You are on page 1of 3

K A S E T S A RT J O U R N A L O F S O C I A L S C I E N C E S 3 8 ( 2 0 1 7 ) 6 8 9 – 6 9 1 689

Book Review

การแต่ งนวนิยาย, 2558


โดย สมเกียรติ รักษ์มณี
ส�านักพิมพ์สมั ปชัญญะ, 250 หน้า

นภาลัย ทองปั น
Naparlai Tongpan
ส�านักหอสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรุ งเทพฯ 10900
Office of University Library, Kasetsart University, Bangkok 10900, Thailand

หนั ง สื อ เล่ ม นี้ เน้ น การให้ ค วามรู ้ เ กี่ ย วกับ การแต่ ง ด้วยการไม่จองเวร” (หน้ ำ 11–12) จากนั้นนิ ยายที่แต่งโดยคน
นวนิ ยาย แต่งโดย ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.สมเกียรติ รักษ์มณี ไทยที่ดา� เนิ นเรื่ องเกี่ ยวกับสังคมไทยมีมากขึ้น นับตั้งแต่สมัย
อาจารย์ ป ระจ� า ภาควิ ช าภาษาไทย คณะมนุ ษ ยศาสตร์ รัชการที่ 7 เป็ นต้นมา (หน้ ำ 12) ซึ่ งจะเห็นได้วา่ นวนิยายไทย
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่ งเป็ นผูม้ ี ประสบการณ์ สอนมา เริ่ มมีพฒั นาการทีม่ ลี กั ษณะเป็ นตัวของตัวเองมากขึ้นและมีเนื้อหา
เป็ นเวลานาน นับตั้งแต่เปิ ดสอนรายวิชา “การแต่งนวนิ ยาย” เปลี่ยนแปลงตามสังคม และสภาพแวดล้อมในช่ วงต่างๆ กัน
ในหลัก สู ต รศิ ล ปศาสตรบัณ ฑิ ต สาขาภาษาไทย ตั้ง แต่ ปี เช่น นิยายสะท้อนสังคม เป็ นต้น โดยมีการจ�าแนกประเภทของ
พ.ศ. 2541 จนถึงปัจจุบนั เนื้อหาในหนังสื อประกอบด้วยความรู ้ นิยายหลายแนวคิด เช่น จ�าแนกนวนิยายอย่างกว้างๆ 2 ประเภท
เบื้องต้น วิธีพิจารณา การน�าเสนอ การใช้ภาษา การฝึ กและการ ได้แก่ นวนิยายพาฝัน (Romantic Novel) และนวนิยายเหมือน
แก้ปั ญ หา โดยให้ ร ายละเอี ย ดพร้ อ มตัว อย่ า งวรรณกรรม จริ ง (Realistic Novel) หรื อจ�าแนกตามกลุ่ ม 9 กลุ่ ม ได้แก่
ประกอบทุกบท และท้ายบททุกบทมี แบบฝึ กหัดเพื่อช่ วยให้ กลุ่ ม พาฝั น กลุ่ ม จิ น ตนิ ย าย กลุ่ ม ชี วิ ต ครอบครั ว กลุ่ ม ชี วิ ต
ผูอ้ ่ า นสามารถประมวลความรู ้ ที่ อ่ า น ซึ่ ง จะช่ ว ยสร้ า งความ ต่ า งแดน กลุ่ ม ชี วิ ต ชนบท กลุ่ ม บู๊ ล ้า งผลาญ กลุ่ ม อุ ด มคติ
เข้าใจแก่ผอู ้ ่านยิง่ ขึ้น กลุ่มศิลปะเพื่อชีวติ และกลุ่มผูด้ ีรุ่นใหม่
อย่างไรก็ตามผูเ้ ขี ยนได้ประมวลจ�าแนกเป็ น 2 แนว
ความรู้เบื้องต้ นเกีย่ วกับนวนิยาย ได้แก่ จ�าแนกตามแนวคิดในการเขียน และจ�าแนกตามเนื้ อหา
บทที่ 1 นวนิยายเป็ นวรรณกรรมบันเทิงคดีรูปแบบหนึ่ง ส�าหรับการจ�าแนกตามแนวคิดนั้นแยกเป็ นกลุ่มย่อยได้ 5 กลุ่ม
ส�าหรั บนวนิ ยายไทยได้รับอิทธิ พลมาจากตะวันตก กล่าวคือ คื อ แนวจิ นตนิ ยม (Romanticism) แนวสัจนิ ยม (Realism)
นวนิยายของไทยเรื่ องแรกเป็ นนิยายแปลเรื่ อง “ความพยาบาท” แนวสัจนิยมใหม่ (Neo-Realism) แนวธรรมชาตินิยม (Naturalism)
ของ พระยาสุ รินทราชา (นกยูงวิเศษกุล) โดยใช้นามปากกาว่า และแนวสัญลักษณ์นิยม (Symbolism)
“แม่วนั ” แปลจากนวนิ ยายเรื่ อง “Vendetta” บทประพันธ์ของ ส่ วนการจ�าแนกตามเนื้อหา แบ่งเป็ น 19 ประเภท ได้แก่
“Marie Corelli” นักประพันธ์สตรี ชาวอังกฤษ ตีพิมพ์ครั้งแรก นวนิ ย ายชี ว ประวัติ (Biographical Novel) นวนิ ย ายสัง คม
เมื่อปี พ.ศ. 2443 ซึ่งมีเนื้อหากระทบใจผูอ้ า่ น (หน้ ำ 10) อันเป็ น (Social Novel) นวนิ ยายประวัติศาสตร์ (Historical Novel)
การเปิ ดโลกแห่ งการอ่านของคนไทยในสมัยนั้นเป็ นอย่างมาก นวนิ ย ายแสดงข้อ คิ ด (Thematic Novel) นวนิ ย ายล้อ เลี ย น
ในเวลาต่อมาจึงเกิดนักเขียนไทยคือ หลวงวิลาศปริ วตั ร หรื อ (Satire Novel) นวนิ ยายผจญภัย (Adventure Novel) นวนิ ยาย
“ครู เหลี่ยม” ได้เขียนเรื่ อง “ความไม่พยาบาท” ที่มีเนื้ อหาตรง ลึ ก ลับ เหนื อ ธรรมชาติ (Horror and Supernatural Novel)
กันข้ามกับเรื่ องแรก คือถือคติพุทธศาสนาว่า “เวรย่อมระงับ นวนิยายท้องถิ่น (Novel of Soil) นวนิยายผูร้ ้ายผูด้ ี (Picaresque

E-mail address: libnlt@ku.ac.th


690 K A S E T S A RT J O U R N A L O F S O C I A L S C I E N C E S 3 8 ( 2 0 1 7 )

Novel) นวนิ ยายจิตวิทยา (Psychological Novel) นวนิ ยายเชิง เป็ นเครื่ องมือในการน�าเสนอ รู ปแบบการน�าเสนอเป็ นบทหรื อ
ปั ญหา (Problem Novel) จินตนิยาย (Novel of Fantasy) อาชญา ตอน และรู ปแบบการปล่อยตามธรรมชาติ ส่ วนกลวิธีเกี่ยวกับ
นิยายและเรื่ องลึกลับ (Detective and Mystery Novel) หัสนิยาย โครงเรื่ อง ประกอบด้วย การเปิ ดเรื่ อง การด�าเนินเรื่ อง การสร้าง
(Humorous Novel) นวนิ ยายเป็ นตอนต่อเนื่ องกัน (Episodic ข้อขัดแย้ง การหน่วงเรื่ อง และการปิ ดเรื่ อง เป็ นต้น กลวิธีการ
Novel) นวนิยายชีวติ ครอบครัว นวนิยายต่างแดนหรื อนวนิยาย เล่าเรื่ อง หรื อกลวิธีเกี่ยวกับมุมมอง (Point of View) เป็ นการน�า
ชีวติ ต่างแดน (Exotic Novel) นวนิยายเพื่อชีวติ และนวนิยายผูด้ ี เสนอเนื้ อหานวนิ ยายผ่านผูเ้ ล่าเรื่ องว่าใครเป็ นผูเ้ ล่า ซึ่ งมีท้ งั ที่
รุ่ นใหม่ (หน้ ำ 15–25) และส่ วนท้ายของบทนี้ ก ล่ าวถึ ง องค์ เป็ นแบบผูเ้ ขียนอยูน่ อกเรื่ อง หรื อผูเ้ ขียนอยูใ่ นเรื่ อง นอกจากนี้
ประกอบของนวนิ ยาย ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ ยัง มี ก ลวิ ธี ก ารน�า เสนอตัว ละคร อัน เป็ นเทคนิ ค การเขี ย นที่
แก่ น เรื่ อ ง (Theme) โครงเรื่ อ ง (Plot) ฉากและบรรยากาศ ส�าคัญเพื่อให้ผูอ้ ่านรู ้ สึกและสัมผัสได้ว่าตัวละครมีชีวิตจิ ตใจ
(Setting) ตัวละคร (Character) และบทสนทนา (Dialogue) และมีความสมจริ ง ประกอบด้วย การบอกโดยตรง และการ
บอกโดยอ้อม
แนวทางการอ่ านประเมินค่ านวนิยาย
บทที่ 2 กล่ า วถึ ง แนวทางการอ่ า นและประเมิ น ค่ า แนวทางการอ่ านประเมินค่ านวนิยาย
นวนิ ย ายอัน เป็ นประโยชน์ ต่อ ผูฝ้ ึ กแต่ ง นวนิ ย ายเพื่ อ ให้เ ห็ น บทที่ 4 บทนี้ ผเู ้ ขียนมุ่งเน้นเรื่ องการเรี ยบเรี ยงภาษาใน
แนวทางการพิจารณาที่สามารถน�าไปใช้เป็ นแบบอย่างในการ การแต่งนวนิยายที่เน้นความสมจริ งที่ถ่ายทอดผ่านอารมณ์ของ
สร้างสรรค์นวนิ ยายให้มีคุณภาพ ได้แก่ แนวทางการอ่านและ ตัวละคร อารมณ์ของผูแ้ ต่ง และอารมณ์ของผูอ้ ่าน ซึ่ งผูเ้ ขียนได้
พิจารณานวนิ ยาย เกณฑ์การพิจารณาตัดสิ นรางวัลนวนิ ยาย น�าเสนอตัวอย่างการใช้ภาษาบางประการที่ พอเป็ นแนวทาง
และเกณฑ์การประเมินค่านวนิ ยาย โดยแนวทางการอ่านและ โดยสังเขป ได้แก่ การใช้ภาษาในการบรรยาย พรรณนา การใช้
พิ จ ารณานวนิ ย ายนั้น มี ข อ้ ควรพิจารณาหลายประการได้แก่ ภาษาในบทสนทนา การใช้ภาพพจน์เพือ่ ประดิษฐ์สา� นวนโวหาร
ความสมจริ ง เอกภาพ แนวคิดส�าคัญ (Theme) และโครงเรื่ อง
(Plot) ตัวละคร และกลวิธีการเล่าเรื่ องหรื อมุมมอง (Point of การแต่ งนวนิยายภาคปฏิบัติ
View) ส่ ว นเกณฑ์ ก ารพิ จ ารณาตัด สิ น รางวัล นวนิ ย ายนั้น บทที่ 5 ผูเ้ ขียนกล่าวว่า “โครงเรื่ องเป็ นหัวใจส�าคัญของ
สามารถน�าไปใช้เป็ นแนวทางแก่ผูเ้ ริ่ มฝึ กการแต่งนวนิ ยายให้ การแต่ งนวนิ ยาย” (หน้ ำ 151) โดยนักเขี ยนต้องมองหาแรง
พัฒนางานของตนไปได้อย่างมีเป้ าหมาย ชัดเจน และถูกต้อง บันดาลใจ ซึ่ งในบทนี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับ แนวปฏิบตั ิในการ
ซึ่ งผูเ้ ขี ยนได้นา� เกณฑ์การพิจารณาตัดสิ นรางวัลวรรณกรรม วางโครงเรื่ อง แนวปฏิบตั ิในการสร้างตัวละคร แนวปฏิบตั ิใน
เด่นๆ เช่น รางวัลวรรณกรรมของ สปอ. รางวัลหนังสื อดีเด่น การเขียนบทเปิ ดเรื่ อง แนวปฏิ บตั ิ ในการวางโครงเรื่ องขยาย
ของคณะกรรมการพัฒ นาหนัง สื อ แห่ ง ชาติ รางวัล หนัง สื อ และน�าเสนอตัวอย่างการวางโครงเรื่ องนวนิยาย
ส�า หรั บ เด็ก ของสมาคมภาษาและหนัง สื อ แห่ ง ประเทศไทย
รางวั ล วรรณกรรมสร้ า งสรรค์ ย อดเยี่ ย มแห่ งอาเซี ยน ปัญหาและการแก้ ปัญหาระหว่ างการแต่ งนวนิยาย
(รางวัลซีไรต์) รางวัลวรรณกรรมไทยบัวหลวง เป็ นต้น มาให้ผอู ้ า่ น บทที่ 6 บทนี้ ผเู ้ ขียนน�าเสนอปั ญหาที่มกั เกิดขึ้นในการ
ได้ศึกษา ส�าหรับเกณฑ์การประเมินค่านวนิ ยายนั้น ประกอบ เขี ยนนวนิ ยายและวิธีแก้ปัญหาเพื่อช่ วยให้นักเขี ยนสามารถ
ด้วยรายละเอียด 7 ประเด็น ได้แก่ โครงเรื่ อง แก่นของเรื่ อง แต่งนวนิ ยายได้สา� เร็ จและภูมิใจในงานเขียนของตนเอง ได้แก่
เนื้อเรื่ อง ฉาก ตัวละคร บทสนทนา และท่วงท�านองการแต่ง ปั ญหาเกี่ ย วกั บ โครงเรื่ องซ�้ าซากไม่ มี ค วามแปลกใหม่
ซึ่ งผูเ้ ขียนได้แสดงตัวอย่างโครงเรื่ องที่นักเขียนน�ามาใช้บ่อย
กลวิธีการน�าเสนอนวนิยาย ในการแต่งนวนิ ยาย ท�าให้เนื้ อหาของเรื่ องราบเรี ยบและผูอ้ ่าน
บทที่ 3 บทนี้ผเู ้ ขียนได้นา� เทคนิค หรื อกลวิธีในการน�า สามารถคาดเดาเนื้ อ หาได้ง่ า ยเกิ น ไป เช่ น โครงเรื่ อ งแบบ
เสนอเรื่ อ งสู่ ผูอ้ ่ า น ซึ่ ง ประกอบด้ว ย กลวิ ธี เ กี่ ย วกับ รู ป แบบ ซินเดอเรลล่า โครงเรื่ องแบบแฮรี่ พอตเตอร์ โครงเรื่ องแบบเช็ค
การน�าเสนอ ทั้งที่ เป็ นรู ปแบบเรื่ องสั้น รู ปแบบการร้ อยเรี ยง สเปี ยร์ โครงเรื่ องแบบนวนิ ยายแฟนตาซี และโครงเรื่ องแบบ
เรื่ องต่างๆ เข้าด้วยกันด้วยตัวละครชุดหนึ่ ง รู ปแบบการใช้สื่อ จอมยุทธ เป็ นต้น นอกจากนี้ยงั พบปัญหานักเขียนเขียนเรื่ องต่อ
K A S E T S A RT J O U R N A L O F S O C I A L S C I E N C E S 3 8 ( 2 0 1 7 ) 6 8 9 – 6 9 1 691

ไม่ได้หรื อเขียนไม่ออก ซึ่งมีหลายสาเหตุ เช่น วางโครงเรื่ องไว้ คุณค่าของนวนิ ยายแต่ละเรื่ องตั้งแต่อดีตจนถึงปั จจุบนั เป็ นตัว
ไม่ดี เขียนหลุดออกจากประเด็นเดิมออกไปซึ่ งพบบ่อยในนัก ขับเคลื่อนการรู ้ หนังสื อและสร้ างนิ สัยรักการอ่านแก่เยาวชน
เขี ย นมื อ ใหม่ ปั ญ หาส�า คัญ อี ก ประการหนึ่ ง คื อ นัก เขี ย นวาง ดังจะเห็นได้วา่ นักเขียนมือใหม่เกิดขึ้นอยูต่ ลอดเวลา นี่อาจเป็ น
โครงเรื่ องไม่ดี ท�าให้ไม่สามารถเขียนต่อได้ ทางหนึ่ งที่ส่งเสริ มให้เยาวชนสามารถแสดงออกทางความคิด
ปั ญหาที่ผเู ้ ขียนระบุอีก คือ ปัญหานักเขียนรู ้สึกไม่สนุก ด้วยการเขียนอย่างมี อิสระมากขึ้น ประกอบกับการน�าเสนอ
กับเนื้อหาที่เขียน ปั ญหาการใช้ภาษาทั้งที่ใช้คา� ผิด การใช้คา� ซ�้า ความคิดผ่านสื่ อออนไลน์ได้โดยง่าย ดังเช่นเยาวชนจ�านวนมาก
ปั ญ หาบทสนทนาไม่ สมจริ ง ปั ญหาการเขี ยนตอนจบไม่ ลง ที่แต่งนวนิยายแล้วเผยแพร่ ผา่ นสื่ อออนไลน์ และหากมีผอู ้ ่านที่
และปั ญหาอื่นๆ ซึ่ งผูเ้ ขียนได้ให้ความรู ้เกี่ยวกับวิธีแก้ไขปั ญหา ติดตามอ่านพร้อมกับวิจารณ์หรื อแสดงความคิดเห็นจะช่วยให้
โดยให้ขอ้ เสนอแนะว่า หลังจากเขียนโครงเรื่ องขยายเสร็ จแล้ว งานเขียนมีค่าหรื อความนิ ยมมากขึ้น ก็จะเป็ นหนทางในการ
ควรพักหรื อทิ้ งช่ วงไว้ประมาณ สามหรื อสี่ วนั หรื อมากกว่า ก้าวสู่ วงการของนักเขียนมืออาชี พได้ทางหนึ่ ง หากเยาวชนที่
เพื่อให้สมองพ้นจากการคิดวนเวียนเกี่ยวกับเรื่ องนี้ หลังจากนั้น สนใจในการเป็ นนักเขียน จ�าเป็ นอย่างยิง่ ที่ตอ้ งศึกษาหาความรู ้
จึ งกลับมาอ่านทบทวนโครงเรื่ องขยายนี้ อีกครั้ง โดยระหว่าง เพิ่มเติ ม หนังสื อเล่มนี้ จึงเป็ นค�าตอบในการเริ่ มต้นให้แก่ ผูท้ ี่
ที่พกั นั้น นักเขียนจะได้เปลี่ยนมุมมองจากผูเ้ ขียนมาเป็ นผูอ้ ่าน สนใจแต่ ง นวนิ ย ายได้เ ป็ นอย่า งดี เพราะมี เ นื้ อ หาครบถ้ว น
ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นจุดอ่อนจุดแข็งของโครงเรื่ องทั้งหมดได้ดี ส�าหรับการเริ่ มต้น อีกทั้งมีความน่าเชื่อถือ เพราะผูเ้ ขียนเป็ นผูม้ ี
ขึ้น และแก้ไขใหม่ได้ก่อนลงมือเขียน (หน้ ำ 239–240) ประสบการณ์ทางด้านการสอนการแต่งนวนิ ยาย และได้ผ่าน
หนังสื อเล่มนี้นบั ว่าเป็ นประโยชน์ต่อวงวรรณกรรมใน การอ่านพิจารณาเนื้ อหาจากผูท้ รงคุณวุฒิ (Peer Review) แล้ว
ปั จจุ บนั เป็ นอย่างมาก เพราะตลาดนวนิ ยายในประเทศไทย อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็ นการจัดพิมพ์ครั้งแรก จึงพบข้อผิดพลาด
ผูอ้ ่านทุกเพศทุกวัย ยังมีความต้องการที่จะอ่านอยูไ่ ม่ขาด โดยที่ อยูบ่ า้ ง เช่น การเขียนสะกด การันต์ เป็ นต้น

You might also like