You are on page 1of 1

readAwrite - !

ดอะไ&'
(ยาย+นๆ ./กเ2ยบ เ4ด56ะ !านบนแอป

25
นิยาย นิยายแชท กระทู้ เขียน ตรวจ karnjan… !

บทที่ 4 อยากขายก็บอก 100%


ห;าหJก สารRญ KงLาMาน เ)มแ+ว NกมาOก

เEอง Bad Alpha #7ล9าห;าโ= [Omegaverse] [>ดเห!ยญ 13/05/22]

บทที่ 4 อยากขายก็บอก 100%


โดย : DailyDaisy

บทที่ 4 อยากขายก็บอก

อันวาที่วิ่งกลับมาจนถึงห้องแทบจะหอบ บ้านบ้าบอนี่ทำไมหลังมันใหญ่แบบนี้ ใหญ่ยังกับมี


บ้านเขาสองหลังสามหลังเรียงกัน อ้อ ไม่ใช่สิ เขาไม่มีบ้านอีกแล้วนี่นา หรือไม่ก็ไม่เคยมี

คนที่เพิ่งไขกุญแจเข้าห้องถอนหายใจระบายความเหนื่อย หันกลับไปล็อกห้องอย่างดีจนมั่น
ใจแล้ว ก็ลากสังขารพาตัวเองกลับมายังเตียงนอนอีกครั้ง เป็นครั้งแรกเลยในชีวิตที่จะได้นอนที่อื่นที่ไม่
ใช่ห้องนอนตัวเอง ความรู้สึกทั้งแปลกประหลาดและหวิวโหวงในใจเล่นงานกันไม่หยุด มือเรียวที่ลูบ
ผ่านเตียงนิ่มทำให้หวนระลึกถึงเตียงหลังเก่าที่ใช้มาตั้งแต่จำความได้ เตียงนอนที่เคยมีกลิ่นอายของคน
เป็นแม่ติดอยู่จาง ๆ พอให้เขาก้าวผ่านฝันร้ายไปได้ในแต่ละคืน

ทั้งร่างทิ้งลงกับเตียงนอนหนานุ่ม มันรู้สึกดีราวกับล่องลอยอยู่บนเมฆ ทว่าบรรยากาศรอบตัว


กลับอ้างว้างเดียวดายเหลือเกิน มันไม่มีใครอีกที่นี่นอกจากเขา สามีก็เป็นเพียงคำหลอกลวงที่ใช้บังหน้า
เพียงเท่านั้น

อันวายกมือซ้ายขึ้นให้แหวนส่องสะท้อนกับแสงไฟในห้อง ประกายของมันแวววาวงดงาม
บาดตาดีเหลือเกิน แต่เขารู้ได้เลยว่ามันไม่มีคุณค่าอะไรเมื่อสวมใส่อยู่บนนิ้วของเขา

อันวาเป็นโอเมก้าไร้ค่า อันวาเป็นแค่โอเมก้าที่ไม่มีใครต้องการ ไร้ค่าขนาดนี้ แม้สวมใส่เสื้อ


ผ้าราคาแพง แก้วแหวนเงินทองประดับเขาจะไปมีราคาอะไรพอให้เทียบเคียงกับคนอื่น อัลฟ่า เหล่าผู้
แกร่งกล้าในโลกกว้างใบนี้

โอเมก้าตัวน้อยทอดถอนใจ ขดกายกอดตัวเองเอาไว้ เมื่อรู้สึกหนาวเหน็บเหลือเกินกับการใช้


ชีวิตในแต่ละวัน หากแม่ของเขายังอยู่ ชีวิตจะดีกว่านี้หรือไม่

ล่วงเลยไปถึงตอนเช้าหลังจากนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยค่อนคืน อันวาแทบไม่อยากตื่น ทว่า


เสียงเคาะประตูที่ดังเป็นจังหวะซ้ำ ๆ ปลุกให้เขาลุกขึ้น สายตาสอดส่ายไปยังนาฬิกาแขวนบนผนัง เมื่อ
เห็นว่าสายมากแล้ว ถึงได้ตกใจกระเด้งผุดลุกออกจากเตียงทันที

ตาย ๆ ปกติเขาไม่ได้นอนตื่นสายแบบนี้ คงจะแปลกที่ด้วยหนึ่ง นอนดึกด้วยสอง ถึงได้


นอนตายแบบลืมเวลา

คนตัวเล็กหันรีหันขวางอยู่ครู่ ก็คิดได้ว่าหน้าประตูมีเสียงเคาะเรียกอยู่

อันวาไม่ทันคิดหน้าคิดหลังก็รีบวิ่งไปเปิดออกก่อน เบื้องหน้าเห็นเป็นภาพแม่บ้านยกถาด
อาหารมาเสิร์ฟให้กันถึงห้องก็มองอย่างแปลกใจ

“ดิฉันเอาอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้ค่ะ” แม่บ้านหญิงก้มหน้าอย่างสุภาพ เขาถึงได้นึกออก จึงขยับ


หลบทางให้ ที่มุมหนึ่งมีโต๊ะเอาไว้นั่งรับอาหารได้ใกล้กับระเบียงเล็ก ๆ หญิงรับใช้จึงยกมันไปวาง แล้ว
เปิดฝาครอบออก

อันวาเดินตามอย่างงง ๆ สับสนว่าที่นี่จะดูแลเขาดีเช่นนี้ได้อย่างไร บรรยากาศที่โต๊ะอาหาร


เมื่อวานเป็นหลักฐานชัดเจน ว่าทั้งบ้านไม่ต้อนรับเขา เว้นก็แต่ไคโรเพียงคนเดียว ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่วางใจ

“ขอโทษนะครับ ใครให้เอาอาหารมาให้ผมเหรอครับ” อันวาถามตอนที่นั่งลงแล้ว กลิ่น


หอมหวนแตะจมูกจนท้องร้อง เพราะน้อยนักที่เขาจะกินข้าวไม่ตรงเวลา เมื่อไม่เคยตื่นสาย ตารางทุก
อย่างก็เหมือน ๆ เดิมอยู่ตลอด ตอนนี้ถึงได้หิวจนท้องแทบร้องประท้วงอยู่รอมร่อ แต่ความสงสัยกลับ
มีมากกว่า

“คุณเคย์ค่ะ” คำตอบไม่น่าแปลกใจ อันวากล่าวขอบคุณแล้วกดศีรษะเพียงน้อยนิด อีกคนก็


ขอตัวจากไป คนตัวเล็กนั่งมองอาหารตรงหน้าอย่างครุ่นคิด นึกไปถึงข้อความที่อัลฟ่านั่นข่มขู่ปู่ของเขา
ไว้ก็ใจหาย

ไม่ใช่ว่าวางยาเขาใช่ไหม

กระเดือกน้ำลายลงคอเข้าไป ดวงตากลมได้แต่จ้องมองของกินอย่างระแวง แต่คนอย่าง


เคลตัน ไซรัส มีประโยชน์อะไรถึงกับต้องฆ่าเขากันเล่า ทำข้อตกลงกับเขาไม่ง่ายกว่าหรือ

ครุ่นคิดไปทางนั้นเพราะว่าหิวมาก อันวาถอนใจ ยอมไม่สนใจความเสี่ยงแล้วตักซุปเข้าปาก


เป็นอย่างแรก เทขนมปังกรอบในถ้วยเล็ก ๆ โรยหน้า แล้วก็ยกน้ำผลไม้คั้นสดขึ้นดื่มตามไปอีกคำ
แล้วนั่งรออยู่ครู่หนึ่ง

เอาวะ ตายเป็นตาย!

ผ่านไปสักพักเมื่อไม่เห็นมีท่าทีผิดปกติ รอยยิ้มกว้างก็ปรากฏ มือเรียวหยิบจับคล่องแคล่ว


แล้วคนตัวเล็กก็รับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอยู่คนเดียว ดีเสียอีกที่เขาหลีกหนีการเผชิญหน้าที่
โต๊ะอาหารตอนเช้าได้ หรือว่าคุณชายนั่นไม่อยากให้เขาออกไปเจอหน้าจริง ๆ แต่ก็ช่างเถิด เขาไม่อยาก
เจอหน้าใครอยู่แล้ว ถือว่าเขามาเป็นผู้อาศัยในคฤหาสน์นี้ก็แล้วกัน

กว่าจะกินเสร็จก็ใช้เวลานานกว่าปกติ อันวานั่งชิลล์มองไปยังสวนสวยเบื้องนอกกระทบแดด
ยามสาย นกร้องดังคลอไปกับสายลมแผ่วผ่านพอทำให้ต้นไม้ใบไม้ไหวเบา ๆ น้ำพุที่มีเทวดาตัวน้อยอยู่
เบื้องบนยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างดี สายน้ำกระเซ็นออกมาพาให้รู้สึกเย็นฉ่ำหัวใจ ความสงบจึง
ค่อย ๆ เกิดขึ้นตามมา

อิสระ…เป็นครั้งแรกเลยที่เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของอิสระในความไม่อิสระของชีวิตตัวเอง อัน
วาคลี่ยิ้มน้อย ๆ วางช้อนลงในถ้วยเหมือนเดิม แล้วอิงหลังพิงเก้าอี้ มองนกตัวน้อยตัวนิดเล่นน้ำอยู่ที่
น้ำพุอย่างมีความสุข

ในชีวิตเขาไม่เคยเลยที่จะมีวันที่ปล่อยตัวเองเช่นนี้ เขาเป็นเด็กดีเสมอ รักษาระเบียบวินัย ทำ


ตัวตามแบบอย่างที่ดีของไอรีนเพราะหวังว่าสักวันจะเป็นที่รักเช่นเธอ หวังเอาไว้ทั้งที่ลึก ๆ รู้ว่าเป็นไปไม่
ได้

ร่างเล็กลุกขึ้นจากที่นั่ง บิดขี้เกียจไปมาอย่างไม่ระวังกิริยา รอยยิ้มกว้างประดับใบหน้าสวย


แล้วพาตัวเดินกลับมายังเตียงขนาดใหญ่ที่เขาเพิ่งใช้หลับนอน ทุ่มตัวลงไปบนนั้น จนทั้งร่างกระเด้งกระ
ดอนขึ้นมาอย่างมีความสุข

ขอเป็นเด็กสักวัน ขอเป็นคนที่ทำอะไรตามใจตัวเองสักวันเถิด

เป็นคนที่ยิ้มกว้าง เป็นคนที่หัวเราะเสียงดัง เป็นคนที่ไม่ต้องคอยกังวลกับความคาดหวังของ


ใคร แม้กระทั่งของตัวเอง

รู้สึกดีมากจนยิ้มออกมาไม่หยุด

อันวาระบายลมหายใจออกจากปาก แต่มันไม่ได้มีความทุกข์ปนอยู่ในนั้น เขากำลังรู้สึก


เหมือนกับสบายใจที่ได้หลบหนีจากชีวิตจำเจมาอยู่ที่อื่น ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ขอแค่มันปลอดภัยเขาก็
สามารถเปลี่ยนมันเป็นความสุขได้

รอยยิ้มน้อย ๆ บนใบหน้าจางลง อันวาลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง นึกสงสัยว่าส่วนอื่น


ในบ้านจะเป็นอย่างไร และเขาจะมีหน้าที่อะไรหรือเปล่า เป็นภรรยาคุณเคย์ต้องทำอะไรบ้าง ไม่เห็นมี
ใครบอกเขาเลย

นึกสงสัยเช่นนั้นแล้วจึงรีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว อันวาสวมเสื้อเชิ้ตพอดีตัวกับกางเกงสุภาพ
เรียบร้อย เพื่อเตรียมจะออกไปหาคำตอบภายนอก ทว่าเพียงแค่แต่งตัวเสร็จ ยังไม่ทันจะทำอะไรอีก
เสียงจากหน้าประตูก็ดังขึ้น ราวกับอีกฝ่ายเลี้ยงลูกกุมาร ถึงได้รับรู้ความเคลื่อนไหวของเขาได้ขนาดนี้

“คุณอัน ผมเอากำหนดการมาให้”

หืม กำหนดการอะไร?

คนฟังไม่ได้ถามข้อสงสัย แต่เดินไปเปิดประตู ถึงได้เห็นดวงตาคมกริบของคนที่สูงกว่ามอง


ลงมา ซีนเว้นระยะไว้ประมาณหนึ่ง มือยื่นเอาซองเอกสารอะไรบางอย่างมาให้เขา จึงรับเอามาไว้ในมือ

“มีงานที่ต้องไปเหรอ”

“ครับ รายละเอียดอยู่ในนั้น เครื่องแต่งกายจะมีคนมาจัดเตรียมให้ก่อนวันงาน หากคุณต้อง


การอะไรให้เรียกหาผมได้”

อันวาพยักหน้ารับ แล้วก็เหมือนคิดอะไรอยู่ครู่

“เอ่อ แล้วต้องทำอะไรบ้าง” หน้าที่ที่ต้องทำ คงไม่ได้จะให้อยู่เฉย ๆ แต่ในห้องหรอกใช่ไหม

“ไม่ต้องครับ คุณเคย์บอกไว้แค่คุณไม่ก่อเรื่อง”

คนฟังเบ้ปาก หน้าตึงไปเพราะได้ยินคำว่าก่อเรื่อง สำหรับคุณเคย์นั่นเห็นเขาเป็นตัวก่อเรื่อง


อย่างเดียวเลยหรือยังไง

“ได้สิ ฝากบอกคุณเคย์ว่าฉันจะไม่ก่อปัญหาอะไรหรอก”

“ครับ” รับคำแค่นั้น ซีนก็จ้องมองกันนิ่งไป อันวาอยากลอบระบายลมหายใจ แต่ว่าซีนดูเป็น


คนที่เขาพอจะพูดคุยได้ที่สุด เพราะแบบนั้นเลยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

“มีอะไรที่ฉันควรจะรู้อีกไหม”

“หมายถึง?” ใบหน้านิ่งเฉยคล้ายกับรั้งรอฟังคำตอบด้วยท่าทีสงบนิ่ง

“อะไรก็ได้ อะไรที่จำเป็นในการเอาตัวรอดที่น”ี่

ซีนซ่อนยิ้มไว้ในหน้า นึกพอใจที่โอเมก้าปรับตัวได้ดีเช่นนี้ ถูกแล้วล่ะ อยู่ที่นี่ไม่ใช่แค่อยู่


เฉย ๆ เดินโง่ ๆ ไปก็รอดได้ ที่นี่ไม่ได้อยู่กันแบบนั้น ทุกย่างก้าวล้วนต้องระมัดระวัง เพราะอย่างไรก็
คือสถานที่ทำการใหญ่สุดของตระกูล

…ที่ ๆ รวบรวมคนสำคัญที่สุดในตระกูลไว้

“อย่าเดินเพ่นพ่าน” ยากจัง!

“ที่ไหนถือว่าเพ่นพ่านบ้าง” อันวาอยากจะถอนใจ บ้านมันกว้างเสียขนาดนี้ แล้วเขาจะรู้ได้ยัง


ไงว่าไปเดินตรงไหนได้บ้าง

“ส่วนกลาง ปีกตึกฝั่งตะวันตก แม้แต่สวนก็ยังแยกกัน หากคุณสังเกตดี ๆ ก็จะดูออก” ซี


นบอกอย่างเรียบง่าย มองนายคนใหม่พยักหน้ารับหงึกหงัก

“ถ้าอย่างนั้นฉันเดินตรงไหนได้” ดวงตากลมเปล่งประกาย เมื่อคิดถึงที่ที่เขาพอจะหายใจได้


เต็มปอดบ้าง

“ฝั่งตะวันออก…” ดวงตาเรียวจ้องมองลึกเข้าไปในตาคู่สวย ไม่รู้เลยว่าทำไมจู่ ๆ เขาถึงเอ่ย


คำนี้ออกมา “เลี่ยงส่วนหน้าถึงส่วนกลางของตึกฝั่งนี้เอาไว้” เป็นช่วงที่เจ้านายตัวจริงของเขาพักอาศัย

อันวาพยักหน้ารับเนือย ๆ รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้า ดวงตาก็เปล่งประกาย เพราะชัก


จะอยากออกไปเดินข้างนอกบ้างเสียแล้ว

“ฉันออกไปได้เลยใช่ไหม”

“คุณอยากทำอะไร”

มือเรียวขยับไปวางซองที่ได้รับไว้กับโต๊ะข้างผนัง หยิบเพียงกุญแจห้องก็เดินออกมา โดยมี


ซีนขยับเปิดทางให้ ถึงอย่างไรคุณเคย์ก็สั่งให้เขามาจับตาดูภรรยาอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยากบอกให้รู้ตัว
ไม่อยากให้เข้าใจผิดว่าเจ้านายให้ราคา ก็เลยให้ปิดเงียบไว้เสีย

“อยากเดินดูไปรอบ ๆ” แล้วก็สืบความถามอะไรเสียหน่อยให้รู้เรื่อง

“งั้นผมจะพาคุณไปเอง” ร่างสูงเอ่ยตอบรับ เดินนำหน้าผู้มาอยู่ใหม่ไปรอบ ๆ ในเขตพื้นที่ที่


สามารถเข้าได้ โดยมีสายตาของคนเป็นนายมองผ่านระเบียงจับจ้องอยู่ตลอดเวลา

เคลตันหงุดหงิดรำคาญโอเมก้านั่นมาก ตั้งแต่มาอยู่ได้อาทิตย์กว่าก็อยากรู้อยากเห็นไปเสีย
หมด บอกว่าอย่าเพ่นพ่านก็ขอให้ซีนพาเดินเล่นเป็นประจำ แต่ว่าหลบหน้าเขาดีเหลือเกิน ความจริงเขา
ก็พอใจที่อันวาทำตามคำสั่งได้เป็นอย่างดี ทำให้ระหว่างไปทำงานเขาไม่ต้องปวดหัว เขาไม่เคยอยากรู้ว่า
โอเมก้านั่นไปทำอะไร แต่ว่าบังเอิญช่วงที่เขากลับบ้านเร็วมักจะเห็นโอเมก้าออกไปนั่งเล่นที่สวนอยู่เป็น
ประจำ เห็นแล้วก็ได้แต่หงุดหงิด

อยู่ไปวัน ๆ กินไปวัน ๆ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

มีตัวตนอยู่ไปทำไมกัน หรือแค่เพราะว่าเป็น…

อัลฟ่าสะบัดหน้าพลางพ่นลมหายใจแรง ๆ ระบายความรำคาญเมื่อเห็นอันวานั่งอยู่ที่โต๊ะใน
สวนหลังบ้าน ซีนถูกสั่งให้สละเวลาบางส่วนมาติดตาม เพื่อดูให้แน่ใจว่าโอเมก้าจะไม่ไปวุ่นวายเข้าใกล้
สายตาคุณนายไซรัสให้ต้องขัดเคืองอีก ทว่าดูเหมือนซีนจะทำหน้าที่ได้ดีมากจนเกินไปแล้ว

เคลตันละสายตา หมุนตัวกลับเข้าห้องพักในทันที

อันวามองคนสวนที่กำลังนั่งพรวนดินไกล ๆ ด้วยความรู้สึกสงบสุข เขาย้ายมาอยู่ที่นี่ได้พัก


หนึ่งแล้ว แต่ยังไม่มีหน้าที่อะไรให้ทำ ไม่ได้เจอหน้าสามีเลยสักครั้ง มีเพียงวันนั้นที่ได้เจอกันที่มื้อ
อาหาร ดีเหมือนกัน เขาไม่ได้อยากเจอใครเลย วัน ๆ มีซีนแวะมาเป็นเพื่อนบ้างก็ถือว่าดีไม่น้อย

“คุณอัน ผมต้องไปก่อน” น้ำเสียงสงบราบเรียบส่งมาให้ อันวาหันไปมองต้นเสียงพร้อมกับ


เลิกคิ้วแปลกใจ ทว่าก็พยักหน้ารับโดยดี กระนั้นก็ยังเห็นหัวคิ้วของซีนขมวดเข้าหากัน มีท่าทีลังเล
เหมือนกับจะพูดอะไรบางอย่าง อันวาคิดว่าซีน

คงจะกลัวเขาก่อความวุ่นวาย ถึงรีบยิ้มกว้างแล้วย้ำเป็นการยืนยัน ไม่ให้อีกคนเป็นกังวลได้

“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ก่อเรื่องหลอก นั่งอีกเดี๋ยวก็จะกลับห้องแล้ว” ใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นเต็ม


ที เขาเพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่ได้รับอนุญาตให้ไปร่วมโต๊ะ ถึงต้องรับประทานคนเดียวเพียงลำพังที่ห้อง ซึ่งเขา
ไม่รู้จะขอบคุณคนที่ออกคำสั่งอย่างไรดี

…ไม่ได้อยากเจอใครอยู่แล้ว

ซีนพยักหน้ารับ หมุนตัวเดินจากไปอย่างสง่างาม สมตำแหน่งมือขวาของอนาคตผู้นำ อันวา


มองตามเพียงนิดก็ละสายตาออกห่าง มองผีเสื้อตัวน้อยสยายปีกกลางอากาศ ดอมดมน้ำหวานจากดอก
ไม้ที่บานอยู่ในแปลงก็อมยิ้มอ่อน ๆ อย่างสบายใจ

ดีเหลือเกินที่เป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะดีได้สักกี่วัน

โอเมก้าเหมือนรับรู้ว่าชีวิตของเขาไม่เคยง่ายดาย แต่ก็ขวนขวายช่วงเวลาน่าจดจำ อยากเก็บ


มันเอาไว้ให้ได้มากที่สุด นั่งมองสายน้ำพุสาดกระเซ็นกระทบผืนน้ำด้านล่าง มองนกบินกลับรังยามที่
แสงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มทอทาบไปทั่วผืนฟ้า มองใบไม้ปลิดปลิวลงกับพื้นแล้วก็ได้แต่ลอบระบายลมหาย
ใจ รอยยิ้มบนใบหน้าค่อย ๆ จางลงตอนที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เพื่อพาตัวเองเดินกลับห้องตามลำพัง

เสียงฝีเท้ากระทบพื้นของตัวเองดังเป็นจังหวะก้อง ๆ ในบ้านที่กว้างขวางวังเวงเช่นนี้ อันวาไม่


รู้เลยว่ามีแม่บ้านหรือคนงานเท่าไร แต่ว่าไม่ค่อยได้พบเจอมากนัก ทว่าทุกคนที่พบเจอล้วนมีแต่อัลฟ่า
กระทั่งผู้หญิงที่มาเสิร์ฟหรือเก็บถาดอาหารของเขาเป็นประจำ ไม่รู้เลยว่าบ้านหลังนี้สรรหามา
แต่อัลฟ่ามากมายได้ยังไง

อันวาเดินเรื่อยไปจนสุดเขตพื้นที่ของสวนสวยที่อยู่ภายในอาณาเขตฝั่งตะวันออกจนสุดทาง
แล้วถึงได้อ้อมขึ้นตึกอีกครั้ง ความคิดกระหวัดไปเรื่อยเปื่อยจนไม่ทันระวัง เมื่อพ้นทางเลี้ยวถึงได้ไม่
เห็นใครอีกคนที่เดินสวนทางมา

“อ๊ะ!” เสียงร้องดังเพียงสั้น ๆ ทั้งร่างก็ถูกรับเอาไว้ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองอันฉับไวของอีก


ฝ่าย โอเมก้าตัวน้อยตกใจ สายตาไล่มองไปยังแผงอกภายใต้ชุดสูทสีขาว พอเห็นว่าเป็นใครก็รีบดันแผ่
นอกเอาไว้ พยายามจะขยับกายออก แต่เหมือนวงแขนที่คว้าจับอยู่กับเอวจะมีแรงมากกว่าเขาหลายเท่า
นัก

“คุณไคล์” โอเมก้าตัวเล็กเอียงตัวหนีสุดกำลัง ท่วงท่าที่เหมือนกำลังเต้นลีลาศนี้ทำเขาอึดอัด


แต่อีกคนกลับแววตาพราวระยับ จ้องมองกันพร้อมรอยยิ้มน่ามองที่เขาคงไม่มีวันได้เห็นจากแฝดคนพี่

“เรียกไคล์เฉย ๆ” ชายหนุ่มเอ่ยสบาย ๆ ดึงคนที่ยังเอียงตัวขึ้นมา แล้วปล่อยออกอย่างระ


มัดระวัง คนตัวเล็กจำต้องกล่าวขอบคุณออกไป ก่อนที่จะถอนใจอย่างโล่งอก เมื่อขยับตัวออกห่าง
จากอัลฟ่าจนอยู่ในระยะพอดีที่เขาจะหายใจหายคอได้สะดวกขึ้น

“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ แต่ผมว่าจะไปแล้ว” อันวายิ้มอ่อนให้กับน้องชายสามี มองเห็นแวว


ตาทอแสงอ่อนโยนลงทอดมองกันก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้างจากเมื่อครู่ที่อยากจะหนีเพียงอย่างเดียว

“ไม่ไปทานมื้อเย็นด้วยกัน?” น้ำเสียงนุ่มที่ใช้ช่างผิดกับพี่ชาย อันวาไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรดี


ไม่แน่ใจว่าไคล์ไม่รู้หรือจงใจถามเขาเพื่ออะไรกันแน่ แต่สิ่งที่ทำได้นั้นก็เป็นเพียงการยิ้มและส่ายหน้า
ตอบ

“ทานที่ห้องสะดวกกว่า” คนตัวเล็กตั้งใจจะเดินหนีแล้ว แต่ว่าร่างสูงใหญ่ของอัลฟ่ายังคงก้าว


มากันเอาไว้ ไม่ให้เขาผละหนีไปได้

“ไม่มาพร้อมเคย์?”

อันวาคิ้วกระตุก รอยยิ้มเริ่มจางลงเปลี่ยนเป็นความเฉยชาแทน ไม่ใช่ไคโรดูออกแต่แรกหรือ


ว่าคุณเคย์ไม่ยอมรับเขา ไม่สิ ไม่ได้อยากแต่งงานกับเขาด้วยซ้ำ

“…”

“ไม่ได้อยู่ด้วยกันสินะ” รอยยิ้มบาง ๆ ขับให้ใบหน้าใสอย่างหนุ่มเจ้าสำอางยิ่งดูอารมณ์ดีมาก


ขึ้นไปอีก อันวาไม่ได้ตอบว่าอะไร ทว่าก็นึกสงสัยอยู่บ้างว่าไคล์จะรู้เรื่องอะไรมากน้อยแค่ไหน แต่เอ่ย
ถามไปตรง ๆ ก็คงไม่ใช่หนึ่งในทางเลือก บ้านที่มีแต่อัลฟ่าเขาจะสามารถไว้ใจใครได้ แม้ว่าไคล์อาจดู
เหมือนพันธมิตรเดียวที่เขามีก็เถอะ

เมื่อเห็นคนตรงหน้าเริ่มมีท่าทีเคร่งเครียด ไคล์ถึงได้หัวเราะออกมาแผ่วเบา มือสองข้างยกขึ้น


ในท่ายอมแพ้ แววตาขี้เล่นหันมองคนที่มีท่าทางระแวดระวังตัวขึ้นมา

“ไม่มีอะไรไรหรอก แค่แปลกใจ”

อันวามองอีกคนเป็นคำถาม ไคล์เหลือบมองยิ้ม ๆ ทว่าไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาอีก เพียงแต่


ส่งยิ้มใจดีให้แล้วทำท่าเหมือนจะผละออกห่าง ทิ้งไว้แค่ข้อความชวนขบคิด “เดี๋ยวเธอก็จะรู้เอง”

โอเมก้าได้แต่ตาโต มองคนตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ

“คุณหมายความว่ายังไง”

กลายเป็นอันวาที่ขยับมาขวางไม่ให้ใครอีกคนหนีกันไปได้ ร่างสูงใหญ่ถอยไปสองก้าวเกือบ
ชิดผนัง สีหน้านิ่งทว่าแฝงแววพึงพอใจที่ได้แกล้งดูระยิบระยับในดวงตาคู่นั้นยิ่งเร่งให้โอเมก้าเกิดคำ
ถามมากมายเต็มไปหมด

“อยากรู้จริง ๆ เหรอ” เสียงกระซิบแผ่วเบาลึกลับของคนที่ขยับโน้มตัวเข้าหาทำให้อันวาตกใจ


เล็กน้อย รอยยิ้มมุมปากแบบนั้นดูดีจนน่ากลัวเกินไป ทว่าก่อนที่เขาจะคิดอะไรไปมากกว่านั้น แขนข้าง
หนึ่งก็ถูกใครบางคนจากด้านหลังรวบเอาไว้อย่างแรง

“ทำอะไรกัน”

คนตัวเล็กหันไปตามเสียงเข้มดุดันก็เห็นเพียงสีหน้าเรียบเฉยแฝงแววไม่พอใจเอาไว้ ดวงตา
คมไม่ได้จ้องมองคนที่ตัวเองยึดจับ แต่จ้องลึกลงไปในดวงตาเป็นประกายฉายแววสนุกสนานของน้อง
ชายแทน

“แหม่ พี่ชาย…” เสียงทักทายฟังดูเกือบเป็นมิตร เคย์ถลึงตาใส่คนทั้งคู่ แขนแข็งแรงดึงเอา


โอเมก้ามายืนข้างตัว แล้วรีบปล่อยมือออกราวกับรังเกียจ

โดยเฉพาะอันวา ถูกสายตาดุดันตวัดมองกันอย่างตำหนิ

“ไม่มีอะไรสำคัญก็ไปเจอกันที่ห้องอาหาร” เสียงกระชากเอ่ยแค่นั้นก็ดึงคนของตัวเองกลับไป
ยังฝั่งที่จากมาทันที ทิ้งให้ไคล์มองตามด้วยความพอใจ ขาสองข้างก้าวยาว ๆ พาคนทั้งคู่เดินเลยห้อง
พักของเคย์ไป ตรงไปยังห้องพักอีกห้องที่สุดทางเดิน พอถึงก็รีบปล่อยมือออกจากผิวขาวภายนอกแขน
เสื้อที่ถูกพับไว้ใต้ศอก ที่ขึ้นเป็นรอยมือสีแดงอย่างน่าตกใจ

“รีบ ๆ เข้าไป” เสียงเอ่ยอย่างรำคาญดังพอให้อันวากลืนน้ำลายฝืดเคืองลงคอ ลอบมองคน


ตรงหน้าก็เห็นเพียงแต่แววเคืองขุ่น มือถึงได้รีบไขประตูเปิดออกอย่างรวดเร็ว

โอเมก้าเปิดประตูเข้ามาในห้อง ขาก้าวเข้าไปช้า ๆ หัวใจเต้นแรงเพราะหวาดกลัวคนที่อยู่ไม่


ห่างไกลนัก ยิ่งตอนที่แผ่นหลังถูกดันด้วยฝ่ามือแข็งแรง และเสียงประตูถูกปิดลง หัวใจก็แทบตกไปอยู่
ตาตุ่ม

เคย์ยกมือเสยผมอย่างหงุดหงิด สายตาคมดุเลื่อนมามองโอเมก้าเอาไว้จนคนตัวเล็กได้แต่ยืน
นิ่งด้วยความกลัว

“คุณ…จะทานมื้อเย็นด้วยกันเหรอ” เสียงถามเบา ๆ อย่างลังเลดังขึ้น อันวาไม่อยากให้มัน


เกิดเป็นความเงียบงัน ที่บอกได้ดีว่าเขาอึดอัดมากแค่ไหนกับการอยู่ใกล้อัลฟ่าขี้หงุดหงิดตรงหน้า ตอน
นี้เหมือนเขาไม่รู้อะไรเลย ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง สถานการณ์ตรงหน้าถึงรู้สึกว่าไม่ค่อยปลอดภัยสักเท่า
ไร

ยิ่งสายตาคมดุที่กดลงมองกันกับสีหน้าที่ดูเหยียด ๆ อย่างไรก็บอกไม่ถูกนั่นอีก ล้วนแต่ทำ


ให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว

“ใครจะกินข้าวกับนาย” มุมปากเบ้ลงคล้ายกับรังเกียจ อันวากลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกไม่พอใจ


อยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้ต่างจากที่เขาคาดเดาไว้นัก

“ครับ” ตอบรับแบบนั้นแล้วรอให้อัลฟ่ารีบ ๆ เดินออกไปสักที

คนตัวโตก้มมองท่าทีสงบนั้นอย่างหงุดหงิด รู้สึกรำคาญที่โอเมก้าตัวเล็กช่างกล้าหาญ เดิน


พล่านไปทั่วทั้งที่ทั้งบ้านเขามีแต่อัลฟ่าเช่นนี้ ช่างไม่ระวังตัวเอาเสียเลย คิดหรือว่าหากเกิดอะไรขึ้นเขาจะ
ปกป้อง

ยิ่งมองใบหน้าใส ๆ ที่ก้มต่ำนั่นเขายิ่งโมโห สองขาก้าวเข้าไปประชิดโดยไม่รู้ตัว “คิดว่าตัว


เองเป็นใคร ถึงได้เดินส่งกลิ่นยั่วไปทั่ว” มือแข็งแรงเอื้อมไปคว้าแก้มใสแล้วบีบแรง ๆ จนแก้มนิ่ม ๆ ยู่
ไปหมด

อันวาทั้งเจ็บทั้งตกใจ ดวงตากลมเอ่อคลอหยาดน้ำจับจ้องตอบ สองมือก็พยายามจะแกะคน


ที่สัมผัสกันอย่างหยาบคายออกไปจากใบหน้า

“ปล่อยผมนะ” เสียงอู้อี้กับมือเล็กทั้งแกะทั้งจิกเล็บใส่ ไม่มีท่าทียินยอมแม้แต่น้อย ทำ


ให้อัลฟ่าตัวโตจำต้องสะบัดมือออก สีหน้าหยามเหยียดจ้องมองกันคล้ายรังเกียจระคนรำคาญเต็มที

“สะดีดสะดิ้ง ทีเมื่อกี้เดินเข้าหาผู้ชายหน้าไม่อาย” เคย์กอดอกมองกันอย่างดูถูก ท่าทางที่


เหมือนรู้ทุกอย่างนั่น ทั้งที่ความจริงไม่รู้อะไรเลยยิ่งเร่งให้คนถูกกล่าวหาแสบ ๆ คัน ๆ ในใจ แน่นอน
ว่าอยากตอบโต้แรง ๆ กับคนไร้มารยาท แต่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ได้เปรียบขนาดนั้น จึงสะกดกลั้นเอาไว้

“คุณเข้าใจผิด” ทำได้แค่ลูบแก้มตัวเองขับไล่ความเจ็บแปลบเมื่อครู่ไป อธิบายให้รู้เรื่อง


เผื่ออัลฟ่าประสาทกลับตรงหน้าจะเข้าใจบ้าง

เสียงแค่นหัวเราะดังจากคนตัวโตที่กอดอกปรายตามองเหมือนรู้ทัน สีหน้าแบบนั้นช่างดูไม่เข้า
ตา แต่โอเมก้าไม่อยากต่อล้อต่อเถียงให้เรื่องราวบานปลายไปอีก จึงทนเงียบไปเสีย

“ฉันจ่ายให้ไม่พอหรือไง หรือว่าตาเฒ่านั่นต้องการเพิ่ม”

คนฟังงงงันไปหมด ความสับสนฉายชัดอยู่บนใบหน้างาม แต่คนเห็นไม่เชื่อถือเลยสักนิด มั่น


ใจว่าโอเมก้าตรงหน้าเล่นละครเก่งมากกว่าจะคิดเป็นอื่น

“เรียกไปห้าสิบล้านสำหรับขยะอย่างนายก็หน้าด้านมากเกินไปแล้ว ฉันจะบอกให้รู้เอาไว้นะ
ว่าต่อให้นายบริการทั้งคฤหาสน์ฉันก็จะไม่ให้เพิ่มอีกแม้แต่แดงเดียว” เคย์มองภรรยาในนามตั้ง
แต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วไล่จากเท้ากลับขึ้นมาบนใบหน้าสวยอีกครั้ง รอยยิ้มมุมปากร้ายกาจยกขึ้น
ยามเมื่อเอ่ยคำพูดบาดใจ “แค่นี้ยังไม่รู้ว่าต้องทำเท่าไรถึงจะคุ้มค่า”

มือบางกำเข้าหากันแน่น แม้ไม่เป็นที่ต้องการ แม้เป็นเพียงโอเมก้าน่าอายของบ้านก็ไม่เคย


เลย ไม่เคยที่ใครจะมาดูถูกกันต่อหน้าเช่นนี้ ข้อความต่ำทรามที่ใช้ ยังมีหน้ากล้าเรียกตัวเองว่าอัลฟ่าชั้น
สูงอีกหรือ

แค่บอกว่าเป็นอัลฟ่าที่ได้รับการอบรมสั่งสอนยังควรละอาย!

“ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร” อันวากัดฟันทน

“หึ! ไม่ใช่ตาเฒ่านั่นถังแตกจนยอมขายนายแลกเงินหรือยังไง” เคย์จงใจยียวนกวนประสาท


ทั้งที่รู้ดีว่าไม่จริง ก็อดไม่ได้ที่จะพูดจารวนคนตรงหน้า เกลียดนักกับท่าทางนิ่งสงบนั้น กวนเสียให้
ประสาทเสีย ไม่ต้องอยู่สงบมันหรอก

“ถ้าคุณจะหาเรื่องช่วยออกไปเถอะ” อันวาพ่นลมหายใจอย่างไม่พอใจ ร่างเล็กขยับออกห่าง


ก่อนจะย้ายไปยืนข้างประตูแล้วเปิดมันออกเป็นการไล่แขกอย่างไม่สนใจรักษามารยาทอีก

“ทำไม ยอมรับไม่ได้เหรอ ว่าถูกขาย” สีหน้าเย้ยหยันช่างน่ารำคาญ อันวากลอกตามองบน


อย่างรำคาญใจ พยายามระงับโทสะไว้ อยากจะทุบอีกคนให้ปากแตกนัก แต่รู้ดีเสมอว่าตัวเองสู้ใครไม่
ได้ถึงได้จดจำทุกคำพูดเอาไว้แล้วจำใส่ใจแทน

“ถ้าคุณไม่พอใจนัก แล้วจะซื้อผมมาทำไม” โอเมก้ากล่าวตัดรำคาญ นัยน์ตากลมโตน่ารัก


จ้องกันราวกับจับผิด คนที่ถูกจ้องถึงกับชะงักไปครู่ ก่อนจะทำสีหน้ารำคาญตอบอย่างไม่แยแส

“คิดว่าฉันอยากได้หรือไง ถ้าไม่ถูกยัดเยียด สินสอดนั่นควรเป็นของพี่นาย ถ้านายไม่ส่งกลิ่น


น่ารังเกียจนั่นล่อลวงฉัน ไม่มีทางที่ฉันจะแตะต้องโอเมก้าชั้นต่ำอย่างนายหรอก” ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห คน
พูดกัดฟัน ทำท่าจะย่างสามขุมเข้าไปหาคนตัวเล็กอีก แต่ว่าอันวาไม่ใช่หมูในอวย หมูน้อยนอกอวยวิ่ง
ผลุนออกจากประตูไปยังทางเดินข้างนอก เตรียมพร้อมจะแหกปากร้อง หากมีเหตุฆาตกรรมเขาเกิดขึ้น

คำก็ต่ำสองคำก็ต่ำ เขาอาจจะเป็นโอเมก้าต้อยต่ำก็จริง แต่ใจเขาสูงกว่าคนตรงหน้าแน่นอน


แต่ก่อนอื่นเลย ทำไมคุณเคย์ถึงไปขอพี่ไอรีนแต่งงาน

“คุณจะแต่งกับพี่ไอได้ยังไง พี่ไอไม่ได้รักคุณสักหน่อย” อันวาถามเสียงดังมาจากไกล ๆ


มองคนที่เดินตามมายืนหน้ามืดทะมึนอยู่หน้าประตูอย่างไม่ลดละความระแวดระวังลงแม้แต่น้อย

“ฉันจะแต่งเอาอัลฟ่ามาทำไม ถามอะไรโง่ ๆ” แค่นี้ก็ไม่เข้าใจหรือไง

โอเมก้าคิดตามแล้วก็ต้องเบิกตาโต คิดถึงเหตุผลของการแต่งงานแล้วก็คงไม่มีอย่างอื่น เพียง


เพื่อส่งเสริมอำนาจ เป็นหมากให้แก่กันก็เท่านั้น อันวายืนนิ่งไป ดีใจเหลือเกินที่ไอรีนไม่ได้ตอบรับคำ
แต่งงานไปก่อน

เธอจะมีความสุขในที่แบบนี้ได้จริง ๆ หรือ

“คิดอะไรอยู่” เสียงถามกระชากรั้งให้สติกลับมา อันวามองคนตรงหน้าอย่างค้นหา สีหน้าจริง


จังขึ้นกว่าตอนแรก

“คุณ อยากมีลูกเหรอ” เด็กที่เป็นทรูอัลฟ่า สิ่งที่เขาได้ยินมาตลอดชีวิต

“ใช่ เด็กแข็งแรงจากแม่ที่เป็นทรูอัลฟ่า เด็กแบบที่คนอย่างนายไม่มีวันให้ได้น่ะ” เคย์กล่าว


ชัด สีหน้าเคร่งขรึมขณะเอ่ยถ้อยคำทำให้อันวารู้ดีว่าเขาจริงจังมากแค่ไหน เคลตันไม่ต้องการเขา

เขาไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยตั้งแต่แรก

คนตัวเล็กกะพริบตาปริบ ๆ ในหัวครุ่นคิดอะไรไปมากมายหลายอย่างเหลือเกิน ครู่หนึ่งกว่า


จะได้สติ ดวงตากลมเงยกลับมาสบตาคนตรงหน้าอีกครั้ง ท่าทีเหมือนตัดสินใจอะไรบางอย่างได้

“งั้นคุณก็ปล่อยผมไปสิ ไม่ต้องมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ ในเมื่อคุณไม่ต้องการมีลูกกับผมอยู่


แล้ว คุณเองก็เกลียดโอเมก้ามากขนาดนี้” คนตัวเล็กเอ่ยทางเลือกออกมากึ่งสับสนกึ่งมีหวัง เขาไม่เข้า
ใจเคลตัน พอ ๆ กับที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไงกันแน่ ทว่าแววตาสว่างวาบเหมือนกับระบายไป
ด้วยความกรุ่นโกรธของอัลฟ่าก็เล่นเอาเขาตกใจ

“อยากไปมาก มีปัญญาหาเงินมาคืนให้ฉันหรือไง” มือแข็งแรงกระชากแขนเล็กจนร่างบาง


แทบจะลอยเข้าหาตัว “เอาไว้มีปัญญาหาเงินมาคืนได้ค่อยมาพูดกับฉันก็แล้วกัน”

สายตาคมกริบจับจ้องอย่างหยาบโลนแทะโลมไปทั่วร่างบาง กลิ่นกายอ่อนจางของโอเมก้ายั่ว
เย้าให้ลมหายใจผิดจังหวะไปเล็กน้อย ทว่าเคย์พยายามเก็บอาการตอนที่เอ่ยถ้อยคำยั่วประสาทอีกฝ่าย
“หรือถ้าหาไม่ได้จะเอาตัวมาแลกก็ได้นะ เห็นแก่ที่เคยใช้บริการฉันจะจ่ายให้”

“ไอ้ลามก!” อันวาทนไม่ไหวกับท่าทีที่หยาบคายใส่กันอย่างไร้เหตุผล คนตัวเล็กเอ่ยถ้อยคำที่


แทบไม่เคยหลุดออกจากปากไป มือสองข้างออกแรงดันอกอัลฟ่าสุดชีวิต จนร่างหลุดจากการเกาะกุมได้
ก็วิ่งจู๊ดหนีเข้าห้องแล้วปิดประตูลงกลอนอย่างรวดเร็ว

แผ่นหลังบางยืนดันประตูไว้ไม่ให้เกิดเรื่องผิดพลาดอย่างคราวก่อนได้เป็นอันขาด

เคลตันแค่นหัวเราะอยู่หน้าห้อง ส่ายหน้าไปมาให้กับผู้เป็นภรรยาในนามของเขา อารมณ์ปั่น


ป่วนเมื่อครู่จางหายไปเมื่อไม่เห็นอีกคนในสายตา เหลือไว้เพียงกลิ่นกรุ่นจาง ๆ อยู่รอบกาย

อัลฟ่าตัวร้ายขยับไปใกล้ประตู ใช้แขนข้างหนึ่งค้ำไว้ ตอนที่โน้มเข้าไปใกล้ แล้วแกล้งทุบลง


ไปบนนั้นดัง ๆ พอให้อีกคนตกใจ

“เปลี่ยนใจอยากขายก็บอก ฉันจะอนุเคราะห์ซื้อให้ จะได้ไม่ผิดความตั้งใจของบ้านนาย”

อันวาที่เพิ่งสะดุ้งตกใจกับเสียงทุบประตูกัดปาก หันหน้าไปขมุบขมิบปากด่าพอเป็นพิธี แต่ก็


ทำเป็นไม่สนใจ พูดได้พูดไป พูดเสียให้พอ อย่าให้ถึงคราวเขาบ้างก็แล้วกัน!

#อัลฟ่าหน้าโง่

มาถึงบ้านก็รีบมาอัพเยย เอาไปเต็ม ๆ จุก ๆ ยาวตาลายไป 5555555

ว่าแต่อิเคย์มันจะปากคอเราะรายไปทำไม อย่าให้น้องต้องไปเอาตะกร้อมาครอบนะ

Bad Alpha #7ล9าห;าโ= [Omegaverse] [>ด


เห!ยญ 13/05/22]
DailyDaisy >ดตาม

ตอนBอนห;า ตอนCอไป

ให้กําลังใจนักเขียนผ่านโดเนท
โดเนทสูงสุดของเรื่อง Bad Alpha #อัลฟ่าหน้าโง่ [O Top Donator บทที่ 4 อยากขายก็บอก 100%
megaverse] [ติดเหรียญ 13/05/22]

See more
3amSleep… StitchStit… tiramisucup Lalaiidaw ☆ RJin anonymous Zherrexxx tiramisucup มาโดเนทSน มาโดเนทSน
1000.00 85.00 65.00 50.00 50.00 10.00 5.00 5.00

โดเนทHI

You might also like