You are on page 1of 12

คําสัง่ ศาลเป็ นประศิตให้ผมต้องยอมจํานนต่อคําตัดสิ นว่า ผมต้องถูกแช่อยูใ่ นเตียงเย็น(Cold Sleep)นานถึง

10ปี ข้อหา ปล่อยซอร์ฟแวร์ที่เป็ นอันตรายต่อความมัน่ คงของชาติและความเจริ ญก้าวหน้าของมนุษยชาติ


ข้อหาปล่อยปั ญญาประดิษฐ์สร้างความไม่สงบต่อระบบส่ วนกลาง พ่วงด้วยข้อหาปลุกปั่ นยุยงผ่านสื่ อไซ
เบอร์ให้มวลชนเกิดความรู ้สึกเกลียดชังและเป็ นปฏิปักษ์ต่อภาครัฐ ซึ่งข้อหาเหล่านี้ถูกร่ างใหม่และแก้ไขไม่กี่
สัปดาห์ก่อนที่จะบังคับใช้เพื่อเอาผิดเอาโทษกับผม

ผมไม่โทษคําตัดสิ นของศาลในความอ่อนหัดของตัวเองหรอก ผมไว้ใจพวกเขามากเกิน เพราะหลักฐาน


ทั้งหลายที่นาํ มามัดตัวผมนั้น ต่างก็เป็ นหลักฐานจริ งที่อยูใ่ นห้องส่ วนตัวและกลุ่มคณะปฏิรูปด้วยกันทั้งนั้น
หากจะพูดถึงความรู ้สึกคงเป็ นความรู ้สึกสิ้ นหวังในตัวมนุษยชาติเสี ยมากกว่า ที่เลือกทางเลือกที่ให้ผลดีใน
ระยะสั้น แต่ตอ้ งประสบกับความวิบตั ิฉิบหายไปอีกนานแสนนาน บางทีผมอาจจะเป็ นเหมือนอย่างพวกมันก็
เป็ นได้ ที่มองข้ามสัญญาณอันตรายไปหลายต่อหลายอย่าง ผมนึกถึงไอสไตน์ที่ปราก เขาได้พบชายคนหนึ่งที่
เตือนเขาว่า สมการของเขานั้นสามารถสร้างอาวุธมหาประลัยได้ แต่ไอสไตน์ไม่ได้พดู อะไร เพียงแค่มองไป
ที่กระดาษทดอีกฝ่ ายแล้วบอกว่า “ในนั้นมีขอ้ ผิดพลาด”

ไม่มีความเก้อเขินระหว่างนักโทษกับผุคุม เพราะอีกฝ่ ายไม่สามารถรู ้สึกได้ หุ่นยนตร์ขนาดครึ่ งตัวคน


เคลื่อนที่นาํ ผมไปด้วยวิธีการลากรถเข็นคนป่ วย ผมที่จบั ใส่สเตรทแจ็คเก็ต(Straight jacket)และมัดไว้กบั
รถเข็นก็ตอ้ งจํายอมถูกลากแต่โดยดี เจ้าหุ่นผูค้ ุมนําผมไปที่หอ้ งๆหนึ่ง ซึ่งมองเห็นได้จากกระจกด้านนอก
เพียงด้านเดียว กลางห้องมีโต๊ะตรงกลางและมีที่ล่ามมือ ล่ามเท้าพร้อมใช้ในกรณี ที่นกั โทษขัดขืนหรื อคิดทํา
ร้ายคู่สนทนา มุมห้องคงมีลาํ โพงและกล้องวงจรปิ ดซ่อนอยู่ ผมคิดว่า อีกฝ่ ายคงอยากสอบสวนอะไรผม
เพิ่มเติมกระมัง แต่ผมเดาผิด...

“มีใครที่นายอยากพบไหม ถ้ามีเราจะให้นายพบ”

มีสิ...ทําไมจะไม่มี เพียงแต่จะไปพบได้ยงั ไงในเมื่อ ‘เธอ’ยังคงนอนไม่ได้สติอยูอ่ ย่างนั้น ผมใช้เวลาคิด


ใคร่ ครวญอยูส่ กั ครู่ หนึ่งโดยไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยวข้องและได้คาํ ตอบว่า ในตอนนี้ผมควรจะพบกับคนที่ไม่
เจอมากที่สุด ซึ่งนัน่ ก็คือ วิล

วิล เป็ นหนึ่งในคนที่ผมมองว่าเป็ น สหายคนสําคัญในกลุ่มปฏิรูปแม้บางครั้งเราจะมีความเห็นไม่ตรงกับบ้าง


แต่ผมก็ไม่เคยเอะใจว่ามันจะเป็ นชนวนเหตุให้ผมต้องถูกเซ่นสังเวยความผิดของทุกคน วิลนั้นเก่งเรื่ องการ
พัฒนาปัญญาประดิษฐ์(Artificial Intelligent) ชนิดหาตัวจับยาก ยิง่ ได้ทาํ งานร่ วมกันกับเขาแล้วผมยิง่ คิดว่า
มันต้องไปได้สวยแน่ๆ แต่ผมประเมินความทะเยอทะยานของวิลตํ่าเกินไป และนัน่ เป็ นสาเหตุที่ทาํ ให้ผม
ต้องมาคุยกับเขา ในสภาพนี้ ที่นี่ เวลานี้

“ว่าไง วิล สบายดีไหม?” ผมยังกดข่มอารมณ์ทกั ทายอย่างปรานีปราศรัยตามมารยาท

“ก็สบายดี”

แล้วเราก็เงียบใส่ กบั สักพักใหญ่ก่อนที่ผมจะเปิ ดประเด็นทีต่ นสงสัยเพราะผมมีเวลาคุยกับเขาไม่มากนัก

“ต่อจากนี้นายจะเอายังไง?”

“ก็คงพัฒนาFAI สานต่อจากที่นายทําไว้”

“ไม่ใช่!” ผมตะโกนลัน่ “ นายจะเอายังไงกับสิ่ งที่จะเกิดขึ้นกับมนุษยชาตินบั จากนี้เป็ นต้นไป ทั้งในแง่ความ


รับผิดชอบและการแก้ไข!”

“ต่อไปอนาคตของมนุษยชาติจะสดใส AIที่พวกเราวางรากฐานไว้ รัฐบาลจะนํามันไปใช้ ต่อจากนี้ปัญหา


ต่างๆจะหมดไป ทั้งเรื่ องการทะเลาะวิวาท การขาดแคลนอาหาร และความยากลําบากในการใช้ชีวิต”

“ใช้ชีวิตรึ ...หึ ” ผมหัวเราะเสี ยงขึ้นจมูกครั้งหนึ่ง “พวกแกกําลังพรากเอาชีวิตไปจากพวกเขาต่างหาก พวกแก


กําลังสร้างฟาร์ม มอบเครื่ องมือให้ไอ้พวกข้างบนนัน่ เพื่อเอามาขุนพวกเขาให้อว้ น จากนั้นก็สูบเลือดสูบเนื้อ
บัน่ ทอนชีวิต เป็ นดัง่ ปรสิ ตตัวร้าย ขโมยความฝัน ขโมยความพยายาม ช่วงชิงความยากลําบากและความท้า
ทายในชีวิตของพวกเขาไป แล้วยังมีหน้ามาพูดถึง ‘การใช้ชีวิต’อีกอย่างนั้นรึ ?”

หากไม่ติดว่า ผมใส่ เจ้าเสต็ทแจ็คเก็ตอยูผ่ มคงเอากําปั้ นทุบโต๊ะเสี ยงดังสนัน่ ไปแล้ว

วิลฟังอย่างเงียบๆ ผิดกับทุกครั้งที่เราโต้เถียงกัน ผมไม่รู้วา่ เป็ นเพราะเขาสํานึกกับสิ่ งที่ผมพูดหรื อแค่เพียง


มองว่า การพูดกับผมนั้นมันป่ วยการเปล่า กันแน่ พอผมเริ่ มอารมณ์เย็นลงผมจึงถามคําถามอื่นต่อ

“ฝ้ ายยังสบายดีไหม?’

“....นัน่ เป็ นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผมต้องมาพบนายในวันนี้” วิลเงียบทันทีที่พดู จบ ผมเงยหน้าขึ้นและถอนหายใจ


เฮือกใหญ่ ไม่ทนั สิ นะ ผมหลับตาลงปล่อยให้ตวั เองจมกับภาพเก่าๆความรู ้สึกดีๆในวันวานสักพักหนึ่ง
เสมือนเป็ นการไว้อาลัยครั้งสุ ดท้ายแด่เธอ เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งผมบอกกับวิลว่า
หมดเรื่ องที่จะต้องคุยกันแล้ว ต่อจากนี้เป็ นผลลัพธ์ของพวกเขาทั้งหมด ที่ผมไม่สามารถจะรับรู ้ได้ไปอีก10ปี
แม้วิลจะวาดฝันไว้สวยงามแค่ไหน แต่ผมที่รู้จกั แก่นสันดานของคนบางประเภทดี และคาดการณ์ได้ถึงความ
ล่มสลายของอารยธรรมล่วงหน้าแล้ว

“วิล 10ปี สําหรับนายอาจจะเป็ น 10ปี ที่ยาวนาน ในขณะที่ 10ปี ของผมมันแค่ชวั่ หนึ่งคืน ขอให้นายจงใช้ชีวิต
ของตัวเองอยูก่ บั 10ปี นั้น ให้เต็มที่ล่ะ” คําที่ผมพูดไปสําหรับวิลคงเหมือนคําอวยพรแต่ผมเชื่อว่า มันจะเป็ น10
ปี แห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เมื่อหมดเรื่ องที่จะพูดกับวิล ผมจึงส่ งเสี ยงเรี ยกให้หุ่นสี เทาขนาดครึ่ งตัวคนมารับผมไปที่เตียงเย็นเสี ยที ผม


มองวิลด้วยหางตาเป็ นครั้งสุ ดท้ายก่อนถูกเข็นออกจากห้องสอบสวน

ผมถูกนําตัวไปที่หอ้ งสี ขาวเล็กๆที่มีเตียงกระจกวางนอนเรี ยงอยูม่ ากมาย ผมเป็ นแขกรายแรก จึงอยูแ่ ถวที่1


เตียงที่1 ภายในห้องขังนั้นว่างเปล่าแต่ผมพอรู ้มาเล็กน้อยว่า เมื่อมีนกั โทษเข้าไปอยูข่ า้ งใน เตียงจะให้ท่อ
อากาศ ท่ออาหารและท่อของเสี ย ด้านในหล่อเลี้ยงเซลล์ดว้ ยเจลอาหาร มีสายบางคู่หนึ่งต่อกับไขสันหลังเพื่อ
ปล่อยกระแสไฟฟ้ ากระตุน้ ไม่ให้กล้ามเนื้อฝ่ อจนพิการเพื่อตื่นขึ้นมา ดูๆไปแล้วการอยูแ่ บบนี้มนั ก็ดู
สะดวกสบายดี ดีเกินไปสําหรับนักโทษการเมืองอย่างผมด้วยซํ้า

ดูเหมือนว่า พวกเขากําลังพยายามทดลองบางอย่างเสี ยมากกว่า ผมพริ้ มตาลงเบาๆพลางย้อนนึกถึง แมวตัว


หนึ่งที่อยูใ่ นกล่องเฉกเช่นเดียวกับผมในตอนนี้...ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดดับลงทีละนิด ผมสิ้ นความรู ้สึกและจม
ดิ่งสู่ ความไร้สมั ปชัญญะ

กระแสไฟฟ้ าที่คอยกระตุน้ ผมอยูถ่ ี่ๆ ทําให้ผมค่อยๆรู ้สึกตัวขึ้นมาทีละน้อย ผมปรื อตาตื่นขึ้นอย่างยากลําบาก


เห็นทุกอย่างเลือนลางไปหมด ระบบอัตโนมัติข้ ึนข้อความสี ดาํ มาถามผม เรื่ อง การมองเห็น ว่า เห็นได้ชดั
หรื อไม่? ตัวเลขที่แสดงเป็ นตัวเลขอะไร? บางทีกม็ ีคาํ ถามเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวให้พดู ตอบ ผมอ้าปากได้
แต่รู้สึกว่า ตัวเองทําอะไรติดๆขัดๆเชื่องช้าไปหมด หน้าจอแสดงผลลัพธ์การเมินปฏิกิริยาการโต้ตอบทาง
ร่ างกายพบว่า ประสิ ทธิภาพทางร่ างกายของผมนั้นตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยคนปกติถึง34%

โปรแกรมและAI ได้นาํ ผมออกจากเตียงเย็นเตียงเดิมย้ายเข้าสู่ ระบบฟื้ นฟูร่างกายและระบบประสาท นํ้าเมือก


ลื่นๆเหมือนเจลได้ถูกถ่ายลงไปในเตียงใหม่ท้ งั ที่ผมยังมีสติอยู่ ทําให้ผมรู ้สึกเหมือนกําลังนอนอยูใ่ นโลงที่ถูก
นํ้าท่วม กระแสไฟฟ้ าถูกปล่อยออกมาเป็ นระลอกไล่ลาํ ดับจากน้อยไปหามาก พักและกระตุน้ สลับเป็ น
ระยะๆ โปรแกรมปรับสมดุลร่ างกายก็เป็ นเหมือนไมโครเวฟที่ค่อยๆปรับระดับอุณหภูมิให้สูงขึ้น จนร่ างกาย
ของผมต้องขับเหงื่อ ออกมาในปริ มาณมาก ก่อนที่จะค่อยๆลดอุณหภูมิลงจนเข้าสู่ จุดสมดุล ต่อด้วย
โปรแกรมปรับอวัยวะที่ใช้ในการหายใจ ที่ปรับให้ปริ มาณอากาศน้อยกว่าปกติและมีความกดอากาศที่สูง ทํา
ให้ร่างกายต้องปรับตัวด้วยการหายใจลึกและถี่กว่าปกติ เพื่อรับออกซิเจนเข้าไปให้มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งหมดที่
กล่าวมาทําให้ผมรู ้ความจริ งอย่างหนึ่งว่า โปรแกรมฟื้ นฟูสมรรถภาพร่ างกายหลังพ้นโทษนั้นสาหัสสากรรจ์
ราวกับนรกขนาดย่อมก็มิปาน

เกือบ3เดือน หลังผ่านโปรแกรมฟื้ นฟู ผมได้ออกจากโปรแกรมดังกล่าวด้วยสุ ขภาพร่ างกายที่แข็งแรงเสี ยยิง่


กว่าตอนเข้ารับการฟื้ นฟูเสี ยอีก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยงั สงสัยอยูด่ ีวา่ ทําไมผมถึงไม่เคยเห็นผูบ้ าํ บัดฟื้ นฟูคนอื่น
เลยตลอด3เดือนที่ผา่ นมา ผมเก็บงําความสงสัยนั้นไว้ก่อน เพราะผมอยากรู ้วา่ โลกที่ผมไม่อยูน่ านถึง10ปี นั้น
เป็ นอย่างไร?

สิ่ งที่ผมรู ้ตอนนี้มีแค่หอ้ งโถงสี ขาวและผลึกปริ ซึมที่แปลกตา เทคโนโลยีภาพเสมือนได้ถูกนํามาใช้อย่าง


แพร่ หลายระดับอุตสาหกรรมแล้วหรื อ?

บันไดเลื่อนสี ขาวและระบบAIนาวิเกเตอร์นาํ ทาง พยายามที่จะพูดชี้ให้ผมกลับไปพักที่หอ้ งของตัวเองก่อน


แต่ผมเลือกที่จะไม่สนใจมันและขอข้อมูลแผนที่แทน มันแสดงแผนที่ขนาดใหญ่ของตัวอาคารที่ผมอยูแ่ ละ
ผมก็พบว่า ระหว่างที่ผมหลับไปนั้นผมถูกย้ายไปสถานที่ใหม่ซ่ ึงเป็ นที่ที่ผมไม่รู้จกั ทําไมผมถึงรู ้เรื่ องนั้น
ได้น่ะหรื อ?เพราะชื่อเรี ยก สถานที่ HC07815m ไม่น่าจะใช่ชื่อตามปกติที่คนธรรมดาเขาตั้งกัน และผมไม่คุน้
ชื่อนี้อีกด้วย ผมได้ลองถามAIนาวิเกเตอร์ถึง ชื่อคนรู ้จกั ไม่วา่ จะเป็ นสมาชิกในหน่วยปฏิรูป หรื อแม้แต่คน
ในตระกูลผม แต่ดูเหมือนมันเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคําถามเหล่านั้น

ระหว่างทางเดินข้ามตึกผมพบกับใครบางคนสวมชุดคลุมสี ขาวๆคล้ายเสื้ อกาวน์ของหมอแต่มีฮู๊ดคลุม เขา


เดินเก้ๆกังๆในตอนที่ผมเดินเข้าไปหา ผมถามเขาว่า ที่นี่คือ ที่ไหน ปี อะไรและคุณเป็ นใคร (ถามไป
ตามลําดับ) แต่ดูเหมือนเขาจะนอนเตียงเย็นนานเกินไป ทําให้เขาอ้าปากค้างโดยไม่มีเสี ยงออกมา เมื่อ
พยายามตั้งใจฟังและประติดประต่อคําพูดของเขา ผมก็พบว่า ปี นี้น่าจะเป็ นอีก10ปี ต่อมาจริ งๆอย่างที่ผมคิด
ไว้ และสถานที่ที่ผมอยูใ่ นตอนนี้คือ อาคารกักกันโรคติดต่อ ส่ วนเขาก็เป็ นตัวอย่างทดลองที่มีแอนตี้บอดี้ตา้ น
ไวรัสตัวดังกล่าว

ตัวอย่างทดลองคนนี้ชื่อ เพ็ค เป็ นนักศึกษาที่ได้รับเชื้อที่แพร่ กระจาย แต่ที่ผดิ แปลกไปจากคนอื่นคือ มี


ภูมิคุม้ กันโดยสมบูรณ์กบั เชื้อตัวดังกล่าวทําให้ถูกกักกันตัวไว้เพื่อจะได้ลองสกัดเอาเลือดของเขามาใช้ทาํ
วัคซีนต่อต้านโรคที่เกิดจากไวรัสสายพันธุ์ใกล้เคียงกัน
ผมเดินตามเพ็คไปดูสถานที่สาํ คัญต่างๆในอาคารแห่งนี้ ซึ่งนัน่ ก็คือ ห้องบําบัดใหญ่ ในห้องโถงขนาดใหญ่มี
กระจกติดอยู่ ผมยืนมองผูค้ นที่ผอมแห้งได้รับการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่แปลกตา ซึ่งส่ วนมากเป็ นการนําส่ ง
ผูบ้ าํ บัดเข้าสู่ เครื่ องที่คล้ายๆเตียงเย็นเสี ยมากกว่า มีอุปกรณ์คล้ายๆเครื่ องประทับบาร์โค๊ดประทับลงบนจุดข้อ
พับแขน เพ็คเล่าให้ฟังว่า นัน่ คือ เครื่ องฉี ดวัคซีนที่มีบาร์โค๊ดอยูใ่ นตัว ทําให้สามารถฉีดยาไปพร้อมๆกับ
บันทึกประวัติการรักษาไปด้วย โดยมีหวั เข็มขนาดเล็กฝังไมโครชิพ และมีลกั ษณะหัวเข็มแตกต่างกันออกไป
ตามรหัส จึงสามารถตรวจสอบได้ท้ งั จากรอยและจากข้อมูลที่ส่งกลับมาจากไมโครชิพ

ผมรู ้สึกแปลกๆกับการนําเข็มฉี ดยาไปรวมกับเครื่ องทําบาร์โค๊ด จึงอยากหาโอกาสเลี่ยงไปห้องนํ้า ระบบนํา


ทางพยายามที่จะชี้ให้ผมไปห้องนํ้านอกโซนการบําบัดซึ่งอยูไ่ กลออกไปมาก แต่จะไปไกลขนาดนั้นทําไมใน
เมื่อห้องนํ้าใกล้ๆก็มี ผมปล่อยให้เพ็คเฝ้ าดูผปู ้ ่ วยไปสักพักหนึ่ง และรี บกลับมาก่อนที่เขาจะได้ทนั รู ้ตวั ว่าผม
หายไปเข้าห้องนํ้าด้วยซํ้า

ทางเดินไปห้องนํ้าค่อนข้างแคบและลี้ลบั พอสมควร มีซอยเล็กๆเดินหักไปหักมาเหมือนทางเข้าซอยตัน


ปลายทางนั้นมีหอ้ งนํ้าอยูจ่ ริ งและเป็ นห้องนํ้ารวม... พอใช้หอ้ งนํ้าเสร็ จผมถึงได้สงั เกตเห็นว่า ก่อนเลี้ยวเข้า
ไปในห้องนํ้า มีหอ้ งๆหนึ่งอยูด่ ว้ ยทีแรกผมไม่เห็นมัน คงเพราะห้องดังกล่าวถูกฉาบด้วยสี ขาวและกลมกลืน
ไปกับผนัง ต้องขอบคุณความขี้เล่นของผมที่เที่ยวเคาะกําแพงตามทาง และมาสะดุดตากับรอยต่อประตูสีขาว
ผมดูแผนที่อีกครั้งและพบว่า ไม่มีตาํ แหน่งระบุวา่ เป็ นห้องอะไรในแผนที่ จะมีกแ็ ต่เป็ นห้องว่างๆที่ไม่ได้ถูก
ใช้งาน ผมจึงลองขยับเปิ ดดูพบว่า มันเป็ นประตูแบบเลื่อน ภายในห้องนั้นมีเครื่ องฉายโฮโลแกรมอยูม่ ุมห้อง
และมีแท่นสี่ เหลี่ยมเป็ นผลึกอยูต่ รงกลาง เมื่อเซนเซอร์ตรวจพบว่า ผมเข้ามาในห้อง เครื่ องฉายก็เริ่ มทํางาน
ทันที

“ถึงคุณ....คุณผูร้ อดจากพวกมันมาได้ ฉันไม่ได้อยากพูดแบบนี้เท่าไหร่ นกั แต่คุณเป็ นความหวังเดียว


ความหวังสุ ดท้ายของพวกเรา ฉันจะพูดให้กระชับที่สุดเพราะคุณคงมีเวลาเหลือไม่มากเท่าไหร่ นกั ที่นี่ไม่ใช่
สถานบําบัดอย่างที่พวกมันบอกคุณ แต่เป็ นสถานที่ที่ลา้ งสมองให้คุณเป็ นส่ วนหนึ่งของพวกมัน เจ้าคนที่
สร้างระบบนี้น้ นั ตายไปหมดแล้วแต่ส่ิ งที่มนั ยังคงเหลือทิ้งไว้ ยังคงดําเนินต่อไปจนกว่ามนุษยชาติจะสูญสิ้ น
ได้โปรดเถอะค่ะ มีเพียงแค่คุณเท่านั้นที่จะสามารถช่วยทุกคนได้” ผมตั้งใจฟังด้วยความสนใจจดจ่ออย่างยิง่
ไม่ใช่เพราะผมพออกพอใจในคําสรรเสริ ญเยินยอ หรื อเพราะอยากเป็ นฮีโร่ ผูก้ อบกูว้ ิกฤตอะไรนัน่ หรอก แต่
เป็ นเพราะ...

“ฝ้ าย เธอยังไม่ตาย วิลมันโกหกผมสิ นะ”


ฝ้ ายบอกให้ผมใช้เครื่ องนําส่ งความจําที่ต้ งั อยูอ่ ีกด้านหนึ่งของมุมห้อง เธอบอกว่า มันเป็ นเครื่ องรุ่ นเก่าสัก
หน่อยแต่ยงั ใช้งานได้อยู่ โดยเครื่ องนี้ได้เก็บข้อมูลวงจรชิพที่เคยอัดไว้ในสมองของหน่วยต่อต้านสากลเพื่อ
เป็ นข้อมูลส่ งมอบไปยังรุ่ นต่อๆไป เพื่อรักษาอุดมการณ์ขององค์กรนั้นไว้จนกว่าระบบดังกล่าวจะสูญสิ้ น

เลือดในร่ างผมสู บฉี ดด้วยความดีใจ ตื่นเต้น กังวลและหวาดระแวงไปพร้อมๆกัน ภาพของเธอมันปลุกเร้า


ความดีใจจนผมขนลุกขนชัน แต่ในขณะเดียวกันสิ่ งที่เธอพูดออกมานั้นชวนให้สงสัยเป็ นอย่างมาก ผมควร
จะเชื่อเธอดีหรื อเปล่า...ผมลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง หลับตากัดฟัน และตัดสิ นใจให้เด็ดขาดก่อนที่ผมจะ...

...ผมได้ออกมาเห็นความจริ งภายนอกตัวอาคาร และพบว่า สภาพแวดล้อมภายนอกเลวร้ายถึงขีดสุ ด


ปรากฏการณ์ธรรมดาๆอย่างลมพัดก็กลายเป็ นสิ่ งที่อนั ตรายต่อสิ่ งมีชีวิต ด้วยธุลีสีดาํ เทาคล้ายขี้เถ้าเขม่าถ่าน
มีฤทธิ์กดั กร่ อนเผาไหม้ผวิ หนังของสิ่ งมีชีวิตให้ไหม้เป็ นสี อมดํา ปริ มาณเพียงเล็กน้อยที่ระบบเก็บมาทดสอบ
ทันทีที่ผมลองสัมผัสดูกพ็ บว่า ปลายนิ้วของผมพุพองเป็ นรอยแดงก่อนที่จะเป็ นรอยไหม้ต้ืนๆ

ผมถามนาวิเกเตอร์คนใหม่ ที่ช่างพูดช่างเจรจามากกว่ารุ่ นก่อน ผมแปลกใจเล็กน้อยที่มีการเปลี่ยนแปลง


กะทันหัน แต่ไม่นานเท่าไหร่ นกั ผมก็เริ่ มชิน เหมือนกับผมได้คู่หูเพื่อนร่ วมทางเพิ่มขึ้นมาอีกคน

ผมถามเธอว่า “ถ้าบอกว่าที่ผมเห็นในห้องบําบัดใหญ่นนั่ เป็ นฮิวแมนนอยด์ท้ งั หมด แล้วมนุษย์คนอื่นๆ


หายไปไหนกันหมดล่ะ?”

[หมดสภาพการใช้งานไปแล้วค่ะ]

นาวิเกเตอร์คนใหม่ตอบอย่างตรงไปตรงมาแม้จะใช้คาํ สะกิดใจผมบ้างแต่นบั ว่า ตามอุปนิสยั แล้วถือว่าถูกใจ


ผมพอสมควร

“แม้แต่พวกที่ถูกแช่ดว้ ยเตียงเย็นด้วยงั้นหรื อ?”

[ค่ะ หมดสภาพไปเพราะขาดอากาศ และอาหาร เกิดขึ้นในช่วงที่มีคาํ สัง่ ประหยัดพลังงานจึงต้องตัดไฟทําให้


เครื่ องส่ งสิ่ งยังชีพไม่ทาํ งานค่ะ]

“แล้วตอนนี้พลังงานพอได้ยงั ไงกันล่ะ?”

[พื้นที่ไหนไม่มีการใช้งานก็ปิดค่ะ หากไม่พอก็ใช้แหล่งพลังงานสํารองปั่นเก็บสะสมไว้ใช้ยามฉุกเฉิ นแทน


แหล่งพลังงานหลักค่ะ]
ยามเมื่อมีมนุษย์กลับไม่มีพลังงานเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตผูอ้ ื่น แต่พอเวลาผ่านไปกลับพบว่า ไฟฟ้ ามี
เพียงพอให้กบั ทุกคน นี่มนั ตลกร้ายชัดๆ

“ผมอยากไปดูแหล่งพลังงานสํารอง มันอยูท่ ี่ไหนล่ะ?”

[อยูช่ ้ นั ใต้ดินค่ะ จะไปตอนนี้เลยไหมคะ]

“อืม ไปตอนนี้เลย”

ชั้นใต้ดินเป็ นเหมือนสุ สานที่มีแต่หลอดขนาดใหญ่ทาํ จากกระจกสี เขียวขุ่นหนาเกินนิ้ว เรี ยงรายตามชั้น ลง


ไปเป็ นวงรอบ แกนกลางของแหล่งเก็บพลังงานสํารองเป็ นพื้นที่สาํ หรับลิฟท์ทรงกระบอกขนาดใหญ่ที่มี
ทางออกลิฟท์สองประตู ข้างในแต่ละพื้นที่จะมีทางเดินแคบๆ มีรางเดี่ยวเล็กๆสําหรับหุ่ นที่ตอ้ งใช้ราง
ภายในหลอดกระจกเขียวขุ่นพวกนั้นบรรจุส่ิ งมีชีวิตประเภทต่างๆที่ต่อสายไฟระโยงระยางไว้ ผมสังเกต
พบว่า แต่ละชั้นที่ลงไป ลึกลงไปเรื่ อยๆ ก็ยงิ่ เข้าใกล้กบั สายพันธุ์มนุษย์ยงิ่ ขึ้นๆ จนกระทัง่ ถึงชั้น G ที่เป็ นพวก
ไพรเมท อย่างชะนี ลิงและค่าง ผมไปถึงขั้นGที่เป็ นชั้นสุ ดท้าย และถามนาวิเกเตอร์อย่างติดตลกว่า

“หวังว่า คงไม่มีช้ นั ต่อไปอีกนะ”

เธอตอบอย่างตรงไปตรงมาเหมือนอย่างเคยว่า

[ไม่มีช้ นั ต่อไปแล้วค่ะ ทั้งหมดนี้เป็ นแหล่งพลังงานสํารอง แหล่งพลังงานหลักจะอยูอ่ ีกพื้นที่หนึ่งค่ะ]

ผมยืนตัวชาสักครู่ หนึ่งเพราะนึกถึงอะไรบางอย่างที่เลวร้ายขึ้นมาได้ แต่เพื่อความแน่ใจผมจึงขอให้เธอนั้นพา


ผมยังแหล่งพลังงานหลัก

เมื่อมาถึง พื้นที่แหล่งพลังงานหลักผมพบว่า มันมีแต่หลอดแคปซูลขนาด2เมตรเศษๆเรี ยงเป็ นทิวแถว ภายใน


บรรจุร่างของคนเอาไว้ราวกับเป็ นโชว์รูมมนุษย์ พื้นที่แหล่งพลังงานมนุษย์เป็ นพื้นที่ขนาดใหญ่ระดับที่
สามารถเรี ยกว่าเป็ น หมู่บา้ นเลยก็ยงั ได้ ผมกลืนนํ้าลายและสู ดหายใจเข้าลึกๆเพื่อให้ร่างกายเลิกสัน่ เพราะ
บรรยากาศอันหนาวเหน็บของพื้นที่แหล่งพลังงานหลัก ก่อนที่ผมจะถามตัวเองออกเสี ยงว่า

“ผมจะใช้ชีวิตโดยลําพังท่ามกลางไอ้พวกนี้ต่อไปได้ยงั ไงกัน...”

หลังจากไปดูพ้ืนที่ชวนหดหู่ ผมก็กลับมาอยูใ่ นโซนพักผ่อนส่ วนกลางที่มีอุปกรณ์ติดต่อสื่ อสาร ผมขอให้นา


วิเกเตอร์คนใหม่ติดต่อบุคคลที่ผมรู ้จกั เธอแนะนําให้ผมใช้เครื่ องจําลองภาพเสมือนจริ ง(Visual Reality)ให้
ผมได้เข้าไปสนทนากับคนๆนั้นได้อย่างสะดวก ผมยืนคิดสักครู่ หนึ่งก่อนที่จะตัดสิ นใจลอง สวมดู เจ้าเครื่ อง
ตัวดังกล่าวดูเหมือนเป็ นแค่แว่นธรรมดาๆที่มีสายและเข็มเสี ยบอยูด่ า้ นหลัง เนื่องจากผมมีรู ปลั้กอยูท่ ี่ทา้ ย
ทอยและกลางไขสันหลัง ตั้งแต่ตอนที่ตอ้ งไปนอนเตียงเย็นอยูแ่ ล้วจึงไม่ลาํ บากนัก แค่จะรู ้สึกเสี ยวแปลบ
เล็กน้อยตอนเสี ยบปลั้กเข้าไปตรงท้ายทอย

[ดําเนินการเชื่อมต่อ ผ่านเครื อข่ายกลาง]

[ตรวจสอบฐานข้อมูล ค้นหาจากรายชื่อทั้งหมด]

[พบรายชื่อ กําลังดําเนินการเชื่อมต่อตรง]

ภายในไม่กี่วินาที ภาพสามมิติกป็ รากฏขึ้นมาให้ผมเห็นทั้งที่ผมยังแทบไม่รู้ดว้ ยซํ้าว่าตัวเองลืมตาหรื อ


หลับตาอยู่ คนที่ผมอยากจะคุยด้วยคือ คนสุ ดท้ายที่ผมคุยด้วยก่อนที่ผมจะถูกจับแช่ไปนานนับ10ปี

คําแรกที่ผมทักทายเขาคือ

“วิล...นายโกหกผมนะ ฝ้ ายยังไม่ตาย”

วิลดูประหลาดใจและแตกตื่นอย่างมากเมื่อเห็นผมเชื่อมต่อหาเขาโดยตรงและพูดถึงฝ้ าย

“นายอยูท่ ี่ไหนกัน ทําไมนายถึงสามารถใช้ช่องทางพิเศษติดต่อผมได้?”

“ไม่สาํ คัญหรอก วิล เรามาคุยเรื่ องสําคัญมากกว่านี้กนั ดีกว่า เล่าให้ผมฟังทีวา่ มนุษยชาติมาถึงจุดนี้ได้ยงั ไง


กัน?”

“มาถึงจุดนี้ นายหมายถึง อะไร? ที่นี่กส็ งบสุ ข ทุกคนก็ดาํ เนินชีวิตปกติ นายก็รู้อยู”่ เมื่อใดก็ตามที่วิลเริ่ มที่จะ
ปิ ดบังอะไรบางอย่าง เขามักใช้คาํ ว่า ‘นายก็รู้อยู’่ ลงท้ายเสมอ

“ก็เออสิ วะ! มันปกติอยูแ่ ล้วล่ะ ในเมื่อเล่นทิ้งโลกจริ งที่มีแต่เขม่าขี้เถ้าเทาๆดําๆ หนีไปอยูใ่ นโลกเสมือนจริ ง


กับAIน่ะ!”

“…..” วิลไม่โต้ตอบอะไร สิ่ งที่ผมพูดมันคงแทงใจเขาแรงพอสมควร

“เล่าสิ่ งที่นายรู ้ทีเถอะ วิล อะไรก็ได้ ผมต้องการเบาะแสที่จะนําไปสู่ ความเข้าใจ ตั้งแต่จุดเริ่ มต้นจนถึง


ข้อสรุ ป และถ้าหากยังมีโอกาสอยูบ่ า้ ง เราอาจจะจบเรื่ องนี้ได้”
“....สิ่ งไหนที่ถูกทําลายไปแล้วย่อมไม่อาจถูกทําลายได้อีก เรื่ องไหนที่จบลงแล้วย่อมไม่อาจจบลงได้อีก...
เรื่ องที่นายเคยพูดมา มันถูกต้องแล้วล่ะ”

“วิล นายหมายถึง เรื่ องไหน เรื่ องอะไร?”

“ฟาร์มมนุษย์น้ นั เสร็ จสิ้ นสมบูรณ์ไปนานมากแล้วล่ะ...มันก็เข้าสู่ จุดอิ่มตัว และล่มสลายไปแล้วด้วย แต่เพื่อ


รักษาพวกเขาไว้ ผมจึงสร้างโลกอีกใบหนึ่งให้พวกเขาได้อยู่ ได้อาศัย ได้ใช้ชีวิตอันสุ ขสงบที่นน่ั ”

“วิล นายหลงทางมาไกลถึงขนาดนี้ดว้ ยตัวคนเดียวได้ยงั ไงกัน?”

“มันมี...อะไรบางอย่างที่ช้ ีนาํ ผมเสมอมา โดยที่ผมไม่รู้ตวั มันคอยโน้มน้าวและหลอกล่อให้ผมมุ่งสู่ จุดจบ


แบบนี้”

“นายกําลังปฏิเสธเจตจํานงเสรี ของมนุษย์และผลักความรับผิดชอบไปให้เจ้าสิ่ งนั้นอยูห่ รื อ วิล?”

“ไม่ใช่ ผมแค่ถูกชี้นาํ ไปในทางที่ผดิ จริ งๆ ผมยอมรับความผิดทั้งหมดที่ก่อขึ้นแต่ผเู ้ ดียวแต่ ผมจะไม่พดู ถึง


ไอ้เจ้าสิ่ งนั้นไม่ได้!”

“ไอ้เจ้าสิ่ งนั้นของนายมันคืออะไร? มันยิง่ ใหญ่ขนาดชี้นาํ นายได้ แล้วนําพามนุษยชาติไปสู่จุดวิกฤติได้ถึง


ขนาดนี้เลยหรื อ? มันมีสิ่งนั้นอยูจ่ ริ งๆหรื อ?”

“มันคือ จุดขัดแย้ง มันคือ ความไม่ลงตัว มันคือ ความไม่สอดประสานกัน ระหว่างความจริ งของแต่ละผู ้


สังเกต นายจําครั้งสุ ดท้ายที่แจ้งข่าวเรื่ องฝ้ ายได้ใช่ไหม ผมเห็นกับตาแล้วว่าฝ้ ายน่ะได้ตายไปแล้ว แต่ถึงอย่าง
นั้นฝ้ ายก็ยงั ไม่ตาย เธอย้ายตัวเองทั้งความนึกคิด ความจํา ปณิ ธาน และอะไรต่อมิอะไรอัดลงไปเป็ นส่ วนหนึ่ง
ของระบบ แบ่งเซคชัน่ ตามที่ตอ้ งการ จําลองวิธีการทีละล้านโมดูล คัดเลือกโมดูลที่ทรงประสิ ทธิภาพและ
ตรงกับเป้ าประสงค์ที่สุดแล้วค่อยผนวกรวมกลับเข้าไปสู่ ฐานข้อมูลเดิมของเธอ จากนั้นเธอก็กระจายตัวไป
ตามเครื อข่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เธอพัฒนาโลกใบใหม่ให้สวยงามสมจริ งยิง่ ขึ้นทีละน้อย ในขณะที่
โลกได้ถูกพวกชนชั้นสู งทําลายด้วยการเที่ยวเอาขยะปฏิกรณ์มาทิ้ง จนในที่สุดผูค้ นกว่าครึ่ งเริ่ มพบว่า โลก
เสมือนจริ งของเธอ มันงดงามน่าพํานักพักพิงยิง่ กว่าโลกความจริ งที่สกปรก แปดเปื้ อนและเต็มไปด้วยความ
โหดร้าย พวกระดับสู งเริ่ มชอบใจกับการได้แหล่งพลังงานจากสัตว์และมนุษย์เป็ นๆ แล้วนําไปขายให้กบั
ประเทศมหาอํานาจ แต่สุดท้ายมันก็กลับมาย้อนทําลายพวกเขาเอง เพราะผูค้ นต่างก็สิ้นหวังกับความจริ งที่ถูก
เปิ ดโปง ทั้งยังสลดหดหู่กบั โลกที่มีแต่ความเห็นแก่ได้และการแก่งแย่งชิงผลประโยชน์กนั อย่างรุ นแรง แต่ถึง
กระนั้นพวกเขาเองก็ไม่มีความกล้าเพียงพอที่จะรวมกลุ่มรวมตัวกันลุกขึ้นต่อสู ก้ บั ความอยุติธรรม ดังนั้น
พวกเขาจึงพากันหลบหนีไปสู่ โลกของเธอ ซึ่งมันเป็ นไปตามแผนที่เธอวางไว้ ผูค้ นเริ่ มหนีหายไปจากสังคม
โลกจริ งมากขึ้นจนสุ ดท้ายแล้ว เหลือแต่ระดับบนๆที่ไม่เคยต้องลงมือทําอะไรด้วยตัวเอง พอขาดแรงงานเข้า
พวกมันก็เริ่ มตระหนักได้ถึงความยากลําบากเมื่อขาดกําลังคน และสุ ดท้ายพวกมันก็ไปอยูใ่ นโลกของเธอเป็ น
กลุ่มสุ ดท้าย ก่อนที่จะทิ้งโลกเสื่ อมๆนี้ไว้เบื้องหลัง

“ภายใน10ปี นี่ มันเกิดเรื่ องขึ้นขนาดนี้เลยรึ ?”

“ไม่ใช่ 10 ปี 100ปี ต่างหาก!”

“บ้าน่า ถ้าอย่างนั้นนายอยูม่ าได้ยงั ไงจนถึงอายุ122ปี ล่ะ!? สรุ ปแล้วผูค้ นที่นี่มีอายุขยั เฉลี่ยเท่าไหร่ กนั แน่?”

“พวกเขาน่ะหลงลืมไปแล้วล่ะว่า มีสิ่งที่เรี ยก การเกิดและการตายอยูใ่ นโลก พวกเขากลายเป็ นแค่ร่างที่ใช้


ประคองชีวิตให้แค่ทรงๆไว้เหมือนทุ่นลอยนํ้าและเป็ นแหล่งพลังงานให้กบั โลกของเธอ ผสมปนเปด้วย
ปัญญาประดิษฐ์ที่มีฐานข้อมูลเฉพาะเพื่อไว้รักษาสภาวะอัตตวิสยั แห่งตนเอาไว้ไม่ให้กระทบกระเทือน
ความรู ้สึกว่า จะถูกลบเลือนหายไป ที่คนเรานั้นกลัวความตาย หากไม่นบั ความเจ็บปวดที่ไม่มีทางเกิดขึ้นใน
ระบบโลกนี้แล้ว ก็เหลือแต่ความกลัวที่จะถูกลืมเลือนมิใช่หรื อ? ซึ่งเธอเลือกที่จะทําให้ทุกคนในโลกของเธอ
สบายใจได้วา่ ข้อมูลทั้งหมดของพวกเขาจะไม่สูญหาย จะมีคนและไม่ใช่คนคอยบันทึก จารึ กและจดจําพวก
เขาไว้ ตราบนานเท่านาน แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็ นแค่เพียงดวงวิญญาณเร่ ร่อนเท่านั้นแหละ

“แล้วทําไม ผมกับนายถึงเป็ นข้อยกเว้น?...”

“นัน่ เพราะเราสองคนได้ก่อบาปร่ วมกัน...มันเป็ นสิ่ งที่เราต้องรับผิดชอบด้วยกันในฐานะที่...” วิลเว้นไปชัว่


ครู่ หนึ่งก่อนจะพูดต่อจนจบประโยค “ทําให้ฝ้าย FAI(Fake Artificial Intelligent) ถือกําเนิดขึ้นมา ฝ้ าย
พยายามทําให้นายเป็ นผูช้ ้ ีนาํ วิถีชีวิตผูค้ น ผูก้ มุ ชะตาของโลกใบนี้ มันเป็ นความผิดพลาดเมื่อยังเยาว์ของพวก
เรา ที่ความฝันการอยากกอบกูโ้ ลกเป็ นสิ่ งที่สุดแสนจะเยีย่ มยอด ฝ้ ายจัดสภาพการณ์ท้ งั หมดนัน่ เพื่อนํานาย
ไปสู่ การเป็ นฮีโร่ ผูก้ ล้า บุคคลผูถ้ ูกเลือก คนในคําทํานาย หรื ออะไรก็ตามแต่ ซึ่งก่อนจะเกิดสิ่ งนั้นได้มนั ต้อง
เกิดมหาภัยพิบตั ิ มหาวิปโยคที่เกิดขึ้นกับมนุษยชาติเสี ยก่อน จึงจะมี บุคคลผูน้ ้ นั ปรากฏตัวออกมาเพื่อแก้ไข
วิกฤติการณ์ที่เป็ นอยู่ ดังคํากล่าวที่วา่ สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ และตอนนี้กถ็ ึงจุดชี้ขาดแล้วว่า นายจะนําพา
โลกใบนี้ไปสู่ อะไร ...”
เสี ยงสัญญาณแทรกเข้ามารบกวนการคุยระหว่างผมกับวิล ทําให้ภาพของวิลนัน่ ดับหายไป ซึ่งเป็ นจังหวะที่
จบการสนทนาได้อย่างเหมาะเจาะ ผมที่กาํ ลังอยูใ่ นโลกเสมือนของเธอ ได้ถูกดึงตัวเข้าไปยังสถานที่แห่ งหนึ่ง
ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็ นทุ่งหญ้าและทุ่งดอกไม้ มีเนินเตี้ยๆอยูเ่ นินหนึ่ง เธอนัง่ ชันเข่าและเล่นกับ
กระต่ายน้อยตัวสี ขาวตัวหนึ่ง ท่ามกลางช่วงเวลาแรกอรุ ณ ผมมองไปยังพระอาทิตย์ตอนเช้าที่ไม่มีวนั เคลื่อน
ตัวไปยังตอนเที่ยง ก่อนจะหันหน้ากลับมามองฝ้ าย เธอยังคงงดงามเหมือนเมื่อวันวาน ดวงตาที่หวานฉํ่า
นํ้าเสี ยงที่ร่าเริ งสดใส ผมที่ดาํ ประกายอมม่วงเล็กน้อยเมื่อสะท้อนกับแดดยามเช้า เธอคือ ฝ้ ายที่ผม ‘เคย’ ตก
หลุมรักจริ งๆ แต่ภาระที่ยงิ่ ใหญ่ทาํ ให้ผมต้องเมินเฉยความรู ้สึกพวกนั้นเสี ย

“ทั้งหมดมันเริ่ มจากตรงไหนกัน...?”

เธอนิ่งไปชัว่ ขณะก่อนที่จะปล่อยให้กระต่ายขาวหนีออกจากอ้อมแขนของเธอ

“ตั้งแต่วนั ที่ฉนั เริ่ มป่ วยนัน่ แหละ...”

“...เธอคาดการณ์ไว้แล้วอย่างนั้นหรื อว่า โปรเจคนี้จะสําเร็ จระดับนี้”

เธอหัวเราะออกมาอย่างสบายๆก่อนที่ตอบผมว่า

“จะบ้าเหรอ ตอนนั้นใครจะไปรู ้ล่ะ? ตัวฉันในตอนนั้นก็คิดแค่วา่ ถ้าสําเร็ จก็ดี ถ้าไม่สาํ เร็ จก็ไม่มีอะไรเสี ยอยู่
แล้ว มันเป็ นการเสี่ ยงโชคที่มีแต่ได้กบั ไม่เสี ย”

“อะไรน่ะ เขามีแต่สาํ นวนว่า มีแต่ได้กบั ได้!”

“ฮะๆ ก็ ถ้าไม่สาํ เร็ จมันไม่ได้อะไรนี่ ฉันเลยพูดว่า มีแต่ได้กบั ไม่เสี ย”

ผมเกือบจะเผลอเคลิ้มไปกับรอยยิม้ พิมพ์ใจและท่าทีที่เหมือน’เธอ’ตัวจริ งอย่างมาก มันสมจริ งเสี ยจนผมรู ้สึก


กลัว กลัวตัวเองจะ...

“พอมันเริ่ มไปได้สวย ตัวฉันคนก่อน ก็ได้ฝากฝังอะไรไว้ในระบบเยอะแยะไปหมดเลยล่ะ อย่างเช่น แผนการ


ที่จะทําให้นายไม่ตอ้ งมายุง่ เกี่ยวกับสิ่ งที่โหดร้ายที่จะเกิดขึ้นในระหว่างยุคร้อยปี แห่ งการเปลี่ยนผ่าน และที่
สําคัญที่สุด ตัวฉันคนก่อนน่ะนะ กลัวว่า จะดีไม่พอที่จะทําให้นายประทับใจ และหลงรัก ตัวฉันตอนนี้ อีก
ครั้งน่ะสิ ...ถึงทีแรกฉันจะคิดว่า มันไม่ใช่เรื่ องสลักสําคัญสักเท่าไหร่ นกั แต่พอได้เห็นนายทําหน้าแบบนี้ชกั
เข้าใจ ‘เธอ’แล้วล่ะ”
ไอ้คาํ ว่าทําหน้าแบบนี้ นี่ผมแสดงอาการทางสี หน้าให้เห็นเด่นชัดขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย!

“แสดงว่า คนที่ปล่อยซอฟแวร์ผดิ กฎหมายภายใต้ชื่อ ของผมนัน่ ก็คือ”

“ถูกต้องค่า! เราสองคนเองแหละ ต้องบอกว่า เราสองคน เพราะตอนนั้น ฉันคนก่อนยังมีชีวิตอยูใ่ นโลกของ


นาย และตัวฉันตอนนี้กไ็ ด้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว เหตุการณ์ท้ งั หมดในห้องลับในอาคารบําบัดใหญ่ ข้อมูล
ความจําเก่าๆที่เอามาสร้างเป็ นAI ของวิล การพานายไปชมอารยธรรมที่ล่มสลายแหล่งพลังงานจากมนุษย์
และสัตว์ ทั้งหมดน่าจะช่วยให้นายตัดสิ นใจกอบกูโ้ ลกใบนี้ได้ง่ายขึ้นนะ!”

“……..” ผมใช้ความคิดอย่างหนักกับการตัดสิ นตรงหน้า ข้อมูลประดังถาโถมที่ออกมาจากปากอดีตคนรักที่


ตายไปแล้ว แต่กลับมาอยูใ่ นสภาพเดิม

“ต่อจากนี้กข็ ้ ึนกับนายแล้วล่ะว่าจะเอายังไง...ถ้านายต้องการที่จะอยูป่ กครองโลกนี้กบั ฉัน ก็จงกอดฉันแล้ว


พูดว่า ‘ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ ฝ้ าย’ แต่ถา้ นายอยากจะกลับไปกอบกูโ้ ลกของนาย ทิ้งโลกใบนี้กบั ฉันไว้
เบื้องหลัง ฉันจะขอให้นาย...กอดฉันไว้และพูดว่า ‘ลาก่อน ฝ้ าย’ “

วันนั้น ในโลกใบนั้น ผมหัวเราะ ผมร้องไห้ แล้วผมก็กอดเธอไว้สกั พักหนึ่ง โดยไม่พดู อะไรออกมา...

You might also like