You are on page 1of 9

แด่ชายผู้ที่ไม่เคยลืม

เคยมีผค
ู้ นกล่าวว่าสมองของคนเรานัน
้ จะทำการคัดกรองสิ่งที่เจอใน
แต่ละวันแยกเป็ นสองอย่างคือข้อมูลขยะและข้อมูลประโยชน์คนเราจึงมีการ
จำที่แตกต่างกันตามการคัดกรอง สิ่งที่หลงเหลือจะถูกเรียกว่าความทรงจำ
กระผมได้อ่านเนื้อหาพลางคิดเชื่อว่าสมองของกระผมคงเป็ นพวกนึกเสียดาย
ไม่กล้าทิง้ อะไร
เที่ยงวันยามพระอาทิตย์ตงั ้ ตรงเหนือศีรษะกระผมจะมาที่นี่เสมอ พก
หนังสือหนึ่งเล่มพร้อมผ้าเช็ดหน้าผืนงามขอบของผ้าถูกเย็บเป็ นกระดูกงูอย่า
ประณีตด้วยงานฝี มือของคนที่กระผมรักอย่างสุดหัวใจ “พ่อสมหวัง” เสียง
เรียกของสตรีคนหนึ่งดังขึน
้ มาทำให้กระผมต้องเก็บผ้าเช็ดหน้าไว้เชยชมภาย
หลัง “แม่นางรู้จักนามข้าได้เยี่ยงไร” หล่อนคลี่ยม
ิ ้ ไม่ตอบ หล่อนใส่อาภรณ์สี
ขาวรวบผมรัดรวบตึงกระผมหันสำรวจก็พบว่ามีโรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากที่
นี่นั่นทำให้กระผมได้คำตอบโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยถามอีกหน กระผมเคยรับ
การรักษาที่นั่นอาจไม่น่าแปลกที่จะมีพยาบาลบางคนรู้จักนามของกระผม “
พ่อสมหวังมาทำกระทำการใดที่นี่หรือ” เธอเอื้อนถามอีกครัง้ ด้วยน้ำเสียง
แสนอ่อนโยน เสียงของหล่อนทำให้หัวใจของผมรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าเหลือเชื่อ
หรือนี่จะเป็ นคุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพนี ้ คำที่ว่าพยาบาลคือนางฟ้ าสี
ขาวก็คงจะถูกดั่งที่เขาว่า “กระผมมาหาที่พก
ั ผ่อนใจ” ไม่มีคำพูดใดเอื้อนเอ่ย
ต่อจากนี ้ สายตาของหล่อนมองสบลงมายังหนังสือ กระผมไม่รอที่จะให้
หล่อนถามเพิ่มเติม “หนังสือเล่มนีเ้ ป็ นเรื่องที่ภรรยาของผมโปรดปรานมาก
ที่สุด” “หากไม่รบกวนเสียจนเกินไป พ่อสมหวังจะว่าหรือไม่หากฉันอยากฟั ง
เรื่องราวในหนังสือเล่มนัน
้ ” แสงแดดจ้ากระทบต้นไม้เขียวพาดผ่านใบเขียว
ขจีจนเกิดเงากระทบลงบนที่นั่งของสองเราแต่กระผมกลับไม่ได้ร้ส
ู ึกถึงความ
ร้อนผ่าวจากแสงแดดมากเท่าไหร่นัก “กระผมขอทราบชื่อของคุณพยาบาล
ได้หรือไม่” “ภาวนาจ้ะ ฉันชื่อภาวนา” กระผมกล่าวทักทายด้วยคำพูดที่
อ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะไม่ทำให้คนตรงหน้าของกระผมรู้สึกกลัว เพราะเสียงที่
ทุ้มต่ำนีเ้ ลยทำให้มีบางคนนึกกลัวในเสียงของกระผมแต่ทว่ากระผมก็จำไม่ได้
แล้วว่าเจ้าของคำพูดที่คุ้นอยู่ในทีนค
ี ้ ือผู้ใด
กระผมเริ่มเปิ ดหนังสือ ค่อย ๆ บรรจงอ่านหน้าแรกอย่างตัง้ ใจให้หล่อน
ฟั ง มันคือเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่กำลังพยายามตามหาคนรักที่หายตัวไป
ชายหนุ่มจึงเริ่มออกเดินทางและทำภารกิจให้สำเร็จ เขาเดินทางไปทั่วโลก
สัมผัสความทุกข์ ความสุขสบาย มองความเป็ นไปของโลกนีต
้ งั ้ แต่รากหญ้า
จนถึงดวงตาของพญาอินทรี ภาวนาเป็ นผู้ฟังที่ดีหล่อนมิได้มีท่าทีน่าขัดตาจน
ทำเสียบรรยากาศแม้แต่น้อย รอยยิม
้ ที่เจืออยู่บนริมฝี ปากของหล่อนรวมถึง
สีหน้าสนใจใคร่ร้น
ู น
ั ้ ทำให้กระผมสามารถอ่านเรื่องราวในหนังสือให้หล่อน
ฟั งได้อย่างราบรื่น
เพราะเป็ นหนังสือแปลจากเมืองนอกจึงมีบ้างที่กระผมอ่านไม่เข้าใจ
หรือไม่ร้ว
ู ่าต้องสะกดเช่นไรอยู่บางคำ ถึงแม้ว่าแม่ภาวนาหล่อนจะไม่ได้ขัด
บรรยากาศแต่กระผมยอมรับว่าการอ่านออกเสียงคำอย่างผิด ๆ ถูก ๆ
ตะกุกตะกักเช่นนีน
้ ี่แหละที่ทำเอาเสียบรรยากาศอยู่ไม่น้อย กระผมกระแอม
ไอครัง้ สองครัง้ เพื่อมิให้การเล่าติดขัดแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยอย่างที่คิด
เท่าไรนัก “อีฟวนิงแย็กเก็ตจ้ะ” เสียงอ่อนหวานเอ่ยบอกพร้อมชีไ้ ปที่คำ
แปลกคำนัน
้ ตาหล่อนรู้ว่ากระผมอ่านถึงตรงไหนนั่นเป็ นสิ่งที่ทำให้กระผม
รู้สึกทึ่งทว่าในคราวเดียวกันก็ทำให้หวนนึกถึงใครบางคนที่กระผมรักหนัก
หนา “กระผมรู้จักคนนึง” เว้นระยะไปสักพักให้หล่อนได้แสดงสีหน้าสนใจ
อยากจะฟั งต่อ “เธอเป็ นนักเรียนหัวดีจบจากเมืองนอก ทุกครัง้ ที่กระผมอ่าน
ภาษาของพวกฝรั่งมังค่าไม่ออกหล่อนก็จะคอยบอกเสมอ” กระผมเริ่มเล่าถึง
คนรักมากขึน
้ ไม่ร้ว
ู ่ากินเวลาไปนานเท่าไหร่ที่กระผมได้เล่าเรื่องราวของเธอ
ให้คนเพิ่งรู้จักได้ฟัง กระผมบอกว่าเธอนัน
้ เป็ นหญิงสาวที่หน้าตาธรรมดา
ฐานะธรรมดาแต่เพราะความธรรมดาของเธอนัน
้ แต่งแต้มสีสันในชีวิตของ
กระผมให้แช่มชื้น คนธรรมดาที่เอาแปรงสีมาระบายบนผืนผ้ากว้างว่างเปล่า
ที่เรียกว่าหัวใจและดอกไม้มาวางประดับแต่งในแจกันที่เรียกว่าความรักด้วย
สองมือบางแสนคะนึงหา สิ่งเหล่านีท
้ ำให้คนธรรมดาอย่างกระผมรู้สึกพิเศษ
ในทุก ๆ วัน ได้ร้จ
ู ักสีชมพูรวมถึงทุ่งดอกไม้แห่งความรักที่เธอได้บรรจงปลูก
ไว้ให้กระผม “เธอทำข้าวถูกปากไหม” หล่อนถามผมเป็ นครัง้ แรกหลังหลาย
นาทีที่หล่อนเงียบไปเพื่อตัง้ ใจฟั งเรื่องราวของกระผม เสียงกระแอมไอดังขึน

อีกครัง้ ด้วยความไม่แน่ใจแล้วว่าตัวกระผมพูดเยอะไปมากเท่าใด “ไม่มีม้อ

อาหารใดสุขเท่ามื้ออาหารจากคนรัก” กระผมกล่าวตอบนึกหวนคืนวันวานที่
เราสองอยู่ในห้องครัวสีครีมนวล มีหน้าต่างสองบานและโต๊ะทานข้าว
หน้าต่างที่เปิ ดอ้าไว้รับลมหนาวให้พัดลอดเข้ามาพร้อมแสงอบอุ่นจากดวง
อาทิตย์ที่สอดสว่างรับกับห้องสีครีมนวล ความงามของคนที่กระผมรักและ
บรรยากาศดี ๆ ทำให้ครัวนีอ
้ บอวลไปด้วยความอุ่นราวกับต้องมนต์ แต่ใน
ตอนนีเ้ ธอคนนีข
้ องกระผมหายไปยังแห่งหนใดกัน
เสียงเซ็งแซ่ในสวนของโรงพยาบาลดังขึน
้ ถือเป็ นสัญญาณว่าเหล่าคุณ
หมอพยาบาลเริ่มออกมาทานข้าวกันแล้ว กระผมหันไปมองเหล่าเทวดา
นางฟ้ าในชุดสีขาวก่อนจะหันมาสบมองคุณภาวนาดูเหมือนหล่อนจะรู้ว่าผม
คิดอะไรอยู่หล่อนรีบกล่าวทันทีว่าเวรของหล่อนนัน
้ เลิกเร็วกว่าของเพื่อนร่วม
งานนั่นจึงทำให้หล่อนสามารถออกมาทานข้าวก่อนและได้มานั่งฟั งกระผม
เล่าเรื่อง “พ่อสมหวังเคยคิดอยากมีเด็กไหมคะ” หล่อนพูดพร้อมจ้องมองไป
ยังพยาบาลสาวคนหนึ่งที่กำลังประคองหญิงตัง้ ครรภ์ ดูจากท้องแล้วคงไม่ต่ำ
กว่า 5 เดือนเป็ นแน่ “แม่ภาวนาอยากมีหรือครับ” หล่อนจ้องอยู่ซักพักจึง
ผงกศีรษะให้คำตอบ “เช่นนัน
้ กระผมขอเสียมารยาทถามไถ่ เหตุใดแม่
ภาวนาถึงไม่มีบุตรหลานหรือครับ” แม่ภาวนาดูจะตกใจกับคำถามของ
กระผมเล็กน้อย ไม่ทันได้กล่าวขอโทษหล่อนก็แค่นยิม
้ ออกมาแต่เหตุใดไม่
อาจทราบรอยยิม
้ นัน
้ กลับดูไม่มีความสุขเลย “ตัวฉันนัน
้ ถึงแม้ต้องการมีบุตร
หลานแต่ก็ไม่สมปรารถนา” นีค
่ งเป็ นสาเหตุที่ทำให้รอยยิม
้ แสนสวยนัน
้ เกลื้อ
ไปด้วยความทุกข์จนมุมปากตกด้วยความหนักหน่วงของความรู้สึกกระผมไม่
อยากเอื้อนถามสาวความต่อ แต่ดูเหมือนว่าหล่อนยินดีที่จะเล่าออกมากระ
ผมก็คงจะหักห้ามไม่ได้เพราะในคราแรกกระผมก็เล่าเรื่องราวของตนให้
หล่อนฟั งเสียมาก “ฉันเป็ นหญิงม่ายเมื่อ 6 เดือนก่อนฉันและสามีเกิด
อุบัติเหตุทางถนน เราทัง้ คู่บาดเจ็บ” “ไม่นานหลังจากฟื้ นก็ทราบข่าวแสน
เศร้า ในตอนนัน
้ ฉันเองก็ได้สูญเสียคนที่รักที่สุดไป” หล่อนพูดออกมาพร้อม
น้ำตาหยดใสที่ไหลเปื้ อนหน้าแก้ม กระผมชั่งใจอยู่ครู่นึงก่อนจะยื่น
ผ้าเช็ดหน้าลายประณีตให้หล่อน “สตรีไม่คู่ควรกับน้ำตาหรอกครับ” “คุณ
เองก็เช่นเดียวกัน” พยาบาลคนนัน
้ มองผมด้วยแววตาที่แสนอ่อนโยนราวกับ
แสงแดดอุ่นโอบกายยามลมเหมันต์พัดผ่าน หล่อนรับผ้าเช็ดหน้าซับหยาดน้ำ
ใสที่คลอเบ้าขึน
้ มาอีกคราก่อนกล่าวขอบคุณแล้วจึงยื่นผ้าเช็ดหน้าคืน
กลิ่นตีนเป็ ดคุ้นจมูกพัดลอยตามสายลมมา กระผมไม่สามารถระบุ
ทิศทางของต้นไม้นไี ้ ด้ว่ามันมาจากแห่งหนไหน แต่ที่แน่นอนว่ามันคือ
สัญญาณจากความงามของธรรมชาติเป็ นเครื่องเตือนว่ากำลังใกล้เข้าฤดู
หนาวแล้ว กระผมมองเวลา จวบจนจะถึงเวลานัดแล้วหรือนี่ “น่าเสียที่เรายัง
อ่านเรื่องราวในหนังสือให้คุณภาวนาฟั งไม่จบ แต่กระผมจะมานั่งเล่นที่นี่อีก
หากคุณยังสนใจเรื่องราวในหนังสือ” “เราคงจะได้พบกันอีกครัง้ ” เสียง
กระดาษเก่าพลิกปิ ดลง กลิ่นชื้นของหนังสือที่ถูกเก็บไว้ไม่ค่อยดีนักถูกเก็บใส่
กระเป๋า กระผมลุกขึน
้ โค้งบอกลาแม่ภาวนาเดินตรงไปยังโรงพยาบาล ความ
จริงแล้วกระผมมาที่นี่ไม่เพียงเพราะมานั่งเล่นอ่านหนังสือเท่านัน
้ กระผมมา
เพราะมีธุระกับคุณหมอเรืองเดช มือหนาหยาบผลักประตูเข้าไปในห้อง
ประจำตัวคุณหมอที่เต็มไปด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์ผสมกลิ่นยาปฏิชีวนะ
แสนจะน่าเวียนหัว คุณหมอในชุดขาวสะอาดตรงหน้าผายมือให้กระผมนั่งลง
“วันนีเ้ ป็ นอย่างไรบ้างพ่อสมหวัง” คุณหมอกล่าวทักทายอย่างคนมีอัธยาศัย
“เป็ นวันที่ดีมากครับกระผมได้แลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวกับพยาบาลคนนึง”
“หล่อนชื่อภาวนา” คุณหมอเรืองเดชพยักหน้าเป็ นเชิงเข้าใจพร้อมจดข้อมูล
บางอย่างลงในเอกสารกระผมคาดว่าคงเป็ นการวินิจฉัยอย่างหนึ่งในวงการ
แพทย์ และกระผมก็ตงั ้ ใจให้ความร่วมมือกับคุณหมออย่างดี “วันนีก
้ ็ยังคง
เป็ นวันที่ดีเหมือนทุก ๆ วันนะครับ” “ประเดี๋ยวพ่อสมหวังตามคุณพยาบาล
ไปรอที่ห้องรับยาได้เลยนะครับ วันนีไ้ ม่มีการตรวจอะไรเพิ่มเติม” กระผม
กล่าวขอบคุณคุณหมอก่อนจะเดินจากไป
เสียงเซ็งแซ่ในโรงพยาบาลดังระงมจนทำให้กระผมรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
มันต่างจากเสียงยามพักเที่ยงที่มีแต่เหล่าพยาบาลพูดคุยกันอย่างผ่อนคลาย
กระผมนั่งรออยู่เพียง 5 นาทีแต่มันเป็ น 5 นาทีที่ร้ส
ู ึกยาวนานเสียเหลือเกิน
“คุณสมหวัง นฤศร” ชื่อที่คุ้นเคยดังขึน
้ กระผมจึงลุกไปรับยา ตรงชื่อหน้า
ซองนอกจากชื่อของกระผมที่เป็ นภาษาไทยแล้วกระผมก็อ่านอะไรไม่ออก
เลย “อันสะอายเมิ่น” กระผมอ่านข้อความตรงหน้าด้วยความไม่แน่ใจแต่
กระผมเชื่อว่ามันคงไม่ได้ออกเสียงเช่นนีแ
้ น่ แต่เท่าที่ผมสอบถามจากคนจ่าย
ยา หล่อนตอบเพียงว่ากระผมมีปัญหาด้านความทรงจำจึงต้องกินยาและ
รักษาตัว ช่างตลกร้ายเสียจริง จนถึงตอนนีก
้ ระผมไม่ยักรู้เลยว่าตนเองลืมสิ่ง
ใดไปแล้วบ้าง หมดธุระกงการ แสงอาทิตย์อัสดงเป็ นสัญญาณว่าถึงเวลาต้อง
กลับบ้านกลับเรือนแล้ว น่าเสียดายที่กระผมยังไม่ได้กล่าวอำลาคุณภาวนา
อีกครัง้ ไม่ร้เู พราะเหตุใดตัง้ แต่ทางถนนจนถึงประตูหน้าบ้าน ใบหน้าของ
หล่อนกลับไม่เลือนหายไปจากภาพความทรงจำในวันนี ้ กระผมเอาแต่เฝ้ า
หวนคนึงหาแต่คุณนางฟ้ าสีขาวคนนัน
้ ที่ได้พูดคุยกัน แสงแดดในฤดูหนาว
หนังสือกลิ่นชื้นปนกลิ่นน้ำหอมมะลิวัลย์อบ และเสียงหวานจับใจมันทำให้
กระผมนัน
้ อยากหลับข้ามพ้นราตรีนเี ้ พื่อเจอกับหล่อนอีก
เมื่อ 6 เดือนก่อนได้มีข่าวอุบัติเหตุทางถนน สองสามีภรรยาที่กำลัง
กลับจากท่าเรือได้เกิดรถพลิกคว่ำฝ่ ายหญิงใบหน้าเสียโฉมและฝ่ ายชายที่ถูก
นำส่งโรงพยาบาลนอนนิ่งราวเจ้าชายนิทรา 3 เดือนแห่งการรอคอย ฝ่ ายชาย
ฟื้ นขึน
้ มาด้วยอาการพิลึกพิลั่น ทางโรงพยาบาลสรุปอาการนีว้ ่าเป็ นผู้ป่วย
ทางสมองไม่สามารถเข้ารับประกอบอาชีพอื่นได้ โชคยังดีที่ฐานะทางบ้านยัง
พอมีทรัพย์สินเหลือมากพอที่จะประทังเขาไปทัง้ ชีวิตแต่ทางฝ่ ายภรรยาของ
เขาล่ะ
เที่ยงวันยามพระอาทิตย์ตงั ้ ตรงเหนือศีรษะดิฉันจะมาที่นี่เสมอ น้ำหอม
กลิ่นเดิมที่สามีของเขาเคยมอบเป็ นของขวัญวันแต่งงาน ผู้นน
ั ้ กล่าวไว้ว่าดิฉัน
เหมาะกับกลิ่นดอกไม้โดยเฉพาะดอกมะลิวัลย์ ดิฉันเคยถามว่าเพราะเหตุใด
แต่เขาก็มักจะเบือนใบหน้าหนีด้วยความเขินอายในเหตุผล ดิฉันไม่ได้อารมณ์
เสียแต่กลับเอ็นดูในความน่ารักของเขาเสียมากกว่า ไม่นานเกินรอชายคน
หนึ่งได้เดินเข้ามาพร้อมกับหนังสือคู่ใจของเขาดิฉันจำเขาได้ดี “พ่อสมหวัง”
ดิฉันกล่าวทักทายและเหมือนว่าเขาจะจำดิฉันไม่ได้อย่างเช่นเคย หลังจาก
คำถามที่ถามไถ่และใบหน้าที่ชวนงุนงงของเขาดิฉันจึงคลี่ยม
ิ ้ ส่งให้อย่างที่เคย
ส่งให้ทุกครา แน่นอนว่าคุณสมหวังนัน
้ มีความหลักแหลมและหัวไว เขา
สังเกตเห็นอาภรณ์ที่แตกต่างจากปุถุชนทั่วไป ไม่ไกลจากที่เรานั่งก็เห็นเป็ น
โรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่เพิ่งก่อตัง้ ได้ไม่นาน “พ่อสมหวังมาทำธุระอันใดที่นี่
หรือ” ชายหนุ่มอ้ำอึง้ แต่ก็ยอมพูดคุยสนทนา เราสองคนแลกเปลี่ยนพูดคุย
แบบนีอ
้ ย่างเคยชิน ไม่นานพ่อสมหวังก็จะเปิ ดหนังสือขึน
้ มาอ่านเรื่องราวซ้ำ
เดิม เขาบอกว่าหนังสือเล่มนีเ้ ป็ นหนังสือเล่มโปรดของภรรยาซึ่งดิฉันเห็นด้วย
เรื่องราวในนัน
้ มันสนุกเสียจนอยากฟั งให้จบแต่แน่เสียดายที่เรื่องราวนีม
้ ันไม่
เคยจบลงเลย เริ่มต้น นับใหม่ วนซ้ำ เป็ นแบบนีไ้ ปไม่ร้ก
ู ี่ครัง้ ดิฉันไม่อาจ
ทราบว่าชายในหนังสือคนนัน
้ จะได้พบเจอภรรยาสุดที่รักของเขาหรือไม่ หรือ
เขาจะได้ไปเจอรักใหม่ ไม่มีทางได้ทราบเลย
ทุกวันฉันจะต้องคอยสอนภาษาฝรั่งคำนึงที่เขาไม่เคยจำมันเลยและทุก
ครัง้ ที่ฉันสอนเขาก็มักจะพร่ำถึงภรรยาแสนโชคดีของเขา ฉันตัง้ คำถามให้เขา
ไม่ซ้ำกันในทุกวันเพื่อเรียนรู้และรู้จักมากขึน
้ แน่นอนว่ายอดนักรักอย่างพ่อ
สมหวังไม่มีครัง้ ใดที่จะหยิบยกเรื่องราวแย่ ๆ ของเธอผู้เป็ นที่รักมาพูดถึงเลย
เขาเคยนำรูปถ่ายงานแต่งงานให้ดิฉันได้เชยชม มันเป็ นภาพที่สวยงามที่สุด
เท่าที่ฉันเคยเห็นรอยยิม
้ ของพ่อสมหวังนัน
้ อบอุ่นเหมือนดั่งในภาพ มือหนา
โอบกอดดอกไม้งามที่เป็ นดั่งโลกทัง้ ใบของเขาอย่างเบามือเช่นเดียวกับใน
ตอนที่เขายื่นผ้าเช็ดหน้าปลอบใจฉันยามฉันพูดถึงคนรักให้ฟัง มันอบอุ่น
เหลือเกิน น่าเศร้าใจยิ่งที่พ่อสมหวังเป็ นโรคความจำเสื่อมจากอุบัติเหตุเมื่อ
หลายเดือนก่อนทุกครัง้ ที่เราเจอกันเขาจะจำเรื่องราวของเราในวันวานไม่ได้
เลย พ่อสมหวังเข้าพบคุณหมอเรืองเดชทุกวันราวกับชายที่ติดในห้วงเวลา
อนันต์ เขาทำเช่นนีใ้ นทุก ๆ วัน
“แม่ภาวนาจ้ะกลับมาแล้วหรือ” รุ่นพีพ
่ ยาบาลของดิฉันกล่าวทักทาย
เมื่อเห็นฉันกลับมาประจำที่ทำงานอีกครา “น่าสงสารพ่อหนุ่มคนนัน
้ เนอะ
ความจำเสื่อมไม่พอยังเสียการเสียงานเอาเงินทองมากมายมาลงกับการ
รักษา” “ ฉันล่ะเวทนาเหลือเกิน ชีวิตคนเราใยจะโชคร้ายได้ถึงเพียงนี”
้ ไพร
ศรีบ่นราวกับยายเฒ่า “แล้วแม่หนูล่ะเมื่อไหร่จะบอกเขาเสียทีชักช้าอืดอาด
เยี่ยงนีจ
้ ะโดนหญิงอื่นตัดหน้าไป ข้ามิร้ด
ู ้วยหนา” ดิฉันรู้ดีว่าพ่อสมหวังยัง
หนุ่มยังแน่นแม้จะความจำเสื่อมด้วยอาการผิดปกติทางสมองแต่ก็ยังมีหญิง
อื่นเข้ามาป้ วนเปี ้ ยนเป็ นพัก ๆ นางพยาบาลจืดชืดอย่างดิฉันจะสูไ้ ด้อย่างไร
เที่ยงคืนดึกสงัดดิฉันแปรงผมเผ้าหน้าเรือนกระจกประดับถักเปี ยด้วย
ดอกมะลิวัลย์ กลิ่นหอมอ่อนของดอกไม้ลอยคลุง้ ราวนางจันทร์ผมหอม มือ
เรียวบางสัมผัสใบหน้าที่เคยนวลผ่องบัดนีม
้ ันลับกลายเป็ นรอยแผลไฟไหม้ก่ำ
แสนน่ากลัว ที่แก้มข้างขวาชายใดที่เคยมองกลับต้องเบือนหนีอย่างไร้ซึ่งเยื่อ
ใย แต่หากมีคนนึงคนที่ยังมองเห็นถึงตัวตนข้างในของเธอมิได้หันเบือนหนี
ยามมองรอยอัปลักษณ์ เรื่องราวของชายผู้ตามหาภรรยาผู้เป็ นที่รักใน
หนังสือตอนจบนัน
้ เขาก็ได้ร้ค
ู วามจริงว่าหญิงที่ตนตามหามาตลอดเธอนัน

กลับมิได้อยู่ไกลหนักหนาเพียงหลับตาและภาวนาหาเธอ “น้องจะรอวันนัน
้ ”
“วันที่คำภาวนาของน้องสมหวัง” และเธอหวังในทุกค่ำคืนให้ความพยายาม
ของเธอนำเอาความทรงจำของเขาและวันเวลาที่แสนหวานของสองเรานัน

กลับมา ยามราตรีสงัดหญิงสาวนอนหลับภายในห้องเล็กที่ว่างเปล่าพร้อม
คิดถึงเรื่องวันวานของเธอและชายหนุ่มผู้เป็ นที่รัก รูปภาพที่จัดเก็บรักษาไว้
อย่างดีในกรอบรูปสีทองสวยถูกตัง้ อยู่ข้างเตียงด้วยความตัง้ ใจของหญิงสาวที่
ต้องการเห็นรูปที่มีค่าสำหรับเธอทัง้ ยามตื่นและยามนอน ภายในภาพเป็ นรูป
งานแต่งคู่รักของชายแสนอบอุ่นและหญิงสาวกลิ่นดอกมะลิวัลย์ และในเวลา
เดียวกันชายผู้รอความสมหวังตัง้ ใจจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทงั ้ หมดเก็บรักษาสิ่งที่
มีค่าที่สุดไว้ในความทรงจำที่แสนเปราะบางของเขาเพื่อบันทึกทุกหยดความ
รู้สึก และความรักของเขาที่มีให้เธอไม่เคยจางหายไปตามอุปสรรคของกาล
เวลา ชายที่มอบความจงรักให้หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของเขาก็เฝ้ ารอ
ที่จะได้พบเธอผู้เป็ นที่รักอีกครัง้

You might also like