Professional Documents
Culture Documents
รายงานการวิจยั
เรื่อง
กลวิธีการเล่าเรื่องและการสร้ างบุคลิกลักษณะ
ของตัวละครในหนังสือการ์ ตูนญีป่ ุ่ น
นับทอง ทองใบ
นับทอง ทองใบ
กันยายน 2555
หัวข้ อวิจยั : กลวิธีการเล่าเรื่ องและการสร้ างบุคลิกลักษณะของตัวละครในหนังสือการ์ ตนู ญี่ปนุ่
ผู้วิจยั : นับทอง ทองใบ
หน่วยงาน : คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรี ปทุม
ปี ที่พิมพ์ : พ.ศ. 2555
บทคัดย่ อ
ABSTRACT
This research is aimed to study the narrative style and characterization of
Japanese comic books. The qualitative method is the research methodology to study
the contents of 6 most popular Japanese comic books in Thailand using the in-depth
interview with 12 experts of narration and comic books. The main theoretical frameworks
are based upon the narration and the characterization concept. The result is found that
the narrative style of Japanese comic books are as follow : 1. The various genre in one
story 2. The more complex plot and more data research to create the reliable plot 3.
Many conflicts 4. The variety of theme using the more profound theme than only " As
you sow, so shall you reap" 5. The symbol in complex plot reflects the writer's theme 6.
Using the omniscient and the first-person point of view mostly. In addition, for
characterization, the result of research is also found as follow : 1. A number of Group
characters and obvious difference between inside and outside personalities. 2. To build
a number of Group characters, the common points among characters are made to build
the unity of characters. 3. More round character, close to human being, than the flat
character or super hero. 4. The leading character doesn't need to be a good looking
person but more of contemporary personalities reflecting to the various identity of the
new generation. Moreover, the line art of comic books is depend on the contents and
the reader. The clever idea inserted the Japanese culture into the comic books is
esthetics of courage which is the most outstanding personality of Japanese found in
every comic books of this research.
บทที่ หน้ ำ
1 บทนำ..................................................................................................................1
ความเป็ นมาและความสาคัญของปั ญหา ...........................................................1
วัตถุประสงค์การวิจยั .......................................................................................5
คาถามการวิจยั ...............................................................................................6
สมมุตฐิ านการวิจยั ..........................................................................................6
ขอบเขตการวิจยั ..............................................................................................6
นิยามศัพท์ ......................................................................................................6
ประโยชน ที่คาดว าจะได รับ
.................................................................................7
2 วรรณกรรมที่เกี่ยวข้ อง .......................................................................................8
แนวคิดเกี่ยวกับการ์ ตนู ......................................................................................8
แนวคิดเกี่ยวกับโครงสร้ างการเล่าเรื่ อง………………..........................................28
แนวคิดการสร้ าง และออกแบบบุคลิกลักษณะตัวละคร……………………………31
แนวคิดรูปลักษณ์นิยม……………..……………………………………………….35
แนวคิดสุนทรี ยศาสตร์ ………………………………………………………………36
แนวคิดเกี่ยวกับสังคม และวัฒนธรรมญี่ปน………………………………………..37 ุ่
งานวิจยั อื่นๆ ที่เกี่ยวข้ อง...................................................................................41
สรุป ...............................................................................................................46
3 ระเบียบวิธีกำรวิจัย ............................................................................................48
รูปแบบการวิจยั หรื อแบบแผนการวิจยั .............................................................48
ประชากรและกลุม่ ตัวอย่าง ..............................................................................48
เครื่ องมือการวิจยั ............................................................................................51
ขันตอนการด
้ าเนินงานวิจยั ..............................................................................53
การรวบรวมข้ อมูล…………………………………………………………………..54
การวิเคราะห์ข้อมูล ..........................................................................................54
สำรบัญ (ต่ อ)
บทที่ หน้ ำ
5 ผลกำรวิจัยกำรสร้ ำงตัวละคร............................................................................151
1. ประเภทตัวละคร………………………………………………………………..151
1.1 ประเภทตัวละครที่พิจารณาจากจานวนของตัวละคร……………………..151
1.2 ประเภทตัวละครที่พิจารณาจากมิตแิ ละพัฒนาการของตัวละคร…………155
1.3 บทบาทหน้ าที่ของตัวละคร………………………………………………..160
2. ความพิเศษของตัวละคร………………………………………………………..176
3. ความแตกต่างหลากหลายของตัวละคร………………………………………..211
4. การกระจายความสาคัญและการสร้ างความสัมพันธ์ของตัวละคร…………….258
สุนทรี ยรสแห่งการ์ ตนู ……………………………………………………………...262
สำรบัญ (ต่ อ)
บทที่ หน้ ำ
บรรณำนุกรม ..................................................................................................338
ภำคผนวก .......................................................................................................344
ภาคผนวก ก เรื่ องย่อการ์ ตนู ที่นามาศึกษา……………………………………….345
ตารางที่ หน้ า
ตารางที่ หน้ า
ภาพประกอบ หน้ า
ภาพประกอบ หน้ า
26 ฉากเรี ยบง่ายในดราก้ อนบอล (สังเกตก้ อนเมฆและภูเขาในกรอบล่าง)………………...142
27 แสดงความขัดแย้ งในฉากดราก้ อนบอล....................................................................143
28 ลายเส้ นเรี ยบง่าย สะอาดตา และเส้ นสปี ดที่แสดงน ้าหนักในดราก้ อนบอล...................145
29 ลายเส้ นละเอียดในเดธโน้ ต (ซ้ าย) และลายเส้ นสมจริงในทเวนตี ้ฯ (ขวา)………………147
30 ลักษณะลายเส้ นและการวาดสัดส่วนตัวละครที่เกินจริงในวันพีซ……………………….148
31 สัดส่วนแบบการ์ ตนู ที่ลดความจริงจังของเรื่ องยอดนักสืบจิ๋วฯ......................................149
32 “เพื่อน” ผู้ร้ายในเรื่ องทเวนตี ้ฯ…………………………………………………………...167
ลัก33ษ ลักษณะข้ อความกฎการฆ่าคนในเดธโน้ ต ผู้ชว่ ยเหลือในเรื่ องเดธโน้ ต..........................170
34 เทพเจ้ ามังกรผู้ชว่ ยเหลือหลักในดราก้ อนบอล………………………………................171
รัน35แล รัน และซากุระ นางเอกจากยอดนักสืบจิ๋วฯ และนินจาคาถาฯ…………………………..173
36 แฮนค็อก นางเอกเรื่ องวันพีซ…………………………………………………................174
37 ลายเส้ นเรี ยบง่ายในดราก้ อนบอล - ลายเส้ นสมจริ งในฤทธิ์หมัดดาวเหนือ…................177
38 ผมชี ้แหลม เอกลักษณ์ของพระเอกในดราก้ อนบอล…………………………................179
39 คุริลิน ตัวละครไม่มีจมูกจากดราก้ อนบอล…...………………………………………….180
40 การเติบโตของตัวละครในดราก้ อนบอล (โงคู - คนกลาง)............................................181
41 ผู้เฒ่าเต่าในดราก้ อนบอล.……………………………………………………………….183
42 จอมมารบูในดราก้ อนบอล.......................................................................................184
43 การแปลงร่างของรันจิ ในดราก้ อนบอล.....................................................................185
44 ตัวละครคูห่ ู ยามุชาและปูอลั ในดราก้ อนบอล............................................................186
45 ตัวละครคูห่ ู เท็นชินฮังและเจาสึในดราก้ อนบอล........................................................187
46 ตัวละครเอกในวันพีซ ลูฟี่/โซโล/นามิ/อุซป/ซันจิ/ช้ อปเปอร์ /โรบิน/แฟรงกี ้.......................190
47 ตัวอย่างผลไม้ ปีศาจในวันพีซ………........................................................................193
48 บรู๊ค ตัวละครกลุม่ ตัวเอกในวันพีซ............................................................................195
49 นารูโตะ พระเอกในนินจาคาถาฯ..............................................................................196
50 สัตว์หางต่างๆ ในนินจาคาถาฯ.................................................................................198
สารบัญภาพประกอบ (ต่ อ)
ภาพประกอบ หน้ า
ภาพประกอบ หน้ า
76 โทบิ ตัวละครร้ ายใส่หน้ ากากในนินจาคาถาฯ….........................................................237
77 ซึนาเดะ และซากุระ ตัวละครผู้หญิงในนินจาคาถาฯ…...............................................238
78 แสดงคาแร็คเตอร์ ที่แตกต่างของตัวละครในดราก้ อนบอล...........................................239
79 ภาพการแปลงร่างของโงคู ตัวเอกในดราก้ อนบอล......................................................241
80 พิคโกโร่ และฟรี เซอร์ ตวั ละครร้ ายในดราก้ อนบอล......................................................243
81 มิสเตอร์ ซาตาน ตัวประกอบที่นา่ จดจาในดราก้ อนบอล..............................................244
82 ตัวละครผู้หญิงในดราก้ อนบอล จีจี ้ บลูม่า และมนุษย์ดดั แปลงหมายเลข 18………….245
83 แสดงขนาด-รูปร่างตัวละครในทเวนตี ้ฯ (เคนจิคนกลาง) ............................................246
84 แสดงวิธีการวาดคิ ้ว หางตาตัวละครในทเวนตี ้ฯ..........................................................247
85 ตัวละครพระเจ้ าในทเวนตี ้ฯ......................................................................................248
86 ขบวนการนักสืบเยาวชน ตัวละครกลุม่ เด็กในยอดนักสืบจิ๋วฯ.......................................251
87 ตัวละครวัยรุ่นที่หน้ าตาคล้ ายกัน (ชินอิจิ เฮย์จิ คิด) ในยอดนักสืบจิ๋วฯ..........................251
88 ตัวละครหญิงในยอดนักสืบจิ๋วฯ (โซโนโกะ-ซ้ าย, รัน-ขวา)…........................................252
89 โมริ โคโกโร่ และดร.อากาสะ ฮิโรชิ ตัวละครวัยผู้ใหญ่ในยอดนักสืบจิ๋วฯ…………….….253
90 สมาชิกองค์กรชุดดา(วอดก้ า ยิน เบลม็อท-ซ้ ายไปขวา) ในยอดนักสืบจิ๋วฯ……….…….254
91 เปรี ยบเทียบตัวละคร แอล (ซ้ าย) ไลท์ (ขวา) ในเดธโน้ ต……………............................255
92 เนียร์ และเมลโล่ ในเดธโน้ ต................................ .....................................................256
93 ยมทูตลุคและเรมในเดธโน้ ต................................ ....................................................257
94 ตัวละครคูห่ เู ท็นชินฮัง และเจาสึในดราก้ อนบอล........................................................259
บทที่ 1
บทนำ
แต่ปัจจุบนั มันเปลี ่ยนไปเป็ น creative economy หันมาสนใจสิ่ งประดิ ษฐ์ ทีเ่ ป็ นความคิ ด
สร้างสรรค์ซึ่งเกิ ดจากรากฐานทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของตัวเองแทน…การ์ ตูนเองก็จดั อยู่ใน
สิ่ งประดิ ษฐ์ ทีเ่ ป็ นความคิ ดสร้างสรรค์ทีม่ ี ศกั ยภาพช่วยเศรษฐกิ จของชาติ ได้” (วัฒนชัย วินิจจะกูล,
25 กรกฎาคม 2552)1
แต่เมื่อหันมาดูศกั ยภาพของสื่อการ์ ตนู ไทยในปั จจุบนั ความเห็นต่อไปนี ้ คือ
มุมมองของนักเขียน-นักวิจารณ์การ์ ตนู ในบ้ านเราที่มีตอ่ “การ์ ตนู ไทย”“การ์ ตูนไทยส่วนใหญ่ ไม่
สนุก เพราะไม่มี conflict (ปมขัดแย้ง) ไม่มี drama (การสร้างอารมณ์ร่วมไปกับเรื ่อง)”
(นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์, 15 พฤษภาคม 2552)2
“ผมว่าเรื ่องลายเส้นนักเขี ยนการ์ ตูนไทยไม่ใช่ปัญหา เราสู้ชาติ ไหนๆ ก็ได้อยู่แล้ว
แต่ปัญหาก็คือวิ ธีเล่าเรื ่องยังไงให้สนุก” (สุรพล พิทยาสกุล, 3 กรกฎาคม 2552)3
“เนื อ้ เรื ่องการ์ ตูนไทยส่วนใหญ่ยงั อ่อน ไม่เป็ นปรัชญา มันไม่ได้อะไร แต่การ์ ตูน
ญี ่ปนุ่ เขามี ข้อคิ ดของมันอยู่ทกุ เรื ่อง” (สิทธิพร กุลวโรตตมะ, สัมภาษณ์, 20 มกราคม 2548)4
และจากการค้ นคว้ าของผู้วิจยั เรื่ องสถานะของหนังสือการ์ ตนู ไทยในปั จจุบนั
(นับทอง ทองใบ, 2548) ซึง่ ได้ สมั ภาษณ์ผ้ จู ดั การสถาบันการ์ ตนู ไทยและประธานสมาคมการ์ ตนู
ไทย รวมทังงานวิ ้ จยั เรื่ องการ์ ตนู ความรู้ ไทย: ความเป็ นมา สถานการณ์ และแนวทางการพัฒนา
(วรัชญ์ ครุจิตต์ และนับทอง ทองใบ, 2552) ซึง่ ได้ สมั ภาษณ์เชิงลึกนักเขียนการ์ ตนู 10 คน ต่างก็
ได้ บทสรุปตรงกันว่าจุดอ่อนในการสร้ างงานของนักเขียนการ์ ตนู ไทยคือ “การเล่าเรื่ อง” และ “การ
1
วัฒนชัย วินิจจะกูล ผู้จดั การฝ่ ายวิชาการสานักอุทยานแห่งการเรียนรู้ หรือ ทีเค ปาร์ ค ได้ กล่าวถึงความสาคัญของสื่อ
การ์ ตนู ในการแถลงข่าวและการเสวนา “หลักสูตรการ์ ตนู สร้ างชาติ : เปิ ดมิติสงั คมแห่งการเรียนรู้” เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม
2552 ณ ศูนย์พฒั นาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
2
นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ คือแพทย์ผ้ เู ชี่ยวชาญด้ านจิตเวช และนักวิจารณ์การ์ ตนู แอนิเมชัน่ “การ์ ตนู ที่
รัก”ในมติชนสุดสัปดาห์ มีผลงานหนังสือวิเคราะห์วิจารณ์การ์ ตนู ออกมาหลายเล่ม เช่น ตามหาการ์ ตนู มังงะคลาสสิกฯลฯ และ
คาพูดข้ างต้ นได้ กล่าวไว้ ในงานสังสรรค์เสวนา “ทิศทางการ์ ตนู ความรู้เพื่อสังคมไทย” ในงานแถลงผลการวิจยั เรื่องการ์ ตนู ความรู้
ไทย : ความเป็ นมา สถานการณ์ และแนวทางการพัฒนา วันที่ 15 พฤษภาคม 2552 ณ สานักงานอุทยานการเรียนรู้
3
สุรพล พิทยาสกุล หรือ พล ข่าวสด นักเขียนการ์ ตนู การเมือง “หนูนากับป้าแจ่ม” ในหนังสือพิมพ์ข่าวสด และหนึ่งใน
กลุม่ การ์ ตนู เบญจรงค์ ซึง่ เป็ นการรวมตัวกันของกลุม่ นักเขียนการ์ ตนู ฝี มือดีรุ่นเก๋า
4
สิทธิพร กุลวโรตตมะหรือครูอา๋ นักวาดการ์ ตนู แนวสร้ างสรรค์สงั คม มีผลงานสอนเขียนการ์ ตนู มากมาย เช่น ตวัดเส้ น
เป็ นการ์ ตนู รูปคน ความลับของเส้ นสีนิรมิตการ์ ตนู อักษรซ่อนจินตนาการ นิทานป่ าอมยิ ้ม ฯลฯ
3
สร้ างคาแร็ คเตอร์ ” หรื อการสร้ างบุคลิกลักษณะตัวการ์ ตนู ให้ นา่ สนใจ ในขณะที่การออกแบบ
ลายเส้ นนันนั ้ กเขียนการ์ ตนู ไทยสามารถสู้ตา่ งชาติเช่น ญี่ปนุ่ หรื อเกาหลีได้ แบบไม่อายใคร
ด้ านทัศนา สลัดยะนันท์ (2543: 15-17) ซึง่ ได้ ทาการวิจยั ถึงเบื ้องหลัง
ความสาเร็จของการ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่มีตอ่ เด็กและเยาวชนไทย และได้ ออกแบบสอบถามความคิดเห็น
เกี่ยวกับหนังสือการ์ ตนู ไทยเปรี ยบเทียบกับการ์ ตนู ญี่ปนนั ุ่ นก็้ พบว่าเด็กไทยมองการ์ ตนู ไทยมีเนื ้อ
เรื่ องซ ้าซาก เดาตอนจบได้ ง่าย ต่างจากการ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่มีแนวเรื่ องหลากหลาย ตัวละครเหมือน
จริง โครงเรื่ องชวนติดตาม และสนุกตื่นเต้ นกว่า
ความเห็นของนักวิเคราะห์วิจารณ์ นักเขียนการ์ ตนู รวมทังงานวิ ้ จยั ที่กล่าวมานี ้จึง
อาจสรุปได้ วา่ หากการ์ ตนู ไทยต้ องการจะเข้ าไปนัง่ อยูใ่ นใจเด็กไทยให้ ได้ นนคงต้ ั ้ องหันมาใส่ใจ
วิธีการเล่าเรื่ อง รวมถึงการสร้ างตัวละครให้ มีเสน่ห์มากขึ ้น แต่การสร้ างเรื่ องและตัวละครให้ มี
เสน่ห์ มัดใจผู้อา่ นได้ นนควรเป็
ั้ นเช่นไร นี่คือคาถามที่นกั วาด-เขียนการ์ ตนู ไทยยังยากจะอธิบาย
ผู้วิจยั จึงเห็นว่าน่าจะลองหันไปศึกษาตัวอย่างการ์ ตนู ที่มีกลวิธีเล่าเรื่ องที่ได้ รับการยอมรับจากทัง้
คนไทยและหลายๆ ประเทศทัว่ โลก ซึง่ แน่นอนว่าหนีไม่พ้นการ์ ตนู สัญชาติญี่ปนุ่
“เด็กประถมถึงกว่าร้ อยละ 97 ชอบอ่านการ์ ตนู ญี่ปน” ุ่ (สุวรรณา สันคติประภา,
2532) นี่คือผลการวิจยั เรื่ องพฤติกรรมการอ่านและเลือกอ่านหนังสือการ์ ตนู ญี่ปนของเด็ ุ่ กไทย
ในกรุงเทพมหานคร จากกลุ่มตัวอย่างเป็ นนักเรี ยนชันประถมปี ้ ที่ 4-6 จากโรงเรี ยน 10 แห่ง และ
จากรายงานการวิจยั ของบริ ษัท Ai Thailand ที่ได้ ศกึ ษาทัศนคติพฤติกรรมของผู้บริโภคเกี่ยวกับ
การ์ ตนู ในตลาดเมืองไทย ซึง่ ศึกษากลุม่ ผู้อา่ นอายุ 6 ปี ขึ ้นไป จนถึงผู้ปกครองอายุ 31-40 ปี ก็
พบว่า ตัวการ์ ตนู ที่ได้ รับความนิยมมากที่สดุ 5 อันดับแรก ล้ วนเป็ นการ์ ตนู จากประเทศญี่ปนทั ุ่ งสิ
้ ้น
คือ อันดับ 1 โดราเอมอน อันดับ 2 ดราก้ อนบอล อันดับ 3 ชินจัง อันดับ 4 อิคคิวซัง และอันดับ 5
เซลเลอร์ มนู (ทีวีแมกกาซีน, 2541, อ้ างถึงใน พรวลัย เบญจรัตนสิริโชติ, 2549: 4)
ความสาเร็จของการ์ ตนู ญี่ปนมี ุ่ ผ้ วู ิเคราะห์เอาไว้ หลายประการ ฟูซาโนะซูเกะ นัตซึ
เมะ (Fusanosuke Natsume) นักวาดและวิจารณ์การ์ ตนู ชาวญี่ปนุ่ ได้ รวบรวมข้ อมูลลักษณะเด่น
ของการ์ ตนู ญี่ปนุ่ อิทธิพลของการ์ ตนู ญี่ปนในต่ ุ่ างประเทศ และก็ได้ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อ
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับอิทธิพลของการ์ ตนู ญี่ ปนในบ้ ุ่ านเรา เขาวิเคราะห์วา่ ความ
นิยมของการ์ ตนู ญี่ปนในหลายๆ
ุ่ ประเทศเป็ นเพราะมีเนื ้อหาหลากหลาย ถูกใจคนอ่านหลายกลุม่
ตังแต่
้ เด็กจนถึงผู้ใหญ่ คือมีทงเรื ั ้ ่ องผจญภัยสาหรับเด็ก เรื่ องความรักโรแมนติกสาหรับเด็กสาว
เรื่ องการต่อสู้ของวีรบุรุษสาหรับเด็กหนุม่ ไปจนถึงเรื่ องเกมการแข่งขันบาสเกตบอล ที่ซบั ซ้ อน
สาหรับผู้ใหญ่ (วันดี สันติวฒ ุ ิเมธี , 2544: 38-44)
4
วัตถุประสงค กำรวิจัย
1. เพื่อศึกษากลวิธีการเล่าเรื่ องซึง่ หมายรวมถึงการออกแบบเนื ้อหา และลายเส้ น
ของการ์ ตนู ญี่ปนุ่
2. เพื่อศึกษาการสร้ างบุคลิกลักษณะ (character) ของตัวละครในหนังสือการ์ ตนู
ญี่ปนุ่
6
คำถำมกำรวิจัย
1. กลวิธีการเล่าเรื่ องซึง่ หมายรวมถึงการออกแบบเนื ้อหา และลายเส้ นของการ์ ตนู
ญี่ปนเป็ ุ่ นอย่างไร
2. การสร้ างบุคลิกลักษณะ (character) ของตัวละครในหนังสือการ์ ตนู ญี่ปนเป็ ุ่ น
อย่างไร
สมมติฐำนกำรวิจัย
-
ขอบเขตกำรวิจัย
1. หนังสือการ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่ใช้ ในการวิจยั ครัง้ นี ้เป็ นหนังสือการ์ ตนู จากประเทศญี่ปนุ่
ที่ได้ รับการแปล และตีพิมพ์เป็ นภาษาไทยอย่างถูกลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
2. ผู้วิจยั มุง่ ศึกษาเฉพาะหนังสือการ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่แปลเป็ นภาษาไทยประเภทเรื่ อง
ยาว (Comic Book) หรื อที่ชาวญี่ปนุ่ และนักอ่านการ์ ตนู ส่วนใหญ่เรี ยกว่า “มังงะ” (Manga) ที่
ได้ รับการรวมเล่มแล้ ว (ไม่ได้ หมายรวมถึงหนังสือการ์ ตนู รายสัปดาห์ รายปั กษ์ รายเดือน หรื อ
นิตยสารการ์ ตนู )
3. ผู้วิจยั มุง่ ศึกษาเฉพาะหนังสือการ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่แปลเป็ นภาษาไทยจานวน 6 เรื่ อง
คือ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (Detective Conan) วันพีซ (One piece) ดราก้ อนบอล (Dragon Ball)
เดธโน้ ต (Death Note) นารูโตะ นินจาคาถา โอ้ โฮเฮะ (Naruto) และ ทเวนตี ้เซนจูรี่บอยส์ (20th
Century Boys) ซึง่ ตีพิมพ์ตงแต่ ั ้ เล่มที่ 1 ไปจนถึงเล่มสุดท้ าย (สาหรับเรื่ องที่ตีพิมพ์จนจบแล้ ว)
และตังแต่ ้ เล่มที่ 1 ไปจนถึงจบตอนหรื อจบภาค ภายในเดือนตุลาคม 2554 (สาหรับเรื่ องที่ยงั
ตีพิมพ์ไม่จบ)
นิยำมศัพท์
กำร์ ตูนญี่ปุ่น ในที่นี ้หมายถึง หนังสือการ์ ตนู ที่มีลกั ษณะเป็ นรูปเล่มตีพิมพ์เป็ น
การ์ ตนู เรื่ องยาว โดยหลังจากตีพิมพ์เป็ นตอนๆ ในนิตยสารการ์ ตนู รายสัปดาห์ แล้ วก็นามารวม
เล่มวางขายอีกครัง้ มีผ้ วู าดรูปและผู้เขียนเรื่ องเป็ นชาวญี่ปนุ่ และสานักพิมพ์ในประเทศไทยได้
นามาแปลเป็ นภาษาไทย มีการนาเสนอภาพวาดในเชิงการ์ ตนู ที่ไม่เน้ นความจริ งของกายวิภาค มี
ความต่อเนื่องเป็ นเรื่ องราว มีคาบรรยาย บทสนทนา และนาเสนอผ่านช่อง จนเกือบมองเห็นเป็ น
ภาพเคลื่อนไหวได้ โดยนาเสนอเรื่ องราวในแต่ละช่องให้ มีความต่อเนื่องกัน
7
มังงะ (Manga) หมายถึง คาที่ใช้ เรี ยกหนังสือการ์ ตนู ญี่ปนุ่ เป็ นคาศัพท์ที่คน
ญี่ปนใช้ ุ่ เรี ยกหนังสือการ์ ตนู ของตัวเองจนแวดวงนักเขียนและนักอ่านการ์ ตนู ญี่ปนทั ุ่ ว่ โลกรู้จกั กันดี
กำรสร้ ำงคำแร็คเตอร์ หมายถึง การสร้ างบุคลิกลักษะของตัวการ์ ตนู ซึง่
ผู้เขียนการ์ ตนู สามารถนาเสนอผ่านการออกแบบลายเส้ นหน้ าตา รูปร่าง การแต่งกายของตัว
การ์ ตนู รวมทังยั ้ งหมายถึงการสร้ างนิสยั ใจคอของตัวการ์ ตนู ซึง่ แสดงออกผ่านการกระทาของตัว
การ์ ตนู บทสนทนา ไปจนถึงการสร้ างฉากแวดล้ อมของเรื่ อง
กำรเล่ ำเรื่อง หมายถึง การที่ผ้ เู ล่าเรื่ องนาข้ อมูล ข่าวสาร ที่อาจเป็ นทังเรื ้ ่ อง
จริงหรื อเรื่ องแต่งมานาเสนอในรูปของชุดเหตุการณ์ ที่มีการลาดับเหตุการณ์ นัน่ คือมีจดุ เริ่มต้ น
กลางเรื่ อง จบเรื่ อง มีตวั ละคร สถานที่ และเวลา โดยผู้เล่ามีวตั ถุประสงค์เพื่อสื่อสารความคิด
หรื ออารมณ์ไปสูผ่ ้ รู ับสาร ผ่านการนาเสนอในรูปของสื่อต่างๆ ทังเรื ้ ่ องแต่ง (fiction) เช่น นิยาย เรื่ อง
สัน้ นิทาน ภาพยนตร์ การ์ ตนู และเรื่ องจริง (non-fiction) เช่น รายการข่าว สารคดี เป็ นต้ น
แนวเรื่อง หมายถึงประเภท รูปแบบของการ์ ตนู (genre) ที่มีการแบ่ง
ออกเป็ นกลุม่ เนื ้อหาที่มีจดุ ร่วมในแนวทางของตัวเองอย่างชัดเจน เช่น แนวการต่อสู้ ผจญภัย รัก
โรแมนติก สืบสวนสอบสวน แฟนตาซี เป็ นต้ น
วรรณกรรมที่เกี่ยวข้ อง
1. แนวคิดเกี่ยวกับการ์ ตูน
ในปั จจุบนั การ์ ตนู ไม่ใช่แค่เพียง “ภาพร่าง” บนกระดาษที่ใช้ ถ่ายทอดเป็ นชิ ้นงานจริ งใน
งานจิตรกรรม ภาพฝาผนัง หรื อภาพลายกระเบื ้องโมเสกตามความหมายในแต่ดงเดิ ั ้ มเท่านัน้ แต่
“การ์ ตนู ” กินความหมายที่กว้ างมากขึ ้น จนมีการจัดประเภทการ์ ตนู ตามเอาไว้ ดงั นี ้ (Randall P.
Harrison, 1981; ศักดา วิมลจันทร์ , 2548: 64-65)
1.1.1 การ์ ตนู ภาพประกอบ (Illustration)
คือการนาการ์ ตนู มาใช้ เพื่อประกอบเรื่ องราว มีหน้ าที่ในการช่วยขยายความเรื่ องเล่า เช่น
ภาพประกอบการสอน หรื อภาพประกอบบทความ การ์ ตนู ลักษณะนี ้อาจมีคาบรรยายใต้ ภาพ
หรื อไม่ก็ได้
1.1.2 การ์ ตนู ช่องเดียวจบ หรื อ การ์ ตนู แก๊ ก (Gag Panel)
มักเป็ นการ์ ตนู ขาขัน หรื อการ์ ตนู การเมือง ซึง่ อาจนาเสนอเป็ นลักษณะการ์ ตนู ใบ้ คือไม่มี
ถ้ อยคา หรื อมีถ้อยคาก็ได้ แต่ลกั ษณะเด่นคือเป็ นการถ่ายทอดเรื่ องราวออกมาภายในกรอบเดียว
1.1.3 การ์ ตนู ศิลปะการเล่าเรื่ อง (Narrative Art Cartoon)
หมายถึงการ์ ตนู ที่มงุ่ เน้ นการใช้ ภาพเพื่อถ่ายทอดเรื่ องราว ภาพจึงมีความสาคัญเทียบเท่า
เนื ้อหา ไม่ใช่ภาพเป็ นเพียงส่วนประกอบของเรื่ องเท่านัน้ อาจแยกย่อยออกเป็ น
- การ์ ตนู ช่อง (Comic Strip) มักมีจานวนช่องขนาดเท่าๆ กัน 3-4 ช่อง และส่วน
ใหญ่มีถ้อยคาอยูใ่ นบอลลูน ในระยะแรกนิยมใช้ เรี ยกการ์ ตนู ขาขันที่จบในตอน แต่ตอ่ มาใช้ เรี ยก
การ์ ตนู ที่ไม่จบในตอนด้ วย
- หนังสือการ์ ตนู (Comic Book หรื อ Comics) มีลกั ษณะเป็ นรูปเล่ม พัฒนามา
จากการ์ ตนู ช่อง (strip) มีรูปแบบการนาเสนอเป็ นลักษณะเฉพาะที่ทาให้ ผ้ อู ่านมองเห็นภาพนิ่งที่มี
ความต่อเนื่องกันจนเกือบเหมือนภาพเคลื่อนไหว และลักษณะช่องมักมีขนาดไม่เท่ากัน มีเนื ้อหา
หลากหลายและมีความยาวไม่จากัด ทังเรื ้ ่ องขาขัน ผจญภัย อาชญากรรม วิทยาศาสตร์ ฯลฯ ซึง่
ลักษณะของหนังสือการ์ ตนู ญี่ ปนุ่ หรื อที่เรี ยกกันว่า “มังงะ” (Manga) ในงานวิจยั ชิ ้นนี ้ก็จดั อยูใ่ น
การ์ ตนู ประเภท Comic Book ด้ วยเช่นกัน
- นิยายภาพ (Graphic Novel) ในขณะที่หนังสือการ์ ตนู หรื อ Comic Book มัก
ใช้ เรี ยกหนังสือการ์ ตนู ญี่ปนเป็ ุ่ นหลัก แต่การ์ ตนู ที่มีลกั ษณะเป็ นรูปเล่มในรูปแบบอื่นๆ เช่นการ์ ตนู
เล่มละบาทของไทย (ที่ปัจจุบนั ราคา 5 บาท) หรื อการ์ ตนู ที่มงุ่ เน้ นความเป็ นศิลปะในการนาเสนอ
ภาพ (ซึง่ อาจเป็ นภาพขาวดาหรื อภาพสีก็ได้ ) เหมือนเช่นการ์ ตนู ส่วนใหญ่จากยุโรป สหรัฐอเมริกา
เช่นเรื่ อง Watch men Bat Man มักเรี ยกกันว่านิยายภาพ หรื อ Graphic Novel
10
- การ์ ตนู การเมือง (Political Cartoon) มักมีลกั ษณะเป็ นภาพล้ อบุคคล และมี
เนื ้อหาเชิงเสียดสีเหตุการณ์บ้านเมือง โดยนาเสนอผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ อาจมีชอ่ งเดียวจบ หรื อ
หลายช่องจบก็ได้ เช่น การ์ ตนู “ผู้ใหญ่มากับทุง่ หมาเมิน”
- การ์ ตนู ภาพเคลื่อนไหว (Animation) คาว่า Animation มาจากรากศัพท์ละติน
“animare” ซึง่ มีความหมายว่า ทาให้ มีชีวิต การ์ ตนู ภาพเคลื่อนไหว หรื อแอนิเมชัน่ จึงหมายถึง
การสร้ างสรรค์ภาพลายเส้ น และรูปทรงที่เป็ นภาพนิ่งให้ เกิดภาพเคลื่อนไหว ซึง่ เกิดจากการฉาย
ภาพนิ่งหลายๆ ภาพต่อเนื่องกันด้ วยความเร็วสูง
- การ์ ตนู สัญลักษณ์ หรื อ โลโก้ (Symbol, Logo) มักมีรูปทรง และรายละเอียด
เรี ยบง่ายเพื่อให้ เกิดการจดจา และอาจมีภาษาถ้ อยคาร่วมด้ วย เพื่อใช้ เป็ นสัญลักษณ์ของงาน
สินค้ า หรื อกิจกรรมต่างๆ
- สินค้ าการ์ ตนู (Cartoon Product) เกิดจากการสร้ างตัว (คาแร็ คเตอร์ ) การ์ ตนู ที่
แข็งแรง ทาให้ เกิดการผลิตเป็ นสินค้ ารูปแบบอื่นตามมา เช่น เสื ้อผ้ า กระเป๋ า หมวก ฯลฯ
ตะวันตกเข้ ามายังญี่ปนุ่ ก็คือชาร์ ลส์ วิกแมน (Charles Wirgman) และจอร์ จ บิโกท์ (George
Bigot) จากนันปี ้ ค.ศ. 1922 ก็ได้ มีนกั เขียนการ์ ตนู หลายคนเริ่มเดินทางไปศึกษาวิธีการเขียน
การ์ ตนู ยังต่างประเทศโดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา และหนึง่ ในคนกลุม่ นี ้ก็คือ อิปเปอิ โอกาโมโต้
(Ippei Okamoto) ซึง่ ได้ นาเอาการ์ ตนู อเมริ กนั เข้ ามาเผยแพร่ในญี่ปนจนได้ ุ่ รับความนิยมอย่าง
มาก เช่นเรื่ อง Bringing up Father และ Mutt and Jeff ความชื่นชอบในการ์ ตนู อเมริกนั เรื่ อง
Bringing up Father ซึง่ ได้ รับการตีพิมพ์เป็ นตอนๆ ในหนังสือการ์ ตนู รายสัปดาห์ ทาให้ ในปี ค.ศ.
1924 ได้ เกิดการ์ ตนู ช่องสาหรับเด็กลงในหนังสือพิมพ์เป็ นครัง้ แรก คือเรื่ อง “โซซัง โนะ โบดัง” (การ
ผจญภัยของโซน้ อย
จะเห็นได้ วา่ จากที่มาของการเขียนภาพแบบญี่ปนในอดี ุ่ ตที่เน้ นลายเส้ นเรี ยบง่าย แต่แฝง
ด้ วยความคิด ผสมผสานเข้ ากับลายเส้ นแบบตะวันตกในยุคหลังสงครามโลกครัง้ ที่ 2 ได้ กลาย
มาเป็ นจุดเริ่มต้ นของลักษณะการ์ ตนู ญี่ปนุ่ หรื อมังงะในปั จจุบนั
จากนัน้ ความนิยมของการ์ ตูนในญี่ ปนมี ุ่ มากขึ ้นเรื่ อยๆ จนปี ค.ศ. 1930 หนังสือการ์ ตูน
โชเนน คลับ (Shonen Club) ของบริ ษั ท โคดัน ฉะ (Kodancha) ก็ ไ ด้ เริ่ ม พิ ม พ์ ก าร์ ตูน ออกเป็ น
รูปเล่มมีลกั ษณะเป็ นตอนๆ ตอนละประมาณ 20 หน้ า มีหลายเรื่ องในเล่มเดียว และเมื่อเรื่ องใด
จบก็จะจัดพิมพ์เป็ นการ์ ตนู รวมเล่มออกจาหน่าย แต่ภาพและเนื ้อหาของการ์ ตนู ส่วนใหญ่ยงั ไม่มี
จินตนาการมากนัก มักเป็ นเรื่ องศีลธรรม ความซื่อสัตย์ ความกล้ าหาญ และความเข้ มแข็งของ
เด็กผู้ชาย
ผู้พลิกโฉมการ์ ตนู ญี่ ปนที ุ่ ่ไร้ ชีวิตชีวาในยุคแรกให้ มีเสน่ห์เฉพาะตัวเหมือนในปั จจุบนั ก็คือ
“เท็ตสึกะ โอซามุ (Tezuka Osamu)” โดยในปี ค.ศ. 1947 เขาได้ สร้ างผลงานเรื่ อง ชินทาคารา
จิ ม่ า (Shin takarajima) หรื อ เกาะมหาสมบั ติ ใ หม่ มี ค วามยาว 200 หน้ า ซึ่ ง นั บ เป็ นการ
สร้ างสรรค์การ์ ตนู ญี่ ปนรู ุ่ ปแบบใหม่ จากเดิมที่มีลกั ษณะเหมือนนิยายภาพ ใช้ คาบรรยายใต้ รูป
เปลี่ ยนมาเป็ นการใช้ ช่องค าพูด และมี การใช้ เสี ยงประกอบภาพ (sound effect) ผ่านตัวอักษร
ทาให้ การอ่านการ์ ตนู ให้ อรรถรสเหมือนกับ การชมภาพยนตร์ ซึ่งรูปแบบการ์ ตนู ของโอซามุที่
เล่าเรื่ อง และเนื ้อหาเปี่ ยมด้ วยความคิดสร้ างสรรค์นี่เองก็ได้ กลายเป็ นต้ นแบบของการ์ ตนู ญี่ปนเรื ุ่ ่ อง
ต่อๆ มา จนเพาะสร้ างเป็ นเอกลักษณ์ ที่ทาให้ การ์ ตูน ญี่ ปุ่น ซึ่งถูกเรี ยกขานว่ามังงะ (Manga)
ได้ รับการยอมรับไปทั่วโลกในปั จจุบนั โดยเท็ตสึกะ โอซามุก็ยงั ได้ รับการขนานนามว่าเป็ น
“ปรมาจารย์แห่งการ์ ตนู ญี่ปน” ุ่ อีกด้ วย (ธรรมจักร อยูโ่ พธิ์, 2538: 102-103)
12
ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง วิบลู ย์กิจ สยามอินเตอร์ คอมิคส์ และเนชัน่ เอ็ดดูเทนเมนท์ (NED) ซึง่ เน้ น
ตลาดการ์ ตนู ผู้ชาย ส่วนบงกช พับลิชชิ่งก็เน้ นตลาดการ์ ตนู ผู้หญิง ขณะที่บรุ พัฒน์ คอมมิกส์
เน้ นตลาดการ์ ตนู จีน-ฮ่องกง
รู ปแบบการ์ ตูนญี ่ปนุ่ ในปั จจุบนั
หนังสือการ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่พบมากในปั จจุบนั มีลกั ษณะตีพิมพ์เป็ นการ์ ตนู เรื่ องยาว
(Story Comic) แต่ตีพิมพ์เป็ นตอนๆ ในนิตยสารการ์ ตนู รายสัปดาห์ แล้ วนามารวมเป็ นหนังสือ
การ์ ตนู เฉพาะเรื่ องนันๆ ้ อีกครัง้ ซึง่ หนังสือการ์ ตนู รวมเล่มนี ้ส่วนใหญ่มีความยาวประมาณ 12-25
เล่มจบ แต่บางเรื่ องก็ยาวนานมากกว่า 40 เล่มจบก็มี ส่วนอีกรูปแบบหนึง่ ก็คือ หนังสือการ์ ตนู
เรื่ องสัน้ มีความยาวเล่มเดียวจบ
นิตยสารการ์ ตนู แปลที่ออกเป็ นรายสัปดาห์ นอกจากมีการ์ ตนู เรื่ องยาวลงพิมพ์
เป็ นตอนๆ มีทงหมด ั้ 4-5 เรื่ องแล้ ว มักมีพื ้นที่เปิ ดให้ ผ้ อู า่ นเขียนจดหมายพูดคุยกับกอง
บรรณาธิการ ส่วนหน้ าโฆษณามีประมาณ 1-2 หน้ า โดยเป็ นการโฆษณาหนังสือในเครื อเป็ น
หลัก ส่วนนิตยสารการ์ ตนู รายเดือนมักมีความหนากว่า 200 หน้ า และมีคอลัมน์ตา่ งๆ เพิ่มขึ ้น
ส่วนขนาดรูปเล่มของหนังสือ และนิตยสารการ์ ตนู แปลจากภาษาญี่ปนุ่ มีขนาดเท่ากัน และเล็ก
กว่าต้ นฉบับภาษาญี่ปนมาก ุ่ คือประมาณ 5” x 6” และมีราคาประมาณ 45 บาท (พรวลัย เบญจ
รัตนสิริโชติ, 2549: 28)
5. แนวความรักของหนุม่ สาว เช่น ออเรนจ์ โร้ ด (ถนนสายนี ้เปรี ย้ ว) เป็ นเรื่ องราว
ความรักสามเส้ าระหว่างหญิง 2 ชาย 1 ที่กาลังศึกษาในชันมั ้ ธยม การ์ ตนู แนวนี ้ใช้ การวาดภาพ
ด้ วยลายเส้ นที่สวยงามสมจริ ง เน้ นกลุม่ เป้าหมายไปที่กลุ่มวัยรุ่ น
6. แนวการผจญภัยของตัวเอกและคณะ เรื่ องแนวนี ้มักมีตวั เอกเป็ นเด็ก และ
กลุม่ เด็กในยุคปั จจุบนั กับกลุม่ เพื่อนสัตว์ประหลาดที่มีพลังวิเศษ และสามารถกลายเป็ นร่างใหม่ที่
มีพลังเพิ่มขึ ้นได้ ทังคู ้ จ่ ะคอยให้ ความช่วยเหลือซึง่ กันและกัน และร่วมผจญภัยไปด้ วยกัน เนื อ้ หา
จะเน้ นที่การแสดงความกล้ าหาญ ความสามัคคี ความเสียสละ ความมุง่ มัน่ และรักเพื่อนพ้ อง ซึง่
จะเป็ นสิ่งที่เอาชนะอุปสรรคทังปวงและน
้ าไปสูช่ ยั ชนะในที่สดุ เช่นเรื่ อง โปเกมอน ดิจิมอน เป็ นต้ น
7. แนวสืบสวนสอบสวน เช่น โคนัน เป็ นเรื่ องราวเกี่ยวกับเด็กหนุม่ นักสืบที่มี
ความเก่งกาจในการคลี่คลายคดีปริ ศนาฆาตกรรม เนื่อหามีการนาแนวความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มา
ประยุกต์ใช้ ในการสืบสวน
8. แนวการดาเนินชีวิตของตัวแสดง เนื ้อหาในแนวนี ้จะไม่มีผ้ ชู ว่ ย หรื อสิ่งวิเศษ
แต่เป็ นการแก้ ไขปั ญหาด้ วยตัวละครเอง และสะท้ อนภาพชีวิตของครอบครัวญี่ปุ่น ลักษณะ
ลายเส้ นค่อนข้ างเรี ยบง่าย ไม่มีมิตมิ ากนัก แต่เรื่ องราวมีความตลก ขบขัน เช่นชินจังจอมแก่น ฮิบิ
มารูโกะจัง เป็ นต้ น
ขณะที่ พรวลัย เบญจรัตนสิริโชติ (2549: 154-163) ซึง่ ได้ สารวจการ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่
แปลเป็ นภาษาไทยในช่วงมิถนุ ายน 2549 – กุมภาพันธ์ 2550 ก็ได้ แบ่งแนวเรื่ องของการ์ ตนู ญี่ปนุ่
ในบ้ านเราออกเป็ น 4 กลุม่ คือ
1. กลุม่ การ์ ตนู ที่สะท้ อนภาพความรุนแรง แยกย่อยได้ อีก 3 แนวเนื ้อหา คือ
- แนวการต่อสู้ มีเนื ้อหาใกล้ เคียงแนวผจญภัย แต่เนื ้อหาหลักเน้ นการต่อสู้ด้วย
กาลัง การแข่งขัน หลายเรื่ องแสดงถึงศิลปะการป้องกันตัว พระเอกของเรื่ องมักเป็ นคนเก่ง หรื อมี
พรสวรรค์ด้านทักษะการต่อสู้ และมีศตั รูคอยตามรังควาน หรื ออาจเป็ นการต่อสู้กบั ผู้ที่อยาก
ประลองฝี มือเพื่อวัดว่าใครเก่งกว่ากัน ในระหว่างต่อสู้พระเอกจะพัฒนาฝี มือตัวเองให้ แกร่งมาก
ขึ ้นเรื่ อยๆ เช่น เรื่ อง ฮันมะ บากิ โรงเรี ยนลูกผู้ชาย ข้ าชื่อโคทาโร่ ฯลฯ
- แนวผจญภัย มักมีลกั ษณะการเดินทางไปยังที่ตา่ งๆ ได้ เจอและเรี ยนรู้สิ่งใหม่
มักมีการต่อสู้เข้ ามาเกี่ยวข้ อง โดยตัวเอกของเรื่ องจะเดินทางไปดินแดนอันตราย และต่อสู้กบั สิ่ง
ต่างๆ ทังด้ ้ านความคิด และกาลัง ซึง่ ส่งผลให้ ตวั ละครพัฒนาความสามารถแตกต่างกันออกไป
โดยส่วนใหญ่เป็ นเรื่ องที่แสดงให้ เห็นความรักในหมูพ่ วกพ้ อง เช่น วันพีซ เทพอสูรจิ ้งจอกเงิน ฯลฯ
- แนวภูตผี ปี ศาจ ตัวละครเอกมักเป็ นผี (bake) มีลกั ษณะน่ารักน่าเอ็นดู มี
18
1
เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ กล่าวในการอบรมค่ายการ์ ตนู ทีเคการ์ ตนู ิสต์: หลักสูตรการ์ ตนู สร้ างชาติ ในหัวข้ อ “การพัฒนาบท
การ์ ตนู ” เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2552 ณ ศูนย์พฒ ั นาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
2
เรียบเรียงจากการเสวนาในค่ายการ์ ตนู ทีเคการ์ ตนู ิสต์: หลักสูตรการ์ ตนู สร้ างชาติ ในหัวข้ อ “เทคนิคการเล่าเรื่องแบบ
การ์ ตนู คอมิค” เมื่อวันที่ 21 และ 26 ตุลาคม 2552 ณ ศูนย์พฒ ั นาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต และจากการเสวนา
ในงานนิทรรศการการ์ ตนู แหกคอก “Tale from the six” โดยวิทยากรคือ 10 นักเขียนการ์ ตนู มืออาชีพของไทย เมื่อวันที่ 27
กันยายน 2552 ณ อาร์ ท กอริลล่า สยามสแควร์
21
การ์ ตนู สูงขึ ้นด้ วย เช่นการ์ ตนู สาหรับคนทัว่ ไปก็จะมีกรอบน้ อย เช่นการ์ ตนู แก๊ ก 1-3 ช่องจบ วาง
กรอบเรี ยงกันง่ายๆ ไม่สบั สน หรื อการ์ ตนู สาหรับเด็กก็จะมีกรอบใหญ่ อาจจะ 1-2 กรอบต่อหน้ า
การ์ ตนู วัยรุ่นขึ ้นไปก็จะมีกรอบเยอะขึ ้น และวางกรอบซับซ้ อนขึ ้น
22
แต่ทงนี
ั ้ ้การวางขนาดช่องก็ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวนัก เป็ นสไตล์ของนักเขียนแต่ละคน นักเขียนบาง
คนนิยมวางช่องเยอะๆ บางคนนิยมวางช่องน้ อยๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ วการ์ ตนู ญี่ปนใน ุ่ 1 หน้ า
มักมีจานวนช่องไม่เกิน 10 ช่อง
1
เรื องศักดิ์ ดวงพลา กล่าวถึงเทคนิคการเขียนการ์ ตนู ในการเสวนาค่ายการ์ ตนู ทีเคการ์ ตนู ิสต์: หลักสูตรการ์ ตนู
สร้ างชาติ ในหัวข้ อ “เทคนิคการเล่าเรื่ องแบบการ์ ตนู คอมิค” เมื่อวันที่ 21 และ 26 ตุลาคม 2552 ณ ศูนย์พฒ ั นาทุน
มนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
23
รูปร่างของบอลลูนจะแตกต่างกันไปตามลักษณะของคาพูดนันๆ ้ เช่นคาพูด
สนทนาปกติ ก็จะใช้ ชอ่ งคาพูดปกติ แต่ถ้าพูดเสียงดังหรื อตะโกนก็จะใช้ ช่องคาพูดที่มีเส้ นแหลมๆ
ออกไปรอบๆ (คล้ ายทุเรี ยน) ถ้ าเป็ นเสียงประกาศ หรื อเสียงจากโทรทัศน์ วิทยุ ก็จะเป็ นช่อง
เหลี่ยมๆ เพื่อให้ ผ้ อู า่ นรู้สกึ ว่าต่างจากคาพูดปกติ ถ้ าผู้พดู เสียงสัน่ หวาดกลัว หรื อถ้ าเป็ นเสียง
บรรยายจากบุคคลอื่น (Narrative Voice) ก็มกั จะออกแบบเป็ นกรอบสี่เหลี่ยมที่ตา่ งจากช่องปกติ
อาจจะมีเส้ นกรอบเป็ นเส้ นคูก่ ็ได้ บางทีผ้ เู ขียนก็จะเขียนให้ ชอ่ งคาพูดเป็ นคลื่นๆ แสดงอารมณ์ แต่
การออกแบบช่องคาพูดก็ไม่มีกฎตายตัวเช่นเดียวกับการออกแบบกรอบหรื อช่องการ์ ตนู ขึ ้นอยูก่ บั
สไตล์ของนักเขียน
24
ส่วนการวางบอลลูนในแต่ละกรอบภาพผู้เขียนจะถือว่าบอลลูนคือองค์ประกอบ
หนึง่ ทางศิลปะในกรอบนันๆ ้ หรื อพูดง่ายๆ ว่าการวางบอลลูนไม่ได้ เป็ นการกินเนื ้อที่ของภาพ แต่
เป็ นจุดที่ผ้ เู ขียนออกแบบไว้ แล้ วว่าช่องคาพูดนันไม่ ้ ไปทับส่วนสาคัญของภาพนัน่ เอง ซึง่ การวาง
ช่องคาพูดมากหรื อน้ อยก็ขึ ้นอยูก่ บั เนื ้อหาที่ผ้ อู า่ นต้ องการเล่า แต่ชอ่ งคาพูดก็มีสว่ นกาหนดกลุม่
ผู้อา่ นเช่นกัน ช่องคาพูดยิ่งมาก กลุม่ ผู้อา่ นก็จะยิ่งน้ อยลง และมีชว่ งอายุมากขึ ้น ดังนันการ์
้ ตนู ที่ไม่
มีชอ่ งคาพูดจึงสามารถเข้ าถึงกลุม่ คนในวงกว้ างได้ ดี
บอลลูนยังมีหน้ าที่สร้ างความไหลลื่นในการอ่านเช่นเดียวกับกรอบหรื อช่อง
การ์ ตนู ด้ วยเช่นกัน โดยความไหลลื่นในการอ่าน จะขึ ้นอยูก่ บั วิธีการกาหนดลาดับช่องคาพูด ของ
ผู้เขียนอย่างมาก ซึง่ โดยหลักการการเรี ยงลาดับช่องคาพูดของการ์ ตนู Comic นันมั ้ กเรี ยงจาก
ทิศทาง “บนลงล่าง” และ จาก “ซ้ ายไปขวา” เป็ นลักษณะตัว Z ดังนันหากในช่ ้ องภาพเดียวกัน มี
หลายบอลลูน ให้ สงั เกตว่าบอลลูนที่ผ้ อู า่ นต้ องอ่านก่อน (เรื่ องราวเกิดขึ ้นก่อน) จะอยูใ่ นตาแหน่ง
ที่สงู กว่าบอลลูนอื่นๆ และหากบอลลูนมีระดับความสูงเท่าเทียมกันจะต้ องเริ่มอ่านจากบอลลูนที่
อยูซ่ ้ ายมือ ก่อนไล่สายตาไปอ่านบอลลูนที่อยูข่ วามือ
25
1.5.3 ขนาดภาพ
หมายถึงการกาหนดขนาดภาพหรื อระยะภาพที่ปรากฏในแต่ละช่องการ์ ตนู เช่น
ภาพไกล (Long Shot) ภาพใกล้ (Close-Up) ขนาดของภาพในหนังสือการ์ ตนู มีผลต่อการสื่อ
อารมณ์แตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกับสื่อภาพยนตร์ ซึ่งในการ์ ตนู ญี่ปนโดยเฉพาะแนวต่
ุ่ อสู้ มัก
มีการเปลี่ยนขนาดภาพแตกต่างกันภายใน 1 หน้ า และยิ่งมีความแตกต่างของขนาดภาพทังใกล้ ้ -
ไกลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้ างความหวือหวาเร้ าใจของภาพได้ มากเท่านัน้ นอกจากนี ้การเปลี่ยน
ขนาดภาพในแต่ละช่องภาพที่ตวั ละครไม่มีความเคลื่อนไหวใน 1 หน้ า (เช่นตัวละครเอกนัง่ เล่นเกม
คอมพิวเตอร์ ทงหน้ ั ้ า) ยังช่วยให้ ภาพและเรื่ องไม่นา่ เบื่ออีกด้ วย
1.5.4 มุมกล้ อง หรื อมุมมองภาพ
ในภาพยนตร์ มุมมองภาพก็คือ ภาพที่เกิดจากการจัดวางระดับความสูงของ
กล้ องที่สมั พันธ์กบั สิ่งที่ถ่ายทา เพื่อเสริมความหมาย คุณค่าด้ านสุนทรี ยศาสตร์ และด้ านจิตวิทยา
การรับรู้ ซึง่ มีผลต่ออารมณ์ความรู้สกึ ของผู้ชม เช่นเดียวกับในหนังสือการ์ ตนู ญี่ปนุ่ หรื อมังงะ ที่
ผู้เขียนสามารถจัดวางมุมภาพแบบใดก็ได้ โดยไม่ต้องใช้ กล้ อง แต่ใช้ ปากกาเคมี หรื ออุปกรณ์การ
เขียนอื่นๆ แทนความคิดออกมาได้ ตามต้ องการ มุมมองภาพในการ์ ตนู จึงเรี ยกได้ วา่ “ไร้ ขีดจากัด”
เช่นมุมเงย (Worm’s-Eye View) ถ้ าใช้ กบั ตัวละครก็จะสร้ างความน่าเกรงขาม ผู้อา่ นจะรู้สกึ ว่าตัว
ละคร (และตัวผู้อา่ น) กาลังถูกคุกคาม หรื อถ้ าใช้ กบั สถานที่ก็จะสร้ างความอลังการให้ กบั สถานที่
26
แต่ถ้าเป็ นมุมสูง หรื อมุมกดลง (Bird’s-Eye View) ก็จะมีความรู้สกึ ว่าตัวละครอยูเ่ หนือกว่า (เช่น
ฉากตัวละครยืนอยูบ่ นตึกสูงและมองลงไปที่เมือง ซึง่ ใช้ บอ่ ยในการ์ ตนู ฮีโร่ตา่ งๆ) โดยการเปลี่ยน
มุมกล้ องเป็ นระยะต่างๆ ในแต่ละกรอบแต่ละหน้ าก็ชว่ ยสร้ างความน่าสนใจให้ การ์ ตนู ทาให้ ผ้ ูอา่ น
ไม่ร้ ูสกึ เบื่อหน่าย แต่ถ้าเปลี่ยนมุมกล้ องโดยไม่มีเหตุผลก็อาจสร้ างความสับสนให้ เรื่ องได้
1.5.5 การเคลื่อนไหวของภาพ
ในภาพยนตร์ ความเคลื่อนไหวของภาพเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ อง เช่นการ
เคลื่อนกล้ องในแนวระนาบ (Pan) จากซ้ ายไปขวาอย่างรวดเร็ว ซึง่ ก็ชว่ ยสร้ างความรู้สกึ ตื่นเต้ น
วุน่ วายได้ และแม้ หนังสือการ์ ตนู จะเป็ นภาพนิ่ง แต่ด้วยภาพที่ร้อยเรี ยงต่อเนื่องกันในแต่ละช่อง
หรื อกรอบซึง่ มีระยะห่างระหว่างช่องแตกต่างกัน รวมทังการใช้ ้ เทคนิคเฉพาะตัวของการ์ ตนู เช่น
การขีดเส้ นนาสายตา การวาดให้ ตวั ละครหันหน้ าไปยังทิศทางที่ต้องการ หรื อการวาดเส้ นสปี ดเพื่อ
แสดงความเคลื่อนไหวของตัวละคร สิ่งเหล่านี ้ก็เปรี ยบได้ กบั การเคลื่อนกล้ องในภาพยนตร์ ที่
ให้ ความรู้สึกว่าตัวละครกาลังเคลื่อนไหว และภาพแต่ละภาพ (ในแต่ละช่อง) กาลังเกี่ยวร้ อย
ออกมาเป็ นภาพเคลื่อนไหว ซึง่ ทาให้ ผ้ อู า่ นรู้สกึ ด้ าน “เวลา” ช้ า-เร็ว และให้ อารมณ์ที่แตกต่าง
หลากหลายได้ ไม่ตา่ งจากภาพยนตร์ (สุทธิชาติ ศราภัยวานิช, สัมภาษณ์, 8 มีนาคม 2553)
การสร้ างความต่อเนื่องของภาพ หรื อความเคลื่อนไหวในแต่ละหน้ าให้ ผ้ อู ่านรับรู้
ถึงความเร็ว-ช้ าได้ นนั ้ ยังเกิดจากการวาดจานวนของกรอบภาพด้ วย โดยถ้ าผู้เขียนต้ องการสร้ าง
ความเคลื่อนไหวให้ กบั ตัวละคร หรื อเหตุการณ์มากๆ ก็ต้องวาดรูปที่ตอ่ เนื่องกันมากในแต่ละช่อง
เช่นเหตุการณ์ที่ตวั ละครวิ่งไปและสะดุดหกล้ ม ถ้ าต้ องการให้ การเคลื่อนไหวต่อเนื่องก็ต้องวาด
กรอบภาพจานวนมากโดยเริ่ มจากเห็นตัวละครวิ่งมา - ตัดไปที่สีหน้ าในกรอบต่อมา - ตัดไปที่ก้อน
หินที่อยู่ข้างหน้ า - ตัดไปที่สีหน้ าที่ตวั ละครไม่เห็นก้ อนหินนัน้ - ตัดไปที่ภาพตัวละครสะดุดหิน
ต่อเนื่องด้ วยภาพท่าทางที่ตวั ละครกาลังล้ มลงกระแทกพื ้น - ต่อด้ วยภาพตัวละครกระทบพื ้นแล้ ว
กระเด็นขึ ้น - สุดท้ ายอาจจะเป็ นกล้ องมุมสูงที่มองลงมาเห็นตัวละครนอนอยูท่ ี่พื ้น ซึง่ จะเห็นว่า
ต้ องใช้ กรอบภาพจานวนมากเพื่อแสดงความต่อเนื่อง ในขณะที่เหตุการณ์เดียวกันถ้ าเลือก
แสดงแค่ภาพตัวละครวิ่งมา สะดุด แล้ วก็นอนอยู่กบั พื ้น จะเห็นว่าสามรถเล่าเรื่ องได้ เหมือนกัน แต่
ความต่อเนื่องจะน้ อยกว่า และรู้สกึ ว่าเวลาในเหตุการณ์นนเริ ั ้ ่มต้ นและจบลงเร็วกว่ามาก ทังนี ้ ้ก็
ขึ ้นอยู่กบั ผู้เขียนว่าต้ องการเล่าให้ ตอ่ เนื่องหรื อฉับไวนัน่ เอง (สุทธิชาติ ศราภัยวานิช, สัมภาษณ์, 8
มีนาคม 2553)
27
1.5.6 การตัดต่อภาพ
การตัดต่อภาพของภาพยนตร์ ทาให้ เกิดจังหวะ ส่งผลทางด้ านอารมณ์ของผลงาน
และยังมีบทบาทในด้ านโครงสร้ างเรื่ องช่วงเวลา เช่นหากต้ องการสร้ างความรู้สกึ สงบนิ่ง หรื อสร้ าง
ความสงสัย ก็อาจแช่ภาพนิ่งๆ นาน 5 นาทีโดยไม่ตดั ภาพเลย หรื อหากต้ องการสร้ างความเร้ าใจ
ในฉากไล่ลา่ ผู้กากับอาจใช้ วิธีตดั ภาพกระชับ ฉับไว เป็ นต้ น ซึง่ ในหนังสือการ์ ตนู ก็มีวิธีการ
ตัดต่อภาพเช่นกัน แต่ทาได้ โดยใช้ เทคนิคเฉพาะตัวของการ์ ตนู เหมือนเช่นการเคลื่อนไหวของภาพ
นัน่ คือการสื่อสารผ่านกรอบ หรื อช่องภาพ เช่นหากใช้ ชอ่ งขนาดเล็ก ซอยถี่ๆ หลายๆ ช่องใน 1
หน้ าจะให้ ความรู้สกึ เหมือนการตัดต่อภาพฉับไว และส่งผลให้ ร้ ูสกึ ว่าเวลาในเรื่ องดาเนินไปอย่าง
รวดเร็ว หรื อรู้สกึ ว่าผู้เขียนไม่ต้องการใส่ใจรายละเอียดในช่วงนี ้มากนัก แต่หากใช้ ช่องขนาด
ใหญ่เราก็จะรู้สกึ ว่าเหตุการณ์เกิดขึ ้นช้ าๆ เหมือนการแช่กล้ องในภาพยนตร์ ที่แสดงถึงเวลาในเรื่ อง
ดาเนินไปอย่างไม่เร่งรี บ รวมทังยั ้ งแสดงถึงการให้ ความสาคัญของตัวละคร รายละเอียดของฉาก
หรื อเหตุการณ์ที่กาลังปรากฏอยูด่ ้ วย
1.5.7 การจัดวางฉาก และการจัดวางองค์ประกอบอื่นๆ ในกรอบ/ช่องการ์ ตนู
- ฉากเป็ นสิ่งสาคัญไม่แพ้ ตวั ละครในการวาดการ์ ตนู และการเปิ ดเรื่ องในหนังสือ
การ์ ตนู ที่ดีนนควรเริ
ั้ ่มจากการวาดฉาก เพื่อให้ คนอ่านรับรู้มิตเิ รื่ องสถานที่และเวลาได้ ทนั ที ซึง่
การวาดฉากที่ดีนนนอกจากผู
ั้ ้ เขียนจะต้ องศึกษาจุด perspective ที่ชว่ ยให้ ฉาก และอุปกรณ์
ประกอบฉากมีสดั ส่วนไม่ผิดเพี ้ยนไปจากความเป็ นจริง
นอกจากนี ้การจัดวางองค์ประกอบอื่นๆ ในกรอบภาพก็มีความสาคัญที่ทาให้
ภาพการ์ ตนู ดูนา่ อ่าน สบายตาอีกด้ วย ซึง่ องค์ประกอบที่ว่านี ้ก็คือการจัดวางขนาด และรูปทรง
ของตัวการ์ ตนู (จะกล่าวรายละเอียดอีกครัง้ ในหัวข้ อการสร้ างตัวละคร) ลักษณะของบอลลูน
รวมทังขนาดและรู
้ ปแบบของตัวอักษร ซึง่ ช่วยแสดงถึงมิตดิ ้ าน “เสียง” ทังบทสนทนา ้ เสียง
ประกอบฉาก (Sound Effect) เช่นเสียงระเบิด เสียงกรี ดร้ องของผู้หญิง ซึง่ ลักษณะของ
ตัวอักษรที่ดีในการ์ ตนู ช่องนันควรมี
้ ขนาดไม่ใหญ่เกินไปจนดึงความสนใจไปจากภาพ เพราะ
ตัวหนังสือควรเป็ นเพียงส่วนประกอบของภาพและเรื่ องเท่านัน้ ส่วนการใส่คาบรรยายและ
บทสนทนาในการ์ ตนู ก็ควรสัน้ กระชับ และที่สาคัญคือไม่ควรพูดซ ้ากับสิ่งที่ภาพสื่อความได้ ชดั เจน
28
1
เรื องศักดิ์ ดวงพลา กล่าวถึงเทคนิคการเขียนการ์ ตนู ในการเสวนาค่ายการ์ ตนู ทีเคการ์ ตนู ิสต์: หลักสูตรการ์ ตนู
สร้ างชาติ ในหัวข้ อ “เทคนิคการเล่าเรื่ องแบบการ์ ตนู คอมิค” เมื่อวันที่ 21 และ 26 ตุลาคม 2552 ณ ศูนย์พฒ ั นาทุน
มนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
29
- ดาเนินเรื่ องตามลาดับปฏิทิน
- ดาเนินเรื่ องแบบเล่าย้ อนกลับ (Flash Back)
- ดาเนินเหตุการณ์และสถานที่สลับกันไปมา
2.1.3 ภาวะวิ กฤติ หรื อจุดวิ กฤติ (climax) เป็ นขันที้ ่ความขัดแย้ งพุง่ ขึ ้นสูงสุด
และถึงจุดแตกหัก ตัวละครตกอยูใ่ นสถานการณ์ต้องลงมือกระทา หรื อตัดสินใจ
2.1.4 ภาวะคลีค่ ลาย (Resolution) เมื่อตัวละครตัดสินใจลงมือกระทาสิ่งใด
สิ่งหนึง่ จุดวิกฤติก็จะผ่านพ้ น หรื อได้ รับการแก้ ไข เหตุการณ์ หรื อปมปั ญหาจึงค่อยๆ คลี่คลายลง
2.1.5 การยุติเรื ่องราว หรื อการปิ ดเรื ่อง (Ending) ปมปั ญหา ความขัดแย้ ง
ได้ รับการแก้ ไข ส่งผลสู่บทลงท้ ายของตัวละคร ซึง่ อาจจบได้ ทงมี ั ้ ความสุข เศร้ า หรื อประชดประชัน
ซึง่ ลาดับพัฒนาการของโครงเรื่ องสรุปเป็ นแผนภาพได้ ดงั นี ้
จุดวิกฤติ (climax)
ปั ญหา คลี่คลายพัฒนาเหตุการณ์
2.2 ความขัดแย้ ง (Conflict) ความขัดแย้ งหรื อ “ความไม่ได้ ดงั่ ใจ” ในเรื่ องคือสิ่ง
ที่ทาให้ เรื่ องน่าตื่นเต้ น น่าสนใจ ซึง่ อาจจาแนกความขัดแย้ งหลักๆ ในเรื่ องเล่าได้ 5 ประเภทคือ
- ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ดว้ ยกัน ความขัดแย้ งแบบนี ้พบบ่อยในเรื่ องแนว
แอ็คชัน่ ที่พระเอกเป็ นฮีโร่ มีฝ่ายธรรมะ และฝ่ ายอธรรม
- ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กบั ธรรมชาติ เช่นตัวละครต้ องเอาชนะกับภัย
ธรรมชาติ เช่นน ้าท่วม แผ่นดินไหว
- ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กบั สิ่ งเหนือธรรมชาติ มักพบในเรื่ องแนวภูตผี
ปี ศาจ
- ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กบั ระบบหรื อสังคม เช่นตัวละครเอกเป็ นนักเรี ยน
จอมเกเร และชอบโต้ แย้ งกับครู ทาให้ ถกู ไล่ออกจากโรงเรี ยน
- ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กบั ตัวเอง หรื อความขัดแย้งภายในจิ ตใจ เช่น ตัว
30
3. แนวคิดการสร้ าง และออกแบบบุคลิกลักษณะตัวละคร
การเล่าเรื่ องในการ์ ตนู มีพลังขับเคลื่อนหลักอยู่ที่ “ตัวละคร” อย่างมาก แม้ กระทัง่ นักเขียน
การ์ ตนู ระดับโลกอย่าง โทริ ยาม่า อากิระ (Toriyama Akira) ผู้สร้ างผลงานอย่าง ดร.สลัมป์ ดรา
ก้ อนบอลยังกล่าวไว้ ว่า “ก่อนที จ่ ะเขี ยนเนื อ้ เรื ่ องการ์ ตูนได้นนั้ ผูเ้ ขี ยนจะต้องคิ ดคาแร็ คเตอร์ หรื อตัว
ละครหลักๆ ของเรื ่องเสียก่ อน” (โทริยาม่า อากิระ, 2530: 30) นัน่ เพราะหากสร้ างตัวละคร
ออกมาได้ นา่ สนใจ มีเอกลักษณ์ สร้ างความน่าเชื่อถือและสร้ างอารมณ์ให้ ผ้ อู า่ นติดตามตัวละครไป
ตลอดทังเรื้ ่ อง ก็ยอ่ มเป็ นหนทางสร้ างรายได้ ที่ยงั่ ยืนให้ กบั นักเขียน เหมือนเช่น โดราเอมอน หรื อ
32
แต่ทงนี
ั ้ ้การออกแบบสัดส่วนของตัวละครยังขึ ้นอยู่กบั ความถนัด และเอกลักษณ์
ของผู้เขียน นอกจากนี ้ยังต้ องพิจารณาว่าสัดส่วนเข้ ากับเนื ้อเรื่ องด้ วยหรื อไม่ เช่นหากเนื ้อหา
ค่อนข้ างรุนแรง เครี ยด การออกแบบสัดส่วนตัวละครก็อาจเน้ นความสมจริงเหมือนเช่น หมัดเทพ
เจ้ าดาวเหนือ แต่หากเนื ้อเรื่ องตอบสนองกลุม่ เด็ก แนวเรื่ องตลก ก็มกั จะออกแบบสัดส่วนที่เกิน
จริงมากกว่า และมักมีลกั ษณะเรี ยบง่าย ไม่ซบั ซ้ อนจนเกินไป เพราะจะสร้ างความจดจาและทา
ให้ เด็กๆ วาดตามได้ ง่าย เหมือนเช่นตัวการ์ ตนู อย่าง คิตตี ้ หรื อ โดราเอมอน
5. แนวคิดสุนทรียศาสตร์ (Aesthetics)
นอกจากอารมณ์ขนั แล้ วแนวคิดสุนทรี ยศาสตร์ ซึง่ เป็ นศาสตร์ ที่ว่าด้ วยความงาม การตัง้
คาถามว่าความงามคืออะไร ศิลปะคืออะไร ก็เป็ นอีกแนวคิดที่ควรนามาใช้ เป็ นกรอบอ้ างอิง
เนื่องจากการ์ ตนู เป็ นสื่อที่ต้องอาศัยศิลปะทังด้
้ านภาพ และการถ่ายทอดเรื่ องราวที่ก่อให้ เกิด
“สุนทรี ยรส” ซึง่ หมายถึงรสชาติตา่ งๆ ที่ก่อให้ เกิดอารมณ์ ความงาม ความซาบซึ ้งแก่ผ้ เู สพงาน
ศิลปะ โดยจากทฤษฎีนาฏศาสตร์ ของอินเดียได้ แบ่งรสออกเป็ น 9 รสดังนี ้ (นิยะดา เหล่าสุนทร,
2543: 23-25)
1. ศฤงคารรส รสคือเหตุให้ เกิดความรัก
37
6. แนวคิดเกี่ยวกับสังคม และวัฒนธรรมญี่ปุ่น
เนื่องจากวัฒนธรรม สังคม และการดาเนินชีวิตของญี่ปนมี ุ่ ลกั ษณะเฉพาะตัว ดังนันการ ้
ทาความเข้ าใจกับสิ่งเหล่านี ้ จะช่วยให้ เข้ าใจความหมายของเรื่ องราวในการ์ ตนู ญี่ปนได้ ุ่ ชดั เจนขึ ้น
โดยแม้ วา่ วัฒนธรรมญี่ปนจะได้
ุ่ รับอิทธิพลจากจีน แต่ก็ดดั แปลงให้ เข้ ากับวิถีชีวิตความเป็ นอยูข่ อง
ตัวเองจนหล่อหลอมให้ ญี่ปนมี ุ่ วฒ ั นธรรมเป็ นเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึง่ เพ็ญศรี กาญจโนมัย
(2540: 9-75); ยุพา คลังสุวรรณ (2547: 127-149) ได้ กล่าวเอาไว้ ดงั นี ้
6.1 ศาสนาและความเชื่อ
ศาสนา หรื อลัทธิความเชื่อ มีอิทธิพลมากต่อการปูพื ้นฐานวัฒนธรรม ซึง่ ศาสนาที่มี
ผลต่อการดาเนินชีวิต และวัฒนธรรมของคนญี่ปนุ่ ก็คือ ศาสนาชินโต ศาสนาพุทธ และลัทธิขงจื๊อ
ซึง่ ถ้ าเปรี ยบวัฒนธรรมญี่ปนให้ ุ่ เป็ นเสมือนตันไม้ ต้นหนึง่ แล้ ว ศาสนาชินโตจะเป็ นลาต้ นและราก
แก้ วที่แข็งแรง ลัทธิขงจื๊อเป็ นเสมือนกิ่งก้ านสาขาและใบไม้ ส่วนศาสนาพุทธก็จะเป็ นดอกและผล
ที่สวยงามของต้ นไม้ นนั ้
6.1.1 ศาสนาชินโต
ชินโต แปลว่า วิถีแห่งเทพเจ้ า ชินโตเป็ นความเชื่อดังเดิ ้ มของญี่ปนที ุ่ ่เกิดขึ ้นจาก
วัฒนธรรมก่อนการอ่านออกเขียนได้ ของคนญี่ปนุ่ ซึง่ แนวคิดและหลักธรรมของศาสนาชินโต แบ่ง
ได้ ดงั นี ้
6.1.1.1 แนวคิดเกี่ยวกับเทพเจ้ า
ศาสนาชินโตเชื่อว่าเมื่อมนุษย์สืบเชื ้อสายมาจาก “คามิ” หรื อเทพเจ้ า
38
6.2.3 สถานภาพทางสังคม
สถานภาพ ทังด้ ้ านตาแหน่งหน้ าที่ในกลุม่ และระหว่างชายหญิงนันไม่ ้ เท่ากัน
โดยสถานภาพของผู้หญิงญี่ปนต ุ่ ่ากว่าผู้ชาย สังคมญี่ปนเป็ ุ่ นสังคมของผู้ชาย ซึง่ ผู้หญิงไม่เพียง
ไม่ตอ่ ต้ าน แต่ยงั ส่งสริมให้ ผ้ ชู ายได้ เป็ นใหญ่อีกด้ วย
6.3 ศิลปวัฒนธรรม
ศิลปวัฒนธรรมญี่ปนได้ ุ่ รับอิทธิพลของพุทธศาสนานิกายเซ็นมากที่สุด โดยเฉพาะ
ศิลปะชันสู ้ ง ความงามหรื อสุนทรี ยะในทัศนะคนญี่ปนก็ ุ่ คือความงามของธรรมชาติเป็ นสาคัญ
หลักของศิลปะญี่ปนที ุ่ ่แท้ จริงคือการพยายามเข้ าถึงธรรมชาติ หรื อหากเข้ าถึงไม่ได้ ก็มกั จะ
เลียนแบบธรรมชาติ หรื อสร้ างสิ่งที่ระลึกถึงธรรมชาติ ในเรื่ องวัฒนธรรมก็เช่นเดียวกัน ชาวญี่ปนุ่
เป็ นชนชาติที่สงั เกตธรรมชาติและใช้ ชีวิตเกี่ยวเนื่องกับธรรมชาติ
งานวิจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้ อง
จากการทบทวนงานวิจยั เกี่ยวกับหนังสือการ์ ตนู ทังของญี
้ ่ปนุ่ ไทย สหรัฐอเมริ กาตังแต่
้ พ.ศ.
2532 จนถึงปั จจุบนั มีงานวิจยั ที่เกี่ยวข้ องดังนี ้
สุวรรณา สันคติประภา (2532) ศึกษาพฤติกรรมการอ่านและการเลือกอ่านหนังสือ
การ์ ตนู ญี่ปนของเด็
ุ่ กไทยในเขตกรุงเทพมหานคร โดยศึกษากลุม่ ตัวอย่างเป็ นนักเรี ยนชายหญิงชัน้
ประถมศึกษาปี ที่ 4-6 จากโรงเรี ยน 10 แห่งในกรุงเทพฯ 5 เขต จานวน 345 คน ผลการวิจยั พบว่า
กลุม่ ตัวอย่างร้ อยละ 97 เคยอ่านหนังสือการ์ ตนู ร้ อยละ 69.5 เพศชายพึงพอใจและความถี่ในการ
เปิ ดรับสูงมากกว่าเพศหญิง โดยปั จจัยที่มีผลต่อการเปิ ดรับและพฤติกรรมการอ่านหนังสือการ์ ตนู
ญี่ปนของเด็
ุ่ กคือความพึงพอใจในสื่อ และแรงจูงใจจากการดูภาพยนตร์ การ์ ตนู ทางโทรทัศน์
รวมทังยั ้ งมีปัจจัยจากเพื่อน พี่น้อง ที่สนับสนุนให้ อ่านก็จะมีปริมาณการอ่านหนังสือการ์ ตนู ญี่ปนุ่
สูงอย่างมีนยั สาคัญทางสถิติ แต่ก็นา่ สนใจว่าแม้ ปัจจัยด้ านบุคคลแวดล้ อมจะส่งผลต่อการรับสื่อ
ของเด็กกลับพบว่าเด็กส่วนใหญ่ถึงร้ อยละ 80.6 เลือกอ่านหนังสือการ์ ตนู ญี่ปนด้ ุ่ วยตัวเอง
มาณิษา พิศาลบุตร (2533) ได้ ศกึ ษาการสื่อความหมายในนิตยสารการ์ ตนู ขายหัวเราะ
ฉบับกระเป๋ า โดยพิจารณาด้ านรูปแบบ และเนื ้อหาของการ์ ตนู ขายหัวเราะว่าสะท้ อนภาพ
เหตุการณ์ สังคมไทยอย่างไร และได้ วิเคราะห์ความขบขันที่ผ้ อู า่ นได้ รับจากการอ่าน ซึ่งผลการวิจยั
พบว่า ภาพการ์ ตนู ในขายหัวเราะฉบับกระเป๋ าเกิดจากการนาแก่นเรื่ อง โครงเรื่ อง ฉาก ตัวละคร
บทสนทนา และวัตถุดบิ ที่หาได้ จากแหล่งต่างๆ คือชีวิตจริง สื่อมวลชน และจากผู้อา่ นมา
ผสมผสานเป็ นเหตุการณ์ที่ดาเนินเรื่ องราวไปตามกรอบของภาพการ์ ตนู ทังรู้ ปแบบที่เป็ นกรอบ
42
ระเบียบวิธีการวิจัย
ประชากรการวิจัย
1. ประชากรสาหรับการศึกษาเนื ้อหา (Content Research) ได้ แก่ หนังสือการ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่
แปลเป็ นภาษาไทย และได้ รับลิขสิทธิ์อย่างถูกต้ องตามกฎหมาย
2. ประชากรสาหรับการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) ได้ แก่ ผู้เชี่ยวชาญ
การเล่าเรื่ อง และการสร้ างคาแร็คการ์ ตนู แอนิเมชัน่ อาทิ นักเขียนภาพ -เรื่ อง การ์ ตนู ไทย กอง
บรรณาธิการสานักพิมพ์การ์ ตนู ไทย นักวิชาการ และนักวิจารณ์เกี่ยวกับการ์ ตนู แอนิเมชัน่
กลุ่มตัวอย่ างการวิจัย
1. กลุม่ ตัวอย่างสาหรับการศึกษาเนื ้อหา
ผู้วิจยั ใช้ การสุม่ ตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) โดยมีเหตุผลการสุม่
เลือกคือ “หนังสือการ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่ได้ รับความนิยมของผู้อา่ นชาวไทย” แต่เนื่องจากไม่มีร้านหนังสือ
ที่จดั อันดับหนังสือการ์ ตนู ไทยอย่างเป็ นทางการ ผู้วิจยั จึงพิจารณาจากข้ อมูล 4 แหล่ง ซึง่ ได้ จดั
อันดับการ์ ตนู ที่ได้ รับความนิยมและมีการกล่าวขวัญถึงมากที่สดุ ในกลุม่ ผู้อ่านชาวไทย จาก
เว็บไซต์เกี่ยวกับการ์ ตนู 3 เว็บไซต์ (เข้ าสารวจเมื่อ 15 ตุลาคม 2552) คือ
1. http://www.comtoon.com/ เว็บไซต์สงั่ ซื ้อการ์ ตนู อันดับต้ นๆ ของไทยที่มีให้ เลือกซื ้อ
ถึง 4,224 เรื่ อง
2. www.kartoon-discovery.com เว็บไซต์รวมรวมความเป็ นมา ข่าวสารการ์ ตนู ญี่ปนุ่
และมีบทวิเคราะห์วิจารณ์การ์ ตนู มากที่สดุ เว็บไซต์หนึง่ ของไทย
49
แรก 16 เล่ม ภาค Z 26 เล่ม ลิขสิทธิ์ของสานักพิมพ์เนชัน่ เอ็ดดูเทนเมนท์ แม้ เรื่ องจะสร้ างจนจบ
ไปนานแล้ วก็ตาม (2527-2538) แต่มีการสร้ างเป็ นเป็ นแอนิเมชัน่ ทางโทรทัศน์ และแม้ กระทัง่
ฮอลลีว้ ดู ยังซื ้อลิขสิทธิ์ไปสร้ างเป็ นภาพยนตร์ ที่ใช้ คนแสดงอีกด้ วย รวมทังหากพิ ้ จารณาจากการ
ออกอากาศทางโทรทัศน์ในประเทศไทย ก็พบว่าถูกนามาฉายซ ้าหลายครัง้ ด้ วยกัน คือทาง
สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ทีวี (สมัยที่ยงั เป็ นช่อง 9 ปี 2531-2534) สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี (2548-
2550) และสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีชอ่ ง 3 (2551-ปั จจุบนั )
5. เดธโน้ ต (แนวแฟนตาซี ลึกลับ แอ็คชัน่ ) ตีพิมพ์ 12 เล่มจบ ลิขสิทธิ์ของ
สานักพิมพ์เนชัน่ เอ็ดดูเทนเมนท์ การ์ ตนู เรื่ องนี ้มีจดุ เด่นอย่างมากในแง่การเล่าเรื่ องที่กระชับฉับ
ไว โครงเรื่ องค่อนข้ างซับซ้ อน น่าติดตาม การสร้ างตัวละครพระเอกและผู้ร้ายที่กลับขัว้ กัน รวมทัง้
แก่นเรื่ องที่กระตุ้นให้ คิดถึงคาว่าธรรมะและอธรรม จึงทาให้ ถกู นาไปสร้ างเป็ นภาพยนตร์ ในเวลา
ต่อมาอย่างรวดเร็ ว และได้ รับการตอบรับจากผู้ชมชาวไทยอย่างมาก
6. ทเวนตีเ้ ซนจูร่ ี บอยส์ (แนวแฟนตาซี สืบสวน ไซ-ไฟ ) ตีพิมพ์ 22 เล่มจบ
ลิขสิทธิ์ของสานักพิมพ์เนชัน่ เอ็ดดูเทนเมนท์ เป็ นการ์ ตนู ที่ได้ รับรางวัลการ์ ตนู ยอดเยี่ยมจาก
หลายสานักพิมพ์ และจากกระทรวงวัฒนธรรมของญี่ปนุ่ เพราะเนื ้อหาที่ไม่เหมือนใคร และจาก
การสังเกตของผู้วิจยั พบว่าการ์ ตนู เรื่ องนี ้มีวิธีการเล่าเรื่ องที่ผกู ปมขัดแย้ ง และคลี่คลายปมได้ อย่าง
ยอกย้ อน น่าติดตาม และก็เป็ นการ์ ตนู ที่ได้ รับการดัดแปลงเป็ นภาพยนตร์ ในเวลาอันรวดเร็ว
เช่นเดียวกับเรื่ อง เดธโน้ ต
2. กลุม่ ตัวอย่างสาหรับการสัมภาษณ์
ในการวิจยั ครัง้ นี ้เลือกใช้ กลุม่ ตัวอย่างในการสัมภาษณ์เชิงลึกเป็ นผู้เชี่ยวชาญใน
เชิงวิชาชีพ และวิชาการ ด้ านการ์ ตนู ทังผู ้ ้ เขียนรูป และเขียนเรื่ อง และผู้เชี่ยวชาญด้ านการเล่า
เรื่ องในสื่อที่มีธรรมชาติใกล้ เคียงการ์ ตนู เช่นภาพยนตร์ แอนิเมชัน่ จานวน 12 คน แบ่งเป็ น 4 กลุม่
2.1 กลุม่ นักเขียนภาพ – เรื่ อง และออกแบบคาแร็คเตอร์ การ์ ตนู 4 คน
- เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ นักเขียนการ์ ตนู ไทย เรื่ อง 13 เกมสยอง และโครงการมรณะ
ได้ รับการยอมรับว่าเป็ นนักเขียนการ์ ตนู จอมหักมุม นาเสนอเรื่ องที่ผ้ อู า่ นคาดไม่ถึง และเป็ นการ์ ตนู
ที่นาไปสร้ างเป็ นภาพยนตร์ อีกด้ วย (รวมถึงในระยะหลังก็เขียนทังการ์ ้ ตนู และบทภาพยนตร์ ด้วย)
- ทรงวิทย์ สี่กิติกลุ นักเขียนการ์ ตนู นักออกแบบคาแร็ คเตอร์ และนักวาด
ภาพประกอบอิสระ
- วีระชัย ดวงพลา หรื อ “เดอะ ดวง” นักเขียนการ์ ตนู ที่ขยันสร้ างผลงานมากที่สดุ
51
เครื่องมือการวิจัย
ในการศึกษาเนื ้อหาการ์ ตนู มีเครื่ องมือที่ใช้ สาหรับการวิจยั คือ แบบบันทึกการเล่าเรื่ องและ
แบบบันทึกการสร้ างตัวละคร โดยมีรายละเอียดดังนี ้
1. แบบบันทึกการเล่ าเรื่อง แบ่งออกเป็ น 2 ส่วนหลักคือ การเล่าเรื่ องผ่านแนวคิดการ
เล่าเรื่ อง (Narratology) และการเล่าเรื่ องผ่านเทคนิคการ์ ตนู
1.1 การเล่าเรื่ องผ่านแนวคิดการเล่าเรื่ อง ใช้ วิเคราะห์ในองค์ประกอบย่อย ดังนี ้
52
เรื่ องเดียวกันมีความซ ้าซ้ อนกัน หรื อแตกต่างกันอย่างไร ทังในแง่ ้ ลายเส้ น รูปร่างหน้ าตาภายนอก
(ขนาด-รูปทรง-สัดส่วน) นิสยั ใจคอภายใน และมีลกั ษณะลายเส้ นโดยภาพรวมเป็ นอย่างไร เช่น
เรี ยบง่าย สมจริง วุน่ วาย
2.4 การกระจายความสาคัญและการสร้ างความสัมพันธ์ของตัวละคร โดย
วิเคราะห์วา่ ในความแตกต่างของตัวละครนันผู ้ ้ เขียนได้ กระจายบทบาท ความสาคัญของตัวละคร
ได้ เท่าเทียมกันหรื อไม่ มีการทอดทิ ้งตัวละครกลางคัน หรื อให้ ความสาคัญกับตัวละครใดเป็ นพิเศษ
หรื อไม่ อย่างไร
และนอกจากการวิเคราะห์การเล่าเรื่ อง และการสร้ างคาแร็คเตอร์ ผา่ นแบบบันทึก
ข้ างต้ นแล้ ว งานวิจยั ชิ ้นนี ้ยังจาเป็ นต้ อง “บูรณาการผลงาน” หรื อการมองในภาพรวมของผลงาน
แต่ละเรื่ องซึง่ จะช่วยให้ เห็น “สุนทรี ยรส” ในงาน รวมทังลั ้ กษณะเฉพาะตัว หรื อเอกลักษณ์ใน
ผลงานตามแนวคิดรูปลักษณ์นิยม (formalism) ที่ได้ กล่าวไว้ ในบทที่ 2 ดังนันในท้ ้ ายแบบบันทึก
จึงต้ องมีหวั ข้ อ “ความโดดเด่น” ของการ์ ตนู แต่ละเรื่ อง โดยเป็ นการวิเคราะห์ และสังเกตของผู้วิจยั
หลังจากเก็บรายละเอียดในองค์ประกอบต่างๆ จากแบบบันทึกการเล่าเรื่ อง และแบบบันทึกการ
สร้ างตัวละครทังหมดแล้
้ ว
ขัน้ ตอนการดาเนินงาน
ผู้วิจยั วางแผนการดาเนินงานดังตารางต่อไปนี ้
กิจกรรมการวิจยั เดือน
ขันตอนการด
้ าเนินงาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
1. ยื่นแบบเสนอโครงการวิจยั สาหรับ
บุคลากรภายใน (FM. วจ.-01)
2. ศึกษาทฤษฎีงานวิจยั ที่เกี่ยวข้ อง
และสร้ างเครื่ องมือการวิจยั
3. เก็บรวบรวมข้ อมูลจากเอกสาร
เบื ้องต้ นและวิเคราะห์เนื ้อหาการ์ ตนู
4. สัมภาษณ์ผ้ เู ชี่ยวชาญ
5. วิเคราะห์ข้อมูล
6. ทารูปเล่มรายงานวิจยั
54
การรวบรวมข้ อมูลการวิจัย
การเก็บรวบรวมข้ อมูลในการวิจยั มีลาดับดังนี ้
1. ผู้วิจยั ซื ้อหนังสือการ์ ตนู ทัง้ 6 เรื่ องจากร้ านขายหนังสือ และเช่าบางเรื่ องที่หาซื ้อไม่ได้
จากร้ านเช่าหนังสือการ์ ตนู ใกล้ บ้าน
2. ถ่ายเอกสารบทความ ข่าวสาร ข้ อมูล จากหนังสือพิมพ์ นิตยสารที่เกี่ยวข้ องกับหนังสือ
การ์ ตนู ญี่ปนุ่ และค้ นคว้ าจากเว็บไซต์ รวมทังหาข้
้ อมูลจากมูลนิธิญี่ปนในประเทศไทย
ุ่
ประกอบการวิเคราะห์
3. วิเคราะห์การศึกษาเนื ้อหาการ์ ตนู ที่ได้ ลงในแบบบันทึก
4. สรุปรวบรวมข้ อมูลที่ได้ จากการศึกษาเนื ้อหา และเอกสารอื่นๆ เพื่อสร้ างแบบสัมภาษณ์
ในการสัมภาษณ์ผ้ เู ชี่ยวชาญเกี่ยวกับการ์ ตนู
5. สัมภาษณ์ผ้ เู ชี่ยวชาญเกี่ยวกับการ์ ตนู 12 คน
การวิเคราะห ข อมูล
หลังจากศึกษาเนื ้อหาการ์ ตนู และสัมภาษณ์ผ้ ูเชี่ยวชาญครบถ้ วน ผู้วิจยั จึงนาข้ อมูลที่ได้
มาวิเคราะห์ร่วมกันเพื่อเขียนผลการวิจยั และวิเคราะห์ข้อมูล ตามแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจยั ที่
เกี่ยวข้ องที่ได้ เขียนไว้ ในบทที่ 2 โดยนาเสนอผลการวิจยั ในเชิงพรรณนา ซึง่ มีประเด็น ข้ อค้ นพบที่
น่าสนใจในด้ านการเล่าเรื่ อง และการสร้ างตัวละครเป็ นตัวตัง้ พร้ อมกับอ้ างอิงข้ อมูล และคาให้
สัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญเป็ นตัวเสริม จากนันจึ ้ งอภิปรายผลโดยหาจุดร่วม จุดแตกต่าง ของการ
เล่าเรื่ อง และการสร้ างตัวละครในหนังสือการ์ ตนู ญี่ปนุ่ ซึง่ ในการอภิปรายผลการวิจยั จะนาเสนอ
โดยคานึงถึงบริบทสังคมของญี่ปนและของไทยมาประกอบด้
ุ่ วย เนื่องจากไม่มีผลงานใดใดที่
สามารถดารงอยูไ่ ด้ ด้วยตัวมันเองโดยปราศจากการได้ รับอิทธิพลจากบริ บทสังคมโดยรอบ
บทที่ 4
ที่กล่าวมาแล้ วยังให้ รสที่เรี ยกว่า “ดราม่า” หรื อการสร้ างความรู้สกึ มีส่วนร่วมจากผู้อา่ น ทาให้
ผู้อา่ น “อิน” ไปกับเรื่ องราวและตัวละครได้ มากกว่าการ์ ตนู ในแนวทางที่ดลู ายเส้ นหรื อเรื่ องราวโดย
ผิวเผินเป็ นแนวต่อสู้ แฟนตาซี ผจญภัยด้ วยกัน ซึง่ ก็เกิดจากการสร้ างมิตใิ ห้ กบั ตัวละครของเรื่ อง
อย่างลึกซึ ้ง (ผู้เขียนจะนาเสนอรายละเอียดของการสร้ างอารมณ์ร่วมหรื อดราม่าในหัวข้ อโครง
เรื่ องและการสร้ างตัวละคร)
ส่วนนินจาคาถา โอ้ โฮเฮะ แค่เพียงชื่อเรื่ องย่อมทาให้ ผ้ อู า่ นจินตนาการไปถึง
ภาพของชายชุดดาที่พรางตัวในเงามืด ซึง่ เป็ นแบบฉบับของนินจาที่เราคุ้นชินกันอยู่ตาม
ภาพยนตร์ ที่เคยชม หรื ออาจนึกไปถึงการ์ ตนู ญี่ปนเรื ุ่ ่ องดังอย่าง นินจาฮาโตริ ทาให้ หลายคน
อาจรู้สกึ ไม่ตื่นเต้ นกับการ์ ตนู นินจาเรื่ องนี ้มากนัก แต่หากได้ อา่ นไปถึงเนื ้อในของนินจาคาถา
โอ้ โฮเฮะก็จะพบว่าผู้เขียนอย่างมาซาชิ คิชิโมโตะได้ รือ้ สร้ าง “โลกของนินจา” ที่ลกึ ไปกว่านินจาที่
คนส่วนใหญ่เคยรู้จกั เพราะเราจะไม่พบฉากการต่อสู้โดยใช้ อาวุธลับอย่างดาวกระจาย หรื อการ
พรางตัวใต้ ผิวน ้าตามที่ค้ นุ ชินกันอยู่แบบพร่ าเพรื่ อ แต่กลับมีฉากการต่อสู้ที่หลากหลายจน
ผู้อา่ นยากจะจินตนาการถึง (เช่นการอัญเชิญเทพเจ้ าในร่างสัตว์ตา่ งๆ การใช้ เงาเป็ นอาวุธในการ
ต่อสู้ฯลฯ)
ดังนันแนวเรื
้ ่ องของนินจาคาถา โอ้ โฮเฮะ จึงขับเน้ นไปที่การต่อสู้เป็ นหลัก
ขณะเดียวกันในรายละเอียดของการต่อสู้ก็เต็มไปด้ วยเรื่ องราวแฟนตาซีจากการใช้ คาถาและพลัง
วิเศษของนินจา นอกจากนี ้ก็ยงั ให้ อารมณ์แบบ “ดราม่า” เช่นเดียวกับวัน พีซ เพราะตัวละครเอก
ของเรื่ องเต็มเปี่ ยมไปด้ วยความขัดแย้ งต่อตัวเอง ต่อเพื่อนสนิท และต่อสังคมนินจาที่เขาอาศัยอยู่
(ผู้เขียนจะนาเสนอรายละเอียดในหัวข้ อโครงเรื่ อง ตัวละคร และความขัดแย้ ง)
ด้ านแนวเรื่ องของเดธโน้ ตก็ไม่ตา่ งจากการ์ ตนู ยอดนิยมส่วนใหญ่ ที่มกั ต้ องมี
ความหลากรสในเรื่ องเดียว โดยเรื่ องนี ้จะเน้ นไปที่แนว “การต่อสู้” หรื อแอ็คชัน่ โดยผสานความเป็ น
แฟนตาซี และความลึกลับเป็ นตัวดึงดูดผู้อา่ น แต่ในความเป็ นการ์ ตนู ต่อสู้ของเดธโน้ ตนี ้เองที่ไม่
เหมือนใคร เพราะในขณะที่การ์ ตนู แนวต่อสู้ของญี่ปนโดยทั ุ่ ว่ ไปเน้ นไปที่การต่อสู้ “ภายนอก” หรื อ
การใช้ พลังฝี มือผ่านร่างกาย เพื่อชิงตาแหน่งสูงสุดแห่งยุทธจักร/โลก/จักรวาล แต่เดธโน้ ตกลับเน้ น
ที่การประลองฝี มือ “ภายใน” ด้ วยการปะทะกัน “ทางปั ญญา” ผ่านตัวละครเอก 2 ฝ่ ายที่ตา่ งก็คิด
ว่าตัวเองคือ “ความถูกต้ อง” และเป็ น “ผู้ผดุงคุณธรรม” จึงทาให้ เกิดความรู้สกึ แปลกใหม่สาหรับ
ผู้อา่ น “การ์ ตนู ” ซึง่ คุ้นชินอยูก่ บั การต่อสู้แบบรบราฆ่าฟั นกันด้ วยอาวุธและพลังฝี มือทางร่างกาย
เพราะเดธโน้ ตได้ บง่ บอกว่าเรื่ องราวที่เชือดเฉือนกันผ่านสติปัญญาก็สามารถถ่ายทอดให้ สนุกผ่าน
สื่อ “การ์ ตนู ” ได้ เช่นกัน
57
ขณะเดียวกันทเวนตีเ้ ซนจูร่ ี บอยส์ (20th Century Boys) หรื อ แก๊ งนีม้ ีป่วน ก็
ให้ อารมณ์ของเรื่ องต่างออกไปจากการ์ ตนู ญี่ปนส่ ุ่ วนใหญ่นนั่ คือแนวลึกลับ ผสานไซไฟ (sci-
fiction) โดย ทเวนตีฯ้ ว่าด้ วยเรื่ องราวของ “เพื่อน” ชายผู้หวังจะครอบครองโลกโดยใช้ ไวรัส
ทาลายล้ างมวลมนุษยชาติ แต่ก็มีกลุม่ “ขบวนการเคนจิ” และหญิงสาวผู้มีพลังพิเศษในการเป็ น
ศูนย์รวมจิตใจผู้คนอย่างเอ็นโด คันนะ คอยขัดขวางไม่ให้ “เพื่อน” ทาตามแผนร้ ายนี ้ ซึง่ จาก
เรื่ องราวข้ างต้ นหลายคนคงนึกไปถึงการ์ ตนู แนวฮีโร่ แฟนตาซีของญี่ปนจ ุ่ าพวกกลุม่ ขบวนการ (มด
แดง มดเอ็กซ์ ฯลฯ) เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบจากมนุษย์ดดั แปลง (แปลงกาย) มาเป็ นคนธรรมดาๆ
และเปลี่ยนจากสัตว์ประหลาดนอกโลก มาเป็ นมนุษย์เรานี่เอง ซึง่ ก็นา่ จะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้ นมาก
นัก แต่หากลองได้ อ่านเรื่ องราวของทเวนตี ้ฯ ตังแต่ ้ เล่มแรกแล้ วจะเห็นถึงความ “ไม่ธรรมดา”
ที่แตกต่างไปจากเรื่ องราวแบบฮีโร่ขบวนการ และฉีกไปจากแนวของการ์ ตนู ญี่ปนส่ ุ่ วนใหญ่
(โดยเฉพาะในยุคที่การ์ ตนู เรื่ องนี ้วางขาย) อย่างมาก นัน่ เพราะผู้เขียนสอดแทรกกลิ่นไอของแนว
เรื่ องแบบหวนราลึกอดีต (Nostalgia) ลงไปตลอดทังเรื ้ ่ อง (อ่านรายละเอียดในโครงเรื่ อง)
ขณะเดียวกันยังผสมผสานแนวเรื่ องแบบจิตวิทยาลงไปด้ วย1 โดยนาเสนอเรื่ องราวการเล่น ของเด็ก
ชันประถมกลุ
้ ม่ หนึง่ ที่นกึ สนุกเขียนบันทึกคาทานายโลกอนาคตอันสูญสิ ้น (มีทงหุ ั ้ น่ ยนต์ มีทงไวรั
ั้ ส
ทาลายล้ างโลก) และทาให้ บนั ทึกในกระดาษนันกลายมาเป็ ้ นเรื่ องจริง ที่คนทังโลกต้
้ องตระหนักถึง
“วันสิ ้นโลก”
จากข้ างต้ นคงไม่มากเกินไปหากกล่าวว่าทเวนตีเ้ ซนจูร่ ี บอยส์ คือการ์ ตนู แนว
แปลก แตกต่างจากการ์ ตนู ส่วนใหญ่ที่นกั อ่านการ์ ตนู ไทยเคยผ่านตา และนอกจากความแปลกแล้ ว
ยังสร้ างสรรค์เนื ้อหาได้ ไม่เหมือนใครตรงที่หยิบเอา “เรื่ องไม่เป็ นเรื่ อง” (บันทึกคาทานายของเด็ก
ประถม) ให้ กลาย “เป็ นเรื่ อง” (ไวรัสทาลายล้ างโลก) ขึ ้นมาจริงๆ
ด้ านยอดนักสืบจิ๋วโคนัน แค่เห็นชื่อเรื่ องคนอ่านก็เดาแนวเรื่ องได้ ชดั เจนนัน่ คือ
แนวสืบสวนสอบสวน ซึง่ เป็ นแนวของการ์ ตนู ที่หาได้ ไม่มากนักในท้ องตลาดบ้ านเรา เพราะเรื่ อง
แบบสืบสวนส่วนใหญ่มกั มีเรื่ องราวจริงจัง มีภาพความตาย การฆาตกรรม และปมปั ญหาในเชิง
จิตวิทยาที่ทาให้ กลุม่ ผู้อ่านที่เป็ นเด็ก (ซึง่ เป็ นกลุม่ ใหญ่ที่อา่ นการ์ ตนู ญี่ปน) ุ่ อาจรู้สกึ หดหู่ และรู้สกึ
ว่าการ์ ตนู แนวนี ้ “อ่านยาก” กว่าแนวเรื่ องประเภทแฟนตาซี หรื อต่อสู้ แต่ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน
ก็ได้ ฉีกไปจากกฎข้ างต้ น เพราะสร้ างความดึงดูดจากผู้อา่ นกลุม่ เด็กได้ เป็ นอย่างดี นัน่ อาจ
เพราะหากมองในอีกแง่หนึง่ แล้ วเรื่ องแบบสืบสวนสอบสวน ก็จดั เป็ นเรื่ องราวการต่อสู้ชนิดหนึง่ ที่ตวั
1
เป็ นแนวที่ผ้ เู ขียนอย่างนาโอกิ อุราซาว่าถนัดเพราะเคยนาเสนอประเด็นด้ านจิตใจมนุษย์ได้
อย่างน่าสนใจในผลงานก่อนหน้ าเรื่ อง Monster
58
เรื่อง แนวเรื่อง
ดราก้ อนบอล ต่อสู้ แฟนตาซี ผจญภัย ตลก
วันพีซ แฟนตาซี ผจญภัย ต่อสู้ ตลก ดราม่า
นินจาคาถาฯ ต่อสู้ แฟนตาซี ดราม่า
เดธโน้ ต ลึกลับ แฟนตาซี ต่อสู้
ทเวนตี ้ฯ ลึกลับ แฟนตาซี ดราม่า ต่อสู้
ยอดนักสืบจิ๋วฯ สืบสวน ต่อสู้ แฟนตาซี
จังหวะ-การลาดับเรื่อง ชื่อเรื่อง
เน้ นเล่าเรื่ องรวดเร็ว ไปข้ างหน้ า ดราก้ อนบอล เดธโน้ ต
เน้ นเล่าย้ อนอดีต วันพีซ นินจาคาถาฯ
เน้ นเล่าหลายเหตุการณ์พร้ อมกัน ทเวนตี ้ฯ
เน้ นเล่าเหตุการณ์เดียวซ ้าไปมา ยอดนักสืบจิ๋วฯ
ตารางที่ 2 จังหวะ-การลาดับเรื่อง
ความพยายามในการรักษาชีวิต-บทบาทของตัวละครมากเกินไป
จนไม่ยอมให้ ตวั ละครหลักๆ ฝ่ ายพระเอกตายจริงเสียที (โดยพึง่ ฝี มือชุบชีวิตจากเทพเจ้ ามังกรอยู่
ตลอดเวลา) ก็ทาให้ ผ้ อู ่านไม่ล้ นุ ไปกับฉากการต่อสู้เท่าที่ควร นอกจากนี ้แม้ กระทัง่ มังกรที่ถกู ฆ่า
ตายไปแล้ วด้ วยฝี มือของพิคโกโร่ แต่จนแล้ วจนรอดก็ยงั ถูกชุบชีวิตให้ ฟืน้ ขึ ้นมาใหม่ได้ สถานะ
ของมังกรที่นา่ จะเป็ นผู้ชว่ ยเหลือสูงสุดของเรื่ อง (ตามชื่อเรื่ อง และทิศทางของเรื่ องในตอนแรกที่ผ้ ู
รวบรวมดราก้ อนบอลสาเร็จจะสามารถขอพรจากเทพเจ้ ามังกรได้ 1 ข้ อ) จึงลด “ความศักดิส์ ิทธิ์”
ลงไป (เพราะมีพระเจ้ าและชาวดาเม็กผู้ที่เหนือกว่ามังกร และสามารถชี ้เป็ นชี ้ตายมังกรได้ โผล่
ขึ ้นมาภายหลังนัน่ เอง)
แต่ทงนี
ั ้ ้ทังนั
้ นการไม่
้ อธิบายถึงที่มาที่ไปของตัวละครมากนัก
การคลี่คลายปมขัดแย้ งที่ไม่สมเหตุสมผลในหลายๆ เงื่อนไขที่ผ้ เู ขียนสร้ างขึ ้น รวมทังการมี ้ ชีวิต
รอดของตัวละคร (ไม่ตายจริ ง) ตามที่กล่าวไปแล้ วข้ างต้ น ก็ไม่ได้ ลดทอนความน่าสนใจในการ
ติดตามอ่านดราก้ อนบอลลงไปเลย เพราะการเล่าเรื่ องที่กระชับ เดินหน้ าอย่างรวดเร็ว มุขตลกที่
สอดแทรกมาเป็ นระยะ รวมทังการปิ ้ ดเรื่ องแบบ happy ending เหล่านี ้ล้ วนเป็ นความคาดหวัง
ตามลักษณะเฉพาะของสื่อที่เรี ยกว่า “การ์ ตนู ” (โดยเฉพาะการ์ ตนู สาหรับเด็ก) ซึง่ ช่วยให้ ผ้ อู ่าน
มองข้ ามความไม่สมจริงของเรื่ องราวไปได้ โดยง่าย
“มันเป็ นพิ มพ์นิยมอยู่แล้วล่ะ ที ก่ าร์ ตูน โดยเฉพาะการ์ ตูนที เ่ น้น
กลุ่มผูอ้ ่านเป็ นเด็ก จะไม่สร้างตัวละครเอกให้ตาย ...และจริ งๆ แล้วดราก้อนบอลมันถูกยื ดเรื ่ องให้
ยาวกว่าที ่ควรจะเป็ นเพราะได้รับความนิ ยมมาก โครงเรื ่องก็เลยเริ่ มออกทะเลในระยะหลัง” (สุทธิ
ชาติ ศราภัยวานิช, สัมภาษณ์, 20 กันยายน 2554)
“ถึงเรื ่องมันจะดูเว่อร์ (over) ยังไงซะคนก็ตามอ่านดราก้อนบอล
เพราะมันเป็ นยุคทีค่ นอ่านได้ปลดปล่อยจิ นตนาการจริ งๆ ไม่ตอ้ งคานึงถึงเหตุผลของเรื ่องมากนัก ”
(ธนิสร์ วีระศักดิ์วงศ์ , สัมภาษณ์, 19 สิงหาคม 2554)
1.2.2.2 เดธโน้ ต: ติดกับดักเงื่อนไขโครงเรื่ อง
ขณะที่เดธโน้ ตซึง่ เดินเรื่ องรวดเร็วไม่แพ้ ดราก้ อนบอลโดยมุง่ เน้ นไปที่การ
วางแผนสู้กนั ระหว่างฝ่ ายยางามิ ไลท์ (หรื อ คิระ) ผู้ครอบครองเดธโน้ ต (โน้ ตมรณะที่ผ้ คู รองครอง
สามารถเขียนชื่อลงในโน้ ตเพื่อฆ่าใครก็ได้ ) กับ แอล ซึง่ ช่วยเหลือองค์กรตารวจสากลในการ
ปราบปรามไลท์ โดยมีองค์กรต่างๆ เข้ ามาเกี่ยวข้ อง เช่นเอฟบีไอ หรื อตัวช่วยอื่นๆ เช่นยมทูต ทา
ให้ ผ้ เู ขียนต้ องสร้ างให้ ตวั เอกของเรื่ องอย่าง “ไลท์” เก่งกาจมากชนิดหาตัวจับยาก (ตามที่เรื่ องได้ ปู
เอาไว้ ด้วยการทาให้ ไลท์ฟันฝ่ าอุปสรรคยากๆ ในการถูกไล่ตามตัวมาตลอด) ดังนันการเดิ ้ นเรื่ อง
68
ช่วงท้ ายที่ต้องค่อยๆ ตะล่อมให้ ไลท์ต้องจนมุม หรื อพบจุดจบในตอนท้ ายนัน้ จึงเป็ นเรื่ องยากที่จะ
หาเหตุผลรองรับตามไปด้ วย จนทาให้ มีบางช่วงที่เนื ้อเรื่ องขาดความสมเหตุสมผลอยูบ่ ้ าง เช่น
ตอนที่ไลท์ถกู แอลสงสัยอย่างหนักก็เลยจาเป็ นต้ องสละสิทธิ์การครอบครองเดธโน้ ต ซึง่ การสละ
หรื อละทิ ้งโน้ ตนันไลท์
้ จะต้ องสูญเสียความทรงจาเกี่ยวกับโน้ ตโดยสิ ้นเชิง ดังนันการที ้ ่ผ้ เู ขียนเลือก
จะใช้ วิธีให้ ไลท์เป็ นคนวางแผนที่จะสูญเสียโน้ ตและเสียความทรงจาก่อนจะได้ โน้ ตกลับคืนมาอีก
ครัง้ เพื่อให้ ความทรงจาในการใช้ โน้ ตกลับคืนมาด้ วยนันจึ ้ งเป็ นการสร้ างเงื่อนไขที่เป็ นไปได้
ค่อนข้ างยาก
และก็เพราะการใช้ เดธโน้ ตเพื่อฆ่าคนนันมี ้ กฎข้ อบังคับอยู่มาก ทาให้
ความสนุกอีกประการของการ์ ตนู เรื่ องนี ้จึงอยูท่ ี่ “เงื่อนไข” ของการใช้ โน้ ต ซึง่ ผู้เขียนปูไว้ ตงแต่ ั ้ ต้น
เรื่ องว่ามีกฎของการใช้ หลายข้ อที่แม้ แต่ตวั ยมทูตผู้ถือโน้ ตเองก็ยงั ไม่อาจทราบหมด ซึง่ ก็เอื ้อต่อการ
ให้ ผ้ เู ขียนใส่รายละเอียดลงไปได้ ภายหลังโดยไม่มีข้อผูกมัด (ซึง่ แตกต่างจากดราก้ อนบอลที่ผ้ เู ขียน
ระบุชดั เจนว่าเทพเจ้ ามังกรสามารถให้ พรได้ เพียงข้ อเดียว แต่กลับเพิ่มกฎใหม่เข้ ามาภายหลังให้
เทพเจ้ ามังกรให้ พรได้ มากกว่า 1 ข้ อ) ทังนี
้ ้ก็เพื่อช่วยคลี่คลายปมของเรื่ องในบางจุดได้ อย่าง
น่าเชื่อถือ เช่นถ้ าผู้ใช้ เดธโน้ ตอยากได้ ดวงตายมทูตที่สามารถฆ่าคนได้ สะดวกมากขึ ้น เพราะแค่
เพียงเห็นหน้ าแล้ วรู้ชื่อเพื่อเขียนลงในโน้ ตให้ คนคนนันตายทั ้ นทีก็สามารถทาได้ (จากเดิมที่ต้องสืบรู้
ชื่อจริงให้ ได้ เสียก่อนจึงจะสามารถลงมือสังหารได้ ) แต่ผ้ ทู ี่ต้องการดวงตายมทูตนี ้ก็ต้องแลกเปลี่ยน
ด้ วยอายุขยั ครึ่งหนึง่ ของตัวเองเป็ นต้ น ซึง่ เงื่อนไขเช่นนี ้นี่เองที่ชว่ ยให้ ตวั ละครเอกอย่างยางามิ
ไลท์มีจดุ อ่อน (หรื อจุดแข็งในเวลาเดียวกัน) เพราะสามารถใช้ ตวั ละครผู้ชว่ ยอย่างมิสะ สาวผู้คลัง่
ไคล้ คริ ะให้ ชว่ ยเป็ นมือขวาที่มีดวงตายมทูตแทน ในขณะที่ไม่ต้องลดชีวิตของตัวเองลงครึ่งหนึง่ ด้ วย
แม้ วิธีการใช้ เดธโน้ ตที่มีเงื่อนไขหลากหลายข้ างต้ นจนทาให้ เกิดความ
ยอกย้ อนในการวางแผนต่อสู้ระหว่างตัวเอกอย่างแอลและไลท์นนจะช่ ั ้ วยให้ เกิดความสมจริงของ
การ์ ตนู เรื่ องนี ้ แต่ในทางกลับกันเงื่อนไขของการใช้ โน้ ตมรณะที่มากขึ ้นทุกขณะก็ทาให้ ผ้ เู ขียนยิ่ง
ต้ องหาเหตุผลมาอธิบายทังกฎเกณฑ์ ้ ของโน้ ตและวิธีคดิ วางแผนต่อสู้ของตัวเอกมากขึ ้นเป็ นเงา
ตามตัวเพื่อสร้ างความสมจริ งให้ กบั เรื่ องราวมากที่สดุ จนทาให้ การ์ ตนู เรื่ องนี ้อัดแน่นไปด้ วยข้ อมูล
ซึง่ ก็ทาให้ มี “ตัวหนังสือ” มากกว่าการ์ ตนู โดยทัว่ ไป ซึง่ ก็กลายเป็ นจุดอ่อนสาหรับ “คอการ์ ตนู ” ที่
แน่นอนว่าย่อมชื่นชอบหรื อคุ้นชินกับการ “อ่านภาพ” มากกว่า “อ่านตัวหนังสือ”
“ผมว่ามันก็สนุกหรอกนะ เออแรกๆ ก็รู้สึกเจ๋ งดี แต่พอตามอ่านตอน
หลังๆ ผมก็อ่านผ่านๆ ไม่ครบทุกหน้า รู้สึกว่าตัวหนังสื อมันเยอะเกิ น เวลาอ่านเดธโน้ตเนี ย่ ต้องใช้
เวลานานกว่าการ์ ตูนเรื ่องอื ่นมาก” (วีระชัย ดวงพลา, สัมภาษณ์, 12 มิถนุ ายน 2554)
69
1
ผู้ให้ สมั ภาษณ์อ้างอิงข้ อมูลจากการเดินทางไปดูงานเขียนของผู้เขียนเรื่ องทเวนตี ้เซนจูรี่บอยส์
ที่ประเทศญี่ปนุ่
71
เดธโน้ ต
ดราก้ อนบอล
ยอดนักสืบจิ๋ว
ทเวนตี ้ฯ
วันพีซ
นินจาคาถาฯ
ผู้อา่ นรู้จกั “ดราก้ อนบอล” ซึง่ เป็ นเงื่อนปมสาคัญของเรื่ องกันแบบหมดเปลือกตังแต่ ้ ต้นเรื่ อง (ให้
ผู้อา่ นรู้ว่าดราก้ อนบอลเป็ นหินวิเศษที่ทาให้ คนที่เป็ นเจ้ าของหินทัง้ 7 ก้ อนสามารถขอพรจากเทพ
เจ้ ามังกรได้ 1 ข้ อ) ดังนันอาการ
้ “ลุ้น” หรื อความรู้สึก “คาดไม่ถึง” ของคนอ่านจึงมีไม่มากนัก แต่
สิ่งที่โทริยาม่า อากิระสร้ างขึ ้นมาทดแทนเงื่อนปมหลักของเรื่ องก็อยูท่ ี่ “คาแร็ คเตอร์ ” ตัวละคร
เพราะด้ วยความเก่งกาจของตัวเอกทาให้ ต้องสร้ างคูต่ อ่ สู้หน้ าใหม่อยูต่ ลอดเวลา ดังนันตั ้ วละคร
ในดราก้ อนบอลโดยเฉพาะฝั่ งผู้ร้ายจึงมีความแตกต่างแต่นา่ สนใจทุกตัวละคร (จะกล่าว
รายละเอียดในหัวข้ อการสร้ างตัวละคร)
1.2.4.2 ยอดนักสืบจิ๋วฯ: อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ชว่ ยคลี่คลายคดี
แนวเรื่ องของโคนันคือสืบสวนสอบสวน ดังนันจึ ้ งต้ องให้ ความสาคัญกับ
การสร้ างและคลี่คลายเงื่อนงาคดีฆาตกรรมเป็ นหลัก ซึง่ จุดเด่นของการสร้ างเงื่อนงาในการ์ ตนู
เรื่ องนี ้คือ ความไม่ซบั ซ้ อนจนยากเกินเข้ าใจ โดยหากเทียบกับการ์ ตนู ในแนวเดียวกันเรื่ องดังอย่าง
คินดะอิจิ กับคดีฆาตกรรมปริศนาก็พบว่าแม้ จะสร้ างคดีในแนวทางเดียวกันคือการเปิ ดเรื่ องด้ วย
การสร้ างปมปั ญหาขึ ้นมาผ่าน “เหตุฆาตกรรมในสถานที่ปิดตาย” เพื่อช่วยจากัดวงแคบให้ ผ้ อู า่ น
ได้ ร่วม “ลุ้น” กับ “ผู้ต้องสงสัย” เหมือนๆ กัน แต่คนิ ดะอิจิฯ จะเปิ ดเผยขันตอนการสื ้ บสวน และ
ยอม “ปล่อย” ร่องรอย (clue) ของการฆาตกรรมให้ ผ้ อู ่านได้ ครุ่นคิดกันมากกว่าโคนัน
ในขณะที่โคนันจะไม่คอ่ ยเปิ ดเผยร่องรอยของคดีให้ เห็นรายละเอียดมากนัก ทาให้ ผ้ อู า่ น “รู้น้อย
กว่าตัวละคร” เช่นโคนันเดินออกไปตรวจที่เกิดเหตุอีกครัง้ และพบร่องรอยน่าสงสัยก่อนพูดว่า
“คนร้ ายใช้ วิธีอย่างนี ้นี่เอง” (โคนันรู้ทริ คของคนร้ ายแล้ วแต่คนอ่านยังไม่ร้ ู) การทาให้ ผ้ อู า่ น “รู้น้อย
กว่าตัวละคร” มีข้อดีตรงที่สามารถปิ ดบังเงื่อนงาบางส่วนไว้ ทาให้ ผ้ อู ่านเดาตัวคนร้ ายไม่คอ่ ยถูก
(หรื อถ้ าเดาถูกก็เป็ นเพียงการเดาสุม่ จากความรู้สกึ ไม่ใช่จากหลักฐานหรื อร่องรอยที่ผ้ เู ขียนปล่อย
ออกมา) แต่ในทางกลับกันก็อาจไม่ถกู ใจผู้อา่ นที่เป็ นแฟนประจาของเรื่ องราวแนวนี ้ซึ่งมักชื่นชอบ
การค่อยๆ คิดหาคาตอบไต่ไปตามเงื่อนงาที่ผ้ เู ขียนพยายามปล่อยออกมา และสนุกกับการได้
“ลุ้น” ว่าตนสามารถ “ทาย” ผู้ร้ายตัวจริงได้ ถกู ต้ อง
แม้ ยอดนักสืบจิ๋วฯ จะให้ ตวั เอกแสดงความสามารถในการสืบหาร่องรอย
ของคดีไม่มากนัก แต่การคลี่คลายปมของการ์ ตนู เรื่ องนี ้ก็สามารถทาให้ คนอ่านที่เป็ นเด็กสามารถ
“เข้ าถึง” เรื่ องราวแบบสืบสวนสอบสวนได้ ง่ายขึ ้นด้ วยการนา “วิทยาศาสตร์ ” มาเป็ น “พระเอก”
ของเรื่ อง เพราะจุดเด่นในการคลี่คลายปมของยอดนักสืบจิ๋วคือการนาเครื่ องมือทางวิทยาศาสตร์
มาใช้ (หูกระต่ายแปลงเสียง และการยิงยาสลบ ตามที่กล่าวไปแล้ วในหัวข้ อการสร้ างความสมจริง
ของเรื่ อง) นอกจากนี ้ยังมักมีการอ้ างกฎทางฟิ สิกส์เพื่อแสดงถึง “ทริ ค” ของคนร้ ายในการลงมือ
83
ฆาตกรรม เช่นผู้ร้ายต้ องเปิ ดหน้ าต่างที่ทามุม 45 องศา เพื่อสอดเชือกเข้ าไปแล้ วเกิดแรงส่งให้ รูป
ปั น้ หล่นลงมาสูร่ ่างผู้ตาย เป็ นต้ น
การนาวิทยาศาสตร์ เข้ ามาเป็ นตัวช่วยสาคัญในการคลี่คลายคดีจงึ เป็ น
รสชาติที่คอ่ นข้ างแปลกใหม่สาหรับแนวเรื่ องแบบสืบสวนและการคลี่คลายคดีฆาตกรรมในสถานที่
ปิ ดตาย ซึง่ ก็ได้ สะท้ อนแนวโน้ มของเรื่ องราวแนวสืบสวนของสื่ออื่นในปั จจุบนั ที่เน้ นการคลี่คลาย
คดีด้วยหลักนิตวิ ิทยาศาสตร์ มากขึ ้นด้ วย (เช่นการหารอยเลือด เส้ นผม ของละครชุดทางโทรทัศน์
อย่าง CSI) ส่วนการ “เฉลย” แรงจูงใจของฆาตกรในการ์ ตนู เรื่ องนี ้แน่นอนว่าย่อมหนีไม่พ้นการ
หาเหตุด้าน “จิตวิทยา” โดยเฉพาะการกระทาที่เกิดจาก “ความรัก “(เช่นฆ่าเพราะไม่สมหวังในรัก
หรื อฆ่าเพื่อช่วยเหลือคนที่เรารัก) นัน่ เพราะการฆาตกรรมในที่ปิดตายมักต้ องเกิดจากฝี มือคนที่อยู่
ในสถานที่เกิดเหตุซงึ่ มักเป็ นผู้ใกล้ ชิดกับผู้ตาย แต่เพราะด้ วยข้ อจากัดของการ์ ตนู จบในตอนที่มี
ความยาวไม่มากนัก (เมื่อเทียบกับนิยายแนวสืบสวนสอบสวน) จึงทาให้ เมื่อถึงเวลา “เฉลย”
แรงจูงใจของฆาตกรจึงไม่ทาให้ ผ้ อู า่ นรู้สึกเข้ าถึง หรื อสะเทือนอารมณ์ได้ เท่าที่ควร
1.2.4.3 วันพีซ: การสร้ างความเซอร์ ไพรส์คือหัวใจของวันพีซ
ลักษณะการวางเงื่อนงาของวันพีซก็ไม่ตา่ งจากการ์ ตนู เรื่ องยาวโดยส่วน
ใหญ่ที่มกั ทาให้ “คนอ่านรู้น้อยกว่าตัวละคร” เป็ นระยะเวลานานกว่าครึ่งค่อนเรื่ องกว่าจะเฉลย
เงื่อนงาสาคัญนันๆ ้ โดยเริ่มต้ นด้ วยการวางเงื่อนงาปมหลักของเรื่ องเพียงประเด็นเดียวนัน่ คือ
“อะไรคือวันพีซ” ตามชื่อเรื่ อง และในช่วงแรกของการ์ ตนู เรื่ องนี ้ (10 เล่มแรก) อาจดูเหมือนไม่ได้
มุง่ หน้ าคลี่คลายปมหลักของเรื่ องมากนัก แต่กลับขับเน้ นไปที่การสร้ างปมปั ญหาและการคลี่คลาย
ปมผ่านตัวละครกลุม่ สมาชิกโจรสลัดหมวกฟางที่ได้ เดินทางไปยังน่านน ้า และเมืองประหลาดต่างๆ
ซึง่ หากมองเพียงผิวเผินอาจเหมือนการเดินทางเพื่อสร้ างความสนุกสนานตามแนวเรื่ องผจญภัยที่
มักมีจดุ ขายที่การสร้ างฉาก สถานการณ์อนั แปลกใหม่ให้ ตวั ละครต้ องฟั นฝ่ า แต่แท้ จริ งการเดินทาง
ในแต่ละสถานที่ก็มีความหมายเพื่อการปล่อยร่องรอย ให้ ผ้ อู า่ นได้ เข้ าถึง “วันพีซ” ไปทีละนิด เช่น
การค้ นพบอักษรโพโนกลิฟบนเกาะแห่งท้ องฟ้าก็ทาให้ ขยับเข้ าใกล้ ประวัตขิ องโลกโจรสลัดที่
ปกครองโดยรัฐบาลโลก และเข้ าใกล้ ความหมายของ “วันพีซ” มากขึ ้น
จุดเด่นของการวางเงื่อนงาที่ชว่ ยดึงดูดผู้อา่ นในวันพีซอีกประการก็คือ
การสร้ างตัวละครหลักขึ ้นมาหลายตัวโดยที่ยงั ไม่บอกที่มาที่ไปของตัวละครอย่างชัดเจน โดย
เฉพาะตัวละครเอกอย่างลูฟี่ที่ผ้ เู ขียนเปิ ดตัวด้ วยคาแร็ คเตอร์ ภายนอกเท่านัน้ หลังจากนันจึ
้ ง
ค่อยๆ เปิ ดเผยรายละเอียดของตัวละครภายหลัง เช่นลูฟี่เป็ นพี่น้องกับเอส (โจรสลัดหนุม่ ไฟแรงที่
โด่งดังจากการเป็ นหัวหน้ าหน่อยที่ 2 ของกลุม่ โจรสลัดหนวดขาว กลุม่ โจรสลัดที่แข็งแกร่งที่สดุ ใน
84
จะไคลแม็กซ์ แล้วก็ไม่ยอมเฉลยปมซักที วิ ธีการเล่ามันเหมื อนเรื ่องสัน้ ย่อยๆ ทีเ่ มื ่อปิ ดเรื ่องย่อยๆ
โดยทิ้ งปมไว้ แต่พอเปิ ดตอนใหม่ขึ้นมาก็สร้างปมใหม่ทีน่ ่าสนใจกว่าเก่าขึ้นมาอีก มันเลยซัดเราซะ
อยู่หมัดเลย” (เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์, สัมภาษณ์, 13 กันยายน 2554)
“มันให้ความรู้สึกเหมื อนดูหนังฮอลลี วูด้ เล่ากลับไปกลับมา พร้อมๆ กับ
ซ่อนปมให้เราสงสัยติ ดตามเรื ่องได้ตลอด (ประสพโชค จันทรมงคล, สัมภาษณ์, 26 สิงหาคม
2554)
“มันเล่าคล้ายหนังซี รี่ส์ ทัง้ การทิ้ งปม การไม่บอกเรื ่องทัง้ หมด มัน
เดิ นเรื ่องไม่เป็ นเสต็ปของมังงะจ๋าๆ ไม่เหมื อนกับมังงะดังๆ อย่าง Bleach” (ธัญลักษณ์ เตชศรี
สุธี,สัมภาษณ์, 10 สิงหาคม 2554)
“มันมี ลกั ษณะของนิ ยายผูใ้ หญ่ เป็ นการต่อสู้ดว้ ยความเชื ่อ และการ
รวมตัวของกลุ่มขบวนการ โดยผูเ้ ขี ยผูกปมให้ปริ ศนาตามที ละเปลาะๆ ล่อให้คนติ ดตามว่า
“เพือ่ น” คื อใครกันแน่” (อิศเรศ ทองปั สโณว์ , สัมภาษณ์, 15 สิงหาคม 2554)
1.2.4.6 เดธโน้ ต: เฉลยเงื่อนงาสาคัญตังแต่ ้ เปิ ดเรื่ อง
ขณะที่การ์ ตนู หรื อเรื่ องเล่าในสื่ออื่นๆ (เช่นนิยาย ละคร หรื อภาพยนตร์ )
มักพยายามเก็บเงื่อนงาหรื อปมหลักของเรื่ องที่ตนสร้ างไว้ ก่อนจะคลี่คลายปมสาคัญนันใน ้
ตอนท้ ายเรื่ องเพื่อรักษา-ดึงผู้อา่ นหรื อผู้ชมเอาไว้ เหมือนเช่นวันพีซ คนอ่านยังค้ างคาใจกับปมเรื่ อง
ประวัตชิ ีวิตของลูฟี่ หรื อเรื่ องวันพีซที่แท้ จริงคืออะไร ส่วนนารูโตะก็ยิ่งมีปมมากมายที่ยงั ไม่ยอม
เฉลยให้ คนอ่านรู้ เช่นอิทธิฤทธิ์ที่แท้ จริ งของจิ ้งจอกเก้ าหาง เบื ้องลึกเหตุการณ์ในวัยเด็กของนารู
โตะ และซาสึเกะ หรื อกระทัง่ โคนันยอดนักสืบจิ๋วฯ ที่เป็ นเรื่ องราวสืบสวนแบบจบในตอนก็ ยงั
มีเงื่อนปมระยะยาวให้ คนอ่านลุ้นว่าแท้ จริงแล้ วองค์กรของชายชุดดามีความสาคัญต่อเรื่ องอย่างไร
แต่สาหรับเดธโน้ ตกลับฉีกไปจากกฎที่วา่ นี ้ เพราะยอมให้ ผ้ อู า่ นรู้ ”คาตอบ” สาคัญตังแต่ ้ ต้นเรื่ อง
นัน่ คือการบอกว่า “ใครคือเจ้ าของเดธโน้ ตตัวจริง” อาจเรี ยกได้ ว่าการ์ ตนู เรื่ องนี ้ “แบไต๋” หรื อ
“เฉลย” เงื่อนงาสาคัญของเรื่ องให้ ผ้ อู า่ นรู้ตงแต่
ั ้ ต้น ซึง่ หากเป็ นวิธีการเขียนเรื่ องแนวลึกลับ
สืบสวนสอบสวนส่วนใหญ่ก็อาจเปิ ดเรื่ องผ่านเงื่อนปมให้ คนสงสัยผ่านการตายของผู้ร้ายที่อยูใ่ นคุก
จากนันจึ ้ งเปิ ดด้ วยตัวละครเอกอย่างแอลที่คอยสืบหาร่องรอยของคดีตา่ งๆ ก่อนสาวไปถึงตัวผู้ร้าย
ที่ก่อคดี (คลี่คลายเงื่อนงา) ในตอนท้ ายเรื่ อง
แต่กลวิธีเล่าเรื่ องของเดธโน้ ตด้ วยการคลี่คลายปมว่าใครคือผู้ร้ายตัวจริง
ตังแต่
้ เปิ ดเรื่ องย่อมทาให้ ทิศทางในการเขียนเรื่ องเปลี่ยนไปโดยสิ ้นเชิง จากเดิมที่เรื่ องแนวสืบสวน
ลึกลับมักทาให้ ผ้ อู ่านสนุกกับการสร้ างปมและคลี่คลายปมบางส่วนให้ คนอ่านค่อยๆ “คาดเดาตัว
88
จากที่กล่าวมาทังหมดในส่
้ วนของโครงเรื่ องจะพบว่าลักษณะของเรื่ องที่มีความ
สมจริง มักจะมีความซับซ้ อนลึกซึ ้งของโครงเรื่ อง และมีวิธีการสร้ างปมหลัก และปมรองเอาไว้
ค่อนข้ างมาก รวมทังมั ้ กจะไม่ยอมเฉลยปมสาคัญของเรื่ องจนกว่าจะจบเรื่ อง อย่างเช่น วันพีซ
นินจาคาถาฯ และยอดนักสืบจิ๋ว ในขณะที่ดราก้ อนบอล มีความซับซ้ อนของโครงเรื่ องน้ อยมาก
แต่ก็สามารถดึงคนอ่านไว้ ด้วยการสร้ างคาแร็ คเตอร์ ที่แข็งแรง ส่วนเดธโน้ ต และทเวนตี ้ฯ นัน้ มี
วิธีการเล่าเรื่ องที่เฉพาะตัว เพราะแม้ จะมีความสมจริงในการเล่าเรื่ องมาก แต่ก็ไม่ได้ มีปมหลัก หรื อ
ปมรองที่ซบั ซ้ อนมากนัก โดยเดธโน้ ตพลิกการเล่าเรื่ องจากการ “ปิ ดบังปมหรื อเงื่อนงา” มาเป็ น
การ “คลี่คลายปมหรื อเงื่อนงา” ตังแต่ ้ เปิ ดเรื่ อง ขณะที่ทเวนตี ้ฯ ก็อาศัยกลวิธีการเรี ยงลาดับการ
เล่าเรื่ องที่ซบั ซ้ อนส่งผลให้ เรื่ องราวดูลกึ ลับและน่าติดตาม
1
ผลไม้ ปีศาจแบ่งประเภทออกเป็ น 3 สาย คือ 1. สายโรเกีย หรื อสายพลังธรรมชาติ ผู้ที่กินเข้ าไปจะ
สามารถกลายเป็ นสสารนันๆ ้ เช่นกลายเป็ นไฟ หรื อกลายเป็ นสายฟ้า 2 สายพารามิเซีย ผู้ที่กินเข้ าไปจะมีพลังเหนือ
มนุษย์ อย่างเช่น ลูฟี่ตัวเอกของเรื่ องมีพลังยางยืด 3. สายโซออน หรื อ สายที่ใช้ พลังของสัตว์ จะสามารถเปลี่ยนรู ปร่ าง
เป็ นสัตว์และมีร่างแปลงได้ หลายระดับเหมือนเช่น ช้ อปเปอร์
95
ลักษณะความ
เรื่อง ขัดแย้ ง จุดเด่ นการสร้ างความขัดแย้ ง ผลต่ อการรับรู้ของผู้อ่าน
ดราก้ อนบอล ภายนอก เน้ นฉากต่อสู้และตัวละครฝ่ ายร้ าย เรื่ องสนุกแต่ขาดความลึกของตัวละคร
เดธโน้ ต ภายนอก เน้ นวิธีการคิดแผนต่อสู้อย่างละเอียด เรื่ องสนุกแต่ขาดความลึกของตัวละคร
สร้ างแบบแผนความขัดแย้ งจนเกิด
ยอดนักสืบจิ๋ว ภายนอก เอกลักษณ์ คุ้นเคยกับแนวเรื่ องและตัวละคร
ทเวนตี ้ฯ ภายใน เน้ นความรู้สกึ ตัวละคร เรื่ องไม่คืบหน้ านักแต่เข้ าถึงตัวละคร
วันพีซ ภายนอก-ภายใน เน้ นพลังใจเอาชนะความขัดแย้ ง เรื่ องสนุกและเข้ าถึงตัวละคร
เน้ นฉากต่อสู้และปมขัดแย้ งในตัว
นินจาคาถาฯ ภายนอก-ภายใน ละคร เรื่ องสนุกและเข้ าถึงตัวละคร
เป็ นคนดีและบริ สทุ ธิ์ ส่วนสิ่งชัว่ ร้ ายนันเกิ้ ดจากสิ่งแวดล้ อมภายนอก แต่ในนินจาคาถาฯ กลับมอง
ในมุมตรงกันข้ ามโดยบอกว่าสิ่งชัว่ ร้ ายนันติ ้ ดตัวเราทุกคนมาแต่กาเนิด แต่ท้ายที่สดุ แล้ วสิ่งชัว่ ร้ าย
จะพองตัวหรื อหดเล็กลงล้ วนขึ ้นอยู่กบั “ความแข็งแกร่งของจิตใจ”
แก่นความคิดหลักของเรื่ องข้ างต้ นถูกนาเสนออย่างชัดเจนผ่านตัวละคร
เอกอย่างนารูโตะ ที่ถกู ปี ศาจร้ ายอย่างจิ ้งจอกเก้ าหางผนึกไว้ ในร่างกาย รอวันที่จะตื่นออกมา
เมื่อใดก็ตามที่นารูโตะ “โกรธ” หรื อควบคุมอารมณ์ไม่อยูจ่ นอาจเข้ า “ควบคุม” ทังความคิ ้ ด-
ร่างกายของนารูโตะ ดังนันการรู ้ ้ จกั สะกดอารมณ์ ไม่โกรธ และรู้จกั ให้ อภัยของนารูโตะจึงเป็ น
สิ่งจาเป็ นอย่างมากในการควบคุมจิ ้งจอกเก้ าหาง (ซึง่ ก็คือการรู้จกั ควบคุมจิตใจตนนัน่ เอง)
นอกจากการนาเสนอเรื่ องสิ่งชัว่ ร้ ายอยูใ่ นตัวเราทุกคนมาแต่กาเนิดผ่านนารูโตะแล้ ว ผู้เขียนยังย ้า
แก่นความคิดดังกล่าวผ่านตัวละครหลักคูร่ ักคูแ่ ค้ นกับพระเอกอีกตัว นัน่ คือ ซาสึเกะ ที่แม้ จะมี
เพื่อน-พี่ชายที่ดีเพียงใด แต่ด้วยจิตใจที่ถกู ครอบงาด้ วยความแค้ นมาตลอดชีวิต (จากความเข้ าใจ
ผิดว่าพี่ชายฆ่าพ่อแม่-คนในตระกูลของตน) จึงทาให้ แม้ จะรู้ความจริงเกี่ยวกับความดีของพี่ชายที่
เสียสละตนเพื่อหมู่บ้านและครอบครัวแล้ วก็ตาม แต่ด้วยปี ศาจที่ชื่อ “ความแค้ น” สิงสูอ่ ยูใ่ นจิตใจ
เป็ นเวลานานจนยากจะยอมรับจึงทาให้ ท้ายที่สดุ ความแค้ นนันได้ ้ ฝังแน่นและหลอมรวมเป็ นตัวตน
ของซาสึเกะจนเขาเลือกจะเดินไปในทางร้ ายและเป็ นศัตรูกบั นารูโตะ นอกจากนี ้การสร้ างตัว
ละคร “สัตว์หาง” หมายเลขต่างๆ (0-9) ที่สิงอยูใ่ นร่างสถิตของมนุษย์อีกหลายคน เช่นกาอาระ
หัวหน้ าหมู่บ้านนินจาซึนะที่เป็ นเด็กชายผู้ถกู สาปส่งจากคนในหมู่บ้านเพราะมีปีศาจ (สัตว์หาง) สิง
อยูใ่ นร่าง(เช่นเดียวกับนารูโตะ) ก็เคยเป็ นเด็กชายผู้เกรี ย้ วกราดและฆ่าคนโดยไม่เลือก แต่เมื่อ
เข้ าใจ-ยอมรับว่ามีปีศาจอยูใ่ นร่างกายได้ แล้ วจึงสามารถควบคุมความรู้สกึ เกรี ย้ วกราดนันได้ ้ ใน
ภายหลัง
การ์ ตนู เรื่ องนี ้จึงบอกเป็ นนัยให้ เรารู้วา่ แม้ ทกุ คนจะมีปีศาจ (ความชัว่ ร้ าย)
แฝงฝั งอยูใ่ นจิตใจก็ตามแต่หากเราเรี ยนรู้ที่จะควบคุมปี ศาจตนนันได้ ้ (ข่มใจ-สะกดอารมณ์มิให้
ความอาฆาตแค้ น แรงโกรธ แรงพยาบาทมาครอบงาจิตใจ) เราก็สามารถดาเนินชีวิตไปได้ อย่าง
ปกติสขุ แถมยังอาจใช้ ประโยชน์จากเจ้ าปี ศาจในใจเราได้ อีกด้ วย เหมือนเช่นนารูโตะที่บางครัง้ ก็
อาศัยพลังของจิ ้งจอกเก้ าหางในการต่อสู้ และอาจเปรี ยบได้ กบั การที่เราเอาเก็บงาความโกรธไว้
ในจิตใจแล้ วแปรเปลี่ยนพลังแห่งความโกรธเป็ นพลังในการพัฒนาตัวเองให้ ดีขึ ้น (ให้ ดีกว่าคนที่เรา
โกรธ)
แท้ จริงแล้ วการนาเสนอแก่นเรื่ องการควบคุมความโกรธของนินจาคาถาฯ
105
เรื่อง รายละเอียดของแก่ น
ดราก้ อนบอล สะท้ อนว่าธรรมะย่อมชนะอธรรม
ทเวนตี ้ฯ สะท้ อนว่าธรรมะไม่จาเป็ นต้ องชนะอธรรม
วันพีซ/เดธโน้ ต ตังค
้ าถามว่าอะไรคือความดี-เลว
เรื่อง รายละเอียดของแก่ น
เดธโน้ ต สะท้ อนความเชื่อมัน่ ต่อระบบยุตธิ รรม
นินจาคาถาฯ สะท้ อนการเมืองการปกครองอันแสนวุน่ วาย
วันพีซ สะท้ อนความไม่เท่าเทียมกันของสังคม
เรื่อง รายละเอียดของแก่ น
ทเวนตี ้ฯ มนุษย์ทกุ คนต้ องการการยอมรับ
นินจาคาถาฯ มนุษย์ทกุ คนมีความชัว่ ร้ ายอยูใ่ นจิตใจ
ยอดนักสืบจิ๋วฯ ความรัก-โลภ-โกรธ-หลงคือต้ นเหตุแห่งการฆาตกรรม
เรื่อง รายละเอียดของแก่ น
วันพีซ/นินจาคาถาฯ มิตรภาพและการเสียสละเพื่อส่วนรวม
วันพีซ/นินจาคาถาฯ จงเชื่อมัน่ และมุง่ มัน่ ในความฝั น
วันพีซ ปรัชญาแฝงอยูใ่ นทุกสิ่ง
ภาพประกอบ 13 เปลือกหอยหรือ dials (ซ้ าย), dial ดัดแปลงเป็ นพลังงานให้ เรือ (ขวา)
ที่มา: http://onepiece.wikia.com/wiki/Dials และ http://onepiece.wikia.com/wiki/Dial_Boat
ข. นินจาคาถาฯ: ฉากต่อสู้แบบใหม่ของโลกนินจา
ภาพจาที่เราเคยคุ้นกับเรื่ องราวของนินจาผ่านสื่อภาพยนตร์ หรื อละคร
โทรทัศน์โดยส่วนใหญ่มกั เกิดจากการสร้ างฉากและสถานการณ์ให้ นินจาต้ องพรางตัวอยูใ่ นสังคม
มนุษย์ปกติ แต่สาหรับการ์ ตนู เรื่ องนี ้กลับเลือกจะสร้ างฉาก-เรื่ องราวที่วา่ ด้ วย “ความเป็ นอยูข่ อง
113
ฉาก เหตุการณ์ข้างต้ นกลายเป็ นเสน่ห์ให้ กบั การ์ ตนู เรื่ องนี ้เพราะเดธโน้ ต
ได้ แสดงให้ เราเห็นว่าการ์ ตนู ต่อสู้ที่สนุก (ไม่วา่ จะต่อสู้ทางร่างกายหรื อปั ญญาเหมือนเช่นในเดธ
โน้ ต) ไม่จาเป็ นต้ องให้ ตวั ละครออกเดินทางไปนอกโลก และไม่จาเป็ นต้ องเนรมิตรายละเอียด
ประกอบฉากที่เหนือจินตนาการ แต่ฉากซ ้าซากจาเจที่เราชินตากันอยูแ่ บบภาพเมืองก็เสริมสร้ าง
เรื่ องราวให้ สนุกและน่าเชื่อถือได้ เช่นกัน หนาซ ้ายังสอดคล้ องกับเนื ้อหาของเรื่ องที่กล่าวถึงความคิด
และสภาพจิตใจของคนเมืองเหมือนเช่นเด็กหนุม่ วัยรุ่นซึง่ เป็ นตัวเอกของเรื่ องอย่างยางามิ ไลท์ (คิ
ระ) ได้ เป็ นอย่างดีอีกด้ วย
“ในเดธโน้ตถึงจะสูก้ นั ตลอดทัง้ เรื ่องแต่มนั ไม่มีฉากต่อสูแ้ บบเรื ่ องอื น่ มัน
เลยเป็ นความแปลกใหม่ทีท่ าให้เราเห็นฉากต่อสูแ้ บบเมื องสมัยใหม่” (ธัญลักษณ์ เตชศรี สธุ ี,
สัมภาษณ์, 10 สิงหาคม 2554)
ค. ยอดนักสืบจิ๋วฯ: สถานที่ปิดตายคือฉากหลักของเรื่ องแนวสืบสวน
จากทังหมด
้ 6 เรื่ อง ยอดนักสืบจิ๋วเป็ นเพียงเรื่ องเดียวที่เป็ นแนว
สมจริง (reality) มากที่สดุ แม้ จะมีกิมมิค (gimmick) ที่ชว่ ยลดทอนความไม่สมจริงเรื่ องการ
ปลอมเสียงเป็ นผู้ใหญ่ขณะคลี่คลายคดีของตัวเอกอย่างโคนันตามที่กล่าวไปแล้ วก็ตาม แต่
ด้ วยเนื ้อเรื่ องที่เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรม และเน้ นภาพขันตอน-วิ ้ ธีการสืบสวนและ
คลี่คลายคดีของโคนันในที่เกิดเหตุ ทาให้ ฉาก สถานการณ์ที่เกิดขึ ้นในการ์ ตนู เรื่ องนี ้จึงต้ องรองรับ
“ความจริง” ให้ มากที่สดุ เพื่อให้ เข้ ากับแนวเรื่ อง และเพื่อให้ ผ้ อู า่ นคิด ไขคดี โดยใช้ หลักเหตุผล
ให้ ได้ มากที่สดุ ดังนันสถานที
้ ่เกิดเหตุที่เป็ นห้ องปิ ดตาย เกาะที่ถกู ตัดขาด บ้ านร้ าง หรื อเรื อ
สาราญในทะเล ซึง่ สามารถ “จากัด” พื ้นที่เกิดเหตุฆาตกรรมให้ อยูใ่ นวงแคบๆ ได้ จึงเป็ นฉาก
สถานการณ์หลักของการ์ ตนู เรื่ องนี ้ เพื่อให้ ยอดนักสืบจิ๋วอย่างโคนัน “แสดงความสามารถ” ทัง้
ความช่างสังเกต ไหวพริบ และระบบความคิดที่เป็ นเหตุเป็ นผลในการสืบคดีภายในพื ้นที่จากัดนัน้
ได้ อย่างเต็มที่ และนอกจากการสร้ างฉากในที่จากัดแล้ วในยอดนักสืบจิ๋วฯ ยังให้ ความสาคัญกับ
การใส่รายละเอียดประกอบฉากจาพวกอุปกรณ์ภายในครัวเรื อนเพราะสามารถดัดแปลงเป็ นอาวุธ
ได้ เช่น กระป๋ อง ไขควง น ้ามัน เชือก ฯลฯ
แต่แม้ ฉาก เหตุการณ์จะรองรับเนื ้อเรื่ องและการกระทาของตัวละคร (การ
สืบคดี) ได้ อย่างสมจริง แต่ฉากที่เป็ นเรื่ องจริง ไม่ใช่เรื่ องจินตนาการเช่นนี ้ย่อมทาให้ ผ้ อู า่ นรู้สกึ เบื่อ
ในความจาเจของฉาก เหตุการณ์ได้ ง่ายเช่นกัน ดังนันทางออกของการ์ ้ ตนู เรื่ องนี ้จึงเหมือนเช่น
ละครชุดทางโทรทัศน์ (ซีรี่ส์) หรื อละครซิทคอม (situation comedy) ที่ต้องหลีกหนีความจาเจใน
ฉากเดิมๆ (ที่แม้ ตวั เอกจะเดินทางไปเที่ยวทัว่ ญี่ปนแล้ ุ่ วก็ตาม) ด้ วยการเพิ่มตัวละครใหม่ เพื่อสร้ าง
120
ปมปั ญหาใหม่ๆ ให้ นา่ สนใจขึ ้นมา รวมทังน ้ าเสนอคดีที่ไม่มีเงื่อนปมซับซ้ อนมากนัก เพื่อให้ กลุม่
แก๊ งเพื่อนวัยประถมของโคนันได้ แสดงความสามารถ ช่วยกันสืบสวนและคลี่คลายคดีเพื่อเปลี่ยน
บรรยากาศของเรื่ อง และเพื่อเอาใจกลุม่ ผู้อา่ นที่เป็ นเด็กอีกทางหนึง่ ด้ วย
และสาหรับการ์ ตนู ที่มีเรื่ องราวการต่อสู้เป็ นปมขัดแย้ งหลักของเรื่ องแล้ ว
การออกแบบ “ฉาก-สถานการณ์การต่อสู้” ก็เป็ นหัวใจสาคัญที่จะช่วยสร้ างสีสนั และความสนุก
ตื่นเต้ นให้ ผ้ อู ่านได้ ไม่น้อย ซึง่ จากทัง้ 6 เรื่ องนันก็ ้ พบว่ามี 3 เรื่ องที่ออกแบบฉากต่อสู้ได้ อย่าง
น่าสนใจดังนี ้
ก. การออกแบบฉากต่อสู้
ดราก้ อนบอล: อ่านดราก้ อนบอลก็เหมือนเล่นเกมคอมพิวเตอร์
ความสนุกในการอ่านดราก้ อนบอลนอกจากจะเกิดจากการสร้ างฉาก
ต่อสู้แบบตรงไปตรงมาด้ วยการสร้ างสถานการณ์ให้ มีการแข่งขัน “ศึกประลองยุทธ์” แบบตัวต่อตัว
(ซึง่ เรามักพบเวทีตอ่ สู้แบบเป็ นทางการเช่นนี ้ได้ ในการ์ ตนู แนวต่อสู้แทบทุกเรื่ องเพื่อให้ ตวั ละครเอก
ได้ พิสจู น์พลังฝี มือที่ฝึกฝนมา) ยังเกิดจากการที่ผ้ เู ขียนได้ สร้ างสถานการณ์ให้ ตวั ละครเอกอย่าง
โงคูที่ฝีมือแข็งแกร่งขึ ้นหลังจากได้ ตวั ช่วยทังจาก
้ “ผู้ชว่ ยเหลือ” เช่นพระเจ้ า หรื อจาก ”พลังพิเศษ”
เช่นพลังของร่างแปลงซูเปอร์ ไซย่า พร้ อมๆ กับการ “ฝ่ าด่าน” เอาชนะคูต่ อ่ สู้ที่เก่งยิ่งขึ ้นเป็ น
ลาดับในด่านต่อๆ ไป เช่นการเอาชนะคูแ่ ข่งหลากหลายคาแร็ คเตอร์ ในศึกประลองยุทธ์ หรื อการ
เอาชนะลูกสมุนแต่ละคนของกองทัพเร้ ดริ บบ้ อน
การ “ฝ่ าด่าน” หรื อข้ ามผ่านอุปสรรคของโงคูจงึ เปรี ยบเหมือนการที่ผ้ อู า่ น
ได้ เล่นเกมคอมพิวเตอร์ ประเภทต่อสู้-ฝ่ าด่านไปเจอคูแ่ ข่งที่เก่งกาจขึ ้นเรื่ อยๆ ซึ่งเป็ นสิ่งที่เด็กส่วน
ใหญ่ชื่นชอบและเข้ าถึงได้ ง่าย ดังนันเมื ้ ่อการ์ ตนู เรื่ องนี ้มีทงความคิ
ั้ ดสร้ างสรรค์ในการสร้ างด่าน
ต่างๆ แถมยังผสมผสานกับวิธีการเดินเรื่ องที่ฉับไว นี่จงึ น่าจะเป็ นสาเหตุให้ ฉากต่อสู้ในดราก้ อน
บอลดึงดูดความน่าสนใจจากผู้อา่ นรุ่นเยาว์ได้ ไม่ยาก
121
ดังนันวิ
้ ธีการสร้ างฉากเหตุการณ์ของการ์ ตนู ทัง้ 6 เรื่ องจึงสรุปได้ ดงั นี ้
ของลูฟี่นันกลั
้ บไม่ใช่ความสามารถที่ดู “พิเศษ” เหนือผู้อื่นแต่อย่างใดเพราะผลไม้ ปีศาจที่ลฟู ี่ กินเข้ า
ไปนันคื
้ อ “ผลยางยืด” ทาให้ ร่างกายกลายเป็ นยาง สามารถยืด-หดได้ ในขณะที่ตวั ละคร
ประกอบ หรื อตัวละครฝ่ ายร้ ายอื่นๆ ที่กินผลไม้ ปีศาจเข้ าไปกลับมีพลังที่ “พิเศษ” ใกล้ เคียงกันหรื อ
อาจจะมากกว่าด้ วยซ ้า เช่นผลระเบิดของมิสเตอร์ 5 ที่ร่างกายทุกส่วนสามารถแปรเป็ นระเบิดได้
ผลใบมีดของมิสเตอร์ 1 ที่ทาให้ ทกุ ส่วนของร่างกายคบกริบเหมือนมีด หรื อผลสายฟ้า ที่เมื่อ
เสียชีวิตก็ใช้ พลังของสายฟ้าปั๊ มหัวใจตัวเองให้ ฟืน้ ขึ ้นใหม่ได้
การสร้ างให้ ตวั ละครเอกอย่างลูฟี่มี “ความสามารถพิเศษ” ที่ดบู ้ าๆ บอๆ
ไม่นา่ จะนาไปใช้ ประโยชน์ได้ มากนักในการเอาชนะผู้อื่นเช่นนี ้ นัน่ เพราะผู้เขียนอย่างเออิจิโระ
โอดะไม่ต้องการให้ ลฟู ี่ อาศัยเพียงแค่ “ของวิเศษ” ในการเอาชนะผู้อื่นเพียงอย่างเดียว จึงทาให้ ลฟู ี่
นันต้
้ องอาศัย “แรงฮึด” หรื อแรงใจจากคนรอบข้ างในการเอาชนะอุปสรรคอยูเ่ สมอ ใน
ขณะเดียวกันเขาก็ไม่ปฏิเสธ “การพึง่ พาของวิเศษ” เช่นกัน จากสัญญะเรื่ องคุณสมบัตพิ ิเศษ
ของลูฟี่ข้ างต้ นจึงเป็ นการบอกเราเป็ นนัยว่า ของวิเศษซึง่ อาจเปรี ยบเหมือนเทคโนโลยีที่เราพึง่ พา
มันอยูท่ กุ วันนี ้ เป็ นเพียงตัวช่วยที่ทาให้ เราฟั นฝ่ าอุปสรรค หรื อใช้ ชีวิตประจาวันได้ ง่ายขึ ้น แต่การ
อาศัยเพียงตัวช่วยหรื อของวิเศษ (เทคโนโลยี) เพียงอย่างเดียวไม่ทาให้ เราฟั นฝ่ าอุปสรรคได้ เสมอ
ไป เพราะสิ่งสาคัญกว่าของวิเศษ (เทคโนโลยี) ที่เราต้ องพึง่ พานันคื ้ อการพึง่ พามันสมองและสอง
มือของตัวเอง (เหมือนเช่นลูฟี่ที่ต้องพึง่ สมองในการคิดเอาชนะคูต่ อ่ สู้ หรื อพึง่ พลังใจที่มาจากการมี
น ้าใจจากคนรอบข้ าง)
ในอีกทางหนึง่ พลังวิเศษของลูฟี่ที่ทาให้ เขาเป็ น “มนุษย์ยางยืด” ก็
เป็ นสัญญะที่บง่ บอกถึงคนที่จะเก่ง-แกร่ง และเป็ นใหญ่ได้ ในโลกปั จจุบนั อาจไม่จาเป็ นต้ องมี
คุณสมบัตใิ นเชิงทาลายล้ างผู้อื่นเช่น ไฟ ระเบิด หรื อสายฟ้า แต่ควรมีคณ ุ สมบัตใิ นเชิงตังรั้ บหรื อ
หลบหลีก นัน่ คือมี ”ความยืดหยุน่ ” ไม่ตงึ ไม่แข็งแกร่งเหมือนหินผา และไม่ออ่ นนุม่ ปวกเปี ยก
เหมือนสาลี นัน่ เพราะความยืดหยุน่ จะช่วยให้ เราพร้ อมเข้ าใจ-รับมือ-ปรับแก้ สถานการณ์ที่
เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ วเหมือนเช่นสถานการณ์บนโลกมนุษย์ที่เรากาลังเผชิญกันอยูท่ กุ วันนี ้ได้
เป็ นอย่างดี
ค. นินจาคาถาฯ : จงเรี ยนรู้ ท่ จี ะสะกดความโกรธ (ปี ศาจ) ในจิตใจ
ตามที่กล่าวไปบ้ างแล้ วในหัวข้ อแก่นเรื่ องถึง “ปี ศาจ” ที่มีบทบาทสาคัญ
ในนินจาคาถาฯ โดย “ปี ศาจจิ ้งจอกเก้ าหาง” ถูกผนึกอยูใ่ นร่างตัวเอกของเรื่ องอย่างนารูโตะและ
เป็ นต้ นเหตุให้ เขาต้ อง “สูญเสีย” แทบทุกสิ่งอย่าง ทังครอบครั
้ ว ความรักจากคนรอบข้ างจนทาให้
เขากลายเป็ นนินจานอกคอกในสายตาผู้อื่น นอกจากนี ้ตัวละครอื่นที่มีปีศาจที่เรี ยกว่า “สัตว์
130
เดธโน้ ต บุคคลที่ 1
ทเวนตี ้ฯ บุคคลที่ 3
ภาพเคลื่อนไหวเช่นภาพยนตร์ หรื องานโทรทัศน์ ซึง่ การ์ ตนู ทัง้ 6 เรื่ องส่วนใหญ่ไม่ใช้ เทคนิคเกี่ยวกับ
ภาพเพื่อสร้ างอารมณ์แก่เรื่ องราวนัก แต่มีอยู่ 2 เรื่ องที่ใช้ เทคนิคเกี่ยวกับภาพได้ น่าสนใจคือ
2.3.1 ทเวนตี ้ฯ: เปลี่ยนมุมกล้ องเพื่อสร้ างอารมณ์ร่วม
ตามที่กล่าวไปแล้ วในกลวิธีการเล่าเรื่ องว่าทเวนตี ้ฯ มีภาพรวมของเรื่ องเน้ นไปที่
“ความลึกลับ” และด้ วยวิธีการเล่าเรื่ องที่คล้ ายซีรี่ส์ และภาพยนตร์ อเมริ กนั จึงทาให้ ในทเวนตี ้ฯ ใช้
มุมกล้ องที่หลากหลายกว่าการ์ ตนู เรื่ องอื่นๆ โดยเฉพาะการเลือกใช้ มมุ ที่สร้ างบรรยากาศ “ชวนให้
สงสัย” ดังนันจึ ้ งเกิดมุมกล้ องที่เหมือนผู้อา่ นกาลังแอบดูเหตุการณ์อยู่ ทาให้ ผ้ อู า่ นรู้สกึ มีสว่ นร่วม
และตื่นเต้ นกับเหตุการณ์ที่กาลังเกิดขึ ้น ซึง่ ก็เข้ ากับโทนของเรื่ องที่เน้ นความลึกลับ ไม่นา่ ไว้ ใจ
นอกจากนี ้ยังใช้ การตัดภาพ และการเปลี่ยนขนาดภาพเพื่อสื่ออารมณ์ บรรยากาศในเรื่ องได้ อย่าง
น่าสนใจ เช่นในฉากที่ภายในหนึง่ หน้ ากระดาษไม่ได้ มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงต่อเนื่องกัน ผู้เขียน
จึงใช้ การปรับเปลี่ยนขนาดภาพทังระยะไกล ้ - ใกล้ หรื อตัดไปที่องค์ประกอบอื่นๆ ในฉาก เพื่อช่วย
เร้ าอารมณ์ผ้ อู า่ นทดแทนความนิ่งของตัวละครได้ เป็ นอย่างดี
ภาพประกอบ 24 ลักษณะการเปลี่ยนระยะภาพในทเวนตีฯ้
ที่มา:http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/12/A7272369/A7272369.h
tml
2.3.2 วันพีซ: มุมแปลกตาสร้ างพลังให้ เรื่ องราว
เป็ นการ์ ตนู ที่นิยมเขียนมุมภาพแปลกๆ หวือหวา เปรี ยบได้ กบั การใช้ เทคนิคการ
ถ่ายภาพ เช่น การใช้ มมุ มองแบบตาปลา (Fish Eye) หรื อมุมมองจากกายภาพที่แปลกประหลาด
ของตัวละคร เพราะตัวเอกอย่างลูฟี่ที่มีร่างกายเป็ นยางยืดก็จะสามารถสร้ างมุมมองที่แปลก
140
1
การทาสกรีน ย่อมาจากคาว่าการติดสกรีนโทน ซึง่ เป็ นแผ่นใสคล้ ายสติ๊กเกอร์ ที่มีจดุ สีดาเล็กๆเรียงกันเต็ม
แผ่นเพื่อให้ เกิดสีเทา ซึง่ เหมาะกับงานสิ่งพิมพ์ แต่ที่จริงแล้ วการทาสกรีนนันคื ้ อการเติมน ้าหนักสีเทาให้ ภาพขาวดา (การ์ ตนู ที่มีแค่
ลายเส้ นคือภาพขาวดา) เพื่อสร้ างความสมจริง และน ้าหนักที่สมดุลทังภาพ ้ (ภาพขาวดาที่สมบูรณ์จะต้ องมีน ้านักขาว-เทา-ดาที่
สมดุลกัน) ดังนันการท
้ าสกรีนนันจะท
้ าด้ วยวิธีใดก็ได้ ขึ ้นอยูก่ บั นักเขียน เช่นการวาดเส้ นตรงติดๆกันก็จะเกิดน ้าหนักสีเทาได้ เรียกว่ า
“การสานเส้ น” หรือจะใช้ หมึกผสมน ้าระบายลงไปในงานจนเกิดเป็ นสีเทา หรือใช้ คอมพิวเตอร์ เข้ าช่วย หรือในญี่ปนมี ุ่ การทาแผ่น
สกรีนโทนออกมาวางขายเพื่อทุน่ เวลาให้ นกั เขียน
144
ผลการวิจัยการสร้ างตัวละคร
1.ประเภทตัวละคร
ก่อนจะวิเคราะห์ไปถึงแนวทาง-กลวิธีสร้ างลักษณะพิเศษของตัวละครเราควรรู้ถึงประเภท
ของตัวละคร รวมถึงมิตขิ องตัวละครเสียก่อน ซึง่ ตามแนวคิดการเล่าเรื่ องสามารถแยกแยะออกมา
ได้ ดงั นี ้
1.1 ประเภทตัวละครที่พิจารณาจากจานวนของตัวละคร ซึง่ แบ่งเป็ นตัวละครกลุม่
และตัวละครเดี่ยว
1.1.1 ตัวละครกลุม่
จากกลุม่ ตัวอย่าง 6 เรื่ อง มีการสร้ างตัวละครแบบกลุม่ มากถึง 4 เรื่ อง คือดรา
ก้ อนบอล ทเวนตี ้ฯ วันพีซ และนารูโตะ โดย 2 เรื่ องแรกคือดราก้ อนบอล กับทเวนตี ้ฯ สร้ างตัว
ละครกลุม่ ฝ่ ายตัวเอกเพียงด้ านเดียว ในขณะที่ฝ่ายตัวร้ าย (หรื อฝ่ ายตรงกันข้ ามกับตัวเอก) เป็ นตัว
ละครเดี่ยว โดยในดราก้ อนบอลนันตั ้ วละครกลุม่ หลักๆ ของฝั่ งตัวเอกอย่างโงคูมีถึง 12 ตัว1
1
ตัวละครกลุ่มหลักทัง้ 12 ตัว (รวมพระเอก) ประกอบด้ วยโงคู โงฮัง โงเท็น พิคโกโร่ บลูม่า คุ
ริ ลิน หยาฉา เท็นชินฮัง เจาสึ ผู้เฒ่าเต่า ยาจิโรเบ้ รันจิ (ไม่นบั ตัวละครประเภทผู้ช่วยเหลือ เช่น เทพเจ้ ามังกร หมอดูบาบา
หรื อท่านไคโอ)
152
แต่การสร้ างตัวละครกลุม่ ในดราก้ อนบอลก็ยงั อาจเรี ยกได้ วา่ เป็ นตัวละครกลุม่ ที่ไม่ได้ รวมตัวกัน
เหนียวแน่นนัก เพราะตัวละครกลุม่ ฝั่ งพระเอกทังหมดไม่ ้ ได้ ร่วมแรงร่วมใจต่อสู้พร้ อมกันในคราว
เดียวเหมือนเช่นในวันพีซ และก็ไม่ได้ ลงมือกระทาตามอุดมการณ์ในทิศทางเดียวกันเหมือนเช่น
ในทเวนตี ้ฯ แต่ตวั ละครกลุ่มในดราก้ อนบอลมีหน้ าที่เสมือนผู้ชว่ ยเหลือตัวละครพระเอกอย่างโงคู
ในการเอาชนะคูต่ อ่ สู้ โดยตัวละครกลุม่ เหล่านี ้จะเป็ นตัวชูรสในฉากต่อสู้แบบตัวต่อตัวระหว่างฝั่ ง
พระเอกกับผู้ร้าย โดยมักเป็ นการไล่ระดับการต่อสู้จากตัวละครที่มีฝีมื อต่าไปหาฝี มือสูง ขณะที่
ตัวละครฝ่ ายร้ ายก็เป็ นตัวละครแบบเดี่ยวที่ผ้ เู ขียนจาต้ องสร้ างตัวละครหน้ าใหม่ๆ เข้ ามาแทนที่ตวั
ละครฝ่ ายร้ ายตัวเก่าที่ล้มหายตายจาก หรื อบางคนก็กลับใจมาเข้ าพวกกับกลุม่ ตัวเอกอยู่
ตลอดเวลา
ส่วนทเวนตีฯ้ สร้ างตัวละครกลุม่ ของฝั่ งตัวเอก “ขบวนการเคนจิ” ซึง่ มีจานวน 6
คน1 แต่ตวั ละครฝ่ ายร้ ายนันเป็
้ นตัวละครเดี่ยวตลอดทังเรื ้ ่ องคือ “เพื่อน” เพราะถึงแม้ จะเป็ นผู้นา
องค์กรใหญ่ แต่การบริหารงานล้ วนเกิดจาก “เพื่อน” เพียงคนเดียว ตัวละครฝ่ ายร้ ายที่มีบทบาท
สาคัญอื่นๆ เช่น ชัค มันโจเมะ ก็เป็ นเพียงลูกสมุนที่ไม่มีบทบาทในการตัดสินใจลงมือกระทาในสิ่งที่
ส่งผลต่อทิศทางของเรื่ อง
ขณะที่วันพีซ และนารู โตะ สร้ างตัวละครแบบกลุม่ ที่มีแบบแผนมากขึ ้น เพราะได้
จัดรูปแบบของตัวละครอย่างเป็ นหมวดหมูเ่ พื่อง่ายต่อการจดจา ทังฝ่้ ายตัวเอก และฝ่ ายตัวร้ าย
โดยฝ่ ายตัวเอกในวันพีซ คือกลุม่ ก้ อนของโจรสลัดหมวกฟางจานวน 8 คนที่นาโดย “ลูฟี่” ซึง่ แต่ละ
ตัวละครต่างถูกกากับด้ วยบทบาทหน้ าที่สาคัญบนเรื อ2 ส่วนฝ่ ายตัวร้ ายหลักคือหน่วยงานที่
ปกครองโลกแห่งโจรสลัดอย่างกองทัพเรื อ ซึง่ ตัวละครถูกจัดลาดับชันความส ้ าคัญตามยศ และ
ตาแหน่งในกองทัพ รวมทังยั
้ งมีกลุม่ ของเจ็ดเทพโจรสลัดที่เป็ นอดีตโจรสลัดที่มีชื่อเสียงและ
ทางานรับใช้ กองทัพ ขณะที่กลุม่ ตัวเอกของนารูโตะก็คือทีมนินจาแห่งหมูบ่ ้ านนินจา
โคโนฮะ “ทีม 7” ซึง่ มีสมาชิกคือนารุโตะ ซาอิ ซากุระ คาคาชิ และยามาโตะ ส่วนกลุม่ ตัวละคร
ฝ่ ายร้ ายหลักๆ ก็จดั ตังเป็
้ นองค์กรขึ ้นมาชื่อว่า “แสงอุษา” นอกจากนี ้ยังมีตวั ละครกลุ่มที่โดดเด่นไม่
แพ้ ตวั ละครกลุม่ ของตัวเอก นัน่ คือตัวละครที่มีความสามารถพิเศษที่ได้ รับสืบทอดมาจากต้ น
1
ตัวละครทัง้ 7 คน (รวมทังตั
้ วเอกอย่างเอ็นโด เคนจิ) ประกอบไปด้ วย เอ็นโด คันนะ โอตโจะ
ยูคจิ ิ มอนจัง มารุ โอะ และ โยชิสเึ นะ (ไม่นบั รวมตัวละครประเภทผู้ช่วยเหลือชัว่ ครัง้ ชัว่ คราวที่ไม่ได้ มีอดุ มการณ์ร่วมกันใน
การกาจัดแผนร้ ายของ “พระเจ้ า” เช่น พระเจ้ า หรื อ ยัมโบ มาโบ)
2
กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง 8 คนประกอบด้ วย ลูฟี่ นามิ อุซป ซันจิ ช็อปเปอร์ นิโค โรบิน
แฟรงกี ้ และฮัมมิ่ง บรู๊ ค
153
ส่วนพระเอกที่เก่งตังแต่
้ แรกเริ่ม หรื อเริ่มต้ นจาก 10 และไม่ได้ มี
พัฒนาการในด้ านความสามารถก็คือโคนัน จากยอดนักสืบจิ๋วฯ และแอลกับไลท์ จากเดธโน้ ต
เพราะทังสองเรื
้ ่ องมุง่ เน้ นไปที่แนวการสืบสวนสอบสวน จึงจาเป็ นต้ องสร้ างตัวละครเอกที่เก่งกาจ
อยูแ่ ล้ วตังแต่
้ เปิ ดเรื่ องเพื่อสร้ างความน่าเชื่อถือในการสืบคดี-คลี่คลายปม ซึง่ ความสนุกของผู้อ่าน
ที่ได้ ติดตามพระเอกประเภทเก่งอยูแ่ ล้ วเช่นนี ้ก็เลยมุง่ ไปที่วิธีการสืบสวน การเสาะหาร่องรอยตัว
คนร้ ายที่เหนือชันกว่ ้ านักสืบหรื อตารวจธรรมดาๆ
มีพระเอกเพียงเรื่ องเดียวคือเคนจิ จากทเวนตีฯ้ ที่ไม่อาจจัดเข้ าพวกได้
เพราะเคนจิเป็ นพระเอกประเภท anti-hero ซึง่ ไม่ได้ เก่งกาจตังแต่ ้ เปิ ดเรื่ อง และเมื่อถึงกลางเรื่ อง
หรื อกระทัง่ จบเรื่ อง เขาก็ไม่ได้ เก่งกาจมากขึ ้นเช่นกัน และแม้ จะเป็ นหัวหน้ าขบวนการ
ต่อต้ านองค์กรร้ ายอย่าง “เพื่อน” แต่ในวันที่เคนจิหายตัวไปไร้ ร่องรอยหลังวันที่ขบวนการเคนจิ
บางส่วนถูกจับตัว ไม่มีใครรู้ว่าพระเอกคนนี ้หายตัวไปที่ไหน แต่ในตอนท้ ายจนเกือบจะจบเรื่ องเคน
จิได้ เล่าให้ ดีเจโนเนมคนหนึง่ (แท้ จริงแล้ วก็คือ “คอนจิ” เพื่อนสมัยเด็ก) รู้ความจริงว่า เขาแค่เพียง
หนีหวั ซุกหัวซุน และยืนร้ องไห้ อยู่ 3 วัน 3 คืนกับเหตุการณ์เลวร้ ายที่เกิดขึ ้น (ในเรื่ องไม่ได้ บอก
ชัดเจนว่าสาเหตุเพราะอะไรถึงร้ องไห้ อาจเพราะเสียใจกับการกระทาในวัยเด็กที่สง่ ผลให้ “เพื่อน”
คิดเอาชนะเขา หรื ออาจเสียใจที่ชกั ชวนเพื่อนในวัยเด็กมาปฏิบตั ภิ ารกิจยิ่งใหญ่เกินตัว หรื ออาจ
เสียใจที่ไม่ร้ ูจะหยุดยังแผนการร้
้ ายของ “เพื่อน” ได้ อย่างไร)
ความเป็ นพระเอกของเคนจิจึงไม่ได้ เกิดจากการเชิดชูประเด็นเรื่ อง
“ความเก่งกาจ” ทังด้ ้ านการต่อสู้ทางร่างกายเหมือนเช่นดราก้ อนบอล นินจาคาถาฯ หรื อวันพีซ
และไม่ได้ เน้ นเรื่ องการต่อสู้ทางความคิดเหมือนเช่นเดธโน้ ต และยอดนักสืบจิ๋วฯ แต่ความเป็ น
พระเอกของเคนจิ คือการเผยให้ เห็นถึงแง่มมุ ของคนธรรมดาๆ ที่อาจมีข้อดีอยูบ่ ้ างตรงที่กล้ า
ออกมารับผิดชอบเรื่ องราวในวัยเด็กที่ได้ เขียนบันทึกคาทานายล้ างโลกจน “เพื่อน” ได้ อตุ ริไปหยิบ
เอามาสร้ างเป็ นเรื่ องทาลายล้ างโลกขึ ้นมาจริงๆ ซึง่ ก็ทาให้ เขาเกิด “สานึกผิด” จนต้ องรวมพลเพื่อน
ในวัยเด็กให้ ออกมาต่อต้ านการครองโลกของ “เพื่อน” พระเอกแบบเคนจิจงึ ไม่ใช่พระเอก
สุดเท่ประเภทที่ผ้ อู า่ นใฝ่ ฝั นเป็ นแบบอย่าง แต่เป็ นพระเอกประเภทที่ผ้ อู า่ นสามารถรู้สกึ สนิทชิด
เชื ้อ เอาตัวเองไปเทียบเคียงจนรู้สกึ รัก และผูกพันกับตัวละครเหมือนเพื่อนสนิท ซึง่ ก็ทาให้ ตดิ ตาม
อ่านไปจนจบเรื่ องได้ เช่นเดียวกับพระเอกแบบเหนือมนุษย์
ง. พระเอกที่เป็ นฝ่ ายกระทาและถูกกระทา
การ์ ตนู โดยส่วนใหญ่ที่มีพระเอกชนิดเหนือมนุษย์ และ/หรื อเก่งตังแต่
้
164
1
เนื่องจากตัวละครในเดธโน้ ตต่างมีเหตุผลในการกระทา (ทังท
้ าดีและเลวตามบรรทัดฐาน
สังคม) จนยากจะแบ่งแยกว่าใครเป็ นพระเอก-ผู้ร้าย ดังนันการก ้ าหนดบทบาทพระเอก-ผู้ร้าย ของเดธโน้ ตในที่นี ้จึง
พิจารณาตามมาตรฐานของพระเอกในเรื่ องเล่าส่วนใหญ่ที่สงั คมยอมรับว่าเป็ นคนมีคณ ุ ธรรม ส่วนผู้ร้ายมักเป็ นฆาตกรที่
สังหารผู้อื่น หรื อกลุ่มองค์กรที่ม่งุ ทาลายล้ างโลก
166
ล้ างมนุษย์ได้ สาเร็จอีกด้ วย เรี ยกได้ ว่า “เพื่อน” กับ “เคนจิ” พระเอกของเรื่ องนันมี
้ ความสามารถ
แทบทัดเทียมกันโดยเฉพาะการเป็ นผู้นาที่ศนู ย์รวมจิตใจของผู้คนได้ เป็ นอย่างดี เพียงแต่ตา่ งกัน
ตรงที่วิธีคิด ที่ฝ่ายหนึง่ เลือกเป็ นผู้ทาลายล้ าง (เหมือนเพื่อน) และอีกฝ่ ายเลือกจะเป็ นผู้ชว่ ยเหลือ
(เหมือนเคนจิ) เท่านันเอง
้
เรื่อง ลักษณะของผู้ร้าย
ผู้ร้ายประเภทคูร่ ักคูแ่ ค้ น เพราะเป็ นผู้ร้ายเพียงคนเดียวของเรื่ อง
เดธโน้ ต
ผู้ร้ายที่เหมือนพระเอกเพราะมีอดุ มการณ์และวางแผนเก่งทัดเทียมพระเอก
มีผ้ รู ้ ายหลายรูปแบบ (นินจา/สัตว์หาง/ไซบอร์ ก/ซอมบี ้) และมักเก่งกว่า
นินจาคาถาฯ
พระเอกเสมอเพื่อสร้ างพัฒนาการของพระเอก
มีผ้ รู ้ ายหลายรูปแบบ (ทหาร/ยักษ์ /เงือก/ครึ่งคนครึ่งสัตว์/ไซบอร์ ก/ซอมบี ้) มี
วันพีซ
ทังเก่
้ งกว่าพระเอกและสูสีกนั เพื่อสร้ างพัฒนาการของพระเอก
มีผ้ รู ้ ายหลายรูปแบบ (คน/ปี ศาจ/เทพ/มนุษย์ตา่ งดาว/ไซบอร์ ก) มีทงเก่ ั ้ งกว่า
ดราก้ อนบอล
พระเอกและสูสีกนั เพื่อสร้ างพัฒนาการของพระเอก
ผู้ร้ายประเภทคูร่ ักคูแ่ ค้ น เพราะเป็ นผู้ร้ายเพียงคนเดียวของเรื่ อง เก่งด้ านการ
ทเวนตี ้ฯ
โน้ มน้ าวใจคน
มีผ้ รู ้ ายสองชุด คือผู้ร้ายหลักที่ไม่ยอมเปิ ดเผยตัวจนกว่าจะจบเรื่ อง และผู้ร้าย
ยอดนักสืบจิ๋ว
ที่เป็ นฆาตกรในแต่ละคดี
ตารางที่ 18 ลักษณะของผู้ร้าย
สนุกสนาน และคาดไม่ถึงได้ เช่นกัน จนผู้เขียนการ์ ตนู หลายๆ เรื่ องทุม่ เทในการคิดสร้ างสรรค์
รูปลักษณ์ และความสามารถของ “ผู้ชว่ ยเหลือ” อย่างมาก ซึง่ การ์ ตนู ทัง้ 6 เรื่ องมีผ้ ชู ว่ ยเหลือ
แตกต่างกันออกไปดังนี ้
ก. ผู้ชว่ ยเหลือที่เห็นเป็ นรูปธรรมจับต้ องได้
ในยอดนักสืบจิ๋วฯ โคนันต้ องอยูใ่ นร่างเด็กประถมที่มีข้อจากัดด้ านความ
น่าเชื่อถือในการไขคดี และข้ อจากัดด้ านพละกาลังของร่างกาย ดังนันตึ ้ งต้ องการ “ผู้ชว่ ยเหลือ”
อย่างแน่นอน แต่ด้วยแนวเรื่ องแบบสืบสวนที่เน้ นเหตุ-ผล ความเป็ นไปได้ บนโลกแห่งความจริง
(ไม่ใช่โลกจินตนาการ) ทาให้ ตวั ช่วยของโคนันจึงไม่ใช่พลังพิเศษจากของวิเศษใดๆ แต่เป็ นตัว
ช่วยที่เป็ นสิ่งประดิษฐ์ ทางวิทยาศาสตร์ จาก ดร.อากาสะ ฮิโรชิ นักวิทยาศาสตร์ ข้างบ้ านที่สร้ าง
นาฬิกายิงยาสลบ กับหูกระต่ายเปลี่ยนเสียง เพื่อช่วยให้ โคนันแปลงตัว-แปลงเสียงเป็ นนักสืบ
โมริ โคโกโร่ในการคลี่คลายคดี นอกจากนี ้ยังมีผ้ ชู ว่ ยเหลือในรูปของคน ทังนั ้ กสืบหนุ่มอย่างฮัตโตริ
เฮย์จิ ที่เป็ นทังคู
้ แ่ ข่งและผู้ช่วยเหลือในยามที่โคนันไขคดีไม่ออก หรื อแก๊ งเพื่อนเด็กประถมของ
โคนันอย่างขบวนการนักสืบเยาวชนที่แม้ จะเป็ นแค่เด็กตัวเล็กๆ แต่ก็ชว่ ยตังข้ ้ อสังเกตจากแง่มมุ ของ
เด็กที่ผ้ ใู หญ่อาจมองข้ ามและมีสว่ นช่วยให้ โคนันคลี่คลายคดีได้ เช่นกัน
ข. ผู้ชว่ ยเหลือประเภทของวิเศษ
เดธโน้ ต น่าแปลกที่พระเอกอย่างแอล ผู้ไล่ลา่ ตามจับฆาตกรร้ ายไม่ได้ มีผ้ ชู ว่ ย
เหลืออื่นใดนอกจาก “มันสมอง” ของตัวเองในการจับสังเกต และวางแผนต้ อนวายร้ ายอย่าง “คิระ”
และแม้ แอลจะมีผ้ ชู ว่ ยเหลือเป็ นกรมตารวจญี่ปนที ุ่ ่ให้ ความร่วมมือในการสืบสวนแต่ก็ไม่ได้ มีสว่ น
เป็ นผู้ชว่ ยเหลือแอลในยามคับขัน (อาจเพราะผู้เขียนไม่ได้ สร้ างสถานการณ์ให้ แอลถูกกดดันจาก
ผู้ร้าย หรื อมีอปุ สรรคในใจให้ เห็นเลย) ซึง่ ตรงกันข้ ามกับผู้ร้ายอย่างยางามิ ไลท์ (ผู้ร้ายผู้มี
อุดมการณ์จนอาจเรี ยกได้ วา่ เป็ นพระเอก) ที่ต้องเจอกับสถานการณ์ถกู แอลไล่ต้อนแทบจนมุมอยู่
หลายครัง้ ดังนันผู
้ ้ ชว่ ยเหลือของไลท์จงึ เป็ นสมุดโน้ ตบันทึกรายชื่อผู้ตาย หรื อ “เดธโน้ ต” ที่ชว่ ย
ให้ เขาเขียนชื่อใครก็ได้ ที่ต้องการให้ ตายลงในสมุดโน้ ตเล่มนี ้ได้ ตามใจนึก นอกจากนี ้ไลท์ก็ยงั
มีผ้ ชู ว่ ยเหลือในรูปของ “ยมทูต” ที่เป็ นเจ้ าของ “เดธโน้ ต” ซึง่ สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการ
สังหารคนอื่นได้ เช่นการลดอายุของตัวเองลงครึ่งหนึง่ เพื่อขอดวงตาของยมทูตที่ช่วยให้ เห็นชื่อจริง
ของมนุษย์ทกุ คนได้ (เพื่อจะได้ นาชื่อนันมาเขี ้ ยนลงเดธโน้ ตซึง่ ช่วยแก้ ปัญหาเรื่ องฆาตกรที่ปกปิ ดชื่อ
จริงทาให้ เขียนชื่อลงเดธโน้ ตไม่ได้ )
170
ค. ผู้ชว่ ยเหลือหลายรูปแบบ
ส่วนดราก้ อนบอล วันพีซ นินจาคาถาฯ ซึง่ ล้ วนแล้ วแต่จาลองโลกแห่ง
จินตนาการขึ ้นมา ดังนันจึ ้ งต้ องสร้ างผู้ชว่ ยเหลือประเภทเหนือธรรมชาติขึ ้นมาตามโลกจินตนาการ
ด้ วยเช่นกัน ขณะเดียวกันก็ยงั อาศัยตัวช่วยที่อิงกับโลกความเป็ นจริงคือเพื่อนและจิตใจอันเข้ มแข็ง
ของตนเองอยู่ด้วย โดยดราก้ อนบอลนัน้ เน้ น “ของวิเศษ” เพื่อช่วยเหลือตัวละครอย่างมาก
เพราะนอกจากโงคูจะมีผ้ ชู ว่ ยเหลือหลักคือเทพมังกรที่จะปรากฏตัวยามที่ลกู บอลทังเจ็ ้ ดลูกมา
รวมตัวกันเพื่อให้ พรแก่ผ้ ทู ี่สามารถรวบรวมบอลได้ สาเร็จแล้ ว ยังมีถวั่ ถัว่ เซนซึ” (Senzu Bean) ซึง่
มีสรรพคุณ สามารถช่วยรักษาบาดแผลและอาการเจ็บปวดทุกประเภทได้ โดยหากตัวละครที่
กาลังสูญเสียพลัง หรื อใกล้ ตายได้ กินถัว่ วิเศษนี ้เข้ าไปก็จะสามารถฟื น้ ฟูพลังและกลับมาแข็งแกร่ง
ได้ เหมือนดิม นอกจากนี ้ก็ยงั มี แม่เฒ่าพยากรณ์ (ผู้ชว่ ยทานายเรื่ องราวต่างๆ ในยามที่
พระเอกอยูใ่ นภาวะคับขัน) ท่านคาริน (ผู้ชว่ ยฝึ กปรื อฝี มือให้ โงคูเก่งขึ ้นไปอีกขัน) ้ พระเจ้ า (ผู้ชว่ ย
ปราบศัตรูตวั ฉกาจอย่างราชาปี ศาจพิคโกโร่) ท่านไคโอ (พระเจ้ าแห่งจักรวาลผู้ชว่ ยฝึ กฝี มือให้ โงคู)
รวมถึงเทพเจ้ ามังกร (ผู้ชว่ ยชุบชีวิตพวกพ้ องให้ ฟืน้ คืนชีพรวมทังดลบั ้ นดาลพรให้ แก่ผ้ ูรวบรวมดรา
ก้ อนบอลได้ ทกุ เรื่ อง) ขณะเดียวกันพระเอกของเรื่ องก็ยงั มีเพื่อนพ้ องที่ร่วมต่อสู้ด้วยกันคอย
ช่วยเหลือกันในยามจนมุมต่อผู้ร้ายอีกด้ วย
171
ตารางที่ 19 ลักษณะของผู้ช่วยเหลือ
เรื่อง ลักษณะของนางเอก
เก่งกาจด้ านต่อสู้ แต่จิตใจอ่อนไหว รูปลักษณ์ภายนอกค่อนข้ างสวย ช่วยเหลือพระเอกใน
ยอดนักสืบจิ๋ว
ยามคับขันได้
เก่งกาจด้ านต่อสู้ และมันสมอง (ด้ านการแพทย์) รูปลักษณ์ภายนอกค่อนข้ างสวย
นินจาคาถาฯ
ช่วยเหลือพระเอกในยามคับขันได้
ตารางที่ 20 ลักษณะของนางเอก
2. ความพิเศษของตัวละคร
แม้ จะรู้ประเภทของตัวละครซึง่ ส่งผลต่อการสร้ างความรู้สกึ ต่อผู้อา่ นทังลึ
้ กซึ ้ง/ตื ้นเขิน หรื อ
สร้ างความผูกพัน/สร้ างความรู้สกึ บูชาใฝ่ ฝั นอยากเป็ นตัวละครนัน้ แต่เพียงแค่นนไม่ ั ้ อาจทาให้ ตวั
ละครเป็ นที่จดจาได้ มากพอ นัน่ เพราะตัวละครที่อมตะย่อมต้ องเกิดจากการสร้ างลักษณะเด่น หรื อ
”ความพิเศษ” ให้ กบั ตัวละครผ่านทางรูปลักษณ์ภายนอก (เสื ้อผ้ า หน้ าผม อาวุธหรื อท่าไม้ ตาย)
และ/หรื อนิสยั ใจคอภายใน ซึง่ แต่ละเรื่ องล้ วนใช้ กลวิธีแตกต่างกันดังนี ้
2.1 ดราก้ อนบอล
2.1.1 การออกแบบรู ปลักษณ์ ภายนอก: ลายเส้ นเรียบง่ ายแต่ ร่วมสมัย
เรี ยกได้ ว่าการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของตัวละครในดราก้ อนบอลนันโดด ้
เด่นเหนือใครในยุคเดียวกันอย่างมาก เพราะหลังจากโทริยาม่า อากิระประสบความสาเร็จจาก
การสร้ างคาแร็ คเตอร์ อย่าง “อาราเล่” และ “กัต๊ จัง” จากการ์ ตนู ตลกแฟนตาซีแบบจบในตอน
เรื่ องดร.สลัมป์กับหนูน้อยอาราเล่ (การจับคูข่ องหุน่ ยนต์สาวจอมพลังแสนใสซื่อกับหุน่ หัวเขียนมี
ปี กจอมกินเหล็กที่พดู เป็ นแค่ “กูปี้ กูปี้ กูโปะ”) ก็ฉีกแนวมาสร้ างดราก้ อนบอลการ์ ตนู เรื่ องยาว
แนวแฟนตาซีเช่นเดิมแต่เพิ่มรสของการผจญภัย และต่อสู้เข้ าไป ซึง่ เขาก็ยงั ไม่ทิ ้งการสร้ างตัว
ละครที่มีสดั ส่วนไม่เหมือนจริ ง โดยเน้ นไปที่สดั ส่วน “ใหญ่เกินจริง” โดยเฉพาะขนาดของศีรษะ
นัยน์ตา ซึง่ ก็ชว่ ยเบรกอารมณ์จริงจังของเรื่ องให้ กลายเป็ นเรื่ องตลกได้
177
2.1.2.2 จอมมารบู
เมื่อพูดถึงคาว่า “จอมมาร” แน่นอนว่าภาพของตัวละครลึกลับ น่าเกลียด
น่ากลัวย่อมผุดขึ ้นในหัวของหลายๆ คน แต่ภาพของจอมมารบู (ในร่างแรกที่ปรากฏต่อสายตาคน
อ่าน) กลับลบล้ างภาพจาเหล่านันโดยสิ ้ ้นเชิง เพราะจอมมารตนนี ้มีรอยยิ ้มเปื อ้ นหน้ าอยูเ่ สมอ
พร้ อมด้ วยใบหน้ าและรูปร่างอ้ วนกลม พุงพลุ้ย (ไร้ ซงึ่ กล้ ามเนื ้อเป็ นมัดๆ ที่แสดงถึงความแข็งแกร่ง)
การใช้ ลายเส้ นที่กลมมน และสร้ างรอยยิ ้มเหมือนเด็กให้ กบั ตัวละครที่ถกู เรี ยกว่า “จอมมาร” ซึง่ เป็ น
ฝ่ ายตรงกันข้ ามกับตัวเอก จึงเป็ นความโดดเด่นในการสร้ างตัวละครที่มีรูปลักษณ์ภายนอกให้
ตรงกันข้ ามกับสถานะ หรื อบทบาทที่ตวั ละครได้ รับ ขณะเดียวกันนิสยั ใจคอของจอมมารบูก็
ตรงกันข้ ามกับบทบาทของตัวละครฝ่ ายร้ ายเช่นกันเพราะมีความอ่อนโยน ยึดถือใน “มิตรภาพ”
หรื อคาว่าเพื่อนอย่างมาก และมีอารมณ์แปรปรวนได้ ง่ายเหมือนเด็ก
ความขัดแย้ งกันของบทบาทตัวละครกับรูปลักษณ์ภายนอกและนิสยั ใจ
คอยภายในนี่เองที่ทาให้ จอมมารบูนา่ สนใจ และกลายเป็ นตัวละครที่ผ้ อู ่านหลงรักได้ ไม่แพ้ ตวั
ละครฝั่ งพระเอกเช่นกัน
“ผมว่าตัวละครในดราก้อนบอลมันเป็ นแบบถ่อมตัว ถ่อมคนเก่ง คนเก่ง
มากแต่ดูภายนอกธรรมดามาก พอคนอ่านรู้ ความเก่งของตัวละครแต่ตวั ละครในเรื ่ องไม่รู้มนั ทาให้
184
2.1.2.3 รันจิ
รันจิเป็ นผู้หญิงที่มี 2 บุคลิก คือยามปกติจะเป็ นคนเรี ยบร้ อย น่ารัก
(แสดงผ่านรูปลักษณ์สาวผมดา) แต่เมื่อเกิดจามขึ ้นมาเธอจะกลายเป็ นสาวซ่าแสนโหดเหี ้ยมที่
สามารถจับปื นไล่ยิงคนรอบข้ างได้ อย่างไม่หวาดหวัน่ (แสดงผ่านรูปลักษณ์สาวผมทอง) และจะ
กลายเป็ นคนเรี ยบร้ อยเหมือนเดิมเมื่อเกิดจามอีกครัง้
แม้ รันจิ จะเป็ นแค่ตวั ละครประกอบที่ไม่คอ่ ยมีบทบาท แต่โทริ ยาม่า อา
กิระก็ให้ ความสาคัญกับการออกแบบนิสยั ใจคอให้ มีความพิเศษ ซึง่ ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อสร้ างตัว
ละครให้ แตกต่างจากตัวละครอื่นๆ โดยไร้ ความหมาย แต่ตวั ละครอย่างรันจิกลับมีความสาคัญที่
สามารถบ่งบอกนิสยั ใจคอ (ความลามก บ้ าผู้หญิง) ของผู้เฒ่าเต่าได้ เป็ นอย่างดี เพราะผู้เฒ่าเต่า
ได้ บอกเงื่อนไขกับคุริลินที่ขอฝากตัวเป็ นลูกศิษย์วา่ หากสามารถพาตัวสาวสวยมาได้ ก็จะรับเป็ นลูก
ศิษย์ทนั ที ซึง่ คุริลินก็พาตัวสาวสวยอย่างรันจิมาได้ สาเร็จโดยไม่ลว่ งรู้ถึงบุคลิกที่แสนแปลก
ประหลาดของเธอ
185
2.3 นินจาคาถาฯ
2.3.1 การออกแบบรู ปลักษณ์ ภายนอก : ตัวละครร่ วมสมัยเจาะใจผู้อ่านวง
กว้ าง
ในขณะที่ตวั ละครพระเอกในการ์ ตนู ญี่ปนส่ ุ่ วนใหญ่ยงั คงรูปลักษณ์ที่สะท้ อน
ความเป็ นญี่ปนโดยเฉพาะสี
ุ่ ผมที่เป็ นสีดาสนิท (แม้ ในการ์ ตนู แฟนตาซีก็ตามเหมือนเช่นโงคู
ในดราก้ อนบอล ลูฟี่ในวันพีซ หรื อโคนันในยอดนักสืบจิ๋วฯ ) แต่พระเอกของนินจาคาถาฯ อย่าง
นารูโตะกลับมีผมสีส้มทอง ทาให้ สร้ างความแตกต่างจากภาพลักษณ์ของพระเอกในการ์ ตนู ญี่ปนุ่
ที่ผา่ นๆ มาที่ยงั คงความเป็ นอนุรักษ์นิยม แต่ด้วยสีผมของนารูโตะที่แปลกตาออกไปนี ้เอง
นอกจากจะสร้ างความโดดเด่นให้ กบั บทบาท “พระเอก” แล้ ว นารูโตะยังเป็ นภาพแทนของเด็ก
ญี่ปนในปั
ุ่ จจุบนั ที่นิยมย้ อมสีผมกันมากขึ ้นจนกลายเป็ นเรื่ องธรรมดา สะท้ อนถึง “อัตลักษณ์” ของ
ตนเองที่ไม่ต้องการอยูใ่ นกรอบของผู้ใหญ่เหมือนเช่นตัวละครพระเอกที่ผ่านๆ มา นอกจากนี ้แค่
196
ความสามารถพิเศษ/ตัวช่ วย ความหมาย/ลักษณะของความสามารถพิเศษ/ตัวช่ วย
จักระ เปรี ยบเหมือน “ชี่” “ลมปราณ” หรื อพลังแฝงเร้ นในทุกสิง่ ผู้ที่ควบคุมจักระ
ได้ ดีจะสามารถรี ดพลังแฝงเร้ นออกมาใช้ งานได้ ตามใจชอบ (นารูโตะมี
จักระแฝงมหาศาลเพราะได้ พลังจากจิ ้งจอกเก้ าหาง)
ธาตุประจาตัวนินจา ธาตุนินจาแบ่งเป็ นดิน น ้า ลม ไฟ สายฟ้ า แต่ละธาตุ มีผลต่อการเสีย
เปรี ยบ-ได้ เปรี ยบในการต่อสู้ (เช่นนารูโตะธาตุลมมักเสียเปรี ยบธาตุไฟ)
ความสามารถพิเศษประจา แต่ละตระกูลนินจามีความสามารถพิเศษต่างกันและเป็ นความลับของ
ตระกูล ตระกูล เช่นเนตรวงแหวนของตระกูลอุจิวะ (สามารถลอกเลียนแบบ
ท่าทางคูต่ อ่ สู้ได้ แม่นยา) หรื อเนตรสีขาวของตระกูลฮิวงะ (สามารถมอง
ทะลุสงิ่ ต่างๆ ได้ กว้ างไกล และเห็นจักระของผู้อื่น) เป็ นต้ น
สัตว์หาง ปี ศาจในนิทานปรัมปราของญี่ปนุ่ โดยบางตัวละครก็มีการดัดแปลง
รูปลักษณ์ไปบ้ างแต่สว่ นใหญ่ยงั คงรูปลักษณ์เหมือนเช่นตัวละครใน
ตานาน (เหมือนเช่นจิ ้งจอกเก้ าหางของนารูโตะ) โดยปี ศาจแต่ละตัว (มี
ตังแต่
้ 1-9 หาง) กระจายกันสถิตในร่างนินจาแต่ละแว่นแคว้ นเพื่อเพิ่มพลัง
ให้ กบั ร่างสถิตเหล่านัน้
คาถาอัญเชิญ ในยามคับขันนินจาสามารถใช้ คาถาอัญเชิญเพื่อเชิญสัตว์วิเศษมาช่วยใน
การต่อสู้ได้ เหมือนเช่นนารูโตะทีม่ ีสตั ว์วเิ ศษที่อญ
ั เชิญมาเป็ นประจาอย่าง
“กามะบุนตะ” (หรื อราชาแห่งกบ)
2.5 ทเวนตีฯ้
2.5.1 การออกแบบรู ปลักษณ์ ภายนอก: อีกมุมมองของคาว่ า “ฮีโร่ ”
แม้ ทเวนตี ้ฯ จะว่าด้ วยเรื่ องของฮีโร่ผ้ กู อบกู้โลกให้ รอดพ้ นจากมหันตภัยร้ ายของ
กลุม่ องค์กร “เพื่อน” ผู้ต้องการแพร่พนั ธุ์ไวรัสร้ ายทาลายมนุษย์ แต่แนวทางการออกแบบตัวละคร
กลับไม่เดินตามรอยการสร้ าง “ฮีโร่” ที่เราเคยผ่านตา นัน่ เพราะการออกแบบ “ขบวนการเคนจิ” ซึง่
เป็ นกลุม่ ของพระเอกที่ตอ่ ต้ าน “เพื่อน” กลับมีรูปร่าง หน้ าตา สัดส่วนของร่างกายไปจนถึงเสื ้อผ้ า
ทรงผมแสนธรรมดา แถมไม่ได้ มีของวิเศษ หรื อความสามารถพิเศษมาช่วยเชิดชูความเก่งกาจใด
ใดให้ กบั ตัวละคร เรี ยกได้ วา่ หากเห็นตัวละครกลุม่ ฮีโร่ของเคนจิเพียงภายนอกย่อมคิดไม่ถึงว่า
กลุม่ คนเหล่านี ้หรื อคือผู้กอบกู้โลก
เริ่มจากตัวเอกอย่างเคนจิ ทุกส่วนบนใบหน้ าไม่ได้ ใหญ่โต ผิดสัดส่วน แต่ด้วยการ
วาดหางตาที่ชี ้ขึ ้นเล็กน้ อยทาให้ หน้ าตาโดยรวมของเขาค่อนไปทางตัวร้ ายมากกว่าพระเอกด้ วยซ ้า
ไป แต่ก็ยงั คงรูปร่างผอม เพรี ยว ผมสันสี ้ ดา สวมเสื ้อแจ็คเก็ตเรี ยบง่าย ตามแบบฉบับคนญี่ปนุ่
ธรรมดาๆ นอกจากนี ้ก็ยงั ไม่ได้ มีพลังวิเศษ หรื อความสามารถทังด้ ้ านพละกาลัง (เหมือนเช่นโงคู
ในดราก้ อนบอล) หรื อมีมนั สมองเลิศล ้า (เหมือนเช่น แอลในเดธโน้ ต) อีกด้ วย
ภาพประกอบ 54 เคนจิพระเอกจากทเวนตีฯ้
ที่มา: http://asiabeam.com/v/films/20th-Century-Boys/20th-Century-Boys-manga-02-03
2.6 ยอดนักสืบจิ๋วฯ
2.6.1 การออกแบบรู ปลักษณ์ ภายนอก: สร้ างตัวละครเพียงหนึ่งแต่ ได้ ถงึ
สอง
หลายๆ เรื่ องในรหัสคดีอาจหาทางสร้ างความสนุกสนานในการสืบสวนด้ วยการ
สร้ างตัวละครนักสืบแบบคูห่ ู (เช่นเชอร์ ล็อคส์ โฮล์ม กับหมอวัตสัน) เพื่อช่วยสร้ างทังข้ ้ อขัดแย้ ง
ของมุมมองการสืบสวน หรื อเติมเต็มข้ อบกพร่องในการไขปมปริ ศนาซึง่ กันและกัน แต่ในยอด
นักสืบจิ๋วกลับสร้ างมิตขิ องตัวละครได้ อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องสร้ างตัวละครคูห่ ูเข้ าช่วย เพราะ
ตัวละครเอกแม้ มีเพียงคนเดียวแต่ก็เหมือนมีสองคนสองบุคลิกในร่างเดียวกัน นัน่ เพราะร่างกาย
ของพระเอกอย่างคุโด้ ชินอิจิ ได้ หดเล็กลงจากฝี มือขององค์กรชายชุดดาจนกลายเป็ นเด็กประถม
ในร่างของ “โคนัน” แม้ การสร้ างตัวละครเอกจะดู “เหลือเชื่อ” ซึง่ ขัดแย้ งกับแนว
เรื่ องแบบสืบสวนสอบสวนที่มีบรรยากาศโดยรวมเน้ นความสมจริง และใช้ ตรรกะในการคลี่คลาย
ปม แต่ความเหนือจริง (ของการที่ผ้ ใู หญ่กลายเป็ นเด็ก) ก็ไม่ใช่ความเหนือจริงที่เข้ ากันไม่ได้ กบั
เรื่ องสมจริง เพราะสถานการณ์ “ร่างหดเล็กลง” นันถู ้ กอธิบายได้ ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์
ว่าเกิดจากการคิดค้ นยาสูตรใหม่ขององค์กรลึกลับนัน่ เอง การออกแบบตัวละครเอกอย่าง
ชินอิจิและโคนันจึงเป็ นตัวละครที่ฉีกตัวเองออกมาจากแนวเรื่ องแบบสืบสวนอย่างน่าสนใจ เพราะ
209
3. ความแตกต่ างหลากหลายของตัวละคร
เรื่ องที่สร้ างตัวละครได้ ดีย่อมต้ องมีบคุ ลิกลักษณะทังภายในและภายนอกที
้ ่ไม่ซ ้าซ้ อนกัน
ในเรื่ องเดียว ซึง่ อาจแยกย่อยการสร้ างความแตกต่างหลากหลายของตัวละครในการ์ ตนู ทัง้ 6 เรื่ อง
ดังนี ้
3.1 วันพีซ
3.1.1 ความแตกต่างของรูปลักษณ์ภายนอกของกลุม่ ตัวละครเอก
- ขนาดของตัวละคร
หากจับตัวละครมายืนเรี ยงกันจะเห็นว่าขนาดความสูงต่าของตัวละครในวันพีซไม่
แตกต่างกันมากนัก โดยตัวละครที่เป็ นมนุษย์ธรรมดาเช่นพระเอกอย่างลูฟี่ กลุม่ ตัวเอกอย่างอุซป
หรื อตัวละครโจรสลัดหญิงอย่างนามิมีความสูงใกล้ เคียงกัน เว้ นแต่ตวั ละครที่ไม่ใช่มนุษย์เหมือน
เช่นครึ่งคนครึ่งกวางอย่างโทนี่ ช้ อปเปอร์ ที่ตวั เล็กกว่าคนอื่น หรื อไซบอร์ กอย่างแฟรงกี ้ก็สร้ างให้
ตัวสูงใหญ่กว่าคนทัว่ ไปและมีกล้ ามเนื ้อเป็ นมัดๆ ให้ สมกับเป็ นหุน่ ยนต์ที่แข็งแกร่ง
- รูปทรงและสัดส่วนของตัวละคร
แนวทางการออกแบบตัวละครในวันพีซไม่ได้ ใช้ รูปทรงที่เป็ น simple form หรื อ
รูปทรงกลม สามเหลี่ยม หรื อสี่เหลี่ยมอย่างชัดเจนเพื่อสร้ างการจดจาทันทีเมื่อแรกเห็นเหมือนเช่น
การสร้ างตัวการ์ ตนู อย่างคิตตี ้ หรื อโดราเอมอน (ที่เน้ นทรงกลมชัดเจน) นัน่ เพราะตัวละครโดย
ส่วนใหญ่คือ “มนุษย์” ดังนันจึ
้ งไม่อาจสร้ างรูปทรงให้ ฉีกไปจากการรับรู้ของผู้อา่ นได้ มากนัก
ผู้เขียนจึงอาศัยการออกแบบสัดส่วนตัวละครที่คอ่ นข้ างเกินจริงเพื่อสร้ างอารมณ์ร่วมจากผู้อา่ น
แทน เช่นการวาดตัวละครให้ อ้าปากกว้ างอยูบ่ อ่ ยครัง้ เพื่อสร้ างอารมณ์ขนั นอกจากนี ้ยัง
สร้ างตัวละครกลุม่ พระเอกให้ ดู “เท่” แบบวัยรุ่นยุคใหม่เข้ าไว้ ก่อน ผ่านการออกแบบรูปร่างตัวละคร
ที่ไม่มีใคร “อ้ วน” เลยแม้ แต่คนเดียว หนาซ ้ายัง “ผอมเพรี ยว” เกินจริงด้ วยซ ้าไป ทังซั ้ นจิ (กุ๊ก
ประจาเรื อ) โรโรโนอา โซโล (นักดาบ) อุซป (จอมยิงหนังสติก๊ ) พระเอกอย่างลูฟี่ ซึง่ ก็สะท้ อน
ค่านิยมของวัยรุ่นญี่ปนในปั ุ่ จจุบนั ที่ชื่นชอบผู้ชายรูปร่างอ้ อนแอ้ น บอบบาง ไม่จาเป็ นต้ องบึกบึนมี
กล้ ามเป็ นมัดๆ แบบพระเอกจากฝั่ งตะวันตก เช่นเดียวกับรูปร่างของตัวละครโจรสลัดหญิงกลุม่
ตัวเอกอย่างนามิและโรบินก็ดบู อบบาง แต่ขณะเดียวกันก็ยงั คงรูปลักษณ์แบบตัวเอกหญิงสาหรับ
การ์ ตนู ผู้ชายโดยส่วนใหญ่ที่มกั วาดให้ ผ้ หู ญิงมีหน้ าอกค่อนข้ างใหญ่ เอวเล็ก สะโพกผาย และแขน
ขายาวเรี ยว
212
ดังนันเมื
้ ่อขนาดของตัวละครเอกในวันพีซไม่ได้ แตกต่างกันมากนัก แถมรูปร่าง
ของตัวละครหลักส่วนใหญ่ยงั เน้ นความ “ผอมเพรี ยว” จนเกินจริงใกล้ เคียงกันแล้ ว จึงทาให้
รูปลักษณ์ภายนอกของกลุม่ ตัวละครเอก (กลุม่ โจรสลัดหมวกฟาง) ไม่ได้ แตกต่าง หลากหลายจน
เป็ นที่สงั เกต แต่ผ้ เู ขียนเลือกจะสร้ างความแตกต่างให้ กบั ตัวละครด้ วยรูปทรงของหน้ า
อวัยวะบนใบหน้ า รวมถึงเสื ้อผ้ าเครื่ องแต่งกายของตัวละครแทน เช่นตัวเอกอย่างลูฟ่ ี มีรูป
หน้ าค่อนข้ างกลม ตาโต ซึง่ ก็ดสู มกับวัยของเขาที่ยงั ก ้ากึ่งระหว่างเด็กและวัยรุ่นชาย ชอบสวมเสื ้อ
แขนกุดมีกระดุม และกางเกงขาสันทรงหลวม ้ พร้ อมกับหมวกฟางอันเป็ นเอกลักษณ์ การ
ออกแบบภาพรวมของตัวละครอย่างลูฟี่จึงเป็ นเอกภาพอย่างมากเพราะให้ ความรู้สึกถึงความเป็ น
คน “ง่ายๆ สบายๆ” ด้ วยเสื ้อผ้ าตัวหลวม หมวกฟางที่เหมาะกับทะเล (ที่ทาให้ เรานึกถึงวัน
พักผ่อนสบายๆ) รวมทังความสามารถพิ
้ เศษคือพลังของมนุษย์ยางยืดที่ทาให้ เราเห็นภาพการยืด
แขนยืดขา (ซึง่ แสดงถึงความยืดหยุ่น เป็ นอิสระของโจรสลัด) อยูบ่ อ่ ยครัง้
ส่วนซันจิ กุ๊กประจาเรื อที่สวมสูทดาและปากคีบบุหรี่ อยูต่ ลอดเวลา เขามีใบหน้ า
ค่อนข้ างเรี ยวกว่าลูฟี่ และแม้ ภาพรวมบนใบหน้ าจะดูหล่อ แต่ผ้ เู ขียนก็ใส่ความแปลก แตกต่าง
แสนง่ายดายบนใบหน้ าผ่านรูปทรงของ “คิ ้ว” ที่แค่วาดให้ ม้วนงอ แต่ก็สง่ ผลลดทอนความหล่อ เท่
และเพิ่มความเป็ น “การ์ ตนู ” (ที่ไม่สมจริง) ลงไปในตัวละครได้ อย่างมาก ซึง่ แนวทางการสร้ าง
ตัวละครพ่อครัวมือดีประจาเรื อให้ ผอมเพรี ยว ค่อนข้ างหล่อ แถมใส่สทู ตลอดเวลานี ้เองที่ ทาให้ ซนั จิ
แตกต่างไปจากภาพของตัวละคร “พ่อครัว” ที่เราคุ้นชินกันอยู่ (นัน่ คือภาพของชายวัยกลางคน
213
บุคลิก”เพราะเป็ นทังกวางน้
้ อยแสนบอบบางขณะเดียวกันก็ซอ่ นความแข็งแกร่งของกวางป่ าจอม
อาละวาดที่พร้ อมจะพุง่ เข้ าชนศัตรูได้ เสมอ
แต่วนั พีซก็ไม่ได้ มีแต่ตวั ละครที่ให้ ภาพของความเป็ นวีรบุรุษ (ลูฟี่น ้าใจสูงส่ง ซันจิเป็ นยอด
กุ๊ก หรื อโซโลเป็ นจอมดาบ) เพียงอย่างเดียว เพราะคนที่เป็ นจอมโกหก ซึ่งเป็ นคุณสมบัตทิ ี่
ตรงกันข้ ามกับความเป็ นวีรบุรุษก็สามารถเป็ นตัวละครในกลุม่ พระเอกได้ เหมือนเช่น อุซป จอม
โกหก นักแม่นปื นผู้ไม่เก่งและไม่กล้ าเรื่ องการต่อสู้ซงึ่ ๆ หน้ าจึงถนัดในการซุม่ ยิง เขามองว่าเรื่ อง
โกหกช่วยหล่อเลี ้ยงชีวิตผู้อื่นได้ เหมือนเช่นที่เขาแต่งเรื่ องพ่อผู้ไม่เคยกลับบ้ านให้ กบั แม่ที่นอนป่ วย
ได้ มีกาลังใจขึ ้นมาอีกครัง้ ส่วนนามิก็เป็ นสาวสวย แสนร่าเริงที่ไม่ได้ มีไว้ เพื่อสร้ างฉากรักโร
แมนติคกับตัวละครชาย เธอคือคนสาคัญยิ่งสาหรับชาว “เรื อ” เพราะนามิคือต้ นหนเรื อที่เก่งกาจ
ไม่แพ้ ผ้ ชู าย แถมยังมีความสามารถในเรื่ อง “ขโมย” (จนได้ ฉายาว่าแมวขโมย) อีกด้ วย ด้ าน
โรบิน ก็เป็ นสาวสวยนักโบราณคดีประจาเรื อแต่นิสยั ตรงกันข้ ามกับนามิ เพราะเธอช่างเงียบขรึม
ไม่ไว้ วางใจผู้อื่นง่ายๆ เพราะถูกมองว่าเป็ นปี ศาจตังแต่ ้ เด็ก เนื่องจากฤทธิ์ของผลไม้ ปีศาจที่ทาให้
งอกอวัยวะต่างๆ ออกมาจากร่างกายได้ เธอจึงทาทุกอย่างเพื่อตัวเองด้ วยการ “หักหลัง” คนทุก
กลุม่ ที่รับเธอเข้ าเป็ นพรรคพวก เพราะโรบินไม่เชื่อว่าจะมีใครที่ “ยอมรับ” ตัวตนของเธอ
ขณะที่ตวั ละครที่ไม่ใช่มนุษย์เต็มตัวอย่างช้ อปเปอร์ (ครึ่งคนครึ่งกวาง) แม้ จะดูใสซื่อ ขี ้
ตกใจ แต่ก็เป็ นตัวละครที่ขาดไม่ได้ สาหรับเรื อโจรสลัด เพราะนี่คือ “หมอ” ตัวเล็กๆ คนหนึง่ ผู้มี
ความฝั นยิ่งใหญ่คือ “การรักษาคนไข้ ได้ ทกุ โรค” และนอกจากฝี มือด้ านการแพทย์แล้ วเขายังช่วย
เรื่ องต่อสู้ด้วยการแปลงร่างเป็ นกวางยักษ์ ได้ อีกด้ วย ส่วนแฟรงกี ้ ช่างประจาเรื อ ก็เป็ นจอม
บ้ าบิน่ ถึงขนาดดัดแปลงตัวเองให้ กลายเป็ นหุน่ ยนต์ (ครึ่งหน้ าเป็ นหุน่ ยนต์ครึ่งหลังเป็ นคน) แต่
แม้ จะดูห้าวห่ามอย่างไรเขากลับร้ องไห้ ออกมาอย่างง่ายดายอยู่บอ่ ยครัง้ และในกลุม่ โจร
สลัดหมวกฟางก็ไม่ได้ มีแค่นกั ต่อสู้ ต้ นหน ช่าง กุ๊ก หรื อหมอเท่านัน้ แต่ยงั มีอาชีพที่หลายๆ คน
มองข้ ามแต่ผ้ เู ขียนอย่างเออิจิโระ โอดะมองว่าสาคัญนัน่ ก็คือ “นักดนตรี ” โดยสร้ างตัวละครบรู๊ ค
โครงกระดูกผู้เล่นดนตรี ได้ ทกุ ชนิดเยี่ยงมืออาชีพขึ ้นมา ซึง่ นอกจากจะสร้ างความบันเทิงให้ เพื่อน
ฝูงบนเรื อด้ วยการเล่นดนตรี แล้ วเขายังชอบพูดมุขตลก (แต่ไม่ตลก) อีกด้ วย
จากการสร้ างบุคลิกให้ กลุม่ ตัวละครเอกมีความแตกต่าง และมีเรื่ องราวเป็ นของตัวเอง
เช่นนี ้จึงสะท้ อนถึงการไตร่ตรองมาอย่างดีของผู้เขียนซึง่ ทาให้ ภาพรวมการออกแบบคาแร็คเตอร์
ของวันพีซมีความครบถ้ วน ขณะเดียวกันตัวละครแต่ละตัวก็มีลกั ษณะเฉพาะตัวด้ วยเช่นกัน
“ตัวละครวันพีซเด่นทุกตัวเพราะปูมหลังซับซ้อน และเขาเล่าเรื ่องได้ง่ายมาก เพราะมี พลัง
พิเศษทีฟ่ รี มาก (ผลไม้ปีศาจ) บวกกับการคิ ดหน้าตา เสื ้อผ้าเครื ่องแต่งกายแปลกๆ ฉากเยอะ มัน
แสดงถึงการ “คิ ดทุกอย่าง” ของคนเขี ยน” (ธัญลักษณ์ เตชศรี สธุ ี ,สัมภาษณ์, 10 สิงหาคม 2554)
219
ภาพประกอบ 65 ตัวตลกบากี ้
ที่มา: http://onepiece.wikia.com/wiki/Buggy%27s_Crew:_After_the_Battle!
- บทสาคัญของตัวละครเพศที่ 3
อาจกล่าวได้ วา่ ในวันพีซให้ ความสาคัญกับตัวละคร “เพศที่ 3” อย่างมาก เพราะมีตวั
ละครเพศชายที่แต่งเป็ นหญิงถึง 2 ตัวที่ได้ รับบทสาคัญนัน่ คือ มิสเตอร์ ทูว์ บอน เคร สาว
ประเภทสองร่างผอมบางที่เคยเป็ นสมาชิกขององค์กรบาล็อกเวิร์คส์ซงึ่ เป็ นฝ่ ายตรงกันข้ ามกับกลุม่
พระเอกมาก่อน ความน่าจดจาของมิสเตอร์ ทวู ์ ไม่ได้ เกิดจากการสร้ างความสามารถในการ
ลอกเลียนแบบผู้อื่นได้ เหมือนร้ อยเปอร์ เซ็นต์เท่านัน้ แต่เกิดจากการสร้ างรูปลักษณ์ภายนอกให้
ขัดแย้ งกับนิสยั ใจคอภายใน นัน่ คือแม้ จะชอบใส่ชดุ แสนหวานแบบบัลเล่ต์คล้ ายหงส์สีชมพู ทา
ผมหน้ าม้ าสันเต่
้ อ และทาลิปสติกแดงล ้าขอบปากแบบสาวจอมแฟชัน่ แต่นิสยั ใจคอของมิสเตอร์
ทูว์นนน่
ั ้ านับถือเสียยิ่งกว่าชายอกสามศอก เพราะ “วิถีกะเทย” ในแบบของเขาที่ประกาศออกมา
223
- ตัวละครประหลาด: ครึ่งคนครึ่งสัตว์
เนื่องจากในวันพีซมีผลไม้ ปีศาจสายโซออนซึง่ ทาให้ ผ้ ทู ี่กินเข้ าไปสามารถแปลงเป็ นมนุษย์
หรื อสัตว์ชนิดนันๆ้ ได้ ตัวละครในเรื่ องจึงมีรูปลักษณ์แปลกตา (เหมือนเช่นช้ อปเปอร์ กวางน้ อยที่
กินผลมุษย์เข้ าไปจึงมีร่างแปลงเป็ นทังกวางและทั
้ งมนุ
้ ษย์) เช่น จาคา ซึง่ กินผลอินอุ ินุ (จิ ้งจอก)
เข้ าไปจึงมีร่างแปลงเป็ นกึ่งมนุษย์กึ่งจิ ้งจอก หรื อคาคุซงึ่ กินโมเดลยีราฟเข้ าไปจึงมีใบหน้ าเป็ น
คนแต่จมูกยื่นยาวแบบยีราฟ ซึง่ การสร้ างตัวละครประเภทสัตว์เช่นนี ้แม้ จะไม่ใช่เรื่ องใหม่
สาหรับการ์ ตนู แนวต่อสู้แฟนตาซี แต่การสร้ างเงื่อนไขให้ มนุษย์ผสานร่างกับสัตว์ หลากหลายชนิด
เช่นนี ้ก็สร้ างความน่าสนใจได้ เช่นกัน เพราะด้ วยลักษณะของสัตว์หลากหลายชนิดจึงทาให้ คนอ่าน
ก็สนุกสนานไปกับการคาดเดารูปร่าง หน้ าตาของผู้ที่กินผลไม้ ปีศาจสายโซออนเข้ าไป
- ตัวละครสุดเท่
หากไม่นบั ตัวละครอย่างโซโลซึง่ เป็ นยอดนักดาบสุดหล่อ รูปร่างดีของกลุม่ พระเอก หรื อ
พี่ชายต่างสายเลือดของลูฟี่อย่างโปโตกัส ดี เอส ที่ตายไปแล้ ว ในเรื่ องวันพีซก็แทบจะหาตัวละคร
ที่ดหู ล่อสมบูรณ์แบบได้ ยากยิ่ง ตัวละครชาย (ฝ่ ายดี) ในวันพีซจึงไม่ได้ เน้ นแค่หน้ าตา หรื อ
รูปร่างที่หล่อเหลา แต่เน้ นไปที่ความสามารถ ความคิด นิสยั ใจคอ และการกระทาที่ทาให้ ตวั ละคร
ไม่หล่อ แต่ก็ดเู ท่ สมชายชาตรี ให้ สอดคล้ องกับเรื่ องราวแบบโจรสลัด ซึง่ ตัวละครที่ดู “เท่” ในเรื่ อง
นี ้ก็มีความโดดเด่น แตกต่างกันเช่น แชงคูส ผมแดง 1 ใน 4 จักรพรรดิที่โจรสลัดยอมรับว่ายากจะ
ต่อกรด้ วย ความเท่ของแชงคูสไม่ใช่เกิดจากหน้ าตาที่หล่อเหลา เพลงดาบหรื อการมีพลังจิต
คุกคามผู้อื่นในระดับสูง แต่เกิดจากการกระทาที่เปิ ดตัวเขาด้ วยการยอม “สละแขนซ้ าย” ให้ กบั ลู
226
ฟี่ ตังแต่
้ ต้นเรื่ อง ทังๆ
้ ที่เขาเป็ นโจรสลัดหน้ าใหม่ไฟแรงในเวลานันแต่ ้ กลับยอมเสียแขนให้ กบั
เด็กอมมือที่ไม่ได้ สนิทสนมกันเป็ นพิเศษ (ลูฟี่ในวัยที่ยงั ไม่ได้ เป็ นโจรสลัด) จนทาให้ แชงคูสคือ
ต้ นแบบการเป็ นโจรสลัดของลูฟี่ โดยแชงคูสกล่าวถึงปรัชญาในการใช้ ชีวิตของเขาว่า "คนที่ได้ ลิ ้ม
รสทังชั้ ยชนะและความพ่ายแพ้ เท่านันถึ ้ งจะเรี ยกได้ วา่ เป็ นลูกผู้ชายที่แท้ จริง...ถึงแม้ จะหมายถึงการ
วิ่งหนี และการเสีย น ้าตาก็ตาม"
อาจกล่าวได้ วา่ ตัวละครหญิงในวันพีซมีจดุ ร่วมคือ ”รูปร่าง หน้ าตาดี” เป็ นอันดับแรก แต่
ทุกตัวละครกลับไม่ได้ มีความโดดเด่นแค่เพียงความสวยงามเท่านัน้ เพราะทุกคนมี
ความสามารถพิเศษบางอย่าง (จากผลปี ศาจ) จนทาให้ ตวั ละครผู้หญิงที่ปรากฏในวันพีซจะไม่ใช่
หญิงธรรมดาที่ไร้ ฝีมือ แต่สามารถต่อสู้ และอยู่รอดในโลกโจรสลัดได้ อย่างสง่าผ่าเผยทุกคน
จากตัวละครทังหมดในวั
้ นพีซ ทังตั้ วเอก ผู้ร้าย ตัวประกอบ คงพอทาให้ เห็น ว่าทุกตัว
แตกต่างกันอย่างมาก ซึง่ แท้ จริงแล้ วยังมีอีกหลายตัวละครที่นา่ สนใจ และมีเอกลักษณ์ของตนเอง
เพราะเพียงแค่พลังจากผลปี ศาจก็สามารถสร้ างความแตกต่างได้ อย่างมากแล้ ว ดังนันแนวทาง ้
การสร้ างตัวละครของวันพีซจึงเน้ นความหลากหลาย เพื่อให้ สอดคล้ องกับการสร้ างโลกแห่งโจร
สลัดที่สามารถเนรมิตตัวละครที่หลุดโลกเพียงใดก็ได้ เราจึงสามารถพบเจอทังหนุ
้ ่มเท่ สาวเก่ง
เพศที่ 3 ยักษ์ เงือก ปี ศาจ หรื อแม้ กระทัง่ ไซบอร์ กได้ ในโลกแห่งวันพีซ
3.2 นินจาคาถาฯ
ด้ วยเรื่ องราวที่เกี่ยวกับ “นินจา” การออกแบบคาแร็ คเตอร์ ของตัวละครในนินจาคาถาฯ
โดยรวมทังรู้ ปลักษณ์ภายนอกและนิสยั ใจคอจึงเน้ นตัวละครในทิศทางเดียวกันคือความ “มืดหม่น”
ของจิตใจ ความคิด ภูมิหลัง รวมทังเสื ้ ้อผ้ าเครื่ องแต่งกาย แต่ในความมืดทึมที่สะท้ อนความเป็ น
นินจาที่ดลู ึกลับนันมี ้ ความแตกต่างหลากหลายกันดังนี ้
3.2.1 ความแตกต่างของกลุ่มตัวละครเอก
กลุม่ ตัวละครเอกในนินจาคาถาฯ ก็คือกลุม่ นินจาหมู่บ้านโคโนฮะของพระเอก
อย่างนารูโตะซึง่ เติบโตมาด้ วยกันตังแต่ ้ การเป็ นนักเรี ยนนินจาและออกทาภารกิจร่วมกันเป็ นทีม
ดังนันความแตกต่
้ างของตัวละครจึงเกิดขึ ้นโดย “ทีม” เป็ นตัวกาหนดในเบื ้องต้ น เพราะในแต่ละ
ทีมต้ องมีนินจาที่มีความสามารถแตกต่างกันเพื่อช่วยเหลือซึง่ กันและกันได้ ซึง่ ตัวละครที่โดดเด่น
ในด้ านการออกแบบบุคลิกภายนอกจึงเน้ นไปที่การสร้ าง “ความสามารถ” หรื อ “พรสวรรค์” ของแต่
ละคนดังนี ้
-ตัวละครจอมวางแผน
ในวันพีซตัวละครฝั่ งตัวเอกไม่มีใครที่ดเู ป็ น “จอมวางแผน” หรื อ “มันสมอง” ของ
กลุม่ เลย ทุกตัวละครสมกับเป็ น “โจรสลัด” ที่มีอิสระในความคิด และเดินเรื อไปตามอารมณ์ (แม้
จะมีเป้าหมายหลักอย่างการเดินเรื อเข้ าสูแ่ กรนด์ไลน์ แต่ก็สามารถแวะช่วยเหลือผู้อื่น หรื อค้ นหา
เกาะแปลกๆ ในระหว่างทางตามความสนุกของกัปตันอย่างลูฟี่) แต่ด้วยเรื่ องราวที่ให้ บรรยากาศ
ลึกลับในนินจาคาถาฯ จึงเกิดตัวละครฝั่ งตัวเอกที่เก่งกาจเรื่ องการวางแผนอย่าง นารา ชิกามารุ
ซึง่ เป็ นตัวละครสาคัญยิ่งของทีมยามที่ต้องปฏิบตั ภิ ารกิจเพื่อช่วยวิเคราะห์สถานการณ์การต่อสู้กบั
229
- ตัวละครประเภทนินจาพรสวรรค์
ทุกๆ ตระกูลนินจาจะมีความลับเรื่ องความสามารถพิเศษประจาตระกูล หรื อ
“ขีดจากัดสายเลือด” หรื ออาจเรี ยกได้ ว่าพรสวรรค์ประจาตระกูลที่ไม่เหมือนกัน ซึง่ ก็เป็ นอีก
เงื่อนไขที่สร้ างความหลากหลายให้ ตวั ละคร เหมือนเช่นอาบุราเมะ ชิโนะ ตระกูลของผู้ใช้ แมลง
โดยคนที่เกิดในตระกูลจะทาสัญญากับแมลงให้ ร่างกายตนเองเป็ นรังให้ กบั แมลงและสามารถเรี ยก
230
-ตัวละครประเภทนินจาพรแสวง
ส่วนใหญ่แล้ วนินจาที่เก่งกาจย่อมมีดีเรื่ องคาถา หรื อพรสวรรค์ประจาตระกูล แต่
ตัวละครอย่างร็อค ลี กลับไร้ ตวั ช่วยที่กล่าวมาทังหมด ้ ลี คือนินจาที่มีดีที่ “กระบวนท่า” ที่
สามารถโจมตีคตู่ อ่ สู้ได้ อย่างรวดเร็ว และเมื่อถอดที่ถ่วงน ้าหนักขาก็สามารถแสดงพลังที่นา่ กลัว
ออกมาได้ นอกจากนี ้เวลาที่ดื่มเหล้ าไปแค่จิ๊บเดียวจะสามารถใช้ หมัดเมาได้ และยิ่งดื่มมากพลัง
หมัดเมาก็จะสูงตาม ตัวละครอย่างร็ อค ลี จึงเป็ นนินจาที่ดเู ป็ นนินจาน้ อยที่สดุ ในเรื่ อง เพราะ
นอกจากความสามารถด้ านหมัดมวย ที่คล้ ายคลังกับภาพยนตร์ จีนที่เราคุ้นชินกันอย่างไอ้ หนุม่
หมัดเมาแล้ ว ลียงั หน้ าตาถอดแบบเหมือนตานานดาราที่โด่งดังไปทัว่ โลกอย่าง บรู๊ซ ลี ด้ วยทรง
ผมบ็อบหน้ าม้ า และคิ ้วเข้ มหนาอีกด้ วย แต่แม้ ลีดจู ะหลุดออกไปจากตัวละครแบบ “นินจา” แต่
เขาก็เป็ นตัวแทนของเด็กหนุ่มที่ไม่อาศัยโชคชะตา หรื อภูมิหลังของชาติตระกูล แต่อาศัยฝี มือ ความ
พยายามที่มากกว่าคนอื่นเป็ นเท่าตัวจนทาให้ ได้ รับความไว้ วางใจให้ ทาภารกิจยากๆ หลายครัง้
และแม้ เขาจะโชคร้ ายกระดูกสันหลังถูกทาลายในการสอบเลื่อนชันนิ ้ นจาจนหลายคนบอกว่าเขาไม่
สามารถเป็ นนินจาได้ อีกต่อไป แต่ท้ายที่สดุ ก็ยงั ต่อสู้ไม่ยอ่ ท้ อจนฟื น้ ตัวกลับมาช่วยทาภารกิจให้ กบั
หมูบ่ ้ านได้ อีกครัง้ ตัวละครอย่างร็ อค ลีจงึ เป็ นตัวละครที่ดบู ง่ บอกผู้อา่ นถึง “ความพยายามอยูท่ ี่
ไหน ความสาเร็จอยูท่ ี่นนั่ ” ได้ เป็ นอย่างดี
อุจิวะ อิทาจิ
หากมองแค่การกระทาของอิทาจิ นินจาหนุม่ ผมดาผู้นิ่งขรึมคนนี ้ ก็ไม่ตา่ งอะไร
จากพระเอกยอดฮีโร่ผ้ เู สียสละทุกสิ่งแม้ ความตายและเกียรติยศ เพราะเขาเลือกจะสังหารหมูค่ น
ในตระกูลตนเองเพื่อปกป้องหมูบ่ ้ านโคโนฮะ (เหลือเพียงน้ องชายคืออุจิวะ ซาสึเกะเพียงคนเดียว)
หลังจากรู้ความจริงว่าตระกูลอุจิวะคิดจะก่อสงครามเพื่อยึดครองอานาจในหมูบ่ ้ าน การกระทา
ในครัง้ นันตี
้ ตราให้ เขากลายเป็ น “ฆาตกร” ผู้เหี ้ยมโหด ทังที
้ ่แท้ จริงแล้ วเขาทาเพื่อแสดงความภักดี
ต่อหมู่บ้าน และท้ ายที่สดุ เขาก็ยอมตายเพื่อมอบเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผาให้ กบั น้ องชายผู้อยู่
รอดเพียงคนเดียวของตระกูลอุจิวะ (เพื่อป้องกันไม่ให้ วายร้ ายอย่างมาดาระเข้ าใกล้ ได้ )
234
ซาบาคุโนะ กาอาระ
กาอาระ นินจาผู้มีใบหน้ าเย็นชา ด้ วยขอบตาดา ผมสันสี ้ แดง พร้ อมถังทรายติด
ตัวที่หลังตลอดเวลา กาอาระเป็ นตัวละครที่แม้ จะอยู่ตา่ งหมูบ่ ้ านกับนารูโตะ แต่ก็มีชะตาชีวิตที่ไม่
ต่างจากนารูโตะเลย นัน่ คือการมีปีศาจมาสถิตอยูใ่ นร่าง โดยเขามี “หางเดี่ยว” หรื อผู้พิทกั ษ์
ทะเลทรายอยูใ่ นตัวจึงถูกรังเกียจจากคนในหมู่บ้านซึนะ ไม่เว้ นแม้ กระทัง่ พ่อของเขา ที่ฝังใจว่ากา
อาระเป็ นต้ นเหตุที่ทาให้ แม่ตาย แต่หลังจากได้ ตอ่ สู้กบั นารูโตะจนเกิดนับถือในตัวเพื่อนคนนี ้ที่
สามารถมุง่ มัน่ ทาดีได้ แม้ รอบข้ างจะหยามเหยียด กาอาระจึงเข้ าใจตัวเองมากขึ ้นและปรับปรุงตัว
จากที่ไม่มีความรักให้ ใคร ฆ่าทุกคนที่ขวางทาง มาเป็ นคนที่เข้ าใจผู้อื่นมากขึ ้น และทาทุกวิถีทาง
เพื่อปกป้องชีวิตทุกคนในหมู่บ้านซึนะของเขา
235
ตารางที่ 25 รวมตัวละครที่มีปมเรื่องความเจ็บปวดและความสูญเสียในนินจาคาถาฯ
236
-ตัวละครหญิงเก่ง
เมื่อต้ องสร้ างตัวละครหญิงในนินจาคาถาฯ ย่อมต้ องมี “หญิงเก่ง” เหมือนเช่นใน
วันพีซ นัน่ เพราะด้ วยเรื่ องราวที่มีฉากต่อสู้เกิดขึ ้นบ่อยครัง้ ดังนันตั
้ วละครผู้หญิงจึงต้ องมีสว่ นร่วม
ในการปะทะฝี มือ ซึง่ ในนินจาคาถาฯ ก็มีตวั ละครหญิงเก่งที่นา่ สนใจหลายคนเช่น
ซึนาเดะ
สาวสวยผมทองที่มีรูปร่างเย้ ายวนใจชาย ซึนาเดะรักการดื่มเหล้ า และเล่นพนัน
ซึง่ แม้ ความชอบของเธอจะทาให้ ดเู ป็ นนินจาไม่เอาไหน แต่แท้ จริงแล้ วเธอเป็ น 1 ใน 3 นินจาใน
ตานานและเป็ นนินจาแพทย์ที่เก่งที่สดุ ในโลกนินจาจนได้ กลายเป็ นโฮคาเงะ (ผู้ปกครองหมู่บ้าน
นินจาโคโนฮะ) รุ่นที่ 5 ซึนาเดะเป็ นนินจาที่แข็งแกร่งมากในด้ านพลัง พลังช้ างสารของเธอ
สามารถทาลายกาแพงหรื อทาให้ พื ้นดินแตกเป็ นหลุมระเบิดด้ วยการอัด ชก หรื อฟาดเท้ าเพียงครัง้
เดียว และเป็ นนินจาแพทย์ที่ไม่มีวนั ตาย เธอสามารถชุบชีวิตตัวเองกี่ครัง้ ก็ได้ ในการต่อสู้ แต่การชุบ
ชีวิตและฟื น้ ฟูตนเองจะมีผลข้ างเคียงทาให้ อายุขยั สันลงเรื
้ ่ อยๆ
238
ซากุระ
ซากุระเป็ นเด็กสาวน่ารัก ผมยาวสีชมพู (ภายหลังตัดผมให้ สนเป็
ั ้ นผมบ็อบ) เธอ
เป็ นนินจาที่ฉลาด มุง่ มัน่ มีพลังทาลายล้ างสูงเหมือนซึนาเดะ แค่เธอต่อยลงพื่นที่เดียวแผนดินก็
แตกออกเป็ นส่วนๆ แถมยังถนัดวิชาภาพลวงตาอีกด้ วย ซึนาเดะรับบทเด่นเพราะอยูร่ ่วมทีมนินจา
“กลุม่ 7” ทีมเดียวกับนารูโตะ แต่เธอกลับตกหลุมรักซาซึเกะ (คนที่นารูโตะชื่นชมแต่หกั หลังคนใน
หมูบ่ ้ านไปอยูร่ ่วมอุดมการณ์เดียวกับแสงอุษา) และรู้สกึ กับ นารูโตะ (ที่หลงรักซากุระ) แค่เพื่อน
สนิท ภายหลังเธอเริ่ มเดินตามรอยของซึนาเดะโดยไปขอเป็ นลูกศิษย์เรี ยนนินจาแพทย์เพื่อ
ช่วยเหลือเพื่อนในทีมยามปฏิบตั ภิ ารกิจ
เด็กผมชี ้ หนุม่ หล่อ ชายสามตา คนแก่ สาวสวย หมู แมวน้ อย เต่า ผีจีน ภาพ
ข้ างต้ นคงเป็ นตัวแทนความหลากหลายของตัวละครในดราก้ อนบอลได้ อย่างดี เพราะนี่คือกลุม่
ตัวละครเอก (ฝ่ ายดี) ของดราก้ อนบอลในภาคแรกที่ให้ ความต่างของบุคลิกภายนอกทัง้ ขนาด
รูปร่าง เพศ วัย เผ่าพันธุ์ของตัวละคร (คน สัตว์ ปี ศาจซึง่ แท้ จริงไม่ใช่ปีศาจแต่ดเู หมือนปี ศาจ)
แต่แม้ ตวั ละครจะแตกต่างก็ยงั มีจดุ ร่วมกันที่ทาให้ เมื่อคนอ่านเห็นตัวละครก็รับรู้
ได้ ทนั ทีวา่ นี่คือฝ่ ายดี เพราะทุกตัวละครมีดวงตากลม แววตาใสซื่อ และดูอารมณ์ดีกนั ทุกคน ซึง่ ก็
เป็ นการออกแบบตัวละครที่สะท้ อนแนวเรื่ องผจญภัย และตลกได้ เป็ นอย่างดี นอกจากนี ้ยังเป็ น
การออกแบบกลุม่ ตัวละครที่สอดคล้ องกับวัยของตัวเอกอย่างโงคูที่ยงั เป็ นเด็ก (เป็ นเด็กช่วงปลาย
และกาลังข้ ามผ่านไปสู่วยั รุ่นตอนต้ น) เป็ นวัยที่เปี่ ยมความฝั น ไม่ผนั ผ่านเหตุการณ์เลวร้ ายซึง่ ก็ได้
สะท้ อนผ่านสีหน้ า และแววตาที่ดสู นุกสนาน
“ตัวละครในดราก้อนบอลสะท้อนความเป็ นนักออกแบบคาแร็ คเตอร์ ทีด่ ีของ
อาจารย์ โทริ ยาม่า เพราะแค่เห็นดี ไซน์ภายนอกตัวละคร เราก็เข้าใจนิ สยั ใจคอโดยไม่ต้องเห็นข้อมูล
โพรไฟล์ (profile) การกระทา มันเลยเป็ นตัวละครที ถ่ ูกเขี ยนให้มีชีวิตโดยแทบไม่ตอ้ งสร้าง
สถานการณ์ มากมาย เพราะตัวละครเหล่านีม้ นั เล่นได้ด้วยตัวมันเอง” (ธรรมศักดิ์ เอื ้อรักสกุล,
สัมภาษณ์, 7 กันยายน 2554)
และแม้ ยคุ หลังตัวละครจะเริ่ มไม่ได้ ผจญภัย และต่อสู้เพื่อความสนุกของตนเอง
แต่มีภาระอันยิ่งใหญ่คือการปกป้องโลกลายเส้ นของตัวละครจึงเปลี่ยนไป รูปร่างเปลี่ยนเป็ นตัว
ใหญ่ กล้ ามเป็ นมัดๆ ซึง่ ก็สอดคล้ องกับท้ องเรื่ องและแนวเรื่ องที่เปลี่ยนจากผจญภัย สนุกสนานมา
เป็ นการต่อสู้ที่จริงจัง เสียเลือดเสียเนื ้อมากขึ ้น
- สร้ างสีสนั ให้ ตวั ละครพระเอกผ่านร่างแปลง
นอกจากผู้อา่ นจะได้ เห็นซุน โงคูในร่างเด็ก และร่างหนุม่ หล่อแล้ ว ตัวละคร
พระเอกยังสร้ างแรงดึงดูดจากผู้อา่ นผ่านการออกแบบตัวละครให้ สามารถ “แปลงร่างได้ ” แต่
ผู้เขียนก็ฉลาดในการเลือกจะออกแบบให้ ปลอดภัยไว้ ก่อน โดยไม่สร้ างให้ ตวั ละครมีร่างเป็ นตัว
ประหลาด ผู้หญิง หรื อปี ศาจที่อาจเสี่ยงต่อภาพความเป็ น “พระเอก” ดังนันร่
้ างแปลงของโงคู
ซึง่ เรี ยกว่า “ซูเปอร์ ไซย่า” ที่ทาให้ เขาเพิ่มพลังขึ ้นยามเมื่อแปลงร่างจึงเป็ นการเปลี่ยนสี-ความยาว
ของผม (ทรงเดิมที่คงเอกลักษณ์ชี ้แหลม) จากสีดาเป็ นสีส้มทอง พร้ อมกับใส่แววตาที่จริงจัง และ
ดุดนั มากขึ ้น
“การเพิ่มพลังให้พระเอกด้วยการเปลีย่ นสีผม มันเป็ นวิ ธีง่ายๆ เหมื อนไม่คิดมาก
241
- บุคลิกภายนอกแจ่มชัดแต่มองไม่เห็นบุคลิกภายใน
แต่แม้ ความแตกต่างของกลุ่มตัวละครเอกในดราก้ อนบอลจะสะท้ อนผ่าน ขนาด
รูปร่าง และเผ่าพันธุ์อย่างเด่นชัด ผู้อ่านกลับมองไม่เห็นความแตกต่างด้ าน “ความคิด” หรื อ
“เป้าหมาย” ของตัวละคร ในขณะที่กลุม่ ตัวละครเอกในวันพีซทุกคนมีความฝั นลึกๆ ของตัวเองแจ่ม
ชัด (นอกเหนือจากการผจญภัยตามหาวันพีซตามที่กล่าวไปแล้ วในความแตกต่างของตัวละครวัน
พีซ) ส่วนในนินจาคาถาฯ เองก็ใส่ความฝั นของตัวเอกและทีมของตัวเอกให้ ผ้ อู า่ นได้ เห็นกัน
พอสมควร แต่กลุม่ ตัวละครเอกในดราก้ อนบอลกลับร่วมต่อสู้กบั พระเอกอย่างโงคูเพื่อปกป้อง
โลกเพียงประการเดียว โดยโทริยาม่า อากิระไม่ได้ ใส่ความฝั น หรื อเป้าหมายให้ ตวั ละครมีแรงจูงใจ
อื่นลึกๆ ในใจให้ กบั กลุม่ ตัวละครเอกเลย รวมทังไม่ ้ เผยให้ เห็นอดีตที่ต้องผันผ่านความเจ็บปวด
ความสูญเสียของตัวละครเหมือนเช่นกลุม่ ตัวเอกในวันพีซ และนินจาคาถา ดังนันตั
้ วละคร
เอกในดราก้ อนบอลจึงเรี ยกได้ วา่ เป็ นตัวละครประเภท “ไม่คอ่ ยคิดมาก” ซึง่ ก็ทาให้ เรื่ องราวเป็ น
เส้ นตรง ไม่ซบั ซ้ อน และเหมาะสมกับกลุม่ ผู้อา่ นที่เป็ นเด็ก แต่ขณะเดียวกันตัวละครเหล่านี ้ย่อม
ไม่สามารถทาให้ ผ้ อู า่ นรู้สึกเอาใจช่วยได้ มากเท่ากับตัวละครที่มีเป้าหมายหรื อแรงจูงใจภายในที่
กระจ่างชัด และย่อมไม่ทาให้ ผ้ อู า่ นรู้สึกยืนข้ างเดียวกับพวกเขาได้ มากเท่ากับตัวละครที่เคย
เจ็บปวดและสูญเสียสมเป็ นตัวละครที่มีเลือดเนื ้อ
242
ดัดแปลงหมายเลข 18 ได้ ด้วยการยัดเงินใต้ โต๊ ะก้ อนโตให้ เกิดการล้ มมวยขึ ้น หรื อในการแข่งขัน
ครัง้ ที่ 26 เขาก็เอาชนะจอมมารบูได้ เพราะจอมมารบูยอมทาตามมิสเตอร์ ซาตานเพื่อมิตรภาพที่มี
ให้ กนั ดังนันจากชั
้ ยชนะในศึกประลองยุทธ์เขาจึงโด่งดังไปทัว่ โลกในฐานะมนุษย์ที่แข็งแกร่ง
ที่สดุ ทาให้ เมื่อถึงยามที่คนทังโลกต้
้ องการให้ มิสเตอร์ ซาตานออกมาปกป้องจากฝี มือของเซลที่
กาลังทาลายล้ างโลก (ซึง่ คนอ่านคิดว่าคราวนี ้สิเจอของจริง) แต่เขาก็ยงั โชคช่วย เพราะท้ ายที่สดุ ก็
เป็ นกลุม่ ของโงคูที่โค่นเซลได้ แต่มิสเตอร์ ซาตานกลับเหมาเอาความดีความชอบจนกลายเป็ นฮีโร่
ตลอดกาลของโลกไปเสียแล้ ว
ตัวละครที่ไม่ใช่ทงคนดี
ั้ และไม่ใช่ทงคนร้
ั ้ าย แต่โชคชะตาเล่นตลกเช่นนี ้จึงเป็ นตัว
ละครที่คนอ่านรู้สกึ ผูกพันได้ ง่าย เพราะเขามี “ความลับ” ระหว่างผู้อา่ นกับตัวละครที่ทกุ คนในเรื่ อง
ไม่ร้ ู(ความลับที่ผ้ อู า่ นรู้ถึงความอ่อนแอของเขาไว้ ภายใต้ สถานะความเป็ นฮีโร่) ซึ่งก็เป็ นแนว
ทางการสร้ างตัวละครประกอบให้ นา่ จดจาเหมือนเช่นตัวตลกบากี ้ในวันพีซ จนอาจเรี ยกได้ ว่าตัว
ละครแบบมิสเตอร์ ซาตาน และตัวตลกบากี ้แม้ อาจไม่สาคัญกับเนื ้อเรื่ องหลัก แต่เขาเป็ น “ตัวละคร
ของคนดู”
“ตัวละครของคนดูอาจไม่จาเป็ นกับเรื ่อง แต่ออกมาเมื ่อไหร่ ก็ตามคนดูจะชอบ และจดจา
ได้” (ธรรมศักดิ์ เอื ้อรักสกุล, สัมภาษณ์, 7 กันยายน 2554)
- รูปทรงของอวัยวะบนใบหน้ า และทรงผม
นอกจากความสูงต่า อ้ วนผอมแล้ ว นาโอกิ อุราซาว่ายังสร้ างความต่างภายนอก
ให้ กลุม่ ตัวละครเอกได้ ง่ายๆ ด้ วยรูปทรงของใบหน้ า และทรงผม เช่นเคนจิรูปหน้ าค่อนข้ างเรี ยว
ยาวสมส่วน ผมสันด ้ า ตามแบบฉบับตัวเอกในการ์ ตนู ญี่ปนส่ ุ่ วนใหญ่ ส่วนโอตโจะรูปหน้ า
ค่อนข้ างเหลี่ยมกว้ างแสดงถึงความหนักแน่น และผมยาวสีสว่างแสดงถึงอิสระ นอกคอกสมกับ
เป็ นมาเฟี ย มารุ โอะหน้ าอ้ วน แก้ มเยอะดันลูกนัยน์ตาจนแทบมองไม่เห็นดวงตา
และการออกแบบที่นา่ สนใจอย่างมากก็คือ “เส้ นขีดของดวงตา และคิ ้ว” ที่มีความ
ขัดแย้ ง (contrast) กันในตัวอย่างเช่นการวาดหนังตาตก แต่คิ ้วชี ้ขึ ้น ซึง่ ก็สร้ างความรู้สกึ เศร้ าให้ กบั
ตัวละครได้ อย่างเหลือเชื่อ เหมือนเช่นตัวละครอย่างโยชิสึเนะ ที่หางตาตก ซึง่ เมื่อผสมผสานกับ
ท่าทางคอตก ไหล่หอ่ ก็ยิ่งทาให้ เขาดูเหมือนชายขี ้อาย ขาดความมัน่ ใจ และไร้ ซึ่งพิษสงใด หรื อ
รูปตาและคิ ้วที่เฉียงขึ ้นของเคนจิก็ชว่ ยทาให้ เขาดูเป็ นคนจริงจัง ไม่ยอมอ่อนข้ อให้ ใครง่ายๆ ได้
เหมือนกัน ซึง่ การออกแบบเส้ นของดวงตา และคิ ้วนี ้เองที่เป็ นจุดเด่นในการออกแบบตัวละครของ
อุราซาว่า ที่เรี ยกว่าเป็ นการออกแบบ “น้ อยได้ มาก” เพราะสามารถสะท้ อนนิสยั ใจคอภายในตัว
ละครได้ ดีกว่าการกระทาด้ วยซ ้าไป
“ผมชอบวิ ธีทีเ่ ขาวาดหางคิ้ ว หางตาตัวละคร เขาเก็บรายละเอียดอากัปกิ ริยาของ
ตัวละครได้ดีมากทัง้ แววตา และสีหน้า ทุกช่องมันเล่าด้วยอาการ สีหน้า และแววตา ทาให้รู้สึกมัน
มี มิติ มี ชีวิต มันทาให้คนอ่านไม่ผลีผลามตัดสิ นตัวละคร” (เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์, สัมภาษณ์, 13
กันยายน 2554)
3.5 ยอดนักสืบจิ๋วฯ
3.5.1 ความแตกต่างของรูปลักษณ์ภายนอกกลุม่ ตัวละครฝ่ ายดี
ด้ วยแนวเรื่ องที่เป็ นการสืบสวนสอบสวนทาให้ ไม่อาจสร้ างตัวละครที่มีขนาด
รูปร่างผิดเพี ้ยนไปจากการรับรู้ของผู้อา่ นมากนัก ภาพรวมของตัวละครในยอดนักสืบจิ๋วจึงดูสมกับ
เป็ นมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึง่ แต่ในการออกแบบคนธรรมดาๆ ก็ทาให้ ตวั ละครในการ์ ตนู เรื่ องนี ้ดู
แตกต่างได้ ด้วยการสร้ างตัวเอกสองรุ่นในร่างเดียว
เพราะพระเอกคือคุโด้ ชินอิจิ นักสืบหนุม่ มัธยมปลายไฟแรง ที่ร่างหดเล็กลงเป็ น
เด็กประถม จึงทาให้ เกิดตัวละครรายรอบตัวเอกที่มีหลากหลายวัยเพื่อเพิ่มสีสนั ให้ กบั เรื่ องและเพื่อ
ขยายฐานผู้อา่ นในวงกว้ าง นัน่ คือมีทงตั ั ้ วละครกลุม่ เด็กประถมอย่าง “ขบวนการนักสืบเยาวชน”
ที่ใช้ สตู รเดียวกับตัวละครในการ์ ตนู อมตะอย่างโดราเอมอน ซึง่ ประกอบด้ วยโคนัน (พระเอก) เด็ก
น้ อยหน้ าตาดีใส่แว่นเพื่อแสดงถึงความเป็ นเด็กฉลาด คงแก่เรี ยน (คล้ ายโนบีตะ) โยชิดะ อายูมิ
เด็กผู้หญิงคนเดียวในกลุม่ ที่หน้ าตาน่ารัก ค่อนข้ างฉลาด และแอบชอบโคนัน (คล้ ายชิซูกะ) ซึบุรา
ยะ มิซึฮโิ กะ เด็กเรี ยนตัวผอม หน้ าแหลม จอมหลักการ เจ้ าเหตุผล และแอบชอบอายูมิ (คล้ าย
ซูเนโอะ) โคจิมะ เกนตะ เด็กอ้ วนใจร้ อน มักใช้ อารมณ์นาเหตุผล มีแผลเป็ นรูปเหรี ยญ 100 เยนที่
หัวแสดงถึงความชื่นชอบเรื่ องพะบู๊ (คล้ ายไจแอนท์)
“คาแร็ คเตอร์ ในโคนันโคลน (clone) โดราเอมอนมาชัดเจน ทัง้ ตัวละครอ้วนผม
เด็กผูห้ ญิ งหนึ่งคนในกลุ่มเพื อ่ ให้ผหู้ ญิ งดึงกลุ่มผูช้ ายไม่ให้ซนเกิ นไป ตัวละครกลุ่มแบบนีช้ ่วยสร้าง
พล็อตประเภทการปกป้ องรักเพือ่ นได้ดี” (กมลรัตน์ เสราดี, สัมภาษณ์, 22 สิงหาคม 2554)
ส่วนสมาชิกที่เพิ่มขึ ้นภายหลังอย่าง ไฮบาระ ไอ ผู้รับชะตากรรมเดียวกับ
พระเอก เพราะเธอเองก็กินยาแบบเดียวกับชินอิจิ ทาให้ จากนักวิทยาศาสตร์ สาวผู้เงียบขรึมต้ อง
กลายร่างเป็ นเด็กประถมเหมือนเช่นชินอิจิ ซึง่ ก็ทาให้ ภาพของไอเป็ นเด็กประถมที่ดทู งสวย ั้ ทัง้
ฉลาด และเป็ นผู้ใหญ่กว่าเด็กรุ่นเดียวกัน ซึง่ การออกแบบลักษณะภายนอกของตัวละครนักสืบ
ประถมกลุม่ นี ้ก็เป็ นไปตามแนวทางการออกแบบตัวละครสาหรับเด็กที่คงความเป็ น “การ์ ตนู ” ด้ วย
สัดส่วนของศีรษะตัวละครที่คอ่ นข้ างใหญ่เกินจริง และลูกนัยน์ตาที่เป็ นทรงกลมขนาดใหญ่กว่าตัว
ละครในเรื่ องที่มีอายุมากกว่า
251
3.6 เดธโน้ ต
“ตัวละครในเดธโน้ตก็เหมื อนมวยที ่ชกในวงแคบๆ” (อิศเรศ ทองปั สโณว์ , สัมภาษณ์, 15
สิงหาคม 2554)
ความหมายของมวยที่ชกในวงแคบตามคากล่าวข้ างต้ นของผู้แปลและกองบรรณาธิการ
สานักพิมพ์เนชัน่ เอ็ดดูเทนเมนท์ข้างต้ นหมายถึงวิธีการสร้ างตัวละครในเดธน้ ตที่มีตวั ละครไม่มาก
(มีตวั ละครหลัก 2 ฝ่ าย) แต่ทกุ ตัวละครก็มีจดุ เด่นมากพอจะดึงดูดผู้อ่าน (เหมือนเช่นนักมวยที่โดด
เด่นเป็ นสง่าบนเวทีให้ ผ้ ชู มเฝ้าติดตามไปจนจบเกม)
เดธโน้ ตจึงเป็ นเพียงเรื่ องเดียวที่มีตวั ละครน้ อยและเน้ นสร้ างคาแร็ คเตอร์ ภายนอกตัวละคร
โดยรวมให้ ไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะทุกตัวละครถูกสร้ างให้ เกิดความรู้ สึกเท่ หล่อ สวย ลึกลับ
แบบพังก์ (ตามที่กล่าวไปแล้ วในความพิเศษของตัวละคร) ทังพระเอกอย่ ้ างแอล ที่ผ้ เู ขียนวาดให้
ขอบตาล่างมีสีดา ผมดา รูปร่างค่อนข้ างสูง ผอม หรื อยางามิ ไลท์ ฝั่ งตัวร้ ายที่ผมสีน ้าตาลทอง
ก็หน้ าตาหล่อเหลา หุน่ สูง เพรี ยว ทังคู ้ เ่ รี ยกได้ วา่ มีโครงหน้ า และรูปร่างใกล้ เคียงกัน คือยังคง
255
ภาพประกอบ 93 ยมทูตลุคและเรมในเดธโน้ ต
ที่มา: http://jamaru.exteen.com/category/Jamaru-Story/page/5
ดังนันความต่
้ างที่เห็นได้ ชดั ของการออกแบบตัวละครในเดธโน้ ตจึงเกิดจาก “ความคิด”
“ความเชื่อ” ข้ างในตัวละครที่มีตอ่ คาว่า “ความถูกต้ อง” อันเป็ นแก่นแกนสาคัญของเรื่ อง จนเกิด
ตัวละครที่ตา่ งกันทางความคิดอย่างสุดขัวขึ ้ ้นมาอย่าง ยางามิ ไลท์ เจ้ าของโน้ ตมรณะที่ตงตน ั้
เป็ นศาลเตี ้ยสังหารอาชญากรด้ วยการเขียนชื่อลงไปในโน้ ตดังกล่าว เพราะเขาไม่เชื่อมัน่ ต่อระบบ
ยุตธิ รรมของสังคม ขณะเดียวกัน แอล ยอดนักสืบวัยรุ่นที่ได้ รับการยอมรับว่าเก่งกาจที่สดุ ใน
โลกก็เชื่อมัน่ ต่อระบบยุตธิ รรมของสังคมที่ตดั สินโดยตารวจ และผู้พิพากษา ดังนันด้
้ วยความ
ต่างทางความคิดนี่เองที่ผลักดันให้ เรื่ องราวดาเนินไปอย่างเข้ มข้ นโดยมีฉากการประลองสมองของ
ทังฝ่้ ายผู้ลา่ และผู้ถกู ล่าเป็ นจุดขาย
มาจนถึงตรงนี ้คงเห็นแล้ วว่าการ์ ตนู ที่นามาวิเคราะห์ทงั ้ 6 เรื่ องสร้ างความแตกต่างให้ กบั
ตัวละครต่างกันไป โดยเรื่ องที่มีตวั ละครกลุม่ จานวนมากอย่างวันพีซ นารูโตะ และดราก้ อนบอล
จาต้ องสร้ างตัวละครให้ ตา่ งตังแต่ ้ รูปลักษณ์ภายนอกเสียก่อน ดังนันจึ
้ งเกิดการกาหนด
ความสามารถพิเศษ อาวุธ ท่าไม้ ตายที่เป็ นแบบฉบับของตนเอง แต่ขณะเดียวกันการที่จะทาให้
ตัวละครเป็ นที่จดจา ประทับในความทรงจาได้ นนยั ั ้ งต้ องเสริมสร้ างนิสยั ใจคอที่ขดั แย้ ง หรื อ
สอดคล้ องกันกับรูปลักษณ์ภายนอกด้ วย เช่นผู้เฒ่าเต่าในดราก้ อนบอลเป็ นตาแก่ตวั เตี ้ย จอม
ลามก แต่แท้ จริงแล้ วเป็ นปรมาจารย์เยี่ยมยุทธ์ ส่วนนักสืบอันดับหนึง่ ของโลกอย่างแอลในเดธโน้ ต
กลับชอบนัง่ ยองๆ และขอบตาดาคล ้าให้ ความรู้สกึ เหมือนหนุม่ พังก์ (บทบาทและรูปลักษณ์
ภายนอกขัดแย้ งกับภายใน) หรื อตัวละครองค์กรแสงอุษาในนินจาคาถาฯ แทบทุกคนมีหน้ าตา
258
3. รสแห่ งความตลกขบขัน
นอกจากรสที่ทาให้ ผ้ อู ่านประทับใจจากความมุง่ มัน่ กล้ าหาญของตัวละครเอก และการ
สร้ างอัศจรรย์ใจผ่านโครงเรื่ อง และตัวละครที่มีมิติ ลึกลับ และแปลกใหม่นา่ ติดตามแล้ วยังมีรส
แห่งความตลกขบขัน สนุกสนาน หรื อ “หาสยรส” โดยพบมากในดราก้ อนบอล และวันพีซ ซึง่
มีจดุ ร่วมกันคือการวาดสัดส่วนตัวละครให้ “เกินจริง” โดยเฉพาะท่าทางการอ้ าปาก การวาดลูกตา
ให้ ใหญ่ผิดปกติซงึ่ ก็ถือเป็ นการสร้ างอารมณ์ขนั ที่เป็ นสากลผ่านการสื่อสารด้ วยภาพและลายเส้ น
ของตัวละครซึง่ ย่อมดีกว่าเป็ นมุขตลกที่อิงกับสังคม วัฒนธรรมของญี่ปนุ่ ซึง่ ก็ทาให้ การ์ ตนู ทังสอง
้
265
เรื่ องเข้ าถึงกลุม่ ผู้อา่ นได้ ในวงกว้ างโดยเฉพาะกลุม่ เด็กและเยาวชน นอกจากนี ้รสแห่งความขบขัน
ยังเกิดจากการสร้ างตัวละครฮีโร่ปลอม เหมือนเช่นมิสเตอร์ ซาตานในดราก้ อนบอล และตัวตลก
บากีใ้ นวันพีซ ซึง่ ที่แท้ จริงตัวละครทังคู ้ ต่ า่ งไร้ ฝีมือ แต่ด้วยโชคชะตาเล่นตลกจนจับพลัดจับผลูให้
ได้ หน้ าแทนพระเอก กลายเป็ นฮีโร่ที่สงั คมยกย่อง (ตามที่กล่าวไปแล้ วในหัวข้ อความแตกต่างของ
ตัวละคร)
แต่ในขณะที่ดราก้ อนบอล และวันพีซ เน้ นรสชาติของตวามตลกขบขัน แนวเรื่ องที่จริ งจังก็
ให้ “กรุณารส” หรื อการสร้ างความรู้สกึ โศกเศร้ า เห็นใจตัวละคร โดยเฉพาะในนินจาคาถาฯ และ
วันพีซ ซึง่ แสดงผ่านการสร้ างกลุม่ ตัวละครที่ ดเู ลวร้ าย (จากบรรทัดฐานของสังคม) ให้ กลายเป็ นตัว
ละครที่มีที่มาที่ไปของการกระทาชัว่ ร้ ายเหล่านัน้ เช่นการเป็ นยอดนักขโมยของนามิในวันพีซไม่ได้
เกิดจากจิตใจใฝ่ ร้ ายของเธอเอง แต่ที่เธอขโมยก็เพราะจาเป็ นต้ องนาเงินมาปลดแอกครอบครัว
หรื อการเป็ นคนเลือดเย็นของเพนในนินจาคาถาฯ ก็เป็ นเพราะถูกพ่อแม่ตวั เองเกลียดชัง และไม่มี
พื ้นที่ยืนในสังคมนัน่ เอง
4. รสแห่ งความรัก
และแน่นอนว่าอีกหนึง่ รสที่ขาดไม่ได้ ก็คือ รสแห่งความรักหรื อ “ศฤงคารรส” ซึง่ แม้ จะไม่มี
การสร้ างตัวละครเอกให้ หมกมุน่ กับเรื่ องความรัก หรื อการตามจีบนางเอก แต่ก็มีการกาหนด คู่
พระ-คูน่ าง ให้ เกิดขึ ้นในหลายเรื่ อง และสร้ างเงื่อนไขของความรักแตกต่างกันไป
4.1 รักเขาข้ างเดียว
เช่นในยอดนักสืบจิ๋วฯ ที่กาหนดให้ ตวั ละครมีความรักทังตั ้ วละครวัยเด็กประถม
อย่างในขบวนการนักสืบเยาวชน ที่สร้ างให้ เกิดความรักแบบเป็ นวงกลม คืออายูมิแอบชอบตัวเอก
อย่างโคนัน แต่มิซฮึ ิโกะแอบชอบอายูมิ ในขณะที่โคนันก็ไม่ได้ ร้ ูสึกใดใดกับเพื่อนตัวน้ อยของเขา
เลยนัน่ เพราะจิตใจที่แท้ จริงของโคนันซึง่ เติบโตเป็ นหนุม่ มัธยมอย่างชินอิจิได้ เทใจให้ กบั รันเพื่อน
สาวคนสนิทเสียแล้ ว ส่วนในนินจาคาถาฯ ก็ยงั คงใช้ สตู รความรักเป็ นวงกลมเช่นเดียวกับใน
ยอดนักสืบจิ๋วฯ นัน่ คือตัวเอกอย่างนารูโตะ หลงรักเพื่อนร่วมทีมเดียวกันอย่างซากุระ แต่ซากุระ
กลับชื่นชอบซาสึเกะเพื่อนร่วมทีมอีกคนหนึง่ ซึง่ ซาสึเกะเองก็ไม่ได้ แยแสต่อความรักแบบหนุม่ -สาว
เลย หรื อกระทัง่ ในทเวนตีฯ้ เองก็ยงั ปูความรักในวันเด็กของเคนจิกบั ยูคจิ ิ และทาให้ คน
อ่านแอบลุ้นอยู่บ้างกับการลงเอยของทังคู ้ ใ่ นยามเติบโตเป็ นผู้ใหญ่ (แต่ท้ายที่สดุ ผู้เขียนก็ไม่ได้ พดู
ถึงเรื่ องนี ้) แต่ในวันพีซกลับสร้ างให้ ตวั ละครเอกไม่ประสีประสากับความรัก ขณะเดียวกัน
กลับมีสาวสวยแสนเก่งกาจที่คนทังโลกต่ ้ างหมายปองอย่างโบอา แฮนค็อกมาหลงรักลูฟี่อย่าง
น่าเชื่อถือ (เพราะลูฟี่รู้ความลับของเธอที่เคยเป็ นทาสมาก่อนแต่กลับไม่แสดงทีทา่ หยามเหยียดแต่
266
กลับรักษาคาพูดช่วยปกปิ ดความลับให้ ) ซึง่ ก็ยิ่งทาให้ ลฟู ี่ เป็ นตัวละครเอกที่ “ครบรส” (ทังตลก ้ ทัง้
มุง่ มัน่ แถมยังเป็ นที่หมายปองของสาวสวยอันดับหนึง่ )
4.2 รู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้ หลอก
ขณะที่เดธโน้ ต ก็สร้ างตัวละครที่เฉยชาต่อความรักขึ ้นมาอย่างไลท์ แต่ก็สร้ างตัว
ละครสาวแสนน่ารัก และคาแร็คเตอร์ “แรง” แบบสาวพังก์อย่างมิสะให้ คลัง่ ไคล้ หลงใหลในตัวไลท์
ชนิดหัวปั กหัวปา นอกจากนี ้ยังสร้ างคิโยมิ ตัวละครผู้ประกาศสาวแสนเก่ง สวย และมัน่ ใจใน
ตัวเองแต่ก็ต้องสยบแทบเท้ าไลท์ ชายผู้มีอดุ มการณ์กวาดล้ างคนชัว่ ด้ วยเดธโน้ ต และท้ ายที่สดุ มิ
สะยอมลดอายุขยั ของตัวเองลงครึ่งหนึง่ เพี่อชายที่เธอรัก ขณะที่คโิ ยมินนต้ั ้ องพบกับความตาย
ซึง่ ก็ทาให้ เดธโน้ ตเป็ นเรื่ องเดียวที่ทาให้ สถานะของตัวละครหญิงต่าต้ อยกว่าเรื่ องอื่น เพราะทัง้
ความน่ารัก (ของมิสะ) หรื อความเป็ นสาวเก่ง (ของคิโยมิ) ต่างก็ยงั ไม่สามารถทาให้ ตนเองรอดพ้ น
จากการถูกผู้ชายจอมวางแผนอย่างไลท์หลอกใช้ ได้ ซึง่ ก็เป็ นการตอกย ้าความไม่เท่าเทียมกันของ
เพศหญิงที่ท้ายที่สดุ ก็ยงั คง (ถูกตีตราว่า) โง่เขลากว่าเพศชายอยู่วนั ยังค่า
4.3 รักต่างเผ่าพันธุ์
ส่วนดราก้ อนบอล แม้ ความรักของตัวเอกอย่างโงคูกบั จีจี ้จะไม่นา่ ลุ้น (เพราะ
เรื่ องราวกาหนดให้ ผ้ อู ่านรับรู้ภายหลังว่าทังคู้ แ่ ต่งงานมีลกู ด้ วยกันโดยข้ ามเรื่ องราว “ระหว่างกัน
และกัน” ของทังคู ้ )่ แต่ก็สร้ างรสแห่งรักที่ดไู ม่นา่ เป็ นไปได้ ให้ เป็ นไปได้ ขึ ้นมา (แต่ก็ยงั คงไม่นาเสนอ
เรื่ องราวการถักทอความรักของตัวละครอยูด่ ี) เมื่อคุริลิน เพื่อนซี ้ของโงคูที่ตวั เตี ้ย ไม่หล่อ ไม่เท่
(แถมยังไม่มีจมูก) กลับลงเอยกับหุ่นยนต์สาวแสนสวย และเฉยชา หรื อสาวบ้ าผู้ชายผู้เก่งเรื่ อง
เครื่ องยนต์กลไกอย่างบลูมา่ กลับลงเอยกับมนุษย์ตา่ งดาวชาวไซย่าแสนเลือดร้ อนอย่างเบจิต้า
บทที่ 6
เรื่อง แนวเรื่อง
ดราก้ อนบอล ต่อสู้ แฟนตาซี ผจญภัย ตลก
วันพีซ แฟนตาซี ผจญภัย ต่อสู้ ตลก ดราม่า
นินจาคาถาฯ ต่อสู้ แฟนตาซี ดราม่า
เดธโน้ ต ลึกลับ แฟนตาซี ต่อสู้
ทเวนตี ้ฯ ลึกลับ แฟนตาซี ดราม่า ต่อสู้
ยอดนักสืบจิ๋วฯ สืบสวน ต่อสู้ แฟนตาซี
จากโครงเรื่ องทังหมดจะพบว่
้ าลักษณะของเรื่ องที่มีความสมจริง มักจะมีความ
ซับซ้ อนลึกซึ ้งของโครงเรื่ อง และมีวิธีการสร้ างปมหลัก และปมรองเอาไว้ คอ่ นข้ างมาก รวมทัง้
275
อย่างมาก ทังเมื ้ องแห่งทะเลทราย เกาะแห่งท้ องฟ้า เมืองซอมบี ้ หรื อแม้ แต่คกุ ใต้ ทะเล
โดยจุดเด่นของการสร้ างฉากในวันพีซคือการสร้ างรายละเอียดประกอบฉากเพื่อเพิ่มความ
น่าเชื่อถือให้ กบั ฉากนันๆ้
ขณะที่นินจาคาถาฯ ก็ได้ สร้ างฉาก-เรื่ องราวที่วา่ ด้ วย “ความเป็ นอยูข่ อง
โลกนินจา” ที่ไม่ได้ เกี่ยวข้ องกับชีวิตมนุษย์ในโลกแห่งความเป็ นจริง ซึง่ ลบล้ างภาพจาที่เราเคยคุ้น
กับเรื่ องราวของนินจาที่ต้องพรางตัวอยูใ่ นสังคมมนุษย์ปกติโดยสิ ้นเชิง ดังนันเมื ้ ่อทิศทางของเรื่ อง
ไม่จาเป็ นต้ องสร้ างฉาก-สถานการณ์ให้ นินจาต้ องหลบๆ ซ่อนๆ กับการต้ องทาภารกิจลับ ภาพที่
เราคุ้นชินกับการเห็นนินจาทาภารกิจภายใต้ เงามืด ฉากกลางคืน หรื อฉากการพรางตัวใต้ น ้าจึง
แทบไม่ปรากฏอยูใ่ นการ์ ตนู เรื่ องนี ้ เพราะผู้เขียนสามารถสร้ างฉากสถานการณ์ได้ อย่างเปิ ดเผย
ในที่โล่งแจ้ ง และทาให้ ผ้ อู า่ นได้ รับรู้ “ตัวตนของนินจา” ที่ทางานกันเป็ นทีม และออกมาต่อสู้กนั
อย่างเปิ ดเผย ซึง่ ฉาก-สถานการณ์ที่เปิ ดโอกาสให้ นินจาได้ เปิ ดเผยตัวตนในสังคมแบบนี ้ย่อมสร้ าง
ความรู้สกึ แปลกใหม่ให้ แก่ผ้ อู า่ นได้ ในแบบที่ไม่เคยพบเห็นจากแนวเรื่ องแบบนินจาที่ไหนมาก่อน
ส่วนความโดดเด่นของฉากในดราก้ อนบอลคือมีการเปลี่ยนแปลงฉาก
เหตุการณ์ชนิดที่เรี ยกได้ วา่ ไม่มีการหยุดนิ่ง ณ ฉากใดฉากหนึง่ เป็ นเวลานานจนทาให้ คนอ่านรู้สึก
เบื่อเลย โดยมีการโยกย้ ายสถานที่จากป่ า สูเ่ มือง ไปยังใต้ ทะเล หอคอยสูงเสียดฟ้า ปรโลก ไป
จนถึงดาวเคราะห์นอกโลก ซึง่ ก็เป็ นการสร้ างฉากรองรับตัวละครและเหตุการณ์ได้ อย่างน่าเชื่อถือ
นัน่ เพราะตัวละครเอกอย่างโงคูก็มิใช่มนุษย์แต่เป็ นมนุษย์ตา่ งดาว (ชาวไซย่า) เช่นกัน
1.1.5.2 กลุม่ ที่สร้ างฉากเหตุการณ์ให้ เกิดขึ ้นบนโลกแห่งความเป็ นจริง
ได้ แก่ทเวนตี ้ฯ เดธโน้ ต และยอดนักสืบจิ๋วฯ โดยความยากของเรื่ องที่ถกู จินตนาการขึ ้นโดย
อาศัยฉาก-เหตุการณ์เกิดขึ ้นบนโลกมนุษย์เหมือนเช่นทเวนตี ้ฯ และเดธโน้ ตนันคื ้ อการ “สร้ างความ
น่าเชื่อถือ” ของเรื่ องราว เพราะผู้เขียนต้ องนาเอา “เรื่ องไม่จริง” (หรื อเรื่ องที่โอกาสเกิดขึ ้นได้ ยาก
มาก) มาหลอมรวมให้ เข้ ากับ “เรื่ องจริง” (หรื อเรื่ องที่คนส่วนใหญ่ในสังคมเชื่อ) ต่างจากเรื่ อง
จินตนาการที่ไม่อิงกับฉากสถานการณ์จริงอย่างดราก้ อนบอลหรื อวันพีซที่ไม่ต้องกังวลกับ “การรับรู้
ความจริง” ของผู้อ่าน แต่ทงทเวนตี ั้ ้ฯ และเดธโน้ ตก็สามารถสร้ างฉาก-สถานการณ์ได้ นา่ สนใจ
โดยทเวนตี ้ฯ เน้ นการสร้ างฉากหลักในอดีตเพื่อทาให้ ผ้ อู า่ นวัยผู้ใหญ่ได้ มีโอกาสย้ อนเวลาหวน
ราลึกอดีต (nostalgia) ได้ เป็ นอย่างดี ส่วนในเดธโน้ ตก็ให้ ภาพแปลกตาของเรื่ องราว
การต่อสู้เพราะภาพฉาก-สถานการณ์ในการ์ ตนู เรื่ องนี ้ เน้ นความเป็ น “เมือง” ของญี่ปนผ่ ุ่ านตึกราม
บ้ านช่อง ฉากรถไฟฟ้าใต้ ดนิ หรื อห้ องสี่เหลี่ยมแคบๆ ซึ่งเป็ นสถานที่ที่เขาสัง่ การฆ่าคน (แค่เพียง
จรดปากกาเขียนลงสมุดโน้ ตเท่านัน) ้ ซึง่ กลายเป็ นเสน่ห์ให้ กบั การ์ ตนู เรื่ องนี ้เพราะเดธโน้ ตได้
281
แสดงให้ เราเห็นว่าการ์ ตนู ต่อสู้ที่สนุก ไม่จาเป็ นต้ องให้ ตวั ละครออกเดินทางไปนอกโลก และไม่
จาเป็ นต้ องเนรมิตรายละเอียดประกอบฉากที่เหนือจินตนาการ แต่ฉากซ ้าซากจาเจที่ เราชินตากัน
อยูแ่ บบภาพเมืองก็เสริมสร้ างเรื่ องราวให้ สนุกและน่าเชื่อถือได้ เช่นกัน หนาซ ้ายังสอดคล้ องกับ
เนื ้อหาของเรื่ องที่กล่าวถึงความคิด สภาพจิตใจของคนเมืองเหมือนเช่นเด็กหนุม่ วัยรุ่นซึง่ เป็ น ตัวเอก
ของเรื่ องอีกด้ วย
1.1.5.3 การออกแบบฉากต่อสู้
และสาหรับการ์ ตนู ที่มีเรื่ องราวการต่อสู้เป็ นปมขัดแย้ งหลักของเรื่ องแล้ ว
การออกแบบ “ฉาก-สถานการณ์การต่อสู้” ก็เป็ นหัวใจสาคัญที่จะช่วยสร้ างสีสนั ให้ ผ้ อู ่าน ซึง่ เรื่ องที่
ทาได้ โดดเด่นอย่างมากก็คือ ดราก้ อนบอล ซึง่ นอกจากจะทาให้ ผ้ อู ่านสนุกกับการสร้ างฉากต่อสู้
แบบตรงไปตรงมาด้ วยการสร้ างสถานการณ์ให้ มีการแข่งขัน “ศึกประลองยุทธ์” แล้ ว ยังเกิดจาก
การที่ผ้ เู ขียนได้ สร้ างสถานการณ์ให้ ตวั ละครเอกอย่างโงคูที่ฝีมือแข็งแกร่งขึ ้นหลังจากได้ ตวั ช่วยทัง้
จาก “ผู้ชว่ ยเหลือ” เช่นพระเจ้ า หรื อจาก ”พลังพิเศษ” เช่นพลังของร่างแปลงซูเปอร์ ไซย่า
พร้ อมๆ กับการ “ฝ่ าด่าน” เอาชนะคูต่ อ่ สู้ที่เก่งยิ่งขึ ้นเป็ นลาดับในด่านต่อๆ ไป การ “ฝ่ าด่าน”
หรื อข้ ามผ่านอุปสรรคของโงคูจงึ เปรี ยบเหมือนการที่ผ้ อู า่ นได้ เล่นเกมคอมพิวเตอร์ ประเภทต่อสู้-ฝ่ า
ด่านไปเจอคูแ่ ข่งที่เก่งกาจขึ ้นเรื่ อยๆ ซึง่ เป็ นสิ่งที่เด็กส่วนใหญ่ชื่นชอบและเข้ าถึงได้ ง่า ย ดังนัน้
เมื่อการ์ ตนู เรื่ องนี ้มีทงความคิ
ั้ ดสร้ างสรรค์ในการสร้ างด่านต่างๆ แถมยังผสมผสานกับวิธีการ
เดินเรื่ องที่ฉับไว นี่จงึ น่าจะเป็ นสาเหตุให้ ฉากต่อสู้ในดราก้ อนบอลดึงดูดความน่าสนใจจากผู้อ่าน
รุ่นเยาว์ได้ ไม่ยาก นอกจากนี ้การสร้ างสถานการณ์การต่อสู้เป็ นทีม ระหว่างทีมของพระเอกกับ
ผู้ร้าย เช่นฉากการต่อสู้เซลเกม โดยตัวละครแต่ละฝ่ ายต้ องขึ ้นมาต่อสู้ตวั ต่อตัวจนกว่าจะพบผู้ชนะ
(เหมือนการแข่งมวยปล ้า) ก็ยงั ตอกย ้าความเป็ นการ์ ตนู -เกมของดราก้ อนบอล ซึง่ แน่นอนว่าช่วย
ให้ ผ้ อู า่ นชื่นชอบ “เกมการต่อสู้” ในดราก้ อนบอลมากขึ ้นอีก
ขณะที่ฉากต่อสู้ในนินจาคาถาฯ นันเป็ ้ นจุดขายของการ์ ตนู เรื่ องนี ้เลย
ทีเดียว เพราะนอกจากจะมีการต่อสู้แบบ “ตัวต่อตัว” ในฉากการประกบคูแ่ ข่งขันเพื่อสอบเป็ น
นินจาระดับโรงเรี ยนที่ได้ รับอิทธิพลมาจากฉากต่อสู้ในดราก้ อนบอลแล้ ว ยังมีฉากต่อ สู้ของนินจาที่
ปฏิบตั ภิ ารกิจจริงที่สร้ างความตื่นตาตื่นใจให้ ผ้ อู า่ นอย่างมาก เพราะนินจาคาถาฯ ทาให้ ผ้ อู ่านได้
เห็นภาพการทางานของนินจาที่แท้ จริงที่มีทงต่ ั ้ อสู้แบบกลุ่ม แบบตัวต่อตัว แถมยังมีการ “อัญเชิญ”
สัตว์พิเศษ มาช่วยในฉากสู้รบ รวมทังในบางครั ้ ง้ ยังมีพลังของ ”สัตว์หาง” อย่างจิ ้งจอกเก้ าหางที่
ถูกผนึกเอาไว้ ในร่างกายผุดโผล่ขึ ้นมาช่วยในฉากต่อสู้อีกด้ วย ดังนันจึ ้ งเรี ยกได้ ว่า “ฉากต่อสู้” ของ
นารูโตะนัน้ “ครบรส” จนสร้ างความอลังการและสร้ างผลลัพธ์ที่ยากจะคาดเดาอีกด้ วย
282
1.1.6 สัญลักษณ์
แม้ การ์ ตนู จะตอบสนองกลุม่ ผู้อา่ นเยาวชนเป็ นหลัก แต่สัญลักษณ์ในเรื่ องราวที่
ต้ องอาศัยการสังเกต-ขบคิดเพื่อตีความถึงนัยยะบางอย่างที่ผ้ เู ขียนต้ องการจะสื่อก็ยงั มี ปรากฏไม่
น้ อยโดยสัญลักษณ์ที่นา่ สนใจก็เช่น
1.1.6.1 ทเวนตีฯ้ : พลังแห่ งศิลปะ
ความเชื่อของผู้เขียนอย่างนาโอกิ อุราซาว่าในเรื่ องการจัดการกับปั ญหา
ด้ วยความไม่รุนแรง หรื อด้ วยสันติวิธี (ตามที่กล่าวไปในหัวข้ อแก่นเรื่ อง) ยังถูกนาเสนอผ่าน
สัญลักษณ์อีกอย่างหนึง่ นัน่ คือ “ดนตรี ” โดยปรากฏอยูใ่ นสัญลักษณ์ตลอดทังเรื ้ ่ อง ไม่วา่ จะ
เป็ นชื่อเรื่ องของการ์ ตนู “20th Century Boys ” ก็มาจากชื่อเพลงของวงดนตรี ร็อคชาวอังกฤษ T-
Rex และเพลงดังกล่าวก็ถกู นามาใช้ ในการ์ ตนู เรื่ องนี ้พร้ อมกับเฉลยในตอนท้ ายว่า เพลงเพียงหนึง่
เพลงก็สามารถเปลี่ยนแปลง-เยียวยาจิตใจคนฟั งได้ เพราะเมื่อตัวละครอย่างคัตสึมาตะคุง
(“เพื่อน” คนใหม่) ที่กาลังกระโดดตึกดาดฟ้าโรงเรี ยนอยูน่ นได้ ั ้ ฟังเพลง 20th Century Boy (ที่เคนจิ
แอบเอามาออกอากาศ) เพลงเพลงนี ้กลับทาให้ คตั สึมาตะคุงเปลี่ยนใจไม่ฆา่ ตัวตายได้
นอกจากนี ้ตัวละครเอกอย่างเคนจิ ก็ได้ แต่งเพลงที่แทบจะไม่มีเนื ้อหาให้ จบั ต้ องได้ (เกือบทังเพลงก็ ้
แค่ร้องว่า “กูตาลาลา ซือตาลาลา”) แต่เพลงนี ้กลับทาให้ ผ้ คู นที่ได้ ฟังเกิดความรู้สกึ แช่มชื่น มีพลัง
ขึ ้นมา ดังนันผู ้ ้ เขียนจึงทาให้ ผ้ อู า่ นคาดเดาเอาเองว่าเพราะนี่คือ “ดนตรี ที่เล่นด้ วยใจ” ไม่วา่ จะ
เพราะหรื อไม่ คนฟั งย่อมรับรู้ได้ ถึงพลังที่สื่อถึงการ “ให้ กาลังใจ” ผู้คนที่กาลังตกอยู่ในภาวะหดหู่
สิ ้นหวังกับการนอนรอวันตายจากไวรัสฝี มือ “เพื่อน” อีกทังในเรื
้ ่ องนี ้ยังได้ พดู ถึงการจัด
คอนเสิร์ตของเคนจิ โดยเชื่อว่าพลังดึงดูดของคอนเสิร์ต ย่อมจะช่วยให้ คนมารวมตัวกันเพื่อแสดง
พลังบางอย่าง และแม้ วา่ ผลลัพธ์ที่เกิดกับคนที่มาดูคอนเสิร์ตจะไม่ได้ ชว่ ยยับยังให้ ้ “เพื่อน”
ปล่อยไวรัสก็ตาม แต่ท้ายที่สดุ สิ่งสาคัญกว่านันก็ ้ คือผู้คนต่างได้ รับความ “อิ่มใจ” กลับไป “เติม
เต็ม” ชีวิตในช่วงเวลาที่จิตใจแห้ งแล้ งจากภาวะของโลกที่ถกู ปิ ดกันสื ้ ่อและศิลปะ (เพราะในเรื่ อง
เด็กๆ ถูกปิ ดกันจากแบบเรี
้ ยนจอมปลอม และนักเขียนการ์ ตนู เองก็ถกู ห้ ามเขียนการ์ ตนู ที่เร้ า
อารมณ์ผ้ อู ่าน เป็ นต้ น)
ไม่บอ่ ยนักที่เราจะเห็นการ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่แปลเป็ นภาษาไทยให้ ความสาคัญ
กับ “ดนตรี ” รวมถึงสื่อ-ศิลปะอื่นๆ ว่าช่วยจรรโลงจิตใจ จรรโลงโลกได้ การชูประเด็นดังกล่าว
ผ่านสัญญะต่างๆ ที่กล่าวมาในทเวนตี ้ฯ นอกจากจะช่วยยกคุณค่าของดนตรี แล้ ว ยังยกคุณค่า
ของสื่อและศิลปะรวมทังสื ้ ่อการ์ ตนู เองว่ามีพลังมากพอที่จะขับเคลื่อนมวลชนได้ เช่นกัน
1.1.6.2 สัญญะแห่ งอาวุธ
เดธโน้ ต: ไม่ ใช่ แค่ สมุดโน้ ตแต่ เป็ นตัวแทนแห่ งพลังอานาจ
283
ถูกล่าอย่าง (ยางามิ ไลท์) ในสัดส่วนที่ใกล้ เคียงกัน ทาให้ ผ้ อู ่านไม่ร้ ูสกึ เข้ าข้ างฝ่ ายใดฝ่ ายหนึง่
เป็ นพิเศษ
และในบรรดาทัง้ 6 เรื่ อง เรื่ องที่ให้ ความสาคัญกับมุมมองการเล่ามากที่สดุ ก็คือ
ทเวนตีฯ้ ซึง่ ใช้ กลวิธีเล่าเรื่ องผ่านมุมมองบุคคลที่ 3 เป็ นหลัก โดยการเล่าผ่านบุคคลที่ 3 นัน้
มักทาให้ เกิดความรู้สกึ “เหินห่าง” จากตัวละครเอกมากกว่าการเล่าผ่านบุคคลที่ 1 หรื อผ่านตัว
ละครเอกของเรื่ อง แต่น่าแปลกที่การเล่าผ่านบุคคลที่ 3 ของทเวนตี ้ฯ ยังสามารถสร้ างความรู้สกึ
“รัก” และ “เอาใจช่วย” ตัวละครหลักได้ ดีไม่แพ้ การเล่าผ่านสายตาของตัวละครเอกเอง เช่น
มุมมองการเล่าเรื่ องผ่านเพลย์บอยคนหนึง่ ที่ตามสังเกตการณ์ตวั ละครเอกอย่างเคนจิ ซึง่ เขาพบว่า
เคนจินนได้
ั ้ ทาความดีอยู่ตลอดเวลาจนทาให้ เขายกย่องเคนจิวา่ เป็ นตัวแทนของ “ความยุตธิ รรม”
การเล่าจากบุคคลที่ 3 ในทเวนตี ้ฯ จึงเป็ นการสร้ างบรรยากาศการเล่าเรื่ องด้ วย
มุมมองที่แปลกใหม่ในแบบที่การ์ ตนู ส่วนใหญ่ไม่คอ่ ยทากัน นัน่ คือให้ ความสาคัญกับการเล่าโดย
ใช้ บคุ คลที่ 3 (ตัวละครประกอบ) เพื่อเล่าความเป็ นไปของบุคคลที่ 1 (ตัวละครหลัก) ซึง่
นอกจากจะสร้ างความรู้สกึ ที่สด ใหม่แล้ ว ยังมีส่วนสาคัญอย่างยิ่งในการสร้ าง “ความเป็ นฮีโร่”
ของตัวละครหลักๆ ในเรื่ องได้ เป็ นอย่างดี เพราะการนาเสนอความรู้สกึ นึกคิดของตัวละคร
ประกอบ (มุมมองบุคคลที่ 3) ทาให้ ผ้ อู า่ นได้ รับรู้ความรู้สกึ ของผู้คนรอบข้ างที่มีตอ่ ตัวละครหลัก
ดังนันการที
้ ่ตวั ละครประกอบแสดงอาการยกย่อง เชิดชูการกระทาของตัวละครหลักจึงน่าเชื่อถือ
กว่าให้ ตวั ละครเอกพูดยกย่องตัวเอง และแน่นอนว่าดีกว่าการให้ ผ้ อู ่านรับรู้ความเป็ นฮีโร่ของตัว
ละครเอาเองผ่านการกระทาแบบตรงไปตรงมาด้ วยเช่นกัน
คล้ ายซีรี่ส์ และภาพยนตร์ อเมริกนั จึงทาให้ ในทเวนตี ้ฯ ใช้ มมุ กล้ องที่หลากหลายกว่าการ์ ตนู เรื่ อง
อื่นๆ โดยเฉพาะการเลือกใช้ มมุ ที่สร้ างบรรยากาศ “ชวนให้ สงสัย” เช่นมุมแอบดู เพื่อสร้ าง
อารมณ์ร่วมให้ ผ้ อู า่ นตื่นเต้ นกับเหตุการณ์ที่กาลังเกิดขึ ้น นอกจากนี ้ยังใช้ การตัดภาพ และการ
เปลี่ยนขนาดภาพทังระยะไกล- ้ ใกล้ หรื อตัดไปที่องค์ประกอบอื่นๆ ในฉาก เพื่อช่วยเร้ าอารมณ์
ผู้อา่ นทดแทนความนิ่งของตัวละครได้ เป็ นอย่างดี
วันพีซ: มุมแปลกตาสร้ างพลังให้ เรื่ องราว
วันพีซขึ ้นชื่อว่าเป็ นการ์ ตนู ที่นิยมเขียนมุมภาพแปลกๆ หวือหวา เปรี ยบได้ กบั การ
ใช้ เทคนิคการถ่ายภาพ เช่น การใช้ มมุ มองแบบตาปลา หรื อมุมมองจากกายภาพที่แปลกประหลาด
ของตัวละคร เพราะตัวเอกอย่างลูฟี่ที่มีร่างกายเป็ นยางยืดก็จะสามารถสร้ างมุมมองที่แปลก
ประหลาดกว่าตัวละครเรื่ องอื่น โดยมักจะมีการเปลี่ยนมุมมองภาพ และตัดภาพบ่อยครัง้ ในช่วง
ฉากต่อสู้ ซึง่ การปรับเปลี่ยนมุมมองของการ์ ตนู เรื่ องนี ้จึงทาให้ ผ้ อู า่ นรู้สกึ ถึงความเคลื่อนไหว
ความเร็ว ของตัวละคร ซึง่ ก็ทาให้ เรื่ องราวดูกระชับ ฉับไวได้ เป็ นอย่างดี
1.2.4 การจัดวางฉากและการจัดวางองค์ประกอบอื่นๆในกรอบ/ช่องการ์ ตนู
จากทังหมด้ 6 เรื่ อง มีการจัดวางฉากที่น่าสนใจดังนี ้
ทเวนตี ้ฯ : จัดวางฉากแต่พอดีเสริมรับเรื่ องราว
การจัดวางในฉาก การวางองค์ประกอบต่างๆ ในกรอบภาพของการ์ ตนู เรื่ องนี ้
สามารถคุมโทนของเรื่ องที่สร้ างปมลึกลับอยู่ตลอดเวลาได้ อย่างดี โดยทังจ ้ านวนของบอลลูนที่เป็ น
บทสนทนาของตัวละคร รายละเอียดของคนและสิ่งของในฉากที่ไม่ได้ มีจานวนมาก ต่างล้ วนเสริม
แต่งความรู้สกึ โดดเดี่ยว เปลี่ยวเหงาของตัวละครที่อยูใ่ นภาวะ “ครุ่นคิด” ถึงปั ญหาที่เกิดขึ ้น ซึง่ ก็
ส่งผลให้ ผ้ อู า่ นได้ “ครุ่นคิด” และ “ใคร่ครวญ” ถึงความคิด จิตใจของตัวละครตามไปด้ วย จึงเรี ยก
ได้ วา่ การจัดวางองค์ประกอบของภาพ (รวมทังการใช้ ้ มมุ กล้ อง) ในการ์ ตนู เรื่ องนี ้ผ่านกระบวนการ
คิดเพื่อสื่อความหมายแก่ผ้ ชู มมาอย่างดี อีกทังยั ้ งสอดรับกับแนวของเรื่ องอย่างพอเหมาะ
ดราก้ อนบอล: ความเรี ยบง่ายที่ไม่เรี ยบง่าย
“ความเรี ยบง่ายที่ไม่เรี ยบง่าย” คงเป็ นนิยามสาหรับการจัดวางองค์ประกอบใน
ฉาก และกรอบภาพในการ์ ตนู ของโทริ ยาม่า อากิระได้ เป็ นอย่างดี เพราะนอกจากตัวละครจะดู
เรี ยบง่ายเพราะมีลายเส้ นกลมมนเป็ นหลักแล้ ว องค์ประกอบอื่นๆ ในฉากเช่นก้ อนเมฆ หรื อต้ นไม้ ก็
ยังเรี ยบง่าย สอดคล้ องกับเรื่ องราวที่เป็ นเรื่ องต่อสู้ที่ไม่มีโครงเรื่ องซับซ้ อน นอกจากความเรี ยบ
ง่ายในฉากแล้ วอากิระยังใส่ความเป็ นตัวตนลงไปในฉากเพื่อแสดงความสามารถด้ านการวาด
เครื่ องยนต์กลไก และตัวละครสัตว์ประหลาดแปลกตาอีกด้ วย ซึง่ ความถนัดในสองสิ่งนี ้ยังช่วย
288
2.1 ประเภทตัวละคร
2.2 ความพิเศษของตัวละคร
2.3 ความแตกต่างหลากหลายของตัวละคร
2.4 การกระจายความสาคัญและการสร้ างความสัมพันธ์ของตัวละคร
2.1 ประเภทตัวละคร
2.1.1 ประเภทตัวละครที่พิจารณาจากจานวนของตัวละคร
ตัวละครกลุม่ จากกลุม่ ตัวอย่าง 6 เรื่ อง มีการสร้ างตัวละครแบบกลุม่ มากถึง 4
เรื่ อง คือดราก้ อนบอล ทเวนตี ้ฯ วันพีซ และนารูโตะ โดย 2 เรื่ องแรกคือดราก้ อนบอล กับทเวนตี ้ฯ
สร้ างตัวละครกลุม่ ฝ่ ายตัวเอกเพียงด้ านเดียว ในขณะที่ฝ่ายตัวร้ าย (หรื อฝ่ ายตรงกันข้ ามกับตัว
เอก) เป็ นตัวละครเดี่ยว ขณะที่วนั พีซ และนารูโตะสร้ างตัวละครกลุม่ ทังฝั ้ ่ งตัวเอกและตัวร้ าย
โดยการสร้ างตัวละครกลุม่ ในวันพีซ และนินจาคาถาฯ น่าสนใจตรงกาหนดรูปแบบที่ง่ายต่อการ
จดจา เช่นในวันพีซมีการกาหนด code name เรี ยงลาดับความเก่งคือตังแต่ ้ มิสเตอร์ ซีโร่ไปจนถึง
มิสเตอร์ ไฟว์ (0-5) เป็ นต้ น
2.1.2 ประเภทตัวละครที่พจิ ารณาจากมิตแิ ละพัฒนาการของตัวละคร
2.1.2.1 ตัวละครแบบกลม
ความกลมของตัวละคร หรื อความเป็ นคนไม่สมบูรณ์แบบในการ์ ตนู ทัง้ 3
เรื่ องคือ ทเวนตี ้ฯ วันพีซ และนินจาคาถาฯ โดยทเวนตีฯ้ นันเน้ ้ นสร้ างตัวละครที่เป็ น “มนุษย์จริง”
โดยถอดแบบจากมนุษย์ในสังคมญี่ปนปั ุ่ จจุบนั เพื่อสร้ างความรู้สกึ ร่วมจากกลุม่ คนอ่านโดยเฉพาะ
ผู้ใหญ่ ส่วนทางด้ านวันพีซ และนินจาคาถาฯ แม้ ตวั ละครจะมีพฒ ั นาการไม่มากนัก แต่ตวั
ละครต่างมีมิตทิ ี่นา่ สนใจ เพราะใช้ วิธีการสร้ างปมในจิตใจผ่าน “อดีต” อันเจ็บปวดจนทาให้
ความรู้สกึ ในใจตัวละครแหว่งวิ่น และส่งผลต่อนิสยั ใจคอ รวมทังการกระท ้ า ซึง่ ทาให้ ผ้ อู า่ นรู้สกึ
เข้ าใจ เห็นใจ และเข้ าข้ างตัวละครได้ ง่าย
2.1.2.2 ตัวละครแบบแบน
ตัวละครในดราก้ อนบอล เดธโน้ ต และยอดนักสืบจิ๋วฯ ไม่ได้ มีมิติ
ซับซ้ อนมากนัก นัน่ เพราะผู้เขียนไม่ได้ เปิ ดพื ้นที่ให้ ตวั ละครได้ แสดงอารมณ์ ความรู้สกึ นึกคิด
เท่าที่ควร เนื่องจากทังดราก้
้ อนบอลและเดธโน้ ตเน้ นการประลองฝี มือในฉากต่อสู้เป็ นหลัก
เช่นเดียวกับยอดนักสืบจิ๋วฯ ก็มงุ่ เน้ นให้ พระเอกแสดงความสามารถด้ านการไขคดี ดังนันตั ้ ว
ละครเอกแบบแบนที่ไม่คอ่ ยจะมีพฒ ั นาการ และไม่คอ่ ยยอมให้ ผ้ อู า่ นเห็นประวัตชิ ีวิต ความคิด
290
แล้ ว ความคิด จิตใจภายในก็ไม่ได้ มงุ่ มัน่ เผชิญหน้ ากับคูต่ อ่ สู้ (“เพื่อน”) มากมายนัก ดังนัน้
พระเอกแบบเคนจิแม้ ไม่สามารถสร้ างความรู้สกึ หวือหวาในยามต้ องต่อสู้กบั อุปสรรคหรื อเหล่าร้ าย
แต่ผ้ อู ่านกลับเอาใจช่วยให้ เขาฟั นฝ่ าอุปสรรคมากกว่าพระเอกประเภทเหนือมนุษย์เพราะเขาไม่
สามารถสร้ างความคาดไม่ถึงได้ จากพลังลี ้ลับที่แฝงในร่างกาย และไม่มีอาวุธพิเศษใดเป็ นตัวช่วย
แต่ต้องอาศัยพลังใจ และความสามารถในการโน้ มน้ าวใจให้ ศตั รูยอมรับในความเห็นของเขาแทน
พระเอกที่เริ่มจาก 0/ พระเอกที่เริ่มจาก 10
หากจะแยกแยะพระเอกตามพัฒนาการความสามารถก็อาจแบ่งได้ เป็ น 2
กลุม่ คือ พระเอกที่ไม่ได้ เก่งตังแต่ ้ แรกเริ่ม หรื อพระเอกที่เริ่ มต้ นจากศูนย์ กับพระเอกที่เก่งตังแต่ ้
แรกเริ่ม หรื อพระเอกที่เริ่มต้ นจาก 10 ซึง่ พระเอกที่เริ่มต้ นจากศูนย์หรื อไม่มีความสามารถติดตัว
เลยนันก็ ้ คือนารู โตะ ในนินจาคาถาฯ และลูฟ่ ี ในวันพีซ ซึง่ มีเพียงกาลังใจมุง่ มัน่ อยากจะเป็ นสุด
ยอดนินจาและสุดยอดโจรสลัดเท่านัน้ ความสนุกสนานของการติดตามตัวละครเอกทังสองตั ้ วนี ้
จึงเป็ นการค่อยๆ เติบโต เก่งกาจไปกับตัวละคร ซึง่ โงคู ในดราก้ อนบอลเองก็อาจจัดอยูใ่ นกลุม่
นี ้ด้ วยเช่นกัน แต่โงคูนนเริ ั ้ ่มต้ นจากการมีฝีมือติดตัวอยู่บ้างและก็คอ่ ยๆ พัฒนาฝี มืออย่างรวดเร็ว
จนผู้อา่ นแทบเดาไม่ออกว่าผู้เขียนจะสร้ างสถานการณ์ หรื อศัตรูที่เก่งกาจมาจากไหนเพื่อแสดงถึง
ความเก่งของโงคูที่มากขึ ้นทุกขณะ ส่วนพระเอกที่เก่งตังแต่
้ แรกเริ่ม หรื อเริ่มต้ นจาก 10
และไม่ได้ มีพฒ ั นาการในด้ านความสามารถก็คือโคนัน จากยอดนักสืบจิ๋วฯ และแอลกับไลท์
จากเดธโน้ ต เพราะทังสองเรื ้ ่ องมุง่ เน้ นไปที่แนวการสืบสวนสอบสวน จึงจาเป็ นต้ องสร้ างตัวละคร
เอกที่เก่งกาจอยู่แล้ วตังแต่ ้ เปิ ดเรื่ องเพื่อสร้ างความน่าเชื่อถือในการสืบคดี -คลี่คลายปม
มีพระเอกเพียงเรื่ องเดียวคือเคนจิ จากทเวนตีฯ้ ที่ไม่อาจจัดเข้ าพวกได้
เพราะเคนจิไม่ได้ เก่งกาจตังแต่ ้ เปิ ดเรื่ อง และเมื่อจบเรื่ อง เขาก็ไม่ได้ เก่งกาจมากขึ ้นเช่นกัน นัน่
เพราะความเป็ นพระเอกของเคนจิไม่ได้ เกิดจากการเชิดชูประเด็นเรื่ อง “ความเก่งกาจ” ด้ านการ
ต่อสู้ทางร่างกายหรื อทางความคิด แต่ความเป็ นพระเอกของเคนจิคือการเผยให้ เห็นถึงแง่มมุ ของ
คนธรรมดาๆ ที่กล้ ารับผิดชอบในสิ่งที่ก่อไว้ ในอดีตเท่านันเอง ้
พระเอกที่เป็ นฝ่ ายกระทาและถูกกระทา
การ์ ตนู โดยส่วนใหญ่ที่มีพระเอกชนิดเหนือมนุษย์ และ/หรื อเก่งตังแต่ ้
เปิ ดเรื่ องมักเป็ นพระเอกที่เป็ นฝ่ ายกระทา คือต่อสู้ (ทังทางร่ ้ างกาย จิตใจ) ได้ อย่างมาดมัน่ และ
เอาชนะอุปสรรคของเรื่ องได้ ไม่ยากเย็นนัก ซึง่ ก็คือพระเอกอย่างแอล-ไลท์ ในเดธโน้ ต โคนัน
ในยอดนักสืบจิ๋วฯ และโงคูในดราก้ อนบอล พระเอกที่เป็ นฝ่ ายกระทาเหล่านี ้มักเป็ น
วีรบุรุษที่ทาให้ ผ้ อู า่ นใฝ่ ฝั นอยากเป็ นแบบนี ้บ้ างแม้ ร้ ูดีวา่ “เป็ นไปไม่ได้ ” ก็ตาม ส่วนพระเอกที่ถกู
292
*
เนื่องจากตัวละครในเดธโน้ ตต่างมีเหตุผลในการกระทา (ทังท ้ าดีและเลวตามบรรทัดฐาน
สังคม) จนยากจะแบ่งแยกว่าใครเป็ นพระเอก-ผู้ร้าย ดังนันการก ้ าหนดบทบาทพระเอก-ผู้ร้าย ของเดธโน้ ตในที่นี ้
จึงพิจารณาตามมาตรฐานของพระเอกในเรื่ องเล่าส่วนใหญ่ที่สงั คมยอมรับว่าเป็ นคนมีคณ ุ ธรรม ส่วนผู้ร้ายมัก
เป็ นฆาตกรที่สงั หารผู้อื่น หรื อกลุม่ องค์กรที่มงุ่ ทาลายล้ างโลก
293
หล่อ-จริงจัง คูก่ บั ตัวละครน่ารัก ซึง่ เมื่อจับคูก่ นั ก็ชว่ ยให้ โทนของเรื่ องโดยรวมเป็ นทังเรื
้ ่ องต่อสู้ที่
ตื่นเต้ นแต่ขณะเดียวกันก็ยงั แฝงด้ วยความน่ารัก ไม่รุนแรง และก็สง่ ผลให้ ดราก้ อนบอลเข้ าถึงกลุม่
ผู้อา่ นที่คอ่ นข้ างเด็ก และผู้หญิงได้ มากกว่าแค่ผ้ อู า่ นชาย
2.2.2 วันพีซ
2.2.2.1 แรงผลักดันภายในตัวละคร: ตัวละครนอกคอกแต่ เปี่ ยม
ความฝั น
แม้ การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกตัวละครในวันพีซอาจไม่ได้ โดดเด่น
ชนิดที่เรี ยกได้ วา่ “เห็นหน้ าแล้ วรู้นิสยั ใจคอ” เหมือนดราก้ อนบอล นอกจากนี ้สัดส่วนของตัวละครก็
ไม่ได้ แตกต่างกันมากนัก แต่ความโดดเด่นของการออกแบบตัวละครในวันพีซกลับอยูท่ ี่การสร้ าง
นิสยั ใจคอภายใน โดยเฉพาะการสร้ าง “ภูมิหลัง” ให้ กบั ตัวละคร โดยมีลกั ษณะร่วมกันประการ
หนึง่ นัน่ คือ “ไม่มีใครเป็ นคนดีสมบูรณ์แบบ” โดยสร้ างให้ เกิดกลุม่ คนที่ไม่สมบูรณ์แบบซึง่ กระจัด
กระจายแตกต่างกัน แต่ได้ มารวมตัวกันเป็ นกลุม่ ก้ อนที่สมบูรณ์แบบ พ้ องกับชื่อเรื่ อง One Piece
(รวมกันเป็ นชิ ้นเดียว หนึง่ เดียวกัน) โดยกลุม่ โจรสลัดหมวกฟางในเรื่ องต่างเป็ นภาพแทนของ
ทังเด็
้ ก และผู้ใหญ่ ในสังคมปั จจุบนั ที่ตา่ งมีความเป็ นปั จเจก มีความต้ องการเฉพาะตัวของแต่ละ
คน จึงกลายเป็ นตัวละครที่เสมือนตัวตนของคนอ่าน จนทาให้ อยากติดตามการ์ ตนู เรื่ องนี ้ไปจนถึง
ที่สดุ ดังตารางสรุปความฝั นและเบื ้องหลังชีวิตที่แหว่งวิ่นจนรวมตัวกันเป็ นหนึง่ เดียวได้ ดงั นี ้
2.2.4.3 การออกแบบภายนอก-ภายใน:พลิกบทบาทพระเอก-ผู้ร้าย
การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของตัวละครในเดธโน้ ตเป็ นความตังใจ ้
เล่นกับความคุ้นชินของผู้อา่ น โดย “กลับขัว”้ รูปลักษณ์ทงภายในและภายนอกของตั
ั้ วละครให้
ตรงกันข้ ามกับ “บทบาท” ที่ตวั ละครได้ รับ เพราะหากจับตัวละครอย่างไลท์ กับแอล มายืนคูก่ ัน
แล้ วให้ ผ้ อู า่ นคาดเดาว่าใครเป็ นพระเอก และใครเป็ นผู้ร้ายโดยไม่ได้ อ่านเนื ้อเรื่ องมาก่อน เชื่อว่า
ส่วนใหญ่คงเลือกผิด เพราะเปลือกนอกของไลท์ (ซึง่ รับบทผู้ร้าย) นันเรี ้ ยกได้ ว่า หล่อ หุน่ สูงเพรี ยว
ตามสมัยนิยม และอิริยาบถโดยรวมก็ถกู สร้ างให้ ดู “เท่” ในขณะที่แอล (ซึง่ รับบทพระเอก) กลับ
หน้ าตาไม่อาจเรี ยกได้ วา่ หล่อตามพิมพ์นิยม เพราะผู้เขียนวาดให้ ลกั ษณะนัยน์ตาของแอลค่อนไป
ทางผู้ร้าย ด้ วยรอยขีดดาใต้ ตาที่ทาให้ ดลู ึกลับ และให้ ความรู้สกึ เหมือน “พังก์” (เป็ นไปในทิศทาง
เดียวกันกับการออกแบบยมทูตลุค และมิสะ) นอกจากนี ้ด้ วยท่าทางของแอลที่ชอบยืนหลังค่อม
นัง่ ยองๆ หรื อการกัดเล็บก็ยิ่งทาให้ แอลดูหา่ งไกลจากคาว่า “พระเอก” ที่มกั ดูหล่อไว้ ก่อน แต่กลับดู
“แปลก” ซึง่ น่าจะเป็ นการออกแบบตัวละครผู้ร้าย หรื อตัวประกอบมากกว่า เช่นเดียวกับการ
ออกแบบนิสยั ใจคอ ที่ไลท์แม้ จะรับบทผู้ร้ายก็กลับมีอดุ มการณ์ไม่ตา่ งจากคนดีๆ คนหนึง่ จนอาจ
เรี ยกว่าเป็ นพระเอกได้ ไม่ยาก ส่วนแอลนันก็ ้ ไม่ได้ ถกู สร้ างให้ เป็ นพระเอกที่นิสยั ดีตามพิมพ์นิยม
เพราะเราเห็นเพียงความเก่งกาจในมันสมองของแอลด้ านการสืบสวน แต่มองไม่เห็นนิสยั ใจคอ
ด้ านความเป็ นคนมีคณ ุ ธรรมของเขาเลย ดังนันการออกแบบคาแร็
้ คเตอร์ เช่นนี ้นอกจากจะสร้ าง
ความรู้สกึ แปลก แตกต่างไปจากการออกแบบตัวละครพระเอก-ผู้ร้ายที่เราคุ้นชินแล้ ว ยังสะท้ อน
ความแตกต่าง หลากหลายของวัยรุ่นในสังคมปั จจุบนั ที่ล้วนต้ องการ “ตัวตน” ที่ไม่จาเป็ นต้ องเดิน
ตามกระแสหลักอีกด้ วย
2.2.5 ทเวนตีฯ้
2.2.5.1 การออกแบบรู ปลักษณ์ ภายนอก: อีกมุมมองของ “ฮีโร่ ”
แม้ ทเวนตี ้ฯ จะว่าด้ วยเรื่ องของฮีโร่ผ้ กู อบกู้โลกให้ รอดพ้ นจากมหันตภัย
ร้ าย แต่แนวทางการออกแบบตัวละครกลับไม่เดินตามรอยการสร้ าง “ฮีโร่” ที่เราเคยผ่านตา นัน่
เพราะการออกแบบ “ขบวนการเคนจิ” ซึง่ เป็ นกลุม่ ของพระเอกที่ตอ่ ต้ าน “เพื่อน” กลับมีรูปร่าง
หน้ าตา สัดส่วนของร่างกายไปจนถึงเสื ้อผ้ า ทรงผมเรี ยบง่าย ไม่ดหู ล่อ เท่ และไม่ได้ มีของวิเศษ
หรื อความสามารถพิเศษมาช่วยเชิดชูความเก่งกาจใดใดให้ กบั ตัวละคร โดยเฉพาะ “โยชิสเึ นะ” ที่
แม้ จะรับบทสาคัญเป็ น “รักษาการณ์หวั หน้ าขบวนการเคนจิ” แต่กลับรูปร่าง หน้ าตาใกล้ เคียงกับ
คาว่า “ลูกกระจ๊ อก” มากกว่า เพราะด้ วยหางตาที่ตกดูเศร้ าสร้ อยตลอดเวลา แว่นตากลมใหญ่
หนาเตอะให้ ความรู้สกึ เป็ นนักวิชาการมากกว่านักก่อการปฏิวตั ิ ซึง่ การสร้ างตัวละครกลุม่ ตัว
เอกให้ มีรูปลักษณ์หา่ งไกลจากคาว่า “ฮีโร่” นอกจากจะสร้ างความรู้สึกแปลกใหม่สาหรับนักอ่าน
301
การ์ ตนู แนวธรรมะ-อธรรมแล้ ว ยังเป็ นการสร้ างความหมายใหม่ของคาว่า “ฮีโร่” ที่ไม่จาเป็ นต้ องดู
หล่อ เท่ หรื อมีความสามารถเหนือมนุษย์เสมอไป
2.2.5.2 การออกแบบรู ปลักษณ์ ภายนอกและนิสัยใจคอ: ตัวละคร
ประกอบแสนทรงพลัง
ตัวละครประกอบในทเวนตี ้ฯ ถูกสร้ างให้ มีความหมายมากกว่าแค่การ
เปิ ดเผยเรื่ องราวสาคัญและการแสดงความรู้สกึ ยกย่องตัวเอกให้ กลายเป็ นวีรบุรุษเหมือนเช่น คา
คุตะ นักเขียนการ์ ตนู โนเนมที่ถกู ส่งไปอยูใ่ นคุกเดียวกันกับโอตโจะ จากที่เคยเขียนการ์ ตนู อย่างไร้
แรงใจก็ได้ แรงพลังในการเขียนการ์ ตนู ขึ ้นมาอีกครัง้ เมื่อเห็นความไม่ย่อท้ อของทังโอตโจะและพรรค
้
พวก จนเขาตังปณิ
้ ธานไว้ วา่ จะใช้ การ์ ตนู เป็ นสื่อกลางถ่ายทอดเรื่ องราว “ฮีโร่ตวั จริง” อย่าง
ขบวนการเคนจิไปยังคนทังโลกให้ ้ ได้ ซึง่ การสร้ างตัวละครคนธรรมดาๆ แต่เมื่อได้ รับ
แรงใจจากขบวนการเคนจิก็สามารถกลายมาเป็ นตัวละครที่ “ทรงพลัง” เพราะสามารถส่งต่อ พลัง
ให้ คนอื่น และลุกขึ ้นมาทาบางสิ่งเพื่อความถูกต้ อง จึงเป็ นการสร้ างตัวละครประกอบที่แสน “ทรง
พลัง” เพราะนอกจากจะทาให้ ตวั ละครที่ปรากฏตัวเพียงไม่กี่ครัง้ เป็ นที่นา่ จดจาแล้ ว ตัวละคร
เหล่านี ้ยังเปี่ ยมด้ วยความหมายที่สะท้ อนความคิดของผู้เขียนที่ต้องการกระตุ้นให้ กลุม่ คนเหล่านี ้
นี่เอง (คนรุ่นใหม่ ศิลปิ น) คือ “ความหวัง” ของสังคม ที่ควรจะลุกขึ ้นมาตังค ้ าถามต่อความไม่ชอบ
มาพากลในสังคม หรื อลุกขึ ้นหาคาตอบถึงวิถีแห่งการเมือง การปกครองที่ควรจะปราศจากการ
ครอบงาทางความคิดของกลุ่มอิทธิพลใดใด (เหมือนเช่นองค์กร “เพื่อน”)
2.2.6 ยอดนักสืบจิ๋วฯ
2.2.6.1 การออกแบบรู ปลักษณ์ ภายนอก: สร้ างตัวละครเพียงหนึ่ง
แต่ ได้ สอง
ในยอดนักสืบจิ๋วสร้ างมิตขิ องตัวละครได้ อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องสร้ าง
ตัวละครคูห่ เู ข้ าช่วย (เหมือนเรื่ องแนวสืบสวนอื่นๆ) เพราะตัวละครเอกแม้ มีเพียงคนเดียวแต่ก็
เหมือนมีสองคนสองบุคลิกในร่างเดียวกัน นัน่ เพราะร่างกายของพระเอกอย่างคุโด้ ชินอิจิ ได้ หด
เล็กลงจากฝี มือขององค์กรชายชุดดาจนกลายเป็ นเด็กประถมในร่างของ “โคนัน” การออกแบบตัว
ละครเอกอย่างชินอิจิและโคนัน จึงเป็ นตัวละครที่ฉีกตัวเองออกมาจากแนวเรื่ องแบบสืบสวนอย่าง
น่าสนใจ เพราะนอกจากจะทาให้ ผ้ อู ่านได้ รสชาติที่แปลกใหม่ของการได้ เห็น “เด็กประถม”
กลายเป็ นยอดนักสืบได้ อย่างน่าเชื่อถือแล้ ว ขณะเดียวกันการสร้ างตัวละครเอกเช่นนี ้ก็ยงั ให้ ผล
ทางการตลาดในวงกว้ างมากขึ ้นอีกด้ วย
302
2.3.6 เดธโน้ ต
เดธโน้ ตเป็ นเพียงเรื่ องเดียวที่มีตวั ละครน้ อยและเน้ นสร้ างคาแร็ คเตอร์ ภายนอกตัว
ละครโดยรวมให้ ไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะทุกตัวละครถูกสร้ างให้ เกิดความรู้สกึ เท่ หล่อ สวย
ลึกลับแบบพังก์ ทังพระเอกอย่
้ างแอล ที่ผ้ เู ขียนวาดให้ ขอบตาล่างมีสีดา ผมดา รูปร่างค่อนข้ างสูง
ผอม หรื อยางามิ ไลท์ ฝั่ งตัวร้ ายที่ผมสีน ้าตาลทอง ก็หน้ าตาหล่อเหลา หุน่ สูง เพรี ยว ทังคู ้ เ่ รี ยก
ได้ วา่ มีโครงหน้ า และรูปร่างใกล้ เคียงกัน คือยังคงค่อนข้ างผอม สูงตามสมัยนิยมของคาว่าหล่อ
ต่างกันเพียงการออกแบบท่าทางการยืน นัง่ ของตัวละครให้ แอลมีทว่ งท่าเฉพาะตัวในการนัง่ (ชอบ
นัง่ ยองๆ) หรื อการยืนห่อไหล่ เพื่อให้ แอลเป็ นตัวละครที่ไม่หล่อเหลาตามพิมพ์นิยมแต่มีทว่ งท่าที่
เป็ นแบบฉบับของตนเอง ดังนันความต่
้ างที่เห็นได้ ชดั ของการออกแบบตัวละครในเดธโน้ ตจึง
เกิดจาก “ความคิด” “ความเชื่อ” ข้ างในตัวละครที่มีตอ่ คาว่า “ความถูกต้ อง” อันเป็ นแก่นแกน
สาคัญของเรื่ อง
2.4 การกระจายความสาคัญและการสร้ างความสัมพันธ์ ของตัวละคร
การสร้ างความแตกต่างหลากหลายของบุคลิกตัวละครในเรื่ องราวที่มีตวั ละครกลุม่ จานวน
มากอาจเข้ าถึงผู้อา่ นในวงกว้ างได้ ง่าย แต่การจะทาให้ ตวั ละครประทับอยูใ่ นความทรงจาผู้อา่ นได้
นันย่
้ อมเกิดจากการกระจายความสาคัญของตัวละครให้ รับบทบาทยิ่งใหญ่ใกล้ เคียงกัน รวมทัง้
สร้ างการปรากฏตัวของตัวละครอย่างเท่าเทียมกัน ซึง่ เรื่ องที่ทาได้ ดีก็คือวันพีซที่สามารถ
กระจายบทบาทตัวละครกลุ่มพระเอก (กลุม่ โจรสลัดหมวกฟาง) ให้ ไม่มีใครมากกว่าหรื อน้ อยกว่า
ได้ เป็ นอย่างดีเพราะทุกคนมีบทบาทบนเรื อเป็ นตัวกาหนด และเพราะตัวละครอยูบ่ นเรื อลาเดียวกัน
ทาให้ เหตุการณ์ผจญภัยระหว่างการเดินทางที่ผนั ผ่านเข้ ามาจึงปะทะเข้ ากับกลุม่ ตัวละครเอกไป
พร้ อมๆ กัน ตรงกันข้ ามกับดราก้ อนบอล ที่แม้ จะสร้ างตัวละครให้ แตกต่างผ่านรูปลักษณ์
ภายนอกได้ ชนิดไม่ซ ้ากัน และพยายามสร้ างตัวละครคูห่ ู (ในช่วงภาคแรก) เพื่อสร้ างความน่า สนใจ
ให้ กบั ตัวละคร แต่กลุม่ ตัวละครเอกหรื อตัวละครฝ่ ายดีหลายตัวกลับถูก “ทอดทิ ้ง” ระหว่างทาง
เพราะเรื่ องราวเน้ นเพียงแค่การต่อสู้ระหว่างพระเอกอย่างโงคูที่เก่งขึ ้นกับตัวร้ ายที่เก่งกว่า ดังนัน้
ตัวละครที่เคยเก่งแต่ไม่พฒ ั นาฝี มือจึง “ไร้ ประโยชน์” ต่อเรื่ อง ผู้อา่ นจึงไม่ร้ ูสกึ ถึงความเป็ น “ทีม”
ของกลุม่ ตัวเอกแต่กลับรู้สกึ ว่าเป็ น “ตัวประกอบ” เสียมากกว่า ด้ านนินจาคาถาฯ นันแม้ ้ เรื่ องจะ
เริ่มจากการตามติดชีวิตพระเอกอย่างนารูโตะตังแต่ ้ อยู่โรงเรี ยนนินจาระดับประถม แต่เรื่ องราว
ต่อจากนันมี ้ ตวั ละครมากหน้ าหลายตาเข้ ามามีบทบาทแทน โดยเฉพาะตัวละครฝั่ งตรงกันข้ ามกับ
พระเอก เพราะผู้เขียนให้ ความสาคัญกับการสร้ างตัวร้ ายที่แข็งแกร่งเพื่อเป็ นตัวพิสจู น์และพัฒนา
ความสามารถของนารูโตะ จนทาให้ “ผู้ร้าย” รับบทเด่นและปรากฏตัวอยูใ่ นเรื่ องยาวนานกว่าฝั่ ง
ตัวเอกเสียด้ วยซ ้า จนทาให้ บทบาทการเป็ นพระเอกของนารูโตะดูด้อยไปบ้ างในบางช่วง
309
2.5 แก่นความคิดลึกซึ ้ง
ความเหนือชันและลึ้ กซึ ้งของวันพีซยังเกิดจากการก้ าวข้ ามการให้ แก่นความคิดเพียง
“มิตรภาพ” และการร่วมแรงร่วมใจกันที่พบบ่อยในการ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่เจาะกลุม่ ผู้อา่ นเป็ นเด็กไปจนถึง
วัยรุ่น เพราะวันพีซให้ แก่นแกนที่วิพากษ์สงั คม การเมืองอย่างตรงไปตรงมา ทังการปกครองของ ้
รัฐบาลโลกที่ใช้ อานาจในทางที่ผิด หรื อความเหลื่อมล ้าทางสังคมของแต่ละเผ่าพันธุ์ในโลกโจร
สลัด
3. นินจาคาถาฯ
3.1 เปิ ดโลกใหม่ของ “นินจา”
เรื่ องราวที่มีเนื ้อหาเกี่ยวกับ “นินจา” ที่คนทังโลกต่ ้ างคุ้นชินและทึง่ ในความ“ลึกลับ”
อันเป็ นเอกลักษณ์ของชาวญี่ปนคื ุ่ อจุดเด่นที่สดุ ของนินจาคาถาฯ ซึง่ ดึงดูดผู้อา่ นที่ไม่ใช่แค่คน
ญี่ปนแต่ ุ่ เข้ าถึงในระดับสากลโดยเฉพาะกลุม่ ผู้อา่ นชาวตะวันตก และที่นา่ สนใจกว่านันคื ้ อ
เรื่ องราวของนินจาในการ์ ตนู เรื่ องนี ้ไม่ใช่นินจาที่ใช้ ชีวิตแฝงตัวอยู่กบั คนปกติ แต่วา่ ด้ วยโลกทังใบ ้
ของนินจาที่เต็มไปด้ วยการต่อสู้แย่งชิงอานาจกันของนินจาต่างตระกูลต่างหมูบ่ ้ านที่ทาให้ เรื่ องราว
เข้ มข้ นไม่แพ้ นิยายจีน ดังนันผู้ ้ อา่ นจึงได้ เห็นแง่มมุ ที่แปลกใหม่ของนินจาที่ไม่ต้องอาพรางตัว
แต่กลับเปิ ดเผยตัวต่อสู้กนั แบบจะแจ้ ง ภาพการต่อสู้ของนินจาคาถาฯ จึงให้ ความตื่นเต้ น
มากกว่าแค่การใช้ ดาวกระจาย หรื อการใช้ ก้านบัวหายใจพรางตัวใต้ น ้าแบบเดิมๆ เพราะมีทงการ ั้
ร่ายคาถาประจาตระกูลที่แตกต่างกัน การปลุกวิญญาณยอดนินจาในอดีตมาสู้กนั การรี ดจักระ
(หรื อพลังงานในร่างกาย) มาปะทะกัน หรื อกระทัง่ การอัญเชิญสัตว์/เทพวิเศษขนาดยักษ์มาช่วย
สู้แทน ดังนันนิ ้ นจาคาถาฯ จึงช่วยเปิ ดโลกอันลี ้ลับของนินจาได้ ชนิดที่คนอ่านคาดไม่ถึง ซึง่ ก็ทา
ให้ ฉากการต่อสู้ในการ์ ตนู เรื่ องนี ้มีความหลากหลาย อลังการ และยากจะคาดเดาผลลัพธ์อย่างมาก
3.2 ตัวละครทังร่้ วมสมัยและเป็ นสากล
ตัวละครพระเอกอย่างนารูโตะเป็ นภาพแทนของเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ได้ ดีเพราะมีความ
เป็ น “ขบถ” ในตัวเองผ่านการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกอย่างชัดเจน ด้ วยสีผมที่ไม่ใช่สีดาตาม
แบบพระเอกการ์ ตนู ญี่ปนส่ ุ่ วนใหญ่แต่เป็ น “สีส้มทอง” ที่ให้ ความรู้สกึ เป็ นสากลจนทาให้ การ์ ตนู
เรื่ องนี ้เป็ นที่นิยมในกลุม่ นักอ่านฝั่ งตะวันตก แต่ในขณะเดียวกันก็ยงั มีความเป็ นญี่ปนรุ ุ่ ่นเก่าอยู่
ในตัวผ่านการออกแบบ “จิ ้งจอกเก้ าหาง” ซึง่ เป็ นปี ศาจในตานานของญี่ปนสิ ุ่ งสถิตอยูใ่ นร่าง
นารูโตะด้ วย การออกแบบตัวละครเอกอย่างนารูโตะในนินจาคาถาฯ จึงมีความร่วมสมัยและ
เป็ นสากลจนเข้ าถึงกลุม่ ผู้อา่ นได้ ทงในและนอกประเทศ
ั้
3.3 สร้ างตัวร้ ายให้ แข็งแกร่ง
314
พระเอกอย่าง “เคนจิ” อาจเรี ยกว่าเป็ นพระเอกแบบ Anti-Hero ในแบบการ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่เรา
คุ้นเคยกัน เพราะไม่ใช่พระเอกที่ คอ่ ยๆ เรี ยนรู้เพื่อพัฒนาฝี มือความเก่งกาจของตัวเอง ไม่ได้ มี
พลังแฝง-ของวิเศษใดใดในตัว แถมยังลังเลไม่กล้ าเป็ นผู้นายอมรับสิ่งที่เคยทาผิดไว้ ในวัยเด็ก
(ท้ ายที่สดุ ก็ยอมทาด้ วยสานึก) สิ่งที่เคนจิมีก็เพียงความเป็ นนักจิตวิทยาที่เข้ าใจความรู้สกึ ผู้อื่น
ความเป็ นศิลปิ นที่สง่ ผ่านเพลงที่เขาร้ องเพื่อกระตุ้นให้ คนฟั งหยุดคิดและมีพลังเริ่มต้ นวันใหม่ ซึง่
เพียงแค่นี ้เท่านันที
้ ่ชว่ ยให้ เขาคลี่คลายอุปสรรคสาคัญลงได้ ตัวละครพระเอกแบบเคนจิจงึ เข้ า
ไปนัง่ ในใจผู้อา่ นวัยผู้ใหญ่ได้ ดีแต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่พระเอกสุดเท่ในสายตากลุม่ เด็กเช่นกัน
5.4 ฉากเหตุการณ์สมจริงสร้ างอารมณ์หวนราลึกอดีต
ภาพรวมของเรื่ องที่ให้ บรรยากาศเหมือนจริงในทเวนตี ้ฯ นอกจากจะเกิดจากการสร้ าง
คาแร็ คเตอร์ และลายเส้ นที่เน้ นความสมจริงแล้ วยังเกิดจากการใส่ใจรายละเอียดข้ อมูล การสร้ าง
ฉาก เหตุการณ์ที่เชื่อมโยงกับความทรงจาของผู้อา่ น โดยมีการนาเหตุการณ์สาคัญทาง
ประวัติศาสตร์ (เช่นการจัดงานเอ็กซ์โปที่ญี่ปน) ุ่ เข้ ามามีสว่ นร่วมกับการกระทาของตัวละคร ซึง่ ก็
ถือเป็ นกลวิธีการสร้ างอารมณ์ สร้ างบรรยากาศให้ กบั เรื่ อง และยังช่วยกระตุ้นความรู้สกึ หวนราลึก
อดีต (nostalgia) ในแบบที่ยากจะหาในการ์ ตนู เรื่ องอื่น เพราะภาพเหตุการณ์เก่าๆ ที่ติดอยู่ใน
ความทรงจาของผู้คนนันย่ ้ อมมีคณุ ค่าโดยเฉพาะคุณค่าทางจิตใจแก่กลุม่ ผู้อา่ นวัยผู้ใหญ่ (ที่ชอบ
พูดเรื่ องเก่าๆ เพื่อความสุขใจเล็กๆ น้ อยๆ อยูเ่ สมอ)
5.5 มุมมองการเล่าเรื่ องแปลกใหม่
ในขณะที่การ์ ตนู ส่วนใหญ่เน้ นมุมมองการเล่าเรื่ องแบบผู้ร้ ู รอบด้ าน (สัพพัญญู) หรื อ
บุคคลที่ 1 ทเวนตี ้ฯ กลับเน้ นการเล่าเรื่ องด้ วยมุมมองที่พบได้ คอ่ นข้ างน้ อยนัน่ คือการเล่าผ่าน
มุมมองของ “บุคคลที่ 3” หรื อตัวประกอบของเรื่ องที่ชว่ ยกล่าวความเป็ นไปของตัวละครเอก
รวมทังยั ้ งถ่ายทอดความรู้สกึ นึกคิดที่มีตอ่ ตัวละครเอกได้ เป็ นอย่างดี ซึง่ การเล่าด้ วยมุมมองเช่นนี ้
ไม่ได้ สร้ างขึ ้นเพียงเพื่อต้ องการให้ เกิดความแปลกและแตกต่างไปจากการ์ ตนู ส่วนใหญ่เท่านัน้ แต่
ยังช่วยขับเสริมตัวละครเอกให้ มีความเป็ น “ฮีโร่” มากขึ ้นทวีคณ ู เพราะผู้อา่ นมี “แนวร่วม” ในการ
รับรู้ความรู้สกึ ชื่นชม ความรู้สกึ เชื่อมัน่ ของผู้คนมากหน้ าหลายตา (ตัวประกอบ) ที่มีตอ่ พระเอก
นัน่ เอง
5.6 ธรรมะไม่ต้องชนะอธรรม และพลังแห่งศิลปะ
แก่นความคิดที่ผ้ เู ขียนถ่ายทอดลงทเวนตี ้ฯ อาจเรี ยกได้ วา่ ไปไกลกว่าการ์ ตนู อีกหลายๆ
เรื่ อง ทังการให้
้ แง่คิดเรื่ องการต่อสู้ในประเด็น “ธรรมะย่อมชนะอธรรม” เพราะการ์ ตนู เรื่ องนี ้กลับ
บอกตรงกันข้ ามว่า “ธรรมะไม่จาเป็ นต้ องเอาชนะอธรรม” ก็คลี่คลายตัวปั ญหาลงได้ ด้ วยสันติวิธี
317
จึงทาให้ เรื่ องราวที่ดเู หนือจริ งข้ างต้ นดูน่าเชื่อถือไปพร้ อมๆ กับทาให้ ผ้ อู า่ นรู้สึกว่าพระเอกไม่ได้ เก่ง
เพราะมันสมองเพียงอย่างเดียวแต่ยงั ต้ องพึง่ ตัวช่วยสมกับเป็ นเด็กชายวัยประถม ซึง่ ก็ทาให้
ภาพรวมของโทนเรื่ องไม่หนักหรื อเข้ าใจยากในแบบเรื่ องสืบสวนส่วนใหญ่จงึ ทาให้ ยอดนักสืบจิ๋วฯ
เข้ าถึงกลุม่ ผู้อา่ นเด็กได้ ดี
อภิปรายผลการวิจัย
ผลการวิจยั กลวิธีการเล่าเรื่ องและการสร้ างบุคลิกลักษณะของตัวละครในหนังสือการ์ ตนู
ญี่ปนที ุ่ ่ได้ รับความนิยมในบ้ านเราทัง้ 6 เรื่ องทาให้ เห็นจุดที่ใช้ ดงึ ดูดผู้อ่าน ทังจุ
้ ดร่วม จุดแตกต่าง
ซึง่ เป็ นแนวทางให้ กบั นักเขียนเรื่ องและนักวาดภาพการ์ ตูน รวมทังนั ้ กเขียนบทผ่านสื่ออื่นๆ ใน
แวดวงนิเทศศาสตร์ ที่ล้วนเป็ น “นักเล่าเรื่ อง” ซึง่ มีประเด็นที่นา่ หยิบยกมาอภิปรายดังนี ้
1. พิจารณาวัยของผู้อา่ น
อายุเข้ ามามีบทบาทกาหนดเนื ้อหา และวิธีการเล่าเรื่ องอย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยเรื่ องที่
กาหนดกลุม่ เป้าหมายให้ เป็ นผู้อ่านที่มีอายุค่อนข้ างน้ อยระดับประถมปลายขึ ้นไปเหมือนเช่น
ดราก้ อนบอล และยอดนักสืบจิ๋วฯ จะส่งผลต่อแนวเรื่ องที่มีความเป็ นแฟนตาซีสงู (หรื อแม้ เรื่ องไม่
แฟนตาซีก็ต้องทาให้ มีแฟนตาซีหรื ออภินิหาร ความเหนือจริงเข้ าช่วยเหมือนเช่นยอดนักสืบจิ๋วฯ)
ส่วนโครงเรื่ องก็มีความซับซ้ อนน้ อย มีโครงเรื่ องย่อยไม่มากนัก การวางปม ซ่อนปม ความขัดแย้ ง
หรื ออุปสรรคของเรื่ อง การใส่แก่นความคิด และสัญลักษณ์ก็มีจานวนน้ อยเช่นกัน ส่วนตัวละคร
อาจมีจานวนมากหรื อน้ อยก็ได้ แต่ตวั ละครจะไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีความสูญเสียในอดีตแบบผู้ใหญ่
มากนัก ตัวละครส่วนใหญ่จงึ มักเป็ นตัวละครแบบแบน ที่ทาให้ คนอ่านมองไม่คอ่ ยเห็นความคิด
ความรู้สกึ เท่าที่ควร (เหมือนเช่นโคนันในยอดนักสืบจิ๋วฯ และโงคูในดราก้ อนบอล)
นอกจากนี ้อายุของตัวละครเอกในเรื่ องยังสัมพันธ์กบั กลุม่ ผู้อา่ นด้ วย ยิ่งผู้อา่ นวัยเด็กตัว
ละครก็ควรอยูใ่ นช่วงวัยเดียวกัน ซึง่ เรื่ องที่ออกแบบตัวละครได้ ดีก็คือโคนันในยอดนักสืบจิ๋วฯ ที่
ออกแบบตัวละครเพียงตัวเดียวแต่มีสองวัยในร่างเดียวกัน (คือเด็กประถมและมัธยมปลายเพราะ
พระเอกอย่างชินอิจิร่างหดเล็กลงเป็ นเด็ก) จึงทาให้ การออกแบบตัวละครเอกเข้ าถึงกลุม่ ผู้อา่ นได้
หลากหลายวัยมากขึ ้น ส่วนการออกแบบลายเส้ นตัวละครก็เน้ นเส้ นเรี ยบง่าย สะอาดตา
สัดส่วนตัวละครเกินจริง ใช้ การติดสกรี นค่อนข้ างมาก และรายละเอียดในฉากน้ อย
ดังนันในทางตรงกั
้ นข้ ามกับผู้อ่านที่เป็ นวัยรุ่ น หรื อตังแต่
้ มธั ยมขึ ้นไป อย่างเดธโน้ ต
นินจาคาถาฯ วันพีซ และทเวนตี ้ฯ ย่อมต้ องมีโครงเรื่ องย่อยมากขึ ้น มีปมปั ญหาที่ซบั ซ้ อนซ่อน
333
อาจกล่าวได้ วา่ หากนักเขียนการ์ ตนู รู้แน่ชดั ว่าต้ องการเขียนเรื่ องเพื่อกลุม่ ผู้อา่ นที่มีวยั
เช่นใด ย่อมต้ องสร้ างองค์ประกอบการเล่าเรื่ องข้ างต้ นให้ สอดคล้ องกับวัยของกลุม่ ผู้อา่ น เพราะ
หากผู้เขียนยังดันทุรังเขียนเรื่ องตามแต่ใจตัวโดยไม่มองกลุม่ ผู้อา่ นและความถนัด-ความชื่นชอบ
ของตัวเอง (เช่นเป็ นคนเขียนลายเส้ นละเอียดยิบ แต่อยากเล่าเรื่ องง่ายให้ เด็กๆ ชอบ) ก็คงไม่
สามารถทาให้ การ์ ตนู เรื่ องนันวางขายได้
้ จริงและคงไม่มีคนซื ้ออ่านได้ ยาวนาน
334
2. พิจารณาจากเพศของผู้อ่าน
แนวโน้ มของผู้อา่ นการ์ ตนู ปั จจุบนั มีการก้ าวข้ ามเส้ นแบ่งของคาว่าการ์ ตนู ผู้ชาย-ผู้หญิง
มากกว่าสมัยก่อน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชอบอ่านการ์ ตนู แบบผู้ชาย (ที่เน้ น การแข่งขัน การผจญภัย
มีเรื่ องราวพลิกผัน) มากขึ ้น (วรวุฒิ วรวิทยานนท์, สัมภาษณ์, 23 สิงหาคม 2554) ดังนัน้
ด้ วยปรากฏการณ์ดงั กล่าวจึงส่งผลต่อการเขียนเรื่ องราวของการ์ ตนู ที่ไม่ได้ เน้ นการต่อสู้แบบจริงจัง
เหมือนการ์ ตนู ผู้ชายยุคแรกๆ อย่างหมัดดาวเหนือ หรื อ โรงเรี ยนลูกผู้ชาย ดังนันจะสั ้ งเกตได้ วา่
การ์ ตนู ยอดนิยมที่เลือกมาศึกษาเหล่านี ้จะมีจดุ ดึงดูดที่ทาให้ เรื่ องเข้ าถึงผู้อา่ นได้ ทงชายและหญิ
ั้ ง
เหมือนเช่นดราก้ อนบอลที่แม้ จะเน้ นฉากต่อสู้ แต่ก็เป็ นการต่อสู้ที่ไม่ขบั เน้ นเลือด ภาพรุนแรง และ
มีฉากตลกเข้ ามาช่วยทาให้ เรื่ องดูเบาลงเข้ าถึงผู้หญิงได้ มากขึ ้น หรื อในเดธโน้ ตซึง่ เป็ นตัวอย่างที่ดี
สาหรับการออกแบบตัวละครที่เข้ าถึงทังชายและหญิ ้ ง เพราะตัวละครพระเอกไม่ได้ หล่อเหลา
เกินหน้ าผู้อา่ นชายด้ วยกันจนน่าหมัน่ ไส้ และด้ วยบุคลิกที่แปลก แตกต่างในท่วงท่าของตัวละครจึง
ทาให้ ผ้ หู ญิงเองก็ชื่นชอบไม่แพ้ ตวั ละครที่หล่อเหลาเช่นกัน
จากการออกแบบเรื่ องราวให้ สอดคล้ องกับวัย และเพศของผู้อา่ นทาให้ เห็นว่าการ์ ตนู เรื่ อง
ที่ขายได้ มากและอยูไ่ ด้ นานย่อมต้ องเป็ นการ์ ตนู ประเภท ที่เข้ าถึงคนอ่านทุกเพศ ทุกวัย เหมือนเช่น
ยอดนักสืบจิ๋วฯ โคนัน ที่สร้ างตัวละครให้ เป็ นเด็กไว้ ก่อน เรื่ องราวไม่ซบั ซ้ อนเกินไป ทังยั ้ งผสาน
ความสมจริงกับแฟนตาซีเข้ าด้ วยกัน (คดีการตายคือความสมจริง-นักสืบผู้ใหญ่กลายร่างเป็ นเด็ก
คือแฟนตาซี) จึงเข้ าถึงผู้อ่านได้ ในวงกว้ าง ซึง่ ก็ทาให้ ยอดนักสืบจิ๋วฯยังคงตีพิมพ์อย่างต่อเนื่อง
จนถึงปั จจุบนั
3. พิจารณาจากวิถีชีวิต ความเป็ นอยูใ่ นปั จจุบนั ของผู้อา่ น
ตัวละครในการ์ ตนู ปั จจุบนั มีความแตกต่างหลากหลายของนิสยั ใจคอ และรูปลักษณ์
ภายนอกมากขึ ้น ไม่ได้ มีพิมพ์นิยมแบบพระเอกผมดา หล่อเหลา เก่งกาจเสมอไป นัน่ เพราะผู้เขียน
ได้ นาภาพแทนของเด็กวัยรุ่นในสังคมจริงมาสะท้ อนผ่าน “การ์ ตนู ” เหมือนเช่นนารูโตะ ในนินจา
คาถาฯ ที่มีผมสีส้มทอง สะท้ อนความเป็ นขบถในตัวเอง หรื อตัวละครกลุม่ พระเอกในวันพีซ ก็
ไม่ได้ มีแค่มนุษย์ แต่มี “ตัวประหลาด” อย่างช้ อปเปอร์ ที่เป็ นกวางเรนเดียร์ จมูกน ้าเงินที่เป็ นทังคน ้
และเป็ นทังกวางในร่
้ างเดียว หรื อกระทัง่ อุซปในวันพีซ ที่เป็ น “จอมโกหก” ประจาเรื อแต่ก็เป็ น
สมาชิกกลุม่ ตัวเอกที่ดเู ท่ได้ ผ่านการกระทาและนิสยั ใจคออื่นๆ ซึง่ ตัวละครที่นอกคอก แปลกแยก
ข้ างต้ นเหล่านี ้ล้ วนเป็ นภาพแทนของ “ผู้อ่าน” ในปั จจุบนั ได้ เป็ นอย่างดี ดังนันหากผู
้ ้ เขียนยิ่งสะท้ อน
ความแปลกแยก หลากหลายลงไปในการ์ ตนู ได้ มากเท่าไหร่ยอ่ มมีโอกาสที่เรื่ องราวจะเข้ าไปนัง่ อยู่
ในใจผู้อา่ นหมูม่ ากได้ ดีเช่นกัน
335
ข้ อเสนอแนะ
1. ในงานวิจยั ชิ ้นนี ้เลือกกลุม่ ตัวอย่างการ์ ตนู ที่มาศึกษาตามความนิยมส่งผลให้ การ์ ตนู
แต่ละเรื่ องมีเป้าหมายคือกลุ่มผู้อา่ นที่แตกต่างกัน ซึง่ กลุม่ ผู้อา่ นเป็ นปั จจัยสาคัญของการเขียน
เรื่ อง ดังนันจึ
้ งน่าจะมีการวิจยั กลวิธีการเล่าเรื่ อง และคาแร็คเตอร์ การ์ ตนู ญี่ปนที ุ่ ่พิจารณาจากกลุม่
ผู้อา่ นที่แตกต่างกันด้ านวัย และเพศเป็ นหลัก เพื่อให้ เห็นจุดร่วมของการ์ ตนู ที่มีกลุ่มผู้อา่ นแบบ
เดียวกันที่ชดั เจนมากขึ ้น ซึง่ ก็จะเป็ นประโยชน์ตอ่ แนวทางการสร้ างสรรค์ผลงานของนักเขียน
การ์ ตนู ที่จะได้ ตอบโจทย์กลุ่มผู้อา่ นได้ ชดั เจนขึ ้นด้ วย
2. งานวิจยั ชิ ้นนี ้ยังมองเพียงแค่ตวั บท (text) หรื อตัวสื่อการ์ ตนู โดยไม่ได้ พิจารณาบริ บท
337
บรรณานุกรม
Giannetti, Louis. 2004. Understanding Movie. 10th ed. New Jersey: Prentice Hall.
Gravett, P. 2004. MANGA: SIXTY YEARS OF JAPANESE COMICS. New York:
HarperCollins Publishers.
Harrison, Randall P. 1981. The Cartoon: Communication to the Quick. Beverly Hills,
CA: Sage Publications.
Kinsella, Sharon. 2000. Adult Manga: Culture & Power in Contemporary Japanese
Culture. Curzon, Richmond, Surrey.
Natsume, Fusanosuke, and Atsushi Hosogaya. 2001. Manga: Short Stories from
Modern Japan. The Japan Foundation, London.
Schodt, Frederik L. 1989. Manga Mania. Look Japan. 34, 394 (Jan.): 39-41.
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก
เรื่ องย่ อการ์ ตูนที่นามาศึกษา
346
1. ดราก้ อนบอล
ที่มา: http://www.kartoon-discovery.com/focus/dragonball/focus3.php
อาจเรี ยกได้ วา่ “ดราก้ อนบอล” เป็ นการ์ ตนู ต่อสู้ในตานานที่ยงั คงครองใจผู้อ่านทุกเพศทุก
วัยมานับ 3 ทศวรรษ เพราะหลังจากเริ่มตีพิมพ์ครัง้ แรกในปี 1983 (ในญี่ปน) ุ่ อีก 2 ปี ต่อมา ดรา
ก้ อนบอล ก็กลายมาเป็ นแอนิเมชัน่ ที่โด่งดังไปทัว่ เกาะญี่ปนุ่ และทัว่ โลกไม่เว้ นแม้ ในประเทศไทย
ด้ วยเรื่ องราวการผจญภัยที่เรี ยบง่ายผสมผสานจินตนาการล ้ายุคของผู้แต่ง โดยนาตานานไซอิ๋วมา
ปั ดฝุ่ นใหม่ ผ่านตัวละครเอกอย่างซุน โงคู หนุม่ น้ อยหัวแหลมชี ้อันเป็ นเอกลักษณ์ และมีหางติดตัว
มาแต่กาเนิด โงคูเป็ นเด็กหนุม่ ลึกลับคนหนึง่ ที่แม้ จะตัวเล็กแต่มีพลังมหาศาล เขาบังเอิญได้ เจอ
กับสาวแก่นซ่าอย่างบลูมา่ ที่กาลังออกไล่ลา่ หา “ดราก้ อนบอล” ก้ อนหินประหลาด 7 ก้ อนที่แต่ละ
ก้ อนบรรจุดาวจานวนต่างกันตังแต่ ้ 1-7 ดวงเอาไว้ และหากใครที่รวบรวมดราก้ อนบอลได้ ครบทัง้
7 ลูก เมื่อนันเทพเจ้
้ ามังกรจะปรากฏตัวให้ ขอพรใดก็ได้ 1 ประการ
การพบกันระหว่างบลูม่าและโงคูนี่เองที่ทาให้ เกิดเรื่ องราวผจญภัยตามหาดราก้ อนบอล ที่
แม้ เริ่มต้ นเพียง 2 คน แต่ระหว่างทางที่พบพานมิตรสหาย และคูต่ อ่ สู้หลากหลายทังปี ้ ศาจ
อย่างปิ ลาฟ ทหารชาญศึกอย่างกองทัพเร้ ด ริบบ้ อน จอมมารอย่างพิคโกโร่ นักสู้จากต่างดาว
อย่างเบจิต้า ไปจนถึงมนุษย์ดดั แปลงแสนแข็งแกร่ง หรื อจอมมารตุ้ยนุ้ยอย่างจอมมารบู ฯลฯ
ทาให้ เนื ้อเรื่ องเปลี่ยนแนวไปจากการผจญภัยตามหาดราก้ อนบอล เป็ นการฝี กฝนตนเองให้
แข็งแกร่งของโงคูและการรวมพลังกับเพื่อนพ้ อง (เช่นคุริริน ยามุชา) และศัตรู (เช่นพิคโกโร่
เท็นชินฮัง เบจิต้า) มา “รวมพลัง” กันต่อสู้เพื่อปกป้องผองเพื่อน และมวลมนุษยชาติ (ที่ในระยะ
หลังแนวเรื่ องเปลี่ยนไปจากการผจญภัยตามหาดราก้ อนบอลเป็ นการต่อสู้เพื่อปกป้องโลกที่ถกู
รุกรานจากศัตรูตา่ งดาว และปี ศาจแสนร้ ายกาจ)
347
ที่มา: http://xn--42c8alh5bj5fnp8cyf.blogspot.com/2012/01/gta-sa-mr-bean-naruto.html
สิบกว่าปี ก่อน ปี ศาจจิ ้งจอกเก้ าหางได้ อาละวาดทาลายหมูบ่ ้ านนินจาจนมีคนล้ มตาย
จานวนมาก โฮคาเงะรุ่นที่ 4 หรื อผู้ปกครองนินจาหมูบ่ ้ าน “โคโนฮะ” ได้ อาสาไปจัดการปี ศาจ
จิ ้งจอกเก้ าหางโดยลาพัง และสละชีวิตของตนเพื่อผนึกจักระของจิ ้งจอกเก้ าหางเอาไว้ ในร่างของ
เด็กทารกที่ชื่อ อุซมึ ากิ นารุโตะ นารุโตะจึงเติบโตมาท่ามกลางการถูกจงเกลียดจงชังของ
ชาวบ้ าน ดังนันนารุ
้ โตะจึงตังมั ้ น่ ว่าจะพิสจู น์ตวั เองให้ ทกุ คนยอมรับด้ วยการเป็ นเป็ นโฮคาเงะที่เก่ง
ที่สดุ และยิ่งใหญ่ที่สดุ ให้ ได้
ช่วงเวลาเดียวกันอุจิวะ ซาสึเกะ ลูกชายแห่งตระกูลอุจิวะ อีกตระกูลเก่าแก่ของหมู่บ้าน
โคโนฮะก็เติบโตมาด้ วยความพยาบาทต่อพี่ชาย อิทาจิ ที่สงั หารเพื่อนสนิท และพ่อแม่ของตัวเอง
ซาสึเกะจึงมีชีวิตอยูเ่ พื่อแก้ แค้ นพี่ชายเท่านัน้ และด้ วยความเก่งกาจของซาสึเกะ ทาให้ นารุโตะ
ตังเป้ ้ าหมายจะเอาชนะซาสึเกะให้ ได้ นารูโตะและซาสึเกะซึง่ อยูร่ ่วมทีมนินจาดียวกันจึงเปรี ยบ
เหมือนทังเพื้ ่อนรักและทังคู ้ แ่ ข่งกันมาตลอด โดยหลังจากที่ทงคู ั ้ ส่ อบเลื่อนชันนิ
้ นจาเป็ นระดับ “จู
นิน” ซึง่ สามารถทาหน้ าที่เป็ นอาจารย์นินจาและออกปฏิบตั ภิ ารกิจที่ยากในระดับ C และ B ได้
(ภารกิจยากที่สดุ คือระดับ A) ซาสึเกะก็ได้ ออกเดินทางออกจากหมูบ่ ้ านแยกตัวไปเข้ ากับนินจา
ถอนตัวจอมวายร้ ายอย่างโอโรจิมารุเพื่อพัฒนาพลังของตนให้ ทดั เทียมกับพี่ชาย และท้ ายที่สดุ ซาสึ
เกะก็ยอมร่วมมือกับกลุม่ องค์กรมืดอย่าง “แสงอุษา” ที่มีเป้าหมายจะยึดครองโลกนินจาด้ วยการ
จับร่างสถิตของสัตว์หางเพื่อก่อสงคราม ขณะที่นารูโตะเองก็ได้ เร่งพัฒนาฝี มือของตนโดยฝึ ก
วิชากับสุดยอดนินจาในตานานของหมูบ่ ้ านอย่างจิไรยะจนสาเร็จโหมด “เซียน” และท้ ายที่สดุ
นารูโตะก็ได้ พิสจู น์ตนเองด้ วยการเอาชนะ “เพน” หัวหอกของกลุม่ แสงอุษาที่บกุ โจมตีหมูบ่ ้ านและ
ได้ ชว่ ยปกป้องคนในหมูบ่ ้ าน (ให้ ฟืน้ คืนชีพจากการช่วยเหลือของ “เพน” ที่เข้ าใจในตัวนารูโตะ) ได้
สาเร็จ จนภาพความฝั นในวัยเด็กที่นารูโตะต้ องการเป็ น somebody เป็ นคนที่ได้ รับการยอมรับ
จากทุกคนในหมู่บ้านโคโนฮะเกิดขึ ้นในที่สดุ
348
3. วันพีซ
ที่มา: http://gallery-cartoon.blogspot.com/2009/04/onepiece.html
ในยุคโจรสลัดครองเมือง โกลด์ ดี โรเจอร์ โจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่ถกู ประหารชีวิต แต่สมบัติของ
เขาซึง่ ถูกขนานนามว่า “วันพีซ” ยังคงอยู่ นับแต่นนเป็ ั ้ นต้ นมากลุม่ โจรสลัดทังหลายจึ
้ งต่างเสี่ยง
ชีวิตไปสูแ่ กรนด์ไลน์ น่านน ้าที่วา่ กันว่าโหดหินที่สดุ เพื่อตามหา "วันพีซ" ให้ จงได้
ขณะเดียวกันลูฟี่ หนุม่ น้ อยผู้ใฝ่ ฝั นจะเป็ นเจ้ าแห่งโจรสลัด โดยได้ รับแรงบันดาลใจจากแชง
คูส โจรสลัดผมแดงที่สละแขนเพื่อช่วยชีวิตเขาในวัยเด็ก ก็ตดั สินใจออกทะเลเพื่อทาความฝั นให้
เป็ นจริง โดยแม้ ลฟู ี่ จะมีพลังพิเศษจากผลไม้ ปีศาจจนทาให้ เป็ นมนุษย์ยางยืด แต่เขาก็ไม่ได้ มีฝีมือ
ด้ านต่อสู้มากมายอะไร จึงตัดสินใจออกเดินทางรวบรวมสมาชิกเพื่อให้ กลุม่ “โจรสลัดหมวกฟาง”
แข็งแกร่งที่สดุ เริ่มจากนักดาบนักต่อสู้ประจาเรื ออย่างโซโล นามิ โจรสาวแสนร่างเริงผู้มาเป็ นต้ น
หนเรื อ อุซป จอมโกหกเป็ นพลแม่นปื น ครึ่งคนครึ่งกวางอย่างช้ อปเปอร์ เป็ นหมอ โรบิน สาวสวย
ลึกลับเป็ นนักประวัติศาสตร์ ไซบอร์ กอย่างแฟรงกี ้เป็ นผู้เชี่ยวชาญการต่อเรื อไปจนถึงบรู๊ค โครง
กระดูกทรงผมแอฟโฟรไม่ยอมตายมาเป็ นนักดนตรี ประจาเรื อ ซึง่ ระหว่างการเดินทางรวบรวม
สมาชิกและการไล่ลา่ ตามฝั นของลูฟี่ก็มีทงการต่ ั้ อสู้กบั กลุ่มขัวอ
้ านาจทังหลายอย่
้ างกองทัพเรื อ
และรัฐบาลโลก ขณะเดียวกันก็ได้ ช่วยเหลือผู้คนที่พวกเขาพานพบอย่างเจ้ าหญิงบิบี พักเบรก
ตามใจตัวเองตามหาขุมทองบนเกาะแห่งท้ องฟ้า ผจญกับซอมบี ้และปะทะกับอีกขัวอ ้ านาจอย่าง
เจ็ดเทพโจรสลัด ไปจนถึงการช่วยชีวิต “เอส” พี่ชายของลูฟี่ให้ หลุดรอดจากคุกใต้ สมุทร “อิมเพล
ดาวน์” ตลอดการเดินทางข้ ามน ้าข้ ามทะเลที่ผ่านมาเหล่านี ้ “กลุม่ โจรสลัดหมวกฟาง” โดยเฉพาะ
กัปตันอย่างลูฟี่ ต่างก็สงั่ สมบารมีที่ทาให้ มีคา่ หัวสูงลิ่วกลายเป็ นตัวอันตรายที่ถกู รัฐบาลโลกจับ
ตามอง แต่พวกเขาก็ยงั ไม่หยุดเดินทางเพื่อเป้าหมายการเป็ นโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่ที่สดุ ต่อไป
349
4. ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน
ที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki/ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน
เรื่ องราวของนักสืบตัวจิ๋วเกิดขึ ้นเมื่อ คุโด้ ชินอิจิ นักสืบม.ปลาย วัย 17 ปี (ต้ นเรื่ องยังเป็ น
หนุม่ หล่อตัวไม่จิ๋ว) ไปเที่ยวสวนสนุกกับเพื่อนสาวแสนสวยอย่าง โมริ รัน แต่สวนสนุกกลับไม่สนุก
อย่างที่คดิ เพราะเกิดคดีฆาตกรรมขึ ้น ซึง่ ชินอิจิก็โชว์ฝีไม้ ลายมือนักสืบหนุม่ ที่กรมตารวจญี่ปนุ่
ไว้ วางใจให้ ชว่ ยสืบคดีสาเร็จลงอย่างง่ายดาย แต่ด้วยสัญชาติญาณนักสืบที่ยงั เคลือบแคลงใจ
ชายชุดดา 2 คนซึง่ เป็ นกลุม่ ผู้ต้องสงสัยจึงแอบสะกดรอยตามไป และได้ เห็นความไม่ชอบมาพากล
เข้ าให้ แต่ด้วยความที่ไม่ระวังตัวชินอิจิจงึ ถูกชายชุดดาใช้ ของแข็งตีหวั จนสลบไป แล้ วจับกรอกยา
พิษที่องค์กรของชายชุดดาคิดค้ นขึ ้นใหม่ และเมื่อชินอิจิร้ ูสกึ ตัวอีกครัง้ นักสืบหนุ่มสุดเท่ร่างสูง
โปร่งก็กลับย้ อนวัยกลายเป็ นเด็กอายุ 7 ขวบไปซะแล้ ว
ด้ วยความตกใจ ชินอิจิที่อาศัยอยู่บ้านเพียงลาพัง (เพราะพ่อ-แม่อยู่ตา่ งประเทศ) จึงไปขอ
ความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้ านอย่าง ดร. อากาสะ ซึง่ ดร. อากาสะก็แนะนาให้ ชินอิจิที่อยูใ่ นร่าง
เด็กไปอาศัยอยูก่ บั ครอบครัวของนักสืบเอกชนอย่างโมริ โคโกโร่ (พ่อของรัน) เพื่อติดตามข่าวของ
ชายชุดดาและได้ เปลี่ยนชื่อเป็ น เอโดงาวะ โคนัน ด้ วยความช่างสงสัยของโคนันทาให้ เมื่อเกิดคดี
ต่างๆ ขึ ้นโคนันจึงมักยื่นมือเข้ าช่วยคลี่คลายคดีแทนโคโกโร่ โดยใช้ สิ่งประดิษฐ์ ของ ดร.อากาสะ
คือปื นยาสลบทาให้ หลับ แล้ วใช้ โบหูกระต่ายเปลี่ยนเสียงจากเด็กเป็ นผู้ใหญ่แทน ความสาเร็จใน
การคลี่คลายคดีของโคนันทาให้ โคโกโร่กลายเป็ นนักสืบที่โด่งดัง มีคดีมากมายให้ ตามสืบและ
คลี่คลายอยูต่ ลอดเวลา ขณะเดียวกัน โคนันก็ยงั ไม่ลดละความพยายามในการตามหาองค์กร
ชายชุดดาเพื่อคืนร่างจากยอดนักสืบจิ๋ว (โคนัน) เป็ นยอดนักสืบวัยรุ่น (ชินอิจิ) คนเดิมให้ ได้
350
5. เดธโน้ ต
ที่มา: http://student.nu.ac.th/wizard13_1988/home.html
ยางามิ ไลท์ นักเรี ยนมัธยมปลายที่เรี ยนเก่งอันดับหนึง่ ของญี่ปนุ่ เก็บบันทึกมรณะ (เดธ
โน้ ต) ของยมทูตลุคทาให้ ได้ รับความสามารถพิเศษในการฆ่าคนโดยเพียงแค่ร้ ูจกั หน้ าและชื่อของ
คนผู้นนแล้ั ้ วเขียนชื่อลงไปในกระดาษของบันทึกมรณะ ผู้ที่ถกู เขียนชื่อจะเกิดอาการหัวใจวายและ
เสียชีวิตภายในเวลา 40 วินาที จากจุดเริ่มของ “เดธโน้ ต” ทาให้ ไลท์ตดั สินใจจะเปลี่ยนแปลงโลก
โดยตังตนเป็
้ น “พระเจ้ า” ตัดสินคนผิดบาปด้ วยการใช้ เดธโน้ ตสังหารอาชญากรเหล่านี ้เสียเอง
ผู้คนจึงขนานนามเขาว่า "คิระ" (มาจาก Killer) อีกด้ านหนึง่ ฝ่ ายตารวจเมื่อเห็นว่าอาชญากรตาย
เป็ นจานวนมากอย่างผิดปกติ ผู้นากองสืบสวนอย่างยางามิ โซอิจิโร่ ซึง่ เป็ นพ่อของไลท์ ก็พยายาม
ตามหาตัวฆาตกรที่แท้ จริงให้ ได้ แต่ก็จนปั ญญาทาให้ ต้องขอความช่วยเหลือจากนักสืบหนุม่
ลึกลับนามว่า แอล (L) และนับตังแต่ ้ แอลเข้ ามาร่วมสืบสวนกับตารวจญี่ปนุ่ “คิระ” หรื อไลท์ก็เริ่ม
ออกอาการเสียแผน จึงกลายเป็ นจุดเริ่มต้ นของการชิงไหวชิงพริบระหว่างผู้ลา่ อย่างแอล และผู้ถกู
ไล่ลา่ อย่างคิระนับแต่นนเป็ ั ้ นต้ นมา ยิ่งนานวันแอลก็ยิ่งมัน่ ใจว่าไลท์คือคิระเจ้ าของเดธโน้ ต
ตัวจริง ทาให้ ไลท์วางแผนซ้ อนแผนจนสังหารแอลได้ ในที่สดุ แต่แม้ แอลจะจากไปก็มีผ้ สู ืบทอด
อุดมการณ์คือเนียร์ และเมลโล่ เด็กจากสถานรับเลี ้ยงเด็กแห่งเดียวกับแอลที่ได้ รับข้ อมูลคดีจาก
ผู้ชว่ ยของแอล (วาตาริ) เมลโล่ตามสืบเรื่ องของไลท์จนแน่ใจว่าเป็ นคิระแต่ก็สายไปเสียแล้ วเขา
ต้ องจบชีวิตลงเช่นเดียวกับแอล ในขณะที่เนียร์ ซงึ่ มัน่ ใจว่ายางามิ ไลท์คือเจ้ าของเดธโน้ ตตัวจริงจึง
วางแผนหลอกล่อทาเดธโน้ ตปลอมขึ ้นจนไลท์จนมุมยอมรับสารภาพว่าตนคือ “คิระ” แต่เขาก็ยงั
ดิ ้นรนจะเขียนชื่อเนียร์ ลงบนเศษโน้ ตที่ซ่อนอยูใ่ นนาฬิกาแต่ก็ไม่สาเร็จ และท้ ายที่สดุ ยมทูตลุค
เจ้ าของเดธโน้ ตก็กลายเป็ นคนเขียนชื่อไลท์ลงในเดธโน้ ตเพื่อจบตานาน “คิระ” ผู้ตงตนเป็ ั้ น “พระ
เจ้ า” บนโลกมนุษย์เสียเอง
1 ปี ให้ หลังแม้ เดธโน้ ตจะถูกเนียร์ เผาทิ ้งจนโลกกลับคืนสูส่ ภาพปกติ แต่อีกด้ านหนึง่ ก็ยงั มี
กลุม่ คนจานวนไม่น้อยที่ยงั คงเชื่อและรอคอยว่า “คิระ” จะกลับมาอีกครัง้
351
ประวัตยิ ่ อผู้วจิ ัย
สถานที่เกิด กรุงเทพฯ
ประวัติการศึกษา
พ.ศ. 2548 นศ.ม. วาทวิทยาและสื่อสารการแสดง จากจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย
พ.ศ. 2540 ศศ.บ. สื่อสารมวลชน จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์