งและหลาน


ชายไม่ได้ตายทีเมืองอี จะทําให้เขารูส้ กึ ผิดหวัง แต่ก็ใช่
ว่าเขาจะไม่มีโอกาส อย่างไรเสีย ระหว่างเขากับตระกูลมู่
นันก็ยงั มีความสัมพันธ์ของฉางเล่ออยูไ่ ม่ใช่รึ

แต่สาํ หรับราชทายาทนัน.....

หากมูซ่ งรูว้ า่ รัชทายาทเป็ นคนวางแผนการทังหมด ไม่แน่


ว่ามูซ่ งทียืนอยูต่ รงกลางมาโดยตลอดก็อาจจะเปลียนมา
เข้าข้างเขาก็เป็ นได้

42
หลังจากทีคิดทบทวนแล้ว ฉินจินห้าวก็รูส้ กึ ว่าผลลัพธ์
แบบนีก็ไม่ได้แย่จนเกินไปนัก พลันยิมอย่างหมายมาด

รอยยิมนันกระตุน้ ให้ไอสังหารในใจของฉินจินซิวให้เพิม
มากขึนและสีหน้าก็พลันโหดเ**◌้ยมขึนเป็ นทวีคณ

ขณะนีเองด้านหลังของทังสองพลันมีเสียงเกือกม้าดังขึน

ทังสองหันหลังกลับไปพร้อมกัน เห็นเพียงมูเ่ หลียนหรงที


สง่าผ่าเผยขีม้ามาพร้อมกับทหารองครักษ์

ฉินจินซิวเม้มปากไม่ได้กล่าวอะไรแต่ฉินจินห้าวนันแวว
ตาเปลียนไปแล้วลงจากหลังม้าเดินเข้าไปทักทายมูเ่ หลี
43
ยนหรงอย่างมีมารยาท : “ท่านอาหรง”

มูเ่ หลียนหรงก้มหน้าลงรับคําจากฉินจินห้าว : “รุย่ อ๋อง”


หลังจากนันนางก็ทกั ทายฉินจินซิวผูเ้ ป็ นรัชทายาท “องค์
รัชทายาท”

ฉินจินซิวพยายามอย่างหนักเพือปรับอารมณ์ของตนเอง
แล้วเผยรอยยิมอย่างอ่อนโยนพลางทักทายอย่างมี
มารยาทว่า : “ท่านอาหรง ท่านมาแล้วรึ”

มูเ่ หลียนหรงพยักหน้าให้ทงสองนิ
ั งๆ จากนันก็พาทุกคน
ไปยืนอยูด่ า้ นหลังพวกเขา เพือรอคอยการกลับมาของ
บิดาและหลานชายของตนเอง

44
การรบในคราวนีนางแทบจะไม่ได้รบั ข่าวคราวอะไรจาก
เมืองอีเลย

สถานการณ์ทีไม่ปกติเช่นนี นางรูส้ กึ สงสัยตังแต่แรกแล้ว


ช่วงทีผ่านมานันจึงไม่หยุดทีจะตามหาหลักฐานเพือหา
คนร้ายตัวจริงทีคิดจะทําร้ายตระกูลมู่

แล้ววันนีคนทีนางคิดไว้ ก็ยืนอยูต่ รงหน้านีแล้ว

ทังสองต่างหวังบัลลังก์ฮ่องเต้ จึงทําให้นางเกิดความ
สงสัยทังคู่ และเมือวาน พระบัญชาลดหย่อนโทษของ
ฮ่องเต้ก็ชีตัวคนร้ายตัวจริงให้แก่นาง

45
มูเ่ หลียนหรงแอบเงยหน้าขึนมองรัชทายาทผูเ้ ป็ นต้นเหตุ
สําคัญ

ความแค้นใหญ่หลวงในครังนีก็เหมือนกับปี นนตอนที

มารดาและพีชายรองของนางเสียชีวิตเพราะอุบตั ิเหตุ
อย่างไม่คาดฝัน ส่วนพีชายใหญ่ก็ตายในสนามรบโดยไม่
มีวนั หวนกลับ แม้นางจะพอเดาได้วา่ เรืองราวทังหมดมี
เบืองลึกเบืองหลัง แต่กลับไม่มีหลักฐานแล้วจะลงโทษ
คนผิดได้อย่างไร?

มูเ่ หลียนหรงก้มหน้าลงแล้วขมวดคิวแน่น

46
นัยน์ตาภายใต้ขนตาอันยาวงอนนันเต็มไปด้วยความ
เคียดแค้นอันเข้มข้น แต่นางก็กดมันไว้ได้ในชัวพริบตา

‘ตระกูลมู่ ไม่มีวนั ทําเรืองทรยศต่อบ้านเมือง!’

มูเ่ หลียนหรงพูดถึงคํานีอยูบ่ อ่ ยๆ ในวันนีคําพูดนีกลับ


เป็ นเหมือนห่วงโซ่ทีรัดนางเอาไว้แน่นหนาจนหายใจไม่
ออก ตระกูลมูซ่ ือสัตย์มีคณ
ุ ธรรม แต่สงที
ิ ได้กลับคืนมา
เล่าคืออะไร?

มูเ่ หลียนหรงกําเชือกในมือไว้แน่น ใบหน้านันกลับยังคง


รอยยิมเป็ นมิตร ไม่ปล่อยให้ไอสังหารหลุดออกไปแม้แต่
น้อย

47
“มาแล้ว! มาแล้ว!”

ทุกคนตืนเต้นขึนมาในทันที

ท่านพ่อ! เกอเอ๋อร์!

ญาติในสายเลือดทําให้มเู่ หลียนหรงเก็บความแค้นเอาไว้
ในใจและมองออกไปยังนอกประตูเมือง ความตืนเต้น
ภายในจิตใจฉายออกมาทางแววตา

บนถนนนอกเมือง ขบวนทีค่อยๆ ปรากฏขึนตรงหน้าผู้


คน ตกเป็ นจุดรวมความสนใจทันที
48
แต่ เมือขบวนคดเคียวราวกับงูนนใกล้
ั เข้ามา ฝูงชนก็
พลันส่งเสียงสิพากษณ์วิจารณ์ในทันที

กระดาษเงินทองจํานวนนับไม่ถว้ น ปลิวอยูท่ า่ มกลาง


สายลม

และลาดลงเต็มถนนนอกเมืองลัวตูราวกับเกล็ดหิมะใน
ทันที

ทหารทีกลับมาไม่ได้ดีใจและเบิกบานทีได้รบั ชัยชนะ แต่


กลับนิงเงียบ ในขบวนนันมีกลินอายของความปวดร้าวที
อยากจะลบเลือน

49
ภายในขบวน กระทังทีแขนขวาของทุกคนต่างก็มีแถบผ้า
สีขาว บนหลังต่างก็แบกตะกร้าสานไม้ไผ่ทีด้านในบรรจุ
โถกระเบืองเคลือบสีดาํ เอาไว้

ครังนี กองทหารตระกูลมูท่ ีติดตามมูซ่ งกลับมามีเพียงห้า


พันคน

และบนร่างกายของทหารทังห้าพันต่างก็เป็ นเช่นนี
ตะกร้าไม้ไผ่และโถกระเบืองเหล่านันทําให้ทกุ คนเกิด
ความสงสัย

เกิดอะไรขึนกันแน่?

50
ทําไม การกลับมาพร้อมชัยชนะของกองทหารในครังนีไม่
เหมือนกับครังก่อนก่อนทีผ่านมา?

กระดาษเงินทองทีปลิวว่อนไปทัวฟ้า ปลิวไปทางฉินจิน
ห้าวและฉินจินซิว

บางส่วนตกลงตรงหน้าพวกเขาและบางส่วนก็ตกลงบน
ตัวของพวกเขา

ฉินจินห้าวยืนมือออกไปจับกระดาษเงินทองทีหล่นใส่ตน
เองแล้วขมวดคิวพลางขยํามันจนเป็ นก้อนแล้วโยนทิงไป

51
ส่วนฉินจินซิวนันก็ยกมือขึนปั ดกระดาษเงินทองน่า
รําคาญนันออกด้วยสีหน้าไม่สดู้ ีนกั

มูเ่ หลียนหรงทีอยูข่ า้ งหลังพวกเขาค่อยๆ เงยหน้าขึน


มองกระดาษเงินทองทีปลิวไปมากลางอากาศความเจ็บ
ปวดพลันผุดขึนภายในจิตใจ นัยน์ตาพลันมีไอชืนบางๆ
ปกคลุมไว้

ราวกับว่า นางสัมผัสถึงความเลวร้ายของสงครามผ่าน
การซือทางจากนรกด้วยกระดาษเงินทองพวกนี

โถกระเบืองทีอยูใ่ นตะกร้าไม้ไผ่พวกนัน แม้คนอืนจะไม่รู ้


ว่ามันคืออะไร แต่นางรูไ้ ด้ทนั ทีทีเห็นว่ามันคือทีเก็บ

52
กระดูกของกองทหารตระกูลมูท่ ีเสียชีวิต

‘ท่านพ่อได้พาพวกเขากลับมาแล้ว!’ มูเ่ หลียนหรงรูส้ กึ


สะเทือนใจ ดวงตานันแดงกํา

บรรยากาศรอบข้างพลันเงียบสงบ

ราวกับว่าถูกบรรยากาศแห่งความเศร้าสลดนันกลืนกิน

53
ตอนที 82-4 พวกเจ้าไม่ยอมรับ ข้าก็ไม่ยอมรับ !

54
ทหารจํานวนห้าพันนายเข้าสูป่ ระตูเมือง นอกจากเสียง
เกือกม้าแล้วก็ไร้ซงเสี
ึ ยงอืนใดอีก

มูซ่ งทีเป็ นผูน้ าํ ทัพอยูบ่ นหลังม้าทีอยูห่ น้าสุด ท่าทางของ


เขานิงสงบ นัยน์ตามีความรูส้ กึ ซับซ้อนอยูม่ ากมาย

แขนขวาของเขาก็มีแถบผ้าสีขาวพันอยูเ่ ช่นกัน ไม่ได้ดู


แตกต่างออกไปเพราะฐานะของเขาเลย บนหลังม้าตัว
หนึงข้างๆ ตัวเขาคือร่างในชุดสีแดงสด

บริเวณเอวและท่อนแขนของเขาก็เต็มไปด้วยผ้าสีขาวที
พันเอาไว้

55
ใบหน้าอันงดงามดูสงบนิงมาก นัยน์ตาอันน่าดึงดูดก็ดู
สงบนิงแต่กลับมีความแหลมคมอย่างเต็มเปี ยมซ่อนอยู่

ข้างหลังนางคือองค์หญิงฉางเล่อฉินอีเหยาและข้างหลัง
ฉินอีเหยาก็คือองครักษ์ทงห้
ั าร้อยนายของนาง

“คุณชาย!” ฮวาเยวียทียืนอยูข่ า้ งหลังมูเ่ หลียนหรงยืนคอ


ยาวออกไปเรียก โย่วเหอทีอยูข่ า้ งๆ นางหลังจากทีเห็น
ว่ามูช่ ิงเกอไม่ได้เป็ นอะไรก็เผยท่าทางยินดีออกมา

พวกนางทังสองถูกมูช่ ิงเกอสังให้อยูก่ บั มูเ่ หลียนหรง ช่วง


ทีผ่านมาต่างก็กระวนกระวายใจ ในทีสุดจิตใจทีแขวน

56
อยูบ่ นเส้นด้ายของพวกนางก็ได้กลับคืนสูส่ ภาวะปกติ
แล้ว

มูเ่ หลียนหรงเองก็เห็นมูช่ ิงเกอทีอยูข่ า้ งๆ มูซ่ ง นางมอง


แล้วพูดว่า : “ชิงเกอดูเปลียนไปนะ”

โย่วเหอและฮวาเยวียมองหน้ากันในใจแอบสงสัยว่าคุณ
ชายเปลียนไปหรือ?

“หยุด— ” ม้าของมูซ่ งมาหยุดตรงหน้าองค์ชายทังสอง

สายตาอันเยือกเย็นของมูซ่ งกวาดมองทังสองพลาง
ประสานมือเบาๆ แล้วทักทายว่า : “รัชทายาท รุย่ อ๋อง”
57
ความเย่อหยิงเช่นนี ทําให้ฉินจินซิวไม่ชอบใจ แต่เป็ น
เพราะสถานการณ์เช่นนีจึงต้องพยายามรักษารอยยิมอัน
อ่อนโยนไว้ : “ลําบากท่านแม่ทพั แล้ว”

ฉินจินห้าวยิมเยาะฉินจินซิวพลางประสานมือคารวะ :
“ข้าขอแสดงความยินดีทีท่านแม่ทพั มีชยั กลับมา ทําให้
ชือเสียงเทพสงครามแห่งแคว้นฉินเราเกริกไกรไปยิงกว่า
เดิม”

ความชืนชมมากถึงเพียงนีกลับไม่ได้ทาํ ให้ความรูส้ กึ ของ


มูซ่ งดีขนเลย

58
ท่าทางของเขานันดูเย็นชา : “รุย่ อ๋องกล่าวเกินไปแล้ว ชัย
ชนะในครังนี ไม่ได้ได้มาเพราะข้ามูซ่ ง แต่เพราะความ
เสียสละไม่สนใจในชีวิตตนเองของกองทัพตระกูลมูน่ บั
พันนับหมืนพวกนีต่างหาก”

ฉินจินห้าวปากกระตุก ในขณะเดียวกันก็ไม่รูว้ า่ ควรจะ


พูดอย่างไรต่อไป

รุย่ อ๋องไม่รูจ้ ะพูดอะไรเช่นนีทําให้รชั ทายาทอารมณ์ดีขนึ


มาก ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิมทีมองไม่เห็นความ
เสียใจเลยแม้แต่นอ้ ย : “ท่านแม่ทพั เสด็จพ่อของข้า ได้
เตรียมงานเลียงไว้ให้แก่ทา่ นแล้ว ให้ทา่ นกลับเข้าวัง
หลวงพร้อมกับข้า”

59
“ช้าก่อน” มูซ่ งห้าม ไม่ให้ฉินจินซิวแสดงความคิดเห็น

สําหรับการจัดการในวังหลวงของคนผูน้ นั เขาไม่ขอบ
พระทัยและไม่ได้ปฏิเสธ แต่มองมูเ่ หลียนหรงพลางเรียก
เสียงดัง : “เหลียนหรง”

มูเ่ หลียนหรงขีม้ามุง่ ไปข้างหน้า ด้วยท่าทางทีดูเคร่ง


เครียดเช่นกัน : “ท่านพ่อ”

เสียงของหญิงสาวทําให้ดวงตาทีสงบนิงของมูซ่ ง
ประหนึงมีรอยแยกร้าวเกิดขึนในแววตานัน อีกเพียงนิด
เดียว อีกนิดเดียวเขาก็จะมองลูกสาวของตนเองไม่เห็น

60
แล้ว

มูซ่ งอดกลันความทุกข์ภายในใจเอาไว้ แล้วพูดอย่าง


หนักแน่น : “ฮ่องเต้ทรงอนุญาตให้กองทหารตระกูลมูห่ า้
พันคนมาเพือรายงานสถานการณ์เท่านัน สิงทีพวกเขา
แบกอยู่ เป็ นโกฐกระดูกของเหล่าทหารทีเสียสละเพือ
ประชาชนชาวฉินของเรา เจ้าต้องจัดการให้เหมาะสม นํา
กระดูกทีนํากลับมาได้เหล่านีไปฝังอย่างสมเกียรติแล้ว
แจ้งแก่ครอบครัวของพวกเขาด้วยว่า พวกเขา ไม่เสียแรง
ทีเป็ นลูกผูช้ ายแห่งแคว้นฉิน และไม่เสียแรงทีเป็ นนักรบ
ผูก้ ล้าแห่งกองทัพตระกูลมู!่ ”

คําพูดของมูซ่ ง ทําให้ประชาชนทีอยูร่ อบๆ ต่างรูว้ า่ โถ


กระเบืองในตะกร้าไม้ไผ่นนคื
ั ออะไร
61
ความยินดีจากการชนะสงครามของพวกเขา ค่อยๆ ลด
ลง ท่ามกลางผูค้ นมีเสียงรําไห้คอ่ ยๆ ดังขึน

“รับทราบ ! เหลียนหรงจะไม่ทาํ ให้ตอ้ งอับอาย” มูเ่ หลี


ยนหรงกลันนําตาทีกําลังจะไหลลงมาเอาไว้ได้

ทังห้าพันนายต่างแบกโถกระเบืองเอาไว้คนละห้าถึงหก
โถ เมือนับรวมกันแล้ว ก็ประมาณสองหมืนกว่าคน นียัง
เป็ นทีส่วนทีหาเจอแล้วทียังหาไม่เจอล่ะ? ต้องฝังตน
เองอยูใ่ นอาณาจักรสัตว์อย่างนันหรือ

บทสรุปนีไม่ได้มีเพียงมูเ่ หลียนหรงคนเดียวเท่านันทีรู ้ แต่

62
ประชาชนทีอยูร่ อบๆ ก็รูเ้ ช่นกัน

ทันใดนันบริเวณประตูเมืองลัวตูก็พลันตกอยูใ่ นความ
โศกเศร้า

ทําให้ฉินจินซิวและฉินจินห้าวทีอยูใ่ นนันด้วยอดไม่ได้ที
จะเก็บซ่อนความคิดของตนเองเอาไว้ก่อน โดยเฉพาะฉิน
จินซิว เขารูส้ กึ ไม่ชอบใจกับปฏิกิรยิ าแบบนีเป็ นอย่าง
มาก สําหรับเรืองราวของกองทัพตระกูลมูน่ นั เขารูด้ ีทีสุด

สําหรับเขาแล้ว ทําการใหญ่ไม่จาํ เป็ นต้องไปสนใจเรือง


เล็ก หากสามารถฆ่ามูซ่ งได้ แม้จะต้องเสียกองทหารตระ
กูลมูไ่ ปทังกองทัพแล้วอย่างไรเล่า? แต่คาํ พูดของมูซ่ ง

63
และปฏิกิรยิ าของคนรอบข้าง ทําให้เขารูส้ กึ ร้อนตัวเพราะ
ความผิดทีได้ก่อไว้

“เสด็จพี ท่านคิดว่าเมือประชาชนรอบๆ รูส้ าเหตุวา่


เพราะอะไรกองทหารตระกูลมูถ่ งึ ได้สญ
ู เสียมากถึงเพียง
นี พวกเขาจะทําอย่างไรนะ?”

ข้างหูฉินจินซิว พลันมีเสียงทีแฝงไปด้วยความยินดีใน
ความทุกข์ของคนอืนดังขึน

สีหน้าของฉินจินซิวดูเปลียนไป เขาหันไปมองฉินจินห้าว
ทีเป็ นคนพูดด้วยสายตาอันโหดเ**◌้ยมพลางพูดโดย
พยายามเก็บอารมณ์เอาไว้ : “ข้าไม่รูว้ า่ เจ้ากําลังจะพูด

64
อะไร”

ฉินจินห้าวยิมอย่างขีเล่น : “อ้อ? อย่างนันรึ ในเมือเสด็จ


พีไม่รูก้ ็ช่างมันเถอะ”

พูดจบเขาก็ยิมน้อยๆ ราวกับว่า ประชาชนรอบๆ ยิง


เสียใจ เขาก็ยงมี
ิ ความสุข เหมือนเขามีอาวุธทีจะจัดการ
กับรัชทายาทเพิมมากขึนอีกชินหนึง

“ท่านแม่ทพั ลูกชายของข้าล่ะ? เขากลับมาด้วยหรือ


เปล่า?”

ท่ามกลางผูค้ นพลันมีคนแก่ผหู้ นึงพุง่ ออกมา มองมูซ่ งทัง


65
นําตา สายตาอันแก่ชราเต็มเปี ยมไปด้วยการรอคอย

มูซ่ งเงียบ เขาก็ไม่รูว้ า่ ลูกชายของคนแก่ผนู้ ียังมีชีวิตอยู่


หรือไม่

“ท่านแม่ทพั ลูกชายของข้าด้วย!”

“ท่านแม่ทพั ลูกชายของข้ายังมีชีวิตอยูใ่ ช่หรือไม่!”

รอบๆ เต็มไปด้วยคําถาม เพราะชือเสียงอันดีงามของ


กองทหารตระกูลมู่ ลูกหลานในแคว้นฉินจํานวนเท่าไหร่
ต่อเท่าไหร่กนั ทีเข้ามาเป็ นส่วนหนึงของกองทัพ เป็ นไป
ไม่ได้ทีมูซ่ งจะรูจ้ กั ทุกคนแต่ก็เข้าใจความรูส้ กึ ของคน
66
พวกนีดี

เขายกมือขึนปลอบโยน : “ทุกคนอย่าตืนตระหนก แม้วา่


ครังนีจะสูญเสียคนดีไปเป็ นจํานวนมาก แต่ก็ยงั เหลือ
ทหารทีเฝ้าอยูต่ ามชายแดนอีกมากมาย ตังแต่วนั พรุง่ นี
เป็ นต้นไป จะมีคนคอยติดต่อสือสารกับพวกเจ้า เพือ
บอกทุกคนว่าลูกหลานของพวกเจ้าเป็ นอย่างไรบ้าง”

พอได้ยินคําพูดของมูซ่ ง ประชาชนรอบๆ ก็คอ่ ยๆ สงบลง


พวกเขาต่างก็หวังให้ลกู ของตนเองปลอดภัย และหวังว่า
ในโถนันจะไม่ใช่ลกู ชายของพวกเขา

“ครังนี เดิมไม่ควรจะมีการสูญเสียมากถึงเพียงนี” ขณะ

67
ทีทุกคนเริมสงบลง เสียงอันเรียบนิงทีแฝงความเยือกเย็น
ก็พดู แทรกขึนมา

รอบข้าง เงียบลงเพราะคําพูดนี

มูช่ ิงเกอค่อยๆ ขีม้าออกมาตรงไปทางฉินจินซิว

“นันใครน่ะ?”

“เหมือนจะเป็ นคุณชายตระกูลมูน่ ะ”

68
ตอนที 82-5 พวกเจ้าไม่ยอมรับ ข้าก็ไม่ยอมรับ !

69
“เขามาอยูท่ ีนีได้อย่างไร? หรือว่าเขาจะไปร่วมรบมา
ด้วย?”

“เมือเทียบกันแล้ว ข้าอยากรูค้ วามนัยในคําพูดของเขา


มากกว่า” ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็น

แต่สาํ หรับฉินจินห้าวนันเขากลับรูส้ กึ ตืนเต้นกับการเข้า


ใกล้ของมูช่ ิงเกอ ฉินจินห้าวมองฉินจินซิวทีดูอดึ อัดใจ
แล้วรูส้ กึ ชอบใจ แต่ก็ไม่พดู อะไรออกมา

ตอนนี สายตาทีเขามองมูช่ ิงเกอนันแฝงการยอมรับอยู่


บ้าง ราวกับว่าคุณชายผูจ้ องหองของตระกูลมูท่ ีแอบ

70
ชอบเขาไม่ได้น่าเกลียดถึงเพียงนันแล้ว

ม้าของมูช่ ิงเกอหยุดตรงหน้ารัชทายาทฉินจินซิว นัยน์


กระจ่างของเขานันเต็มไปด้วยความเลือดเย็นพลางยิม
และพูดเสียดสีวา่ : “รัชทายาท ทรงไม่มีอะไรจะพูดรึ?”

“มูช่ ิงเกอ เจ้าหมายความว่าอย่างไร?!” ฉินจินซิวตกใจ


พลันถามเสียงแข็ง

ราวกับเขาเริมรับรูถ้ งึ สายตาคาดเดาด้วยความสงสัย
จากประชาชนทีอยูร่ อบๆ

“บังอาจ!” อยูๆ่ องครักษ์ของรัชทายาทพลันตวาดขึนมา


71
มูช่ ิงเกอมองเขาครูห่ นึง แล้วหันไปมองฉินจินซิว รอยยิม
นันเยือกเย็น : “รัชทายาทจะตืนเต้นถึงเพียงนีไปเพือ
อะไรกัน กระหม่อมเพียงแค่อยากจะถามรัชทายาทว่า
ทรงรูข้ ่าวเกียวกับหานเซิงหรือไม่ก็เท่านันเอง”

“หานเซิงเป็ นพระมาตุลาของรัชทายาทไม่ใช่ร?ึ ”

“คุณชายจะถามข่าวเกียวกับพระมาตุลาไปเพืออะไร
กัน?”

“นันสิ! เหตุใดถึงได้ไปเกียวกับพระมาตุลาได้”

72
ประชาชนทุกคนต่างรูส้ กึ ฉงนใจ

แต่ ผูท้ ีมีฐานะอันสูงส่งทีอยูใ่ นทีนีหลายท่านต่างก็เข้าใจ


ความหมายในคําพูดของมูช่ ิงเกอแล้ว

“เจ้าจะตามหาเขาไปเพืออะไร?” ฉินจินซิวถามหน้าเคร่ง

มูช่ ิงเกอพลันหัวเราะ เสียงนันแม้จะเบาแต่ประชาชนทุก


คนก็ได้ยิน : “ทีกระหม่อมตามหาเขาแน่นอนว่าอยากจะ
ถามว่า....... ในขณะทีทหารกองตระกูลมูส่ กู้ บั สัตว์
ร้ายอย่างสุดชีวิต เขาผูท้ ีเป็ นขุนศึกกําลังทําอะไรอยู่ เหตุ
ใดกองทหารตระกูลมูข่ องข้าทีกําลังต่อสูก้ บั ศัตรูถงึ ได้
ขาดแคลนเสบียงอาหารและต้องใช้อาวุธทีถูกใช้งานจน

73
ทือเพือไปฆ่าฟั นกับพวกสัตว์รา้ ย”

ผ่าง—

เมือเรืองราวถูกเปิ ดเผยก็มีเสียงวิจารณ์ตา่ งๆ นานาเกิด


ขึนในทันที

หลังจากทีประชาชนทุกคนตกใจกับเรืองราวทังหมดแล้ว
ต่างก็แสดงสีหน้าโกรธแค้นออกมา

แต่กองทหารตระกูลมูท่ งห้
ั าพันนายรวมทังมูซ่ งเองยังคง
รักษาความสงบนิงเอาไว้ แต่ทกุ คนดูออกว่าภายใต้
ความสงบนันมีความคังแค้นดังกระแสลมพายุซอ่ นอยูใ่ น
74
นัน

ฉินอีเหยาเองก็อยูใ่ นกองทัพตระกูลมู่ เมือเห็นเสด็จพีทัง


สองของตนแล้ว นางกลับไม่ได้ออกหน้า

เป็ นเพราะฐานะของนาง การไปเมืองอีกับมูช่ ิงเกอถือ


เป็ นเรืองร้ายแรง ตอนนีหากนางออกมาแสดงความคิด
เห็น ก็ไม่รูว้ า่ เรืองราวจะดําเนินอย่างไรต่อไป

เมือนึกถึงความเลวร้ายทีเกิดขึนกับกองทหารตระกูลมูใ่ น
ตอนนัน ในสายตาของฉินอีเหยาพลันดูโศกเศร้า

นางเป็ นหนึงในคนทีอยูใ่ นสงคราม หากไม่ใช่เพราะ


75
องครักษ์ของมูช่ ิงเกอและหากไม่ใช่เพราะไหวพริบอัน
หลักแหลมของเขา ทีใช้ศพของสัตว์ทีตายไปแล้วมาเป็ น
อาหาร เกรงว่านางก็คงจะต้องถูกขังให้ตายอยูท่ ีเมืองอี

เพราะฉะนัน นางไม่มีเหตุผลอะไรทีจะไปห้ามในสิงทีมู่
ชิงเกอกําลังจะทํา

ถึงขนาดทีว่า หากไม่ใช่เพราะฐานะของนาง นางก็อยาก


จะฆ่าคนร้ายด้วยตัวเองด้วยซํา !

เสียงวิจารณ์ของคนรอบข้างทําให้สีหน้าของฉินจินซิวดู
แย่ลง หานเซิงเป็ นพระมาตุลาของเขา หากเรืองพวกนี
ถูกแพร่ออกไปจะส่งผลเสียกับเขาถึงเพียงไหนกัน

76
พอนึกถึงผลลัพธ์ทีจะเกิดขึน สายตาทีเขามองมูช่ ิงเก
อนันก็เต็มไปด้วยความโกรธเกลียดและอาฆาตแค้น

“ขุนศึกหานเซิงบกพร่องในหน้าที หลังจากทีกลับมาก็
ถูกเสด็จพ่อลงโทษสถานหนักเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว” ฉิน
จินซิวพูดอย่างเยือกเย็น

“อ้อ แล้วฮ่องเต้ทรงลงโทษสถานหนักอย่างไรบ้าง?” มูช่ ิง


เกอคาดคันเอาความต่อ

ฉินจินซิวขมวดคิวโดยไม่พดู อะไร

77
แต่มเู่ หลียนหรงกลับพูดขึนมาว่า : “ฮ่องเต้ทรงลงโทษ
เขาด้วยการลดตําแหน่ง 2 ขัน ตัดเบียหวัด 3 ปี ทบทวน
ความผิดอยูใ่ นห้องเป็ นเวลา 1 ปี ”

คําพูดของนางทําให้ความโกรธแค้นของผูค้ นบริเวณ
รอบๆ เพิมมากขึน

มูช่ ิงเกอกลับหัวเราะ

การหัวเราะอย่างบ้าคลังของนางยิงทําให้ทกุ คนรูส้ กึ
เสียใจ อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็เงยหน้าขึนมองมูซ่ งพร้อมเสียง
หัวเราะพลางถามว่า : “ท่านปู่ ท่านลองคิดดูวา่ ทหาร
ตระกูลมูข่ องเรามีคา่ เทียบเท่ากับแค่การลดตําแหน่ง 2

78
ขัน เบียหวัด 3 ปี และทบทวนความผิดอยูใ่ นห้องเป็ น
เวลา 1 ปี ”

มูซ่ งหลับตาลงอย่างทุกข์ใจ กํามือแน่นจนเส้นเลือดที


หลังมือปูดนูนออกมา แสดงให้เห็นถึงความรูส้ กึ ภายใน
ใจของเขาในตอนนี

“พวกข้าไม่ยอม—”

ท่ามกลางกองทหารตระกูลมูน่ นั มีเสียงตะโกนดังขึน
อย่างพร้อมเพรียงกัน

“ไม่ยอม ! ไม่ยอม !” ทุกคนตามก็ยกมือขึนประท้วงตาม


79
ใบหน้าอันงดงามของมูช่ ิงเกอหุบยิมลง นัยน์ตากระจ่าง
นันเต็มไปด้วยความเลือดเย็น : “พวกเจ้าไม่ยอม ข้าก็ไม่
ยอม” ยามนีดวงตาอันน่าดึงดูดคูน่ นั ชวนให้ผคู้ นยากที
จะละสายตา

แม้แต่ฉินจินห้าวเองเมือเห็นแล้วก็รูส้ กึ หลงใหล ในใจมี


ความคิดหนึงเกิดขึน : หากเขาเป็ นผูห้ ญิง จะดีสกั เพียง
ไหนกันนะ?

“มูช่ ิงเกอเจ้าคิดจะทําอะไร?” ฉินจินซิวพูดด้วยใบหน้า


ยําแย่

80
มูช่ ิงเกอหันกลับไปมองเขาด้วยสายตาทีแข็งกร้าว :
“รัชทายาททีมีความเป็ นธรรมตลอดมา รัชทายาททีเต็ม
เปี ยมไปด้วยความรูค้ วามสามารถหรือว่าแค่เพราะพระ
มาตุลาของตนเองเป็ นคนร้ายจึงคิดทีจะปกป้องเขาอย่าง
นันหรือ?”

ฉินจินซิวอึงรับรูไ้ ด้ถงึ สายตาไม่พอใจของคนรอบข้าง แต่


ก็ยงั คงเถียงต่อไปว่า : “เสด็จพ่อได้ทรงลงโทษเขาอย่าง
สาสมแล้ว เจ้าอย่าทําอะไรไม่เข้าท่าอีก”

“ลงโทษอย่างสาสมทีทรงหมายถึง กระหม่อมคิดว่ายัง
ไม่พอ!” มูช่ ิงเกอกวาดสายตาอันคมกริบดังมีด : “มัว
หยาง พาคนไปเชิญพระมาตุลามา!”

81
“ขอรับ!” มัวหยางกระจายคําสังและพาองครักษ์จาํ นวน
หนึงร้อยคนออกไปอย่างเป็ นระเบียบเรียบร้อย

ในใจของฉินจินซิวนันรูส้ กึ ตืนตระหนก เขาหันไปมอง


มูซ่ งแล้วพูดเสียงดังว่า : “ท่านแม่ทพั มูช่ ิงเกอทําเรืองที
ไม่สมควรเพียงนี ท่านไม่คิดจะไม่หา้ มเลยรึ?”

เสียดายทีมูซ่ งเพียงหลับตาพลางเม้มปากแน่น ไม่ได้


สนใจ

มูช่ ิงเกอมองฉินจินซิวด้วยสายตาเย้ยหยันครูห่ นึง


ประหนึงมองคนทีด้อยกว่า

82
กองทหารตระกูลมูน่ บั หมืนต้องตาย ควรจะต้องมีคนชด
ใช้ หานเซิงจะหนีรอดรึ มูช่ ิงเกอรูด้ ีวา่ คนทีอยูเ่ บืองหลัง
นันไม่ใช่หานเซิง แต่ไม่เป็ นปั ญหา นางจะเก็บดอกเบีย
ก่อนแล้วกัน

ช้าเร็วก็ตอ้ งมีสกั วันหนึง ทีนางจะเรียกร้องความเป็ น


ธรรมกลับคืนมาให้สาสมและในวันนีนางก็รูส้ กึ ได้วา่ มัน
อีกไม่นานแล้ว

ครูห่ นึง หานเซิงก็ถกู มัวหยางลากเข้ามา

เสือผ้าของเขาหลุดลุย่ เพราะการดินรน ท่าทางนันดูตืน

83
ตระหนก ใบหน้าขาวซีดราวกับว่า ตังแต่ทีคนพวกนีบุก
เข้าไปในคฤหาสน์ของเขาและทําร้ายองครักษ์ภายใน
จวน บังคับให้เขามาทีนี เขาก็พอจะคาดเดาได้แล้วว่า
เกิดอะไรขึน

เมือเขาเห็นธงประจํากองทัพตระกูลมูแ่ ละมูซ่ งทีนังอยู่


บนหลังม้า ในใจก็รูส้ กึ สินหวังกว่าเดิม

สายตาของเขาหันไปมาอย่างร้อนรน ตอนทีเห็นรัช
ทายาทฉินจินซิวเขาก็เหมือนเห็นฟางช่วยชีวิต จึงตะโกน
เสียงแหลมว่า : “รัชทายาท ช่วยกระหม่อมด้วย!”

สีหน้าของฉินจินซิวพลันดูมืดครึม

84
ช่วยอย่างนันหรือ? เขาจะช่วยอย่างไรได้? มูซ่ งปล่อยให้
มูช่ ิงเกอทําเช่นนีและสายตาของประชาชนก็คอยจับ
จ้องอยู่ เขาจะดึงตนเองไปเกียวข้องเพือช่วยเหลืองันรึ?

ฉินจินซิวก้มหน้าลงสังการกับองครักษ์ของตนเอง
องครักษ์คนนันก็ขีม้าตรงไปยังวังหลวงทันที

ในยามนี ผูท้ ีสามารถช่วยหานเซิงได้มีเพียงคนเดียวเท่า


นัน

ฉินจินซิวภาวนาอย่าให้มชู่ ิงเกอบังอาจไปมากกว่านี
พลางหวังให้องครักษ์ของตนเองรีบกลับไปเชิญราช

85
โองการมาเพือยุติเรืองราวทังหมดนี

การกระทําทุกอย่างของเขา อยูใ่ นสายตาของมูช่ ิงเกอทัง


หมด

แต่ นางไม่แม้แต่จะสนใจเลยสักนิด

มูช่ ิงเกอลงจากหลังม้าอย่างสง่างาม พลางดึงคอเสือของ


หานเซิงขึนมา แล้วพูดกับประชาชนว่า : “ท่านนี ทุกคน
คงรูจ้ กั ดี เขาเป็ นพระมาตุลาของแคว้นเรา ขุนศึกของ
การสงครามในครังนี แต่กลับไม่ได้อยูท่ ีแนวหน้า ยึด
เสบียงอาหารอันเป็ นทีต้องการของกองทัพแล้วหลบไป
อยูท่ ีเมืองฮัน ได้ข่าวว่า ขุนศึกท่านนีใช้ชีวิตอยูอ่ ย่างสุข

86
สําราญในเมืองฮัน ทุกวันมีสรุ าอาหารเลิศรสรวมทังการ
ปรนนิบตั ิจากสาวงาม แต่กองทัพตระกูลมูเ่ ล่า?”

นางกวาดสายตามองมองหานเซิงทีตัวอ่อนราวกับสุนขั ที
ตายไปแล้วด้วยสายตาอันคมกริบราวกับใบมีดพลาง
หัวเราะแล้วพูดว่า : “กองทัพตระกูลมูท่ ีใช้เลือดเนือของ
ตนเองในการหยุดการโจมตีของสัตว์รา้ ย แต่กลับไม่มี
เครืองมือหรือเสบียงอาหารไปช่วยเสริม ต้องใช้อาวุธทีใช้
จนทือสูก้ บั สัตว์พวกนัน พวกเจ้ารูห้ รือไม่วา่ สุดท้ายแล้ว
ทหารของเราต้องใช้อาวุธอะไร? ใช้ฟัน! พวกเขาใช้ฟัน
ของตนเองเพือไปต่อสูก้ บั พวกสัตว์เดรัจฉานเหล่านัน
พวกเขาสูอ้ ย่างสุดชีวิตราวกับตนเองไม่ใช่คนไปเพือใคร
กัน? เหล่าทหารทีไม่มียารักษา เพือไม่ให้ทกุ คนต้อง
ลําบากและเพือถ่วงเวลาเอาไว้ พวกเขาออกไปจากเมือง

87
ไปพร้อมบาดแผล ใช้ชีวิตของตนเองในการหยุดการจู่
โจมอย่างบ้าคลังของพวกสัตว์รา้ ย เพราะพวกเขาเชือว่า
ทางกองทัพของราชสํานักจะส่งเสบียงอาหารและอาวุธ
มาช่วย แต่สดุ ท้ายพอสงครามจบพวกข้าก็ยงั คงไม่เห็น
ขุนศึกอย่างหานเซิง จึงส่งคนไปสืบดูถงึ รูว้ า่ เขาได้หนี
ออกจากเมืองฮันกลับมายังลัวตูเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว พวก
เจ้าคิดว่าคนแบบนีควรจะลงโทษอย่างไรจึงจะสาสมกับ
ดวงวิญญาณของวีรบุรุษผูก้ ล้านับหมืนคน?”

“ฆ่าเขาซะ—!”

“กรีดเนือเลาะกระดูกมัน!”

88
“เฉือนเนือมันจนกว่าจะตาย!”

“เอามันไปปล่อยไว้ในหุบเขาฉิน ให้มนั ได้ลมรสชาติ


ิ การ
เป็ นอาหารของเหล่าสัตว์รา้ ย!”

คําพูดของมูช่ ิงเกอ ทําให้ความแค้นภายในใจของ


ประชาชนพุง่ ทะลักออกมา พวกเขาคิดไม่ถงึ ว่า ทหารที
ปกป้องพวกเขาจะชนะสงครามมาแบบนี ภาพอันเลว
ร้ายพวกนันราวกับปรากฏขึนตรงหน้าทุกคน ทําให้ทกุ
คนสามารถสัมผัสได้

“ตีมนั ให้ตาย !”

89
ไข่ใบหนึงถูกโยนเข้ามาแล้วแตกกระจายบนใบหน้าของ
หานเซิง

หลังจากนัน ไข่เน่า ผักเน่าจํานวนนับไม่ถว้ นก็ถกู โยนมา


ในนัน ประชาชนทีมีลกู หลานเป็ นทหารกองทัพตระกูลมู่
มีปฏิกิรยิ ารุนแรงทีสุด

ราวกับว่า หานเซิงเป็ นคนทีฆ่าญาติพีน้องของพวกเขา

ภาพบรรยากาศทีบ้าคลัง ทําให้ฉินจินซิวถอยหลังโดยไม่
รูต้ วั ขนาดฉินจิวห้าวทีกําลังเป็ นผูช้ มทีดีก็แอบมองมูช่ ิง
เกอทีดูโดดเด่นสะดุดตาท่ามกลางผูค้ น

90
นีไม่ใช่มชู่ ิงเกอทีเขาคุน้ เคย!

มูช่ ิงเกอไม่สามารถพูดคําพูดเช่นนีได้ ไม่มีเสน่หเ์ ย้ายวน


มากถึงเพียงนี และไม่น่าดึงดูดปานนี.......

ปฏิกิรยิ าของประชาชน ทําให้มชู่ ิงเกอยกยิมน้อยๆ

นางยกตัวหานเซิงขึนมาและโดดขึนไปยังแท่นสูงแท่น
หนึงท่ามกลางสายตาของทุกคน

ประชาชนรอบๆ ยังไม่ทนั ได้คิดว่า คุณชายตระกูลมูม่ ี


พละกําลังมากถึงเพียงนีได้อย่างไร เห็นเพียงคุณชาย
คว้าเอวของหานเซิงและยกขึนสูงด้วยมือเพียงข้างเดียว
91
หานเซิงตกใจจนร้องเสียงหลง เปล่งเสียงร้องแหลมสูง
ว่า : “เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้นะ ! ข้าเป็ นขุนนางของราช
สํานักนะ ! ทําร้ายขุนนางนันมีโทษถึงประหาร !”

สําหรับคําพูดของเขา มูช่ ิงเกอทําเพียงยิมเยาะเย้ย

นางพูดเสียงสูงว่า : “หากทุกคนเห็นว่าเขาควรตาย งัน


วันนีข้ามูช่ ิงเกอ คุณชายแห่งตระกูลมู่ ก็จะขอลงทัณฑ์
แทนสวรรค์เอง” ทันใดนัน แขนของนางก็มีแสงสีเขียว
ส่องสะท้อนออกมาและแสงนันก็พงุ่ ตรงไปหาหานเซิง

ตูม—

92
เสียงระเบิดกัมปนาทดังก้องไปทัวฟ้า ทําให้รา่ งของหาน
เซิงระเบิดออกในทันที เลือดเนือสาดกระจายไปทัวทุก
สารทิศดังดอกไม้ไฟ แต่มชู่ ิงเกอทียืนอยูต่ รงนันกลับไม่
โดนเลือดเนือเปรอะเปื อนเลยแม้แต่นอ้ ย

ท่ามกลางฝนโลหิต ทัวร่างของนางมีแสงสีเขียวส่อง
ประกายออกมาจนทุกคนไม่กล้าสบตามองตรงๆ

“สายเขียว!” ฉินจินห้าวตกใจ ไม่อยากจะเชือในสิงทีเห็น

ฉินจินซิวยิงตกใจอ้าปากค้างเพราะภาพตรงหน้า.......

93
ตอนที 83-1 ยกเลิกการหมันหมาย

“สายเขียว ! คุณชายเป็ นถึงยอดฝี มือสายเขียวเชียวรึ!”

“ สวรรค์ ! เมือก่อนข้ายังเคยด่าว่าเขาเป็ นคนไร้คา่ ถ้า


สายเขียวตอนอายุ 15 ปี เป็ นคนไร้คา่ แล้วพวกเราเป็ น
อะไรเล่า?”

“กระทังขนเพียงเส้นเดียวของคนไร้คา่ ก็ยงั เทียบไม่


ติดกระมัง!”

1
“เอวเหน็บดาบยาวสามฉือ บุพการีทา่ นรูห้ รือไม่”

“หมายความว่าอย่างไร? พูดภาษาคนสิ!”

“ก็คือ ‘เจ้าเก่งกาจถึงเพียงนี คนทีบ้านรูห้ รือไม่’ไงเล่า ไอ้


เจ้าคนไร้การศึกษา!”

“……”

“ราชโองการ—

ในทีสุดราชโองการทีหานเซิงรอคอยก็มาถึงแล้ว แต่วา่
เหมือนกับจะไม่มีประโยชน์อะไรอีกเมือตอนนีเขากลาย
2
เป็ นเพียงก้อนเนือเละๆ ทีไม่ได้ยินและมองไม่เห็นอีกต่อ
ไป

“ราชโองการมาถึงแล้ว—องครักษ์ประจําองค์ฮ่องเต้ชู
ราชโองการในมือและวิงเข้ามาอย่างรวดเร็ว กว่าจะฝ่ า
เข้าไปยังกลางฝูงคนได้ ทว่ากลับไม่เห็นแม้แต่เงาของ
หานเซิง

เขามองหาบริเวณรอบๆ พลางพูดพึมพําว่า : “หานเซิง


เล่า?”

มูช่ ิงเกอทีเผยพลังของตนออกไปแล้ว ยืนเอามือไพล่หลัง


อยูต่ รงหน้าม้าของมูซ่ งและเห็นทุกการกระทําของ

3
องครักษ์ประจําพระองค์ บนใบหน้าเผยรอยยิมเยาะเย้ย
ทีมุมปาก

“องค์รชั ทายาท !” กําลังเสริมทีฉินจินซิวให้ไปตามมา


จากวังตะวันออก ตอนนีก็ได้มาถึงเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว
เช่นกัน พวกเขารีบมารายงานตัวตรงหน้าเจ้านายของ
ตนเอง

แต่สงที
ิ พวกเขาเห็นคือรัชทายาทแคว้นฉินทีตกใจจนตัว
สันเทา

เมือองครักษ์ประจําพระองค์มองซ้ายมองขวาแล้วไม่เห็น
จึงขมวดคิวพลางมองมูซ่ งและถามว่า : “เรียนถามท่าน

4
แม่ทพั พระมาตุลาเล่า?”

สีหน้าของมูซ่ งดูเคร่งเครียดเม้มปากแน่นไม่คิดจะพูด
อะไร

มูช่ ิงเกอทียืนอยูข่ า้ งหน้ากระตุกยิมมากกว่าเดิมความ


โหดเ**◌้ยมนันเพิมขึนจนถึงขีดสุด พลางชีเลือดเนือ
รอบๆ แล้วพูดว่า : “พระมาตุลาก็อยูท่ ีนีไงเล่า แม่ทพั
ท่านนีไม่เห็นรึ?”

แม่ทพั ประจําองค์ฮ่องเต้ตกใจ ในทีสุดก็เห็นว่าสิงทีมูช่ ิง


เกอชีนันคืออะไร

5
เลือดเนือทีกระจายเต็มพืนและชุดอันหรูหราทีขาดวินทํา
ให้อดเขาคาดการณ์ดว้ ยความหวาดกลัวไม่ได้ เขาเบิก
ตากว้างสีหน้าพลันเปลียนไป พลางถามอย่างเคร่ง
เครียดว่า : “คุณชายตระกูลมู่ พวกเจ้าทําอะไรพระ
มาตุลา?”

มูช่ ิงเกอกระตุกยิมอย่างเยือกเย็นอีกครัง สายตาโหด


เ**◌้ยมพูดอย่างไม่เกรงกลัวว่า : “พระมาตุลามีความผิด
บาปในใจ ไม่กล้ามีชีวิตอยูใ่ นโลกนีอีกต่อไปจึงร่วมทาง
ไปพร้อมกับกองทหารตระกูลมูท่ ีต้องฝังร่างตนเองไว้ที
เมืองอีแล้ว”

“เจ้า! เจ้าฆ่าเขา!” แม่ทพั ประจําองค์ฮ่องเต้เบิกตาโต


ด้วยความอึง พูดจบ เหล่าทหารทีอยูข่ า้ งหลังเขาก็ชกั
6
ดาบทีเหน็บอยูต่ รงเอวออกมาชีไปทางมูช่ ิงเกอ

การกระทํานี ยัวโทสะกองทหารตระกูลมูเ่ ป็ นทีสุด

ทหารห้าพันนาย ต่างก็ชกั ดาบของตนเองออกมาชีไปที


แม่ทพั ประจําองค์ฮ่องเต้ทนั ที

องครักษ์ทงห้
ั าร้อยนายของมูช่ ิงเกอรวมตัวกันและปก
ป้องมูช่ ิงเกอจากทังด้านซ้ายและขวาพลางมองแม่ทพั
ประจําองค์ฮ่องเต้ดว้ ยใบหน้าเรียบเฉย

“หานเซิงสมควรตาย!”

7
“หากหานเซิงไม่ตายก็ไม่สามารถดับความแค้นในใจของ
ประชาชนได้!”

“คุณชายสังหารได้ดี!”

“คุณชายพวกข้าอยูข่ า้ งท่าน!”

เสียงทีดังขึนในบริเวณรอบๆ ค่อยๆ รวมกัน พวกเขาเดิน


ไปบังตรงหน้ามูช่ ิงเกอไว้แล้วจ้องแม่ทพั ประจําองค์
ฮ่องเต้ทีมาจากวังหลวงด้วยความเร่งรีบอย่างโกรธแค้น

แม่ทพั ประจําองค์นิงอึงอยูก่ บั ที ไม่กล้าลงทําอะไรมาก


ไปกว่านี แม่ทพั ร่างกายแข็งเกร็งดังกําลังเผชิญหน้ากับ
8
สงคราม ส่วนเหล่าทหารของแม่ทพั ทีชักดาบขึนนันมือก็
กําด้ามดาบแน่นอย่างสันๆ ประหนึงอยากจะเก็บมัน
กลับไป

แม่ทพั ประจําองค์ตระหนกในใจ : คุณชายตระกูลมูเ่ ป็ น


เพียงคนไร้คา่ เหตุใดจึงได้ใจประชาชนไปได้ถงึ เพียงนี !

ภาพนี ทําให้ผคู้ นไม่นอ้ ยรูส้ กึ ตืนตะลึง

ทังมูซ่ ง มูช่ ิงเกอและฉินอีเหยาทียังคงยืนอยูก่ ลางกอง


ทัพตระกูลมู่ และรุย่ อ๋องฉินจินห้าวทีเพิงตืนจากภวังค์
ความตกใจทีมูช่ ิงเกอเป็ นสายเขียว

9
รวมถึงฉินจินซิวทีตกใจเพราะภาพเลือดเนือแตกกระจาย
ทีเกิดขึนตรงหน้าจนอกสันขวัญผวา

สิงทีเขากลัว ไม่ใช่ความจงรักภักดีจากประชาชนทีมูช่ ิง
เกอมี แต่สงที
ิ เขาเป็ นห่วงคือหากมูช่ ิงเกอรูว้ า่ แท้จริงแล้ว
ต้นเหตุของเรืองนีเป็ นฝี มือของใคร เลือดเนือทีอยูร่ อบๆ
ก็คงจะเป็ นภาพสะท้อนอนาคตของเขา

“ฆ่ามัน ! ฆ่ามันซะ!” ทันใดนันรัชทายาทฉินจินซิวก็


เหมือนตืนจากความฝัน พลางถอยหลังชีหน้ามูช่ ิงเก
อแล้วตะโกนขึน

มูช่ ิงเกอหันไปมองเขา ส่วนลึกของแววตานันสามารถ

10
มองเห็นการเยาะเย้ยและไอสังหารได้อย่างชัดเจน

“ใครมันกล้า!” มูซ่ งทีเงียบมาโดยตลอดพลันตะโกนขึน


มา

เขาจ้องเขม็ง ไอสังหารในกายนันกระจายออกมาทําให้
ทุกคนตกใจแม้แต่ฉินจินซิวเองก็ไม่กล้าส่งเสียงอีก

แม่ทพั ประจําองค์ขมวดคิว มองทุกอย่างแล้วรูส้ กึ ปวดหัว


เป็ นอย่างมาก

หากรูว้ า่ เรืองนีจะเลยเถิดมาถึงเพียงนี เขาก็คงจะหลบ


ออกไปนานแล้ว แต่วา่ ตอนนีถึงแม้วา่ เขาอยากจะปลีก
11
ตัวออกไป ราชโองการในมือก็ทาํ ให้เขาไม่อาจถอยหลัง
ได้

แม่ทพั ประจําองค์พยายามใจเย็น ประสานมือพูดกับ


มูซ่ ง : “ท่านแม่ทพั เรืองในวันนีเหนือความสามารถทีข้า
ทีจะตัดสินได้ ในมือของข้านันมีราชโองการทีเป็ นคําสัง
ขององค์ฮ่องเต้ให้เรียกตัวพระมาตุลาเข้าวัง แต่ตอนนี
พระมาตุลาได้สนชี
ิ พไปแล้ว เกรงว่าคงจะต้องเชิญคุณ
ชายตามข้าเข้าวังเพืออธิบายเรืองทังหมดแก่ฮ่องเต้ดว้ ย
ตนเอง”

มูช่ ิงเกอยิมเย็นไม่ตอบคํา

12
มูซ่ งกวาดตามองแม่ทพั ประจําพระองค์อย่างเย็นชา :
“ทางฮ่องเต้ขา้ จะไปอธิบายเอง เจ้าไปแจ้งพระองค์วา่ สิง
ทีเกอเอ๋อร์ทาํ ในวันนีเป็ นความคิดของข้า งานเลียงที
พระองค์ทรงเตรียมไว้ให้แก่ขา้ หากยังไม่ได้ยกเลิก เมือถึง
เวลาข้ากับหลานชายจะไป”

พูดจบเขาก็ไม่รอคําตอบจากแม่ทพั ประจําพระองค์ พลัน


พูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “เกอเอ๋อร์ ขึนม้า พวกเรากลับจวน
กันเถิด”

มูช่ ิงเกอกระตุกยิมพลันหันหลังขึนม้าไป มูซ่ งนําคนของ


จวนตระกูลมู่ กลับจวนไป สําหรับฉินอีเหยา มัวหยางได้
แอบพาคนไปส่งทีตําหนักองค์หญิงเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว

13
แม่ทพั ประจําพระองค์ไม่รูว้ า่ ควรจะทําอย่างไรดี ทําได้
เพียงปล่อยให้พวกเขาเดินจากไป

ในขณะทีไม่รูว้ า่ ควรจะไปกราบทูลกับฮ่องเต้อย่างไรดี
นัน เขาก็เห็นรุย่ อ๋องฉินจินห้าว จึงรีบเข้าไปหาพลางถาม
ว่า : “รุย่ อ๋องทรงอยูท่ ีนีตังแต่แรกคงจะเห็นเรืองราวทัง
หมด ขอเชิญพระองค์กลับวังไปกราบทูลฮ่องเต้พร้อม
กระหม่อมเถิด”

ฉินจินห้าวทําหน้าเคร่ง เขารูส้ กึ เหมือนตนเองเข้าใจอะไร


ผิดไป

14
มูช่ ิงเกอแอบซ่อนได้ดีถงึ เพียงนีเชียวรึ?

เขามองรัชทายาททีจมอยูใ่ นความหวาดกลัวอยูค่ รูห่ นึง


พลางพยักหน้าตกลงตามคําขอของท่านแม่ทพั

15
ตอนที 83-2 ยกเลิกการหมันหมาย

เมือกลับไปถึงจวนตระกูลมู่ ด้วยการปรนนิบตั ิของโย่วเห


อและฮวาเยวียก็ทาํ ให้มชู่ ิงเกออาบนําแต่งตัวเสร็จ
เปลียนเป็ นชุดตัวยาวสีแดงสดแล้วเดินยังไปห้องหนังสือ
ของมูซ่ ง

สิงทีเกิดขึนทีประตูเมืองนันได้แพร่กระจายออกไปอย่าง
16
รวดเร็ว

ไม่นานตังแต่ตน้ ซอยยันท้ายซอย ต่างก็รูเ้ รืองทีมูช่ ิงเก


อฆ่าพระมาตุลา ท่าทางในตอนนันของนางถูกบรรยาย
ออกไปให้ดยู งใหญ่
ิ ขนเรื
ึ อยๆ ทําให้ทกุ คนต่างชืนชมและ
ยกย่อง

สิงทีผูค้ นสงสัยมากทีสุดคือเหตุใดนางทีเป็ นคนไร้คา่ ถึง


กลายเป็ นยอดฝี มือสายเขียวได้

ต่างรูว้ า่ ภายในแคว้นฉินนันแม้วา่ สายเขียวจะมีไม่นอ้ ย


แต่ในอายุทีเท่ากันแล้วแน่นอนว่ามีเพียงนางคนเดียวทีมี
พรสวรรค์เหนือฟ้าแบบนี เป็ นเรืองทีน่าแปลกยิงนัก

17
ข่าวนีลอยเข้ามายังจวนตระกูลมู่

เมือป๋ ายซีเยวียรูข้ ่าวนีจากลวีจือ ก็โยนแจกันดอกไม้ใน


ห้องจนแตกกระจาย สีหน้านันทังโหดเ**◌้ยมและน่า
กลัว

“เหตุใดมูช่ ิงเกอถึงกลายเป็ นสายเขียวไปได้?” ป๋ ายซีเย


วียไม่อยากจะเชือ

หากเขาเป็ นสายเขียวงันความสามารถทีนางสูอ้ ตุ ส่าห์


อดทนเก็บมันไว้มาตลอดนันเพืออะไรกันเล่า? นางกลัว
ว่าตระกูลมูจ่ ะเห็นความสามารถของนางแล้วบังคับให้

18
นางแต่งงานกับมูช่ ิงเกอ นีช่างเป็ นเรืองทีน่าขันยิงนัก

ด้วยความสามารถของมูช่ ิงเกอแล้ว จะมีผหู้ ญิงในแคว้น


ฉินเท่าไหร่ตอ่ เท่าไหร่กนั ทียอมพลีกายให้เขา

“ตระกูลมู่ มูช่ ิงเกอพวกเจ้าปิ ดบังข้าได้ดีถงึ เพียงนี!” ป๋ าย


ซีเยวียกัดฟั นพูด

ภายในห้องหนังสือ มูซ่ งถอดเกราะบนตัวออก หลังจากที


นังลง มูเ่ หลียนหรงก็รนิ นําชาให้กบั เขาและยืนอยูข่ า้ งๆ
ด้วยท่าทางสงบนิง

ทันใดนันห้องหนังสือพลันถูกเปิ ดออก
19
มูช่ ิงเกอเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

เมือเข้ามายังห้องหนังสือ นางก็หาเก้าอีตัวหนึงมานังลง
ด้วยท่าทางไร้ซงความกั
ึ งวลใดๆ

มูเ่ หลียนหรงมองท่าทางอันผ่อนคลายของนางก็ขมวด
คิวและเสียดสีนางว่า : “ไอ้ตวั ก่อปั ญหา ตอนนีก็ฆา่ พระ
ญาติกลางถนน รูม้ ยว่
ั านีมันมีโทษสถานใด?”

มูช่ ิงเกอยักคิวพูดนิงๆ ว่า : “ข้าฆ่าพระญาติอย่างนันรึ


ข้าก็แค่ฆา่ ทหารหนีสงครามคนหนึงก็เท่านัน”

20
คําอธิบายสันๆ นีทําให้มเู่ หลียนหรงอึงไป นางมองบิดา
ของตนเองด้วยท่าทางทีไม่รูจ้ ะเถียงอย่างไรต่อ แต่พดู
ตําหนิวา่ : “ท่านพ่อก็ไม่เตือนไอ้เปี ยกสักหน่อย ปล่อยให้
มันก่อเรือง”

นางยอมรับว่าการฆ่าหานเซิงนันเป็ นการระบายความ
แค้นทีดีมาก แต่วา่ กระทําเช่นนีมันจะนําพาความเดือด
ร้อนมาให้มชู่ ิงเกอ

ไอ้เปี ยกนีไม่ใช่แค่ฆา่ หานเซิงแต่ยงั เผยความสามารถที


แท้จริงของตนเองออกมา ไม่รูว้ า่ ท่านผูน้ นที
ั อยูใ่ นวัง
หลวงจะคาดเดาไปถึงไหนตอนไหนแล้ว

21
มูซ่ งถือถ้วยนําชาเงียบไปสักพัก แล้วเขาก็บอกว่า :
“หานเซิงนัน ฆ่าได้ดี”

มูเ่ หลียนหรงโกรธจนแค่นยิมออกมา พลางถามว่า :


“แล้วจะทําอย่างไรต่อไป เอาตัวชิงเกอไปให้ทา่ นผูน้ นที

อยูใ่ นวังระบายความแค้นรึ? แล้วยังมีฮองเฮาอีก ชิงเก
อฆ่าน้องชายแท้ๆ ของนาง ไม่รูว้ า่ นางจะโกรธถึงเพียง
ไหนและไม่รูว้ า่ จะลอบทําร้ายชิงเกออย่างไร” ยิงพูดก็ยิง
เป็ นห่วง จนนางอยากจะเอาตัวมูช่ ิงเกอมาซุกไว้ในอก
แล้วปกป้องด้วยตนเอง

มูซ่ งเงยหน้าขึนมองมูช่ ิงเกอด้วยสายตาอันแน่วนิง พลาง


ถามว่า : “เกอเอ๋อร์ เจ้าคิดว่าจะทําอย่างไรต่อไป” หลัง
จากทีผ่านเรืองราวทีเมืองอีเขาก็ตอ้ งมองหลานของตน
22
เองเสียใหม่ เพราะรูส้ กึ ว่าการทีมูช่ ิงเกอทําเช่นนี แน่นอน
ว่าต้องคิดมาดีแล้ว อย่างไรเสียเขาก็จะอยากฟั งความ
คิดของหลานชาย

มูช่ ิงเกอทีถูกเรียกชือแสยะยิมแล้วเงยหน้าขึนมองท่านปู่
และท่านอา : “ไม่สเู้ ราถือโอกาสนีในการถอนการหมัน
หมายของข้าและองค์หญิงไปเสีย”

“เจ้าพูดอะไร?” มูเ่ หลียนหรงตกใจ

แม้วา่ องค์หญิงฉางเล่อจะเป็ นคนในราชวงศ์แต่เท่าทีได้


สัมผัสนางก็เป็ นคนทีดีคนหนึง ไอ้เปี ยกคนนีกลับผลักไส
ภรรยาทีมีแต่คนอิจฉาเช่นนีออกไป

23
มูซ่ งก็ขมวดคิวอย่างไม่เข้าใจ : “เพราะอะไร?” องค์หญิง
ฉางเล่อยอมไปเผชิญกับอันตรายเคียงคูก่ บั หลานชาย
ของตนเองทีเมืองอี ความสัมพันธ์ระหว่างกันนันคนแก่
คนนีเห็นทังหมดอยูใ่ นสายตาแต่ทาํ ไมหลานชายของตน
เองถึงไม่สนใจ

หรือว่า......เขายังคงไม่ลืมรุย่ อ๋อง......

เมือคิดถึงตรงนี สีหน้าของมูซ่ งพลันแย่ลงในทันที

พอเห็นสีหน้าของมูซ่ ง มูช่ ิงเกอก็รูว้ า่ เขากําลังคิดอะไรใน


แง่รา้ ยอยู่ จึงพูดว่า : “ทีข้าต้องยกเลิกการหมันหมายก็

24
เพือตัวองค์หญิงเองทังนัน ไม่เกียวข้องกับผูอ้ ืน”

“หมายความว่าอย่างไรหรือว่าเมือแต่งงานเข้ามาอยูใ่ น
จวนตระกูลมูแ่ ล้ว จะทําให้องค์หญิงฉางเล่อต้องลําบาก
รึ? อีกทังข้ายังเห็นว่าองค์หญิงเองก็มีใจสมัครรักใคร่เจ้า
อยูม่ าก” มูซ่ งขมวดคิว

มูเ่ หลียนหรงมองท่านพ่อของตนเองด้วยความสงสัย

หลังจากนันมูซ่ งก็พดู ถึงเรืองราวทีฉินอีเหยาไปเมืองอีกับ


มูช่ ิงเกอจึงทําให้มเู่ หลียนหรงซาบซึงใจขึนมาทันที

นางพูดอย่างไม่เกรงใจมูช่ ิงเกอว่า : “ไอ้เด็กบ้า ความ


25
รูส้ กึ ทีองค์หญิงมีให้เจ้านันมากมายถึงเพียงนี หากเจ้า
กล้าทําอะไรนาง ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้เป็ นอันขาด”

สถานการณ์ทีแย่ลงเรือยๆ ทําให้มชู่ ิงเกอลอบถอน


หายใจ กอดอกพลางพูดว่า : “ก็เพราะเป็ นเช่นนีข้าจึงจํา
เป็ นต้องยกเลิกการหมันหมายกับนาง” ตอนทีอยูท่ ีเมือง
อี นางสัมผัสได้ถงึ ความรูส้ กึ ทีฉินอีเหยามีให้กบั นาง

หากนางเป็ นชาย ภรรยาอย่างฉินอีเหยานัน นางไม่มีทาง


รังเกียจ

แต่วา่ ฐานะทีแท้จริงของนางนันเป็ นผูห้ ญิง จะแต่งงาน


กับฉินอีเหยาได้อย่างไร? หากแต่งงานกับนางจริงๆ ก็

26
เท่ากับว่าทําร้ายนางไปทังชีวิต

“พูดให้ชดั เจน” มูซ่ งขมวดคิวแน่น

มูเ่ หลียนหรงเองก็จอ้ งนางเขม็ง ราวกับนางไม่ใช่ลกู


ผูช้ าย

ทังสองต่างบีบบังคับ ทําให้มชู่ ิงเกอแอบถอนหายใจ ในที


สุดนางก็ตดั สินใจลุกขึนจากเก้าอีแล้วยกมือขึนดึงตุม้ หูสี
ม่วงบนหูซา้ ยออก ทันใดนันภาพเหตุการณ์อศั จรรย์ก็
ปรากฏขึนต่อหน้ามูซ่ งและมูเ่ หลียนหรง

27
ตอนที 83-3 ยกเลิกการหมันหมาย

28
เครืองหน้าทีเดิมมีเหลียมมุมสมชายของมูช่ ิงเกอพลันดู
อ่อนโยนขึนมา ใบหน้าทีดูงดงามอยูแ่ ล้วพลันอ่อนโยน
ประณีตมากขึน ความองอาจบนใบหน้ายังคงไม่ลดลง
แต่กลับดูออ่ นหวานเย้ายวนขึนหลายเท่า ลูกกระเดือก
บนลําคอก็คอ่ ยๆ อันตรธานหายไปอย่างไร้รอ่ งรอยกลาย
เป็ นลําคอราบเรียบ เรือนกายตรงสูงผอมในตอนแรกดู
ละเอียดอ่อนมากขึน ไม่วา่ จะมองจากมุมใดก็สมบูรณ์
แบบไร้ทีติ

“นี.......นี........นี......” มูซ่ งอึงจนอ้าปากค้าง

29
มูเ่ หลียนหรงเองก็มองมูช่ ิงเกอตัวจริงทีเปลียนไปด้วย
ความตะลึง

ตึง !

จู่ๆ มูซ่ งพลันลุกขึนมาชีหน้ามูช่ ิงเกอ พูดอะไรไม่ออกเป็ น


เวลานาน มีใครสามารถบอกเขาได้บา้ งว่าหลานชายของ
เขากลายเป็ นหลานสาวได้อย่างไร?

เมือเห็นความตกตะลึงของท่านปู่ และท่านอา มูช่ ิงเกอก็


ยักไหล่พดู พลางถอนหายใจว่า : “ก็อย่างทีพวกท่านเห็น
ข้าเป็ นผูห้ ญิง ผูห้ ญิงจะแต่งงานและมีลกู กับผูห้ ญิงได้
อย่างไรเล่า?”

30
มูซ่ งขาอ่อนและล้มนังบนเก้าอี ความกระทบกระเทือน
จิตใจครังนีใหญ่หลวงนัก เขาต้องการเวลาในการทําใจ

เขาไม่ได้เห็นว่าผูช้ ายสําคัญกว่าผูห้ ญิง แต่หลานชายที


เลียงมาสิบห้าปี เป็ นหลานสาว เป็ นเรืองทีเขายากจะ
ยอมรับ

สิบห้าปี มานี เขากลับเลียงหลานสาวของตนเองดังเป็ น


เด็กผูช้ าย

มูเ่ หลียนหรงทีรับไม่ได้เช่นกัน สายตาทีมองมูช่ ิงเกอนัน


ยากจะเอือนเอ่ยคําพูดใด

31
นางไม่คิดว่าเจ้าเด็กโง่ทีถูกนางด่าว่า ‘ไอ้เด็กบ้า ไอ้เด็ก
บ้า’ ทังวันนันจะเป็ นผูห้ ญิงและตนเองก็หวังให้นางหา
ภรรยาและมีลกู เพือสืบเชือสายตระกูล

ความรูส้ กึ ประหนึงถูกหลอกเกิดขึนภายในจิตใจทําให้
นางพูดออกไปว่า : “เจ้าเด็กโง่ นีมันเรืองอะไรกันแน่?”

มูช่ ิงเกอแบะปาก นางเป็ นผูบ้ ริสทุ ธินะ

แล้วนางก็อธิบายเรืองราวทังหมดทีมูช่ ิงเกอตัวจริงเคย
บอกนางกับนายท่านทังสองของตระกูลมูอ่ ีกรอบ

32
บางทีทา่ นแม่ทีมีทีมาลึกลับท่านนันของนางต้องการให้
นางปลอมตัวเป็ นผูช้ ายเพือกอบกูช้ ือเสียงของตระกูลมู่
และบางทีพวกเขาอาจจะคิดว่าต่อมาจะคลอดลูกชาย
คนหนึงและหาข้ออ้างเปลียนฐานะให้นางกลับมาเป็ น
ผูห้ ญิงดังเดิม

แต่วา่ แผนการไม่อาจเทียบการเปลียนแปลง แม่ทพั น้อย


แห่งตระกูลมู่ ท่านพ่อของมูช่ ิงเกอ มูเ่ หลียนเฉิงตายใน
สงคราม จึงทําให้ไม่สามารถทําตามแผนทีวางเอาไว้ได้

ท่านแม่ก็หายไปจากการตามหาศพของท่านพ่อจวบจน
ทุกวันนีก็ไม่รูว้ า่ จะเป็ นตายร้ายดีอย่างไร

33
เหลือเพียงนางทีเป็ นทายาทคนเดียวของตระกูลมูต่ อ่ ไป

จู่ๆ มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ โชคดี โชคดีทีมูช่ ิงเกอคนก่อนไม่ได้คิด


บ้าๆไปสารภาพฐานะทีแท้จริงแก่ฉินจินห้าวทีนางหลงรัก
มิเช่นนันไม่รูว้ า่ จะสร้างความเดือดร้อนให้กบั นางมาก
เพียงไหน

เมือฟั งคําอธิบายของมูช่ ิงเกอ มูซ่ งก็พดู อะไรไม่ออกอยู่


นาน ดวงตาทีเต็มไปด้วยความเ**◌่ ยวย่นนันเต็มไปด้วย
นําตา

มูเ่ หลียนหรงเงียบลง

34
ไม่วา่ การตัดสินใจนีจะผิดหรือจะถูกก็เพือตระกูลมูท่ งนั
ั น
และทีต้องลําบากก็คือมูช่ ิงเกอทีเป็ นเพียงเด็กอายุไม่ถงึ
สิบห้าปี ดว้ ยซํา

เนินนาน ทังมูซ่ งและมูเ่ หลียนหรงก็สามารถทําใจยอมรับ


กับความจริงทีมูช่ ิงเกอเป็ นผูห้ ญิงได้

พวกเขามองมูช่ ิงเกอทีใส่ตมุ้ หูกลับไปใหม่อีกครังและ


จากหญิงสาวผูง้ ดงามเฉิดฉันก็กลายเป็ นหนุ่มน้อยผูส้ ง่า
ผ่าเผย ในใจก็รูส้ กึ แปลกใจเป็ นอย่างมาก

มูซ่ งถอนหายใจพลางพูดว่า : “ก็ไม่รูว้ า่ สะใภ้ใหญ่คนนี


ของข้า มีทีมาทีไปอย่างไรถึงได้มีสมบัติลกึ ลับเช่นนี”

35
“เห็นลักษณะกริยาท่าทางและรูปโฉมของพีสะใภ้ใหญ่
แล้วคงไม่ใช่ครอบครัวธรรมดาอบรมเลียงดูมาแน่ เพียง
แต่นางไม่ยอมพูดและพวกข้าก็ไม่ได้ถามอะไรมากก็เท่า
นัน” มูเ่ หลียนหรงเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

ทันใดนันมูซ่ งก็เหมือนคิดอะไรออก พลางพูดกับมูช่ ิงเก


ออย่างเคร่งเครียดว่า : “เกอเอ๋อร์ ฐานะของเจ้านันต้อง
เก็บเป็ นความลับ ห้ามให้ผใู้ ดรูโ้ ดยเด็ดขาด”

หากท่านผูน้ นในวั
ั งหลวงรูก้ ็คงจะกวาดล้างทังตระกูลมู่
โทษฐานหลอกลวงเบืองสูง

36
เขาไม่ได้เห็นแก่อาํ นาจและเกียรติยศ แต่หากไร้ซงึ
อํานาจนันก็คงเป็ นเวลาทีตระกูลมูจ่ ะต้องสูญสิน ทีคน
เหล่านันในวังหลวงยังรีรอไม่ยอมลงมือ ไม่ใช่เพราะเกรง
ในอํานาจทีเขามีอย่างนันรึ?

มูช่ ิงเกอเองก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ เรืองทีนางเป็ นผูห้ ญิง


ไม่ตอ้ งให้มซู่ งเตือนนางก็จะไม่ไปป่ าวประกาศให้ผใู้ ดรู ้
แน่นอน

“เพราะฉะนันทีข้าฆ่าหานเซิงในครังนีทางฮ่องเต้จะต้อง
คิดทําอะไรสักอย่างเป็ นแน่ ก็ให้พระองค์ถอนการหมัน
หมายของข้าเสีย ข้าว่าฮ่องเต้เองก็คงไม่อยากได้ขา้ เป็ น
ลูกเขยมากนักหรอก รอให้พระองค์ถอนการหมันหมาย
ระหว่างข้าและองค์หญิงฉางเล่อแล้ว ท่านปู่ คอ่ ยเสนอว่า
37
ให้ลงอาญาข้าโดยการให้ขา้ ไปอยูท่ ีเมืองอีและให้กลับ
มาอีกทีตอนพิธีสวมหมวก” มูช่ ิงเกอพูดในสิงทีตนเอง
วางแผนไว้ออกมา อย่างไรเสียนางก็เห็นว่าฮ่องเต้ชอบ
ลงโทษกักบริเวณคนอยูแ่ ล้วนี หานเซิงทําความผิดถึง
เพียงนันก็แค่ปรับลดเบียหวัด ไม่ให้ออกจากคฤหาสน์
เป็ นเวลาหนึงปี ในวันนีข้าเอาตัวเองไปปล่อยไว้ในพืนที
รกร้างทุรกันดาร ฮ่องเต้เฮงซวยนันจะว่าอย่างไรได้อีก?

ตอนนีกองทัพตระกูลมูก่ าํ ลังมีชือเสียงไปในทางทีดี
ฮ่องเต้จะกล้าฆ่านางรึ?

“เจ้าจะไปเมืองอีอย่างนันหรือ?” มูซ่ งถามด้วยความ


แปลกใจ

38
สายตาของมูช่ ิงเกอดูเปลียนไป นัยน์ตาอันเย็นยะเยือก
นันเป็ นประกาย : “วันนีข้าได้เผยพลังทีแท้จริงของตน
เองออกไป หากยังคงอยูใ่ นลัวตูตอ่ คงต้องเผชิญกับการ
สอดแนมและลอบสังหารนับครังไม่ถว้ น ยามนีภารกิจ
ของข้าคือฝึ กฝนพลังเวทให้มากขึน ไม่มีเวลามากพอที
จะไปเล่นกับพวกมัน เมืองอีถือเป็ นสถานทีทีเหมาะสม
เป็ นพืนทีศักดินาของตระกูลมูข่ องเรา ทังยังมีกองทหาร
ของตระกูล ไม่ตอ้ งเป็ นห่วงถึงเรืองความปลอดภัยและ
ทําให้ขา้ สามารถฝึ กฝนพลังเวทได้อย่างสบายใจสักระยะ
หนึง หลังจากทีข้าไปแล้วขอให้ทา่ นปู่ เก็บตัวอยูแ่ ต่ใน
จวน เพียงเท่านีก็จะทําให้ตระกูลมูข่ องเราหายไปจาก
สายตาพวกเขาได้บา้ ง การแย่งชิงของรัชทายาทกับรุย่
อ๋องนันตระกูลมูก่ ็จะไม่ถกู ดึงไปเกียวข้องแน่นอน ปี หน้า
ข้ากลับมาเข้าพิธีสวมหมวก ก็คงจะรูผ้ ลการแย่งชิงอะไร
39
บ้างแล้ว”

“เกอร์เอ๋อร์ เจ้าคิดจะทําอะไร” มูซ่ งขมวดคิวถาม

เขาไม่คิดว่าหลานสาวของตนเองจะมีนิสยั ชอบหนี

เมือถูกสายตาดังจิงจอกเฒ่าจับจ้องมา มูช่ ิงเกอทําได้


เพียงบอกแผนการอีกแผนหนึงของตนเองออกมา :
“ท่านปู่ ควรรูว้ า่ บางทีการหนีไปตังหลักก็เพือให้ได้รบั ผล
ทีดีกว่า เรืองทีเกิดขึนในเมืองอีนันเห็นได้ชดั ว่ามีคนต้อง
การชีวิตคนในตระกูลมู่ เรารูว้ า่ เป็ นใคร แต่ไม่สามารถทํา
อะไรได้เพียงเพราะสิงทีตระกูลมูน่ บั ถือคือความจงรัก
ภักดี เพราะฉะนันหลบไปก่อนจะดีกว่า ให้พวกเขากัด

40
กันเองไปสักพัก ข้าจะเข้าสวมหมวกในอีก 10 เดือนจึง
ถือว่าเป็ นนาทีทองของตระกูลมู่ พอข้ากลับมาก็ถงึ เวลา
ทีตระกูลของเราจะทวงความยุติธรรมให้แก่ตนเอง”

มูซ่ งฟั งแล้วตกใจ อึงกับไอสังหารในคําพูดของมูช่ ิงเก


อ จึงพูดเสียงแข็งว่า : “ชิงเกอเจ้าจะทําเช่นนีไม่ได้
ตระกูลของเราจะไม่มีวนั เป็ นโจรกบฏ”

มูเ่ หลียนหรงขมวดคิวพูด : “ท่านพ่อ ถึงตอนนีแล้วท่าน


ยังดูไม่ออกอีกรึ?”

มูซ่ งยิมมุมปากพลางถอนหายใจแล้วพูดว่า : “ข้าไม่


อยากให้แผ่นดินลุกเป็ นไฟ ทําให้แคว้นฉินต้องตกอยูใ่ น

41
สงคราม”

“ท่านปู่ วางใจเถิด” มูช่ ิงเกอยิมและหรีตาทังคู่ ในรอยยิม


นันมีความเยือกเย็นประดับอยู่ : “ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉิน
นันยังแซ่ฉิน แต่วา่ ใครจะได้ขนครองนั
ึ นต้องให้ตระกูลมู่
ของเราเป็ นผูต้ ดั สิน เราไม่ได้กบฏเพียงกําจัดทรราชเท่า
นัน”

กําจัดทรราช!

ทังมูซ่ งและมูเ่ หลียนหรงต่างอดไม่ได้ทีจะสูดลมหายใจ


เยียบเย็น

42
พวกเขาตกใจในความคิดและความกล้าของมูช่ ิงเกอ

เงียบไปพักใหญ่ มูซ่ งจึงมองมูช่ ิงเกอแล้วพูดว่า : “เก


อเอ๋อร์รบั ปากกับปู่ วา่ หากปู่ อนุญาตให้เจ้าไปเมืองอีแล้ว
เจ้าต้องรับปากกับปู่ วา่ หากยังไม่มนใจก็
ั อย่าหุนหันทํา
อะไรและอย่าทําให้ประชาชนหรือคนทีไม่เกียวข้องต้อง
เดือดร้อนไปด้วย

“ท่านปู่ วางใจเถิด” สัญญาของมูซ่ งนัน ทําให้มชู่ ิงเกอยิม


กว้าง

แต่วา่ ประกายเย็นเยียบในสายตานันมากจนเกิน
บรรยาย

43
คนทีติดหนีนางไม่วา่ จะชาตินีหรือชาติหน้าไม่มีใครทีไม่
ต้องชดใช้คืน!

……

เมือตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว มูซ่ งและมูช่ ิงเกอสองปู่


หลานก็เข้าวังไปพร้อมกันและมูเ่ หลียนหรงก็แอบเตรียม
การให้แก่มชู่ ิงเกอ เมืองอีเป็ นทีแบบไหนนัน นางรูด้ ี
หลานสาวสุดทีรักของตนเองต้องไปอยูท่ ีนันเป็ นเวลา
นาน นางจึงต้องเตรียมความพร้อมเป็ นอย่างดี

44
ตอนที 83-4 ยกเลิกการหมันหมาย

45
ในวังหลวง สิงทีรอต้อนรับมูซ่ งและมูช่ ิงเกอนันไม่ใช่งาน
เลียงฉลองการชนะสงครามแต่เป็ นการสอบปากคําที
เคร่งเครียด

นีเป็ นครังแรกทีมูช่ ิงเกอได้เข้าสูต่ าํ หนักใหญ่

ภายในตําหนักนันไม่มีนางกํานัลอยูเ่ ลยแม้แต่คนเดียว

นอกจากฮ่องเต้ทีมีพระพักตร์าดําคลําแล้วก็มีหาน
ฮองเฮาทีทรงกรรแสงไม่หยุดพร้อมกับรัชทายาทและรุย่
อ๋อง แน่นอนว่ายังมีแม่ทพั ประจําองค์ฮ่องเต้ทีไปถ่าย
ทอดราชโองการในตอนนันอยูด่ ว้ ย

46
ดูเหมือนว่าฮ่องเต้ฉินชางจะไม่อยากให้ใครรูเ้ รืองนี

เมือเห็นภาพบรรยากาศนีแล้วมูช่ ิงเกอก็กระจ่างถึงความ
คิดของฮ่องเต้แคว้นฉิน ก็จริงอยูเ่ รืองทีลงโทษหานเซิง
ด้วยโทษเพียงแค่นนจะแพร่
ั งพรายออกไปได้อย่างไร

ฉินชางเป็ นคนฉลาด ดังนัน หานเซิงเองก็ตายไปแล้ว แน่


นอนว่าเขาไม่อยากถูกกล่าวหาว่าปกป้องคนทีมีชือเสียง
เน่าเหม็นเป็ นแน่

“มูช่ ิงเกอเจ้าสังหารพระญาติของราชวงศ์ รูห้ รือไม่วา่ มี


โทษสถานใด?” ฉินชางข่มขู่ในทันที

47
มูช่ ิงเกอพูดอย่างเย่อหยิงว่า : “ฝ่ าบาท มูช่ ิงเกอก็แค่ทวง
ความยุติธรรมให้แก่เหล่าทหารตระกูลมูท่ ีต้องตายใน
เมืองอีเท่านัน”

ฮ่องเต้ฉินชางตรัสด้วยความพิโรธว่า : “เรืองทีหานเซิง
ละเลยในหน้าที ข้าได้จดั การแล้ว หากเจ้าไม่พอใจก็ควร
จะมาบอกข้า แต่เจ้ากลับสังหารเขากลางถนน ไม่รูจ้ กั
เคารพกฎหมาย เจ้าเอาข้าไปไว้ทีไหน?”

ฉินชางตืนตระหนกจริงๆ เขาเพิงรูว้ า่ มูช่ ิงเกอไม่เพียงแค่


ไม่เป็ นคนไร้คา่ แต่ยงั มีความสามารถพลิกฟ้า สายเขียว
ทีอายุเพียงสิบห้าปี หากเรืองนีถูกกระจายออกไป ก็อาจ

48
จะทําให้แคว้นเพือนบ้านตืนตระหนกได้

พระองค์อยากจะฆ่ามูช่ ิงเกอมาก ทว่ากลับทําไม่ได้

ครังนีกองทัพตระกูลมูไ่ ด้รบั ความสูญเสียใหญ่หลวง


มูซ่ งเองก็กลํากลืนความแค้นมากพอแล้ว หากยังจะลง
โทษหลานชายผูเ้ ป็ นแก้วตาดวงใจของเขาอีก ไม่เท่ากับ
บีบมูซ่ งให้กลายเป็ นกบฏรึ? มูซ่ งคนเดียวนันไม่น่ากลัว
แต่กองทหารหลายแสนนายนันเล่า

หากแคว้นฉินลุกเป็ นไฟขึนมา แคว้นเพือนบ้านทีคอย


จ้องอยูแ่ ล้วอาจจะเข้ามาฉีกทึงแคว้นฉินออกเป็ นชินๆ

49
เพราะฉะนันฮ่องเต้แคว้นฉินอย่างเขาทําได้เพียง
พยายามอดทนไว้

หึ ! ฮองเฮาช่างทําเรืองได้งามหน้านัก !

ไม่เพียงแต่ไม่สามารถฆ่ามูซ่ งได้แต่ยงั ก่อปั ญหาเพิมขึน


มาอีก

สําหรับคําถามของฮ่องเต้แคว้นฉินนันมูช่ ิงเกอยิมพลาง
ตอบว่า : “กระหม่อมก็เป็ นแค่คนเสเพลคนหนึงจะรู ้
กฎหมายได้อย่างไร แค่ได้ยินประชาชนทียืนอยูร่ อบๆ
บอกให้สงั หารหานเซิง กระหม่อมก็เลยสังหาร”

50
คําพูดของนางแม้จะไม่รุนแรง แต่ก็ทาํ ให้สายพระเนตร
ของฮองเฮานันเต็มไปด้วยความอํามหิตความเคียดแค้น
ในดวงตาคูน่ นประหนึ
ั งยาพิษทีอยากจะเด็ดชีวิตของมู่
ชิงเกอ

แต่วา่ มูช่ ิงเกอมีหรือจะสนใจ

ยาพิษจริงๆ นางยังไม่กลัว แล้วจะกลัวสายตาของนางรึ?

จ้อง จ้องต่อไปสิ นางชอบท่าทางเคียดแค้นจนอยากจะ


ฆ่าให้ตาย แต่ก็ไม่มีความสามารถจะทําอะไรได้ ได้เพียง
แต่โกรธเช่นนัน

51
นางไม่สนใจอยูแ่ ล้วว่าหานฮองเฮาจะแค้นจนกระอัก
เลือดหรือไม่

ท่ามกลางสายตาของหานฮองเฮาทีเต็มไปด้วยความ
พยาบาทนัน มูช่ ิงเกอยิมกว้าง

ท่าทางเยาะเย้ยเช่นนี เกือบจะทําให้หานฮองเฮากริวจน
ขยีผ้าเช็ดหน้าในมือให้แหลกละเอียด

“ฮ่องเต้ พระองค์ตอ้ งทรงทวงความยุติธรรมให้กบั หาน


เซิงนะเพคะ แม้วา่ เขาจะสมควรตาย แต่ก็ตอ้ งให้
พระองค์เป็ นผูต้ ดั สิน สังหารกันกลางถนนเช่นนีได้อย่าง
ไรกัน เห็นตระกูลหานเป็ นอะไรกัน?” ฮองเฮาตรัสทัง

52
นําตา

ตอนนีฉินจินซิวดูดีขนมาแล้
ึ ว เขายืนอยูข่ า้ งๆ ฮองเฮา
พลางใช้สายตาอันโหดเ**◌้ยมมองมูช่ ิงเกอเช่นกัน

แต่รุย่ อ๋องฉินจินห้าวนันดูเงียบสงบผิดปกติ ไม่รูว้ า่ กําลัง


คิดอะไรอยู่

เสียงสะอืนของหานฮองเฮา ทําให้ฉินชางขมวดคิว สาย


ตาทีมองมูช่ ิงเกอนันดูแย่ลงกว่าเดิม

ขณะนีเองมูซ่ งก็พดู ขึนว่า : “ฝ่ าบาท เรืองในครังนีเก


อเอ๋อร์ทาํ ลงไปเพราะอายุยงั น้อยจึงขาดการยังคิด แต่
53
เลือดเนือทีกองทัพตระกูลมูเ่ สียไปนันจะเสียไปเปล่าๆ
ไม่ได้ เพือปลอบขวัญเหล่าทหาร อย่างไรเสียหานเซิงก็
ต้องตาย แล้วในวันนีเกอเอ๋อร์ก็เพียงทําให้เขาตายเร็วขึน
ก็เท่านัน แม้จะดูบา้ บินไปบ้างไม่ทนั ได้คาํ นึงถึงพระองค์
แต่ก็สามารถปลอบขวัญเหล่าประชาชนได้ ทําให้พวก
เขาสํานึกในพระเมตตาของพระองค์”

สํานึกในพระเมตตาอย่างนันหรือ? สํานึกในพระเมตตา
บ้าบออะไรกัน! หากไม่ใช่เพราะพวกเจ้าป่ าวประกาศไป
ทัว ประชาชนพวกนันจะรูอ้ ะไร?

ฉินชางอยากจะตะโกนด่ายิงนัก แต่ก็ตอ้ งอดกลันเอาไว้

54
ยิงโมโห เขาก็ยงรู
ิ ส้ กึ ว่า ฮองเฮาเดินหมากไร้ประโยชน์ยงิ
นักจึงไม่มองนางเลยแม้แต่เสียวสายตาเดียว

หานฮองเฮาทีกําลังร้องห่มร้องไห้หลังจากทีเห็นสีพระ
พักตร์ของฮ่องเต้ฉินชางก็ตกพระทัย พระนางรูว้ า่ ฮ่องเต้
องค์นี กําลังคิดหาใครสักคนมารับผิดในเรืองนี จึงไม่
กล้าพูดอะไรมาก

ฮ่องเต้ฉินชางตรัสอย่างลําบากพระทัยว่า : “ขุนนางมู่
แม้จะพูดเช่นนี แต่การกระทําของมูช่ ิงเกอนันกําเริบ
เสิบสานเกินไปจริงๆ หากไม่ลงโทษสถานหนัก แล้วมีคน
เอาเป็ นเยียงอย่าง ข้าจะทําอย่างไร?”

55
มูซ่ งก้มหน้าลงพลางพูดว่า : “ฝ่ าบาททรงตรัสได้ถกู ต้อง
พ่ะยะค่ะ”

หืม ?

ปฏิกิรยิ าของมูซ่ งทําให้ฉินชางคิดไม่ถงึ ว่าทําไมมูซ่ งก


ลายเป็ นคนว่าง่ายขึนมาถึงเพียงนีขนาดเรืองการลงโทษ
ยังตอบรับด้วยท่าทางภักดีอีกด้วย?

ดังนันพระองค์จงึ หลุดโอษฐ์ตรัสกับมูซ่ งว่า : “แล้วเจ้าว่า


ข้าควรลงโทษเขาอย่างไร?” พอคําพูดนีออกไป ฉินชางก็
รูส้ กึ เสียใจขึนมา ตัวเองยกอํานาจให้กบั มูซ่ งเองเช่นนี
เลยรึ?

56
แต่มซู่ งกลับยิมหน้าตาย

ในใจยิงชืนชมหลานชายสุดทีรัก....ไม่สิ หลานสาวสุดที
รักมากขึน เขาเดินตามหมากทีมูช่ ิงเกอวางเอาไว้และมัน
ทําให้ฮ่องเต้มอบอํานาจให้กบั เขาด้วยองค์เองจริงๆ

หลานสาวของเขาไม่เพียงแต่ความสามารถล้นเหลือทว่า
ความคิดก็ฉลาดลําจริงๆ!

จากนัน เขาก็พดู อย่างจริงจังว่า : “ขอบพระทัยทีฝ่ าบาท


ทรงไว้ใจกระหม่อม”

57
จบคําพูดนี ฮ่องเต้ฉินชางอยากจะปฏิเสธก็ปฏิเสธไม่ได้
จึงจําเป็ นต้องตรัสถามต่อว่า : “ไหนว่ามาซิ”

มูซ่ งเงยหน้าขึนมองฉินชางครูห่ นึงแล้วก้มหน้าลงพลาง


พูดว่า : “เกอเอ๋อร์ไม่เชือฟั งคําสังสอน ความจริงก็ไม่
สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว ก่อนอืน กระหม่อมคิดว่าเพือ
เป็ นการรักษาชือเสียงของราชวงศ์เอาไว้และเพือป้องกัน
ไม่ให้เจ้าเด็กนีทําให้ราชวงศ์ตอ้ งมัวหมอง ฝ่ าบาทควร
ยกเลิกสมรสทีทรงพระราชทานให้แก่ตระกูลมู่ องค์หญิง
ฉางเล่อนันเต็มเปี ยมไปด้วยความสามารถ ควรจะมีคู่
ครองทีดีกว่านีและไม่ใช่เจ้าคนไม่เอาไหนเช่นนีของ
ตระกูลเรา”

ยกเลิกการหมันหมายรึ !
58
59
ตอนที 83-5 ยกเลิกการหมันหมาย

ฉินจินห้าวทีนิงเงียบก็พลันตกตะลึงไปพราะประโยคนี

ยกเลิกการแต่งงาน งันความสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว
ของเขาและตระกูลมูก่ ็จะจบสินน่ะสิ? ตอนนีความ
สัมพันธ์ของฉางเล่อกับมูช่ ิงเกอควรจะเป็ นความสัมพันธ์
อันลึกซึงไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดจู่ๆ ตระกูลมูถ่ งึ จะขอถอน
หมัน

ความแปลกใจวาบขึนในสายตาของฉินจินห้าว เขามอง
60
มูช่ ิงเกอทียืนอยูข่ า้ งๆ มูซ่ งราวกับอยากรูเ้ รืองราวจากตัว
นาง

ฮ่องเต้ฉินชางไม่ทรงรูเ้ รืองทีฉินอีเหยาไปเมืองอีกับมูช่ ิง
เกอ สําหรับการแต่งงานครังนี พระองค์ก็ไม่ได้ทรงเห็น
ด้วยอยูแ่ ล้ว ทีพระราชทานสมรสให้ในตอนแรกก็เป็ น
เพราะไทเฮา

ในใจของพระองค์ ฉางเล่อเป็ นหญิงสาวทีเต็มเปี ยมไป


ด้วยความสามารถและมีผลประโยชน์มากกว่าการจะ
แต่งงานกับคนเสเพลคนหนึง พระองค์ไม่ทรงเห็นด้วยกับ
การใช้ไม้ออ่ นของไทเฮาในการจัดการกับตระกูลมูแ่ ต่
แรกแล้ว

61
เพราะฉะนัน ข้อเสนอของมูซ่ งก็ตรงกับความคิดของ
พระองค์พอดี ทําให้โทสะในใจของพระองค์บรรเทาลงไป
บ้าง

“ขุนนางมู่ เจ้าคิดดีแล้วรึ หลานสะใภ้อย่างเหยาเอ๋อร์นนั


ไม่ได้หาง่ายๆ นะ!” ฮ่องเต้ฉินชางได้ตดั สินพระทัยไป
แล้ว เพียงแค่อยากจะทดสอบความคิดของมูซ่ ง

ใบหน้าของมูซ่ งนันฉายแววลังเล ไม่ได้พดู อะไร

ฮ่องเต้ฉินชางตกพระทัยจนแทบจะทรงตอบตกลงถอน
หมันแทบไม่ทนั

62
โชคดีทีหลังจากทีมูซ่ งลังเลสักพักก็กลันใจพูดว่า : “เก
อเอ๋อร์ไม่คคู่ วรกับองค์หญิงฉางเล่อ ขอพระองค์ทรงมี
ราชโองการได้เลยพ่ะยะค่ะ”

ได้ยินคํานีโทสะในใจของฮ่องเต้ฉินชางก็พลันลดลง ตอน
ทีมองไปยังมูช่ ิงเกออีกครังก็เหมือนกับว่าพระองค์ไม่ได้
ทรงพิโรธมากถึงเพียงนันแล้ว

พระองค์ทาํ พระพักตร์เศร้าพลางตรัสว่า : “เอาเถิด หาก


ท่านยืนยันเช่นนี ข้าก็คงต้องทําตาม” พูดจบก็มองมูซ่ ง
เพือรอคําพูดต่อไปของเขา

63
มูซ่ งรูด้ ีอยูแ่ ก่ใจ : “ขอบพระทัยฝ่ าบาท ข้าพระองค์รูส้ กึ
ว่าลงโทษโดยการถอนการหมันนันอาจยังไม่พอ หลายปี
มานี กระหม่อมสังสอนเขาได้ไม่ดีพอจนทําให้เจ้าเด็กนี
กระทําความผิด อวดดีเป็ นอันธพาล นิสยั ไม่เชือฟั งเช่นนี
กระหม่อมเองก็ควบคุมเขาไม่ไหวแล้ว ไม่สสู้ ง่ ตัวเขาไป
ไว้ทีเมืองอี จะได้ทาํ ให้กระหม่อมเบาใจ กระหม่อมหวัง
ว่าพระองค์จะทรงลงโทษกักบริเวณมูช่ ิงเกอไว้ทีเมืองอี
รอจนกว่าเขาจะเข้าพิธีสวมหมวกถึงจะให้กลับมายังลัว
ตูพะ่ ยะค่ะ”

ข้อเสนอนีทําให้ฮ่องเต้ฉินจินชางพระเนตรเป็ นประกาย
ตกอยูใ่ นภวังค์ความคิดขององค์เอง

ในขณะเดียวกัน คนอืนๆ ทีอยู่ ณ ทีนันต่างก็ลอบคิดไป


64
ต่างๆ นานาเช่นกัน

การทีมูช่ ิงเกออยูใ่ นลัวตูนนมี


ั มซู่ งอยูด่ ว้ ยทําให้พวกเขา
ลงมือลําบาก แต่หากออกไปจากลัวตูแล้วเกิดขึนอะไร
ขึนระหว่างทาง มูซ่ งก็คงโทษอะไรพวกเขาไม่ได้

ต่างคนต่างความคิด ไม่มีใครปฏิเสธความคิดของมูซ่ ง

ฮ่องเต้ฉินชางทรงลังเลไปสักพักสุดท้ายก็ตอบตกลง

เรืองของหานเซิงจึงจบลงแต่เพียงเท่านัน

65
ฮ่องเต้ได้รบั ผลประโยชน์จงึ ไม่อยากเอาผิดมูช่ ิงเกออีก

คนทีไม่พอใจมีเพียงแค่หานฮองเฮาและรัชทายาท

มูช่ ิงเกอถือราชโองการแล้วเดินออกจากวังหลวงแล้ว
แยกกับมูซ่ งทีนอกวัง

มูซ่ งต้องเดินทางไปยังค่ายพักแรมทหารตระกูลมูเ่ พือ


ปลอบใจกองทหารทีกลับมาจากเมืองอีและคนพวกนีจะ
กลับไปยังเมืองอีพร้อมกับมูช่ ิงเกอ

เพราะเรืองของหานเซิง งานเลียงต้อนรับจึงต้องยืดเวลา
ออกไปอีกสามวัน
66
แต่วา่ สามวันหลังจากนี มูช่ ิงเกอก็คงจะอยูใ่ นระหว่าง
การเดินทางไปเมืองอี สิงทีเกิดขึนทังหมดในลัวตูจะไม่สง่
ผลกระทบใดๆ ต่อนาง

“ชิงเกอหยุดก่อน”

มูช่ ิงเกอทีจะเตรียมจะกลับจวนถูกรุย่ อ๋องฉินจินห้าว


เรียกตัวเอาไว้

นางหันหลังกลับไป พลางขมวดคิวถามว่า : “รุย่ อ๋องมี


อะไรให้กระหม่อมรับใช้”

67
ฉินจินห้าวกระตุกยิมมุมปากอย่างน่าดึงดูด เดินเข้ามา
พูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “ธาตุในตัวของชิงเกอนันไม่สามารถ
ฝึ กพลังเวทได้ แต่ตอนนีกลับกลายเป็ นยอดฝี มือสาย
เขียว ทําให้ขา้ ตกใจมากจริงๆ”

“พระองค์จะทรงพูดเรืองนีหรือ” มูช่ ิงเกอกระตุกยิมอย่าง


ขีเล่นพลางพูดว่า : “มีอะไรน่าดีใจ รุย่ อ๋องจําทรงมหา
ปราชญ์ได้หรือไม่ ทีกระหม่อมสามารถฝึ กพลังเวทได้ก็
เพราะท่านทังนัน” มูช่ ิงเกอยังคงโยนทุกอย่างไปให้คณ

ตัวประหลาดโดยไม่รูส้ กึ ผิดใดๆ

ฉินจินห้าวดวงตาเป็ นประกายแต่ก็เก็บอาการเอาไว้
พลางพูดว่า : “แบบนีนีเอง ดูเหมือนว่าชิงเกอจะมี
วาสนามาก แต่วา่ น้องสาวของข้านันมีความรูส้ กึ ดีๆ ให้
68
กับเจ้ามาโดยตลอด ถอนหมันเช่นนี ไม่รูว้ า่ นางจะเสียใจ
มากเพียงใด”

“องค์หญิงนันเต็มเปี ยมไปด้วยความสามารถ
หากต้องคูก่ บั กระหม่อมนันถือว่าเสียดาย เรืองนีฝากรุย่
อ๋องไปบอกองค์หญิงด้วย ชิงเกอไม่ใช่คคู่ รองทีเหมาะสม
ขอให้องค์หญิงได้พบกับความสุขในภายภาคหน้า” มูช่ ิง
เกอพูด

“อ้อ? ฉางเล่อไม่ใช่คคู่ รองทีเหมาะสมกับเจ้า หากเป็ น


เช่นนันในใจของชิงเกอมีคนอืนแล้วรึ?” ฉินจินห้าวตา
เป็ นประกายคาดคันเอาความ

69
มูช่ ิงเกอได้ยินแล้วก็รูส้ กึ ขบขัน ชายผูน้ ีหวังจะได้ยินอะไร
จากปากนางกัน

หรือว่าจะหวังให้นางพูดว่า ‘แท้จริงแล้ว คนทีข้ารักคือ


ท่าน’ อะไรเช่นนี

มูช่ ิงเกอยิมกว้างและตอบไปตามตรงว่า : “ไม่มี”

ฉินจินห้าวยิมค้าง นัยน์ตานันพลันเยียบเย็นขึน

“หากรุย่ อ๋องไม่มีอะไรแล้ว กระหม่อมขอตัวก่อน” มูช่ ิงเก


อพูดจบก็หนั หลังเดินออกไปอย่างไม่ไยดี

70
ฉินจินห้าวมองนางทีเดินจากไป ใบหน้าพลันเย็นชา
พลางพูดเสียงตําว่า : “มูช่ ิงเกอ เจ้ายังจะเล่นตัวอีก
หรือ?” ไม่วา่ อย่างไรเขาก็ไม่เชือว่าปฏิกิรยิ าทีมูช่ ิงเกอมี
ต่อเขาจะเปลียนจากหน้ามือเป็ นหลังมือได้ถงึ เพียงนี

สายตาในอดีตของมูช่ ิงเกอนันไม่ได้แสร้งทําเป็ นแน่

เขามันใจว่า ท่าทางในตอนนีของมูช่ ิงเกอนันต้องเป็ น


การแสดงทีอยากจะเรียกร้องความสนใจจากเขาแน่นอน

ฉินจินห้าวแอบหัวเราะเยาะในใจ : หากเจ้าเป็ นหญิงก็


คงจะเรียกร้องความสนใจจากข้าได้ แต่เจ้าเป็ นชาย แต่
กลับบ้าคิดเช่นนีกับข้า เจ้าคงต้องเสียใจไปทังชีวิต

71
มูช่ ิงเกอไม่รูว้ า่ ฉินจินห้าวจะคิดเองเออเองเก่งถึงเพียงนี
หากนางรู ้ นางคงจะพูดว่า : โชคดีเพียงไรแล้วทีไม่มีดพุง่
มาทางเจ้า เหตุใดยังจะทิงชีวิตตัวเองอีกเล่า

หมายความว่าอย่างไรน่ะรึ?

อืม ความหมายก็คือ : ไม่รูจ้ กั ประเมินค่าตนเอง เหตุใด


ถึงไม่เข้าใจ

……

วังตะวันออก ทุกคนได้ถกู สังให้ออกไป เหลือเพียงแค่


72
หานฮองเฮาและรัชทายาทฉินจินซิว

หานฮองเฮาเช็ดนําพระเนตรของตนเองจนแห้งแล้ว พระ
นางไม่ได้มีทา่ ทางเหมือนก่อนหน้านี เหลือไว้เพียงความ
มืดมนในสายพระเนตร

ฉินจินซิวเองก็ไม่ตา่ งจากหานฮองเฮา

เมือไม่มีคนนอก เขาก็เลิกแสดงภาพลักษณ์อนั อ่อนโยน


และเผยความโหดเ**◌้ยมอํามหิตซึงเป็ นธาตุแท้ของตน
เองออกมา

เขากํามือแล้วชกลงไปหนักๆ ทีหนึง แล้วมองเสด็จแม่


73
ของตนเองด้วยใบหน้าบิดเบียว พลางถามอย่างไม่ได้ดงั
ใจว่า : “เสด็จแม่ เราจะปล่อยมันไปเช่นนีรึ”

หานฮองเฮาทอดพระเนตรเขาแวบหนึงแล้วยิมเย็น :
“เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยคนทีฆ่าน้องชายของข้าไปอย่างนี
รึ?”

ฉินจินซิวตาเป็ นประกาย พลันรีบถามว่า : “เสด็จแม่


ท่านมีแผนการอย่างไร”

หานฮองเฮาแย้มยิม ในสายพระเนตรนันเต็มไปด้วยไอ
สังหาร: “เขาจะไปเมืองอีไม่ใช่รึ ระหว่างทาง ข้าจะ
เตรียมการต้อนรับเขาอย่างดีแน่นอน”

74
“ใช่แล้ว!” ฉินจินซิวตบมืออย่างตืนเต้น “เขามีชีวิตออก
ไปจากลัวตู แต่ก็ไม่รูว้ า่ จะมีชีวิตไปถึงเมืองอีหรือไม่”

พูดจบ สายตาของเขาก็เผยความเสียดายออกมา พลาง


พึมพําว่า : “แต่เสียดายจริงๆ.........”

“เสียดายอะไร” หานฮองเฮาตรัสอย่างเย็นชา : “มูช่ ิงเก


อต้องตาย ! ข้าส่งข่าวไปทางตระกูลหานแล้ว เชือว่าทาง
ตระกูลจะจัดการกับเรืองนีเอง อีกอย่าง เจ้าคิดหรือว่า
คนทีต้องการชีวิตของมูช่ ิงเกอนันมีแค่พวกเรา”

ฉินจินซิวเม้มปาก เก็บความรูส้ กึ ของตนเองเอาไว้

75
โชคดีทีหานฮองเฮาไม่ได้ทรงสังเกตถึงท่าทางแปลก
ประหลาดของเขา เพราะพระนางมัวแต่จมอยูก่ บั ความ
โกรธแค้น

“หรือว่าเสด็จพ่อก็จะทรงลงมือทําอะไร” ฉินจินซิวถาม

หานฮองเฮามองเขาครูห่ นึง ในรอยยิมนันแฝงไปด้วย


ความโหดเ**◌้ยม : “เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า เสด็จพ่อของ
เจ้าไม่ได้เป็ นผูท้ ีมีเมตตาอะไรปานนัน บางทีไม่เพียงแค่
เสด็จพ่อของเจ้าทีจะลงมือ กระทังนังแพศยาแซ่เจียงนัน
ก็อาจจะทนไม่ไหว หรือแม้กระทังไทเฮาเองก็อาจจะลง
มือทําอะไรบางอย่าง”

76
“ไทเฮาอย่างนันหรือ” ฉินจินซิวพูดด้วยความตกใจ

หานฮองเฮาจึงตรัสว่า : “เจ้าน่ะ ไร้เดียงสาเกินไปจริงๆ


คิดว่าไทเฮาจะทรงรักและเอ็นดูมชู่ ิงเกอถึงเพียงนันเชียว
รึ ทีไทเฮาให้เสด็จพ่อของเจ้ากําหนดการแต่งงานในตอน
แรกก็หวังทีจะใช้ไม้ออ่ นเพือควบคุมตระกูลมู่ แต่ในวันนี
มูช่ ิงเกอกลับปฏิเสธการแต่งงาน นังแก่นนคงจะอั
ั บอาย
และโกรธแค้น แล้วส่งคนไปฆ่าเขาให้รูแ้ ล้วรูร้ อดกันไป
เลยก็เป็ นได้ ข้าก็จะรอดูวา่ มูช่ ิงเกอจะกลับไปยังเมืองอี
ท่ามกลางอันตรายรอบด้านได้อย่างไร”

77
ตอนที 84-1 องครักษ์เขียวมังกรพลิกฟ้า!

หลังจากออกมาจากวัง มูช่ ิงเกอก็พาสาวใช้ทงสองคน



ของตนออกจากลัวตูไปนอกเมืองเพือไปรวมตัวกับกอง
ทหารตระกูลมูก่ ลับเมืองอีอย่างเงียบๆ

ยิงยืดเวลาออกไปก็จะยิงมีแต่เรืองยุง่ ยากทียากจะแก้ไข
เกิดขึนตามมาอีกมากมาย

แต่นางไม่มีทางคิดว่าเพราะการกระทําทีรวดเร็วของนาง
ทําให้หลายฝ่ ายในลัวตูตา่ งวุน่ วายกันไปหมด
1
……

เริมเข้ายามคําคืน มูช่ ิงเกอยังคงอยูบ่ นหลังม้า ข้างหลังมี


หญิงสาวอีกสองนางขีม้าอยูเ่ ช่นกัน พวกเขาออกจาก
ประตูเมืองลัวตูและค่อยๆ หายลับสายตาไป

ตรงกําแพงเมืองทีมืดสนิทมีใครคนหนึงยืนอยูแ่ ละแอบ
มองแผ่นหลังของนางโดยไม่ให้นางรู ้

แม้วา่ มูช่ ิงเกอจะลับสายตาไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ขยับตัวไป


ไหน ราวกับว่าได้กลายเป็ นรูปสลักไปแล้วก็ไม่ปาน

2
ทันใดนัน ข้างๆ ตัวเขาก็มีชายชุดดําปรากฏกายขึน

ชายชุดดําคนนันเต็มไปด้วยไอสังหาร ราวกับว่าได้เดิน
ออกมาจากกองศพนับหมืน แต่เขากลับเคารพบุคคลที
ยืนอยูต่ รงกําแพงอันมืดสนิทผูน้ นเป็
ั นพิเศษ

ทันทีทีปรากฏตัวชายชุดดําคนนันก็พลันคุกเข่าลง พลาง
ประสานมือแล้วพูดว่า : “ฝ่ าบาท ทางฝังฮ่องเต้ ตระกูล
หานและไทเฮาได้สง่ คนออกไปแล้ว”

ลมพัดชายเสือของชายร่างสูงโปร่งผูน้ นให้
ั ปลิวสะบัด ผืน
ผ้าสีเหลืองนวลเมืออยูท่ า่ มกลางความมืดดูไม่ชดั เจนนัก

3
ร่างอันผอมบางของเขาถูกลมพัดจนส่ายไปมาเหมือนจะ
ร่วงหล่น หลังจากทีพยายามประคองตัวให้นิงแล้วเขาจึง
พูดว่า : “รูห้ รือไม่วา่ ความสามารถของพวกนันอยูใ่ น
ระดับไหน”

ชายชุดดําคนนันมองเขาด้วยความเป็ นห่วง ประหนึง


กําลังกลัวว่าร่างกายของเขาจะต้านทานแรงลมไม่ไหว

หลังจากนันจึงตอบกลับเขา : “เท่าทีข้าน้อยไปสืบมาทัง
ม้าและคนของทังสามฝ่ ายส่วนใหญ่แล้วเป็ นสายเหลือง
และสายเขียว มีผนู้ าํ กลุม่ เป็ นสายครามขันต้น”

“สายครามขันต้นอย่างนันหรือ” ใบหน้าอันขาวซีดฉิน

4
จินเฉินยกยิมเยาะเย้ยทังพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า : “แค่ความ
สามารถทีเร่งด้วยยาวิเศษเพียงเท่านัน”

คําพูดของเขาแม้จะดูไม่มีอะไรมาก แต่นยั น์ตาดําและ


ขาวทีแยกออกจากกันอย่างชัดเจนนันมีความกังวลซ่อน
อยู่

สังให้คนระดับนีมาตามฆ่ามูช่ ิงเกอ ดูเหมือนว่าพวกเขา


จะต้องการชีวิตของมูช่ ิงเกอจริงๆ

“ทางรุย่ อ๋องเป็ นอย่างไรบ้าง” ทันใดนันฉินจินเฉินพลัน


ถามขึน

5
ชายชุดดําส่ายหน้าพลางพูดว่า : “ตังแต่ทีรุย่ อ๋องออก
จากวังก็ตรงไปยังตําหนักองค์หญิงฉางเล่อ หลังจากที
กลับจากตําหนักก็กลับเข้าไปในวัง และในตอนนียังไร้
แผนการใดๆ”

ฉินจินเฉินรูส้ กึ แปลกใจ จึงสังว่า : “เฝ้าดูความเคลือน


ไหวของรุย่ อ๋องอย่าให้คาดสายตา”

ชายชุดดํารับคําสังในทันที

สักพัก ฉินจินเฉินก็ถามต่อว่า : “ฉางเล่อรูเ้ รืองถอนหมัน


หรือยัง?”

6
ชายชุดดําเงียบไปสักพักจึงพูดว่า : “ตอนทีรุย่ อ๋องไป
ตําหนักองค์หญิงก็เหมือนจะไปพูดเรืองนีแต่ทางองค์
หญิงฉางเล่อก็ยงั ไร้ซงความเคลื
ึ อนไหวใดๆ หลังจากที
รุย่ อ๋องกลับไป องค์หญิงก็ทรงอยูแ่ ต่ในตําหนักไม่ได้ออก
มาเลย”

ฉินจินเฉินกะพริบตาทีหนึงพลางพูดว่า : “ฉางเล่อหวัน
ไหวเข้าแล้วจริงๆ แม้วา่ ข้าจะไม่รูว้ า่ เหตุใดมูช่ ิงเกอถึง
ถอนหมัน แต่เขาก็ไม่ได้ถงึ ขันไร้เยือใยกับฉางเล่อเสียที
เดียว พวกเจ้าส่งคนไปปกป้องนางอย่างลับๆ อย่าให้นาง
เป็ นอะไรไปเป็ นอันขาด”

หลังจากนันเขาก็พดู ต่ออีกว่า : “ให้ทา่ นอาจารย์นาํ ทัพ


ออกจากเมืองด้วยตัวเองเพือปกป้องคุณชายตระกูลมูใ่ ห้
7
เดินทางไปยังเมืองอีอย่างปลอดภัย จําไว้วา่ ห้ามให้เขารู ้
ว่ามีพวกเจ้าอยูอ่ ย่างเด็ดขาด”

ให้ทา่ นอาจารย์นาํ ทัพด้วยตนเองอย่างนันหรือ?!

ชายชุดดําตกใจและมองเจ้านายของตนเองด้วยความ
สงสัย

เขารูว้ า่ เจ้านายของตนเองนันให้ความสําคัญกับคุณชาย
ตระกูลมูท่ า่ นนัน แต่ไม่คิดว่าจะให้ความสําคัญมากถึง
เพียงนี

ท่านอาจารย์เป็ นผูใ้ ดกัน?


8
เป็ นอาจารย์ของเจ้านายของเขาและเป็ นผูท้ ีฝึ กฝนพวก
เขามาจนแกร่งกล้าถึงเพียงนี

อีกอย่างท่านอาจารย์ก็ยงั เป็ นยอดฝี มือสายนําเงินขันสูง


และได้ข่าวว่าขาข้างหนึงของเขานันได้กา้ วเข้าไปยังสาย
ม่วงแล้ว และจะได้กลายเป็ นสายม่วงผูเ้ ก่งกาจทีสุดเมือ
ไหร่นนั ก็ขนอยู
ึ ก่ บั เวลาเท่านัน

มีทา่ นอาจารย์คอยดูแลอยูล่ บั ๆ ให้คนออกไปอีกเท่าไหร่


ก็เท่านัน!

“ออกไปเถิด” ฉินจินเฉินไม่ได้สนใจความประหลาดใจ

9
ของชายชุดดําเพียงให้เขากลับไป ส่วนตนเองนันยังคง
มองไปยังทิศทางทีมูช่ ิงเกอจากไปราวกับเป็ นการรําลา

……

ณ ตําหนักองค์หญิง ฉินอีเหยานังเงียบอยูภ่ ายในห้อง


ของตนเอง

ตังแต่ทีเสด็จพีของนาง รุย่ อ๋องนําข่าวนีมาจาก


พระราชวัง นางก็นงอยู
ั เ่ ช่นนีและไม่อยากจะเชือว่าทัง
หมดคือความจริง แต่เมือถ่ายทอดราชโองการ ทําให้นาง
จําเป็ นต้องเชือ

10
“องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันไปจวนตระกูลมู่ พวกเขา
บอกว่าคุณชายไม่ได้อยูภ่ ายในจวนเพคะ” นางกํานัลที
ส่งออกไป ในทีสุดก็นาํ ข่าวกลับมา แต่ยงั คงทําให้นางผิด
หวังดังเดิม

ฉินอีเหยาก้มหน้าลงและสังเสียงเบาว่า : “ไม่ตอ้ งหาแล้ว


เจ้าออกไปเถอะ”

นางกํานัลออกไปด้วยความเป็ นห่วง

พอไม่มีคนอืน นําตาทีฉินอีเหยากลันเอาไว้ก็ไหลลงมา
ทําให้บนใบหน้าอันงดงามมีนาตาไหลลงอาบแก้
ํ มนวล
ทังสองข้าง

11
“เพราะเหตุใด?” ฉินอีเหยาถามตนเองและราวกับกําลัง
ถามมูช่ ิงเกอในคราวเดียวกัน

แน่นอนว่านางไม่ได้รบั คําตอบ

นางมีศกั ดิศรีของนาง มูช่ ิงเกอถอนหมันง่ายๆ เช่นนี แน่


นอนว่านางจะไม่ปล่อยเรืองทีโดนสลัดทิงเช่นนีไปง่ายๆ
แน่ นางต้องหาเขาให้เจอแล้วถามเหตุผล

เขาไม่อยูท่ ีจวนตระกูลมูแ่ ละให้เสด็จพีมาบอกเรืองนีแก่


นาง ทังหมดนีกําลังแสดงให้เห็นว่าเขาไม่อยากเจอนาง

12
ฉินอีเหยาเป็ นคนฉลาดอยูแ่ ล้ว จะไม่รูไ้ ด้อย่างไรว่าเรือง
นีมันมีอะไรมากกว่านัน

เพราะฉะนัน นางต้องหาข่าวคราวของมูช่ ิงเกอให้ได้ เพือ


รักษาศักดิศรีสดุ ท้ายทียังหลงเหลืออยูข่ องตน

นําตาไหลจนเหือดแห้ง ใบหน้าอันงดงามนันกลับไปเย็น
ยะเยือกดังเดิมราวกับใช้ความเย็นเยียบดังนําแข็งนันห่อ
หุม้ และปิ ดผนึกตัวนางเอาไว้ขา้ งในนัน

13
ตอนที 84-2 องครักษ์เขียวมังกรพลิกฟ้า!

เมือมูช่ ิงเกอมาถึงค่ายพักของกองทัพตระกูลมู่ ขบวน

14
ของทหารทีจะกลับไปยังเมืองอีก็พร้อมเดินทางแล้ว

มูซ่ งและมูเ่ หลียนหรงเองก็อยูท่ ีนี เพือทีจะใช้เวลาอยูก่ บั


นางในคําคืนนีและจากลากันในวันรุง่ ขึน เพราะกว่าจะ
พบกันอีกครังก็อีกสิบเดือนให้หลัง

“เกอเอ๋อร์ มานีเร็ว ดูซิวา่ อาเตรียมอะไรให้เจ้าบ้าง” มูเ่ ห


ลียนหรงดึงมือของมูช่ ิงเกอและพานางมายังกระโจมหลัง
หนึง

ทันทีทีเข้าไปในกระโจมมูช่ ิงเกอก็องไป

อึงจนอ้าปากค้างเพราะของทีกองเป็ นภูเขาอยูภ่ ายใน


15
กระโจมนัน

ท่าทางมูเ่ หลียนหรงเหมือนกําลังให้ของมีคา่ แก่เด็กน้อย


พลางแนะนําสิงของแต่ละอย่างให้แก่นาง : “เจ้าดูสิ ขนม
กินเล่นพวกนีเป็ นของทีมีชือเสียงของลัวตู อาซือให้กบั
เจ้าอย่างละนิดอย่างละหน่อยและผ้าไหมพวกนีล้วนมา
จากทางตอนใต้และมีบางส่วนทีมาจากแคว้นถูเชียวนะ
ดูสวิ า่ สวยแค่ไหน เมือถึงเมืองอีแล้วเจ้าต้องเตรียมเสือ
ผ้าให้ตนเองเยอะๆ คุณหนูใหญ่ตระกูลมูข่ องเราจะไป
ทนหนาวเช่นนันไม่ได้ จริงด้วย ทีนียังมีเครืองประดับ
ต่างๆ และนีก็คือเครืองประทินโฉม”

ทันใดนัน มือของมูช่ ิงเกอทีกําลังตกใจอยูพ่ ลันมีกล่อง


เครืองประดับลายทองใบหนึงเพิมขึนมา
16
แรงนําหนักในมือ ทําให้นางได้สติรมิ ฝี ปากกระตุกมองมู่
เหลียนหรงทียังคงตืนเต้นมีความสุข

“ท่านอา ข้าเป็ นผูช้ ายนะ!” มูช่ ิงเกออดทนต่อความรูส้ กึ


ปวดหัวเอาไว้และเตือนมูเ่ หลียนหรงทีลืมตัว

เหตุใดนางถึงรูส้ กึ ว่าท่านอาผูน้ ีหลังจากทีรูว้ า่ ตนเองเป็ น


ผูห้ ญิงก็ดเู ปลียนไปจากเดิมนะ?

คําเตือนจากมูช่ ิงเกอทําให้รอยยิมตรงมุมปากของมูเ่ หลี


ยนหรงพลันแข็งค้าง

17
ความตืนเต้นได้หายไป มูเ่ หลียนหรงมองนางอย่างปวด
ใจ ยืนมือออกไปลูบผมของนางและไม่เรียกนางว่า ‘ไอ้
เด็กบ้า ไอ้เด็กบ้า’ เหมือนดังเดิม

“ชิงเกอ ลําบากเจ้าแล้ว” คําพูดในใจของมูเ่ หลียนหรงใช้


เวลากลันกรองมาเนินนานกว่าจะพูดออกมาได้ คําพูด
นับร้อยนับพันราวกับหลอมรวมเป็ นประโยคนีเพียง
ประโยคเดียว

มูช่ ิงเกอส่ายหน้า : “ท่านอา ข้าไม่ได้ลาํ บากอะไร แบบนี


ค่อยดูอิสระมากหน่อย” หากนางเป็ นผูห้ ญิงไม่เพียงแต่
ต้องอยูแ่ ต่ในตระกูลมูท่ งวั
ั น ยังต้องใช้ชีวิตแบบประตู
ใหญ่ไม่ออกประตูรองไม่ยา่ ง เมือถึงอายุทีต้องแต่งงานก็
ต้องถูกโยนให้ชายคนใดคนหนึงอย่างนันน่ะสิ
18
หากเป็ นเช่นนัน นางยอมใช้ชีวิตเป็ นผูช้ ายต่อไปดีกว่า

อย่างน้อยใต้หล้าอันกว้างใหญ่ไพศาลนี ก็ยงั รอนางไป


ผจญภัย

“เจ้านีมัน...” คําพูดจากใจจริงของมูช่ ิงเกอ กลับทําให้มู่


เหลียนหรงคิดว่านางยังคงมีความคิดเป็ นเด็กเล็กๆ

ราวกับว่ามูช่ ิงเกอยิงรูก้ าลเทศะมากเพียงไหน ในใจของ


นางก็ยงเจ็
ิ บปวดมากเพียงนัน

นางยังไม่ได้แต่งงานและไม่มีลกู สําหรับนางแล้วมูช่ ิงเก


19
อก็ถือเป็ นลูกแท้ๆ พ่อแม่บนโลกใบนีใครบ้างทีไม่หวังให้
ลูกของตนเองได้ดี

ทันทีทีมูช่ ิงเกอเกิดมาก็ได้กลายเป็ นความยินดีของวงศ์


ตระกูลโดยไม่รูต้ วั และต้องแบกรับภาระทีไม่ใช่ของนาง
สิบห้าปี มานีต้องอดทนเพือรักษาความลับนีไว้เพียงผู้
เดียว

เมือคิดถึงเรืองเหล่านี มูเ่ หลียนหรงก็รูส้ กึ ว่าตนเองนัน


ปวดใจอย่างหาทีสุดไม่ได้

“รอจนตระกูลมูข่ องเราปลอดภัยแล้ว ข้ากับท่านปู่ ของ


เจ้าจะหาวิธีทาํ ให้เจ้าคืนสูฐ่ านะทีแท้จริง” มูเ่ หลียนหรง

20
รับประกันกับมูช่ ิงเกออย่างมุง่ มัน

สําหรับเรืองนีแล้วมูช่ ิงเกอไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่นอ้ ย

แต่พอเห็นความมุง่ มันของท่านอา นางก็ไม่ได้ปฏิเสธทัง


ยังยิมและพูดว่า : “จริงด้วยท่านอา ความสัมพันธ์ของ
ป๋ ายซีเยวียและรุย่ อ๋องนันท่านต้องคอยระวังไว้”

“ซีเยวียกับรุย่ อ๋องอย่างนันหรือ?” มูเ่ หลียนหรงราวกับไม่


อยากจะเชือ

มูช่ ิงเกอพยักหน้าพลางพูดว่า : “ท่านรูห้ รือไม่วา่ เหตุใด


องค์หญิงถึงรูว้ า่ ข้าไปทีเมืองอี”
21
คําถามข้อนีเป็ นสิงทีมูเ่ หลียนหรงเองก็สงสัยเช่นกัน แต่
ว่าเรืองราวต่างๆ เกิดขึนมากมายเหลือเกิน นางจึงไม่มี
เวลาไปขบคิดทบทวนและไม่ทนั ได้ไต่ถาม

ตอนนีมูช่ ิงเกอพูดออกมาเอง นางจึงนึกขึนได้และถาม


ว่า : “เกียวกับซีเยวียหรือ”

มูช่ ิงเกอยอมรับอีกหน

แต่ครังนีมูเ่ หลียนหรงกลับขมวดคิว : “เป็ นไปไม่ได้ เรือง


ทีเจ้าไปเมืองอีนันข้าไม่เคยบอกซีเยวีย นางจะรูไ้ ด้อย่าง
ไรกัน”

22
เรืองนี มูช่ ิงเกอเองก็ยงั สงสัย ตอนแรกนางคิดว่าหลัง
จากทีกลับจากเมืองอีแล้วจะมาหาคําตอบ แต่ตอนนี
นางก็ตอ้ งกลับไปทีเมืองอีอีกครัง เรืองนีจึงต้องให้มเู่ หลี
ยนหรงเป็ นคนไปจัดการแทน

ดังนัน นางจึงพูดว่า : “ข้าก็ไม่รูว้ า่ เหตุใดนางถึงรู ้ แต่เท่า


ทีองค์หญิงพูดราวกับว่านางได้ยินบทสนทนาของเรา
และไปบอกรุย่ อ๋องทีตําหนัก ขณะนันองค์หญิงก็อยูใ่ น
ตําหนักรุย่ อ๋องแล้วได้ยินเข้าโดยบังเอิญ จึงออกมาหา
ข้า”

“ซีเยวีย นาง......” มูเ่ หลียนหรงขมวดคิว สิงทีมูช่ ิงเก

23
อพูดนัน นางไม่อยากจะเชือเลยแม้แต่นอ้ ย

ป๋ ายซีเยวียเป็ นเด็กทีเติบโตมาในสายตาของนางตลอด
แต่วนั นีนางกลับแอบไปอยูก่ บั รุย่ อ๋องลับหลังตระกูลมู่
และยังเปิ ดเผยความเคลือนไหวของมูช่ ิงเกออีก

“เหตุใดนางถึงทําเช่นนี?” มูเ่ หลียนหรงส่ายหน้า

มูช่ ิงเกอมองนางอย่างจริงใจ ความรูส้ กึ ในใจได้สง่ ผ่าน


ดวงตากระจ่างคูน่ นั : “ป๋ ายซีเยวียไม่ได้ไร้เดียงสา หรือ
ว่าท่านอาดูไม่ออก?”

มูเ่ หลียนหรงตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
24
ตังแต่เรืองทีป๋ ายซีเยวียใส่รา้ ยมูช่ ิงเกอเมือครังทีแล้ว นาง
ก็รูส้ กึ ว่าเด็กคนนีเหมือนจะเปลียนไป

“ข้ายังรูอ้ ีกว่านางปกปิ ดความสามารถของตนเองมา


โดยตลอด ท่านอารูห้ รือไม่วา่ ตอนนีนางอยูใ่ นสายอะไร”
มูช่ ิงเกอถือโอกาสตีเหล็กตอนยังร้อนทันที

มูเ่ หลียนหรงตอบโดยไม่ตอ้ งคิดว่า : “นางเป็ นสายแดง


ขันสูงทีกําลังจะเข้าสายส้มไม่ใช่หรือ?”

“จริงๆ แล้วนางเป็ นสายเหลืองขันกลางต่างหาก” ใน


รอยยิมของมูช่ ิงเกอนันมีความเยาะเย้ยประดับอยู่

25
ใบหน้าของมูเ่ หลียนหรงเต็มไปด้วยความตกใจ

“เหตุใดนางถึงต้องปิ ดบัง เด็กคนนีคิดจะทําอะไรกัน


แน่?” ทันใดนัน นางก็เพิงรูว้ า่ ตนเองไม่เข้าใจป๋ ายซีเยวีย
เลย

มูช่ ิงเกอไม่ได้ตอบคําถามนีของนาง แต่พดู ว่า : “ข้ารูส้ กึ


ว่า ท่านปู่ เองก็เหมือนพอจะรูเ้ รืองนีแล้ว แต่เพียงแค่
อยากรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ ข้าก็แค่เป็ นห่วงท่านอา
ท่านเลียงนางมาตังแต่เล็กความรูส้ กึ ทีท่านมีตอ่ นางก็ไม่
ได้นอ้ ยไปกว่าข้าเลย แต่สถานการณ์ของตระกูลมูอ่ ยูใ่ น
ช่วงอ่อนไหว หากเรืองทีปิ ดบังถูกเปิ ดเผยออกไป เกรงว่า
คงจะนํามาซึงภัยพิบตั ิใหญ่หลวง เพราะฉะนันข้าจึงขอ
26
ให้ทา่ นระวัง ป้องกันเอาไว้ก่อน!”

“ข้ารูแ้ ล้ว” มูเ่ หลียนยังคงตกตะลึงแต่ก็จาํ คําพูดของมูช่ ิง


เกอเอาไว้

ในขณะทีทังสองสนทนากัน มูซ่ งก็เข้ามาภายในกระโจม

เขาเองก็ตกใจกับสิงของทีกองอยูเ่ ป็ นภูเขาภายใน
กระโจม จึงขมวดคิวแล้วพูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “เกอเอ๋อร์
เจ้ารูห้ รือไม่วา่ ระหว่างทางทีกลับไปยังเมืองอีนัน ไม่ได้
ปลอดภัยมากนัก?”

มูช่ ิงเกอพยักหน้า
27
ทําไมนางจะไม่รู ้

เห็นนางเข้าใจเรืองนี มูซ่ งก็ไม่ได้อธิบายอะไรมาก เพียง


ถามว่า : “แล้วเจ้าจะทําอย่างไรต่อไป”

มูช่ ิงเกอยิมและพูดอย่างไม่สนใจว่า : “นํามาเอาดินกลบ


ทหารมาใช้ขนุ ศึกต้าน” (หมายถึง การแก้ไขเรืองราวไป
ตามสถานการณ์) ตังแต่ทีรูว้ า่ คุณตัวประหลาดทิง
องครักษ์ไว้ให้กบั นาง นางก็ไม่เคยเป็ นห่วงถึงความ
ปลอดภัยของตนเองเลยแม้แต่นอ้ ย

ในตอนแรก นางรูส้ กึ ไม่ชอบใจกับการกระทําของคุณตัว

28
ประหลาดนัก แต่หลังจากทีกูหยาบอกว่า คุณตัว
ประหลาดก็แค่ให้เขาคอยปกป้องความปลอดภัยให้กบั
นาง ไม่ให้แอบดูการใช้ชีวิตของนางเด็ดขาดและไม่ตอ้ ง
รายงานอะไรกับเขา นางก็ยงั ถือว่ายอมรับได้ในระดับ
หนึง

อย่างไรเสีย ตนเองไม่ได้ถกู จับตามองอะไร องครักษ์ที


เก่งกาจและบริการฟรีเช่นนีทําไมนางต้องเล่นตัวแล้ว
ปฏิเสธด้วย

สิงเดียวทีนางสงสัยก็คือ-------ทําไมคุณตัวประหลาดถึง
ทําเช่นนี

29
แต่วา่ มูซ่ งทีไม่ได้รูเ้ รืองนีกลับไม่ได้นิงนอนใจดังเช่นนาง
เขาขมวดคิวพลางพูดว่า : “เจ้าคิดว่าสายเขียวของตน
เองไร้เทียมทานแล้วหรือไร หากไม่ระวังเจ้าไม่มีทางไป
ถึงเมืองอีได้แน่”

ในตอนนีเองมูเ่ หลียนหรงก็ได้สติกลับมาจากความตกใจ
เมือได้ยินคําพูดของท่านพ่อจึงพูดว่า : “ถ้าอย่างนันให้
ข้าไปส่งเกอเอ๋อร์ทีเมืองอีเอง”

“ไม่ได้!” คนทีปฏิเสธเป็ นคนแรกคือมูช่ ิงเกอ

นางมองท่านปู่ และท่านอาของตัวเองแล้วพูดว่า : “ตอน


นีตระกูลมูข่ องเราเหลืออยูเ่ พียงสามคน คนใดคนหนึง

30
ตายไปก็จะทําให้คนพวกนันยินดีจนต้องเฉลิมฉลอง
ท่านอาไปส่งข้าทีเมืองอี แล้วตอนกลับมาจะทําอย่าง
ไร?”

“ข้าไม่เป็ นอะไรแน่นอน” มูเ่ หลียนหรงยังคงยืนยัน

แต่มชู่ ิงเกอเพียงยิมแล้วพูดว่า : “ขอยืมใช้คาํ พูดของท่าน


ปู่ ท่านคิดว่าสายเขียวจะไร้เทียมทานแล้วหรือ”

พูดจบ มูซ่ งก็โกรธจนหนวดกระดิกส่วนมูเ่ หลียนหรงก็


พลันหน้าแดง

มูช่ ิงเกอพูดทังรอยยิมว่า : “เพราะฉะนันพวกท่านอยูท่ ีลัว


31
ตูนีแหละ ข้าไปเมืองอีคนเดียว ไม่เป็ นอะไรแน่นอน”

“ทําไมเจ้าถึงมันใจนัก” มูซ่ งขมวดคิวถาม

เห็นว่าท่านปู่ ของตนเองถามทุกอย่างอย่างละเอียด เมือ


ไม่รูจ้ ะทําอย่างไร มูช่ ิงเกอก็ทาํ ได้เพียงแค่ดงึ คุณตัว
ประหลาดเข้ามาเกียวอีกครังแล้วพูดว่า : “มหาปราชญ์
ได้สง่ คนทีมีความสามารถมาคอยคุม้ ครองข้าอยูห่ า่ งๆ
แล้วพวกท่านคิดว่าใครยังจะกล้าเอาชีวิตข้าโดยไม่กลัว
ว่าท่านมหาปราชญ์จะโกรธเคือง?”

“มหาปราชญ์สง่ คนมาคุม้ ครองเจ้าหรือ”

32
ครังนี ทําให้ทงมู
ั ซ่ งและมูเ่ หลียนหรงตกใจมากจริงๆ

“แต่วา่ เหตุใดมหาปราชญ์ตอ้ งส่งคนมาคุม้ ครองเจ้า


ด้วย” มูเ่ หลียนหรงถามด้วยความสงสัย

มูช่ ิงเกอกระตุกยิม พูดอย่างหลงตัวเองว่า : “บางทีอาจ


จะเป็ นเพราะว่าข้าน่ารักทีสุดในปฐพีนี หล่อเหลาจน
สวรรค์ยงั ทนไม่ได้กระมัง”

ป้าบ----!

ฝ่ ามือหนึงฟาดลงมายังหัวของมูช่ ิงเกอ

33
นางเอามือกุมหัวและเงยขึนมองมูซ่ งทีเป็ นเจ้าของฝ่ ามือ
ด้วยสายตาขุ่นเคือง

34
ตอนที 84-3 องครักษ์เขียวมังกรพลิกฟ้า!

ทว่ามูซ่ งไม่แม้กระทังจะมองหน้ามูช่ ิงเกอ ไตร่ตรองอย่าง


ละเอียดแล้วพูดว่า : “บางที ท่านมหาปราชญ์อาจจะแล
เห็นถึงความสามารถภายในตัวเกอเอ๋อร์ อย่างไรเสีย เก
อเอ๋อร์ของเราสามารถกลายเป็ นยอดฝี มือสายเขียวจาก
ทีเป็ นคนทีมีธาตุในร่างกายทีไม่สามารถฝึ กพลังได้
ความสามารถระดับนีไม่เคยมีมาก่อน หากท่านมหา
ปราชญ์อยากจะได้เจ้าเป็ นศิษย์ก็ใช่วา่ จะเป็ นไปไม่ได้”

35
มูช่ ิงเกอมองท่าทางของคนแก่ทีดูลาํ พองใจแล้วผุดรอย
ยิมออกมา

โธ่ คนแก่อย่าหลงตัวเองไปนักเลย

ไม่วา่ อย่างไร คําพูดนีของมูช่ ิงเกอก็ทาํ ให้มซู่ งและมูเ่ หลี


ยนหรงเบาใจเรืองความปลอดภัยของนางในทีสุด

……

วันต่อมาฟ้ายังไม่ทนั รุง่ สาง ทุกคนต่างก็ออกเดินทาง

36
มูซ่ งและมูเ่ หลียนหรงขีม้าไปส่งและยํามูช่ ิงเกอให้เขียน
จดหมายส่งกลับมาทีจวนและให้ระมัดระวังสุขภาพรวม
ไปถึงเรืองราวต่างๆ อย่างอาลัยอาวรณ์

ทังสองไปส่งมูช่ ิงเกอตังแต่ก่อนฟ้าสางจนถึงยามบ่าย
หลังจากนันจึงกลับไปยังลัวตู

หนทางทีเหลือ มูช่ ิงเกอจําเป็ นต้องพึงพาตนเอง

มูช่ ิงเกอนําขบวนทหารห้าพันนายเดินทางไปยังเมืองอี
อย่างเปิ ดเผย สําหรับคนทีคิดจะปองร้ายนางนัน นางไม่
เพียงแต่ไม่กลัว ทว่ากลับยังตังหน้าตังตารอคอย

37
ราวกับว่าพวกคนทีอยากจะได้ชีวิตของนางเหล่านันเป็ น
เพียงแค่หมากตัวทีเอาไว้ฝึกพลังให้กบั นาง

แต่วา่ พอนางค่อยๆ เดินทางและถึงเมืองอีนัน การลอบ


ทําร้ายทีรอคอยก็ไม่ได้เกิดขึนเลยแม้แต่ครังเดียว ทําให้
นางรูส้ กึ ฉงนใจอยูไ่ ม่นอ้ ย

เมือกลับไปถึงป้อมปราสาทของเมืองอีอีกครัง มูช่ ิงเก


อพลันเรียกกูหยาออกมาด้วยท่าทางแลดูเคร่งเครียด

“เจ้าบอกว่าเจ้าจะลงมือแค่เพียงตอนทีข้าเกิดอันตราย
ถึงชีวิตไม่ใช่หรือ” มูช่ ิงเกอพูดด้วยนําเสียงไม่สดู้ ีนกั

38
กูหยาท่าทางดูไร้เดียงสา : “ไม่เกียวกับข้านะ”

มูช่ ิงเกอไม่เชือแม้แต่นอ้ ย : “หากไม่เกียวกับเจ้า แล้วมือ


สังหารทีคิดจะเอาชีวิตของข้าอยูไ่ หนกัน”

“ข้าไม่ได้ทาํ อะไร แต่มีคนลงมือแทน” กูหยาพูดด้วยนํา


เสียงเย็นชา

มีคนลงมืออย่างนันหรือ ?!

มูช่ ิงเกอประหลาดใจและคิดทบทวนถึงทุกคนทีอยูใ่ น
ความทรงจําของนาง ใครหน้าไหนเล่าจะมาช่วยนาง
39
องค์หญิงฉางเล่อหรือ เป็ นไปไม่ได้ ถอนการหมันหมาย
เช่นนี นางไม่สงั หารมูช่ ิงเกอก็ดีแค่ไหนแล้ว จะเป็ นไปได้
อย่างไรทีจะแอบปกป้องนาง อีกอย่างคนทีอยากจะ
สังหารนางนันมีความสามารถไม่นอ้ ย ด้วยความ
สามารถของฉินอีเหยาแล้วจะปกป้องนางได้รอบด้านถึง
ขนาดนีได้อย่างไรกัน หรือว่าจะเป็ นเจ้าอ้วนเซ่า ยิงเป็ น
ไปไม่ได้พอเดาว่าเป็ นเจ้าคนนี มูช่ ิงเกอก็ปฏิเสธเป็ น
พัลวันโดยไม่ตอ้ งคิด แต่ครังนีด้วยความเร่งรีบนางจึงไม่
ได้บอกลากับเจ้าอ้วนจึงทําให้นางรูส้ กึ ผิดอยูไ่ ม่นอ้ ย

ก็ไม่รูว้ า่ เจอกันครังต่อไปเจ้าอ้วนจะโกรธหรือไม่

40
คนนันก็ไม่ใช่คนนีก็ไม่ใช่ แล้วจะเป็ นใครกัน?

หากเป็ นคนทีท่านปู่ สง่ มา เขาคงจะไม่ปิดบังนางเป็ นแน่


อีกอย่างนางบอกพวกเขาไปแล้วว่าตนมีกหู ยาคอยปก
ป้อง

มูช่ ิงเกอไตร่ตรองดูซาแล้
ํ วซําเล่าแต่กลับคิดไม่ออกเลย
ว่าคนผูน้ นที
ั ปกป้องนางคือใคร?

“คนทีคิดจะสังหารข้าและคนทีปกป้อง เจ้าเห็นทังหมด
รึ?” ทันใดนัน มูช่ ิงเกอก็เงยหน้าขึนถามกูหยา

กูหยาพยักหน้าเงียบๆ แล้วพูดว่า : “คนร้ายมาจากสาม


41
ฝ่ ายและตอนท้ายก็มีมาอีกฝ่ าย ทุกฝ่ ายต่างเป็ นสาย
เหลืองทีมีสายครามเป็ นผูน้ าํ ทัพ ราวกับว่าได้ตระเตรียม
การณ์เพือให้สมกับความสามารถระดับสายเขียวของ
เจ้าโดยเฉพาะ ผูท้ ีปกป้องนันมีเพียงฝ่ ายเดียว ทว่าผูน้ าํ
ท่านนันเป็ นสายครามและย่างเข้าสูส่ ายม่วงไปครึงหนึง
แล้ว แม้จะมีกาํ ลังคนไม่มากนักแต่ก็ลว้ นเป็ นผูท้ ีมีความ
สามารถเก่งกาจและทีเหลือต่างก็อยูใ่ นสายเขียว”

เก่งกาจกันขนาดนันเชียวหรือ!

มูช่ ิงเกอรูส้ กึ คลางแคลงใจและตกใจเพราะคําพูดของกู


หยา

42
ใครกันทีมีความสามารถถึงเพียงนี สามารถสังการผูท้ ี
กําลังจะเข้าสูส่ ายม่วงให้มาปกป้องนางได้

“คนผูน้ นยั
ั งอยูท่ ีนีหรือไม่” มูช่ ิงเกอคิดทบทวนแล้วถาม

กูหยาตอบว่า “หลังจากทีคุณชายมาถึงเมืองอี พวกเขาก็


กลับไปแล้ว”

“เจ้ารูห้ รือไม่วา่ พวกเขาเป็ นใคร” มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึน


ถามกูหยา

กูหยาเงียบไปครูห่ นึงแล้วเผยว่า : “เรืองราวของแคว้น


ระดับสามนันโดยปกติแล้วจะไม่เข้าร่วม........”
43
“พอเถอะ ไม่รูก้ ็บอกว่าไม่รู”้ มูช่ ิงเกอตัดบทของกูหยา
อย่างไม่เกรงใจ

กูหยาสีหน้ามืดครึม ปิ ดปากเงียบ

เห็นใบหน้าโอหังของคนตรงหน้าดูกลํากลืน ในใจของมู่
ชิงเกอก็รูส้ กึ มีความสุขขึนมาอย่างอธิบายไม่ถกู !

พอให้กหู ยาออกไป มูช่ ิงเกอก็ยกมือขึนมาเท้าคาง


ไตร่ตรองโดยละเอียดถีถ้วนเป็ นเวลาเนินนานก็ยงั คิดไม่
ออกว่า ใครทีแอบปกป้องตนเองและยังมีความสามารถ
เก่งกาจถึงเพียงนี

44
เมือคิดไม่ตก นางก็ทิงเอาไว้เสียก่อน

อย่างไรซะ คนทีปกป้องนางคงจะไม่ใช่ศตั รูเป็ นแน่

……

เมืองอีทีเป็ นเมืองทีถูกลอยแพนี กลับทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ


ถูกปลดปล่อยและเป็ นอิสระอย่างบอกไม่ถกู

สําหรับคนอืนๆ แล้ว เมือมาถึงเมืองอีก็เท่ากับการถูก


ทอดทิงแต่สาํ หรับนางกลับเหมือนเป็ นการได้รบั รางวัล

45
เมือย่างเข้าวันทีสิบของการมาอยูเ่ มืองอีในครังนี ตอน
เช้าทีนําค้างยังไม่ทนั แห้ง มูช่ ิงเกอก็คอ่ ยๆ ตืนขึนจาก
การฝึ กฝน เมือนางลืมตาทังสองข้างขึน ภายในส่วนลึก
ของสายตาพลันมีแสงสีเขียวเข้มวาบผ่าน

สายเขียวขันกลาง-----!

นางได้ทะลวงผ่านมาแล้ว เมือสองวันก่อน !

จากทีเป็ นไม่ได้แม้กระทังสายแดง กลับกลายเป็ นสาย


เขียวขันกลางได้ในชัวพริบตา โดยใช้ระยะเวลาเพียงห้า
เดือน ด้วยความเร็วระดับนี หากถูกเผยแพร่ออกไป ทุก

46
คนในใต้หล้าฟ้านีอาจจะตกใจจนคางหลุดออกจากใบ
หน้าเป็ นแน่

ความสามารถอะไร หรือจะวิชามารแบบไหน

ทังหมดนีล้วนแล้วแต่สคู้ วามเร็วดังจรวดของนางไม่ได้
ประตูหอ้ งถูกเคาะเบาๆ มูช่ ิงเกอพลันซ่อนแสงสีเขียวใน
แววตาของตนและพูดเสียงตําว่า : “เข้ามา”

พูดจบประตูก็ถผู ลักเปิ ดออก

โย่วเหอและฮวาเยวียเดินเข้ามาพร้อมกัน ในมือนันกําลัง
ถืออุปกรณ์ลา้ งหน้าและข้าวของเครืองใช้ตา่ งๆ
47
“คุณชาย บ่าวมาปรนนิบตั ิทา่ นเจ้าค่ะ”

“คุณชาย วันนีอยากจะรับประทานอะไรเป็ นพิเศษหรือ


ไม่เจ้าคะ”

ในขณะทีทังสองไต่ถามก็ได้เดินมาหยุดตรงหน้ามูช่ ิงเก
อเพือตระเตรียมทุกอย่าง

มูช่ ิงเกอลงมาจากเตียงพลางรับการปรนนิบตั ิจากทัง


สอง พลางพูดว่า : “ข้าไม่ได้เคร่งเรืองการกินมากนัก ก็
แค่อร่อย ไม่แปลกเกินไป ไม่มนั เกินไป ไม่จืดจนเกินไป
และเผ็ดนิดหน่อยก็เพียงพอแล้ว”

48
โย่วเหอพยักหน้าพร้อมรอยยิมและแอบคิดในใจว่า : คุณ
ชายของข้า ท่านไม่เคร่งเรืองการกินเลยจริงๆ หรือ

“จริงด้วย ทีเมืองอีแห่งนีทังแห้งแล้งและรกร้าง พวกเจ้า


ทังสองอยูไ่ ด้หรือไม่” อยูๆ่ มูช่ ิงเกอประหนึงเพิงคิดคํา
ถามอะไรออก

ทังสองมองหน้ากันแล้วยิม โย่วเหอพูดว่า : “คุณชายไม่


ต้องเป็ นห่วงพวกข้า บรรยากาศของเมืองอีนันไม่ใช่สงที

ลัวตูจะสามารถสูไ้ ด้ อยูท่ ีนีเราสองพีน้องไม่เพียงแต่
สามารถปรนนิบตั ิคณ
ุ ชายทังยังสามารถฝึ กพลังเวทกับพี
น้องทีนีได้อย่างสบายใจ ช่างมีความสุขอย่างหาทีสุดไม่

49
ได้”

“เจ้านีช่างพูดเอาใจเก่งเสียจริง” มูช่ ิงเกอยืนมือออกไป


จับปลายจมูกของโย่วเหอแล้วกระตุกยิม

ทันใดนัน นางก็หยุดทุกการเคลือนไหวและในหัวก็มีภาพ
เช่นนีเกิดขึน ราวกับว่ามีคนเคยทําท่าทางเช่นนีกับ
นาง…

มูช่ ิงเกอสลัดภาพในหัวทิง นางจะไม่ยอมรับเด็ดขาดว่า


นางเคยโดนตัวประหลาดทีสมควรตายผูน้ นหยอกล้
ั อ

“คุณชาย ท่านเป็ นอะไรไปหรือเจ้าคะ” อยูๆ่ ท่าทีของมู่


50
ชิงเกอก็นิงไป ทําให้โย่วเหอทีสังเกตอาการอย่างละเอียด
อ่อนสามารถสัมผัสได้

ครันได้สติ มูช่ ิงเกอก็สา่ ยหน้าเพือเป็ นการบอกว่าตนเอง


ไม่ได้เป็ นอะไร พลันพูดกับทังสองอย่างจริงจังว่า : “หลัง
จากทีทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ไปบอกให้ทกุ คนมา
รวมตัวกันบริเวณด้านล่างเมือง”

พูดจบนางก็หรีตาและคิดในใจว่า : พักผ่อนมาสิบวันก็
ถึงเวลาทีจะต้องฝึ กฝนในขันต่อไปกันแล้ว

แม้วา่ ทหารองครักษ์ทีนางสร้างขึนมาใหม่จะได้แสดง
ความสามารถให้ได้เห็นในขณะทีสูร้ บกับสัตว์ป่าแล้ว แต่

51
สําหรับนาง เท่านียังไม่พอและมันยังห่างจากสิงทีนาง
ต้องการอีกมาก

หากคนพวกนียังอยากจะเดินตามนางไปข้างหน้าได้
ตลอด ก็ตอ้ งผ่านการฝึ กทีฝนทรมานเป็ นทีสุด

ในสิบเดือนนี ไม่เพียงจะเป็ นเวลาทีนางจะยกระดับ


ความสามารถของตนเองให้สงู ขึนเท่านัน แต่ยงั เป็ นช่วง
เวลาทีจะทําให้ทหารองครักษ์ของนางเก่งกาจขึนด้วย
เช่นกัน

เมือสัมผัสถึงประกายไอสังหารจากตัวของมูช่ ิงเกอ โย่ว


เหอและฮวาเยวียก็มองหน้ากันแล้วรูว้ า่ ช่วงเวลาดีๆ แห่ง

52
ความสุขของพวกนางกําลังจะหมดไปแล้ว ความท้าทาย
ใหม่ๆ ทีน่าตืนตากําลังจะมาถึง

“คุณชาย มีจดหมายจากลัวตู!” ทันใดนันผูส้ ง่ ข่าวของ


เมืองอีก็มาขอเข้าพบอย่างเร่งรีบและเผยให้เห็น
จดหมายสามฉบับทีมาจากลัวตูให้แก่มชู่ ิงเกอ

ในขณะนี มูช่ ิงเกอเพิงสวมใส่เสือผ้าชุดใหม่เสร็จและฮวา


เยวียกําลังจัดชายเสือให้กบั นางอยู่ โย่วเหอเองก็กาํ ลัง
ขะมักเขม้นกับการเก็บอุปกรณ์ลา้ งหน้า

โย่วเหอเข้าไปรับจดหมายแล้วส่งให้แก่มชู่ ิงเกอ

53
ตอนที 84-4 องครักษ์เขียวมังกรพลิกฟ้า!

54
มูช่ ิงเกอพลันรีบแกะจดหมายออกมาดู พบว่าฉบับหนึง
มาจากตระกูลมู่ ตัวหนังสืออันสวยงามเรียงรายกันอย่าง
เป็ นระเบียบเรียบร้อยนันและมีคาํ เรียกทีคุน้ เคยทําให้
นางรูว้ า่ จดหมายนีมาจากท่านอาของนาง มูเ่ หลียนหรง
นันเอง

เนือหาในจดหมายนันไม่ได้มีอะไรเป็ นพิเศษ เพียงแค่


ถามไถ่วา่ นางคุน้ เคยกับการใช้ชีวิตอยูท่ ีเมืองอีแล้วหรือ
ไม่ กินอิมนอนหลับหรือไม่ ต้องดูแลตนเองให้ดีไม่ตอ้ ง
เป็ นพะวงตระกูลมูท่ ีอยูใ่ นลัวตู

55
จดหมายฉบับทีสองมาจากเจ้าอ้วนเซ่า

ตามทีมูช่ ิงเกอคาดการณ์เอาไว้ หลังจากทีเจ้านันรูว้ า่ ตน


เองออกจากลัวตูก็ตอ้ งรีบเขียนจดหมายมาด่านางโดย
ด่วนเป็ นแน่

เนือหาในจดหมายบอกว่า นางไร้สจั จะ จากไปโดยทีไม่มี


คํารําลา ไม่ให้ความสําคัญกับพีน้อง...... ทว่ามูช่ ิงเกอก
ลับสัมผัสได้ถงึ ความคิดคะนึงห่วงใยผ่านจากตัวอักษร
ราวกับว่าเขาอยากจะมาร่วมทุกข์รว่ มสุขกับนางทีเมืองอี
เสียเดียวนี

เมือเห็นตัวหนังสือทีเหมือนรอยประทับเท้าของสุนขั ก็ไม่

56
ปานของจอมเสเพลอันดับสองแห่งลัวตู มูช่ ิงเกอถึงกับ
หัวเราะ

ตัวอักษรพวกนีเหมือนเป็ นความอบอุน่ ทีไหลบ่าดังสาย


นําเข้าไปสูห่ วั ใจของนาง

จดหมายฉบับสุดท้าย หลังจากทีมูช่ ิงเกอเปิ ดออก


นัยน์ตาก็เผยให้เห็นถึงความฉงนใจและคาดไม่ถงึ ว่าคน
ทีเขียนจดหมายให้กบั นางจะเป็ นองค์หญิงตัวน้อยฉินอี
เหลียน

เท่าทีเจอกับนางหลายรอบแล้วนางก็ยงั คงไว้วางใจใน
ตัวมูช่ ิงเกอ นางจึงรูส้ กึ อาลัยอาวรณ์ตอ่ การจากมาของมู่

57
ชิงเกอในครังนีเป็ นอย่างยิง

จดหมายฉบับนีตัวหนังสือไม่ได้สละสลวยมากนัก
เนือหาในจดหมายก็เกียวกับการบรรยายถึงชีวิตประจํา
วันขององค์หญิงตัวน้อย ความคิดคะนึงถึงทีมีตอ่ นาง
จดหมายฉบับนีไต่ถามว่านางจะกลับไปเมือไหร่ราว
สิบกว่าครัง และในตอนท้ายของจดหมายยังเขียนว่า
นางยังคงรอคอยให้พีชายกลับมายังลัวตู เมือถึงตอนนัน
จะเลียงขนมพีชายและมีความลับจะบอกมูช่ ิงเกออีก
มากมายด้วย

จดหมายทังสองฉบับนัน มูช่ ิงเกอตอบกลับไปเพียงสันๆ

58
เว้นแต่จดหมายฉบับเดียวซึงเป็ นจดหมายของฉินอี
เหลียนทีนางไม่ได้คิดจะตอบกลับ

องค์หญิงตัวน้อยผูไ้ ร้เดียงสาผูน้ ี นางไม่อยากจะดึงเข้า


มาในวัฏจักรนีจริงๆ รักษาระยะห่างเอาไว้บางทีอาจจะ
สามารถรักษาความดีภายในใจขององค์หญิงไว้ได้ตลอด
ไป

หลังจากทีจัดการกับเรืองราวต่างๆ นานาเสร็จสินแล้ว มู่


ชิงเกอจึงพาสาวใช้ทงสองไปยั
ั งสนามโล่งแจ้งด้านล่าง
กําแพงเมือง

ทหารองครักษ์ทงห้
ั าร้อยนายรวมทังมัวหยางรวมกันเป็ น

59
ห้าร้อยหนึงคน ได้ยืนเรียงแถวอย่างเป็ นระเบียบเรียบ
ร้อยอยูใ่ นสนามเป็ นเรียบร้อยแล้ว

ในระยะอันห่างออกไป ทหารประจําการของตระกูมู่
กําลังสอดส่องมองดูพวกเขาอยูห่ า่ งๆ ราวกับว่ากําลังดู
ว่าจะเกิดอะไรขึนต่อไป

เมือเห็นว่ามูช่ ิงเกอเดินเข้ามาใกล้ ผูน้ าํ ทหารประจําการ


ของเมืองอีพลันเดินเข้าไปต้อนรับ

“คุณชาย ท่านกําลังจะ........” การเข้ามาช่วยเมืองอีเมือ


ครังทีแล้ว ทําให้กองทหารตระกูลมูต่ า่ งเคารพและนับถือ
ในตัวมูช่ ิงเกอและไม่มีความดูแคลนหลงเหลืออยูอ่ ีก

60
ตอนนีหากมีใครกล้าพูดเรืองไม่ดีของมูช่ ิงเกอต่อหน้า
พวกเขา เกรงว่าคงจะทําให้พวกเขาโต้กลับอย่างสุด
ความสามารถเป็ นแน่

มูช่ ิงเกอกวาดสายตามองเขาแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า :
“เจ้ามาพอดีเลย เจ้าอยูเ่ มืองอีมานาน คงจะมีแผนทีของ
เทือกเขาฉินใช่หรือไม่”

“แผนทีของเทือกเขาฉินอย่างนันหรือ” ผูน้ าํ
ทหารประจําการได้ฟังแล้วประหลาดใจ พูดอย่างระมัด
ระวังว่า : “เรียนถามคุณชาย ท่านจะนําแผนทีของเทือก
เขาฉินไปใช้เพือการใด”

61
มูช่ ิงเกอทีไม่ได้ปิดบัง พูดตรงๆ ว่า : “ข้าจะพาพวกเขา
เข้าไปฝึ กในเทือกเขาฉิน เวลาน้อยสุดหนึงเดือน มากสุด
สามเดือน”

ใครจะรูว้ า่ เมือผูน้ าํ ได้ยินเช่นนี สีหน้าก็พลันเปลียนไป


และรีบทักท้วงว่า : “ไม่ได้เป็ นอันขาด คุณชาย ภายใน
เทือกเขาฉินนันเต็มไปด้วยภยันตรายและเป็ นอาณาเขต
ของสรรพสัตว์ ถึงแม้วา่ คุณชายจะเอาแผนทีไปด้วยแต่ก็
ยังคงไม่ปลอดภัย ขอให้คณ
ุ ชายล้มเลิกความคิดนีและ
โปรดอยูใ่ นเมืองอี หากเกิดอะไรขึนกับคุณชาย ข้าไม่รูว้ า่
ควรจะบอกท่านแม่ทพั อย่างไร”

มูช่ ิงเกอมองเขาครูห่ นึง แล้วเดินไปข้างหน้าสองก้าว


62
พลันตะโกนเสียงสูงกับทหารองครักษ์ของนางว่า : “พวก
เจ้าได้ยินหรือยัง แล้วกลัวหรือไม่?”

“ไม่กลัว!” เสียงอันเป็ นระเบียบเรียบร้อยดุจดังเสียง


เกลียวคลืนซัดโหมดังก้องไปทัวฟ้าเมืองอี

เสียงทีดังออกมาอย่างไม่ลงั เลนัน ทําให้กองทหาร


ประจําการถึงกับหันหน้าหนี

เพราะเขาคิดว่าคนพวกนีใจกล้าและช่างโอหังเหลือเกิน
พวกเขาอาศัยอยูใ่ นเมืองอีเป็ นเวลาเนินนาน ไม่มีใครจะ
รูไ้ ปมากกว่าพวกเขาว่าเมืองอีแห่งนีเป็ นสถานทีเช่นใด

63
สายตาเหยียดหยาม เย้ยหยันมองไปยังทหารองครักษ์
ทังห้าร้อยนาย

แต่พวกเขากลับไม่รูส้ กึ อะไรเลยแม้แต่นอ้ ย สิงทีผ่านมา


ทําให้พวกเขามีความเชือทีมันคงเพียงความเชือเดียวคือ
เชือในตัวคุณชาย และทังชีวิตนีหากติดตามคุณชายแน่
นอนว่าจะไม่มีใครต้องอดตาย!

ไม่มีใครเห็นความตืนเต้นและความบ้าคลังทีหลบซ่อน
อยูใ่ นแววตาของพวกเขา

ความไว้เนือเชือใจทีพวกเขามีตอ่ มูช่ ิงเกอนันได้เกิดขึน


ตังแต่วนั ทีธาตุในร่างกายของพวกเขาได้เปลียนแปลงไป

64
และไม่วา่ จะเรืองอะไรหรือจะเป็ นใครหน้าไหนก็ไม่อาจ
ลบล้างมันได้

“ดีมาก” มูช่ ิงเกอกระตุกยิมอย่างสมใจ

สายตาของนางนันแนบนิงดังสายนํา นางกวาดสายตา
มองทุกคนด้วยสายตาอันเย็นเยียบราวกับธารนําแข็ง
แม้วา่ นางจะไม่สามารถจดจําใบหน้าของคนเหล่านีได้
ทุกคน แต่แววตามุมานะมันคงเหล่านีนางจําได้ขนใจ

ช่างสมกับทีเป็ นทหารองครักษ์ของนาง

“ข้าเคยบอกว่า เมือถึงเวลาทีข้ารูส้ กึ ว่าพวกเจ้าเหมาะ


65
สม ข้าจะบอกพวกเจ้าว่าข้าได้ตงชื
ั ออะไรให้กบั หน่วย
ของพวกเจ้า และวันนีก็ถงึ เวลาอันสมควรแล้ว” มูช่ ิงเก
อก้าวไปข้างหน้าหนึงก้าวแล้วตะโกนเสียงดังพูดกับ
ทหารองครักษ์ทงห้
ั าร้อยหนึงนาย

ผูน้ าํ ทหารประจําการในเมืองอีขมวดคิวดกหนาของเขา
แต่ไม่ได้พดู อะไร

บางทีเขาคงจะอยากรูว้ า่ มูช่ ิงเกอคิดจะทําอะไรกันแน่


ทหารในเมืองอีต่างเงียบสงบ ทว่าทุกสายตากําลังจด
จ้องเป็ นหนึงเดียวกันทีด้านล่างกําแพงเมือง

เมือสินเสียงขอมูช่ ิงเกอ ทังห้าร้อยนายนายต่างมีสีหน้า

66
แววตาเคร่งขรึมและเม้มปากเงียบ

สายตาของพวกเขามีทงความตื
ั นเต้นและบ้าคลัง

ราวกับว่า ในทีสุดสิงทีพวกเขามุมานะพยายามมาทัง
หมดก็ได้รบั การยอมรับจากมูช่ ิงเกอ ในทีสุดพวกเขาก็มี
ชือเรียกเป็ นของตนเอง

“ตังแต่วนั นี พวกเจ้าเป็ นองครักษ์เขียวมังกรของ


ข้า มูช่ ิงเกอ” มูช่ ิงเกอตะโกนชือเรียกทีอยูใ่ นใจของนาง
มานานออกมาเสียงดัง

องครักษ์เขียวมังกร!
67
ชือเรียกอันแสดงถึงสัญชาตญาณนักฆ่า ทําให้ในสายตา
ของทังห้าร้อยหนึงคน เป็ นประกาย ในแววตาราวกับมี
เปลวเพลิงโหมไหม้

“เฮ้ๆ—องครักษ์เขียวมังกร !”

“เขียวมังกร ! เขียวมังกร ! เขียวมังกร !”

เสียงพวกนีได้ถกู เปล่งออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน โดย


ไม่ตอ้ งสังการใดๆ ทําให้คาํ ว่าเขียวมังกรดังก้องไปทัว
ท้องนภาเหนือเมืองอีอยูเ่ นินนาน

68
มูช่ ิงเกอเองก็รูส้ กึ ตืนเต้นมากเช่นกัน ไม่มีใครรูด้ ีไปกว่า
นางว่าคําว่า ‘เขียวมังกร’ นันมีทีมาความหมายสําคัญ
สําหรับนางมากเพียงใด เขียวมังกรคือรหัสลับของนาง
เมือชาติทีแล้ว

มังกรผูน้ าํ แห่งสรรพสัตว์และเขียวก็คือส่วนทีแหลมคมที
สุด แม้จะซ่อนอยูภ่ ายในปาก แต่ยงั คงแสดงถึงรังสีกลิน
อายของความแหลมคม

นางเคยถูกขนานนามว่าเป็ นมีดเล่มทีแหลมคมทีสุดใน
ประเทศและเป็ นทีหนึงของหน่วยพิเศษของโลกเพราะ
ฉะนันรหัสลับของนาง คือเขียวมังกร

69
บางทีหลังจากทีนางสละชีพไปแล้ว คนอืนๆ อาจจะไม่รู ้
เลยว่า คนทีทําให้ผมู้ ีอิทธิพลมืดบนโลกใบนีรูส้ กึ หวาด
กลัวและทําให้องค์กรของประเทศอืนๆ ต้องปวดหัว เขียว
มังกรแห่งหัวเซียทียากจะต่อกรนันเป็ นเพียงหญิงสาว
อายุแค่ 29 ปี เท่านัน

เขียวมังกร คํานีได้แสดงถึงความภาคภูมิใจทังหมดเมือ
ชาติทีแล้วของนาง

ในวันนีนางจะส่งมอบรหัสลับนีให้กบั ทหารองครักษ์ของ
ตนเอง หวังว่าพวกเขาจะไม่ทาํ ให้รหัสลับนีของนางต้อง
เสียชือเสียง

70
เรืองเล่าของเขียวมังกรไม่เพียงแต่เป็ นตํานานทีไม่มีอะไร
สามารถแทนทีได้ของหัวเซีย แต่ในโลกอีกใบนีก็จะดัง
ก้องไปทัวทุกสารทิศ และสร้างตํานานใหม่ขนมา!

องครักษ์เขียวมังกร อย่างนันหรือ

ชือนีวนเวียนอยูใ่ นความคิดของกองทหารตระกูลมูท่ ี
ประจําการอยูใ่ นเมืองอี

บางทีตอนนี นอกจากทีพวกเขาจะรูส้ กึ ว่า ชือนีเป็ นชือที


แสดงถึงความเป็ นนักรบแล้วก็อาจจะไม่ได้รูส้ กึ อะไรอีก
แต่สกั วันหนึงพวกเขาจะเข้าใจความหมายทีแท้จริงของ
คําว่าเขียวมังกร

71
มูช่ ิงเกอกําหมัดแล้วยกขึน เสียงทังหมดพลันเงียบลงใน
ทันที

ในใจของคนทังห้าร้อยหนึงคน เต็มไปด้วยความตืนเต้น
แต่เก็บความรูส้ กึ ไว้และมองนางด้วยแววตาอันร้อนแรง

“นับตังแต่วนั นี พวกเจ้าต้องแบ่งกลุม่ กันเอง กลุม่ ละ 25


คนและเลือกหัวหน้ากลุม่ ทีทุกคนต้องเชือฟั งคําสัง โดย
มัวหยางจะเป็ นหัวหน้าใหญ่ของทุกกลุม่ ทีจะรับคําสัง
จากข้าโดยตรง หัวหน้าของแต่ละกลุม่ รับคําท้าได้ หาก
แพ้ตอ้ งสละตําแหน่งให้ผชู้ นะ ให้ผชู้ นะเป็ นหัวหน้าแทน
โดยการแข่งขันไม่เพียงแต่จะเป็ นการแข่งขันด้านพลัง
การรบเท่านันและต้องแข่งขันเกียวกับการออกคําสัง สํา
72
หรับมัวหยาง หากข้ารูส้ กึ ว่าเขาไม่เหมาะกับการเป็ นหัว
หน้าใหญ่ก็จะตัดตําแหน่ง และให้ทกุ คนแข่งกันเพือ
เลือกผูน้ าํ อย่างยุติธรรม” มูช่ ิงเกออธิบายระเบียบการ
ขององครักษ์เขียวมังกรสันๆ

73
ตอนที 84-5 องครักษ์เขียวมังกรพลิกฟ้า!

วิธีทีนางใช้เป็ นวิธีทีไม่ซบั ซ้อนยุง่ ยากและสามารถเห็น


ผลได้ชดั ทีสุดในการแบ่งกลุม่ แน่นอนว่าเป็ นวิธีทีนางนํา
มาจากชาติทีแล้ว

การแข่งขันอย่างเป็ นธรรม มีผลต่อความก้าวหน้าของ


กองทัพ

74
นางมีเวลาจํากัด ไม่มีเวลามากพอทีจะทําเหมือนพวก
เขาเป็ นเด็กประถมทีต้องค่อยสอนไปทีละขันตอน

พอนางพูดจบ กองทหารตระกูลมูท่ ีอยูข่ า้ งหลังต่างฮือฮา


กันพักใหญ่

แต่สาํ หรับองครักษ์เขียวมังกรนันยังคงรักษาความเงียบ
สงบไว้และยืนนิงราวกับก้อนหินทีอยูก่ ลางมหาสมุทรดัง
เดิม

“ข้าให้เวลาพวกเจ้าแค่ธูปหนึงดอกในการแบ่งกลุม่ หลัง
จากนันเราจะเข้าไปยังเทือกเขาฉิน เพือเริมการฝึ กฝน
กัน” มูช่ ิงเกอพูดทิงท้ายเอาไว้ ก่อนจะหันหลังไปมองผู้

75
นํากองทหารทีประจําการในเมืองอี

สายตาทีแนบนิงนัน ราวกับว่ากําลังขอแผนทีเทือกเขา
ฉินกับผูน้ าํ กองทหาร

“คุณชาย นีมัน......” ผูน้ าํ กองทหารประหนึงไม่ยินยอม


ใบหน้าเริมฉายแววอึกอักลําบากใจ

เขาเข้าใจว่า สําหรับตระกูลมูแ่ ล้วมูช่ ิงเกอมีความสําคัญ


มากเพียงใด แม้วา่ ความกล้าของเขาจะมีมากล้น
มากกว่านีอีกกีร้อยกีพันเท่า ก็ไม่อาจยินยอมให้ทายาทผู้
นีเข้าไปยังเทือกเขาฉิน

76
“แม้วา่ เจ้าจะไม่ให้แผนทีกับข้า แต่อย่างไรเสีย ข้าก็ยงั จะ
เข้าไปอยูด่ ี” มูช่ ิงเกอพูดนิงๆ

คําขู่นี แทบจะทําให้ผนู้ าํ ทัพร้องขอชีวิต

ถึงมีแผนทีแต่อย่างไรเสียก็ยงั คงอันตราย หากเข้าไปใน


เทือกเขาฉินโดยไร้แผนทีจะกลับมาโดยทียังมีลมหายใจ
ได้อย่างไร เมือผูน้ าํ กองทัพไตร่ตรองดูถีถ้วนแล้วจึงกัด
ฟั นและตัดสินใจว่า : “คุณชายโปรดรอสักครู ่ ข้าจะไปหา
แผนที แต่ขอให้คณ
ุ ชายรับปากกับข้าก่อนว่า จะอยูแ่ ค่
บริเวณเขตรอบนอก ไม่เข้าไปลึกมากนัก ข้าจะส่งทหาร
จํานวนหนึงหมืนนายเพือไปอารักขาความปลอดภัยให้
คุณชาย”

77
“ให้ทหารตามข้าไปหนึงหมืนนาย? ข้าไปฝึ กไม่ได้ไป
เทียว” ใบหน้าของมูช่ ิงเกอฉายความไม่ชอบใจและ
ปฏิเสธข้อเสนอของผูน้ าํ กองทัพอย่างไม่ไยดี

สีหน้าของผูน้ าํ กองทัพเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมจน
แทบจะร้องไห้ออกมา

ท้ายทีสุดเขาก็ไม่สามารถรังตัวมูช่ ิงเกอไว้ได้ นําตาพลัน


ไหลออกมา เขายืนแผนทีเทือกเขาฉินให้พลางมองมูช่ ิง
เกอและคนอืนๆ ทีเดินทางออกไปจากเมืองอีอย่างอาลัย
อาวรณ์และเป็ นห่วงจนกระทังลับสายตาไป

78
เมือเดินออกไปยังนอกกําแพงเมืองทีคดเคียวและทะลุ
ผ่านสนามรบทีเคยนองโลหิต ก็จะเห็นภาพรวมของเทือก
เขาฉิน

ภูเขาทีทอดยาวในสองข้างทาง มีตน้ ไม้อนั อุดมสมบูรณ์


ทีมองไม่เห็นถึงอันตราย แต่ความเป็ นจริงมีกบั ดักทีเหล่า
มนุษย์ไม่รูซ้ อ่ นอยูม่ ากมายประหนึงกําลังยืนเขียวออก
มาหาผูท้ ีย่างกรายเข้ามาใกล้เทือกเขาฉิน

เทือกเขาฉิน จริงๆ แล้วเรียกเทือกเขาฉินไม่ได้

จากแผนที <<หลินชวน? พืนทีทีปรากฏในแผนที>> ทํา


ให้มชู่ ิงเกอกระจ่างแล้วว่าเทือกเขาฉินเป็ นเพียงพืนที

79
เล็กๆ ของภูเขาว่านเหล่ยทีพาดผ่านระหว่างทิศตะวัน
ออกจนถึงทิศตะวันตก และยังไม่ใช่พืนทีทีอันตรายทีสุด

เนืองจากเป็ นพืนทีทีอยูใ่ นแคว้นฉิน ด้วยเหตุนีในยุคสมัย


ของฉินจึงเรียกว่าเทือกเขาฉิน

เทือกเขาฉินนีทอดยาวผ่านระหว่างทิศตะวันตกเฉียง
เหนือไปยังทิศเหนือของแคว้นฉิน เพือเป็ นการแบ่ง
อาณาเขต อีกด้านหนึงของเทือกเขาฉินเป็ นพืนทีของ
แคว้นระดับสอง อย่างแคว้นตี

จากแผนที <<หลินชวน? พืนทีทีปรากฏในแผนที>>


แคว้นตีเป็ นแคว้นทีมีพืนทีเป็ นแนวยาว โดยเทือกเขา

80
ว่านเหล่ยนันได้ยดึ พืนทีไปกว่าครึง ในทิศเหนือสุดของ
แคว้นตีเป็ นจุดสินสุดของหลินชวน มีทะเลทรายอันกว้าง
ใหญ่ไพศาลไร้ทีสินสุด ทะเลทรายอันมีไอสังหารแฝงอยู่
นันได้กลายเป็ นทีคันและเป็ นดังจุดสินสุดในการเดินทาง
เข้าออก

ในขณะทีมูช่ ิงเกอรูช้ ดั เจนถึงตรงนี ในใจของนางก็พลัน


เกิดความสงสัย

ความรูเ้ กียวกับจักรวาลของนาง กําลังบอกนางว่าโลก


เป็ นวงกลมและเป็ นเพียงดาวดวงหนึงในจักรวาลอัน
กว้างใหญ่เท่านัน

81
หากเริมเดินทางโดยจุดใดจุดหนึงและเดินตรงไป วันหนึง
ก็สามารถกลับมายังจุดเดิมได้ จะไม่มีขอบเขตและทีสิน
สุด

และนางก็รบั รูว้ า่ โลกทีตนเองอยูใ่ นตอนนีนันกลับดูแตก


ต่างมาก ด้วยเหตุนีนางจึงแปลกใจว่าทําไมถึงมีทะเล
ทรายทีเป็ นดังจุดสินสุด มันจะทะลุไปยังอีกโลกหนึงได้
งันหรือ

เมือมองเขตแดนของเทือกเขาฉินแล้ว เทือกเขาอันปก
คลุมไปด้วยหมอกหนานัน ราวกับว่ากําลังแสดงให้เห็น
ถึงความลึกลับของมัน ในสายตาของมูช่ ิงเกอนอกจาก
ความสงสัยแล้ว ยังเต็มเปี ยมไปด้วยความท้าทาย
มหาศาล
82
นางอยากจะปราบพยศพืนทีแห่งนี ให้เทือกเขาฉินยอม
สยบ!

“คุณชาย ในแผนทีชีว่า นอกเทือกเขาฉินนันเต็มไปด้วย


สรรพสัตว์อนั โหดร้ายอํามหิต หากจะสามารถพบกับร่อง
รอยของสัตว์วิเศษทีมีพลังนันต้องเดินทางลึกเข้าไปอีก
ถึงจะพบร่องรอย” มัวหยางถือแผนทีวาดบนหนังสัตว์
พลันขีม้าไปเทียบข้างมูช่ ิงเกอแล้วพูดด้วยนําเสียงทุม้ ตํา

มูช่ ิงเกอมองพืนทีด้วยความฉงนใจ

แผนทีนีวาดได้ไม่ละเอียดมากนัก เพียงบ่งบอกว่าแบ่ง

83
เทือกเขาออกเป็ นกีส่วนและบอกถึงตําแหน่งทีตังทาง
ภูมิศาสตร์ทีโดดเด่นหลายที รวมถึงบ่งบอกถึงอาณาเขต
ของสัตว์ป่า

เมือมองแผนทีอย่างคร่าวๆ มูช่ ิงเกอก็จอ้ งไปยังพืนทีทีถูก


ขนานว่า ‘อาชาเพลิง’ แห่งหนึง

มูช่ ิงเกอชีบริเวณนัน พลางพูดอย่างเย็นชาว่า : “คืนนี


พักกันทีนี”

มัวหยางแววตาส่องประกาย ไม่ได้พดู อะไรและออกไป


เตรียมการทุกอย่างอย่างว่าง่ายทันที พอเขาออกไปมูช่ ิง
เกอก็หรีตา ในสายตานันเป็ นประกายด้วยแผนการ:

84
อาชาเพลิง รูปร่างสูงใหญ่ ความเร็วของมันนันดังสายฟ้า
แลบ การยําเท้าในยามโกรธเกรียวสามารถทําให้แผ่นดิน
ผืนนีสะเทือนได้ ร่างกายนันมีไอเพลิงสีดาํ ห่อหุม้ เอาไว้
เมือสัมผัสแล้วจะรูส้ กึ รุม่ ร้อนดังถูกเปลวไฟแผดเผา ฟั น
แทงไม่เข้า นับว่าเป็ นพวกทีมีฝีมือระดับกลางในบรรดา
เหล่าสรรพสัตว์

สิงลําค่าเช่นนี หากไม่หาวิธีเอามันมาประดับบารมี
องครักษ์เขียวมังกรของนาง ก็จะผิดต่อตัวเองเสียเปล่าๆ

85
ตอนที 85-1 รักครังใหม่ของมูช่ ิงเกอ

มีสตั ว์ระดับกลางไว้เป็ นพาหนะ ไม่ตอ้ งพูดถึงว่าคน


ธรรมดาจะไม่สามารถมีได้ แม้กระทังองค์ชายหลายใน
วังหลวงแคว้นฉินก็คงจะไม่ได้รบั เกียรติดงั กล่าว

แคว้นระดับสามอย่างแคว้นฉิน สิงทีเป็ นกําลังให้แก่


มนุษย์นนส่
ั วนมากเป็ นสัตว์ป่าทีไม่มีสติปัญญา

เหมือนกับทีมูช่ ิงเกอรูเ้ มือชาติทีแล้ว คือเลียงพวกมันเอา


ไว้และทําให้สตั ว์ป่าพวกนันปรับตัวให้คนุ้ กับสภาพแวด
1
ล้อมใหม่ หลังจากนันก็เลียงไว้เป็ นอาหารและใช้งาน

แต่บางทีอาจเป็ นเพราะโครงสร้างของโลกนีแตกต่างจาก
โลกทีมูช่ ิงเกอเคยอยูอ่ าศัย สําหรับทีนี สัตว์ป่าทีได้รบั
การปรับตัวให้คนุ้ เคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ จะสามารถ
กระทําการต่างๆ ได้ฉบั ไวกว่าทีนางเคยพบเจอ

เหมือนดังตอนทีนางเพิงมาถึงทีนีและรูส้ กึ ว่าม้าทีโจรขี
นันว่องไวเป็ นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ในภายหลังหลังจากทีนางได้สมั ผัสกับ


อะไรหลายๆ อย่างมากขึน จึงรูว้ า่ ม้าเหล่านัน สําหรับ
โลกนีจัดเป็ นเพียงฝี มือระดับตําเท่านัน

2
ด้วยความตืนเต้นที ‘สมบัติอนั ลําค่ากําลังโบกมือร้อง
เรียก’ มูช่ ิงเกอจึงรีบพากําลังคนมุง่ หน้าไปยังพืนทีอาชา
เพลิง อาชาเพลิงทีว่านีเป็ นเพียงแค่ชือเรียกขานของ
พืนทีทีอยูใ่ นแผนทีเท่านัน

ทว่าความเป็ นจริงแล้วคือสถานทีทีมีอาชาเพลิงอาศัยอยู่

อาชาเพลิงนันมีอปุ นิสยั คล้ายคลึงกับม้าทัวไปนันก็คือ


ชอบอาศัยอยูด่ ว้ ยกันเป็ นฝูงและมีพญาอาชาเป็ นผูน้ าํ

พืนทีอาชาเพลิงทีอยูใ่ นแผนทีเป็ นพืนทีทีอุดมไปด้วย


หญ้าสีเขียวอันสมบูรณ์ แน่นอนว่าเป็ นพืนทีอันโปรด

3
ปรานของอาชาเพลิง

อาชาเพลิง เป็ นสัตว์พลังวิญญาณทีกินได้ทงพื


ั ชและสัตว์

โดยปกติแล้วจะมีหญ้าเป็ นอาหารหลักและนานๆ ครังจึง


จะจับเหยือเล็กๆ ทีอ่อนแอมาเป็ นอาหารชัวครังคราว
เพือเสริมกําลังภายใน

ทุง่ หญ้าแห่งนี ห่างจากบริเวณรอบนอกของเทือกเขาฉิน


ไม่มากนัก

ทังห้าร้อยกว่าคน เดินทางอย่างเปิ ดเผย แต่กลับไม่ได้


พบเจอกับการคุกคามของสัตว์ป่าแต่อย่างใด
4
ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะพวกเขาโชคดีหรือเป็ นเพราะการสูร้ บใน
คราก่อน ทําให้สตั ว์ป่าต่างเข้าสูก่ ารพักฟื นไม่ได้ออกมา
เพ่นพ่าน

แต่ก็มีบางคราวทีหมูป่าและกระต่ายป่ าหลายตัวพุง่ เข้า


มายังขบวนโดยบังเอิญ

องครักษ์เขียวมังกรจึงเก็บพวกมันไว้เป็ นมืออาหารเย็น
ในคลังเก็บเสบียงอย่างไม่เกรงใจ

สําหรับเรืองนีมูช่ ิงเกอไม่ได้พดู อะไรมากนัก

5
เมือท้องฟ้าค่อยๆ แปรเปลียนเป็ นสีรตั ติกาล ในทีสุดมูช่ ิง
เกอก็พาองครักษ์เขียวมังกรมาอยูใ่ นพืนทีทีใกล้เคียงกับ
พืนทีอาชาเพลิง

บริเวณรอบนอกทุง่ หญ้า มูช่ ิงเกอสังการให้ตงค่


ั ายพัก

ม้าทีพาเข้ามาด้วยถูกจูงให้ไปอยูบ่ ริเวณใต้ตน้ ไม้ กอง


ทหารต่างทําการกันอย่างเป็ นระบบและจัดสรรงานกัน
ตระเตรียมการทุกอย่างเพือพักทีนีในคืนนี

โย่วเหอไปช่วยจัดการกับสัตว์ป่าทีถูกนํามาระหว่างทาง
ฮวาเยวียเองก็ไปช่วยตักนําเพือปรนนิบตั ิมชู่ ิงเกอ

6
ในชัวพริบตาเดียว กลินหอมของหมูยา่ งและกระต่าย
ย่างก็หอมฟุง้ กระจายไปทัวทุกสารทิศ

หลังจากทีทุกคนแบ่งสรรอาหารกันเสร็จสินแล้ว มูช่ ิงเก


อสังให้องครักษ์เขียวมังกรจัดกําลังคนออกไปสอดส่อง
ตรวจตราว่ามีรอ่ งรอยของอาชาเพลิงหรือไม่

องครักษ์เขียวมังกรทีถูกส่งออกไปกลับมาพร้อมข่าวดี
อย่างรวดเร็ว

พอเขาเห็นรอยเกือกอาชาบนผืนทุง่ หญ้า คล้ายจะเป็ น


รอยเท้าทีเพิงประทับใหม่เมือไม่นานมานีและตรงบริเวณ
ทุง่ หญ้ายังหลงเหลือหญ้าสีเขียวอีกเป็ นจํานวนมาก โดย

7
อุปนิสยั ของอาชาเพลิงแล้ว พวกมันจะยังมาปรากฏตัว
จนกว่าจะกินหญ้าทีนีจนหมด ถึงจะไปหาผืนทุง่ หญ้า
แห่งใหม่

พอทราบข่าวทีเป็ นทีน่าพึงพอใจ มูช่ ิงเกอก็กระตุกยิม


และหลังจากทีจัดเวรยาม จึงให้ทกุ คนไปพักผ่อนเพือ
สะสมกําลังเอาไว้แล้ววันพรุง่ นีจะไปล่าอาชากัน

……

ในคําคืนนี มูช่ ิงเกอหลับสนิทมาก

จนกระทังเข้าสูย่ ามวิกาลกลางดึก นางก็ถกู เสียงร้อง


8
โหยหวนดังสนันของม้าปลุกให้ตืนจึงเดินออก
จากกระโจมไป

ภายนอกกระโจมตกอยูใ่ นสภาพอลหม่าน

ม้าหลายร้อยตัวทีนางพามาด้วยนอนจมอยูใ่ นกองโลหิต
ไร้ซงลมหายใจ
ึ ร่างกายของพวกมันมีรอ่ งรอยของการถูก
ฉีกเนือจนเป็ นชินๆ

สีหน้านางเคร่งขรึม พลางพูดว่า : “เกิดอะไรขึน”

มัวหยางพลันปรากฏตัวขึนทีข้างๆ นางในทันที สีหน้า


ของเขาดูไม่สดู้ ีนกั เช่นกัน : “คุณชาย เป็ นการลอบโจมตี
9
จากอาชาเพลิง ม้าของเราถูกฆ่าและบางส่วนก็ถกู อาชา
เพลิงกินไปแล้ว”

สายตาของมูช่ ิงเกอฉายแววเยือกเย็นในทันที

มัวหยางพูดต่ออีกว่า : “อาชาเพลิงพวกนีมีสติ
ปั ญญา พวกมันถือโอกาสทีเรากําลังผลัดเปลียนเวรยาม
ในการโจมตีและยังว่องไวเป็ นอย่างมาก หลังจากทีถูก
จับได้ก็รบี ถอยร่นกลับไปไม่สตู้ อ่ เพือป้องกันแผนลวงข้า
เลยไม่ให้องครักษ์เขียวมังกรตามไป”

มูช่ ิงเกอเงียบไปนานจึงพูดออกมาอย่างเย็นเยียบว่า :
“เจ้าทําดีมาก ท้องฟ้ายามวิกาลมืดสนิทเช่นนีมองเห็น

10
อะไรไม่ชดั หากออกไปตามแน่นอนว่าง่ายต่อการเกิด
อันตราย”

แต่วา่ นางคิดไม่ถงึ ว่าในขณะทีนางคิดไม่ซือกับเหล่า


อาชาเพลิง พวกอาชาเพิงเองก็คิดไม่ซือกับม้าของนาง
เช่นกัน

ดีมาก! หากฆ่าและกินม้าของพวกนางจนหมดสินแล้ว ก็
มีเหตุผลทีจะมาเป็ นพาหนะให้แก่องครักษ์เขียวมังกร
แล้วสินะ

“สังให้ทกุ คนไปพักก่อน พรุง่ นีเช้าเราจะไปทวงความ


ยุติธรรมจากอาชาเพลิงกัน!” หลังจากทีมูช่ ิงเกอออกคํา

11
สังเสร็จ ก็หนั หลังกลับเข้าไปในกระโจม

ม้าพวกนีตายอย่างน่าสังเวช องครักษ์เขียวมังกรทุกคน
ราวกับมีเปลวเพลิงลุกโหมก่อขึนในใจ

ในใจของมูช่ ิงเกอยิงเย็นเยียบมากขึนกว่าเดิม

นางคิดไม่ถงึ เลยว่าตนเองจะถูกเอาเปรียบโดยม้าฝูงหนึง

เพิงจะรุง่ สาง องครักษ์เขียวมังกรก็เตรียมพร้อมทีจะออก


เดินทางพร้อมกับกลินไอแห่งสงคราม เพือทีจะไปแก้
แค้นให้กบั เหล่าม้าของตนเอง !

12
มูช่ ิงเกอสังให้คนออกไปดูลาดเลาบริเวณทุง่ หญ้า ส่วน
กองกําลังคนทีเหลือให้แสร้งทําเหมือนกําลังจะออกไป
จากพืนทีนี อาชาเพลิงเหล่านันมีสติปัญญา ไม่แน่วา่
อาจจะสอดส่องดูพวกเขาอยู่ หากไม่แสดงเช่นนี แล้วจะ
ล่ออาชาเพลิงพวกนีให้ติดกับได้อย่างไรกัน?

เมือเดินอ้อมมาหนึงรอบและแน่ใจว่าข้างหลังไม่มีอะไร
ติดตามมาแล้ว มูช่ ิงเกอก็พาองครักษ์เขียวมังกรกลับไป
ยังรอบนอกของทุง่ หญ้าเพือใช้พืนทีนีในการอําพรางตัว

การอําพรางตัว การหาทีซ่อนก็เป็ นสิงทีนางต้องสอนให้


กับองครักษ์เขียวมังกร

13
ทันใดนัน ทหารขององครักษ์เขียวมังกรกลุม่ หนึงทีออก
ไปดูลาดเลาก็กลับมาและบอกข่าวล่าสุดแก่มชู่ ิงเกอ

อาชาเพลิงนันมีสติปัญญามากจริงๆ หลังจากทีพวกเขา
ออกมาพวกมันจึงปรากฏตัวขึน และมีหลายตัวทีกลับไป
สํารวจดูทีตังค่ายของพวกเขาอย่างละเอียดแล้วจึงกลับ
ไป

หลังจากนันอาชาเพลิงฝูงใหญ่จงึ ปรากฏตัวขึนบนทุง่
หญ้าโดยมีพญาอาชาเป็ นผูน้ าํ และเริมเสพความหอม
หวานของหญ้า

มูช่ ิงเกอฟั งแล้วพลันหัวเราะอย่างเยือกเย็น ก็แค่อาชาฝูง

14
หนึงไม่วา่ จะมีสติปัญญาและฉลาดมากเพียงไหน จะไป
สูม้ นุษย์ทีกลายเป็ นผูม้ ีสติปัญญามาแล้วนับร้อยปี หมืน
ปี ได้อย่างไรกัน

เมือค่อยๆ แฝงตัวเข้าไป ไม่นานทุกคนก็เห็นฝูงอาชา


เพลิงทีลอบโจมตีมา้ ของพวกเขา

มูช่ ิงเกอกวาดสายตามองอาชาเพลิงจํานวนห้าถึงหก
ร้อยตัว ถือว่าเพียงพอสําหรับการแก้แค้นให้กบั เรืองเมือ
คืนก่อนนี ยึดครองอาชาเพลิงพวกนีเสีย แล้วมอบให้กบั
องครักษ์เขียวมังกรคนละตัว ทีเหลือก็เอากลับไปยังค่าย
ทหารตระกูลมู่ เพือเป็ นของกํานัล

15
แล้วคัดเลือกอีกจํานวนหนึงส่งกลับไปยังลัวตู ให้ทา่ นปู่
เป็ นคนจัดการ

สําหรับเจ้าอ้วนเซ่านัน........

16
ตอนที 85-2 รักครังใหม่ของมูช่ ิงเกอ

ช่างเถอะ ด้วยความสามารถของเขาแล้ว หากมอบอาชา


เพลิงให้เขามีแต่จะทําให้เดือดร้อนยิงกว่าเดิม

17
ชัวพริบตาเดียว มูช่ ิงเกอก็คิดคํานวณอย่างดีวา่ จะจัด
สรรฝูงอาชาเพลิงเหล่านีอย่างไร เสมือนหนึงว่าอาชา
เพลิงฝูงนีตกเป็ นกรรมสิทธิของนางเรียบร้อยแล้ว

สีของอาชาเพลิงฝูงนีล้วนเป็ นหนึงเดียวกันคือสีดาํ ทมิฬ


ไม่เหมือนอาชาประเภทอืนๆ ทีมีสีทีแตกต่างกัน

ในชัวขณะนัน แววตาของมูช่ ิงเกอพลันส่องประกายและ


ถูกดึงดูดด้วยอาชาเพลิงตัวหนึงทีอยูภ่ ายในฝูงนัน

ขนสีดาํ เงาดุจกํามะหยีแวววาวไปทัวทังร่างกาย กล้าม


เนือกํายําลําสันได้รูป ลักษณะภายนอกทีสมบูรณ์แบบไร้

18
ทีติแลดูมีสง่าราศี มองดูแล้วช่างโดดเด่นเสียจริง! แม้วา่
จะอยูท่ า่ มกลางเหล่าอาชาสีดาํ ทมิฬทว่าความงดงามก็
ยังคงชัดเจน

สิงทีดึงดูดสายตามากทีสุดคือแผงคออันเต็มไปด้วยขนดู
สูงสง่า ขับให้ลกั ษณะทีแตกต่างของมันแสดงออกมา
อย่างชัดเจน

ในขณะทีเคลือนไหวขนแผงคอยาวสลวยอย่างเป็ น
ธรรมชาติก็พลันปลิวไหวไปตามสายลม กลายเป็ นภาพ
ทีงามลําดังจินตนาการ

ความน่าดึงดูดเช่นนี สามารถตราตรึงใจให้ผทู้ ีพบเห็นให้

19
ตืนเต้นได้อย่างไม่รูจ้ บและทําให้ไม่สามารถละสายตา
จากมันได้

มูช่ ิงเกอจ้องจนดวงทังสองคล้ายมีรูปหัวใจโผล่ออกมา
เกิดเป็ นรักแรกพบกับอาชาเพลิงตัวนี!

ทว่านางก็แลเห็นถึงฐานะอันพิเศษของอาชาเพลิงตัวนัน
ทุกอิรยิ าบถของอาชาฝูงนี เสมือนมีมนั เป็ นศูนย์กลาง

เพียงสายตาหรือการเคลือนไหวหนึงของมันก็สามารถ
ทําให้อาชาตัวอืนทําตามอย่างเชือฟั ง

‘พญาอาชา!’
20
คําคํานีได้โผล่เข้ามาในหัวทันที

ดวงตาทังคูข่ องมูช่ ิงเกอพลันคึกคะนองมีความอยากรู ้


อยากเห็นและเผลอเลียมุมปากอย่างไม่รูต้ วั

หากต้องการให้อาชาทังฝูงเชืองจําเป็ นต้องทําให้พญา
อาชายอมศิโรราบเสียก่อน

มูช่ ิงเกอไม่ลงั เลอีกต่อไป บนร่างกายมีแสงสีเขียวปรากฏ


ขึน พลันเคลือนตัวออกจากแหล่งทีซ่อนในทันใด

ทิงคําสังเอาไว้ขา้ งหูขององครักษ์เขียวมังกรเพียงคําสัง
21
เดียวคือ : ‘ยืนรอฟั งคําสังอยูท่ ีเดิม’

พอมูช่ ิงเกอเคลือนไหว พญาอาชาทีก้มหน้ากินหญ้าอยู่


นันก็เหมือนจะรูส้ กึ ตัวได้ในทันที มันค่อยๆ เงยคออัน
สง่างามขึนมา ตาสีดาํ ดังเพทายทังคูจ่ ดจ้องไปยังมูช่ ิงเก
อทีกําลังเคลือนไหว

“ฮี------!” เสียงสูงร้องคํารามออกจากปากมัน

มันกําลังส่งเสียงเตือนภัยให้แก่พรรคพวกของตนเอง!

ทันใดนัน อาชาทังฝูงก็รอ้ งรับพร้อมกัน เสียงร้องของ


เหล่าอาชาพลันดังก้องกระจายไปทัวทุกหนทุกแห่ง
22
มูช่ ิงเกอกระตุกยิมพลางปล่อยตัวลงจากกลางเวหา เป้า
หมายคือแผ่นหลังของพญาอาชาทีดูเรียบสง่าแข็งแรง
และได้รูป

แม้วา่ นางจะคล่องแคล่วสักเพียงไหน ทว่าพญาอาชา


กลับคล่องแคล่วยิงกว่า!

ราวกับว่ามันรูว้ า่ มูช่ ิงเกอต้องการจะทําอะไร นัยน์ตาจึง


ฉายแววเยาะเย้ย พอฝี เท้าทังสีเคลือนไหว มันก็พลันไป
อยูใ่ นระยะหลายจ้างถัดจากนันและหลบหลีกการจู่โจม
ของมูช่ ิงเกอได้อย่างง่ายดาย

23
การตอบสนองอย่างรวดเร็วและความว่องไวดังสายฟ้า
ทําให้ความตกตะลึงในสายตาของมูช่ ิงเกอมากขึนกว่า
เดิม ภายในใจยิงรูส้ กึ ว่าจะต้องได้ครอบครอง

หากอยากจะฝึ กอาชา ก็ตอ้ งไปอยูบ่ นหลังของมัน

แต่วา่ พญาอาชานันเคลือนไหวคล่องแคล่วว่องไวเป็ น
อย่างมาก การตอบสนองก็วอ่ งไว ทําให้นางไม่สามารถ
หยุดฝี เท้าได้เลย

ในสายตาของพญาอาชายิงสาดรังสีเยาะเย้ยเพิมมาก
ขึน

24
ราวกับว่าหัวเราะเยาะให้แก่ความไร้เดียงสาของนาง

มูช่ ิงเกอเห็นสายตาทีเยาะเย้ยของมัน ในใจไม่ได้รูส้ กึ ไม่


พอใจเลยแม้แต่นอ้ ย อาชาทีนางถูกใจ แน่นอนว่าต้อง
สูงส่งสมเกียรติมากพอ

นางพุง่ ไปยังหลังอาชาอีกหน ทว่าพญาอาชาก็ยงั คง


หลบหลีกได้อย่างง่ายดายอีกครัง

อาชาเพลิงตัวอืนๆ ก็คอยระแวดระวังอยูบ่ ริเวณนัน แต่ก็


ไม่ได้มีทา่ ทีรบี ร้อนอะไร

ดูเหมือนว่าพวกมันดูออกว่าพญาอาชาของตนกําลัง
25
หยอกล้อกับมนุษย์ทีกระโดดออกมาผูน้ ี

มูช่ ิงเกอกระโดดลงบนผืนหญ้าแล้วพุง่ เข้าหาพญาอาชา


เมือนางไว พญาอาชาเองก็ไว เมือนางช้า พญาอาชาก็
ช้าตามนาง ดังกําลังจงใจแกล้งนาง

มูช่ ิงเกอกระตุกยิมจางๆ ไม่ได้ใส่ใจกับการหยอกล้อของ


พญาอาชา

มนุษย์คนหนึงกับอาชาตัวหนึง ฝ่ ายหนึงไล่อีกฝ่ ายหนีกนั


ไปมาเป็ นเวลาเนินนาน

การเย้ยหยันในสายตาของพญาอาชาเพิมมากขึนเรือยๆ
26
ใบหน้าของมันมองมูช่ ิงเกออย่างขบขัน

ทันใดนัน มูช่ ิงเกอพลันหยุดทุกการกระทําลง ประหนึง


กําลังหมดแรง

ในสายตาของพญาอาชายิงดูได้ใจพลางชะลอความเร็ว
ของตนลงเช่นกัน และเดินเข้าไปหามูช่ ิงเกอเพือกระตุน้

ขณะเดียวกันนัน ในขณะทีพญาอาชาดูผอ่ นคลายจาก


ความระแวดระวัง มูช่ ิงเกอพลันกระดกนิวชี สายฟ้าที
รวบรวมไว้ตงแต่
ั แรกพุง่ ตัวออกจากปลายนิวตรงไปยัง
พญาอาชาทันที

27
“ฮี------ !”

ความรูส้ กึ เมือถูกไฟฟ้าช็อตทําให้พญาอาชาเงยหัวขึน
ร้องโหยหวนและรูส้ กึ ปลายประสาทชาไปชัวขณะหนึง

ในช่วงเวลานี มูช่ ิงเกอก็ได้โอกาสกระโดดขึนพลันกางขา


ออก นังอยูบ่ นหลังพญาอาชาได้อย่างมันคง

นําหนักบนหลัง ทําให้พญาอาชาเดาจุดประสงค์ของมูช่ ิง
เกอออกในทันที !

พญาอาชาทีฟื นตัวจากอาการชารูส้ กึ โกรธเกรียวใน


ทันที !
28
มันยกเกือกหน้าทังสองข้างขึน พลันสะบัดร่างกายของ
ตนเอง เพือทีจะทําให้มชู่ ิงเกอตกจากหลัง แต่มชู่ ิงเกอก็
ยังคงไม่ขยับเขยือนราวกับถูกตอกติดไว้บนหลังมัน

มูช่ ิงเกอใช้มือทังสองข้างจับขนทีเป็ นคลืนยาวตรงแผง


คอของมันเอาไว้แน่น แม้วา่ มันจะกระโดดแรงสักเพียง
ไหน นางก็หนีบท้องม้าเอาไว้ไม่ปล่อย

อาชาเพลิงตัวอืน เมือเห็นพญาอาชาถูกโจมตี พลันเริม


โกรธฮึดฮัดขึนมา อยากจะพุง่ ตัวเข้าไป แต่ก็กลัวจะทํา
ให้พญาอาชาได้รบั บาดเจ็บ ในสถานการณ์อนั น่าเป็ น
ห่วงเช่นนี เกือกม้าค่อยๆ เดินยําไปมาบนพืนหญ้า

29
พญาอาชาไม่สามารถสะบัดมูช่ ิงเกอทีอยูบ่ นหลังของตน
ได้ ในใจลุกเพลิงไปด้วยไฟโทสะ

ไอสีขาวจากความเย่อหยิงพ่นออกมาจากโพรงจมูกของ
มัน ทันใดนันมันก็ยาเท้
ํ าลงบนผืนดิน พลันเกิดเสียง
คล้ายภูเขาทังลูกถล่มออกมาจากใต้ดิน

ใต้เกือกม้า พลันมีรอยร้าวขยายออกไป

“แย่แล้ว! พญาอาชาโมโหแล้ว!” ทหารนายหนึงของ


องครักษ์เขียวมังกรซึงเป็ นผูท้ ีมีประสบการณ์เอ่ยขึนด้วย
ความตกใจ

30
องครักษ์เขียวมังกรทีแฝงตัวอยูอ่ ย่างเงียบเชียบ ดู
เหมือนว่าอยากจะพุง่ ตัวออกไปเป็ นกําลังเสริมให้กบั มู่
ชิงเกอ

มัวหยางหันกลับไปมอง พลันพูดอย่างใจเย็นว่า : “อย่า


เคลือนไหว เชือในตัวคุณชาย หากท่านยังไม่ออกคําสัง
ห้ามผูใ้ ดเคลือนไหวเป็ นอันขาด มิเช่นนันจะถูกลงโทษ!”

ประโยคนีทําให้องครักษ์เขียวมังกรทีเริมเคลือนไหวสงบ
ลงอีกครัง

ฮวาเยวียและโย่วเหอมองภาพการประลองระหว่างมูช่ ิง

31
เกอและพญาอาชาด้วยใบหน้าทีประดับด้วยความกังวล
อย่างเปี ยมล้น

ฮวาเยวียกัดริมฝี ปากของตนพร้อมทังแอบดึง
แขนเสือของโย่วเหอ

โย่วเหอเข้าใจความหมายของการกระทํานี พลันกระซิบ
มัวหยางว่า : “คุณชายจะไม่เป็ นอะไรใช่หรือไม่”

มัวหยางพูดอย่างมันใจว่า : “พวกเจ้าทุกคนอย่าลืมสิ ว่า


คุณชายของเราเป็ นถึงยอดฝี มือสายเขียวเชียวนะ!”

ยอดฝี มือสายเขียวคํานี เหมือนเป็ นการเติมพลังให้แก่ทกุ


32
คน ทําให้ความกังวลของพวกเขาคลายลงได้บา้ ง

ดวงตาของพญาอาชาฉายแววกระหายเลือด ความเยาะ
เย้ยก่อนหน้านีทีถูกแทนทีด้วยความเกรียวโกรธและ
ความอับอาย

ในขณะนี มันอยากจะสะบัดให้คนบนหลังตกลงมาเสีย
เดียวนี ใช้เกือกทังสีเหยียบยํานางให้ตายเสีย แล้วโยน
ร่างไปเป็ นอาหารของฝูงอาชา จึงจะสามารถสลายความ
แค้นภายในใจลงได้

มันพามูช่ ิงเกอพุง่ ไปมาอย่างบ้าคลังบนพืนหญ้า ดังเรือ


น้อยทีถูกคลืนสึนามิลกู ใหญ่ซดั โหม

33
คนธรรมดา หากถูกสะบัดเช่นนี คงจะปล่อยมือ ร่วงลง
บนพืนและอาเจียนอย่างรุนแรงไปตังนานแล้ว แต่มชู่ ิงเก
อกลับทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึน ยังคงนังตระหง่านไม่
ขยับ

ชาติทีแล้ว ช่วงเวลาทีนางอยูใ่ นทุง่ หญ้า สิงทีได้เรียนรูม้ า


ไม่ได้มีเพียงวิชาธนูเก้าดาราเรียงอันประหลาดมหัศจรรย์
เท่านัน แต่ยงั เรียนรูก้ ลวิธีในการฝึ กม้ามาด้วย

34
ตอนที 85-3 รักครังใหม่ของมูช่ ิงเกอ

ยิงเป็ นอาชามากด้วยความสามารถ ก็ยงยากที


ิ จะทําให้

35
เชือง แต่หากทําให้มนั เชืองแล้ว มันก็จะกลายเป็ นความ
ซือสัตย์อนั ถ่องแท้

พญาอาชายิงต่อต้านมากเพียงใด สายตาของมูช่ ิงเกอก็


ยิงสาดส่องประกายอันร้อนแรงมากขึนเพียงนัน!

เมือไม่สามารถสะบัดมูช่ ิงเกอให้หลุดร่วงลงไปได้ เปลว


เพลิงแห่งโทสะของพญาอาชาก็พลันครอบงําสติปัญญา
มันเงยหัวขึนคําราม ขนสีดาํ ของมันพลันมีเปลวเพลิงสี
ดําลุกโชติช่วงในทันที

และเปลวเพลิงทีว่านันคือทีมาของชืออาชาเพลิง

36
เปลวเพลิงทีสามารถลุกออกมาจากร่างกายได้เช่นนี
สามารถทําลายล้างทุกอย่างทีเข้าใกล้อาชาเพลิงเพือปก
ป้องไม่ให้ตวั ของมันได้รบั อันตรายใดๆ

ในชัวขณะทีเปลวเพลิงสีดาํ ปรากฏขึน รอบตัวของมูช่ ิงเก


อเองก็พลันเกิดประกายแสงสีเขียวเพือคุม้ กันนางเอาไว้
และเปลวเพลิงสีดาํ นันก็ไม่สามารถทําอะไรนางได้แม้แต่
น้อย

มูช่ ิงเกอกระตุกยิมอย่างรับรูถ้ งึ ชัยชนะทีกําลังจะมาถึง


ทันใดนันนางก็หยิบกริชอันแหลมคมเล่มหนึงออกจาก
อก

37
ชูขนสู
ึ งเหนือหัวและแทงมันลงอย่างสุดกําลัง!

นางแทงกริชเข้าไปยังสะโพกของพญาอาชาเพลิง โลหิต
สีแดงสดทีมีสีดาํ ปะปนอยูไ่ หลทะลักออกมาในทันใด

พญาอาชาเองกรีดร้องคํารามโหยหวนออกมาด้วยความ
เจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเพราะพิษบาดแผลทีถูกแทง

เพลิงสีดาํ นัน สามารถสกัดกันการโจมตีจากภายนอกได้

แต่อย่าลืมว่า นางนังอยูบ่ นหลังอาชา พลังทีปล่อยออก


มาได้สลายเพลิงสีดาํ บางส่วน ทําให้กริชของนาง
สามารถแทงเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
38
“ยอมสยบ ก็อยูต่ อ่ ไม่ยอม ก็ตายเสีย”

ในขณะทีพญาอาชากําลังบ้าคลังเพราะความเจ็บปวด
แสนสาหัส เสียงทีประดับด้วยเย็นเยียบไร้ทีเปรียบก็ดงั
ขึนมาจากส่วนหัวของมัน

ราวกับว่า หากมันยังกล้าแสดงท่าทางอันแสดงถึงการ
ต่อต้าน มนุษย์ทีจ้องจะทําให้มนั เชืองก็จะลงมือสังหาร
มันอย่างไม่ลงั เล

ไอสังหารอันเต็มเปี ยม ทําให้พญาอาชาได้สติกลับมาใน
ทันที !

39
เป็ นไอสังหารทีน่าหวาดหวันนัก !

ในสายตาของพญาอาชาค่อยๆ แปรเปลียนมีความเข้า
ใจแจ่มแจ้งเข้ามาแทนทีความบ้าคลัง มันคิดไม่ตกว่า
มนุษย์ตวั เล็กๆ ทีขีอยูบ่ นหลังของมันนี เหตุใดถึงได้มีไอ
สังหารทีน่ากลัวมากถึงเพียงนี

ทว่า มันไม่ทนั ทีจะคิดทบทวนอย่างละเอียดมากนัก


เสียงทีเย็นเยือกมากกว่าเดิมได้ดงั ขึนอีกหนประหนึง
เสียงนันได้ฝังลึกเข้าไปในหัวของมันดังหยาดนําแข็งอัน
หนาวเหน็บ

40
“จะอยูห่ รือจะตายเจ้าคงคิดดีแล้วสินะ หากติดตามข้า
เจ้าจะไม่ถกู เอาเปรียบแน่”

ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะความกลัวตาย หรือเชือในคําพูด


ประโยคสุดท้ายของมูช่ ิงเกอ ความบ้าคลังของพญา
อาชาค่อยๆ สงบลง และไม่พยายามสะบัดมูช่ ิงเกอให้ตก
จากหลังอีก

จากทีบ้าคลังกลายเป็ นเดินอย่างเชืองช้า

ในทีสุด พญาอาชาก็กม้ หัวอันแสนหยิงผยองของมันลง


นัตน์ตาสีดาํ ดังเพทายของมันฉายแววเชือฟั ง

41
“พญาอาชาเหมือนจะเชืองแล้ว” องครักษ์เขียวมังกรที
แอบมองอยูไ่ กลๆ มองความเปลียนแปลงของมนุษย์และ
ม้าคูน่ ีอย่างตกตะลึง

บนหลังอาชาสีดาํ เงาดุจกํามะหยีแวววาวอันแสนงดงาม
ขนอาชาปลิวสลวยพลิวไหวไปมา ชายหนุ่มในชุดสีแดง
เจิดจ้างามสง่า กําลังล้วงอะไรบางอย่างและเทลงตรง
บริเวณสะโพกของอาชา เสมือนดังการรักษาแผลให้แก่
พญาอาชา

ภาพอันเล็กน้อยแต่กลับยิงใหญ่เช่นนี ช่างงดงามไร้ทีติ
ยิงนัก!

42
หลังจากทีเทผงยาในขวดออกมาจนหมดแล้ว แผลตรง
สะโพกของพญาอาชาพลันหายเป็ นปลิดทิงในชัวพริบตา

มูช่ ิงเกอโยนขวดใบนันไปด้านหลังด้วยท่าทางอันเย้า
ยวนน่าดึงดูด ตบหลังพญาอาชาเบาๆ พลางพูดว่า : “สัง
ให้พรรคพวกของเจ้าสงบลงเสีย ต่อจากนีให้ทาํ งานตาม
คําสังของลูกน้องของข้า เรามาร่วมเดินทางข้ามผ่าน
ภูเขาลําธารอันงดงามและก้าวผ่านเรืองราวอันดีงามไป
พร้อมๆกันเถิด”

ราวกับเข้าใจในสิงทีนางพูด พญาอาชาพยักหน้าอย่าง
เชือฟั ง พลันส่งเสียงร้องคํารามไปทางฝูงอาชาสองครัง

43
หลังจากทีสินเสียงคําราม ฝูงอาชาทีบ้าคลังก็พลันเงียบ
ลงในทันที ทําให้สายตาของพญาอาชาเพลิงฉายแวว
ผยองแสดงความยิงใหญ่ของการเป็ นผูน้ าํ อีกครัง

เมือเห็นว่าอาชาฝูงนีไม่มีทา่ ทีจะต่อต้าน มูช่ ิงเกอก็


กระตุกยิมเบาๆ พลันตะโกนไปยังทิศทางทีองครักษ์เขียว
มังกรอําพรางตัวอยู่ : “ออกมาเลือกอาชากันได้แล้ว!”

องครักษ์เขียวมังกรทีรอจนเริมรูส้ กึ ร้อนใจอยูน่ านแล้ว


เมือสินเสียงคําสังเสียงนี ก็พงุ่ ตัวออกจากทุง่ หญ้าไปยัง
ฝูงอาชาเพลิงด้วยความตืนเต้นดังสายรุง้ ทีเฉิดฉายงด
งามหลังฝนตก

44
ติดตามคุณชายไม่มีอดตายจริงๆ!

ยังไม่ทนั ได้เข้าไปยังเทือกเขาฉิน ก็ได้สตั ว์วิญญาณ


อย่างอาชาเพลิงมาเป็ นพาหนะแล้ว

จู่ๆ ก็มีคนมากมายโผล่ออกมาแบบนี นอกจากพญา


อาชาทีมีการเตรียมใจไว้แล้ว ในแววตาของอาชาเพลิง
ตัวอืนๆ ก็ปรากฏความตืนตัวระวังระไวขึนมาในทันที
กระทังพญาอาชาส่งเสียงคํารามอีกครัง อาชาเพลิงเหล่า
นันถึงจะยอมสงบลงจริงๆ

ภายใต้สายตาให้กาํ ลังของมูช่ ิงเกอ โย่วเหอและฮวาเย


วียจึงเดินไปเลือกอาชาด้วยใบหน้าเปื อนยิม

45
มูช่ ิงเกอมองภาพนีด้วยด้วยความยินดีอยูบ่ นหลังพญา
อาชา

สักพัก นางก็จดั ขนอันเงาดําแวววับตรงแผงคอทีดูเป็ น


ธรรมชาติแล้วพูดข้างหูอาชาว่า : “ตังแต่บดั นีเป็ นต้นไป
ข้าเรียกเจ้าว่า เพลิงรัตติกาลเป็ นอย่างไร”

พญาอาชายกจมูกขึนอย่างรังเกียจ ราวกับว่ากําลัง
หัวเราะเยาะเย้ยเจ้าของผูน้ ีทีเลือกสรรตังชือได้ธรรมดา
ยิงนัก

มูช่ ิงเกอเหมือนเริมสัมผัสได้ถงึ ความรังเกียจ จึงจับปลาย

46
จมูกของตนเองอย่างขวยเขิน แล้วหัวเราะ ‘เหอะๆ’ ต้อง
ยอมรับเรืองนีอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

สักพักหลังจากนันเมือองครักษ์เขียวมังกรได้เลือกอาชา
ของตนเองเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างก็เข้าไปใกล้ชิด
อาชาเพลิงของตนเองอย่างรักใคร่

มูช่ ิงเกอพูดเสียงดังว่า : “ตังแต่นีเป็ นต้นไป พวกมันจะ


เป็ นเพือนในการทําสงครามเคียงคูก่ บั พวกเรา เป็ นเพือน
ตายในสงครามของพวกเจ้า หากมีผใู้ ดกล้ากลันแกล้ง
รังแกพวกมัน จะลงโทษตามกฎกองทัพ!”

“รับทราบ ! คุณชาย !”

47
ทุกคนต่างยืดอกและพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน

พวกเขาไม่ใช่มือใหม่ รูถ้ งึ ความสําคัญของอาชาในการ


ทําสงคราม อีกอย่างนีเป็ นอาชาเพลิงทีหายาก จะกล้า
กลันแกล้งได้อย่างไร?

มูช่ ิงเกอพยักหน้า

แล้วสายตาก็หนั ไปมองอาชาเพลิงเจ็ดถึงแปดสิบตัวที
เหลือจากการเลือก

อาชาเพลิงทีเหลือนี ไม่ใช่อาชาเพลิงทีอ่อนแอทีสุดในฝูง
48
แต่กลับกันส่วนมากเป็ นตัวทีดูแข็งแรงลําสันเป็ นอย่าง
มาก ทีเหลือเอาไว้เพราะองครักษ์เขียวมังกรต่างก็เข้าใจ
ความคิดของมูช่ ิงเกอเป็ นอย่างดี

เป็ นเพราะรูว้ า่ นางมีแผนไว้สาํ หรับอาชาทีเหลือแล้ว จึง


ตังใจไม่เลือกอาชาเหล่านัน

องครักษ์เขียวมังกรและอาชาเพลิงต่างอยูร่ ว่ มกันอย่าง
สงบและมีความสุขตลอดระยะเวลาสามวัน

ช่วงเวลาทีผ่านมานี ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และ
อาชาเกิดความสนิทสนมกันมากขึนและทําให้องครักษ์
เขียวมังกรค่อยๆ ปรับตัวกับการฝึ กพลังในเทือกเขาฉิน

49
ได้มากขึน

บรรยากาศภายในเทือกเขาฉินแห่งนีดีกว่าภายนอก อยู่
ทีนีการฝึ กพลังของทุกคนต่างก็พฒ
ั นาไปอย่างรวดเร็ว
กว่าทีเคย

สามวันหลังจากนัน มูช่ ิงเกอสังให้เพลิงรัตติกาลนําฝูง


ของตนเองคอยอยูบ่ ริเวณนัน จนกว่าพวกเขาจะออก
จากเทือกเขาฉิน แล้วจะพาพวกมันกลับไปด้วย

……

ด้านในของเทือกเขาฉิน
50
“เร็ว โจมตีจากทางขวาไปด้านบน”

“พวกข้าเป็ นเหยือล่อ พวกเจ้าโอบล้อมจากด้านหลัง !


ย่ามันเถอะ วันนีจะต้องกําจัดฝูงหมาป่ าฝูงนีให้ได้!”

“เวรเอ๊ย! หากไอ้พวกข้างนอกรูว้ า่ หมาป่ าสายเขียวเป็ นคู่


ซ้อมให้พวกเรา ไม่รูว้ า่ จะทําให้ลกู ตากีดวงต้องหลุดออก
มา”

“อย่ามัวเจียวจ๊าว รีบเร่งมือเข้า”

ด้านในป่ ามนุษย์และหมาป่ ากําลังสูร้ บกันอย่างวุน่ วาย


51
แต่กลับไม่เห็นความตืนตระหนกของฝังมนุษย์เลยแม้แต่
น้อย กลับเป็ นฝังหมาป่ าทีต้องตกอยูใ่ นสถานการณ์
อันตรายครังแล้วครังเล่า

52
ตอนที 85-4 รักครังใหม่ของมูช่ ิงเกอ

ย่างเข้าสูว่ นั ทียีสิบห้าทีองครักษ์เขียวมังกรเข้ามายัง
เทือกเขาฉิน

ช่วงเวลาทีผ่านมานี ตอนกลางวันพวกเขาฝึ กฝนกันอยู่


ในป่ า หากไม่พบเจอกับสัตว์ป่าก็ฝึกประสบการณ์นอก
สถานทีไปพร้อมกับมูช่ ิงเกอ รวมทังความละเอียดอ่อน
ของยุทธวิธีตา่ งๆ ทังในเรืองกับดัก กลไกและทักษะการ
53
ปกปิ ดรวมไปถึงการลวงตา

เมือพบกับสัตว์ป่าทีเก่งกาจ พวกเขาต่างรวมพลังกัน
ต่อสูแ้ ละถือว่าสัตว์ป่าเหล่านันเป็ นคูซ่ อ้ มให้แก่พวกเขา

เท่าทีมูช่ ิงเกอบอกก็คือ หากต้องการพัฒนาความ


สามารถให้รุดหน้าอย่างรวดเร็ว วิธีทีดีทีสุดคือการแข่ง
ขันเพราะฉะนันสัตว์ป่าทีพวกเขาตามหาต่างก็เป็ นพวกที
มีความสามารถมากกว่าพวกเขา

ราวกับว่า การสูร้ บทุกครังสามารถพรากชีวิตของพวก


เขาไป

54
ถึงกระนันในตอนนีพวกเขายังมีชีวิตอยูแ่ ละพัฒนาก้าว
หน้าไปอย่างรวดเร็ว !

ยามคําคืนรัตติกาล พวกเขาผันเปลียนจากการตังค่าย
เป็ นวิธีอนั เก่าแก่ทีสุด คือ ใช้ตน้ ไม้ถาในการพั
ํ กผ่อนและ
ฝึ กพลังแทนทีจะเข้าสูห่ ว้ งนิทรา

สําหรับเสบียงอาหาร พวกเขาใช้รา่ งสัตว์วิญญาณทีตาย


ในการสูร้ บ

ในขันตอนของการรับประทานอาหารนันพวกเขาค้นพบ
ว่า เนือของสัตว์ทีมีสติปัญญาหลักแหลมเหล่านัน
สามารถเพิมพละกําลังภายในร่างกายได้ เพียงแต่จะ

55
แฝงมาด้วยไอดิบเถือนของสัตว์ป่า

หลังจากนัน ทุกครังหลังจากรับประทานอาหาร พวกเขา


ก็จะทําตามคําสังของมูช่ ิงเกอในการเสียเวลาเพือทีจะ
กําจัดกลินไอความบ้าระหําทีสะสมอยูภ่ ายในร่างกาย
แล้วจึงทําการฝึ กพลังต่อ

ยีสิบกว่าวันมานี มูช่ ิงเกอใช้เวลาอยูก่ บั องครักษ์เขียว


มังกรทุกวันและพวกเขาเหล่านันก็คอ่ ยๆ เรียนรูค้ าํ ศัพท์
หลายคําจากโลกทีมูช่ ิงเกอจากมา และเริมทีจะเอาคํา
พวกนันไปใช้

มูช่ ิงเกอยืนอยูบ่ นกิงไม้ทีแตกแขนงจากต้นไม้ใหญ่และ

56
มองการสูร้ บข้างล่างด้วยดวงตาสงบนิง

ครึงชัวโมงหลังจากนัน การสินสุดของการสูร้ บมาพร้อม


กับเสียงคํารามเสียงสุดท้ายของพญาหมาป่ า

องครักษ์เขียวมังกรส่งเสียงหอบเหนือย จนทําให้ลกู นกที


อยูบ่ นยอดกิงไม้ในระยะอันห่างไกลต่างก็ตกใจกางปี ก
บินหนีไป

เมือเห็นภาพนี มูช่ ิงเกอพลันกระโดดลงมาจากกิงไม้


ด้วยท่าทางทีเบาหวิวดุจขนนก แต่ยงั คงเปล่งประกาย
ความสง่างามออกมา ทําให้ผคู้ นยากทีจะละสายตาออก
ไปได้

57
เมือปลายเท้าของนางจรดลงบนผืนดินอันนองไปด้วย
โลหิต องครักษ์เขียวมังกรทีเปี ยมด้วยไอสังหารพลันคุก
เข่าลงพร้อมเปล่งเสียงออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันว่า :
“คุณชาย!”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ เดินตรงไปยังพญาหมาป่ า

ทันใดนัน นางก็ยืนมือออกไป ระหว่างนิวทังห้ามีแสงสี


เขียวส่องประกายวาบ นางสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
แผ่นหินสีเขียวขนาดเท่านิวหัวแม่โป้งของเด็กทารกน้อย
แรกเกิดพลันทะลวงออกจากหัวของพญาหมาป่ ามาอยู่
ในมือของนางโดยไม่มีโลหิตติดเลยแม้แต่นอ้ ย

58
มูช่ ิงเกอมองไปทีแผ่นหินสีเขียวเป็ นประกายก้อนนันและ
แสงประกายสีเขียวอ่อนนันได้สอ่ งสะท้อนไปยังใบหน้า
อันงดงามไร้ทีใดเปรียบของนาง

เมือจ้องมองอย่างละเอียดสักพัก มูช่ ิงเกอก็ทงมั


ิ นลง
อย่างไม่ใส่ใจ ฮวาเยวียทียืนอยูข่ า้ งหลังตัวนางยืนมือ
ออกไปรับ พลันกําหินก้อนนันไว้ในมือแน่น แล้วยัดมัน
ลงในถุงผ้าทีติดตัวนางมา

ถุงผ้าดูปดู นูน ดูเหมือนว่าข้างในจะมีของอยูไ่ ม่นอ้ ย

“รีบตรวจค้นแก่นสมองของสัตว์ป่าในสถานทีสูร้ บและ

59
ออกจากทีนีในอีกหนึงชัวยาม” มูช่ ิงเกอสังการ

ทุกคนรวมทังโย่วเหอและฮวาเยวียต่างก็เคลือนไหว
พลันเริมเปิ ดกะโหลกของสัตว์เพือทีจะหาแผ่นหินทีมี
ลักษณะใกล้เคียงกับแผ่นหินแผ่นนัน

แก่นสมองของสัตว์ป่าจะมีอยูเ่ พียงแค่ในศีรษะของสัตว์
ทีมีสติปัญญาทังนัน

เพราะขันพลังทีแตกต่างกัน ทําให้แก่นสมองของสัตว์ป่า
ต่างก็มีสีสนั ทีแตกต่างกันไป

แก่นสมองของสัตว์ป่าสามารถใช้ทาํ การใดบ้าง มูช่ ิงเก


60
อยังไม่รูแ้ จ้ง

รูเ้ พียงแค่วา่ สิงนีมีคา่ ยิงนัก ในบางแห่งสามารถใช้แทน


เบียได้

และยังสามารถนํามาพัฒนาอาวุธ เพิมพลังและ
คุณสมบัติพิเศษให้กบั อาวุธได้

เพราะฉะนัน หลังจากทีนางฆ่าสัตว์ป่าทีมีสติปัญญาตัว
แรกไปแล้ว ไม่วา่ สัตว์ตวั นันจะอยูใ่ นระดับสูงหรือตํา
นางก็จะเก็บสะสมแก่นสมองเอาไว้ดงทรั
ั พย์สนิ อันลําค่า

ไม่นานแก่นสมองสัตว์ป่า ทีส่วนใหญ่เป็ นสีเหลืองและ


61
เขียวก็ถกู ใส่เข้าไปในถุงผ้าและไปอยูใ่ นมือของโย่วเห
อและฮวาเยวีย

ทังสองสาวรับมาด้วยความยินดี นางยืนอยูข่ า้ งหลังมูช่ ิง


เกอ

เมือแน่ใจแล้วว่าไม่มีตกหล่น มูช่ ิงเกอก็สงอย่


ั างเรียบเฉย
ว่า : “ออกเดินทาง!” พร้อมพาทุกคนออกจากสนามรบ
อันเหม็นคาวโลหิตนัน

ในยามคําคืน โย่วเหอและฮวาเยวียนําแก่นสมองสัตว์ป่า
ทีเก็บสะสมได้ในวันนีมาวางไว้ตรงหน้ามูช่ ิงเกอแล้วออก
ไป หลังจากทีมูช่ ิงเกอกวาดสายตามองแก่นสมองสัตว์

62
ป่ าตรงหน้า ในชัวพริบตาแก่นสมองสัตว์ป่าเหล่านันก็
หายไปอย่างไร้รอ่ งรอย

ความเป็ นจริงแล้ว พวกมันก็แค่เปลียนที

พวกมันถูกนําไปเก็บไว้ในช่องว่างของมูช่ ิงเกอ สําหรับ


นางแล้วช่องว่างของตนเองคือทีทีปลอดภัยทีสุด

ความลับเรืองมิติแห่งช่องว่าง นางไม่ได้ให้ผใู้ ดรับรู ้

สําหรับองครักษ์เขียวมังกร รวมทังฮวาเยวียและโย่วเห
อเองก็เหมือนจะไม่ฉงนใจว่านางเอาแก่นสมองสัตว์ป่า
ไปไว้ทีไหน
63
ราวกับว่า คุณชายของพวกเขามักจะมีความสามารถ
เกินคาดฝันเป็ นเรืองปกติ!

พอฟ้าเริมสาง องครักษ์เขียวมังกรก็เริมมุง่ หน้าเข้าไป


ภายในเทือกเขาฉิน

เวลาได้ลว่ งเลยมาอีกหนึงเดือน ภายในเทือกเขาฉิน


องครักษ์เขียวมังกรกวาดล้างสัตว์ป่าทีมีพลังเหนือกว่า
พวกเขาจํานวนนับไม่ถว้ น ดังตักแตนทีกําลังขนอาหาร
เพราะจํานวนแก่นสมองของสัตว์ป่าในมิติช่องว่างของมู่
ชิงเกอได้เพิมพูนมากขึนอย่างน่ากลัวจนรวมกันกองเป็ น
ภูเขาขนาดย่อม

64
แม้วา่ พลังของแก่นสมองพวกนี จะไม่สงู มากแต่ก็เป็ น
เงินเป็ นทองไม่ใช่หรือ

ในวันนีเป็ นวันทีองครักษ์เขียวมังกรเข้ามายังเทือกเขา
ฉินแห่งนีนับเป็ นเวลาร่วมสองเดือนแล้ว

มูช่ ิงเกอได้เรียกทุกคนมารวมตัวกันอย่างกะทันหัน ราว


กับว่ากําลังจะมีคาํ สังใหม่——

“พวกเจ้าเข้ามายังเทือกเขาฉินเป็ นเวลาร่วมสองเดือน
แล้ว กลัวทีนีหรือไม่” มูช่ ิงเกอถาม

65
“ไม่กลัว ! ไม่กลัว !”

องครักษ์เขียวมังกรตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน

กลัวอย่างนันหรือ? จะเป็ นไปได้อย่างไรเล่า? มีมชู่ ิงเก


อเป็ นผูน้ าํ พวกเขารูส้ กึ เพียงว่า เทือกเขาฉินนันเป็ นเพียง
ขุมทรัพย์ทีทําให้พวกเขาสามารถเลือกหยิบจับทุกอย่าง
สมดังปรารถนาเท่านัน

เมือเห็นใบหน้าของทุกคนต่างแสดงท่าทางภาคภูมิใจ
และแสนเย่อหยิง มูช่ ิงเกอก็ทาํ หน้าเคร่งขรึมและพูด
อย่างเย็นชาว่า : “ตังแต่วนั นีเป็ นต้นไป เราจะสลายกลุม่
ใหญ่เป็ นกลุม่ เล็ก ทํางานกันเป็ นกลุม่ ย่อยและหนึงเดือน

66
หลังจากนี ต่างคนต่างพาอาชาเพลิงของตนเองกลับไป
ยังเมืองอี”

เมือได้ยินคําสังการนี ทุกคนต่างก็นิงอึง

ราวกับว่า พวกเขาคิดไม่ตกว่าการทํางานกันเป็ นกลุม่


ใหญ่อยูด่ ีๆ เหตุไฉนต้องแยกจากกันกะทันหันแบบนีด้วย

ทว่า การเป็ นองครักษ์เขียวมังกรนันสิงสําคัญทีสุดก็คือ


ต้องทําตามคําสังการของมูช่ ิงเกอโดยไร้ขอ้ แม้ แม้วา่ นาง
จะให้ทกุ คนไปฆ่าตัวตาย พวกเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
เพราะฉะนันทุกคนจึงทําได้เพียงเก็บความสงสัยไว้ภาย
ในใจ

67
ตอนที 85-5 รักครังใหม่ของมูช่ ิงเกอ

68
มีเพียงมัวหยางทีติดตามมูช่ ิงเกอมานานทีสุด รูส้ กึ
ประหลาดใจพิกล พลันมองใบหน้าอันแสนเบิกบานของ
นาง ประหนึงกําลังคิดการใดอยู่

มูช่ ิงเกอพูดอย่างเย็นชาว่า : “หนึงเดือนนับจากนี พวก


เจ้าจะเป็ นหรือตายล้วนต้องพึงความสามารถของตน
เอง” พูดจบ นางก็พดู กับโย่วเหอและฮวาเยวียต่อว่า :
“แจกจ่ายแผนทีฉบับสํารองของเทือกเขาฉินให้แต่ละ
กลุม่ ”

69
หญิงสาวทังสองรับคําสัง พลันแจกจ่ายแผนทีทีสลักอยู่
บนหนังสัตว์ออกไป

แผนทีเหล่านีมีรายละเอียดมากขึนกว่าต้นฉบับทีนํามา
จากเมืองอี พืนทีทีมูช่ ิงเกอผ่านมานางได้ทาํ การระบุเอา
ไว้อย่างชัดเจน

หลังจากทีแต่ละกลุม่ ได้รบั แผนที มูช่ ิงเกอก็พดู ว่า :


“แผนทีแผ่นนี ไม่เพียงแต่นาํ ทางแก่พวกเจ้า อีกทังยัง
หมายถึงภารกิจทีพวกเจ้าจะได้รบั นันก็คือทําเครือง
หมายในพืนทีทีพวกเจ้าไปเยือน ระบุพืนทีภายในแผนที
ให้สมบูรณ์ เส้นทางของพวกเจ้า ข้าจะไม่จาํ กัด การ
เลือกเส้นทางล้วนแต่เป็ นสิทธิของพวกเจ้า”

70
“คุณชาย แล้วท่าน ......” มีเสียงหนึงถามขึนมา

นําเสียงทีคาดหวังให้มชู่ ิงเกอร่วมเดินทางไปพร้อมกลุม่
ของพวกเขา

ทว่าน่าเสียดายทีมูช่ ิงเกอกลับดับความหวังของพวกเขา
จนหมดสิน : “ข้าจะไม่เดินทางกับกลุม่ ใดเลย ข้าจะพา
ฮวาเยวียและโย่วเหอเดินทางไปยังอีกเส้นทางหนึง”

หลังจากนันนางก็หนั หลังกลับไป ราวกับพร้อมทีจะออก


เดินทาง

71
แต่ในขณะทีเดินผ่านด้านหลังของมัวหยาง นางก็หยุด
และกระซิบกับเขาว่า : “เจ้าเดินทางโดยลําพัง จงคอย
สังเกตสิงทีพวกเขาทําอย่างลับๆ แล้วรวบรวมมาให้ขา้
หากพวกเขาสามารถอยูร่ อดจนกระทังเดินทางกลับ ให้
พวกเขาเดินทางโดยลําพังแล้วออกจากเทือกเขาฉิน
พร้อมกับอาชาเพลิงด้วยความสามารถของตนเอง บอก
พวกเขาว่านีเป็ นการทดสอบครังสุดท้ายทีข้าให้แก่พวก
เขา ผูท้ ีผ่านการทดสอบจะเป็ นองครักษ์เขียวมังกรทีแท้
จริง!”

เสียงอันเย็นชาแต่ประดับด้วยกลินอายความเยือกเย็น
แต่มวหยางกลั
ั บสัมผัสได้ถงึ ความนัยทีแฝงอยูข่ องมัน

เขาพยักหน้าลงอย่างเคร่งขรึม เพือยืนยันว่าเขาจะ
72
ปฏิบตั ิตามคําสังของมูช่ ิงเกออย่างเคร่งครัด

มูช่ ิงเกอเดินจากไปอย่างไร้อาวรณ์และยังมีสาวใช้ทงั
สองติดตามไปด้วย ชายหนุ่มอีก ห้าร้อยคนทีเหลือก็
เหมือนดังเด็กน้อยทีถูกทอดทิง ต่างยืนอึงอยูก่ บั ทีอย่าง
ไร้หนทางไม่รูว้ า่ ควรจะทําอย่างไรต่อไป

จนกระทังเสียงของมัวหยางสังให้ออกเดินทาง

มองแผ่นหลังทีสับสนของเหล่าองครักษ์ สายตาของมัว
หยางพลันเคร่งขรึมขึนมา เขาคิดในใจว่า : ‘หวังว่าเจ้า
พวกนีจะไม่ทาํ ให้คณ
ุ ชายต้องเสียแรงโดยไร้ประโยชน์
หากพวกเจ้าสามารถก้าวผ่านความเป็ นความตายและ

73
กลับมาอีกครัง ก็จะเป็ นดังนกฟ่ งหวงทีเกิดใหม่!’

……

“ คุณชายเราจะไปทีไหนกัน” เมือเดินมาไกลพอสมควร
ฮวาเยวียก็ได้กลับสูน่ ิสยั เดิม พลันพูดกับมูช่ ิงเกออ
ย่างออดอ้อน

มูช่ ิงเกอก็ยงั คงเดินต่อไปพลันตอบว่า : “ข้าจําได้วา่ หาก


เดินต่อไปอีกสามวันในทิศนีจะเป็ นพืนทีของเสือ
ดาวสะท้านเมฆาตัวหนึง”

เฮือก—
74
สาวใช้ทงสองคนที
ั อยูด่ า้ นหลังนางสูดหายใจเย็นเยียบ

เสือดาวสะท้านเมฆาเป็ นสัตว์ทีมีพลังจิตอยูใ่ นระดับสูง


และตัวทีเข้าตาคุณชายนัน ดูเหมือนว่าจะเป็ นตัวทีมีพลัง
อยูใ่ นระดับครามเสียด้วย

เมือรูส้ กึ ว่าเสียงจากด้านหลังหายไป มูช่ ิงเกอจึงถามว่า :


“ทําไมรึ หรือว่าข้าจําผิด”

“ถูก ถูกแล้ว” โย่วเหอตอบพึมพํา

ไม่ได้จาํ ผิดก็ดีแล้ว
75
มูช่ ิงเกอพยักหน้าแล้วเดินทางต่อไป

แต่ทว่า เมือนางเงียบลงแล้ว สาวใช้ทงสองกลั


ั บไม่เงียบ

โย่วเหอและฮวาเยวียมองหน้ากันเลิกลัก พลันรีบวิงไป
ประกบข้างซ้ายและขวาของมูช่ ิงเกอเพือห้ามปราม

“คุณชาย เสือดาวตัวนันอยูใ่ นระดับครามนะเจ้าคะ เรา


จะไปหามันจริงๆ หรือ” ฮวาเยวียยังคงถามมูช่ ิงเกอเพือ
ยําความแน่ใจอย่างไม่ยอมแพ้

โย่วเหอเองก็รบี พูด : “คุณชาย ข้าทังสองต่างเป็ นเพียง


76
สายเหลืองขันต้น เกรงว่าคงไม่ใช่คตู่ อ่ สูส้ าํ หรับสัตว์ป่า
ตัวนัน”

“กลัวอะไร มีขา้ อยูท่ งคนไม่


ั ใช่หรือ” มูช่ ิงเกอพูดอย่างไม่
ใส่ใจ

และนางก็ได้คิดถึงปั ญหาอีกข้อหนึงขึนมา นันก็คือกอง


ทหารเขียวมังกรของนางรวมทังสาวใช้ทงสองเหมื
ั อนจะ
ทะลวงสูส่ ายเหลืองกันหมดแล้ว

เมือทะลวงสูส่ ายเหลืองก็จะสามารถฝึ กทักษะการ


สงครามเพือเพิมพลังในการรบได้

77
แต่ทกั ษะการสงครามภายในแคว้นฉินนันไม่เข้าตานาง
แม้แต่นอ้ ย ทังหมดนีก็ตอ้ งโทษคุณตัวประหลาดทีมอบ
ทักษะการสงครามเป็ นคัมภีรภ์ าคสวรรค์ระดับสูงให้นาง
ทําให้ในสายตาของนางมีเพียงทักษะทีสูงยิงขึนไปอีก

แต่ ในมือของนางนอกจากพันสายฟ้าทีเหมาะกับนาง
แล้ว ก็ไม่มีทกั ษะการสงครามอืนใดอยูเ่ ลย หากเป็ นเช่น
นันองครักษ์เขียวมังกรของนางจะเอาอะไรมาฝึ ก?

โอ้ะ จริงสิ!

ทันใดนัน มูช่ ิงเกอพลันนึกขึนได้วา่ ก่อนมามูเ่ หลียนหรง


ได้ยดั เคล็ดวิชาก้าวซ่อนเงาให้แก่นาง

78
แต่วา่ มันต่างกับทีคุณตัวประหลาดให้ ทักษะการ
สงครามนี เมือถูกอ่านแล้ว มันจะไม่หายไป มูเ่ หลียนหรง
ได้มอบทักษะการสงครามให้แก่นาง อาจจะเป็ นเพราะ
ว่าเห็นว่านางเป็ นหญิง การเรียนรูก้ า้ วซ่อนเงาหากเมือ
พบเจอกับศัตรูทีเหนือกว่า อย่างน้อยก็ยงั สามารถเอาตัว
รอดได้

ทักษะการสงครามนี มูช่ ิงเกอยังไม่ได้ฝึก

ในตอนนี สามารถนํามาให้สาวใช้ทงสองฝึ
ั กได้

ส่วนสําหรับองครักษ์เขียวมังกรนัน ความคิดเดียวของ

79
นาง คือ จะไปแอบยืมอ่านทักษะจากคนผูห้ นึง

ทว่าน่าเสียดาย เจ้านันจะปรากฏตัวเมือไหร่ก็ยงั ไม่รู ้


หากไปถามกูหยาก็เป็ นการจะเผยความคิดไม่ซือของตน
ออกไป

ละล้าละลังขณะหนึง มูช่ ิงเกอจึงตัดสินใจทิงปั ญหานีเอา


ไว้เสียก่อน

นางยืนมือออกไปทําทีหยิบของในแขนเสือกว้าง จากนัน
ก็เอาเคล็ดวิชาก้าวซ่อนเงาออกมาจากช่องว่าง พลันโยน
มันให้กบั โย่วเหอและพูดกับทังสองว่า : “นีเป็ นเคล็ดวิชา
ภาคสวรรค์ระดับกลาง เหมาะสําหรับผูห้ ญิง พวกเจ้าทัง

80
สองรีบฝึ กให้เป็ นก็จะทําให้ความสามารถในการเอาตัว
รอดมากขึน”

“ก้าวซ่อนเงา?! นีมันเป็ นของคุณหนูใหญ่นี.......... ” โย่ว


เหอพอก้มลงมองก็อทุ านออกมาด้วยความตกใจในทันที

ฮวาเยวียเองรีบปรีก็เข้าไปดู พลันพูดด้วยความตก
ตะลึง : “คุณชาย ท่างคงไม่ได้ขโมยทักษะทางสงคราม
ของคุณหนูใหญ่มาใช่ไหม?”

มูช่ ิงเกอกระตุกยิม พลันแอบคิดในใจว่า : ดูเหมือนว่า


ต้องหาโอกาสบอกฐานะทีแท้จริงของตนเองให้ทงสอง

สาวได้รบั รูแ้ ล้ว ไม่เช่นนัน ไม่แน่วา่ ความคิดของพวกนาง

81
จะผิดเพียนกันไปถึงไหนต่อไหน

“พวกเจ้าวางใจเถอะ ท่านอามอบมันให้ขา้ เองกับมือ


จงฝึ กกันอย่างสบายใจ” มูช่ ิงเกอพูดอย่างเย็นชา

พอรูว้ า่ มูช่ ิงเกอไม่ได้ขโมยทักษะการสงครามของมูเ่ หลี


ยนหรงมา โย่วเหอและฮวาเยวียก็โล่งใจ พวกนางกลัว
จริงๆ ว่า เมือคุณหนูใหญ่รูว้ า่ ทักษะการสงครามถูกขโมย
ไป นางคงตรงมาจากลัวตูเพือจัดการกับพวกเขา

กําทักษะการสงครามทีอยูใ่ นมือแน่น ทังโย่วเหอและฮวา


เยวียต่างก็รูส้ กึ อุน่ ใจ สายตาทีมองมูช่ ิงเกอนันเต็มเปี ยม
ไปด้วยความซาบซึง

82
หากไม่ใช่เพราะคุณชาย พวกนางทีเป็ นเพียงทาสรับใช้
จะมีโอกาสได้ฝึกทักษะทางสงครามระดับสูงเช่นนีได้
อย่างไร?

“ไปกันเถอะ” มูช่ ิงเกอเร่ง

คราวนี ทังสองจึงนึกขึนได้ในทันทีวา่ มูช่ ิงเกอกําลังจะไป


ทีไหน

ทันใดนัน สีหน้าของทังสองนางก็พลันแปรเปลียนไป :
“คุณชาย ไปไม่ได้นะเจ้าคะ! เสือดาวสะท้านเมฆาอยูใ่ น
ระดับคราม ความสามารถยิงทะลวงไปถึงขันสูง ความ

83
แตกต่างของแต่ละสายก็จะยิงมาก เราสามคนรวมกันก็
ยังไม่พอเลย”

มูช่ ิงเกอกลับตอบว่า : “หากไม่ทา้ ทายขีดจํากัด แล้วจะ


แสดงความสามารถของตนเองออกมาในยามทีประสบ
อันตรายได้อย่างไรเล่า” นางเคยต่อสูก้ บั สายม่วงมาแล้ว
จะกลัวเพียงแค่เสือดาวสายครามตัวหนึงได้อย่างไร นาง
ก็แค่อยากได้แก่นสมองสายครามก็เท่านัน

ถึงแม้วา่ ผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงจะเป็ นแค่สายม่วงปลอมๆ และ


ถึงแม้วา่ ชัยชนะของนางจะได้มาด้วยการโกง ถึงแม้วา่
นางจะร่วมมือกับวิญญาณของมูช่ ิงเกอ........

84
เหอะๆ อย่างไรเสีย ชนะแล้วก็คือชนะแล้ว

อีกทัง มีองครักษ์อย่างกูหยาคอยดูแลอยูห่ า่ งๆ หากนาง


ไม่คว้าโอกาสให้เขาได้ออกแรงบ้าง จะสมกับเป็ นนาง
หรือ

มีกหู ยาอยู่ ชีวิตของนางไม่มีทางสูญสิน แล้วเหตุใดนาง


จะต้องกลัว

เมือเห็นว่าไม่สามารถเกลียกล่อมมูช่ ิงเกอได้ ใบหน้าของ


ทังสองนางจึงมีเพียงความทุกข์ใจปรากฏออกมาและยัง
คงเดินตามหลังนางต่อไป ทว่าพวกนางได้ตดั สินใจแล้ว
ว่า หากประสบพบเจอกับอันตราย แม้พวกนางจะต้อง

85
สละชีวิต ก็จะไม่ยอมปล่อยให้คณ
ุ ชายของพวกนางเป็ น
อะไรไปแม้แต่ปลายเล็บ

สามวันทีผ่านมานี สัตว์พลังวิญญาณทีพบเจอระหว่าง
ทาง ล้วนถูกมูช่ ิงเกอเอาแก่นสมองออกมาอย่างไม่เกรง
ใจ ในเวลาพักโย่วเหอและฮวาเยวียก็เร่งฝึ กทักษะก้าว
ซ่อนเงา

สามวันหลังจากนัน มูช่ ิงเกอและสาวใช้ทงสองก็


ั ได้มาถึง
อาณาเขตหนึงภายในของเทือกเขาฉิน ซึงเป็ นอาณาเขต
ของเสือดาวสะท้านเมฆา

เพิงจะเข้าสูอ่ าณาเขต ทังสามก็สมั ผัสได้ถงึ ความกดดัน

86
และรังสีแห่งการข่มขู่อนั มหาศาลทีห้ามไม่ให้พวกเขาเข้า
ใกล้

อดทนต่อความกดดัน มูช่ ิงเกอทีเดินนําหน้าทังสอง


นางอยูพ่ ดู ว่า : “รีบฝึ ก ความกดดันทีมากขึนเช่นนี
สามารถเป็ นการสร้างทางลัดให้กบั พลังจิตได้ อย่างมัว
เสียเวลา”

ทังสองเห็นแล้วก็พยักหน้าในทันทีและต่อสูก้ บั ความกด
ดันอันมหาศาลนี

กูหยาทีคอยตามหลังมาตลอดทาง ตกตะลึงเพราะคํา
พูดของมูช่ ิงเกออีกครัง พลันผุดยิมบนใบหน้า

87
เขามีชีวิตอยูม่ านานถึงเพียงนี เจอคนมาก็มาก นับว่า
เป็ นครังแรกทีได้ยินคําพูดเช่นนี สิงทีใครๆ ก็เห็นว่าเป็ น
แรงกดดันกลับเป็ นทางลัดในการฝึ กของนาง

ความคิดทีแตกต่างเช่นนี หรือจะเป็ นเหตุผลทีท่าน


ประมุขให้ความสนใจในตัวนางกกันนะ

เพือทีจะปกป้องมูช่ ิงเกอ เขาตามมูช่ ิงเกอพวกเขาเข้ามา


ยังเทือกเขาฉินตลอดทาง เห็นนางทําให้อาชาเพลิงเชือง
กับตาและพาลูกน้องสังหารสัตว์ป่าไปทัวทุกสารทิศ ต่อ
มาก็ได้ออกคําสังอันเลือดเย็น

88
แยกจากกลุม่ ใหญ่เป็ นกลุม่ เล็ก ให้ไปต่อสูด้ ว้ ยตัวเอง

ตอนนีทหารองครักษ์เหล่านันอาจยังไม่เข้าใจจุดประ
สงค์ของมูช่ ิงเกอ แต่เขากลับเข้าใจว่า ทีหญิงสาวผูน้ ีใช้
วิธีการอันโหดเ**◌้ยมเช่นนีในการสอนพวกทีชนะอย่าง
ต่อเนืองมาหลายครา จนค่อยๆ เกิดความเย่อหยิงนัน ก็
เพือให้จิตใจของพวกเขาได้กลับสูค่ วามสงบนิงดังเช่น
ตอนแรก

วิธีการเช่นนี นางก็ยงั คิดออกมาได้

เขาไม่รูว้ า่ ควรจะเสียดสีความเลือดเย็นโหดเ**◌้ยมของ
นาง หรือว่าควรจะชืนชมความปราดเปรืองในความคิด

89
นางดี

“แปลกจัง! คุณชาย เราเข้ามาในนีนานถึงเพียงนีแล้ว


ยังไม่เห็นสัตว์พลังวิญญาณเลยแม้แต่ตวั เดียว” ฮวาเย
วียสังเกตรอบๆ พลันถามด้วยความฉงนใจในทันที หน้า
ผากเริมมีเม็ดเหงือผุดเต็มไปหมด นางพูดในขณะทียัง
มองไปรอบๆ

มูช่ ิงเกอสัมผัสกับความกดดันทีตนเองกําลังแบกรับ
พลันพูดอย่างสงบว่า : “เป็ นเรืองปกติ ในโลกของสัตว์
พลังวิญญาณ พืนทีของตนเองนันห้ามสัตว์ประเภทอืน
เข้าใกล้ หากเข้าใกล้ นันหมายความว่ากําลังท้าทาย
ความแข็งแกร่งของมัน ทีรออยูก่ ็คือการศึกตัดสินชี
ชะตา”
90
กูหยาแอบฉงนใจ หญิงจอมเสเพลผูน้ ีช่างรูไ้ ม่นอ้ ยเลย
จริงๆ

โย่วเหอเพียงตอบรับคําด้วยคําว่า ‘อืม’ ทังพูดอย่างหอบ


เหนือยว่า : “เรายังถือว่าโชคดีใช่หรือไม่ สัตว์ป่าทีมีสติ
ปั ญญาของทีนีต่างถูกเสือดาวสะท้านเมฆาไล่ออกไปจน
หมด หากเกิดสงครามกันอย่างน้อยก็จะไม่ถกู โจมตี
จากรอบด้าน”

มูช่ ิงเกอยิมจางๆโดยปราศจากคําพูดใดๆ

นีคือจุดเด่นของทังสองนาง ภายใต้แรงกดดันเช่นนี ฮวา

91
เยวียยังคงรักทีจะสังเกตการณ์ทกุ อย่างและโย่วเหอก็ยงั
คงสามารถพินิจทุกอย่างอย่างสงบ ทังสองช่างเป็ นเงา
สะท้อนให้แก่กนั ได้อย่างสมบูรณ์

โฮกก—

ทันใดนัน ในระยะอันห่างไกลมีเสียงคํารามของสัตว์
คํารามดังขึน ขัดจังหวะการก้าวเท้าของทังสามคน

เพราะเสียงคํารามอันกึกก้องกังวานนีทําให้ตน้ ไม้ในป่ า
ทังป่ าต่างสันสะเทือนจนใบไม้หลุดร่วงปลิวกระจาย
……

92
ตอนที 86-1 ภายนอกหลินชวน ช่องว่างทีเปลียนไป

โฮก!—

เสียงขู่คาํ รามของเสือดาวสะท้านเมฆาดังขึนอย่างฉับ
พลัน ทําให้ทงสามคนชะงั
ั กฝี เท้า

ในขณะเดียวกัน ก็ทาํ ให้นางขมวดคิวแน่น

โดยปกติแล้ว ด้วยความสามารถของทังสามคน ไม่อาจ


ดึงดูดความสนใจของเสือดาวสะท้านเมฆาได้มากถึง
1
เพียงนี

ในเสียงคํารามนันเต็มเปี ยมไปด้วยความโกรธเกรียวและ
ความคังแค้นมหาศาล แสดงว่าเสียงนีไม่ได้คาํ รามเพือขู่
พวกนาง

แต่ หากไม่ได้ข่พู วกนาง แล้วขู่ผใู้ ดกัน?

หรือว่า จะมีคนเจอกับเสือดาวสะท้านเมฆาก่อนหน้า
นางไปก้าวหนึง

พอความคิดเช่นนีเกิดขึน นัยน์ตาของมูช่ ิงเกอพลันสาด


ประกาย นางพลิวกายพุง่ ตรงไปข้างหน้าในทันที
2
ฮวาเยวียและโย่วเหอรีบตามไป ในมือกําอาวุธไว้แน่น
พลางคุม้ ครองมูช่ ิงเกอจากทังทางซ้ายและขวา

ทังสามเร่งรีบ การก้าวเท้าของทังสามท่ามกลางความกด
ดันมือครูน่ นได้
ั แสดงผลออกมาให้เห็นแล้ว หลังจากพวก
นางพุง่ เข้าไปนับร้อยจ้าง ถึงรูส้ กึ ได้วา่ พลังกดดันบนร่าง
นันไม่มากเท่าไหร่แล้ว การหมุนเวียนพลังจิตในตัวได้
เพิมมากขึนและบริสทุ ธิขึน

ทังสองรูส้ กึ ดีใจ ยิงเชือในคําพูดของมูช่ ิงเกอมากยิงขึน

พวกนางเพิมพลังฝี เท้าให้เร็วมากขึน โดยใช้ทกั ษะก้าว

3
ซ่อนเงาในการวิงตามมูช่ ิงเกอให้ทนั

มีคนจริงๆ ด้วย !

เสียงของอาวุธทีกระทบกัน ทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ สงสัย จึง


หาทีซ่อน พลันดึงทังสองนางเข้าไปแอบซ่อนอยูใ่ นนัน
เพืออําพรางตัว

บริเวณไม่ไกลจากพงหญ้า ภาพทีเห็นคือ เสือ


ดาวสะท้านเมฆาตัวทีเป็ นเป้าหมายในครังนีกําลัง
ประจันหน้าอยูก่ บั คนผูห้ นึง

ท่าทางผ่อนคลายของคนผูน้ ี เหมือนเพียงกําลังเย้าแหย่
4
เสือดาวสะท้านเมฆาอย่างนัน

แต่วา่ มูช่ ิงเกอกลับไม่รูส้ กึ ถึงระดับขันพลังของเขาเลย


ราวกับว่าเขาเป็ นเพียงคนธรรมดาทีไม่รูจ้ กั การฝึ กพลัง
เวทและไม่มีกลินไอของพลังเวทเลยแม้แต่นอ้ ย

คนธรรมดาทีไม่รูจ้ กั การฝึ กพลังเวทจะสามารถสูก้ บั เสือ


ดาวสะท้านเมฆาได้หรือ ?

เป็ นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด !

หากเป็ นเช่นนัน ก็มีเพียงเหตุผลเดียว

5
ความสามารถของคนผูน้ ี มากกว่าทีนางเคยรูจ้ กั คล้าย
กับคุณตัวประหลาดและคล้ายพวกกูหยา นางเองก็
สัมผัสไม่ได้ถงึ ระดับพลังจิตบนร่างของพวกเขาและยิงไม่
อาจรับรูไ้ ด้ถงึ ระดับขันของพลังในตัวพวกเขาด้วย

การคาดการณ์นี ทําให้มชู่ ิงเกอหรีตา พลันขมวดคิวเป็ น


ปมแน่น

“คนๆ นีไม่ใช่คนของหลินชวน” ทันใดนัน เสียงของกู


หยาพลันดังขึนข้างหูมชู่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอแอบมองโย่วเหอและฮวาเยวีย เห็นพวกนางจ้อง


มองการประลองตรงหน้าอย่างเคร่งขรึมโดยไม่ได้สนใจ

6
นางก็รูว้ า่ กูหยากําลังถ่ายทอดเสียงเข้าสูห่ นู างโดยตรง มี
แค่นางผูเ้ ดียวเท่านันทีได้ยิน

ประสบการณ์เช่นนี นางเคยสัมผัสจากคุณตัวประหลาด
และจากท่านปู่

ไม่ใช่คนในหลินชวน แล้วเป็ นคนจากทีใดกัน ?

คําถามเหมือนจะย้อนกลับมายังจุดเริมต้น—นอก
อาณาเขตหลินชวน มีดินแดนอะไรอยูก่ นั แน่?

คําตอบนี ตอนนีมูช่ ิงเกอยังคงไม่ทราบ

7
แต่ สิงทีนางมันใจคือ โลกทีอยูภ่ ายนอกอาณาเขตหลิน
ชวนนัน เต็มเปี ยมไปด้วยผูท้ ีเก่งกล้าสามารถ เพียงแค่
ใครคนใดคนหนึงมาปรากฏตัวภายในหลินชวน ก็
สามารถเหยียบเหล่ายอดฝี มือภายในหลินชวนให้จมพืน
พสุธาไปได้

แน่นอนว่า คุณตัวประหลาดเป็ นข้อยกเว้น !

มูช่ ิงเกอก็ไม่แน่ใจว่าทําไมตนเองถึงได้มีความมันใจเช่น
นี แต่อย่างไรเสีย นางก็มีความรูส้ กึ หนึง นางรูส้ กึ ว่า ไม่
ว่าคนตรงหน้าจะเก่งกล้าสามารถเพียงใดก็ยงั คงเทียบ
ไม่ได้กบั นิวมือเพียงนิวเดียวของใครบางคน

8
นอกจากคําถามนีทียังไม่มีผใู้ ดตอบนางได้ในตอนนี ก็ยงั
มีอีกคําถามทีคาใจนางอยู่

นันก็คือ ยอดฝี มือนอกหลินชวนผูน้ ี เหตุใดถึงได้มาทํา


ร้ายเสือดาวสะท้านเมฆาสายครามอย่างไม่รูต้ น้ สาย
ปลายเหตุเช่นนี

แต่วา่ ไม่นานยอดฝี มือผูน้ นก็


ั ได้คลายความเคลือบแคลง
ในใจของนาง

“เจ้าเสือดาว ความอดทนของข้ามีจาํ กัด หากเจ้ายังไม่


ยอมตอบคําถามของข้า ข้าก็จะสังหารเจ้าเสีย แล้วไป
ถามสัตว์พลังวิญญาณตัวอืนแทน” คําพูดของคนต่าง

9
แดนผูน้ นดู
ั ผอ่ นคลายเป็ นอย่างมาก ราวกับว่า สําหรับ
เขาแล้วการสังหารนันง่ายดายประหนึงปอกกล้วยเข้า
ปาก

อายุของเขาไม่มากนัก ราว 24 ถึง 25 ปี หน้าตาไม่ถงึ ขัน


เรียกได้วา่ งดงาม แต่ก็ดลู ะเอียดอ่อน เพียงแต่ในสายตา
ทังคูป่ ระดับไปด้วยความหยิงยโสจึงทําให้มองดูแล้วไม่
ค่อยรืนหูรนตานั
ื ก

ราวกับว่า ทุกอย่างภายในหลินชวน เป็ นเพียงมดตัวน้อย


อันต้อยตํา

ข้างเท้าของเขา มีรา่ งลูกเสือดาวแรกเกิดนอนตายอยู่

10
สภาพอันยับเยินของเลือดเนือ ทําให้เห็นถึงความ
อํามหิตในการลงมือของเขา

ถึงว่า เสียงคํารามของเสือดาวสะท้านเมฆาเมือสักครูน่ ี
ถึงได้มีกลินไอของความเคียดแค้นชิงชังอันแรงกล้ามาก
ถึงเพียงนัน

มูช่ ิงเกอกระจ่างแล้ว

“เหอะ เจ้ามนุษย์ทีตําต้อยดังมด ยังจะกล้าโอ้อวด ความ


สามารถระดับนี ก็คงจะอวดดีได้แค่ในหลินชวนเท่านัน
แหละ” ทันใดนันเสียงทีแฝงความไม่พอใจก็ดงั ขึนอีกหน

11
มูช่ ิงเกอรูส้ กึ ตกใจ สายตาพลันแปรเปลียนไปอย่างรวด
เร็ว

ผูท้ ีเป็ นยอดฝี มือเช่นนี ยังเป็ นได้เพียงมดตะนอยตัวเล็กๆ


ในสายตาของกูหยา ถ้าเช่นนัน ตัวเขาจะเก่งกาจขนาด
ไหนกัน !

แต่เขานัน......

น่าแปลกมาก เงาร่างสีขาวไร้มลทินแต่เต็มเปี ยมด้วย


ความลึกลับนันได้โผล่เข้ามาในความคิดของมูช่ ิงเก
อ รอยยิมอันเย้ายวนจนหาทีสุดไม่ได้นนั ทําให้นางมี
ความรูส้ กึ อยากจะซ้อมใครสักคนขึนมา

12
มูช่ ิงเกอกะพริบตาถี นางขจัดภาพของบางคนออกจาก
ความคิด พลันมองภาพตรงหน้าอย่างตังใจ

การต่อสูเ้ หมือนจะหยุดลงชัวคราว

เสือดาวสะท้านเมฆาส่งเสียงคําราม จ้องเขาคนนันเขม็ง
ด้วยนัยน์ตาเปี ยมไปด้วยโทสะและคังแค้น

ทว่าคนผูน้ นั ยังคงผ่อนคลาย

“เจ้าเสือดาว ข้าถามอีกรอบ เจ้าเคยเห็นสองคนนีหรือ


ไม่?” ยอดฝี มือจากต่างแดนผูน้ นพลั
ั นยกมือขึนมา กลาง
13
อากาศบนฝ่ ามือของเขา มีรา่ งคนสองคนเกิดขึนมาอย่าง
ไม่น่าเชือ

“เป็ นพวกเขาเองรึ!” เมือเงาร่างของทังสองปรากฏขึน กู


หยาก็พดู ด้วยนําเสียงประหลาดใจ

“เจ้ารูจ้ กั พวกเขาหรือ?” มูช่ ิงเกอแอบถามในใจ

ในขณะทีนางเกิดความสงสัย กูหยาก็ตอบคําถามของ
นางในทันที : “ไม่รูจ้ กั แต่แค่เคยเจอ พวกเขาเป็ นผูท้ ีทํา
ให้เกิดการรุกรานของสัตว์ป่าในครังทีแล้ว และถูกจิต
ของท่านประมุขทําให้รา่ งแตกสลายไป”

14
เขาตอบอย่างเย็นชา

แต่เขากลับไม่รูว้ า่ คําตอบของเขา ทําให้มชู่ ิงเกอแทบจะ


กัดลินตัวเองตาย

นางรูน้ านแล้วว่าคนทีปรากฏตัวขึนภายในสงครามครังที
แล้ว คนทีอุม้ นางก่อนทีนางจะหมดสติลงไม่ใช่คณ
ุ ตัว
ประหลาดตัวจริง แต่กลับไม่คิดว่าแค่รา่ งจิตทีเป็ นแค่
ความคิดคํานึงของร่างจริงเท่านันก็สามารถสันสะเทือน
ทังอาณาจักรสัตว์ในเทือกเขาฉินและทําให้คนทีขับไล่
พวกสัตว์รา้ ยร่างแหลกสลายได้

15
ตอนที 86-2 ภายนอกหลินชวน ช่องว่างทีเปลียนไป

16
ตลอดเวลาทีผ่านมา สําหรับความแข็งแกร่งของใครคน
นัน นางเองก็ไม่คอ่ ยอยากจะยอมรับสักเท่าไหร่ เอาแต่
รูส้ กึ ว่าชายหนุ่มผูน้ นดู
ั น่มุ นวลสามารถรังแกได้ แต่กลับ
ไม่คิดว่า คนผูน้ นต่
ั างหากทีเป็ นเทพของจริง เป็ น Boss
ระดับสูงสุด !

เพียงแค่จิตความคิดเดียว ก็สามารถทําให้คนกลายเป็ น
กองเนือไร้วิญญาณได้

นีมันช่างง่ายดายราวกับบีมดก็ไม่ปาน และไม่ได้สง่ ผล
กระทบอันใดต่อสภาพจิตใจของเขาเลยแม้แต่นอ้ ย !

ราวกับว่าสัมผัสได้ถงึ สิงทีมูช่ ิงเกอกําลังคิด กูหยาแอบ

17
เผยรอยยิมออกมาอย่างภาคภูมิใจพลันคิดว่า : แค่นีจะ
นับเป็ นอะไรได้? ชือเสียงของท่านประมุขของพวกเขานัน
ทางด้านบนก็ขนชื
ึ อเรืองการสังหารอยูแ่ ล้ว หากมีผใู้ ด
กล้าทําให้เขาไม่พอใจ ต่างก็ตอ้ งตายเรียบ

คําว่าตายเรียบนี ไม่เพียงแต่หมายถึงคนทีตาไม่ถงึ และ


ทําให้เขาไม่พอใจเท่านัน แต่ยงั หมายรวมไปถึงอํานาจ
เบืองหลังของพวกเขา ก็จะหายวับไปอย่างไร้รอ่ งรอยใน
ทันที

เพราะว่า ท่านมหาปราชญ์ของเขาเกลียดความยุง่ ยาก !


เกลียดทีจะต้องประสบกับปั ญหาทีจะตามมา จึงต้องตัด
ไฟเสียแต่ตน้ ลม เพือจบปั ญหาอีกนับไม่ถว้ นทีจะตามมา

18
เพราะฉะนัน หากมองในมุมนี เขาอาจพูดได้วา่ หญิง
สาวผูน้ ีมีสว่ นคล้ายกับท่านมหาปราชญ์ของเขาจนน่า
ประหลาดใจ

ช่วงเวลาทีติดตามมูช่ ิงเกอมานี เขาเองก็ดอู อกว่าเจ้า


นายผูน้ ีก็เป็ นคนหนึงทีไม่สนใจในวิธีการ หากจะลงมือก็
ต้องถอนกันให้ถงึ รากถึงโคน ล้วนเป็ นการกระทําทีหยุด
ปั ญหาทีจะตามมาในภายหลัง

“ดูเหมือนว่า คนผูน้ ี จะมาหาทังสองคนทีท่านประมุข


ของพวกเจ้าสับเละจนเป็ นเศษเนือไปแล้วนะ” จิตใจของ
มูช่ ิงเกอนิงสงบลง

19
หากให้คนผูน้ ีรูว้ า่ การตายของสองคนนันเกียวข้องกับ
นางและเกียวข้องกับเมืองอี บางที อาจจะก่อให้เกิดภัย
พิบตั ิครังยิงใหญ่

ยอดฝี มือระดับนี กูหยาไม่เห็นเขาอยูใ่ นสายตา แต่ก็ไม่


ได้หมายความว่าเขาจะไร้ฝีมือ

อย่างน้อย มูช่ ิงเกอก็มนใจได้


ั วา่ ท่านปู่ มซู่ งของนางไม่ใช่
คูต่ อ่ สูข้ องคนตรงหน้าเป็ นแน่

ควรจะทําอย่างไรดี ?

20
มูช่ ิงเกอเร่งคิดหาวิธี

ทันใดนัน นางจึงถามกูหยาว่า : “คนพวกนันสามารถเข้า


ออกยังหลินชวนได้อิสระงันหรือ?” นีคือสิงทีนางเป็ น
กังวลมากทีสุด

“ไม่” พอกูหยาตอบ ทําให้มชู่ ิงเกอพลันโล่งใจ

กูหยาพูดต่ออีกว่า : “คนทีอยูภ่ ายในอาณาเขตหลินชวน


นันยากทีจะออกไป และคนนอกอาณาเขตหลินชวนก็ไม่
สามารถเข้ามาได้อย่างง่ายดายเช่นกัน โดยปกติแล้ว
การทีพวกเขาจะเข้ามายังทีนี จะต้องใช้วิชาลับเปิ ดผ่า
ช่องทางถึงจะเข้ามาได้ เมือมาถึงทีนี พลังทีแท้จริงก็จะ

21
ถูกกดเอาไว้ แต่ก็ยงั คงเป็ นขันสูงสุดของแผ่นดินแห่งนี
อยูด่ ี”

“หากฆ่าเขา จะเป็ นอย่างไร?” มูช่ ิงเกอถามอีกครัง

ครานี นําเสียงของนางดูสงบและนิงจนน่าประหลาดราว
กับว่า ได้ตดั สินใจอะไรบางอย่างไปแล้ว

กลับเป็ นกูหยาเองทีตกใจ พลันถามว่า : “เจ้าคิดจะฆ่า


เขาหรือ?”

มูช่ ิงเกอพยักหน้า : “คนทีเขาตามหาได้ตายไปแล้ว หาก


ยังปล่อยเขาไป แน่นอนว่าจะสืบจนรูถ้ งึ การสูร้ บในวัน
22
นัน ท่านประมุขของเจ้าฆ่าคนเพียงแค่สะบัดมือ แต่กลับ
ทําให้ทหารตระกูลมูต่ อ้ งเดือดร้อน หากไม่ฆา่ เขาเสีย จะ
รอให้เขาไปฆ่าเราถึงทีหรืออย่างไร?”

แต่การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแบบนี ทําให้กหู ยารูส้ กึ ชืน


ชม

แต่ความรังเกียจทีมีตอ่ ท่านประมุขในนําเสียงนันของ
นาง กูหยากลับรูส้ กึ ไม่เห็นด้วยเป็ นอย่างมาก ท่าน
ประมุขของเขาจะรูไ้ ด้อย่างไรว่า หลังจากทีเจ้าสองตัว
นันตายไปแล้วจะมีคนออกมาตามหาเช่นนี ตอนนีเขาคง
จะกําลังยุง่ อยูก่ บั การจัดการกับเจ้าคนคิดไม่ซือผูน้ นอยู
ั ่

23
“ก่อนอืน เจ้าจะฆ่าเขาอย่างไร?” กูหยาย้อนถาม

คําสังทีเขาได้รบั คือปกป้องให้มชู่ ิงเกอพ้นจากความตาย


แต่ไม่ใช่การเป็ นมือสังหารและช่วยนางฆ่าใคร แม้วา่
ปั ญหานันจะเป็ นปั ญหาทีท่านประมุขของเขาทิงเอาไว้ก็
ตาม

โชคดีที มูช่ ิงเกอก็ไม่ได้มีความคิดจะให้กหู ยาลงมือ แต่


ยังคงยืนหยัดทีจะถามว่า : “จะฆ่าเขาอย่างไรนันไม่ใช่สงิ
ทีเจ้าต้องคิด เจ้าแค่บอกข้าว่าหากฆ่าเขาแล้วจะเกิด
อะไรขึนก็พอ”

กูหยากะพริบตา สุดท้ายก็ตอบว่า : “ฆ่าเขาแล้ว หากเจ้า

24
โชคดี เบืองหลังของเขาไม่มีอาํ นาจหนุนหลัง เรืองก็จะ
จบลงเพียงตรงนี แต่ถา้ หากเจ้าโชคร้าย เบืองหลังของ
เขามีผทู้ ีคอยสนับสนุนอยู่ แล้วมีคนรูว้ า่ เขามาทีนี ก็ยงิ
จะทําให้คนจากต่างแดนเข้ามาตรวจสอบหาความจริง
จากพืนทีนีมากยิงขึน”

ยุง่ ยากจริงๆ เลย!

มูช่ ิงเกอขมวดคิวแน่นกว่าเดิม

“จะรูไ้ ด้อย่างไรว่า เบืองหลังของเขามีอาํ นาจอะไรคอย


หนุนอยูห่ รือเปล่า?” มูช่ ิงเกอถามอีก

25
กูหยาเงียบไปสักพัก แล้วจึงตอบว่า : “โดยปกติแล้ว ผูท้ ี
มีอาํ นาจคอยหนุนหลัง บนตัวมักจะมีของบางอย่างที
แสดงถึงฐานะของเขา แต่ของสิงนัน หากเจ้าอยากรูว้ า่ มี
อยูห่ รือไม่ ก็ทาํ ได้เพียงต้องสังหารเขาเสียก่อนแล้วค่อย
หา เขาคงไม่เอามันออกมาให้เจ้าดูเองหรอก”

สายตาของมูช่ ิงเกอนันนิงสงบ

“แต่วา่ ……..” นําเสียงของกูหยาดูเปลียนไป พลันพูดต่อ


ว่า : “ด้วยพลังของคนๆ นี แม้วา่ เบืองหลังจะมีอาํ นาจ
หนุนหลังอยู่ ก็คงไม่ได้รบั ความสนใจมากนัก อย่างมาก
ก็แค่คนจากต่างแดน หากให้ผมู้ ีอาํ นาจต้องเสียแรง
มาตามหาเขาถึงทีแห่งนี คงจะเป็ นไปได้ยาก”

26
มูช่ ิงเกอครุน่ คิดสักพักแล้วจึงพูดอย่างเรียบนิงว่า : “หาก
เป็ นเช่นนัน ข้าก็คงต้องลองเสียง”

ฆ่าคนผูน้ ีแล้วจะก่อให้เกิดปั ญหาอันใหญ่โตสักแค่ไหน


นันไม่ใช่สงที
ิ มูช่ ิงเกอกําลังพิจารณาอีกต่อไป นางจะต้อง
แก้ไขปั ญหาเฉพาะหน้าเสียก่อน เพือหยุดการเบนสาย
ตามาทีกองทหารตระกูลมูข่ องคนผูน้ ี

ยอดฝี มือจากต่างแดนผูน้ ี ไม่วา่ จะมองมุมไหนคนผูน้ ีก็ดู


ไม่เหมือนคนทีสามารถคุยกันด้วยเหตุผลได้เลย

ถ้าเช่นนัน ต้องยับยังการฆ่าด้วยการฆ่า !

27
นัยน์ตาของมูช่ ิงเกอพลันมีไอสังหารปรากฏขึน นางหยุด
บทสนทนากับกูหยา ในใจแอบวางแผนว่า จะจบชีวิต
ของยอดฝี มือต่างแดนผูน้ ีอย่างไรดี

แม้วา่ นางจะไม่เกรงกลัวการท้าทายด้วยการประลอง
กับผูท้ ีเหนือกว่า

แต่ทว่า ระดับขันของคูต่ อ่ สูใ้ นวันนีสูงกว่ามากเหลือเกิน

หมัดทีกําแน่นของมูช่ ิงเกอเริมสันและมีเหงือผุดออกมา

สําหรับคนตรงหน้า นางไม่มนใจว่
ั าจะสามารถเอาชนะ
28
ได้

“โย่วเหอ ฮวาเยวีย พวกเจ้าทังสองหลบไปจากทีนีกัน


ก่อน” มูช่ ิงเกอตัดสินใจว่าจะให้ทงสองนางถอยออกไป

ก่อน การประลองแบบนี พวกนางไม่เพียงแต่ช่วยอะไร
ไม่ได้ แต่ยงจะทํ
ิ าให้ทกุ อย่างยุง่ ยากมากขึน

การถอยออกไปก่อน จึงเป็ นทางเลือกทีดีทีสุด

หลังจากทีโย่วเหอและฮวาเยวียรูถ้ งึ การตัดสินใจของนาง
ก็รูส้ กึ ตกใจและตังใจว่าจะไม่ยอมไปจากทีนี

แม้พวกนางต้องดับสูญอยูท่ ีแห่งพร้อมกับมูช่ ิงเกอ ก็จะ


29
ไม่ยอมหนีเอาตัวรอดเป็ นอันขาด

ถึงแม้พลังของพวกนางจะไม่ได้อยูใ่ นระดับขันทีสูงมาก
นัก แต่กลับดูออกว่าคนตรงหน้านันไม่ได้จดั การได้ง่ายๆ
ทิงอันตรายเอาไว้ให้แก่เจ้านาย แล้วตนเองกลับหนีไปได้
อย่างไร

เมือเห็นทังสองส่ายหน้าพร้อมกันโดยมิได้นดั หมาย มูช่ ิง


เกอพลันพูดด้วยสายตาอันนิงสงบว่า : “หากพวกเจ้าไม่
ยอมทําตามคําสังของข้า ตังแต่บดั นีเป็ นต้นไป ความ
สัมพันธ์ระหว่างนายบ่าวของพวกเราก็ถือเป็ นอันจบสิน
เพียงเท่านี”

30
ผลลัพธ์เช่นนี เป็ นความทรมานยิงกว่าการฆ่าพวกนาง
ให้ตายเสียอีก!

ฮวาเยวียมองมูช่ ิงเกออย่างตัดพ้อ ราวกับว่ากําลังกล่าว


โทษว่ามูช่ ิงเกอช่างจัดการกับพวกนางได้ถกู วิธีเสียจริง

โย่วเหอเม้มปากแล้วเงียบไป มองมูช่ ิงเกออย่างลึกซึง


แวบหนึง พลันจับมือฮวาเยวีย แล้วถอยหลังออกไป
อย่างระมัดระวัง

“โย่วเหอ เจ้าทําอะไร จะทิงคุณชายไว้ทีนีได้อย่างไร?”


ฮวาเยวียอยากจะคลายมือของโย่วเหอออก

31
โย่วเหอกลับยิงจับเอาไว้แน่น : “อยูต่ อ่ ก็รงั แต่จะทําให้
คุณชายเดือดร้อนและทําให้คณ
ุ ชายต้องตกอยูใ่ น
อันตรายมากกว่าเดิม”

“แต่จะจากไปแบบนีไม่ได้นะ!” ฮวาเยวียตืนตระหนกจน
เกือบจะร้องไห้ออกมา

32
ตอนที 86-3 ภายนอกหลินชวน ช่องว่างทีเปลียนไป

โย่วเหอเม้มปากตรง นางเพียงพูดว่า : “เราออกห่างไป


หน่อย แล้วแอบดูอยูห่ า่ งๆ หากเห็นว่าคุณชายได้รบั
อันตรายค่อยหาวิธีลอ่ เจ้าสัตว์รา้ ยนันมาทางเราและรีบ
พาคุณชายหนีไป”

ฮวาเยวียเงียบลง ราวกับว่านางเห็นด้วยกับคําตอบนี
33
ของโย่วเหอ

หลังจากทีหญิงทังนางถอยออกไป กูหยาก็ได้ปรากฏตัว
ขึนทีข้างกายมูช่ ิงเกอ มือทังคูก่ าํ กระบียาวเอาไว้และ
ถามว่า : “เจ้าคิดจะทําอะไร?”

มูช่ ิงเกอกระตุกยิมอย่างเย็นเยียบ จ้องคนและเสือดาวคู่


หนึงแล้วพูดว่า : “เจ้าไม่เคยได้ยินหรือว่าศัตรูของศัตรูถือ
เป็ นมิตร?”

เพราะความวูว่ ามของคนผูน้ ีแท้ๆ ทีฆ่าลูกเสือ


ดาวสะท้านเมฆา ตัดความเป็ นไปได้ทีเสือดาวสะท้าน
เมฆาจะยอมประนีประนอมด้วยนํามือของเขาเอง ทําให้

34
นางมีโอกาสร่วมมือกับเสือดาวสะท้านเมฆาเพือสังหาร
เขา

แต่วา่ นางไม่คิดว่า เสือดาวสะท้านเมฆาทีนางจะมาท้า


ให้เป็ นคูซ่ อ้ ม ในตอนนีกลับต้องมาร่วมมือกับมันเพือ
กําจัดศัตรู

เมือได้ยินสิงทีมูช่ ิงเกอวางแผนเอาไว้ สายตาของกูหยาก็


พลันเปล่งประกายพลางตอบว่า : “ปฏิกิรยิ าของเจ้าว่อง
ไวดีนี” สามารถใช้เวลาอันสัน ในการเผชิญหน้ากับศัตรู
และคิดหาวิธีทีเป็ นไปได้ทีสุดในการจัดการศัตรู ช่างเป็ น
สิงทีชวนตกตะลึงยิงนัก

35
“แต่ก็ไม่ใช่เรืองง่ายทีเจ้าจะชนะเขา” กูหยาพูดความจริง
ออกมา ในความเป็ นจริงแล้ว เขาอยากจะบอกว่า ถึงแม้
ว่ามูช่ ิงเกอจะผนึกกําลังกับเสือดาวสะท้านเมฆา ก็ยงั คง
ไม่พอสําหรับเขาคนนี

“ข้ารู ้ หากข้ามันใจว่าจะชนะตังแต่แรกก็ไม่เรียกว่าการ
เสียงเดิมพันน่ะสิ” นําเสียงของมูช่ ิงเกอยังคงนิงสงบ

เมือคิดๆ ดูแล้ว กูหยาก็พดู ขึนอย่างกะทันหันว่า : “หาก


ต้องการความช่วยเหลือจากข้าก็จงบอก”

มูช่ ิงเกอหันไปมองเขา พลันพูดทังรอยยิมว่า : “วางใจ


เถอะ ข้าไม่หวงการใช้ประโยชน์จากเจ้าหรอก”

36
รอยยิมนันราวกับมีแผนการบางอย่างซ่อนอยู่ ทําให้กู
หยารูส้ กึ เหมือนตกลงไปในหลุมพรางในทันที มิหนําซํา
หลุมนียังเป็ นหลุมทีเขาขุดมันขึนมาเองกับมือ!

“ลงมือแล้วนะ!” มูช่ ิงเกอตาเป็ นประกาย พูดเสียงเข้ม

กูหยาเงยหน้าขึนไปมอง เห็นเพียงแค่เสือดาวสะท้าน
เมฆาทีไม่สนใจคําพูดใดๆ ของคนผูน้ นั มันส่งเสียง
คําราม และพลันพุง่ เข้าหาเขา

เสือดาวสะท้านเมฆานันขึนชือเรืองความว่องไว ทังยัง
เป็ นสัตว์วิญญาณทีมีพลังระดับสายคราม ในขณะทีลง

37
มือ มูช่ ิงเกอเห็นไม่ชดั แม้กระทังเงาของมัน ทว่า การที
นางเห็นไม่ชดั ก็ไม่ได้หมายความว่ายอดฝี มือจากต่าง
แดนผูน้ นจะเห็
ั นไม่ชดั เช่นนาง

ไม่เห็นว่าร่างกายของเขาจะมีการเคลือนไหวเลยแม้แต่
น้อย เพียงยกมือขึนบังอย่างง่ายดาย มูช่ ิงเกอก็ได้ยิน
เสียงเสือดาวสะท้านเมฆาคํารามออกมาด้วยความเจ็บ
ปวด ร่างกายของมันลอยลิวปลิวออกไปอีกฝัง

พลัก!

เสือดาวสะท้านเมฆาหล่นกระทบลงพืนอย่างรุนแรง
โลหิตพลันพุง่ ออกจากปากของมัน

38
การลงมือครานี ราวกับว่าได้เอาชีวิตมันไปแล้วครึงชีวิต
แต่ก็ยงั ไม่ทาํ ให้ความโกรธเกลียดเคียดแค้นในแววตา
ของมันคลายลงแม้แต่เสียวเดียว

“กรรจ์!—ในลําคอของเสือดาวสะท้านเมฆามีเสียง
คํารามตําๆ ดังขึน มันพลันเดินหมุนรอบตัวยอดฝี มือ
จากต่างแดนราวกับว่า กําลังจะหาโอกาสโจมตี

“ช่างยุง่ ยากเสียจริง ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ให้ความร่วม


มือกับข้าเสียแล้ว” ใบหน้าของยอดฝี มือต่างแดนฉาย
แววเหลือทน ราวกับว่าได้ตดั สินใจทีจะลงมือสังหารเสือ
ดาวสะท้านสะท้านเมฆา

39
ตรงจุดนี มูช่ ิงเกอดูออก ในขณะเดียวกับเสือดาวสะท้าน
เมฆาก็ดอู อก

ดวงตาทังสองของมันแดงกํา พลันเกิดแสงประกายสี
ครามอันแรงกล้าเปล่งประกายรอบตัวของมันอีกครัง
แสงสีครามส่องประกายนัน ในทุกครังทีมันโจมตีก็พลัน
หมุนวนดังลมพายุสีครามเต็มไปด้วยพลังทีพร้อมจะฉีก
กระชากทุกสิงทุกอย่างพร้อมพุง่ เข้าหายอดฝี มือจากต่าง
แดนผูน้ นั

แต่ทว่า การโจมตีอนั โหดเ**◌้ยมนัน เมือกระทบไปยัง


ร่างของยอดฝี มือจากต่างแดนผูน้ นั ก็พลันหายไปอย่าง

40
ไร้รอ่ งรอย โดยไม่ได้ก่อให้เกิดอะไรขึนเลยแม้แต่นอ้ ย

ใบหน้าของยอดฝี มือจากต่างแดนผูน้ นฉายแววได้


ั ใจ
มากกว่าเดิม สายตาทีมองเสือดาวสะท้านเมฆาล้วนมี
ความดูถกู และเยาะเย้ยเพิมทวีขนึ

เสือดาวสะท้านเมฆาส่งเสียงคํารามด้วยความโกรธและ
โจมตีแบบไม่คิดชีวิตอย่างต่อเนือง ถึงแม้วา่ มันจะ
กระจ่างชัดว่าการโจมตีเช่นนีไม่ได้ผลเลยแม้แต่นอ้ ย

แกร่ง แข็งแกร่งเกินไปแล้ว !

มันจะแก้แค้นให้กบั ลูกของตนเองอย่างไร?
41
มูช่ ิงเกอทีเก็บซ่อนลมหายใจอยูข่ า้ งๆ ยิงดูก็ยงตกตะลึ
ิ ง
ยอดฝี มือจากต่างแดนผูน้ ี นําพาความตืนตระหนกมาให้
กับนางได้มากกว่าท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงหลายต่อหลายเท่า
นัก

นางถึงกับรูส้ กึ ว่า หากท่านผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงอยูท่ ีนี ก็คงจะ


ต้านทานการโจมตีจากเขาผูน้ ีได้เพียงแค่สามครังเท่า
นัน!

พลังของเขาอยูใ่ นขันไหนกันแน่

“พลังของเขาอยูใ่ นขันไหนนันไม่สาํ คัญ แต่ทีสําคัญคือ

42
ความสามารถของเขาเมืออยูใ่ นหลินชวนนีได้ถกู จํากัด
ให้อยูเ่ พียงแค่สายม่วงขันสูงสุดเท่านัน” ราวกับว่า กูหยา
รูว้ า่ มูช่ ิงเกอกําลังคิดอะไรอยู่ จึงอธิบายอย่างใจเย็น

สายม่วงขันสูงสุดเชียวรึ ?!

มูช่ ิงเกอกลืนนําลาย พลันพูดเสียงแหบว่า : “ถ้าเช่นนัน


สําหรับเขาแล้วการโจมตีใดๆ ของเรา ก็เหมือนเป็ นเพียง
การเกาให้เขาหายคันเท่านันน่ะสิ” ทะลวงการป้องกัน
ของสายม่วงไม่ได้แน่ !

“หากจะพูดแบบนีก็ไม่ผิด” กูหยาพยักหน้ายอมรับเรืองนี

43
คิวของมูช่ ิงเกอขมวดเป็ นปมแน่น

ครังทีแล้ว ตอนทีนางต่อสูก้ บั ผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิง เป็ นการใช้


โอกาสตอนเผลอในการลอบโจมตี ทําให้เขาไม่ทนั ระวัง
ตัว นางจึงมีโอกาสทําให้อีกฝ่ ายบาดเจ็บได้

วันนีจะสามารถทําเช่นนันได้หรือไม่นะ?

พูดได้วา่ การต่อสูก้ บั ผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงในคราวทีแล้ว ทํา


ให้นางเก็บเกียวประสบการณ์มาได้ไม่นอ้ ยเลย ไม่นาน
ในหัวของนางก็คิดพิจารณาวิธีการต่างๆ

ใช่แล้ว ! ต้องรอให้เขาเผลอ
44
มูช่ ิงเกอตัดสินใจเลือกวิธีการครังสุดท้าย แต่วา่ คงจะ
ต้องให้เสือดาวสะท้านเมฆาตัวนีต้องลําบากเป็ นตัวล่อ
เสียแล้ว

หลังจากทีวางแผนเสร็จแล้ว มูช่ ิงเกอพลางสังเกตการ


ต่อสูข้ องคนและเสือดาวสะท้านเมฆาคูน่ ี พลางเข้าใกล้
อย่างไร้เสียงและอําพรางกลินอาย ในชัวขณะนี
นางอยากจะชืนชมคุณตัวประหลาดว่าวิธีการอําพราง
กลินอายทีเขาสอนมานันมันช่างสุดยอดมากจริงๆ เมือ
ใช้มนั อย่างสุดความสามารถทีมี กระทังตัวนางเองก็แทบ
จะลืมการมีตวั ตนอยูข่ องตนเอง !

เพราะฉะนัน นางเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวัง แต่กลับไม่


45
กังวลว่าอีกฝ่ ายจะรูต้ วั ตอนนีนีเป็ นข้อได้เปรียบของนาง
ในตอนนี !

ไม่นานนักมูช่ ิงเกอก็ออ้ มไปอยูข่ า้ งหลังของยอดฝี มือจาก


ต่างแดน สายตาของนางประหนึงกําลังประสานกับตา
ของเสือดาวสะท้านเมฆา

ดวงตาสีทองจ้องมองแววตากระจ่าง ไม่จาํ เป็ นต้องส่ง


สายตา เสือดาวสะท้านเมฆาก็รูถ้ งึ จุดประสงค์ของมูช่ ิง
เกอ มันทีรูต้ วั แล้ว ไม่ได้เตือนยอดฝี มือจากต่างแดนให้รู ้
ตัวว่ายังมีอีกคนอยูใ่ นเหตุการณ์

มันหลุบตาลงตํา ราวกับว่าได้ตอบรับคําขอความร่วมมือ

46
จากสายตาของมูช่ ิงเกอ

ทันใดนัน มันก็เงยหน้าขึนพลันแยกเขียว เผยให้เห็น


เหงือกสีแดงเลือดและฟั นอันแหลมคม นัตน์ตาของสัตว์
ร้ายนันฉายแววมุง่ มันและพุง่ เข้าหายอดฝี มือจากต่าง
แดนอีกครัง

ยอดฝี มือจากต่างแดนทีสุดทนกับความดือรันของเสือ
ดาวสะท้านเมฆา ตอนนีจึงไม่ทนั ได้ระวังข้างหลังของตน
เอง เพราะกําลังรวบรวมพลังไว้ทีกลางฝ่ ามือและตัดสิน
ใจจะสังหารเสือดาวสะท้านเมฆา

47
ตอนที 86-4 ภายนอกหลินชวน ช่องว่างทีเปลียนไป

48
เขาเบียงเบนความสนใจไปทีเสือดาวสะท้านเมฆาและ
ไม่ได้สนใจมูช่ ิงเกอทีกําลังเข้าใกล้จากด้านหลัง

เสือดาวสะท้านเมฆาทีพุง่ ตัวไปถึงครึงทาง ทังร่างพลัน


ระเบิดแสงสีครามส่องประกายแสบตาห่อหุม้ ตัวของมัน
เอาไว้

ยอดฝี มือจากต่างแดนหรีตาลง พลันหัวเราะอย่างเย็น


เยียบ : “เดรัจฉาน กล้าเผาแก่นสมองเพือระเบิดตนเอง
เลยอย่างนันรึ? หากมันทําให้เสือผ้าของข้าแปดเปื อน ข้า
จะฆ่าสัตว์ป่าทังหมดในป่ าผืนนีเพือระบายโทสะ!”

49
ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะกลัวเสือผ้าของตนเองเปื อนจริงๆ หรือ
ไม่ ยอดฝี มือจากต่างแดนผูน้ นจึ
ั งรวบรวมกําลังการ
ป้องกันทังหมดไว้ตรงหน้า เพือต้านทานการระเบิดตัว
เองของเสือดาวสะท้านเมฆา

แต่ดา้ นหลังของเขานันเปิ ดช่องว่าง ไร้สงคุ


ิ ม้ กันใดๆ

การระเบิดตัวเองของสายครามจะยิงใหญ่สกั เพียงใด
กัน?

ในขณะทีรวบรวมพลัง มูช่ ิงเกอสัมผัสได้ถงึ ความรูส้ กึ ดัง


ระเบิดปะทุขนในช่
ึ องว่างทีแคบและเล็กมาก

50
นางเม้มปากแน่น มูช่ ิงเกอรวบรวมพลังสายฟ้าของตน
เองไว้บนกริช พลางเล็งไปยังแผ่นหลังของยอดฝี มือจาก
ต่างแดน

“เดรัจฉาน! จงตายซะ!” ยอดฝี มือจากต่างแดนตะโกน


ด้วยเสียงแฝงความอํามหิต

ตามมาด้วยเสียงคํารามเพือต่อสูอ้ ย่างสุดชีวิตของเสือ
ดาวสะท้านเมฆา

ตูม้ —

51
เสียงระเบิดอย่างรุนแรง สะเทือนไปทัวป่ าทังผืน ราวกับ
แผ่นดินกําลังสันสะเทือน พลังอันมหาศาลกระจายออก
ไปดังคลืน จนแทบจะทําลายล้างทุกอย่าง

คว้าโอกาสนีเอาไว้ มูช่ ิงเกอใช้กริชทีไหลเวียนไปด้วย


คลืนสายไฟแทงไปบนแผ่นหลังของยอดฝี มือจากต่าง
แดนทันที

ปราศจากการป้องกันใดๆ ยอดฝี มือจากต่างแดนรูส้ กึ ถึง


ความเจ็บปวดบนแผ่นหลังของตนเองในทันที เขาชาไป
ทัวทังร่างกาย จนไม่สามารถเคลือนไหวได้

อยูใ่ นพืนทีเช่นนี ยังถูกลอบโจมตีได้!

52
ยอดฝี มือนันไม่เชือ เขาหันหัวอันแข็งทือของตนเองกลับ
มา เห็นใบหน้าอันเย้ายวนแต่แฝงความเย็นเยียบของมู่
ชิงเกอ

“เจ้า!” ในสายตาของเขาฉายให้เห็นถึงความตกใจ ราว


กับว่า กําลังคิดว่าไอ้กงุ้ แห้งตรงหน้าทีลอบโจมตีเขามา
อยูต่ รงนีตังแต่เมือไหร่กนั

และมูช่ ิงเกอพลันคว้าโอกาสในขณะทีเขากําลังตกตะลึง
ดึงกริชออกในทันที พลันปาดคอของเขา ไม่วา่ จะในโลก
ไหน จุดอ่อนบนร่างกายของมนุษย์ยงั คงไม่เปลียนแปลง

53
แผ่นหลังทีถูกแทง อาจจะทําให้ลดความว่องไวในตัวเขา
ได้หรือทําให้พลังของเขาลดน้อยลง แต่ไม่ได้ตายในทันที
ทว่าหากบาดเข้าไปในคอทีมีหลอดลมใหญ่นนั เขาต้อง
ตายโดยไม่ตอ้ งสงสัย!

ในสายตาอันสว่างสดใสของมูช่ ิงเกอฉายแววความเด็ด
ขาด ในขณะทีนางลงมือ ยอดฝี มือจากต่างแดนผูน้ ีเองก็
ปล่อยพลังอันมหาศาลไปทีนาง

นางไม่หลบและไม่ถอย เล็งหลังจากนันก็พงุ่ เข้าหาลําคอ


ของยอดฝี มือจากต่างแดนด้วยใจทีเด็ดเดียว

“รนหาทีตาย!” ยอดฝี มือจากต่างแดนกระจ่างในจุดประ

54
สงค์ของมูช่ ิงเกอ ในสายตาของเขาเผยให้เห็นความตืน
ตระหนก รีบถอยหลัง พลันปล่อยพลังออกไป ทว่ากลับ
ไร้ซงความแม่
ึ นยํา เฉียดไหล่ของมูช่ ิงเกอไป

“อึก!” พลังอันหนักหน่วงดังภูเขา เฉียดผ่านไหล่ของนาง


ไปและยังคงทําให้นางรูส้ กึ เจ็บจนต้องร้องอุทาน ราวกับ
ว่าแขนขวาทังแขนของนางได้สญ
ู เสียการรับรูแ้ ละยังทํา
ให้โลหิตภายในร่างกายของนางสูบฉีดรุนแรง

กริชของนางบาดคอของเขาด้วยความแหลมคม แต่
เพราะปฏิกิรยิ าของอีกฝ่ ายว่องไวจนเกินไป จึงเหลือไว้
เพียงแค่แผลทีไม่ได้ลกึ มากนัก ภายในแผล สามารถเห็น
เส้นเลือดทีเต้นตุบได้อย่างเลือนราง หากเมือสักครูบ่ าด
ลึกอีกไปอีกหน่อย ก็จะสามารถเห็นภาพทีโลหิตพุง่
55
ทะลักออกมา

‘เสียดาย!’ สายตาของมูช่ ิงเกอมืดลงและในใจก็รูส้ กึ


เสียดาย

ครานี ถึงแม้วา่ นางจะสามารถทําให้ยอดฝี มือจากต่าง


แดนเสียหลักได้ แต่เสือดาวสะท้านเมฆาก็ตายเพราะ
การระเบิดตนเองแม้กระทังเศษซากก็ไม่เหลือ

โดยพืนฐานแล้ว ถือว่าเสมอกัน

ตอนนี นางบาดเจ็บเล็กน้อยและไม่มีผชู้ ่วยคิดอยากจะ


สังหารยอดฝี มือจากต่างแดนผูน้ ีเห็นทีจะยากหน่อย แล้ว
56
อีกฝ่ ายล่ะ ? ตอนแรกรวบรวมพลังในการต้านการระเบิด
ตนเองของเสือดาวสะท้านเมฆา พลันถูกมูช่ ิงเกอลอบ
สังหารจนเกือบสําเร็จ ตอนนีโลหิตทีหลังไหลออกจาก
หลังของเขาได้อาบย้อมเสือทีเขาใส่อยูจ่ นกลายเป็ นสี
แดง บริเวณลําคอยังคงหลงเหลือรอยแผลทีดูน่ากลัว

ยอดฝี มือจากต่างแดนหลบหลีกเพือออกห่างจากมูช่ ิงเก


อด้วยท่าทางอเนจอนาถไม่นอ้ ย เขายืนมือไปกุมลําคอที
มีแผลและเนือตรงแผ่นหลังกระตุกทีหนึง ทําให้โลหิตสด
ทีไหลอยูห่ ยุดลง

สายตาของเขาฉายแววโหดเ**◌้ยม พลันมองมูช่ ิงเก


อด้วยความเคียดแค้น แววตานันฉายแววอันตรายดัง
ต้องยาพิษ : “เป็ นแค่มดปลวกในโลกชันล่าง กล้าดีอย่าง
57
ไรมาลอบโจมตีขา้ ! ข้าสาบานว่า วันนีไม่เพียงแต่จะฆ่า
เจ้า แต่ขา้ จะทรมานทุกคนบนโลกนีทีมีสว่ นเกียวข้องกับ
เจ้าให้ตายทังหมด เพือระบายความแค้นในใจของข้า!”

คําพูดอันโหดเ**◌้ยมอํามหิต ทําให้สายตาของมูช่ ิงเก


อพลันเคร่งขรึม

การต่อสูใ้ นครานี หากไม่ตายก็ไม่เลิก

แต่นางไม่อยากตาย เช่นนันคนทีตายต้องเป็ นเขาเท่า


นัน !

แววตาฉายแววเยือกเย็นและปรากฏไอสังหารออกมาทัน
58
ที มูช่ ิงเกอขยับเท้า พลันเกิดแสงสีเขียวเปล่งประกายขึน
ทัวตัวนาง และพุง่ เข้ามายังยอดฝี มือจากต่างแดนดัง
ระเบิดทีกําลังรอเวลาปะทุทนั ที

ไม่ใช่วา่ นางไม่เคยคิดว่าจะใช้พนั สายฟ้า แต่ทกั ษะการ


สงครามนีแม้จะเก่งกาจ แต่เหมาะสําหรับการสูแ้ บบหมู่
มาก การประชันหนึงต่อหนึงเช่นนี อีกฝ่ ายไม่โง่ทีจะยืน
ให้นางสังหารอยูก่ บั ทีหรอก

เพราะฉะนัน นางจึงล้มเลิกความคิดทีจะใช้ทกั ษะพัน


สายฟ้าลงในตอนนัน แต่นางใช้การต่อสูป้ ระชิดตัว
เหมือนดังทีนางคุน้ เคยแทน

59
สะบัดหมัด ขาเตะ !

ทุกท่วงท่า เต็มเปี ยมไปด้วยพลังอันมหาศาล

มูช่ ิงเกอคล่องแคล่วดังปลาไหลทีลืนมือก็ไม่ปาน ทําให้


ต้านทานไม่ไหว

ยอดฝี มือจากต่างแดนถูกรบกวนจนรําคาญถึงขีดสุด ทัน


ใดนัน เขาก็เงยหน้าขึนกู่รอ้ งเสียงยาว พลังอันยิงใหญ่ดงั
ภูเขาสูง ลําลึกดังมหาสมุทรออกมาจากในร่างของเขา
แผ่ขยายไปทัวสารทิศ แรงนันส่งผลกระทบจนอวัยวะ
ภายในของมูช่ ิงเกอไหวสะเทือน นางกระอักเลือดสด
ออกมา ร่างกายปลิวกลับมายังทิศทางเดิม

60
ปึ ก !

มูช่ ิงเกอหล่นลงพืน ราวกับว่ากระดูกทัวทังร่างกายได้


แตกกระจายออกจากกัน

นางเงยหน้าขึน มองไปยังยอดฝี มือจากต่างแดนทีลอย


อยูก่ ลางอากาศ

นางทําให้เขาบาดเจ็บ แต่ไม่ฆา่ เขาให้ตาย ตอนนีเขามี


พลังมากกว่าทีคิดและยากทีจะรับมือมากกว่าเดิม

ร่างนันแข็งแกร่งดังเหล็กกล้า นางโจมตีเขานับครังไม่
61
ถ้วน แต่กลับไม่ก่อให้เกิดผลกระทบอันใดกับเขาแม้แต่
น้อย

ใบหน้าของมูช่ ิงเกอนิงดังสายนํา พลันคิดวิเคราะห์


สถานการณ์การต่อสูแ้ ละผลลัพธ์ทีได้ทาํ ให้นางรูส้ กึ
เสียใจ เพราะนางไม่มีความสามารถพอทีจะสังหารเขา
ได้!

‘หากข้าไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ แต่อย่างไรเจ้าก็ตอ้ งตาย


ถ้าอย่างนันก็ทาํ ได้เพียง.....’ สายตาของมูช่ ิงเกอเปลียน
ไป

“ไอ้มดปลวกสมควรตาย ข้าจะหักกระดูกของเจ้าออก

62
จากกันทีละชินๆ!”ในนําเสียงของยอดฝี มือจากต่างแดน
แฝงความโกรธแค้น ลอยตัวลงมาดังสายฟ้าแลบ

63
ตอนที 86-5 ภายนอกหลินชวน ช่องว่างทีเปลียนไป

ยอดฝี มือจากต่างแดนยืนมือยาวออกไปงอนิวมือทังห้า
เป็ นกรงเล็บ แรงอันมหาศาลแรงหนึงผลักร่างทีอยูบ่ นพืน
ของมูช่ ิงเกอขึนมา แล้วลอยไปหาเขา

ในสายตาอันสว่างสดใสของมูช่ ิงเกอ ราวกับมี


แรงกระทําอะไรบางอย่างทีไร้รูปร่างพุง่ เข้าไปหาแล้วดึง
ตัวนางเข้าไป ประหนึงจะบดตัวนางจนละเอียด—

64
ไม่มีการลังเล นางตะโกนเสียงดัง : “กูหยา—”

ทันใดนัน มูช่ ิงเกอรูส้ กึ ว่าแรงดึงดูดนันได้หายไปแล้วร่าง


ของนางก็เสียการทรงตัวร่วงลงกับพืน

ระหว่างทีหล่นลงนัน นางเห็นเพียงแค่เงาร่างสีดาํ อันสูง


โปร่งของกูหยายืนอยูต่ รงหน้านาง เห็นเพียงแสงกระบี
วาบผ่าน ร่างของยอดฝี มือจากต่างแดนผูเ้ ก่งกาจก็พลัน
ถูกแบ่งเป็ นสองส่วนแล้วหล่นลงพืนอย่างน่าตกใจ

ตุบ ตุบ—

มูช่ ิงเกอและร่างไร้วิญญาณของยอดฝี มือจากต่างแดนผู้


65
นันหล่นลงพืนแทบจะพร้อมกัน

แตกต่างกันตรงทีคนแรกยังมีชีวิตอยู่ แต่อีกคนหนึงนัน
ได้ตายไปแล้ว

ความเจ็บปวดทัวทังร่างกายของนางไม่อาจสูค้ วามตืน
ตระหนกของภายในจิตใจนางได้ นางรูว้ า่ กูหยาเก่งกาจ
มากและรูว้ า่ ยอดฝี มือจากต่างแดนผูน้ ีไม่ใช่คตู่ อ่ สูต้ อ่ เขา
แต่ทว่า นางกลับคิดไม่ถงึ ว่า ยอดฝี มือจากต่างแดนจะ
ตายอย่างง่ายดายเช่นนี !

ท่าทางทีอึงจนอ้าปากค้างของมูช่ ิงเกอ ถูกเงาของเขาปก


คลุมไว้

66
เขายังคงวางท่าทางภูมิฐาน มือทังสองกํากระบี ยืนตัว
ตรง

ราวกับว่าการฆ่าคนเมือสักครูน่ ี ง่ายดังฆ่าแมลงวันตัว
หนึง

“เจ้า......” มูช่ ิงเกอพยายามเปิ ดปากพูด แต่กลับไม่รูว้ า่


ควรจะพูดเช่นไร ความเก่งกาจของกูหยานันเหมือนจะ
เกินกว่าทีนางจินตนาการเอาไว้ งันคนผูน้ นเล่
ั า?

กูหยาเหาะลงมาทีนาง พูดนิงๆ ว่า : “ทีเจ้าเห็นนี ไม่ใช่


พลังทีแท้จริงของสายม่วงหรือถ้าจะให้พดู อีกอย่างก็คือ

67
ด้วยความสามารถในตอนนีของเจ้าแล้ว ไม่มีทางทําให้
ยอดฝี มือสายม่วงแสดงพลังทังหมดออกมาได้”

มูช่ ิงเกอมุมปากกระตุกอย่างแรง

คําพูดนี ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อจิตใจนาง

นางรูว้ า่ ตอนนีตนเองยังเป็ นเพียงแค่ไก่ออ่ น พอใจหรือ


ยังล่ะ !

มูช่ ิงเกอพยุงตนเองขึนมา นังขัดสมาธิ ร่างกายของนางมี


พลังในการฟื นตัวอย่างมหาศาล ไม่จาํ เป็ นต้องได้รบั ยา
อะไร เพียงพักผ่อนสักพักร่างกายก็จะค่อยๆ ฟื นตัวเอง
68
กูหยามองมูช่ ิงเกอทีเข้าสูก่ ารฝึ กพลังเวทครูห่ นึง เงียบลง
แล้วเดินไปเฝ้าอยูห่ า่ งๆ

หลังจากนันไม่นาน รอยแผลของมูช่ ิงเกอก็พลันหายไป

นางลืมตาขึน ในแววตานันยิงฉายแววเด็ดเดียว แค่เพียง


ชัวพริบตาก็กลับมาสงบดังเดิม

นางลุกขึนในทันที พลางเอามือปั ดสิงสกปรกบนเสือผ้า


ราวกับกําลังเตรียมจะถอยออกไป

“คุณชาย ไม่คิดจะหารางวัลในสนามรบบ้างหรือ?” กู
69
หยาพูดเตือน

มูช่ ิงเกอหันไปมองด้วยความสงสัย พลันหยุดสายตาลงที


ร่างอันกระจัดกระจาย แล้วมองกูหยา ราวกับกําลังถาม
ว่าเจ้าเป็ นคนฆ่า รางวัลแห่งชัยชนะควรจะเป็ นของเจ้ามิ
ใช่ร?ึ

นางคิดเพียงแค่วา่ จะถามกูหยาในภายหลังว่า คนในโลก


ข้างนอกนีมีเบืองหลังอย่างไรก็เท่านัน หากรูก้ ่อนก็จะ
สามารถป้องกันไว้ได้ทนั

“แม้ขา้ จะเป็ นคนสังหาร แต่ขา้ เพียงแค่ทาํ ตามหน้าที” กู


หยาพูดนิงๆ ท่าทางแสดงออกมาอย่างชัดเจน เหลือ

70
เพียงไม่ได้พดู ออกมาว่า ‘ของเช่นนีมันไม่เข้าตาข้า’ เท่า
นัน

มูช่ ิงเกอแอบดูถกู ในใจครูห่ นึงและไม่เกรงใจอีกต่อไป


นางเดินกลับไปบริเวณร่างไร้วิญญาณนัน พลางตรวจ
สอบบริเวณนันอย่างละเอียด

เมือมีประสบการณ์จากการสํารวจร่างของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิ


งในคราวแล้ว มูช่ ิงเกอก็หยุดสายตาบนมือของยอดฝี มือ
จากต่างแดนในทันที แต่ทว่าในมือของเขากลับว่างเปล่า
ไม่มีสงใดเลย

‘เป็ นภาพลวงตาอะไรอีกแล้วหรือ?’ มูช่ ิงเกอฉงนใจ

71
นางจับมือของเขาขึนมาอย่างรังเกียจแล้วตรวจ
สอบอย่างละเอียด

ใครจะรูว้ า่ พอนางจับข้อมือก็รูส้ กึ ถึงความเย็นเยียบใน


เนือผ้าของเขา

ดวงตาของนางพลันเปล่งประกายแล้วฉีกแขนเสือออก
ในทันที กําไลวงหนึงซึงมีการออกแบบอย่างประณีตได้
ปรากฏขึนตรงหน้านาง กําไลวงนันดูประณีตเป็ นพิเศษ
ตกแต่งด้วยเพชรพลอยหลากหลายสีสนั ส่องประกาย
ระยิบระยับ ทว่ามันดูหวือหวาเกินไปและไม่ใช่แบบทีมู่
ชิงเกอชอบ

72
“กําไลซวีหมี” กูหยาพูดนิงๆ

มูช่ ิงเกอยักคิวและเข้าใจในทันที

กําไลซวีหมีนี คงจะเป็ นพลังแห่งช่องว่างชนิดเดียวกันกับ


แหวนซวีหมี มีเพียงรูปร่างทีไม่เหมือนกันก็เท่านัน

พอเจ้าของตายแล้ว กําไลซวีหมีก็จะไร้ซงเจ้
ึ าของ พลัง
จิตของมูช่ ิงเกอเข้าไปภายในกําไลอย่างง่ายดาย ทันทีที
เข้าไป นางก็ถกู แสงหลากหลายสีสนั ส่องจนรูส้ กึ เวียนหัว

พอนางเห็นทุกอย่างอย่างชัดแจ้ง ก็พบว่ายอดฝี มือจาก


73
ต่างแดนผูน้ ีไม่ใช่แค่มงดี
ั ธรรมดา ในช่องว่างนันเต็มไป
ด้วยแก่นสมองหลากหลายสีสนั และมีจาํ นวนหลายแสน
อัน นอกจากนียังมีแผ่นหินทีส่องสว่างสดใส แต่จาํ นวน
นันน้อยมากมีเพียงแค่ไม่กีสิบอันเท่านัน

นางในตอนนีไม่รูว้ า่ แก่นสมองทีตนเองให้ความสําคัญ
นันเมืออยูใ่ นอีกดินแดนหนึงมันไม่ได้มีมลู ค่าอะไรเลย
และสิงทีมีคา่ ทีแท้จริงก็คือ แผ่นหินทีส่องสว่างสดใสพวก
นัน

นอกจากนีแล้ว นางยังค้นพบทักษะการสงครามภาค
พิภพระดับสูงอีกหลายเล่มแล้วยังมีทกั ษะการสงคราม
ภาคสวรรค์ระดับต้นอีกเล่มหนึง

74
ความโชคดีทีได้มาโดยบังเอิญนี ทําให้นางรูส้ กึ ดีใจ

ก่อนหน้านี นางยังกังวลว่าจะไปเสาะหาทักษะการ
สงครามมาให้องครักษ์เขียวมังกรฝึ กจากทีไหน ในตอนนี
ทักษะการสงครามทีหายากเหล่านีก็ได้ตกมาอยูใ่ นมือ
นางแล้ว จะไม่ให้นางปลืมปี ติได้อย่างไรกัน?

จัดการเก็บของในช่องว่างเสร็จแล้ว มูช่ ิงเกอก็พบป้ายคํา


สังแผ่นหนึงทีวางอยูใ่ นกล่อง

ป้ายแผ่นนีไม่มนใจว่
ั าทําจากอะไร เป็ นสีทองแดง ด้าน
หลังมีสญ
ั ลักษณ์อนั ลึกลับซึงไม่เคยเห็นมาก่อน ตรงหน้า

75
มีตวั อักษร *‘เล่อ’ สลักอยู่

เมือคิดทบทวนดูแล้ว มูช่ ิงเกอก็เกิดความคิดบางอย่าง


ในใจ นําสมบัติทงหมดภายในกํ
ั าไลซวีหมีไปไว้ในช่อง
ว่างของตนเอง แต่เอาแผ่นหินอันส่องประกายระยิบ
ระยับและป้ายนันไปแบตรงหน้ากูหย่า

“ข้ามีสองคําถาม หินนีคืออะไรและป้ายนีหมายความว่า
อย่างไร?” มูช่ ิงเกอเอ่ยถามตรงๆ

กูหยาก้มหน้าลง มองก้อนหินและป้ายครูห่ นึงแล้วพูด


ว่า : “หินในมือของเจ้าเป็ นหินพลังระดับตํา สามารถช่วย
ในการฝึ กพลังเวทได้ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้

76
แทนเงินได้ สําหรับป้ายแผ่นนัน คงจะเป็ นสัญลักษณ์
แสดงตัวตนของตระกูลใดตระกูลหนึง โดยปกติแล้ว
บุคคลทีเป็ นสมาชิกของตระกูลสายนอก จะเป็ นป้าย
ประจําตัวเป็ นป้ายทีทําจากไม้ กลับกันถ้าหากเป็ นสีทอง
แดงส่วนมากจะเป็ นสัญลักษณ์ของหัวหน้ากลุม่ สาย
นอก”

มูช่ ิงเกอหรีตา เอาหินพลังและป้ายเข้าไปยังช่องว่าง


แล้วจึงพูดว่า : “ถ้าเช่นนัน เจ้านีก็ถือเป็ นผูน้ าํ กลุม่ สินะ”

กูหยาเงียบไปสักพัก แล้วจึงพูดว่า : “เท่าทีข้ารูต้ ระกูล


พวกนีจะถูกแบ่งออกเป็ นหลายตระกูล ยิงลูกหลานสาย
นอกนันยิงนับไม่ถว้ น ผูน้ าํ กลุม่ สายนอกทีว่ามานี
ตระกูลเล็กๆ แม้จะมีไม่ถงึ หนึงร้อยคน แต่ก็มีหลายสิบ
77
คน ตระกูลระดับกลางก็มีเป็ นหลักร้อยและในตระกูล
ระดับสูงก็มากยิงขึนไปอีก”

มูช่ ิงเกอคิดทบทวนถึงคําพูดของกูหยา พลันพูดว่า : “เจ้า


หมายความว่า แม้วา่ เจ้านีจะมีฐานะอยูบ่ า้ ง แต่ก็ไม่ได้
เป็ นคนทีโดดเด่นอะไรมากนัก เรืองทีเขาตายอยูภ่ ายใน
หลินชวน จะไม่มีทางมีใครรู ้ แต่ถงึ แม้จะมีคนรู ้ ก็อาจจะ
ไม่เสียแรงและเวลามาตรวจสอบหรือคิดแก้แค้นใช่
ไหม ?”

กูหยาพยักหน้า : “พูดได้วา่ มันเป็ นไปตามเหตุผลทีมัน


ควรจะเป็ น ทว่าความจริงเป็ นเช่นใดนัน ไม่อาจมีผใู้ ดรู ้
ได้”

78
มูช่ ิงเกอเม้มปากเงียบ

เรืองมาถึงขันนี มูช่ ิงเกอก็ทาํ ได้เพียงค่อยๆ แก้ไขไปตาม


สถานการณ์แล้ว

เพียงแค่จดั การกับสถานทีนีให้เรียบร้อย แม้จะมีผใู้ ดมา


ตรวจสอบก็ไม่สามารถสาวไปถึงตัวนางได้

มูช่ ิงเกอหันหลัง เตรียมพร้อมจะจัดการกับร่างไร้


วิญญาณ

แต่ทว่า กูหยากลับยกมือขึนห้ามนางไว้ : “เมือเทียบกับ


79
การปกปิ ดสถานทีนีแล้ว ควรจะทิงเอาไว้เช่นนี ให้สตั ว์
ป่ าสามารถแบ่งอาหารกันตามธรรมชาติและยังทําให้อีก
ฝ่ ายไม่สามารถตรวจสอบได้”

มูช่ ิงเกอคิดทบทวนแล้ว ก็เห็นด้วยกับความคิดของกู


หยาและล้มเลิกความคิดทีจะจัดการกับร่างไร้วิญญาณ
นี

นางเตรียมตัวออกจากพืนทีแห่งนี แต่ทนั ใดนันก็หนั ไป


ถามกูหยา : “ในโลกทีแข็งแกร่งกว่าหลินชวน มีหลาย
ตระกูลหรือ?”

“.........” กูหยาเงียบ เขารูส้ กึ ว่าวันนีตนเองเหมือนจะพูด

80
มากเกินไปเสียแล้ว

หลังจากออกเดินทางไม่นาน นางก็พบกับโย่วเหอและ
ฮวาเยวีย

เมือทังสองนางเห็นมูช่ ิงเกอปรากฏตัวขึนอย่างปลอดภัย
ก็พลันร้องไห้โฮและวิงเข้ามาในในอ้อมกอดของนาง

มองทังสองนางทีร้องไห้ขีมูกโป่ ง มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ เหลือทน


แต่ก็ทาํ ได้เพียงแค่ปลอบใจ แล้วพาทังสองออกจาก
อาณาบริเวณของเสือดาวสะท้านเมฆา
81
หลังจากทีพวกเขาจากไป พืนทีแห่งนีก็หมดสินกลินไอ
จากอํานาจของเสือดาวสะท้านเมฆา

มองร่างทีฉีกออกเป็ นสองชิน เหล่าสัตว์ป่าทีหิวกระหาย


ต่างกลืนนําลายแล้วค่อยๆ เข้ามาใกล้รา่ งไร้วิญญาณ

แต่เมือพวกมันเข้าใกล้ ในขณะทีพวกมันพร้อมทีจะอ้า
ปากกิน ก็มีอะไรบางอย่างเกิดขึนอย่างกะทันหัน—

ร่างไร้วิญญาณทีอยูบ่ นพืน พลันปรากฏนําแข็งเกิดขึน


และห่อหุม้ ร่างนันเอาไว้ภายใน หลังจากนัน พืนดินทีอยู่
ใต้รา่ งนัน ก็ราวกับละลายกลายเป็ นนํา ดูดร่างนันลงไป

82
ใต้พืนดินและฝังมันเอาไว้

หลังจากนันไม่นานพืนปฐพีนีก็กลับมาเป็ นดังเดิม

แต่พลังกดดันอะไรบางอย่างก็ทะลุขนมาจากใต้
ึ พืนดิน
แผ่กระจายออกไปทัวสารทิศ ทําให้เหล่าสัตว์ป่าตืนกลัว
จนหนีกระจายออกไปและไม่กล้าเข้าไปใกล้อีก

ในชัวพริบตา ทุกอย่างก็กลับมาเงียบสงบ ราวกับไม่เคย


เกิดอะไรขึน

ในยามคําคืน มูช่ ิงเกอก็คน้ พบถําสัตว์รา้ งถําหนึงและใช้


ถํานีในการพักผ่อนในคําคืนนี ทังโย่วเหอและฮวาเยวีย
83
ต่างก็ออกไปหาอาหารและนําดืม มีเพียงมูช่ ิงเกอทีพัก
ผ่อนอยูภ่ ายในถํา

จิตสํานึกของมูช่ ิงเกอทีกําลังหลับตา ได้เข้าไปสูช่ ่องว่าง


ของตนเอง

แก่นสมองของสัตว์ป่าทีกองเป็ นภูเขานัน เป็ นตัวบ่งบอก


ถึงความมังคังรํารวยเชียวนะ !

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอทีเดิมคิดว่าจะกอด ‘เงินทอง’ แล้วหลับ


ไปอย่างสบายใจนัน หลังจากทีเข้าไปยังช่องว่างก็เกิด
ตกใจเมือพบว่า แก่นสมองของสัตว์ป่าทีเก็บสะสมมาได้
หายไปจํานวนหนึง

84
“นีมันเกิดอะไรขึน” มูช่ ิงเกอมองหาทุกซอกทุกมุมของ
ช่องว่างด้วยความฉงนใจ

นางจําได้แม่นว่า ก่อนหน้านีภายในช่องว่างแห่งนี กอง


เต็มไปด้วยแก่นสมองของสัตว์ขนสู
ั งทีชิงมาจากยอด
ฝี มือต่างแดนผูน้ นั แต่ตอนนีกลับพบว่า มันว่างเปล่าเช่น
นี แก่นสมองจากสัตว์ทีมีความสามารถในขันครามถึง
ม่วงต่างก็หายไปอย่างไร้รอ่ งรอย

ยืนอยูท่ ีเดิม หมุนตัวไปรอบๆ พืนทีทังหมดในช่องว่างอยู่


ในสายตาของมูช่ ิงเกอ ทันใดนันนางก็เกิดสงสัยและพบ
ว่ามีอะไรหายไปอีกอย่าง

85
แผ่นหินพลังระดับตําทังสิบกว่าแผ่นก็เหมือนจะหายไป
หมดแล้ว!

เวรเอ๊ย !ใครวะ !

มูช่ ิงเกอเกิดโทสะ กว่านางจะได้ของพวกนีมานันไม่ใช่


ง่ายๆ เลย แต่กลับหายไปอย่างไม่มีปีมีขลุย่ เช่นนี

โดยเฉพาะหินพลังนัน นางยังไม่เคยได้ยินมาก่อนใน
หลินชวน

นันเป็ นของลําค่า นางยังไม่ทนั ได้สมั ผัสมันเท่าไหร่เลย


86
แต่กลับหายไปเสียแล้ว?

ในแววตาอันสว่างของมูช่ ิงเกอเปี ยมไปด้วยไอสังหาร

ทันใดนัน เสียงสะอึกหนึงดังหนึง

มูช่ ิงเกอตกใจ พลันหันหลังกลับไปหา : “ใคร!” มีอะไร


บางอย่างเข้าสูช่ ่องว่างของนาง เป็ นไปได้อย่างไรกัน? นี
มันผิดเพียนไปจากตรรกะทีมีอยูน่ ะ !

น่าเสียดาย ทีไม่มีใครตอบคําถามของนาง

87
มูช่ ิงเกอขมวดคิว พลางคิดทบทวน

ทันใดนัน แก่นสมองลูกหนึงก็ลอยขึนตรงหน้านาง แล้ว


แตกกระจายเป็ นแสงหลากหลายสีสนั ลอยไปยัง
ตําแหน่งใดตําแหน่งหนึงของช่องว่าง

มูช่ ิงเกอมองตาม แต่กลับเห็นเพียงแค่แสงหลากหลาย


สีสนั ทีมาหยุดอยูบ่ นกล่องและห่อหุม้ มันเอาไว้ แล้วพลัน
หายไปในทันที

แววตากระจ่างเบิกตาโพลง มูช่ ิงเกอจ้องกล่องใบทีคุน้


เคย ราวกับว่านางได้หาโจรทีขโมยแก่นสมองและหิน
พลังเจอแล้ว !

88
*เล่อ มาจาก 乐 แปลว่า ความสุข

89
ตอนที 87-1 หัวขโมยในช่องว่าง !

หากเมือก่อนมีคนบอกนางว่ากล่องสามารถกินอาหารได้

มูช่ ิงเกอคงจะยิมเยาะประชดแดกดัน

หากมีคนมาบอกกับนางอีกว่า บางอย่างทีสามารถกิน
หรือสามารถสะอึกได้ไม่ใช่กล่อง แต่เป็ นป้ายไร้อกั ษรที
อยูใ่ นกล่องต่างหาก นางก็คงจะหัวเราะเยาะให้ความ
เขลาของคนผูน้ นั

1
แต่เมือมันมาเกิดขึนตรงหน้า เกิดขึนอยูใ่ นสายตาของ
นาง นางกลับหัวเราะไม่ออก

เพียงรูส้ กึ ว่ากลินไอทีแสนจะแปลกประหลาดบางอย่าง
เกิดขึนในช่องว่างของตนเอง

มูช่ ิงเกอขมวดคิวแน่น พลางจ้องเขม็งไปยังกล่องไม้ที


เกิดการเปลียนแปลง ซึงก็หมายรวมไปถึงป้ายทีวางอยู่
ในกล่องไม้ดว้ ย

กล่องใบนัน หลังจากมันรูว้ า่ ถูกจับได้แล้วว่าแอบขโมย


กิน ก็กลับเปิ ดฝาของตนเองออกและกินแก่นสมองสัตว์
ของนางอย่างเปิ ดเผย !

2
นีเป็ นการยัวโทสะโดยแท้

มูช่ ิงเกอราวกับจะได้ยินเสียงขบกรามจากการกัดฟั นของ


ตัวเอง

ป้ายไร้อกั ษรวางอยูใ่ นกล่องอย่างสงบ แสงหลากหลาย


สีสนั เหล่านันทะลวงผ่านกล่องไปหยุดทีตัวมันแล้วพลัน
หายไปอย่างไร้รอ่ งรอยราวกับโดนกลืนกินเข้าไปอย่าง
นัน

สิงทีน่าประหลาดมากทีสุดก็คือ การกลืนแสงในทุกๆ
ครัง ราวกับว่าจะทําให้ปา้ ยไร้อกั ษรนันส่องสว่างมากยิง

3
ขึน

นีคือเหตุผลทีแท้จริงทีมูช่ ิงเกอไม่ได้หยุดยังการกระทํา
ของมัน

นางจําได้วา่ คุณตัวประหลาดเคยบอกไว้วา่ ป้ายนี มีสว่ น


เกียวข้องกับโบราณสถานบางอย่าง เป็ นกุญแจสําคัญ
ในการเข้าสูช่ ่องว่างของโบราณสถานนัน ขอแค่ได้รบั
การยอมรับเท่านัน

ช่องว่างทีถูกทิงร้างนัน สามารถเข้าออกได้โดยใช้ปา้ ย
แผ่นนีและหากโชคดีก็อาจกลายเป็ นเจ้าของช่องว่างนัน
ได้

4
ความโชคดีสดุ อัศจรรย์เช่นนีจะเกิดขึนกับตัวนางหรือ ?

ทันใดนัน ในใจของมูช่ ิงเกอพลันเต็มไปด้วยความหวัง


ถึงกระทังว่า เรืองทีถูกโจรกรรมแก่นสมองก็ดเู หมือนจะ
ไม่ทาํ ให้นางโกรธแล้ว

ในตอนนี นางแทบจะอยากเอาแก่นสมองทังหมดโยน
เข้าไปภายในป้ายไร้อกั ษร เพือให้มนั กินจนอิมหนํา

ดวงตาทังสองข้างของมูช่ ิงเกอจ้องมองป้ายทีกําลังกลืน
กินแก่นสมองสัตว์เข้าไปราวกับหลุมดําทีไร้ซงจุ
ึ ดสินสุด
ไม่นานแก่นสมองกองสูงตระหง่านก็เหลือเพียงครึงเดียว

5
ในขณะนี นางรูส้ กึ ได้วา่ ภายนอกนันโย่วเหอและฮวาเย
วียได้กลับมาแล้ว

เมือไตร่ตรองดูแล้ว นางจึงหันหลังออกจากช่องว่าง

มองไปยังป้ายไร้อกั ษรทีตะกละตะกลาม คาดว่าคงจะไม่


มีการเปลียนแปลงใดๆ เกิดขึนภายในเร็ววันนี แต่เรืองที
นางมีพลังช่องว่าง นางยังไม่พร้อมทีจะให้ทงสองนางรั
ั บ
รู ้

ตอนทีมูช่ ิงเกอลืมตาทังสองข้างขึนมา ก็ประจวบเหมาะ


กับทีโย่วเหอและฮวาเยวียเดินเข้ามาในถําพอดี

6
ในมือของโย่วเหอถือกระต่ายป่ าทีจัดการมาเรียบร้อย
แล้ว

ฮวาเยวียถือฟื นและยังมีกระบอกนําทีไปตักมาจาก
ลําธาร

“คุณชายคงหิวแล้ว พวกบ่าวจะเตรียมอาหารให้เดียวนี”
โย่วเหอพูดพร้อมรอยยิม

หลังจากฮวาเยวียวางฟื นลง ก็ยืนกระบอกนําทีทําจาก


หนังสัตว์ไปตรงหน้ามูช่ ิงเกอ พูดว่า : “คุณชาย ดืมนําสัก
หน่อย”

7
มูช่ ิงเกอยืนมือไปรับกระบอกนํา ดืมไปหลายอึก

ฮวาเยวียเดินไปอยูด่ า้ นหลังของนาง มือนุ่มละมุนราวกับ


ไร้กระดูกวางลงบนไหล่ของนางแล้วนวดไหล่ให้นางรูส้ กึ
ผ่อนคลาย

เพลิดเพลินไปกับการบริการของสาวงาม มูช่ ิงเกอก็


ค่อยๆ หลับตาลงอีกครัง

ทันใดนัน นางรูส้ กึ ว่าช่องว่างของนางมีการสันสะเทือน


เกิดขึน

8
ศีรษะของนางพลันเจ็บปวดราวกับมีเข็มจํานวน
มหาศาลทิมแทง ทําให้นางขมวดคิวอย่างอดไม่ได้

นางเกร็งร่างกายอย่างกะทันหัน ทําให้ฮวาเยวียหยุดการ
เคลือนไหวทีมือ ถามอย่างระมัดระวังว่า : “คุณชาย บ่าว
นวดแรงไปหรือเจ้าคะ?”

มูช่ ิงเกอเม้มริมฝี ปากแน่น ไม่สามารถตอบอะไรนางได้

ความเงียบของนาง ทําให้โย่วเหอและฮวาเยวียยิงตืน
ตระหนก วางทุกอย่างในมือลง แล้วเข้ามาข้างๆ ตัวนาง

“คุณชาย ท่านไม่ได้เป็ นอะไรใช่หรือไม่?”


9
“คุณชาย ท่านเป็ นอะไรไปเจ้าคะ?”

เสียงทีแฝงด้วยความกังวลดังเข้ามาในหู

ทว่ามูช่ ิงเกอรูส้ กึ เพียงว่าพลังจิตของตนเองกําลังเจ็บ


ปวดทรมานราวกับถูกกรีดคว้านอย่างไรอย่างนัน ทีหน้า
อกก็รูส้ กึ คลืนไส้และอยากจะอาเจียนออกมา

ความรูส้ กึ ประหนึงท้องฟ้ากําลังหมุนนี ทําให้นางไม่มีกะ


จิตกะใจจะมาตอบคําถามของทังสองนาง

สีหน้าของมูช่ ิงเกอพลันเปลียนเป็ นซีดเผือด เหงือเม็ด


10
ใหญ่ทาํ ให้เส้นผมนางเปี ยกชืน เหงือไหลลงมาตามแก้ม
ริมฝี ปากทีเม้มแน่นนันขาวซีดราวกับไร้ซงเลื
ึ อดมาหล่อ
เลียง

“เหตุใดอยูๆ่ ถึงเป็ นเช่นนีไปได้?” ฮวาเยวียมองโย่วเหออ


ย่างตืนตระหนก

โย่วเหอเองก็ไม่ทราบ จึงทําได้เพียงส่ายหน้า

เมือไม่รูว้ า่ เกิดอะไรขึนกับคุณชาย พวกนางไม่กล้าเอา


ยาให้คณ
ุ ชายกินสุม่ สีสุม่ ห้าเสียด้วย ! หากเกิดกินยาผิด
ชนิดแล้วอาการหนักกว่าเดิมจะทําอย่างไร

11
อีกทัง การทีพวกเขาได้รบั การแปลงเปลียนดีเอ็นเอต่างก็
มีระดับของการรักษาและความสามารถในการป้องกัน
พิษได้ การเข้ามาภายในเทือกเขาฉินครังนีจึงไม่ได้พกยา
อะไรมาเป็ นพิเศษ มีเพียงแค่ผงยาห้ามเลือดธรรมดา
และโอสถทีใช้รกั ษาบาดแผลภายนอกเท่านัน โดยทัง
หมดนีต่างก็ได้มาจากคุณชาย

ยาเหล่านี ดูเหมือนว่าไม่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ในตอนนีได้

“เราจะรอความตายโดยไม่ทาํ อะไรเลยเช่นนีไม่ได้!” ฮวา


เยวียพูดทังนําตา

12
โย่วเหอเงยหน้าขึนมองฮวาเยวีย ทําไมนางจะไม่รูเ้ หตุผล
ข้อนี แต่มนั ไม่มีวิธีนี !

ทันใดนัน มูช่ ิงเกอก็ดเู หมือนพยายามทีจะเบิกตาทังสอง


ข้างขึน มองทังสองนางพลางพูดว่า : “ไม่มีอะไร ข้ากําลัง
จะทะลวงขันพลัง พวกเจ้าทังสองคอยคุม้ กันและห้าม
รบกวนข้า”

นางพยายามเปล่งเสียงพูดออกมาได้เพียงไม่กีคํา มูช่ ิงเก


อก็หลับตาลงไปอีกหน

ทะลวงขันพลัง? !

13
การทะลวงขันพลังอะไรกัน ทําไมถึงได้ดผู ิดปกติเช่นนี?

โย่วเหอและฮวาเยวียอึงงันไป แต่ถงึ แม้วา่ ในใจของพวก


นางจะมีความสงสัย ทว่าในขณะนีพวกนางก็เลือกทีจะ
เชือในคําพูดของมูช่ ิงเกอ

เพราะในขณะนี พวกนางไม่สามารถทําอะไรได้เลยและ
มูช่ ิงเกอเองก็คงไม่เอาความเป็ นความตายของตนเองมา
ล้อเล่นแน่

ทังสองต่างหันมามองกันครูห่ นึง พลันถอยออกไป หลัง


จากทีปิ ดบังปากถําเอาไว้ก็ยืนเฝ้าอยูข่ า้ งนอกถําพลาง
สังเกตสถานการณ์ภายในถําและเฝ้าดูความเคลือนไหว

14
รอบๆ ไปด้วย

เมือสังให้ทงสองออกไปแล้
ั ว มูช่ ิงเกอก็จมลงสูค่ วามเจ็บ
ปวดดังร่างและวิญญาณกําลังจะแยกออกจากกัน

นางรูส้ กึ ได้อย่างชัดเจนว่า ช่องว่างของนางราวกับถูก


โจมตีจากพลังภายนอกและกําลังพยายามแยกช่องว่าง
และพลังจิตของนางออกจากกัน

นางจะไม่ยอมให้เรืองแบบนีเกิดขึนเป็ นอันขาด !

ด้วยความกล้าหาญและแน่วแน่ มูช่ ิงเกอเข้าไปยังช่อง


ว่างทีสันสะเทือนของตนเองอีกครัง
15
ในตอนนี ช่องว่างทีสันสะเทือนราวกับแผ่นดินกําลังสัน
ไหว มีรอยร้าวเกิดขึนรอบๆ แก่นสมองของสัตว์ทงหมดก็

ได้หายไปหมดแล้ว ส่วนทีเหลือ ก็ลอยอยูใ่ นช่องว่าง
ประหนึงไร้นาหนั
ํ ก

ภายในกล่องไม้ ป้ายแผ่นนันกําลังส่องแสงเจิดจ้า

เมือมันกินแก่นสมองสัตว์วิญญาณและหินพลังทีมูช่ ิงเก
อเก็บสะสมมาจนหมดสินแล้ว ก็ราวกับว่าเป้าหมายหลัก
ต่อไปของมันก็คือ ช่องว่างของมูช่ ิงเกอ

16
ตอนที 87-2 หัวขโมยในช่องว่าง !

17
เศษซากปรักหักพังของช่องว่างทีแตกหัก ถูกดูดเข้าไป
ภายในป้ายและกลายเป็ นแสงสว่างสดใสแห่งพลังให้กบั
มัน

‘นีนางถูกป้ายแผ่นหนึงเล่นแง่ใส่อย่างนันรึ!’ มูช่ ิงเกอก่น


ด่าในใจพลางเดินเข้าหาป้าย

ราวกับว่า นางอยากจะโยนป้ายเฮงซวยแผ่นนีออกจาก
ช่องว่างของนาง

แต่ทว่า ในทันทีทีมือของนางสัมผัสกับป้ายไร้อกั ษร ภาย


18
ในป้ายก็เกิดแรงดึงดูดอันมหาศาล ห่อหุม้ ตัวนางและ
พลันดึงตัวนางเข้าไปในทันที

นางตกใจจนอ้าปากค้างและเบิกตาโต

ร่างกายของนางพลันกลายเป็ นแสงสีแดงส่องประกาย
แสงหนึงและถูกป้ายดูดเข้าไป หายวับไปกลางอากาศ

จิตใต้สาํ นึกในการต่อต้านของช่องว่างก็ถกู กลืนกินไป


พร้อมกับการหายตัวไปของมูช่ ิงเกอ รวมถึงช่องว่างที
เป็ นของมูช่ ิงเกอ ช่องว่างทีเคียงคูก่ บั นางมาตังแต่
อดีตชาติก็ได้กลายเป็ นแสงสีขาวเป็ นประกายแสงหนึง
แล้วถูกดูดกลืนเข้าไปอยูใ่ นป้าย พร้อมกับสมบัติทีอยู่

19
ภายในช่องว่างก็หายไปด้วย

ภายในถํา มูช่ ิงเกอราวกับตกอยูใ่ นสภาวะจําศีล ทังนิง


สงบ รวมทังการหายใจและการเต้นของหัวใจก็ออ่ นแรง
จนแทบจะไม่สามารถสัมผัสได้

นางนังขัดสมาธิโดยไม่สนใจสิงรอบข้าง ใบหน้าอันงด
งามของนางนิงสงบดังรูปปั น

มีเพียงชุดสีแดงทียังคงแพรวพราวเจิดจ้าดังดวงอาทิตย์
ส่องประกายความเย้ายวนและแสดงให้เห็นถึงความ
สมบูรณ์แบบของนางเท่านัน

20
“ทีนีทีไหน?” เมือเข้าไปยังช่องว่างทีเชือมต่อกับป้าย มู่
ชิงเกอมองหมอกสีขาวนวลรอบๆ พลางพูดกับตนเอง

ความรูส้ กึ ไม่สบายทางกาย ได้หายไปแล้ว

ทว่า นางยังคงไม่มนใจ

นางถูกป้ายพามาอยูท่ ีใดกันแน่?

ทันใดนัน หมอกสีขาวก็จางลงพลันค่อยๆ ปรากฏให้เห็น


ถึงโลกใบใหม่อีกใบอันมีทอ้ งฟ้าและผืนดินทีไม่คนุ้ เคย มู่
ชิงเกอมองดูการเปลียนแปลงทีเกิดขึนตรงหน้า ดินแดน
ทีเต็มเปี ยมไปด้วยความอัศจรรย์อนั งดงามได้สอ่ ง
21
สะท้อนอยูภ่ ายในดวงตาของนาง

ด้านบนของภูเขา มีลมพัดและก้อนเมฆลอยไปมา

ท้องฟ้าเป็ นสีมว่ ง ซึงเป็ นสิงทีมูช่ ิงเกอเคยเห็นเป็ นครัง


แรก

ท่ามกลางภูเขาทีสลับซับซ้อน รายล้อมไปด้วยเมฆ
หมอกสีขาวนวล คล้ายจะซ่อนเร้นและปรากฏชัดใน
ขณะเดียวกัน นําตกในภูเขาไหลลงสูแ่ ม่นาโดยตรง
ํ งด
งามและสูงศักด์ดงสายทางช้
ั างเผือก บริเวณถัดจากนัน
ไม่ไกล สิงทีถูกปกคลุมด้วยหมอกสีฟา้ อ่อนจางคือทุง่
ดอกกก เป็ นสีขาวดุจดังหิมะทีละเอียดลออ ดอกไม้ทีส่ง

22
กลินหอมโชยเอนตัวเข้าหากันประดุจกําลังกระซิบ
กระซาบกันเกียวกระหวัดไม่มีทีสินสุด

กลินหอมโชยของดอกไม้ลอยมาแตะจมูก ทําให้รูส้ กึ ผ่อน


คลายและมีความสุข คลายความทุกข์โศกกังวลออกมา
ประหนึงได้รบั ยาวิเศษ

พืนทีอันติดกับดอกกก มีลาํ ธารส่องแสงสีฟา้ เข้มเป็ น


ประกายทอดยาวสุดขอบฟากฟ้า เสียงนําไหลไม่ขาด
สาย มีตน้ ไม้แก่ซงยากจะสามารถคาดเดาได้
ึ วา่ อายุเท่า
ไหร่ ทอดยาวไปตามแม่นาํ ต้นไม้สีเขียวหยกส่ายไปมา
ตามแรงลม ราวกับกําลังกระซิบบอกเล่าเรืองราวแต่หน
หลังอันแสนไกล

23
ตรงหน้า มีตน้ ไม้แก่ทีแผ่กิงก้านสาขาออกไปอย่างคด
เคียวตังตระหง่านอยูร่ ะหว่างฟ้ากับดิน ดังร่มคันใหญ่ทีมี
มาแต่บรรพกาล ใบไม้เขียวเป็ นประกายร่วงโรยลงจาก
ยอดไม้ ดังหยกทีแตกหักก็ไม่ปาน

อย่างไรก็ตาม เมือพวกมันตกลงสูพ่ ืนดิน กลับกลายเป็ น


แสงสีเขียวอันเป็ นเปล่งประกายและถูกดูดเข้าไปภายใน
ผืนดิน จากนันก็ไหลกลับสูต่ น้ ไม้แก่ ทําให้ตน้ ไม้แก่เขียว
ขจีมากขึนอีกหนึงส่วน

ใต้ตน้ ไม้ มีบา้ นทีสร้างจากใบกก เรียบง่ายทว่ายังคง


ความสง่างามและมีความโดดเด่นปรากฏอยู่

24
มูช่ ิงเกอจ้องทุกอย่างอย่างตืนตระหนก รูส้ กึ ราวกับอยูใ่ น
ห้วงแห่งความฝัน

นางก้าวไปข้างหน้า เหมือนจะไม่มีอปุ สรรคใด ๆ

นางเดินมาหยุดบริเวณข้างกระท่อมอย่างง่ายดาย นาง
หยุดฝี เท้า หันหลังและเดินไปยังทิศทางหนึง พอนางเดิน
ไปถึงทุง่ ดอกกก ทันใดนันก็ถกู พลังโปร่งแสงบางอย่าง
ผลักตัวนางออกมา

มูช่ ิงเกอเคลือนสายตาไปยังอีกทิศทางหนึงอย่างนิงสงบ

25
เมือนางเดินห่างออกไปอีกร้อยเมตร ก็ยงั คงถูกขวางทาง
เอาไว้อีกครัง ทําได้เพียงแค่ยอ้ นกลับ นางค่อยๆ ค้นพบ
เมือทําการทดลองหลายครังว่า ตนเองทําได้เพียงยึด
ต้นไม้แก่เป็ นศูนย์กลางและเคลือนไหวอยูใ่ นรัศมีรอ้ ย
เมตรของต้นไม้

พืนทีนอกเหนือจากนัน แม้นางมองเห็นแต่ไม่สามารถ
เข้าใกล้ได้

มูช่ ิงเกอกลับไปยังหน้าประตูกระท่อมอีกครัง การที


กระท่อมขนาดเล็กหลังนีปรากฏขึนทีนีกระตุน้ ความ
อยากรูอ้ ยากเห็นของนาง

26
เม้มปากคิดทบทวน นางก้มตัวแล้วเข้าไปข้างใน------

ทันใดนัน สายตาของนางก็เบิกกว้าง

พืนทีทีสะท้อนอยูใ่ นดวงตามากกว่าข้างนอกเกือบจะสิบ
เท่า

แม้วา่ มันจะถูกมุงด้วยต้นกกเหมือนกัน แต่ก็ถกู แบ่งออก


เป็ นห้องๆ โดยด้านหน้ามีสามห้องและด้านหลังมีหนึง
ห้อง

สามห้องทีอยูด่ า้ นหน้า อยูเ่ รียงติดกัน หนึงในห้องนัน มี


สมบัติทีมูช่ ิงเกอสะสมเอาไว้ก่อนหน้านี รวมทังทักษะ
27
ทางสงครามรวมไปถึงยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอทีเหลืออยู่
เพียงแค่หลอดเดียว

ดวงตาของมูช่ ิงเกอส่องประกาย รีบเดินไปในทิศทางนัน


อย่างรวดเร็ว

เมือตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าสมบัติพวกนันอยูใ่ นนีจริง
นางก็โล่งใจไปบ้าง

หลังจากนัน นางเข้าไปในอีกห้องหนึง ซึงมีเตาทีมีรูป


แบบเก่าแก่ราวกับว่าเป็ นห้องทีเตรียมไว้เพือรองรับการ
ปรุงโอสถของนางโดยเฉพาะ

28
นางตาเป็ นประกายอีกหน มูช่ ิงเกอเข้าไปยังห้องทีสาม

ภายในห้องมีการตกแต่งทีแปลกมากขึนไปอีก นอกเหนือ
ชันวางของทีเรียงตัวกันแล้ว ตรงกลางมีเตาผิงวางอยู่
บริเวณเตา มีบอ่ นําเย็นอันใสบริสทุ ธิ

มูช่ ิงขมวดคิว ไม่วา่ จะมองอย่างไรก็คล้ายร้านช่างตี


เหล็ก

เดินสํารวจภายในห้องรอบหนึง เมือไม่มีการค้นพบอืนใด
มูช่ ิงเกอจึงเดินไปยังหลังบ้านตามทางเดิน

ช่องว่างทีอยูข่ า้ งหลัง ใหญ่กว่าห้องทังสามห้องทีอยูด่ า้ น


29
หน้ารวมกัน

ขณะทีนางเดินเข้าไปใกล้ นางรูส้ กึ ถึงกลินไอแห่งความ


ปี ติยินดีทีเกิดขึนกับตัวนาง ราวกับว่ามีธาตุอะไร
บางอย่างทีคุน้ เคยกําลังใกล้เข้ามา

เมือนางเดินเข้าไป ร่างกายของนางก็ถกู ปกคลุมไปด้วย


แสงสีมว่ งอมฟ้าแล้วค่อยค้นพบด้วยความประหลาดว่า
สิงทีทําให้นางรูส้ กึ คุน้ เคยมันคืออะไรกันแน่

“ธาตุสายฟ้าแข็งแกร่งมาก!” มูช่ ิงเกอมองบ่อของเหลวสี


ม่วงทีอยูต่ รงหน้าด้วยความตืนตระหนก

30
ธาตุสายฟ้าทีนี ราวกับกําลังพลังกระตุน้ สายฟ้าภายใน
ร่างกายของนาง ทําให้มือของนางเต็มไปด้วยสายฟ้าสี
ม่วง

เมือค่อยๆ ยกมือขึนมา มูช่ ิงเกอมองมือทังสองข้างของ


ตัวเอง สลับกับบ่อทีเต็มไปด้วยธาตุสายฟ้า ภายในใจ
ถามตนเองครังแล้วครังเล่าว่า ทีนีคือทีไหนกันแน่?

ทันใดนัน นางก็ได้คน้ พบว่าเหนือบ่อนํามีรงั ไหมขนาด


ใหญ่สีเงินเป็ นประกายห่อหุม้ อะไรบางอย่างอยู่ สายฟ้า
ทีเกิดขึนภายในบ่อนํา เลือยเข้าไปยังรังไหมดังงูและหาย
ไปอย่างไร้รอ่ งรอย

31
“ทีนีคือมันทีใดกันแน่” เกิดความสับสนขึนภายในใจของ
มูช่ ิงเกอ

นางกําลังรูส้ กึ ราวกับว่า ทุกอย่างภายในนีล้วนถูกเนรมิต


ขึนมาได้อย่างเหมาะสมกับตัวนาง

แต่ทว่า ก็มีบางอย่างทีดูแล้วยังไม่คอ่ ยเข้าใจ

“เจ้านาย ของขวัญทีข้าเตรียมไว้สาํ หรับท่าน ท่านชอบ


หรือไม่?” ทันใดนันเสียงอันอ่อนละมุนก็ดงั ขึนอย่างไม่
คาดคิด

มูช่ ิงเกอฉงนใจ หันหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่


32
พบใครเลย

“เจ้านาย ข้าอยูท่ ีนีไงล่ะ!” เสียงอ่อนละมุนดังขึนอีกหน

ครังนี ทีมาของเสียงราวกับจะมาจากบริเวณข้างเท้า

มูช่ ิงเกอก้มลงไปตามทีมาของเสียง พลางขมวดคิว นาง


เห็นอะไรอย่างนันน่ะหรือ? บนรองเท้าของนางมีหมัด
อ้วนๆ ตัวหนึง กระโดดโลดเต้นไปมาไม่หยุด

และเจ้านีก็ยงั เรียกนางว่าเจ้านายไม่ขาดปากอีก? !

33
“เจ้าเป็ นตัวอะไรกัน?” มูช่ ิงเกอปากกระตุกพลางถาม

“ข้าไม่ใช่ตวั อะไรนะ ข้าคือจิตแห่งศาสตราของช่องว่าง


แห่งนี!” หมัดตัวน้อยกระโดดโลดไปตามเสือผ้าของมูช่ ิง
เกอและท้ายสุดก็มาหยุดตรงไหล่ของนาง

ตอนนี มูช่ ิงเกอจึงกระจ่างว่า จิตแห่งศาสตราทีว่านีก็


เหมือนการย่อส่วนจนมีขนาดเล็กทีสุดของเด็กน้อยอายุ
ประมาณ 2 ถึง 3 ขวบ

34
ตอนที 87-3 หัวขโมยในช่องว่าง !

ความสูงของตัวมันไม่สงู เลยจากนิวหัวแม่มือของนาง ตัว

35
อ้วนกลมดูเล็กกระจุ๋มกระจิมเป็ นทีสุด ใบหน้าน่ารัก ดวง
ตาดวงเล็กละม้ายคล้ายองุ่น แก้มน้อยป่ องๆ สีชมพู
ปากเล็กๆ แดงดังผลอิงเถา กลางหน้าผากยังแต้มจุดสี
แดงไว้หนึงจุด

บนหัวมัดแกละสองข้าง ร่างกายมีเพียงเอียมสีแดงปก
ปิ ดร่างกายอยู่ เผยให้เห็นก้นอันเต็มเปี ยมไปด้วยเนือ
โผล่ออกมาอยูข่ า้ งนอก

เจ้าตัวทีนางสามารถบีบให้ตายคามือได้ กลับบอกว่าตน
เองเป็ นจิตแห่งศาสตรา มูช่ ิงเกอรูส้ กึ ว่ามุมมองเกียวกับ
โลกของนางได้ถกู พังลงอีกครัง

36
และทีสําคัญคือ นางกลายเป็ นเจ้านายของเจ้านีตังแต่
เมือไหร่กนั ?

มูช่ ิงเกอหันข้าง มองไปยังเจ้าตัวน้อยทีกําลังตีลงั กา


อย่างมีความสุขอยูบ่ นไหล่ของนาง พลางถามว่า “ทางที
ดีเจ้าควรจะอธิบายมาให้ขา้ ฟั งให้ละเอียด ว่าเรืองมัน
เป็ นอย่างไรกันแน่”

เจ้านันตกตะลึง มันทําปากจู๋พดู อย่างอึดอัดใจว่า : “ข้า


ชือว่า *เหมิงเหมิง ต่างหากเล่า ”

“......” มูช่ ิงเกอยิมจางๆ แอบวิจารณ์ในใจว่า : ชืออันน่า


รังเกียจเช่นนี ใครเป็ นคนตังกัน!

37
ใครจะคาดคิดว่า เหมิงเหมิงทีตัวเท่านิวหัวแม่มือนี ราว
กับจะได้ยินคําพูดในใจของมูช่ ิงเกอ เพราะมันตอบกลับ
ว่า : “แน่นอนว่าต้องเป็ นเจ้านายคนก่อนของข้าน่ะสิ!”
เสียงอันอ่อนละมุนมีความกระเง้ากระงอดเพิมขึนมา
หลายส่วน ยิงทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ ครันเนือครันตัวไปหมด

“พูดจาดีๆ ไม่ได้รไึ ง!” มูช่ ิงเกอขมวดคิวแน่น

เหมิงเหมิงเบิดตากว้างอย่างน้อยใจ ยกนิวชีของตนเอง
ขึนมาแล้วพูดกับนิวนันว่า : “ข้าพูดดีๆตังแต่แรกแล้วนะ”

หมดความอดทน มูช่ ิงเกอยืนมือออกไปอย่างรวดเร็ว จับ

38
เหมิงเหมิงทีอยูบ่ นไหล่ของนาง พลางพูดอย่างโหด
เ**◌้ยมว่า : “หากไม่อยากให้ขา้ บีบเจ้าจนตาย ก็ควรจะ
ตอบคําถามข้ามาเสียดีๆ”

*萌萌 (คําสแลง) แปลว่า น่ารัก

“แงๆๆ เจ้านายช่างรุนแรงและโหดเ**◌้ยมนัก!” ท่าทาง


ของเหมิงเหมิงไร้ซงความกลั
ึ ว นําเสียงราวกับตังใจยัว
โทสะนางมากขึนกว่าเดิม

เมือมันเห็นว่าสีหน้าของมูช่ ิงเกอฉายแววโหด
เ**◌้ยมมากขึนเรือยๆ จึงย่นจมูก พลางพูดอย่างไม่เต็ม
ใจนัก : “เอาน่า! ข้าไม่มีเพือนคุยมาเป็ นเวลาเนินนาน

39
ผ่อนผันให้สกั ครังไม่ได้หรือไรเล่าเจ้านายใจร้าย!”

จากนันมันก็ไขข้อข้องใจทุกอย่างออกมา ภายใต้สายตา
อันเย็นเยียบของมูช่ ิงเกอ

มันเป็ นจิตแห่งศาตราผูค้ วบคุมดูแลช่องว่างแห่งนีจริงๆ


โดยพืนทีทีจัดการควบคุมก็คือช่องว่างทีเชือมต่อกับป้าย
ไร้อกั ษรแผ่นนัน

จริงๆ แล้ว ช่องว่างทีสามารถเข้าถึงได้โดยใช้ปา้ ยไร้


อักษรแผ่นนันได้ถกู ทิงให้รา้ งไปแล้วตังแต่สมัยอดีตกาล
ต่อมาได้พบกับยอดฝี มือผูห้ นึง ซึงก็คือเจ้าของคนเดิม
ของเหมิงเหมิง เขาหลอมรวมช่องว่างนีให้กลายเป็ นช่อง

40
ว่างอิสระทีอยูภ่ ายนอกและเหมิงเหมิงก็ได้กาํ เนิดขึนมา

ภายหลัง เจ้านายของนางได้สนชี
ิ พ นางจึงตกอยูใ่ นห้วง
นิทรา

หากไม่ใช่เพราะมูช่ ิงเกอ ยัดแก่นสมองสัตว์ป่า แผ่นหิน


พลัง ป้ายไร้อกั ษรนีเข้าไปไว้ดว้ ยกันและยังมีช่องว่างที
เป็ นของตัวเอง และของพวกนีก็ถกู เหมิงเหมิงกลืนกินเข้า
ไปจึงกระตุน้ ให้นางตืนขึนมาแล้วล่ะก็ ไม่เช่นนัน นางก็
คงยังอยูใ่ นห้วงนิทรา

“ถ้าเช่นนัน เจ้ากลืนกินช่องว่างของข้าไปแล้วหรือ?” ดวง


ตาของมูช่ ิงเกอหรีเล็กและแฝงไออันตรายอีกครัง

41
เหมิงเหมิงสะดุง้ ไปคราหนึง พลันรีบโบกมืออธิบายว่า:
“ตอนนีเหมิงเหมิงนีแหละทีเป็ นช่องว่างของเจ้านาย เหมิ
งเหมิงเก่งกว่าเจ้าของเก็บสมบัติระดับตําทีทําได้เพียงแค่
เก็บของนันมากนัก เจ้านายจะต้องทะนุถนอมข้านะ!”

มูช่ ิงเกอเงียบ ในขณะทีแววตาดูเปลียนได้คาดเดาความ


เป็ นไปได้ไว้บา้ งแล้ว

บางที อาจเป็ นเพราะการทีเหมิงเหมิงกลืนกินช่องว่าง


ของนาง ทําให้จิตของนางทะลุเข้ามายังโลกทีแตกต่าง
ใบนีจนได้กลายเป็ นเจ้าของคนใหม่ของมันโดยไม่ได้
ตังใจ

42
เมือเห็นว่ามูช่ ิงเกอเงียบ เหมิงเหมิงก็พดู ต่อเพือเอาใจ
ว่า : “เจ้านาย ท่านดูสขิ า้ อุตส่าห์เตรียมห้องสําหรับ
หลอมโอสถและของทีสามารถปรุงยาได้ และถึงกับ
เตรียมบ่อสายฟ้าแห่งรากวิญญาณสายฟ้าไว้ ยังมีอีกๆ
ไอ้ทีอยูก่ ลางบ่อสายฟ้านันเป็ นอาวุธเทพเชียวนะ
ร้ายกาจมากเลยนา รวมถึงห้องหลอมอาวุธขันเริมต้นเห
มิงเหมิงก็เตรียมไว้ให้ทา่ นแล้ว รูใ้ จและเอาใจใส่ดีมาก
เลยใช่ไหมเล่า?”

พูดจบ มันก็กะพริบตาถี แสดงให้เห็นถึงความบริสทุ ธิไร้


เดียงสาและน่ารักอย่างหาทีสุดไม่ได้

ดวงตาของมูช่ ิงเกอค่อยๆ เคลือนไปหยุดลงบนร่างของ


43
มัน

การทีกลืนกินช่องว่างของนาง รูว้ า่ นางมีพลังสายฟ้า


นางพอเข้าใจได้ รูว้ า่ นางได้รบั การถ่ายทอดจากเทพแห่ง
โอสถและตอนนีกําลังฝึ กการปรุงโอสถอยู่ นางก็เข้าใจได้
เช่นกัน สําหรับอาวุธเทพอย่างนันหรือ อืม พบกับเจ้า
ของคนใหม่ ต้องมีของมารับขวัญนันเป็ นเรืองทีสมควร
แต่ทว่า ห้องหลอมอาวุธขันเริมต้นมันคือสิงใดกัน ?

พอสัมผัสถึงความสงสัยทีซ่อนอยูใ่ นนัยน์ตาของมูช่ ิงเก


อ เหมิงเหมิงจึงพูดว่า : “หลังจากทีเหมิงเหมิงได้เชือม
ความสัมพันธ์นายบ่าวกับเจ้านาย เหมิงเหมิงก็สมั ผัสได้
ว่าในร่างกายของเจ้านายนันมีสายเลือดของความเป็ น
ปรมาจารย์แห่งการหลอมอาวุธอยู่ จึงได้เตรียมสิงนีมา
44
เพือทําให้เจ้านายตืนตาตืนใจ”

“เจ้าสามารถรับรูถ้ งึ ความคิดของข้าได้หรือ” นําเสียงของ


มูช่ ิงเกอเต็มไปด้วยความคาดเดา

เหมิงเหมิงรีบเอามือเล็กอุดปากของตนเองเอาไว้ รับรูไ้ ด้
เพียงแค่วา่ ร่างทีทังเล็กและอ่อนแอของตนเองกําลังตก
อยูท่ า่ มกลางอันตราย

สายตาของมูช่ ิงเกอเย็นเยียบมากขึนกว่าเดิม เหมิงเหมิ


งจึงพูดว่า : “เหมิงเหมิงเป็ นช่องว่างของเจ้านาย แน่นอน
ว่าได้เชือมใจและมีความคิดแบบเดียวกันกับท่าน แต่เจ้า
นายมิตอ้ งเป็ นกังวล สําหรับเรืองทีเจ้านายไม่ประสงค์จะ

45
ให้เหมิงเหมิงรู ้ เหมิงเหมิงก็จะไม่รูเ้ ด็ดขาด”

พูดจบก็พลันยกมือเล็กขึนสาบาน

คําตอบของเหมิงเหมิงทําให้มชู่ ิงเกอวางใจ มิฉะนันนาง


คงรูส้ กึ ว่าตนเองต้องตกอยูท่ า่ มกลางการสอดแนม

“ในสายเลือดของข้ามีความเป็ นปรมาจารย์แห่งการ
หลอมอาวุธหมายความว่าอย่างไร” มูช่ ิงเกอถามอย่าง
เคร่งขรึม

หลังจากเหมิงเหมิงแสดงสีหน้า ‘ท่านไม่รูจ้ ริงๆ หรือ?’


ออกไปแล้วจึงพูดกับมูช่ ิงเกอด้วยใบหน้าเคร่งขรึมว่า:
46
“ตังแต่โบราณกาลมา มีตระกูลอันเก่าแก่หลายตระกูลมี
ความสามารถพิเศษทีแฝงอยูใ่ นสายโลหิตและถูกสืบ
ทอดต่อกันมาเป็ นพันหมืนยุคสมัย ในบรรดาคนรุน่ หลัง
บางสายเลือดยังเข้มข้น บางสายเลือดได้จางลงไปแล้ว
ในร่างกายของเจ้านายเป็ นโลหิตแห่งการเป็ นปรมาจารย์
แห่งการหลอมอาวุธและมันยังคงเข้มข้น เพียงแต่มนั ยัง
ไม่ได้รบั การกระตุน้ ตอนนีก็ยงั คงซ่อนอยูภ่ ายในก็เท่า
นัน”

“ในอดีตกาลตระกูลมูเ่ ป็ นปรมาจารย์แห่งการหลอม
อาวุธอย่างนันหรือ?” มูช่ ิงเกอทีสัมผัสกับโลกนีจนคุน้ เคย
แน่นอนว่าต้องเข้าใจว่าหน้าทีแห่งการหลอมอาวุธนันมี
ค่ามากกว่าการปรุงยาอยูม่ าก

47
บางทีอาจกล่าวได้วา่ ในหลินชวนแห่งนี ไม่มีผทู้ ีเป็ น
ปรมาจารย์แห่งการหลอมอาวุธทีแท้จริงเลยแม้แต่ผเู้ ดียว

เพราะฉะนัน อาวุธทังหมดในหลินชวน ไม่ได้เก่งกาจไป


กว่าทีมูช่ ิงเกอเคยพบเจอเมือชาติทีแล้ว

แม้วา่ จะมีอาวุธทีทรงพลังอยูบ่ า้ ง แต่ก็ไม่รูว้ า่ มันสืบทอด


กันมากียุคต่อกียุค

“ไม่ได้สืบทอดมาจากท่านพ่อของเจ้านายนะ!” เหมิงเหมิ
งกล่าวเตือน

มูช่ ิงเกอตกใจ หันสายตาไปหยุดทีเหมิงเหมิง เม้มปากไม่


48
พูดอะไร ไม่ได้สืบทอดมาจากสายเลือดของท่านพ่อ ถ้า
เช่นนันก็หมายความว่า สืบทอดมาจากสายเลือดของฝัง
ท่านแม่ร?ึ

หรือว่า ท่านแม่ผทู้ ีมีทีมาลึกลับท่านนันของนาง จะเป็ น


ทายาทของตระกูลปรมาจารย์แห่งการหลอมอาวุธ

เรืองนีราวกับจะสามารถอธิบายได้อย่างแจ่มแจ้ง ว่าเหตุ
ใดเครืองมือมายาทีพิเศษถึงเพียงนี ท่านแม่ของนางยัง
สามารถเอาออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย

แต่วา่ ภายในหลินชวนมีตระกูลทีเป็ นปรมาจารย์แห่ง


การหลอมอาวุธหรือ?

49
ข้อสงสัยในใจของมูช่ ิงเกอ ทําให้มชู่ ิงเกอคิดไม่ตกจน
ต้องขมวดคิวเป็ นปมแน่น

ดูเหมือนว่าตัวตนทีแท้จริงของภรรยาของมูเ่ หลียนเฉิง
นันยังคงมีความลับซ่อนอยูอ่ ีกมากมาย! ถ้าเช่นนัน นาง
ตายแล้วจริงๆ หรือ? มูช่ ิงเกอตังคําถามกับตนเองภายใน
ใจ แต่น่าเสียดายทีไม่มีใครสามารถให้คาํ ตอบแก่นางได้

*萌萌 (คําสแลง) แปลว่า น่ารัก

50
ตอนที 87-4 หัวขโมยในช่องว่าง !

51
เก็บความรูส้ กึ ทุกอย่างเอาไว้ภายในใจ มือทีจับตัวเหมิ
งเหมิงไว้ก็คลายลงแต่ยงั คงไม่ปล่อยมือ

นางถามว่า : “ทําไมเป็ นทิวทัศน์รอบๆ ข้าสามารถมอง


เห็นได้ แต่ไม่อาจเข้าใกล้ได้?”

เหมิงเหมิงเอียงศีรษะแล้วพูดว่า : “นันเป็ นเพราะความ


สามารถในตอนนีของเจ้านายยังไม่เพียงพอ จะต้องใช้
ความพยายามอย่างมากในการเปิ ดช่องว่างแห่งนี” นาง
พูดพลางชีหมอกสีขาวทีอยูห่ ลังของกระท่อม : “หากพลัง
ของเจ้านายเข้าสูส่ ายม่วง ก็จะสามารถเข้าไปใช้

52
สมุนไพรภายในสวนสมุนไพรนันได้ แต่สมุนไพรทียิงมีคา่
ก็ตอ้ งรอให้พลังของเจ้านางมากยิงขึนอีกจึงจะสามารถ
เด็ดมาใช้ได้ หากเจ้านายเจอยาสมุนไพรอันใดทีมีคา่
จากภายนอก เมือนํามาเพาะเลียงและปลูกในนีก็จะทํา
ให้มนั เติบโตอย่างรวดเร็วและมีสรรพคุณดียงกว่
ิ าเดิม

ข่าวนี ทําให้มชู่ ิงเกอตะลึงจนหรีตา

ตามทีเหมิงเหมิงแนะนํา ดูเหมือนว่านางจะมีความ
สามารถมากกว่าช่องว่างอันก่อนหน้านีมากจริงๆ

ในนีมีสวนสมุนไพรด้วยหรือ? นีมันเนรมิตมาเพือนาง
โดยแท้ สําหรับเรืองทีนางจะสามารถเปิ ดใช้ได้เมือเข้าสู่

53
สายม่วงนัน นางไม่ได้ขดั ข้องแต่อย่างใด เพราะสําหรับ
นางแล้วสายม่วงไม่ใช่เส้นชัยอีกต่อไป แต่เป็ นเพียง
ระดับทีต้องข้ามผ่านและมันก็จะมาถึงในอีกไม่นานนัก
นางมันใจ!

“ทีนีมีพืนทีมากเท่าไหร่ แล้วยังมีการแบ่งส่วนอย่างไรอีก
บ้าง?” : มูช่ ิงเกอถาม

“ทีนีกว้างมาก กว้างมากๆ” : เหมิงเหมิงพยายามเหยียด


แขนของตนเองออกมา วาดรูปวงกลมขนาดใหญ่ : “แต่
ต้องรอให้เจ้านายไปค้นพบด้วยตนเอง”

มูช่ ิงเกอเผยรอยยิมมุมปากเบาๆ รูส้ กึ หมันเขียวความ

54
ฉลาดมีไหวพริบของเหมิงเหมิง

แต่วา่ ไม่วา่ อย่างไรก็ตาม ความประหลาดใจนีทําให้นาง


พอใจเป็ นอย่างยิง ช่องว่างทีทําได้เพียงเก็บสมบัติใน
ตอนแรก กลายเป็ นช่องว่างทีเต็มเปี ยมไปด้วยคุณสมบัติ
รอบด้านแบบนี จะให้นางไม่รูส้ กึ ตืนตาตืนใจได้อย่างไร
กัน?

ราวกับว่า ทุกครังทีพลังของนางพัฒนามากขึน ช่องว่าง


แห่งนีก็จะมีรางวัลทีน่าตืนเต้นให้แก่นางทุกครังเช่นกัน

นีคือแรงผลักดันในการฝึ กพลังอย่างแท้จริง !

55
ในส่วนลึกของสายตาของมูช่ ิงเกอมีแสงส่องประกาย
ออกมาอย่างแรงกล้า ทันใดนัน นางก็ยมให้
ิ กบั เหมิงเหมิ
งและบอกว่า : “ต่อไป เรามาทําความเข้าใจกับอาวุธ
ระดับเทพทีเจ้าพูดถึงกัน”

“ห๊ะ ! เจ้านายหมายถึง*หลิงหลงหรือ!” : เหมิงเหมิงพูด


ด้วยท่าทางอันน่ารักน่าเอ็นดู

หลิงหลง?

มูช่ ิงเกอขมวดคิว แอบคิดในใจว่า : ทีแท้อาวุธระดับเทพ


นีก็ชือหลิงหลงนันเอง

56
แต่......อาวุธเทพ...

มูช่ ิงเกอหรีตาลง ขนตางอนยาวได้บดบังความรูส้ กึ ที


ซ่อนอยูใ่ นดวงตาคูน่ นั นางกําลังคิดทบทวนการแบ่งขัน
ของอาวุธในโลกนี

จากตําราโบราณ นางรูว้ า่ โดยทัวไปอาวุธจะแบ่งออก


เป็ น อาวุธแห่งสงคราม อาวุธวิญญาณอาวุธทีเป็ น
สมบัติ อาวุธระดับเทพ อาวุธระดับปราชญ์และอาวุธ
ศักดิสิทธิ ในแคว้นฉินคงจะเป็ นผูม้ ีความสามารถขันสูง
ถึงจะมีอาวุธวิญญาณสักชินสองชิน

อย่างไรก็ตาม ในแคว้นระดับสอง อาวุธวิญญาณแม้จะมี

57
ค่า แต่ก็มีไม่มากนัก ถึงขันว่า ผูม้ ีพลังแข็งแกร่งบางคน
ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ยงกว่
ิ าอาวุธทีเป็ นสมบัติระดับสูงเสีย
อีก

ตําราโบราณ อาณาจักรเซิงหยวนทีเป็ นแคว้นระดับหนึง


เพียงหนึงเดียว มีอาวุธระดับเทพในตํานานอยู่ อาวุธที
เป็ นสมบัติก็ไม่นอ้ ย สําหรับอาวุธระดับปราชญ์และ
อาวุธศักดิสิทธิทังหลาย ได้หายไปตังแต่อดีตแล้ว

*玲珑 (หลิงหลง) แปลว่า ความประณีต

อย่างไรก็ตาม มาตรฐานการแบ่งแยกอาวุธเหล่านี นอก


จากระดับของความแข็งแรงทีแตกต่างกันแล้ว ยังมี

58
ความแตกต่างทีมากทีสุดคือ ความแตกต่างด้านการเพิม
ความสามารถ

บางอย่างมีคณ
ุ สมบัติช่วยในการป้องกัน บางอย่าง
สามารถเพิมพลังโจมตีของผูค้ รอบครองและอีกมากมาย
จนยากทีจะอธิบาย

ความสามารถในการเพิมขนาดและประเภทของอาวุธ
คือความแตกต่างระหว่างอาวุธวิญญาณและอาวุธทีเป็ น
สมบัติ

สําหรับอาวุธระดับเทพแล้ว นอกจากนียังมีคณ
ุ สมบัติอืน
นันคือการเปลียนแปลงรูปร่าง

59
มันสามารถเปลียนแปลงรูปทรงของตนเองตามความ
ประสงค์ของเจ้าของ เมือไม่ได้อยูใ่ นสนามรบ บางทีของ
บางอย่างทีดูไม่มีมลู ค่าอาจจะเป็ นอาวุธระดับเทพทีหา
ยาก

ตังแต่เกิดใหม่จนถึงตอนนี มูช่ ิงเกอก็ยงั ไม่มีอาวุธที


เหมาะสม

ตอนนี เหมิงเหมิงให้อาวุธระดับเทพเช่นนีให้แก่นาง จะดู


มากไปหน่อยไหม?

แต่วา่ นางชอบ!

60
กระตุกยิมจางตรงมุมปาก มูช่ ิงเกอพูดกับเหมิงเหมิงว่า :
“นําทางไปหาอาวุธเทพ”

เหมิงเหมิงพยักหน้า โดดออกจากมือทีคลายออกของมู่
ชิงเกอในทันทีและขึนไปอยูบ่ นไหล่ของมูช่ ิงเกออย่าง
คล่องแคล่ว

กลับไปยังบริเวณบ่อสายฟ้าอีกครัง มูช่ ิงเกอไม่ได้เร่งรีบ


เกียวกับการทดลองคุณสมบัติพิเศษของบ่อสายฟ้า แต่
จดจ้องสายตาไปทีรังไหมสีเงินอันใหญ่ทีลอยอยูเ่ หนือ
บ่อสายฟ้า

61
“เจ้านาย ท่านเพียงแค่ทาํ ให้รงั ไหมแตกหลิงหลงก็จะ
ออกมา” เหมิงเหมิงพูดกับมูช่ ิงเกอ จากนันก็พดู อย่าง
หลงตัวเองว่า : “ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้หลิงหลงไม่มีความ
นึกคิดเหมือนกับข้าล่ะ”

สายตาของมูช่ ิงเกอกะพริบด้วยความสงสัย หันไปมองเห


มิงเหมิง : “หมายความว่าอย่างไร?”

“หมายความว่า แม้วา่ หลิงหลงจะเก่งกาจมาก แต่ก็ยงั ไม่


เคยสร้างอาวุธอันใด สูเ้ หมิงเหมิงไม่ได้” เหมิงเหมิงเอา
มืออ้วนๆ เล็ก ๆ ของตนเองเท้าเอวอย่างได้ใจ

มูช่ ิงเกอเม้มปาก ไม่ได้สนใจความหลงตัวเองของเหมิ

62
งเหมิง แต่หนั กลับไปหยุดสายตาบนรังไหมขนาดใหญ่
อีกครัง

ทําให้รงั ไหมแตก ? เท่าทีเหมิงเหมิงพูดนันดูง่ายมาก

มูช่ ิงเกอรวบรวมพลังบนฝ่ ามือของนาง ทันใดนัน บนฝ่ า


มือของนางก็มีแสงสีเขียวสดใสเป็ นวงกลมเกิดขึน ภาย
ในรัศมีของวงกลมนัน ราวกับได้รวบรวมพลังอัน
มหาศาลเอาไว้

ปั ง !

มูช่ ิงเกอยกมือขึนสะบัด แสงสีเขียวทีเรียงตัวกันพุง่ เข้า


63
หารังไหมขนาดใหญ่ เสียงของการพุง่ ชนอย่างรุนแรง
เกิดเป็ นแสงสว่างจ้าจนแสบตา ห่อหุม้ ทังบ่อสายฟ้าและ
ร่างของมูช่ ิงเกอเอาไว้

พอแสงค่อยๆ จางหายไป มูช่ ิงเกอลดมือทีบังอยูต่ รงดวง


ตาลง เงยหน้าขึนมองไปยังตําแหน่งทีมีรงั ไหมขนาด
ใหญ่อยู่ ทันใดนัน นัยน์ตาก็ระเบิดความเป็ นประกาย
แห่งความประหลาดใจขึน

“นีมัน ....”

มูช่ ิงเกอรูส้ กึ ราวกับว่า ตนเองได้สญ


ู เสียความสามารถ
ในการเปล่งเสียงพูดไป

64
รูปร่างลักษณะของหลิงหลงได้สะท้อนอยูใ่ นดวงตาของ
นาง

มันคือทวนทีมีรูปทรงอันโดดเด่นและประณีต

มันส่องแสงประกายไปทัว เหมือนเงินแต่ก็ไม่ใช่เงิน
สว่างและสดใสไร้มลทิน ดังเช่นเพชรนํางาม ระหว่าง
ปลายทวนและตัวทวนเชือมต่อกันด้วยใบมีดจันทร์เสียว
โค้งงอ ด้านในของปลายจันทร์เสียวนันแกะสลักด้วย
ลวดลายอันลึกลับโบราณอย่างประณีต ด้านนอกทวนมี
เป็ นใบมีดสองคม แหลมคมเย็นยะเยือก ชวนให้ผคู้ นสัน
สะท้าน

65
ใบมีดสองคมทีปลายทวนส่องแสงเยือกเย็นสีฟา้
ประกายม่วง ราวกับว่าเพียงแค่สะบัดมัน ก็จะสามารถ
แหวกฟ้าดินได้

มูช่ ิงเกอไม่เคยเห็นทวนทีชวนให้คนต้องตกตะลึงเช่นนี
มาก่อน

ในขณะนี พอเรียกชือของมันอีกครัง จึงรับรูไ้ ด้วา่ การตัง


ชือของมันช่างเหมาะสมกับตัวมันยิงนัก

“หลิงหลง....” ริมฝี ปากสีแดงกําของมูช่ ิงเกอขยับพึมพํา


เบาๆ

66
คิดไม่ถงึ ว่า อาวุธทวนระดับเทพหลิงหลงทีลอยอยูก่ ลาง
อากาศ ราวกับจะได้ยินเสียงเรียก มันสันทีหนึงและบิน
มาทางมูช่ ิงเกอ ดังเด็กน้อยขีอ้อน

มูช่ ิงเกอได้สติก็รบี ยืนมือออกไปจับทวนนัน กลินไอแห่ง


ความเย็นยะเยือกลึกถึงกระดูกได้เข้าสูร่ า่ งกายนางอย่าง
รวดเร็ว แต่สกั พัก ความรูส้ กึ เช่นนีก็พลันหายไป การสือ
สารระหว่างนางและทวนระดับเทพหลิงหลงเหมือนจะ
เป็ นไปได้ดีในทันที

ราวกับว่า ทวนระดับเทพหลิงหลงได้กลายเป็ นส่วนหนึง


ของแขนของนาง สามารถใช้การมันได้ตามต้องการ

67
อย่างนัน

มูช่ ิงเกอชูทวนหลิงหลงขึนมา และวาดไปกลางอากาศ


บังเกิดเป็ นแสงวงกลมสีฟา้ ประกายม่วงด้วยความแหลม
คมจากปลายทวน

“ทวนดี!” นางตังทวนหลิงหลงบนพืนข้างกาย เงยหน้า


ขึนมองปลายทวนพลางกล่าวชืนชม

หลังจากนัน นางก็พดู ด้วยนําเสียงอันแฝงความเสียดาย


ว่า : “เสียดาย ทีข้าไม่เป็ นเพลงทวน”

ทันทีทีสินเสียงของนาง ก็เกิดแสงประกายแผ่กระจาย
68
ออกจากปลายทวนหลิงหลงและพุง่ เข้าไปบริเวณหว่าง
คิวของมูช่ ิงเกอ นางยังไม่ทนั จะได้โต้ตอบ แสงนันก็เข้า
ไปยังหว่างคิวของนาง

ทันใดนัน มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ เหมือนโดนไฟฟ้าช็อต ถือทวน


ยืนตรงโดยไม่ขยับกาย ปานถูกสะกดจิต

เหมิงเหมิงนังอยูบ่ นไหล่ของนาง โดยไร้วีแววความหวาด


กลัว แต่กลับทําท่าทางราวกับว่า มันสมควรเป็ นเช่นนีอยู่
แล้ว

หลังจากผ่านไปนาน ร่างกายของมูช่ ิงเกอก็กระตุกทีหนึง


จากนันก็เบิกตาทังสองข้างขึน ความแปลกใจในแววตา

69
ยังคงไม่เสือมคลาย นางพึมพําว่า : “เพลงทวนที
ร้ายกาจ!”

ทันใดนัน ดวงตาของนางก็เป็ นประกาย ความรูส้ กึ ดีใจ


นันยากทีบรรยายออกมาเป็ นคําพูด แม้กอ้ นเนือตรงอก
ด้านซ้ายเองก็ยงั เร่งจังหวะการเต้น

มีเพลงทวนทีได้รบั การถ่ายทอดมาจากทวนหลิงหลงก็
ถือเป็ นการชดเชยข้อด้อยในการต่อสูข้ องนาง หากทักษะ
พันสายฟ้าเป็ นการโจมตีขนาดใหญ่ในวงกว้าง เพลง
ทวนหลิงหลงก็ถือเป็ นการโจมตีเฉพาะเป้าหมาย

อีกประการหนึง นางรูส้ กึ ได้วา่ เพลงทวนหลิงหลงไม่ได้

70
ง่ายอย่างทีคิด เพลงทวนทีมันเผยให้นางเห็นในตอนนี
เป็ นเพียงแค่ทกั ษะทีความสามารถในตอนนีของนาง
สามารถเอือมถึงเท่านัน

และในตอนทีนางรับการถ่ายทอดเพลงทวนนัน นางยัง
สัมผัสได้อีกว่า ทวนหลิงหลงมีคณ
ุ สมบัติพิเศษในการ
เพิมพลังการโจมตีให้กบั นางได้

รัศมีของการโจมตีเพิมขึน เช่นพลังในตอนนีของนางอยู่
ในสายเขียว การโจมตีนนั เมือส่งผ่านทวนหลิงหลงก็จะ
เพิมขึนเป็ นเท่าตัว นันก็หมายความว่าเทียบเท่าสาย
คราม พอพลังของนางอยูใ่ นขันสายคราม เมือมีทวนหลิง
หลงในการส่งพลังการโจมตี นางก็จะสามารถโจมตีดว้ ย
พลังทีเทียบเท่ากับสายม่วงได้
71
เป็ นทีทราบกันดีวา่ ระหว่างสายครามและสายม่วงนันมี
ระยะห่างอันมหาศาล สายครามสิบคนก็อาจจะสูส้ าย
ม่วงเพียงคนเดียวไม่ได้

พลังยิงอยูใ่ นระดับสูงมากเพียงใด ความห่างระหว่างขัน


ก็จะยิงมากและชัดเจนยิงขึน

การทีมีทวนหลิงหลงเป็ นกําลังเสริม หากเจอยอดฝี มือ


สายม่วงอีกครัง มูช่ ิงเกอก็กล้าเผชิญหน้าโดยไม่ตอ้ ง
ระแวงการลอบโจมตีจากด้านหลังแล้ว

72
ตอนที 87-5 หัวขโมยในช่องว่าง !

73
ภายในถํา เมือมูช่ ิงเกอลืมตาขึน เวลาได้ลว่ งเลยผ่านมา
ทังหมดเจ็ดวันเจ็ดคืน

ช่วงเวลาส่วนมาก นางใช้เวลาไปกับฝึ กพลังอยูภ่ ายใน


ช่องว่าง

มูช่ ิงเกอจมอยูใ่ นความมหัศจรรย์ของเพลงทวนหลิงหลง


อย่างถอนตัวไม่ขนึ

หากไม่เป็ นเพราะฮวาเยวียและโย่วเหอยังรออยูข่ า้ งนอก


มูช่ ิงเกอคงยังไม่ยอมตืนขึนมา

สําหรับการฝึ กทักษะการหลอมโอสถนัน......ทักษะการ
74
หลอมโอสถ.......มูช่ ิงเกอมีตาํ ราการหลอมโอสถและแน่
นอนว่านางจะต้องหาเวลาไปฝึ กหลอมโอสถแน่

ส่วนทักษะการหลอมอาวุธ แม้วา่ เหมิงเหมิงจะเตรียม


ตําราขันพืนฐานให้แก่นาง แต่ เท่าทีเหมิงเหมิงพูด หาก
นางไม่สามารถกระตุน้ สายโลหิตของปรมาจารย์ดา้ นการ
หลอมอาวุธขึนมาได้ ก็ยากทีจะเอาดีในด้านนี

สําหรับวิธีจะกระตุน้ สายโลหิตให้แสดงพลังนัน เหมิงเหมิ


งเองก็ไม่ทราบ แต่ก็ลองเสนอดูวา่ หากมูช่ ิงเกอมีเวลา
ว่างก็ลองเข้าไปตีๆ เคาะๆ ในห้องหลอมอาวุธดู ไม่แน่วา่
วันหนึงพลังอาจจะถูกกระตุน้ ออกมาก็ได้

75
สําหรับความคิดดังแมวตาบอดวิงเข้าไปหาหนูทีตาย
แล้วเช่นนีของนาง มูช่ ิงเกอไม่กล้าทีจะเห็นด้วย

แต่ก็ทาํ ตามคําพูดของนาง พอมีเวลา ก็เริมเรียนรูต้ งแต่



ขันพืนฐานของการหลอมอาวุธ โดยเป้าหมายของนางก็
คือการจัดการด้านอาวุธทีครบครันให้แก่องครักษ์เขียว
มังกรของตนเอง เพือพัฒนาทักษะความสามารถในการ
รบของพวกเขา

สําหรับอาวุธวิญญาณนัน ตอนนียังไม่ตอ้ งคิด

หากไม่ได้รบั การกระตุน้ ชาตินีทังชาติก็คงจะหลอม


อาวุธไม่ได้เลยแม้แต่ชินเดียว

76
ทว่า หากนําสิงทีเรียนมาเมือชาติทีแล้ว มาหลอมรวมกับ
วิธีการพัฒนาอาวุธของโลกนีในการสร้างอาวุธชันดีขนึ
มา ก็คงจะพอไหว

เมือคิดทบทวนประสบการณ์ตลอดทังเจ็ดวันเจ็ดคืนที
นางได้พบเจอมาหนึงรอบ จากนันมูช่ ิงเกอจึงเรียกสาวใช้
ทังสองเข้ามาภายในถํา

เจ็ดวันแล้วทีไม่ได้พบกัน ฝี กา้ วของทังสองนางเบาลง


กว่าเดิมมากและกิรยิ าท่าทางก็คล่องแคล่วมากขึน ไม่
ต้องให้มชู่ ิงเกอถามก็รูไ้ ด้วา่ หลายวันทีผ่านมานี พวก
นางไม่ได้อยูเ่ ฉยๆ หากแต่ทกั ษะฝึ กก้าวซ่อนเงากันอย่าง

77
ตังใจ

แอบพยักหน้าในใจ มูช่ ิงเกอออกสังการณ์กบั ทังสอง


แล้วกลับไปยังช่องว่างอีกหน

การปรากฏตัวขึนอย่างไม่คาดคิดของเหมิงเหมิง ทําให้
แผนการทังหมดทีนางวางไว้ก่อนหน้านีพังลง

ไม่ได้ฝึกฝนภาคสนาม แต่ซมึ ซับความรูใ้ หม่ทงหมด


เวลาเกือบทังเดือนแทบจะหมดไปกับการทีทังสามต่าง
ฝึ กฝนพลังของตนเอง

78
ครังแรกทีมูช่ ิงเกอเดินทางออกจากถําคือวันทีต้องกลับ
ตามนัดหมายเอาไว้ ไม่รูว้ า่ กองทหารเขียวมังกรจํานวน
ห้าร้อยนาย จะทําให้นางผิดหวังหรือไม่? จะสัมผัสได้ถงึ
ความตังใจในการจัดการครังนีของนางหรือไม่?

ยืนมือออกไปปั ดฝุ่ นและเศษหญ้าทีติดกับเสือผ้า มูช่ ิงเก


อเอามือไพล่หลังพลางพูดกับทังสองว่า : “ไปเถอะ ได้
เวลากลับแล้ว”

ระหว่างทางกลับ มูช่ ิงเกอไม่ได้เข้าสูก่ ารฝึ กพลังนาน


มากนัก แต่ทาํ ตามแผนทีวางไว้ก่อนหน้านีนันก็คือ การ
ใช้สตั ว์ป่าทีพบเจอเป็ นคูซ่ อ้ มเพือให้คนุ้ ชินกับกระบวน
ท่าและวิชาทวน

79
การปรากฏของทวนหลินหลง ทําให้โย่วเหอและฮวาเย
วียต่างตืนตกใจ

แต่ดว้ ยความฉลาด จึงไม่ได้ถามซักไซ้แต่อย่างใด

สิบวันหลังจากนัน ทังสามก็ได้กลับไปยังรอบนอกของ
เทือกเขาฉินและไปหาอาชาเพลิงของตนเองโดยไร้ซงึ
อุปสรรคอันใด

มูช่ ิงเกอนังอยูบ่ นหลังพญาอาชาเพลิงทีสง่างามไร้ที


เปรียบของนาง------บนหลังของเพลิงรัตติกาล การผสม
ผสานระหว่างสีแดงและสีดาํ ช่างงดงามและน่าเย้ายวน

80
ใจ

พอนางเดินออกจากเทือกเขาฉินก็พบว่า กองทหารเขียว
มังกรทังห้าร้อยนาย แม้วา่ เสือผ้าจะหลุดลุย่ ไม่เรียบร้อย
แต่ก็ยงั คงจูงอาชาเพลิงของตนเองและยืนรอคุณชาย
ของพวกเขาอย่างเป็ นระเบียบเรียบร้อย

มูช่ ิงเกอนังอยูบ่ นหลังม้าและกวาดสายตามอง

ทังห้าร้อยหนึงคน แววตาไม่หลงเหลือความหยิงยโสและ
ความใจร้อนอีก หากแต่มนั ดูมนคงและนิ
ั งสงบ เส้นสาย
บนใบหน้ามองเห็นได้ชดั มากขึน เผยให้เห็นถึงความ
หนักแน่นเด็ดเดียว

81
การเปลียนแปลงนีทําให้มชู่ ิงเกอแอบพยักหน้า แต่ไม่ได้
พูดอะไร เพียงแค่สงว่
ั า : “ออกเดินทาง!” ขบวนก็ได้มงุ่
ไปสูเ่ มืองอีอย่างเกรียงไกร

เมือทังห้าร้อยสีคนจูงอาชาเพลิงจํานวนเกือบ ห้าถึงหก
ร้อยตัวกลับไปยังเมืองอีอย่างปลอดภัย ทหารประจํา
การณ์ตา่ งก็ทาํ หน้าประหลาดใจ

สายตาทีมององครักษ์เขียวมังกรและอาชาเพลิงทีพวก
เขาขีอยู่ เต็มเปี ยมไปด้วยความอิจฉา

แต่ทว่า ในสายตาขององครักษ์เขียวมังกรกลับไม่แสดง

82
ให้เห็นถึงความเย่อหยิงหรือความพึงพอใจใดๆ เลย
ปรากฏเพียงความสงบและความหนักแน่น

แม่ทพั แห่งเมืองอี มององครักษ์เขียวมังกรทีไม่ได้พบกัน


มาเป็ นเวลากว่าสามเดือนก็แอบตกใจ หากกล่าวว่าเมือ
สามเดือนก่อนหน้านีองครักษ์เขียวมังกรเป็ นดังกริชที
แหลมคม ถ้าเช่นนันในวันนีองครักษ์เขียวมังกรก็เหมือน
กับได้ผา่ นคลืนทีซัดโหม เป็ นดังกริชทีเก็บงําประกายแสง
เอาไว้ แต่ความแหลมคมนันกลับเพิมทวีขนกว่
ึ าเดิม

เพียงระยะเวลาอันสันแค่สามดือน สามารถฝึ กทหารให้ดี


ได้ถงึ เพียงนี สายตาทีแม่ทพั เมืองอีมองมูช่ ิงเกออีกครังก็
เต็มเปี ยมไปด้วยความนับถือ

83
เพิงจะกลับมาถึงเมืองอี มูช่ ิงเกอก็ได้รบั จดหมายทีวาง
รวมกันอยูใ่ นตะกร้า

จดหมายทังหมดนันมาจากลัวตู นอกจากจดหมายของ
ท่านอาของนางทีมีสามฉบับแล้ว ยังมีอีกหนึงฉบับจาก
ท่านปู่ ทีบอกเล่าสถานการณ์ของลัวตูให้กบั นาง แล้วที
เหลือคิดไม่ถงึ ว่าจะมาจากองค์หญิงตัวน้อยฉินอีเหลียน
ทังหมด

จดหมายสิบกว่าฉบับทีวางอยูด่ ว้ ยกัน มูช่ ิงเกอไม่ได้อา่ น


นางเพียงแค่กวาดสายตาบนจดหมายของท่านอาอย่าง
รวดเร็ว จากนันก็อา่ นฉบับทีมาจากมูซ่ งอย่างตังใจ

84
เนือหาในจดหมายได้พดู ถึงว่า ช่วงเวลาหลายเดือนที
นางออกจากลัวตู การต่อสูร้ ะหว่างรุย่ อ๋องและรัชทายาท
นันดุเดือดมาก

ทว่าฮ่องเต้กลับเพียงแค่มองดูอยูห่ า่ งๆ โดยไม่ให้ความ
ช่วยเหลือและไม่ลงโทษผูใ้ ดเลย

และหลังจากทีนางยกเลิกการหมันหมายกับฉินอีเหยา
รุย่ อ่องก็ยงั คงไม่ลม้ เลิกความคิดทีจะใช้ตระกูลมูเ่ ป็ น
กําลังเสริมทางทหารและยังคงเข้ามาใกล้ชิดสนิทสนม
กับป๋ ายซีเยวียมากขึนกว่าเดิม

85
หลังจากทีอ่านจดหมายจบ มูช่ ิงเกอก็แอบคิดในใจว่า :
‘ดูเหมือนว่า ฉินจินห้าวจะเป็ นกังวลในอํานาจทางทหาร
ของตระกูลหานเป็ นอย่างมาก เพราะฉะนัน ไม่วา่ อย่าง
ไรก็จะไม่ยอมปล่อยมือจากตระกูลมูไ่ ป’

มีทหาร มีอาํ นาจ ก็จะมีสทิ ธิครอบครองแผ่นดิน!

หลังจากทีได้พกั ผ่อนในเมืองอี หลายสิบวัน มูช่ ิงเกอก็ได้


เรียกองครักษ์เขียวมังกรให้มารวมตัวกันอีกครัง เพือที
จะแจ้งภารกิจใหม่ของนางให้ได้ทราบโดยทัวกัน

ภารกิจในครังนี น่าตืนเต้นเป็ นอย่างมาก

86
มูช่ ิงเกอสังให้พวกเขาทํางานกันเป็ นกลุม่ ย่อยภายใน
หลายเดือนทีเหลือนีให้เข้าไปฝึ กภายในเทือกเขาฉินกัน
เอง รวมทังไปยังชายแดนระหว่างแคว้นฉินและแคว้นถู
เพือใช้สตั ว์ป่าอันโหดเ**◌้ยมในการซ้อมมือ รวมถึงเก็บ
เกียวสิงทีได้รบั จากการรบในแต่ละครัง เพือเป็ น
ประสบการณ์การรบในครังต่อๆ ไป

รวมทังโย่วเหอและฮวาเยวียเองก็ตอ้ งตามออกไปด้วย
เพือนําทฤษฎีไปใช้ในสถานการณ์จริงเก็บเกียว
ประสบการณ์ในการสูร้ บ และให้ทงสอง
ั ได้ติดต่อกับ
หน่วยข่าวของตระกูลมู่ เพือเรียนรูแ้ ละหลังจากนันจะได้
มาพัฒนาหน่วยข่าวลับให้กบั มูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอกําลังสร้างอํานาจให้กบั ตัวเอง โดยเป้าหมายก็


87
ไม่ใช่อืนใดเพียงต้องการกุมอํานาจและข้อได้เปรียบ

แต่สาํ หรับตัวนาง นอกจากการฝึ กฝนแล้วก็ยงั ต้องเรียนรู ้


วิธีการหลอมโอสถและหลอมอาวุธ เพือรีบทําให้ความ
สามารถทางการรบของตนเองสมบูรณ์แบบ เพิม
ศักยภาพของตนเองให้มากขึน

ไม่นาน ทังองครักษ์เขียวมังกรรวมทังมูช่ ิงเกอก็ได้กลาย


เป็ นบุคคลทีลึกลับทีสุดในเมืองอีพวกเขายุง่ มากกว่าใคร
แทบจะไม่เห็นหน้าของพวกเขาเลยและบางทีก็เหมือน
จะว่างมาก เพราะมักจะเอาสัตว์ทีล่าได้จากเทือก
เขาฉินกลับมากินดืมกับกองทัพทีเมืองเสมอ.....

88
ตอนที 88-1 ตาเฒ่าหัวไว !

ณ แคว้นฉิน ลัวตู

จดหมายลับหลายฉบับทีมาจากชายแดนทังทิศตะวันตก
เฉียงเหนือของแคว้นฉิน ซึงกล่าวถึงเรืองเดียวกันได้ถกู
ส่งไปยังสถานทีต่างๆ

ทังในวังหลวง วังตะวันออกและตําหนักรุย่ อ๋อง

ผูค้ นทีเห็นเนือหาในจดหมายลับเหล่านี ต่างก็มีความคิด


1
ทีแตกต่างกันออกไป ...

ในวังหลวง กลางดึก ภายในห้องหนังสือทียังคงจุดไฟจน


สว่าง นานๆ ทีจะมีเสียงไอดังขึนจากข้างใน ทําให้นาง
กํานัลทีเดินผ่าน ต่างก็เบาฝี เท้าลง ไม่มีผใู้ ดกล้ารบกวน
ผูท้ ีอยูข่ า้ งใน

“ฝ่ าบาท ย่างเข้ายามวิกาลแล้ว กุย้ เฟยทรงสังคนมาเร่ง


หลายหน ถามว่าฮ่องเต้จะเสด็จไปยังตําหนักฟ่ งหยีเมือ
ใด” ผูร้ กั ษาการฝ่ ายในซึงก็คือขันทีคนสนิทของฉินชา
งฮ่องเต้แห่งแคว้นฉินส่งนําชาให้ พลางถามอย่างระมัด
ระวัง

2
“เร่งรีบอันใดกัน ข้อราชการของข้ายังจัดการไม่เสร็จ” ฉิน
ชางขมวดคิว พลางพูดอย่างไม่พอใจ แต่ความอึดอัดใน
อก ทําให้เขาอดไอออกกมาไม่ได้เมือพูดจบ

“ฝ่ าบาททรงถนอมพระวรกายด้วยพะยะค่ะ!”

“ไม่เป็ นไร” ฉินชางโบกมือ: “แค่โดนลมเย็นเท่านันไม่ตอ้ ง


กินยาหรอก” พูดจบสายตาของเขาก็พลันไปหยุดที
จดหมายลับทีเปิ ดค้างไว้อยูบ่ นโต๊ะ

บนนันเป็ นกระดาษสีขาวปรากฏตัวอักษรสีดาํ ใช้คาํ พูด


สันกระชับในการรายงาน แต่กลับทําให้จิตใจของเขา
หนักอึง

3
ทีชายแดนระหว่างแคว้นฉินและแคว้นถู มีกลุม่ ลึกลับไม่
ทราบฝ่ ายปรากฏตัวขึน กวาดล้างคร่าชีวิตของนักโทษที
ได้รบั โทษสถานหนักไปจํานวนมาก

พวกเขาปรากฏตัวและหายวับไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใคร
ได้เห็นใบหน้าทีแท้จริงของพวกเขา การลงมือทุกครังว่อง
ไวดังสายฟ้าและอํามหิตไร้ซงปรานี

จํานวนสิบกว่าคนภายในกลุม่ นัน เล่าว่าเป็ นสายเขียว


กระทังมีสายครามด้วย?

อีกอย่างพวกเขามีการวางแผนทีรอบคอบ ทุกครังทีมี

4
การลงมือ ไม่เหลือร่องรอยเบาะแสอะไรไว้เลย

คนพวกนีเป็ นผูม้ ีอาํ นาจจากทีใดกัน เหตุใดถึงปรากฏตัว


ขึนอย่างกะทันหันเช่นนี

สัญชาตญาณของฉินชางบอกกับเขาว่า หากไม่สามารถ
สืบเรืองนีจนกระจ่าง แคว้นของเขาจะต้องสันคลอนแน่
แต่ทว่า ไม่วา่ เขาจะส่งสายสืบออกไปมากเพียงใด ก็ยงั
ไม่ได้ข่าวคราวทีเป็ นประโยชน์อะไรเลย

อีกฝ่ ายเหมือนเป็ นประหนึงหมอกขาวทีจางหายไป

ในช่วงไม่กีวันมานี เขาเป็ นกังวลเกียวกับเรืองนี จนทําให้


5
เขากินไม่ได้ นอนไม่หลับ กลุม่ อํานาจดังกล่าว เขาไม่
อาจควบคุมมันได้ มันเหมือนมีอะไรมาจุกอยูใ่ นลําคอ
หากไม่กาํ จัดมันเขาคงไม่อาจมีความสุขได้!

แต่น่าเสียดาย วิธีการทีไม่ทิงร่องรอยเช่นนี ทําให้เขาไม่


อาจคิดวิธีมาเพือรับมือได้

นีต่างหากทีทําให้เขาเกิดโทสะมากทีสุด เพราะมันแสดง
ให้เห็นว่าทหารของแคว้นฉินนันมันไร้ประโยชน์!

“ช่างเถิด วันนีพักผ่อนก่อนแล้วกัน” หากตรองแล้วยังหา


คําตอบไม่ได้ ฉินชางก็ทาํ ได้เพียงแค่ปล่อยเรืองนีไปก่อน
และเสด็จไปยังตําหนักฟ่ งหยี

6
ในขณะทีเขาเดินไปถึงครึงทาง ทันใดนัน เขาก็เปลียน
ความคิด พลันพูดกับขันทีทีอยูข่ า้ งกายว่า : “ไปตําหนัก
หว่านเสียเถอะ”

ขันทีฉงนใจและถามเพือความแน่ใจว่าอีกครังว่า : “ฝ่ า
บาทจะทรงให้อวินเฟยปรนิบตั ิหรือพะยะค่ะ?”

ฉินชางพยักหน้าโดยไม่ลงั เล เมือใดก็ตามทีเขารูส้ กึ
เหนือยล้า อวินเฟยสามารถทําให้เขาสงบลงได้เสมอ

“แต่ทางกุย้ เฟยนัน ......” ขันทีถามอย่างลังเล

7
ฉินชางไม่พอใจพร้อมพูดว่า : “ข้าอยากไปทีไหน ก็ไปที
นัน หรือว่าต้องขออนุญาตจากนางก่อนอย่างนันรึ?” ใน
ช่วงนี การแย่งชิงระหว่างบุตรชายทังสองของเขาถึงแม้
ว่าเขาจะไม่ได้ใส่ใจ แต่มารดาของทังสองคน กลับทําให้
เขารูส้ กึ เบือหน่าย

เมือคิดถึงความอ่อนโยนวางตัวอยูเ่ หนือทุกสิงของอวิน
เฟย ฉินชางก็พลันรูส้ กึ อุน่ ใจขึนมาหลายส่วน ฝี เท้าทีมุง่
ไปยังตําหนักหว่านเสียก็ไวยิงขึน

เมือขันทีคนสนิทเห็นว่าไม่สามารถหยุดไว้ได้ จึงทําได้
เพียงแค่ให้ขนั ทีทีอยูข่ า้ งกายไปส่งข่าวทีตําหนักฟ่ งหยี
แล้วตนเองก็รบี ตามไป

8
......

ณ วังตะวันออก ภายในเรือนยังคงส่องประกายแสง
เทียน

ภายในมุง้ ยังคงเอ่อล้นด้วยกลินไอแห่งความสุข บนเตียง


ทีสภาพยับเยิน มีรา่ งอันงดงามนอนกระจัดกระจายอยู่
จํานวนหนึง ในคนเหล่านี มีทงชายหนุ
ั ่มและหญิงสาว มี
เพียงสิงเดียวทีเหมือนกันนันก็คืออายุยงั น้อย

รัชทายาทฉินจินซิวลุกขึนอย่างงัวเงีย พาร่างอันเหนือย
ล้าของตนเองเดินไปยังนอกตําหนักรับจดหมายลับจาก

9
ชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือจากทหารฝ่ ายใน เขาเพียง
แค่กวาดสายตามองแล้วโยนมันทิง

ทหารรีบก้มลงไปเก็บ โดยไม่แสดงอาการใดๆ

“ของพวกนี เอาไปให้เสด็จแม่ก็พอ ส่งมาให้ขา้ ทําไมกัน”


ฉินจินซิวพูดอย่างไม่พอใจพลังอันลึกลับอะไรกัน เขาไม่
สนใจ ตราบใดทีเขาขึนครองบัลลังก์ ทุกอย่างในแคว้น
ฉินก็จะตกเป็ นของเขาไม่ใช่หรือ?

“รัชยาทาท...... ฮองเฮาทรงให้มาส่งข่าวว่า ฮ่องเต้ทรง


กําหนดแล้วว่าจะให้ทา่ นรับรองทูตจากแคว้นถู ขอให้
พระองค์ทรงถนอมสุขภาพ ไม่หกั โหมและระวังมารยาท

10
ซึงเป็ นเรืองทีละเอียดอ่อนพ่ะยะค่ะ” ทหหารเงยหน้าขึน
มาอย่างสันๆ แล้วพลางพูดอธิบายเบาๆ

ฉินจินซิวแค่นเสียงเย็นเยียบ ปรายตาลงมองทหารนาย
นัน

ทหารนายนัน ราวกับตกอยูท่ า่ มกลางธารนําแข็ง

ฉินจินซิวพูดด้วยนําเสียงอันโหดเ**◌้ยมและเย็นเยียบ
ว่า : “ก็แค่ทตู บ้านป่ าของแคว้นถูจาํ เป็ นต้องให้ขา้ ไป
ทุม่ เทต้อนรับเชียวรึ ฉินกับถูสองแคว้นรบพุง่ กันมาโดย
ตลอด ทีมาเยียมเยือนครังนีใครจะรูว้ า่ ฝ่ ายนันมีเจตนา
แอบแฝงอะไร? ยังไม่รบี ไสหัวออกไปอีก!”

11
ทหารนายนันสะดุง้ และเร่งรีบถอยออกไปโดยไม่แม้
กระทังจะมองทาง

เพราะเขารูว้ า่ หากช้ากว่านีอีกก้าว ไม่แน่วา่ รัชทายาทผู้


เอาแต่ใจและแสนอํามหิตผูน้ ี จะฆ่าเขาทิงเสียหรือไม่

ต่างก็บอกว่าคุณชายตระกูลมูเ่ ป็ นจอมเสเพล แต่ใครจะ


รูบ้ า้ งว่ารัชทายาทในวังหลวงกลับเป็ นปี ศาจทีเลวร้ายยิง
กว่า

เมือเทียบกับรัชทายาทแล้ว คําว่า ‘จอมเสเพล’ กลาย


เป็ นคําทีเหมือนการยกย่องและเคารพนับถือคําหนึงไป

12
……

กลางดึก ณ ตําหนักรุย่ อ๋อง

ทว่า รุย่ อ๋องฉินจินห้าวยังไม่เข้านอน

เขายังคงอยูใ่ นชุดเต็มยศสะอาดสะอ้านนังอยูใ่ นห้องลับ


รอบข้างเป็ นเหล่าทีปรึกษาและเสนาบดี

ในมือของเขา ก็มีจดหมายข่าวลับเช่นกันและเนือหา
ภายในนันก็เป็ นเช่นเดียวกับฉบับทีฮ่องเต้และรัชทายาท
ได้รบั หลังจากทีเขาอ่านจบ ก็สง่ ต่อให้กบั คนอืนๆ จาก
13
ซ้ายไปขวา

พอจดหมายเวียนกลับมาทีในมือเขาอีกหน เขาจึงถอน
หายใจพลางพูดว่า : “หากข้ามีกองทัพทีไร้เทียมทาน
เช่นนี จะดีสกั เพียงไหนกันนะ?”

ท่ามกลางทีปรึกษา มีคนประสานมือขึนกล่าวปลอบ
พระทัย : “พระองค์ไม่ตอ้ งทรงกังวลไปพะยะค่ะ ถึงแม้วา่
คนพวกนันจะดูลกึ ลับและมีฝีมือเหนือชัน แต่ก็มีเพียง
แค่สบิ กว่าคน คงจะช่วยงานใหญ่ของพระองค์ได้ไม่มาก
นัก”

“ก็ไม่แน่ ท่านต้องรูว้ า่ บางที พลังเพียงเล็กน้อย ก็

14
สามารถเปลียนทุกอย่างได้” ทีปรึกษาอีกคนรีบแย้ง

ทันใดนัน ทังสองก็โต้แย้งกันตามความคิดเห็นของตน

ฉินจินห้าวขมวดคิว ยกมือขึนพลางพูดว่า : “พอได้แล้ว


ท่านทังสอง ข้าเพียงแค่พดู ในสิงทีคิดก็เท่านัน กองทัพที
มีทีมาลึกลับและเก่งกาจเช่นนี ยังไม่ใช่สงที
ิ ลัวตูจะมีได้
แม้วา่ ข้าจะอยากได้มนั มากสักเพียงไหนก็เป็ นแค่ความ
คาดหวังเท่านัน เรามาปรึกษาเรืองทีอยูต่ รงหน้าในตอน
นีดีกว่า”

คําพูดนีของเขา ทําให้ทงสองต่
ั างก้มหน้าเงียบลง

15
ตอนที 88-2 ตาเฒ่าหัวไว !

16
เรืองทีอยูต่ รงหน้าอย่างนันรึ คงหนีไม่พน้ เรืองของทางวัง
ตะวันออกและทูตแห่งแคว้นถู

เงียบไปครูห่ นึงทีปรึกษาท่านหนึงก็เอ่ยขึนว่า : “ท่านผู้


นันทีวังตะวันออก ช่วงทีผ่านมานีได้เผยตัวตนทีแท้จริง
ออกมามาก หากเรายังแอบสังเกตการณ์ตอ่ ไป เชือว่าอีก
ไม่นานนักก็จะสามารถฉีกหน้ากากคนดีจอมปลอมของ
เขาออกมาได้ บางทีเราอาจจะต้องใช้การมาเยือนของ
ราชทูตแห่งแคว้นถูในครังนีให้เป็ นประโยชน์ อยูๆ่ แคว้น
ถูก็สง่ ราชทูตมาเยือน จุดประสงค์ยงั ไม่แน่ชดั ด้วยความ
สัมพันธ์ของสองแคว้นตอนนี หากเกิดเรืองอะไรขึนมาล่ะ
ก็”
17
ในขณะทีพูด สายตาของทีปรึกษาก็เหลือบมองใบหน้า
หล่อเหลาของฉินจินห้าว พอเห็นว่าเขาไม่มีทา่ ทีทีจะ
ห้ามปราม จึงพูดต่อว่า : “เราก็จะสามารถ..... หากถึง
เวลานัน ไม่วา่ จะเกิดเรืองกับราชทูตจากแคว้นถู หรือว่า
มีข่าวว่าองค์รชั ทายาททรงร่วมมือกับแคว้นถู ต่างก็จะ
ทําให้วงั ตะวันออกหรือกระทังหานฮองเฮาเองไม่
สามารถกลับมายิงใหญ่ได้อีกเป็ นแน่ เมือตระกูลหานล้ม
ถึงตอนนันตําแหน่งอันสูงส่งนันก็จะอยูใ่ นมือของ
พระองค์แล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ” พอพูดจบ ทุกคนต่างก็
เห็นด้วยและสนับสนุนความคิดนี

ฉินจินห้าวเงียบไปนาน ราวกับกําลังครุน่ คิดอะไรอยู่

18
ทันใดนัน ทุกคนก็เงียบลงและมองไปทีเขาอย่างระมัด
ระวัง

ทีปรึกษาทีอยูใ่ กล้เขาทีสุด เอ่ยถามว่า : “ทรงคิดอะไรอยู่


หรือพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินจินห้าวค่อยๆ เงยหน้าขึน คิวอันดกดําขมวดเล็กน้อย


พลางพูดอย่างเคร่งขรึมว่า : “เหมือนว่าพวกเจ้าจะลืมไป
แล้วว่า นีก็จวนใกล้วนั เข้าพิธีสวมหมวกของมูช่ ิงเกอแล้ว
ตามราชโองการของเสด็จพ่อแล้ว เขากําลังจะกลับมา
จากเมืองอี”

ทุกคนต่างก็ฉงนใจและลอบสบตากัน

19
ในใจต่างมีขอ้ สงสัยเดียวกัน : การใหญ่ทีพวกเขากําลัง
วางแผนเกียวอะไรกับจอมเสเพลตระกูลมูด่ ว้ ย?

แต่วา่ พวกเขาต่างก็เป็ นทีปรึกษาทีอยูเ่ คียงข้างกับรุย่


อ๋องมาเป็ นเวลานาน สําหรับเรืองทีรุย่ อ๋องหวังในอํานาจ
ทางทหารของตระกูลมูน่ นั พวกเขารูม้ าแต่ไหนแต่ไรแล้ว
เพราะฉะนันหลังจากทีรุย่ อ๋องพูดเช่นนี พวกเขาก็ไม่กล้า
พูดอะไรเหลวไหล

สุดท้าย ทีปรึกษาทีเก่าแก่และมีอาํ นาจมากทีสุด ก็ได้


ถามแทนทุกคน : “ครังก่อนทีจอมเสเพลตระกูลมูอ่ อก
จากลัวตู ระหว่างทางนันไม่ใช่แค่พวกข้า ยังมีการปอง
ร้ายอีกมากมายแต่สดุ ท้ายกลับถูกสังหารทังหมดโดยไม่
20
ทราบสาเหตุ ตอนแรกพวกเราแอบสงสัยว่าเป็ นเพราะ
มูซ่ งแอบส่งคนไปคุม้ ครอง หรือว่าการทีมูช่ ิงเกอจะกลับ
จากเมืองอีครังนีฝ่ าบาทยังทรงคิดจะลงมืออีก”

เมือเห็นว่าทุกคนเข้าใจจุดประสงค์ของเขาผิด ฉินจิน
ห้าวจึงขมวดคิว : “เรืองนัน สืบจนถึงตอนนีแล้วยังไม่ได้
ความ พวกเจ้ายังมีหน้ามาพูดอีก ทีข้าพูดถึงมูช่ ิงเก
อเพียงเพราะต้องการจะบอกว่า หากเขากลับมาครานี
ถ้าตระกูลมูย่ งั ไม่เห็นด้วยกับความคิดของข้า ถ้าเช่นนัน
ในขณะทีเราจัดการกับรัชทายาท ก็ถือโอกาสในการ
จัดการกับตระกูลมูไ่ ปด้วยเสียเลย ผูท้ ีไม่ซือสัตย์ตอ่ ข้า
ปล่อยทิงไว้ก็มีแต่จะเป็ นภัย อีกอย่างข้าก็อยากได้
อํานาจทหารและต้อนตระกูลหานให้จมมุม”

21
ในทีสุดก็เข้าใจจุดประสงค์ของรุย่ อ๋อง ทุกคนต่างก็รบี
สรรเสริญความคิดของเขา หลังจากทีตรองอย่าง
รอบคอบแล้ว แผนการต่างๆ นานา ได้ถกู กระจายออก
มาจากห้องประชุมลับ

มูช่ ิงเกอทียังไม่ได้กลับไปยังลัวตู ดูเหมือนว่าจะตกเป็ น


เป้าของแผนการร้ายต่างๆ ในครังนี

......

เมืองอี ป้อมปราการทีอยูบ่ นหน้าผาบริเวณชายแดนทีซึง


ถูกปิ ดตายยังคงแฝงความอันตราย

22
ป้อมทีตังอยูต่ รงชายแดนระหว่างแคว้นถูและเทือกเขา
ฉิน ดังกระบีวิเศษทีตกลงมาจากฟากฟ้า คุม้ กันการโจม
ตีทงหมดและคอยคุ
ั ม้ ครองความปลอดภัยของเหล่าประ
ชาราษฏ์ทีอยูข่ า้ งหลัง

เมือนับเวลาแล้ว มูช่ ิงเกอก็เกิดใหม่มาปี กว่าแล้ว การมา


เยือนในเมืองอีแห่งนีก็เป็ นเวลา สิบเดือนทีผ่านมาอย่าง
รวดเร็ว

ช่วงเวลาทีอยูท่ ีนี รูปโฉมภายนอกของนางได้เปลียนไป


อย่างพลิกหน้ามือเป็ นหลังมือ

รูปร่างทีสูงโปร่ง มาพร้อมกับสัดส่วนทีลงตัวและไม่ได้

23
เป็ นหนุ่มน้อยทีไม่รูค้ วามอีกต่อไป

ในสายตาของคนนอก นางดูสง่ามากขึน หนักแน่นและ


ใบหน้างดงามละเอียดละออก็มีจิตวิญญาณวีรชนและ
ความแน่วแน่ จนทําให้ไม่อาจละลายตาจากนางได้

ชุดสีแดงตัวใหญ่ทีสวมอยู่ ได้แปรเปลียนเป็ นสีแดงเจิด


จ้าอันร้อนแรงดังแสงอาทิตย์สอ่ ง แสบตาดังเปลวเพลิง
และเปรียบเสมือนโลหิตอันน่าเย้ายวน เสืออันรัดกุมดู
เป็ นระเบียบเรียบร้อย นางสวมเสือเกราะและรองเท้าที
ทําจากเงินแท้ ด้านบนสลักลวดลายซับซ้อน ราวกับเป็ น
เครืองประดับยังไงยังงัน

24
แต่ มีเพียงมูช่ ิงเกอทีรูด้ ีกว่าใครถึงประโยชน์ของลวดลาย
สลับซับซ้อนทีอยูบ่ นนัน มันสามารถเพิมพลังของเสือ
เกราะได้ เพือป้องกันการโจมตีจากภายนอก

นางยังไม่ได้กระตุน้ สายเลือด แต่บงั เอิญได้ตาํ ราเกียว


กับพลังต้องห้ามเล่มหนึงมาจาก**บโบราณของเหมิงเห
มิง ตอนเหมิงเหมิงเอามันออกมาเล่น ตังแต่นนเป็
ั นต้น
มา นางก็เกิดความเข้าใจอีกประการเกียวกับการหลอม
อาวุธ และพัฒนาพลังของอาวุธนันก็คือเพิมพลังต้อง
ห้ามเข้าไป ใช้พลังต้องห้ามในการยกระดับอาวุธ
ธรรมดาให้กลายเป็ นอาวุธวิญญาณและอาจจะกลาย
เป็ นอาวุธทีเป็ นสมบัติได้

อีกทังนางเชือมันว่าเมือนางได้สมั ผัสกับมันมากขึน
25
เรือยๆ การทีนางใช้วิธีพิเศษเช่นนีหลอมอาวุธ แน่นอนว่า
จะสามารถหลอมอาวุธทีเก่งกาจขึนมาได้

ในตอนนี นางสามารถเข้าถึงได้เพียงแค่ปลายขนของ
ทักษะต้องห้าม ดังนันการใช้วิธีนีทําได้เพียงเสือเกราะ
และอาวุธวิญญาณบางอย่าง แต่อาวุธวิญญาณก็ถือว่า
เพียงพอแล้วสําหรับแคว้นฉิน

อีกอย่าง ช่วงนีนางไม่เพียงแค่พฒ
ั นาเสือเกราะทีนาง
สวมอยูเ่ ท่านัน

โดยทัวไปแล้ว ทังเสือเกราะและอาวุธทังหมดของ
องครักษ์เขียวมังกรต่างก็ถกู นางแก้ไขโดยใช้วิธีการอัน

26
พิเศษมาแล้วทังนัน

รวมทังโย่วเหอและฮวาเยวียทียิงลืมไม่ได้เลย

ถึงกับว่า ทหารในกองตระกูลมู่ ส่วนใหญ่ตา่ งก็มีเสือ


เกราะป้องกันตัวและอาวุธทีมูช่ ิงเกอหลอมออกมาเกิน
จํานวน

การหลอมอาวุธต้องใช้วตั ถุดิบจํานวนมาก เพราะฉะนัน


มูช่ ิงเกอไม่สามารถเปลียนและยกระดับอาวุธของกอง
ทหารตระกูลมูท่ ีประจําการณ์อยูใ่ นเมืองอีได้ทงหมด
ั แต่
ทว่าความสามารถอีกอย่างกลับไม่จาํ เป็ นต้องเสียแรง
มากถึงเพียงนัน

27
ในขณะทีมูช่ ิงเกอสัมผัสกับทักษะการหลอมโอสถนัน ก็มี
ตําราทีรวบรวมประสบการณ์ทีหลากหลายของผูเ้ ฒ่า
เป่ ยหมิงคอยหนุนหลัง รวมไปถึงความช่วยเหลือของเหมิ
งเหมิงทีนานๆ ทีจะเด็ดสมุนไพรจากสวนมาให้

เพราะฉะนันช่วงนี ทักษะในการหลอมโอสถของนางจึง
เพิมมากขึนและสามารถหลอมโอสถระดับสูงได้แล้ว

ความสามารถอันเหนือฟ้านี หากถูกบอกต่อ คงจะทําให้


ทุกคนตกใจกันถ้วนหน้า

ต้องรูว้ า่ โดยปกติแล้ว หากฝึ กโดยเริมจากการแยกแยะ

28
ประเภทของสมุนไพร จนสามารถเรียกได้วา่ เป็ นปรมา
จารยหลอมโอสถระดับสูงได้นนั ต้องใช้เวลาทียวนา
น อย่างน้อยสิบกว่าปี หรืออาจจะเกือบสิบปี และคน
จํานวนมากแม้ใช้เวลาทังชีวิตก็ยงั ไม่สามารถเข้าถึง
ระดับนีได้ ทําได้เพียงแค่หยุดอยูใ่ นระดับกลางหรือใน
ระดับทีตํากว่า

แต่มชู่ ิงเกอทีไม่ได้ตงใจจดจ่
ั อมากนัก กลับใช้เวลาเพียง
หนึงปี ในการเข้าถึงขันสูง ทังทีคนอืนๆ ต้องใช้เวลาทัง
ชีวิต

ความสามารถระดับนีจะเรียกว่าอัจฉริยภาพไม่ได้ แต่
ต้องเรียกว่า ความมหัศจรรย์!

29
ขันตอนของการปรุงโอสถนัน มูช่ ิงเกอแทบจะไม่ตอ้ งเสีย
ยาสมุนไพรโดยเปล่าประโยชน์ไปเลยแม้แต่หม้อเดียว
และเตรียมยาในการรักษาแผลและช่วยชีวิตให้กบั กอง
ทหารตระกูลมู่ การเตรียมยาจํานวนมากเพียงนี ช่างเป็ น
เรืองทีน่าตกใจเสียจริง

เตรียมยาระดับกลางไว้ให้กองทหารตระกูลมู่ แต่ยาทีมู่
ชิงเกอเตรียมเอาไว้ให้องครักษ์เขียวมังกรนันเป็ นยา
ระดับสูง

ยาพวกนีต่างก็เป็ นยาทีทําให้สามารถฟื นฟูพลังจิตได้ใน


ทันที

30
ความสามารถพิเศษขององครักษ์เขียวมังกร ทําให้นาง
คลายความวิตกกังวลใจลงได้มาก

อีกอย่าง นางยังเตรียมของขวัญเอาไว้ให้ทา่ นปู่ และท่าน


อาคนละชินและรอมอบให้พวกเขาเมือกลับไป นางเชือ
ว่า ท่านปู่ และท่านอาจะชอบของขวัญชินนีของนาง รวม
ทังสร้างความประหลาดใจอย่างหาทีสุดไม่ได้ให้แก่
ฮ่องเต้แคว้นฉิน

“คุณชาย ท่านแม่ทพั ให้คนมาส่งข่าว” คนทีเข้ามาถือห่อ


ของหนาๆ เอาไว้

31
มูช่ ิงเกอรีบเปิ ดออกดู ด้านในมีจดหมายจํานวนเจ็ดแปด
ฉบับทีวางเรียงกันอย่างเป็ นระเบียบเรียบร้อย

นอกจากจดหมายฉบับทีมาจากมูซ่ งแล้ว ทีเหลือต่างก็


มาจากองค์หญิงหย่งฮวนฉินอีเหลียน

ช่วงสิบเดือนทีมูช่ ิงเกอมาอยูท่ ีเมืองอี นางเขียนจดหมาย


มาไม่ตากว่
ํ าร้อยฉบับ แต่มชู่ ิงเกอกลับไม่ได้ตอบกลับ
เลยแม้แต่ฉบับเดียว ยิงไปกว่านันคือไม่ได้เปิ ดอ่านเลย
แต่นางก็ยงั คงไม่ลดละความพยายาม

ยังคงเหมือนเคย ทิงจดหมายจากองค์หญิงตัวน้อยเอาไว้
อีกข้าง มูช่ ิงเกอฉีกจดหมายฉบับทีมาจากมูซ่ งออก

32
เนือหาภายในจดหมาย ยังคงเป็ นการบอกเล่า
สถานการณ์โดยทัวไปของลัวตู จากนันก็ถามว่ามูช่ ิงเก
อวางแผนจะกลับไปยังลัวตูเมือไหร่

อ่านจดหมายจนจบอย่างรวดเร็ว มูช่ ิงเกอถอนหายใจ


พลางพูดว่า : “โย่วเหอ”

ทันใดนัน โย่วเหอก็รบี เข้ามาในห้อง พลางทําความ


เคารพ : “คุณชาย โย่วเหอมาแล้ว”

มูช่ ิงเกอยืนเอามือไพล่หลัง ถามนิงๆ ว่า : “ราชทูตจาก


แคว้นถูเดินทางไปถึงไหนแล้ว”

33
“เรียนคุณชาย ราชทูตจากแคว้นถูได้เข้ามาภายในเขต
แคว้นฉินแล้ว หากไม่มีอะไรเปลียนแปลง พวกเขาอาจ
จะไปถึงลัวตูในอีกเจ็ดวันข้างหน้า ทีพวกเขามาเยือน
แคว้นฉินในครังนี ก็เพราะเรืองการแต่งงานเชือมสัมพันธ์
ได้ข่าวว่า รัชทายาทของเขาอยากจะอภิเษกกับองค์หญิง
ของแคว้นฉิน” โย่วเหอเล่าข่าวทีได้รบั รูท้ งหมดออกมา

ช่วงนี ในด้านข่าวกรองนางและฮวาเยวียพัฒนาไปได้
อย่างรวดเร็วมาก ทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ ชืนชม

“แต่งงานเชือมสัมพันธ์ร”ึ มูช่ ิงเกอพึมพํา ก้มหน้าลงและ


สังให้โย่วเหอออกไป

34
ก่อนทีนางจะออกไป มูช่ ิงเกอก็ได้เรียกตัวเอาไว้อย่าง
กะทันหัน พลางพูดกับกับนางว่า : “ แจ้งลงไปว่า หลัง
จากนีอีกสองวันจะกลับลัวตู”

โย่วเหอออกไปและถ่ายทอดคําสังของมูช่ ิงเกอ

เมืออยูใ่ นห้องคนเดียว ใบหน้าอันงดงามของฉินอีเหยาก็


ผ่านเข้ามาในความคิดของมูช่ ิงเกอ หากจะมีการสมรส
เชือมสัมพันธ์องค์หญิงผูท้ ีมีอายุเหมาะสมกับรัชทายาท
แคว้นถูมากทีสุดก็คงจะมีแค่นางแล้ว

“สุดท้ายแล้ว ชะตาชีวิตของเจ้าก็ยงั หนีไม่พน้ การโดนผู้

35
อืนควบคุม” มูช่ ิงเกอถอนหายใจเสียงเบาอยูใ่ นใจ และ
เลิกคิดเรืองนี

36
ตอนที 88-3 ตาเฒ่าหัวไว !

ในยามคําคืน มูช่ ิงเกอนอนอยูใ่ นห้อง ในขณะทีกําลัง


เตรียมเข้านอน ทันใดนันก็สมั ผัสถึงกลินหอมอันแปลก
ประหลาด จากนัน ร่างทังร่างก็ถกู พลังบางอย่างห่อหุม้
และหายวับไปจากห้อง

เมือทุกอย่างตรงหน้านางชัดเจนมากยิงขึน ร่างของนาง
ก็ได้มาหยุดอยูท่ ีส่วนลึกของเทือกเขาฉิน

37
อย่าถามว่านางตัดสินเรืองนีได้อย่างไร...กลินไอของ
เทือกเขาฉิน นางคุน้ เคยจนซึมซับเข้าไปในกระดูกแล้ว

แม้วา่ ทีในพืนทีแห่งนี นางยังไม่เคยมา แต่ก็ยงั สามารถรู ้


ได้วา่ ทีนี คือ เทือกเขาฉิน ยิงไปกว่านัน ทีนียังเป็ นส่วน
ลึกของเทือกเขาฉินทีคนธรรมดายากทีจะเข้าถึง

อย่างไรก็ตาม ตอนนี นางยืนอยูท่ า่ มกลางต้นไม้ทีมี


ใบไม้แห้งกรัง บรรยากาศรอบข้างเงียบสงบจนผิดปกติไร้
เสียงนกเสียงกาหรือแม้แต่กลินไอของสัตว์ป่า ราวกับว่า
เป็ นพืนทีทีได้ตายไปแล้ว

ถ้า ...... บนโลกใบนีมีพืนทีทีตายไปแล้วทีสวยงามมาก

38
ถึงเพียงนี ... ...

มูช่ ิงเกอมองไปรอบ ๆ ทีนีเป็ นป่ าต้นเฟิ ง (ต้นเมเปิ ล) สี


แดงดังเปลวเพลิง ใบเฟิ งแต่ละใบส่องสว่างประดุจเป็ น
แสงสว่างให้แก่โลกใบนี

เงยหน้าขึนมอง ระยะอันไกลพ้นมีตน้ ไม้แก่ทีสูงลิวเสียด


ฟ้า ต้นไม้สีเขียวขจีสงู ปกคลุมดิงตัวลง ระหว่างกิงไม่
สามารถเห็นถึงแสงส่องประกายสีฟา้ จากท้องฟ้า

ลมกลางคืนพัดมาอย่างกะทันหัน ทําให้ใบเฟิ งทีร่วงอยู่


บนพืนพัดเข้าหามูช่ ิงเกอ

39
นางยกมือขึนจับใบเฟิ ง ใบเฟิ งร่วงลงมาหยุดทีบนฝ่ ามือ
ของนางเบาๆ เบาจนนางไม่สามารถรับรูไ้ ด้ถงึ นําหนัก
เลยแม้แต่เสียวเดียว

มูช่ ิงเกอค่อยๆ ลดสายตาลงมอง สายตาทีสว่างสดใส


จดจ้องไปทีใบต้นเฟิ ง เพราะแสงสีแดงนัน ทําให้ฝ่ามือ
ของมูช่ ิงเกอราวกับมีเปลวเพลิงลุกโหม

ทันใดนัน มือใหญ่ขา้ งหนึงก็พลันโผล่ขนมาและวางลง



บนฝ่ ามือของนาง ปิ ดใบต้นเฟิ งเอาไว้ แล้วจับมือของ
นางแน่น

มูช่ ิงเกอลืมตาขึนมอง ชุดสีขาวสะอาดไร้มลทินปรากฏ

40
ตัวขึนตรงหน้านาง ประดุจเมฆหมอกสีขาวทีเอาแน่เอา
นอนอะไรไม่ได้ จากนันก็เงยหน้าขึนและค่อยๆ ยกคาง
ขึนเล็กน้อย ใบหน้าอันงดงามไร้ทีเปรียบ ความสง่างาม
ทีไม่สามารถอธิบายออกมาได้ดว้ ยคําพูดสะท้อนอยูใ่ น
ดวงของนาง รอยยิมจางๆ บนมุมปาก ราวกับเป็ นตัว
แทนของความงดงามบนโลกใบนี

“เจ้านีเอง” มูช่ ิงเกอพึมพําเบาๆ

ในนําเสียง ปราศจากความตกใจหรือประหลาดใจใดใด
อยูเ่ ลย ราวกับว่ามันควรเป็ นเช่นนีอยูแ่ ล้ว

รอยยิมตรงมุมปากของซือมัวน่าเย้ายวนมากขึนกว่าเดิม

41
ผมสีหมึกทียาวเหยียดลงมาถึงเข่าปลิวไปมาอย่างเป็ น
ธรรมชาติ แฝงเสน่หอ์ นั ไร้ทีสินสุด แขนเสือทีปล่อยลง
ของเขาถูกยกขึนอย่างกะทันหัน เผยให้เห็นถึงฝ่ ามืออัน
เรียวยาวของเขา

ไม่มีการเกรินอะไร เขาก็คว้าเอวของนางและดึงนางเข้า
ใกล้ ความใกล้ชิดของทังสองมากเสียจนแทบจะไม่มีช่อง
ว่างระหว่างกัน

มูช่ ิงเกอไม่ได้ตอ่ ต้าน เพียงแค่จอ้ งเขาและเลิกคิวเล็ก


น้อย ในแววตานันฉายแววขีเล่นมากขึนหลายส่วน

ซือมัวก้มหน้าลง ในส่วนลึกของสายตานันมองมูช่ ิงเกอที

42
อยูใ่ นชุดสีแดงเจิดจ้าอย่างตังใจ พลางพูดเบาๆ ว่า :
“อยากจะให้เสียวเกอเอ๋อร์สอนการรําเต้นทีดูแปลกๆ นัน
ให้ ตังนานแล้ว ถ้าในเมือการนัดหมายไม่สคู้ วามบังเอิญ
ไม่สสู้ อนข้าคืนนีเลยดีกว่า”

คําพูดนี ราวกับเป็ นคําพูดทีพูดออกมาด้วยเหตุและผล


โดยไม่สามารถปฏิเสธได้

ทําให้กหู ยาและกูเย่ทีแอบฟั งอยูถ่ งึ กับปาดเหงือ เหตุใด


ท่านประมุขของพวกเขาถึงได้หน้าด้านถึงเพียงนี?

“เจ้าอยากจะฝึ กการเต้นรํานันรึ” มูช่ ิงเกอกระตุกยิม


ยัวเย้า

43
ราวกลับไม่เห็นการหยอกล้อในสายตาของนาง ซือมัว
พยักหน้า : “ข้ามักจะรูส้ กึ ว่ามีเพียงข้าเท่านันทีจะ
สามารถร่ายรําสะท้านฟ้าดินกับเสียวเกอเอ๋อร์ได้”

“เจ้ายังคงหลงตัวเองอยูเ่ หมือนเดิมเลยจริงๆ” มูช่ ิงเก


อยิมเยาะ

ซือมัวยิมโดยปราศจากคําพูดใด ราวกับกําลังบอกนาง
ด้วยสายตาว่า จะใช่หรือไม่ ลองเต้นดูก็รู ้

จ้องหน้าเขา จากนันมูช่ ิงเกอก็ยกมืออีกข้างของตนเอง


ขึนวางบนไหล่ของเขา ทําให้ความใกล้ชิดของทังสอง

44
เพิมมากขึน นางเข้าไปแนบหูของเขาแล้วพูดด้วยนํา
เสียงโทนตําแต่แสนเย้ายวนว่า : “ถ้าอย่างนัน ก็ตงใจ

ฝึ ก”

ไม่มีจงั หวะดนตรีแต่กลับเหมือนมี

มูช่ ิงเกอเริมเต้นพร้อมกับใบเฟิ งทีร่วงหล่นสูพ่ ืนดิน

ครังนี นางเต้นในจังหวะของหญิงสาวเพราะว่าซือมัวได้
ยึดตําแหน่งการเต้นของฝ่ ายชายไปอย่างเอาแต่ใจ ราว
กับว่า ในขณะทีมูช่ ิงเกอเต้นรําเมือคราทีแล้ว เขาได้จด
จําทุกท่วงท่าของนางเอาไว้อย่างแม่นยํา

45
ร่างกายเคลือนไหวไปตามจังหวะการเต้น ชุดสีขาวและ
ชุดสีแดงเข้าหาและใกล้ชิดกัน ทําให้เกิดเป็ น เส้นโค้งอัน
เต็มเปี ยมไปด้วยความงดงามและน่าเย้ายวน

การเต้นรําครังนี ยังคงเป็ นมูช่ ิงเกอทีเป็ นคนควบคุม


จังหวะ

แต่ราวกับว่า ทุกการเคลือนไหวของนางซือมัวจะ
สามารถต่อให้ติดได้ ทังสองเข้าหากัน ราวกับได้เคยเต้น
รําด้วยกันมาแล้วนับครังไม่ถว้ น

ความเข้าใจอย่างลึกซึงในการเต้น ทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ


ฉงนใจ ไม่อยากจะเชือว่านีเป็ นครังแรกในการเต้นรําของ

46
ซือมัว

ในอีกมุมหนึงกูหยาเอามือจิมแขนของกูเย่ พลางถาม
ว่า : “นี เจ้าเคยเห็นท่านประมุขเต้นรําหรือไม่?”

กูเย่กลอกตาใส่เขา : “แล้วเจ้าเคยเห็นรึไง?”

กูหยาส่ายหน้าอย่างรุนแรง

เหอๆ ถือว่าคุณชายตระกูลมูผ่ นู้ นช่


ั างร้ายกาจจริงๆ เป็ น
ผูป้ ราบท่านประมุขโดยแท้เลย!

ราวกับว่า หากเป็ นเพราะนางท่านประมุขของพวกเขาจะ


47
ทําอะไรทีผิดศีลธรรม ถุย้ ....ไม่ส.ิ .....เรืองทีไม่น่าดูแค่
ไหนก็ไม่ใช่เรืองทีแปลก!

ทังสองเงียบ ไม่รูว้ า่ ควรจะดีใจหรือเสียใจ ทําได้เพียงแค่


ชืนชมการเต้นรําของทังสองต่อไป

แต่ทงสองทํ
ั าเหมือนพวกเขาไม่มีตวั ตน พวกเขาต่างจม
ดิงอยูก่ บั สายตาของฝังตรงข้าม ร่วมเต้นรํากันในสวนต้น
เฟิ งพร้อมกับใบเฟิ งทีปลิวไปมา

แทงโก้ เป็ นการเต้นทีแสดงถึงความรักของชายหญิง

ทังร้อนแรงและบ้าบิน มีทา่ ทางทีดูใกล้ชิดและมีความ


48
หมายแอบแฝงมากมาย

ก่อนหน้านี ตอนอยูใ่ นวังหลวงนางก็แค่ตอ้ งการแก้ไข


ปั ญหาเฉพาะหน้า จึงพาฉินอีเหยาเต้นรําในท่วงท่า
ระดับสูงหลายท่า แต่ตอนนี การให้ความร่วมมือของซือ
มัว ทําให้นางเข้าถึงการเต้นรํา เต้นไปตามจังหวะใน
หัวใจ

ทีมูช่ ิงเกอฝึ กเต้นแทงโก้ เป็ นเพราะความจําเป็ นในการ


ปฏิบตั ิภารกิจ หลังจากทีนางฝึ กจนเป็ นแล้ว นางจึง
หลงใหลการเต้นรําทีทําให้รูส้ กึ ปลดปล่อยเช่นนี เพราะ
ฉะนันเมือชาติทีแล้วนางจะมีคเู่ ต้นเฉพาะ ในเวลาพัก
ของนาง นางก็จะไปเต้นรําเป็ นครังคราวและก็กลายเป็ น
กิจกรรมหนึงเดียวในการใช้ชีวิตส่วนตัวของนาง
49
ในตอนนีนาง รูส้ กึ ว่าความร่วมมือระหว่างซือมัวและนาง
ราวกับจะลงตัวมากกว่าคูเ่ ต้นคนนันเสียอีก ทําให้นาง
สามารถปลดปล่อยได้มากกว่าเดิม

ในชัวขณะ นางลืมไปว่าตนเองอยูท่ ีไหน ลืมเรืองราว


วุน่ วายทังหมดบนโลกและได้ปลดปล่อยอามรมณ์ไปกับ
การเต้นรํามากขึนเรือยๆ

ซือมัวทีหันหน้าเข้าหานางนัน สังเกตเห็นตังนานแล้ว แต่


เขาไม่ได้เตือนและไม่ได้ขดั จังหวะ แต่กลับทําให้ตนเองมี
ส่วนร่วมด้วยใบหน้าทีประดับด้วยรอยยิม

50
ทันใดนันมูช่ ิงเกอก็ยืนมือออกไปผลักเขาออก เพือเว้น
ระยะระหว่างทังสอง

ซือมัวตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึน แววตาพลันฉาย


แววฉงนสงสัย

เขาจ้องมองใบหน้าอันงดงามของมูช่ ิงเกอ เห็นถึงความ


สงบในสายตาของนาง จึงค่อยๆขมวดคิว

แต่ภาพต่อจากนัน กลับทําให้จิตใจทีสงบไร้คลืนลมมา
เนินนานของเขา เริมเต้นแรงขึนอย่างบ้าคลัง

51
ตอนที 88-4 ตาเฒ่าหัวไว !

52
นางยกมือขึน ปลายนิวสัมผัสตุม้ หูสีมว่ งตรงติงหูซา้ ย

เพียงแค่ดงึ ออกเบาๆ ตุม้ หูก็พลันหลุดออกมาและร่วงลง


บนฝ่ ามือ

มูช่ ิงเกอสะบัดข้อมือเบาๆ ตุม้ หูสีมว่ งก็เกิดแสงส่อง


ประกายดังดาวตกแสงหนึง จากนันก็ลอยไปทีด้านหลัง
ของนางและเข้าไปปั กอยูบ่ นลําต้นของต้นเฟิ ง โผล่ออก
มาให้เห็นเพียงครึงเดียวเท่านัน

53
ทันใดนัน รูปลักษณ์ภายนอกของมูช่ ิงเกอก็พลันเปลียน
ไป

รูปร่างยังคงสูงโปร่ง แต่สว่ นเว้าส่วนโค้งได้รูปชัดเจนน่า


เย้ายวนมากขึน

ใบหน้ายังคงงดงามไร้ทีเปรียบ สง่างามดูภมู ิฐาน เพียง


แต่มีเสน่หแ์ ละความอ่อนโยนแบบหญิงสาวเพิมเข้ามา

หญิงสาวชุดแดงตรงหน้า ทําให้ในสายตาของซือมัวส่อง
ประกายด้วยความตะลึง

ราวกับว่า บนโลกนีมีเพียงนางทีสามารถอยูใ่ นสายตา


54
และในใจของเขาได้

เสียงเต้นของหัวใจ ราวกับเกิดขึนทีข้างหู เสียงกึกก้องดัง


กลองก็ไม่ปาน ชัดเจนทุกช่วงจังหวะ

ทันใดนัน ซือมัวก็รูส้ กึ ราวกับว่าตนเองได้สญ


ู เสียความ
สามารถในการเคลือนไหว เห็นเพียงแค่นางทีค่อยๆ ขยับ
เข้าใกล้ตนเอง

“เสียวเกอเอ๋อร์.........”

“ชู่ว~!”

55
นิวมือทีแฝงความเย็นยะเยือกจรดลงบนริมฝี ปากได้รูป
ของเขา เพือหยุดคําพูดต่อไปของเขา

มือทังสองข้างของมูช่ ิงเกอ อ่อนราวกับไร้กระดูก โอบ


คล้องคอของเขาเอาไว้ พูดเสียงตําว่า : “เต้นกับข้าอีกสัก
เพลง” แววตาของมูช่ ิงเกอสงบและสดใส ไร้ซงความ

สับสนใดใด

คําพูดนีทําให้ได้สติกลับคืนมา

ราวกับว่า เขาสัมผัสได้วา่ มูช่ ิงเกอเหมือนจะกําลังระลึก


ถึงอะไรจากการเต้นรํานี

56
ระลึกถึงอะไรหรือ ?

เขาไม่รู ้ แต่ทว่าไม่วา่ จะระลึกถึงอะไรก็ยงั มีเขาคอยอยู่


เคียงข้างนาง

ซือมัวพยักหน้า โอบไหล่ของมูช่ ิงเกอไว้อีกครังและเริม


เข้าสูก่ ารเต้นรําต่อ

ครังนี การแสดงออกของมูช่ ิงเกอชัดเจนมากขึนกว่าเดิม


ราวกับว่า ทุกท่วงท่าล้วนเปี ยมไปด้วยความเย้ายวนและ
แรงดึงดูดอันเหลือล้น หากไม่ใช่เพราะแววตาของนาง
สว่างและสดใสมาตังแต่ไหนแต่ไรแล้ว อาจจะทําให้ซือ
มัวตกหลุมพรางโดยไม่รูต้ วั

57
เพราะการนําจังหวะของมูช่ ิงเกอ ซือมัวเองก็เริมเข้าถึง
จังหวะการเต้นรําและค่อยๆ เข้าจังหวะกัน ราวกับว่าทุก
การเคลือนไหวและจังหวะต่อไปของนาง เขารูอ้ ยูแ่ ล้ว

ทังสองลืมทุกสิงรอบกาย กลับทําให้อีกสองคนทีแอบ
สังเกตอยูร่ ูส้ กึ หน้าร้อนปากคอแห้งผากไปหมด

ในใจนันอดทีจะรูส้ กึ ปวดร้าวไม่ได้ : บนโลกนีมีการเต้นที


เย้ายวนถึงเพียงนีเชียวหรือ คุณหนูแห่งตระกูลมูท่ า่ นนี
ช่างใจกล้าจริงๆ ไม่กลัวว่าจะไปกระตุน้ ความต้องการ
ของท่านประมุขบ้างหรือไร แม้วา่ ท่านประมุขของพวก
เขาจะไม่ได้ใกล้เคียงกับพวกบ้ากามประเภทนัน แต่ก็ใช่

58
ว่าจะบกพร่องในด้านนันนะ !

ทันใดนัน ขาข้างหนึงของมูช่ ิงเกอสอดเข้าไปยังระหว่าง


ขาของซือมัว พลางสะบัดเอวอย่างรุนแรง ทําให้กเู ย่และ
กูหยารีบหุบขาตนเองอย่างไม่รูต้ วั ทันที

ทังสองมองหน้ากันต่างตัดสินแล้วว่า ควรจะออกจากทีนี
ให้เร็วทีสุด

วินาทีตอ่ มาทังสองก็หายไปจากพืนทีแห่งนันอย่างรวด
เร็ว

ท่าทางของมูช่ ิงเกอ ทําให้แววตาของซือมัวเกิดสันไหว


59
ราวกับว่ามีบางอย่างกําลังจะทะลุออกจากใต้พืนดิน ทัน
ใดนัน นางก็ได้เปลียนท่าเต้น เก็บเท้ากลับมา เพียงหมุน
รอบตัว ก็เข้าไปอยูใ่ นอ้อมอกอันกว้างใหญ่ของซือมัว

ซือมัวหายใจเข้าช้าๆ และกอดเอวของมูช่ ิงเกอเอาไว้


อย่างจงใจ แต่อีกฝ่ ายกลับปฏิกิรยิ าว่องไว ผลักตัว
เองออกจากอ้อมกอดของเขา ยืนขาออกไปเกียวขาของ
เขาเอาไว้ ลูบขาของซือมัวขึนลงก่อนทีจะปล่อย
ออกอย่างรวดเร็ว

แววตาของซือมัวเปลียนเป็ นลึกซึงและแดงกํา แววตาที


จ้องตาของมูช่ ิงเกอแฝงความรูส้ กึ อดกลันอย่างสุดขีด
ชนิดหนึงไว้

60
แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับทําเหมือนไม่เห็น นิวมือเรียวยาวทัง
สิบประสานกับซือมัวแน่น ใช้พลังของร่างกายดีดตัวขึน
และลอยอยูก่ ลางอากาศ

ซือมัวหมุนตัวไปตามสัญชาตญาณ พานางหมุนคว้างอยู่
กลางอากาศ ราวกับผีเสือราตรี……..

เป็ นเวลาเนินนาน จนกระทังซือมัวราวกับตืนจากความ


ฝันอันแสนมหัศจรรย์ การเต้นรําก็ได้สนสุ
ิ ดลง มูช่ ิงเก
อยืนอยูต่ รงต้นเฟิ งทีมีตมุ้ หูปักอยูเ่ หมือนไม่มีอะไรเกิดขึน
พลางดึงตุม้ หูสีมว่ งออกและใส่เข้าไปบนติงหูซา้ ยของตน
เองอีกครัง

61
ทันใดนัน นางก็กลับไปเป็ นหนุ่มน้อยหน้าหวานงดงาม
ล่มเมืองดังเดิม

ซือมัวเดินเข้ามาหาและจับติงหูซา้ ยของนางเอาไว้ใน
ทันที

ติงหูเป็ นทีๆ ไวต่อความรูส้ กึ ทําให้มชู่ ิงเกอสะดุง้ พอได้


สติก็คิดจะหลีกหนี

แต่ทว่า คําพูดต่อไปของซือมัวกลับทําให้นางล้มเลิก
ความคิดนัน

62
“เจ้ารูห้ รือไม่วา่ เครืองมือมายาทีเจ้าครอบครองอยูน่ นั
หายากมาก แต่ระดับขันของมันกลับไม่สงู นัก หากพบ
กับคูต่ อ่ สูท้ ีมีฝีมือฉกาจ พวกเขาก็จะรูใ้ นทันทีวา่ เจ้า
ปลอมตัว” เขาไม่ได้บอกนางว่า คําว่า ‘ฉกาจ’ในทีนีมัน
มากกว่าทีมูช่ ิงเกอเข้าใจอีกมาก

“แล้วมีวิธีแก้ไขอย่างไร” มูช่ ิงเกอขมวดคิวถาม

การปลอมตัวในหนึงปี กว่ามานี ทําให้นางคุน้ ชินกับ


ความสะดวกสบายทีมากับสถานะชายหนุ่มแล้ว นางไม่
อยากจะให้สถานะทีแท้จริงของนางถูกจับได้ง่ายๆ หรอก
นะ

63
“หาปรมาจารย์ดา้ นการหลอมอาวุธให้พบและหลอมมัน
ขึนมาใหม่ อีกอย่างปรมาจารย์หลอมอาวุธนันต้องเป็ น
ปรมาจารย์ทีได้รบั สายเลือดแห่งการหลอมเครืองมือ
มายาได้จงึ จะสามารถปรับปรุงเครืองมือมายาได้” ซือมัว
พูด

มูช่ ิงเกอตาแวววาวเป็ นประกาย แต่ไม่ได้พดู อะไร

สายเลือดของการหลอมอาวุธทีว่านัน นางมี

แต่วา่ หากต้องเป็ นผูท้ ีมีสายเลือดด้านการหลอมเครือง


มือมายาเฉพาะทางนัน นางกลับไม่มนใจ

64
แม้วา่ นางจะสามารถมันใจได้วา่ ท่านแม่ผมู้ ีทีมาอันลึก
ลับท่านนันของตนเองอาจจะเป็ นปรมาจารย์แห่งการ
หลอมอาวุธ ถึงแม้วา่ ไม่ใช่ อย่างไรก็ตอ้ งมาจากตระกูล
แห่งปรมาจารย์การหลอมอาวุธเป็ นแน่ แต่นางยังคงไม่
มันใจว่าเครืองมือมายาในครอบครองของนางนี เป็ น
อาวุธทีสร้างขึนโดยตระกูลนีหรือไม่

ความเงียบของนางทําให้ซือมัวคิดว่า นางกําลังกังวลใจ
กับเรืองนีจึงพูดต่อว่า : “นีเป็ นการแก้ไขปั ญหาจาก
สาเหตุ แต่ยงั มีวิธีการแก้ไขปั ญหาอีกประการหนึง คือ
การทีให้ขา้ ลงพลังคุม้ กันเอาไว้เพือป้องกันการมองเห็น
ของยอดฝี มือ”

มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึนมองเขา
65
ซือมัวยิมพลางอธิบายว่า : “นันก็คือให้ขา้ ลงม่านพลัง
เอาไว้บนตุม้ หูของเจ้า เพือไม่ให้คนทีมีพลังด้อยกว่าข้า
เห็นตัวจริงของเจ้า เข้าใจหรือยัง”

มูช่ ิงเกอพยักหน้า

คําพูดของซือมัวเกือบจะทําให้นางรูส้ กึ ว่า การหลอม


อาวุธซึงเป็ นทักษะใหม่ทีนางกําลังฝึ กอยูน่ นั ไม่ได้มีเพียง
แค่ทกั ษะเดียว

โชคดีทีว่าจากทีซือมัวพูดเขาก็แค่ลงม่านพลังเอาไว้บน
เครืองมือมายาของนาง แต่ไม่ใช่การใช้การคาถาต้อง

66
ห้ามต่างชนิดแบบนางในการเพิมคุณสมบัติให้กบั อาวุธ

ผูท้ ีมีความสามารถด้อยกว่าเขาก็จะไม่สามารถรูไ้ ด้วา่


นางปลอมตัว อย่างนันหรือ?

ความสามารถของคุณตัวประหลาดนันควรจะเรียกได้วา่
เก่งกาจมาก!

หลังจากคิดทบทวนในใจ มูช่ ิงเกอจึงยอมทีจะปลดตุม้ หู


ของตนเองออกมา แล้วส่งให้กบั ซือมัว คําตอบนันก็
ชัดเจนอยูแ่ ล้ว

ซือมัวเองก็ไม่ได้พดู อะไรมาก ข้อตกลงนีตนเองเป็ นคน


67
เสนอ ทําได้เพียงแค่ทาํ ให้มนั เป็ นจริง

ใครใช้ให้เขาไม่อยากให้ผชู้ ายหน้าไหนทีนอกจากตัวเขา
เห็นถึงความงดงามทีซ่อนอยูข่ องนางล่ะ

ความคิดไม่คอ่ ยบริสทุ ธินัก ซือมัวลงม่านพลังต้องห้ามที


เป็ นสัญลักษณ์ของเขาเอาไว้บนตุม้ หูของมูช่ ิงเกอ

“เสร็จแล้ว” ซือมัวลงม่านพลังเสร็จอย่างรวดเร็วและยืน
ตุม้ หูสง่ กลับไป
68
เพียงแต่วา่ ครังนี เขาไม่ได้ยืนให้บนมือมูช่ ิงเกอแต่อย่าง
ใด กลับใส่ให้นางด้วยตนเองอย่างไม่เปิ ดโอกาสให้ตอ่
ต้าน

มูช่ ิงเกอจับตุม้ หูบนหูซา้ ยของตนเอง มองเขาด้วยสายตา


แปลกประหลาดชัวขณะหนึงแล้วจึงพูดว่า : “หากไม่มี
อะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อน”

ซือมัวพยักหน้า แต่กลับพูดต่ออีกว่า : “หากมีอะไรให้ขา้


ช่วย ก็ขอให้บอก”

“ไม่ตอ้ ง” มูช่ ิงเกอปฏิเสธโดยไม่ตอ้ งคิด

69
นางรูว้ า่ ทีซือมัวพูดนันหมายความว่าอย่างไร แต่การจะ
ทําให้ตระกูลมูพ่ น้ จากอันตรายได้นนั คนทีนางต้องพึงก็
คือตัวนางเอง ในบางเวลานางสามารถใช้อาํ นาจของซือ
มัวในการเพิมอํานาจให้ตนเอง เพือเปลียนแปลงบาง
สถานการณ์ได้บา้ ง

แต่ทว่า จะให้ซือมัวเข้ามามีสว่ นเกียวข้องและแก้ไข


ปั ญหาทังหมดให้ไม่ได้

ท่าทางอันเข้มแข็งของมูช่ ิงเกอ ทําให้ซือมัวผุดรอยยิม


ออกมาบางๆ ไม่ได้ฝืนใจนางอีก และยังเคารพการ
ตัดสินใจของนาง : “หากเจ้าไม่ตอ้ งการ ถ้าเช่นนันข้าก็

70
จะไปแล้ว”

“เจ้าจะไปแล้วหรือ?” มูช่ ิงเกอถามด้วยความฉงนใจ

เจ้านีเพิงมามิใช่หรือ?

ซือมัวพยักหน้า : “บนแผ่นดินใหญ่มีเรืองต้องไปจัดการ
แคว้นฉินนันถือเป็ นเพียงจุดเริมต้นของเจ้าเท่านัน ข้าจะ
รอเจ้า”

คําพูดแปลกๆ เหล่านี ทําให้มชู่ ิงเกอขมวดคิว

แต่ทว่า ซือมัวกลับไม่ได้พดู ต่อ พลันเปลียนเรืองว่า : “ข้า


71
จะยังให้กหู ยา อยูท่ ีนีกับเจ้า อย่างไรเสีย เจ้าก็รูถ้ งึ การมี
ตัวตนอยูข่ องเขาแล้ว ถ้าเช่นนันก็หาเหตุผลให้เขา
สามารถปรากฏตัวอยูข่ า้ งๆ เจ้าได้อย่างเปิ ดเผยเพือคอย
ช่วยงานเจ้าเถอะ”

“อย่าดีกว่า เขาเคยเปิ ดเผยใบหน้าในวังหลวงแคว้นฉิน


แล้ว” มูช่ ิงเกอไม่มีความคิดนีเลยแม้แต่นอ้ ย

การทีนางมีกหู ยาคอยรับใช้ กําลังบอกกับทุกคนว่า นาง


มีความสัมพันธ์อย่างไรกับผูช้ ายทีอยูต่ รงหน้ามิใช่รึ

หากมีคนรูถ้ งึ ความสัมพันธ์นี จะทําให้นางรูส้ กึ เหมือนถูก


ผูกมัด

72
“หากเจ้าไม่ยอม ก็ช่างเถิด ให้เขาคอยดูแลอยูห่ า่ งๆ เพือ
เป็ นเกราะคุม้ กันสุดท้ายให้แก่เจ้าแล้วกัน” ซือมัวเองก็ไม่
ฝื น

“เจ้าช่างมันใจในความสามารถของเขายิงนัก” มูช่ ิงเก


อพูดพลางขมวดคิว แม้วา่ นางเองก็เชือมันว่ากูหยา
เก่งกาจ แต่วา่ นางกลับขัดหูขดั ตากับท่าทางสูงส่งวาง
ตัวเหนือทุกคนของชายผูน้ นั

ใครจะรูว้ า่ ซือมัวกลับพยักหน้า : “ความสามารถของกู


หยาข้านันข้ารูด้ ี ในหลินชวนแห่งนียากจะมีผตู้ อ่ กร” ท่า
ทางสงบนิงนัน ราวกับให้ความรูส้ กึ ทีผิดเพียนไปจากที
ควรจะเป็ น เพราะประเมินความสามารถของกูหยาให้มา
73
เป็ นเพียงผูอ้ ารักขาเท่านัน

มูช่ ิงเกอกระตุกยิมเบาๆ สะบัดแขนเสือแล้วเดินออกไป

แม้วา่ ทีนีเป็ นส่วนลึกของเทือกเขาฉิน แต่นางกลับรูว้ า่


ในสายตาของชายผูน้ ีเทือกเขาฉินอันโหดเ**◌้ยมนีกลับ
เป็ นเพียงทุง่ ดอกไม้ทีไม่มีอนั ตรายใดๆ ปะปนอยูเ่ ลยแม้
แต่นอ้ ย

“ข้าจะส่งเจ้ากลับไป” ด้านหลัง เสียงของซือมัวเอ่ยดังขึน

จากนัน มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ ว่าร่างของตนเองเบาราวกับอยูใ่ น


สุญญากาศ พลันถูกดูดขึนไปกลางอากาศและหายไป
74
จากเทือกเขาฉิน

หลังจากทีมูช่ ิงเกอกลับไปครูใ่ หญ่ ซือมัวก็ยงั คงไม่ไป


ไหน

จนกระทังกูเย่กลับมา เขาก็ยงั คงยืนอยูท่ า่ มกลางต้นเฟิ ง


ดังรูปปั นอันสูงส่งและสง่างาม

“ท่านประมุข” หลังจากทีกูเย่มาอยูข่ า้ งๆ ซือมัว เขาก็พดู


อย่างนอบน้อม

ซือมัวไม่มีการตอบกลับใดๆ เลย ครูใ่ หญ่จงึ พูดขึนอย่าง


ช้าๆ ว่า : “กูเย่ เหตุใดข้าถึงได้ไม่ชอบใจทีจะให้เสียวเก
75
อเอ๋อร์จากไปเลย? ข้าอยากจะนํานางมาอยูเ่ คียงข้างข้า
ให้ขา้ ได้เห็นนางแต่เพียงผูเ้ ดียว แต่วา่ เป็ นเพราะนางไม่
ชอบ ข้าจึงจําเป็ นต้องฝื นใจตนเองแล้วปล่อยให้นางจาก
ไป”

กูเย่ตะลึง ปากกระตุกและตอบเสียงเบาว่า : “ข้าน้อยไม่


เข้าใจ”

“เจ้าเองก็ไม่เข้าใจหรือ?” ซือมัวพูดเสียงตํา ขนตาอันยาว


งอน ปกปิ ดความรูส้ กึ ในแววตา ทันใดนัน เขาก็ยมิ รอย
ยิมนันดังธารนําแข็งทีละลายลง : “เจ้าไม่เข้าใจ ข้าก็ไม่
เข้าใจ ถ้าเช่นนัน ข้าคงจะต้องพยายามจนกว่าจะเข้า
ใจ!”

76
ตอนที 89-1 ราชาผูห้ วนกลับมา !

ณ ลัวตู บริเวณประตูแคว้นทิศเหนือ

ถนนหลักทีเชือมกับประตูเมือง ทังกว้างและเป็ นระเบียบ


เรียบร้อย เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านนําชาและร้านเหล้า
เสียงตะโกนเรียกลูกค้า เสียงแห่งความคึกคัก ดังขึน
อย่างไม่ขาดสาย

บนห้องส่วนตัวชันสองของโรงเตียมแห่งหนึง หลังม่าน
หน้าต่างทีหันหน้าเข้าหาถนน ราวกับมีคนกําลังคอยเฝ้า
1
มอง

“องค์หญิงเพคะ นีก็เป็ นวันทีสามแล้วทีเรามาทีนีและก็


ไม่รูว้ า่ คุณชายจะเดินทางมาถึงทีนีเมือไหร่ องค์หญิงจะ
รออีกวันหรือเพคะ” นางกํานัลคนหนึงเดินไปยังบริเวณ
ข้างเตียงทีมีหญิงสาวผูท้ ีเอาผ้าคลุมปิ ดบังใบหน้าและ
นังหันหลังอยูแ่ ล้วถามเบาๆ

ภายในนําเสียงทีแฝงด้วยความรูส้ กึ ไม่ยตุ ิธรรมและตัด


พ้อ

“หากเจ้าไม่อยากอยูท่ ีนีก็ไปได้เลย” นําเสียงอันเย็น


เยียบของฉินอีเหยาเอ่ยดังขึน ดังลมหนาวทีถูกพัดผ่าน

2
จากภูเขานําแข็ง

นางกํานัลในชุดกระโปรงสีฟา้ รีบคุกเข่าลงพลางกล่าวขอ
อภัย : “บ่าวผิดไปแล้ว องค์หญิงทรงอภัยให้บา่ วด้วย
บ่าวเพียงแค่เป็ นห่วงองค์หญิงเท่านัน ถ้าเช่นนันให้บา่ ว
ส่งคนไปสืบเรืองทีคุณชายจะเดินทางกลับมาจากจวน
ตระกูลเถอะเพคะองค์หญิง”

“ไม่ตอ้ ง” ฉินอีเหยาปฏิเสธอย่างรวดเร็ว นําเสียงแฝง


ด้วยสับสนวุน่ วาย

ดูเหมือนว่า ทุกอย่างทีนางทํา นางไม่ตอ้ งการให้มชู่ ิงเก


อรับรู ้

3
นางกํานัลกัดริมฝี ปากและนังคุกเข่าอยูบ่ นพืนมองใบ
หน้าอันงดงามและแฝงความเยือกเย็นของฉินอีเหยา
นัยน์ตาเปี ยมไปด้วยความห่วงใย นางไม่เข้าใจจริงๆ เลย
ว่า องค์หญิงของพวกนางแสนดีถงึ เพียงนี มิหนําซํายัง
เป็ นหญิงสาวทีเพียบพร้อมทีสุดในหล้า เหตุใดคุณชาย
ยังจะถอนหมันอีก?

จะถอนหมันก็ช่างเถอะ แต่เวลาก็ผา่ นไปนานถึงเพียงนี


แล้ว องค์หญิงก็ยงั คงหักพระทัยไม่ได้เสียที

ช่วงทีผ่านมานี องค์หญิงราวกับถูกนําแข็งปกคลุมอยูก่ ็
ไม่ปาน ไม่วา่ ผูใ้ ดก็ไม่อาจเข้าใกล้

4
ราวกับว่า มีเพียงเรืองของคุณชายเท่านันถึงจะทําให้
ความรูส้ กึ ทีแอบซ่อนอยูข่ องพระองค์แสดงออกมาได้

องค์หญิงทรงเป็ นถึงเพียงนีแล้ว แต่พระสนมกุย้ เฟยและ


รุย่ อ๋องทีอยูใ่ นวังหลวงก็ไม่เคยมาใส่ใจเลย

ยิงคิด นางกํานัลก็ยงรู
ิ ส้ กึ ทุกข์ใจแทนเจ้านาย นัยน์ตา
พลันแดงรืนเปี ยกชืนขึนมา

ทันใดนันเสียงของฉินอีเหยาก็ดงั ขึนอีกหน ด้วยคําพูดที


เป็ นทังคําถามและบอกเล่าในขณะเดียวกัน : “ราชทูต
แห่งแคว้นถูจะมาถึงในอีกสามวันข้างหน้า ได้ข่าวว่า

5
พวกเขาได้พดู ถึงเรืองการอภิเษกสมรสกับเสด็จพ่อ”

นางกํานัลเงยหน้าขึน มองเจ้านายของตนเองด้วยความ
ตกใจ

คําพูดนีนางเข้าใจดี แต่เป็ นเพราะเข้าใจนีละถึงทําให้


นางรูส้ กึ กลัว

ขออภิเษกสมรสอย่างนันรึ?

จะยกองค์หญิงแห่งแคว้นฉินให้กบั แคว้นถูอย่างนันหรือ?

แต่วา่ องค์หญิงทีมีพระชันษาเหมาะแก่การอภิเษกสมรส
6
ภายในแคว้นฉินนันมีเพียงองค์หญิงของนางเพียงผูเ้ ดียว
เท่านัน!

ถ้าเช่นนันก็หมายความว่า จะยกองค์หญิงฉางเล่อให้ไป
อยูใ่ นแคว้นถูทีอยูห่ า่ งไกลอย่างนันหรือ

“องค์หญิง บ่าวได้ยินมาว่าสภาพอากาศของแคว้นถูนนั
เลวร้ายยิงนัก ผูค้ นก็ดรุ า้ ยป่ าเถือน ราวกับพวกไร้
อารยธรรมก็ไม่ปาน อีกทังพืนดินส่วนมากก็แห้งแล้งปลูก
อะไรก็ไม่ขนึ เหล่าประชาราษฎร์ทกุ ข์รอ้ นยากแค้น แม้
ว่าจะเป็ นตระกูลทีสูงส่งแต่สว่ นมากก็ไม่คอ่ ยได้รบั การ
ศึกษา หญิงสาวทีเพียบพร้อมสูงส่งอย่างพระองค์จะไป
อยูใ่ นทีเช่นนันได้อย่างไรกันเพคะ? ไม่สพู้ วกเราไปขอ
ร้องกุย้ เฟยหรือรุย๋ อ่องเถิดเพคะ.......พวกพระองค์ทรง
7
เป็ นเสด็จแม่และพระเชษฐาแท้ๆ ขององค์หญิง จะต้อง
ไม่ยอมให้ทา่ นต้องไปทุกข์ทรมานเช่นนันเป็ นแน่” นาง
กํานัลรีบพูดอย่างร้อนรน

“ขอร้องพวกเขารึ?” ฉินอีเหยาพึมพําด้วยความทุกข์ใจ

บางทีในตอนนีพวกเขาอาจจะหวังเป็ นอย่างยิงว่าจะยก
ตัวนางให้กบั แคว้นถูไปเสีย เพราะถ้าเช่นนันอํานาจทาง
ทหารทีเสด็จพีปรารถนามาแสนนานก็จะมาได้มาแล้วไม่
ใช่หรือ

การแย่งชิงระหว่างเสด็จพีและรัชทายาทนัน นับวันยิง
รุนแรงขึนเรือยๆ หากมีอาํ นาจทางทหารของแคว้นถูคอย

8
ช่วยก็จะเป็ นการเพิมโอกาสชนะได้บา้ ง

อีกทัง หากนางอภิเษกสมรสกับรัชทายาทแคว้นถูและ
กลายเป็ นพระชายา หากวันหนึงฮ่องเต้แคว้นถูสวรรคต
ลง นางก็จะได้ขนนั
ึ งในตําแหน่งฮองเฮา ถึงตอนนัน
แคว้นฉินก็จะต้องเกรงกลัวในแสนยานุภาพทางการ
ทหารของแคว้นถู ตําแหน่งของเสด็จแม่และเสด็จพีของ
นางก็จะยิงมันคงมากยิงขึน

ฉินอีเหยามองทุกอย่างได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แม้จะไม่ได้
ไปเข้าร่วมกับการแก่งแย่งเหล่านัน แต่กลับเห็นทุกอย่าง
ได้ชดั เจน

9
และยิงรูด้ ีวา่ ตนเองเป็ นเพียงหมากตัวหนึงเท่านัน

สําหรับความปรารถนาในอํานาจของเสด็จแม่และเสด็จ
พี การกระทําของนางนันเป็ นเพียงการเสียสละเพือการ
ใหญ่ของพวกเขาเท่านัน

เชือพระวงศ์นนไร้
ั ซงความปรานี
ึ คําๆ นีนางกระจ่างแล้ว
ตังแต่ยงั เยาว์วยั

ก็เพราะเข้าใจในเรืองนี นางจึงใช้ความเย็นชาห่อหุม้ ตัว


เอง แช่แข็งผนึกใจตนเองเอาไว้ ในตอนแรกนางคิดว่าจะ
เป็ นเช่นนีตลอดไป แต่กลับไม่คิดว่าคนผูน้ นจะสามารถ

ทําให้นางเปิ ดใจได้โดยไม่รูต้ วั และในขณะทีนางเริมเปิ ด

10
ใจและสัมผัสถึงความรูส้ กึ และความปรารถนานัน เขา
กลับจากไปอย่างไร้เยือใยโดยไม่เหลือแม้เพียงเงา

นางควรจะโกรธเกลียดเขามิใช่หรือ?

แต่ทว่า นางกลับเกลียดเขาไม่ลง ตรงกันข้ามเขากลับ


กลายเป็ นความอ่อนโยนทีไม่อาจจับต้องได้ภายใต้จิตใจ
ของนางและกลายเป็ นความอบอุน่ เพียงหนึงเดียว

ฉินอีเหยาหลุบตาลง ขนตายาวงอนกะพริบอยูห่ ลายที

นางเพียงหวังว่าจะได้แอบมองเขาอีกสักชัวครู ่

11
ฮี—

เสียงม้าร้องพลันดังขึนอย่างกะทันหัน

ฉินอีเหยาดึงสติของตนเองกลับมาจากห้วงความคิดและ
ค่อยๆ เอนตัวไปข้างหน้ามองสถานการณ์ภายนอก
หน้าต่างผ่านช่องว่างทีมีอยู่

ยังไม่ทนั ทีนางจะเห็นภาพถนนแห่งนีชัดเจน ก็ได้ยิน


เสียงเกือกม้าอันทรงพลังดังขึนอย่างพร้อมเพรียงกัน
จากนันก็เป็ นเสียงฮือฮาด้วยความตกใจของเหล่าชาว
บ้าน

12
พวกชาวบ้านดูเหมือนจะเริมอลหม่านกันขึนมา

ฉินอีเหยากวาดสายตามองชาวบ้านทีวิงแตกตืนกระจาย
ออกไปด้านข้าง เหลือพืนทีกลางถนนสายหลักเอาไว้
พวกเขาต่างก็คอ่ ยๆ ขมวดคิว

“สวรรค์ ! นันมันอะไรน่ะ ? ดูเหมือนจะเป็ นสัตว์


วิญญาณนะ!”

“ความรูเ้ จ้าช่างตืนเขินเสียจริง นันมันอาชาเพลิง เป็ น


สัตว์วิญญาณทีเก่งกาจมากเชียวนา”

13
“มีคนนังอยูบ่ นหลังอาชาเพลิงรึ ช่างหล่อเหลาเหลือ
เกิน!”

“หล่อรึ? ข้าว่าเราหลบไปไกลๆ จะดีกว่า อาชาเพลิงนัน


เป็ นสัตว์วิญญาณ สัตว์วิญญาณสามารถกินคนได้นะ!”

เสียงคําวิพากษ์วิจารณ์ลอยมากับสายลมและเข้าหูของ
ฉินอีเหยา นางเงยหน้าขึนมองไปก็เห็นขบวนของกลุม่
คนทีแต่งกายแบบเดียวกัน ยิงใหญ่น่าเกรงขามราวกับ
เปลวเพลิงอันร้อนแรง เคลือนเข้าสูภ่ ายในเมือง

โรงเตียมแห่งนีเป็ นร้านทีนางเลือกสรรมาเป็ นอย่างดี


เพราะชันสองทีเป็ นห้องส่วนตัวนีสามารถเห็นภาพทัง

14
หมดของถนนหลักทีเชือมต่อกับประตูเมืองได้

ในขณะนี กลุม่ คนในขบวนจํานวนหลายร้อยคนทีขีอาชา


เพลิงสีดาํ ทมิฬทังตัว แผงขนสีดาํ เงาก็คอ่ ยๆ เคลือนตัว
เข้าเมืองมา

บนร่างกายของทุกคนต่างก็สวมเสือเกราะสีดาํ อันงดงาม
ละเอียดลออ ชุดออกศึกสีแดง บนไหล่มีผา้ คลุมกันลมสี
ดํา หมวกเกราะบดบังใบหน้าของพวกเขาไว้ แต่ก็กลับ
ยิงฉายให้เห็นถึงแววตาแน่วแน่และเปล่งประกายของ
พวกเขา

บนเสือเกราะนันยังมีลวดลายอันลึกลับคล้ายมีคล้ายไม่

15
มีสีทอง ราวกับเป็ นยันต์และเป็ นเหมือนสัญลักษณ์อะไร
บางอย่าง…….

16
ตอนที 89-2 ราชาผูห้ วนกลับมา !

ภายในขบวนมีเพียงแค่เสียงเกือกม้ากระทบดินดังสนัน
ประหนึงรัวกลอง

ความเงียบสงบของเหล่าทหาร แผ่กระจายไปรอบๆ และ


ค่อยๆ ส่งผลต่อเหล่าประชาราษฎร์ทีมุงดูอยูร่ อบข้าง ทํา
ให้พวกเขาต่างก็ปิดปากแน่นไม่กล้าส่งเสียงออกมา

ด้านหน้าสุดของขบวนมีทหารหญิงสองนางทีสวมชุด
เป็ นระเบียบเรียบร้อย พวกนางสวมเกราะอ่อนอันงดงาม
17
คนหนึงดูไหวพริบว่องไว อบอุน่ และเบิกบาน อีกคนกลับ
ดูลกึ ลับน่าค้นหา

ตรงกลางระหว่างพวกนางทังสองคนมีแม่ทพั หนุ่มน้อยผู้
งดงามเป็ นหนึงอยูผ่ หู้ นึง

ใบหน้าของนางทําให้คนตะลึงจนยากทีจะลืมความงด
งามนัน บนหูซา้ ยมีแสงสีมว่ งแวววับส่องแสงประกาย
เผยให้เห็นถึงความเย้ายวนบบางอย่างทีดูลกึ ลับน่าค้น
หา ผมยาวดังหมึก แผ่สยายคลุมอยูด่ า้ นหลังบริเวณไหล่
แสดงให้เห็นถึงความโอหังไม่สนในกฏระเบียบ นางสวม
ชุดอออกศึกสีแดงดุจเดียวกันต่างกันเพียงเกราะของนาง
เป็ นสีเงินยวง บนเกราะก็มีลวดลายลึกลับสีทองเช่นกัน
ด้านหลังของนางเป็ นผ้าคลุมกันลมสีแดงเข้มร้อนแรงดัง
18
ลาวา ร้อนแรงน่าเย้ายวนราวกับสีเลือด......

บนนิวชีขวาของนางมีปลอกนิวซึงถูกสร้างขึนเป็ นพิเศษ
ดูโดดเด่นประณีตสวมไว้ ปลายด้านบนของปลอกนิว มี
ลักษณะแหลมคม แทรกมาด้วยแสงประกายเย็นเยียบ
ด้านล่างของปลอกนิวประดับด้วยเพชรและมีสายสร้อย
เงินเชือมกับกําไลข้อมือทีอยูบ่ นข้อมือของนาง เผยให้
เห็นบ้างเป็ นครังคราว

อาชาเพลิงทีนางขีอยู่ สูงส่งสง่างาม ขนอันเงางามเป็ น


ธรรมชาติทาํ ให้ดแู ตกต่างไปจากอาชาเพลิงตัวอืนๆ ท่วง
ท่าและความสง่าดังราชานัน ทําให้อาชาเพลิงตัวอืนๆ
ทําได้เพียงยอมสยบ

19
หนึงคนหนึงม้า หนึงแดงชาดหนึงดําทมิฬ เสริมส่งซึงกัน
และกัน ทําให้สายตาของผูค้ นจํานวนนับไม่ถว้ นตกอยู่
ในภวังค์แห่งความตกตะลึง

ผูซ้ งโดดเด่
ึ นเป็ นทีจับตามองแบบนี ในทันทีทีเขาปรากฏ
ตัวขึน ฉินอีเหยาก็มองเห็นแล้ว จากนัน ในสายตาของ
นางก็ไม่มีสงอื
ิ นใดอีกเลย ราวกับว่าโลกทังใบได้เงียบ
สงบลง เหลือเพียงแค่ชายหนุ่มผูท้ ีนังอยูบ่ นหลังของ
อาชาเพลิงทีสะดุดตาดังดวงตะวันเท่านัน

‘ไม่เจอกันสิบเดือน เขาหล่อเหลาสง่างามขึนมาก ราวกับ


ว่าเขาไม่ใช่หนุ่มน้อยชุดแดงผูบ้ า้ บินอีกต่อไป แต่กลับ
ลอกคราบกลายเป็ นผีเสือแสนสวย เป็ นแม่ทพั ทีพร้อมจะ
20
สูร้ บและออกคําสัง เสือเกราะทีสวมอยู่ ทําให้เขาดูน่า
เกรงขามเหนือคนธรรมดา ชวนให้ตืนตะลึง อยูต่ อ่ หน้า
เขาข้าก็เป็ นดังไข่มกุ มีตาํ หนิไร้ซงแสงสว่
ึ าง.....’ ฉินอี
เหยามองอย่างใจลอย แววตาค่อยๆ มืดลง

“หืม? เหมือนคุณชายตระกูลมูเ่ ลย!

“ใช่คณ
ุ ชายจริงๆ ด้วย!”

“คุณชายช่างเกรียงไกร ! คุณชายช่างเกรียงไกร!”

ท่ามกลางชาวบ้านมีคนจํามูช่ ิงเกอได้ ความหวาดกลัว


ก่อนหน้านีได้แปรเปลียนเป็ นคําทักทายทีพร้อมเพรียง
21
กัน

สิบเดือนก่อนหน้านี เรืองทีมูช่ ิงเกอบันดาลโทสะสังหาร


หานเซิงกลางตลาด ได้ถกู เหล่าประชาชนเล่าต่อๆ กันไป
แล้ว ลบล้างภาพความเสเพลของนางไปจนหมด ทําให้
นางกลับกลายเป็ นวีรบุรุษในใจของเหล่าประชาชนใน
ทันที

แม้วา่ นางจะหายไปจากลัวตูเป็ นเวลานับสิบเดือน แต่ก็


ไม่ทาํ ให้ทกุ คนลืมเลือนนางได้ลง

ยังคงเป็ นตลาดแห่งเดิมและคุณชายทีดูโดดเด่นสะดุด
ตามากกว่าเดิม ทําให้ภาพนองเลือดกลับเข้ามาในห้วง

22
ความคิดของทุกคนอีกครัง

ความกระตือรือร้นพร้อมใจกันส่งเสียงสรรเสริญของชาว
บ้าน ทําให้ทหารทีเฝ้าประตูแคว้นรูส้ กึ ตืนตระหนกขึนมา
ทังเป็ นห่วงว่าท่ามกลางชาวบ้านทีตืนเต้นอยูน่ ีจะมีคน
ออกมาก่อกวน ทังตกตะลึงในชือเสียงขอมูช่ ิงเกอทีมีตอ่
เหล่าชาวบ้าน

เสียงคําทักทายด้วยความยินดีของทุกคนลอยเข้าสูโ่ สต
ประสาทของมูช่ ิงเกอ

ท่าทางของนางยังคงนิงสงบ ไร้ความเย่อหยิงและเร่งรีบ
ค่อยๆ กวาดสายตามองกลุม่ คนทีตืนเต้นดีใจ ทุกทีที

23
นางกวาดสายตามอง ต่างก็เงียบลงอย่างไม่มีขอ้ ยกเว้น
แต่ภายในใจยังคงตืนตระหนก

“นีเป็ นบารมีของตระกูลมูใ่ นแคว้นฉินอย่างนันหรือ?


ช่างทําให้ได้เปิ ดหูเปิ ดตาเสียจริง ! ในขณะทีทูตอย่างข้า
อยูใ่ นแคว้นถู ได้ยินเพียงแค่วา่ ผูส้ ืบทอดของตระกูลมูไ่ ด้
รับสมญานามว่าเป็ นคนเสเพลเป็ นคนไร้คา่ แต่ไม่คิดว่า
ผูช้ ายเสเพลจะสามารถชนะใจและเป็ นทีรักของเหล่า
ประชาราษฏ์ได้มากถึงเพียงนี ประชาชนของแคว้นฉิน
ช่างเป็ นผูท้ ีมีความเทียงตรงเสียจริง!”

กลางฝูงชน ท่ามกลางคนกลุม่ หนึงทีสวมชุดแตกต่างไป


จากคนทัวไป มีนาเสี
ํ ยงแปร่งๆ ดังออกมา

24
การแต่งกายของเขานันแตกต่างจากคนอืนๆ ในแคว้น
ฉินอย่างเห็นได้ชดั เขาไม่ได้สวมเครืองประดับมากนัก
เข็มขัดทีอยูต่ รงหน้ามีลวดลายสัญลักษณ์ทีเกียวข้องกับ
สัตว์ประดับอยู่ บนศีรษะสวมหมวกทีทําจากผ้าสักหลาด
โครงหน้าคมเข้มมากกว่าคนแคว้นฉิน

คนพูดดูเป็ นคนมีฐานะไม่ตาต้
ํ อยเลย เขาถูกทุกคนล้อม
รอบเอาไว้ตรงกลาง คนทีอยูข่ า้ งๆ เขาสวมชุดธรรมดา ก็
คือรัชทายาทและรุย่ อ๋องของแคว้นฉิน ในวันนี พวกเขา
ทังสองได้รบั ราชโองการให้พาราชทูตแห่งแคว้นถูมา
พบปะประชาราษฎร์

แต่กลับไม่คิดว่า ในขณะทีผ่านมาทีนี จะพบเจอกับฉาก


25
ทีมูช่ ิงเกอกลับเข้าเมืองโดยบังเอิญ

ความโดดเด่นเตะตาของมูช่ ิงเกอทําให้ทงฉิ
ั นจินซิวและ
ฉินจินห้าวตกตะลึงไปเช่นกัน

ทว่า หลังจากทีสินคําชืนชมทีแฝงไปด้วยการเสียดสีจาก
ราชทูตแห่งแคว้นถู ฉินจินซิวก็สีหน้าดําคลําลงในทันที
สายตาทีมองมูช่ ิงเกอนันทังอิจฉาและเปี ยมล้นด้วยแรง
อาฆาต

แต่แววตาของฉินจินห้าวทีมองร่างของคนชุดสีแดงนัน
วูบไหวเล็กน้อย ไม่รูว้ า่ กําลังคิดอะไรอยู่

26
หลังจากทีราชทูตพูดจบ เขาก็ยมจางๆ
ิ และพูดอย่างมี
เลศนัยว่า : “ข่าวของหมานอ๋องนันเก่าไปแล้วจริงๆ คุณ
ชายตระกูลมูแ่ ห่งแคว้นฉินเรา ไม่ได้เป็ นจอมเสเพลไร้คา่
อีกแล้ว เขาไม่เพียงแต่เป็ นยอดฝี มือสายเขียว และยัง
เคยเรียกร้องความยุติธรรมคืนให้กบั ทหารทีสละชีพที
เมืองอีโดยสังหารพระมาตุลาหานกลางตลาดด้วย”

“อ้อ? มีเรืองแบบนีด้วยหรือ” หนวดยาวกระตุกหนหนึง


ราชทูตจากแคว้นถูมองรัชทายาททีมีสีหน้าดําคลําด้วย
ใบหน้าทีเต็มไปด้วยความยัวเย้า

ฉินจินซิวแค่นเสียงเย็นทีหนึง ไม่สามารถปั นใบหน้าให้


อ่อนโยนได้อีกต่อไป ทําได้เพียงอดทนต่อความโกรธทีอยู่
ภายในใจพลางพูดว่า : “หมานอ๋อง ท่านอยากจะไปชม
27
ทิวทัศน์สวนดอกท้อมิใช่หรือ ไยจะต้องเสียเวลากับคนที
ไม่มีสว่ นเกียวข้องเช่นนีด้วยเล่า”

“รัชทายาทพูดถูก พวกเราไปชืนชมทิวทัศน์อนั งดงาม


ของสวนดอกท้อกันเถิด ฮ่าๆๆๆๆๆ.....”

เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลัง ทําให้ฉินจินซิวโกรธจนอยาก
จะบันดาลโทสะออกมานัก

ฉินจินห้าวกลับยืนเงียบอยูข่ า้ งๆ กระตุกยิมจางๆ

คนจํานวนหนึงจากไป ไม่ได้ทาํ ให้คนอืนรูส้ กึ แตกตืนแต่


อย่างใด จุดสนใจของทุกคน ต่างก็มารวมกันมูช่ ิงเก
28
อและองครักษ์เขียวมังกร

มูช่ ิงเกอทีอยูข่ า้ งหน้าสุด ทันใดนัน ก็รูส้ กึ ว่าตนเองได้ตก


อยูใ่ นสายตาคูห่ นึงทีเต็มเปี ยมไปด้วยความซับซ้อน

นางเคลือนสายตามองตามและหยุดลงตรงหน้าต่างชัน
สองของโรงเตียมแห่งหนึง สายตาสบประสานเข้ากับ
ดวงตาเย็นชาดังนําแข็งทีแฝงไปด้วยความรูส้ กึ อันซับ
ซ้อนคูห่ นึง แทบจะในทันที มูช่ ิงเกอก็จาํ ได้วา่ เจ้าของ
สายตาคูน่ นคื
ั อใคร

ดวงตาคูท่ ีนางสบสายตาอยู่ นัยน์ตาสว่างไร้ซงอารมณ์



สันไหวใดๆ สุดท้าย ในขณะทีอีกฝ่ ายยังคงสบสายตา

29
นางก็คอ่ ยๆ เบียงสายตาออกไปและเดินผ่านโรงเตียมไป
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึน เหลือไว้เพียงเงาร่างอันสูงสง่า

ไม่เห็นคนผูน้ นอี
ั กต่อไป ฉินอีเหยาดึงสายตากลับมา หัน
หลังกลับไปพิงอยูข่ า้ งหน้าต่าง ในใจแผ่ซา่ นไปด้วย
ความทุกข์ทรมาน

เขาเห็นนางแล้ว แต่ยงั คงไร้ปฏิกิรยิ าใดๆ......

‘มูช่ ิงเกอ หัวใจของเจ้าทําด้วยหินผาหรือไร? เจ้าไม่มี


อะไรจะพูดกับข้าจริงๆ หรือ เจ้ารูห้ รือไม่วา่ บางที อีกไม่
นาน เราก็จะไม่ได้เจอกันอีกต่อไปแล้ว’ ฉินอีเหยาก้ม
หน้าลง อยากจะกลันนําตาทีเอ่อล้นออกมา

30
แต่ทว่า มันกลับไม่สาํ เร็จ นําตาใสทีนองอยูใ่ นดวงตาคู่
สวยคูน่ นไหลเอ่
ั อลงจากดวงตา เหลือไว้เพียงรอยนําตา
สองสายทีไหลอาบแก้ม

นางกํานัลทีคอยปรนนิบตั ิอยูภ่ ายในห้อง เมือเห็นท่าทาง


อันเจ็บปวดทรมานของเจ้านายก็รูส้ กึ ทุกข์ใจแทนเจ้า
นาย แล้วยิงโกรธเกลียดความเลือดเย็นของมูช่ ิงเกอ

แต่นางก็ไม่สามารถทําอะไรได้ ทําได้เพียงร้องไห้อย่าง
เงียบๆ อยูก่ บั เจ้านายของตนเอง

31
ตอนที 89-3 ราชาผูห้ วนกลับมา !

32
มูช่ ิงเกอไม่ได้สนใจอะไร นางเคลือนขบวนวนอยูใ่ นลัวตู
รอบหนึง เพือทําให้ทกุ คนรูถ้ งึ การหวนกลับมาของตนเอง
และมุง่ เข้าสูจ่ วนตระกูลมูจ่ ากถนนทางหลักทิศเหนือ

การกลับมาครังนี นางไม่ได้สง่ คนมาบอกข่าวให้แก่จวน


ตระกูลมูก่ ่อน ก็เพราะไม่หวังให้ทา่ นปู่ และท่านอาต้อง
เป็ นกังวล นางรูจ้ กั ทางกลับจวน พวกเขารอนางอยูท่ ี
จวนก็พอแล้ว

เมือกลับไปถึงจวนตระกูลมู่ มูช่ ิงเกอลงจากหลังอาชา


เพลิงอย่างสง่างาม ทหารทีเฝ้าอยูต่ รงประตูจวนรีบคุก
เข่าลงน้อมต้อนรับการกลับมาของนาง

33
มูช่ ิงเกอเดินขึนบันไดไป เงยหน้าขึนมองป้ายทังสามทีอยู่
ใต้หลังคา

ครังนี ความรูส้ กึ ทีเข้ามายังจวนตระกูลมูอ่ ีกครังนันต่าง


กับครังแรก ราวกับว่านางได้เข้าถึงโลกทีแตกต่างใบนี
โดยสินเชิงและกลายเป็ นมูช่ ิงเกออย่างแท้จริง

“เกอเอ๋อร์! ”

เสียงของมูซ่ งดังขึน

มูช่ ิงเกอพลันเลือนสายตาทีกําลังเงยอยู่ มูซ่ งและมูเ่ หลี


ยนหรงทีอยูใ่ นชุดลําลองเดินเข้าหานางอย่างรวดเร็ว
34
และข้างหลังของทังสองมีป๋ายซีเยวียทีอยูใ่ นชุดขาวเดิน
ตามมาด้วย

ไม่ได้เจอกันนานถึงเพียงนี เมือพบกับมูช่ ิงเกออีกครัง


นางแอบมองมูช่ ิงเกออย่างละเอียด เป็ นระยะๆ ความ
เจ้าแผนการในดวงตาคูน่ นไม่
ั ลดลงเลยแม้แต่นอ้ ย

สําหรับเรืองนี มูช่ ิงเกอเพียงยิมอย่างเยือกเย็นในใจและ


จับมือของท่านปู่ และท่านอาไว้พลางพูดด้วยรอยยิมว่า :
“ท่านปู่ ท่านอา ข้ากลับมาแล้ว!”

“กลับมาก็ดีแล้ว ก็ดีแล้ว!” มูซ่ งถึงกับนําตาคลอพร้อมทัง

35
จับมือของมูช่ ิงเกอไว้แน่น

นีเป็ นหลานสาวสุดทีรักของเขาเชียวนะ ปล่อยให้นางไป


อยูใ่ นเมืองอี เขาจะวางใจจริงๆได้อย่างไร ในวันนี หลาน
สาวได้กลับมาอย่างปลอดภัย จิตใจทีเป็ นกังวลอยูข่ อง
เขาถึงจะปล่อยวางได้อย่างแท้จริง

“ยิงโตก็ยงสวย
ิ เหมือนท่านแม่ของเจ้า” มูเ่ หลียนหรง
มองดูมชู่ ิงเกออย่างละเอียดแล้วอุทานขึนมา

สําหรับท่านแม่นนั ในใจของมูช่ ิงเกอรูส้ กึ สงสัยมากกว่า


คิดถึง

36
เพราะฉะนันสําหรับคําพูดของมูเ่ หลียนหรงนางไม่ได้
แสดงความคิดเห็นอันใด

ทังสามคนแห่งตระกูลมูต่ า่ งก็จงู มือกันเดินเข้าไปยังภาย


ในจวนอย่างกลมเกลียว ป๋ ายซีเยวียทีตามมาก็เป็ น
เหมือนคนนอกทีเป็ นส่วนเกินอย่างแท้จริง

พอทุกคนจากไป รอยยิมทีปรากฏอยูบ่ นใบหน้าของป๋ าย


ซีเยวียจึงค่อยๆ เยือกเย็นขึนและแปรเปลียนเป็ นความ
โหดเ**◌้ยม

“คุณหนู คุณชายกลับมาแล้ว เรืองนีต้องไปบอกท่านอ๋อง


หรือไม่เจ้าคะ?” ลวีจือกล่าวเตือนอย่างระมัดระวัง

37
เมือพูดถึงฉินจินห้าว ป๋ ายซีเยวียก็พลันหน้าซีดเผือดลง

ตอนแรก ฉินจินห้าวให้นางไปทําลายความสัมพันธ์ระ
หว่างมูซ่ งและมูช่ ิงเกอ ทําให้ทงสองมี
ั เรืองต้อง
บาดหมางกัน ทว่านางกลับทําอะไรไม่ได้ ทุกครังทีลงมือ
ก็ถกู มูช่ ิงเกอเล่นงานอย่างง่ายดายและกลับทําให้นาง
ต้องกลายเป็ นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ของคนจวนตระกู
ลมู่

เรืองนีทําให้ฉินจินห้าวเย็นชาและไม่พอใจในตัวนาง เพือ
อนาคต นางจะต้องทําอะไรสักอย่างแล้วจริงๆ เพือกอบ
กูต้ าํ แหน่งของตนเองกลับคืนมา

38
เม้มปากแล้วป๋ ายซีเยวียก็หนั เข้าเรือนของตนเองแล้วเดิน
กลับไป

……

ในอีกด้านหนึง มูซ่ งก็ได้พามูเ่ หลียนหรงและมูช่ ิงเกอเข้า


ไปยังศาลบรรพชนตระกูลมู่

สิงทีบูชาอยูด่ า้ นในคือบรรพบุรุษของตระกูลมู่ รวมทัง


ภรรยาของมูซ่ งและลูกชายทังสอง ของเขา พวกเขาต่าง
ก็เสียสละชีวิตเพือความรุง่ โรจน์ของตระกูลมู่ ดังนันจึงมี
สิทธิทีจะเข้าไปอยูใ่ นศาลบรรพชนของตระกูลมู่

39
ข้างๆ ทีตังป้ายวิญญาณของมูเ่ หลียนเฉิง มูช่ ิงเกอยังเห็น
ป้ายวิญญาณของท่านแม่ของตนเองและนีก็ถือเป็ นครัง
แรกทีนางรูจ้ กั ชือท่านแม่ของตนเอง

ซางหลานรัว ช่างเป็ นชือทีอ่อนโยนและแฝงไปด้วยความ


เมตตากรุณา

มูซ่ งนํามูเ่ หลียนและมูช่ ิงเกอเดินเข้าไปและเขาก็ไปจุด


ธูปก่อนจากนันก็หนั หลังไปคุยกับทังสองว่า : “กล่าวว่า
ศาลบรรพชนเป็ นสถานทีสําคัญ ผูห้ ญิงไม่อาจย่างกราย
แต่ทว่า ในตอนนีตระกูลของเราเหลือเพียงแค่เราสามคน
แล้ว กฎระเบียบเก่าๆ พวกนันก็ไม่ตอ้ งไปยึดถือมากนัก

40
มา เรามาโขกศีรษะให้กบั บรรพชนของเรากันเถอะ”

ทังมูช่ ิงเกอและมูเ่ หลียนหรงต่างทําตาม พวกนางคุกเข่า


ลงบนทีรองนังและโขกศีรษะสามครังอย่างตังใจ แล้วจึง
ลุกขึนตามมูซ่ ง

จากนัน ทังสามก็เล่าถึงสิงทีประสบพบเจอในช่วงทีผ่าน
มา โดยส่วนมากมูช่ ิงเกอเป็ นคนพูด และทังสองเป็ นผูฟ้ ั ง

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับย่อรายละเอียดบางส่วน รวมทัง


เรืองของเหมิงเหมิงลง

แต่สาํ หรับเรืองของทวนหลิงหลงนัน นางกลับไม่ได้ปิด


41
บัง

ต่อหน้าทังสองมูช่ ิงเกอเพียงแค่สะบัดมือ ปลอกนิวที


เชือมติดอยูก่ บั กําไลก็สอ่ งประกายสีขาวเจิดจ้าแสบตา
ทันใดนันก็เปลียนรูปร่างกลายเป็ นทวนหลินหลงอยูใ่ น
มือของมูช่ ิงเกอ

มูซ่ งเบิกตากว้าง พูดด้วยความตกใจว่า : “ไม่คิดว่าชาติ


นี จะได้เห็นอาวุธระดับเทพเช่นนีกับตาตนเอง อีกอย่าง
อาวุธระดับเทพนียังอยูใ่ นครอบครองของลูกหลานตระกู
ลมูอ่ ีกด้วย”

“ชิงเกอ เจ้าช่างมีโชคเหนือฟ้าจริงๆ ทําให้อาอิจฉาเจ้า

42
เสียแล้ว!” มูเ่ หลียนหรงพูดพึมพํา มองทวนหลินหลงใน
มือของมูช่ ิงเกอด้วยความอิจฉา

มูช่ ิงเกอยิมจางๆ เพียงพลิกมือทวนหลินหลงก็เปลียน


กลับเป็ นปลอกนิวดังเดิม นางพูดว่า : “ท่านอาไม่ตอ้ ง
อิจฉา หากในอนาคตชิงเกอยังโชคดีเจออาวุธระดับเทพ
อะไร แน่นอนว่าจะเอามาฝากท่านอา รวมทังท่านปู่ ” ใน
ขณะทีนางพูดนัน นางมันใจมากเพราะนางเชือว่าถ้าเหมิ
งเหมิงมีของขวัญมารับขวัญการเจอกันครังแรกกับนาง
แน่นอนว่าต้องมีชินทีสองชินทีสาม.....หรือมากกว่านัน
หากนางสามารถทะลวงเข้าไปยังสายทีสูงขึนเรือยๆ ไข
ความลับของพืนทีในช่องว่าง ยังจะมีอาวุธอะไรทีนางจะ
ไม่ได้ครอบครองอีกหรือ

43
ทว่า ความไม่รูค้ วามของนางนัน กลับทําให้มเู่ หลียนหรง
หัวเราะและส่ายหัวไปมา มูเ่ หลียนหรงหัวเราะพร้อมด่า
ว่า : “เจ้าคิดว่าอาวุธระดับเทพเป็ นผักกาดขาวหรือไร ที
จะเจอได้ทกุ ที ตระกูลมูข่ องเรามีเพียงเจ้าคนเหนือฟ้า
อย่างเจ้าคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ข้าไม่โลภมากหรอก”

“ใช่ สิงทีช่วยปกป้องชีวิตของเจ้ายิงมีมากข้าและอาของ
เจ้าก็ยงวางใจ
ิ ปู่ ดอู อกว่า หลานสาวคนนีของปู่ ไม่ใช่กบ
ในกะลา แคว้นฉินแห่งนีเล็กเกินไป ไม่พอให้เจ้าผจญ
ภัย! ฮ่าๆๆๆๆ—” มูซ่ งหัวเราะอย่างเบิกบานใจ

หลังจากทีหัวเราะ เขาจึงพูดอย่างจริงจังว่า : “เกอเอ๋อร์


เรืองทีเจ้ามีอาวุธระดับเทพนันต้องเก็บเป็ นความลับ
หากมีคนรู ้ คงจะทําให้เจ้าเดือดร้อนมากขึนเรือยๆ”
44
มูช่ ิงเกอพยักหน้าตอบรับ : “ท่านปู่ วางใจเถอะ เกอเอ๋อร์รู ้
ว่าตราบใดทียังไม่มีพลังทีมากพอ อาวุธระดับเทพก็เป็ น
ดังเผือกร้อน ข้าจะไม่ใช้ทวนหลิงหลงง่ายๆ หากใช้ ก็จะ
ไม่เหลือพยานไว้แน่

ได้ยินคํายืนยันจากนาง มูซ่ งจึงพยักหน้า

ทังสามพูดคุยกันต่อ มูช่ ิงเกอมองมูเ่ หลียนหรงพลางพูด


ว่า : “ท่านอา ตอนแรกทีข้าสงสัยว่าป๋ ายซีเยวียจะมีสงิ
ของทีใช้ดกั ฟั งอะไร ท่านสืบได้เรืองหรือยัง?”

45
ตอนที 89-4 ราชาผูห้ วนกลับมา !

พูดถึงเรืองนีรอยยิมของมูเ่ หลียนหรงก็พลันหายไปใน

46
ทันทีพลางพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม : “เด็กคนนีเก็บซ่อน
พลังไว้ดีมาก ข้ากับท่านปู่ ของเจ้าวางแผนกันจึงทําให้รู ้
ว่าในมือของนางมีของลําค่าทีร้ายกาจอยูอ่ ย่างหนึง หนึง
ชินแบ่งได้สองส่วน หากว่าชินใดชินหนึงถูกวางไว้อีกที
ไม่วา่ จะห่างกันมากเพียงใดก็จะได้ยินทุกสิงทุกอย่าง
จากอีกครึงทีอยูก่ บั ตัว”

มูซ่ งถอนหายใจ : “สมบัติอนั ลําค่าเช่นนีมีนอ้ ยมาก นาง


ไม่มีความสามารถมากพอทีจะหามาได้หรอก”

“ความเป็ นไปได้เพียงหนึงเดียวก็คือรุย่ อ๋องเป็ นคนมอบ


ให้นาง” มูช่ ิงเกอพูดแทนท่านปู่ ในสิงทีเขาไม่อยากจะพูด

47
ท่ามกลางพวกเขาทังสามคน หากจะมีใครคนหนึงทีรูส้ กึ
สับสนกับป๋ ายซีเยวียมากทีสุด คนผูน้ นก็
ั คงจะเป็ นท่านปู่
มูซ่ ง เพราะอย่างไรก็ตาม บิดาของป๋ ายซีเยวียก็เสียชีวิต
เพราะช่วยชีวิตเขาในสนามรบ รับตัวป๋ ายซีเยวียมาอยูใ่ น
จวนตระกูลมูก่ ็นานหลายปี เขาเองปฏิบตั ิกบั นางเป็ น
เหมือนหลานสาวแท้ๆ มาโดยตลอด ไม่เคยให้ถกู เอา
เปรียบเลยแม้แต่นอ้ ย

เสียดายทีป๋ ายซีเยวียมักใหญ่ใฝ่ สงู จนเกินไป ไม่เห็นถึง


ความดีของตระกูลมูแ่ ละยังไปอยูข่ า้ งรุย่ อ๋อง

ความจริงประการนี ทําให้มซู่ งยากจะยอมรับ แต่ก็จาํ


เป็ นต้องยอมรับมันให้ได้

48
พอได้ยินท่านปู่ ถอนหายใจ มูช่ ิงเกอจึงพูดปลอบประโลม
เขาว่า : “ท่านปู่ นางไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว นับตังแต่ทีนาง
มีความลับต่อเรา ใจของนางก็ไม่อยูข่ า้ งจวนตระกูลมูอ่ ีก
ต่อไป ทังหมดในตอนนีนางเป็ นผูเ้ ลือกเอง ในตอนนีทีข้า
สามารถอภัยให้นางได้ นอกจากเหตุผลทีว่าเห็นแก่ความ
สัมพันธ์ระหว่างท่านปู่ และตระกูลป๋ ายนันก็คือ นางยังไม่
ได้ทาํ อะไรทีทําให้ตระกูลมูเ่ สียหายจริงๆ แต่หากว่านาง
ทําอะไรให้ตระกูลมูไ่ ด้รบั ผลเสีย ข้าจะไม่ปรานีโดยเด็ด
ขาด นางเป็ นคนเลือกทางเดินของตนเอง ผลลัพธ์จะเป็ น
อย่างไรนางต้องเป็ นคนรับด้วยตัวเอง”

มูซ่ งพยักหน้าอย่างเข้าใจ ไม่ได้ปฏิเสธความคิดของมูช่ ิง


เกอ

49
มูเ่ หลียนหรงอ้าปากราวกับกําลังจะช่วยพูด แต่ทว่า พอ
เห็นใบหน้าทีแฝงความเย็นเยียบของมูช่ ิงเกอก็พดู อะไร
ไม่ออกและกลายเป็ นเพียงเสียงถอนหายใจ

นางยอมรับว่าทีมูช่ ิงเกอพูดนันถูก แต่จะให้นางทนเห็น


สาวน้อยทีเลียงมาตังแต่เล็กแต่นอ้ ย เดินเข้าสูห่ น้าผาที
ละก้าวทีละก้าวแบบนี ในใจของนางก็รูส้ กึ ปวดร้าวเป็ น
อย่างมาก

แต่วา่ ช่วงทีผ่านมานีนางแอบเตือนป๋ ายซีเยวียไม่ให้ถลํา


ลึกไปมากกว่านี แต่นางกลับยังคงไม่รูส้ กึ รูส้ าอะไร

50
บางทีก็อาจจะเป็ นอย่างทีมูช่ ิงเกอพูด ผลลัพธ์ทงหมด

จากการเลือกในครังนี นางต้องยอมรับมันด้วยตัวของ
นางเอง

หลังจากทีพูดในสิงทีควรพูดจนหมดสินแล้ว มูซ่ งก็พดู


กับมูช่ ิงเกอว่า : “เกอเอ๋อร์ เจ้าจําเป็ นต้องเข้าไปในวัง
หลวงเพือกราบทูลฮ่องเต้เรืองทีเจ้ากลับมา สามวันหลัง
จากนีก็จะเป็ นพิธีสวมหมวกของเจ้า ข้ากับท่านอาของ
เจ้าได้เตรียมการทุกอย่างเอาไว้แล้ว แต่ทว่า ต้องทําให้
เจ้าลําบากอีกแล้ว” พูดจบ เขาก็ตบไหล่ของมูช่ ิงเกออ
ย่างรูส้ กึ ผิดทีหนึง

“ท่านปู่ ไม่เป็ นอะไร นีก็แค่พิธีการก็เท่านัน” มูช่ ิงเกอพูด


อย่างไม่ใส่ใจ
51
พิธีสวมหมวกเป็ นเรืองใหญ่สาํ หรับชายหนุ่มผูท้ ีบรรลุ
นิติภาวะ ต้องมีการจัดงานเลียง เชิญแขกเหรือ ต้อง
ปฏิญญาณตนกับบรรพบุรุษเพือเข้าเป็ นส่วนหนึงของ
รายนามวงศ์ตระกูล แต่นางกลับเป็ นผูห้ ญิงพิธีการทีควร
เข้าร่วมนันคือ *พิธีปักปิ น สิงทีต้องสวมคือปิ นประดับผม
ไม่ใช่ทีเกล้าผมของชาย ทว่าในตอนนีด้วยฐานะทีเป็ น
ผูช้ ายของนาง ทําได้เพียงแค่ปฏิบตั ิไปตามพิธีการของ
ผูช้ ายเท่านัน

พรากทุกอย่างทีมูช่ ิงเกอควรจะมีไปโดยทําอะไรไม่ได้
อย่างนี จะทําให้มซู่ งและมูเ่ หลียนหรงสบายใจได้อย่าง
ไร?

52
มูเ่ หลียนหรงดึงตัวมูช่ ิงเกอพลางพูดว่า : “อารูว้ า่ เจ้าไม่
ชอบความยุง่ ยาก เพราะฉะนันพิธีการไม่ได้ซบั ซ้อนมาก
นัก พอถึงวันนันเจ้าเพียงแค่อดทนหน่อย ทําไปตามพิธีก็
เพียงพอแล้ว”

มูช่ ิงเกอพยักหน้า

หลังจากทีออกจากศาลบรรพชน มูช่ ิงเกอจึงกลับมายัง


สวนสระเมฆา โย่วเหอและฮวาเยวียได้จดั การกับห้องพัก
ทีไม่มีคนอยูม่ านานเป็ นทีเรียบร้อยแล้วและสัมภาระที
นํากลับมาก็จดั เข้าทีเข้าทาง ราวกับว่ามูช่ ิงเกอไม่เคย
ออกไปไหนมาก่อน

53
หลังจากทีพักผ่อนอยูภ่ ายในจวนครูห่ นึง มูช่ ิงเกอก็ขี
เพลิงรัตติกาลมุง่ ไปยังวังหลวง

อาชาเพลิงทีเกินมาในตอนแรก นางได้ให้คนส่งไปให้
มูซ่ งแล้ว เพือไม่ให้เกิดความยุง่ ยากตามมาในภายหลัง
มูซ่ งจึงเลือกอาชาเพลิงจํานวน 5 ตัวเพือส่งเข้าไปภายใน
วังหลวงและถวายให้กบั ฉินชาง

*及笄之礼 พิธีปักปิ น เป็ นพิธีทีจัดขึนเพือรับขวัญ


หญิงสาวเมืออายุครบ 15 ปี บริบรู ณ์

เพราะฉะนันทหารทีเฝ้าประตูภายในวังหลวง เมือเห็น
อาชาเพลิงของมูช่ ิงเกอแล้วก็มีเพียงความอิจฉาไม่มี

54
ความแปลกใจใดๆ

ทําได้เพียงแค่แอบเปรียบเทียบอาชาเพลิงอันสง่างดงาม
ตัวทีมูช่ ิงเกอขีอยูน่ ี กับอีก 5 ตัวทีเลียงอยูใ่ นวัง ผลลัพธ์ที
ได้คือ ไม่มีตวั ไหนเลยทีสามารถเทียบราศีแห่งความเป็ น
ราชาผูส้ งู ศักดิเท่ากับตัวทีมูช่ ิงเกอขีอยูไ่ ด้

ประตูดา้ นในสุดของวังหลวงไม่สามารถขีม้าเข้าไปได้ มู่


ชิงเกอทําได้เพียงทิงม้าเอาไว้และเดินไปพบฉินชางด้วย
สองเท้าของตนเอง

สําหรับฮ่องเต้ผทู้ ีเต็มไปด้วยแผนการและเห็นแก่ตวั มูช่ ิง


เกอไม่คิดจะญาติดีดว้ ยเลยจริงๆหลังจากทีพบกันใน

55
ห้องทรงอักษรและทังสองคุยกันถึงเรืองทีไม่ได้มีสาระ
อะไรแล้ว นางก็ถกู ฉินชางบอกให้กลับออกมาก่อน

นางหันหลังแล้วเดินเข้าไปยังตําหนักส่วนในของวังหลวง

ภายในวังหลวง ยังมีอีกท่านหนึงทีนางต้องไปเข้าเฝ้า นัน


ก็คือไทเฮา!

พิธีรตี องอันมากมายเช่นนี ชวนให้ชอบไม่ลงเลยจริงๆ!

เมือนึกถึงคําพูดของท่านปู่ มูช่ ิงเกอทําได้เพียงมุง่ ไปยัง


ตําหนักฉือเสียง ซึงเป็ นทีประทับของไทเฮา เพือทีจะไม่
เผยช่องโหว่ให้โอกาสกับคนทีต้องการจะโจมตีนางได้
56
แต่ทว่า มูช่ ิงเกอคิดไม่ถงึ ว่า ตนเองอุตส่าห์อดทนและไป
ถึงตําหนักฉือเสียง สิงทีได้รบั กลับเป็ นประตูทีปิ ดอยู่

นางกํานัลในวังหลวงออกมาบอกว่าในเวลานีไทเฮา
กําลังบรรทมอยู่ ให้นางกลับออกไปก่อน รอให้ไทเฮา
เรียกให้เข้าพบในวันหลัง ความหมายก็คือ : ไทเฮาไม่ใช่
ผูท้ ีเจ้าอยากจะพบก็มาพบ กลับไปรอทีจวนเสีย หากวัน
ใดทีไทเฮาทรงนึกถึงและมีอารมณ์อยากจะพบเจ้า ค่อย
เรียกเจ้ามา

สะบัดแขนเสือทีหนึง แล้วมูช่ ิงเกอก็หนั หลังเดินออกไป

57
58
ตอนที 89-5 ราชาผูห้ วนกลับมา !

ไม่อยากเจออย่างนันหรือ ? ตรงใจนางพอดี!

นางยังไม่ลืมว่าคนทังสองทีนางมาเข้าเฝ้าในวันนี ล้วน
แล้วแต่เป็ นผูท้ ีส่งให้คนไปลอบสังหารนาง

เมือสักครูน่ ี ทีห้องทรงพระอักษรนางไม่ได้สงั หารฝ่ าบาท


ผูน้ นก็
ั เพราะนางจําเป็ นต้องอดทนเพือการใหญ่ เข้าใจ
ไหม?

59
เดินตรงไปยังทางออกของวังหลวง มูช่ ิงเกอเดินเร็วขึน
เรือยๆ

อากาศในวังหลวงน้อยมากจนนางอึดอัด

ทันใดนัน นางก็รูส้ กึ ว่าด้านหลังตัวนางมีคนเดินตามมา


แต่กลับไม่ได้มีประสงค์รา้ ยอะไร

ในชัวพริบตา นางก็ลดการป้องกันลง ปล่อยให้คนทีอยู่


ข้างหลังได้โผเข้ามา

ทันใดนัน ตรงหน้านางก็พลันมืดลง ถูกมือเล็กๆ ทีอ่อน


นุ่มและมีกลินหอมจางคูห่ นึงปิ ดตาเอาไว้
60
“ทายสิ ว่าข้าเป็ นใคร!” จงใจกดเสียงให้ตาลง
ํ เสียงอัน
แฝงความดีใจทียากทีจะปกปิ ดดังมาจากข้างหลัง

ไม่วา่ เจ้าของเสียงนีจะพยายามปิ ดบังมากเพียงใด มูช่ ิง


เกอก็ยงั คงสามารถรูถ้ งึ ฐานะทีแท้จริงของผูท้ ีอยูข่ า้ งหลัง
ได้ทนั ทีอยูด่ ี นางกระตุกยิมมุมปากจางๆ พูดโดยทีไม่
ขยับตัวว่า : “องค์หญิงหย่งฮวน”

“ว้า! พีชายไม่สนุกเลย เดาออกว่าข้าเป็ นใครไวปานนี”


มือเล็กทังสองข้างทีอยูต่ รงหน้าค่อยๆ คลายออก กลิน
หอมทีติดบริเวณจมูกก็คอ่ ยๆไกลออกไป

61
มูช่ ิงเกอทีสามารถมองเห็นได้อีกครัง หันหลังกลับไปมอง
หญิงสาวทีมีความสูงเทียบเท่าไหล่ของนาง

เมือเทียบกับการพบกันเมือหนึงปี ก่อนหน้านีแล้ว หญิง


สาวผูน้ ีดูผอมลง แต่ทว่า ใบหน้าซาลาเปากลับไม่เปลียน
ไป ใบหน้าดูงดงามละเอียดลออมากยิงขึน แฝงความไร้
เดียงสาทีไม่มีพิษภัยใดๆ

ชุดกระโปรงทีผูกสูงอยูบ่ ริเวณหน้าอก ทําให้นางดูงด


งามมากยิงขึน กระโปรงตัวใหญ่หลวมมีชายกระโปรงที
ปลิวพลิวไปมาอย่างเป็ นธรรมชาติ

ผมของนางไม่ได้มดั แกละไว้สองข้างอีกต่อไป กลับมัด

62
เป็ นเปี ยง่ายๆ และปล่อยลงตามไหล่ บนผมสีดาํ เงามี
เพียงเครืองประดับธรรมดาๆ ชินหนึง มองดูแล้วช่างสด
ใสมีชีวิตชีวา

“พีชาย ในทีสุดท่านก็กลับมาแล้ว ท่านมาหาเหลียน


เหลียนหรือ?” ฉินอีเหลียนพูดพลางกะพริบดวงตาคูโ่ ต

ความคาดหวังทีประดับอยูใ่ นแววตา ทําให้นางปฏิเสธ


ไม่ลง

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอก็เลือกทีจะพูดความจริง : “กระหม่อม


มาเข้าเฝ้าฮ่องเต้และไทเฮา”

63
ความจริงทําให้ฉินอีเหลียนจู๋ปาก พลางพูดอย่างเอาแต่
ใจว่า : “พีชายไม่ได้มาหาเหลียนเหลียน ท่านไม่คิดถึง
เหลียนเหลียนใช่หรือไม่ อีกอย่าง เหลียนเหลียนเขียน
จดหมายให้พีชายตังมากมาย พีชายไม่ตอบกลับข้าเลย
แม้แต่ฉบับเดียว”

มูช่ ิงเกอกระตุกยิม ทันใดนัน นางไม่รูว้ า่ ควรจะอธิบาย


เรืองนีกับองค์หญิงอย่างไร

จดหมายเหล่านัน นางไม่เพียงแค่ไม่ได้ตอบ แต่ไม่แม้


กระทังจะเปิ ดอ่าน

“พีชาย ยินดีกบั การกลับมาของท่าน เพือเป็ นการต้อนรับ

64
ท่าน เหลียนเหลียนจะเลียงลูกอมท่านเอง!” โชคดีที
เหลียนเหลียนไม่ได้สาวความเรืองนีต่อและยืนลูกอมให้
กับมูช่ ิงเกอ

ลูกอมทีอยูต่ รงหน้า ทําให้มชู่ ิงเกอนึกถึงครังทีสองทีพวก


เขาเจอกัน

องค์หญิงตัวน้อยผูไ้ ร้เดียงสาบอกจะเลียงลูกอมนางแต่
นางกลับไม่สนใจ หลังจากนัน นางก็ไม่เคยพูดถึงความ
ปรารถนาดีทีองค์หญิงจะเลียงลูกอมนางอีกเลย

บางที สําหรับองค์หญิงตัวน้อยแล้ว ลูกอมเป็ นสิงทีนาง


ชอบมากทีสุด การเอาของทีตนเองชอบออกมาแบ่งปั น

65
ถือเป็ นการแสดงความรูส้ กึ ดีๆ ทีนางมีให้กบั คนผูน้ นั

แต่ทว่า ความรูส้ กึ ดีๆ เช่นนี กลับทําให้มชู่ ิงเกอยิงต่อ


ต้าน

ก่อนหน้านีมีฉินอีเหยาคนหนึงแล้ว ตอนนีนางทําได้เพียง
แกล้งทําเป็ นไม่เห็น แต่ก็ไม่อาจจะชักนําหนีดอกท้อ
(ความรัก) เข้ามาอีก

เพราะฉะนัน มูช่ ิงเกอจึงก้าวไปข้างหลังหนึงก้าวและไม่


ได้ยืนมือออกไปรับลูกอมจากมือของฉินอีเหลียน เพียง
แต่สา่ ยหน้าเบาๆ พลางพูดว่า : “ กระหม่อมไม่ชอบทาน
ลูกอม ขอบพระทัยในความปรารถนาดีจากองค์หญิงพะ

66
ยะค่ะ”

“อย่างนีนีเอง ไม่เป็ นไร” ฉินอีเหลียนไม่ได้ฝืน เพียงแต่


เก็บลูกอมและความดีใจกลับไป

แต่ทว่า ในวินาทีตอ่ มา นางก็ทาํ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึน


และมอบรอยยิมอันสดใสให้แก่มชู่ ิงเกอ : “ช่วงทีพีชายไม่
อยูเ่ หลียนเหลียนไม่ได้อยูเ่ ฉยๆ นะ ข้าเล่าเรียนการร่าย
รํามาเยอะมากๆ ข้าร่ายรําให้พีชายดูดีไหม ข้าเคยได้ยิน
เสด็จแม่บอกว่าพีชายเต้นรําได้ดีมากๆ เลย”

“วันหลังเถอะ” มูช่ ิงเกอปฏิเสธด้วยรอยยิม

67
“พีชายไม่วา่ งหรือ” ฉินอีเหลียนไหล่ตกในทันที ใบหน้า
ซาลาเปาก็พลันเผยให้เห็นถึงความผิดหวัง

“อืม กระหม่อมมีเรืองต้องไปจัดการ” มูช่ ิงเกอตอบไป


ตามนํา

“ไม่เป็ นไร รอให้พีชายมีเวลาค่อยดูเหลียนเหลียนร่ายรํา”


แม้วา่ ฉินอีเหลียนจะผิดหวัง แต่นางก็พยักหน้าอย่างเชือ
ฟั ง

“อืม” มูช่ ิงเกอตอบกลับเพียงแค่คาํ เดียว

ทันใดนัน ความสดใสทังหมดก็ได้มารวมกันอยูท่ ีตาดวง


68
กลมโตของฉินอีเหลียน นางยืนนิวก้อยของตนเองออก
ไปตรงหน้ามูช่ ิงเกอและพูดอย่างอ้อนๆ ว่า : “เกียวก้อย
กันก่อน ไม่เช่นนันพีชายอาจจะลืมอีก”

มูช่ ิงเกอยิม มองนิวมือเรียวเล็กทีอยูต่ รงหน้า แล้วเคลือน


สายตาไปมองใบหน้าทีเต็มเปี ยมไปด้วยความหวังของ
ฉินอีเหลียน เมือทําอะไรไม่ได้ นางจึงยืนมือของตน
เองออกไปเกียวกับนิวก้อยของนางเบาๆ

คลายนิวมือออก ฉินอีเหลียนพูดอย่างดีใจว่า : “ดีละ่ !


เกียวก้อยกันแล้ว พีชายจะไม่โกหกข้าเป็ นแน่ ถ้าเช่นนัน
ข้าขอตัวกลับก่อน พีชายไปทําธุระได้เลย หากมีเวลา
ต้องบอกเหลียนเหลียนนะ!”

69
พูดจบ นางก็โบกมือให้มชู่ ิงเกอและดึงชายกระโปรงขึน
แล้ววิงไปทางวังหลวง

มองฉินอีเหลียนเดินจากไป ในขณะทีมูช่ ิงเกอกําลังจะ


หันหลังกลับ ก็ได้ยินเสียงอันแนบนิงเสียงหนึงดังขึน :
“เหตุใดต้องปฏิเสธเหลียนเหลียน นางไม่เหมือนฉางเล่อ
ทีมีความคิดซับซ้อน มีเสด็จแม่และเสด็จพีทีคอยแย่งชิง
อํานาจนางเพียงแค่......ชอบเจ้า”

มูช่ ิงเกอหันหลังกลับในทันทีและสบเข้ากับสายตาแนบ
นิงดังสายนําทีหยุดไหล ดวงตาสีขาวและดําตัดกันอย่าง
ชัดเจนคูน่ นั

70
“เสียนอ๋องกําลังชมตัวเองอย่างนันหรือ?” มูช่ ิงเกอพูด
นิงๆ

ฉินจินเฉินเม้มปากยอมรับและหันหลังเดินไปข้างหน้า
ท่าทางเช่นนัน ราวกับกําลังจะออกไปส่งมูช่ ิงเกอทีกําลัง
จะออกจากวัง

มูช่ ิงเกอรูส้ กึ แปลกใจ แต่ก็เดินตามไปโดยไม่ได้ปฏิเสธ

“เหลียนเหลียนไม่ดีตรงไหน?” ทังสองเดินเคียงคูก่ นั ไป
ราวกับกําลังเดินเล่นอยูใ่ นสวน ทันใดนันฉินจินเฉินก็พดู
ขึน

71
มูช่ ิงเกอหยุดเดินและกระตุกยิมจางๆ อีกเช่นเคย : “องค์
หญิงหย่งฮวนนันเป็ นคนดีมาก กระหม่อมไม่คคู่ วรกับ
นาง”

คําพูดนีทําให้ฉินจินเฉินหยุดฝี เท้าเช่นกัน พลางหันไป


มองนางด้วยสายตาทีเต็มเปี ยมไปด้วยความจริงใจทัง
พูดเบาๆ ว่า: “คุณชายผูห้ ยิงในศักดิศรีของตนเองมาโดย
ตลอด เหตุใดถึงได้กลับกลายเป็ นคนทีถ่อมตนได้ถงึ
เพียงนี”

หยิงในศักดิศรีอย่างนันหรือ?

72
มูช่ ิงเกอกระตุกยิมพลางพูดในทํานองเดียวกันว่า :
“กระหม่อมก็คิดไม่ถงึ ว่าเสียนอ๋องทีไม่เคยจะสนใจเรือง
ของผูใ้ ดกลับกลายเป็ นแม่สอให้
ื กบั คนอืน”

73
ตอนที 89-6 ราชาผูห้ วนกลับมา !

“เพราะนันคือเหลียนเหลียน” ฉินจินเฉินค่อยๆ เงยหน้า


ขึน นําเสียงอันแนบนิงทําให้ผฟู้ ั งยากทีจะปฏิเสธลง

มูช่ ิงเกอยิมเย็น : “เสียนอ๋องช่างน่าขบขันเสียจริง ถ้าเช่น


นันพระองค์อยากจะยัดเยียดความชอบของตนเองให้กบั
คนอืนอย่างนันหรือ?”

74
ฉินจินเฉินก้มตาลง ทําให้ไม่สามารถเห็นความรูส้ กึ ทีแท้
จริงของเขาได้

ครูใ่ หญ่ เขาจึงพูดว่า : “ข้าเพียงแค่อยากรูเ้ หตุผล”

“เสียนอ๋องเหมือนจะมันใจว่า บนโลกใบนีมีเพียง
กระหม่อมคนเดียวเท่านันทีจะนําพาความสุขมาให้กบั
องค์หญิงหย่งฮวนได้?” มูช่ ิงเกอหรีตาทังคูล่ ง

ฉินจินเฉินขนตาขยับไหวเล็กน้อย พลางบอกเหตุผลของ
ตนเองออกมา : “นางชอบเจ้าและเจ้าเองก็ไม่ใช่คนไร้
ไมตรี”

75
มูช่ ิงเกอยิมอย่างเยาะเย้ย : “ได้รบั การประเมินค่าเช่นนี
จากเสียนอ๋อง ถือเป็ นบุญของกระหม่อมอย่างยิง เพียง
แต่วา่ ราวกับพระองค์จะทรงลืมเรืองขององค์หญิงฉาง
เล่อไปแล้ว กระหม่อมไม่ได้เป็ นคนทีเห็นแก่ความรักจน
ไม่ลืมหูลืมตา”

แต่ทว่า ฉินจินเฉินกลับพูดอย่างไม่สนใจว่า : “ฉางเล่อ


กับเหลียนเหลียนไม่เหมือนกัน เสด็จแม่ของข้าไม่ใช่เจียง
กุย้ เฟย”

“ถ้าเช่นนัน เสียนอ๋องเองก็ไม่เหมือนรุย่ อ๋องใช่ไหม แล้วนี


ก็คือเหตุผลทีเมือสิบเดือนก่อนหน้านี พระองค์แอบส่ง
คนไปคุม้ กันกระหม่อมใช่หรือไม่?” มูช่ ิงเกอหรีตาเป็ น
เส้นตรง นัยน์ตาแฝงไปด้วยความอันตราย
76
นัยน์ตาอันแนบนิงของฉินจินเฉินไหววูบไปเล็กน้อย แต่ก็
ไม่ได้ตอบคํา

มูช่ ิงเกอพูดพลางผุดรอยยิมออกมาว่า : “เสียนอ๋องกําลัง


แปลกใจว่ากระหม่อมรูไ้ ด้เช่นไรว่าเป็ นท่านใช่หรือไม่?”

ฉินจินเฉินช้อนตาทังคูข่ า้ งขึน ดวงตาแนบนิงทีนัยน์ตา


ขาวและดําตัดแยกออกจากกันอย่างชัดเจนนัน มองนาง
ราวกับกําลังหาคําตอบ

“ความจริงแล้วมันง่ายมาก เพียงแต่วา่ ในตอนแรกข้าคิด


ไม่ถงึ ก็เท่านัน ใช้วิธีการตัดออก ผูท้ ีมีความเป็ นไปได้

77
น้อยทีสุดคือท่าน เพราะท่านเก็บตัวเงียบ ดูไม่มีพิษภัย
เหมือนไม่มีตวั ตนและไม่เป็ นจุดสนใจเลยแม้แต่นอ้ ย ทํา
ให้ทกุ คนละเลยการมีตวั ตนของท่าน” มูช่ ิงเกอพูดหยอก
ล้อ

ในขณะทีสืบจนได้ความแล้ว มูช่ ิงเกอเองก็ไม่คอ่ ยปั กใจ


เชือ

ใครจะรูว้ า่ เสียนอ๋องทีดูไม่สะดุดตาจะแอบซ่องสุมขุม
กําลังเอาไว้อย่างเงียบๆ?

และอีกอย่างยังเก็บซ่อนไว้ได้เสียมิดชิด

78
สุดท้าย หากไม่ใช่วา่ มูช่ ิงเกอสงสัยในตัวของฉินจินเฉิน
และให้กหู ยาออกมาสืบ จนเห็นกับตาว่ายอดฝี มือทีแอบ
ช่วยนางในตอนนันปรากฏตัวอยูข่ า้ งๆ เสียนอ๋องแล้วล่ะ
ก็ นางเองก็ไม่อยากจะเชือ

ฉินจินเฉินจ้องมูช่ ิงเกอเขม็ง ครูใ่ หญ่จงึ พูดนิงๆ ว่า : “ข้า


ไม่สนใจบัลลังก์นนหรอก
ั เสด็จแม่ของข้าก็ไม่หวังให้ขา้
หน้ามืดตามัวเพราะอํานาจเหล่านัน” ราวกับว่าเขาไม่
สนใจเรืองทีมูช่ ิงเกอรูค้ วามลับของเขา

ทว่า มูช่ ิงเกอกลับไม่เชือ

องค์ชายผูไ้ ม่ได้รบั ความรัก ต้องอดทนกลํากลืนมานาน

79
หลายปี แต่ลบั หลังแอบซ่องสุมขุมกําลังทีแข็งแกร่งของ
ตนเองไว้อย่างเงียบๆ แล้วมาบอกกับนางว่าเขาไม่มี
ความคิดทีจะแย่งชิงอย่างนันน่ะหรือ?

มูช่ ิงเกอไม่ปิดบังรอยยิมเย็นเยียบเลยแม้แค่นอ้ ย ราวกับ


มันทิมแทงนัยน์ตาทังคูข่ องฉินจินเฉิน จึงทําให้เขาก้ม
หน้าลง เพือหลบหลีกจากสายตาแผดเผาคูน่ นั

เมือเห็นว่าเขาไม่พดู อะไร มูช่ ิงเกอจึงเตรียมทีจะจากไป

แต่ทว่า นางเพิงจะเดินออกไปได้สองก้าว นําเสียงแฝง


ความอ้างว้างเย็นชาก็ดงั ขึนอีกครัง : “ดูเหมือนว่าเรืองที
ผ่านมา เจ้าจะลืมมันไปแล้วจริงๆ”

80
เรืองทีผ่านมาอย่างนันหรือ? เรืองอะไรทีผ่านมา? หรือว่า
เจ้ามูช่ ิงเกอยังมีความสัมพันธ์ทีเปิ ดเผยไม่ได้กบั เสีย
นอ๋องด้วย?

มูช่ ิงเกอสงสัย แต่หนั หลังกลับมาโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ


พลางมองไปทีเขาด้วยสายตาอันเยือกเย็น ขณะทีนาง
กําลังจ้องอยูฉ่ ินจินเฉินก็หยิบอะไรบางอย่างออกจากอก
มาวางบนฝ่ ามือแล้วยืนไปตรงหน้ามูช่ ิงเกอ : “เจ้ายังจํา
สิงนีได้หรือไม่?”

มูช่ ิงเกอหรีตา หยุดสายตาบนฝ่ ามือของฉินจินเฉินทีมีไม้


ไผ่เล็กๆ อยูท่ อ่ นหนึง

81
นางไม่ใช่มชู่ ิงเกอคนเก่า ไม่รูว้ า่ ขลุย่ ไม้ไผ่เลานีมีความ
หมายอย่างไรจริงๆ!

นางค่อยๆ เงยหน้าขึน มูช่ ิงเกอมองไปยังฉินจินเฉิน

ฉินจินเฉินค่อยๆ กํามือแน่น พลางเก็บมือของตน


เองกลับไปและพูดว่า : “ข้าจําได้วา่ ตอนทีข้าอายุ
สิบกว่าขวบ เจ้าทีในตอนนันอายุประมาณเจ็ดขวบเป็ น
หลานชายของเทพสงครามมูซ่ งแห่งแคว้นฉิน ตระกูลมู่
เปี ยมล้นไปด้วยอํานาจ ส่วนข้าก็เป็ นเพียงแค่องค์ชาย
อัปมงคลอ่อนแอขีโรค ในวังหลวง ไม่เพียงแค่พีน้องที
กลันแกล้งข้า ขนาดนางกํานัล องครักษ์เองก็ไม่เว้น
เพราะว่า พวกเขารูด้ ีวา่ จะไม่มีใครมาสืบสาวแน่ ครังนัน
82
ข้าถูกทหารภายในวังหลวงรุมทุบตีอยูท่ ีมุมหนึงใน
อุทยาน ข้ารูเ้ พียงว่า เลือดกําลังสูบฉีดอย่างแรงราวกับ
จะขาดใจเสียให้ได้ ในขณะทีหมดหวัง เจ้าก็ปรากฏตัว
ขึน แล้วจัดการกับพวกทหารทีชอบรังแกคนที
อ่อนแอกว่าพวกนันจนหนีไป” ฉินจินเฉินพูดถึงตรงนีก็
ผุดรอยยิมขึนมา ราวกับตกอยูใ่ นห้วงแห่งความทรงจํา :
“ความจริงแล้ว หมัดและเท้าของเจ้า ไม่ได้โดนตัวของ
พวกเขาเลยสักนิด พวกเขาต่างหลบได้อย่างคล่องแคล่ว
แต่พวกเขากลับพากันร้องขอชีวิต ปั สสาวะอุจจาระราด
ถอยหนีไป

สายตาอันสงบนิงของเขา เป็ นครังแรกทีมองมาอย่าง


เปี ยมไปด้วยความรูส้ กึ มูช่ ิงเกอกลับรูส้ กึ อึดอัดแปลกๆ
เพราะนางรูว้ า่ คนทีฉินจินเฉินพูดถึง ไม่ใช่นาง

83
“หลังจากทีพวกเขาถอยออกไป เจ้าหัวเราะเยาะว่าข้าขี
ขลาด โตขนาดนีแล้วยังถูกทาสรับใช้รงั แก ตอนนันข้า
โกรธเจ้าทีไม่รูถ้ งึ ความซับซ้อนในวังเป็ นอย่างมาก แต่
ทว่า เจ้ากลับยืนขลุย่ ไม้ไผ่เลาหนึงให้กบั ข้าและยังบอก
ข้าว่า หากมีคนรังแกข้า ให้ขา้ เป่ าขลุย่ ไม้ไผ่นี หลังจากที
เจ้าได้ยิน ก็จะรีบมาจัดการพวกมันให้ขา้ ” หลังจากทีพูด
จบ ฉินจินเฉินก็กาํ ขลุย่ ไม่ไผ่ในมือแน่นกว่าเดิม

“อย่าบอกนะ ว่าท่านเชือจริงๆ” มูช่ ิงเกอพูดพลางกระตุก


ยิมมุมปาก คําพูดเช่นนี เอาไว้ใช้หลอกเด็กชัดๆ!

ฉินจินเฉินพยักหน้ายอมรับ พลางพูดอย่างจริงจังว่า :
“ข้าเชือ หลังจากนัน ทุกครังทีข้าถูกกลันแกล้งก็จะเป่ า
84
ขลุย่ ไม้ไผ่นี แต่ทว่า เจ้ากลับไม่เคยปรากฏตัวเลยแม้แต่
ครังเดียว”

“แล้วท่านยังจะมาบอกว่าเชืออีก?” ครานี เป็ นมูช่ ิงเก


อเองทีประหลาดใจ

ฉินจินเฉินมองนาง : “หลังจากนัน ข้าจึงได้รูว้ า่ วังหลวง


นันกว้างใหญ่เกินไป เสียงของขลุย่ ไม้ไผ่ไม่สามารถดัง
ออกไปถึงข้างนอกได้ เจ้าเองก็ไม่ได้อยูใ่ นวังหลวงจะได้
ยินได้อย่างไร หากเจ้าไม่ได้ยิน แน่นอนว่าจะไม่ปรากฏ
ตัว แต่หากเจ้าได้ยิน ข้าเชือว่าเจ้าจะต้องมา”

“……” มูช่ ิงเกอไม่รูว้ า่ ควรจะพูดอะไร นางไม่ใช่มชู่ ิงเก

85
อคนเดิม ไม่รูว้ า่ มูช่ ิงเกอตัวจริงคิดอย่างไร แต่หากเป็ น
นาง ถ้าได้สญ
ั ญาไว้ นางคิดว่า นางจะทําให้ได้

“พระองค์แอบสังคนไปคุม้ กันกระหม่อม ก็แค่อยากจะ


ตอบแทนบุญคุณตอนเด็กใช่หรือไม่” อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็พดู
ในสิงทีตนเองคาดการณ์ออกมา

ซึงฉินจินเฉินก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่กลับพูดปกป้องตนเอง
ว่า : “ทีท่านอาจารย์และคนพวกนันนับถือข้าเป็ นนาย
ทังหมดนีเป็ นเพียงความบังเอิญเท่านัน และด้วยเหตุนี
จึงทําให้ขา้ มีความสามารถมากพอทีจะปกป้องคนที
อยากปกป้อง ตําแหน่งฮ่องเต้นนั ข้าไม่สนใจ”

86
พูดจบ เขาก็เดินไปทางนอกวัง ราวกับกําลังแสดงให้เห็น
ว่าการสนทนาได้จบลงแล้ว

มูช่ ิงเกอเดินออกจากวังหลวงและแยกกับฉินจินเฉิน ข้าง


หลังตัวนางคือรถม้าของตําหนักเสียนอ๋องทีค่อยๆ ไกล
จากนางไปเรือยๆ นางหันหลังกลับไป มองรถม้าคันนัน
ในใจไม่หยุดทีจะคิดว่า : หากมูช่ ิงเกอคนเดิมยังจําคํามัน
สัญญาทังหมดนีได้เหมือนกับฉินจินเฉิน จะมีบทสรุปที
แตกต่างไปจากวันนีหรือไม่?

87
ตอนที 90-1 สารพัดวิธีรนหาทีตาย คงมิอาจห้ามได้!

“เจ้ามาหาข้ามีเรืองอะไรหรือ?”

นําเสียงเย็นชาไม่แยแส ทําให้ป๋ายซีเยวียใจกระตุก นอก


เหนือจากความปวดร้าวแล้ว ความเกลียดชังภายในใจก็
เพิมพูนมากขึนเรือยๆ

มีฉากบังลมฉากหนึงกันไว้ทาํ ให้นางเห็นเพียงแค่เงาอัน
สูงโปร่ง เพือหลีกเลียงไม่ให้คนอืนสงสัย จึงทําให้ไม่
สามารถเจอหน้ากันได้ขนาดนีเชียวหรือ?

ป๋ ายซีเยวียกัดปากด้วยความรูส้ กึ ทีสับสนสุมอยูเ่ ต็ม


1
ทรวงอก อีกด้านหนึงของฉากกันกลับพูดอย่างเหลืออด
ว่า : “มีเรืองอะไรกันแน่”

ป๋ ายซีเยวียเงยหน้าขึนอย่างกะทันหัน ความทุกข์ในแวว
ตาชวนให้คนรูส้ กึ สงสาร แต่วา่ กลับไม่มีผใู้ ดมองเห็นมัน

นางพูดด้วยนําเสียงอันอ่อนโยนว่า : “ฝ่ าบาท มูช่ ิงเกอก


ลับจวนแล้วเพคะ”

“ข้ารูแ้ ล้ว” ฉินจินห้าวตอบกลับอย่างเย็นชา เขาเห็นกับ


ตาว่ามูช่ ิงเกอกลับแคว้นมาอย่างยิงใหญ่มากเพียงใด
เมือเทียบกับจอมเสเพลเมือสิบเดือนก่อนหน้านีแล้ว ช่าง
แตกต่างกันราวกับเป็ นคนละคน

2
ทหารองครักษ์พวกนัน ก็ไม่เหมือนกับพวกไร้คา่ ทีตายใน
ทีราบลัวรือ กลับครอบครองอาชาเพลิงทีเป็ นถึงสัตว์
วิญญาณไว้เป็ นพาหนะ

เขาทีเป็ นถึงองค์ชาย ยังไม่มีความโชคดีเช่นนัน

อาชาเพลิงห้าตัวทีมูซ่ งถวายให้ เสด็จพ่อพอพระทัยเป็ น


อย่างมากและไม่มีความคิดทีจะประทานให้ผใู้ ดเป็ นแน่

แต่มชู่ ิงเกอล่ะ ไม่เพียงแต่มีอาชาเพลิงทีสง่างามกว่าห้า


ตัวนัน ทหารองครักษ์ของเขาล้วนแต่มีอาชาเพลิงเอาไว้ขี
ตังแต่เมือไหร่กนั ทีสัตว์วิญญาณเช่นอาชาเพลิงเชือฟั ง

3
คําพูดของมนุษย์ และยินยอมให้ขีหลัง?

ในใจของฉินจินห้าวเต็มไปด้วยความสับสน ทําให้สีหน้า
ของเขาแย่ลงกว่าเดิม

และยิงไม่พอใจกับข่าวนีของป๋ ายซีเยวียมากขึนกว่าเดิม
จึงกล่าวตําหนิวา่ : “เจ้ามาหาข้า เพียงเพราะเรืองแค่นี
อย่างนันหรือ”

เมือสัมผัสถึงความไม่พอใจในนําเสียงของฉินจินห้าว
ป๋ ายซีเยวียก็รบี พูดว่า : “ไม่ ไม่ ซีเยวียมีเรืองทีสําคัญ
กว่านันจะมากราบทูลพระองค์”

4
“พูดมา” ฉินจินห้าวพูดด้วยนําเสียงอันเย็นเยียบ

ในนําเสียงนันไม่มีการคาดหวังอันใดเลย ราวกับว่า ได้


ผิดหวังกับเรืองทีป๋ ายซีเยวียทําจนถึงขีดสุดแล้ว

แววตาของป๋ ายซีเยวียมีแววเกลียดชังอย่างลึกลําวาบ
ผ่าน

แต่ทว่า ความเกลียดชังนันไม่ได้เกิดขึนเพราะฉินจินห้าว
แต่เป็ นเพราะตระกูลมู่

“ฝ่ าบาท มูช่ ิงเกอกลับมาแล้ว สามวันให้หลังตระกูลจะ


จัดพิธีสวมหมวกให้เขา หากพระองค์ทรงอยากจะจัดการ
5
ตระกูลมูใ่ นสินในคราเดียว ซีเยวียมีวิธี” ป๋ ายซีเยวียพูด
ด้วยนําเสียงอันอ่อนโยน

คําพูดนี ในทีสุดก็ได้ดงึ ดูดความสนใจจากฉินจินห้าวมา


ได้

หากสินตระกูลมูแ่ ล้ว ทังหมดทีเป็ นของตระกูลมูร่ วมทัง


ทุกอย่างทีเป็ นของมูช่ ิงเกอ ก็จะตกเป็ นของเขาแล้วมิใช่
หรือ?

“ลองพูดมาสิ”

เมือป๋ ายซีเยวียสัมผัสได้ถงึ ความอบอุน่ ในนําเสียง ก็พดู


6
ด้วยความมันใจเป็ นอย่างยิงว่า : “ฝ่ าบาท ทรงลองคิดดู
หากวันทีมูช่ ิงเกอเข้าพิธีสวมหมวก ท่ามกลางสายตา
มากมายทีจับจ้อง เกิดมีคนพบหลักฐานทีตระกูลมูแ่ ละ
แคว้นถูรว่ มมือกัน จะเป็ นเช่นไร”

“โง่ ! หรือว่าเจ้าไม่รูว้ า่ ราชทูตแคว้นถูอยูใ่ นลัวตูร?ึ ” ฉิน


จินห้าวกล่าวตําหนิ

ป๋ ายซีเยวียกลับพูดต่ออีกว่า : “ฝ่ าบาท ก็เพราะว่าทูต


แคว้นถูอยูใ่ นลัวตูจงึ จะทําให้ตระกูลมูด่ นไม่
ิ หลุด ชือ
เสียงของมูซ่ งนันแคว้นถูเองก็เกรงกลัวมาก พวกเขาจะ
ไม่ปล่อยโอกาสในการจัดการกับมูซ่ งไปง่ายๆ เป็ นแน่
พวกเขาจะไม่เอาตัวรอดเป็ นอันขาด แต่จะคอยช่วยสนับ
สนุนให้ฮ่องเต้เชือว่ามูซ่ งติดต่อกับแคว้นถู อีกอย่าง
7
ฮ่องเต้เพียงแค่ตอ้ งการเหตุผลทีจะโค่นล้มตระกูลมู่ จะ
จริงหรือเท็จนัน จะมีสกั กีคนกันทีจะสนใจ?”

ฉินจินห้าวเงียบ ราวกับว่ากําลังคิดทบทวนความเป็ นไป


ได้ในแผนการของป๋ ายซีเยวีย

เมือรูส้ กึ ว่าฉินจินห้าวเริมหวันไหว ป๋ ายซีเยวียจึงพูดเสริม


อีกว่า : “หากตระกูลมูล่ ม่ สลาย มูซ่ งเป็ นกบฏต่อแผ่นดิน
หากอยากจะล้างมลทินนี ก็ตอ้ งทําตามคําตัดสินในท้อง
พระโรง เวลานันทหารตระกูลมูก่ ็จะตกเป็ นกรรมสิทธิ
ของท่านมิใช่หรือ อีกอย่างท่านช่วยฮ่องเต้จดั การปั ญหา
ทีค้างคาพระทัยมานาน ก็จะได้รบั การให้ความสําคัญ
จากฮ่องเต้มากยิงขึน ถึงตอนนันยังต้องกังวลอีกหรือว่า
งานใหญ่จะไม่สาํ เร็จ?”
8
ในอีกด้านหนึงของฉากกัน เงียบไปครูใ่ หญ่

สักพัก เสียงอันอบอุน่ ของฉินจินห้าวจึงดังขึนอีกครัง :


“ถ้าเช่นนัน เรืองนีข้ามอบให้เจ้าเป็ นคนจัดการ”

เมือได้รบั คําตอบดังทีใจต้องการ ป๋ ายซีเยวียจึง


จากไปพร้อมกับความตืนเต้นภายในใจ ราวกับว่า ใน
สายตาของผูอ้ ืนตระกูลมูท่ ียิงใหญ่ หากสามารถล่ม
สลายได้เพราะแผนการของนางจะทําให้นางมีความสุข
เป็ นอย่างยิง

แต่ทว่า นางกลับไม่รูว้ า่ ฉินจินห้าวยังมีการวางแผนไว้

9
อีกขันหนึง

แน่นอนว่า ในตอนแรก เขาหวันไหวกับแผนการนี แต่


ทว่า สุดท้ายก็สงบใจได้และคิดทบทวนอย่างรอบคอบ
รอบหนึง

ตระกูลมูน่ นจะล่
ั มสลายเพียงเพราะข้อหาเป็ นกบฏจริงๆ
หรือ หากบอกว่ามูซ่ งคิดร่วมมือกับแคว้นถู ใครจะเชือ?
ไม่มีหลักฐานทีชัดเจน ต่อหน้าคนทังใต้หล้า ฮ่องเต้เองก็
คงไม่กล้าตัดสินส่งเดชแน่

กลับกัน แคว้นฉินต่างหากทีจะวุน่ วาย!

10
ป๋ ายซีเยวียคิดว่าเรืองราวทุกอย่างจะง่ายเพียงนันเลย
หรือ

แต่วา่ เขาก็ยงั เห็นด้วยกับการกระทําของนาง เพราะเขา


ต้องการความซาบซึงใจจากตระกูลมู่ หากป๋ ายซีเยวียใส่
ความแล้วเขาสามารถทําให้มซู่ งพ้นจากความผิดได้ ถึง
ตอนนัน ตระกูลมูก่ ็จะเป็ นหนีบุญคุณเขามิใช่หรือ?

เมือถึงวันตัดสินแพ้ชนะกับรัชทายาท เขาก็จะใช้หนีบุญ
คุณนีให้เป็ นประโยชน์

อีกอย่าง เขาไม่ลืมว่า ทางตระกูลมูแ่ ละรัชทายาทตระกูล


หานนันมีหนีเลือดกันอยู่

11
ป๋ ายซีเยวีย ช่างโง่เขลาและคิดเองเออเอง คิดว่าตนเอง
ฉลาดไร้ทีเปรียบอย่างนันหรือ ทีจะสามารถเล่นงานใคร
ได้ง่ายๆ

ฉินจินห้าวหัวเราะเสียงเย็นเสียงหนึง หันหลังเดินออก
จากห้องทีนัดพบกัน

……

เมือมูช่ ิงเกอกลับถึงจวนตระกูลมูก่ ็ยา่ งสูเ่ ข้ายามวิกาล


แล้ว

12
หลังจากทีรับประทานอาหารกับท่านปู่ และท่านอาเสร็จ
เรียบร้อย นางก็ไปห้องหนังสือกับมูซ่ ง

“ชิงเกอ เจ้ารูใ้ ช่ไหมว่าคณะทูตของแคว้นถูทีมาในคราว


นีเป็ นใคร?” ยังไม่ทนั ได้นงั มูซ่ งก็พดู ขึนในทันที

มูช่ ิงเกออึงไปราวกับว่า ยังไม่กระจ่างว่าเหตุใดท่านปู่ จงึ


พูดถึงคณะทูตจากแคว้นถู แต่ก็ตอบกลับไปว่า :
“เหมือนจะมี หมานอ๋องเป็ นผูน้ าํ ”

มูซ่ งพยักหน้า นังลงไปบนเก้าอีกลมหลังโต๊ะหนังสือ


พลางพึมพําว่า : “ หมานอ๋องเป็ นราชนิกลู ชันอาวุโสของ
แคว้นถู เป็ นน้องชายแท้ๆ ของฮ่องเต้แคว้นถู เป็ นพระ

13
ปิ ตลุ าทีสนิทกับรัชทายาทแคว้นถูมากทีสุด คราวนี หมา
นอ๋องมาเยือนแคว้นฉินด้วยตัวเอง เกรงว่า องค์หญิงแห่ง
แคว้นฉินของเราคงหนีไม่พน้ การอภิเษกสมรสเป็ นแน่”

มูช่ ิงเกอรูส้ กึ ฉงนใจ พลางถามว่า : “แคว้นฉินและแคว้น


ถูนนทํ
ั าสงครามกันอยูบ่ อ่ ยครัง จู่ๆ เหตุใดถึงคิดจะแต่ง
งานเชือมสัมพันธ์กนั เล่า?”

14
ตอนที 90-2 สารพัดวิธีรนหาทีตาย คงมิอาจห้ามได้!

“ได้ข่าวว่า หลายปี มานี ปั ญหาความขัดแย้งโกงกินภาย


ในแคว้นถูก็รุนแรงมาก หวังจะใช้การอภิเสกสมรสในการ
คลีคลายความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น และบรรลุเป้า
หมายนันก็คือการหยุดสงคราม” มูซ่ งพูด

15
“แล้วความจริงล่ะ?” สายตาอันสว่างของมูช่ ิงเกอหยุดอยู่
ทีมูซ่ ง

สายตาอันเคร่งขรึมของมูซ่ งฉายแววความชืนชม ราวกับ


ว่ากําลังชืนชมความคิดอันฉลาดหลักแหลมของหลาน
สาว และพูดว่า : “ความจริงแล้ว สงครามภายในทีเกิด
ขึนในแคว้นถูมีสาเหตุมาจากการแย่งชิงของเหล่าองค์
ชาย ในขณะทีเกิดความวุน่ วาย ภายในหนึงปี แคว้นถู
เปลียนรัชทายาทมาแล้วสามพระองค์ และตอนนี
ตําแหน่งรัชทายาทองค์นีเองก็ยงั ไม่มนคง
ั เพราะฉะนัน
จึงหวังอภิเสกสมรสกับแคว้นฉิน ได้รบั การสนับสนุนจาก
แคว้นฉิน เพราะไม่วา่ อย่างไร แคว้นฉินและแคว้นถูก็มี
ชายแดนติดกัน หากต้องการกําลังทหาร ไม่มีใครจะเข้า
ไปช่วยเหลือได้รวดเร็วกว่าแคว้นฉินอีกแล้ว”

16
“ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นถู ยังมีแคว้นปา” มู่
ชิงเกอกล่าวเตือน

ช่วงทีผ่านมานี นางเสียเวลาจํานวนมากในการฝึ กฝน


ทักษะด้านต่างๆ แต่สาํ หรับสถานการณ์ของแคว้นต่างๆ
ยังไม่กระจ่างได้เท่ามูซ่ ง เพราะฉะนัน ถือโอกาสนีในการ
เรียนรู ้ ก็ถือว่าไม่เลว

“แคว้นปาอย่างนันหรือ” มูซ่ งมองมูช่ ิงเกอแวบหนึง


พลางลูบหนวดยาวและพูดว่า : “ แคว้นปานันเป็ นป่ า
และเทือกเขา การเดินทางยากลําบาก เพราะทรัพยากร
ทางธรรมชาติกนระหว่
ั างแคว้นปาและแคว้นถูเอาไว้
และคุม้ ครองแคว้นปาจนไม่มีใครสามารถทําอะไรได้ อีก
17
ประการหนึง แคว้นปามีจดุ เด่นนันก็คือ เกิดขึนจากการ
รวมตัวกันของหลากหลายชนเผ่า โดยปกติแล้วมีการ
ปกครองแบบปกครองตนเอง และภายในก็มีเรืองกระทบ
กระทังกันบ้าง หากมีการติดต่อกับภายนอกเท่านันจึงจะ
มีออ๋ งทีคัดเลือกโดยท่านผูเ้ ฒ่า ด้วยชือเสียงทีเล่าต่อกัน
มาของแคว้นปาแล้ว หากแคว้นถูคิดจะยืมกําลัง ก็คงจะ
เป็ นไปได้ยาก”

“แคว้นปา ถือว่าน่าสนใจ” มูช่ ิงเกอตาเป็ นประกาย

หากเรืองราววุน่ วายภายในแคว้นฉินหมดสินแล้ว นางก็


อยากจะไปท่องหลินชวนรอบหนึง เพือดูวา่ โลกอันแตก
ต่างใบนีแท้จริงแล้วมันเป็ นเช่นไร

18
ก๊อกๆๆ—

เสียวเคาะประตูดงั ขึน ขัดจังหวะบนสนทนาของมูช่ ิงเก


อและมูซ่ ง

หลังจากทีสินเสียงของมูซ่ ง มูเ่ หลียนหรงก็ผลักประตูเข้า


ไปและพูดกับทังสองว่า : “วันนี ป๋ ายซีเยวียไปพบรุย่ อ๋อง
อีกแล้ว”

“นางยังคงไม่รอช้าทีจะไปส่งข่าว” มูช่ ิงเกอยิมเย็นเยียบ

ทันใดนัน นางก็พดู ขึนอีกว่า : “ดูเหมือนว่า ข้าคงต้องหา


19
เวลาไปสนทนากับรุย่ อ๋องเสียแล้ว”

“ชิงเกอ เจ้าคิดจะทําอะไร” มูเ่ หลียนหรงถาม

แต่ทว่า ไม่ทนั ทีมูช่ ิงเกอจะตอบคําถาม มูซ่ งก็ยกมือขึน


พลางพูดว่า : “ชิงเกอมีวิธีของตัวเอง เจ้าไม่ตอ้ งถาม
มาก”

มูเ่ หลียนหรงสะดุง้ ทีหนึง แล้วเม้มปากพลางก้มหน้าลง

หากจะลงมือกับป๋ ายซีเยวีย นางทําไม่ลง ท่านพ่อเองก็


ทําไม่ลง งันทําได้เพียงแค่พงมู
ึ ช่ ิงเกออย่างนันหรือ?
เพราะเหตุใด เรืองราวทังหมดของตระกูลมู่ ต้องโยนให้
20
เด็กคนนีเป็ นผูแ้ บกรับตลอดเลยนะ?

มูเ่ หลียนหรงโกรธตนเอง แต่ก็ทาํ อะไรไม่ได้

หากพูดจากใจแล้ว นางไม่อยากให้ป๋ายซีเยวียมีจดุ จบที


ไม่ดี แต่ทว่า นางกลับไม่สามารถให้อภัยป๋ ายซีเยวียทีคิด
หักหลังตระกูลมูไ่ ด้

บางที ก็อย่างทีท่านพ่อกล่าวเอาไว้ ให้หลานสาวคนนี


จัดการ เรืองราวทังหมดจึงจะเหมาะสมทีสุด

มูเ่ หลียนหรงแอบปลอบใจตนเอง

21
ในขณะนีเอง มูช่ ิงเกอเพียงพลิกมือและปรากฏแหวนวง
หนึงขึนมา

แหวนวงนี เป็ นแหวนทีได้มาจากผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงในตอน


แรก และอยูใ่ นครอบครองของนางมานาน แต่ไม่มี
ประโยชน์อะไรมากนัก

นางให้แหวนกับมูซ่ ง และพูดกับเขาว่า : “ท่านปู่ นีคือแห


วนซวีหมี สามารถเป็ นช่องว่างในการเก็บสมบัติได้ ท่าน
เพียงแค่ใช้จิตแทรกซึมเข้าไป และสลักสัญลักษณ์ของ
ท่านเอาไว้ ก็จะสามารถใช้การมันได้ ท่านลองดู”

มูซ่ งมองนางด้วยความตกใจ และรับแหวนซวีหมีมา

22
อย่างไม่อยากจะเชือ

“ชิงเกอ เจ้าไปเอาสมบัติอนั ลําค่านีมาจากไหนกัน?” มู่


เหลียนหรงเองก็พดู ด้วยความตกใจ

มูช่ ิงเกอพูดในสิงทีเตรียมเอาไว้ก่อนแล้วออกมา : “เทือก


เขาฉินเป็ นแหล่งสมบัติจากธรรมชาติโดยแท้ คนจํานวน
มากเข้าไปผจญอันตราย และทิงชีวิตเอาไว้ทีนัน สมบัติ
ของพวกเขาจึงกลายเป็ นของทีไร้เจ้าของ” ทีเปิ ดเผยแห
วนซวีหมี ก็เพราะรูว้ า่ จะไม่มีปัญหาอะไรตามมาในภาย
หลัง

ในมือนาง ยังมีกาํ ไลซวีหมีอีกวง สมบัติชินนัน นางกลับ

23
ไม่สามารถเอาออกมาใช้โดยพลการ เพือป้องกันปั ญหา
ทีจะตามมา

เพราะฉะนัน นางจึงพูดกับมูเ่ หลียนหรงว่า : “ท่านอา ใน


อนาคตหากเจอสมบัติเช่นนีอีก ชิงเกอจะเอามันมาให้
ท่านอาให้ได้”

มูเ่ หลียนหรงพูดด้วยความปลาบปลืม : “แค่เจ้ามีใจ อาก็


ดีใจแล้ว สมบัติเช่นนี ใช่วา่ จะได้มาง่ายๆ เจ้าอย่าไป
เสียงอันตรายเลย”

มูช่ ิงเกอยิม ไม่ได้อธิบายอะไรมาก

24
นางมองมูซ่ งพลางพูดว่า : “ท่านปู่ เห็นขวดทีอยูภ่ ายใน
แหวนซวีหมีหรือไม่”

มูซ่ งทีกําลังศึกษาแหวนซวีหมีเมือได้ยินคําถามก็รบี พยัก


หน้าพลางพูดว่า : “เห็นแล้ว”

“เอามันออกมาได้ไหม” มูช่ ิงเกอพูดขึนอีก

มูซ่ งหลับตาและเงียบไปสักพัก แบฝ่ ามือทังสองออก บน


ฝ่ ามือนันก็ปรากฏขวดเครืองเคลือบสีขาวสองใบปราก
ฎอยู่

“พวกมันนีแหละ” มูช่ ิงเกอพูดพร้อมรอยยิม หยิบขวด


25
เคลือบใบหนึงบนฝ่ ามือของมูซ่ งขึนมามอบให้กบั มูเ่ หลี
ยนหรงแล้วจึงอธิบายกับทังสองว่า : “ท่านปู่ ท่านอา
ภายในขวดนีมีโอสถระดับสูงทีชิงเกอปรุงขึนมาเอง ชือ
ว่าโพ่ปีตาน (โอสถทะลวงชัน) สามารถช่วยให้ทะลวง
พลังทีติดขัดอยูไ่ ด้ พวกท่านทังสองต่างก็ติดอยูใ่ นสาย
นําเงินขันสูงสุดและสายเขียวขันสูงสุดมานานหลายปี
หากได้กินโพ่ปีตานเข้าไปจะต้องทะลวงเข้าสูข่ นที
ั สูงกว่า
ได้เป็ นแน่”

ทันทีมชู่ ิงเกอพูด ก็รูส้ กึ ว่าภายในห้องเงียบลงในทันที

มูซ่ งและมูเ่ หลียนหรงต่างก็มองนางด้วยใบหน้าทีเต็มไป


ด้วยความตืนตะลึง ราวกับว่าไม่สามารถประมวลคําพูด
ของนางได้
26
จากนันมูช่ ิงเกอจึงส่งเสียงกระแอมอย่างอึดอัดทีหนึง
พลันยืนนิวมือทังห้าออกไปโบกตรงหน้าทังสองพลาง
ตะโกนว่า : “นี! เลิกตกใจกันได้แล้ว!”

ทังสองราวกับได้รบั การคลายจุดอย่างนัน ได้สติกลับคืน


มาทันที

มูเ่ หลียนหรงคว้ามือของมูช่ ิงเกอขึนมา พลางพูดด้วยนํา


เสียงทีเต็มเปี ยมไปด้วยความตืนเต้นว่า : “ชิงเกอ เมือครู ่
นี เจ้าพูดว่าอะไรนะ เจ้าหลอมโอสถได้? และยังหลอม
โอสถระดับสูงได้ดว้ ยอย่างนันหรือ?”

27
มูช่ ิงเกอพยักหน้า

ภายในแคว้นฉินแห่งนี นักปรุงยามีนอ้ ยมาก นาง


สามารถเข้าใจความตืนเต้นของมูเ่ หลียนหรงได้

“ดีเหลือเกิน! ช่างดีเหลือเกิน! ฟ้าช่างเมตตาตระกูลมู!่ ”


มูซ่ งตืนเต้นจนบนหน้าเต็มไปด้วยนําตาแห่งความดีใจ
มือคูใ่ หญ่ทีกําขวดเคลือบสันไม่หยุด : “ตระกูลมูม่ ีนกั
ปรุงยากําเนิดขึนแล้ว และยังเป็ นถึงนักปรุงยาระดับสูง
อีกด้วย!”

เหตุผลทีทังสองตืนเต้น ไม่ใช่เพราะการฝึ กพลังของตน


เองกําลังจะพัฒนาไปอีกขัน แต่เพราะความเก่งกาจของ

28
มูช่ ิงเกอ

29
ตอนที 90-3 สารพัดวิธีรนหาทีตาย คงมิอาจห้ามได้!

ความยินดีทีมาจากญาติมิตรเช่นนี ทําให้สว่ นลึกในจิต


ใจของมูช่ ิงเกอมีทงความรู
ั ส้ กึ คุน้ ชินและไม่คนุ้ ชินใน
ขณะเดียวกัน ทังสองทีอยูต่ รงหน้า สําหรับนางแล้ว เป็ น
คนทีสําคัญทีสุดในหัวใจ

“ท่านปู่ ท่านอา ให้ขา้ คุม้ ครองในขณะทีพวกท่านทาน


ยาเถิด” มูช่ ิงเกอเสนอ

มูเ่ หลียนหรงมองมูซ่ งผูเ้ ป็ นบิดาอย่างตืนเต้น แต่มซู่ งก


30
ลับเงียบสงบ ส่ายหน้าพลางพูดว่า : “การทะลวงเข้าสู่
สายม่วงนันมีปฏิกิรยิ ามากจนเกินไป ไม่สามารถทําภาย
ในจวนได้”

คําพูดนี ทําให้มชู่ ิงเกอขมวดคิว

มูเ่ หลียนหรงเองก็พยักหน้าพลางพูดว่า : “ใช่ ในตอนนี


หากฮ่องเต้รูว้ า่ ท่านพ่อได้ทะลวงสูส่ ายม่วง คงจะยิงรีบ
ร้อนทีจะล้มตระกูลมู”่

เมือคิดทบทวนแล้ว มูช่ ิงเกอจึงพูดว่า : “ถ้าเช่นนันก็ให้


ท่านอาทะลวงสูส่ ายคราม ข้ามีสถานทีทีลึกลับมากแห่ง
หนึง พรุง่ นีข้าจะไปทะลวงสูส่ ายม่วงกับท่านปู่ ทีนัน เพือ

31
เพิมพูนความแข็งแกร่งทีจะเผชิญหน้ากับเรืองทีจะเกิด
ขึนในวันข้างหน้า”

มูซ่ งคิดทบทวนแล้วก็พยักหน้า

หลังจากนัน มูเ่ หลียนหรงก็ได้กินยาโพ่ปีตานเข้าไปท่าม


กลางการคุม้ กันของมูซ่ ง

ในขณะทีร่างกายของนางมีแสงสีครามเกิดขึน ร่างกาย
ของมูซ่ งก็มีแสงสีนาเงิ
ํ นทีก่อตัวกันเป็ นเส้นโค้งคุม้ กันตัว
นางเอาไว้ในทันที เพือป้องกันการรับรูข้ องภายนอกใน
ขณะทีนางทะลวงสูข่ นที
ั สูงกว่า

32
สองชัวยามหลังจากนัน แสงสีครามทีส่องสว่างอยูท่ วทั
ั ง
ร่างกายของมูเ่ หลียนหรงก็คอ่ ยๆ ซึมเข้าสูร่ า่ งกาย ดวง
ตาทังสองข้างค่อยๆ เปิ ดขึน

“สายครามขันกลาง!” แววตาของนางฉายแววตืนเต้น

นางหยุดอยูใ่ นสายเขียวขันสูงสุดเป็ นเวลานานหลายปี


แล้ว และคิดมาเสมอว่านีเป็ นจุดสินสุด แต่ไม่คิดว่า ยา
เพียงเม็ดเดียวของหลานสาวจะทําให้นางสามารถ
ทะลวงขึนไปได้อีกสองขัน และเข้าสูส่ ายครามขันกลาง
ในทีเดียว

“ชิงเกอ อาขอบใจเจ้ามาก” มูเ่ หลียนหรงลุกขึน พลางจับ

33
มือทังคูข่ องมูช่ ิงเกอเอาไว้

มูช่ ิงเกอพูดพร้อมรอยยิม : “ถือเป็ นผลจากการทีท่านอา


ฝึ กฝนและทุม่ เทความพยายามมาเป็ นเวลาหลายปี จึง
สามารถทะลวงได้สองขัน ยานีของข้าเพียงแค่ช่วย
กระตุน้ ก็เท่านัน ถึงแม้ไม่ได้ใช้ การทีท่านอาจะทะลวงสู่
สายครามก็คงเป็ นเรืองทีจะเกิดขึนในเวลาอันใกล้นีอยู่
ดี”

มูเ่ หลียนหรงหัวเราะชอบใจ “เจ้าช่างพูดเสียจริง”

พูดจบ นางก็มองมูซ่ ง และเรียกด้วยเสียงอันสันเครือว่า :


“ท่านพ่อ” ความรูส้ กึ ทีแฝงอยูใ่ นนําเสียงนัน เกรงว่าคง

34
จะมีเพียงสองพ่อลูกทีช่วยเหลือกันโดยลําพังมาเป็ น
เวลาหลายปี เท่านันทีเข้าใจ

“ดี! ดีมาก! “ มูช่ ิงเกอพยักหน้าด้วยความยินดี ดวงตาทัง


สองนันเปี ยกชืน

ใครจะคิดว่า จอมเสเพลทีทุกคนต่างรังเกียจ จะกลาย


เป็ นความภาคภูมิใจของตระกูลมูใ่ นวันนี?

คําคืนอันเงียบสงบได้ผา่ นพ้นไป เช้าวันใหม่ มูช่ ิงเก


อและมูซ่ งแอบออกจากจวนตระกูลมูอ่ ย่างเงียบๆ และ
มุง่ ไปยังชานเมืองซึงเป็ นค่ายพักแรมของตระกูลมู่

35
พืนทีอันลึกลับทีมูช่ ิงเกอพูดถึง ก็คือพืนทีหุบเขาที
องครักษ์เขียวมังกรเข้ารับการฝึ กฝนในตอนแรก นอจาก
นี นางยังให้กหู ยาแอบช่วยสกัดกลินอายพลังระหว่าง
การเลือนชันพลังไม่ให้รวไหลออกไปสู
ั ภ่ ายนอกด้วย เพือ
ป้องกันไม่ให้มีใครรูว้ า่ มีคนกําลังจะทะลวงสูส่ ายม่วง

นางเชือว่า เรืองแบบนี สําหรับกูหยาแล้ว คงจะเป็ นเพียง


เรืองเล็กน้อย

และก็เป็ นไปตามทีคิด กูหยาตอบตกลงทันทีโดยไม่มี


บ่ายเบียง และแสดงให้เห็นว่าเรืองนีไม่ใช่เรืองยากผ่าน
การกระทํา

36
การทีมูซ่ งทะลวงสูส่ ายม่วง แท้จริงแล้วควรจะเป็ นเรืองที
ทุกคนต่างยินดี และถือเป็ นเรืองดีสาํ หรับประชาราษฎร์
และแคว้น แต่เพียงเพราะฮ่องเต้ทีเต็มไปด้วยความ
หวาดระแวง จึงทําให้พวกเขาต้องกระทํากันอย่างลับๆ
ซึงทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ ไม่ชอบใจเป็ นอย่างมาก

ถอนหายใจทีหนึง หลังจากมูช่ ิงเกอมองมูซ่ งทีกลืนโพ่ปี


ตานเข้าไป ก็คอ่ ยๆ ถอยห่างออกมา

ในขณะทีมูซ่ งเข้าสูส่ มาธิ และใช้พลังทังหมดควบคูไ่ ป


กับฤทธิยาเพือทะลวงจุดทีติดขัดอยูน่ นั กูหยาก็ได้
ปรากฏตัวขึนในทันที พลางสะบัดมือ แสงอันโปร่งใสก็ได้
ห่อหุม้ ทังหุบเขาเอาไว้

37
ความกว้างของอาณาเขตทีถูกคุม้ กันรวมทังพลังนัน แข็ง
แกร่งและยิงใหญ่กว่าพลังทีมูซ่ งกางให้มเู่ หลียนหรงเมือ
วานมากนัก

หลังจากทีเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็หายไปอีกครัง และ


รวดเร็วจนมูช่ ิงเกอไม่รูว้ า่ เขาหายไปในทิศทางใด

ทันใดนัน ร่างกายของมูซ่ งก็เกิดแสงสีนาเงิ


ํ นส่อง
ประกายขึนมา

แสงนัน เหมือนดังเลเซอร์ทีมูช่ ิงเกอเคยเห็นเมือครัง


อาศัยอยูใ่ นโลกใบเดิมอย่างไรอย่างนัน ทําให้นยั น์ตา

38
รูส้ กึ พร่ามัว แสงสีนาเงิ
ํ นได้หอ่ หุม้ ตัวมูซ่ งเอาไว้ ทําให้รา่ ง
กายของเขาเป็ นดังภาพลวงตาทีไม่มีอยูจ่ ริง

พลังจิตวิญญาณทังบนท้องฟ้าและใต้พืนดินมารวมตัว
กัน และกลายเป็ นดังพายุทีหมุนเข้าสูร่ า่ งกายของมูซ่ ง
ทําให้รา่ งกายของเขาเดียวก็พองโตเดียวก็ยบุ ลง

ภายในหุบเขา ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ราวกับสูญสินซึงแสง


อาทิตย์ก็ไม่ปาน

แสงเดียวทีส่องสว่างอยู่ ก็คือแสงสีนาเงิ
ํ นนัน

ท่ามกลางความพร่าเลือน มูช่ ิงเกอราวกับได้ยินเสียงฟ้า


39
ร้อง นางเงยหน้าขึน รูส้ กึ ถึงพลังกดดันทีมาจากท้องฟ้า
และพืนดิน อดนึกในใจไม่ได้วา่ : เลือนชันเข้าสูส่ ายม่วง
มีปฏิกิรยิ าทีรุนแรงอย่างทีคิดเอาไว้จริงๆ

นางสามารถจิตนาการได้เลยว่า หากกูหยาไม่ลงมือ
พลังนีอาจจะส่งไปถึงทุกคนในลัวตู ทีฝึ กฝนพลัง จนทุก
คนสามารถสัมผัสได้ และทําให้เหล่ายอดฝี มือต้องพากัน
มาสืบหาสาเหตุเป็ นแน่

ทันใดนัน พลังทังหมดภายในหุบเขาราวกับได้รบั การกด


ทับ และพุง่ เข้าไปในร่างกายของมูซ่ งอย่างรวดเร็ว จน
แทบจะฉีกกระชากร่างกายของเขาให้แยกออกจากกัน

40
แสงสีนาเงิ
ํ นบนร่างกายของเขาค่อยๆ เปลียนเป็ นเข้มขึน
และค่อยๆ กลายเป็ นสีมว่ ง

เกราะคุม้ กันทีห่อหุม้ หุบเขาอยู่ ราวกับได้กนที


ั นีไว้ให้เป็ น
โลกอีกใบ มูซ่ งทําได้เพียงดูดซับพลังจิตวิญญาณในหุบ
เขาเพือใช้ในการทะลวงขันพลัง

และ พลังจิตวิญญาณทีอยูภ่ ายในหุบเขานันราวกับลด


น้อยลงไป

จากนัน ต้นไม้ใบหญ้าทีเดิมขึนอยูบ่ นป่ าอันอุดมสมบูรณ์


ก็คอ่ ยๆ เ**◌่ ยวแห้งลงท่ามกลางสายตาของมูช่ ิงเกอ ใน
ขณะเดียวกัน แสงสีมว่ งบนร่างกายของมูซ่ งก็มนคงขึ
ั น

41
ทันใดนัน แสงสีมว่ งอ่อนจางทีส่องประกายอยูก่ ็ถกู ดูด
เข้าไปภายในร่างกายของมูซ่ ง ทังหุบเขาพลันเงียบสงบ
ลง

เมือพลังนันค่อยๆ จางหายไป เกราะคุม้ กันอันโปร่งใสที


คุม้ กันหุบเขาอยูก่ ็ได้แตกสลาย และหายไปในอากาศ

มูช่ ิงเกอละสายตาทีมองอยู่ และเดินเข้าไปหามูซ่ งอย่าง


รวดเร็ว

ในขณะนี มูซ่ งก็ลืมตาขึนมาพอดี นัยน์ตาอันเคร่งขรึม


นันสะท้อนใบหน้าของมูช่ ิงเกอ

42
“ยินดีดว้ ยท่านปู่ !” มูช่ ิงเกอพูดจากใจจริง

เมือทะลวงสูส่ ายม่วง ความรูส้ กึ ทีมูซ่ งได้สมั ผัสก็แตก


ต่างไปจากเดิม เขาหัวเราะอย่างเบิกบานเสียงดัง เสียง
หัวเราะนันดังก้องอยูภ่ ายในหุบเขาอยูเ่ นินนาน

หลังจากทีจิตใจของเขาเริมสงบลง จึงได้พดู กับมูช่ ิงเก


อว่า : “ชิงเกอ ปู่ ขอบใจเจ้ามาก”

คําขอบคุณนีของท่านผูเ้ ฒ่า จริงใจอย่างอย่างหาทีสุดไม่


ได้

มูช่ ิงเกอเองก็นอ้ มรับด้วยความยินดี พลางพูดกับมูซ่ ง


43
ว่า : “ตอนนีท่านปู่ ได้ทะลวงสูส่ ายม่วงแล้ว ต่อจากนี ชิง
เกอก็สามารถก่อเรืองได้ดงที
ั ใจต้องการ เพราะไม่วา่ จะ
เรืองอะไร ท่านปู่ ก็จะคอยปกป้องข้า”

“ได้! เจ้าอยากทําอะไรก็ทาํ เลย ไม่วา่ เรืองอะไร ท่านปู่ ก็


จะช่วยแบกรับมันแทนเจ้าเอง แม้ฟา้ จะถล่มลงมาก็ไม่
ต้องกลัว!” มูซ่ งมองนางด้วยความเอ็นดู

สองปู่ หลานมองหน้าแล้วยิมให้กนั สายใยความผูกพัน


ได้ถกั ทออยูภ่ ายในใจของทังคู่

เมือกลับมายังลัวตู ไม่มีใครสัมผัสได้ถงึ ปฏิกิรยิ าทีมูซ่ ง


ทําให้เกิดบนหุบเขาดังทีคิดเอาไว้ ในตอนนีมูซ่ งได้กลาย

44
เป็ นยอดฝี มือสายม่วงแล้ว จะมีใครสามารถหยังถึง
ความสามารถทีแท้จริงของเขาได้อีกเล่า?

“ท่านปู่ ภายในวังหลวงมียอดฝี มือสายม่วงหรือ?” ใน


ขณะนังอยูบ่ นหลังเพลิงรัตติกาลทีเดินอยูบ่ นถนนใหญ่
ของลัวตู มูช่ ิงเกอก็ได้ถามขึน

45
ตอนที 90-4 สารพัดวิธีรนหาทีตาย คงมิอาจห้ามได้!

ในตอนนี มูซ่ งเองก็เปลียนมาขีอาชาเพลิง และเดิน


ทางอยูเ่ คียงข้างมูช่ ิงเกอ เมือได้ยินคําถามจากมูช่ ิงเก
อ เขาเม้มปากครูห่ นึงแล้วจึงกล่าวว่า : “เท่าทีข้ารู ้ มี
เพียงผูเ้ ดียว ซึงได้รบั ความเคารพนับถือจากราชวงศ์
เพียงแต่ โดยปกติแล้ว ยอดฝี มือผูน้ ีไม่แสดงตัวออกมา
โดยง่าย นอกจากจะเป็ นปั ญหาทีหนักหนาจริงๆ”

46
ในแววตาของมูช่ ิงเกอฉายแววความสงสัย : “ถ้าเช่นนัน
การแย่งชิงธรรมดาๆ ก็ไม่สามารถทําให้เขาแสดงตัวตน
ออกมาได้”

มูซ่ งพยักหน้า : “แต่ทว่า หากเป็ นคําขอจากฮ่องเต้ ไม่แน่


ว่า.............”

มูช่ ิงเกอเงียบ

ครูใ่ หญ่ เมือเห็นว่ามูช่ ิงเกอไม่พดู อะไร มูซ่ งจึงหันหน้า


มามองนางพลางพูดพร้อมรอยยิมว่า : “ชิงเกออย่ากลัว
ไปเลย ตอนนีท่านปู่ ของเจ้าเองก็เป็ นสายม่วง หากว่าไอ้

47
แก่หน้าไม่อายนันยังกล้ามีปัญหากับเจ้า ปู่ จะคอยปก
ป้องเจ้าเอง”

มูช่ ิงเกอยิมอย่างอุน่ ใจ : “อืม มีทา่ นปู่ อยู่ ข้าไม่หว่ งอะไร


ทังนัน”

ความจริงแล้ว นางไม่ได้เป็ นห่วงถึงการมียอดฝี มือสาย


ม่วงอยูภ่ ายในวังหลวงเลยแม้แต่นอ้ ย นางเพียงแค่กาํ ลัง
แอบประเมินความสามารถทีราชวงศ์แอบซ่อนอยู่

“ชิงเกอ ท่านปู่ มีคาํ พูดหนึง ทีเห็นว่าถึงเวลาอันสมควรที


จะบอกกับเจ้าแล้ว” สีหน้าของมูซ่ งฉายแววความเคร่ง
ขรึม

48
มูช่ ิงเกอหันหน้าไปมองเขา แต่เห็นเพียงภาพทีเขาหยิบ
ปลอกกริชทีมีการตกแต่งละเอียดลอออกมาจากอก และ
ยืนให้กบั มูช่ ิงเกอด้วยความเคร่งขรึม

“นีคืออะไร?” มูช่ ิงเกอรับมา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความ


สงสัย

หลังจากนันมูซ่ งแอบปล่อยพลังคุม้ กันทังสองเอาไว้ เพือ


ป้องกันไม่ให้คนนอกแอบฟั งแล้วจึงพูดว่า : “นีเป็ น
สัญลักษณ์ของกองทหารส่วนตัวของตระกูลมู่ สิงทีอยูใ่ น
มือของข้าคือปลอกกริช ส่วนกริชจะอยูใ่ นครอบครอง
ของผูน้ าํ แม่ทพั พวกเขาไม่ภกั ดีตอ่ แคว้นฉิน แต่ภกั ดีตอ่
ตระกูลมูเ่ ท่านัน และพวกเขามีกนั ทังหมดหนึงแสนนาย
49
ข้าให้ชือพวกเขาว่ากองทัพพันเพลิง คนพวกนี หลังจาก
ทีท่านอาคนรอง ท่านย่า และท่านพ่อท่านแม่ของเจ้า
จากไป ข้าก็ได้แอบเตรียมการมาตลอด ขนาดท่านอา
ของเจ้าเองก็ยงั ไม่รูเ้ รืองนี ตอนแรกนีเป็ นไพ่ใบสุดท้ายที
ข้าเตรียมไว้ให้กบั เจ้า และคิดว่าหากเจ้ามีอนั ตราย พวก
เขาจะสามารถช่วยเจ้าให้หนีออกจากแคว้นฉินไปได้
อย่างปลอดภัย และหาทีซ่อนทีห่างไกล แต่ตอนนีข้าคิด
ว่าเจ้าไม่จาํ เป็ นต้องใช้วิธีการหนีอีกต่อไปแล้ว และปู่ ก็ยงั
คงจะยกคนพวกนีให้กบั เจ้า เจ้าจงจําไว้วา่ ต้องใช้อย่าง
มีสติและใช้ให้เกิดประโยชน์ หากไม่จาํ เป็ นจริงๆ ห้าม
เปิ ดเผยการมีตวั ตนอยูข่ องพวกเขาโดยเด็ดขาด”

มูช่ ิงเกอตะลึง

50
นางสัมผัสได้มาโดยตลอดว่ามูซ่ งยังแอบซ่อนไพ่ใบสุด
ท้ายเอาไว้ แต่กลับไม่คิดว่า ไพ่ใบสุดท้ายนันจะเป็ น
ทหารกล้าจํานวนหนึงแสนนาย จากคําพูดของมูซ่ ง นาง
เดาได้วา่ ทหารหนึงแสนนายนีไม่ธรรมดา แต่เป็ นทหาร
กล้าทีคัดมาจากทหาร 1 ส่วน 100

ทันใดนัน นางก็เกิดฉงนใจ มูซ่ งมีกาํ ลังคนหนึงแสนคนนี


ได้อย่างไร

ใครจะรูว้ า่ มูซ่ งราวกับรูว้ า่ นางกําลังคิดอะไรอยู่ จึง


อธิบายว่า : “หลายปี ทีผ่านมานี ทุกๆ ปี ขา้ จะเลือกทหาร
จํานวนนับหมืนนายจากกองทัพ หลังจากทีพวกเขายอม
เป็ นทหารทีพลีชีพไปแล้วของตระกูลมู่ และแจ้งข่าวกับ
ราชสํานักว่าพวกเขาตายในสงครามไปแล้ว หลังจากนัน
51
พวกเขาก็จะท่องไปยังชายแดนของแคว้นต่างๆ ฝึ ก
ทักษะสงครามด้วยการทําสงคราม พวกเขาแต่ละคน
ต่างก็มีฝีมือมากเทียบเท่าคน 100 คน ยิงไปกว่านัน
พร้อมทีเสียสละทุกอย่างเพือตระกูลมู่ เจ้าจงรับปากกับ
ปู่ วา่ ไม่วา่ เจ้าจะได้ใช้พวกเขาหรือไม่ ก็ตอ้ งปฏิบตั ิตอ่
พวกเขาด้วยความเมตตา”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าด้วยความตกใจ

ไพ่ใบสุดท้ายใบนี ทําให้นางทังตกใจและคาดไม่ถงึ

แม้วา่ ในครานีคงจะไม่ได้ใช้ทหารพวกนี แต่ใครจะรูว้ า่


ในอนาคตจะได้ใช้หรือไม่ หากแม้วา่ จะไม่ได้ใช้นางก็

52
อยากจะพบเจอกับกองทหารพันเพลิงทีแอบซ่อนตัวอยู่
ในทีมืดและมีชีวิตอยูใ่ นสถานะทีตายไปแล้วนีดู

มูช่ ิงเกอหรีตาและคิดในใจว่า ตอนทีพบกับกองทหารพัน


เพลิงควรจะหาของสักชินทีควรค่าไปรับขวัญ

“เกอเอ๋อร์ เจ้าบอกข้ามาตรงๆ ว่า ตอนนีพลังของเจ้าอยู่


ในสายอะไร” ทันใดนัน มูซ่ งก็ได้ถามขึน

ม่านพลังในตัวของมูช่ ิงเกอ ทําให้เขาไม่สามารถรูไ้ ด้เลย


ว่าพลังของนางอยูใ่ นระดับใด

มูช่ ิงเกอตะลึง ทันใดนันก็ผดุ รอยยิม พลางโน้มตัวไปข้าง


53
หูทา่ นปู่ และพูดเสียงตําคําหนึง จากนันก็โน้มตัวกลับมา
ท่ามกลางความตกใจของมูซ่ ง

เดินทางอยูบ่ นหลังเพลิงรัตติกาลสักพัก มูช่ ิงเกอจึงพูด


กับมูซ่ งว่า : “ท่านปู่ ข้ามีธุระต้องไปจัดการต่อ ท่านกลับ
จวนก่อนเถิด” พูดจบ ก็หายไปท่ามกลางผูค้ น

มูซ่ งทีได้สติจากความตกใจ รูส้ กึ เพียงแค่วา่ ตนเองคอ


แห้งผาก

ทันใดนันก็ได้รูส้ กึ ว่า หากหลานสาวสุดทีรักคนนียังทํา


เรืองอะไรพลิกฟ้าอีก เขาก็จะไม่รูส้ กึ แปลกใจอีกต่อไป
แล้ว

54
ความรวดเร็วระดับนันในการฝึ กพลังเวท ช่างมหัศจรรย์
เป็ นทีสุด

……

หลังจากทีบอกลากับมูซ่ ง มูช่ ิงเกอก็เดินทางอยูบ่ นถนน


โดยลําพัง

ราวกับ กําลังเดินเล่นไปเรือยๆ อย่างไม่มีจดุ หมาย

แต่ทว่า เมือนางมาหยุดอยูต่ รงโรงเตียมทีดูหรูหราแห่ง


หนึง ก็มีเสียวเอ้อร์สองคนเดินเข้ามาขวางนางเอาไว้
55
พลางพูดประจบด้วยรอยยิมว่า : “คุณชาย แขกผูส้ งู ศักดิ
ท่านหนึงรออยูภ่ ายในร้านเป็ นเวลานานแล้ว หากท่านไม่
รีบ จะเข้าไปพบเขาได้หรือไม่”

มูช่ ิงเกอนังอยูบ่ นหลังเพลิงรัตติกาลผุดรอยยิมอย่างเย็น


เยียบ

นางลงจากหลังม้าและโยนเชือกให้กบั เสียวเอ้อร์ทงสอง

จนทําให้พวกเขาตกใจและถอยหลังหนี ใบหน้าอันขาว
ซีดร้องขอชีวิต : “ไอ่โหยว ! คุณชาย นีเป็ นถึงสัตว์พลัง
วิญญาณ ข้าน้อยไม่ได้มีความสามารถดังคุณชายทีจะ
กล้าไปดึงตัวสัตว์พลังวิญญาณท่านนี ขอรบกวนท่านจูง
เข้าไปด้วยตนเองได้หรือไม่”

56
พูดจบ เขาก็ฝืนยิมบนใบหน้า

มูช่ ิงเกอไม่ได้พดู อะไร หันไปมองอาชาเพลิงทีใบหน้าเต็ม


ไปด้วยความหยิงยโส

เพลิงรัตติกาลของนางไม่ดือเลยแม้แต่นอ้ ย แน่นอนว่า
นางได้ลืมการสูร้ บอันโหดเ**◌้ยมกับเพลิงรัตติกาลใน
ตอนแรกไปแล้ว

ลูบคอมันแล้ว มูช่ ิงเกอก็พดู กับเพลิงรัตติกาลว่า : “จํา


ทางกลับจวนได้หรือไม่ ? เจ้ากลับไปก่อน ระหว่างทาง
หากมีใครกล้ายัวโทสะเจ้า ก็ฆา่ มันเสีย ข้าจะเป็ นคนรับ

57
ผิดชอบเรืองทังหมดเอง”

เพลิงรัตติกาลส่งเสียงตอบรับ และจากไปด้วยความหยิง
ยโส

แน่นอนว่าคําพูดของของนาง คนรอบข้างได้ยินคําพูด
ของมูช่ ิงเกอ ทุกคนต่างก็หลีกทางให้กบั เพลิงรัตติกาล
และบนถนนก็มีเพียงแค่ความสูงส่งและหยิงยโสของ
เพลิงรัตติกาลทีกําลังเดินไปอย่างไม่เร็วและไม่ชา้ ใน
ทันที

เมือเพลิงรัตติกาลจากไปแล้ว มูช่ ิงเกอจึงก้าวเข้าไปภาย


ในโรงเตียมอย่างรวดเร็ว

58
ด้วยการนําทางของเสียวเอ้อร์ ตอนนีได้ขนไปอยู
ึ ใ่ นห้อง
ส่วนตัวชันสองเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว

เมือเข้าไปยังห้องส่วนตัว เงาร่างสูงใหญ่ยืนหันหลังอยู่
ตรงหน้านาง คนๆ นันสวมชุดตัวยาวสีดาํ สนิท แม้จะ
พยายามทําตัวปกติแต่ก็ไม่สามารถลบล้างกลินไอความ
สูงศักดิลงได้เลย

ทันทีทีห้องส่วนตัวถูกปิ ดลง ร่างนันก็หนั หน้ามา ในสาย


ตาของมูช่ ิงเกอนิงสงบ ราวกับคิดเอาไว้แล้วว่าต้องเป็ น
เช่นนี จึงผุดรอยยิมมุมปาก และพูดอย่างเย็นชาว่า : “รุย่
อ๋อง”

59
“ชิงเกอ เจ้ามาแล้วรึ นังก่อน” ใบหน้าอันเย็นชาของฉิน
จินห้าวได้ผดุ รอยยิมออกมา

รอยยิมนัน ทําให้มชู่ ิงเกอนึกถึงเพียงแค่คาํ ว่า ‘หลอก


ลวง’

แต่ทว่า นางรูถ้ งึ เป้าหมายทีให้นางมาในวันนี จึงยอมนัง


ลง

เหล้าและกับแกล้มถูกยกมาอย่างรวดเร็ว แต่ทว่า มูช่ ิงเก


อกลับไม่คิดทีจะกินมัน นางมองฉินจินห้าว และพูดตรงๆ
ว่า : “รุย่ อ๋องทรงมีเรืองอะไร ก็ตรัสมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”

60
เมือเห็นว่ามูช่ ิงเกอรูจ้ ดุ ประสงค์ ฉินจินห้าวก็ไม่ตอ้ งเสีย
เวลาเกริน

เขาเรียบเรียงคําพูดแล้วจึงพูดอย่างนุ่นนวลว่า : “หลัง
จากทีชิงเกอกลับมา ก็คงจะรูข้ ่าวความขัดแย้งของข้ากับ
รัชทายาทแล้ว ความจริงแล้ว ข้าไม่ได้คิดจะแย่งชิงอะไร
กับรัชทายาท แต่รชั ทายาทคอยระแวงและบีบบังคับจาก
ทุกทาง เพือเอาตัวรอด ข้าจึงทําได้เพียงแค่สสู้ ดุ กําลัง ข้า
รูว้ า่ ในขณะทีเมืองอีเกิดสงคราม ความบาดหมาง
ระหว่างเจ้าและรัชทายาทนันมากจนไม่สามารถให้อภัย
กันได้ ชิงเกอเจ้าเคยคิดหรือไม่วา่ หากรัชทายาทได้ขนึ
ครองบัลลังก์ เจ้าหรือตระกูลมูจ่ ะเป็ นอย่างไร?”

61
เขาหยุดและมองมูช่ ิงเกอ อยากจะเห็นความตืนตระหนก
ในสายตาของนาง แต่ทว่ากลับไม่มีอะไรเกิดขึนเลย

หลังจากทีผิดหวังสักพัก ฉินจินห้าวก็พดู ต่อว่า : “แต่ขา้


ไม่ได้เป็ นแบบนัน ข้ามีความสัมพันธ์อนั ดีกบั ตระกูลมูม่ า
โดยตลอด กับชิงเกอก็เป็ นเสมือนพีน้อง หากว่าข้า
สามารถเอาชนะรัชทายาทได้ ในอนาคตตระกูลมูแ่ ละ
ความปลอดภัยของชิงเกอก็ไม่จาํ เป็ นต้องเป็ นห่วงอะไร
อีกต่อไป วันนีทีข้านัดพบกับชิงเกอก็เพียงอยากได้ยิน
คําๆ หนึงจากชิงเกอ รับปากกับข้าว่าจะร่วมชืนชมแผ่น
ดินนีไปพร้อมกับข้า”

หลังจากทีพูดจบ ฉินจินห้าวก็รอคําตอบจากมูช่ ิงเกออ


ย่างตืนเต้น
62
หลังจากทีมูช่ ิงเกอกลับลัวตู เขาคิดว่าจะพบนางโดย
ลําพัง เพือให้ตนเองได้รบั การสนับสนุนจากตระกูลมูอ่ ีก
ครัง

หากว่ายังไม่ได้ และไม่มีทางออก เขาก็ทาํ ได้เพียงแค่รอ


ให้ทางป๋ ายซีเยวียลงมือ และจึงใช้โอกาสนันให้เป็ น
ประโยชน์ ให้ตระกูลมูเ่ ป็ นหนีบุญคุณครังใหญ่ทียากจะ
ชดใช้ได้หมดกับเขา

การรอยคอยนัน มักจะยาวนานเสมอ

ภายในห้องส่วนตัว บรรยากาศอึดอัด เงียบจนหากมีเข็ม

63
ตกลงพืนต้องได้ยินเป็ นแน่

จนกระทังฉินจินห้าวรอจนใกล้จะหมดความอดทน และ
เกือบจะยอมแพ้ ทันใดนัน มูช่ ิงเกอก็ได้พดู ขึน

“ได้ส”ิ มูช่ ิงเกอผุดรอยยิม ในรอยยิมนันเต็มเปี ยมไป


ด้วยเสน่หท์ ีแฝงความอันตรายและความเด็ดเดียว ทําให้
ฉินจินห้าวทีมองอยูต่ กใจ ราวกับได้ถกู ดูดเข้าไปอยูใ่ น
รอยยิมนันจนไม่อาจถอนตัวได้

……

64
ตอนที 90-5 สารพัดวิธีรนหาทีตาย คงมิอาจห้ามได้!

65
ย่างเข้าวันที 3 ทีมูช่ ิงเกอกลับมายังลัวตูแห่งนี ซึงก็คือวัน
ทีนางจะต้องเข้าพิธีสวมหมวก

ท้องฟ้าเพิงจะสาง ในจวนตระกูลมูต่ า่ งเร่งรีบเตรียมการ


ทุกคนต่างก็ช่วยกันเพือประดับตกแต่งและทําความ
สะอาดศาลบรรพชนประจําตระกูล เตรียมพร้อม
ทุกอย่างสําหรับพิธีสวมหมวก

เนือสัตว์นานาชนิดถูกจัดแต่งและวางเรียงกันอย่างเป็ น
ระเบียบเรียบร้อยอยูใ่ นจานสีแดง

แขกผูม้ ีเกียรติทีมาร่วมงานเลียงต่างก็เริมทยอยเข้าสู่

66
ภายในจวนตระกูลมู่

มูช่ ิงเกอถูกปลุกให้ลงมาจากเตียงตังแต่เช้ารุง่ สาง


เปลียนชุดสีขาวทีต้องสวมใส่ในพิธีสวมหมวก เสือผ้าตัว
ใหญ่โคร่งห่อหุม้ อยูบ่ นร่างของมูช่ ิงเกอ ปิ ดบังสัดส่วนบน
ร่างกาย แต่ก็ไม่อาจลบล้างความสง่าผ่าเผยของนางได้

ผมยาวถูกมัดเกล้าขึนเป็ นมวย แต่กลับไม่ได้สวมทีครอบ


ผมและปิ นปั กผม

หญิงสาวทังสองมองเงาสะท้อนสีขาวดูแสนธรรมดาแต่
แฝงความโดดเด่นและทําให้ตะลึงในความงดงามของ
นาง

67
“ไม่คิดเลยว่า แม้คณ
ุ ชายไม่สวมชุดสีแดง แต่ก็ยงั คง
สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผพู้ บเจออย่างโดด
เด่นเป็ นสง่า” ฮวาเยวียมองมูช่ ิงเกอในกระจกแล้วพูด

“เจ้านี พูดไม่เก่งเสียเลย คุณชายนันงดงามไร้ทีเปรียบ


ไม่วา่ จะเป็ นเสือผ้าอาภรณ์ใดทีสวมอยูบ่ นตัวท่านก็เป็ น
เพียงของประดับเท่านัน” โย่วเหอผุดรอยยิมออกมา

ฮวาเยวียพลันแลบลิน มือทีถือหวีอยูห่ วีผมให้แก่มชู่ ิงเก


ออย่างละเอียดอีกครัง พลางพูดด้วยความเสียดายว่า :
“เสียดายทีพิธีทีคุณชายต้องเข้าร่วมคือพิธีสวมหมวก
หากเป็ นพิธีปักปิ นละก็ เกรงว่าวันนีคนทีจะมาสูข่ อคงจะ
เหยียบประตูจวนของเราจนสึกเป็ นแน่” ในขณะทีอยูใ่ น
68
เมืองอี มูช่ ิงเกอได้บอกนางเรืองทีตนเองเป็ นผูห้ ญิงแล้ว

ท่าทางทีอึงจนตาทังสองข้างเบิกโพลงโตและอ้าปากค้าง
ของทังสองนางในวันนัน จนตอนนีนางยังไม่ลืม

เมือได้ยินคําพูดของฮวาเยวีย มูช่ ิงเกอก็เบิกตาทังสอง


ข้างขึนและพูดอย่างหยิงผยองว่า : “แม้จะเข้าพิธีสวม
หมวก แต่ขา้ ก็สามารถทําให้คนกว่าครึงหลงจนหัวปั กหัว
ปํ า ไม่ตอ้ งเสียดาย”

“แต่ทว่า หลงใหลไปแล้วจะทําอะไรได้เล่า อย่างไรก็ไม่


อาจแต่งเข้ามาปรนนิบตั ิคณ
ุ ชายได้อยูด่ ี”ฮวาเยวีย
พูดกระเง้ากระงอด

69
ทันใดนัน มูช่ ิงเกอพลันลืมตาขึน นัยน์ตาอันกระจ่างใส
แฝงความเย่อหยิงโอหัง

นางยืนมือยาวออกไปคว้าทังสองเข้ามากอดแนบอกและ
พูดอย่างขบขันว่า : “ข้ามีพวกเจ้าทังสองคอยปรนนิบตั ิก็
เพียงพอแล้ว คนอืนข้าไม่เห็นต้องการ”

ทันใดนัน ใบหน้าทังของหญิงสาวทังสอง ก็พลันแดงกํา


และต่างหนีออกจากอกของนาง แต่ก็ไม่สามารถออก
จากอ้อมแขนของมูช่ ิงเกอได้

แม้จะรูเ้ ป็ นอย่างดีวา่ คุณชายเป็ นหญิงสาว แต่พวกนาง

70
ก็ยงั คงไม่สามารถรับการหยอกล้อเช่นนีของเจ้านายตน
เองได้

“มูช่ ิงเกอ ! เจ้าออกมาเดียวนี!” ทันใดนัน ข้างนอกประตู


ก็มีเสียงตะโกนดังขึน เสียงนันใกล้เข้ามาเรือยๆ และมา
หยุดอยูต่ รงหน้าประตูอย่างรวดเร็ว

ประตูทีปิ ดสนิทถูกคนถีบเข้ามาจากข้างนอก ลูกบอล


กลมๆ ลูกหนึงกลิงเข้ามา

“มูช่ ิงเกอเจ้า.....!” ลูกบอลลูกนันพยายามเป็ นเวลา


นานกว่ายืนตัวตรงและมันคงได้ ยืนมือทีมีเนือหนังอุดม
สมบูรณ์ออกมา ชีหน้ามูช่ ิงเกอ แต่กลับลืมประโยคต่อไป

71
ทีจะพูดเพราะฉากตรงหน้า

เขามองใครบางคนทีกอดผูห้ ญิงสองคนเอาไว้ ใบหน้า


ของเขา เนือหนังบนหน้ากระตุกหนึงหน แล้วหัวเราะ
อย่างเยาะเย้ย : “หึหึ พวกเจ้าต่อกันเลย เดียวข้าค่อย
มา”

พอพูดจบ เขากําลังจะถอยออกไปอย่างเงียบๆ

แต่ทว่า ทันทีทีหันหลังกลับ ก็ได้ยินเสียงอันเย็นเยียบ


ของมูช่ ิงเกอ : “เจ้าอ้วน เจ้าจะไปไหน”

ร่างกลมๆ ของเจ้าอ้วนเซ่าสัน พลางฝื นร่างกายหันกลับ


72
ไป เผชิญกับใบหน้าทีดูราวกับยิมและไม่ยมในขณะ

เดียวกันนัน โทสะทีจะมากล่าวโทษในตอนแรกได้แปร
เปลียนเป็ นนําเสียงแห่งความอ่อนโยน : “เฮ้ ลูกพี ข้ารู ้
หรอกน่าว่าลูกพีทําอันใดอยู.่ ......อืม ข้าจะออกไปเดียวนี
ออกไปเดียวนีเลย หากเจ้าจัดการธุระเสร็จ เราค่อยคุย
กัน!”

“กลับมา!” มูช่ ิงเกอพูดอย่างเยือกเย็น คลายมือทังสอง


ข้างออกจากมือของหญิงสาวทังสองนาง

โย่วเหอและฮวาเยวียถือโอกาสนีในการหนีหา่ งออกไป
ไกล

73
โย่วเหอพูดพร้อมรอยยิมว่า : “คุณชายเซ่า คุณชายแค่
แกล้งพวกบ่าวเล่นเฉยๆ ไม่ใช่อย่างทีท่านคิดเสียหน่อย”
พูดจบ นางก็รนิ นําชาให้กบั ทังสอง จากนันก็ดงึ ตัวฮวาเย
วียออกจากห้องไป

“ยังไม่รบี ไสหัวมานังอีก” มูช่ ิงเกอดึงแขนเสือขึน พลาง


เชิดหน้าใส่เจ้าอ้วนเซ่า

เจ้าอ้วนเซ่าพลางม้วนผมของตนเอง ทันใดนันก็ได้สติ
แล้วเบิกตาโต สะบัดหน้าและพูดว่า : “เฮ้ย ! ไม่ใช่สิ !
วันนีข้าจะมากล่าวโทษเจ้า !”

มูช่ ิงเกอขมวดคิว พลางพูดพร้อมใบหน้าเปื อนยิมว่า :

74
“เจ้าจะมากล่าวโทษข้าอย่างนันหรือ”

เจ้าอ้วนเซ่าพยักหน้าอย่างรุนแรง เขาสะบัดร่างอ้วนกลม
ของตนเองและเดินไปอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอ มองนางด้วยใบ
หน้าอันเคร่งขรึมพลางถามว่า : “ลูกพี ท่านเห็นว่าน้อง
ชายคนนีไร้ประโยชน์ใช่หรือไม่ ท่านดูสิ ตอนนีพลังเวท
ของข้าอยูใ่ นสายส้มแล้ว” ในขณะทีพูด เขาก็กาง
แขนออก นิวมือสันและอ้วนเต็มไปด้วยแสงสีสม้ ส่อง
ประกาย

มูช่ ิงเกอก้มหน้าลงมอง จากนันก็เงยหน้าขึนมองเขา

เจ้าอ้วนเซ่าพูดด้วยนําเสียงอันเคร่งขรึม : “ท่านไปรบที

75
เมืองอีโดยไม่บอกข้าก็แล้วไปเถอะ แต่หลังจากทีกลับมา
ก็มีเรืองเกิดขึนมากมาย แต่ทา่ นก็ไม่ยอมบอกข้า ขนาด
ออกจากลัวตูไป ท่านก็ไม่บอกลาข้า ข้ารูว้ า่ ท่านไม่อยาก
ดึงข้าเข้าไปยุง่ กับเรืองวุน่ วายพวกนัน แต่ขา้ เป็ นใคร ข้า
เป็ นพีน้องของท่านนะ! หลังจากนี ท่านอย่าเห็นข้าเป็ น
คนนอกอีกได้หรือไม่?”

ริมฝี ปากอิมแดงของมูช่ ิงเกอเม้มเป็ นเส้นตรง

บางที แม้เจ้าอ้วนเซ่าจะไม่สามารถช่วยอะไรนางได้ แต่ก็


มอบมิตรไมตรีทีแท้จริงให้แก่นาง

ท่ามกลางลัวตูทีเต็มไปด้วยแผนการอันชัวร้าย คนอย่าง

76
เจ้าอ้วนเซ่า กลับทําให้นางรูส้ กึ ว่ามีคา่ มาก

“ได้” มูช่ ิงเกอตอบกลับคําหนึง

และได้รบั ปากด้วยสัจวาจาของตนเอง

คําคํานี ทําให้จิตใจอันผิดหวังหม่นหมองของเจ้าอ้วนเซ่า
กลับมาเป็ นปกติในทันทีและเต็มเปี ยมไปด้วยสีสนั
พลางเงยหน้าขึนหัวเราะเสียงดัง : “ฮ่าๆๆ ท่านทํากับข้า
เช่นนีสิถงึ จะถูก!”

มูช่ ิงเกอผุดรอยยิมมุมปาก พอเจ้าอ้วนเซ่าควบคุมสติ


อารมณ์ของตนเองจนสงบลง จึงพูดต่อไป : “แต่ทว่า ช่วง
77
นีเจ้าออกจากลัวตูสกั ระยะก็ดีและถือโอกาสนีในการไป
เทียวพักผ่อนแล้วค่อยกลับมา”

“เพราะเหตุใดเล่า?” เจ้าอ้วนเซ่าตะลึงและถามต่อ จาก


นันเขาก็คิดออกในทันที ขยับตัวเข้าไปหามูช่ ิงเกอด้วย
ความตืนเต้น พลางถามเบาๆ ว่า : “ลูกพี ท่านกําลังจะ
ทําการใหญ่อะไรรึ”

สายตาของมูช่ ิงเกอหยุดอยูท่ ีเขา

ไม่ได้ตอบคําถามของเขาตรงๆ แต่พดู ว่า : “หากข้าต้อง


การความช่วยเหลือจากเจ้า จะบอกเจ้าเอง หากข้าไม่ได้
บอกเจ้า เจ้าก็ไม่จาํ เป็ นต้องถามอะไรมากนัก”

78
เจ้าอ้วนเซ่าเงียบ

สักพัก เขาจึงพยักหน้าและพูดว่า : “ได้ ข้าจะฟั งคําสัง


ของลูกพี แต่วา่ ข้าก็จะไม่ไปเทียวทีไหนแล้ว ช่วงนี ข้าจะ
ตังใจฝึ กพลังเวทอยูท่ ีบ้าน”

มูช่ ิงเกอยักคิว พลางพูดหยอกล้อว่า : “โฮ่ เจ้าอ้วนเซ่า


เองก็สนใจการตังใจฝึ กพลังเวทแล้วรึ?”

เจ้าอ้วนเซ่ากระตุกรอยยิม : “หากไปพัฒนาความ
สามารถของตนเอง ในอนาคตจะช่วยเป็ นมือเป็ นเท้าให้
ลูกพีได้อย่างไรเล่า!”

79
คําพูดนี ทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ อุน่ ใจ

เจ้าอ้วนเซ่านันมิใช่ไร้พลังเวท แต่เป็ นเพราะก่อนหน้านี


เขามัวเสียเวลาไปกับการเสพสุข พลังเวทของเขาก็เลย
ไปได้ไม่ถงึ ไหน ไม่เช่นนันคงจะไม่หยุดอยูท่ ีสายแดงเป็ น
เวลานานถึงเพียงนีหรอก

“เจ้าอ้วนเซ่า เจ้าอยากจะเปลียนแปลงธาตุในร่างกาย
และพลังเวทหรือไม่” มูช่ ิงเกอนึกถึงยาเปลียนแปลงดีเอ็น
เอทีตนเองมีอยู่ ก่อนหน้านี นางก็เกิดอาการลังเลว่าจะ
ให้เจ้าอ้วนเซ่าดีหรือไม่ หลังจากทีรูส้ กึ ว่า เจ้าอ้วนเซ่าไม่
คิดจะพัฒนาฝี มือ จึงเลิกคิดเรืองนีไป

80
แล้ววันนี เจ้าอ้วนเซ่าเกิดมีความคิดทีอยากจะเก่งกาจ
ขึน ถ้าเช่นนัน นางก็ตอ้ งทําเพือน้องชายผูน้ ี

“อยากสิ แต่ทว่า ความสามารถและธาตุในร่างกายนัน


มันถูกกําหนดมาตังแต่เกิด” เจ้าอ้วนเซ่านันรูด้ ี

พอคิดทบทวนแล้ว มูช่ ิงเกอก็เอายาเปลียนแปลงดีเอ็นเอ


ทีมีอยู่ 1 ใน 5 ของหลอดทดลองเทลงในขวดแก้ว และ
เอามันออกมา เจ้าอ้วนเซ่าไม่ใช่นาง ไม่อาจแน่ใจได้วา่
จะผ่านพ้นความทรมานของฤทธิยาได้ เศษ 1 ส่วน 5
สําหรับเขาถือว่ามากแล้ว

81
“รับไป” มูช่ ิงเกอโยนขวดแก้วในมือให้กบั เจ้าอ้วนเซ่า

เจ้าอ้วนเซ่ารีบรับเอาไว้และถามอย่างไม่เข้าใจว่า : “นี
คืออะไร”

มูช่ ิงเกอกลับไม่ได้อธิบายอะไรมาก เพียงพูดว่า : “หาก


เจ้าเชือข้า ในขณะทีเข้าสูส่ มาธิ ให้ดืมของในขวดนีเข้า
ไป ระหว่างทีดืมลงไปนันจะทรมานมาก แต่ผลลัพธ์ทีได้
หลังจากนัน จะต้องทําให้เจ้ารูส้ กึ ประหลาดใจเป็ นแน่”

“คําพูดของลูกพี ข้าจะไม่เชือได้อย่างไรกัน?” ท่ามกลาง


ความฉงนสงสัย เจ้าอ้วนเซ่าเก็บขวดเคลือบเข้าไปไว้
ภายในอกอย่างระมัดระวัง

82
“เรืองนี ห้ามบอกใครเป็ นอันขาด เป็ นความลับระหว่าง
เจ้ากับข้า” มูช่ ิงเกอออกคําสังอีกครัง

เจ้าอ้วนเซ่ารีบเม้มปากแน่นในทันที ทําท่าทางปิ ดปาก

ใครจะรูว้ า่ สาร เศษ 1 ส่วน 5 ของมูช่ ิงเกอในวันนี หลาย


ปี หลังจากนี จะทําให้หลินชวนมีเทพแห่งผูค้ มุ้ ครองมาก
ขึนอีกคน

ทังสองทีไม่ได้พบกันนาน พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

จนกระทังฮวาเยวียมาเคาะประตูและบอกว่า ถึงเวลา
83
แล้ว ทังสองจึงออกจากสวนสระเมฆาไปพร้อมๆ กัน

84
ตอนที 90-6 สารพัดวิธีรนหาทีตาย คงมิอาจห้ามได้!

เมือเดินเข้าไปภายในพิธีสวมหมวก เจ้าอ้วนเซ่าก็บอกลา
มูช่ ิงเกอ อีกไม่กีเดือน เจ้านีก็จะเข้าพิธีสวมหมวกแล้ว
เช่นกัน

มูช่ ิงเกอมารออยูท่ ีจุดการรอคอยอย่างเงียบๆ และรอให้


พิธีการเริม

85
เมือวาน นางได้ทาํ ความเข้าใจลําดับของพิธีสวมหมวก
โดยสังเขป

ความจริงแล้ว สิงทีนางต้องรับผิดชอบนันมีไม่มาก

โดยรวมแล้ว พอได้เวลา นางก็ทาํ ตามทีผูด้ าํ เนินพิธีบอก


และทําทุกกิจกรรมให้สาํ เร็จ จากนันก็ตามท่านปู่ มซู่ งไป
อวยพรและแสดงความขอบพระคุณเหล่าแขกผูม้ ีเกียรติ
ทีมาร่วมงาน พิธีสวมหมวกก็ถือเป็ นอันเสร็จสมบูรณ์

ติงๆ—

เสียงขวานกระทบกันเบาๆ ส่งเสียงอันสดใส
86
แขกผูม้ ีเกียรติตา่ งเงียบลงและกลับไปนังทีภายในงาน
เลียงตามสถานทีทีได้จดั เตรียมเอาไว้และรอคอยอย่าง
เงียบๆ

วันนี แขกทีมายังจวนตระกูลมูน่ นมี


ั ไม่มาก อีกประการ
หนึงส่วนมากต่างก็มีฐานะไม่ธรรมดา ภายในนันส่วน
มากเป็ นผูท้ ีรับราชการทหาร เพราะอย่างไรเสีย อํานาจ
ของมูซ่ ง ต่างก็อยูใ่ นด้านการทหาร

ส่วนทางราชวงศ์ก็ได้สง่ รุย่ อ๋องฉินจินห้าวมาเป็ นตัวแทน


และนําของขวัญชินใหญ่มามอบให้แก่มชู่ ิงเกอ

87
รัชทายาทไม่มาเพราะต้องเสด็จตามราชทูตไปแคว้นถู
จึงไม่สามารถมาได้

ทว่า สิงทีทําให้ทกุ คนประหลาดใจ กลับเป็ นเสียนอ๋องที


เก็บตัวเงียบมาโดยตลอดก็มาร่วมพิธีดว้ ย ในขณะทีทุก
คนกําลังคาดเดาถึงความสัมพันธ์ของเขาและมูช่ ิงเก
อ แต่พอพิธีสวมหมวกเริมขึนเขากลับนังเงียบอยูต่ รงมุม
ราวกับได้ลอ่ งลอยออกจากโลกใบนี ทําให้ทกุ คนไม่กล้า
ทีจะเข้าไปใกล้

เมือเห็นเช่นนี ผูค้ นทีกําลังสงสัย ก็ลม้ เลิกความคิดทีจะ


ถามและสนทนากันต่อในประเด็นทีค้างเอาไว้

88
“ได้ฤกษ์แล้ว—ผูด้ าํ เนินพิธีสวมหมวกยืนอยูบ่ นทางเดิน
ทีปูดว้ ยพรมแดง พลางเงยหน้าขึนตะโกน

เสียงปี โหวโทนตําดังขึน ราวกับกําลังป่ าวประกาศบอก


กับโลกใบนี

หลังจากทีเสียงนันค่อยๆ เงียบลง เสียงกลองก็ได้ดงั ขึน


พร้อมจังหวะอีกครัง

มูช่ ิงเกอลุกขึนยืน เดินตามจังหวะกองไปทีละก้าวๆ เดิน


มุง่ ไปบนพรหมแดงอย่างหนักแน่นและมันคง เพือไป
บริเวณแท่นสูงทีมีเนือสัตว์นานาชนิดบูชาอยู่

89
บนเวที มูซ่ งสวมชุดพิธีการยืนอยู่

มองดูหลานชายของตนเองทีค่อยๆ ย่างใกล้เข้ามา

สองฝังของพรม ต่างก็เป็ นแขกผูม้ ีเกียรติทีมาร่วมพิธี

พิธีสวมหมวก ถือได้วา่ เป็ นวันทีสําคัญวันหนึงในชีวิต


ของผูช้ าย เพราะฉะนัน ทังหมดเป็ นเรืองทีจริงจัง

สายตาของมูช่ ิงเกอแน่วแน่ไม่วอกแวก ในขณะทีเดินไป


หยุดบนเวที เสียงกลองก็ได้หยุดลง

ในขณะนีเอง ผูด้ าํ เนินพิธีก็สง่ เสียงขึนมาอีกหน เอาคํา


90
สอนของบรรพบุรุษขึนมาท่องเสียงดัง ใช้เวลาจนธูปหนึง
ดอกหมด จึงอ่านจบ หลังจากทีอ่านจบ เขาก็ได้วางคํา
สอนลงบนกระถางและเผาด้วยไฟ

ในขณะเดียวกันเสียงดนตรีโบราณก็ได้ดงั ขึน

ผูร้ า่ ยรํากลุม่ หนึงทีอยูใ่ นชุดเหมือนผูท้ รงศีลก็ได้ปราก


ฎตัวขึน พร้อมร่ายรําเพลงแปลกประหลาด ในปากท่อง
คําสวด บนใบหน้าของพวกเขาสวมหน้ากากทีดูน่า
เกลียดน่ากลัว ราวกับผีรา้ ยและเทพเทวาในขณะเดียว
กัน

พวกเขาพลางเต้น พลางเดินเข้าหามูช่ ิงเกอและล้อมรอบ

91
ตัวนางเอาไว้

ไม้ปัดในมือของพวกนางกวาดผ่านร่างกายของนาง
ตลอดเวลา ปั ดผ่านศีรษะ ลําตัว.........

พักใหญ่นางรําก็ได้ถอยออกไป

ผูด้ าํ เนินพิธีพดู ต่ออีกว่า : “มูช่ ิงเกอ ขึนมาบนประรําพิธี!”

มูช่ ิงเกอทําตามคําสัง ก้าวขึนบันไดและขึนไปบนประรํา


พิธี

บนประรํา ยังมีพรมแดง บนนันมีโต๊ะยาวตัวหนึงทีมีเนือ


92
สัตว์นานาชนิดเซ่นไหว้อยู่ นอกจากนียังมีกระถางธูป

บนโต๊ะยาว มีทีรองนังผืนหนึง ทีเตรียมเอาไว้สาํ หรับมูช่ ิง


เกอ

นางเดินไปหยุดตรงหน้าทีรองนัง พลันคุกเข่าลง

หลังจากนันก็ทอ่ งบทสวดโบราณทีท่องจําเมือในคืนที
ผ่านมาหนึงรอบ

หลังจากทีนางอ่านจบ ผูด้ าํ เนินพิธีก็เดินเข้ามา เปิ ด


หนังสือลําดับวงศ์ตระกูลของตระกูลมู่ แล้วใช้พกู่ นั แต้ม
ชาดสีแดงเขียนชือของมูช่ ิงเกอลงไป
93
เมือทุกอย่างเสร็จสินเรียบร้อยแล้ว มูซ่ งก็เดินเข้ามา สวม
หมวกทีเตรียมเอาไว้แล้วบนศีรษะของมูช่ ิงเกอด้วยตน
เอง

“ชิงเกอ หลังจากทีวันนีเป็ นต้นไป เจ้าเป็ นหนุ่มแล้ว หลัง


จากนีตระกูลมูอ่ ยูใ่ นมือของเจ้าแล้ว” มูซ่ งพยุงมูช่ ิงเก
อขึนมา พูดด้วยความรูส้ กึ ทีสับสนวุน่ วาย

มูช่ ิงเกอตอบรับ พลางยิมจางๆ : “ท่านปู่ วางใจเถิด ข้า


จะไม่ทาํ ให้ตระกูลมูต่ อ้ งเสียหน้า”

มูซ่ งกล่าวด้วยความชืนชมว่า : “ปู่ หวังเพียงให้เจ้ามีชีวิต

94
อยูอ่ ย่างปลอดภัย”

ความสัมพันธ์อนั ซาบซึงของคูป่ หู่ ลาน คงจะมีเพียงเขา


ทังสองเท่านันทีเข้าใจ

พิธีสวมหมวกได้เสร็จสินอย่างสมบูรณ์ หลังจากนีก็เป็ น
งานเลียงสําหรับแขกผูม้ ีเกียรติ และมูช่ ิงเกอก็ยงั คง
ต้องอยูเ่ คียงข้างมูซ่ งในพิธี ดืมสุรารสเลิศเพือแสดง
ความขอบคุณทุกคนทีมาร่วมพิธี

“ไฟไหม้—ไฟไหม้—”

เสียงหนึงดังขึนเหนือความคาดหมาย ขัดจังหวะความ
95
ครึกครืนข้างหน้า สายตาของทุกคนจดจ้องไปยังบ่าวรับ
ใช้ตระกูลมูท่ ีพรวดพราดเข้ามา

ชายผูน้ นเป็
ั นเพียงคนธรรมดา การทีเขาบุกเข้ามาอย่าง
ไร้มารยาทนันทําให้เขารูส้ กึ ตกใจกลัวอยูแ่ ล้ว แต่วา่ พอ
นึกถึงเรืองทีจะมารายงานก็ไม่ทนั จะได้ใส่ใจมากนัก วิง
ไปอยูต่ รงหน้ามูซ่ งด้วยความตืนตระหนก พลันคุกเข่าลง
พูดอย่างร้อนรนว่า : “นายท่านผูเ้ ฒ่า แย่แล้ว ! อยูๆ่ ห้อง
หนังสือของท่านก็เกิดไฟไหม้ เหล่าทหารต่างรีบไปดับไฟ
กันแล้ว!”

“ไฟไหม้หอ้ งหนังสืออย่างนันรึ?” มูซ่ งพูดด้วยนําเสียง


เคร่งขรึม นัยน์ตาฉายแววเย็นเยียบ เหตุการณ์นีราวกับ
ทําให้เขาตกอยูใ่ นโทสะ
96
นีมันกลางวันแสกๆ ในห้องไม่ได้จดุ เทียนและไม่มีอะไร
นําไฟ เหตุใดจึงเกิดไฟไหม้ได้

มูซ่ งขมวดคิวแน่น ดูทา่ ท่างมิได้ตืนตระหนกมากนัก ก็แค่


ห้องหนังสือ เขาเป็ นขุนนางฝ่ ายบู๊ ไม่ได้มีเอกสารลับ
อะไรในห้องหนังสือ

“ท่านปู่ พวกเราไปดูก่อนเถอะ” ทันใดนัน มูช่ ิงเกอทีอยู่


ข้างๆ ก็พดู ขึน

มูซ่ งไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพียงแต่พยักหน้าและพูดกับ


ทุกคนว่า : “มีเรืองเกิดขึนในจวนคงต้องทําให้ทกุ ท่าน

97
เสียเวลา ขอให้ทกุ ท่านรอสักครู ่ ข้าไปประเดียวเดียวก็
กลับมา”

พูดจบก็พามูช่ ิงเกอออกจากเรือนด้านหน้า ไปยังห้อง


หนังสือทีอยูเ่ รือนหลัง

สองปู่ หลานเพิงจะออกไป ท่ามกลางผูค้ นก็ได้มีคนเสนอ


ว่า “ไม่สเู้ ราตามไปดูดว้ ยเถอะว่ามันเกิดอะไรขึนกันแน่
หากนายท่านผูเ้ ฒ่าต้องการความช่วยเหลือ เราก็จะ
สามารถไปช่วยได้ทนั ”

คําแนะนํานี แทบจะไม่มีผใู้ ดปฏิเสธ

98
แม้แต่ฉินจินเฉินทีนังอยูต่ รงมุมและพยายามเก็บซ่อน
การมีตวั ตนอยูข่ องตนเองก็คอ่ ยๆลุกขึนยืน หลังจากที
คิดดูแล้ว จึงเดินตามทุกคนไป

คนกลุม่ หนึง เดินเข้าไปยังเรือนหลังของจวนตระกูลมู่

มูช่ ิงเกอสัมผัสได้ตงนานแล้
ั ว แต่ไม่ได้พดู อะไรมาก

เท่าทีดูแล้ว ก็ไม่มีอะไรทีต้องปิ ดบัง คนพวกนี ไม่รูว้ า่


กําลังคิดอะไรอยู่ แต่หากตามมาแล้วก็ช่างเถิด

มูช่ ิงเกอกวาดตาไปและแอบสบตากับฉินจินห้าวท่าม
กลางผูค้ น แล้วทังสองจึงละสายตาจากกันเงียบๆ
99
ในขณะทีทังสองกําลังไปยังห้องอ่านหนังสืออย่างเร่งรีบ
คนกลุม่ หนึงก็ออกมาจากเรือนด้านใน เป้าหมายก็คือ
ห้องหนังสือเช่นกัน

ทางด้านนี คือ มูเ่ หลียนหรงทีนํากลุม่ สาวใช้ภายในจวน


รวมถึงป๋ ายซีเยวียมา

ตามกฎแล้วพิธีสวมหมวก ผูห้ ญิงไม่สามารถเข้าร่วมได้


ทําได้เพียงจัดงานเลียงอยูภ่ ายในเรือนส่วนในกันเอง
เพือทีจะให้ทกุ คนได้มีสว่ นร่วม

คนทังสองกลุม่ รีบเข้าไปอย่างเร่งรีบ ในทีสุดก็เข้ามา

100
เผชิญหน้ากันภายในสวนหน้าห้องอ่านหนังสือ

“ท่านพ่อ เกิดเรืองอะไรขึน” ทันทีทีพบกัน มูเ่ หลียนหรงก็


เอ่ยถามในทันที

มูซ่ งส่ายหน้าช้าๆ : “ข้าเองก็เพิงมาถึง”

ในขณะทีทังสองพูด บ่าวรับใช้ชายและทหารจํานวนไม่
น้อย ต่างก็ถืออุปกรณ์ดบั ไฟ เดินเข้าสูเ่ รือนหลังและเร่ง
รีบดับไฟ

เปลวไฟ ได้ทะลุผา่ นกําแพงมาแล้ว ทุกคนต่างก็ถอยหนี


ด้วยความกลัว
101
ขุนนางฝ่ ายบุน๋ จํานวนหนึง เห็นดังนันก็ถอดใจและไม่คิด
จะเข้าไปใกล้อีก

แต่วา่ ไหนๆ ก็มาแล้ว หากถอยออกไปตอนนี ก็กลัวว่า


จะขายหน้าเพือนร่วมงาน จึงอยูใ่ นสถานการณ์ทีกลืนไม่
เข้าคายไม่ออก

โชคดีทีมูช่ ิงเกอหันกลับมาได้ทนั เวลา พลางพูดกับทุกคน


ว่า : “ทุกท่านด้านหน้านีไฟลุกโหมอย่างรุนแรง เพือ
ความปลอดภัยของทุกท่าน ขอให้ทกุ ท่านถอยออกไป
ก่อนเถิด”

102
นางเพิงจะพูดจบ ก็มีคนหลายคนพุง่ ตัวออกมาจากใน
เรือน

103
ตอนที 90-7 สารพัดวิธีรนหาทีตาย คงมิอาจห้ามได้!

ในอ้อมแขนของพวกเขาต่างมีกระดาษจํานวนมาก นอก
จากนียังมีเครืองลายครามอีกจํานวนหนึง

บนร่างกาย ต่างก็มีรอ่ งรอยเผาไหม้จากเปลวเพลิงทีส่ง


เสียง ‘ซือๆ’ พร้อมด้วยควันเขม่า สภาพดูแย่มากและท่า
ทางทีเหมือนกําลังช่วยเอาของจํานวนหนึงออกจากกอง
104
ไฟ

ทันทีทีพวกเขาพุง่ ตัวออกมาก็พลันทิงของทีอยูใ่ นอกของ


ตนลงบนพืนทันที

หลังจากทีคารวะมูซ่ งอย่างเร่งรีบ ก็พงุ่ เข้าไปในกองไฟ


อีกหน

เปลวเพลิง รุนแรงมากกว่าทีมูซ่ งคาดคิด หากใช้เพียง


กําลังคนธรรมดา คงไม่อาจดับไฟได้ภายในเวลาอันสัน
เพือไม่ให้เปลวเพลิงลุกลามต่อไปจนอาจเกิดผลกระทบ
ต่อเรือนทีอยูบ่ ริเวณรอบ มูซ่ งจึงก้าวเท้ายาวเดินเข้าไป
ยกมือและดึงแขนเสือขึน พลังกลุม่ หนึงถูกส่งออกมา ทัน

105
ใดนันพลังนันก็พลันห่อหุม้ เปลวเพลิงเอาไว้จงึ ทําให้
เปลวเพลิงลดลงและบังคับให้หยุดลงในทีสุด

เพียงครูเ่ ดียว เปลวเพลิงทีลุกโหมรุนแรงพลันเบาลงทัน


ตาเห็น สุดท้ายมูซ่ งก็ดบั ไฟทังหมดด้วยสองฝ่ ามือ

ยอดฝี มือสายม่วงดับไฟ เป็ นเพียงแค่เรืองง่ายดาย

โชคดีที มูซ่ งไม่ลืมทีจะอําพรางความสามารถไว้ มิได้เปิ ด


เผยความสามารถสายม่วงให้ทกุ คนได้รบั รู ้

“ท่านผูเ้ ฒ่าช่างปรีชาสามารถยิงนัก สามารถดับไฟที


รุนแรงเช่นนีได้ในคราเดียว ภายในแคว้นฉินยังมีผใู้ ดอีก
106
ทีสามารถทําเช่นนีได้”

“ไม่เลวๆ! ชือเสียงเทพสงครามแห่งแคว้นฉินของท่านผู้
เฒ่านันไม่ได้มีแต่ชือจริงๆ วันนีได้พบเจอกับตัว ชาตินีไม่
เสียแรงทีได้เกิดมาจริงๆ!”

“มีทา่ นผูเ้ ฒ่าคอยคุม้ ครองแคว้นฉิน จะมีใครผูใ้ ดกล้า


โจมตีได้?”

“ท่านผูเ้ ฒ่าเป็ นเทพผูค้ มุ้ ครองของแคว้นฉินโดยแท้! ทุก


วันทีมีทา่ นผูเ้ ฒ่าก็คือวันทีแคว้นฉินของเราจะอยูอ่ ย่าง
ปลอดภัย”

107
“……”

เสียงแห่งความยินดี ดังขึนเซ็งแซ่ไม่ขาดสาย

มูช่ ิงเกอได้ยินแล้วก็พลันขมวดคิว ตอนเริมต้นถือว่ายังดี


แต่ทว่า ยิงฟั งถึงตอนท้ายก็ยงรู
ิ ส้ กึ ถึงความไม่ชอบมาพา
กลและแฝงด้วยกลินไอสังหาร

นางหรีตาสายตาอันสว่างสดใสแต่ในขณะเดียวกันก็แฝง
ความเย็นเยียบและไอสังหารค่อยๆ กวาดตามองผูพ้ ดู

ทุกคนทีนางกวาดสายตามอง คล้ายดังถูกนําแข็งปก
คลุมร่างในทันที จนรูส้ กึ เหมือนไม่สามารถเคลือนไหวได้
108
ทุกคนต่างค่อยๆ เงียบลง ในขณะทีสบตากับมูช่ ิงเก
อนัยน์ตามีความหวาดกลัวปรากฏอยู่

“ทุกคนก็ชมกันเกินไป รับเบียของทางราชการก็ตอ้ งทํา


งานเพือประเทศชาติ ทุกสิงทุกอย่างทีมูซ่ งทํา ล้วนเป็ น
ไปตามทีฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชา ประมุขของเราคือ
ฮ่องเต้ตา่ งหาก มิหนําซํายังเป็ นผูท้ ีคอยคุม้ ครองแคว้น
และประชาราษฎร์ของเรา” มูซ่ งพูดขึนอย่างกะทันหัน ไม่
มีความดีใจทีได้รบั คําชืนชมและแจกแจงทุกอย่างให้
กระจ่าง

มูช่ ิงเกอเองสัมผัสได้ถงึ นําเสียงทีแฝงเจตนาร้ายของคน


พวกนัน ท่านปู่ คลุกคลีอยูใ่ นวงราชการมานานนับสิบปี
เหตุใดจะไม่รู?้
109
ทุกคนถูกประโยคนี ทําให้รูส้ กึ กระอักกระอ่วนไป

สุดท้ายฉินจินห้าวจึงเข้ามาพูดไกล่เกลีย
สถานการณ์ การสนทนาอันน่าอึดอัดนีจึงได้จบลง

ในขณะทีทุกคนคิดว่าเรืองราวทังหมดได้จบสินลงแล้ว
ทันใดนันก็ได้ยินเสียงทีแฝงความฉงนใจเสียงหนึงดัง
ขึน : “หืม นีมันอะไร”

ราวกับตังใจ ทุกคนต่างจ้องมองหญิงสาวผูเ้ อ่ยคําพูด

ทันใดนัน ป๋ ายซีเยวียทีตกเป็ นเป้าสายตาพลันตืน


110
ตระหนกขึนมา อับอายจนกัดริมฝี ปากเล็กของตน

“ซีเยวีย เกิดอะไรขึน?” มูเ่ หลียนหรงเดินเข้ามาถามนาง

ป๋ ายซีเยวียรีบเดินไปอยูข่ า้ งๆ หลายก้าว ในชัวขณะที


กระโปรงกําลังปลิว ราวกับว่าได้แอบซ่อนอะไรบางอย่าง
เอาไว้ดา้ นหลัง จากนันจึงอธิบายอย่างอ่อนโยนว่า :
“ไม่......ไม่มีอะไร”

ทว่า ท่าทางอันร้อนรนของนาง จะปิ ดบังทุกคนทีอยูใ่ นที


นีได้อย่างไรเล่า

มูเ่ หลียนหรงมองนางด้วยสายตาประดับด้วยโหด
111
เ**◌้ยม แต่นางกลับหลบสายตาทีเต็มไปด้วยคําถาม
คาดคันคูน่ นั

“หืม ด้านหลังของหญิงสาวผูน้ ีราวกับบังอะไรบางอย่าง


ไว้ ขอให้แม่นางขยับหน่อย ให้ขา้ ดูวา่ มันคืออะไร” ท่าม
กลางผูค้ น ชายแก่ทา่ ทางเจ้าเล่หผ์ หู้ นึงได้เอ่ยขึนมา

ฐานะของป๋ ายซีเยวียนันไม่ได้ถกู เปิ ดเผยต่อสาธารณชน

ผูท้ ีสนิทสนมกับตระกูลมู่ ก็เป็ นปกติทีจะรูท้ ีมาและฐานะ


ของนาง ผูท้ ีไม่คอ่ ยได้ไปมาหาสูก่ นั มากนักก็มกั จะไม่รู ้
ว่านางเป็ นใคร

112
แต่วา่ ผูท้ ีได้รบั การปรนนิบตั ิดแู ลอย่างมีมารยาทจากคน
ในครอบครัวตระกูลมู่ ฐานะก็คงจะไม่ธรรมดา พวกเขา
จึงไม่กล้ากล่าวล่วงเกินส่งเดช

“ไม่มีอะไรจริงๆ พวกท่านโปรดเชือข้าเถิด” ป๋ ายซีเยวียมิ


ได้เดินจากไป การอธิบายทียําแย่ ยิงเพิมความสงสัยให้
แก่ทกุ คน

“ในเมือไม่มีอะไร เหตุใดแม่นางจึงส่งเสียงร้องออกมา
แต่ตอนนีกลับไม่ให้พวกข้าดูวา่ เกิดอะไรขึน” ชายแก่เจ้า
เล่หอ์ ีกคนออกโรงแล้ว

ใบหน้าของป๋ ายซีเยวียดูตืนตระหนก ราวกับสาวน้อยที

113
ไม่ประสา เมือเผชิญหน้ากับคําถามของทุกคน นางไม่รู ้
จะทําอย่างไรจึงจับผ้าเช็ดหน้าไว้แน่น อําๆ อึงๆ อธิบาย
ว่า : “เมือครูน่ ี ข้า ข้า.......แค่ตาฝาดไป.....” พูดจบนางก็
เงยหน้าขึนมองมูซ่ งด้วยสายตาอันไร้เดียงสาและน่า
สงสาร

แววตาทีแฝงการขอร้องนันชัดเจนมาก ราวกับกําลังหวัง
ให้มซู่ งออกปากช่วยนางสักหน่อย

แต่วา่ ผูท้ ีสนิทสนมกับมูซ่ งจะต่างก็รูน้ ิสยั ของเขาดี ว่าใน


สถานการณ์เช่นนี เขาทีมีความเทียงธรรมในทุกเรืองจะ
ปล่อยเรืองนีให้ผา่ นพ้นไปได้อย่างไรกัน

114
เพราะฉะนัน มูซ่ งจึงเปิ ดปากพูดว่า : “ซีเยวีย เจ้าหลบไป
จวนตระกูลมูแ่ ห่งนีไม่มีอะไรทีจะต้องปิ ดบัง”

ในแววตาของป๋ ายซีเยวียฉายแววความตืนตระหนก ราว


กับอยากจะหยุดคําพูดของมูซ่ ง

และมูช่ ิงเกอทีมองนางเงียบๆ มาโดยตลอด กลับมอง


เห็นรอยยิมอันเยือกเย็นทีแอบแฝงอยูใ่ นท่ามกลางความ
ตืนตระหนกนัน

ท่าทางอันไร้เดียงสาของป๋ ายซีเยวีย ท่ามกลางสายตา


ของมูซ่ ง นางขยับออกไปข้าง ๆอย่างสันๆ เผยให้เห็นสิง
ทีซ่อนอยูข่ า้ งหลังตัวนาง เหมือนดังว่านางได้คาดการณ์

115
เอาไว้แล้วว่ามูซ่ งจะพูดเช่นนี และราวกับว่า ทุกอย่างจะ
ดําเนินไปตามเหตุการณ์ทีนางได้วางเอาไว้

ข้างหลังตัวนาง สิงทีถูกปิ ดอยูค่ อ่ ยๆ เผยออกมา

แต่วา่ ก็เป็ นเพียงแค่กองหนังสือ กระดาษทีเอาออกมา


จากกองไฟเท่านัน

แต่ทว่า มีคนตาดี เห็นถึงความแตกต่างบางอย่าง

คนผูน้ นเดิ
ั นออกมา ชีจดหมายหลายฉบับทีอยูใ่ น
หนังสือด้วยความสงสัย : “หือ ? นีมันอะไร ? เหตุใดบน
นันถึงได้มีตวั อักษรแคว้นถูดว้ ย?”
116
ตอนที 91-1 ละครหักมุม ! คืนนีข้าจะปั กปิ นให้แก่เจ้า

“หืม?นีมันเรืองอันใดกัน ? เหตุใดบนเอกสารถึงได้มีตวั
อักษรแคว้นถู?” ขุนนางฝ่ ายบุน๋ คนหนึงชีจดหมายหลาย
ฉบับทีมีรอยไหม้สีดาํ แต่ยงั คงสามารถเห็นเนือความได้
อย่างชัดเจน

มีตวั อักษรของแคว้นถูปรากฏอยูบ่ นนันอย่างนันหรือ?

คําพูดนีแฝงความนัยทีลึกซึงไม่ใช่เรืองทีจะเอามาล้อเล่น
1
ได้เลย

พอเรืองนีกระจายออกไป คนจํานวนมากต่างก็คาดเดา
และสงสัย โดยเจ้าของห้องหนังสือนันก็ขมวดคิวแน่น

ในห้องหนังสือของเขามีอะไรบ้าง เขากระจ่างชัดกว่าใคร

แต่วา่ เขากลับจําไม่ได้วา่ เคยเห็นจดหมายเหล่านี

ท่ามกลางความฉงนใจของผูค้ น มีคนเดินเข้าไปก้มลง
เก็บจดหมายพวกนันขึนมาด้วยความสงสัย

“นีเป็ นตราสัญลักษณ์ของแคว้นถู” คนทีหยิบเอกสารขึน


2
มาค้นพบอะไรบางอย่างบนจดหมาย แคว้นถูและแคว้น
ฉินทําสงครามกันมานานปี จะไม่กระจ่างทุกอย่างเกียว
กับศัตรูได้อย่างไร ?

อีกประการหนึง ในตอนนีราชทูตแคว้นถูอยูภ่ ายในลัวตู


โดยผูน้ าํ ของพวกเขาคือเชือพระวงศ์แคว้นถู บนร่างกาย
สวมชุดทีมีตราสัญลักษณ์เช่นเดียวกันนีประดับอยูอ่ ย่าง
ชัดเจน

ทันใดนัน ก็เกิดคําวิพากษ์วิจารณ์ตา่ งๆนานาขึนท่าม


กลางผูค้ น

หากว่า เป็ นเพราะมีการทําสงครามกับแคว้นถูมานาน

3
หลายปี จึงต้องศึกษาตัวอักษรแคว้นถู หรืออาจจะเป็ น
ข่าวคราวทีมาจากการสืบราชการลับจากแคว้นถู จึงต้อง
ใช้ตวั อักษรแคว้นถูในการดําเนินการ เหตุผลเพียงเท่านีก็
อาจยังพอเข้าใจได้

แต่วา่ จดหมายทีมีตราสัญลักษณ์ของแคว้นถูได้ปรากฏ
อยูภ่ ายในห้องหนังสือของเขา และยังถูกซ่อนเอาไว้ใน
หนังสือเป็ นอย่างดี เรืองนีอาจมีอะไรมากกว่าทีคิด

มูช่ ิงเกอแอบกวาดสายตาไปมองป๋ ายซีเยวีย

นางในตอนนี กําลังหลบซ่อนตนเองท่ามกลางผูค้ นจงใจ


ลบการมีตวั ตนอยูข่ องตนเอง ใบหน้าอันงดงามนิงสงบ

4
มีเพียงดวงตาคูน่ นที
ั กําลังสังเกตการณ์ทกุ อย่างอย่าง
ละเอียดและแฝงความได้ใจอยูล่ กึ ๆ

มูช่ ิงเกอละสายตากลับมา พลันใช้หางตามองฉินจิน


ห้าวอย่างเยาะเย้ย ราวกับกําลังบอกกับเขาว่า : ‘นีหรือ
เป็ นแผนการใส่ความของคนทีคนอย่างเจ้าให้ความ
สําคัญ”

ฉินจินห้าวสัมผัสได้ถงึ สายตานัน ในขณะเดียวกันก็


ตอบกลับด้วยสายตาทีราวกับกําลังปลอบใจมูช่ ิงเกอว่า
ในเมือเราลงเรือลําเดียวกันแล้ว เขาจะไม่ยอมให้เกิด
เรืองอะไรขึนกับตระกูลมูใ่ นตอนนีเป็ นแน่

5
ใช่แล้ว ตอนทีมูช่ ิงเกอได้ตอบกลับเขาว่า ‘ได้’ เขาก็ได้ยตุ ิ
ความคิดทีจะใช้แผนการของป๋ ายซีเยวีย และในขณะ
เดียวกันก็ได้อธิบายว่าตนเองได้คดั ค้านแล้ว แต่ป๋ายซีเย
วียยืนยันทีจะทําเช่นนี

ความจริงแล้ว เขาสามารถหยุดเรืองนีได้ แต่กลับถูกมูช่ ิง


เกอห้ามเอาไว้

เขาดูออกว่า มูช่ ิงเกออยากจะจัดการกับป๋ ายซีเยวีย เพือ


ทีจะป้องกันตระกูลมูไ่ ด้อย่างทัวถึง เสียป๋ ายซีเยวียเพียง
คนเดียวจะเป็ นไรไป ?

6
เมือเทียบกับตระกูลมูแ่ ล้ว ป๋ ายซีเยวียไม่ได้มีคา่ เลยแม้
แต่นอ้ ย

เพราะฉะนัน เขายอมให้ความร่วมมือกับมูช่ ิงเก


อมากกว่า

แน่นอนว่า เขาก็ไม่กลัวหากป๋ ายซีเยวียจะย้อนมาแว้งกัด


เขา เพราะเขาจะไม่ยอมให้นางได้มีโอกาสนัน !

ป๋ ายซีเยวียไม่รูว้ า่ ตนเองได้ถกู คนทีรักและเชือใจมากที


สุดในตอนนีหลอกใช้ นางรูเ้ พียงว่า ทุกอย่างกําลัง
ดําเนินไปตามทีนางได้วางแผนเอาไว้จนแทบจะเก็บซ่อน
ความดีใจเอาไว้ไม่อยู่

7
คนทีสังเกตปฏิกิรยิ าของนาง นอกจากมูช่ ิงเกอแล้วยังมี
มูเ่ หลียนหรงอีกคน

เมือเห็นสายตาของป๋ ายซีเยวียทีแฝงความตืนเต้น แวว


ตาของนางก็พลันมัวหมองลง ราวกับได้สญ
ู เสียจิต
วิญญาณบางส่วนของตนเองไปเสียแล้ว

การกระทําระหว่างมูช่ ิงเกอและฉินจินห้าว ผูค้ นต่างก็ไม่


ได้ใส่ใจ แต่ทกุ อย่างกลับอยูใ่ นสายตาของฉินจินเฉินที
ยืนอยูต่ รงมุม

ราวกับเขา ได้สงั เกตถึงเงือนงําอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้

8
พูดอะไร

ในทีสุด สายตาของเขาก็มาหยุดทีมูช่ ิงเกอ

“นายท่านผูเ้ ฒ่า เอกสารเหล่านีผูน้ อ้ ยขออ่านได้หรือ


ไม่?” ขุนนางบุน๋ ทีเก็บเอกสารนันขึนมา แอบคิดทบทวน
แล้วรวบรวมความกล้าถามมูซ่ ง

มูซ่ งพูดตรงๆว่า : “หากเจ้าอยากอ่านก็อา่ นเลย


จดหมายพวกนีข้าเองก็ยงั ไม่เคยเห็นมาก่อนในใจก็รูส้ กึ
สงสัยมากเช่นกัน”

คําตอบอย่างตรงไปตรงมานี ทําให้ขนุ นางคนนันตาเป็ น


9
ประกายวูบ รีบก้มหน้าลงโดยไม่ได้พดู อะไร แตว่า
ปฏิกิรยิ ากลับไม่ชา้ ลงเลยเมือแต่นอ้ ย รีบเปิ ดซอง
จดหมายและเอาจดหมายในนันออกมาอ่านอย่างรวด
เร็ว

ตอนทีเขาเห็นจดหมายฉบับแรกนัน เนือหาในจดหมาย
ทําให้สีหน้าของเขาพลันเปลียนไป

หลังจากนัน เขาก็เอาจดหมายฉบับอืนๆออกมาอย่าง
รวดเร็ว และกวาดสายตาบนจดหมาย ใบหน้าของเขาก็
ซีดลงเรือยๆพลางเหลือบตามองมูซ่ งอย่างไม่อยากจะ
เชือ

10
เจ้าอ้วนเซ่าเบียดตนเองออกมาท่ามกลางผูค้ น จนมาอยู่
ข้างๆมูช่ ิงเกอในทีสุด

เขาดึงแขนเสือของมูช่ ิงเกอ พลางพูดเบาๆข้างหูนาง :


“ลูกพี ข้าว่าของสิงนีมันมีอะไรไม่ชอบมาพากล ! และคิด
ว่าคงจะไม่ใช่เรืองดีแน่พวกเรารีบหาทางถอยเถอะ”

มูช่ ิงเกอกลับแปลกใจในความระแวดระวังของเจ้าอ้วน
เซ่า

แต่ทว่า เรืองนีไม่ใช่เรืองทีเขาจะเข้ามายุง่ ได้

เพราะฉะนัน นางจึงตอบเสียงตําว่า : “อย่าเพิงตืน


11
ตระหนก เจ้ารอดูสถานการณ์ตอ่ ไปก็พอแล้ว”

การเตือนอย่างลับๆ ทําให้เจ้าอ้วนเซ่าตาสว่างและ
กระจ่างในทันที ว่าลูกพีจะลงมือจัดการแล้ว จึงรีบพูด
พร้อมรอยยิม : “ได้ ถ้าเช่นนันข้าจะคอยเฝ้าดูความ
เก่งกาจของท่าน!”พูดจบ ก็ถอยออกห่างจากมูช่ ิงเกอไป
อย่างเงียบๆ

ท่าทางทีคล่องแคล่วและไหลลืนดังปลาไหล ความอ้วน
ราวกับไม่ได้สง่ ผลกระทบต่อความว่องไวของเขาแม้แต่
น้อย !

ทําให้มชู่ ิงเกอทีมองอยูก่ ระตุกยิมและรูส้ กึ ชืนชมจากใจ

12
จริง

หลังจากทีเจ้าอ้วนเซ่าถอยออกไป ขุนนางคนนันก็ได้
อ่านจดหมายนันจบแล้ว เขาเหลียวซ้ายแลขวาอย่างตืน
ตระหนกโดยไม่สนใจสายตาของเพือนร่วมงานทีกําลัง
มองเขาด้วยความสงสัย

ทันใดนัน ก็พบรุย่ อ๋องทีบุคลิกลักษณะภายนอกดูโดด


เด่นยืนอยูท่ า่ มกลางผูค้ น

เขารีบขยับเข้าไปหารุย่ อ๋อง ในมือทีกําจดหมายแน่นสัน


เบาๆ

13
“รุย่ อ๋อง กระหม่อมมีเรืองจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ” เขาเดิน
ไปหยุดตรงหน้าฉินจินห้าว พลันประสานมือคารวะ

เมือเห็นว่าเป็ นเช่นนี ความดีใจทีซ่อนอยูใ่ นแววตาของ


ป๋ ายซีเยวียก็เพิมขึน ราวกับว่า แผนการของนางได้
สําเร็จลุลว่ งแล้ว นางมองรุย่ อ๋องฉินจินห้าวด้วยแววตา
อันลึกซึง ราวกับกําลังรอเขาออกคําสังให้จบั กุมตระกูลมู่

แน่นอนว่า นางเป็ นเพียงแค่เด็กกําพร้าและเป็ นผูอ้ าศัย


ในตระกูลมู่ หากถูกโยงเข้าเรืองนี ก็จะพ้นข้อกล่าวหาได้
ไม่ยาก

อีกประการหนึง นางยังเป็ นถึงผูห้ ญิงของรุย่ อ๋องมิใช่

14
หรือ?

ในขณะนันเอง ป๋ ายซีเยวียก็รูส้ กึ ดีใจกับสิงทีตนเองได้ทาํ


ลงไป หากในตอนนันไม่มีรุย่ อ๋องทีช่วยแก้พิษให้กบั นาง
ชีวิตของนางอาจจะจบสินลงแล้ว

ตอนนี นางเป็ นผูห้ ญิงของรุย่ อ๋อง นางเห็นกระทังความ


สูงส่งและการได้เป็ นฮ่องเฮาของตนเองในภายภาคหน้า
เลยด้วยซํา

นางกําลังรอคอย แต่ฉินจินห้าวกลับรับจดหมายพวกนัน
ไปอย่างแนบนิงและก้มหน้าลงอ่าน

15
ป๋ ายซีเยวียแอบสังเกตท่าทีของฉินจินห้าว ราวกับกําลัง
รอคอยการตอบสนองของเขา

แต่ทว่า ในขณะทีนางกําลังรอคอย ฉินจินห้าวทีอ่าน


จดหมายเหล่านันจบแล้วทําหน้าเคร่งขรึม ใบหน้าอัน
เย็นเยียบยิงดูโหดเ**◌้ยมมากขึน และฉายแววเยือกเย็น
มากกว่าเดิม

เขาพูดด้วยนําเสียงทีแฝงไอสังหารอันกราดเกรียว : “ใคร
กล้าใส่ความท่านผูเ้ ฒ่า!”

แรงโทสะเช่นนัน ไม่เหมือนการแสร้งทํา ขนาดป๋ ายซีเย


วียทีรูค้ วามจริงอยูเ่ ต็มอกยังรูส้ กึ ตกใจ

16
ราวกับว่า นางไม่เข้าใจปฏิกิรยิ าของฉินจินห้าว แต่ก็คิด
ได้วา่ การทําเช่นนีอาจจะเป็ นการแสดงเพือให้มซู่ งเชือ

หากคาดโทษในทันที ราวกับจะยิงทําให้ดเู หมือนการใส่


ความ

เมือคิดได้เช่นนี ป๋ ายซีเยวียก็โล่งใจมากขึนกว่าเดิม และ


เงียบรอการเคลือนไหวต่อไปของฉินจินห้าว

นางคิดว่า ตนเองได้ทาํ การแสดงทุกอย่างได้เป็ นอย่างดี


แล้ว เรืองราวจะเป็ นอย่างไรต่อไป ตระกูลมูจ่ ะตกอยูใ่ น
สภาพเช่นไร ก็เป็ นหน้าทีของชายหนุ่มผูน้ ีแล้ว

17
การเป็ นผูห้ ญิงทีอ่อนโยนและเอาใจใส่ จะแย่งผลงาน
ของผูช้ ายของตนเองได้อย่างไร?

ทันทีทีฉินจินห้าวพูด ทุกคนทีอยูร่ อบข้างก็เงียบลงและ


ไม่มีใครส่งเสียงใดๆ

เขากวาดสายตามองด้วยความเย็นเยียบ ทุกคนทีสัมผัส
ได้ถงึ สายตาของเขา ต่างก็กม้ หน้าลงและถอยหลังไป

พวกเขาไม่ได้รูเ้ ห็นอะไร และไม่รูว้ า่ เกิดเรืองอะไรขึนกัน


แน่

18
ในคราวนี แขกผูม้ ีเกียรติทีมาร่วมพิธีสวมหมวกภายใน
จวนตระกูลมู่ ต่างก็รูส้ กึ เสียใจในการมาร่วมพิธีในวันนี

สายตาอันเย็นเยียบได้กวาดมองผ่านป๋ ายซีเยวียเช่นกัน

นางรูอ้ ยูเ่ ต็มอกว่านีเป็ นเพียงการแสดงของฉินจินห้าว


แต่ก็ยงั คงรูส้ กึ เจ็บแสบราวกับถูกขวานสับลงบนร่างกาย

ความรูส้ กึ สับสนเกิดขึนภายในจิตใจอย่างไม่คาดคิด
และทําให้นางตกอยูท่ า่ มกลางความตืนตระหนกนัน

‘ไม่เป็ นไรๆการใหญ่กาํ ลังจะสําเร็จในวันนี นางจะได้


ออกจากจวนตระกูลมู่ และได้ครองรักกับรุย่ อ๋องอย่างแท้
19
จริง สิงทีจวนตระกูลมูต่ ิดค้างนางไว้ จะได้รบั การชดใช้
ในวันนี !’ หลังจากทีปลอบใจตนเองซําไปซํามาทําให้
ป๋ ายซีเยวียรูส้ กึ ดีขนบ้
ึ าง

ฉินจินห้าวกวาดสายตามองรอบหนึง ในสุดท้ายก็หยุด
สายตาทีมูซ่ ง

เขาถือจดหมาย และเดินเข้าไปหามูซ่ ง

ฉากตรงหน้านี ในสายตาของคนทีไม่รูว้ า่ เกิดอะไรขึนนัน


ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ

แต่สงที
ิ ป๋ ายซีเยวียเห็นคือ การเริมต้นขึนอย่างแท้จริง
20
ของแผนการทังหมดทีนางได้วางเอาไว้ ในวันนี นางจะ
ล้มล้างตระกูลมูใ่ ห้หมดสิน !

แต่ทว่า นางกลับไม่ได้สงั เกตว่าขุนนางบุน๋ คนทีเห็น


จดหมายคนแรก หลังจากทีฉินจินห้าวเดินเข้าไปหามูซ่ ง
ก็ได้กม้ หน้าลงและถอยหลังออกไปหลายก้าว

ราวกับว่า ขุนนางผูค้ นุ้ เคยกับเรืองราวในราชสํานักได้


กระจ่างในความคิดทีแท้จริงของฉินจินห้าวแล้ว

ฉินจินห้าวเดินไปหยุดข้างๆมูซ่ ง พลันยืนจดหมายในมือ
ให้กบั เขา พร้อมพูดด้วยนําเสียงทีแฝงความหนักแน่น
ว่า : “ท่านผูเ้ ฒ่า ท่านลองดู ไม่คิดเลยว่าจะมีคนใจคดจง

21
ใจใส่ความท่าน”

มูซ่ งรับจดหมายพวกนันมาด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม ก้ม


หน้าลงมอง เม้มริมฝี ปากเป็ นเส้นตรง

ป๋ ายซีเยวียเกิดฉงนใจ แอบมองฉินจินห้าวด้วยความ
สงสัย นางไม่เข้าใจว่าการกระทําของฉินจินห้าวนันมัน
หมายความว่าอย่างไร

ถ้าเช่นนี ก็เป็ นการเปิ ดทางให้มซู่ งได้ตอบโต้มิใช่หรือ?

หลักฐานพวกนันไปอยูใ่ นมือของเขา เป็ นการให้โอกาส


เขาทําลายหลักฐานมิใช่หรือ?
22
ตอนที 91-2 ละครหักมุม ! คืนนีข้าจะปั กปิ นให้แก่เจ้า

23
ความรูส้ กึ ราวกับทุกอย่างอยูเ่ หนือการควบคุมเกิดขึน
ป๋ ายซีเยวียไม่ทนั ได้เก็บอาการแล้วในทีสุดก็เผยความ
รูส้ กึ ทีแท้จริงของตนเองออกมา

มูเ่ หลียนหรงทีสังเกตท่าทางของนางอยูต่ ลอดเวลารูส้ กึ


ปวดใจ ในแววตามีความทุกข์จางๆ ประดับอยู่

“หึ ! เหลวไหลทังเพ!” มูซ่ งทีอ่านจดหมายด้วยแววตาอัน


เคร่งขรึมสะบัดมือ จนจดหมายในมือร่วงหล่นลงพืนไป
และทําให้ผคู้ นทีเข้ามาอยูใ่ กล้ๆ แอบอ่านเนือความใน
จดหมาย

24
จดหมายเหล่านัน เหมือนเป็ นการติดต่อกันระหว่างเชือ
พระวงศ์พระองค์หนึงในแคว้นถูกบั มูซ่ ง ภายในจดหมาย
มีการสังให้มซู่ งยุแยงให้เกิดสงครามภายในราชวงศ์ของ
แคว้นฉิน และก่อความวุน่ วายระหว่างทําศึกสงคราม

ทุกอย่างทีอยูใ่ นจดหมาย ไม่มีบรรทัดใดเลยทีไม่แสดง


ถึงการหักหลังต่อแคว้นฉินของมูซ่ ง

ผูค้ นทีแอบอ่านเนือหาบนจดหมาย ต่างหน้าซีดเผือดราว


กับได้ลว่ งรูค้ วามลับบางอย่างทีไม่ควรรู ้ จนหายใจผิด
จังหวะ

บรรยากาศทีอึดอัดและยากจะอธิบายนี ค่อยๆ แผ่ขยาย

25
ไปท่ามกลางผูค้ นอย่างไม่ขาดสาย

“ข้ามูซ่ งได้ทาํ ความดีความชอบจนมีชือเสียงในแคว้นฉิน


มาตังแต่ไหนแต่ไรแล้ว สมคบกับแคว้นถูรึ หรือว่าแคว้น
ถูจะแต่งตังให้ขา้ เป็ นฮ่องเต้ได้อย่างนันรึ ? หึ !” มูซ่ งส่ง
เสียงอันเย็นเยียบ ทําให้ทกุ คนไม่กล้าแม้กระทังจะ
หายใจเสียงดัง

ไม่ ! ต้องไม่เป็ นเช่นนี !

ป๋ ายซีเยวียมองภาพทังหมด นัยน์ตาแฝงความตืน
ตระหนก

26
ในความคิดของนาง หลังจากทีพบหลักฐานการติดต่อ
กับแคว้นศัตรูพวกนี ด้วยการใส่ไฟของฉินจินห้าว ทุกคน
ก็จะต้องกล่าวหาตระกูลมู่ ทําให้พวกเขายากจะแก้ตวั มิ
ใช่หรือ?

เหตุใดจึงกลายเป็ นเช่นนีไปได้?

มูซ่ งไม่ใส่ใจเลยแม้แต่นอ้ ย ทุกคนต่างไม่กล้าส่งเสียง แม้


แต่รุย่ อ๋องทีได้วางแผนด้วยกัน กับนางก็ยืนข้างตระกูลมู่

นางมองฉินจินห้าว แต่กลับพบว่า อีกฝ่ ายไม่แม้แต่จะ


ชายตาแลมองนางเลย ราวกับว่า ไม่เคยรูจ้ กั นางมาก่อน

27
“มีคนใส่ความท่านปู่ ร?ึ ” เสียงอันใสบริสทุ ธิแทรกเข้ามา

ทุกคนหยุดสายตาทีคุณชายตระกูลมู่ ทันใดนัน มูช่ ิงเก


อก็เดินออกมาท่ามกลางผูค้ น ก้มลงเก็บจดหมายเหล่า
นันและอ่านผ่านๆ ยิงอ่าน มุมปากทีแฝงรอยยิมของนาง
ก็เผยให้เห็นถึงความเย้ยหยันขึนมามากขึนเรือยๆ

พอนางอ่านจบ ก็ไม่ลืมทีจะวิจารณ์ : “ปั ญญาอ่อน”

ป๋ ายซีเยวียหน้าซีดในทันใด

ยืนจดหมายให้แก่รุย่ อ๋อง มูช่ ิงเกอก้าวเท้าเข้าไปอยูข่ า้ งๆ


มูซ่ ง พลางยิมจางๆ ให้กบั เขาและเอ่ยว่า : “ท่านปู่
28
ท่านอย่าได้มีโทสะไปเลย เป็ นแค่การใส่ความของพวก
หนูสกปรกทีชอบลอบกัดก็เท่านัน หากท่านโกรธจะยิง
เป็ นการทําให้พวกเขาได้ใจ”

มูซ่ งพูดด้วยนําเสียงทุม้ ว่า : “อืม ข้าไม่โกรธ เรืองนีให้เจ้า


เป็ นคนจัดการ หาตัวคนร้ายมาให้ได้” พูดจบ ท่านผูเ้ ฒ่า
ก็สะบัดแขนเสือ ไม่สนใจและไม่ใส่ใจจริงๆ

มูช่ ิงเกอแอบหัวเราะในความเจ้าเล่หข์ องท่านปู่

เขาพอจะเดาออกแล้วว่าใครเป็ นคนสร้างเรือง แต่เพราะ


ลงโทษไม่ลงจึงตัดหางปล่อยวัด เรืองของป๋ ายซีเยวีย
หลังจากทีรุย่ อ๋องบอกนาง นางก็บอกมูเ่ หลียนหรง แต่ไม่

29
ได้บอกมูซ่ ง นันเป็ นเพราะว่าไม่อยากให้เขาเสียใจ อย่าง
ไรก็ตาม ป๋ ายซีเยวียก็เป็ นเด็กทีเขารับมาเลียงด้วยตน
เอง

เพราะฉะนัน แม้จะรูว้ า่ ท่านปู่ ของตนเองตังใจจะ


โยนภาระให้แก่นาง แต่นางก็พร้อมน้อมรับด้วยความ
ยินดี

ความจริงแล้ว การตัดสินใจของมูซ่ ง กําลังบอกกับนาง


ว่า เรืองนี ให้คณ
ุ ชายตระกูลมูเ่ ป็ นคนจัดการ !

แววตาขยับไหวเล็กน้อย มูช่ ิงเกอหันกลับไปพูดกับรุย่


อ๋อง : “รุย่ อ๋อง หากในพิธีสวมหมวกของข้าในวันนี มีคน

30
ใส่ความท่านปู่ ของข้าว่าติดต่อส่วนตัวกับแคว้นศัตรู
พระองค์คิดว่าเรืองนีควรจะจัดการอย่างไรดีพะ่ ย่ะค่ะ”

ป๋ ายซีเยวียมองรุย่ อ๋องด้วยเคร่งเครียด

แต่ทว่า ฉินจินห้าวกลับพูดกับมูช่ ิงเกออย่างตามใจ : “ชิง


เกอคิดว่าควรจะจัดการอย่างไร”

นีมันไม่ถกู ต้อง !

เหตุใดจึงพูดเช่นนี ?

ป๋ ายซีเยวียแทบจะวิงออกไป จับแขนของฉินจินห้าวเพือ
31
บอกเขาว่าทุกอย่างไม่ควรจะเป็ นเช่นนี

ตอนนี เหตุใดรุย่ อ๋องจึงต้องเชือฟั งและเอาอกเอาใจมูช่ ิง


เกอเช่นนีด้วย

นีหมายความว่าเขาเชือใจตระกูลมูอ่ ย่างเต็มร้อยเลยมิ
ใช่หรือ?

แล้วนางเล่า?

จะแสร้งทําการแสดงเช่นนีไปเพืออะไรกัน?

“แน่นอนว่าจะต้องหาตัวคนร้ายให้เจอ ไม่วา่ มันจะเป็ น


32
ใครก็ตอ้ งลงโทษอย่างสาสม” มูช่ ิงเกอพูดพร้อมเสียง
หัวเราะเบิกบาน แต่กลับทําให้ทกุ คนทีอยู่ ณ ทีนี สัมผัส
ได้ถงึ ไอสังหารทีแฝงอยูใ่ นนําเสียงนัน

ป๋ ายซีเยวียตกใจ ราวกับว่า นางสัมผัสได้ถงึ สายตาทีมู่


ชิงเกอมองนางเมือครูน่ ี ราวกับรูค้ วามจริงว่านางเป็ นคน
สร้างเรืองทังหมดนีขึน

‘ไม่ ไม่จริง เขาจะรูว้ า่ เรืองนีเกียวข้องกับข้าได้อย่างไร!’


ป๋ ายซีเยวียปฏิเสธการคาดเดานี

“ได้ ! จัดการตามทีชิงเกอพูด หาตัวคนร้ายให้เจอและลง


โทษอย่างสาสม” ในตอนนี ในสายตาของฉินจินห้าวราว

33
กับมีแค่มชู่ ิงเกอเพียงคนเดียว ไม่วา่ นางจะพูดอะไร เขา
ก็เห็นดีเห็นงามไปด้วยทังหมด

นีไม่ได้เป็ นเพียงแค่การแสดงละครไปกับตระกูลมูเ่ ท่านัน


แต่ในตอนทีตระกูลมูร่ บั ปากว่าจะอยูข่ า้ งเดียวกับเขานัน
เขาก็มีความรูส้ กึ ราวกับขาข้างหนึงของตนเองได้กา้ วขึน
ไปบนบัลลังก์อนั สูงส่งนันแล้ว

ในสถานการณ์เช่นนี เขาจะทําให้ตระกูลมูไ่ ม่พอใจไม่


ได้ !

มูช่ ิงเกอยิม ในรอยยิมนันเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยและ


เสียดสี

34
ทําให้ทกุ คนทีดูอยูข่ นลุกและแอบคิดในใจว่า : แววตา
ของคุณชายตระกูลมูช่ ่างน่ากลัวเสียจริง ทําให้รูส้ กึ ขน
ลุกอย่างห้ามไม่ได้

แต่ป๋ายซีเยวียกลับสัมผัสได้วา่ รอยยิมนันของมูช่ ิงเก


อราวกับต้องการสือถึงนาง

และกําลังหัวเราะความโง่เขลาและความอวดดีของนาง

‘ทังๆ ที…ทังๆ ที รุย่ อ๋องเป็ นพวกเดียวกับข้าแท้ๆ แล้ว


เหตุใด......เหตุใด......’ ตอนนีตนเองกลับกลายเป็ นผูท้ ี
ถูกเล่นงานไปได้?

35
ป๋ ายซีเยวียตะโกนในใจไม่หยุด

เมือขอจดหมายจากรุย่ อ๋องอีกหนหนึง มูช่ ิงเกอสะบัดมัน


ไปมา พลางพูดด้วยสายตาอันเยาะเย้ยว่า : “หากจะใส่
ความว่าตระกูลมูม่ ีการติดต่อกับแคว้นศัตรู ลงทุนเพียง
แค่จดหมายพวกนียังไม่พอ อย่างน้อยก็ควรมีการตระ
เตรียมหลักฐานรูปธรรมทีแสดงถึงการสมรูร้ ว่ มคิด หรือ
อาจจะเป็ นคนทีเป็ นสือกลางในการติดต่อ ทังหลักฐานที
เป็ นสิงของและพยานบุคคลล้วนขาดไม่ได้เลยแม้แต่
อย่างเดียว เพียงกระดาษไม่กีใบ จะกล่าวหาว่าตระกูลมู่
กระทําความผิด คิดว่าฮ่องเต้แคว้นฉินของเราและขุน
นางบุน๋ บูท๋ งราสํ
ั านักปั ญญาอ่อนรึ?”

36
คําพูดนี ทําให้ขนุ นางแคว้นฉินหน้าแดงกําขึนมาอีกหน
ในคําพูดนันแฝงการเสียดสีพวกเขาแท้ๆ แต่ก็ทาํ ให้พวก
เขาไม่สามารถตอบโต้ได้

เพราะว่า เมือสักครูน่ ี มีความเคลือบแคลงเกิดขึนภายใน


จิตใจของพวกเขาจริงๆ

แม้จะเป็ นเพียงการหลงเชือเพียงแค่ชวขณะเดี
ั ยว แต่ก็
หมายความว่าพวกเขาไม่ฉลาด

เป็ นครังแรกทีได้ยินคําพูดอันคมเฉียบจากคุณชายตระกู
ลมู่ เหล่าขุนนางทีคลุกคลีอยูใ่ นราชสํานักมานานหลาย
ต่อหลายปี ก็มีความรูส้ กึ ว่าคลืนลูกใหม่นนแรงกว่
ั าคลืน

37
ลูกเก่าจริงๆ

นับประสาอะไรกับที เขายังมีทา่ นปู่ ผมู้ ีชือเสียงสะท้าน


แผ่นดินอีกคน

ทหารหลานแสนนายคอยหนุนหลังนางอยู่ ใครหน้าไหน
ล่ะจะกล้าลองดีกบั นาง

38
ตอนที 91-3 ละครหักมุม ! คืนนีข้าจะปั กปิ นให้แก่เจ้า

มูช่ ิงเกอกระตุกยิมมุมปากหนหนึง แล้วพูดต่อว่า : “ที

39
สําคัญทีสุดคือ ทําเช่นนีไปเพราะจุดประสงค์ใด ตระกูลมู่
มีชือเสียงเป็ นเทพสงครามอยูด่ ีๆไม่ชอบ ตําแหน่ง*กง ก็
ไม่เอา ทิงอํานาจทังหมดเพืออะไรกัน เงินรึ? เงินทองตระ
กูลมูม่ ีไม่เคยขาด อํานาจตระกูลมูย่ งมี
ิ มากจนเหลือล้น
จะทําอะไรคงต้องมีเหตุผลมากพอ ตระกูลมูจ่ ะเป็ นกบฏ
จับมือกับศัตรูทีทําสงครามกันมานานกว่า 10 ปี เพือทํา
ร้ายแคว้นของตนเอง เพือเหตุใดกันเล่า? แล้วจะได้รบั
ประโยชน์อะไร? คงไม่ใช่วา่ กินอิมเกินไปและว่างจนไม่มี
อะไรทําเลยอยากหาเรืองน่าตืนเต้นทําหรอกนะ?”

ใช่ ! การทีมูซ่ งร่วมมือกับแคว้นถูจะได้รบั ผลดีอะไร?

เพือตังตัวเป็ นใหญ่ร?ึ แล้วเช่นนันจําเป็ นต้องสมคบกับ


แคว้นถูดว้ ยรึ? ด้วยแสนยานุภาพของกองทหารตระกูลมู่
40
แล้ว หากมูซ่ งคิดจะตังตนเป็ นอ๋องในดินแดนของตัวเอง
ฮ่องเต้แคว้นฉินจะห้ามอย่างไรได้

ถ้าไม่ได้เพือตําแหน่งอ๋องหรือจะเพือตําแหน่งฮ่องเต้ ?

เรืองนียิงเป็ นไปไม่ได้ใหญ่ หากมูซ่ งต้องการเช่นนันจริงๆ


ตําแหน่งฮ่องเต้แคว้นฉิน จะอยูใ่ นมือตระกูลฉินเช่นนี
หรือ

ทุกคนต่างก็คิดทบทวน แต่ก็ไม่สามารถหาเหตุผลทีสม
เหตุสมผลกับการทีมูซ่ งเป็ น ‘กบฏแผ่นดิน’ ได้เลยแม้แต่
ข้อเดียว

41
เหตุผลเดียวทีสมเหตุสมผล นันก็คือ เชือพระวงศ์กลัน
แกล้งกันมากเกินไป ทําให้มซู่ งจําเป็ นต้องต่อต้านเพือ
ป้องกันตัว แต่วา่ การอธิบายเช่นนีใครเล่าจะกล้าพูดออก
มา หากไม่ใช่เพราะคิดว่าคอของตนเองแข็งเกินไปหรือ
ไม่ก็อายุยืนยาวเกินไป

ทุกคนยังคงรักษาความเงียบสงบ

และในขณะนีเอง มูช่ ิงเกอก็พดู ขึนอีกว่า : “อีกอย่างเหตุ


ไฟไหม้ในครังนีก็ช่างบังเอิญ และเลือกทีจะเกิดขึนในวัน
ทีข้าเข้าพิธีสวมหมวกพอดี ข้ามีความสงสัยว่าช่วงเวลา
กลางวันแสกๆเช่นนี ภายในห้องหนังสือไม่อะไรนําเชือ
เพลิงเลย จะเกิดเหตุไฟไหม้ได้อย่างไรและยังบังเอิญเอา
จดหมายทีเป็ นหลักฐานการเป็ นกบฏแผ่นดินของตระกู
42
ลมูอ่ อกมาได้ทนั เวลาเสียด้วย”

ทหารองครักษ์ทีเสียงชีวิตเข้าไปเอาสิงของทียังไม่ถกู
เพลิงไหม้ออกมาจากห้องหนังสือคุกเข่าลงในทันที
พลางพูดอย่างหนักแน่นกับมูช่ ิงเกอว่า : “คุณชาย ข้า
และคนอืนๆ เสียงชีวิตเข้าไปภายในห้องหนังสือและเห็น
ว่าสิงของพวกนีไม่ได้ถกู เพลิงไหม้จงึ ได้นาํ ออกมา”

“อย่างนันรึ ? มูช่ ิงเกอพูดอย่างขบขัน พลางทําท่าราวกับ


พูดกับตัวเองว่า : “เปลวเพลิงนีก็ช่างรูง้ านดีนกั รูว้ า่ อะไร
ควรเผา อะไรไม่ควรเผา”

คําพูดนีเข้าไปสะกิดใจของทุกคนและทําให้ทกุ คน

43
กระจ่างในทันที

ใช่สิ หากเป็ นเพลิงไหม้ทีเกิดจากอุบตั ิเหตุ เปลวเพลิงที


ลุกลามถึงเพียงนันจะเลือกทีจะไม่เผาจดหมายพวกนีไป
ได้อย่างไรกัน นอกจากจะมีรอยไหม้เล็กน้อยก็แทบจะไม่
มีความเสียหายอืนใดเลย ในโลกนีจะมีเรืองทีบังเอิญเช่น
นีได้หรือ

ป๋ ายซีเยวียได้ยินเช่นนีก็รูส้ กึ ขนลุกซูข่ นมา


ในขณะนี บนแผ่นหลังได้เต็มไปด้วยเหงือทีเย็นยะเยือก
จนทําให้นางตัวสัน

44
ก่อนหน้าทีมูช่ ิงเกอไม่ได้พดู คําพูดเหล่านีออกมา นางยัง
คงรูส้ กึ ว่าการวางแผนของตนเองนันช่างสมบูรณ์แบบ
และไม่หลงเหลือหลักฐานอันใดให้ใครสงสัยและยังจะ
ทําให้ฮ่องเต้แคว้นฉินหาเหตุผลทีจะกําจัดตระกูลมูไ่ ด้

แต่ทว่าในตอนนีนางกลับสัมผัสได้ถงึ ความผิดพลาด
มหันต์ ราวกับว่าแผนการของตนเอง เป็ นดังเกมเด็กเล่น
ผ่านนําเสียงทีฉายแววขบขันของมูช่ ิงเกอ

ไม่แปลก ! ไม่แปลกทีในตอนแรกทีเขาเห็นจดหมาย
เหล่านีจึงพูดว่า ‘ปั ญญาอ่อน’

ถึงแม้วา่ นางจะเลียนแบบลายมือของมูซ่ งได้อย่าง

45
สมบูรณ์แบบ

เพราะเหตุใด ? เพราะเหตุใดเขาจึงสามารถเปลียนแปลง
ตอนจบของเรืองได้ดว้ ยคําพูดเพียงแค่ไม่กีคํา แม้วา่ ใน
วันนีเขาจะสามารถฝึ กพลังได้แล้ว แต่ก็ยงั คงเป็ นจอม
เสเพล เขามีสทิ ธิอะไรกัน!

ความรูส้ กึ อิจฉาเกิดขึนภายในจิตใจของป๋ ายซีเยวียและ


ค่อยๆ มาแทนทีความหวาดกลัว

“ช่างโง่เขลาเสียจริง” มูช่ ิงเกอส่ายหน้าเบาๆ พูดพร้อม


นําเสียงเยาะเย้ยว่า : “โง่เขลาจนข้าไม่อยากจะพูดต่อ”

46
แผนการทีนางตังใจคิดขึนมา ในสายตาเขากลับเป็ น
เรืองทีดู ‘ปั ญญาอ่อน’ อย่างนันหรือ

ความโกรธเกลียดอันมหาศาลในใจของป๋ ายซีเยวียแทบ
จะทะลุผา่ นดวงตาของนางออกมา

“น้องซีเยวีย เหตุใดเจ้าจึงมองข้าด้วยสายตาเช่นนัน
เล่า?” มูช่ ิงเกอพลันเบนสายตามาและมองนางพร้อม
รอยยิมทีแฝงความเย้ยหยัน

ป๋ ายซีเยวียตะลึง ความโกรธแค้นทีซ่อนอยูใ่ นแววตา


พลันหายวับไปในทันที

47
แต่ยงั คงมีคนจํานวนไม่นอ้ ยทีเห็นสายตานัน

“ข้าพูดอะไรผิดอย่างนันหรือ?” มูช่ ิงเกอเอ่ยถามพร้อม


รอยยิม

“ไม่ ซีเยวียจะรูเ้ รืองพวกนีได้อย่างไรกัน” ป๋ ายซีเยวียรีบ


พูดกลบเกลือนอย่างตืนตระหนก

มูช่ ิงเกอเดินเข้าไปหานางพลางผุดรอยยิมและพูดว่า :
“ข้ายังไม่ได้ขอบคุณน้องซีเยวียเลย ทีเมือสักครูน่ ีหากไม่
ใช่เพราะดวงตาอันเฉียบแหลมของเจ้าพบจดหมายที
แสดงถึงการใส่ความตระกูลมูท่ า่ มกลางกองหนังสืออัน
มากมายเช่นนี ก็ไม่รูว้ า่ จะเกิดอะไรขึนบ้าง”

48
“.......” ป๋ ายซีเยวียสัมผัสได้วา่ คนรอบข้างต่างก็มองมา
ทีนาง ทําให้นางไม่สามารถแก้ตวั ได้

นําเสียงของมูช่ ิงเกอตําลงและพูดอย่างจริงจังว่า : “แต่


ว่าข้าจะขอตําหนิเจ้าอีกเรือง ทันทีทีพบหลักฐานก็ควร
จะพูดออกมาเลย ตระกูลมูข่ องเรานันกล้าทํากล้ารับ ไม่
มีเรืองอะไรทีไม่กล้าเปิ ดเผยต่อหน้าทุกคน ท่าทางอัน
ร้อนรนของเจ้าจะยิงเป็ นพิรุธ”

ป๋ ายซีเยวียฝื นยิม ท่ามกลางสายตาทีแทบจะกระชาก


วิญญาณนางของมูช่ ิงเกอ นางตอบเสียงสันว่า : “เจ้าค่ะ
ซีเยวียทราบแล้ว”

49
และในขณะทีร่างของป๋ ายซีเยวียแทบจะพังทลายท่าม
กลางสายตาของนาง ทันใดนัน มูช่ ิงเกอก็ตะโกนด้วยนํา
เสียงทีเคร่งขรึมว่า : “มัวหยาง”

หลังจากทีสินเสียงของนาง มัวหยางก็พาทหารองครักษ์
จํานวนหนึงขององครักษ์เขียวมังกรเดินออกมาจากมุม
มืด

เขาเดินตรงมาคารวะตรงหน้ามูช่ ิงเกอ บนร่างแฝงไป


ด้วยกลินอายการฆ่าฟั น ทําให้คนจํานวนไม่นอ้ ยถอย
หลังไปหลายก้าว ทหารองครักษ์ทีเก่งกาจเช่นนี แม้แต่
ฉินจินห้าวเองก็มองด้วยแววตาทีเจือไปด้วยความอิจฉา

50
“คุณชาย”

มูช่ ิงเกอพยักหน้ารับช้าๆ และถามขึนในทันทีวา่ : “วันนี


เป็ นวันสําคัญของข้า ข้าสังให้เจ้าและองครักษ์เขียว
มังกรหลบซ่อนอยูท่ งภายในและภายนอกจวนตระกู
ั ลมู่
เพือเป็ นหูเป็ นตาไม่ให้ผใู้ ดเข้ามาก่อความวุน่ วาย เจ้ารู ้
หรือไม่วา่ เหตุใดห้องหนังสือของท่านผูเ้ ฒ่าจึงได้เกิดเหตุ
เพลิงไหม้ได้”

พอสินเสียงของมูช่ ิงเกอ ป๋ ายซีเยวียก็รูส้ กึ ว่าตนเองไร้ซงึ


เรียวแรงและตัวอ่อนไปทังตัว

51
มูช่ ิงเกอสังให้ทหารองครักษ์ของตนเองซ่อนตัวอยูภ่ าย
ในจวนตระกูลมูอ่ ย่างนันหรือ

และยังกระจายอยูร่ อบๆ ห้องหนังสือด้วย

นันก็แสดงว่า.......

ทันใดนัน ป๋ ายซีเยวียก็หน้าซีดจนแทบจะหมดสติลม้ ลง

ทันใดนัน นางก็มีความคิดทีจะหลบหนี นางมองฉินจิน


ห้าว หวังจะได้รบั การปกป้องจากเขาให้เขาพานางออก
จากทีนี ออกจากตระกูลมู่

52
แต่วา่ ฉินจินห้าวกลับไม่แม้กระทังจะมองนางเลยแม้แต่
เสียวสายตาเดียว ราวกับว่าได้ทอดทิงนางไปเสียแล้ว

‘ไม่ ! เป็ นไปไม่ได้ ! นีมันเกิดอะไรขึน เหตุใดองค์ชายจึง


ไม่สนใจข้า’ ในใจของป๋ ายซีเยวียเต็มไปด้วยความแค้น
และสินหวัง

แต่วา่ ตอนนีนางไม่กล้าพูดจาเหลวไหล

เพราะนางรูว้ า่ รุย่ อ๋องคือความหวังเดียวของนาง

มัวหยางตอบกลับด้วยนําเสียงอันเคร่งขรึม : “ข้าและ
ทหารคนอืนๆได้หลบซ่อนตัวอยูบ่ ริเวณห้องหนังสือ ใน
53
วันนีเป็ นวันทีคุณชายเข้าพิธีสวมหมวก ผูค้ นส่วนใหญ่
ต่างก็ทาํ กิจกรรมกันอยูใ่ นสวนด้านหน้ามีเพียงคนเดียวที
เข้าไปยังห้องหนังสือของท่านผูเ้ ฒ่า นันคือแม่นางป๋ าย
นางเข้าไปในห้องหนังสือพักใหญ่และหลังจากทีนางออก
ไปไม่นาน ห้องหนังสือก็เกิดเพลิงไหม้”

“เจ้าโกหก ! ข้าไม่ได้ทาํ !” ป๋ ายซีเยวียรีบปฏิเสธ

แต่ทว่า คําพูดปฏิเสธพวกนันกลับไม่ได้มีนาหนั
ํ กอะไร
เลย

มูช่ ิงเกอพูดกับมัวหยางว่า : “พวกเจ้าออกไปก่อน”

54
มัวหยางนําทุกคนถอยออกไปและสําหรับคําพูดของป๋ าย
ซีเยวียนัน เขาไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่นอ้ ย

*กง เป็ นตําแหน่งทีฮ่องเต้พระราชทานให้กบั ขุนนางทีมี


ความดีความชอบมาก ในยุคสมัยโจว แบ่งเป็ นห้าระดับ
มี กง โหว ป๋ อ จือ และหนาน โกยกงเป็ นตําแหน่งสูงสุด

55
ตอนที 91-4 ละครหักมุม ! คืนนีข้าจะปั กปิ นให้แก่เจ้า

ในตอนนีดวงตาของมูเ่ หลียนหรงฉายแววเจ็บปวด ความ


หวังสุดท้ายทียังคงเหลืออยูไ่ ด้ถกู พังทลายลง ในขณะ
เดียวกันมูซ่ งเองก็รูส้ กึ ทุกข์ใจมากขึนหลายเท่า

56
มูช่ ิงเกอจดจ้องสายตาไปยังป๋ ายซีเยวีย พลางถามด้วย
นําเสียงอันแฝงความอ่อนโยนว่า : “น้องซีเยวีย เจ้าจะ
บอกกับข้าได้หรือไม่วา่ เจ้าไปทําอะไรในห้องหนังสือของ
ท่านปู่ เหตุใดพอเจ้าออกไป ห้องหนังสือก็เกิดเพลิงไหม้
อย่างไร้สาเหตุและเหตุใดเจ้าถึงเป็ นคนแรกทีพบ
จดหมายเหล่านีราวกับว่าเจ้าคุน้ เคยกับพวกมันเป็ น
อย่างดี เพียงแค่กวาดสายตามองก็รูไ้ ด้ทนั ทีวา่ จดหมาย
พวกนีจะก่อให้เกิดผลเสียต่อตระกูลมู่ จึงปิ ดบังไม่ให้ใคร
ได้พบเห็น”

คําถามอันมากมายนีทําให้ป๋ายซีเยวียไม่สามารถตังรับ
ได้

57
ผูค้ นทีสังเกตการณ์อยูห่ า่ งๆ ทันทีทีสินเสียงของมูช่ ิงเก
อก็ได้กระจ่างในข้อสงสัยทังหมดและหยุดสายตาทีป๋ าย
ซีเยวีย

“ดูเหมือนว่าเรืองทีใส่ความท่านผูเ้ ฒ่านัน แม่นางป๋ ายผู้


นีน่าสงสัยทีสุดแล้ว” ฉินจินห้าวพูดขึนด้วยนําเสียงทีแฝง
ความเย็นเยียบราวกับว่าได้คาดโทษป๋ ายซีเยวียด้วยคํา
พูดคํานันไปแล้ว

ป๋ ายซีเยวียเงยหน้าขึนและมองเขาอย่างไม่อยากทีจะ
เชือ ทว่านางกลับไม่เห็นความรูส้ กึ อันใดบนใบหน้าของ
ชายหนุ่มผูท้ ีนางรักสุดหัวใจ

58
ไร้ความรัก ไร้ความปรานี.......

คําพูดเหล่านีผุดขึนในความคิดของป๋ ายซีเยวีย ทําให้


นางรูส้ กึ ปวดร้าวขึนมา

“เป็ นเช่นนันจริงๆ” มูช่ ิงเกอรับคําและเผยให้เห็นความ


ปวดร้าว

ราวกับว่า การทีถูกผูท้ ีไว้ใจภายในจวนของตนเองหัก


หลัง ทําร้ายความรูส้ กึ ลึกๆ ของนาง

สําหรับนางอาจจะเป็ นการแสร้งทํา แต่สาํ หรับความรูส้ กึ


ของมูซ่ งและมูเ่ หลียนหรงทีมีตอ่ ป๋ ายซีเยวียนันล้วนเป็ น
59
ความจริง ในตอนนี ในตอนทีมูช่ ิงเกอเกิดความสงสัยใน
ตัวของป๋ ายซีเยวีย ความรูส้ กึ ผิดหวังทีเกิดขึนในแววตา
ของพวกเขานันไม่ได้แสร้งทําแต่อย่างใด

“เด็กๆ! ควบคุมตัวคนผิดไว้ แล้วเอาตัวไปขังในคุก


ของกรมอาญา วันรุง่ ขึนข้าจะไปกราบทูลเสด็จพ่อ แล้ว
ค่อยตัดสินโทษ” คําสังอันเย็นชาของฉินจินห้าว ทําให้หวั
ใจของป๋ ายซีเยวียแตกสลาย

“ไม่! ไม่ใช่ขา้ ! เหตุผลอะไรทีข้าต้องเช่นนัน ตระกูลมูม่ ี


บุญคุณกับข้าอย่างเหลือล้น ข้าจะอกตัญ ไู ด้อย่างไร”
ป๋ ายซีเยวียดินรนสุดแรง พลางตะโกนร้องเรียกมูซ่ งและ
มูเ่ หลียนหรง : “ท่านปู่ มู่ ท่านอาหรง พวกท่านคิดว่าซีเย
วียเป็ นคนทําจริงๆ หรือ”
60
มูเ่ หลียนหรงหันหน้าหนี ไม่ได้มองนาง

ทว่า มูซ่ งกลับเม้มริมฝี ปากเป็ นเส้นตรงและหลับตาลง

เมือเห็นว่าทังสองคนแห่งตระกูลมูไ่ ม่สนใจ ความโกรธ


เกลียดและความแค้นทีสุมอยูใ่ นอกของป๋ ายซีเยวียยิง
เพิมทวีมากขึน นางหันไปมองฉินจินห้าวอย่างหมดหวัง
พลางตะโกนว่า : “รุย่ อ๋องข้าน้อยถูกใส่รา้ ย ! ขอพระองค์
ทรงทวงความยุติธรรมให้ดว้ ย!”

“จะถูกใส่รา้ ยหรือไม่นนั จะมีตรวจสอบให้ชดั เจน หาก


เจ้าบริสทุ ธิ ก็ไม่จาํ เป็ นต้องตืนตระหนกถึงเพียงนีและจง

61
ไปกับองครักษ์ของข้าอย่างวางใจ” ของฉินจินห้าวพูด
ด้วยนําเสียงอันเย็นเยียบ

มีการปลอบประโลมประดับอยูใ่ นเสียงนัน เพือไม่ให้นาง


ดึงตนเองเข้าไปเกียวข้องต่อหน้าทุกคนเพราะความกลัว
ตาย

เป็ นไปตามทีคาดไว้ เมือได้ยินเช่นนี ภายในใจของป๋ ายซี


เยวียก็มีความหวังเกิดขึน การต่อต้านลดน้อยลงมาก

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับไม่ยอมให้มนั จบลงง่ายๆ เช่นนี

นางเงยหน้าขึนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในแววตาฉายแวว
62
ความเจ็บปวดและพูดกับป๋ ายซีเยวียว่า : “น้องซีเยวีย
เหตุใดถึงขันนีแล้ว เจ้ายังไม่รูจ้ กั กลับตัว หลายปี มานี
ตระกูลมูเ่ คยทําไม่ดีกบั เจ้าหรืออย่างไร เจ้าเองก็จะ
บอกว่าตระกูลมูม่ ีพระคุณต่อเจ้าอย่างมากล้น แต่เจ้า
กลับทําเช่นนี ลวีจือ ไหนเจ้าลองพูดมาซิ”

ป๋ ายซีเยวียหันไปมองสาวใช้ทีวันนีเงียบมาตลอดทังวัน
ในแววตาประกายเต็มไปด้วยความเชือใจ

ลวีจือทีถูกเอ่ยชือก้มหน้าลงและเดินออกมา พลันคุกเข่า
ลง ไม่กล้ามองป๋ ายซีเยวียแม้แต่เสียวสายตาเดียว เพียง
แค่พดู เบาๆ ว่า : “คุณหนู ท่านอยูภ่ ายในจวนตระกูลมู่
มานานหลายปี ทุกคนในจวนตระกูลมูต่ า่ งก็จริงใจกับ
ท่าน นายท่านผูเ้ ฒ่าและคุณหนูใหญ่เองเลียงดูทา่ น
63
ประหนึงหลานแท้ๆ คุณชายเองก็เห็นท่านเป็ นดังพีน้อง
ข้าน้อยทนดูตอ่ ไปไม่ได้แล้ว ทนเห็นท่านมองว่าตระกูลมู่
เป็ นเหตุทาํ ให้คนในครอบครัวของท่านต้องตายจาก ทํา
ให้ทา่ นต้องสูญเสียทุกอย่างทีควรจะเป็ นของท่านไป จน
ต้องกลายเป็ นเด็กกําพร้าทีต้องมาอยูใ่ นจวนตระกูลมูใ่ น
ฐานะผูอ้ าศัย การทีท่านปกปิ ดการฝึ กพลังของท่านก็
แล้วไปเถอะ แต่ตอนนีท่านยังคิดร้ายกับตระกูลมู่ ไม่
สนใจความเป็ นความตายของคนในจวนตระกูลมู่
สําหรับเรืองนีข้าน้อยทนไม่ได้จริงๆ ขอให้ทา่ นโปรดอภัย
ให้ขา้ น้อย!” พูดจบ นางก็กม้ หน้าลงโขกหัวเพือคารวะ
ป๋ ายซีเยวียสุดชีวิต เพียงสองสามที หน้าผากก็เต็มไป
ด้วยโลหิตสีแดงสด

“นังบ่าวชัว ! เจ้าพูดเรืองอะไรของเจ้า? เจ้ากล้าทําเรือง

64
ทรยศเจ้านายเช่นนีได้อย่างไรกัน!”ป๋ ายซีเยวียตะโกน
ด้วยความโกรธ บนฝ่ ามือพลันมีแสงสีเหลืองส่อง
ประกายออกมา

แต่ทว่า องครักษ์ของฉินจินห้าวนันเป็ นถึงสายเขียว นาง


จะสูไ้ ด้อย่างไร

ฉินจินห้าวขมวดคิว

แต่ก็แยกไม่ออกว่า นางกําลังไม่พอใจเรืองทีมูช่ ิงเก


อพยายามบีบบังคับทุกวิถีทางหรือเรืองทีป๋ ายซีเยวียปก
ปิ ดพลังเวท

65
คําพูดของลวีจือ ราวกับทําให้ทกุ คนกระจ่างในเหตุผลที
ป๋ ายซีเยวียเป็ นคนใส่ความตระกูลมู่

ทันใดนันก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตา่ งๆ นานาเกียวกับตัว
นางเกิดขึน

“ในโลกนีมีผหู้ ญิงทีร้ายกาจได้ถงึ เพียงนีเชียวรึ ช่าง


อํามหิตเสียจริง!”

“ไม่ทดแทนบุญคุณก็ช่างเถอะ แต่ทาํ ร้ายผูม้ ีพระคุณ


ช่างเป็ นการทําคุณบูชาโทษเสียจริง”

“เหอะๆ ผูห้ ญิงเช่นนีเลียงเอาไว้ในจวน ก็เหมือนเลียงงู


66
เห่า!”

“งูเห่าอย่างนันรึ เป็ นเหมือนตัวกาลกิณีของจวนเสีย


มากกว่า”

“ข้าว่าหน้าตานางก็งดงามอ่อนโยน แต่ใครจะคิดว่ามีจิต
ใจดังอสรพิษ ตัดสินคนจากภายนอกไม่ได้จริงๆ”

“ผูห้ ญิงเช่นนี ข้าจะถอยหนีให้หา่ งไกล ไม่กล้าเข้าใกล้


หรอก!”

“……”

67
“พวกเจ้าหุบปาก ! หากจะยังกล้าพูด ข้าจะฆ่าทิงเสียให้
หมด ! ” ป๋ ายซีเยวียราวกับเสียสติ รวมพลังสีเหลืองไว้ใน
มือ พลันฟาดออกไปบริเวณทีมีเสียงวิจารณ์ดงั แว่วมา
มากทีสุด

แต่ทว่า ได้ถกู องครักษ์ของฉินจินห้าวหยุดยังเอาไว้ได้ทนั


จึงไม่มีใครเป็ นอะไร

“ทําให้นางหมดสติแล้วเอาตัวออกไป” ฉินจินห้าวสังด้วย
นําเสียงอันเคร่งขรึม

เขาไม่อยากให้ป๋ายซีเยวียโดนกดดันจนและพูดในสิงที
ไม่ควรในขณะทีขาดสติหรอกนะ

68
เหล่าองครักษ์ทาํ ตามคําสังในทันที ตีป๋ายซีเยวียจนหมด
สติไป จากนันก็นาํ ตัวนางออกไป โดยทีมูช่ ิงเกอเองก็ไม่
ได้หา้ ม

ฉินจินห้าวมองนาง แล้วกวาดสายตาอันโหดไปทีลวีจือที
คุกเข้าและนังตัวสันอยูบ่ นพืน

มูช่ ิงเกอแอบยิมอย่างเย็นเยียบ

คนอย่างป๋ ายซีเยวีย จะมีสาวใช้ทีซือสัตย์เช่นนีได้อย่าง


ไรกันเล่า?

69
นางไม่ได้ข่มขู่อะไรลวีจือ เพียงแต่รบั ปากว่าจะยกเลิก
ฐานะทาสของนาง และให้เงินทองจํานวนหนึงกับนาง
นางก็เลือกทีจะเปิ ดเผยความลับของเจ้านายออกมาโดย
ไม่ลงั เล

นางจะทําตามทีรับปากเอาไว้ เพียงแต่ ลวีจือจะมีชีวิต


อยูร่ อดจนได้ไปยกเลิกการเป็ นทาสไหมนัน ไม่เกียวกับ
นาง

ป๋ ายซีเยวียถูกนําตัวออกไป เรืองราววุน่ วายทังหมดก็


เป็ นอันจบลง

70
ตอนที 91-5 ละครหักมุม ! คืนนีข้าจะปั กปิ นให้แก่เจ้า

71
ทว่า เหตุเพราะเรืองราววุน่ วายทีเกิดขึน ทําให้ไม่มีใครที
อยากอยูฉ่ ลองในงานเลียงต่อ ต่างก็หาข้ออ้างขอลากลับ
ก่อน เหตุผลทีฉินจินห้าวจะขอลาไปก่อนนันดูสมเหตุสม
ผล เขาจะต้องไปกราบทูลเรืองราวทีเกิดขึนในวันนีแก่
ฮ่องเต้ แล้วใครกันเล่าจะกล้ารังเขาไว้ได้

หลังจากทีเจ้าอ้วนเซ่าเห็นฉากอันน่าประทับใจ เขาจึงผุด
รอยยิมอย่างพอใจแล้วพูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “ข้าว่าแล้วว่า
นางคนนันไม่ใช่คนดีอะไร ! สายตาคุณอย่างข้านีช่าง
เฉียบแหลมจริงๆ!” พอพูดจบก็ถกู คนตระกูลเซ่าลากตัว
กลับไป

เมือเรืองราวทังหมดจบลงแล้ว มูซ่ งเองก็เดินออกไปโดย


72
ลําพัง

ส่วนมูเ่ หลียนหรงเองก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทําการอันใด
นางจึงเดินจากไปเช่นกัน

หลังจากทีคนในจวนตระกูลมูไ่ ด้สง่ แขกกลับไปหมดแล้ว


จึงพบว่า เสียนอ๋อง ฉินจินเฉินยังไม่กลับ

“มีเรืองอันใดหรือ” มูช่ ิงเกอขมวดคิวถาม

ฉินจินเฉินถามกลับด้วยความเย็นชา : “เหตุใดจึงเลือก
เขา”

73
มูช่ ิงเกอย้อนถามว่า : “เลือกใครรึ?”

“รุย่ อ๋อง เหตุใดจึงคิดร่วมมือกับเขา” ฉินจินเฉินพูดอย่าง


แนบนิง ไม่สามารถเดาความคิดของเขาจากนําเสียงนัน
ได้เลยแม้แต่นอ้ ย

แต่ทว่า ไม่น่าเชือทีมูช่ ิงเกอกลับเข้าใจดี

ราวกับว่า เขากําลังตําหนิทีนางเลือกจะร่วมมือกับคน
เลว ซึงเป็ นการดึงตนเองและตระกูลมูไ่ ปยุง่ กับเรือง
วุน่ วายเหล่านัน

ความจริงแล้วไม่ตอ้ งอธิบายอะไรเลยก็ได้ แต่พอนึกถึง


74
ว่าคนตรงหน้ามิได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด จึงพูดว่า :
“หากอยากจัดการให้มนั ล่มจมก็ตอ้ งทําให้ตายใจก่อน
ข้าอยากเห็นสีหน้าของเขาขณะลงนรกขุมสุดท้ายใน
ตอนทีห่างจากความสําเร็จเพียงแค่ครึงก้าว เกมนีตระกู
ลมูจ่ ะแพ้ไม่ได้” นางยังคงไม่ลืมว่า มูช่ ิงเกอตัวจริง
ตายอย่างไร ไม่ลืมว่าฉินจินห้าวแอบปองร้ายและถึงขัน
สังเก็บนาง ทีสําคัญนางไม่ลืมว่าเขาวางแผนล้มตระกู
ลมูม่ าแล้วกีครังต่อกีครัง

หากกล้ายัวโทสะนางก็ตอ้ งเตรียมใจรับผลกรรม

หากใครกล้าทําร้ายนาง นางจะเอาคืนให้ถงึ ทีสุด

75
ซึงเป็ นกฎการดําเนินชีวิตทังสองชาติภพของนาง

ฉินจินเฉิงเปลียนสายตา พลางพูดว่า : “เจ้าช่างเจ้าคิด


เจ้าแค้นเสียจริง”

“ชมเกินไปแล้ว กระหม่อมหาได้เป็ นคนดีอะไรไม่” มูช่ ิงเก


อน้อมรับคําวิจารณ์คาํ นี

“เจ้าเคยคิดหรือไม่วา่ การทีเจ้าทําเช่นนีอนาคตบัลลังก์
แคว้นฉินจะเป็ นของใคร” ฉินจินเฉินถามอีกครัง

มูช่ ิงเกอถอยหลังสองก้าว มองเขาอย่างพินิจครูห่ นึง


พลางพูดติดตลกว่า : “กระหม่อมรูส้ กึ ว่า หากเป็ น
76
พระองค์ก็ไม่เลว” พูดจบ นางก็หนั หลังกลับและเดินจาก
ไป

“ข้าอย่างนันหรือ” ฉินจินเฉินพึมพําคําหนึง มองตามหลัง


มูช่ ิงเกอ ทันใดนัน เขาก็สง่ เสียงไอออกมาหลายที หลัง
จากหายใจได้คล่องขึน จึงกล่าวว่า : “ข้าจะไม่มีวนั นัง
ตําแหน่งนันอย่างแน่นอน ไม่คคู่ วรและไม่ยินยอมด้วย”

……

ป๋ ายซีเยวียถูกฉินจินห้าวพาตัวออกไปและมูช่ ิงเกอก็ไม่
ได้สนใจแต่อย่างใด

77
เพราะว่า หากยังไม่ได้รบั คํายินยอมจากนาง ฉินจิน
ห้าวจะไม่ทาํ อะไรนางเป็ นแน่

และในตอนนี นางยังไม่มีความคิดทีจะจัดการกับป๋ ายซี


เยวีย

ในคืนนัน ซึงเป็ นคืนทีนางเข้าพิธีสวมหมวก โดยปกติใน


วันพิเศษเช่นนี ผูช้ ายในจวนอืนๆ ต่างก็จะมีการเตรียม
สาวใช้ชนหนึ
ั งเอาไว้ ซึงจะกลายเป็ นพิธีการสุดท้ายใน
การเป็ นชายหนุ่มเต็มตัวของพิธีสวมหมวกนีและต่อไป
หญิงสาวคนนันก็จะกลายเป็ นอนุของชายหนุ่ม

แต่ทว่า เรืองทีมูช่ ิงเกอเป็ นผูห้ ญิง มูซ่ งและมูเ่ หลียนหรง

78
ต่างก็รู ้ เพราะฉะนันจึงไม่มีใครเตรียมการในเรืองนี คน
อืนภายในจวน เพราะไม่รูว้ า่ ความจริงเป็ นอย่างไร จึง
เดาว่าอาจจะเป็ นใครคนใดคนหนึงระหว่างโย่วเหอและ
ฮวาเยวีย

ถึงขนาดว่า ต่างก็ลงพนันกันในเรืองนี

ลืมเรืองราวของป๋ ายซีเยวียไปเสียสนิท

ภายในสวนสระเมฆา มูช่ ิงเกอนังอยูภ่ ายในเรือน มองทัง


สองนางทีเอามืออุดปากเพือเก็บรอยยิม พลางพูดอย่าง
ปวดหัวว่า : “พวกเขากําลังพนันกันเรืองของพวกเจ้า
พวกเจ้ายังมีความสุขกันได้ถงึ ขนาดนี ไม่สนใจชือเสียง

79
ของตนเองแล้วหรือ?”

ฮวาเยวียเดินสะบัดเอวอันพลิวไหวดังงูนาเข้
ํ ามาเกาะตัว
มูช่ ิงเกอเอาไว้ พลางพูดอย่างเย้ายวนว่า : “คุณชาย
พวกข้าก็เป็ นคนของท่านอยูแ่ ล้ว เกียรติยศชือเสียงทัง
หมดก็เป็ นของท่าน คืนนีให้ฮวาเยวียปรนนิบตั ิทา่ นดีหรือ
ไม่เจ้าคะ”

“เจ้าดูซมุ่ ซ่ามเกินไป ข้าว่าคืนนีให้ขา้ เป็ นคนปรนนิบตั ิ


ท่านจะดีกว่า ข้าได้วางพนันให้กบั ตนเอง 200 ตําลึงเงิน
เชียวนะ เพือไม่ให้ขา้ น้อยต้องเสียเงินทีอุตส่าห์เก็บ
สะสมมา คุณชายโปรดเลือกข้าเถิด” โย่วเหอเองก็เดิน
เข้ามาด้วยรอยยิมอันเบิกบานและเกาะแขนอีกข้างของ
มูช่ ิงเกอเอาไว้
80
“หา ! นีเจ้าพนันข้างตัวเองด้วยอย่างนันหรือ ข้าเองก็
เช่นกัน ถ้าเช่นนันเราควรจะทําอย่างไรดี” ฮวาเยวีย
ขมวดคิวในทันที ทําให้ยงดู
ิ งดงามน่าเย้ายวน

“น้องรัก ยอมแพ้พีเสียเถิด เงินทีเจ้าแพ้ ข้าจะเป็ นคนชด


ใช้ให้กบั เจ้าดีไหม” โย่วเหอพูดโน้มน้าว

“ไม่ได้ๆ” ฮวาเยวียส่ายหน้า : “ข้ายืนยันกับพีน้องทุกคน


แล้วว่า คืนนีคุณชายจะต้องเลือกข้าเป็ นแน่”

“หรือเจ้าจะทนเห็นพีสาวต้องแพ้พนันและยังจะต้องโดน
เจ้าพวกคนหยาบนันหัวเราะเยาะอีก” โย่วเหอก้มหน้าลง

81
อย่างเสียใจ

คําพูดของทังสองทําให้มชู่ ิงเกอทีฟั งอยูร่ ูส้ กึ ปวดหัวเป็ น


อย่างมาก

ทันใดนันสองแขนของนางก็งอเข้ามากอดเอวบางของทัง
สองนางเอาไว้แนบอก พลางพูดพร้อมเสียงหัวเราะที
ฉายแววชัวร้ายว่า : “ไม่ตอ้ งแย่งกันแล้ว หากพวกเจ้า
ต้องการ ในคําคืนนีพวกเราก็มาบินเคียงคูก่ นั เลยดีกว่า”

“อะไรคือบินเคียงคู”่ ฮวาเยวียถามด้วยความสงสัย

มูช่ ิงเกอยิมอย่างชัวร้าย โน้มตัวเข้าไปพูดเบาๆ ข้างหู


82
นาง : “ก็หมายความว่า คืนนีพวกเจ้าทังสองจะไม่มีใคร
ออกจากห้องนี อยูป่ รนนิบตั ิขา้ ทังสองคน เตียงกว้าง
เพียงนี พอให้เราทังสามคนนอนอย่างสบายแน่นอน”

คําพูดนีทําให้ทงสองหน้
ั าแดงกําขึนมาในทันที

แม้จะรูด้ ีวา่ เป็ นเพียงแค่คาํ หยอกล้อ แต่ก็อดไม่ได้ทีจะ


รูส้ กึ หวันไหวและจินตนาการภาพตาม

โดยเฉพาะการมองใบหน้าอันงดงามไร้ทีเปรียบของมูช่ ิง
เกอในระยะทีใกล้ชิดเช่นนี สายตาของพวกนางต่างก็
ฉายแววหลงใหล

83
ทันใดนัน ศีรษะของทังสองสาวก็เอียงพับลง พลันหมด
สติไปคาอกของมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอขมวดคิว ในขณะทีเงยหน้าขึนก็พบว่าในห้องได้


มีใครอีกคนเพิมเข้ามา

หลังจากพาทังสองนางไปนอนบนเตียงแล้ว มูช่ ิงเกอก็จดั


เสือผ้าทีมีรอยยับยูย่ ี แล้วลุกขึนพูดกับใครอีกคนทีเพิม
เข้ามาว่า : “เจ้าก็ช่างชอบมาโดยไม่ได้รบั เชิญเสียจริง”

ซือมัวยิมจางๆ บนใบหน้าอันเย้ายวน ฉายแววน่า


หลงใหลขึนมาในทันที

84
เขาไม่ได้ใส่ใจนําเสียงทีแฝงการไม่ตอ้ นรับของมูช่ ิงเก
อ พลันก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ยกมือขวาของตนเองขึน
คลายมือทีกําอยูแ่ บออก : “ให้เจ้า”

“อะไร?” มูช่ ิงเกอก้มหน้าลงมอง เห็นเพียงปิ นหยกสีแดง


เลือดวางนิงอยูบ่ นฝ่ ามือของซือมัว บนตัวปิ นมีการแกะ
สลักรูปดอกไม้ทีนางไม่เคยเห็นมาก่อนช่อหนึง ดอกไม้
นันช่างสวยงามชวนหลงใหล รอยแกะสลักนันไม่ได้ดู
ประณีตอะไรนักแต่กลับดูเป็ นธรรมชาติ

เอกลักษณ์ของปิ นนีคล้ายคลึงกับนางเป็ นอย่างมาก

“ชอบหรือไม่?” ซือมัวถาม

85
มูช่ ิงเกอหยิบปิ นหยกแดงขึนมาจากฝ่ ามือของเขา พินิจ
อย่างละเอียดรอบหนึง บนปิ นคล้ายกับมีโลหิตไหลเวียน
อยู่ บางทีก็เหมือนกับลาวาหลอมเหลวอย่างนัน

“ให้ขา้ ทําไม หากจะให้ของขวัญ ให้ทกั ษะการสงคราม


ระดับสวรรค์ ผลไม้หรือดอกไม้วิญญาณกับข้าจะดีกว่า ”
มูช่ ิงเกอวางปิ นลงบนฝ่ ามือของซือมัว

“ไม่ชอบหรือ” ซือมัวขมวดคิว นิวมือของเขาลูบปิ นหยก


อย่างทะนุถนอมพลางพูดต่อว่า : “หากเจ้าไม่ชอบ วัน
หลังข้าจะทําอันใหม่มาให้ แต่วนั นี เจ้าต้องรับปิ นอันนีไป
ก่อน”

86
“เจ้าแกะสลักมันด้วยตนเองอย่างนันหรือ” มูช่ ิงเกอม
องเขาอย่างฉงนใจ ราวกับว่านางไม่เข้าใจ คนบางคน
ว่างเกินไปหรือไร จึงได้มีเวลาว่างไปทําปิ น

แล้วเหตุใดนางถึงต้องรับเอาไว้ดว้ ย?

ซือมัวไม่ได้ตอบคําถามของนาง แต่บอกกับนางว่า :
“หากเจ้ากลับไปเป็ นผูห้ ญิง เมือสองปี ทีแล้วมันควรจะ
เป็ นพิธีปักปิ นของเจ้าและสิงทีควรประดับนันคือปิ น ไม่
ใช่ทีเกล้าผม”

มูช่ ิงเกอลืมตาโตมองเขา

87
นางลืมพิธีปักปิ นไปเสียสนิท ถึงขันว่า คนในครอบครัว
เองก็ไม่ได้เตรียมปิ นเอาไว้ให้กบั นาง ถึงแม้วา่ นางจะไม่
ใส่ใจ แต่หลังจากทีเห็นคุณตัวประหลาดทําเช่นนี ความ
ซาบซึงใจทีเกิดขึนมันเป็ นเพราะอะไรกัน

“คืนนี ข้าจะปั กปิ นให้กบั เจ้า” ในขณะทีพูด ซือมัวก็ถอด


ทีเกล้าผมทีมูช่ ิงเกอสวมอยูอ่ อก แล้วเสียบปิ นหยกสีแดง
ลงกลางเส้นผมสีดาํ เงาสนิทของนาง

หลังจากนัน เขาก็ถอยหลังสองก้าว ชืนชมผลงานของตน


เอง แล้วพยักหน้าอย่างปลืมปิ ติ : “ช่างงดงามเสียจริง” ที
เขาพูด ไม่รูว้ า่ หมายถึงปิ นหรือคนกันแน่

88
มูช่ ิงเกอตืนจากภวังค์ ดวงตาสบกับตาทีประดับด้วยรอย
ยิมนัน

พอได้สติ นางก็ยกมือขึนมาและกําลังจะดึงปิ นออก แต่


กลับต้องหยุดการกระทําเพราะคําข่มขู่ของใครบางคน

“หากเจ้ายอมใช้มนั วันหลังข้าจะยกทักษะการสงคราม
ระดับสวรรค์หลายเล่มให้กองทหารเขียวมังกรของเจ้าได้
ฝึ ก ผลไม้และดอกไม้วิญญาณนันยิงไม่ตอ้ งพูดถึง”

มูช่ ิงเกอผุดรอยยิมตรงมุมปาก นางยอมแพ้แล้ว

89
เมือเห็นหญิงสาวเลิกต่อต้าน ซือมัวก็เผยรอยยิมอันเบิก
บานเป็ นทีสุด จนดวงตาหยีลงคล้ายดังพระจันทร์เสียว:
“เสียวเกอเอ๋อร์ช่างว่าง่ายจริงๆ!”

ผึง!

‘ว่าง่าย ว่าง่ายกับผีน่ะสิ!’ มูช่ ิงเกอยังคงพยายามอดทน


ทีจะไม่ดงึ ปิ นออก พลางพูดกับบางคนด้วยนําเสียงอัน
เย็นเยียบว่า : “ให้ปินแล้วเหตุใดจึงยังไม่ไปอีก”

“เสียวเกอเอ๋อร์อยากพักผ่อนแล้วรึ?” ในขณะทีซือมัวพูด
ก็คอ่ ยๆ กวาดสายตามองสาวใช้ทงสองที
ั นอนอยูบ่ น
เตียง

90
“ไร้สาระ วันนีทําพิธีมาทังวัน ข้าเหนือยแล้ว” มูช่ ิงเกอไม่
ไว้หน้าเขาเลยแม้แต่นอ้ ย

ราวกับว่า การบุกรุกของซือมัวในคําคืนนี ได้กระตุน้


อาการต่อต้านของนาง จนไม่เหลือความ ‘อ่อนโยน’ ดัง
เช่นคําคืนทีอยูใ่ นเมืองอี อืม สําหรับซือมัว ปฏิกิรยิ าเช่น
นีจากมูช่ ิงเกอก็ถือว่าอ่อนโยนมากพอแล้ว

มูช่ ิงเกอทีร้ายกาจ ราวกับจะเป็ นอะไรทีซือมัวคุน้ เคย


มากกว่า

เขาพยักหน้าพลางพูดว่า : “ได้ ถ้าเช่นนันข้าจะไปก่อน

91
ส่วนคนทีไม่เกียวข้อง ข้าก็จะช่วยพาตัวออกไปเลยดี
กว่า” พูดจบ เขาก็หายไปอย่างไร้รอ่ งรอย

มูช่ ิงเกอหันไปมองบนเตียง ซึงแน่นอนว่าไร้เงาของสาว


ใช้ทงสอง
ั ถึงขันว่า แม้แต่ผา้ ปูเตียงทีพวกนางเคยนอนก็
ถูกดึงออกและกองอยูบ่ นพืน

มูช่ ิงเกอกระตุกยิม พลางกัดฟั นพูดว่า : “เจ้าคนวิปริตน่า


ตาย! เจ้ารักความสะอาด แต่ขา้ ไม่ เหตุใดต้องดึงผ้าปู
เตียงของข้าออกด้วย ฮึ!”

……

92
หนึงคืนผ่านไป มีข่าวคราวเกียวกับการทีป๋ ายซีเยวียใส่
ความมูซ่ งแพร่งพรายออกมาเล็กน้อย

เพียงแต่ ตอนทีมูช่ ิงเกอตืนมาและไปพบมูซ่ งในห้อง


โถงกลาง มูซ่ งก็บอกกับนางว่า วันนีจะต้องไปร่วมงาน
เลียงภายในพระราชวัง โดยมีจดุ ประสงค์หลักคือเรืองที
ราชทูตแคว้นถูอยากจะยืนยันเรืองผูเ้ หมาะสมทีจะ
อภิเษกสมรส

ยืนยันผูเ้ หมาะสมทีจะอภิเษกสมรสอย่างนันหรือ? แคว้น


ฉินยังมีองค์หญิงพระองค์อืนทีเหมาะสมกับการอภิเษก
สมรสหรือ?

93
มูช่ ิงเกอแอบหัวเราะอย่างเย็นเยียบ ไม่เข้าใจการเสแสร้ง
ของราชวงศ์แคว้นฉินเลยจริงๆ

ฮ่องเต้ฉินชางมีพระราชธิดาเพียงสองพระองค์ นอกจาก
องค์หญิงฉางเล่อฉินอีเหยาทีบรรลุนิติภาวะแล้ว องค์
หญิงหย่งฮวนจะเข้าพิธีปักปิ นในอีกครึงปี ขา้ งหน้าและ
ครังนีแคว้นถูจะพาตัวองค์หญิงทีเข้าอภิเษกสมรสกลับ
ไปด้วย

ถ้าเช่นนัน คนทีสามารถอภิเษกสมรสได้ นอกจากฉินอี


เหยาแล้วยังมีใครอีก?

อีกประการหนึง ในขณะทีพูดคุยกับฉินจินห้าว เขายัง

94
เปิ ดเผยว่า หวังให้นอ้ งสาวของตนอภิเษกสมรสและยัง
ถามความคิดเห็นของนาง

ความคิดเห็นอย่างนันหรือ ? นางไม่ใช่เป็ นผูช้ ายจริงๆ


เสียหน่อย ทีจะสามารถแต่งงานมีลกู ได้ ถ้าเช่นนัน เหตุ
ใดจึงต้องไปยุง่ เรืองของฉินอีเหยา บางที รัชทายาท
แคว้นถูผนู้ นอาจจะเป็
ั นคูแ่ ท้ของนางก็เป็ นได้ อีกอย่าง
หากฉินอีเหยาไม่ยินยอม เรืองการอภิเษกนีก็คงจะเป็ น
ไปไม่ได้ไม่ใช่หรือ

ในภาพความทรงจําของมูช่ ิงเกอ ฉินอีเหยาแม้จะไม่ใช่


คนทีจะใช้วิธีบมุ่ บ่ามต่อต้านทุกอย่างทีทุกคนวางเอาไว้
แต่นางก็มีวิธีของตนเอง หากตัวนางไม่ยินยอม การ
อภิเษกสมรสในครังนีก็เป็ นได้เพียงสัญญาการอภิเษก
95
สมรสทีเลือนลอยก็เท่านัน

96
ตอนที 92-1 ลาก่อนป๋ ายซีเยวีย มีคนรนหาทีตายอีก
แล้ว

ภายในห้องคุมขังทีซึงบรรยากาศโดยรอบแฝงกลินอาย
ความน่าสยดสยอง

เพียงสิงเดียวทีสามารถสัมผัสได้ในห้องคุมขังคือความ
เย็นเยียบและเป็ นศูนย์รวมของกลินเหม็นมากมาย

กลินเหม็นเน่าพวกนีทําให้รูส้ กึ ราวกับว่า กําลังมองดูผิว


หนังบนร่างกายของตนเองทีค่อยๆเปื อยและเน่าลง
1
เรือยๆ

ป๋ ายซีเยวียถูกขังอยูท่ ีแห่งนีทังคืน ไม่มีผใู้ ดสนใจนาง คน


ทีนางคิดถึงสุดห้วงหัวใจก็ไม่เคยปรากฏกาย ในเวลานี
นางจมอยูท่ า่ มกลางความหมดหวัง รวมทังการหักหลัง
ของลวีจือและความไม่แยแสของตระกูลมู่ ยิงทําให้
ความแค้นภายในใจของนางเพิมทวีมากขึนกว่าเดิม

เสียงฝี เท้าดังมาจากทางเดินภายนอกห้องคุมขัง

ทันใดนัน ประตูเหล็กทีล็อกอยูก่ ็ถกู เปิ ดออก ผูค้ มุ ผลัก


ประตูเข้ามาภายในห้อง : “ฮึ ดูๆ ไปก็น่าทะนุถนอมดีอยู่
หรอก แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีความคิดทีชัวร้ายอํามหิตได้

2
ถึงเพียงนี คิดจะทําร้ายผูม้ ีพระคุณของตนเอง ผูเ้ ป็ นดัง
เทพคุม้ ครองแคว้นฉินของเรา”

คําพูดเหล่านี กําลังว่านางหรือ?

ป๋ ายซีเยวียโกรธเคืองเป็ นอย่างมาก นางแอบตะคอกใน


ใจ : เจ้าจะรูอ้ ะไร?! ตระกูลมูไ่ ม่ใช่ผมู้ ีพระคุณของข้า
กลับแต่เป็ นศัตรูของข้าต่างหาก ! หากไม่เป็ นเพราะตระ
กูลมู่ ข้าจะกลายเป็ นเด็กกําพร้าทีถูกตระกูลมูเ่ ก็บมา
เลียงหรือ?

แต่ทว่า นางกลับไม่ยอมปริปากพูดอะไรเลย

3
เพราะความสามารถในการสือสารของนางได้ถกู สะกด
เอาไว้ตงแต่
ั ก่อนทีจะถูกนําตัวมาขังแล้ว ไม่เพียงเท่านัน
พลังวิญญาณของนางก็ถกู สะกดเอาไว้และไม่สามารถ
ทําอะไรได้เลย

เพราะกลัวว่านางจะหลุดปากพูดอะไรทีไม่ควรพูดออก
ไปหรืออาจจะหนีไปอย่างนันหรือ

ป๋ ายซีเยวียรูส้ กึ ไม่พอใจ ทําได้เพียงจ้องผูค้ มุ สองคนนัน


ด้วยสายตาทีเต็มเปี ยมไปด้วยความอาฆาตแค้น

“โอ้ ช่างเย่อหยิงเสียจริง หากไม่ใช่เพราะรุย่ อ๋องต้องการ


ตัวเจ้า ข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างสาสม เจ้าจะได้รูว้ า่ ข้า

4
เป็ นใคร” ผูค้ มุ อีกคนเดินเข้ามาสบกับตาคูท่ ีเต็มไปด้วย
ความโหดเ**◌้ยมของป๋ ายซีเยวียพอดี ทันใดนันก็ยกโซ่
ในมือขึน

องค์ชายอยากจะพบนาง ! ในทีสุดองค์ชายก็มา

ข่าวนี ทําให้ป๋ายซีเยวียลืมความโหดเ**◌้ยมของผูค้ มุ
ความสุขได้ปะทุเกิดขึนภายในใจ

ทําให้นางรูส้ กึ ผิดทีสงสัยในตัวของฉินจินห้าวก่อนหน้านี

นางไม่ควรจะสงสัยเขา นางควรเชือว่าหัวใจของเขาเป็ น
ของนาง การทีเขาทําเช่นนัน แน่นอนว่าเขาจะต้องมี
5
เหตุผลของเขา

เกือบไม่มีการต่อต้านใด ๆ ป๋ ายซีเยวียก็รบี ร้อนตามผูค้ มุ


ขังทังสองออกจากห้องขังไป

ถึงขนาดว่า นางเดินแซงไปอยูข่ า้ งหน้าผูค้ มุ

ผูค้ มุ สองคนเดินตามหลังนาง เห็นท่าทางอันเร่งรีบของ


นาง จึงได้เยาะเย้ย

“ดัดจริตเสียจริง พอได้ยินว่ารุย่ อ๋องต้องการจะพบก็รบี


แจ้นออกไปหาแทบไม่ทนั ”

6
“ไม่แน่วา่ หากนางยอมคลานขึนเตียงของรุย่ อ๋อง อาจจะ
สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ก็ได้”

แววตาของป๋ ายซีเยวียพลันเต็มไปด้วยแรงพยาบาท จน
แทบจะอยากฆ่าทังสองทีอยูข่ า้ งหลังเสียให้รูแ้ ล้วรูร้ อด
กันไป แต่ทว่า ตอนนีนางไม่สามารถทําเช่นนันได้ เรืองที
สําคัญทีสุดคือการไปพบฉินจินห้าว

‘หากข้าได้พบกับองค์ชาย จะไม่ปล่อยให้พวกเจ้ารอด
ชีวิตเป็ นแน่’ หลังจากทีสัญญากับตนเองแล้ว ป๋ ายซีเย
วียก็เร่งฝี เท้าให้เดินไวขึนเรือยๆ

...........

7
แต่ทว่า ในความเป็ นจริงแล้วทุกอย่างไม่ได้เป็ นอย่างที
ป๋ ายซีเยวียคิด นางไม่ได้พบกับฉินจินห้าวง่ายๆ

ป๋ ายซีเยวียถูกนําตัวออกจากห้องคุมขัง แต่กลับถูกพา
ตัวเข้าไปในห้องมืดห้องหนึง

ทีนี มีพืนทีเล็กกว่าห้องคุมขัง

“ปล่อยข้าออกไป ! พวกเจ้ากล้าทําเช่นนีกับข้ารึ ระวัง


องค์ชายจะเด็ดหัวพวกเจ้า” ป๋ ายซีเยวียทียืนอยูภ่ ายใน
ห้องมืดตะโกนขึนมา การสะกดการสือสารได้ถกู
คลายออกและในทีสุดนางก็สามารถพูดได้แล้ว

8
ภายในห้อง แสงเดียวทีมีคือแสงจากหน้าต่างบานเล็กที
มีขนาดเท่าศีรษะของเด็กทารก

แสงอันเย็นเยือก ส่องผ่านหน้าต่าง สาดแสงสว่างเข้ามา


ภายในห้องมืดและพาดผ่านตัวป๋ ายซีเยวีย

นางตะโกนเพราะนางรูว้ า่ นอกหน้าต่างบานเล็กบานนัน
จะต้องมีคนเป็ นแน่

และนางก็คิดไม่ผิด

นอกหน้าต่าง มีคนยืนอยูส่ องคน


9
คนหนึงสวมชุดสีแดง อีกคนสวมชุดดํา

มูช่ ิงเกอใช้สายตาอันสว่างไสวมองผ่านหน้าต่างเล็กบาน
นัน กระตุกยิมเบาๆ และถามอย่างขีเล่นว่า : “พระองค์
พากระหม่อมมาเพือดูอะไรหรือ?”

ฉินจินห้าวหันไปมองนาง เป็ นอีกครังทีได้ใกล้ชิดกับมูช่ ิง


เกอมากถึงเพียงนี ความเกลียดในใจของเขาดูเหมือนว่า
จะลดลงมาก ถึงขันทีว่า รูส้ กึ ว่านางก็ไม่ได้น่ารังเกียจแต่
อย่างใด

ไอสังหารทีแฝงอยูก่ ่อนหน้านี ก็ราวกับจะลดลงไปมาก

10
เช่นกัน

“ทีเรียกให้ชิงเกอมา แน่นอนเป็ นเพราะว่าต้องการจะรูว้ า่


เจ้าจะจัดการกับนางอย่างไร” นําเสียงของฉินจินห้าว
ราวกับว่าหญิงสาวทีถูกขังอยูภ่ ายในนันไม่ใช่ผหู้ ญิงของ
เขาและเป็ นเพียงแค่คนแปลกหน้า

“พระองค์ทรงหักพระทัยได้ลงหรือพ่ะย่ะค่ะ” มูช่ ิงเกอยิม


กว้างมากขึนกว่าเดิม

รอยยิมดังเช่นยาพิษนัน ทําให้เขาอดไม่ได้ทีจะรูส้ กึ ตืน


ตระหนกไปครูห่ นึง แล้วจึงพูดต่อว่า : “เมือเทียบกับเจ้า
แล้ว แน่นอนว่าข้าทําได้”

11
ในรอยยิมอันสดใสของมูช่ ิงเกอแฝงความเย็นเยียบ

นําเสียงอันเยือกเย็นออกจากริมฝี ปากสีแดงกํา :
“พระองค์ทรงมีพระทัยทีกว้างขวางยิงนัก”

ฉินจินห้าวตกใจทีหนึงและรูส้ กึ ตัวในทันทีวา่ เมือครูน่ ีตน


เองแสดงท่าทีเสียการควบคุมออกไป

แต่ทว่าเขากลับไม่ได้คิดจะปิ ดบังอะไร เพียงแต่เบียง


ประเด็น : “ในเมือเจ้าและข้าร่วมมือกันอย่างจริงใจแล้ว
แน่นอนว่าข้าก็ตอ้ งแสดงความจริงใจของตนเองออกมา”

12
ถ้าเช่นนันป๋ ายซีเยวียคือความจริงใจทีเขามอบให้อย่าง
นันรึ?

มูช่ ิงเกอแอบหัวเราะเยาะอย่างเย็นเยียบในใจ ก่อนจะ


หันไปมองฉินจินห้าวทีเลือดเย็นไร้ความปรานีอีกหน

ป๋ ายซีเยวียตังใจคัดสรรเป็ นอย่างดี แต่สดุ ท้ายกลับเลือก


ผูช้ ายทีมีอปุ นิสยั เช่นนี รสนิยมนันดีเยียมจนนางเองมิ
อาจกล้าชมเชย

พยักหน้าเบาๆ จากนันมูช่ ิงเกอจึงพูดพร้อมรอยยิมว่า :


“ถ้ากระหม่อมต้องการให้นางตายล่ะพ่ะย่ะค่ะ?” นางจะ
ไม่ยอมปล่อยคนทีต้องการจะทําร้ายตระกูลมูไ่ ปง่ายๆ

13
หรอกนะ

“นีเป็ นเรืองทีง่ายมาก” ฉินจินห้าวตอบอย่างมีความสุข


โดยไม่แสดงความไม่ยินยอมหรือลังเลใจเลยแม้แต่นอ้ ย

สายตาของฉินมูช่ ิงเกอแปรเปลียนเป็ นความขบขันและ


พูดกับเขาว่า : “แต่นางยังคงใฝ่ หาเพียงแค่ทา่ นมิใช่หรือ
พ่ะย่ะค่ะ”

ฉินจินห้าวพูดอย่างภาคภูมิใจว่า : “ใต้หล้านี หญิงทีรัก


ข้ามีมากมาย ข้าจะตอบรับทุกๆ คนได้อย่างไร? ในเมือ
นางจิตใจเลวทราม คิดจะทําร้ายตระกูลมู่ แน่นอนว่าข้า
ควรจะลงโทษ หากแม้ชิงเกอยินยอมทีจะไว้ชีวิตนาง

14
นางก็มิอาจหนีรอดไปจากกฎหมายแคว้นฉินได้”

ท่าทางอันมีศีลธรรมเปี ยมล้น ทําให้มชู่ ิงเกอทีมองอยู่


รูส้ กึ รังเกียจ

หลังจากทีเขาพูดจบ มูช่ ิงเกอก็พลันยิมเบิกบานดัง


ดอกไม้และพูดว่า : “ถ้าเช่นนันรุย่ อ๋องก็ทรงลงมือจัดการ
ด้วยองค์เองได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินจินห้าวประหลาดใจครูห่ นึง ราวกับว่าคิดไม่ถงึ ว่ามูช่ ิง


เกอก็จะหยิบยืนคําร้องขอเช่นนี

“ชิงเกอให้ขา้ เป็ นคนลงมืออย่างนันหรือ” ฉินจินห้าวถาม


15
เพือความแน่ใจ

มูช่ ิงเกอพยักหน้า ก่อนจะพูดอย่างปลงๆ ว่า : “ในเมือ


น้องซีเยวียรักและชืนชมรุย่ อ๋องมากถึงเพียงนี แน่นอนว่า
คงอยากจะตายด้วยนํามือของรุย่ อ๋องและอาจจะเป็ นวิธี
การทีดีทีสุดในการส่งนางไปสูส่ คุ ติ”

แววตาของฉินจินห้าวแฝงความมืดมน ราวกับว่ากําลัง
คาดเดาความจริงใจจากคําพูดของนาง

ทันใดนัน เขาก็พลันเผยรอยยิมและพูดว่า : “ได้ หากชิง


เกอต้องการ ข้าก็จะทําตามคําขอของเจ้า” พูดจบเขาก็
หันหลังและเดินจากไป

16
มูช่ ิงเกอมองเขาจากไปจนลับสายตา แล้วหันกลับไป
มองหน้าต่างเล็กบานนัน

เงาของหน้าต่างตกกระทบบนใบหน้าอันสวยงาม จน
บดบังใบหน้าของนาง สิงเดียวทีทําให้ลืมไม่ลง คือรอย
ยิมตรงมุมปากทีดูยมและไม่
ิ ยมในเวลาเดี
ิ ยวกัน

‘น้องซีเยวีย การตายเช่นไรจะเจ็บปวดได้เทียบเท่ากับ
การตายด้วยนํามือของคนทีเรารัก ข้าไม่ได้เป็ นคนดีมา
ตังแต่ไหนแต่ไร หลังจากทีลงนรกแล้ว ก็จาํ ของขวัญที
ข้ามอบให้กบั เจ้าให้ขนใจ”

17
‘การจะลงโทษ ไม่จาํ เป็ นจะต้องลงโทษร่างกาย ทําลาย
ความหวังของนาง ทรมานจิตใจ จะยิงทําให้นางลืม
ความเจ็บปวดนันไม่ลง’ มูช่ ิงเกอพึมพําเบาๆ รอยยิม
ชัดเจนมากยิงขึนเมือห้องมืดถูกเปิ ดออก

เมือประตูหอ้ งมืดถูกเปิ ดออก แสงสว่างไม่รอช้าทีจะจู่


โจมเข้าไป สาดส่องความสว่างไปทัวพืนทีกว่าครึงของ
ห้องมืด

ป๋ ายซีเยวียเงยหน้าขึนมอง คนทีนางคิดถึงสุดหัวใจ
ปรากฏกายขึนตรงประตู เงาร่างสีดาํ ยังคงสูงโปร่งเช่น
เดิม เค้าโครงของใบหน้าอันน่าเย้ายวนก็ยงั คงเย็นชา
และสูงส่ง จนทําให้นางอยากจะลืมก็ลืมไม่ลง

18
“ฝ่ าบาท!” ทันทีทีฉินจินห้าวปรากฏตัวขึน ความทุกข์ใจ
และความเกลียดแค้นทังหมดภายในใจของป๋ ายซีเยวียก็
อันตรธานหายไป เหลือเพียงความรัก ทีทําให้นางโผเข้า
สูอ่ อ้ มกอดของคนทีนางคิดถึงอย่างสุดหัวใจโดยไม่สนใจ
สิงอืนใด

แขนทังสองข้างของนางกอดรัดเอวของฉินจินห้าวไว้แน่น
ใบหน้าของนางแนบกับหน้าอกของเขา จนสัมผัสได้ถงึ
อุณหภูมิและจังหวะการเต้นของหัวใจของเขา นางหลับ
ตาทังคูล่ งอย่างมีความสุข : “องค์ชาย ในทีสุดพระองค์ก็
มา ซีเยวียรูว้ า่ องค์ชายจะไม่ทอดทิงซีเยวีย”

ไม่มีการกล่าวโทษฉินจินห้าวทีเปลียนแปลงแผนการ
19
อย่างกะทันหันและไม่ได้กล่าวโทษทีเขาลงโทษตนเอง
โดยเอาตัวมาขังไว้ในคุก

20
ตอนที 92-2 ลาก่อนป๋ ายซีเยวีย มีคนรนหาทีตายอีก
แล้ว

นับตังแต่วินาทีทีชายหนุ่มปรากฏตัว นางก็รูใ้ นทันทีเลย


ว่าเพียงแค่ได้ครองรักอยูก่ บั ชายหนุ่ม ให้นางทําสิงใด
นางก็ยอม แม้จะต้องถูกคนทังโลกตราหน้าว่าเป็ นคนเลว
ร้ายอย่างไรนางก็ยอม

นางหลงเข้าไปอยูใ่ นห้วงความคิดของตัวเองจนไม่ทนั ได้


สังเกตเห็นว่าฉินจินห้าวไม่ได้พดู จาไพเราะและปฏิบตั ิ

21
ต่อนางด้วยความอ่อนโยน เพือตอบสนองต่อความใกล้
ชิดทีนางมอบให้เลย

“องค์ชาย ซีเยวียกลัวเหลือเกิน” นางกอดเอวของฉินจิน


ห้าวแน่นมากกว่าเดิม ป๋ ายซีเยวียแทบจะอดไม่ได้อยาก
จะฝังร่างเข้าไปอยูใ่ นร่างของฉินจินห้าว

“อีกไม่นานหรอก เจ้าไม่ตอ้ งกลัว" ในทีสุด ฉินจินห้าวก็


เอ่ยปากพูด

ป๋ ายซีเยวียทีอยูใ่ นอ้อมแขนของเขายิมด้วยรอยยิมอัน
อ่อนหวาน : “ตราบใดทีมีองค์ชายอยู่ ซีเยวียไม่กลัว”

22
“ซีเยวีย ข้าต้องการจะส่งเจ้าไปยังสถานทีแห่งหนึง” ฉิน
จินห้าวพูดขึนอีกครัง

ต้องจากไปหรือ?

ด้วยความฉงนใจ ป๋ ายซีเยวียเงยหน้าขึนจากอ้อมกอด
ของเขาและมองร่างอันสูงโปร่ง

“องค์ชายจะให้หม่อมฉันไปไหนเพคะ” จากนัน นางก็


แสดงความตืนตระหนกออกมาอีกหน แต่กลับพูดอย่าง
เข้าใจว่า : “ด้วยฐานะในตอนนีของซีเยวียแล้ว เป็ น
ความจริงทีว่าไม่ควรอยูใ่ นลัวตูแห่งนี องค์ชายเลยจะส่ง
ตัวหม่อมฉันออกจากลัวตูใช่หรือไม่ ไม่เป็ นไรเพคะ เพียง

23
แค่ไม่กระทบต่อการใหญ่ของพระองค์ หากเมือใดทีทรง
มีเวลา ทรงไปเยียมซียวียบ้างก็เพียงพอแล้วเพคะ”

เห็นว่านางเข้าใจผิด ฉินจินห้าวเองก็ไม่ได้ให้คาํ อธิบาย


แต่อย่างใด เพียงแค่เก็บอาการ ค่อยๆยกมือขึนเพือลูบ
ไล้ลาํ คออันขาวและเนียนนุ่มของนาง แล้วถูไปมาจนผิว
หนังของนางกลายเป็ นสีแดงกํา

“องค์ชาย !” ป๋ ายซีเยวียก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย
แม้วา่ จะไร้ซงเครื
ึ องประทินโฉม แต่ก็ยงั คงงดงามน่าเย้า
ยวน

แต่ทว่า ครังนี ฉินจินห้ามกลับไม่ได้หวันไหวเลยแม้แต่

24
น้อย เขาค่อยๆ เพิมแรงมือ เสียงอันเย็นเยียบไร้ทีเปรียบ
ดังขึน : “ซีเยวีย เหตุใดเจ้าถึงไม่เคยบอกข้าว่า พลังเวท
ของเจ้าอยูใ่ นสายเหลือง”

“หม่อมฉัน...... พระองค์โปรดฟั งหม่อมฉันอธิบาย


ก่อน......อึก.....” ป๋ ายซีเยวียรีบอธิบาย แต่กลับพบว่าลํา
คอของตนเองรูส้ กึ แน่นและไม่สามารถพูดอะไรได้อีกเลย

แววตาอันเต็มเปี ยมไปด้วยความตกใจจ้องมองฉินจิน
ห้าว ใบหน้าทีดูหล่อเหลาหมดจดแต่กลับไร้ความรูส้ กึ
สะท้อนอยูใ่ นดวงตาอันตืนตระหนกคูน่ นั

ฉินจินห้าวส่ายหน้าช้าๆ : “ข้าไม่ตอ้ งการคําอธิบายของ

25
เจ้า ข้ารูเ้ พียงว่าเจ้าไม่ไว้วางใจในตัวข้าและหวาดระแวง
ในตัวข้า”

‘ไม่ใช่อย่างนัน ไม่ใช่อย่างนัน หม่อมฉันเพียงแค่ยงั ไม่มี


โอกาสได้พดู !’ ป๋ ายซีเยวียพยายามดินรนอย่างสุดชีวิต
แต่กลับไม่สามารถพูดอะไรได้เลยแม้แต่คาํ เดียว

มือทังคูข่ องนาง พยายามดึงมือใหญ่ของฉินจินห้าวทีบีบ


คอนางเอาไว้ แต่เพราะพลังเวทได้ถกู สะกดเอาไว้ทาํ ให้
ไม่สามารถใช้ได้

ครูห่ นึงหลังจากนัน ใบหน้าของนางก็แดงกํา ความรูส้ กึ


นึกคิดก็คอ่ ยๆ ลดน้อยลง

26
ฉินจินห้าวค่อยๆ ยกตัวนางขึนมา นางทําได้เพียง
พยายามใช้นิวเท้าดันพืนเอาไว้ เพือทีจะพยุงตัวเองเอา
ไว้ ดินรนเพือโอกาสในการหายใจเฮือกสุดท้ายของตน
เอง

“การทีเจ้าทําเช่นนีทําให้ขา้ ผิดหวังเป็ นอย่างมาก ในเมือ


ไม่เชือใจข้า เจ้าจะมาเรียกร้องความสนใจจากข้าไปเพือ
อะไร เจ้าเองก็รูด้ ีวา่ ข้าเกลียดการหักหลังเป็ นทีสุด สิงที
เจ้าทํา มันต่างอะไรกับการหักหลัง” ฉินจินห้าวพูดด้วย
นําเสียงอันเย็นเยียบ

‘ต่างสิ ! แน่นอนว่าต้องต่าง ! ข้ารักท่านสุดหัวใจ แน่


นอนว่าจะไม่ทาํ ร้ายท่าน!’ ป๋ ายซีเยวียนําตาตก นางมอง
27
ฉินจินห้าวด้วยแววตาเต็มไปด้วยการร้องขอ การแก้ตวั
ความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวด.........

เสียดาย ทีไม่สามารถทําให้ฉินจินห้าวหวันไหวได้เลยแม้
แต่นอ้ ย

มูช่ ิงเกอมองภาพทังหมดผ่านหน้าต่าง คําพูดของฉินจิน


ห้าว ทําให้รอยยิมนางเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย

จะฆ่าใครสักคน ยังจะทําเหมือนตัวเองเป็ นคนดีมี


คุณธรรมอีก ผลักภาระความผิดทังหมดไปให้หญิงสาว
ช่าง ‘กล้าทํากล้ารับ’ เสียจริงๆ!

28
‘ป๋ ายซีเยวีย ให้โอกาสเจ้าได้มองเห็นโฉมหน้าทีแท้จริง
ของชายหนุ่มทีเจ้ารักสุดหัวใจชัดๆเป็ นครังสุดท้าย ชาติ
หน้าจําไว้วา่ ต้องรูจ้ กั มองคน เจ้าไม่ตอ้ งขอบใจข้ามากก็
ได้ ข้าเพียงแค่ทาํ บุญ’ มูช่ ิงเกอพูดเบาๆ แววตาฉายแวว
ความเกียจคร้าน

“กล้าหักหลังข้าหรือ ถ้าเช่นนัน วันนีข้าก็จะส่งเจ้าไป


ก่อน อย่าโทษข้า เพราะเจ้าทําผิดต่อข้าก่อน” ฉินจินห้าว
บีบสุดแรงเกิด

กร็อบ—

เสียงกระดูกหักดังออกมาจากห้องมืด

29
ในดวงตาของป๋ ายซีเยวีย นอกจากความตืนตระหนก
แล้วก็คือความโกรธเกลียดและความผิดหวัง

นําตาหยดสุดท้ายมีสีชมพูปะปนอยู่ ราวกับเป็ นสีจาก


โลหิต มันไหลออกมาจากดวงตาและไหลผ่านใบหน้าลง
บนหลังมือของฉินจินห้าว

เขาคลายมือออกอย่างโหดเ**◌้ยม ซึงแน่นอนว่าร่างของ
ป๋ ายซีเยวียก็รว่ งลงพืนอย่างไร้เรียวแรง หลังจากทีสะบัด
นําตาบนหลังมืออย่างแรงแล้ว เขาก็สงการว่
ั า : “ทหาร
เอาศพนางผูห้ ญิงคนนีออกไปเป็ นอาหารของสัตว์ป่าข้าง
นอก”

30
ทหารลากตัวป๋ ายซีเยวียออกจากห้องมืด

หลังจากทีฉินจินห้าวหันหลังและเดินออกมา เขาก็ได้
ล้างมือหลายรอบ พร้อมเปลียนชุดใหม่ทีสะอาดสะอ้าน
แล้วจึงไปพบกับมูช่ ิงเกอ

ไอร้อนทีมาจากถ้วยนําชา ทําให้ใบหน้าอันงดงามของ
นางยิงดูงดงามจับใจ จนทําให้คนมองไม่สามารถละสาย
ตาได้

ในวินาทีนนั ฉินจินห้าวรูส้ กึ ว่า ในส่วนลึกของหัวใจตน


เองราวกับถูกสะกิด พลันมีเสียงหนึงดังขึน : หากคนผูน้ ี

31
เป็ นหญิงคงจะดีไม่นอ้ ย ข้าจะทําทุกวิถีทางเพือเอาตัว
นางมาอยูใ่ นอ้อมกอด กอดรัดพัวพันนางทังวันทังคืน !

มูช่ ิงเกอรูอ้ ยูแ่ ล้วว่าฉินจินห้าวเข้ามา แต่กลับพบว่าเขา


ยืนนิงไม่ขยับ

พอเงยหน้าขึน ก็เห็นท่าทางทีอึงงันตาค้างของเขา

ในแววตากระจ่างพลันเยียบเย็น นางคลายมือจากถ้วย
นําชา มือกระทบกับขอบถ้วยเกิดเสียงดังจึงดึงสติของ
ฉินจินห้าวกลับมา

พอฉินจินห้าวได้สติ ก็สบกับตาดวงทีเยือกเย็นไร้ที
32
เปรียบ พลางฝื นรอยยิม เดินเข้าไปหานาง : “ป๋ ายซีเยวีย
ตายแล้ว ชิงเกอพอใจแล้วหรือยัง”

มูช่ ิงเกอยิมอย่างขบขัน วางถ้วยนําชาในมือลง : “คน


ตายไปแล้ว เรืองทังหมดทีติดค้างก็ถือว่าหมดสินต่อกัน
คนผูน้ ีจะไม่มีสว่ นเกียวข้องกับกระหม่อมอีกต่อไป”

“ชิงเกอเป็ นคนทีสามารถแยกแยะบุญคุณและความแค้น
ได้ ในเรืองนีข้าชืนชมเจ้าเป็ นอย่างมาก

ทันใดนัน มูช่ ิงเกอก็ได้พดู ขึนว่า : “เรืองราวทังหมดก็ได้


จบลงแล้ว กระหม่อมขอทูลลาก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

33
“ประเดียวก่อน” ไม่รูว้ า่ เพราะเหตุใด ฉินจินห้าวกลับไม่
ยอมให้มชู่ ิงเกอจากไปโดยง่าย เขาส่งเสียงห้าม มูช่ ิงเก
อจึงต้องหันกลับไป เมือเห็นสายตาทีเต็มเปี ยมไปด้วยคํา
ถาม ท่ามกลางความอึดอัด เขาพูดเพียงว่า : “เรืองของ
ป๋ ายซีเยวียก็ได้จบลงแล้ว เราก็ควรจะพูดคุยและวาง
แผนการใหญ่ของเราร่วมกันมิใช่หรือ”

มูช่ ิงเกอกระตุกยิมเบาๆ : “เรืองราวพวกนี รุย่ อ๋องไม่จาํ


เป็ นต้องถามกระหม่อม เรืองนีเป็ นเรืองของเหล่าที
ปรึกษา”

“ข้าเองก็อยากฟั งความคิดเห็นของเจ้า” ฉินจินห้าวยังคง


ถามอย่างไม่อาย

34
มูช่ ิงเกอยิม เดินไปข้างหน้าสองก้าว มองฉินจินห้าวและ
พูดว่า : “รุย่ อ๋องทําให้รชั ทายาทและฮ่องเต้เกิดเรือง
บาดหมางกันแล้วมิใช่หรือ เหตุใดจึงไม่ทาํ ให้ปัญหามัน
ใหญ่โตมากขึน และทําให้รชั ทายาทคิดว่าฮ่องเต้จะปลด
ตําแหน่ง จนต้องรีบลงมือกับฮ่องเต้เล่า ถึงตอนนัน รุย่
อ๋องก็นาํ กองทหารตระกูลมูเ่ ข้าช่วยฮ่องเต้ออกมาจาก
อันตราย บัลลังก์นนจะยั
ั งมีใครแย่งชิงกับท่านได้อีก”

ฉินจินห้าวตาเป็ นประกาย คําพูดของมูช่ ิงเกอทําให้เขา


คิดแผนการไปต่างๆ นานา

ในความเป็ นจริงแล้ว เขาเพียงแค่ตอ้ งการหาเหตุผลให้มู่


ชิงเกออยูต่ อ่ แต่กลับไม่ติดว่านางจะวางแผนจริงๆ ทัน
35
ใดนัน เขาก็เผยรอยยิมทีฉายแววจริงใจออกมา : “ชิงเก
อช่างฉลาดปราดเปรืองจริงๆ มีความสามารถทีพลิกฟ้า
ถึงเพียงนี ทีผ่านมากลับเก็บซ่อนเอาไว้”

ตอนแรกฉินจินห้าวคิดว่าจะต้องต่อสูก้ บั รัชทายาทอีก
นาน รอให้ฮ่องเต้หมดความอดทนและเปลียนตําแหน่ง
รัชทายาท แต่กลับไม่คิดว่า วิธีของมูช่ ิงเกอทังง่ายกว่า
และได้ผลลัพธ์ทีดีกว่า

หากแผนการสําเร็จ ไม่แน่วา่ เขาจะสามารถข้าม


ตําแหน่งรัชทายาทและได้ขนเป็
ึ นฮ่องเต้องค์ใหม่เลย

พอคิดได้เช่นนี ฉินจินห้าวก็ยงตื
ิ นเต้นมากขึนกว่าเดิม

36
เขาไม่สนใจมูช่ ิงเกออีก รีบกลับไปหาเหล่าทีปรึกษาของ
ตนเอง เพือจัดการวางแผนตามทีมูช่ ิงเกอบอก จากนัน
จะได้ลงมือดําเนินการตามแผนโดยเร็ว

มองฉินจินห้าวทีจากไปอย่างเร่งรีบ สายตาของมูช่ ิงเก


อก็ฉายแววเย็นยะเยือก พลางผุดรอยยิมเย็นชาตรงมุม
ปาก

หลังจากทีฉินจินห้าวลับสายตาไป นางก็ออกจาก
ตําหนักรุย่ อ๋อง

37
ตอนที 92-3 ลาก่อนป๋ ายซีเยวีย มีคนรนหาทีตายอีก
แล้ว

38
หลังจากทีออกจากตําหนักรุย่ อ๋อง มูช่ ิงเกอก็ขีเพลิง
รัตติกาลมุง่ ไปยังวังหลวง

ผูท้ ีตามหลังนางคือองครักษ์เขียวมังกรทีนําทัพโดยมัว
หยาง

คนจํานวนยีสิบกว่าคน ขีอาชาเพลิง เดินอย่างเชืองช้า


อยูบ่ นถนนสายหลักของแคว้นฉินไม่รบกวนประชา
ราษฎร์ ทว่าเหล่าประราษฎร์ก็ยงั คงหลีกทางให้แก่พวก
เขา

39
พอถึงหน้าประตูวงั หลวง รถม้าหรูหราสองคันก็มาขวาง
ทางเอาไว้

รถม้าสองคันนัน มูช่ ิงเกอคุน้ เคยเป็ นอย่างดี

นางกะพริบตาหลายที แล้วจึงดึงเชือกเพือให้เพลิง
รัตติกาลหยุดลง แต่ไม่ได้ลงจากหลังม้าแต่อย่างใด

พอนางหยุด มัวหยางและทุกคนก็หยุดเช่นกัน

บนถนนอันกว้างใหญ่ ทังสองฝ่ ายมองหน้ากัน โดยไม่มี


ใครเอ่ยปากพูดอะไรก่อน

40
ครูห่ นึง นางกํานัลทียืนอยูบ่ ริเวณข้างประตูรถม้าเดินเข้า
ใกล้หน้าต่างรถม้า จากนันก็เดินเข้าไปหามูช่ ิงเกอ

เมือมาหยุดอยูต่ รงหน้าเพลิงรัตติกาล นางมองด้วย


ความหวาดกลัวครูห่ นึง แล้วจึงพูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “คุณ
ชาย องค์หญิงของข้าต้องการคุยกับท่านเป็ นการส่วนตัว
คงไม่รบกวนเวลาของท่านนานนัก”

มูช่ ิงเกอก้มลงมองนาง คิดทบทวนสักพัก แล้วจึงพยัก


นางพลางพูดว่า : “ได้”

นางกํานัลได้รบั คําตอบจึงเดินกลับไป ครูห่ นึง รถม้าจึง


ค่อยๆ ใกล้เข้ามา

41
มูช่ ิงเกอเองก็ขีเพลิงรัตติกาลมุง่ ไปยังรถม้า

พอทังคูเ่ ดินเข้ามาเผชิญหน้ากัน นางกํานัลและองครักษ์


ทีอยูบ่ ริเวณนันก็พลันกระจายออกไปรอบๆ อย่างรูง้ าน
มูช่ ิงเกอเพียงยกมือขึน มัวหยางก็นาํ องครักษ์เขียวมังกร
ถอยออกไป คนและม้าของทังสองฝ่ ายต่างก็ดู
สถานการณ์บริเวณโดยรอบอย่างเงียบๆ เพือไม่ให้ผใู้ ด
เข้าไปรบกวน

ไม่นาน ข้างตัวมูช่ ิงเกอและบริเวณรอบรถม้า ก็ไม่มีใคร


อยูเ่ ลย

42
แต่ทว่า นางก็ยงั คงไม่ลงจากหลังม้า ยังคงนังอยูบ่ นหลัง
อานของอาชาเพลิง ซึงอยูภ่ ายนอกรถม้า

ภายในรถม้า ในแววตาของฉินอีเหยาเผยให้เห็นความ
เจ็บปวดจางๆ รถม้าทีปิ ดบังตัวนางอยู่ ปิ ดกันสายตา
ของทังคูใ่ ห้แยกจากกันโดยสินเชิง

“เจ้าเกลียดข้าหรือ?” นางพูดเบาๆ

เสียงอันเย็นเยือกทีอยูใ่ นความทรงจําได้ดงั ขึน มูช่ ิงเกอต


อบอย่างเย็นชาว่า : “ไม่เลย”

“ถ้าเช่นนัน เหตุใดจึงต้องถอนหมัน” นีเป็ นครังแรกทีฉินอี


43
เหยาถามนางเช่นนี

มูช่ ิงเกอเคยคิดว่า ด้วยความหยิงยโสของฉินอีเหยาแล้ว


บางทีชาตินีนางอาจจะไม่มีวนั ถามคําถามนีกับนาง บาง
ทีอาจจะถึงขันเห็นนางเป็ นคนแปลกหน้าไปเลย

ในตอนนี ดูเหมือนว่าทุกอย่างทีนางคิดไว้จะเหนือความ
คาดหมาย

“กระหม่อมไม่คคู่ วรกับพระองค์” ครูห่ นึง มูช่ ิงเกอก็พดู


ขึน

‘เจ้าไม่ใช่ขา้ เจ้าจะรูใ้ จข้าได้อย่างไร?’ ฉินอีเหยาอยาก


44
จะตะโกนคํานีออกมาดังๆ แต่ทว่าสุดท้ายคําพูดเหล่านีก็
ถูกนางเก็บเอาไว้

และแล้วความเงียบก็ได้ครอบงําพวกนางทังคู่

หลังจากทีจิตใจของฉินอีเหยาสงบลง นางจึงเอ่ยว่า : “ก็


ดี การหมันหมายในครังนี เป็ นความต้องการของเสด็จ
ย่ามาตังแต่แรก”

“ถ้าเช่นนัน ก็ขอให้องค์หญิงทรงมีความสุข” เวลาผ่านไป


ครูใ่ หญ่ แต่มชู่ ิงเกอกลับพูดกลันกรองคําพูดออกมาได้
เพียงเท่านี

45
นัยน์ตาของฉินอีเหยาเอ่อล้นไปด้วยนําตาในทันที นาง
กัดฟั นแน่นกว่าจะสามารถห้ามนําตาไม่ให้ไหลลงมาได้

นางกํากระโปรงของตนเองไว้แน่นพลางพูดว่า : “เจ้ารู ้
หรือไม่วา่ ราชทูตทีมาจากแคว้นถูนนมี
ั จดุ ประสงค์อนั ใด”

มูช่ ิงเกอก้มหน้าลง : “ท่านปู่ บอกข้าแล้ว”

‘เขารูจ้ ริงๆ ด้วย แต่ก็ไม่เคยคิดทีจะไปหานาง’

ฉินอีเหยาไม่สามารถอธิบายความรูส้ กึ ในตอนนีของตน
เองได้ ทําได้เพียงพูดอย่างทุกข์ใจว่า : “พวกเขามาเพือสู่
ขอองค์หญิงแคว้นฉิน หากสําเร็จและมีการอภิเษกสมรส
46
เกิดขึน แคว้นถูและแคว้นฉินก็จะพักรบกันเป็ นเวลา 50
ปี ชีวิตองค์หญิงองค์หนึงแลกกับความสงบตลอด 50 ปี
ของประชาราษฎร์ การแลกเปลียนนีถือว่าคุม้ ค่าแล้ว ใช่
หรือไม่”

คําพูดทีราวกับเป็ นคําถามนี ทําให้มชู่ ิงเกอใช้ความเงียบ


ในการตอบกลับ

นางดูถกู วิธีการใช้ผหู้ ญิงในการแลกกับสันติเช่นนี แต่


ทว่าจะทําอย่างไรได้ จะให้ฉินอีเหยาปฏิเสธอย่างกล้า
หาญ แล้วเรืองราวต่อจากนีล่ะ นางจะต้องรับผิดชอบ
โดยการตอบรับความรูส้ กึ ทีฉินอีเหยามีตอ่ นางหรือ

47
“ในแคว้นฉิน ผูท้ ีเหมาะสมแก่การอภิเษกสมรสก็มีเพียง
ข้าผูเ้ ดียว หากเปรียบเทียบกับหย่งฮวนแล้ว ข้าสมควรที
จะไปมากกว่า” ฉินอีเหยาพูดขึนอีกครัง

มูช่ ิงเกอแอบพยักหน้า ยอมรับว่าสิงทีฉินอีเหยาพูดนัน


เป็ นความจริง

หากจําเป็ นจะต้องอภิเษกสมรส นางเป็ นคนทีเหมาะสม


ทีสุดจริงๆ ทังรูปลักษณ์รวมถึงความสามารถ อุปนิสยั
ล้วนสมบูรณ์แบบทุกด้าน

ความสงบของมูช่ ิงเกอ ทําให้ฉินอีเหยารูส้ กึ ใจหายและ


พูดว่า : “คืนนี ภายในงานเลียง เสด็จพ่อของข้าจะตัดสิน

48
ใจเรืองนี”

มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึน พลางถามว่า : “ทีองค์หญิงมา


หากระหม่อม มีเรืองอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ” หากฉินอีเหยา
ไม่ยินยอมทีจะอภิเษกสมรส ก็ดี นางจะช่วยให้นางหนี
ออกไปจากทีนี ออกจากวังหลวงทีเต็มไปด้วยการหลอก
ใช้แห่งนี

คําพูดนี ทําให้ฉินอีเหยาเงียบลง

ท่ามกลางการรอคอยของมูช่ ิงเกอ ในทีสุดนางก็พดู ขึน


ว่า : “ข้าเพียงอยากถามว่า เจ้าจะยอมพาข้าหนีไปหรือ
ไม่ ไปทีแห่งใดก็ได้ทีมีเพียงข้ากับเจ้า”

49
คําพูดนี ราวกับได้ใช้ลมหายใจทังหมดในชีวิตนีของนาง
ในการพูดมันออกมา

นางรอคอยคําตอบของมูช่ ิงเกอด้วยความกระวน
กระวายใจ

มูช่ ิงเกอยังคงเงียบ นางเข้าใจในสิงทีฉินอีเหยาพูด


สําหรับฉินอีเหยาแล้ว สิงทีนางต้องการมากทีสุดไม่ใช่
ความอิสรเสรี แต่คือตัวนางมูช่ ิงเกอ แต่ทว่า นีกลับเป็ น
สิงเดียวทีนางไม่สามารถให้ได้

ความเงียบของนาง ทําให้ความหวังของฉินอีเหยาค่อยๆ

50
เลือนรางลง : “ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าไปเสียเถอะ” นางรีบตัด
บทและรีบส่งแขก นางไม่อยากให้มชู่ ิงเกอเห็นด้านทีโศก
เศร้าของนาง

มูช่ ิงเกออ้าปาก แต่ทว่า กลับไม่รูว้ า่ ควรพูดอะไร

ในทีสุด ก็พดู ออกมาเพียงแค่วา่ ‘ทรงถนอมพระวรกาย


ด้วย’ ก่อนจะขีม้าออกไป

หลังจากทีมูช่ ิงเกอจากไป ฉินอีเหยาก็กดั ริมฝี ปากปาก


แน่น จนปากเริมจะมีเลือดซึมออกมา

นางกลืนเลือดลงไป ปาดนําตาทีอาบแก้มทังสองออก
51
แล้วจึงเรียกตัวนางกํานัลและเหล่าองครักษ์ของตน
เองกลับไป จากไปในทิศทางทีตรงกันข้ามกับมูช่ ิงเก
อและเข้าวังหลวงไป

‘ดูเหมือนว่าต่อไปต้องรักษาระยะห่างระหว่างชายหญิง
ให้มาก’ มูช่ ิงเกอเอามือกุมขมับอย่างเหนือยใจและแอบ
พึมพําในใจ

นางคิดทบทวนถึงภาพความใกล้ชิดระหว่างนางกับฉินอี
เหยา แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองทําอะไรดูมากไป ทีจะทําให้
องค์หญิงผูเ้ ย็นชาตกหลุมรักนาง โชคดีทีว่า นางถอน
หมันได้ทนั เวลาในทันทีทีรูเ้ รืองนีและตัดขาดความ
สัมพันธ์ของนางทังสองลง

52
แต่ทว่า ฉินอีเหยายังคงไม่ลืมมัน

ในขณะทีคิดทบทวน มูช่ ิงเกอก็ได้เดินทางมาถึงประตู


หลักของวังหลวง

ลงจากหลังเพลิงรัตติกาลและใช้การเดินแทน นางพามัว
หยางเข้าวังหลวงไป องครักษ์เขียวมังกรทีนางพามาด้วย
ทําได้เพียงรออยูบ่ ริเวณภายนอกวังหลวง

ทังสองเดินตามขันทีนอ้ ยทีทําหน้าทีนําทางไป พวกเขา


เดินอยูภ่ ายในวังหลวงเป็ นเวลานาน จึงถูกนําให้เดินเข้า
สูภ่ ายในเขตตําหนักใหญ่แห่งหนึง

53
งานเลียงในคําคืนนี ถูกจัดขึนในตําหนักอันกว้างใหญ่
แห่งนี

มูช่ ิงเกอกวาดสายตามองครูห่ นึง พบว่างานเลียงในวันนี


แตกต่างกับตอนต้อนรับคุณตัวประหลาดเป็ นอย่างมาก
แต่พอนึกถึงฐานะของใครคนนันในหลินชวนแล้ว นางก็
กระจ่างในทันที

54
ตอนที 92-4 ลาก่อนป๋ ายซีเยวีย มีคนรนหาทีตายอีก
แล้ว

‘เป็ นความจริงทีว่า เพียงแค่มีอาํ นาจทีมากพอไม่วา่ จะ

55
ไปแห่งหนใด ก็จะได้รบั การเชิดชูบชู า’

มูช่ ิงเกอเม้มปาก พึมพํากับตัวเองในใจ

ในตอนทีนางถึงงานเลียง ด้านในมีผคู้ นอยูจ่ าํ นวนไม่


น้อย แม้กระทังท่านปู่ และท่านอาของนางเองก็นงอยู
ั ใ่ น
ตําแหน่งประจําของตระกูลมูเ่ ป็ นทีเรียบร้อยแล้ว

มูช่ ิงเกอมุง่ ตรงไปยังตําแหน่งทีนังประจําของตระกูลมู่


ทันทีทีนังลง มูซ่ งก็พดู ด้วยสีหน้าไม่สดู้ ีนกั ว่า : “เกอร์เอ๋อ
คืนนี เจ้าต้องคอยระวังนะ”

มูช่ ิงเกอขมวดคิว แอบพึมพําในใจว่า : เกียวข้องอันใด


56
กับนาง

เมือเห็นท่าทางงุนงงของนาง มูเ่ หลียนหรงจึงพูดต่อว่า :


“ตัวแทนผูน้ าํ ราชทูตแคว้นถูคือหมานอ๋องเฮ่อเหลียนป๋ า
เขาและท่านปู่ ของเจ้าถือเป็ นศัตรูกนั มาก่อน เพียงแต่
เขาไม่เคยชนะท่านปู่ ของเจ้าได้เลยแม้แต่ครังเดียว การ
พบเจ้าในครังนี เขาเห็นเจ้าอยูข่ า้ งท่านปู่ คงจะไม่ใช่เรือง
ทีดีนกั ไม่แน่อาจจะลงมือกับเจ้า เจ้าอย่าลืมว่า ระหว่าง
เจ้ากับองค์หญิงฉางเล่อเคยมีสญ
ั ญาหมันหมายต่อกัน
อีกประการหนึง ในตอนนี เขาเป็ นตัวแทนแคว้นถูในการ
มาสูข่ อองค์หญิงให้กบั รัชทายาทแคว้นถู ในทันทีทีข่าว
ฮ่องเต้ยินยอมให้องค์หญิงฉางเล่ออภิเษกสมรสถูกเผย
แพร่กระจายออกไป ทุกคนก็จะรูว้ า่ คูอ่ ภิเษกสมรสของ
รัชทายาทแคว้นถูเป็ นผูห้ ญิงทีคุณชายตระกูลมูไ่ ม่ชาย

57
ตามอง ดังนันเฮ่อเหลียนป๋ าอาจจะเกิดโทสะและระบาย
มันกับเจ้าก็เป็ นได้ ”

มูช่ ิงเกอฟั งแล้วรูส้ กึ ไม่ชอบใจนัก

ผูห้ ญิงของนาง หมายความว่าอย่างไร หากข่าวเช่นนี


แพร่กระจายออกไป ฉินอีเหยายังจะเหลือเกียรติเหลือ
ศักดิศรีอนั ใดอีก แต่ทว่าปากคนทังแคว้น นางจะมีความ
สามารถในการห้ามได้อย่างไร

คําติฉินนินทาก็เป็ นดังมีดทีสังหารคนโดยไร้เลือดแม้แต่
หยดเดียวมาตังแต่ไหนแต่ไรแล้ว

58
“แน่นอนว่า เพือเกียรติยศและชือเสียง ฮ่องเต้จะ
ต้องบอกว่าเพราะเจ้าไม่คคู่ วร องค์หญิงจึงไม่ชายตา
มองจึงยกเลิกการหมันหมายไป แน่นอนว่าแคว้นถูก็คง
จะไม่ไปสืบสาวความจริงเรืองนีเป็ นแน่ พวกเขาเพียงแค่
ต้องระบายอารมณ์ก็เท่านัน” มูเ่ หลียนหรงเห็นว่าสีหน้า
ของมูช่ ิงเกอดูแย่ จึงรีบอธิบาย

การถอนหมัน ช่างเป็ นการทําลายชือเสียงของฝ่ ายหญิง


โดยแท้

แต่วา่ ฐานะของมูช่ ิงเกอเดิมก็เป็ นเรืองโกหกหลอกลวง


คนทังใต้หล้าอยูแ่ ล้ว แล้วจะลากให้คนบริสทุ ธิเข้ามา
เกียวข้องกับเรืองนีอีกได้อย่างไร หากอภิเษกกับองค์
หญิงฉางเล่อจริงๆ มันก็คงเป็ นเรืองทีน่าขบขัน และช่าง
59
ไม่ยตุ ิธรรมกับนางเป็ นอย่างมาก เพราะฉะนัน การถอน
หมันจึงเป็ นเพียงทางออกเดียว นางเข้าใจการกระทํา
ของมูช่ ิงเกอ

แต่วา่ นางกลับไม่รูว้ า่ ความจริงแล้วมูช่ ิงเกอไม่ได้คิด


มากถึงเพียงนันและไม่ถือว่าการยกเลิกการหมันจะเป็ น
เรืองใหญ่แต่อย่างไร ในวิสยั ทัศน์ของนาง แม้วา่ จะแต่ง
งานกันแล้วก็ยงั สามารถหย่าร้างกันได้ นับประสาอะไร
กับการถอนหมัน แต่วา่ นางกลับลืมคิดไปว่า ทีนีไม่ใช่
โลกใบเดิมทีนางคุน้ เคย ในโลกนีความคิดเกียวกับความ
เท่าเทียมของชายหญิงยังคงไม่เปิ ดกว้างมากนัก

“ชิงเกอ ชิงเกอ?”

60
มูเ่ หลียนหรงเรียกเบาๆ ตัดบทความคิดของมูช่ ิงเกอ

นางเงยหน้าขึนมองท่านอา

มูเ่ หลียนหรงพูดด้วยความเป็ นห่วง : “เจ้าเป็ นอะไรไป ข้า


เรียกเจ้าตังหลายหน เจ้าก็ไม่ตอบข้า”

“ไม่เป็ นอะไร” มูช่ ิงเกอส่ายหน้า

มูเ่ หลียนหรงมองท่าทางของนางและคิดว่านางคงกําลัง
รูส้ กึ ผิดกับเรืองทียกเลิกการหมันหมายกับองค์หญิงฉาง
เล่อ จึงพูดปลอบว่า : “เจ้าเองอย่าได้คิดมากไป ใครจะรู ้
61
รัชทายาทแคว้นถูนนอาจจะใช่
ั เนือคูข่ ององค์หญิงฉาง
เล่อก็ได้”

มูช่ ิงเกอกระตุกยิม เรืองมาถึงขนาดนีแล้ว นางยังจะ


สามารถพูดอะไรได้

“อามีเรืองจะถามเจ้า” สีหน้าของมูเ่ หลียนหรงเคร่งขรึม


ขึนหลายระดับ นางมองมูช่ ิงเกอ พลางถามด้วยความ
รูส้ กึ อันสับสนว่า : “ข้าได้ไปถามทีคุกของกรมอาญา ได้
ข่าวว่ารุย่ อ๋องพาตัวป๋ ายซีเยวียออกไปแล้ว ตอนนี
นาง......”

“ตายแล้ว” เมือทราบว่าท่านอาอยากรูอ้ ะไร มูช่ ิงเกอจึง

62
ตอบอย่างตรงไปตรงมา

ซึงก็เป็ นคําตอบทีคาดเอาไว้แต่แรก จึงไม่ได้ทาํ ให้มเู่ หลี


ยนหรงแปลกใจมากนัก เพียงแววตาดูหมองหม่นลงก็
เท่านัน

ครูใ่ หญ่ นางจึงมองมูช่ ิงเกอพลันอ้าปากค้าง คําพูดได้


มากระจุกกันอยูต่ รงปากแต่ทา้ ยสุดก็ไม่ได้เอ่ยออกมา

“ข้าไม่ได้เป็ นคนลงมือ” มูช่ ิงเกอพูด

มูเ่ หลียนหรงเปลียนสายตา ถอนหายใจทีหนึง แล้วจึง


แอบจับมือของมูช่ ิงเกอเอาไว้ บีบอย่างแรงหลายหน
63
ความรูส้ กึ หลากหลายภายในใจ ก็หายไปอย่างไร้รอ่ ง
รอยในทันที

หญิงสาวทีนางเห็นมาตังแต่เล็กจนโต ท้ายทีสุดก็ตอ้ งจบ


ชีวิตเพราะการเลือกทางผิดของตนเอง

มูซ่ งอยูข่ า้ งๆ ได้ยินคําพูดทังหมดของทังสองโดยไม่มีตก


หล่นเลยแม้แต่นอ้ ย ภายในใจนอกจากถอนหายใจแล้ว
เขาไม่รูว้ า่ ควรจะพูดอะไรในตอนนี

จากนัน แขกผูม้ ีเกียรติทีได้รบั เชิญให้มางานก็มากันจน


ครบแล้ว

64
ราชทูตแคว้นถู นําโดยหมานอ๋องเฮ่อเหลียนป๋ าเข้ามา
ภายในงานพร้อมกับรัชทายาทฉินจินซิว

นีเป็ นครังแรก ทีมูช่ ิงเกอพบกับคนทีแพ้สงครามท่านปู่


มาโดยตลอด ผูท้ ีท่านอาได้เคยพูดถึง

หนวดอันดกหนา ดวงตาอันคมลึก รูปลักษณ์อนั มี


ภูมิฐาน นามหมานอ๋องนันช่างดูเหมาะสมกับเขาเหลือ
เกิน คนทีมาพร้อมกับเขามีราชทูตทีสําคัญอีกจํานวน
หนึง ใบหน้าต่างเคร่งขรึม

ราชทูตแคว้นถูสวมชุดประจําแคว้นของแคว้นถู ซึงแตก
ต่างจากการแต่งกายแบบแคว้นฉิน

65
แคว้นฉินนิยมสวมชุดแขนกว้างปล่อยชายเขนให้พลิว
ไหว แคว้นถูกลับนิยมมัดตรงแขนเสือแน่นและเสือที
รัดกุม บนเสือปั กลายต่างๆ ดูประณีตโดดเด่น แสดงถึง
เอกลักษณ์ของแคว้น

เฮ่อเหลียนป๋ าเดินเข้าไปในงานเลียง กวาดสายตามอง


ตําแหน่งทีตระกูลมูน่ งอยู
ั ่

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับสามารถสัมผัสได้ถงึ ตําแหน่งทีสาย


ตาของเขาจ้องมอง ซึงไม่ใช่ทา่ นปู่ ของนาง แต่คือนาง

มูช่ ิงเกอก้มหน้าลงเงียบๆ ยกถ้วยนําชาในมือขึนดืมหนึง

66
คํา ราวกับไม่รูเ้ ห็น แอบคิดในใจว่า : ‘ดูเหมือนว่าสิงที
ท่านปู่ คิดเอาไว้จะไม่มีผิด เจ้าสุนขั แก่ตวั นีคิดจะหาเรือง
ข้าจริงๆ’

นางเงยหน้าขึน ในแววตาฉายแววเยือกเย็น วางถ้วยนํา


ชาลง มุมปากของนางพลันเกิดรอยยิมทีเหมือนยิมและ
ไม่ยมในขณะเดี
ิ ยวกัน

ในขณะทีเฮ่อเหลียนป๋ าละสายตากลับไป มูช่ ิงเกอก็


สัมผัสได้ถงึ สายตาอันเย็นเยียบอีกสายตาหนึงทีกําลัง
มองนางอยู่ นางมองตามสายตานัน เห็นเพียงด้านข้าง
ของฉินจินซิวทีกําลังหันหน้ากลับไป

67
ทันใดนัน รอยยิมตรงมุมปากของนางก็พลันชัดเจนมาก
ยิงขึน

ดูเหมือนว่า ในคืนนี คนทีคิดถึงนางไม่ได้มีเพียงแค่คน


เดียวเสียแล้ว

ฉินจินซิวพาเฮ่อเหลียนป๋ าไปนังบนทีนังประจําของ
ราชทูต เพือจะสามารถรับรองได้สะดวกมากยิงขึน ทันที
ทีนังลงฉินจินซิวก็พดู กับเฮ่อเหลียนป๋ าพร้อมทังรอยยิม
ว่า : “หมานอ๋อง ท่านยังจําสัญญาระหว่างเราได้หรือไม่”

“จําได้สิ เหตุใดจะจําไม่ได้” คิวอันดกดําของเฮ่อเหลี


ยนป๋ าขมวดทีหนึง

68
“ถ้าเป็ นเช่นนันก็ดี หากหมานอ๋องจบชีวิตของมูช่ ิงเกอได้
ภายในงานเลียงในคําคืนนี ไม่เพียงแค่สามารถลบล้าง
คําดูถกู ให้รชั ทายาทของท่านได้ แต่ยงั ถือว่าฆ่ามูซ่ งไปได้
แล้วครึงคน สําหรับข้าแล้ว ก็ถือเป็ นบุญคุณ ในอนาคต
หากข้ายังคงมีอาํ นาจต่อไป หากหมานอ๋องต้องการ
ความช่วยเหลืออันใด แน่นอนว่าข้าจะไม่ปฏิเสธ” ฉินจิน
ซิวกระตุกยิมจางๆ สําหรับคนรอบข้างแล้ว ก็เหมือนกับ
กําลังพูดคุยกับเฮ่อเหลียนป๋ าตามปกติ

เฮ่อเหลียนป๋ ายิม : “ก็แค่เด็กคนเดียว ไม่รูว้ า่ เหตุใดพวก


ท่านถึงได้กลัวเขามากนัก”

ฉินจินซิวกล่าวเตือนว่า : “หมานอ๋องอย่าได้ประมาท มู่


69
ชิงเกอนันเจ้าแผนการและโชคดีมาก ท่านรูห้ รือไม่วา่ เขา
ฆ่าพระมาตุลาของข้ากลางตลาด แต่กลับไม่ได้รบั การ
ลงโทษเลยแม้แต่นอ้ ย เป็ นร่างทีไร้ประโยชน์แท้ๆ แต่สดุ
ท้ายกลับสามารถฝึ กพลังได้ มิหนําซํายังเป็ นยอดฝี มือ
สายเขียว อีกประการหนึง เขายังสามารถสร้างความโดด
เด่นจนเข้าตาท่านมหาปราชญ์ได้”

“เดียวนะ ท่านพูดว่าอะไรนะ ท่านมหาปราชญ์ชืนชอบ


ในตัวเขาอย่างนันหรือ” เฮ่อเหลียนป๋ าทีเปี ยมล้นไปด้วย
ความมันใจในตอนแรกเกิดลังเลขึนมาในทันที

70
ตอนที 92-5 ลาก่อนป๋ ายซีเยวีย มีคนรนหาทีตายอีก
แล้ว

71
เมือเห็นว่าเขามีทา่ ทีลงั เล สายตาของฉินจินซิวก็พลันมืด
ลง จึงรีบพูดว่า : “หมานอ๋องอย่าได้เป็ นกังวลไป นันเป็ น
เพียงเรืองเล็กน้อยทีท่านมหาปราชญ์ทาํ ในขณะที
บังเอิญผ่านมาเท่านัน หลังจากนันก็ไม่เคยเห็นท่านมีปฏิ
สัมพันธ์อนั ใดกับตระกูลมูอ่ ีกเลย คงเป็ นเพราะหลังจาก
ทีรูว้ า่ มูช่ ิงเกอเป็ นเพียงท่อนไม้ทอ่ นหนึงทีไร้ประโยชน์ จึง
หมดซึงความสนใจไป”

“แต่วา่ ......ท่านบอกว่าอยูๆ่ เขาก็สามารถฝึ กพลัง


ได้............คงไม่ใช่เพราะมีสว่ นเกียวข้องกับท่านมหา
ปราชญ์หรอกนะ” ในใจของเฮ่อเหลียนป๋ ายังคงมีความ
กังวลและลังเลอยูเ่ ล็กน้อย

“หมานอ๋อง ท่านกลัวอันใดกัน” ฉินจินซิวขมวดคิวและ


72
พูดว่า : “เราสูก้ นั ด้วยความเสมอภาค มิได้ใช้วิธีสกปรก
แต่อย่างใด หากมูช่ ิงเกอมีความสามารถไม่เพียงพอ คง
ต้องจบชีวิตลงกลางสนาม จะโทษใครได้ หมานอ๋องลอง
ตรองดู มหาปราชญ์ได้พบเจอยอดฝี มือมามากมายเพียง
ใด พบเจอเรืองราวมามากเพียงไหน จะสนใจมูช่ ิงเกอไป
เพืออะไรกัน บางทีในขณะทีเรากําลังกลัว ท่านอาจจะ
ลืมคนทีชือมูช่ ิงเกอไปแล้วก็ได้”

“นี.......” เฮ่อเหลียนป๋ าราวกับถูกฉินจินซิวค่อยๆ โน้ม


น้าวใจ

เมือเห็นเช่นนี ฉินจินซิวก็พดู เสริมอีกว่า : “ทีข้าและเขา


อยูบ่ นโลกใบเดียวกันไม่ได้อีกต่อไป เป็ นเพราะเขาฆ่า
พระมาตุลาของข้า หากกล่าวในภาพรวมแล้ว มันเป็ น
73
ความแค้นของครอบครัว ทว่าระหว่างตระกูลมูแ่ ละ
แคว้นถูนนคื
ั อความแค้นระหว่างแคว้น หากหมานอ๋อง
สามารถฆ่าหลานชายคนเดียวของมูซ่ งได้ ท่านก็จะ
กลายเป็ นวีรบุรุษในใจของประชาราษฎร์แคว้นถูในทัน
ใด รวมทังสามารถเพิมอํานาจได้อย่างทีหวังด้วย”

เฮ่อเหลียนป๋ าพลันเปลียนสายตา คําพูดของฉินจินซิว


ราวกับเป็ นยาพิษร้ายแรงก็ไม่ปาน ทําให้เขาไม่อาจต้าน
ทานความต้องการและต้องยอมรับข้อเสนออันแสนเย้า
ยวนนี

เมือไตร่ตรองทบทวนแล้ว เขาจึงกัดฟั นและตัดสินใจพูด


ว่า : “ใช่! เรืองทังหมด ควรดําเนินไปตามแผนทีได้วาง
เอาไว้”
74
“หมานอ๋อง ท่านช่างเก่งกาจไร้ทีเปรียบ” เมือฉินจินซิว
บรรลุเป้าหมายทีได้วางเอาไว้ จึงกล่าวชมเชย

ทังสองพร้อมใจกันยิม แล้วจบการสนทนาโดยทีไม่ทาํ ให้


คนรอบข้างรับรูไ้ ด้

หมานอ๋องแห่งแคว้นถูจะลงมือกับตนเองอย่างไรนัน มู่
ชิงเกอไม่อาจทราบได้ ถึงแม้วา่ จะทราบ นางก็ไม่สนใจ
นางกวาดสายตามองรอบๆ งานเลียง แขกทีมาร่วมงาน
ในวันนีไม่ถือว่ามากนัก แต่ก็ลว้ นเป็ นผูท้ ีมีหน้ามีตาภาย
ในแคว้นฉิน

75
แต่ทว่า ตระกูลของเจ้าอ้วนเซ่า กลับไม่ได้อยูใ่ นรายชือ
แขกทีได้รบั เชิญ

รุย่ อ๋องเองก็มาแล้ว

ร่างในชุดสีดาํ ยาว ทําให้มชู่ ิงเกอประหลาดใจ

ราวกับว่า หลังจากคําพูดเมือตอนเย็นของนาง ชายคนนี


ก็ดมู ีความมันใจตังแต่ยงั ไม่ได้รบ ราวกับโลกทังใบนีอยู่
ในกํามือของเขา

กวาดสายตาผ่านฉินจินห้าว มูช่ ิงเกอไม่เห็นเงาร่างทีคุน้


เคยร่างนัน
76
ฉินจินเฉินไม่ได้ปรากฏตัวในงาน

ไม่ได้รบั คําเชิญหรือปฏิเสธคําเชิญ?

ในขณะทีมูช่ ิงเกอกําลังคิดวิเคราะห์ ทันใดนันก็มีทหาร


ฝ่ ายในนายหนึงเดินเข้ามาใกล้ ในขณะทีนางกําลังริน
เหล้า เขาก็โยนท่อนไม้ไผ่ทอ่ นเล็กท่อนหนึงบนเสือของ
นาง

มูช่ ิงเกอทีนังอยู่ ท่อนไม้ไผ่จงึ ตกลงอยูบ่ นชุดบริเวณ


ระหว่างขาของนาง

77
ขมวดคิวทีหนึง มูช่ ิงเกอกําท่อนไม้ไผ่นนเอาไว้
ั โดยไม่ให้
ผูใ้ ดรู ้ ออกแรงบีบท่อนไม้ไผ่จนแตกออก เผยให้เห็น
กระดาษแผ่นหนึงทีม้วนเก็บในท่อนไม้ไผ่เอาไว้เป็ นอย่าง
ดี

เมือคลีกระดาษออก เนือความภายในกระดาษทําให้มู่
ชิงเกอหรีตาทังคูล่ ง

ท่อนไม้ไผ่นี ฉินจินห้าวเป็ นคนสังคนให้เอามาให้

เนือหาภายในท่อนไม้ไผ่บอกว่า รัชทายาทฉินจินซิวร่วม
มือกับหมานอ๋องแห่งแคว้นถูตอ้ งการจบชีวิตของนาง
ภายในงานเลียงคืนนี ให้นางคอยระวังเอาไว้และยังแนะ

78
ให้นางใช้โอกาสนีในการเพิมความขัดแย้งระหว่างฮ่องเต้
และรัชทายาท เพือเร่งเรืองราวทังหมดให้รวดเร็วยิงขึน

อ่านเนือความในกระดาษจนจบอย่างเงียบๆ มูช่ ิงเก


อพลางขยํากระดาษในมือ แล้วยิมอย่างเย็นเยียบในใจ

‘ฉินจินห้าวยังคงเป็ นฉินจินห้าว ไม่วา่ อย่างไร เขาก็ตอ้ ง


คิดถึงผลประโยชน์ทีตนเองจะได้รบั จากเรืองนีเป็ นลําดับ
แรก’

เมือคลายมือออกอีกครัง กระดาษแผ่นทีอยูใ่ นกํามือของ


มูช่ ิงเกอก็ได้กลายเป็ นเศษผงสีขาวไปแล้ว

79
นางเทเศษผงสีขาวลงในกระถางธูปหอมทีวางอยูข่ า้ งๆ
ทุกอย่างทีเกิดขึนไม่ได้มีใครเห็น

“น้อมรับเสด็จฮ่องเต้-------! ฮองเฮา-------! เจียงกุย้


เฟย-----! องค์หญิงฉางเล่อ------!” ภายในงานเลียง
เสียงอันกึกก้องดังขึนไม่ขาดสาย

ภายในงานเลียง ขุนนางชันสูงของราชวงศ์แคว้นฉิน ต่าง


ก็ลกุ ขึนต้อนรับ

มีเพียงราชทูตแคว้นถูทียังคงนังอยูท่ ีเดิม ราวกับไม่มี


ความคิดทีจะลุกขึนยืน

80
หลังจากทีฉินจินซิวแอบส่งสายตา เฮ่อเหลียนป๋ าจึงต้อง
นําคนของตนเองลุกขึนอย่างจํายอม

ฉินชางพาทุกคนเข้าไปภายในงานเลียง จากนันก็เดินขึน
ไปนังบนทีประจําตําแหน่ง ฮองเฮาและเจียงกุย้ เฟยนัง
อยูท่ างด้านซ้ายและขวาของเขาตามลําดับ โดยมีฉินอี
เหยาทีนังอยูข่ า้ งๆ เสด็จแม่ของตนเอง

“ทุกคนนังลงเถิด” ฉินชางยกมือขึน อารมณ์ในตอนนีถือ


ว่าไม่เลว

มูช่ ิงเกอนังลง กวาดสายตาผ่านฉินอีเหยาทีนังอยูข่ า้ งๆ


เจียงกุย้ เฟย นางยังคงสวมชุดสีฟา้ ฉายแววเย็นเยียบ ดัง

81
เจ้าหญิงนําแข็ง ทําให้คนรอบข้างไม่กล้าเข้าใกล้

ใบหน้าของนางงดงามไร้ทีเปรียบ หว่างคิวยังมีการวาด
ลายด้วยทองคําบริสทุ ธิ เพิมความน่าเย้ายวนให้กบั นาง
หลายระดับ แต่ทว่า ใบหน้าของนางกลับไร้ซงความรู
ึ ส้ กึ
ดังรูปปั นทีงดงามสมบูรณ์แบบ ไม่แสดงให้เห็นถึงความ
โกรธเลยเลยแม้แต่นอ้ ย

มูช่ ิงเกอแปลกใจครูห่ นึงแต่ยงั คงเก็บอาการ

“ในวันนี ทุกท่านต่างก็มารวมตัวกันทีนี ข้ามีข่าวดีจะมา


ประกาศเรืองมงคลให้กบั ทุกท่านได้ทราบโดยทัวกัน” ฉิน
ชางพูด “ครานี ราชทูตแคว้นถูมาเยียมเยือนแคว้นฉิน

82
จากแคว้นถูอนั ห่างไกลเพือทีจะสานความสัมพันธ์
ระหว่างสองแคว้น รัชทายาทแคว้นถูมาสูข่ อจากใจจริง
ข้าคิดทบทวนอย่างรอบคอบและได้ตดั สินใจว่าจะยก
องค์หญิงฉางเล่อพระราชธิดาอันเป็ นทีรักของข้าให้กบั
รัชทายาทแคว้นถู เพือความสัมพันธ์อนั ดีงามระหว่างกัน
สามวันให้หลังจากนี องค์หญิงฉางเล่อจะกลับแคว้นถู
พร้อมราชทูตแคว้นถู เพือจัดงานอภิเษกสมรส ”

การอภิเษกสมรสระหว่างองค์หญิงฉางเล่อและแคว้นถู
นัน ไม่ใช่ความลับในวงศ์ตระกูลทีมีฐานะสูงส่ง

แต่วา่ การทีฮ่องเต้เป็ นผูต้ รัสออกมาเอง ก็ยงั คงทําให้คน


จํานวนไม่นอ้ ยมองมูช่ ิงเกออย่างคลุมเครือ ราวกับกําลัง
จะบอกว่าภรรยาทีควรจะเป็ นของเจ้าในตอนแรก ตอนนี
83
ได้เป็ นของรัชทายาทแคว้นถูแล้ว ขอถามหน่อยว่ารูส้ กึ
อย่างไร?

หรืออาจจะกําลังหัวเราะเยาะรัชทายาทแคว้นถูทีได้องค์
หญิงทีเคยมีสญ
ั ญาการหมันหมายไปครอบครอง

สายตานัน มูช่ ิงเกอไม่สนใจเลยแม้แต่นอ้ ย

ในขณะทีเฮ่อเหลียนป๋ าลุกขึนแสดงความขอบคุณ นางก็


จ้องสายตาไปทีฉินอีเหยา ซึงฉินอีเหยายังคงไม่แสดง
ความรูส้ กึ อันใดราวกับว่า เรืองนีไม่ได้มีสว่ นเกียวข้อง
อะไรกับนางเลยแม้แต่นอ้ ย

84
ยังไม่ทนั ทีนางจะได้ดงึ สายตากลับมา ก็พลันได้ยินเสียง
คําท้าทายดังขึนข้างหู

“องค์ฮ่องเต้แคว้นฉิน ข้าและท่านแม่ทพั ตระกูลมูแ่ คว้น


ฉินของท่านก็ถือว่าเพือนเก่าเพือนแก่กนั มานาน ได้ข่าว
ว่าเขามีหลานชายสุดทีรักอยูค่ นหนึง ข้าเองก็ได้ยินเรือง
ราวเกียวกับเขามานานและบังเอิญเป็ นอย่างยิงทีในกลุม่
คนทีข้าพามาเยียมเยือนแคว้นฉินในคราวนีก็มีคนหนุ่ม
มากพรสวรรค์อยูค่ นหนีง ความสามารถเก่งกาจ เขาเอง
ก็ชืนชมคุณชายตระกูลมูม่ านานแล้ว จะเป็ นไปได้หรือไม่
ทีในวันนีฮ่องเต้แคว้นฉินจะประทานพระราชานุญาติให้
พวกเขาทังสองแลกเปลียนฝี มือกันสักหน่อย”

85
ตอนที 93-1 คุณชาย หน้าตาเล่า ?

มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึนมอง รอยยิมทีมีความนัยแอบแฝง


ของเฮ่อเหลียนป๋ าสะท้อนอยูใ่ นแววตาของนาง

“อย่างนันหรือ มูซ่ งเจ้าคิดว่าอย่างไร?” ฉินชางมองมูซ่ ง


นําเสียงนันไม่สามารถคาดเดาความรูส้ กึ ในตอนนีของ
พระองค์ได้

การกดดันเช่นนี มูซ่ งคิดเอาไว้แล้วไม่ผิด ถ้าไม่เช่นนันก็


คงจะไม่สงให้
ั มชู่ ิงเกอระวังตัวเอาไว้ตงแต่
ั แรก หากเป็ น
1
เมือก่อนบางทีเขาอาจจะลังเลและเป็ นห่วงหลานสาว

แต่วา่ ในตอนนี——

มูซ่ งมองฉินชางอย่างแน่วนิง โดยไม่มีความหวาดกลัว


เลยแม้แต่นอ้ ย : “สุดแล้วแต่พระองค์จะตัดสินพระทัยพ่ะ
ย่ะค่ะ” คําพูดอย่างตรงไปตรงมานัน ราวกับได้ยืนยัน
ความเชือใจอันเต็มเปี ยมทีเขามีตอ่ มูช่ ิงเกอ

ปฏิกิรยิ านีของท่านผูเ้ ฒ่า ทําให้มชู่ ิงเกอหัวเราะอย่างไร้


เสียง

“ถ้าเช่นนัน ข้ารับคําท้าแทนมูช่ ิงเกอ” ฉินชางกะพริบตา


2
พร้อมรอยยิมอันเบิกบาน แต่ทว่าในระหว่างทีเขากะพริบ
ตากลับมีความมืดมนอันคลุมเครือเกิดขึน

ทางด้านมูซ่ งเมือไม่มีปัญหาอันใด ฉินชางจึงประกาศรับ


คําท้าประลองนีในทันที

“แม้จะกล่าวว่า หมัดและเท้าไร้ตา แต่อย่างไรก็เป็ นเพียง


แค่การประลองฝี มือ แค่แตะโดนแล้วหยุดก็พอ ห้ามทํา
ร้ายกันจนถึงชีวิต” ฉินชางสัง

แต่ทว่า พอมูช่ ิงเกอได้ยินคํานี กลับรูส้ กึ ได้ถงึ ความนัยที


มากกว่าการตักเตือนแอบแฝงอยู่ ราวกับว่าเขาเพียงแค่
หาข้ออ้างให้กบั ‘เรืองไม่คาดคิด’ ทีอาจจะเกิดขึนเอาไว้

3
ล่วงหน้า

คนทีอยู่ ณ ทีแห่งนี ไม่ได้มีเพียงคนเดียวทีต้องการชีวิต


ของนาง !

สิงทีสัมผัสได้นี ทําให้สายตาของมูช่ ิงเกอเย็นเยียบเล็ก


น้อย รอยยิมตรงมุมปากก็พลันฉายแววโหดเ**◌้ยม

แผนการระหว่างหมานอ๋องและรัชทายาท ฮ่องเต้แคว้น
ฉินจะรับรูห้ รือไม่ นางไม่อาจแน่ใจ

แต่วา่ นางกลับรูเ้ ป็ นอย่างดีวา่ ฮ่องเต้แควันฉินเองก็หวัง


ทีจะยืมมือหมานอ๋องในการจบชีวิตนางเช่นกัน
4
ยืมมือคนอืนในการสังหารคน เพือทําลายความสัมพันธ์
ระหว่างตระกูลมูแ่ ละแคว้นถูให้จบสินลง......

มูช่ ิงเกอหมุนจอกเหล้าในมือของตนเอง ทันใดนันนาง


พลันกระจ่างว่า บางที เรืองกบฏแผ่นดินทีเกิดขึนในพิธี
สวมหมวกของนาง ในความคิดของฮ่องเต้เจ้าแผนการผู้
นี อาจจะไม่คิดว่าเป็ นเพียงแค่การใส่รา้ ย

ความไม่เชือใจ ความเคลือบแคลง ความคาดหวัง และ


การปฏิเสธ...........

‘หึๆ ช่างเป็ นความคิดทีขัดแย้งกับตนเองเสียจริง’ มูช่ ิงเก

5
อดืมเหล้าในจอก พลันเผยยิมมุมปากอย่างเยาะเย้ย

นางรําทียังไม่ได้ขนเวที
ึ เพราะการประลองทีจะเกิดขึนนี
จึงต้องถอยออกไปให้ไกลกว่าเดิม

บริเวณตรงกลางของงานเลียง ถูกเว้นว่างไว้

ทุกคนรอคอยอย่างเงียบสงบ

ใบหน้าของหมานอ๋องแห่งแคว้นถูฉายแววได้ใจ ใช้
ภาษาแคว้นถูตะโกนออกมาคําหนึง

จากนันก็มีนกั บู๊ทีร่างกายสูงใหญ่กาํ ยํานายหนึงเดินออก


6
มา ยืนอยูบ่ นพืนทีว่างตรงกลางพร้อมใบหน้าอันแสนเย่อ
หยิง

รูปร่างของประชาชนแคว้นถูสว่ นมากแล้วจะสูงกว่า
แคว้นฉินและดูกาํ ยํามากกว่า คนทีเดินออกมาเป็ นคนที
สูงทีสุดของแคว้นถู ฉินจินห้าวทีว่าสูงกว่ามาตรฐานของ
คนแคว้นฉินแล้ว หากเปรียบกับเขา คงจะประมาณใบหู
ของเขาเท่านัน มูช่ ิงเกอยิงเตีย แม้วา่ นางจะสูงแล้ว แต่
ทว่าเป็ นเพราะถูกจํากัดความสูงในฐานะทีเป็ นผูห้ ญิง จึง
ทําให้ชายหนุ่มแคว้นถูสงู กว่านางถึงหนึงศีรษะพอดี

ทุกคนทีนังอยูใ่ นทีแห่งนี ราวกับจะสามารถจินตนาการ


ได้ถงึ ความกดดันทีประดังกันเข้ามาและความรูส้ กึ ด้อย
กว่าทางด้านรูปร่างเมือมูช่ ิงเกอขึนไปบนสนาม
7
ความรูส้ กึ ทีทังหวังให้นางชนะและความอยากเห็นรู ้
อยากเห็น เกิดขึนภายในใจของเหล่าตระกูลสูงเหล่านี

ในวันนัน เรืองทีมูช่ ิงเกอแสดงพลังอันยิงใหญ่กลาง


ตลาดและฆ่าพระมาตุลา ทุกคนทีนังอยู่ ณ ทีนีต่างก็ได้
ยินและได้รบั ฟั งกันมาแล้ว

ผูท้ ีเป็ นคนไร้คา่ มาโดยตลอด กลับกลายเป็ นยอดฝี มือ


เรืองทีไม่มีตน้ สายปลายเหตุเช่นนี หากไม่เห็นกับตา ก็
คงจะไม่มีวนั เชือ

ทีต้องการให้ชนะ นันเพราะเป็ นประชาชนแคว้นฉิน

8
เหมือนกันและไม่ตอ้ งการให้แคว้นถูได้ใจ

ผูก้ ล้าบางคน ถึงขันแอบเตรียมพร้อม หากมูช่ ิงเกอแพ้ก็


จะออกไปลบล้างคําสบประมาทด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม แม้มชู่ ิงเกอจะยังไม่เข้าสนามแข่ง แต่คน


ส่วนใหญ่ภายในงานเลียงต่างก็คิดว่าเขาจะต้องแพ้เป็ น
แน่!

สัมผัสได้ถงึ คําวิพากษ์วิจารณ์ตา่ งๆ นานาทีเกิดขึนจากผู้


คน มูช่ ิงเกอยกแขนเสือขึนอย่างไม่ใส่ใจ พลันยืนขึนมา
เอามือไพล่หลัง เดินออกจากทีนังประจําตําแหน่งของ
ตระกูลมูไ่ ป

9
ชุดสีแดงดังเปลวเพลิงอันเจิดจ้า รูปร่างทียืดตรงดังมีด
ดาบ ท่าทางอันสูงส่ง ใบหน้าอันงดงามสง่าภูมิฐาน
สมบูรณ์แบบไร้ซงข้
ึ อบกพร่อง

ทันทีทีนางเดินเข้ามา งานเลียงทีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์
ในตอนแรกก็พลันเงียบสงบลงในทันที

ความผ่อนคลายและไม่เป็ นกังวลเกิดขึนจากตัวของนาง
ส่งผลกระทบต่อทุกคนในงานเลียง ทําลายความหยิง
ยโสของนักบู๊จากแคว้นถูไปอย่างไร้รอ่ งรอย

‘เขาไม่เป็ นอะไรหรอก!’ อาจเป็ นเพราะได้รบั ผลกระทบ

10
นันทําให้จิตใจทีเป็ นกังวลอยูต่ ลอดของอีเหยาผ่อนคลาย
ลงในทันที แววตาทีมีความเป็ นห่วงซ่อนอยูก่ ็คอ่ ยๆ หาย
ไปพร้อมฝี เท้าอันผ่อนคลายของมูช่ ิงเกอ

ในทีสุด มูช่ ิงเกอก็ยืนอยูต่ รงหน้านักบู๊จากแคว้นถู

ทันใดนัน ภาพบรรยากาศทีทุกคนจินตนาการเอาไว้ก็ได้
เกิดขึน

ความได้เปรียบในด้านความสูง ความสามารถทีถูกซ่อน
ไว้ของนักบู๊จากแคว้นถูก็ได้ปรากฏขึนในทันที เขาก้มลง
มองมูช่ ิงเกอแววตาเปี ยมไปด้วยความดูถกู และเยาะเย้ย

11
“โอ——!”

“สายคราม ! เป็ นถึงสายครามเชียวหรือ!”

“ถึงว่า หมานอ๋องแห่งแคว้นถูถงึ ได้มนใจนั


ั ก!”

ทันใดนัน นักบู๊แคว้นถูก็แค่นเสียงตําเสียงหนึง รอบตัวมี


แสงสีครามส่องประกาย ห่อหุม้ ตัวเขาเอาไว้ แสงสีคราม
แผ่กระจายไปในวงกว้างมากขึนเรือยๆ ราวกับว่า อยาก
จะฉีกร่างของมูช่ ิงเกอด้วยแสงนัน

“ท่านพ่อ นีมัน!” มูเ่ หลียนหรงพูดอย่างตืนตระหนก

12
มูซ่ งหรีตา ไม่สามารถคาดการณ์อารมณ์ในตอนนีของ
เขาได้ : “สายครามขันต้น”

สายครามขันต้นอย่างนันหรือ?

มูเ่ หลียนหรงแอบคิดในใจ นางจําได้วา่ เมือสิบเดือนที


แล้ว มูช่ ิงเกอเป็ นสายเขียวขันต้น แม้วา่ นางจะเก่งกาจ
เพียงใดแต่การฝึ กฝนเพียงแค่สบิ เดือน มากทีสุดก็คงจะ
เป็ นได้เพียงแค่สายเขียวขันสูงหรือยอดฝี มือสายเขียว
เท่านัน

อย่างไรก็ตาม ระดับขันของพลังเวทยิงสูง ระดับขันของ


การฝึ กฝนก็ยงสู
ิ งและยากมากขึน

13
ไม่เช่นนัน ยอดฝี มือทีอยูเ่ หนือสายเขียว ก็คงจะไม่นอ้ ย
จนถึงเพียงนี เวลาสิบเดือน กระโดดจากขันต้นถึงขันสูง
หรือเข้าขันยอดฝี มือ ก็ถือว่าเป็ นการประเมินทีสูงมาก
แล้ว

แต่วา่ ความสามารถระดับนียังคงไม่เพียงพอสําหรับสาย
ครามขันต้น

หากเป็ นแต่ก่อน ตอนทีมูเ่ หลียนหรงยังคงไม่กระจ่างใน


สายครามมากนัก แต่ในตอนนีเป็ นเพราะมูช่ ิงเกอทําให้
นางทะลวงสูส่ ายคราม จึงทําให้นางเข้าใจความแตกต่าง
ระหว่างสายครามและสายเขียวเป็ นอย่างดี

14
สามารถพูดได้วา่ สายครามขันต้นหนึงคนจะสังหารสาย
เขียวสิบคนก็ไม่ใช่วา่ จะเป็ นไปไม่ได้

เพราะความแตกต่างนีทําให้มเู่ หลียนหรงหน้าซีดในทันที
และอยากจะออกไปห้ามการประลองในครังนี

แต่ทว่า ทันทีทีนางขยับ ข้อมือของนางก็ถกู บิดาคว้าเอา


ไว้

15
ตอนที 93-2 คุณชาย หน้าตาเล่า ?

“ท่านพ่อ ชิงเกอไม่ใช่คแู่ ข่งสําหรับเขา! ตระกูลมูย่ งั มีขา้


ให้ขา้ ไปสูก้ บั มันเอง” มูเ่ หลียนหรงหันไปพูดกับมูซ่ งด้วย

16
ความหนักแน่น

มูซ่ งส่ายหน้าเบาๆ พูดอย่างสงบนิงว่า : “ให้เกอร์เอ๋อร์


จัดการเถอะ”

มูเ่ หลียนหรงตืนตระหนก : “ท่านพ่อ เรืองนีจะปล่อยเอา


ไว้เช่นนีไม่ได้” แม้วา่ อีกฝ่ ายจะบอกว่าประลองเพียงให้รู ้
แพ้ รูช้ นะ แต่วา่ หากมีใครอยูเ่ บืองหลังและปองร้ายมูช่ ิง
เกอ ไม่วา่ ผลลัพธ์จะเป็ นอย่างไร ตระกูลมูก่ ็ไม่อาจรับ
ไหว

“เชือนางเถอะ” แต่ทว่ามูซ่ งยังคงห้ามมูเ่ หลียนหรงเอาไว้

17
“อายุเพียงเท่านี ก็เป็ นถึงยอดฝี มือสายครามเชียวหรือ!”

“ดูเหมือนว่า ผูท้ ีมาจากแคว้นถูผนู้ ี จะไม่ธรรมดาเสีย


แล้ว”

คําวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึนตังแต่ทีแสงสีครามปรากฏขึน
แล้วค่อยๆ ลอยมาเข้าหูฉินชาง

เขาเหล่ตามองเฮ่อเหลียนป๋ าด้วยรอยยิมทีแฝงความนัย :
“แคว้นถูนนช่
ั างเต็มไปด้วยเหล่าผูม้ ีความสามารถเหลือ
ล้น ! นักบู๊ผนู้ ี อายุเพียงเท่านี ก็เป็ นถึงยอดฝี มือสาย
ครามแล้ว ช่างชวนประหลาดใจเสียจริง”

18
เฮ่อเหลียนป๋ าไม่สนใจความกระหยิมบนใบหน้าของตน
แล้วพูดว่า : “ฮ่องเต้ฉินชมเกินไปแล้ว หากเทียบกับหนุ่ม
สาวรุน่ หลังของแคว้นถูแล้ว ฝี มือของเขายังตํานัก”

คําพูดนี ทําให้ฉินชางหน้าดําคลําไป

ฝี มือระดับนียังถือว่าตําอย่างนันหรือ หนุ่มสาวรุน่ หลัง


ของแคว้นถูเก่งกาจถึงเพียงใดเชียว พอมองย้อนกลับมา
ทีแคว้นของตนเอง องค์ชายทีเลืองลือว่าปรีชาสามารถ
ฉินจินห้าว ในตอนนียังอยูเ่ พียงสายเหลืองและกําลังจะ
ทะลวงสูส่ ายเขียวเท่านัน

ฉินชางกวาดสายตาผ่านทีนังขององค์ชาย นัยน์ตาฉาย

19
แววความไม่พอใจ

หนุ่มสาวแคว้นฉินทีอยูร่ อบๆ ตอนแรกกําลังรอคอยให้มู่


ชิงเกอแพ้การประลอง แล้วก็จะขึนเวทีไปเพือลบล้างคํา
สบประมาท แต่ทว่า หลังจากทีเห็นว่านักบู๊แคว้นถูเป็ น
ถึงยอดฝี มือสายครามต่างก็กลายเป็ นนกกระทาทีซ่อน
ตัวอยูท่ า่ มกลางผูค้ นในทันที พยายามทําให้ตนเอง
เหมือนไม่มีตวั ตนอยูท่ ีนี

การเปลียนแปลงเช่นนี เกิดขึนเพียงชัวขณะ

มูช่ ิงเกอยืนเผชิญหน้ากับนักรบแคว้นถู โดยไม่ได้รบั ผล


กระทบอันใด

20
จ้องมองแสงสีครามอ่อนทีส่องประกายค่อยๆ เคลือนที
เข้าหาตนเอง นางยังคงไม่ขยับ แล้วก็ผดุ รอยยิมทีคล้าย
กับยิมและไม่ยมในขณะเดี
ิ ยวกัน

“เขาตกใจจนบือไปแล้วหรือไร”

“คงจะตกใจจนขาอ่อนไปแล้ว ไม่เช่นนันเหตุใดจึงยืนนิง
โดยไม่ขยับตัวเช่นนัน”

ในขณะทีทุกคนกําลังคาดเดาปฏิกิรยิ าของมูช่ ิงเกอ แสง


สีครามนันก็ได้มาอยูต่ รงหน้ามูช่ ิงเกอเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว
เมือแสงสีครามสาดลงบนใบหน้าของนาง ยิงทําให้ยงดู

21
งดงามแปลกตา

นักบู๊แคว้นถูได้ใจมากกว่าเดิม ราวกับว่า ได้เห็นภาพทีมู่


ชิงเกอถูกตนเองสังหารในคราเดียวและลงจากเวทีไป
โดยไร้ซงลมหายใจ

ทันใดนัน มูช่ ิงเกอก็พลันกระตุกยิมอย่างเยือกเย็น แสงสี


ครามเข้ามาใกล้และยิงขยายใหญ่ขนเรื
ึ อยๆ อยูใ่ นแวว
ตาของนาง

ในขณะนันเอง ตรงหน้าแสงสีครามทีพุง่ ตัวเข้ามาอย่าง


รวดเร็ว ก็ไร้ซงเงาร่
ึ างของมูช่ ิงเกอ

22
ราวกับว่า นางได้หายตัวไปในพริบตา

ท่ามกลางผูค้ นทีเฝ้าดูสถานการณ์การต่อสูอ้ ย่างไม่คาด


สายตา ต่างก็เบิกตาโต เพือมองหาตัวมูช่ ิงเกอ แต่วา่ ไม่
ทันทีพวกเขาจะพบ มูช่ ิงเกอก็ปรากฏตัวท่ามกลางสาย
ตาของทุกคนอีกครัง

แต่ทว่า ตําแหน่งทีนางปรากฏตัว คือด้านหลังของนักบู๊


แคว้นถูผนู้ นั

จากการประจันหน้ากันในตอนแรก เพียงพริบตาก็กลับ
กลายเป็ นการยืนแบบหันหลังเข้าหากัน

23
ใบหน้าของนักบู๊แคว้นถูเต็มไปด้วยความตืนตระหนก
นัยน์ตาของเขานอกจากความตืนตระหนกแล้วไม่มี
ความรูส้ กึ ใดๆ อีกเลย แสงสีครามทีเขาปล่อยออกมาก็
แตกกระจายกลายเป็ นจุดสีครามในทันทีและหายไป
อย่างไร้รอ่ งรอย

บรรยากาศรอบข้าง เงียบสนิทลงในทันที

ไม่มีใครรูว้ า่ เกิดอะไรขึน

ทุกคนทีอยู่ ณ ทีแห่งนี คงจะมีเพียงมูซ่ งคนเดียวทีเห็น


อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึน

24
“ไม่......เป็ นไปไม่ได้!” ทันใดนัน นักบู๊แคว้นถูก็กดั ฟั นพูด
อย่างเหลือเชือ

ทันทีทีเขาพูดจบ ตรงกลางระหว่างหน้าผากของเขาก็
พลันมีรอยโลหิตปรากฏขึนอย่างรวดเร็ว รอยนันวาดลง
เรือยๆ แยกร่างของเขาออกเป็ น 2 ส่วน

ตุบ——!

ร่างกายของเขาแยกออกจากกัน โลหิตทีพุง่ กระจายไม่


โดนตัวมูช่ ิงเกอเลยแม้แต่นอ้ ย ในขณะนีเองทุกคนต่าง
ถูกความตกใจเข้าครอบงํา ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าบน
ปลอกนิวทีสวมอยูบ่ นนิวชีทีมือขวาของมูช่ ิงเกอมีหยด

25
โลหิตดังไข่มกุ สีแดงหยดลงไปบนพืน

‘คิดไม่ถงึ ว่า——ชนะแล้ว!’

ภาพทีเต็มไปด้วยโลหิตตรงหน้า ทําให้ทกุ คนตืน


ตระหนก เหล่าคนหนุ่มมากความสามารถของแคว้นฉิน
ทีหลบซ่อนตัวอยู่ ต่างก็หน้าซีดและไม่อยากจะเชือสาย
ตาของตนเอง

“มูช่ ิงเกอ ! เจ้าฆ่าเขา !” เฮ่อเหลียนป๋ าลุกขึนยืนในทันที


ชีหน้ามูช่ ิงเกอด้วยความโกรธ

ท่าทางนัน ราวกับจะให้นางชดใช้ดว้ ยชีวิต


26
มูช่ ิงเกอจ้องเขาอย่างเยาะเย้ยทีหนึงและจึงพูดกับฮ่องเต้
ฉินว่า : “ฝ่ าบาท เพราะมือเท้ามันไม่มีตาและความ
สามารถของนักบู๊แคว้นถูผนู้ ีน่าตกใจมาก เป็ นเพราะ
กระหม่อมนันตกอยูใ่ นความกลัว ชิงเกอจึงได้แต่เลือกที
จะป้องกันตัว ”

ไร้ยางอาย !ไร้ยางอายยิงนัก ! ไร้ยางอายเกินไปแล้ว !

ฆ่ายอดฝี มือสายครามได้อย่างง่ายดาย แต่กลับบอกว่า


ตนเองทําไปเพราะความกลัวจึงควบคุมพลังไว้ไม่อยูแ่ ละ
ฆ่าคนโดยไม่เจตนา

27
จะบ้าหรือ มูช่ ิงเกอ ไม่อายบ้างหรือ?

ฉินชางกระตุกใบหน้าทีหนึง ถึงแม้วา่ การทีแคว้นถูสญ



เสียยอดฝี มือสายครามไปคนหนึงจะทําให้เขาดีใจ แต่วา่
เขาก็หวังให้มชู่ ิงเกอตายมากกว่า

แม้แต่สายครามขันสูงก็ยงั ไม่สามารถประเมินความ
สามารถของนางได้และจบชีวิตลงในทีสุด

“หมานอ๋อง จะพูดแบบนีก็ไม่ถกู แม้เสด็จพ่อจะบอกว่า


ให้แตะโดนแล้วหยุด แต่วา่ นักบู๊แคว้นถูดอ้ ยความ
สามารถ ลงมือเพียงแค่คราเดียวเขาก็ตายด้วยนํามือ
ของคุณชายตระกูลมู่ เรืองนีจะโทษใครได้” ฉินจินห้าว

28
แก้ตวั ให้กบั มูช่ ิงเกอ

ความคิดของเขาง่ายดายเกินไป ในตอนนี มูช่ ิงเกอยืนอยู่


ฝ่ ายเดียวกับเขา แน่นอนว่าจะให้นางเป็ นอะไรไม่ได้
ห้ามผูใ้ ดทําอะไรนาง ไม่วา่ ใครแม้วา่ เสด็จพ่อของตนเอง
ก็ตาม

เพราะฉะนัน หลังจากทีเขาสัมผัสได้ถงึ ไอสังหารในแวว


ตาเสด็จพ่อของตนเอง เขาจึงเอ่ยพูดในทันที

ทันทีทีเขาอ้าปาก คนทีอยูข่ า้ งเดียวกับเขา ต่างก็ช่วยกัน


พูดส่งเสริมในทันที ใบหน้าของรัชทายาทฉินจินซิวเคร่ง
ขรึมและฉายแววโหดเ**◌้ยม เขาต้องการให้มชู่ ิงเก

29
อตาย สุดท้ายคนทีตายกลับเป็ นคนของเฮ่อเหลียนป๋ า

เพราะเขาแอบส่งสายตา คนของรัชทายาทก็เข้าร่วมการ
วิพากษ์วิจารณ์ในทันที

สิงทีประมาทเกินไปคือ ราชทูตแคว้นถูเป็ นแขก มูช่ ิงเก


อฆ่าแขกด้วยวิธีการอันโหดเ**◌้ยมเช่นนี ถือว่าไม่มีเหตุ
มีผลและอาจเกิดปั ญหาระหว่างแคว้นขึนได้

ฝ่ ายของรุย่ อ๋อง บอกว่ามูช่ ิงเกอไม่ผิด

แต่ทว่า ฝ่ ายรัชทายาทกลับจะให้มชู่ ิงเกอออกมารับโทษ


ให้ได้
30
ทันใดนัน คนในงานเลียง ถูกแบ่งออกเป็ น 3 พวกใน
ทันที มี 2 ฝ่ ายกําลังวิพากษ์วิจารณ์กนั อย่างดุเดือด แต่
ทว่า อีกฝ่ ายทีเป็ นคนกลาง กลับเลือกทีจะเงียบ

ฉินชางทีเฝ้ามองสถานการณ์ทงหมด
ั ใบหน้าเคร่งขรึม
กวาดสายตาไปมาท่ามกลางผูค้ นทีกําลังวิพากษ์วิจารณ์
กันอย่างดุเดือด

“ท่านพ่อ เรา......” มูเ่ หลียนหรงดูกระวนกระวาย

ความสามารถของมูช่ ิงเกอ เกินกว่าทีนางคาดการณ์เอา


ไว้และในตอนนี สิงทีสําคัญทีสุดคือ นางจําเป็ นต้องคิด

31
หาวิธีวา่ จะทําให้มชู่ ิงเกอผ่านเรืองราวในครังนีไปได้
อย่างไร

“อย่าเพิงรีบร้อน” มูซ่ งยกมือขึนห้าม พร้อมพูดนิงๆ คํา


หนึง แต่หา้ มทุกการเคลือนไหวเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว

เขาเชือใจมูช่ ิงเกอ

เชือนาง ในทุกๆ การกระทํา ว่าจะต้องคิดมาดีแล้ว

32
ตอนที 93-3 คุณชาย หน้าตาเล่า ?

33
‘เขาเก่งขึน แล้วอย่างไรล่ะ’ ฉินอีเหยากังวลใจขึนมาอีก
ครัง สายตาอันเย็นชาดังธารนําแข็ง มองมูช่ ิงเกอโดยไม่รู ้
ตัว

ราวกับสัมผัสได้ถงึ ความกังวลใจนี มูช่ ิงเกอเคลือนสาย


ตาไปสบตากับนาง

แต่ทว่า การสบตาในครังนี ฉินอีเหยากลับรีบหลบสาย


ตา ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึน นางนังนิงดังรูปปั นสลักจาก
นําแข็ง

34
มูช่ ิงเกอละสายตา พลันก้มหน้าลง

ขนตาอันยาวงอน บดบังความรูส้ กึ ในแววตาของนาง

ทันใดนัน มูช่ ิงเกอก็สง่ เสียงหัวเราะเบาๆ

เสียงหัวเราะนันเบามาก แต่กลับทําให้ทกุ คนทีกําลัง


วิพากษ์วิจารณ์กนั อย่างดุเดือดเงียบลง ไม่วา่ จะอยูใ่ น
มุมใด ต่างก็มองตามนาง

สายตาของคนจํานวนนับไม่ถว้ น รวมทังฉินชางและเฮ่อ
เหลียนป๋ าก็เช่นกัน

35
ทันใดนัน นางจึงค่อยๆ เงยหน้าขึน มองรัชทายาทฉินจิน
ซิวอย่างเยาะเย้ย พูดด้วยรอยยิมทีราวกับยิมและไม่ยมิ
ในคราเดียวกัน : “รัชทายาท ท่านรีบร้อนอยากให้ขา้ ตาย
เพือขอขมา สําหรับคนทีเข้าใจรูเ้ ข้า แน่นอนว่าต้องคิดว่า
รัชทายาทเป็ นห่วงมิตรภาพระหว่างสองแคว้น คนทีไม่
เข้าใจ คงคิดว่ารัชทายาทเป็ นรัชทายาทของแคว้นถู
สามารถฆ่าประชาราษฎร์แคว้นฉินให้ตายได้อย่างใจ
หวัง กระหม่อม ขวางหูขวางตาของพระองค์ถงึ เพียงนี
เลยหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ทุกคนต่างเงียบ !

คําพูดของนาง ทําให้จดุ สนใจเบียงไปเป็ นรัชทายาทฉิน


จินซิวแทน
36
ฉินชางกวาดสายตามองรัชทายาทคนนีทีไม่เคยทําให้
เขารูส้ กึ พอใจเลย พลันมองเฮ่อเหลียนป๋ าด้วยสายตาที
ราวกับกําลังคาดเดาอะไรบางอย่าง

ฉินจินห้าวตะโกนในใจว่า ‘ดี!’ สายตาทีมองมูช่ ิงเกอนัน


เต็มเปี ยมไปด้วยความพึงพอใจ

คําพูดนีของนาง ฟั งแล้วอาจดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่


หากคิดดีๆ แล้ว ไม่วา่ อย่างไรก็มีอะไรไม่ชอบมาพากล
ประการแรก ระหว่างแคว้นฉินและแคว้นถูจะมีมิตรภาพ
อะไรต่อกันได้ ทังสองแคว้นทําสงครามกันมานานหลาย
ปี คนจํานวนมากตายจากไป เหลือไว้เพียงความแค้น
แล้วจะมีมิตรภาพได้อย่างไร? ประการทีสองการฆ่ายอด
37
ฝี มือของแคว้นถู ถือเป็ นการสยบความหยิงยโสของพวก
เขา เป็ นเกียรติของแคว้นฉิน นับว่าเป็ นวีรบุรุษของแคว้น
ฉินแท้ๆ แล้วเหตุใดรัชทายาทแคว้นฉินจึงต้องการให้เขา
ตายให้ได้ ประการสุดท้าย มูช่ ิงเกอและตระกูลมูข่ ดั ขวาง
รัชทายาทหรือ ยังไม่ทนั จะได้ขนครองบั
ึ ลลังก์ ก็คิดหาวิธี
การล้มล้างตระกูลขุนนางผูม้ ีอาํ นาจแล้วรึ?

ไม่วา่ จะข้อไหน ก็เพียงพอทีจะทําให้ฉินจินซิวเป็ นคนผิด

เรืองทีสําคัญทีสุดคือการกระตุน้ ความขีสงสัยของฉินชา
งได้สาํ เร็จ

“มูช่ ิงเกอ เจ้าหยุดพูดเหลวไหลเสียที ! การใส่ความ

38
รัชทายาทมีโทษหนักเจ้ารูห้ รือไม่ !” หานฮองเฮารีบห้าม
ปราม แต่กลับไม่รูว้ า่ ในขณะทีนางกําลังรีบร้อนอยากจะ
ปกป้องเกียรติของโอรสตน สิงทีทุกคนเห็นกลับกลาย
เป็ นการกลบเกลือนทีไร้นาหนั
ํ กเท่านัน

ฉินชางจ้องนางอย่างเคร่งขรึมทีหนึง ทันใดนันก็พดู ขึน


ว่า : “พอได้แล้ว เรืองนีขอให้จบลงเพียงเท่านี” หลังจาก
นันจึงหันไปหาเฮ่อเหลียนป๋ าทียังคงไม่ยินยอม: “หมา
นอ๋อง การประลองนีท่านเป็ นผูเ้ สนอขึนมา ในวันนีนักบู๊
แคว้นถูมีความสามารถไม่เพียงพอ จึงต้องตายในสนาม
ประลอง จะโทษใครคงไม่ได้”

คําพูดนี ตอนแรกควรจะเป็ นคําปลอบใจทีเตรียมเอาไว้


ให้กบั มูซ่ ง แต่ไม่คิดว่าท้ายทีสุดกลับต้อพูดกับเฮ่อเหลี
39
ยนป๋ า

เมือเฮ่อเหลียนป๋ าเห็นดังนี เขาจึงนังลงด้วยความโกรธ


อีกครัง

ตอนนีพวกเขาต่างก็อยูใ่ นแคว้นฉิน จะดือรันต่อไปก็คง


ไม่ใช่เรืองดี เขาสัมผัสได้ถงึ สายตาอันเย็นเยียบของมูซ่ ง
ทีคอยจับจ้องอยู่ เขานังลงแต่ความโกรธแค้นในใจยังคง
ไม่ลดน้อยลง

สูญเสียยอดฝี มือสายครามไปคนหนึง ก็ราวกับกรีดเนือ


หนังของเขาออกไปชินหนึง

40
“เจ้าบอกว่าเขาเป็ นเพียงสายเขียวขันต้นมิใช่หรือ” เฮ่อ
เหลียนป๋ าถามฉินจินซิวทีนังอยูข่ า้ งๆ เบาๆ

ในขณะนีเอง ฉินจินซิวทีกําจอกเหล้าไว้แน่นด้วยโทสะ
หากไม่ใช่เห็นแก่พระพักตร์ของเสด็จพ่อ เขาก็คงสังคน
ไปจับกุมตัวมูช่ ิงเกอเอาไว้และฆ่ามันทิงเสีย

ในตอนนี ได้ยินคําถามจากเฮ่อเหลียนป๋ าอีกครัง เขาจึง


กล่าวในใจอย่างไม่พอใจว่า : “เจ้าถามข้า แล้วข้าจะไป
ถามใครล่ะ”

ทังสองทีแอบวางแผนร้ายกัน แยกกันไปอย่างไม่ชอบใจ
ในทันที

41
มูช่ ิงเกอสําเร็จ ‘ภารกิจ’ ทีฉินจินห้าวมอบหมายให้ ก็
สะบัดแขนเสือ หันหลังและเดินกลับไปนังบนทีนังประจํา
ของตนเอง

เสียงเพลงบรรเลงขึน เหล่านางรําค่อยๆ เคลือนตัวขึน


เวที

แต่วา่ กระจิตกะใจทีจะชืนชมการแสดงนันได้ถกู ทําลาย


ไปแล้ว

หลังจากทีงานเลียงจบลง มูช่ ิงเกอก็ออกจากวังหลวงไป


พร้อมกับท่านปู่ และท่านอาของตนเอง ในขณะทีเดิน

42
ออกจากวังหลวง นางทีนังอยูบ่ นหลังเพลิงรัตติกาล ก็หนั
กลับไปมองความมืดมนด้านในประตูทีเป็ นดังปากของ
สัตว์ป่าอันโหดเ**◌้ยม

เรืองราวทีเกิดขึนข้างในนัน ล้วนไม่เกียวข้องกับนางแล้ว
นางเพียงแค่ตอ้ งรอคอยโอกาสทีเหมาะสม..........

สามวันถัดจากนัน วังหลวงก็มีข่าวกระจายออกมาว่า
รัชทายาทถูกลงโทษ ฮ่องเต้ไม่พอพระทัยในตัวรัชทายาท
และจงใจจับผิด กลับกัน รุย่ อ๋องได้รบั ความชืนชมจาก
ฮ่องเต้ ได้ตามเสด็จอยูข่ า้ งๆ บ่อยๆ ได้รบั ความโปรด
ปรานจากฮ่องเต้ไม่นอ้ ย

43
ท่าทีของฮ่องเต้ทีเปลียนไป ทําให้คนทังวังหลวงเปลียน
ตามไปด้วย

เพียงไม่นาน ข่าวทีรัชทายาทถูกหมางเมิน รุย่ อ๋องได้รบั


ความรักความเมตตา ก็ได้แพร่ออกจากวังหลวงและ
กระจายไปทัวแคว้นดังติดปี ก

สุดท้าย ข่าวทีฮ่องเต้จงใจปลดตําแหน่งรัชทายาทและ
ให้รุย่ อ๋องเป็ นว่าทีรัชทายาทแทนก็ทาํ ให้กลุม่ คนของ
รัชทายาทเริมเคร่งเครียดขึนมา

และภายในสามวันนี มูช่ ิงเกอกลับเป็ นดังคนทีไม่มีสว่ น


เกียวข้อง หากไม่อยูใ่ นค่ายของกองทหารตระกูลมูก่ ็ออก

44
ไปเทียวเตร่กบั เจ้าอ้วนเซ่า ราวกับได้กลับไปเป็ นจอม
เสเพลดังเดิม

ในวันนี เป็ นวันทีสามนับจากวันจัดงานเลียงและเป็ นวัน


ทีคณะราชทูตแคว้นถูจะเดินทางกลับ

ตอนเช้าตรู ่ มูช่ ิงเกอตามตัวเจ้าอ้วนเซ่าไปขึนเขาบริเวณ


ชานเมืองด้วยกัน

‘แฮ่ก~! แฮ่ก~!’

เจ้าอ้วนเซ่าปี นเขาจนร่างกายเต็มไปด้วยไอร้อน ชุดที


สวมอยูก่ ็เปี ยกดังเพิงชุบนํามา
45
เขายืนอยูร่ ะหว่างทางขึนเขา มือทังสองข้างจับเข่า
หายใจหอบพลางมองมูช่ ิงเกอ เมือเห็นว่านางยังคงผ่อน
คลาย ราวกับกําลังเดินเล่นอยูใ่ นสวน จึงพูดอย่างอิจฉา
ว่า : “ลูกพี หากคราวหน้าจะขึนเขาอีกไม่ตอ้ งชวนเจ้า
อ้วนนะ ข้ารับไม่ไหวหรอก !”

มูช่ ิงเกอพูดอย่างแนบนิงว่า : “การออกกําลังกายช่วยให้


ร่างกายแข็งแรงและช่วยลดนําหนัก”

เจ้าอ้วนเซ่าพูดพร้อมร้องไห้อย่างไม่มีนาตาว่
ํ า : “ร่าง
กายของข้านี เพียงดืมนําก็สามารถอ้วนขึนมาได้สามจิ
น ข้าจะทําอย่างไรได้เล่า”

46
“หากมุง่ มันจะต้องชนะชะตาฟ้าลิขิต หากสามารถเอา
ชนะชะตาฟ้าลิขิตแล้วนับประสาอะไรกับเจ้าก้อนเนือ
อ้วนๆ อย่างเจ้า” มูช่ ิงเกอพูดอย่างขบขัน

ทังสองพาทหารองครักษ์สองสามคน พูดคุยกันไปจนถึง
ทีพักทีเตรียมพร้อมสําหรับนักเดินทางซึงก็คือ ศาลา
หลังคาแปดเหลียม

ในทีสุดก็ถงึ ทีพัก เจ้าอ้วนเซ่าทิงตัวลงบนพืน หายใจ


หอบ ซึงแน่นอนว่า เขาหมดสภาพโดยสินเชิง

ก้มหน้าลงมองเขาแวบหนึง มูช่ ิงเกอจึงถามต่อว่า : “เจ้า

47
อ้วน ของทีข้าให้ เจ้าดืมแล้วหรือยัง”

เมือได้ยินคําพูดนี เจ้าอ้วนเซ่าก็รบี กระโดดขึนมาจากพืน


โน้มตัวเข้าไปใกล้มชู่ ิงเกอและถามอย่างระมัดระวังว่า :
“ลูกพี สิงทีท่านให้ขา้ มันคือสิงใดกันแน่ หลังจากทีข้าดืม
เข้าไปแล้วก็เจ็บปวดแสนสาหัส จนข้าเกือบจะตายแล้ว”

“ถ้าเช่นนัน เจ้าดืมไปแล้วหรือ สัมผัสได้ถงึ การเปลียน


แปลงอะไรหรือไม่” มูช่ ิงเกอพินิจรูปร่างทีดูแตกต่างจาก
คนอืนของเจ้าอ้วนเซ่า

“หลังจากทีดืมไปแล้ว ข้าก็อยูก่ บั ท่านทุกวัน มิได้สงั เกต


ว่ามีการเปลียนแปลงอะไร ลูกพีสิงนันมันคือของลําค่า

48
อะไรกันแน่”

49
ตอนที 93-4 คุณชาย หน้าตาเล่า ?

มูช่ ิงเกอกลับไม่ได้ตอบเขาตามตรง เพียงแต่พดู อย่างลึก


ลับว่า : “อืม ตังแต่วนั นีเป็ นต้นไป เจ้าก็จงตังใจฝึ กพลัง
อยูท่ ีจวนเถิด”

“ลึกลับถึงเพียงนีเชียวหรือ” เมือไม่ได้รบั คําตอบทีต้อง


การ เจ้าอ้วนเซ่าพลันรูส้ กึ หมดกําลังใจ

50
“หืม ทีแท้ทีนีก็สามารถมองเห็นถนนสายทีออกจากเมือง
ด้วย” ทันใดนัน ตาเล็กๆ ของเจ้าอ้วนเซ่าก็เป็ นประกาย
ราวกับได้คน้ พบดินแดนใหม่อย่างนัน

รูปร่างอย่างเขา สําหรับการปี นเขาแล้ว เขาไม่คนุ้ เคยเลย


แม้แต่นอ้ ย

ในวันนี หากไม่ใช่มชู่ ิงเกอทีเป็ นคนชวน เขาก็คงจะไม่


ยอมขยับเท้าของตนเองเลยแม้แต่กา้ วเดียว

เพราะฉะนัน เขาจึงไม่ทราบว่า ศาลาหลังคาแปดเหลียม


บนภูเขานี สามารถมองเห็นถนนสายทีใช้ออกจากเมือง
ทีอยูต่ รงตีนเขาซึงอยูไ่ ม่ไกลนักได้ และในขณะนี ก็มีคน

51
และม้าจํานวนหนึง ค่อยๆ เคลือนขบวนผ่านดังงูทียาว
คดเคียว

“นันมันขบวนของแคว้นถูใช่หรือไม่” เจ้าอ้วนเซ่าสามารถ
เดาได้วา่ คนพวกนันเป็ นใครอย่างง่ายดาย

เขาพูดเองเออเองโดยไม่ได้สงั เกตว่ามูช่ ิงเกอทีอยูข่ า้ งๆ


ได้หยุดสายตาบนขบวน แต่ทีแตกต่าง นันก็คือ นางมอง
ตรงไปทีรถม้าซึงใช้มา้ จํานวนถึงแปดตัวในการลาก ตัว
รถประดับประดาไปด้วยผ้าสีทองและสีแดง

นันมัน ขบวนเสด็จขององค์หญิง

52
ในวันนี ไม่เพียงแต่เป็ นวันทีคณะทูตแคว้นถูจะเสด็จกลับ
แคว้น แต่ยงั เป็ นวันทีองค์หญิงฉางเล่อแห่งแคว้นฉินจะ
ออกเรือนด้วย

สําหรับฉินอีเหยาแล้ว ตอนนีจิตใจของนางคงกําลัง
สับสนวุน่ วาย

ในตอนนี การมาส่งนางทีนี บางทีอาจจะเป็ นสิงเดียวที


ตนเองสามารถทําให้นางได้

เมือส่งฉินอีเหยาเสร็จแล้วก็ถงึ เวลาทีนางจะต้องลงมือ
จัดการเรืองของตนเองเสียที

53
นางเสียเวลากับการอยูใ่ นแคว้นฉินมากเกินไปแล้ว ยิง
กระจ่างถึงความกว้างใหญ่ไพศาลของหลินชวน นางก็
ยิงอยากจะออกไป อยากจะเห็นถึงความยิงใหญ่ทีแตก
ต่างกันไปและประวัติศาตร์ของแต่ละแคว้น

แต่วา่ ก่อนอืนนางจะต้องทําให้ตระกูลมูห่ มดสินความ


กังวลเสียก่อน

“ลูกพี หากท่านทําใจไม่ได้ เราไปชิงตัวองค์หญิงกลับ


มา !” ทันใดนัน คําพูดอันเต็มเปี ยมไปด้วยความตังใจ
แน่วแน่ของเจ้าอ้วนเซ่า ก็ตดั บทความคิดของมูช่ ิงเกอ

นางหันกลับมาสบกับสายตาอันแน่วแน่ของเจ้าอ้วนเซ่า

54
นางเข้าใจในทันทีวา่ เจ้าอ้วนเซ่ากําลังเข้าใจผิด เป็ น
ความจริงทีว่านางมาส่งฉินอีเหยา แต่วา่ นางไม่ได้คิด
เช่นนัน แต่ทีทําให้นางคาดไม่ถงึ คือ เจ้าอ้วนเซ่าดูออกว่า
นางมาเพือส่งฉินอีเหยา

เมือเห็นว่ามูช่ ิงเกอเงียบไป เจ้าอ้วนเซ่าจึงคิดว่าตนเอง


เดาถูก จึงพูดต่อไปว่า : “ลูกพี เป็ นลูกผูช้ ายจะลังเลอะไร
อยูอ่ ีก องค์หญิงเป็ นคนดี หากท่านชอบ ก็ไปแย่ง
นางกลับมา ยังไง นางเป็ นของท่านตังแต่แรก หากแคว้น
ถูไม่พอใจก็ทาํ สงครามกันเสียให้รูแ้ ล้วรูร้ อด แคว้นฉิน
ของเราไม่มีอะไรต้องกลัว ให้ผหู้ ญิงตัวเล็กๆ คนหนึง
แบกรับสันติสขุ ของคนทังแคว้นเอาไว้ มันไม่ควรจะเป็ น
สิงทีลูกผูช้ ายพึงกระทํา อย่างไรก็ตาม หากรบกับแคว้นถู

55
ข้า ไอ้อว้ นเซ่าผูน้ ีจะเป็ นคนแนวหน้าบุกทะลวงเอง”

มูช่ ิงเกอพูดพร้อมรอยยิมว่า : “เจ้าอ้วน ข้าไม่คิดว่าเจ้า


จะมีสติปัญญาดีเช่นนี แต่วา่ ทีข้ามาส่งองค์หญิง เพียง
แค่ระลึกถึงความสัมพันธ์ทีมีตอ่ กันทีผ่านมา ข้าไม่ได้คิด
กับนางอย่างทีเจ้าคิด”

“ลูกพีไม่ตอ้ งมาปิ ดบังข้า” แต่ทว่า เจ้าอ้วนเซ่ากลับไม่


เชือ

เมืออธิบายอย่างไรก็ไม่เข้าใจ มูช่ ิงเกอเองก็ไม่อยากจะ


เปลืองนําลายต่อไป

56
นางมองทางทีอยูต่ ีนเขา ขบวนยาวเหลือเพียงแค่หาง
ขบวน ฉินอีเหยาทีอยูห่ น้าสุดไม่เหลือแม้เพียงเงาตังนาน
แล้ว

“ใคร !”

ทันใดนัน ทหารองครักษ์ทีเฝ้าอยูภ่ ายในศาลาได้สง่ เสียง


เตือน

มูช่ ิงเกอและเจ้าอ้วนเซ่าหันกลับไปมอง เห็นเพียงแค่รา่ ง


อันสูงโปร่ง กําลังเดินมุง่ หน้ามาหาพวกเขา

ส่งสัญญาณให้ทหารองครักษ์ออกไป มูช่ ิงเกอพาผูม้ า


57
เยือนเดินเข้าศาลาหลังคาแปดเหลียม

“เจ้าอ้วน เจ้าออกไปรอข้าข้างนอกก่อน” มูช่ ิงเกอพลาง


มองผูม้ าเยือน พลางสังเจ้าอ้วนเซ่า

ไม่ได้พดู อะไรมาก เจ้าอ้วนเซ่าก็ถอยออกไป

ภายในศาลา เหลือเพียงมูช่ ิงเกอและเขา

นางผุดรอยยิมและพูดว่า : “วันนีเป็ นวันดีอะไร ถึงได้ทาํ


ให้ผเู้ ก็บเนือเก็บตัวและร่างกายอ่อนแออย่างเสียนอ๋อง
เสด็จมาเทียวป่ าปี นเขาเช่นนีได้”

58
“ข้ามาส่งคน” ฉินจินเฉินพูดอย่างเย็นชา ในส่วนลึกของ
นัยน์ตาขาวและดําทีตัดกันอย่างชัดเจน ยังคงไม่เผย
ความรูส้ กึ อืนใด

คนทีเขาพูดถึงเป็ นใครไม่ตอ้ งถาม มูช่ ิงเกอเองก็รู ้

นางยิมจางๆ พลันก้มหน้าลงและพูดว่า : “ถ้าเช่นนัน


กระหม่อมไม่รบกวนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

พูดจบ นางก็เตรียมจะออกจากศาลา

แต่ทว่า ทันทีทีนางจะออกไป ฉินจินเฉินก็พดู ขึนอย่าง


กะทันหันว่า : “เจ้าเตรียมจะลงมือแล้วหรือ”
59
มูช่ ิงเกอหยุดฝี กา้ ว ยิมอย่างมีเลศนัยพลางพูดว่า : “ไม่
ใช่กระหม่อมทีจะลงมือ เพียงแต่มีคนอดทนรอไม่ไหว
กระหม่อมเพียงแค่ยืดมันในอุดมการณ์ของตระกูลมู่ นัน
คือซือสัตย์และรักชาติ”

“ข้าจะไม่มีทางนังบนบัลลังก์จอมปลอมนัน” ฉินจินเฉิน
เผยความในใจของตนเองออกมา

มูช่ ิงเกอหันกลับไป มองเขาอย่างไม่ใส่ใจ : “พระองค์จะ


เลือกทางเดินอย่างไร ก็เป็ นสิทธิของพระองค์ กระหม่อม
เพียงแค่ทาํ ลายสิงทีมาทําให้ตระกูลมูไ่ ม่มนคง
ั บัลลังก์
นันใครจะนังก็ได้ แต่ตอ้ งไม่ทาํ ให้ตระกูลมูต่ อ้ งเดือด

60
ร้อน”

“เคยมีใครบอกว่าเจ้าบ้าบินหรือไม่” ฉินจินเฉินมองหน้า
นางแล้วพูด

มูช่ ิงเกอกระตุกปากอย่างไม่ใส่ใจ : “แล้วจะทําไม”

คําตอบทีหยิงยโส สายตาทีบ้าคลัง........

ฉินจินเฉินก้มหน้าลง พูดอย่างเย็นชาว่า “หากข้าไม่ลง


มือ............”

“แผนการของกระหม่อม ไม่เคยมีพระองค์อยูพ่ ะ่ ย่ะค่ะ”


61
มูช่ ิงเกอมองเขาแวบหนึง ความเย็นเยียบทีแฝงอยูใ่ นแวว
ตาขัดจังหวะคําพูดของฉินจินเฉิน

ฉินจินเฉินยิมขืน

ราวกับว่า เขาได้กระจ่างในจุดประสงค์ของมูช่ ิงเกอแล้ว

ทังรุย่ อ๋องและรัชทายาท ต่างก็ไม่มีทางเมตตาต่อตระกู


ลมูเ่ ป็ นแน่ เพราะฉะนันนางจะทําให้พวกเขากัดกันและ
เดินเข้าหาจุดจบของชีวิตไปพร้อมๆ กัน จากนันใครจะ
นังบนบัลลังก์นนั แน่นอนว่าไม่ใช่เรืองสําคัญสําหรับนาง

อย่างทีนางได้กล่าวเอาไว้ ใครก็ได้ทีจะไม่สร้างความ
62
เดือดร้อนให้กบั ตระกูลมูก่ ็เพียงพอแล้ว

เพราะฉะนัน สําหรับนางแล้ว เขาเป็ นคนทีเหมาะสมที


สุดงันหรือ? ฉินจินเฉินไม่รูว้ า่ ควรรูส้ กึ เป็ นเกียรติหรือไม่
แต่วา่ เขากลับรูด้ ีวา่ สําหรับเรืองนี เขาจะทําให้นางผิด
หวัง

เพราะว่า เขาได้รบั ปากอวินเฟย พระมารดาเลียงของตน


เองไว้วา่ เขาจะไม่มีวนั แย่งชิงบัลลังก์นนเด็
ั ดขาดและจะ
ไม่มีทางขึนไปนังบนนันแน่ๆ

ค่อยๆ เงยหน้าขึน ตรงหน้าฉินจินเฉินว่างเปล่าไม่เหลือ


ใครเลย

63
ก้อนเมฆสีแดงอันเย้ายวนนันได้จากไปไกลโดยไม่เห็น
แม้เพียงเงา

แววตาของเขาดูคลุมเครือ เม้มปาก จากนัน เขาก็หนั


หลังและเดินจากไป

64
ตอนที 93-5 คุณชาย หน้าตาเล่า ?

ในวันทีสองทีขบวนของคณะราชทูตแคว้นถูรวมทังขบวน
เจ้าสาวของฉินอีเหยาออกจากลัวตูไป ก็มีข่าวกระจาย
ออกมาว่าฮ่องเต้ทรงประชวรหนักเพราะทรงคิดถึงพระ
ราชธิดา
65
มูช่ ิงเกอถูกฉินจินห้าวเรียกให้ไปพบในตําหนักรุย่ อ๋อง
ราวกับว่าเขาเริมรอไม่ไหวแล้ว

“อยูๆ่ เสด็จพ่อก็ทรงประชวรหนัก ฮองเฮากลับปิ ดประตู


ตําหนักไม่ให้เหล่าองค์ชายอย่างพวกข้าเข้าไปเยียม แม้
แต่เสด็จแม่ของข้าเองก็เริมเตรียมการป้องกันแล้ว คาด
ว่าเรืองทีเสด็จพ่อทรงพระประชวรในครานี จะต้องเกียว
ข้องกับตระกูลหานเป็ นแน่ ชิงเกอ เจ้าลองวิเคราะห์ดู จะ
เป็ นไปได้หรือไม่ทีตระกูลหานทนไม่ได้จงึ ลงมือ” ทันทีที
พบกัน ฉินจินห้าวก็พดู กับมูช่ ิงเกออย่างเปิ ดใจ

ท่าทีของฉินจินห้าวดูเปลียนไป ทว่ามูช่ ิงเกอกลับไม่ใส่ใจ

66
เลยแม้แต่นอ้ ย

ต้นเหตุทีฮ่องเต้แคว้นฉินประชวร ใต้หล้านีคงมีเพียงนาง
ทีรูด้ ีทีสุด

เพราะแท้จริงแล้วฮ่องเต้แคว้นฉินไม่ได้ประชวรแต่อย่าง
ใด ทว่าพระองค์โดนวางยาพิษ

และคนทีวางยา ก็คือนางเอง มูช่ ิงเกอ

ส่วนโอกาสทีใช้ในการวางยาก็คืองานเลียงเมือหลายวัน
ก่อน ในตํารายา ไม่เพียงมีแต่ทกั ษะการปรุงยา แต่ยงั มี
ทักษะการปรุงยาพิษอีกมากมาย ในบรรดามรดกตก
67
ทอดของผูเ้ ฒ่าเป่ ยหมิงแน่นอนว่าจะต้องมีพวกยาพิษ
อยูอ่ ย่างไม่ตอ้ งสงสัย

ด้วยความสามารถของมูช่ ิงเกอในตอนนี สามารถวางยา


ได้อย่างไร้รอ่ งรอยมาตังนานแล้ว

และนางมันใจว่า หมอหลวงภายในวังหลวงจะไม่มีทาง
ตรวจพบเป็ นแน่

การวางยาพิษฉินชาง เป็ นเพียงแค่การเติมเชือไฟ เร่งให้


รัชทายาทและรุย่ อ๋องลงมือก็เท่านัน พวกเขามีเวลามาก
พอทีจะเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่วา่ นางไม่มี

68
ในตอนนี สิงทีฉินจินห้าวกําลังพูดนัน สามารถตีความได้
ว่า เขากําลังสงสัยว่าตระกูลหานปองร้ายฉินชาง มูช่ ิงเก
อไม่อยากจะอธิบายอะไรมากนัก จึงพูดไปตามทีเขา
สงสัย : “อืม หากตระกูลหานเป็ นคนลงมือและเกิดอะไร
ขึนกับฮ่องเต้จริงๆ การทีรัชทายาทฉินจินซิวจะขึนครอง
บัลลังก์นนก็
ั เป็ นเรืองทีถูกต้องตามหลักอยูแ่ ล้ว”

พูดจบ นางก็พลันมองฉินจินห้าวอย่างเห็นใจทีหนึง ราว


กับกําลังบอกว่า เมือถึงตอนนันเรืองนีก็จะไม่เกียวข้อง
อะไรกับเจ้าอีกต่อไปแล้ว

ตังแต่อดีตกาล ผูแ้ พ้จากการแย่งชิงบัลลังก์นนมี


ั จดุ จบ
เพียงอย่างเดียว

69
ซึงฉินจินห้าวล้วนกระจ่างเป็ นอย่างดี

เขาทังโกรธและตืนตระหนก จึงพูดด้วยใบหน้าดําคลํา
ว่า : “เป็ นไปได้อย่างไร ! เสด็จพ่อทรงไม่พอพระทัยในตัว
รัชทายาทและกําลังจะปลดรัชทายาทออกจากตําแหน่ง”
หากฉินจินซิวสําเร็จตามเป้าหมาย ถ้าเช่นนัน ความ
พยายามของเขาก็จะไร้คา่ น่ะสิ?

“แต่วา่ ราชโองการปลดตําแหน่งนี ยังไม่มีโอกาสได้ลง


เป็ นลายลักษณ์อกั ษร” มูช่ ิงเกอพูดเตือนความจริงอัน
โหดเ**◌้ยมข้อหนึงแก่เขา

70
ใบหน้าของฉินจินห้าวซีดแล้วซีดอีก

เขามองมูช่ ิงเกอและพูดว่า : “ชิงเกอ ในเวลานีเราควรทํา


อย่างไรดี?” ในขณะนีเขาเชือใจมูช่ ิงเกออย่างสุดหัวใจ
จนถึงขันทีว่าเริมพึงพานางโดยไม่รูต้ วั

หากเป็ นเมือก่อน มีคนบอกว่าในอนาคตข้างหน้า เขาจะ


ต้องพึงพามูช่ ิงเกอเพือการสําเร็จการใหญ่ เขาคงจะ
หัวเราะเพือเยาะเย้ยคนๆ นัน รวมทังคงจะสังหารเขา
อย่างไร้ปรานี

“แล้วเหล่าทีปรึกษาของรุย่ อ๋องมีความเห็นว่าอย่างไร
บ้าง” มูช่ ิงเกอเปลียนสายตาเป็ นการย้อนถามแทน

71
“พวกเขารึ?” ฉินจินห้าวขมวดคิว พลางพูดอย่างไม่พอใจ
ว่า : “ล้วนเป็ นพวกไร้ประโยชน์ นอกจากให้ขา้ เข้าวัง
หลวงไปขอเข้าเฝ้าเสด็จพ่อก็ไม่มีวิธีอืนใดอีกเลย”

“แล้วรุย่ อ๋องคิดว่าอย่างไร” มูช่ ิงเกอขยับตัวไปข้างหน้า


ในแววตาแฝงการคาดคัน

ฉินจินห้าวอึง แล้วจึงพูดอย่างจริงใจว่า : “ความคิดของ


ข้า ชิงเกอยังไม่กระจ่างหรือ ตอนนีหากข้าแพ้ คนทีลง
เรือลําเดียวกับข้าก็คงจะเอาตัวรอดไปคนเดียวไม่ได้ ”
พูดจบ เขาพลันมองมูช่ ิงเกอด้วยสายตาทีแฝงไปด้วย
การเตือน

72
มูช่ ิงเกอกระตุกยิมและไม่ใส่ใจคําข่มขู่ทีไม่มีสาระนัน

นางนังพิงเก้าอี ในขณะเดียวกันก็ผดุ รอยยิมและพูดว่า :


“ในตอนนี สิงทีรุย่ อ๋องขาดมากทีสุดคือเวลา แต่สงที

รัชทายาทมีมากทีสุดก็คือเวลาเช่นกัน หากฮ่องเต้ทรง
พระประชวรจริงๆ หรือถูกกักบริเวณ เราก็ไม่อาจรูไ้ ด้ แต่
ว่า มีสงเดี
ิ ยวทีต้องทําให้ได้ นันก็คือเข้าเฝ้าฮ่องเต้”

ฉินจินห้าวขมวดคิว ไม่คอ่ ยพอใจในคําพูดของมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอมองเขาครูห่ นึง พูดอย่างขบขันว่า : “หากใช้ไม้


อ่อนแล้วไม่สาํ เร็จ เราก็ตอ้ งใช้ไม้แข็ง”

73
ฉินจินห้าวตาเป็ นประกาย พลันถามว่า : “ไม้แข็งอย่าง
ไร”

“ฮ่องเต้ทรงพระประชวร แม้กระทังคนสนิทอย่างเจียงกุย้
เฟยก็ยงั ไม่สามารถเข้าเฝ้าได้ ซึงแน่นอนว่า ขุนนางใหญ่
ท่านอืนก็คงยากทีจะได้พบ รวมถึงรุย่ อ๋องเองก็ขอเข้าเฝ้า
หลายต่อหลายครัง แต่ทว่าก็ยงั ไม่สามารถเข้าเฝ้าได้ ทัง
ความไม่พอพระทัยทีฮ่องเต้มีตอ่ รัชทายาท เรามีเหตุผลที
เพียงพอทีจะสงสัยว่าฝ่ ายรัชทายาทกักบริเวณฮ่องเต้ไว้
ท่านเป็ นถึงองค์ชายทีฮ่องเต้ให้ความสําคัญ ก็ควรจะเข้า
ไปเพือช่วยเหลือ มิใช่หรือ” ในนําเสียงอันเยือกเย็นของมู่
ชิงเกอแอบซ่อนความยัวยวนทีอันตรายถึงชีวิตไว้ชนิด
หนึง

74
“ช่วยเหลืออย่างนันหรือ” ในแววตาของฉินจินห้าวพลัน
กิดความลังเล แต่กลับลุกขึนอย่างแน่วแน่ : “ใช่ ! เข้าไป
ช่วยเหลือเสด็จพ่อ”

ฉินจินห้าวมองมูช่ ิงเกอ ในแววตาทีเต็มเปี ยมไปด้วยแผน


การของเขานันราวกับมีเปลวเพลิงลุกไหม้

รอยยิมตรงมุมปากของมูช่ ิงเกอยิงชัดเจนมากขึนกว่า
เดิม นางจึงพูดต่อว่า : “ต้องเร่งลงมือให้ทนั การ ข้าบอก
แล้วว่า สิงทีรุย่ อ๋องขาดคือเวลา หากจะยือเวลาต่อไป
จนเกิดอะไรขึนกับฮ่องเต้ ทังหมดก็จะสายเกินไป”

75
“ใช่ ! เสด็จพ่อถูกพวกเขากักตัวเอาไว้และไม่รูว้ า่ ต้องทน
ทุกข์ทรมานมากเพียงใด ข้าจะไปช่วยเสด็จพ่อ !
ประจานแผนการชัวๆ ของคนพวกนันให้โลกได้รบั รู ้ !”
ฉินจินห้าวพูดอย่างสมเหตุสมผล

มูช่ ิงเกอยิม : “หากรุย่ อ๋อง มีใจทีกตัญ ตู อ่ บุพการี ข้า


และกองทหารตระกูลมูท่ ีพร้อมจะรับคําสังจากรุย่ อ๋อง
และข้าก็จะนําทหารองครักษ์ของข้าไปเป็ นกองหน้าให้
กับการรบในครังนีด้วย”

กองทหารตระกูลมู่ ! กองทัพแคว้นฉินทีไม่เคยพ่ายแพ้ !
ตระกูลมู่ ผูเ้ ป็ นทีนับถือของประชาราษฎร์แคว้นฉิน!

76
ท่ามกลางภาพจินตนาการทีมูช่ ิงเกอสร้างขึน ฉินจินห้าว
ราวกับมองเห็นภาพตนเองได้ครอบครองอํานาจอันสูง
สุดจนถึงขันเห็นภาพอนาคตทีตนเองนํากองทหารตระกู
ลมูส่ รู้ บไปทัวทุกสารทิศ จนแคว้นทุกแคว้นต่างยอม
ศิโรราบ

……

ณ วังหลวงแคว้นฉิน ภายในตําหนักข้างธรรมดาแห่ง
หนึง มีกลินหอมจางๆ ของยาลอยฟุง้ ออกมา

ภายในตําหนัก มีคนอยูไ่ ม่มากนักและมีเตียงนอนเตียง

77
หนึงทีมีรา่ งอันแสนอ่อนแรงนอนอยู่

เมือเข้าไปดูใกล้ๆ คนผูน้ นกลั


ั บเป็ นฮ่องเต้แคว้นฉิน คิด
ไม่ถงึ ว่า คนผูน้ ีจะเป็ นผูท้ ีหลายวันก่อนหน้านีดูแข็งแรง
ปราดเปรียวคนนัน........

นอกม่านหนาหลายชัน มีคนยืนอยูส่ องคน

คนหนึงสวมมงกุฎหงส์ งามสง่า อีกคนหนึงสวมชุด


ประจําตําแหน่งรัชทายาท ใบหน้าหล่อเหลา

“เสด็จแม่ หมอหลวงว่าอย่างไรบ้าง” ฉินจินซิว


มองบริเวณม่านครูห่ นึง แล้วจึงเอ่ยถาม
78
หานฮองเฮาส่ายหน้าพูดด้วยสายตาทีฉายแววเคร่งขรึม
ว่า : “ยังไม่รูส้ าเหตุ สิงเดียวทีตรวจพบคือ พลังจิตภาย
ในร่างกายของเสด็จพ่อของเจ้ากําลังค่อยๆ ถูกกลืนกิน
หาไม่เช่นนัน พระองค์ก็คงจะไม่ออ่ นแรงลงเรือยๆ เช่นนี”

“ถ้าเช่นนัน.......เสด็จพ่อ ยังทรงเหลือเวลาอีกนานเท่า
ไหร่” ฉินจินซิวรีบถามอย่างกระวนกระวาย

ทันทีทีพูดถึงเรืองนี หานฮองเฮาก็ขมวดคิวเบาๆ

ฉินจินซิวไม่ทนั สังเกตปฏิกิรยิ าของนาง จึงพูดว่า : “ก่อน


หน้านี เสด็จพ่อทรงไม่พอพระทัยในตัวข้าแล้ว ไอ้เจ้าสวะ

79
ฉินจินห้าวเองก็แอบส่งคนไปสอดแนมข้า นําความลับทัง
หมดของข้าไปบอกเสด็จพ่อ โชคดีทีฟ้ายังเมตตา เสด็จ
พ่อยังไม่ได้ทาํ อะไรก็ประชวรเสียก่อน หากพระองค์ทรง
จากไปเช่นนี ข้าก็ยงั คงเป็ นรัชทายาท ฮ่องเต้แคว้นฉินใน
อนาคต!”

“โชคเจ้ายังดีตอนทีเสด็จพ่อเจ้าประชวรจนล้มลงเป็ น
ตอนทีกําลังดุดา่ เจ้าพอดี หากโดนนังแพศยาแซ่เจียงได้
โอกาสนีไปก่อนล่ะก็ อยากจะรูน้ กั ว่าเจ้ายังจะพูดด้วยท่า
ทางสบายอกสบายใจอย่างนีได้อีกหรือไม่” หานฮองเฮา
ตําหนิเขาอย่างหมดความอดทน

เมือถูกต่อว่า ใบหน้าของฉินจินซิวจึงเคร่งขรึมลง

80
เขาเก็บความโกรธเอาไว้ มิได้ตอบกลับ

หานฮองเฮาจึงพูดอย่างกลุม้ ใจว่า : “เสด็จพ่อของเจ้า


แม้จะดูประชวรหนัก แต่หมอหลวงบอกว่า ยังไม่ถงึ แก่
ชีวิตภายในเวลาอันสันนีและนังแพศยาแซ่เจียงนันก็ไม่
ยอมอยูเ่ ฉยเอาไทเฮามาอ้างในการขอเข้าพบเสด็จพ่อ
ของเจ้าหลายครัง หากไม่ใช่เพราะไทเฮาไม่พอพระทัยใน
ตัวนางตังแต่แรก จึงหวังให้เจ้าเป็ นรัชทายาท เรืองทัง
หมดคงจะไม่จดั การได้ง่ายดายเช่นนี”

“สําหรับอาการประชวรของเสด็จพ่อ เสด็จแม่คิด
ว่า..........” ฉินจินซิวถามอย่างระมัดระวัง

81
หานฮองเฮาพูดพร้อมรอยยิมอันเยือกเย็น : “แม้วา่ นาง
จะไม่ได้เข้ามาโดยตรง แต่วา่ นางแอบไปถามหมอหลวง
ทีรักษาเสด็จพ่อของเจ้า โชคดีทีในคราวนี เราไม่ได้เป็ น
คนลงมือ ไม่เช่นนัน เจ้าคิดว่า ตอนนี ทางตําหนักฉือ
เสียงจะยังนิงอยูอ่ ีกหรือ”

ฉินจินซิวมองไปทีหลังม่าน สายตาฉายความโหด
เ**◌้ยมและพูดกับหานฮองเฮาว่า : “เสด็จแม่ ถ้าเช่นนัน
เรา........” ในขณะนันเองเขาก็เอามือวาดผ่านลําคอ
แสดงท่าทาง ‘ฆ่า’

‘เจ้าจะฆ่าเสด็จพ่อรึ !’

82
สายตาของหานฮองเฮาเคร่งขรึมขึนมาทันใด สบตากับ
โอรสท่ามกลางความเงียบ

ทังสองมองคนทียังคงนอนอยูห่ ลังม่านเป็ นตาเดียวกัน

“หากยือเวลาต่อไป ข้าเกรงว่าฉินจินห้าวจะเข้ามายุง่ ”
ฉินจินซิวหรีตาทังคู่ พูดอย่างเ**◌้ยมโหด

หานฮองเฮาเม้มโอษฐ์ ประเมินส่วนได้เสียในแผนการ
ครังนี ครูห่ นึงพระนางจึงตรัสว่า : “น้าของเจ้าตังค่ายอยู่
ทางตอนเหนือ ในตอนนีคงจะช่วยอะไรไม่ได้ ในลัวตูแห่ง
นี นอกจากกองทหารตระกูลมูจ่ าํ นวนหนึงแสนนายทีตัง

83
ค่ายอยูท่ ีชานเมืองแล้ว ในเมืองยังมีทหารหลวงอีกหนึง
แสนห้าหมืนนายของตระกูลเซ่า พวกเขาเป็ นกลางมา
ตลอด ตอนนีไม่มีเวลามากพอทีจะดึงเข้ามาเป็ นพวก
ทหารรักษาเมืองฝ่ ายซ้ายมีสามหมืนคนหัวหน้าทหาร
เป็ นคนของตระกูลเจียงส่วนฝ่ ายขวาเป็ นของเรา อํานาจ
ของทังสองฝ่ ายนีถือว่าสามารถลบล้างกันได้ ทหาร
รักษาพระองค์จาํ นวน สองหมืนนายและองครักษ์สว่ น
กลางอีกสีหมืนนายเป็ นของเสด็จพ่อของเจ้าและในตอน
นีพระองค์ทรงประชวร เราสามารถใช้อาํ นาจของ
พระองค์ ในการสังการทหารหกหมืนนายนี เจ้าพูดถูกฉิน
จินห้าวอาจจะทนรอต่อไปไม่ไหว แต่วา่ เราต้องรอ รอให้
เขาลงมือเสียก่อน หากเขาลงมือ เราก็สามารถใช้ขอ้ อ้าง
เรืองการบุกรุกเข้าวังหลวงในการลงโทษและจัดการเขา
เสีย”

84
“แต่วา่ ในตอนนี ตระกูลมูแ่ ละฉินจินห้าวสนิทสนมกัน
มาก” ฉินจินซิวพูดพลางขมวดคิว

“ตระกูลมูอ่ ย่างนันหรือ” หานฮองเฮาพูดอย่างเหยียด


หยาม: “มูซ่ งนันรักความเป็ นธรรม ไม่มีทางมายุง่ กับ
เรืองการแย่งชิงเป็ นแน่ คนทีจะออกมารับหน้าแทนก็คง
จะเป็ นหลานชาย เราเพียงแค่วางกับดักไว้ทววั
ั งหลวง
เพือสังหารมูช่ ิงเกอ อํานาจของตระกูลมูก่ ็ถือว่าหมดสิน
ลง ถึงตอนนัน มูซ่ งจะสามารถทําอะไรได้? เขาทีซือสัตย์
มาโดยตลอดจะลุกขึนมาฆ่าเชือพระวงศ์ได้อย่างไรเล่า”

หานฮองเฮามันใจมาก ราวกับเดาอุปนิสยั ของมูซ่ งได้

85
อย่างหมดเปลือก นางจึงได้ไร้ซงความกลั
ึ วเช่นนี

อีกประการหนึง นางแอบคิดในใจว่า หลังจากทีลูกชาย


ของตนเองขึนครองราชย์ คนหนึงทีจะต้องจัดการคือมูซ่ ง
และการฆ่ามูช่ ิงเกอเป็ นเรืองทีต้องเกิดขึนไม่วนั ใดก็วนั
หนึง

ความมันใจของหานฮองเฮา ส่งผลกระทบต่อฉินจินซิว
ทําให้เขารูส้ กึ ราวกับชัยชนะได้อยูใ่ นกํามือเป็ นทีเรียบ
ร้อยแล้ว

เขาจึงรีบพูดว่า : “ข้าจะรีบไปสังการ ให้คนออกไป


ติดตามความเคลือนไหวของมูช่ ิงเกอ”

86
“ไม่ตอ้ งลําบากเพียงนัน แค่สร้างกับดักทัวทังสีประตูวงั ก็
พอแล้ว” หานฮองเฮาตรัสพร้อมรอยยิมอันเย็นเยียบ

พูดจบ ทังสองก็ออกจากตําหนักไป

ท่ามกลางพวกเขา ไม่มีใครสังเกตเห็นว่า มีคนผูห้ นึงที


กําลังตัวสัน หลบอยูใ่ ต้เตียงและได้ยินบทสนทนาของ
พวกเขาด้วยใบหน้าทีแฝงความหวาดกลัว........

87
ตอนที 94-1 วังหลวงวุน่ วาย บังเกิดคลืนลม !

ในตอนแรก เป็ นเพราะความคิดถึงทีมีตอ่ เสด็จพ่อ นาง


จึงแอบเข้าไปภายในห้อง

แต่กลับไม่คิดว่า จะได้ยินคําพูดเช่นนี........

พวกเขาบอกว่าจะฆ่าพีชาย !

ร่างเล็กนันหลังจากทีมันใจว่า ภายในตําหนักไม่มีใคร
แล้ว จึงคลานออกมาจากใต้เตียง นางหันกลับไปมอง
1
เสด็จพ่อทีใบหน้าเ**◌่ ยวย่น ร่างกายผ่ายผอมบนเตียง
นางกัดริมฝี ปากสีแดงกําแล้วจึงออกจากทางลับทีซ่อน
อยูใ่ นตูข้ องตําหนักอย่างรวดเร็ว

เพราะการชอบผจญภัยไปทัววังหลวงตังแต่เด็ก เพราะ
ฉะนันนางจึงรูท้ างลับทางนีโดยบังเอิญและเป็ นเหตุผลที
ทําให้นางสามารถแอบมาเข้าเฝ้าเสด็จพ่อได้

บางที หานฮองเฮาและรัชทายาทฉินจินซิวเองก็คงไม่มี
ทางคาดคิดว่า บทสนทนาทีไม่อาจเปิ ดเผยได้ระหว่าง
พวกเขา ฉินอีเหลียนจะได้ยินมันทังหมด

วิงออกจากทางลับอย่างเร่งรีบ ฉินอีเหลียนไม่ทนั ได้ปัด

2
ฝุ่ นทีเกาะติดตามชายกระโปรงของตนเอง นางวิงออก
จากวังหลวงไปโดยมีเพียงจุดมุง่ หมายเดียวก็คือการ
บอกทุกอย่างทีตนเองได้ยินกับเขาคนนันและห้ามไม่ให้
เขาเข้ามาในวังหลวง !

แต่ทว่า เพิงจะวิงออกไปไม่กีก้าว นางก็พลันหยุดฝี เท้า


ในแววตาอันบริสทุ ธิฉายความตืนตระหนกและลังเลใน
ขณะเดียวกัน

ประตูวงั หลวงมีตงสี
ั บาน นางคนเดียวไม่สามารถเฝ้าได้
หมด !

สิงสําคัญคือ นางออกไปไม่ได้ !

3
หานฮองเฮาไม่เพียงแต่หา้ มคนนอกไม่ให้เข้า ทว่านางยัง
สังห้ามคนในไม่ให้ออกด้วย

‘ทําอย่างไรดี? ทําอย่างไรดี? ทําอย่างไรดี?’

ใช่แล้ว !

ทันใดนัน ตาของนางก็พลันเป็ นประกายเพราะสามารถ


คิดวิธีแก้ปัญหาออกแล้ว

นางรูว้ า่ เสด็จพีของตนเองได้เตรียมองครักษ์ยอดฝี มือ


เอาไว้เพือปกป้องตนเองและเสด็จแม่ ตนเองไม่สามารถ
4
ออกจากวังหลวงไปได้ แต่ทว่า หากเป็ นยอดฝี มือผูน้ นั
แน่นอนว่าต้องทําได้

เพียงแค่เขาออกไปและไปหาเสด็จพี หลังจากนันก็ไปหา
คนๆ นันให้พบและอธิบายเรืองราวทังหมด เพือไม่ให้เขา
เข้ามาในวังหลวง

แต่วา่ หากคลาดกันเล่าจะทําอย่างไร?

ไม่ทนั ได้คิดอะไรมาก นางก็พลันเรียกตัวองครักษ์ลบั ของ


ตนเองออกมา เพือสังให้เขาออกจากวังหลวงไปหามูช่ ิง
เกอและตัวนางก็กลับไปยังตําหนักของตนเอง เรียกตัว
ทหารสามนายทีสามารถเชือใจได้ เพือกระจายตัวกันไป

5
หลบซ่อนบริเวณประตูวงั หลวง

แม้วา่ ข้างนอกจะไม่สามารถแจ้งได้ทนั เวลา พวกเขาก็ยงั


คงสามารถส่งเสียงเตือนในช่วงเวลาวิกฤติได้

สวมเสือคลุมสีดาํ ทีรวมเป็ นเนือเดียวกับสีแห่งรัตติกาล


นางเลือกประตูทิศเหนือ เพราะจิตใต้สาํ นึกของนาง ราว
กับมีเสียงหนึงกําลังบอกกับนางว่าหากเฝ้าอยูท่ ีนี นาง
จะไม่ผิดหวังเป็ นแน่

……

ในคืนนี ลัวตูดเู หมือนสัตว์รา้ ยตัวใหญ่ทีกําลังหลับใหล


6
อยูใ่ นห้วงนิทรา

บนถนน ไม่มีเงาคนแม้เพียงครึงคน สิงปลูกสร้างอันหนา


หนัก ราวกับกรงเล็บของสัตว์ป่าหน้าตาอัปลักษณ์ที
สยายโบกท่ามกลางราตรีกาลอันมืดมิด

นอกเมือง เหล่าประชาชนต่างนอนหลับกันอย่างวางใจ
มิได้สมั ผัสได้ถงึ การเปลียนแปลงอันใด

ในเมือง ภายในประตูแต่ละบานทีปิ ดสนิท ต่างก็ซอ่ น


ความคิดของเหล่าเสนาบดีและตระกูลชันสูงเอาไว้

ณ จวนตระกูลมู่ สายลมทีพัดผ่านทําให้โคมไฟทีแขวน
7
อยูใ่ ต้หลังคาส่ายไปมา

ภายในเรือนทีปิ ดสนิท แสงเทียนส่องสว่าง เผยให้เห็นคน


ในเรือนซึงยังไม่นอน

ภายในเรือน มูซ่ งสวมชุดเกราะสีเงิน ฉายความน่าเกรง


ขาม มูเ่ หลียนหรงเองก็สวมชุดนักรบ ท่าทางผ่าเผยอย่าง
นักรบ

เมือเห็นว่าท่านพ่อดืมนําชาในถ้วยจนหมดแล้ว นางจึง
รีบเต็มให้เต็ม

วางกานําชาลง นางพูดอย่างกังวลใจว่า : “ท่านพ่อ เรา


8
จะปล่อยให้ชิงเกอไปเผชิญกับอันตรายคนเดียวเช่นนี
จริงหรือ”

มูซ่ งยังคงสงบนิง : “ไม่เป็ นไร นางไม่เป็ นอันตรายหรอก


เราเพียงแค่ดาํ เนินทุกอย่างไปตามแผนการของนางก็
เพียงพอแล้ว”

“ทัพใหญ่มารวมตัวกันแล้ว เมือถึงเวลาก็จะเข้ามาใน
เมืองทันที แต่วา่ การทีชิงเกอบุกรุกเข้าไปในวังหลวง
หากทําให้ผเู้ ฒ่าพวกนันตืนตระหนกขึนมาจะทําอย่าง
ไร” มูเ่ หลียนหรงยังคงเป็ นกังวล

เมือพูดถึงเรืองนี มูซ่ งก็ขมวดคิวเล็กน้อย

9
ในบรรดาผูท้ ีปกป้องแคว้นฉิน เท่าทีเขารูม้ ีสายม่วง 1 คน
สายนําเงิน 5 คน ทีเหลือเป็ นยอดฝี มือสายคราม ด้วย
ความสามารถของหลานสาวของเขาแล้ว หากต่อสูก้ นั ก็
คงไม่ใช่เรืองทีดีนกั

แต่วา่ ——

วางถ้วยนําชาลง จากนันมูซ่ งจึงพูดว่า : “คนพวกนัน มี


เพียงแคว้นล่มสลายหรือมีคนเข้ายึดครองแผ่นดินของ
คนตระกูลฉิน จึงจะยอมปรากฏตัว การแย่งชิงเช่นนี
พวกเขาไม่ปรากฏตัวหรอก เหมือนดังทีเกอเอ๋อร์ได้พดู
เอาไว้ ตระกูลมูเ่ พียงแต่ใช้อาํ นาจในการล้มล้างผูไ้ ม่
ประสงค์ดี ฮ่องเต้แคว้นฉินยังคงเป็ นตระกูลฉิน ตระกูลมู่
10
ของเราไม่สนใจบัลลังก์นนั ”

ในขณะทีสองพ่อลูกกําลังพูดคุยกัน มูช่ ิงเกอก็ได้ออก


เดินทางตามเวลาในแผนการทีฉินจินห้าวได้วางเอาไว้

นางจะพาทหารองครักษ์ของตนเองตีฝ่าไปเป็ นด่านแรก
หลังจากทีโจมตีประตูแรก ให้ฉินจินห้าวเข้าไปภายในวัง
หลวงได้แล้ว จากนันก็จะกวาดล้างให้สนซาก

หลังจากทีวางแผนการทังหมดจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นางจึงได้รูว้ า่ ฉินจินห้าวแอบฝึ กทหารลับเอาไว้ 5-6
หมืนนาย ทหารลับพวกนี ได้รบั การฝึ กฝนและได้รบั การ
ดูแลจากฝ่ ายตระกูลเจียง แต่ทว่า เท่าทีมูช่ ิงเกอดูแล้ว

11
ฝี มือของทหารลับเหล่านีก็แค่กลางๆ

เมือคิดถึงเรืองทีมูซ่ งแอบฝึ กทหารกองพันเพลิงเอาไว้


จํานวนหนึงแสนนาย เพือเป็ นไพ่ใบสุดท้ายของตระกูลมู่
กลับไม่ตอ้ งเสียแรงเลยแม้แต่นอ้ ย

รวมทัง ยังสามารถเลียงดูกองทหารตระกูลมูใ่ นเมืองอีให้


อยูร่ อดได้ในขณะเดียวกัน

ไม่ใช่เพราะตระกูลมูร่ ารวยกว่
ํ าตระกูลเจียง แต่เป็ น
เพราะมูซ่ งมีความสามารถในการนําทหารมากกว่า กอง
ทหารพันเพลิงจึงไม่ได้เพิมภาระให้กบั ตระกูลมู่ ในขณะ
ทีใช้สงครามในการฝึ กการรบ ก็ยงั นําเอาของกํานัลทีได้

12
มาจากชัยชนะไปให้กบั เมืองอี เพือเป็ นกองเสริมให้กบั
กองทหารตระกูลมู่

เพราะฉะนัน ไม่วา่ กองทหารตระกูลมูห่ รือกองทัพพัน


เพลิง ต่างก็ไม่ใช่คแู่ ข่งของกองทหารธรรมดาๆ อย่าง
กองทหารทีฉินจินห้าวเลียงเอาไว้

มูช่ ิงเกอนังอยูบ่ นหลังของเพลิงรัตติกาล เมือนึกถึงใบ


หน้าทีประดับด้วยความได้ใจของฉินจินห้าวก็อดทีจะ
หัวเราะอย่างเย็นเยียบไม่ได้ ‘ได้ใจต่อไปเถิด รอให้ลม้ ลง
เมือห่างจากความฝันเพียงแค่คืบเดียว จึงจะเป็ นสิงทีน่า
ประทับใจจนลืมไม่ลง’

13
ทหารองครักษ์ 500 นาย ตามมูช่ ิงเกอมาหยุดตรงหน้า
ประตูวงั หลวงเพราะการนํากําลังของมัวหยาง

ประตูวงั ทีปิ ดสนิท กําแพงวังหลวงทีสูงตระหง่าน ช่างดู


น่ากลัวเป็ นอย่างยิง

มูช่ ิงเกอนังอยูบ่ นหลังเพลิงรัตติกาลก้าวไปข้างหน้าอย่าง


ไม่หยุด เสียงเกือกม้าดังก้องอยูบ่ นหนทาง สัตว์ทีมีสติ
ปั ญญา เมือเทียบกับสัตว์ป่าแล้ว มีความสามารถในการ
รับรูอ้ นั ตรายล่วงหน้าได้ดีกว่า พญาอาชาเพลิงตัวนี ราว
กับสัมผัสได้วา่ ข้างหน้ามีอนั ตรายและกําลังเตือนเจ้า
ของให้ระวัง

14
มัวหยางขยับไปข้างหน้าหลายก้าว เพือมาหยุดข้างๆ ตัว
มูช่ ิงเกอ แล้วจึงพูดเบาๆ ว่า : “คุณชาย ดูเหมือนจะมีกบั
ดัก จะเปลียนทางหรือไม่”

มูช่ ิงเกอค่อยๆ เงยหน้าขึน มองไปยังป้ายทีติดอยูบ่ น


กําแพงวังหลวง หรีตาทังคูล่ ง พลันค่อยๆ ส่ายหน้า :
“ประตูอืนก็เช่นกัน แล้วจะเปลียนไปเพืออะไร”

ทันใดนัน นางก็กระตุกยิมอย่างโหดเ**◌้ยมและพูดเสียง
ตําว่า : “เป็ นเช่นนีสิ ถึงจะน่าสนุก”

ความหมายทีซ่อนอยูใ่ นคําพูดของมูช่ ิงเกอ มัวหยางเข้า


ใจเป็ นอย่างดี

15
16
ตอนที 94-2 วังหลวงวุน่ วาย บังเกิดคลืนลม !

เพียงแค่เขายกมือขึน กองทหารเขียวมังกร
จํานวนหนึงก็เคลือนตัวออกมา เตรียมพร้อมทีจะเปิ ด
ประตูวงั หลวง

ทหารทีเฝ้าอยูบ่ ริเวณประตูวงั หลวงถูกกระจาย


กําลังให้เข้าไปอยูภ่ ายในวังหลวงและปิ ดประตูวงั หลวง
ไว้อย่างสนิทถึง เพียงนี หากไม่ใช่เพราะรอพวกเขาเป็ น
ฝ่ ายโจมตีก่อน แล้วคืออะไรเล่า

17
รุย่ อ๋องและรัชทายาทล้วนต้องการชือเสียงใน
ทางทีดี ทังสองต่างต้องการความเคารพนับถือ แต่นาง
ไม่ตอ้ งการ

ปั ง——! ปั ง——!

และแล้วประตูวงั หลวงอันหนาแน่นก็โดนกอง
ทหารเขียวมังกรพังทลายลง

เศษซากของประตูบานใหญ่รว่ งหล่นกระจายลง
สูพ่ ืน เผยให้เห็นภาพเบืองหลังประตู

ท่ามกลางความเงียบสงบ ราวกับมีกลินอาย
18
แห่งความตายลอยมา

บรรยากาศล้อมรอบไปด้วยไอสังหาร

มูช่ ิงเกอสูดหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึง มุมปากกระตุก


ยิมอันเ**◌้ยมโหด นางได้กลินไอสังหารทีซ่อนอยูใ่ น
อากาศ แม้วา่ จะถูกซ่อนไว้เป็ นอย่างดี แต่จะทําอย่างไร
ได้ ในเมือตัวนางนันคุน้ เคยกับไอสังหารเป็ นอย่างดี

ด้านหลังประตูวงั หลวง เชือมต่อกับทางเดินอัน


กว้างใหญ่ รอบๆ ทางเดินทอดยาวถูกล้อมรอบไปด้วย
กําแพงอันสูงลิว นอกจากประตูสองบานแล้ว รอบๆ ก็มี
เพียงแค่บนั ไดทีสามารถขึนไปเหนือกําแพงได้

19
ในตอนนี ประตูบานหนึงได้ถกู ทําลายลงไปเรียบ
ร้อยแล้ว ประตูอีกบานทีเชือมกับทางเข้าวังหลวงกลับถูก
เปิ ดออก

ประตูบานนัน ราวกับเป็ นปากของสัตว์ป่า ทีอ้า


รอคนเข้าไป

ความมืดมิด ครอบงําพืนทีทังหมดในนี ในตอนนี


นางประหนึงได้ยินเสียงเต้นของหัวใจจากผูค้ นทียืนอยู่
ด้านในของกําแพงวังหลวง

มูช่ ิงเกอเลียริมฝี ปากสีโลหิตอันน่าเย้ายวน แวว

20
ตาของนางแฝงความกระหายเลือด

“คุณชาย” มัวหยางเข้ามาใกล้รอฟั งคําสังของมู่


ชิงเกอ

มูช่ ิงเกอพลันขมวดคิวแล้วพูดว่า : “เข้าไป”

แม้วา่ จะกระจ่างเป็ นอย่างดีวา่ มันคือกับดัก แต่


ก็ยงั คงเลือกทีจะกระโดดเข้าไป

หากไม่ใช่เพราะความซือสัตย์และความเชือใจที
กองทหารเขียวมังกรมีตอ่ มูช่ ิงเกอ ในขณะนี อาจจะมีคน
กลัวจนถอยกลับไป
21
อาชาเพลิง ใช้พลังเฉพาะตัวของสัตว์ป่าทีมีสติ
ปั ญญาในการคุม้ กันเจ้าของของตนเองเอาไว้ ค่อยๆ
เดินเข้าไปในประตูวงั หลวงทีแตกหัก ในทางเดินราวกับมี
เพียงเสียงคํารามและเสียงเกือกม้าทีดังก้องอยู่

เหล่ากองทหารเขียวมังกรยังคงรักษาความเงียบ
และความเยือกเย็นเอาไว้ ราวกับในใจนันมีเพียงเป้า
หมายเดียว คือสังเกตความเคลือนไหวรอบๆ อย่างจด
จ่อ

ชุดสีแดงและเสือเกราะ ลมเย็นท่ามกลางเมฆสี
รัตติกาลพัดผ่านมา ลมหายใจของทัง 500 คน ต่างก็อยู่
ในระดับความถีเดียวกัน ตําแหน่งของแต่ละคน ก็ดู
22
เหมือนว่าจะเว้นระยะในอัตราส่วนทีเท่ากัน

พวกเขาเคลือนตัวไปตามมูช่ ิงเกอทีอยูใ่ นชุดแดง


เพลิงและสวมเกราะป้องกันตัวสีเงิน ดวงตาอันเฉียบคม
ดังอินทรีเต็มไปด้วยกลินอายฆ่าฟั น ราวกับได้ลบล้างไอ
สังหารอันมหาศาลทีล่องลอยอยูก่ ลางอากาศ

ในทุกย่างก้าว พวกเขาต่างก้าวเดินอย่างช้าๆ
ราวกับจงใจ

และคนทีหลบซ่อนตัวเพือรอคอย ต่างรูส้ กึ ว่า


เวลาช่างผ่านไปอย่างเชืองช้า การรอคอยมันแสนจะยาว
นาน ทําให้มือทีกําอาวุธอยูส่ นอย่
ั างไม่รูต้ วั

23
“อย่า——! อย่าเข้ามา——! รีบหนีไป——!”

ทันใดนัน เสียงอันตืนตระหนกก็ได้ดงั ขึนท่าม


กลางอากาศ จนทําลายความเงียบสงบอันแฝงไปด้วย
อันตรายบริเวณประตูวงั หลวง

มูช่ ิงเกอขมวดคิวแล้วมองไปยังทางทีทอดยาว

เงาของใครคนหนึงทีสวมชุดสีดาํ กําลังพุง่ ตัวมา


หานาง คําพูดในปาก ราวกับกําลังจะเตือนภัยอะไร
บางอย่างกับนาง

24
เพียงพริบตา คนผูน้ นก็
ั พงุ่ ตัวออกจากทางเดิน
ดังผีเสือราตรีและปรากฏตัวบนลานทีมีระยะห่างจากมู่
ชิงเกอเพียงแค่เอือมมือ แต่ความเป็ นจริงแล้ว กลับมีทาง
เดินอันกว้างใหญ่กนพวกนางเอาไว้

ทันใดนัน มูช่ ิงเกอราวกับเห็นรอยยิมอันเฉิดฉาย


ความปี ติและความตืนตระหนกในขณะเดียวกัน

ในขณะนันเอง——!

ศรธนูสีครามเหลือบฟ้าดอกหนึง พลันส่งเสียงหวีดหวิว
ทะลุแหวกอากาศแล้วพุง่ ตรงมาทีกลางหลังของคนผูน้ นั
อย่างแม่นยํา

25
แสงทีส่องประกายอยู่ เมืออยูใ่ นรัตติกาลเช่นนีช่างดูโดด
เด่นเป็ นทีสุด

มูช่ ิงเกอทีนังอยูบ่ นหลังเพลิงรัตติกาลอย่างเกียจ


คร้านในตอนแรก นังตัวตรงในทันที แล้วโดดลงจากหลัง
ม้าและพุง่ ไปหาคนๆ นันอย่างไม่ลงั เล

แต่ทว่า ในทีสุด นางก็ชา้ ไปก้าวหนึง

ในขณะทีนางโดดลง ลูกศรธนูอนั แหลมคมก็ได้


ทะลุผา่ นร่างของคนทียังคงวิงไปข้างหน้า

26
สิงทีเกิดขึนอย่างกะทันหัน ทําให้คนๆ นันยังคง
อยูใ่ นท่าวิง ผ้าคลุมสีดาํ ปลิวลงกลางอากาศ เผยให้เห็น
ใบหน้าทีแท้จริงของนาง——

“เหลียนเหลียน——!” ความไม่คาดคิด ความ


ตืนตระหนกเกิดขึนภายในใจของมูช่ ิงเกอ นางหรีตาทังคู่
ลงในทันที พลันปรากฏตัวขึนตรงหน้าฉินอีเหลียน คว้า
ร่างทีพุง่ อยูแ่ ละกําลังจะล้มลงได้ทนั เวลา

“เหตุใดเจ้าถึงมาอยูท่ ีนีได้” มูช่ ิงเกอดึงร่างของ


เหลียนเหลียนเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ในสายตานอกจาก
ความไม่คาดคิดแล้ว ยังมีความตืนตระหนกซ่อนอยู่

27
ทุกอย่างเกิดขึนอย่างรวดเร็วจนเกินไป

ระหว่างทีนางเข้าสูป่ ระตูวงั หลวง จนกระทังฉินอี


เหลียนปรากฏตัว ใช้เวลาเพียงเสียววินาทีเดียวเท่านัน

กล่าวได้วา่ การปรากฏตัวของฉินอีเหลียน ยังไม่ทนั ที


นางจะรูส้ กึ ตัว เหตุการณ์ก็ได้เกิดขึนแล้ว

นางคิดไม่ถงึ เลยว่า คนทีส่งเสียงเตือนจะเป็ น


องค์หญิงหย่งฮวนฉินอีเหลียน หญิงสาวผูท้ ีจิตใจบริสทุ ธิ
ดังสายนํา ขาวสะอาดดังกระดาษคนนัน

ผูห้ ญิงคนหนึง ทีนางไม่อยากทําร้ายและไม่หวัง


28
ให้ถกู ทําร้าย

และหญิงสาวผูน้ นเอง
ั ทีในขณะนีกําลังหายใจ
อย่างรวยรินอยูภ่ ายใต้ออ้ มกอดของนางเอง

“พีชาย ท่านไม่เป็ นอะไรก็ดีแล้ว” มุมปากของฉิน


อีเหลียนมีเลือดซึมออกมาและรอยศรธนูเล็ก ใหญ่
บริเวณหน้าอก ก็ได้ยอ้ มชุดทีนางสวมอยูจ่ นกลายเป็ นสี
แดงแห่งโลหิต

แต่วา่ นางยังคงราวกับไม่รูส้ กึ อะไร มองใบหน้า


ของมูช่ ิงเกอพร้อมรอยยิมทีแห่งความยินดี

29
“ฆ่า——!ฆ่า——!ฆ่า——!”

การพรวดพราดเข้ามาของฉินอีเหลียน ทําให้
ทหารทีซุม่ ซ่อนอยูเ่ สียแผน

ทหารทีซ่อนตัวทนรอต่อไปไม่ไหว จึงพุง่ ตัวออก


มาในทันที

30
ตอนที 94-3 วังหลวงวุน่ วาย บังเกิดคลืนลม !

สายตาของมูช่ ิงเกอพลันมืดดําลงและเต็มไปด้วยความ

31
โกรธ มือซ้ายของนางอุม้ ฉินอีเหลียนเอาไว้และพลิกมือ
ขวาทีหนึง ปลอกนิวอันงดงามได้กลายเป็ นทวนหลินหลง
และอยูใ่ นกํามือของนาง

“ฆ่า ! ฆ่าให้หมด” นําเสียงอันเย็นเยียบดังมีดดาบดังขึน


จากริมฝี ปากนาง ราวกับเสียงเรียกร้องทีดังมาจากขุม
นรก

กองทหารเขียวมังกรพุง่ ตัวออกไปในทันที ต่างก็กระจาย


เข้าไปกวาดล้างศัตรูทวทุ
ั กสารทิศ

ทันใดนัน แสงสีเขียวและสีครามมากมายก็ได้สาดสว่าง
ทัวบริเวณประตูวงั หลวง

32
กองทหารเขียวมังกร ต่างก็เป็ นถึงยอดฝี มือสายเขียว
และสายครามเชียวหรือ แต่ทว่า อายุของพวกเขานัน
น้อยกว่านักรบแคว้นถูอยูม่ าก

ภาพนี ช่างเป็ นภาพทีน่าประหลาดใจ หลายคนยังไม่ทนั


ได้แสดงอาการอันใด ก็ถกู สังหารเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว

มูช่ ิงเกอถือทวนหลินหลง ปลายทวนชีลงพืนดินอย่าง


โหดเ**◌้ยม

ทันใดนัน พลังบางอย่างได้แผ่กระจายออกจากปลาย
ทวน ทําให้ศตั รูทีพุง่ ตัวมาหานางถูกตีกลับและกลาย

33
เป็ นกองเลือดกลางอากาศ

ศัตรูนบั ไม่ถว้ น ยังคงเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย มูช่ ิงเก


อสังมัวหยางด้วยนําเสียงอันเย็นชาว่า : “ใครเข้าใกล้ ฆ่า
ให้หมด”

มัวหยางรับคําสัง ก่อนจะสังให้กองทหารเขียวมังกรรวม
ตัวกันเป็ นวงกลมเพือให้มชู่ ิงเกอและฉินอีเหลียนอยูต่ รง
กลาง จากนันก็สงั หารทุกคนทีเข้าใกล้

พลังสายเขียวและครามจํานวน 500 คน ภาพนีช่างเป็ น


ภาพทีเหนือจินตนาการ

34
ทหารนับหมืนทีซุม่ โจมตี ต่างก็ไม่สามารถผ่านด่านอัน
แข็งแกร่งนีได้ในทันที

ท่ามกลางความวุน่ วาย มีเพียงบริเวณทีมูช่ ิงเกออยูเ่ ท่า


นันทีสงบนิง

“เหลียนเหลียน เหตุใดเจ้าถึงมาอยูท่ ีนี ข้าช่วยเจ้าไม่


ได้.....” เป็ นครังแรกทีสายตาของมูช่ ิงเกอสาดประกาย
เจ็บปวด

ข้าไม่สามารถช่วยนางได้! ช่วยไม่ได้!

แม้วา่ นางจะมีตาํ รายาและมีเหมิงเหมิงทีเป็ นช่องว่างอัน


35
เหนือฟ้า มีอาวุธอย่างทวนหลินหลง มียาเปลียนแปลงดี
เอ็นเอทียังหลงเหลืออยู่ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตฉินอี
เหลียนเอาไว้ได้

เพราะหัวใจของฉินอีเหลียน ได้ถกู ศรธนูดอกนันแทงจน


ทะลุ

ในขณะนีทีนางยังมีสติอยู่ เป็ นเพราะพลังจิตของมูช่ ิงเก


อทีคอยคําจุนเอาไว้

การปรากฏตัวของฉินอีเหลียน ผิดไปจากแผนทีวางเอา
ไว้ ทําให้มชู่ ิงเกอไม่รูว้ า่ ควรจะทําอย่างไรต่อไป เพราะ
แม้กระทังโอกาสทีจะช่วยชีวิตนางก็ยงั ไม่มี

36
“ข้า ... ข้าได้ยินฮองเฮาและรัชทายาทบอกว่า ... ...
บอกว่าจะฆ่าท่าน ... ... ข้าจึงมา ... ...”ฉินอีเหลียนพูด
พร้อมรอยยิม สิงทีเกิดขึนในขณะทีนางอ้าปากพูดคือ
เลือดทีไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

“ข้ารู ้ ข้ารู.้ .. ... เจ้าไม่ควรมา!” มือทีกอดฉินอีเหลียนอยู่


ค่อยๆ แน่นขึน

ความรูส้ กึ ผิดทําให้นางเกิดไอสังหารเพิมขึนเรือยๆ

ฉินอีเหลียนเป็ นคนบริสทุ ธิ แต่กลับต้องมาตายเพราะ


นาง นางควรจะทําอย่างไร ?

37
องค์หญิงตัวน้อยผูบ้ ริสทุ ธิสดใส ไม่ควรจากไปเช่นนี ......

ฉินอีเหลียนฝื นยิม ฟั นสีขาวถูกโลหิตย้อมจนกลายเป็ นสี


แดง : “เหลียนเหลียนโชคดี ทีได้เจอกับพีชาย แต่วา่ พี
ชาย ตอนนีข้าง่วงมาก ง่วงนอนมากๆ เลย"

ในขณะทีพูด นําตาหยดหนึงก็ได้หลุดร่วงลงจากหางตา
ของนาง

หญิงสาวผูน้ ี กระจ่างเป็ นอย่างดีวา่ สิงทีตนเองกําลังพบ


เจอคืออะไร

38
ทันใดนัน มูช่ ิงเกอพลันรูส้ กึ ว่าทุกอย่างจุกแน่นอยูท่ ีคอ
จนรูส้ กึ ทรมาน ทรมานจนพูดอะไรไม่ออก จึงพยายามส่ง
พลังจิตให้กบั ฉินอีเหลียนอย่างสุดชีวิต

“พีชาย ช่างน่าเสียดายทีเหลียนเหลียนไม่สามารถเต้นรํา
ไปกับพีชายได้อีกแล้ว เหลียนเหลียนฝึ กซ้อมมานาน
มาก” ตาดวงโตและแสนบริสทุ ธิของฉินอีเหลียน แฝง
ความรูส้ กึ เสียดาย และมองมูช่ ิงเกอด้วยสายตาทีอาลัย

‘ข้าควรทําอย่างไร?’ มูช่ ิงเกอยังคงไม่หยุดทีจะถามคํา


ถามนีกับตนเอง

‘เหมิงเหมิง! เจ้าสามารถช่วยชีวิตของนางเอาไว้ได้หรือ

39
ไม่’ ท่ามกลางความสินหวัง นางทําได้เพียงทิงความหวัง
ทังหมดเอาไว้ทีเหมิงเหมิง

เสียงของเหมิงเหมิงดังขึนภายในจิตใต้สาํ นึกของ
นางอย่างรวดเร็วในใจ แต่ทว่า นีไม่ใช่คาํ ตอบทีนางต้อง
การ

‘เสียใจด้วยเจ้านาย หัวใจของนางแตกสลายไปแล้ว ถึง


แม้เจ้านายคนเก่าของข้ายังอยูก่ ็ไม่สามารถช่วยนางได้
หากจะฝื นให้นางอยูต่ อ่ ก็ตอ้ งใช้ทกั ษะในการเชิดหุน่
เพือกลายสภาพของนางให้เป็ นหุน่ เชิดเสีย

หุน่ เชิดอย่างนันหรือ?

40
เป็ นเพียงเปลือกทีว่างเปล่า ไม่มีความรูส้ กึ นึกคิดและไม่
มีจิตวิญญาณ มันปวดร้าวมากกว่าการตายเสียอีก

นางจะยอมให้ฉินอีเหลียนตกอยูใ่ นสภาพเช่นนันได้อย่าง
ไร?

มูช่ ิงเกอค่อยๆ หลับตาทังสองข้างลง เม้มริมฝี ปากอย่าง


ช้าๆ พลางพูดเบาๆ ว่า : “เหลียนเหลียน เจ้ามีความ
ปรารถนาอันใดหรือไม่”

มูช่ ิงเกอไม่สามารถห้ามการจากไปของเหลียนเหลียนได้
แต่สามารถทําให้นางจากไปอย่างมีความสุขมากทีสุดได้

41
“ความปรารถนาหรือ...... ความปรารถนาของเหลียน
เหลียนมีเยอะมากเลยนะ แต่วา่ ความปรารถนาอันสูง
สุดของเหลียนเหลียน คือการเป็ นภรรยาของพีชาย แต่
ตอนนีมันเป็ นไปไม่ได้แล้ว” ฉินอีเหลียนพูดพร้อมรอยยิม
ในแววตาเหมือนกําลังตกอยูใ่ นห้วงความคิด

มูช่ ิงเกออึง คําตอบของฉินอีเหลียน เหนือความคาด


หมายของนางแต่ก็พอเข้าใจได้

ก็ตอนนี ร่างของนางเป็ นชายหนุ่มนีนา!

รอยยิมในใจ ค่อยๆ จืดจางลงไป

42
มูช่ ิงเกอฝื นยิม เบิกตาทังคู่ พลางก้มลงมองนาง
พูดด้วยนําเสียงอันเต็มเปี ยมไปด้วยความรักความเอ็นดู
และความอบอุน่ : “ได้ ถ้าเช่นนัน ข้าจะแต่งงานกับเจ้า”

“จริงหรือ?” ดวงตาของฉินอีเหลียนเปล่งเป็ น
ประกาย ฉายแววความน่าเย้ายวน

มูช่ ิงเกอรับคํา ก้มหน้าลง แตะริมฝี ปากลง


จูบกลางหน้าผากของนางอย่างแผ่วเบา

รอยจูบทีเต็มไปด้วยความอาลัย ทําให้ฉินอี
เหลียนเผยรอยยิมอันน่าประทับใจ : “ข้ามีความสุขมาก

43
ขอบคุณนะพีชาย” นางค่อยๆ หลับตาลงด้วยความพอ
ใจ มือคูเ่ ล็กทีกําแขนเสือของมูช่ ิงเกอไว้แน่น ค่อยๆ
คลายออกอย่างไร้เรียวแรง

พลังจิตทีมูช่ ิงเกอพยายามส่งให้ฉินอีเหลียนอย่างบ้าคลัง
ราวกับการถมก้อนหินลงในมหาสมุทรอย่างนัน มันไม่
เกิดผลเลยแม้แต่นอ้ ย

ฉินอีเหลียนต้องจากไปเช่นนีจริงๆ หรือ ?

องค์หญิงทีคอยตือให้นางกินลูกอม เต้นรําให้
นางดู สอนนางเล่นว่าว จะต้องจากไปเช่นนีจริงๆ หรือ

44
ในใจของมูช่ ิงเกอมีความรูส้ กึ หนึงทียากจะ
อธิบายเกิดขึนและได้แปรเปลียนเป็ นเปลวเพลิงแห่ง
ความโกรธแค้นอันมหาศาล

นางวางร่างของฉินอีเหลียนลงเบาๆ ลุกขึน
พร้อมกับกําทวนหลินหลงไว้แน่น

เมือรับรูถ้ งึ ความเคลือนไหวของนาง มัวหยางรีบ


เคลือนตัวเข้ามาหานาง ร่างกายของเขามีแสงสีคราม
เข้มส่องสว่างอยู่

“คุณชาย !”

45
“อย่าให้นางได้รบั บาดแผลใดๆ อีก” มูช่ ิงเกอสัง
ด้วยนําเสียงอันสงบนิง ใบหน้าอันงดงาม เยือกเย็นจน
ไม่กล้ามองด้วยตาเปล่า

มัวหยางพยักหน้านิงๆ ถอยเข้าไปปกป้องร่างไร้
วิญญาณของฉินอีเหลียนด้วยตัวเอง

46
ตอนที 94-4 วังหลวงวุน่ วาย บังเกิดคลืนลม !

มูช่ ิงเกอกําทวนหลินหลงเอาไว้แน่น พลางขึนหลังเพลิง


รัตติกาลพร้อมกับไอสังหารอันเย็นเยียบ พุง่ ตัวออกจาก
วงล้อมทีกองทหารเขียวมังกรสร้างขึนเพือคุม้ กันนาง

นางเล็งเสร็จแล้วก็พงุ่ เข้าหายอดฝี มือสายครามทียิงฉินอี


47
เหลียนโดยไม่แม้แต่จะมองทหารศัตรูคนอืนๆ ทีฝี มือด้อย
กว่า

คนทียืนอยูบ่ นกําแพงวังทีมูช่ ิงเกอเล็งอยู่ พลันตืน


ตระหนกขึนมาในทันที ยกธนูในมือขึนอย่างไม่รูต้ วั และ
ทังสองข้างของเขา มีคนยืนอยูข่ า้ งละสามคน ร่างกาย
ของทังหกคนต่างสาดแสงสีนาเงิ
ํ นอ่อน ราวกับเพิงจะ
ทะลวงสูส่ ายนําเงินได้ไม่นาน

สายนําเงินขันต้นหกคนกับยอดฝี มือสายครามอีกหนึง
คน ภาพบรรยากาศทีอยูต่ รงหน้านี เพียงพอทีจะทําให้
ขุมกําลังของแคว้นระดับสามไม่อาจมองข้ามได้

48
แต่วา่ สายตาของมูช่ ิงเกอไม่ได้มีความรูส้ กึ อันใด นิง
สงบจนน่ากลัว

“ฆ่ามันเสีย!” คนทีถือคันศรซึงก็คือผูน้ าํ สังคําสังอันเย็น


เยือก ศรธนูอนั แหลมคมทีส่องแสงประกายสีนาเงิ
ํ นและ
ครามกําลังพุง่ เข้ามาหามูช่ ิงเกอ

สายนําเงินหลายคนกระโดดลงมาจากกําแพงพร้อมๆ
กันและพุง่ ตัวเข้าหามูช่ ิงเกอ

ราวกับว่า คนเหล่านีกําลังจะเข้ามารุมนางคนเดียว

เพลิงรัตติกาลคํารามคําหนึง แผงคอสีดาํ ปล่อยพลังออก


49
มา ป้องกันการโจมตีจากทังหกคนและศรธนูทีพุง่ เข้ามา
หามูช่ ิงเกอ หลังจากนันศรธนูก็แตกกระจายกลายเป็ น
เศษธุลีรว่ งลงสูพ่ ืนดินไป

ภาพบรรยากาศนี ทําให้ทงเจ็
ั ดคนตืนตระหนก

ผูท้ ียิงธนูหรีตา ยิงธนูตอ่ เนืองอีกสามดอก ในทิศทางที


ต่างกันเพือสังหารมูช่ ิงเกอ

อีกหกคนทีเหลือก็เป็ นกองกําลังเสริมให้แก่เขาและเริม
โจมตีมชู่ ิงเกออีกหน

มูช่ ิงเกอค่อยๆ ก้มหน้าลงและเงยหน้าขึนอย่างกะทันหัน


50
สายตาอันเยือกเย็นราวกับมีนาแข็
ํ งปกคลุมอยู่ นางยก
ทวนหลินหลงขึนมา แสงสีนาเงิ
ํ นก็พลันพุง่ กระจายออก
จากร่างของนางในทันทีและกลบแสงทังหมดภายใน
อาณาบริเวณวังหลวงแห่งนี

“ยอดฝี มือสายนําเงิน!”

“เขาเป็ นถึงยอดฝี มือสายนําเงิน!”

“เป็ นไปได้อย่างไร? ปี นีเขาเพิงจะอายุเท่าไหร่ เพิงจะเข้า


พิธีสวมหมวกมิใช่หรือ”

“10 เดือนก่อนหน้านี เขายังเป็ นสายเขียวขันต้นอยูเ่ ลยมิ


51
ใช่หรือ!”

เสียงทีแฝงความตืนตระหนกดังขึนจากปากพวกเขา

แสงสีนาเงิ
ํ นอันแสบตานัน ไม่เพียงแต่ทาํ ให้พวกเขาตืน
ตระหนก แต่ทว่ายังสร้างความแตกตืนให้กบั คนอืนๆ ผู้
คนทีต้องการจะสังหารมูช่ ิงเกอต่างก็องอยู
ึ ก่ บั ที ทําให้
องครักษ์เขียวมังกรถือโอกาสนีในการสังหารคนอืนๆ อีก
จํานวนไม่นอ้ ย

ราวกับว่าในวินาทีนี ในใจของพวกเขาต่างมีคาํ ๆ หนึงดัง


ก้องอยู่ : ‘หากรูว้ า่ มูช่ ิงเกอเป็ นสายนําเงินตังแต่แรก จะ
ไม่มีทางออกมารนหาทีตายอยูท่ ีนี!’

52
แสงสีนาเงิ
ํ นราวกับสะท้อนผ่านตาทังคูข่ องมูช่ ิงเกอ ทํา
ให้ดวงตาของนางกลายเป็ นสีนาเงิ
ํ น

แดนสังหารในตอนแรก สถานการณ์พลันพลิกผันในทันที

ทหารทีในตอนแรกคิดว่าตนเองได้รบั ชัยชนะแล้ว ใน
ตอนนีทุกอย่างกลับเปลียนแปลงไปหมด

มูช่ ิงเกอไม่ได้เสียเวลาพูดกับพวกเขาแม้แต่คาํ เดียว ใน


ตอนนีความโกรธแค้นทังหมดในใจของนางเพียงต้อง
การทีระบาย

53
กวาดทวนหลิงหลงกลางอากาศทําให้เกิดแสงสีนาเงิ
ํ น
ระยิบระยับ

หลังจากทีแสงสีนาเงิ
ํ นหมดไป เงาร่างของทังหกคนก็
หายไปอย่างไร้รอ่ งรอย ช่างเป็ นการตายทีไม่เหลือแม้
กระทังเศษซาก

ผูส้ งการยิ
ั งทีอยูบ่ นกําแพง ลืมตาโตในทันที

ความกลัวค่อยๆ แผ่กระจายออกมาจากจิตใต้สาํ นึก เขา


อยากหนี...... อยากหนีออกไปให้พน้ จากทีแห่งนี

แต่ทว่า เขากลับพบว่าร่างกายของตนเองราวกับถูกควบ
54
คุม ไม่สามารถขยับตัวได้

ยอดฝี มือทีลงมือเพียงแค่ครังเดียวก็สามารถดับชีวิตของ
สายนําเงินทังหกคนได้ มูช่ ิงเกอชีทวนหลินหลงขึนเหนือ
กําแพงวัง

นางต้องการให้เขาชดใช้ชีวิตของฉินอีเหลียน

ความกดดันทีหนาหนักดังขุนเขา เฉียบคมดังมีดดาบได้
กดทับตัวเขาเอาไว้

ความรูส้ กึ เช่นนัน ราวกับกําลังค่อยๆ บีบกระดูกของเขา


ให้แตกกระจายออกจากกัน
55
มือทังคูข่ องเขาสันและไม่สามารถกําคันธนูไว้อีกต่อไป
ได้ ทําให้คนั ธนูตกลงจากกําแพงวังและคันธนูทีตกลงไป
ก็แตกหักท่ามกลางสายตาทีฉายแววความตืนตระหนก
ของเขา

ในขณะทีคันธนูทีอยูค่ กู่ บั เขามาตลอดทังชีวิตแตก


กระจาย ชีวิตของเขาก็เหมือนพังทลายลงไปแล้วครึง
หนึง ทําให้สายตาของเขาคุกรุน่ ไปด้วยโทสะ ในใจก็รูส้ กึ
ปวดร้าวอย่างหาทีสุดไม่ได้

แต่วา่ เขายังไม่ทนั ได้สติจากความโกรธทีคันธนูหกั


ความเจ็บปวดทีมากขึนกว่าเดิมก็ได้ครอบงําตัวเขาเอา
ไว้ ร่างกายของเขาลอยขึนกลางอากาศและมุง่ เข้าหามู่
56
ชิงเกอ

เขาโบกมือทังคูด่ ว้ ยความกลัว มองใบหน้าอันงดงามแต่


โหดเ**◌้ยมดวงนัน รูส้ กึ เพียงแค่วา่ แววตาอันเยือกเย็น
ดังธารนําแข็งนัน ทําให้เขาถูกสะกดและไม่สามารถขยับ
ตัวได้ในทันที

“อย่า—” เสียงร้องโหยหวนและสุดแสนรันทด ดังขึนจาก


ปากของเขา

เขาสูญเสียการควบคุมร่างกาย ถูกมูช่ ิงเกอบีบไว้ดว้ ยมือ


ซ้ายเพียงข้างเดียว

57
ลําคอถูกบีบเอาไว้แน่น ใบหน้าของเขาแดงกํา หายใจ
ลําบาก

แต่ทว่า เขากลับไม่มีแรงจะต่อต้านแม้เพียงนิด

มือขวาของมูช่ ิงเกอเกิดแสงส่องประกายแสงหนึง ทวน


หลินหลงกลายเป็ นทีปลอกนิวอีกครังและห่อหุม้ นิวชีของ
นางเอาไว้

สายตาของนางเปลียนไปในทันที สายตาอันเย็นเยือกดัง
นําแข็งจับจ้องทีตัวเขาโดยไม่พดู อะไร ใช้ปลอกนิวอัน
แหลมคมบาดลงบนหน้าอกของเขาเบาๆ เสือผ้าทีสวม
อยูจ่ งึ ฉีกออกจากกัน เผยให้เห็นร่างอันกํายําของเขา

58
‘เจ้าจะทําอะไร ! เจ้าจะทําอะไร !’

ดวงตาของเขาถลนออกจากเบ้า มองมูช่ ิงเกอด้วยสาย


ตาทีเต็มเปี ยมไปด้วยความตืนตระหนกและลําคอทีสูญ
เสียงความสามารถในการเปล่งเสียง

ทันใดนัน เขาก็รูส้ กึ ว่า หน้าอกของตนเองเกิดอาการเจ็บ


ปวดอย่างรุนแรง

เขาใช้แรงทังหมดทีมีอยูใ่ นการก้มหน้าลงและพบว่าหน้า
อกข้างซ้ายของตนเองมีแผลทีถูกมูช่ ิงเกอกรีดเข้าไปลึก
จนเห็นกระดูก

59
และหัวใจทียังคงเต้นอยูข่ องเขา กําลังค่อยๆ
ถูกกระชากออกมา

ความเจ็บปวดของร่างกายเทียบไม่ได้กบั ความหวาด
กลัวในจิตใจ

เขาเห็นกับตาว่าหัวใจของตัวเองค่อยๆ ถูกกระชากออก
มา ความจริงแล้วเขาควรตายจากไปอย่างสงบแต่กลับ
ต้องทุกข์ทรมานถึงเพียงนี

เลือดทีไหลออกจากร่างกาย ย้อมร่างของเขาจนกลาย
เป็ นสีแดงฉาน เขาสัมผัสได้วา่ พลังชีวิตของตนเองค่อยๆ

60
ลดน้อยลง การหายใจเข้าออกลําบากมากขึนเรือยๆ รวม
ทังอุณหภูมิของร่างกายทีค่อยๆ ลดลง.........

“อึกๆ!” เสียงอันน่าสยดสยองดังออกมาจากลําคอของ
เขา

ในการรับรูส้ ดุ ท้ายของเขา เขาจําได้เพียงว่า มูช่ ิงเกอเป็ น


ดังปี ศาจร้ายในชุดสีแดงก็ไม่ปาน ชวนให้รูส้ กึ หวาดกลัว

เผละ!

หัวใจทียังคงเต้นไม่หยุดอยูใ่ นกํามือของมูช่ ิงเกอ แตก


กระจายเป็ นกองเลือด เขาเห็นกับตาว่าหัวใจของตนเอง
61
แตกสลายและเห็นกับตาว่ามูช่ ิงเกอเลือดเย็นเพียงใด.....

62
ตอนที 94-5 วังหลวงวุน่ วาย บังเกิดคลืนลม !

ในขณะทีมูช่ ิงเกอโยนร่างไร้หวั ใจลงบนพืนอย่างไร้ความ


รูส้ กึ องครักษ์เขียวมังกรก็ได้สงั หารคนอืนๆ จนหมดแล้ว
และกลับมารวมตัวกันรอบๆ ตัวนาง

มัวหยางยืนผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดผืนหนึงให้กบั มูช่ ิงเก


อ มูช่ ิงเกอรับมา เช็ดคราบโลหิตทีติดบนนิวชีของตน
63
เองออก

รอบตัวพวกเขาเต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณกองเป็ นภูเขา
การซุม่ โจมตีของคนนับหมืน ไม่เพียงแค่ไม่สาํ เร็จ แต่
ทว่ายังถูกสังหารทังหมด โดยไม่สามารถแตะองครักษ์
เขียวมังกรได้เลยแม้แต่ปลายเล็บ

ในระหว่างทีมูช่ ิงเกอเช็ดมือ มัวหยางก็พลางสังเกต


สถานการณ์โดยรอบและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า : “หาก
พวกเขามีโอกาสได้ใช้ธนูก่อน แม้ฉากจบอาจจะยากที
จะเปลียนแปลง แต่ก็คงสร้างความลําบากให้เรา
มากกว่านี”

64
“เพราะพวกเขามันใจในกําลังคนหมืนคนนีว่า จะ
สามารถสังหารเราได้อย่างง่ายดาย” มูช่ ิงเกอทิงผ้าเช็ด
มือทีเปื อนเลือดลงพืน ลงจากหลังม้าและเดินเข้าไปหา
ฉินอีเหลียน

มัวหยางคุม้ กันนางได้เป็ นอย่างดี นางไม่ได้รบั อันตราย


อันใดเพิมจากเดิมอีกและสิงทีเกิดขึนรอบๆ ก็ไม่ได้ทาํ ให้
ร่างกายของนางแปดเปื อนเลยแม้แต่นอ้ ย

เพิงจะนังลงและกอดร่างของฉินอีเหลียนไว้ในอ้อมแขน
มูช่ ิงเกอก็ได้ยินเสียงฝี เท้าดังขึนมาจากประตูวงั หลวงทีผุ
พัง

65
องครักษ์เขียวมังกรเตรียมพร้อมในทันที มูช่ ิงเกอเองก็
หันกลับไปมอง

เมือเห็นชุดสีเหลืองนวลอันคุน้ เคย ความเยือกเย็นใน


สายตาของนางก็คอ่ ยๆ หายไป พลางสังให้องครักษ์
เขียวมังกรถอยออกไป

“เหลียนเหลียน——!” เพียงสายตาเดียว ฉินจินเฉินก็


มองเห็นฉินอีเหลียนทีอยูใ่ นอ้อมกอดของมูช่ ิงเกอ

ทันใดนัน ใบหน้าของเขาก็ซีดลงราวกับจะจากโลกนีไป
ได้ในทุกวินาที เขาเดินเข้ามาใกล้อย่างโซซัดโซเซ โดยมี
ชายชราผมขาวคนหนึงคอยพยุง

66
เมือเห็นว่าใบหน้าของฉินอีเหลียนยังคงรอยยิมเอาไว้
เขาก็หลับตาทังคูล่ งอย่างปวดใจ กล่าวโทษตนเองว่า :
“ข้ามาช้า มาช้าเกินไป”

เขาจมอยูใ่ นความทุกข์ทรมานเพราะการตายของฉินอี
เหลียน แต่ชายวัยชราทีอยูข่ า้ งๆ เขากลับตกใจเพราะร่าง
ไร้วิญญาณทีกองเป็ นภูเขาอยูร่ อบๆ และองครักษ์เขียว
มังกรทีเป็ นดังเทพแห่งความตาย

มูช่ ิงเกออุม้ ร่างของฉินอีเหลียนขึนมา แล้วจึงส่งให้กบั ฉิน


จินเฉิน : “พานางออกไปก่อน หลังจากทีเรืองทังหมดจบ
ลงแล้ว กระหม่อมจะไปรับตัวนาง”

67
ฉินจินเฉินเงยหน้าขึนมองนาง นัยน์ตาขาวและดําทีแยก
ออกจากกันอย่างชัดเจนแฝงความปวดร้าว ราวกับกําลัง
คิดอะไรอยู่

“กระหม่อมรับปากกับเหลียนเหลียนว่าจะแต่งงานกับ
นาง” มูช่ ิงเกออธิบาย

สายตาของฉินจินเฉินแฝงความตืนตระหนก แต่ทว่า
เพียงเสียววินาทีก็กลับสูค่ วามนิงสงบดังเดิม เขาพูดกับ
คนข้างๆ ว่า : “ท่านอาจารย์ สังคนให้พาองค์หญิงหย่ง
ฮวนกลับตําหนักเสียนอ๋อง จากนันให้ไปรับอวินเฟยตาม
ไปด้วย ท่านพาคนทีเหลือตามคุณชายไปและรอฟั งคํา

68
สังจากเขา”

มูช่ ิงเกอกวาดสายตามองเขาและมิได้ปฏิเสธในแผนการ
ของเขาแต่อย่างใด

นางเดาออกว่า ชายผมขาวผูน้ ี คือยอดฝี มือของฉินจิน


เฉินและก็เป็ นท่านทีแอบปกป้องนางระหว่างทางที
นางกลับเมืองอี

นางรูว้ า่ ในตอนแรกฉินจินเฉินเพียงแค่จะเฝ้าดู
สถานการณ์อยูห่ า่ งๆ แต่ทว่า การตายของฉินอีเหลียน
ทําให้เขาเปลียนใจ การทีมีทา่ นอาจารย์ตามมาด้วย เป็ น
การบ่งบอกว่าเขาจะเข้ามามีสว่ นร่วมกับเรืองนีอย่างเป็ น

69
ทางการ

ร่างไร้วิญญาณของฉินอีเหลียน จากไปพร้อมฉินจินเฉิน

มูช่ ิงเกอสังองครักษ์เขียวมังกรให้จดั การกับสนามรบให้


เรียบร้อยโดยไวทีสุด แล้วจึงให้มวหยางส่
ั งสัญญาณที
นัดพบกับรุย่ อ๋อง

“ท่านอาจารย์” อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็ได้เรียกขึน

ชายชราผมขาวเดินเข้ามาหานางในทันที

นางมองเขาและพูดอย่างแนบนิงว่า : “ขอให้ทา่ นพาคน


70
ของเสียนอ๋องไปติดตามสถานการณ์ของรัชทายาทและ
ฮองเฮา เพือไม่ให้พวกเขาไหวตัวทันและหนีไปได้ คน
พวกนี ข้าให้พวกเขาตายเป็ นเพือนหย่งฮวน”

คําสังอันเยือกเย็น ทําให้ทา่ นอาจารย์อดไม่ได้ทีจะมอง


นางครูห่ นึงแต่ก็ไม่ได้พดู อะไร

เขาเพียงแต่พยักหน้าและเขาก็พากําลังคนออกไป

ท่านอาจารย์เพิงจะพากําลังคนออกไป ฉินจิน
ห้าวทีอยูใ่ นชุดเกราะสีรตั ติกาลก็พาคนของตนเอง
ปรากฏตัวขึน

71
เขานังอยูบ่ นหลังม้า มองบริเวณประตูวงั หลวงทีเต็มไป
ด้วยคราบเลือด นัยน์ตาฉายความตกใจอย่างอดไม่ได้
ในตอนนี ไม่มีศพเลยแม้แต่ศพเดียว แต่จากคราบโลหิต
พวกนีแล้ว แน่นอนว่าต้องมีสงครามอันโหดเ**◌้ยมเกิด
ขึนเป็ นแน่

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับนังอยูบ่ นหลังม้าโดยไม่ได้รบั บาด


เจ็บใดๆ ไม่เพียงแค่นาง รวมทังคนของนาง ต่างก็ไม่มี
บาดแผลอะไรเลยแม้แต่นอ้ ย ทักษะการสงครามอันโหด
เ**◌้ยมนี ทําให้เขาทังตกใจและอิจฉาเป็ นอย่างมาก

แต่ทว่า สําหรับเรืองในคําคืนนี ทําให้เขามันใจในชัยชนะ


มากขึนกว่าเดิม

72
“ชิงเกอ เจ้าไม่เป็ นอะไรใช่ไหม เจ้าวางใจเถอะ หากข้า
ขึนสูบ่ ลั ลังก์ ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กบั เจ้าเอง” ฉิน
จินห้าวเก็บความรูส้ กึ ทุกอย่างไว้ในใจ แล้วจึงรับปากกับ
มูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอกระตุกยิม : “เพือการใหญ่ของรุย่ อ๋อง แค่นีไม่


ถือว่าเป็ นเรืองใหญ่อะไร”

คําพูดนี ทําให้ฉินจินห้าว ราวกับได้มชู่ ิงเกอคนเดิมกลับ


คืนมาอีกครังและราวกับว่า ปฏิกิรยิ าเช่นนีจากมูช่ ิงเก
อจึงจะถูกต้อง

73
เขาพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วจึงสังกําลังคนเข้าโจมตีวงั
หลวง

ในยามคําคืน ความเงียบถูกทําลาย

ภายในวังหลวง ตกอยูท่ า่ มกลางความวุน่ วาย

ในตําหนักฉือเสียง ประตูตาํ หนักถูกปิ ดสนิท

ไทเฮาทีควรจะเข้าบรรทมแล้วในตอนแรก แต่ตอนนีกลับ
ประทับนังอยูบ่ นเก้าอี หมุนลูกประคําในมือไม่หยุด พระ
เนตรทังคูห่ ลับสนิท ในโอษฐ์ราวกับกําลังท่องอะไร
บางอย่าง
74
ในตําหนักอันกว้างขวางและว่างเปล่า ได้ยินเสียงความ
วุน่ วายจากข้างนอกเป็ นพักๆ

มามา*ยืนอยูข่ า้ งไทเฮา สีหน้าแฝงความตืนตระหนก พูด


อย่างไม่สบายใจว่า : “พระองค์ พระองค์จะทรงไม่ออก
ไปหรือเพคะ ตอนนีฮ่องเต้ทรงประชวรหนัก หาก
พระองค์ยงั คงเงียบอยูเ่ ช่นนี แคว้นฉินคงจะลุกเป็ นไฟ”

พระพักตร์ของไทเฮาฉายแววเคร่งขรึม พระหัตถ์ทีนับลูก
ประคําอยูห่ ยุดลงอย่างกะทันหัน ค่อยๆ ลืมพระเนตรขึน
พลันพูดด้วยนําเสียงอันโหดเ**◌้ยมว่า : “พวกเขาจะก่อ
เรืองก็ปล่อยเขา ข้าก็อยากจะรูว้ า่ ระหว่างพวกเขาใคร

75
กันแน่ทีเหมาะสมกับการครองบัลลังก์มากทีสุด”

“แต่ตอนนี ฮ่องเต้ยงั ทรงมีพระชนม์ชีพอยูม่ ิใช่หรือเพ


คะ” มามารีบกล่าว

ไทเฮาเก็บสายตาอย่างโหดเ**◌้ยมและไม่พดู อะไรอีก

นางไม่ได้โง่และการทีฮองเฮาไม่ยอมให้ใครเข้าเฝ้า
ฮ่องเต้ นันหมายความว่า เวลาของฮ่องเต้เหลือน้อยเต็ม
ทีแล้ว ในตอนนีหากนางเข้าไปยุง่ จะไม่เป็ นผลดีกบั ทัง
สองฝ่ าย

เพราะฉะนัน ในสถานการณ์เช่นนี สังเกตการณ์ความ


76
เปลียนแปลงทุกอย่างห่างๆ เช่นนีจะดีกว่า

เพราะไม่วา่ จะเป็ นใครทีได้ครองอํานาจ นางก็ยงั คงเป็ น


ไทฮองไทเฮา ความจริงประการนีไม่มีใครสามารถ
เปลียนได้

สายพระเนตรของพระนาง ฉายแววเฉียบขาด

*มามา แปลว่า นางกํานัลส่วนตัวของไทเฮา

การเลือกเช่นนีของพระนาง ช่างตรงกับคําโบราณทีว่า
‘ในวังหลวงไม่มีญาติมิตรทีแท้จริง’เสียจริงๆ

77
ภายในตําหนักอันลึกลํานี จิตใจของทุกคนต่างถูกบิด
เบือนและสนใจแต่ตนเองและอํานาจของตนเองเพียง
เท่านัน

เมือรับรูถ้ งึ การตัดสินใจของไทเฮาจากคําพูด มามาก็ทาํ


ได้เพียงถอนหายใจและถอยไปอยูข่ า้ งๆ อย่างเงียบๆ

ไม่นาน นอกตําหนักฉือเสียงก็ได้ถกู ทหารเฝ้าเอาไว้ คน


ในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า ไม่เพียงแค่ตาํ หนักฉือเสียง
แต่หลายตําหนักของบุคคลสําคัญก็ถกู ควบคุมไว้เช่น
เดียวกัน

78
ตอนที 94-6 วังหลวงวุน่ วาย บังเกิดคลืนลม !

79
องครักษ์เขียวมังกรดุดนั โหดเ**◌้ยมมากกว่าทีผ่านมา
เคลือนเข้าสูว่ งั หลวงประหนึงเข้าสูท่ ีทีรกร้างไร้ผคู้ นอาศัย

แม้วา่ ฮองเฮาและรัชทายาทจะตระเตรียมการทุกอย่าง
เอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ทว่า กลับต้องตะลึงเมือกําลังคน
ถูกทําลายลงแบบนี

การทีฉินจินห้าวเดินตามหลังมูช่ ิงเกอ ช่างเป็ นการได้รบั


ผลประโยชน์อนั มากมายมหาศาล

ยามนี วังหลวงได้วนุ่ วายจนถึงขีดสุด แต่นอกวังหลวง


มูซ่ งและมูเ่ หลียนหรงได้ออกจากจวนไปเงียบๆ อย่างไม่

80
ทิงร่องรอยใดไว้

ภายในวังหลวง ภายนอกตําหนักอันห่างไกล ทังสองฝ่ าย


กําลังเผชิญหน้ากัน

ด้านหนึง เป็ นคนของฮองเฮา อีกด้านหนึงเป็ นคนของรุย่


อ๋องและมูช่ ิงเกอ แต่ทว่ารัชทายาทฉินจินซิวนัน ในตอน
นีไม่เห็นแม้กระทังเงา

“ฉินจินห้าว เจ้าริบงั อาจคิดจะเป็ นกบฏแผ่นดินหรือ ถึง


ได้กล้าบุกรุกวังหลวงเช่นนี!” ฮองเฮาทีถูกกลุม่ คนปก
ป้องเอาไว้ทีหน้าประตูตาํ หนักตรัสถามรุย่ อ๋องอย่างโหด
เ**◌้ยม

81
ตอนนีรุย่ อ๋องได้เดินออกมาท่ามกลางผูค้ น เขากํากระบี
ลําค่าในมือแน่น พลางถามกลับหานฮองเฮาด้วยความ
เย้ยหยันว่า : “ฮ่องเต้ทรงพระประชวร แต่ฮองเฮากลับไม่
ยอมให้โอรสอย่างข้าเข้าเฝ้า ข้าต่างหากทีต้องถามว่า
ฮองเฮาคิดจะทําการใด หลายวันก่อน เพิงจะมีข่าวออก
มาว่าฮ่องเต้ทรงไม่พอพระทัยในตัวรัชทายาท จากนัน
ฮ่องเต้ก็ทรงประชวร ในตอนนีข้าจึงสงสัยว่าฮองเฮาและ
รัชทายาทร่วมมือกันคุมตัวเสด็จพ่อเอาไว้ เพือทําเรือง
อันผิดศีลธรรม สุดท้าย เพือความปลอดภัยของเสด็จพ่อ
ข้าจึงจําต้องบุกเข้ามาภายในวังหลวง ฮองเฮา ทุกอย่าง
ทีเกิดขึนในคืนนี พระองค์เป็ นผูก้ ่อขึนมาเอง แล้วจะมี
สิทธิอันใดมาต่อว่าข้า”

82
“หึ พูดอะไรไร้เหตุผลสินดี อาการป่ วยของฮ่องเต้ไม่
อนุญาตให้ผใู้ ดเข้าเยียมได้ ข้าเพียงแค่ทาํ ตามคําสังของ
หมอหลวง” หานฮองเฮาพูดด้วยพระพักตร์อนั เคร่งขรึม

“ห้ามเข้าเยียมอย่างนันหรือ ห้าวเอ๋อร์ไม่สามารถเข้ามา
เยียมได้ ข้าก็ไม่ได้งนรึ
ั ? ฮองเฮาเป็ นภรรยาของฮ่องเต้
แล้วข้าไม่ใช่ร?ึ หรือว่าหมอหลวงอนุญาตให้เฉพาะ
ฮองเฮาและรัชทายาทเข้าเยียม หากเป็ นคนอืนล้วนแต่
จะทําให้อาการของฮ่องเต้หนักกว่าเดิมอย่างนันหรือไร”
เสียงอันเฉียบคมแทรกขึน

มูช่ ิงเกอทีถอยไปดูสถานการณ์ขา้ งๆ หันมามอง พลัน


เห็นเจียงกุย้ เฟยทีเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วท่ามกลางผูค้ น

83
ท่าทางของนางยังคงน่าเย้ายวน สูงส่งสง่างาม แต่ความ
เยือกเย็นและความเฉียบคมมากขึนกว่าแต่ก่อนมาก
รวมทัง.........ความตืนเต้นยินดีประหนึงชัยชนะได้มาอยู่
ในกํามือ

“เสด็จแม่” หลังจากทีนางปรากฏตัว รุย่ อ๋องก็รบี คารวะ


ตามธรรมเนียม แสดงความ ‘กตัญ ’ู ออกมาอย่าง
ชัดเจน

“ห้าวเอ๋อร์ ลําบากเจ้าแล้ว” เจียงกุย้ เฟยเดินเข้ามา


กํามือของฉินจินห้าวเอาไว้ อย่างเจ็บปวดใจ

84
ฉินจินห้าวรีบรับคําว่า : “หากเป็ นสิงทีลูกควรทํา เพือ
ความปลอดภัยของเสด็จพ่อ แม้จะถูกคนทังโลกด่าว่าลูก
ก็ยอม”

“ช่างเป็ นเด็กทีกตัญ ยู งนั


ิ ก เสด็จพ่อของเจ้าจะต้อง
ภูมิใจในตัวเจ้า” เจียงกุย้ เฟยพูดอย่างชืนชม

การแสดงอันจอมปลอมของทังสองไม่เพียงทําให้สีพระ
พักตร์ของฮองเฮามืดมนลง ทว่ายังทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ
ขยะแขยง

“พอเสียที ฮ่องเต้ประชวรหนักถึงเพียงนี พวกเจ้ายังคิด


จะใช้โอกาสนีในการยึดอํานาจงันรึ การกระทําทีไม่มี

85
คุณธรรมเช่นนี หากแพร่ออกไป ประชาราษฎร์แคว้นฉิน
ไม่ปล่อยพวกเจ้าเอาไว้แน่ ข้าขอเตือนให้พวกเจ้าถอย
ออกไปโดยเร็วเสียดีกว่า อย่าดือดึงต่อไปอีกเลย” หาน
ฮองเฮาตรัส

ฉินจินห้าวและเจียงกุย้ เฟยสบตากัน รอยยิมอันเย็นชา


เกิดขึนภายในใจ

เรืองมาถึงขันนีแล้ว จะให้รามืออย่างนันรึ? ช่างไร้


เดียงสาเสียจริง

“ลงมือ!” สายตาของฉินจินห้าวเผยความเย็นเยียบ
พลันออกคําสังพร้อมกลินอายอํามหิต

86
เพียงคําสังคําเดียวจากเขา ทหารทีอยูข่ า้ งหลังต่างก็พงุ่
ตัวออกไปและสูก้ บั คนของหานฮองเฮา

มองบรรยากาศทีตกอยูใ่ นความวุน่ วาย ความหยิงผยอง


ก็ได้ขนเกิ
ึ ดในใจของฉินจินห้าว ‘ชิงเกอพูดถูก ประวัติ
ศาสตร์มกั จะถูกเขียนโดยผูช้ นะ เพือการใหญ่แล้ว ไม่
ควรจะใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ลูกผูช้ ายควรจะ
เ**◌้ยมหาญในสถานการณ์ทีควรเ**◌้ยมหาญ ฆ่าคน
พวกนีเสีย ยังจะมีใครรูเ้ รืองทีเกิดขึนในคืนนีอีก’

คนของหานฮองเฮา มีจาํ นวนน้อยกว่าคนของฉินจิน


ห้าวอยูม่ าก รวมทัง องครักษ์เขียวมังกรทีให้ความช่วย
เหลืออยูข่ า้ งๆ อย่างต่อเนือง แพ้ชนะถึงตัดสินได้อย่าง
87
ชัดเจนภายในเวลาอันสัน

หานฮองเฮาทีตอนนีท่าทางสะบักสะบอมถูกโยนลงข้าง
ฝ่ าเท้าของเจียงกุย้ เฟยและรุย่ อ๋อง

พระนางใช้มือทังสองข้างดันพืนเอาไว้ เงยพระพักตร์ขนึ
มองทังสองพร้อมรอยยิมอันเย็นเยียบ : “พวกเจ้าฆ่าข้า
แล้วจะได้ครองบัลลังก์หรือ ข้าขอเตือนพวกเจ้าไว้ตรงนี
เลยนะ อย่าแม้แต่จะคิด อย่าลืมว่าโอรสของข้าต่างหาก
ทีเป็ นรัชทายาทตัวจริง”

“ฮองเฮาทรงหมายถึงคนผูน้ ีหรือ” ทันใดนัน มูช่ ิงเกอก็


พูดขึนอย่างเย้ยหยัน

88
ทันทีทีสินเสียงของนาง ฉินจินซิวทีผมเผ้าและเสือผ้า
หลุดลุย่ ถูกโยนลงข้างตัวฮองเฮา

ท่าทางอันสะบักสะบอม ราวกับจะบาดเจ็บไม่
น้อย รวมทังเอ็นแขนและเอ็นขาทีถูกคนตัดขาด จน
กลายเป็ นคนพิการ

“ซิวเอ๋อร์ ! ซิวเอ๋อร์ !” ทันทีทีฉินจินซิวปรากฏตัว หาน


ฮองเฮาก็กระโจนเข้าหาตัวเขา กรรแสงราวกับหัวใจแตก
สลาย

แต่ทว่า ฉินจินซิวกลับทําได้เพียงร้องอย่างเจ็บปวด ใน

89
ขณะนี หานฮองเฮาจึงได้ทรงพบว่า รัชทายาทแคว้นฉิน
ถูกตัดลินไปเสียแล้ว

“พวกเจ้าทําอะไรซิวเอ๋อร์!” หานฮองเฮารีบพุง่ ไป
ข้างหน้าอย่างโกรธแค้น แต่กลับถูกคนทีอยูข่ า้ งๆ เตะเข้า
ทีหน้าท้องจนล้มลงอย่างเจ็บปวด

ความทุกข์ของฉินจินซิว ทําให้ฉินจินห้าวและ
เจียงกุย้ เฟยรูส้ กึ ดีใจและมองฮองเฮาผูส้ งู ศักดิทีในตอนนี
กําลังคลานเข่าอยูต่ รงปลายเท้าของพวกเขาดังสุนขั ตัว
หนึง แล้วยิงรูส้ กึ อารมณ์ดี

“ซิวเอ๋อร์ ! ซิวเอ๋อร์ ! รีบไปตามหมอ

90
หลวง——!” หานฮองเฮามองฉินจินซิวทีตกอยูใ่ นความ
ทุกข์อย่างไร้หนทาง นางให้เขาแอบออกจากวังหลวงมิ
ใช่หรือ หลังจากทีรวมตัวกับคนของตระกูลหานแล้วค่อย
กลับมา เหตุใดจึงกลายเป็ นเช่นนีไปได้

“หมอหลวงอย่างนันหรือ? หึ ฮองเฮายังไม่ทรงรู ้
อีกหรือว่าสถานการณ์ตอนนีเป็ นอย่างไร” เจียงกุย้ เฟยที
สูก้ บั นางมาทังชีวิตเยาะเย้ยด้วยความแค้น

ฉินจินห้าวและเจียงกุย้ เฟยยิงได้ใจมากขึน แววหยอก


เย้าในสายตาของมูช่ ิงเกอก็ยงมากขึ
ิ นเรือยๆ

นางพูดอย่างเยาะเย้ยว่า : “ฮองเฮา รัชทายาทเหมือนจะ

91
ทิงพระองค์และหนีออกจากวังหลวงไปคนเดียว พระองค์
ลองคิดดูวา่ หากไม่ได้ทาํ อะไรผิด เหตุใดเขาจึงต้องหนี
เมือไม่รูว้ า่ ควรจะทําอย่างไร เราจึงต้องทําให้เขาเงียบ
ลง”

หากฉินจินซิวอยากจะหนี ก็ตอ้ งดูวา่ นางเห็นด้วยหรือไม่

“เจ้า ! เจ้ามันไม่มีหวั ใจ ! ตระกูลมูแ่ ละพวกเจ้าต่างก็


เป็ นพวกจิตใจอํามหิต คิดจะปองร้ายฮ่องเต้ ! พวกเจ้า
จะไม่ได้ตายดี!” ความหวังเดียวทีมีอยูด่ บั ไป คําพูดอัน
โหดเ**◌้ยมและร้ายกาจมากมายออกจากพระโอษฐ์ของ
หานฮองเฮา

92
มูช่ ิงเกอกระตุกยิมเบาๆ : “ขอบพระทัยฮองเฮาทีทรง
เตือน กระหม่อมเพียงแค่สนใจเรืองการใช้ชีวิตอยูอ่ ย่างมี
ความสุขมากกว่า ไม่มีเวลาไปสนใจเรืองชีวิตหลังความ
ตายหรอกกระหม่อมจะตายอย่างไร ไม่ตอ้ งให้ฮองเฮา
มาเป็ นห่วงหรอกพ่ะย่ะค่ะ”

พูดจบ นางก็ถอยไปอยูข่ า้ งๆ อืม ดูสถานการณ์ตอ่ ไป

ฉินจินห้าวก้าวขึนไปข้างหน้า มองหานฮองเฮาพร้อม
สายตาอันเยือกเย็นและพูดว่า : “ทหาร ฮองเฮาและ
รัชทายาทคิดก่อการกบฏหวังปองร้ายฮ่องเต้ ในระหว่าง
ทีข้าช่วยฮ่องเต้พวกเขาคิดต่อต้าน จนโชคร้ายจึงต้องจบ
ชีวิตลง!”

93
คําพูดนี ชีความเป็ นความตายของทังสองแม่ลกู

ดวงตาทังคูข่ องหานฮองเฮาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
จ้องฉินจินห้าวและเจียงกุย้ เฟยอย่างโหดเ**◌้ยม ราวกับ
อยากจะกลืนกินเลือดเนือของพวกเขา

ฉินจินซิวเองก็เช่นกัน แต่ทว่า สายตาของเขาแฝงความ


ไม่จาํ ยอมอยู่

ดาบฟั นลงไป มูช่ ิงเกอกระตุกยิม นางเห็นกับตาว่าหาน


ฮองเฮาและฉินจินซิวถูกฟั นด้วยด้วยดาบ ฉากจบเช่นนี
ทําให้นางพอใจเป็ นอย่างมาก

94
แต่วา่ หนีในครังนี ยังไม่หมดหรอกนะ.......

95
ตอนที 95-1 สิงทีติดค้างข้า ได้เวลาเอาคืนแล้ว!

ฉินชางตืนขึนมาจากการไม่รูส้ กึ ตัวมาอย่างยาว
นาน สภาพแวดล้อมทีสะท้อนอยูใ่ นแววตาทําให้เขารูส้ กึ
ไม่คนุ้ เคย

ทีแห่งนี ไม่ใช่ตาํ หนักบรรทมทีเขาเคยคุน้

และคนทีนังอยูบ่ นเตียง ก็ทาํ ให้เขารูส้ กึ ฉงนใจ


เป็ นอย่างมาก

1
“เจ้า?” ทันทีทีส่งเสียงก็รบั รูว้ า่ เสียงของตนเอง
แหบพร่าเป็ นอย่างมาก รวมทังร่างกายก็ไร้เรียวแรง
เพียงแค่แรงทีจะยกมือขึนยังไม่มี

แสงเทียน สาดแสงส่องสว่างลงบนร่างของมูช่ ิง
เกอ ทําให้ใบหน้าอันน่าเย้ายวนของนางคมชัดมากขึน

มุมปากของนางเผยรอยยิมอันคลุมเครือ พลัน
พูดอย่างเกียจคร้านว่า : “ยินดีดว้ ย ในทีสุดพระองค์ก็
ทรงฟื นแล้ว”

“เจ้ามาอยูท่ ีนีได้อย่างไร ข้า……ข้าเป็ นอะไร ข้า


อยูท่ ีไหน” หลังจากทีฉินชางใช้แรงทังหมดทีมีในการพูด

2
คําๆ นี ก็ได้หายใจหอบไปหลายที

สําหรับความอ่อนแอเช่นนีของตนเอง เขาไม่
ชอบใจเป็ นอย่างมาก

มูช่ ิงเกอยิมกว้างกว่าเดิม

นางอุตส่าห์ขอเวลาจากฉินจินห้าวเพืออยูก่ บั ฉินชางโดย
ลําพัง ก็เพือทีจะถามคําถามบางคําถาม

เพราะฉะนัน นางจึงตอบข้อข้องใจของฉินชางอ
ย่างง่ายๆ ว่า : “อืม พูดง่ายๆ ก็คือฮ่องเต้ทรงประชวร
และหมดสติลงอย่างกะทันหัน ฮองเฮาและรัชทายาทคิด
3
ฉวยโอกาสนีในการปองร้ายพระองค์ โชคดีทีรุย่ อ๋องพา
ข้าเข้าไปช่วยแล้วสังหารฮองเฮาและรัชทายาท จึง
สามารถช่วยพระองค์ออกมาได้” นางไม่มีทางบอกว่า
ตนเองเป็ นคนวางยาและก็เป็ นคนแก้พิษยา

“อะไรนะ!”ฉินชางเบิกตาทังคูโ่ ต : “ข้าป่ วย
ฮองเฮากับรัชทายาทคิดจะปองร้ายข้า แล้วพวกเจ้าก็ฆา่
พวกเขาไปแล้วอย่างนันหรือ” ฉินชางเพียงรูส้ กึ แค่วา่ ตน
เองหลับใหลไป เหตุใดเมือตืนมา ทุกอย่างจึงได้กลับ
กลายเป็ นเช่นนี

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับไม่คิดทีจะรอให้ฉินชางยอม


รับว่าเรืองราวทังหมดเป็ นความจริง นางขยับตัวไปข้าง
หน้า จ้องใบหน้าอันเ**◌่ ยวย่นของฉินชางพลันถามว่า :
4
“ฮ่องเต้ กระหม่อมมีหลายคําถามทีคาใจอยู่ ไม่รูว้ า่
พระองค์จะช่วยไขข้อข้องใจให้กบั กระหม่อมได้หรือไม่”

ฉินชางได้สติจากความตืนตระหนก ดวงตาคูท่ ีแม้จะ


อ่อนแอแต่ก็ยงั คงโหดเ**◌้ยมจ้องนางเขม็ง

มูช่ ิงเกอไม่ใส่ใจในความโหดเ**◌้ยมของเขา
สําหรับนางแล้ว ฉินชางในตอนนี เป็ นเพียงเสือไร้เขียว
ตัวหนึง นางถามต่อว่า : “การตายของท่านย่าและท่าน
อาของกระหม่อม มีสว่ นเกียวข้องกับพระองค์หรือไม่
แล้วเหตุใดท่านพ่อของกระหม่อมจึงตายในเงือมมือโจร
ภูเขาแค่หยิบมือเดียว อีกทังยังไม่พบแม้กระทังร่าง รวม
ทังท่านแม่ทีออกจากจวนไปตามหาท่านพ่อ จนถึงตอนนี
ยังไม่กลับมา เป็ นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่อาจทราบได้
5
พระองค์ทรงทราบหรือไม่วา่ เป็ นเพราะเหตุใด”

ทังสามคําถามนี เป็ นคําถามคาใจตระกูลมูม่ า


โดยตลอด

สําหรับคําตอบ พวกเขาก็พอจะเดาออกแล้ว
เพียงแค่ไม่ยอมปั กใจเชือ

ในตอนนี มูช่ ิงเกอเพียงต้องการยืนยัน ว่า


ทุกอย่างเป็ นอย่างทีพวกเขาคิดเอาไว้หรือไม่

“เหตุใด ข้าจึงต้องตอบคําถามของเจ้าด้วย” ฉิน


ชางมองนางด้วยสายตาอันโหดเ**◌้ยม
6
มูช่ ิงเกอเผยรอยยิมทีแฝงไอสังหารตรงมุมปาก
นางลุกขึนยืนอย่างกะทันหัน มองเขาอย่างผูท้ ีเหนือกว่า
และกล่าวว่า : “หากพระองค์ยงั ทรงต้องการทีจะให้
แคว้นฉินคงอยูต่ อ่ ไป ก็จงตอบคําถามของกระหม่อมมา
ดีๆ เถิด”

ฉินชางหรีตา : “เจ้ากําลังขู่ขา้ รึ มูซ่ งรูห้ รือไม่วา่ เจ้า


กระทําเช่นนี”

“การทีกระหม่อมสามารถมาอยูท่ ีนีได้ พระองค์ก็


น่าจะทรงทราบแล้วว่า กระหม่อมมิได้โกหก ฮ่องเต้
ความอดทนของกระหม่อมนันมีจาํ กัดนัก” สายตาของมู่

7
ชิงเกอแฝงความเย็นเยียบ

สายตาของฉินชางปรากฏความต่อต้าน

ในตอนนี ร่างกายของเขาไร้เรียวแรง เขา


กระจ่างเป็ นอย่างดีวา่ หากมูช่ ิงเกอคิดจะฆ่าเขา ก็เป็ น
เรืองทีง่ายดายมาก

หากการตอบคําถามเพียงไม่กีคําถามนี จะสามารถ
รักษาชีวิตของตนเองไว้ได้ หลังจากทีเขาฟื นตัวและกลับ
ไปเป็ นเหมือนเดิมแล้วค่อยกลับมาล้มล้างตระกูลมูก่ ็ยงั
ไม่สาย!

8
เมือไตร่ตรองทบทวนสักพัก ในทีสุดฉินชางก็
ยอมปริปาก : “ได้ หากเจ้าอยากรู ้ ข้าก็จะบอกเจ้า การ
ตายของทังท่านย่า ท่านอาและท่านพ่อของเจ้า มีสว่ น
เกียวข้องกับข้าจริงๆ แต่วา่ เรืองของท่านแม่ของเจ้า ข้า
ไม่รูไ้ ม่เห็นเลยแม้แต่นอ้ ย”

ไม่เกียวข้องอย่างนันหรือ ?

ในใจมูช่ ิงเกอมีความผิดหวังซ่อนอยู่

ราวกับว่า ท่านแม่ทีมีทีมาอันลึกลับผูน้ ีของนางก็มีการ


จากไปทีลึกลับเช่นกัน

9
เมือได้รบั คําตอบทีต้องการ มูช่ ิงเกอก็เตรียม
พร้อมจะจากไป

“เดียวก่อน” อยูๆ่ ฉินชางก็เรียกตัวนางเอาไว้

มูช่ ิงเกอหยุดฝี เท้า ได้ยินเสียงของฉินชางดังขึน


มาจากข้างหลัง : “เจ้าไม่โกรธข้า ไม่อยากฆ่าข้าเพือล้าง
แค้นให้กบั ท่านย่า ท่านพ่อและท่านอาของเจ้าหรือ”

มูช่ ิงเกอไม่ได้หนั กลับไปมองเขา เพียงแต่กระตุก


รอยยิมทีฉายแววเย้ยหยันตรงมุมปาก พลันพูดพร้อม
รอยยิมว่า : “ไม่จาํ เป็ น” เพราะจะมีคนลงมือแทนข้า

10
เก็บงําไอสังหาร แล้วหลังจากนันมูช่ ิงเกอก็เดิน
ออกจากตําหนักโดยไม่หนั หลังกลับไปมอง

การจากไปของนาง ทําให้ฉินชางรูส้ กึ โล่งใจ

ทันใดนัน ก็มีคนเดินเข้ามาอีกคน พอเขาเอียง


หน้ามองแล้วเห็นว่าเป็ นร่างอันสูงโปร่งของฉินจินห้าว

“ห้าวเอ๋อร์ เจ้ามาก็ดีแล้ว” เมือเห็นลูกชายสุดที


รักปรากฏตัว ในทีสุดความดีใจก็เกิดขึนในจิตใจของฉิน
ชางบ้างแล้ว เขาไม่สนใจเลยว่าโอรสอีกคนของตนเองได้
ตายด้วยนํามือของคนทีอยูเ่ บืองหน้าเขาคนนี

11
“เสด็จพ่อ” ฉินจินห้าวเดินเข้ามาใกล้ พยุงร่างของฉินชา
งขึนมา

เมือพยุงร่างของเขามาพิงตนเองเอาไว้ ฉินจิน
ห้าวก็พดู ว่า : “เสด็จพ่อ ลูกมาช้าเกินไป ทําให้ทา่ นต้อง
ทนทรมาน แต่วา่ ตอนนีลูกได้แก้แค้นให้กบั ท่านแล้ว”

“ดีๆๆ ! ฆ่าได้ดี! ไอ้ลกู เนรคุณนันคิดจะฆ่าข้า


รวมทังนังผูห้ ญิงใจคดนันอีก ล้วนเป็ นพวกเลวทราม ข้า
จะออกคําสังให้กวาดล้างตระกูลหานและทุกคนทีมีสว่ น
เกียวข้องกับตระกูลหานให้สนซากไม่
ิ ให้เหลือใครเลยสัก
คน” ฉินชางพูดด้วยนําเสียงอันเ**◌้ยมโหด

12
“พ่ะย่ะค่ะ” ฉินจินห้าวพยักหน้าเห็นด้วย

ฉินชางนังตัวตรงเพราะการพยุงของฉินจินห้าว เขาพูด
กับฉินจินห้าวว่า : “ไอ้ลกู เนรคุณนันตายไปแล้ว
ตําแหน่งรัชทายาทก็ตกเป็ นของเจ้า หากข้าสินลมไปแล้ว
ข้าจะยกใต้หล้านีให้แก่เจ้า”

แต่ทว่า หลังจากทีเขาพูดจบ ผ่านไปเนินนานก็ยงั ไม่ได้


รับคําตอบจากฉินจินห้าว

ฉินชางมองเขาอย่างไม่เข้าใจ พลันถามว่า :
“ห้าวเอ๋อร์ เจ้าเป็ นอะไรไปรึ”

13
ฉินจินห้าวค่อยๆ เงยหน้าขึน จ้องเสด็จพ่อของ
ตนเองด้วยดวงตาเย็นชาไร้ปรานี : “เสด็จพ่อ มันนาน
เกินไป ลูกทนรอไม่ไหว ถ้าเช่นนัน ทรงยกให้ลกู ตอนนี
เลยดีกว่าหรือไม่”

“เจ้าหมายความว่ายังไง!” ฉินชางหรีตาในทันที
ใบหน้าอันเ**◌่ ยวย่นฉายแววความตืนตระหนก

ทันใดนัน เขาก็พลันรูส้ กึ เจ็บตรงหน้าอก

ก้มหน้าลงมอง กรีชเล่มหนึงปั กลงบนหน้าอก


ของเขา โดยทีอีกด้านหนึงของกรีกถูกกําแน่นด้วยมือ
ของฉินจินห้าว

14
“เจ้า…..” ฉินชางมองฉินจินห้าวอย่างเหลือเชือ ราวกับ
กําลังถามเขาไม่หยุดว่า : “เพราะอะไร”

นอกตําหนัก มูช่ ิงเกอยืนอยูบ่ นบันได มองรอยต่อ


ระหว่างดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ทีกําลังจะผลัดเปลียน
เพือขึนสูท่ อ้ งฟ้า ในใจสงบเป็ นอย่างยิง ในตอนทีฉินชา
งฆ่าคนของตระกูลมู่ เขาเคยคิดบ้างหรือไม่วา่ วันหนึง
ตนเองจะตายด้วยนํามือของโอรสทีตนเองรักมากทีสุด

ความแค้นของตระกูลมู่ นางได้ชาํ ระมันแล้ว!

แต่วา่ สิงทีแคว้นฉินติดค้างตระกูลมู่ ยังไม่ถือว่าชดใช้ได้

15
หมด

ฮองเฮา รัชทายาท ฮ่องเต้แคว้นฉิน ต่างก็ถกู สังหารจน


หมดสินแล้ว ต่อไปก็ถงึ เวลาของ..........

ความเย็นเยียบเกิดขึนในดวงตาทังคูข่ องมูช่ ิงเกอแล้ว


นางก็หนั หลังกลับไปเคาะประตูตาํ หนัก

16
ตอนที 95-2 สิงทีติดค้างข้า ได้เวลาเอาคืนแล้ว!

ไม่นานนัก ประตูตาํ หนักก็ถกู เปิ ดออก

17
ฉินจินห้าวเดินออกมาพร้อมริมฝี ปากทีเม้ม
แน่นอยู่ ใบหน้านันไร้ซงความรู
ึ ส้ กึ ใดๆ

แม้มชู่ ิงเกอเองก็นบั ถือจิตใจของเขาเป็ นอย่าง


มากทีสามารถสงบนิงได้ถงึ เพียงนี หลังจากทีลงมือ
สังหารพ่อของตนเองกับมือ

“ไปเถอะ” ฉินจินห้าวพูดกับมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ เดินจากไปพร้อมกับเขา

พวกเขายังต้องไปห้องทรงพระอักษรส่วน
พระองค์ของฮ่องเต้ เพือหาตราประทับหยกทีจะสามารถ
18
จัดการเรืองราวภายในแคว้นนีได้ มีเพียงสิงนีเท่านัน ที
จะสามารถทําให้เขาขึนครองบัลลังก์ได้อย่างไม่ตอ้ งวิตก
กังวลอีก

เจียงกุย้ เฟยได้กลับตําหนักฟ่ งหยีไปแล้ว นางเตรียม


พร้อมสําหรับวินาทีทีตนเองจะได้ขนเป็
ึ นไทเฮา ก่อนที
นางจะจากไป มูช่ ิงเกอได้สงให้
ั องครักษ์เขียวมังกรแอบ
สะกดรอยตามนางไป

ภายในวังหลวงแคว้นฉิน เพราะผ่านการชะล้าง
คราบเลือด ทําให้ทงวั
ั งหลวงเต็มไปด้วยกลินคาวเลือด

ไม่มีนางกํานัลเลยแม้แต่คนเดียว มีเพียงกอง

19
ทหารทีถือดาบและกําลังเดินตระเวนอยูร่ อบๆ…….

ชนะเป็ นกษัตริย ์ แพ้เป็ นโจร

ในตอนนี ฉินจินห้าวกําลังเสพสุขกับคําพูดนี เขา


พามูช่ ิงเกอเดินเข้าห้องทรงอักษรส่วนพระองค์ของ
ฮ่องเต้ดงจั
ั กรพรรดิผเู้ กรียงไกร มองบัลลังก์อนั สูงส่ง ใน
ใจพลันตืนเต้นจนหาทีเปรียบไม่ได้

เพือวันนี เขารอคอยมานานแสนนาน !

ในตอนนี บัลลังก์นนใกล้
ั เพียงแค่เอือมมือ ทําให้เขารูส้ กึ
ราวกับอยูใ่ นห้วงแห่งความฝัน
20
มูช่ ิงเกอทียืนอยูข่ า้ งหลังเขา จ้องมองไปยังแผ่น
หลังของเขา ดวงตาอันสดใสพลันเกิดแสงประกายแสง
หนึง “รุย่ อ๋อง ท่านต้องรีบหาตราประทับให้พบโดยเร็ว”

“ใช่แล้ว ! หาตราประทับให้พบ” ฉินจินห้าวดัง


ตืนจากความฝันและเริมค้นห้องทรงอักษรส่วนพระองค์

ตราประทับเป็ นของสําคัญชินหนึงของแคว้นฉิน ปกติ


แล้วฮ่องเต้แคว้นฉินจะเก็บเอาไว้เป็ นอย่างดีดว้ ยตนเอง

แต่วา่ ก็คงจะหนีไม่พน้ ห้องทรงอักษรส่วน


พระองค์

21
ไม่นาน ฉินจินห้าวก็พบกล่องใบหนึงทีเก็บเอาไว้อย่าง
มิดชิดและตราประทับก็อยูใ่ นกล่องใบนีเอง

“ฮ่าๆๆๆๆ...... หาพบแล้ว! ตังแต่วนั นีเป็ นต้นไป


ข้า ไม่ส.ิ ...เราคือฮ่องเต้แห่งแคว้นฉินใครหน้าไหนกล้าไม่
ยอมสยบ?” ฉินจินห้าวยกตราประทับขึนสูง ในดวงตา
ปรากฏความบ้าคลัง

มูช่ ิงเกอยืนอยูท่ ีเดิมและกําลังชมท่าทางลุม่ หลงบ้าคลัง


ของเขา นึกในใจว่า: ดีใจไหมเล่า ดีใจให้มากกว่านี ให้
มากกว่านีอีก เจ้ายิงดีใจ ตอนล้มลงก็จะยิงเจ็บมากกว่า
เดิม”

22
ฉินจินห้าวยกตราประทับเอาไว้ พลันกลันลม
หายใจ ค่อยๆ เดินเข้าหาบัลลังก์อนั เป็ นอํานาจสูงสุดที
อยูภ่ ายในห้องทรงอักษร แล้วค่อยๆ นังลง

หลังจากทีเขานังลง พลันรูส้ กึ ว่าแผ่นหลังของตน


เองยืดตรงมากกว่าเดิมมาก ทุกคนในใต้ฟา้ นีจะต้องคอย
รับใช้อยูใ่ ต้ฝ่าเท้าของเขา

ความรูส้ กึ เช่นนี ทําให้เขาหลงใหลและลุม่ หลง


และมันก็ทาํ ให้เขายอมใช้ทกุ สิงทุกอย่างเข้าแลกเพือให้
ได้มนั มา !

23
“ขุนนางมู่ พวกขุนนางกบฏทีริอา่ นต่อต้านตอน
นีเป็ นอย่างไรบ้างแล้ว” ทันใดนัน ฉินจินห้าวก็พลันถาม
มูช่ ิงเกอ

ยังไม่ทนั ได้ขนครองอํ
ึ านาจ แต่กลับทําประหนึงตนเอง
เป็ นฮ่องเต้เสียแล้ว มูช่ ิงเกอหัวเราะอย่างเย็นเยียบในใจ
แต่กลับตอบด้วยความเคารพว่า : “รุย่ อ๋อง ท่านปู่ ของข้า
ได้ไปจัดการด้วยตนเองแล้ว ไม่มีทางเกิดเรืองเกินความ
คาดหมายขึนอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

“ขุนนางมูค่ วรเปลียนคําเรียกได้แล้ว” ฉินจินห้าว


ขมวดคิว ไม่พอใจคําเรียกของมูช่ ิงเกอ จากนันจึงพูดว่า :
“วางใจเถอะ ครานีตระกูลมูช่ ่วยเราเอาไว้มากมาย หาก
ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราจะตอบแทนตระกูลมูใ่ ห้สม
24
เกียรติ ขุนนางมูต่ อ้ งการสิงใด บอกเราล่วงหน้าได้เลย”

เมือได้ยินคําพูดนี มูช่ ิงเกอพลันกระตุกยิมแล้ว


ค่อยๆ เงยหน้าขึน ขณะทีมองฉินจินห้าวก็พดู ว่า : “ข้า
ต้องการ.....ชีวิตของเจ้า”

“เจ้าหมายความอย่างไร !” ฉินจินห้าวหรีตาทังคู่
จ้องมองมูช่ ิงเกออย่างระวังตัว

ท่าทางทีแฝงความตืนตระหนกของเขา สะท้อนอยูใ่ นตา


ของมูช่ ิงเกอ นางกลับพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า : “ตอนนัน ที
ข้าต้องไปทีราบลัวรือ เจ้าเป็ นคนแอบสังการให้ตระกูลเห
อหลอกล่อให้ขา้ ไปใช่หรือไม่”

25
ฉินจินห้าวขมวดคิวเป็ นปมแน่น จ้องมูช่ ิงเก
อด้วยสายตาเย็นเยียบ หลังจากทีเงียบไปพักใหญ่จงึ ได้
กล่าวว่า : “เรืองนันตระกูลเหอเป็ นคนก่อขึนเอง ไม่ได้
เกียวกับเรา หากขุนางมูย่ งั คงโกรธเพราะเรืองนี.......
ตระกูลเหอก็ได้สนไปแล้
ิ ว เราสามารถใช้อย่างอืนในการ
ชดเชยให้กบั เจ้าได้”

มูช่ ิงเกอกลับส่ายหน้าเบาๆ พูดอย่างขบขันว่า : “รุย่ อ๋อง


ในเมือกล้าทําเหตุใดจึงไม่กล้ารับ ไม่เพียงแค่เรืองทีลัวรือ
หลังจากนัน ระหว่างทีข้ากลับเมืองอี นักฆ่าระหว่างทาง
ก็มีสว่ นหนึงทีเป็ นคนของเจ้า ไม่เพียงแค่เจ้า ยังมีฮ่องเต้
ฮองเฮา รัชทายาท.......รวมทังคนของไทเฮา พวกเจ้า
เหมือนจะต้องการให้ขา้ ตายมาก” นางกวาดสายตามอง

26
ด้วยสายตาทีเย็นเยียบมากกว่าเดิม และแฝงความโหด
เ**◌้ยม

ฉินจินห้าวตอบกลับด้วยความเงียบงัน

มูช่ ิงเกอพูดต่ออีกว่า : “ในตอนนี พวกคนทีหวังให้ขา้ ตาย


นอกจากเจ้าและไทเฮา ต่างก็ตายหมดแล้ว คาดว่าหลัง
จากทีรูว้ า่ พวกเจ้าได้ตายไปทีละคนๆ ไทเฮาเองก็คงจะ
อยูไ่ ด้อีกไม่นาน หลุมศพคงเป็ นทีสุดท้ายทีนางจะมี
โอกาสได้ไป”

“เจ้ากล้าฆ่าเราหรือ ! มูช่ ิงเกอเจ้ารูห้ รือไม่วา่ ตนเอง


กําลังพูดอะไร หรือว่า เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าทีนีทีไหน

27
รอบๆ ล้วนเป็ นคนของเรา เพียงแค่เราเรียกก็จะมีคน
จํานวนมากเข้ามาฆ่าเจ้า” ฉินจินห้าวข่มขู่

“ช่างไร้เดียงสาเสียจริง!” มูช่ ิงเกอหัวเราะเยาะ


นางมองฉินจินห้าว พลันพูดอย่างเย้ยหยันว่า : “ถ้าเช่น
นัน รุย่ อ๋องก็ตะโกนเลย ลองดูวา่ จะมีใครเข้ามาหรือไม่”

“เจ้า ! ทหาร ! ทหาร !” ฉินจินห้าวตะโกนเสียง


ดัง

ห้องทรงอักษรถูกเปิ ดออกในทันที แต่ทว่า คนทีเดินเข้า


มากลับเป็ นมูเ่ หลียนหรงทีอยูใ่ นชุดเกราะ

28
นางมองฉินจินห้าวอย่างเย็นเยียบ เดินเข้าไปอยู่
ข้างตัวมูช่ ิงเกอและพูดกับนางว่า : “ชิงเกอ ข้างนอกทํา
ความสะอาดหมดแล้ว”

“มูเ่ หลียนหรง! เหตุใดเจ้าจึงมาอยูท่ ีนีได้” ฉินจิน


ห้าวพูดอย่างตืนตระหนก คําพูดนันของนาง ได้ทาํ ให้
ความมันใจในตอนแรกของเขาพังทลายลง ในดวงตา
แฝงความว้าวุน่

มูช่ ิงเกอกระตุกยิมเบาๆ พลันพูดอย่างสงบนิงว่า : “หาน


ฮองเฮาและรัชทายาทคิดจะปลงพระชนม์ฮ่องเต้ รุย่ อ๋อง
ได้นาํ ทหารบุกเข้าไปช่วยฮ่องเต้เอาไว้ได้ทนั ท่ามกลาง
ความสับสนวุน่ วาย หานฮองเฮาและรัชทายาทถูก
สังหาร หลังจากทีรุย่ อ๋องช่วยฮ่องเต้ทีเหลือเพียงลม
29
หายใจสุดท้ายเอาได้สาํ เร็จ เพือบัลลังก์กลับสังหารเสด็จ
พ่อของตนเอง แต่ทว่าเมือตระกูลมูม่ าถึง ในขณะทีคน
ของตระกูลมูแ่ ละรุย่ อ๋องต่อสูก้ นั ก็สามารถตัดศีรษะรุย่
อ๋องเพือปลอบขวัญฮ่องเต้องค์ก่อนได้สาํ เร็จ......รุย่ อ๋อง
ท่านคิดว่า บทพูดเช่นนีเป็ นอย่างไรบ้าง”

ในขณะทีมูช่ ิงเกอพูด ฉินจินห้าวก็ได้รูส้ กึ ถึง


ความเย็นยะเยือกทีเกิดขึนกับตนเอง คําพูดทีเขาคิดเอา
ไว้เพือรับมือกับประชาชน ในตอนนีกลับถูกนางเอาไป
เพิมบทและใช้มนั เพือรับมือกับเขา

“ไม่! เจ้าจะทําเช่นนีไม่ได้ ! หากข้าตาย ตระกูลมูจ่ ะ


กลายเป็ นขุนนางใจคด โจรกบฏของแผ่นดิน” ฉินจินห้าว
พูดอย่างตืนตระหนก
30
มูช่ ิงเกอกลับยิมอย่างเบิกบานมากกว่าเดิม :
“เจ้าคิดผิดแล้ว อย่างทีใครบางคนเคยพูดเอาไว้ บัลลังก์
ทีไร้ความหมายนี ตระกูลมูไ่ ม่อยากได้”

“เจ้า!” สีหน้าของฉินจินห้าวเปลียนไปในทันที
ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาเต็มไปด้วยความมืดมน โหด
เ**◌้ยมราวกับปี ศาจ

“ฮ่องเต้พระองค์ก่อนไม่ได้เหลือโอรสเพียงคน
เดียว สิงทีเจ้าปรารถนามาทังชีวิต ข้า ตระกูลมูส่ ามารถ
ครอบครองได้อย่างง่ายดายและอยากจะยกให้ใครก็ได้”
เอาแต่ใจมากถึงเพียงนี แล้วเจ้าจะทําอะไรข้าได้เล่า?

31
คําพูดของมูช่ ิงเกอ ทําให้ฉินจินห้าวโกรธจนแทบจะ
กระอักเลือด

“ ทําไม? ทําไม? ทําไม? ” ฉินจินห้าวกัดฟั นถาม

32
ตอนที 95-3 สิงทีติดค้างข้า ได้เวลาเอาคืนแล้ว!

มูช่ ิงเกอรับปากรับเขาว่าจะร่วมมือกับเขาและอยูข่ า้ งเขา


มิใช่รึ แล้วเหตุใดการกระทําจึงตรงข้ามกับคําพูดเช่นนี

33
“เพราะเหตุใดอย่างนันหรือ” มูช่ ิงเกอพึมพํา
พร้อมช้อนสายตาอันเย็นเยียบราวกับนําแข็งขึนมา พูด
กับเขาโดยไม่แสดงความรูส้ กึ ใดๆ ว่า : “ตระกูลมูข่ องเรา
ซือสัตย์มาโดยตลอด ไม่เคยคิดทีจะทรยศหักหลังบ้าน
เมือง แต่กลับถูกราชวงศ์คิดร้ายครังแล้วครังเล่าโดยไร้ซงึ
สาเหตุ ข้าเองก็อยากจะถามว่าเพราะเหตุใด เมือรูว้ า่
อย่างไรก็ตอ้ งตายกันไปข้างหนึง ตระกูลมูข่ องเราก็ไม่จาํ
เป็ นต้องเกรงกลัวและอดทนอะไรอีกต่อไป สิงทีราชวงศ์
ทํากับตระกูลมูแ่ ละสิงทีเจ้าทํากับข้า วันนีจะต้องชดใช้
ทังหมด”

เรืองทีเกิดขึนทีทีราบลัวรือ มูช่ ิงเกอไม่ตอ้ งการคําตอบ


จากฉินจินห้าวแล้ว

34
เพียงเรืองเลวๆ ทีเขาทํากับตระกูลมูก่ ็เพียงพอต่อการ
ตายของเขาในวันนี อีกประการหนึง เรืองทีเกิดขึนในที
ราบลัวรือ นอกจากเขาแล้ว คนทีอยูเ่ บืองหลังจะเป็ นใคร
ไปได้อีก

เหอเฉิง ตระกูลเหออย่างนันหรือ ไม่วา่ จะมีความกล้า


มากเท่าไหร่ หากไม่มีคนคอยหนุนหลัง ให้ตายอย่างไร
พวกเขาก็ไม่กล้ามีปัญหากับตระกูลมู!่

“มูช่ ิงเกอ เจ้าสมควรตาย เจ้าสมควรตายตังแต่ในทีราบ


ลัวรือแล้ว ! เพราะไอ้เหอเฉิงไอ้คนไร้ประโยชน์ แม้แต่
เรืองเล็กแค่นีก็ไม่อาจทําให้สาํ เร็จได้ ก่อนตายยังคิดจะ
แว้งกัดข้า และเจ้ามันก็แค่โชคเข้าข้าง เจ้ารอดูวนั ทีโชคดี
ของเจ้าหมดไป จุดจบของเจ้าก็คงจะไม่ได้ดีไปกว่านี
35
หรอก!” ฉินจินห้าวพูดอย่างบ้าคลัง

“หุบปาก!” มูเ่ หลียนหรงยกมือขึนสะบัด แสงสีคราม


กระจายออกจากมือของนางและกระทบกับใบหน้าของ
เขา จนเลือดกบปาก

สายคราม ! มูเ่ หลียนหรงทะลวงสูส่ ายครามแล้วหรือ !

ยังมีมชู่ ิงเกอทีเขายังไม่สามารถประเมินความสามารถ
ได้ แต่เขามีคนเดียว

ฉินจินห้าวโกรธตนเองทีหลงเชือมูช่ ิงเกอ จึงได้มาทีนีกับ


นางโดยลําพัง เขากลับคิดไม่ถงึ ว่า แม้จะพาคนมามาก
36
สักเพียงไหนมันก็ไร้ประโยชน์

มูช่ ิงเกอยกมือขึน ระหว่างปลายนิวของนางหนีบยาอยู่


เม็ดหนึง : “ฆ่าเจ้า เปลืองแรงข้ามากเกินไป ให้มนั ส่งเจ้า
ไปก็แล้วกัน”

“นันมันอะไร” ฉินจินห้าวเอามือหุบปากและถอยหลัง
นัยน์ตาเต็มไปด้วยความระแวดระวังและตึงเครียด

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก รอยยิมนันดูโหดเ**◌้ยมยิงนัก :


“แค่ของเล่นสนุกๆ ก็เท่านัน”

แสงสีรตั ติกาลแสงหนึงสาดความสว่างออกจากมือของ
37
นางและพุง่ เข้าปากของฉินจินห้าวด้วยความไวเหนือแสง
เมือยาเข้าปาก ฉินจินห้าวก็ไม่มีโอกาสแม้กระทังจะคาย
มันออกมา

“อ๊าก——!” ความเจ็บปวดแผ่กระจายไปทัวร่างกาย ดัง


มดนับหมืนตัวคลานอยูภ่ ายในร่างกาย ความรูส้ กึ ดังเส้น
เลือดขาด ทําให้ฉินจินห้าวร้องเสียงหลงอย่างทนไม่ได้
มือของเขาดึงผิวหนังของตนเองอย่างสุดแรงเกิด ราวกับ
ว่า อยากจะจับมดทีอยูใ่ นร่างกายออกมา

ครูห่ นึง ใบหน้าอันงดงามทีเคยทําให้มชู่ ิงเกอคนเดิม


หลงใหลก็กลับกลายเป็ นไม่เหลือสภาพ ผิวหนังก็ไม่
เหลือชินดี

38
มูเ่ หลียนหรงดูแล้วรูส้ กึ ตืนตระหนก มูช่ ิงเกอกลับใบหน้า
นิงสงบและเดินออกจากห้องทรงอักษรไป

ท่ามกลางความดินรน ฉินจินห้าวมองตราประทับทีอยู่
บนโต๊ะอย่างไม่จาํ ยอม ความทรมานในร่างกาย เทียบไม่
ได้กบั ความฝันทีแตกสลาย อีกก้าวเดียว เพียงแค่เอือม
มือ แต่ตอนนีเขากลับโดนถีบลงเหวเช่นนี

“มูช่ ิงเกอ เจ้ามันจิตใจอํามหิต!” ในปากของฉินจินห้าว


ได้พน่ คําพูดอันโหดเ**◌้ยมออกมามากมาย

ภายนอกห้องทรงพระอักษร กองทหารตระกูลมูก่ าํ ลัง

39
ล้างทําความสะอาดคราบเลือดทีติดอยูบ่ นบันได แสง
แรกของวันได้สาดฉายบนพืนแผ่นดิน กลบความมืดใน
ยามคําคืน มูช่ ิงเกอหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึง ผูท้ ีเดิน
ตามออกมาคือ มูเ่ หลียนหรง : “ท่านอา หลังจากทีเขา
สินใจ ก็ทาํ ให้หวั ของเขาหลุดออกจากบ่าเสีย ข้าจะไปหา
เสียนอ๋อง”

มูเ่ หลียนหรงพยักหน้า มองมูช่ ิงเกอทีเดินลับตาไป

……

ณ ตําหนักหว่านเสีย ความเงียบสงบของทีนี กลายเป็ น


พืนทีทีบริสทุ ธิทีเดียวภายในวังหลวง

40
เมือมูช่ ิงเกอมาอยูท่ ีนี ภายในตําหนักไม่มีใครเลยแม้แต่
คนเดียว มีเพียงเงาร่างในชุดสีเหลืองอันสูงโปร่ง เขายืน
เอามือประสาน รับลมเย็นและมองพระอาทิตย์ขนอยู
ึ ท่ ี
หน้าประตู

แสงสีเหลืองทองสาดแสงสว่างลงบนกระเบือง ส่งความ
อบอุน่ แต่ก็มิอาจกลบความเงียบเหงาและความสงบใน
ตัวของเขาได้ จนกระทังแสงสีสม้ นันได้ปกคลุมตัวของ
เขาเอาไว้ จึงทําให้นยั น์ตาทีตาขาวและดําแยกออกจาก
กันอย่างชัดเจนคูน่ นอบอุ
ั น่ ขึนบ้าง

งดงามราวกับภาพวาด มูช่ ิงเกอไม่เคยปฏิเสธความงาม

41
ของฉินจินเฉิน

แต่ทว่า กลับไม่ชอบความเย็นชาในตัวของเขา

นางเดินเข้ามา ทําให้เสือเกราะทีสวมอยูก่ ระทบกัน


ทําลายความเงียบสงบ จนฉินจินเฉินทียืนอยูบ่ นระเบียง
รูส้ กึ ตัว

เขาค่อยๆ หันหน้ากลับไป สายตาอันแน่วนิงจับจ้องบน


ร่างของมูช่ ิงเกอ โดยไม่รูว้ า่ เขารูส้ กึ อย่างไร

“อวินเฟยเป็ นอย่างไรบ้าง” มูช่ ิงเกอเดินขึนบนระเบียง


ไป ยืนอยูเ่ คียงข้างเขา
42
เมือพูดถึงบุคคลทีมีความสําคัญกับชีวิตเช่นนี ในทีสุด
แววตาของฉินจินเฉินก็เหมือนถูกสะกิด เขาค่อยๆ หัน
หน้ากลับไป ขนตาบดบังความรูส้ กึ จนมูช่ ิงเกอไม่อาจ
ประเมินความรูส้ กึ ของเขาได้ : “เสด็จแม่เสียพระทัยมาก
เรืองทีสูญเสียเหลียนเหลียน ไม่อาจทําใจได้ในทันที แต่
ว่า ข้ายังอยู่ ข้าจะอยูเ่ คียงข้างพระองค์เอง”

มูช่ ิงเกอมองเขาครูห่ นึง พลันหันไปมองพระอาทิตย์ที


กําลังขึนสูท่ อ้ งฟ้า : “พระองค์ช่างแปลกนัก ท่าทางเด็ด
เดียวเข้มแข็งเช่นนี แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความโศก
เศร้า หากมิอาจปล่อยวางได้ เหตุใดจึงต้องแกล้งทําเป็ น
ไม่สนใจ?”

43
ฉินจินเฉินกระตุกรอยยิมบนมุมปากเบาๆ : “ชินเสียแล้ว
ล่ะ”

ชินแล้วอย่างนันหรือ คําพูดเพียงคําเดียว กลับทําให้มชู่ ิง


เกอคิดอะไรได้มากมาย

บางที อาจจะเป็ นเพราะฐานะของฉินจินเฉินและวัยเด็ก


ของเขาจึงทําให้เขาเป็ นเช่นนี บางทีนางควรจะดีใจ ทีฉิน
จินเฉินไม่ได้กลายเป็ นคนโหดเ**◌้ยมอํามหิต จึงทําให้
ในวันนี ศัตรูของนางน้อยลงไปอีกคนหนึง

“ฉินจินห้าวตายแล้ว ตราประทับอยูใ่ นห้องทรงอักษร” มู่


ชิงเกอพูด

44
ฉินจินเฉินมิได้แสดงความตืนเต้นเลยแม้แต่นอ้ ย เพียง
กล่าวว่า : “ข้าบอกแล้วว่า ข้าจะไม่รบั ช่วงต่อบัลลังก์นน”

“แล้วแต่พระองค์ อย่างไรเสีย นันก็เป็ นสิทธิของตระกูล


ฉินของพระองค์” มูช่ ิงเกอพูดอย่างไม่ใส่ใจ นางมองฉิน
จินเฉิน พลันพูดอย่างจริงจังว่า : “แต่วา่ คนทีกระหม่อม
เชือใจ มีเพียงพระองค์”

ความหมายก็คือ.......บัลลังก์นนใครนั
ั งก็ได้ แต่ทว่า นาง
เชือใจเขา หากเขาไม่สามารถควบคุมคนทีจะมารับช่วง
ต่อได้ จะทําให้ตระกูลมูต่ กอยูใ่ นอันตราย เรืองทีเกิดขึน
เมือคืนนีก็อาจจะเกิดขึนได้อีกครัง

45
เมือสัมผัสได้ถงึ ความนัยทีแฝงอยู่ ฉินจินเฉินก็พลันยิม
อย่างทุกข์ใจ : “เจ้ากําลังบีบบังคับข้าหรือ”

มูช่ ิงเกอมิได้ปฏิเสธและมิได้ยอมรับ

ครูห่ นึง เขาจึงถอนหายใจและยอมแพ้ : “ช่างเถอะ ข้ายัง


มีนอ้ งชายคนทีเจ็ดอีกคน บัลลังก์นีก็ให้เขานังเถอะ”

“องค์ชายเจ็ด ฉินจินหยาง” ในหัวของมูช่ ิงเกอพลันคิด


ถึงข่าวเกียวกับองค์ชายผูย้ งั ไม่เจริญวัยองค์นีในทันที

ข่างกรองบอกว่า เสด็จแม่ขององค์ชายเจ็ด เป็ นเพียงแค่


46
นางกํานัลในวังหลวง หลังจากทีให้กาํ เนิดพระองค์ ก็ถกู
เจียงกุย้ เฟยตีตายด้วยโทษทีนางไม่ได้ก่อ หลังจากนัน
ได้ยกองค์ชายเจ็ดให้กบั ฮองเฮา

แต่ทว่า ฮองเฮาใส่ใจเพียงโอรสของตนเอง ไหนเลยจะมี


เวลาใดมาสนใจองค์ชายเจ็ดองค์นี

ดังนัน ฐานะขององค์ชายเจ็ด ในวังหลวงแห่งนี ก็เหมือน


กับฉินจินเฉินในตอนแรก ทีเป็ นดังอากาศธาตุ เพราะ
อายุยงั น้อย แต่ไม่มีคนคอยหนุนหลัง การแย่งชิงจึงไม่มี
ทางตกมาถึงตัวเขาได้

“เจ้าก็รูจ้ กั เขา แล้วเจ้าคิดว่าเขาเป็ นอย่างไร” ฉินจินเฉิน

47
ถามมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอได้สติจากห้วงความคิด พลันพูดอย่างไม่ใส่ใจ


ว่า : “หากพระองค์คิดว่าได้ ก็แสดงว่าได้ อย่างไรก็ตาม
เรืองของข้าก็สาํ เร็จแล้ว ทีเหลือก็ให้พระองค์เป็ นผู้
จัดการ”

“เจ้าช่างทิงทุกอย่างไปได้เด็ดขาดเสียจริง” ฉินจินเฉิน
ถอนหายใจอย่างเหลือทน

“จะพูดอย่างไรก็สดุ แล้วแต่พระองค์” มูช่ ิงเกอพูดอย่าง


ไม่ใส่ใจ เรืองทุกอย่างได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้วและนาง
ก็เตรียมพร้อมทีจะจากไป

48
แต่ทว่า ในขณะทีนางกําลังจะจากไป ฉินจินเฉินก็ได้พดู
ขึนอย่างกะทันหันว่า : “เจ้าจะให้ฉางเล่อออกเรือนไปกับ
รัชทายาทแคว้นถูจริงๆ หรือ”

49
ตอนที 95-4 สิงทีติดค้างข้า ได้เวลาเอาคืนแล้ว!

คําพูดนี ทําให้มชู่ ิงเกอหยุดฝี เท้าลง แล้วหันกลับไปมอง


เขาด้วยความสงสัย

ฉินจินเฉินทียืนอยูบ่ นระเบียง แสงอาทิตย์สอ่ งสว่างลง


บนตัวของเขา งดงามราวกับรูปสลัก เขาพูดว่า : “เจ้ารู ้
50
หรือไม่วา่ รัชทายาทแคว้นถูเป็ นคนอย่างไร”

รัชทายาทแคว้นถู เป็ นความจริงทีว่านางไม่คอ่ ยรูจ้ กั

ช่วงนี นางใช้กาํ ลังทังหมดทีมีในการจัดการเรืองราวภาย


ในแคว้นฉิน จนไม่ได้ใส่ใจเรืองราวของแคว้นเพือนบ้าน
อีกประการหนึง แคว้นถูเปลียนรัชทายาทบ่อยครัง
รัชทายาททีเพิงจะได้รบั ตําแหน่ง นางจะมีเวลาไปใส่ใจ
ได้อย่างไร

ท่าทางของนาง ฉินจินเฉินพอเดาออก

เขามองนางและพูดอย่างเนิบช้าว่า : “รัชทายาททีแต่ง
51
งานกับองค์หญิง ชือว่าเฮ่อเหลียนจ้าน อายุราว 40 ปี มี
รูปร่างกํายํา ป่ าเถือน นิสยั บ้าคลังและเจ้าชู้ ได้ข่าวว่า
ก่อนทีเขาจะได้ขนเป็
ึ นราชทายาท เขามีนางบําเรอนับ
ร้อย พอหลังจากทีได้เป็ นรัชทายาทแล้วก็ได้ใช้อาํ นาจใน
การแย่งชิงตัวหญิงสาวสามัญชนเข้าไปปรนนิบตั ิภายใน
วังหลวงอีกมากมายและสังหารตามใจชอบ อีกทังยังมี
ความชอบอีกประการหนึง คือ เขาชอบอยูก่ บั พวกหมา
ป่ า เวลานอนก็ตอ้ งมีพวกนันอยูด่ ว้ ย คนรอบข้างเขา
จํานวนไม่นอ้ ย ต่างก็กลายเป็ นอาหารของพวกหมาป่ า
ส่วนพลังเวทของเขานัน ได้ข่าวว่าเป็ นสายครามขันสูง
สุด”

สีหน้าของมูช่ ิงเกอเคร่งขรึมมากขึนกว่าเดิม สายตาที


แวววับด้วยรังสีสงั หาร ราวกับบาดลงบนเนือหนังของฉิน

52
จินเฉิน แล้วก็จากไปโดยไม่ได้พดู อะไรแม้แต่คาํ เดียว

มองนางทีพรวดพราดเดินจากไปด้วยความเคืองใจ ฉิน
จินเฉินก็กระตุกรอยยิมตรงมุมปาก พลันพูดพึมพําว่า :
“เจ้าปล่อยนางไปไม่ลงจริงๆ ด้วย ก็ดี ไปรับตัวนางกลับ
มา แคว้นฉิน ไม่ตอ้ งการความสงบสุขทีต้องแลกด้วย
ความสุขของผูห้ ญิงคนหนึงเช่นนี”

เจ้าฉินจินเฉิน รูเ้ รืองราวทังหมดนีเป็ นอย่างดี ทว่ากลับ


เงียบมาโดยตลอด

มูช่ ิงเกอกระโดดขึนหลังเพลิงรัตติกาลแล้วสังมัวหยาง
ว่า : “เรียกองครักษ์เขียวมังกรมารวมตัวกัน แล้วก็ไป

53
แคว้นถูกบั ข้าทันที!” หากนางรูแ้ ต่แรกว่ารัชทายาทแคว้น
ถูเป็ นคนเช่นนี นางจะต้องห้ามฉินอีเหยาไม่ให้ออกเรือน
เพราะคนเช่นนีไม่มีทางจะทําให้ฉินอีเหยามีความสุขได้

เพิงจะผ่านไปแค่คืนเดียว การเปลียนแปลงทีเกิดขึนภาย
ในวังหลวงแคว้นฉินก็ยงั ไม่ทนั จะเสร็จเรียบร้อย มูช่ ิงเก
อก็นาํ องครักษ์เขียวมังกรตามขบวนของฉินอีเหยาไป

นางจากไปหลายวันแล้ว หากจะตามไปก็คงไม่ง่าย

โชคดีที มูช่ ิงเกอและองครักษ์เขียวมังกรของนาง ต่างก็ขี


อยูบ่ นอาชาเพลิง ความไวจึงมากกว่าม้าธรรมดา

54
ห้าวันหลังจากทีออกเดินทาง ในทีสุด พวกเขาก็พบกับ
คณะราชทูตและขบวนเจ้าสาวทีมารับฉินอีเหยา
ณ บริเวณชายแดนระหว่างแคว้นฉินและแคว้นถู

ขบวนทีคดเคียวกําลังมุง่ ไปยังเมืองหนึงทีใกล้กบั ชาย


แดนของแคว้นถู

อีกไม่ถงึ ครึงวัน พวกเขาก็จะถึงทีหมาย

“ในทีสุดก็ถงึ แล้ว ! อากาศแคว้นของเราสบายกว่าเป็ น


ไหนๆ” เฮ่อเหลียนป๋ าทีนังอยูบ่ นหลังม้าในขณะนีในหัว
สมองคิดเพียงแต่วา่ คืนนีจะไปหาหญิงสาวแถวๆ นันมา
ปรนนิบตั ิเขา

55
“ท่านอ๋อง เราจะหยุดสงครามกับแคว้นฉินเพียงเพราะ
ผูห้ ญิงคนเดียวของแคว้นฉินจริงๆหรือ” ชายหนุ่มร่าง
กายกํายําคนหนึงทีอยูข่ า้ งๆ เขาพูดอย่างไม่พอใจ

เฮ่อเหลียนป๋ าหัวเราะอย่างเย็นเยียบ นัยน์ตาเต็มไปด้วย


ความเย้ยหยัน : “เจ้าคิดว่าเป็ นไปได้หรือ รอจน
รัชทายาทได้ขนครองบั
ึ ลลังก์เมือไหร่ ก็จะเป็ นวันทีแคว้น
ถูของเราจะเหยียบแคว้นฉินให้จมดิน”

คนผูน้ นได้
ั ยินแล้วรูส้ กึ ดีใจแต่พกั นึงก็พลันพูดด้วยความ
สงสัยว่า : “แต่วา่ สัญญาร่วมกัน……”

56
“สัญญาบ้าอะไรกัน ! คนแคว้นถูของเราไม่เคยถูก
สัญญาเพียงฉบับเดียวมัดมือมัดเท้า” เฮ่อเหลียนป๋ า
ตะโกน สายตาสาดประกายความดูถกู ไม่ได้เห็นความ
สําคัญของสัญญาระหว่างสองแคว้นเลยแม้แต่นอ้ ย

“ถ้าเช่นนันองค์หญิงแคว้นฉิน ทีอยูใ่ นรถม้าคันหลัง......”


ชายหนุ่มร่างกํายําเผยรอยยิมอันน่าขยะแขยง

เฮ่อเหลียนป๋ าพูดพร้อมรอยยิมทีฉายความกระจ่างในคํา
พูดของอีกฝ่ ายว่า : “หลังจากทีข้าได้ลมรสเสร็
ิ จแล้ว หาก
พวกเจ้าทําตัวดี แน่นอนว่าจะให้พวกเจ้าได้ลองลิมรส
องค์หญิงแคว้นฉิน”

57
“ฮีๆ ถ้าเช่นนันก็ขอขอบพระทัยท่านอ๋องล่วงหน้าแล้ว”
ใบหน้าสีดาํ ของชายหนุ่มร่างกํายําผูน้ นพลั
ั นมีสีแดง
ปรากฏขึนมา

ขบวนส่งตัวองค์หญิงของแคว้นฉิน เดินทางอยูต่ รงกลาง


ของขบวน

เสือผ้าของคนแคว้นฉินจํานวนนับพัน ดูโดดเด่นท่าม
กลางขบวน

โดยเฉพาะรถม้าคันทีมีผา้ สีแดงพันอยูม่ ากมายและ


ถูกลากด้วยม้าใหญ่จาํ นวน 8 ตัว ราวกับเป็ นจุดทีโดด
เด่นทีสุดของขบวนทังขบวน

58
ภายในรถม้า ฉินอีเหยาสวมชุดแต่งงาน บนหัวสวม
มงกุฎหงส์อนั ใหญ่และหนักอึง แต่งหน้าเข้มจัด ราวกับ
ไม่มีอะไรเปลียนแปลงไปแม้แต่นิด ตังแต่ออกจากแคว้น
ฉิน

ภายในรถม้า เป็ นเหมือนห้องห้องหนึง ทีนอกจากนาง


แล้ว ยังมีนางกํานัลทีออกเรือนตามนางมาด้วย

“องค์หญิง ทรงพักผ่อนก่อนนะเพคะ” นางกํานัลมองนาง


ถอดมงกุฎหงส์ทีนางสวมอยูอ่ อก ทําให้เห็นใบหน้าอัน
น่าเย้ายวนของนางชัดเจนมากยิงขึน ริมฝี ปากทีแดงกํา
ทําให้ความเย็นชาของนางยิงดูเฉิดฉันมากกว่าเดิม

59
ใบหน้าของนางเย็นชาและไม่ได้ตอบนางกํานัล ราวกับ
ว่านางได้สญ
ู เสียจิตวิญญาณไปแล้ว

นางกํานัลแอบถอนหายใจ และวางมงกุฎหงส์ไว้เป็ น
อย่างดี

ตังแต่ออกจากแคว้นฉิน องค์หญิงของพวกนางก็เย็นชา
และสงบนิงเช่นนีมาตลอดทาง พวกนางรูส้ กึ ร้อนใจ แต่ก็
ไม่สามารถช่วยอะไรได้

“อีกนานเท่าไหร่จงึ จะถึงแคว้นถู” ทันใดนันเสียงอันสงบ


นิงได้ถามขึน

60
นางกํานัลรูส้ กึ ดีใจและรีบหันกลับไป แล้วพูดว่า : “องค์
หญิงในทีสุดท่านก็ยอมพูดอะไรบ้างแล้ว เรียนองค์หญิง
คนของแคว้นถูบอกว่า ในคืนนีเราจะถึงเมืองหนึงของ
แคว้นถูซงใกล้
ึ กบั แคว้นฉินมากทีสุดเพคะ”

“จะถึงในคืนนีแล้วหรือ” สายตาของฉินอีเหยามีความ
มืดมนปรากฏเพิมขึนหลายระดับ

นําเสียงอันเย็นชา ส่งผลกระทบต่อความรูส้ กึ ของเหล่า


นางกํานัล ทําให้นางเริมคิดถึงบ้านเมือง

ในสายตาของประชาราษฎร์แคว้นฉิน แคว้นถูเป็ นทีซึง

61
ทุรกันดาร ในตอนนี แคว้นฉินมีองค์หญิงผูโ้ ดดเด่นและ
เพียบพร้อม แต่กลับต้องออกเรือนมาอยูใ่ นทีเช่นนี
ผูน้ อ้ ยอย่างพวกนางรูส้ กึ ทุกข์ใจแทนองค์หญิงของตน
เอง แต่ทว่า พระบัญชาจากองค์ฮ่องเต้นนมิ
ั อาจขัดได้
แม้แต่องค์หญิงยังไม่สามารถต่อต้าน แล้วนับประสา
อะไรกับผูน้ อ้ ยแบบพวกนางทีจะสามารถไปห้ามปราม
ได้

ขบวน ยังคงเคลือนไปข้างหน้าแต่เริมช้าลง

บางทีอาจเป็ นเพราะใกล้เข้าสูแ่ คว้นถู ขบวนจึงผ่อน


คลายมากขึน กระทังการคอยระวังภัยก็ไม่มีแล้ว

62
ด้านหลังขบวนของฉินอีเหยาเต็มไปด้วยฝุ่ นทีปลิวฟุง้
กระจาย ในทีสุดมูช่ ิงเกอก็นาํ องครักษ์เขียวมังกรตามมา
ทัน สิงทีเห็นตรงเบืองหน้า คือขบวนทีทังทอดยาวและ
คดเคียว รวมทังรถม้าคันทีเต็มไปด้วยผ้าแดงทีโดดเด่น

“คุณชาย ขบวนของแคว้นถูอยูข่ า้ งหน้า” มัวหยางพูด

สายตาอันเย็นเยียบของมูช่ ิงเกอจ้องขบวนนัน พลันพูด


อย่างไม่สะทกสะท้าน : “ฆ่า!”

เมือออกคําสังมาให้ฆา่ องครักษ์เขียวมังกรก็พงุ่ เข้าหา


ขบวนนันดังเสือทีดุรา้ ย พวกเขาไม่เคยคิดถึงจํานวนคน
และกําลังของอีกฝ่ าย เพียงแต่ทาํ ตามคําสังของมูช่ ิงเก

63
ออย่างสุดความสามารถ

องครักษ์เขียวมังกรผ่านหน้ามูช่ ิงเกอไป ใบหน้าอันงด


งามของนางฉายความเย็นเยียบ ราวกับได้มีนาแข็
ํ งเข้า
ปกคลุมอีกชัน

ทีนางมา มิได้มาเพราะจะทําสงครามกับแคว้นถู แต่วา่


มาเพือชิงตัวฉินอีเหยา

ฆ่าคนพวกนีเสียและพาตัวฉินอีเหยากลับไป เป็ นวิธีที


เหมาะสมทีสุด

หากในอนาคต——
64
แคว้นถูกล้ามา นางก็กล้าฆ่า!

จะถือว่าแคว้นถูเป็ นเพือนบ้านทีดีไม่ได้อีกต่อไปแล้วสินะ

65
ตอนที 95-5 สิงทีติดค้างข้า ได้เวลาเอาคืนแล้ว!

องครักษ์เขียวมังกรเข้ามาพร้อมกับส่งเสียงโห่รอ้ ง พุง่ เข้า


มาในขบวนด้วยรังสีสงั หาร รวดเร็วจนไม่มีใครทันได้
ระวังตัว

“ศัตรูโจมตี!”

66
ขบวนทีตืนตระหนกขึนมาอย่างกะทันหัน ทําให้เพียงรีบ
ตังรับกับสงครามทีกําลังจะเกิด

แต่วา่ คนพวกนีจะเป็ นคูต่ อ่ สูข้ ององครักษ์เขียวมังกรได้


อย่างไร?

องครักษ์เขียวมังกรไม่เพียงแค่เป็ นสายเขียว สายคราม


แต่ละคนยังดูเหมือนจะฆ่าไม่ตาย อีกประการหนึงอย่า
ลืมว่า พวกเขาคือกองทหารลึกลับทีลอบสังหารโจรป่ า
และโจรขโมยม้าทีอยูบ่ ริเวณชายแดนแคว้นฉินและ
แคว้นถูกนัน

67
เฮ่อเหลียนป๋ าถูกการโจมตีของข้าศึกอย่างกะทันหันทํา
ให้เกิดความงงงัน เขาต้องจัดการกับขบวนทีแตก
กระจาย ในขณะเดียวกันก็ตอ้ งนําทัพทําสงคราม

แต่ทว่า พอเห็นวิธีการสังหารอันโหดเ**◌้ยมของ
องครักษ์เขียวมังกร เป็ นเพราะความขีขลาดในใจทําให้
เขาคิดหาโอกาสทีจะหลบหนีไป

คนพวกนันช่างน่ากลัวเสียจริง ลงมือเพียงครังเดียวก็
สามารถทําให้รา่ งไร้วิญญาณนับไม่ถว้ นร่วงลงสูพ่ ืน
พสุธา ว่องไวจนไม่มีโอกาสได้ตงตั
ั ว

“พวกเขา....พวกเขาเป็ นคนจากแคว้นฉิน ตระกูลมู.่ ....มู่

68
ชิงเกอ!” เฮ่อเหลียนป๋ าจําเสือเกราะอันมีเอกลักษณ์และ
กองทหารทีอยูบ่ นหลังของอาชาเพลิงได้ดี

เขาเดาถูกแล้ว แต่ทว่า กลับไม่กระจ่างว่าเหตุใดคนของ


มูช่ ิงเกอจึงมาปรากฏตัวอยูท่ ีนี และลงมือโหดเ**◌้ยม
เช่นนี

ภายในรถม้า เหล่านางกํานัลต่างก็นงกอดกั
ั นแน่นหลบ
อยูข่ า้ งๆ ฉินอีเหยาด้วยหวาดกลัว แต่ละคนต่างก็ตวั สัน
ไม่หยุด ผ้าสีแดงทีพันอยูร่ อบรถม้า เต็มไปด้วยโลหิต แม้
พวกนางจะไม่ได้เห็นภาพทีเกิดขึนข้างนอกด้วยตาตน
เอง แต่พวกนางก็สามารถจินตนาการได้ถงึ ภาพความ
โหดเ**◌้ยมนัน

69
“องค์หญิง พวกเราควรทําอย่างไรดีเพคะ” นางกํานัล
มองฉินอีเหยาอย่างขอความช่วยเหลือ

ฉินอีเหยาลุกขึนอย่างเชืองช้า ในแววตาไร้ซงความตื
ึ น
ตระหนก : “เอากระบีของข้ามา”

นางกํานัลใจกล้าคนหนึง รีบเอากระบีทีแขวนอยูใ่ นรถม้า


ลงมาในทันที พลันยืนให้กบั ฉินอีเหยา

แสงอันเยือกเย็นส่องประกายเผยให้เห็นกระบีทีถูกดึง
ออกมา

70
ฉินอีเหยามองนางกํานัลทีกําลังนังเบียดกันเพราะความ
กลัวด้วยสายตาอันเย็นเยียบ : “พวกเจ้าอยูก่ บั ข้ามานาน
หลายปี อย่างน้อยก็คงได้เรียนวิชาป้องกันตัวเบืองต้นมา
แล้วบ้าง แม้จะไม่เคยสูก้ บั ผูใ้ ด แต่ในวินาทีแห่งความ
เป็ นความตายเช่นนี ก็จาํ เป็ นต้องมีความสามารถทีจะ
ตอบโต้ วันนีพวกเจ้าคงต้องร่วมสูไ้ ปพร้อมกับข้า ไม่จาํ
เป็ นต้องสูส้ ดุ ชีวิต แต่หากหาโอกาสหนีได้ก็จงหนีไปเลย
ไม่ตอ้ งเป็ นห่วงข้า”

“ไม่ องค์หญิงเราจะทิงพระองค์ไว้ทีนีได้อย่างไร หากจะ


หนี องค์หญิงก็ตอ้ งหนีไปด้วยกัน พวกข้าจะคอยปกป้อง
พระองค์อยูข่ า้ งหลัง” นางกํานัลพูด

ฉินอีเหยากลับส่ายหน้า : “หากยังเห็นว่าข้าเป็ นเจ้านาย


71
ของพวกเจ้า ก็จงฟั งคําสังของข้า”

ในสายตาของเหล่านางกํานัลเผยให้เห็นความไม่จาํ ยอม

ในตอนนีเสียงหนึงดังขึนนอกรถม้า : “องค์หญิง
กระหม่อมคือหัวหน้าองครักษ์เขียวมังกรทหารองครักษ์
ของคุณชายชือมัวหยาง ได้รบั คําสังให้มารับองค์หญิง
กลับแคว้น ขอให้องค์หญิงมิตอ้ งทรงกังวลพระทัยและไม่
ต้องกลัว ขอให้ทรงรออยูบ่ นรถม้าก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

เขา ! เขามาแล้ว !

ฉินอีเหยาตกใจเหมือนดังถูกฟ้าผ่า นังนิงไม่ขยับตัว มือที


72
กํากระบีแน่นหล่นลงบนพืนของรถม้าจนส่งเสียงดังออก
มา

ความเย็นชาในดวงตาอันงดงาม ละลายกลายเป็ นหยด


นําและไหลรินลงมา

คําพูดของมัวหยางทําให้ทกุ คนภายในรถม้าเงียบลง
และไม่กลัวอีกต่อไป

ไม่นาน ข้างนอกก็คอ่ ยๆ เงียบลง เสียงสังหารอันน่า


สยองขวัญได้หายไป เหลือไว้เพียงกลินคาวเลือดทีวน
เวียนอยูร่ อบๆ ทําให้รูส้ กึ ไม่สบายตัว

73
ทันใดนันผ้าม่านสีแดงบนประตูรถม้าพลันถูกเปิ ดออก
เผยให้เห็นใบหน้าทีเย็นเยียบแต่ไม่คนุ้ เคยของชายหนุ่ม
หลายคน

เหล่านางกํานัลต่างก็ตกใจ แต่ฉินอีเหยากลับรีบมองหา
ใบหน้าของคนทีนางรอคอย เมือไม่พบ สายตาก็เต็มไป
ด้วยความโศกเศร้า…….

องครักษ์เขียวมังกรแบ่งเป็ นสองฝัง จึงเผยให้เห็นมัว


หยาง

เขายืนอยูน่ อกรถม้า พลันพูดกับฉินอีเหยาว่า : “องค์


หญิง ทุกอย่างจบลงแล้ว เชิญองค์หญิงลงจากรถม้า

74
คุณชายกําลังรอพระองค์อยูพ่ ะ่ ย่ะค่ะ”

คําพูดนีได้จดุ ประกายความหวังในใจของฉินอีเหยา

นางหลุดออกจากความเงียบทีสะสมมาหลายวัน
กระโดดลงจากรถม้าอย่างรวดเร็วและเดินตามมัวหยาง
ไปหามูช่ ิงเกออย่างไม่สนใจสิงรอบข้าง

และนางกํานัลทีเดินตามหลังนางมา เมือได้เห็นร่างไร้
วิญญาณทีกระจัดกระจายอยูร่ อบๆ โลหิตทีย้อมผืนแผ่น
ดินจนเป็ นสีแดงก็รูส้ กึ คลืนไส้ แล้วรีบเอามืออุดปากเอา
ไว้

75
ทําให้องครักษ์เขียวมังกรหลายนายเผยสายตาทีแฝงการ
ดูถกู

ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว......

เงาร่างอันสง่าผ่าเผยและสูงโปร่ง ทําให้ฉินอีเหยาหยุด
ชะงักฝี เท้า

นางเดาไม่ออกว่า มูช่ ิงเกอมาอยูท่ ีนีเพราะเหตุใด รูเ้ พียง


ว่า เมือเห็นเงาร่างอันไร้หนทางใดทีจะลืมเขาได้ หัวใจ
ของนางก็พลันเต้นแรงดังรัวกลอง

ในทีสุดนางก็เดินเข้ามาใกล้ จนเห็นร่างไร้วิญญาณของ
76
เฮ่อเหลียนป๋ าทีตอนนีถูกมูช่ ิงเกอเหยียบอยู่

ในขณะนี นางจึงสังเกตเห็นว่ารอบๆ นอกจากขบวนส่ง


ตัวของนางแล้ว คณะทูตของแคว้นถู ไม่เหลือเลยแม้แต่
คนเดียว ทุกคนต่างตายอยูท่ ีนี ส่วนสภาพการตายนัน
เลวร้ายเป็ นอย่างมาก

ไม่ใช่เพราะมูช่ ิงเกอหรือองครักษ์เขียวมังกรชอบวิธีการ
สังหารเช่นนี แต่ทว่าพวกเขา มักจะใช้วิธีทีง่ายและ
สะดวกรวดเร็วทีสุดในการสังหาร เพราะฉะนันจึงลงมือ
บนอวัยวะสําคัญ เมือมือกวาดผ่านทีใด หากไม่ใช่หวั ที
หลุดออกจากบ่าก็คือร่างกายทีแบ่งออกเป็ นสองท่อน

77
สรุปก็คือ เมือออกกระบวนท่าก็จะต้องมีชีวิตทีปลิดปลิว
ไป

วิธีการอันง่ายดายพวกนี มูช่ ิงเกอเป็ นคนสอนองครักษ์


เขียวมังกรจนชํานาญด้วยตัวนางเอง

ฉินอีเหยายังคงยืนอยูท่ ีเดิม มองเงาร่างอันสง่าผ่าเผย


คําพูดนับพันหมืนทีมี แต่สดุ ท้ายกลับไม่สามารถพูด
อะไรออกมาได้ ในใจของนางมีคาํ ถามมากมายแต่กลับ
ไม่รูว้ า่ จะเริมถามอย่างไรดี

มูช่ ิงเกอหันกลับไป นัยน์ตาคูส่ ว่างไสวมีความลึกซึงแฝง


อยู่ นางไม่ได้มีความรูส้ กึ อันใดจากการสังหารทีเพิงผ่าน

78
มาเลยแม้แต่นอ้ ย

ในขณะทีฉินอีเหยาหลงใหล เพราะแววตาน่าเย้ายวนคู่
นัน ทันใดนันนางก็ได้ลืมเรืองราวทังหมด ราวกับตกอยู่
ในภวังค์

เงาร่างทีงดงามดังดวงสุรยิ า ร้อนแรงดังเปลวเพลิง กําลัง


ค่อยๆ เดินเข้ามาหาตนเอง แต่ทว่าฉินอีเหยากลับรูส้ กึ ว่า
ตนเองไม่สามารถขยับตัวได้ ราวกับถูกแสงสาดส่อง
ประกายนันสะกดเอาไว้

“ตามกระหม่อมมา” ทันใดนันเสียงอันเย็นเยียบดังนํา
แข็งก็ได้ดงั ขึน ดึงสติของฉินอีเหยาทีตกอยูใ่ นภวังค์กลับ

79
มา

นางเดินตามมูช่ ิงเกออย่างไม่รูต้ วั เดินผ่านหน้าทุกคนไป


เดินไกลออกไปเรือยๆ จนถึงป่ าทีเต็มไปด้วยต้นไม้และ
กิงไม้มากมายแห่งหนึง แล้วจึงหยุดลง

จนถึงตอนนี นางจึงได้เอ่ยถามคําถามทีอยากรูท้ ีสุดท่าม


กลางคําถามนับพันหมืนคําถามของตนเอง: “เพราะเหตุ
ใด?”

“เฮ่อเหลียนจ้านไม่เหมาะสมกับพระองค์” มูช่ ิงเกอม


องนางและนางเองก็มองมูช่ ิงเกอ ราวกับจะสามารถเห็น
ถึงอะไรบางอย่างทีซ่อนอยูใ่ นแววตาอันนิงสงบของนาง

80
แต่ทว่าสุดท้ายกลับต้องผิดหวัง

ในแววตาของฉินอีเหยามีความผิดหวังเล็กน้อยเกิดขึน
นางก้มหน้าลง พูดด้วยนําเสียงเย็นชา: “ การอภิเษกได้
กําหนดแล้วเหตุใดจึงไม่เหมาะสม”

“กระหม่อมมารับพระองค์กลับไปพ่ะย่ะค่ะ” มูช่ ิงเกอพูด


ขึนอีกครัง

ฉินอีเหยาเงยขึนในทันที นัยน์ตาส่องแสงประกายแวววับ
ออกมา

มูช่ ิงเกอเม้มปากทีหนึง จากนันจึงพูดเสริมว่า : “พระองค์


81
สามารถเสด็จไปในทีทีทรงต้องการได้ ตังแต่บดั นีเป็ นต้น
ไป ทรงเป็ นอิสระแล้ว”

“หมายความว่าอย่างไร?” ฉินอีเหยารูส้ กึ เจ็บปวดใจขึน


มาในทันที ความหมายทีแฝงอยูใ่ นคําพูดของมูช่ ิงเกอไม่
ใช่สงที
ิ นางต้องการ

นางพยายามเก็บซ่อนความเจ็บปวดในดวงตาเอาไว้ แต่
ทว่ากลับไม่สามารถหนีสายตาของมูช่ ิงเกอได้ มูช่ ิงเก
อแอบถอนหายใจทีหนึง พลันพูดว่า : “ภายในวังหลวงได้
เกิดเรืองขึน รัชทายาทและฮองเฮาถูกเจียงกุย้ เฟยและรุย่
อ๋องสังหาร จากนันรุย่ อ๋องก็สงั หารฮ่องเต้........”

82
“อะไรนะ ! เจ้าพูดว่าอะไรนะ” ฉินอีเหยาเบิกตาโตใน
ทันที พลันมองนางอย่างไม่เชือ

มูช่ ิงเกอพูดอย่างเย็นชาว่า : “และกระหม่อมก็ฆา่ รุย่ อ๋อง


กับเจียงกุย้ เฟย”

ไม่ ! เป็ นไปไม่ได้ !

เสียงของมูช่ ิงเกอดังสายฟ้าทีผ่าลงกลางใจของฉินอี
เหยา

เสด็จแม่และเสด็จพีของนางคิดไม่ซือกับแคว้นฉินมาโดย
ตลอด สําหรับเรืองนีนางกระจ่างเป็ นอย่างดี รวมทังนาง
83
ยังรูว้ า่ สําหรับพวกท่านแล้ว ตนเองเป็ นเพียงแค่หมาก
ตัวหนึง แต่ทว่า นางกลับคิดไม่ถงึ ว่า พวกท่านจะฆ่า
ฮองเฮาและรัชทายาทอย่างบ้าคลังเช่นนี แม้แต่เสด็จพ่อ
ก็ยงั ไม่เว้น รวมทังสิงหนึงทีนางไม่เคยคิดฝันเลยก็คือ คน
ทีนางรักทีสุดกลับกลายเป็ นศัตรูทีฆ่าเสด็จแม่และเสด็จ
พีของนาง !

เหตุใดโชคชะตาจึงโหดร้ายกับนางเช่นนี !

ใบหน้าของฉินอีเหยาขาวซีด ราวกับปราศจากโลหิต

ร่างกายสันไปมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ พลันเดิน
ถอยหลังไปหลายก้าว

84
นําตาไหลลงมาอย่างกลันไม่อยู่

เสียววินาทีทีแล้ว นางยังตกอยูใ่ นความดีใจกับการ


ปรากฏตัวของมูช่ ิงเกอ ทว่าตอนนีกลับถูกคําพูดอันโหด
ร้ายของนางพังทลายลงอย่างไม่เหลือชินดี

ความทุกข์ของฉินอีเหยา มูช่ ิงเกอล้วนรับรูท้ งหมด


นางพูดว่า : “หากพระองค์คิดจะแก้แค้น ก็มาหากระ


หม่อมได้ทกุ เมือ พระองค์ยงั คงเป็ นองค์หญิงแห่งแคว้น
ฉิน แต่ไม่จาํ เป็ นต้องทําอะไรเพือแคว้นฉินอีกต่อไป ชีวิต
หลังจากนีของพระองค์จะต้องทรงเป็ นผูก้ าํ หนดเอง”

85
“แก้แค้นอย่างนันหรือ?” ฉินอีเหยาพยายามประคับ
ประคองร่างกายของตนเอง รอยยิมแวววับไปด้วยความ
เจ็บปวด นางมองมูช่ ิงเกอด้วยความรูส้ กึ ทีสับสนวุน่ วาย
พลันถามว่า : “ข้าควรจะแก้แค้นอย่างไร เสด็จพ่อของข้า
ถูกเสด็จพีของข้าสังหารและเจ้าก็สงั หารพวกเขา เจ้า
เป็ นผูม้ ีพระคุณหรือศัตรูของข้ากันแน่”

มูช่ ิงเกอนางครูห่ นึง จึงพูดว่า : “ทรงเห็นว่ากระหม่อม


เป็ นศัตรูก็ได้พะ่ ย่ะค่ะ”

ฉินอีเหยาสะดุง้ ทีหนึง พลันกระตุกรอยยิมทีเต็มไปด้วย


ความโศกเศร้า : “เจ้ายอมให้ขา้ เห็นเจ้าเป็ นศัตรูเชียว”

86
“เสด็จแม่และเสด็จพีของพระองค์ตอ้ งตายเพราะ
กระหม่อม พระองค์สมควรจะเกลียดกระหม่อม แต่วา่
สําหรับเสด็จพ่อของพระองค์ กระหม่อมเองก็ไม่ได้อยาก
ให้เขามีชีวิตอยู”่ มูช่ ิงเกอพูดอย่างเย็นชา

ฉินอีเหยาจับต้นไม้ขา้ งหลัง เพือพยุงตัวเองไม่ให้ลม้ ลง

หัวใจของนางตอนนี ราวกับถูกเฉือนเป็ นชินๆ : “เพราะ


เหตุใด ? เพราะเหตุใด?” เหตุใดเจ้าถึงได้อาํ มหิตเช่นนี
ฆ่าญาติสนิททุกคนของข้า แต่กลับมาช่วยข้า !

มูช่ ิงเกอหันหลังกลับไป โดยไม่ได้ให้คาํ ตอบ

87
นางเดินออกจากสวนอย่างรวดเร็วสังมัวหยางทีอยูไ่ กลๆ
ว่า : “เหลือคนและม้าไว้จาํ นวนหนึง เพือส่งเสด็จองค์
หญิงไปในทีทีทรงต้องการ” พูดจบ นางก็ขนหลั
ึ งเพลิง
รัตติกาลและจากไป

ฉินอีเหยามองแผ่นหลังของนางทีค่อยๆ ลับสายตาไป
และไม่สามารถต้านทานทุกอย่างได้อีกต่อไป พลันล้มนัง
ลงใต้ตน้ ไม้

มูช่ ิงเกอขีเพลิงรัตติกาลออกไปอย่างรวดเร็ว สิงทีตามมา


ข้างหลังคือองครักษ์เขียวมังกร

88
ท้องฟ้าทีไกลสุดสายตา ดวงตะวันกําลังเคลือนตัวลง
แสงอันงดงามตกกระทบลงบนร่างกายของทุกคน ราว
กับสีโลหิตทีเพิมเข้ามา

“หยุด— !” เชือกม้าหยุดลง เกือกม้ายกขึนสูง

มูช่ ิงเกอกําเชือกไว้แน่น มองดวงตะวันคล้อยทีกําลังจะ


ลับสายตา พลันถอนหายใจ เพือระบายสิงทีอัดอันอยูใ่ น
ใจ พร้อมพึมพําว่า: “เป็ นเช่นนีก็ดีเหมือนกัน”

89
ตอนที 96-1 จะชายหรือหญิง คุณชายก็สงั หาร !

ภายนอกอาณาเขตลัวตู ในพืนทีอันงดงามของผืนป่ าอัน


อุดมสมบูรณ์แห่งหนึงมีสสุ านตังอยู่

เป็ นสุสานทีเพิงสร้างขึน ถูกประดับตกแต่งอย่างสวย


งามโดยมีหญ้าเป็ นฐานรอง ด้านหน้าสุสาน มีหินตังอยู่
แผ่นหนึง ด้านบนสลักตัวหนังสือไว้เพียงบรรทัด
เดียว.....[สุสานของภรรยามูช่ ิงเกอ แซ่ฉิน ฉินอี
เหลียน]

1
มูช่ ิงเกอทีอยูใ่ นชุดนักรบ นังขัดสมาธิอยูห่ น้าสุสาน เสือ
คลุมสีแดงปลิวไปตามสายลมและร่วงลงสูพ่ ืนดิน ข้าง
หลังตัวนางองครักษ์เขียวมังกรต่างนังคุกเข่าอย่างพร้อม
เพรียงกัน พวกเขานิงสงบดังรูปปั น ไม่มีใครส่งเสียง
รบกวนเจ้านายของตนเองเลยแม้แต่เสียงเดียว

ฉินอีเหลียน มิได้ฝังอยูท่ ีเดียวกับตระกูลฉิน

นางให้ฉินจินเฉินโน้มน้าวอวินเฟยและพาร่างของฉินอี
เหลียนออกมา และหาสถานทีซึงสภาพแวดล้อมเงียบ
สงบ ทิวทัศน์สวยงาม เพือเป็ นทีให้นางหลับได้อย่าง
สบาย

ไม่สามารถช่วยฉินอีเหลียนไว้ได้ อาจจะกลายเป็ นความ


2
รูส้ กึ ผิดทีจะติดตัวนางตลอดไป แต่ก็จะไม่ทาํ ให้นางจม
ปลักอยูก่ บั เรืองเหล่านี

ลมพัดผ่านกระทบกับกิงไม้ ส่งเสียง “ซ่าๆ”

ดังเสียงเพลงแห่งนําตา ไพเราะแต่ทว่ากลับโศกเศร้า

มูช่ ิงเกอวางมือทังสองข้างบนเข่า จ้องตัวหนังสือทีสลัก


เองกับมือ พลันพูดเสียงตําว่า : “เหลียนเหลียนนีเป็ น
วิธีเดียวทีข้าจะทําตามปรารถนาของเจ้าได้ ขอให้เจ้าจง
หลับให้สบาย”

บนสุสาน ใบหญ้าพัดขึนมาพร้อมกับสายลม ราวกับ

3
เป็ นการตอบรับคําพูดของมูช่ ิงเกอ

ท่ามกลางความมัวหมอง มูช่ ิงเกอราวกับเห็นว่าสุสาน


หล่อหลอมเงาร่างของฉินอีเหลียนขึนมาและเงาร่างนัน
กําลังยิมให้นางด้วยความเบิกบาน ในตาดวงกลมโต ยัง
คงความสดใสและไร้เดียงสาโดยไม่ได้รบั การแต่งเติมอัน
ใด

นางยิมจนดวงตาทังคูห่ ยีเล็ก พลางค่อยๆ เงยหน้าขึน


มองเงาร่างดังภาพในจินตนาการนัน

นางไม่รูว้ า่ เป็ นวิญญาณของฉินอีเหลียนจริงๆ หรือเป็ น


เพียงภาพในจินตนาการของตนเอง แต่นางรูเ้ พียงว่าใน
ตอนนีนางไม่อยากจะทําลายภาพทีอยูต่ รงหน้า หาก
4
เป็ นฝันก็อยากจะฝันเช่นนีต่อไป.....

“เหลียนเหลียน...” มูช่ ิงเกอพึมพํา นางเห็นว่าฉินอี


เหลียนกําลังยิมให้กบั ตนเอง รอยยิมนันช่างหอมหวาน
และละมุนละไม ดังครังแรกทีพบกัน ทําให้นางรูส้ กึ ดี
เป็ นอย่างมาก

“พีชาย ข้าจะเต้นรําให้ทา่ นดู” ท่ามกลางภาพอันพร่า


มัว มูช่ ิงเกอได้ยินเสียงของฉินอีเหลียนทียังคงนุ่มนวล
เหมือนเคย

นางพยักหน้าอย่างไม่รูต้ วั

5
ครังนีนางมิได้ปฏิเสธอย่างเย็นชา

บนสุสาน เงานันเริมเต้นรํา เคลือนตัวไปมาราวกับกลุม่


ควันและผีเสือทีกําลังบินไปมา นีคือการเต้นรําทีงด
งามมากทีสุดเท่าทีมูช่ ิงเกอเคยเห็น

นางมองดูอย่างตังใจโดยมิได้พลาดแม้การเคลือนไหว
เดียว มุมปาก พลันผุดรอยยิมขึนมา

หลังจากทีเต้นเสร็จ หิมะก็พลันได้รว่ งลงจากฟ้าอย่างไม่


ทันได้ตงตั
ั ว

หิมะทีเบาดังขนห่านค่อยๆ ตกลงมา ร่วงลงสูพ่ ืนดินและ

6
กระจายลงบนสุสาน

องครักษ์เขียวมังกรรูส้ กึ ฉงนใจ มองหิมะทีตกลงมา ใบ


หน้าอันเย็นเยียบเต็มไปด้วยความสงสัย

นีมันฤดูใบไม้รว่ งทีไม่ควรจะมีหิมะตกมิใช่หรือ

ทันใดนัน ผืนแผ่นดินก็ถกู ย้อมเป็ นสีขาว บนตัวของมูช่ ิง


เกอและองครักษ์เขียวมังกรก็มีถกู หิมะบางๆ หนึงชันปก
คลุมอยู่

พวกเขายังคงไม่ขยับ สายตาก็ยงั คงจับจ้องเงาร่างสีแดง


ทีถูกหิมะสีขาวปกคลุมอยู่

7
ยังคงสง่าผ่าเผยดังเดิม แต่แฝงความโศกเศร้าไว้
มากกว่า

“พีชาย เหลียนเหลียนเต้นสวยไหม?” เงานันเอามือ


ไขว้หลังไว้อย่างขีเล่น รอคําตอบของมูช่ ิงเกอด้วยใบ
หน้าทีเต็มไปด้วยการรอคอย

ดวงตาอันกลมโต โค้งดังพระจันทร์เสียว ในแววตาเปล่ง


ประกาย

ราวกับว่า นางได้ใช้เรียวแรงทังหมดทีมีในการเต้นครังนี
เพียงเพือต้องการการยอมรับจากมูช่ ิงเกอ

8
มูช่ ิงเกอพยักหน้าอย่างแรง รอยยิมตรงมุมปากชัดเจน
มากกว่าเดิม

ในดวงตาอันสว่างไสวของนาง เป็ นครังแรกทีสูญเสีย


ความหลักแหลมทังหมดทีมี เหลือไว้เพียงแค่เงาอันงด
งามของฉินอีเหยาทีฝังลึกเข้าไปในดวงใจ

เสือผ้าของนางไม่ได้แปดเปื อนเพราะรอยเลือด หน้าอก


ของนางไม่ได้ถกู ศรธนูพวกนันยิงจนทะลุ นางยังคงยิม
อย่างสดใสร่าเริงและยังคอยวนเวียนอยูร่ อบตัวนาง ใช้
นําเสียงอันหอมหวานเรียกนางว่า ‘พีชาย’

“พีชาย ข้าให้ลกู อมท่าน นีเป็ นลูกอมทีเหลียนเหลียน


9
ชอบมากทีสุดเชียวนะ” การยอมรับจากมูช่ ิงเกอ ทําให้
ดวงตาดังจันทร์เสียวคูน่ นโค้
ั งลงมากกว่าเดิม นางยืนมือ
ออกไปหามูช่ ิงเกอ ในมือมีลกู อมอยูเ่ ม็ดหนึง

จะเลียงลูกอมนางอีกแล้วหรือ?

รอยยิมของมูช่ ิงเกอชัดเจนกว่าเดิม นางจําได้ดีวา่ เมือ


เจอกันอีกครังทีสวนดอกท้อ องค์หญิงตัวน้อยคนนีก็
เลียงลูกอมนาง แต่นางกลับไม่สนใจ

ดูเหมือนว่าตังแต่ครังนัน องค์หญิงตัวน้อยจะสัมผัสได้
ถึงการปฏิเสธของนาง จึงไม่เคยเลียงลูกอมนางอีกเลย

10
ความจริงแล้ว การให้ลกู อม เป็ นวิธีแสดงความรักของ
องค์หญิงตัวน้อย

มูช่ ิงเกอค่อยๆ ยกมือขึน แบมือของตนเองออกไปรับลูก


อม ซึงเป็ นการแบ่งปั นของทีตนเองชอบ

เงาร่างทียืนรอลุน้ อยู่ หลังจากทีเห็นมูช่ ิงเกอยืนมือออก


ไป ก็ได้เผยรอยยิมอันเบิกบาน นางวางลูกอมลงบนฝ่ า
มือของมูช่ ิงเกออย่างระมัดระวัง

ลูกอมเม็ดสีขาว กระทบกับมือทําให้รูส้ กึ ถึงความเย็น

ความพร่ามัวในสายตาของมูช่ ิงเกอค่อยๆ หายไป ตรง

11
หน้าไม่มีเงาของฉินอีเหลียนอีกต่อไป ในฝ่ ามือของนาง
มีเพียงหิมะทีกําลังค่อยๆ ละลายวางอยู่

เป็ นภาพลวงตาหรือ?

มูช่ ิงเกอเก็บมือของตนเอง ก้มลงมือหิมะทีตอนนีได้


ละลายกลายเป็ นหยดนําไปแล้ว นางกํามือแน่น นําจาก
หิมะทะลุผา่ นระหว่างร่องนิว พลันพูดเบาๆ ว่า :
“เหลียนเหลียน ข้าไปแล้วนะ วันหลังจะมาเยียมเจ้า
ใหม่”

พูดจบ นางก็ยืนขึน หิมะบนร่างกายก็พลันตกลงสูพ่ ืน


ดิน

12
องครักษ์เขียวมังกรเองก็ลกุ ขึนในทันที หิมะบนร่างกาย
ถูกสะบัดให้รว่ งลงพืน จนกลายเป็ นเนือเดียวกับหิมะที
อยูบ่ นพืน

“ไป” มูช่ ิงเกอหันกลับมา สังองครักษ์เขียวมังกร

พาองครักษ์เขียวมังกรจากไป ในใจก็หมดห่วงต่อฉินอี
เหลียน

หลังจากทีนางจากไป หิมะก็คอ่ ยๆ หยุดลง ท้องฟ้าอัน


ปลอดโปร่ง โปร่งใสดังกระจกบานหนึง สะท้อนให้เห็น
ทุกคนทีอยูบ่ นพืนดิน

13
สวบ—สวบ—เสียงคนเดิน

บนพืนทีเต็มไปด้วยหิมะ มีรอยเท้าปรากฏขึนจํานวน
หนึง ร่างอันสูงส่งได้รูปปรากฏตัวตรงหน้าสุสานของฉิน
อีเหลียน

นางค่อยๆ คุกเข่าลง ยกมือขึนลูบตัวหนังสือทีอยูบ่ นหิน


เบาๆ ใบหน้าอันน่าเย้ายวนแฝงความรูส้ กึ สับสนและ
ความทุกข์มากมาย

“เหลียนเหลียน ข้าไม่เคยรูม้ าก่อนเลยว่าเจ้าก็ชอบเขา”


นางพูด

14
สายตาของนางจ้องคําว่า ‘ภรรยา’ บนหินแผ่นนัน
พลันเผยรอยยิมทีประดับไปด้วยความทุกข์ตรงมุมปาก
ใช้นาเสี
ํ ยงทีแฝงความอิจฉาพูดว่า : “ข้ารูส้ กึ อิจฉาเจ้า
ขึนมาเสียแล้วสิ” อิจฉาเจ้าทีสามารถรักได้อย่างบริสทุ ธิ
และกล้าหาญเช่นนี

“บางที อาจจะต้องเป็ นดังเจ้าเช่นนี จึงจะสามารถหยุด


เขาเอาไว้ได้” นางเก็บมือแล้วค่อยๆลุกขึนยืน จ้องสุสาน
ทีถูกหิมะบางๆ ปกคลุมอยู่ ในแววตาอันเย็นเยียบแฝง
ความปวดร้าว : “แต่ขา้ ควรจะทําอย่างไรดี?”

15
ตอนที 96-2 จะชายหรือหญิง คุณชายก็สงั หาร !

16
วังหลวงแคว้นฉิน หลังจากทีฉินจินเฉินจัดการธุระ
สําคัญเสร็จแล้วก็กลับไปพักในตําหนักชัวคราวของตน
เอง

เพิงจะเดินเข้าไป เขาก็พลันได้พบกับร่างหนึงอย่างไม่
คาดฝัน

ร่างกายอันผอมบางของนาง เมือยืนอยูใ่ ต้เงาแสง


จากดวงสุรยิ า ประหนึงเป็ นเพียงแค่กลุม่ ควันจางๆ

“ฉางเล่อ?” ฉินจินเฉินเดินเข้าไป เรียกชือของคนผูน้ นั

ฉินอีเหยาหันกลับมาอย่างช้าๆ สายตาอันเย็นเยียบหยุด

17
อยูท่ ีฉินจินเฉิน : “เสด็จพี วันนีข้าได้ไปเยียมเหลียน
เหลียนมา”

ฉินจินเฉินเดินช้าลง ค่อยๆ พยักหน้าให้กบั คําพูดของ


ฉินอีเหยา และไม่รูว้ า่ ควรจะตอบเช่นไรดี

ฉินอีเหยามองเขา หลังจากพินิจเป็ นเวลานาน จึงพูด


ว่า : “ข้าไม่คิดเลยว่า สุดท้ายจะเป็ นท่าน แต่ทา่ นกลับ
สละบัลลังก์อย่างง่ายดายและไม่ใส่ใจเช่นนี”

ในแววตาอันเย็นชาของฉินจินเฉิน ไม่เผยให้เห็นถึง
ความรูส้ กึ อันใด

18
เขาผุดรอยยิมตรงมุมปากทียังคงเย็นเยียบ : “เจ้าคงคิด
ว่า ข้าเป็ นคนทีเจ้าแผนการมากทีสุด”

“ไม่” ฉินอีเหยาส่ายหน้าเบาๆ : “หากท่านหมายตาใน


บัลลังก์นี ในตอนนีก็คงไม่มีการสละบัลลังก์เช่นนี”

“เหตุใดเจ้าไม่คิดว่า ทีข้ายกบัลลังก์ให้องค์ชายเจ็ดก็
เพือควบคุมทุกอย่างอยูเ่ บืองหลัง?” สายตาอันแนบนิง
ของฉินจินเฉินจับจ้องบนตัวนาง บรรยากาศภายใน
ตําหนักราวกับเย็นยะเยือกลงหลายองศา

ฉินอีเหยายิมขืนและก้มหน้าลง : “จะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่
เกียวกับข้า ทีข้ามาพบท่านในวันนีเพียงแค่มีเรืองจะขอ

19
ร้อง”

สายตาของฉินจินเฉินแฝงความสงสัย เขาเม้มปากโดย
ไม่พดู อะไร

ฉินอีเหยามองเขา ใช้นาเสี
ํ ยงทีแสดงถึงความตังใจทีไม่
เคยมีมาก่อนพูดว่า : “ลบชือข้าออกจากราชวงศ์แคว้น
ฉิน ตังแต่นีเป็ นต้นไป วังหลวงแคว้นฉินจะไม่มีคนชือฉิน
อีเหยาอีกต่อไป”

ฉินจินเฉินหรีตา เขาเดาจุดประสงค์ของนางออก :
“เจ้าคิดจะทําการใด เจ้าจะไปจากทีนีและไม่กลับมาอีก
อย่างนันหรือ”

20
ฉินอีเหยายิมอย่างโศกเศร้า : “กลับมาทําไม ทีนียังมี
อะไรควรค่าทีข้าควรจะระลึกถึงอีกเล่า”

“เจ้าคิดจะไปทีใด? แล้วมูช่ ิงเกอล่ะ? เจ้าจะไม่พบเขา


อีกแล้วหรือ” ฉินจินเฉินยังคงไม่หยุดถาม

ขนตาอันยาวงอนของฉินอีเหยากระตุกทีหนึง นาง
พยายามหลบหน้าจากสายตาของฉินจินเฉิน : “ไป
ไหน? ข้ายังไม่ได้คิด หลินชวนกว้างใหญ่ไพศาลถึง
เพียงนี ต้องมีทีให้ขา้ ชอบเป็ นแน่และสําหรับเขา.....
ตอนนี ข้าควรจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร”

21
“เจ้าเกลียดเขาหรือไม่” ฉินจินเฉินเดินเข้ามาหนึงก้าว
โดยไม่ละสายตาจากทุกอาการทีนางแสดงออกมา

ฉินอีเหยาตัวเริมสัน นางกัดริมฝี ปากเรียวบางของตน


ในแววตาเปี ยมล้นไปด้วยความรูส้ กึ สับสน พลันพูดว่า :
“เกลียดอย่างนันหรือ? ข้าจะเกลียดได้อย่างไร? เพียง
ข้าเกลียดเขาก็จะสามารถฆ่าเขาได้เลยหรืออย่างไร?
หรือฆ่าเขาแล้วข้าจะหายเกลียด?”

“หากเจ้ามิอาจลืมเขาได้ เหตุใดจึงไม่อยูต่ อ่ เขาไปชิง


ตัวเจ้าเพือความสุขของเจ้า ซึงบ่งบอกว่าในใจของเขามี
เจ้าอยู.่ .....”

22
“อยูต่ อ่ รึ ให้ขา้ คิดเสียว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึนและอยูก่ บั
เขาโดยทีไม่มีอะไรค้างคาใจอย่างนันหรือ” ฉินอีเหยาตัด
บทคําพูดของฉินจินเฉิน

หากอยูต่ อ่ นางจะต้องเป็ นทุกข์

หากยังวนเวียนอยูใ่ นวังวนแห่งความรักและความ
เกลียดต่อไป นางรูว้ า่ ตนเองไม่มีทางทีจะแก้แค้นมูช่ ิงเก
อได้และก็ไม่สามารถทีจะอยูเ่ คียงข้างมูช่ ิงเกอราวกับไม่
เคยมีอะไรเกิดขึนได้เช่นกัน

ฉะนันการจากไปจึงเป็ นทางเลือกทีดีทีสุด

23
ไม่วา่ จะสําหรับตนเองหรือมูช่ ิงเกอ

ฉินจินเฉินมองฉินอีเหยาทีจากไปจนลับสายตาไป แผ่น
หลังอันเย็นเยียบนัน ทําให้เขาพูดอะไรไม่ออก

เขาไม่ชอบยุง่ เรืองของผูอ้ ืนมาแต่ไหนแต่ไร แต่ทว่าหาก


พบกับคนทีมีสว่ นเกียวข้องกับมูช่ ิงเกอ เขาก็คล้ายดัง
สูญเสียความเป็ นตัวเอง

ฉินจินเฉินขมวดคิวหนา พลันหันหลังและเดินจากไป

เรืองการขึนครองบัลลังก์ยงั มีรายละเอียดอีกมากมายที
เขายังต้องไปจัดการ แต่จนถึงตอนนี เขาก็ยงั ไม่คอ่ ย

24
กระจ่างว่าตนเองได้กา้ วขึนเรือลําเดียวกันกับมูช่ ิงเกอไป
แล้ว อีกทังยังต้องคอยตามจัดการปั ญหาทีนางก่อเอาไว้

……..

แคว้นถู แคว้นทีห่างไกลทีสุดในทางทิศตะวันตกเฉียง
เหนือของหลินชวน

ทีแห่งนี เป็ นพืนทะเลทรายทีเกิดพายุบอ่ ยครังและเป็ น


ทุง่ หญ้าอันกว้างขวาง ในช่วงทีไม่เกิดพายุ จะเห็นภาพ
ทิวทัศน์อนั สวยงาม ลมพัดเย็นสบาย เหล่าวัวและแพะ
ต่างพากันออกมากินหญ้า แต่ทว่าหากเป็ นช่วงทีมีพายุ
นัน จะรูส้ กึ ราวกับอยูใ่ นนรก

25
สภาพอากาศของทีนี หากหนาวก็จะหนาวมาก หาก
ร้อนก็จะร้อนมาก ในแต่ละวันจะต้องพบเจอกับอากาศ
ทังสองแบบ

สําหรับแคว้นถูนี ในสายตาของแคว้นอืน ๆ เป็ นคํานาม


ทีแสดงถึงความป่ าเถือนและโหดร้ายเป็ นอย่างมาก

ประชาชนของพืนทีแห่งนี ชอบการทําสงคราม การปล้น


ชิงทรัพย์ สําหรับคนทีนีแล้วคุณธรรมเป็ นสิงทีไร้สาระ
มากทีสุดเลยก็วา่ ได้

เมืองหลวงของแคว้นถู ถูกเรียกว่า หวังถิง

26
กลางดึก ภายในหวังถิงยังคงครึกครืนอีกเช่นเคย ชาย
หนุ่มแคว้นถู มักจะดืมดําความสุขไปพร้อมกับสุราในทุก
คําคืน บรรดาหญิงสาวต่างก็นงล้
ั อมกันเป็ นวงกลม ชืน
ชมความเก่งกาจของชายหนุ่มของตนเอง

ถึงขันว่า หากต่างฝ่ ายต่างสมยอม หนุ่มสาวแคว้นถู


สามารถหาทีลับตาคนเพือแสดงความใคร่ของตน
เองออกมาได้

ภายในตําหนักรัชทายาทแห่งหวังถิง อาคารหยาบกว้าง
ขวาง เมืออยูใ่ นยามคําคืน เป็ นดังสัตว์ป่าตัวใหญ่ทีคืบ
คลานอยูบ่ นพืนดิน ภาพสัตว์นานาชนิดทีสลักเพือ
ตกแต่งอยูบ่ นเสายิงเพิมความน่าสยดสยอง

27
คานตําหนักทีอยูส่ งู ขึนไปกลบแสงสว่างจากกระถางไฟที
ใช้ขบั ไล่ความมืดภายในตําหนัก รวมทังกันความหนาว
เย็นจากภายนอก

ภายในวังหลวง บนพืน มีหนังสัตว์แผ่นหนาปูอยู่ ใน


อากาศเต็มไปด้วยกลินเหม็นคาว และกลินเหล้าทีปะปน
กันมา

ด้านหลังฉากบังลมทีทําจากหนังสัตว์ มีเสียงกระเส่าดัง
ลอยมา

ทําให้อณ
ุ หภูมิภายในตําหนักเพิมขึนหลายส่วน แสงไฟ
ทีส่องสว่างก็เพิมความงดงามขึนหลายระดับ

28
ในมุมมืดภายในตําหนัก สาวน้อยสิบกว่าคนทีอยูใ่ นชุด
บางนังขดตัวอยูด่ ว้ ยกันเป็ นกลุม่ ก้อน สายตาของพวก
นางเต็มไปด้วยความเฉยชา ทุกครังทีมีเสียงหอบหายใจ
อันน่าดึงดูดดังออกมา สายตาของพวกนางก็เต็มไปด้วย
ความหวาดกลัว ตัวสันไม่หยุด ต่างก็กอดร่างของตนเอง
ไว้แน่น

“อ๊า——!”

ทันใดนัน เสียงแหลมโหยหวนก็ดงั ออกมา

สีหน้าของเหล่าหญิงสาวพลันเปลียนไปในทันที ความ
ตืนตระหนกในแววตามากขึนเป็ นทวีคณ
ู ครูห่ นึงเสียง
29
สะอืนทีพยายามกดเอาไว้ก็ดงั ขึน หญิงสาวจํานวนไม่
น้อยก้มหน้าลงและหลบอยูต่ รงเข่าของตนเอง เพือปก
ปิ ดความกลัว

“หึ ใช้ไม่ได้ เล่นแค่นีก็ตายเสียแล้ว” เสียงอันเย็นเยียบ


และโหดเ**◌้ยมดังขึน นําเสียงอันบ้าคลังทําให้เหล่า
หญิงสาวตัวสันมากกว่าเดิม

ราวกับว่า คนพูดเป็ นปี ศาจในใจของพวกนาง

ทันใดนัน ศพเปลือยเปล่าของหญิงสาวก็ถกู คนลากตัว


ออกมาจากหลังฉาก

30
ทหารผูเ้ ลือดเย็นลากเพียงขาข้างเดียวของนางประหนึง
ลากเศษขยะ ออกมาอยูต่ รงหน้าเหล่าหญิงสาว

ร่างทีดวงตาถลนออกมาจากเบ้า หว่างขาทังสองข้าง
เต็มไปด้วยเลือด ทําให้เหล่าหญิงสาวต่างตัวสันดังนัง
อยูบ่ นก้อนนําแข็ง พลันถอยหลังไปเรือยๆ

ในทีสุดร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวก็ลบั สายตาของ
พวกนางไปและถูกลากเข้าไปในห้องมืดห้องหนึง

แต่วา่ ภายในห้องมีเสียงคํารามอันบ้าคลังดังเสียงของ
สัตว์ป่าดังออกมา ยิงทําให้พวกนางทังกลัวและหมดหวัง
ราวกับว่า ร่างไร้วิญญาณร่างนันจะเป็ นสภาพของพวก
นางในอีกไม่ชา้ นี
31
32
ตอนที 96-3 จะชายหรือหญิง คุณชายก็สงั หาร !

เสียงเสือเกราะทีกระทบกันใกล้เข้ามาเรือยๆ เสียงนัน
ราวกับผีรา้ ยทีกําลังจะเข้ามาพรากชีวิต ทําให้เสียงรําไห้
ของเหล่าหญิงสาวดังมากขึนกว่าเดิม

จนกระทังเงาของคนพวกนันปกคลุมพวก
นางเอาไว้ จึงมีคนแอบเงยหน้าขึนแอบมองด้วยความ
หวาดผวา

ทหารท่าทางเย็นชา ยืนบังแสงสว่างอันน้อย
นิดทีมีอยู่ ไออํามหิตทีอยูใ่ นดวงตา ในสายตาของพวก
33
นางแล้วราวกับเป็ นปี ศาจกินคนทีน่าหวาดผวา

เขากวาดสายตามองเหล่าหญิงสาวโดยไม่
แสดงอาการอันใด

ทันใดนัน เขาก็ยกนิวขึนชีตรงมุม ชีหญิง


สาวผูท้ ีมีอาการสันมากทีสุด พลันพูดอย่างเย็นเยียบ
ว่า : “เอาตัวนางเข้าไป”

พูดจบ เหล่าหญิงสาวก็เงยหน้าขึนมองเขา

เมือเห็นว่าคนทีไม่ถกู ชีตัวคือตนเอง ก็พลัน


โล่งใจในทันที พวกนางขยับตัวเผยให้เห็นหญิงสาวผูท้ ี

34
อยูม่ มุ ในสุด

ชายหนุ่มสองคนเดินออกมาและเข้าไปหา
หญิงสาวคนนันในทันที

ในดวงตาของหญิงสาวคนอืนๆ เต็มไปด้วย
ความรูส้ กึ ว่าตนเองโชคดี หวาดกลัว รวมทังเห็นใจ แต่
ทว่า ทุกคนก็ยงั คงรักษาความเงียบสงบ

“ไม่ ไม่....ขอร้องล่ะ.......” หญิงสาวทีอยู่


มุมสุด ตอนแรกคิดว่าตนเองจะปลอดภัยทีสุด แต่ไม่คิด
ว่าสุดท้ายกลับต้องถูกเลือก

35
นางมองทหารผูเ้ ย็นชาด้วยความกลัว มือ
ทังคูพ่ ยายามดินรนเพือเอาตัวรอดและไม่ให้ตนเองถูก
นําตัวเข้าไป

แต่ทว่า การดินรนเช่นนีกลับไม่ได้ผล
สําหรับเหล่าทหารพวกนี ทหารทังสองจับมือของนาง
เอาไว้แน่น ลากตัวนางออกไปท่ามกลางผูค้ น ไม่สนใจ
คําร้องขอชีวิตจากนางและลากตัวนางเข้าไปยังหลังฉาก
ทีชวนให้คนสยดสยองและเย็นเยียบนัน

ครึงชัวยามผ่านไป——

“อ๊า——!”

36
เสียงโหยหวนแห่งความทุกข์ทรมานดังขึน
อีกหน ทําให้หญิงสาวทีหลบอยูใ่ นมุมรูส้ กึ กลัวและกังวล
กับชะตาชีวิตของตนเองมากขึนกว่าเดิม

พวกนางต่างเฝ้ารอคอยดวงตะวันในเช้าวัน
ใหม่

เพราะในตอนนัน ฝันร้ายจึงจะจบลง พวก


นางจึงจะสามารถรักษาชีวิตของตนเองไว้ได้อีกวัน

แต่ทว่า หลังจากทีศพของหญิงสาวคนที
ถูกลากออกมา ก็ไม่มีคนมาชีตัวใครอีกต่อไป พวกนาง
ไม่รูว้ า่ เกิดเหตุการณ์อนั ใดขึน ถึงเปลียนแปลงความเคย
37
ชินของรัชทายาทไปได้

แต่ทว่า กลับสามารถสัมผัสได้วา่
บรรยากาศภายในตําหนักรัชทายาทน่ากลัวมากกว่าเดิม
ราวกับมีดวงตาแห่งเปลวเพลิงทีพร้อมจะปะทุได้ตลอด
เวลาทีอยูเ่ หนือศีรษะของทุกคนในขณะนี

หลังฉากทีทําจากหนังสัตว์ ก็ถกู หนังสัตว์


หนาๆ ปูอยูเ่ ช่นกัน

ในห้องซึงมีเตารูปสีเหลียม ทีด้านในมีเปลว
ไฟลุกไหม้อยู่ ทําให้อณ
ุ หภูมิภายในห้องอบอุน่ มากขึน

38
ด้านข้าง บนเตียงนอนรูปวงกลมหลังใหญ่ที
ยับยูย่ ี มีรอยเลือดเปื อนอยู่ รอยเลือดนันทังคลําทังสด

และในขณะนี บนเตียงวงกลม มีเพียงคนผู้


หนึงทีตอนนีอยูใ่ นสภาพเปลือยเปล่า บนร่างกายของ
เขาถูกสักลวดลายน่ากลัวต่าง ๆ ไว้มากมาย กล้ามเนือ
บนร่างกายเป็ นมัดๆ เผยให้เห็นเส้นเลือดจางๆ ผมบน
ศีรษะถักเปี ยเล็กๆ ไว้จาํ นวนนับไม่ถว้ น เชือกทีมัดผม
เปี ยเล็กพวกนีเข้าด้วยกันมีกะโหลกศีรษะสีทองประดับ
อยู่

แสงจากเปลวเพลิงตกกระทบบนร่างกาย
ของเขา ทําให้อีกด้านหนึงของเขาถูกเงาสีดาํ บดบังและ
เผยให้เห็นเพียงด้านเดียว แต่กลับฉายแววโหด

39
เ**◌้ยม

ใบหน้าของเขาไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่กลับ
เยือกเย็นแข็งกระด้างดังมีดดาบ

หว่างคิว เต็มไปด้วยรังสีสงั หารและความ


อํามหิต

ดังปี ศาจทีกินเนือและดืมเลือดมนุษย์อย่าง
ไรอย่างนัน

เท้าเหยียบอยูบ่ นหนังสัตว์และยังมีเงาทีอยู่
ในทีมืดอีกเงาหนึง

40
เขานังคุกเข่า หมัดทีกําแน่นของเขาแนบอยู่
บนพืนพลางก้มหน้าลงตํา ราวกับอยากจะหายไปจาก
สายตาของผูช้ ายทีดูโหดเ**◌้ยมผูน้ ี

“เจ้าบอกว่า เฮ่อเหลียนป๋ าและองค์หญิง


แคว้นฉินหายตัวไปอย่างนันหรือ” เสียงโทนตําดังขึนจาก
ปากของเฮ่อเหลียนจ้านราวกับได้แฝงไอสังหารในทุกตัว
อักษร

“ขอรับ” คนทีนังคุกเข่าอยูก่ ม้ หน้าลงตํากว่า


เดิม

เฮ่อเหลียนจ้านหรีตาคูท่ ีเต็มไปด้วยแรง
41
อาฆาต มุมปากกระตุกยิมอันกระหายเลือด : “จาก
กําหนดการเดินทางแล้ว พวกเขาควรจะเข้าสูอ่ าณาเขต
แคว้นถูหลายวันแล้ว”

“ขอรับ จากกําหนดการแล้ว หมานอ๋องน่าจะ


ออกเดินทางกลับแคว้นถูมา 7-8 วันแล้ว แต่ทว่า เมือ
หลายวันก่อนข้าน้อยไปตระเวนบริเวณชายแดน และ
พบว่าหมานอ๋องไม่ได้ปรากฏตัว ตอนแรกข้าน้อยคิดว่า
เกิดอะไรเรืองระหว่างทางจึงทําให้ตอ้ งเสียเวลา จึงรออยู่
ทีนันหลายวัน แต่ทว่าหมานอ๋องก็ยงั คงไม่กลับมา ข้า
น้อยจึงไปหาเบาะแสและพบร่องรอยการต่อสูอ้ ย่าง
รุนแรงบริเวณป่ าแห่งหนึงทีอยูใ่ นเมืองติดกับชายแดนขอ
รับ” พอพูดจบ เหงือก็ได้อาบผ้าคลุมหัวสีดาํ ของเขาจน
เปี ยกปอน

42
“ร่องรอยการต่อสูอ้ ย่างนันหรือ มีคนกล้าลงมือกับหมา
นอ๋องแห่งแคว้นถูหรือ น่าสนใจ” เฮ่อเหลียนจ้านเผย
รอยยิมทีเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ

จากนันเขาจึงพูดต่อว่า : “หากหมานอ๋อง
หายตัวไปในขณะทีนําคณะราชทูตไปแคว้นฉิน ก็จงส่ง
ทหารไปโจมตีแคว้นฉิน ไม่วา่ อย่างไรแคว้นฉินก็ตอ้ ง
แสดงความรับผิดชอบ” พูดจบ สายตาของเขาก็แวววับ
ด้วยรังสีสงั หารทีกําลังลุกไหม้และความกระหายในการ
ทําสงครามทีอยูใ่ นสายเลือดกําลังค่อยๆ ปะทุ

“รัชทายาท! แบบนีมัน....... ” คงจะไม่ดี หลังจากที


สบกับดวงตาโหดร้ายและเย็นเยียบ ในทีสุดคนทีนังคุก
43
เข่าอยูก่ ็ไม่ได้พดู อะไร

เขารูจ้ กั นิสยั ทีทังบ้าบินและชอบทําสงคราม


ของเจ้านายของตนเองดี

เพียงแค่อภิเษกกับแคว้นฉิน ก็เป็ นการดูถกู


ศักดิศรีของเขาแล้ว ในตอนนี ทังหมานอ๋องและองค์
หญิงแคว้นฉินก็ได้หายตัวไปอีก ซึงเป็ นข้ออ้างให้เขาได้
ทําสงคราม เขาจะทิงโอกาสนีไปได้อย่างไรเล่า

ราวกับว่า การส่งทหารไปโจมตีแคว้นฉิน
ไม่ได้เป็ นเพราะเฮ่อเหลียนป๋ า แต่เพือต้องการล้างความ
อัปยศทีเขาต้องอภิเษกสมรสกับองค์หญิงแคว้นฉิน

44
คนทีคุกเข่าอยูบ่ นพืนทอดถอนใจ

ตําแหน่งรัชทายาททีกําลังแย่งชิงกันอย่างดุ
เดือด กว่าเจ้านายของตนเองจะได้ครอบครองนันไม่ใช่
เรืองง่าย ในวันทีกําลังมีศกึ ภายในเช่นนี กลับคิดจะทํา
สงคราม มันถือเป็ นการแสดงจุดด้อยของตนเองให้ฝ่าย
ตรงข้ามเห็น

เขามันใจว่า อีกฝ่ ายทีต้องการแย่งชิง


ตําแหน่งรัชทายาท นอกจากจะไม่หา้ มการส่งทหารไป
โจมตีแคว้นฉินแล้ว ยังจะส่งเสริมด้วย เพราะหาก
สงครามในครังนี ทําลายความสงบสุขของแคว้นถู ไม่วา่
ฝ่ ายใดจะชนะ พวกเขาก็มีเหตุผลมากพอทีจะโจมตี

45
รัชทายาท

ยิงพวกเสนาบดีทีปากคอเราะร้ายดังมีดคม
ทีพร้อมสังหารก็อาจจะดึงเจ้านายของตนเองลงจาก
ตําแหน่งรัชทายาทได้

แต่ทว่า สําหรับคําพูดนี เขากลับไม่กล้าพูดกับเฮ่อ


เหลียนจ้าน เขากลัวว่า หากตนเองพูดผิดอีกแม้แต่คาํ
เดียว จะทําให้ไม่มีชีวิตรอดออกไปจากวังหลวงแห่งนีได้
อีก

……

46
ณ แคว้นฉิน ลัวตู

ภายในจวนตระกูลมู่ ทีกลับสูค่ วามสงบสุขอีกครัง ราว


กับว่า เรืองราวทังหมดทีเกิดขึนในวังหลวงแคว้นฉิน ไม่
ได้สง่ ผลกระทบอันใดต่อแม้กระทังต้นไม้ใบหญ้าของทีนี
เลยแม้แต่นอ้ ย

แต่ทว่า ทุกคนกลับกระจ่างเป็ นอย่างดีวา่ ตระกูลมูใ่ น


วันนี ไม่ใช่ตระกูลม่ดงเช่
ั นเมือก่อนอีกต่อไป

หากจะบอกว่า ตระกูลมูใ่ นอดีตต้องอยูภ่ ายใต้การวาง


แผนสังหารของฮ่องเต้ ได้รบั ความเมตตาจอมปลอม
และเสพสุขกับเกียรติยศอันสูงสุด แต่ในขณะเดียวกันก็
ต้องเสียงกับการถูกล้มล้าง ถ้าอย่างนันในวันนีตระกูลมู่
47
คงจะอยูเ่ หนือคนนับหมืนอย่างแท้จริง

ขุนนางนับร้อยในทังท้องพระโรง จะมีใครไม่รูบ้ า้ งว่าเมือ


ตืนมาแล้ว ยอดฝี มือหลายคนของราชวงศ์ก็ได้ถกู คุณ
ชายตระกูลมูส่ งั หารไปจนหมดสิน แม้วา่ จะยังเป็ นของ
ตระกูลฉิน แต่ทกุ คนก็ตระหนักดีวา่ ในแคว้นฉินแห่งนี
ใครมีอาํ นาจสูงสุด

ตระกูลมูแ่ ม้จะมีความสําคัญน้อยลงกว่าแต่ก่อน แต่ก็ไม่


มีใครกล้ายัวแหย่

กลัวว่าหากไม่ตงใจทํ
ั าให้คณ
ุ ชายท่านนันของตระกูลมู่
เกิดโทสะขึนมา อาจจะเกิดการสังหารนองเลือดใน
แคว้นฉินเหมือนดังทีเกิดขึนในวังหลวง ทีแม้แต่
48
ตายอย่างไรยังไม่มีคนทราบนัน

แม้กระทังใครจะเป็ นผูน้ งบนบั


ั ลลังก์อนั ทรงเกียรติ ยัง
ต้องได้รบั ความพึงพอใจจากท่านผูน้ นเสี
ั ยก่อน

ในสายตาของหลายคน ในตอนนีวังหลวงแคว้นฉินเหลือ
เพียงแค่ชือ บางที ตระกูลมูค่ งเพียงแค่รอโอกาสที
เหมาะสมก็จะเข้าแทนที โดยทีประชาชนเองก็มิอาจต่อ
ต้านได้

แต่ทว่า พวกเขากลับไม่รูว้ า่ ตระกูลมู่ มูซ่ ง มูช่ ิงเกอไม่


ได้ทะเยอทะยานหวังในตําแหน่งนัน หลังจากทีมูช่ ิงเก
อช่วยให้ตระกูลมูพ่ น้ จากวิกฤตแล้ว นางก็หลบอยูใ่ น
จวนตระกูลมู่ เงียบสงบราวกับได้หายตัวไปแล้วก็ไม่
49
ปาน ส่วนเรืองฮ่องเต้คนใหม่ของแคว้นฉินนางก็มิได้
ออกความเห็นอันใดและก็มิได้ให้ความสนใจด้วย

50
ตอนที 96-4 จะชายหรือหญิง คุณชายก็สงั หาร !

เพราะอย่างไร นางก็ได้คยุ เรืองนีกับฉินจินเฉินอย่าง


ชัดเจนแล้ว ใครจะขึนเป็ นฮ่องเต้ก็ได้ แต่ตอ้ งไม่ก่อความ
เดือดร้อนให้กบั ตระกูลมูอ่ ีก หากลงมือกับตระกูลมูเ่ มือ
ไหร่หรือเพียงคิดทีจะลงมือ นางก็จะล้มล้างอํานาจอีก

ในสวนสระเมฆา ประตูเรือนของมูช่ ิงเกอปิ ดสนิท ราว


กับไม่มีผใู้ ดอาศัยอยู่

51
สําหรับโย่วเหอและฮวาเยวีย ในตอนนีพวกนางไม่ได้
เรียนงานบ้านงานเรือนเหมือนดังหญิงสาวทัวไปอีกแล้ว
เพียงแต่ฝึกทักษะอยูใ่ นสวน ในครังนีทีมูช่ ิงเกอออกไป
ทําการใหญ่ กลับไม่ได้พาทังสองไปด้วย ทําให้ทงสอง

รูส้ กึ เสียใจและเป็ นแรงกระตุน้ ทีอยากจะทําให้ตนเอง
เก่งกาจมากขึน

ในเรือน เตียงนอนถูกคลุมเอาไว้ราวกับมูช่ ิงเกอกําลัง


นอน

แต่ทว่าบนเตียงกลับไม่มีใครเลย

ในอีกโลกทีเชือมต่อกับช่องว่างของมูช่ ิงเกอ เหมิงเหมิงที


52
ตัวเท่านิวหัวแม่มือกระโดดโลดเต้นไปมาระหว่างไหล่
ซ้ายและขวาของมูช่ ิงเกอยังไม่หยุด แต่มชู่ ิงเกอกลับนัง
หลับตาทังคูแ่ ละนังขัดสมาธิอยูใ่ นบ่อสายฟ้าเพือรับพลัง
จากสายฟ้า

สายฟ้าสีมว่ งนําเงินไหลผ่านร่างกายของนาง ราวกับว่า


นางไม่ได้รูส้ กึ อะไรและยังคงนังนิงดังรูปปั น

ภายนอกบ่อสายฟ้าไม่ได้เป็ นกระท่อมอีกต่อไป แต่


กลายเป็ นเรือนทีสร้างจากกระเบืองเคลือบและอิฐขาว
ภายในมีจาํ นวนห้องมากขึน การตกแต่งก็งดงามหรูหรา
พืนทีก็มากยิงขึนเช่นกัน

นอกเรือน ต้นไม้แก่ตน้ นันยังคงพยุงยอดไม้อนั ใหญ่โต


53
ของตนเองเอาไว้เหนือตัวเรือน

สวนยาสมุนไพรทีอยูไ่ กลออกไปก็สามารถเห็นได้ชดั เจน


มากยิงขึนและมีกลินหอมของยาลอยมาอย่างไม่ขาด
สาย

หมอกสีขาวทีอยูข่ า้ งหน้าได้เผยให้เห็นโครงร่างของ
อาคารอันกว้างใหญ่มากขึน เท่าทีเหมิงเหมิงบอก หลัง
จากทีมูช่ ิงเกอทะลวงสูส่ ายม่วงก็จะสามารถเปิ ดตําหนัก
แรกได้และสามารถครอบครองสมบัติทีอยูใ่ นทีแห่งนัน

สําหรับสมบัติคืออะไรนัน เหมิงเหมิงเก็บเป็ นความลับ


และพูดเพียงแต่วา่ ต้องการจะสร้างความประหลาดใจ
แก่มชู่ ิงเกอ
54
มูช่ ิงเกอค่อยๆ ลืมตาทังสองข้างขึน นัยน์ตาอันสว่างสด
ใสของมูช่ ิงเกอ ราวกับมีแสงสายฟ้าสีมว่ งนําเงินสะท้อน
ออกมา

“เจ้านาย เจ้านายเข้าใกล้จากสายม่วงเข้ามาอีกขัน
แล้ว” เหมิงเหมิงทีเห็นมูช่ ิงเกอลืมตาขึน จึงกระโดดลง
ไปหยุดบนหลังมือของนางในทันที เงยใบหน้าอันน่ารัก
ละเอียดลออขึนมอง พลันพูดพร้อมรอยยิม

มูช่ ิงเกอก้มหน้าลงไม่พดู อะไร แน่นอนว่านางต้องสัมผัส


ได้วา่ พลังเวทของตนเองก้าวขึนมาอีกขัน แต่ทว่าหากจะ
ทะลวงสูส่ ายม่วงก็คงจะทําไม่ได้ในทันที

55
“เจ้านาย ท่านกําลังคิดอะไรอยูห่ รือ?” เหมิงเหมิงบิน
มาอยูต่ รงหน้ามูช่ ิงเกอแล้วพลันกะพริบตาถาม

ท่าทางอันน่ารัก ทําให้มชู่ ิงเกอกระตุกรอยยิมและพูด


ว่า : “ข้ากําลังคิดว่า หากไม่ใช่เพราะมีพลังสายฟ้าคง
จะยากในการพัฒนาพลังอยูใ่ นบ่อสายฟ้าเช่นนี”

“นีเป็ นวาสนาของเจ้านาย เจ้านายจะหลอมโอสถไหม


เดียวเหมิงเหมิงจะไปเตรียมสมุนไพรให้” คําพูดอันเชือ
ฟั งของเหมิงเหมิงช่างน่าเอ็นดู

แต่ทว่ามูช่ ิงเกอก็ไม่ได้มองข้ามประกายวิบวับทีอยูใ่ น
แววตาของเหมิงเหมิง

56
เมือเห็นสายตาทีเต็มเปี ยมไปด้วยการรอคอยของใบหน้า
เล็กๆ นันมูช่ ิงเกอจึงพยักหน้า

เหมิงเหมิงพึมพําคําหนึง จากนันก็หายไปจากสายตา
ของมูช่ ิงเกอในทันที เพือไปเตรียมสมุนไพรและเลือกรส
ชาติทีตนเองต้องการ....คิกคิก......

ตังแต่ทีมูช่ ิงเกออยูท่ ีนีจนหลอมโอสถหม้อแรกสําเร็จ


เศษ 2 ส่วน 3 ของการหลอมโอสถทุกครังได้กลายเป็ น
ขนมให้กบั เหมิงเหมิง

เหมิงเหมิงทําเหมือนโอสถพวกนันเป็ นลูกอมอย่างนัน
ผลาญความพยายามทีมูช่ ิงเกออุตส่าห์ทาํ จนสําเร็จซะ
57
ไม่มีเหลือ

หากไม่ใช่เพราะคําสังจากมูช่ ิงเกอ คงจะไม่มีเหลือไว้แม้


กระทัง 1 ใน 3

เพราะฉะนันการทีมูช่ ิงเกอสามารถหลอมโอสถระดับสูง
ได้ในวันนี ครึงหนึงเป็ นเพราะเหมิงเหมิง หากไม่ใช่
เพราะนางกระเพาะใหญ่เช่นนี มูช่ ิงเกอคงไม่ขยันหลอม
โอสถมากมายเพียงนี

ครูห่ นึง โอสถหม้อหนึงของมูช่ ิงเกอก็หลอมสร็จเรียบร้อย


แล้ว

58
สําหรับมูช่ ิงเกอแล้วในตอนนีการหลอมโอสถระดับสูงถือ
เป็ นเรืองง่ายมากและไม่จาํ เป็ นต้องเสียพลังอะไรเลย

“งํา~งํา~! เจ้านายเมือไหร่ทา่ นจะกระตุน้ พลังแห่ง


สายโลหิตแล้วมาเริมหลอมอาวุธเสียทีเล่า” เหมิงเหมิ
งถามขึน ในขณะทีกําลังเคียวโอสถไปด้วย

ถึงแม้วา่ วิธีผลิตอาวุธทีเจ้านายคิดค้นขึนเองนันจะทําให้
นางทึงมาก แต่ก็ยงั คิดว่าหากเจ้านายกระตุน้ พลังจาก
สายโลหิตแห่งการหลอมอาวุธได้ก็จะยิงสุดยอดกว่านี

มูช่ ิงเกอเก็บยาทีเหลือเอาไว้ในขวดกระเบืองเคลือบและ
พูดกับเหมิงเหมิงว่า : “หากจัดการเรืองทังหมดใน
แคว้นฉินเสร็จแล้ว เราจะออกเดินทางไปหาพญาเพลิง
59
กัน”

พญาเพลิงอาจจะสามารถกระตุน้ สายโลหิตในตัวของ
นางได้

นีเป็ นสิงทีเหมิงเหมิงบอกกับนางอย่างกะทันหัน เพราะ


เจอในตําราโบราณเล่มหนึง แต่ทว่ากลับไม่สามารถนํา
ตําราโบราณนันมาให้มชู่ ิงเกอดูได้

พญาเพลิงคืออะไรนัน เหมิงเหมิงไม่ได้อธิบายชัดเจน
และมูช่ ิงตัวเองก็ไม่ได้เข้าใจมากนัก

ความรูส้ กึ ไม่กระจ่างเช่นนี ทําให้นางยิงต้องหาให้เจอ

60
เรืองนีมันต้องแล้วแต่โชคชะตาด้วยสินะ !

“ยังมีอีกเรืองมิใช่หรือ ? เจ้านายฆ่าไอ้เลวนันไปแล้วมิ
ใช่หรือ” ทันทีทีพูดจบ เหมิงเหมิงก็ยดั โอสถหลายเม็ดลง
ในปากของตนเองหลายเม็ด จนทําให้แก้มทังสองป่ อง
ขึนในทันที

แต่ทว่า ครังนีมูช่ ิงเกอกลับไม่ได้ตอบ

นางหรีตาทังคูล่ งและคิดทบทวนในใจว่า การทีนางฆ่า


เฮ่อเหลียนป๋ าและลักพาตัวฉินอีเหยา ทางแคว้นถูคงมิ
อาจนิงเงียบ ปั ญหานีนางเป็ นคนก่อ แน่นอนว่านางจะ
ต้องจัดการให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจากไป

61
เมือคิดทบทวนครูห่ นึง มูช่ ิงเกอก็พดู กับเหมิงเหมิงที
กําลังกินโอสถอย่างตังอกตังใจว่า : “เจ้าเก็บไว้กินบ้าง
ล่ะ ข้าจะออกไปก่อน”

พูดจบ ร่างนันก็หายไปจากสายตาของเหมิงเหมิง

เพียงชัวกะพริบตา มูช่ ิงเกอก็กลับมายังเรือนของตนเอง


ณ สวนสระเมฆา

นอกประตู เสียงของโย่วเหอดังขึนพอดี

จากคําพูดของนางแล้ว มูช่ ิงเกอรูว้ า่ มูซ่ งมาแล้วและดู

62
เหมือนว่าจะมีเรืองอยากพบตน

63
ตอนที 96-5 จะชายหรือหญิง คุณชายก็สงั หาร !

มูช่ ิงเกอรีบลุกพรวดโดดลงจากเตียงแล้วเปิ ดประตูหอ้ ง


จึงพบทังสามทียืนอยูใ่ นสวน

“ท่านปู่ ” มูช่ ิงเกอหันไปมองมูซ่ ง พลันเอ่ยเรียก

มูซ่ งตอบรับคําหนึงและเดินเข้าไปหานาง ในแววตาอัน


เคร่งขรึมเต็มไปด้วยความเอ็นดู : “เกอร์เอ๋อร์พกั ผ่อน
จนหายเหนือยหรือยัง”

64
มูช่ ิงเกอยิมจางๆ พลางพยักหน้าตอบรับ แล้วจึงพาพวก
เขาไปนังในห้องรับแขกกลาง

หลังจากทีฮวาเยวียเอานําชาและขนมมาวางให้เสร็จ
แล้วก็ออกไป ในห้องเหลือเพียงสองปู่ หลาน

“ทีท่านปู่ มาในวันนี มีธุระอันใดหรือ” มูช่ ิงเกอถาม

มูซ่ งพยักหน้าและพูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “เกอร์เอ๋อร์ ตอน


นีสถานการณ์ในแคว้นฉินก็คงทีบ้างแล้ว ส่วนจวนตระกู
ลมูข่ องเราก็สงบสุขขึนมาก ปู่ อยากจะหาโอกาส เปิ ด
เผยฐานะทีเป็ นหญิงของเจ้า เจ้าคิดว่าอย่างไร”

65
มูช่ ิงเกอขมวดคิว พลันถามว่า : “เพืออะไร”

มูซ่ งจ้องด้วยสายตาอันเคร่งขรึมและถามย้อนกลับด้วย
ความเคืองว่า : “เพืออะไรอย่างนันหรือ ? ตระกูลมูไ่ ด้
พ้นจากอันตรายแล้วไม่จาํ เป็ นต้องให้เจ้าเสียสละอีกต่อ
ไป หากไม่ทาํ ให้ทกุ คนกระจ่างในฐานะของเจ้าหรือว่า
เจ้าอยากอยูใ่ นฐานะทีเป็ นชายและไม่แต่งงานไปตลอด
ชีวิต?”

แท้จริงแล้ว นางเองก็มีความคิดเช่นนี

มูช่ ิงเกอผุดรอยยิมและพูดว่า: “ข้าเป็ นผูช้ ายจนชินแล้ว


ข้าเองไม่ได้รูส้ กึ ว่ามีอะไรไม่ดี ไม่จาํ เป็ นต้องเดือดร้อนถึง

66
เพียงนัน”

“ไม่ได้! อย่างไรก็ตามเจ้าก็เป็ นหญิง จะอยูใ่ นฐานะ


ผูช้ ายแบบนีมันใช้ได้ทีไหนกันเล่า” มูซ่ งยังคงยืนยัน

มูช่ ิงเกอเข้าใจแล้ว คงเป็ นเรืองความรักสินะ ท่านผูเ้ ฒ่า


กังวลเรืองนีมานาน แล้ววันนีพร้อมทีจะสูก้ บั นาง เพือให้
นางตกปากรับคําในเรืองนี

“ท่านปู่ เรืองนีค่อยคุยกันวันหลัง ตอนนีข้าไม่


มีใจจะไปคิดเรืองนัน อย่าลืมว่าแคว้นถูกาํ ลังจับจ้องเรา
อยู่ หากเรืองการเปลียนแปลงภายในวังหลวงแคว้นฉิน
กระจายออกไปไม่รูว้ า่ อีกฝ่ ายจะถือโอกาสนีในการโจมตี
แคว้นฉินหรือไม่” มูช่ ิงเกอเองก็ใช้เรืองนีเป็ นทางลัดใน
67
การยือเวลาไว้ได้นานเท่าไหร่ก็เท่านัน หากนางออกจาก
แคว้นฉินไปผจญภัยในโลกกว้าง มูซ่ งยังจะตามตัว
นางกลับมาได้อีกหรือ

อย่างทีคิดเอาไว้ เมือพูดถึงแคว้นถู สายตาของมูซ่ งฉาย


แววความเคร่งขรึมในทันที

แคว้นฉินในตอนนี ภายนอกราวกับจะสงบสุข แต่ใน


ความเป็ นจริงแล้วยังคงมีปัญหาทังภายในและภายนอก
ปั ญหาภายในแคว้นคือการทีฮ่องเต้ตวั น้อยจะขึนครอง
ราชย์ ตําแหน่งของเขานันยังไม่มนคงยั
ั งคงต้องการการ
ประคับประคองจากเสียนอ๋องและมูช่ ิงเกอ สําหรับ
ปั ญหาภายนอก ก็คือแคว้นถูทีคอยจ้องโจมตีแคว้นฉิน
อยูน่ นก็
ั ไม่อาจไว้วางใจได้ อีกทังหลานสาวของเขายัง

68
ฆ่าหมานอ๋องแห่งแคว้นถูและชิงตัวองค์หญิงทีมีสญ
ั ญา
อภิเษกสมรสกลับมา

เรืองนีทางหวังถิงแห่งแคว้นถูตอ้ งรับรูใ้ นไม่ชา้ ก็เร็วนี ดัง


นันเขาจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือเอาไว้ลว่ งหน้า

เมือคิดทบทวนแล้วมูซ่ งก็ไม่อาจอยูใ่ นสวนสระเมฆาได้


อีกต่อไป เขาพูดคุยกับมูช่ ิงเกออีกเพียงไม่กีคําก็จากไป
อย่างเร่งรีบ

มูช่ ิงเกอมองเงาของมูซ่ งทีจากไป โย่วเหอพลันส่ายหน้า


อย่างทุกข์ใจ ความสามารถในการเบียงประเด็นของคุณ
ชายนันช่างน่าชืนชมเสียจริง สามารถจับจุดอ่อนของทุก
คนได้อย่างตรงจุดและรูว้ า่ ท่านผูเ้ ฒ่ากําลังกังวลใจเรือง
69
อะไร

หลังจากทีมูซ่ งจากไปได้ไม่นานเสียนอ๋องฉินจินเฉินก็ได้
พาใครคนหนึงทีตอนนีเอาผ้าคลุมตัวอยูป่ รากฏตัวขึน
ภายในสวนสระเมฆา

คนผูน้ นไม่
ั ได้สงู มากนัก ประมาณหัวไหล่ของฉินจินเฉิน
แต่ทว่า ความลึกลับเช่นนีของเขา ทําให้ทงโย่
ั วเหอและ
ฮวาเยวียต่างก็รูส้ กึ สงสัย

หลังจากทีมูช่ ิงเกอสังให้ทงสองสาวออกไป
ั นางก็จอ้ ง
มองบุคคลลึกลับผูน้ นั

70
ฉินจินเฉินจึงเปิ ดผ้าคลุมออก เผยให้เห็นใบหน้าอัน
ละเอียดลออดวงนัน หน้าตาของเขาละม้ายคล้ายกับฉิน
จินซิว ฉินจินห้าว ราวทังฉินจินเฉิน มองดูแล้วอายุยงั ไม่
มากนักแต่เต็มไปด้วยความมุง่ มานะและอดทนอดกลัน
อีกไม่กีปี ก็คงกลายเป็ นชายหนุ่มผูง้ ดงามและสูงศักดิ

“พีมู่ ข้าคือฉินจินหยาง” หนุ่มน้อยแนะนําตัวในทันที

จากสายตาของเขา มูช่ ิงเกอไม่ได้เห็นถึงพิษภัยอันใด


แต่กลับดูสภุ าพและนอบน้อมเป็ นอย่างมาก

นีหรือ ฮ่องเต้ตวั น้อยทีฉินจินเฉินหาตัวมาให้กบั แคว้น


ฉิน

71
มูช่ ิงเกอจ้องฉินจินเฉิน พลันพินิจพิเคราะห์ฉินจินหยาง
องค์ชายเจ็ด ผูท้ ียังไม่บรรลุนิติภาวะองค์นี นางดูเหมือน
ว่าจะไม่เคยพบเจอมาก่อน

ฉินจินเฉินพลันพูดว่า: “อีกเพียงสองวัน น้องเจ็ดก็จะ


ขึนครองราชย์แล้ว วันนีเขาจึงขอร้องให้ขา้ พามาพบเจ้า”

มาพบนาง อย่างนันหรือ ?

มาพบนางเพืออะไรกัน ?

มูช่ ิงเกอหรีตาด้วยความสงสัย

72
ในขณะนันเอง ฉินจินหยางก็พลันก้าวออกมาและพูด
ว่า : “พีมู่ ทีจินหยางมาทีนีในวันนี เพียงแค่อยากจะ
บอกกับพีมูว่ า่ นับแต่จากนี หากยังมีแคว้นฉินอยูก่ ็จะมี
ตระกูลมูค่ อยเคียงคู่ ราชวงศ์จะไม่ทรยศหักหลังตระกู
ลมู่ ไม่วา่ จะเรืองอะไรหรือใครก็มิอาจทําให้เกิดความ
คลางแคลงหรือไม่เชือใจต่อตระกูลมูไ่ ด้ เกียรติยศของ
แคว้นฉินนี เราจะร่วมแบ่งปั นมันไปด้วยกัน ”

แววตาของเขาไร้ซงความเสแสร้
ึ งแฝงอยูเ่ ลยแม้แต่นอ้ ย
ทําให้มชู่ ิงเกอเคลือนสายตาไปมองฉินจินเฉิน: “ท่าน
สอนองค์ชายเจ็ดพูดเช่นนีหรือ”

ฉินจินเฉินส่ายหน้าเบาๆ
73
เขาเองก็ไม่คิดว่า ทีน้องเจ็ดของตนร้องขอให้พามาพบ
กับมูช่ ิงเกอ ก็เพือจะพูดสิงเหล่านีกับเขา เรืองนีไม่เพียง
แค่ทาํ ให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ ฉงนใจ เขาเองก็แปลกใจไม่นอ้ ย

ดูเหมือนว่า น้องเจ็ดผูน้ ีจะฉลาดหลักแหลมมากกว่าที


เขาคิด

เมือเห็นว่าฉินจินเฉินปฏิเสธ มูช่ ิงเกอจึงมองฉินจินหยาง


อีกครังและหลังจากทีพินิจพิจารณาอีกเขาครูห่ นึง จึง
พูดอย่างจริงใจว่า : “พระองค์ทรงฉลาดหลักแหลมมาก
ดูเหมือนว่า หากทรงได้ปกครองแคว้นฉินแล้ว จะต้อง
นําพาแต่ความเจริญรุง่ เรืองมาเป็ นแน่”

74
ฉินจินหยางผุดรอยยิมทีฉายแววถ่อมตัว เขาเพียงยิม
จางๆ และไม่ได้พดู อะไรต่อ

มิได้ปฏิเสธและมิได้ยอมรับ

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกับฉินจินเฉินกลับเห็นความมุง่ มันแน่ว


แน่และความมันใจอย่างเต็มเปี ยมจากแววตาของเขา

องค์ชายผูส้ งบเสงียมผูน้ ี ก็ดเู หมือนจะมีความคิดเป็ น


ของตัวเองเช่นกัน

ในสายตาทีไร้ซงความรู
ึ ส้ กึ ของฉินจินเฉินหยุดอยูท่ ีฉิน
จินหยาง ครูห่ นึง แล้วจึงพูดกับเขาว่า : “ฝ่ าบาทไปนัง

75
รอข้าในรถม้าก่อนได้หรือไม่”

ฉินจินหยางพยักหน้าและหลังจากทีได้คารวะผูอ้ าวุโส
ตามมารยาททีได้ราเรี
ํ ยนมาจากราชวงศ์แล้วก็ได้เดิน
จากไป

หลังจากทีเขาออกไป ฉินจินเฉินจึงพูดกับมูช่ ิงเกอว่า :


“ฉางเล่อไปแล้ว ก่อนไป นางมาหาข้า ให้ขา้ ลบชือ
นางออกจากราชวงศ์”

การทีฉินอีเหยาจะจากไป มูช่ ิงเกอคิดเอาไว้ตงแต่


ั แรก
แล้ว เพราะฉะนัน นางมิได้รูส้ กึ แปลกใจ ตอบรับเพียง
แค่ “อืม” คําเดียว

76
ความนิงเงียบของนาง ทําให้ความรูส้ กึ ปวดร้าวแฝงอยู่
ในแววตาของฉินจินเฉิน เขาจึงได้พดู ออกมาว่า : “เหตุ
ใดเจ้าถึงไม่ไปตามตัวนางกลับมา หากยังตัดใจไม่ลงก็
อย่าปล่อยโอกาสให้ผา่ นไป ฉางเล่อเป็ นคนดี”

ความรีบร้อนเช่นนี ทําลายความสงบและสันโดษทีฉิน
จินเฉินเคยมีและเพิมความเป็ นมนุษย์ขนมาอี
ึ กหลาย
ส่วน

คําพูดของเขา ทําให้มชู่ ิงเกอหันกลับมามองด้วยดวงตา


ทีเต็มเปี ยมไปด้วยความสงสัย ความสงสัยทีมีตอ่ เขา มิ
ใช่จากนิสยั ทีผิดไปจากเดิมของเขา แต่เป็ นความหมาย
ทีซ่อนอยูใ่ นคําพูดทีเขาพูดออกมา
77
“ฉินจินเฉิน นีท่านกลายเป็ นพ่อสือตังแต่เมือไหร่กนั ” มู่
ชิงเกอพูดจาเสียดสี

สายตาของฉินจินเฉินแฝงความตืนตระหนก เขารีบก้ม
หน้าลงเพือปกปิ ด : “ข้าเพียงแค่ไม่อยากให้พวกเจ้าผิด
หวังและพลาดโอกาส อย่างนัน ก็คิดเสียว่าข้าไม่ได้พดู
ขอตัวก่อน”

เขาหันหลังและเดินจากไปอย่างง่ายดาย ราวกับไม่พอ
ใจทีมูช่ ิงเกอทําให้รูส้ กึ เคืองใจ

แต่ทว่า มีเพียงตัวเขาเองทีรูว้ า่ ตนเองกําลังหนี

78
เป็ นพ่อสือหรือ เขาไม่ได้เป็ นเช่นนัน ฉินจินเฉินทีหนีออก
มาจากจวนตระกูลมู่ กระตุกยิมอย่างไม่ชอบใจนัก
ตังแต่เมือไหร่กนั ทีเขารูส้ กึ ว่าความรูส้ กึ ทีตนเองมีตอ่ มูช่ ิง
เกอนัน เริมเปลียนไป ไม่ได้บริสทุ ธิดังทีเคยเป็ นและมอง
เขาอย่างไม่บริสทุ ธิใจในทุกๆ ครัง อยากอยูเ่ คียงข้าง
รวมทังในบางครังทีมีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน ทําให้เขา
อยากจะกอดมูช่ ิงเกอเอาไว้

ความรูส้ กึ ทีไม่คนุ้ เคยเช่นนี ทําให้เขาทังรูส้ กึ กลัวและต่อ


ต้านแต่ทว่ากลับถูกกระตุน้ ครังแล้วครังเล่า

เพราะฉะนัน เขาจึงหวังให้มชู่ ิงเกอและฉินอีเหยาได้


ครองรักกันเพราะหากเป็ นเช่นนี เขาก็จะไม่ตอ้ งคิดมาก

79
แท้จริงแล้วเขาก็เห็นแก่ตวั และต้องการคืนความสงบให้
กับจิตใจทีกําลังสับสนวุน่ วายของตนเอง อีกทังเพือลบ
ล้างความรูส้ กึ ทีไม่คนุ้ เคยและไม่ควรมีนนออกไป
ั เขาจึง
กระตือรือร้นในความสัมพันธ์ระหว่างมูช่ ิงเกอและฉินอี
เหยา

ถ้าไม่เช่นนันด้วยนิสยั เย็นชาและสันโดษของเขาแล้ว จะ
กลายเป็ นพ่อสือ....เช่นนีไปได้อย่างไร

เก็บความรูส้ กึ ทังหมดเอาไว้เพียงคนเดียว ใบหน้าอันงด


งามของฉินจินเฉินไม่เผยให้เห็นพิรุธอันใดเลยแม้แต่นอ้ ย
พลันกลับวังหลวงแคว้นฉินไปพร้อมกับฉินจินหยาง

ในวันนัน มูซ่ ง ฉินจินเฉินและฉินจินหยางจากไป สวน


80
สระเมฆาก็กลับคูค่ วามเงียบสงบอีกครัง

แต่ทว่า ความสงบเช่นนี เพิงจะรักษาเอาไว้ได้เพียงไม่กี


วันก็ถกู ข่าวคราวจากชายแดนทําลายจนหมดสิน

ดวงตะวันยังไม่ขนสู
ึ ท่ อ้ งฟ้า พระจันทร์กาํ ลังค่อยๆ
คล้อยลับตาไป มูช่ ิงเกอและมูซ่ งถูกเรียกให้เข้าวังหลวง
อย่างกะทันหัน

81
ตอนที 97-1 บดขยีแคว้นถูแล้ว คุณชายท่านเท่มาก

วังหลวงแคว้นฉิน การสังหารเมือเดือนทีแล้ว ทําให้วงั


หลวงแห่งนียังคงแฝงความเย็นเยียบอยูบ่ า้ ง

ทางในวังหลวง ทังทหารและนางกํานัลยังจัดหามาได้ไม่
เท่ากับทีสูญเสียไป ทําให้จาํ นวนคนยังคงมีนอ้ ย

สามวันก่อนหน้านี ฮ่องเต้องค์ใหม่ได้ขนครองราชย์
ึ แล้ว

องค์ชายเจ็ดฉินจินหยางทียังไม่บรรลุนิติภาวะขึนครอง

1
ราชย์ ผูส้ าํ เร็จราชการแทนอย่างฉินจินเฉินใช้ทกุ วิถีทาง
ในการทําให้การเปลียนแปลงทีเกิดขึนในแคว้นสงบลง
อย่างรวดเร็ว

จนถึงตอนนี ทุกคนจึงได้กระจ่างว่า เสียนอ๋องทีแลดู


เงียบสงบจนไม่อาจประเมินความสามารถได้ตา่ งหากที
เป็ นเสือในถํา

คําถามทีว่าเหตุใดเสียนอ๋องถึงไม่ขนครองราชย์
ึ แต่ทว่า
กลับให้องค์ชายเจ็ดขึนครองแทนนัน......ยังคงเป็ นคํา
ถามคาใจสําหรับคนจํานวนไม่นอ้ ย ฉินจินเฉินเองก็ไม่
ได้ออกมาอธิบายเรืองนี

ตระกูลมู่ มูซ่ งยังคงเป็ นผูส้ ืบทอดตระกูลอันมีเกียรติและ


2
มูช่ ิงเกอเองก็ยงั คงเป็ นคุณชายทีจะต้องสืบทอดตําแหน่ง

ราวกับว่า ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม

แต่ทว่า ทุกคนกลับกระจ่างเป็ นอย่างดีวา่ ตระกูลมูท่ ีดู


เหมือนว่าจะไม่ได้ผลดีอะไรจากเรืองนี แต่ความจริง
แล้วกลับเป็ นผูช้ นะโดยแท้ ภายในแคว้นฉิน คนของตระ
กูลมูไ่ ม่ได้มีสว่ นเกียวข้องอันใดกับราชวงศ์แล้ว แต่ทว่า
ยังคงเสพสุขกับอํานาจทีเหล่าราชวงศ์มิอาจเปรียบได้

เช่น ประการทีหนึง คนของตระกูลมู่ ไม่วา่ จะเจอฮ่องเต้


เมือใดก็ไม่ตอ้ งคุกเข่า

3
ประการทีสอง คนของตระกูลมูส่ ามารถพกพาอาวุธและ
เข้าออกวังหลวงได้โดยทีไม่มีใครห้าม

และตําหนักอันงดงามภายในวังหลวงทีฮ่องเต้องค์ใหม่
เก็บไว้ ได้ยกให้กบั คนของตระกูลมู่

ผูใ้ ดจะกล้าขัดข้อง ?

ฮ่องเต้พระองค์ก่อน รัชทายาทและรุย่ อ๋องทีได้ชือว่าเป็ น


บุคคลผูเ้ ก่งกาจแล้ว แต่ตระกูลมูย่ งั สามารถฆ่าได้อย่าง
ง่ายดาย อีกอย่างหลังจากทีตระกูลมูไ่ ด้จดั การเรือง
ทุกอย่างจนสําเร็จเรียบร้อยแล้ว กลับไม่ได้ออกมาแสดง
อํานาจแต่กลับนิงสงบลงกว่าเดิม

4
หากอํานาจตนเองไม่ได้รบั ผลกระทบและรูว้ า่ ไม่สามารถ
ทําอะไรอีกฝ่ ายได้ เหล่าตระกูลชันสูงของแคว้นฉินก็ทาํ
ได้เพียงแค่เก็บความสงสัยทังหมดเอาไว้ในใจ

ในตอนนี ภายในลัวตูประเด็นทีพูดถึงกันมากทีสุดก็คือ
หญิงสาวตระกูลชันสูงจํานวนไม่นอ้ ยอยากจะเป็ นสะใภ้
ตระกูลมูเ่ พือจะได้กลายเป็ นนายหญิงแห่งจวนตระกูลมู่

มูช่ ิงเกอทีเป็ นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลมูจ่ งึ กลาย


เป็ นบุคคลทีโด่งดังมากทีสุดในตอนนี

แน่นอนว่าเรืองนีต่างก็ถกู ทังมูซ่ งและมูเ่ หลียนหรง

5
ปฏิเสธกลับไป จึงไม่ได้เข้าหูมชู่ ิงเกอแต่อย่างไร

มีคาํ สังเรียกให้เข้าเฝ้ากลางดึก มูช่ ิงเกอและมูซ่ งขีอาชา


เพลิง พาทหารองครักษ์ของตนเองเข้าไปยังวังหลวง
อย่างราบรืนโดยไม่ตอ้ งผ่านด่านอันใด แววตาของมูซ่ ง
แฝงความเคร่งขรึมอยูแ่ ต่ทว่าดวงตาทังคูข่ องมูช่ ิงเกอก
ลับหรีลง พลันเคลือนสายตาไปรอบๆ ดูไม่ออกว่าตอนนี
นางกําลังคิดอะไรอยู่

แคว้นถูได้สง่ ทหารออกมาแล้ว

ข่าวนีส่งไปถึงตระกูลมูก่ ่อนทีวังหลวงจะมีคาํ สังบอกให้


เข้าเฝ้าแล้วและทังสองปู่ หลานก็ได้รบั รูแ้ ล้ว

6
และในครังนี กองทหารนับล้านของแคว้นถู มีผนู้ าํ ทัพ
คือรัชทายาทเฮ่อเหลียนจ้าน ซึงตอนนีได้เข้าสูท่ ีราบลัวตู
มาแล้ว อีกทังยังได้ทาํ สงครามเล็กๆ กับแคว้นฉินหลาย
รอบ

ผลการทําสงครามคือ......แคว้นฉินแพ้อย่างราบคาบ !

ข่าวการทําสงครามนีได้เข้าสูว่ งั หลวง ทําให้ฮ่องเต้องค์


ใหม่พลันตืนตระหนก เขาจึงเรียก ผูส้ าํ เร็จราชการแทน
พระองค์และตระกูลมูใ่ ห้มาเข้าเฝ้าเพือปรึกษาหารือ
เกียวกับมาตรการการรับมือกับศัตรู

“เกอร์เอ๋อร์ ครานีแคว้นถูได้สง่ ทหารออกมานับล้าน ดู


7
เหมือนว่าจะยากทีจะได้มาซึงชัยชนะ” มูซ่ งถอนหายใจ
พลางกับมูช่ ิงเกอ

เขาทําสงครามมาตลอดทังชีวิต อายุยงมาก
ิ ก็ยงไม่

อยากจะเข้าร่วมสงคราม มิได้เป็ นเพราะว่าเขาเริมกลัว
ตาย แต่ทว่า เขาไม่ตอ้ งการทีจะเห็นชายหนุ่มทีอายุยงั
น้อยต้องเอาชีวิตมาทิงต่อหน้าเขา

สงครามมิใช่การเล่นขายของ ยิงไปกว่านันมันไม่ใช่การ
ละเล่นสําหรับเด็กน้อย สงครามในแต่ละครังส่งผล
กระทบต่อประชาราษฎร์ทงแผ่
ั นดิน เลือดทีไหลอยูใ่ น
สงครามนันเป็ นเลือดของทหารแคว้นฉินและสิงทีต้อง
สูญเสียคือรากเหง้าของแคว้นฉิน

8
มูช่ ิงเกอตอบกลับอย่างแนบนิงว่า : “แคว้นถูกาํ ลังจ้อง
ทําร้ายแคว้นฉิน การทําสงครามเป็ นสิงทีมิอาจหลีก
เลียงได้ ก็ดี หากครังนีพวกเขาเริมก่อน ก็จะสังสอนให้
หลาบจํา จนไม่กล้ามาโจมตีแคว้นฉินอีก” นางพูด
เหมือนทุกอย่างเป็ นเรืองง่ายดาย ราวกับว่า ในสายตา
ของนาง ทหารนับล้านของแคว้นถู เป็ นเพียงแค่แมลง
วันฝูงหนึง ทีนางสามารถตบให้ตายคามือได้

ในสายตาของมูซ่ งแฝงความสงสัย หันกลับมาถามนาง


ว่า : “เกอเอ๋อร์ เจ้ามีวิธีการอย่างไรหรือ”

มูช่ ิงเกอเพียงหัวเราะแต่มิได้ตอบคําถามแต่อย่างไร ราว


กับกําลังเล่นเกมปริศนากับมูซ่ ง

9
ทําให้มซู่ งส่ายหน้าอย่างจํายอม ก้อนหินก้อนใหญ่ทีทับ
อกอยูก่ ็ราวกับจะถูกยกออกแล้ว

เป็ นความจริงทีว่า ตอนนีเขาเป็ นยอดฝี มือสายม่วงแล้ว


เพียงแค่ลงสนามเพือข่มขู่ฝ่ายศัตรูก็เพียงพอแล้ว แต่
ว่า...........

มูซ่ งขมวดคิวพร้อมความลังเล

ความยิงใหญ่และจํานวนทีน้อยเป็ นอย่างมากของสาย
ม่วง ทําให้แต่ละแคว้นต่างมีขอ้ ตกลงทีเป็ นลายลักษณ์
อักษร

10
นันก็คือ หลังจากทีทะลวงสูส่ ายม่วงแล้ว ห้ามเข้าร่วม
สงคราม หากมีผใู้ ดทําผิดกฎ สายม่วงของทุกแคว้นจะ
สามารถมารวมตัวกันเพือโจมตีและสังหารสายม่วงผูท้ ี
ทําผิดกฎได้

เพราะฉะนัน ภายในสนามรบ สายม่วงเป็ นเพียงอํานาจ


ทีจะใช้ตอ่ รอง ไม่ใช่แม่ทพั ทีคอยนําทัพอยูใ่ นสงคราม

ในสนามรบ สิงทีต้องพึงพา คือปริมาณของเหล่าทหาร


สายส้มสายแดงธรรมดาๆ

“ท่านปู่ มิตอ้ งเป็ นกังวล การเดินทางไปยังทีราบลัวรือใน


ครานี ท่านปู่ ไม่ตอ้ งไปร่วมสงคราม ท่านอยูท่ ีลัวตูเถอะ”
เมือเห็นว่ามูซ่ งเป็ นกังวล อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็เอ่ยขึน
11
“เกอเอ๋อร์เจ้า......” มูซ่ งหรีตา จับจ้องหลานสาวของ
ตนเองราวกับกําลังคิดอะไร

มูช่ ิงเกอกระตุกยิม มองห้องทรงพระอักษรส่วนพระองค์


ทีมีแสงไฟลอดออกมา พลันพูดกับมูซ่ งว่า : “วางใจ
เถอะ ข้าจะไม่ทาํ ให้ทา่ นต้องอับอายและจะไม่ทาํ ให้ตระ
กูลมูต่ อ้ งขายหน้าเป็ นแน่”

หึๆ ทีราบลัวรือ!

ทีนันเป็ นถึงทีทีนางเกิดใหม่และยังเป็ นทีทีมูช่ ิงเกอคน


เดิมตาย ครังก่อน ทหารองครักษ์ 500 นายของนาง

12
ต้องมาตายอย่างอนาถ ส่วนนางก็ตอ้ งกลับแคว้นมา
อย่างสะบักสะบอม ครังนี นางจะไปเยือนทีแห่งนันอีก
ครังและจะลบล้างความอับอายเหล่านันให้หมดสิน !

ยิงไปกว่านัน ศัตรูในครังนีเป็ นแคว้นถู ฟ้าช่างเมตตา


นางเสียจริง

มูช่ ิงเกอก้มมองตําลง ท่ามกลางสายตาอันเย็นเยียบมี


ความเ**◌้ยมโหดแฝงเข้ามา ดวงตาอันสว่างราวกับมี
เมฆหมอกเกิดขึน จนทําให้ไม่กล้ามองด้วยตาเปล่า

หลานสาวจะพาทหารออกไปทําสงคราม แน่นอนว่ามูซ่ ง
จะต้องเป็ นกังวล แต่ทว่า พอนึกถึงความสามารถของ
นาง ความกดดันและความกังวลในใจก็ลดน้อยลงบ้าง
13
เขาจึงพยักหน้า

แต่ก็ยงั คงกล่าวเตือนว่า : “เกอเอ๋อร์ สงครามไม่ใช่การ


เล่นของเด็กๆ เจ้าจะประมาทไม่ได้และห้ามดูถกู ความ
สามารถของศัตรูเด็ดขาด”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าตอบรับ

เหตุผลเหล่านี นางจะเข้าใจได้อย่างไรเล่า?

สิงโตอย่าประมาทในตัวกระต่าย นีเป็ นกฎการปฏิบตั ิ


ภารกิจเมือชาติทีแล้วของนาง

14
นาง เป็ นทหารมาตังแต่ไหนแต่ไร สงครามมักจะกระตุน้
นางให้ทาํ ทุกอย่างอย่างสุดความสามารถ !

กระโดดลงจากหลังม้าหน้าห้องทรงอักษร ทหารฝ่ ายใน


เดินเข้ามา โค้งคํานับและเชิญทัง สองเข้าไป

เพิงจะก้าวเข้าไปภายในห้องทรงอักษร เสียงของฮ่องเต้
พระองค์ใหม่ก็ได้ดงั ขึน

“ท่านปู่ มู่ พีมู่ ในทีสุดพวกท่านก็มาแล้ว หยางเอ๋อร์


กังวลใจจะแย่แล้ว!” คําพูดสนิทสนมนีลดระยะห่าง
ระหว่างกษัตริยแ์ ละขุนนางขึนทันที

15
ในนําเสียงของฮ่องเต้นอ้ ย ฉายแววพึงพาและเชือใจ
อย่างเต็มเปี ยม

ทังมูช่ ิงเกอและมูซ่ งตาเป็ นประกายในขณะเดียวกัน


สําหรับกิรยิ าและคําพูดของฉินจินหยาง พวกเขาไม่ได้
แสดงความเห็นอันใด

16
ตอนที 97-2 บดขยีแคว้นถูแล้ว คุณชายท่านเท่มาก

“ขอพระราชทานอภัยทีกระหม่อมมาช้า” มูซ่ งยังคงตอบ


ไปตามมารยาท แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับไม่พดู อะไรเลย

“ไม่ชา้ ๆ! ดึกขนาดนีแล้วยังตามท่านปู่ มแู่ ละท่านพีมูม่ า


เข้าพบ เป็ นความผิดของหยางเอ๋อร์เอง” ฉินจินหยางรีบ
17
กุมมือมูซ่ งเอาไว้ กิรยิ าอันนอบน้อมประหนึงเป็ นหลาน
แท้ๆ

มูช่ ิงเกอมองอย่างเย็นชา ทําให้ไม่อาจประเมินความ


รูส้ กึ ตอนนีของนางได้

ฉินจินเฉินทีอยูใ่ นห้องหนังสือส่วนพระองค์ตงแต่
ั แรกเดิน
เข้ามาพร้อมกับกล่าวว่า : “รัชทายาทเฮ่อเหลียนจ้าน
ส่งทหารออกมาโจมตีแคว้นฉิน สําหรับเรืองนี ข้าคิดว่า
ทังท่านผูเ้ ฒ่าและคุณชายคงทราบเรืองแล้ว”

เมือเอ่ยถึงเรืองสําคัญ ฉินจินหยางก็กม้ หน้าลงราวกับ


จะร้องไห้ในทันที พลันกัดริมฝี ปากและพูดว่า :
“หยางเอ๋อร์เพิงจะขึนครองราชย์ก็เจอกับเรืองเช่นนีแล้ว
18
ไม่รูจ้ ริงๆ ว่าควรจัดการอย่างไร ท่านปู่ มจู่ ะชีนําข้าได้
หรือไม่ ว่าศึกครานีควรรับมืออย่างไรจึงจะทําให้สง่ ผล
กระทบต่อประชาราษฎร์แคว้นฉินน้อยทีสุด”

“ฮ่องเต้อย่าได้ทรงกังวลพระทัยไป ตราบใดทียังมี
กระหม่อมอยู่ กระหม่อมจะไม่มีวนั ยอมให้แคว้นถู
เหยียบเข้ามาภายในแคว้นฉินได้แม้แต่กา้ วเดียว” มูซ่ ง
พูดปลอบ

“ได้ยินเช่นนี หยางเอ๋อร์ก็วางใจ” ฉินจินหยางผุดรอย


ยิมอันไร้เดียงสาจนไม่อาจเห็นความเสแสร้งได้เลยแม้แต่
น้อย

หลังจากทีทังสีได้ปรึกษาหารือเรืองนีมาเป็ นเวลานาน
19
ท้องฟ้าก็คอ่ ยๆ สว่างขึน มูซ่ งและมูช่ ิงเกอจึงออกจากวัง
หลวงแคว้นฉินและกลับจวนตระกูลมูพ่ ร้อมกัน

ระหว่างทาง มูซ่ งยังคงขมวดคิวเป็ นปมอยูเ่ ล็กน้อย ราว


กับกําลังคิดอะไรอยู่

สีหน้าของมูช่ ิงเกอกลับยังปกติ มิได้ดแู ย่มากนัก

จนกระทัง วินาทีทีก้าวเข้าสูจ่ วนตระกูลมู่ มูซ่ งจึงมองมู่


ชิงเกอและถามว่า : “เกอเอ๋อร์ เจ้ามีความเห็นอย่างไร
เกียวกับฮ่องเต้องค์ใหม่”

ฉินจินหยาง เป็ นครังแรกทีมูซ่ งถามคําถามเกียวกับเขา

20
ในสายตาของมูช่ ิงเกอแฝงความสงสัย กระตุกยิมจางๆ
พลันพูดว่า : “เขาฉลาดมาก”

ใช่ ! ฉลาดมาก อีกทังยังเก็บซ่อนความรูส้ กึ ได้ดี มูซ่ ง


หรีตาและพูดในใจ

เขามองหลานสาวของตนเองอย่างเป็ นกังวล ไม่หวังให้


นางต้องหนีเสือปะจระเข้

ความกังวลของมูซ่ งทีแสดงออกมาทางใบหน้า ทํา


ใหมูช่ ิงเกอยิมอย่างขีเล่นและเดินเข้ามาอยูข่ า้ งๆ เขา
พลันพูดด้วยนําเสียงตําว่า : “ข้ารูว้ า่ ท่านปู่ เป็ นกังวล
เรืองอันใด แต่ทว่า สําหรับความกังวลนี ไม่วา่ ใครจะขึน
21
ครองปั ญหานีก็ตอ้ งเกิด นอกเสียจากตระกูลมูข่ องเราจะ
ขึนเป็ นฮ่องเต้เสียเอง แต่ก็น่าเสียดายทีท่านปู่ ไม่ได้มี
ความคิดนี ข้าเองไม่อยากจะวุน่ วาย เพราะฉะนัน ทาง
เดียวก็คือ ทําให้เขาไม่กล้าทีจะมีความคิดเช่นนัน”

มูซ่ งรูส้ กึ ฉงนใจ พลันถามด้วยนําเสียงอันเคร่งขรึมว่า :


“เจ้าคิดจะทําการใด”

“ไม่ทาํ อะไร” มูช่ ิงเกอยิมอย่างขบขัน : “ตระกูลมูจ่ ะ


คอยคุม้ ครองแคว้นฉิน จะไม่มีวนั กลายเป็ นเครืองมือ
ของใคร ข้าจะทําให้ทกุ คนรูว้ า่ ตระกูลมูอ่ ยูใ่ นฐานะอันใด
ถึงตอนนัน ข้าจะคอยดูวา่ ใครยังกล้าคิดร้ายกับตระกู
ลมูอ่ ีก”

22
ต้องเก่งกาจมากขึนและเก่งกาจมากเหนือทุกคน จึงจะ
สามารถหยุดแผนการอันชัวร้ายในใจของพวกทะเยอ
ทะยานได้

ในสายตาอันแวววับของมูช่ ิงเกอมีความเยือกเย็น
ปรากฏอยู่

ฉินจินหยางมีจดุ ประสงค์อนั ใดนัน นางไม่สนใจ เพราะ


ว่าเขาจะไม่มีวนั ได้แตะต้องตระกูลมูเ่ ป็ นแน่

หลังจากทีกลับมายังจวนตระกูลมู่ มูช่ ิงเกอก็ไม่รรี อ รีบ


มุง่ ไปค่ายทหารชายแดนพร้อมกับมูซ่ งในทันที

23
นางจะรวบรวมกําลังทหารและเตรียมพร้อมจะออกเดิน
ทางไปเผชิญหน้ากับแคว้นถู ณ ทีราบลัวรือ

ก่อนทีจะออกเดินทาง ผูส้ าํ เร็จราชการแทนพระองค์ได้


ออกมาส่ง เขาเดินนํามูช่ ิงเกอไปในมุมทีเงียบสงบมุม
หนึงและพูดกับนางว่า : “ส่วนฮ่องเต้นนั ข้าจะคอย
ดูแลเอง”

มูช่ ิงเกอพูดอย่างเย้ยหยัน : “กระหม่อมเคยบอกแล้วว่า


ภายในวังหลวงแคว้นฉิน คนทีกระหม่อมไว้ใจมีเพียง
ท่านผูเ้ ดียว เป็ นถึงฮ่องเต้ มีบา้ นมีเมืองเป็ นของตนเอง
แน่นอนว่าต้องมีความโลภ กระหม่อมอนุญาตให้เขาคิด
เช่นนี แต่ทว่า ต้องไม่ทาํ ให้กระหม่อมต้องเดือดร้อน ไม่
เช่นนัน ท่านคงรูว้ า่ ผลเสียจะเป็ นอย่างไร”

24
พูดจบ นางพลันหยุดคิดครูห่ นึงและจึงพูดเสริมต่อ
อีกว่า : “ท่านเป็ นคนผลักดันให้เขาขึนครองราชย์ หาก
เขากล้าคิดร้ายกับตระกูลมู่ แม้กระทังท่านกระหม่อมก็
จะไม่เว้น”

ไม่รูว้ า่ จะเป็ นการเตือนหรือเป็ นการข่มขู่ แต่ทว่า หลัง


จากทีพูดจบ มูช่ ิงเกอก็หนั หลังและเดินจากไป

ฉินจินเฉินมองนางทีอยูใ่ นเสือเกราะดังเปลวเพลิงและ
ขึนหลังอาชาเพลิงอย่างสง่างาม เคลือนตัวไปหยุดตรง
หน้ากองทัพ ยกมือขึนออกคําสัง พลันออกจากค่าย
ทหารและมุง่ ไปยังทีราบลัวรือโดยไม่เหลียวหลัง

25
……

แคว้นถู หวังถิง

ลมเย็นทีพัดผ่านนําพาความเยือกเย็นให้เข้ามาเยือน ที
นี ไม่ได้เต็มไปด้วยสีเขียวขจีดงเช่
ั นลัวตู ภูเขาและหุบ
เขาของทีนีต่างก็กลายเป็ นพืนทีรกร้าง

มีเพียงเมืองหลวงแคว้นถูทีล้อมรอบไปด้วยภูเขามาก
มาย ทีในตอนนีทุกบ้านต่างจุดไฟสว่างเจิดจ้า ราวกับ
ดาวบนท้องฟ้า

บนถนนเล็กใหญ่ภายในเมืองหลวง โรงเตียมมากมาย
ต่างจุดคบเพลิงและโคมไฟจนสว่างจ้า บรรยากาศ
26
คึกคักเต็มไปด้วยผูค้ น ทําให้หวังถิงกลายเป็ นเมืองทีไม่
มีวนั หลับใหล ชายหญิงทีไม่ได้รบั การสังสอนมารยาท
มามากนัก ต่างก็รอ้ งเล่นเต้นไปตามใจอยาก

กิจกรรมยามคําคืนทีหลากหลายเช่นนี มูช่ ิงเกอเพิงเคย


เห็นเป็ นครังแรก ราวกับนางได้กลับไปเมือชาติทีแล้ว ใน
โลกทีแยกกลางคืนและกลางวันไม่ออกเช่นเดียวกันนี

เงาสีดาํ สายหนึง หลบหลีกจากท่ามกลางคนเมาพวกนัน


และย่างเข้าสูป่ ระตูทีปิ ดแน่นของเรือนหลังหนึงอย่างรวด
เร็ว

ภายในเรือน องครักษ์ทงห้
ั าร้อยคนยืนอย่างเป็ นระเบียบ
เรียบร้อย ทุกคนต่างมีผา้ สีดาํ คลุมกาย ปิ ดบังรูปร่าง
27
รวมทังกลินอายของตนเองเอาไว้ สิงทีอยูต่ รงหน้าพวก
เขาคือห้องทีมีแสงเทียนจางๆ ส่องสว่างอยู่ บนหน้าต่าง
ฉลุลายสะท้อนเงาร่างอันงดงามทีราวกับกําลังดืมและ
ชมพระจันทร์อย่างโดดเดียว

ผูม้ าเยือน โดดข้ามกําแพงมาหยุดอยูห่ น้าห้องอย่างง่าย


ดาย พลันคลุกเข่าลงแล้วกําหมัดแนบกับพืน พร้อมพูด
ด้วยนําเสียงอันเคร่งขรึมว่า : “คุณชาย ข้าน้อยกลับมา
แล้ว”

“เข้ามา” เสียงอันแนบนิงทีฉายแววความเย็นเยียบและ
ในขณะเดียวกันก็แฝงความผ่อนคลายดังขึน

ประตูหอ้ งถูกเปิ ดออก องครักษ์เขียวมังกรทีคุกเข่าอยู่


28
เงยหน้าขึนมอง พลันลุกขึนยืนและเดินเข้าเรือนไปพร้อม
กับประตูทีถูกปิ ดลง โดยทีองครักษ์เขียวมังกรทีเหลืออยู่
นอกประตูตา่ งสงบและนิงดังรูปปั นไม่ได้รบั ผลกระทบ
อันใดเลยแม้แต่นอ้ ย

ภายใน มีการตกแต่งอย่างเรียบง่าย ไม่ได้ตา่ งไปจาก


บ้านเรือนของประชาชนทัวไป

ภายในห้องมีคนอยูส่ องคน สวมชุดสีแดงหนึงคน สวม


ผ้าคลุมสีดาํ อีกหนึงคน คนหนึงนัง ส่วนอีกคนหนึงกําลัง
ยืนอยู่ แสงเทียนส่องสว่างลงบนใบหน้าของมูช่ ิงเกอ ทํา
ให้เกิดเป็ นแสงสีสม้ แดง ทําให้ดคู ลุมเครือ ราวกับภาพ
ในจินตนาการ

29
ความลงตัวและงดงามบนใบหน้า เกินกว่าทีจะสามารถ
บรรยายออกมาได้ดว้ ยตัวอักษร

แม้ไม่ใช่ครังแรกทีพบกัน แต่ทว่าองครักษ์เขียวมังกรที
เข้ามาต่างก็ตกตะลึงเพราะใบหน้าอันน่าเย้ายวนชวน
หลงใหลทีอยูต่ รงหน้า

โชคดีที เพียงเสียววินาที พวกเขาก็เก็บอาการและรักษา


ความนิงสงบ นังคุกเข่าอยูต่ รงหน้ามูช่ ิงเกอทีกําลังหมุน
แก้วสุราในมือ : “คุณชาย”

“อืม” มูช่ ิงเกอส่งเสียง ดืมสุราสีแดงกําทีกําลังเดือดอยู่


ในแก้วจนหมดในคราเดียว ความรูส้ กึ อันเผ็ดร้อนนัน
แผดเผาลําคอของนางในทันที ใบหน้าอันขาวเปล่ง
30
ประกายของนางพลันปรากฏสีแดงชมพูระเรือ ทําให้
ท่ามกลางความสุขมุ กลับมีความน่าดึงดูดเพิมขึนมา

‘เวร! สุราแคว้นถูรสชาติหว่ ยมาก!’

มูช่ ิงเกอแอบกัดฟั นและอยากจะคายออก คิดผิดทีดืม


สุราในแก้วนันลงไป

นางกําลังให้ความสนใจกับแก้วสุราอันว่างเปล่าในมือ
จนไม่ทนั ได้สงั เกตว่า มัวหยางทีถือขวดสุราและยืนอยู่
ข้างหลังกําลังหยุดสายตาบนใบหน้าสีแดงชมพูของนาง
ด้วยสายตาทีฉายแววคลุมเครือ

31
ทิงแก้วสุราลงบนโต๊ะอย่างรังเกียจ เสียงแก้วทีตก
กระทบบนโต๊ะทําให้มวหยางที
ั อยูข่ า้ งหลังได้สติ เขารีบ
เก็บอาการทีได้แสดงออกมาทางสายตา เม้มปากและ
วางขวดสุราลง พลันยืนนําชาเพือให้มชู่ ิงเกอล้างปาก

มูช่ ิงเกอยืนมือออกไปรับ หลังจากดืมคําหนึงแล้ว จึงพูด


กับองครักษ์เขียวมังกรว่า : “ลุกขึนเถอะ เจ้าได้ข่าวว่า
อย่างไรบ้าง”

“รับทราบ” องครักษ์เขียวมังกรลุกขึนยืน บอกความ


เคลือนไหวทังหมดทีแกะรอยมาได้

32
33
ตอนที 97-3 บดขยีแคว้นถูแล้ว คุณชายท่านเท่มาก

มูช่ ิงเกอเงียบฟั ง หรีตาทังสองข้างจนเป็ นเส้นตรง ความ


เย็นเยียบและความเยาะเย้ยในแววตาดูคลุมเครือ

ไม่มีผใู้ ดทราบว่า นางไม่ได้ไปทีราบลัวรือ แต่ทว่า พา


องครักษ์เขียวมังกร แอบแฝงตัวเข้าสูห่ วังถิงจากทางลัด
ผูท้ ีนํากองทหารไปทีลัวรือ คือ เหล่ารองแม่ทพั ของมูซ่ ง
และผูร้ กั ษาการแทนชัวคราวก็คือรองผูบ้ งั คับบัญชาซงผู้
ทีพ่ายแพ้ตอ่ มูช่ ิงเกอในตอนนัน

34
วันนี เป็ นคืนทีสามทีนางพาองครักษ์เขียวมังกรเข้าสูห่ วัง
ถิง

ตามกําหนดการของกองทหาร กองทัพทหารทีรองผูบ้ งั
คับบัญชาซงนําทัพก็คงจะถึงทีราบลัวรือในวันนีและ
เผชิญหน้ากับรัชทายาทแคว้นถูผเู้ ย่อหยิง

ทังสองฝ่ ายจะทําสงครามกันหรือไม่ ผลจะเป็ นอย่างไร


มูช่ ิงเกอไม่สนใจ

ในตอนนี สิงทีทําให้นางรูส้ กึ ตืนเต้นคือข่าวดีจาก


องครักษ์เขียวมังกร

35
“ดูเหมือนว่า ครังนีเรายังโชคดี” หลังจากทีฟั งข่าวจนจบ
มูช่ ิงเกอก็ผดุ รอยยิมจางๆ

“มัวหยาง” มูช่ ิงเกอเรียกขึนอย่างกะทันหัน

มัวหยางเดินเข้ามาจากข้างหลัง พลันยืนก้มหน้า

“ทางกองทัพพันเพลิงเป็ นอย่างไรบ้าง” มูช่ ิงเกอถาม


ครังนี นางได้ใช้กองทัพทีท่านปู่ แอบซ่องสุมเอาไว้

ทีใช้กองทหารพันเพลิง มีเหตุผลอยูส่ องประการ

36
ประการแรก ตระกูลมูไ่ ม่จาํ เป็ นต้องมีไพ่ใบสุดท้ายและ
ไม่จาํ เป็ นต้องให้พวกเขาเป็ นกําลังเสริมอีกต่อไปแล้ว
เพราะฉะนันพวกเขาจึงไม่จาํ เป็ นต้องหลบซ่อนตัวอีกต่อ
ไป

อีกประการหนึงนัน นางอยากจะเห็นว่ากองทัพทหารที
ท่านปู่ ของตนเองเลือกและฝึ กด้วยตนเองนีจะมีทกั ษะ
การรบอย่างไรบ้าง

มัวหยางตอบกลับว่า : “กองทัพพันเพลิงได้กระจาย
และแฝงตัวเข้าสูเ่ มืองสําคัญหลายเมืองและหลบซ่อนตัว
อยูใ่ นทีมืดรอโอกาสจู่โจมตามคําสังของคุณชายเป็ นที
เรียบร้อยแล้ว ”

37
“ดีมาก” มูช่ ิงเกอถือว่าพอใจกับความว่องไวของกองทัพ
พันเพลิง

มูช่ ิงเกอลุกขึนยืนพร้อมกับชุดสีแดงเจิดจ้า นางยกมือขึน


จัดชายเสือของตนเอง พลันเดินเอามือไพล่หลังออกจาก
ห้องไปและพูดกับองครักษ์เขียวมังกรทีรอคําสังมานาน
ว่า : “ 1 เค่อหลังจากนี เริมปฏิบตั ิตามแผนการทีได้
วางเอาไว้ แยกย้ายกันไปตามเป้าหมายของตนเอง”

“ขอรับ ! คุณชาย !”

องครักษ์เขียวมังกรตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน เสียงนัน
ดังอยูใ่ นตัวเรือนโดยไม่รวไหลออกไปเลยแม้
ั แต่นอ้ ย

38
“วังหลวงแคว้นถู....ข้าจะเข้าไปดูดว้ ยตนเอง” มูช่ ิงเก
อผุดรอยยิมตรงมุมปากทีฉายแววความขบคิด ในแวว
ตาเต็มเปี ยมไปด้วยไอสังหารอันเย็นเยียบ

1 เค่อผ่านไป ในเรือนก็ไร้ซงร่
ึ องรอยใดๆ

รวมทัง ร่องรอยเดิมจากการใช้งานก็ถกู ทําลายไปด้วย


ราวกับว่า ทีนีเป็ นบ้านเรือนธรรมดาๆ ทีร้างคนอาศัยอยู่
มานานปี

นอกเรือน เสียงชนแก้วของชายหนุ่มและเสียงหัวเราะที
แฝงความคลุมเครือยังคงดังขึนอย่างไม่ขาดสาย

39
คําคืนทีดูเหมือนจะสุดแสนธรรมดานี ถูกกําหนดให้เป็ น
คําคืนแห่งฝันร้ายอันยากจะลืมเลือนของประชาชน
แคว้นถูไปเสียแล้ว

……

วังหลวงแคว้นถู มิได้หรูหราและสูงส่งดังวังหลวงแคว้น
ฉิน แต่แฝงไปด้วยกลินไอความเคร่งขรึม ยิงไปกว่านัน
คือมีความหยาบคายและป่ าเถือน สัญลักษณ์ของสัตว์
ป่ าทีเป็ นทีบูชาของแคว้นถู ถูกประดับตกแต่งเอาไว้ใน
ทุกซอกทุกมุมภายในวังหลวง

จากแผนทีทีได้รบั ก่อนหน้านี มูช่ ิงเกอสามารถเข้าไป


40
ภายในวังหลวงได้อย่างง่ายดาย

ท่ามกลางความมืดมน นางอําพรางกลินของตน
เองอย่างระมัดระวัง เพือไม่ให้เจ้าปี ศาจทีอยูใ่ นส่วนลึก
ของวังหลวงแคว้นถูรบั รู ้

การลงมือในครังนีของนาง เพือต้องการทําให้แคว้นถูตืน
กลัว หากมีใครมาพบเจอเข้าก็คงจะหมดสนุก

ในเมือแคว้นฉินมีปีศาจเฒ่าสายม่วงพวกนันคอยคําจุน
ถ้าเช่นนันนางก็เชือเป็ นอย่างยิงว่า แคว้นถูก็คงต้องมี
เช่นกัน

41
โชคดีทีเจ้าพวกปี ศาจนันมักจะหลบซ่อนตนเองไว้เป็ น
อย่างดี หากมิได้มีเหตุอนั ตรายดังเช่นแคว้นล่มจมก็จะ
ไม่ปรากฏตัวเป็ นอันขาด หากไม่ใช่เพราะเหตุผลนี มูช่ ิง
เกอก็คงไม่คิดจะใช้แผนการนี

และก็เป็ นอย่างทีคิดเอาไว้ หลังจากทีเข้าสูว่ งั หลวง


แคว้นถู มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ ถึงกลินอายอันทรงพลังสองสาย
สาดลงบนยอดวังหลวงดังไฟฉาย

พลังสองสายนี ต่างก็เก่งกาจมากกว่านาง ทําให้นาง


ประเมินได้อย่างง่ายดายว่า เป็ นยอดฝี มือภายในวัง
หลวงแคว้นถู

ภายในวังหลวงแคว้นถู มีสายม่วงถึงสองคนเชียวหรือ
42
การค้นพบเรืองนีช่างเป็ นกําไรทีเหนือความคาดหมาย

ในแต่ละแคว้น จํานวนยอดฝี มือภายในวังหลวงถือเป็ น


ความลับสุดยอด พูดได้วา่ สายม่วงเป็ นไพ่ใบสุดท้ายที
จะรักษาความปลอดภัยให้กบั วังหลวง ผูใ้ ดเล่าจะยอม
เปิ ดเผยไพ่ใบสุดท้ายของตนเองอย่างง่ายดาย

ดังเช่นแคว้นถู สายม่วงทีเปิ ดเผยต่อสาธารณะมีเพียง


คนเดียว แต่คืนนี มูช่ ิงเกอกลับค้นพบว่า มีอย่างน้อย
สองคน

และแคว้นฉินทีตอนนีมูซ่ งได้ทะลวงสูส่ ายม่วงแล้ว เรือง


นีก็เป็ นอีกเรืองทีจะเปิ ดเผยไม่ได้

43
หลบหนีจากการตรวจจับของยอดฝี มือ มูช่ ิงเกออําพราง
ตัวอยูใ่ นทีมืดและเฝ้ารอคอยโอกาส นางไม่เชือว่า ยอด
ฝี มือสายม่วงของแคว้นถู จะรักษาความสงบให้กบั วัง
หลวงอยูเ่ ช่นนีทังคืน

เพราะหากเป็ นเช่นนี สายม่วงแคว้นถูก็คงตําต้อยเกินไป


แล้ว

และก็เป็ นดังทีได้คาดการณ์เอาไว้ มูช่ ิงเกอรออยูเ่ พียง


แค่ครึงชัวยาม ไอสังหารอันโหดเ**◌้ยมจากสายม่วงก็
ได้จางหายไป

อีกครูห่ นึงหลังจากนัน มูช่ ิงเกอจึงออกจากทีมืด เดินมุง่


44
ไปยังสถานทีทีฮ่องเต้ประทับอยู่ แต่ทว่า ก่อนทีนางจะ
เข้าไป นางกลับแวะเข้าไปภายในตําหนักบรรทมของ
นางสนมทีฮ่องเต้ทรงโปรดปรานมากทีสุดเป็ นอันดับ
แรก..........

รอจนมูช่ ิงเกอวนเข้าไปรอบหนึงและเข้าไปในตําหนัก
บรรทมของฮ่องเต้นนั ขณะนันเอง ช่องวางของนางก็
พลันมีกระสอบทรายใบหนึงเพิมขึนมา

เข้าไปภายในตําหนักฮ่องเต้อย่างไร้รอ่ งรอยราวกับ
วิญญาณ

ภายในตําหนัก มีเพียงเสียงกรนทีดังดังฟ้าผ่า ดูเหมือน


ว่า ฮ่องเต้กาํ ลังบรรทมสบาย
45
มูช่ ิงเกอเดินไปบริเวณม่านเตียงอย่างเงียบๆ ค่อยๆ เปิ ด
ผ้าม่านออก เผยให้เห็นรูปลักษณ์ของฮ่องเต้

‘พระเจ้า! ’ กลมกว่าเจ้าอ้วนเซ่าอีก ! มูช่ ิงเกอขนลุก


จนอยากจะอาเจียน เคลือนสายตาไปหยุดบนเรือนร่าง
อันงดงามของผูท้ ีนอนอยูข่ า้ งๆ ฮ่องเต้

ทันใดนัน ก็พลันรูส้ กึ ถึงคําว่าบูชาผักกาดขาวให้กบั หมู

สายตาและมุมปากของมูช่ ิงเกอฉายแววความเย็นเยียบ
เมือนางยกมือขึน กลุม่ ควันไร้สีกลุม่ หนึงก็พลันลอยออก
จากฝ่ ามือของนางและถูกฮ่องเต้แคว้นถูสดู ดมเข้าไป

46
ในเสียววินาที ฮ่องเต้แคว้นถูทีหลับสนิทอยูแ่ ล้ว ในตอน
นีหลับลึกประหนึงหมูตาย

หยิบกระสอบใบหนึงออกมากลางอากาศ มูช่ ิงเกอใส่


ฮ่องเต้แคว้นถูเข้าไปในนัน หลังจากทีมัดปากถุงแล้ว
นางได้พิจารณาครูห่ นึง จากนันจึงเรียกกูหยาออกมา

“เจ้าให้ขา้ แบกหมูตวั นีออกไปอย่างนันหรือ” ใบหน้า


ของกูหยาดําคลําและเต็มไปด้วยความไม่จาํ ยอม

มูช่ ิงเกอกระตุกรอยยิม พลันพูดต่ออย่างหน้าด้านว่า :


“งานใช้กาํ ลังเช่นนี เจ้ายังจะมีหน้าให้ขา้ ทําอย่างนัน

47
หรือ”

ท่าทางอันเย่อหยิง ทําให้กหู ยารูส้ กึ เศร้าใจ

เขาสามารถขัดต่อความต้องการของมูช่ ิงเกอได้ แต่ทว่า


กลับไม่สามารถขัดคําสังของซือมัวได้

กูหยาทีกําลังเศร้าใจ ทําได้เพียงยกกระสอบทรายทีมี
ฮ่องเต้แคว้นถูอยูข่ นมาอย่
ึ างจํายอม และหายไปจาก
ตรงหน้ามูช่ ิงเกอด้วยใบหน้าอันมืดมน

“ฮือๆๆๆ หากเจอท่านประมุขในคราวหน้า ข้าจะยืนใบ


ขอลาปลดประจําการ ข้าจะไม่อยูก่ บั คุณหนูใหญ่ทา่ นนี

48
แล้ว นางรังแกกันเกินไปแล้ว ! ทําให้หวั ใจดวงน้อยๆ
ของข้าต้องรับความเจ็บปวด! ” กูหยาจากไปพร้อม
หัวใจอันเปราะบางและตัดสินใจอีกครังว่าจะไปให้ไกล
จากแม่มดใจร้ายผูน้ ี

คุณหนูใหญ่ทา่ นนี หากจะหาเรืองใครขึนมา จะกัดไม่


ปล่อย

เขารับใช้นางมาเป็ นเวลานานและเห็นกับตาว่านางฝึ ก
องครักษ์เขียวมังกรให้เก่งกาจได้อย่างไร รวมทังเรืองที
นางฆ่าราชวงศ์แคว้นฉินไปทีละขันๆ

และสําหรับครังนีเอง เขาเองก็ชืนชมความกล้าของนาง

49
เป็ นอย่างมาก

ไม่ยอมไปสูร้ บทีทีราบลัวรือ แต่กลับมาทีบ้านเมืองของ


เขาและยังลักพาตัวฮ่องเต้ของชาวบ้านอีก!

ไหวพริบและการไม่เล่นไปตามกฎกติกาเช่นนี ทําให้กู
หยารูส้ กึ ได้วา่ อนาคตของท่านประมุขของตนเองนัน
ช่างมืดมน

มีกหู ยาคอยช่วย มูช่ ิงเกอก็สบายขึนมาก

ปั ดมือทีหนึง แล้วมูช่ ิงเกอก็ออกจากวังหลวงแคว้นถู


อย่างไร้รอ่ งรอย

50
ท้องฟ้าค่อยๆ สว่างขึนแล้ว

หวังถิงทีคึกคักมาตลอดทังคืนก็ได้เงียบสงบลง

เมือแสงแรกสาดส่องความสว่างลงบนพืนดิน ทหารที
เตรียมพร้อมจะเปิ ดประตูแคว้น กลับต้องตืนตระหนก
เพราะเส้นผมมากมายทีปลิวไปมาตามสายลม

51
ตอนที 97-4 บดขยีแคว้นถูแล้ว คุณชายท่านเท่มาก

52
ในผมทุกๆ กระจุก ต่างก็มีปา้ ยไม้หอ้ ยอยู่ ด้านบนสลัก
ไว้วา่ เป็ นเส้นผมของ ‘ใครบ้าง’

และเส้นผมของคนพวกนี ต่างก็เป็ นผูม้ ีอาํ นาจภายใน


แคว้นถู ตระกูลอันสูงส่ง ขุนนางรวมทังเส้นผมของนาง
สนมในวังหลวง

ผมหลายร้อยจนเกือบพันกระจุกถูกแขวนอยูบ่ นกําแพง
เมือง และปลิวไปมาตามสายลม ภาพนันช่างน่ากลัว
และสร้างความตืนตระหนกเป็ นอย่างมาก

“ใต้ ใต้...ใต้เท้า!” ทหารทีเฝ้าประตู เห็นชือหนึงทีคุน้


เคยเป็ นอย่างมากบนป้ายไม้ เพราะเป็ นชือของหัวหน้า
ของเขาเอง และเป็ นทหารผูค้ วบคุมดูแลทหารทีเฝ้า
53
ประตูเมืองด้วย ทันใดนัน หน้าของเขาพลันซีดเผือดลง
และกําลังจะหันกลับไปรายงาน ในขณะเดียวกับทีเขา
กําลังหันกลับไป ก็ได้เห็นหัวหน้าของตนเองทีดูทา่ ทาง
ตืนกลัว เดินเข้ามาพร้อมกับผมเว้าแหว่งประหนึงถูก
สุนขั รุมกัดมา

เขาเห็นชือของตนเองท่ามกลางป้ายไม้พวกนันในทันที
สีหน้ากลายเป็ นมืดมนยากจะคาดเดา สุดท้ายหยุดอยูท่ ี
ความขาวซีดและความหวาดผวา

เพราะอยูๆ่ เขาก็คิดได้วา่ หากคนทีตัดผมของเขาไป ไม่


ได้ตดั ผม แต่ตดั หัวของเขาล่ะก็........

ความคิดนีไม่เพียงเกิดขึนในหัวของเขาเท่านัน แต่ได้เกิด
54
ขึนกับเหล่าขุนนางและชนชันสูงทุกคนทีตืนมาแล้วพบ
ว่าบนหัวของตนเองเย็นวาบ

แต่ทว่า นีเป็ นเพียงแค่การเริมต้น.........

นอกประตูเมือง ไม่นานก็เต็มไปด้วยประชาชนแคว้นถู
จํานวนมากมายทีมารวมตัวกัน เส้นผมทียังไม่ทนั ได้ถกู
เก็บทิงทําให้พวกเขาตืนตระหนก แม้วา่ พวกเขาจะชืน
ชอบการทําสงคราม แต่ก็ถกู ภาพอันน่าหวาดผวาพวกนี
ทําให้สะพรึงกลัว

สามารถตัดผมของคนพวกนีมาได้อย่างไม่ทาํ ให้พวกเขา
รูต้ วั เขาเป็ นผูใ้ ดกัน เก่งกาจมากเพียงใดเชียว

55
ประชาชนแทบจะทุกคนของแคว้นถู เมือเห็นเส้นผมที
ปลิวไสวไปมาตามสายลมพวกนัน ต่างก็รูส้ กึ ถึงไอเย็น
บนลําคอของตนเอง

ราวกับมีอาวุธวางอยู่ ทําให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้

ภายในแคว้น เมืองหลวงทีคึกคักมาตลอดทังคืน บนพืน


ถนนเล็กใหญ่เต็มไปด้วยกระดาษสีขาวทีประทับไปด้วย
ตัวอักษรสีดาํ

บนกระดาษมีเพียงประโยคเดียวและเขียนด้วยสอง
ภาษา

56
แบบหนึงคือตัวอักษรแคว้นถูทีประชาชนแคว้นถูตา่ งคุน้
เคย อีกแบบพวกเขาไม่คนุ้ เคย แต่ก็สามารถรับรูไ้ ด้วา่
เป็ นตัวอักษรแคว้นฉิน

ซึงเขียนว่า——

[ผูก้ ่อความเดือดร้อนให้กบั แคว้นฉิน ตัดผมก่อน หาก


ทําอีก เด็ดหัว!]

ทัวทังหวังถิง เต็มไปด้วย ‘ใบปลิว’ มากมาย คนจํานวน


ไม่นอ้ ยรูส้ กึ โกรธและถูกกระตุน้ ความกระหายเพราะคํา
พูดเหล่านัน แต่ทว่า หลังจากทีได้ยินเรืองเส้นผมหลัง
กําแพงเมือง จึงพบว่า บางที บนกระดาษพวกนัน อาจ
57
จะไม่ใช่แค่การข่มขู่

ราวกับว่า เพียงคําคืนเดียว หวังถิงแคว้นถูก็ถกู กลินไอ


บางอย่างจู่โจม ทําให้หวังถิงตกอยูท่ า่ มกลางความ
หวาดกลัวและทุกคนต่างหวาดระแวง

สิงทีน่าตืนตระหนกไม่ได้มีเพียงเท่านี ได้มีข่าวกระจาย
ออกมาทัวทุกสารทิศของแคว้นถูวา่ เหล่าขุนนางในทุกๆ
เมือง ต่างก็โดนกระทําเช่นเดียวกัน

เพียงคําคืนเดียว ทังตระกูลชันสูงทีอยูเ่ บืองบนและขุน


นางชันผูน้ อ้ ยต่างก็ผมสันกันถ้วนหน้า

58
หากบุคคลลึกลับเหล่านัน มิได้ตดั ผม แต่ตดั หัว......
เพียงนึกถึงผลลัพธ์ ทุกคนในแคว้นถูตา่ งก็ถอนหายใจ
อย่างเย็นเยียบ

บางที แคว้นถูอาจจะล่มสลายภายในคืนเดียว แบบนี


สินะทีเรียกว่าฆ่าล้างโคตร

การลงมือโดยทีไม่ตอ้ งแปดเปื อนเลือดเลยแม้แต่นอ้ ย


แต่สามารถทําให้ใจของทุกคนและทุกซอกทุกมุมของ
แคว้นถูตืนตระหนกได้ แบบนีมันทําลายขวัญกําลังใจ
มากกว่าล้างด้วยเลือดเสียอีก มันเป็ นการทําลาย
ปณิธานในใจของผูค้ นโดยแท้

ความสามารถในการหายตัวไปอย่างไร้รอ่ งรอยเช่นนี
59
ช่างคล้ายดังปี ศาจ

ใครริบงั อาจท้าทายกฎหมาย ใครมันอยากตายเช่นนี

ทังแคว้นถูเต็มไปด้วยความตืนตระหนก ตกอยูท่ า่ ม
กลางความกลัวดังทีไม่เคยเป็ นมาก่อน ในวังหลวงมี
ข่าวกระจายออกมาอีกครัง

ข่าวทีว่านีคือ——ฮ่องเต้ของพวกเขาหายไป !

……

บริเวณทีไกลออกไปจากอาณาเขตแคว้นถู กูหยามองไป

60
ยังทิศทางของแคว้นถู ในแววตาฉายแววชืนชม

เขามองคนชุดสีแดงเจิดจ้าทีอยูใ่ กล้ๆ ไม่รูว้ า่ ควรจะ


บรรยายความกลัวในใจของตนเองอย่างไร ให้ตายเถอะ
เขาก็คิดไม่ถงึ ว่ามูช่ ิงเกอจะใช้วิธีการเช่นนี กวาดล้าง
แคว้นถูจนหมดสิน

ผ่านพ้นเรืองนีไปแล้ว สําหรับแคว้นถู แคว้นฉินอาจจะ


กลายเป็ นเงาอันโหดร้ายไปแล้ว หากพวกเขายังกล้าคิด
ไม่ซือกับแคว้นฉิน ภาพในวันนีจะโผล่ขนมาหลอก

หลอนพวกเขา ทําให้พวกเขากลัว จนต้องจับคอของตน
เองอย่างไม่รูต้ วั

วิธีการอันโหดเ**◌้ยมเช่นนี นางคิดได้อย่างไร
61
ทันใดนัน กูหยาพลันรูส้ กึ ว่ามูช่ ิงเกอได้แฝงความ ‘น่า
กลัว’ และควรรักษาระยะห่างเอาไว้

หากไม่เช่นนัน วันหนึงหากเขาทําให้นางไม่พอใจ จะ
ต้องตายในสภาพใดก็ไม่อาจรูไ้ ด้

กูหยาก้าวออกมาสองก้าวอย่างเงียบๆ และคิดทบทวน
ความสัมพันธ์กบั มูช่ ิงเกอว่าตนเองทําอะไรให้นางไม่พอ
ใจหรือเปล่า

“ไปเถอะ ละครสนุกๆ กําลังจะเริมขึนแล้ว” มูช่ ิงเกอก


ระตุกยิมอย่างเย็นเยียบ พลันขึนบนหลังม้าไปอย่างสง่า

62
งาม

ด้วยความไวของอาชาเพลิงแล้ว เพียงวันเดียวก็สามารถ
ถึงทีราบลัวรือได้ ละครสนุกฉากทีสองทีนางได้วางเอาไว้
อยูท่ ีทีราบลัวรือต่างหาก

กูหยามองกระสอบทีวางอยูข่ า้ งเท้าของตนเอง พลันยก


ขึนอย่างจํายอมอีกครังและหายไปอย่างไร้รอ่ งรอย

อาชาเพลิง เคลือนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

เส้นผมของมูช่ ิงเกอปลิวไสวไปตามสายลม ริมฝี ปาก


แดงกําผุดรอยยิมจางๆ

63
ครังนี กองทัพพันเพลิง ไม่ทาํ ให้นางผิดหวัง

กองทัพนีก็ไม่เลว !

……

ม้าขององครักษ์เขียวมังกรทุกคนเป็ นอาชาเพลิง ทีฝี เท้า


ไวกว่าม้าธรรมดาไม่รูก้ ีเท่าต่อกีเท่า เมือคืนตัดผมอยูท่ ี
หวังถิงแคว้นถู แต่วนั นี พวกเขาได้เข้าสูท่ ีราบลัวรือแล้ว

เมือมาเยือนทีราบลัวรืออีกครัง ในใจของมูช่ ิงเกอเกิด


ความว้าวุน่ ขึน

64
มองไปยังทีราบลัวรือทีห่างเพียงเอือมมือ แต่ทิวทัศน์
ต่างกันอย่างสินเชิง นางหวนคิดถึงตนเองตอนทีฟื นและ
คลานออกมาจากกองศพ

ตอนนัน นางยังไม่กระจ่างเกียวกับโลกใบนี

ในวันนี นางกลับเข้ากับโลกอันแตกต่างนีได้อย่างสินเชิง
และได้เริมต้นชีวิตใหม่ของตนเอง

นางควรจะขอบคุณมูช่ ิงเกอ นางยืมร่างของมูช่ ิงเกอมา


และได้กลายเป็ นมูช่ ิงเกอนับตังแต่นนเป็
ั นต้นมา

65
“คุณชาย รองผูบ้ งั คับบัญชาการซงนํากองทหารทําสง
ครามกับเฮ่อเหลียนจ้านแห่งแคว้นถูหลายวันแล้วและได้
ขับเคียวกันมาในสงครามหลายครัง ผลลัพธ์มีทงแพ้
ั และ
ชนะ” มัวหยางมาหยุดอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอและตัดบท
ความคิดของนาง

ต่างฝ่ ายต่างไม่ยอมละความพยายาม ผลลัพธ์นีเป็ นไป


ตามทีมูช่ ิงเกอคิดเอาไว้

อุปนิสยั ของเฮ่อเหลียนจ้านนางไม่กระจ่างมากนัก นางรู ้


เพียงว่าเขาโหดเ**◌้ยม ใจร้อนเลือดเย็นไร้ซงความ

ปรานี และชืนชอบการทําสงคราม บางที เขาอาจจะทน
รอการเปิ ดศึกชีเป็ นชีตายกับแคว้นฉินไม่ไหวแล้ว

66
สามารถยือเวลาไว้หลายวันเช่นนีได้ ถือเป็ นความ
สามารถทีควรค่าแก่การชืนชมของรองผูบ้ งั คับบัญชา
การซง

พยักหน้าหน้าเบาๆ มูช่ ิงเกอนําองครักษ์เขียวมังกรเข้าสู่


เขตทีราบลัวรือ

ภายในทีราบลัวรือ บนพืนดินเต็มไปด้วยดินแดง โดยไม่


มีสีเขียวแม้แต่เสียวเดียว พืนดินของทีนี แดงกว่าดิน
แดงในพืนทีอืนๆ รวมทังเป็ นผลจากการทีถูกเลือดสด
จํานวนมากอาบย้อม

ภายใต้ดินแดงแห่งนี มีโครงกระดูกฝังอยูม่ ากมาย บาง


ทีอาจจะในวินาทีทีชีวิตของพวกเขาได้มอดไหม้ พวกเขา
67
จึงสามารถปล่อยวางบ้านเมืองของตนเองได้ แล้วจึง
ก้าวไปยังโลกอีกใบหนึง

องครักษ์เดิมของมูช่ ิงเกอเอง ก็ทงชี


ิ วิตไว้ทีนี

การมาเยือนพืนทีแห่งนีในครังนี ไม่เพียงแค่นางทีรูส้ กึ
สับสน แต่ทว่า องครักษ์เขียวมังกรเองก็เช่นกัน

เพือนร่วมชะตากรรมก่อนหน้านีของพวกเขา ตายเพราะ
มูช่ ิงเกอ และเป็ นเพราะการตายขององครักษ์ก่อนหน้านี
นัน จึงทําให้พวกเขากลายเป็ นองครักษ์ของมูช่ ิงเกอใน
ตอนนี เก่งกาจขึนเรือยๆ นับจากนัน และได้เริมต้นชีวิต
ใหม่

68
ระลึกถึงหรือขอบคุณ.....ในตอนนี พวกเขาไม่สามารถ
บรรยายได้อย่างถูกต้อง

แต่ทว่า ความคิดหนึงทีพวกเขามีรว่ มกัน นันก็คือ แก้


แค้นให้กบั องครักษ์กล้าทังห้าร้อยนาย ทหารแคว้นถูฆา่
พวกเขา ถ้าเช่นนัน ในวันนี พวกเขาจะใช้หนึงชีวิตแลก
ร้อยชีวิต ใช้ศีรษะห้าร้อยศีรษะสังเวยวิญญาณของเหล่า
องครักษ์

ความมุง่ มันเช่นนี ทําให้เหล่าองครักษ์เขียวมังกรสาด


ประกายรังสีสงั หารอันเ**◌้ยมโหด ดังปี ศาจร้ายทีหิว
กระหาย

69
ไอสังหารนี มูช่ ิงเกอสัมผัสได้ แต่กลับไม่ได้หา้ ม

ไม่นาน ธงแสดงสัญลักษณ์ของแคว้นฉินก็เคลือนเข้าสู่
สายตาของทุกคน

มัวหยางพูดกับมูช่ ิงเกอ : “คุณชาย ข่าวจากหวังถิง


แคว้นถู ตอนนีอาจจะยังไม่เข้าหูเฮ่อเหลียนจ้าน”

มูช่ ิงเกอพูดอย่างไม่ประมาทว่า : “ไม่เป็ นอะไร เขาจะรู ้


หรือไม่ มันไม่สาํ คัญอีกต่อไปแล้ว” เพราะเฮ่อเหลียน
จ้านถูกกําหนดแล้วให้ทิงชีวิตไว้ทีนี

จิตวิญญาณทีถูกทําลาย รวมทังเหตุการณ์อนั โหด

70
เ**◌้ยม จึงจะทําให้ประชาชนแคว้นถูรูว้ า่ ไม่ควรมาล้อ
เล่นกับมูช่ ิงเกอ

สําหรับฮ่องเต้ทีจับตัวมานัน แน่นอนว่าจะเอามาเพือลบ
ล้างความรักชาติของทหารแคว้นถูและจะทําให้ฮ่องเต้
เห็นว่า ในตอนนี แคว้นฉินไม่ใช่แคว้นทีเขาคิดจะยัวยุก็
ยัวยุได้ตามใจชอบอีกแล้ว

“คุณชาย ! ท่านกลับมาแล้ว! ”

71
ตอนที 97-5 บดขยีแคว้นถูแล้ว คุณชายท่านเท่มาก

72
รองผูบ้ งั คับบัญชาทังสองท่านทีมูช่ ิงเกอเคยพบ เดินเข้า
มาต้อนรับ

มูช่ ิงเกอพยักหน้าตอบรับ จากนันจึงพูดกับพวกเขาว่า :


“พาข้าไปพบรองแม่ทพั ซงและเตรียมเปิ ดศึก เราไม่มี
เวลามากพอทีจะเสียไปโดยเปล่าประโยชน์เพราะแคว้น
ถู”

รองแม่ทพั ทังสองเมือได้ยินแล้วก็รูส้ กึ ตกตะลึง และไม่ได้


ถามอะไรมาก เพียงแค่พยักหน้าและแยกย้ายกันไปทํา
ตามคําสัง

ไม่นานนัก เสียงกลองก็ได้ดงั ขึนจากฝ่ ายกองทหาร


73
แคว้นฉิน ทหารหลายแสนนายเดินเข้ามาอย่างเป็ น
ระเบียบเรียบร้อย ล้วนเป็ นอันหนึงอันเดียวกัน ทหารทุก
นายต่างก็สวมชุดนักรบแฝงไปด้วยไอสังหารและดุดนั

สําหรับฝ่ ายทางกองทหารแคว้นถู หลังจากทีได้ยิน


เสียงกลองดังขึนจากฝังแคว้นฉิน ผูน้ าํ ทัพซึงก็คือรัชทา
ยาทเฮ่อเหลียนจ้านก็สงให้
ั กองทหารเตรียมพร้อมเข้าสู่
สนามรบ

เขามองกองทหารแคว้นฉินทีอยูอ่ ีกฝัง พลันขึนหลังม้า


พร้อมรอยยิมอันเย็นเยียบ

แคว้นฉินจะเปิ ดศึกอย่างนันหรือ ?

74
ซึงก็สมดังความต้องการของเขา เพราะเขารอวันนีมา
นานแล้ว

รอสังหารกองทหารแคว้นฉินทีอยูท่ ีทีราบลัวรือจนหมด
สิน เขาก็จะโจมตีเข้าไปภายในแคว้นฉิน จากนันก็จะ
เสพสมกับเหล้าชันดีและเหล่าสาวงามของแคว้นฉินให้
สาสม

“โห่ๆๆ—“

เสียงสัญญาณของแคว้นถูดงั ขึนท่ามกลางทีราบลัวรือ
และกําลังต่อสูก้ บั เสียงกลองจากแคว้นฉิน

75
ทหารจํานวนมหาศาลของทังสองฝ่ าย ในทีสุดก็ได้มา
เผชิญหน้ากัน

ท่ามกลางทหารนับล้านของแคว้นถู เฮ่อเหลียนจ้านยืน
อยูข่ า้ งหน้าสุด

ด้านหน้าตัวเขา มีเกราะกําบังปกป้องทีมีความสูงเท่า
คนตังอยูร่ อบๆ อย่างแน่นหนา

อาวุธของแคว้นถู มิได้เหมือนดังของแคว้นฉิน แต่วา่


อาวุธแต่ละชินนันถูกสร้างขึนมาให้มีความแหลมคมเพือ
ใช้ในการสังหารโดยเฉพาะ เรืองนีราวกับมีความเกียว
พันกับอุปนิสยั ทีชืนชอบสงครามของพวกเขา สิงที
76
สําคัญจึงไม่ใช่เรืองของอาวุธว่าจะเหมือนกันหรือไม่
ทว่าเป็ นประสิทธิภาพในการสังหารต่างหาก

สําหรับกองทหารของแคว้นฉินแล้ว กองทหารแคว้นถู
เหมือนดังพวกป่ าเถือนทียังไม่ได้รบั การเปิ ดกว้างด้าน
วัฒนธรรมอย่างนัน ในสายตาจึงมีเพียงความโหดร้าย
และการสังหาร

มูช่ ิงเกอทีขีอยูบ่ นหลังเพลิงรัตติกาล เคลือนตัวออกมา


จากทางทีกองทหารแคว้นฉินแยกตัวออกจากกัน

นางทีอยูใ่ นชุดสีแดงเจิดจ้าดังเปลวเพลิง มีเสือเกราะห่อ


หุม้ ตัวอยู่ เผยให้เห็นเฉพาะใบหน้าอันน่าเย้ายวน เส้น
ผมสีดาํ ปลิวไสวไปมาพร้อมกับสายลม ตัวตรงสง่า
77
ผ่าเผย ท่าทางเคร่งขรึม

ในทันทีทีนางปรากฏตัว ฝ่ ายกองทหารแคว้นฉินก็สง่
เสียงดังกึกก้อง ราวกับกําลังต้อนรับเทพแห่งการรบ

เฮ่อเหลียนจ้านหรีตา หยุดสายตาบนใบหน้าอันน่าเย้า
ยวนของมูช่ ิงเกอ ความงดงามไร้ทีเปรียบ บนใบหน้าที
ยากจะตัดสินได้วา่ เป็ นชายหรือหญิงเครืองหน้าองอาจที
บีบคันผูค้ นทําให้เขาเกิดความหลงใหล และเกิดความ
ปรารถนาทีจะครอบครอง

คนเช่นนี ไม่วา่ จะชายหรือหญิง ก็ควรจะถูกเขาลากเข้า


กระโจมและร้องเสียงหลงอยูใ่ ต้รา่ งเขาสิถงึ จะถูก !

78
และอาชาเพลิงพวกนัน.....กองทัพแคว้นฉินขีอาชา
เพลิงเชียวรึ ! ของทังหมดนีควรจะเป็ นของเขาต่าง
หาก !

ความคิดอันชัวร้ายและความโลภของเฮ่อเหลียนจ้าน
แสดงออกมาอย่างมิอาจเก็บซ่อนได้

มูช่ ิงเกอเองก็สามารถสัมผัสความโลภทีแสดงออกมา
ทางสายตาของเขาได้อย่างลึกซึง และแอบยิมอย่างเย็น
เยียบ

“เจ้าเป็ นใคร !” เฮ่อเหลียนจ้านชีหน้ามูช่ ิงเกอแล้วถาม

79
มูช่ ิงเกอทีกําลังบ้าคลัง ก้มสายตาลงและตอบว่า :
“หลานมูซ่ ง มูช่ ิงเกอ”

มูช่ ิงเกออย่างนันหรือ ?

ชือนี ทําให้สายตาของเฮ่อเหลียนจ้านแฝงความฉงนใจ

ทันใดนัน คนทีอยูข่ า้ งๆ เขาก็กระซิบอะไรบางอย่างข้าง


หูเขา จากนันเขาจึงแสดงสีหน้าเข้าใจ พลันพูดเยาะเย้ย
ว่า : “ทีแท้เจ้าก็คืออมเสเพลทีมีชือของแคว้นฉินนีเอง !
ฮ่าๆๆๆ…….”

80
เสียงหัวเราะอันบ้าคลัง กึกก้องอยูภ่ ายในสนามรบ

“แคว้นฉินไม่มีคนอืนแล้วจริงๆ หรือ จึงได้สง่ จอมเสเพล


อย่างเจ้ามารบกับข้า ! ข้าว่าเจ้ายอมแพ้เสียเถิด ไม่แน่
ว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปและยังให้โอกาสเจ้าได้ปรนเปรออยู่
ข้างกายข้า” นําเสียงของเฮ่อเหลียนจ้านเต็มไปด้วย
ความเย้ยหยัน

สําหรับนําเสียงทีฉายแววเย้ยหยันและสายตาทีเต็มไป
ด้วยความดูแคลนนัน มูช่ ิงเกอเพียงยิมอย่างคลุมเครือ
และพูดว่า : “สูก้ บั คนอย่างเจ้า แค่จอมเสเพลไร้คา่
อย่างข้าก็เพียงพอแล้ว ใช่สิ พบกันครังแรก ข้าได้เตรียม
ของขวัญไว้ให้เจ้าด้วย”

81
พูดจบ นางก็ยกมือขึนและกระดิกนิวทีหนึง องครักษ์
เขียวมังกรจึงถือกระสอบใบหนึงออกมาโยนไปตรงใต้
เท้าเพลิงรัตติกาล

ในกระสอบ มีเสียงร้องอันเจ็บปวดดังออกมา

ทหารแคว้นฉินนายหนึงใช้หอกยาวเปิ ดกระสอบออก
ร่างอันอ้วนกลม กลิงออกมาในทันที

และทันทีทีคนผูน้ ีปรากฏตัว ฝ่ ายแคว้นถูก็แสดงความ


ตืนตระหนกออกมาในทันที

รวมทังเฮ่อเหลียนจ้านผูแ้ สนเย่อหยิงเองก็ยงั ไม่วายทีจะ

82
ตกใจ ใบหน้าพลันดําคลําลงในทันที

“นีเรียกของรับขวัญยามพบหน้า พวกป่ าเถือนคงจะไม่


เข้าใจ เฮ่อเหลียนจ้าน ของขวัญชินนีถูกใจเจ้าหรือไม่”
มูช่ ิงเกอพูดพร้อมยิมเบาๆ

ในขณะทีพูด นางก็กม้ สายตาลงมองฮ่องเต้แคว้นถูทียัง


ไม่สามารถตังสติได้ พลางยิมอย่างเบิกบานและพูดว่า :
“ฮ่องเต้แคว้นถู ดูสวิ า่ ตรงหน้าท่านเป็ นใคร”

ฮ่องเต้แคว้นถูได้สติก็รบี มองตาม ในกองทัพอันคุน้ เคยมี


ผูค้ นทีคุน้ เคยอยู่ เขาตะลึงและรีบตะโกนว่า : “จ้าน
เอ๋อร์ ช่วยข้าด้วย”

83
“เป็ นฝ่ าบาท ! ฝ่ าบาทถูกพวกเขาลักพาตัวมา!”

“ฝ่ าบาทจริงๆ ด้วย ฝ่ าบาททรงประทับอยูท่ ีหวังถิงมิใช่


หรือ?”

“สวรรค์! ฝ่ าบาทอยูใ่ นมือพวกเขาแบบนี เราจะสูต้ อ่ ไป


ได้อย่างไร”

ทหารนับล้านนายของแคว้นถูตกอยูใ่ นสภาวะความ
ลังเล ฮ่องเต้ของตนเองอยูใ่ นมือศัตรู จะสูต้ อ่ ไปได้อย่าง
ไร ?

84
สายตาของเฮ่อเหลียนจ้านแวววับด้วยรังสีสงั หาร
สําหรับเสียงร้องของฮ่องเต้นนเขาได้
ั ยินเพียงแต่ไม่สนใจ

เขาจ้องมูช่ ิงเกอ พลางพูดด้วยนําเสียงอันโหดเ**◌้ยม


ว่า : “เจ้าริบงั อาจขู่ขา้ หรือ”

มูช่ ิงเกอหัวเราะอย่างเย็นเยียบ พลันพูดเยาะเย้ยว่า :


“เจ้าอย่าทะนงตนมากไปนัก ข้าเพียงแค่เชิญฮ่องเต้
แคว้นถูมาชมภาพอันน่าประทับใจก็เท่านัน”

“มัวหยาง ดูแลฮ่องเต้แคว้นถูให้ดี อย่าทําให้พระองค์


ต้องทรงตกพระทัย” มูช่ ิงเกอผุดรอยยิมจางๆ

85
เพียงยกมือขึน ทัพใหญ่ของแคว้นฉินก็พงุ่ ตัวเข้าไปใน
สนามรบโดยไม่ลงั เล

องครักษ์เขียวมังกรทังห้าร้อยนายทีพุง่ ตัวเข้าหากอง
ทหารแคว้นถู ดังหมาป่ าผูห้ ิวกระหาย ทุกซอกทุกมุมที
เคลือนตัวผ่านล้วนมีรา่ งไร้วิญญาณล้มลง

ความเก่งกาจในการสงครามทีผสมผสานกับความสุขมุ
ของอาชาเพลิง ทําให้กองทหารเขียวมังกรลงมือสังหาร
ได้อย่างง่ายดาย จนทําให้กองทหารแคว้นถูผิดแผนการ
สงครามทีวางเอาไว้

ทหารแคว้นฉินคนอืนๆ เพราะแรงกระตุน้ ทีได้รบั จาก


องครักษ์เขียวมังกร ทําให้พวกเขาต่างก็แสดงศักยภาพ
86
ของตนเองออกมา ในทุกๆ ครังทีสังหารทังเด็ดขาดและ
โหดเ**◌้ยมกว่าทีผ่านมา

สําหรับฝ่ ายกองทหารแคว้นถู ทีเพิงเห็นว่าฮ่องเต้ของตน


เองถูกคุมตัวเอาไว้ ยังตังสติไม่ได้ ก็เห็นทหารแคว้นฉิน
พุง่ เข้ามา ไม่พดู พรําทําเพลงก็ลงมือสังหารคนแล้ว

แคว้นถูทีกําลังแย่ ทําได้เพียงป้องกันตัวและสาปแช่ง
แคว้นฉินทีไม่ทาํ ตามกฎกติกา

หมดกัน ! ทุกอย่างผิดแผนไปหมดแล้ว !

แม่ทพั แคว้นถูยงั คงไม่หยุดทีจะสังให้กาํ ลังทหารออก

87
โจมตี แต่ทว่าความวูว่ ามของแม่ทพั ทําให้แผนการทีได้
วางเอาไว้ในตอนแรกพังทลายลง

แล้วยิงฮ่องเต้ของตนเองยังอยูใ่ นมืออีกฝ่ าย ความสุขมุ


ของทหารแคว้นถูก็ยงถู
ิ กทําลายลงไม่มีเหลือ

ท่ามกลางความวุน่ วาย เฮ่อเหลียนจ้านจ้องมูช่ ิงเกอที


เต็มไปด้วยรอยยิม เขาชูอาวุธในมือของตนเองขึนและ
พุง่ เข้าหานาง

มูช่ ิงเกอผุดรอยยิมตรงมุมปาก พร้อมทังพูดกับฮ่องเต้


แคว้นถูวา่ : “ฮ่องเต้แคว้นถู ท่านจับตาดูเอาไว้ หาก
ท่านยังกล้าสังทหารโจมตีแคว้นฉินอีก นีจะเป็ นจุดจบ

88
ของท่าน!”

พูดจบ เพลิงรัตติกาลก็กระโดดขึนสูง บนร่างกายสาด


ฉายกลุม่ ควันโขมงสีดาํ และพุง่ ตัวไปหาเฮ่อเหลียนจ้าน
ดังสายฟ้า........

บนร่างกายของเฮ่อเหลียนจ้าน มีแสงสีครามปรากฏขึน
แวบหนึงและค่อยๆ กลายเป็ นสีนาเงิ
ํ น

และร่างกายของมูช่ ิงเกอก็ได้มีแสงสีนาเงิ
ํ นเข้มทีเกือบจะ
กลายเป็ นสีมว่ งสาดส่องออกมา ทังสองฝ่ ายเผยพลัง
ของตนเอง การรบครังนี กลายเป็ นการรบทีสามารถ
ประเมินแพ้ชนะได้ชดั เจนในทันที

89
ฮ่องเต้แคว้นถูมองภาพหน้าตรงหน้าอย่างตะลึง ความ
ตืนตระหนกในแววตาไม่วา่ จะพยายามอย่างไรก็มิอาจ
ซ่อนได้

หลานชายของมูซ่ ง เป็ นคนไร้ประโยชน์ทีขึนชือมิใช่


หรือ?

คําพูดนี ผุดเข้ามาในหัวของเขา ทําให้เขาตกใจจนทัง


ร่างเหมือนกลายเป็ นหินก็ไม่ปาน

“สายนําเงินขันสูงสุด ! เป็ นไปได้อย่างไร! ” เบ้าตา


ของเฮ่อเหลียนจ้านแทบจะทะลุออกมาและมองมูช่ ิงเก

90
ออย่างเหลือเชือ

และมูช่ ิงเกอกลับเพียงแค่ยมจางๆ
ิ ให้เขา มือขวาพลัน
เกิดประกายเป็ นแสงสีเงิน ทวนหลิงหลงอยูใ่ นกํามือของ
นางในทันที และนางก็พงุ่ ทวนหลิงหลงใส่เฮ่อเหลียน
จ้านอย่างไม่ลงั เล

ทันใดนัน ทวนนับหมืนก็ได้พงุ่ ตัวเข้าหาเฮ่อเหลียนจ้าน


จนเขาหมดหนทางหนี

เสียงร้องอย่างทุกข์ทรมานดังขึนจากปากของเฮ่อเหลียน
จ้าน เนือหนังบนร่างกายของเขา แยกออกเป็ นพันๆ ชิน
ในทันที และกระจายลงพืนดังสายฝน โครงกระดูกทียัง
มีเนือหนังติดอยูบ่ า้ งก็ตกลงจากหลังม้า
91
“ไม่——!” ฮ่องเต้แคว้นถูเห็นภาพทังหมดกับตา
เฮ่อเหลียนจ้านตายอย่างไม่มีโอกาสได้ตอ่ สู้ ทําให้สาย
ตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดผวา

ร่างกลมๆ ของเขาเริมมีอาการสันอย่างรุนแรงขึนมาใน
ทันที ขาทังคูส่ นและอ่
ั อนยวบลง

เขามองมูช่ ิงเกอ พลางพูดเพียงแค่คาํ ว่า : “ปี ศาจ !


เจ้ามันเป็ นไอ้ปีศาจ !”

และกองทหารแคว้นถู หลังจากทีเห็นเฮ่อเหลียนจ้าน
ตายอย่างทุกข์ทรมาน ก็มีความคิดทีจะหนีในทันที มูช่ ิง

92
เกอทีอยูใ่ นชุดสีแดงเพลิงคล้ายดังโลหิต เป็ นดังปี ศาจ
ร้าย ทีกําลังเผยรอยยิมแห่งความตายอยูต่ รงหน้าพวก
เขา

“ฆ่า อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว” มูช่ ิงเกอผุดรอยยิม


ตรงมุมปากด้วยความกระหายเลือด

กองทหารแคว้นฉินได้รบั การกระตุน้ อย่างรุนแรง และ


ตามสังหารกองทหารแคว้นถูจนหมดสิน

ทหารนับล้านของแคว้นถูไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อ
ไป ต่างก็ทิงชีวิตเอาไว้ทีทีราบลัวรือแห่งนี

93
รอบๆ เต็มไปด้วยกลินคาวเลือดและร่างไร้วิญญาณ มู่
ชิงเกอเผยรอยยิมเย้ยหยันตรงมุมปาก ในแววตานันเต็ม
เปี ยมไปด้วยความเย็นเยียบ

ในขณะนีทวนหลิงหลงได้กลับกลายมาเป็ นปลอกนิวดัง
เดิม นางนวดข้อมือของตนเองทีหนึง ก่อนจะก้มหน้าลง
มองฮ่องเต้แคว้นถูทีตอนนีตกใจจนนิงอยูก่ บั ที พลางยิม
ด้วยสายตาทีเต็มไปด้วยแผนร้ายและพูดว่า : “ฮ่องเต้
แคว้นถู ตอนไปทีหวังถิงรวมทังทัวแคว้นถู ข้าได้เตรียม
ของขวัญชินหนึงไว้ให้กบั ท่าน หลังจากทีท่านกลับแคว้น
แล้ว ขอให้คอ่ ยๆ ชืนชมและจําสิงดีๆ ทีได้รบั จากข้าให้
ขึนใจล่ะ”

94
ตอนที 98-1 หนุ่มน้อยผูง้ ดงามผูน้ ีเป็ นใครกัน

ณ ลัวตู บนรถม้าคันหนึงทีเรียบง่ายแต่ยงั คงความ


หรูหรา ค่อยๆ เคลือนตัวออกจากประตูเมือง รถม้านันดู
เหมือนจะถูกสร้างจากไม้มีชือราคาแพง มีสีเข้ม เงาวับ
ชวนหลงใหล เมือได้เข้าใกล้แล้วจะสามารถสัมผัสได้ถงึ
กลินหอมอ่อนๆ

สองฝังนอกหน้าต่างรถม้า ถูกสลักด้วยลวดลายมาก
มายอย่างประณีต ดอกไม้ ใบหญ้าทีสลักอยูบ่ นนันสาด
ฉายสีสนั สวยงามราวกับมีชีวิต

1
ม่านประตูและหน้าต่าง ถักทอจากผ้าไหมสีดาํ บดบัง
การมองเห็นและสภาพภูมิอากาศจากภายนอก ทําให้
ภายในรถม้าราวกับกลายเป็ นโลกอีกใบหนึง

ม้าสีดาํ ทังสีตัวทีลากรถอยู่ ต่างก็เป็ นม้าธรรมดา แต่ทว่า


กลับดูสง่ามากกว่า

รวมทังผูค้ มุ้ กันทังยีสิบคนทีตามอารักขาความปลอดภัย


อยูบ่ ริเวณด้านหน้าและหลัง กลับขีอาชาเพลิง สัตว์ทีมี
สติปัญญา บนร่างกายสวมชุดนักรบสีดาํ ใบหน้าของทุก
คนมีความสุขมุ แนบนิงและความหนักแน่นทีเหนือกว่า
อายุ

2
ในรถม้า มีเสียงหัวเราะ ‘ฮีๆ’ ดังออกมา

เสียงอันน่าเย้ายวน ทําลายความเคร่งขรึมและความเข้ม
งวดของขบวน

ภายในห้องโดยสาร ประดับด้วยหยกและมีกลินหอม
อ่อนๆ อบอวลอยู่ มีการตกแต่งอันหรูหรา ภายในรถม้า
เต็มไปด้วยอาหารและเหล้านานาชนิด

บนกระถางกํายานแกะสลักลาย มีควันลอยขึนอย่างไม่
ขาดสาย

3
กลินหอมจากควันนันไม่ได้เข้มข้นมากนัก แต่เมือสูดดม
เข้าไปแล้วกลับทําให้รูส้ กึ กระปรีกระเปร่า

บนเบาะนุ่ม มีรา่ งทีอยูใ่ นชุดสีแดงเจิดจ้านอนตะแคงอยู่


จนไม่สามารถเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน แต่ทว่า กลับ
ทําให้ดลู กึ ลับและน่าค้นหามากกว่าทีเคย

ใบหน้างดงามน่าเย้ายวน ผิวสีขาวละเอียดลออ ตุม้ หูสี


ม่วงบนติงหูซา้ ยส่องแสงระยิบระยับ ทําให้ใบหน้าของ
นางเป็ นดังภาพวาดในจินตนาการ ทีทังมีเสน่หแ์ ละแฝง
ความบ้าคลังชัวร้าย

เส้นผมสีดาํ เงาดังหมึกดําถูกเกล้าขึนสูง เผยให้เห็นถึง

4
ความองอาจของนาง

เมือถอดเสือเกราะออก มูช่ ิงเกอในชุดสีแดงตัวหลวม


ราวกับได้กลับไปเป็ นจอมเสเพลรักสนุกดังเดิม

ศีรษะของนางหนุนอยูบ่ นขาทังสองข้างของฮวาเยวีย
และมือนุ่มประหนึงไร้กระดูกของฮวาเยวียก็นวดขมับให้
กับนางอย่างเบามือ ดวงตาทังสองข้างปิ ดสนิท ราวกับ
ได้เข้าสูห่ ว้ งแห่งความฝัน แต่ทว่า รอยยิมจางๆ ทีผุดอยู่
ตรงมุมปาก กลับทําให้เหมือนยังไม่ได้หลับ

“โย่วเหอ เจ้าดูสิ คุณชายของเรายิงน่าเย้ายวนมากขึน


ทุกวัน” ฮวาเยวียก้มหน้าลงและกระตุกรอยยิมจางๆ ใน

5
ขณะทีในมือก็ยงั ไม่หยุดนวด พร้อมกับรอยยิมอันน่าเย้า
ยวนตรงมุมปาก

โย่วเหอทีกําลังใจจดใจจ่อกับการเตรียมอาหารว่างให้กบั
มูช่ ิงเกอผุดรอยยิม : “หรือว่าฮวาเยวียจะหวันไหวเข้าเสีย
แล้ว”

ฮวาเยวียตอบกลับอย่างขบขันว่า : “ข้าหวันไหวแล้ว
จริงๆ หากคุณชายยอมสูข่ อข้าก็ยอมแต่ง”

“คิกๆ! เจ้ามันผูห้ ญิงหน้าไม่อาย” โย่วเหออดขําไม่ได้

ฮวาเยวียเองก็หวั เราะ ‘ฮ่าๆๆๆ’ อย่างไม่อาย


6
ทังสองสาวหัวเราะกันอย่างสนุกสนาม มูช่ ิงเกอค่อยๆ
ลืมตาขึนเป็ นเส้นตรง และแอบมองพวกนาง พลันพูด
อย่างขบขันว่า : “ถ้าเช่นนัน พวกเจ้าแต่งงานกับข้าทัง
สองคนเลยดีกว่า”

“อ้าว ! คุณชายตืนแล้ว”

“คุณชาย”

ทันทีทีได้ยินเสียงของมูช่ ิงเกอ ทังสองสาวก็รบี เข้าไป


ล้อมอยูท่ งซ้
ั ายและขวาของนาง

7
สายตาคูท่ ีเต็มไปด้วยความอ่อนโยนของทังสอง หยุดอยู่
บนร่างของนาง

มูช่ ิงเกอใช้มือข้างเดียวในการพยุงตัวเองขึน ก่อนจะยก


มือขึน จากนันโย่วเหอก็ยืนชาอุน่ ๆ แก้วหนึงในมือของ
นางให้ หลังจากทีนางยกขึนดืมคําหนึง จึงมองทังสอง
นางพร้อมรอยยิมมีเลศนัยและพูดว่า : “หรือว่าพวกเจ้า
จะเข้าสูว่ ยั สาวแล้ว ให้ขา้ หาชายหนุ่มในฝันของเจ้าทัง
สองให้ดีไหม”

“ไม่ ! คุณชาย เราสองพีน้องได้ตดั สินใจอย่างเด็ดขาด


แล้วว่า จะอยูร่ บั ใช้ทา่ นตลอดชีวิต” ฮวาเยวียรีบพูด

8
โย่วเหอเองก็พยักหน้าอย่างจริงจัง

ผูช้ ายอะไรกัน พวกนางไม่เคยคิดถึงเรืองนี

ท่าทางของทังสองดูจริงจัง มูช่ ิงเกอจึงไม่ได้พดู อะไรมาก

ในตอนนี ทังสองยังไม่เจอชายในฝัน พูดอะไรไปก็ไร้


ประโยชน์ หากเปรียบกับการเปลืองนําลายพูดในตอนนี
แล้ว รอให้ถงึ เวลาอันสมควรค่อยตัดสินใจจะดีกว่า

“คุณชาย ท่านจะอยูใ่ นร่างผูช้ ายเช่นนีไปตลอดชีวิต


อย่างนันหรือ” หลังจากทีลังเลพักหนึง โย่วเหอจึงได้รวบ
รวมความกล้าในการถาม
9
“เป็ นเช่นนีไม่ดีตรงไหน” สะดวกสบายมาก

มูช่ ิงเกอล้มไปข้างหลังเพราะไม่ทนั ได้ระวังตัว และพุง่ ตัว


เข้าอ้อมกอดของฮวาเยวีย ทําให้นางร้องเสียงหลง

โย่วเหออ้าปากค้าง ไม่วา่ อย่างไร นางก็ไม่สามารถโน้ม


น้าวคุณชายได้ ดูเหมือนว่า ภารกิจทีคุณหนูใหญ่มอบ
หมายให้กบั นาง ชาตินีทังชาตินางก็คงไม่สามารถทําให้
สําเร็จได้

หลังจากทีแอบโทษตนเองครูห่ นึง โย่วเหอก็หยุดพูดถึง


เรืองนีอย่างรูค้ วาม

10
ทันใดนัน ขบวนรถม้าก็ได้หยุดลง

หลังจากทีภายในรถม้าสันเบาๆ ทีหนึง รถม้าก็ได้หยุดลง


มูช่ ิงเกอเงยสายตาขึนทีหนึง เพือหยุดการเคลือนไหว
ของโย่วเหอก่อนจะพูดอย่างแนบนิงว่า : “ข้าไปเอง”

……

รถม้า จอดอยูถ่ นนหลวง

ในศาลาหลังหนึงทีตังอยูข่ า้ งทาง มูช่ ิงเกอมองเจ้าอ้วน


เซ่าทีมีทา่ ทางโกรธจัดโดยไม่พดู อะไร
11
“ลูกพี ! นีเรายังนับเป็ นพีน้องกันหรือไม่ ? คิดจะไปโดย
ไม่ราลากั
ํ นอีกแล้วใช่ไหม ? หากไม่ใช่เพราะข้าเสร็จสิน
การฝึ กพลังเวทก่อนเวลาและได้ยินข่าวว่าท่านจะจากไป
เราก็จะพลัดพรากจากกัน ไม่รูว้ า่ เมือไหร่จงึ จะได้พบกัน
อีก” ท่าทางของเจ้าอ้วนเซ่าเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ
สายตาทีมองมูช่ ิงเกอก็ฉายแววต่อต้านอย่างรุนแรง

“ข้าไปหาเจ้าแล้ว แต่เจ้าฝึ กพลังเวทอยู”่ หลังจากทีเจ้า


อ้วนเซ่าระบายความทุกข์ในใจของตนเองเสร็จแล้ว มูช่ ิง
เกอจึงพูด

“แล้วเหตุใดท่านจึงไม่เรียกให้ขา้ ตืนเล่า!” เจ้าอ้วนเซ่า

12
ตะโกน

หลังจากทีร่างกายของเขาเปลียนแปลงไปเพราะยาแห่ง
การเปลียนแปลงอันวิเศษนัน เขาก็รบั รูไ้ ด้วา่ วันหนึงมูช่ ิง
เกอจะไปจากแคว้นฉินและระยะห่างระหว่างพวกเขาก็
จะไกลจากกันมากขึนเรือยๆ แต่ไม่คิดว่า วันนันจะมาถึง
อย่างรวดเร็วเพียงนี

ไม่ใช่วา่ เขาจะไม่เคยคิดว่าจะตามมูช่ ิงเกอไป แต่ทว่า


เขารูถ้ งึ ความไม่เอาไหนของตนเอง และไม่อยากทําให้มู่
ชิงเกอต้องลําบากเพราะเขา ถึงยอมทีจะในลัวตู ฝึ กฝน
พลังเวท ในขณะเดียวกันก็ยงั คงเป็ นจอมเสเพลอย่างที
เขาเป็ น

13
มูช่ ิงเกอเงียบ ดูจากภายนอกแล้ว นางราวกับจะละเลย
และไม่ใส่ใจกับความสัมพันธ์อนั ใด แต่ความจริงแล้ว
นางกลัววินาทีแห่งการจากลามากทีสุด เพราะฉะนัน ทุก
ครังทีจะจากไปนางจึงมักจะพยายามลดบรรยากาศเช่น
นีให้นอ้ ยทีสุด

ดังเช่นในวันนี เมือคืน หลังจากทีได้ทานอาหารกับ


มูซ่ งและมูเ่ หลียนหรงอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเสร็จแล้ว
วันนี นางก็ได้ออกจากจวนตระกูลมูม่ าอย่างเงียบๆ

และทังสอง ก็ราวกับจะรูถ้ งึ จุดประสงค์ของนาง จึงไม่ได้


ออกมาส่ง

14
หลังจากทีแสดงความไม่ยินยอมในใจออกมาแล้ว เจ้า
อ้วนเซ่าก็เงียบลง

พักใหญ่ เขาจึงพูดขึนอย่างอึดอัดว่า : “ลูกพี ท่านจะ


กลับลัวตูเมือไหร่”

“ไม่รู”้ มูช่ ิงเกอตอบตามความจริง

การออกจากลัวตูเพือไปผจญภัยในครังนี นางมิได้ไป
โดยไม่มีจดุ หมาย แต่ทว่า นางจะไปเยือนแคว้นอวี ทีนัน
เป็ นทีทีมีนกั ปรุงยามารวมตัวกันอยูม่ ากทีสุดในแคว้นทัง
สามระดับ เพราะโรงโอสถทีแยกตัวมาจากแคว้นอันดับ

15
หนึงอย่างเซิงหยวนเองก็อยูท่ ีแคว้นอวี ทักษะการปรุงยา
ของนาง สืบทอดมาจากเทพแห่งการปรุงยา ตลอดเวลา
ทีผ่านมา นางยังไม่ได้สมั ผัสกับนักปรุงยามากนัก ทําให้
นางรูส้ กึ ราวกับกําลังงมเข็มในมหาสมุทร

หากเป็ นไปได้ นางอยากจะเรียนรูก้ ารปรุงยาในโรงโอสถ


สักระยะ

อีกประการหนึง ในระหว่างการเดินทางในครังนี นางจะ


ต้องหาเบาะแสของพญาเพลิง เพือเตรียมกระตุน้ สาย
เลือดของตนเองโดยเร็ว

จะว่าไปแล้ว ภารกิจของนางเหมือนจะมีไม่มาก แต่ทว่า

16
ทุกๆ ภารกิจต่างไม่สามารถกําหนดระยะเวลาได้ เพราะ
ฉะนัน การทีเจ้าอ้วนเซ่าถามว่านางจะกลับมาเมือไหร่
นางจึงไม่สามารถตอบได้จริงๆ

เจ้าอ้วนเซ่าเองก็ไม่ได้คาดคันขอคําตอบ แม้ในใจจะรูส้ กึ
ผิดหวัง แต่เขาก็ยงั คงพยักหน้า พลันพูดว่า : “ได้ ลูกพี
ท่านจงวางใจและไปทําในสิงทีฝันเอาไว้เถิด ข้าจะอยูท่ ี
ลัวตู เพือรักษาชือเสียงจอมเสเพลของเราเอาไว้”

มูช่ ิงเกอกระตุกรอยยิมน้อยๆ และพูดเบาๆ ว่า : “ดี”

ทุกคนล้วนมีทางเดินของตนเอง ไม่มีใครสามารถบังคับ
ใครได้

17
เพราะฉะนัน เจ้าอ้วนเซ่ายอมรับการตัดสินใจของนาง
และนางก็ยอมรับการตัดสินใจของเจ้าอ้วนเซ่า

รถม้า ค่อยๆ เคลือนตัวอีกครัง และหายไปจากสายของ


เจ้าอ้วนเซ่าขึนเรือยๆ

ในขณะทีรถม้าค่อยๆ ลับสายตาไป ฝ่ ามือของเจ้าอ้วน


เซ่าจึงมีแสงสีสม้ ส่องประกายออกมา แสงนันราวกับจะ
กลายเป็ นสีเหลืองได้ตลอดเวลา

เขามองไปในทิศทางทีมูช่ ิงเกอจากไปและพึมพํากับตน
เองว่า : “ลูกพี ข้ายังไม่ได้บอกท่านถึงความแข็งแกร่ง

18
ของข้าในตอนนีเลย วางใจเถิด ข้าจะไม่ทาํ ให้ทา่ นผิด
หวัง !”

19
ตอนที 98-2 หนุ่มน้อยผูง้ ดงามผูน้ ีเป็ นใครกัน

ณ เมืองลัวรือ ซึงก็คือเมืองบริเวณชายแดนของแคว้นฉิน
แต่ก็เป็ นเมืองขึนชือเพราะว่าอยูใ่ กล้กบั ทีราบลัวรือและ
ป่ าลัวรือ

ณ ทีราบลัวรือนันเป็ นพืนทีรกร้าง เต็มไปด้วยร่างไร้


วิญญาณทีกองเป็ นภูเขา

ผืนป่ าลัวรือทีอยูใ่ กล้กบั ทีราบลัวรือเพียงแค่เอือมมือ


20
เป็ นเส้นแบ่งธรรมชาติระหว่างแคว้นฉินและแคว้นลี ภาย
ในผืนป่ าลัวรือมีเส้นทางทีทังสองแคว้นได้รว่ มกันสร้าง
ขึนอยูเ่ ส้นหนึง ทําให้ง่ายต่อการค้าขายและเชือม
สัมพันธ์ไมตรี

ในผืนป่ าอันอุดมสมบูรณ์ มีสตั ว์ป่าอยูม่ ากมาย และยังมี


สัตว์วิญญาณระดับตําอยูด่ ว้ ย จึงกลายเป็ นแดนผจญ
ภัยของคนจํานวนไม่นอ้ ย

และนีก็เป็ นอีกเหตุหผลหนึงทีเมืองลัวรือถูกสร้างขึน ทีนี


เป็ นทีพักและเสริมกําลังให้กบั ผูค้ นทีเข้ามาผจญภัย

และแน่นอนว่า คนทีอาศัยในทีแห่งนีส่วนมากมาจาก

21
แคว้นฉิน หลังจากทีเข้าสูผ่ ืนป่ าลัวรือจึงจะมีโอกาสได้
พบปะนักผจญภัยจากแคว้นอืนๆ

หากมูช่ ิงเกอจะเดินทางไปยังแคว้นอวี จะต้องผ่านทีราบ


ลัวรือเสียก่อน ไม่เช่นนันก็ตอ้ งผ่านผืนป่ าลัวรือก่อนทีจะ
เข้าสูแ่ คว้นลีแล้วจึงสามารถเข้าสูแ่ คว้นอวีได้

โรงโอสถทีแยกออกมา อยูท่ างทิศตะวันตกของแคว้นอวี


และใกล้กบั ผืนป่ าหมีเมิง

หากจะไปยังทีแห่งนัน จะต้องผ่านแคว้นอวีก่อน

เส้นทางนียาวมาก หากเป็ นคนธรรมดาอาจจะต้องใช้


22
เวลานับปี แต่สาํ หรับมูช่ ิงเกอและทุกคนทีมีอาชาเพลิง
ใช้เวลาไม่ถงึ หนึงในสีของคนปกติ ก็สามารถถึงทีหมาย
ได้

สําหรับทีราบลัวรือ มูช่ ิงเกอนันไม่ได้สนใจ จะมาผจญ


ภัยทังที แน่นอนว่านางจะต้องเลือกเส้นทางอันยาวไกล
และรืนรมย์เส้นนี

รวมถึงโรงโอสถย่อยของแคว้นอวี ก็คือทีหมายในการ
ผจญภัยครังนีของนาง

ใครใช้ให้โรงโอสถทีแยกออกมาในหลินชวนแห่งนีมีเพียง
แค่ทีแคว้นอวีทีเดียว

23
ในความเป็ นจริงแล้ว เหตุผลทีโรงโอสถหลักสร้างโรง
โอสถขนาดย่อยในแคว้นอวี ประการทีหนึง เป็ นเพราะ
จํานวนประชาชนทีมีความสามารถด้านการปรุงยาใน
แคว้นอวีมีมากเป็ นอันดับสองรองจากอาณาจักรเซิง
หยวน ประการทีสอง เพราะในผืนป่ าหมีเมิงมีสมุนไพร
อันอุดมสมบูรณ์และหายากจํานวนมาก จุดประสงค์ของ
การสร้างโรงโอสถขนาดย่อย ไม่เพียงแค่ดงึ ดูดผูม้ ีความ
สามารถ แต่เพือเหล่านักปรุงยาทีละโมบในสมุนไพรพวก
นัน

เพิงออกจากลัวตูมาเป็ นเวลา 7 วัน ตอนนีขบวนของมูช่ ิง


เกอได้เดินทางเข้าสูบ่ ริเวณเมืองลัวรือเป็ นทีเรียบร้อย
แล้ว——

24
ข้างถนนทีเต็มไปแล้วหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ เพราะฝน
เพิงตก จึงทําให้ถนนเปี ยกแฉะ

รถม้าทีลากด้วยอาชาเพลิงค่อยๆ หยุดลง มัวหยางขี


อาชาเพลิงมาหยุดอยูข่ า้ งหน้าขบวน พลันพูดด้วยนํา
เสียงโทนตําว่า : “คุณชาย ข้างหน้าคือเมืองลัวรือ”

ไม่นานผ้าม่านหน้ารถม้าก็ถกู เปิ ดออกอย่างช้าๆ เผยให้


เห็นใบหน้าอันงดงามละเอียดลออของโย่วเหอ

นางส่งรอยยิมบางๆ ให้กบั มัวหยาง แล้วมัวหยางก็ถอย


ห่างออกมา

25
ในสายตาของมัวหยาง มีความรุม่ ร้อนสายหนึงทีคล้ายมี
คล้ายไม่มีปรากฏขึน แววตาของมัวหยางดํามืดลงและ
ถอยหลังไปหลายก้าว คนทีอยูใ่ นรถม้าจับกรอบประตู
เพือพยุงตนเองให้ลงมาจากรถม้า แล้วร่างในชุดสีแดง
เพลิงทังร่างก็ปรากฏตรงหน้าเขา

ใบหน้าอันงดงามร้อนแรงดังดวงตะวัน ท่าทางอันสง่า
ผ่าเผย เมืออยูท่ า่ มกลางองครักษ์เขียวมังกรแล้ว โดด
เด่นราวกับเทพอย่างไรอย่างนัน

เขาไม่ควร มีความคิดเช่นนี

26
มัวหยางก้มหน้าลงช้าๆ พยายามเก็บอาการอันไม่คนุ้
เคยทีเกิดขึนภายใต้จิตใจ

เพศทีแท้จริงของคุณชาย ทังกองทหารเขียวมังกร รวมถึง


สาวใช้อย่างโย่วเหอและฮวาเยวียต่างรับรูพ้ ร้อมๆ กันใน
ตอนแรก พวกเขาต่างก็ทงตกใจและตื
ั นตระหนก แต่ก็
สามารถยอมรับความจริงประการนีได้อย่างไม่มีขอ้ ข้อง
ใจ ความเคารพนับถือทีมีตอ่ มูช่ ิงเกอก็ยงั คงไม่เปลียน
แปลง

กระทัง นางสามารถทําเรืองทังหมดนีได้สาํ เร็จในฐานะ


ทีเป็ นหญิง จึงยิงทําให้องครักษ์เขียวมังกรเคารพและ
นับถือตัวนางเป็ นอย่างมาก

27
แต่ทว่า สําหรับตัวเขา.....ไม่รูว้ า่ เริมตังแต่ตอนไหนกัน ที
ในใจมีความคิดหนึงทีไม่ควรเกิด บางครัง เขาอยากจะ
เก็บความงามทังหมดของเจ้านายตนเองเอาไว้แต่เพียงผู้
เดียว โดยไม่ให้ใครได้เห็น

“เมืองลัวรืออยูข่ า้ งหน้าแล้วหรือ?” มูช่ ิงเกอมิได้สงั เกต


อาการของมัวหยางทีดูแปลกไปจากเดิม เพียงเงยหน้า
ขึนมองซุม้ ประตูทางเข้าทีปรากฏอยูเ่ บืองหน้า

นําเสียงอันเย็นเยียบและเป็ นกันเอง เหมือนดังนําเย็นที


สาดหน้ามัวหยางจนได้สติกลับคืนมา

28
เขาก้มหน้าลงตํากว่าเดิมและตอบกลับว่า : “ขอรับ”

มูช่ ิงเกอพยักหน้ารับ พลันเอามือไพล่หลัง พูดกับเขาว่า :


“ไปกันเถอะ วันนีเราจะพักทีเมืองลัวรือ” หลังจากทีสัง
การเสร็จเรียบร้อยแล้ว มูช่ ิงเกอมิได้กลับเข้าไปภายในรถ
ม้า แต่กลับไปนังบนหลังเพลิงรัตติกาล แล้วเข้าเมืองลัว
รือไปพร้อมกับมัวหยางและคนอืนๆ

เพิงจะเข้าสูป่ ระตูซมุ ้ ประจําเมืองทีทําจากไม้และเข้าสู่


อาณาเขตเมืองลัวรือ ภาพบรรยากาศทีแตกต่างก็ได้
สะท้อนเข้าสูด่ วงตาของมูช่ ิงเกอ

เมืองลัวรือ ช่างเป็ นเมืองทีคึกคักเป็ นอย่างมาก

29
มิได้เปล่าเปลียวเหมือนระหว่างทางทีผ่านมา ในเมือง
แห่งนีสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวง ทีมีกระดูกและ
หนังสัตว์ รวมไปถึงของอืนๆ อีกมากมายวางขายอยู่

บ้านเรือนทําจากไม้ทีแทรกตัวอยูท่ า่ มกลางร้านค้า มีทงั


ขนาดเล็กและใหญ่ บางแห่งมีปา้ ยเขียนว่าโรงเตียม บาง
แห่งเขียนว่าร้านอาหาร และนานๆ ทีจะเห็นทีทีมีปา้ ยที
เขียนว่า โรงหมอ แขวนอยู่

และยังมีรา้ นค้าอีกจํานวนหนึง ทีเป็ นร้านค้าจัดหา


สินค้าและเป็ นร้านค้าทีทํารายได้มากทีสุด

30
ผูค้ นทีอาศัยอยูภ่ ายในเมืองลัวรือ ส่วนมากเป็ นชาย
หนุ่มวัยรุน่ และจะมีหญิงสาวจํานวนน้อยมาก แต่ทว่า
หญิงสาวในเมืองลัวรือ ต่างก็เป็ นหญิงสาวทีมีหา้ วหาญ
หญิงสาวทีอ่อนแออ่อนหวานนันทีนีไม่มีอยูเ่ ลย

มูช่ ิงเกอเข้าสูเ่ มืองลัวรือ พร้อมกับรถม้าทีลากด้วยอาชา


เพลิงและรถม้าทีสร้างจากไม้ชนดี
ั รวมทังขบวนองครักษ์
อีกจํานวนยีสิบคน จนกลายเป็ นจุดสังเกตของผูค้ นใน
เมืองลัวรือในทันที

ราวกับว่า ขบวนเช่นนีปรากฏตัวขึน ณ ทีแห่งนี เป็ นเรือง


ทีน่าแปลกมาก

31
ในขณะทีพวกเขากวาดสายตาผ่านมูช่ ิงเกอไป ต่างก็
แอบถอนหายใจ และอุทานในใจว่า : “นีมันคุณชาย
ตระกูลไหนกัน เหตุใดจึงงดงามมีเสน่หไ์ ด้มากถึงเพียงนี
หากเทียบกับพวกเขาแล้ว พวกเขาช่างเหมือนกบทีแปด
เปื อนดินโคลน แต่ชายหนุ่มกลับเป็ นดังเมฆขาวบนท้อง
ฟ้า”

ใบหน้าอันน่าตกตะลึง ท่าทางอันเย็นชา ทําให้ชายหนุ่ม


ทีใช้ชีวิตอยูใ่ นผืนป่ าลัวรือรูส้ กึ ทังละอายใจและน้อยเนือ
ตําใจเป็ นอย่างมาก

แต่ทว่า สิงทีต่างจากชายหนุ่มในเมือง นันก็คือ การ


ปรากฏตัวของมูช่ ิงเกอ ทําให้หญิงสาวทีอยูใ่ นเมืองต่าง
แสดงอาการตกตะลึงและเขินอายในขณะเดียวกัน
32
หญิงสาวเหล่านีทีปกติแล้วไม่ได้ตา่ งอะไรกับผูช้ าย แต่
ในตอนนีกลับแสดงความเป็ นหญิงของตนเองออกมา

ความอ่อนโยนทีแสร้งทําขึนนัน ไม่เพียงแค่ไม่ทาํ ให้มชู่ ิง


เกอหันไปสนใจ แต่ยงั ทําให้นางขนลุกอย่างทนไม่ได้
พลันแอบถอยหลังหลายก้าวไปพร้อมกับความรูส้ กึ คลืน
ไส้

เมืองลัวรือทีคึกคัก เงียบลงอย่างกะทันหันเพราะการ
ปรากฏตัวของคนเพียงคนเดียว

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอทีเป็ นคนสร้างบรรยากาศเหล่านีขึนมา

33
กลับไม่รูต้ วั และกําลังพิจารณาภาพรวมของเมืองลัวรือ
อย่างตังอกตังใจ

ทีนีไม่ได้กว้างใหญ่มากนัก แต่กลับมีทกุ อย่างทีควรมี

องครักษ์เขียวมังกรทีสังให้เข้าไปตระเวนหาทีพักภายใน
เมืองได้กลับมาและเดินมาอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอ พลันพูด
ด้วยนําเสียงอันเคร่งขรึมว่า : “คุณชาย ทีพักได้จดั เตรียม
เสร็จเรียบร้อยแล้ว อยูข่ า้ งหน้าไม่ไกลจากทีนี”

มูช่ ิงเกอพยักหน้ารับ และดึงเชือกเพลิงรัตติกาลตามไป

ทันทีทีนางเคลือนไหว จึงได้สงั เกตถึงการเปลียนแปลง


34
ของบรรยากาศโดยรอบ

สายตาอันเย็นเยียบกวาดมองบนร่างกายของคนในเมือง
ดังมีนาแข็
ํ งปกคลุม นางขมวดคิวเล็กน้อย จึงทําให้ผคู้ น
ในเมืองได้สติพลันเดินถอยหลังหลายก้าว เพือหลีกทาง
ให้กบั นาง

ถนนทีถูกเว้นว่างอย่างอัตโนมัติ เป็ นทางเดียวกับทางที


เข้าสูภ่ ายในของเมืองลัวรือ

ผูน้ าํ ทางขององครักษ์เขียวมังกรทีอยูห่ น้าขบวน นํามูช่ ิง


เกอและคนอืนๆ มุง่ ไปยังทีพัก

35
หลังจากทีคนกลุม่ นีได้เคลือนตัวออกจากสายตาแล้ว
ทุกคนจึงได้สติราวกับตืนจากฝันดี

พวกเขาเองก็ไม่กระจ่างว่าเหตุใดตนเองจึงได้หลีกทางให้
อย่างไม่มีสาเหตุ สิงเดียวทีจําได้มีเพียงคุณชายชุดสีแดง
ทีทําให้คนทีมองเห็นไม่อาจกล้าทําร้ายเขาลงได้ ราวกับ
ว่า เขาเป็ นดังเทพผูส้ งู ส่ง

“เขาเป็ นใครกัน” มีคนเอ่ยถามขึน

คนทีถูกถามส่ายหน้าพลางขมวดคิวเบาๆ : “ไม่รูจ้ กั ก่อน


หน้านี ไม่เคยเห็นคุณชายทีรูปร่างหน้าตาเช่นนีเข้ามา
ภายในเมืองลัวรือเลย”

36
“พวกเจ้าไม่สงั เกตหรือ พวกเขาดูเหมือนขีอยูบ่ นอาชา
เพลิง” ในทีสุดก็มีคนเห็นถึงความแตกต่าง

ขีอาชาเพลิงเชียวหรือ !

ทันทีทีเขาเอ่ยขึน ทุกคนก็ยงตื
ิ นตระหนก

ไม่มีใครไม่รูว้ า่ อาชาเพลิงเป็ นสัตว์วิญญาณ และหาก


เป็ นสัตว์วิญญาณ ต่างก็มีความสามารถและความสูงส่ง
ยากนักทีจะทําให้เชืองได้ หากจะทําให้เชือฟั งคําสังของ
มนุษย์ง่ายๆ อย่างม้าธรรมดาๆ ทีถูกเลียงอยูใ่ นคอก ก็
ยิงเป็ นเรืองทียากเป็ นทีสุด

37
ตอนที 98-3 หนุ่มน้อยผูง้ ดงามผูน้ ีเป็ นใครกัน

38
“หืม ? ได้ยินมาว่า ในแคว้นฉินของเรา มีเพียงท่านแม่
ทัพมูซ่ งแห่งตระกูลมูผ่ เู้ ดียวทีมีอาชาเพลิงไว้ขี!” คนพูด
ถือว่ารูข้ ่าวไวมาก

“ใช่ๆๆ! เจ้าพูดถูกแล้ว ตอนทีคุณชายตระกูลมูก่ ลับจาก


เมืองอีนันเขาได้ขีอาชาเพลิงกลับมา ภาพนัน ! เหอๆ
ช่างหล่อเหลาไร้ทีเปรียบ ตอนนันข้าอยูท่ ีลัวตูและเห็น
ทุกอย่างกับตา” มีคนพูดเสริมขึนมาในทันที ทันใดนัน
ใครคนหนึงก็ตาเป็ นประกายและหลุดปากพูดออกมา
ว่า : “คนทีผ่านไปเมือครูน่ ี ราวกับจะเป็ นคุณชายแห่ง

39
ตระกูลมู่ !”

“ห๊ะ ! เขาคือคุณชายตระกูลมูห่ รือ? คุณชายตระกูลมูท่ ี


สังหารพระมาตุลาผูท้ ีฆ่ากองทหารตระกูลมูไ่ ปจํานวน
มหาศาลกลางถนนด้วยความแค้นผูน้ นน่
ั ะหรือ ?” มีคน
พูดขึนด้วยความตืนตระหนก

นําเสียงทีแฝงความตืนตระหนกนัน ทําให้เขาพูดจาผิดๆ
ถูกๆ ไปบ้าง

“ใช่ เขานีแหละ! ข้าเห็นเขาตอนกลับลัวตูกบั ตาของตน


เอง แม้วา่ เขาจะไม่ได้ใส่เกราะ แต่ขา้ จําไม่ผิดแน่นอน” ผู้
ทีจํามูช่ ิงเกอได้พดู เพือยืนยัน

40
“คุณชายมาเยือนเมืองลัวรือหรือนี?!” เสียงฮือฮาดังขึน
จากทัวสารทิศ ในแววตาของทุกคนต่างก็ฉายแวว
ตืนเต้นขึนมาในทันที

ในตอนนี มูช่ ิงเกอไม่ได้เป็ นทีรูจ้ กั ในฐานะอันธพาลแล้ว


แต่กล่าวได้วา่ เป็ นทีรูจ้ กั ในทางทีดีงาม เพราะว่า ภาพที
นางฆ่าพระอนุชาของฮองเฮามันช่างเป็ นการระบาย
ความโกรธให้กบั ทุกคนและน่าตืนตระหนกเป็ นอย่าง
มาก !

รวมทัง การทีนางสังหารยอดฝี มือสายครามในคราเดียว


และลบล้างความหยิงยโสของแคว้นถูได้สาํ เร็จ

41
หลังจากนัน การเปลียนแปลงต่างๆ ทีเกิดขึนกับแคว้น
ฉิน ล้วนมีนางปรากฏตัวอยูใ่ นทุกเหตุการณ์

ทําให้นางสามารถลบล้างชือเสียงความเป็ นจอมเสเพล
ได้อย่างหมดสิน

และไม่นานมานี มีข่าวการสูร้ บทีเกิดขึนในทีราบลัวรือ


แคว้นฉินชนะแคว้นถูอย่างขาดลอย จนฮ่องเต้แคว้นถู
ต้องวิงหนีกลับแคว้นถูไปด้วยความหวาดกลัว เรืองทัง
หมดนีล้วนเกิดขึนเพราะมูช่ ิงเกอ

หลายปี ทีแคว้นฉินถูกสถาปนาขึน นีเป็ นครังแรกทีแคว้น

42
ถูสง่ จดหมายมาแสดงความพ่ายแพ้และยอมตกอยูภ่ าย
ใต้อาํ นาจของแคว้นฉิน

เรืองราวแต่ละเรืองของมูช่ ิงเกอกระจายไปทัวไม่เพียงแค่
แคว้นฉิน แต่รวมไปถึงแคว้นถูก็ยงั คงรําลือกันอย่างต่อ
เนือง ! สิงทีต่างกันคือ สําหรับแคว้นฉินนางเป็ นทีเคารพ
และนับถือของประชาชนยุคใหม่ แต่ทว่า สําหรับแคว้นถู
นางเป็ นดังปี ศาจร้ายทีน่าหวาดผวา !

“คุณชายจริงๆ ด้วย!”

“คุณชายมาเมืองลัวรือ !”

43
ทันใดนัน เรืองการมาเยือนเมืองลัวรือของมูช่ ิงเกอ ก็ได้
แพร่กระจายไปทัวทังเมืองลัวรือดังติดปี ก

หญิงสาวนักผจญภัยทีมีวิสยั ทัศน์ดงผู
ั ช้ าย ต่างก็ตืนตา
ตืนใจและพากันไปแอบมองมูช่ ิงเกออยูต่ รงหน้าโรงเตียม
ทีนางพักอยู่

โรงเตียมไม้ทีไม่ได้ใหญ่มากนัก ถูกองครักษ์เขียวมังกร
เหมาเอาไว้ทงหลั
ั ง

ได้ยินมาว่า เจ้าของโรงเตียมแห่งนี เป็ นหญิงสาวทีแต่ง


งานแล้วและมีเสน่หแ์ ละน่าหลงใหลคนหนึงเมือ 10 ปี
ก่อน สามีของนางเข้าไปผจญภัยภายในผืนป่ าลัวรือ

44
และไม่กลับมาอีกเลย นางจึงมาเปิ ดโรงเตียมนี เพือรอ
คอยการกลับมาของสามี แขกทุกคนทีจะเข้าไปภายใน
ผืนป่ าลัวรือนางล้วนให้เข้าพักโรงแรมฟรี และขอให้เขา
ช่วยหาเบาะแสสามีของนาง

น่าเสียดายทีเวลาผ่านไป 10 ปี แต่นางก็ยงั ไม่ได้ข่าว


คราวเกียวกับสามีของนาง แต่ทว่า นางยังคงไม่ยอมแพ้

เวลาผ่านไป หญิงสาวนางนีก็ได้รบั ความเคารพจาก


ประชาชนจํานวนไม่นอ้ ยของเมืองลัวรือ เพราะฉะนันจึง
ไม่มีคนมาก่อความเดือดร้อนให้แก่นาง

ภายในห้องพักทีทําความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว มูช่ ิง

45
เกอกวาดสายตามองไปรอบๆ การตกแต่งทีโดดเด่นไม่
เหมือนใคร เตียงนอนทีดูสะอาดสะอ้าน ข้างหน้าต่างมี
แจกันทีเต็มไปด้วยดอกไม้สดวางนิงอยูใ่ บหนึง ทังหมดนี
ล้วนแสดงให้เห็นถึงความรอบคอบและละเอียดอ่อนของ
เจ้าของโรงเตียม

มูช่ ิงเกอพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วนังลงบนเก้าอีภายใน


ห้องอย่างผ่อนคลาย

โย่วเหอและฮวาเยวียกําลังยุง่ อยูก่ บั การขนสัมภาระบาง


ชินของมูช่ ิงเกอลงมาและจัดให้เข้าทีตามความเคยชิน
ของนาง ทําให้หอ้ งนอนน่าอยูม่ ากขึนกว่าเดิม

46
มัวหยางนําองครักษ์เขียวมังกรสํารวจจนกระจ่างสภาพ
และทีตังโดยรวมของเมืองลัวรือภายในเวลาอันสัน
พร้อมจัดเวรยามเพือเฝ้าระวังความปลอดภัยของมูช่ ิงเก
อในทุกๆ เพลา

มูช่ ิงเกอกลับไม่ได้หา้ มการกระทําของพวกเขา

ปฏิบตั ิตามคําสังทีได้รบั มอบหมาย ไม่เกียจคร้านไม่วา่


จะเวลาใด นีเป็ นความต้องการทีนางมีตอ่ องครักษ์เขียว
มังกร

ไม่นาน มัวหยางก็กลับมารายงานข่าวให้กบั นาง

47
หลังจากทีฟั งรายงานจากมัวหยางจนจบแล้ว มูช่ ิงเกอมิ
ได้แสดงความรูส้ กึ เกียวกับฐานะของตนเองทีถูกเปิ ดเผย
มากนัก เพียงถามว่า : “แล้วคนอืนๆ เป็ นอย่างไรบ้าง”
คําพูดนีของนางไม่มีตน้ สายปลายเหตุ แต่มวหยางกลั
ั บ
กระจ่างในความหมายทีนางต้องการจะสือ

เขาจึงตอบว่า : “สําหรับองครักษ์เขียวมังกรนอก
จากกลุม่ ทีตามขบวนของคุณชายแล้ว นอกนัน ต่างก็
กระจายตัวไปรวมกับกลุม่ ต่างๆ ของกองทัพพันเพลิง
ตามคําสังของคุณชาย”

มูช่ ิงเกอพยักหน้า

48
องครักษ์เขียวมังกรทีนางต้องการ ไม่ใช่เสือทีไร้เขียวเล็บ
แต่ทว่า นางต้องการมีดดาบทีรักษาความแหลมคมอยู่
ตลอดเวลา

การไปเยือนแคว้นอวีในครานี นางไม่จาํ เป็ นต้องพา


องครักษ์เขียวมังกรไปทังหมด จึงแบ่งพวกเขาออกไปฝึ ก
ทักษะสงครามกับกองทัพพันเพลิงกลุม่ หนึงและกลุม่ ที
ตามขบวนนางมีเพียง 20 คน รวมทังมัวหยาง และจะไม่
ตามนางทุกทีทุกเวลา หากนางถึงทีหมายแล้ว จะให้พวก
เขากระจายตัวกันออกไป ค้นหาวิธีการฝึ กทีเหมาะสมกับ
ตนเอง

ในขณะทีทังสองกําลังสนทนา ก็มีเงาหนึงปรากฏขึนหน้า
ประตู
49
ท่าทางนัน ไม่เหมือนการแอบฟั ง แต่ราวกับกําลังลังเลว่า
จะเข้ามาหรือไม่

มัวหยางมองมูช่ ิงเกอ เพือรอฟั งคําสังจากนาง

มูช่ ิงเกอหรีตาและส่ายหน้าเบาๆ

เมือเห็นเช่นนี มัวหยางจึงนิงและยืนประสานมืออยูข่ า้ งๆ
มูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอนังพิงเก้าอีอยู่ นิวโป้งลูบปลอกนิวทีสวมอยูเ่ บาๆ


หรีตาทังคูล่ ง นัยน์ตาราวกับกําลังคิดอะไรอยู่
50
ครูห่ นึง ในทีสุดคนทียืนอยูน่ อกประตูก็ตดั สินใจเคาะ
ประตูหอ้ งของมูช่ ิงเกอ

“เข้ามา” เสียงอันเย็นชาดังออกจากปากของมูช่ ิงเกอ

ประตูถกู เปิ ดออก

หญิงสาวอายุราว 30 ปี นางหนึงเดินเข้ามา เรือนร่างนาง


บางดังกิงหลิว ท่าทางการเดินงดงาม ยิมน้อยๆ ดูน่าเย้า
ยวน ชุดสีขาวสะอาดทีสวมอยูบ่ นร่างของนาง แผ่กลินไอ
บางอย่างทีดูคลุมเครือ

51
นางหลุบตาเดินเข้ามา ปิ ดประตูลงเบาๆ และเดินมาข้าง
หน้าหลายก้าว พลันคุกเข่าลงบนพืน

การกระทําของนาง ทําให้มชู่ ิงเกอหรีตาลง เม้มริมฝี ปาก


แน่น และไม่รูว้ า่ นางกําลังคิดอะไรอยู่

มัวหยางเดินเข้ามากระซิบข้างหูนางเบาๆ ว่า : “นางเป็ น


เจ้าของโรงเตียมแห่งนี นามว่าฟ่ งเหนียง”

มูช่ ิงเกอได้ยินเช่นนีก็กระจ่างในทันที แทบจะในทันทีทีรู ้


ว่านางเป็ นใคร มูช่ ิงเกอก็รูว้ า่ นางปรากฏตัวในห้องของ
ตนเองเพือการใด

52
“เจ้าจะให้ขา้ ช่วยตามหาสามีของเจ้าหรือ” มูช่ ิงเกอม
องนางอย่างไม่แสดงอาการมากนัก

ฟ่ งเหนียงเงยหน้าขึน กัดริมฝี ปากแน่นจนแดงกําดูน่าดึง


ดูด นางมองมูช่ ิงเกอด้วยความจริงใจ และตอบอย่าง
หนักแน่นว่า : “ใช่”

“ข้าไม่ได้ตอ้ งการห้องพักฟรีจากเจ้า” มูช่ ิงเกอกระตุกมุม


ปาก พูดอย่างขบขัน

ฟ่ งเหนียงยังคงไม่ยอ่ ท้อ แต่กลับพูดว่า : “ข้ารู ้ จึงได้มา


ขอร้องถึงทีนี”

53
ดวงตาทังคูข่ องนางแน่วนิงไร้ซงความกลั
ึ ว อย่างไรก็ตาม
หว่างคิวของนาง แฝงความสูงศักดิ แต่นางจงใจแอบ
ซ่อนมันเอาไว้

‘คนผูน้ ีไม่ธรรมดา’ มูช่ ิงเกอแอบประเมิน

“เจ้าจะเอาอะไรมาแลก” มูช่ ิงเกอเก็บความรูส้ กึ ทังหมด


ทีแสดงออกมาทางสายตาเอาไว้ และจึงมองนาง

แน่นอนว่าฟ่ งเหนียงนันมีการเตรียมพร้อมมาก่อนแล้ว
ราวกับว่า นางเดาออกว่ามูช่ ิงเกอจะถามคําถามนีกับ
นาง หลังจากทีสินเสียงของมูช่ ิงเกอ นางก็พลันหยิบ
อะไรบางอย่างออกจากอกอย่างไม่ลงั เล สละความ

54
เสียดายทีแฝงในสายตา แล้วจึงยืนสิงนันตรงหน้ามูช่ ิงเก
อด้วยสองมือ

มูช่ ิงเกอก้มสายตาลง มองวัตถุทีวางอยูบ่ นฝ่ ามือของ


นาง

ของสิงนันเป็ นกริชทีเจียระไนขึนอย่างละเอียดอ่อน ฝัง


เพชรนิลจินดานานาชนิด ส่องแสงระยิบระยับไปทัว

“เจ้านาย ! สิงนีเป็ นอาวุธกึงเทพ !” เสียงของเหมิงเหมิ


งดังขึนจากจิตใต้สาํ นึกของมูช่ ิงเกอ

อาวุธกึงเทพอย่างนันหรือ?
55
56
ตอนที 98-4 หนุ่มน้อยผูง้ ดงามผูน้ ีเป็ นใครกัน

มูช่ ิงเกอตาเป็ นประกายทีหนึง แต่กลับถามอย่างเย็นชา


ว่า : ‘เจ้าโผล่ออกมาอีกแล้วนะ’

‘ก็ขา้ ได้กลินอาวุธกึงเทพนีนา จึงรีบมารายงานให้เจ้า


นายทราบ’ เหมิงเหมิงพูดอย่างเสียใจกับคําพูดของมูช่ ิง
เกอ ภายในช่องว่างทียังไม่มีชือเรียกแห่งนัน เหมิงเหมิ
งทีตัวเท่านิวหัวแม่มือบิดตัวไปมา พลางจู๋ปากเล็กๆ สี
แดงกําของตนเอง

57
‘อาวุธกึงเทพคืออะไร’ มูช่ ิงเกอคร้านจะสนใจท่าทาง
แกล้งน่ารักของนาง จึงถามสิงทีสงสัยออกมาตรงๆ

และในขณะทีนางถามเหมิงเหมิง ฟ่ งเหนียงเองก็รบี เอ่ย


ว่า : “คุณชาย นีเป็ นสมบัติทีลําค่ามากทีสุดเท่าทีข้ามี
มันคมกริบอย่างหาทีสุดไม่ได้ สามารถทําลายล้างการ
ป้องกันของพลังทุกสาย รวมทังสายม่วง ตอนนี ข้าจะ
เอามันเป็ นของแลกเปลียน ขอเพียงแค่หลังจากทีคุณ
ชายเข้าไปภายในผืนป่ าลัวรือแล้ว ช่วยหาร่องรอยของ
สามีขา้ แม้จะหาเขาไม่พบ อย่างน้อยแค่ขอเพียง
เบาะแสอันน้อยนิดก็ยงั ดี หากสุดท้ายไม่ได้ข่าวคราวอัน
ใด กริชนีข้าก็ไม่เอาคืน ถือว่ามันเป็ นค่าตอบแทนให้กบั
คุณชาย”

58
‘เจ้านายทีนางพูดล้วนเป็ นความจริง อาวุธกึงเทพเป็ น
อาวุธระดับเทพทียังหลอมไม่เสร็จสมบูรณ์ นอกจากไม่
สามารถเปลียนรูปร่างได้แล้ว คุณสมบัติอืนๆ แทบจะไม่
ต่างกับอาวุธระดับเทพ และกริชเล่มนี ยังมีคณ
ุ สมบัติอืน
ทีแม้แต่นางยังไม่รู ้ นันก็คือสามารถผ่าผนึกต้องห้ามได้
อาวุธชินนีเป็ นของดี ! หากวันใดเจ้านายกระตุน้ สาย
เลือดการหลอมและสร้างอาวุธได้แล้ว ค่อยเอากลับไป
หลอมใหม่ มันจะยิงร้ายกาจมากกว่าเดิม’ เหมิงเหมิงพูด
อย่างตืนเต้น

คําพูดของทังสองทําให้สายตาของมูช่ ิงเกอเป็ นประกาย


ดังเพชรเม็ดงาม

59
“เจ้าอยูใ่ นสายใด” มูช่ ิงเกอเอ่ยถามอย่างกะทันหัน

ฟ่ งเหนียงสะดุง้ ทีหนึงและมองมูช่ ิงเกออย่างตืนตระหนก


ราวกับว่า นางไม่กระจ่างว่าตนเองได้เก็บซ่อนพลังเวทไว้
เป็ นอย่างดีแล้ว และไม่เคยมีใครสามารถสัมผัสมันได้ เห
ตุใดมูช่ ิงเกอถึงได้ถามนางเช่นนี

แต่นางไม่ได้คิดจะปิ ดบังตังแต่แรก จึงตอบถามความ


เป็ นจริงว่า : “สายครามขันกลาง”

สายครามขันกลางเชียวหรือ !

เมือมัวหยางได้ยินดังนัน จึงระมัดระวังมากขึน
60
เพราะตอนนีเขาก็เพียงแค่สายครามขันกลางเท่านัน

ทว่ามูช่ ิงเกอยังคงนิงสงบ ราวกับว่า นางรูอ้ ยูแ่ ล้ว

ฟ่ งเหนียงอยากจะหาเบาะแสบางอย่างจากใบหน้าอัน
งดงามของนาง แต่กลับไม่เป็ นผล เมือไม่สามารถทํา
อะไรได้ นางเพียงกล่าวว่า : “คุณชายรูไ้ ด้อย่างไรว่าข้ามี
พลัง ข้าอยูใ่ นเมืองลัวรือมา 10 ปี ไม่เคยมีผใู้ ดรูค้ วาม
สามารถของข้า”

มูช่ ิงเกอยิมเยาะ : “ไม่ใช่วา่ ไม่มีใครรู ้ แต่คนทีรูล้ ว้ นตาย


ทังหมด ฟ่ งเหนียง หากเจ้าเป็ นเพียงคนธรรมดาจริงๆ

61
เหตุใดจึงสามารถยืนอยูใ่ นเมืองลัวรือทีซึงเต็มไปด้วย
อันตรายเช่นนีได้ ? นอกเสียจากว่า ก่อนหน้านี เจ้าได้
สังหารคนไปจํานวนไม่นอ้ ย จึงสามารถหยุดความคิดที
คิดอยากจะปองร้ายเหล่านันลงได้ อีกประการหนึง การ
ทีเจ้ามีสมบัติเช่นนี จะเป็ นเพียงคนธรรมดาได้อย่างไร?”

ฟ่ งเหนียงหน้าซีด เหงือตกในทันใด

นางพูดอย่างยอมแพ้วา่ : “คุณชายเก่งกาจมากจริงๆ
มองข้าแวบเดียว ก็รูท้ กุ อย่างเกียวกับตัวข้า”

มูช่ ิงเกอส่ายหน้าพลางยิม : “ไม่ ข้ายังไม่รูว้ า่ เจ้าเป็ นใคร


กันแน่”

62
ฟ่ งเหนียงเม้มปาก ไม่อยากจะพูดถึงเรืองนีไปมากกว่านี

มูช่ ิงเกอเพียงยกมือขึนกริชก็ถกู ดูดไปอยูใ่ นฝ่ ามือของ


นางและนางก็กล่าวว่า : “ช่างเถิด เจ้าจะเป็ นใครก็ช่าง
ข้าไม่อยากจะรูจ้ กั และข้าก็ไม่รูว้ า่ เหตุใดเจ้าทีมีความ
สามารถมากเพียงนี แต่กลับไม่ออกตามหาด้วยตนเอง
วันนี เห็นแก่กริชเล่มนี ข้าจะช่วยเจ้า แต่ขา้ ไม่รบั ปากว่า
จะได้เบาะแสของมูย่ ี”

เมือฟ่ งเหนียงเห็นว่ามูช่ ิงเกอตอบตกลง ตาก็เปล่ง


ประกายวับฉายแววความดีใจทันที : “ขอบคุณคุณชาย!”
เม้มปากทีหนึง นางพูดราวกับกําลังอธิบายว่า : “ไม่ใช่วา่

63
ไม่อยากทํา แต่พลังของคนเพียงคนเดียวมันมีขีดจํากัด”

เมือบรรลุตามเป้าหมาย ฟ่ งเหนียงก็ออกไปอย่างรวดเร็ว

ก่อนจากไป นางยังอนุญาตให้โย่วเหอสามารถใช้หอ้ ง
ครัวได้อย่างใจกว้าง เพือเตรียมอาหารให้กบั มูช่ ิงเกอ

หลังจากทีนางออกไป มัวหยางจึงกล่าวเตือนว่า : “คุณ


ชาย ให้ขา้ สืบความเป็ นมาของหญิงสาวคนนีหรือไม่”

“ไม่จาํ เป็ น เป็ นเพียงการแลกเปลียนเท่านัน” มูช่ ิงเก


อหมุนกริชในมือ พลางพูดอย่างไม่ใส่ใจ

64
……

คืนแรกทีพักในเมืองลัวรือ ถือว่าไม่เลว

อย่างน้อย มูช่ ิงเกอก็หลับสบาย หลังจากทีตืนมา ก็มี


กลินของต้นไม้จากผืนป่ าลอยมาแตะจมูก

“เฮ้อ ทนผูห้ ญิงพวกนีไม่ไหวจริงๆ ทําเหมือนไม่เคยเจอ


ผูช้ าย!” เสียงอันแฝงความไม่พอใจของฮวาเยวียดังขึน
จากนอกห้อง

ขณะทีนอนอยูบ่ นเตียง มูช่ ิงเกอทีลืมตาขึนขมวดคิว


เบาๆ
65
เสียงของโย่วเหอก็ดงั ขึนเช่นกัน : “ชู่ว เบาๆ หน่อย เดียว
คุณชายตืน”

ส่วนลึกของสายตามูช่ ิงเกอ มีความอบอุน่ เกิดขึน

นางราวกับเห็นภาพทีฮวาเยวียเอามือปิ ดปากและโย่วเห
อกําลังส่ายหน้าอย่างเหลืออด

ทีใหม่ แต่ยงั มีคนคุน้ เคยอยูเ่ คียงข้าง ดีจริงๆ

มูช่ ิงเกอผุดรอยยิมจางๆ ดึงผ้าห่มออกแล้วลุกขึนนัง

66
เมือมีคนปรากฏตัวขึนตรงหลังม่าน ทําให้ฮวาเยวียและ
โย่วเหอต่างก็รบี เดินเข้ามา ดึงหน้าม่านออก เผยให้เห็น
ท่าทางเกียจคร้านของมูช่ ิงเกอทีเพิงตืนนอน

“คุณชาย ฮวาเยวียรบกวนท่านหรือเปล่า?” ใบหน้าของ


ฮวาเยวียเต็มไปด้วยความรูส้ กึ ผิด

“ไม่ได้เกียวกับเจ้า” มูช่ ิงเกอพูดอย่างนิงเฉยและถามว่า :


“ผูห้ ญิงทีเจ้าพูดถึง มันเรืองอันใดกัน”

เมือพูดถึงเรืองนี โย่วเหอก็หวั เราะ ‘พรืด’ ฮวาเยวียกลับ


ทําปากจู๋ดว้ ยความทุกข์ใจ

67
“ให้ขา้ พูดแล้วกัน ก็เพราะความน่าดึงดูดของคุณชาย
ทําให้หญิงสาวทังเมืองลัวรือต่างก็อยากเป็ นนายหญิง
ของพวกข้า” โย่วเหอพูดพร้อมรอยยิม

มูช่ ิงเกอหรีตา พลางเอามือเท้าคาง

“คุณชาย ท่านไม่รูห้ รอกว่าผูห้ ญิงพวกนันมารอทีโรงแรม


มูย่ ีตังแต่ฟา้ ยังไม่สาง ราวกับกลัวท่านติดปี กและโบยบิน
หนีไป” ฮวาเยวียพูดอย่างไม่ชอบใจ

มูช่ ิงเกอกระตุกยิม ยืนแขนทังสองข้างออกมาดึงทังสอง


นางเข้าไปอยูใ่ นอ้อมกอด พลันยิมอย่างร้ายกาจ : “แล้ว

68
เหตุใดพวกเจ้าจึงไม่บอกไปล่ะ ว่าข้าไม่ขาดแคลนสาวใช้
อุน่ เตียง”

หลังจากทีถูกนางหัวเราะเยาะ ใบหน้าของโย่วเหอและ
ฮวาเยวียก็แดงกําขึนมาในทันที

“ข้าน้อยไม่กล้าพูดหรอก หากพูดจริงๆ กลัวว่าจะไม่มี


ชีวิตออกจากเมืองลัวรือ” โย่วเหอพูดอย่างขบขัน

ฮวาเยวียกลับยืนมือออกไปกอดแขนของมูช่ ิงเกอเอาไว้
พลันบิดเอวไปมาและพูดว่า : “กลัวอะไร มีคณ
ุ ชายอยู่
ทังคน ยังจะมีใครริบงั อาจรังแกเราอีก”

69
“ฮวาเยวียช่างเข้าใจหัวอกของข้าจริงๆ” มูช่ ิงเกอยืนมือ
ออกไปแตะปลายจมูกของฮวาเยวีย พลันกวาดสายตา
ไปมองโย่วเหอ : “โย่วเหอสํานึกผิดหรือยัง?”

โย่วเหอโน้มตัวลงอย่างจํายอมและพูดพร้อมรอยยิมว่า :
“โย่วเหอผิดไปแล้ว”

“ดีมาก” มูช่ ิงเกอหัวเราะเบาๆ ทีหนึง และปล่อยตัวทัง


สอง พลันลุกขึนยืน : “ล้างหน้าให้ขา้ ได้แล้ว”

หลังจากทีทังสองลงมือ ไม่นาน มูช่ ิงเกอก็ได้เดินออก


จากห้องอย่างสดชืน

70
เพิงจะเดินออกไป ทังสามก็พบกับเจ้าของโรงเตียมฟ่ ง
เหนียงระหว่างทางเดิน นางยังคงอยูใ่ นชุดขาวบริสทุ ธิ
ใบหน้างดงามเฉิดฉัน

เมือเห็นทังสามคน นางก็คอ่ ยๆ เดินเข้ามาและโน้มตัว


ลง : “คุณชาย ข้าได้เตรียมสํารับไว้ให้ทา่ นแล้ว หวังว่า
ท่านจะไม่รงั เกียจ อีกอย่าง เหล่าหญิงสาวทีอยูห่ น้า
ประตูก็กลับไปหมดแล้ว ไม่มารบกวนท่านอีกเป็ นแน่”

มูช่ ิงเกอหรีตาลง พูดอย่างแฝงความนัยว่า : “เจ้าช่างใจ


ดี”

ฟ่ งเหนียงก้มหน้าลง ผุดรอยยิมจางๆ ตรงมุมปาก และ

71
ไม่ได้พดู อะไรต่อ

มัวหยางทีเดินมาจากด้านหลังตัวฟ่ งเหนียง มองนาง


แวบหนึง ก่อนจะมารายงานต่อหน้ามูช่ ิงเกอว่า : “คุณ
ชาย เสบียงทีจําเป็ นทุกอย่าง ข้าน้อยได้เตรียมพร้อม
หมดแล้ว พร้อมออกเดินทางได้ตลอดเวลา”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าอย่างไม่แสดงอาการอันใด กวาดสาย


ตาผ่านฟ่ งเหนียงและออกคําสังว่า : “หลังจากกินอาหาร
เช้าเสร็จก็ออกเดินทางกันเลย”

หลังมืออาหาร เพราะความช่วยเหลือจากฟ่ งเหนียง ทํา


ให้มชู่ ิงเกอและทุกคนหลบหลีกจากความคึกคักของ

72
เมืองลัวรือได้อย่างง่ายดาย และเข้าสูผ่ ืนป่ าลัวรืออย่าง
ไม่ทิงร่องรอย พวกเขาไม่ได้เดินทางโดยใช้ทางปลอดภัย
ทีทังสองแคว้นสร้างขึน ทว่ากลับเลือกทางทีนักผจญภัย
ทังหลายใช้กนั

ระหว่างทาง ฮวาเยวียถามถึงความรูส้ กึ ทีมูช่ ิงเกอมีตอ่


เมืองลัวรือ

ท่าทางของฟ่ งเหนียงผุดขึนในความคิดของนาง นางรูว้ า่


ผูห้ ญิงคนนี ได้ทาํ ให้นางเกิดความสนใจเข้าแล้ว

เพราะรับปากกับอีกฝ่ ายว่าจะช่วยตามหาเบาะแสของ
สามีของนาง หลังจากทีเข้าสูผ่ ืนป่ าลัวรือ มูช่ ิงเกอกระจา

73
ยองครักษ์เขียวมังกรออกไป พลางเดินทาง พลาง
ตามหาเบาะแสของมูย่ ี

ช่างน่าเสียดายทีสิบวันมานี ไม่ได้เบาะแสอะไรเลย

ผลลัพธ์เช่นนี มูช่ ิงเกอคาดการณ์เอาไว้แต่แรกแล้ว

หากหาตัวมูย่ ีได้ง่ายถึงเพียงนี เหตุใดฟ่ งเหนียงยังต้องรอ


อยูใ่ นเมืองลัวรือเป็ นเวลาถึง 10 ปี เล่า ?

ในวันนี พวกเขาได้ถงึ บริเวณตอนกลางของผืนป่ าลัวรือ


เดินทางต่ออีกไม่นานก็จะเข้าสูอ่ าณาเขตแคว้นลี

74
มองไปสุดสายตา เห็นชายแดนทีแบ่งเขตระหว่างแคว้น
ฉินกับแคว้นลี

หลายวันทีผ่านมานี ทังมูช่ ิงเกอ ฮวาเยวียและโย่วเหอได้


สละรถม้าและเดินทางโดยการเดินเท้า อาชาเพลิงและ
รถม้าถูกมัวหยางและองครักษ์เขียวมังกรอีกสิบนายพา
ออกไปก่อน และสองวันก่อนหน้านี ได้เข้าสูเ่ ส้นทางทีถูก
สร้างขึน ในตอนนีได้เข้าสูแ่ คว้นลีและรอพวกเขาอยูท่ ีนัน

องครักษ์เขียวมังกรทีเหลือ ก็ตามมูช่ ิงเกอออกไปผจญ


ภัยภายในผืนป่ าลัวรือ

“คุณชาย หนทางข้างหน้าเราจะเข้าสูอ่ าณาเขตแคว้นลี

75
แล้ว” องครักษ์เขียวมังกรยืนถุงนําและพูดกับมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอยืนมือออกไปรับถุงนํา พลางพยักหน้าเบาๆ

ผืนป่ าลัวรือไม่ได้เหมือนกับทีนางจินตนาการไว้ และอาจ


เป็ นเพราะมีประสบการณ์จากการผจญภัยในเทือกเขา
ฉิน สําหรับนาง และสําหรับองครักษ์เขียวมังกรแล้ว ผืน
ป่ าลัวรือธรรมดาเกินไป

ระหว่างทาง เผชิญหน้ากับสัตว์ป่านานาชนิด สัตว์


วิญญาณกลับน้อยมาก

แม้จะพบกับสัตว์ทีมีพลัง แต่ก็เป็ นเพียงขันตําอย่าง สาย


76
แดง สายส้ม และทีเก่งกาจทีสุดเห็นจะเป็ นเพียงสาย
เหลืองขันกลางอย่างเสือเขาเดียว ในตอนนีแก่นสมอง
ของมันก็ได้วางนิงอยูใ่ นช่องว่างของมูช่ ิงเกอแต่โดยดี

มูช่ ิงเกอทีผิดหวังเพราะผืนป่ าลัวรือและในขณะทีกําลัง


จะสังให้ทกุ คนเร่งออกเดินทาง ก็ได้ยินเสียงร้องขอให้
ช่วยอย่างกะหันทัน

องครักษ์เขียวมังกรรีบเตรียมพร้อมในทันที มูช่ ิงเกอเองก็


วางถุงนําในมือลง ค่อยๆ ยืนขึนจากก้อนหินใหญ่ทีนัง
อยู.่ ......

77
ตอนที 99-1 เจ้าสองคนนี เป็ นบ้าหรือไร ?

“ช่วยด้วย ! ช่วยด้วย ! ช่วยด้วย…..”

เสียงร้องขอชีวิตทีแฝงความตืนตระหนก รวมทัง
เสียงกรีดร้องจากหญิงสาว ดังใกล้เข้ามาเรือยๆ

องครักษ์เขียวมังกรเตรียมปกป้องมูช่ ิงเกอและทังสอง
สาวจากทังซ้ายและขวา เพือเป็ นเกราะป้องกันอย่าง
หนาแน่นให้กบั พวกนาง ไอสังหารค่อยๆ ก่อตัวขึน

1
ทังโย่วเหอและฮวาเยวียก็ทงความขี
ิ เล่นดังทีเคย ต่างก็
จ้องทิศทางของเสียงนันอย่างเคร่งขรึม

ทันใดนัน แผ่นดินก็ได้สนสะเทื
ั อนไม่หยุด ราวกับยืนอยู่
บนเรือทีโคลงเคลงไปมา

การเปลียนแปลงนี ทําให้องครักษ์เขียวมังกรต่างถอย
หลังสองก้าว ทําให้วงของการปกป้องแคบลง เพือ
ป้องกันอันตรายทีอาจจะเกิด

เมือเทียบกับความเตรียมพร้อมและความเคร่งขรึมของ
พวกเขาแล้ว มูช่ ิงเกอกลับดูนิงเป็ นอย่างมาก

2
ในตอนนี นางห่างจากสายม่วงเพียงเอือมมือ นางมันใจ
ว่า ในผืนป่ าลัวรือทีเต็มไปด้วยร่องรอยการเดินทางของ
มนุษย์แห่งนี คนหรือสัตว์ทีจะสามารถทําร้ายนางได้นนั
ไม่มี

และตอนนี เป็ นเพียงความตืนตระหนกทีเกิดจากคนอืน


เกียวอะไรกับนาง ?

นางยังคงท่าทางไม่สนใจใคร ดูมนคงเป็
ั นพิเศษ

นางคิดไว้แล้วว่า หากสถานการณ์สงบลงแล้ว นางจะพา


ทุกคนออกไป

3
แต่ทว่า ทุกอย่างกลับไม่ได้เป็ นอย่างทีคาดการเอาไว้

มูช่ ิงเกอไม่มีกะจิตกะใจจะไปยุง่ เรืองของผูอ้ ืน แต่เสียง


ร้องขอความช่วยเหลือทีดังอยูน่ นั ยิงชัดเจนมากขึน
เรือยๆ แรงสันสะเทือนของพืนดินก็มากขึนเรือยๆ ราวกับ
มีทหารและม้าจํานวนนับพันวิงอยู่

“ช่วยด้วยยย----!”

เสียงร้องขอความช่วยเหลือทีแหลมจนแก้วหูแทบจะแตก
ทําให้มชู่ ิงเกอขมวดคิวอย่างทนไม่ได้

ทันใดนัน เงาร่างสองร่างทีไล่ตามกันมา ก็ปรากฏตัวขึน


4
ตรงหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็ว และหลังจากทีเห็นว่ามีคน
กลุม่ หนึงอยูข่ า้ งหน้า ทังสองก็รบี วิงปรีเข้าหาพวกเขา
ความเร็วนันมากกว่าตอนแรกหลายเท่า

“คุณชาย” องครักษ์เขียวมังกรนายหนึงเดินเข้ามาใกล้
พลันเอ่ยเรียกอย่างเคร่งขรึม

ราวกับว่า เพียงคําสังเดียวของมูช่ ิงเกอ พวกเขาก็พร้อม


จะยกดาบในมือขึน เพือป้องกันการเข้าใกล้ของคนทัง
สอง

สายตาอันสว่างและสดใสของมูช่ ิงเกอจ้องทังสองทีเข้า
มาใกล้ พอใกล้เข้ามาเรือยๆ จึงรูว้ า่ เป็ นหญิงและชายคู่

5
หนึงทีอายุไม่มากนักและข้างหลังพวกเขา มีใบไม้รว่ ง
หล่นลงอย่างไม่ขาดสาย เสียงฝี เท้าแปรเปลียนจาก
ความไม่ชดั เจนเป็ นชัดเจนมากยิงขึน รวมทังยังมีเสียง
สวบ สวบ ดังอยูอ่ ีกด้วย........

ทันใดนัน เงาสีแดงเข้มจํานวนมากก็พลันปรากฏขึนใน
สายตาของทุกคน เนือทีแน่นจนเบียดและเรียงตัวกันเป็ น
ปล้องๆ ราวกับลูกบอลทีสามารถกลิงไปมาได้ ในตอนนี
กําลังไล่ตามทัง สองคนก่อนหน้านี

มูช่ ิงเกอกวาดสายตามอง สิงทีกําลังวิงไล่สองคนนันอยู่


นัน มีจาํ นวนทังหมดเกือบหมืน !

6
“คุณชาย นันมันหนูหแู ดง !” องครักษ์เขียวมังกรนาย
หนึงทีรูจ้ กั ลูกบอลสีแดงกลมๆจํานวนหลายพันตัว รีบ
บอกมูช่ ิงเกอ

หนูหแู ดงอย่างนันหรือ ?

มูช่ ิงเกอขมวดคิวเบาๆ

สําหรับหนูหแู ดง นางรูจ้ กั ดี ในตําราเกียวกับสัตว์ป่าและ


สัตว์วิญญาณทีอยูใ่ นห้องหนังสือตระกูลมู่ นางเคยเห็น
สิงนี

เหตุผลทีนางขมวดคิว นันเป็ นเพราะ ทังชีวิตของหนูหู


7
แดงสามารถเป็ นได้เพียงสัตว์ทีมีพลังอยูไ่ ด้เพียงแค่สาย
แดงขันต้น อย่าว่าแต่กบั คนทีมีพลังเวทเลย เพราะแม้จะ
เป็ นคนทีไม่มีพลังเวท ก็ไม่ได้กลัวมัน

และฉากทีอยูต่ รงหน้า——

ด้วยความว่องไวของทังสองคนนีแล้ว แน่นอนว่าไม่ใช่
คนธรรมดาและพลังเวทก็ไม่ได้อยูใ่ นระดับตําเป็ นแน่ แต่
กลับถูกหนูหแู ดงทีไม่มีพิษภัยอันใดเลยทําให้ตืน
ตระหนกจนวิงหนีไปทัวป่ า

ทันทีทีเห็นคนไล่ลา่ แล้ว มูช่ ิงเกอพลันรูส้ กึ ว่า ภาพทีอยู่


ตรงหน้านันดูน่าขบขัน

8
มนุษย์ทงสองที
ั มีพลังเวท กลับถูกหนูหแู ดงทีกินพืชและ
ไม่มีพิษภัยเหล่านีทําให้กลัวจนอกสันขวัญหนี พลางหนี
พลางกระโดด ราวกับสิงทีไล่ตามพวกเขามาไม่ใช่หนูหู
แดง แต่เป็ นสัตว์รา้ ย

“หนูหแู ดงมารวมตัวกันมากมายถึงเพียงนี พวกเขาไป


แหย่รงั หนูหรืออย่างไรกัน” ในขณะทีโย่วเหอพูด ก็พลาง
ขยับตัวเข้าไปใกล้มชู่ ิงเกอ

ฮวาเยวียเองก็เช่นกัน ติดหนืบอยูข่ า้ งตัวมูช่ ิงเกอ กลืน


นําลายหลายทีและพูดว่า : “จริงๆแล้ว หากเจอกับหนูหู
แดงจํานวนมากมายมหาศาลเพียงนี มันก็ทาํ ให้ขนลุกไป

9
ทังตัวได้จริงๆ”

ในขณะทีทังสองพูด อีกสองคนทีกําลังวิงหนีไปทัวป่ า
ด้วยความตืนตระหนกก็ได้ปรากฏตัวอยูต่ รงหน้าพวกเขา

หลังจากทีเห็นจํานวนของพวกเขาแล้ว ทังสองก็หยุด
สายตาลงบนร่างทีสวมชุดสีแดง ไม่มีการกล่าวทักทาย
ทังสองเพียง ‘ฟิ ว——’ ก็หลบไปอยูข่ า้ งหลังมูช่ ิงเก
อ แอบซ่อนตัว

การเคลือนไหวของพวกเขาว่องไวมาก ราวกับสายลมที
พัดผ่าน ทําให้องครักษ์เขียวมังกรยังไม่มีโอกาสได้หา้ ม
พวกเขาก็ได้ปรากฏตัวขึนข้างหลังมูช่ ิงเกอและแย่งพืนที

10
ตรงแผ่นหลังของมูช่ ิงเกอเป็ นทีหลบ

ราวกับว่า หากมูช่ ิงเกอคอยบังอยูข่ า้ งหน้า ก็จะสามารถ


หนีจากหนูหแู ดงได้

การกระทําของทังสองทําให้สีหน้าขององครักษ์เปลียน
ไปในทันที และต่างก็ช่วยกันยืนมือออกไปลากตัวทังสอง
คนออกมา

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับยืนมือออกไปห้าม และหยิบผงยา


ออกมาถุงหนึง พลันสังทุกคนว่า : “สาดนีไปด้านหน้า”

องครักษ์เขียวมังกรนายหนึงรีบวิงขึนมารับ เพียงเสียว
11
สายตาก็ไปอยูบ่ ริเวณด้านหน้าทีห่างจากมูช่ ิงเกอและ
ทุกคนประมาณสิบก้าว และรีบแกะถุงผงยา นําผงยาที
อยูใ่ นถุงออกมาสาดไปตรงหน้า

ในขณะทีเขาทําทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว หนูหแู ดงก็พลัน


ปรากฏตัวขึนตรงหน้าเขา

ตัวทีอยูใ่ กล้ทีสุด ห่างจากเขาไม่ถงึ คืบ

สายตาของเขาพลันเย็นเยียบขึนมาและกําลังจะยืนมือ
ออกไปผลักหนูหแู ดงออก แต่กลับพบว่า ฝูงหนูหแู ดงที
พุง่ ตัวขึนมาหยุดการเคลือนไหวอย่างกะทันหันราวกับ
เจอผี กรงเล็บเล็กๆ รีบตะกายโคลนบนพืน เพือพยุงตน

12
เองและกรีดร้องคําหนึง ก่อนจะวิงหนีไป

เรืองราวทังหมดเกิดขึนไวมาก ทําให้องครักษ์เขียวมังกร
นายนันยังคงยืนอึงอยูก่ บั ที มือขวาก็ยงั คงยกขึน คาอยู่
ในท่าทีเตรียมจะลงมือ

หนูหแู ดงมาไวและไปไวมาก

ทันใดนัน ภายในผืนป่ าแห่งนี ก็กลับคืนสูค่ วามสงบ ไม่มี


แม้กระทังเงาของหนูหแู ดงอีกต่อไป

แต่ชายหนุ่มและหญิงสาวทีหลบอยูข่ า้ งหลังมูช่ ิงเกอ ใน


ตอนนียังคงหลับตาทังสองข้างสนิท งอตัวและสันระริก
13
ไม่ได้รบั รูเ้ ลยแม้แต่นอ้ ยว่าหนูหแู ดงได้หนีไปแล้ว

องครักษ์เขียวมังกรทีได้สติจากความมึนงง หันหลังและ
เดินกลับไปหามูช่ ิงเกอ พร้อมกล่าวว่า : “ท่าน หนูหแู ดง
หนีไปหมดแล้ว” การเปลียนแปลงของคําสรรพนามนี
เกิดขึนหลังจากทีเข้าสูผ่ ืนป่ าลัวรือ ซึงมูช่ ิงเกอเป็ นคน
เสนอ

แต่หากมีคนนอกอยูด่ ว้ ย คําสรรพนามทีทุกคนใช้แทน
นางถูกเปลียนเป็ น ‘ท่าน’ ไม่ใช่ ‘คุณชาย’

ไม่ใช่เพราะมูช่ ิงเกอรูว้ า่ ตนเองมีชือเสียงมากแค่ไหน แต่


เป็ นเพราะว่าไม่อยากให้คาํ ว่า ‘คุณชาย’ ก่อให้เกิดความ

14
เดือดร้อน เรียกนางว่า ‘ท่าน’ ก็จะไม่มีผใู้ ดรูว้ า่ นางเป็ น
‘คุณชาย’ จากตระกูลใด ซึงถ้าหากเป็ นเช่นนีจะดีกว่า

รวมทังชือของนาง ก็เปลียนไปใช้ชือในชาติทีแล้ว

หลังจากทีได้ยินว่าหนูหแู ดงหนีไปแล้ว หญิงสาวและ


ชายหนุ่มทีหลบอยูข่ า้ งหลังมูช่ ิงเกอจึงหยุดสันและลืมตา
ขึนอย่างมึนงง พลันสบตากันแวบหนึง

หญิงสาวใช้สายตาน่ากลัวจ้องมองแวบหนึง จึงทําให้
ชายหนุ่มต้องแอบมองไปข้างหน้าอย่างเสียไม่ได้

และเป็ นความจริงทีว่า ฝูงหนูหแู ดงได้หายไปอย่างไร้รอ่ ง


15
รอยตังนานแล้ว พลันทําให้พวกเขายืนหลังตรงได้อย่าง
ผ่อนคลายในทันที ความตืนกลัวบนใบหน้าหล่อเหลางด
งามก็คอ่ ยๆ จางหายไป

“นี ไปแล้วจริงๆ ด้วย” เขาตบหัวหญิงสาวคนนันอย่างได้


ใจทีหนึงและทําให้หญิงสาวตอบโต้ในทันที : “ไอ้เจ้า
เว่ยฉี ! กล้าดีอย่างไรมาตบหัวข้า ข้าจะเชือดเจ้า !”

“ใครว่าข้ากลัวเจ้าล่ะ ใครเชือดใครก็ยงั ไม่รูเ้ ลยและอย่า


ลืมว่าข้าเป็ นพีชายของเจ้า เคารพข้าหน่อย” ชายหนุ่ม
กอดอก พลางกระดิกขาข้างหนึงอย่างได้ใจ

หญิงสาวมองเขาพลางกัดฟั นแน่น โดยไม่มีทา่ ทีทีจะ

16
ยอมแพ้ : “ท่านแม่เคยบอกแล้วว่า ตอนให้กาํ เนิดพวก
เรานัน ทุกอย่างตกอยูใ่ นความสับสนวุน่ วายและท่านก็
ไม่รูว้ า่ คลอดเจ้าหรือข้าก่อน ท่าทางโง่ๆ อย่างเจ้า ก็ตอ้ ง
เป็ นน้องชายสิ!”

ชายหนุ่มจ้องเขม็งและตอบกลับในทันทีวา่ : “ใครโง่ !
เจ้านันแหละทีโง่ เป็ นถึงสายเหลืองขันสูง แต่กลับตกใจ
จนขวัญเสียเพราะหนูหแู ดงฝูงหนึง !”

“เจ้าสิโง่ ! เจ้าเองก็กลัวจนไม่รูจ้ ะหาอะไรมาเปรียบเทียบ


วิงเร็วกว่ากระต่ายเสียอีก” หญิงสาวเองก็ตอบกลับอย่าง
ไม่ยอมด้อยกว่า

17
“เจ้าแหละโง่ !”

“เจ้าแหละโง่ !”

ทันใดนัน การทะเลาะทีไม่ได้มีความหมายอะไรเลยก็
เกิดขึนระหว่างสองคนนี จนกระทังว่า ทังสองได้ลืมไป
แล้วว่า ตอนนีตนเองอยูท่ ีใด

ทังสองทีดูขาดๆ เกินๆ ทําให้องครักษ์เขียวมังกรพูดอะไร


ไม่ออก

“อะแฮ่ม !”

18
ตอนที 99-2 เจ้าสองคนนี เป็ นบ้าหรือไร ?

19
ทังสองทีถกเถียงกันอย่างดุเดือดมากขึนเรือยๆ อยูๆ่ ก็
พลันถูกขัดจังหวะ ทังสองจึงหันไปมองพร้อมกันทีต้น
กําเนิดเสียง

หลังจากทีเห็นว่าเจ้าของเสียงเป็ นหญิงสาวผูม้ ีใบหน้า


อันงดงาม ทังท่าทางอันงามสง่า และใบหน้าของอีกฝ่ าย
ทีเหมือนกันจนแทบจะแยกไม่ออก จึงปรากฏความอึด
อัดขึนมา

“เอ่อ พีสาวท่านนี สําหรับเรืองทีเกิดขึนเมือครูน่ ี ต้อง


ขอบคุณพวกท่านทีช่วยพวกข้าไล่หนูหแู ดงอันน่าขยะ

20
แขยงพวกนันออกไป” หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้พร้อมยิม
ฝื ดๆ ท่าทางไม่ใส่ใจนัน ไม่มีความรูส้ กึ อายเลยสักนิด

ชายหนุ่มเองก็เดินเข้ามาใกล้เช่นกันและพูดกับโย่วเห
อว่า : “ใช่แล้ว พีสาวท่านนี หากไม่ใช่เพราะบังเอิญพบ
กับพวกท่าน ไม่รูว้ า่ น้องสาวของข้าคนนี จะถูกทําให้
ตกใจกลัวมากเท่าไหร่”

“ไอ้เว่ยฉีใครกันแน่ทีกลัว เจ้าเองก็กลัวจนฉีราดไม่ใช่
หรือ” เสียงของชายหนุ่ม ทําให้หญิงสาวแสดงความไม่
พอใจในทันที

แก้มทังสองข้างของชายหนุ่ม แดงกําขึนมาในทันที พลัน

21
พูดอย่างไม่ยอมแพ้วา่ : “ข้าปกป้องเจ้าต่างหาก เจ้าเด็ก
บ้า !”

“หึ ปกป้องข้าอย่างนันหรือ แล้วเหตุใดจึงวิงไวกว่าข้า


อีก” หญิงสาวอุทานอย่างเหยียดหยาม

ชายหนุ่มจึงพูดด้วยความโกรธว่า : “เจ้า......”

“ทังสองท่าน” หลังจากทีเห็นว่าทังสองกลับมาทะเลาะ
กันอีกครัง โย่วเหอจึงอดไม่ได้ทีจะส่งเสียงขัดจังหวะอีก
ครัง

“อา ! ขายหน้าพีสาวแล้ว” ชายหนุ่มได้สติขนมาในทั


ึ นที
22
และยิมอย่างรูส้ กึ ผิดกับโย่วเหอ ความจริงใจทีแฝงอยูบ่ น
ใบหน้านันไม่ได้เสแสร้ง

โย่วเหอยิมพลางส่ายหน้า มองมูช่ ิงเกอด้วยหางตาอย่าง


แนบเนียนและพูดกับเขาว่า : “หากไม่มีอะไรแล้ว ขอให้
ทังสองกลับไปเถอะ เจ้านายของข้าจะพักผ่อนอยูท่ ีนีอีก
ครูห่ นึง”

“อา ! ใช่สิ เรายังไม่ได้ขอบคุณเจ้านายของท่านเลย”


ชายหนุ่มตบหัวตนเองเพราะเพิงจะได้สติ พลันดึงเสือ
ตรงหัวไหล่ของหญิงสาวทียืนอยูข่ า้ งๆ ขึน แล้วเดินเข้า
มา โดยมิได้สนใจใบหน้าทีฉายแววอึดอัดของโย่วเห
อเลย

23
นางเชิญให้ทงสองกลั
ั บไป แต่เหตุใดทังสองถึงได้หวั แข็ง
เพียงนีนะ ?

“ไอ้เว่ยฉี ข้าขอสังให้เจ้าปล่อยมือ ! ไม่เช่นนันเจ้าได้จบ


เห่แน่ !” ในขณะทีหญิงสาวกําลังต่อต้าน ทังสองก็ได้เดิน
มาอยูต่ รงหน้ามูช่ ิงเกอ

ในตอนทีพวกเขาหลบหนี พวกเขาเห็นเพียงคนในชุดที
แดงทีถูกล้อมรอบท่ามกลางผูค้ น และไม่คิดว่าจะไป
หลบอยูข่ า้ งหลังของคนผูน้ นได้
ั ยิงไม่ได้สงั เกตว่าเขาเป็ น
ใคร

24
แต่ในตอนนี ทังสองได้ยืนอยูต่ รงหน้ามูช่ ิงเกอ โดยไม่ได้
สังเกตองครักษ์ทีตอนนีใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
กําลังจดจ้องมายังพวกเขาอยู่

แต่ทว่า ในขณะทีใบหน้าน่าเย้ายวนสะท้อนเข้ามาใน
ดวงตาของทังสองพวกเขาก็ได้ตะลึงอีกหน

สายตาของทังสองต่างก็ฉายแววความตืนตาตืนใจขึนมา
ในทันที

งดงามยิงนัก !

ตังแต่ทงสองเกิ
ั ดมา นีคงเป็ นครังแรกทีเกิดความรูส้ กึ เช่น
25
นีกับคนคนหนึง

ท่าทางของทังสองทีกําลังหลงใหลจนตกอยูใ่ นภวังค์ทาํ
ให้มชู่ ิงเกอขมวดคิวเบาๆ

ท่าทางการขมวดคิวของคนงาม ทําให้ทงสองได้
ั สติกลับ
คืนมาในทันที พลางลูบคางของตนเองทีหนึงโดยไม่ได้
นัดหมาย ราวกับว่ามีอะไรไหลออกมาอย่างนัน

ท่าทางนี ทําให้มชู่ ิงเกอขมวดคิวมากกว่าเดิม ราวกับว่า


ทังสองทียืนอยูต่ รงหน้านางไม่ใช่มนุษย์แต่เป็ นหมาป่ า
โรคจิต !

26
“พีสาวคนงาม......”

ป้าบ——!

เสียงของฝ่ ามือทีเสียงดังและฟั งชัดขัดจังหวะการพูดของ


ชายหนุ่ม ต่อจากนันก็เป็ นเสียงหัวเราะเยาะของหญิง
สาว : “ตาข้างไหนของเจ้ากันทีเห็นเป็ นพีสาว นีมันพี
ชายคนงามชัดๆ”

“นี ! เว่ยกว๋านกว่าน ข้าว่าเจ้าจะมากเกินไปแล้วนะ!”


ชายหนุ่มนวดศีรษะทีกําลังปวดแสบพลางจ้องเพือเตือน

หญิงสาวกลับกลอกตาอย่างไม่ใส่ใจ พลางหันไปมองมู่
27
ชิงเกอ เปลียนสีหน้าเป็ นประจบประแจง : “พีชายคน
งาม ข้าชือกว๋านกว่านขอบคุณท่านมากทีช่วยข้าเอาไว้
เมือครูน่ ี ข้าขอทราบชือของท่านได้หรือไม่”

หญิงสาวกว๋านกว่านกุมมือทังสองแนบอกเอาไว้ ในดวง
ตาโตทีเป็ นประกาย เต็มไปด้วยความหวัง

มูช่ ิงเกอเม้มปาก และยังคงขมวดคิว

ทันใดนัน กว๋านกว่านก็ถกู ผลักออก ซึงคนทีเข้ามาอยูใ่ น


สายตาแทนทีนางคือชายหนุ่มทีทําท่าทางราวกับคิดว่า
ตนเองมีเสน่หเ์ หลือล้น พลันยิมอย่างเจ้าเล่ห:์ “พีสาวคน
งาม ข้าชือเว่ยฉี เป็ นพีชายของยัยเด็กนี สิงทีน้องสาว

28
ของข้าล่วงเกินเมือครูน่ ี ข้าขออภัยแทนนางด้วย มิทราบ
ว่าเว่ยฉี พอจะมีเกียรติมากพอทีจะขออนุญาตทราบชือ
ของท่านได้หรือไม่”

“เว่ยฉีขา้ บอกแล้วไงว่าเขาเป็ นผูช้ าย !” กว๋านกว่านทีถูก


ผลักออกระเบิดโทสะออกมาอีกครัง

เว่ยฉีเองก็ตะโกนอย่างไม่ยอมแพ้วา่ : “คนทีงดงามมาก
เพียงนี ต้องเป็ นผูห้ ญิงแน่ๆ!”

“ผูช้ าย !”

“ผูห้ ญิง !”
29
“ผูช้ าย !”

“ผูห้ ญิง !”

ทังสองสูก้ บั ราวกับเป็ นไก่ชนทีโก่งคอแล้วตะโกนใส่กนั


จนหน้าแดงกํา

มูช่ ิงเกอยิงถูกทังสองก่อกวนจนแทบจะทนไหว สีหน้าดู


แย่ลงเรือยๆ ในทีสุด นางก็หมดความอดทนและสัง
องครักษ์เขียวมังกรอย่างเคร่งขรึมว่า : “เอาตัวพวกเขา
ออกไป”

30
องครักษ์เขียวมังกรทีถูกเสียงนันรบกวนจนปวดหัวในที
สุดก็ได้รบั คําสังจากเจ้านาย จึงรีบเดินไปข้างหน้าอย่าง
ไม่ลงั เล จับตัวพวกเขาและโยนออกไป

ถึงขนาดว่า พวกเขาโยนทังสองออกไปคนละทีอย่างรู ้
งาน เพือหยุดการทะเลาะกันของพวกเขา

“อ๊า——!”

เสียงร้องทีเจ็บปวด ดังขึนจากสองฝังของผืนป่ า ทําให้


นกกาต่างบินหนีออกจากรัง

องครักษ์เขียวมังกรทีจัดการกับทังสองเสร็จเรียบร้อย
31
แล้ว ก็เดินกลับไปหามูช่ ิงเกอในทันที เพือรอคอยคําสัง
ต่อไปจากนาง

“ออกเดินทางต่อได้” ถูกทังสองก่อกวน มูช่ ิงเกอเองก็ไม่


มีกะจิตกะใจจะพักผ่อนต่อแล้ว เพียงออกคําสังและ
ขบวนก็เตรียมเดินทางต่อในทันที

ก่อนเดินทาง ทุกคนยังจงใจเลือกทางทีไกลกว่าเดิม เพือ


ป้องกันไม่ให้พบสองคนนันอีก

ระหว่างทาง มูช่ ิงเกอดูเงียบเป็ นพิเศษ

เพราะนางอารมณ์ไม่ดี ทําให้องครักษ์เขียวมังกรและ
32
สองสาวใช้เองต่างก็ไม่กล้าเข้าไปยุง่ กระทัง พวกเขาต่าง
พากันโทษสองพีน้องอย่างเว่ยฉีและกว๋านกว่าน

ความไม่สบอารมณ์ของนาง แน่นอนว่าเกิดขึนเพราะ
สองคนนัน

เพราะว่า การทะเลาะวิวาทของทังสองทําให้นางรูส้ กึ ว่า


การปลอมตัวของตนเองมีปัญหา พลังการตบตาของ
เครืองมือมายาเสือมลงแล้วหรือ

จึงทําให้ไม่หญิงไม่ชาย เหมือนตอนเพิงเกิดใหม่

หรือบางที อาจจะเพราะความสามารถของทังสอง
33
สามารถมองทะลุจนรูว้ า่ นางปลอมตัว

อย่างไรก็ตาม ไม่วา่ จะเพราะเหตุผลใด ก็ลว้ นไม่ใช่เรือง


ดีสาํ หรับนาง

โชคดีทีว่า หลังจากทีสังเกตการถกเถียงของทังคู่ มูช่ ิงเก


อจึงพบว่า ทังสองมิได้รูว้ า่ นางปลอมตัว เพียงแค่เพราะ
ใบหน้าของนาง ทําให้ตา่ งคนต่างเกิดความเห็นทีต่างกัน

ผลสรุปเช่นนี ยิงทําให้นางรูส้ กึ ไม่พอใจ

นางไม่หวังให้ตนเองกลายเป็ นคูช่ ายรักชาย

34
เพียงแต่ ราวกับฟ้าไม่เป็ นใจ เพราะยิงนางอยากจะหลีก
หนีจากทังสองทีสติปัญญาไม่สมประกอบคูน่ นั ข้างหลัง
ก็มีเสียงร้องเรียกทีต่อเนืองและค่อยๆ ชัดเจนมากยิงขึน
ดังขึนมา——

“รอด้วย——รอพวกเราด้วย——”.

35
ตอนที 99-3 เจ้าสองคนนี เป็ นบ้าหรือไร ?

มูช่ ิงเกอยังคงไม่หยุดเดินและหลังจากทีโย่วเหอได้ยิน

36
เสียงทีดังมาจากข้างหลัง ก็พลันเม้มปากและเดินเข้ามา
หา พร้อมพูดว่า : “คุณชาย เหมือนว่าสองคนนันจะตาม
มาอีกแล้ว” ครูห่ นึงผ่านไป เมือเห็นว่าคุณชายไม่มี
ปฏิกิรยิ าอะไร นางจึงพูดต่ออีกว่า : “เมือครูน่ ีสองคนนัน
อ้างว่าตนเองชือเว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่าน จะว่าไปแล้ว
ชือนีก็ดคู ล้ายกับชือองค์หญิงและองค์ชายคูฝ่ าแฝดชาย
หญิงของเมืองถัวแห่งแคว้นลีเสียจริง”

ในทีสุดมูช่ ิงเกอก็หยุดฝี เท้าลงและคิดทบทวนคําพูดของ


โย่วเหอ

เมืองถัวแห่งแคว้นลี นับว่าเป็ นเมืองทียิงใหญ่ทีสุดเมือง


หนึง ในขณะเดียวกันก็เป็ นทีทีพวกเขาต้องผ่าน เพราะ
เช่นนี โย่วเหอทีรับหน้าทีค้นหาข้อมูลข่าวสาร จึงได้รูว้ า่
37
เจ้าเมืองของเมืองถัวเป็ นใครและมีบตุ รธิดาชืออะไร

หากสองคนทีสติไม่สมประกอบเมือครูน่ ีเป็ นลูกของเจ้า


เมืองถัวจริงๆ แล้วพวกเขาจะปรากฏตัวภายในผืนป่ าลัว
รือเพียงลําพังโดยไม่มีองครักษ์หรือทหารแม้แต่นาย
เดียวเลยได้อย่างไรกัน

ความสงสัยภายในใจ ทําให้มชู่ ิงเกอเปลียนแผน


นางอยากจะรูว้ า่ ผูท้ ีอาจจะเป็ นสูงศักดิทังสองทีไม่ละ
ความพยายามทีจะตามนางนัน ทําไปเพืออะไรกัน

พอนางหยุดฝี เท้าลงเว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านจึงตามมา
จนทันในทีสุด

38
“ในทีสุดก็ตามทันเสียที” เว่ยกว๋านกว่านอุทาน

ราวกับว่าแม่เสือตัวนี จะแสดงด้านทีดุรา้ ยเฉพาะต่อ


หน้าพีชายของตนเองเท่านัน เพราะต่อหน้ามูช่ ิงเกอ ผูท้ ี
ออกคําสังให้โยนตัวนางออกมา นางกลับไม่ได้แสดง
ความไม่พอใจออกมาเลยแม้แต่นอ้ ย

นางเดินเข้ามาหามูช่ ิงเกออย่างระมัดระวัง มองมูช่ ิงเก


อด้วยใบหน้าอันร่าเริง พลางพูดอย่างอ่อนแอว่า : “พี
ชายคนงาม ข้าได้สงสอนไอ้
ั เจ้าเว่ยฉีเรียบร้อยแล้ว เรา
เดินทางไปพร้อมกันดีไหม”

39
มูช่ ิงเกอขมวดคิวเล็กน้อย เพราะคําพูดของนาง จึงทําให้
ต้องเคลือนสายตาไปมองเว่ยฉีทีตอนนีเงียบสงบลงแล้ว

และก็เป็ นอย่างทีนางพูด บนตาซ้ายของชายหนุ่มผูง้ ด


งาม มีรอยชํารอยหนึงเพิมเข้ามา รวมทังตาซ้ายก็หยีลง
จนกลายเป็ นเส้นตรง ท่าทางในขณะนีกําลังพยายามปก
ปิ ดความเจ็บปวด ราวกับกลัวว่าจะมีคนเห็นสภาพแย่ๆ
ของตนเอง

เมือรับรูไ้ ด้วา่ มูช่ ิงเกอกําลังกวาดสายตาผ่าน เว่ยฉีก็รบี


ยืดตัวตรง และค่อยๆ บิดตัว เพือปกปิ ดตาซ้ายของตน
เอง พลันมอบรอยยิมอันสดใสให้แก่มชู่ ิงเกอ

40
ไอ้เจ้าสองคนนี.......

มูช่ ิงเกอเห็นแล้วก็อดทีจะรูส้ กึ ตลกไม่ได้ เท่าทีนางได้


สัมผัสมา น้อยมากทีจะเจอกับคนทีบ้าๆ บอๆ ดังเช่น
สองคนนี

“เว่ยฉี เว่ยกว๋านกว่าน เจ้าเมืองเมืองถัวเป็ นอะไรกับพวก


เจ้า” อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็ได้เอ่ยถามขึน

คําถามทีตรงไปตรงมาของนาง ทําให้ทงสองตกใจ
ั ใบ
หน้าทีเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ฉายแววระแวดระวัง
ในทันที แต่กลับเก็บอาการไว้ได้อย่างรวดเร็ว

41
เว่ยกว๋านกว่านมองเว่ยฉี พลางกัดริมฝี ปาก

ในช่วงเวลาสําคัญเช่นนี ราวกับนางจะเชือใจในตัวพีชาย
มากขึน ไม่ใช่เอาแต่ทะเลาะกับเขา

เว่ยฉีก็เก็บอาการและความขีเล่นของตนเอง พลันเดิน
เข้าไปหามูช่ ิงเกอ เขามองนางพร้อมพูดอย่างจริงจังว่า :
“หากข้าบอกว่า เจ้าเมืองเมืองถัวเป็ นท่านพ่อของเรา เจ้า
จะว่าอย่างไร”

ดวงตาอันสว่างและสดใสคูน่ นั ไม่มีความตกใจอีกต่อไป
กลับแปรเปลียนเป็ นความเคร่งขรึมและชัดเจน

42
มูช่ ิงเกอผุดรอยยิมจางๆ คําสรรพนามทีเปลียนไป ไม่ได้
ทําให้นางรูส้ กึ ไม่พอใจเลยแม้แต่นอ้ ย นางมิได้ตอบคํา
ถามของเว่ยฉีเพียงพูดต่อว่า : “หากไม่อยากจะเปิ ดเผย
ฐานะของตนเอง ก็ควรจะใช้วิธีการเปลียนชือ”

‘คําเตือนทีแฝงความหวังดี’ ทําให้ใบหน้าของเว่ยฉีและ
เว่ยกว๋านกว่านแดงกําขึนมาในทันที พวกเขายิมอย่างอึด
อัดใจ

พวกเขากระจ่างเป็ นอย่างดีแล้วว่า คนตรงหน้าทีงดงาม


จนหาทีเปรียบไม่ได้ จนทําให้เพศดูไม่ชดั เจนผูน้ ีกําลัง
หัวเราะเยาะคําข่มขู่ของพวกเขา

43
ไม่ใช่หรือไง ? ตนเองเป็ นคนเปิ ดเผยฐานะของตนเอง
แล้วจะมีสทิ ธิอันใดไปโทษความคิดของผูอ้ ืน

เมือกระจ่างในเหตุผลประการนีแล้ว เว่ยฉีจงึ ประสาน


มือและพูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “ขออภัยทีข้าเสียมารยาทเมือ
ครูท่ ีผ่านมา ข้าขออนุญาตแนะนําตัวใหม่ ข้าชือ เว่ยฉี
ส่วนนางเป็ นน้องสาวของข้าชือเว่ยกว๋านกว่าน ท่านพ่อ
ของเราทังสองเป็ นเจ้าเมืองเมืองถัวทียิงใหญ่เป็ นอันดับ
สองของแคว้นลี นามว่าเว่ยหลินหลาง”

เว่ยหลินหลางหนึงในยอดฝี มือผูย้ งใหญ่


ิ แห่งแคว้นลี เจ้า
เมืองเมืองถัว หล่อเหลาสง่างาม เข้าสูส่ ายนําเงินขันสูง
สุดตังแต่อายุยงั ไม่ยา่ ง 40 และพร้อมทีจะทะลวงสูส่ าย
ม่วงได้ตลอดเวลา อุปนิสยั ตรงไปตรงมา มีคณ
ุ ธรรม
44
กตัญ ู ภักดี มนุษยสัมพันธ์กว้างขวาง

ในหัวของมูช่ ิงเกอ มีเรืองราวเกียวกับเว่ยหลินหลา


งปรากฏขึนในทันที

แม้เรืองราวจะไม่มากนัก แต่ก็ไม่ยากทีจะเห็นตัวตนทีแท้
จริงของคนผูน้ ี ในตอนนี ได้พบกับบุตรและธิดาของเขา
ยิงทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ ว่าเรืองทีเล่ากันมานันเป็ นความจริง

หากตัวตนของเว่ยหลินหลาง เป็ นคนเจ้าเล่หร์ า้ ยกาจ


จริงๆ ก็คงจะเลียงลูกทังสองให้มีอปุ นิสยั เช่นนีไม่ได้

“มูเ่ กอ” มูช่ ิงเกอแนะนําตัวสันๆ ราวกับกําลังยืนยันคํา


45
พูดก่อนหน้านีของตนเองกับทัง สอง

เมือสัมผัสได้วา่ มูช่ ิงเกอไม่อยากจะเปิ ดเผยฐานะทีแท้


จริงของตนเองออกมาเว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านเองก็ไม่
ได้บงั คับ เพียงแค่เสนอคําขอร้องเหมือนก่อนหน้านี นัน
คือการออกจากทีนีไปพร้อมกับมูช่ ิงเกอ

“พวกเจ้าเป็ นถึงคุณชายและคุณหนูของเมือง เหตุใดจึง


เข้าสูผ่ ืนป่ าลัวรือโดยไม่มีองครักษ์คอยปกป้องเช่นนี” ใน
ขณะทีเดินทาง มูช่ ิงเกอได้เอ่ยถามข้อสงสัยของตน
เองออกมา

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านสบตากับแวบหนึง ในทีสุด

46
เว่ยหว๋านกว่านก็พดู อย่างเหลือทนว่า : “ไม่ใช่วา่ ไม่มี
เพียงแค่หากันไม่เจอ”

แท้จริงแล้ว ทังสองมีคนใช้และองครักษ์ทีเข้ามาในผืนป่ า
พร้อมๆ กัน แต่ไม่คิดว่าเว่ยกว๋านกว่านจะบังเอิญไป
แหย่รงั หนูหแู ดงโดยไม่ได้ตงใจ
ั และบังเอิญทีสองพีน้อง
นีมีโรคเดียวกัน นันคือ กลัวสัตว์ประเภทหนู เพราะ
ฉะนันจึงตกใจจนวิงหนีไปทัว เพราะความวุน่ วาย ถึง
หลงกับบริวารทีพามาด้วย

“ตอนนีไม่เป็ นอะไรแล้ว พวกเจ้าไม่ตอ้ งไปหาพวกแล้ว


หรือ” โย่วเหอยืนหน้าออกมาถาม

47
เว่ยฉีสา่ ยหน้า : “ผืนป่ าลัวรือกว้างใหญ่ไพศาลถึงเพียงนี
หากันไปมา จะพบกันเมือไหร่ ก่อนจะเข้ามาภายในผืน
ป่ า เราได้คยุ กันไว้แล้วว่า หากหลงกัน เราจะไปเจอกันที
เมืองจือ เพราะอย่างไรเสีย ความสามารถของสัตว์ป่าใน
ผืนป่ าลัวรือไม่ได้มากนักและก็ยากทีจะทําร้ายเราได้”

คําอธิบายของเขา ทําให้โย่วเหอและฮวาเยวียกระตุกยิม
ตรงมุมปาก

แอบส่ายหน้าในใจไม่หยุด

ดูเหมือนว่า คนตระกูลเว่ยนัน ไม่เพียงแค่เจ้านายทีสติ


ปั ญญาไม่สมประกอบ รวมทังสาวใช้และองครักษ์เองก็

48
บ้าไม่ตา่ งกัน

ทังสองคนนี แม้พลังเวทจะอยูใ่ นระดับทีไม่ถือว่าตํา ทว่า


ประสบการณ์จริงล่ะ ถึงแม้วา่ สัตว์ทีมีพลังเวทจะทําอะไร
พวกเขาไม่ได้ แต่ทว่า ในผืนป่ าลัวรือแห่งนี นอกจากสัตว์
ทีมีพลังเวทแล้ว ยังมีนกั ผจญภัยอีกจํานวนนับไม่ถว้ น

อย่างไรก็ตาม มนุษย์เป็ นสิงทีน่ากลัวมากทีสุด !

ปั ญหาทีโย่วเหอและฮวาเยวียคิดไม่ตก มูช่ ิงเก


อกลับไม่ได้สงสัยอะไร ตังแต่ตอนทีเห็นความว่องไวใน
การวิงหนีของทังสองนางก็กระจ่างทังหมดแล้ว

49
หากเปรียบกันแล้ว เหตุผลทีองครักษ์ทีติดตามมาด้วย
กล้ากระทําเช่นนี ก็เพราะรูว้ า่ ความว่องไวของเจ้านาย
ตนเองนันหาทีเปรียบไม่ได้ อีกประการหนึง เป็ นถึงลูก
หลานเจ้าเมือง อาวุธและทักษะป้องกันตัวจะน้อยได้
อย่างไร

ทังสองทีตรงไปตรงมา บ้าๆ บอๆ ก็ใช่วา่ จะสติปัญญาไม่


ประกอบจริงๆ

“เมือครูน่ ี พวกเจ้าบอกว่า ทีเข้ามาภายในผืนป่ าลัวรือ


เพือตามหายาสมุนไพรทีมีเพียงในผืนป่ าแห่งนีอย่างนัน
หรือ” มูช่ ิงเกอพูดขึนอย่างกะทันหัน

50
เว่ยฉีพยักหน้า

ประเด็นนี ทําให้ใบหน้าเรียวเล็กและงดงามของ เว่ยกว๋า


นกว่านฉายแววเศร้าหมอง

“ยาสมุนไพรทีมีเพียงในผืนป่ าลัวรือ ก็มีเพียงดอกทาน


ตะวันลัวรือ ดอกทานตะวันมีสรรพคุณเพียงรักษาความ
อบอุน่ และช่วยให้ออ่ นเยาว์ ไม่ใช่ยาวิเศษมีคณ
ุ สมบัติใน
การช่วยชีวิตแต่อย่างใด นับได้วา่ เป็ นเพียงยาเสริม ร้าน
ขายยาทัวไปก็มี ไม่ได้หายากมากนัก” มูช่ ิงเกอพูด

“มูเ่ กอ ท่านมีความรูด้ า้ นการรักษาหรือ” เว่ยกว๋านกว่าน


กะพริบตาอย่างตะลึง

51
เว่ยฉีเองก็มองนางอย่างตืนตะลึงเช่นกัน แต่ทว่า สิงที
ซ่อนอยูใ่ นสายตานันต่างจากน้องสาว

มูช่ ิงเกอพยักหน้ารับ : “รูน้ ิดหน่อย”

ทีนางอธิบายสรรพคุณของดอกทานตะวันลัวรือเมือครูน่ ี
ก็เพือทีจะย้อนถามสองพีน้องนีว่า ยาสมุนไพรชนิดนีหา
ซือได้ทวไป
ั เหตุใดจึงต้องเข้ามาตามหาภายในผืนป่ าลัว
รือด้วย

พวกเขาทังสองเองก็ไม่ได้โง่ และรูถ้ งึ ความหมายทีแฝง


อยูใ่ นคําพูดของนาง

52
หลังจากทีพีชายแอบส่งสัญญาณให้ เว่ยกว๋านกว่านจึง
พูดว่า : “เราต้องการดอกทานตะวันสดๆ ทีมีขายในร้าน
ยานันทังเ**◌่ ยวและแห้ง แต่ก่อนมีกลุม่ นักผจญภัยทีทํา
สัญญากับเรามาโดยตลอดและดอกทานตะวันลัวรือ
สดๆ เราล้วนได้มาจากพวกเขา แต่ทว่า ในครังนี ไม่รูว้ า่
เพราะเหตุใด ตอนนีก็ลว่ งเลยเวลานัดหมายการซือขาย
มานานแล้ว ดอกทานตะวันลัวรือในตําหนักก็ใกล้จะ
หมด เราจึงต้องออกมาหาด้วยตัวเอง”

“พวกข้าหลงกับองครักษ์ พวกเขาคงจะไปตามหาดอก
ทานตะวันลัวรือแน่ ในตอนนี พวกข้าก็เด็ดตามทาง พอ
หลังจากทีไปรวมตัวกับพวกเขาทีเมืองจือก็จะเดิน
ทางกลับเมืองถัว” เว่ยฉีพดู เสริม

53
54
ตอนที 99-4 เจ้าสองคนนี เป็ นบ้าหรือไร ?

“ทีจวนของท่านต้องการดอกทานตะวันลัวรือจํานวนมาก
เพราะมีคนได้รบั บาดเจ็บทีเส้นชีพจรหรือ” มูช่ ิงเกอรูส้ กึ
ฉงนใจ จึงได้ถามขึน นางจําได้วา่ จากข้อมูลทีรูม้ าจาก
โย่วเหอภรรยาของเว่ยหลินหลางกําลังป่ วยหนัก ไม่มี
ทางรักษาได้และได้แต่พยายามยือชีวิตไว้ในแต่ละวัน
หรือว่าดอกทานตะวันลัวรือสดพวกนีจะเป็ นยาทีใช้ช่วย
ชีวิตภรรยาของเว่ยหลินหลาง จึงได้เป็ นเหตุให้สอง พี
น้องคูน่ ีตึงเครียดได้มากถึงเพียงนี

55
ทังสองพยักหน้าโดยไม่ได้นดั หมาย

อาการป่ วยของท่านแม่ของพวกเขา ก็ไม่ได้เป็ นความลับ


อะไร จึงได้เล่าความจริงทังหมดออกมาและก็เป็ นอย่าง
ทีมูช่ ิงเกอคาดเอาไว้ไม่มีผิด

สิงเดียวทีคาดเคลือน นันคืออาการป่ วยของภรรยาของ


เว่ยหลินหลาง ไม่เพียงแค่ไม่มียาทีสามารถรักษาได้ แต่
แม้จะเชิญปรมาจารย์ทีชํานาญการในการปรุงยามาสักกี
คน ก็ไม่อาจหาวิธีรกั ษาได้ ทําได้เพียงแค่ลดความ
ทรมานของฮูหยินเว่ยลง

“มูเ่ กอ ในเมือท่านมีความรูด้ า้ นการแพทย์ ท่านจะกลับ

56
จวนไปพร้อมกับเรา เพือดูอาการของท่านแม่ของข้าได้
หรือไม่” อยูๆ่ เว่ยกว๋านกว่านก็ได้พดู ขึนพร้อมความ
ตืนเต้น

เว่ยฉีรบี ปรามว่า : “กว๋านกว่านเจ้าอย่าทําให้มเู่ ก


อลําบากใจเลย อาการป่ วยของท่านแม่ แม้แต่
ปรมาจารย์ก็ยงั ไม่สามารถรักษาได้” พูดจบ เขาก็รูส้ กึ ว่า
การใช้คาํ ของตนเองไม่ถกู ต้อง จึงรีบอธิบายว่า : “มูเ่ ก
อ ท่านอย่าได้เข้าใจผิด ข้าไม่ได้หมายความว่าท่านไม่มี
ความสามารถ แต่ขา้ ไม่อยากให้ทา่ นต้องรูส้ กึ กดดัน
เพราะอายุทา่ นยังน้อย ในอนาคตไม่แน่วา่ อาจจะรักษา
ท่านแม่ของข้าได้.....โอ๊ย ! ข้าเองก็ไม่รูว้ า่ ควรจะพูด
อย่างไรแล้ว ขอเพียงท่านเข้าใจความหมายของข้าก็พอ
แล้ว”

57
มูช่ ิงเกอพยักหน้าและไม่ได้พดู อะไรกับเขาอีกต่อไป

ในความเป็ นจริงแล้ว ตอนนีนางก็ยงั ไม่กระจ่างในอาการ


ป่ วยของฮูหยินเว่ยและแน่นอนว่าจะไม่ตกปากรับคํา
อะไรแน่นอน

คําพูดของพีชาย ทําให้เว่ยกว๋านกว่านตระหนักว่าตนเอง
ใจร้อนมากเกินไป จึงรีบพูดว่า : “ใช่ๆ อาการป่ วยของ
ท่านแม่ของข้า แม้ปรมาจารย์ยงั ไม่อาจหาวิธีรกั ษาได้
ข้าไม่ควรจะทําให้มเู่ กอต้องลําบากใจ”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ เพือบอกว่าไม่เป็ นอะไร

58
ท้ายทีสุดแล้ว เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านได้เข้ามามีสว่ น
ร่วมในขบวนของมูช่ ิงเกอชัวคราว เพือออกจากผืนป่ าลัว
รือไปพร้อมๆ กัน

ระหว่างทาง มูช่ ิงเกอก็ยงั คงไม่ลืมตามหาข่าวคราวเกียว


กับมูย่ ี เพราะอย่างไรก็ตาม นางก็ได้รบั ผลตอบแทนจาก
ฟ่ งเหนียงมาแล้ว อาวุธกึงเทพนัน เพียงพอทีนางจะลง
ทุนลงแรง

และทังสองพีน้อง ระหว่างทางก็ได้หาดอกทานตะวัน
จํานวนหนึง เมือเป้าหมายสําเร็จแล้ว ความกังวลทีฉาย
อยูบ่ นใบหน้าของทังสองก็ได้จางหายไปมาก

59
เมือสําเร็จเป้าหมายหลัก ทังสองก็กลับมาอารมณ์ดีและ
ไม่มีสาระเหมือนดังทีพบกันครังแรก

สําหรับเพศของมูช่ ิงเกอ กลายเป็ นประเด็นทีพวกเขาให้


ความสนใจมากทีสุด

ใครใช้ให้ใบหน้าอันงดงามของมูช่ ิงเกอ สมบูรณ์แบบได้


มากถึงเพียงนี แม้จะมีเครืองมือมายาคอยช่วย แต่ก็ยงั
คงสร้างความคลุมเครือเกียวกับเพศเป็ นอย่างมากอยูด่ ี

สําหรับเรืองนี มูช่ ิงเกอได้อธิบายให้กบั เว่ยฉีฟังหลาย


รอบแล้วว่าตนเองนันเป็ น ‘ชาย’ แต่สดุ ท้ายเจ้านันก็ยงั

60
คงไม่เชือ มักจะจ้องมองมูช่ ิงเกอในทุกๆ เวลา ราวกับ
กําลังพยายามจับผิดว่านางกําลังปลอมตัวอยู่

สําหรับความดือรันของเจ้านัน ในตอนแรกมูช่ ิงเกอก็ยงั


คงไม่ชินมากนัก แต่หลังๆ ก็พบว่าไม่ได้เป็ นการกวนใจ
ตนเองจนมากเกินไป จึงไม่ได้ใส่ใจ

ในทางกลับกัน หลังจากทีรูว้ า่ มูช่ ิงเกอเป็ น ‘ชาย’ เว่ยกว๋า


นกว่านก็ราวกับได้รบั ชัยชนะ และไม่ชอบใจทีสายตา
ของพีชายคอยจับจ้องทีมูช่ ิงเกออยูต่ ลอดเวลา จึงได้
กลายร่างเป็ นแม่เสือและวิงไล่ทาํ ร้ายร่างกายพีชายตน
เองอยูท่ กุ วัน

61
พีน้องคูน่ ี ราวกับเป็ นตัวสร้างสีสนั ให้กบั ขบวน ทําให้ทกุ
คนค่อยๆ ยอมรับในตัวพวกเขา

“ท่าน อีก 1 ชัวยาม เราก็จะออกจากผืนป่ าลัวรือแล้ว


หากเร่งการเดินทาง จะสามารถไปรวมตัวกับกลุม่ ของพี
มัวทีเมืองจือก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน” องครักษ์เขียว
มังกรนายหนึงเดินเข้ามาอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอแล้วพูด

ทันใดนันแผนทีในมือ ก็พลันถูกยืนมาไว้ในมือของนาง

มูช่ ิงเกอก้มสายตามองแผนที นางพยักหน้าและพูดว่า :


“ถ้าเช่นนัน สังให้ทกุ คนเร่งเดินทาง”

62
อยูใ่ นผืนป่ าลัวรือมาก็เป็ นเวลานานแล้ว แต่ก็ยงั ไม่มีการ
ต่อสูอ้ ะไรเกิดขึน ทําให้นางคิดถึงอาหารและเหล้าอันเลิศ
รสเป็ นอย่างมาก

คนในขบวนเร่งเดินทาง และออกจากผืนป่ าลัวรือภายใน


เวลาอันสัน

ในขณะทีองครักษ์เขียวมังกรยืนมือไปจรดปากเพือส่ง
เสียงสัญญาณ ทันใดนัน อาชาเพลิงหลายตัวก็ได้วิงออก
จากผืนป่ า โดยมีเพลิงรัตติกาลเป็ นผูน้ าํ ——

“อา....อาชาเพลิง...!” เว่ยฉีมองอาชาเพลิงทีพุง่ ตัวออก


มาอย่างตืนตระหนกและร้องอุทานเสียงหลง

63
“ว้าว ! มูเ่ กอ พาหนะของพวกท่านคืออาชาเพลิงหรือ?”
เว่ยกว๋านกว่านมองมูช่ ิงเกอด้วยสายตาทีเป็ นประกาย
แล้วพูด

ผูท้ ีสามารถใช้อาชาเพลิงเป็ นพาหนะและยังมีหน้าตางด


งามได้มากถึงเพียงนี มันช่างสมบูรณ์แบบเสียจนไม่มี
ใครเทียบได้ !

มูช่ ิงเกอพยักหน้า และเดินเข้าไปหาเพลิงรัตติกาล ยกมือ


ขึนลูบขนของมัน

เพลิงรัตติกาลพ่นไอร้อนออกจากจมูก พลันขยับใบหน้า

64
ไปสัมผัสกับฝ่ ามือของมูช่ ิงกเอ ท่าทางอันสง่างามนัน ไม่
หลงเหลือความเย่อหยิงในตอนแรกเลยแม้แต่นอ้ ย

อาชาเพลิงทีมัวหยางเตรียมเอาไว้ เท่ากับจํานวนคนและ
เขาคาดไม่ถงึ ว่าระหว่างทางจะมีพีน้องตระกูลเว่ยเพิม
เข้ามา

เพราะฉะนัน มีสองคนทีจําเป็ นต้องนังบนหลังม้าตัว


เดียวกัน

มูช่ ิงเกอยังไม่ทนั จะพูดอะไร เว่ยฉีก็รบี จัดแจง : “กว๋านก


ว่านเจ้าไปขีกับแม่นางโย่วเหอ ส่วนข้า จะขีตัวเดียวกับมู่
เกอ”

65
“มีสทิ ธิอะไรกัน ! ข้าจะขีตัวเดียวกับมูเ่ กอ !” เว่ยกว๋านก
ว่านต่อต้านในทันที

เว่ยฉีใบหน้าดํามืด ท่าทางได้ใจก็แวบหายไปในทันที
พลันกัดฟั นพูดกับเว่ยกว๋านกว่านว่า : “ชายหญิงนันต่าง
กัน เข้าใจไหม?”

เว่ยกว๋านกว่านกลับไม่สนใจ เงยหน้าขึนพูดว่า : “หึ เจ้า


บอกว่ามูเ่ กอเป็ นหญิงมิใช่หรือ เจ้าอยากขีตัวเดียวกับ
เขา มีจดุ ประสงค์อนั ใดกัน ? คิดจะเอาเปรียบผูห้ ญิงรึ?”

“อย่ามาพูดจาไม่มีเหตุผลเช่นนี” สายตาของเว่ยฉีมี

66
ความตืนตระหนกแวบขึน ราวกับถูกเว่ยกว๋านกว่านเดา
ความคิดของตนเองออก

เว่ยกว๋านกว่านกลอกตารอบหนึง พลันยิมและพูดว่า :
“หากไม่อยากให้ขา้ พูดจาไม่มีเหตุผลเช่นนี ก็อย่ามาแย่ง
มูเ่ กอกับข้า !”

“เจ้า ! เจ้ามันหน้าไม่อาย! เป็ นสาวเป็ นนางพูดจาเช่นนี


โดยไม่รูจ้ กั อายได้อย่างไรกัน !” เว่ยฉีทงโกรธทั
ั งแค้นใจ
จนกระทืบเท้าและชีหน้าเว่ยกว๋านกว่าน

เว่ยกว๋านกว่านแลบลินให้เขา : “ชายหนุ่มผูง้ ดงาม มีไว้


สําหรับสาวงาม”

67
ศึกการแย่งชิงตัวมูช่ ิงเกอของทังสองราวกับว่า จะต้อง
เกิดขึนวันละ 1 รอบ องครักษ์เขียวมังกรรวมทังโย่วเห
อชินแล้ว ในขณะเดียวกันก็แอบถอนหายใจกับความน่า
ดึงดูดของเจ้านายของตนเอง ทีแม้จะปลอมตัวเป็ นผูช้ าย
แต่ก็ยงั คงสามารถเรียกร้องความรักจากผูช้ ายด้วยกันได้

ท่ามกลางการต่อล้อต่อเถียงของทังคู่ มูช่ ิงเกอได้นงรอ



บนหลังเพลิงรัตติกาลแล้ว

เมือเห็นว่าทังสองยังคงถกเถียงกันไม่เลิก นางก็ลบู แผง


คอของเพลิงรัตติกาลเบาๆ พร้อมพูดอย่างสุขมุ ว่า :
“เพลิงรัตติกาลไม่ชอบให้ผอู้ ืนนอกจากข้าเข้าใกล้” ความ
หมายของสิงทีพูดนันชัดเจน และเพลิงรัตติกาลก็ให้
68
ความร่วมมือโดยการแสดงท่าทางอันเย่อหยิงออกมา

ไม่รอรูว้ า่ ท้ายทีสุดแล้วทังสองต้องขีม้าตัวเดียวกับใคร มู่


ชิงเกอก็ได้จากไปเป็ นคนแรก

มองแผ่นหลังอันสง่าผ่าเผยของนาง เว่ยกว๋านกว่านและ
เว่ยฉีก็ได้แสดงท่าทางเศร้าใจออกมาทางใบหน้า และ
แอบนําตาตกเพราะความเสียดาย

จนกระทังองครักษ์เขียวมังกรเองก็จากไปอย่างสง่างาม
ดังเช่นมูช่ ิงเกอ ทังสองจึงได้สติกลับคืนมา และเดินเข้า
ไปหาม้าอย่างตืนตระหนก สุดท้าย เว่ยกว๋านกว่านได้นงั
อยูบ่ นม้าของโย่วเหอ และเว่ยฉีกลับไปเบียดบนหลัง

69
อาชาเพลิงขององครักษ์เขียวมังกรนายหนึง

และแล้วคนกว่าสิบคน ได้ออกเดินทางไปยังเมืองจือ
อย่างเกรียงไกร

เพราะความว่องไวของอาชาเพลิง ดวงตะวันยังไม่ทนั ได้


พ้นขอบฟ้า พวกเขาก็เห็นเมืองจือทีตังอยูใ่ นพืนทีราบ
แห่งหนึง

“อา ! ในทีสุดก็ถงึ ตัวเมืองแล้ว ไปกินอาหารอันเลิศรส


อาบนําและพักผ่อนได้เสียที !” เว่ยฉีทีนังอยูบ่ นหลังม้า
บิดขีเกียจทีหนึง ด้วยใบหน้าทีเต็มไปด้วยความผ่อน
คลาย

70
สําหรับคําพูดของเขาแล้ว มูช่ ิงเกอเองก็เห็นด้วย พลาง
พยักหน้าอย่างไม่รูต้ วั

เมืองจือ เป็ นเมืองทีใกล้กบั ผืนป่ าลัวรือมากทีสุด ทันทีที


เข้ามาภายในนี ก็ทาํ ให้สมั ผัสได้ถงึ ความแตกต่างของ
แคว้นฉินและแคว้นลี

สิงแรกทีแตกต่างกันอย่างสินเชิง แน่นอนว่าคือ ความ


แตกต่างในเรืองของรายละเอียดของการตกแต่ง

ประชาชนแคว้นลี โปรดปรานสีสนั ทีสดใสเปล่งประกาย


ชุดสีแดงของมูช่ ิงเกอ ในแคว้นฉินราวกับจะมีแค่นางคน

71
เดียวทีสวม แต่ทว่า ในแคว้นลี กลับสามารถเห็นชุดสี
แดงและสีมว่ งได้ทกุ ที เพียงแค่รูปแบบ และรายละเอียด
บนเนือผ้าทีแตกต่างกันก็เท่านัน

ประการทีถัดมา คือรสชาติของอาหาร

ประชาชนแคว้นฉินชอบทานอาหารทีมีรสเผ็ด แต่ทว่า
ประชาชนแคว้นลีนันกลับชอบทานอาหารทีมีรสชาติ
ค่อนไปทางหวานและเปรียว

“เดียวข้าจะไปกินผัดซีโครง ปลาเปรียวหวาน ขาหมูตนุ๋


ยาจีน ผัดพริกหยวก เนือผัดเปรียวหวาน.......” เว่ยฉียก
นิวขึนนับอาหารทีตนเองอยากกิน มุมปากราวกับมีอะไร

72
บางอย่างไหลออกมา

และมูช่ ิงเกอทีเดินมาอยูข่ า้ งหน้า เมือได้ยินแล้วกลับรูส้ กึ


เข็ดฟั น อาหารแคว้นลีทีขึนชือเหล่านี ทําให้ความอยาก
อาหารของนางหายไปกว่าครึง

ทันใดนัน นางก็รูส้ กึ ปลาบปลืมใจทีตนเองได้ทะลุมิติมา


เกิดทีแคว้นฉิน เพราะว่ารสชาติอาหารทีนางชอบทาน
เมือชาติทีแล้วก็คอ่ นไปทางรสเผ็ดจัด หากว่าเกิดทีแคว้น
ลีทีชอบทานอาหารรสชาติคอ่ นไปทางหวานและเปรียว
นีอาจจะทําให้เลียนตายหรือไม่ก็อาจจะอดตาย

ยิงเข้าใกล้เมืองจือ คนทีปรากฏขึนรอบๆ ตัวก็มากขึน

73
เรือยๆ

ระยะทางอันห่างไกล บริเวณประตูเมืองก็สามารถเห็น
ทังผูค้ นต่อแถวกันเข้าเมืองและออกจากเมือง ทหาร
ตรวจคนเข้าเมืองล้วนทําตามหน้าทีของตนเองอย่าง
เคร่งครัด ตังใจตรวจสอบผูค้ นทีเดินทางสัญจรไปมา

มูช่ ิงเกอถามเว่ยกว๋านกว่านว่า : “ทหารของแคว้นลีต่างก็


เคร่งครัดมากถึงเพียงนีหมดหรือ” ระหว่างการสนทนาที
ผ่านมา นางได้บอกแล้วว่าตนเองมาจากแคว้นฉิน

เว่ยกว๋านกว่านส่ายหน้าพลางพูดว่า : “ก็ไม่ถงึ ขนาดนัน


อย่างเมืองถัวของพวกข้าก็ไม่ได้เป็ นเช่นนี เป็ นเพราะ

74
เมืองจือนันใกล้กบั ชายแดน อาจเพราะเหตุผลนี จึงต้อง
ตรวจสอบอย่างละเอียด”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วจึงถามต่อว่า : “ภาย


ในเมืองจือนี มีหอสรรพสิงจริงๆหรือ”

“ใช่ ส่วนหนึงของหอสรรพสิงอยูใ่ นเมืองจือ มูเ่ กอท่าน


กําลังตามหาอะไรอยูก่ นั แน่ ไม่แน่วา่ เราอาจจะรู ้ ท่านจะ
ได้ไม่ตอ้ งไปเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ทีหอสรรพสิง”
เว่ยกว๋านกว่านมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

มูช่ ิงเกอยิม แต่ไม่ได้ตอบอะไร

75
ไม่ใช่เพราะต้องการรักษาความลับ แต่ทว่า เพราะสองพี
น้องแห่งตระกูลเว่ย ไม่มีทางรูจ้ กั พญาเพลิงเป็ นแน่ ถาม
ไปก็เปล่าประโยชน์

หากว่าพญาเพลิงหาง่ายถึงเพียงนี นางยังต้องไปตามหา
และเสียเงินซือข่าวจากหอสรรพสิงทีไม่มีอะไรทีมันไม่รู ้
ไปเพืออะไรกัน

หอสรรพสิง หน่วยข่าวกรองทีแลกความลับด้วยสิงของ
เป็ นทีๆ ขายข่าวเป็ นหลัก พูดได้วา่ เป็ นหน่วยข่าวกรองที
ยิงใหญ่ทีสุดในหลินชวนก็วา่ ได้

ได้ข่าวว่า หน่วยงานใหญ่ของมันอยูใ่ นแคว้นระดับหนึง

76
เซิงหยวน

และในแคว้นระดับ 1 และ 2 เองล้วนก็มีหน่วยงานย่อย


แคว้นระดับ 3 มีทงหมด
ั 4 แห่ง หนึงในนันอยูใ่ นเมืองจือ
แห่งแคว้นลี เมืองหลวงแคว้นลีอย่างเมืองฮ่วนก็มีอีกที
หนึง

ข้อมูลพวกนี มูช่ ิงเกอรวบรวมมาได้ระหว่างทาง จากนัน


ก็ได้พบกับสองพีน้องตระกูลเว่ย จึงได้รบั การยืนยันจาก
พวกเขา จนแน่ใจว่าข้อมูลทีได้มานันเชือถือได้

เมือเทียบกับการทีเว่ยกว๋านกว่านเสียดายทีตนเองจะ
เสียเงินแล้ว นางเป็ นห่วงว่าหอสรรพสิงจะสามารถให้

77
ข่าวทีมีประโยชน์ตอ่ นางได้หรือเปล่ามากกว่า

“ใช่สิ มูเ่ กอ ก่อนหน้านีท่านบอกว่า จะไปเรียนทีโรงโอสถ


ย่อยทีแคว้นอวีใช่หรือไม่” อยูๆ่ เว่ยกว๋านกว่านก็พดู ขึน

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ

ในตอนแรก เว่ยฉีถามนางว่า ออกจากแคว้นฉินมาเพือ


ไปทีแห่งใด นางจึงตอบเป้าหมายของตนเองไป เพียงแต่
ว่า เป็ นความจริงทีว่า นางจะไปโรงโอสถย่อย แต่ทว่า
เป้าหมายทีแท้จริงคือการได้รูถ้ งึ ความห่างชันกันระหว่าง
นักปรุงยากับตัวนางเองต่างหาก และอีกเหตุผลหนึงคือ
กระตุน้ สายโลหิตแห่งปรมาจารย์การหลอมอาวุธให้

78
สําเร็จ

แววตาของเว่ยกว๋านกว่านฉายแววเป็ นประกาย พลาง


พูดอย่างตืนเต้นว่า : “เราได้ปรึกษากันแล้วว่า หลังจากที
นําดอกทานตะวันลัวรือพวกนีกลับไปยังเมืองถัวแล้ว เรา
จะไปแคว้นอวีเพือเรียนรูด้ า้ นการรักษาทีโรงโอสถพร้อม
กับท่าน”

“เพราะอะไร?” มูช่ ิงเกอมองนางด้วยความฉงนใจ

“เพราะพวกข้ารูส้ กึ ว่า เมือเทียบกับทีพวกข้าจะฝาก


อาการป่ วยของท่านแม่ไว้ในมือคนอืน ไม่สเู้ ราสองพีน้อง
ไปศึกษาด้วยตนเองเลยไม่ดีกว่าหรือ ไม่แน่วา่ อาจจะ

79
สามารถช่วยท่านแม่ได้” ในขณะนีเอง เว่ยฉีก็รบี เข้ามา
พลันส่งรอยยิมให้กบั มูช่ ิงเกอ เผยให้เห็นฟั นขาวกระจ่าง
ใสทีเรียงตัวกันอย่างเป็ นระเบียบ

มูช่ ิงเกอกระตุกยิมตรงมุมปากทีหนึง ทําไมนางรูส้ กึ ว่า


จุดประสงค์ของสองพีน้องคูน่ ีไม่ได้เรียบง่ายดังทีพูดนะ

แต่วา่ ไม่วา่ พีน้องตระกูลเว่ยจะทําอะไร ก็ไม่ได้เกียวข้อง


กับนาง

เพราะฉะนัน นางจึงละสายตากลับมาและเร่งเดินทาง
ต่อ

80
รอจนเมือทุกคนมาถึงเมืองจือ คนสองกลุม่ ทีรออยูท่ ีนี
ก่อนแล้ว ต่างก็รบี เข้ามาต้อนรับพวกเขาจากทิศทางที
ต่างกัน.......

81
ตอนที 100-1 ไม่มีอะไรทีไม่รู ้ หากยอมจ่ายเงิน !

คนสองกลุม่ ทีเข้ามา มีกลุม่ ทีมูช่ ิงเกอรูจ้ กั อยูก่ ลุม่ หนึง

นันก็คือ มัวหยางและคนอืนๆ ทีมาถึงก่อนหน้านี และ


อีกกลุม่ หนึง แม้จะไม่รูจ้ กั แต่เมือได้เห็นความตืนเต้นที
เกิดขึนบนใบหน้าของเว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่าน ก็พอจะ
เดาออกว่าคนกลุม่ นีเป็ นใคร

และก็เป็ นอย่างทีคาดการเอาไว้ ในขณะทีมัวหยางเดิน


เข้ามา คนกลุม่ นันเองก็มาอยูต่ รงหน้าแล้ว หัวหน้ากลุม่
พูดกับสองพีน้องตระกูลเว่ยว่า : “คุณชาย คุณหนู !”

1
เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านลงจากหลังม้าและเดินมาอยู่
ตรงหน้าเขา พลางเอ่ยเรียกเขาอย่างนอบน้อมว่า : “ลุง
โจว” หลังจากนัน ทังสามก็เกาะรวมตัวกันเป็ นกลุม่ และ
กระซิบคุยกัน

แม้วา่ จะไม่ได้ยิน แต่มชู่ ิงเกอก็สามารถเดาได้วา่ น่าจะ


พูดคุยเรืองราวทีต่างฝ่ ายพบเจอหลังจากทีหลงกัน

เมือละสายตาจากตระกูลเว่ย มูช่ ิงเกอหันไปมองมัว


หยางและพูดว่า : “ทีพักได้จดั เตรียมไว้แล้วหรือยัง”

มัวหยางพยักหน้ารับ : “ท่าน ห้องพักและนําอุน่ รวมทัง


อาหารได้จดั เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่วา่ อาหาร

2
แคว้นจือนัน ค่อนข้างจะหวาน ท่านอาจจะไม่คนุ้ ชินนัก
ข้าน้อยจึงได้สงคนไปหาพ่
ั อครัว พรุง่ นีเช้าอาจจะได้ข่าว
คราว”

“ไม่ตอ้ งลําบาก ในเมือได้มาเยือนแคว้นลีแล้ว ก็ตอ้ งลิม


รสอาหารของแคว้นลี แม้วา่ จะไม่คนุ้ ชิน แต่ก็ยงั มีโย่วเห
ออยู”่ มูช่ ิงเกอขมวดคิวเบาๆ รูส้ กึ ว่ามัวหยางทําให้เรือง
เล็กเป็ นเรืองใหญ่มากเกินไป

มัวหยางก้มสายตาลง พยายามเก็บความรูส้ กึ ที
แสดงออกมาทางสายตา พลางตอบอย่างนอบน้อมว่า :
“ขอรับ”

3
“ไปกันเถิด เข้าไปพักในเมือง” มูช่ ิงเกอสัง

มัวหยางพยักหน้า คนกลุม่ ทีเพิงเข้ามาก็ได้เข้าไปรวมอยู่


ในขบวนเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว เพือเตรียมออกเดินทาง

“มูเ่ กอ !” ทันใดนัน เสียงของเว่ยกว๋านกว่านก็ได้ดงั ขึน


มา ทําให้มชู่ ิงเกอต้องหันไปมอง

นางเห็นเว่ยกว๋านกว่านวิงเข้ามาหาตนเองอย่างรวดเร็ว
ข้างหลังมีเว่ยฉีและคนทีพวกเขาเรียกว่าลุงโจวตามมา
ด้วย ส่วนองครักษ์ทีเหลือเองก็ตามมาติดๆ

เมือมาอยูต่ รงหน้าเพลิงรัตติกาล เว่ยกว๋านกว่านเงยหน้า


4
ขึนมองมูช่ ิงเกอ พลันกล่าวเชิญว่า : “พีมู่ ข้ามีเรือนพักที
เมืองจือ พวกท่านไปพร้อมกับพวกข้าดีไหม”

มูช่ ิงเกอขมวดคิวเล็กน้อย ไม่ได้รบี ปฏิเสธทันที

ในขณะนีเอง เว่ยฉีก็พาลุงโจวเดินเข้ามาและแนะนําให้
กับทังสองว่า : “พีมู่ นีเป็ นหัวหน้าองครักษ์ของตระกู
ลเว่ย นามว่าลุงโจว ลุงโจว ท่านนีคือผูท้ ีข้าเคยเล่าให้ฟัง
ว่าช่วยข้าและกว๋านกว่านเอาไว้ พวกเขามาจากแคว้น
ฉินและเตรียมจะเข้าไปเรียนรูก้ ารแพทย์ทีโรงโอสถย่อย
ของแคว้นอวี ”

ลุงโจวผูน้ ี อายุราว 40 กว่าปี ทา่ ทางนิงสงบ ฉายแววซือ

5
สัตย์

ในขณะทีมูช่ ิงเกอพินิจเขา เขาเองก็พินิจมูช่ ิงเกอเช่นกัน

มองแค่แวบแรก เขาก็ถงึ กับตกตะลึง คิดไม่ถงึ ว่า บนโลก


นีจะมีชายหนุ่มทีงดงามได้มากถึงเพียงนี ช่างเป็ นการ
เปิ ดโลกความงามใหม่ให้กบั ตัวเขาจริงๆ

หลังจากนัน เขาก็พบว่า คนกลุม่ นี อายุลว้ นยังไม่มาก


นัก การรวมตัวเช่นนีทําให้เขารูส้ กึ ฉงนใจ โดยปกติแล้ว
ขบวนทีเดินทางไกลเช่นนี ต้องมีคนทีพอจะมีอายุและ
หนักแน่นสักคนคอยนําขบวนไม่ใช่หรือ

6
ครูต่ อ่ มา ในขณะทีเขามองมูช่ ิงเกอด้วยสายตาสงสัย
เขาก็ได้คน้ พบว่า ชายชุดแดงผูน้ ี ท่าทางดูหนักแน่น แน่ว
แน่และมันคงเกินอายุ

และท้ายทีสุด เขาสังเกตเห็นว่า ข้างล่างตัวมูช่ ิงเกอคือ


อาชาเพลิง และคนอืนๆ ต่างก็ขีอยูบ่ นอาชาเพลิงเช่น
เดียวกัน จึงหรีตาลง ราวกับค้นพบคําตอบเกียวกับข้อ
ข้องใจของตนเอง

คนกลุม่ นี ดูเหมือนว่าจะไม่ธรรมดา ไม่เพียงแค่ลว้ นหนัก


แน่นแข็งแกร่งทุกคน นอกจากนีความสามารถก็คงจะมี
ไม่นอ้ ย

7
ความคิดนี วนเวียนอยูใ่ นหัวของลุงโจว แต่ก็เพียงแค่
ขณะหนึงเท่านัน

หลังจากทีเว่ยฉีแนะนําเสร็จแล้ว และหันมามองเขา ท่า


ทางของเขาก็กลับมาเป็ นปกติ ในขณะเดียวกันก็ได้
กล่าวเชิญชวน : “คุณชายมูไ่ ด้ช่วยคุณชายและคุณหนู
ของเราเอาไว้ ถือเป็ นผูม้ ีพระคุณของตระกูลเว่ย ตระกู
ลเว่ยจะให้ผมู้ ีพระคุณออกไปอยูข่ า้ งนอกได้อย่างไร คุณ
ชายมูไ่ ปกับพวกข้าเถิด ให้เราได้แสดงนําใจของเจ้าบ้าน
ในการรับรองท่าน”

ไปพักทีเรือนรับรองตระกูลเว่ย แท้จริงแล้วก็ดีกว่าห้อง
พักแขกทีวุน่ วายอยูม่ าก

8
มูช่ ิงเกอคิดทบทวนพักหนึง แล้วจึงพยักหน้าตอบรับ

คนและม้าสองกลุม่ รวมตัวกัน และเข้าไปยังเมืองจือ


อย่างสง่าผ่าเผย

เรือนรับรองตระกูลเว่ยนันอยูภ่ ายในเมืองจือ เพียงแต่วา่


เป็ นบริเวณทีสงบกว่าก็เท่านัน เพราะฉะนัน การทีพวก
เขาจะเข้าไปภายในเมือง ต้องผ่านย่านการค้าอันคึกคัก
ของเมืองจือก่อน

เมือทุกคนเดินผ่านตึกทีมีการสร้างและตกแต่งอย่างโดด
เด่นและเต็มไปด้วยผูค้ น มูช่ ิงเกอก็หนั กลับไปมองแวบ

9
หนึงและหันกลับมาอย่างนิงเฉย โดยไม่ได้หยุดขบวน

เว่ยกว๋านกว่านเองทีเห็นตึกนันเช่นกัน ก็ขีม้าและเคลือน
ตัวไปข้างหน้า เพืออยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอและถามด้วยความ
ฉงนใจว่า : “พีมู่ ท่านจะไปหอสรรพสิงมิใช่หรือ แต่เมือกี
เราผ่านมาแล้วนะ เหตุใดจึงไม่เข้าไปล่ะ”

“ไม่รบี ” มูช่ ิงเกอตอบอย่างเย็นชา

นางยังไม่คิดจะจากไปตอนนี จะเร่งรีบไปเพือเหตุใดกัน
หากว่าหอสรรพสิงมีเบาะแสเกียวกับพญาเพลิงจริง ไป
ช้าวันหนึง เบาะแสเหล่านันก็ใช่วา่ จะมีขาวิงหนีไปได้

10
เมือเห็นนางเป็ นเช่นนี เว่ยกว๋านกว่านเองก็ไม่รูว้ า่ ควรจะ
พูดอะไรต่อ ทําได้เพียงพยักหน้าราวกับเข้าใจแต่ไม่เข้า
ใจเลยสักนิด

พักใหญ่ นางก็พดู ต่ออีกว่า : “ดอกทานตะวันลัวรือที


ท่านแม่ของข้าต้องการ ตอนนีได้ให้ลงุ โจวสังคนเอากลับ
ไปแล้ว ทีเขายังอยูท่ ีนีต่อก็เพือรอเรา ท่านจะอยูท่ ีเมือง
จือนานเท่าไหร่ เราเดินทางพร้อมกันดีไหม เพราะการที
ท่านจะไปแคว้นอวีต้องผ่านเมืองถัวอยูแ่ ล้ว”

มูช่ ิงเกอคิดทบทวนครูห่ นึง ก่อนจะตอบว่า : “ได้” นาง


รูส้ กึ สงสัยเกียวกับอาการป่ วยของท่านแม่ของสองคนนี
อยากจะรูว้ า่ โรคทีทําให้ปรมาจารย์ปรุงยาจํานวนนับไม่
ถ้วนจมมุมนันรักษายากเพราะเหตุใดกัน
11
อีกประการหนึง สองพีน้องตระกูลเว่ยให้ความรูส้ กึ กับ
นางไม่เลว ท่านพ่อของพวกเขาก็สร้างความสนใจและ
นางอยากจะทําความรูจ้ กั ออกเดินทางไกลเช่นนี มีมิตร
สหายมากก็ยงเป็
ิ นประโยชน์

มีมิตรสหายมากก็มีทางออกมาก เหตุผลนี มูช่ ิงเกอกระ


จ่างตังแต่ชาติทีแล้ว

เมือชาติทีแล้ว การทีนางสามารถกลายเป็ นอันดับหนึง


ได้ ส่วนหนึงก็เป็ นเพราะมีเพือนพ้องจํานวนมาก หากมี
ภารกิจมาก เพือนๆ ของนางก็จะมาช่วยหรือให้ความ
ร่วมมือ ทําให้นางประหยัดปั จจัยหลายๆ อย่าง และลด
ปั ญหาต่างๆ ทีจะตามมาได้มากมาย เพราะเช่นนี จึงทํา
12
ให้ภารกิจของนางสามารถบรรลุได้

เหมือนดังภารกิจสุดท้ายของนาง หากไม่ใช่เพราะเพือน
ทีอยูใ่ นสังคมมืดและโด่งดังไปทัวโลก ช่วยสืบข่าวคราว
ของฝ่ ายศัตรู รูแ้ ผนทีทังหมดอย่างละเอียดและปิ ดระบบ
การทํางาน 10 วินาที นางก็ไม่สามารถจะขโมยยา
เปลียนแปลงดีเอ็นเอจากฝ่ ายศัตรูได้

เดินเข้ามาเกือบครึงเมืองจือ จึงมาถึงเรือนรับรองของ
ตระกูลเว่ย

หลังจากทีเข้าไปภายในเรือนรับรอง มูช่ ิงเกอและคนของ


นาง ต่างก็ถกู จัดให้พกั อยูใ่ นเรือนแห่งหนึง เรือนแห่งนี

13
บรรยากาศดีและกว้างขวางมาก พวกเขาทัง 20 กว่าคน
อยูย่ งั ไม่ถือว่าแออัด

ทันทีทีเข้าไปภายในเรือนโย่วเหอและฮวาเยวียก็นาํ บ่าว
รับใช้ภายในเรือนรับรอง เร่งรีบจัดการทุกอย่างให้เข้าที

มูช่ ิงเกอนังรออยูท่ ีศาลากลางเรือน คนทียืนอยูข่ า้ งๆ


นางก็คือมัวหยาง

สําหรับสองพีน้องตระกูลเว่ย ตอนนีได้กลับไปอาบนําหวี
ผมทีห้องของตนเองแล้ว

“ได้ข่าวว่าอย่างไรบ้าง ?” มูช่ ิงเกอถาม


14
ริมฝี ปากทีเม้มแน่ของมัวหยางค่อยๆ คลายออก และพูด
กับมูช่ ิงเกอว่า : “ข้าน้อยยังไม่ได้ข่าวคราวอะไร หลายวัน
ทีผ่านมานี ไม่วา่ จะสืบอย่างไร ก็ไม่ได้เบาะแสเกียวกับมู่
ยีและฟ่ งเหนียงเลยแม้แต่นอ้ ย”

ผลลัพธ์นี ไม่ได้ทาํ ให้มชู่ ิงเกอผิดหวังมากนัก

ราวกับว่า นางรูอ้ ยูแ่ ล้วว่าการสืบสวนในครังนียังไม่มี


อะไรคืบหน้า แต่ทว่า ด้วยความสามารถของฟ่ งเหนียง
คนทีนางแต่งด้วยจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาเป็ นแน่ คูส่ ามี
ภรรยาหนุ่มสาวทีเต็มเปี ยมไปด้วยความสามารถ แต่
กลับไม่สามารถสืบเบืองหลังของพวกเขาได้เลยแม้แต่

15
น้อย เรืองนีทําให้นางรูส้ กึ สงสัยเป็ นอย่างมาก

“แต่วา่ ในขณะทีข้าน้อยได้สืบว่า 10 ปี ก่อนหน้านี ใน


แคว้นลีมีเหตุการณ์สาํ คัญอะไรเกิดขึนบ้าง กลับพบโดย
บังเอิญว่า เมือ 10 ปี ทีผ่านมา องค์หญิงใหญ่แห่งแคว้น
ลีได้หายตัวไปพร้อมกับสมบัติอนั ลําค่าของแคว้นลี” มัว
หยางพูดเสริม

“องค์หญิงแคว้นลีหายตัวไปอย่างนันหรือ” มูช่ ิงเกอหรีตา


ทังคู่

องค์หญิงแคว้นลีจะมีสว่ นเกียวข้องกับเถ้าแก่เนียโรง
เตียมทีเมืองลัวรือแห่งแคว้นฉินหรือเปล่า

16
“สืบต่อไป” หลังจากสังการ มูช่ ิงเกอก็ไม่ได้พดู อะไรอีก
เลย

ในสายตาของมัวหยาง เหมือนกับมูช่ ิงเกอได้งีบหลับไป


แล้ว แต่ในความเป็ นจริง นางกลับเข้าสูช่ ่องว่างของตน
เองและเรียกตัวเหมิงเหมิงออกมา

“เจ้านายๆ ท่านมีเวลามาทําลูกอมให้เหมิงเหมิงหรือยัง”
เหมิงเหมิงทีตัวเท่านิวหัวแม่มือกระโดดออกมาง้อมูช่ ิงเก
อในทันที

มูช่ ิงเกอกระตุกรอยยิมตรงมุมปากอย่างแรงทีหนึง โอสถ

17
ทีนางหลอมออกมา ถูกเหมิงเหมิงเรียกว่าลูกอม เช่นนี
มันสมเหตุสมผลแล้วหรือ

18
ตอนที 100-2 ไม่มีอะไรทีไม่รู ้ หากยอมจ่ายเงิน !

นางหน้าดําคลํามิได้สนใจท่าทางประจบเอาใจของเหมิ
งเหมิงและเดินเข้าห้องหลอมอาวุธไป

ภายในห้องหลอมอาวุธ ไม่ได้เรียบง่ายเหมือนดังเดิม
จากแท่นหลอมอาวุธธรรมดาๆ ในตอนแรก กลายเป็ น
19
ห้องคิดค้นและผลิตอาวุธทีจัดทําขึนอย่างพิเศษ บนชัน
วางทีอยูต่ ิดกําแพงห้อง ก็เต็มไปด้วยอาวุธทีมูช่ ิงเก
อทดลองสร้างขึนในตอนแรก บนพืนก็เต็มไปด้วย
อุปกรณ์ในการหลอมอาวุธ

บนโต๊ะทํางาน ยังมีตาํ ราต้องห้าม ทีเป็ นสมบัติชินสําคัญ


เกียวกับวิธีการสร้างหลอมอาวุธ

และในตอนนี บนโต๊ะทํางานยังมีอปุ กรณ์อีกชินหนึง ที


แลกเปลียนกับฟ่ งเหนียงนันก็คือกริช ทีเหมิงเหมิงเรียก
ว่า อาวุธกึงเทพ

นางถือกริชขึนมาเล่นในมือครูห่ นึงและพูดกับเหมิงเหมิ

20
งอย่างกะทันหันว่า : “เหตุใดกริชเล่มนีจึงสามารถ
ทําลายการป้องกันและทําลายผนึกได้”

เมือเหมิงเหมิงเห็นว่าการแสร้งทําเป็ นน่ารักไม่ได้ผล จึง


นับเม็ดยาทีเหลืออยูใ่ นเอียมตรงหน้าท้องของตนเอง
หลังจากทีได้ยินคําพูดของมูช่ ิงเกออย่างกะทันหัน จึงได้
เงยสายตาขึนจ้องนางตาโต พลางทําปากจู๋และพูดกับ
นางว่า : “เหมิงเหมิงหิวแล้ว”

มูช่ ิงเกอชมวดคิว พลางยิมอย่างเย็นเยียบในใจ : “นีเจ้า


กําลังต่อรองกับข้าหรือ”

เหมิงเหมิงรีบส่ายหน้า และพูดอย่างอ่อนโยนว่า : “เหมิ

21
งเหมิงไม่ได้ตอ่ รองกับเจ้านาย แต่วา่ แค่กาํ ลังพูดความ
จริง เหมิงเหมิงหิวแล้ว พอหิว ก็นกึ อะไรไม่ออกเลย”

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปากทีหนึง พลางขู่อย่างโหดเ**◌้ยม


ว่า : “เชือไหมว่าข้าจะทําให้เจ้าไม่มีโอสถกินอีกตังแต่นี
เป็ นต้นไป”

เหมิงเหมิงตะลึงและร้องไห้ขนมาในทั
ึ นที เสียงร้องไห้นนั
ดังก้อง นําตาก็ไหลลงมาดังสายนํา พลางร้องไห้ พลาง
พูดอย่างทุกข์ใจว่า : “เจ้านายใจร้าย เจ้านายใจร้าย เอา
แต่รงั แกเหมิงเหมิง เหมิงเหมิงทําอะไรผิดต่อท่านหรือ ถึง
ต้องทํากับเหมิงเหมิงอย่างนี !”

22
เวร ! ขนาดนีเชียวหรือ !

มูช่ ิงเกอมองเหมิงเหมิงทีร้องไห้ใหญ่โตด้วยความอึง เจ้า


นีนอกจากจะแกล้งน่ารักแล้ว ยังเจ้าแผนการมากถึง
เพียงนี !

แสร้งทําเป็ นแสนดีมาทําให้คนอืนปวดหัว เจ้าเล่หจ์ ริงๆ!

มูช่ ิงเกอทีทนฟั งเสียงงอแงจนปวดหัว ในทีสุดก็หมด


ความอดทนและตะโกนขึนมาว่า : “หุบปาก !”

เสียงร้องไห้เงียบลงในทันที เหมิงเหมิงกัดริมฝี ปาก กลัน


เสียงร้องเอาไว้ พลางพูดอย่างสะอึกสะอืน ท่าทางนันทํา
23
เหมือนกับว่านางเป็ นปี ศาจร้าย

ตะโกนออกมาอย่างเหลืออดคําหนึง มูช่ ิงเกอก็หยิบขวด


ใบหนึงทีเต็มไปด้วยเม็ดยาออกมาโยนให้เหมิงเหมิง

รับขวดหนักๆ เอาไว้ เหมิงเหมิงยิมอย่างมีความสุขใน


ทันที จนไม่หลงเหลือความหมดหวังในตอนแรก “เจ้า
นายจะถามอะไร?” เหมิงเหมิงรีบขยับใบหน้าเข้ามาใกล้

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับหมดอารมณ์ทีจะถามเรืองกริชกับ


นางแล้ว

“อ้อ ! นึกออกแล้ว เจ้านายอยากจะถามเกียวกับเรืองที


24
กริชเล่มนีสามารถทําลายการป้องกันพลังและผนึกของ
ทุกสาย ฮูว~ความจริงก็ไม่ได้ขนาดนันหรอก แค่เกียว
ข้องกันก็เท่านัน” เหมิงเหมิงเอายิวมือชีหัวเล็กๆ ของตน
เองทําท่านึกแล้วพูด

“หมายความว่าอย่างไร? ” ดวงตาอันเปล่งประ
กายของมูช่ ิงเกอจ้องอยูบ่ นร่างกายของเหมิงเหมิง

“โอ๊ย หนูควรจะอธิบายอย่างไรดี จึงจะทําให้เจ้านายโง่ๆ


ของตนเองเข้าใจได้เนีย” เหมิงเหมิงบิดตัวไปมาหลาย
รอบ

‘เจ้านายโง่ๆ’ ทีนางพูดถึงตอนนีหัวเสียอีกคราว

25
ในขณะทีมูช่ ิงเกอกําลังจะตบแม่นางน้อยทีตัวเท่านิวหัว
แม่มือออกไป เหมิงเหมิงก็หนั มามองนางในทันที พลัน
พูดด้วยใบหน้าทีเคร่งขรึมว่า : “เจ้านาย ความจริงแล้ว
หลายคําถามต้องรอให้สายโลหิตในการหลอมอาวุธของ
ท่านถูกกระตุน้ เสียก่อน จึงจะสามารถให้ความกระจ่าง
ได้ แต่วา่ ไม่วา่ อย่างไร ท่านก็ถามข้าแล้ว ถ้าเช่นนัน ข้า
ก็จะตอบ ไม่เช่นนันก็ไม่สามารถแสดงความสามารถอัน
เก่งกาจของข้าออกมาได้น่ะสิ!”

“อย่ามัวแต่พดู ไร้สาระ” มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก และพูด


อย่างหัวเสีย

เหมิงเหมิงขมวดคิว และเอามือเท้าคาง พลันพูดด้วยนํา


26
เสียงจริงจังว่า : “ข้าไม่เคยพูดจาไร้สาระอยูแ่ ล้ว”

“.......” มูช่ ิงเกอหันหลังกลับและเตรียมพร้อมจะจากไป


นางไม่หวังจะได้รบั ข้อมูลทีมีประโยชน์ใดๆ จากเหมิงเห
มิงอีกแล้ว

แต่ทว่า หลังจากทีหันกลับไป นางกลับพบว่า ขาของตน


เองถูกจับเอาไว้ จึงหันกลับไปมองและพบว่า เหมิงเหมิ
งได้มาอยูต่ รงขาของตนเอง พร้อมดึงเสือผ้าของนางเอา
ไว้ เงยหน้าเล็กๆของตนเองขึน งอนจนปากควํา มองนาง
ด้วยใบหน้าทีเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ

ปฏิกิรยิ าทีเปลียนแปลงไปรวดเร็วยิงกว่าการทีนางหัน

27
หลังกลับมาเสียอีกนัน ยิงทําให้มชู่ ิงเกอถอนหายใจอย่าง
ยอมแพ้ ใครใช้ให้นางต้องมาเจอกับเจ้านีเล่า ไม่วา่ จะ
รังเกียจมากเพียงใด มันก็ไม่สามารถแยกออกจากตน
เองได้

“พูด” มูช่ ิงเกอพูดอย่างเย็นเยียบ

เหมิงเหมิงรีบพยักหน้าและตอบว่า : “ความจริงแล้ว กริช


เล่มนี สามารถทําลายได้เฉพาะการป้องกันพลังเวทของ
พลังทีมีระดับตํากว่าสายม่วงส่วนผนึกก็สามารถทําลาย
ได้แค่ระดับสายพลังทีตําทีสุดเท่านัน แต่วา่ หากเจ้านาย
สามารถหลอมมันจนเสร็จ ไม่แน่วา่ จะสามารถทําให้
ระดับของมันสูงขึนได้”

28
“ข้าถามว่า มันมีคณ
ุ สมบัติประการนีได้อย่างไรกัน” มูช่ ิง
เกอกัดฟั นถามคําถามก่อนหน้านีอีกครัง

“เหมิงเหมิงจะเล่าแล้วนะ เจ้านายอย่าขัดจังหวะเชียว
ล่ะ !” เหมิงเหมิงขมวดคิวพร้อมทําปากจู๋

“……” มูช่ ิงเกอเงียบ

เมือเห็นว่ามูช่ ิงเกอเงียบไป เหมิงเหมิงจึงเผยรอยยิมได้


ใจบนใบหน้าของตนเอง : “ปรมาจารย์สร้างอาวุธทุกคน
ไม่ใช่วา่ จะสามารถทําได้ มีเพียงผูค้ รอบครองสายโลหิต
แห่งการหลอมอาวุธเท่านัน จึงจะสามารถแยกแยะและ

29
แจกแจงคุณสมบัติประการต่างๆ ของอาวุธได้ และใช้
คุณสมบัติพิเศษของชินส่วนอาวุธในการสร้างอาวุธที
เหมาะสมทีสุด นีเป็ นความสามารถพิเศษของ
ปรมาจารย์การหลอมอาวุธ กริชเล่มนี มีคณ
ุ สมบัติพิเศษ
ประการนี ต้องเป็ นเพราะใช้ชินส่วนทีมีคณ
ุ สมบัติช่อง
ว่างสร้างขึนมา เพราะไม่วา่ จะเป็ นการทําลายการ
ป้องกันหรือทําลายผนึก ต่างก็มีสว่ นเกียวข้องกับช่อง
ว่างทังนัน”

คําอธิบายนี ทําให้มชู่ ิงเกอกระจ่างในทันที

ทีผ่านมา นางดูถกู สายโลหิตแห่งปรมาจารย์การหลอม


อาวุธมากเกินไปและคิดว่า แม้จะไม่ได้กระตุน้ สายโลหิต
และใช้วิธีการออกแบบอาวุธใหม่ๆ ของนาง ก็จะ
30
สามารถเดินในสายการสร้างอาวุธนีได้

หลังจากทีได้ยินเหมิงเหมิงพูดในวันนี นางจึงกระจ่างว่า
หากไม่กระตุน้ สายโลหิต นางและปรมาจารย์สร้างอาวุธ
ก็ยงั คงมีความแตกต่าง

ในตอนแรก เรืองการกระตุน้ สายโลหิต เป็ นสิงทีมูช่ ิงเก


อจะต้องทําให้สาํ เร็จเป็ นอันดับแรก

หลังจากทีนางออกจากช่องว่าง ความคิดแรกก็คืออยาก
จะไปหาเบาะแสเกียวกับพญาเพลิงทีหอสรรพสิง

ถึงแม้วา่ พญาเพลิงจะสามารถกระตุน้ สายโลหิตได้ เป็ น


31
วิธีการทีเหมิงเหมิงพบเจอในตํารา และไม่ใช่วิธีการที
ปกติมากนัก แต่มชู่ ิงเกอในตอนนี ก็คงต้องลองเสียง

มูช่ ิงเกอทีอยากจะไปหอสรรพสิง แต่สดุ ท้ายกลับถูกงาน


เลียงทีจัดขึนโดยพีน้องตระกูลเว่ยหยุดเอาไว้เสียก่อน

หลังจากทีลิมรสอาหารขึนชือของแคว้นลีมาแล้วมือหนึง
มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ หวานจนเลียนจึงกลับไปภายในส่วนของ
เรือนรับรองชัวคราวและเตรียมพักผ่อน

สําหรับหอสรพพสิง คงต้องไปพรุง่ นีเช้า

คําคืนอันเงียบงัน ตอนทีพระอาทิตย์ขนสู
ึ ข่ อบฟ้า มูช่ ิงเก
32
อก็ตืนแล้ว

ในขณะทีเว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านมาถึงทีนี มูช่ ิงเก


อกําลังดืมโจ๊กทีโย่วเหอตืนแต่เช้ามาต้มให้

เมือเห็นทังสองเดินเข้ามา มูช่ ิงเกอก็ตอ้ นรับว่า : “นังสิ


ทานอาหารเช้าหรือยัง โจ๊กทีโย่วเหอต้มยังเหลืออยู”่

เว่ยกว๋านกว่านมองโจ๊กทีขาวใสจนเห็นก้นถ้วย แล้วพูด
อย่างไม่สนใจว่า : “เราจะพาท่านออกไปทานอาหารเช้า
ขึนชือของแคว้นลี แต่ไม่คิดว่าท่านจะทานแล้ว”

มูช่ ิงเกอพูดอย่างไม่รอช้าว่า : “ตอนเช้าเช่นนี ข้าชอบกิน


33
อะไรจืดๆ”

เว่ยฉีนงอยู
ั ข่ า้ งขวาของมูช่ ิงเกอ เว่ยกว๋านกว่านเองก็อยู่
ข้างซ้ายของนาง สองพีน้องล้อมรอบนางเอาไว้ เฝ้านาง
ทีค่อยๆ ดืมโจ๊กอย่างไม่เร่งไม่รบี

หลังจากทีนางวางถ้วยลง เว่ยกว๋านกว่านก็ดงึ มือของ


นางให้ลกุ ขึน : “ไปเถิด เราออกไปเดินเล่นกัน”

34
ตอนที 100-3 ไม่มีอะไรทีไม่รู ้ หากยอมจ่ายเงิน !

“เอามือออกไป!” ปลายนิวทีสาดฉายแสงสีเขียวของ
เว่ยฉีจบั อยูบ่ นข้อมือของเหว้ยกว๋านกว่าน ทําให้นางจํา
ต้องปล่อยมือออกจากมือของมูช่ ิงเกออย่างกะทันหัน
ด้วยความเจ็บปวด
35
“โอ๊ย ! ไอ้บา้ เว่ยฉี เจ้าทําบ้าอะไรเนีย?” เว่ยกว๋านกว่าน
จับแขนของตนเอง พร้อมทังต่อว่าเว่ยฉีดว้ ยความโกรธ

“ชายหญิงห้ามใกล้ชิดกันมากเพียงนี” เว่ยฉีปัดเสือผ้า
ของตนเองทีหนึง พลันยิมอย่างเบิกบานให้กบั มูช่ ิงเกอ :
“ข้ากับมูเ่ กอต่างก็เป็ นชาย ไม่จาํ เป็ นต้องถืออะไร” พูด
จบ ก็ยืนมือออกไปคล้องแขนของมูช่ ิงเกอเอาไว้

“เว่ยฉีเจ้ากล้าเหรอ !” ทันใดนัน เว่ยกว๋านกว่านสะบัด


แสงสีเขียวออกไปทางพีชายฝาแฝด

ท่าทางของทังสองดูเหมือนว่ากําลังจะเปิ ดศึกกันในห้อง

36
ของมูช่ ิงเกอในอีกไม่ชา้ นี

“พอที!” มูช่ ิงเกออุทานอย่างเย็นชาทีหนึง ทังสองจึงเก็บ


อารมณ์ในทันทีและยืนนิงอยูข่ า้ งๆ พลันแอบมองสีหน้า
ของมูช่ ิงเกอ

เมือเห็นว่านางมีสีหน้าแข็งกระด้าง ทังสองต่างก็โยน
ความผิดให้อีกคน ใช้สายตาทําร้ายอีกฝ่ าย

“ข้าไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ ไม่วา่ จะชายหรือหญิง” มูช่ ิงเก


อมองทังสองพีน้องด้วยสายตาทีแฝงการเตือนแวบหนึง
จากนันจึงเดินออกจากห้องไป

37
เมือเห็นว่าทังสองยังคงอึงอยู่ จึงพูดว่า : “จะออกไปเดิน
เล่นมิใช่หรือ”

ทังสองจึงคล้ายดังถูกคลายจากมนต์สะกดและพุง่ ตัว
ออกจากห้องไปเดินอยูท่ งซ้
ั ายและขวาของมูช่ ิงเกอ

เมือเห็นว่าทีของตนเองถูกยึดครอง โย่วเหอและฮวาเย
วียต่างก็มองหน้ากันด้วยรอยยิมจนปั ญญา

เดินออกจากเรือนรับรองตระกูลเว่ย ข้างหลังของมูช่ ิงเก


อ เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านมีคนเพิมเข้ามาอีก 6-7 คน
นอกจากโย่วเหอและฮวาเยวียแล้ว มัวหยางเองก็ตามมา
ด้วย ส่วนคนทีเหลือล้วนเป็ นองครักษ์ทีถูกลุงโจวสังให้

38
มาดูแลความปลอดภัยของพีน้องตระกูลเว่ยคูน่ ี

กลินอายทีแผ่ออกมาจากองครักษ์พวกนีไม่ดอ้ ยเลยแม้
แต่นอ้ ย ดูเหมือนว่าจะเป็ นผูม้ ีฝีมือจากตระกูลเว่ย

คนจํานวนหนึงเดินอยูใ่ นเมืองจือ เว่ยฉีและเว่ยกว๋านก


ว่านต่างก็แย่งกันแนะนําสภาพและวัฒนธรรมของเมือง
ลี มูช่ ิงเกอพลางมอง พลางฟั งสิงทีทังสองพูด ไม่นานนัก
ก็ไปหยุดอยูต่ รงหน้าประตูหอสรรพสิงอีกครัง

ในตอนนี ยังถือว่าเช้าอยู่ หน้าหอจึงไม่ได้คกึ คักเหมือน


ดังเมือวาน มีคนอยูเ่ พียงไม่กีคน ทีเดินออกมาจากด้าน
ใน

39
“พวกเขาต้องเป็ นคนทีมาทําการค้ากับหอสรรพสิงอย่าง
แน่นอน เอาของดีมาขายให้กบั หอสรรพสิง” เว่ยฉีอธิ
บายกับมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอพยักหน้ารับ

คนจํานวนหนึงเดินเข้าไปยังหอสรรพสิงในขณะทีกําลัง
จะก้าวข้ามธรณีประตู ก็พลันมีหญิงสาวงดงามผูห้ นึง
เดินออกมา โน้มตัวลงพร้อมรอยยิมจางๆ : “คุณชาย
ท่านนี คุณหนู ยินดีตอ้ นรับเข้าสูห่ อสรรพสิง ท่านมีอะไร
ให้เรารับใช้หรือเจ้าคะ”

40
มารยาททีครบครันและช่างสมบูรณ์แบบ บ่งบอกถึงการ
สังสอนทีได้รบั จากหอสรรพสิง

เพียงแต่ ในขณะทีนางเงยหน้าขึนและกวาดสายตาผ่าน
ใบหน้าของมูช่ ิงเกอ ดวงตาทีถูกฝึ กมาอย่างดีคนู่ นกลั
ั บมี
ความตะลึงแฝงอยู่

โชคดีทีนางไม่ได้แสดงอาการอันใดออกมาและรีบเก็บ
สายตาทีแฝงความตกตะลึงของตนเองอย่างรวดเร็ว จาก
นันจึงพาทุกคนเดินเข้าหอสรรพสิงไป

เป็ นครังแรกทีมาเยือนหอสรรพสิง มูช่ ิงเกอกวาดสายตา


มองไปรอบๆ อย่างคร่าวๆ

41
แล้วก็พบว่า ทีนีเป็ นห้องโถงขนาดใหญ่ บนกําแพงฝัง
ตรงข้าม มีปา้ ยไม้แผ่นใหญ่แขวนอยู่ ด้านบนเขียนการ
บริการของแต่ละชันไว้อย่างชัดเจน

สองฝังของห้องโถง มีหญิงสาวใบหน้างดงามและรูป
ร่างยัวยวนเหมือนคนทีกําลังนําทางพวกเขาอยูใ่ นตอนนี
ยืนอยูเ่ พือรอแขกทีมาเยือน

“ชันแรกของเรา ไม่ได้มีการค้าขายอะไร เพียงแค่แสดง


ให้เห็นภาพรวมของภารกิจทีเราทํา หากคุณชายและคุณ
หนูตอ้ งการจะซืออะไร ต้องไปชันสองหรือชันสาม” หญิง
สาวทีนําทางมาพูดอย่างมีมารยาท

42
เว่ยฉีพยักหน้า พลันมองมูช่ ิงเกอและพูดว่า : “พวกเรา
มากับนายท่านท่านนี เพียงอํานวยความสะดวกให้ทา่ น
ผูน้ ีผูเ้ ดียวให้ดีก็เพียงพอแล้ว”

หญิงสาวทีนําทางมาเข้าใจและมองเว่ยฉีดว้ ยความรูส้ กึ
ตืนเต้น พลันเดินไปอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอ : “คุณชายต้องการ
อะไร บอกเหลียนเอ๋อร์ได้เลย” พูดจบ ใบหน้าอันงดงาม
ละเอียดลออของนางก็ดเู ขินอาย

ราวกับว่า เป็ นเพราะมองท่าทางของมูช่ ิงเกอในระยะ


ประชิด จึงทําให้ตะลึงงันไป

43
สายตาอันเย็นชาของมูช่ ิงเกอจ้องบนตัวนาง ราวกับรับรู ้
ได้ถงึ ความเขินอายของนาง จึงตอบว่า : “ถ้าเช่นนัน ก็
ขอรบกวนแม่นางเหลียนเอ๋อร์แล้ว”

พูดจบ ทังสองก็เดินเข้าไปบริเวณทีมีปา้ ยไม้แขวนอยู่

เห็นความ ‘สนิทสนม’ ของพวกเขา เว่ยกว๋านกว่านพลัน


เบ้ปากอย่างหัวเสีย จับแขนของพีชายเอาไว้แน่นและบ่น
กับพีชายว่า : “เพราะเจ้าคนเดียวเลย ทีทําให้หญิงจอม
มารยาสะดีดสะดิงผูน้ ีต้องมาอยูใ่ กล้ชิดกับมูเ่ กอ”

เว่ยฉีหลบการลอบทําร้ายของนางแล้วหัวเราะเยาะว่า :
“นางเพียงทําตามหน้าทีของตนเอง เจ้าจะมาไม่พอใจ

44
อะไร”

“หึ ! เจ้าจงใจ ไอ้เว่ยฉี!” เว่ยกว๋านกว่านอุทานอย่างไม่


พอใจ

การทะเลาะต่อล้อต่อเถียงของทังสองไม่ได้รบกวนสภาพ
จิตใจของมูช่ ิงเกอเลย

นางอ่านเนือความในป้ายไม้อย่างละเอียด รูส้ กึ ว่าการ


ดําเนินงานของหอสรรพสิงนันมีความแปลกใหม่ ข้างๆ
ป้ายไม้ แขวนช่องภารกิจเอาไว้มากมาย สามารถรับ-ส่ง
ภารกิจได้

45
เมือฟั งคําแนะนําจากเหลียนเอ๋อร์จบแล้ว นางก็เก็บสาย
ตากลับมามองเหลียนเอ๋อร์ : “ข้าจะมาหาเบาะแสเกียว
กับอะไรบางอย่าง ไม่ทราบว่าแม่นางเหลียนเอ๋อร์จะช่วย
นําทางได้หรือไม่?”

เหลียนเอ๋อร์ยมหวานคราหนึ
ิ งและพูดด้วยนําเสียงอัน
อ่อนโยนว่า : “ทีแท้คณ
ุ ชายก็อยากจะหาข้อมูลนีเอง
ตามเหลียนเอ๋อร์มาเลยเจ้าค่ะ” พูดจบ ก็พาทุกคนขึน
ข้างบนไป

จุดซือขายข่าวสารของหอสรรพสิง อยูท่ ีชันสาม

ในขณะทีเหลียนเอ๋อร์พาทุกคนขึนไปถึงชันสาม ด้านใน

46
ไม่มีแขกเลยแม้แต่เพียงผูเ้ ดียว มีเพียงชายหนุ่มอายุยงั
ไม่มากนักคนหนึงกําลังนังเอามือเท้าคางงีบหลับอยูห่ ลัง
โต๊ะ

การเข้ามาของทุกคนไม่ได้รบกวนการนอนของเขาเลย
แม้แต่นอ้ ย เหลียนเอ๋อร์ยมเพื
ิ อขอโทษทุกคนและรีบเดิน
เข้าไปเคาะโต๊ะทีอยูต่ รงหน้าเขา ในขณะเดียวกันก็คอย
แนะนํากับมูช่ ิงเกอว่า : “ภายในหอสรรพสิง ณ เมืองจือ
แห่งนี ส่วนมากเป็ นการแลกเปลียนซือขายสิงของ หรือ
การแจ้งภารกิจ คนทีมาขอซือข้อมูลทีนีมีนอ้ ยมาก”

“วันนีเรามาเช้าไปจริงๆ” มูช่ ิงเกอกล่าวอย่างเข้าใจ

47
ความเข้าอกเข้าใจและมีเหตุผลเช่นนี ทําให้ภายในจิตใจ
ของเหลียนเอ๋อร์มีความรูส้ กึ ดีๆเกิดขึนในทันที

ตอนนีคนทีนังอยูห่ ลังโต๊ะก็ถกู เรียกให้ตืนและขยีตาอย่าง


มึนงง พลางพึมพําว่า : “พีเหลียนเอ๋อร์ มีอะไร”

“เจ้าชูเซิงแขกมาถึงทีแล้วยังหลับอยูอ่ ีก ระวังหัวหน้าลง
โทษ” คําพูดแม้จะเป็ นการกล่าวโทษ แต่ผฟู้ ั งกลับสัมผัส
ได้ถงึ ความเอ็นดูทีซ่อนอยู่

ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์สว่ นตัวระหว่างหลียนเอ๋อร์และ
หนุ่มน้อยทีชือชูเซิงจะไม่เลวเลย

48
เมือได้ยินว่ามีแขกมาชูเซิง จึงรีบตังสติแล้วเงยหน้าขึน
มองคนกลุม่ หนึงทียืนอยูห่ น้าโต๊ะ

ท่ามกลางผูค้ นเหล่านัน ร่างในชุดสีแดงอันเจิดจ้าน่าเย้า


ยวนและสง่าผ่าเผย ดึงดูดความสนใจจากเขาได้มากที
สุด ช่างเป็ น‘ชายหนุ่มทีงดงามยิงนัก!’ ชูเซิงอุทานในใจ

ค่อยๆ เก็บสายตาอย่างแนบเนียน ชูเซิงประสานหมัด


และพูดกับทุกคนว่า : “แขกผูม้ ีเกียรติทกุ ท่าน เมือครูน่ ีชู
เซิงละเลยในหน้าที ต้องขออภัยทุกท่านและขอให้ทกุ
ท่านอย่าถือโทษ”

เขาอายุยงั น้อย แต่กลับพูดจามีเหตุมีผล

49
มูช่ ิงเกอส่ายหน้าอย่างไม่สนใจ และถามตรงๆ ว่า : “ไม่
ทราบว่า หอสรรพสิงมีพญาเพลิง หรือพอจะมีเบาะแส
เกียวกับพญาเพลิงหรือไม่”

“พญาเพลิง? มูเ่ กอจะหาพญาเพลิงไปเพืออะไร?”

“มูเ่ กอ ท่านกําลังตามหาพญาเพลิงหรือ?”

นําเสียงของทังสองพีน้อง เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่าน เต็ม


ไปด้วยความฉงนใจ

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ มิได้ตอบคําถามทีทังสองพีน้อง


50
สงสัย

51
ตอนที 100-4 ไม่มีอะไรทีไม่รู ้ หากยอมจ่ายเงิน !

ชูเซิงไม่ได้ตกใจเหมือน สองพีน้องตระกูลเว่ย เพียงแค่


พูดซําอีกรอบอย่างสงบนิงว่า : “ท่านต้องการข้อมูลเกียว
กับพญาเพลิงอย่างนันหรือ”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าตอบรับ

หลังจากทีแน่ใจแล้ว ชูเซิงก็พินิจอีกครังและพูดว่า : “ไม่


ทราบว่า ท่านต้องการข้อมูลประเภทใดรึ”

“อ้อ? ยังมีการแบ่งส่วนอีกหรือ?” มูช่ ิงเกอตะลึงเล็กน้อย

52
ชูเซิงพยักหน้าและอธิบายต่อไปว่า : “พญาเพลิงถือเป็ น
ส่วนหนึงของฟ้าดิน หากต้องการจะทราบเกียวกับ
ประเภทหรือการจัดระดับ ล้วนมีราคาทีต่างกัน ความ
เป็ นมาและคุณสมบัติการใช้ของมันก็เป็ นอีกราคา
หากอยากจะรูท้ ีทีพญาเพลิงอยู.่ ...” ชูเซิงยิมและพูดต่อ
ว่า : “ก็เป็ นอีกราคาหนึง”

มีรายละเอียดมากมายขนาดนีเชียว

มูช่ ิงเกอแอบรูส้ กึ ว่ามันเกินไป

นางรูจ้ ากเหมิงเหมิงว่า พญาเพลิงเป็ นขุมพลังชนิดหนึงที


เกิดขึนในขณะทีฟ้าดินได้ก่อตัวขึน มีปริมาณน้อยและ

53
หายากมาก ส่วนรายละเอียดอืนๆ นางไม่ทราบ

ในตอนนี คําพูดของชูเซิงทําให้นางรูส้ กึ ฉงนใจเป็ นอย่าง


มาก เม้มปากคิดสักครูห่ นึงจึงพูดว่า : “หากต้องการทัง
หมด ข้าต้องจ่ายอย่างไร”

แม้วา่ ความรูข้ องเหมิงเหมิงจะมาก แต่นางก็หลับใหลมา


นานหลายต่อหลายปี ข้อมูลอาจจะคลาดเคลือนกับตอน
นี หากไม่แพงจนเกินไป นางก็อยากจะซือข้อมูลทังหมด
เอาไว้

“ท่านต้องการทังหมดเลยรึ!” ชูเซิงพูดอย่างตกใจ

54
มูช่ ิงเกอกระตุกรอยยิมและพูดว่า : “หากหอสรรพสิงมี”
วิธีการพูดนัน นีมันช่างเป็ นวิธีการของพวกเศรษฐี โดยแท้

ชูเซิงอ้าปากค้างและพยักหน้า จากนันจึงพูดด้วยท่าทาง
แปลกๆ ว่า : “ถ้าเช่นนันก็ขอให้คณ
ุ ชายรอครูห่ นึง ชูเซิง
จะไปหาข้อมูลเกียวกับพญาเพลิงทีหอเดียวนี หลังจากที
แน่ใจแล้วจะมาบอกรายละเอียดกับคุณชาย”

มูช่ ิงเกอพยักหน้ารับ ชูเซิงดึงหน้าต่างเล็กๆ ตรงโต๊ะลง


แล้วถอยออกไป

ในตอนนี มูช่ ิงเกอจึงมีโอกาสได้สาํ รวจการตกแต่งของ


ชันสาม

55
ในความเป็ นจริงแล้ว ชันสามไม่ได้มีของมีคา่ อะไรอยูเ่ ลย
ทังชันนอกจากโต๊ะตัวสูงทีชูเซิงนังอยูใ่ นตอนแรก ก็เป็ น
เก้าอีหลายตัวทีถูกเรียงเอาไว้เพือเป็ นทีนังพัก

แต่ทว่า บนกําแพงกลับมีภาพวาดอักษรจีนโบราณแขวน
อยู่ บนภาพวาดเขียนว่า ‘ไม่มีอะไรทีไม่รู ้ ไม่มีอะไรทีไม่
บอก บอกทุกอย่าง หากยอมจ่ายเงิน’

หากยอมจ่ายเงิน !

คําพูดทีตรงไปตรงมาจนไม่รูว้ า่ จะตรงอย่างไร ทําให้มชู่ ิง


เกอเผยรอยยิมออกมา

56
ทันใดนันนางก็พลันรูส้ กึ ว่า ตนเองคงต้องคํานวณ
ทรัพย์สนิ ของตนเองดูเสียหน่อยว่าสามารถจ่ายตามทีหอ
สรรพสิงต้องการได้หรือไม่

“คุณชาย เชิญดืมชา” ระหว่างทีรอ เหลียนเอ๋อร์ก็ได้ยก


ถาดทีมีนาชาวางอยู
ํ ม่ าบริการทุกคน

มูช่ ิงเกอทีนังอยูบ่ นเก้าอีกลม หลุบสายตาลง ในใจกลับ


กําลังคํานวณของมีคา่ ทีตนเองมีอยูใ่ นตอนนี

การแลกเปลียนกับหอสรรพสิง ไม่จาํ เป็ นต้องจ่ายเป็ น


เงินเสมอไป

57
หากสามารถจ่ายในสิงทีหอสรรพสิงคิดว่ามีคา่ ได้ ก็
สามารถแลกเปลียนกันได้

เงินอย่างนันหรือ?

มูช่ ิงเกอกลับไม่รูส้ กึ ว่า ข้อมูลของพญาเพลิงสามารถซือ


ได้ดว้ ยเงิน อีกประการหนึง นางออกจากจวนตระกูลมู่
มา ไม่ได้พกเงินตําลึงมามากนัก มีเพียงตัวเงินราว 4-5
แสนตําลึงทีมูเ่ หลียนหรงให้ไว้กบั นาง ก่อนวันทีนางจะ
เดินทางออกจากจวน

เงินจํานวนนี เพียงพอให้นางใช้จ่ายสุรุย่ สุรา่ ยไปได้อีก

58
นานเลย แต่หากจะต้องแลกเปลียนกับหอสรรพสิง นาง
คิดว่ายังไม่เพียงพอ

ไม่สามารถใช้ตาํ ลึงเงินได้ คงต้องใช้สงของในการแลก



เปลียน

เอาอะไรดีละ่ ?

ทักษะการต่อสูอ้ ย่างนันหรือ นางเองก็ยงั ขาดแคลน

การหลอมอาวุธอย่างนันหรือ ในวันนี นางยังไม่ชาํ นาญ


มากนัก

59
ถ้าเช่นนัน ก็เหลือแค่โอสถแล้ว

โอสถ....มูช่ ิงเกอรูส้ กึ เสียดาย แม้วา่ นางจะปรุงโอสถออก


มาจํานวนไม่นอ้ ย แต่สว่ นมากก็ไปตกอยูใ่ นท้องของเหมิ
งเหมิง ทีเหลือล้วนเป็ นโอสถระดับสูงทีนางยึดเอามา
จากปากของเหมิงเหมิงทังนัน

เมืออยูน่ อกช่องว่าง โอสถระดับสูงเม็ดหนึง มีคา่


มหาศาลเชียวนะ

เอามาแลกข้อมูลในตอนนี จะไม่ทาํ ให้นางเจ็บใจได้


อย่างไร?

60
แม้วา่ จะเจ็บใจ แต่อะไรทีควรจ่าย ก็จาํ เป็ นต้องจ่าย เหตุ
ผลนีมูช่ ิงเกอล้วนกระจ่างเป็ นอย่างดี

พักใหญ่ หน้าต่างตรงโต๊ะใหญ่ก็ถกู เปิ ดออกอีกครัง เผย


ให้เห็นใบหน้าของชูเชิง เขาพูดด้วยนําเสียงทีประดับไป
ด้วยความรูส้ กึ ขออภัย พร้อมพูดด้วยรอยยิมว่า : “ขอ
อภัยทีทําให้คณ
ุ ชายรอนาน”

“ว่าอย่างไรบ้าง?” มูช่ ิงเกอถาม

ชูเซิงผุดรอยยิมและพูดว่า : “ท่านมาได้เวลาพอดี ข้อมูล


และเบาะแสทังหมดของพญาเพลิง หอสรรพสิงของเรา
ล้วนมีทงหมด”

61
“มีทงหมดเลยหรื
ั อ!” ดวงตาของมูช่ ิงเกอพลันเปล่ง
ประกายและหัวใจเต้นแรงขึนหลายเท่า

ชูเซิงพยักหน้า

“ต้องการอะไรเป็ นการแลกเปลียน” มูช่ ิงเกอหรีตาทังคู่


ลง

นางไม่เก็บซ่อนความต้องการทีอยากได้ขอ้ มูลของพญา
เพลิงของตนเอง และไม่กลัวว่าหอสรรพสิงจะคิดราคาสูง
หากสามารถใช้วิธีการทียุติธรรมกับทังสองฝ่ ายได้ก็ดี แต่
หากเป็ นไปไม่ได้....แม้วา่ จะต้องปล้นนางก็จะปล้นและ

62
ครอบครองมัน !

สายตาของมูช่ ิงเกอมีความเย็นเยียบและฉายแววความ
โหดเ**◌้ยมแวบหนึง ก่อนจะถูกนางซ่อนเอาไว้

“เรืองนันก็ตอ้ งดูวา่ คุณชายยอมจะเอาอะไรมาแลก


สําหรับข้อมูลประเภทนี สิงทีหอเราต้องการไม่ใช่เงิน” ชู
เซิงพูดพร้อมรอยยิม ก่อนจะพูดเสริมว่า : “คุณชายวาง
ใจเถิด หอสรรพสิงเราทําการค้าอย่างยุติธรรม”

“ไม่ตอ้ งการเงิน แล้วพวกเจ้าต้องการอะไร?” เว่ยกว๋านก


ว่านถามอย่างตรงไปตรงมา

63
ชูเซิงยิมทีหนึงก่อนจะอธิบายต่อว่า : “ใช้ของทีมีคา่ เทียบ
เท่าหรือสิงทีมีคา่ เทียบเท่ากับข้อมูลทีจะได้รบั ”

“เจ้าช่างพูดง่ายนัก อะไรคือคําว่ามีคา่ เทียบเท่า มีคา่


เทียบเท่าในความคิดของพวกข้ากับพวกเจ้าไม่เท่ากัน
อีกประการหนึง ของจํานวนมากไม่สามารถประเมินเป็ น
ราคาได้และมีมลู ค่าไม่แน่นอน ข้อมูลของพญาเพลิงนี
สําหรับพีมูข่ องข้าแล้วอาจจะมีคา่ มหาศาล แต่ทว่าของที
มีคา่ มหาศาลนีสําหรับพีมูข่ องข้าก็อาจจะไม่ใช่สงที
ิ หอ
สรรพสิงต้องการ แล้วจะสามารถวัดค่าของสิงนีได้อย่าง
ไร” เว่ยฉีเองก็ลกุ ขึนมาต่อรองแทนมูช่ ิงเกอ

ชูเซิงพูดพร้อมรอยยิมว่า : “คําถามนีคุณชายถามได้ดี
มาก เพราะฉะนันสิงของทีจะนํามาแลกเปลียนนันยัง
64
ต้องเป็ นสิงทีเบืองบนตัดสินว่ามีคา่ มากพอ”

พูดจบชูเซิงก็หนั ไปมองมูช่ ิงเกอและพูดว่า : “จริงด้วย


คุณชายข้อมูลอืนๆ เกียวกับพญาเพลิง ชูเซิงสามารถ
มอบให้กบั คุณชายได้เลย แต่วา่ หากคุณชายต้องการ
เบาะแสทีอยูข่ องพญาเพลิงในตอนนี ท่านจะต้องรับ
ภารกิจอารักขา”

“หมายความว่าอย่างไร?” มูช่ ิงเกอพูดด้วยดวงตาทีเปล่ง


ประกาย

ชูเซิงพูดอย่างเหนียมอายว่า : “ต้องขออภัยด้วย สําหรับ


เบาะแสของพญาเพลิงนัน ในทีแรกหอของเราไม่มี แต่วา่

65
ขณะทีชูเซิงไปหาข้อมูลเกียวกับพญาเพลิง ก็มีคนใช้
เบาะแสของพญาเพลิงมาแลกโอกาสในการอารักขาพอ
ดี”

มีคนใช้เบาะแสของพญาเพลิง มาแลกกับการอารักขา
อย่างนันหรือ

มูช่ ิงเกอหรีตาทังคูล่ ง พลางถามว่า : “การอารักขาเริม


จากทีไหนและสินสุดทีไหน แล้วมีรายละเอียดอย่างไร
บ้าง”

“เริมจากเมืองจือ ถึงเมืองฮ่วน โดยมีระยะการเดินทาง


ทังหมดเป็ นเวลา 3 วัน ผูว้ า่ จ้างขอเพียงแค่ถงึ ที

66
หมายอย่างปลอดภัย ก่อนเดินทาง ผูว้ า่ จ้างจะบอก
เบาะแสเกียวกับพญาเพลิงกับท่าน และหลังจากทีถึง
เมืองฮ่วนจะมอบแผนทีทีแสดงรายละเอียดให้แก่ทา่ น” ชู
เซิงพูด

เพียงแค่ปอ้ งกันความปลอดภัยเท่านันหรือ

มูช่ ิงเกอคิดทบทวน

เว่ยฉีเองก็ขมวดคิวพูดว่า : “เมืองจือห่างกับเมืองฮ่วนไม่
มากนัก ทีเขาให้เราไปอารักขาเพราะระหว่างทางอาจจะ
เกิดอันตรายอะไรทีพวกราไม่รูข้ นก็
ึ ได้ใช่หรือไม่”

67
เขามองมูช่ ิงเกอ รอคอยการตัดสินใจของนาง

ในตอนนีเว่ยกว๋านกว่านไม่ได้สง่ เสียงดังโวยวายอีกต่อ
ไป กลับมองมูช่ ิงเกออยูเ่ งียบๆ

ชูเซิงเองก็ไม่ได้เร่งรัดแต่อย่างไร เพียงแค่รอคอยอย่างใจ
เย็น

ทันใดนัน มูช่ ิงเกอช้อนสายตาทีสว่างสดใสขึนมา พร้อม


พูดว่า : “ได้ การอารักขานี ข้ารับ”

ชูเซิงตาเป็ นประกายพร้อมรอยยิม ไม่ได้พดู อะไร แต่


ทว่า หลังจากทีมูช่ ิงเกอยอมรับข้อเสนอ เขาจึงพูดต่อ
68
ว่า : “ถ้าเช่นนัน....คุณชาย ข้อมูลอืนๆ เกียวกับพญา
เพลิงยังต้องการอยูห่ รือไม่”

“เอาสิ แน่นอนว่าเอา” มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปากราวกับ


กําลังยิมและไม่ยมในขณะเดี
ิ ยวกัน

69
ตอนที 100-5 ไม่มีอะไรทีไม่รู ้ หากยอมจ่ายเงิน !

เพียงแค่พลิกมือ ขวดสีขาวบริสทุ ธิใบหนึงก็ปรากฏอยู่


บนฝ่ ามือของนาง นางเปิ ดฝาจุกออก กลินหอม
ละมุนกลินหนึงค่อยๆ ก่อตัวขึนกลางอากาศและวนเวียน
อยูท่ วทั
ั งชัน

70
คนทีได้กลินนี ล้วนรูส้ กึ มีกาํ ลังวังชา กระฉับกระเฉงและ
สดชืนขึนมาในทันที

ไม่จาํ เป็ นต้องอธิบาย ทุกคนต่างก็รบั รูไ้ ด้วา่ โอสถในมือ


ของมูช่ ิงเกอนัน ไม่ใช่โอสถธรรมดาเป็ นแน่ !

“คุณชาย โอสถนี.....” ชูเชิงมองขวดใบนันด้วยสายตา


ส่องประกาย ราวกับอยากจะแย่งมันมาเป็ นของตนเอง

ไม่เพียงแค่เขา คนอืนๆ รวมทังสองพีน้องตระกูลเว่ยเอง


ล้วนใช้สายตาทีเต็มเปี ยมไปด้วยความตืนเต้นจ้องขวด
ใบนัน และกลืนนําลายลงคอลําคอราวกับอยากจะกลืน
กินมัน

71
บางที ทุกคนทีอยูท่ ีนีนอกจากสาวใช้ทงสองของมู
ั ช่ ิงเก
อ และมัวหยางแล้ว คนอืนๆ ล้วนกําลังตะลึงกับยาในมือ
ของมูช่ ิงเกอ

เพราะว่า ภายในแคว้นระดับสาม ยาทีมีคณ


ุ ภาพนันมี
จํานวนน้อยมากเสียจริง

อีกประการหนึง หากมียาระดับนีในครอบครอง ส่วนมาก


ก็จะเอาไปประมูล เพือให้ได้มลู ค่าทีมหาศาล จะพบ
ง่ายๆ อย่างนีได้อย่างไร

ท่ามกลางความตกใจของทุกคน มูช่ ิงเกอปิ ดฝาขวดลง

72
ทําให้กลินค่อยๆ จางหายไป หลังจากทีกลินนันหายไป
สายตาของทุกคนทีฉายแววเสียดายและไม่จาํ ยอม ก็
ส่องสะท้อนอยูใ่ นดวงตาของนาง

นางกระตุกมุมปากและพูดกับชูเซิงว่า : “พอหรือไม่”

ชูเซิงทีเพิงรูส้ กึ ตัวจากความตะลึงงัน กําลังจะพยักหน้า


แต่ก็เรียกสติกลับมาได้ทนั เวลา จึงพูดกับมูช่ ิงเกอว่า :
“ไม่ทราบว่า โอสถนีของคุณชายมีสรรพคุณอะไร และ
เป็ นโอสถทีอยูใ่ นขันใด”

นําเสียงของเขาแฝงความร้อนรนซ่อนอยู่ ไม่ได้แน่วนิง
เหมือนก่อนหน้านี และเห็นได้ชดั ว่า โอสถเม็ดนีของมูช่ ิง

73
เกอส่งผลกระทบต่อเขาเป็ นอย่างมาก

“โอสถเม็ดนี สามารถรักษาชีวิตแม้จะเหลือเพียงลม
หายใจสุดท้าย แม้จะไม่ได้ทาํ ให้หายจนกลับไปเป็ น
เหมือนเดิมในทันที แต่ในช่วงเวลาคับขันถึงชีวิตก็มี
ประสิทธิภาพอันยิงใหญ่ สามารถช่วยให้พน้ ขีดอันตราย
และรักษาชีวิตเอาไว้ได้ อีกทังยังสามารถรักษาบาดแผล
บางอย่างได้อีกด้วย ข้าเรียกมันว่า ยาเก้าชีวิตหวนคืน”
มูช่ ิงเกอหมุนขวดกระเบืองอย่างสบายอารมณ์ ท่าทาง
อันผ่อนคลายและหมุนขวดไปตามดังใจต้องการนัน ทํา
ให้ทกุ คนทีอยูใ่ นนันต่างตืนตระหนก กลัวว่านางจะทําให้
ขวดใบนันตกแตก

“ยาเก้าชีวิตหวนคืนอย่างนันหรือ ?!” ชูเซิงหรีดวงตาลง


74
มอง แอบสบตากับเหลียนเอ๋อร์

เหลียนเอ๋อร์รบี ถอยออกไป แต่ชเู ซิงยังคงอยูต่ อ่ เขาสูด


หายใจเข้าลึกๆ ทีหนึง เพือพยายามรักษาจิตใจให้คงที
พร้อมพูดกับมูช่ ิงเกอด้วยรอยยิมว่า : “คุณชายขอเวลา
ประเดียว เรืองเกียวกับยานันชูเซิงไม่ชาํ นาญนัก รอให้พี
เหลียนเอ๋อร์ไปตามท่านผูเ้ ฒ่ามาทดสอบยานี”

มูช่ ิงเกอยิมรับ

ในตอนนี เว่ยกว๋านกว่านก็เดินมาอยูต่ รงหน้ามูช่ ิงเก


อ พลันพูดเบาๆ ว่า : “พีมู่ ท่านจะใช้โอสถทีมีคณ
ุ สมบัติ
อันร้ายกาจนีในการแลกข้อมูลจริงๆ หรือ” ยานี ตามที

75
แนะนําไปก่อนหน้า มันไม่เพียงแค่ช่วยชีวิตได้ แต่ยงั
สามารถทําให้พน้ ขีดอันตรายและรักษาชีวิตไว้หลังจากที
ใช้พลังเกินตัว นีมันช่างเป็ นยาทีพลิกฟ้าโดยแท้ !

อย่างไรก็ตาม สําหรับนางแล้ว หากจะใช้ยาพลิกฟ้านี


เพือไปแลกกับข้อมูลของพญาเพลิง มันไม่คมุ้ จริงๆ

หลังจากค่อยๆ กวาดสายตามองใบหน้าเล็กๆ ทีดูตงึ


เครียดของเว่ยกว๋านกว่าน มูช่ ิงเกอจึงพยักหน้า

เพราะสําหรับนางแล้ว ข้อมูลของพญาเพลิงสําคัญทีสุด
เพราะมันเกียวข้องกับสายโลหิตแห่งปรมาจารย์การ
หลอมอาวุธของนางว่าจะสามารถกระตุน้ ได้หรือไม่ อย่า

76
ว่าแต่แลกด้วย ยาเก้า ชีวิตหวนคืนเพียงเม็ดเดียวเลย
แม้วา่ จะต้องใช้ถงึ สิบเม็ด นางก็จะไม่ปฏิเสธ

อีกประการหนึงยาชนิดนี ในช่องว่างของนาง อย่างน้อย


ทีสุดก็น่าจะเหลืออยู่ 50 เม็ด ถือว่าเป็ นยาทีตระเตรียม
เอาไว้ให้กบั องครักษ์เขียวมังกร เพราะฉะนันเมือครูน่ ี
ตอนทีทุกคนจ้องตาเขม็ง มัวหยางจึงแอบจับเอวของตน
เอง

เมือเห็นว่ามูช่ ิงเกอพยักหน้า เว่ยกว๋านกว่านก็จอ้ งนาง


ราวกับเป็ นไอ้ตวั ผลาญสมบัติอย่างนัน

เสียงฝี เท้าดังขึนอย่างกะทันหัน คนยังไม่ทนั จะปรากฏ

77
เสียงอันกึกก้องก็สะท้อนเข้าหูของทุกคน : “ใครกันทีมี
โอสถร้ายกาจมากถึงเพียงนี”

ทันทีทีสินเสียงนัน ตาแก่ผมสีขาวรูปร่างอ้วนท้วมคล้าย
ลูกบอลลูกกลมทีอยูใ่ นชุดสีขาวก็พงุ่ เข้ามาหาอย่างรวด
เร็ว ความว่องไวนันราวกับกําลังกลิงเข้ามา

เหลียนเอ๋อร์เดินตามหลังเขามาและวิงจนเหนือยหอบไป
หมด

“ท่านผูเ้ ฒ่าตาน คุณชายในชุดสีแดงผูน้ นเจ้


ั าค่ะ” เหลี
ยนเอ๋อร์รบี พูด

78
สายตาอันแหลมคมของท่านผูเ้ ฒ่ากวาดผ่านและจับจ้อง
ไปทีหนึงเดียวทีสวมชุดสีแดง นันก็คือมูช่ ิงเกออย่างรวด
เร็ว สายตาอันสว่างใสของเขามีความฉงนใจเกิดขึนครู ่
หนึง และกลับสูส่ ภาวะเดิมในทันที เขาเดินเข้าไปหามูช่ ิง
เกอ : “เจ้าหนุ่ม เจ้าเองรึทีจะเอาโอสถมาแลกกับข้อมูล
ของพญาเพลิง”

“ใช่แล้ว” มูช่ ิงเกอตอบรับ รังสีข่มขู่คกุ คามทีท่านผูเ้ ฒ่า


แผ่ใส่นาง ราวกับหินทีจมลงสูม่ หาสมุทรก็ไม่ปาน ไม่เกิด
ระลอกคลืนแม้แต่นอ้ ย

ท่านผูเ้ ฒ่าหรีตาลง ยืนมืออ้วนๆ ออกมา : “เอามา”

79
มูช่ ิงเกอขมวดคิว แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจปฏิกิรยิ าของเขา โยน
ขวดทีกําลังหมุนเล่นอยูใ่ นมือ ไปบนฝ่ ามือของเขา

เพราะการกระทําของนาง ทําให้ทกุ คนต่างหวาดเสียว


กลัวว่าขวดแก้วจะตกและแตกกระจายไป

รวมถึงท่านผูเ้ ฒ่าตานแห่งหอสรรพสิงเองก็ตกใจเพราะ
การกระทําของนาง ในตอนแรกเขายืนมือออกมารับ
เพียงมือเดียว ในตอนนีกลับเปลียนเป็ นใช้สองมือรับขวด
แก้วทีหล่นลงบนฝ่ ามือ ใบหน้าอ้วนๆ โมโหจนหน้าถมึง
ทึงขึนมา หนวดทังสองข้างใต้จมูกชีสูงขึนฟ้า

มูช่ ิงเกอไม่สนใจปฏิกิรยิ าของเขาเลยแม้แต่นอ้ ย ท่านผู้

80
เฒ่าตานทีถูกยัวโทสะ อุทาน ‘หึ’ แล้วจ้องหน้ามูช่ ิงเก
อหนหนึง ก่อนจะดึงฝาจุกออก

ทันใดนัน กลินทีทําให้ผอ่ นคลายและมีความสุขกลินนัน


ก็ได้กระจายตัวออกมาอีกหน

ท่านผูเ้ ฒ่าตานหรีตาทังสองข้างลง แล้วจึงมองรอบๆ


ขวด ก่อนจะจ้องไปทีปากปวดอย่างไม่ละสายตา

แทบจะในทันที เขาเทเม็ดยาทีบรรจุอยูภ่ ายในขวดออก


มาไว้บนฝ่ ามือของตนเอง

ในทีสุด ทุกคนทีตังหน้าตังตารอก็ได้เห็นโฉมหน้าทีแท้
81
จริงของยาเก้าชีวิตหวนคืนอย่างชัดเจน !

บนยาเม็ดกลมเกลียง สาดแสงสีครามอ่อนๆ กลินหอม


ของยาทีแผ่กระจายออกมาเข้มข้นราวกับกลุม่ ควัน
เพราะเม็ดยาถูกเทออกมา ทําให้กลินหอมทีวนเวียนอยู่
บริเวณทัวทังชันสามเข้มมากขึน ทุกคนล้วนรูส้ กึ ได้วา่
พลังเวทในร่างของตนเองกําลังขับเคลือนอย่างรวดเร็ว

“แสงสีคราม กลินหอมกลายเป็ นรูปร่าง ! แถมยังเป็ น


โอสถทีมีคณ
ุ ภาพชันยอดเสียด้วย!” ท่านผูเ้ ฒ่าตานพูด
เสียงหลง

ภายในแคว้นระดับสาม ยาทีมีคณ
ุ ภาพระดับสูงนันถือ

82
เป็ นยาทีดีทีสุดทีสามารถปรุงออกมาได้แล้ว และผูท้ ี
สามารถปรุงยาระดับสูงออกมาได้ลว้ นเป็ นผูเ้ ฒ่าทีมีอายุ
มากกว่า 100 ปี ทังนัน แต่การจะปรุงยาทีมีคณ
ุ ภาพชัน
ยอดออกมาได้นนั มีนอ้ ยมาก

เป็ นสิงทีมีนอ้ ยและลําค่ามากถึงเพียงนี ก็ไม่แปลกทีท่าน


ผูเ้ ฒ่าตานจะเสียมารยาท

ในตอนนี เขาเองก็มีความสามารถเพียงเฉพาะปรุงยา
ระดับกลาง ยาทีมีคณ
ุ ภาพระดับตํา ระดับกลาง ระดับ
สูงและชันยอด ทังหมดมีเพียงแค่ 4 ระดับนีเท่านัน และ
ด้วยความสามารถของเขาสามารถฝื นเข้าถึงได้เพียงแค่
การปรุงยาระดับกลางเท่านัน

83
ยาทีอยูต่ รงหน้าเขาเม็ดนี ผูท้ ีหลอมมันออกมามีความ
สามารถเหนือกว่าเขาถึง 1 ระดับเชียว !

84
ตอนที 101-1 หอสรรพสิงผูฉ้ ลาดแกมโกง

โอสถระดับสูง!

ชันยอด!

ณ ขณะนี ภายในหอสรรพสิงไม่มีเสียงเลยแม้แต่นอ้ ย
นอกจากมัวหยางและสาวใช้ทงสองแล้
ั ว คนอืนทีเหลือ
ต่างก็จอ้ งเม็ดโอสถทีน่าดึงดูดและส่งกลินหอมกระจาย
ออกมาจากในมือของท่านผูเ้ ฒ่าตาน

1
“เจ้าหนุ่ม เจ้าได้โอสถนีมาจากไหน ?” ท่านผูเ้ ฒ่าตาน
พูดกับมูช่ ิงเกออย่างกะทันหัน

มูช่ ิงเกอกลับกระตุกรอยยิม : “ทําไมรึ ทีมาของโอสถ


เม็ดนีเกียวข้องกับมูลค่าอย่างนันหรือ”

ท่านผูเ้ ฒ่าหน้าเสียและพูดอย่างอึดอัดว่า : “ไม่ ไม่


เกียว ข้าเพียงสงสัย”

มูช่ ิงเกอยิมทีหนึง หลังจากนันก็ไม่ได้พดู อะไรอีก

ความหมายนันชัดเจนเป็ นอย่างมาก นันก็คือ ไม่อยาก


จะพูดถึงความเป็ นมาของโอสถเม็ดนี

2
ท่านผูเ้ ฒ่าตานเป็ นคนฉลาด เหตุใดจะไม่เข้าใจความ
หมายของมูช่ ิงเกอ จึงไม่ถามต่อ เพียงแต่เงียบลง แล้ว
ใส่โอสถเม็ดนันเข้าไปในขวดกระเบืองเคลือบอย่าง
เสียดาย พร้อมปิ ดฝาลง

ทันทีโอสถทีแสนจะน่าดึงดูดเม็ดนีหายไป ความหวังที
แฝงอยูใ่ นสายตาของทุกคนก็อนั ตรธานหายไปด้วย

ราวกับว่า หากสูดกลินของยานีเข้าไปอีก จะทําให้เป็ น


อมตะอย่างนัน

“โอสถนีเป็ นของดี แต่ชือโอสถเก้าชีวิตหวนคืนนีข้าไม่


เคยได้ยินมาก่อนและไม่สามารถประเมินค่าได้วา่ มันมี
3
คุณสมบัติอย่างทีสหายน้อยพูดหรือไม่” สายตาอันฉาย
แววชาญฉลาด จ้องอยูบ่ นตัวของมูช่ ิงเกอ คําสรรพนาม
ทีใช้เรียกนาง ได้เปลียนจากเจ้าหนุ่มเป็ นสหายน้อย

ใช่สิ ! สรรพคุณของยานีจะประเมินได้อย่างไร?

หากเป็ นยาทีใช้บอ่ ย ท่านผูเ้ ฒ่าตานจะสามารถประเมิน


สรรพคุณจากภายนอก แต่ทว่า ยาระดับสูงเช่นนีไม่ได้
พบบ่อย ยาเก้าชีวิตหวนคืนก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน จะ
ประเมินคุณค่าทีแท้จริงของมันได้อย่างไร เพียงแค่ลม
ปากคงจะเชือถือไม่ได้

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านขมวดคิวพร้อมกัน เป็ นทีแน่


นอนว่าพวกเขาต่างก็ยืนอยูข่ า้ งมูช่ ิงเกอ
4
ในขณะเดียวกันก็เห็นความแสร้งทําของท่านผูเ้ ฒ่าตาน

ข้อมูลของพญาเพลิง แม้จะหายาก แต่ก็ไม่ถือว่าเป็ น


ความลับอะไร การใช้โอสถระดับสูงเม็ดหนึงเข้าแลก ถือ
ว่ามากเกินไป ตึกอาชานันใจกว้างและคงจะไม่หยิงยโส
ในเรืองนี เห็นได้ชดั ว่า ตาแก่นีกําลังแก้แค้นทีมูช่ ิงเกอไม่
ยอมตอบคําถามก่อนหน้านี

เมือลองพินิจดูครูห่ นึง เว่ยฉีจงึ ออกตัวพูดว่า : “หาก


ท่านไม่สามารถประเมินคุณค่าของยาเม็ดนีได้ ถ้าเช่น
นัน เปลียนเป็ นอย่างอืนแทนดีหรือไม่ ท่านลองคิดดูวา่
ท่านต้องการอะไร ข้าไม่เชือว่าของทีท่านต้องการเมือง
ถัวของเราจะไม่มี”
5
“ใช่ ! ตาแก่ ไหนเจ้าลองบอกมาสิวา่ นอกจากยาแล้ว
เจ้าต้องการอะไร โอสถระดับสูงเม็ดนีของพีมูเ่ ก็บกลับ
มาก่อนจะดีกว่า” ครังนี ในทีสุดเว่ยกว๋านกว่านก็เข้าข้าง
พีชายและออกโรงช่วย

การแสดงออกของทังสองทําให้ดวงตาของมูช่ ิงเกอเป็ น
ประกาย การจงใจสร้างความลําบากใจของท่านผูเ้ ฒ่า
ตาน นางจะไม่รบั รูไ้ ด้อย่างไร เพียงแต่วา่ นางไม่คิดว่า
ในขณะทีนางยังไม่ทนั ได้ตอบโต้ สองพีน้องทีไร้สติ
ปั ญญาสองคนนีจะปกป้องนางเช่นนีแล้ว

พวกเขาเพิงจะรูจ้ กั กันได้ไม่กีวันเอง

6
“ทีแท้ทงสองก็
ั เป็ นคุณหนูและคุณชายจากเมืองถัว ข้า
ตาไม่มีแววเอง” ท่านผูเ้ ฒ่าตานกระตุกมุมปากและพูด
ไปตามมารยาท แต่ก็ไม่ได้แสดงความสงสัยหรือเกรง
กลัวหลังจากทีทราบฐานะทีแท้จริงของทังสอง

และโชคดีทีว่าสองพีน้องนี ไม่ใช่ผทู้ ีชอบใช้อาํ นาจรังแก


ผูท้ ีตํากว่า การอ้างถึงเมืองถัว เพียงเพือทีจะทําให้ฐานะ
ของมูช่ ิงเกอสูงขึนกว่าเดิม นางจะได้ไม่ถกู เอาเปรียบ

เพราะฉะนัน ปฏิกิรยิ าของท่านผูเ้ ฒ่าตาน จึงไม่ได้ทาํ ให้


ทังสองเกิดโทสะ

“เจ้าลองเสนอมาสิ ข้อมูลของพญาเพลิงนี ยังมีอะไรที

7
สามารถเอามาแลกได้อีก” เว่ยฉีเชิดหน้าถาม

ท่าทางไม่รูค้ วามของเขา ทําให้ทา่ นผูเ้ ฒ่าตานกระตุก


รอยยิม ส่วนความหมายทีแฝงอยูใ่ นรอยยิมนัน คงจะ
ต้องตีความเอาเอง

ท่านผูเ้ ฒ่าตานยังไม่ทนั ได้พดู อะไร อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็ยก


มือขึน ห้ามการออกตัวช่วยของเว่ยฉีและน้องสาว นาง
นังอยูบ่ นเก้าอี ด้วยท่าทางอันผ่อนคลาย ราวกับว่า คํา
พูดของท่านผูเ้ ฒ่าตานไม่ได้สง่ ผลกระทบอันใดต่อนาง
เลยแม้แต่นอ้ ย

“หากจะทดลองผลลัพธ์ของโอสถนี วิธีทีจะได้ผลมากที
สุดก็คือการใช้คนเป็ นหนูทดลอง หากหอสรรพสิงคิดว่า
8
โอสถนีไม่ได้มีสรรพคุณอย่างทีกล่าวไว้ ก็หาคนใกล้ตาย
มาลองได้ หากโอสถนีไม่ได้ผล ข้าจะเป็ นคนจากไปและ
ไม่แลกเปลียนอะไรกับหอสรรพสิงอีก ทว่าหากโอสถนีได้
ผล หอสรรพสิงให้ขอ้ มูลทีข้าต้องการมาก็พอแล้ว” มูช่ ิง
เกอพูด

“โอสถดีขนาดนีจะให้พวกเขาได้อย่างไร สินเปลือง”
เว่ยกว๋านกว่านพูดอย่างไม่จาํ ยอม

เว่ยฉีรบั รูถ้ งึ จุดประสงค์ของมูช่ ิงเกอ จึงยืนมือออกไปดึง


แขนเสือของน้องสาว ไม่ให้นางพูดอีก

ข้อเสนอนี ทําให้ทา่ นผูเ้ ฒ่าตานหรีตาลง สายตาแฝง


ความเฉียบแหลม เขาพูดพร้อมรอยยิมว่า : “นีถือเป็ น
9
วิธีทีไม่เลว แต่ทว่า ไม่ทราบว่าสหายน้อยยังมีโอสถ
ประเภทเดียวกันนีอีกหรือไม่”

มูช่ ิงเกอโกหกหน้าตายว่า : “หอสรรพสิงประเมินค่าข้า


สูงเกินไปแล้ว โอสถทีลําค่าถึงเพียงนี มีเม็ดเดียวก็ถือ
เป็ นบุญแล้ว”

ท่านผูเ้ ฒ่าตานขมวดคิว พลางคิดวิเคราะห์ โอสถนีมี


เพียงเม็ดเดียว หากใช้มนั เป็ นตัวทดลอง หากไม่ได้ผลก็
ช่างเถอะ แต่ถา้ หากว่าได้ผล ก็เสียไปโดยเปล่า
ประโยชน์มิใช่หรือ อีกประการหนึง โอสถระดับสูงก็คง
จะกลายเป็ นเพียงยาเสริมกําลังเท่านัน

ก่อนหน้าทีเขาจะคิดกลันแกล้งมูช่ ิงเกอ เขาเองไม่เคย


10
คิดเลยว่า ตนเองจะตกหลุมพรางทีตนเองขุดไว้

เมือเห็นว่าท่านผูเ้ ฒ่าตานขมวดคิว จึงทําให้มชู่ ิงเกอผุด


รอยยิมสมใจขึนมา คิดจะเล่นกับนาง ตาแก่นียังอ่อน
เกินไป

เว่ยกว๋านกว่านกะพริบตาหลายทีและกระจ่างแผนการ
ทังหมดในทันที พลันพูดอย่างร่าเริงว่า : “ใช่ ! อย่างไร
เสีย โอสถนีก็เป็ นของพวกเรา หากพวกเจ้าไม่เชือ ก็ลอง
เลยและโอสถนีมีเพียงเม็ดเดียว กลัวก็แต่วา่ หลังจากที
เจ้าลองโอสถนีไปและพบว่ามันใช้ได้ผลจริง เจ้าก็ไม่ได้
อะไรเป็ นการตอบแทนเลย หากหอสรรพสิงจะยกเลิก
การแลกเปลียนเพราะเหตุผลนี ก็คงจะเสียชือ เพียง
โอสถเม็ดเดียวก็ไม่สามารถประเมินค่าได้ ยังจะกล้า

11
บอกว่า ไม่มีอะไรทีไม่รู”้

คําพูดนี ทําให้รอยยิมของมูช่ ิงเกอชัดเจนกว่าเดิม แอบ


ชืนชมไหวพริบของเว่ยกว๋านกว่าน

คําพูดของนาง ถือว่าเป็ นการต้อนตาแก่นีให้จมมุม

สายตาอันเย็นเยียบ กวาดผ่านชูเซิงและเหลียนเอ๋อร์ ทํา


ให้ทงสองเหงื
ั อตกและรีบหลบตา จนในทีสุดมูช่ ิงเกอก็
หยุดสายตาทีท่านผูเ้ ฒ่าตาน

ตาแก่ผนู้ ี คาดไม่ถงึ ว่าตนเองจะตกหลุมพรางได้ลกึ มาก


ถึงเพียงนี ในตอนนีโอสถในมือกลายเป็ นของร้อน เขา

12
จึงตัวแข็งและเงียบลงในทันที

พอรูส้ กึ ว่าแกล้งจนพอใจแล้ว มูช่ ิงเกอจึงค่อยๆ พูดขึน


ว่า : “ความจริงแล้ว ด้วยมูลค่าของโอสถระดับสูงแล้ว
หากแลกกับข้อมูลเพียงฉบับเดียวก็ถือว่ามากพอแล้ว
หอสรรพสิงจะลังเลอะไร”

ข้อมูลของพญาเพลิงก็ไม่ใช่วา่ จะหมดไปเมือขายให้กบั
นาง หากคนอืนๆ ต้องการ เพียงแค่มีอาํ นาจในการจ่าย
ก็สามารถชือได้เช่นกัน ตาแก่นีเพียงแค่โกรธแค้นทีนาง
ไม่บอกทีมาของโอสถเม็ดนีจึงคิดกลันแกล้งก็เท่านัน

มูช่ ิงเกอกลับเป็ นดังกระจกบานหนึง ทีเห็น


ทุกอย่างอย่างกระจ่าง ในตอนนีนางได้จ่ายตาแก่ใน
13
ราคาทีสูงมาก แต่ก็ตอ้ งดูวา่ เขาจะรูจ้ กั รักษาโอกาสเอา
ไว้ได้หรือไม่

ท่านผูเ้ ฒ่าตานหนังตากระตุกหนหนึงและดินรนสักพัก
ก่อนจะกัดฟั นและพูดว่า : “ช่างเถิด ! วันนีข้าจะยอม
เชือเจ้า หอสรรพสิงของเราจะยอมรับการแลกเปลียน
ครังนี”

พูดจบ เขาก็เก็บขวดทีมีโอสถบรรจุอยูเ่ ข้าไปในแขนเสือ


และหันไปสังชูเซิงว่า : “ชูเซิง ไปเอาของทีลูกค้าต้อง
การมา”

ชูเซิงถอยออกไปตามคําสัง

14
มูช่ ิงเกอและคนอืนๆ ยืนรออยูก่ บั ที

เมือการแลกเปลียนสําเร็จ สายตาทีท่านผูเ้ ฒ่าตานมอง


มูช่ ิงเกอก็แปรเปลียนไป เขาพูดด้วยสายตาอันคลุมเครือ
ว่า : “สหายน้อย ข้ายังไม่รูเ้ ลยว่าเจ้านามว่าอะไร”

“มูเ่ กอ” มูช่ ิงเกอผุดรอยยิมจางๆ

“ทีแท้ก็ชือสหายน้อยมูน่ ีเอง” ตานเฉินจือ พยักหน้า ใน


ขณะทีทวนชือของนาง ก็ได้ยืนเทียบเชิญใบหนึงให้กบั มู่
ชิงเกอ

15
มูช่ ิงเกอยืนมือออกไปรับ เว่ยกว๋านกว่านกลับตะโกนขึน
มาอย่างกะทันหันว่า : “เทียบเชิญงานประมูลของหอ
สรรพสิง!” ความตืนเต้นทีแฝงอยูใ่ นคําพูด ทําให้มชู่ ิงเก
อกระจ่างในทันทีวา่ เทียบเชิญทีอยูใ่ นมือนางนันไม่ใช่
ทุกคนทีจะได้

“นังหนูตระกูลเว่ยช่างรอบรูจ้ ริง” ตานเฉินจือลูบหนวด


ของตนเองอย่างได้ใจ

เว่ยกว๋านกว่านกลอกตาใส่เขาทีหนึง ก่อนจะเดินเข้าไป
หามูช่ ิงเกอและกระซิบข้างหูนางว่า : “งานประมูลของ
หอสรรพสิงนันไม่ได้จดั ขึนตามเวลา ได้ข่าวว่า การเปิ ด
ประมูลในทุกๆ ครัง ผูท้ ีได้รบั การรับเชิญล้วนเป็ นผูท้ ีมี
ฐานะสูงส่ง ท่านพ่อของข้าเคยได้รบั คําเชิญเพียง 2
16
ครัง” ในนําเสียงฉายแววความรูส้ กึ อิจฉาแต่กลับไม่
ริษยา

แววตาของมูช่ ิงเกอแฝงความกระจ่าง ในมือถือเทียบ


เชิญ พร้อมกล่าวคําขอบคุณตานเฉินจือ

ตานเฉินจือเองก็พดู พร้อมใบหน้าเปื อนยิมว่า : “สหาย


น้อย การประมูลจัดขึนวันพรุง่ นี งานประมูลในครังนี มี
ของดีจาํ นวนไม่นอ้ ย เจ้าอย่าพลาดเชียวล่ะ”

“ได้รบั คําเชิญจากผูอ้ าวุโสตานเช่นนี มูเ่ กอต้องมาแน่ๆ”


มูช่ ิงเกอยืนเทียบเชิญให้มวหยางและสั
ั งให้เขาเก็บไว้ดีๆ

17
ชูเซิงเองก็ทาํ งานไวมาก ไม่นานเขาก็ได้หอบตําราม้วนที
ห่ออยูใ่ นผ้าไหมออกมาและยืนให้กบั มูช่ ิงเกอ

มัวหยางรีบเดินเข้ามารับ

จากนัน ทุกคนจึงออกจากหอสรรพสิง

18
ตอนที 101-2 หอสรรพสิงผูฉ้ ลาดแกมโกง

มูช่ ิงเกออยากจะรีบเข้าใจให้กระจ่างชัดเกียวกับข้อมูล
พญาเพลิง จึงไม่มีกะจิตกะใจไปเดินเล่นในตลาดเมือง
จือ นางจึงเสนอให้กลับ

ในเมือแขกต้องการกลับ แน่นอนว่า สองพี


19
น้องตระกูลเว่ยทีเป็ นเจ้าบ้านก็ไม่บีบบังคับแต่อย่างใด

เพราะฉะนัน คนจํานวนหนึงทีออกจากจวน
มาอย่างเกรียงไกร หลังจากนันเป็ นเวลา 1 ชัวยาม ก็
ได้หวนกลับมายังเรือนรับรองตระกูลเว่ยอีกครัง

ทันทีทีถึงเรือนรับรองตระกูลเว่ย มูช่ ิงเกอก็


ขอตัวและเข้าไปภายในห้องของตนเอง ก่อนจะเปิ ด
ตําราม้วนทังหมดและเริมต้นอ่านข้อความเหล่านัน

พูดได้วา่ ข้อมูลข่าวกรองของหอสรรพสิง
คุม้ กับราคาเป็ นอย่างมาก ในตําราม้วน มีเนือหาเกียว
กับชือ ทีมา อํานาจ และการจัดระดับของพญาเพลิง
จากข้อมูลเหล่านี
20
สิงทีทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ ขบขันมากทีสุด เห็น
จะเป็ นด้านข้างของเอกสารทีมีตวั อักษรเล็กประหนึงมด
ตัวน้อยเขียนไว้วา่ [กรรมสิทธิการจัดระดับและคํา
อธิบาย มีเพียงหอสรรพสิงเท่านันทีมี ! ไฉ่]

คําพูดนี ทําให้มชู่ ิงเกอสัมผัสได้ถงึ การค้า


ขายแลกเปลียนทีอยุติธรรม และคําว่า ‘ไ ฉ่’ ก็เห็นจะ
เป็ นนามปากกาของใครคนหนึงเป็ นแน่ และใครกันที
หลงตนเองมากถึงเพียงนี ถึงได้เขียนชือของตนเองใน
ของซือของขายเช่นนี

ในตําราม้วน มีพญาเพลิงบันทึกอยูท่ งหมด



10 ประเภท และ 5 ประเภทสุดท้ายถูกเขียน
21
สัญลักษณ์วา่ ‘เอ็นไก่’ ‘ขยะ’ เอาไว้ และคําอธิบายนี ก็
ยิงทําให้รอยยิมตรงมุมปากของมูช่ ิงเกอชัดเจนมากกว่า
เดิม นางรูส้ กึ ว่าคนเขียนตําราม้วนนี ช่างทําตามใจของ
ตนเองมากไปเสียจริง เช่น พญาเพลิงลําดับที 6 ชือว่า
เพลิงจีเล่อ มีคณ
ุ สมบัติเพียง 1 ประการ นันก็คือ คน
และสัตว์ทีถูกแสงจากเพลิงชนิดนีสาดส่อง จะทําให้เกิด
ความรูส้ กึ มีความสุข นีมันอะไรกัน ! เพลิง
จีเล่อ นีมันสร้างมาเพือความตลกขบขันหรือไร
อย่าเข้าใจผิด นีไม่ใช่สงที
ิ มูช่ ิงเกอตีความเอง แต่มนั ระบุ
ไว้บนตําราม้วนอย่างชัดแจ้ง

ดูเหมือนว่า นีจะเป็ นความคิดทีแตกต่าง


ของผูเ้ ขียนตาราม้วนเล่มนี

22
พญาเพลิงเช่นนียังถูกจัดอยูใ่ นระดับ 6 อีก
4 ประเภทจะด้อยถึงเพียงไหนเชียว

เพียงแค่มชู่ ิงเกอกวาดสายตามอง จากนัน


นางก็หยุดความสนใจบน 5 ลําดับแรก

ก่อนหน้านี เหมิงเหมิงเคยบอกกับนางว่า
พญาเพลิงถือกําเนิดในตอนทีฟ้ากับดินก่อตัวขึนครังแรก
นอกจากนียังมีคณ
ุ สมบัติทีต่างกัน เพราะความหลาก
หลายของพญาเพลิง หากสามารถพบเจอกับพญาเพลิง
ทีมีธาตุคล้ายกับร่างกายของตนเอง และเข้าสูก่ ระบวน
การการกระตุน้ จะทําให้สายโลหิตตืนขึน หากโชคดี ไม่
แน่วา่ จะสามารถทําให้สายโลหิตมีความสมบูรณ์แบบ
มากขึน

23
ในร่างกายของมูช่ ิงเกอมีสายโลหิตแห่งการ
เป็ นปรมาจารย์แห่งการหลอมสร้างไหลเวียนอยู่
ลักษณะเด่นของปรมาจารย์แห่งการหลอมสร้างน่าจะ
เป็ นธาตุทองและไฟ

นอกจาก 5 ระดับสุดท้ายทีไม่ได้เรืองแล้ว
5 ลําดับแรกคือ : เพลิงระดับเทพฮุ่นหยวน เพลิงปา
ฮวงซูคง เพลิงป๋ ายกู่ เพลิงวิญญาณโยวหมิงและเพลิง
เมฆสุรยิ า

ทังหมดนี เพลิงป๋ ายกู่ เพลิงวิญญาณโย


วหมิง เป็ นธาตุเย็น ซึงไม่ตรงกับธาตุของมูช่ ิงเกอ

24
ถ้าเช่นนัน ก็เหลือเพียง 3 ชนิด

เมืออ่านตําราม้วนจนจบแล้ว มูช่ ิงเกอก็โยน


มันเข้าไปภายในช่องว่าง

เหมิงเหมิงทีกําลังผ่อนคลายและเบิกบานใจ
ในขณะทีกําลังกินลูกอม.....โอ้ไม่ใช่สิ เม็ดโอสถ ทันใด
นันก็โดนตําราม้วนฟาดเข้าอย่างจัง จึงร้องเสียงดัง
“โอ๊ย ! ”

นางหยิบ ‘ผูก้ ่อการร้าย’ ขึนมาในทันทีและ


ยึดคอขึนมาตะโกนว่า : “หนูบาดเจ็บ เจ้านายต้องรับ
ผิดชอบ ! โอสถ ! โอสถ ! หนูตอ้ งการโอสถ !”

25
“เงียบ” มูช่ ิงเกอยังไม่ทนั ได้เข้าสูช่ ่องว่าง
เสียงก็ได้ดงั ขึนมาก่อน ราวกับสามารถสัมผัสได้

เสียงของเหมิงเหมิงขาดหายไป หดคอกลับ
ไปและไม่พดู อะไรอีก เพียงแค่พมึ พําในใจว่า : “เป็ น
เด็กดีตอ้ งไม่เถียงเจ้านาย ! เป็ นเด็กดีตอ้ งไม่เถียงเจ้า
นาย !”

“อ่านตําราม้วนทังหมดนันซะ” มูช่ ิงเกอพูด


ขึนอีกหน

เหมิงเหมิงรีบเปิ ดตําราม้วนและอ่านข้อ

26
ความทังหมดอย่างรวดเร็ว หลังจากทีอ่านจบแล้ว นางก็
เงยหน้าขึน และพูดว่า : “รายงานเจ้านาย เหมิงเหมิงที
น่ารักอ่านจบแล้ว”

“เป็ นอย่างไรบ้าง” มูช่ ิงเกอถาม

เหมิงเหมิงขมวดคิวและพูดราวกับมีเรือง
อะไรใหญ่โต : “ฮูว เหมิงเหมิงคิดว่า คนเขียนเจ้านี
ต้องเป็ นเจ้าบ้าทีหลงตัวเองมากแน่ๆ ! และคิดว่าคนผู้
นันช่างปากคอเราะร้าย แม้กระทังพญาเพลิงยังไม่เว้น”

ใบหน้าของมูช่ ิงเกอมืดมนลง พลันกัดฟั น


พูดว่า : “ใครถามเจ้าเรืองนี”

27
“ถ้าเช่นนัน เจ้านายต้องการถามอะไร” เหมิ
งเหมิงกะพริบตาหลายหน ใบหน้าเต็มไปด้วยความใส
ซือไร้เดียงสา

“พญาเพลิง!” มูช่ ิงเกอราวกับเปล่งคําเหล่านี


ออกจากร่องฟั น

“อ่อ ! พญาเพลิงนันเอง” เหมิงเหมิงราวกับ


เพิงจะกระจ่าง หลังจากทีได้รบั แรงกดดันและโทสะจาก
มูช่ ิงเกอ จึงรีบพูดว่า : “ฮูว แม้จะพญาเพลิงทีระบุใน
เอกสารเหล่านีจะอยูใ่ นขันทีไม่สงู มากนัก แต่ก็เพียงพอ
ทีเจ้านายจะใช้ได้”

28
“หมายความว่าอย่างไร” ในใจของมูช่ ิงเก
อแฝงความตืนตระหนก เพราะรับรูถ้ งึ อะไรบางอย่างที
ซ่อนอยูใ่ นคําพูดของเหมิงเหมิง

เหมิงเหมิงโยนโอสถเม็ดหนึงเข้าไปในปาก
แล้วเคียวตุย่ พลางพูดอย่างงงวยไม่ชดั เจนว่า : “เหมิ
งเหมิงเองก็จาํ ไม่คอ่ ยได้ แต่พญาเพลิงในความทรงจํา
ไม่ได้มีเท่านี แต่วา่ เจ้านายเพียงแค่ตอ้ งการกระตุน้ สาย
โลหิต ใช้เท่านีก็เพียงพอแล้ว”

มูช่ ิงเกอเม้มปากและขมวดคิว

ไอ้เฒ่าประหลาดเคยบอกว่า เหนือผืนดิน
29
แผ่นนียังมีอาณาจักรอันกว้างขวาง รวมทัง สายม่วงขัน
สูงของหลินชวน เมืออยูท่ ีนันก็ยงั ถือว่าอ่อนอยู่

เช่น เหล่ายอดฝี มือทีเข้ามาเยือนหลิน


ชวน…

ถ้าเช่นนันก็หมายความว่า พญาเพลิงที
บันทึกอยูใ่ นตําราม้วนนี มีเพียงในหลินชวนจริงๆหรือ
ในอาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาลทีอยูภ่ ายนอกหลิน
ชวน จะมีพญาเพลิงทีทรงพลังมากกว่าหรือไม่

แต่ทว่า อย่างทีเหมิงเหมิงบอก เป้าหมาย


หลักทีนางตามหาพญาเพลิงนันคือเพือกระตุน้ สายโลหิต
หากสําเร็จลุลว่ งตามเป้าหมายแล้ว แล้วจะไปคาดหวัง
30
กับพญาเพลิงทีซึงไม่สามารถเป็ นได้ ไปเพือเหตุใด

ไม่วา่ อย่างไร ในหนทางแห่งการค้นหาพญา


เพลิงนี อย่างน้อยก็มีเป้าหมายชัดเจนแล้ว

กะพริบตาสองที มูช่ ิงเกอจึงถามว่า : “5


ระดับแรกทีจัดระดับ มี 2 ระดับทีเป็ นธาตุเย็น คงจะไม่
สามารถกระตุน้ สายโลหิตของข้าได้ เพราะฉะนันจึง
เหลือเพียง 3 ระดับ......”

“เพลิงฮุ่นหยวน นันไม่มีธาตุทีแน่นอน ตอนนี


ท่านยังไม่ตอ้ งใช้ เหลือเพียงแค่เพลิงปาฮวงซูคงทีเป็ น
ธาตุทองและเพลิงเมฆสุรยิ าทีเป็ นธาตุไฟ เจ้านายจะใช้

31
อันไหนก็ได้” เหมิงเหมิงถามต่อไป

เพลิงปาฮวงซูคง เพลิงเมฆสุรยิ าอันหนึงอยู่


ในอันดับที 2 และอีกอันคืออันดับที 5

มูช่ ิงเกอเงียบลง

บนตําราม้วน พญาเพลิงทุกประเภทต่างก็มี
พลังเวททีชํานาญในเรืองการซ่อนตัวและการลวงตาแม้
จะรูว้ า่ มันอยูท่ ีไหน แต่หากจะหาให้พบก็ไม่ใช่เรืองง่าย
นัก

‘ตอนนีหวังเพียงว่า จะสามารถทําภารกิจการ

32
คุม้ กันให้สาํ เร็จ ก็จะได้รบั เบาะแสทีแม่นยํา เกียวกับ
พญาเพลิง 2 ชนิดนี’ มูช่ ิงเกอคิดในใจ

“เจ้านาย โอสถทีต้องใช้ในขณะทีรับพญา
เพลิงเข้าสูร่ า่ งกาย ท่านได้เตรียมพร้อมหรือยัง ให้เหมิ
งเหมิงไปเตรียมวัตถุดิบให้ทา่ นปรุงยาตอนนีดีไหม”

คําพูดประโยคก่อนหน้านีของเหมิงเหมิ
ง ทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ ดี เพราะอย่างน้อยเจ้านีก็เป็ นห่วง
นางมิใช่หรือ แต่ทว่า คําพูดประโยคหลัง กลับทําให้นาง
รูส้ กึ ว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากล

เจ้านีเป็ นห่วงนางทีไหนกันล่ะ เพียงแค่

33
ตะกละ จึงหาเหตุผลให้นางปรุงยาก็เท่านัน

ในใจของมูช่ ิงเกอนันปฏิเสธ แต่ทว่าพอสบ


ตากับตาดวงโตอันเป็ นประกาย สุดท้ายก็ถกู โน้มน้าวจน
ได้

ก็แค่ปรุงยา อย่างไรก็ตามยิงปรุงมากเท่า
ไหร่ ก็จะช่วยให้ทกั ษะการปรุงยาหลอมโอสถของตนเอง
พัฒนามากขึนมิใช่หรือ

แต่ทว่า หากพูดถึงเรืองทีเกิดขึนในหอสรรพ
สิงในวันนี ทําให้นางรูว้ า่ ในบรรดาโอสถทีนาง
หลอมออกมานัน มีจาํ นวนมากทีภายนอกไม่รูจ้ กั

34
ทําให้นางมองเห็นช่องทางการทํางานทีต้อง
รุง่ เรืองเป็ นแน่ !

35
ตอนที 101-3 หอสรรพสิงผูฉ้ ลาดแกมโกง

เมือมูช่ ิงเกอเสร็จจากการปรุงยาและออกจากช่องว่าง
ท้องฟ้าก็คอ่ ยๆ สว่างขึนแล้ว

การปรุงยาในครังนี ใช้เวลาทังหมด 1 คืน


และอีก 1 วัน

เมือนึกขึนได้วา่ คืนนีหอสรรพสิงมีงานประ
มูล มูช่ ิงเกอจึงเรียกโย่วเหอและฮวาเยวียเข้ามา

36
ปรนนิบตั ินาง ล้างหน้าล้างตา ใช่ นางต้องการการพัก
ผ่อน

ขันตอนในการจะรับพญาเพลิงเข้าสูร่ า่ งกาย
เพือกระตุน้ สายโลหิตนัน อันตรายเป็ นอย่างมาก จึง
ต้องเตรียมยาเอาไว้เพือช่วยชีวิตในยามฉุกเฉิน สําหรับ
เรืองนี มูช่ ิงเกอไม่ได้เป็ นกังวลมากนัก เพราะหลังจากที
นางทดลองซําหลายรอบและนางรับรูว้ า่ ร่างกายหลังได้
รับการเปลียนแปลงดีเอ็นเอนันมีพลังการฟื นตัวได้อย่าง
น่ากลัวและน่าทึงเพียงใด

แต่ทว่า ยังมีของลําค่าอีกชิน ทีนางจะต้องตระเตรียม


เอาไว้ก่อนทีจะพบพญาเพลิง

37
นันก็คือ ของเหลวเย็นทีสามารถป้องกัน
วิญญาณไม่ให้ถกู พญาเพลิงทําลาย ว่ากันว่า ของเหลว
เย็นทีว่านีหายากมาก เพราะมันมาจากถํานําแข็งทีอยู่
บนภูเขานําแข็ง อีกทังยังเป็ นส่วนทีทรงพลังมากทีสุดใน
หินย้อย ใช้เพียงแค่หยดเดียว ก็สามารถกอบกูพ้ ลัง
ของดวงวิญญาณได้

สมบัติอนั ลําค่าทีเพียงรูจ้ กั แต่ไม่สามารถ


ครอบครองได้นี จะไปหาได้จากทีไหนกัน

การตามหาของเหลวเย็น เป็ นหนึงใน


เหตุผลทีนางรับคําเชิญร่วมงานประมูลของหอสรรพสิง

เมือวานทีหอสรรพสิง ตอนแรกนางคิดว่า
38
หลังจากทีได้ขอ้ มูลของพญาเพลิงแล้ว นางจะถาม
เบาะแสเกียวกับของเหลวเย็น แต่ไม่คิดว่าตานเฉินจือ
จะยืนบัตรเชิญร่วมงานประมูลให้กบั นาง

เพราะฉะนัน นางจึงไม่ได้พดู ถึงเรืองของ


ของเหลวเย็น แต่อยากจะลองเสียงดวงในงานประมูล
ว่าจะได้เบาะแสเกียวกับของเหลวเย็นหรือไม่ หากไม่มี
ค่อยปรึกษาหอสรรพสิงหลังจากจบงานประมูล

มูช่ ิงเกอหลับไปจนกระทังพลบคํา

สองพีน้องตระกูลเว่ยตามนางไปรับ
ประทานอาหารคํา นางจึงค่อยๆ ลุกขึนจากเตียง

39
……

หลังอาหาร มูช่ ิงเกอพาสองพีสองตระกู


ลเว่ยพุง่ ไปยังหอสรรพสิงอย่างกระฉับกระเฉง

เทียบเชิญใบหนึง สามารถเข้างานได้สามคน ท่าทางทีดู


น่าสงสารของพีน้องคูน่ ี ทําให้มชู่ ิงเกอปฏิเสธไม่ลง ทัง
สามจึงออกจากเรือนรับรอง โดยไม่ได้พาองครักษ์ไปแม้
แต่คนเดียว

มาเยือนหอสรรพสิงอีกหน ผูท้ ีออกมาต้อน


รับทังสามก็ยงั คงเป็ นเหลียนเอ๋อร์ผเู้ ดิม

40
ทันทีทีเห็นทังสามคน เหลียนเอ๋อร์ก็เดินเข้า
มาต้อนรับพร้อมรอยยิม มุมปากเผยให้เห็นลักยิม
หวานๆ

“คุณชายมู่ คุณชายเว่ย และคุณหนูเว่ย


ยินดีตอ้ นรับพวกท่าน” เหลียนเอ๋อร์โน้มตัวลงอย่าง
นอบน้อม นําเสียงนันเป็ นกันเองอย่างมาก

มูช่ ิงเกอพยักหน้า ยืนเทียบเชิญในมือออก


มา

ในตอนทีตานเฉินจือยืนเทียบเชิญให้กบั มู่
ชิงเกอ เหลียนเอ๋อร์เองก็อยูข่ า้ งๆ เพราะฉะนัน เมือรับ
41
บัตรเชิญมา นางก็ไม่ได้เปิ ดเพือตรวจสอบแต่อย่างไร

ทว่ากลับไม่คิดว่า การกระทําของนาง ทํา


ให้เกิดเสียงคําถามทีเลวร้ายดังขึนจากข้างหลัง

“เหตุใดหอสรรพสิงจึงเชิญแขกไม่เลือกเช่นนี
คนจนๆ พวกนีเข้ามา จะมีเงินพอทีจะซือรึ”

หลังจากทีพวกมูช่ ิงเกอได้ยิน ก็หนั หลังกลับ


ไปมอง สิงทีเห็นคือ แสงระยิบระยับทีแสบตาจากเครือง
ประดับต่างๆ จนกระทังแสงอันแสบตาพวกนันจางไป
บ้าง จึงเห็นอย่างชัดเจนว่า คนพูดนันคือชายหนุ่มทีอยู่
ในชุดสีทองล้วน บนคอ ข้อแขน เต็มไปด้วยเครืองเงิน
และเครืองทองต่างๆ
42
รูปร่างหน้าตาของคนผูน้ ียังถือว่าสวยสดงด
งาม แต่ทว่า สายตานันเต็มไปด้วยความดูถกู และหยิง
ผยอง จมูกทีโด่งเป็ นสันสูงชีฟ้านัน ดูแล้วทําให้ไม่สบาย
ตา

ข้างกายเขา ยังมีหญิงสาวทีตัวอ่อนนุ่มราว
กับไร้กระดูกในชุดบางเบาน่าเย้ายวนคนหนึง ท่าทางอัน
ใกล้ชิดนัน แทบจะสิงเข้าไปอยูใ่ นร่างของชายหนุ่มจนไม่
สามารถแยกออกจากกันได้

แน่นอนว่า ชายหนุ่มคนนีก็ไม่ใช่คนดีมาก
นัก นอกจากมือหนึงทีถือพัดอย่างสง่างามแล้ว อีกมือ
หนึงก็อยูไ่ ม่สขุ คอยลูบเอวของหญิงสาว แล้วออกแรง

43
บีบเบาๆ

เมือคนจนทังสามหันหลังกลับมา แววตา
ของเขาก็เกิดความประหลาดใจขึนเล็กน้อย มือทีบีบเอว
ของหญิงสาวอยูก่ ็บีบอย่างแรงทีหนึง จนทําให้หญิงสาว
ร้องเสียงหลงทีหนึง

‘ช่างงดงามเหลือเกิน ! แต่เสียดายทีเป็ น
ผูช้ าย!’ ชายหนุ่มแอบเสียดาย พลันเคลือนสายตาออก
จากมูช่ ิงเกออย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วไปหยุดสายตาที
เว่ยกว๋านกว่านหญิงสาวผูส้ วยสดงดงาม

ทันใดนัน สายตาของชายหนุ่มก็รอ้ นแรงขึนมาอีกหน

44
ไม่สามารถลิมรสอาหารมือหลักอันเลิศรส
ได้ ของหวานอันงดงามและเปรียวปากนีก็ไม่เลว !

เมือเห็นว่าชายหนุ่มทีอยูต่ รงหน้าบังอาจ
มากเกินไป ทําให้เว่ยฉีแค่นเสียงเฮอะคําหนึง แล้วไปยืน
อยูต่ รงหน้าของทังสองเพือบดบังการมองเห็นของเขา

ทันใดนัน ดวงตาทีกําลังชืนชมสาวงามของ
ชายหนุ่มก็ปรากฏภาพของชายหนุ่มดูภมู ิฐานคนหนึงขึน
มาแทน สายตาเขาก็พลันมืดมนลงในทันที ก่อนจะแปร
เปลียนเป็ นไอสังหารในทันใด

“เจ้าสุนขั นีมาจากไหนกัน ไสหัวออกไปซะ!”


45
ชายหนุ่มพูดด้วยนําเสียงอันเย่อหยิง

คนอย่างเว่ยฉีไม่ใช่คนทีจะทนการดูถกู ได้
จึงเดือดดาลขึนมาในทันทีและกําลังจะเข้าไปสังสอน
ชายหนุ่มคนนัน

ในขณะนีเอง เหลียนเอ๋อร์ก็รบี เดินเข้าไป


พลันพูดพร้อมทังรอยยิมว่า : “ทุกท่านต่างก็เป็ นแขก
ของหอสรรพสิง งานประมูลกําลังจะเริมขึนแล้ว ขอเชิญ
ทุกท่านรีบเข้าไปในงาน เพือไม่เป็ นการเสียเวลา”

ชายหนุ่มคนนันเองก็รูจ้ กั เหลียนเอ๋อร์ เมือ


เห็นว่านางเข้ามาช่วยคลีคลายสถานการณ์ สีหน้าอัน
มืดมนก็ออ่ นโยนลงบ้าง แต่ไอสังหารในแววตาก็ยงั คงไม่
46
ลดน้อยลง : “เหลียนเอ๋อร์ คนพวกนีมาจากทีใดกัน
เหตุใดเจ้าไม่แม้แต่กระทังจะเปิ ดดูเทียบเชิญ หรือว่าเจ้า
จะปฏิบตั ิหน้าทีโดยมิชอบ ใช้เทียบเชิญปลอมในการนํา
คนพวกนีเข้ามาภายในงานประมูล”

สีหน้าของเหลียนเอ๋อร์เปลียนไปในทันที :
“มิใช่อย่างทีคุณชายจูคิดหรอกเจ้าค่ะ เหลียนเอ๋อร์จะริ
บังอาจทําเช่นนันได้อย่างไร เพียงแค่ในขณะทีท่านผู้
เฒ่าตานเชิญทังสามท่าน ข้าเองก็อยูด่ ว้ ย เพราะฉะนัน
จึงละเว้นขันตอนการตรวจสอบเทียบเชิญของทังสาม
ท่าน”

ทังสามเป็ นแขกทีท่านผูเ้ ฒ่าตานให้เกียรติ


เชิญด้วยตนเองอย่างนันหรือ ?!
47
ผูค้ นทีอยูบ่ ริเวณนัน หลังจากทีได้ยินคํา
อธิบายจากเหลียนเอ๋อร์ ก็พลันรูส้ กึ ตืนตระหนกขึนมา

ท่านผูเ้ ฒ่าตานเป็ นถึงนักปรุงยาทีเก่งกาจ


มากทีสุดในเมืองจือ ไม่วา่ จะไปทีใด ผูค้ นต่างก็ให้ความ
เกรงอกเกรงใจ รวมทังยังเป็ นผูม้ ีเกียรติสาํ หรับตระกูลผู้
มีอาํ นาจต่างๆ

ผูท้ ีสามารถทําให้ทา่ นเชิญด้วยตน


เอง.......ทังสามคนนีเป็ นใครกัน

ผูค้ นทีอยูร่ อบๆ ต่างคิดไปต่างๆ นานา

48
คุณชายจูทีข้ามาหาเรือง หลังจากทีได้ยิน
นามของท่านผูเ้ ฒ่าตาน สีหน้าก็พลันเปลียนไปในทันที
พร้อมมองทังสามอีกครัง และหยุดสายตาทีเหลียนเอ๋อร์
พร้อมขู่วา่ : “เหลียนเอ๋อร์ เจ้ารูห้ รือไม่วา่ ผลของการ
อ้างนามของท่านผูเ้ ฒ่าตานนันเป็ นอย่างไร”

เหลียนเอ๋อร์กม้ สายตาลง : “เหลียนเอ๋อร์


ทราบเป็ นอย่างดีและไม่อาจทําเช่นนัน”

“หึ !” คุณชายจูอทุ านอย่างเย็นเยียบคําหนึง


ก่อนจะพาหญิงสาวผูส้ วยงามหยาดเยิมเดินเข้าหอสรรพ
สิงไปอย่างรวดเร็ว

49
ในขณะทีเดินผ่านพวกมูช่ ิงเกอ สายตาอัน
เย็นเยียบทีแฝงความข่มขู่นนั ทําให้มชู่ ิงเกอหรีตาลง

หลังจากทีคุณชายจูเดินไปแล้ว เหลียนเอ๋อร์
แอบถอนหายใจทีหนึง ก่อนจะเผยรอยยิมและพูดกับมู่
ชิงเกอและทังสองว่า : “เชิญทังสามท่านด้านในเจ้าค่ะ”

มูช่ ิงเกอเงยสายตากระจ่างใสขึน พลางพูด


กับนางราวกับยิมและไม่ยมในขณะเดี
ิ ยวกันว่า : “แขก
ทีหอสรรพสิงเลือกช่างทําให้ขา้ ได้เปิ ดหูเปิ ดตาเสียจริง”

ใบหน้าของเหลียนเอ๋อร์มีความอึดอัดเกิด
ขึนในทันที พลางก้มหน้าลงและพาทังสามเข้าภายใน

50
งานไป

ทังสามก็เดินเข้าห้องพิเศษทีอยูบ่ ริเวณชัน
สองไปพร้อมกับเหลียนเอ๋อร์ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึน แต่
กลับไม่คิดว่า ในขณะทีประตูถกู เปิ ดออก กลับพบว่าคน
ทีนังอยูใ่ นงานคือคุณชายจูทีสาดฉายแสงระยิบระยับผู้
นัน

อีกฝ่ ายกวาดสายตามองมาอย่างโหด
เ**◌้ยม มูช่ ิงเกอกะพริบตาทีหนึงและกวาดสายตา
มองผ่านไปอย่างไม่ใส่ใจ

“ทังสามท่าน ทีนีมีชาดอกไม้ ให้เหลียนเอ๋อร์


ชงให้ทกุ คนสักกานะเจ้าคะ” หลังจากทีปิ ดประตูลง เหลี
51
ยนเอ๋อร์ก็พดู กับทังสาม

เว่ยกว๋านกว่านนังลงด้วยความโกรธ พลัน
พูดอย่างไม่พอใจว่า : “ก็ดี ดืมชาจะได้คลายความ
โมโห” เมือครูท่ ีผ่านมานี หากไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะส่ง
ผลกระทบต่อการประมูลของมูช่ ิงเกอ นางจัดการคูณ
ชายจูนนไปนานแล้
ั ว

52
ตอนที 101-4 หอสรรพสิงผูฉ้ ลาดแกมโกง

เว่ยฉีเองก็นงลง
ั พร้อมทังถามด้วยใบหน้าอันเย็นเยียบ
ว่า : “คุณชายจูผนู้ นเป็
ั นใครกัน เหตุใดแม่นางเหลี
53
ยนเอ๋อร์ตอ้ งเกรงกลัวเขามากถึงเพียงนัน”

พีน้องตระกูลเว่ยต่างก็ถามเพราะความ
อยากรู ้

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับนังนิงราวกับไม่มีอะไร


เกิดขึน พลางมองเหลียนเอ๋อร์ทีกําลังชงชาด้วยดวงตาที
ฉายแววสนใจ

ท่าทางการชงชาของเหลียนเอ๋อร์นนคล่
ั อง
แคล่วและสง่างาม เมือได้ยินคําถามจากเว่ยฉี นางจึง
ผุดรอยยิมจางๆ เผยให้เห็นลักยิมเล็กๆ ทีน่าเย้ายวน
เป็ นอย่างมาก “ก็ไม่ได้ถือว่าเกรงกลัว แต่วา่ หอสรรพ
สิงนันไม่ชอบความเดือดร้อน ไม่ชอบความวุน่ วาย อีก
54
ทังเพราะว่าคุณชายจูมีความสัมพันธ์อนั ดีกบั เชือพระ
วงศ์แคว้นลี ถือว่าเป็ นผูม้ ีอาํ นาจคนหนึง ด้วยอุปนิสยั
ของเขาทีเป็ นเช่นนี เราจึงไม่อยากจะถือสาเขา เรืองที
เกิดขึนเมือครูน่ ี ขอให้ทงสามท่
ั านโปรดอย่าถือโทษ
พวกท่านวางใจเถิด เมืออยูใ่ นหอสรรพสิงนี เขาก็เพียง
เก่งแต่ปาก”

“ทีแท้ก็มีพระญาติพระวงศ์คอยหนุนหลังนี
เอง” เว่ยฉีพดู อย่างไม่พอใจ

สําหรับเขาแล้ว มีความสัมพันธ์อนั ดีกบั เชือ


พระวงศ์ มิได้เป็ นเรืองทีน่ายกย่องมากนัก เพราะท่าน
พ่อของเขาก็เป็ นถึงเจ้าเมืองเมืองถัว ยอดฝี มือทีมีชือ
เสียงของแคว้นลี ทีแม้แต่ฮ่องเต้แคว้นลียังต้องเกรงใจ

55
เว่ยกว๋านกว่านกลับพูดตรงๆ ด้วยสายตา
อันแข็งกร้าวว่า : “หึ ก็เป็ นแค่เพียงสุนขั ตัวหนึงทีหลง
ระเริงอยูใ่ นอํานาจเท่านัน ข้าก็นกึ ว่าจะมีอะไรดี”

“ข้าเองก็ลืมนึกถึงฐานะของทังสองท่านไป
แน่นอนว่าเขาเปรียบกับท่านไม่ได้เลยแม้แต่นอ้ ย มี
สุภาษิ ตกล่าวว่า ผูม้ ีอาํ นาจมักจะไม่ข่มเหงรังแกผูท้ ีด้อย
กว่า ฐานะของท่านทังสองนันสูงส่ง ไม่จาํ เป็ นต้องถือสา
คนอย่างเขาหรอกเจ้าค่ะ” เหลียนเอ๋อร์พดู พร้อมรอยยิม

“คําพูดทังหมดของเหลียนเอ๋อร์นนั ราวกับ
กําลังแก้ตวั ให้กบั คุณชายจูผนู้ นั ดูเหมือนว่า อุปนิสยั อัน
หยิงสโยของคุณชายจู ส่วนหนึงถือเป็ นผลงานของหอ
56
สรรพสิง” มูช่ ิงเกอทีฟั งอยูข่ า้ งๆ มาครูห่ นึงพูดขึนอย่าง
กะทันหัน

เหลียนเอ๋อร์องไปครู
ึ หนึง ริมฝี ปากอันเรียว
เล็กผุดรอยยิมให้กบั มูช่ ิงเกอ ในดวงตานันแฝงความตืน
ตระหนก : “คุณชายก็พดู เล่นไปได้”

“งันรึ ? ข้าไม่เคยพูดเล่น” มูช่ ิงเกอกระตุ


กมุมปากเบาๆ พลันยกถ้วยนําชาขึนมาจรดบริเวณริม
ฝี ปากแล้วเป่ าไอร้อนให้กระจายออกไป พร้อมบรรจงดืม
ช้าๆ

เว่ยกว๋านกว่านถามอย่างไม่เข้าใจว่า :

57
“หมายความว่าอย่างไร”

นางไม่เข้าใจ แต่เว่ยฉีกลับเข้าใจ จึงอุทาน


‘หึ’ คําหนึง ก่อนจะอธิบายให้กบั น้องสาวว่า : “ความ
หมายของมูเ่ กอนันชัดเจนเป็ นอย่างมาก คุณชายจูเย่อ
หยิงมากถึงเพียงนี แต่วา่ หอสรรพสิงยังคงตามใจเขา
นานไป ก็จะยิงทําให้เขาคิดว่าตนเองนันเก่งกาจ ไม่มี
ใครกล้าทําอะไรเขามิใช่หรือ ช่างเป็ นกระบวนท่าสังหาร
ทียอดเยียมโดยแท้!”

คําอธิบายเช่นนี เว่ยกว๋านกว่านเข้าใจ

วิธีการพยายามไกล่เกลียอีกฝ่ ายเพือยุติ
ความขัดแย้งเช่นนี ทําให้อปุ นิสยั ของคุณชายจูแย่ลง
58
และเย่อหยิงขึนเรือยๆ หากวันนี เขาเกิดไปทําให้คนมี
อํานาจไม่พอใจ สิงทีเขาต้องเจอก็คือการตอบโต้อย่าง
รุนแรงและหอสรรพสิงผูก้ ่อให้เกิดเรืองราวทังหมด กลับ
สามารถนังมองทุกอย่างอย่างนิงสงบโดยไม่ได้รบั ผล
กระทบอันใด

“พวกเจ้าช่างเจ้าเล่หเ์ สียจริง!” เว่ยกว๋านก


ว่านมองเหลียนเอ๋อร์อย่างแปลกใจ

เหลียนเอ๋อร์กระตุกมุมปากอย่างอึดอัด
หลบตามูช่ ิงเกอราวกับรูส้ กึ กลัว

คุณชายมูท่ า่ นนีช่างเก่งกาจเสียจริง เพียง


แวบเดียวก็กระจ่างในแผนการของเจ้านายเสียแล้ว
59
ความอึดอัดและการหลบหลีกทังหมด ล้วน
อยูใ่ นสายตาของมูช่ ิงเกอ นางผุดรอยยิมและพูดว่า :
“ดูเหมือนว่า คุณชายจูทา่ นนี เคยล่วงเกินคนใหญ่คน
โตของหอสรรพสิงโดยไม่รูค้ วาม อีกฝ่ ายกลับไม่อาจลง
มือโต้ตอบได้ จึงอยากจะยืมมือคนนอกให้มาจัดการ
เพราะเช่นนี เป็ นวิธีทีทําให้หอสรรพสิงเป็ นผูบ้ ริสทุ ธิ ไม่
มีใครสามารถกล่าวหาหอสรรพสิงได้ ช่างเป็ นวิธีการที
ชาญฉลาดยิงนัก ไม่เพียงแค่ดาํ เนินการอย่างคล่อง
แคล่วแต่ยงั มีความอดทนในการรอ ช่างเจ้าคิดเจ้าแค้น
เสียจริง” เพือพูดถึงประโยชน์สดุ ท้าย ในส่วนลึกของ
สายตาอันสว่างไสวของมูช่ ิงเกอ พลันมีแสงประกายเกิด
ขึน เพราะนางรับรูไ้ ด้วา่ ผูท้ ีวางแผนการทังหมดนี มี
อุปนิสยั ทีคล้ายคลึงกับนาง

60
ผูท้ ีไม่เคยแม้กระทังพบเจอคนนี กลับ
กระตุน้ ความสนใจของนางเป็ นอย่างมาก เพียงเพราะ
แผนการนี

เหลียนเอ๋อร์มองมูช่ ิงเกออย่างตืนตระหนก
คําพูดของมูช่ ิงเกอทําให้นางราวกับโดนสายฟ้าฟาดใส่ก็
ไม่ปาน

ตรรกะการจัดระเบียบแบบแผนทีชัดเจน
การวิเคราะห์อย่างแม่นยําและรอยยิมทีดูมนใจ
ั เหมือน
กับเจ้านายของนางไม่มีผิด ในโลกนี มีคนสามารถมอง
ทะลุความคิดอันซับซ้อน ความฉลาดอันเหลือล้น การ
คาดการณ์ทีแม่นยํา และความสามารถอันเพียบพร้อม

61
ได้อย่างง่ายดายเช่นนีเชียวหรือ ?!

เมือเห็นอาการของเหลียนเอ๋อร์ รอยยิมของ
มูช่ ิงเกอก็ชดั เจนมากกว่าเดิม : “ดูเหมือนว่า จะเป็ น
อย่างทีข้าพูด”

ในตอนนี เหลียนเอ๋อร์ตืนตระหนกจนพูด
อะไรไม่ออก

ส่วนพีน้องตระกูลเว่ยเอง ตอนนีก็ตาเป็ น
ประกาย ใบหน้าเห็นไปด้วยความชืนชมทีมีตอ่ มูช่ ิงเกอ

“มูเ่ กอ ท่านเก่งมากเลย !” ส่วนลึกในดวง

62
ตาของเว่ยกว๋านกว่านเต็มไปด้วยความคลังไคล้

เว่ยฉีเองก็มองนางอย่างเลือมใสศรัทธา :
“มูเ่ กอท่านฉลาดมาก หากท่านเป็ นหญิงคงจะดี !”

“ไอ้เว่ยฉี!”

ป๊ าบ——!

ใบหน้าของมูช่ ิงเกอเพิงจะมืดมนลง ฝ่ ามือ


ของเว่ยกว๋านกว่านก็ได้กระทบลงแผ่นหลังของเว่ยฉี
อย่างสุดแรง

63
“ชมการประมูลเถิด” มูช่ ิงเกอพูดด้วยใบหน้า
อันดําคลํา

ในขณะทีทุกคนกําลังพูดคุยกัน งานประมูล
ชันล่างก็ได้เริมขึนแล้ว

เมือเห็นว่ามูช่ ิงเกอไม่คิดจะคุยเรืองนันต่อ
เหลียนเอ๋อร์จงึ แอบโล่งใจ การอยูก่ บั ผูร้ อบรู ้ มันช่างน่า
อึดอัดและน่ากลัวมากเหลือเกิน ใช่หรือไม่ !

งานประมูลของหอสรรพสิง ไม่มีการแนะนํา
รายการของทีเข้าร่วมการประมูล เพือความลึกลับน่าค้น
หา

64
ในตอนนี ชันล่างกําลังประมูลแก่นสมองลูก
หนึงของสัตว์สายนําเงิน แก่นสมองเช่นนี ในแคว้นระดับ
สามแล้วถือว่าหายากมากและการทีเปิ ดการประมูลของ
ชินนี เป็ นการบ่งบอกว่า การประมูลในรอบต่อๆ ไปมี
มูลค่าไม่ธรรมดาเป็ นแน่

กวาดสายตาผ่านแก่นสมองสัตว์ระดับสาย
นําเงิน มูช่ ิงเกอแอบมีความหวังเล็กน้อย

สําหรับของเหลวเย็น ก็ยงั ไม่รูว้ า่ จะได้


เบาะแสภายในงานของหอสรรพสิงครังนีหรือไม่

มูช่ ิงเกอเอามือเท้าคาง เม้มปากชมการ


65
ประมูลทีเกิดขึนชันล่าง เพียงแค่ชมเท่านัน มิได้เข้าร่วม

ในทีสุด แก่นสมองของสัตว์ระดับสาย
นําเงิน ก็ถกู ประมูลไปในราคาหนึงล้านตําลึงทอง

แก่นสมองสัตว์ใช้ทาํ อะไรได้บา้ ง ?

เท่าทีมูช่ ิงเกอรู ้ สามารถนํามาปรุงยาและ


สร้างหลอมอาวุธได้ อีกประการหนึงก็คือ สามารถรับ
พลังของมันเข้าสูร่ า่ งกายเพือเป็ นการฟื นตัว

สิงทีประมูลต่อจากนัน ล้วนเป็ นสิงทีลําค่า


แต่กลับไม่ใช่สงที
ิ มูช่ ิงเกอต้องการ เพราะฉะนัน นางจึง

66
มิได้ทาํ อะไร

ในตอนแรกเว่ยกว๋านกว่านทีตืนเต้นเป็ น
อย่างมากพูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “มูเ่ กอ ท่านมีอะไรที
อยากได้หรือไม่”

มูช่ ิงเกอส่ายหน้า

67
ตอนที 101-5 หอสรรพสิงผูฉ้ ลาดแกมโกง

68
แก่นสมองสัตว์ ? หากนางต้องการ นางสามารถไป
สังหารสัตว์ดว้ ยตนเอง ไม่จาํ เป็ นต้องเสียเงินไปโดย
เปล่าประโยชน์

โอสถ? นางปรุงเองก็ได้ เหตุใดจึงต้องซือ

ทักษะการต่อสู้ ? ฮูว.......แม้วา่ นางจะมี


ไม่มาก แต่ก็ถือว่าพอใช้ สินเปลืองเงินโดยใช่เหตุ

แล้วอาวุธล่ะ จริงๆ แล้ว นางก็ถือเป็ นนักห


ลอมอาวุธครึงนึงแล้ว อีกประการหนึง สิงทีนางสวมอยู่
ในมือเองก็เป็ นอาวุธ ! ในช่องว่าง ยังมีอาวุธกึงเทพทีมี
ทีมาไม่ชดั เจนอยูอ่ ีกชินหนึง

69
เพราะฉะนัน สิงของต่างๆ ทีทําให้คนใน
งานรูส้ กึ สนใจ สําหรับนางแล้ว มันไม่น่าดึงดูดเลยแม้
แต่นอ้ ย

“เป็ นอย่างไรบ้าง เจอของทีตนเองอยากได้


หรือยัง” มูช่ ิงเกอขมวดคิวถาม

เว่ยกว๋านกว่านและเว่ยฉีมองหน้ากัน เว่ยฉี
หน้าแดงและก้มหน้าลง เว่ยกว๋านกว่านกลับพูดโดยไม่
คิดจะปิ ดบังมูช่ ิงเกอว่า : “ท่านพ่อคุมพวกเราอย่างเข้ม
งวด ไม่ยอมให้เราใช้จ่ายเงินตามอําเภอใจเพราะของ
พวกนีหรอก”

70
ทีแท้ก็เป็ นเช่นนี

แม้วา่ มูช่ ิงเกอจะเข้าใจ แต่ก็ไม่มีทางทีนาง


จะพูดบ้าๆ ว่า พวกเจ้าชอบอะไรก็จงบอก ข้าจะจ่าย
ทุกอย่างให้ อะไรพวกนีหรอก!

เพราะนางเองก็เป็ นคนจนคนหนึง !

“ต่อไป ทีเราจะประมูลคือโอสถระดับสูงชัน
เยียมเม็ดหนึง เท่าทีเจ้าของโอสถได้กล่าวเอาไว้ ชือของ
โอสถนีคือ ‘เก้าชีวิตหวนคืน’ สามารถระเบิดพลังทัง
หมดออกมาได้ ก่อนลมหายใจทุกท้าย และช่วยฟื นฟู
อาการบาดเจ็บ แต่ทว่า โอสถชนิดนี หอของเราเพิงเคย
พบครังแรกและไม่กล้ายืนยันผลลัพธ์ของมัน เพราะ
71
ฉะนันขอให้ทกุ ท่านโปรดใช้วิจารณญาณ เอาเถิด โอสถ
รักษาชีวิตนีขอเปิ ดราคาในราคาหนึงล้านตําลึงทอง”

“หืม ? มูเ่ กอ นันยาของท่านมิใช่หรือ” เว่ยก


ว๋านกว่านยืนขึนมา พร้อมยืนคอออกไปมอง

ในขณะทีโอสถเก้าชีวิตหวนคืนถูกนําออก
มา มูช่ ิงเกอก็หรีตาและเข้าใจในจุดประสงค์ของตาน
เฉินจือ

ตาแก่นนั ช่างแพ้ไม่เป็ นเสียจริง

เขาอยากจะให้นางเห็นกับตาว่า โอสถนีมี

72
มูลค่าจริงๆ หรือไม่

มูช่ ิงเกอเงียบและไม่ยอมพูดอะไร อยากจะ


ชมการประมูลต่อไป เหลียนเอ๋อร์ยืนอยูบ่ นห้องอย่างอึด
อัดและกําลังไม่พอใจในแผนการแย่ๆ ของท่านผูเ้ ฒ่า
ตาน

คุณชายมูท่ า่ นนี เก่งกาจมากจนถึงเพียงนี


จะดูแผนการตืนๆ เช่นนีไม่ออกได้อย่างไร

และแน่นอนว่า หลังจากสินเสียงของผู้
ดําเนินงานประมูล ก็ไม่มีคนเสนอราคา ราวกับกําลัง
เป็ นห่วงถึงผลลัพธ์ของโอสถเก้าชีวิตหวนคืนนี

73
พักใหญ่ ก็ยงั ไม่มีคนเสนอราคา

ดูแล้ว โอสถระดับสูงชันดีนีจะขายไม่ออก
ซะแล้ว

“คนพวกนีช่างไม่รูจ้ กั ของดี พวกเขาไม่เอา


ข้าเอา !” เว่ยกว๋านกว่านรีบทวงความยุติธรรมให้กบั มู่
ชิงเกอ

ในขณะทีเว่ยกว๋านกว่านเตรียมพร้อมจะยก
มือขึน มูช่ ิงเกอก็ยกมือขึน : “ไม่ตอ้ งรีบ”

74
นางไม่อยากจะเชือว่า เทียบเชิญทีตาเฒ่า
ตานยืนให้กบั นาง ก็เพือให้นางอับอาย

ในตอนนี ในบริเวณชันล่าง ผูด้ าํ เนินงาน


ประมูลได้พดู ขึนอีกครังว่า : “ทุกท่านคงกําลังสงสัยใน
ผลลัพธ์ของโอสถนี” ราวกับว่า เขาคาดการณ์เอาไว้แล้ว
ว่าเรืองทุกท่านต้องเป็ นเช่นนี จึงไม่แสดงความตืน
ตระหนกอันใดเลยแม้แต่นอ้ ย

ทุกคนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา
ทันใดนัน ผูด้ าํ เนินงานประมูลก็ได้พดู ขึนว่า : “มิทราบ
ว่า วันนีท่านเก๋อมาหรือไม่”

“ท่านเก๋อมีลกู ชายแค่คนเดียว และตอนนีลูก


75
ชายเพียงคนเดียวของท่านเก๋อกําลังเจ็บหนักเป็ นตาย
เท่ากัน เพราะการต่อสูแ้ ลกชีวิตเมือหลายวันก่อน” เหลี
ยนเอ๋อร์อธิบายสันๆ แต่ก็สร้างความเข้าใจให้กบั ทังสาม
ทีอยูใ่ นนี

ทีแท้ ท่านผูเ้ ฒ่าตานก็มีจดุ ประสงค์เช่นนีนี


เอง

ประการแรก คือ สามารถทดลองผลลัพธ์


ของโอสถนี ว่าวิเศษอย่างทีมูช่ ิงเกอได้พดู เอาไว้หรือไม่
ประการทีสองคือ สามารถทํารายได้อนั มหาศาลให้กบั
หอสรรพสิง

ชันล่าง ท่านเก๋อทีถูกเอ่ยชือพูดขึนอย่าง
76
ช้าๆ ว่า : “ทําไม? หอสรรพสิงคิดจะใช้ลกู ชายของข้า
เป็ นหนูทดลองอย่างนันรึ?”

ผูด้ าํ เนินงานประมูลก็พดู ตรงๆ พร้อมรอย


ยิมโดยไม่อดึ อัดขัดเขินเลยแม้แต่นิด : “ได้ยินมาว่า
คุณชายเก๋อบาดเจ็บสาหัสเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย
เหตุทีท่านเก๋อมาร่วมงานประมูลในวันนี คือการหายา
รักษาทีดีทีสุดมิใช่หรือ อีกทังงานประมูลในครานี ยาที
สามารถช่วยชีวิตได้ ก็มีเพียงโอสถเก้าชีวิตหวนคืนในมือ
ของข้าเท่านัน ถ้าเช่นนันไม่สู้ ท่านเก๋อลองเสียงใช้โอสถ
นีรักษาดูดีหรือไม่ เพียงหนึงล้านตําลึงทอง ใช้แลกกับ
ชีวิตของคุณชายเก๋อ ถือเป็ นการแลกเปลียนทีคุม้ ค่าเป็ น
ทีสุด !”

77
คําพูดของผูด้ าํ เนินงานประมูลทําให้ทา่ นเก๋
อขมวดคิวเป็ นปมและเงียบลง

ราวกับกําลังคิดพิจารณาเพือตัดสินใจ

ครูห่ นึง เขาจึงพูดอีกครังว่า : “หากไม่ได้


ผล หอสรรพสิงจะรับผิดชอบอย่างไร แล้วชีวิตของลูก
ชายข้าใครจะรับผิดชอบ”

สําหรับคําถามนี มูช่ ิงเกอเองก็สงสัยเป็ น


อย่างมากว่าหอสรรพสิงจะมีคาํ ตอบอย่างไร

ผูด้ าํ เนินงานประมูลราวกับได้เตรียมตัวมา

78
ก่อนแล้ว ทันทีทีท่านเก๋อพูดจบ ก็พดู อย่างผ่อนคลาย
ว่า : “หากไม่ได้ผลหอของเรายินดีคืนเงินทังหมดทันที
และต้องบอกท่านเก๋อว่า เจ้าของโอสถนี ก็อยูภ่ ายใน
งานประมูลในครังนีด้วย หากไม่ได้ผล และทําให้อาการ
หนักกว่าเดิม ข้าว่าเจ้าของโอสถก็ควรจะออกมาชีแจง
สักหน่อย” พูดจบ เขาก็แอบกวาดสายตามองห้องทีมูช่ ิง
เกอนังอยูแ่ วบหนึง

“ไร้เหตุผล ! เห็นได้ชดั ว่า เขาคิดจะลากท่าน


เข้าไปเกียวด้วย !” เว่ยฉีทบุ ทีวางมือของเก้าอีอย่างจัง
ทีหนึง พลันมองเหลียนเอ๋อร์ทียืนอยูข่ า้ งๆ อย่างไร้
เดียงสาด้วยแววตาอันโหดเ**◌้ยม

“หอสรรพสิงของพวกเจ้านี ช่างไม่รูจ้ กั
79
อาย !” เว่ยกว๋านกว่างจ้องเหลียนเอ๋อร์เขม็ง ราวกับ
กําลังปล่อยดาบออกมาทําร้ายนางด้วยสายตา

กลับเป็ นมูช่ ิงเกอเอง ทีหลังจากสินเสียง


ของผูด้ าํ เนินงานประมูล สายตาของนางมีความเย็น
เยียบเกิดขึนแวบหนึงพร้อมกระตุกรอยยิมทีแฝงความ
ขบขันและเยาะเย้ยตรงมุมปาก

นางมันใจว่า วิธีการหลังนี ไม่ใช่ของตาน


เฉินจือ แต่เป็ นของคนอืน

คนผูน้ นั เป็ นคนทีนางเคยชมเชยความชาญ


ฉลาดในการจัดการเรืองของคุณชายจู

80
“ไม่เป็ นไร ทองแท้ยอ่ มไม่กลัวเพลิงหลอม”
คําพูดไม่ใส่ใจของมูช่ ิงเกอ ดับเพลิงโทสะในใจของพี
น้องตระกูลเว่ยลงชัวคราว แต่วา่ ในขณะทีพวกเขามอง
เหลียนเอ๋อร์อีกครัง ในสายตาไม่หลงเหลือความสนุก
สนานอีกต่อไปแล้ว

ในขณะทีพูด ท่านเก๋อทีอยูด่ า้ นล่างก็ได้


ตัดสินใจเสร็จแล้ว

เขาสังคนให้ไปรับลูกชายของตนเองออก
จากจวน ดูเหมือนว่าจะทดลองโอสถต่อหน้าทุกคน ก็ไม่
รูว้ า่ เพราะเขากลัวว่าหอสรรพสิงจะโกง หรือกลัวว่าเจ้า
ของโอสถอย่างมูช่ ิงเกอจะแอบหลบหนีไปกันแน่
81
ในขณะทีทุกคนกําลังรอคอย คนใช้ตระกูล
เก๋อก็หามชายหนุ่มทีมีใบหน้าและร่างกายผอมแห้ง ลม
หายใจรวยรินเข้ามาด้วยเปลไม้

ทันทีทีคนผูน้ นปรากฏตั
ั ว ท่านเก๋อก็พงุ่ เข้า
ไปอย่างตืนเต้น สําหรับฐานะของคนๆ นัน ไม่ตอ้ งพูดก็
คงทราบกันดี

ในขณะทีท่านเก๋อรับยาเก้าชีวิตหวนคืนมา
จากมือของผูด้ าํ เนินงาน สายตาของทุกคน ต่างมารวม
กันอยูท่ ีเขา

ในตอนแรก สถานทีจัดงานประมูลของหอ
82
สรรพสิงเป็ นการรวมตัวกันของห้องพิเศษหลายๆห้อง
ทุกคนต่างไม่เห็นหน้ากันแต่วา่ ในตอนนี แทบจะทุกคน
เบียดกันออกมาจากห้องและจ้องมองท่านเก๋อทีป้อน
โอสถเข้าปากของลูกชายของตนเองกับมือ

หากโอสถนีไม่ได้ผลก็ช่างเถอะ แต่หากได้
ผล พวกเขาก็ถือว่าได้พลาดยันต์รกั ษาชีวิตนีไปแล้วน่ะ
สิ?

ธาตุแท้ของมนุษย์มกั จะแสดงออกมาอย่าง
ชัดเจนในสถานการณ์เช่นนี

คนทีอยูใ่ นนี ส่วนมากคงจะหวังให้โอสถนี


ไม่ได้ผล ผลลัพธ์เช่นนี จะทําให้พวกเขารูส้ กึ ว่าตนเองไม่
83
ได้ถกู เอาเปรียบ

ณ ตอนนี ภายในห้องๆ หนึง ร่างอันเกียจ


คร้านร่างหนึงกําลังแอบมองทุกอย่างทีเกิดขึนบริเวณชัน
ล่าง เขาเห็นทุกอาการทีแสดงอยูบ่ นใบหน้าของทุกคน
ในดวงตาเรียวยาวและน่าเย้ายวนแฝงความขบขันและ
เย้ยหยัน........

84
ตอนที 102-1 จัดการกับเจ้าไม่ได้ !

“มูเ่ กอ เราจะไม่ทาํ อะไรเลยรึ” เว่ยกว๋านก


ว่านเดินกลับมาจากบริเวณประตูหอ้ ง มองมูช่ ิงเกอด้วย
ใบหน้าทีเต็มไปด้วยโทสะ

มูช่ ิงเกอผุดรอยยิมตรงมุมปากจางๆ ยกนํา


ชาขึนดืมอย่างเนิบช้า : “ไม่เป็ นไรนี นีถือเป็ นการยืน
ยันประสิทธิภาพของโอสถชีวิตเก้าชีวิตหวนคืน เหตุใด
ข้าต้องปฏิเสธด้วยเล่า” ไม่ตอ้ งออกไปดู นางก็รูพ้ อจะ
เดาได้วา่ ในตอนนีทุกคนทีอยูข่ า้ งนอกมีปฏิกิรยิ าอย่าง
ไร
1
ผูท้ ีแอบวางแผนนี คงอยากให้นางอับอาย
แต่ดเู หมือนว่าจะต้องผิดหวังเสียแล้ว

นางไม่เพียงแค่มนใจในตํ
ั ารับยาทีได้รบั ถ่าย
ทอดมาแต่ยงั มันใจในความสามารถในการปรุงยาของ
ตนเองด้วย

ความเฉยชาของมูช่ ิงเกอ ทําให้เหลียนเอ๋อร์


รูส้ กึ แปลกใจ ตามหลักแล้ว คนทีถูกกลันแกล้ง แม้วา่ จะ
ไม่โกรธแต่ก็คงจะไม่นิงได้มากถึงเพียงนี

‘แน่นอนว่า ผูท้ ีเป็ นดังปี ศาจเหมือนเจ้านาย


ของนางคนนี ความคิดของเขาคงไม่ใช่สงที
ิ คนธรรมดา
2
จะสามารถคาดเดาได้’

เหลียนเอ๋อร์แอบเตือนตนเอง

“กลืนลงไปแล้ว!”

นอกห้อง มีเสียงอันตืนตระหนกดังขึน

คิดแล้ว คุณชายเก๋อคงจะกินโอสถเก้าชีวิต
หวนคืนไปแล้ว

เว่ยกว๋านกว่านรีบวิงออกไปในทันทีและ
มองออกไปนอกประตูหอ้ ง เพือเฝ้าดูสถานการณ์ของ

3
ข้างนอกอย่างไม่คลาดสายตา เว่ยฉีเองก็กาํ หมัดแน่น
และยืนคอออกไปมอง

เขาอยากจะวิงออกไปดูพร้อมๆ กับน้องสาว
เป็ นอย่างมาก แต่วา่ พอเห็นท่าทางอันนิงเฉยของมูช่ ิง
เกอ เขาก็รูส้ กึ ว่าหากตนเองเป็ นเหมือนน้องสาวก็จะทํา
ให้ดไู ม่เป็ นผูใ้ หญ่และถูกมูช่ ิงเกอดูถกู เอาได้

เพราะฉะนัน เขาจึงทําได้เพียงอดทนอย่าง
สุดความสามารถและนังอยูก่ บั ที มีเพียงดวงตาดวงเล็ก
คูน่ นเท่
ั านัน ทีคอยจ้องเว่ยกว๋านกว่านอยูบ่ อ่ ยครัง

“โอสถนีเข้าปากไปแล้วก็ละลายเลย กลิน
หอมของโอสถก็เข้มข้นมากถึงเพียงนี ดูแล้วนีคงไม่ใช่
4
โอสถธรรมดาแล้วล่ะ”

ท่ามกลางการรอคอย มีเสียงวิพากษ์
วิจารณ์เบาๆ ดังขึน

ทันทีทีสินเสียงนี ก็มีคนพูดขึนอย่างไม่พอ
ใจว่า : “เจ้าช่างพูดอะไรไม่รูค้ วาม ก็พดู อยูว่ า่ โอสถนี
เป็ นโอสถระดับสูงชันยอดจะธรรมดาได้อย่างไร สิงทีเรา
สงสัยคือผลลัพธ์ของมันจะวิเศษอย่างทีหอสรรพสิง
กล่าวไว้หรือไม่มากกว่า”

ผูด้ าํ เนินงานประมูลเมือได้ยินคํานี จึงยิม


จางๆ : “หาได้เป็ นเช่นนันไม่ ผลลัพธ์ของโอสถนีหอ
สรรพสิงของเราอ้างอิงมาจากคําพูดของเจ้าของโอสถก็
5
เท่านัน”

“เงียบให้หมด” : ท่านเก๋อทีกําลังสังเกต
ปฏิกิรยิ าของลูกชายตะโกนขึนอย่างทนไม่ไหว

ในตอนนีลูกชายของเขาจะเป็ นตายร้ายดี
อย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ คนพวกนียังจะมีอารมณ์มาพูด
จาเหน็บแนมกัน ช่างน่าโมโหเสียจริง !

เสียงตะโกนด้วยโทสะของท่านเก๋อทําให้
เสียงวิพากษ์วิจารณ์เงียบลง

อย่างไรก็ตามก็คงไม่อยากมีเรืองในตอนนี

6
แม้กระทังคุณชายจูผเู้ รืองมากทีพบเจอก่อน
หน้านี ในตอนนีก็สงให้
ั คนออกไปดูสถานการณ์ขา้ งนอก
ส่วนตนเองนันแอบพลอดรักอยูก่ บั คูร่ กั ในห้อง

แม้วา่ เขาจะได้ยินคําพูดของท่านเก๋อ แต่ก็


ไม่ได้แสดงปฏิกิรยิ าอะไร

“เฮ้ย ! คุณชายเก๋อลืมตาแล้ว !” ทันใดนัน


เสียงอันตืนตระหนกก็ได้ดงั ขึนท่ามกลางผูค้ น

คําพูดนีทําให้สายตาของทุกคนไปรวมอยูท่ ี
ร่างของชายหนุ่มท่าทางอ่อนแรงทีนอนอยูบ่ นเปล

7
ส่วนท่านเก๋อเองก็รบี หันกลับมามองลูกชาย
ของตนเองด้วยสายตาอันร้อนรน

“อึก ร้อนเหลือเกิน” คุณชายเก๋อราวกับถูก


เปลวเพลิงอันปวดแสบปวดร้อนทีอยูภ่ ายในร่าง
กายกระตุน้ ให้ตืน ท่ามกลางความมึนงง เขาไม่รูด้ ว้ ยซํา
ว่าในตอนนีตนเองถูกพาตัวมาอยูท่ ีนีและเหตุใดจึงถูก
คนมากมายรายล้อมเอาไว้

“ฟื นแล้ว ฟื นแล้ว คุณชายเก๋อฟื นแล้ว” เว่ยก


ว๋านกว่านทีจับตาดูสถานการณ์ภายนอกอย่างใกล้ชิด
พูดขึนอย่างตืนเต้น

8
แต่ทว่า ทันทีทีสินเสียงของนาง คุณชายเก๋
อก็ได้ไอออกมาอย่างรุนแรง

เสียงไอนันทําให้ทกุ คนต่างรูส้ กึ คันคอและ


เดินถอยหลังไปหลายก้าว

สีหน้าของท่านเก๋อเองก็เปลียนไปอย่างรวด
เร็ว รีบพยุงลูกชายของตนเองเอาไว้และถามด้วยความ
ตืนตระหนกว่า : “ลูกข้า เจ้าเป็ นอะไรไป ทรมาน
หรือ!”

คุณชายเก๋อไอไม่หยุด จึงไม่สามารถตอบ
คําถามของท่านพ่อได้ เพียงแค่กาํ ชายเสือของตัวเองไว้
แน่นและไอจนเหงือตก สีหน้าก็พลันขาวซีดลงหลาย
9
ส่วน

ทันใดนันคุณชายเก๋อก็เบิกตาทังสองข้าง
ค้างโต พ่นเลือดสีแดงเข้มออกมาอึกใหญ่จนทําให้เสือ
ถูกย้อมกลายเป็ นสีแดง

ฉากนี ทําให้ทา่ นเก๋อตะลึงและจ้องผูด้ าํ เนิน


งานอย่างโหดเ**◌้ยมและพูดว่า : “หากลูกชายของ
ข้าเป็ นอะไรไปหอสรรพสิงจะต้องชดใช้!”

“ท่านเก๋อ เราได้บอกเอาไว้แล้วว่าไม่มนใจใน

ผลลัพธ์ของโอสถนี หากท่านอยากจะแก้แค้นให้กบั ลูก
ชายก็ควรจะไปหาเจ้าของโอสถผูป้ ลอมสรรพคุณให้
โอสถนีว่าเป็ นยาวิเศษไม่ใช่หรือ” ผูด้ าํ เนินงานประมูล
10
ยิมอย่างเย็นเยียบ

ท่านเก๋อโกรธจนกัดฟั นแน่นและพูดว่า :
“เจ้าไม่ตอ้ งห่วง คนผูน้ นข้
ั าไม่ปล่อยไว้แน่!”

“แย่แล้ว ! คุณชายเก๋อ เราจะทําอย่างไรดี”


เว่ยกว๋านกว่านมองมูช่ ิงเกอด้วยใบหน้าทีขาวซีด

แต่ทว่ามูช่ ิงเกอยังคงเย็นชาและนิงเฉย มอง


ไม่เห็นถึงความตืนตระหนกจากนางเลยแม้แต่นอ้ ย

เว่ยฉีทีสังเกตนางอย่างใกล้ชิด ความตืน
ตระหนกในใจก็จางหายไปเพราะความแน่วนิงของมูช่ ิง

11
เกอ เขาจึงพูดกับน้องสาวว่า : “ไม่ตอ้ งรีบร้อน ดูตอ่ ไป
ก่อน เราต้องเชือมูเ่ กอ”

“ท่านพ่อ” เสียงอันอ่อนแรงดังขึนจากข้างตัว
ท่านเก๋อ

ทันใดนัน เสียงนันก็ได้ดงึ ความสนใจทัง


หมดของเขากลับมาในทันที

“ข้าดีขนมากแล้
ึ ว” คุณชายเก๋อเงยหน้าขึน
มองท่านพ่อของตนเองและพูดอย่างตังใจ

แม้วา่ ภายนอกจะยังดูออ่ นแรงแต่ทว่าการ

12
หายใจไม่ได้แผ่วเบาเหมือนแต่ก่อน

ท่านเก๋อหรีตาลงและรีบจับมือของลูกชาย
แล้วถามเพือความแน่ใจอีกครังว่า : “ลูกชายตอนนีเจ้า
รูส้ กึ อย่างไร”

คุณชายเก๋อแม้วา่ จะไม่รูว้ า่ เกิดอะไรขึน


แต่ก็สมั ผัสได้ถงึ ความเปลียนแปลงทีเกิดขึนภายในร่าง
กายและพูดกับท่านพ่อว่า : “ก่อนหน้านี ข้ารูส้ กึ เพียง
แค่วา่ กระดูกราวกับกําลังจะแตกละเอียด เส้นชีพจรขาด
สะบัน อวัยวะภายในแปรปรวนปวดร้าวไปทังร่างกาย
จนไม่อาจทนได้ หายใจได้ไม่คล่อง แต่วา่ ในตอนนีเข้า
กลับรูส้ กึ ว่าร่างกายผ่อนคลาย อาการปวดร้าวราวกับ
กระดูกจะแตกหักก็คอ่ ยๆ จางหายไป นอกจากไม่คอ่ ยมี

13
แรงแล้ว ก็ไม่ได้รูส้ กึ ว่ามีอะไรผิดปกติ”

คําพูดนี ทําให้ทกุ คนทีอยูร่ อบๆ ล้วนตกใจ


ในดวงตาอันสว่างไสวของผูด้ าํ เนินการงานพลันมืดมน
ลง

“พูดจริงหรือ” ความดีใจอันมหาศาลนีทําให้
ความโกรธในใจของท่านเก๋อหายไปในทันที

คุณชายเก๋อพยักหน้าเพือยืนยันอีกครัง

เพือให้ทา่ นพ่อเชือคําพูดของตนเอง เขายัง


ลุกขึนจากเปลนอนและเดินอยูก่ บั ทีหลายก้าวด้วย

14
ในขณะนีทุกคนตืนตระหนกมากกว่าเดิม

เมือครูน่ ี ตอนทีคุณชายเก๋อถูกหามเข้ามา
พวกเขาล้วนเห็นกับตา แต่ทว่าเพียงพริบตาผูท้ ีนอนรอ
ความตายกลับสามารถลุกขึนมาเดินเหินได้ จะไม่ให้
แปลกใจได้อย่างไรเล่า

“ลูกชายของข้าหายแล้ว ! ลูกชายของข้า
หายแล้ว!” ท่านเก๋อดีใจจนนําตาไหล

“ยานีวิเศษอย่างทีว่าจริงๆ!”

15
“แน่นอนว่าต้องเป็ นเช่นนัน ไม่เห็นอาการ
ของคุณชายเก๋อในตอนนีหรือไง”

“โอ๊ย สมบัติอนั ลําค่าเช่นนีเราพลาดไปได้


อย่างไร !”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดงั ขึนอีกครัง และใน


ตอนนีผูด้ าํ เนินการประมูลกลับพูดขึนอย่างกะทันหัน
ว่า : “เพือเป็ นการรับประกันในคุณภาพให้กบั ท่านเก๋
อ ให้ทา่ นผูเ้ ฒ่าตานแห่งหอสรรพสิงตรวจร่างกายให้กบั
คุณชายเก๋อเสียหน่อยจะดีกว่า”

“หึ ตาแก่นนคงไม่
ั อยากจะให้คณ
ุ ชายเก๋อดี
ขึนจริงๆ ล่ะสิ?” เว่ยกว๋านกว่านทีกําลังตืนตระหนกใน
16
ตอนแรก เมือได้ยินผูด้ าํ เนินการประมูลพูดเช่นนี ก็รูส้ กึ
ไม่พอใจขึนมาในทันที

ในขณะนีเอง เว่ยฉีก็ได้ผอ่ นคลายลงแล้ว


และยิมอย่างเบิกบานให้กบั มูช่ ิงเกอ : “ข้าว่าเขากลัวว่า
เราจะแอบร่วมมือวางแผนจัดฉากกับพ่อลูกตระกูลเก๋
อ ท่านว่าใช่หรือไม่”

มูช่ ิงเกอเงยสายตาขึนมองเขาแวบหนึงและ
ไม่ได้พดู อะไร

ความจริงแล้ว ผลลัพธ์จะเป็ นอย่างไร นางรู ้


แก่ใจดี แต่นางเพียงอยากจะเห็นว่า เมือความจริง
ปรากฏผูท้ ีอยูเ่ บืองหลังจะจัดการกับเรืองวุน่ วายนีอย่าง
17
ไร

นอกห้อง ท่านเก๋อทีกําลังอึงกับอาการของ
ลูกหายทีหายอย่างเป็ นปลิดทิง รีบพูดว่า : “ถ้าเช่นนัน
ก็ดี รบกวนท่านผูเ้ ฒ่าด้วย”

ทันใดนัน เงาร่างอ้วนกลม ผมสีขาวของ


ตานเฉินจือทีพวกมูช่ ิงเกอคุน้ เคยก็ได้เดินออกมาอย่าง
รวดเร็วราวกับรอคอยเวลานีมานานแสนนาน

“หึ ! ตาแก่น่ารังเกียจ!” เว่ยกว๋านกว่านกัด


ฟั นแล้วพูดอย่างโหดเ**◌้ยม

18
สีหน้าของเว่ยฉีเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เขา
หันไปมองมูช่ ิงเกอและพูดว่า : “มูเ่ กอ ต่อไปเราอย่าได้
ค้าขายแลกเปลียนกับหอสรรพสิงอีกเลย”

มูช่ ิงเกอกระตุกรอยยิมตรงมุมปาก สายตา


อันแฝงความเยาะเย้ยกวาดผ่านเหลียนเอ๋อร์ทีกําลังอึด
อัด : “ได้”

คําตอบสันๆได้ใจความ ทําให้เหลียนเอ๋อร์
สะดุง้ ทีหนึงและก้มหน้าลงตํากว่าเดิม

……

19
ตอนที 102-2 จัดการกับเจ้าไม่ได้ !

20
ท่านผูเ้ ฒ่าตานสังเกตอาการของคุณชายเก๋ออย่าง
ละเอียด สายตาหลักแหลมหรีลง ก่อนจะพยายามเก็บ
สายตาทีมีความตืนตระหนกไว้และพูดกับท่านเก๋อว่า :
“บาดแผลในร่างกายของคุณชายเก๋อได้หายดีแล้ว
เพียงแค่ตอ้ งการเวลาพักฟื น ก็จะกลับไปเป็ นเหมือน
เดิม”

เมือได้ยินคําพูดของตานเฉินจือ ในดวงตา
ของท่านเก๋อก็มีความปี ติเกิดขึนในทันที

เขาประสานมือและพูดด้วยความขอบคุณ
21
ว่า : “ขอบคุณท่านผูเ้ ฒ่าตานมาก หนึงล้านตําลึงทอง
จะส่งตามไปทีหลัง ตอนนียังมีอีกเรืองทีอยากจะขอร้อง
อยากให้ทา่ นผูเ้ ฒ่าตานและหอสรรพสิงช่วยอํานวย
ความสะดวกให้สกั หน่อย”

ท่านผูเ้ ฒ่าตานหรีตาลง รอคอยคําพูดต่อ


ไปของเขา

ท่านเก๋อพูดว่า : “ช่วยบอกข้าว่าเจ้าของ
โอสถนีคือใคร เราสองพ่อลูกอยากจะแสดงความขอบ
คุณด้วยตนเอง”

“สําหรับเรืองนี....ข้าต้องถามเจ้าของโอสถ
ก่อน” ตานเฉินจือฝื นรอยยิม กําลังรูส้ กึ เจ็บใจ ความ
22
ฉลาดหลักแหลมของมูเ่ กอเขายังจดจําได้ดี หลังจากที
วางแผนเรืองทุกอย่างมาถึงตรงนียังจะต้องเอาตัวเองไป
ส่งให้เขาถึงทีอีก นีมันถือเป็ นการรนหาทีตายไม่ใช่รไึ ง?

“รบกวน ท่านผูเ้ ฒ่าตานด้วย!” แต่วา่ เพราะ


ไม่ทราบความเกียวพันของเรืองทังหมด เพียงเพราะเห็น
ตานเฉินจือตอบตกลง ก็ได้สง่ คนออกไปยกทองทีได้
เตรียมเอาไว้เข้ามาด้วยความดีใจ

เมือทองคํา**บหนึงทีส่องแสงประกายถูก
ยกเข้ามา ทุกคนจึงได้สติและรีบถามผูด้ าํ เนินการงาน
ประมูลและตานเฉิงจือ—

“โอสถนียังมีอยูห่ รือไม่? ข้าจะให้ 1 ล้าน 5


23
แสนตําลึงทอง!”

“ข้าก็ตอ้ งการ ! ข้าให้ 1 ล้าน 5 แสน.....


ไม่ ข้าให้ 2 ล้านเลย”

“หาเจ้าของโอสถให้พบ พวกเราต้องการซือ
โอสถ!”

โอสถนี เป็ นหลักประกันชีวิตของตนเอง


จะมีผใู้ ดบ้างไม่อยากได้

ภาพบรรยากาศทีแฝงความอลหม่าน ทําให้
ใบหน้าอันเ**◌่ ยวย่นของท่านผูเ้ ฒ่าตานแย่ลงกว่าเดิม

24
เขากําลังคิดว่าหากพูดออกไปว่าโอสถนีมีเพียงเม็ดเดียว
จะถูกคนพวกนีสังหารหรือไม่!

และอีกประการหนึงสิงทีทําให้เขาผิดหวัง
มากทีสุดก็คือ หากรูว้ า่ โอสถเก้าชีวิตหวนคืนนีวิเศษมาก
ถึงเพียงนี เขาก็ควรจะสร้างภาพลักษณ์ให้กบั โอสถนีดีๆ
สิงทีจะได้รบั เป็ นผลตอบแทนก็จะมากกว่า 1 ล้านตําลึง
ทองมิใช่หรือ

ไม่เห็นรึไงว่า พวกคนทีถูกกระตุน้ เพราะ


เรืองทีเกิดขึนนีในตอนนีได้เสนอราคาไปถึง 2 ล้านแล้ว

ผูด้ าํ เนินงานประมูลใช้เกียรติของตนเองยืน
ยันเลยว่า หากมีโอสถเก้าชีวิตหวนคืนอีกเม็ดต้องได้
25
ราคาอันมหาศาลและเกินคาดแน่นอน !

น่าเสียดาย ! ของดีทีมีอยูใ่ นมือ กลับให้


พวกเขาขายออกไปในราคาทีตําถึงเพียงนี

ผูด้ าํ เนินงานประมูลและท่านผูเ้ ฒ่าตานเก็บ


ความรูส้ กึ ของตนเองเอาไว้และท่านเก๋อทีได้ประโยชน์ใน
เรืองนีไป ในตอนนีก็กาํ ลังเบิกบานใจ ไหนเลยจะยัง
เหลือท่าทีเคร่งเครียดดุดนั เหมือนก่อนหน้านีอีก?

“ข้าให้ 3 ล้านตําลึงทอง !”

“ข้าให้ 3 ล้าน 2 แสนตําลึงทอง”

26
“ข้าให้....”

ยังไม่ทนั ได้เห็นโอสถ ราคาก็เพิมมากขึน


หลายเท่าแล้ว

ภายในห้องมูช่ ิงเกอทีเฉยชาหัวเราะทีหนึง
และพูดว่า : “แคว้นลีของพวกเจ้ามีคนรวยเยอะจริงๆ”
เมือเทียบกับพวกเขาแล้ว นางทีเป็ นถึงคุณชายคนหนึง
ของแคว้นฉิน กลายเป็ นคนจนคนหนึงไปเลย

“ข้าให้หา้ ล้าน! ใครจะกล้าแย่งกับข้าอีก!”


เสียงอันเย่อหยิงดังมาจากห้องทีอยูอ่ ีกฝัง

27
เสียงนัน พวกมูช่ ิงเกอล้วนคุน้ เคยกันเป็ น
อย่างดีเพราะนันก็คือคุณชายจูผทู้ ีสนิทสนมกับเชือวงศ์
แคว้นลีนันเอง

ดูเหมือนว่า เขาจะถูกโอสถเก้าชีวิตหวนคืน
ดึงดูดเข้าเสียแล้ว เพียงพริบตาก็ได้เสนอราคาทีสูงมาก
ถึงเพียงนี ทังยังออกปากข่มขู่

เพียงเสียงเดียวของคุณใช้จู ทําให้รอบๆ
เงียบลงในทันที

มีหลายคนอยากจะเปิ ดปากพูด แต่ก็ถกู คน

28
ข้างๆ ดึงชายเสือไว้

“คุณชายจูผนู้ ีดูเหมือนว่าจะไม่ได้เย่อหยิง
ธรรมดาเสียแล้ว ข้าว่าคนในนีจํานวนไม่นอ้ ยต่างก็เกรง
กลัวเขา” เว่ยกว๋านกว่านเบ้ปากอย่างเหยียดหยาม

เหลียนเอ๋อร์ยมเยาะ
ิ : “พวกเขาไม่ได้กลัว
คุณชายจู แต่กลัวคนทีคอยหนุนหลังเขาอยูต่ า่ งหาก
หากได้โอสถตอนนี พวกเขาก็กลัวว่าจะต้องมาทิงชีวิต
เพราะเหล่าทหาร”

“คุณชายจูผนู้ ี มีอาํ นาจอย่างนีเลยหรือ!”


เว่ยฉีถามอย่างตืนตระหนก

29
เหลียนเอ๋อร์จงึ พูดว่า : “เขามีพีสาวคนหนึง
ถูกเรียกตัวเข้าไปปรนนิบตั ิภายในวัง เป็ นทีโปรดปราน
มาก ได้ยินมาว่า พีสาวของเขารักและตามใจเขามาก
แม้จะต้องการดวงดาวบนฟ้า ก็จะหามาให้เขา”

“ทีแท้ก็ใช้อาํ นาจพีสาว” เว่ยฉีหมดอารมณ์ใน


ทันที

ไม่มีใครต่อรองราคาอีกต่อไป ใบหน้าอัน
เ**◌้ยมโหดของคุณชายจูฉายแววได้ใจ

และในขณะนีเอง ก็พลันมีเสียงอันแฝง

30
ความเกียจคร้านดังขึน : “8 ล้านตําลึงทอง”

ทันทีทีสินเสียงนี ทําให้ทกุ คนอึงจนอ้าปาก


ค้างในทันที นีมันต่างกัน 3 ล้านเชียวนะ เงินเยอะจน
ไม่รูจ้ ะใช้อย่างไรหรือ

คุณชายจูทีอยูอ่ ีกฝังใบหน้าได้ใจก็เปลียน
เป็ นโหดเ**◌้ยมขึนในทันที

ภายในห้องของมูช่ ิงเกอ ทังสามมอง


นางอย่างตืนตระหนก ราวกับคิดไม่ถงึ ว่าเหตุใดนางจึง
เสนอราคา โอสถนีไม่มีแล้วมิใช่หรือ อีกอย่างนางเป็ น
เจ้าของโอสถนี ยังจะไปร่วมสนุกอะไรอีก

31
“10 ล้าน!” ท่ามกลางความตืนตระหนก
สายตาของคุณชายจูฉายแววโหดเ**◌้ยมขึนอีกครัง

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก พูดด้วยแววตาทีทอ


ประกายขบขันว่า : “10 ล้าน 1 หมืน”

ในห้องของคุณชายจูมีเสียงแตกหักของแก้ว
ครูห่ นึง ก็มีเสียงดังขึนอีกครังว่า : “11 ล้าน”

“15 ล้าน!”

“18 ล้าน!”

32
“19 ล้าน!”

“1.....”

“คุณชาย เราไม่ได้มีเงินมากมายถึงเพียงนัน”
คนใช้ของคุณชายจูรบี ขัดจังหวะของเขา โดยการกระซิบ
เบาๆ

แต่ทว่า คุณชายจูทีถูกมูช่ ิงเกอยัวโมโห จะ


ยอมหยุดได้อย่างไร ในตอนนี ไม่ใช่เพราะโอสถ แค่
เพราะเสียหน้าไม่ได้ ! เสียหน้าไม่ได้ ! เข้าใจหรือไม่

33
เขาผลักองครักษ์ทียืนบังอยูข่ า้ งหน้าและกัด
ฟั นพูดว่า : “20 ล้านตําลึงทอง!”

“25 ล้านตําลึงทอง!” แต่ทว่า เสียงอันเย็น


เยียบยังคงกัดเขาไม่ปล่อย

ทุกคนทีอยูข่ า้ งนอกอึงจนพูดอะไรไม่ออก

แม้วา่ โอสถเม็ดนีจะพลิกฟ้าพลิกปฐพีมาก
เพียงใด แต่หากซือด้วยเงิน 25 ล้านตําลึงทอง ก็ยากที
ตระกูลๆ หนึงจะรับไหว

ในขณะเดียวกันพวกเขาก็แอบฉงนใจเป็ น

34
อย่างมากว่า เศรษฐี ทีไหนกันทีกล้าแข่งความรํารวยกับ
คุณชายจู

พวกเขากลับไม่รูว้ า่ มูช่ ิงเกอไม่ใช่เศรษฐี


อะไรและไม่ได้มีเงินมากมายถึงเพียงนัน แต่วา่ เวลา
เสนอราคากลับไม่มีความกดดันหรือภาระอะไร

แม้วา่ จะเสนอราคาถึง 100 ล้าน นางก็จะ


ไม่แม้กระทังจะขมวดคิว

เพราะไม่วา่ อย่างไร ตอนนีนางต้องการให้


เจ้าคนแซ่จไู ด้เจอดีซะบ้าง จะได้รูว้ า่ หากคุณชายโกรธ
ขึนมาก็ไม่ใช่เล่นๆ

35
“30 ล้าน ! ข้าจะวาง 30 ล้านตําลึงทอง!
แก่นสมองของสัตว์ทีเก่งกาจมากกว่าสายเหลือง ! เจ้า
ยังจะให้มากกว่านีมัย” ท่านชายจูถกู กดดันจนตาแดง

ฟั งออกว่านีถึงขีดจํากัดสุดๆ ของคุณชาย
ตระกูลจูแล้ว ถ้ายังกดดันต่อไป เขาอาจจะยอมแพ้

36
ตอนที 102-3 จัดการกับเจ้าไม่ได้ !

37
มูช่ ิงเกอกระตุกรอยยิมบนมุมปาก : “ท่านช่างใจกว้าง
เสียจริง ถ้าเช่นนันโอสถนีก็ให้เป็ นของท่านเถิด” พูดจบก็
พึมพําเบาๆ แต่ทกุ คนก็ลว้ นได้ยินว่า : “โอสถนียังไม่
เห็นแม้กระทังเงา ข้าก็แค่เสนอราคาเพือความสนุกเพียง
เท่านัน”

คําพูดก่อนหน้านีทําให้คณ
ุ ชายจูโล่งใจ แต่
ว่าคําพูดหลังจากนันกลับทําให้เขาเกือบจะกระอักเลือด
ออกมา

ในตอนนีทุกคนจึงรูว้ า่ คุณชายจูผเู้ ย่อหยิงก็


มีมมุ ทีถูกคนอืนกลันแกล้งจนยําแย่ตอ่ หน้าสาธารณะชน
38
เช่นกัน

คุณชายจูทีถูกมูช่ ิงเกอแกล้งจนหัวหมุนใน
ตอนนีตะโกนอย่างดุรา้ ยพร้อมดวงตาอันแดงกําว่า :
“สรุปว่าหอสรรพสิงมีโอสถนีอีกหรือไม่” หากคําตอบคือ
ไม่ ก็เห็นได้ชดั เลยว่าเขากําลังโดนแกล้งมิใช่หรือ

แต่ทว่า แม้วา่ จะมีโอสถ เขาก็ยงั คงถูก


แกล้ง แต่ทว่ามันก็ยงั ดีกว่าไม่มีโอสถแล้วมิหนําซํายัง
โดนแกล้งไปโดยเปล่าประโยชน์

ในตอนนีพูดดําเนินงานประมูลของหอสรรพ
สิงและท่านผูเ้ ฒ่าตานสบตากัน ในใจเต็มไปด้วยความ

39
ทุกข์

มีความรูส้ กึ ราวกับยกก้อนหินก้อนโตขึนมา
โยนลงไปทีเท้าของตัวเอง

ผูด้ าํ เนินงานประมูลขอความช่วยเหลือจาก
ท่านผูเ้ ฒ่าตาน แต่ทว่า ท่านผูเ้ ฒ่าตานทีไม่รูว้ า่ ควรจะ
ทําอย่างไรต่อไป ทําได้เพียงแค่พดู ต่อไปว่า : “ยังมี
โอสถอยูอ่ ีกหรือไม่ คําถามนี เราต้องถามเจ้าของโอสถ”

“ถ้าเช่นนันก็รบี ไสหัวเจ้าไปถามสิ!” คุณชาย


จูพดู ด้วยความโกรธ

40
ใบหน้าอันแดงกําของตานเฉินจือมีความ
โกรธแฝงอยู่ แต่สดุ ท้ายก็เก็บความรูส้ กึ เอาไว้เพราะว่า
เรืองทุกอย่างได้ไปไกลเกินกว่าทีเขาจะสามารถควบคุม
ได้แล้ว

แม้วา่ คนอืนไม่รู ้ แต่เขากลับรูด้ ีวา่ เมือครูน่ ี


ผูท้ ีแข่งเสนอราคากับคนชายจูคือสหายน้อย มู่ เจ้าของ
โอสถ

แค่ใช้หวั แม่เท้าคิด ก็ยงั รูเ้ ลยว่าจงใจ

หลังจากทีตานเฉินจือเดินออกมา เขาไม่ได้
ไปหามูช่ ิงเกอในทันที ทว่ากลับเข้าไปอยูใ่ นห้องลับอีก
ห้องหนึง
41
ครูห่ นึง จึงปาดเหงือและเดินมุง่ ไปในห้องที
มูช่ ิงเกออยู่

เสียงเคาะประตูดงั ขึน เว่ยกว๋านกว่านยืน


ขึนมา มองมูช่ ิงเกอครูห่ นึง เมือเห็นว่านางพยักหน้ารับ
ก็รบี วิงไปเปิ ดประตู

ทันทีทีห้องถูกเปิ ดออก เว่ยกว๋านกว่านก็


เห็นตานเฉินจือทียิมแย้มดังดอกไม้บาน

นางเบ้ปากและพูดเสียงแข็งว่า : “ตาแก่
เจ้ายังจะกล้ามาอีก”

42
ตานเฉินจือฝื นยิมและพูดว่า : “แม่หนูเว่ย
ข้ามาหาสหายน้อยมู”่

เขาเห็นมูช่ ิงเกอแล้ว แต่วา่ ยังคงส่ง


สัญญาณให้กบั เว่ยกว๋านกว่าน เห็นได้ชดั ว่า เขาต้อง
การจะให้มชู่ ิงเกอเชิญเขาเข้าไปในห้องด้วยตัวเอง

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอเองก็ไม่มองเขาเลยแม้แต่


เสียวสายตาเดียวและดืมนําชาอย่างตังอกตังใจ

ตานเฉินจือกระตุกมุมปาก หนวดทีอยูบ่ น
ริมฝี ปากก็สนที
ั หนึง บรรยากาศภายนอกยังคงไม่สงบ
เมือไม่รูค้ วรจะทําอย่างไรต่อไป เขาจึงต้องเดินเข้าไป
43
อย่างหน้าด้านและไปหยุดตรงหน้ามูช่ ิงเกอ : “สหาย
น้อยมูด่ ืมชาหรือ ชานีรสชาติดีหรือไม่”

พูดจบ ไม่รอให้มชู่ ิงเกอตอบ ตาทังสองข้าง


ของเขาก็หนั ไปจ้องเหลียนเอ๋อร์ : “เจ้าเอาชาแบบนีให้
สหายน้อยมูด่ ืมได้อย่างไร รีบไปเอาชายอดเหมันต์ชนั
เลิศในห้องข้ามา”

เหลียนเอ๋อร์รบี ถอยออกไป

มูช่ ิงเกอเห็นเขากําลังเล่นละคร แต่ก็ไม่ได้


ว่าอะไร

44
ตานเฉินจือมีทา่ ทางอึกอักอยูค่ รูห่ นึง แล้ว
จึงพูดอย่างอึดอัดใจว่า : “สหายน้อยมู่ โอสถ เก้าชีวิต
หวนคืนยังมีอยูห่ รือไม่”

มูช่ ิงเกอยิมอย่างเบิกบานและพูดว่า :
“ท่านผูเ้ ฒ่าตาน คําตอบนี ข้าตอบไปแต่แรกแล้วมิใช่
หรือ”

ใบหน้าของตานเฉินจือมีความอึดอัดแฝงอยู่
เขาสะบัดแขนเสือทีหนึง มีคนยก**บใบใหญ่เข้ามาใน
ทันที **บใบนี ทุกคนล้วนคุน้ เคยเป็ นอย่างดี มันคือ
กล่องใบทีท่านเก๋อสังคนให้ยกเข้ามา

“ท่านผูเ้ ฒ่าตาน นีหมายความว่าอย่างไร” มู่


45
ชิงเกอขมวดคิวถาม

ตานเฉินจืออธิบายพร้อมรอยยิม : “เรือง
ก่อนหน้านี ล้วนเป็ นเรืองเข้าใจผิด เพราะเป็ นการไถ่
โทษ เงินทังหมดทีได้จากการประมูลโอสถเม็ดก่อนหน้า
นี หอสรรพสิงจะไม่รบั ไว้เลยแม้แต่ตาํ ลึงเดียว ข้า
ขอมอบให้สหายน้อยมู่ ตอนนีขอเพียงสหายน้อยเอา
โอสถนีออกมาอีกเม็ด ก็จะได้เงินเป็ นการตอบแทน มีแต่
ได้กบั ได้ เหตุใดจึงไม่ทาํ เช่นนีเล่า”

“ใครบอกท่านว่าข้ายังมีโอสถเก้าชีวิตหวน
คืน” มูช่ ิงเกอมองเขา พร้อมยกยิมอย่างขบขัน

หากไม่มี เหตุใดเจ้าจึงแกล้งคุณชายตระกูล
46
จูขนาดนัน

อีกประการหนึง เจ้านายของเขาบอกว่ามีก็
ต้องมีแน่นอน !

ท่านผูเ้ ฒ่าตานแอบคิดในใจ แต่ใบหน้ายัง


คงเต็มไปด้วยรอยยิมและพูดว่า : “ไม่มีใครบอก นีเป็ น
เพียงการคาดเดาของข้าเท่านัน”

“ทีแท้ก็เป็ นการคาดเดาของท่านผูเ้ ฒ่าตาน”


รอยยิมของมูช่ ิงเกอราวกับมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ ทํา
ให้หน้าผากของตานเฉินจือมีเหงือไหลออกมา

47
ตานเฉินจือรูส้ กึ อึดอัดมากขึนกว่าเดิมเพราะ
รอยยิมของมูช่ ิงเกอ จึงแกล้งไอทีหนึงและพูดเสียงตํา
ว่า : “ไอ้ตวั ผลาญสมบัติยงั รออยูข่ า้ งนอก หรือว่า
สหายน้อยมูไ่ ม่อยากจะทําให้เขาต้องเสียเงินอัน
มหาศาลนี”

มูช่ ิงเกอยิม แต่ไม่ได้พดู อะไร

ตานเฉินจือหางตากระตุกทีหนึงและพูดต่อ
อีกว่า : “เงินจํานวนสามสิบล้านตําลึงทองและแก่น
สมองของสัตว์จาํ นวน 100 อันนี หอของเราจะไม่รบั
แม้แต่เสียวเดียว เพียงแค่อยากจะผูกมิตรกับสหายน้อย
มู่ แน่นอนว่า หากสหายน้อยยังมีโอสถเก้าชีวิตหวนคืน
เหลืออยูบ่ า้ ง หอสรรพสิงก็พร้อมจะซือเอาไว้แม้วา่ ราคา

48
จะสูงเพียงใด”

“ไม่รูว้ า่ ท่านผูเ้ ฒ่าตานเคยได้ยินสิงทีเรียกว่า


ของเหลวเย็นหรือไม่” มูช่ ิงเกอเปลียนเรือง

“ของเหลวเย็นอย่างนันหรือ” ประเด็นทีถูก
เบียงไปอย่างกะทันหัน ทําให้ตานเฉินจือไม่ทนั ตังตัว
เขาทวนคําพูดของมูช่ ิงเกอในหัวหลายรอบ แล้วจึงพูด
ว่า : “ของเหลวเย็น แน่นอนว่าข้ารูจ้ กั สหายน้อยต้อง
การหรือ”

มูช่ ิงเกอพยักหน้า

49
ตานเฉินจือเข้าใจในทันที และพูดว่า :
“สหายน้อยวางใจเถิด ข้าจะรีบให้คนไปหาข้อมูลจาก
สํานักย่อยอืนๆ ดูวา่ จะสามารถค้นหาของเหลวเย็นให้
กับท่านได้หรือไม่”

“ถ้าเช่นนันก็ขอขอบคุณท่านผูเ้ ฒ่าตานแล้ว”
มูช่ ิงเกอเผยรอยยิม

หลังจากนัน ท่ามกลางใบหน้าทีเต็มไปด้วย
การรอคอยของตานเฉินจือ นางก็โยนขวดกระเบืองสี
ขาวใบหนึงออกไป

ตานเฉินจือรีบพุง่ ตัวออกไปรับ แล้วเปิ ดดม


และพบว่านีเป็ นกลินหอมละมุนของโอสถเก้าชีวิตหวน
50
คืน แววตาของเขาก็เป็ นประกายขึนมาในทันที

“เรืองราวต่อจากนี ข้าไม่ขอข้องเกียวด้วย” มู่


ชิงเกอพิงอยูบ่ นพนักเก้าอีอย่างผ่อนคลาย

ตานเฉินจือกระจ่างเป็ นอย่างดีวา่ นางหมาย


ถึงเรืองทีจะทําให้คณ
ุ ชายจูยอมจ่ายเงิน จึงรีบยืนยัน
ว่า : “สหายมูว่ างใจเถิด เรืองเล็กแค่นี หอของเรา
สามารถจัดการได้”

มูช่ ิงเกอพยักหน้า

เมือได้โอสถมาไว้ครอบครอง ในขณะทีตาน

51
เฉินจือกําลังจะออกไป ก็ได้หนั กลับมาหยังเชิงดูวา่ :
“สหายน้อยมู่ โอสถนีจะมีอีกหรือไม่ หากมี ข้ายอมเสีย
เงินทองไม่วา่ จะมากเพียงใดเพือซือมันเอาไว้”

มูช่ ิงเกอกระตุกรอยยิม : “ท่านผูเ้ ฒ่าตาน


ท่านคิดว่าโอสถระดับเทพทีสามารถช่วยชีวิตคนได้นีเป็ น
ลูกกวาดลูกอมหรือ”

ใบหน้าทีแดงกําอยูแ่ ล้วของท่านผูเ้ ฒ่าตาน


ในตอนนีแดงประหนึงตับหมู พร้อมยิมแห้งๆ สองที
หลังจากนันจึงถอยออกไป

ร่างของท่านผูเ้ ฒ่าตานทีเข้าไปในห้องและ
ออกมาจากห้องพิเศษนันได้ตกอยูใ่ นสาตาของทุกคน
52
ไม่จาํ เป็ นต้องถามก็กระจ่างเป็ นอย่างดีวา่ ห้องนีเป็ น
ห้องของเจ้าของโอสถอันพลิกฟ้าพลิกปฐพีนี

คุณชายจูสงองครั
ั กษ์ดว้ ยนําเสียงอันเ**◌้ยมโหดว่า :
“จับตาดูคนทีอยูใ่ นห้องนัน ข้าอยากจะรูว้ า่ ใครทีมัน
กล้าหลอกเงินจากข้า!” เสียงเสนอราคาเมือครูน่ ี ก็ดงั
มาจากห้องนัน

ภายใต้สถานการณ์เช่นนีแม้วา่ เขาจะโง่
เขลาสักเพียงไหน ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างได้เป็ นอย่าง
ดี

แม้วา่ ผูท้ ีนําสิงของมาเข้าการประมูล ไม่


สามารถเสนอราคาสิงทีเอามาประมูลได้ แต่ทว่า การ
53
แข่งขันเมือครูน่ ี ยังไม่ได้เอาโอสถออกมา ไม่ถือว่าผิด
กฎแต่อย่างใด

แต่ประเด็นคือ เห็นได้ชดั ว่า ในตอนนี หอ


สรรพสิงเข้าข้างฝ่ ายตรงข้าม

แน่นอนว่า เขาสามารถเดินออกไปอย่างไม่
สนใจการแลกเปลียนในครังนี แต่ทว่า หลังจากนัน ชือ
เสียงของเขาก็จะถูกทําลายลงและไม่มีทียืนในเมืองจือ
อีกต่อไป

เมือไตร่ตรองทบทวนหลายรอบ ในทีสุดคุณ
ชายจูก็ได้วางแผนอันชัวร้ายขึน

54
เขาจะยอมจ่ายเงินทังหมดและหลังจากที
ออกจากหอสรรพสิง ก็จะสังกําลังคนไปสังหารคนทีกล้า
เปิ ดศึกกับเขา เขาก็จะได้ทงโอสถและไม่
ั เสียเงินด้วย !

ตานเฉินจือออกจากห้องไม่นาน ก็ได้เดิน
เข้ามาอย่างผ่อนคลาย

ทันทีทีเข้ามา เขาก็ยืนยันกับมูช่ ิงเกอว่า


คุณชายจูไม่กล้าเบียวแน่นอน

ในขณะเดียวกัน ก็มาบอกข่าวทีท่านเก๋ออ
ยากจะขอบคุณด้วยตัวเอง

55
แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับปฏิเสธโดยแทบจะไม่
ไตร่ตรองว่า : “ไม่จาํ เป็ น”

“เพราะเหตุใดกันสหายน้อย” ตานเฉินจือคิด
ไม่ตกว่าเหตุใดมูช่ ิงเกอจึงปฏิเสธ

มูช่ ิงเกอกวาดสายตาอันสว่างไสวมอง โดย


ทีไม่ได้พดู อะไร

เรืองในวันนี ไม่วา่ จะผูก้ ระทําหรือผู้


ถูกกระทํา ต่างก็มีนางเป็ นจุดศูนย์กลาง หากยังจะไป
พบท่านเก๋อและเผยฐานะทีแท้จริงออกไป จะยิงตกเป็ น

56
เป้าหมายเข้าจริงๆ มิใช่หรือ

เหล่าผูค้ นทีต้องการโอสถเก้าชีวิตหวนคืน
ต่างก็อาจจะลงมือ ส่วนคุณชายจูทีถูกกลันแกล้งจน
ยําแย่ ก็อาจจะไม่ปล่อยนางไปอย่างง่ายดาย

นางมันใจว่า ในตอนนีต้องมีผมู้ ีอาํ นาจคอย


จับจ้องสถานการณ์หอ้ งของนางและอยากจะรูว้ า่ คนที
นังอยูข่ า้ งในคือใคร

ในตอนนี เกรงว่าหากก้าวออกจากเมืองจือ
แม้เพียงก้าวเดียว ก็คงจะต้องเกิดการฆ่าฟั นกันแน่

57
ในแววตากระจ่างของนางมีประกายวาบ
ผ่าน เดาว่าผลลัพธ์เช่นนี คงจะเป็ นสิงทีผูท้ ีอยูห่ ลังม่าน
นันได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว หากไม่ได้เป็ นเช่นนัน ก็คง
จะดี แต่หากเป็ นเช่นนันจริงๆ ถือว่าแผนการของคนผูน้ ี
ลําลึกยากจะคาดเดาจริงๆ

ตอบโต้ใส่หอสรรพสิงแห่งนีเพียงคราเดียว
กลับทําให้ตนเองต้องเผชิญอันตรายจากการถูกลอบ
สังหาร

สําหรับคําประเมินค่าในการลงมือของคนผู้
นี มูช่ ิงเกอขอเพิมคําว่า.......โหดเ**◌้ยมและ
อํามหิต !

58
แต่ทว่า เมือกระจ่างในแผนการทังหมดของ
อีกฝ่ าย นางก็ยงั คงเลือกทีจะกลันแกล้งคุณชายจู ไม่ได้
มีเป้าหมายอืนใด เพราะแม้จะเลือกกลันแกล้งเขา ฉาก
จบก็คงไม่สามารถเปลียนแปลงได้แล้ว

ถ้าเช่นนัน เหตุใดนางจึงไม่รบี หากําไรตอน


นีล่ะ

รวมทังของเหลวเย็น ในเมืออีกฝ่ ายได้ดงึ ตัว


นางเข้ามาเกียวกับเรืองนี นางก็ตอ้ งเอากําไรหน่อยมิใช่
หรือ

มูช่ ิงเกอไม่ยอมไปพบท่านเก๋อ ตานเฉินจือ


เองก็ไม่ได้บงั คับ เพียงพูดว่า : “เมือครูน่ ีมีคนส่งข่าวมา
59
แล้ว ครานีถือว่าสหายน้อยมูโ่ ชคดีมาก ในสาขาย่อยที
ตังอยูใ่ นเมืองฮ่วนมีคนเข้ามาเสนอของประมูลเป็ นของ
เหลวเย็นหยดหนึง งานประมูลของเมืองฮ่วนจะเกิดขึน
ในอีก 1 เดือนข้างหน้า”

เจอของเหลวเย็นแล้ว !

ทันทีทีได้ยินเช่นนี สายตาของมูช่ ิงเกอก็


เปล่งประกาย

“ขอบคุณท่านผูเ้ ฒ่าตานมาก” มูช่ ิงเก


อพยายามเก็บงําสายตาทีเป็ นประกายแล้วพูดกับตาน
เฉินจือ

60
ตานเฉินจือยกมือขึนโบกและพูดพร้อมรอย
ยิมว่า : “สหายน้อยมูอ่ ย่าได้เกรงใจ อย่างไรเราก็เป็ น
เพือนกัน ในห้องมีทางลับเล็กๆ เส้นหนึง หากพ่อหนุ่ม
น้อยต้องการ สามารถออกจากทางลับนันได้”

ความเอือเฟื ออันเหลือล้นนี ทําให้มชู่ ิงเกอก


ระตุกรอยยิมตรงมุมปาก

เว่ยกว๋านกว่านกลับพูดตรงๆ โดยไม่คิด
ว่า : “ตาแก่นี เจ้าเป็ นคนดีขนาดนีเชียว?”

“แม่หนูตระกูลเว่ย ข้าถือเป็ นคนดีคนหนึง”


ตานเฉินจือลูบนวดของตนเองและบนใบหน้ายังคงมีรอย
61
ยิมประดับอยู่

แต่ทว่า ในสายตาของพีน้องตระกูลเว่ย
กลับมีเพียงแค่คาํ เดียว ‘เสแสร้ง’ !

ในมือถือตัวเงินสามสิบล้านตําลึงทองทีแลก
มาแล้วและแก่นสมองสัตว์จาํ นวน 100 แก่น ทังมูช่ ิง
เกอและอีกสองคนเตรียมพร้อมจะออกจากหอสรรพสิง

ตัวเงินเป็ นปึ กๆ ทําให้นางรูส้ กึ ว่า ชีวิตราว


กับพลิกจากหน้ามือเป็ นหลังมือ ถือว่าตนเองพอจะ
ทรัพย์สนิ เล็กๆ น้อยๆ บ้างแล้ว !

62
ถึงว่า ทุกคนต่างก็บอกว่า หากอยากเป็ น
มหาเศรษฐี ต้องไปเรียนการปรุงยา !

ช่างเป็ นหนทางสูค่ วามรํารวยทีดีมากทาง


หนึงเลยทีเดียว !

ในเมือสามารถออกจากทางลับได้ แน่นอน
ว่ามูช่ ิงเกอจะไม่เลือกออกไปทางห้องโถงอย่างเปิ ดเผย
แต่ทว่า ก่อนจะเดินเข้าไปในทางลับ ตานเฉินจือกลับ
พูดขึนอย่างกะทันหันว่า : “อ่อ! ช้าก่อนสหายน้อยมู่
เมือครูน่ ีข้าลืมบอกเจ้าว่า ก่อนหน้านีทีเจ้าได้ตอบตกลง
รับภารกิจคุม้ กันไว้ ผูว้ า่ จ้างเพิงจะส่งคนมาบอกข่าวว่า
มีการเปลียนแผน อีก 10 วันถัดจากนี นัดพบกันทีเมือ
งอวีจือ”
63
สายตาของมูช่ ิงเกอเย็นชาและพูดพร้อมยิม
เย็นว่า : “ได้”

จากนัน ก็พาสองพีน้องตระกูลเว่ยออกจาก
หอสรรพสิงโดยใช้ทางลับ

หลังจากทีทังสองจากไป เหลียนเอ๋อร์จงึ
เดินไปอยูข่ า้ งๆ ตานเฉินจือ แล้วพูดอย่างเกรงๆว่า :
“ท่านผูเ้ ฒ่า เหตุใดข้าจึงรูส้ กึ ว่าคุณชายมูน่ ่ากลัวกว่า
เจ้านายของเราเสียอีก”

ตานเฉินจือหรีตาอันสว่างใสทังสองข้างลง
พูดในสิงทีเหลียนเอ๋อร์เหมือนกับจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ
64
ว่า : “ดูเหมือนว่าครานีเจ้านายของเราจะเจอคูป่ รับเข้า
ให้แล้ว !”

……

65
ตอนที 102-4 จัดการกับเจ้าไม่ได้ !

หลังจากทีออกมาจากทางลับ ก็ได้ออกห่างจากหอสรรพ
สิงมาไกลหลายสิบจ้างแล้ว

เว่ยฉีโล่งใจและพูดว่า : “เป็ นครังแรกทีรับรูถ้ งึ รสชาติ


การได้เงินมาแล้วต้องหลบหนีอย่างหลบๆ ซ่อนๆ เช่นนี”

66
“ไอ้เจ้าคนขีขลาด เราก็ออกมาได้แล้วยังจะ
กลัวอะไรอีก” เว่ยกว๋านกว่านพูดอย่างเฉยเมย

“เจ้าจะรูอ้ ะไร หากมีคนรูว้ า่ โอสถเก้าชีวิตหวนคืนมา


จากมูเ่ กอ แน่นอนว่าต้องจับตัวเขาและบีบบังคับเพือ
เอาโอสถเป็ นแน่” เว่ยฉีพดู อย่างเคร่งเครียด

“โอสถนี ไม่มีแล้วมิใช่หรือ” ใบหน้าของเว่ยกว๋านกว่าน


ฉายแววไม่เข้าใจ

เว่ยฉีบีบใบหน้านางอย่างโมโห จากนันก็ตอ้ งหลบฝ่ ามือ


ของนางทีสะบัดเข้ามาหา : “ก่อนหน้านี มูเ่ กอเคยบอก
แล้วว่าโอสถนีมีเพียงเม็ดเดียว แล้วสุดท้ายล่ะ เรารูว้ า่
มันไม่มีแล้ว แต่พวกเขาจะเชือเราไหม ในตอนนีผูม้ ี
67
อํานาจทังหลายในเมืองจือ ต่างก็จบั จ้องโอสถเก้าชีวิต
หวนคืนอยู่ เจ้าคิดว่าด้วยความสามารถของเราแล้ว จะ
สามารถต้านทานผูม้ ีอาํ นาจของเมืองจือได้หรือ อีก
ประการหนึงคุณชายจูนนยั
ั งโดนหลอกเงินอีก
มหาศาล!”

“ถ้าเช่นนันจะทําอย่างไรดี มูเ่ กอจะเป็ นอันตรายหรือ


ไม่ ! ถ้าเช่นนันเราส่งข่าวไปบอกท่านพ่อ ให้มารับเราดี
หรือไม่” เมือได้รบั คําอธิบายจากพีชายฝาแฝด เว่ยกว๋า
นกว่านก็รบั รูไ้ ด้ถงึ ความอันตรายในเรืองนีในทันที

“บางที เขาอาจจะไม่ให้เรามีโอกาสนัน อีกประการ


หนึง อย่าลืมว่ามูเ่ กอรับภารกิจการอารักขาจากหอสรรพ
สิงและเขานัดไปรวมตัวทีเมืองอวีจือในอีก 10 วันข้าง
68
หน้า เมืองอวีจือเป็ นทางผ่านของการเดินทางจากเมือง
จือไปเมืองฮ่วน หากออกเดินทางจากทีนีต้องใช้เวลา 5
วันจึงจะถึงทีหมาย หากท่านพ่อส่งคนมารับ อย่างน้อย
ทีสุดก็ตอ้ งใช้เวลาถึง 20 กว่าวัน” เว่ยฉีพดู อย่างหัวเสีย

“ใช่ ! ตอนแรกบอกว่าจะออกเดินทางพร้อมกันจาก
เมืองจือในอีก 3 วันข้างหน้า แล้วเหตุใดจึงเปลียนเวลา
อย่างกะทันหัน” เว่ยกว๋านกว่านถาม

ในขณะทีทังสองพีน้องกําลังวิเคราะห์กนั อย่างดุเดือด
ทันใดนันก็ได้สงั เกตเห็นว่ามูช่ ิงเกอกลับนิงสงบพอหันไป
มองนาง จึงเห็นถึงความกังวลจางๆ ทีซ่อนอยู่

เว่ยกว๋านกว่านเดินมาอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเก


69
อ และพูดปลอบใจนางว่า : “มูเ่ กอ ท่านอย่ากลัวไป
เลย ยังมีพวกข้าอยู!่ ”

“ใช่ ! หากใครมิบงั อาจกล้าคิดไม่ซือกับท่าน ต้องข้าม


ศพข้าไปก่อน” เว่ยฉีรบี ประกาศกร้าว

มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึนมองพวกเขาแวบหนึง พลันถามด้วย


ความแปลกใจว่า : “พวกเจ้าเล่นอะไรกัน”

“เอ่อ......”

ความจริงจังของทังสองถูกมูช่ ิงเกอดับลงใน
ทันที

70
เก็บสายตากลับมา มูช่ ิงเกอพูดอย่างเย็นชาว่า : “หลัง
จากทีข้าจากไปแล้ว พวกเจ้าก็ไปเสีย แล้วเราไปพบกัน
ทีเมืองฮ่วน”

“ไม่ได้ ! สถานการณ์เช่นนี เราจะปล่อยท่าน


ไว้เพียงคนเดียวได้อย่างไร” เว่ยกว๋านกว่านปฏิเสธใน
ทันที

“ใช่ ให้กว๋านกว่านอยูท่ ีนี ข้าไปพร้อมกับ


ท่าน” เว่ยฉีพดู

“ไอ้เว่ยฉี เจ้าว่าอะไรนะ” เว่ยกว๋านกว่านตะ

71
โกนใส่เว่ยฉี

เว่ยฉียกมือทังสองข้างขึนอย่างจํานน : “ระหว่างเราทัง
สองอย่างไรเสียก็ตอ้ งมีใครคนใดคนหนึงทีต้องคอยส่ง
ข่าวให้ทา่ นพ่อมิใช่หรือ และแน่นอนว่าคนๆ นัน ไม่มี
เหตุผลทีจะออกไปผจญภัย อีกประการหนึง การมี
โอกาสได้สแู้ ละร่วมเป็ นร่วมตายไปพร้อมกับมูเ่ กอเป็ น
ความปรารถนาของข้า เจ้าอย่ามาแย่งกับข้า ! ”

“ไอ้เว่ยฉี ข้าจะบอกเจ้าเลยนะ ไม่วา่ อย่างไรมูเ่ กอไม่ใช่


พวก*ต้วนซิวไม่มีทางชอบเจ้าแน่เจ้าตัดใจเสียเถิด !
หากต้องมีใครอยูต่ อ่ คนผูน้ นคื
ั อเจ้า !” เว่ยกว๋านกว่าน
เตะเท้าออกไปทีหนึง

72
เว่ยฉีหลบอย่างคล่องแคล่ว พลางอธิบายว่า : “ข้าเองก็
ไม่ใช่ตว้ นซิว ข้าชอบมูเ่ กอไม่วา่ เขาจะเป็ นหญิงหรือ
ชาย !”

“ไอ้เว่ยฉี ข้าจะฆ่าเจ้า!” เว่ยกว๋านกว่านพุง่


เข้าหาเว่ยฉีดว้ ยความโกรธทียากจะเก็บเอาไว้ตอ่ ไปได้

มองทังสองทีสติปัญญาไม่คอ่ ยจะสม
ประกอบอีกครัง มูช่ ิงเกอพูดอะไรไม่ออก

นางสัมผัสได้แล้วว่ามีอะไรแผนการอะไร
บางอย่างทีมิชอบมาพากล ต้องขอขอบคุณความคิด
มากของทังสองพีน้องนี

73
การทีนางไม่ได้เดินออกมาจากหอสรรพสิง
ก็จะสามารถหลบจากหูตาผูค้ นได้อย่างนันหรือ นีคงเป็ น
แค่ภาพลวงชัวคราวเท่านัน แค่มีใครสักคนตังใจตรวจ
สอบคนเข้าและออกจากหอสรรพสิง ก็จะสามารถมันใจ
ได้แล้วว่า คนผูน้ นคื
ั อนาง

อีกประการหนึง พวกเขาเคยมีเรือง
บาดหมางกับคุณชายจู คุณชายจูตอ้ งจําพวกเขาได้เป็ น
แน่ หากตรวจสอบอย่างรอบคอบ กระดาษนีก็คงจะห่อ
ไฟไม่มิดเสียแล้ว

หอสรรพสิงเองก็คงไม่ได้ใจดีถงึ ขนาดช่วย
นางปกปิ ดหรอก

74
สําหรับคําว่าสหายทีตานเฉินจือแอบ
อ้าง.....มูช่ ิงเกอแอบยิมเย็น ใครจะไปเชือ ! อย่างน้อย
ตอนนี พวกเขาก็ยงั ไม่ถือว่าเป็ นเพือนกัน !

ทีนางต้องตกอยูใ่ นสภาพเช่นนี ปั จจัย


สําคัญก็เป็ นเพราะหอสรรพสิง

หอสรรพสิง.....คอยดูเถิด !

มูช่ ิงเกอก้าวเดินด้วยความเร็ว ในส่วนลึกของสายตาอัน


สว่างไสวฉายแววเย็นเยียบ

75
สําหรับหอสรรพสิง นางยังไม่ได้นบั ว่าเป็ น
ศัตรู อย่างมากก็เป็ นเพียงแค่คตู่ อ่ สูท้ ีมีฝีมือไม่แพ้นาง
รวมทัง นางสามารถมันใจได้วา่ ไอ้คนทีแอบลอบกัด
นาง จะต้องปรากฏตัวในเมืองอวีจือเป็ นแน่

เพราะฉะนัน ไม่วา่ อย่างไร นางจะต้องไป


ถึงเมืองอวีจือก่อนเวลานัด เพือพบกับคนผูน้ นด้
ั วยตน
เอง

ทังสามเดินมุง่ ไปยังเรือนรับรองของตระกู
ลเว่ย ราวกับไม่รูส้ กึ ถึงหางทีห้อยอยูท่ ีด้านหลัง

หลังจากทีเข้าไปภายในเรือนรับรองตระกู
ลเว่ย หางพวกนันจึงกระจายตัวออกไป
76
อํานาจของเว่ยหลินหลางไม่ได้อยูท่ ีนี
เพราะฉะนัน สําหรับผูม้ ีอาํ นาจเมืองจือแล้ว เขาก็เป็ น
เพียงแค่งตู วั หนึงเท่านัน แล้วนับประสาอะไรกับทีเว่ย
หลินหลางตัวจริงก็ไม่ได้อยูท่ ีนี และผูท้ ีอยูท่ ีนีก็เป็ นเพียง
เด็กน้อยไม่รูค้ วามเท่านัน

หลังจากทีเข้าไปหลังเรือนรับรองตระกูลเว่ย มูช่ ิงเกอก็


ไปหาลุงโจวในทันที ไม่สามารถคุยกับสองพีน้องทีสติ
ปั ญญาไม่สมประกอบได้ นางจึงทําได้เพียงไปคุยกับคน
ทีพอจะรูค้ วาม

*ต้วนซิว เป็ นคําเรียกชายรักชายในสมัยโบราณ


77
78
ตอนที 102-5 จัดการกับเจ้าไม่ได้ !

หลังจากทีได้เล่าเรืองราวอย่างคร่าวๆ ทังหมดให้กบั ลุง


โจวฟั งรอบหนึงแล้ว มูช่ ิงเกอจึงกล่าวในสิงทีตนเองได้
ตัดสินใจเอาไว้ : “ลุงโจว ข้าเป็ นต้นเหตุของเรืองราวทัง
หมดนี ไม่จาํ เป็ นต้องทําให้ตระกูลเว่ยต้องมาเดือดร้อน
ข้ามีวิธีรบั มือ ถ้าหากมีเว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านอยูด่ ว้ ย

79
เกรงว่าจะไม่สะดวก เพือความปลอดภัยของพวกเขา
ข้าขอให้ลงุ โจวจับตาดูพวกเขาอย่างใกล้ชิด”

หลังจากทีฟั งจบแล้ว ใบหน้าของลุงโจวเอง


ก็ฉายแววเคร่งเครียดขึนมา เขาเห็นด้วยกับคําพูดของมู่
ชิงเกอ แต่ก็ถามด้วยความเป็ นห่วงว่า : “พวกเขาเป็ นผู้
มีอาํ นาจของเมืองจือเชียวนะ ท่านจะเอาตัวรอดอย่าง
ไร” ในขณะทีพูด เขาหยุดคิดแวบหนึง แล้วจึงพูดในสิง
ทีได้ตดั สินใจแล้วว่า : “ท่านเป็ นทังผูม้ ีพระคุณและเป็ น
ทังสหายของคุณชายและคุณหนูของเรา หากไม่มี
ทางออกจริงๆ ข้าจะเชิญให้ทา่ นเจ้าเมืองออกมาออก
หน้าแทน”

เว่ยหลินหลางอย่างนันหรือ

80
หากดึงเว่ยหลินหลางเข้ามายุง่ ทุกอย่างจะ
เป็ นเรืองใหญ่มากขึนกว่าเดิม

มูช่ ิงเกอส่ายหน้าปฏิเสธ พลันพูดอย่างแน่ว


แน่วา่ : “ไม่เป็ นไร ข้าสามารถจัดการได้”

เมือเห็นว่านางยืนยันเช่นนัน ลุงโจวเองก็ไม่
ได้โน้มน้าวต่อ และเสนอให้แบ่งองครักษ์ตระกูลเว่ยไป
คอยคุม้ ครองมูช่ ิงเกอ

แต่มชู่ ิงเกอก็ปฏิเสธไปเช่นเดิม

81
สําหรับองครักษ์ นางเชือใจเพียงแค่ความ
สามารถขององครักษ์เขียวมังกรของนางเท่านัน

แม้วา่ เหล่าองครักษ์ของตระกูลเว่ย ต่างก็


เป็ นถึงสายเหลือง สายเขียว แต่หากเทียบกับองครักษ์
เขียวมังกรแล้วยังด้อยกว่าอยูบ่ า้ ง

ในตอนนี นางมีองครักษ์เขียวมังกรอยูก่ ลุม่


หนึง นันก็คือ 20 กว่าคน แม้วา่ จํานวนคนจะน้อย แต่
ทว่า มีความคล่องตัวสูง ชาติทีแล้ว นางเพียงคนเดียว
ก็ยงั สามารถจัดการกับผูม้ ีอาํ นาจจํานวนมากมายจนหัว
หมุนได้ ในตอนนีนางมีกาํ ลังเสริม จะต้องกลัวผูม้ ี
อํานาจเพียงคนเดียวของเมืองจืออย่างนันหรือ

82
หลังจากทีบอกลาลุงโจวแล้ว มูช่ ิงเกอก็
กลับไปยังเรือนรับรอง และเรียกตัวมัวหยางออกมาใน
ทันที

เพียงครูเ่ ดียว มัวหยางก็ออกจากเรือนไป

ในขณะเดียวกัน องครักษ์เขียวมังกรคน
อืนๆ ก็รบี ออกจากเรือนรับรอง และกระจายไปทัวทัง
เมืองจือ

เรืองนีจะล่าช้าไม่ได้ มูช่ ิงเกอคิดจะออกเดิน


ทางตังแต่คืนนี

83
สําหรับผูค้ นทีคิดไม่ซือกับนาง ไม่วา่ จะมี
มากแค่ไหน ก็ตอ้ งสังหารทังหมด แต่วา่ ......

มูช่ ิงเกอหยุดสายตาบนแผนทีทีวางอยูบ่ น
โต๊ะ

ทีๆ นางวางปลายนิวลง คือตําแหน่งของ


เมืองอวีจือ ดูเหมือนว่านางเองก็ควรจะเตรียมของขวัญ
ชินโตไว้ให้กบั คนทีนางกําลังจะไปพบเสียหน่อยแล้ว
เช่นนีจึงจะไม่เป็ นการเสียมารยาทสําหรับการพบกันครัง
แรก !

มูช่ ิงเกอหรีตาอย่างลงช้าๆ ในดวงตาทีหรี

84
แคบพลันปรากฏความเย็นเยียบ

……

ในขณะนันเอง ผูม้ ีอาํ นาจจํานวนไม่นอ้ ยใน


เมืองจือ ต่างก็ได้รบั ข่าวคราวแล้ว

เจ้าของโอสถทีประมูลในงานประมูลของหอ
สรรพสิง เป็ นชายหนุ่มทีอายุยงั น้อย สวมชุดสีแดงเจิด
จ้า อีกทังยังมีรูปลักษณ์งดงามคนหนึง ข้างๆ กายเขา
มีคณ
ุ หนูและคุณชายแห่งเมืองถัวติดตามอยูด่ ว้ ย

ทันใดนัน ผูม้ ีอาํ นาจจํานวนนับไม่ถว้ นต่าง


ก็พยายามสืบหาเบืองหลังของมูช่ ิงเกอจากทุกช่องทาง
85
แต่ก็ไม่ได้รบั ผลลัพธ์อนั ใดเลย

มนุษย์ แน่นอนว่า ไม่ได้ตกลงมาจากฟาก


ฟ้า

ถ้าเช่นนัน ทีผลลัพธ์เป็ นเช่นนีมีเพียงเหตุผล


เดียว นันก็คือ เขาไม่ใช่คนแคว้นลี

ในเมือไม่ใช่คนแคว้นลี แล้วพวกเขายังจะ
ต้องกังวลอะไรอีกเล่า

เว่ยหลินหลาง แม้วา่ จะเก่งกาจมากเพียงใด


แต่ทีนีก็ไม่ใช่เมืองถัวของเขา เขาคงไม่คิดจะต่อต้าน

86
เมืองจือ เพียงเพราะชายหนุ่มคนนันคนเดียวหรอก

ทันใดนัน เมืองจือก็ตกอยูท่ า่ มกลางความ


อลหม่านในทันที

ผูม้ ีอาํ นาจแทบจะทุกคนทีโลภในโอสถเก้า


ชีวิตหวนคืน ต่างก็แอบส่งคนออกไปสังเกตการณ์ยงั
เรือนรับรองตระกูลเว่ยอย่างใกล้ชิด หากจะพูดให้ชดั เจน
คือไปจับตาดูความเคลือนไหวของมูช่ ิงเกอ

เมือข่าวถูกส่งไปถึงจวนตระกูลจู หลังจากที
รูว้ า่ ผูท้ ีแข่งขันกับตนเอง คือคนเดียวกับไอ้คนจนทีขัด
แย้งกับตนเองหน้าประตูหอสรรพสิง จูลก็ี ทาํ ลายข้าว
ของไปไม่รูเ้ ท่าไหร่ตอ่ เท่าไหร่
87
“สังเรียกตัวทุกคนกลับมา! ข้าจะทําให้ไอ้
เด็กนันไม่สามารถออกจากเมืองจือได้อีกตลอดไป !” จู
ลีพูดด้วยนําเสียงทีโหด**◌้ยม ในสายตาอันเย็นเยียบ
ฉายแววชัวร้าย

……

เมืองจือ จวนตระกูลเก๋อ

ตระกูลเก๋อได้รบั รูข้ ่าวคราวเกียวกับเรืองทัง


หมดทีเกิดขึนในเมืองจือแล้ว

88
ตามหลักแล้ว มูช่ ิงเกอถือเป็ นผูม้ ีพระคุณ
ของคนในตระกูลเก๋อ ในตอนนี ผูม้ ีพระคุณกําลังเดือด
ร้อน ตระกูลเก๋อควรเลือกทีจะทําอย่างไรดี

ท่านเก๋อนังขมวดคิวอยูใ่ ต้แสงเทียน ราวกับ


กําลังวิเคราะห์ถงึ ปั ญหานีอย่างเคร่งเครียด

ครูห่ นึง ประตูหอ้ งก็ถกู ผลักออก คุณชายเก๋


อเดินเข้ามาโดยมีคนคอยพยุง : “ท่านพ่อ”

ท่านเก๋อเงยหน้าขึน และรีบพูดว่า : “เหตุ


ใดเจ้าจึงไม่นอนพัก ออกมาทําอะไรทีนี”

89
“ข้ามาหาท่านพ่อ” คุณชายเก๋อพูดหลังจากที
นังลง

“มาหาข้าทําไม” ท่านเก๋อพยายามจะหลบ
สายตาของคุณชายเก๋อ

แต่ทว่า คุณชายเก๋อกลับไม่ยอมให้มีโอกาส
ได้หลบ : “ท่านพ่อไม่คิดทีจะลงมือช่วยหรือ เขาเป็ นผูม้ ี
พระคุณของข้าเชียวนะ”

ใบหน้าของท่านเก๋อเคร่งขรึมในทันที :
“คนผูน้ นปฏิ
ั เสธคําขอบคุณจากข้า ซึงก็ชดั เจนแล้วว่า
เขาไม่อยากจะรูจ้ กั กับตระกูลเก๋อของเรา หากเป็ นเช่น

90
นันแล้ว เหตุใดเราต้องไปทําให้ตนเองเดือดร้อนด้วย”

“ท่านพ่อ!” คุณชายเก๋อขมวดคิวเล็กน้อย

ท่านเก๋อกลับยกมือขึนและพูดว่า : “ข้า
เป็ นประมุขของตระกูล จําเป็ นต้องคิดถึงวงศ์ตระกูล
ก่อนเป็ นอันดับแรก คนผูน้ นมี
ั ทีมาทีไม่ชดั เจน และไม่รู ้
ฐานะทีแท้จริงของเขา เมือเกิดเรืองขึนแล้วเขาสามารถ
หลบหนีไปได้อย่างง่ายดาย แล้วตระกูลเก๋อล่ะ รากฐาน
ของเราอยูท่ ีเมืองจือ เราจะยอมทําให้ผมู้ ีอาํ นาจของ
เมืองจือมีโทสะโดยมีตน้ เหตุมากจากคนนอกอย่างนัน
หรือ เรืองนี ข้าได้ตดั สินใจแล้ว ว่าจะไม่เข้าไปยุง่ เป็ น
แน่!”

91
คําพูดของท่านพ่อ ทําให้คณ
ุ ชายเก๋อเงียบ
ลง

แม้วา่ เขาจะไม่จาํ ยอม แต่ทว่า สิงทีท่านพ่อ


คิดก็ลว้ นเป็ นความจริง

พักใหญ่ เขาจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้ว
จึงออกจากห้องของท่านพ่อโดยทียังคงมีคนคอยพยุง

“คืนนี เมืองจือคงไม่สงบสุขเป็ นแน่” ท่านเก๋


อเงยหน้าขึนมองท้องฟ้าทีประดับไปด้วยดวงจันทร์และ
ดวงดารา พลางทอดถอนใจออกมาจากส่วนลึกในใจ!

92
ตอนที 103-1 ผูอ้ าวุโส ช่างแปลกคนเสียจริง !

ในยามราตรี ดวงดาราถูกบดบังไปด้วยเมฆ
อันหนาทึบ

สายตาหลายคูท่ ีคอยจับจ้องเรือนรับรอง
ตระกูลเว่ยอย่างไม่ละสายตา เพราะกลัวเป็ นอย่างยิงว่า
มูช่ ิงเกอจะหายตัวไป

ภายในเรือนรับรองตระกูลเว่ย ในเรือนทีมู่

1
ชิงเกอเข้ามาพักชัวคราวนัน นางกําลังไขว่หา้ งอยูบ่ น
เก้าอีโยกและกําลังโยกไปมาอย่างผ่อนคลาย

ท่ามกลางความมืดมิด ชุดสีแดงดังโลหิต
นัน ให้ความรูส้ กึ ถึงความอันตรายและไอสังหารทีไม่
อาจจะหลีกเลียงได้

ฮวาเยวียยืนอยูข่ า้ งหลังและคอยนวดหลัง
ให้กบั นางเบาๆ ความนิงสงบนัน ราวกับไม่สนใจและไม่
รับรูถ้ งึ ความวุน่ วายทีเกิดขึนภายนอก

โย่วเหอกลับนังอยูข่ า้ งๆ ด้วยท่าทางอัน
เคร่งขรึม คิวทังสองข้างทีฉายความอ่อนโยนมาโดย
ตลอดมีความแน่วแน่และดุดนั แฝงเข้ามา
2
ตรงหน้ามูช่ ิงเกอ คนจํานวน 26 คนกําลัง
นังคุกเข่าข้างเดียวอยูบ่ นพืน

พวกเขาอยูใ่ นชุดสีดาํ ทังตัว บนชุดสีดาํ ดัง


หมึกนัน มีลวดลายทีปั กด้วยเส้นด้ายอันบางเป็ นพิเศษสี
เทาเงิน ให้ความรูส้ กึ ทังลึกลับและงดงาม ในขณะเดียว
กัน ลวดลายพวกนีก็เป็ นมนต์ตอ้ งห้าม ทีมูช่ ิงเกอออก
แบบด้วยตัวเองและเชิญช่างฝี มือมาเป็ นผูป้ ั กให้

หลักการเดียวกับอาวุธทีนางหลอมขึนมา
เองนันคือลวดลายทีปั กขึนด้วยด้ายเส้นบางพิเศษนีก็มี
ผลลัพธ์ของมนต์ตอ้ งห้ามเช่นเดียวกัน

3
มันสามารถทําให้คนทีสวมใส่ชดุ นีมี
ปฏิกิรยิ าตอบสนองและการเคลือนไหวรวดเร็วกว่าเดิม
ในขณะเดียวกันก็สามารถอําพรางพลังได้อีกด้วย

การเพิมพลังนีแม้จะเป็ นสิงทีละเอียดอ่อน
เป็ นอย่างมากแต่สงสํ
ิ าคัญคือมันสามารถแสดงผลลัพธ์
ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงเวลาอันสําคัญ !

องครักษ์เขียวมังกรกลุม่ ทีมัวหยางเป็ นผูน้ าํ


คุกเข่าอยูต่ รงหน้าของเจ้านายทีพวกเขาเคารพและ
นับถือมากทีสุด สายลมในยามคําคืนค่อยๆ พัดผ่าน
ระหว่างช่องว่างของพวกเขา ทําให้ใบไม้สีเหลืองแห้งที
อยูบ่ นพืน ปลิวเข้าหามูช่ ิงเกอ

4
ในขณะทีใบไม้แห้งกําลังจะกระทบกับ
ปลายจมูกของมูช่ ิงเกอ สายตาของโย่วเหอพลันจับ
จ้องอย่างจริงจังในทันที ในขณะทีกําลังจะยืนมือออกไป
มูช่ ิงเกอทีหลับตาทังสองข้างสนิทและกําลังเสพสุขกับ
ความผ่อนคลายจากการนวดของฮวาเยวียอยูก่ ็ลืมตาขึน
มาอย่างกะทันหัน

ในสายตาอันสว่างไสวและมองไม่เห็นก้น
นัน แฝงความเย็นเยียบ เพียงแค่ลืมตาขึน ใบไม้แห้งที
เข้ามาใกล้ก็ได้แตกกระจายกลายเป็ นผุยผงต่อหน้าทุกๆ
คนและถูกสายลมกลางคืนพัดหวนออกไปอีกครังใน
ทันที โดยไม่มีแม้แต่เศษเสียวเดียวทีร่วงลงบนตัวของมู่
ชิงเกอ

5
ใบไม้แห้งหายไปอย่างไร้รอ่ งรอย แต่ทว่า
ในส่วนลึกของสายตาของมูช่ ิงเกอมีแสงสีนาเงิ
ํ นทีเข้มจน
กําลังจะกลายเป็ นสีมว่ งส่องประกายขึนมา เพียงแต่วา่
เพราะความมืดสนิททีมากเกินไป จึงทําให้ทกุ คนไม่
สามารถเห็นความจริงประการนีได้

มัวหยางเงยหน้าขึน สายตาทีฉายแววแน่ว
แน่เคลือนมาหยุดบนร่างของมูช่ ิงเกอ พลางพูดอย่าง
เคร่งขรึมว่า : “คุณชาย ข้าน้อยได้เตรียมการทุกอย่าง
เรียบร้อยแล้วขอรับ”

มูช่ ิงเกอก้มสายตาลง สายตาทีแฝงความ


กระจ่างใสแต่เย็นเยียบจนเย็นชานันจ้องไปทีองครักษ์
เขียวมังกร จากนันก็พดู ด้วยนําเสียงทีทังเกียจคร้านและ

6
บ้าคลังว่า : “พวกเจ้าพร้อมแล้วรึ”

“ขอรับ คุณชาย !”

เสียงอันแฝงความเคร่งขรึมและความพร้อม
เพรียงนัน ดังขึนจากองครักษ์เขียวมังกร ราวกับสัตว์ที
กําลังรอโอกาสเคลือนไหวในยามคําคืน

ใบหน้าอันอ่อนเยาว์แต่แฝงด้วยความเด็ด
เดียว กล้าหาญเหล่านี ฉายแววเย็นเยียบดังมีดดาบ
สายตาทีพวกเขามองมูช่ ิงเกอ ล้วนแฝงความแน่วแน่
และความบ้าคลังอันแรงกล้า

7
ราวกับว่า หากมีมชู่ ิงเกอเป็ นผูน้ าํ แม้วา่
พวกเขาต้องไปทําลายล้างโลกทังใบ ก็ไม่ได้เป็ นเรืองที
ยากลําบากอันใด

ความบ้าคลังนัน ทําให้รมิ ฝี ปากสีแดงกํา


ของมูช่ ิงเกอเผยรอยยิมจางๆ

คนของนาง แน่นอนว่าต้องมีความกล้า
อย่างไม่สนใจสิงอืนใดเช่นนี !

มืออันงดงามทังคูค่ อ่ ยๆ วางลงบนพนักวาง
มือบนเก้าอีโยก ฮวาเยวียเดินถอยหลังไปสองก้าวอย่างรู ้
ความ

8
มูช่ ิงเกอสะบัดข้อมือเบาๆ ทีหนึง พลันพยุง
ตนเองขึนมา องครักษ์เขียวมังกรมองตามความเคลือน
ไหวของนาง

ในขณะนีเอง ลมกลางคืนพัดขึนอย่างไม่มีปี
มีขลุย่ ทําให้ชดุ และเส้นผมของมูช่ ิงเกอปลิวไปตามสาย
ลม ชุดสีแดงดังโลหิตนันสะท้อนอยูบ่ นใบหน้าของนาง
ทําให้น่าเย้ายวนมากขึนกว่าเดิม

ในสายตาของเหล่าองครักษ์เขียวมังกร คุณ
ชายของพวกเขา เจ้านายของพวกเขา เป็ นดังเทพทังใน
สรวงสวรรค์และบนโลกทังใบนี ร่างอันยืดตรงสง่าผ่าเผย
ราวกับไม่มีวนั ทีจะงอลงได้

9
ประสานมือทังคูเ่ อาไว้ขา้ งหลัง รอยยิมตรง
มุมปากของมูช่ ิงเกอแฝงความอันตรายอันเ**◌้ยม
โหด : “หากพร้อมแล้ว ถ้าเช่นนัน....เริมเกมได้!”

สายลม พัดแรงขึนมาฉับพลัน

สายลมทีพัดผ่านมาอย่างไม่ขาดสาย เศษ
ใบไม้เ**◌่ ยวแห้ง ปลิวไปมาตามสายลม เศษฝุ่ นทีพัด
ขึนตามสายลม บดบังสายตาจนไม่สามารถมองเห็น
อะไรได้

“คักๆๆ ลมมาจากไหนกัน ฝุ่ นเข้าปากข้า

10
หมดแล้ว !”

“ชู่ว เจ้าเบาๆ หน่อย อย่าทําให้สตั ว์ทีจะล่า


แตกตืน”

ท่ามกลางผูค้ นทีคอยอยูข่ า้ งนอก มีคน


แสดงความไม่พอใจต่อลมทีพัดเข้ามา พลันก็มีคนติ
เตือนในทันที

ในตอนนี เป็ นตอนทีท้องฟ้ามืดมากทีสุด


และก็เป็ นตอนทีสติปัญญาของมนุษย์คอ่ ยๆถดถอยและ
ง่วงมากทีสุดเช่นกัน

11
ผูแ้ ข็งแกร่งแทบจะทุกคนทีเฝ้าอยูข่ า้ งนอก
ต่างก็เหน็ดเหนือยอย่างเป็ นทีสุด แต่เพราะต้องทําตาม
คําสัง จึงจําเป็ นต้องตังสติและปฏิบตั ิหน้าทีต่อไป

สายลมทีพัดมาพร้อมกับเศษฝุ่ นและทราย
เหล่านี ได้กลายเป็ นไฟจุดประกายความไม่พอใจของ
พวกเขา

“กลัวอะไร ข้าเฝ้ามาทังคืนแล้ว ไม่เห็นเลย


แม้แต่เงา เขาอาจจะกําลังหลับสบาย เรากลับมาเฝ้าอยู่
ทีนีราวกับเป็ นคนโง่”

เสียงบ่นพึมพํา ค่อยๆ ดังขึนจากเหล่าผู้


แข็งแกร่ง
12
“ก็จริง หากข้าเป็ นคนผูน้ นั ก็คงจะไม่คิดหนี
ในยามวิกาลเช่นนีหรอก อย่างไรก็ตอ้ งสังเกต
สถานการณ์ของทีนีสัก 2 3 วัน จึงหาโอกาสทีเหมาะ
สมในการหนีออกจากเมืองจือ” ใครบางคนได้วิเคราะห์
อย่างมีประสบการณ์

การเฝ้าสังเกตสถานการณ์อย่างเคร่งครัด
กลับค่อยๆ กลายเป็ นผ่อนคลายลงเรือยๆ

ทันใดนัน เงาสีดาํ 20 กว่าสายทีบินออก


จากเรือนรับรองตระกูลเว่ยก็ได้กระโจนเข้าสูค่ วามมืด
ยามราตรีราวกับดวงวิญญาณก็ไม่ปานและกระจายตัว
ออกไปยังทิศทางทีต่างกัน
13
ตอนที 103-2 ผูอ้ าวุโส ช่างแปลกคนเสียจริง !

14
ทันทีทีเงาสีดาํ ปรากฏขึน ทําให้เหล่าผูค้ นทีตกอยูท่ า่ ม
กลางความเกียจคร้านตืนตระหนกขึนมาในทันใดและรีบ
พุง่ ตัวออกจากทีซุม่

ทันใดนัน คนของผูม้ ีอาํ นาจทุกฝ่ าย ต่างก็


เผยตัวตนของตนเองออกมา ไร้ซงการปกปิ
ึ ดดังเช่นใน
ตอนแรก

คนของผูม้ ีอาํ นาจฝ่ ายต่างๆ ต่างสบตาและ


มองกันด้วยความระแวงอย่างระมัดระวัง

15
“แย่แล้ว ! ปลากําลังจะหนีแล้ว !”

ในขณะทีเงาสีดาํ พวกนันหายไป ก็พลันมี


คนทําลายความสงบลง

ในทีสุด คําพูดนีก็ทาํ ให้คนของผูม้ ีอาํ นาจ


ต่างแตกตืน

“ตามไป! ” กลุม่ ของผูม้ ีอาํ นาจฝ่ ายหนึง


ตะโกนขึนมา คนและม้ากลุม่ หนึงพุง่ ตัวออกไปยังทิศ
ทางเดียวกันกับทีคนชุดดําเหล่านันกระจายตัวออกไป

16
เพราะการนําของเขา คนของผูม้ ีอาํ นาจ
ฝ่ ายอืนๆ ทีเหลือต่างก็เลือกกลุม่ เป้าหมายของตนเอง
และตามออกไป ในขณะเดียวกัน ก็สง่ ข่าวเกียวกับ
สถานการณ์ของทีนีกลับไปยังฝ่ ายของตนเอง

ในขณะนี หน้าประตูเรือนรับรองเหลือคน
ของผูม้ ีอาํ นาจเพียงตระกูลเดียวทียังยืนนิงอยูก่ บั ที

คนกลุม่ นันก็คือคนของคุณชายจู จูลี

พวกเขารับหน้าทีมาเฝ้าอยูท่ ีนี ก็เพือทีจะจับตัวมูช่ ิงเก


อเพือล้างแค้นให้กบั คุณชายของตนเอง ในตอนนี คน
ของผูม้ ีอาํ นาจแต่ละฝ่ ายต่างก็กระจายตัวออกไปเพราะ
ผูค้ นทีพุง่ ตัวออกจากเรือนรับรองตระกูลเว่ย แต่พวกเขา
17
กลับไม่แม้แต่จะขยับตัว

“หัวหน้า เราควรทําเช่นไรดี” มีคนถามขึน

หัวหน้าเผยรอยยิมอันเย็นเยียบราวกับมี
แผนการ : “เป็ นเพียงแค่แผนล่อเสือออกจากถําก็เท่า
นัน ข้ามันใจเป็ นอย่างยิงว่า คนทีคุณชายต้องการตัว
ในตอนนียังหลบอยูภ่ ายในเรือนรับรองตระกูลเว่ย”

การวิเคราะห์นีของเขา ได้รบั คําชืนชมอย่าง


มากจากลูกน้องทุกคนในทันที

แต่ทว่า เขากลับไม่รูว้ า่ ภายในเรือนรับรอง

18
ตระกูลเว่ย ในเรือนทีมูช่ ิงเกอพักอาศัยอยูน่ นั ในขณะนี
ได้กลายเป็ นพืนทีว่างเปล่าไปแล้ว เงียบสงบราวกับไม่
เคยมีใครเข้ามาอยู่

ในอีกฝังของเรือนรับรอง แสงเทียนสีสม้
เหลืองทีส่ายไปมาสาดประกายความสว่างลงบนร่างของ
ผูท้ ีอาศัยอยูภ่ ายในเรือน

ทังเว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านถูกจับมัดเอาไว้
กับเก้าอี ผูท้ ีคอยเฝ้าพวกเขาอยูใ่ นเรือนหลังนันคือลุง
โจว

“อือๆๆ.....” เว่ยกว๋านกว่านจ้องลุงโจวเขม็ง
พลางดินรน ในปากถูกผ้าปิ ดเอาไว้ ทําได้เพียงแค่สง่
19
เสียงร้องจากลําคอ

สภาพของเว่ยฉีเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เพียง
แค่ เขา ไม่ได้เอะอะโวยวายและดินรนอย่างเปล่า
ประโยชน์ แต่ใช้สายตาจับจ้องลุงโจวอย่างกล่าวโทษ

ลุงโจวแอบถอนหายใจอย่างเป็ นทุกข์ และ


แอบคิดในใจว่า คุณชายมู่ คิดจะไปก็ไปเลยและทําให้
เขากลับกลายเป็ นคนเลวอยูเ่ ช่นนี

แต่ทว่า เพือตระกูลเว่ยและเพือผูส้ ืบทอด


ตระกูลทังสองเขาก็ทาํ ได้เพียงแค่ยอมเป็ นคนเลว !

20
เมือล่วงเลยเวลาทีนัดกับมูช่ ิงเกอมาพัก
ใหญ่แล้ว ในขณะทีถูกบีบบังคับด้วยสายตาของผูส้ ืบ
ทอดตระกูลตัวน้อยทังสองในทีสุดลุงโจวก็ยอมเอาผ้าปิ ด
ปากออกจากปากของพวกเขา

“ลุงโจวท่านทําอย่างนีกับพวกข้าได้อย่างไร !
ฮือๆๆๆ ท่านไม่รกั ไม่เอ็นดูกว๋านกว่านแล้วรึ”

“ลุงโจวปล่อยข้าเดียวนีนะ!”

หลังจากทีเว่ยกว๋านกว่านและเว่ยฉีได้รบั
อิสระในการพูดอีกครัง ก็รบี เปิ ดปากทันที

21
เว่ยฉีสะบัดไหล่ทงสองพั
ั กหนึง แต่ทว่า
เชือกทีมัดตัวอยูก่ ลับไม่ขยับเลยแม้แต่นอ้ ย ดวงตาตืน
ตระหนกจนแดงกํา ทําได้เพียงแค่มองลุงโจวอย่างอ้อน
วอน

ในขณะเดียวกัน เว่ยกว๋านกว่านเองก็จอ้ ง
ลุงโจวด้วยดวงตาทีนองไปด้วยนําตา

ตลอดเวลาทีผ่านมา ในสายตาของนางลุง
โจวคือคนทียอมนางมาโดยตลอด

แต่ทว่า ในคืนนี ลุงโจวกลับใจร้าย ไม่


สนใจพวกนาง เพียงแค่พดู อย่างเคร่งขรึมว่า : “คุณ
ชาย คุณหนู นีเป็ นคําสังของคุณชายมู่ เพือความ
22
ปลอดภัยของพวกท่าน ข้าจําเป็ นต้องทําตาม !”

สองพีน้องเว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่าน แม้จะดู
สติปัญญาไม่สมประกอบในบางครัง แต่ก็ไม่ได้โง่เขลา

การทีลุงโจวมัดทังสองเอาไว้ทีนี แน่นอนว่า
เพราะมูช่ ิงเกอ อีกประการหนึง หากเดาไม่ผิด ในขณะ
นี มูช่ ิงเกอได้ออกไปจากทีนีแล้ว ลุงโจวจึงได้เอาก้อนผ้า
ทีอุดปากของพวกเขาออก

“ลุงโจว ท่านรูห้ รือไม่วา่ สิงทีมูเ่ กอกําลังจะพบ


เจอคืออะไร เราเป็ นเพือนกัน ในขณะทีเขาต้องการ
ความช่วยเหลือ เรากลับไม่อยูเ่ คียงข้างเขา ต่อไปเราจะ
เรียกตนเองว่ามีคณ
ุ ธรรมได้อย่างไร” เว่ยฉีตะโกนอย่าง
23
ดินรน

เว่ยกว๋านกว่านเองก็รบี พูดเสริมว่า : “ลุง


โจว ผูม้ ีอาํ นาจทัวทังเมืองจือกําลังตามตัวมูเ่ กอ เราเป็ น
คนเดียวทีสามารถช่วยเขาได้ จะทําเป็ นไม่สนใจได้อย่าง
ไร หรือว่าสิงทีท่านพ่อคอยพรําสอนเรามาตลอดนันเป็ น
เพียงแค่ลมปาก”

ไม่ง่ายเลยทีทังสองพีน้องจะเข้าข้างกันและ
ช่วยกันออกคนละเสียง จนทําให้ลงุ โจวอึดอัดจนหน้า
แดงกํา ไม่อาจตอบโต้ได้

โชคดีทีว่า ในช่วงเวลาอันสําคัญนี เขายัง


จําคําพูดทีมูช่ ิงเกอเคยพูดได้เป็ นอย่างดี
24
เขารูว้ า่ หากปล่อยตัวพีน้องคูน่ ีไปยุง่ เกียว
กับเรืองนีจะเกิดผลลัพธ์อย่างไร

เพราะฉะนัน เขาจึงยอมใจร้ายและกัดฟั น
พูดกับทังสองว่า : “คุณชาย คุณหนู เรืองของคุณชาย
มู่ เขามีวิธีแก้ปัญหาของตนเอง หากพวกท่านเป็ นเพือน
ก็ควรจะเชือคําพูดของเขา เขาให้พวกท่านไปรอเขาที
เมืองฮ่วน เราจะออกเดินทางไปยังเมืองฮ่วนในวันรุง่ ขึน
และห้ามไปทําลายแผนการของเขาอย่างเด็ดขาด”

“เมืองฮ่วนอย่างนันหรือ?! มูเ่ กอให้เราไปรอ


ทีเมืองฮ่วนอย่างนันหรือ” เว่ยกว๋านกว่านพูด

25
“นันเป็ นเพียงแค่คาํ พูดของมูเ่ กอก็เท่านัน
เขาถูกผูม้ ีอาํ นาจมากมายถึงเพียงนันตามล่า จะกลับไป
ยังเมืองฮ่วนอย่างปลอดภัยได้อย่างไร” เว่ยฉีตะคอก

เว่ยกว๋านกว่านก็กระจ่างในทันที พลันมอง
ลุงโจวด้วยความโกรธว่า : “ลุงโจว ท่านเชือคําพูดเหล่า
นีเนียนะ”

ลุงโจวรูส้ กึ ทุกข์ใจ พลันพูดกับผูส้ ืบทอดทัง


สองว่า : “คุณชายมูย่ งั อายุนอ้ ยเพียงนี แต่กลับออกมา
ผจญภัยตัวคนเดียว เห็นได้ชดั ว่า เขาสามารถปกป้อง
ตนเองได้ หากเขาพูดเช่นนันแล้ว ก็แสดงว่าต้องมี
เหตุผลของเขา นายท่านทังสองของข้า พวกท่านเพิงจะ
รูจ้ กั เขาเพียงไม่กีวัน พวกท่านรูเ้ กียวกับเบืองหลังของ

26
เขามากน้อยเพียงใด ไม่ใช่เพียงแค่ตวั เขา แต่ลกู น้องแต่
ละคนของเขาล้วนไม่ธรรมดาและเก่งกาจมากกว่า
องครักษ์ตระกูลเว่ยของเราเสียอีก เราเชือฟั งคําสังของ
คุณชายมูแ่ ละไปรอทีเมืองฮ่วนเถอะ”

ดินรนไปก็ไม่มีประโยชน์ เว่ยฉีและเว่ยกว๋า
นกว่านเองก็รูว้ า่ คนทีพวกเขาต้องการจะปกป้องได้จาก
ไปนานแล้ว

เมือไม่สามารถทําอะไรได้ จึงทําได้เพียง
แค่ยอมร่วมมือ

แต่ทว่า เว่ยฉีกลับไม่เห็นด้วยกับแผนการที
ให้ไปรอมูช่ ิงเกอทีเมืองฮ่วนและยังยืนยันว่า : “เราจะ
27
ไปรอมูเ่ กอทีเมืองอวีจือ !” เขายังจําได้วา่ พวกคนที
ต้องอารักขา นัดพบมูเ่ กอทีเมืองอวีจือในอีก 10 วัน
ข้างหน้า

เมือเทียบกับการไปรอทีเมืองฮ่วนอย่างทุกข์
ใจแล้ว ไปรอทีเมืองอวีจือคงจะดีกว่า

ข้อเสนอของเว่ยฉีได้รบั การสนับสนุนจาก
เว่ยกว๋านกว่านในทันที

ลุงโจวไม่รูว้ า่ ควรจะทําอย่างไรต่อไป ขอ
เพียงแค่ผสู้ ืบทอดทังสองไม่ก่อความเดือดร้อนในเมือง
จือ อะไรเขาก็ยอม เมือคิดทบทวนครูห่ นึง เขาก็ตอบ

28
ตกลงในข้อเสนอของทังสอง

ในอีกด้านหนึง เงาร่างในชุดสีดาํ 20 กว่า


เงานัน หลังจากทีเพ่นพ่านไปทัวทังเมืองจือโดยทีมีคน
คอยติดตามอยูร่ อบหนึงแล้ว ก็มงุ่ ออกนอกเมืองไป

ยอดฝี มือของเมืองจือทีเก่งกาจมากทีสุดก็
คงไม่มากไปกว่าสายนําเงินขันต้น

สําหรับองครักษ์เขียวมังกรทีเข้าสูส่ ายเขียว
และสายครามแล้ว ความกดดันของพลังทีพัดไปมา
บริเวณประตูเมืองเหล่านัน ไม่ได้สง่ ผลกระทบอันใดเลย

29
อีกประการหนึง บนร่างกายของพวกเขา
ต่างก็สวมชุดทีเพิมความว่องไวและขีดความสามารถมิ
ใช่หรือ

เพราะฉะนัน ในขณะทีเงาสีดาํ ทังหลาย


ทะลุผา่ นความกดดันเหล่านันและพุง่ ตัวออกจากเมือง
ไป คนมีอาํ นาจแต่ละตระกูลต่างก็นงไม่
ั ติดและสังให้
ยอดฝี มือในตระกูลไล่ตามเงาพวกนันไป

30
ตอนที 103-3 ผูอ้ าวุโส ช่างแปลกคนเสียจริง !

คําคืนอันเงียบสงบ ตกอยูใ่ นความอลหม่านเพราะเหตุนี

31
ในทันที

ตัวแทนของผูม้ ีอาํ นาจจากทัวทุกสารทิศของเมืองจือ ใน


ทีสุดก็มารวมตัวกันเป็ นพลังอันมหาศาลและพุง่ ออก
นอกเมืองไป

และในขณะนีเอง จูลก็ี ได้ทราบเรืองราวทังหมดและรีบ


สังให้คนของตนเองมารวมตัวกัน พลันต่อว่าหัวหน้า
กลุม่ ในทันที : “มันหนีออกนอกเมืองไปแล้ว เจ้ายังจะ
เฝ้าอยูท่ ีเรือนรับรองตระกูลเว่ยไปทําไมอีก ไอ้หมูโง่ไร้
ประโยชน์!”

ผูท้ ีถูกด่าว่าโง่เขลานันเป็ นถึงผูม้ ีฝีมือทีอยูใ่ นสายคราม


คนหนึง ในตอนนีกลับถูกไอ้คนทีเป็ นเพียงสายเหลืองด่า
32
ทอ แน่นอนว่าจะต้องรูส้ กึ ไม่พอใจ

แต่ทว่า ทันทีทีนึกถึงเบืองหลังของอีกฝ่ าย เขาก็ทาํ ได้


เพียงอดทนเอาไว้ : “คุณชาย ข้าน้อยเกรงว่าจะเป็ น
แผนล่อเสือออกจากถําขอรับ”

บอกเหตุผลทีตนเองไม่ตามออกไป ตอนแรกคิดว่าจะ
สามารถดับเปลวเพลิงแห่งโทสะของเจ้านายได้

แต่ไม่คิดว่า จูลกลั
ี บพูดด้วยความเกรียวกราดมากกว่า
เดิม : “ล่อเสือออกจากถําอย่างนันหรือ เจ้าคิดว่ามี
เพียงเจ้าทีฉลาด ส่วนคนอืนๆ ต่างเป็ นคนโง่อย่างนันรึไง
ข้าจะบอกเจ้าไว้ตรงนีเลยนะว่า ผูม้ ีอาํ นาจคนอืนๆได้
แอบสอดส่องภายในเรือนรับรองตระกูลเว่ยและพบว่าไอ้
33
หนุ่มตระกูลมูน่ นั ได้ออกจากเรือนรับรองไปตังนาน
แล้ว !”

ในขณะนีผูเ้ ป็ นหัวหน้าจึงกระจ่างว่าตนเองทําอะไรผิด สี
หน้าของเขาพลันเปลียนไปในทันที และรีบกล่าวว่า :
“ข้าน้อยจะนํากําลังคนตามออกไปในทันที!”

“เดียว! ” จูลสัี งห้ามด้วยใบหน้าดําคลํา สายตาของ


เขาราวกับสุมไปด้วยความอาฆาตแค้น : “ครังนี ข้าจะ
ไปกับเจ้า ข้าอยากจะเห็นจุดจบอันเจ็บปวดทรมานของ
ไอ้หนุ่มนันและยังมีเงินของข้าอีก ข้าจะทวงกลับคืนมา
ทังหมด!”

สําหรับข้อเสนอของจูลี หัวหน้ากลุม่ มิได้ปฏิเสธแต่อย่าง


34
ไร

ในความคิดของเขา มูช่ ิงเกอเป็ นเพียงแค่เด็กหนุ่มอายุ


10 กว่าปี ถึงจะเก่งกาจแต่ก็คงจะไม่มากนัก และแม้
พลังเวทจะสูง แต่มากทีสุดก็คงจะอยูใ่ นระดับสายเขียว
เท่านัน

ถูกผูม้ ีอาํ นาจทัวทังเมืองจือตามล่าเช่นนี จะสามารถหนี


เอาตัวรอดไปได้อย่างไร

แม้วา่ ข้างๆ เขาจะมีคนคอยช่วย แต่ทว่า คนเหล่านันไม่


ใช่คแู่ ข่งของผูม้ ีอาํ นาจทัวทังเมืองจือเป็ นแน่

35
จากทีได้คาดการณ์เอาไว้ และรูส้ กึ ว่ามูช่ ิงเกอไม่มีทาง
จะหนีรอดไปได้ หัวหน้ากลุม่ จึงได้พาทุกคนออกจาก
จวนตระกูลจูและมุง่ ออกนอกเมืองไปอย่างเร่งรีบ

ในขณะเดียวกัน ภายในหอสรรพสิงทีตังอยูใ่ นเมืองจือ


บนยอดสูงสุดของหอ ตานเฉินจือกําลังยืนรับสายลมที
พัดเข้าหาด้วยใบหน้าแดงปลัง ในมือทังสองข้างของเขา
ถือนําชาร้อนๆเอาไว้ ชมทิวทัศน์เมืองจือในยามคําคืน
ด้วยความสุขอย่างไม่อาจจะอธิบายเป็ นคําพูดได้

ครูห่ นึง ชูเซิงก็ขนมาบนดาดฟ้


ึ า ยืนอยูข่ า้ งหลังตานเฉิน
จือ

เมือสัมผัสได้วา่ มีคนมาอยูข่ า้ งหลังตัว ตานเฉินจือจึงเอ่ย


36
ถามว่า : “เจ้านายออกไปแล้วหรือ”

ชูเซิงส่งเสียง ‘อืม’ คําหนึง ก่อนจะตอบว่า : “เจ้า


นายออกจากเมืองจือตังแต่หวั คํา แต่ทว่า ก่อนจากไป
ได้สงให้
ั ให้ทา่ นรายงานเรืองราวทังหมดทีเกิดขึนในเมือง
จือตอนทีเจ้านายไม่อยูต่ ามความเป็ นจริง”

“รูแ้ ล้ว รูแ้ ล้ว” ตานเฉิงจือสะบัดแขนด้วยความรําคาญ


และพูดอย่างจํานนว่า : “ไม่รูว้ า่ เพราะเหตุใดพ่อหนุ่ม
น้อยมูน่ นจึ
ั งดึงดูดความสนใจจากเจ้านายได้ และยังทํา
ให้ทา่ นทังจับตามองและคิดกลันแกล้งเช่นนี”

ชูเซิงกระตุกมุมปาก พลางคิดในใจว่า ในตอนนีคุณชาย


มูผ่ นู้ นถู
ั กผูม้ ีอาํ นาจทัวทังเมืองจือตามล่า เป็ นเพราะเจ้า
37
นายคนเดียว สําหรับเจ้านายแล้ว อาจจะเป็ นเพียงการ
กลันแกล้ง แต่ทว่า สําหรับคุณชายมูผ่ นู้ นแล้
ั ว อาจจะ
สูญเสียถึงชีวิต ! เฮ้อ ดูเหมือนว่า ควรจะสงบเสงียม
เจียมตัว อย่าไปดึงดูดความสนใจจากเจ้านายปี ศาจนัน
จะดีทีสุด !

……

สายลม นําพาความเ**◌้ยมโหดและพัดผ่านหูไป

ชิวๆๆ——

เงาสีดาํ เคลือนไหวด้วยความรวดเร็วท่ามกลางท้องฟ้า

38
ในยามวิกาล พลันหายไปอย่างไร้รอ่ งรอยด้วยความรวด
เร็ว !

บนยอดเขาทีไกลออกไปจากเมืองจือ เงาร่างสีดาํ เงา


หนึง ทีสง่าผ่าเผย นางยืนอยูท่ า่ มกลางท้องฟ้าสี
รัตติกาลและสายลมดังรูปปั นรูปหนึง

ครูห่ นึง เงาสีดาํ ทีปรากฎจากทัวทุกสารทิศรวมแล้ว 28


คน ต่างมารวมตัวกันข้างหลังตัวนางพลันคุกเข่าลงใน
ทันที

ดูจากภายนอกแล้ว ไม่อาจจะเห็นความแตกต่างจากตัว
พวกเขาได้เลยแม้แต่นอ้ ย ทังความสูงและรูปร่างทีแม้จะ
แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ล้วนถูกเสือคลุมตัวใหญ่ปก
39
ปิ ดเอาไว้

ผูท้ ียืนอยู่ หมวกสีดาํ ถูกดึงออกด้วยมืออันขาวละเอียด


ลออ เผยให้เห็นใบหน้าอันงดงามไร้ทีเปรียบของมูช่ ิงเกอ

ภายใต้เสือคลุมสีดาํ เผยให้เห็นสีแดงโลหิตเป็ นครัง


คราว

“จัดการเรียบร้อยแล้วหรือ” มูช่ ิงเกอพูดเบาๆ

บรรดาผูค้ นทีคุกเข่าอยูบ่ นพืน คนทีอยูใ่ กล้กบั นางทีสุด


เงยหน้าขึน เผยให้เห็นใบหน้าอันเย็นเยียบของมัว
หยาง : “รายงานคุณชาย ข้าน้อยได้หลอกล่อผูม้ ี

40
อํานาจทังหลายออกจากเมืองจือตามคําสังของท่านเป็ น
ทีเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี พวกเขากําลังมุง่ หน้ามายังที
แห่งนี”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ

ในตอนนี นางทะลวงสูส่ ายนําเงินขันสูงสุดแล้ว ในขณะ


ทีใช้จิตสัมผัสเมือคําวันนี นางก็กระจ่างแล้วว่า ผูม้ ี
อํานาจในเมืองจือล้วนไม่เหนือไปกว่าสายนําเงินขันต้น

แต่ทว่า คนของนางมีเพียง 20 กว่าคน นอกจากมัว


หยางทีอยูใ่ นระดับสายครามขันต้นแล้ว ทีเหลือล้วนเป็ น
สายเขียว

41
ผูม้ ีอาํ นาจทังหมดในเมืองจือ รวมกันแล้วน้อยทีสุดก็
อาจจะเป็ นมากกว่า 1,000 คน หากต่อสูส้ ดุ ชีวิต
อาจจะเสียหายไม่นอ้ ย เพราะฉะนัน นางจึงเลือกทีจะใช้
ไม้แข็งสูก้ บั ไม้แข็ง

หากพวกเขาต้องการโอสถในมือของนาง ก็ตอ้ งทําใจที


จะต้องแลกด้วยชีวิต

สายตาของมูช่ ิงเกอมีความเย็นเยียบเกิดขึน จับจ้องผืน


ป่ าอันอุดมสมบูรณ์ทีอยูข่ า้ งหน้า

ข้ามผ่านผืนป่ านีไป ก็จะถึงชานเมืองเมืองอวีจือ

42
“ไปเตรียมตัว เราจะเข้าสูผ่ ืนป่ า” มูช่ ิงเกอกระจายคําสัง
ใหม่

หากว่า การทีนางถูกผูม้ ีอาํ นาจของเมืองจือรอบล้อมเอา


ไว้ เป็ นเกมของคนผูน้ นั ถ้าเช่นนัน ตังแต่นีเป็ นต้นไป
สิทธิในการคุมเกมก็ได้ตกอยูใ่ นมือของมูช่ ิงเกอ นับ
ตังแต่ทีนางพาคนของตนเองเข้าสูผ่ ืนป่ าอย่างเปิ ดเผย
ก่อนทีผูม้ ีอาํ นาจเมืองจือจะตามมาทัน เกมนี ก็ได้กลับ
กลายเป็ นเกมของนางแล้ว

เกมนีจะเป็ นอย่างไรต่อไป ไม่ได้เป็ นไปตามทีผูท้ ีแอบ


ควบคุมเกมวางแผนเอาไว้อีกต่อไป แต่ทงหมดกลั
ั บ
กลายมาเป็ นสิทธิของนาง !
43
“รีบตามไป ! พวกเขาจะเข้าไปในผืนป่ าแล้ว !” คน
กลุม่ แรกทีตามมาถึงก่อนเห็นกับตาว่ามูช่ ิงเกอกําลังพา
กองทหารเขียวมังกรเข้าสูผ่ ืนป่ า

และในครานี นางมิได้หลบซ่อนอีกต่อไป มิหนําซํายัง


เปิ ดเผยรูปโฉมของตนเองต่อหน้าผูค้ นทีมาตามล่านาง

หันกลับมามองท่ามกลางความมืดครูห่ นึง ใบหน้าอันน่า


เย้ายวนนัน ยิงกระตุน้ ให้ผมู้ ีอาํ นาจทีตามล่าจะต้องเอา
ชนะให้ได้

“ช้าก่อน!” ก่อนจะเข้าสูผ่ ืนป่ า ทันใดนันก็มีคนส่ง

44
เสียงห้าม

ผูค้ นทีอยากจะจับตัวมูช่ ิงเกอและอยากได้โอสถเก้าชีวิต


หวนคืนต่างขมวดคิวอย่างไม่พอใจ พลันมองผูท้ ีส่งเสียง
ร้องห้าม

เมือพวกเขาพบว่า เจ้าของเสียงนันคือคนของตระกูล
เนีย เนียซงผูท้ ีอยูใ่ นระดับสายนําเงินขันต้น ยอดฝี มือ
อันดับ 1 ของเมืองจือ ความไม่พอใจของทุกคนก็ลว้ น
ถูกเก็บเอาไว้

เนียซงยืนอยูข่ า้ งหน้าสุดด้วยใบหน้าทีเต็มไปด้วยความ
เย่อหยิง พลางพูดอย่างเยือกเย็นว่า : “ตระกูลผูม้ ี
อํานาจหลายตระกูลขนาดนีไปตามล่าเจ้าหนุ่มนัน แล้ว
45
ถ้าได้ตวั มาแล้วควรจะทําอย่างไรต่อไป ข้าไม่คิดว่าเจ้า
นันจะมีโอสถเก้าชีวิตหวนคืนมากมายถึงเพียงนัน”

“แล้วท่านผูเ้ ฒ่าเนียมีแผนการอย่างไรเล่า” มีคนเอ่ย


ถามขึน

ดวงตาของเนียซงเต็มเปี ยมไปด้วยความหยิงยโส พลัน


เงยหน้าขึนและพูดว่า : “จัดการกับคนเช่นนัน ไม่จาํ
เป็ นต้องมีแผนการหรอก ข้าเพียงแค่จะบอกกับทุกคนว่า
ไม่วา่ เจ้านันจะมีโอสถเก้าชีวิตหวนคืนอีกกีเม็ดก็ตาม
ตระกูลเนียของข้าต้องการ 10 เม็ด”

10 เม็ด !

46
ทุกคนล้วนตืนตระหนก

ยาระดับพลิกฟ้าพลิกปฐพีเช่นนี จะมีจาํ นวนมากมายถึง


เพียงนันได้อย่างไรเล่า

47
ตอนที 103-4 ผูอ้ าวุโส ช่างแปลกคนเสียจริง !

โอสถนันได้ประมูลในหอสรรพสิงไป 2 เม็ดแล้ว หากไอ้


หนุ่มมูย่ งั มีอีกก็คงจะไม่มากกว่าหลักหน่วยเป็ นแน่และ
ท่านผูเ้ ฒ่าเนียผูน้ ียังคงโลภ อยากได้ถงึ 10 เม็ด นีมัน

48
หมายความว่าต้องการทังหมดชัดๆ

ในตอนนี ทุกคนต่างถูกอํานาจของเนีย
ซงบังคับอยู่ ในใจรูส้ กึ เจ็บปวดเพราะความอยากได้
โอสถเก้าชีวิตหวนคืน อีกทังพวกเขาต่างก็ไม่รูว้ า่ ในตัว
ขององครักษ์เขียวมังกรแต่ละคนล้วนมีมากกว่า 10
เม็ด และในทุกๆ 3 เดือน มูช่ ิงเกอก็จะแจกจ่ายให้พวก
เขาอย่างใจกว้าง

ใครใช้ให้โอสถในช่องว่างของนางเป็ นบ่อ
เงินบ่อทองเช่นนีล่ะ

รวมทังในช่องว่างของมูช่ ิงเกอ โอสถเก้า

49
ชีวิตหวนคืนนี ยังมีอีกนับร้อย

แม้วา่ เนียซงจะแบ่งไป 10 เม็ด ทีตระกูล


อืนจะได้รบั ก็คงจะไม่นอ้ ยไปกว่านัน

แน่นอนว่า ก่อนอืน พวกเขาจะต้องแย่ง


โอสถเก้าชีวิตหวนคืนมาจากมือของมูช่ ิงเกอให้ได้เสีย
ก่อน

“หืม ขอถามท่านผูเ้ ฒ่าเนียว่า หากเจ้านันมี


โอสถเก้าชีวิตหวนคืนไม่ถงึ 10 เม็ดจะทําอย่างไรเล่า ”
มีคนพยายามรวบรวมความกล้าในการถามคําถามที
แสดงความเป็ นห่วงต่อทุกคน

50
“ถ้าเช่นนันก็ตกเป็ นของตระกูลเนีย !” เนีย
ซงพูดราวกับทุกอย่างควรเป็ นเช่นนัน

เฮือก—

ความบ้าอํานาจเช่นนี ทําให้ทกุ คนล้วนถอน


หายใจ พลันรูส้ กึ โกรธแค้น แต่ไม่กล้าแสดงความรูส้ กึ
ออกมา

ใบหน้าทีประดับไปด้วยความโกรธแค้นแต่
ไม่กล้าพูดออกมานัน สะท้อนอยูใ่ นดวงตาของชูเซิงที
ตามมาตลอดทาง ชูเซิงพูดอย่างไม่พอใจว่า : “เนีย
ซงนันก็ช่างหน้าด้านเสียจริง เหตุใดจึงหน้าไม่อายได้ถงึ
51
เพียงนี”

พูดจบ เขาก็หนั มองตานเฉินจือทีอยูข่ า้ งๆ


ครูห่ นึง พลันหัวเราะด้วยท่าทีประหลาดว่า : “ท่านผู้
เฒ่าตาน หรือว่าคนเราอายุยงมาก
ิ พลังเวทยิงมากก็จะ
ยิงทําให้หน้าด้านขึนอย่างนันหรือ”

เขายังไม่ลืมว่า ในขณะทีตามออกมา ตา
แก่นีได้แย่งยันต์เทพอําพรางกลินอายพลังจากมือของ
เขาไปอย่างหน้าไม่อาย

ยันต์นนั เขามีเพียง 2 ชินและเป็ นรางวัลที


เจ้านายมอบให้แก่เขา เพือทีจะทําให้เขาสามารถเข้า

52
ใกล้และรายงานข่าวให้กบั เจ้านายโดยไม่ถกู จับได้

ได้ยินมาว่า ยันต์เทพชนิดนี ด้านในมีพลัง


ต้องห้ามทีเก่งกาจ จึงสามารถปกปิ ดกลินอายพลังเวท
ได้อย่างแนบเนียน

ท่านผูเ้ ฒ่าตานสามารถเก็บกลินอายพลัง
เวทของตนเองเองได้ แต่ทว่า กลับยังมาแย่งยันต์จาก
เขา สําหรับชูเซิงแล้วการกระทําเช่นนีเป็ นการกระทําที
หน้าไม่อาย

การเยาะเย้ยของชูเซิง ไม่ได้ทาํ ให้ตานเฉิน


จือรูส้ กึ อับอายเลยแม้แต่นอ้ ย

53
เขาทําได้เพียงส่ายหน้าและพูดว่า :
“ความโลภทําให้คนหลงทาง!”

ชูเซิงแสยะปาก : “ไอ้พวกหมาแก่หน้าไม่
อายกลุม่ นี คนก็ยงั จับไม่ได้ก็มาแบ่งสมบัติกนั เสียแล้ว
ข้าไม่คิดว่าคุณชายมูจ่ ะเป็ นคนทีสามารถจัดการได้โดย
ง่ายหรอกนะ”

“แน่นอนว่าไม่สามารถจัดการได้โดยง่าย” ใน
สายตาชาญฉลาดของตานเฉินจือมีความมืดมนปรากฏ
ขึน หากเป็ นคนธรรมดา จะทําให้เจ้านายเกิดความรูส้ กึ
สนใจได้อย่างไรล่ะ

54
อีกประการหนึง เขาได้เคยสัมผัสกับมูช่ ิงเก
อด้วยตนเองแล้ว ซํายังโดยต้อนจนจนมุมครังแล้วครัง
เล่า

เขาคิดเพียงว่า ในครานีเจ้านายคงได้พบ
กับคูป่ รับเสียแล้ว !

ทันใดนัน เขาก็มีความคิดทีอยากจะตามไป
ดูภาพบรรยากาศทีทังสองพบกันทีเมืองอวีจือด้วยตน
เอง มันคงจะต้องเป็ นภาพอันน่าตืนตาตืนใจเป็ นแน่ !

ตานเฉินจือตาเป็ นประกาย มุมปากยกขึน

55
ในสายตาของชูเซิงแล้วช่างเป็ นรอยยิมทีเจ้าเล่หเ์ สียจริง

“ท่านผูเ้ ฒ่าเนีย หากเป็ นเช่นนันคงจะไม่


เหมาะ ของดียกให้ตระกูลเนียทังหมด แล้วเราจะเหลือ
อะไร” มีคนเอ่ยถามอย่างไม่กลัวตาย

เนียซงขมวดคิวทังสองข้างเบาๆ สายตาอัน
โหดเ**◌้ยมกวาดผ่านผูค้ น

คนทีถูกเขากวาดสายตาผ่าน ต่างก็คิดทีจะ
หลบหลีก แต่ทว่า ทันทีทีคิดได้วา่ เรืองนีเกียวข้องกับ
ผลประโยชน์ของวงศ์ตระกูล จึงได้แต่ฝืนทําหัวแข็ง

56
เมือสัมผัสได้ถงึ ความไม่พอใจของทุกคน
ประมุขตระกูลเนียคนปั จจุบนั ก็แอบกระซิบข้างหูเนียซง

หลังจากนัน สีหน้าของเนียซงก็ดแู ย่ลงมาก


พลันพูดว่า : “หึ เห็นแก่ทีท่านเนียขอความเป็ นธรรมให้
กับพวกข้า ถ้าเช่นนัน......หากเจ้านันมียาอยูไ่ ม่เกิน
10 เม็ด ตระกูลเนียของเราต้องได้ 1 ใน 3 ของยาทัง
หมด ทีเหลือพวกเจ้าไปแบ่งกันเอง หากเขายังมีสมบัติ
อืนๆในตัว ตระกูลเนียของเราก็ไม่แตะต้องเลยแม้แต่ชิน
เดียว”

ตระกูลเนียต้องการ 1 ใน 3 เชียวหรือ

57
ทุกคนล้วนคาดการณ์ในใจ

ถึงแม้วา่ ไอ้หนุ่มตระกูลมูจ่ ะมีโอสถเก้าชีวิต


หวนคืนเหลือเพียง 9 เม็ด ก็จะถูกตระกูลเนียครอบ
ครองไปแล้ว 3 เม็ด เหลือเพียง 6 เม็ด แม้วา่ ผูม้ ี
อํานาจน้อยใหญ่ทีอยูท่ ีนี รวมๆ แล้วจะมี 10 กว่า
ตระกูล แต่ทว่า โอสถแค่ 6 เม็ดก็ไม่สามารถจะแบ่งให้
เท่ากันได้ หากยังมีสมบัติอืนๆ ก็ยงั ถือว่าไม่เลว

แต่วา่ .....

มีคนสัมผัสได้ถงึ บางอย่างทีซ่อนอยูใ่ นคํา


พูด

58
เนียซงกล่าวเพียงว่า หากมีไม่ถงึ 10 เม็ด
ตระกูลเนียจะต้องการ 1 ใน 3 แต่หากมีมากกว่า 10
เม็ดล่ะ แม้วา่ จะเป็ นไปไม่คอ่ ยได้ แต่ถา้ หากมีจริงล่ะ

หากไอ้หนุ่มตระกูลมูม่ ีโอสถเก้าชีวิตหวนคืน
ในครอบครอง 11 เม็ดพอดี ถ้าเช่นนัน ตระกูลเนียจะ
ทําอย่างทีเคยกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี ว่าต้องการ 10
เม็ด แล้วทีเหลืออีก 1 เม็ดให้พวกเขาแบ่งกันอย่างนัน
หรือ

แต่วา่ ตระกูลเนียได้ถอยออกมาก้าวหนึง
แล้ว หากยังจะต่อล้อต่อเถียง เกรงว่าจะทําให้เนีย
ซงเกิดโทสะ
59
เมือไม่สามารถทําอะไรได้ ทุกคนจึงทําได้
เพียงเก็บความไม่พอใจเอาไว้ และตอบตกลง หากจับ
กุมตัวมูช่ ิงเกอและรูอ้ ย่างกระจ่างชัดว่ามีโอสถเหลืออยู่
อีกกีเม็ด แล้วค่อยคิดหาแผนการ

ในทีสุดทุกคนก็ตกลงกันได้และเตรียมเข้า
ไปตามล่าในผืนป่ า

ในตอนนี กลับมีคนเดินออกมา

“ข้าไม่ได้ตอ้ งการโอสถนัน แต่วา่ ข้าต้องการ


เงินทีไอ้หนุ่มตระกูลมูโ่ กงข้าไป ! และคนของเขาก็ตอ้ ง

60
เป็ นของข้า!” จูลก้ี าวออกมา พร้อมพูดอย่างเย่อหยิง

สําหรับโอสถ เขามี 1 เม็ดแล้ว จึงไม่ได้


สนใจ หากได้ตาํ ลึงทองทัง 30 ล้านและแก่นสมองของ
สัตว์ทงั 100 แก่นกลับคืนมา โอสถนันก็ถือว่าได้มา
ฟรีๆ แล้วมิใช่หรือ

สิงทีสําคัญทีสุดคือ เขาสามารถทําให้ไอ้
เจ้านันได้รบั บทเรียนอย่างสาสม !

ระดับพลังเวทของจูลเมื
ี ออยูท่ า่ มกลางคน
เหล่านีแล้วไม่ถือว่าสูงมากนัก แต่วา่ เขามีพีสาวผูท้ ีเป็ น
ทีโปรดปรานมากทีสุดในแคว้นลี แม้วา่ เนียซงจะเย่อ
หยิงและผยองมากเพียงใด ก็ไม่อาจจะไปล่วงเกินเชือ
61
พระวงศ์ได้

เพราะฉะนันหลังจากทีจูลพูี ดจบ เนีย


ซงเพียงหันไปมองอย่างสงบนิงแวบหนึงและไม่ได้
ปฏิเสธแต่อย่างใด

แม้แต่เนียซงยังไม่ปฏิเสธ แล้วคนอืนๆ ยัง


จะกล้าพูดอะไรอีก

ขบวนของคนจํานวนนับ 1,000 ในทีสุดก็


ทําข้อตกลงกันจนเสร็จสิน และมุง่ หน้าเข้าไปยังผืน
ป่ า.........

62
คนกลุม่ นี ได้ถกเถียงกันนอกผืนป่ าเป็ น
เวลาเนินนาน ในขณะนี มูช่ ิงเกอได้พากองทหารเขียว
มังกรและสาวใช้ทงสองอย่
ั างโย่วเหอและฮวาเยียวมารอ
จนแทบจะหมดความอดทนแล้ว

ผืนป่ าแห่งนี คือสนามล่าของพวกเขา

หลังจากทีก้าวเข้ามาในผืนป่ าแห่งนี พวก


เขาพลันเดินเข้าป่ า พลางวางกับดักเอาไว้อย่างชาญ
ฉลาด

ความสามารถเหล่านีได้รบั การสืบทอดโดย
ตรงจากมูช่ ิงเกอผูท้ ีทะลุมิติมา ยังจําสายตาอันตกตะลึง
อย่างหาทีสุดมิได้ เมือครังทีกองทหารเขียวมังกรเห็นกับ
63
ดักเหล่านีเป็ นครังแรกได้

ผืนป่ ากว้างใหญ่มาก สามารถวางกับดักได้


มากมาย

หลังจากทีได้วางแผนการทังหมดเสร็จสิน
แล้ว องครักษ์เขียวมังกรได้อาํ พรางตัวอยูใ่ นทีลับ เพือ
รอโอกาสลงมือ

64
ตอนที 103-5 ผูอ้ าวุโส ช่างแปลกคนเสียจริง !

65
พระจันทร์คอ่ ยๆ เคลือนตัวลงจนลับขอบฟ้าและพระ
อาทิตย์คอ่ ยๆ เข้ามาแทนที

ในตอนนี เป็ นตอนกลางคืนและกลางวันมา


บรรจบกัน ภายในผืนป่ ายังไม่สว่างอย่างเต็มที เงาร่มไม้
ทับซ้อนกันสลับกันสวยงาม

ทันทีทีเข้าสูผ่ ืนป่ า ทุกคนต่างรูส้ กึ ว่ากิงไม้


อันน่ากลัวนันราวกับเป็ นสัตว์ทีมีเล็บเขียวและกําลังพุง่
เข้าหาพวกเขา

ทัวทังผืนป่ าเงียบสงบจนได้ยินเสียงนกกาที
อยูใ่ นรังและไม่ได้กลินไอของมนุษย์ ราวกับว่า เหล่ามู่
ชิงเกอและคนอืนๆ ทีเข้ามาก่อนหน้านี ได้หายตัวไป
66
อย่างไร้รอ่ งรอยแล้ว

“ทีนีดูน่าแปลกยิงนัก” มีคนเอ่ยถามขึนอย่าง
ระมัดระวัง

เนียซงตอบกลับอย่างเหยียดหยามว่า :
“ป่ าผืนนีพวกเจ้าก็ไม่ได้มาเป็ นครังแรก ยังจะแปลกใจ
อะไรอีก เพียงแค่มีคนใช้แสงสีจากรัตติกาลในการสร้าง
ภาพลวงตาก็เท่านัน”

“ใช่ๆๆ! ทีท่านผูเ้ ฒ่าเนียพูดนันมีเหตุผล


พวกเขาเพียงแค่หลบอยูใ่ นนี รอให้เราออกไปก่อนแล้ว
จึงค่อยหลบออกจากทีนี” มีคนพูดอย่างชืนชม

67
เนียซงจึงพูดว่า : “เราแยกกันและค่อยๆ
เข้าไปภายในผืนป่ า แม้วา่ จะต้องพลิกผืนแผ่นดิน ก็จะ
ต้องหามันให้เจอ!”

“จุดสินสุดของผืนป่ าแห่งนีอยูต่ ิดกับเมืองอวี


จือ เราจะต้องเกณฑ์กาํ ลังคนเดินทางไปรอทีทางออก
จากป่ าตรงถนนเส้นหลักเมืองอวีจือหรือไม่ เพือกันไว้
ก่อน” มีคนเสนอความคิดขึน

หากจะทะลุผา่ นผืนป่ า ต้องใช้เวลา 8 วัน


หากเดินทางโดยใช้ถนนเส้นหลัก อย่างมากทีสุดก็ใช้
เวลาเพียง 5-6 วัน ถ้าแยกกันตอนนี แน่นอนว่าจะ
สามารถปิ ดทางออกก่อนทีมูช่ ิงเกอจะหนีออกไปได้และ
68
ทําให้นางติดอยูใ่ นผืนป่ าแห่งนี

คนจํานวนไม่นอ้ ยแอบพยักหน้าเบาๆ คิด


ว่าข้อเสนอนีไม่เลว

หากทําเช่นนี ทุกอย่างก็จะดูมนคงมากขึ
ั น
กว่าเดิม !

แต่ทว่า เนียซงยังคงพูดอย่างเผด็จการ :
“ไม่จาํ เป็ น ! พวกเจ้าคิดว่ามันยังจะมีโอกาสออกจาก
ผืนป่ าแห่งนีอีกหรือ เหตุใดต้องทําอะไรเกินความจําเป็ น
ด้วย!”

69
เขามันใจเป็ นอย่างมาก จนคนอืนๆ ไม่กล้า
เข้าไปกระตุกหนวดเสือ

ในตอนนี จูลเองก็
ี พดู อย่างเห็นด้วยว่า :
“ข้าเองก็คิดว่าไอ้หนุ่มตระกูลมูค่ งไม่สามารถออกจาก
ผืนป่ าแห่งนีได้เป็ นแน่ พวกเขาเพิงจะเข้ามาไม่นาน อีก
ทังกําลังคนของเราก็มีมากมายและคุน้ เคยกับสถานทีนี
เป็ นอย่างดี มีหรือทีจะตามคนนอกพืนทีพวกนันไม่ทนั ”

ผูท้ ีเก่งกาจและมีเบืองหลังมากทีสุดของ
เมืองจืออกตัวยืนยันแล้ว คนอืนๆ ยังจะกล้าพูดอะไรได้
อีก

เมือไม่สามารถทําอะไรได้ จึงทําได้เพียงแค่
70
ทําตามทีเนียซงกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี เหล่าผูม้ ีอาํ นาจ
กระจายตัวกันออกไป แล้วเข้าไปค้นภายในส่วนลึกของ
ผืนป่ า

องครักษ์เขียวมังกรอําพรางตัวอยูภ่ ายใน
ท้องฟ้าสีรตั ติกาลและรอเหยือมาติดกับดัก

มูช่ ิงเกอเองก็อยูบ่ ริเวณทางเข้าของผืนป่ า


เลือกต้นไม้แก่ตน้ ใหญ่ตน้ หนึงและนังอยูบ่ นนัน สายตา
อันเย็นเยียบจับจ้องผูค้ นและฟั งบทสนทนาทังหมด

ในขณะเดียวกัน นางก็สงั เกตเห็นตานเฉิน


จือและชูเซิงทีอยูบ่ ริเวณอันห่างไกล

71
รอยยิมอันคลุมเครือปรากฏบนมุมปากของ
นาง สายตาอันสว่างเต็มเปี ยมไปด้วยความขบขัน

คนอืนๆ นางไม่สนใจ ต่างก็เป็ นเพียงแค่


พวกโง่ทีถูกคนชักใยก็เท่านัน นางสนใจเพียงแค่จลู เพี
ี ยง
คนเดียว คนผูน้ ีช่างวอแวไม่เลิก หากไม่ให้บทเรียนสัก
หน่อยก็คงจะเสียดายความดินรนนีของเขา

คนนับพันค่อยๆ หายไปจากสายตาของ
นาง

ในตอนนี ตานเฉินจือได้และชูเซิงได้เดินมา

72
หยุดอยูด่ า้ นล่างต้นไม้ทีนางอยู่

ดวงตาอันงดงามและสว่างจับจ้องพวกเขา
ทังสองเอาไว้โดยทีพวกเขาไม่รูต้ วั เลย

“ท่านผูเ้ ฒ่าตาน ตอนนีเราจะตามใครดีเล่า”


ชูเซิงถามด้วยใบหน้าทุกข์ใจ

คนนับพันแยกย้ายกันดําเนินตามแผน เขา
จะจับตาดูอย่างไรไหวและจะรายงานกับเจ้านายอย่างไร

ตานเฉินจือพูดอย่างลําบากใจว่า : “ข้าเอง
ก็คิดไม่ถงึ ว่าสหายน้อยมูจ่ ะเจ้าแผนการมากถึงเพียงนี

73
หลอกล่อทุกคนเข้ามาภายในผืนป่ า เจ้านายอยากจะดู
ละครสนุกๆ คงจะเป็ นไปไม่ได้แล้ว เราทังสองไม่วา่
อย่างไรก็ไม่อาจเห็นสถานการณ์ทงหมดได้
ั ”

“ทําอย่างไรดี เราจะกลับไปเช่นนีหรือ คงจะ


ถูกเจ้านายทรมานจนตาย !” ใบหน้าของชูเซิงเต็ม
เปี ยมไปด้วยความหวาดกลัว เขาเคยเห็นพวกคนทีทํา
งานไม่ได้เรืองและถูกเจ้านายลงโทษ แม้วา่ จะไม่ตาย
แต่ก็สาหัสไม่นอ้ ย

ตัวอย่างเช่น มีคนโดนลงโทษ ให้ใช้ชีวิต


โดยการเอากระโถนวางไว้บนหัว

และอีกตัวอย่างหนึง มีคนโดนลงโทษให้
74
นอนบนเตียงทีเต็มไปด้วยตะปู รวมทังยังมีคนโดนลง
โทษให้แต่งเป็ นหญิงแล้วออกไปต้อนรับลูกค้าหน้าหอ
สรรพสิง

เมือคิดถึงตัวอย่างอันน่าผวาดเช่นนี ชูเซิงก็
ปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีก !

“ไม่กลับไป แล้วจะทําอะไรได้” ใบหน้าของ


ตานเฉินจือก็บิดเบียวราวกับกระเบืองเคลือบแตกๆ

ชูเซิงเอามือกุมหัวและพยายามคิดหาวิธี

ครูห่ นึง เขาจึงพูดกับตานเฉินจือว่า : “ถ้า

75
เช่นนัน เราแยกย้ายกันไปตามคนละกลุม่ ดีหรือไม่”

“ตามไปอย่างนันหรือ” ตานเฉินจือเหล่ตา
มองเขา

ชูเซิงคิดเอาไว้ตงแต่
ั แรกแล้วและรีบ
ตอบกลับว่า : “ถ้าเช่นนันเลือกเป้าหมายเป็ นกลุม่ ของ
ตระกูลเนียและตระกูลจู ! ข้าว่าสองตระกูลนีน่าติดตาม
มากทีสุด”

ตานเฉินจือเองก็พยักหน้าชืนชม : “ก็ได้ !
ถ้าเช่นนันก็สองตระกูลนี ข้ารับผิดของตระกูลเนีย เจ้า
รับผิดชอบตระกูลจู จําไว้วา่ ไม่วา่ จะพบเจอเรืองราวอัน
ใด ก็ตอ้ งอําพรางกายให้ดี ห้ามเปิ ดเผยตัวตนเด็ดขาด
76
และห้ามดึงหอสรรพสิงและเจ้านายของเราเข้าไปเกียว
ข้อง นีถือเป็ นกฎเหล็กของเจ้านาย”

ชูเซิงพยักหน้า

เรืองนี ไม่จาํ เป็ นต้องให้ตานเฉินจือคอย


เตือน เขาก็ไม่ลืมแน่นอน

เจ้านายของพวกเขาชอบกลันแกล้งและขี
เล่น แต่ทว่า ทีโปรดปรานมากกว่าคือการนังดูเรืองสนุก
อยูข่ า้ งๆ หากถูกดึงเข้าไปเกียวข้องล่ะก็ แม้จะใช้กน้ คิด
ชูเซิงก็สามารถจินตนาการจุดจบอันน่าอนาถของตนเอง
ได้

77
เมือตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็
แยกย้ายกันออกไปปฏิบตั ิงาน

มูช่ ิงเกอทีอําพรางตัวอยูบ่ นพุง่ ไม้ กลับหรี


ตาทังสองข้างลง พลางพึมพําว่า : “เจ้านายอย่างนัน
หรือ”

นาง ราวกับจะหาตัวการผูอ้ ยูเ่ บืองหลังของ


เรืองนีได้แล้ว !

ไม่ชอบให้ตนเองถูกดึงเข้าไปเกียวข้องกับเกมทีตน
เองวางแผนขึนมาอย่างนันหรือ นีไม่ใช่เรืองทีเจ้าจะ
สามารถกําหนดเองได้ ! สายตาของมูช่ ิงเกอสาด
78
ประกายอันตราย

เป้าหมายของสายตานัน แน่นอนว่าคือเจ้า
นายแห่งหอสรรพสิง !

“ฮัดชิว!”

บนรถม้าทีกําลังมุง่ หน้าไปยังเมืองอวีจือ มี
เสียงจามดังขึนอย่างกะทันหัน

ผูต้ ิดตามทีเดินเท้าอยูน่ อกรถม้า รีบเดินมา


อยูต่ รงหน้าประตูหน้าต่างรถม้าและโน้มตัวลงถามว่า :
“เจ้านาย ท่านไม่สบายหรือ”

79
“อืม ไม่รูว้ า่ หญิงสาวตระกูลใดกําลังคิดถึง
ข้า” เสียงอันไพเราะและแฝงความเกียจคร้านของชาย
หนุ่มดังออกมา เสียงนันราวกับตัวหนอนทีคลานเข้าสูร่ ูหู
อย่างนัน ทําให้ทงขนลุ
ั กและจักจีจนแทบจะทนไม่ได้

……

ผืนป่ าทีเชือมระหว่างเมืองจือและเมืองอวี
จือ คนนับพันกําลังค้นหาอย่างละเอียดและรอบคอบ

ยิงลึกเข้าไป ผูม้ ีอาํ นาจแต่ละตระกูลก็ยงิ


กระจายตัวห่างจากกันมากขึนและถูกเงาไม้ทีซับซ้อนกัน
บดบังเงาร่าง
80
ทันใดนัน ผูท้ ีกําลังค้นหาอยูผ่ หู้ นึง พลัน
สะดุดและพุง่ ตัวไปข้างหน้าอย่างไม่อาจควบคุมตนเอง
ได้และในขณะทีเขากําลังจะส่งเสียงร้อง กิงไม้แหลมคม
กิงหนึงก็ได้แทงทะลุลาํ คอของเขา

ยังไม่ทนั จะได้สง่ เสียงเลยแม้แต่คาํ เดียว


คนผูน้ นก็
ั ได้หมดลมหายใจไปแล้ว

เมือมีพวกเดียวกันมาตามหา จึงพบว่าคนผู้
นีได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ดูเหมือน
ว่าจะสะดุดตอไม้ตอหนึงภายในผืนป่ าล้มลง และ
บังเอิญถูกกิงไม้แหลมทีปั กอยูบ่ นดินแทงทะลุลาํ คอ

81
ทุกอย่างราวกับเป็ นเพียงอุบตั ิเหตุเท่านัน

แต่ทว่า อุบตั ิเหตุเช่นนีกลับเกิดขึนท่าม


กลางขบวนของคนนับพันโดยไม่มีตน้ สายปลายเหตุ

เมือท้องฟ้าสว่างขึน ในขณะทีขบวนของผูม้ ี
อํานาจนับพันต่างพักการเดินทาง จึงได้สงั เกตเห็นว่า
ในตอนทีพวกเขาไม่ทนั รูต้ วั พรรคพวกตัวเองก็ได้เสียชีวิต
ไปเป็ นร้อยแล้ว

ผลลัพธ์เช่นนี ทําให้ทกุ คนล้วนตะลึงอย่าง


หาทีสุดมิได้ !

82
ผืนป่ าทีพวกเขาคุน้ เคยเป็ นอย่างดีผืนนี
อันตรายมากถึงเพียงนีตังแต่เมือไหร่กนั

และสิงทีน่ากลัวทีสุดคือ คนทีพวกเขากําลัง
ตามล่า ยังไม่พบแม้กระทังเงา แต่กาํ ลังคนของพวกเขา
เองกลับสูญเสียไปไม่ใช่นอ้ ย

ผูน้ าํ ของตระกูลผูม้ ีอาํ นาจต่างก็มีสีหน้าดํา


คลํา

พวกเขาต่างส่งคนออกไปติดต่อกับผูม้ ี
อํานาจทีอยูร่ อบๆ ไม่นาน คนของผูม้ ีอาํ นาจนับ พันที
กระจายออกจากกัน ก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครัง

83
เมือพบกันอีกครัง ทุกคนก็พบว่า สีหน้าของ
เนียซงเองก็ไม่ได้ดีมากนัก

เมือถามแล้วจึงกระจ่างว่า ช่วงทีผ่านมา
ตระกูลเนียได้สญ
ู เสียลูกหลานสายเหลืองไปถึง 3คน

จึงไม่แปลกทีสีหน้าของเนียซงจะดูแย่ราว
กับไปกินอาจมมาอย่างนัน

ทุกคนล้วนตกอยูท่ า่ มกลางความเงียบ ไม่


กล้าถึงพูดเรืองนี

84
มีเพียงจูลคนเดี
ี ยวทีนับว่าโชคดี คนทีพา
ออกมาไม่มีใครเสียชีวิต ในตอนนี เมือเห็นใบหน้าของ
ทุกคนล้วนมืดมน สายตาอันโหดเ**◌้ยมของเขาจึง
เกิดความเย็นเยียบขึนและพูดว่า : “หรือว่าทีทุกคนกลัว
โดยไม่มีสาเหตุเช่นนี ก็เพราะแค่อบุ ตั ิเหตุเท่านัน”

“หึ ! อุบตั ิเหตุอย่างนันหรือ เพียงไม่กีคน


อาจจะนับว่าเป็ นอุบตั ิเหตุได้ แต่นีมันร้อยกว่าคนเชียว
นะ !” มีคนพูดอย่างไม่พอใจ

“คนนับร้อยแล้วอย่างไร ท้องฟ้ามืดถึงเพียง
นี หากจะเห็นทางไม่ชดั ก็ไม่ใช่เรืองแปลก หรือว่าเราจะ
ยอมถอดใจแค่นี หึ ช่างเป็ นพวกไม่เอาไหน พวกเจ้าถูก
ผืนป่ าทําให้ตกใจจนไม่กล้าทีจะเดินต่อ ข้าเองกลับคิด
85
ว่า การตายของคนนับร้อยนีเป็ นเพราะไอ้เด็กตระกูลมู่
นันเพียงคนเดียว ! หากไม่ใช่เพราะมันหนีเข้าป่ ามา คน
ของพวกเจ้าจะตายได้อย่างไร!” จูลพูี ดแสดงเหตุผล

ราวกับว่า เรืองราวทีเกิดขึนทังหมดล้วนมี
สาเหตุมาจากมูช่ ิงเกอ แต่กลับไม่เคยคิดเลยว่า หากไม่
ใช่เพราะความโลภของพวกเขา ทีอยากได้อยากได้โอสถ
เก้าชีวิตหวนคืนของมูช่ ิงเกอ ก็คงจะไม่หลงกลกับดักเช่น
นี

เมือถูกคําพูดของจูลโน้
ี มน้าว ก็พลันมีคน
พูดด้วยใบหน้าอันแดงกําและมีโทสะว่า : “ใช่ ! เป็ น
เพราะไอ้เด็กตระกูลมูเ่ พียงคนเดียว ตอนนีท้องฟ้าก็
สว่างแล้ว ข้าจะคอยดูวา่ พวกมันจะหลบซ่อนตัวได้ถงึ

86
เมือไหร่ หากเจอตัวมัน จะต้องเฉือนเนือเลาะกระดูกมัน
เพือดับเพลิงแค้นในใจข้า!”

ท่าทางเต็มไปด้วยอารมณ์เช่นนี ดูเหมือน
ว่า ในจํานวนของผูเ้ สียชีวิตเกือบร้อยคนนัน จะมีใครคน
หนึงทีมีความสัมพันธ์อนั ลึกซึงกับเขา

“พอเถิด ตอนนีท้องฟ้าก็เริมสว่างแล้ว ไอ้เจ้า


คนตระกูลมูค่ งจะหลบต่อไปไม่ได้แล้ว เรารีบลงมือและ
จับตัวเขามาให้ได้ ถึงตอนนันแก้แค้นอย่างไรก็สดุ แล้ว
แต่ทกุ คน” เสียงตะโกนอันเคร่งขรึมและแฝงไอสังหาร
ของเนียซงดังขึน

ตานเฉินจือและชูเซิงทีแอบสังเกตการณ์อยู่
87
ได้กลับมาพบกันอีกครังเพราะคนพวกนีกลับมารวมตัว
กัน

เมือได้ยินคําพูดของเนียซง ชูเซิงก็พดู อย่าง


ไม่พอใจว่า : “เป็ นเพียงอุบตั ิเหตุ แต่ก็ยงั โทษคุณชายมู่
คนเหล่านีช่างหน้าไม่อายยิงนัก !”

“อุบตั ิเหตุอย่างนันหรือ” ตานเฉินจือยิมอย่าง


เย็นเยียบ สายตาของเขาฉายแววเคร่งขรึม พลันคิดใน
ใจว่า : กลัวแต่วา่ การตายของคนเหล่านีจะมีสว่ นเกียว
ข้องกับสหายน้อยมูจ่ ริงๆ ถ้าเช่นนัน เขาต้องไม่ใช่คน
ธรรมดาเป็ นแน่ เกรงว่าในครานี เจ้านายจะสะดุดเข้า
กับก้อนหินก้อนโต และสร้างปั ญหาเสียแล้ว ไม่ได้
การ ! ต้องรีบรายงานเจ้านายแล้ว !
88
ตอนที 104-1 จอมปี ศาจหานฉายไฉ่

ช่วงเวลากลางวัน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในวันนี ผูค้ นนับพันทีกําลังออกตามล่าต่าง


ระมัดระวังตัวกันมากขึนและก็ไม่มีผใู้ ดได้รบั บาดเจ็บ
หรือเสียชีวีตอีกเลยแม้แต่คนเดียว !

แต่ทว่า เป้าหมายของพวกเขา กลับไม่ปรากฏ


แม้กระทังเงา
1
ทุกคนราวกับกําลังรูส้ กึ ไปเองว่า ——ไอ้หนุ่ม
ตระกูลมูแ่ ละคนของเขาหลังจากทีเข้ามาภายในผืนป่ า
แห่งนีแล้ว ก็ได้สลายหายไป

กลายเป็ นใบไม้หรือดินโคลนทีไม่สามารถหาเจอ
ได้อีก

แต่ทว่า เมือคิดจะยอมแพ้ ก็ถกู โอสถเก้าชีวิต


หวนคืนคอยดึงดูดเอาไว้

ขบวนของคนจํานวนนับพันทีเหนือยมาแล้วทัง
วัน หลังจากทีได้พกั ผ่อนครูห่ นึงแล้วก็ออกเดินทางอีก

2
ครัง เพือหาร่องรอยของมูช่ ิงเกอ

พวกเขาต่างก็ไม่รูว้ า่ ทันทีทีดวงอาทิตย์ตกดิน
และท้องฟ้าค่อยๆ กลายเป็ นสีรตั ติกาลนัน เทพแห่ง
ความตายก็จะเคลือบคลานเข้ามาเยือนอีกครัง

“อ๊าก——!” เสียงกรีดร้องอันแหลมคม ราวกับ


ได้ทะลวงท้องฟ้าเหนือผืนป่ าแห่งนี

เสียงนันสนันหวันไหวไปทังผืนป่ า ทําให้เหล่านก
กาบินออกจากรังและทําให้พรรคพวกคนอืนๆ ตืน
ตระหนกตามไปด้วย

3
“เกิดอะไรขึน นันใครกําลังร้อง”

“เหมือนจะมาจากทางฝังของตระกูลเนีย !”

“ตระกูลเนียอย่างนันหรือ?!”

“เร็ว ! รีบเข้าไปดูวา่ เกิดอะไรขึน !”

ผูค้ นทีกระจายตัวออกจากกัน ได้กลับมารวมตัว


กันอีกครัง พลันมุง่ ไปยังบริเวณทีตระกูลเนียกําลังค้นหา
อยู่

ในขณะเดียวกัน ในบริเวณทีตระกูลเนียกําลัง
4
ค้นหาอยู่ เนียซงก็นาํ ลูกน้องคนอืนๆ ของตระกูลมุง่ หน้า
เข้าไปยังต้นกําเนิดของเสียงอย่างรวดเร็ว

คนอืนๆ อาจจะไม่คนุ้ เคยกับเสียงนันมากนัก


แต่ทว่า เขากลับรูจ้ กั เป็ นอย่างดี

เพราะว่า นันคือเสียงลูกชายทีผูส้ ืบทอดตระกูล


เนียคนปั จจุบนั รักมากทีสุดและเป็ นหลานทีเขารักมากที
สุดคนหนึงเช่นกัน

ในการมาตามล่ามูช่ ิงเกอในครานี ตอนแรกถือ


ว่าเป็ นการฝึ กภาคสนามของตระกูลและคิดว่าไม่มี
อันตรายอันใด ทว่าในตอนนีกลับมีอนั ตรายอยูร่ อบด้าน

5
ผืนป่ าทีเคยคุน้ เคยเป็ นอย่างดี พอถึงเวลากลาง
คืน กลับกลายเป็ นดังปี ศาจกินคนทีคร่าชีวิตผูค้ นไป
อย่างไม่รูห้ ยุด

“เฉินเอ๋อร์ ! เฉินเอ๋อร์ ! เจ้าพูดสิ ! ตอบพ่อที!”

เนียซงยังไม่ทนั ได้เข้ามาใกล้ ก็ได้ยินเสียงอัน


เศร้าโศกของประมุขตระกูลเนีย เสียงนันเต็มไปด้วย
ความเสียใจและความโกรธแค้น แม้วา่ จะอยูไ่ กลเพียงใด
ก็สามารถสัมผัสได้

แย่แล้ว !

6
ในใจของเนียซงพลันรูส้ กึ ว่ากําลังจะเกิดเรืองขึน
บนกายมีแสงสีนาเงิ
ํ นส่องประกายขึน แล้วทังตัวของเขา
ก็พลันหายไป

เมือปรากฏตัวอีกครัง เขาก็เห็นท่านเนียทีใน
ตอนนีนังคุกเข่าอยูก่ บั พืนกอดร่างไร้วิญญาณแล้วร้องไห้
ด้วยความเจ็บปวด

เนียซงรีบพุง่ เข้าไป สิงทีเห็นตรงหน้า กลับทําให้


เขาอึงจนพูดอะไรไม่ออก ในแววตาเต็มไปด้วยไอสังหาร
เต้นระริก

7
ร่างไร้วิญญาณของชายหนุ่มทีอยูใ่ นอ้อมกอด
ของท่านเนีย เต็มไปด้วยเถาวัลย์ของไม้มีพิษ หนามอาบ
พิษทิมแทงตัวเขาจนไม่เหลือสภาพ ร่างไร้วิญญาณร่างนี
ค่อยๆ กลายเป็ นสีมว่ งคลํา สภาพการตายนันน่าหวาด
ผวาเป็ นอย่างมาก

ผืนป่ าทีไม่มีแม้กระทังสัตว์วิญญาณนี จะมี


เถาวัลย์ทีเต็มไปด้วยพิษเช่นนีได้อย่างไรกัน

เนียซงเองก็คงคิดไม่ถงึ เขาปล่อยหมัดออกไป
ทําให้เถาวัลย์พิษทีพันอยูบ่ นร่างของศพคลายออก ลอย
ขึนกลางอากาศ เถาวัลย์พิษได้แปรเปลียนเป็ นเศษ
ผงกระจายลงทัวพืนดินเพราะลมหมัดอันรุนแรงนัน

8
“เฉินเอ๋อร์ ! เฉินเอ๋อร์ !” ท่านเนียทีจมอยูใ่ น
ความเจ็บปวด ไม่อาจจะทําใจได้

เนียซงกลับยืนอยูข่ า้ งๆ เขา และสังเกตรอบๆ ใน


ดวงตาคูน่ นเต็
ั มไปด้วยความเ**◌้ยมโหด ราวกับอยาก
จะดึงเถาวัลย์พิษทังหมดออกมา เพือเป็ นการแก้แค้น !

‘เถาวัลย์พิษอย่างนันหรือ ! หึ ภายในผืนป่ าแห่ง


นี แม้วา่ จะมีเถาวัลย์พิษจริงๆ แต่จะมีผลลัพธ์อนั น่าทึง
เช่นนีหรือ’ ตานเฉินจือทีแอบสังเกตการณ์ทกุ อย่างอยูใ่ น
ทีมืดได้กระจ่างเรืองราวทังหมดแล้ว

9
เขากล้าใช้เกียรติแห่งการเป็ นนักปรุงยาของตน
เองยืนยันเลยว่า เป็ นความจริงทีเถาวัลย์นีเป็ นเถาวัลย์
พิษ แต่วา่ ได้ถกู ใครคนหนึงวางยาพิษทีมีผลลัพธ์รา้ ย
แรงกว่าลงบนหนามเอาไว้ก่อน

ใครกัน ทีคิดลงมืออย่างโหดเ**◌้ยมเช่นนี

คําตอบนัน ไม่ตอ้ งบอกก็รู ้

นีถือเป็ นการลอบสังหารกันชัดๆ ! ไม่วา่ จะเป็ น


ใคร เพียงเดินเข้าไปในกับดักและไม่มีความสามารถมาก
พอทีจะหนี มีแต่ตายสถานเดียว !

10
ความกลัวเกิดขึนในใจของตานเฉินจือ แผ่นหลัง
ค่อยๆ มีเหงือชืนซึมออกมา

หากว่าเขาเองไม่ระมัดระวัง จุดจบก็คงจะต้อง
ตายเพราะ ‘อุบตั ิเหตุ’ เหมือนคนพวกนันใช่หรือไม่

เมือคิดถึงความเป็ นไปได้นี ตานเฉินจือก็กลืน


นําลายอย่างยากลําบาก เขารําไห้ตดั พ้อในใจ: เจ้านาย
นะเจ้านาย ! คราวนีท่านไปยัวโทสะปี ศาจประเภทใดกัน
ท่านจะสามารถชนะเหมือนทีผ่านมาได้หรือไม่

เนียซงอยูท่ ีนีและกําลังโกรธแค้นอย่างทีสุด ตาน


เฉินจือไม่อยากจะถูกจับได้ หลังจากทีสงบอารมณ์ในใจ

11
ได้แล้ว จึงค่อยๆ ถอยออกมาอย่างเงียบๆ

และในขณะนีเอง ทัวทังผืนป่ าได้เกิดเสียงกรีด


ร้องอันน่าสยดสยองดังขึน

ทันใดนัน ผูค้ นทีเข้ามาภายในผืนป่ าก็ตืน


ตระหนกขึนมาอีกครัง

ยิงตืนตระหนกมากเพียงใด ก็ยงง่
ิ ายต่อการหลง
เข้าไปในกับดักมากเท่านัน

ดวงตาแต่ละคูท่ ีสังเกตการณ์ทกุ อย่างอยูใ่ นที


มืด มองคนทีตายเพราะกับดักทีตนเองสร้างขึนอย่าง
12
แนบนิง ในหัวสมองกําลังคิดวิเคราะห์วา่ ในคราวต่อไป
ควรจะปรับปรุงการวางกับดักอย่างไร จึงจะเป็ นการล่าที
สมบูรณ์แบบมากทีสุด

ทังหมดทีเกิดขึนในผืนป่ าแห่งนี ถือเป็ นคําเตือน


ทีมูช่ ิงเกอมอบให้กบั ทุกคน แล้วทําไมจึงไม่ใช้โอกาสนี
เพือการฝึ กของพวกเขาเล่า

เสียงร้องโหยหวนดังมาอย่างต่อเนืองมาจนฟ้า
สว่างจึงหยุดลง

ในคําคืนนี ขบวนตามล่านับพันคน กลับเรียกว่า


พันคนไม่ได้อีกต่อไป เพราะว่า จํานวนคนทีเหลืออยูใ่ น

13
ตอนนีมีเพียงแปดร้อยกว่าคน และในคําคืนนี ผูค้ นทีตาย
เพราะ‘อุบตั ิเหตุ’ ราวกับจะมากกว่าคืนก่อน

ตอนกลางวัน แสงอาทิตย์สาดแสงสว่างลงบน
กิงไม้ บดบังแสงจากดวงอาทิตย์ เพือเป็ นร่มเงาให้กบั ผู้
คนได้พกั พิง แต่ก็ไม่อาจจะทําให้ความหวาดผวาในใจ
ของพวกเขาลดน้อยลงได้

พวกเขายอมรับว่าพวกเขากลัวแล้ว !

ผืนป่ าแห่งนีแปลกประหลาดมากเกินไปแล้ว ใน
ยามรัตติกาล เป็ นดังปี ศาจกระหายเลือด

14
พวกเขาอยากจะถอยทัพ แต่ทว่า กลับมีคนไม่
อนุญาตให้พวกเขาออกจากทีนี !

ดวงตาทีเต็มไปด้วยเส้นเลือดทีผุดออกมาจ้อง
คนแรกทีเสนอว่าจะออกจากทีนี ไม่ได้พดู อะไรมากเพียง
หมัดเดียวอีกฝ่ ายก็หยุดลมหายใจลงอย่างอนาถ

ทุกคนต่างตะลึง !

“ข้าจะพูดเป็ นครังสุดท้าย หากมีผใู้ ดกล้าถอน


ตัว นีคือตัวอย่างสภาพของมันผูน้ นั ! ไม่วา่ จะเป็ นใครที
เล่นสกปรกอยูใ่ นผืนป่ าแห่งนี ก็จะต้องตายด้วยนํามือ
ของข้า!” เนียซงพูดพลันมองทุกคน

15
ทุกคนเงียบ ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ เลยแม้แต่นอ้ ย

เมือเห็นว่าไม่มีใครกล้าแสดงตัวออกต่อต้านอีก
เนียซงก็พดู ต่อว่า : “นับจากวันนีเป็ นต้นไป เราจะค้นหา
เพียงแค่ตอนกลางวัน กลางคืนทุกคนจะพักผ่อนโดยอยู่
รวมตัวกัน ข้าจะดูสวิ า่ ใครยังจะตายเพราะอุบตั ิเหตุ
อีก!”

ค้นหาเพียงแค่ตอนกลางวันอย่างนันหรือ

คําพูดนี ทําให้จิตใจทีเต็มไปด้วยความหวาด
ผวาค่อยๆ อบอุน่ ขึนบ้าง

16
ราวกับว่า ขอเพียงแค่ไม่บีบบังคับให้เขาไปตาย
ในตอนนีพวกเขาก็สามารถยอมตกอยูภ่ ายใต้อาํ นาจ
ของเนียซงชัวคราว

คนทีถูกเนียซงสังหาร ไม่ใช่หนึงในกลุม่ ผูม้ ี


ตระกูล น่าจะเป็ นเพียงคนทีไม่มีพรรคสังกัด เพราะ
ฉะนัน การตายของเขาจึงไม่ได้ทาํ ให้ผมู้ ีอาํ นาจท่านใด
เกิดความไม่พอใจ

เมือสร้างข้อตกลงกันได้แล้ว ทุกคนก็เริมต้นการ
ค้นหาขึนอีกครัง

17
ตอนที 104-2 จอมปี ศาจหานฉายไฉ่

18
เพราะจากประสบการณ์ของเมือวาน ทุกคนจึงหลงคิด
ว่า ตอนกลางวันนันต้องปลอดภัยแน่นอน

“หึ ตาแก่เนียซง ! กล้าอวดดีตอ่ หน้าข้าถึงเพียงนีเชียว


หรือ สักวันหนึงเถอะ ข้าจะทําให้เจ้าต้องคุกเข่าลงต่อ
หน้าข้าและเลียพืนรองเท้าให้กบั ข้า!” จูลเดิ
ี นอยูท่ า่ ม
กลางการปกป้องของทุกคนด้วยใบหน้าเจ็บใจ

ฉากการสังหารของเนียซงเมือครูน่ ี ทําให้เขารูส้ กึ ตกใจ


จริงๆ

19
แต่ทว่า ทันทีทีได้สติจากความตืนตระหนก ก็รูส้ กึ ราวกับ
โดนตีแสกหน้า เพราะดูเหมือนว่าคําข่มขู่ทงหมดของเนี
ั ย
ซงตังใจจะสือถึงเขา

ยอดฝี มือสายครามทียืนอยูข่ า้ งๆ จูลรีี บพูดเสริมว่า :


“ใช่ๆๆ รอให้ออกจากทีบ้าๆ นีให้ได้ก่อน แล้วเราค่อย
จัดการกับเขาก็ยงั ไม่สาย ! ถึงตอนนันก็ทาํ ให้คนในเมือง
จือรูก้ นั ไปเลยว่าใครกันแน่ทีเก่งกาจและไม่ควรจะมีเรือง
ด้วยมากทีสุดในเมืองจือ !”

การพูดเอาอกเอาใจนี ทําให้จลู รูี ส้ กึ ดีเป็ นอย่างมาก ราว


กับลอยทะยานขึนสูฟ่ า้ ท่าทางดูได้ใจอย่างทีสุด

20
กลุม่ ของพวกเขา มีจาํ นวนคนอยูไ่ ม่นอ้ ยเลย มีประมาณ
40-50 คน ในบรรดาผูม้ ีอาํ นาจทังหมดทีรวมตัวกันอยูใ่ น
ผืนป่ าแห่งนี พวกเขาถือว่าเป็ นผูท้ ีมีกาํ ลังคนมากทีสุด

อีกประการหนึง ผูน้ าํ กลุม่ ยังเป็ นถึงสายคราม

เมือเทียบกับพวกกลุม่ ผูม้ ีอาํ นาจเล็กๆ ทีมีหวั หน้าเป็ น


เพียงแค่สายเขียวแล้ว ดังนันพวกเขาก็ถือว่ามีสทิ ธิทีจะ
ได้ใจเช่นนี

ในตอนนี ในคนจํานวน 40-50 คน มีสบิ กว่าคนทีล้อม


รอบจูลเอาไว้
ี เพือป้องกันอุบตั ิเหตุทีอาจจะเกิดอย่าง
ระมัดระวัง

21
ส่วนคนทีเหลือก็ได้กระจายตัวกันออกไปรอบๆ เพือค้น
หาตัวมูช่ ิงเกอ แม้วา่ จะออกไปไม่ไกลมาก แต่เพราะ
หญ้าทีสูงเท่าคนและต้นไม้ทีคอยบดบัง ทําได้ทกุ คนไม่
สามารถมองเห็นกันได้ง่ายๆ

ทันใดนัน ในดวงตาของผูท้ ีกําลังค้นหาอย่างละเอียด


รอบคอบ ก็มีเงาสีดาํ เงาหนึงแวบผ่าน ยังไม่ทนั ทีเขาจะ
แสดงปฏิกิรยิ าอันใด ก็พลันถูกปิ ดจมูกจนสนิท จากนัน
บริเวณลําคอก็มีเสียง ‘ฉึบ’ เกิดขึน หลังจากนันร่างกายก็
ล้มลงพืนด้วยท่าทางหงิกงอ

ลากร่างอันไร้วิญญาณเข้าไปซ่อนในพุม่ หญ้า ร่างในชุด

22
สีดาํ ก็หายวับไปอีกครัง เพือหาเป้าหมายต่อไป

การตายของคนผูน้ ี ไม่ทาํ ให้ใครตืนตระหนกเลยแม้แต่


คนเดียว

กลุม่ คนยังคงค้นหากันอย่างต่อเนือง ผูท้ ีรับผิดชอบค้น


หาก็กระจายกําลังออกจากกันไปไกลมากขึนเรือยๆ
เพราะพวกเขาเชือเป็ นอย่างยิงว่า มีเพียงตอนกลางคืน
เท่านันทีผืนป่ าแห่งนีจะกลายเป็ นปี ศาจสังหารคน
ตอนกลางวัน แน่นอนว่าพวกเขาต้องปลอดภัยแน่ !

ในขณะทีผูค้ น้ หาคนหนึงเดินจนรูส้ กึ เหนือยล้า ก็ได้อิง


กับต้นไม้ใหญ่เพือพักผ่อน เหนือศีรษะของเขาก็พลันมี

23
เงาสีดาํ ตกลงมา ในมือมีกริชอันแหลมคม แล้วกรีดลง
บนบริเวณลําคอของเขาอย่างรวดเร็ว

ทันใดนัน โลหิตสีแดงสดก็พงุ่ ทะลักออกจากลําคอของ


เขาและสาดกระจายไปทัวพืนหญ้า สําหรับคนผูน้ นั ยัง
ไม่ทนั ได้พดู อะไรเลยแม้แต่คาํ เดียว ก็ตายไปทังท่าทางที
เอามือจับคอและเบิกตากว้าง

ภาพเช่นนี ปรากฏขึนทัวทุกบริเวณภายในผืนป่ า

บางคนไม่รูแ้ ม้กระทังว่าตนเองตายอย่างไร บางคนเห็น


คนร้ายแต่ก็ไม่มีโอกาสทีจะเตือนภัยพรรคพวก

24
หลังจากนัน 3 ชัวยาม จูลทีี รับรูว้ า่ เริมมีอะไรไม่ชอบมา
พากล จึงหยุดทุกการกระทําและหันไปมองข้างหลังตัว
ด้วยความฉงนใจ

“คุณชายเป็ นอะไรไปหรือ” ยอดฝี มือสายครามผูน้ นรี


ั บ
เดินเข้ามาถาม

จูลขมวดคิ
ี วและพูดว่า : “ทําไมคนทีทําหน้าทีค้นหาจึง
หายไปหมดแล้ว”

ยอดฝี มือสายครามเงยหน้าขึนมองไปรอบๆ และไม่เห็น


ใครเลย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงคาดการณ์วา่ :
“บางทีอาจจะเดินออกไปไกลแล้ว”

25
จูลพยั
ี กหน้าและคิดว่าอาจจะเป็ นเพราะเหตุผลนี

หลังจากนันจึงสังการในทันทีวา่ : “เจ้าส่งคนออกไป
ตามพวกเขากลับมา บอกพวกเขาว่า อย่าออกไปไกล
มากนัก การปกป้องคุณชายอย่างข้าต่างหากทีเป็ นสิงที
สําคัญทีสุด สําหรับไอ้หนุ่มตระกูลมู่ ตราบใดทีมีเนียซงอ
ยู่ มันหนีไปไหนไม่รอดหรอก ช้าเร็วก็จะต้องถูกจับได้ !”

ยอดฝี มือสายครามรับคําสังและสังคนจํานวนเจ็ดแปด
คนออกไปตามหาและเขาก็นาํ คนจํานวนแปดเก้าคนที
เหลือปกป้องจูลต่ี อไป

26
“ข้าอยากจะฉีกปากเน่าๆ ของเขา!” กลางพุม่ กิงไม้มี
เสียงของหญิงสาวทีเล็กดังเสียงยุงดังขึนอย่างกะทันหัน

เสียงของหญิงสาวอีกคนก็ดงั ขึนว่า : “ข้าเองก็เช่นกัน แต่


ทว่า เราต้องไม่ลืมคําสังของคุณชาย”

หญิงสาวทีเปิ ดปากพูดก่อนเงียบไปครูห่ นึง แล้วจึงพูด


ด้วยความจํายอมว่า : “ก็ได้ เราจัดการ 7-8 คนนันก่อน
แล้วกัน !”

“พรืด คําพูดของเจ้านียิงโหดร้ายมากขึนทุกวัน”

“หึ คบคนพาลก็พาลพาไปหาผิด!”
27
เสียงบทสนทนาค่อยๆ เงียบลง ดูเหมือนว่าพวกนางต่าง
ก็ไม่ใส่ใจชูเซิงทีในตอนนีก็หลบซ่อนอยูใ่ นทีมืดเช่นกัน

และแน่นอนว่า บทสนทนาของพวกนาง ชูเชิงเองก็ไม่ได้


ยิน รวมทังเขาเองก็ไม่รูว้ า่ ในบริเวณทีห่างจากตนเองไม่
มากนัก มีแม่งสู าวสองคนแอบแฝงตัวอยู่

ในช่วงพลบคํา เมือทุกคนกลับมารวมตัวกันตามทีเนีย
ซงวางแผนเอาไว้ก่อนหน้านี จึงพบว่าในวันนีจํานวนคน
หายไป 100-200 คน!

“นีมันเกิดอะไรขึน” เนียซงขมวดคิวอย่างไม่พอใจ

28
ดูเหมือนเขาจะคิดว่าผูค้ นทีหายไป คือพวกทีไม่ฟังคําสัง
จากเขาและแอบหนีออกไป

การกระทําเช่นนี แสดงถึงการประกาศศึกกับเขา !

แต่ทว่า ไม่ทนั ทีเขาจะได้รบั คําตอบ คําถามหนึงก็ได้


แทรกเข้ามาอย่างกะทันหัน : “เนียซง เจ้าบอกว่ากลาง
วันปลอดภัยมิใช่หรือ เหตุใดคนของข้าถึงได้หายไปอย่าง
ไร้รอ่ งรอย !”

จูลทีี มีกาํ ลังคนแปดเก้าคนทีเหลือคอยคุม้ ครอง เข้าไป


หาเนียซงด้วยความโกรธ

29
ตอนนี เขาได้ขาดสติและระบายความโกรธแค้นทีกําลัง
คนและม้าหายไปทังหมดทีเนียซง

ถูกคนทีคอยหลบอยูใ่ ต้ชายกระโปรงของผูห้ ญิงตังคํา


ถามเช่นนี ในดวงตาของเนียซงพลันเต็มไปด้วยไอสังหาร
หากไม่ใช่เพราะยังมีสติอยู่ คงจะสังหารจูลทิี งเสียตอนนี
แล้ว

ไม่อยากจะสร้างความขัดแย้งกับราชวงศ์ เนียซงจึงเพียง
พูดด้วยใบหน้าอันโหดเ**◌้ยมว่า : “คนและม้าของเจ้า
หายไป เกียวอะไรกับข้า พวกเขากลัวตายมิใช่หรือ อาจ
จะถือโอกาสหนีไปตอนกลางวันก็ได้! อีกประการหนึง

30
คนทีหายไปก็ไม่ได้มีแค่คนของเจ้า”

“ข้าไม่สน ! ตอนนีคนของข้าหายไป ตระกูลเนียต้องรับ


ผิดชอบความปลอดภัยของข้า มิเช่นนัน ตระกูลเนียก็
เตรียมตัวตายได้เลย !” จูลพูี ดด้วยท่าทางแข็งกร้าว

แววตาของเนียซงเคร่งขรึมขึนมาในทันที ทีฝ่ ามือราวกับ


ผุดไอเข่นฆ่าออกมา

แต่สดุ ท้าย เขาก็ตอ้ งอดทนเอาไว้

ตานเฉินจือและชูเซิงทีแอบดูสถานการณ์ทงหมดในที
ั มืด
มาโดยตลอด ในตอนนีก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครัง
31
สีหน้าของชูเซิงเต็มไปด้วยความตืนเต้นดีใจและพูดกับ
ตานเฉินจือว่า : “ท่านผูเ้ ฒ่า ตอนกลางวันท่านเห็นพวก
คนชุดดําทีทังเก่งกาจและปราดเปรียวเหล่านันหรือไม่
พวกเขาช่างเก่งกาจเสียจริง! ออกทุกกระบวนท่าล้วน
ต้องมีคนตาย! พวกโง่เหล่านีก็ยงั จะทะเลาะกันเอง ไม่รู ้
ด้วยซําว่าคนของตนเองตายอย่างไร แต่วา่ เหตุใดพวก
เขาจึงทําท่าทางราวกับไม่สนใจเราล่ะ เราซ่อนตัวอยูใ่ นที
มืด พวกเขาก็ซอ่ นตัวอยูใ่ นทีมืด เราสามารถมองเห็น
พวกเขาได้ แน่นอนว่าไม่มีเหตุผลทีพวกเขาจะไม่เห็น
เรา !”

ใบหน้าทีเต็มไปด้วยความฉงนใจของเขา ตานเฉินจือไม่
อยากจะสนใจ

32
เรืองทีชูเซิงพูดถึง แน่นอนว่าเขาเองก็รบั รูแ้ ละไม่ได้พบ
เจอเพียงครังเดียว ในวันนีเขามองวิธีการสังหารอันเด็ด
ขาดด้วยท่าทางทีทังตะลึงและตืนตระหนกมาแล้วทังวัน

ก่อนหน้านี เขาไม่เคยรูม้ าก่อนเลยว่า การทีจะสังหาร


คนๆ หนึง สามารถใช้วิธีอนั ง่ายดายเช่นนีได้ ราวกับว่า
เพียงแค่กวาดมือลงเบาๆ ลมหายใจของคนๆ หนึงก็จะ
หมดสินไป

สําหรับเรืองทีอีกฝ่ ายทําเหมือนไม่เห็นพวกเขาน่ะหรือ

อาจจะเป็ นเพราะสหายน้อยมูค่ งอยากจะให้พวกเขาเอา

33
ข่าวทีนีไปรายงานเจ้านายกระมัง !

34
ตอนที 104-3 จอมปี ศาจหานฉายไฉ่

ตานเฉินจือทีในตอนนีกระจ่างทุกอย่างแล้วฝื นยิมอย่าง
ขมขืนในใจ ดูเหมือนว่าเขาจะถูกสหายน้อยมูเ่ ล่นงานอีก
หน หากเขานําเรืองทังหมดทีเกิดขึนทีนีไปรายงานกับ
เจ้านายของตนเอง ก็จะยิงทําให้เจ้านายเกิดความสนใจ
และต้องการพบสหายน้อยมูใ่ ห้ได้มิใช่หรือ

ในตอนนี ตอนทีเขาเพิงจะมาสังเกตได้ ทุกอย่างมันก็


35
สายเกินไปแล้ว

และเรืองราวทังหมดทีเกิดขึนทีนี ตานเฉินจือก็ได้สง่ ข่าว


ไปให้เจ้านายและไม่อาจจะเอากลับคืนมาได้อีกแล้ว

ตานเฉินจือทําได้เพียงแค่จดุ เทียนเล่มหนึงในใจ พลาง


อธิษฐานว่า : เจ้านาย ท่านคงต้องอธิษฐานอขอพรให้ตวั
เองแล้วล่ะ ! ไม่วา่ สหายน้อยมูจ่ ะเอาคืนเจ้านายอย่างไร
ก็ตาม แต่ขอให้ไว้ชีวิตท่านก็พอ !

วิธีการสังหารเหล่านัน ทําให้ภายในใจของตานเฉินจือ
เกิดความหวาดกลัวขึน เขารูส้ กึ ว่า แม้วา่ จะเป็ นตัวเขา
เอง หากถูกลอบสังหารเช่นนี ก็คงจะตายอย่างอนาถ

36
และแม้วา่ เจ้านายของเขาจะเก่งกาจมากเพียงใด แต่
อย่าลืมว่า สหายน้อยมูเ่ องก็ยงั ไม่ได้ปรากฏตัวหรือลง
มือสังหารเลย

และการทีสหายน้อยมูม่ ีองครักษ์เช่นนีได้ แล้วตัวเขาจะ


ธรรมดาได้อย่างไร

ตานเฉินจือพลันรูส้ กึ ว่า มูช่ ิงเกอต่างหากทีทังน่ากลัว


และเ**◌้ยมโหดมากทีสุด !

……

ขบวนทีตามล่ามูช่ ิงเกอ ผลัดกันพักผ่อนท่ามกลางความ


37
หวาดผวา เพราะกลัวว่าจะเกิดอุบตั ิเหตุอะไรขึนอีก

และในตอนนี องครักษ์เขียวมังกรก็ได้มงุ่ หน้าไปยัง


ทางออกของผืนป่ าแห่งนี ตามคําสังของมูช่ ิงเกอ

เมือแยกออกมาจากผืนป่ าทีพวกเนียซงและจูลอยู
ี ่
องครักษ์เขียวมังกรจากทัวทุกสารทิศก็ได้มาอยูต่ รงหน้า
มูช่ ิงเกอ

พวกเขากระโดดแผ่วเบาไปมาอยูบ่ นต้นไม้และทะลุผา่ น
พุม่ หญ้าแต่ละพุม่ อย่างคล่องแคล่ว ราวกับว่า ผืนป่ า
แห่งนี เป็ นดังสวนสนุกสําหรับพวกเขาอย่างนัน

38
กลินอายบนร่างกายของพวกเขา ได้หลวมรวมกับผืนป่ า
จนยากทีจะแบ่งแยกออกจากกันได้

“คุณชาย พวกเขากําลังพักผ่อนแล้ว” มัวหยางพูดด้วย


นําเสียงอันเคร่งขรึม

“อืม” มูช่ ิงเกอพยักหน้าเล็กน้อย “เวลาทีเหลือ ให้พวก


เขาเทียวสนุกกันในผืนป่ าไปก่อนเถอะ เราเดินทางออก
ไปก่อน เพือพบเจ้านายแห่งหอสรรพสิง”

ทันทีทีสินเสียงนี ในดวงตาอันสว่างไสวของมูช่ ิงเกอก็มี


ประกายเย็นเยียบวาบผ่านไป

39
ทุกคนลุกขึนยืนและเดินตามไปอย่างเงียบๆ

คนทัง 20 กว่าคน เดินอยูใ่ นป่ าอย่างคล่องแคล่วและมุง่


หน้าไปยังทางออกของผืนป่ าแห่งนี

นอกผืนป่ า บริเวณชานเมืองอวีจือ ในขณะทีมูช่ ิงเกอนํา


คนของตนเองมุง่ หน้าไปยังทีนัน ระหว่างทางก็มีรถม้า
คันหนึงกําลังมุง่ หน้าไปยังเมืองอวีจือเช่นกัน

ท่ามกลางท้องฟ้าสีรตั ติกาล แสงประกายสีดาํ แสงหนึง


กวาดผ่านท้องฟ้าไป

‘แกว้ก ๆ——!’
40
เสียงร้องของเหยียวดังขึนบนท้องฟ้าเหนือรถม้า

รถม้าทีกําลังเคลือนตัว ภายในรถม้า มือข้างหนึงที


สามารถเห็นข้อต่อแต่ละท่อนได้อย่างชัดเจน งดงาม
สมบูรณ์แบบ ผิวละเอียดลออและขาวบริสทุ ธิไร้ซงริ
ึ ว
รอยแม้แต่นอ้ ยก็ยืนออกมาจากรถม้า

เพียงแค่มือข้างนันปล่อยลงอย่างผ่อนคลาย แสงสีดาํ
แสงหนึงก็ตกกระทบลงมาและมีเป้าหมายคือมืออันงด
งามไร้ทีเปรียบนัน

เพียงพริบตา เหยียวตัวนันก็ได้หยุดอยูบ่ นนิวมือของมือ

41
ข้างนัน กรงเล็บอันแหลมคมเกาะนิวมือเอาไว้แน่น พลัน
ใช้ปากแหลมจิกบนฝ่ ามืออย่างแสดงความสนิทสนม
หลายที

มือคูใ่ หญ่นาํ เหยียวเข้าไปภายในรถม้า

ครูห่ นึง หน้าต่างรถม้าก็ถกู เปิ ดออกอีกครัง เหยียวกาง


ปี ก แล้วบินขึนสูท่ อ้ งฟ้า หลอมรวมเป็ นเนือเดียวกับท้อง
ฟ้าสีรตั ติกาล

รถม้าทีกําลังขับเคลือน ยังคงมุง่ ไปข้างหน้าอย่างไม่เร่ง


รีบ

42
ไม่นาน ในรถม้าก็มีเสียงหัวเราะเบาๆ ทีฉายแววเกียจ
คร้าน เสียงนันทําให้รูส้ กึ ชาไปถึงกระดูก จนยากทีจะต่อ
ต้าน คนทีควบม้าติดตามมาสะดุง้ ทีหนึง แล้วรีบโน้มตัว
เข้าใกล้หน้าต่างรถม้า

“ออกคําสังให้เดินทางกันเร็วขึนกว่าเดิม เจ้าหนุ่มนันน่า
สนใจถึงเพียงนี ข้าอยากพบเขาจนแทบจะทนรอต่อไป
ไม่ไหวแล้ว” เสียงทุม้ ตําเกียจคร้านดังออกมาอีกครัง

คนขีม้ารับคําสังและรีบสังสารถีวา่ : “เร่งความเร็ว !”

หลังจากทีสารถีได้ยินเช่นนัน ก็ชแู ส้ขนสู


ึ งและฟาดลงบน
หลังม้าอย่างสุดแรง กระตุน้ ให้มา้ ทีวิงอยูบ่ นถนนเพิม

43
ความเร็วมากยิงขึน

ทันทีทีรถม้าเพิมความเร็วขึน 4 คนทีขีม้าตามมาจากข้าง
หลัง ก็รบี เพิมความเร็วเพือตามไปให้ทนั

“ไปผืนป่ าทีอยูแ่ ถวชานเมืองอวีจือ” คนในรถพูดขึนอีก


ครัง

ตอนแรก พวกเขาจะไปเมืองอวีจือ แต่ในตอนนีได้


เปลียนแผน เกิดอะไรขึนกันแน่ ในใจของทัง 4 คนทีตาม
มาเกิดความสงสัย อะไรกันทีทําให้เจ้านายผูท้ ีไม่เคย
ยอมแพ้ตอ่ สิงทีตนเองวางแผนเอาไว้ผนู้ ีเปลียนความคิด

44
คน 2 กลุม่ มุง่ หน้าไปยังนอกผืนป่ าทีอยูบ่ ริเวณเมืองอวี
จือ

และคนอีกพวกหนึง ยังคงค้นหาตัวมูช่ ิงเกออยูภ่ ายในป่ า


ด้วยความตืนตระหนกและค่อยๆใกล้ทางออกผืนป่ าแห่ง
นันมากขึนเรือยๆ

ย่างสูว่ นั ที 7 ทีเข้าสูผ่ ืนป่ าแห่งนี มูช่ ิงเกอนําองครักษ์


เขียวมังกรมารออยูท่ ีบริเวณใกล้ทางออกของผืนป่ าเป็ น
ทีเรียบร้อยแล้ว อีกครึงชัวยาม พวกเขาก็จะสามารถออก
จากผืนป่ าอันกว้างใหญ่แห่งนี

“คุณชาย เรากําลังจะออกจากอาณาเขตของผืนป่ าแล้ว”

45
มัวหยางพูดกับมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอพยักหน้ารับ มองทางออกทีมีแสงอาทิตย์สอ่ งอยู่


ด้วยท่าทางคลุมเครือ ยากทีจะคาดเดาว่าเขากําลังคิด
อะไรอยู่

ประสานมือทังคูเ่ อาไว้ขา้ งหลัง นางเดินเข้าหา


ทางออกอย่างผ่อนคลาย

องครักษ์เขียวมังกร โย่วเหอและฮวาเยวียเดินตามหลัง
นางมาติดๆ คนพวกนีราวกับกําลังจะออกไปเทียวนอก
บ้าน

46
และขบวนตามล่าทียังคงอยูภ่ ายในผืนป่ า หลังจากที
ผ่านความกลัวมาหลายวัน ก็สมั ผัสได้วา่ มันค่อยๆ ลด
น้อยลงเรือยๆ และเดินตามออกไปยังทางออกของผืนป่ า
ด้วยความมันใจอีกครัง

หางทีตามมาจากข้างหลัง ราวกับไม่ตอ่ ผลกระทบต่อจิต


ใจของมูช่ ิงเกอเลยแม้แต่นอ้ ย ในขณะทีนางเดินออกจาก
ผืนป่ า แสงอาทิตย์สาดสว่างลงบนร่างกายของนาง
ความรูส้ กึ ผ่อนคลายเช่นนี ทําให้นางอดไม่ได้ทีจะเงย
หน้าขึน พลางหลับตาลง เพือเสพความสุขจากความ
สบายของแสงอาทิตย์

……

47
ในอีกด้านหนึง ระหว่างทางไปยังเมืองอวีจือ รถม้ายังคง
อยูใ่ นระหว่างการขับเคลือน

เพราะแผนการทีเปลียนแปลงอย่างกะทันหัน ในขณะที
กําลังจะถึงเมืองอวีจือ รถม้าก็ได้เปลียนทิศทางอย่าง
กะทันหัน มุง่ หน้าออกไปยังชานเมืองอวีจือแทน

ท่ามกลางทัง 4 ทีขีม้าอยู่ 1 ในนันรีบขีม้าตามพุง่ ไปข้าง


หน้า พลันโน้มตัวลงพูดเสียงตําว่า : “เจ้านาย ถึงทีหมาย
แล้ว แต่ตรงนันเหมือนจะมีคนอยู”่

หน้าต่างทีปิ ดสนิทถูกเปิ ดออก เผยให้เห็นถึงมือคูใ่ หญ่

48
ขาวบริสทุ ธิทีสามารถเห็นข้อกระดูกแต่ละข้อได้อย่าง
ชัดเจน

ในช่องว่างของหน้าต่างทีถูกเปิ ดออก ดวงตาคูเ่ รียวงด


งาม มองออกไปยังทิวทัศน์ขา้ งนอก ก่อนทีสายตาจะ
หยุดลงบนร่างของคนพูด

ในเขตชายป่ าของผืนป่ าอันอุดมสมบูรณ์ ร่างในชุดสีแดง


หันหลังให้กบั เขา เงาร่างอันสง่าผ่าเผย ทําให้อยากจะ
เห็นความงดงามในอีกด้านของเขา

ผมยาวสีดาํ ดุจหมึก เหนือศีรษะมีเกล้าผมทองประดับ


หยกอันหนึงรวบผมเอาไว้และปล่อยหางผมลงให้ปลิวไป

49
ตามสายลม

ด้านหน้าตัวนาง ทังสองข้างมีองครักษ์หนุ่มกว่า 20 คนที


อยูใ่ นชุดและท่าทางอันเป็ นหนึงเดียวกัน แม้นอายุจะยัง
น้อย แต่ทว่า ไอสังหารทีสาดออกจากตัวของพวกเขานัน
ทําให้ไม่อาจจะดูหมินได้เลย

นอกจากนัน หญิงสาวทังสองคนทียืนอยูใ่ นทีไกลออกไป


อย่างเงียบๆ ก็ทาํ ให้ผคู้ นไม่อาจลืมได้ลง

คนหนึงบริสทุ ธิใสดังสายนํา อีกคนเฉิดฉันราวเปลวเพลิง


หนึงความนิงสงบและหนึงความมีชีวิตชีวา งามบริสทุ ธิ
และงามหยาดเยิม ช่างเป็ นสินค้าระดับเยียมทีหาดูได้

50
ยาก

คนพวกนี แม้จะเอาไปอยูร่ วมกับคนอืนๆ ก็สามารถทํา


ให้แบ่งแยกได้ในทันที อีกประการหนึง ในตอนนีคนทียืน
อยูบ่ ริเวณหน้าผืนป่ าแห่งนีมีเพียงพวกเขามิใช่หรือ

“หยุดก่อน” เสียงอันเกียจคร้านและทุม้ ตําดังขึนจากภาย


ในรถม้า

สารถีคอ่ ยๆ หยุดลง ในบริเวณทีใกล้กบั ทีพวกมูช่ ิงเก


อยืนอยูเ่ พียงเล็กน้อย

ระยะทางนัน ไม่ใกล้และไม่ไกล สามารถเห็นกันและกัน


51
ได้อย่างชัดเจน ทังสามารถแสดงอํานาจของตนเองและ
สามารถรักษาระยะห่างต่อกันเพือป้องกันอันตรายทีอาจ
จะเกิดขึน รถม้าหยุดลงในทันที ทําให้ควอั
ิ นดกหนาของ
มูช่ ิงเกอเลิกขึนเบาๆ ความฉลาดหลักแหลมของอีกฝ่ าย
ทําให้นางรูส้ กึ ชืนชมเป็ นอย่างมาก

ค่อยๆ หันหลังกลับไป สายตากระจ่างของมูช่ ิงเก


อ หยุดลงบนรถม้านัน รถม้าทังคันมีสีดาํ สนิท ดูธรรมดา
มาก คล้ายกับรถม้าทีนางโดยสารตอนออกมาจากลัว
ตู.........

52
53
ตอนที 104-4 จอมปี ศาจหานฉายไฉ่

เมือนึกถึงรถม้าอันแสนสบายของตนเอง ในใจของมูช่ ิง
เกอก็พลันรูส้ กึ อาลัยอาวรณ์

เพราะการเปลียนแปลงครังนี ทําให้นางไม่ทนั ได้ตระ


เตรียมรถม้าและอาชาเพลิงของตนเอง ทังหมดล้วนเก็บ
ไว้ในเรือนรับรองตระกูลเว่ย แน่นอนว่า นางก็ได้สงลุ
ั ง
โจวให้พาพวกมันไปรอนางอยูท่ ีเมืองฮ่วนแล้ว

ในความเป็ นจริงแล้ว สําหรับเรืองนี แม้วา่ นางจะไม่ได้สงั


การเอาไว้ สองพีน้องตระกูลเว่ยเองก็คงจะพารถม้าและ
อาชาเพลิงไปทีเมืองฮ่วนเช่นกัน

54
นางเคยคิดว่า จะเก็บรถม้าและอาชาเพลิงเอาไว้ในพลัง
แห่งช่องว่าง ซึงการนําสิงมีชีวิตเข้าไปไว้ภายในนัน เหมิ
งเหมิงก็มิได้มีปัญหาอันใด แต่วา่ มันจะเป็ นการเปิ ดเผย
ว่านางมีพลังแห่งช่องว่าง ซึงตอนนี นางยังไม่อยากให้
เป็ นเช่นนัน

คนทีอยูภ่ ายในรถ ถูกปิ ดบังโฉมหน้าเอาไว้เป็ นอย่างดี

แต่ทว่า รูปลักษณ์ของมูช่ ิงเกอ กลับสะท้อนอยูภ่ ายใน


ดวงตาเรียวยาวและงดงามคูน่ นอย่
ั างสมบูรณ์

ในส่วนลึกของดวงตาอันงดงามดวงนัน มีความฉงนใจ

55
แวบเข้ามาในดวงตาของเขา เขาคิดว่าตนเองนันงดงาม
ไร้ทีเปรียบแล้ว แต่กลับไม่คิดว่า คูต่ อ่ สูท้ ีเขามาพบใน
วันนี ไม่เพียงแค่มีสติปัญญาอันเฉียบแหลม แต่แม้
กระทังรูปลักษณ์ภายนอกก็ยงั เทียบเท่ากับเขา

‘อืม......ช่างเป็ นเรืองราวและบุคคลทีงดงามยิงนัก หาก


ไม่สามารถครอบครองได้ ก็ตอ้ งทําลายทิง จะทําอย่างไร
ดีนะ’ ประกายแห่งความโหดเ**◌้ยมเกิดขึนในดวงตา
เรียวยาวคูน่ นั

ความเงียบสงบของรถม้าและทัง 4 ทีตามมาด้วย ทําให้


มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปากเบาๆ และพูดอย่างเย็นชาว่า : “ที
แท้แล้ว ประมุขแห่งหอสรรพสิง ก็เป็ นแค่เพียงไอ้ขีขลาด
หัวหดก็เท่านัน”
56
“วิธียวยุ
ั ทาํ อะไรข้าไม่ได้หรอกนะ” เสียงโทนตําแฝง
ความเกียจคร้านดังแว่วออกมา เขาราวกับไม่แปลกใจที
อีกฝ่ ายรูฐ้ านะของตนเอง

ในขณะทีเจอกับนาง เขาก็รบั รูไ้ ด้เลยว่า ทีอีกฝ่ ายมายืน


อยูท่ ีนีก็เพือทีจะมารอเขาโดยเฉพาะ

เสียงทีแฝงความหยิงผยอง ทําให้มชู่ ิงเกอรับรูถ้ งึ ความ


หลงตัวเองของประมุขหอสรรพสิงผูน้ ี

ตาของนางเป็ นประกายแวบหนึง แล้วก็เข้าใจกระจ่างใน


ทันที และพูดกับคนข้างกายอย่างตืนตระหนกว่า : “เคย

57
ได้ยินมาว่า ส่วนมากแล้ว คนทีมีเสียงอันไพเราะ มักจะมี
รูปโฉมสามัญ ถ้าเช่นนัน ข้าก็ควรจะให้ความเคารพเขา
เสียหน่อย”

เสียงนีไม่ได้ดงั มากหรือเบาจนเกินไป แต่กลับทําให้ทกุ


คนทีอยูท่ ีนันต่างได้ยินอย่างชัดเจน

ทันทีทีสินเสียงนัน ในรถม้าก็มีเสียงสบถเย็นชาด้วย
ความโกรธดังออกมาเบาๆ

จากนัน รถม้าทีเดิมทีดธู รรมดาโอบล้อมไปด้วยความ


เข้มงวดก็ได้บานสะพรังราวกับดอกไม้ตอ่ หน้ามูช่ ิงเกอ !

58
บานสะพรังจริงๆ นะ !

สายตาของมูช่ ิงเกอดูตะลึงไปและมองห้องโดยสารของ
รถม้าอย่างอึงงัน ราวกับเห็นดอกตูมของดอกไม้ ค่อยๆ
บานสะพรังกลายเป็ นดอกไม้อนั สวยสดต่อหน้า

ภายนอกยังคงเป็ นสีดาํ แต่ทว่า กลางกลีบดอกทีบาน


สะพรังนัน กลับมีเกสรทีสาดแสงสีแดงและชมพู ภายใน
ของตัวรถม้าเหมือนกลายเป็ นกลีบดอกไม้ทีทับซ้อนกัน
มากมาย ทําให้ ‘ใจกลางดอกไม้’ เป็ นประกายและน่าดึง
ดูดดังไข่มกุ แห่งท้องสมุทร

ใจกลางดอกไม้........

59
มูช่ ิงเกอสัมผัสได้วา่ สิงทีต้องการจะพูดถึงไม่ใช่เบาะนุ่ม
ทรงกลมสีทอง ทีอยู่ ณ ใจกลางดอกไม้นนั ไม่ใช่หยก
ขาวทีอยูร่ อบๆ และไม่ใช่กานําชาสีมว่ งหรือกระถาง
เครืองหอมปิ ดทองเหล่านัน แต่เป็ นคน....คนทีนอน
ตะแคงอยูบ่ นเบาะนิมนัน !

ผมดําเงาของเขาละเอียดดังเส้นไหม แผ่สยายเต็มเบาะ
นิมเดินเส้นทองใต้รา่ งและไม่มีการตกแต่งอันใดเพิมเติม
อีก ราวกับว่า การตกแต่งเพียงเล็กน้อยจะทําลายความ
สวยงามของเส้นผมเขา

มือใหญ่ทีละเอียดลออดังหยกคําศีรษะเอาไว้ โครงหน้า
อันสมบูรณ์แบบไร้ทีเปรียบ ดวงตาเรียวยาวอันงดงาม
60
กําลังจับจ้องภาพบรรยากาศทุกอย่างเอาไว้

ใบหน้านันงดงามจนผูค้ นทีอยูร่ อบข้างลืมการมีตวั ตนอยู่


ของตนเอง

ความงดงามนีแฝงไว้ดว้ ยความอ่อนละมุน แต่มิได้ดู


เหมือนผูห้ ญิงเกินไปนัก หากจะบอกว่าในใจของมูช่ ิงเก
อยกซือมัวให้เป็ นดังเทพเจ้าแล้วล่ะก็ ถ้าเช่นนันผูม้ ีรูป
ลักษณ์อนั งดงามทีอยูต่ รงหน้าก็คงจะเป็ นดังภูตจิงจอกที
บําเพ็ญตบะมาแล้วนับพันปี !

คางอันเรียวเล็ก ลําคอยาวระหง เรือยลงมาจนถึงไหปลา


ร้าน่ามอง ทีสําคัญทีสุดคือ เส้นตรงหน้าอกทีชัดเจนนัน

61
เพราะความกว้างของเสือ ทําให้มนั เผยออกมา ดูผอ่ น
คลายน่าสนิทสนมไม่นอ้ ยเลย

ในสายตาของมูช่ ิงเกอฉายแววตืนตาตืนใจอย่างไม่อาจ
จะปกปิ ดได้ แต่วา่ กลับถูกลายดอกไม้ทีปั กอยูบ่ นชุด
ของเขาทําให้รูส้ กึ ตืนตระหนกขึนไปอีก

ชุดยาวสีสนั ฉูดฉาดดูสง่างาม ชุดสีชมพูก็ถือว่าฉูดฉาด


มากพอแล้ว แต่ยงั มีลวดลายดอกไห่ถางสีเงินและสีทอง
อีกจํานวนมากมายอีก

แต่วา่ เสือผ้าสีฉดู ฉาดเช่นนี เมืออยูบ่ นตัวของเขาแล้ว


กลับงามสง่าได้มากจึงเพียงนี !

62
นางควรจะเปรียบเทียบอย่างไรดี ความงดงามคือความ
เอาแต่ใจอย่างนันหรือ

จอมหลงตัวเอง !

คําเปรียบเทียบทีดีทีสุดนีแวบเข้ามาในหัวของมูช่ ิงเกอ

ใช่แล้ว ! คนทีอยูต่ รงหน้า นอกจากจะทําให้นางตืนตา


ตืนใจในความงดงามแล้ว ยังหลงตัวเองเป็ นเป็ นอย่าง
มาก ราวกับอยากจะประกาศให้ทงโลกรู
ั ว้ า่ เขางดงามที
สุด เขางดงามทีสุด งดงาม งดงาม งดงามเป็ นทีสุด !

63
มุมปากกระตุกขึนทีหนึง ประมุขแห่งหอสรรพสิง ทําให้
นางแปลกใจเป็ นอย่างมาก

“รูปโฉมของข้าธรรมดาหรือ” เสียงโทนตําและเกียจคร้าน
ในครังนีฉายแววอันตรายเล็กน้อย

ราวกับว่า หากคําตอบของมูช่ ิงเกอไม่ถกู ใจเขา เขาก็จะ


เริมสังหารในทันที

‘หลงตัวเองจริงๆ!’

มูช่ ิงเกอยิมเยาะทีหนึง ทุกอย่างตรงหน้าได้กลับสูส่ ภาพ


เดิมแล้ว “รูปโฉมของประมุขแห่งหอสรรพสิงช่างงามสง่า
64
ยิงนัก ดูเหมือนว่าบางที เรืองทีเขาเล่าต่อกันมาก็ไม่อาจ
จะเชือถือได้”

“หึ” เจ้านายผูห้ ลงตนเองอุทานอย่างเย็นเยียบและเย่อ


หยิงคําหนึง

ท่าทางนี ทําให้มชู่ ิงเกอพูดอะไรไม่ออกจริงๆ

เมือครูใ่ ครกันนะทีบอกว่าวิธียวยุ
ั ใช้กบั เขาไม่ได้ผล? แต่
พอต่อมามีคนสงสัยในรูปโฉม ก็ทนไม่ไหวจน
ต้องกระโดดออกมาเองแบบนีน่ะ? และยังเป็ นการ
ปรากฏตัวทีดูสะดีดสะดิงและเกินความจําเป็ นเช่นนีอีก
ด้วย !

65
ดอกไม้ดอกนัน ถือว่ามากพอแล้ว !

“คุณชายตระกูลมูแ่ ห่งแคว้นฉิน ช่างสมกับคํารําลือ”


หลังจากความเย่อหยิง ดวงตาอันงดงามพลันเป็ น
ประกาย และบอกฐานะของมูช่ ิงเกอออกมาอย่างตรงไป
ตรงมา

สําหรับเรืองนี มูช่ ิงเกอไม่ได้แปลกใจมากนัก

หอสรรพสิงได้ชือว่า ไม่มีอะไรทีไม่รู ้ หากประมุขผูน้ ีสนใจ


ในตัวนาง เพียงแค่ฐานะของนาง เขาจะไม่สืบมาอย่าง
ละเอียดแล้วได้อย่างไร

66
“ดูเหมือนว่า ประมุขหอสรรพสิงได้สืบประวัติของข้ามา
อย่างละเอียดแล้ว”

ท่าทางอันเยือกเย็นและแฝงความเย็นชานัน ทําให้เจ้า
นายผูห้ ลงตัวเองผูน้ นรู
ั ส้ กึ ผิดหวังเล็กน้อย ในตอนแรก
เขาหวังเป็ นอย่างยิงว่า ใบหน้าเล็กๆ อันงดงามดวงนัน
จะฉายความประหลาดใจออกมาเสียอีก

“แต่วา่ ไม่ทราบว่า หากข้าอยากจะทราบประวัติของ


ประมุขหอสรรพสิง จะสามารถแลกด้วยเงินทองได้หรือ
ไม่” มูช่ ิงเกอหรีตาทังสองข้างลงอย่างขีเล่น

67
ประมุขผูห้ ลงตัวเองยกมือขึนประคองแขนเสือของตนเอง
ลวดลายของดอกไม้ปลิวไปตามสายลม ราวกับมีชีวิต
“การทีเจ้าสามารถทําให้ขา้ มาอยูท่ ีนีได้ ก็ถือว่ามีความ
สามารถมากแล้ว หากจะรูว้ า่ ข้าเป็ นใคร วันนีข้าจะบอก
เจ้า คุณชายตระกูลมู่ จงฟั งให้ดี ข้าชือหานฉายไฉ่ ผูส้ ืบ
ทอดและประมุขเพียงคนเดียวของหอสรรพสิง”

ฮึๆ !

เสียงหัวเราะทีกลันเอาไว้ไม่อยู่ ดังออกจากฝังของมูช่ ิงเก


ราวกับว่า คิดไม่ถงึ ว่า ประมุขของหอสรรพสิง จะมีชือ

68
อัน.......อืม ชืออันแสนธรรมดาเช่นนี

หานฉายไฉ่ ช่างเหมาะสมกับคําว่าหลงตัวเองอย่าง
สมบูรณ์แบบ !

69
ตอนที 105-1 สายเลือดแห่งเปลวเพลิง

‘แย่แล้ว !’

ดวงตาหงส์เรียวยาวหรีลง สายตาสาดความเย็น
เยียบออกมา

คําพูดของมูช่ ิงเกอเหมือนเป็ นการโยนความผิด


ทังหมดให้กบั เขา ไม่เพียงแค่เรืองทังหมดทีเกิดขึนใน
เมืองจือเท่านัน กระทังเรืองทีเกิดขึนภายในผืนป่ า
1
‘อุบตั ิเหตุ’ ทีคร่าชีวิตคนนัน ก็โทษว่าเป็ นฝี มือของเขา
ด้วย

เขาคิดทีจะยับยัง แต่พอเห็นเงาร่างอันเลือนราง
ทีอยูบ่ ริเวณทางออกผืนป่ า ก็รูเ้ ลยว่าทุกอย่างได้สายเกิน
ไปแล้ว

‘เขาเจตนาทีจะทําเช่นนี!’

หานฉายไฉ่คาดเอาไว้แล้วว่า มูช่ ิงเกอจะต้อง


ตอบโต้ แต่เขาก็ยงั คงมันใจเป็ นอย่างยิงว่า เรืองราวทัง
หมดอยูใ่ นการควบคุมของเขา แต่กลับไม่คิดว่ามูช่ ิงเก
อจะโหดเ**◌้ยมได้ถงึ เพียงนี ถึงขันดึงเขาลงนํา แต่ตน

2
เองกลับปั ดสวะให้พน้ ตัวได้อย่างหมดจดเช่นนี

ตนเองถูกเปิ ดโปงว่าเป็ นคนร้ายทีอยูห่ ลังม่านยัง


ไม่พอ ตอนนียังกลับกลายเป็ นฆาตกรตัวจริงทีจะฆ่าคน
ปิ ดปากไปเสียอีก !

สิงทีน่าโกรธมากทีสุดคือ เขามาหาเรืองเองถึง
ที !

เมือเห็นใบหน้าอันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เคียดแค้นของมูช่ ิงเกอ เขาเองยังแทบจะเชือเลยว่าตน
เองมาทีนีเพือฆ่าคนปิ ดปากจริงๆ แล้วจะนับประสาอะไร
กับเจ้าพวกสุกรโง่เมืองจือนันเล่า

3
“คุณชายตระกูลมู่ ท่านรูห้ รือไม่วา่ จุดจบจาก
การเล่นกับไฟคืออะไร” หานฉายไฉ่กล่าวเตือนด้วยนํา
เสียงโทนตํา ในโทนเสียงอันเกียจคร้าน เจือมาด้วยความ
เย็นเยียบและไอสังหาร

มูช่ ิงเกอเองก็กระตุกรอยยิมอย่างไม่ยอมน้อย
หน้า พลันถามย้อนว่า : “ถ้าเช่นนันท่านหานคงจะรู ้
ความหมายของคําว่าเล่นกับไฟจนโดนไฟเผาใช่ไหมว่า
หมายความว่าอะไร”

สายตาทีทังสองปะทะกันกลางอากาศ เกิดเป็ น
แสงประกายอันร้อนแรง จนไม่อาจจะประเมินได้วา่ ใคร

4
ด้อยกว่า !

ท่าทางการเผชิญหน้าของหานฉายไฉ่และมูช่ ิง
เกอ สะท้อนอยูใ่ นสายตาของทุกคน ราวกับเป็ นการยืน
ยันคําพูดทีนางพูดเมือครูน่ ี

ขบวนจากเมืองจือทีในตอนแรกจะเข้ามาจับตัว
มูช่ ิงเกอ ได้หยุดการเคลือนไหวในขณะทีนางพูดและ
หลังจากทีฟั งนางพูดจบ ทุกคนล้วนยืนอึงอยูก่ บั ที

ราวกับว่า ท่ามกลางพวกเขาไม่มีใครเคยคิดเลย
ว่า เรืองนีจะมีเบืองลึกเบืองหลังทีแอบซ่อนอยูม่ ากมาย
ถึงเพียงนี !

5
หอสรรพสิงคิดจะกวาดล้างผูม้ ีอาํ นาจในเมือง
จือและเป็ นใหญ่แต่เพียงผูเ้ ดียวอย่างนันหรือ

เพือการนี จึงได้เชิญคนนอก เข้ามาใช้โอสถใน


การหลอกล่อ ทําให้พวกเขาไม่ทนั ได้ระมัดระวัง แล้วเข้า
สูข่ บวนตามล่าโอสถโดยไม่อาจจะปฏิเสธได้

สิงทีน่าตกใจทีสุดคือ ‘อุบตั ิเหตุ’ ภายในผืนป่ าที


ทําให้ทกุ คนต่างหวาดผวานันล้วนเป็ นฝี มือของมนุษย์
อย่างนันหรือ

ประมุขแห่งหอสรรพสิงผูน้ ี ถึงขันสังคนให้มาวาง

6
กับดักต่างๆ เอาไว้ในผืนป่ าแห่งนีอย่างนันรึ !

ระหว่างทีเขาเดินทางมานัน ก็ได้ฆา่ คนของพวก


เขาไปแล้วหลายร้อยอย่างเงียบเชียบ !

ช่างน่ากลัวเสียจริง !

ประมุขหอสรรพสิงผูน้ ีฉลาดแกมโกงมากถึง
เพียงนีเชียว ! ทังโหดเ**◌้ยม ! และน่ากลัว !

ผูค้ นเมืองจือทีถูกฝันร้ายจากผืนป่ าแห่งนัน


ทรมานจนสะบักสะบอม ในตอนนีพอได้ยินคําพูดเหล่านี
ของมูช่ ิงเกอก็ได้ ‘กระจ่าง’ ทุกอย่างในทันที !
7
ไม่จาํ เป็ นต้องรอคําสังจากเนียซง พวกเขาต่างก็
ถืออาวุธของตนเองและพุง่ ตัวออกจากผืนป่ ามายืนอยู่
ตรงกลางระหว่างมูช่ ิงเกอและหานฉายไฉ่

พวกเขาจับจ้องกําลังคนและม้าของทังสองฝ่ าย
ในแววตาเต็มเปี ยมไปด้วยการระวังภัยและความเคียด
แค้น

เนียซงเป็ นตัวแทนของทุกคนในการถามมูช่ ิงเก


อว่า : “คนแซ่มู่ ทีเจ้าพูดเมือครูน่ ีเป็ นเรืองจริงหรือ” เขา
ยังไม่ลืมว่าหลานทีเขารักมากทีสุด ก็ได้ทิงชีวิตเอาไว้ใน
ผืนป่ าแห่งนีเช่นกัน

8
เขาก็เอะใจตังแต่ตอนนันแล้วว่า เหตุใดเถาวัลย์
พิษนันจึงได้รุนแรงมากถึงเพียงนัน

แต่กลับคิดไม่ถงึ ว่า จะมีคนแอบวางยาเอาไว้!

สายตาอันสว่างไสวของมูช่ ิงเกอกวาดผ่านเขา
อย่างช้าๆ พลางยิมอย่างเย็นเยียบในใจ แต่บนใบหน้า
โกรธแค้น พลันกัดปากและพยักหน้า ท่าทางเช่นนัน
ความเคียดแค้นและความหมดหวังเหล่านันช่างเหมือน
คนทีกําลังจะถูกฆ่าปิ ดปาก

ความมันใจของนาง ยิงทําให้แรงอาฆาตในใจ

9
ของเนียซงเพิมมากขึน

แต่ทว่า เขากลับไม่รูจ้ กั หานฉายไฉ่ ทําได้เพียง


มองและถามเขาว่า : “เจ้าคือประมุขแห่งหอสรรพสิง
อย่างนันหรือ”

หานฉายไฉ่ทีหลงตัวเองมากถึงเพียงนี จะตอบ
คําถามของสุนขั แก่อย่างเนียซงได้อย่างไรกัน แม้นจะรู ้
ว่าตนเองถูกมูช่ ิงเกอใส่ความและควรจะแก้ตวั แต่เขาก็
ไม่ทาํ

ในดวงตาทีเรียวยาวและงดงามนัน มีความ
เหยียดหยามอย่างคลุมเครือเกิดขึน ทําให้แรงอาฆาตใน

10
ดวงตาของเนียซงพุง่ ทะลัก มือทังคูถ่ กู แสงสีนาเงิ
ํ นครอบ
คลุมไว้ในทันที

“ถ้าเช่นนัน สิงทีคนแซ่มพู่ ดู เมือครูน่ ี เจ้ายอมรับ


ทังหมดอย่างนันสินะ” เนียซงยังคงไม่ละความพยายาม
ทีจะถาม

หานฉายไฉ่กลับหัวเราะเยาะ ในสายตาเต็มไป
ด้วยความขบขัน พลันพูดด้วยนําเสียงทีเจือความความ
สงสารว่า : “ช่างโง่เขลาเสียจริง ใครพูดอะไรก็เชือไป
หมด”

“เจ้าอยากตายรึ !” เพราะความโกรธ เนียซงจึง

11
เกือบจะใช้พลังในทันที

แต่ทว่า กลับถูกท่านเนียทียืนอย่างสงบอยูข่ า้ งๆ
ห้ามเอาไว้ ดวงตาทังคูข่ องเขาแดงกํา หลังจากทีลูกชาย
ของตนเองตายก็กลายเป็ นเช่นนัน ท่าทางของเขาดูโหด
เ**◌้ยมและน่ากลัว

เขาห้ามเนียซงเอาไว้ พลันเดินออกมา ดวงตาสี


โลหิตกวาดผ่านหานฉายไฉ่ แล้วจึงหันไปหามูช่ ิงเกอและ
ถามว่า : “เจ้ามีหลักฐานอันใดทีจะมายืนยันว่า ทีเจ้าพูด
นันเป็ นความจริง” เขาไม่หลงเหลือสติใดแล้ว เพียงแต่ไม่
อยากจะผิดพลาดจนปล่อยตัวคนร้ายตัวจริงไป ในขณะ
ทีแก้แค้นให้กบั ลูกชาย

12
“หลักฐานอย่างนันหรือ” มูช่ ิงเกอกระตุกยิม
อย่างเย้ยหยัน สายตาทีเจือรอยยิมฉายแววเยาะเย้ย :
“ก็เพราะข้าหลงเชือในชือเสียงของหอสรรพสิง จึงถูก
พวกเขาดึงเข้ามาเกียวพันกับเรืองนีน่ะสิ”

นางหันไปมองหานฉายไฉ่ พลางถามเสียงดัง
ด้วยความโกรธทีเก็บเอาไว้ไม่อยู่ : “ตอนนี ข้าอยากจะ
ถามท่านหานว่า ข้าเป็ นเพียงแค่คนต่างบ้านต่างเมืองที
ผ่านมาและต้องการแลกเปลียนข่าวสารข้อมูลกับหอ
สรรพสิง เหตุใดจึงต้องดึงข้ามาเกียวพันกับเรืองพวกนี
ด้วย หอสรรพสิงของท่านอยากจะเป็ นผูม้ ีอาํ นาจเพียง
หนึงเดียว แล้วมันเกียวอะไรกับข้า นีเป็ นการกลันแกล้ง
คนต่างถินทีไม่มีทางสูอ้ ย่างนันหรือ”

13
พูดถึงตรงนี นางก็หนั ไปมองขบวนของเมืองจือ
และตะโกนว่า : “ทุกท่าน ข้าเคยพูดหรือว่าโอสถนันเป็ น
ของข้าและเคยออกไปประกาศอะไรหรือไม่ ข้าเพียงแค่
ถูกเชิญให้เข้าร่วมงานประมูลของหอสรรพสิงอย่างไร้ที
มา จากนันก็กลายเป็ นเป้าหมายของทุกคน ตอนนันข้า
เพียงคิดว่าจะคลีคลายเรืองนีอย่างไร แต่ทา่ นหานกลับ
เข้ามาหา ให้ขา้ ออกจากเมืองจือไปตามเส้นทางทีเขาได้
วางเอาไว้ ข้าเองก็เพิงจะรูว้ า่ ตนเองถูกหลอกใช้ หลังจาก
ทีออกมาจากผืนป่ าแห่งนี !”

ท่าทางของมูช่ ิงเกอสมจริงเป็ นอย่างมาก ราวกับ


ว่า ตนเองเป็ นคนทีถูกกระทําจากเรืองราวทังหมดนี

14
หานฉายไฉ่ดกู ารแสดงของเขาโดยไม่พดู อะไร
ราวกับว่าไม่เห็นผูค้ นเมืองจือเหล่านันอยูใ่ นสายตา

ลูกน้องทุกคนของมูช่ ิงเกอล้วนตะลึงกับภาพที
เห็น พวกเขาไม่เคยรูม้ าก่อนเลยว่าเจ้านายของตนเองจะ
มีพรสวรรค์ดา้ นการแสดงมากขึนเพียงนีและทําการ
แสดงได้อย่างแนบเนียนเช่นนี

“ไม่ใช่ ! ข้าเห็นกับตาว่าท่านผูเ้ ฒ่าตานไปเอา


โอสถเก้าชีวิตหวนคืนออกมาแลกเปลียนกับข้าจากห้อง
ของเจ้า” ในขณะทีผูค้ นเมืองจือล้วนเชือในการแสดงของ
มูช่ ิงเกอ ทันใดนันก็มีคนแสดงความแปลกใจ

15
คนพูด แน่นอนว่าคือจูลี

ความทรงจําทีเขามีตอ่ มูช่ ิงเกอถือว่าชัดเจนเป็ น


อย่างมาก ก่อนอืน คือความไม่พอใจทีนางสามารถเข้า
งานประมูลได้ ต่อมาคือรูปลักษณ์และท่าทางอันสง่า
งามของนาง จากนันคือการเปิ ดศึกการประลองอย่างดุ
เดือดกับนาง สุดท้ายคือเขาชนะและเสียเงินจนหมดตัว

ข้อสงสัยของจูลี ทําให้คนจํานวนไม่นอ้ ยเริม


ลังเล

ในสายตาอันสว่างไสวของมูช่ ิงเกอมีไอเย็นเยียบ
วาบผ่าน ปรากฏท่าทางโศกเศร้าแล้วหัวเราะออกมา

16
เสียงเบา

ในเสียงหัวเราะนัน ราวกับได้เต็มไปด้วยความ
ทุกข์อนั มหาศาล “หากเป็ นโอสถของข้า ข้ายังจะต้อง
แย่งประมูลราคากับเจ้าหรือ ข้าเองก็แปลกใจเป็ นอย่าง
มาก ว่าเหตุใดเจ้าเป็ นผูช้ นะ แต่ทา่ นผูเ้ ฒ่าตานกลับไม่
ได้เข้าไปในห้องของเจ้า แต่เข้ามาในห้องของข้าแทน
จากนันก็พดู คุยไปเรือยเปื อย แล้วจึงออกไป อีกทังหลัง
จากทีจบงานประมูลยังห้ามให้ขา้ ออกจากประตูหลัก
และให้ออกทางลับแทนด้วย”

คําพูดนี คลุมเครือเป็ นอย่างมาก แต่กลับทําให้


ทุกคนรูส้ กึ ว่ามันสมจริงมาก

17
หากสามารถอธิบายทุกข้อสงสัยได้อย่างชัดเจน
ก็จะยิงทําให้ผคู้ นเกิดความเคลือบแคลงมิใช่หรือ?

18
ตอนที 105-2 สายเลือดแห่งเปลวเพลิง

“จนถึงตอนนี ข้าจึงได้เข้าใจว่าทังหมดนีมีคนวางแผน
เอาไว้ก่อนแล้ว เหตุผลก็เพือเป้าหมายอันสกปรกทีไม่
อาจบอกใครได้” พูดจบสายตาของมูช่ ิงเกอก็หนั ไปมอง
หานฉายไฉ่อย่างเคียดแค้นรังเกียจผูร้ า้ ยทีอยูเ่ บืองหลัง
อีกครัง

เพราะได้รบั ผลกระทบจากความรูส้ กึ ของมูช่ ิงเก


อ ผูค้ นเมืองจือต่างมองหานฉายไฉ่ดว้ ยความโกรธ

19
“ท่านหาน ท่านไม่คิดจะแก้ตวั สักหน่อยเลย
หรือ” ท่านเนียมองหานฉายไฉ่ดว้ ยสายตาทีแฝงความ
เย็นเยียบ ในแววตาเต็มไปด้วยแรงอาฆาต

หานฉายไฉ่ไม่มองเขาเลยแม้แต่เสียวสายตา
เดียว สายตาอันงดงามและน่าเย้ายวนนัน หยุดอยูบ่ น
ตัวของมูช่ ิงเกอ

ราวกับว่า คนทียืนอยู่ ณ ทีนี มีเพียงร่างในชุด


แดงทีสามารถดึงดูดความสนใจจากเขาได้

ท่าทางอันเย่อหยิงนัน ทําให้ผคู้ นเมืองจือต่างก็

20
โกรธจนทนดูไม่ได้อีกต่อไป ทันใดนัน ท่ามกลางผูค้ นก็ได้
เต็มเปี ยมไปด้วยไอสังหาร

“หึ ถ้าเช่นนันก็อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าหอสรรพ
สิง” ท่านเนียพูดด้วยนําเสียงเย็นเยียบ

ท่ามกลามผูค้ นมีคนพูดด้วยความโกรธในทันที
ว่า : “หอสรรพสิงคิดจะกวาดล้างเราอยูแ่ ล้ว ยังจะต้อง
ไว้หน้าอีกหรือ ประมุขแห่งหอสรรพสิงบ้าบออะไรกัน ฆ่า
ให้รูแ้ ล้วรูร้ อดกันไปเลย กําลังคนของเรามากมายถึง
เพียงนี จะตืนตระหนกเพราะแค่ชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิง
คนหนึงอย่างนันหรือ”

21
‘รนหาทีตายจริงๆ!’ มูช่ ิงเกอแอบจุดเทียนไว้
อาลัยในใจให้กบั คนทีกล้าพูดตรงๆ ออกมาแบบนี

แน่นอนว่า ทันทีทีเขาพูดจบ สายตาอันเย็นเยียบ


ของมูช่ ิงเกอก็หนั มามองเขา เขายังไม่ทนั ได้พดู อะไร ก็
ล้มลงบนพืนอย่างไม่อาจจะตังตัวได้

ฉากนี ทําให้คนจํานวนไม่นอ้ ยต่างตืนตระหนก


และถอยหลังไปหลายก้าว

เนียซงกลับเดินเข้ามา สังเกตสภาพของร่างไร้
วิญญาณนัน

22
“เจ้าฆ่าเขา !” เนียซงหรีตาลง พลางเงยหน้าขึน
ถามหานฉายไฉ่อย่างกล่าวโทษ

สามารถสังหารคนได้อย่างไร้รอ่ งรอยเช่นนีเชียว
หรือ ในใจของเนียซงเกิดความตืนตระหนกขึนมา ความ
สามารถของประมุขหอสรรพสิงนี คงไม่ง่ายจะต่อกรเป็ น
แน่

แต่ในตอนนีหลานชายของตระกูลเนียตายด้วย
นํามือของประมุขหอสรรพสิงผูน้ ี ระหว่างพวกเขาจะยัง
สามารถปฏิบตั ิตอ่ กันอย่างใจดีมีเมตตาได้อีกหรือ สาย
ตาของเนียซงฉายแววเคร่งขรึมและยังคงเต็มไปด้วยไอ
สังหาร

23
ดูเหมือนว่า ศึกในวันนีจะต้องเกิดขึนจริงๆ เสีย
แล้ว !

โชคดีทีว่า กําลังคนของพวกเขามีมาก ฝ่ ายศัตรู


จึงไม่สามารถลอบทําร้ายพวกเขาได้อย่างง่ายดาย !

เพียงพริบตา เนียซงก็ได้ตดั สินใจอย่างแน่วแน่


แล้ว

“แล้วอย่างไร” หานฉายไฉ่ยอมรับว่าตนเองเป็ น
คนสังหารอย่างตรงไปตรงมา ส่วนคนทัง สีทีอยูข่ า้ งๆ
เขาก็ราวกับรูส้ กึ ว่าเรืองเช่นนีเป็ นเรืองธรรมดา

24
“หึ ! ท่านผูเ้ ฒ่าเนีย เจ้าสองคนนีเย่อหยิงและ
อวดดีมากถึงเพียงนี ข้าว่าสังหารไปเลยจะดีกว่า!” จูลี
เดินไปหยุดอยูข่ า้ งๆ เนียซง พลันพูดอย่างโหดเ**◌้ยม

คําพูดเหล่านี สะท้อนเข้าหูของมูช่ ิงเกอและหาน


ฉายไฉ่อย่างสมบูรณ์

มูช่ ิงเกอขมวดคิว มองจูลด้ี วยสายตาทีฉายแวว


ความคลุมเครือ แต่หานฉายไฉ่แสร้งทําเหมือนไม่ได้ยิน
และไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่นอ้ ย

รับรูถ้ งึ สายตาของมูช่ ิงเกอ จูลพลั


ี นใช้สายตาอัน

25
เย็นเยียบและแฝงอันตรายมองนางแวบหนึง อย่างไร้ซงึ
ความกลัว

ช่างกล้า !

มูช่ ิงเกอแอบหัวเราะอย่างเย็นเยียบ

เป้าหมายของนาง คือ การให้หานฉายไฉ่เผย


ธาตุแท้ของตนเองออกมา เพือทําให้เขาไม่สามารถนัง
ชมเรืองราวทังหมดอยูเ่ บืองหลังอย่างสบายใจได้อีกต่อ
ไป เรืองทีจะทําให้ตนเองรอดพ้นจากเรืองนี นางรูอ้ ยูแ่ ล้ว
ว่าเป็ นไปไม่ได้

26
เพราะว่า ระดับความโลภของคนพวกนี แม้วา่ สิง
ทีนางพูดจะเป็ นจริง พวกเขาก็ไม่มีทางทีจะปล่อยนางไป
และแน่นอนว่าต้องฆ่านางเสีย แล้วจึงค้นด้วยตนเองว่ามี
โอสถเก้าชีวิตหวนคืนจริงหรือไม่

แต่วา่ สิงทีผิดไปจากทีนางคิดเอาไว้คือ หาน


ฉายไฉ่กลับเย่อหยิงอย่างทีสุด ไม่อธิบายและขีเกียจจะ
โต้เถียง ถึงขันไม่สนใจในชือเสียงของหอสรรพสิงทีกําลัง
จะเสียไป

“ใช่ ! ต้องฆ่าคนพวกนีให้หมด เพือเป็ นการ


สังเวยให้กบั ดวงวิญญาณของผูค้ นเมืองจือทีตายใน
ป่ า !” เนียซงพูด

27
“ฆ่า !”

“ฆ่า ——!”

ทันทีทีเสียงแห่งการสังหารดังขึน ผูค้ นทีพุง่ ตัวไป


ข้างหลังก็สาดฉายพลังสีตา่ งๆ

เนียซงทีเป็ นผูน้ าํ สาดแสงประกายสีนาเงิ


ํ นออก
มา แสงระยิบระยับแสบตาเป็ นทีหวาดกลัวและเป็ นทีน่า
อิจฉาของผูค้ น

เขาได้ใช้ทกั ษะการสงครามของตนเองในทันที
28
มือทังสองข้างกําแน่น พลังทัวทังร่างกายปะทุออกมา
อย่างบ้าคลัง——

“ดาบอัสนีบาต——!” เสียงร้องอันดังก้องของ
เนียซง บริเวณมือทีกําแน่น ได้มีพลังเคลือนเข้ามารวม
ตัวกัน ดาบด้ามหนึงสาดฉายแสงประกายค่อยๆ ปรากฏ
ขึนในอุง้ มือของเขา

ดาบยาวเล่มนัน มีขนาดใหญ่จนทุกคนต้องเงย
หน้าขึนมอง มันวาดลงมาจากฟากฟ้า ราวกับได้ผา่ ท้อง
ฟ้าแยกออกจากกัน

ดาบอันใหญ่เสียดฟ้าเล่มนี พุง่ เข้าหาหานฉาย

29
ไฉ่พร้อมสายลม

ทันใดนัน บริเวณทีหานฉายไฉ่อยูก่ ลายเป็ นศูนย์


กลางการโจมตี แทบจะ 2 ใน 3 ของกําลังคนและม้าจาก
เมืองจือต่างพุง่ เข้าหาเขา เหลือเพียงแค่ 1 ใน 3 ทีพุง่ ตัว
เข้ามามูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอยืนเอามือไพล่หลัง สําหรับคนทีพุง่ เข้า


มานัน นางทําราวกับไม่เห็น เพียงแค่จบั จ้องการต่อสูร้ ะ
หว่างเนียซงและหานฉายไฉ่อยูห่ า่ งๆ

มัวหยางนําองครักษ์เขียวมังกร ก่อตัวกันเป็ น
กําแพงกล้าทีไม่อาจจะทะลุผา่ นได้ตรงหน้ามูช่ ิงเกออ

30
ย่างรวดเร็วเพือป้องกันการเข้ามาของศัตรู เพือไม่ให้พวก
เขาได้ก่อกวนมูช่ ิงเกอเลยแม้แต่นอ้ ย

ทีเหมือนกับองครักษ์เขียวมังกร คือองครักษ์ทงสี

ของหานฉายไฉ่

ในขณะทีคนและม้าของผูค้ นเมืองจือเริมเคลือน
ไหว พวกเขาก็ได้กระจายตัวออกไปทัง 4 ทิศ เพือป้องกัน
แต่วา่ คนของพวกเขามีนอ้ ย ศัตรูทีต้องรับมือมีจาํ นวน
มากและต่างฝ่ ายต่างต้องต่อสู้ ศัตรูทีสามารถหยุดเอา
ไว้ได้มีไม่มาก แต่ก็ยงั คงมีบางส่วนทีเปลียนทิศทางและ
พุง่ โจมตีหานฉายไฉ่

31
มูช่ ิงเกอค่อยๆ หรีตาลง นางเห็นสารถีของหาน
ฉายไฉ่ยกแส้มา้ ขึนสูงและสะบัดซ้ายขวาอย่างไม่รูห้ ยุด

เงาของแส้แต่ละที คอยปกป้องดอกไม้ทีอยูภ่ าย
ใต้รา่ งของหานฉายไฉ่เอาไว้เป็ นอย่างดี ผูค้ นทีเข้าใกล้
ต่างก็ถกู แส้มา้ เฆียนตีจนตัวปลิวออกไป !

‘ผูท้ ีสามารถปรนนิบตั ิประมุขแห่งหอสรรพสิงได้


ช่างเป็ นผูท้ ีมีความสามารถไม่ธรรมดาจริงๆ!’ มูช่ ิงเก
อแอบชืนชมในใจ

ในตอนนี ทักษะการสงครามของเนียซงได้เสร็จ
สมบูรณ์ ดาบทีสาดฉายแสงประกายสีนาเงิ
ํ นนําพาพลัง

32
อันมหาศาลทียากจะต้านทานเอาไว้ได้ ผ่าแส้เหล่านัน
และเล็งศีรษะของหานฉายไฉ่เอาไว้

หานฉายไฉ่เงยดวงตาดวงเรียวยาวดวงนันขึน
ในสายตาอันฉายแววความเกียจคร้านมีเงาของดาบยาว
และใบหน้าอันโหดเ**◌้ยมของเนียซงสะท้อนอยู่

รอยยิมจางๆ ทีฉายแววความเยาะเย้ยเกิดขึน
ตรงมุมปากของเขาอย่างไร้รอ่ งรอย

เขาค่อยๆ ยกมือขึน นิวมืออันเรียวยาวรับดาบที


พุง่ เข้าหาตนเองเอาไว้ !

33
ดาบยาวหยุดลงอย่างกะทันหัน เพราะถูกหาน
ฉายไฉ่ใช้นิวมือในการควบคุมเอาไว้ จนไม่อาจขยับเลย
แม้แต่นอ้ ย

ฉากนี ทําให้เนียซงตืนตระหนกและคิดจะหนี

แต่วา่ แน่นอนว่าในตอนนีหานฉายไฉ่จะไม่ให้
โอกาสเขาในการหนีเป็ นแน่ บนใบหน้าปรากฏความโหด
เ**◌้ยม ริมฝี ปากสีแดงดังโลหิตค่อยๆ กระตุกขึนมา ใน
ดวงตาทีสาดฉายแสงสีนาเงิ
ํ นสะท้อนภาพของดาบยาว
ทีแตกกระจายและกลายเป็ นเศษผงก่อนจะกระจายลงสู่
พืนดิน

34
“อัก——!” ทักษะการสงครามถูกทําลาย ใน
ปากพลันมีโลหิตสีแดงสดพุง่ ทะลักออกมา และเดินถอย
หลังไปหลายก้าว

“ท่านผูเ้ ฒ่า !” ท่านเนียทีสังเกตสถานการณ์


ทุกอย่างอย่างใกล้ชิด รีบพุง่ ตัวออกไปพยุงเขาเอาไว้

เนียซงเอามือจับหน้าอกทีกําลังม้วนตัวเป็ น
เหมือนดังคลืนแรงเอาไว้ ยังไม่ทนั ได้เช็ดคราบเลือด
บริเวณมุมปาก พลันมองหานฉายไฉ่อย่างตืนตระหนก
และพูดกับท่านเนียว่า : “แย่แล้ว รีบหนีไป !”

เสียงของเขาไม่ได้ดงั มากนัก แต่ก็ทาํ ให้ทกุ คนที

35
อยู่ ณ ทีแห่งนันได้ยินโดยทัวกัน

36
ตอนที 105-3 สายเลือดแห่งเปลวเพลิง

เมือผูค้ นเมืองจือเห็นว่าเนียซงทีเก่งกาจมากทีสุด
ยังถูกทําร้ายจนกลายเป็ นสภาพเช่นนี ก็พลันรูส้ กึ ตืน
ตกใจจนไร้ซงเรี
ึ ยวแรงทีจะสูต้ อ่ ต่างก็ไปหลบอยูข่ า้ งหลัง
ของเนียซง

มูช่ ิงเกอหรีตาลง การลงมือเมือครูน่ ีของหานฉ่า


ยไฉ่ทาํ ให้นางตะลึง

พลังอันยิงใหญ่เช่นนีกลับถูกทําลายลงอย่างง่าย
ดาย ดูเหมือนว่าความสามารถของหานฉายไฉ่จะ
มากกว่าทีคิดไว้เสียแล้ว

37
หากเป็ นตัวนางจะทําเช่นนีได้หรือไม่

มูช่ ิงเกอย้อนถามตนเอง

การต่อสูห้ ยุดลงอย่างกะทันหัน ทุกคนจากเมือง


จือต่างค่อยๆ ถอยหลัง และคิดจะหนีกลับเข้าไปในผืน
ป่ าใหญ่ทีเพิงหนีออกมาเมือครูน่ ี

ในตอนนีหานฉายไฉ่ทีนังอยู่ ได้ยืนอยูบ่ นทีนอน


ทีประดับไปด้วยลวดลายสีทองต่างๆ

ในขณะทีเขายืนขึนมูช่ ิงเกอจึงสังเกตเห็นว่า
38
ผูช้ ายคนนีสูงมาก

เขายืนอยูใ่ จกลางดอกไม้ราวกับเป็ นเกสร แต่ใบ


หน้าอันงดงามน่าเย้ายวนกลับทําให้กลีบดอกไม้สีชมพูที
มีกากเพชรสีทองตกแต่งอยูด่ หู มองหม่นลง

ชุดทีมีลายดอกไห่ถางปั กอยู่ ในตอนนีโดดเด่น


มากขึนกว่าเดิม

ความงดงามของหานฉายไฉ่แฝงความน่าเย้า
ยวนทีสะกดทุกความรูส้ กึ !

ในขณะทีเขายืนอยู่ ดวงตาฉายแววนิงเฉย ราว


39
กับผูค้ นจากเมืองจือ ล้วนเป็ นดังมดตัวน้อยนิด

ท่าทางเช่นนีของเขา ทําให้ทกุ คนรูส้ กึ หวาดกลัว


และไม่อยากจะเผชิญหน้าอีกต่อไป

โชคดีทีมูช่ ิงเกอได้ ‘ประสบการณ์’ จากไอ้ตวั


ประหลาดบางคนมาเป็ นเวลานาน จึงมีภมู ิตา้ นทานกับ
ท่าทางเช่นนี อย่าว่าเพียงแต่ทา่ ทางของหานฉายไฉ่ใน
ตอนนีเลย แม้จะเป็ นท่าทางดังเทพบุตรอันพลิกฟ้าของ
ซือมัวนางยังไม่แม้กระทังจะขมวดคิว

“ตอนนี ถึงทีขา้ บ้างแล้ว” หานฉายไฉ่พดู โดยไม่


แสดงอาการใดๆ และไม่รอให้ทกุ คนมีโอกาสได้โต้ตอบ

40
เขาก็ยกมือขึนกําหมัดแน่นแล้วพูดเบาๆ ว่า : “สลาย!”

ทันใดนันร่างกายของเนียซงก็ราวกลับมีตาข่าย
สีนาเงิ
ํ นปรากฏขึนและแยกร่างของเขาออกเป็ นชินๆ
จํานวนนับไม่ถว้ น

มูช่ ิงเกอหรีตาทังสองข้างลงอย่างเย็นเยียบ พลัน


คิดในใจด้วยความตะลึง : นีมันทักษะสงครามอะไรกัน

ตาข่ายสีนาเงิ
ํ นประกายม่วงนัน ทําให้นางรู ้
ความสามารถของหานฉายไฉ่วา่ เทียบเท่ากับตัวนางคือ
ห่างจากสายม่วงเพียงเอือมมือ

41
“สวรรค์!”

ท่ามกลางความตืนตระหนก เสียงทีหวาดกลัวก็
ได้ดงั ขึน

ผูค้ นทีเผชิญหน้าอยูก่ บั เศษเลือดเนือเหล่านัน


ต่างถอยหนีออกไปไกล

“หนีเร็ว!” ผูน้ าํ บางคนพุง่ เข้าไปภายในผืนป่ า


อย่างไม่สนใจอะไรทังสิน

และดึงสติทกุ คนกลับมาในทันที ต่างก็ทิงอาวุธ


ในมือลงและพุง่ เข้าไปภายในผืนป่ าอย่างรวดเร็ว ราวกับ
42
ว่าหานฉายไฉ่เป็ นดังปี ศาจร้าย หากหนีออกไปช้าแม้แต่
ก้าวเดียวก็จะตายอย่างน่าอนาถ

ท่านเนียมองหานฉายไฉ่ดว้ ยดวงตาสีโลหิตที
แฝงความโกรธแค้น แล้วจึงหันหนีเข้าไปภายในผืนป่ า
ในขณะนีมือของเขายังคงเปื อนเลือดของเนียซง แต่
เพราะรูว้ า่ อยูต่ อ่ ไปก็ไม่อาจจะแก้แค้นได้ ทุกอย่างล้วน
ต้องคิดการณ์ไกล

หานฉายไฉ่มองผูค้ นทีวิงหนีกระเจิดกระเจิงออก
ไปดังหนู ในแววตาพลันมีความเยาะเย้ยจางๆ เขาไม่ได้
ลงมืออีกและไม่ได้สง่ ใครออกไปตามฆ่า

43
แต่ทว่า ในขณะทีกวาดสายตามองแผ่นหลังของ
ท่านเนีย กลับสังลูกน้องว่า : “ตระกูลเนียในเมืองจือ
กวาดล้างให้หมดสิน”

สิงทีแฝงอยูใ่ นคําพูดอันง่ายดายนันคือฉากพายุ
แห่งการกวาดล้างของวงศ์ตระกูลหนึง

มูช่ ิงเกอหันไปมองเขาและไม่ได้สงให้
ั ตามฆ่า
เช่นกัน นางไม่ได้เป็ นปี ศาจร้าย ทีจะฆ่าล้างตระกูลเช่นนี
ในตอนนี ความขัดแย้งระหว่างตัวนางกับผูค้ นเมืองจือ
ได้กลายเป็ นปั ญหาของคนทีอยูต่ รงหน้าแล้ว ถือเป็ นการ
แสดงการตอบโต้จากนางต่อแผนการของเขา

44
เรืองระหว่างนางและเมืองจือได้จบลงแล้ว ทียัง
เหลือก็คือคุณชายจูทียังคงกัดนางไม่ปล่อย

ในส่วนลึกของสายตาราวกับกําลังคิดอะไรอยู่ มู่
ชิงเกอไม่ได้คิดว่าตนเองจะเป็ นคนดีอะไร !

“คุณชายมู่ เจ้าว่าหากข้าเหลือคนแซ่จเู อาไว้ให้


เจ้า เจ้าคิดว่าจะดีหรือไม่” และในขณะนีเอง เสียงเบาๆ
ทีเกียจคร้านของหานฉายไฉ่ก็ได้ดงั ขึนอีกครัง

มูช่ ิงเกอหันกลับไปมองหานฉายไฉ่ กระตุกมุม


ปากราวกับยิมและไม่ยมในขณะเดี
ิ ยวกัน : “ไม่รบี อย่าง
ไรก็ตอ้ งพบกันอีก”

45
หานฉายไฉ่เองก็ยมและพู
ิ ดว่า : “ก็จริง คุณชาย
มูท่ าํ ให้คนแซ่จถู กู คุณชายมูห่ ลอกเงินจนหมดตัว ลูกน้อง
ก็ตายทังหมด บางทีหากหนีไปเช่นนี ทีๆ จะไปคงจะไม่
ใช่เมืองจือแล้ว แต่เป็ นเมืองฮ่วน”

“ดูเหมือนว่า คนทีต้องการให้ขา้ อารักขา คือ


ท่านหานสินะ” มูช่ ิงเกอพูด

หานฉายไฉ่ตอบว่า : “ใช่แล้ว ข้าเอง”

ทังสองต่างก็กาํ ลังยิมแท้ๆ แต่สายตาทีสบกัน


กลับแฝงความอันตราย

46
ในสายตาของคนนอกแล้ว ราวกับเป็ นจิงจอกสองตัวที
กําลังกล่าวต่อกันว่า ‘ขอบคุณๆ ไม่เป็ นไรๆ’ อย่างนัน

‘ท่านประมุข ! หากท่านยังไม่กลับมา ภรรยาตัว


น้อยทีท่านหมายปองอาจจะเป็ นทีหมายตาของผูอ้ ืนไป
แล้ว’ ความเหมือนจนน่าประหลาดใจของทังสองทําให้กู
หยาทีแอบซ่อนตัวอยูใ่ นทีมืดปาดเหงืออย่างไม่รูต้ วั และ
เป็ นกังวลแทนท่านประมุขของตนเอง

จนขนาดนีแล้ว หากเขายังดูไม่ออกว่าท่าน
ประมุขของเขากําลังหวันไหว ก็ควรจะหาต้นไม้สกั ต้นมา
ผูกคอตายได้แล้ว !

47
แต่ทว่า เพียงแค่เขาทีดูออกไม่ได้มีประโยชน์
อะไรหรอก !

เรืองเช่นนี ต้องให้เจ้าตัวทังสองดูออกต่างหากที
เป็ นเรืองสําคัญ

……

“เฮ้อ ~!เฮ้อ ~!”

หอสรรพสิงในเมืองจือ ได้ปิดทําการอย่างไม่เคย
เป็ นมาก่อน
48
ตานเฉินจือทีนังอยูภ่ ายในอาคารจําไม่ได้แล้วว่า
ตนเองได้ถอนหายใจเป็ นครังทีเท่าไหร่ เสียงถอนหายใจ
นันราวกับได้ทาํ ให้ตน้ ไม้ใบหญ้าทีอยูใ่ นกระถางได้
เ**◌่ ยวแห้งและร่วงหล่นลง

ชูเซิงยืนอยูใ่ นบริเวณอันห่างไกลและไม่กล้าเข้า
ใกล้

แม้ตานเฉินจือจะจําไม่ได้ แต่เขากลับจําได้เป็ น
อย่างดีวา่ ทีตานเฉินจือมานังเหม่อและถอนหายใจอยูท่ ี
นี เริมต้นจากตอนทีเขาได้รบั จดหมายจากเจ้านาย

49
นีมันเกิดอะไรขึนกันแน่

ทําให้ทา่ นผูเ้ ฒ่าตานผูด้ แู ลหอสรรพสิงในเมือง


จือทุกข์ใจได้มากถึงเพียงนีเชียวหรือ

ยืนอยูพ่ กั หนึง ชูเซิงจึงได้เดินเข้าไปใกล้อย่าง


ลังเล และแอบย่องเข้าไปอยูใ่ กล้ๆ ตานเฉินจือ พลันยืน
ชาร้อนให้กบั เขาถ้วยหนึง เมือท่านผูเ้ ฒ่าตานรับไป เขา
จึงรวบรวมความกล้าทังหมดและถามว่า : “ท่านผูเ้ ฒ่า
ตาน เกิดเรืองอันใดขึนกันแน่ เจ้านายมีคาํ สังว่าอย่างไร”

เมือเอ่ยถึงหานฉายไฉ่ ในดวงตาทีเหม่อลอยทัง
คูข่ องตานเฉินจือก็ลกุ เป็ นไฟขึนมาและตะโกนว่า : “อย่า

50
พูดถึงเจ้านาย !”

โทสะทีปะทุขนอย่
ึ างกะทันหันนี ทําให้ชเู ซิง
ตกใจจนคอหดและเดินถอยหลังไปหลายก้าว

ในใจก็ยงั คงรูส้ กึ ฉงนไม่หยุด เจ้านายทําอะไร


ท่านผูเ้ ฒ่าตานกันแน่ จึงได้ทาํ ให้ทา่ นผูเ้ ฒ่าตานเป็ น
ทุกข์ได้มากถึงเพียงนี

ตานเฉินจือระบายความโกรธออกมา ท่านผูเ้ ฒ่า


ตานถอนหายใจอีกครังและพูดว่า : “เจ้านายจะกวาด
ล้างตระกูลเนีย”

51
กวาดล้างตระกูลเนียอย่างนันหรือ

ฟู่ ฆ่าคนโดยไม่มีปีมีขลุย่ ช่างสมกับอุปนิสยั ของ


เจ้านายเสียจริง

ชูเซิงไม่ได้รูส้ กึ ตกใจกับการตัดสินใจของหาน
ฉายไฉ่ แต่ฉงนใจทีเหตุใดท่านผูเ้ ฒ่าตานจึงได้โกรธเคือง
มากถึงเพียงนี “กวาดล้างก็กวาดล้างสิ ใช่วา่ เราจะไม่มี
ความสามารถนันเสียหน่อย”

“เจ้าคิดว่าข้าจะสนใจตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูล
เนียหรือ” ตานเฉินจือจ้องตาเขม็ง พลันพูดด้วยความ
โกรธว่า : “ตระกูลเนียมิได้มีความหมายอันใดเลย ไม่

52
เพียงแต่เนียซงผูม้ ีความสามารถมากทีสุดยังถูกเจ้านาย
สังหาร ถึงแม้วา่ เขาจะมีชีวิตอยู่ ตระกูลเนียก็มิได้ดนู ่า
เกรงขามเลยแม้แต่นอ้ ย”

“ใช่ๆ ! หากเลือกยอดฝี มือจํานวนหนึง ก็จะ


สามารถกวาดล้างตระกูลเนียได้ หากเป็ นเช่นนัน ท่าน
มาถอนหายใจอยูท่ ีนีเพราะเหตุใดกัน” ชูเซิงถาม

หนวดของตานเฉินจือกระตุกทีหนึง แล้วยืน
กระดาษทีกําอยูใ่ นมือตลอดให้กบั ชูเซิง : “เจ้าดูเอง
เถิด !”

53
ตอนที 105-4 สายเลือดแห่งเปลวเพลิง

54
ชูเซิงรีบเข้าไปรับอย่างตืนตระหนกและอ่าน
เนือความในกระดาษแผ่นนัน

ทันใดนัน สีหน้าก็พลันเปลียนไป เขามองตาน


เฉินจือด้วยใบหน้าทีดูเหมือนจะร้องไห้ : “เจ้านายทํา
ตามใจตนเองเช่นนีจะดีหรือ”

“เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ หืม ~!” นําเสียงของตาน


เฉินจือเต็มไปด้วยความกลุม้ กังวลใจ พลันเงยหน้าขึน

เขาเองก็ไม่เข้าใจ เจ้านายจําเป็ นต้องทําให้ผคู้ น


ทัวทังเมืองจือคิดว่าเรืองนีเป็ นฝี มือของหอสสรรพสิง

55
อย่างนันหรือ แม้วา่ ความเย่อหยิงของเขา จะทําให้เขาขี
เกียจอธิบาย แต่อย่างน้อยก็ควรจะใช้สติปัญหาอันเฉียบ
แหลมของตนเองในการจัดการมิใช่หรือ

‘เจ้าจัดการเอง’ อย่างนันหรือ หมายความว่า


อย่างไร

หลังจากทีเห็นคําพูดสุดท้ายใบกระดาษแผ่นนัน
ตานเฉินจือก็มีความคิดทีอยากจะหนีออกไปให้พน้

ในตอนนีหอสรรพสิงกลายเป็ นศัตรูกบั ผูม้ ี


อํานาจทัวทังเมืองจือ เขาจะจัดการอย่างไรได้ โยนภาระ
ทังหมดให้แก่เขา ตนเองกลับหนีไปอย่างสง่างาม มีเจ้า

56
นายเช่นนีด้วยหรือ

ชูเซิงวางกระดาษลง มองตานเฉินจืออย่างทุกข์
ใจ : “ท่านผูเ้ ฒ่าตาน หากความสัมพันธ์กบั ผูม้ ีอาํ นาจ
เมืองจือยังไม่ดีขนึ รายได้ก็จะลดน้อยลง เมือถึงเวลา
ต้องส่งรายได้ เราจะอธิบายกับสํานักงานกลางอย่างไร”

ตานเฉินจือพูดอย่างหมดกําลังใจว่า : “เจ้าถาม
ข้า แล้วข้าจะไปถามใคร !”

ในครานี หอสรรพสิงถือเป็ นการยกก้อนหินขึน


แล้วโยนลงเท้าของตนเอง ! ไม่เพียงแค่ไม่ได้รบั
ประโยชน์อนั ใด แต่ทว่ากลับสร้างปั ญหาให้กบั ตนเอง

57
‘สหายน้อยมูเ่ อ๋ยสหายน้อยมู่ ข้าช่างชืนชมในตัว
เจ้าเสียจริง ! ’ ตานเฉินจือถอนหายใจให้กบั ตัวปั ญหาตัว
จริง

แต่เขาก็รูด้ ีวา่ เรืองนีจะโทษมูช่ ิงเกอคนเดียวก็ไม่


ได้

เรืองราวทังหมดทีเจ้านายของพวกเขาได้วาง
แผนเอาไว้ กลับถูกมูช่ ิงเกอคลีคลายอย่างง่ายดายจนตน
เองก็เดือดร้อน เขาโทษเจ้านายของตนเองทีเลือดเย็น
มากเกินไป ทิงปั ญหาเอาไว้ให้เขาจัดการ กลัวว่าเขาจะ
อายุยืนเกินไปหรืออย่างไร

58
ในขณะทีหอสรรพสิงกําลังแย่ มูช่ ิงเกอก็ได้อยู่
ระหว่างทางไปเมืองฮ่วนแล้ว

นางต้องไปส่งหานฉายไฉ่ทีเมืองฮ่วนแล้วก็ไปรับ
ข้อมูลทีเกียวข้องกับพญาเพลิงทีนัน

ก่อนหน้านี นางเคยคิดทีจะปฏิเสธ เพราะ นาง


ไม่เชือว่าด้วยความสามารถของหานฉายไฉ่ จะต้องการ
คนคอยปกป้องระหว่างทางไปเมืองฮ่วน หากไม่ใช่เพราะ
ต้องการรักษาความปลอดภัย แล้วต้องการอะไร

แต่ทว่า ในขณะทีนางกําลังจะปฏิเสธ หานฉาย

59
ไฉ่ราวกับอ่านใจนางออก แล้วจึงพูดว่า : “สําหรับพญา
เพลิง ข้าว่าใต้หล้านีคงไม่มีใครทีจะรูด้ ีไปกว่าข้าแล้ว
และในมือของข้า มีขอ้ มูลของเบาะแสของพญาเพลิง
ประเภทหนึง”

คําพูดนี ทําให้ความคิดทีจะปฏิเสธของมูช่ ิงเก


อหายวับไปทันใด

บางทีอาจจะเพราะว่าคําพูดในตอนแรกของ
หานฉายไฉ่อาจจะเกินจริงไปหน่อย มูช่ ิงเกอเชือเป็ น
อย่างยิงว่าซือมัวผูท้ ีมีอายุอยูใ่ ต้หล้านีนับพันปี และถือ
เป็ นผูท้ ีเก่งกาจทีสุดในหลินชวนจะต้องรูจ้ กั พญาเพลิงดี
กว่าหานฉายไฉ่

60
แต่วา่ ใครใช้ให้นาไกลไม่
ํ อาจดับไฟใกล้ได้เล่า

คุณตัวประหลาดผีเข้าผีออก ในตอนนีไม่รูว้ า่ อยู่


ส่วนใดของโลก และไม่รูว้ า่ จะปรากฏตัวอีกครังเมือไหร่
ส่วนนางเองก็ไม่อาจรออยูเ่ ฉยๆ ต่อไปได้

และสิงทีทําให้มชู่ ิงเกอเปลียนใจ คือคําพูด


ประโยคหลังของหานฉายไฉ่

นางต้องการพญาเพลิง !

และอีกประการหนึง คือเบาะแสของพญาเพลิง
61
ชนิดหนึงจากทังสองประเภททีนางต้องการ

แต่วา่ ในขณะทีนางถามหานฉายไฉ่วา่ มีพญา


เพลิงประเภทใด เขากลับเก็บเป็ นความลับ ไม่ยอมเปิ ด
ปาก

และคําสุดท้ายทีพูดคือ ให้มชู่ ิงเกอทําตาม


สัญญาก่อน หลังจากทีส่งเขาจนถึงเมืองฮ่วน เขาจะบอก
ความจริงทังหมดกับนางเอง

เพราะฉะนัน สุดท้าย มูช่ ิงเกอจึงพากําลังคน


และม้าของหานฉายไฉ่มาร่วมเดินทาง

62
พวกเขาแทบจะไม่ได้คา้ งในเมืองอวีจือเลยแม้
แต่คืนเดียว หลังจากทีพวกเขาออกเดินทางอย่างเร่งรีบ
พีน้องตระกูลเว่ยทีอยากจะพบกับนางทีเมืองอวีจือก็เสีย
แผนไป

เมือไม่อาจจะทําอะไรได้ ทําได้เพียงเดินทางไป
หามูช่ ิงเกอทีเมืองฮ่วน

เมืองอวีจือคือระยะทาง 1 ใน 2 จากเมืองจือไป
เมืองฮ่วน โดยใช้เวลาไปประมาณ 7 วัน และทัง 7 วันนี
ทุกคนต่างเร่งเดินทางแต่ระหว่างทางจากเมืองอวีจือไป
ยังเมืองฮ่วนนัน ทุกคนต่างเดินทางช้าลงมาก

63
เหตุผลนันแน่นอนว่าเป็ นเพราะเจ้านายอย่าง
หานฉายไฉ่ ในทุกครังทีเจอทิวทัศน์ทีสวยงามก็จะขอให้
ทุกคนหยุดพักทีนัน รอให้เขาชืนชมจนพอใจแล้วค่อยเริม
เดินทาง

เพราะฉะนัน ระยะทางทีสามารถถึงเป้าหมายได้
ภายใน 10 วัน ถูกเขายือเอาไว้จนย่างเข้าสูว่ นั ที 11 ก็ยงั
คงเดินทางอยู่

ในตอนนี ระยะห่างของพวกเขากับเมืองฮ่วน
หากเร่งเดินทาง ใช้เวลาอีกเพียงไม่ถงึ 1 วันแล้ว

แต่วา่ ในขณะทีบังเอิญเจอนําตก 3 ชัน หาน

64
ฉายไฉ่ก็พลันเกิดความสนใจแล้วก็สงให้
ั ขบวนหยุดลง

“ทิวทัศน์ทีนีงดงามตระการตายิงนัก ช่างเหมาะ
สําหรับการนังดืม” ในขณะทีหานฉายไฉ่พมึ พํา ลูกน้อง
ทัง 4 ของเขาก็ได้หาทีๆ เหมาะสมทีสุดทีหนึง พลันปู
พรมอย่างคล่องแคล่วและจัดวางอุปกรณ์สรุ าทังหมดเอา
ไว้รอเขา

มูช่ ิงเกอมองหานฉายไฉ่ทีเดินพุง่ ไปยังบริเวณ


พรมแดงโดยไม่พดู อะไร ท่าทางนันเย็นชาเป็ นอย่างมาก

ในระหว่างทาง ไม่ได้พบกับการลอบทําร้ายอัน
ใดเลยและไม่ได้มีอบุ ตั ิเหตุอนั ใดอีกด้วย ยิงทําให้นางไม่

65
เข้าใจว่าเป้าหมายทีหานฉายไฉ่ให้มาคุม้ กันคืออะไร

สําหรับหานฉายไฉ่ นางจําเป็ นต้องคอยระวัง

พวกเขาไม่ได้เป็ นเพือนกันและตามหลักแล้ว ยัง


ถือว่าเป็ นศัตรู

อีกประการหนึง หานฉายไฉ่และนางต่างก็เป็ น
คนทีใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเป็ นอย่างมาก สิงเดียวที
แตกต่างกัน นางจะเหน็ดเหนือยเช่นนีก็ตอ่ เมือมีศตั รูให้
ไปต่อสู้ แต่หานฉายไฉ่กลับต่างกัน ราวกับว่าความเคย
ชินของเขาจะเป็ นเช่นนี

66
หากไม่อยากจะถูกเขาลอบโจมตี สิงทีทําได้คือ
คอยระมัดระวังตัวอย่างมีสติ

แม้วา่ พวกเขาจะเดินทางไปพร้อมๆ กัน แต่ก็


แบ่งฝังแบ่งฝ่ ายกันอย่างชัดเจน ในตอนนี มูช่ ิงเกอและ
คนของนาง ยืนอยูใ่ นระยะอันไกลจากหานฉายไฉ่

“น้องมู่ ทิวทัศน์ทีนีไม่งดงามหรืออย่างไร เหตุใด


ไม่มาร่วมดืมกับข้า ไม่งดงามและไม่วิเศษหรือ” ในระยะ
อันไกลออกไป เสียงโทนตําอันฉายแววความเกียจคร้าน
ดังขึน

เมือได้ยินคําสรรพนามนี มูช่ ิงเกอพลันไม่รูว้ า่

67
ควรจะรูส้ กึ อย่างไร

“ไม่จาํ เป็ น” ตอบกลับด้วยใบหน้าอันเย็นชา มูช่ ิง


เกอหันกลับไปอย่างไม่เกรงใจและไม่สนใจหานฉายไฉ่
อีก

หากเป็ นคนอืนทีเสียมารยาทเช่นนีกับเขา คงจะ


ตายจนไม่เหลือแม้กระทังซาก แต่วา่ ใครใช้ให้คนทีทํา
เช่นนีกับเขาคือน้องมู่

คนทีงดงามเหมือนๆ กับเขา ต้องเอาใจให้มาก


ถึงจะถูก

68
หานฉายไฉ่กระตุกรอยยิม ในดวงตาอันเรียว
ยาวทีฉายแววความงดงาม มองแผ่นหลังอันสง่าผ่าเผย
ของมูช่ ิงเกอ เขายกมือขึนและเทเหล้าในแก้วเข้าปาก

โย่วเหอทีไปตักนํา เดินมาหยุดอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเก


อ และยืนกระบอกนําให้กบั นาง

มูช่ ิงเกอรับมาดืมคําหนึง นําอันเย็นชืนใจไหลลง


ลําคอของนาง ลบล้างความเบือหน่ายในใจของนางลง
ไปบ้าง

“คุณชาย ท่านหานคิดจะทําการใดกันแน่” เรือง


ทีแม้กระทังมูช่ ิงเกอยังดูไม่ออก โย่วเหอเองก็สงสัย

69
ใบหน้าของมูช่ ิงเกอฉายแววความเคร่งขรึม ส่ง
นําคืนให้กบั โย่วเหอพลางพูดอย่างเย็นชาว่า : “ไม่ตอ้ ง
สนใจหรอก เมือถึงเมืองฮ่วนและได้รบั เบาะแส คนเหล่า
นีจะเป็ นอย่างไรก็ไม่เกียวข้องกับเรา”

โย่วเหอพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะถอยออกไป

ใช้เวลาอยูท่ ีนําตก 3 ชันเป็ นเวลาครึงวัน หาน


ฉายไฉ่เริมหมดความสนใจและสังให้เดินทางกันต่อ

ในทีสุดก็ถงึ ทีหมาย มูช่ ิงเกอถอนหายใจเพือ


ปลดปล่อยความทุกข์

70
ระยะทางทีต้องใช้เวลาเพียง 1 วัน ถูกยือออกไป
ถึงตอนเทียงของวันที 2 จึงได้มองเห็นกําแพงเมืองฮ่วน

เมืองฮ่วน เมืองหลวงของแคว้นลี ซึงแน่นอนว่า


พืนทีต้องไม่นอ้ ยเป็ นแน่ เมือเทียบกันแล้ว ถือว่าคึกคัก
กว่าลัวตู

เข้าสูป่ ระตูเมืองฮ่วนโดยสวัสดิภาพ มูช่ ิงเกอยืน


ดักรถม้าของหานฉายไฉ่เอาไว้

รถม้าค่อยๆ หยุดลง หากไม่ใช่เพราะมูช่ ิงเก


อเห็นกับตา ก็คงจะไม่เชือว่าภายในรถม้าสีรตั ติกาลเช่น

71
นี คนทีอยูภ่ ายในกลับเป็ นจอมหลงตัวเอง

และมูช่ ิงเกอก็เพิงจะกระจ่างว่า ทีรถม้าคันนี


สามารถเปิ ดออกได้ดงดอกไม้
ั เพราะมีกระบวนการอัน
ชาญฉลาด

ประตูยงั ไม่ทนั จะถูกเปิ ดออก มีเพียงเสียงที


เกียจคร้านของหานฉายไฉ่ก็เปล่งออกมา : “น้องมูม่ ีเรือง
อันใดหรือ”

“ถึงเมืองฮ่วนแล้ว สัญญาระหว่างเราก็ถือว่า
เสร็จสิน ตามสัญญา เจ้าต้องทําตามทีได้กล่าวเอาไว้”
ใบหน้าของมูช่ ิงเกอเย็นชา นําเสียงเคร่งขรึม

72
“เหตุใดน้องมูจ่ งึ ได้รบี ถึงเพียงนี” หานฉายไฉ่พดู
อย่างช้าๆ

‘แน่นอนว่าเจ้าไม่รบี ’ มูช่ ิงเกอแอบเถียงในใจ แต่


มิได้พดู อะไร

73
ตอนที 105-5 สายเลือดแห่งเปลวเพลิง

ไม่นาน เมือไม่รูว้ า่ ควรจะทําอย่างไร หานฉายไฉ่

74
จึงพูดว่า : “ช่างเถิด หากน้องมูร่ บี มากเพียงนี ถ้าเช่นนัน
เราไปหาสถานทีทีเหมาะสม แล้วข้าจะบอกทุกอย่างที
น้องมูอ่ ยากรู”้

มูช่ ิงเกอหลีกทางให้อย่างเงียบๆ เพือแสดงการ


โต้ตอบของตนเอง

ดูเหมือนว่า หานฉายไฉ่จะคุน้ เคยกับเมืองฮ่วน


เป็ นอย่างดี ไม่นานก็เจอร้านชาทีบรรยากาศเงียบสงบ
เขาจองร้านเอาไว้คนเดียวเป็ นเวลา 1 วันอย่างใจกว้าง
พร้อมไล่แขกคนอืนๆ ออกไป

ไม่นาน ภายในร้านนําชาทีถูกทําความสะอาด

75
จนใหม่เอียม ก็เหลือเพียงมูช่ ิงเกอและหานฉายไฉ่

ในเรือนทีทังสองนังอยู่ นอกหน้าต่างเป็ นทิวทัศน์


แม่นาและภู
ํ เขาอันสวยงามน่าดึงดูด นังพิงอยูต่ รง
หน้าต่าง ดวงตาเรียวยาวและงดงามของหานฉายไฉ่จอ้ ง
มายังมูช่ ิงเกอ ราวกับอยากจะรูท้ กุ อย่างเกียวกับตัวนาง

สายตาทีไม่หลบซ่อนเช่นนี ทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ อึด


อัด พลันขมวดคิว

ครูห่ นึง เมือเห็นว่าเขายังคงไม่ละสายตาและ


จ้องมากขึนกว่าเดิม มูช่ ิงเกอจึงพูดอย่างไม่พอใจว่า :
“เจ้าจ้องอะไร”

76
“ข้าอยากจะรูเ้ หตุผลหลักทีน้องมูต่ อ้ งการพญา
เพลิง” หานฉายไฉ่พดู อย่างตรงไปตรงมา

แต่ทว่า คําพูดนีกลับทําให้มชู่ ิงเกอหรีตาลง


พร้อมสีหน้าอันเคร่งขรึม

นางเงียบและอยากจะรูว้ า่ ชายผูน้ ีอยากจะรู ้


อะไรกันแน่

และหานฉายไฉ่เองก็ไม่ได้ทาํ ให้นางผิดหวัง หลัง


จากทีเงียบไปครูห่ นึง ก็พดู ขึนอย่างช้าๆว่า : “โดยทัวไป
แล้ว พญาเพลิงมิได้มีประโยชน์ตอ่ มนุษย์เลยแม้แต่นอ้ ย

77
ยิงไปกว่านัน มนุษย์ไม่สามารถเก็บหรือสะสมพญาเพลิง
ได้ แต่หากจะเป็ นกรณีพิเศษ”

สายตาของหานฉายไฉ่หยุดลงบนใบหน้าของมู่
ชิงเกออีกครัง ในครานีสายตาของเขาจับจ้องมากกว่า
เดิม

เมือถูกสายตาของเขาจับจ้องจนรูส้ กึ ตกใจ มูช่ ิง


เกอค่อยๆ หรีตาทังสองข้างลง

“หากว่าในร่างกายของเขามีการสืบสายโลหิต
พิเศษ ถ้าเช่นนันในขณะทีจะทําให้สายโลหิตตืนขึน การ
ใช้พญาเพลิงในการกระตุน้ ถือเป็ นวิธีการขันพืนฐานวิธี

78
หนึง” เสียงโทนตําทีแฝงความเกียจคร้านของหานฉายไฉ่
ดังก้องอยูใ่ นห้อง คําพูดทีพูดออกมา ทําให้สายตาอัน
เย็นเยียบของมูช่ ิงเกอแฝงไอสังหาร

เรืองสายโลหิตแห่งปรมาจารย์การหลอมอาวุธ
เป็ นความลับของนาง

เรืองนี เกียวข้องกับความเป็ นมาของท่านแม่


ของนาง นางไม่เคยบอกใครเลยแม้แต่คาํ เดียว

ในตอนนี กลับถูกคนทีรูจ้ กั พญาเพลิงดีทีสุด จับ


ได้เช่นนี

79
จากเรืองนี สามารถรูไ้ ด้วา่ หานฉายไฉ่ถือเป็ น
คนทีรูจ้ กั พญาเพลิงอย่างกระจ่างมากทีสุด !

แต่ทว่า เดาออกแล้ว นางก็ตอ้ งยอมรับอย่างนัน


หรือ

มูช่ ิงเกอยังคงเงียบ

และหานฉายไฉ่ราวกับจะเดาออกว่านางต้อง
เงียบ จึงได้พดู ต่อยังไม่ใส่ใจ่วา : “ในครานี ข้าเพียงผ่าน
หอสรรพสิงเมืองจือมาเพราะความบังเอิญ และไม่คิดว่า
ในขณะทีหยุดพักผ่อน จะได้ยินข่าวว่ามีคนต้องการ
เบาะแสเกียวกับพญาเพลิง ข้ารูส้ กึ แปลกใจตังแต่ตอน

80
นัน คนปกติเหตุไฉนจึงต้องการเบาะแสของพญาเพลิง
จึงจงใจให้ชเู ซิงพูดไปว่า หากต้องการเบาะแสของพญา
เพลิง จะต้องไปส่งข้าทีเมืองฮ่วน เพือทีจะสืบว่าเป้า
หมายทีคนผูน้ นต้
ั องการพญาเพลิงเพราะอะไร และหลัง
จากนัน จากการทีเจ้าขอข้อมูลเกียวกับของเหลวเย็น
จากตานเฉินจือ ก็ยิงทําให้ขา้ มันใจว่า เจ้าต้องการพญา
เพลิงเพือกระตุน้ สายโลหิตในร่างกาย ดูเหมือนว่าข้าได้
คาดเดาทุกอย่างได้อย่างแม่นยําแล้ว แต่สงเดี
ิ ยวทีข้าไม่
อาจจะรูไ้ ด้คือ ในร่างกายของเจ้ามีสายโลหิตอะไรกัน”

คําพูดของหานฉายไฉ่ทาํ ให้จิตใต้สาํ นึกของมูช่ ิง


เกอรูส้ กึ ตืนตระหนก

ความจริงแล้ว ตังแต่นางก้าวเข้าหอสรรพสิง ก็
81
ได้ตกอยูใ่ นสายตาของชายผูน้ ีและถูกจับตาดูอยูต่ ลอด
เวลา

“แล้วเหตุใดเจ้าจึงรูจ้ กั พญาเพลิงดีเพียงนี หรือ


ว่าในร่างกายของเจ้าเองก็มีสายโลหิตอย่างทีเจ้าได้
กล่าวมาอย่างนันหรือ” มูช่ ิงเกอย้อนถามอย่างเย็นเยียบ

แต่ทว่า หานฉายไฉ่กลับไม่ตอบและย้อนถาม
ว่า : “การทีเจ้ามีโอสถนัน แสดงว่าเจ้ามีพรสวรรค์ดา้ น
การปรุงยาระดับสูง เจ้าสืบสายโลหิตอาจารย์ปรุงยา
อาจารย์หลอมอาวุธ อาจารย์ทะลวงสวรรค์ หรืออาจารย์
นํา ไฟ สายฟ้า ลม ดิน ไม้ ทองเล่า”

82
คําพูดของเขาสร้างความกดดันเป็ นอย่างมาก
แต่ก็เป็ นการบอกอะไรหลายๆ อย่างแก่มชู่ ิงเกอ

ก่อนหน้านี นางรูจ้ ากเหมิงเหมิงเพียงแต่สาย


โลหิตปรมาจารย์หลอมอาวุธในร่างของตนเองเท่านัน
นอกจากสายโลหิตแห่งปรมาจารย์การหลอมอาวุธแล้ว
ยังมีประเภทสายโลหิตปรมาจารย์มากมายถึงเพียงนัน
เชียวหรือ

‘เหมิงเหมิง อาจารย์ทะลวงสวรรค์คืออะไร และ


อะไรคืออาจารย์นาํ ไฟ ลม สายฟ้า ดินไม้ ทอง’ มูช่ ิงเก
อถามในใจ

83
‘โห ! เจ้านายรูม้ ากเพียงนีเชียวหรือ’ เหมิงเหมิ
งรีบตอบอย่างรวดเร็ว

‘อย่ามาพูดจาไร้สาระ!’ มูช่ ิงเกอพูดด้วยนําเสียง


ทีไม่คอ่ ยดีมากนัก

‘แงๆๆ เจ้านายใจร้าย ! เหมิงเหมิงบ่นคําหนึง


แต่ก็ยงั คงตอบคําถามของมูช่ ิงเกอแต่โดยดี ‘อาจารย์
ทะลวงสวรรค์ คือพวกทีมีความสามารถในการฟั งเสียง
ของสรรพสัตว์รูเ้ รือง สามารถโน้มน้าวสัตว์วิญญาณ
สัตว์อสูรเทวะ และสัตว์มหาเทพให้เชืองได้ สายโลหิตนี
ความใกล้ชิดกับสรรพสัตว์ ไม่ใช่สงที
ิ อาจารย์ฝึกสัตว์จะ
สามารถเทียบได้ สําหรับปรมาจารย์แห่งนํา ไฟ ลม สาย
ฟ้า ดิน ไม้ ทอง จริงๆ แล้วก็คือในสายเลือดของพวกเขา
84
จะมีพลังของธาตุนนๆ
ั ไหลเวียนอยู่ ก็เหมือนกับพลัง
สายฟ้าของเจ้านาย ถือได้วา่ เป็ นสายโลหิตสายฟ้า เพียง
แต่วา่ เจ้านายสามารถสะสมพลังสายฟ้าเอาไว้ได้ แต่
พวกเขาทําได้เพียงรวบรวมในขณะทีต้องการ’

บทเรียนทังหมดนี ทําให้มชู่ ิงเกอตืนตระหนก


อย่างเป็ นทีสุด

เพราะว่า สิงทีนางสัมผัสได้เมือครูน่ ี ไม่ได้มีเพียง


แค่ในหลินชวน เช่นนันก็หมายความว่ามันอยูใ่ นโลกอีก
ใบหนึงและในโลกใบนันก็เป็ นอย่างทีซือมัวเคยกล่าวเอา
ไว้ ว่ามันทังกว้างใหญ่และเก่งกาจกว่ามาก !

85
รวมทัง สิงทีนางคาดเดาเอาไว้ ได้รบั การยืนยัน
บางอย่างแล้ว นันก็คือท่านแม่ของนางไม่ใช่คนในหลิน
ชวน !

‘เจ้าดูซิ ว่าในร่างกายของคนทีอยูต่ รงหน้านี เป็ น


ผูส้ ืบสายโลหิตพิเศษอะไรหรือไม่’ มูช่ ิงเกอใช้พลังจิตใน
การพูดกับเหมิงเหมิง

เหมิงเหมิงสามารถมองเห็นหานฉายไฉ่ได้ โดย
ผ่านสายตาของมูช่ ิงเกอ

แต่หานฉายไฉ่กลับไม่สามารถเห็นเหมิงเหมิงได้

86
อย่าว่าแต่เขาเลย ขนาดซือมัวเองก็คงจะทําไม่
ได้ เพราะกลินอายของเหมิงเหมิงนันคล้ายกับมูช่ ิงเก
อ ราวกับเป็ นร่างทีแยกออกมาจากตัวนาง

‘ฮูว เจ้านาย ร่างกายของเขาราวกับจะมีกลิน


อายจางๆ ของผูส้ ืบสายโลหิตแห่งไฟ แต่วา่ กลินนันเจือ
จางและบางเบามาก ไม่สามารถจะเทียบได้กบั เจ้านาย’
เหมิงเหมิงให้คาํ ตอบมูช่ ิงเกออย่างรวดเร็ว

นําเสียงนันเต็มเปี ยมไปด้วยความเหยียดหยัน

มูช่ ิงเกอได้รบั คําตอบ แต่หนั ไปมองหานฉายไฉ่


ด้วยสายตาทีเต็มเปี ยมไปด้วยความฉงนใจ

87
ไอ้จอมหลงตัวเองคนนีก็เป็ นผูม้ ีพลังสายโลหิต
อย่างนันหรือ

อยูๆ่ นางก็หวั เราะ และเป็ นการหัวเราะทีขบขัน


เป็ นอย่างมาก ไม่ได้ตอบคําถามของหานฉายไฉ่แต่เพียง
พูดว่า : “แล้วเจ้าล่ะ เหตุใดจึงได้รูจ้ กั พญาเพลิงดีมากขึน
เพียงนี หรือว่า เจ้าเองก็ตอ้ งการใช้พญาเพลิงในการ
กระตุน้ สายโลหิตแห่งเปลวไฟในร่างกายของเจ้า”

ทันทีทีสินเสียงของมูช่ ิงเกอ ดวงตาเรียวยาวของ


หานฉายไฉ่ก็หรีลงและเกิดไอสังหารขึนทัวร่างกายใน
ทันที.....

88
ตอนที 106-1 ไอหยา ช่างหน้าไม่อายจริงๆ !

ไอสังหารอันหนาแน่น ทําให้อณ
ุ หภูมิภายใน
ห้องเย็นลงหลายองศาในทันที

ไอสังหาร พัดพาผมยาวทีอยูบ่ ริเวณใบหูของมู่


ชิงเกอขึนมา ราวกับว่า เพียงอีกแค่นิวเดียวมันก็จะบาด
คอของนาง

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับไม่ได้โกรธ แต่กลับยิมอย่าง


1
ขบขันให้กบั หานฉายไฉ่

ทันใดนัน ไอสังหารก็ได้จางหายไป

ริมฝี ปากสีแดงกําอันน่าเย้ายวนของหานฉายไฉ่
กระตุกขึน พลันหันไปรินนําชาให้กบั ตนเอง ท่าทางอัน
เกียจคร้านนัน ราวกับผูท้ ีไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
เมือครูท่ ีผ่านมานีไม่ใช่ตวั เขา

“สําหรับเบาะแสของพญาเพลิง ข้ามีจริงๆ แต่


ตอนนียังไม่มนใจในตํ
ั าแหน่ง เจ้าวางใจเถิด รอให้มนใจ

แล้ว แน่นอนว่าข้าจะบอกเจ้า” อยูๆ่ หานฉายไฉ่ก็พดู ขึน
มา

2
มูช่ ิงเกอหรีตาทังสองข้างลง จ้องเขาครูห่ นึงแล้ว
จึงพูดอย่างเย็นชาว่า : “อย่าผิดคําพูด” พอพูดจบ
นางก็หนั หลังกลับไปอย่างไม่แยแส

หลังจากทีนางหายไปจากร้านนําชา หานฉายไฉ่
จึงวางถ้วยนําชาในมือลง ค่อยๆ เงยหน้าขึน บ่นพึมพํา
และคิดพินิจว่า : “มูช่ ิงเกอ เจ้ามีความเป็ นมายังไงกันแน่
ตระกูลมูไ่ ม่มีทางจะมีสายโลหิตพิเศษอะไรเป็ นแน่ แต่
เจ้ากลับมี ถ้าเช่นนันก็มีเพียงความเป็ นไปได้เดียว”

ในดวงตาเรียวและงดงามนันแฝงความเย็น
เยียบ หานฉายไฉ่ตะโกนกับคนทีอยูข่ า้ งนอกว่า : “เข้า

3
มา”

ทันใดนัน ลูกน้องทังสีของหานฉายไฉ่ก็ได้
ปรากฏตัวตรงหน้าเขา

“ไปสืบเบืองหลังของฮูหยินจวนตระกูลมูแ่ ห่ง
แคว้นฉินมาให้ละเอียด” สายตาของหานฉายไฉ่คอ่ ยๆ
หรีลง ในร่องตาสาดฉายแสงประกายอันคลุมเครือ

ออกจากร้านชา มูช่ ิงเกอพลันถอนหายใจ แล้ว


จึงไปรวมตัวกับพวกมัวหยางและออกเดินทางพุง่ ไปยังที
ทีนัดกับลุงโจวแห่งตระกูลเว่ย ระหว่างทางนางได้เสีย
เวลาไปมากถึงเพียงนัน คิดว่าพีน้องตระกูลเว่ยคงจะถึง

4
เมืองฮ่วนตังนานแล้ว

ระหว่างทาง มูช่ ิงเกอดูเงียบๆ

โย่วเหอและฮวาเยวียดูออกว่าอารมณ์ของนาง
ไม่ได้ดีมากนัก จึงไม่กล้าไปรบกวนนาง

ความจริงแล้ว มูช่ ิงเกอกําลังคุยกับเหมิงเหมิง

การทีรูว้ า่ ในร่างกายของหานฉายไฉ่มีสายโลหิต
แน่นอนว่าทําให้นางแปลกใจเป็ นอย่างมาก

หอสรรพสิงมีทีมาทีไม่ชดั เจนมากนัก ราวกับว่า


5
ได้มาปรากฏอยูภ่ ายในหลินชวนอย่างไม่มีปีมีขลุย่ ใน
เวลาสันๆ เพียง 100 ปี การค้าของหอสรรพสิงก็ได้ครอบ
คลุมทังหลินชวน

ในเวลา 100 ปี มานี ยอดฝี มือได้เกิดขึนมากมาย

แต่ไม่ได้สง่ ผลกระทบไปยังหอสรรพสิงเลยแม้แต่
น้อย มิหนําซํายังยิงใหญ่มากขึน ซึงก็เป็ นการบ่งบอกว่า
เบืองหลังนันมีอาํ นาจมากเพียงใด

วันนี นางกลับรับรูว้ า่ เจ้านายแห่งหอสรรพสิงมี


สายโลหิตพิเศษ นางจึงคิดว่าหานฉายไฉ่เป็ นคนนอก
หอสรรพสิงก็เป็ นการแทรกซึมของผูม้ ีอาํ นาจจากภาย

6
นอก

‘เหมิงเหมิง เจ้ามันใจหรือไม่วา่ ในหลินชวนไม่มี


สายโลหิตทีเป็ นคนดังเดิมในพืนทีแน่นอน’ มูช่ ิงเกอถาม
เหมิงเหมิงในใจ

เสียงอันอ่อนนุ่มของเหมิงเหมิงดังขึน : ‘ข้า
สาบาน ! ว่าไม่มีแน่นอน !’

‘เพราะอะไร’ มูช่ ิงเกอแปลกใจเป็ นอย่างมาก

เหมิงเหมิงตอบว่า : ‘เพราะพืนทีมีจาํ กัด ตระกูล


ทีมีสายโลหิต ในอดีตนับว่าเป็ นตระกูลทีสูงส่ง พวกเขา
7
ไม่มีทางทีจะอยูใ่ นหลินชวนอันล้าหลังแห่งนีเป็ นแน่’

ความเหยียดหยันทีแฝงอยูใ่ นคําพูดของเหมิงเห
มิง ทําให้มชู่ ิงเกอขมวดคิวเบาๆ

‘อีกประการหนึง ตระกูลทีมีสายโลหิตนันมีอยู่
น้อยมาตังแต่แรก ฐานะสูงส่งมากถึงเพียงนี จะมาอยูท่ ีนี
ได้อย่างไร’ เหมิงเหมิงพูดเสริม

คิวทีขมวดอยูม่ ชู่ ิงเกอค่อยๆ ผ่อนคลายลง บางที


นีก็นบั ว่าเป็ นเรืองทีดี

หากยอดฝี มือภายนอกทีเก่งกาจมากกว่าผูค้ น
8
ในหลินชวนเข้าสูห่ ลินชวนได้อย่างง่ายดาย ถ้าเช่นนัน
หลินชวนก็จะศูนย์เสียความสงบสุขเป็ นแน่

‘เจ้าเคยบอกว่า ในร่างกายของข้ามีสายเลือด
ปรมาจารย์แห่งการหลอมอาวุธ ถือเป็ นสัญญาณของ
การทีจะได้กลายเป็ นปรมาจารย์แห่งการหลอมอาวุธ ถ้า
เช่นนันก็หมายความว่า ปรมาจารย์แห่งการหลอมอาวุธ
ในใต้หล้านีมาจากตระกูลเดียวกันอย่างนันหรือ ข้าจําได้
ว่า ในหลินชวนก็มีหอหลอมอาวุธ ทีนันมีปรมาจารย์แห่ง
การหลอมอาวุธมากมาย’ มูช่ ิงเกอตังคําถามอีกครัง

‘ไม่ใช่อย่างนีนะเจ้านาย !’ มืออ้วนๆ ของเหมิงเห


มิงประสานกันเอาไว้ขา้ งหลัง พลางพยักหน้า : ‘สาย
โลหิตในร่างกายของเจ้านายยังไม่ได้รบั การกระตุน้ แต่ก็
9
สามารถสร้างอาวุธได้มิใช่หรือ ปรมาจารย์แห่งการ
หลอมอาวุธในหออาวุธก็เช่นกัน พวกเขาไม่ได้มีสาย
โลหิต แต่สามารถสร้างอาวุธได้ดว้ ยตําราโบราณ แต่
เพราะไม่มีสายโลหิตคอยสนับสนุน อาวุธทีเก่งกาจทีสุด
ทีพวกเขาสามารถสร้างได้ก็มีเพียงอาวุธในระดับทีเป็ น
สมบัติ อาวุธแห่งการสงครามและอาวุธวิญญาณ อาวุธ
ในระดับสมบัติถือเป็ นระดับทีสูงทีสุดสําหรับพวกเขา
แล้ว แต่สาํ หรับคนทีมีสายโลหิต กลับสามารถพัฒนา
อาวุธระดับเทพ อาวุธระดับปราชญ์และอาวุธศักดิสิทธิ
ในตํานานได้’

มูช่ ิงเกอเงียบและอุทานในใจว่า : ดูเหมือนว่า


สายโลหิตทีว่านี จะเป็ นการเนรมิตของสวรรค์ !

10
ผูท้ ีมีสายโลหิต แตกต่างจากคนธรรมดาตังแต่
เกิด ก็ไม่แปลกทีจะมีฐานะอันสูงส่ง ช่างเป็ นการแบ่งคน
ประเภทต่างๆ ออกจากกันอย่างชัดเจน

‘ถ้าเช่นนัน สายโลหิตในร่างกายของหานฉายไฉ่
เกิดขึนได้อย่างไรกัน’ มูช่ ิงเกอยังคงถาม

เหมิงเหมิงพูดว่า : ‘แท้จริงแล้ว สายโลหิตนันมี


มาตังแต่สมัยโบราณ แต่ตา่ งก็อยูใ่ นฐานะปรมาจารย์ที
เป็ นทีเคารพนับถือ พลังของสายโลหิตนันมีมาก ผูท้ ี
สามารถฝึ กจนถึงขันสูงสุดจะสามารถเรียกลมเรียกฝน
ควบคุมไฟและทําให้เกิดสายฟ้าได้ แต่เมือเวลาผ่านไป
เพราะวิวฒ
ั นาการของมนุษย์จงึ กลายเป็ นบทบาททีไม่
ได้สาํ คัญมากนักและมีการเปลียนแปลงเรือยๆ เช่น ผูท้ ีมี
11
สายโลหิตแห่งเปลวเพลิง สามารถปรุงยาหรือสร้างอาวุธ
ได้ ผูท้ ีมีสายโลหิตแห่งสายนํา สามารถฝึ กทักษะการ
รักษาได้’

มูช่ ิงเกอขมวดคิว

ราวกับสัมผัสได้ถงึ ความฉงนใจภายในใจของมู่
ชิงเกอ เหมิงเหมิงรีบอธิบายว่า : “ผูท้ ีมีสายโลหิตแห่ง
เปลวเพลิง มีความสามารถในการควบคุมไฟ หากสาย
โลหิตได้รบั การกระตุน้ จนตืนขึน ความใกล้ชิดระหว่าง
พวกเขาและเปลวเพลิงก็จะเพิมมากขึน อีกทังการสร้าง
อาวุธและการหลอมโอสถเองก็ตอ้ งมีความสามารถใน
การควบคุมไฟได้เป็ นอย่างดี นีจึงเป็ นจุดเด่นของพวก
เขา แต่สาํ หรับคนธรรมดาแล้ว ถือเป็ นความสามารถ
12
ระดับพลิกฟ้า ส่วนผูท้ ีมีสายโลหิตแห่งสายนํา เพราะ
สายนําคือพลังชีวิต เพราะฉะนัน หากพวกเขาเรียน
ทักษะการรักษา เมือเทียบกับคนธรรมดาก็ถือว่าชนะมา
แล้วครึงทาง”

การอธิบายนี ทําให้มชู่ ิงเกอกระจ่างแจ้งแล้ว

ความจริงแล้ว คือการใช้สายโลหิตพิเศษเหล่านี
ในการสร้างอาชีพ บางทีอาจจะเป็ นเพราะสายโลหิต จึง
ทําให้คนเหล่านีมีความสามารถอันพลิกฟ้า

‘สายโลหิตในร่างกายของหานฉายไฉ่ได้
ถูกกระตุน้ จนตืนขึนแล้วหรือ’ มูช่ ิงเกอนึกถึงคําพูดก่อน

13
หน้านีอย่างกะทันหัน

เหมิงเหมิงพยักหน้า : ‘ใช่ สายโลหิตในตัวของ


คนผูน้ นได้
ั รบั การกระตุน้ แล้ว เพียงแต่วา่ มันจางมากๆ’

‘ทีแท้ก็เป็ นเช่นนี แล้วเขาต้องการพญาเพลิงไป


เพืออะไรอีก’ มูช่ ิงเกอพึมพํา

หลังจากทีเหมิงเหมิงได้ยิน ก็รบี ให้คาํ ตอบว่า :


‘บางที เขาอาจจะต้องการพญาเพลิงในการทําให้สาย
โลหิตของเขาเติบโตและเพิมพลังให้กบั สายโลหิต สาย
โลหิตของเขาคือสายโลหิตแห่งเปลวเพลิง ไม่แน่จะ
สามารถเก็บพญาเพลิงระดับเทพไว้ภายในร่างกายของ

14
ตนเองได้’

‘หมายความว่าอย่างไร ?!’ มูช่ ิงเกอหรีตาลง

‘สายโลหิตแห่งเปลวเพลิงมีความสามารถอัน
เหนือฟ้า คือการสะสมสารประเภทไฟ ความจริงแล้ว
ตระกูลทีมีสายโลหิตแห่งเปลวเพลิง ต่างก็มีวิธีการ
กระตุน้ สายโลหิตของตนเอง มีการกระตุน้ ตังแต่อายุยงั
น้อย ทําให้สามารถรูไ้ ด้ถงึ ความสามารถอันพลิกฟ้าของ
เด็กทีอยูใ่ นตระกูลทีมีสายโลหิตแห่งเปลวเพลิงและการ
ฝึ กฝนหลังจากทีโตขึนมา การใช้พญาเพลิงในการ
กระตุน้ สายโลหิตนันถือเป็ นการเสียงและการพนัน หาก
ล้มเหลว สายโลหิตจะถูกทําลายลง สายโลหิตทังร่าง
กายอาจจะถูกจํากัด จนไม่สามารถฝึ กพลังเวทได้อีก
15
เป็ นดังร่างอันไร้คา่ หนูเหมิงคิดว่า พีชายทีคล้ายดังพญา
ดอกไม้คนนันอยากจะใช้พญาเพลิงในการเพิมพลังใน
สายโลหิตของตนเอง เพือเป็ นการเพิมพลังให้กบั ตนเอง
ไม่แน่วา่ เมือครังยังเด็ก เพราะสายโลหิตทีจางมาก ทํา
ให้ถกู ขับไล่ออกจากวงศ์ตระกูลและถูกทําร้ายมามาก
จึงอยากจะเก่งกาจขึน เพือเป็ นการตบหน้าตระกูลตัวเอง
แรงๆ ทีหนึง ! หึๆ~ ’

ความคิดเห็นทีเหมิงเหมิงเสริมเข้ามามูช่ ิงเกอไม่
ได้ตงใจฟั
ั ง นางกําลังคิดทบทวนในอีกคําพูดหนึงของเห
มิงเหมิง

‘หากไม่ใช่สายโลหิตแห่งเปลวเพลิงก็จะไม่
สามารถเก็บพญาเพลิงไว้ในร่างกายได้หรือ’ มูช่ ิงเก
16
อถาม

พญาเพลิง ของอันลําค่าเช่นนี ไม่สามารถเก็บไว้


ใช้ได้ ทําให้นางรูส้ กึ ปวดใจ ! และคิดว่าเป็ นการสิน
เปลืองเป็ นอย่างมาก !

‘โดยปกติแล้วเป็ นไปไม่ได้ ไม่วา่ อย่างไรหนูเหมิ


งก็ไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยินมาก่อน’ เหมิงเหมิงพูด

ในส่วนลึกของสายตาของมูช่ ิงเกอแฝงความผิด
หวัง แต่ก็ไม่ได้ดือดึงอะไร

สิงทีนางมีถือเป็ นสิงทีทุกคนต่างอิจฉาเป็ นอย่าง


17
มาก ก็คงไม่ดีหากยังอยากมีอยากได้ในทุกสิงทีเป็ น
ประโยชน์อีก

เมือมูช่ ิงเกอและเหมิงเหมิงจบบทสนทนาลง
พวกเขาก็ได้มาหยุดอยูท่ ีนัดหมายแล้ว

มูช่ ิงเกอไม่คนุ้ ชินกับเมืองฮ่วน เพราะฉะนันที


แห่งนี ลุงโจวจึงเป็ นคนเลือก

เพือให้มชู่ ิงเกอสามารถตามหาพวกเขาได้อย่าง
ง่ายดาย ลุงโจวจึงเลือกโรงเตียมทีมีชือเสียงร้านหนึง ชือ
ว่า ‘โรงเตียมมหาเทพ’ ได้ข่าวว่า เป็ นทีทีมีชือเสียงของ
เมืองฮ่วน ซึงหาง่ายมาก แม้นเด็ก 3 ขวบก็สามารถหา

18
เจอได้อย่างง่ายดาย

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอยังไม่ทนั จะเข้าสูโ่ รงเตียมมหา


เทพ ก็ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทดังออกจากภายในโรง
เตียม

นอกโรงเตียม ในตอนนีได้เต็มไปด้วยผูค้ น

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เหตุใดจึงไร้ซงึ
เหตุผลเช่นนี ทีนีไม่ใช่ของเจ้า มีสทิ ธิอะไรมาไล่เรา ?!”

มูช่ ิงเกอพลันขมวดคิว เสียงนีคุน้ หูเป็ นอย่างมาก

19
20
ตอนที 106-2 ไอหยา ช่างหน้าไม่อายจริงๆ !

“หึ ไม่ใช่ของข้าแล้วอย่างไร หากองค์ชายสามมี


พระประสงค์จะเสวยพระกายาหารทีนี พวกเจ้าก็ตอ้ งจะ
ไสหัวออกไปให้ไกลจากทีนีซะ!”

ส่วนเสียงนี....ก็คนุ้ มาก ! มูช่ ิงเกอขมวดคิว

โย่วเหอเดินเข้าไปใกล้มชู่ ิงเกอและกระซิบข้างหู
นางเบา ๆว่า : “คุณชายเสียงนันราวกับจะเป็ นเสียงของ
แม่นางเว่ย”
21
มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ

ใช่ เจ้าของเสียงก่อนหน้านี คือเว่ยกว๋านกว่าน

แต่อีกเสียงหนึงก็ทาํ ให้นางรูส้ กึ คุน้ เคยเป็ นอย่าง


มาก และมันก็คือเสียงของคุณชายจูทีหนีออกจากเมือ
งอวีจือนันเอง

มูช่ ิงเกอหรีตาลงแล้วแอบคิดในใจว่า : ดูเหมือน


ว่าทีห่านฉายไฉ่พดู จะเป็ นความจริง ไอ้เจ้าแซ่จนู นไม่
ั ได้
กลับเมืองจือ แต่วา่ มายังเมืองฮ่วน เป็ นเช่นนีก็ดีเหมือน
กัน สิงทีติดค้างเอาไว้ทงหมดก็
ั มาคิดบัญชีกนั ทีเมืองฮ่วน

22
เสียเลย

แต่ทว่า เหตุใดพีน้องตระกูลเว่ยจึงได้มาพบกับ
คุณชายจู แล้วเกิดข้อขัดแย้งกันขึนอีกครัง

มัวหยางพากําลังคนเปิ ดทางเพือแหวกคนออก

ผูค้ นทีเบียดเสียดกันอย่างแออัด ถูกแบ่งเป็ น


สองข้าง จึงทําให้รูส้ กึ ไม่พอใจและทันทีทีหันกลับมาและ
กําลังจะด่า แต่กลับเห็นเป็ นคุณชายในชุดสีแดง ใบหน้า
นันงดงามอย่างสมบูรณ์แบบอย่างทีไม่เคยเห็นมาก่อน
ความงดงามดังดวงจันทร์และร้อนแรงดังดวงอาทิตย์ ทํา
ให้กลายเป็ นจุดสนใจของผูค้ นทันที

23
การปรากฏตัวของนาง ทําให้ความโกรธของผู้
คนทีไม่พอใจกับการถูกผลักออกหายไปในทันทีและมอง
ตามการเคลือนไหวของมูช่ ิงเกอด้วยความหลงใหล

สายตาอันร้อนแรงทีไม่ได้มีการปรุงแต่งเหล่านัน
ทําให้มวหยางขมวดคิ
ั วอย่างไม่พอใจ

ริมฝี ปากอันเรียวบางและแฝงความหนักแน่น
เม้มแน่น ราวกับกําลังควบคุมความโกรธ

ผูค้ นค่อยๆ แยกออกจากกัน ทําให้มชู่ ิงเก


อสามารถเดินเข้าไปยังหน้าโรงเตียมมหาเทพได้อย่าง

24
สะดวกและสามารถเห็นสถานการณ์ทกุ อย่างได้อย่าง
ง่ายดาย

โรงเตียมมหาเทพกว้างใหญ่มาก ด้านในมีแขก
จํานวนไม่นอ้ ยทีนังดูเรืองราวทีเกิดขึน

และในตอนนีผูค้ นทียืนอยูด่ า้ นในประตู ไม่เพียง


แค่พีน้องตระกูลเว่ย แต่ยงั มีลงุ โจว ทางฝังของจูลนอก

จากจะมีองครักษ์ทีแต่งตัวต่างจากคนอืนหลายคน แล้ว
ยังมีชายหนุ่มร่างสูงทีอยูใ่ นชุดสีแดงหม่นซึงปั กลาย
ต่างๆ ด้วยเส้นด้ายสีทอง

ใบหน้าของชายหนุ่มดูมีมิติ เต็มไปด้วยไอหยาง

25
ไม่ถือว่าหล่อเหลางดงาม แต่กลับมีกลินอายอะไร
บางอย่างทีบอกไม่ถกู ทําให้ตวั เขาจัดว่าเป็ นหนึงในชาย
หนุ่มหน้าตางดงาม

แต่ทว่า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสูงส่ง
และเย่อหยิงโดยกําเนิด ราวกับว่าตัวเองเป็ นเทพบุตรผู้
สูงศักด์ ในส่วนลึกของดวงตาอันโหดเ**◌้ยม เปี ยมด้วย
ความเย่อหยิง

เขายืนอยูใ่ นระยะอันห่างไกล ราวกับว่าไม่อยาก


จะร่วมทะเลาะวิวาท

องครักษ์เหล่านัน ต่างก็ยืนอยูข่ า้ งกายเขาอย่าง

26
เงียบๆ มีเพียงจูลทีี ใบหน้าแดงและกําลังทะเลาะอยูก่ บั พี
น้องตระกูลเว่ย แน่นอนว่า เรืองทีทะเลาะวิวาทน่าจะ
เป็ นเพราะชายคนนัน

“หึ ตอนอยูใ่ นเมืองอวีจือเจ้าช่างยโสยิงนัก ไม่


คิดว่า มาถึงเมืองฮ่วน ต่อหน้าโอรสสวรรค์เจ้าก็ยงั โอหัง
เช่นนี!” เว่ยฉีสง่ เสียงอุทานอันเย็นเยียบ ใบหน้าเต็มไป
ด้วยความโกรธ

จูลพูี ดอย่างได้ใจว่า : “นันเป็ นความสามารถ


ของข้า พวกเจ้ารีบไสหัวออกไปจากทีนี อย่ามารกสาย
ตาขององค์ชายสาม และทําลายบรรยากาศการเสวย
ของพระองค์”

27
เขาเอ่ยถึงองค์ชายสาม อย่างไม่ขาดปาก ราว
กับว่ากลัวคนรอบข้างจะไม่รูว้ า่ เขามีใครคอยหนุนหลัง
อยู่

แต่ทว่า องค์ชายสาม ทีเขากําลังพูดถึงนัน ใน


ตอนนีกลับยืนเงียบอยูอ่ ีกด้านหนึง

ลุงโจวทียืนอยูข่ า้ งหลังของพีน้องตระกูลเว่ย เมือ


เห็นว่ายังคงทะเลาะกันไม่หยุด ถึงได้เดินออกมา
ประสานมือต่อหน้าคนๆ นัน และพูดว่า : “ตระกูลเว่ย
จากเมืองถัว คารวะองค์ชาย สาม”

28
ทันทีทีได้ยินคําว่า “ตระกูลเว่ยแห่งเมืองถัว” ในทีสุดฟ่ ง
อวีกุยก็มีการเคลือนไหว

แต่ทว่า การเคลือนไหวของเขา ก็เพียงแค่เคลือน


สายตามาหยุดทีลุงโจว

สายตาอันเย็นเยียบและเฉียบแหลม ทําให้ลงุ
โจวรูส้ กึ ถึงไอเย็นทีเย็นถึงกระดูก

“พวกเจ้าเป็ นคนของตระกูลเว่ยแห่งเมืองถัว
หรือ” ฟ่ งอวีกุยพูดขึน โทนเสียงของเขาตํามากและแฝง
ความสูงส่งเฉพาะตัวบางอย่าง

29
“พะย่ะค่ะ ! ทังสองท่านนีเป็ นบุตรชายหญิงของ
เจ้าเมืองเมืองถัว” ลุงโจวรีบอธิบาย จากนัน ก็หนั กลับไป
สะกิดเจ้านายน้อยทังสอง : “คุณหนู คุณชาย ท่านนีคือ
องค์ชายสาม แห่งแคว้นลี”

ความหมายของประโยคนีก็คือให้ทงสองรี
ั บเข้า
มาคารวะตามธรรมเนียมเสีย องค์ชายสาม ก็คงจะเห็น
แก่ทา่ นพ่อของพวกเขา คงจะไม่ทาํ ให้พวกเขาต้อง
ลําบากใจเป็ นแน่ เรืองนีก็จะจบลงได้ดว้ ยดี

แต่ทว่า พีน้องตระกูลเว่ยกลับไม่ใช่พวกทีจับคํา
พูดหรือสังเกตสีหน้าใครเก่งนัก

30
นิสยั อันตรงไปตรงมา ตอนนีก็ได้แสดงออกมา
ทังหมด

เว่ยกว๋านกว่านไม่เข้าใจในสิงทีลุงโจวต้องการ
จะสือ จึงได้พดู ออกไปตรงๆ ว่า : “องค์ชายสาม
แล้วอย่างไร ! เป็ นองค์ชายสาม ก็สามารถไล่ใครออกไป
ได้ง่ายๆ อย่างนันหรือ”

ใบหน้าของเว่ยฉีเองก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
และเชิดหน้าใส่

ปฏิกิรยิ าของเจ้านายน้อยทังสองทําให้ลงุ โจว


ร้องแย่แล้วในใจ พยายามส่งสายตา และขอโทษแทน

31
พวกเขาว่า : “องค์ชายสาม คุณหนูและคุณชายของข้า
น้อยไม่รูค้ วาม ขอองค์ชายสามอย่าได้ทรงถือโทษ”

“ลูกทังสองของเว่ยหลินหลางช่างน่าสนใจ” สาย
ตาของฟ่ งอวีกุยไม่มองลุงโจวเลยแม้เสียวสายตาเดียว
รอยยิมทีผุดขึนฉายแววอันตรายเป็ นอย่างมาก

สายตาของเขาหยุดอยูท่ ีเว่ยกว๋านกว่าน แล้ว


จ้องมองจนอีกฝ่ ายขนลุก จึงรีบหลบไปอยูข่ า้ งหลังของพี
ชายในทันที

ท่าทางทีถูกทําให้ตกใจนัน ทําให้แสงประกายใน
สายตาของเขาชัดเจนมากขึนกว่าเดิม ดวงตาทังคูจ่ อ้ ง

32
เว่ยกว๋านกว่านเอาไว้ ราวกับทีนีมีเพียงนางคนเดียว

“มองอะไร!” เว่ยฉียืดอกขึนบังสายตาของฟ่ งอวี


กุย

และทําให้สายตาของอีกฝ่ ายมีไอสังหารเพิมเข้า
มาในทันที

เรืองราวแย่ลงเรือยๆ บนหน้าผากของลุงโจวมี
เหงือแห่งความตืนตระหนกผุดออกมา จูลทีี ต้องการจะ
หาเรืองตังแต่แรก ในตอนนียิงดูได้ใจ จนจมูกจะชีไปถึง
ฟ้าแล้ว

33
“นีมันเกิดอะไรขึน” มูช่ ิงเกอทีดูสถานการณ์อยู่
ครูหนึง ในทีสุดก็ปรากฏตัว

ทันทีทีนางปรากฏตัว ก็ได้ดงึ ดูดความสนใจจาก


สายตาของทุกคน รวมทังแขกและฟ่ งอวีกุย

ใบหน้าอันสมบูรณ์แบบเป็ นทีสุดนันงดงามน่า
เย้ายวน ทําให้สว่ นลึกในสายตาของฟ่ งอวีกุยเกิดความ
ตืนตะลึงในสายตาฉายแววอยากจะแข่งขันจางๆ

“มูเ่ กอ ! ในทีสุดเจ้าก็มาแล้ว !” เว่ยกว๋านกว่าน


ทีในตอนแรกหลบอยูข่ า้ งหลังของพีชาย ทันทีทีได้ยิน
เสียงของมูช่ ิงเกอก็รบี กระโดดออกมาและพุง่ เข้าหา

34
นางอย่างตืนเต้น

ภาพทีทังสองยืนอยูด่ ว้ ยกัน ทําให้ฟ่งอวีกุยหรีตา


ลงและมีความคิดบางอย่างแวบเข้ามาจากสายตา

‘หากสามารถครอบครองทังสองเอาไว้ในอ้อมอก
ได้คงจะเป็ นเรืองทีน่าอิจฉายิงนัก !’ความคิดนีเพิงจะเกิด
ขึนฟ่ งอวีกุยก็ได้ยินเสียงทีหวาดกลัวของจูลี

“เจ้า ! เจ้ามาอยูท่ ีนีได้อย่างไร”

เสียงนันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ราวกับว่า
ชายหนุ่มผูง้ ดงามทีอยูต่ รงหน้านีเป็ นดังสัตว์รา้ ยและ
35
ปี ศาจอันโหดเ**◌้ยม

ฟ่ งอวีกุยขมวดคิว

มูช่ ิงเกอก้าวเข้าไปหาเขาหลายก้าวด้วยใบ
หน้าทีเต็มไปด้วยรอยยิมอันทีโหดเ**◌้ยมไร้ทีเปรียบ :
“ข้ามาอยูท่ ีนีได้อย่างไรอย่างนันหรือ ว่าแต่คณ
ุ ชายจูเถิด
เพิงจะจากกันทีเมืองอวีจือ ไม่คิดว่าจะมาพบกันทีเมือง
ฮ่วนในเวลาอันรวดเร็วปานนี"

“เจ้า......เจ้าอย่าเข้ามานะ!” จูลกล่
ี าวเตือนด้วย
ใบหน้าทีแฝงความขาวซีดพร้อมถอยกลับไปยังบริเวณที
ฟ่ งอวีกุยยืนอยู่

36
สิงทีเขากลัวไม่ใช่มชู่ ิงเกอ แต่เพราะว่าวิธีการ
สังหารเนียซงของหานฉายไฉ่ในวันนันทําให้เขาตืน
ตระหนกเป็ นอย่างมาก พอมาเจอกับมูช่ ิงเกอก็คิดถึง
สภาพทีเนียซงสลายกลายเป็ นเศษเนือต่อหน้าต่อตาขึน
มา

การทีเขามายังเมืองฮ่วน แน่นอนว่าต้องการจะ
มาแก้แค้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาอยากจะพบกับ
มูช่ ิงเกอในตอนนี

เมือสัมผัสได้ถงึ ความกลัวในใจของเขา ยิมของมู่


ชิงเกอก็ชดั เจนกว่าเดิม : “เจ้ากลัวอะไร ข้าไม่ได้เป็ นคน

37
ฆ่าเนียซงเสียหน่อย”

แสงแสงหนึงเกิดขึนในสมองของจูลี เขาชีหน้ามู่
ชิงเกอและพูดว่า : “เจ้าเจ้าเจ้า....เจ้าเป็ นพวกเดียวกับไอ้
คนแซ่หาน!”

หากไม่ใช่พวกเดียวกัน ไอ้คนแซ่หานทีโหด
เ**◌้ยมมากถึงเพียงนันจะปล่อยเจ้านีหนีออกมาได้
อย่างไร

38
ตอนที 106-3 ไอหยา ช่างหน้าไม่อายจริงๆ !

39
หากพวกเขาเป็ นพวกเดียวกัน การทีไอ้คนแซ่มปู่ รากฏตัว
อยูใ่ นเมืองฮ่วน แสดงว่าคนแซ่หานนันก็ตอ้ งอยูด่ ว้ ย

ทันทีทีคิดถึงความเป็ นไปได้นี สีหน้าของจูลก็ี ซีด


เผือด ไร้ซงโลหิ
ึ ต ร่างกายสันเล็กน้อยและหันไปเพือขอ
ความช่วยเหลือจากฟ่ งอวีกุย

“องค์ชายสาม โอสถทีข้าน้อยมอบให้แก่
พระองค์นนั เขาก็คือ…”

“โอสถอะไร เจ้าหมายถึงโอสถชุบชีวิตทีข้าปรุง
ขึนด้วยตัวเองอย่างนันหรือ” คําพูดของจูลถูี กตัดบท

40
อย่างไม่ไยดีและคําพูดหลังจากนันของเขาก็เต็มไปด้วย
การตักเตือนอันโหดเ**◌้ยม

จูลกลื
ี นนําลายและได้สติในทันทีจงึ รีบพูดแก้
ต่างว่า : “ใช่ๆ ก่อนหน้านีมีคนเอาโอสถทีองค์ชายสาม
ทรงปรุงขึนมาสร้างความเดือดร้อนในเมืองจือและทําให้
ตระกูลเนียต้องถูกกวาดล้าง คนตรงหน้าก็คือหนึงในนัน
แล้วยังมีคนแซ่หานอีกคน ได้ยินมาว่าเป็ นประมุขแห่งหอ
สรรพสิง”

โอสถชุบชีวิตอย่างนันหรือ

รอยยิมตรงมุมปากของมูช่ ิงเกอ แฝงความขบขัน

41
จากการสนทนาของทังสอง ทําให้นางพอจะเดาอะไร
ออก

แต่ไม่คิดว่า องค์ชายสาม แห่งแคว้นลีท่านนีจะ


หน้าด้านและขีโกงได้ถงึ เพียงนี

เรืองทีเกิดขึนในเมืองจือ ฟ่ งอวีกุยก็ได้ยินมาบ้าง
แต่จลู ยัี งไม่ทนั ได้เล่าอย่างละเอียด แต่ตอนนียังกล่าวถึง
ประมุขหอสรรพสิง เขาค่อยๆ ขมวดคิวและรูส้ กึ เสียใจที
รับปากจะช่วยจูลแก้
ี แค้น

ไม่ใช่เพราะเขากลัวประมุขแห่งหอสรรพสิง แต่
เพียงคิดว่าไม่คมุ้ ทีจะเป็ นศัตรูกบั คนแบบนีเพราะจูลี

42
“มูเ่ กอ ทีพวกเขาพูดหมายความว่าอย่างไร”
เว่ยกว๋านกว่านยืนอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอด้วยใบหน้าฉงนใจ

ในขณะนีเองเว่ยฉีก็ได้มายืนอยูอ่ ีกข้างของมูช่ ิง
เกอและพูดกับนางเบาๆ ว่า : “พวกเราเพิงจะมาถึงก็พบ
กับเจ้านี ข้าและกว๋านกว่านไม่ได้คิดจะหาเรือง แต่พวก
เขากลับไล่เราออกไปอย่างหยิงยโส เราทนไม่ได้จงึ ได้มี
ปากเสียงกับเขา ข้าว่าองค์ชายสามก็ไม่ได้เป็ นคนดีอะไร
มูเ่ กอระวังตัวด้วย”

เจ้าเด็กนี.... ช่างจริงใจและน่ารักเสียจริง !

43
ต่อหน้าคนอืน ยังจะกล้าพูดขนาดนี

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปากทีหนึงแต่ไม่ได้พดู อะไร

“บางทีอาจจะเป็ นเรืองเข้าใจผิด ข้าว่าน้องชาย


คนนีดูทา่ ทางไม่เลว ไม่เหมือนกับคนทีจะทําความชัว จูลี
เจ้าจําผิดหรือเปล่า” สายตาอันโหดเ**◌้ยมของฟ่ งอวีกุย
หยุดอยูบ่ นร่างกายของจูลการตั
ี กเตือนทีแฝงอยูใ่ นคํา
พูดนันไม่จาํ เป็ นต้องบอกก็ชดั เจนเป็ นอย่างดี

จูลมองเขาด้
ี วยความตะลึงและคิดอะไรไม่ออก
ในทันที

44
ไหนบอกว่าจะช่วยแก้แค้นให้ไม่ใช่หรือ ?

ไหนบอกว่าจะทวงความยุติธรรมให้กบั ข้า ?

แล้วตอนนีมันอะไรขึน ?

การหาจังหวะเพือสร้างสัมพันธ์อนั ดีงามอย่าง
ชัดเจนนีหมายความว่าอย่างไรกัน ?

ใบหน้าของจูลเต็
ี มไปด้วยความมึนงง แต่เพราะ
ถูกฟ่ งอวีกุยกดดัน จึงพึมพําเพียงว่า : “ใช่.....ใช่....”

แค้นนีของเขาไม่ชาํ ระแล้วหรือ ?ไม่ได้ ! เขา


45
ต้องกลับไปหาพีสาว เพือให้พีสาวขอร้ององค์ชายสาม !

แม้วา่ จะไม่สามารถฆ่าไอ้คนแซ่มแู่ ละแซ่หานได้


เขาก็จะทรมานพวกมันให้เจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิต
อยูอ่ ีก จึงจะสามารถลบล้างความหวาดกลัวในใจของ
เขาได้

“แม้เป็ นการเข้าใจผิด แต่ทกุ คนก็ได้รูจ้ กั กันแล้ว


ถ้าเช่นนันร่วมรับประทานอาหารกันดีหรือไม่” แม้จะเป็ น
การเชิญชวน แต่สายตาของฟ่ งอวีกุยก็ยงั คงเย่อหยิง

ราวกับว่า คําเชิญชวนจากเขาเป็ นคําอวยพร


จากสรวงสวรรค์ ทีไม่อาจจะปฏิเสธได้ ต้องยอมรับเท่า

46
นัน

“ไม่จาํ เป็ น ข้าเกรงว่าจะกินไม่ลง” มูช่ ิงเก


อปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาในทันที

ไม่ใส่ใจใบหน้าอันเย็นเยียบของฟ่ งอวีกุย นาง


เดินเข้าไปหาจูลอย่
ี างขบขัน ยกมือขึนตบไหล่ของเขา
ราวกับเป็ นมิตรสหาย : “คุณชายจู ช่างคิดเองเออเองเก่ง
เสียจริง”

ไหล่ทงสองข้
ั างของจูลสัี นเบาๆ เพราะการ
กระทําของเขา ยิงไปกว่านันคือกระวนกระวายใจเพราะ
คําพูดของนาง

47
หันหลังกลับไป มูช่ ิงเกอพูดกับพีน้องตระกูลเว่ย
และลุงโจว : “ร้านนีข้าว่าเราอย่ากินเลย ได้ข่าวว่าเมือง
ฮ่วนมีรา้ นเนือย่างทีมีชือเสียงอยูร่ า้ นหนึง เราไปทีนันกัน
เถิด”

ลุงโจวพยักหน้าหลายที กลัวว่าหากอยูท่ ีนีต่อไป


หลานทัง 2 จะยัวโทสะองค์ชายสามอีก

การทีเว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านมาทีนีก็เพือมารอ
มูช่ ิงเกอ ในตอนนีนางมาแล้ว แน่นอนว่าไม่อยากจะร่วม
รับประทานอาหารกับคนคนนี ทีนีอีกต่อไป

48
เพราะฉะนัน เพราะการเสนอจากมูช่ ิงเกอ ทุก
คนจึงได้เดินออกจากโรงเตียมมหาเทพอย่างสง่า เหลือ
ไว้เพียงแค่แผ่นหลังอันแฝงความเย็นเยียบให้กบั ใบ
หน้าทีฉายแววความโหดเ**◌้ยม

ราวกับว่า พวกเขารังเกียจทีจะร่วมรับประทาน
อาหารกับเขา

“องค์ชายสาม พวกเขากล้าทําเช่นนีเชียวหรือ !”
หลังจากทีจากไปแล้ว จูลก็ี รูส้ กึ ว่าเรียวแรงของตนเองได้
กลับมา จึงรีบเดินไปพูดกับฟ่ งอวีกุย

“หึ” ฟ่ งอวีกุยอุทานอย่างเย็นเยียบทีหนึง ไม่ได้

49
รับประทานอาหารต่อ เพียงแค่พาทุกคนเดินออกจากโรง
เตียมมหาเทพ

เขาเดินจากไปอย่างกะทันหัน ทิงจูลให้
ี ยืนอึงอยู่
กับที

พอเขาเดินออกไปแล้วครูห่ นึง จูลจึี งได้สติและ


รีบพุง่ ออกจากประตู เขาจะไปหาพีสาวเพือทีจะให้พีสาว
เป่ าหูองค์ชายสาม

หลังจากทีผูม้ ีอาํ นาจทังหมดจากไป บรรยากาศ


อันคึกคักก็ได้กลับสูโ่ รงเตียมมหาเทพอีกครัง

50
แต่ทว่า เรืองราวทีทุกคนสนทนากัน กลับถูก
เปลียนประเด็นมาเป็ นอีกฝ่ าย

“ชายหนุ่มในชุดแดงคนนันเป็ นใครกัน กล้า


ปฏิเสธคําเชิญจากองค์ชายสาม ช่างกล้าเสียจริง” มีคน
พูดอย่างชืนชม

ทันใดนัน ก็มีคนพูดแทรกขึนมาว่า : “ข้าว่าคุณ


ชายท่านนันดูภมู ิฐาน ทังสูงสง่าและงดงามโดดเด่นเป็ น
อย่างมาก ฐานะก็คงจะไม่ธรรมดา”

“ใช่ๆๆ! ใบหน้าของคุณชายคนนันช่างงด
งามอย่างพลิกฟ้าพลิกปฐพี คนทีสมบูรณ์แบบมากถึง

51
เพียงนีจะเกิดจากตระกูลธรรมดาได้อย่างไร”

“แต่จะว่าไปแล้ว องค์ชายสามสามารถปรุงโอสถ
ชันสูงได้จริงๆ หรือ”

“ชู่ว ข่าวนีเพิงจะกระจายออกมาได้เพียง 3-4 วัน


ไม่รูว้ า่ จริงหรือเท็จ แต่ขา้ ได้ข่าวว่าอีกไม่นานองค์ชาย
สาม ก็จะไปฝึ กการปรุงโอสถทีโรงโอสถในเมืองอวีแล้ว”

“หากสามารถปรุงโอสถชันสูงได้ จะไปโรงโอสถ
เพืออะไรอีก”

“เหอะๆ อย่าพูดอะไรอีกเลย เรืองของราชวงศ์


52
เราอย่างสนใจเลยดีกว่า”

คําวิพากษ์วิจารณ์ของแขกในโรงเตียมมหาเทพ
มูช่ ิงเกอไม่ได้ยิน ในตอนนี นางกําลังฟั งลุงโจวแนะนํา
องค์ชายสามแห่งแคว้นลีอยู่

“ฟ่ งอวีกุยอย่างนันหรือ ราชวงศ์ของแคว้นลีคือ


ตระกูลฟ่ ง” มูช่ ิงเกอพึมพํา พลันนึกถึงฟ่ งเหนียงผูท้ ีเปิ ด
โรงแรมอยูใ่ นเมืองลัวรือแห่งแคว้นฉินคนเดียวและก็เป็ น
คนทีขอร้องให้นางตามหาสามี รวมทังเรืองทีมัวหยาง
เคยบอกว่าองค์หญิงใหญ่ของแคว้นลีได้หายตัวไป นาง
คิดทบทวนครูห่ นึง แล้วจึงเรียกมัวหยางเข้ามาหา สังให้
เขาใช้ช่วงเวลาทีอยูใ่ นเมืองฮ่วนไปสืบเรืองนี

53
เรืองของฟ่ งเหนียงและมูย่ ี นางยังจําได้เสมอ แต่
เพียงแค่ไม่มีเบาะแสอะไรก็เท่านัน

“มูเ่ กอ เราจะออกจากเมืองฮ่วนเมือไหร่” เว่ยก


ว๋านกว่านถามอย่างรีบร้อน

มูช่ ิงเกอจะไปเมืองอวี ถ้าเช่นนัน หลังจากทีออก


จากเมืองฮ่วน ก็ตอ้ งไปเมืองถัว เมือไปถึงเมืองถัว ซึงเป็ น
ถินของพวกเขา ก็จะได้ตอ้ นรับมูช่ ิงเกอให้ดีๆ

มูช่ ิงเกอครุน่ คิดครูห่ นึง แล้วจึงพูดว่า : “ข้าจะอยู่


ทีนีอีกสักระยะ” ยังไม่ได้ของเหลวเย็นมาครอบครอง

54
นางยังไม่สามารถออกจากทีนีได้

แต่ทว่า ในครานี นางไม่ได้มีความคิดทีจะเอา


เงินไปแลก

หอสรรพสิงเอาเปรียบนาง แล้วยังจะเอาเงินจาก
นางอีกหรือ โลกนีมีเรืองดีเช่นนีเชียว?

ในเมือของเหลวเย็นอยูท่ ีหอสรรพสิงเมืองฮ่วน
ถ้าเช่นนันนางไปเอามาเลยดีกว่า

คําตอบจากมูช่ ิงเกอทําให้เว่ยกว๋านกว่านผิดหวัง
อยูบ่ า้ ง แต่ก็ยงั คงฝื น : “เอาเถิด ถ้าเช่นนัน เราจะรอท่าน
55
อาชาเพลิงและรถม้าของท่าน เราก็พามาด้วยแล้ว อยูใ่ น
ทีพักของเรา ท่านกลับไปพร้อมเราเถิด”

……

56
ตอนที 106-4 ไอหยา ช่างหน้าไม่อายจริงๆ !

ในยามคําคืน ภายในวังหลวงแคว้นลี ณ ตําหนักบรรทม


ขององค์ชายสามฟ่ งอวีกุย มีเสียงร้องครางตําทีชวนให้ผู้
คนรูส้ กึ เลือดลมพลุง่ พล่านดังลอยออกมา

เสียงทีสอดรับประสาน ทําให้ผคู้ นต่างคิด


57
จินตนาการไปต่างๆ นานา ทําให้ทงตํ
ั าหนักบรรทมเจือ
แทรกไปด้วยกลินอายวาบหวาม

พักใหญ่ เสียงนันจึงค่อยๆ จางหายไป

ณ ตําหนัก ภายในแท่นบรรทมขนาดใหญ่ ร่าง


ขาวบริสทุ ธิสองร่างยังคงก่ายกอดแนบชิดกันอยู่

ในอ้อมกอดของฟ่ งอวีกุยมีรา่ งของหญิงสาวงด


งามเย้ายวนนอนอยู่ ใบหน้าของนางไม่ได้ถือว่างดงามที
สุด แต่ดมู ีเสน่หน์ ่าดึงดูด เพียงแค่ยกมือขึน ก็ดยู วยวน

เพียงสายตาหนึงก็สามารถทําให้ผคู้ นหลงใหลได้

58
สําหรับความน่าเย้ายวนทีมาจากภายในแล้ว
สําหรับผูช้ าย มันคือการดึงดูดอย่างเป็ นทีสุด

ฟ่ งอวีกุยก็เป็ นคนหนึงทีโปรดปรานความน่าเย้า
ยวนทีมาจากภายในเช่นนี ทําให้หลงใหลนางมากยิง
กว่าเดิม แม้กบั น้องชายของนางเขายังเอาใจเป็ นอย่าง
มาก

“ฝ่ าบาท วันนีเหม่ยเอ๋อร์ปรนนิบตั ิทา่ นได้ดีหรือ


ไม่” จูเหม่ยยังคงอย่ภายใต้ออ้ มแขนของฟ่ งอวีกุย ปลาย
นิวของเขากวาดผ่านหน้าอกของนางราวกับตังใจและไม่
ตังใจในขณะเดียวกัน

59
สีหน้าของฟ่ งอวีกุยราวกับยังไม่ได้รบั ความพอ
ใจ : “แค่นีก็เพียงพอแล้วหรือ เหม่ยเอ๋อร์ดถู กู ข้ามากไป
หรือเปล่า” ในขณะทีพูด เขาก็ขนมาทาบทั
ึ บบนตัวนาง
อีกครัง.......

ในตอนนี ภายในแท่นบรรทมก็มีเสียงหัวเราะอัน
น่าเย้ายวนชวนหลงใหลของจูเหม่ยเอ๋อร์ดงั ออกมาอีก
ครัง

หลังลมฝนทีโหมกระหนําผ่านพ้นไป เมือจูเหม่
ยสัมผัสได้วา่ ในครานี ฟ่ งอวีกุยสมดังปรารถนาแล้ว
จริงๆ จึงขอความช่วยเหลือให้แก่นอ้ งชายของนาง : “ฝ่ า
บาท เหม่ยเอ๋อร์มีนอ้ งชายเพียงคนเดียว ตระกูลจูก็มีลกู
ชายเพียงคนเดียว ท่านได้โปรดช่วยเหม่ยเอ๋อร์ดแู ลเขา
60
ด้วย !”

เมือพูดถึงจูลี ฟ่ งอวีกุยก็ขมวดคิวเบาๆ : “น้อง


ชายคนนันของเจ้าช่างก่อเรืองเก่งเสียจริง เรืองในครานี
เกียวข้องกับประมุขแห่งหอสรรพสิงด้วย ด้วยอํานาจของ
หอสรรพสิงนันยิงใหญ่มากนัก แม้เสด็จพ่อเองก็ไม่อยาก
จะเป็ นศัตรูกบั เขา ก็ให้จลู อดทนหน่
ี อยเถิด”

เมือไม่สาํ เร็จตามเป้าหมาย ในส่วนลึกของสาย


ตาของจูเหม่ยก็ลกุ วาบด้วยโทสะ แต่ก็ยงั คงพูดด้วยนํา
เสียงทีเต็มไปด้วยความอ่อนโยน : “แล้วเขาจะทําอย่าง
ไรได้ โดนมันหลอกจนสินเนือประดาตัว องครักษ์ในจวน
ก็ตายเกือบหมดและต่างตืนกลัวจนต้องมาพึงบารมีของ
ฝ่ าบาท”
61
เมือพูดเช่นนี คิวของฟ่ งอวีกุยก็ผกู เป็ นปมมาก
ขึนกว่าเดิมและพูดด้วยนําเสียงทีเหลือทน : “ถ้าเช่นนันก็
ให้เขาอยูท่ ีเมืองฮ่วนไปก่อน ข้าจะเลียงเขาไม่ได้เชียวรึ”

เมือสัมผัสได้ถงึ นําเสียงทีเริมจะหมดความอด
ทนของฟ่ งอวีกุย จูเหม่ยเอ๋อร์ก็รบี หยุดพูด และไม่ดือดึง
อีกต่อไป

ปรนนิบตั ิฟ่งอวีกุยมานานถึงเพียงนี นางรูจ้ กั


นิสยั ขององค์ชายองค์นีเป็ นอย่างดี ปกติแล้วหากไม่ยวั
โทสะเขา เขาจะเชือฟั งเป็ นอย่างดี แต่หากลําเส้น เขาก็
จะเลือดเย็นและไร้เยือใย

62
เรืองของน้องชายนันสําคัญ แต่ก็ยงั คงต้องรักษา
ตําแหน่งของตนเองในใจขององค์ชายสามเอาไว้ก่อน

จูเหม่ยเอ๋อร์จบบทสนทนานีลงอย่างรูค้ วาม และ


ใช้ตน้ ทุนซึงก็คือร่างกายของตนเอง ในการดึงดูดฟ่ งอวี
กุยอีกครัง

……

ระยะเวลา 3 วันทีอยูใ่ นเมืองฮ่วน มูช่ ิงเกอได้


กระจ่างในทีตังต่างๆ ของเมืองฮ่วน และสืบจนรูว้ า่ ใน
ตอนนีหานฉายไฉ่ไม่ได้อยูภ่ ายในหอสรรพสิง

63
ไอ้จอมหลงตัวเองผูน้ นไม่
ั อยู่ ทําให้ความกดดัน
ของมูช่ ิงเกอลดน้อยลงไปมาก

อย่างไรก็ตาม ความสามารถของหานฉายไฉ่
นางเห็นแล้ว หากในครานีเขาอยูใ่ นหอสรรพสิง แผนการ
ของนางอาจจะไม่ราบรืนนัก

ในคืนนี คือเวลาทีมูช่ ิงเกอวางแผนว่าจะเคลือน


ไหว

ถือโอกาสในตอนท้องฟ้ามืดลงพร้อมทังสายลม
ทีพัดกระโชกแรง ชิงของเหลวเย็นมาครอบครอง แล้ว

64
เดินทางออกจากเมืองฮ่วนในทันที

เมือตัดสินใจแน่วแน่แล้ว มูช่ ิงเกอก็จงึ ลงมือ


ด้วยตนเอง

ใช้การอําพรางตัวของท้องฟ้าสีรตั ติกาลในยาม
คําคืน มูช่ ิงเกอเดินทางมาถึงหอสรรพสิงแห่งเมืองฮ่วน
อย่างรวดเร็ว จากทีได้สงั เกตก่อนหน้านี นางรูแ้ ล้วว่า หอ
สรรพสิงในเมืองฮ่วนมีระบบการทํางานเหมือนหอสรรพ
สิงในเมืองจือ

นางไม่รูว้ า่ เป็ นระบบการจัดการของหอสรรพสิง


หรือไม่ แต่ไม่วา่ จะเพราะเหตุผลใด สุดท้ายนางก็ได้

65
เปรียบ

มูช่ ิงเกอทีเคยเข้าออกหอสรรพสิงทีเมืองจือมา
แล้วหลายต่อหลายครังได้เข้าใจในระบบการทํางานทัง
หมดภายในนัน

เข้าไปภายในหอสรรพสิงได้อย่างง่ายดาย มูช่ ิง
เกอมุง่ ไปยังตําแหน่งของคลังสมบัติ

ของเหลวเย็นทีนางต้องการต้องอยูภ่ ายในคลัง
สมบัติเป็ นแน่

ภายในหอสรรพสิงเงียบสงบแม้จะมีคนลาด
66
ตระเวนทีปรากฏโดยบังเอิญไม่กีคน แต่เพียงแค่ทาํ งาน
ของตัวเองเท่านัน

มูช่ ิงเกอเกิดความสงสัยว่า หอสรรพสิงมันใจว่า


ของของตนเองจะไม่หายถึงเพียงนันเชียวหรือ

จนกระทังนางตรงไปยังหน้าคลังสมบัติของหอ
สรรพสิงและสัมผัสได้ถงึ การกีดขวางข้างหน้าจึงกระจ่าง
ว่าเป็ นเพราะอะไร ความจริงแล้วหน้าคลังสมบัติของหอ
สรรพสิงมีมนต์ตอ้ งห้ามอยู่ !

มูช่ ิงเกอหรีตาลง ยิงรูจ้ กั ก็ยิงรูส้ กึ ว่าหอสรรพสิง


นันมีเบืองหลังทีไม่ธรรมดา

67
ในหลินชวน ผูท้ ีรูม้ นต์ตอ้ งห้ามแทบจะไม่มีเลย
หอสรรพสิงกลับใช้มนต์ตอ้ งห้ามกับทังคลังสมบัติให้
ปลอดภัยได้มากถึงเช่นนี

อีกประการหนึง มนต์ตอ้ งห้ามนันเป็ นการต้อง


ห้ามระดับสูงและไม่ใช่สงที
ิ นางในตอนนีจะสามารถแก้
ได้

เมือคิดทบทวนแวบหนึง มูช่ ิงเกอก็คิดวิธีออก


ทันใดนันกริชสีดาํ มืดเล่มหนึงก็ได้ปรากฏขึนในกํามือ
ของนาง

68
นีเป็ นกริชทีฟ่ งเหนียงมอบให้เพือเป็ นค่าตอบ
แทนนางล่วงหน้า ไม่คิดว่าจะได้ใช้มนั ในตอนนี

เหมิงเหมิงเคยบอกว่าอาวุธกึงเทพนีสามารถ
ทําลายมนต์ตอ้ งห้ามบางส่วนได้

และมนต์ตอ้ งห้ามตรงหน้านีก็อยูใ่ นขอบเขตที


มันสามารถคลายได้…….

มูช่ ิงเกอกํากริชและเดินเข้าไปกรีดลง การ


ป้องกันในตอนแรกได้หายไปอย่างไร้รอ่ งรอย

‘น่าสนใจ!’ ตาทังสองข้างของมูช่ ิงเกอเป็ น


69
ประกายและเร่งลงมือ

ในกลางดึก

ในขณะทีแสงเทียนถูกดับลง จะมีใครคิดหรือไม่
ว่าจะมีคนก่ออาชญากรรมในคลังสมบัติแห่งหอสรรพสิง

ในขณะทีมูช่ ิงเกอออกจากหอสรรพสิงอย่างไม่
ทิงร่องรอย นางยอมรับว่าตนเองเป็ นโจรทีไม่มีสจั จะ
เพราะสิงทีนางขโมยมาไม่เพียงแค่ของเหลวเย็น แต่ยงั มี
สมบัติอีกมากมาย !

สมบัติอนั ลําค่าทีรูจ้ กั แต่ไม่อาจจะครอบครองได้


70
ในวันนี นางมาพบเข้าแล้ว จะเพียงแค่ชืนชมแล้วจากไป
อย่างนันหรือ

มูช่ ิงเกอเบ้ปาก นางไม่ได้เป็ นคนดีมากขึนเพียง


นัน !

เมือได้ของเหลวเย็นไว้ครอบครอง ทันทีทีฟ้า
สว่าง มูช่ ิงเกอก็ไปรวมตัวกับพีน้องตระกูลเว่ยและออก
จากเมืองฮ่วนพร้อมกัน

หลังจากทีพวกเขาออกจากเมือง ภายในคลัง
สมบัติหอสรรพสิงก็มีเสียงร้องโหยหวนดังออกมา !

71
“ของเหลวเย็นหายไป!”

“ยังมีพืช 7 ดารา ! ผลหอม ! เถาวัลย์อมตะ! บุ


ปผาโลหิตมังกร ! เหล็กกล้าเย็น ! หินทองประกายม่วง !
ห่วงไม้ ! แสงฟ้าคราม !”

“ขโมย——!”

นอกเรือนรับรองอันเงียบสงบทีตังอยูบ่ ริเวณชาย
แดนเมืองฮ่วน หานฉายไฉ่ผงู้ ดงามดังดอกไม้นอนอยูบ่ น
เตียง เสือตัวหลวมทําให้รา่ งกายกํายําและหน้าอกกัน
กว้างใหญ่เผยออกมาภายนอก

72
นอกม่านเตียง ผูด้ แู ลแห่งหอสรรพสิง คุกเข่า
และตัวสันอยูบ่ นพืน ศีรษะแทบจะจมเข้าไปในหน้าอก

“ขโมยอย่างนันหรือ”

เสียงอันแฝงความเกียจคร้านของหานฉายไฉ่ดงั
ออกมา ร่างกายของผูด้ แู ลกระตุกทีหนึง

“ใช่......ใช่ เจ้านาย ! ข้าน้อยไร้ความสามารถ


ขอให้เจ้านายโปรดลงโทษ!” ผูด้ แู ลรีบพูด

“อะไรหายไปบ้าง” หานฉายไฉ่ถามด้วยนําเสียง
ทีคลุมเครือจนไม่สามารถคาดเดาความรูส้ กึ ได้
73
ผูด้ แุ ลรีบตอบว่า : “สิงทีหายไปมีพืช 7 ดารา
จํานวน 3 ต้น ผลหอมจํานวน 10 ผล เถาวัลย์อมตะ 1
กิง บุปผาโลหิตมังกรจํานวน 7 ดอก.....และยังมีของ
เหลวเย็นทีเจ้านายเก็บเอาไว้ภายในคลังสมบัติชวั
คราว...... ”

“พอเถิด ในเมือสะเพร่าในหน้าที ก็ไปรับโทษเอง


ซะ” เสียงของหานฉายไฉ่ดงั ขึนอย่างกะทันหัน ตัดบทคํา
พูดของผูด้ แู ล

ผูด้ แู ลสะอึกทีหนึง พร้อมถอยออกไป

74
สมบัติทีถูกขโมยมีของเหลวเย็นรวมอยูด่ ว้ ย ราว
กับว่า เขาจะรูแ้ ล้วว่า ผูร้ า้ ยคือใคร

ในดวงตาคูเ่ รียวยาวของหานฉายไฉ่ เป็ น


ประกายทีหนึงและฉายแววอันตราย

……

ระหว่างทางไปเมืองถัว มูช่ ิงเกอได้เข้าไปอยูใ่ น


รถม้าของตนเอง

เว่ยกว๋านกว่านก็เคยมีความคิดทีจะเข้าไปภาย
ในรถม้า แต่ก็ถกู นางปฏิเสธ
75
เหตุผลก็ไม่ใช่อืนใด เมือคืนเป็ นหัวขโมยมาแล้ว
ทังคืน ในตอนนี คุณชายตระกูลมูต่ อ้ งการการพักผ่อน !

นอนอยูบ่ นรถม้าอันแสนสบาย ความนุ่มของ


เบาะ ทําให้มชู่ ิงเกอรูส้ กึ ถึงความผ่อนคลายทัวทังร่าง
กาย

ฮวาเยวียนังอยูฝ่ ังศีรษะของมูช่ ิงเกอเพือนวดให้


กับนาง

และโย่วเหอจุดเครืองหอม วางลงไปในกระถาง
กํายาน

76
รถม้าทีภายนอกดูไม่มีอะไร แต่กลับหรูหราเป็ น
อย่างมาก มูช่ ิงเกอสามารถทนรับความลําบากได้
สําหรับความสุขนันก็ไม่ปฏิเสธทีจะเสพสม

“คุณชาย หลายวันทีผ่านมานี มัวหยางได้ไปสืบ


ข่าวคราวมาบ้างแล้ว” โย่วเหอปิ ดฝากระถางและพูด
ด้วยนําเสียงอันอ่อนโยน

“ลองเล่ามาสิ” มูช่ ิงเกอหลับตาทังสองข้างเบาๆ


ดืมดําความผ่อนคลายจากการนวดของฮวาเยวีย

โย่วเหอหันมามองนาง กําหมัดทังสองข้าง ทุบ

77
น่องให้กบั มูช่ ิงเกออย่างเบาแรง แล้วตอบว่า : “องค์หญิง
ใหญ่ของแคว้นลี ชือว่าฟ่ งอวีเฟย ได้ยินมาว่าเป็ นหญิง
สาวทีทังงดงามและเปี ยมไปด้วยความสามารถ มีนิสยั ที
ค่อนข้างใจร้อน เลือดร้อนอย่างชาย พูดคําไหนคํานัน
รักษาสัจจะ ตอนนัน ในบรรดาโอรสธิดา นางได้รบั ความ
โปรดปรานเป็ นอย่างมาก แต่ทว่า เมือ 10 กว่าปี ทีแล้ว
นางไปรักกับคนทีไม่ควรรักเข้า จนทําให้เสด็จแม่ของตน
เองถึงกับสวรรคต จากนัน นางจึงถูกขับไล่ออกจาก
ราชวงศ์และหายตัวไปในทันที”

“แล้วรูห้ รือไม่วา่ คนรักของนางคือใคร” มูช่ ิงเก


อถาม

โย่วเหอส่ายหน้าเบาๆ แล้วได้สติในทันทีวา่ มูช่ ิง


78
เกอหลับตาอยูไ่ ม่สามารถเห็นการกระทําของนาง จึงรีบ
พูดว่า : “ไม่แน่ใจเจ้าค่ะ บางทีนอกจากราชวงศ์แคว้นลี
แล้ว ก็ไม่มีใครรูถ้ งึ เบืองหลังของคนผูน้ นเลย
ั เขาราวกับ
ออกมาจากกลางอากาศ ทันทีทีเข้าสูเ่ มืองฮ่วน ก็แสดง
ให้ทกุ คนเห็นถึงฝี มือทีมากกว่าชายหนุ่มธรรมดา ดู
เหมือนจะพบกับองค์หญิงใหญ่ในตลาด ตอนทีม้าของ
องค์หญิงใหญ่เสียการควบคุม จึงพุง่ เข้าหาผูค้ น เขาก็
พลันปรากฏตัวขึนในทันที พร้อมทังสามารถทําให้มา้
หยุดลงได้ จึงได้รูส้ กึ กับองค์หญิงใหญ่”

“แค่นีหรือ” มูช่ ิงเกอค่อยๆ ลืมตาทังสองข้าง


แล้วหลับลงไปใหม่ “เล่าต่อ”

โย่วเหอพูดต่อว่า : “หลังจากทีทังสองได้รูจ้ กั กัน


79
ยิงมีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน ก็ยงมี
ิ ความรูส้ กึ ดีๆให้แก่กนั
ความรูส้ กึ นันเมือเกิดแล้วก็มิอาจห้ามได้ องค์หญิงใหญ่
ได้บอกกับฮ่องเต้แคว้นลีด้วยตนเองว่าตนเองจะแต่งงาน
กับชายผูน้ นั แต่ไม่รูว้ า่ เพราะเหตุใดฮ่องเต้แคว้นลีถึงได้
ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ถึงขันสังคนให้ไปตามจับตัวชาย
คนนัน แต่ชายคนนันก็ถือว่าเป็ นคนมีฝีมือ ไม่เพียงแค่ไม่
ถูกจับตัว ซํายังฆ่าทหารองครักษ์จาํ นวนไม่นอ้ ยของวัง
หลวง ได้ยินมาว่า ในตอนนัน มีคนเห็นแสงสีมว่ งปรากฏ
ขึนในขณะทีมีการต่อสู”้

“ยอดฝี มือสายม่วงอย่างนันหรือ”มูช่ ิงเกอลืมตา


ขึนอีกครัง สายตานันแนบนิงเป็ นอย่างมาก

“ไม่รูว้ า่ ใช่ยอดฝี มือสายม่วงหรือไม่ แต่อย่างไรก็


80
ตามเขาได้สงั หารคนทีไปตามจับเขาจนสินซาก แล้วจาก
ไปอย่างสง่างาม” โย่วเหอพูด

“หลังจากนันล่ะ” มูช่ ิงเกอถาม

“เรืองราวหลังจากนันไม่มีใครรู ้ อย่างไรเสียคนก็
ได้จากไปแล้ว องค์หญิงใหญ่ก็ตดั ขาดจากราชวงศ์ ออก
จากเมืองฮ่วนไปและไร้ซงข่
ึ าวคราวจากนางนับจากนัน
เป็ นต้นมา” โย่วเหอพูดจบ ก็ได้หยุดลงครูห่ นึง แล้วจึง
พูดเสริมว่า : “แต่วา่ หลังจากทีองค์หญิงใหญ่จากไปไม่
นาน ราชวงศ์แคว้นลีได้สงคนให้
ั ออกไปสืบข่าวคราวของ
นาง ใช้เวลานับปี ก็ได้ยกเลิกการสืบหาไป”

81
มูช่ ิงเกอฟั งจบแล้ว ยังคงหลับตาและไม่พดู อะไร

ในหัว กําลังคิดอะไรบางอย่าง

ระหว่างองค์หญิงใหญ่ฟ่งอวีเฟยกับฟ่ งเหนียงจะ
มีสว่ นเกียวข้องกันหรือไม่ แล้วเหตุใดฟ่ งเหนียงจึงได้
บอกว่าสามีของตนเองหายตัวในผืนป่ าลัวรือ อีกทังนาง
ทีเต็มเปี ยมไปด้วยความสามารถ กลับไม่ยอมเข้าไป
ตามหาภายในผืนป่ าด้วยตนเอง และขอความช่วยเหลือ
จากคนอืนๆ ชายหนุ่มคนรักขององค์หญิงใหญ่ เป็ นสาย
ม่วงจริงๆ หรือ

หากเป็ นายม่วงจริงๆ ราชวงศ์แคว้นลีจะยอม

82
พลาดโอกาสการเพิมประชากรยอดฝี มือสายม่วงและขัด
ขวางทังสองไม่ให้อยูด่ ว้ ยกันได้อย่างไร

ไม่มีเบืองหลังทีชัดเจน ปรากฏตัวขึนอย่างไม่มีปี
มีขลุย่ .....หรือว่าชายคนนันจะไม่ใช่คนในหลินชวน

มูช่ ิงเกอขมวดคิวเบาๆ นางค้นพบว่าเรืองนียิง


สืบก็ยิงพบว่าเรืองนีมีคาํ ถามเพิมขึนอีกมากมาย

……

ณ เมืองฮ่วน จูลไล่
ี หมอทังหมดออกจากจวนไป
อย่างโมโห
83
เพียงแค่เจ็บปวดไปทัวทังร่างกายก็มากพอแล้ว
แต่บนผิวหนังยังเต็มไปด้วยตุม่ หนอง ทังน่าขยะแขยง
และน่ากลัว แม้แต่พีสาวแท้ๆ มาเห็นยังกรีดร้องด้วย
ความตกใจ

หมอหลวงในวังหลวง หมอในชนบท ต่างก็หมด


วิธีทีจะรักษา

เพียงคาดเดาว่าเขารับประทานอาหารทีไม่ดีเข้า
ไป

แต่ทว่าจูลกลั
ี บจําได้เป็ นอย่างดี ว่าทีเขาเป็ นเช่น

84
นี หลังจากทีพบกับไอ้คนแซ่มทู่ ีโรงเตียมมหาเทพ

ตอนแรก ร่างกายของเขาเพียงแค่รูส้ กึ คันอย่าง


ประหลาด บนผิวหนังมีตมุ่ สีแดงมากมาย

จากนันก็หายคัน แต่กลับเจ็บปวดไปถึงกระดูก
ตุม่ สีแดงก็ได้กลายเป็ นตุม่ นําทีมีหนองไหลออกมา

ทังใบหน้า ร่างกายของเขา ไม่เหลือส่วนดีเลย

“ออกไป ! ออกไป !” จูลโยนของในห้


ี องจนพัง
และขังตัวเองอยูใ่ นห้องไม่ยอมออกไป

85
ดวงตาอันแดงกํา แฝงความโกรธอันชัวร้าย จูลี
พยายามแคะเนือเน่าของตนเอง พลางพูดอย่างโหด
เ**◌้ยมว่า : “ใช่เขา ! ต้องเป็ นเขาแน่ๆ ! ไอ้แซ่มู่ ! ต้อง
เป็ นเจ้าแน่ๆ ทีทําร้ายข้า ! ข้าจะฆ่าเจ้าให้เจ้าไม่ได้ตาย
ดี !”

86
ตอนที 107-1 คุณชายตระกูลมูผ่ มู้ ีชือเสียงสะเทือนฟ้า
ดิน !

“มูเ่ กอ ท่านดูสขิ า้ งหน้าก็ถงึ เมืองถัวของเรา


แล้ว !” เว่ยกว๋านกว่านชีไปยังบ้านเรือนทีเลือนรางอยู่
ข้างหน้าอย่างตืนเต้น พลางแนะนําให้กบั มูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ และหันไปมองกําแพง


เมืองอันใหญ่ยกั ษ์ดงสั
ั ตว์รา้ ยทีขยายอยูเ่ ต็มพืนที

1
เมืองถัว เป็ นเมืองทียิงใหญ่และมีชือเสียงของ
แคว้นลี

ชายแดนทีติดกับบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของ
แคว้นลี ก็เป็ นเมืองใหญ่ทีอยูใ่ กล้กบั เมืองอวีมากทีสุด

กําแพงเมืองสีเทาเข้มเกือบดํา ไม่ได้หรูหรามาก
นัก แต่ดเู ข้มงวดน่าเกรงขาม

ยังไม่ทนั ได้เข้าใกล้ มูช่ ิงเกอก็รูส้ กึ ได้ถงึ ความ


หนักอึงทีพุง่ เข้ามา !

เว่ยฉีขีอยูบ่ นหลังม้าและเคลือนตัวไปอยูอ่ ีกข้าง


2
ของมูช่ ิงเกอ เพราะม้าของเขาไม่กล้าเข้าใกล้เพลิง
รัตติกาล เขาจึงจําเป็ นต้องรักษาระยะห่างจากมูช่ ิงเกอ

บิดขีเกียจบนหลังม้า เว่ยฉีพดู อย่างผ่อนคลาย


ว่า : “ในทีสุดก็ถงึ บ้านแล้ว! มูเ่ กอ ท่านมาถึงเมืองถัวของ
เรา ก็ตอ้ งไปพักทีจวนของเรา ถ้าไม่เช่นนันก็ถือว่าไม่เห็น
แก่มิตรภาพของเรา”

“ใช่ๆๆ! มูเ่ กอ ท่านก็กลับจวนไปพร้อมกับเรา ข้า


อยากจะให้ทา่ นพ่อได้พบกับท่าน” ในขณะทีเว่ยกว๋า
กว่านพูด ก็ได้แสดงท่าทางเขินอายดุจสาวน้อย

มูช่ ิงเกอไม่ได้สงั เกตว่านําเสียงของนางมีอะไร

3
แอบแฝง แต่เว่ยฉีกลับสัมผัสได้

สายตาของเขามืดมนลงและเดินช้าลงหลายก้าว
จากนันเดินอ้อมไปอยูข่ า้ งหลังเว่ยกว๋านกว่านก่อนจะดึง
แขนเสือของนาง เพือให้นางหันหลังกลับมา

เห็นถึงความฉงนใจทีซ่อนอยูใ่ นแววตาของน้อง
สาว เว่ยฉีพดู เบาๆ ว่า : “ข้าว่า เจ้าอย่าได้คิดเช่นนันกับ
มูเ่ กอเลย เขาไม่เหมาะสมกับเจ้า”

“ไม่เหมาะสมกับข้าหมายความว่าอย่างไร”
เว่ยกว๋านกว่านขมวดคิวในทันที ทันใดนัน นางก็หนั กลับ
มา พลันยิมอย่างโหดเ**◌้ยม : “ไม่เหมาะสมกับข้า

4
แสดงว่าเหมาะสมกับเจ้าอย่างนันหรือ ไอ้ตว้ นซิวน่าตาย
ออกไปให้ไกลจากมูเ่ กอของข้านะ !”

พูดจบ นางก็ดงึ แขนเสือของตนเองกลับไป


แล้วกระทุง้ ท้องม้า ตามมูช่ ิงเกอไป

“เฮ้ย ! ข้าไม่ใช่ตว้ นซิวนะ!” เว่ยฉีแก้ตวั ด้วยความโกรธ

แต่ทว่า คําพูดของเขากลับปลิวกระจายและหายไปกับ
สายลม

เว่ยกว๋านกว่านได้มาหยุดอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอ และยังคงตัง


คําถามไม่เลิก : “มูเ่ กอ ท่านยังไม่ได้ตอบข้าเลย” รอยยิม
5
ของนางหวานละมุนและแฝงกลินไออันน่าดึงดูด

มูช่ ิงเกอมองนางและคิดทบทวนแวบหนึง สุดท้ายก็ตอบ


ตกลงคําเชิญชวนของพีน้องตระกูลเว่ย

เพือเห็นว่ามูช่ ิงเกอตอบตกลง รอยยิมบนใบหน้าของ


เว่ยกว๋านกว่านก็สดใสกว่าเดิม

สายตาของนางเห็นทางพีชายกําลังเข้ามาใกล้มชู่ ิงเก
อ จึงได้กระซิบข้างหูเพือเตือนว่า : “มูเ่ กอ ท่านต้องอยู่
ห่างๆ ไอ้เว่ยฉีเอาไว้ เมือก่อนข้ายังไม่รู ้ แต่หลังจากทีพบ
กับท่าน ข้าจึงได้รูว้ า่ เขาเป็ นพวกต้วนซิว !”

6
มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก เคยชินกับนางทีคอยจิกกัดกัน
ของทังสองพีน้อง

เว่ยฉีจะเป็ นต้วนซิวหรือไม่นนั นางไม่สนใจและไม่มีทาง


เข้าไปยุง่

“ก่อนหน้านี เจ้าเคยบอกว่าท่านแม่ของเจ้าป่ วยและไม่มี


ทางรักษาใช่หรือไม่”

เว่ยกว๋านกว่านอึง ราวกับคิดไม่ถงึ ว่ามูช่ ิงเกอจะพูดถึง


เรืองนี แต่ก็ยงั คงพยักหน้า เมือพูดถึงท่านแม่ ท่าทาง
ตืนเต้นก่อนหน้านีของนาง ก็พลันหายไปอย่างรวดเร็ว
ในแววตามีนาตาคลออยู
ํ ่ และแฝงไปด้วยความเจ็บปวด

7
“ไม่รูว้ า่ ท่านแม่ของข้าเป็ นโรคประหลาดอะไร ทําได้เพียง
แค่ใช้ดอกทานตะวันลัวรือมาบรรเทา เมือเห็นท่าทางอัน
เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของท่านพ่อทีคอยเฝ้าท่านแม่
ทุกวันคืน ข้ารูส้ กึ ปวดใจอย่างเป็ นทีสุด”

‘ดูเหมือนว่า เว่ยหลินหลางจะเป็ นคนทีบูชาความรัก’ มู่


ชิงเกอแอบคิดในใจ

ตังแต่ทีนางฝึ กการปรุงยาจากตํารา ความรูค้ วามเข้าใจ


เกียวกับชนิดของยาก็เพิมมากขึนเรือยๆ อาการป่ วยอัน
แปลกประหลาดของท่านแม่ของพีน้องตระกูลเว่ย ได้ทาํ
ให้นางเกิดความสงสัยไม่นอ้ ยและอยากจะไปดูอาการ

8
แต่ทว่า หากจะขอตรงๆ เช่นนี ก็ไม่รูว้ า่ ควรจะพูดอย่างไร
ดี

“มูเ่ กอ ทําไมอยูๆ่ ถึงได้ถามถึงท่านแม่ของข้า” เว่ยกว๋า


นกว่านมองนางด้วยความแปลกใจ

มูช่ ิงเกอเองก็ไม่มีความคิดทีจะปกปิ ด และพูดตรงๆ ว่า :


“ทีข้าออกมาผจญภัยในครานี เพือทีจะไปเรียนรูท้ ีโรง
โอสถแคว้นอวี เมือทราบอาการของท่านแม่ของเจ้าแล้ว
ก็อยากจะไปดู ว่าโรคนันมีวิธีการรักษาทียากเพียงใด จึง
ทําให้ปรมาจารย์แห่งการปรุงยาและอาจารย์โอสถ
จํานวนนับไม่ถว้ นต้องยอมแพ้”

9
“ทีแท้ก็เป็ นเช่นนีนีเอง” เว่ยกว๋านกว่านพยักหน้าเพือ
แสดงความเข้าใจ : “ข้ากับพีชายคุยกันแล้วว่า จะไป
เรียนทีโรงโอสถพร้อมกับท่าน เพือทีจะช่วยชีวิตท่านแม่
หากถึงบ้าน ข้าจะหาท่านไปพบท่านแม่ของข้า”

ในขณะทีพูด แก้มของนางก็ขนสี
ึ แดงระเรือ นําเสียงก็
เบาลงมาก : “หากท่านแม่ของข้าได้พบกับท่านคงต้อง
ดีใจแน่ๆ”

“อะไรนะ” เพราะฟั งไม่ถนัด มูช่ ิงเกอจึงทําได้เพียงขอให้


พูดอีกรอบ

เว่ยกว๋านกว่านกลับรีบส่ายหน้าและปฏิเสธด้วยความ

10
ตืนตระหนกและความกระวนกระวายดังสัตว์ตวั น้อยที
ถูกทําให้ตกใจ : “ไม่ ไม่มีอะไร”

มูช่ ิงเกอไม่ได้สงสัยอะไร เพียงพยักหน้าและไม่


ได้ถามอะไรต่อ

ท่ามกลางเสียงพูดคุย คนกลุม่ หนึงก็ได้เดินทางมาหยุด


อยูต่ รงหน้าประตูเมืองถัว

กําแพงเมืองถัว มีทหารเฝ้าอยู่ ทังคนเข้าและคน


ออก ต่างก็มีบตั รผ่าน หากยังไม่มีบตั รผ่าน จะต้องกรอก
ชือ ทีมาและตระกูล รวมทังเหตุผลทีเข้ามาภายในเมือง
จะมาอยูน่ านเท่าไหร่และอีกมากมาย......

11
ความเข้มงวดในการจัดการ ทําให้มชู่ ิงเกอแอบ
พยักหน้าและชืนชมในปรีชาสามารถของเว่ยหลินหลา
งอีกครัง

“มูเ่ กอ เรารออยูท่ ีนีก่อน” เว่ยฉีเคลือนตัวมาอยู่


ข้างๆ มูช่ ิงเกอแล้วพูด

มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึนมองอีกฝ่ าย ลุงโจวพาทังสองเดินเข้า


ไปก่อนและหนึงในนันคือมัวหยาง

“พวกท่านเพิงจะมาถึง ยังไม่ได้ทาํ บัตรผ่าน ลุง


โจวจะไปช่วยพูด ถ้าไม่เช่นนัน พวกเขาก็จะปฏิบตั ิความ

12
กฎอย่างเคร่งครัด และอาจจะกักตัวท่านและมัวหยาง
เอาไว้ให้กรอกข้อมูล แล้วตรวจสอบก่อนจะปล่อยตัวไป”
เว่ยฉีอธิบาย

เว่ยกว๋านกว่านเองก็พยักหน้าเห็นด้วย พลันเบ้
ปากและพูดด้วยความไม่พอใจว่า : “ใช่ ท่านไม่รู ้
หรอกว่าพวกเขาอยูใ่ นกฎระเบียบมากเพียงใด ครังก่อน
ข้าให้นางกํานัลของตนเองออกจากเมืองไปทําธุระแทน
ข้าแท้ๆ เพราะความเร่งรีบจึงไม่ได้พกบัตรผ่าน
ตอนขากลับ ไม่วา่ อย่างไรพวกเขาก็ไม่ยอมให้นางเข้า
เมือง เดือดร้อนข้าให้ตอ้ งออกจากจวนมารับนางด้วยตน
เอง”

มูช่ ิงเกอฟั งจบก็ขมวดคิวในทันทีและแสดงความคิดเห็น


13
ของตนเอง : “แต่ขา้ กลับคิดว่ามันก็เป็ นเรืองทีดี”

ก่อนมา นางได้ศกึ ษาตําแหน่งทีตังของเมืองถัว


มาแล้ว และเข้าใจถึงเหตุผล ว่าเหตุใดจึงต้องเข้มงวดใน
การตรวจสอบ

เมืองถัวตังอยูใ่ นทิศตะวันตกเฉียงใต้ของชาย
แดนแคว้นลี มีอาณาบริเวณอยูต่ ิดกับเมืองอวี ในขณะ
เดียวกัน ก็อยูต่ ิดกับผืนป่ าทีมีชือเสียงของแคว้นลี ได้ยิน
มาว่า ภายในผืนป่ าแห่งนัน มีสตั ว์ทีมีวิญญาณชนิดสัตว์
ปี กอยูม่ ากมาย หากไม่ใช่เพราะประชาชนแคว้นลีไม่
เชียวชาญด้านการควบคุมสัตว์ ตอนนีพวกเขาอาจจะมี
กองทัพทหารทีบินอยูบ่ นท้องฟ้าสักกองทัพหนึงแล้ว

14
เพราะการนําขบวนของลุงโจว การลงทะเบียน
เข้าเมืองได้เสร็จสินอย่างรวดเร็ว

ในขณะทีเดินมา ลุงโจวได้พดู ว่า : “บัตรผ่านจะ


เสร็จในวันพรุง่ นี ถึงตอนนันจะมีคนไปส่งให้ถงึ จวน ขอ
ให้คณ
ุ ชายมูท่ นรอสักวัน”

“รบกวนลุงโจวด้วย” มูช่ ิงเกอพยักหน้าพร้อม


รอยยิม

15
ตอนที 107-2 คุณชายตระกูลมูผ่ มู้ ีชือเสียงสะเทือนฟ้า
ดิน !

16
มองเห็นแถวทีต่อกันยาวจากนอกประตูเมือง
และการตรวจตราอย่างเคร่งครัด มูช่ ิงเกอพลันรูส้ กึ ว่า
โชคดีทีได้พบกับพีน้องตระกูลเว่ย เพราะไม่เช่นนัน หาก
นางจะพากําลังคนเข้าไปในเมือง คงจะทําได้ยาก

คนกลุม่ ใหญ่กลุม่ หนึง เข้าไปภายในเมืองโดยมี


สายตาทีเต็มไปด้วยความอิจฉาของคนทีเข้าแถวอยูค่ อย
จับจ้อง อาจจะเป็ นเพราะตราสัญลักษณ์จวนท่านเจ้า
เมืองของลุงโจวทําให้ผคู้ นเกรงขาม จึงไม่มีใครออกมา
หาเรืองใส่ตวั

ทันทีทีเข้าสูเ่ มืองถัว มูช่ ิงเกอก็ตาเป็ นประกายใน

17
ทันที

เพราะบ้านเรือนและตึกอาคารในเมืองถัวไม่
เพียงแค่มีการจัดวางอย่างเป็ นระบบ แต่ยงั เป็ นระเบียบ
เรียบร้อย ดูแล้วให้ความรูส้ กึ สะอาดสะอ้านสบายตาแต่
น่าเกรงขาม

“โครงสร้างของบ้านเรือนเหล่านี……” มูช่ ิงเก


อเอ่ยปากถาม

แต่ทว่า ยังไม่ทนั ได้พดู จบ เว่ยกว๋านกว่านก็พดู


ต่อว่า : “ท่านเองก็รูส้ กึ ว่า เมืองถัวของเรานันโดดเด่นใช่
หรือไม่”

18
มูช่ ิงเกอพยักหน้า

นางพูดต่ออย่างภูมิใจว่า : “ท่านพ่อเขาข้าเคย
บอกว่าตําแหน่งทีตังของเมืองถัวนันมีความสําคัญ ต้อง
คอยป้องกันไม่ให้เหล่าสัตว์ปีกทีมีพลังเวทเข้ามาโจมตี
เพราะฉะนันการก่อสร้างของบ้านเรือนจะต้องมีความ
ละเอียดและชัดเจนจึงจะทําให้ทหารสามารถเข้าไปช่วย
ได้อย่างสะดวกและเพือการหลบหนีของประชาชน ใน
ขณะเดียวกันในทุกๆ 100 ก้าวจะมีหลุมหลบภัยซ่อนอยู่
หากเหล่าสัตว์ปีกทีมีพลังเวทบินเข้ามาโจมตี ก็ให้
ประชาชนหลบเข้าไปอยูใ่ นนันเพือหลบภัย”

มูช่ ิงเกอฟั งจนอ้าปากค้างเพราะความตะลึง ช่าง


19
เป็ นการหลีกเลียงศัตรูทีเหนือชันยิงนัก !

‘หรือว่า เว่ยหลินหลางก็เป็ นอีกคนทีมาจากโลก


อีกใบ !’ มูช่ ิงเกอคิดในใจ

เมือคิดแบบนี นางก็ยิงอยากจะพบเว่ยหลินหลางมากขึน
เสียแล้ว

……

จวนของเจ้าเมืองเมืองถัว ตังอยูต่ รงใจกลางของ


เมือง

20
หากยืนอยูบ่ นกําแพงจวนของเจ้าเมืองสามารถ
มองเห็นพืนทีทังหมดของเมืองถัว ราวกับว่าเรืองราว
ทุกอย่างทีเกิดขึนในเมืองถัว ล้วนหนีไม่พน้ สายตาของ
เจ้าเมือง ทําให้คนรับรูไ้ ด้ถงึ การป้องปราม

อีกประการหนึง เจ้าเมืองเมืองถัวยังทังเคร่งขรึม
หนักแน่นและแฝงความแน่วแน่อย่างชายชาติทหาร จึง
ไม่ได้ฉายความอ่อนโยนทีจะมีตอ่ ครอบครัวมากนัก

เพราะการนําขบวนของพีน้องตระกูลเว่ย มูช่ ิงเก


อได้พาองครักษ์เขียวมังกรเดินเข้ากําแพงจวนมา ทําให้
สามารถมองเห็นได้ชดั กว่าเดิม พืนทีว่างทังหมด ส่วน
มากถูกสร้างให้เป็ นสนามฝึ ก ทีเหลือก็เต็มไปด้วยค่าย
ทหาร
21
เดินเข้าไปข้างในอีกพักหนึง ก็ได้มาหยุดอยูต่ รง
หน้าคฤหาสน์หลังหนึง

มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึนมอง ป้ายทีห้อยอยูด่ า้ นล่าง


หลังคา ‘จวนตระกูลเว่ย’

“มูเ่ กอ เราถึงแล้ว” เว่ยกว๋านกว่านพูดอย่าง


ตืนเต้น

สินเสียงของนาง มีคนจํานวนหลายคนทีแต่งชุด
สาวใช้ เดินออกมาจากประตูทีถูกเปิ ดออก

22
ยังไม่ทนั เดินเข้ามาใกล้ เสียงก็ได้สะท้อนเข้ามา
ทางเว่ยกว๋านกว่าน

“ คุณหนู ในทีสุดท่านก็กลับมาแล้ว!”

“ คุณหนูคิดถึงท่านมากๆ เลย”

ทันใดนัน สาวใช้จาํ นวนสีถึงห้าคนก็ลอ้ มรอบม้า


ของเว่ยกว๋านกว่านเอาไว้อย่างไม่เหลือช่องว่าง

มูช่ ิงเกอเองก็พลิกตัวลงมาจากหลังของเพลิง
รัตติกาล โย่วเหอและฮวาเยวียรีบมาประกบข้างซ้ายและ
ขวาของนาง ในขณะนันเองมัวหยางและคนอืนก็ได้ลง
23
จากหลังม้า นอกจากจะเหลือกําลังคนเอาไว้ 4 คนเพือ
ดูแลอาชาเพลิงแล้ว คนอืนๆ ต่างก็มารวมตัวกันข้างหลัง
ตัวมูช่ ิงเกอ

“ตายแล้ว ! นันมันอาชาเพลิงนี!”

สาวใช้หนึงในนันทีสายตาเฉียบคม หลังจากที
ได้เห็นอาชาเพลิงทีดําเงา ตัวสูงใหญ่มากกว่าม้าธรรมดา
ก็อทุ านเสียงหลงในทันที

เสียงร้องของนาง ทําให้สาวใช้คนอืนๆ รีบดึงตัวเว่ยกว๋า


นกว่านให้ถอยห่างออกมา ในใบหน้าอันอ่อนเยาว์
ผ่องใสฉายไปด้วยความซือสัตย์และปกป้องเจ้านาย

24
“โธ่เอ๊ย ไม่เป็ นไรหรอก อาชาเพลิงพวกนีได้ถกู มูเ่ กอและ
ลูกน้องของเขาทําให้เชืองแล้ว” เว่ยกว๋านกว่านสะบัด
ออกจากมือของสาวใช้ทีจับแน่นแล้วอธิบาย

ถูกทําให้เชืองแล้วอย่างนันหรือ

ใครกันทีช่างเก่งกาจจนสามารถทําให้สตั ว์ทีมี
พลังเวทเชืองได้

ในใจของเหล่าสาวใช้ตา่ งเต็มไปด้วยความฉงน
ใจอย่างเป็ นทีสุด

25
ทันใดนัน เสียงกรีดร้องดังขึนอีกครัง เพียงแต่วา่ ในครังนี
ไม่ใช่เพราะความหวาดกลัวแต่เป็ นเพราะความตะลึง

“งามจริง!”

สาวใช้คนหนึงพูดอย่างหลงใหล

“จริงด้วยช่างงดงามยิงนัก!”

สาวใช้อีกคนได้เอามือทังสองวางบนหน้าอกของ
ตนเองและพูด

26
“ช่างเป็ นผูช้ ายทีหล่อเหลาจริงๆ”

ส่วนสาวใช้ทีเหลือต่างก็มองมูช่ ิงเกอในชุดสีแดง
ด้วยความหลงใหลแล้วอุทานออกมาจากใจจริง

เว่ยกว๋านกว่านเห็นแล้วโกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟและ


รีบกระโดดไปอยูต่ รงหน้าของสาวใช้เหล่านี พลันอ้าแขน
ทังสองข้างขึนเพือบดบังสายตาของพวกนางพร้อมด่า
ด้วยความโกรธว่า : “พวกอย่ามาทํากริยาไม่รูจ้ กั อายได้
มัย เช็ดนําลายของพวกเจ้าซะเดียวนี!”

“คุณหนู ท่านอย่าบังสิ!”

27
สาวใช้หลายคนเขย่งเท้าและยืนหน้าออกไปดู

“นี ! มูเ่ กอเป็ นแขกของข้า พวกเจ้าห้ามเข้า


ใกล้!” เว่ยกว๋านกว่านโกรธจนกระทืบเท้า ใบหน้าเต็มไป
ด้วยกระวนกระวาย

ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายและลูกน้องนี ทํา
ให้มชู่ ิงเกออมยิม

อืม ต่างก็เป็ นเด็กน้อยทีไร้เดียงสา ไม่เหมือนโย่ว


เหอและฮวาเยวียของนาง หากเทียบกับพวกนางแล้วทัง
สองดูแก่ไปหน่อย

28
ราวกับจะสัมผัสได้ถงึ สิงทีมูช่ ิงเกอกําลังคิดสาย
ตาอันอ่อนโยนดังสายนําของโย่วเหอหันมาพลันพูดด้วย
นําเสียงอันนุ่มนวลว่า : “ท่าน ท่านรังเกียจพวกบ่าวรึ”

มูช่ ิงเกอขมวดคิว พลางพูดอย่างขีเล่นว่า : “จะ


เป็ นไปได้อย่างไร พวกเจ้าทังสองเป็ นทีรักของข้า”

ถูกนายสาวแซวเช่นนี โย่วเหอและฮวาเยวียเผย
รอยยิมออกมาในทันที

“มูเ่ กอเราอย่าไปสนใจพวกเพ้อเจ้อพวกนีเลย ไป
เราเข้าจวนเถิด” เว่ยฉีเดินมาอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอและมอง
น้องสาวพร้อมสาวใช้ของน้องสาวอย่างเหยียดหยาม

29
ก่อนจะเปลียนเป็ นคําพูดทีแฝงรอยยิมอันสดใส

มูช่ ิงเกอพยักหน้าและเดินไปพร้อมๆ กับเว่ยฉี

เห็นว่าพวกเขาเข้าไปแล้ว เว่ยกว๋านกว่านก็รบี
พุง่ เข้าไปและไม่หยุดทีจะตะโกนอย่างเร่งรีบว่า : “รอข้า
ด้วย มูเ่ กอรอข้าด้วย”

เมือเห็นเว่ยกว๋านกว่านรีบตามไปเช่นนัน เหล่า
สาวใช้ตา่ งก็มารวมตัวกันแล้วพิจารณากันจอแจ

“คุณชายทีงดงามจนหาทีเปรียบไม่ได้ทา่ นนันจะ
ใช่คนทีอยูใ่ นใจของคุณหนูไหมนะ!”
30
“ข้าว่าใช่ ! พวกเจ้าเคยเห็นคุณหนูแสดงความ
ปลืมอกปลืมใจเช่นนีกับคุณชายตระกูลใดหรือไม่เล่า”

“ใช่ ! เราแค่มองนิดมองหน่อย คุณหนูก็เคร่ง


เครียดมากถึงเพียงนัน คุณชายท่านนันต้องเป็ นคนทีคุณ
หนูแอบชอบเป็ นแน่”

“ถ้าเช่นนัน คุณหนูก็ใกล้จะได้ออกเรือนแล้ว
สินะ ?!”

“ห๊ะ ! ถ้าเช่นนันต่อจากนี เราก็จะได้พบกับคุณ


ชายผูง้ ดงามท่านนีบ่อยๆ แล้วใช่ไหม”

31
32
ตอนที 107-3 คุณชายตระกูลมูผ่ มู้ ีชือเสียงสะเทือนฟ้า
ดิน !

จวนตระกูลเว่ยกว้างใหญ่มากหรือไม่ มูช่ ิงเกอมิ


อาจทราบ แต่ทว่า สายตาสามารถมองเห็นได้อย่างกว้าง
ขวาง เพราะแทบจะไม่มีการจัดตกแต่งทีมากมายจนทํา
ให้บดบังทัศนวิสยั

บรรยากาศทีหรูหราและการจัดตกแต่งงดงามที
มักพบในจวนเศรษฐี ในจวนนีกลับไม่มีเลย

33
“ตอนนี ท่านพ่อของข้าอาจจะอยูใ่ นห้องหนังสือ
ข้าจะพาท่านไปพบ” เว่ยฉีพดู กับมูช่ ิงเกอ

ลุงโจวรีบพามัวหยางและคนอืนๆไปในห้องรับ
แขก การไปพบกับเว่ยหลินหลาง ไม่จาํ เป็ นต้องไปกัน
มากมายถึงเพียงนันแค่มชู่ ิงเกอคนเดียวก็เพียงพอแล้ว

มูช่ ิงเกอพยักหน้า นางเองก็อยากจะมีโอกาสได้


พบกับเจ้าเมืองทีมีชือเสียงในแคว้นลี

ในทีสุด ด้วยการนําทางของพีน้องตระกูลเว่ย มู่


ชิงเกอก็ได้เดินมาถึงหน้าห้องหนังสือของเว่ยหลินหลาง

34
ประตูหอ้ งหนังสือถูกปิ ดสนิท เว่ยฉีจดั เสือผ้าให้
เรียบร้อย ส่วนเว่ยกว๋านกว่านก็เก็บซ่อนความขีเล่นของ
ตนเอง ทังสองจึงยืนอยูห่ น้าประตูแล้วพูดอย่างพร้อม
เพรียงกันว่า : “ท่านพ่อ”

พอดูออกว่า พวกเขาให้ความสําคัญกับท่านพ่อ
ของตนมากเพียงใด

“เจ้าลิงดือทังสอง ในทีสุดก็ยอมกลับมาแล้ว
สินะ” ภายในห้องอ่านหนังสือ มีเสียงอันนุ่มนวลดังหยก
และหนักแน่นเป็ นอย่างมากดังขึน

35
สองพีน้องมองหน้าแล้วยิมให้กนั เว่ยฉีเดินหน้า
ไปผลักประตูออก แล้วเดินเข้าไป : “ท่านพ่อ เรากลับมา
แล้ว คิดถึงเรามากเลยใช่หรือไม่!”

เว่ยกว๋านกว่านเองก็ตามเข้าไป เพียงแต่มชู่ ิงเก


อยังไม่ได้ขยับตัวไปไหน

ทังสามคนในครอบครัวได้พบกัน แน่นอนว่าต้อง
มีเรืองต้องคุยกัน นางทีเป็ นคนนอกจึงไม่ตามเข้าไปใน
เวลานี เพือความสะดวกอีกประการหนึง นางก็ตอ้ งให้
เวลาพีน้องตระกูลเว่ยได้แนะนําตัวนางเองแก่เว่ยหลิน
หลาง

36
มูช่ ิงเกอกําลังยืนชมทิวทัศน์อยูข่ า้ งนอกได้ครู ่
หนึง เว่ยฉีก็เดินออกมาและพูดกับนางพร้อมรอยยิมว่า :
“มูเ่ กอ ท่านพ่อเชิญท่านเข้าไปพบ”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าตอบรับและเดินเข้าไปในห้อง
หนังสือของเว่ยหลินหลาง

แม้จะบอกว่าเป็ นห้องหนังสือ แต่มชู่ ิงเกอรูส้ กึ ว่า


นีเป็ นเสมือนค่ายทหารมากกว่า

ในทุกๆ อาณาบริเวณเต็มไปด้วยความเข้มแข็ง
หนักแน่นและมีความเป็ นระเบียบเรียบร้อย

37
นางกวาดสายตาแล้วก็เห็นชายวัยกลางคนผู้
หนึงยืนอยูใ่ นทันที รูปร่างของเขาสูงใหญ่ ชุดสีขาวอย่าง
เรียบง่ายเมืออยูบ่ นตัวของเขาแล้ว ไม่เพียงแค่ไม่ทาํ ให้
ความน่าเกรงขามของเขาน้อยลง แต่กลับทําให้เขายิงดู
เข้มงวดน่าเกรงขามมากขึน

หน้าตาของเขาคลับคล้ายคลับคลากับพีน้อง
ตระกูลเว่ย แต่วา่ จิตวิญญาณแห่งวีรชนและความแน่ว
แน่ทีฉายออกจากหว่างคิวนันชัดเจน ถือว่าเป็ นชายหนุ่ม
ผูง้ ดงามทีหายากคนหนึง

ในเวลานี เว่ยกว๋านกว่านยืนอยูข่ า้ งๆ เขาอย่าง


สงบเสงียม มือทังสองข้างควงแขนของเขาอย่างความ
สนิทสนม หลังจากทีเว่ยฉีเดินเข้ามาก็ไปยืนอยูอ่ ีกข้าง
38
ของเขาเช่นกัน

มูช่ ิงเกอหรีตาลง พร้อมประสานหมัดแล้วพูด


ว่า : “คํานับท่านเจ้าเมืองเว่ย”

“แขกผูม้ ีเกียรติมาเยือน ถือเป็ นเกียรติแห่งตระกู


ลเว่ย” คําพูดอันคลุมเครือนีทําให้ใจของมูช่ ิงเกอยากจะ
คาดเดาว่าคิดอะไรอยู่

“พวกเจ้าทังสองออกไปก่อน” ทันใดนันเว่ยหลิน
หลางพลันพูดกับพีน้องตระกูลเว่ย

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านสงสัย แต่เพราะไม่กล้า
39
ขัดคําสังของท่านพ่อจึงทําได้เพียงมองมูช่ ิงเกอด้วยสาย
ตาทีแฝงความกังวลและค่อยๆ เดินออกจากห้องหนังสือ
ไป

ก่อนออกจากห้องหนังสือ เพราะความไม่ไว้วาง
ใจเว่ยกว๋านกว่านจึงได้พดู กับท่านพ่อของตนเองว่า :
“ท่านพ่อ มูเ่ กอเป็ นผูม้ ีพระคุณทีช่วยชีวิตข้าและพีชาย
รวมทังยังเป็ นเพือนของเรา ท่านพ่ออย่าได้รงั แกเขาเชียว
นะ!”

ผูม้ ีพระคุณทีช่วยชีวิตอย่างนันหรือคําพูดนีราว
กับจะเกินจริงไปเสียหน่อย

40
มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก นางก็เพียงแค่ไล่หนูหู
แดงทีสองพีน้องกลัวก็เท่านัน แต่ทว่า นางก็สามารถเข้า
ใจได้ถงึ ความปรารถนาดีของเว่ยกว๋านกว่าน

ในขณะเดียวกันเว่ยฉีก็หนั กลับมาและพูดว่า :
“มูเ่ กอเรารออยูข่ า้ งนอก หากมีอะไรก็ตะโกนดังๆ นะ”

เมือเห็นว่าลูกๆ ของตนเองไม่เชือใจตนเองเช่นนี
สีหน้าของเว่ยหลินหลางก็ดาํ คลําและพูดด้วยความโหด
เ**◌้ยมว่า : “ไสหัวออกไปได้แล้ว!”

ทันทีทีสินเสียงนัน ทังสองทียืนอย่างอาลัย
อาวรณ์อยูต่ รงประตูก็หายไปอย่างไร้รอ่ งรอย ประตูหอ้ ง

41
หนังสือก็ถกู ปิ ดลง

เพราะทังสองออกไปแล้วภายในห้องหนังสือก็เห
ลือเพียงมูช่ ิงเกอและเว่ยหลินหลาง

คําพูดก่อนหน้านีของเว่ยหลินหลาง ทําให้มชู่ ิงเก


อสัมผัสได้วา่ ฐานะทีแท้จริงของตนเองได้ถกู เว่ยหลิน
หลางดูออกแล้ว

“คุณชายแห่งตระกูลมู่ เดินทางมายังแคว้นลีอัน
แสนไกลของเรา เหตุใดจึงต้องปลอมตัว” สายตาของเว่ย
หลินหลางเป็ นประกายเฉียบคม

42
มูช่ ิงเกอยิมอย่างคลุมเครือและตอบกลับเขา
ด้วยความตรงไปตรงมาว่า : “เพือป้องกันไม่ให้เกิดความ
วุน่ วายก็เท่านัน”

เว่ยหลินหลางพยักหน้าอย่างให้ความร่วมมือ :
“คุณชายมีชือเสียงอันโด่งดัง แน่นอนว่าอาจจะเกิด
ปั ญหาขึนได้จริงๆ”ในคําพูดนีแฝงความนัยมากมายทีมี
เพียงแค่เขาทีรู ้

“ไม่วา่ จะปิ ดบังอย่างไรสุดท้ายก็หนีไม่พน้ สาย


ตาของท่านเจ้าเมืองเว่ยมิใช่ร”ึ มูช่ ิงเกอ ยกมือทังสอง
ข้างขึนอย่างจํายอม รอยยิมดูคลุมเครือ

43
เว่ยหลินหลางเก็บสายตาสอบสวนกลับมา
พร้อมหัวเราะอย่างเปิ ดเผยและพูดว่า : “ชือเสียงของคุณ
ชายนันเริมจากแคว้นฉิน เพราะความสามารถ สามารถ
ทําให้แคว้นถูผรู้ กั ในการสงครามเกรงกลัวและยอมแพ้
พ่ายเมือครังรบกัน ณ ทีราบลัวรือ แม้ไม่อาจจะบอกได้
ระบือไกลไปทัวทังหลินชวน แต่ในแคว้นระดับสามอย่าง
เรา ล้วนรูจ้ กั วีรชนรุน่ หลังทีเกิดใหม่ หากแม้เรืองเท่านียัง
ไม่รู ้ ก็เท่ากับมีดวงตาโดยเปล่าประโยชน์”

“ท่านเจ้าเมืองเว่ยก็ชมกันเกินไป” มูช่ ิงเกอตอบ


อย่างผ่อนคลาย ทังท่าทางและแววตา ไม่ได้แสดงความ
เย่อหยิงหรือได้ใจเพราะคําพูดของเว่ยหลินหลางเลยแม้
แต่นอ้ ย

44
ทําให้เว่ยหลินหลางทีแอบสังเกตปฏิกิรยิ าของ
นาง พยักหน้าและพูดอย่างจริงใจว่า : “คุณชายเป็ นสาย
ครามทีสามารถเอาชนะสายนําเงินได้ ช่างสมกับทีเป็ นผู้
สืบทอดของท่านแม่ทพั มู่ ! ผูแ้ ซ่เว่ยกล้ายืนยันได้วา่ ใน
แคว้นระดับสามของเรา ในบรรดาคนรุน่ ใหม่ จะต้องมี
คุณชายเป็ นผูน้ าํ แน่”

มูช่ ิงเกอเงยสายตาขึนมองเว่ยหลินหลาง แล้ว


พูดอย่างเรียบเฉยว่า : “มูช่ ิงเกอมิได้เก่งกาจอย่างทีท่าน
เจ้าเมืองเว่ยชม หากเรืองนีกระจายออกไป ก็จะนําพา
ปั ญหามาอีกมากมาย”

เว่ยหลินหลางอึงและเข้าใจความหมายทีแฝงอยู่
ในคําพูดของมูช่ ิงเกอในทันที จึงรีบพูดพร้อมรอยยิมว่า :
45
“คุณชายอย่าได้เข้าใจผิดไป ผูแ้ ซ่เว่ยพูดออกไปโดยขาด
ความยังคิด ลูกทังสองของข้า หากเฉลียวฉลาดได้ครึง
หนึงของคุณชาย ข้าก็คงจะหมดกังวลแล้ว”

มูช่ ิงเกอเข้าใจความหมายโดนแท้ทีซ่อนอยูใ่ นคํา


พูดของเว่ยหลินหลาง เพียงแค่นางรูส้ กึ ฉงนใจ ว่าตนเอง
มีชือเสียงมากขึนเพียงนีเชียวหรือ จึงทําให้ผทู้ ียิงใหญ่
และเป็ นตํานานเช่นนีมาชืนชม

และนางก็ไม่รูว้ า่ ช่วงเวลาทีผ่านมานี แม้นว่า


นางจะออกจากแคว้นฉินอย่างไร้รอ่ งรอย แต่สาํ หรับคํา
เล่าขานเกียวกับตัวนางแล้ว กลับกระจายไปทัวทังสาร
ทิศแห่งแคว้นฉิน คุณชายแห่งจวนหย่งหนิงกงตระกูลมู่
นัน ได้กลายเป็ นผูม้ ีชือเสียงของแคว้นระดับสามไปตัง
46
นานแล้ว นางจึงไม่ใช่คนทีใครจะมองผ่านได้

รวมทังเป็ นคนในระดับสูงอย่างเว่ยหลินหลา
ง ในขณะทีสนทนาก็ราวกับมีศกั ดิเทียบเท่ากัน เห็นได้วา่
ในตอนนีชือเสียงของนางได้กว้างไกลไปมากแล้ว

นอกประตู พีน้องตระกูลเว่ยเอาหูแนบอยูบ่ น
ประตู ตังใจฟั งการสนทนาทีเกิดขึนภายในห้อง แต่กลับ
ไม่ได้ยินอะไรเลยแม้แต่นอ้ ย

ในขณะทีกําลังทําตัวมีพิรุธ ประตูหอ้ งหนังสือก็


ได้ถกู เปิ ดออกอย่างกะทันหัน เพราะไม่ทนั ได้ตงตั
ั ว ทํา
ให้ทงสองเกื
ั อบจะล้มคะมําหัวฟาดพืน

47
48
ตอนที 107-4 คุณชายตระกูลมูผ่ มู้ ีชือเสียงสะเทือนฟ้า
ดิน !

ท่าทางของทังสองพีน้อง ทําให้เว่ยหลินหลางสะดุดหาง
ตาและติเตือนอย่างเคร่งขรึมว่า : “พวกเจ้ามาทําอะไร
อยูท่ ีนี”

ทังสองยืดตัวยืนตรงในทันที

49
เว่ยกว๋านกว่านคิดทบทวนแวบหนึง แล้วรีบพูด
ว่า : “เรากําลังรอมูเ่ กอออกมา แล้วจะไปพบท่านแม่ดว้ ย
กัน”

เว่ยหลินหลางจ้อง พลางพูดว่า : “พวกเจ้าจะเข้า


ไปพบท่านแม่ของตนเองก็เข้าไปกันสิ รอมูเ่ กอเพืออะไร
กัน” ภายในห้อง เขาได้ทาํ ข้อตกลงกับมูช่ ิงเกอเอาไว้เป็ น
ทีเรียบร้อยแล้ว ว่าจะไม่เปิ ดเผยฐานะทีแท้จริงของนาง
ต่อทุกคน

ก็อย่างทีมูช่ ิงเกอได้กล่าวเอาไว้ หากฐานะทีแท้


จริงถูกเปิ ดเผย จะมีอีกปั ญหามากมายทีไม่อาจจะรูไ้ ด้
ว่าเป็ นเรืองดีหรือไม่ดีตามมา

50
ในเมือมูช่ ิงเกอบอกเอาไว้ตงแต่
ั แรกแล้วว่าต้อง
การจะปิ ดบัง แน่นอนว่าเขาจะไม่ทาํ ให้เสียเรือง

“มูเ่ กอมีความรูเ้ รืองยา ข้าอยากจะให้เขาไปดู


อาการท่านแม่” เว่ยกว๋านกว่านพูดไปตามความจริง

ทันทีทีนางพูดจบ เว่ยหลินหลางกลับมองมูช่ ิงเก


อ ราวกับกําลังถามว่าทีนางพูดนันเป็ นความจริงหรือไม่
ภรรยาถือเป็ นจุดอ่อนไหวในใจของเขา ใครจะมาแตะ
ต้องโดยง่ายไม่ได้

มูช่ ิงเกอเผยรอยยิมจางๆ และพูดว่า : “ข้าพอรู ้

51
เรืองยาเล็กน้อย และการเดินทางมายังเมืองถัวในครานี
ก็เพือทีจะเดินทางไปยังโรงโอสถเมืองอวี หากท่านเจ้า
เมืองไม่ขดั ข้องอันใด ข้าก็อยากได้พบกับฮูหยิน เพือ
รักษาอย่างสุดความสามารถ”

เว่ยหลินหลางคิดทบทวน ก่อนจะถอนหายใจ
แล้วตอบว่า : “ก็ได้ ให้ฉีเก๋อร์และกว๋านกว่านพาเจ้าเข้า
ไปก็แล้วกัน” เขาราวกับไม่ได้มีความมันใจในตัวของมูช่ ิง
เกอแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน

หลังจากทีบอกลากับเว่ยหลินหลางแล้ว เพราะ
การนําทางของพีน้องตระกูลเว่ย มูช่ ิงเกอจึงได้เดินเข้าไป
ภายในเรือน

52
ภรรยาของเว่ยหลินหลางสลบไสลไม่ฟืนมาตัง
นานแล้ว ในทุกๆ วันจะมีสาวใช้มาปรนนิบตั ิอย่างระมัด
ระวัง หากเว่ยหลินหลางว่างจากงาน เรืองส่วนใหญ่เขา
จะเป็ นคนดูแลด้วยตนเองทังหมด โดยให้สาวใช้คอยช่วย
อยูข่ า้ งๆ ก็เท่านัน

เดินมุง่ ไปข้างหน้าครูห่ นึง มูช่ ิงเกอได้ผา่ นเข้าไป


ในประตูจนั ทร์เสียว แล้วก็เข้าไปในอีกบริเวณหนึง ถึงจะ
เป็ นสวนหย่อมทีไม่ได้รบั ผลกระทบต่อความวุน่ วายภาย
นอก

ทันทีทีทังสามปรากฏตัวภายในเรือนก็มีสาวใช้

53
แห่งจวนตระกูลเว่ยหลายคนโค้งคํานับพีน้องตระกูลเว่ย

หลังจากทีสังให้พวกเขาออกไปแล้ว เว่ยกว๋านก
ว่านก็ดงึ แขนเสือของมูช่ ิงเกอให้เข้าไปภายในห้อง

“พวกท่านรอทีนีก่อน” เมือไปถึงหน้าห้องนอน
เว่ยกว๋านกว่านหันกลับไปพูดกับมูช่ ิงเกอและเว่ยฉี ก่อน
ทีตนเองจะผลักประตูแล้วเดินเข้าไป

เว่ยฉีอธิบายว่า : “อย่างไรก็ตาม เราก็ถือเป็ น


ชาย กว๋านกว่านเข้าไปก่อนดีกว่า”

มูช่ ิงเกอพยักหน้าอย่างเข้าใจ
54
ครูห่ นึง เว่ยกว๋านกว่านจึงเปิ ดประตูและพูดกับ
ทังสองว่า : “เข้ามากันเถิด”

มูช่ ิงเกอเดินตามเว่ยฉีเข้าไป

ทันทีทีเข้าไปในห้องก็ได้กลินทานตะวันลัวรือที
ผ่านการต้มแล้ว

ห้องนอนถูกตกแต่งในรูปแบบดังเดิมเรียบง่าย
และเย็นตาเห็นได้ชดั ว่าเว่ยหลินหลางตังใจจะทําให้
ภรรยาของตนเองรูส้ กึ สบาย ถึงแม้วา่ นางจะไม่สามารถ
รับรูไ้ ด้ก็ตาม

55
ในห้อง มีมามาท่านหนึงยืนอยูแ่ ละน่าจะเป็ นคน
รับใช้ทีคอยปรนนิบตั ิรบั ใช้ฮหู ยินเว่ย

บนเตียง มีรา่ งผอมบางร่างหนึงนอนอยู่

ลมหายใจของนางนันอ่อนแรงและราวกับจะ
ขาดไปได้ตลอดเวลา เพราะว่าการหลับใหลเป็ นเวลา
นาน สีหน้าของนางดูขาวซีดเป็ นอย่างมาก ใบหน้าอันงด
งามก็ได้ลดลงหลายระดับ

“นีคือท่านแม่ของข้า” เว่ยกว๋านกว่านมองหญิง
วัยกลางคนทีนอนอยูบ่ นเตียง ด้วยแววตาทีเต็มไปด้วย

56
ความโศกเศร้า

แม้วา่ ท่านแม่ของมูช่ ิงเกอจะหายสาบสูญไป


นานหลายปี แต่มชู่ ิงเกอก็สามารถเข้าใจได้ถงึ ความรูส้ กึ
ของเว่ยกว๋านกว่านในตอนนี การเห็นบุพการีของตนเอง
นอนอยูบ่ นเตียงเช่นนี และคอยเป็ นห่วงถึงการมีชีวิตรอด
ในทุกๆ วันของนางช่างเป็ นเรืองทีทรมานยิงนัก

มูช่ ิงเกอเดินเข้าไป ลดสายตาลงมองฮูหยินเว่ยที


นอนอยูบ่ นเตียง

ดวงตาทังสองข้างของนางปิ ดสนิท จนไม่อาจรู ้


ได้วา่ นางเจ็บปวดหรือไม่ ราวกับนางเพียงแค่หลับไป แต่

57
เพราะร่างทีผอมแห้งลงไป ทําให้เมือมองนางแล้ว อดที
จะรูส้ กึ เป็ นกังวลไม่ได้

มูช่ ิงเกอแนบนิวสองนิวของตนเองลงบนข้อมือ
ของฮูหยินเว่ยและตังใจฟั งชีพจร

ภายในห้องเงียบสงบเป็ นอย่างมาก ไม่มีใครส่ง


เสียงรบกวน

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านมองด้วยใบหน้าที
สะท้อนถึงการรอคอยและมันใจในตัวนางเป็ นอย่างมาก

ครูห่ นึงมูช่ ิงเกอจึงคลายมือออก ในสายตาไม่


58
แสดงความรูส้ กึ อันใด

เมือเห็นว่านางเงียบ เว่ยกว๋านกว่านทีใจร้อนก็
รีบถามว่า : “มูเ่ กอเป็ นอย่างไรบ้าง ท่านมีวิธีการรักษา
หรือไม่”

“ออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่า” มูเ่ กอเงยหน้าขึน


มองประตู

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านรีบเดินออกมาพร้อม
กับนางและไปหยุดอยูภ่ ายในสวน

“เส้นชีพจรทัวร่างของฮูหยินเว่ยนันเสือมลงและ
59
ตีบตัน อีกทังอาการในตอนนีก็ถือว่าแย่เป็ นอย่างมาก
ทานตะวันลัวรือทําได้เพียงแค่ยืดเวลาการเสือม
สภาพออกไป แต่ก็ไม่สามารถทําให้อาการดีขนแต่
ึ อย่าง
ไร” มูช่ ิงเกอบอกผลการวินิจฉัยของตนเองออกไป

เมือฟั งจบแล้ว เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านไม่ได้


แสดงความฉงนใจอันใด

เหมือนว่าผลลัพธ์นี พวกเขาได้ยินมาจากคน
อืนๆ นับครังไม่ถว้ นแล้ว

“หากจะต้องการรักษาจะต้องค้นหาต้นเหตุทีทํา
ให้เส้นชีพจรเสือมลง จึงจะสามารถรูว้ า่ ควรใช้ยาอะไรใน

60
การรักษาแต่ทว่า จากอาการของฮูหยินเว่ยในตอนนีแล้ว
เป็ นเรืองทียากมากหากต้องการจะหาสาเหตุ” มูช่ ิงเก
อพูด

โดยปกติแล้ว หากเป็ นบาดแผลภายนอก อย่าง


น้อยก็สามารถ วินิจฉัยและรักษาไปตามลักษณะของ
แผล

แต่หากเป็ นปั ญหาทีอยูภ่ ายในร่างกายก็ยากที


จะวินิจฉัยเพราะว่าอาจจะมีตน้ เหตุมาจากหลากหลาย
ปั จจัย

แม้นจะเป็ นในโลกทีมูช่ ิงเกอคุน้ เคย ในยุคสมัย

61
นันการทีจะวินิจฉัยโรคทีอยูภ่ ายในร่างกายก็จาํ เป็ นต้อง
มีการตรวจซําๆ การสังเกต แล้วจึงจะสามารถเข้าสูข่ นั
ตอนการรักษาได้

และสภาพฮูหยินเว่ยทีนางเจอในตอนนี อาการ
โรคของนางนันแสดงออกมาชัดเจนมากแล้ว แต่ก็ไม่อาจ
จะตอบได้วา่ สาเหตุเกิดจากอะไร จึงทําให้มีผลลัพธ์เช่น
นี

นางพูดไปตามความเป็ นจริง แต่กลับทําให้สอง


พีน้องตระกูลเว่ยทีมีความหวังขึนมาเล็กน้อย ต้องผิด
หวังอีกครัง

62
“แต่ทว่าก็ใช่วา่ จะไม่มีวิธีการรักษา” ทันใดนันมู่
ชิงเกอก็ได้เปลียนประเด็น ทําให้ในดวงตาของสองพีน้อง
เป็ นประกายและจุดเปลวเพลิงแห่งความหวังขึนอีกครัง

“มูเ่ กอ ท่านบอกว่ามีวิธีอย่างนันรึ!” เว่ยกว๋านก


ว่านพูดทวนเพือความแน่ใจด้วยนําเสียงอันตืนเต้น

เว่ยฉีเองก็สดู ลมหายใจเข้าและพยายามทําให้
ตนเองสงบลงและพูดว่า : “มูเ่ กอ หากท่านมีวิธีช่วยท่าน
แม่ของข้า ตังแต่นีเป็ นต้นไป ชีวิตของเว่ยฉีขอมอบให้กบั
ท่าน”

“อย่าเพิงรีบร้อน” มูช่ ิงเกอยกมือขึนตัดบทคําพูด

63
ของสองพีน้อง แล้วขมวดคิวและเม้มปาก สุดท้ายก็เงียบ
ลง

นางยืนอยูใ่ นสวน มองตรงไปราวกับกําลังชืนชม


ทิวทัศน์อนั รืมรมณ์ภายในสวน

แต่ทว่า ทังสองกลับพยายามกลันหายใจ ไม่กล้า


รบกวนนาง

ครูห่ นึง มูช่ ิงเกอจึงหยุดสายตาทีพวกเขาทังสอง


และพูดว่า : “วิธีของข้า มีความเป็ นไปได้เพียงครึงเดียว
และวิธีการก็เจ็บปวดเป็ นอย่างมาก หากไม่สามารถทน
ได้ บางทีฮหู ยินเว่ยอาจจะไม่สามารถรักษาไว้ได้แม้แต่

64
ชีวิต แต่หากสําเร็จ ไม่แน่วา่ พวกเจ้าอาจจะได้ทา่ นแม่ที
แข็งแรงคืนมา”

สีหน้าของเว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านเปลียนไป
ราวกับตกใจเพราะคําพูดของมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอเองก็ไม่เร่งรีบ เพียงแค่พดู กับทังสองว่า :


“พวกเจ้าสามารถไปบอกท่านเจ้าเมืองเว่ยในสิงทีข้าบอก
พวกเจ้า แต่จะเลือกอย่างไร ก็ลว้ นมีพวกเจ้าเป็ นผู้
ตัดสิน”

พูดจบ นางก็ได้ถามทีพักของตนเอง ซึงเป็ นเรือน


รับรองตระกูลเว่ยจากคนใช้พร้อมออกจากสวน เหลือไว้

65
เพียงแค่เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านสองพีน้องทีในตอนนี
ต่างก็ทาํ อะไรไม่ถกู

“ไปหาท่านพ่อก่อนเถิด”

ครูห่ นึง เว่ยฉีจงึ ได้พดู ขึนมา

เว่ยกว๋านกว่านพยักหน้า แล้วทังสองพีน้องก็เดิน
จากไป

……

66
67
ตอนที 107-5 คุณชายตระกูลมูผ่ มู้ ีชือเสียงสะเทือนฟ้า
ดิน !

มูช่ ิงเกอกลับไปยังเรือนรับรองของตระกูลเว่ย
เพิงจะเข้าไปโย่วเหอและฮวาเยวียก็เดินเข้ามาต้อนรับ

เมือตอบคําถามเพือรับมือกับสาวใช้ทงสองไป

อย่างง่ายๆ แล้วมูช่ ิงเกอจึงขังตนเองอยูภ่ ายในห้อง

นังขัดสมาธิอยูบ่ นทีนอนนุ่ม มูช่ ิงเกอหลับตาทัง


68
สองข้างลงอย่างสนิท ราวกับกําลังฝึ กพลังเวท

ในความเป็ นจริงแล้ว นางกําลังประเมินความ


สําเร็จในการรักษาฮูหยินเว่ย

ในสถานการณ์ทีไม่รูถ้ งึ สาเหตุของโรคเช่นนี มี
เพียงวิธีเดียวเท่านันทีจะทําให้ฮหู ยินเว่ย สามารถรักษา
โรคนันได้โดยไม่ตอ้ งสนใจสาเหตุของโรค ก็คือการ
เปลียนแปลงชีพจรใหม่ !

การเปลียนแปลงชีพจรใหม่ ถือว่ามีความยาก
เป็ นอย่างสูง

69
ชีพจรเดิมจะถูกทําลายลงและถูกสร้างขึนใหม่
ในขันตอนต่างๆ นัน แม้จะเป็ นปกติ ยังยากทีจะทนได้
แล้วนับประสาอะไรกับฮูหยินเว่ยทีหลับใหลอยูเ่ ช่นนี

หากไม่สามารถต้านทานได้ มีเพียงผลลัพธ์เดียว
เท่านัน นันก็คือชีพจรถูกทําลายและตาย !

ในกระบวนการรักษานัน มีความอันตรายสูง
มากและมีความเป็ นไปได้ทีจะล้มเหลว

หากจะทําการรักษา ก่อนทีจะเปลียนแปลง
ชีพจรใหม่นนั มูช่ ิงเกอจะต้องทําทุกวิถีทาง เพือให้
สภาพร่างกายของฮูหยินแข็งแรงขึน

70
อีกประการหนึง โอสถทีสามารถเปลียนแปลง
ชีพจรได้นนั มูช่ ิงเกอไม่มี แต่ทว่า นางมีตาํ รายาทีสืบ
ทอดมาจากปรมาจารย์แห่งการปรุงยา เพียงแค่วา่ โอสถ
ทังหมดทีจะสามารถเปลียนแปลงชีพจรได้นนั ล้วนอยูใ่ น
ระดับทีมากกว่าระดับสูง แม้จะเป็ นระดับทีตําทีสุดก็ยงั
อยูใ่ นระดับยาวิเศษ

มูช่ ิงเกอในตอนนี ยังไม่สามารถปรุงยาทีอยูใ่ น


ระดับวิเศษได้

บางที นีอาจจะเป็ นเหตุผลทีทําให้อาจารย์ปรุง


ยา จํานวนนับไม่ถว้ นทีมาดูอาการของฮูหยินเว่ยต้อง

71
ยอมแพ้

เพียงแต่วา่ เรืองนีไม่อาจจะทําลายความโชคดี
ของมูช่ ิงเกอได้ ยาเปลียนดีเอ็นเอทีติดตัวนางมาจากการ
ทะลุมิติยงั เหลืออีกเล็กน้อย มูช่ ิงเกอทีได้สมั ผัสกับยา
เปลียนแปลงดีเอ็นเอด้วยตนเอง ล้วนรูผ้ ลลัพธ์ของมัน
เป็ นอย่างดี

หากมองจากอีกมุมแล้ว มันเป็ นยาเปลียนแปลง


ชีพจรระดับเทพ !

มียาเปลียนแปลงดีเอ็นเอ บวกกับสูตรของยา
จากตํารายา มูช่ ิงเกอมันใจว่า จะสามารถปรุงโอสถ

72
เปลียนแปลงชีพจรได้ จึงกล้าพูดเช่นนันกับพีน้องตระกู
ลเว่ย

ในตอนนี นางจะต้องใช้เวลาทีรอตระกูลเว่ย
ตอบกลับ ในการคิดหาวิธีทีจะผสมยาเปลียนแปลงดีเอ็น
เอเข้าไปในโอสถ

ในฝังนี มูช่ ิงเกอกําลังทุม่ เททังพลังกายและใจ


ในการคิดค้นหาวิธีการปรุงโอสถทีจะสามารถเปลียน
แปลงชีพจรได้ อีกฝังหนึงพีน้องตระกูลเว่ยก็ได้พบกับบิ
ดาเว่ยหลินหลาง และเล่าทุกอย่างทีมูช่ ิงเกอพูดกับเขา
โดยไม่ขาดตกบกพร่อง

73
เมือได้ยินว่ามีวิธีการรักษาภรรยา เว่ยหลินหลา
งก็แทบจะพุง่ เข้าไปหามูช่ ิงเกอจนแทบจะไม่สนใจอะไร
ทังนัน เพือขอร้องให้นางยอมช่วย

แต่ทว่า ทันทีทีได้ยินความอันตรายจากปากของ
ลูกสาว เขาจึงได้แต่นิงและสงบลง

ท่ามกลางความเป็ นและความตายของภรรยา
เขากําลังพยายามทีจะตัดสินใจ

มูช่ ิงเกอรอจนพระอาทิตย์ตกดิน แล้วจึงค่อยๆ


ลืมตาทังสองข้างขึน ในส่วนลึกของดวงตาอันสว่างไสว
เต็มไปด้วยความสงบ ลุกออกจากห้อง ในขณะทีเตรียม

74
จะไปขออาหารเพือช่วยประทังความหิวโหยจากโย่วเห
อ ก็ได้เห็นเว่ยหลินหลางนําบุตรทังสองของตนเองเดิน
เข้ามาอย่างเร่งรีบ

มูช่ ิงเกอยืนอยูบ่ ริเวณประตู ล้มเลิกความจริงที


จะเรียกตัวโย่วเหอ และรอคอยทังสามคน

“คุณชายมู”่ ทันทีทีพบกับมูช่ ิงเกอ เว่ยหลินหลา


งก็เรียกในทันที

มูช่ ิงเกอยิมจางๆ และพูดอย่างแนบนิงว่า :


“เชิญท่านเจ้าเมืองเว่ย” นางหันตัวออกเพือหลีกทาง ท่า
ทางอันผ่อนคลายนัน ราวกับนางต่างหากทีเป็ นเจ้าของ

75
ทีนี เว่ยหลินหลางและอีกสองคนเป็ นเพียงแค่แขกทีมา
เยียมเยือน

โย่วเหอและฮวาเยียทีมาตามคําสัง ในตอนนี
เตรียมนําชาและขนมมาวางไว้อย่างเร่งรีบ หลังจากที
เสร็จแล้ว จึงได้ถอยออกไป

หลังจากทีทุกคนจากไปแล้ว เว่ยหลินหลางจึง
พูดด้วยความตืนเต้นว่า : “คุณชาย ผูแ้ ซ่เว่ยได้ยินมาจาก
ฉีเอ๋อร์และกว๋านกว่านแล้ว ท่านมีวิธีช่วยฮูหยินของข้า
จริงๆ หรือ”

เว่ยหลินหลางใช้คาํ สุภาพและนอบน้อมอย่างไม่

76
รูต้ วั

หากมูช่ ิงเกอสามารถช่วยภรรยาของเขาได้จริงๆ
แม้จะต้องให้เขายกตําแหน่งอันสูงสุดของจวนให้แก่มชู่ ิง
เกอ เขาก็จะยอมแต่โดยดี

มูช่ ิงเกอพยักหน้าเบาๆ : “วิธีน่ะมี แต่วา่ อันตราย


เป็ นอย่างมาก”

เว่ยหลินหลางพูดด้วยความเคร่งขรึมว่า : “จะ
สามารถบอกได้ละเอียดกับผูแ้ ซ่เว่ยได้หรือไม่”

“แน่นอน” มูช่ ิงเกออธิบายว่า : “ระบบชีพจรใน


77
ร่างกายของฮูหยินนันเสือมสภาพลง จึงทําให้เจ็บป่ วย
โดยปกติแล้วจะทําได้เพียงแค่รกั ษาอาการเอาไว้และทํา
ให้ระบบชีพจรกลับมาเป็ นเหมือนเดิมก็จะสามารถทําให้
หายขาดได้แต่วา่ สิงทียากคือ เราไม่รูว้ า่ เหตุใดฮูหยินจึง
ได้เป็ นโรคนี ไม่รูส้ าเหตุทีแท้จริงก็จะไม่สามารถรูไ้ ด้วา่
ควรใช้ยาอะไรในการรักษาถึงจะถูกต้อง”

เว่ยหลินหลางฟั งอย่างตังใจ ในขณะทีมูช่ ิงเก


อหยุดพูด เขาก็ได้พยักหน้าและพูดขึนมาว่า : “ตอนแรก
ข้าได้ใช้ความสัมพันธ์อนั ดี ในการเชิญปรมาจารย์แห่ง
การปรุงยามา จากโรงโอสถเมืองอวี เพือรักษาภรรยา
ของข้า สิงทีเขาพูดนันเหมือนกับคุณชายไม่มีผิด แต่สดุ
ท้ายแล้วเขาเองก็ไม่มีวิธีรกั ษา”

78
มูช่ ิงเกอพยักหน้า

ได้ยินมาว่าปรมาจารย์แห่งการปรุงยาของโรง
โอสถเมืองอวี ในระดับสูงทีสุดสามารถปรุงได้เพียงแค่ยา
ระดับสูง แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถปรุงยาเปลียน
ปลงชีพจรหรือยาทีจะเปลียนแปลงธาตุภายในร่างกาย
ได้

“ถ้าเช่นนัน วิธีของคุณชายมูค่ ืออะไร” เว่ยหลิน


หลางถามอย่างคาดคัน

มูช่ ิงเกอเองก็ไม่ได้ถือสา เพียงแค่ปัดชายเสือ


ของตนเอง แล้วพูดว่า : “หากไม่สามารถรูถ้ งึ สาเหตุของ

79
โรคได้ ก็ไม่ตอ้ งเสียเวลาหา เพียงแค่เปลียนระบบชีพจร
และเปลียนแปลงธาตุในร่างกาย รักษาตามความเป็ นไป
ได้ทงหมดก็
ั พอแล้ว”

เว่ยหลินหลางลุกขึนในทันที

ความตืนตระหนกภายในใจนัน ไม่อาจจะ
อธิบายเป็ นคําพูดได้ ทังแอบคิดว่า : “ช่างเป็ นวิธีทีแก้ไข
ปั ญหาจากต้นเหตุทีดีวิธีหนึง !

มีความกล้ามากถึงเพียงนีและวิธีการลงมืออัน
แหกกฎเช่นนี ถือเป็ นเอกลักษณ์ของคุณชายแห่งแคว้น
ฉินเสียจริง

80
เพียงแค่คิดไม่ถงึ ว่า คุณชายท่านนีทีไม่เพียงแค่
ลงมือปฏิบตั ิงานอย่างตรงไปตรงมา ในวิธีการรักษาคน
ไข้นนก็
ั ยงั คงเป็ นเช่นนัน

เว่ยหลินหลางกระตุกยิมบนมุมปากอย่างโศก
เศร้า แล้วค่อยๆ นังลง หลังจากทีเงียบไปสักพักเขาจึง
พูดว่า : “นีก็คือสิงทีคุณชายมูบ่ อกว่าเป็ นอันตรายใช่หรือ
ไม่”

มูช่ ิงเกอพยักหน้า นางเชือว่าเว่ยหลินหลางที


เป็ นคนหนึงทีฝึ กพลังเวท แน่นอนว่าจะต้องรูว้ า่ การ
เปลียนระบบชีพจรนันอันตรายมากเพียงใด

81
“คุณชายมูม่ ียาทีจะสามารถเปลียนระบบชีพจร
ได้อย่างนันหรือ” เว่ยหลินหลางมองเขาด้วยสายตาสว่าง
ไสว นีต่างหากทีเป็ นสิงทีสําคัญทีสุด

มูช่ ิงเกอกลับส่ายหน้าเบาๆ

แต่ทว่า ในขณะทีเว่ยหลินหลางขมวดคิว นางก็


ได้พดู ขึนอย่างแนบนิงว่า : “ตอนนียังไม่มี แต่หากท่าน
ยอมเสียงข้าจะไปปรุงเดียวนี”

“ว่าอย่างไรนะ” เว่ยหลินหลางตกใจจนลุกขึนอีก
ครัง

82
ไม่เพียงแค่เขา รวมทังเว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่าน
เองก็มองมูช่ ิงเกอ จนอ้าปากค้างเพราะความตะลึง

พวกเขาตามมูช่ ิงเกอมาเป็ นเวลานานเพียงนี แม้


จะเห็นว่ามูช่ ิงเกอมีโอสถเก้าชีวิตหวนคืน แต่กลับไม่เคย
ได้ยินว่าจะสามารถปรุงยาได้

ตอนนี เขาพูดออกมาอย่างผ่อนคลายเช่นนี ช่าง


สร้างความตืนตกใจยิงนัก !

“โอสถทีจะสามารถเปลียนระบบชีพจรได้คงจะ
เป็ นโอสถทีอยูใ่ นระดับสูง คุณชายมันใจหรือไม่” ในสาย

83
ตาเฉียบคมของเว่ยหลินหลางแฝงความกดดันอยู่

มูช่ ิงเกอพูดด้วยท่าทางทีผ่อนคลาย : “ข้าไม่เคย


ทําอะไรทีไม่มีความมันใจในผลลัพธ์”

เว่ยหลินหลางพูดอะไรไม่ออก ในใจนันเผยถึง
ความยอมจํานน

คุณชายมูผ่ นู้ ีในด้านการฝึ กพลังเวทถือว่า


เก่งกาจแล้ว เพราะล่าสุดได้มีการคาดเดาว่า เขากําลัง
จะทะลวงสูส่ ายนําเงินแล้ว ทังในทางความคิด โชคชะตา
และความเจ้าแผนการก็ถือว่ายอดเยียมจนน่าตกใจ ไม่
คิดว่า ในด้านการปรุงยา เขาก็ยงั คงเก่งกาจได้มากถึง

84
เพียงนี ใครยังจะพูดอะไรได้อีก

หากจะบอกว่าก่อนหน้านีทีเว่ยหลินหลางได้เคย
กล่าวว่ามูช่ ิงเกอจะเป็ นแถวหน้าของแคว้นระดับสามใน
ยุคต่อไป เป็ นเพียงการเชยชมเพือสร้างสัมพันธ์แล้วล่ะก็
ตอนนีความคิดของเขาก็เริมจะเปลียนแปลงไปแล้ว

หากมูช่ ิงเกอสามารถปรุงยาทีจะช่วยภรรยาของ
เขาได้ เขาก็คงจะไม่มีความสงสัยอันใดต่อคําพูดทีตน
เองพูดออกไปอีก

ในตอนนี สิงทีมูช่ ิงเกอควรพูดก็ได้พดู ไปหมด


แล้วและกําลังรอการตัดสินใจจากตนเอง !

85
หลังจากทีลังเลพักหนึง ในทีสุดเว่ยหลินหลางก็
กัดฟั นและตังใจแน่วแน่ : “คุณชายมู่ หากท่านมีความ
มันใจจริงๆ ชีวิตของฮูหยินของข้าก็ขอฝากไว้ในมือท่าน
หากว่าท่านสามารถรักษาฮูหยินของข้าได้ นับจากนีเป็ น
ต้นไปไม่วา่ จะเรืองอะไรทีข้าแซ่เว่ยสามารถช่วยได้ แซ่
เว่ยจะไม่ปฏิเสธเลย แต่หากว่าฮูหยินของข้าอ่อนแอเกิน
กว่าจะผ่านพ้นมันไปได้ขา้ ก็จะไม่ถือโทษโกรธท่าน และ
ท่านก็ยงั คงเป็ นผูม้ ีพระคุณของจวนตระกูลเว่ย!”

คําพูดนีพูดได้งดงามยิงนัก

ทังเป็ นการแสดงถึงความสําคัญทีมีให้กบั ภรรยา

86
ของตนเองและเป็ นการลดแรงกดดันให้กบั มูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอพยักหน้า รับคนไข้รายนีไว้

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านพูดอย่างพร้อมเพรียง
กันว่า : “มูเ่ กอ พวกเราเชือในตัวท่าน ฝากท่านแม่ของ
เราด้วย”

“ข้าจะทําอย่างสุดความสามารถ” มูช่ ิงเกอรับ


ปาก

……

87
สองวันหลังจากนัน มูช่ ิงเกอก็ได้นาํ โอสถทีได้รบั
การปรุงตามสูตรและยาสมุนไพรมาให้กบั พีน้องตระกู
ลเว่ย

พร้อมสังพวกเขาว่า ในหลายวันนีให้ฮหู ยินเว่ย


รับประทานโอสถให้ตรงเวลา ในขณะเดียวกันก็ตอ้ งใช้
ยาสมุนไพรในการอาบนํา เพือเพิมพลังให้กบั ธาตุในร่าง
กาย

นอกจากนี ยังต้องพูดข้างหูฮหู ยินในสิงทีจะช่วย


สร้างกําลังใจและความเชือให้กบั นาง ทําให้นางเตรียม
พร้อมสภาพจิตใจในการรับการรักษา ในเรืองนี มูช่ ิงเก
อได้นาํ การรักษาจากโลกอีกใบหนึงเข้ามาปรับใช้

88
ในโลกนันเชือว่า แม้จะเป็ นเจ้าชายหรือเจ้าหญิง
นิทรา ก็ยงั คงมีความรูส้ กึ ของตนเองและสามารถสัมผัส
ได้ถงึ การดูแลจากคนในครอบครัวและได้ยินคําพูดจาก
พวกเขา

เพราะฉะนัน ในขณะทีพบกับคนไข้ ทีเป็ นเจ้า


ชายหรือเจ้าหญิงนิทรา คุณหมอมักจะใช้วิธีการทีให้คน
ในครอบครัวคอยมาเยียมเยียนและพูดคุยเพือเป็ นกําลัง
ใจ จุดประกายให้คนไข้มีกาํ ลังใจทีจะอยูต่ อ่ และตืนจาก
การหลับใหล

นางไม่ได้จะใช้วิธีนีในการทําให้ฮหู ยินเว่ยฟื นขึน


มา เพียงแต่ใช้วิธีการนี ในการทําให้ฮหู ยินเว่ยเตรียมใจ
89
ให้พร้อมในการรักษาขันต่อไปและเป็ นการจุดประกาย
ความเชือ

ในกระบวนการเปลียนระบบชีพจรนัน ความ
สําเร็จครึงหนึงมาจากความเข้มแข็งและความเชือ

การดูแลรักษาทางร่างกายนัน มูช่ ิงเกอสามารถ


ให้ความช่วยเหลือได้ แต่สภาพจิตใจจะต้องพึงตัวของ
ฮูหยินเว่ยเอง

ทันทีทีนางเสนอวิธีการและความเชือใหม่นี หลัง
จากทีเว่ยหลินหลางเสร็จจากภารกิจแล้วก็จะมาให้กาํ ลัง
ใจภรรยาด้วยตนเอง มักบอกกับนางอยูเ่ สมอว่าห้าม

90
ยอมแพ้ ต้องสูต้ อ่ ไป เพือเขาและเพือลูกๆ ของพวกเขา

และมูช่ ิงเกอเอง ก็ได้ใช้ขอ้ อ้างว่าต้องทําสมาธิ


เพือปรุงยา ไม่ตอ้ งการถูกรบกวน เพือเข้าไปภายในช่อง
ว่างของตนเอง......

91
ตอนที 108-1 ยืนหน้าเข้ามาขนาดนีแล้ว จะไม่ตบได้
อย่างไร

ภายในช่องว่าง มูช่ ิงเกอนังอยูใ่ นห้องหลอม


โอสถ ในมือถือหลอดทดลองทีมียาเปลียนแปลงดีเอ็นเอ
ส่วนทีเหลือบรรจุอยู่

ในหลอดทดลองเหลือยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอ
ส่วนสุดท้าย เมือคิดทบทวนแล้ว มูช่ ิงเกอใช้เพียงเศษ 1
ส่วน 10 และเทมันลงบนจานทีอยูว่ างข้างๆ

1
นางใช้ให้เหมิงเหมิงตระเตรียมสมุนไพรหลาย
ประเภทมาให้

นางไม่รูว้ า่ ในตอนนีสวนสมุนไพรจะอุดม
สมบูรณ์มากเพียงใด อย่างน้อยจนถึงตอนนีสมุนไพรที
นางต้องการก็ยงั ไม่มีอนั ไหนทีเหมิงเหมิงหาไม่เจอ

คําตอบนีคงต้องรอให้นางทะลวงสูส่ ายม่วงก่อน
แล้วถึงจะไปค้นหาด้วยตนเองได้

ภายนอกมิติแห่งช่องว่าง ทัวทังจวนตระกูลเว่ยมี
แต่บรรยากาศแห่งความตึงเครียด

2
แม้จะไม่มีใครกระจายข่าวออกไปว่า มูช่ ิงเกอจะ
ช่วยท่านแม่ของพวกเขา แต่อารมณ์และความรูส้ กึ ของ
เว่ยหลินหลางรวมทังพีน้องตระกูลเว่ยก็ยงั ส่งผลกระทบ
ต่อคนรอบข้าง

พวกเขาอาจจะไม่รูว้ า่ เกิดอะไรขึน แต่รบั รูไ้ ด้วา่


เจ้านายของตนเองกําลังมีเรืองกังวล

“ไอ้เว่ยฉี เจ้าคิดว่ามูเ่ กอสามารถปรุงยาทีจะใช้


ช่วยท่านแม่ได้หรือไม่” ใบหน้าของเว่ยกว๋านกว่านดูหนัก
ใจ ทังเป็ นห่วงมูช่ ิงเกอและเฝ้ารอให้ทา่ นแม่หายดี

3
เว่ยฉีสา่ ยหน้า หว่างคิวเต็มไปด้วยความกังวล :
“เราต้องเชือใจในตัวมูเ่ กอ อีกประการหนึง ท่านพ่อเคย
บอกว่าโรคของท่านแม่ไม่ใช่โรคทีจะรักษาให้หายได้
ง่ายๆ ไม่วา่ ผลลัพธ์จะเป็ นอย่างไร เราก็จะโกรธมูเ่ กอไม่
ได้”

เรืองนันมันแน่นอนอยูแ่ ล้ว เว่ยกว๋านกว่านลืม


ตาโต แสดงท่าทางเป็ นเสือน้อยออกมาในทันที

“เหตุใดพวกเจ้าทังสองจึงมาเฝ้าอยูท่ ีนี” ในระยะ


ทีไกลออกไป อยูๆ่ ก็มีเสียงของเว่ยหลินหลางดังขึน

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านสะดุง้ ทีหนึง รีบหันไป

4
มองเจ้าของเสียงพร้อมพูดด้วยรอยยิมว่า : “ท่านพ่อ!”

เว่ยหลินหลางอยูใ่ นชุดสีขาวบริสทุ ธิ เดินเข้ามา


พลางมองไปยังประตูเรือนทีอยูไ่ ม่ไกลจากด้านหลังของ
ทังสอง

พอเดินเข้ามาใกล้ เขาก็ขมวดคิวและตําหนิวา่ :
“พวกเจ้าทังสองมาเฝ้าอยูแ่ บบนี ช่างเป็ นการเสีย
มารยาทนัก”

เว่ยกว๋านกว่านเดินอ้อมไปคล้องแขนของท่าน
พ่อและพูดอย่างออดอ้อนว่า : “เราเพียงแค่เป็ นห่วงมูเ่ ก
อ ไม่ได้มีเจตนาอืนใด ท่านพ่ออย่าได้เข้าใจผิด”

5
“อย่างไรก็ไม่ควรเฝ้าอยูห่ น้าประตูเรือนคนอืน
เช่นนี” เว่ยหลินหลางถลึงตาโต พลันพูดด้วยความขุ่น
เคือง

เว่ยฉีหดคอและพึมพําว่า : “ท่านพ่อเองก็มาไม่
ใช่หรือ ห้องหนังสือของท่านและเรือนของท่านอยูค่ นละ
ฝังกับทีนีเชียวนะ”

“ไอ้เด็กบ้า อยากโดนดีร”ึ ใบหน้าเว่ยหลินหลา


งแดงกํา ยืนมือออกไปจะตีเว่ยฉี

เว่ยฉีหลบอย่างว่องไว และมาหยุดอยูข่ า้ งหลัง

6
เว่ยกว๋านกว่าน ยืนคอออกไปตะโกนว่า :

“ท่านพ่อเถียงไม่ชนะก็คิดจะลงไม้ลงมือ ไม่น่า
ขายหน้าหรือไง”

“ท่านพ่อตีมนั เลย วอนหาเรืองดีนกั ” เว่ยกว๋านก


ว่านหลบออกจากตําแหน่งทีพีชายยืนอยู่
แล้วตะโกนอย่างกลัวว่าทุกอย่างจะจบลงโดยง่าย

การแสดงของทังสองทําให้เว่ยหลินหลางโกรธ
จนหัวเราะออกมา และชีทังสองแล้วพูดว่า : “พวกเจ้านี
ใช้ไม่ได้เลยสักคน!”

7
พูดจบเขาก็ถอนหายใจและกวักมือเรียกทัง
สอง : “พอเถอะ ข้ารูว้ า่ พวกเจ้าลําบากมากเพียงใด พวก
เจ้าไม่ตอ้ งการให้ขา้ เป็ นกังวลมากเกินไป ถึงได้ตงใจทํ
ั า
เช่นนี แต่วา่ เรืองเกียวกับท่านแม่ของพวกเจ้า ข้าจะไม่
เป็ นกังวลได้อย่างไรล่ะ”

ถูกท่านพ่อจับได้ เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านมอง
หน้ากัน ก่อนทีจะเดินเข้าไปอยูท่ างด้านซ้ายและขวาของ
ท่านพ่อ

“ท่านพ่อ ท่านอย่าได้กงั วลไป มูเ่ กอบอกว่าได้ก็


ต้องได้” เว่ยกว๋านกว่านพูดปลอบใจ

8
เว่ยฉีเองก็พยักหน้าตาม : “ท่านพ่อมูเ่ กอเก่ง
มาก เราต้องเชือในตัวเขา” ผูท้ ีมีโอสถระดับสูงอย่าง
โอสถเก้าชีวิตหวนคืนและสามารถรอดพ้นจาก นํามือ
ของผูม้ ีอาํ นาจทีคอยตามล่า จะไม่เรียกว่าเก่งได้อย่างไร

“ใช่ๆ ทีเว่ยฉีพดู เมือครูน่ ี ถูกต้องทุกประการ มูเ่ ก


อเก่งทีสุด ไม่มีอะไรทีเขาทําไม่ได้ เพราะฉะนันท่านพ่อ
วางใจเถิด ท่านแม่จะต้องหายแน่”ดวงตาเว่ยกว๋านกว่าน
โค้งลงดังพระจันทร์เสียว พร้อมยืนยันกับเว่ยหลินหลาง

เว่ยหลินหลางมองนางด้วยความฉงนใจ เมือ
พินิจอย่างรอบคอบแล้วจึงพูดอย่างจับผิดว่า : “ยัยหนู
เหตุใดข้าจึงรูส้ กึ ว่าเจ้าดูรูส้ กึ ดีกบั คุณชายมูม่ ากเป็ น
พิเศษ ข้ายังไม่เคยเห็นเจ้ายกย่องชายคนใดเช่นนีเลย
9
นะ”

เมือท่านพ่ออ่านใจออก แก้มทังสองข้างของ
เว่ยกว๋านกว่านก็แดงกําขึนมาในทันที แต่ไม่ได้ตอบกลับ
ด้วยการแสดงท่าทางเขินอายเหมือนหญิงสาวทัวไป
เพียงแค่แอบมองท่านพ่อด้วยหางตาทีฉายความเขิน
อายและพูดเบาๆ ว่า : “ท่านพ่อคิดว่าหากได้เขามาเป็ น
ลูกเขยของท่านไม่ดีร”ึ

เว่ยหลินหลางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ จ้อง
ลูกสาวอย่างไม่ได้สติและไม่ได้สงั เกตใบหน้าดําคลําของ
เว่ยฉี

10
“ยัยหนู เจ้าจริงจังหรือไม่” ครูห่ นึงเว่ยหลินหลา
งจึงพูดคําคํานีออกมา

เว่ยกว๋านกว่านเงยหน้าขึนมองเขาแล้วพยักหน้า
อย่างเขินอาย แก้มทังสองแดงกํามากขึนกว่าเดิม

เมือได้รบั คําตอบเพือเป็ นการยืนยันจากลูกสาว


คิวทังสองข้างของเว่ยหลินหลางก็ขมวดปมแน่น หว่าง
คิวฉายความลําบากใจและความลังเล

รับรูไ้ ด้ถงึ ความเงียบทีผิดปกติของท่านพ่อ เว่ยก


ว๋านกว่านก็เงยหน้าขึนพอดีกบั ทีเห็นว่าท่านพ่อกําลัง
ขมวดคิว จึงรีบถามว่า : “ท่านพ่อ มูเ่ กอปรีชาสามารถมา

11
ถึงเพียงนี ท่านไม่ชอบหรือ”

“ก็ไม่ใช่เช่นนัน.....”

“ท่านพ่อ ยัยเด็กนีเพียงคิดไปเองฝ่ ายเดียว มูเ่ ก


อไม่เคยแสดงปฏิกิรยิ าอันใด” เว่ยฉีอดไม่ได้ทีจะตัดบท
คําพูดของท่านพ่อ ไม่รูว้ า่ เพราะอะไร แม้วา่ มูเ่ กอจะบอก
ไปแล้วว่าตนเองเป็ นชายเขาก็ยงั ไม่หวังให้นอ้ งสาวของ
ตนเองได้ครอบครองมูเ่ กอ

การขัดขวางเช่นนีมาจากส่วนลึกของหัวใจ

“ไอ้เว่ยฉี เจ้าพูดอะไรของเจ้า” เว่ยกว๋านกว่าน


12
โกรธจนปล่อยหมัด

เว่ยฉีหลบไปข้างหลัง เว่ยหลินหลางยืนมือออก
ไปจับแขนของลูกสาวเอาไว้ พลางพูดอย่างเคร่งขรึมว่า :
“พอเถอะอย่ามาทะเลาะกันต่อหน้าข้าเช่นนี”

เว่ยกว๋านกว่านโกรธจนสับเท้า ชีเว่ยฉีแล้วพูด
ว่า : “ท่านพ่อดูมนั สิ มีพีชายแบบนีทีไหนกัน คอยคิดไม่
ซือกับคนรักของน้องสาว”

ข่าวนีช่างสร้างความตืนตระหนกอย่างเป็ นทีสุด

เว่ยหลินหลางถูกกระตุน้ จนสูดลมหายใจอย่าง
13
เย็นเยียบ ลืมตาโตจ้องลูกชายเพียงคนเดียวของตนเอง
สายตานันแหลมคมราวกับมีดดาบ เกือบอดไม่ไหวทีจะ
ผ่าลูกชายออกเป็ นสองส่วน : “เว่ยฉี เจ้า !”

“ท่านพ่อ ท่านอย่าไปฟั งคําพูดพล่อยๆ ของน้อง


นะ !” เว่ยฉีรบี เถียงเพือปกป้องตนเอง

แต่ทว่า ท่าทางเช่นนีของเขา ทําให้เว่ยหลินหลา


งคิดว่าเป็ นการปกปิ ดความจริง

ทันใดนัน ในใจของเขาก็นิงไป

ลูกชายตกหลุมรักผูช้ ายคนหนึง แม้นหน้าตาจะ


14
งดงามเสียจนมากกว่าผูห้ ญิง ทังยังเต็มเปี ยมไปด้วย
ความสามารถ แต่ก็ไม่ใช่เรืองทีน่ายินดี

อีกประการหนึง เลือดเนือเชือไขของตระกูลเว่ย
ของพวกเขา ยังคงต้องการผูส้ ืบทอด !

หากลูกชายของตนเองมีความคิดทีเป็ นไปไม่ได้
เช่นนีต่อคุณชายมูจ่ ริงๆ บางที แม้ลกู สาวจะชอบมาก
เพียงใด ก็ไม่สามารถเกียวดองกับตระกูลมูไ่ ด้ เพราะไม่
เช่นนันสองพีน้องก็จะกลับกลายเป็ นศัตรูกนั ไปมิใช่หรือ?

“พอเถิด พวกเจ้าทังสองโตจนป่ านนีแล้ว ยังจะ


ก่อเรืองวุน่ วายไม่เลิก เลิกคิดเรืองนีกันซะ แล้วตังใจยก

15
ระดับพลังเวทให้สงู ขึน จึงเป็ นสิงทีควรกระทํามากทีสุด”
เว่ยหลินหลางจ้องเพือตักเตือนทังสอง

คูพ่ ีน้องเว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านคิดไม่ถงึ ว่า


เพียงพริบตา ท่านพ่อของตนเองจะคิดไปมากถึงเพียงนี

ปฏิกิรยิ าทีมีตอ่ พวกเขาเปลียนไปในทันที ต่างก็


ตะลึง

พอได้สติ ก็พบว่าตนเองได้ถกู ท่านพ่อพาตัวออก


มาจากตรงนันแล้ว

‘เพราะเจ้าคนเดียว!’ เว่ยกว๋านกว่านจ้องเว่ยฉี
16
ด้วยสายตาอันแหลมคมแวบหนึง

เว่ยฉีก็จอ้ งกลับอย่างไม่ยอมแพ้ : “คางคกอยาก


กินเนือห่านฟ้า !”

เว่ยกว๋านกว่านพูดอะไรไม่ออกในทันที ในดวง
ตาเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะ และกัดฟั นแน่น

เว่ยฉียงั คงยัวนาง ราวกับชอบทีเห็นน้องสาวของ


ตนเองจนมุมเช่นนี !

……

17
18
ตอนที 108-2 ยืนหน้าเข้ามาขนาดนีแล้ว จะไม่ตบได้
อย่างไร

มูช่ ิงเกอกําลังจดจ่ออยูก่ บั การปรุงยา จึงไม่รูว้ า่


ภายในจวนจะเกิดเรืองอันน่าสนใจเช่นนีขึน

หลังจากนัน 3 วัน 3 คืน ในทีสุดประตูหอ้ งของมู่


ชิงเกอก็ถกู เปิ ดออก

ทันทีทีนางปรากฏตัว ข่าวนีก็พลันเข้าหูของเว่ย
19
หลินหลางและสองพีน้องตระกูลเว่ย

พอทุกคนเดินเข้ามา มูช่ ิงเกอทีได้เปลียนเสือผ้า


เสร็จเรียบร้อยแล้ว กําลังนังอยูห่ น้าโต๊ะ แล้วลิมรสโจ๊กที
โย่วเหอต้มเองกับมือ

เมือเห็นทังสามเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ มูช่ ิงเก


อเงยสายตาขึน พร้อมพูดด้วยนําเสียงอันเย็นชาว่า :
“ท่านทังสามรับประทานอาหารเช้าหรือยัง หากยัง เชิญ
นังทานด้วยกัน”

ทังสามทีในตอนแรกลุน้ ว่าการปรุงโอสถเปลียน
ระบบชีพจรจะสําเร็จหรือไม่ ทันทีทีได้ยินเสียงอันเย็นชา

20
และแนบนิงของนาง ก็กา้ วเท้าช้าลงในทันที

สีหน้าอันเคร่งขรึมของเว่ยหลินหลาง ผุดรอยยิม
ออกมา พลันนังลงข้างๆ มูช่ ิงเกอ เว่ยฉีและเว่ยกว๋านก
ว่ายเองก็นงลงข้
ั างๆ เขา และคอยแอบมองมูช่ ิงเกอที
กําลังดืมโจ๊ก

“เชิญคุณชายมูท่ านให้อร่อย เราต่างก็รบั ประทานอาหาร


เช้าเสร็จแล้ว”

มูช่ ิงเกอพยักหน้า ไม่ได้พดู อะไรต่อและตังใจดืมโจ๊กทีอยู่


ในถ้วยอย่างใจจดใจจ่อ

21
ท่าทางอันผ่อนคลาย ทําให้จิตใจทีเป็ นกังวลมา
นานหลายวันของเว่ยหลินหลาง ในทีสุดก็กาํ ลังจะได้รบั
การปลดปล่อย ความตืนเต้นในใจ ยากทีจะบรรยายได้

ในความคิดของเขา หากมูช่ ิงเกอล้มเหลวจาก


การปรุงโอสถ คงจะไม่นงดื
ั มโจ๊กอย่างสบายอารมณ์เช่น
นีหรอก !

รอจนมูช่ ิงเกอดืมโจ๊กในถ้วยเสร็จ แล้ววางถ้วย


ลง เว่ยหลินหลางจึงถามอย่างระมัดระวังว่า : “คุณชายมู่
ไม่ทราบว่าโอสถทีเราต้องการ.......”

มูช่ ิงเกอในขณะทีเช็ดปาก พลางเงยสายตาขึน

22
มองเว่ยหลินหลางและตอบว่า : “ท่านเจ้าเมืองเว่ยวางใจ
เถิด ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมหมดแล้ว”

เมือได้ยินคําตอบอย่างชัดเจน ก้อนหินก้อนโตที
ทับอยูต่ รงหน้าอกของเว่ยหลินหลางราวกับถูกยกออก

แต่ ทันทีทีนึกถึงว่าภรรยาผูอ้ อ่ นแรงของตนเอง


จะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดอย่างสาหัส คิวของเขาก็
ขมวดอีกครังและพยายามเก็บความรูส้ กึ

“ช่วงทีผ่านมานี อาการของฮูหยินเป็ นอย่างไร


บ้าง” มูช่ ิงเกอถาม แต่หลังจากทีถามแล้วก็ไม่รอตําตอบ
เพียงยกมือขึนห้ามและพูดว่า : “เดียวข้าขอไปดูก่อน

23
หากร่างกายฟื นตัวได้ดี จะให้ฮหู ยินกินโอสถวันนีเลย”

“ลําบากคุณชายแล้ว” เว่ยหลินหลางลุกขึน
แสดงความขอบคุณ

มูช่ ิงเกอตอบกลับโดยการยกมือขึนอย่างผ่อน
คลาย ในขณะเดียวกันก็ลกุ ขึนยืนและเดินไปยังห้อง
พร้อมกับเว่ยหลินหลาง

เว่ยฉีกาํ ลังจะเดินตามไป กลับถูกเว่ยกว๋านก


ว่านดึงชายเสือให้หยุดลง

เขามองน้องสาวของตนเองอย่างฉงนใจ ในแวว
24
ตาเต็มไปด้วยคําถาม

เว่ยกว๋านกว่านมองแผ่นหลังของท่านพ่อและมู่
ชิงเกอ แล้วรีบเข้าไปหาเว่ยฉีและพูดว่า : “ไอ้เว่ยฉี เจ้า
รูส้ กึ ถึงหรือไม่ ว่าท่านพ่อของเราดูจะเคารพมูเ่ กอเป็ น
อย่างมาก!”

“มูเ่ กอสามารถช่วยชีวิตท่านแม่ของเราได้ ท่าน


พ่อแสดงปฏิกิรยิ าเช่นนี มันแปลกตรงไหน” เว่ยฉีถาม
ด้วยแปลกใจ

“โธ่เอ๊ย ! โง่จริง !” เว่ยกว๋านกว่านเกือบจะอดไม่


ได้ทีจะเอาค้อนมาทุบหัวของเขา ก่อนจะพูดอย่างตรงไป

25
ตรงมาว่า : “เจ้าไม่รูส้ กึ ว่าปฏิกิรยิ าทีท่านพ่อมีตอ่ มูเ่ ก
อ ราวกับเป็ นรุน่ ราวคราวเดียวกัน ทําให้เมืออยูต่ อ่ หน้ามู่
เกอแล้วเราทังสองต่างก็เหมือนเป็ นเพียงเด็กน้อย” พูด
จบ ใบหน้าอันงดงามและน่าดึงดูดของนางก็เต็มไปด้วย
ความไม่พอใจ

ถูกนางเตือนสติเช่นนี เว่ยฉีเองก็พลันได้สติกลับ
มาในทันที

เมือหวนคิดถึงปฏิกิรยิ าทีท่านพ่อมีตอ่ มูเ่ กอและ


ความหมายทีแฝงอยูใ่ นคําพูดของเขา ก็พบว่ามันเป็ น
เช่นนันจริงๆ

26
หลังจากนัน เขาก็ขมวดคิวและพูดอย่างลังเล
ว่า : “บางทีอาจจะเป็ นเพราะความสามารถของมูเ่ กอทํา
ให้ทา่ นพ่อรูส้ กึ ชืนชม อีกประการหนึง หากท่านแม่ของ
เราสามารถฟื นขึนได้เพราะมูเ่ กอจริงๆ เขาก็ถือเป็ นผูม้ ี
พระคุณของตระกูลเรา การทีท่านพ่อจะสุภาพและให้
ความเคารพต่อเขาก็ไม่ใช่เรืองแปลกอะไร”

เว่ยกว๋านกว่านขมวดคิว โกรธจนสับเท้า : “แต่


ว่า หากท่านพ่อแสดงปฏิกิรยิ าเช่นนี ต่อไปความสัมพันธ์
ของข้ากับมูเ่ กอจะเป็ นอย่างไร”

“ความสัมพันธ์จะเป็ นอย่างไร หมายถึงอะไรกัน


ความสัมพันธ์ทีผ่านมาเป็ นอย่างไรต่อไปก็เป็ นเช่นนัน”
ยิงพูดเว่ยฉีก็ยงไม่
ิ เข้าใจมากกว่าเดิม
27
เว่ยกว๋านกว่านโกรธจนเดินเข้าไปเหยียบเท้า
ของเขาและวิงหนีออกไป ท่ามกลางเสียงตะโกนของอีก
ฝ่ าย

ขณะวิง เว่ยกว๋านกว่านคิดว่า หากท่านพ่อกับมู่


เกอคุยกันถูกปากถูกคอ ราวกับเป็ นรุน่ ราวคราวเดียวกัน
เช่นนีต่อไปนางจะยังสามารถเป็ นภรรยาของมูเ่ กอได้
หรือไม่

“ไร้สาระเสียจริง” เว่ยฉีทีถูกเหยียบเท้า มองแผ่น


หลังของน้องสาวแล้วพึมพํา

28
ไม่ได้คิดมากเหมือนเว่ยกว๋านกว่าน เว่ยฉีเองก็
รีบวิงตามไป

ครูห่ นึงทังสีคนก็ได้เข้าไปในเรือนทีทังสงบและ
ร่มเย็น

ในห้องนอนทีถูกตกแต่งอย่างงดงาม สบายตา
ฮูหยินเว่ยยังคงนอนอยูบ่ นเตียงอย่างสงบเพียงแค่วา่ ใบ
หน้าได้มีสีเลือดมากขึนกว่าเดิม รวมทังการหายใจทีดู
ปกติกว่าทีเคย

เว่ยหลินหลางสังให้คนรับใช้ทีคอยปรนนิบตั ิถอย
ออกไป มูช่ ิงเกอเดินเข้าไปอยูข่ า้ งเตียงเพือจับชีพจรของ

29
ฮูหยินเว่ย

ท่ามกลางความกังวลและการรอคอยของทัง
สามแห่งตระกูลเว่ย มูช่ ิงเกอค่อยๆ ปล่อยมือและพูดว่า :
“หลายวันมานี การฟื นตัวของฮูหยินถือว่าดีมาก หาก
ท่านเจ้าเมืองเว่ยคิดดีแล้ว อีกครูห่ นึงข้าจะให้ฮหู ยินกิน
โอสถ”

เว่ยหลินหลางมองภรรยาทีนอนไม่รูส้ กึ ตัวอยูบ่ น
เตียง พลันสูดลมหายใจเขาลึกๆ ประสานหมัดและก้ม
หัวลงด้วยความนอบน้อม แล้วพูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “ฝาก
คุณชายมูด่ ว้ ย”

30
มูช่ ิงเกอพยักหน้ารับ

ทังสามแห่งตระกูลเว่ยออกจากเรือนไป แต่ก็ไม่
ได้ไปไหนไกล เพียงแค่ยืนรออยูภ่ ายนอกเรือน

ในห้องเป็ นคนในครอบครัวของพวกเขาและใน
ตอนนีกําลังอยูร่ ะหว่างความเป็ นและความตาย

ภายในห้องมีเพียงมูช่ ิงเกอคนเดียว นางเอา


โอสถทีหลอมเสร็จเรียบร้อยแล้วออกมา โอสถนันฉาย
ประกายสีนาเงิ
ํ น ไอลอยวนปกคลุมอย่างไม่ขาดสาย

ส่วนกลินนันรุนแรงจนแผ่กระจายไปทัวทังห้อง
31
เชือว่าผูค้ นทีได้กลินนีต่างต้องทังร่าเริงและเบิกบาน

“เหมิงเหมิงกลับบอกว่า โอสถนีของข้ายังไม่ถงึ
มาตรฐานของโอสถวิเศษ” มูช่ ิงเกอมองโอสถเม็ดนันด้วย
ความรูส้ กึ ไม่พอใจ

นางสามารถหลอมโอสถให้สาํ เร็จภายในช่วง
เวลาสันๆ เพียงสามวันก็ถือว่าทําลายสถิติทีผ่านมาของ
นางแล้ว แต่หลังจากทีเหมิงเหมิงดมแล้วกลับบอกว่า
โอสถนียังไม่ถงึ ขันเป็ นโอสถวิเศษ

มูช่ ิงเกอพยายามถามรายละเอียดเกียวกับโอสถ
วิเศษกับนาง แต่เหมิงเหมิงกลับบ่ายเบียงและบอกว่า มู่

32
ชิงเกอค้นพบด้วยตนเองจะดีกว่า

เพราะฉะนันมูช่ ิงเกอจึงเก็บโอสถอีกเม็ดหนึงที
วางอยูข่ า้ งเตาโดยไม่ให้เหมิงเหมิงเอาไปเป็ นลูกอม ทํา
ให้เหมิงเหมิงทีอยูใ่ นช่องว่างโกรธจนทังสับเท้าโวยวาย

หลังจากทีมองโอสถทีอยูต่ รงปลายนิวอย่าง
ละเอียดรอบหนึง มูช่ ิงเกอจึงป้อนโอสถเข้าไปในปากของ
ฮูหยินเว่ย

33
ตอนที 108-3 ยืนหน้าเข้ามาขนาดนีแล้ว จะไม่ตบได้
อย่างไร

34
ทันทีทีโอสถเข้าไปในปากก็ละลายโดยไม่จาํ เป็ น
ต้องกลืน เพราะโอสถนันเมือเข้าไปในปากก็จะกลายเป็ น
ไอร้อนไหลไปทัวทังร่างกายของฮูหยินเว่ย กระจายไปที
ชีพจรทัวตัวอย่างรวดเร็ว

ทันใดนันร่างกายของฮูหยินเว่ยก็เกิดอาการ
กระตุกอย่างรุนแรง เหงือเม็ดโตทําให้เส้นผมรวมทังเสือ
ผ้าของนางเปี ยกปอน

เพราะระดับความรุนแรงในการกระตุกของร่าง
กาย สีหน้าของนางจึงซีดเผือดลงเรือยๆ ลมหายใจขาดๆ

35
หายๆไม่เป็ นจังหวะ

สายตาอันสว่างไสวของมูช่ ิงเกอคอยจับจ้อง
นางอยูแ่ ละมองเห็นทุกปฏิกิรยิ าของนาง ในทุกๆ วินาที
แห่งความอันตราย นางมักจะบอกว่า : “ฮูหยิน สามีและ
ลูกๆ ของท่านกําลังรอท่านอยู่ ท่านสามารถทนเห็นพวก
เขาผิดหวังได้อย่างนันหรือ” ในทุกๆ ครังทีพูดจบ ลมหาย
ใจของฮูหยินเว่ยก็จะเป็ นปกติขนมาในทั
ึ นที ราวกับมี
พลังบางอย่างทีเข้าไปช่วยเสริม

ภายในสวน เว่ยหลินหลางยืนอยูก่ บั ที ร่างกาย


ราวกับถูกสะกด จนไม่สามารถเคลือนไหวได้

36
เขาเม้มปากแน่น มีเพียงข้อนิวทีขึนข้อขาวเท่า
นันทีแสดงให้เห็นถึงความตึงเครียดและเป็ นกังวลของ
เขาในตอนนี

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านเดินไปเดินมาและคอย
ยืนคอออกไปดูประตูทีถูกปิ ดสนิท ในตอนนี นอกจาก
ความกังวลแล้วก็ไม่มีความรูส้ กึ อันใดเลย

พวกเขาทังหวังให้มชู่ ิงเกอปรากฎตัว แต่ก็กลัว


การปรากฎตัวของเขา

เพราะว่า การปรากฎตัวของเขานันหมายถึง
ความเป็ นไปได้สองประการ หากไม่ใช่ทา่ นแม่หายจาก

37
อาการป่ วย ก็คือท่านแม่ได้สนชี
ิ พลงแล้ว พวกเขาหวังให้
เป็ นอย่างแรกและปฏิเสธอย่างหลังอย่างเป็ นทีสุด

ความสับสนและการโต้แย้งทีเกิดขึนภายในใจ
ราวกับเป็ นมด ทีกําลังกัดกินตัวพวกเขาอยู่

ใช้เวลาในการรอตลอดทังวัน

พอตะวันลับฟ้า ท่ามกลางความกังวลและการ
รอคอย ในทีสุดประตูทีถูกปิ ดสนิทมาตลอดทังวันก็ถกู
เปิ ดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นสีแดงอันน่าเย้ายวน

“มูเ่ กอ!”
38
“มูเ่ กอ ท่านแม่เป็ นอย่างไรบ้าง”

พอเห็นชัดแล้วว่า คนทีเดินออกมาคือใคร เว่ยฉี


และเว่ยกว๋านกว่านก็พงุ่ เข้าไปถามอย่างไม่อาจจะทนต่อ
ไปได้

ใบหน้าทีเหมือนกันจนแทบจะแยกไม่ออก
สองดวงนันเต็มไปด้วยความตืนเต้นและความกลัวที
ปะปนกันอยู่

สายตาอันแน่วนิงของมูช่ ิงเกอกวาดมองพวกเขา
จนสุดท้ายก็หยุดอยูท่ ีเว่ยหลินหลางผูท้ ียังคงยืนอยูก่ บั ที

39
และก็มองนางเช่นกัน

ยอดฝี มือ 1 ใน 3 ของแคว้นลี เจ้าเมืองแห่งเมือง


ถัว ในตอนนีกลับเป็ นเหมือนผูช้ ายธรรมดาคนหนึง ทีใช้
สายตาทีเต็มเปี ยมไปด้วยความหวังวิงวอนในการมอง
นาง อยากจะได้ยินอาการของภรรยาจากปากของนาง

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก เสียงอันชัดเจนและเย็น


ชาดังขึน : “โชคดีทีไม่เป็ นอันตรายถึงชีวิต”

คําพูดธรรมดาคํานี ทําให้พลังของทังสามพลันมี
เรียวแรงขึนมาในทันที

40
เว่ยกว๋านกว่านขาอ่อนและนังลงบนพืนหินอัน
เย็นเยียบพลันร้องไห้ออกมาในทันที

เว่ยฉียงั ถือว่าเข้มแข็งอยูบ่ า้ ง แต่นาเสี


ํ ยงก็แฝง
การสะอืน เขามองตาของมูช่ ิงเกอ ด้วยความรูส้ กึ อัน
มากมาย ทีไม่อาจจะอธิบายออกมาเป็ นคําพูดได้ นํา
เสียงทีแฝงความจริงใจ ออกจากปากของเขา : “มูเ่ ก
อ ขอบคุณ !”

มูช่ ิงเกอยิมจางๆ แต่ไม่ได้ตอบกลับ

ร่างกายทีแข็งจนไม่สามารถเคลือนไหวได้ของ
เว่ยหลินหลาง ได้ออ่ นลงบ้าง เขาก้าวเดินอย่างมันคงมา

41
หยุดอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเกอ และพูดด้วยนําเสียงอันเคร่งขรึม
ว่า : “ตอนนีภรรยาของข้าเป็ นอย่างไรบ้าง” ในดวงตา
เปี ยมไปด้วยนําตาทีนองอยู่

มูช่ ิงเกอมองเขาและพูดว่า : “ฮูหยินอ่อนเพลีย


มาก ตอนนีหลับอยู่ ต่อจากนีหากคอยดูแลและบํารุง
อย่างดี ไม่นานนางก็จะสามารถเคลือนไหวได้อย่างใจ
ต้องการ”

“ข้า ข้าเข้าไปหานางได้หรือไม่” ท่าทางของเว่ย


หลินหลาง ตืนเต้นราวกับนกทีเพิงได้ออกจากรังเป็ นครัง
แรก

42
มูช่ ิงเกอพยักหน้า

เมือได้รบั อนุญาตจากมูช่ ิงเกอ เว่ยหลินหลางก็


ผุดรอยยิมยินดี ก้าวเท้ายาวพุง่ ไปภายในเรือน พอเดินถึง
ครึงทาง เขาก็หยุดลงอย่างกะทันหันและหันมาก้มหัวลง
ตําเพือโค้งคํานับให้กบั มูช่ ิงเกอ

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านได้สติในทันที พลันโค้ง
คํานับอย่างนอบน้อมให้กบั มูช่ ิงเกอ

“ไม่จาํ เป็ นต้องทําเช่นนี” มูช่ ิงเกอส่ายหน้าเบาๆ


ค่อยๆ ถอยออก เพือเลียงการคํานับของพวกเขา

43
เว่ยหลินหลางพูดอย่างซาบซึงใจว่า : “บุญคุณนี
ไม่อาจจะทดแทนได้ดว้ ยคําขอบคุณ ต่อจากนีชีวิตของ
ข้าแซ่เว่ยเป็ นของน้องมู่ ท่านคงเหนือยมากแล้ว พวกเจ้า
ทังสองส่งท่านกลับไปพักผ่อน พรุง่ นีจวนตระกูลเว่ยของ
เราจะจัดงานเลียง เพือแสดงความขอบคุณต่อคุณชายมู่
ผูม้ ีพระคุณ !”

“ไม่เป็ นไร ข้ากลับคนเดียวได้” มูช่ ิงเกอปฏิเสธ


ในขณะทีทังสองพีน้องยังคงไม่ได้สติ

นางมองเว่ยหลินหลางด้วยสายตาอันลึกซึงแวบ
หนึง แล้วหันหลังเดินออกไป

44
เว่ยหลินหลางหลบสายตาแวบหนึงและหันหลัง
เดินเข้าไปภายในเรือน

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านทียืนอึงอยูก่ บั ที ยังคง
ไม่ได้สติ

ครูห่ นึง เว่ยกว๋านกว่านจึงหันไปมองพีชาย :


“เหตุใดท่านพ่อจึงเรียกมูเ่ กอเช่นนัน”

“มู.่ ....น้องมู”่ ท่าทางของเว่ยฉีดอู งจนทํ


ึ าอะไรไม่
ถูก

“ท่านพ่อทําเช่นนีได้อย่างไร!” เว่ยกว๋านกว่าน
45
โกรธจนกระทืบเท้า พุง่ เข้าเรือนไปทังนําตา เพือทีจะถาม
ท่านพ่อของตนเองให้รูเ้ รือง

เว่ยฉียงั คงยืนอยูก่ บั ที หวนคิดทบทวนคําพูดเมือ


ครูท่ ีผ่านมาของท่านพ่อแล้วพึมพําว่า : “เหตุใดอยูๆ่ มูเ่ ก
อจึงได้กลายเป็ นน้องมูข่ องท่านพ่อไปได้ ถ้าเช่นนันข้า
และกว๋านกว่านจะต้องเปลียนมาเรียกเขาว่าอาอย่างนัน
หรือ”

……

ในอีกด้านหนึง มูช่ ิงเกอทีกลับไปพักในเรือนของ


ตนเอง ก็นกึ ถึงคําสรรพนามทีเว่ยหลินหลางใช้เรียกตน

46
เองทีได้เปลียนไปอย่างกะทันหันนัน

นางไปเป็ นพีน้องกับเว่ยหลินหลางตังแต่เมือไหร่
กัน

เหตุใดนางจึงไม่รู ้

เมือไม่สามารถหาคําตอบได้ มูช่ ิงเกอเองก็ไม่คิด


ต่อ ทุม่ เทพลังไปแล้วทังวัน นางเหนือยมากแล้ว หลัง
จากทีรับประทานอาหารเลิศรสทีโย่วเหอและฮวาเยวีย
เตรียมเอาไว้ให้ นางก็เตรียมจะอาบนําและเข้านอน

ส่วนช่วงเวลาแห่งความอบอุน่ ของครอบครัวตระ
47
กูลเว่ย นางไม่อยากจะเข้าไปยุง่

48
ตอนที 108-4 ยืนหน้าเข้ามาขนาดนีแล้ว จะไม่ตบได้
อย่างไร

เข้านอนจนถึงฟ้าเริมสาง ในขณะทีมูช่ ิงเกอลืม


ตาขึน ก็พบว่า อาหารมือเย็นทีตนเองทานเข้าไปได้ยอ่ ย
หมดแล้ว

ท้องทีว่างเปล่ากําลังเรียกร้อง ทําให้นางจําเป็ น
49
ต้องตืนเพราะความหิว

เพิงจะอิมท้องสองพีน้องตระกูลเว่ยก็เข้ามาหา

แต่ทว่า การเจอทังสองในวันนี ใบหน้าของพวก


เขาไม่ได้ดกู งั วล ดวงตาอันสดใสของเว่ยกว๋านกว่านราว
กับร้องไห้มาทังคืน

เพิงจะพบกับมูช่ ิงเกอ นางก็พดู อย่างน้อยอก


น้อยใจว่า : “มูเ่ กอ ท่านพ่อรังแกข้า!”

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก พูดอย่างไม่เข้าใจว่า :


“ท่านเจ้าเมืองเว่ยทําอะไรรึ”
50
ดวงตาของเว่ยกว๋านกว่านแดงกําอีกครัง : “ท่าน
พ่อบอกว่า ท่านช่วยชีวิตท่านแม่เอาไว้และเป็ นผูม้ ีพระ
คุณของจวนตระกูลเว่ย ต่อจากนีให้ปฏิบตั ิกบั ท่านดังผู้
อาวุโส ห้ามเสียมารยาท”

เคารพดังผูอ้ าวุโสอย่างนันหรือ

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก พลางแอบคิดในใจว่า :


อายุของนางก็ตา่ งจากพีน้องตระกูลเว่ยไม่มาก หากนาง
เป็ นผูอ้ าวุโส ก็เท่ากับยัดเยียดความแก่ให้กบั นาง เว่ย
หลินหลางคิดจะทําอะไร

51
“ท่านเจ้าเมืองเว่ยก็เกรงใจกันเกินไป” ไม่
กระจ่างในจุดประสงค์ของเว่ยหลินหลาง มูช่ ิงเกอทําได้
เพียงแค่ตอบตามมารยาท

“ท่านไม่ได้เกรงใจ แค่ทาํ เกินไป! ท่านก็รูอ้ ยูแ่ ล้ว


ว่า ข้า....เจ้า” เว่ยกว๋านกว่านพูดด้วยความโกรธ แต่ทว่า
เมือสบกับสายตาอันสว่างไสวของมูช่ ิงเกอ ก็ไม่ได้พดู
อะไรอีกเลยแม้แต่คาํ เดียว

เพียงแค่อทุ านคําหนึง แล้วก็วิงหนีออกไป

มูช่ ิงเกอมองแผ่นหลังของเว่ยกว๋านกว่านอย่าง
ฉงนใจ ก่อนจะหันไปมองเว่ยฉีและพูดว่า : “นางทําไมรึ”

52
แต่วา่ เว่ยฉีไม่ตอบคําถามของนาง เพียงแค่
มองอย่างแนบนิง แล้วพูดทิงท้ายว่า อย่าลืมไปร่วมงาน
เลียงในคืนนีก่อนจะหันหลังและเดินจากไป

ความผิดปกติของทังสอง ทําให้มชู่ ิงเกอลูบจมูก


อย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะหันไปมองโย่วเหอและฮวาเยวียที
พยายามกลันเสียงหัวเราะ : “พวกเจ้าเป็ นอะไร”

ฮวาเยวียกลันเสียงหัวเราะและใช้สายตาอันน่า
เย้ายวนมองมูช่ ิงเกอ แล้วพูดเบาๆ ว่า : “คุณชาย ท่าน
ทําให้หญิงสาวต้องชําใจอีกแล้ว” พูดจบ นางก็หนั หลัง
และเดินกลับไป

53
มูช่ ิงเกอกะพริบตาหลายครัง ก่อนจะหันไปมอง
โย่วเหอ

โย่วเหอเองเพียงพยักหน้าอย่างจํานนและพูด
ว่า : “คุณชายของข้า ท่านดูไม่ออกหรือว่าคุณหนูตระกู
ลเว่ยมีใจให้กบั ท่าน และยิงไปกว่านันคุณชายตระกู
ลเว่ยก็ไม่บริสทุ ธิใจกับท่าน”

ในทีสุดมูช่ ิงเกอก็กระจ่าง

นางกระตุกมุมปากอย่างแรงทีหนึง ราวกับโดน
ตบหน้า

54
ครูห่ นึง ใบหน้าของนางก็มืดมนลง พลางกัดฟั น
พูดว่า : “สองพีน้องนันเป็ นกันเองมาก ข้าคิดว่าพวกเขา
ล้อเล่นมาโดยตลอด”

โย่วเหอพูดพร้อมรอยยิมว่า : “จะโทษคุณชายก็
ไม่ได้ ใครใช้ให้คณ
ุ ชายน่าดึงดูดจนทุกคนต้องหลงใหล
เช่นนี!”

“แม่สาวน้อยคนนี กล้าล้อเลียนข้ารึ เชือหรือไม่


ว่าข้าจะลงโทษเจ้าเสียตอนนี!” มูช่ ิงเกอขมวดคิว ผุดรอย
ยิมอันโหดเ**◌้ยมตรงมุมมาก พลางหรีตามองโย่วเหอ

55
จนโย่วเหอต้องรีบร้องขอชีวิต : “คุณชายโปรด
ให้อภัยข้าเถิด”

“แค่นีก็รอ้ งขอชีวิตแล้วรึ” มูช่ ิงเกอยกมือขึนอย่าง


กะทันหันพร้อมกอดรัดเอวบางของโย่วเหอเอาไว้ แล้วดึง
นางเข้าไปไว้ในอ้อมกอด

โย่วเหอร้องด้วยความตกใจทีหนึง แก้มทังสอง
แดงกําและพูดด้วยความเขินอายว่า : “คุณชาย คุณ
ชายอย่ากลันแกล้งข้าน้อย”

มูช่ ิงเกอกอดเอวบางของโย่วเหอเอาไว้ พร้อม


ปล่อยไอร้อนๆ ออกมากระทบข้างหูของนาง : “ถ้าเช่น

56
นัน ข้าจะประกาศต่อหน้าทุกคนว่าเจ้าคือผูห้ ญิงของข้า
แค่นีก็จะสามารถกันพวกสาวๆ ทังหลายได้แล้ว”

โย่วเหอดินรนอยูใ่ นอ้อมแขนของมูช่ ิงเกอและ


พูดอย่างไร้เรียวแรงว่า : “คุณชายคนดีของข้า ข้าน้อย
เป็ นคนของท่านแต่แรก ท่านจะทําอย่างไร ข้าน้อยก็ไม่มี
สิทธิพูดอะไร เพียงแต่วา่ เรืองของพีน้องตระกูลเว่ย ท่าน
เจ้าเมืองเว่ยก็ได้หาทางออกให้ทา่ นแล้วไม่ใช่หรือ”

มูช่ ิงเกออึงและกระจ่างทุกอย่างในทันที

นางก็คิดอยูแ่ ล้วเชียวว่าเหตุใดเว่ยหลินหลางจึง
ได้ยกตําแหน่งน้องชายให้แก่นาง ทีแท้ก็เป็ นเพราะ

57
เหตุผลนีนีเอง !

“ถึงว่าเหตุใดสองพีน้องนีมาหาข้าในวันนี จึงได้
มีทา่ ทางไม่พอใจเช่นนัน” มูช่ ิงเกอกระจ่างทุกอย่างใน
ทันที พลางเอามือลูบคาง

โย่วเหอถือโอกาสนีในการหนี นางหันตัวออก
เพือเว้นระยะห่างของทังสอง แล้วจึงพูดว่า : “ในทีสุดคุณ
ชายก็รูต้ วั เสียที”

มูช่ ิงเกอเกอยิมอย่างอึดอัดและพูดกับนางว่า :
“อาจเป็ นเพราะหลายวันทีผ่านมานีปรุงยามากเกินไป
สมองข้าจึงทํางานอย่างเชืองช้า”

58
“ถ้าเช่นนัน คุณชาย ต่อจากนีท่านมีแผนการ
อย่างไร” โย่วเหอถาม นางยังจําได้วา่ สองพีน้องตระกู
ลเว่ยจะตามนางไปยังโรงโอสถทีเมืองอวี

มูช่ ิงเกอคิดทบทวนแล้วพยักหน้า แล้วจึงตอบ


ว่า : “ถึงแม้วา่ ข้าไม่รูว้ า่ เหตุใดเว่ยหลินหลางจึงได้ทาํ เช่น
นี แต่อย่างไรเสีย เขาก็ได้ลงมือจัดการแล้ว ข้าก็จะทํา
เหมือนว่าไม่รูแ้ ละให้ความร่วมมือกับเขา”

โย่วเหอคิดดูแล้ว ก็พยักหน้า

สําหรับนางแล้ว การจัดการเช่นนีของคุณชายจะ

59
สามารถทําลายความอึดอัดทีไม่จาํ เป็ นได้

อีกประการหนึง นางก็พอจะดูออกว่า ความรูส้ กึ


ทีพีน้องตระกูลเว่ยมีให้กบั เจ้านายของตนเองไม่ได้ถือว่า
ลึกซึง เพียงแต่เป็ นความรูส้ กึ ดีๆ ก็เท่านัน

บางทีเมือเวลาผ่านไป พวกเขาก็จะค่อยๆ พบว่า


พวกเขายังคงไม่เหมาะสมทีจะยืนเคียงข้างเจ้านายของ
พวกนาง

แต่วา่ คําถามเดิมนีได้กลับมาอีกครัง

เจ้านายทีสมบูรณ์แบบมากถึงเพียงนี ใครล่ะจะ
60
เหมาะสม ทีจะอยูเ่ คียงข้างนางไปจนแก่เฒ่า

โย่วเหอคิดอย่างตังใจ อย่างไรก็ยงั คงรูส้ กึ ว่าไม่มี


ใครคูค่ วรอยูด่ ี !

……

เวลาหนึงวันได้ผา่ นไปอย่างรวดเร็ว

ในวันนีจวนตระกูลเว่ยทีเงียบสงบมาโดยตลอด
เกิดคึกคักขึนมา

ตังแต่เช้ามืด จวนตระกูลเว่ยมีการทําความ
61
สะอาดครังใหญ่และตกแต่งมากมาย ภายในห้องครัวทุก
คนต่างเร่งรีบจนวุน่ วายเพือจัดเตรียมอาหารขึนชือต่างๆ
ของแคว้นลีจนเต็มโต๊ะอาหาร

ฟ้ายังไม่มืด เสียงกลองก็ได้ดงั ขึนทัวทังจวนตระ


กูลเว่ย นางรําทีเชิญมา ก็ได้เริมเต้นบนเวทีทีอยูเ่ หนือ
ระดับนํา

ผูค้ นทีไม่รูว้ า่ เกิดอะไรขึน ต่างก็คาดการณ์ไป


ต่างๆ นานาถึงความผิดปกติทีเกิดขึนภายในจวนตระกู
ลเว่ย

คนในจวนตระกูลเว่ยรูเ้ พียงว่าฮูหยินของจวนนีที

62
ป่ วยมานาน ในทีสุดก็ได้หาย เจ้าของจวนมีความสุขจึง
ได้จดั การเลียงใหญ่โตเช่นนี

สําหรับผูท้ ีรูข้ ่าวไว ก็รูอ้ ย่างคร่าวๆ ว่า อาการทีดี


ขึนของฮูหยินมีความเกียวข้องกับแขกทีเพิงเข้ามาพัก

เหมือนว่าจะเป็ นผูท้ ีมีความสมบูรณ์ทงใบหน้


ั า
อันงดงามและความน่าดึงดูดในชุดสีแดงทีกลับมาพร้อม
กับคุณหนูและคุณชาย ได้รกั ษาอาการป่ วยของฮูหยิน
จนหายดี ทําให้ทา่ นเจ้าเมืองเบิกบาน จวนตระกูลเว่ยจึง
ได้ปัดเป่ าหมอกควันทีปกคลุมเอาไว้มาเนินนานออกไป
ราวกับแสงตะวันอันเจิดจ้าได้สาดส่องเข้ามาก็ไม่ปาน

63
ก่อนทีงานเลียงจะเริม เว่ยหลินหลางได้มาเชิญ
มูช่ ิงเกอด้วยตนเอง

ในขณะทีมูช่ ิงเกอเห็นว่าเว่ยหลินหลางเดินเข้า
มา ก็พลันเกิดความสงสัยและรูส้ กึ ว่าเว่ยหลินหลางเกรง
ใจมากเกินไป นางไม่ได้รูส้ กึ ว่าตนเองได้ทาํ เรืองอันยิง
ใหญ่อนั ใด

“น้องมู่ เชิญทางนี” ในขณะนีเว่ยหลินหลางได้


คลายความทุกข์ทีอยูใ่ นใจมานานนับ 10 ปี ท่าทางสง่า
ผ่าเผยและรอยยิมก็มีมากขึนกว่าเดิม

มูช่ ิงเกอพยักหน้า เดินมุง่ ไปยังห้องโถงทีจัดงาน

64
เลียงพร้อมพร้อมกับเขา

“ฮูหยินเป็ นอย่างไรบ้าง” ในวันนี มูช่ ิงเกอไม่ได้


ไปเยียมฮูหยินเว่ย

เหตุผลประการแรก คืออยากจะให้ครอบครัว
ของเขาได้มีเวลาอยูร่ ว่ มกัน

เหตุผลทีสอง นางมันใจแล้วว่าฮูหยินเว่ยหายดี
แล้ว แน่นอนว่าไม่มีความจําเป็ นทีจะต้องไปรบกวน

คําถามนี เพียงแค่ถามตามมารยาทก็เท่านัน

65
หรือว่า จะให้นางเงียบเช่นนีจนเข้าห้องโถงไป

เมือพูดถึงอาการของภรรยาของตน เว่ยหลิน
หลางก็กลายร่างเป็ นเทพบุตรและสามีทีรักภรรยา พลัน
พูดกับมูช่ ิงเกอด้วยความดีใจว่า : “อาการของฮูหยินข้าดี
ขึนมากแล้ว อีกทังยังสามารถพูดคุยกับเราได้ เพียงแต่
ร่างกายยังไม่ได้ฟืนตัวอย่างเต็มที เพราะฉะนันคืนนีจึง
ยังไม่สามารถไปร่วมงานเลียงได้ และนางอยากพบกับ
น้องมูส่ กั ครัง เพือแสดงความขอบคุณด้วยตนเอง”

“วันหลังข้าจะไปเยียมฮูหยินและปรุงยาทีช่วย
บํารุงร่างกายไปให้” มูช่ ิงเกอพูด

66
เว่ยหลินหลางดีใจเป็ นทีสุดและพูดว่า : “ถ้าเช่น
นันก็ขอรบกวนน้องมูด่ ว้ ย หากท่านต้องการวัตถุดิบอัน
ใดในการปรุงยา ก็จงบอก ข้าจะสังคนให้ไปเตรียม”

เขาได้เห็นแล้วว่า มูช่ ิงเกอมีความสามารถใน


การปรุงยาและอดไม่ได้ทีจะอยากให้เขาช่วยปรุงยาเพิม
ไว้อีกหน่อย เผือไว้ใช้ในอนาคต

67
ตอนที 108-5 ยืนหน้าเข้ามาขนาดนีแล้ว จะไม่ตบได้
อย่างไร

68
เว่ยหลินหลางได้ออกปากว่าจะเตรียมวัตถุดิบ
ปรุงยาให้เช่นนี มูช่ ิงเกอจะเกรงใจเขาไปเพืออะไร จึงพูด
อย่างตรงไปตรงมาว่า : “ถ้าเช่นนันภายในวันนีหรือพรุง่ นี
ข้าจะเขียนรายชือสมุนไพรทังหมดทีต้องใช้และเรืองหลัง
จากนันก็คงจะต้องรบกวนท่านเจ้าเมืองเว่ยแล้ว”

“น้องชาย อย่าได้เกรงใจไป ยังจะเรียกข้าว่าเจ้า


เมืองอีก หากไม่รงั เกียจเรียกข้าว่าพีใหญ่ได้หรือไม่” เว่ย
หลินหลานแกล้งทําเป็ นไม่พอใจ

ทังสองได้สบตากันความลับบางอย่างได้ถกู ซ่อน
อยูใ่ นคําพูด

69
มูช่ ิงเกออมยิมและพูดไปตามมารยาทว่า : “ถ้า
เช่นนันน้องก็จะไม่เกรงใจแล้วนะพีเว่ย”

ความชาญฉลาดของมูช่ ิงเกอทําให้เว่ยหลินหลา
งตาเป็ นประกายและพูดกับนางว่า : “หลังจากนีหลาน
ชายและหลานสาวทังสองก็ฝากท่านดูแลด้วย หากพวก
เขาทําให้ทา่ นไม่พอใจ ท่านก็สามารถอบรมสังสอนได้
เลย”

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปากและพูดอย่างคลุมเครือ
ว่า : “หลานเว่ยฉีและหลานกว๋านกว่านล้วนเป็ นคนที
ฉลาดและมีไหวพริบดี ไม่จาํ เป็ นต้องให้ขา้ สอนอะไร”

70
“ฮ่าๆๆๆๆ......น้องมูก่ ็ชมกันเกินไป!” ราวกับได้
แก้ไขปั ญหาใหญ่ทีอยูใ่ นใจสําเร็จเว่ยหลินหลางจึง
หัวเราะออกมาอย่างเบิกบานใจ

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านอาจจะยังไม่รูว้ า่ เพียง
แค่เวลาอันสันๆ นี เขาทังสองก็ได้เลือนขันจากเพือนของ
มูช่ ิงเกอ มาเป็ นหลานชายและหลานสาวของมูช่ ิงเก
อแล้ว

หากพวกเขารูค้ งทําได้เพียงแค่นาตานองหน้
ํ า ที
มีทา่ นพ่อจอมขวางโลกเช่นนี !

……

71
มูช่ ิงเกอเดินเข้ามายังงานเลียงพร้อมกับเว่ยหลิน
หลางและพบว่างานเลียงนีได้จดั ขึนเพือตนเองจริงๆ

นางถูกเว่ยหลินหลางนําทางไปนังบนทีนัง
ตําแหน่งหลัก ซึงมีฐานะเทียบเท่ากับเว่ยหลินหลาง พี
น้องตระกูลเว่ยนังอยูด่ า้ นล่างพวกเขา นอกจากลุงโจว
และองครักษ์จวนตระกูลเว่ยแล้วก็ไม่มีใครอืนใดอีก

แน่นอนว่า มัวหยางคนอืนๆ ต่างก็ถกู เชิญใน


ฐานะผูต้ ิดตามของมูช่ ิงเกอ

แม้วา่ คนจะน้อย แต่สถานทีถูกจัดอย่างไม่

72
ธรรมดา ในทุกๆ ทีล้วนฉายให้เห็นถึงความตังใจของเว่ย
หลินหลาง อาหารอันเลิศรสทีวางอยูบ่ นโต๊ะส่งกลินหอม
โชย รวมทังนางรําทีทังอ่อนโยน สง่าและน่าเย้ายวน แม้
กระทังอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารก็พิเศษและดูสงู ส่ง ในทุกๆ
รายละเอียดล้วนแสดงให้เห็นถึงความสําคัญและความ
เคารพทีมีตอ่ มูช่ ิงเกอ แขกผูม้ ีเกียรติทา่ นนี

มูช่ ิงเกอและเว่ยหลินหลางนังอยูบ่ นเวทีทีสูงกว่า


คนอืนหนึงระดับจึงสามารถเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน

ภายในงานเลียง เว่ยหลินหลางชนแก้วอย่างไม่
ขาดสาย ยิงทําให้สายตาของผูค้ นในจวนตระกูลเว่ยม
องมูช่ ิงเกอว่าไม่ธรรมดา

73
หลังจากทีดืมจนสมใจแล้ว เว่ยหลินหลางก็ลกุ
ขึนและในขณะทีกําลังจะประกาศให้ทกุ คน รูว้ า่ ภรรยา
ของตนเองได้หายจากอาการป่ วยเพราะการรักษาของมู่
ชิงเกอแล้วนัน ก็ได้เห็นบ่าวรับใช้วิงเข้ามาจากประตูดว้ ย
ความเร่งรีบ

“ท่านเจ้าเมือง มีแขกผูม้ ีเกียรติมาเยือนขอรับ”


ยังไม่ทนั ได้เข้าสูห่ อ้ งโถง บ่าวก็ได้คกุ เข่าลงและรายงาน
อยูท่ ีหน้าประตู

ในเวลานี มีแขกผูม้ ีเกียรติมาเยือนอย่างนันหรือ

74
เว่ยหลินหลางขมวดคิว ก่อนจะยกมือขึนเพือสัง
ให้เหล่านางรําหยุดและถอยออกไปอยูข่ า้ งๆ เสียงดนตรี
ก็ได้คอ่ ยๆ หยุดลงเพือรอคําสังจากเว่ยหลินหลาง

“ใครมา” เว่ยหลินหลางมองบ่าวทีคุกเข่าอยูแ่ ล้ว


ถาม

บ่าวก้มหน้าลงและตอบว่า : “มาจากเมืองฮ่วน
และเรียกตนเองว่า องค์ชายสามขอรับ” บ่าวไม่เคยพบ
องค์ชายสามแห่งแคว้นลีฟ่ งอวีกุยจึงทําได้เพียงตอบตาม
คําพูดทีอีกฝ่ ายพูด

เว่ยหลินหลางหรีตาลงแล้วมองลุงโจว

75
อีกฝ่ ายเข้าใจในคําสังและรีบเดินออกมา พร้อม
พาบ่าวรับใช้ออกนอกประตูไป

‘ฟ่ งอวีกุยมาทีนีอย่างนันหรือ’ มูช่ ิงเกอหลับตา


ลงแล้วดืมเหล้า ขนตาอันยาวงอนบดบังความรูส้ กึ ทีซ่อน
อยูใ่ นดวงตาของนาง

“เจ้าบ้าอํานาจนันมาเมืองถัวรึ ! หึ !” ทันทีที
เว่ยกว๋านกว่านได้ยินว่าองค์ชายสามมา ก็อทุ านด้วย
ความไม่พอใจ

เว่ยหลินหลางมองนางด้วยสายตาทีเต็มเปี ยมไป

76
ด้วยความฉงนใจ : “กว๋านกว่านพวกเจ้ารูจ้ กั กับองค์ชาย
สามอย่างนันหรือ”

เว่ยกว๋านกว่านยังคงโกรธท่านพ่อ จึงไม่ได้สนใจ
เขา ทังยังหันหน้าหนีหลังจากทีอุทาน เว่ยฉีจงึ ต้องตอบ
แทนว่า : “ท่านพ่อ ในระหว่างทีเราได้กลับมารอมูเ่ กอที
เมืองอวีจือก็ได้เกิดข้อขัดแย้งกับองค์ชายสามและเราไม่
ได้ผิด”

สําหรับเรืองนีเว่ยหลินหลางไม่ได้รบั รูด้ ว้ ย

อาจจะเป็ นเพราะว่าเหล่าโจวคิดว่า เรือง


ทุกอย่างได้ผา่ นไปแล้วและมันไม่ได้สง่ ผลกระทบอันใด

77
จึงไม่ได้เล่า

การได้ยินเรืองนีในตอนนีทําให้เว่ยหลินหลา
งขมวดคิวมากกว่าเดิม

และในขณะนีเองเสียงของเหล่าโจวก็ได้ดงั ขึน
จากระยะอันห่างไกล : “เชิญองค์ชายสาม ท่านเจ้าเมือง
ของเรากําลังต้อนรับแขกอยูใ่ นงานเลียงได้ข่าวว่าองค์
ชายสามมาเยือน จึงให้ขา้ น้อยออกมารับเสด็จ”

คําพูดของเขาเป็ นการให้สญ
ั ญาณผูค้ นทีอยูใ่ น
ห้องโถง

78
คนอืนๆ ในจวนตระกูลเว่ยต่างก็ลกุ ขึนยืนแล้ว
ถอยหลังไปสองก้าว

เว่ยหลินหลางเองก็ลงจากเวทีและเดินมุง่ ไปทาง
ประตู

พีน้องตระกูลเว่ยเห็นว่ามูช่ ิงเกอไม่ขยับตัว จึงได้


นังอยูก่ บั ทีพร้อมรับประทานอาหารอย่างอึดอัด สําหรับ
องค์ชายสามทีกําลังจะเข้ามานันพวกเขาทําราวกับไม่
เห็น

เว่ยหลินหลางเพิงจะเดินมาถึงทีประตูหอ้ งโถง ก็
เห็นเหล่าโจวนําจํานวนคน 4-5 คนเดินเข้ามา

79
หนึงในนันท่าทางฉายความสามารถอันเต็ม
เปี ยมและแฝงความโดดเด่น ส่วนอีกสีคนดูเหมือนว่าจะ
เป็ นองครักษ์ของเขาซะมากกว่า

เมือเดินเข้ามาใกล้อีกนิด ก็ได้เห็นใบหน้าของคน
ผูน้ นอย่
ั างชัดเจน เว่ยหลินหลางก็ยงมั
ิ นใจในฐานะของผู้
มาเยือน เขาเดินไปข้างหน้าเพือทําความเคารพ : “เจ้า
เมืองแห่งเมืองถัวเว่ยหลินหลางคํานับองค์ชายสามพ่ะ
ย่ะค่ะ”

เสือคลุมบนร่างกายของฟ่ งอวีกุยมีนาค้
ํ างเกาะ
อยู่ แสดงถึงความเย็นเยียบในยามคําคืน

80
เมือพบกับเว่ยหลินหลาง เขาไม่ได้แสดงการ
กล่าวโทษทีไม่ได้ออกมาต้อนรับด้วยตนเองเพียงพูดว่า :
“ไม่ตอ้ งคํานับหรอก ข้าเองทีมาเยียมเยียนอย่าง
กะทันหันและรบกวนท่านเจ้าเมือง อวีกุยผ่านเมืองถัวมา
พอดี จึงอยากจะขอพักในจวนตระกูลเว่ย ไม่รูว้ า่ จะได้
หรือไม่”

แม้วา่ จะแสร้งนอบน้อม แต่คาํ พูดก็แข็งกระด้าง


เว่ยหลินหลางหรีตาลง พูดด้วยรอยยิมว่า : “หากองค์
ชายสามยินยอมทีจะพักทีนี เว่ยหลินหลางจะไม่ตอ้ นรับ
พระองค์ได้อย่างไร ทรงเดินทางมาเหน็ดเหนือย คงจะยัง
ไม่ได้เสวยอะไร กระหม่อมกําลังจัดงานเลียง เพือต้อน
รับเพือนคนหนึง หากทรงไม่รงั เกียจ ขอเชิญร่วมงานพ่ะ

81
ย่ะค่ะ”

เว่ยหลินหลางเป็ นใคร เป็ นคนทีแม้กระทังฮ่องเต้


แคว้นลีพบเจอยังต้องให้ความเคารพแล้วจะกลัวองค์
ชายสามได้อย่างไร

ดวงตาของฟ่ งอวีกุยเย็นเยียบ และฝื นยิมว่า “ถ้า


เช่นนันก็ขอรับคําเชิญ” ในใจกลับคิดว่า : ไอ้เว่ยหลิน
หลาง บังอาจมากทีให้ขา้ ทีเป็ นถึงองค์ชายเป็ นเพียงแค่
ตัวประกอบ !

“แปลกจริง เหตุใดต่อหน้าท่านพ่อองค์ชายสาม
จึงได้นอบน้อมเช่นนี” เว่ยกว๋านกว่านพึมพํากับเว่ยฉี

82
เว่ยฉีขมวดคิว

เว่ยกว๋านกว่านหันไปมองมูช่ ิงเกออย่างไม่รูต้ วั

อีกฝ่ ายยิม ดืมเหล้าในแก้วและตอบว่า : “นัน


เป็ นเพราะว่าท่านพ่อของพวกเจ้าคือเว่ยหลินหลางอย่าง
ไรเล่า!”

พลังเวทของเว่ยหลินหลางไม่ได้ตาและสํ
ํ าหรับ
แคว้นลีแล้ว เมืองถัวถือว่าสําคัญเป็ นอย่างมากเพราะ
ฉะนัน แม้วา่ จะต้องเผชิญหน้ากับราชวงศ์แคว้นลี เว่ย
หลินหลางก็ยงั คงต้องรักษาเกียรติยศของตนเองเอาไว้

83
สองพีน้องพยักหน้า ทีดูเหมือนเข้าใจและไม่เข้า
ใจในขณะเดียวกัน

ในเวลานี เป็ นเพราะการนําทางของเว่ยหลินหลาง ฟ่ งอวี


กุยได้ยา่ งเข้ามาภายในห้องโถงเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว

ทันทีทีย่างเข้ามา เขาก็จดจ้องไปยังเว่ยกว๋านกว่านทีนัง
อยูก่ บั เว่ยฉี ในส่วนลึกของดวงตาส่องประกายแวบหนึง
จากนันเขาจึงเคลือนสายตาออก

ทันใดนัน สีแดงอันเจิดจ้าก็ได้สะท้อนอยูใ่ นดวงตาของ


เขา ทําให้ชดุ สีเลือดหมูในตัวเขาดูหม่นหมองลง

84
เมือมองเห็นคนทีมีใบหน้าอันงดงามอย่างหาทีเปรียบไม่
ได้ นังอยูบ่ นทีนังหลักของงานเลียงอย่างชัดเจน สายตา
ของเขาเย็นชาลง พลันฉายความเย็นเยียบออกมาในทัน
ใด

เว่ยหลินหลางทีอยูข่ า้ งๆ สัมผัสได้ถงึ ความเปลียนแปลง


พลางแอบมองมูช่ ิงเกอทีท่าทางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึน
แล้วถามว่า : “องค์ชายสาม?”

ฟ่ งอวีกุยกลับไม่ได้ตอบ เพียงจ้องมูช่ ิงเกอแล้วพูดอย่าง


ตรงไปตรงมาว่า : “เจ้ายังจะกล้าปรากฏตัวต่อหน้าข้า
อีก!”

85
หลังจากทีสินเสียงนี พีน้องตระกูลเว่ยก็หนั ไปมองเขา
ด้วยสายตาทีเต็มไปด้วยการระแวดระวัง

เว่ยหลินหลางหรีตาทังสองข้างลง โดยทีไม่ได้พดู อะไร


เพียงแค่ยืนดูอย่างเงียบๆ ว่ามันเกิดอะไรขึนกันแน่

เว่ยหลินหลางไม่มีการเคลือนไหว แน่นอนว่ากําลังคน
ของจวนตระเว่ยเองก็เช่นกัน

มีเพียงพวกของมัวหยางทีรูใ้ จมูช่ ิงเกอ ในตอนนีต่างก็ลกุ


ขึนยืน ดวงตาอันโหดเ**◌้ยมทังคู่ จ้องฟ่ งอวีกุยและผู้
ติดตามทัง 4 คน ราวกับว่า เพียงคําสังเดียวของมูช่ ิงเก

86
อ พวกเขาก็พร้อมจะลงมือฆ่าทัง 5 คนให้สนซาก

ในคําพูดของฟ่ งอวีกุยแฝงความอันตราย ทําให้มชู่ ิงเก


อกระตุกรอยยิมเบาๆ

นางวางแก้วเหล้าในมือลง พลันเงยสายตาขึนมองฟ่ งอวี


กุยทียืนอยูต่ รงกลางห้องโถง แล้วเผยรอยยิมอันเบิกบาน
ดังดอกไม้วา่ : “ดูเหมือนว่าฝ่ าบาทต่างหากทีมาปรากฏ
ตัวต่อหน้าข้า”

คําพูดนีทําให้ฟ่งอวีกุยใบหน้าแข็งกระด้างเพราะความ
โกรธ กลินอายทัวทังร่างพลันเย็นเยียบ

87
เขาพูดด้วยนําเสียงอันโหดเ**◌้ยมว่า : “เจ้าทําอะไรจูลี
เอาไว้ คงรูอ้ ยูแ่ ก่ใจ หากยังอยากจะเดินออกจากจวน
ตระเว่ยอย่างมีลมหายใจ ก็รบี มอบยาถอนพิษออกมา!”

“จูลอย่
ี างนันรึ” รอยยิมของมูช่ ิงเกอชัดเจนมากขึนกว่า
เดิม พลันย้อนถามว่า : “เขาเป็ นอะไรรึ”

ภายใต้รอยยิมของนาง ฟ่ งอวีกุยสัมผัสได้ถงึ ความเจตนา


ตอนแรกเขาไม่ได้เชือคําพูดของจูลมากนั
ี ก ทีคิดว่า
บุคคลผูง้ ดงามทีอยูต่ รงหน้าผูน้ ีเป็ นคนวางยา อาจจะ
เป็ นเพียงแค่การคาดการณ์ แต่วา่ ในตอนนี เขาเริม
สงสัยแล้วว่า บางที อาจจะเป็ นอย่างทีจูลพูี ดว่าพิษอัน
รุนแรงทีอยูใ่ นร่างกายของเขานันเป็ นของคนทีอยูต่ รง
หน้า
88
“หลังจากทีเขาบังเอิญพบกับเจ้า ร่างกายก็มีตมุ่ ผุดขึน
มาจํานวนมาก ทังบวมและมีหนองไปทัวทังร่างกาย ทัง
เขาและเจ้าเคยมีเรืองบาดหมางกัน ดูเหมือนว่ายาพิษ
นันเจ้าจะเป็ นคนวางจริงๆ” ฟ่ งอวีกุยหรีตาแล้วพูดด้วย
นําเสียงอันเย็นเยียบ

“ฝ่ าบาททรงเดินทางไกลมาถึงเมืองถัว ก็เพือทีจะมาหา


ข้าน้อย และถามว่าข้าน้อยเป็ นคนวางยาจูลหรื
ี อไม่อย่าง
นันหรอกรึ” มูช่ ิงเกอพูดพร้อมรอยยิมและแฝงความขบ
ขัน

“คนแซ่จโู ดนวางยาพิษอย่างนันหรือ เหอะ !ไอ้ลกู เต่านัน


ตายไปเสียได้จะดีทีสุด คนชัวก็ยอ่ มเป็ นไปตามกรรม
89
ทําไมรึ มันจะตายอยูแ่ ล้ว ยังจะมาใส่ความมูเ่ กอของเรา
อีกหรือ” หลังจากทีได้ยินสภาพอันยําแย่ของจูลี เว่ยกว๋า
นกว่านก็รบี ปรบมือแสดงความยินดีในทันที

เว่ยฉีเองก็พดู กับเว่ยกว๋านกว่านว่า : “ท่านพ่อ จูลผูี น้ ี


คอยขัดขวางเราทุกทาง ตังแต่ตอนทีอยูใ่ นเมืองฮ่วนก็
แทบจะฆ่าเรา พอมาถึงเมืองอวีจือเพราะมีองค์ชายสาม
คอยหนุนหลังจึงอยากจะสร้างความอับอายให้กบั เรา
หากไม่ใช่เพราะมูช่ ิงเกอมาได้ทนั เวลา ไม่แน่วา่ อาจจะ
เกิดเรืองอะไรขึน ถ้าไม่เชือท่านก็ลองถามลุงโจวดู”

คําพูดของเว่ยฉี ทําให้ทา่ ทางของฟ่ งอวีกุยเย็นเยียบลง

90
“มีเรืองเช่นนีเกิดขึนด้วยหรือ” สายตาอันเฉียบคมของ
เว่ยหลินหลางกวาดผ่านฟ่ งอวีกุยไปยังเหล่าโจวทียืนอยู่
ข้างหลัง

เหล่าโจวพยักหน้า ทําให้เว่ยหลินหลางเข้าใจทุกอย่างใน
ทันที

เขามองฟ่ งอวีกุยและพูดด้วยนําเสียงเย็นๆ ว่า : “องค์


ชายสาม คนทีคิดจะทําให้ลกู ทังสองของข้าอับอายขาย
หน้าตอนนีมันอยูท่ ีใด”

ฟ่ งอวีกุยสะดุง้ ทีหนึง เขาไม่คิดว่าเว่ยหลินหลางจะไม่ไว้


หน้ากันเช่นนี แต่วา่ เขาก็ไม่สามารถจะเป็ นศัตรูกบั เว่ย

91
หลินหลางได้ เพราะหากเรืองแดงออกไป เขายังจะมี
สิทธิอะไรทีจะแย่งตําแหน่งรัชทายาทกับเสด็จพ่ออีก

เมือไม่รูว้ า่ ควรจะทําอย่างไร เขาจึงทําได้เพียงแค่พดู ว่า :


“เขาถูกคนผูน้ ีวางยา ในตอนนีเหลือเพียงลมหายใจสุด
ท้าย”

“ถ้าเช่นนัน ข้าคงต้องขอบคุณน้องมูเ่ ป็ นอย่างมาก” เว่ย


หลินหลางมองมูช่ ิงเกอพลันประสานหมัด

ฉากนี ทําให้ฟ่งอวีกุยโกรธจนเกือบจะสะบัดแขนเสือเดิน
หนี แต่พอนึกถึงเป้าหมายทีมาทีแห่งนี ไม่คมุ้ เลยทีจะขัด
แย้งกับเว่ยหลินหลางเพราะจูลี เขาจึงรีบพูดว่า : “ใน

92
ตอนนัน อวีกุยไม่รูเ้ ลยว่าทังสองเป็ นลูกของท่าน ถ้าไม่
เช่นนันจะไม่ยอมโดนจูลหลอกใช้
ี เป็ นอันขาด ในวันนี จะ
ต้องขออภัยทังสองต่อหน้าท่านเจ้าเมือง”

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านไม่สนใจ เว่ยหลินหลางเองก็ไม่
ได้แสดงความดีใจเพียงเพราะคําพูดนี

ในใจของฟ่ งอวีกุยเกลียดทังเว่ยหลินหลางและมูช่ ิงเก


อ พลันหันไปมองเว่ยหลินหลางแวบหนึงก่อนจะกัดฟั น
พูดว่า : “ทีข้ามาในวันนี เพราะเป้าหมายหนึง อวีกุยได้
ข่าวว่าฮูหยินกําลังป่ วย ข้าพอจะรูเ้ รืองยาอยูบ่ า้ ง อาจจะ
สามารถดูอาการของฮูหยินได้”

93
พูดจบ เขาก็เชิดหน้าและยืดหลังตรง รอคอยความ
เคลือนไหวของเว่ยหลินหลาง

ไหนบอกว่า เว่ยหลินหลางใส่ใจอาการป่ วยของท่าน


ผูห้ ญิงของนางเป็ นอย่างมาก และไม่ยอมพลาดทุก
โอกาสทีจะสามารถรักษาได้

ฟ่ งอวีกุยกําลังรอ รอคอยให้เว่ยหลินหลางขอร้องเขา แต่


ไม่ได้สงั เกตถึงบรรยากาศทีแฝงความขบขันอันแปลก
ประหลาดรอบๆ

94
ตอนที 109-1 ฟ่ งอวีกุยแย่แล้ว !

ได้ยินมาว่า ภรรยาผูเ้ ป็ นทีรักของเว่ยหลินหลางกําลัง


ป่ วยหนัก หมอจํานวนนับไม่ถว้ นต่างก็ไม่สามารถรักษา
ได้ ถึงขันทีว่า เว่ยหลินหลางพยายามทําทุกวิถีทางเพือ
เชิญปรมาจารย์แห่งการปรุงยา ท่านอาจารย์โหลวมา
เพือรักษาภรรยา แต่สดุ ท้ายก็ไม่ได้รบั ผลอันใด

ท่านอาจารย์โหลวอุทานออกมาเพียงคําเดียวว่า : ไม่
สามารถรักษาได้ !

หลังจากนัน อาการป่ วยของภรรยาผูเ้ ป็ นทีรัก จึงกลาย


เป็ นปมในใจของเว่ยหลินหลาง หากทีมีใครสามารถแก้
ปมในใจนีของเขาได้ เว่ยหลินหลางจะซือสัตย์ตอ่ คนผู้
1
นันอย่างทีสุด

หลังจากทีได้ครอบครองโอสถเก้าชีวิตหวนคืนจากจูลี
ฟ่ งอวีกุยก็เริมมีแผนการในใจ

แต่ไม่คิดว่า หลังจากทีเข้าสูจ่ วนตระกูลเว่ย เขาไม่เพียง


ไม่ได้รบั การต้อนรับอย่างมีมารยาท แต่ยงั เห็นผูท้ ีเคยมี
ปั ญหากับตนเองกลายเป็ นแขกของจวนตระกูลเว่ย การ
ปฏิบตั ิของเว่ยหลินหลางยิงจุดประกายเปลวเพลิงแห่ง
โทสะของเขา กว่าจะพยายามเก็บอาการได้และยืนข้อ
เสนอการรักษาให้ช่างยากเย็น ไม่วา่ อย่างไร ฟ่ งอวีกุยก็
จะรอคําขอร้องจากเว่ยหลินหลาง

แต่ทว่า ครูห่ นึงผ่านไป ฟ่ งอวีกุยก็ยงั คงไม่ได้ยินคําขอ


2
ร้องจากปากของปากของเว่ยหลินหลาง ยิงไปกว่านัน
คือ รอบๆ ได้เงียบสงบลง ทําให้เขาสัมผัสได้วา่ มีอะไร
บางอย่างผิดปกติ

สายตาของเขาเคร่งขรึม พร้อมหันไปมองผูค้ นทีอยูร่ อบๆ

ใบหน้าของเว่ยหลินหลางนิงสงบ ใบหน้าของเว่ยฉีและ
ยังมีเว่ยกว๋านกว่านทีเขาต้องตาดูขบขัน แต่ไอ้คนทีเห็น
แล้วขัดหูขดั ตาคนนัน กลับนังดืมเหล้าอยูบ่ นทีนังอย่าง
ไม่รูส้ กึ รูส้ า

ส่วนพวกคนทีเหลือต่างก็แสดงอาการแปลกประหลาด
ราวกับอยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่กล้าทีจะพูด

3
รอยยิมบนใบหน้าของฟ่ งอวีกุยหายไป เขามองเว่ยหลิน
หลางและพูดขึนอีกครัง ในนําเสียงได้เปี ยมล้นด้วย
โทสะ : “ว่าอย่างไร ท่านเจ้าเมืองไม่เชือใจในความ
สามารถด้านการรักษาของข้าหรือ”

เว่ยหลินหลางทีถูกเอ่ยชือ ราวกับเพิงจะได้สติ เผยรอย


ยิมจางๆ พลันก้มหน้าลงและพูดว่า : “องค์ชายสามเข้า
ใจผิดแล้ว สําหรับความสามารถด้านยาขององค์ชาย
สาม แซ่เว่ยมิบงั อาจจะประเมินค่า เพียงแต่วา่ ในตอน
นีภรรยาของข้าได้หายดีแล้ว ไม่จาํ เป็ นต้องรักษาอีกแล้ว
แซ่เว่ย ขอขอบคุณความหวังดีจากองค์ชายสามเป็ น
อย่างมาก”

4
อะไรนะ ! อาการป่ วยของฮูหยินของเว่ยหลินหลางหาย
ดีแล้ว !

ความตืนตระหนกเกิดขึนในใจของฟ่ งอวีกุย ข้อมูลทีเพิง


ได้รบั นี แทบจะทําให้แผนการทีเขาวางไว้พงั ทลายลงจน
หมดสิน

ในตอนแรก เขาคิดจะรักษาฮูหยินให้หาย และใช้คาํ


ขอบคุณของเว่ยหลินหลางในการขอลูกสาวเพียงคน
เดียวของเขา เพราะหากเป็ นเช่นนี ความสัมพันธ์ของทัง
สองก็จะไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ในขณะทีเขาได้
ตําแหน่งรัชทายาท ก็จะมีผมู้ ีอาํ นาจอันยิงใหญ่อีกคนที
คอยสนับสนุน

5
ใคร ? ใครกัน !

ฟ่ งอวีกุยกวาดสายตามองไปรอบๆ กลับไม่เห็นว่าจะมี
ใครมีความสามารถมากพอทีจะรักษาฮูหยินได้

สําหรับเขาแล้ว ผูท้ ีจะสามารถรักษาฮูหยินได้ จะต้อง


เป็ นผูท้ ีมีความสามารถเป็ นอย่างมาก อย่างน้อยในด้าน
ของการปรุงยา ก็แน่นอนว่าจะต้องมีความสามารถโดด
เด่น

เมือไม่เห็นใครทีคิดว่าจะเป็ นไปได้ ความคิดในใจของฟ่ ง


อวีกุยก็เปลียนไป และสงสัยว่าเว่ยหลินหลางโกหกเขา
จึงแอบหัวเราะอย่างเย็นเยียบ และพูดกับเขาว่า :
“ท่านเจ้าเมืองเว่ยอย่าได้ฝืนเลย ทีข้ามาทีนี ก็เพราะมี
6
ความมันใจในระดับหนึง หรือว่าท่านทนได้ทีจะเห็นฮูห
ยินต้องทรมานเพราะความเจ็บปวดเช่นนีต่อไป ท่านจะ
สามารถทนเห็นคุณหนูเว่ยต้องเสียใจเกียวกับอาการ
ป่ วยของท่านแม่เช่นนีได้อย่างไร

เมือเห็นว่าฟ่ งอวีกุยไม่เชือ เว่ยหลินหลางก็กระตุกมุม


ปาก กําลังจะอธิบาย แต่กลับไม่คิดว่า เว่ยกว๋านกว่าน
จะส่งเสียงตะโกนแทรกเข้ามาเสียก่อน

“นี ! ท่านแม่ของข้าหายดีแล้ว เหตุใดข้าจึงต้องเสียใจ


ท่านพ่อได้บอกท่านแล้ว ท่านยังจะพูดเช่นนี รูห้ รือไม่วา่
มันเป็ นการสาปแช่งท่านแม่ของข้า”

“กว๋านกว่านหยุดพูด” เว่ยหลินหลางกวาดสายตามา
7
มองนาง นางเงียบลงในทันที เพราะถูกเว่ยฉีดงึ ตัวเอาไว้
จึงนังลงด้วยความโกรธ

ฟ่ งอวีกุยพยายามเก็บสายตาอันแฝงเร้นไปด้วยโทสะ
เขาเคลือนสายตาไปทีเว่ยหลินหลาง โดยทีไม่ตอบโต้ใน
สิงทีนางพูด เพียงแค่มองเว่ยหลินหลาง และพูดด้วยนํา
เสียงจริงใจว่า : “บางที ท่านเจ้าเมืองเว่ยอาจจะไม่เชือ
ในความสามารถด้านการรักษาของข้า.....” ในขณะที
พูด ก็พลิกมือ โอสถทีส่งกลินหอมอย่างรุนแรงก็ปรากฏ
ขึนบนฝ่ ามือของเขา : “ท่านไม่เชือในความสามารถ
ของมันหรือ”

ทันทีทีเอาโอสถออกมา ทัวทังห้องโถงก็มีกลินหอมอัน
รุนแรงแผ่กระจายออกไป

8
แม้แต่มชู่ ิงเกอผูท้ ีทังไม่สนใจและนังดืมเหล้าของตน
เองอยูเ่ งียบๆ ก็ได้เงยสายตาขึนมอง ดวงตาอันสดใส
กวาดผ่านโอสถทีวางอยูใ่ นฝ่ ามือของเขา

“ซูด้ ดด นีมันโอสถอะไรกัน เหตุใดได้กลินแล้วจึงรูส้ กึ


กระปรีกระเปร่าเช่นนี”

“แน่นอนว่า ระดับของโอสถนี จะต้องเป็ นโอสถระดับสูง


อย่างไม่ตอ้ งสงสัย !”

“โอสถระดับสูงอย่างนันหรือ หากได้ครอบครองสักเม็ด
จะต้องแลกด้วยชีวิตครึงชีวิตข้าก็ยอม !”

9
เหล่าทหารของเว่ยหลินหลาง ต่างก็หลงใหลอยูใ่ นกลิน
หอมของโอสถนัน ความจริงแล้ว แม้กระทังเว่ยหลิน
หลางเอง ในขณะทีเห็นโอสถเม็ดนัน ในสายก็ดสู งสัย
เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม โอสถระดับสูงเป็ นสิงทีหายากมาก

องค์ชายสามผูน้ ีมีโอสถระดับสูง ดูเหมือนว่าจะมีการ


วางแผนก่อนมาและมิได้พดู เล่น

‘เพียงแต่วา่ เมือครูน่ ี เขาบอกว่าตนเองมีความรูเ้ รืองยา


และในตอนนีก็เอาโอสถเช่นนีออกมา หรือโอสถนีจะเป็ น
โอสถทีเขา......’ ในใจของเว่ยหลินหลางเกิดตืนตะลึง
10
ขึนมา แต่ยงั คงรักษาความนิงสงบ

เมืองจือห่างจากเมืองถัวไกลมาก ความรุนแรงทีเกิดขึน
เพราะโอสถเก้าชีวิตหวนคืน ผูค้ นในจวนตระกูลเว่ยจึง
ไม่รู ้

อีกประการหนึง ฟ่ งอวีกุยเอาโอสถออกมา แต่ไม่ได้บอก


ชือของมันอย่างชัดเจน ท่ามกลางความตืนตระหนก
นอกจากเจ้าของตัวจริงและคนทีเคยเห็นแล้ว จะมีใครที
เอาโอสถนีไปโยงกับโอสถระดับสูงทีก่อความวุน่ วายให้
เมืองจือนันได้

“องค์ชายสาม นีมัน......” เว่ยหลินหลางมองโอสถ


เม็ดนันแล้วถามด้วยนําเสียงอันเคร่งขรึม
11
ในทีสุดก็ทาํ ให้เว่ยหลินหลางเกิดความสนใจจนได้ ใน
สายตาของฟ่ งอวีกุยแฝงความได้ใจ

นิวมือทังห้าของเขาประสานกัน เขากําโอสถเอาไว้ในฝ่ า
มืออย่างแน่นหนา เพือบดบังสายของของทุกคนทีมอง
มา ทําให้ในส่วนลึกของสายตาของทุกคนต่างฉายแวว
ผิดหวัง

มูช่ ิงเกอเพียงยิมและไม่ได้พดู อะไร

สองพีน้องตระกูลเว่ยนังอยูข่ า้ งหลังเว่ยหลินหลาง จึงถูก


บังไม่นอ้ ย เพราะคําอุทานของคนรอบข้าง ทําให้พวก
เขาอยากจะเห็นให้ชดั ๆ แต่ยงั ไม่ทนั ได้เห็นเต็มตา โอสถ
12
ก็ถกู ฟ่ งอวีกุยเก็บกลับไป ในตอนนี จึงทําได้เพียงแค่หด
คอทียืนออกไปและนังอย่างอึดอัดอยูก่ บั ที

“ท่านเจ้าเมืองเว่ย นีคือโอสถชุบชีวิตทีข้าได้ปรุงขึน
โอสถนีมีขนตอนการปรุ
ั งทียากยิงนัก ข้าทุม่ เททังแรง
กายและแรงใจ จึงปรุงออกมาได้เม็ดหนึง โอสถนีมี
สรรพคุณในการรักษา 108 โรค เมือคิดถึงท่านเจ้า
เมืองเว่ยทีเป็ นทุกข์เพราะอาการป่ วยของฮูหยิน ข้าจึงได้
รีบมาทีนี” ฟ่ งอวีกุยกระตุกยิมจางๆ ความได้ใจที
สะท้อนออกมาจากสายตายากทีจะเก็บซ่อนได้

“โอสถชุบชีวิตอย่างนันหรือ ราวกับจะเคยได้ยินชือ
นี !” เสียงของเว่ยฉีได้ดงั ขึนอย่างกะทันหัน

13
“เคยได้ยินอะไรกัน ก็เขานันแหละทีพูด เจ้าจําไม่ได้
แล้วหรือ ตอนทีอยูใ่ นเมืองฮ่วน เขาได้เคยพูดถึงโอสถ
ชุบชีวิตมิใช่หรือ” เว่ยกว๋านกว่านรีบพูดเสริม

คําพูดของพีน้องตระกูลเว่ย ทําให้สีหน้าของฟ่ งอวีกุยแย่


ลงในทันที

ทังสองช่างไม่ใช่เห็นฐานะองค์ชายอย่างเขาอยูใ่ นสาย
ตา หากไม่ใช่เพราะท่านพ่อของพวกเขาคือเว่ยหลินหลา
ง เขาคงจะสังคนให้ไปสังหารพวกเขาให้สนซาก
ิ !

14
15
ตอนที 109-2 ฟ่ งอวีกุยแย่แล้ว !

เว่ยหลินหลางหัวเราะเพราะคําพูดของลูกสาว สําหรับ
โอสถทีอยูใ่ นมือของฟ่ งอวีกุยเขาไม่ได้สนใจเลยแม้แต่
น้อย เพราะว่า สําหรับเขาแล้ว ทักษะทางยาของมูช่ ิงเก
อผูท้ ีสามารถรักษาภรรยาของเขาได้เก่งกาจมากทีสุด
และมากกว่าองค์ชายสามเป็ นอย่างมาก

“ขอแสดงความยินดีกบั องค์ชายสามทีสามารถหลอม
โอสถเช่นนีได้ คนของแซ่เว่ยได้หายจากอาการป่ วยแล้ว
โอสถนีฝ่ าบาททรงเก็บกลับไปก่อนเถิดเผือใช้ในยามจํา
เป็ น” คําพูดปฏิเสธนี ถือว่าเป็ นการไว้หน้ามากทีสุดแล้ว

แต่ทว่า ในสายตาของฟ่ งอวีกุย ก็ยงั คงรูส้ กึ ว่า เว่ยหลิน


16
หลางยังคงไม่รูว้ า่ อะไรควร อะไรมิควร เขา
ได้ลดตัวลงมาตีสนิทหลายต่อหลายครัง กลับได้รบั
ผลลัพธ์เช่นนีทุกครัง ฟ่ งอวีกุยรูส้ กึ ไม่พอใจ พลันพูด
ด้วยนําเสียงอันเย็นเยียบว่า : “ฮูหยินหายดีแล้วอย่าง
นันหรือ ถ้าเช่นนัน อวีกุยก็จะไม่บงั คับ แต่ทา่ นเจ้าเมือง
เว่ยจะแนะนําผูส้ งู ศักดิและเต็มเปี ยมไปด้วยความ
สามารถทีรักษาฮูหยินผูน้ นให้
ั ขา้ หน่อยได้หรือไม่”

“ผูส้ งู ศักดิทีฝ่ าบาทอยากจะพบได้นงอยู


ั ใ่ นทีนีตังแต่แรก
แล้วไม่ใช่หรือ” เว่ยกว๋านกว่านยิมอย่างเย้ยหยัน

“อยูใ่ นทีแห่งนีอย่างนันหรือ” ฟ่ งอวีกุยขมวดคิว พลัน


กวาดสายตาอีกรอบและก็ยงั คงไม่พบอะไร ความรูส้ กึ
ราวกับโดนกลันแกล้งได้ปะทุขนใจของเขา

17
เมือเขาไม่เห็น เว่ยหลินหลางจึงรีบพูดว่า : “ฝ่ าบาท ผู้
ทีรักษาฮูหยินของแซ่เว่ยจนหายคือน้องมูผ่ นู้ ี”

เขา !

ฟ่ งอวีกุยหรีตาลง มองมูช่ ิงเกอทีท่าทางราวกับไม่มีอะไร


เกิดขึนอย่างไม่อยากจะเชือ

จะเป็ นเขาได้อย่างไร อายุของเขาเพิงจะเท่าไหร่เอง !

ดวงตาอันฉายความโหดเ**◌้ยมหรีลง ร่องตาเต็มไป
ด้วยความเย็นเยียบ มูช่ ิงเกอกลับดูเหมือนไม่รูส้ กึ อะไร

18
ยังคงห่วงแต่ดืมเหล้าและทานกับแกล้มเป็ นครังคราว

ค่อยๆ เก็บสายตาสอบสวนกลับมา ฟ่ งอวีกุยเยาะ


เย้ยอย่างไม่อาจจะทนได้วา่ : “ท่านเจ้าเมืองเว่ยแน่ใจ
แล้วหรือว่าฮูหยินหายดีแล้ว อย่าได้โดนคนโกหกหลอก
ลวง จนเสียชือเสียง”

“นี ! เจ้าหมายความว่าอย่างไร !” เว่ยกว๋านก


ว่านกระโดดออกมาอย่างทนไม่ไหวอีกครัง เพือทวง
ความยุติธรรมให้กบั มูช่ ิงเกอ

เว่ยฉีก็ลกุ ขึนมาอย่างไม่ยอมแพ้ เพือแก้แค้นพร้อมกับ


น้องสาว : “องค์ชายสามโปรดระวังคําพูด มูเ่ กอช่วย
ชีวิตท่านแม่ของเราเอาไว้ เป็ นผูม้ ีพระคุณของจวนตระกู
19
ลเว่ย อีกทังงานเลียงในคําคืนนี ก็จดั ขึนเพือแสดงความ
ขอบคุณต่อเขา”

ปฏิกิรยิ าของทังสอง ทําให้ใบหน้าของฟ่ งอวีกุยมืดมนดัง


ถ่าน

ในขณะนีเอง เว่ยหลินหลางก็พดู ขึนอีกครัง และมีจดุ ยืน


เดียวกันกับลูกทังสองจึงพูดอย่างเคร่งขรึมและแน่วแน่
ว่า : “ใช่ องค์ชายสาม มูเ่ กอได้รกั ษาคนของเราให้หาย
ดีแล้ว เรืองนีเป็ นเรืองทีไม่อาจจะปฏิเสธได้ น้องมูจ่ ะ
เป็ นผูม้ ีพระคุณของจวนตระกูลเว่ยของข้าตลอดไป รวม
ทังเป็ นแขกผูม้ ีเกียรติของเราด้วย”

พูดจบ เขาไม่รอให้ฟ่งอวีกุยตอบกลับ ก็พดู เสียงดังกับผู้


20
คนในจวนตระกูลเว่ยว่า : “ทุกท่าน แซ่เว่ยจะแนะนํา
น้องมูต่ งแต่
ั แรก แต่ถกู ขัดจังหวะ ในตอนนี แซ่เว่ยขอ
ประกาศว่า น้องมูย่ งั คงเป็ นผูม้ ีพระคุณของข้า เว่ยหลิน
หลาง หากทุกท่านเห็นข้าอยูใ่ นสายตา ก็ตอ้ งปฏิบตั ิกบั
เขาดังเป็ นทีปฏิบตั ิกบั ข้า”

“น้อมรับคําสัง !”

แม้วา่ ในใจจะตืนตระหนก และไม่กระจ่างมากเพียงใด


แต่เพียงแค่คาํ สังเดียวของเว่ยหลินหลาง ทุกคนในจวน
ตระกูลเว่ยต่างก็คกุ เข่าลง พร้อมประสานหมัดเพือคํา
นับมูช่ ิงเกอทีนังอยูบ่ นทีนัง

ในวินาทีนี มูช่ ิงเกอแม้จะอยากดูทกุ อย่างอย่างห่างๆ


21
แต่ก็ไม่อาจจะทําได้แล้ว

เมือไม่รูจ้ ะควรจะทําเช่นไร จึงเพียงค่อยๆ ลุกขึน แล้ว


พูดกับทุกคนทีประสานหมัดคํานับนางว่า : “ทุกท่านไม่
ต้องเกรงใจ พีเว่ยก็พดู เกินไป หากเราคุยกันได้เช่นนี ก็
เป็ นดังครอบครัวเดียวกัน ไม่จาํ เป็ นทดแทนบุญคุณมาก
มายถึงเพียงนัน”

อุปนิสยั ของเว่ยหลินหลางคือให้ความสําคัญกับทุก
ความสัมพันธ์ เมือได้ยินคําพูดเช่นนีของมูช่ ิงเกอก็ยงิ
ซาบซึง พูดต่อไปว่า : “ความสัมพันธ์ฉนั พีน้องของเราก็
ส่วนหนึง แต่บญ
ุ คุณก็ไม่อาจจะลืมได้ นับแต่บดั นีเป็ น
ต้นไป อํานาจในทุกการกระทํา ทุกคําสังของท่านใน
จวนตระกูลเว่ยจะมีความสําคัญทัดเทียมกับข้า”

22
หลังจากทีสินเสียงนี สีหน้าของฟ่ งอวีกุยก็เย็นเยียบลง
มากกว่าเดิม และอดไม่ได้ทีจะพูดว่า : “ท่านเจ้าเมือง
เว่ย การจัดการนีของท่านจะเกินความจําเป็ นไปหรือไม่”

“องค์ชายสาม การตัดสินใจของแซ่เว่ย ยังต้องให้องค์


ชายสามอนุญาตก่อนด้วยหรือ” เว่ยหลินหลางถาม
พลางขมวดคิว

เมือสัมผัสได้วา่ ในคําพูดของเว่ยหลินหลางแฝงความ
โกรธ ฟ่ งอวีกุยก็ขมวดคิวและกัดฟั นและพูดว่าอย่างเย็น
เยียบว่า : “ท่านเจ้าเมืองเว่ยอย่าได้ลอ้ เล่นเช่นนีเลย
ข้าจะไปยุง่ กับการตัดสินใจของท่านเจ้าเมืองเว่ยได้อย่าง
ไร เพียงแต่วา่ ฟ่ งอวีกุยไม่อยากจะให้ทา่ นเจ้าเมืองเว่ย
23
โดนคนนอกหลอก จึงได้เตือนด้วยความหวังดี”

“องค์ชายสาม กระหม่อมเคารพพระองค์ แต่นอ้ งมูก่ ็


เป็ นน้องชายของแซ่เว่ย รวมทังยังเป็ นผูม้ ีพระคุณของ
แซ่เว่ยไม่ใช่คนหลอกลวงหรือคนร้ายอะไร ขอให้ฝ่าบาท
โปรดระวังคําพูดด้วย” นําเสียงของเว่ยหลินหลางเย็น
เยียบลง

คําพูดของเว่ยหลินหลาง ทําให้ใบหน้าของฟ่ งอวี


กุยกระตุกทีหนึง

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านอยากร้องไห้แต่ก็ไม่สามารถ
ร้องออกมาได้

24
คราวนี คนทีกําลงแอบรักได้กลายเป็ นน้องชายของท่าน
พ่อ มีฐานะเป็ นอาของพวกเขา แล้วพวกเขาควรจะทํา
อย่างไรดี

ท่าทางอันดือรันของเว่ยหลินหลาง ทําให้ในใจของฟ่ งอวี


กุยเต็มเปี ยมไปด้วยโทสะ เขาไม่ได้เถียงต่อ เพียงแค่
มองมูช่ ิงเกอทีนังอยูบ่ นเวที แล้วหัวเราะอย่างเยือก
เย็น : “เจ้ามีทกั ษะด้านการปรุงยาอย่างนันหรือ ข้าดู
แล้วเจ้าก็อายุเพียงไม่เกิน 16-17 ปี อายุเพียงเท่านี
ทักษะการปรุงยาของเจ้าจะแน่แค่ไหนกันเชียว”

ประเด็นได้ถกู เบียงมาทางมูช่ ิงเกอ

25
เว่ยหลินหลางหรีตาและในขณะทีกําลังจะออกปากห้าม
กลับเห็นมูช่ ิงเกอส่งสัญญาณให้หยุด จึงรอดู
ทุกอย่างอย่างเงียบๆ

แม้วา่ จะเป็ นเช่นนัน การทีองค์ชายสามมาปะทะกับมูช่ ิง


เกอ ทําให้เขารูส้ กึ เป็ นกังวล

สําหรับการจงใจหาเรืองของฟ่ งอวีกุย มูช่ ิงเกอกระตุกยิม


อย่างขบขันนางก้มสายตาลงมองมือทีกําแน่นของฟ่ งอวี
กุย

โอสถทีอยูใ่ นกํามือนัน ทําให้รอยยิมของมูช่ ิงเกอชัดเจน


กว่าเดิม

26
“ทักษะด้านการปรุงยาของข้าอย่างนันหรือ อืม เอา
อย่างนี โอสถทีอยูใ่ นมือขององค์ชายสามเมือครูน่ ีเป็ น
โอสถทีข้าสามารถปรุงออกมาได้หม้อหนึงตลอดเวลา”
ในนําเสียงของมูช่ ิงเกอแฝงความโหดเ**◌้ยม

เมือครูน่ ี ฟ่ งอวีกุยเพิงจะบอกว่า เขาปรุงโอสถเม็ดนีออก


มาอย่างยากลําบากถึงจะได้มาสักเม็ดมิใช่หรือ

ในตอนนี เขายังจะสงสัยในความสามารถด้านการปรุง
ยาของนาง ตอบเขาไปเช่นนีก็แล้วกัน

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้าบังอาจหัวเราะเยาะข้า

27
หรือ !” เปลวเพลิงแห่งโทสะได้ปะทุออกจากสายตา
ของฟ่ งอวีกุยและจ้องมูช่ ิงเกอเขม็ง

“มิบงั อาจ” มูช่ ิงเกอกระตุกยิม เผยฟั นขาวดังเปลือก


หอย ใบหน้าอันงดงาม ดังดอกไม้ผลิบานชวนให้ตก
ตะลึง : “ข้าพียงแค่กาํ ลังพูดความจริง”

แววตาตะลึงในความงามหายไปจากสายตาของฟ่ งอวี
กุยในทันที

แม้นหน้าตาจะงดงาม แต่คาํ พูดนัน ช่างทํา


ให้เขาอยากบีบมันให้แหลกละเอียด !

28
“ความจริงอย่างนันหรือ หึ เจ้ารูห้ รือไม่วา่ โอสถนีอยูใ่ น
ระดับใด แม้กระทังท่านอาจารย์โหลวยังไม่กล้ายืนยันว่า
โอสถนีปรุงจากอะไรและมีปริมาณเท่าไหร่ เจ้ากล้าดี
อย่างไร จึงได้พดู จาอวดดีเช่นนี” นําเสียงของฟ่ งอวีกุย
ทังเย็นเยียบและฉายความเย้ยหยัน

29
ตอนที 109-3 ฟ่ งอวีกุยแย่แล้ว !

มูช่ ิงเกอเผยรอยยิมเย็น ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับเขา


จึงพูดตรงๆ ว่า : “โอสถในมือขององค์ชายสามได้มา
จากจูลใช่
ี หรือไม่”

30
นางยังคงจําได้วา่ ในตอนทีอยู่ ณ เมืองฮ่วน จูลเกื
ี อบ
จะหลุดปากพูด แต่กลับถูกฟ่ งอวีกุยห้ามเอาไว้

และในขณะนันเอง ก็เป็ นครังแรกทีนางและพีน้องตระกู


ลเว่ยได้ยินชือโอสถชุบชีวิตเป็ นครังแรก

เปลียนชือโอสถเก้าชีวิตหวนคืน โอสถนีก็กลายเป็ นยาที


เขาปรุงขึนเองไปแล้ว มันจะง่ายเพียงนันเชียวหรือ ใน
ตอนแรก มูช่ ิงเกอหาได้คิดทีจะเปิ ดโปงไม่ เพราะโอสถ
เม็ดนันได้ถกู ประมูลไปแล้ว ส่วนเจ้าของจะจัดการ
อย่างไร ล้วนไม่ขอ้ งเกียวกับนางอีก

นางยอมรับว่าตนเองเป็ นผูท้ ีมีจรรยาบรรณในการทําการ


31
ค้าคนหนึง หลังจากทีได้แลกเปลียนกันแล้ว นางก็จะไม่
ยุง่ เกียวอีก

ใครจะคิดว่าองค์ชายสามแห่งแคว้นลีท่านนี กลับกลาย
เป็ นดังสุนขั ทีกัดไม่ยอมปล่อย หากถ้านางไม่ข่เู ขาเสีย
หน่อย เขาคงคิดว่านางเป็ นแมวน้อย!

“เอามาจากจูลอะไรกั
ี น ! ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้ากําลังพูด
อะไรอยู!่ ” คําพูดของมูช่ ิงเกอ ทําให้สีหน้าของฟ่ งอวี
กุยเปลียนไป และรีบปฏิเสธในทันที

เขานึกออกแล้ว จูลราวกั
ี บจะเคยบอกว่า โอสถทีอยูใ่ น
มือเขานีได้มาจากไอ้หมอนีตอนประมูล

32
ถ้าเช่นนัน โอสถทีพลิกฟ้าเช่นนี จะเป็ นฝี มือของคนที
อายุเพียงเท่านีจริงๆ รึ

อีกอย่าง หากเขาเป็ นคนปรุงเองกับมือ แล้วอย่างไร เขา


สามารถยืนยันได้หรือว่าโอสถนีเป็ นของเขา

รีบคิดทบทวนครูห่ นึง ในใจของฟ่ งอวีกุยทีตืนตระหนก


ก็ได้สงบลงอีกครัง เขามองมูช่ ิงเกออย่างใจเย็น พลาง
พูดด้วยนําเสียงเบิกบานว่า : “เจ้าหยุดสร้างความ
สับสนให้แก่ทกุ คนเช่นนีได้แล้ว”

เมือเรืองราวเกิดการเปลียนแปลงอีกครัง คิวของเว่ย
หลินหลางก็ขมวดขึนอีกหนเพียงแต่วา่ เขายังคงรักษา
33
ความสงบ ผูค้ นในจวนตระกูลเว่ยเองก็เงียบ ทําได้เพียง
ยืนดูสถานการณ์ทงหมดอยู
ั ห่ า่ งๆ ด้วยความสงบ

พีน้องตระกูลเว่ยไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เมือเห็นองค์
ชายสามมุง่ ประเด็นมาทีมูช่ ิงเกอ และได้ยินคําพูดทีชี
เป้าของมูช่ ิงเกอ ทังสองทีถือว่าเป็ นพยานสําคัญของ
เรืองนีจึงได้สติขนมาในทั
ึ นที

“อ๋อ ! ข้าจําได้แล้ว ตอนทีอยูเ่ มืองจือ จูลได้


ี ใช้สมบัติ
ทังหมดของตนเองในการประมูลโอสถเม็ดนีของมูเ่ กอ”
เว่ยฉีแสร้งทําเป็ นเพิงนึกออก

คําพูดนีของเว่ยฉี ทําให้จิตใจทีสงบลงของฟ่ งอวีกุยตืน


ตระหนกขึนอีกครัง
34
แต่วา่ เขาจะไม่ยอมรับเป็ นอันขาด เพราะอย่างไรก็ตาม
เมือครูน่ ีเขาได้พดู ว่า โอสถเม็ดนีเขาปรุงขึนด้วยตนเอง

“นันมันเรืองของจูลี ข้าจะทราบได้อย่างไร” ฟ่ งอวีกุย


อุทานอย่างเย็นเยียบ

เว่ยกว๋านกว่านเอามือไพล่หลัง แล้วเดินเข้ามาอย่างเนิบ
ช้า เพือมาอยูข่ า้ งๆ ท่านพ่อ และพูดกับฟ่ งอวีกุยอย่าง
เหยียดหยามว่า : “จะเกียวหรือไม่ เอาโอสถนันออกมา
ก็รู”้

ฟ่ งอวีกุยหรีตาลง ในร่องตาแฝงไอสังหารทีคมกริบ

35
ในวินาทีนี เขาอยากจะเดินเชิดหน้าออกจากจวนตระกู
ลเว่ย แต่วา่ หากเขาจากไปเช่นนี วันรุง่ ขึนก็คงจะมีข่าว
แพร่ออกไปว่าเขาต้องพบเจออะไรบ้างในจวนตระกูลเว่ย
ซึงเขาไม่อาจจะขายหน้าได้

เมือนึกย้อนไปถึงรูปร่างของโอสถทีอยูใ่ นกํามือก็ไม่ได้
ต่างจากโอสถระดับสูงอืนๆ เขาไม่เชือว่ามันจะสามารถ
ดูออกได้

เมือมันใจแล้ว ฟ่ งอวีกุยจึงเผยรอยยิมเย็นชาออกมา
พลันเงยหน้าขึนและพูดว่า : “ก็ดี โอสถชุบชีวิตเม็ดนี
เป็ นโอสถทีข้าปรุงขึนด้วยตนเองโดยแท้ ข้าก็อยากจะรู ้
ว่าเจ้าจะมีสงใดมายื
ิ นยันว่าข้าได้โอสถนีมาจากจูล”ี
36
พูดจบ ฟ่ งอวีกุยก็แบมืออกอีกครัง เผยให้เห็นโอสถที
กลิงไปมาอยูบ่ นฝ่ ามือ

กลินหอมของโอสถอันรุนแรง ได้เข้าปกคลุมห้องโถงไว้
อีกครัง

การปรากฏของโอสถระดับสูงนี ทําให้คนจํานวนไม่นอ้ ย
ในทีนีต่างก็กลืนนําลายโดยไม่อาจจะห้ามใจได้

หากไม่ใช่เพราะพวกเขายังมีสติ คงจะไม่สามารถควบ
คุมตนเองไม่ให้พงุ่ ออกไปแย่งได้ !

37
“เจ้า พูดให้ชดั เจนนะ โอสถนีจูลได้
ี ซือมาจากเจ้าอย่าง
นันหรือ” ฟ่ งอวีกุยเชิดหน้าใส่มชู่ ิงเกอ ท่าทางเย็นชา

ราวกับว่า หากมูช่ ิงเกอไม่มีหลักฐาน ก็จะสังหารนางทิง


เสียตรงนี !

และแน่นอนว่า ในขณะทีมูช่ ิงเกอยังไม่ทนั ได้ตอบ เขาก็


ยิมอย่างเย็นเยียบอีกครัง : “หากเจ้าไม่มีหลักฐาน โทษ
ทัณฑ์จากการดูหมินองค์ชายนัน เจ้าไม่อาจจะรอดพ้น
ได้เป็ นแน่ ! ด้วยกฎของแคว้นลี คนธรรมดาริบงั อาจ
หมินหยามองค์ชาย ต้องถูกหันออกเป็ นสองท่อน ! และ
ประหารสามชัวโคตร !”

เว่ยหลินหลางแสดงความกลัวออกมาเล็กน้อย และมอง
38
มูช่ ิงเกอด้วยความเป็ นห่วง

เขาไม่ใช่ผทู้ ีมีความสามารถด้านการปรุงยา และไม่เคย


เห็นโอสถทีจูลซืี อจากมูช่ ิงเกอ จึงไม่สามารถแยกแยะได้

เว่ยฉีและเว่ยกว๋านกว่านเคยเห็น ทําให้เว่ยหลินหลางม
องลูกทังสองทียืนอยูข่ า้ งๆ อย่างไม่รูต้ วั

แต่ทว่า เว่ยกว๋านกว่านจะสามารถแยกแยะความแตก
ต่างได้อย่างไร

ในสายตามองนาง โอสถทุกเม็ดในใต้หล้านีล้วนมี
ลักษณะเช่นเดียวกัน แม้วา่ นางจะเคยบอกว่าจะไปเรียน

39
การปรุงยาทีโรงโอสถ แต่ก็เพียงตามมูช่ ิงเกอไปก็เท่านัน

นางไม่ได้สงั เกตสายตาของท่านพ่อทีจับจ้องอยู่ เพียงแค่


มองโอสถนันแวบหนึง แล้วจึงเคลือนสายตาออกไปมอง
มูช่ ิงเกอด้วยความเป็ นกังวล นางเป็ นห่วงว่ามูช่ ิงเกอจะ
ไม่มีหลักฐานในการยืนยันทีมาของโอสถ แล้วก็ตอ้ งโทษ
ดูหมินองค์ชาย

แต่วา่ สถานการณ์ในตอนนีกลับทําให้เว่ยหลินหลางเข้า
ใจอะไรบางอย่างผิดไป ทําให้เขาคิดว่าโอสถทีอยูใ่ นมือ
ของฟ่ งอวีกุยนันไม่ใช่โอสถเม็ดทีทีมูช่ ิงเกอเอาไปประมูล

ทันใดนัน ในใจของเขาก็เกิดความหวาดกลัว และเริมหา


วิธีทีจะช่วยให้มชู่ ิงเกอสามารถพ้นจากอันตรายในครังนี
40
ท่าทางของพ่อลูกตระกูลเว่ย ทําให้ฟ่งอวีกุยผ่อนคลาย
ลง เขามองมูช่ ิงเกอ ด้วยสายตาทีแฝงรอยยิมได้ใจ :
“เป็ นอย่างไรล่ะ เจ้าจะยืนยันว่าโอสถเม็ดนีเป็ นของเจ้า
ได้อย่างไร”

มูช่ ิงเกอกลับส่ายหน้าด้วยรอยยิม และแก้ไขว่า : “องค์


ชายสามเข้าใจผิดแล้ว โอสถนีไม่ใช่ของข้า”

“ในทีสุดเจ้าก็ยอมรับแล้ว !” ฟ่ งอวีกุยตาเป็ นประกาย


พลันรูส้ กึ ตืนเต้นขึนมา

แต่เว่ยหลินหลางและพีน้องตระกูลเว่ยกลับรูส้ กึ ตืน

41
ตระหนกมากยิงขึน

มูช่ ิงเกอกลับพูดต่ออีกว่า : “ผิด” นางกวาดสายตามอง


โอสถเม็ดนัน พลันผุดรอยยิมและพูดอย่างเย็นชาว่า :
“โอสถเม็ดนีข้าได้ขายให้กบั จูลไปแล้
ี ว แน่นอนว่ามันไม่
ใช่ของข้าอีกต่อไป”

“หึ ! ข้าว่าแล้วเชียว นีคือโอสถทีจูลประมู


ี ลมาจากหอ
สรรพสิงเมืองจือ” เว่ยกว๋านกว่านปรบมือด้วยความ
ตืนเต้นในทันที

ในขณะนี เว่ยหลินหลางเองก็โล่งใจเช่นกัน

42
ในตอนนีเว่ยฉีได้เดินมายืนอยูข่ า้ งๆ ท่านพ่อ มองโอสถ
ทีอยูใ่ นมือของฟ่ งอวีกุย แล้วพูดกับเว่ยหลินหลางว่า :
“ท่านพ่อ วันนันคนทีอยูใ่ นเหตุการณ์นนมี
ั ไม่มาก โอสถ
นียังเป็ นโอสถทีท่านผูเ้ ฒ่าตานแห่งหอสรรพสิงทําการ
แลกเปลียนด้วยตนเอง คนอืนอาจจะไม่รูจ้ กั แต่ทา่ นผู้
เฒ่าตานต้องรูจ้ กั เป็ นแน่”

คําพูดของเขา ทําให้สายตาของฟ่ งอวีกุยแฝงไอสังหาร

ท่ามกลางรอยยิมของเขา มีความโหดเ**◌้ยมเพิมขึน
อีกหลายระดับ พลันกัดฟั นและพูดว่า : “โอสถนีถูก
ตัดสินเพียงลมปากของเจ้าอย่างนันหรือ ท่านผูเ้ ฒ่าตาน
อะไรกัน อาจจะเป็ นพวกเดียวกับพวกเจ้าตังแต่แรก ได้
ยินมาว่า คุณชายมูท่ า่ นนีสนิทสนมกับประมุขหอสรรพ
43
สิงเป็ นอย่างมากนี !”

ฟ่ งอวีกุยยังคงดินรน ทําให้รอยยิมบนใบหน้าของมูช่ ิงเก


อยิงชัดเจนมากกว่าเดิม

44
ตอนที 109-4 ฟ่ งอวีกุยแย่แล้ว !

อืม นางชอบคนทีดือดึงจนถึงวินาทีสดุ ท้าย


เช่นนี !

ไม่ได้สนใจฟ่ งอวีกุย มูช่ ิงเกอมองเว่ยหลิน

45
หลาง พร้อมพูดอย่างแนบนิงว่า : “พีเว่ย ท่านรูห้ รือไม่
ว่า ข้ามีความเคยชินหนึงในการปรุงยา นันคือมักจะ
สลักสัญลักษณ์เล็กๆ เอาไว้ในผลงานเพือไม่ให้มีผใู้ ดทํา
การเลียนแบบ อีกทังสัญลักษณ์นนก็
ั เล็กนัก เพราะข้า
ได้สลักอย่างละเอียด จนคนรอบข้างยากจะตรวจพบ
ได้ ”

ทันทีทีสินเสียงนี ในขณะทีเว่ยหลินหลางยัง
ไม่ได้สติ ฟ่ งอวีกุยก็รบี ก้มลงมองโอสถทีอยูบ่ นฝ่ ามือของ
ตนเองราวกับกําลังจะตรวจสอบว่าสิงทีมูช่ ิงเกอพูดนัน
เป็ นจริงหรือไม่

ท่าทางเช่นนี ราวกับเป็ นการอธิบาย


ทุกอย่างแล้ว

46
หากเขาเป็ นคนปรุงโอสถนี แล้วเหตุใดจึงได้
มีปฎิกิรยิ าทีรุนแรงเช่นนี

ทันใดนัน ทุกคนจึงได้กระจ่างในทันที

มูช่ ิงเกอยิม หลังพลิกมือ บนฝ่ ามือของนาง


ก็มีโอสถทีมีลกั ษณะคล้ายกับโอสถในมือของฟ่ งอวีกุย
ปรากฏขึนอีกเม็ดหนึง ทันทีทีโอสถนันปรากฏขึน กลิน
หอมภายในห้องโถงก็มากขึนกว่าเดิม

อีกประการหนึง กลินหอมของโอสถนี หาก


ไม่ได้มีปัญหาด้านการรับกลิน ต่างก็สามารถแยกแยะได้
ว่าเป็ นกลินหอมชนิดเดียวกัน อีกทังถือเป็ นการ
47
บ่งบอกว่าใช้วตั ถุดิบชนิดเดียวกัน

ภาพนี ทําให้ฟ่งอวีกุยตกใจเป็ นอย่างมาก

ให้ตาย เขาเองก็คิดไม่ถงึ ว่า มูช่ ิงเกอยังมี


โอสถชนิดนีในครอบครอง ! จูลบอกว่
ี า ‘โอสถนีมีเพียง
เม็ดเดียวบนโลกมิใช่หรือ!’ความแค้นปะทุขนในใจของ

ฟ่ งอวีกุย แต่ในขณะนี เขาจําเป็ นต้องรีบหาทางออก

ตอนนี มูช่ ิงเกอกลับยืนโอสถในมือให้กบั


เว่ยหลินหลาง

อีกฝ่ ายรับและมองนางด้วยความแปลกใจ

48
มูช่ ิงเกอพูดอย่างเบิกบานว่า : “พีเว่ยเป็ น
คนยุติธรรม ข้าเชือในตัวท่าน นีเป็ นโอสถเก้าชีวิตหวน
คืนทีข้าได้ปรุงขึนเองกับมือ หากไม่เชือ ท่านลองเอาไป
เทียบกับโอสถในมือขององค์ชายสาม ก็จะพบ
สัญลักษณ์ทีเหมือนกัน”

เว่ยหลินหลางพยักหน้าแล้วมองฟ่ งอวีกุย

แต่ทว่า เขายังไม่ทนั ได้พดู อะไร ฟ่ งอวีกุยก็


รีบเก็บมือ และอุทานอย่างเย็นเยียบว่า : “ข้าอุตส่าห์
เอาโอสถมาให้ หากท่านเจ้าเมืองไม่ตอ้ งการก็ช่างมัน
เถิด”

49
พูดจบ เขาก็หนั หลังและเดินจากไปพร้อม
ฝี เท้าทีเร่งรีบจนยากจะอธิบาย

“นี ! องค์ชายสาม พระองค์ทรงตรัสว่าคืนนี


จะพักทีจวนกระหม่อมมิใช่หรือ” ทางด้านหลัง มีเว่ยฉี
ยืนคอออกมาตะโกน

ทันทีทีเขาพูดจบ ความเร็วทีฟ่ งอวีกุยเดิน


ออกไปก็ดเู หมือนจะมากขึนกว่าเดิม

ครูห่ นึง บริเวณประตูก็มีข่าวมารายงานว่า


ฟ่ งอวีกุยได้นาํ กําลังคนของตนเองออกจากจวนไปอย่าง
เร่งรีบแล้ว

50
หลังจากทีได้ข่าวเช่นนี เว่ยหลินหลางก็โล่ง
ใจ และยืนโอสถในมือให้แก่มชู่ ิงเกอ พลางพูดพร้อม
รอยยิมว่า : “น้องมูช่ ่างกล้าหาญยิงนัก ! พีเลือมใส
จริงๆ !”

ยืนอยูบ่ นผืนแผ่นดินแคว้นลี ยังกล้าทีจะขัด


แย้งกับองค์ชายแห่งแคว้นลี หากไม่เรียกว่าใจกล้า
แล้วจะเรียกว่าอะไร

มูช่ ิงเกอผลักโอสถกลับไป แล้วพูดว่า : “โอสถนี


ถือเป็ นของขวัญทีข้ามอบให้แก่ทา่ นพีเว่ย หากพีเว่ยไม่
รังเกียจก็โปรดรับเอาไว้”

51
ยกโอสถระดับสูงให้กบั คนอืนโดยง่ายเช่นนี
ใจกว้างเช่นนี ทําให้เว่ยหลินหลางตกตะลึงอยูก่ บั ที

“ท่านพ่อ มูเ่ กอนานๆ จะใจกว้างเช่นนียังไม่


รีบรับไว้อีก!” เว่ยกว๋านกว่านมองเว่ยหลินหลางเพือส่ง
สัญญาณ

มูช่ ิงเกอได้ยินคําพูดของนางก็รูส้ กึ หัวเราะ


ไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ เหตุใดจึงได้พดู ราวกับว่านางเป็ นคน
ตระหนีมากเช่นนัน

ด้วยการคะยันคะยอของเว่ยกว๋านหว่าน
เว่ยหลินหลางก็รบั โอสถไว้อย่างงงๆ ยังไม่ทนั ได้แสดง
การขอบคุณกับความใจกว้างของมูช่ ิงเกอ ก็ได้ยินเสียง
52
แสดงความชืนชมจากเว่ยฉี : “หึ องค์ชายสาม
แล้วอย่างไร โชคดีทีมูช่ ิงเกอได้สลักสัญลักษณ์เอาไว้บน
ยา แม้นจะใหญ่โตมีอาํ นาจเพียงใดก็ไม่อาจจะปฏิเสธ
ได้”

ในห้องโถง ผูค้ นทีอยูใ่ นจวนตระกูลเว่ย


ต่างก็พยักหน้าชืนชมความละเอียดอ่อนของมูช่ ิงเกอ

เพียงแต่วา่ บนใบหน้าขององครักษ์เขียว
มังกรและโย่วเหอ ฮวาเยวียกลับเต็มไปด้วยสีหน้าแปลก
ประหลาด

มูช่ ิงเกอเอามือลูบจมูกและพูดอย่างขัดเขิน

53
ว่า : “ข้าโกหกน่ะ”

“โกหก? หา เช่นนัน….ท่านหลอกเขาอย่าง
นันหรือ ?!” เว่ยฉีกระจ่าง ตกใจจนลินพันกัน

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปากพลางอธิบายว่า :
“ข้าไม่ใช่เทพเซียน จะรูไ้ ด้อย่างไรว่าจะเจอกับเรืองเช่น
นี ข้าเพียงแค่ลวงเขา แต่เพราะเขาเองทีร้อนตัว เลยหนี
ไปโดยไม่กล้าพิสจู น์”

ทุกคนต่างตกใจ

พวกเขาขอแก้ความรูส้ กึ ชืนชมเมือครูน่ ี คุณ

54
ชายท่านนี ไม่เพียงแค่ละเอียดรอบคอบ แต่ยงั ใจกล้า
อย่างทีสุดด้วย !

เว่ยหลินหลางสูดหายใจเข้าลึกๆ พลัน
ประสานหมัดและพูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “น้องมูช่ ่างเป็ นผู้
ทีกล้าหาญยิงนัก.....” เว่ยหลินหลางหยุดไปครูห่ นึง
แล้วสุดท้ายก็ฝืนยิมแล้วพูดว่า : “ช่างสมคํารําลือ
จริงๆ !”

คุณชายตระกูลมูแ่ ห่งแคว้นฉิน หากไม่ขวัญ


กล้าเทียมฟ้า แล้วจะสามารถกวาดล้างราชวงศ์และ
สังหารจนแคว้นถูตอ้ งหวาดผวาได้อย่างไร

มูช่ ิงเกอยิมอย่างอายๆ พลันสะบัดมือและ


55
พูดว่า : “เพียงแต่วา่ เรืองในวันนีได้เตือนข้าว่า ข้าควร
จะทําสัญลักษณ์เพือป้องกันการเลียนแบบเสียแล้ว
จริงๆ”

“มูเ่ กอช่างเก่งกาจทีสุด !” ในสายตาทีส่อง


ประกายของเว่ยกว๋านกว่านราวกับมีดวงดาวผุดออกมา

เว่ยหลินหลางดีดลงตรงศีรษะของเว่ยกว๋า
นกว่านทีหนึง พลันจ้องลูกสาวและเตือนว่า : “มูเ่ ก
ออะไรกัน ให้เรียกว่าท่านอามู่ ไม่รูจ้ กั เด็กรูจ้ กั ผูใ้ หญ่!”

“……” มูช่ ิงเกอ

56
“……” เว่ยฉี

“……” เว่ยกว๋านกว่าน

“……” ทุกคนทีอยูใ่ นจวนตระกูลเว่ย

เว่ยหลินหลางเก็บโอสถทีอยูใ่ นมืออย่าง
ระมัดระวัง ไม่ทนั ได้เห็นว่าเพราะคําพูดของเขา ทําให้มู่
ชิงเกอหน้านิวไป

งานเลียงในจวนตระกูลมูว่ นั นี ไม่ได้รบั ผล
กระทบประการใดจากการปรากฏตัวและการจากไปของ
ฟ่ งอวีกุย

57
ในทางกลับกัน ในช่วงท้าย บรรยากาศใน
งานเลียงกลับคึกคักเป็ นอย่างมาก

ผูค้ นในจวนตระกูลเว่ยต่างก็ชนแก้วกับมูช่ ิง
เกอ ทีแสดงตัวว่าไม่เมาไม่กลับอย่างไม่ขาดสาย

ดืมจนถึงกลางดึก ในห้องโถงก็มีผคู้ นนอน


ระเนระนาดอยู่ สายตาของมูช่ ิงเกอเองก็เริมพร่ามัว
แก้มแดงกํา เว่ยหลินหลางสะบัดแขนเสือเพือเป็ นการ
ประกาศว่างานเลียงได้จบลง

โย่วเหอและฮวาเยวียต่างเดินเข้าไปพยุงมูช่ ิงเกอ เดินมุง่

58
เข้าไปภายในเรือนซึงเป็ นทีพักของนาง

ทันทีทีเข้าไปภายในเรือน มูช่ ิงเกอก็ผลักสาวใช้ทงั


สองออก เดินตุปัดตุเป๋ พุง่ ไปทางห้องของตนเอง

โย่วเหอและฮวาเยวียรีบตามไป ฮวาเยวียยังพูด
อย่างร้อนใจว่า : “คุณชายนีนะ เหตุใดจึงได้ดืมเหล้า
กับผูช้ ายหยาบๆ เหล่านันอย่างไม่รูจ้ กั ปฏิเสธ”

“ข้าไม่เมา แค่รูส้ กึ เวียนหัว” ด้านหน้า มีเสียงอ้อแอ้แก้


ตัวของมูช่ ิงเกอดังลอยมา

59
ตอนที 109-5 ฟ่ งอวีกุยแย่แล้ว !

60
โย่วเหอส่ายหน้าอย่างจนใจ สบตากับฮวาเยวียครูห่ นึง
แล้วรีบตามขึนไปคว้ามือสองข้างของมูช่ ิงเกอไว้ เพือไม่
ให้นางชนเสาทีอยูต่ รงหน้า

“คุณชายท่านเป็ นคนซือตรงเช่นนีตังแต่เมือไหร่กนั ? ถึง


ได้ดืมเหล้ากับพวกเขาอย่างเอาเป็ นเอาตายเช่นนี ยาแก้
เมาทีเตรียมเอาไว้ก็ไม่ได้ดืม” โย่วเหอพยุงร่างของมูช่ ิงเก
อทีโอนเอนไปมาเอาไว้อย่างดี นําเสียงฉายแววโกรธ
เคือง

“วันนีข้ามีความสุข !” มูช่ ิงเกอยกมือขึน พลันสะบัดไป


61
มาและพูดเสียงดังลัน

ในคําคืนนี ความจริงใจของผูค้ นในจวนตระกูลเว่ย ทํา


ให้นางหวนคิดถึงช่วงเวลาทีดืมกับเพือนร่วมรบเมือชาติ
ทีแล้ว ความรูส้ กึ ผ่อนคลายเช่นนัน ผูท้ ีไม่เคยสัมผัสแน่
นอนว่าจะไม่มีวนั เข้าใจ

ไม่ใช่วา่ กับกองทหารเขียวมังกร นางจะไม่มีความรูส้ กึ


เช่นนี

เพียงแต่วา่ ระหว่างนางกับกองทหารเขียวมังกร ยังมี


ช่องว่างระหว่างชนชัน แม้จะมองข้ามเรืองของฐานะ แต่
ก็ไม่อาจจะสามารถนังดืมนังกินด้วยกันอย่างครึกครืน
เฉกเช่นนี
62
ส่วนผูค้ นในจวนตระกูลเว่ยเอง เป็ นเพราะเว่ยหลินหลา
ง จึงทําให้พวกเขาเป็ นคนทีมีความจริงใจอย่างมาก ไร้
การเสแสร้ง และอาจเพราะไม่รูฐ้ านะทีแท้จริงของนาง รู ้
เพียงแค่วา่ นางเป็ นน้องชายของเจ้านาย การดืมจึงเป็ น
ไปอย่างผ่อนคลาย

เพราะฉะนัน คืนนีนางจึงปล่อยตัวและไม่ดืมยาแก้เมาที
ได้ตระเตรียมเอาไว้ในตอนแรก

ผูค้ นในจวนตระกูลเว่ยทีมิได้คอแข็งมากนัก รวมทังเว่ย


หลินหลาง สุดท้ายยังสามารถลุกขึนยืนได้ ถือว่าไม่
ธรรมดา !

63
ทังสามคนเดินโซซัดโซเซเข้าไปในห้อง มูช่ ิงเกอผลักตัว
สาวใช้ทงสองออกอี
ั กครัง แล้วเดินตรงไปยังเตียงนอน

ทันทีทีสัมผัสกับขอบเตียง ใบหน้าทีสะลึมสะลือของนาง
ก็เผยรอยยิมพออกพอใจ ล้มตัวลงนอนบนเตียง หลับ
ตาและกางแขนขาออกอย่างผ่อนคลาย

โย่วเหอและฮวาเยวียเดินมาหยุดอยูข่ า้ งเตียง ต่างจ้อง


มองมูช่ ิงเกอในตอนนีทีกําลังหายใจเข้าออกอย่างแรง
เป็ นจังหวะอย่างจนใจครูห่ นึง จึงได้ลงมือคลายปมเสือ
ผ้าทีรัดแนบกายนางออก เพือให้นางได้นอนอย่างสบาย

ถอดเสือตัวยาวตัวนอกออก เหลือเพียงแค่เสือตัวข้างใน
หลังจากทีใช้ผา้ ชุบนําเช็ดตัวให้นางเสร็จ โย่วเหอและ
64
ฮวาเยวียจึงได้ออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

ภายในห้องนอน ได้แปรเปลียนเป็ นมืดสนิทในทันที

บนเตียงใหญ่ เงาร่างทีดูเลือนราง ส่งเสียงหายใจเป็ น


จังหวะสมําเสมอ

พักใหญ่ สายลมปริศนาสายหนึงได้พดั ผ่านมาทําให้


ประตูทีปิ ดสนิทค่อยๆ เปิ ดออก เพียงแต่วา่ เพียงครู ่
เดียว ประตูก็ได้ปิดลง ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึน

สิงทีแตกต่าง คือใต้ความมืดได้มีเงาร่างสูงโปร่งเงาหนึง
ท่ามกลางอากาศเต็มเปี ยมไปด้วยกลินหอมของดอกไม้

65
เงาสีดาํ ค่อยๆ เคลือนตัวไปใกล้คนทีนอนอยูบ่ นเตียง
อย่างเงียบๆ ในดวงตาดวงเรียวยาวทีสาดฉายแสงสี
นําเงิน มีเงาของผูท้ ีในขณะนีกําลังหลับลึกสะท้อนอยู่

เค้าโครงทีงดงามอย่างมิอาจจะเปรียบได้ ใบหน้า
ละเอียดประณีต เมืออยูใ่ นยามคําคืนราวกับแฝงความ
ละมุนบางอย่างเอาไว้

ผิวทีขาวบริสทุ ธิ แดงกําเพราะฤทธิจากเหล้าดูน่าเย้า
ยวนและสะกดวิญญาณ ทําให้ผทู้ ีหลบอยูใ่ นความมืด
แทบจะอดไม่ได้ทีจะยืนมือออกไปสัมผัสและหอมให้ชืน
ใจ

66
เขาคิดเช่นนี และกําลังจะทําเช่นนัน

นิวมืออันเรียวยาว ค่อยๆ ยืนออกมาจาก


เขนเสือกว้าง เมืออยูใ่ นความมืดมือนันกลับดูขาวราว
กับหยก

ในขณะทีปลายนิวของเขากําลังจะสัมผัสกับผิว
กายของมูช่ ิงเกอ ผูท้ ีหลับลึกอยูใ่ นตอนแรก กลับลืมตา
ตืนขึนมาอย่างกะทันหัน ในแววตาอันสว่างไสว เต็ม
เปี ยมไปด้วยความแจ่มใสไหนเลยจะยังเหลือความมึน
เมาอยูอ่ ีก?

ราวกับว่า ผูท้ ีเมาเพราะเหล้าก่อนหน้านี ไม่ใช่นาง

67
นางจับจ้องร่างของคนทียืนอยูท่ า่ มกลางความมืด กวาด
สายตาผ่านนิวเรียวยาวทีอยูใ่ นระยะประชิด พลันเผย
รอยยิมเย็นเยียบ : “หายฉายไฉ่เจ้ารูห้ รือไม่ ว่าการ
ทําลายฝันดีของคนอืนนันเป็ นการกระทําเช่นใด”

ฐานะทีแท้จริงของผูท้ ีอยูใ่ นความมืดได้ถกู เปิ ดเผยเพราะ


คําขานเรียกของนาง มือทีขาวละเอียดลออค่อยๆ เก็บ
กลับไปอย่างไม่รูส้ กึ ขัดเขินเลยแม้แต่นอ้ ย

มูช่ ิงเกอลุกขึนนังบนเตียงและเพียงกระดิกนิวอย่างแผ่ว
เบา เทียนในห้องก็ถกู จุดจนสว่างในทันที

แสงเทียนประกายส้ม ทําลายความมืดในห้องลง ใน
68
ขณะเดียวกันก็สาดแสงสว่างจนสามารถมองเห็นรูป
ลักษณ์ของผูม้ าเยือนอย่างชัดเจน

ดวงตาหงส์เรียวยาวหางตาตวัดคม งดงามดังภาพวาด
ใบหน้างดงามสะกดจิตวิญญาณ ชุดลายดอกไม้สีสนั ฉูด
ฉาดทีสวมอยูบ่ นร่างกาย ทําให้เขาราวกับเป็ นดังราชา
แห่งบุปผา

ในตอนนีมูช่ ิงเกออยูใ่ นเสือบางเพียงตัวเดียว รวมทังมี


เครืองมือมายาคอยช่วย จึงไม่ตอ้ งเป็ นห่วงว่าตนเองจะ
ต้องเสียเปรียบ

แต่ทว่า กูหยาทีคอยคุม้ กันอยูใ่ นทีมืดกลับร้อนใจจน


ขมวดคิว
69
ฉากตรงหน้านี หากเจ้านายจอมตระหนีผูน้ นรู
ั เ้ ข้า อาจ
เป็ นตัวเขาเองทีโดนแล่เนือออกเป็ นชินๆ ก่อนเป็ นคน
แรก !

แต่วา่ เขากลับไม่มีสทิ ธิทีจะออกไปห้ามทังสอง

เพราะเหตุใดน่ะหรือ เพราะยังไม่มีฐานะทีชัดเจนอย่าง
ไรล่ะ !

ท่านประมุขผูเ้ ชืองช้าในเรืองความรักผูน้ นั เขาไปนานถึง


เพียงนี ไม่รูว้ า่ จะรูใ้ จตนเองได้หรือยัง

70
คุณชายทีอยูใ่ นห้องผูน้ นั ก็ทาํ ท่าทางราวกับไม่ได้รูส้ กึ
ตัวเลยแม้แต่นอ้ ย !

ช่างสร้างความร้อนรนใจให้เขายิงนัก !

ฮือๆๆ เขาช่างเป็ นข้ารับใช้ทีมีชะตารันทดเสียจริง ! ไม่


เพียงต้องคุม้ กันความปลอดภัยให้กบั เจ้านายของตนเอง
แต่ยงั ต้องคอยจัดการความรูส้ กึ ให้กบั ผูเ้ ป็ นนายด้วย

มูช่ ิงเกอไม่ได้รบั รูเ้ ลยว่า กูหยาทีหลบอยูใ่ นทีมืดกําลัง


โศกเศร้าเพียงใด นางเพียงแค่จบั จ้องหานฉายไฉ่อย่าง
ระวังตัว และอยากจะรูถ้ งึ เหตุผลการมาเยือนของเขา

71
จะมาซักถามนางเกียวกับเรืองทีหอสรรพสิงโดนปล้น
อย่างนันหรือ

หรือมีเบาะแสของพญาเพลิง ?!

ทันทีทีคิดถึงเหตุผลประการหลัง ในสายตาอันสว่างไสว
ของมูช่ ิงเกอก็เป็ นประกาย และถามอย่างตรงไปตรงมา
ว่า : “มีเบาะแสของพญาเพลิงหรือไม่”

ริมฝี ปากแดงกําของหานฉายไฉ่กระตุกขึนเป็ นเส้นโค้ง


นําเสียงแฝงความเกียจคร้านพูดขึนว่า : “หากอยากจะ
ได้เบาะแสของพญาเพลิง พรุง่ นีเทียงให้ไปรอข้าทีชาย
แดนทิศเหนือของเมืองถัว”

72
มูช่ ิงเกอขมวดคิว และถามว่า : “เหตุผล”

“เพราะ ข้าจะพาเจ้าไปหาพญาเพลิงด้วยตนเอง” หาน


ฉายไฉ่ยมอย่
ิ างแนบนิง ในดวงตาเรียวกลับฉายรังสี
อันตรายบางอย่าง

มูช่ ิงเกอหรีตาลง พลันปฏิเสธว่า : “มิตอ้ งรบกวนท่าน


ประมุขหานหรอก เพียงแค่บอกเบาะแสของพญาเพลิง
แก่ขา้ ก็เพียงพอแล้ว จริงสิ ขอถามหน่อยว่า พญาเพลิง
ทีท่านพบนันเป็ นพญาเพลิงประเภทใด” หากมิใช่ หนึง
ในสองประเภททีนางต้องการ นางจะได้ไม่ตอ้ งสิน
เปลืองกําลัง

73
“ตําแหน่งของพญาเพลิงนัน ข้ามิอาจจะบอกได้ แต่
สามารถนําทางได้ จะไปหรือไม่ก็ขนอยู
ึ ก่ บั เจ้า ส่วน
พญาเพลิงนันมีความเป็ นไปได้สงู ว่าจะเป็ นพญาเพลิง
เมฆสุรยิ า” ท่าทางของหานฉายไฉ่แข็งกระด้างเป็ นอย่าง
มาก

“พญาเพลิงเมฆสุรยิ าอย่างนันหรือ” มูช่ ิงเกอก้มหน้าลง


พึมพํา จากพญาเพลิงทีบันทึกอยูใ่ นตําราม้วนของหาน
ฉายไฉ่ เป็ นพญาเพลิงระดับ 5 เป็ นธาตุไฟ และที
สําคัญคือตรงตามความต้องการของนาง

ดูเหมือนว่า การเดินทางไปยังโรงโอสถจะต้องถูกเลือน
ออกไปอีกหน

74
เพียงครูเ่ ดียว มูช่ ิงเกอก็ตดั สินใจได้

เพียงแต่วา่ ในขณะทีนางเงยหน้าขึนและเตรียมจะตอบ
หานฉายไฉ่กลับหายออกไปจากห้องแล้ว

ภายในห้องทีในขณะนียังหลงเหลือกลินหอมของดอกไม้
ถูกทิงท้ายเอาไว้เพียงประโยคง่ายๆ เพียงประโยค
เดียว : “โอกาสมีเพียงครังเดียว ข้าเพียงมาตาม
สัญญา”

“เจ้าหานฉายไฉ่นนคิ
ั ดจะทําการใดกันแน่” สายลมใน
ยามคําคืนทีพัดผ่าน เพิมความเย็นมากขึนหลายระดับ
มูช่ ิงเกอมองประตูหอ้ งทีถูกปิ ดอยูพ่ ลางพึมพํา

75
แต่นางรูด้ ีวา่ ไม่วา่ หานฉายไฉ่คิดจะทําการใด การนัด
หมายในครานี นางจะต้องไปแน่นอน !

เบาะแสของพญาเพลิงไม่ได้ได้มาโดยง่าย หากพลาดใน
ครานี ก็ไม่อาจรูไ้ ด้วา่ ต้องรออีกนานเพียงใด เป้าหมาย
ของนาง ไม่ใช่เพียงแค่หลินชวน หากนางอยากจะออก
จากหลินชวน เพือไขความลับทังปวง ก็ตอ้ งทําให้ตนเอง
เก่งกาจมากขึน เพราะฉะนัน สายโลหิตแห่งปรมาจารย์
การหลอมอาวุธจะต้องถูกกระตุน้ !

สายตาของมูช่ ิงเกอฉายความมุง่ มัน ครูห่ นึง นัยน์ตาก็


ได้กลับสูค่ วามแนบนิงอีกหน

76
นอนลงอีกครัง มูช่ ิงเกอก็ได้กลับเข้าสูฝ่ ันดีของตนเอง

พรุง่ นีต้องไปลาเว่ยหลินหลางแต่เช้า แล้วค่อยไปหาหาน


ฉายไฉ่......

วันต่อมา

มูช่ ิงเกอลุกจากเตียงตังแต่เช้าตรู ่

หลังจากทีเก็บสัมภาระจนเรียบร้อยแล้ว ก็สงให้
ั มวหยาง

และคนอืนๆ ไปเตรียมตัวเพือออกเดินทาง และนางก็ไป
พบเว่ยหลินหลาง เพือบอกว่าตนเองจะต้องไปแล้ว

77
เมือคืนทีผ่านมา นางยังคงจําได้รางๆ ว่า ในตอนทีนัง
ดืมเหล้า เว่ยหลินหลางได้พดู กับนางอย่างจนใจว่า หาก
พีน้องตระกูลเว่ยจะไปเรียนรูท้ กั ษะทีโรงโอสถจริงๆ เพือ
ความปลอดภัยของพีน้องบ้าๆ บอๆ คูน่ ี เว่ยหลินหลา
งจึงได้ฝากพวกเขาไว้ให้กบั “ท่านอา” อย่างนางดูแล

ในตอนนี นางกลับจําเป็ นต้องจากไปก่อน ดูเหมือนว่าพี


น้องตระกูลเว่ยจะต้องเดินทางไปยังโรงโอสถด้วยตนเอง
แล้ว !

หลังจากทีได้พบกับเว่ยหลินหลางอย่างไม่มีอปุ สรรคอัน
ใด และบอกจุดประสงค์ทีมาพบ เว่ยหลินหลางก็มิได้รงั
แต่อย่างไร เพียงแต่วา่ ได้พามูช่ ิงเกอไปพบกับฮูหยินของ
ตนเองก่อนทีจะจากไป

78
อาการของเว่ยฮูหยินดีขนอย่
ึ างเห็นได้ชดั เพียงแค่ยงั ไม่
สามารถเคลือนไหวได้ตามดังใจต้องการก็เท่านัน

เมือได้พบกับผูม้ ีพระคุณอย่างมูช่ ิงเกอ นางก็ตืนเต้นเป็ น


อย่างมาก และหลังจากทีแสดงความขอบคุณอย่างจริง
ใจเสร็จเรียบร้อยแล้ว มูช่ ิงเกอจึงออกจากเรือนเล็กอัน
เงียบสงบนันไป

หลังจากทีรวมตัวกับพวกของมัวหยาง เว่ยหลินหลางเอง
ก็มาส่งด้วยตนเอง พวกเขาก็ได้ออกจากจวนตระกูลเว่ย
และมุง่ ไปสูป่ ระตูเมืองทางทิศเหนือ

สําหรับสองพีน้องตระกูลเว่ย จากคําพูดของเว่ยหลิน
79
หลาง เพือป้องกันปั ญหาทีอาจจะเกิด อย่ากล่าวคํา
อําลาต่อหน้าพวกเขาจะดีกว่า

สําหรับเรืองนี แน่นอนว่ามูช่ ิงเกอไม่ได้สงสัยแต่อย่างไร

หลังจากออกจากประตูเมือง มูช่ ิงเกอก็ได้ราลาเว่


ํ ยหลิน
หลาง แล้วจึงพาองครักษ์เขียวมังกร และสาวใช้ทงสอง

มุง่ ไปยังชายแดนทิศเหนือ

นางอยากจะรูว้ า่ ในครานีหานฉายไฉ่มีแผนการอันใด
อีก !

80
ตอนที 110-1 มูช่ ิงเกอเจ้ามียางอายหรือไม่

นัดพบกัน ณ เมืองถัวในช่วงบ่าย มูช่ ิงเกอได้มารอ


ตังแต่เทียงตรง แต่ก็ยงั คงไม่พบใคร

นางนังอยูบ่ นเพลิงรัตติกาล รอยยิมตรงมุมปากของมูช่ ิง


เกอยิงชัดเจนมากขึนทุกที

แต่ทว่า คนทีคุน้ เคยกับนางย่อมรูด้ ีวา่ หากนางเผยรอย


ยิมเช่นนี แสดงว่าความโกรธในใจของนางนันมากอย่าง
ถึงทีสุดแล้ว

มองเห็นมูช่ ิงเกอในท่าทางเช่นนี ไม่วา่ จะไกลมากเพียง

1
ใด ก็ตอ้ งไปให้ถงึ ทีสุด นีเป็ นสิงทีองครักษ์เขียวมังกร
สัมผัสด้วยตนเองมาแล้ว ! และก็เป็ นอย่างทีกล่าวมา
นอกจากมัวหยางและสาวใช้ทงสอง
ั องครักษ์เขียวมังกร
คนอืนๆ ต่างก็ยืนอยูใ่ นบริเวณอันห่างไกล ไม่กล้าจะ
ย่างกรายเข้าใกล้

สายลมพัดผ่านทําให้ใบไม้ไม่รูเ้ ท่าไหร่ตอ่ เท่าไหร่รว่ ง


หล่นลงมา และแทบจะปลิวมาติดเสือของมูช่ ิงเกอ

ทันใดนัน เสียงคํารามอันกึกก้องก็ได้ดงั ขึน

เพลิงรัตติกาลเงยหน้าขึน บนร่างกายมีเปลวเพลิงสีดาํ
เกิดขึน จากนันก็เผาใบไม้ทีร่วงหล่นลงมาจนหมดสิน

2
ฉากนี ทําให้องครักษ์เขียวมังกร ถอยไปข้างหลังอีกสอง
ก้าว และพยายามจะลดความมีตวั ตนของตนเองลง

ในบริเวณอันห่างออกไป ในทีสุดก็มีเสียงล้อรถม้าดังขึน

มูช่ ิงเกอค่อยๆ เงยสายตาขึน มองไปยังรถม้าทีแลดูแสน


จะเรียบง่ายธรรมดา แต่ทว่าความจริงสุดแสนจะ
อลังการหลังหนึงทีค่อยๆ ใกล้เข้ามาเรือยๆ ในแววตา
ฉายแสงประกายอันเย็นเยียบ

รถม้าเพิงจะเข้ามาใกล้ ภายในรถม้าทีถูก
ปิ ดสนิท ก็มีเสียงเกียจคร้านของหานฉายไฉ่ดงั ขึน :
“เมือคืนเข้านอนดึก วันนีจึงตืนสายไปเล็กน้อย ทําให้
3
มาสาย ต้องขอภัยด้วย”

คําพูดราวกับกําลังแสดงความขอโทษ แต่วา่ กลับไม่


แฝงความจริงใจอยูเ่ ลยแม้แต่นอ้ ย

มูช่ ิงเกอยิมอย่างเย็นชาทีหนึง พลันพูดอย่างแนบนิง


ว่า : “ไม่เป็ นไร ข้ารูว้ า่ ประมุขหานชมชอบทําตัวเป็ น
ขโมยในยามคําคืน หากจะตืนสายบ้างก็เป็ นเรือง
ธรรมดา”

บรรยากาศภายในรถม้าเย็นเยียบลง ครูห่ นึงจึงมีเสียง


อุทานอันแฝงความหยิงยโส ‘หึ’ ดังขึนมา

4
“ไม่อยากจะเถียงกับเจ้าแล้ว ออกเดินทางกันเถิด”
หานฉายไฉ่พดู ด้วยคําเสียงอันแฝงความเย็นเยียบ

ขบวนสองขบวนได้รวมตัวกัน และเดินทางเพือมุง่ ไปข้าง


หน้า

ในวันนี หานฉายไฉ่อยูแ่ ต่ในรถม้า มิได้ลงมา ความนิง


สงบเช่นนี ช่างไม่เหมือนกับอุปนิสยั ทีแท้จริงของเขา

แน่นอนว่า เมือหานฉายไฉ่ไม่ได้หาเรือง มูช่ ิงเกอก็ไม่


อยากจะสนใจเขา

อย่างไรเสีย พอเจอกับพญาเพลิงเมฆสุรยิ า ทุกคนต่างก็

5
ต้องแยกกัน ทางใครทางมัน

ในยามคําคืน กองทัพได้ตงค่
ั ายเพือเตรียมพักผ่อน

กองไฟลุกไหม้อยูข่ า้ งตัว มูช่ ิงเกอนังพิงอยูข่ า้ งต้นไม้


อย่างผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันก็เสพความสุขจาก
ฝี มือการนวดของฮวาเยวียและอาหารอันเลิศรสของโย่ว
เหอ

ครูห่ นึง เสียงฝี เท้าอันแผ่วเบาได้ดงั ขึน

เมือสัมผัสได้ถงึ เงาทีเข้ามาปกคลุม มูช่ ิงเกอก็คอ่ ยๆ ลืม


ตาขึน สบกับสายตาของหานฉายไฉ่ทีอยูใ่ นชุดดัง

6
‘ดอกไม้ทีผลิบาน’ แล้วค่อยๆ ขมวดคิวลง ท่ามกลาง
แสงไฟทีสะท้อนอยู่ ทําให้ใบหน้าของหานฉายไฉ่น่าเย้า
ยวนมากกว่าเคย ความร้ายกาจในตัวก็มากขึนกว่าเดิม

ไม่รอให้มชู่ ิงเกอออกปากเชิญ หานฉายไฉ่ก็


สะบัดแขนเสือ เพือส่งสัญญาณให้ลกู น้องเข้ามาปูผา้
ต่วนเนือดีลงบนพืน ตระเตรียมหมอนเอนใบนุ่ม โต๊ะ
และเหล้าพร้อมทังกระถางกํายานให้กบั เขา

มูช่ ิงเกอค่อยๆ กวาดสายตาผ่านผ้าอย่างไม่


ทิงร่องรอย.........

ลวดลายนกและดอกไม้ตา่ งๆ ถูกปั กด้วย


ด้ายสีทอง รอยเข็มนันแฝงความประณีตอย่างเป็ นทีสุด
7
ราวกับเป็ นฝี มือของหญิงสาวผูส้ งู ศักดิทีสุดในแคว้นลี
และเป็ นสิงทีมิวา่ ใครก็ไม่อาจจะมีในครอบครองได้ แต่
คนผูน้ ีกลับทําลายสิงทีฟ้าสรรสร้างนี โดยการเอามันมา
รองนังราวกับเป็ นผ้ากันเปื อน

ขมวดคิวเบาๆ ทีหนึง มูช่ ิงเกอเคลือนสายตาออก ในใจ


เกิดความเสียดาย หากรูว้ า่ หานฉายไฉ่มงมี
ั มากถึงเพียง
นี คืนทีไปทีคลังสมบัติของหอสรรพสิงทีเมืองฮ่วน นาง
ควรจะเอาของกลับมามากกว่านี

ในตอนนี ราวกับว่านางได้กระจ่างแล้วว่า เพราะเหตุใด


หลังจากทีหานฉายไฉ่เจอนางจึงไม่เอ่ยถึงเรืองทีหอสรรพ
สิงโดนปล้น

8
สําหรับเรืองนัน หากไม่ใช่คนโง่ ก็รูไ้ ด้ไม่ยากว่านางเป็ น
คนทํา เพราะว่า ของเหลวเย็นทีนางเคยสืบหาเบาะแส
คือหนึงในของทีหายไป รวมทังความขัดแย้งทีนางได้
สร้างเอาไว้กบั หานฉายไฉ่ ทําให้ไม่วา่ อย่างไรนางก็ตก
เป็ นผูต้ อ้ งสงสัยหมายเลขหนึง

เพราะฉะนัน หานฉายไฉ่ตอ้ งรูเ้ ป็ นแน่วา่ นางเป็ นคน


ทํา !

แต่ทว่า เขากลับไม่ได้พดู ถึง ราวกับว่าเรืองนีไม่เคยเกิด


ขึน ทีแท้ก็เพราะคนเขารํารวย จึงไม่ได้ใส่ใจของเพียง
เท่านัน

“คุณชายช่างเป็ นผูท้ ีรูจ้ กั เสพสุขยิงนัก” หานฉายไฉ่นงั


9
ลงบนพรมอย่างเกียจคร้าน กวาดสายตาผ่านฮวาเยวีย
และสุดท้ายก็หยุดสายตาทีมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก รอยยิมนันแฝงความคลุม


เครือ : “ก็มิได้ตา่ งกันหรอก”

สัมผัสได้ถงึ ความเย้ยหยันในรอยยิมของใครบางคน
หานฉายไฉ่เองก็ไม่ได้ใส่ใจ หยิบขวดเหล้าขึนมาดืมคํา
หนึง แล้วพูดกับฮวาเยวียและโย่วเหอว่า : “พวกเจ้าทัง
สองออกไปก่อน”

ทังสองมองหน้ากันอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้เคลือนตัวไปที
ใด

10
รอยยิมของมูช่ ิงเกอเบิกบานมากกว่าเดิม : “ประมุข
หานลืมไปแล้วหรือว่า ทังสองเป็ นสาวใช้ของข้า ไม่ใช่
คนในหอสรรพสิงของเจ้า”

“ถ้าเช่นนัน เจ้าก็ให้พวกนางออกไปสิ” หานฉายไฉ่พดู

มูช่ ิงเกอหรีตาทังสองข้างลงอย่างแฝงความอันตราย
แล้วจึงพูดพร้อมรอยยิมว่า : “ประมุขหานต่างหากที
เป็ นแขกผูม้ ิได้รบั เชิญ”

หานฉายไฉ่กลับไม่ได้รูส้ กึ รูส้ าอะไร ลดสายตาลงเล่นกา


เหล้าทีฝังไปด้วยเพชรเม็ดงามมากมาย พลางพูดอย่าง

11
เกียจคร้านว่า : “เรืองทีข้าจะพูดต่อไปนี เจ้าเองก็คงจะ
ไม่อยากให้บคุ คลทีสามได้ยิน”

สายตาของมูช่ ิงเกอเยือกเย็นลง ใบหน้าก็ฉายความเย็น


เยียบ

เจ้านี.......

“พวกเจ้าออกไปก่อนเถิด” สุดท้าย มูช่ ิงเกอก็ตอ้ งทํา


ตามทีเขาต้องการด้วยใบหน้าทีเย็นเยียบ

โย่วเหอและฮวาเยวียถอยออกไปอย่างเงียบๆ ข้างๆ
กองไฟทีอยูใ่ ต้ตน้ ไม้ เหลือพวกเขาทังสองเพียงลําพัง

12
มูช่ ิงเกอพิงต้นไม้เอาไว้ มองหานฉายไฉ่ดว้ ยสายตาที
เย็นเยียบ โดยไม่ได้พดู อะไร

ครูห่ นึง ใบหน้าอันงดงามของหานฉายไฉ่ก็เผยรอยยิม


และพูดว่า : “ในครานี เราร่วมมือกันดีหรือไม่”

“ร่วมมือกันอย่างนันหรือ” มูช่ ิงเกอหรีตาทังคูล่ ง คําพูด


ของหานฉายไฉ่ทาํ ให้นางรูส้ กึ ฉงน

หานฉายไฉ่พยักหน้าเบาๆ

วางกาเหล้าในมือลง นําเสียงอันแผ่วเบา

13
และแฝงความเกียจคร้านของเขาพูดขึนอีกครังว่า :
“เราทังสองต่างก็รูค้ วามลับของกันและกัน อีกทังต่างก็
คอยระแวงซึงกันและกัน หากเปลียนมาเป็ นร่วมมือกัน
คงจะดีเสียกว่า หากแยกกันต่างก็เสียเปรียบกันทังสอง
ฝ่ าย แต่หากร่วมมือกันก็มีแต่ได้กบั ได้ เหตุผลนี เจ้าเอง
ย่อมรูด้ ี”

“ร่วมมือกันอย่างไร” สายตาของมูช่ ิงเกอฉาย


แสงประกายจางๆ พลันถาม

หานฉายไฉ่เงยสายตาขึนมามองนาง : “ในตระกูลทีมี
สายโลหิตต่างก็มีวิธีการกระตุน้ เป็ นของตนเอง และถือ
ว่าเป็ นวิธีทีปลอดภัย การใช้พญาเพลิงในการกระตุน้
สายโลหิตนัน เป็ นการกระทําทีอันตราย และมีโอกาส
14
พลาดสูงมาก”

สําหรับเรืองนี เหมิงเหมิงได้เคยบอกกับนางแล้ว เพราะ


ฉะนันมูช่ ิงเกอไม่ได้รูส้ กึ แปลกใจแต่อย่างไร

นางไม่ได้พดู อะไร เพือรอคอยคําพูดต่อไปของหานฉาย


ไฉ่

15
ตอนที 110-2 มูช่ ิงเกอเจ้ามียางอายหรือไม่

“สายโลหิตของเจ้าเป็ นสายโลหิตอะไร แม้วา่ เจ้าจะไม่

16
ยอมบอกข้า ก็ไม่เป็ นอะไร แต่ขา้ คิดว่า สายโลหิตของ
เจ้าคงจะไม่สามารถเก็บพญาเพลิงเอาไว้เป็ นพลังของ
ตนเองได้” ในสายตาหงส์อนั เรียวยาวของหานฉายไฉ่
เกิดแสงประกาย แต่วา่ ไม่ยอมพลาดทุกอารมณ์และทุก
ท่าทางทีแสดงอยูบ่ นใบหน้าของมูช่ ิงเกอเลยแม้แต่เสียว
เดียว

แต่ทว่า สําหรับท่าทางของมูช่ ิงเกอนัน หลังจากทีเขาพูด


จบ ก็ยงั คงไม่มีความเปลียนแปลงอันใดเกิดขึนเลย

ราวกับว่า คําพูดของหานฉายไฉ่มิได้สง่ ผลกระทบต่อ


นางแม้แต่นอ้ ย

หานฉายไฉ่ทีผิดหวังเล็กน้อย หรีตาหงส์ลงและพูดต่อ
17
ว่า : “เจ้าไม่อาจจะทําได้ หากแต่ขา้ นันสามารถทําได้
พญาเพลิงนันหายาก พญาเพลิงเมฆสุรยิ านี ในตอน
แรกข้าเตรียมเอาไว้ให้กบั ตนเอง ทว่าในตอนนีในเมือ
เจ้าได้เข้ามาข้องเกียว ถ้าเช่นนันเราก็รว่ มมือกัน เพือลด
ความเสียงลง ข้าช่วยเจ้าใช้พญาเพลิงกระตุน้ สายโลหิต
เจ้าช่วยข้ากลืนกินพญาเพลิง !”

หลังจากทีพูดจบ สายตาของหานฉายไฉ่นยั น์ตาทีแน่ว


แน่นนั ทําให้มชู่ ิงเกอมองตาของเขา

ก่อนหน้านี นางก็รบั รูไ้ ด้แล้วว่า หานฉายไฉ่ตอ้ งมีจดุ มุง่


หมายเกียวกับพญาเพลิง

หากมิเช่นนัน ในหลินชวนแห่งนี ใครกันที


18
จะเสียเวลาศึกษา อีกทังยังค้นหาพญาเพลิงทีไม่
สามารถครอบครองได้นี

เหมิงเหมิงเองก็เคยบอกกับนางว่า สายโลหิตของหาน
ฉายไฉ่เป็ นธาตุไฟ สามารถสะสมพญาเพลิงเอาไว้เพือ
ใช้ในร่างกายได้ ไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าหานฉาย
ไฉ่ผหู้ า่ งจากสายม่วงเพียงเส้นบางๆ หากได้กลืนกิน
พญาเพลิงไปแล้ว ความสามารถในการต่อสูจ้ ะเป็ นทีน่า
ผวามากเพียงใด

แต่ทว่า ——

มูช่ ิงเกอค่อยๆ ก้มสายตาลง ขนตาอันยาวงอนบดบัง


ความรูส้ กึ ทีซ่อนอยูใ่ นสายตาของนาง
19
ความขัดแย้งระหว่างนางและหานฉายไฉ่ก็ไม่ได้ถือว่า
เป็ นเรืองใหญ่โตอันใด หากการร่วมมือในครานีสําเร็จ ก็
ไม่ได้เป็ นเรืองทีไม่ดีแต่อย่างไร เพียงแต่วา่ หานฉายไฉ่
นันเจ้าแผนการ จะเชือถือได้หรือ

หานฉายไฉ่ไม่ได้รบกวนการใช้ความคิดของมูช่ ิงเก
อ เมือเห็นว่ากองไฟทีไม่มีผใู้ ดสนใจแสดงท่าทีวา่ จะดับ
ลง เขาก็เทเหล้าในกาลงบนกองไฟ ทันใดนัน เปลว
เพลิงก็ลกุ โหมขึนฟ้า ส่องสว่างไปทัวทังขอบฟ้า

ส่วนมูช่ ิงเกอเองก็ได้ทีวิเคราะห์ไตร่ตรอง
เสร็จเรียบร้อยแล้ว ในตอนทีเปลวเพลิงลุกไหม้ นางมอง
หานฉายไฉ่ผา่ นเปลวเพลิง แสงจากเปลวเพลิงทําให้ใบ

20
หน้าของพวกเขาชัดเจนเป็ นครังครา

“ตกลง” สุดท้ายแล้วมูช่ ิงเกอก็ตกลงในข้อเสนอของหาน


ฉายไฉ่

สําหรับเรืองนี หานฉายไฉ่ไม่ได้แสดงความตืนเต้นออก
มามากนัก เพียงแค่ยกกาเหล้าขึนทีหนึงเพือแสดงความ
ยินดี พลันกระตุกริมฝี ปากแดงกําและพูดว่า : “เป็ น
อย่างทีคิดเอาไว้”

เจ้านีจะไม่พดู จากวนโมโหกันบ้างจะได้หรือไม่ !

มูช่ ิงเกออยากจะเป็ นบ้า

21
นางยอมรับว่าอุปนิสยั ของหานฉายไฉ่คล้ายคลึงกับนาง
แต่ทว่า อีกฝ่ ายเลวร้ายกว่า ! และไม่สามารถจะอยูร่ ว่ ม
กันโดยสันติได้

“อีกสองวัน ให้คนของเจ้าไปรอเจ้าทีเมืองอวี” หานฉาย


ไฉ่พดู โดยไม่ได้รบั รูถ้ งึ ความโกรธเคืองของมูช่ ิงเกอ

ใบหน้าของมูช่ ิงเกอเคร่งขรึม ไม่ได้สนใจเขา

เรืองทีจะกระตุน้ สายโลหิต ถือว่าเป็ นเรืองทีอยูเ่ หนือ


ความเป็ นจริงในหลินชวนแห่งนี แน่นอนว่ายิงเงียบ
เท่าใดจะยิงเป็ นผลดี ยิงคนรูน้ อ้ ยก็ยงดี
ิ เช่นกัน

22
นางมันใจว่า หานฉายไฉ่ผนู้ ีก็ไม่มีทางจะพาคนของตน
เองไปเป็ นอันขาด

หลังจากนันเป็ นเวลาสองวัน ก็ได้เหลือเพียงพวกเขาสอง


คนทีร่วมเดินทางไปด้วยกัน

……

หลังจากนันสองวัน มูช่ ิงเกอและหานฉายไฉ่พลางเร่ง


เดินทางและฝึ กพลังเวทไปพร้อมกัน หลีกหนีจากผูค้ น
และบ้านเมือง จนในทีสุดก็ถงึ ยังทีหมายทีหานฉายไฉ่
กล่าวถึง

23
ทีนีมัน.......มูช่ ิงเกอมองดูทิวทัศน์ทีอยูต่ รงหน้า ในใจ
เต็มไปด้วยความฉงนใจ

นางคุน้ เคยจนไม่รูจ้ ะคุน้ เคยอย่างไรแล้ว !

พญาเพลิงเมฆสุรยิ าอยูท่ ีนีจริงๆ หรือ หานฉายไฉ่กาํ ลัง


ปั นหัวนางรึ !

“เจ้าจะบอกว่าพญาเพลิงเมฆสุรยิ าอยูท่ ีนีอย่างนันหรือ”


มูช่ ิงเกอชีพืนทีแห้งแล้งทีทอดยาวจนไม่มีทีสินสุดแล้ว
มองหานฉายไฉ่ทีอยูข่ า้ งตัว

24
หานฉายไฉ่พยักหน้าอย่างไม่ลงั เล : “ใช่แล้ว พญา
เพลิงเมฆสุรยิ าอยู่ ณ ทีราบลัวรือนี”

เมือได้รบั คํายืนยัน มูช่ ิงเกอก็กระตุกมุมปากอย่างแรง

ดูเหมือนว่า พรหมลิขิตระหว่างนางกับทีราบลัวรือนันจะ
ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว !

สถานทีทีนางทะลุมิติมาเกิดใหม่ ก็คือทีนี

ครังแรกทีออกจากทีราบลัวรือ นางจากไปพร้อมคํา
เหยียดหยันดูหมิน

25
แต่ครังทีสองทีออกจากทีราบลัวรือ นางกลับจากไป
พร้อมชือเสียง

และในวันนี พญาเพลิงทีนางจะใช้กระตุน้
สายโลหิตแห่งปรมาจารย์การหลอมอาวุธ กลับอยูใ่ นที
แห่งนื ไม่รูว้ า่ นีมันเป็ นชะตาฟ้าลิขิตอันใดกัน

หลังจากทีมาถึงทีนี ท่าทางเอาแต่เล่นของหานฉายไฉ่ก็
ได้ลดลงไปบ้าง และเผยความเคร่งขรึม เขาไม่ได้สงั เกต
เห็นท่าทางทีดูแปลกประหลาดของมูช่ ิงเกอทีอยูข่ า้ งๆ
เพียงแค่สงั เกตภาพบรรยากาศของทีราบแห่งนีอย่าง
ละเอียด พลางพึมพําว่า : “ในตอนแรกทีได้ยินชือพืนที
แห่งนี ข้าเองก็รูส้ กึ ฉงนใจ แต่พอมาเห็นภาพบรรยากาศ
ของทีนีในตอนนี ข้าก็มนใจเต็
ั มร้อยว่า พญาเพลิงเมฆ

26
สุรยิ าจะต้องซ่อนอยูท่ ีนีเป็ นแน่ !”

“หมายความว่าอย่างไร” มูช่ ิงเกอถาม

หานฉายไฉ่เดินไปข้างหน้าหลายก้าว ใต้เท้าเหยียบอยู่
บนเม็ดกรวดและเม็ดทรายสีแดงดังสีโลหิต

เดินไปมาหลายก้าว เขาหันกลับไปมองมูช่ ิงเกอ กาง


แขนทังสองข้างออกและพูดว่า : “เจ้าไม่รูส้ กึ หรือว่า
บรรยากาศของทีนีไม่ได้เข้ากับบรรยากาศโดยรอบเลย”

เข้ากันไม่ได้อย่างนันหรือ มูช่ ิงเกอกวาดสายตามองรอบ


หนึง

27
ในตอนนี พวกเขายังอยูบ่ นบริเวณชายแดนของทีราบลัว
รือ ด้านหน้า คือทะเลสาบทีแห้งแล้ง แต่ทว่า ข้างหลัง
กลับเป็ นผืนป่ าทีชุ่มชืนและเขียวขจี

สถานทีทีห่างกันเพียงเสียวเดียวนี กลับมีความแตกต่าง
กันราวฟ้ากับเหว และในครังแรกทีนางมายืนอยูใ่ นพืนที
แห่งนี นางเองก็รบั รูแ้ ล้ว

เพียงแต่วา่ ในตอนนันแม้วา่ นางจะรูส้ กึ สงสัย แต่ก็ไม่ได้


คิดอะไรมาก

ในตอนนี เมือได้ยินคําถามเช่นนีจากหานฉายไฉ่ ในใจ


ของนางก็มีความเป็ นไปได้โผล่เข้ามาว่า : “หรือว่า
28
ความแปลกประหลาดของทีราบลัวรือแห่งนีจะมีสว่ น
เกียวข้องกับพญาเพลิงเมฆสุรยิ า”

หานฉายไฉ่พยักหน้าอย่างแรง

“ความหมายของเจ้าคือ พญาเพลิงเมฆ
สุรยิ าได้ถกู ซ่อนเอาไว้ในทีราบลัวรือแห่งนีอย่างนันหรือ
เพราะความโดดเด่นและคุณสมบัติทีพิเศษของมัน ทํา
ให้พืนทีราบแห่งนีแตกต่างจากพืนทีอืนๆ อย่างนันหรือ”
มูช่ ิงเกอหรีตาลงพลางเอ่ยถาม

หานฉายไฉ่กล่าวว่า : “ข้าเคยอ่านในตําราโบราณ
หลายเล่ม เมือครังพันปี ก่อนหน้า ทีราบลัวรือไม่ได้เป็ น

29
อย่างทีเห็นในตอนนี”

“เวลาเป็ นพันปี ผ่านพ้นเหตุการณ์มามากมาย หาก


พืนทีจะมีการเปลียนแปลง ก็หาใช่เรืองแปลกอันใด” มู่
ชิงเกอตังคําถามขึนมา

หานฉายไฉ่มองนาง ด้วยสายตาทีเต็มไปด้วยความฉงน
ใจ ราวกับตกใจในความคิดของนาง : “ดูเหมือนว่า
จอมอันธพาลอันดับหนึงแห่งแคว้นฉิน ไม่เพียงแค่ไม่ได้
เป็ นอันธพาล แต่ยงั มีความรูเ้ ป็ นอย่างมาก”

“เก็บคําชมเชยของเจ้าเอาไว้ แล้วคุยเรืองสําคัญก่อน”
มูช่ ิงเกอจ้องเขาอย่างไม่พอใจแวบหนึง

30
ริมฝี ปากแดงกําของหานฉายไฉ่กระตุกทีหนึง แต่ไม่ได้
โกรธเคือง ในตาหงส์อนั เรียวยาว แฝงความตืนเต้น :
“หากการเปลียนแปลงทังหมดนี เกิดขึนภายในวันเดียว
ล่ะ”

“ว่าอย่างไรนะ” ครังนีถึงคราวทีมูช่ ิงเกอเป็ นฝ่ ายตืน


ตระหนกบ้างแล้ว

31
ตอนที 110-2 มูช่ ิงเกอเจ้ามียางอายหรือไม่

“สายโลหิตของเจ้าเป็ นสายโลหิตอะไร แม้วา่ เจ้าจะไม่


ยอมบอกข้า ก็ไม่เป็ นอะไร แต่ขา้ คิดว่า สายโลหิตของ

32
เจ้าคงจะไม่สามารถเก็บพญาเพลิงเอาไว้เป็ นพลังของ
ตนเองได้” ในสายตาหงส์อนั เรียวยาวของหานฉายไฉ่
เกิดแสงประกาย แต่วา่ ไม่ยอมพลาดทุกอารมณ์และทุก
ท่าทางทีแสดงอยูบ่ นใบหน้าของมูช่ ิงเกอเลยแม้แต่เสียว
เดียว

แต่ทว่า สําหรับท่าทางของมูช่ ิงเกอนัน หลังจากทีเขาพูด


จบ ก็ยงั คงไม่มีความเปลียนแปลงอันใดเกิดขึนเลย

ราวกับว่า คําพูดของหานฉายไฉ่มิได้สง่ ผลกระทบต่อ


นางแม้แต่นอ้ ย

หานฉายไฉ่ทีผิดหวังเล็กน้อย หรีตาหงส์ลงและพูดต่อ

33
ว่า : “เจ้าไม่อาจจะทําได้ หากแต่ขา้ นันสามารถทําได้
พญาเพลิงนันหายาก พญาเพลิงเมฆสุรยิ านี ในตอนแรก
ข้าเตรียมเอาไว้ให้กบั ตนเอง ทว่าในตอนนีในเมือเจ้าได้
เข้ามาข้องเกียว ถ้าเช่นนันเราก็รว่ มมือกัน เพือลดความ
เสียงลง ข้าช่วยเจ้าใช้พญาเพลิงกระตุน้ สายโลหิต เจ้า
ช่วยข้ากลืนกินพญาเพลิง !”

หลังจากทีพูดจบ สายตาของหานฉายไฉ่นยั น์ตาทีแน่ว


แน่นนั ทําให้มชู่ ิงเกอมองตาของเขา

ก่อนหน้านี นางก็รบั รูไ้ ด้แล้วว่า หานฉายไฉ่ตอ้ งมีจดุ มุง่


หมายเกียวกับพญาเพลิง

34
หากมิเช่นนัน ในหลินชวนแห่งนี ใครกันทีจะเสีย
เวลาศึกษา อีกทังยังค้นหาพญาเพลิงทีไม่สามารถครอบ
ครองได้นี

เหมิงเหมิงเองก็เคยบอกกับนางว่า สายโลหิตของหาน
ฉายไฉ่เป็ นธาตุไฟ สามารถสะสมพญาเพลิงเอาไว้เพือ
ใช้ในร่างกายได้ ไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าหานฉาย
ไฉ่ผหู้ า่ งจากสายม่วงเพียงเส้นบางๆ หากได้กลืนกิน
พญาเพลิงไปแล้ว ความสามารถในการต่อสูจ้ ะเป็ นทีน่า
ผวามากเพียงใด

แต่ทว่า ——

มูช่ ิงเกอค่อยๆ ก้มสายตาลง ขนตาอันยาวงอนบดบัง


35
ความรูส้ กึ ทีซ่อนอยูใ่ นสายตาของนาง

ความขัดแย้งระหว่างนางและหานฉายไฉ่ก็ไม่ได้ถือว่า
เป็ นเรืองใหญ่โตอันใด หากการร่วมมือในครานีสําเร็จ ก็
ไม่ได้เป็ นเรืองทีไม่ดีแต่อย่างไร เพียงแต่วา่ หานฉายไฉ่
นันเจ้าแผนการ จะเชือถือได้หรือ

หานฉายไฉ่ไม่ได้รบกวนการใช้ความคิดของมูช่ ิงเก
อ เมือเห็นว่ากองไฟทีไม่มีผใู้ ดสนใจแสดงท่าทีวา่ จะดับ
ลง เขาก็เทเหล้าในกาลงบนกองไฟ ทันใดนัน เปลว
เพลิงก็ลกุ โหมขึนฟ้า ส่องสว่างไปทัวทังขอบฟ้า

ส่วนมูช่ ิงเกอเองก็ได้ทีวิเคราะห์ไตร่ตรอง
เสร็จเรียบร้อยแล้ว ในตอนทีเปลวเพลิงลุกไหม้ นางมอง
36
หานฉายไฉ่ผา่ นเปลวเพลิง แสงจากเปลวเพลิงทําให้ใบ
หน้าของพวกเขาชัดเจนเป็ นครังครา

“ตกลง” สุดท้ายแล้วมูช่ ิงเกอก็ตกลงในข้อเสนอของหาน


ฉายไฉ่

สําหรับเรืองนี หานฉายไฉ่ไม่ได้แสดงความตืนเต้นออก
มามากนัก เพียงแค่ยกกาเหล้าขึนทีหนึงเพือแสดงความ
ยินดี พลันกระตุกริมฝี ปากแดงกําและพูดว่า : “เป็ น
อย่างทีคิดเอาไว้”

เจ้านีจะไม่พดู จากวนโมโหกันบ้างจะได้หรือไม่ !

37
มูช่ ิงเกออยากจะเป็ นบ้า

นางยอมรับว่าอุปนิสยั ของหานฉายไฉ่คล้ายคลึงกับนาง
แต่ทว่า อีกฝ่ ายเลวร้ายกว่า ! และไม่สามารถจะอยูร่ ว่ ม
กันโดยสันติได้

“อีกสองวัน ให้คนของเจ้าไปรอเจ้าทีเมืองอวี” หานฉาย


ไฉ่พดู โดยไม่ได้รบั รูถ้ งึ ความโกรธเคืองของมูช่ ิงเกอ

ใบหน้าของมูช่ ิงเกอเคร่งขรึม ไม่ได้สนใจเขา

เรืองทีจะกระตุน้ สายโลหิต ถือว่าเป็ นเรืองทีอยูเ่ หนือ


ความเป็ นจริงในหลินชวนแห่งนี แน่นอนว่ายิงเงียบ

38
เท่าใดจะยิงเป็ นผลดี ยิงคนรูน้ อ้ ยก็ยงดี
ิ เช่นกัน

นางมันใจว่า หานฉายไฉ่ผนู้ ีก็ไม่มีทางจะพาคนของตน


เองไปเป็ นอันขาด

หลังจากนันเป็ นเวลาสองวัน ก็ได้เหลือเพียงพวกเขาสอง


คนทีร่วมเดินทางไปด้วยกัน

……

หลังจากนันสองวัน มูช่ ิงเกอและหานฉายไฉ่พลางเร่ง


เดินทางและฝึ กพลังเวทไปพร้อมกัน หลีกหนีจากผูค้ น
และบ้านเมือง จนในทีสุดก็ถงึ ยังทีหมายทีหานฉายไฉ่

39
กล่าวถึง

ทีนีมัน.......มูช่ ิงเกอมองดูทิวทัศน์ทีอยูต่ รงหน้า ในใจ


เต็มไปด้วยความฉงนใจ

นางคุน้ เคยจนไม่รูจ้ ะคุน้ เคยอย่างไรแล้ว !

พญาเพลิงเมฆสุรยิ าอยูท่ ีนีจริงๆ หรือ หานฉายไฉ่กาํ ลัง


ปั นหัวนางรึ !

“เจ้าจะบอกว่าพญาเพลิงเมฆสุรยิ าอยูท่ ีนีอย่างนันหรือ”


มูช่ ิงเกอชีพืนทีแห้งแล้งทีทอดยาวจนไม่มีทีสินสุดแล้ว
มองหานฉายไฉ่ทีอยูข่ า้ งตัว

40
หานฉายไฉ่พยักหน้าอย่างไม่ลงั เล : “ใช่แล้ว พญา
เพลิงเมฆสุรยิ าอยู่ ณ ทีราบลัวรือนี”

เมือได้รบั คํายืนยัน มูช่ ิงเกอก็กระตุกมุมปากอย่างแรง

ดูเหมือนว่า พรหมลิขิตระหว่างนางกับทีราบลัวรือนันจะ
ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว !

สถานทีทีนางทะลุมิติมาเกิดใหม่ ก็คือทีนี

ครังแรกทีออกจากทีราบลัวรือ นางจากไปพร้อมคํา
เหยียดหยันดูหมิน

41
แต่ครังทีสองทีออกจากทีราบลัวรือ นางกลับจากไป
พร้อมชือเสียง

และในวันนี พญาเพลิงทีนางจะใช้กระตุน้
สายโลหิตแห่งปรมาจารย์การหลอมอาวุธ กลับอยูใ่ นที
แห่งนื ไม่รูว้ า่ นีมันเป็ นชะตาฟ้าลิขิตอันใดกัน

หลังจากทีมาถึงทีนี ท่าทางเอาแต่เล่นของหานฉายไฉ่ก็
ได้ลดลงไปบ้าง และเผยความเคร่งขรึม เขาไม่ได้สงั เกต
เห็นท่าทางทีดูแปลกประหลาดของมูช่ ิงเกอทีอยูข่ า้ งๆ
เพียงแค่สงั เกตภาพบรรยากาศของทีราบแห่งนีอย่าง
ละเอียด พลางพึมพําว่า : “ในตอนแรกทีได้ยินชือพืนที
แห่งนี ข้าเองก็รูส้ กึ ฉงนใจ แต่พอมาเห็นภาพบรรยากาศ
42
ของทีนีในตอนนี ข้าก็มนใจเต็
ั มร้อยว่า พญาเพลิงเมฆ
สุรยิ าจะต้องซ่อนอยูท่ ีนีเป็ นแน่ !”

“หมายความว่าอย่างไร” มูช่ ิงเกอถาม

หานฉายไฉ่เดินไปข้างหน้าหลายก้าว ใต้เท้าเหยียบอยู่
บนเม็ดกรวดและเม็ดทรายสีแดงดังสีโลหิต

เดินไปมาหลายก้าว เขาหันกลับไปมองมูช่ ิงเกอ กาง


แขนทังสองข้างออกและพูดว่า : “เจ้าไม่รูส้ กึ หรือว่า
บรรยากาศของทีนีไม่ได้เข้ากับบรรยากาศโดยรอบเลย”

เข้ากันไม่ได้อย่างนันหรือ มูช่ ิงเกอกวาดสายตามองรอบ

43
หนึง

ในตอนนี พวกเขายังอยูบ่ นบริเวณชายแดนของทีราบลัว


รือ ด้านหน้า คือทะเลสาบทีแห้งแล้ง แต่ทว่า ข้างหลัง
กลับเป็ นผืนป่ าทีชุ่มชืนและเขียวขจี

สถานทีทีห่างกันเพียงเสียวเดียวนี กลับมีความแตกต่าง
กันราวฟ้ากับเหว และในครังแรกทีนางมายืนอยูใ่ นพืนที
แห่งนี นางเองก็รบั รูแ้ ล้ว

เพียงแต่วา่ ในตอนนันแม้วา่ นางจะรูส้ กึ สงสัย แต่ก็ไม่ได้


คิดอะไรมาก

44
ในตอนนี เมือได้ยินคําถามเช่นนีจากหานฉายไฉ่ ในใจ
ของนางก็มีความเป็ นไปได้โผล่เข้ามาว่า : “หรือว่า
ความแปลกประหลาดของทีราบลัวรือแห่งนีจะมีสว่ น
เกียวข้องกับพญาเพลิงเมฆสุรยิ า”

หานฉายไฉ่พยักหน้าอย่างแรง

“ความหมายของเจ้าคือ พญาเพลิงเมฆ
สุรยิ าได้ถกู ซ่อนเอาไว้ในทีราบลัวรือแห่งนีอย่างนันหรือ
เพราะความโดดเด่นและคุณสมบัติทีพิเศษของมัน ทํา
ให้พืนทีราบแห่งนีแตกต่างจากพืนทีอืนๆ อย่างนันหรือ”
มูช่ ิงเกอหรีตาลงพลางเอ่ยถาม

หานฉายไฉ่กล่าวว่า : “ข้าเคยอ่านในตําราโบราณ
45
หลายเล่ม เมือครังพันปี ก่อนหน้า ทีราบลัวรือไม่ได้เป็ น
อย่างทีเห็นในตอนนี”

“เวลาเป็ นพันปี ผ่านพ้นเหตุการณ์มามากมาย หาก


พืนทีจะมีการเปลียนแปลง ก็หาใช่เรืองแปลกอันใด” มู่
ชิงเกอตังคําถามขึนมา

หานฉายไฉ่มองนาง ด้วยสายตาทีเต็มไปด้วยความฉงน
ใจ ราวกับตกใจในความคิดของนาง : “ดูเหมือนว่า
จอมอันธพาลอันดับหนึงแห่งแคว้นฉิน ไม่เพียงแค่ไม่ได้
เป็ นอันธพาล แต่ยงั มีความรูเ้ ป็ นอย่างมาก”

“เก็บคําชมเชยของเจ้าเอาไว้ แล้วคุยเรืองสําคัญก่อน”

46
มูช่ ิงเกอจ้องเขาอย่างไม่พอใจแวบหนึง

ริมฝี ปากแดงกําของหานฉายไฉ่กระตุกทีหนึง แต่ไม่ได้


โกรธเคือง ในตาหงส์อนั เรียวยาว แฝงความตืนเต้น :
“หากการเปลียนแปลงทังหมดนี เกิดขึนภายในวันเดียว
ล่ะ”

“ว่าอย่างไรนะ” ครังนีถึงคราวทีมูช่ ิงเกอเป็ นฝ่ ายตืน


ตระหนกบ้างแล้ว

47
ตอนที 110-3 มูช่ ิงเกอเจ้ามียางอายหรือไม่

“เรืองเล่าเกียวกับทีราบลัวรือ เจ้ารูม้ ากน้อย

48
เพียงใด” หานฉายไฉ่ยมด้
ิ วยความมันใจ รอยยิมตรงมุม
ปากเต็มไปด้วยความเย่อหยิง : “ว่ากันว่าเมือพันปี ที
แล้ว ทีราบลัวรือนันมีสภาพเหมือนกับบริเวณรอบๆ ที
เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีและมีแหล่งแม่นาลํ
ํ าธาร หนอง
บึง แต่ทว่า มีวนั หนึงคนทีอยูท่ ีนีเห็นกับตาว่า มีเปลว
เพลิงถูกยิงลงมาจากบนท้องฟ้าและตกลงมาทีนี ทันใด
นันต้นไม้ก็ถกู แผดเผาจนมอดไหม้ แม่นาลํ
ํ าธารแห้ง
เหือดลง พืนทีเขียวขจีก็ได้กลายเป็ นทีราบแห้งแล้งทีไม่มี
พืชพรรณใดขึนอีกเลย มีเพียงกรวดทรายสีโลหิต และ
เพราะกรวดทรายพวกนันเจิดจ้าดังแสงอาทิตย์ หลังจาก
นัน ผูค้ นจึงเรียกทีนีว่าทีราบ*ลัวรือ”

“หากตํานานทีเล่าขานกันมานันเป็ นจริง
เปลวเพลิงทีตกลงมาในตอนนัน คือพญาเพลิงอย่างนัน

49
รึ” มูช่ ิงเกอตะลึงกับตํานานนี และยังสัมผัสได้ถงึ ความ
นัยทีแฝงอยูใ่ นคําพูดของหานฉายไฉ่

“ใช่แล้ว ! ต้องเป็ นพญาเพลิงเมฆสุรยิ าเป็ น


แน่ ทีร้อนแรงดังสุรยิ า เจิดจ้าเป็ นทีสุด ทีๆเคลือนตัว
ผ่าน ไม่มีตน้ ไม้ใบหญ้าขึนอีก ดังดวงสุรยิ าทีเผาไหม้
เมฆา” นําเสียงของหานฉายไฉ่แฝงความตืนเต้น

มูช่ ิงเกอกลับนิงเป็ นอย่างมาก นางขมวดคิว


และถามว่า : “ตอนนีข้าอยากจะรูว้ า่ พญาเพลิงเมฆ
สุรยิ ายังอยูท่ ีนีหรือไม่”

พญาเพลิงนันเป็ นของวิเศษและสามารถ
เคลือนไหวได้ตลอดเวลา พวกเขาอุตส่าห์เดินทางมา
50
ไกลถึงทีนี หากพญาเพลิงเมฆสุรยิ าหายไปแล้วล่ะ ก็มา
โดยเปล่าประโยชน์อย่างนันหรือ

“เป็ นไปไม่ได้” หานฉายไฉ่ปฏิเสธคําคาดการณ์ของมูช่ ิง


เกอ

เขาอธิบายว่า : “ก่อนหน้านี ข้าได้สง่ คน


จํานวนนับไม่ถว้ นไปสืบ จนรูว้ า่ พญาเพลิงเมฆสุรยิ ายัง
อยูท่ ีนี” ทันใดนัน เขาก็หยุดพูด พลางขมวดคิว แล้วพูด
อย่างไม่แน่ใจว่า : “หลายปี มานี ภูมิลกั ษณ์ของทีนีมัน
คงมาโดยตลอด เพราะฉะนัน ข้าจึงไม่ได้สนใจ แต่วนั นี
ดูแล้ว หนึงพันปี ก่อน พญาเพลิงเมฆสุรยิ าอาจจะเกิด
การต่อสูก้ บั พญาเพลิงอืนๆ จนได้รบั ความเสียหายหนัก
และหลังจากทีตกกระทบลงทีนี จึงได้หลับใหล เพือพัก

51
ฟื น”

“ระหว่างพญาเพลิงก็มีการต่อสูก้ นั เองหรือ”
เป็ นครังแรกทีมูช่ ิงเกอได้ยินเรืองราวเช่นนี

หานฉายไฉ่จอ้ งนางทีหนึง ในตาหงส์แฝง


ความได้ใจ : “แน่นอน พญาเพลิงนันมีจิตวิญญาณ
เมือพบกับผูท้ ีมีพลังเทียบเท่ากันแน่นอนว่าจะต้องมีการ
ต่อสู้ หากสามารถล้มหรือกลืนกินอีกฝ่ ายได้ จะสามารถ
เพิมพลังให้กบั ตนเองได้”

มูช่ ิงเกอฟั งจนอ้าปากค้างเพราะความอึง


นางค้นพบอีกครังว่า โลกใบนี สิงทีนางพบเจอยังน้อย

52
ถึงน้อยทีสุด

ในตอนนี หานฉายไฉ่ไม่มีอารมณ์จะมาให้
ความรูเ้ รืองนีกับมูช่ ิงเกอ เขาเคลือนตัวเข้าไปในทีราบ
ลัวรือ และได้หายไปจากตรงหน้าของมูช่ ิงเกอในทันที

ไม่ได้คิดอะไรต่อ มูช่ ิงเกอรีบตามไป

ในทีราบลัวรือ ไม่มีผคู้ นอาศัยอยูเ่ ลย

ทังสองต่างลงมืออย่างไม่ลงั เลและเคลือน
ไหวอย่างรวดเร็วอยูใ่ นทีราบลัวรือ

53
เพียงมองจากระยะอันห่างไกล ก็จะเห็น
แสงสีนาเงิ
ํ นทีส่องประกายสองแสง โดดไปมาอยูใ่ นที
ราบแห่งนี

ครูห่ นึง ทังสองก็หยุดลงบริเวณจุดศูนย์


กลางของทีราบลัวรือ

หานฉายไฉ่สาํ รวจรอบๆ ในอาณาเขตสี


โลหิต และพูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “ข้าสัมผัสได้วา่ ทีนีมี
ธาตุไฟทีหลากหลายและมันคง ซึงก็เป็ นการบ่งบอกได้
ว่า พญาเพลิงเมฆสุรยิ ายังคงหลับใหลอยู่ ณ ทีแห่งนี”

‘ธาตุไฟอย่างนันหรือ เหตุใดข้าจึงสัมผัสไม่
ได้ !’ มูช่ ิงเกอเองก็มองไปรอบๆ เช่นกัน แต่กลับไม่ได้มี
54
ความรูส้ กึ อันใด

‘เจ้านายโง่ ในร่างกายของเขามีสายโลหิต
แห่งไฟ เป็ นธรรมดาทีจะไวต่อพลังของไฟ และแน่นอน
ว่าจะต้องสัมผัสได้ในทุกรายละเอียด’ เสียงของเหมิงเห
มิงดังขึนในความคิดของมูช่ ิงเกอ

ทีแท้ก็เป็ นเช่นนี !

หลังจากทีเหมิงเหมิงได้อธิบาย ในทีสุดมูช่ ิง
เกอก็เข้าใจแล้ว

“นีถือเป็ นข่าวดี !” ใบหน้าอันน่าเย้ายวน

55
ของหานฉายไฉ่ เผยรอยยิมทีแฝงความตืนเต้น : “หาก
พญาเพลิงเมฆสุรยิ ายังคงหลับใหลอยูท่ ีนี ก็แสดงว่ามัน
ไม่ได้ฟืนตัวอย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าเช่นนัน สําหรับการลง
มือขันต่อไปของเรา ก็ถือว่าสามารถลดความเสียงลงได้
บ้างแล้ว”

“ก่อนอืน ข้าจะต้องหาทีซ่อนของพญาเพลิง
เมฆสุรยิ าให้พบก่อน” จ้องมองหานฉายไฉ่ทีดูผิดแผกไป
จากปกติ มูช่ ิงเกอขมวดคิวแล้วเตือน

ด้วยความเข้าใจและการค้นหาของหานฉาย
ไฉ่ทีมีตอ่ พญาเพลิง มูช่ ิงเกอสัมผัสได้ถงึ ความคาดหวังที
เขามีตอ่ พญาเพลิง

56
แต่ทว่า ความไม่มีสติของหานฉายไฉ่ใน
วันนี ทําให้นางรูส้ กึ ฉงนใจเป็ นอย่างมาก ดูเหมือนนาง
จะประเมินอิทธิพลของพญาเพลิงทีมีตอ่ หานฉายไฉ่ตาํ
ไป !

“ใช่ ! ต้องหามันให้เจอก่อน !” เมือถูกมูช่ ิง


เกอเตือน หานฉายไฉ่ก็สงบลง

ในส่วนลึกของตาหงส์เรียวยาว มีคลืน
บางอย่างทีส่องประกายออกมา

แสงประกายนันทะลุออกจากร่องตาของเขา
และแพร่กระจายออกไปทัวสารทิศ

57
แม้วา่ จะไม่สามารถมองเห็นได้ แต่มชู่ ิงเก
อสัมผัสได้วา่ มีพลังงานบางอย่างออกมาจากดวงตา
ของหานฉายไฉ่ และแผ่กระจายออกไปทัวพืนทีราบ
โดยมีเขาเป็ นศูนย์กลาง

‘เขากําลังทําอะไร’

ค่อยๆ ถอยหลังไปหนึงก้าว มูช่ ิงเกอม


องแผ่นหลังของหานฉายไฉ่อย่างระมัดระวัง

‘เขากําลังใช้ความสามารถจากพลังของตน
เอง ในการตามหาพญาเพลิงเมฆสุรยิ า’ เหมิงเหมิงผูท้ ี

58
ไม่มีอะไรทีไม่รู ้ แก้ปัญหาข้องใจให้กบั มูช่ ิงเกออีกครัง

“ความสามารถจากพลัง !” มูช่ ิงเกอตะลึง

“แปลกตรงไหน ! ทุกคนทีมีสายโลหิต หลัง


จากทีได้กระตุน้ สายโลหิตแล้ว ต่างก็จะมีพลังความ
สามารถของสายโลหิตนันๆ ก็เหมือนกับพ่อดอกไม้มาก
เสน่หผ์ นู้ ีความสามารถของเขาก็คือการรับรูไ้ ด้ถงึ พลัง
วิญญาณธาตุไฟได้และสําหรับเจ้านายเอง ก็จะมีสมั ผัส
ไวต่ออาวุธ ไม่เพียงแค่สามารถค้นพบชินส่วนของอาวุธ
ได้ แต่ยงั สามารถรูไ้ ด้วา่ จะหลอมสร้างอาวุธทีมีพลังอัน
สูงสุดได้อย่างไร” เหมิงเหมิงพูดอย่างไม่คอ่ ยใส่ใจมาก
นัก

59
“ยอดขนาดนีเชียว !” มูช่ ิงเกอทีได้ยินความ
สามารถอันเหนือฟ้าแป็ นครังแรก อึงจนตะลึงไป

‘ก็เยียมยอดอย่างนีแหละ !’ เหมิงเหมิงพูด
อย่างได้ใจ

เป็ นอีกครัง ทีมูช่ ิงเกอรูส้ กึ ตืนเต้นและรอ


คอยสายโลหิตของตนเองเป็ นอย่างมาก ในดวงตาอัน
สว่างนัน มีเปลวเพลิงลุกโหม

“เจอแล้ว !”

ทันใดนัน ในดวงตาของหานฉายไฉ่เกิดแสง

60
ประกายอันรุนแรง และมองไปในระยะทีไกลออกไป

มูช่ ิงเกอสะดุง้ ทีหนึง และมาอยูข่ า้ งๆ เขาใน


ทันที พลันถามว่า : “อยูท่ ีใดรึ”

หานฉายไฉ่ยกมือขึน แขนเสืออันกว้างใหญ่
ตกลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก ปลายนิวอันเรียวยาว
ของเขาชีไปข้างหน้าและพูดอย่างมันใจว่า : “อยูต่ รง
นัน ข้าสัมผัสได้ ธาตุไฟของทีนันรุนแรงเป็ นอย่างมาก
มากเป็ นร้อยเท่าของทีอืนๆ พญาเพลิงจะต้องอยูท่ ีนัน
เป็ นแน่!”

“ไป!”

61
ทันทีทีสินเสียง ร่างกายของมูช่ ิงเกอก็ได้
กลายเป็ นแสงสีนาเงิ
ํ น และพุง่ ไปในทิศทางทีหานฉายไฉ่
ชี

หานฉายไฉ่เองก็ไม่ยอมแพ้ ร่างกายวูบไหว
ครังหนึง กลายเป็ นแสงสีนาเงิ
ํ นแล้วตามหลังนางไป

หลังจากทีทังสองจากไป เงาสีดาํ เงาหนึงก็


พลันปรากฏขึนท่ามกลางอากาศ

กูหยามองเงาสีนาเงิ
ํ นทีลอยไปไกล แล้ว
พึมพําว่า : “แต่วา่ เวลาสันๆ เพียงสองปี คุณชายกลับ
สามารถทะลวงสูส่ ายทีสูงได้มากขึนเพียงนี ถือว่าได้เอา
62
ชนะยอดฝี มือในใต้หล้านีอย่างขาดลอย รวมทังในหลิน
ชวนแห่งนี ยังมีสายโลหิตธาตุไฟอย่างตระกูลหาน ข่าว
นี จะต้องรีบรายงานให้ทา่ นประมุขทราบแล้ว”

……

*ลัวรือ หมายถึง พระอาทิตย์ตก

63
ตอนที 110-4 มูช่ ิงเกอเจ้ามียางอายหรือไม่

64
“ทีนีแหละ”

เงาร่างของหานฉายไฉ่ปรากฏขึนบนพืนทีทีแห้งแล้ง ชีไป
บนพืนทีกําลังเหยียบอยูแ่ ล้วพูดกับมูช่ ิงเกอ

“ทีนีรึ” มูช่ ิงเกอมองพืนดินทีเขาเหยียบอยูแ่ ล้วเม้มปาก


ไม่พดู อะไรต่อ

หานฉายไฉ่พดู ขึนอีกครังว่า : “ข้าสัมผัสได้วา่ มันอยูท่ ีนี


และยังคงหลับใหล สําหรับเราแล้ว นีถือเป็ นโอกาสทีมิ
อาจพบได้โดยง่าย”

“หากมันซ่อนตัวอยูใ่ ต้ดิน แล้วเราจะลงไปได้อย่างไร


65
หากเราเคลือนไหวมากไป ก็อาจจะทําให้มนั ตืนได้” มูช่ ิง
เกอพูดพลางขมวดคิว

คําถามนี ก็เป็ นอีกหนึงคําถามทีทําให้หานฉายไฉ่ขมวด


คิว

พวกเขาก็ไม่สามารถแทรกเข้าไปในดินและมุดไปมา
อย่างทีต้องการได้ อีกประการหนึงการจะเข้าใกล้พญา
เพลิงเมฆสุรยิ าอย่างเงียบๆ นันถือเป็ นเรืองทียากมาก

ทังสองเงียบลง

มูช่ ิงเกอถามในใจ : “เหมิงเหมิง เจ้ามีวิธีหรือไม่”


66
‘เจ้านาย หนูสมั ผัสได้วา่ ใต้ดินมีโลกทีร้อนมากๆ ใบหนึง
แต่จะลงไปอย่างไรนัน หนูก็ไม่รู’้ เหมิงเหมิงตอบอย่าง
รวดเร็ว

‘โลกทีร้อนมากอย่างนันหรือ’ มูช่ ิงเกอถามเหมิงเหมิงก


ลับ

‘ประเด็นคือจะลงไปอย่างไร’ มูช่ ิงเกอขมวดคิว

และในขณะทีมูช่ ิงเกอกําลังคิดวิเคราะห์ บนฝ่ ามือของ


หานฉายไฉ่ก็ได้รวบรวมแสงประกายสีนาเงิ
ํ นเอาไว้ และ
เล็งพืนทีทีอยูต่ รงปลายเท้า

67
“เจ้าจะทําอะไร” มูช่ ิงเกอจ้องเขม็ง พลันเอ่ยถาม

หานฉายไฉ่บอกว่า : “เมือไม่สามารถหาวิธีทีดีกว่านีได้
ถ้าเช่นนันก็ใช้วิธีทีง่ายทีสุด”

“หากทําให้พญาเพลิงเมฆสุรยิ าตืน และหนีไปจะทํา


อย่างไร” มูช่ ิงเกอพูดอย่างไม่เห็นด้วย

หานฉายไฉ่กระตุกมุมปาก และมองนางอย่างเยาะเย้ย
พร้อมถามว่า : “ถ้าเช่นนัน คุณชายมูม่ ีวิธีอะไร”

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก หากว่านางมีวิธี จะมายืนอยูท่ ีนี


68
ทําไมกันเล่า

มูช่ ิงเกอไม่อยากจะสนใจเขา จึงก้มหน้าลงมองพืนดินใต้


เท้า

บนทีราบแห่งนี ดินทรายแห้งแล้งและแข็งเป็ นอย่างมาก


เหยียบลงไปแล้ว ราวกับเป็ นเหล็กกล้า

จะมีวิธีอนั ใดเล่าทีจะสามารถแยกมันออก โดยไม่ทาํ ให้


พญาเพลิงเมฆสุรยิ ารูส้ กึ ตัว

เท่าทีเหมิงเหมิงบอก ในชันใต้ดิน ราวกับมีมิติแห่งช่อง


ว่าง ถ้าเช่นนัน หากพวกเขาสามารถแยกพืนดินลงไปได้
69
ก็จะสามารถเข้าสูโ่ ลกนันได้อย่างนันหรือ

เมือคิดทบทวนแล้ว ทันใดนันใด สายตาของมูช่ ิงเกอก็


เป็ นประกาย

จากนัน ในมือของนางก็มีแท่งเหล็กสีดาํ อันหนึงปรากฏ


ขึน รูปร่างของมันคล้ายดังสว่าน ตรงปลายนันแหลมคม
เป็ นอย่างมาก พืนผิวนันม้วนไปมาเป็ นเกลียว

นีเป็ นอาวุธอันไร้คา่ ทีนางหลอมสร้างขึนอย่างไม่เห็น


ความสําคัญตอนทีหลอมสร้างอาวุธ ไม่คิดว่า ในวันนีจะ
ได้ใช้มนั

70
หานฉายไฉ่มองสิงทีอยูใ่ นมือของนางด้วยความแปลกใจ
และเดาไม่ออกว่าใช้ทาํ อะไรได้ จึงหัวเราะเยาะว่า : “คุณ
ชายมูค่ ิดจะใช้แท่งเหล็กนีในการเจาะรูพืนดินนีอย่างนัน
หรือ”

มูช่ ิงเกอเงยหน้าขึนมองเขาแวบหนึงโดยไม่ได้พดู อะไร

ในตอนนี การกระทําสําคัญกว่าคําพูด อีกทังสามารถตบ


หน้าได้ดงั กว่าด้วยเช่นกัน

มูช่ ิงเกอคุกเข่าลงข้างหนึง มือขวาจับท่อนเหล็ก แล้ว


เสียบลงบนพืนดินทันที

71
เพียงกึกๆ เสียงเดียว ท่อนเหล็กก็จมอยูใ่ นดินแล้วครึง
หนึง

มูช่ ิงเกอคลายมือออก และใช้ฝ่ามือในการดันอีกด้าน


หนึงเอาไว้ แสงประกายสีนาเงิ
ํ นแสงหนึงรวมอยูท่ ีท่อน
เหล็ก

เพราะการเคลือนไหวของนาง ท่อนเหล็กทีเสียบอยูเ่ ริม


หมุนอย่างรวดเร็ว........ท่อนเหล็กเข้าสูพ่ ืนดินมากขึน
เรือยๆ เพราะหลุมทีเกิดขึน กรวดรอบๆทีแข็งตัวต่างก็
เริมคลายออกจากกัน

ในตอนแรก หานฉายไฉ่มองมูช่ ิงเกอด้วยความเหยียด

72
หยาม แต่พอเม็ดกรวดค่อยๆ เข้าสูห่ ลุมเล็กๆ นัน ความ
เหยียดหยามในสายตาของเขาก็คอ่ ยๆ อันตรธานหายไป
และแปรเปลียนเป็ นความตืนตะลึง

ในขณะทีท่อนเหล็กแทบจะจมมิดไปทังด้าม มูช่ ิงเก


อสูดลมหายใจเข้าทีหนึงอย่างกะทันหัน และดึงท่อน
เหล็กออกในทันที หลังจากทีท่อนเหล็กถูกดึงออก เม็ด
กรวดทีอยูโ่ ดยรอบก็ไหลเข้าสูห่ ลุมและจะกลบปิ ดหลุม
อีกครัง

แต่ทว่า ปฏิกิรยิ าของหานฉายไฉ่นนว่


ั องไวมาก เขา
สะบัดมือทีหนึง ใช้การปลดปล่อยจากท่อนเหล็ก ในการ
ควบคุมหลุมบนพืนดินเอาไว้ โดยไม่ได้สง่ เสียงดังมาก
นัก
73
มูช่ ิงเกอมองเขาพร้อมรอยยิมจางๆ ตรงมุมปาก

หานฉายไฉ่หนั กลับมาสบตากับนาง และต่างเข้าใจกัน


โดยไม่ตอ้ งอธิบาย

“อีกรอบ” มูช่ ิงเกอเสียบท่อนเหล็กลงพืน

หานฉายไฉ่จอ้ งนาง เตรียมพร้อมทีจะให้ความร่วมมือ


ตลอดเวลา

ไม่นาน บริเวณทีพวกเขายืนอยูก่ ็ได้กลายเป็ นหลุมหลุม


หนึง
74
“ตาข้าบ้าง” หานฉายไฉ่ออกปากขอเปลียนกับมูช่ ิงเก
อด้วยตนเอง เพือรับช่วงต่อจากมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอดีใจทีได้พกั จึงหลีกทางให้อย่างเชือฟั ง

เพราะเมือเปรียบหน้าทีกันแล้ว แน่นอนว่าสิง
หานฉายไฉ่รบั ผิดชอบก่อนหน้านีนันง่ายกว่า

แม้ทงสองจะเปลี
ั ยนหน้าทีกัน แต่ก็ยงั คงเข้าขากันได้เป็ น
อย่างดี

ไม่นาน หลุมนันก็ลกึ ลงไปมาก ความสูงประมาณคน


75
สองคนได้

ในขณะทีหานฉายไฉ่เสียบท่อนเหล็กลงบนพืนดินอีกหน
ก็รูส้ กึ ได้วา่ ในฝ่ ามือพลันว่างเปล่า ท่อนเหล็กทีเสียบอยู่
บนพืนดินหายแวบไปในทันที เหลือไว้เพียงแค่หลุมสีดาํ

ทังสองหรีตาลงในทันที และโน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกัน

“ดูเหมือนว่า จะล่างสุดแล้ว” มูช่ ิงเกอพูดแล้วเม้มปาก

หานฉายไฉ่ยืนอยูบ่ นหลุม รวบรวมพลังทังหมดแล้วกด


ลง ร่างกายเขาก็เริมหนักขึนและจมลงไป

76
พืนดินทีไม่ได้แน่นอยูแ่ ล้วในตอนแรก แน่นอนว่าไม่
สามารถรับนําหนักนีได้ทาํ ให้เท้าของเขายุบลงไปเป็ น
หลุมกลมๆ หลุมหนึงทันที และร่างของหานฉายไฉ่ก็รว่ ง
ลงไป

ทันทีทีเงาร่างของหานฉายไฉ่หายไป มูช่ ิงเกอเองก็ไม่ได้


คิดอะไรมาก และโดดตามลงไป

เมือเข้าสูโ่ ลกใบทีเหมิงเหมิงพูดถึง ลมร้อนทีดังอยูข่ า้ งหู


จึงทําให้มชู่ ิงเกอรับรูถ้ งึ ความหมายของคําว่า ‘ร้อน
มากๆ’

แม่เจ้า ! ทีนีเป็ นโลกแห่งลาวาโดยแท้ !

77
มูช่ ิงเกอทีกระโดดลงไปในหลุม รูส้ กึ ว่าตนเองราวกับ
กระโดดลงสูก่ ระถางแปดเหลียมของไท่ซา่ งเหล่าจวินอ
ย่างนัน

รอบๆ เป็ นของเหลวและมีหินสีแดงทีร้อนและเดือด


ปุด........

ทีนี ราวกับเป็ นหลุมใหญ่หลุมหนึง แต่กลับเต็มไปด้วย


ลาวาและเปลวเพลิง

มูช่ ิงเกอเคยได้รบั ภารกิจให้ไปยังใต้ภเู ขาไฟ แต่ทว่า โลก


ทีนางอยูใ่ นตอนนี เป็ นดังทีๆ ลึกทีสุดของภูเขาไฟ และ

78
น่าหวาดผวากว่าเป็ นไหนๆ

ตุบ้ !

มูช่ ิงเกอหล่นลงบนก้อนหินก้อนใหญ่

เท้าเพิงจะแตะลงไป ในบริเวณทีเท้าสัมผัสกับพืนดินก็
เกิดกลุม่ ควันสีขาว และนางเองก็รบั รูไ้ ด้ถงึ ความร้อนที
เกิดขึน ทําให้นางไม่อาจจะยืนได้

79
ตอนที 110-5 มูช่ ิงเกอเจ้ามียางอายหรือไม่

80
ขมวดคิวทีหนึง มูช่ ิงเกอใช้พลังเวทในการสร้าง
เกราะล่องหนและป้องกันให้ตนเองอยูน่ อกความร้อน

‘เจ้านาย ท่านทําเช่นนีเป็ นการสินเปลืองพลัง


เวทนะ!’ เหมิงเหมิงกล่าวเตือน

‘แต่ก็ไม่มีวิธีอืน ทําได้เพียงแค่รบี ตามหาพญา


เพลิงเมฆสุรยิ าให้เจอ’ มูช่ ิงเกอตอบในใจ พลันก้าวฝี เท้า
เดินไปอยูข่ า้ งๆ หานฉายไฉ่ทีเดินนํานางอยูก่ า้ วหนึง

81
ชายผูน้ ี กลับสามารถยืนอยูบ่ นก้อนหินได้อย่าง
ผ่อนคลาย โดยไม่รูส้ กึ รูส้ าอะไร

มูช่ ิงเกอดูออกว่า เขาไม่ได้ใช้พลังเวทในการ


สร้างเกราะเพือกันไอร้อนจากเปลวไฟ

มองเขาด้วยสายตาทีแฝงความฉงนใจแวบหนึง
มูช่ ิงเกอจึงพูดว่า : “ดูเหมือนว่าเจ้าจะชอบทีแห่งนีเป็ น
อย่างมาก”

หานฉายไฉ่กระตุกมุมปาก และพูดอย่างได้ใจ
ด้วยนําเสียงเกียจคร้านว่า : “สําหรับข้าแล้วไฟถือเป็ น
มิตรทีพึงพาได้มากทีสุด” พูดจบ เขาก็สะบัดมือไพล่หลัง

82
พลันก้าวเท้ายาวเข้าไป

‘เย่อหยิง!’

มูช่ ิงเกอเถียงในใจ และรีบตามไป

มาถึงทีนี หากต้องการจะหาพญาเพลิงเมฆ
สุรยิ าให้เจอ ก็คงจะต้องพึงพลังอันเหนือฟ้าของหานฉาย
ไฉ่

ตามหานฉายไฉ่ไปอยูเ่ หนือหิน ด้านล่างเป็ นแม่


นําทีก่อตัวขึนมาจากลาวา ด้านบน เป็ นหินหนืดทีถูก
หลอมละลาย กําลังหยดลงในลาวาอย่างไม่ขาดสาย
83
“ด้านหน้าเป็ นทางตัน เจ้าจะทําเช่นไร” อยูๆ่
หานฉายไฉ่ก็หนั หลังกลับมา พลันพูดกับมูช่ ิงเกอด้วยนํา
เสียงขบขัน

มูช่ ิงเกอมองเขาโดยปราศจากการคําพูด

หานฉานไฉ่พดู อย่างห่วงใยว่า : “สายนําเงินไม่


สามารถลอยตัวกลางอากาศได้นานมากนัก และใน
สถานการณ์เช่นนี เจ้าทังต้องกันการกัดกร่อนจากเปลว
เพลิง ทังยังต้องลอยตัวกลางอากาศ พลังเวทในตัวของ
เจ้าอาจจะต้านทานได้ไม่นานมากนัก”

84
มูช่ ิงเกอพลันหัวเราะขึนมา : “เจ้าพูดราวกับว่า
เจ้าบินเก่งมากอย่างนันล่ะ”

“อย่างน้อยข้าก็ไม่ตอ้ งแบ่งพลังเพือต้านพิษจาก
ไฟ” รอยยิมของหานฉายไฉ่เบิกบานมากกว่าเดิม

“พิษจากไฟ ! พิษ !”

คําพูดของหานฉายไฉ่ได้เตือนสติมชู่ ิงเกอ

หากไฟถือเป็ นพิษชนิดหนึง ถ้าเช่นนันจะมียาแก้


ทีสามารถต่อต้านพิษนีหรือไม่

85
มูช่ ิงเกอพยายามคิดวิเคราะห์ แต่ไม่นานก็ได้คาํ
ตอบ

นางจําได้วา่ ในตํารายาของเหมิงเหมิง ราวกับมีสมุนไพร


ชนิดหนึงทีสามารถกลันสารโปร่งแสงได้ หากทามันไว้
บนร่างกาย จะสามารถป้องกันเปลวเพลิงได้

ถึงแม้วา่ สรรพคุณของยาชนิดนีจะหายไปหลัง
จากทีมันระเหย และต้องทาใหม่อีกรอบ แต่อย่างน้อยก็
สามารถลดการใช้พลังเวทและเดินไปพร้อมกับหานฉาย
ไฉ่ได้

“คงไม่ตอ้ งรบกวนเจ้าเป็ นกังวลหรอก” มูช่ ิงเก

86
อยิม พร้อมทังยักคิวปฏิเสธหานฉายไฉ่

หานฉายไฉ่หรีตาทังสองข้างลง พลันอุทานอย่าง
เย่อหยิง แตะปลายเท้าและลอยเหนืออากาศลงไปยังแม่
นําลาวา

หลังจากทีเขาจากไป ในมือของมูช่ ิงเกอก็มี


บางอย่างเพิมเข้ามา

นันเป็ นสิงทีเหมิงเหมิงมอบให้กบั นาง พืชผลที


รูปร่างคล้ายลูกรักบีนี คือสิงลําค่าทีสามารถต้านไฟได้

มูช่ ิงเกอยกมันขึนมาเหนือศีรษะแล้วใช้แรงบีบ
87
ให้มนั แตกออกอย่างรุนแรง

ทันใดนัน สารโปร่งใสก็หลังไหลลงมา จากศีรษะ


ลงไปทัวร่างกาย ไม่นาน ก็ได้ไหลผ่านทัวร่างกายของ
นาง ทว่ากลับไม่ทิงร่องรอยอันใด

หลังจากทีสําเร็จแล้ว มูช่ ิงเกอก็เรียกคืนพลังเวท


และเป็ นความจริงทีสัมผัสไม่ได้ถงึ ความร้อน แต่วา่ กลับ
รูส้ กึ ถึงความเย็นเป็ นพิเศษ

‘สมกับเป็ นของลําค่า !’ มูช่ ิงเกอตาเป็ นประกาย


พร้อมเผยรอยยิมตรงมุมปาก ‘เหมิงเหมิงพืชผลชนิดนี
เจ้ายังมีเหลืออยูเ่ ท่าไหร่’

88
‘วางใจเถอะเจ้านาย ในคลังเก็บของของหนูแน่น
มาก ท่านต้องการเท่าไหร่ก็มีเท่านัน’ เหมิงเหมิงพูดด้วย
ความมันใจอย่างเต็มเปี ยม

เมือมีการยืนยันจากกองหลังเช่นนี รอยยิมของมู่
ชิงเกอก็ยงงามชวนตะลึ
ิ งมากขึนกว่าเดิม พลันแตะเท้าที
หนึง แล้วตามหานฉายไฉ่ไป

ในแม่นาลาวา
ํ มีกอ้ นหินก้อนใหญ่สองก้อนที
เพียงพอสําหรับการพักพิงให้กบั ทังสอง

ในทุกครังทีใช้พลังในการลอยตัวไปมาก ทังสอง

89
ก็จะหยุดลงเพือพักสักครู ่ แล้วจึงลอยขึนอีกครัง

ท่าทางอันผ่อนคลายของมูช่ ิงเกอทําให้หานฉาย
ไฉ่ฉงนใจอย่างเป็ นทีสุด

ระหว่างทาง เขาไม่หยุดทีจะพิจารณา ราวกับ


อยากจะรูว้ า่ มูช่ ิงเกอใช้ของวิเศษอะไรในการหลบหลีก
จากความร้อนอันรุนแรงของทีแห่งนี

ในโลกทีเต็มไปด้วยไฟเช่นนี ทังสองไม่รูว้ า่ เดิน


ทางมาไกลเท่าไหร่ และไม่รูว้ า่ ได้เคลือนตัวลงมาตําเท่า
ไหร่แล้ว

90
ในทุกๆ ครังทีฤทธิยากําลังจะหมด มูช่ ิงเกอก็จะ
เอายาจํานวนมหาศาลออกมาเคียว หานฉายไฉ่เห็นแล้ว
เผยรอยยิมทุกข์ใจ แต่ก็ตอ้ งเอายาของตนเองออกมาเติม
พลังบ้าง

แต่ทว่า เขาก็ยงั คงดูถกู ความสามารถของมูช่ ิงเก


อมากเกินไป

หลังจากทียาเม็ดสุดท้ายของเขาถูกกลืนลงไป
ในมือของมูช่ ิงเกอก็ยงั มียาอีกกําใหญ่ และถูกโยนเข้า
ปากอย่างไม่ขาดสาย

“นี เจ้ามียามากมายเท่าไหร่กนั แน่เนีย” หาน

91
ฉายไฉ่ถามด้วยใบหน้าดํามืด

มูช่ ิงเกอมองเขาแวบหนึง พร้อมพูดอย่างขบขัน


ว่า : “ไม่ตอ้ งเป็ นห่วง แน่นอนว่าข้าจะไม่เป็ นตัวถ่วงเจ้า
แน่”

นําเสียงทีแฝงการเสียดสี ทําให้สีหน้าหานฉาย
ไฉ่ดาํ คลํา นําเสียงโทนตําและแฝงความเกียจคร้านมี
ความเย็นเยียบเพิมเข้ามา พลันพูดอย่างอึดอัดว่า :
“หากว่าเจ้ายังมียามากพอ ขอให้ขา้ สักหน่อยเถอะ”

“หืม เหตุใดประมุขแห่งหอสรรพสิง ออกจาก


บ้านไยจึงไม่พกยามาให้เพียงพอ” มูช่ ิงเกอส่ายหน้า

92
หลายที

“มูช่ ิงเกอ เจ้าอย่าลืมว่า ในเมืองฮ่วน เจ้าได้


สมบัติชนยอดของหอเราไปไม่
ั นอ้ ย ในตอนนีเพียงใช้ยา
ไม่กีเม็ดมาแลกเปลียน ก็ถือว่าเจ้าได้กาํ ไรมากแล้ว”
หานฉายไฉ่กดั ฟั นพูด

มูช่ ิงเกอพูดเขาด้วยสายตาทีแฝงความเยาะ
เย้ย : “เรืองทีผ่านไปแล้ว ยังจะมีความหมายอันใด หาก
จะคิดบัญชีกนั เช่นนี เราจะต้องคิดเรืองทีเจ้ากลันแกล้ง
ข้าเมือครังอยูใ่ นเมืองจือก่อนจริงหรือไม่”

เมือเห็นท่าทางทีแสดงว่า ‘ข้าดูถกู เจ้า’ สีหน้า

93
ของหานฉายไฉ่ก็มืดมนลงเรือยๆ พูดด้วยนําเสียงทียัง
คงเย็นเยียบว่า : “เรืองนัน ท้ายทีสุดแล้วเจ้าก็ดงึ ข้าเข้า
ไปเกียวด้วย ถือได้วา่ เสมอกันแล้ว”

“หึ ชําระหนีได้หน้าไม่อายเสียจริง สมกับชือ


เสียงของประมุขแห่งหอสรรพสิงโดยแท้ !” มูช่ ิงเก
อหัวเราะด้วยนําเสียงทีแฝงความเย้ยหยัน

“มูช่ ิงเกอ เจ้าอย่าลืมว่า เรายังมีพนั ธะสัญญาที


ร่วมมือกันอยู่ !” หานฉายไฉ่พดู ด้วยความโกรธจนไม่
อาจจะเก็บอาการเอาไว้ได้

มูช่ ิงเกอจ้องเขาด้วยแววตาเย็นเยียบแวบหนึง

94
รอยยิมตรงมุมปากเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย

อย่าลืมสิ ว่าใครเป็ นคนเริมประเด็น !

สายตาของมูช่ ิงเกอ ทําให้หานไฉ่ฉายยอมสงบ


ลงและพูดอย่างอึดอัดว่า : “จะต้องทําอย่างไร เจ้าจึงจะ
ยอมแบ่งยาให้กบั ข้า”

“อยากได้ยาน่ะไม่มีปัญหา ! แต่เจ้าจะเอาอะไร
มาแลก” มูช่ ิงเกอมองเขา ในส่วนลึกของสายตาอันสว่าง
นิงสงบ ราวกับกําลังเจรจาการค้ากับเขาอย่างนัน

“เจ้าต้องการสิงใด”หานฉายไฉ่ถามอย่างไม่ชอบ
95
ใจ

มูช่ ิงเกอมองเขาอย่างพินิจรอบหนึง แล้วส่าย


หน้าอย่างรังเกียจ : “ในตอนนี เจ้าคงจะไม่มีสงมี
ิ คา่ อัน
ใดติดตัวอยู่ การแลกเปลียนในคราวนีถือว่าเสียเปรียบ
เสียเปรียบยิงนัก”

“มูช่ ิงเกอเจ้าอย่าได้เกินไปนัก!” ในดวงตาหงส์


อันเรียวยาว เต็มเปี ยมไปด้วยไอสังหาร

มูช่ ิงเกอยักคิว ราวกับไม่เห็นไอสังหารในแววตา


ของเขา แล้วยิมจนตาโค้งงอดังพระจันทร์เสียว พลางเงย
หน้าขึนและพูดอย่างได้ใจ : “ถ้าเช่นนัน เจ้าจงทําสัญญา

96
กับข้า ว่ายาเม็ดหนึงแลกด้วยแก่นสมองของสัตว์ระดับ
เหนือกว่าสายครามสิบแก่น กินไปกีเม็ด ก็เอามาคืนเท่า
นัน ดีหรือไม่”

หานฉายไฉ่ได้ยินดังนันก็เผยรอยยิมออกมาใน
ทันที แต่รอยยิมนันแฝงไปด้วยความขุ่นเคือง: “เจ้าคิดจะ
พลิกวิกฤตให้เป็ นโอกาสหรือ แก่นสมองของสัตว์ทีระดับ
เหนือกว่าสายคราม เหตุใดเจ้าจึงไม่ไปแย่งชิงด้วยตน
เอง เจ้าคิดว่ามันเป็ นผักกาดขาวทีมีขายอยูต่ ามท้อง
ตลาดหรืออย่างไร !”

“อืม เจ้าคิดว่าใช่ก็คือใช่” มูช่ ิงเกอเอามือลูบคาง


ของตนเองและพยักหน้าอย่างจงใจ ด้วยท่าทางที
บ่งบอกว่าตนเองกําลังจะแย่ง จากนัน ก็มองเขา พลาง
97
พูดด้วยรอยยิม : “ข้อตกลงข้าได้เสนอไปแล้ว ข้าไม่ชอบ
คนช่างต่อรอง ราคาไหนราคานัน หากเจ้าพยักหน้าตอบ
ตกลง เพือเป็ นการทําสัญญา ก็จะได้รบั ยาในทันที แต่
หากเสียดายสิงนอกกายเหล่านัน ก็ไม่เป็ นอะไร แม้วา่
การแลกเปลียนจะไม่สาํ เร็จ ทว่าความสัมพันธ์ก็ยงั คงอยู่
สําหรับเรืองพญาเพลิงเมฆสุรยิ า เรายังคงเป็ นพวกเดียว
กัน”

“มูช่ ิงเกอ เจ้านีช่างหน้าไม่อายเหลือทน” หาน


ฉายไฉ่โกรธจนหัวเราะออกมา มูช่ ิงเกอไม่รูส้ กึ รูส้ าอะไร
เลยแม้แต่นอ้ ย พลันตอบเขาว่า : “เช่นกันๆ”

คําพูดเพียงคําเดียว ทําให้หานฉายไฉ่พดู อะไร


ไม่ออก
98
หากไม่มียา เขาก็ไม่สามารถเดินไปในทีทีมีพญา
เพลิงเมฆสุรยิ าอยู่ และหากจากไปเช่นนี เขาก็ไม่ยินยอม
เพราะใครจะรูว้ า่ กลับมาทีนีอีกหน จะต้องพบเจอกับ
สถานการณ์เช่นใด และหากว่าพญาเพลิงเมฆสุรยิ าฟื น
ตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วจะทําอย่างไร

หลังจากทีคิดอย่างเคร่งเครียด จนในทีสุดหาน
ฉายไฉ่ก็กดั ฟั นกรอด และตอบตกลงข้อเสนอของมูช่ ิงเก
อ!

หลังจากทีทําสัญญากันเสร็จสรรพแล้ว หาน
ฉายไฉ่ก็อทุ านอย่างเย็นเยียบคําหนึง แล้วจึงโยนแก่น

99
สมองให้กบั มูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอรีบรับด้วยสองมือ และตรวจทานอย่าง


ละเอียด เมือพบว่าไม่มีขอ้ ผิดพลาดประการใด จึงเก็บ
อย่างระมัดระวัง ส่วนสัญญานันถูกเก็บไว้ในทีๆ หาน
ฉายไฉ่มองไม่เห็นและเข้าไปอยูใ่ นมิติแห่งช่องว่าง

เมือได้ในสิงทีต้องการ มูช่ ิงเกอก็ได้เอายาเพิม


กําลังขวดหนึงให้กบั หานฉายไฉ่ตามสัญญา และปลอบ
ใจว่า : “เจ้าอย่าเอาแต่เสียดายแก่นสมอง ในขวดนีมียา
อยูห่ ลายสิบเม็ด แก่นสมองหลายร้อยแก่นช่วยชีวิตเจ้า
เอาไว้ ถือว่าเจ้าได้เปรียบและข้ามีเมตตา ไม่ยอมเห็นเจ้า
หมดลมหายใจไปเพราะพลังเวทหมดลง หากไม่เช่นนัน
การค้าทีเสียเปรียบเช่นนีใครจะยอมทํา”
100
หานฉายไฉ่เก็บขวดทีมีเม็ดยาบรรจุอยูเ่ ข้าไปใน
กระเป๋ าเสือ แล้วเย้ยหยันคําพูดของมูช่ ิงเกอว่า : “เรือง
ในวันนี ถือว่าข้าได้เรียนรูค้ วามสามารถของคุณชายมู”่

“ไม่ขนาดนันหรอก ไม่ขนาดนันหรอก” มูช่ ิงเก


อเผยรอยยิม แล้วพูดอย่างจริงใจ

บนใบหน้าอันเรียวและงดงาม เผยรอยยิมทีฉาย
ความเบิกบาน แต่กลับทําให้สายตาของหานฉายไฉ่เต็ม
ไปด้วยความเจ็บปวด

แก่นสมองของสัตว์ทีอยูใ่ นระดับเหนือกว่าสาย

101
คราม ยังกล่าวได้อีกว่า ในหลินชวนแห่งนีหายากมาก
และทุกๆ แก่นสมองล้วนมีมลู ค่าอันมหาศาล ในวันนี
ถูกยาของนางแลกไปหลายร้อยแก่น ถือว่าเป็ นจํานวนที
เทียบเท่ากับการเก็บสะสมของชนชันระดับกลางใน
แคว้นระดับสาม วิธีง่ายๆ เพียงเท่านี ก็สามารถกลาย
เป็ นมหาเศรษฐี ได้ในชัวคําคืน ในตอนนี เจ้านีได้เปรียบ
มากถึงเพียงนี แต่ยงั แสร้งพูดว่าตนเองทําการค้าทีเสีย
เปรียบอีกอย่างนันหรือ

คิดว่าเขาเป็ นเด็กอายุ 3 ขวบหรือไร

“ออกเดินทาง” เก็บความอึดอัดเอาไว้เพียงในใจ
หานฉายไฉ่ลกุ ขึนยืน พลันออกเดินทางอีกหน

102
เขามีความรูส้ กึ หนึง หากไม่สามารถพบพญา
เพลิงเมฆสุรยิ าก่อนทียานีจะหมด ไม่แน่วา่ เขาอาจจะถูก
มูช่ ิงเกอรีดไถอีกไม่รูเ้ ท่าไหร่ตอ่ เท่าไหร่

เมือจนปั ญญา ในครานีถือว่าเป็ นข้อผิดพลาด


ของตัวเขาเอง ทีเตรียมยามาไม่พอ

แต่วา่ มูช่ ิงเกอเป็ นตัวประหลาดอะไรกัน เหตุใด


มียาจํานวนมากราวกับว่าใช้อย่างไรก็ไม่มีวนั หมดอย่าง
นัน

103
ตอนที 111-1 เพิมยอดขายประจําเดือน ร้องเรียกท่าน
มัว !

โลกลาวานี ราวกับไม่มีทีสินสุด

ยิงเข้าไปยิงลึก อุณหภูมิก็ยิงสูงขึน !

แม้วา่ จะมียาป้องกันอันแสนมหัศจรรย์ แต่มชู่ ิง


เกอก็ยงั คงรูส้ กึ ได้ถงึ ความร้อน

“อีกนานเท่าไหร่” ไม่มีอารมณ์จะมาล้อเล่น มูช่ ิง


เกอถามหานฉายไฉ่ทีนําทางอยูข่ า้ งหน้าด้วยนําเสียงอัน
เคร่งขรึม
1
“ใกล้แล้ว” หานฉายไฉ่เองก็ไม่มีอารมณ์จะพูด
เล่น ในขณะนีบรรยากาศของทีนีได้สง่ ผลกระทบต่อตัว
เขาแล้ว

“หลายชัวยามทีแล้ว ท่านก็เคยพูดเช่นนี” มูช่ ิงเก


อกลอกตาใส่เขาพร้อมพูด

หานฉายไฉ่เม้มปากทีหนึง แล้วตอบว่า : “ข้า


สัมผัสได้ถงึ ความรุนแแรงอย่างมากของธาตุไฟ และที
สําคัญคือมีจาํ นวนมหาศาล พญาเพลิงเมฆสุรยิ าต้องอยู่
ข้างหน้าเป็ นแน่”

2
หลังจากทีได้ฟังคําพูดของเขา มูช่ ิงเกอจึงเงียบ
ลง

การจะใช้พญาเพลิงในการกระตุน้ สายโลหิต
หากจะพูดให้เข้าใจ ก็คือการนําเลือดเนือไปหลอมใน
พญาเพลิง และใช้ความร้อนจากพญาเพลิง และ
คุณสมบัติพิเศษอืนๆ ในการกระตุน้ ให้พลังในสายโลหิต
ตืนตัว

นีเป็ นวิธีการกระตุน้ สายโลหิตทีมีความเสียงสูง


มากวิธีหนึง หากไม่ระวังก็อาจจะถูกพญาเพลิงเผาจน
สินซาก

3
“เจ้าพาข้ามาหาพญาเพลิงเมฆสุรยิ าแล้ว แล้ว
ข้าจะช่วยเจ้ากลืนกินมันได้อย่างไร” อยูๆ่ มูช่ ิงเกอก็พลัน
ถามขึน

คําถามนี ทังสองยังไม่เคยได้คยุ กันและในตอนนี


พญาเพลิงเมฆสุรยิ าก็อยูเ่ บืองหน้าแล้ว นางจําเป็ นจะ
ต้องคุยให้รูเ้ รือง

ในดวงตาหงส์อนั เรียวยาวของหานฉายไฉ่เกิด
แสงประกายแวบหนึง แล้วจึงตอบว่า : “การใช้พญา
เพลิงในการกระตุน้ สายโลหิต แน่นอนว่าจะทําให้พญา
เพลิงสูญเสียพลังไปครึงหนึง”

4
คําตอบของเขานันไม่ตรงคําถาม แต่ตอนนีมูช่ ิง
เกอได้กระจ่างแล้ว

เจ้านี ไม่ได้เป็ นคนดีอะไร !

ไหนบอกว่าพานางมาหาพญาเพลิง ทีแท้ก็อยาก
จะให้นางใช้พญาเพลิงก่อน ถ้าเช่นนัน เขาทีใช้หลังจาก
นางก็มีความเสียงน้อยลงเป็ นอย่างมาก ทว่านางก็ยงั
ต้องรับมือกับความเสียงเท่าเดิม

“เจ้าเล่ห”์ มูช่ ิงเกอกล่าว

หานฉายไฉ่กลับไม่รูส้ กึ อายและตอบอย่างแนบ
5
นิงว่า : “เช่นกันๆ”

ทันใดนัน หานฉายไฉ่ก็สะดุง้ ทีหนึงแล้วไปหยุด


อยูต่ รงก้อนหินใหญ่กอ้ นหนึง มูช่ ิงเกอไม่ลงั เลรีบตามลง
ไป

“ถึงแล้ว” หานฉายไฉ่พดู

“ทีนีหรือ” มูช่ ิงเกอเริมกวาดสายตามองรอบๆ


แต่ทว่า นอกจากลาวาทีไหลผ่านแล้วนางก็ไม่เห็นอะไร
เลย

หานฉายไฉ่พดู อย่างมันใจว่า : “ข้าสัมผัสได้วา่


6
พญาเพลิงเมฆสุรยิ าต้องซ่อนตัวอยูท่ ีนีเป็ นแน่ เราต้อง
คิดหาวิธีทีจะทําให้มนั เผยตัวตนทีแท้จริงออกมา”

“ตัวตนทีแท้จริงของมันคืออะไร” มูช่ ิงเกอถาม


ด้วยความสงสัย

หานฉายไฉ่มองนางด้วยสายตาทีดูถกู ความรูอ้ นั
น้อยนิดของนาง แล้วจึงอธิบายว่า : “พญาเพลิงทุก
ประเภทล้วนมีธาตุแท้ของตนเอง ส่วนธาตุแท้ของพญา
เพลิงเมฆสุรยิ าคือหงส์ไฟ ในตอนนีมันยังคงหลับใหล
และคิดว่าทีนีอาจจะมีรงั ของมัน”

“หงส์ไฟ!” มูช่ ิงเกอตืนตะลึง

7
ไฟทีมีจิตวิญญาณก็ถือว่ามากพอแล้ว สามารถ
วิงได้ ต่อสูก้ นั ได้ก็ช่างเถอะ ในตอนนียังจะต้องมารับรูว้ า่
พวกมันสามารถแปลงกายได้อีกอย่างนันรึ สิงๆ นียัง
เรียกว่าเป็ นไฟได้อีกหรือ

คําพูดของหานฉายไฉ่ได้ทาํ ลายความรูจ้ กั เกียว


กับไฟของมูช่ ิงเกอจนหมดสิน

‘เจ้านายโง่ แค่นีก็ไม่รูร้ ึ พญาเพลิงมีวิญญาณ


ใต้หล้านี หากเป็ นสิงทีมีวิญญาณก็ยอ่ มมีจิตใจ มีความ
รูส้ กึ นึกคิดและธาตุแท้ทีไอ้จอมหลงตัวเองพูดถึงนันก็คือ
จิตวิญญาณ เริมแรกของการเกิดจิตวิญญาณ จะมี
โอกาสในการแปลงร่าง ความสามารถและความรูส้ กึ นึก
8
คิดทีมากน้อย จะเป็ นตัวกําหนดระดับทีแตกต่างกัน
ส่วนธาตุแท้ของพญาเพลิงเมฆสุรยิ าทีเป็ นหงส์ไฟก็คือ
ว่าอยูใ่ นระดับทีสูงแล้ว มีพญาเพลิงบางชนิดทียังคงเป็ น
เพียงมดไฟและผีเสือไฟซึงอยูใ่ นระดับตํา’ เสียงของเหมิ
งเหมิงดังขึนในหัวของมูช่ ิงเกอ และให้ความรูน้ างเกียว
กับเรืองนีได้ทนั เวลาพอดี

หานฉายไฉ่ยืนอยูก่ บั ที ดวงตาเกียจคร้านได้
ปล่อยพลังไร้อนั รูปร่างออกมาอีกหน และปกคลุมทัวทัง
ทะเลเพลิงเอาไว้

มูช่ ิงเกอรูว้ า่ เขากําลังใช้พลังอันเหนือฟ้าค้นหา


ธาตุแท้ของพญาเพลิงเมฆสุรยิ า จึงไม่รบกวน เพียง
สังเกตรอบๆ โลกอันมหัศจรรย์แห่งนี
9
ไฟของทีนี ลุกโหมรุนแรงกว่าไฟธรรมดา ราวกับ
เป็ นตัวนําไฟทีจะสามารถระเบิดร่างกายของมนุษย์ได้
ตลอดเวลา

หากเป็ นคนทีมีพลังเวทตําเข้ามาในนี อาจจะ


เป็ นบ้าไปเลยก็เป็ นได้

หานฉายไฉ่หรีตาลงอย่างกะทันหัน พลางจ้อง
บางตําแหน่งของทะเลเพลิง แล้วพูดกับมูช่ ิงเกอว่า : “มัน
อยูต่ รงนัน!”

มูช่ ิงเกอมองตามทีเขาชี แต่กลับไม่เห็นอะไร

10
ขมวดคิวทีหนึง แล้วนางก็ตงคํ
ั าถามว่า :

“จะเอามาได้อย่างไร”

“เข้าไปใกล้ ก็จะสามารถเอามาได้” หานฉายไฉ่


ตอบ

มุช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก แล้วเยาะเย้ยว่า : “ช่าง


เป็ นการอธิบายทีเข้าใจง่ายนัก”

“หากไม่เป็ นเช่นนัน แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ”


หานฉายไฉ่เชิดหน้าใส่นางทีหนึง แล้วพูดต่อว่า : “เจ้า
11
ต้องการใช้พญาเพลิงในการกระตุน้ สายโลหิต ถ้าเช่นนัน
ยาช่วยชีวิตทีต้องเตรียม ก็คงจะเตรียมพร้อมแล้ว เอา
ของเหลวเย็นออกมาสิ เจ้าต้องใช้สงนั
ิ นตอนโดดลงสูใ่ จ
กลางพญาเพลิง”

ไม่ตอ้ งให้เขาเตือน ในมือของมูช่ ิงเกอก็ได้มีขวด


ทีบรรจุของเหลวเย็นวางอยูแ่ ล้ว

“ทันทีทีเจ้าพบกับพญาเพลิงก็โดดลงไปเลย
เรืองอืนไม่ตอ้ งเป็ นห่วง ตังใจกับการกระตุน้ สายโลหิต
ตอนนีมันไม่ทนั ได้ตงตั
ั วถือเป็ นโอกาสทีดีมาก แต่ทนั ทีที
ต้องเริมต่อสูก้ บั มัน บางทีทงเจ้
ั าและข้าอาจจะไม่มี
โอกาสแล้ว” หานฉายไฉ่พดู

12
“แล้วเจ้าล่ะ” มูช่ ิงเกอมองเขา

หานฉายไฉ่กระตุกรอยยิมตรงมุมปาก : “วางใจ
เถิด หากยังไม่ได้ในสิงทีข้าต้องการ ข้าก็จะไม่ไปไหนแน่
ในขณะทีเจ้ากระตุน้ สายโลหิต ข้าจะคอยช่วยเจ้าหลอก
ล่อพญาเพลิง หากมีโอกาส ข้าก็จะเริมกลืนกินมัน และ
หลังจากทีเจ้าทําสําเร็จแล้ว คอยคุม้ ครองข้าก็พอ”

เพียงมองเขาแวบหนึง มูช่ ิงเกอไม่ได้พดู อะไรต่อ

เจ้านีก็พดู ชัดเจนแล้ว ก็คืออยากจะ ‘เล่นทีเผลอ


นันเอง’

13
ทังสามารถตอบสนองความต้องการของนาง
และได้ในสิงทีตนเองปรารถนา

“ถ้าเช่นนันก็ลงมือเถอะ” มูช่ ิงเกอทําท่ายืดเส้น


ยืดสาย จนไขข้อทัวร่างกายส่งเสียงดัง ‘ก๊อกๆ’

หานฉายไฉ่มองนางอย่างพินิจแวบหนึง แล้วพูด
อย่างเย่อหยิงว่า : “เจ้าควรจะเตรียมเสือผ้าเอาไว้สกั ชุด
ข้าไม่อยากจะเห็นสิงทีไม่ควรเห็น” พูดจบก็กวาดสายตา
จากต้นขาทังสองข้างของมูช่ ิงเกอไล่ลงไป

สีหน้าของมูช่ ิงเกอเคร่งขรึมลง แทบจะอดไม่ได้ที

14
จะเข้าไปฉีกปากของเขา

“เป็ นห่วงตัวเองก่อนเถอะ ข้าไม่อยากจะเป็ นตา


กุง้ ยิงหรอกนะ” มูช่ ิงเกอโต้ตอบ

หานฉายไฉ่ไม่เข้าใจว่าตากุง้ ยิงทีนางพูดมีความ
หมายว่าอย่างไร แต่ก็ไม่ได้ถาม เพราะอย่างไรก็คงไม่ใช่
คําทีมีความหมายในแง่ดีแน่นอน

หลังจากทีเตรียม ทังสองก็ลงมือ

ทังสองลอยขึนกลางอากาศ มุง่ ไปในทิศทางที


พญาเพลิงเมฆสุรยิ าซ่อนตัวอยู่
15
และก็เป็ นอย่างทีคิดเอาไว้ ทังสองเพิงจะลอยขึน
กลางอากาศ ใต้ทะเลเพลิงก็มีมวลหมูเ่ พลิงมัจฉาทีมีปีก
จํานวนมหาศาลบินออกมา มันกระพือปี ก แล้วพุง่ เข้าหา
พวกเขา

หมูเ่ พลิงมัจฉาพวกนันไม่ได้ตวั ใหญ่มากนัก ทว่า


มีฟันทีแหลมคมและเต็มไปด้วยเปลวเพลิงทัวทังร่างกาย

หากไม่ระวังแล้วไปโดนเข้า ตอนจบทีได้อาจจะ
เป็ นการถูกเผาไหม้ดว้ ยเปลวเพลิง

หานฉายไฉ่และมูช่ ิงเกอต่างตกใจ และรีบตอบ

16
โต้

แสงสีนาเงิ
ํ นส่องประกาย ป้องกันการเข้าโจมตี
ของเพลิงมัจฉา

แต่ทว่า เพลิงมัจฉาทีมีจาํ นวนนับไม่ถว้ น ร่วมมือ


กันสร้างตาข่ายอันมิดชิด แล้วหว่านมาทางทังสอง

หานฉายไฉ่กวาดดาบทีส่องประกายสีนาเงิ
ํ น
เพือแยกเพลิงมัจฉาออก แล้วคว้าข้อมือของมูช่ ิงเกอโดด
ไปอยูข่ า้ งหลัง แล้วตะโกนเสียงดังว่า : “ถอยก่อน!”

ร่างของทังสองส่องแสงวาบทีหนึง แล้วหยุดอยู่
17
บนหินใหญ่อีกครัง

และหลังจากทีเพลิงมัจฉาพวกนันศูนย์เสียเป้า
หมายทีจะโจมตี ก็กลับเข้าสูท่ ะเลเพลิงอีกหน เพือหลบ
ซ่อนตนเอง

“นีมันอะไรน่ะ” มูช่ ิงเกอถามด้วยความตืน


ตระหนก

ในส่วนลึกของสายตาฉายความเคร่งเครียด :
“ร่างเชิดไฟ”

มูช่ ิงเกอมองเขาแล้วขมวดคิว
18
19
ตอนที 111--2 เพิมยอดขายประจําเดือน ร้องเรียกท่าน
มัว !

หานฉายไฉ่เองก็ขมวดคิวพร้อมอธิบายว่า : “ร่าง
เชิดไฟนันก็คือร่างทีพญาเพลิงสร้างขึน การมีตวั ตนของ
มัน ก็เพือทีจะปกป้องพญาเพลิง ดูเหมือนว่า ก่อนที
พญาเพลิงจะฟื นจากการหลับใหล มันก็ได้เตรียมพร้อม
ไว้แล้ว มันเตรียมร่างเชิดไฟปริมาณมากไว้เพือซุม่ โจมตี
มิให้ผใู้ ดเข้ามาใกล้ได้”

20
แม้แต่ไฟก็ยงั มีสติปัญญาเหรอเนีย !

มูช่ ิงเกอพูดอะไรไม่ออก ได้แต่พมึ พําในใจ

“มีวิธีการแก้ไขหรือไม่” ในส่วนลึกของสายตาอัน
สว่างไสวของมูช่ ิงเกอเองก็แฝงด้วยความหนักใจเช่นกัน

หานฉายไฉ่เลียริมฝี ปากอันแดงกําของตนเอง
พร้อมเผยรอยยิมดูคลุมเครือ : “ร่างเชิดของพญาเพลิง
เมฆสุรยิ าก็เท่ากับตัวของมันเอง แต่ทว่า อาจจะไม่ได้รส
เลิศดังร่างทีแท้จริงของมัน”

“เจ้าคิดจะกลืนกินร่างเชิดเหล่านีรึ” มูช่ ิงเกอม


21
องเขาด้วยความตกใจ

ดวงตาหงส์ฉายแสงประกายทีดูแปลกประหลาด
จ้องเพลิงมัจฉาทีอยูเ่ ต็มทะเลเพลิง : “เหตุใดจะไม่ได้
ก่อนทีจะกลืนกินพญาเพลิงเมฆสุรยิ า ร่างเชิดของพญา
เพลิงเหล่านีก็ถือเสียว่าเป็ นของหวานไปก่อน”

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก นางถอยหลังไปก้าวหนึง


ทําท่าเชือเชิญ : “ขอให้เจ้าทานให้อร่อย”

หานฉายไฉ่กลับแสร้งทําเหมือนไม่ได้ยิน ร่าง
กายราวกับถูกปี ศาจครอบงํา พลันรีบพุง่ เข้าไปอยูเ่ หนือ
ทะเลเพลิง

22
มูช่ ิงเกอมองเขาอย่างแน่วแน่ ไม่ยอมพลาดเลย
แม้แต่เสียววินาทีเดียว

ทันทีทีหานฉายไฉ่ปรากฏตัว ร่างเชิดของพญา
เพลิงทีซ่อนอยูใ่ นทะเลเพลิง ก็ได้บินพุง่ ออกมาทางเขา
ดังศรธนูในทันที

แต่เขา กลับไม่หลบและไม่หลีก มือทังคูว่ างตรง


หน้าอกพลันทําสัญลักษณ์ซบั ซ้อนบางอย่าง ทันใดนัน มู่
ชิงเกอก็เห็นว่ามีสญ
ั ลักษณ์แปลกประหลาดของเปลวไฟ
ปรากฏขึนบนหน้าผากของเขา

23
พร้อมกับสัญลักษณ์ทีเกิดขึน ผมเงาดําของหาน
ฉายไฉ่ก็ได้กลายเป็ นสีแดงโลหิต สีนนดุ
ั จดังเปลวเพลิงที
อยูบ่ นทะเลเพลิงไม่มีผิดเพียน นัยน์ตาหงส์เองก็แปร
เปลียนเป็ นสีโลหิต

มูช่ ิงเกอลืมตาโตและจ้องฉากเบืองหน้านี

ทันใดนัน หานฉายไฉ่ก็รอ้ งตะโกนเสียงดังคํา


หนึง สัญลักษณ์ทีอยูบ่ นหน้าผากสาดส่องแสงประกาย
หมูเ่ พลิงมัจฉาทีบินเข้ามา ก็พงุ่ เข้าปากของเขาและเข้าสู่
ร่างกายของเขาทังหมด

เพียงครูเ่ ดียว ร่างกายของหานฉายไฉ่ก็ได้ถกู

24
เปลวเพลิงล้อมรอบเอาไว้ จนไม่อาจจะเห็นได้อย่าง
ชัดเจน

‘เขาไม่เป็ นอะไรใช่ไหม’ มูช่ ิงเกอถามเหมิงเหมิ


งด้วยความเป็ นห่วงเล็กน้อย

เหมิงเหมิงส่ายหน้าและพูดว่า : “ไม่เป็ นไรๆ


พวกคนทีมีสายโลหิตทีเป็ นธาตุไฟเหล่านี กลืนกินเพียง
ร่างเชิดของพญาเพลิงเพียงเท่านีไม่ถือว่าเท่าไหร่หรอก”

หลังจากนัน นางก็กล่าวเตือนอีกว่า : ‘เจ้านาย


ท่านควรจะถือโอกาสนีในการไปหาพญาเพลิงเมฆสุรยิ า
นะ !’

25
มูช่ ิงเกอตาเป็ นประกาย เม้มปากพร้อมพยัก
หน้า

หากว่าหานฉายไฉ่ไม่เป็ นอันตรายอันใด ถ้าเช่น


นันนางก็ควรจะรีบลงมือ !

ร่างเชิดทีอยูใ่ นทะเลเพลิง ถูกหานฉายไฉ่หลอก


ล่อให้บินขึนมากลางอากาศจํานวนมาก มูช่ ิงเกอจึงใช้
โอกาสนีในการถีบตัวขึนและพุง่ เข้าหาตําแหน่งทีเขาชี

หลังจากทีผ่านทะเลเพลิง และสังหารร่างเชิดไฟ
ไปหลายตัว มูช่ ิงเกอก็เห็นว่า บนก้อนหินก้อนสุดท้ายที

26
อยูใ่ นทะเลเพลิง มีรงั นกวางนิงอยูร่ งั หนึง

รังนกนัน ราวกับสร้างขึนจากแก้วสีเลือด งดงาม


ราวกับเป็ นผลงานทางศิลปะชินหนึง มีขนาดประมาณ
ฝ่ ามือ

ทันทีทีเห็นมัน ในส่วนลึกของสายตาของมูช่ ิงเก


อก็เป็ นประกาย และเร่งรีบมากขึน

ธาตุแท้ของพญาพลิงเมฆสุรยิ าต้องอยูใ่ นรังนก


นันเป็ นแน่

ลอยตัวลงสูก่ อ้ นหินอย่างรวดเร็ว มูช่ ิงเกอหันไป


27
มองหานฉายไฉ่แวบหนึง เห็นเพียงแค่รา่ งของเขาทีถูก
เปลวเพลิงห่อหุม้ เอาไว้ รวมทังดวงตาทังสองทีมีเปลว
เพลิงลุกออกมา ส่วนใบหน้านันไม่หลงเหลือความงด
งามอีกต่อไป ทว่าได้กลายเป็ นดังปี ศาจตนหนึงไปแล้ว

มูช่ ิงเกอขมวดคิวเป็ นปม

เหมิงเหมิงเร่งอีกหน : ‘เจ้านายเร่งมือเข้า ! รีบไป


ปลุกเจ้าหงส์ไฟน้อยนันให้ตืน หากมันกลายเป็ นเปลว
เพลิง ท่านก็กระโดดเข้าไป ไอ้จอมหลงตัวเองนันท่านไม่
ต้องเป็ นห่วง หลังจากทีเขากลืนกินร่างเชิดไปมากถึง
เพียงนันแล้ว พลังจะต้องเพิมขึนอย่างมหาศาล ไม่เป็ น
อันตรายอะไรหรอก’

28
มูช่ ิงเกอมองหานฉายไฉ่แล้วพูดขึนอย่าง
กะทันหันว่า : ‘เหมิงเหมิง เจ้าว่าหากข้าไปหาสายฟ้าที
เกิดจากฟ้าดิน แล้วกลืนกินมันเข้าไป จะสามารถเพิม
พลังสายฟ้าของข้าได้หรือไม่’

‘เอ่อ !’ เหมิงเหมิงอึงไปขณะหนึง ยังคงไม่เข้าใจ


ว่ามูช่ ิงเกอต้องการจะสืออะไร

บ่อสายฟ้าทีอยูใ่ นมิติแห่งช่องว่าง นางเพียงแค่


ใช้ฝึกฝี มือ ในวันนีเห็นหานฉายไฉ่บา้ คลังถึงเพียงนี เป็ น
ครังแรกทีนางรูส้ กึ ว่า การฝึ กฝนทีผ่านมาของตนเองนัน
น้อยเกินไปแล้ว

29
‘เจ้านาย ท่านต้องทําเวลาแล้ว’ เหมิงเหมิงเร่ง

เพราะเหมิงเหมิงทีเร่งไม่หยุด ในทีสุดมูช่ ิงเกอก็


เก็บสายตา เม้มปากและพยักหน้า

นางมองไปยังรังนก ในนันมีหงส์ไฟทีกําลังหลับ
ใหลอยูต่ วั หนึง

หงส์ไฟตัวนันตัวเล็กมาก มีขนาดประมาณนิวหัว
แม่โป้งของเด็กทารก ทังดูสวยงามและน่ารัก

แต่ทว่า มูช่ ิงเกอกลับรูว้ า่ ธาตุแท้ของมัน เป็ น


30
พญาเพลิงทีได้รวบรวมพลังฟ้าดินเอาไว้ ซึงก็คือพญา
เพลิงเมฆสุรยิ า !

มูช่ ิงเกอรวบมือทังสองข้างเอาไว้ ตรงปลายนิวมี


เข็มเล็กๆ ทีส่องแสงประกายสีนาเงิ
ํ นเกิดขึน

หลังจากทีเตรียมพร้อมแล้ว นางก็ซดั เข็มไปที


ส่วนหัวของหงส์ไฟทันที

‘วีด——!’

เสียงแหลมเสียงหนึง ดังขึนอย่างกะทันหัน

31
เสียงนัน ราวกับจะทะลุผา่ นแก้วหูของมูช่ ิงเก
อ สะเทือนจนเกิดความเจ็บปวด !

หลังจากนัน รังนกอันงดงามนัน ก็ถกู แผดเผาไป


ต่อหน้ามูช่ ิงเกอ ส่วนหงส์ไฟทีอยูใ่ นรังก็ตกใจตืนและ
บินออกมา ดวงตาทังคูเ่ ป็ นประกายเพลิงแห่งโทสะ

ไม่จาํ เป็ นต้องเสียแรงตามหา ก็เห็นผูบ้ กุ รุกทีมา


ปลุกมันให้ตืน

เสียงหวีดแหลมดังขึนอีกหน รอบๆ ตัวของหงส์


ไฟเกิดเปลวเพลิงขึน และพุง่ มาทางมูช่ ิงเกอ !

32
มูช่ ิงเกอจับจ้องเปลวเพลิงทีพุง่ เข้าหาตัวเอง
ขวดทีกําอยูใ่ นมือถูกบีบจนแหลกละเอียดในทันที ของ
เหลวเย็นทีขโมยมาจากหอสรรพสิงไหลเข้าปากของนาง

อมของเหลวเย็นเอาไว้ มูช่ ิงเกอกัดฟั นพุง่ ตัวเข้า


หาเปลวเพลิง

‘วีด——!’ พญาเพลิงเมฆสุรยิ าส่งเสียงกรีดอัน


แหลมคม แต่ก็ไม่สามารถสลัดคนทีกําลังพุง่ เข้าหาตนได้

เพราะคุณสมบัติของของเหลวเย็น สามารถ
ป้องกันวิญญาณไม่ให้ถกู กลืนกินจากเปลวเพลิงได้

33
ในขณะทีมูช่ ิงเกอพุง่ เข้าหาพญาเพลิงเมฆสุรยิ า
คือตอนทีจิตวิญญาณจะได้รบั อันตรายมากทีสุด เพราะ
ฉะนันจึงจําเป็ นต้องดืมของเหลวเย็นในตอนนัน

และในขณะทีนางพุง่ เข้าหาพญาเพลิงเมฆสุรยิ า
หานฉายไฉ่เองก็เสร็จจากการกลืนกินร่างเชิดของพญา
เพลิง เส้นผมและนัยน์ตาของเขา กลับมาเป็ นสีดาํ ดังเดิม
อีกทังยังเห็นวินาทีทีมูช่ ิงเกอพุง่ เข้าหาพญาเพลิงเมฆ
สุรยิ า

นัยน์ตาหงส์อนั เรียวยาวหรีลง เขาปล่อยพลังฝ่ า


มือไปยังพญาเพลิงเมฆสุรยิ าทีอยูใ่ นห้วงโทสะอย่าง
รุนแรงทีหนึง

34
อย่างทีได้ตกลงกันก่อนหน้านี ในระหว่างทีมูช่ ิง
เกอกระตุน้ สายโลหิต เขารับหน้าทีล่อหลอกพญาเพลิง
เมฆสุรยิ า และหลังจากทีมูช่ ิงเกอได้กาํ จัดพลังอันสูงสุด
จากพญาเพลิงเมฆสุรยิ าไปแล้ว เขาจะหาโอกาสที
เหมาะสมในการกลืนกินพญาเพลิงเมฆสุรยิ าเสีย !

พญาเพลิงเมฆสุรยิ าคงจะคิดไม่ถงึ ว่า ตนเอง


นอนอยูด่ ีๆ แต่กลับถูกมนุษย์ทงสองรบกวนเช่
ั นนี

อีกทัง ทังสองยังเริมสูก้ บั มันด้วย

กลินอายสายโลหิตในตัวของหานฉายไฉ่ ทําให้

35
พญาเพลิงเมฆสุรยิ าตืนตัว และรูถ้ งึ เป้าหมายของเขา
โทสะในส่วนลึกของดวงตาเพิมมากขึน ไม่สนใจมูช่ ิงเก
ออีกต่อไป เพียงอยากจะสังหารชายทีอยูต่ รงหน้าให้สนิ
ซาก

ไม่วา่ การต่อสูภ้ ายนอกจะดุเดือดมากเพียงใด มู่


ชิงเกอก็ไม่สามารถรับรูไ้ ด้

นางรูเ้ พียงว่า ตนเองได้ถกู เปลวเพลิงจํานวน


มหาศาลล้อมรอบเอาไว้

เสือผ้าบนร่างกายของนางกลายเป็ นเศษผงใน
ทันที และเผยให้เห็นเนือกายอันขาวผุดผ่อง

36
ตุม้ หูสีมว่ งบนหูซา้ ย ราวกับไม่สามารถรับความ
ร้อนอันมหาศาลได้ พลันเกิดเสียง ‘แกร่ก’ ทีหนึง และ
เกิดรอยร้าวขึน

เครืองมือมายาได้รบั ความเสียหาย ทําให้รา่ ง


กายของมูช่ ิงเกอค่อยๆ ปรากฏส่วนเว้าส่วนโค้งอันอ่อน
นุ่ม เครืองหน้าพลันหวานละมุนอ่อนโยนมากขึน ชาย
หนุ่มผูง้ ดงามอย่างร้ายกาจ พลันกลับกลายเป็ นสาวน้อย
งดงามไร้ทีเปรียบในทันที

“อึก……” ความรูส้ กึ ดังถูกไฟคลอกเช่นนี ทําให้


มูช่ ิงเกอทนไม่ได้ทีจะอุทานออกมา

37
ผิวกายของนางไม่ได้ขาวผุดผ่องอีกต่อไป ทว่า
กลับกลายเป็ นสีแดงส้มดังเปลวเพลิง เส้นเลือดใต้ผิว
หนัง ชัดเจนเป็ นอย่างมาก เลือดทีอยูใ่ นเส้นเลือดไหล
เวียนราวกับเป็ นลาวา

รัดเกล้าทีรวบผมเอาไว้แตกกระจาย เส้นผมอัน
เงาดําทิงตัวลง เส้นผมทุกเส้นล้วนอยูใ่ นเปลวเพลิง ราว
กับได้รบั การชําระล้างจากพญาเพลิง

“อ๊า——!”

เสียงร้องทีเจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ เจือ

38
ไปด้วยความแหลมก้องกังวานของหญิงสาว

หานฉายไฉ่ทีกําลังหลอกล่อพญาเพลิงเมฆ
สุรยิ ามองด้วยความอึง และมองเงาร่างทีจมอยูใ่ นเปลว
เพลิง

เงาร่างนัน ชัดเจนเป็ นครังครา แต่กลับงดงาม


ยัวยวนเป็ นอย่างมาก ชวนให้ลมุ่ หลงคลังไคล้ถงึ ทีสุด ท่า
ทางของเขาทังตืนตะลึงและอึงอยูก่ บั ที

พญาเพลิงเมฆสุรยิ าใช้โอกาสนีในการพ่นเปลว
เพลิงออกมาจนโดนเข้าทีหน้าอกของเขาเต็มๆ ทําให้เขา
ตกลงไปในทะเลเพลิง

39
หลังจากนันไม่นาน หานฉายไฉ่ก็โดดขึนมาจาก
ทะเลเพลิง และสูก้ บั พญาเพลิงเมฆสุรยิ าอีกหน แววตา
ของเขาลําลึก ภาพทีเห็นเมือครู ่ ได้ฝังลึกอยูใ่ นหัวสมอง
ของเขาแล้ว แต่ตอนนี จะไม่สามารถรบกวนสมาธิของ
เขาได้อีกแม้แต่นอ้ ย

‘บัดซบ ! ไอ้เหมิง เจ้าไม่เคยบอกว่าการกระตุน้


สายโลหิตนันทรมานมากถึงเพียงนีนี !’ อารมณ์ของมูช่ ิง
เกอดุรา้ ยถึงขีดสุด รวมกับสภาพของนางในตอนนี ราว
กับเป็ นผีรา้ ยทีผุดขึนมาจากเปลวเพลิงแห่งนรก

‘เจ้านาย การถูกพญาเพลิงเผาร่างมันก็ตอ้ ง
ทรมานมากอยูแ่ ล้ว แต่ทา่ นต้องทนให้ได้ อย่าให้
40
วิญญาณแตกสลายนะ ! ฮือๆๆๆ หนูเหมิงยังไม่อยาก
ตาย หนูเพิงจะฟื นเองนะ !’

41
ตอนที 111-3 เพิมยอดขายประจําเดือน ร้องเรียกท่าน
มัว !

‘ไสหัวไป ! หนวกหูเว้ย !’ มูช่ ิงเกอกัดฟั นพูด

“อุก่ ~”

มูช่ ิงเกอห่อตัว เพือรับกับการกัดกร่อนของเปลว

42
เพลิง

‘ต้องถึงขันไหนถึงจะถือว่าสําเร็จ’ ในขณะทีรับ
มือกับความเจ็บปวด นางเอ่ยถามขึน

เหมิงเหมิงรีบตอบว่า : ‘หากท่านรูส้ กึ ว่าโลหิตใน


กายไหลเวียนได้ไหลลืน หรือไม่ก็รูส้ กึ ว่าภายในร่างกาย
ได้เกิดการฉีกขาดและส่งเสียงแตกหัก ก็ถือว่าสําเร็จแล้ว
เจ้านายสูๆ้ !’

มูช่ ิงเกอกัดฟั นแน่น หลับตาทังคูล่ ง และ


พยายามสัมผัสความรูส้ กึ ดังเช่นทีเหมิงเหมิงพูด

43
ไม่รูว้ า่ จะอีกนานเท่าไหร่ ทันใดนัน นางพลันรูส้ กึ
ราวกับว่าได้ยินเสียงแตกหักดังออกจากร่างกาย วินาที
ต่อมา เส้นเลือดทัวทังร่างกายราวกับกําลังเดือดขึนมา

นางลืมตาขึนอย่างกะทันหัน และพูดเสียงหลง
ว่า : “สําเร็จแล้ว !”

“เสียวเกอเอ๋อร์ เจ้าช่างทําตัวให้คนอืนเป็ นห่วง


เสียจริง เรืองอันตรายเพียงนี ยังกล้าทําลับหลังข้า เฮ้อ
~!”

ทันใดนัน ไออุน่ ทีเต็มไปด้วยความกดดันและ


เสียงทีไม่มีตน้ สายปลายเหตุแต่แฝงความสูงส่งดังขึน

44
ข้างหูมชู่ ิงเกอ ทําให้นางตัวแข็งทือทันที

ไม่รอให้นางได้แสดงปฏิกิรยิ าอันใด เสียงแหลม


และแฝงความทรมานของหงส์ไฟก็ดงั ขึน

จากนัน นางก็รูส้ กึ ว่าเปลวเพลิงทีปกคลุมตัว


นางอยูไ่ ด้หายไปอย่างกะทันหัน แสงไฟกลุม่ หนึงเคลือน
ตัวเข้าใกล้ตาํ แหน่งทีหานฉายไฉ่อยู่ และล้อมรอบเขา
เอาไว้ จนเขาตกลงสูท่ ะเลเพลิงอีกครัง

ทันใดนัน สายตาของนางก็พร่ามัวลงอีกครัง
พลันรูส้ กึ ว่าตนเองได้ตกอยูใ่ นอ้อมแขนของคนในชุดสี
ขาว

45
เปลวเพลิงสลายหายไป เนือกายของนางก็
ค่อยๆ กลายเป็ นสีขาวบริสทุ ธิดังเดิม โลหิตดังเปลวเพลิง
ทีไหลเวียนอยูใ่ นร่างกายก็คอ่ ยๆ หายไป

ทันทีทีเงยหน้าขึน ก็พลันไปสบกับสายตาอันลึก
ซึงคูน่ นั มูช่ ิงเกอถามด้วยความฉงนใจว่า : “ท่านมาได้
อย่างไร” ไม่รอให้เขาตอบ นางก็ถามต่อว่า : “ท่านทํา
อะไรหานฉายไฉ่”

“เสียวเกอเอ๋อร์กาํ ลังเป็ นห่วงเขาหรือ” ซือมัวยิม


แต่ทว่าในส่วนลึกของสายตากลับฉายแววอันตราย

46
เบืองหลังของหน้าตาอันงดงามลงตัวไร้ทีเปรียบ
และความงามละเอียดลออ มีไอสังหารซ่อนอยู่

เหอะ เสียวเกอเอ๋อร์ของเขาเป็ นห่วงเป็ นใยชาย


อืนมากถึงเพียงนีเชียวหรือ...ฮู่ว เขาควรจะจัดการกับ
ชายผูน้ นอย่
ั างไรถึงจะสาสม บีบให้แหลกละเอียด เผา
ให้สนซาก
ิ หรือว่าจะแล่เนือออกเป็ นชินๆ

สีหน้าของมูช่ ิงเกอมืดมนลงในทันที : “เขาเป็ น


พวกเดียวกับข้า ไม่เป็ นห่วงเขาจะให้เป็ นห่วงท่านหรือ
อย่างไร” ฐานะทีแท้จริงของหานฉายไฉ่นนไม่
ั ธรรมดา
หากตายทีนี จะต้องมีเรืองวุน่ วายตามมาเป็ นแน่

47
“เสียวเกอเอ๋อร์พดู เช่นนี ช่างน่าเศร้าใจเสียจริง”
อ้อมแขนของซือมัวค่อยๆ แน่นขึน นัยน์ตาสีอาํ พัน แฝง
ความน่าเย้ายวนดังอัญมณีอนั ลําค่า

ปลายนิวของเขา ปั ดผ่านแก้มของมูช่ ิงเกอราว


กับไม่ได้ตงใจ
ั ทําให้อีกฝ่ ายขนลุกอย่างทนไม่ได้

‘เจ้านายๆ ท่านไม่ได้สวมเสือผ้า !’

คุณตัวประหลาดทําให้มชู่ ิงเกอตกใจตัวแข็ง ทัน


ใดนันเสียงทีดังขึนในหัวก็เป็ นดังเสียงฟ้าผ่า ดวงตาของ
นางเบิกกว้างในทันที

48
ปฏิกิรยิ าเช่นนีของนาง ทําให้รอยยิมทีซ่อนอยูใ่ น
แววตาของซือมัวชัดเจนมากขึนกว่าเดิม สุดท้ายเสียวเก
อเอ๋อร์ก็รูส้ กึ ตัวจนได้

“นี รบกวนท่านโปรดหลับตาและออกไปจากตรง
นีด้วย” มูช่ ิงเกอพยายามแข็งใจและพยักพเยิดหน้าเพือ
แสดงคําสัง

ในขณะทีกระตุน้ โลหิต เครืองมือมายาได้รบั


ความเสียหาย ในตอนนีนางกลับไปเป็ นผูห้ ญิง หากใคร
มาเห็นเข้า ตนเองจะเสียเปรียบ

“เหตุใดเสียวเกอเออร์จงึ ทําให้เรืองมันยุง่ ยาก

49
เช่นนี” ซือมัวยิมไม่หบุ แสงประกายอันเจิดจ้าส่อง
แสงอย่างไม่ขาดสาย

มูช่ ิงเกอขมวดคิว ยังไม่เข้าใจความหมายทีเขา


ต้องการจะสือ

ซือมัวเองก็ไม่คิดทีจะอธิบาย สะบัดมือคูใ่ หญ่ที


หนึง ชุดทีมูช่ ิงเกอได้เตรียมเอาไว้ก่อนแล้ว ได้ลอยเข้ามา
หานางในทันที

มูช่ ิงเกอมองฉากตรงหน้าพลันเบิกตาโต และ


แอบคิดด้วยความตืนตระหนกว่า : ‘ตาบ้านีคงไม่ได้คิด
จะสวมเสือผ้าให้ขา้ หรอกนะ !’

50
กําลังจะต่อต้าน มูช่ ิงเกอก็เห็นเสือผ้าร่วงลง
อย่างกะทันหัน จนบดบังสายตาของนาง

วินาทีตอ่ มา นางก็รบั รูถ้ งึ ความรัดแน่นของร่าง


กาย เสือผ้าทีพุง่ เข้ามาหานาง ในตอนนีได้สวมอยูบ่ น
ร่างกายของนางเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว

‘แม้กระทังสวมเสือผ้า ยังสามารถทําได้ดว้ ยวิธี


เช่นนี !’ มูช่ ิงเกอรูส้ กึ ว่าตนเองได้เปิ ดวิสยั ทัศน์ให้กว้าง
ไกลมากขึนแล้ว

หลังจากทีสวมเสือผ้าเสร็จแล้ว มูช่ ิงเกอก็ผลัก

51
แขนของซือมัวออก แล้วลุกขึนมา

ร่างกายไม่ได้รบั อันตรายประการใด จึงทําให้ซือ


มัวไม่มีเหตุผลทีจะเข้ามาใกล้

ค่อยๆ เว้นระยะห่างจากเขา และไม่ทนั ได้สงั เกต


ท่าทางทีแฝงความผิดหวังของซือมัว พลันถามขึนอีกหน
ว่า : “ท่านมาอยูท่ ีนีได้อย่างไร แล้วหานฉายไฉ่เป็ นอย่าง
ไรบ้าง”

รอยยิมของซือมัวแฝงแววอันตราย นําเสียงทุม้
ตําชวนมึนเมาแฝงความสูงส่งและเกียจคร้าน : “เสียวเก
อเอ๋อร์ไม่รูส้ กึ หรือว่า การเอ่ยถึงชายอืนต่อหน้าข้าเป็ น

52
เรืองเสียมารยาท”

มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก และถามอย่างเย็นเยียบ


ว่า : “ตอบคําถามของข้า” หานฉายไฉ่ตกลงในทะเลไฟ
เป็ นเวลานานแล้ว ไม่รูว้ า่ เป็ นตายร้ายดีอย่างไร

มูช่ ิงเกอยังคงขมวดคิวเป็ นปมไม่หยุด

ซือมัวจ้องนาง นัยน์ตาเป็ นประกาย แล้วตอบ


ว่า : “ทีข้ามาทีนี แน่นอนว่าเพราะเสียวเกอเอ๋อร์ สําหรับ
เจ้าคนหญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิงผูน้ นอยากจะกลื
ั นกิน
พญาเพลิงเมฆสุรยิ ามิใช่หรือ ข้าเพียงแค่ช่วยเขาก็เท่า
นัน” แต่จะสําเร็จหรือไม่ จะมีชีวิตรอดหรือไม่นนไม่
ั เกียว

53
กับข้า

ซือมัวพูดในใจ

ทีแท้หานฉายไฉ่ก็กาํ ลังกลืนกินพญาเพลิงเมฆ
สุรยิ า

มูช่ ิงเกอทีได้รบั คําตอบโล่งใจและหมดห่วง

เหมิงเหมิงทีอยูใ่ นห้วงความคิดของมูช่ ิงเกออ


ยากจะเตือนนางว่า การกลืนกินพญาเพลิงเมฆสุรยิ านัน
อันตรายกว่าการกระตุน้ สายโลหิต แต่พอสัมผัสได้ถงึ
ความโหดเ**◌้ยมของคนทีอยูข่ า้ งๆ เจ้านาย นางก็รูส้ กึ
54
ว่า ตนเองควรอยูอ่ ย่างสงบเสงียมจะเป็ นการดีทีสุด

ในขณะเดียวกัน นางก็แอบจุดเทียนในใจเพือไว้
อาลัยให้กบั เขา

พญาเพลิง เป็ นของวิเศษทีมหัศจรรย์อย่างมาก


หากคนธรรมดาอยากจะกลืนกินมันและหากไม่ระวัง
อาจจะถูกกลืนกินกลับจนสินซาก

นีเป็ นการประลองระหว่างพญาเพลิงเมฆสุรยิ า
และหานฉายไฉ่ ไม่มีใครสามารถช่วยได้

“ท่านมาทีนีเพือมาหาข้าอย่างนันหรือ มีธุระอัน
55
ใด” เมือรูว้ า่ หานฉายไฉ่ไม่ได้ถกู คุณตัวประหลาดสังหาร
มูช่ ิงเกอก็เริมสนใจถึงเหตุผลทีชายผูน้ ีปรากฏตัว

ในตอนทีเขาจากไปเมือคราทีแล้ว บอกว่ามีเรือง
ต้องไปจัดการ กว่าจะกลับมาก็อีกนานมิใช่หรือ

เหตุใดเพียงแค่สองสามเดือน เขาก็กลับมาอีก
แล้วล่ะ

อีกประการหนึง รูต้ าํ แหน่งของนางและพญา


เพลิงเมฆสุรยิ าอย่างแม่นยําเช่นนี......

มูช่ ิงเกอขมวดคิว รวมความสงสัยทุกประการ


56
เอาไว้ทีกูหยาทีตามติดตัวนางอย่างเงียบๆในตอนนี กู
หยาทีถูกชายขีหึงผูน้ ีทิงเอาไว้เหนือพืนดิน ในใจเป็ นทุกข์
อย่างไม่อาจจะบรรยายได้ เขาไม่ได้บอกอะไรท่าน
ประมุขเลยนะ แต่วา่ ในหลินชวนแห่งนี ยังจะมีอะไรที
สามารถปิ ดบังท่านประมุขได้อีก

ประเด็นอยูท่ ีว่า เขาจะสนใจหรือเปล่าก็เท่านัน

คุณชายของตระกูลมูท่ า่ นนี ได้รบั ความโปรด


ปรานมากขึนเพียงนี หากไม่อยากเป็ นทีสนใจก็คงจะ
ยาก !

“แน่นอนว่าต้องมีธุระ” ซือมัวพยักหน้าและใช้มือ

57
คูใ่ หญ่ของตนเองจูงมือของมูช่ ิงเกอ

มูช่ ิงเกอพยายามดินรนสุดชีวิต แต่กลับเห็นสาย


ตาทีแฝงการติเตือนของชายหนุ่ม

นัยน์ตาสีอาํ พันนัน แฝงการเตือนทีรุนแรงเป็ น


อย่างมาก พอคิดถึงว่าในตอนนีความสามารถของตน
เองยังด้อยกว่า มูช่ ิงเกอทําได้เพียงทําตามคําสังและเลิก
ดินรน

58
ตอนที 111-4 เพิมยอดขายประจําเดือน ร้องเรียกท่าน

59
มัว !

อย่างไรก็ตามเพียงแค่ถกู จับมือ ไม่ได้เสียหายอะไรมาก


นัก

ส่วนการแก้แค้นนัน จะเกิดขึนในสักวันหนึง ครานีและใน


คราก่อนๆ ทีผ่านมา หากนางมีโอกาส นางจะต้องเอาคืน
แน่

“มีอะไร” มูช่ ิงเกอถามอย่างไม่พอใจ

60
เพียงแค่วา่ ทันทีทีสินเสียงของนาง ภายในถําก็ได้มีการ
เปลียนแปลงเกิดขึน

โลกลาวาทีร้อนอย่างหาทีสุดไม่ได้ในตอนแรก เปลว
เพลิงทีอยูบ่ ริเวณโดยค่อยๆ สลายตัว อุณหภูมิก็พลัน
เกิดการเปลียนแปลงอย่างรวดเร็ว เปลวเพลิงจํานวนนับ
ไม่ถว้ นไหลลงสูท่ ะเลลาวา แล้วหมุนตัวไปมา

ในตอนนี ภายในถํา เพียงพริบตา ก็ราวกับเปลียนไปเป็ น


โลกอีกใบหนีง

บนฝัง ได้กลายเป็ นโลกแห่งหินขาว แสงของลาวาเจิดจ้า


มากยิงขึน กลายเป็ นดังดวงอาทิตย์

61
“เกิดอะไรขึน” มูช่ ิงเกอพูดด้วยความตกใจ

ซือมัวหรีตาลง และแอบคิดในใจว่า ‘ดูเหมือนว่า เจ้านัน


จะนับว่าเป็ นคนโชคดีคนหนึง เจ้าคนตายยากเช่นนี อยู่
ข้างๆ เสียวเกอเอ๋อร์นานย่อมไม่ใช่เรืองดีแน่’

“เสียวเกอเอ๋อร์ไม่ตอ้ งเป็ นห่วง นีเป็ นเพียงแค่การเริมต้น


ของขันตอนการหลอมรวม” ซือมัวอธิบายอย่างแนบนิง

เขาไม่ชอบให้คนตัวเล็กทีอยูข่ า้ งกายคนนีสนใจใครมาก
เกินไป

62
พอได้ยินคําอธิบายของซือมัว มูช่ ิงเกอก็พยักหน้าและละ
สายตาจากทะเลลาวาทีกําลังหมุนไปมา แล้วมองชาย
หนุ่มร่างสูงทียืนอยูเ่ คียงข้าง

ในตอนนีส่วนสูงของนางไม่ได้เตียมาก หากเมือ
เทียบกับชายหนุ่มธรรมดาแล้ว ถือว่าอยูใ่ นเกณฑ์สงู

ทว่า ชายหนุ่มทีอยูข่ า้ งกาย นางยังสูงเพียงแค่


ระดับไหล่ของเขาเท่านัน ในด้านความสง่าและทรง
อํานาจจึงน้อยกว่ามาก

“เสียวเกอเอ๋อร์ไม่ดีใจหรือทีข้ามาหา” ซือมัวมองตาที
เต็มไปด้วยคําถามของนาง ในนําเสียงเต็มไปด้วยความ

63
เอ็นดู

“ไม่ดีใจ” มูช่ ิงเกอตอบตามความเป็ นจริง

คําตอบนี ทําให้ซือมัวจนปั ญญาแต่ก็ไม่สามารถทําอะไร


ได้ เขารูส้ กึ ว่า ความเป็ นศัตรูทีเสียวเกอเอ๋อร์แสดงต่อเขา
นันชัดเจนเป็ นอย่างมาก แต่เขาก็ไม่เคยทําอะไรให้นาง
ไม่พอใจนีนา

เขากลับไม่รูว้ า่ ปฏิกิรยิ าเช่นนีของมูช่ ิงเกอ เหตุผล


ประการหลักคือนางเห็นเขาเป็ นศัตรูทีสมมติขนึ

หลังจากมูช่ ิงเกอเกิดใหม่ เขาเป็ นคนแรกทีนางพบ และ


64
เป็ นเพียงคนเดียวทีนางยอมรับว่าเก่งกาจ สําหรับมูช่ ิงเก
อแล้ว เขาเหมือนเป็ นความท้าทายอย่างหนึง และเป็ น
เป้าหมายของการอยากเป็ นคนทีแข็งแกร่งขึนกว่าเดิม

ต้องมีสกั วันหนึง ทีได้เปิ ดศึกกับเขาสักหน นีคือเป้า


หมายในใจของมูช่ ิงเกอ

“เสียวเกอเอ๋อร์จะไปโรงโอสถ ข้าก็จะไปเหมือนกัน พวก


เรามารวมตัวร่วมเดินทางไปด้วยกันพอดีเลย” ซือมัว
สร้างข้ออ้างขึนมา

“ท่านจะไปโรงโอสถหรือ” มูช่ ิงเกอมองเขาด้วยความ


สงสัย ราวกับกําลังประเมินความจริงของคําพูดนี

65
ซือมัวพยักหน้าอย่างแนบนิง

เพราะอย่างไร เขาก็ยงั ไม่ถงึ ขันโกหก เพือพัฒนาความ


สัมพันธ์กบั เสียวเกอเอ๋อร์ แน่นอนว่าเขาจะต้องเดินทาง
ไปพร้อมกับนาง

“ท่านจะไปทําอะไรทีโรงโอสถ” มูช่ ิงเกอมองเขาอย่าง


ระแวดระวัง

ซือมัวพูดพร้อมรอยยิม : “เสียวเกอเอ๋อร์คงไม่ได้ลืมฐานะ
ทีแท้จริงของข้าใช่หรือไม่ โรงโอสถทีเมืองอวีเป็ นโรง
โอสถสาขาย่อย และโรงโอสถหลักของมันอยูท่ ีอาณา

66
จักรเซิงหยวน”

ใช่สิ ! นางเกือบจะลืมเรืองนีไปเลย

มูช่ ิงเกอกระจ่างทุกอย่างในทันที โรงโอสถหลักอยูท่ ี


อาณาจักรเซิงหยวน และซือมัวถือเป็ นผูม้ ีอาํ นาจสูงสุด
ในอาณาจักรเซิงหยวน หรือว่าทีไปโรงโอสถอาจจะเป็ น
เพราะมีธุระ?

ในแววตาทีแฝงความซือตรงของใครคนหนึง ทําให้มชู่ ิง
เกอเชือในเหตุผลนัน

แต่ทว่า ข้อเสนอประการต่อมาของมูช่ ิงเกอกลับทําให้


67
เขาขมวดคิว : “ในคราวนีข้าคิดจะปิ ดบังฐานะทีแท้จริง
ของตนเอง หากท่านร่วมเดินทางกับข้า ก็จะเป็ นการ
ประกาศฐานะทีแท้จริงของข้ามิใช่หรือ อีกทังยังมีมงั กร
พยัคฆ์วายุของท่าน ใครในแคว้นฉินบ้างทีจะไม่รูจ้ กั คน
ในเมืองอวีเองก็เช่นกัน”

“เสียวเกอเอ๋อร์เพียงแค่อยากจะปิ ดบังฐานะทีแท้จริงของ
ตนเอง ถึงตอนนันอย่างมากข้าก็แค่บอกว่าเจ้าเป็ นคน
ติดตามของข้า หรือเป็ นน้องชายก็พอแล้ว” ซือมัวพูดทัง
รอยยิม

“ข้าขอปฏิเสธ!” มูช่ ิงเกอปฏิเสธโดยไม่คิด

68
ทําไมนางต้องติดตามเขาด้วย?

“หากเสียวเกอเอ๋อร์ไม่เห็นด้วย.....” ซือมัวก้มหน้าลงแล้ว
พินิจ ครูห่ นึง เขาจึงมองมูช่ ิงเกอด้วยสายตาเจือไปด้วย
การไม่ได้รบั ความเป็ นธรรมและเอ่ยอย่างประนี
ประนอม : “ก็ให้ขา้ เป็ นผูต้ ิดตามเสียวเกอเอ๋อร์แล้วกัน
บอกไปว่า......ข้าเป็ นพีชายของเจ้า”

“……” มูช่ ิงเกอกระตุกมุมปาก จ้องดวงตาสีอาํ พันของ


ใครบางคน ด้วยความรูส้ กึ เหมือนกําลังถูกล่อหลอก

เห็นได้ชดั เลยว่าเขากําลังใช้แผนรุกเพือถอย ใช้ไม้นี เพือ


ให้นางหลงกล

69
พีชายอย่างนันหรือ? ช่างเป็ นพีชายทีแสนดียงนั
ิ ก

มูช่ ิงเกอโกรธจนเผยรอยยิมอันเย็นเยียบ

เจ้าปี ศาจผูน้ ี ไม่เพียงแค่พลังแข็งแกร่ง แต่ยงั


ฉลาดเฉลียวเหนือชันเป็ นอย่างมาก

“องค์มหาปราชญ์ เลือมใส เลือมใส” มูช่ ิงเกอกัดฟั นพูด

พอซือมัวโค้งยิม ทุกอย่างรอบตัวก็ราวกับจืดจางลงไป
พูดอย่างแนบนิงว่า : “ชมเกินไปแล้วๆ”

70
จะต้องมีสกั วันหนึงทีข้าจะฉีกใบหน้าอันเสแสร้งนันของ
เจ้าให้กระจุย !

มูช่ ิงเกอแอบตะโกนด้วยความโกรธในใจ

“พอเถิด เสียวเกอเอ๋อร์ อยูท่ ีนีนานไม่ดีตอ่ สุขภาพของ


เจ้า ในเมือได้สาํ เร็จตามเป้าหมายแล้ว เราก็ไปกันเถิด”
อยูๆ่ ซือมัวก็พลันพูดขึนอย่างกะทันหัน

ไปอย่างนันหรือ

มูช่ ิงเกอขมวดคิว แล้วมองลาวาทีหมุนไปมาอย่างรวด


71
เร็วมากขึนเรือยๆ : “หานฉายไฉ่ละ่ ”

ซือมัวตอบว่า : “เขาต้องกลืนกินพญาเพลิงเมฆสุรยิ า
ต้องใช้เวลานานมาก บางทีอาจจะเดือนสองเดือน หรือ
บางทีอาจจะครึงปี เสียวเกอเอ๋อร์แน่ใจหรือว่าจะรออยูท่ ี
นี”

‘นานเพียงนันเชียวหรือ’ มูช่ ิงเกอขมวดคิวมากขึนกว่า


เดิม

นางไม่ได้มีเวลารอมากถึงเพียงนัน

“ท่านแน่ใจหรือว่าเขาจะไม่เป็ นอันตรายอันใด” มูช่ ิงเก


72
อมองซือมัว ในสายตาอันสว่างแฝงความแน่วแน่ทีไม่ได้
เห็นได้บอ่ ยมากนัก

เป็ นห่วงชายอืนเช่นนี ทําให้ซือมัวไม่ชอบใจเป็ น


อย่างมาก ‘อืม ต้องการสังหารใครบางคน ต้องทําอย่าง
ไรดีนะ !’ แต่ทว่า เขาก็ยงั คงมองมูช่ ิงเกอด้วยรอยยิมที
งดงามไร้ทีติ และยืนยันว่า : “ข้ามันใจว่าเขาจะไม่ตายที
นี หากว่าเจ้ายังไม่วางใจ ก็ให้กหู ยาคอยเฝ้าอยูท่ ีนี อย่าง
ไรก็ตาม ช่วงนีเจ้าก็จะมีขา้ อยูเ่ คียงข้าง เขาก็ไม่ได้มี
ประโยชน์อนั ใดแล้ว”

“ดี ทําตามทีท่านบอกเถิด” มูช่ ิงเกอหยุดคิดครูห่ นึง ก็


ตัดสินใจ

73
‘ฮัดชิว!’ กูหยาทีเฝ้าอยูเ่ หนือพืนดินจามอย่างไร้สาเหตุ

ผูท้ ีเคยมีประสบการณ์มาก่อน พลันคิดถึงความเป็ นไป


ได้บางอย่าง

ทันใดนัน ใบหน้าก็มืดมนลงและพูดอย่างไม่ชอบใจเป็ น
อย่างมาก “ท่านประมุข ท่านจะทิงข้าอีกแล้วหรือ!”

“ถ้าเช่นนัน เราไปกันเถิด” ซือมัวเดินมาอยูข่ า้ งๆ มูช่ ิงเก


อ แขนเสืออันหลวมใหญ่เกียวนางเอาไว้ในทันที

มูช่ ิงเกอขมวดคิว ในสายตาเต็มไปด้วยคําถาม


74
ตอนที 111-5 เพิมยอดขายประจําเดือน ร้องเรียกท่าน

75
มัว !

เขาตอบด้วยนําเสียงทีแฝงความจริงใจ : “เครืองมือ
มายาของเจ้ายังไม่ได้รบั การซ่อมแซม ออกไปเช่นนีอาจ
จะไม่สะดวก ให้ขา้ พาเจ้าออกไปเถิด”

“ได้” ทันทีทีนึกได้วา่ ตอนนีตนเองปล่อยผมยาวสยาย


และยังอยูใ่ นร่างกายของหญิงสาว มูช่ ิงเกอจึงยอมรับข้อ
เสนอของซือมัวโดยไม่ตอ้ งคิดมาก

ได้รบั คําตอบจากนาง ซือมัวก็ยมอย่


ิ างพอใจ
76
ทันใดนัน ทังสองก็ได้กลายเป็ นแสงสีขาวสายหนึง
แล้วหายออกไปจากถํา เหลือไว้เพียงแค่ลาวาทียังคง
หมุนวนไม่หยุด

……

หลังจากทีเท้าของมูช่ ิงเกอแตะพืนก็ได้ลืมตาขึน และพบ


ว่าสถานทีทีตนเองอยูร่ าวกับเป็ นห้องในโรงเตียม

ซือมัวยืนอยูข่ า้ งๆ นาง

ในขณะทีนางกวาดสายตามองไปรอบๆ ซือมัวก็คอย
77
อธิบายอยูข่ า้ งๆ ว่า : “นีเป็ นห้องทีกูเย่ได้เตรียมเอาไว้
เราพักทีนีสักคืนก่อน พรุง่ นีค่อยออกเดินทางไปรวมตัว
กับคนของเจ้า”

“ทีนีทีไหน” มูช่ ิงเกอหันไปถามเขา

“เป็ นตัวเมืองเล็กๆ ทีห่างจากทีราบลัวรือไม่มากนัก


เพราะเป็ นเมืองเล็กๆ จึงไม่มีทีพักดีๆ ทําให้เสียวเก
อเอ๋อร์ตอ้ งลําบากแล้ว” ในนําเสียงของซือมัวแฝงความ
รูส้ กึ ผิด

ไม่ถือว่าดีหรือ

78
มูช่ ิงเกอกวาดสายตามองการตกแต่งภายในห้องอีกหน
พลันขมวดคิวเบาๆ

ห้องนีถูกตกแต่งอย่างงดงามและละเอียดอ่อน แทบจะดี
กว่าจวนของนางทีแคว้นฉินอีก หากทีเช่นนีไม่ดี แล้ว
จวนทีแคว้นฉินของนางจะเรียกว่าอะไร บ้านหมารึไง?

“ถ้าเช่นนัน ตอนนีเรายังอยูใ่ นอาณาเขตแคว้นลี


อย่างนันรึ” มูช่ ิงเกอถาม

ก่อนหน้านีตัวประหลาดเฒ่าได้บอกว่า พักทีนี
วันหนึงแล้วค่อยไปรวมตัวกับพวกมัวหยาง ตอนทีแยก
กัน พวกเขาได้นดั พบกันทีชายแดนระหว่างแคว้นลีและ

79
แคว้นอวี

ด้วยอุปนิสยั ของตัวประหลาดเฒ่าแล้ว แน่นอนว่าจะไม่


มีวนั เดินถอยหลัง

ถ้าเช่นนันก็หมายความว่า พวกเขายังอยูใ่ นแคว้นลี

และเป็ นอย่างทีคิดเอาไว้ สําหรับคําพูดของมูช่ ิงเกอ ซือ


มัวพยักหน้ารับ

“เราไปหาพวกเขาเลยก็ได้นี” มูช่ ิงเกอพูดพลางขมวดคิว

ซือมัวมองนางอย่างพินิจรอบหนึง แสงประกายที
80
ส่องออกมาจากดวงตามืดมนลง : “เจ้าแน่ใจหรือว่าจะ
ไปพบพวกเขาในสภาพเช่นนี เครืองมือมายาของเจ้าพรุง่
นีถึงจะคืนสูส่ ภาพเดิม”

มูช่ ิงเกอเม้มริมฝี ปากแน่น

แม้วา่ พวกมัวหยางจะรูเ้ พศทีแท้จริงของนาง แต่ตวั นาง


ยังไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาในร่างทีเป็ นหญิง
สาว........อีกประการหนึง คนทีอยูก่ บั พวกเขายังมี
องครักษ์ทงสี
ั ของหานฉายไฉ่ดว้ ย

“งันก็พกั ทีนีสักคืนแล้วกัน” มูช่ ิงเกอเดินไปหยุดอยูข่ า้ ง


เตียง แขนเสือวาดผ่านเตียงเบาๆ พลันเด้งตัวขึนและ

81
นอนลงบนเตียง

เมือเห็นว่าซือมัวยังคงยืนอยูท่ ีเดิม นางจึงขมวดคิว แล้ว


ถามว่า : “ท่านยังไม่ไปอีกหรือ”

เดิมคิดว่า เมือซือมัวได้ยินคําพูด ‘ส่งแขก’ เช่นนีแล้ว ซือ


มัวคงจะหันหลังแล้วเดินออกไป แต่ทว่า เขากลับทําราว
กับไม่รูค้ วามและเดินไปอยูข่ า้ งเตียง

มูช่ ิงเกอหรีตาลง มองร่างทีค่อยๆ ใกล้เข้ามา เม้มปากไม่


พูดอะไร

จนกระทังเขาสะบัดแขนเสือและนังลงบนเตียง
82
นางจึงพูดอย่างเย็นชาว่า : “ท่านจะทําอะไร”

ร่างของซือมัวพลันนอนลงข้างกายมูช่ ิงเกอ ทํา


ให้อีกฝ่ ายรีบถอยหนี แต่ทว่า ด้านหลังเป็ นผนัง จะ
สามารถถอยไปทีใดได้อีกเล่า?

“แน่นอนว่านอน” ซือมัวตอบอย่างเปิ ดเผย

“นีเป็ นห้องของข้า” มูช่ ิงเกอกัดฟั น พูดพร้อมใบหน้าอัน


มืดมน ส่วนความหมายทีต้องการจะสือก็คือ ‘หากท่าน
จะนอน ก็กลับไปนอนทีห้องของท่าน’

“ไม่ใช่” แต่ทว่าซือมัวกลับส่ายหน้า และบอกว่ามูช่ ิงเก


83
อเข้าใจผิด

“ไม่ใช่ ? หมายความว่าอย่างไร” มูช่ ิงเกอขมวดคิวถาม

ซือมัวชีนาง และชีตนเอง : “นีเป็ นห้องของเรา ช่วยไม่ได้


ทีนีเล็กมาก กูเย่เสียแรงไปมาก แต่ก็หาได้เพียงแค่หอ้ งที
พอจะพักได้เช่นนีเพียงห้องเดียว”

“ท่านล้อข้าเล่นใช่หรือไม่” มูช่ ิงเกอได้ยินเสียง


กัดฟั นของตนเอง

“ข้าพูดความจริง” ซือมัวพูดอย่างไร้เดียงสา

84
อืม เป็ นความจริงทีว่ากูเย่ทาํ ทุกวิถีทางเพือให้ได้หอ้ งนี
มา และเพราะเหตุผลนี จึงทําลายห้องทีเหลือในโรง
เตียมนีไปจนหมดสินแล้ว

“ถ้าเช่นนัน ทีนีก็ยกให้ทา่ น” มูช่ ิงเกอลุกขึนนังและกําลัง


จะออกไป ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับไอ้เฒ่าตัว
ประหลาดนีอีก

แต่ทว่า ข้อมือของนางกลับถูกซือมัวคว้าเอาไว้ เพือห้าม


การกระทําของนาง

“ปล่อย”

85
“ไม่มีหอ้ งเหลือแล้ว เจ้าและข้าก็ฝืนอยูท่ ีนีด้วยกันสักคืน
ไม่ได้หรือ” ซือมัวเอามือเท้าศีรษะเอาไว้ ผมอันเงาดํา
ปลิวสยายไปมาเบาๆ มองนางด้วยรอยยิมอันเบิกบาน

มูช่ ิงเกอขมวดคิวพูดว่า : “ข้าไปหาโรงเตียมอืนก็ได้”

“เหตุใดจึงต้องลําบากเพียงนัน” ซือมัวพูด ‘อืม


น่าจะให้กเู ย่ทาํ ลายโรงเตียมอืนเสีย นิสยั ใจคอของเขาดี
ขึนมากเลยจริงๆ’

“ไม่ลาํ บาก” มูช่ ิงเกอดึงแขนของตนเองกลับมา


สุดแรงเกิด แต่ทว่าซือมัวเองก็ออกแรง ดึงนางเข้าไปอยู่
ในอ้อมแขน

86
มูช่ ิงเกอไม่ทนั ได้ตงตั
ั ว จึงเซเข้าไปอยูใ่ นอ้อม
แขนของซือมัว มือทังคูว่ างแนบอยูบ่ นร่างกายของเขา
ใบหน้าสองดวงทีงดงามไม่แพ้กนั ชิดใกล้กนั ในทันที

รัดเกล้าของมูช่ ิงเกอได้กลายเป็ นเศษผงเพราะการกัด


กร่อนจากพญาเพลิงเมฆฆสุรยิ า ในตอนนีผมยาวจึง
ปล่อยลง และเป็ นเพราะการโน้มตัวลงของนาง ผมยาว
สยายจึงได้ขยับไหวดังคลืนทะเล ตกกระทบลงบนร่าง
ของซือมัวและเตียง จนรวมเป็ นเนือเดียวกับเส้นผมของ
เขา

ในดวงตาสีอาํ พันของซือมัว มีเงาของมูช่ ิงเกอทีตกอยูใ่ น


ความตกใจสะท้อนอยู่ แก้มทีแดงกํา ทําให้ในส่วนลึก
87
นัยน์ตาของเขาร้อนแรงมากขึนเรือยๆ

มูช่ ิงเกอทีได้สติจากความตกใจ เห็นท่าทางอันน่าอึดอัด


ของตนเองในดวงตาของซือมัวอย่างชัดเจน นางหรีตาลง
ในทันที ริมฝี ปากแดงกําราวกับกลีบดอกไม้ของนางโค้ง
ขึนน้อยๆ

“ท่านอยากจะร่วมเรียงเคียงหมอนกับข้ามากถึงเพียงนัน
เชียวหรือ” ในส่วนลึกของดวงตาอันสว่างไสวของมูช่ ิงเก
อแฝงความร้ายกาจ ทําให้ใบหน้านันน่าเย้ายวนเป็ น
อย่างมาก

วินาทีนนซื
ั อมัวราวกับหลงเข้าไปในแววตาอัน

88
ลึกลําของนาง นําเสียงโทนตําแฝงการกระตุน้ ความรูส้ กึ
กระชุ่มกระชวย : “เสียวเกอเอ๋อร์กาํ ลังเชือเชิญข้าอย่าง
นันหรือ”

89
ตอนที 112-1 ลูบคลําก้นท่านมัว

“เสียวเกอเอ๋อร์กาํ ลังเชือเชิญข้าอย่างนันหรือ”

ซือมัวนอนอยูบ่ นเตียง พร้อม ‘ความรุม่ ร้อน’ ใน


อก ส่วนลึกของดวงตาสีนาผึ
ํ งปรากฎความลุม่ หลงขึน

เชือเชิญ?

1
ส่วนลึกของดวงตากระจ่างของมูช่ ิงเกอมีความ
เย็นเยียบวาบผ่าน

รอยยิมตรงมุมปากยิงยัวยวนมากขึนเรือยๆ นาง
ยืนมือทีสวมปลอกนิวทวนหลินหลงขึนมา เชยคางของ
ซือมัวขึนมาเบาๆ ทําให้ศีรษะของเขาค่อยๆ แหงนเงยขึน

ซือมัวเองก็ให้ความร่วมมือกับนาง ในสายตา
เต็มไปด้วยรอยยิมทีแฝงความรักใคร่

“ยอดฝื อมืออันดับหนึงของหลินชวน มหา


ปราชญ์แห่งอาณาจักรเซิงหยวนจะเป็ นชายอุน่ เตียงให้
กับข้า ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไรเล่า” ริมฝี ปากสีแดงกํา

2
เผยอขึนเบาๆ คําพูดทีพูดออกมาแฝงความโอหังและชัว
ร้าย

“ชายอุน่ เตียง?” ในดวงตาสีนาผึ


ํ งของซือมัวมี
ความอันตรายบางอย่างแฝงอยู่ เสียวเกอเอ๋อร์ของเขา
กลับเห็นเขาเป็ นเหมือนสาวใช้อนุ่ เตียงอย่างนันหรือ

ปลอกนิวอันแหลมคม กวาดผ่านใบหน้าของซือ
มัวอย่างแผ่วเบา

ราวกับว่า มูช่ ิงเกอกําลังกวาดตามองเค้าโครงใบ


หน้าของเขาอย่างตังใจ : “ความงดงามเช่นนี ไม่ได้พบได้
ง่ายๆ ในวันนีช่างเป็ นเกียรติของข้านัก แต่วา่ .....”

3
มือของนางค่อยๆ ลูบไล้ลงมา

จากปลายจมูกของซือมัวจรดลงไปยังริมฝี ปาก
และคางของเขา จากนันก็ไล้จากลําคอมายังกระดูกไห
ปลาร้า และวนอยูท่ ีนันหลายรอบ

สายตาของซือมัวตกอยูใ่ นความหลงใหล ใน
ส่วนลึกของดวงตาสีนาผึ
ํ ง ผุดสีแดงดังดอกกุหลาบอัน
น่าเย้ายวน

เสียวเกอเอ๋อร์ของเขา กําลังเล่นกับไฟ

4
แต่ทว่า เขากลับไม่อยากจะปฏิเสธและไม่อาจ
จะหยุดทุกอย่างได้

ปลอกนิวสีเงิน วนเวียนอยูต่ รงกระดูกไหปลาร้า


ครูห่ นึง วาดวงกลมวนหลายรอบ แล้วจึงค่อยๆ เคลือน
ออกไปอย่างพอใจ จากนันจึงค่อยๆ ไล่ลงไปอีก

นางค่อยๆ เปิ ดเสือของซือมัวออก เผยให้เห็น


หน้าอกอันขาวใส และเค้าโครงของกล้ามเนือทีงดงาม
และชัดเจน

สุดท้ายมือของนาง ก็มาถึงบนตําแหน่งหัวใจ
ของเขา

5
ทันใดนัน มือของนางก็หยุดการเคลือนไหว ซือ
มัวสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า มือของมูช่ ิงเกอเริมเพิมแรง
มากขึน

รวมทังเขายังรับรูไ้ ด้อีกว่า ปลอกนิวอันแหลมคม


นัน กําลังจะบาดลงบนเนือกายของเขา

เขาไม่ขยับตัว อยากรูว้ า่ เสียวเกอเอ๋อร์ของเขา


คิดจะทําอะไร

รูส้ กึ ถึงความเจ็บแสบตรงหน้าอก บริเวณหน้า


อกของซือมัวทีถูกกดอยู่ มีโลหิตผุดซึมออกมาหยดหนึง

6
หยาดโลหิตทีอยูบ่ นหน้าอกของเขา ราวกับเป็ น
ลูกแก้วสีแดงทีโผล่ออกมา

“แต่วา่ ไม่รูว้ า่ มหาปราชญ์แห่งเซิงหยวนจะ


สะอาดทังกายและใจหรือไม่ ข้าเป็ นคนรักสะอาด คน
สกปรก ไม่อาจอุน่ เตียงให้ขา้ ได้” มูช่ ิงเกอพูดอย่างโหด
ร้าย

สําหรับแผลตรงหน้าอก ซือมัวราวกับไม่รูส้ กึ
อะไรแม้แต่นอ้ ย ในแววตาเพียงปรากฏเงาร่างของมูช่ ิงเก
ออยู่ : “เสียวเกอเอ๋อร์วางใจเถิด ข้าอาบนําทุกวัน
สะอาดจนไม่อาจสะอาดได้อีกแล้ว”

7
พูดจบเขาก็ยกมือขึน และลูบแผลด้วยปลายนิว

โลหิตทีผุดออกมา ปรากฏอยูบ่ นนิวมือของเขา

มูช่ ิงเกอหรีตาลงแล้วมองเขา ปลอกนิวถูก


คลายออกและหลังจากทีปลอกนิวคลายออก นางก็
ตกใจเพราะเห็นว่าบนหน้าอกของซือมัว รอยแผลทีนาง
ทําขึนได้หายไปอย่างไร้รอ่ งรอย ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิด
ขึน

และราวกับว่า เรืองทังหมดทีเกิดขึนเมือครูน่ ี
เป็ นเพียงแค่ภาพทีนางจินตนาการขึน

8
การฟื นตัวอย่างรวดเร็วเช่นนี เก่งกาจกว่าตัวนาง
หลังจากทีได้รบั ยาเปลียนแปลงดีเอ็นเอเสียอีก !

มูช่ ิงเกอกําลังตกตะลึงกับความสามารถในการ
ฟื นตัวของซือมัว แต่อีกฝ่ ายกลับเอาโลหิตหยดนันมา
หยุดอยูต่ รงหน้ามูช่ ิงเกอ

โลหิตหยดนันยังคงสภาพราวกับเพิงไหลออกมา
ไม่ได้เปลียนแปลงไปตามการเคลือนไหวของซือมัว มัน
หยุดอยูต่ รงปลายนิวของเขา ราวกับมีชีวิต โลหิตทีอยู่
ข้างใน ไหลวนไปมาไม่ขาดสาย ในขณะเดียวกันก็สอ่ ง
แสงประกาย

9
สายตาของมูช่ ิงเกอจับจ้องทีโลหิตหยดนัน ไม่รู ้
ว่าซือมัวคิดจะทําอะไร

ทีนางทําร้ายซือมัวเมือครูน่ ี เป็ นเรืองทีเสียง


อันตรายเป็ นอย่างมาก เพราะว่า นางไม่อาจจะคาดเดา
ได้วา่ ชายผูเ้ ก่งกาจผูน้ ี จะสังหารนางให้หมดลมหายใจ
เพียงฝ่ ามือเดียวหรือไม่ !

แต่ในตอนนี ชายหนุ่มกลับไม่แสดงความไม่พอ
ใจเพราะการกระทําของนางก่อนหน้านี ดูเหมือนเขาจะ
สนใจโลหิตหยดนันเสียมากกว่า

10
ทันใดนันภายใต้สายตาสดใสของมูช่ ิงเก
อ ปลายนิวของซือมัวก็ผดุ แสงสีทองอันเจิดจ้าปกคลุม
หยดโลหิตทีอยูต่ รงปลายนิวนัน แสงนันกระจายขึนไป
ด้านข้าง ราวกับหยดโลหิตมีปีกสีทองงอกขึนมา

แสงสีทองค่อยๆ จางไป แต่หยดโลหิตกลับมี


สร้อยสีทองร้อยเอาไว้ และตกลงบนปลายนิวของซือมัว

“นีมัน…..” มูช่

You might also like