You are on page 1of 16

Prologue 3

“จะไม่เสียใจภายหลังแน่นะ อาโออิ”
“อะ อือ...ไม่เป็นไร”
หยาดเหงือ่ ส่องประกายราวอัญมณีอาบท่วมไปทัว่ ร่าง
เวลาผ่านพ้นไปยาวนานขนาดไหนกันนะ ที่ผมกับโองิยามะ
อาโออิได้แต่จ้องมองกันและกัน
อุณหภูมิของฤดูร้อนสูงเกินกว่าเครื่องปรับอากาศจะ
รับมือไหว ยิง่ กว่านัน้ จิตใจซึง่ อยูใ่ นสภาพอดกลัน้ ไม่ไหวอีกต่อ
ไปก็ยิ่งทำ�ให้ร่างกายรู้สึกร้อนรุ่มยิ่งขึ้นไปอีก
ร่ างกายของผมพยายามที่จ ะข้ ามผ่านขอบเขตของ
ความอดกลั้นไปให้ได้
ทั้งที่เป็นเช่นนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรผมก็ยังไม่อาจมุ่งไป
ยังก้าวต่อไปได้เสียที
“แต่ดูเธอเจ็บปวดซะขนาดนั้น”
“อึก ไม่เจ็บ...! นี่คือเรื่องที่ฉันปรารถนาด้วยตัวเอง”
อาโออิหนั หน้าไปทางอืน่ เหมือนต้องการหลบสายตา
ที่จ้องมองด้วยความลังเลของผม เธอตื่นเต้นเสียจนแก้มกลาย
เป็นสีแดงก่ำ� แววตาแข็งกร้าวไม่ยอมใครของอาโออิ เวลานี้
กลับอ่อนลงเสียจนราวไม่คิดแข็งขืน หยาดน้ำ�ที่กำ�ลังไหลอาบ
แก้มในเวลานี้คือเหงื่ออย่างนั้นเหรอ หรือว่าที่จริงแล้ว
“ขอร้องล่ะซุบารุ ฉันไม่อยากสับสนอีกแล้ว ขอแค่ใน
4 RO - KYU - BU!

เวลาแบบนี้...ช่วยทำ�ตัวให้สมเป็นลูกผู้ชายได้ไหม”
ความเงียบซึ่งไม่อาจนับได้ว่าเกิดขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่
ถูกทำ�ลาย อาโออิช้อนตาจ้องมองใบหน้าของผม ช่องว่าง
ระหว่างเส้นผมยาวมัดเป็นทรงหางม้า คือซอกคอชุ่มเหงื่อเสีย
จนเส้นผมแปะติด
เมื่อได้เห็นเช่นนั้นจึงทำ�ให้ผมเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา
เล็กน้อย ถ้าผมเป็นคนพึ่งพาได้มากกว่านี้อีกสักนิด คงช่วย
ให้อาโออิไม่ต้องพบเจอเรื่องอึดอัดใจเหมือนในเวลานี้
“สมเป็นลูกผู้ชาย...อย่างนั้นเหรอ”
พอลองทบทวนความทรงจำ� นัน่ คือคำ�พูดทีเ่ หมือนเคย
ได้ยนิ มาตลอดตัง้ แต่เมือ่ ก่อน แม้อาโออิเป็นเด็กสาวทีอ่ าจพูด
มากจนน่าหนวกหู แต่เธอก็คอยจูงมือผมทีเ่ อาแต่รวนเรไม่กล้า
ตัดสินใจ เพือ่ นสมัยเด็กซึง่ คอยช่วยเหลือสนับสนุนผมมาตลอด
แม้เวลาล่วงเลยจนส่วนสูงของผมไล่ตามและแซงหน้า ระดับ
ความสูงของสายตาสลับกันจากสมัยเด็ก แต่ความสัมพันธ์
ระหว่างพวกเรายังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
นัน่ สินะ ด้วยเหตุนนั้ อย่างน้อยทีส่ ดุ ในเวลาแบบนี้ ผม
ควรต้องหัดเป็นฝ่ายนำ�เสียบ้าง การตัดสินใจของอาโออิ ความ
รู้สึกของเธอ คือสิ่งที่ผมจำ�เป็นต้องให้ความสำ�คัญ
“เข้าใจแล้ว งั้น ไปล่ะนะ?”
“.....อือ”
หลับตา
Prologue 5

สู ด หายใจลึ ก จากนั้ น กลั้ น หายใจ เตรี ย มใช้ ก๊ า ซ


ออกซิเจนที่สะสมจนอัดแน่นปอดให้หมดในรวดเดียว ในที่สุด
ผมก็จะก้าวข้ามเส้นแบ่งเขต---
“ดะ เดี๋ยวก่อน!”
---ช่วงวินาทีเดียวกับที่ผมกำ�ลังโน้มร่างกายไปด้าน
หน้า เสียงของอาโออิทำ�ให้ต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
“...มีอะไรเหรอ?”
“ลืมเรือ่ งสำ�คัญ...! ซุบารุ คือ...ถ้าไม่ใส่ให้เรียบร้อย ไม่
ได้นะ”
อาโออิลดคางก้มหน้ามองลงไปด้านล่าง
“ใส่? พูดถึงเรื่องอะไร?”
“เอ๋ เดี๋ยวนะ ถะ ถามจริงจังเหรอ?”
“ต่อให้ถามว่าจริงจังหรือเปล่าก็เถอะ ก่อนอื่นไม่เห็นรู้
เลยว่าต้องใส่อะไร”
“ไม่จริง...โกหก ในเวลานี้ถ้าบอกให้ใส่ก็ต้องหมายถึง
---”
“หมายถึง?”

“---ก็ต้องหมายถึงยากันแมลงไม่ใช่เหรอ!”

“อ๋อ พูดถึงยากันแมลงเองเหรอ”
เมื่อได้ฟังคำ�อธิบายอย่างชัดเจน ผมจึงแปะฝ่ามือ
เข้าหากัน 1 ครั้งเพราะในที่สุดก็เข้าใจว่าอาโออิกำ�ลังพูดถึง
6 RO - KYU - BU!

อะไร ว่าแต่ไม่เห็นต้องส่งเสียงดังแบบนัน้ ก็ได้ไม่ใช่เหรอ ทำ�ให้


คนเดินผ่านไปมาหันมามองด้วยสายตาตกใจหมดแล้วไม่ใช่
หรือไงกัน
ภายในสถานีชว่ งเทีย่ งวัน บริเวณก่อนเข้าช่องตรวจตัว๋
พวกเราต้องตกเป็นเป้าสายตาจนทำ�ให้รสู้ กึ เขินอายพอสมควร
เครือ่ งปรับอากาศของสถานีเองก็สคู้ วามร้อนไม่ได้สกั นิด แผ่น
หลังจึงชุ่มเหงื่อไปหมด
“...แล้วคิดว่ามีอย่างอื่นอีกหรือไง ตอนไปเข้าค่ายครั้ง
ก่อนก็เหมือนกัน นายถูกยุงกัดไปทัว่ จนเดือดร้อนมากจริงไหม
เพราะฉะนั้นครั้งนี้ต้องเตรียมตัวให้เรียบร้อยเสียก่อน”
ดูเหมือนอาโออิเองก็รู้ตัวว่ากำ�ลังตกเป็นเป้าสายตา
เธอจึงลดระดับโทนเสียงลงพอสมควร สำ�หรับ ‘เข้าค่ายครั้ง
ก่อน’ หมายถึงการเดินทางไปแข่งขันนอกสถานที่เมื่อเดือน
ที่แล้ว เป็นอย่างที่อาโออิพูด เพราะผมเผลอประมาทเกินไป
ทำ�ให้ถูกยุงเล่นงาน จนต้องพบเจอเรื่องเจ็บปวดไม่น้อยเลยที
เดียว
“ฮะฮะ ขอบใจที่เป็นห่วงกัน แต่เรื่องนั้นไม่ต้องกังวล
คุณแม่เองก็หว่ งเรือ่ งเดียวกัน เมือ่ วานเลยเตรียมพวกยามาให้
เพียบ”
“อะ...ยะ อย่างนั้นเหรอ นั่นสินะ ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว
ขอโทษด้วยนะที่ทำ�ให้ต้องชะงัก”
เมื่อผมแจ้งสภาพการณ์ที่แสดงถึงความไม่ได้เรื่องได้
ราวของตัวเองออกไป อาโออิจึงถอยกลับไป 1 ก้าวเหมือน
Prologue 7

ไม่เหลือเรื่องค้างคาใจ โบกมือให้กับผมแทนความหมายว่าลา
จากกันตรงนี้
“ถ้าไม่ได้จะซื้ออะไรสักเท่าไหร่ จะให้รอก็ได้นะ?”
“ไม่เป็นไรหรอก คิดว่าบางทีคงใช้เวลาอยู่เหมือน
กัน วันนี้กลับไปก่อนเถอะ แล้วเจอกันใหม่...สัปดาห์หน้านะ
ซุบารุ”
เพราะสถานีปลายทางของพวกเราอยูต่ ดิ กัน ตามปกติ
ขากลับจึงขึ้นรถไฟสายเดียวกันอยู่เสมอ ทว่าวันนี้ดูเหมือน
อาโออิจะมีร้านค้าที่ตั้งใจจะแวะไปคนเดียวอยู่ จะว่าไงดีนะ
เฉพาะในเวลาแบบนี้เท่านั้น ที่ทำ�ให้ผมรู้สึกตัวว่าอาโออิเองก็
เติบโตขึ้นเป็น ‘เด็กสาวคนหนึ่ง’ แล้วเหมือนกัน
“งั้นเหรอ...นี่ อาโออิ”
“อือ?”
---จะไม่ไปด้วยกันจริงเหรอ การเข้าค่ายนับตัง้ แต่วนั
พรุ่งนี้
คำ�ถามเดิมๆ เกือบหลุดจากปากอีกครั้ง แต่ผมตัดสิน
ใจอดกลั้นเอาไว้
“เปล่า ไม่มีอะไร งั้นฉันจะไม่อยู่สักพัก ยังไงก็รักษา
ตัวแล้วกัน”
“อือ ซุบารุเองก็ด้วยนะ”
ต่อให้ผมไม่อาจเข้าใจความรู้สึกของอาโออิ แต่ว่านั่น
คือบทสรุปทีม่ าจากการครุน่ คิดด้วยตัวเองของเธอ เพราะฉะนัน้
จึงมีแต่ตอ้ งยอมรับการตัดสินใจเท่านัน้ อย่างน้อยในเวลาแบบ
นี้ ผมควรทำ�ตัวให้สมเป็นลูกผู้ชายมากขึ้น
8 RO - KYU - BU!

ผ่านมา 1 สัปดาห์หลังชมรมมินิบาสเก็ตบอลหญิงโรง
เรียนเคย์ชินระดับประถม ซึ่งตัวผมรับหน้าที่โค้ช ต้องพ่ายแพ้
อย่างน่าเสียดายในการแข่งขันกับต่างโรงเรียนครั้งแรก
หลังกลับจากการเดินทางไปแข่งขันนอกสถานที่ กลุ่ม
เด็กทุกคนต่างเสียดายกระทั่งเวลาที่จะรู้สึกหดหู่ พวกเธอต่าง
มุ่งมั่นปรารถนาการฝึกซ้อมด้วยความเข้มงวดยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ทำ�ให้วันพรุ่งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมเป็นต้นไป
พวกเราจะเดินทางไปบ้านพักตากอากาศริมทะเลของมิซาวะ
มาโฮะ 1 ในสมาชิกชมรมเพื่อเข้าค่ายฝึกพิเศษ หาดทรายคือ
สถานที่เหมาะสมลงตัวสำ�หรับการฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มกำ�ลังกาย
นอกจากนั้นบ้านพักตากอากาศของครอบครัวเศรษฐีอย่าง
บ้านมิซาวะ ยังมีเครื่องมือเครื่องใช้ภายในสถานที่ครบครัน
การได้ฝึกซ้อมในสภาพแวดล้อมเพียบพร้อมเช่นนั้น ไม่เพียง
แค่สำ�หรับกลุ่มเด็กสมาชิกชมรม แม้กระทั่งตัวผมเองก็ถือเป็น
โอกาสดีทจี่ ะได้มโี อกาสเพิม่ ความสามารถให้กบั ตัวเองด้วยเช่น
กัน
สิง่ ทีน่ า่ เสียดายมีเพียงเรือ่ งเดียวเท่านัน้ นัน่ คือสมาชิก
กลุม่ คนรักบาสทีค่ อยทำ�กิจกรรมร่วมกับผม เพือ่ นสมัยเด็กทีฝ่ กึ
ซ้อมบาสเก็ตบอลด้วยกันตัง้ แต่เด็กมาตลอด อาโออิคนนัน้ กลับ
เอาแต่ปฏิเสธการเดินทางไปเข้าค่ายด้วยกันในครัง้ นี้ จนกระทัง่
เวลาล่วงเลยมาถึงก่อนวันเดินทาง เธอก็ยงั ไม่ยอมเปลีย่ นใจ ซึง่
ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างถึงที่สุด
เหตุ ผ ลคื อ ต้ อ งการทบทวนตั ว เองจากการกระทำ �
Prologue 9

ผลีผลาม โดยเอาแต่ความคิดของตัวเองเป็นทีต่ งั้ ในการแข่งขัน


นอกสถานที่ครั้งก่อน
อันที่จริงไม่ว่าจะเป็นผมหรือสมาชิกชมรมทุกคน ต่าง
ไม่มีใครต่อว่าอาโออิแม้แต่คนเดียว ถึงกระนั้นดูเหมือนหาก
ไม่มบี ทลงโทษให้กบั ตัวเอง อาโออิจะไม่อาจหายค้างคาใจ เธอ
คือเด็กสาวหัวแข็งทีเ่ มือ่ ประกาศออกมาแล้วครัง้ หนึง่ จะไม่ยอม
เปลี่ยนใจภายหลังเป็นอันขาด
อย่างไรก็ตามแม้พูดแบบนั้น แต่ใช่ว่าอาโออิไม่ได้นึก
สนใจการเข้าค่ายในครัง้ นีแ้ ต่อย่างใด กลับกันเพียงแค่มองหน้า
ก็เข้าใจได้อย่างชัดเจน ว่าใจจริงเธออยากเดินทางไปกับพวกเรา
ด้วยเหลือเกิน ด้วยเหตุนั้นจึงทำ�ให้กลายเป็นเรื่องยุ่งยากใจขึ้น
ไปอีก
“สรุปว่าจบลงแบบไม่ยอมทำ�ตามทีใ่ จต้องการอย่างนัน้
เหรอ”
ถ้าผมมีความสามารถในการโน้มน้าวมากกว่านี้ บางที
อาจช่วยให้อาโออิยอมเปิดใจ ตัดสินใจอย่างตรงไปตรงมาก็เป็น
ได้ เมื่อคิดแบบนั้นจึงทำ�ให้ผมต้องผิดหวังกับความด้อยความ
สามารถของตัวเอง
ทั้งที่ตั้งแต่วันนี้ สมาชิกคนที่ 3 ของกลุ่มคนรักบาส
อุเอฮาระ คาสึนาริ จะเดินทางไปโตเกียวเพือ่ เข้าค่ายหน้าร้อน
ของโรงเรียนกวดวิชาเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นเวลา 2
สัปดาห์ จึงไม่มีเหตุผลให้อาโออิต้องทำ�เป็นใจแข็ง ทิ้งตัวเอง
อยู่ที่นี่ล�ำ พังเลยสักนิด
10 RO - KYU - BU!

“ถ้ายอมเปลี่ยนใจภายในคืนนี้ก็ดี แต่คงหวังยากสัก
หน่อย...”
ผมตั้งใจจะพูดกล่อมให้เธอเปลี่ยนใจเป็นครั้งสุดท้ายที่
นี่ ในสถานีซึ่งก่อนที่พวกเราจะหยุดพักทำ�กิจกรรมเป็นเวลา
ระยะหนึง่ กลุม่ คนรักบาสจะมารวมตัวกันทีร่ า้ นแฮมเบอร์เกอร์
แล้วออกไปฝึกซ้อมช่วงเช้าด้วยกัน ทว่าสุดท้ายก็เป็นเรือ่ งไร้ผล
เหลือแต่คาดหวังให้ยัยนั่นเปลี่ยนใจด้วยตัวเองเท่านั้น
“ช่วยไม่ได้...เรอะ”
ก็นะ เอาแต่คร่�ำ ครวญไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ถ้าขืนยัง
คงค้างคาใจจนเผลอแสดงออกผ่านสีหน้าเวลาอยูก่ บั พวกเด็กๆ
ล่ะก็ อาจทำ�ให้พวกเธอต้องพลอยเป็นกังวลไม่เข้าเรื่องไปด้วย
ผมยกมือตบแก้มทั้ง 2 ข้างของตัวเอง เดินลงบันไดมุ่ง
หน้าไปยังชานชาลา ไอร้อนกลางฤดูรอ้ นปะทะร่างเข้าเต็มเปา
ราวเดินชนกำ�แพง ตอนอยู่หน้าช่องตรวจตั๋วก็ว่าร้อนมากแล้ว
แต่ดูเหมือนเครื่องปรับอากาศยังพอช่วยบรรเทาได้มากกว่าที่
คาดคิด
ถ้าอ้างอิงจากพยากรณ์อากาศ ดูเหมือนอากาศจะยัง
คงเป็นแบบนี้ไปตลอดทั้ง 1 สัปดาห์ที่จะถึง
แสงแดดเจิดจ้า อากาศเหมาะกับทะเลเป็นอย่างยิง่ สินะ
ดี ล่ ะ หยุ ด คิ ด เรื่ อ งไม่ เ ป็ น เรื่ อ ง ตั้ ง แต่ วั น พรุ่ ง นี้ ข อ
สนุกสนานกับพวกเด็กๆ ไปพร้อมกับฝึกฝนขัดเกลาตัวเองให้
เต็มที่ล่ะ

You might also like