You are on page 1of 417

บทนํา

“ฮึก..ฮือ..” เสียงร้ องไห้ สะอึกสะอื ้นดังระงมไปทัว่ ทังห้


้ อง

ร่างเล็กของเด็กสาววัยสิบแปดนอนขดตัวอยู่ภายใต้ ผ้าห่มผืนหนาโดย
ที่ร่างกายของเธอไร้ เสื ้อผ้ าอาภรณ์ที่ห่มกายไว้ โดยสิ ้นเชิง หยดนํ ้าใสๆไหลลงจนเปี ยก
หมอนแล้ วเปี ยกหมอนเล่า แต่ทว่าก็ไม่ได้ ช่วยให้ จิตใจอันบอบชํ ้าของเธอดีขึ ้นเลย
ตรงกันข้ ามกลับฉุดรัง้ เธอให้ ดําดิ่งลงในความเจ็บปวดมากกว่าเดิมซะอีก

แต่นนั่ เป็ นเพียงแค่ความเจ็บปวดทางจิตใจเท่านัน้ ไม่นบั รวมความ


เจ็บปวดทางร่างกายอย่างแสนสาหัสที่เธอได้ รับเมื่อคืนนี ้เลย ท้ องน้ อยของเด็กที่เพิ่ง
แตกวัยสาวระบมไปหมด

“อื ้อ...” เสียงครางทุ้มตํ่าของผู้ชายที่นอนอยู่ด้านข้ างดังเล็ดลอด


ออกมาก่อนจะคว้ าร่างเล็กเข้ าไปในอ้ อมกอด

ฟอด~

เสียงสูดลมหายใจดังฟอดเกิดขึ ้นที่ข้างแก้ มของสาวเจ้ า เธอย่นคอหนี


แทบจะไม่ทนั

“ฮึก.. พะ..พี่คินทร์ ปล่อยนํ ้าก่อน นํ ้าเจ็บ” เสียงสัน่ เครื อบ่งบอกถึง


ความเจ็บปวดได้ เป็ นอย่างดี

“…” คนตัวโตแสนเอาแต่ใจลืมตาโพลงด้ วยความตกใจ


เขารี บผละออกไปด้ วยความเร็วแสงก่อนจะหยิบกางเกงยีนส์ที่ใช้ สวมคู่
กับเสื ้อช็อปขึ ้นมาใส่อย่างเร่งรี บ พลางหันกลับมามองร่างของผู้หญิงที่นอนข้ างกาย
เขามาตลอดทังคื ้ น

“เฮ้ ย!” เสียงอุทานด้ วยความตกใจดังออกจากลําคอแกร่ง “นี่เธอ!


มายังไงเนี่ย”

คําถามนี ้น่าจะต้ องเป็ นเด็กสาววัยสิบแปดปี มากกว่าที่ต้องเอ่ยถาม


เพราะเธอก็นอนอยู่ที่ห้องดีๆ เขานัน่ แหละที่ย่องเข้ าห้ องของเธอมาเอง ภายใต้ ความ
มืดสลัวที่เป็ นอุปสรรคต่อการมองเห็น ทําให้ „แมวนํ ้า‟ ไม่สามารถทําอะไรได้ เลยเมื่อ
ถูกคนตัวโตโหมทับด้ วยแรงทังหมดที้ ่มี ครัน้ จะกรี ดร้ องให้ คนด้ านนอกช่วย เขาก็ดนั ใช้
มือปิ ดปากเธอเอาไว้ อีก

ปั ง!

เสียงเปิ ดประตูดงั พรวดขึ ้นพร้ อมกับบานประตูที่ถกู กระแทกด้ วยความ


รุนแรง

“พี่คินทร์ ! แมวนํ ้า!” เสียงเล็กแหลมที่ดงั เข้ ามาเป็ นเสียงของน้ องสาว


แท้ ๆของเขา

“คินทร์ ! หนูแมวนํ ้า!” ส่วนนี่เป็ นเสียงของประมุขประจําบ้ านนัน่ ก็คือ


พ่อของเขานัน่ เอง
เพียงเท่านันยั
้ งไม่พอ แม่ของเขาก็ยืนกอดอกพร้ อมกับส่ายหน้ าให้ เขา
ด้ วยความเอือมระอาอีกด้ วย ส่วนเพื่อนรักของเขาอย่าง „เฟี ยต‟ ก็ทําได้ แค่ปรายตา
ยืนมอง

“รี บแต่งตัวเลยนะคินทร์ ! หนูแมวนํ ้าด้ วย! แล้ วรี บลงไปพบพ่อกับแม่


ข้ างล่าง!” แม่ของเขาบอกทิ ้งท้ ายเอาไว้ ก่อนจะเดินออกไป

ปั ง!

เสียงประตูดงั ขึ ้นอีกครัง้ แต่ครัง้ นี ้มันดันเป็ นเหมือนเสียงนรกที่เปิ ดรับ


เขาที่ยืนนิ่งราวกับวิญญาณได้ ออกจากร่างไปเรี ยบร้ อยแล้ ว ร่างสูงที่ยืนเปลือยท่อน
บนอยู่ทรุดตัวลงนัง่ บนเตียงราวกับหมดแรงที่จะยืนหยัดพลางยกมือขึ ้นกุมขมับ
อาการปวดหัวเริ่ มตรงเข้ าเล่นงานเขาแล้ ว

“โอ๊ ย! นี่มนั เชี่ยไรวะเนี่ย” เสียงสบถคล้ ายกับไม่พอใจเอามากๆดังขึ ้น

เป็ นเวลานาร่วมนาทีที่แมวนํ ้ากลันเสี ้ ยงสะอื ้นของตัวเองเอาไว้


หลังจากเหตุการณ์เมื่อกี ้ จนตอนนี ้เธอเริ่ มกลันมั
้ นไม่อยู่แล้ วถึงได้ ปล่อยให้ มนั ดัง
ออกมา

“ฮึก..” ร่างของเธอสัน่ สะท้ านไปพร้ อมกับการสะอื ้น

“เงียบ!” เสียงสัง่ เด็ดขาดจากคนตัวใหญ่ทําให้ เธอสะดุ้งจนต้ องใช้ มือ


ปิ ดปากตัวเองไว้ แน่น ทังๆที
้ ่นํ ้าตายังคงไหลไม่ขาดสายเลยแม้ เพียงเสี ้ยววินาที “จะ
ให้ ฉนั รับผิดชอบยังไงบอกมา”
“ฮึก.. มะ..ไม่ร้ ู นํ ้าไม่ร้ ู ” พูดได้ เพียงเท่านันเธอก็
้ มดุ หัวลงไปใต้ ผ้าห่ม
ร้ องไห้ แถมปิ ดหูไม่รับรู้เสียงใดๆไปด้ วย

“=_=”
“ตกลงจะเอายังไงกันต่อไปคินทร์ แมวนํ ้า”

เหมือนการนัง่ รอรับโทษลงทัณฑ์ สายตาดุดนั ที่แม่ใช้ สง่ มาให้ กบั เสียง


ถามแกมเข้ มงวดของพ่อทําให้ คินทร์ แทบอยากจะหยิบอะไรก็ได้ ที่ใกล้ มือที่สดุ มาฆ่า
ตัวตายซะตอนนี ้เลย

ส่วนร่างเล็กที่นงั่ อยู่ข้างเขาก็ได้ แต่ร้องไห้ สะอึกสะอื ้นไม่ร้ ูเรื่ องรู้ราวว่า


จะต้ องทําอะไร จะไม่ช่วยแก้ ต่างให้ เขาหน่อยหรื อไงว่าเขาไม่ได้ ผิด มันคือความ
ผิดพลาดในชีวิตที่เกิดขึ ้น

“พ่อครับแม่ครับ มันเป็ นความผิดพลาด ผมไม่ได้ ตงใจนะครั


ั้ บ ” เขา
พยายามอธิบาย

แต่ดเู หมือนพ่อแม่และน้ องสาว แถมยังมีเพื่อนสนิทอย่างเฟี ยตที่มอง


เขาอยู่ ไม่ได้ มองว่าเป็ นความผิดพลาดของเขาแต่อย่างใด หากแต่สายตาสี่คนู่ นกลั
ั้ บ
มองเหมือนกับว่าเขา „มักง่าย‟ ซะมากกว่า

“แม่จะให้ คินทร์ หมันกั


้ บหนูแมวนํ ้า”
คล้ ายกับเสียงฟ้าผ่าเปรี ย้ งลงกลางอกของคนเจ้ าสําราญอย่างคินทร์
เขาแทบไม่เชื่อหูตวั เองที่ได้ ยินแบบนัน้ นี่มนั ไม่ใช่ความจริ งใช่ไหม บอกเขาสิวา่ เขา
กําลังฝั นไป

เพี๊ยะ!

“โอ๊ ย!” มือของเขาตบลงบนหน้ าของตัวเองอย่างจัง

ไม่.. เขาไม่ได้ ฝันไป.. นี่มนั เรื่ องจริ ง!

“ไม่เอานะแม่ คินทร์ ไม่หมัน!!!


้ T^T”
*******************************
KINN Talks.
“ฮึก.. ฟื ดดด!!!”

ผ้ าเช็ดหน้ าผืนสีขาวที่อยู่ในมือ ถูกผมยกขึ ้นเช็ดนํ ้าตาที่ไหลออกมา


จากทางหางตา แล้ วตามด้ วยการสัง่ นํ ้ามูกที่ดงั คล้ ายกับเสียงระเบิดปรมาณูลงที่ไหน
สักที่ หลังจากที่ได้ รับข่าวร้ ายจากแม่ผ้ เู ป็ นที่รัก ผมก็มีสภาพอย่างที่เห็น

เนื่องจากเมื่อคืนวานผมกลับมาเลี ้ยงสังสรรค์กบั ครอบครัว เพราะ


มหาวิทยาลัยกําหนดวันหยุดยาวให้ ผมเลยตกลงกับไอ้ เฟี ยตเพื่อนสนิทว่าจะกลับมา
หาครอบครัวที่บ้านอยู่กรุงเทพ เราเรี ยนมหาวิทยาลัยที่อยู่เชียงใหม่กนั ดังนันวั
้ นหยุด
ยาวแบบนี ้จึงเป็ นโอกาสที่ดีที่จะได้ กลับมาหาครอบครัว แต่พอกลับมาปุ๊ บ ผมก็พบว่า
น้ องสาวสุดที่รักของตัวเองได้ เรี ยนจบแล้ ว เป็ นการจบมัธยมปลายด้ วยเกรดเฉลี่ยที่สงู
เป็ นอันดับต้ นๆของโรงเรี ยนด้ วย ซึง่ แตกต่างจากผมโดยสิ ้นเชิง

เมื่อคืนครอบครัวของเราก็เลยจัดงานเลี ้ยงให้ กบั น้ องสาวคนนี ้ของผม


แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝั นมันก็เกิดขึ ้น เมื่อผมเผลอไปปลํ ้าเพื่อนของน้ องตัวเองเข้ า และ
ความรับผิดชอบหนึง่ เดียวที่แม่ยดั เยียดให้ คือผมต้ องหมันกั
้ บเด็กคนนัน้ ซึง่ มันเป็ น
อะไรที่แบบ.. โคตรบรรยายความรู้สกึ ไม่ได้

“มึงใจเย็นดิวะไอ้ คินทร์ ร้ องไห้ เพื่อ?” ไอ้ เฟี ยตปลอบผมโดยการยก


มือข้ างหนึง่ ของมันขึ ้นมาลูบหลังให้ เบาๆ

“ฮึก.. มึงก็ร้ ูว่ากูไม่ได้ ตงใจ


ั ้ แม่ทําแบบนี ้ได้ ไงวะ ทําเกินไปแล้ วนะ
เว้ ย!” ผมยกมือข้ างหนึง่ ขึ ้นเช็ดนํ ้าตาตัวเองป้อยๆ

ไอ้ เฟี ยตคือเพื่อนสนิทของผมเอง พ่อแม่ผมกับพ่อแม่มนั รู้จกั กัน ส่วน


เราสองคนก็เป็ นเพื่อนกันมาตังแต่้ สมัยมัธยม

“แล้ วมึงจะรับผิดชอบน้ องเขายังไง น้ องเขาเพิ่งเรี ยนจบม.หก น้ องเขา


มีพ่อมีแม่ แถมน้ องเขายังไม่ได้ ทําอะไรผิดด้ วย มีแค่มงึ เนี่ยแหละที่เมาจนเลอะเทอะ
ไปปลํ ้าน้ องเขาแบบนันน่
้ ะ” นี่มนั จะมาให้ กําลังใจผมหรื อซํ ้าเติมกันแน่วะ

“มึงเงียบไปเลย มึงไม่เข้ าใจ มึงไม่เก็ต มันไม่ใช่! ฮือ...” นํ ้าตาของ


ผมยังคงหลัง่ ไหลออกมาไม่ขาดสาย
มันไม่เป็ นผม มันไม่เข้ าใจหรอก ชีวิตโสดที่มีสาวๆรุมล้ อมน่ะดีที่สดุ
แล้ ว ผมไม่ต้องการเพิ่มพื ้นที่สว่ นตัวให้ ใครย่างกรายเข้ ามา และผมไม่เคยคิดจะจริ งจัง
กับผู้หญิงคนไหนด้ วย เพราะผมยังมีความสุขกับชีวิตอย่างนี ้อยู่ ผมรักความโสด ได้
ยินไหมครับพระเจ้ า! ผมรักชีวิตโสดของผม!!! T_T

“กูว่าแม่มงึ ทําแบบนี ้มีเหตุผลที่สดุ แล้ วคินทร์ มึงคิดว่ามึงเสียใจเป็ น


คนเดียวเหรอ น้ องเขาก็ไม่ตา่ งจากมึงเท่าไหร่หรอก ก่อนจะออกมามึงเห็นไหม น้ อง
ร้ องไห้ สะอึกสะอื ้นไม่หยุดเลย” ก็เห็น.. แต่แล้ วไงล่ะ ใครใช้ ให้ เธอไปนอนในห้ องนัน้
เล่า!

“มึงจะให้ กหู มันจริ


้ งๆเหรอไอ้ เฟี ยต มึงรู้ไหมว่ามันคือทังชี
้ วิตของกูเลย
นะ กูไม่ได้ ชอบยัยนัน่ นะเว้ ย อีกอย่าง.. ชีวิตคูม่ นั ต้ องเกิดจากความรักไม่ใช่เหรอวะ
แต่นี่กไู ม่ได้ รักเขา มึงเข้ าใจกูไหม!” ผมพรั่งพรูความในใจออกมาอย่างเหลืออด

นํ ้าตาก็ไหลลงอาบแก้ มตามคําพูดที่ปล่อยออกมาไม่หยุดด้ วย ผม
เสียใจ..มาก!

“งันมึ
้ งบอกกูมา มึงจะรับผิดชอบชีวิตของน้ องเขาที่พงั ลงด้ วยนํ ้ามือ
ของมึงยังไง” ผมตวัดสายตาตัวเองไปมองไอ้ เฟี ยตที่นงั่ กอดอกถามด้ วยสีหน้ า
ราบเรี ยบจริ งจัง

รับผิดชอบเหรอ ทําไมผมต้ องรับผิดชอบชีวิตของยัยเด็กคนนันด้


้ วยล่ะ
ผมไม่ได้ ทําอะไรผิดสักหน่อย
ผมเม้ มปากแน่น มองหน้ าไอ้ เฟี ยตที่สง่ สายตากดดันมาให้ ก่อนจะ
ตัดสินใจตอบมันไปว่า “กูจะพายัยนัน่ ไปซื ้อยาคุมฉุกเฉินกิน แค่นี ้ก็ไม่มีอะไรค้ างคา
แล้ ว” ผมยกยิ ้มมุมปากเมื่อนึกหาทางออกได้

“แล้ วซิงน้ องเขาล่ะ มึงจะรับผิดชอบยังไง เรื่ องนี ้มันเรื่ องใหญ่นะไอ้ คิ


นทร์ มึงช่วยใช้ สมองคิดให้ มากๆ อย่าสักแต่ใช้ นิ ้วโป้งตีนคิด มึงอายุยี่สิบสองแล้ วนะ
ไม่ได้ เป็ นเด็กๆแล้ ว กําลังจะเรี ยนจบแล้ ว ช่วยตระหนักในจุดนี ้ด้ วย!” ยาว... ทําไม
ผมต้ องเป็ นคนที่โดนสวดคนเดียวด้ วยวะเนี่ย!

“เฟี ยต.. แต่กไู ม่อยากหมัน้ มึงช่วยไปพูดกับแม่กใู ห้ หน่อยไม่ได้ เหรอ


วะ” ผมขยับเข้ าไปหามัน ก่อนจะเกาะแขนมันแน่น แล้ วเอ่ยอ้ อนวอนด้ วยนํ ้าเสียงน่า
สงสารที่สดุ ที่ตวั เองจะเค้ นออกมาได้

“มึงฟั งกูนะเพื่อนรัก” มันเอนตัวมาตรงหน้ าผม ฝ่ ามือใหญ่ทงสองข้


ั้ าง
ของมันแตะลงบนบ่าทังสองข้้ างของผม พลางบีบเน้ นหนักๆ ก่อนที่ประโยคบรรลัยที่
ผมไม่อยากได้ ยินที่สดุ ในชีวิตจะดังออกมาจากปากมัน “มึง..ต้ อง..หมัน!!!”

ไม่เอาโว้ ย!!! ผมไม่อยากหมันนน!!!



MAWNUM Talks.
“ฮึก.. เคท.. นํ ้าเจ็บอ่ะ” ฉันโผเข้ ากอดเคทแน่นเมื่อร่างกายทุกส่วน
ร้ าวระบมไปหมด
“โอ๋ๆๆ ทําไมกลายเป็ นแบบนี ้ไปได้ เนี่ยไอ้ นํ ้าเอ๊ ย!” เคทกอดตอบฉัน
พลางยกมือทังสองข้
้ างขึ ้นลูบแผ่นหลังฉัน ราวกับต้ องการจะปลอบประโลม

เคทคือน้ องสาวของพี่คินทร์ เป็ นเพื่อนสนิทของฉันมาตังแต่ ้ สมัย


ประถม เราเรี ยนห้ องเดียวกัน นัง่ โต๊ ะใกล้ กนั จนกระทัง่ ตอนนี ้ที่เราเรี ยนจบมัธยม
ปลาย เราก็สญ ั ญากันไว้ แล้ วด้ วยว่าเราจะไปเรี ยนที่เดียวกัน คือมหาวิทยาลัย KUT
เป็ นมหาวิทยาลัยประจําเมืองเชียงใหม่ ซึง่ เป็ นที่เดียวกับที่พี่คินทร์ กําลังศึกษาคณะ
วิศวกรรมศาสตร์ อยู่ในขณะนี ้

“ฮึก.. นํ ้าไม่อยากหมันกั
้ บพี่คินทร์ ” นํ ้าตาหยดโตร่วงลงจากหางตา
กระทบกับแขนของฉันที่มีรอยจํ ้าสีม่วงอยู่เป็ นหย่อมๆ

“ก็ไหนแกชอบพี่ชายฉันไง ตอนนี ้ก็ได้ หมันกั


้ นแล้ ว ทําไมถึงมาร้ องไห้ ขี ้
มูกโป่ งแบบนี ้ล่ะ”

ใช่... ที่เคทพูดมามันถูกทุกอย่างเลย ฉันแอบชอบพี่คินทร์ ตงแต่


ั ้ เรี ยน
ประถมแล้ ว พี่คินทร์ เป็ นพี่ชายที่แสนอบอุ่น พูดจาไพเราะ แถมยังอัธยาศัยดีสดุ ๆเลย
ด้ วย แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันไม่เคยแม้ แต่จะพูดกับพี่คินทร์ เลยสักประโยค เพราะ
พอเขาเห็นฉันทีไร เขามักจะเดินหนีอยู่รํ่าไป เลยกลายเป็ นว่าส่วนใหญ่ฉนั กับพี่คินทร์
เราเคยแค่พบปะเจอหน้ ากันเท่านัน้ แต่ไร้ ซงึ่ การสนทนาทําความรู้จกั ไปโดยสิ ้นเชิง

“นํ ้าชอบพี่คินทร์ ก็จริ ง แต่พี่คินทร์ ไม่ได้ ชอบนํ ้านะ” แค่คิดถึงเหตุผล


ตรงนี ้ ในหัวใจฉันก็เจ็บแปลบขึ ้นมาอย่างบอกไม่ถกู คล้ ายโดนคนเอามีดมากรี ดจน
มันเกิดบาดแผลลุกลาม
“เฮ้ อ... ฉันไม่ร้ ูจะออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่ องนี ้ยังไงเลยว่ะนํ ้า” เสียง
ถอนหายใจจากเคทดังขึ ้นเป็ นรอบที่เท่าไหร่แล้ วก็ไม่ร้ ู เคทเชียร์ ให้ ฉนั บอกชอบพี่คินทร์
มาตังแต่
้ สมัยมัธยม แต่ใครจะไปกล้ าล่ะ แค่มองหน้ าเขาฉันยังไม่กล้ าเลย

“เคทขอคุณป้าให้ นํ ้าหน่อยนะ อย่าให้ นํ ้าหมันกั


้ บพี่คินทร์ เลย” ฉันเงย
หน้ าขึ ้นมองเพื่อนสาวสุดที่รัก พลางส่งสายตาอ้ อนวอนไปให้ เพื่อขอความช่วยเหลือ

แต่ดเู หมือนคําขอของฉันจะถูกพังทลายลงด้ วยประโยคถัดมาของเค


ทที่บอกอย่างจนใจ “ขอโทษจริ งๆว่ะนํ ้า แกก็ร้ ูว่าแม่ฉนั เป็ นคนยังไง ขัดท่านไม่ได้ ด้วย
สิ”

“แต่วา่ ...”

“คินทร์ ! แมวนํ ้า!” ยังไม่ทนั ที่ฉนั จะได้ ทกั ท้ วงอะไรต่อ เสียงเรี ยกของ
คุณป้าผู้เป็ นแม่ของเคทก็ดงั ขึ ้น

“แม่ฉนั เรี ยกแล้ ว” เคทดึงร่างของฉันให้ ลกุ ขึ ้นจากโซฟาเมื่อได้ ยิน


เสียงเรี ยกจากประมุขของบ้ าน

ก่อนหน้ านี ้ฉันขอเวลาทําใจกับคุณป้าประมาณครึ่งชัว่ โมง เพราะ


ตัวเองเอาแต่ร้องไห้ ไม่หยุด ทําให้ ทกุ ครัง้ ที่คณ
ุ ป้าสอบถามเรื่ องราวที่เกิดขึ ้น ฉันเล่าให้
ท่านฟั งไม่ได้ เลย

ฉันถูกเคทลากเข้ ามายังห้ องรับแขกอีกครัง้ กวาดสายตามองเพียงครัง้


เดียวก็เห็นพี่คินทร์ ที่กําลังนัง่ จ้ องฉันตาเขม็งอยู่ฉนั รี บหลบสายตาของเขาที่จ้องมอง
มาอย่างรวดเร็ว ตาของพี่คินทร์ น่ากลัวมาก มันแดงๆแล้ วก็ดไุ ปในตัวด้ วย เคทลากฉัน
ให้ เข้ าไปนัง่ ข้ างพี่คินทร์ แต่พอหย่อนก้ นลงได้ เพียงนิดหน่อย พี่คินทร์ ก็ขยับตัวหนีราว
กับฉันเป็ นตัวเชื ้อโรคที่เขาไม่อยากเข้ าใกล้

ฉันหลุบตาลงมองพื ้น ในขณะที่ขอบตาตัวเองกําลังร้ อนผ่าวขึ ้นเรื่ อยๆ


ฉันไม่ร้ ูหรอกว่าใครจะคิดยังไงเกี่ยวกับการเสียตัวในครัง้ นี ้ แต่ถ้าถามฉันว่าฉันรู้สกึ
ยังไง ฉันบอกได้ เต็มปากเต็มคําเลยว่าเสียใจมาก ฉันไม่อยากทําให้ พ่อกับแม่ผิดหวัง
ในตัวเอง ฉันไม่อยากให้ คนประณามฉันว่าฉันเป็ นพวกผู้หญิงใจง่าย ฉันไม่ชอบคํา
นินทาเสียๆหายๆ แต่ฉนั ก็ร้ ูดีวา่ คนเราไม่มีใครไม่ถกู นินทา

“เดี๋ยวลุงจะให้ เจ้ าคินทร์ ไปส่งหนูแมวนํ ้าที่บ้าน แล้ วเดี๋ยวดึกๆลุงจะ


โทรไปคุยเรื่ องนี ้กับพ่อแม่ของหนูอีกที จะได้ ตกลงเรื่ องสินสอดทองหมันว่ ้ าจะเอายังไง
ดี” เสียงคุณลุงเอ่ยขึ ้นเสียงเครี ยด

ทังสองคนดู
้ เครี ยดกับเรื่ องนี ้มาก และถ้ าพ่อแม่ฉนั รู้เรื่ องนี ้ ฉันอาจจะ
โดนตีจนเนื ้อตัวเขียวชํ ้าเลยก็ได้

ฉันพยักหน้ ารับอย่างจนใจ พลางถอนหายใจออกมา พร้ อมกับนํ ้าตา


หนึง่ หยดที่ไหลลงกระทบฝ่ ามือตัวเอง

“ก่อนกลับ.. พาหนูแมวนํ ้าไปซื ้อยาคุมฉุกเฉินกินด้ วยนะคินทร์ ” คุณ


ลุงหันไปสัง่ พี่คินทร์ ที่นงั่ อยู่ข้างๆฉัน

“ครับพ่อ” พี่คินทร์ ตอบเสียงเอื่อยเฉื่อย


ฉันรู้อยู่แล้ วว่าพี่คินทร์ ไม่มีทางอยากหมันกั
้ บฉันแน่นอน เพราะฉันเป็ น
ตัวทําลายความสุขของเขา เขาบอกแบบนัน้ ตอนที่เรากําลังแต่งตัวลงมาจากห้ อง พี่คิ
นทร์ เอาแต่โทษฉันต่างๆนาๆ ซึง่ ฉันก็ได้ แต่ก้มหน้ ารับคําพิพากษาของเขา เพราะไม่ร้ ู
ว่าจะเถียงกลับไปยังไง ส่วนหนึง่ มันก็เป็ นความผิดของฉันจริ งๆนัน่ แหละ

“ยัยตัวซวย!” เสียงเข้ มรอดไรฟั นของพี่คินทร์ หนั มากระซิบข้ างหูฉนั

ร่างกายฉันชาเป็ นแถบ ในขณะที่ใบหน้ าก็เหมือนโดนพี่คินทร์ เอานํ ้า


เย็นมาสาด ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองเขาไปด้ วย พี่คินทร์ ขมวดคิ ้วมองฉัน ใบหน้ ายับยู่ยี่บง่
บอกได้ อย่างดีวา่ พี่คินทร์ เกลียดฉันขนาดไหน ฉันหันกลับมามองพื ้นอีกครัง้ นํ ้าตาเจ้ า
กรรมร่วงหล่นลงอีกเป็ นหนที่สอง

“งันก็
้ ไปส่งน้ องได้ แล้ วคินทร์ ” คุณลุงพยักพเยิดหน้ าให้ พี่คินทร์

พี่คินทร์ เมินหน้ าหนีฉนั เมื่อฉันเงยหน้ าขึ ้นมองหน้ าเขาอีกครัง้ เขาคง


เหม็นขี ้หน้ าฉันมาก ใช่สินะ เขาไม่ได้ ชอบฉัน ฉันแค่นยิ ้มให้ กบั นํ ้าตาของตัวเองที่กําลัง
พรั่งพรูออกมาไม่หยุดหย่อน น่าสมเพชจังเลย...

“ลุกดิ” พี่คินทร์ บอกเสียงแข็งเมื่อเขาลุกขึ ้นจากโซฟา พลางใช้ มือข้ าง


หนึง่ มาคว้ าแขนฉันไปด้ วย

ฉันนิ่วหน้ าเพราะร่างกายยังคงรู้สกึ เจ็บแปลบจากเหตุการณ์เมื่อคืน


ท้ องน้ อยร้ าวระบมไปหมดแล้ ว ดังนันพอถู
้ กพี่คินทร์ กระชากให้ ลกุ ขึ ้นอย่างรุนแรงและ
รวดเร็วแบบนี ้ มันเลยเจ็บจนกลายเป็ นจุก แถมยังเรี ยกนํ ้าตาจากดวงตาฉันให้ ไหล
ออกมาอีกด้ วย

“เบาๆดิพี่คินทร์ ไอ้ นํ ้ามันร้ องไห้ แล้ วเนี่ย!” เป็ นเคทที่วิ่งเข้ ามาพยุงฉัน


และปั ดมือของพี่คินทร์ ออกไป วินาทีนี ้ฉันรู้สกึ ขอบคุณเพื่อนอย่างเธอจริ งๆ

“อ่อนแอ!” พี่คินทร์ ถลึงตาใส่เคท ก่อนจะเบนสายตาคมดุนนมาจ้


ั ้ อง
ฉันเขม็ง

ฉันรี บเลี่ยงการสบตาจากพี่คินทร์ โดยการหันไปมองเคทแทน พลางส่ง


ยิ ้มบางเบาให้ เคทไปด้ วย “ไม่เป็ นไรหรอกเคท นํ ้าเดินเองได้ ”

“ดูแลตัวเองดีๆนะนํ ้า เดี๋ยวฉันโทรหาทีหลัง” เคทยื่นมือมาลูบมือฉัน


เบาๆ ก่อนจะหันไปหาคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆฉัน พลางส่งเสียงแกมตําหนิรอดไรฟั นให้
คนเป็ นพี่ชาย “ดูแลไอ้ นํ ้าด้ วยนะพี่คินทร์ ถึงยังไงมันก็เป็ นเมียพี่!”

“…” ไร้ เสียงตอบกลับจากพี่คินทร์ แต่หฉู นั ยังคงได้ ยินเสียงลม


หายใจกระฟั ดกระเฟี ยดจากคนตัวสูงอยู่ดี เขาไม่พอใจ

“ไปล่ะครับพ่อแม่” พี่คินทร์ หนั ไปไหว้ คณ


ุ ลุงกับคุณป้า ก่อนจะเดิน
ออกไปอย่างรวดเร็ว

“นํ ้าไปก่อนนะคะ” ฉันก็หนั ไปไหว้ พวกท่านสองคนด้ วย ก่อนจะไหว้


เพื่อนพี่คินทร์ อย่างพี่เฟี ยตเป็ นการปิ ดท้ าย
ทังคุ
้ ณลุงคุณป้าและพี่เฟี ยตต่างรับไหว้ ฉนั โดยการยกมือไหว้ ตอบ ฉัน
หันไปยิ ้มให้ เคท ก่อนจะเดินตามพี่คินทร์ ออกไป

รถยนต์คนั สีดํามันวาวจอดรอฉันอยู่ก่อนแล้ ว ฉันกัดริ มฝี ปากตัวเอง


เอาไว้ แน่น กลันความร้
้ อนผ่าวที่ดวงตาไว้ พลางสอดลมหายใจเข้ าปอดลึกๆไปด้ วย
เหตุการณ์ของเมื่อคืนฉันก็ยงั จําได้ ดี ทุกอย่างที่เกิดขึ ้นกับฉัน ทุกคําพูดที่พี่คินทร์ พดู
ล้ วนวนเวียนอยู่ในห้ วงความทรงจําของฉันตลอดเวลา ฉันยกมือขึ ้นเช็ดนํ ้าตาที่กําลัง
คลอหน่วยตาของตัวเองออกไป พลางเดินขึ ้นไปเปิ ดประตูรถขึ ้นไปนัง่ ข้ างเขา

“ไปนัง่ ข้ างหลัง!” พี่คินทร์ สงั่ เสียงกร้ าว ฉันสะดุ้งเล็กน้ อยเมื่อได้ ยิน


แต่ก็ยอมเปิ ดประตูรถลงไปนัง่ ที่เบาะหลังตามที่เขาบอก เพราะไม่อยากมีปัญหาอะไร

พอประตูปิดลงได้ ไม่ถึงวินาทีด้วยซํ ้า เขาก็สตาร์ ตรถแล้ วก็ขบั ออกไป


อย่างรวดเร็ว ร่างของฉันกระเด็นไปด้ านหน้ าเล็กน้ อยเนื่องจากการพุ่งตัวกะทันหันของ
รถยนต์ แต่พอตังสติ
้ ได้ ก็กลับมานัง่ ที่เดิม ก่อนจะใช้ เล็บยาวๆของตัวเองจิกที่เบาะรถ
เพื่อหาหลักยึดไว้ แทน

พอออกรถได้ เพียงไม่นาน รถก็หยุดการเคลื่อนตัวลงตรงหน้ าร้ านขาย


ยาที่ชื่อร้ านอะไรสักอย่าง พี่คินทร์ เปิ ดประตูรถลงไปยืนกอดออกอยู่หน้ าร้ าน เหมือน
รอให้ ฉนั เดินลงไปด้ วย ฉันเปิ ดประตูเดินลงไปหาเขาอย่างงงๆ พอเดินไปถึงตัวพี่คินทร์
เขาก็เอื ้อมมือมาคว้ ามือข้ างหนึง่ ของฉันไว้ ก่อนจะดึงฉันให้ เดินเข้ าไปในร้ านพร้ อมกัน

เภสัชกรที่ยืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์ มองฉันสลับกับพี่คินทร์ อย่างงงๆ ก่อน


จะถามขึ ้นมาว่า “เป็ นอะไรมาคะ”
“…” อยู่ๆใบหน้ าของฉันก็ร้อนเห่อขึ ้นมาอย่างบอกไม่ถกู เมื่อโดน
คําถามนี ้เข้ าไป

“โดนจิ ้มครับ! มาซื ้อยาคุมฉุกเฉิน เอายี่ห้อไหนก็เอามาเลยครับ”


เป็ นพี่คินทร์ ที่ตอบคําถามแทนฉันด้ วยนํ ้าเสียงหงุดหงิด หากแต่คําตอบนันกลั้ บทําให้
ฉันต้ องก้ มหน้ างุด ไม่กล้ าสบตากับเภสัชเลย

เพราะตอนนี ้ฉันสวมชุดนักเรี ยนมัธยมปลาย ดูยงั ไงก็คงไม่ดีนกั ที่ต้อง


ให้ เขาพามาซื ้อของอะไรแบบนี ้

“ไม่ต้องตกใจไปนะคะ มีอะไรกันครัง้ สุดท้ ายเมื่อไหร่คะ” เภสัชกรถาม


ยิ ้มๆ

“เมื่อคืนครับ” ก็ยงั เป็ นเสียงเข้ มของพี่คินทร์ ที่ตอบกลับเภสัชกรไปอยู่


ดี ส่วนฉันก็ทําได้ แค่ยืนเป็ นใบ้ ตวั สัน่ อยู่ข้างๆเขา

“ยังทันนะคะ” เภสัชกรตอบกลับยิ ้มๆ ก่อนจะเดินไปหยิบอะไรจากชัน้


ที่มียาวางเรี ยงรายอยู่มาวางตรงหน้ าฉัน “อันนี ้เป็ นยาคุมฉุกเฉินนะคะ จะมียา
ทังหมดสองเม็
้ ด กินเม็ดแรกทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน72ชัว่ โมง ส่วนเม็ดที่
สองให้ กินหลังจากเม็ดแรก12ชัว่ โมง ถ้ าหากกินไปแล้ วเกิดอาการอาเจียนออกมา ให้
ซื ้อรับประทานใหม่นะคะ ผลข้ างเคียงอาจจะมีอาการปวดท้ อง เลือดออก
กะปริ ดกะปรอย ประจําเดือนมาเร็วหรื อช้ ากว่าปกติ ถ้ าหากว่าผ่านไป7วันแล้ ว
ประจําเดือนไม่มา ให้ สงสัยว่าตังครรภ์
้ นะคะ”
ตะ..ตังครรภ์
้ ? ฉันหน้ าซีดไปเมื่อได้ รับคําแนะนําจากเภสัชกร หัวใจที่
เต้ นอยู่ในอกเริ่ มกระหนํ่าเต้ นอย่างรุนแรง ตังครรภ์
้ งนเหรอ
ั้ ฉันเพิ่งจะอายุสิบแปดปี ไป
เมื่อเจ็ดวันที่แล้ วเอง

“เท่าไหร่ครับ” พี่คินทร์ คว้ าเจ้ าแผงยาสีขาวออกไป ก่อนจะเอ่ยถาม


เภสัชกรเสียงเครี ยด

“45บาทค่ะ” เภสัชกรตอบกลับพี่คินทร์ เสียงเรี ยบ ก่อนจะหันมามอง


ฉันที่ยืนกุมมืออยู่ด้วยความกังวล “ไม่ต้องกังวลนะคะ”

ฉันพยักหน้ ารับสองทีให้ เภสัชกร ก่อนจะยิ ้มให้ เธอเพื่อเป็ นการขอบคุณ


สําหรับกําลังใจ

“ไม่ต้องทอนครับ” พี่คินทร์ หยิบแบงค์ร้อยยื่นให้ เภสัชกร ก่อนจะคว้ า


ข้ อมือฉันแล้ วลากออกมาจากร้ านทันที

เขาเดินไปเปิ ดประตูรถ ก่อนจะหยิบขวดนํ ้าเปล่าที่เหลืออยู่เพียงครึ่ง


ขวดติดมือออกมาด้ วย พี่คินทร์ ยื่นขวดนํ ้าเปล่ามาให้ ฉนั ก่อนจะยัดเจ้ าแผงยาสีขาว
ใส่มือฉันด้ วย

“รี บๆกิน ฉันไม่อยากโดนคนรุมประณามว่าข่มขืนเด็กไม่บรรลุนิติ


ภาวะแบบเธอแล้ วทําเธอป่ อง”

นัน่ สินะ ฉันต้ องรี บกินยาสิ เดี๋ยวพี่คินทร์ จะโดนว่าเสียๆหายๆ


************
หลังจากถูกพี่คินทร์ บงั คับให้ กินยาคุมฉุกเฉินเสร็จเรี ยบร้ อย เขาก็ขบั รถ
พาฉันกลับมาบ้ าน โดยมีฉนั บอกทางกลับบ้ านให้ พี่คินทร์ ได้ ร้ ู พี่คินทร์ ถามอะไร ฉันก็มี
หน้ าที่ตอบไป แต่การสนทนาของเรากลับไม่ได้ มีฝ่ายใดฝ่ ายหนึง่ ยินดีที่จะพูดคุยกัน
เลย โดยเฉพาะพี่คินทร์ ที่เอาแต่ทําหน้ านิ่วคิ ้วขมวดตลอดเวลาที่อยู่บนรถ แถมกํา
พวงมาลัยแน่นจนเห็นเส้ นเอ็นที่ข้อมือของเขา แล้ วก็ยงั ขับรถเร็วยิ่งกว่าอะไรดี

“พี่คินทร์ ขบั เบาๆก็ได้ ค่ะ มันอันตราย” ฉันเปล่งเสียงออกไปอย่าง


ยากลําบากเนื่องจากตัวรถมันไม่มนั่ คง เพราะพี่คินทร์ ขบั ปาดซ้ ายปาดขวาไม่ไว้ หน้ า
ใครเลย ร่างกายฉันก็เลยสัน่ คลอนตามรถไปด้ วย

“เงียบ!” เสียงเข้ มตวาดกลับมา ทําให้ ร่างกายของฉันสะดุ้งเล็กน้ อย

“…” ฉันเงียบเสียงของตัวเองลง พลางมองออกไปนอกหน้ าต่าง


แทน

ทังรถเลยเกิ
้ ดความเงียบและความอึดอัดขึ ้นอีกครัง้ ฉันไม่กล้ าพูดอะไร
กับพี่คินทร์ อีก ได้ แค่นงั่ จิกเล็บลงกับเบาะรถเพื่อเป็ นหลักยึดไม่ให้ ตวั เองถลาไป
ข้ างหน้ าก็เท่านัน้

ในที่สดุ การเดินทางอันแสนอึดอัดหัวใจก็สิ ้นสุดลง เมื่อรถของพี่คินทร์


เลี ้ยวเข้ ามาในบ้ านของฉัน พี่คินทร์ เหยียบเบรคกะทันหันจนร่างของฉันที่นงั่ เหม่อลอย
อยู่เกือบพุ่งทะยานไปข้ างหน้ า ดีที่ตงสติ
ั ้ ได้ ทนั เลยคว้ าเบาะหน้ ายึดตัวเองไว้ ได้ พี่คิ
นทร์ ปรายตามองฉันจากทางกระจกมองหลัง วินาทีนนเหมื ั ้ อนเขาหลุดหัวเราะออกมา
ด้ วย
ฉันเม้ มริ มฝี ปากแน่น ก่อนจะทรงตัวไปนัง่ อยู่ในท่าปกติ “ขอบคุณที่มา
ส่งนะคะ” ฉันยกมือขึ ้นไหว้ พี่คินทร์

ถ้ านับจากอายุที่ห่างกัน ตอนนี ้พี่คินทร์ น่าจะยี่สิบสองปี เกือบยี่สิบสาม


ปี เห็นจะได้ ในขณะที่ฉนั เพิ่งจะสิบแปดปี ผ่านมาแค่เจ็ดวันเท่านัน้ ดังนันรอบอายุ
้ ของ
เราเลยห่างกันถึงสี่เกือบห้ าปี เขาอาวุโสกว่าฉันมาก

“เดี๋ยว...” ในจังหวะที่ฉนั เอื ้อมมือไปเปิ ดประตูรถ เตรี ยมที่จะก้ าวลง


รถ เสียงทุ้มตํ่าของพี่คินทร์ ก็รัง้ ฉันไว้ ซะก่อน

มือฉันชะงักไป ก่อนจะเอ่ยตอบรับเขาเสียงเบา “คะ?”

ฉันหันไปมองพี่คินทร์ ที่ตอนนี ้กําลังถอดเสื ้อคลุมหนังสีดําของตัวเอง


ออก ก่อนที่เจ้ าเสื ้อตัวนันจะถู
้ กคนตัวสูงโยนมาให้ มันตกลงบนพื ้นรถ ฉันรี บหยิบมัน
ขึ ้นมา ก่อนจะมองเสื ้อหนังสลับกับมองหน้ าพี่คินทร์ อย่างงุนงง

“เอาไปใส่ ตัวเธอมีแต่รอยจํ ้าสีม่วงๆ” เสียงราบเรี ยบบอกเหตุผลที่


โยนเสื ้อมาให้ ฉนั

“ขอบ..ขอบคุณนะคะ” ฉันเอ่ยขอบคุณพี่คินทร์ ด้วยนํ ้าเสียง


ตะกุกตะกักของตัวเอง แล้ วเตรี ยมจะก้ าวลงรถอีกเป็ นหนที่สอง

แต่ทว่า...

“เดี๋ยว...” เสียงทุ้มตํ่าของพี่คินทร์ ก็เรี ยกฉันไว้ อีก


“คะ?” ฉันหันไปตอบรับด้ วยวลีเดิม แต่โทนเสียงสูงกว่าเดิมด้ วย
ความแปลกใจ

“ฉันถามจริ งๆ ฉันรุนแรงกับเธอขนาดนันเลยเหรอวะ”้ คราวนี ้เขา


ไม่ได้ ถามฉันผ่านกระจกมองหลังอีกต่อไป แต่คนตัวสูงเลือกที่จะหันมาเผชิญหน้ ากัน
แบบตรงๆเลย คิ ้วเข้ มที่ขมวดอยู่ทําให้ ฉนั รับรู้ว่านี่คงเป็ นคําถามที่เขาซีเรี ยสอยู่
พอสมควร

ฉันมองตาของพี่คินทร์ นิ่งๆ ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ของเมื่อคืน อาการร้ อน


ผ่าวที่ใบหน้ าก็ตีตื ้นขึ ้นมาอย่างน่าอาย ฉันหลุบตาลงมองแขนของตัวเองที่มีรอยจํ ้าสี
ม่วงอยู่หลายจุด มันน่าใจหายเหมือนกันนะ ที่ร่างกายของฉันมีรอยแบบนี ้ทังๆที ้ ่อยู่ใน
ชุดนักเรี ยนมัธยมปลายเท่านัน้

“นํ ้า...” สิ่งเดียวที่เอ่ยออกไปได้ มีเพียงแค่คําแทนตัวเองเท่านัน้ ซึง่ ฉัน


ไม่ร้ ูเลยว่าควรจะอธิบายให้ พี่คินทร์ ฟังยังไง เพราะทุกเหตุการณ์ที่เขาทําเมื่อคืน ฉัน
เอาแต่หลับตาปี๋ ไม่ยอมมองมันเลยด้ วยซํ ้า แต่หขู องตัวเองก็ยงั คงได้ ยินเสียงทุกเสียง
ที่อยู่ในเหตุการณ์ “คือว่า...”

“เออๆ เล่าไม่ได้ ก็ไม่ต้องเล่า” พี่คินทร์ โบกมือปั ดอย่างรํ าคาญ ก่อน


จะหันกลับไป

“งันนํ
้ ้าเข้ าบ้ านก่อนนะคะ” ฉันบอกทิ ้งท้ ายไว้ เพียงเท่านันก็
้ ก้าวลง
จากรถเป็ นที่เรี ยบร้ อย
มารยาทอย่างหนึง่ ของบ้ านฉันคือ ถ้ ามีใครมาส่งที่บ้าน จะต้ องยืนรอ
จนกว่าเขาจะกลับไป และต้ องไม่ลืมที่จะขอบคุณความมีนํ ้าใจของคนขับรถมาส่งด้ วย
ดังนันพอลงมาจากรถได้
้ ฉันก็ยืนรอจนกระทัง่ พี่คินทร์ ขบั รถออกจากบ้ านฉันไป ฉัน
มองเจ้ าเสื ้อหนังสีดําในมือ พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะสวมใส่มนั
เพื่อปกปิ ดความลับบางอย่างที่อยู่บนร่างกาย

ฉันหมุนตัวเตรี ยมเดินเข้ าบ้ าน แต่พอก้ าวเข้ ามาได้ แค่สองก้ าว พ่อกับ


แม่ก็เดินมารอรับอยู่ที่หน้ าประตูแล้ ว พวกท่านมักเป็ นแบบนี ้ประจํา ไม่วา่ ฉันจะเป็ น
เด็กหรื อโตเป็ นผู้ใหญ่ ทุกครัง้ ที่ฉนั กลับมาบ้ าน พวกท่านจะมารอรับฉันที่หน้ าบ้ าน
เสมอ ยกเว้ นถ้ าวันไหนพ่อติดงาน แม่ก็จะมารอรับคนเดียว

“สวัสดีคะ่ พ่อแม่” ฉันยกมือขึ ้นไหว้ พวกท่าน ก่อนจะหลุบตาลงมอง


พื ้นเพื่อเลี่ยงการสบตา

“ทําไมแม่โทรไปไม่รับเลยล่ะนํ ้า” เป็ นแม่ที่พดู ขึ ้นมาก่อน

“นะ..นํ ้าลืมโทรศัพท์ไว้ ที่สนามหญ้ าหน้ าบ้ านเคทน่ะค่ะ พอนํ ้าง่วง


เคทก็เลยพานํ ้าไปนอน โทรศัพท์ก็เลยวางไว้ ข้างล่าง” ฉันบอกเหตุผลที่น่าจะเป็ นไป
ได้ กบั แม่ ก่อนจะควานหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองในกระโปรงนักเรี ยนเพื่อเอามา
ช่วยยืนยันอีกแรง “นี่ไงคะ นํ ้าเอากลับมาด้ วยแล้ ว”

“นํ ้า... หนูมีอะไรปิ ดบังพ่ออยู่หรื อเปล่า” นํ ้าเสียงแกมกดดันของพ่อ


บีบหัวใจฉันจนเต้ นถี่อย่างรุนแรง
“มะ..ไม่มีนี่คะ นํ ้าไม่มีอะไรปิ ดบังพ่อกับแม่เลย” ฉันรี บยกมือขึ ้นบอก
ปฏิเสธทันควัน

“แล้ วนี่เสื ้อใคร ตัวใหญ่จงั เหมือนไม่ใช่เสื ้อของเคทเลย” พ่อชี ้มาที่


เสื ้อหนังสีดําของพี่คินทร์ ที่ฉนั สวมอยู่ วินาทีนี ้หัวใจฉันหล่นวูบไปอยู่ที่พื ้นแล้ ว
เรี ยบร้ อย

“สะ..เสื ้อของพี่ชายเคทค่ะ นํ ้ายืมมา” ฉันฉีกยิ ้มร่าให้ พ่อกับแม่ แต่


การจะฝื นยิ ้มทังๆที
้ ่ตวั เองเจอเรื่ องแย่ๆมา มันก็หนักหนาเอาการอยู่เหมือนกันนะ ยิ ้มที่
ฉันตังใจจะให้
้ มนั เป็ นยิ ้มที่ร่าเริ งดูมีความสุข กลับกลายเป็ นยิ ้มเพื่อกลบเกลื่อนความ
เจ็บปวดและความรู้สกึ ผิดในจิตใจไปซะดื ้อๆเลย

“แล้ วเมื่อกี ้ใครมาส่ง ทําไมไม่เรี ยกเขาเข้ าบ้ านก่อนล่ะลูก” แม่ถาม


พร้ อมกับชะเง้ อคอมองออกไปมองนอกบ้ าน

“พี่ชายของเคทค่ะ พอดีพี่เขามีธรุ ะ เลยขอตัวกลับก่อน แต่เมื่อกี ้นํ ้า


ชวนพี่เขาแล้ วนะคะ” เหตุผลที่ฉนั ใช้ อ้างกับพ่อแม่ล้วนสวนทางกับความเป็ นจริ งโดย
สิ ้นเชิง

ฉันน่ะเหรอเอ่ยชวนพี่คินทร์ แค่จะพูดให้ เป็ นประโยคตอนอยู่ต่อหน้ า


พี่คินทร์ ฉันยังทํายากเลย นับประสาอะไรกับเอ่ยชวนให้ พี่คินทร์ เข้ ามาในบ้ านล่ะ อีก
อย่าง... พี่คินทร์ ก็ดเู หมือนจะไม่คอ่ ยอยากให้ ฉนั เข้ าใกล้ เท่าไหร่ด้วย
“งันรี
้ บขึ ้นไปอาบนํ ้า แล้ วเตรี ยมตัวลงมากินข้ าวเย็นกับพ่อแม่เลยนํ ้า”
แม่บอก ก่อนจะทําท่าเดินเข้ ามาหาฉัน

“มะ..แม่คะ คือนํ ้ารู้สกึ ปวดหัวนิดหน่อย นํ ้าอาจจะไม่ลงมากินข้ าวนะ


คะ นํ ้าอยากนอนเลย” ฉันขยับหนีแม่มาหนึง่ ก้ าว ก่อนจะทําท่ายกมือขึ ้นนวดขมับ
ตัวเองเบาๆ ท่าประกอบคําว่า ‘ปวดหัว’ ให้ สมจริ งมากที่สดุ

โชคดีที่ก่อนมาฉันปล่อยผมยาวของตัวเองให้ สยายลงมาปกลําคอ
เอาไว้ รอยแดงที่คอเลยถูกปกปิ ดจากสายตาของพ่อแม่ แต่ก็คงจะปิ ดได้ ไม่นานนัก
หรอก ในเมื่อคุณลุงพ่อของเคทจะโทรมาบอกเรื่ องนี ้กับพ่อแม่ฉนั ยังไงพวกท่านสอง
คนก็ต้องรู้เรื่ องนี ้ ความลับไม่มีทางปกปิ ดเอาไว้ ได้ ดังประโยคที่ว่า ‘ความลับไม่มีใน
โลก’
“งันก็
้ ขึ ้นไปนอนพักผ่อนเถอะลูก อย่าลืมกินยาด้ วยนะ” แม่บอกอย่าง
ห่วงใย สายตาที่ทอดมองมาของพ่อและแม่ตา่ งบ่งบอกได้ อย่างดีวา่ พวกท่านรักและ
เป็ นห่วงฉันมากแค่ไหน

แต่ฉนั ก็ยงั เลือกที่จะปกปิ ดเรื่ องความผิดพลาดร้ ายแรงนี ้ไม่ให้ พวก


ท่านรับรู้ คิดแล้ วฉันก็ปวดใจอย่างบอกไม่ถกู จริ งๆ

“ค่ะ งันนํ
้ ้าขึ ้นห้ องก่อนนะคะ” ฉันบอกแม่กบั พ่อ ก่อนจะยกมือไหว้
พวกท่านสองคนเป็ นการทิ ้งท้ าย แล้ ววิ่งขึ ้นบันไดเพื่อไปยังห้ องนอนของตัวเอง
ทันทีที่ขาก้ าวเข้ าสูห่ ้ องนอน และประตูห้องนอนปิ ดสนิทลงโดยฝี มือฉัน
พลันขาที่ฉนั กัดฟั นทนยืนอยู่นานสองนานก็อ่อนแรงลง ฉันล้ มพับลงตรงหน้ าประตู
ห้ องนอนของตัวเอง นํ ้าตาหยดโตร่วงออกจากหางตาอีกรอบของวัน เสียงสะอื ้นที่ดงั
ขึ ้นทุกทีถกู ฉันใช้ มือปิ ดปากเอาไว้ เพื่อไม่ให้ มนั ดังไปถึงหูของพ่อกับแม่

“ฮึก.. นํ ้าขอโทษนะคะแม่ นํ ้าขอโทษจริ งๆ” ฉันร้ องไห้ อย่างบ้ าคลัง่


ทุกอย่างรอบตัวดูแย่ไปหมด ไม่วา่ จะเป็ นจิตใจที่บอบชํ ้าของฉัน หรื อจะเป็ นพ่อกับแม่
ที่ต้องมาทนเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองทําตัวเหลวแหลก ชิงสุกก่อนห่ามแบบ
นี ้ “ฮึก.. พ่อคะ นํ ้าขอโทษ นํ ้าขอโทษที่โกหก”

ฉันพยายามพยุงร่างกายอันเมื่อยล้ าของตัวเองขึ ้นมาจากพื ้น พลาง


เดินไปยังเตียงนอนที่อยู่ไม่ไกล ทิ ้งนํ ้าหนักทังหมดลงไปบนเตี
้ ยง ใบหน้ าซุกไปบน
หมอนใบโต วินาทีนี ้... สิ่งเดียวที่จะช่วยเยียวยาจิตใจฉันได้ คงมีแค่เวลา

KINN Talks.
ผมขับรถกลับมาที่บ้านด้ วยอาการว้ าวุน่ หัวใจสุดๆ เรื่ องที่พ่อผมจะโทร
ไปคุยกับพ่อของเด็กคนนัน้ พ่อพูดจริ งไหมวะ แล้ วอีกอย่าง.. เรื่ องหมันล่
้ ะ จะจัดงาน
หมันขึ
้ ้นวันไหน จะเชิญใครมาบ้ าง ถ้ ามีคนรู้ว่าอดีตเดือนคณะอย่างผมจะหมัน้ แล้ ว
แบบนี ้สาวๆที่ไหนจะอยากเข้ ามาหาผม คิดแล้ วก็ได้ แต่กระวนกระวายใจ เพราะยัย
เด็กคนนันคนเดี
้ ยวที่ทําให้ เรื่ องมันแย่แบบนี ้

เจออีกทีเมื่อไหร่นะ พ่อจะฟาดให้ น่วมเลย!

“นี่พี่คินทร์ !”
“เฮ้ ย!!!” เสียงเรี ยกดังๆจากด้ านนอกรถ ทําให้ สติของผม
กระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง ผมเป็ นคนขี ้ตกใจนะบอกไว้ ก่อน โดยเฉพาะตอนที่
กําลังคิดอะไรอยู่ แล้ วมีคนมาตะโกนใส่ ตกใจถึงขันล้
้ มลงพื ้นบ้ างก็มี “ใจหายใจควํ่า
หมดเลยไอ้ เคท!”

แต่พอหันไปเห็นว่าเป็ นใครเรี ยก อาการตกใจของผมก็ผ่อนคลายลงได้


อย่างรวดเร็ว โผล่มาทีนี่กะจะให้ ผมหัวใจวายตายไปเลยหรื อไงวะ ไอ้ น้องบ้ านี่ !

“รี บๆลงมาจากรถเลย เคทมีเรื่ องจะคุยด้ วย” เคทกระดิกนิ ้วชี ้เรี ยกผม


ลงไป
ซึง่ พอผมเห็นท่าทางแมนๆที่ขดั กับหน้ าตาน่ารักของมันแล้ ว ทําให้ ผมแทบอยากจะเข้ า
ไปเตะก้ านคอน้ องของตัวเองให้ ร้ ูแล้ วรู้รอด มันจะทําตัวให้ เป็ นผู้หญิงดีๆกับเขาบ้ าง
ไม่ได้ หรื อไง แล้ วก็อีกเรื่ องที่ผมสงสัย ไอ้ เคทออกจะกะโหลกกะลาไร้ ความเป็ นกุลสตรี
แบบนี ้ คบกับยัยเด็กคนนันที ้ ่ทงดู
ั ้ เรี ยบร้ อย อ่อนหวาน แล้ วก็อ่อนแอแบบนันได้
้ ยงั ไง

“แป๊ บหนึง่ ดิ ปลดเบลท์ก่อน” ผมถลึงตาใส่น้องสาวของตัวเอง ก่อนจะปลดเข็มขัด


นิรภัยที่คาดตัวออก หลังจากนันถึ
้ งได้ เอื ้อมมือไปเปิ ดประตูรถแล้ วก้ าวลงไป

“…” ทันทีที่ผมยืนนิ่งอยู่ตรงหน้ า ไอ้ เคทก็ทําการสแกนผมโดยการมองตังแต่ ้


ใบหน้ าลามไปยันเท้ า ก่อนจะไล้ สายตาจากเท้ าลามมายันใบหน้ าอีกที จากนัน้
รอยยิ ้มก็ผดุ ขึ ้นที่มมุ ปากของมัน แล้ วรู้ไหมยิ ้มของมันเป็ นแบบไหน คือเป็ นยิ ้มที่แม่ง
น่าขนลุกโคตรๆ “พี่ตายแน่!”
“…” ผมนิ่งเงียบ ขมวดคิ ้วอย่างงุนงงกับคําพูดชวนสงสัยของเคท

“แม่จะให้ แมวนํ ้าไปอยู่กบั พี่ที่เชียงใหม่” เคทพูดเสียงราบเรี ยบ

“ว่าไงนะ?!” แต่ผมกลับตอบกลับน้ องอย่างมันด้ วยนํ ้าเสียงตื่นตระหนกสุดขีด

ไปอยู่กบั ผมที่เชียงใหม่ วัท๊ เดอะฟ๊ อท! เอ้ ย! ว๊ อทเดอะฟั ค! แม่เล่นจ้ อจี ้อะไรอยู่เนี่ย
ไม่เอานะเว้ ย ผมไม่เห็นด้ วย ผมจะตังโต๊้ ะแถลงการณ์ฝ่ายค้ านแน่นอน

“แม่ให้ ข้อตกลงว่า ถ้ าพี่ยอมให้ แมวนํ ้าไปอยู่กบั พี่ที่เชียงใหม่เป็ นเวลาสามเดือนได้


กลับมาแม่จะให้ พี่ถอนหมันกั ้ บแมวนํ ้าทันที แต่ถ้าพี่ไม่ยอมให้ แมวนํ ้าไปอยู่กบั พี่ที่
เชียงใหม่ กลับมาแม่จะให้ พี่แต่งงานกับแมวนํ ้าทันที พี่มีทางเลือกอยู่สองทาง” เค
ทแจกแจงรายละเอียดข้ อตกลงของแม่ให้ ผมฟั ง โดยยกนิ ้วขึ ้นสองนิ ้วทําท่าประกอบ
ข้ อตกลงที่แม่ยื่นให้ ผมด้ วย
แล้ วคือถ้ าผมไม่ยอม กลับมาบ้ านคราวหน้ าผมจะต้ องแต่งงานกับยัยเด็กคนนันเนี
้ ่ย
นะ บ้ าไปแล้ วเถอะชีวิต ผมไม่มีวนั ยอมแต่งงานแน่ ชีวิตของผมจะต้ องมีสาวๆห้ อม
ล้ อม อยู่หล่อๆแบบนี ้ตลอดไป

‘แล้ วฉันเลือกอะไรได้ ไหม เลือกที่ไม่ให้ ได้ หรื อเปล่า~’ แล้ วมันใช่เวลามาร้ องเพลง
ไหม!

“พี่จะไปคุยกับแม่เอง” ผมบอกเคทเสียงแข็ง หมุนตัวเตรี ยมจะก้ าวเข้ าบ้ าน แต่ทว่า


ประโยคถัดมาของไอ้ เคทกลับทําให้ ขาของผมที่เตรี ยมจะเดินชะงักค้ างอยู่กบั ที่
“แม่บอกว่าจะไม่คยุ กับพี่คินทร์ จนกว่าพี่จะตอบตกลงรับข้ อเสนอข้ อใดข้ อหนึง่ ก่อน”
เคทยืดอกพูดอย่างภาคภูมิใจ
แล้ วผมเกลียดอะไรที่สดุ ในตัวน้ องคนนี ้รู้ไหม ผมเกลียดความฉลาดที่เกินตัวของมัน
เพราะผมรู้ดีวา่ แม่ไม่มีทางคิดอะไรบ้ าบอพรรค์นี ้ได้ แน่ ยกเว้ นน้ องสาวตัวดีของผมคน
นี ้จะคิดขึ ้นมาให้ แล้ วมันก็เสนอเรื่ องนี ้ให้ แม่พิจารณา ซึง่ แม่ผมก็บ้าจี ้ตามมัน ยก
ข้ อตกลงไร้ สาระแบบนี ้มาต่อรองกับผม

“พี่ร้ ูนะว่าแกคิดข้ อตกลงบ้ าบอนี่ให้ แม่” ผมกอดอก จ้ องน้ องสาวแท้ ๆที่คลานตามกัน


มาเขม็ง

“ก็ใครอยากให้ พี่ปลํ ้าเพื่อนเคทก่อนล่ะ” เคทพูดด้ วยนํ ้าเสียงเหนือกว่า


ซึง่ มันก็ใช่ ตอนนี ้น้ องสาวของผมคนนี ้มันเหนือกว่าผมทุกด้ าน ทังการเรี
้ ยน นิสยั และ
องค์รวมต่างๆ เห็นแล้ วหมัน่ ไส้ !

“พี่บอกแล้ วไงวะว่ามันเป็ นอุบตั ิเหตุ พี่ไม่ได้ ตงใจ”


ั้

“ไม่ได้ ตงใจหรื
ั้ อมักง่ายกันแน่ พี่ร้ ูไหมว่าไอ้ นํ ้ามันไม่เคยมีแฟน ไม่เคยโดนอะไรแบบนี ้
มาก่อน แล้ วพี่มาทําแบบนี ้กับเพื่อนเคทอ่ะ นัน่ มันเพื่อนเคทเลยนะเว้ ย พี่หดั ใช้ สมอง
คิดมากกว่าอารมณ์ได้ ไหม” อะไรวะ... นี่ผมโดนทังไอ้ ้ เฟี ยตเทศนา แล้ วยังต้ องมา
โดนน้ องสาวของตัวเองเทศนาซํ ้าสองอีกด้ วยเหรอ

“ก็มนั พลาดไปแล้ ว จะให้ ทําไงวะ!” ผมขึ ้นเสียงใส่คนตัวเล็กด้ านหน้ า ชัว่ วูบมัน


ถึงกับเหวอไป ก่อนจะตังสติ
้ ได้ แล้ วทําหน้ าราบเรี ยบตามเดิม
“คนเราเกิดมาไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด อยู่ที่ว่าคนนันเขาจะเรี
้ ยนรู้จากความผิดพลาด
เพื่อนํามาปรับแก้ ไขในสิ่งที่พลาดไป หรื อเลือกที่จะเดินตามความผิดพลาดซํ ้ารอย
เดิม” คําคมประจําวันมาแล้ ว สอนผมตังแต่ ้ ผมอยู่มธั ยมต้ นจนตอนนี ้ผมอยู่ปีสี่ ตกลง
มันจะเป็ นน้ องผม หรื อเป็ นแม่ผมกันแน่วะ ก่อนที่มนั จะยื่นมือมาตบลงบนบ่าผม
หนักๆหนึง่ ที พร้ อมกับนํ ้าเสียงหนักแน่นที่พดู ประโยคถัดมา “พี่มีโอกาสแก้ ตวั ใน
ความผิดพลาดครัง้ ใหญ่นี ้นะพี่คินทร์ คิดให้ ดีๆ”
แก้ ตวั ในความผิดพลาดเหรอ โดยการให้ ผมไปอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเด็กคนนัน้
เนี่ยนะ อนาคตเดือนสุดฮ็อตอย่างผมได้ ดบั วูบไม่เป็ นท่าแน่ ทําไมมันไม่มีทางเลือกที่
ดีกว่านี ้ให้ ผมเลยครับพระเจ้ า!!!
**************
MAWNUM Talks.
Rrrr!
เสียงริ งโทนจากโทรศัพท์ที่แผดเสียงขึ ้น ทําให้ ฉนั ค่อยๆลืมเปลือกตาที่
หนักอึ ้ง ก่อนจะใช้ มืออีกข้ างที่อยู่ใกล้ กบั โต๊ ะข้ างเตียงที่สดุ ควานหามัน เมื่อเจอแล้ วก็
รับสายและจ่อลงที่หขู องตัวเองทันที ก่อนหน้ านี ้ผล็อยหลับไปตอนไหนก็ไม่ร้ ู รู้ตวั อีกที
ก็คือร่างกายของฉันเมื่อยล้ าจนไม่มีแรงไปแล้ ว

“ฮัลโหล...” ฉันกรอกเสียงเอื่อยเฉื่อยของตัวเองลงไปในสาย

[ไอ้ นํ ้า.. แกเป็ นไงบ้ างวะ โอเคไหม] เป็ นเสียงของเคทเอง


“นํ ้าโอเค” ฉันตอบเคทกลับไป ก่อนจะผุดลุกขึ ้นนัง่ บนเตียงของตัวเอง

[พ่อฉันโทรไปบอกพ่อแม่แกแล้ วนะ เพิ่งคุยกันเสร็จเมื่อกี ้เลย]


ประโยคที่เคทบอกทําให้ มือฉันชาจนโทรศัพท์ร่วงหล่นลงบนที่นอน

ก๊ อกๆ

เสียงเคาะประตูห้องนอนของฉันดังขึ ้นสองที ฉันหันขวับไปมองที่ประตู


ห้ องอย่างรวดเร็ว พลันความร้ อนผ่าวที่ขอบตาก็ปรากฏขึ ้น พ่อแม่ของฉันต้ องรู้เรื่ อง
ทังหมดแล้
้ วแน่นอน

ตึกตัก... ตึกตัก...

หัวใจฉันกระหนํ่าเต้ นด้ วยความหวาดกลัว ฉันกลัวไปหมดทุกอย่างเลย


กลัวพ่อแม่จะรับไม่ได้ กลัวพวกท่านจะเสียใจ กลัวตัวเองจะถูกด่าทอ ยิ่งพอคิดมาถึง
จุดนี ้แล้ ว ร่างกายของฉันก็ชาวาบ ไม่ขยับไปไหน และไม่แม้ กระทัง่ จะเดินไปเปิ ดประตู
บานนันออกเพื
้ ่อพบกับความจริ ง

“นํ ้า!” เสียงของแม่ฉนั ตะโกนเข้ ามา “เปิ ดประตูให้ แม่!”

“ฮึก...” นํ ้าใสๆร่วงหล่นออกจากหางตาฉันอีกครัง้ ก่อนที่เสียงสะอื ้น


เบาๆจะดังขึ ้นมา และถูกปิ ดไว้ ด้วยฝี มือฉัน

“พ่อไปเอากุญแจสํารองห้ องแมวนํ ้ามาให้ แม่เดี๋ยวนี ้เลย!” นัน่ เป็ น


เสียงคําสัง่ ของแม่ที่สงั่ พ่อ
ฉันรี บลุกขึ ้นและเดินลงจากเตียงไปขดตัวอยู่ที่มมุ ห้ อง เสียงด้ านนอก
เงียบไปพักหนึง่ ก่อนที่เสียงก๊ อกแก๊ กที่ประตูจะดังต่อมา ลูกบิดที่ควรจะล็อกไว้ ถกู คน
ภายนอกไขออก ประตูบานใหญ่ถกู เปิ ดเข้ ามาอย่างรุนแรง

“ฮึก... มะ..แม่” ฉันมองหน้ าบุพการี ทงสองคนด้


ั้ วยอาการหวาดกลัว

“นี่มนั เรื่ องอะไรนํ ้า!” แม่เดินเข้ ามาหาฉัน ก่อนที่ฝ่ามือของท่านจะจับ


ที่แขนฉันแล้ วกระชากร่างฉันขึ ้นจากพื ้น ความเจ็บที่บริ เวณนันยิ ้ ่งทําให้ นํ ้าตาฉันพรั่ง
พรูมากกว่าเดิม “อธิบายแม่มาเดี๋ยวนี ้นะ!”

“ฮึก... แม่คะ นํ ้าเจ็บ” นัน่ เป็ นเพียงประโยคสื่อสารเดียวที่ฉนั สามารถ


พูดออกมาได้ ส่วนประโยคแก้ ตวั ทังหมดฉั ้ นไม่ขอพูด ในเมื่อทุกอย่างมันคือเรื่ องที่
เกิดขึ ้นจริ งและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ ไขอดีตได้

“เจ็บเหรอ?!” แม่ตวาดเสียงลัน่ ห้ อง โดยมีพ่อที่ยืนอยู่ด้านหลังเข้ ามา


ห้ ามปราม พ่อดึงแขนแม่ไว้ และพยายามพูดเพื่อให้ แม่ใจเย็น “ตอนทําทําไมไม่คิด!”

“แม่คะ นํ ้าไม่ได้ ตงใจ


ั ้ ฮึก...” ฉันจับมือของแม่ที่บีบแขนของตัวเอง
จนเกิดอาการเจ็บไว้ มองหน้ าท่านด้ วยความรู้สกึ เสียใจระคนรู้สกึ ผิด

ใบหน้ าของผู้เป็ นแม่ บัดนี ้มีแต่นํ ้าตาแห่งความเสียใจเต็มไปหมด สี


หน้ าของแม่แสดงออกถึงความผิดหวังในตัวฉัน โดยเฉพาะคิ ้วที่ขมวดนัน่ ดูก็ร้ ูแล้ วว่า
ท่านกลุ้มใจและกังวลมากแค่ไหน และมันยิ่งทําให้ ฉนั อยากจะร้ องไห้ หนักขึ ้นกว่าเดิม
ที่เห็น พ่อไม่พดู อะไร แต่ฉนั ก็พอเดาออกว่าท่านก็คงรู้สกึ ผิดหวังไม่ต่างจากแม่เท่าไหร่
“นํ ้ารู้ไหม.. แม่ไม่เคยห้ ามเลยถ้ านํ ้าจะมีแฟน แต่ทําไมต้ องเป็ นแบบนี ้
ลูก ทําไมหนูถึงทําแบบนี ้ แม่ผิดหวังมากเลยนะ ทําไมนํ ้าเป็ นเด็กไม่ดีแบบนี ”้
นํ ้าเสียงที่แม่เปล่งออกมาผสมปนเปกับเสียงสะอื ้น

“แม่.. พ่อว่าแม่ใจเย็นๆก่อนดีกว่านะ” พ่อที่พยายามห้ ามแม่ก็พดู


เพื่อให้ แม่ใจเย็นลงด้ วย

“แม่คะ...” ฉันเรี ยกแม่หนึง่ คํา และพยายามจะเดินเข้ าไปใกล้ แต่แม่


กลับถอยห่างออกไป วินาทีนี ้ฉันถึงกับชะงักปลายเท้ าลง หัวใจรู้สกึ ถึงแรงกดดัน
บางอย่างและบีบคันให้
้ ร้ ูสกึ เจ็บเจียนตาย “แม่อย่าเดินหนีนํ ้า ฮึก...”

“อาทิตย์หน้ า... นํ ้าต้ องเก็บข้ าวของไปอยู่กบั พี่เขาที่เชียงใหม่ แม่ตก


ลงกับพ่อของเคทแล้ ว” ประโยคเด็ดขาดของแม่ทําให้ นํ ้าตาที่คลออยู่ในหน่วยตาของ
ฉันร่วงหล่นลงทันที “อีกสองวันจะมีงานหมัน้ นํ ้าเตรี ยมตัวไว้ พรุ่งนี ้พี่เขาจะเข้ ามารับ
นํ ้าไปเลือกแหวนหมัน”

“แม่คะ นํ ้าไม่อยากไปอยู่ที่เชียงใหม่” ฉันบอกแม่ด้วยหัวใจที่แหลก


สลาย ลําพังแค่ให้ ฉนั หมันกั
้ บพี่คินทร์ ก็หนักหนาสาหัสมากพออยู่แล้ ว นี่ฉนั ต้ องไปอยู่
ร่วมกันกับเขา ซึง่ เขาไม่ได้ มีความรักให้ ฉนั เลยแม้ แต่น้อย ฉันไม่อยากไป...

“แล้ วนํ ้าจะให้ แม่ทํายังไง นํ ้าคิดว่าเรื่ องแบบนี ้มันยังจะแก้ ปัญหาอะไร


ได้ อีก นํ ้าเพิ่งเรี ยนจบม.ปลายนะ”
“แม่ออกไปข้ างนอกก่อน ขอพ่อคุยกับนํ ้าเอง” พ่อที่ยืนเงียบอยู่นาน
รี บเข้ ามาบอกแม่ ก่อนจะหันมามองฉันนิ่งๆด้ วยความเห็นใจ ฉันรู้ว่าพ่อก็ทกุ ข์ไม่ตา่ ง
จากแม่

แม่ปรายตามองฉันแล้ วเดินออกไปตามคําบอกของพ่อ ก่อนที่พ่อจะ


เดินเข้ ามาหาฉัน และดึงมือของฉันให้ เดินไปนัง่ ที่เตียงพร้ อมกัน พ่อมองใบหน้ าที่
เปรอะเปื อ้ นไปด้ วยนํ ้าตาของฉัน มือข้ างหนึง่ ของท่านยกขึ ้นมาลูบนํ ้าตาที่กําลังไหล
เอ่อพวกนันออกให้
้ อย่างแผ่วเบา พ่อยิ ้มให้ ฉนั ถึงแม้ มนั จะเป็ นยิ ้มที่ผสมความทุกข์ใจ
อยู่ในนัน้ แต่ท่านกลับเลือกที่จะทําให้ ฉนั สบายใจขึ ้น

“นํ ้ามีอะไรจะพูดกับพ่อไหม” นัน่ คือประโยคแรกระหว่างการสนทนา


ของเราสองคน

“ฮึก... พ่อคะ นํ ้า...” ฉันพูดไม่ออกเลย ฉันไม่ร้ ูว่าตอนนี ้ควรจะพูด


อะไรออกไปดี นํ ้าตามันไหลไม่หยุด เสียงสะอื ้นก็ยงั มี สิ่งสุดท้ ายเลยกลายเป็ นว่าฉัน
โผเข้ าไปกอดพ่อแน่น และซบหน้ าลงไปร้ องไห้ บนอกของฉันด้ วยความเสียใจ “นํ ้าขอ
โทษนะคะพ่อ ฮึก...”

“พ่ออยากฟั งเรื่ องราวทังหมดที


้ ่เกิดขึ ้น นํ ้าเล่าให้ พ่อฟั งได้ ไหม” เสียง
ทุ้มของพ่อเอ่ยที่ข้างหูฉนั

“เมื่อคืน...” ฉันเริ่ มเล่าเรื่ องราวทังหมดให้


้ พ่อฟั ง โดยเหตุการณ์
ทังหมดที
้ ่ฉนั พยายามจะลบทิ ้งในห้ วงความทรงจําถูกทําให้ จําได้ อีกครัง้ จากการระลึก
ถึงมัน ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ ้นภายในห้ องนัน้ ทุกคําพูดที่พี่คินทร์ พมึ พําออกมา ฉันรับรู้
ได้ ทงหมด
ั้ แต่ฉนั ไม่มีแรงโต้ ตอบเพราะร่างของเขาโหมทับฉันไว้ ทงตั ั ้ ว เสียงที่พยายาม
จะเรี ยกร้ องให้ คนช่วยก็ถกู ฝ่ ามือหยาบใหญ่ของเขาปิ ดทับไว้ อีกที

“…” หลังจากเล่าให้ พ่อฟั งจนจบ ฉันก็ผละตัวเองออกมาจากอ้ อม


กอดอบอุ่นนัน้ พ่อไม่พดู อะไรออกมาเลย

“นํ ้าขอโทษนะคะพ่อ นํ ้าเป็ นเด็กไม่ดี ทําให้ พ่อกับแม่เสียใจ ฮึก...”

“แล้ วนํ ้ารู้สกึ ยังไงกับพี่เขา” นัน่ เป็ นคําถามของพ่อที่ถามขึ ้นหลังจาก


ที่ได้ ฟังเรื่ องราวจากปากฉัน

ฉันมองหน้ าของพ่อ ก่อนจะหลุบตาลงมองมือของตัวเองที่ชื ้นเหงื่อไป


แล้ วเรี ยบร้ อย “นํ ้า...”

“พ่อแค่อยากรู้ว่านํ ้าคิดยังไงกับพี่เขา แค่นํ ้าบอกพ่อมา พ่อจะจัดการ


กับเรื่ องนี ้เอง” ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองผู้เป็ นพ่ออีกครัง้ แววตาสุขมุ หนักแน่นของพ่อทอด
มองมาที่ฉนั ราวกับรอคําตอบ

“นํ ้า...” ฉันควรจะบอกพ่อตามตรง หรื อควรจะโกหกออกไปดี

“พ่อต้ องการความจริ งเท่านันนะนํ


้ ้า” เสียงของพ่อก็จริ งจังมากด้ วย
“ถ้ านํ ้าไม่โอเค พ่อยินดียกเลิกงานหมันครั
้ ง้ นี ้ แล้ วพ่อจะส่งนํ ้าไปเรี ยนต่อที่
ต่างประเทศทันที”
“พ่อคะ...” ฉันเรี ยกพ่อเสียงสัน่ คําพูดของท่านทําให้ หวั ใจของฉันสัน่
ไหวอย่างรุนแรง “นํ ้าชอบพี่คินทร์ แต่...”

“…” เมื่อเห็นพ่อเงียบ ฉันเลยพูดต่อ

“แต่พี่คินทร์ ไม่ได้ ชอบนํ ้าเลย ถ้ านํ ้าต้ องย้ ายไปอยู่กบั พี่คินทร์ ที่
เชียงใหม่ แล้ วนํ ้าจะต้ องทํายังไง นํ ้าต้ องไม่กล้ าคุย ไม่กล้ าสบตา นํ ้าเป็ นคนขี ้ขลาด
นํ ้า...”

หมับ

พ่อวางมือลงบนบ่าของฉัน นัน่ ทําให้ การพูดของฉันหยุดลงอย่าง


เฉียบพลัน ก่อนจะจ้ องมองใบหน้ าของพ่อนิ่งๆ

“นํ ้าคิดว่าตัวเองเป็ นยังไง” ฉันขมวดคิ ้วให้ กบั คําถามของพ่อ เพราะ


ไม่ร้ ูจะตีความคําถามนันยั้ งไงดี “ถ้ านํ ้าคิดว่าตัวเองดีพอ แสดงให้ พี่เขาเห็นถึงความ
จริ งใจของนํ ้า”

“แต่พี่คินทร์ ไม่เคยสนใจนํ ้าเลย...” ยิ่งพูดมาถึงจุดนี ้ หัวใจของฉันก็


เจ็บแปลบราวกับโดนเข็มนับพันเล่มทิ่มแทง

“พ่อเคยสอนนํ ้าให้ รักนวลสงวนตัวเพราะเราเป็ นลูกผู้หญิง ต้ องไม่ชิง


สุกก่อนห่าม ต้ องทําตามกรอบประเพณีที่ดีงาม แต่พ่อรู้ว่าเรื่ องแบบนี ้สักวันจะต้ อง
เกิดขึ ้น ไม่มีใครห้ ามได้ เราย้ อนกลับไปแก้ ไขความผิดพลาดในอดีตไม่ได้ แต่เรา
สามารถสร้ างปั จจุบนั ให้ มนั ดีขึ ้นได้ ถึงแม้ มนั จะเกิดจากความผิดพลาด แต่นํ ้าก็ควร
ประคับประคองความรักของนํ ้าที่มีให้ พี่เขาไว้ ให้ ดี พ่อเชื่อว่าสักวันพี่เขาจะหันกลับมา
มองลูกสาวของพ่อแน่นอน”

“…” ฉันเงียบไปทันทีหลังจากคําพูดของพ่อจบลง

“เตรี ยมตัวไว้ นะนํ ้า พรุ่งนี ้ไปเลือกแหวนหมัน้ เดี๋ยวพี่เขาจะเข้ ามารับ ”


พ่อพูดพร้ อมกับวางมือทังสองข้
้ างลงบนบ่าฉันแล้ วบีบเบาๆ ราวกับต้ องการให้
กําลังใจ

ฉันพยักหน้ ารับ ก่อนที่พ่อจะลุกขึ ้นจากเตียงและเดินไปยังประตู


ทางออก ฉันเดินไปส่งพ่อที่หน้ าห้ อง และปิ ดประตูห้องของตัวเองลง พรุ่งนี ้แล้ วสินะ
การเลือกแหวนหมันของฉั
้ น...

09 : 02 น.

หลังจากตื่นขึ ้นมาทําธุระส่วนตัวจนเสร็จเรี ยบร้ อย ฉันก็กินยาคุม


ฉุกเฉินเม็ดที่สองตามเข้ าไปเมื่อครบสิบสองชัว่ โมงแล้ ว ก่อนจะแต่งตัวแต่งหน้ าเพื่อรอ
พี่คินทร์ มารับไปเลือกแหวนหมัน้ ฉันเดินลงมากินข้ าวที่ด้านล่าง แต่กลับไร้ เงาร่างของ
แม่ไปโดยสิ ้นเชิง พ่อบอกว่าแม่ยงั ไม่ลงมาจากห้ องนอน สงสัยอาจจะยังโกรธฉันอยู่
แน่ๆ

เสียงรถยนต์ดงั ขึ ้นที่หน้ าบ้ าน เรี ยกความสนใจของฉันและพ่อที่นงั่ อยู่


ตรงโซฟาห้ องรับแขกให้ หนั ไปมอง พ่อหันมามองฉันแว๊ บหนึง่ ก่อนจะปิ ดหนังสือพิมพ์
ที่อ่านอยู่และวางมันลงบนโต๊ ะ แล้ วรี บเดินไปรับแขกที่คาดว่าน่าจะเป็ นพี่คินทร์ ทนั ที
ฉันรี บวิ่งตามพ่อไป

ร่างสูงของพี่คินทร์ ที่มาในชุดกางเกงยีนส์สีเข้ มกับเสื ้อยืดสีกรมสวมทับ


ด้ วยเสื ้อหนังแขนยาวสีดําอีกทีลงจากรถมา ถึงแม้ มนั จะเป็ นการแต่งตัวที่ดธู รรมดา
หากแต่พี่คินทร์ กลับไม่ได้ ดธู รรมดาตามเสื ้อผ้ าที่เขาสวมใส่เลย มันดูดีจนเข้ าขันหล่
้ อ
เลยล่ะ เขายืนไหว้ พ่อฉัน ก่อนจะเดินเข้ ามาหา คิ ้วเข้ มก็ยงั ขมวดอยู่ตามปกติ พ่อฉัน
รับไหว้ พี่คินทร์

“คินทร์ ใช่ไหม” พ่อฉันเอื ้อมมือไปจับบ่าของพี่คินทร์ ไว้ เมื่อเขาเดินเข้ า


มาและเอ่ยถาม

ความจริ งแล้ วพ่อฉันไม่เคยเจอหน้ าพี่คินทร์ มาก่อน เพราะทุกครัง้ จะมี


แค่เคทเท่านันที้ ่มาบ้ านฉัน บางครัง้ เราก็มาติวหนังสือด้ วยกัน หรื อชวนกันไปดูหนังที่
เมเจอร์ พ่อกับแม่ฉนั เลยเคยเห็นแค่หน้ าของเคท แต่ไม่เคยเจอพี่คินทร์ มาก่อน ครัง้ นี ้
เลยเป็ นครัง้ แรกที่พวกเขาทังสองคนได้
้ เจอกัน

“ครับ” พี่คินทร์ ตอบรับพ่อฉันด้ วยความสุภาพนอบน้ อม “คือผม


อยากจะอธิบายเรื่ องราว...”

“ไม่ต้องหรอก อารู้ว่าคินทร์ ไม่ได้ ตงใจ


ั ้ แต่อาขอฝากลูกสาวคนเดียว
ของอาไว้ กบั คินทร์ ได้ ไหม”
“ได้ ครับ แต่ผมต้ องขอโทษจริ งๆ ส่วนหนึง่ เป็ นเพราะความมักง่ายของ
ผมด้ วย” พี่คินทร์ ยกมือขึ ้นไหว้ ขอโทษพ่อฉัน

“ไม่เป็ นไร ไปเลือกแหวนหมันด้ ้ วยกันดีๆล่ะ อาฝากนํ ้าด้ วย เด็กคนนี ้


เขาขี ้อาย” พ่อเอื ้อมมือมาคว้ าข้ อมือฉัน แล้ วดึงให้ ไปยืนข้ างๆ ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองพี่คิ
นทร์ แต่พอเขาสบตาด้ วย ฉันก็หลุบตาลงมองพื ้นทันที

“ครับ” พี่คินทร์ ตอบรับเสียงหนัก

ก่อนที่ทกุ อย่างจะเกิดขึ ้นอย่างรวดเร็ว เขาเอื ้อมมือมาคว้ ามือฉันเอาไว้


ออกแรงกระตุกเพียงนิดหน่อย ร่างกายของฉันก็เซตามแรงนันไปทั ้ นที ฝ่ ามือหยาบ
ใหญ่ของพี่คินทร์ กมุ มือฉันไว้ หลวมๆ หากแต่สมั ผัสเพียงประปรายนันกลั ้ บทําให้ หวั ใจ
ของฉันกระหนํ่าเต้ นด้ วยความรุนแรง ความร้ อนฉ่าเกิดขึ ้นที่สองข้ างแก้ มของฉัน

“ผมไปแล้ วนะครับคุณอา เดี๋ยวบ่ายๆจะกลับเข้ ามาส่งน้ องครับ ”

น้ องเหรอ? เขาใช้ สรรพนามแทนฉันว่าน้ องเหรอ อ่า...

ตึกตัก... ตึกตัก...

หัวใจเจ้ ากรรมของฉันกระหนํ่าเต้ นอย่างรุนแรงอีกแล้ ว อานุภาพคําพูด


ของพี่คินทร์ มนั ร้ ายแรงขนาดนี ้เลยหรื อไงกัน แค่เปลี่ยนสรรพนามจาก ‘เธอ’ เป็ น
‘น้ อง’ ร่างกายของฉันก็เริ่ มชาลามไปที่ละส่วนอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะช่วงมือที่
อยู่ในการเกาะกุมของเขา มันชามาก...
“ขับรถกันดีๆล่ะ” พ่อฉันบอกทิ ้งท้ ายไว้ ด้วยรอยยิ ้มสดใส ก่อนที่ท่าน
จะเดินเข้ าบ้ านไป

ทันทีที่ร่างของพ่อฉันลับสายตา ฝ่ ามือหยาบใหญ่ที่กมุ มือฉันอยู่ก็


ปล่อยออกอย่างรวดเร็ว แขนฉันตกลงที่ข้างลําตัว วินาทีนนหั ั ้ วใจฉันวูบโหวงอย่างน่า
กลัว พี่คินทร์ เดินขึ ้นไปนัง่ บนรถ ฉันรี บวิ่งไปเปิ ดประตูหลังแล้ วขึ ้นไปนัง่ ด้ วย เพราะถ้ า
หากมัวแต่ชกั ช้ า ก็กลัวว่าจะทําให้ คนตัวสูงรํ าคาญเอา

บนรถไม่มีการสนทนาเกิดขึ ้นแม้ แต่ประโยคเดียว บรรยากาศก็เต็มไป


ด้ วยความอึดอัด ฉันทําได้ แค่ถอนหายใจเบาๆและทอดมองออกไปภายนอกรถแทน
เพียงไม่นานเราทังสองคนก็
้ มาโผล่ที่ห้างสรรพสินค้ าชื่อดังกลางกรุงเทพ

พี่คินทร์ พาฉันเดินหาร้ านเครื่ องเพชร ในมือของเขามีกระดาษโพสต์อิท


เล็กๆ เหมือนชื่อร้ านจะถูกเขียนอยู่ในนัน้ จนกระทัง่ เขาพาฉันเดินขึ ้นลงระหว่าง
ชันหนึ
้ ง่ และชันสองอยู
้ ่สกั พัก ในที่สดุ จุดหมายปลายทางก็ปรากฏขึ ้นตรงหน้ า

พี่คินทร์ เดินนําฉันเข้ าไปยังร้ านเครื่ องเพชร ก่อนที่พนักงานของร้ านจะ


เดินเข้ ามาต้ อนรับ

“สวัสดีคะ่ คุณลูกค้ า มีอะไรให้ ช่วยเหลือสามารถบอกได้ เลยนะคะ”

“ผมชื่อเวคินทร์ ภัทรวิเชียรชัยกุลครับ มารับแหวนเพชรที่คณ


ุ แม่สงั่
สลักชื่อไว้ ” พี่คินทร์ บอกกับพนักงาน
พี่พนักงานพยักหน้ ารับ ก่อนจะบอกด้ วยนํ ้าเสียงสุภาพว่า “รอสักครู่
นะคะ”

เธอเดินกลับเข้ าไปยังเคาท์เตอร์ ก่อนจะพูดคุยกับพนักงานคนหนึง่ ที่ดู


เหมือนจะเป็ นผู้จดั การอยู่สองถึงสามประโยค แล้ วเดินกลับออกมาพร้ อมกับถุง
บางอย่าง พี่พนักงานคนเดิมหยิบกล่องแหวนสีแดงกํามะหยี่ออกมา เธอเดินมาหยุด
ลงตรงหน้ าฉันกับพี่คินทร์ และเปิ ดกล่องแหวนนันออก

เป็ นแหวนเพชรสองวงที่อยู่ในนัน...
้ แหวนคูง่ นเหรอ
ั้

“อันนี ้เป็ นแหวนที่คณุ แม่ของคุณเวคินทร์ สงั่ สลักชื่อกับทางเรานะคะ


แหวนของคุณเวคินทร์ จะสลักชื่อของคูห่ มันของคุ
้ ณไว้ ส่วนแหวนของคูห่ มันคุ้ ณจะ
สลักชื่อของคุณเวคินทร์ ไว้ ค่ะ” พี่พนักงานเริ่ มอธิบาย “ตัวเรื อนของแหวนทําจาก
ทองคําขาวบริ สทุ ธิ์ร้อยเปอร์ เซ็น แหวนของคุณผู้ชายจะประดับด้ วยเพชรหนึง่ เม็ดที่
ตรงกลาง ส่วนแหวนของคุณผู้หญิงจะประด้ วยเพชรจํานวนสามเม็ดค่ะ เม็ดใหญ่จะ
อยู่ที่ตรงกลาง โดยมีเม็ดเล็กอีกสองเม็ดประกบเข้ าที่ด้านข้ าง”

“ครับ” พี่คินทร์ พยักหน้ ารับ ก่อนจะหลุบตาลงมองฉันที่ยืนนิ่งอยู่ข้าง


เขา “ชอบไหม”

ฉันอึ ้งไปกับคําถามของพี่คินทร์ ก่อนที่คําพูดของตัวเองจะตอบกลับ


เขาไปอย่างตะกุกตะกัก “ชะ..ชอบค่ะ”
เสร็จสิ ้นภารกิจการเลือกแหวนหมันโดยที
้ ่ฉนั ไม่ได้ มีสว่ นร่วมในการเลือก
เลยแม้ แต่น้อย แต่ถึงอย่างนันฉั
้ นก็ยงั แอบดีใจอยู่ลกึ ๆที่พี่คินทร์ หนั มาถามความเห็น
จากฉันว่าชอบไหม ซึง่ ฉันก็ชอบมันจริ งๆนัน่ แหละ มันสวยมาก...

“กินข้ าวมายัง” คนตัวสูงที่เดินเคียงข้ างถามขึ ้น

ฉันปรายตาไปมองพี่คินทร์ ที่เดินฉับๆไม่รอใคร ก่อนจะตอบไป “ข้ าว


เช้ ากินแล้ วค่ะ”

พี่คินทร์ ยกข้ อมือที่มีนาฬิกาเรื อนหรูขึ ้นมาดู ก่อนจะสอดส่ายสายตา


มองไปรอบๆเหมือนต้ องการจะหาอะไร

“เธอชอบกินอะไร” พลันเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ ้นเพื่อถามฉัน

“นํ ้ากินอะไรก็ได้ ค่ะ” ฉันตอบเสียงเบา

“ฉันไม่ชอบเรื่ องหยุมหยิมอะไรแบบนัน” ้ ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองพี่คินทร์ อีก


ครัง้ อย่างไม่คอ่ ยเข้ าใจนัก เพราะคําพูดที่เกริ่ นมาของเขามันดูไม่ได้ เกี่ยวกับเรื่ อง
อาหารการกินเลยแม้ แต่น้อย “หมายถึงเรื่ องแหวน...”

“…” ฉันร้ อง ‘อ๋อ’ ทันทีในใจ ที่แท้ ก็เรื่ องนี ้

“ฉันไม่ถนัดเรื่ องแบบนี ้ ก็เลยให้ แม่เป็ นคนเลือกไปเลย แล้ วก็ไม่ได้ มา


ถามความเห็นจากเธอก่อน”

“ไม่เป็ นไรค่ะ นํ ้าเข้ าใจ” ฉันพยักหน้ ารับก่อนจะส่งยิ ้มให้ คนตัวสูง


แต่พอเห็นเขาขมวดคิ ้วกลับมาให้ ยิ ้มที่ตงใจส่
ั ้ งไปก็เป็ นอันต้ องหุบลง
โดยฉับพลัน แต่การกระทําต่อมาของพี่คินทร์ กลับทําให้ หวั ใจฉันทํางานหนักจนน่า
กลัว เขายื่นมือมาคว้ าข้ อมือฉันไว้ แล้ วดึงให้ เดินตามไป โดยที่ไม่ร้ ูเลยว่าเขากําลังจะ
พาฉันไปที่ไหนกันแน่

“…” พี่คินทร์ เดินดุม่ ๆไม่สนใครเลย

“เราจะไปไหนกันคะ” ฉันถามออกไป โดยที่ขาก็กําลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งตาม


เขาอยู่

“ไปกินข้ าว”

แค่กินข้ าว ทําไมต้ องกระชากลากถูฉนั แบบนี ้ด้ วยนะ เหนื่อยจัง...


T^T
หลังจากเดินหาร้ านข้ าวในห้ างได้ ไม่กี่นาที เราทังสองคนก็
้ มาฝากท้ อง
กันที่ยาโยอิ ฉันกับพี่คินทร์ นงั่ อยู่ตรงข้ ามกัน เขาไม่ได้ มองฉันเลย เอาแต่นงั่ เล่น
โทรศัพท์อย่างเดียว แต่ทําไมฉันต้ องมองเขาตลอดเวลาแบบนี ้ก็ไม่ร้ ู ฉันรู้แค่วา่ อยาก
มองหน้ าพี่คินทร์ เพียงเท่านัน้ ใบหน้ าหล่อใสของพี่คินทร์ ทําให้ เวลาที่มองไม่ร้ ูสกึ เบื่อ
เลย ตอนเขาทําหน้ านิ่ง มันดูหล่อแบบแบดบอยมาก แต่พอเขายิ ้มออกมา มันกลับ
แปรเปลี่ยนไปเป็ นน่ารักทันที

นัง่ รอไปได้ อีกไม่กี่นาที อาหารที่เราสัง่ ก่อนหน้ านี ้ก็ถกู พนักงานของร้ าน


นํามาเสิร์ฟ ฉันรับอาหารในส่วนของตัวเองมา ส่วนพี่คินทร์ ก็รับในส่วนของตัวเองไป
ด้ วยเช่นกัน ฉันเริ่ มตักอาหารกิน ในขณะที่พี่คินทร์ ก็เริ่ มกินแล้ วเหมือนกัน
“เธอต้ องไปอยู่เชียงใหม่กบั ฉัน รู้ยงั ” เสียงทุ้มของพี่คินทร์ ถามขึ ้น

ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองเขา แต่เขากลับไม่ได้ มองหน้ าฉัน “นํ ้ารู้แล้ วค่ะ”

“สามเดือน” พี่คินทร์ ตอบกลับมา คําว่า ‘สามเดือน’ ทําให้ คิ ้วของฉัน


ขมวดอย่างงุนงง

“…”
“เธอต้ องอยู่กบั ฉันสามเดือน พอหลังจากสามเดือน เราจะถอนหมันกั
้ น
ทันที” คําพูดของพี่คินทร์ ทําให้ มือของฉันที่ถือช้ อนอยู่ชะงักกึก

แสดงว่าฉันต้ องไปอยู่ที่เชียงใหม่กบั เขาเป็ นเวลาสามเดือนงันเหรอ



ระยะเวลาเพียงสามเดือนเท่านันใช่
้ ไหมที่เราต้ องใช้ ร่วมกัน ทําไมฉันถึงไม่ร้ ูเรื่ องนี ้เลย
ไม่มีใครบอกฉัน หรื อว่าครอบครัวฉันไม่ร้ ูเรื่ องนี ้เลย

นัยน์ตาของฉันเริ่ มร้ อนผ่าวขึ ้นเรื่ อยๆ สมองก็เริ่ มมึนงงไปหมดแล้ วด้ วย


นี่มนั เรื่ องอะไรกัน

“…” ฉันกําช้ อนที่อยู่ในมือแน่นขึ ้น

หัวใจที่เต้ นอยู่ดอู ่อนล้ าลงไปมาก ทําไมมันถึงได้ ร้ ูสกึ เจ็บแปลบแปลกๆ


แบบนี ้นะ

“พรุ่งนี ้ก็หมันกั
้ นแล้ ว สถานะความสัมพันธ์ของเรามันเกิดขึ ้นเพราะ
ความผิดพลาด”
ใช่... สถานะของเราทังสองคนเกิ
้ ดขึ ้นจากความผิดพลาดในคืนนัน้ พี่คิ
นทร์ ไม่ได้ ตงใจจะทํ
ั้ าแบบนันกั
้ บฉัน และฉันก็ไม่ได้ ตงใจที
ั ้ ่จะยินยอมเขา แค่สถานะคน
รู้จกั ของเราทังสองคนยั
้ งยากที่จะเป็ นเลย

“ค่ะ นํ ้าเข้ าใจ” ฉันพยักหน้ ารับ ก่อนจะก้ มหน้ าลงมองข้ าวของตัวเอง


นํ ้าใสๆเอ่อคลอขึ ้นมาจนภาพตรงหน้ าลางเลือน มันค่อยๆไหลออกจากตาข้ างหนึง่
ของฉัน และหยดแหมะลงบนข้ าวที่อยู่ในภาชนะ ฉันตักข้ าวที่อยู่ในนันขึ ้ ้นมากินต่อ
รสชาติเค็มๆของนํ ้าตาถูกลิ ้นรับรสไปเต็มๆ ฉันรี บยกมือข้ างหนึง่ ขึ ้นเช็ดมันออกลวกๆ
เพื่อไม่ให้ พี่คินทร์ สงั เกตเห็น

ฉันคิดว่าที่พ่อบอกมามันคงยากสําหรับฉันแล้ วล่ะที่จะแสดงให้ พี่คินทร์


เห็นถึงความรักที่ฉนั มีให้ เขา มันยากเย็นยิ่งกว่าไต่ปีนภูเขาสูงๆด้ วยซํ ้า

วันหมัน้

ในที่สดุ ก็มาถึงวันหมันของฉั
้ นกับพี่คินทร์ ฉันอยู่ในห้ องที่บ้านของตัวเอง
ชุดที่สวมใส่ในตอนนี ้เป็ นชุดไทยสีครี ม ภาพสะท้ อนในกระจกทําให้ ฉนั มองเห็นว่า
ตัวเองตอนนี ้เป็ นแบบไหน ผมที่ถกู เกล้ าขึ ้นไว้ ทงหมดถู
ั้ กปิ่ นสีทองอําไพปั กเอาไว้ อีกที
ใบหน้ าถูกแต่งแต้ มด้ วยเครื่ องสําอางสีบางเบา

“สวยมากเลยไอ้ นํ ้าเอ๊ ย!” เสียงของเคทพูดแทรกขึ ้นมา

“นํ ้าต้ องไปอยู่กบั พี่คินทร์ แค่สองคนที่เชียงใหม่เหรอเคท” ฉันถามเค


ทผ่านกระจกบานใหญ่
“ฉันไปด้ วย แต่อยู่ห้องข้ างๆนะ”

ถ้ าถามว่าฉันอยากไปอยู่กบั พี่คินทร์ ไหม ฉันบอกได้ เต็มปากเต็มคําเลย


ว่าไม่อยาก ส่วนหนึง่ เป็ นเพราะฉันเป็ นผู้หญิง ถึงจะมีฐานะเป็ นคูห่ มันของพี
้ ่คินทร์ แต่
เราหมันกั
้ นแค่ในนามเท่านัน้ ในความเป็ นจริ งเราไม่ได้ เป็ นอะไรกันเลย

“นํ ้าไม่อยากไปเลย” ฉันขมวดคิ ้วมุ่น พูดออกไปอย่างหนักใจ

“เอาน่า... สามเดือนเอง แกจะกลัวอะไร ฉันก็อยู่ด้วย ถ้ าพี่คินทร์ ทํา


อะไรแกก็วิ่งมาบอกฉันที่ห้องได้ ไม่ต้องห่วง” ฉันไม่ได้ ห่วงเรื่ องพี่คินทร์ จะทําอะไร แต่
ฉันห่วงเรื่ องความไม่สบายใจของพี่คินทร์ ต่างหาก

“…” ฉันไม่ตอบเคท และเลือกที่จะถอนหายใจแทน

“ได้ ฤกษ์ แล้ วนํ ้า” เสียงของแม่ดงั ขึ ้นที่ด้านหลัง ฉันมองใบหน้ าของแม่


ที่สะท้ อนอยู่ในกระจก

แม่ยอมคุยกับฉันตังแต่
้ เมื่อคืน และแม่บอกฉันว่าที่แม่ดเุ พราะแม่ไม่
อยากให้ ฉนั ทําตัวเหลวไหล ไม่อยากให้ ฉนั กลายเป็ นเด็กไม่ดี แต่เรื่ องนี ้มันก็เกิดขึ ้นไป
แล้ ว แก้ ไขอะไรไม่ได้ มีแต่ต้องทําใจยอมรับกับความผิดพลาดที่เกิดขึ ้นเท่านัน้

“ไปนํ ้า ทําหน้ าให้ มนั ดีๆหน่อยสิ ดูทําหน้ าเข้ า” เคทหันมาพูดเสียงดุใส่


ฉัน พลางยื่นมือมาหยิกแก้ มฉันด้ วย

ฉันยิ ้มน้ อยๆให้ เธอกลับไป จะให้ ทําหน้ าดีได้ ยงั ไง ในเมื่อคนที่หมันด้


้ วย
เขาไม่ได้ มีความรู้สกึ อะไรต่อกันเลย
งานหมันของฉั
้ นกับพี่คินทร์ ถกู จัดขึ ้นที่บ้านของฉัน และไม่ได้ เชิญแขก
มาร่วมงาน มีเพียงแค่ครอบครัวฝั่ งฉันและครอบครัวฝั่ งพี่คินทร์ เท่านัน้ เป็ นงานเล็กๆที่
จัดกันเงียบๆภายในครอบครัว ไม่ได้ โอ่อ่าใหญ่โต เพราะเรื่ องแบบนี ้คงไม่มีใคร
อยากจะป่ าวประกาศออกไปให้ คนภายนอกได้ รับรู้ มันไม่ใช่เรื่ องที่ดีเท่าไหร่นกั

ฉันออกจากห้ องแต่งตัวพร้ อมกับแม่และเคท ส่วนพ่อแม่ของพี่คินทร์ รอ


อยู่ที่ห้องรับแขก พ่อของฉันก็รออยู่ที่นนั่ ด้ วย ส่วนพี่คินทร์ ก็คงกําลังนัง่ กระวนกระวาย
ใจอยู่ตรงนันเหมื
้ อนกัน

ยิ่งจะเดินถึงห้ องรับแขกมากเท่าไหร่ หัวใจของฉันก็กระหนํ่าเต้ นมากขึ ้น


เท่านัน้ มันเป็ นงานหมันครั
้ ง้ แรกในชีวิตของฉัน และต่อจากนี ้ไป ฉันไม่มีทางรู้เลยว่า
ชีวิตหลังจากนี ้ของฉันจะเป็ นแบบไหน หลังจากสามเดือนที่ฉนั ไปอยู่กบั พี่คินทร์ ที่
เชียงใหม่ เราก็ต้องถอนหมันกั ้ น และเราทังสองคนอาจจะกลายเป็
้ นคนแปลกหน้ ากัน
ไปเลยก็ได้

“มาแล้ วๆ” เสียงของแม่พี่คินทร์ พดู ขึ ้น

ทุกคนที่อยู่ภายในห้ องรับแขกต่างหันมามองฉันเป็ นตาเดียว หนึง่ ในนัน้


ก็มีสายตาของพี่คินทร์ ที่จ้องมองมายังฉันด้ วย เขามองฉันนิ่งๆ ไม่ได้ ยิ ้ม แล้ วก็ไม่ได้
ขมวดคิ ้ว แม่ประคองฉันเข้ าไปยังที่ที่พี่คินทร์ นงั่ อยู่ ก่อนจะกระซิบบอกให้ ฉนั นัง่ ลงข้ าง
พี่คินทร์ ทันทีที่ร่างของฉันทรุดตัวลง พี่คินทร์ ก็ขยับร่างกายห่างออกจากฉันทันที

ฉันปรายตาไปมองว่าที่คหู่ มันของตั
้ วเอง พยายามข่มความเสียใจเอาไว้
ให้ ลกึ ที่สดุ เค้ นรอยยิ ้มไปให้ เขา ก่อนจะหันไปมองพ่อแม่ของพี่คินทร์ ที่นงั่ อยู่เบื ้องหน้ า
“เริ่ มกันเลยนะครับ” พ่อของฉันพูดขึ ้น

แม่บอกฉันตังแต่ ้ เมื่อคืนแล้ วว่าจะต้ องทําอะไรยังไงบ้ าง ขันแรกคื


้ อฉัน
และพี่คินทร์ ต้องไหว้ ผ้ หู ลักผู้ใหญ่กนั ก่อน ฉันหันไปมองพี่คินทร์ ที่นงั่ อยู่ข้างกาย พลาง
เม้ มริ มฝี ปากตัวเองไว้ พี่คินทร์ ปรายตามามองฉันพร้ อมกับพยักหน้ าสองทีคล้ ายกับว่า
ให้ ฉนั เตรี ยมตัวเริ่ มพิธีหมันได้
้ เลย

ฉันขยับเข้ าไปใกล้ ๆพี่คินทร์ เราสบตากันอยู่ครู่หนึง่ ก่อนจะหันมามอง


พ่อกับแม่ของพี่คินทร์ ที่นงั่ อยู่ตรงหน้ า สองมือของฉันพนมขึ ้น พี่คินทร์ ก็เช่นเดียวกัน
เราทังสองคนก้
้ มลงไหว้ พ่อกับแม่ของพี่คินทร์ ก่อน ฝ่ ามือของพ่อกับแม่ของพี่คินทร์
เอื ้อมมาลูบหัวของฉันเบาๆ เสียงกล่าวของแม่พี่คินทร์ ก้มลงกระซิบที่ข้างหูฉนั

“แม่ขอโทษแทนสิ่งที่ลกู ชายของแม่ได้ ทําด้ วยนะลูก ยกโทษให้ พี่เขา


ด้ วย แม่ฝากนํ ้าช่วยดูแลพี่เขาแทนแม่ด้วยนะ ถึงจะหนักหนาบ้ าง แต่แม่อยากให้ นํ ้า
อดทนนะลูก แม่เชื่อว่าจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ ้นหลังจากนี ้แน่นอน”

ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองหน้ าแม่ของพี่คินทร์ เธอยิ ้มให้ ฉนั น้ อยๆ พลางพยัก


หน้ าให้ ฉันหันไปมองพ่อของพี่คินทร์ บ้าง พ่อของพี่คินทร์ พดู ขึ ้นว่า “ขอต้ อนรับเข้ าสู่
ครอบครัวภัทรวิเชียรชัยกุลนะแมวนํ ้า พ่อไม่มีอะไรจะพูดมากมาย จะบอกก็แค่ให้ นํ ้า
อดทนเท่านัน้ แล้ วทุกอย่างจะดีขึ ้นเอง”

จบคําพูดทังสองท่
้ านก็หนั ไปพูดกับพี่คินทร์ บ้าง
“ดูแลน้ องด้ วยนะคินทร์ พ่อสอนให้ คินทร์ เป็ นสุภาพบุรุษนะ
เพราะฉะนันคิ ้ นทร์ ต้องทําหน้ าที่ดแู ลน้ องให้ ดีๆ รักษาน้ องเอาไว้ แล้ ววันหนึง่ คินทร์ จะ
รู้ว่าที่พ่อกับแม่ทําแบบนี ้เพราะอะไร” พ่อพี่คินทร์ พดู เป็ นคนแรก

“น้ องยังเด็กมากนะคินทร์ แม่อยากให้ คินทร์ ถนอมนํ ้าใจของน้ องด้ วย


ปากคอที่เราะรายก็เพลาๆลงบ้ าง” ส่วนประโยคนี ้เป็ นคําพูดจากปากแม่ของพี่คินทร์

คนตัวสูงด้ านข้ างหันมามองฉันอีกครัง้ คราวนี ้เขาขมวดคิ ้วจ้ องหน้ าฉัน


ท่าเดียวเลย ฉันหลุบตาลงมองมือที่พนมอยู่ของตัวเองแทน เลี่ยงที่จะสบตากับพี่คิ
นทร์ ไป สักพักเราทังสองคนก็
้ ก้มลงไหว้ พ่อแม่ของพี่คินทร์ อีกครัง้ ก่อนจะขยับไปไหว้
พ่อแม่ของฉันบ้ าง

พ่อยิ ้มให้ ฉนั แต่ไม่ได้ พดู อะไรด้ วย พ่อเลือกที่จะหันไปพูดกับพี่คินทร์


แทน “พ่อฝากน้ องด้ วยนะคินทร์ ”

พี่คินทร์ เงียบไป แต่สกั พักเขาก็ตอบรับพ่อฉันไปว่า “ครับ”

“แม่ฝากดูแลแมวนํ ้าด้ วยนะ ไม่มีใครอยากให้ เรื่ องแบบนี ้เกิดขึ ้น แต่ใน


เมื่อมันเกิดไปแล้ วก็แก้ ไขอะไรไม่ได้ มีแต่ต้องก้ มหน้ ายอมรับเท่านัน้ แม่ฝากคินทร์
ดูแลน้ องด้ วย” แม่ฉนั พูดบ้ าง

พี่คินทร์ หนั มามองฉันอีกรอบ พลางตอบรับแม่ฉนั ไปว่า “ครับ”

เราทังสองคนก้
้ มลงไหว้ พ่อแม่ฉนั อีกครัง้ ก่อนจะผละออกมานัง่ ต่อหน้ า
ทังสี
้ ่คน พี่คินทร์ ทําหน้ าที่เป็ นคนเปิ ดขันหมากหมันออก้ ในนันมี
้ กล่องแหวนที่เราไป
เลือกซื ้อกันมา แล้ วก็มีพวกของสําหรับพิธีหมันด้ ้ วย พี่คินทร์ หยิบกล่องแหวนหมัน้
ออกมา เขาคว้ าเอาแหวนเพชรที่มีเพชรสามเม็ดที่สลักชื่อของเขาขึ ้นมา ช้ อนตาขึ ้น
มองฉันเขม็ง ก่อนจะคว้ ามือฉันไปจ่อที่วงแหวนนัน้ แหวนวงนันถู ้ กพี่คินทร์ สวมเข้ ามา
ช้ าๆ มันหยุดลงเมื่อสิ ้นสุดที่โคนนิ ้วนางข้ างซ้ ายของฉัน

สิ ้นสุดการสวมแหวนหมันให้้ ฉนั ฉันก็เอื ้อมมือไปหยิบแหวนหมันของ



พี่คินทร์ มาบ้ าง พลางส่งมือที่สนั่ ไหวของตัวเองไปคว้ ามือใหญ่ของเขามาอย่างกล้ าๆ
กลัวๆ ฉันจ่อแหวนของพี่คินทร์ ลงตรงนิ ้วนางข้ างซ้ าย ก่อนจะสวมมันเข้ าไปที่นิ ้วของ
คนตัวสูงจนสุดโคนนิ ้ว พี่คินทร์ ชกั มือกลับอย่างรวดเร็วเมื่อฉันสวมแหวนหมันให้
้ เขา
เสร็จ

วินาทีนนหั
ั ้ วใจฉันกระตุกวูบเล็กน้ อย มันใจหายนิดหน่อยที่โดนเขาทํา
แบบนี ้ใส่ แต่ฉนั ก็ไม่โทษพี่คินทร์ หรอก คนไม่ได้ รักกัน มาหมันกั
้ นมันก็ต้องเป็ นแบบนี ้
เป็ นธรรมดานัน่ แหละ

“มาถ่ายรูปกันดีกว่านะคะ เดี๋ยวเคทถ่ายให้ ” สิ ้นสุดการสวมแหวน


หมัน้ เคทก็ตะโกนขึ ้นมาเสียงดัง

“เดี๋ยวพี่ถ่ายให้ ดีกว่า” แต่แล้ วคนอาสากลับกลายเป็ นพี่เฟี ยตที่ยืนนิ่ง


เงียบอยู่นาน

เคทหันไปยิ ้มให้ พี่เฟี ยต “ขอบคุณค่ะพี่เฟี ยต” เธอยื่นกล้ องถ่ายรูปไป


ให้ พี่เฟี ยต ก่อนจะวิ่งเข้ ามานัง่ อยู่ทางฝั่ งฉัน เคทจับฉันให้ หมุนตัวไปนัง่ หน้ ากล้ อง เธอ
ดันฉันเข้ าไปใกล้ พี่คินทร์ นิดหน่อย
ไหล่ฉนั กระทบกับไหล่ของพี่คินทร์ เบาๆ ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองเขา แต่พอ
สายตาคมดุของพี่คินทร์ มองเขม็งตอบกลับมาก็ทําให้ ฉนั ถึงกับสะดุ้งจนต้ องหัน
กลับไปมองกล้ องที่พี่เฟี ยตถือแทน

“จับมือกันด้ วยดิพี่คินทร์ !” เสียงของเคทดังขึ ้นมาในจังหวะที่ชตั เตอร์


ของกล้ องในมือพี่เฟี ยตลัน่

“ทําไมพี่ต้องจับด้ วยวะ” เสียงทุ้มแกมหงุดหงิดตอบเคทกลับไป

“ไม่เป็ นไรหรอกเคท ไม่ต้องจับก็ได้ นํ ้าก็ร้อนเหมือนกัน นํ ้า...”

หมับ!

ยังไม่ทนั ที่ฉนั จะพูดจบประโยค จู่ๆมือของพี่คินทร์ ก็เอื ้อมมาคว้ ามือฉัน


ไว้ เขาขมวดคิ ้วมองฉันตาดุเลย มุมปากของพี่คินทร์ ยกขึ ้นเล็กน้ อย คล้ ายกับจะ
หัวเราะเยาะฉัน เสียงทุ้มของพี่คินทร์ เอ่ยออกมาเสียงเบา เหมือนจงใจจะให้ แค่ฉนั ได้
ยิน

“ร้ อนตายไปเลยยัยอุ๋ง!” เขาพูดเพียงเท่านันก็


้ หนั ไปมองกล้ อง
เหมือนเดิม

อ่า....

‘ร้ อนตายไปเลยยัยอุ๋ง’ ยัยอุ๋งเหรอ พี่คินทร์ เรี ยกฉันว่ายัยอุ๋งเหรอ ฉันชื่อ


แมวนํ ้าต่างหาก T_T
มือที่โดนพี่คินทร์ กมุ ไว้ ตอนนี ้ไม่ได้ ร้อนตามที่ปากบอก แต่มนั กลับมา
ร้ อนที่ใบหน้ าของฉันแทน โดยเฉพาะสองข้ างแก้ มของฉันที่ร้อนเป็ นพิเศษด้ วย ให้ ตาย
สิอ๋งุ ...
************

“ดูแลตัวเองดีๆนะลูก” นํ ้าเสียงแกมห่วงใยของแม่พดู กับฉันด้ วยความ


สัน่ เครื อ

วันนี ้เป็ นวันที่ฉนั ต้ องเดินทางไปที่เชียงใหม่กบั พี่คินทร์ โดยมีเคทนัง่ รถ


ไปด้ วย ส่วนพี่เฟี ยตนัง่ รถของเขาไปอีกคันหนึง่ ตอนนี ้แม่กบั พ่อมาส่งฉันที่บ้านพี่คิ
นทร์ พี่คินทร์ ทําหน้ าที่ขนกระเป๋ าขึ ้นรถให้ ฉนั กับเคท ปล่อยให้ ฉนั ได้ มีเวลารํ่ าลาพ่อแม่
ซึง่ ฉันได้ นอนทําใจมาทังคื ้ นแล้ ว แต่พอจะไปจริ งๆ มันกลับรู้สกึ เคว้ งคว้ างเกินจะ
บรรยาย

“แม่คะ” ฉันเรี ยกแม่เสียงเบา พลางหันไปมองพ่อที่ยืนอยู่ข้างแม่ด้วย


“พ่อคะ”

“ไปเถอะนํ ้า เดี๋ยวสามเดือนก็ได้ เจอพ่อแล้ ว” พ่อว่า พร้ อมกับยื่นมือ


มาบีบไหล่ฉนั เบาๆ

ใช่... สามเดือนเดี๋ยวฉันก็ได้ เจอพ่อกับแม่แล้ ว แต่เรื่ องที่พี่คินทร์ บอกฉัน


ว่าหลังจากสามเดือนนันเราจะถอนหมั
้ นกั
้ นทันที ดูเหมือนว่าเรื่ องนี ้พ่อกับแม่ฉนั จะยัง
ไม่ร้ ูเรื่ องราวอะไร ซึง่ ฉันก็ไม่อยากบอกพวกท่านเหมือนกัน ฉันไม่อยากให้ พ่อกับแม่
ต้ องเป็ นกังวลเรื่ องนี ้ ถ้ าถึงเวลาที่ต้องถอนหมันกั
้ นจริ งๆ ฉันจะเป็ นคนบอกพ่อกับแม่
เองว่าฉันเป็ นคนขอถอนหมันกั ้ บพี่คินทร์ เอง

“นํ ้าคงคิดถึงพ่อกับแม่แย่เลย” ฉันมองหน้ าคนเป็ นพ่อแม่ รู้สกึ


อยากจะมองพวกท่านไม่ละสายตาเลย

“นํ ้า ขึ ้นรถเร็ว พี่เฟี ยตมาแล้ ว” เสียงเคทตะโกนขึ ้นที่ด้านหลังฉัน

ฉันหันไปหาเคท เสียงรถยนต์ของพี่เฟี ยตถูกขับเข้ ามาในบ้ านของพี่คิ


นทร์ ฉันหันมาหาพ่อกับแม่ ก่อนจะยกมือไหว้ ทงสองคน ั้ และโผเข้ าไปกอดพวกท่า
เอาไว้ ไออุ่นที่ฉนั ได้ สมั ผัสมาตลอดทังชี
้ วิต ต่อจากนี ้ฉันต้ องห่างมันไป รู้สกึ ใจหายจน
ไม่ร้ ูจะอธิบายออกมาเป็ นคําพูดยังไงเลย

“ดูแลตัวเองดีๆลูก” แม่พมึ พําข้ างหูฉนั พลางลูบแผ่นหลังฉันเบาๆ

“ถ้ าถึงแล้ วเดี๋ยวนํ ้าโทรหานะคะแม่” ฉันพึมพํากับแม่

“เดินทางดีๆนะลูก” พ่อบอก พลางยกมือขึ ้นลูบหัวฉันเบาๆ

โลกใบนี ้มีความรักบางอย่างที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครสามารถให้ ได้


คือความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกเท่านัน้ ถึงแม้ ลกู จะทําผิดมากแค่ไหน แต่ไม่มีครัง้ ไหน
เลยที่คนเป็ นพ่อแม่จะโกรธเกลียดลูก มันเป็ นความรักที่พิเศษที่สดุ ในโลก และหาที่
ไหนไม่ได้ อีกแล้ ว ฉันคิดว่าความรักของพวกท่านทังสองคนมั
้ นยิ่งใหญ่มากมายเกิน
กว่าจะนับได้ ด้วยซํ ้า
ฉันผละออกจากอ้ อมกอดอบอุ่นของพ่อกับแม่ ยกมือขึ ้นไหว้ ลาพวก
ท่านเป็ นครัง้ สุดท้ าย ก่อนจะหมุนตัวหันหลังเดินไปขึ ้นรถที่เบาะหลัง แต่ในจังหวะที่จะ
ก้ าวขึ ้นรถ เคทก็ตะโกนออกมาว่า “ไปนัง่ ข้ างหน้ ากับพี่คินทร์ โน่นเลยไอ้ นํ ้า”

“…” ฉันอึ ้งไปเล็กน้ อยกับประโยคชัว่ ครู่ของเคท

จะให้ ฉนั ไปนัง่ ด้ านหน้ ากับพี่คินทร์ ได้ ยงั ไง ในเมื่อเขาไม่อยากให้ ฉนั นัง่
ด้ วยเลยด้ วยซํ ้า ฉันปรายตาไปมองพี่คินทร์ ที่นงั่ ประจํายังที่นงั่ คนขับ ก่อนจะเม้ มริ ม
ฝี ปากแน่น ขาก็ชะงักค้ างอยู่แบบนัน้ พี่คินทร์ มองฉันผ่านกระจกมองหลัง สายตาของ
เขาที่ใช้ มองมันดุจนฉันอยากจะร้ องไห้ เลย

“จะไปได้ ยงั ชักช้ าอยู่ได้ !” เสียงทุ้มของเขาเอ่ยขึ ้นด้ วยความหงุดหงิด

“…” ฉันก้ มหน้ างุด ก้ าวเท้ าขึ ้นรถต่อไป

“มานัง่ ข้ างหน้ า!” แต่ยงั ไม่ทนั ที่จะได้ หย่อนก้ นลงบนเบาะ เสียงทุ้ม


ของเขาก็ตวาดลัน่ รถจนทําฉันสะดุ้ง

ฉันหันไปมองเคทที่นงั่ ก้ มหน้ าก้ มตาเล่นโทรศัพท์อยู่ เธอไม่สนใจฉันเลย


ด้ วย อะไรกัน ไหนบอกว่าจะมาช่วยปกป้องฉันจากพี่คินทร์ ไง

ฉันยู่ปากให้ เคทที่เอาแต่ก้มหน้ าก้ มตาเล่นโทรศัพท์ไม่สนโลกใดๆ ก่อน


จะขยับร่างกายออกมาจากเบาะหลัง และลงไปเปิ ดประตูรถขึ ้นไปนัง่ เบาะหน้ าข้ างพี่คิ
นทร์ คนตัวสูงปรายตามามองฉันนิ่งๆ เขาขมวดคิ ้วให้ ฉนั ไม่เมื่อยบ้ างหรื อไงนะ ขมวด
คิ ้วให้ ฉนั ทุกรอบที่เรามองหน้ ากันแบบนี ้ เสียงสตาร์ ตรถดังขึ ้นต่อจากนัน้
ฉันลดกระจกรถลงเพื่อโบกมือลาพ่อกับแม่ รถเคลื่อนผ่านใบหน้ าของ
ทังสองคนไป
้ ฉันถอนหายใจและกดกระจกรถขึ ้น ก่อนจะเอนหัวซบลงกับเบาะด้ วย
ความเหนื่อยล้ าในจิตใจ วันนี ้จะเป็ นยังไง ใครจะรู้อนาคตข้ างหน้ ากัน

KINN Talks.
ดูเอาเถอะ ขึ ้นรถปุ๊ บก็นอนปั๊ บ จะสบายเกินไปแล้ วนะยัยอุ๋ง !

พอกลับไปถึงเชียงใหม่ ผมก็ต้องไปขนของย้ ายออกจากห้ องไอ้ เฟี ยตอีก


เพราะต้ องเอายัยอุ๋งนี่ไปอยู่ที่ห้องของตัวเองด้ วย ก่อนหน้ านี ้แม่บงั คับให้ ผมโทรไปจอง
ห้ องพักที่ว่างอยู่ข้างๆห้ องไอ้ เฟี ยตห้ องหนึง่ แล้ วก็ห้องว่างที่อยู่ตรงข้ ามกับห้ องผมอีก
ห้ องหนึง่ โดยที่ห้องข้ างไอ้ เฟี ยตจะเป็ นห้ องของผมกับยัยอุ๋ง ส่วนห้ องตรงข้ ามจะเป็ น
ของน้ องสาวของผม

แม่บงั คับให้ เคทไปอยู่ที่เชียงใหม่กบั ยัยอุ๋งนี่ด้วย เพราะต้ องการให้ มนั ไป


สอดแนมแล้ วก็คอยแจ้ งข่าวว่าผมรังแกลูกสะใภ้ สดุ ที่รักของเขาไหม แต่ผมบอกตรงนี ้
เลยว่าจะมีปัญญาที่ไหนไปรังแกเขา แตะนิดต้ องหน่อยผมก็เจอด่าแล้ ว ขนาดไอ้ เฟี ยต
ที่เป็ นเพื่อนรักเพื่อนตายของผมแท้ ๆ มันยังเทศนาผมไปตังหลายยก ้

ผมปรายตาไปมองเด็กที่เพิ่งกลายเป็ นคูห่ มันของผมไม่


้ กี่วนั ที่แล้ ว
ความจริ งเธอก็เป็ นคนสวย สวยมากเลยด้ วยซํ ้า ผิวขาว แก้ มป่ อง น่ารัก ดูรวมๆแล้ ว
โคตรสวย แต่การที่เธอเข้ ามาทําให้ ชีวิตโสดที่ผมรักต้ องพังทลายลงแบบนี ้ ผมก็ชอบ
เธอไม่ลงหรอกนะ

“มองไรอ่ะ!”
“แค่กๆ!” เสียงเคทที่ดงั ขึ ้นทางด้ านหลัง ทําเอาผมถึงกับสําลักอากาศ
ขึ ้นมา

“ไอกลบเกลื่อนเหรอพี่คินทร์ ร้ ายนะ” เสียงล้ อเลียนของเคท ทําให้ หวั


คิ ้วของผมเริ่ มขยับเข้ าหากัน ผมรู้ว่ายัยน้ องสาวตัวดีกําลังแซวผมอยู่

“อยู่เงียบๆเป็ นไหมเคท เดี๋ยวถีบลงรถเลย!” ผมดุคนเป็ นน้ องสาว


กลับไป เพื่อจะหวังให้ มนั หยุดแซว

“ถีบเคทลงแล้ วจะได้ หาเวลาอยู่กบั แมวนํ ้าสองคนอ่ะดิพี่คินทร์ แผนสูง


นะเราอ่ะ” แต่มนั ก็ยงั ไม่วายล้ อเลียนผมเหมือนเดิม

“ไอ้ เคท!” ผมตวาดน้ องสาวของตัวเองเสียงดัง

ยัยอุ๋งที่เอนหัวซบเบาะไปเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ วถึงกับผงกหัวขึ ้นมามอง


ผมรี บโฟกัสความสนใจไปที่การขับรถต่อทันที ไม่ได้ อยากมองขนาดนันนะเว้ ้ ย!

หลังจากนัง่ ขับรถหลังขดหลังแข็งมา ในที่สดุ เป้าหมายก็อยู่ไม่ไกลเกิน


เอื ้อม รถของผมกับไอ้ เฟี ยตเคลื่อนตัวเข้ าซอยซึง่ เป็ นที่อยู่ที่ผมใช้ พํานักพักพิงกับไอ้
เฟี ยตมานานระหว่างที่เรี ยนชันอุ
้ ดมศึกษาที่เชียงใหม่ ผมปิ ดเครื่ องยนต์ และหันไป
มองเคทกับยัยอุ๋งที่นอนหลับเป็ นตายอยู่

“อุ๋ง...” ผมเอื ้อมมือไปสะกิดที่ไหล่ของเธอเบาๆ แต่ทว่าก็ยงั ไม่มีการ


ลืมตาขึ ้นมาแต่อย่างใด “ยัยอุ๋ง!” จนกระทัง่ เรี ยกเป็ นหนที่สอง เธอก็ยงั ไม่ตื่นขึ ้นมา
อีก
ขี ้เซาไปถึงไหน นํ ้าลายไหลเปื อ้ นเบาะรถผมบ้ างหรื อเปล่าก็ไม่ร้ ู

“เคท!” ผมเปลี่ยนทิศทางไปปลุกคนเป็ นน้ องสาวแทน

เคทค่อยๆลืมตาขึ ้นมา ก่อนจะบิดขี ้เกียจไปมา แล้ วมองผมอย่างงุนงง


“ถึงแล้ วเหรอพี่คินทร์ ”

“ถึงแล้ ว” ผมบอกเคท ก่อนจะบุ้ยปากให้ คนเป็ นน้ องสาวดูสภาพเพื่อน


ของตัวเอง “ปลุกยังไง”

“หอมแก้ มเลยพี่คินทร์ รับรองตื่น” ทันทีที่ได้ รับประโยคกวนประสาท


กลับมา ผมถึงกับต้ องถลึงตาตอบกลับไปแทน คําตอบที่เป็ นประโยชน์ไม่เคยหลุดออก
จากปากมันเลย

“จะบ้ าเหรอไอ้ เคท!” ผมส่งค้ อนให้ คนเป็ นน้ องสาว ก่อนจะหันไปหา


คนตัวเล็กขี ้เซาที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ มือข้ างหนึง่ เอื ้อมไปตบที่แก้ มนุ่มเบาๆเพื่อเรี ยกเธอ
ให้ ตื่นขึ ้นมา “อุ๋ง!”

“อื ้อ...” เสียงครางงึมงําดังออกมาจากปากเธอ ยัยอุ๋งขยับตัวยุกยิก


ราวกับรํ าคาญ ร่างกายของเธอเบียดเข้ าหาเบาะรถมากขึ ้น

“อุ๊บ... ฮ่าๆๆ!” แล้ วเสียงหัวเราะจากเคทก็ดงั ขึ ้นมาแทนที่


“หัวเราะอะไร! รับมาปลุกเพื่อนแกให้ ไปช่วยพี่ขนของขึ ้นห้ องเลยนะ
สัมภาระเยอะแยะ พี่ขนคนเดียวไม่หมดหรอก” ผมบอกเคทกลับไปด้ วยนํ ้าเสียง
หงุดหงิด ก่อนจะเปิ ดประตูรถแล้ วเดินลงไปเพื่อจะขนของขึ ้นห้ อง

ในเมื่อปลุกแล้ วไม่ตื่น ก็เชิญนอนกินบ้ านกินเมืองไปแล้ วกัน!


MAWNUM Talks.
“นํ ้า...”

เสียงเรี ยกแสนคุ้นเคยดังขึ ้นที่ข้างหูฉนั ซํ ้าๆ จนสิ่งที่ฉนั คิดว่าตัวเองฝั น


มันเริ่ มจะกลับกลายเป็ นความจริ งแล้ ว เปลือกตาที่หนักอึ ้งของฉันค่อยๆลืมขึ ้น
ใบหน้ าของเคทเป็ นสิ่งแรกที่ฉนั มองเห็น

“เคท...” ฉันเรี ยกชื่อเคทเสียงเบา ก่อนจะกวาดสายตาออกไปมอง


นอกรถ

สภาพแวดล้ อมภายนอกไม่ค้ นุ ตาเลย ฉันขมวดคิ ้วกวาดมองไปทัว่ หรื อ


ว่านี่จะเป็ นเมืองเชียงใหม่ ถึงเชียงใหม่แล้ วงันเหรอ

“ถึงแล้ วนะ ลงจากรถกันเร็ว ซาตานเริ่ มสิงร่างพี่คินทร์ แล้ ว รี บไปช่วย


พี่คินทร์ ขนของขึ ้นห้ องกันเถอะ” เคทบอกเสียงเครี ยด ก่อนจะเปิ ดประตูรถแล้ วเดินลง
ไปอย่างรวดเร็ว
ฉันรี บขยี ้ตาเพื่อปรับโฟกัสภาพด้ านหน้ าที่ยงั คงเลือนรางอยู่ให้ ชดั เจน
ขึ ้น มือข้ างหนึง่ เอื ้อมไปเปิ ดประตูรถ ก่อนที่ขาจะก้ าวลงจากรถไป สภาพแวดล้ อมของ
ที่นี่น่าอยู่มากเลย อากาศดีมากด้ วย

“จะกินลมชมวิวอีกนานไหม มาช่วยกันขนของหน่อย” แต่แล้ วเสียงดุ


จากพี่คินทร์ กลับทําให้ ความคิดของฉันถูกจิ ้มแตกราวกับลูกโป่ งพองลมที่โดนเด็กมือ
บอนเอาเข็มมาจิ ้มเลย

“ไม่ต้องหรอกนํ ้า เดี๋ยวพี่ขนขึ ้นไปให้ เอง” มือของฉันยังไม่ทนั ได้ สมั ผัส


กระเป๋ า จู่ๆก็มีมือข้ างหนึง่ ของบุคคลปริ ศนายื่นมาคว้ ากระเป๋ าสัมภาระใบโตจากฉัน
ไปต่อหน้ าต่อตา

ฉันเงยหน้ ามองผู้มาใหม่ ก่อนจะยิ ้มให้ เมื่อรู้ว่าเขาเป็ นใคร “ขอบคุณ


นะคะพี่เฟี ยต”

“ไม่เป็ นไร นํ ้าเป็ นผู้หญิง พี่เป็ นผู้ชาย ของหนักๆก็ให้ ผ้ ชู ายขนไป นํ ้าไป


ขนของเบาๆเถอะ” พี่เฟี ยตว่า ก่อนจะยกกระเป๋ าใบโตของฉันเดินดุม่ ๆเข้ าตึกไป

ฉันเหลือบตามองพี่คินทร์ ที่ขมวดคิ ้วยืนจ้ องฉันเขม็งอยู่ ก่อนจะต้ องเดิน


เลี่ยงมาอีกฝั่ งของรถ และใช้ ร่างของเคทที่ยืนอยู่เป็ นโล่กําบังของตัวเอง ฉันสะกิดเคท
เบาๆ “นํ ้าต้ องขนอะไรอ่ะเคท”

“ไม่มีอะไรต้ องขนแล้ ว พี่เฟี ยตบอกว่าของหนักๆเป็ นงานของผู้ชาย...”


เคทพูดเสียงยานตอนท้ ายประโยค และฉันเห็นด้ วยว่าเธอหันไปยักคิ ้วให้ พี่ชายตัวเอง
ฉันจะไม่โดนพี่คินทร์ ดใุ ช่ไหม ทําไมต้ องมองฉันด้ วยสายตาแบบนันด้
้ วย
นะ

การจัดห้ องใหม่ทงห้
ั ้ องที่ฉนั อยู่กบั พี่คินทร์ และห้ องของเคทใช้ เวลาไป
ร่วมสองชัว่ โมงด้ วยกัน เพราะข้ าวของที่เอามาจากกรุงเทพฯมีเยอะแยะ ต้ องวางตรง
นันจั
้ ดตรงนี ้อยู่ตลอด กว่าจะเสร็จก็ทําเอาฉันกับเคทแทบหมดแรงไปตามๆกัน เม็ด
เหงื่อผุดขึ ้นตามร่างกายจนรู้สกึ เหนียวตัว

“งันเคทกลั
้ บห้ องแล้ วนะพี่คินทร์ ” เคทบอกพี่คินทร์ ที่ตอนนี ้นอน
แผ่หลาอยู่บนโซฟาด้ วยเสียงกระท่อนกระแท่นปนหอบนิดๆ

“อือ...” พี่คินทร์ ครางรับเสียงเบา

ฉันมองเคทที่ชสู องนิ ้วมาให้ ก่อนที่เธอจะเดินออกไป ทังห้ ้ องตอนนี ้เลย


เหลือแค่ฉนั กับพี่คินทร์ เท่านัน้ ฉันนัง่ อยู่ที่เก้ าอี ้ตรงโต๊ ะเขียนหนังสือ และไม่ร้ ูด้วยว่า
ตอนนี ้ควรจะทําอะไรต่อไป ฉันอาบนํ ้าได้ ไหมนะ เหนียวตัวจะแย่แล้ ว

“พี่คินทร์ ...คะ” ฉันเอ่ยเรี ยกพี่คินทร์ เสียงเบา ดูเหมือนเขาจะหลับตา


อยู่ด้วย “นํ ้า... อาบนํ ้าได้ ไหมคะ”

“ไม่ได้ เกาะขาเธอไว้ นะยัยอุ๋ง อยากอาบก็อาบไปสิ” และประโยคที่พี่คิ


นทร์ ตอบกลับมาทําเอาฉันแทบจะหน้ าหงายเลย

นัน่ สินะ เขาไม่ได้ เอาโซ่มาคล้ องข้ อเท้ าฉันไม่ให้ เดินไปอาบนํ ้าซะหน่อย


ทําไมฉันจะอาบไม่ได้ เฮ้ อ...
ฉันค่อยๆลุกจากเก้ าอี ้เพื่อให้ เกิดเสียงเบาที่สดุ เท่าที่จะทําได้ ก่อนที่เท้ า
จะย่องไปยังตู้เสื ้อผ้ า ฉันเปิ ดประตูต้ เู สื ้อผ้ าออก เสื ้อผ้ าของฉันกับพี่คินทร์ ถกู แขวนไว้
ด้ วยกัน และนัน่ ทําให้ จินตนาการของฉันถึงกับหลุดลอยไป ฉันเคยดูซีรีส์มาด้ วย ที่
พระเอกกับนางเอกแขวนเสื ้อผ้ าไว้ ด้วยกัน มันทําให้ ฉนั เขินมากๆเลย และตอนนี ้แก้ ม
ทังสองข้
้ างของฉันก็ร้อนฉ่าอย่างน่าอายด้ วย ทําไงดี

ฉันส่ายหัวสะบัดเรื่ องเพ้ อฝั นพวกนันออกไป


้ ก่อนจะหยิบชุดนอนสีขาว
ออกมา และเอื ้อมไปหยิบพวกชุดชันในที
้ ่วางอยู่ในชันด้
้ านล่าง ตอนนี ้ก็มืดแล้ วด้ วย
ปกติฉนั จะนอนประมาณสามทุ่มทุกวันเลย

เมื่อได้ ชดุ ที่ต้องการกับผ้ าขนหนูแล้ ว สองเท้ าของฉันก็เดินตรงไปที่


ห้ องนํ ้าทันที อยากอาบนํ ้าใจจะขาดแล้ วตอนนี ้

สามสิบนาทีผ่านไป

ฉันใช้ เวลาอาบนํ ้าไปประมาณครึ่งชัว่ โมง ก่อนจะโผล่ออกมาจาก


ห้ องนํ ้าด้ วยชุดนอนสีขาวไม่มีลายอะไร แต่แล้ วก็ต้องพบว่าคนตัวสูงได้ นอนหลับคา
โซฟาไปแล้ ว เสียงหายใจสมํ่าเสมอแต่หนักหน่วงจากพี่คินทร์ ทําให้ ฉนั รับรู้โดย
อัตโนมัติวา่ เขาเหนื่อยแค่ไหน

แต่วา่ ... เขายังไม่ได้ อาบนํ ้าเลยไม่ใช่เหรอ

ไวกว่าความคิดก็การกระทําของฉันนี่แหละ ฉันเดินเข้ าไปหาคนตัวสูงที่


นอนหลับอยู่ ก่อนจะค่อยๆโน้ มใบหน้ าไปมองคนตัวสูง ใบหน้ าหล่อเหลาขาวใสของ
พี่คินทร์ ทําให้ หวั ใจฉันเต้ นไม่เป็ นจังหวะเอาซะเลย พอตอนหลับฉันรู้สกึ ว่าพี่คินทร์ ไม่
เหมือนพี่คินทร์ คนเดิม น่ารักจังเลย...

รอยยิ ้มน้ อยๆปรากฏขึ ้นบนใบหน้ าฉัน แต่พอรู้ว่าตัวเองกําลังคิดเตลิด


ไปไกล ก็รีบส่ายหน้ าเพื่อไล่ความคิดไร้ สาระนัน่ ทิ ้งทันที ฉันเอื ้อมมือไปสะกิดที่ไหล่
ของพี่คินทร์ เบาๆ

“พี่คินทร์ คะ ไม่อาบนํ ้าเหรอคะ”

“อือ... ขออีกห้ านาที” เสียงทุ้มพึมพําตอบกลับมา

“แต่ตวั พี่คินทร์ เหม็นเหงื่อมากเลยนะคะ นํ ้าว่า...พี่คินทร์ ไปอาบนํ ้าก่อน


ดีกว่านะคะ”

“ก็บอกว่าขออีกห้ านาทีไง” คราวนี ้เสียงของเขาเข้ มขึ ้นกว่าเดิมอีกนิด


หน่อย

“แต่นํ ้าว่า...” แต่ฉนั หวังดีกบั เขานะ ไม่อยากให้ เขานอนทังอย่


้ างนัน้

“นี่ยยั อุ๋ง!”

“ว้ าย!”

เสียงเข้ มแกมหงุดหงิดของพี่คินทร์ ตอบกลับมาเสียงดัง จนทําให้ ฉนั ที่


ยังไม่ทนั ได้ ตงตั
ั ้ วถึงกับสะดุ้งตกใจจนล้ มก้ นกระแทกพื ้น ฉันนิ่วหน้ าเนื่องจากอาการ
เจ็บที่สะโพก ก่อนจะสูดลมเข้ าปากเพราะความเจ็บดันเกิดขึ ้นมาบนเข่าด้ วยอีกที่
“แต่งตัวอะไรของเธอเนี่ย!” พี่คินทร์ ขยับกายลุกขึ ้นนัง่ บนโซฟา ก่อน
จะชี ้นิ ้วมาที่ฉนั

“…” ฉันงงกับคําพูดของเขาเล็กน้ อย พลางเอียงคออย่างไม่ค่อย


เข้ าใจนัก

“นุ่งขาวห่มขาวมิดชิดขนาดนี ้ไปบวชเลยดีไหม” พี่คินทร์ ว่าพร้ อมกับ


กลอกตาขึ ้นลงสํารวจฉัน “เป็ นแม่ชีเหรอเราอ่ะ”

“ปะ...เปล่านะคะ นํ ้าใส่แบบนี ้ประจํา” ก็มนั เป็ นชุดนอนประจําของ


ฉันนี่นา จะให้ ฉนั ใส่แบบไหนล่ะ

“เธอไม่ต้องกลัวหรอกนะว่าฉันจะทํามิดีมิร้ายเธอ ฉันเข็ดแล้ ว”

“นํ ้าเปล่านะคะ” ฉันเถีบงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ใครจะไปคิดเรื่ องอะไร


แบบนันกั
้ น

“ไม่ต้องมาเถียงเลยนะยัยอุ๋ง!” และก็โดนเขาชี ้นิ ้วกลับมาพร้ อมกับ


ตวาดเสียงลัน่ อีกด้ วย

ก็ฉนั เปล่าจริ งๆนี่...


------------------------------
KINN Talks.
ผมขมวดคิ ้วนัง่ มองยัยอุ๋งที่ตอนนี ้นัง่ ลูบเนื ้อลูบตัวอยู่ที่พื ้น รู้สกึ ว่าเมื่อกี ้
เธอจะตกใจที่ผมตวาดใส่จนล้ มลงไป ยัยอุ๋งยู่ปากให้ ผม ก่อนที่ใบหน้ าจิ ้มลิ ้มนัน่ จะก้ ม
ลงมองหัวเข่าของตัวเอง

“ลุกขึ ้นมาดิ” ผมบอกเสียงเรี ยบ พลางปรายตาไปมองเธอนิ่งๆ

“…” เธอเม้ มริ มฝี ปากแน่น และพยายามลุกขึ ้นมาด้ วยอาการ


ทุลกั ทุเล

“เป็ นอะไรอีก” เมื่อเห็นท่าทางการเดินของเธอก็ทําให้ ผมถึงกับชะงัก


ไป

เดินเป๋ ซ้ ายเป๋ ขวาแบบนันคื


้ ออะไร

“…” เธอเลือกที่จะเงียบ และก้ มหน้ าก้ มตามองหัวเข่าของตัวเองโดย


ที่ไม่สนใจผมอีก

ยัยอุ๋งเดินไปนัง่ ที่โต๊ ะเขียนหนังสือ ก่อนจะฟุบหน้ าลงกับโต๊ ะ ไร้ การ


สนทนาระหว่างผมกับเธอไปโดยสิ ้นเชิง แล้ วที่ไม่คยุ กับผมเนี่ยคืออะไร งอนเหรอ แค่
ผมบอกว่าอย่ามาเถียงนะนี่ถึงกับงอนเหรอ

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะลุกจากโซฟาตรงไปหาเด็กขี ้งอนที่นงั่


ฟุบหน้ าอยู่ ค่อยๆย่อตัวลงไปมองที่หวั เข่าของเธอ รอยแดงเป็ นปื น้ ตัดกับผิวที่ขาวผุด
ผ่องทําให้ เห็นว่าตอนนี ้เธอโดนอะไรมา สงสัยตอนล้ มหัวเข่าคงจะครูดกับพื ้นไป ผม
ผละออกมา แล้ วเดินตรงไปเปิ ดลิ ้นชักโต๊ ะข้ างเตียงออกและหยิบแผ่นพลาสเตอร์
ออกมาหนึง่ แผ่น จากนันก็
้ เดินกลับมาหาเธอ

“ยื่นขาออกมา” ผมออกคําสัง่ เสียงเด็ดขาด

ยัยอุ๋งที่ตอนแรกก้ มหน้ าอยู่ก็เงยหน้ าขึ ้นมามองผมอย่างงุนงง “…”

“ยื่นขาออกมาเร็วๆ อย่าให้ ต้องดุได้ ไหม ฉันก็เหนื่อยเป็ นนะ” ผมบ่น


เธอกลับไป

ถึงผมจะชอบพูดจาขวานผ่าซากใส่ยยั อุ๋งนี่ แต่ผมก็ไม่ได้ ใจจืดใจดําถึง


ขนาดเมินเด็กน้ อยที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะผมเป็ นสาเหตุหรอกนะ ครอบครัวผมสอน
ประจํานัน่ แหละว่าให้ เป็ นสุภาพบุรุษกับผู้หญิง(แต่ผมไม่จําเอง =_=!)

“…” ไม่มีเสียงตอบรับจากปากคนตัวเล็ก มีแค่การกระทําเท่านันที


้ ่
เธอตอบสนองผมกลับมา

“…” ผมช้ อนตาขึ ้นมองใบหน้ าที่บิดเบี ้ยวของเธอ ก่อนจะขมวดคิ ้วใส่


เมื่อเธอค่อยๆยื่นขาออกมาให้ ดีๆ ยิ่งเห็นหน้ าตอนที่เธอจะร้ องไห้ เพราะเจ็บหัวเข่า ก็
ยิ่งทําให้ ผมอยากจะหัวเราะออกมา เจ็บแค่นี ้เอง ตอนผมโดนรับน้ องโหดกว่านี ้ตัง้
เยอะ เจ็บตังแต่
้ แขนลามมายังขา ยังไม่ร้องไห้ เลย “บอกง่าย... ขอมือหน่อย” ผม
แซวเธอกลับไป

“นํ ้าไม่ใช่หมานะคะ!” เสียงเล็กแหลมตอบกลับมาทันควัน


ทําเอาผมแทบจะหลุดหัวเราะในวินาทีนนเลย
ั้ “ฉันยังไม่ได้ บอกเลยว่า
เธอเป็ นหมา หน้ าแบ๊ วอย่างกับแมว”

บอกเพียงเท่านันก็ ้ ก้มหน้ าลงมองหัวเข่าของเธอต่อ ผมฉีกแผ่นพลา


สเตอร์ ออกจากซอง ก่อนจะแปะมันลงเบาๆที่หวั เข่าของเธอ พลันเสียงร้ องด้ วยอาการ
เจ็บก็หลุดออกจากเธอเบาๆว่า “อื ้อ...” ผมร่ายมนตร์ ลงไปด้ วย เพราะตอนที่ยยั เคท
เจ็บ ผมก็ทําแบบนี ้ให้ ประจํา “โอมเพี ้ยง! หาย...”

“คิก...” เสียงหัวเราะหลุดออกจากปากเธอ

“หัวเราะอะไร แล้ วแต่งตัวด้ วยชุดนอนเนี่ย จะไม่กินข้ าวว่างัน”


“นํ ้าไม่กินข้ าวเย็นค่ะ” พอได้ คําตอบจากปากเธอก็ทําให้ ผมถึงกับไล้


สายตาขึ ้นลงเพราะต้ องการจะสํารวจ ถึงว่าทําไมผอมกะหร่องแบบนี ้

“เธอไม่ต้องกลัวฉันเปลืองตังค์หรอก ฉันเลี ้ยงเธอได้ อยู่ดีนนั่ แหละ”

“นํ ้าเปล่านะคะ” เสียงสูงของเธอที่ตอบกลับมาทําให้ ผมถึงกับต้ องเลิก


คิ ้วมอง

เธอพูดประโยคนี ้มากี่ครัง้ แล้ ววันนี ้ ‘นํ ้าเปล่านะคะ’ เออ... รู้แล้ วว่า


นํ ้าเปล่า คงไม่กลายเป็ นนํ ้าอัดลมไปได้ หรอก
MAWNUM Talks.
ร่างสูงของพี่คินทร์ กําลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้ าฉัน เหมือนเจ้ าชายกําลังขอ
เจ้ าหญิงแต่งงานเลย แต่แตกต่างตรงที่ฉนั ไม่ใช่เจ้ าหญิงสําหรับพี่คินทร์ ไงล่ะ พี่คินทร์
ถลึงตาใส่ฉนั ก่อนจะเดินไปที่ต้ เู สื ้อผ้ า เขาหยิบผ้ าเช็ดตัวกับชุดที่จะใส่ออกมา แล้ วเดิน
หายเข้ าห้ องนํ ้าไป

ใช้ เวลาเพียงแค่สิบห้ านาทีเท่านัน้ พี่คินทร์ ก็เดินออกมาจากห้ องนํ ้า เขา


ปรายตามามองฉันแว๊ บหนึง่ แค่แว๊ บเดียวเท่านัน้ ก่อนจะเดินตรงไปหยิบผ้ าอีกผืน
ออกมาจากตู้เสื ้อผ้ า พี่คินทร์ ยืนเช็ดผมอยู่ตรงนัน้ ก่อนจะหันมาหาฉัน เสียงทุ้มเอ่ยขึ ้น
เสียงดังว่า “ไปเปลี่ยนชุด”

“…” ฉันเลิ่กลัก่ ทําอะไรไม่ถกู เมื่อได้ ยินคําสัง่ นัน้

จะให้ ฉนั เปลี่ยนชุดทําไม ฉันพร้ อมนอนแล้ วนะ

“หูหนวกเหรอยัยอุ๋ง” เสียงพี่คินทร์ ก็ดงั ขึ ้นมาอีกรอบ ฉันเหลือบตาไป


มอง พอเห็นเขาทําตาดุใส่ก็หลุบตามองพื ้นแทน “จะพาไปกินข้ าว ไปเปลี่ยนชุด
เร็วๆ”

สรุปคือพี่คินทร์ จะบังคับให้ ฉนั ไปกินเย็นด้ วยจริ งๆใช่ไหม บอกแล้ วไงว่า


ฉันไม่กินข้ าวเย็น ทําไมไม่ฟังความเห็นจากกันบ้ างนะ เฮ้ อ...

“นํ ้าไม่กินข้ าวเย็นจริ งๆค่ะ นํ ้าชินแล้ ว พี่คินทร์ ไปกินเลย” ฉันบอกเสียง


เบาอย่างจนใจ
“จะไปดีๆ หรื อจะให้ อ้ มุ ไป เลือกเอาก็แล้ วกัน ฉันให้ เวลาเธอสิบวินาที ”
แต่คนตัวสูงก็ยงั ดึงดันจะให้ ฉนั ไปกินข้ าวอยู่ดี พี่คินทร์ ยืนเท้ าเอวมองฉันนิ่งๆ เขาส่ง
สายตาดุมาให้ ฉนั “สิบ... เก้ า... แปด... เจ็ด...”

“โอเคค่ะ นํ ้าไปกินก็ได้ ” ฉันยกมือขึ ้นยอมแพ้ เขา พลางถลึงตาให้ พี่คิ


นทร์ ไปด้ วย

ดีหน่อยที่เขาไม่เห็นว่าฉันถลึงตาให้ ถ้ าเห็นมีหวังฉันได้ โดนดุจนนํ ้าตา


เล็ดอีกแน่

ฉันเดินไปที่ต้ เู สื ้อผ้ า หยิบเอาเสื ้อยืดตัวสีชมพูกบั กางเกงยีนส์ขาสัน้


ออกมา ก่อนจะเดินหายเข้ าไปในห้ องนํ ้าเพื่อเปลี่ยนชุด จากนันก็ ้ กลับออกมาภายใน
เวลาไม่ถึงสิบนาที พี่คินทร์ ยืนพิงกรอบประตูรอฉัน เขากําลังกดโทรศัพท์มือถือยิกๆ
เลย ดูท่าน่าจะติดมือถือใช่ย่อยอยู่เหมือนกัน

“เสร็จแล้ วค่ะ” ฉันเดินตรงไปหาพี่คินทร์ ที่ยืนอยู่

“ไปดิ” พี่คินทร์ เอนหัวออกไปนอกห้ อง เขาเดินนําออกไปที่ห้องตรง


ข้ าม ก่อนจะยกมือขึ ้นเคาะประตูเพื่อเรี ยกเคทออกมา “เคท... ไปกินข้ าวกับพี่ไหม”

“ไม่อ่ะพี่คินทร์ ไปกันเลยๆ เคทยุ่งนิดหน่อย” เสียงเคทตะโกนบอก


กลับมาทังๆที
้ ่ประตูห้องยังไม่ทนั ได้ เปิ ดออกมาด้ วยซํ ้า

“…” พี่คินทร์ หนั มามองฉัน พลางส่ายหน้ าเบาๆให้ เขาเดินไปยังห้ อง


ถัดไปที่อยู่ข้างๆ ซึง่ รู้กนั อยู่แล้ วว่าห้ องนันเป็
้ นของพี่เฟี ยต พี่คินทร์ ยกมือขึ ้นเคาะประตู
ห้ องพี่เฟี ยตสองที เสียงทุ้มของเขาเอ่ยทักเจ้ าของห้ อง “ไอ้ เฟี ยต... มึงจะไปกินข้ าวกับ
กูไหม”

เพียงไม่นานเสียงทุ้มของพี่เฟี ยตก็ตอบกลับมา “ไม่ มึงไปกันเลย กูว่า


จะไปดูฟิล์มที่มอหน่อย ป่ านนี ้ยังไม่เลิกเรี ยนเลย”

ฉันขมวดคิ ้วทันทีที่ได้ ยินพี่เฟี ยตบอก รู้สกึ เมื่อกี ้พี่เฟี ยตจะเอ่ยถึงชื่อ


บุคคลที่สามด้ วย ถ้ าฉันฟั งไม่ผิด รู้สกึ จะชื่อ ‘ฟิ ล์ม’ นะ

“ตังแต่
้ มีแฟนนี่นะไอ้ เฟี ยต เอาใหญ่เลยนะมึง” พี่คินทร์ ตอบกลับไป
ขําๆ

พี่ฟิล์มเป็ นแฟนพี่เฟี ยตงันเหรอ...


้ ว่าแล้ วเชียว ทังหล่
้ อทังเก่
้ งแบบพี่เฟี ย
ตต้ องมีแฟนอยู่แล้ ว

“มึงก็มี น้ องนํ ้าเมียมึงไง ไปดูแลสิ” พี่เฟี ยตตอบกลับมา แต่ทําเอาแก้ ม


ฉันถึงกับร้ อนฉ่าด้ วยความเขินอาย

ฉันช้ อนตาขึ ้นมองพี่คินทร์ ที่เงียบไป เขาหลุบตามองฉัน ก่อนจะ


กระแอมไอออกมาสองครัง้ แล้ วเดินนําหน้ าฉันไป ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อย
หน่าย พลางสาวเท้ าเดินตามพี่คินทร์ ไป ฉันยังไม่ได้ โทรบอกพ่อกับแม่เลยว่าถึง
เชียงใหม่แล้ ว

พี่คินทร์ พาฉันเดินลัดเลาะมาตามทาง ที่นี่มีร้านอาหารข้ างทางหลาย


ร้ านเลย และเขาเลือกที่จะพาฉันเดินเข้ าร้ านก๋วยเตี๋ยวแทนที่จะเป็ นร้ านข้ าว
“เธอจะกินข้ าวหรื อก๋วยเตี๋ยว” พี่คินทร์ หนั มาถามฉันในขณะที่เราทัง้
สองคนก้ าวเข้ าร้ านก๋วยเตี๋ยวไปแล้ ว

เข้ าร้ านมาขนาดนี ้แล้ วนี่นะ จะให้ ฉนั ตอบว่ากินข้ าวก็ยงั ไงๆอยู่จริ งไหม

“นํ ้ากินก๋วยเตี๋ยวก็ได้ ค่ะ” ฉันตอบพี่คินทร์ ไปตามตรง พลางสอดส่าย


สายตามองหาที่นงั่ ที่ยงั ว่างอยู่ไปด้ วย

แต่ปรากฏว่าแต่ละที่นงั่ เต็มไปหมดเลย จะเหลือก็แต่โต๊ ะที่มีคนนัง่ เพียง


สองคน แล้ วยังเหลือที่ว่างอีกสองที่ของฝั่ งตรงข้ ามกับโต๊ ะเท่านัน้ ฉันหันไปมองพี่คิ
นทร์ ที่เดินไปหยิบกระดาษมาเขียนเมนู ก่อนจะเอื ้อมมือไปกระตุกที่แขนเสื ้อของเขา
เบาๆ

“…” พี่คินทร์ หลุบตามองฉัน ก่อนจะขมวดคิ ้วให้ ฉนั ...อีกแล้ ว

“ไม่มีที่นงั่ แล้ วค่ะ” ฉันตอบพี่คินทร์ กลับไป

“ก็นงั่ กับคนอื่นไปเนี่ยแหละ หัดอยู่ให้ เป็ น หัดเข้ าสังคมกับเขาบ้ าง”


พี่คินทร์ ตอบเสียงเรี ยบ ก่อนจะเบนความสนใจไปยังกระดาษเขียนเมนูตรงหน้ าต่อ

‘หัดอยู่ให้ เป็ น หัดเข้ าสังคม’ คําพูดของพี่คินทร์ ดงั วนซํ ้าๆในหัวสมอง


ฉันไปมา ริ มฝี ปากถูกฟั นของฉันขบเอาไว้ แน่น ก่อนจะพยักหน้ ารับรู้สองสามที แล้ ว
เดินเข้ าไปหยิบกระดาษมาเขียนเมนูที่ตวั เองจะกินเอง

และฉันจะบอกความลับของตัวเองให้ ร้ ูว่า...ฉันกินเผ็ดไม่ได้ T^T


ฉันไล่สายตาไปตามเมนูก๋วยเตี๋ยวที่เขียนติดอยู่ที่หน้ าร้ าน ก่อนจะ
ตัดสินใจเขียนเมนูที่อยากกินลงไป แล้ วเอาไปเสียบไว้ ที่เหล็กรับเมนู พี่คินทร์ ก็เขียน
เสร็จพอดี เขาเดินนําไปนัง่ ที่โต๊ ะที่มีพี่ผ้ ชู ายสองคนนัง่ อยู่

“ขอนัง่ ด้ วยนะครับ” พี่คินทร์ เอ่ยปากขออนุญาตพี่ผ้ ชู ายสองคนที่นงั่


อยู่ก่อนแล้ ว ก่อนจะทรุดตัวลงนัง่ บนเก้ าอี ้ตัวตรงข้ ามกับพวกพี่สองคนนัน้

ฉันเม้ มปากแน่นอย่างลังเล ก่อนจะถอนหายใจแล้ วเดินไปนัง่ ยังเก้ าอี ้


ข้ างๆพี่คินทร์ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ ้นมากดอะไรอีกแล้ วก็ไม่ร้ ู ฉันก็เลยหยิบขึ ้นมา
เล่นบ้ าง พลางส่งแชทหาเคทไปด้ วย

แมวนํ ้า : เคททําไมไม่มากินข้ าวกับนํ ้า

แมวนํ ้า : ส่งสติกเกอร์ ...

พร้ อมกับกดส่งสติกเกอร์ รูปร้ องไห้ ไปให้ เธอด้ วย ฉันอยู่กบั พี่คินทร์


เหมือนตัวเองอยู่กบั ผู้นําเผด็จการยังไงก็ไม่ร้ ู บังคับอะไรฉันก็ต้องทําตาม ถ้ าไม่ทํา
ตามก็โดนเขาดุ จะออกความคิดเห็นอะไรก็ไม่ได้ ไร้ สิทธิเสรี ภาพไปเลย

เคท : โทษทีว่ะนํ ้า ฉันติดธุระนิดหน่อย

เคทพิมพ์ตอบกลับมา แต่นนั่ ยิ่งทําให้ ฉนั ถึงกับเกิดอาการงงงวย ธุระ


อะไรของเธอ

แมวนํ ้า : ธุระอะไรอ่ะ
เคท : ดูซีรีส์อยู่ ยังไม่จบ

แมวนํ ้า : เคท!!!

แมวนํ ้า : ส่งสติกเกอร์ ...

พอได้ คําตอบกลับมาก็ทําให้ ฉนั ถึงกับอยากจะโมโหจนต้ องกดสติกเก


อร์ รูปโมโหไปให้ เธอ ไหนบอกว่าจะมาปกป้องฉันจากพี่ชายไง ทําไมซีรีส์เรื่ องเดียว
ถึงกับทิ ้งเพื่อนได้ ลงคอ น่าจับมาตีก้นชะมัด!

เคท : เอาน่า... พี่คินทร์ ไม่กินหัวแกวันนี ้หรอก

แมวนํ ้า : ไม่กินก็เกือบกินนัน่ แหละ นํ ้าไม่กินข้ าวเย็น พี่ชายเคทบังคับ


นํ ้ามา

แมวนํ ้า : ส่งรูปภาพ

ฉันกดถ่ายรูปร้ านก๋วยเตี๋ยวส่งไปให้ เคทเพื่อยืนยันหลักฐานคําพูดของ


ตัวเอง

เคท : 55555 อยู่กบั สามีจะกลัวอะไรคะเพื่อนนนน

แมวนํ ้า : เคททททททท!!!!

แมวนํ ้า : ไม่คยุ ด้ วยแล้ ว งอน!


หลังจากพิมพ์ตอบเคทกลับไป ฉันก็นงั่ รอคําตอบจากเธออยู่นาน แต่
ปรากฏว่าเธออ่านแล้ วไม่ตอบฉันเลย แสดงว่าต้ องไปดูซีรีส์ต่อแล้ วแน่ๆ ตลอดเลย!
เป็ นแบบนี ้ตลอดเลย!

ฉันกดออกจากแชทเมสเซนเจอร์ พลางใช้ สายตาสํารวจไปรอบบริ เวณ


ตอนนี ้คนเต็มร้ านเลย ร้ านนี ้ต้ องอร่อยมากแน่ๆ ไม่นานก็มีพี่ลกู มือของร้ านเดินเอา
ก๋วยเตี๋ยวมาให้ ของฉันเป็ นเส้ นเล็กหมูนํ ้าใส ส่วนอีกชามที่เป็ นก๋วยเตี๋ยวต้ มยําทะเล
น่าจะเป็ นของคนตัวสูงที่นงั่ อยู่ข้างๆฉัน

ฉันรับชามในส่วนของตัวเองมา ก่อนจะยื่นอีกชามไปให้ พี่คินทร์ พี่คินทร์


รับไป พลางหันมามองฉันที่กําลังจะคีบเส้ นก๋วยเตี๋ยวใส่ปากนิ่งๆ และมันทําให้ ฉนั ไม่
กล้ ากินเพราะโดนเขาจ้ องมองอยู่แบบนี ้

“มะ...มีอะไรหรื อเปล่าคะ” ฉันถามพี่คินทร์ ออกไปอย่างไม่แน่ใจว่า


ควรจะถามดีไหม

“กินก๋วยเตี๋ยวไม่ปรุงเนี่ยนะ เธอกินได้ ไงวะ”

“นํ ้ากินแบบนี ้ประจําค่ะ นํ ้ากิน...” ยังไม่ทนั ที่จะได้ พดู ประโยคให้ เสร็จ


สิ ้นสมบูรณ์ อยู่ๆชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้ าฉันก็ถกู คนตัวสูงคว้ าไป เขาเอาไปเติม
เครื่ องปรุงให้ ฉนั และที่สําคัญคือพริ กหนึง่ ช้ อนเต็มๆที่ใส่มาให้ ทําให้ ฉนั ถึงกับลอบกลืน
นํ ้าลายเอื ้อกใหญ่ลงคอ
“เอา... หัดปรุงบ้ างดิวะ ชีวิตอย่าจืดชืดให้ มนั มากนัก ” พี่คินทร์ ยื่น
ก๋วยเตี๋ยวชามของฉันกลับมาให้ หลังจากปรุงเสร็จหมดแล้ ว

แต่จะให้ ฉนั กินยังไงล่ะ พริ กเต็มไปหมดแบบนี ้ ต้ องเผ็ดจนนํ ้าตาไหลแน่


เลย

“…” ฉันนัง่ มองเจ้ าก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ในชามนิ่งๆ

“ทําไมไม่กิน” พี่คินทร์ หนั มาถาม คิ ้วเข้ มขมวดใส่ฉนั

“นํ ้ากินเผ็ดไม่ได้ ค่ะ” ฉันตอบเสียงเบา

“เอ้ า! แล้ วก็ไม่บอก” พี่คินทร์ ว่าเสียงสูง

“ก็นํ ้ากําลังจะบอก พี่คินทร์ ก็เอาไปปรุงให้ นํ ้าแล้ ว” ฉันเถียงกลับไป


เสียงเบา ไม่กล้ าขึ ้นเสียงใส่เขาหรอก เดี๋ยวก็หาว่าฉันเถียงอีก

“งันสั
้ ง่ ใหม่” พี่คินทร์ ว่า ก่อนจะหันไปยกมือเรี ยกพี่ลกู มือของร้ านมา
“เอาเส้ นเล็กหมูนํ ้าใสอีกชามครับ” พี่คินทร์ สงั่ ก๋วยเตี๋ยวอีกชามกับพี่ลกู มือของร้ าน
ให้ ฉนั อีกรอบ

หลังจากสัง่ เสร็จ ฉันก็ต้องนัง่ รอก๋วยเตี๋ยวชามใหม่มาเสิร์ฟ ส่วนพี่คินทร์


ก็นงั่ มองหน้ าฉัน...อีกแล้ ว

“พี่คินทร์ กินก่อนเลยก็ได้ นะคะ ไม่ต้องรอนํ ้าก็ได้ ”


“กินพร้ อมกันมันจะตายเหรอ” แต่พอเขาตอบกลับมาก็ทําให้ ฉนั นัง่ ก้ ม
หน้ างุดไม่กล้ าสบตาด้ วยอีก

บอกแล้ วไงว่าฉันมีสิทธิ์ออกความเห็นได้ ซะที่ไหน พอออกความเห็นนิด


หน่อยก็มกั จะโดนเขาดุอย่างที่เห็นเนี่ยแหละ

“น้ องสาวเหรอครับ” พี่ผ้ ชู ายที่นงั่ ร่วมโต๊ ะหลังจากเงียบอยู่นานก็พดู


ขึ ้นมา

พี่คินทร์ ตวัดสายตาไปจ้ องเขาเขม็งเลย “…”

“น่ารักดีนะครับ” พี่ผ้ ชู ายคนเดิมพูดพลางส่งยิ ้มให้ ฉนั

มารยาทอย่างหนึง่ คือเวลามีคนยิ ้มมาให้ ก็ต้องยิ ้มตอบถูกไหม ฉันเลย


ส่งยิ ้มน้ อยๆกลับไปให้ เขาตอบ

“ไม่ใช่น้องครับ เมีย...” เสียงทุ้มของพี่คินทร์ ตอบกลับไป


“…”
-----------------------------
สิ ้นเสียงของพี่คินทร์ ทังโต๊
้ ะก็เกิดความเงียบเข้ าปกคลุมทันที รอยยิ ้ม
จากพี่คนนันที
้ ่สง่ มอบมาให้ ฉนั ได้ เลือนหายไปแล้ ว มีเพียงแค่ใบหน้ าเรี ยบตึงกับ
ดวงตาที่จ้องพี่คินทร์ เขม็งเท่านัน้ ซึง่ พี่คินทร์ เองก็จ้องตอบพี่คนนันกลั
้ บไปเขม็ง
เช่นเดียวกัน
“ไปเถอะว่ะ” พี่คนนันลุ
้ กออกจากเก้ าอี ้ ก่อนจะสะกิดเพื่อนที่นงั่ อยู่ให้
ลุกตาม

ทังสองคนเดิ
้ นออกไป แต่ยงั ไม่วายส่งสายตาเคืองขุ่นมาให้ พี่คินทร์ อยู่ดี

“เลิกส่งยิ ้มให้ คนอื่นเรี่ ยราดได้ แล้ ว!” เสียงของพี่คินทร์ ตวาดใส่ฉนั จน


ทําฉันสะดุ้งเบาๆ

ก็ไหนบอกให้ ฉนั หัดอยู่ให้ เป็ น หัดเข้ าสังคมไง แล้ วการส่งยิ ้มให้ นี่ไม่ถือ
ว่าเป็ นการเข้ าสังคมเหรอ

“ค่ะ” ฉันตอบรับพี่คินทร์ เสียงเบา พลางหลุบตาลงมองพื ้นแทน

รู้สกึ ตึงเครี ยดที่หวั คิ ้วแปลกๆด้ วย ขอบตาก็เริ่ มร้ อนผ่าวขึ ้นมาเรื่ อยๆ


แล้ วด้ วย โดนดุทีไรจะร้ องไห้ ทกุ ทีเลย

ทําไมอ่อนไหวขนาดนี ้นะแมวนํ ้า
นัง่ อยู่สกั พัก ก๋วยเตี๋ยวของฉันก็ถกู พี่ลกู มือของร้ านนํามาเสิร์ฟให้ ฉันรับ
มันมานัง่ กินคนเดียวเงียบๆ ความจริ งการกินอาหารเย็นของวันนี ้เป็ นวันแรกของฉัน
เลย เพราะปกติฉนั ไม่คอ่ ยได้ กินอาหารเย็นเท่าไหร่ พอได้ มากินมันเลยรู้สกึ ไม่คอ่ ยหิว
กินไปนิดหน่อยก็เหมือนจะอิ่มอยู่ตลอดเวลา

ท่ามกลางการกินอาหารเย็นของฉันกับพี่คินทร์ ถกู ความเงียบกลบไป


โดยปริ ยาย แต่ถึงมันจะกลบไปยังไง มันก็เหมือนการนัง่ กินด้ วยกัน โดยที่ฉนั รับหน้ าที่
เป็ นอากาศธาตุไม่มีตวั ตนอยู่ในสายตาของพี่คินทร์ อยู่ดี
กินเสร็จพี่คินทร์ ก็พาฉันกลับมาที่ห้อง ฉันเปลี่ยนชุดเป็ นชุดนอน
เรี ยบร้ อยแล้ ว พี่คินทร์ กําลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ที่เตียงนอน ส่วนฉันนัง่ นิ่งอยู่ที่โซฟา
ฉันยังไม่ได้ โทรบอกพ่อกับแม่เลยว่ามาถึงเชียงใหม่ได้ สกั พักแล้ ว พอคิดได้ ก็เลยรี บโทร
หาพวกท่านอย่างไม่ลงั เล

[ฮัลโหล...] เสียงของแม่ทกั ขึ ้นหลังจากกดรับสายฉัน

“แม่คะ นํ ้ามาถึงได้ สกั พักแล้ วนะคะ แต่ไม่ได้ โทรบอก” ฉันกรอกเสียง


ของตัวเองลงไปในสาย

[ปลอดภัยดีไหมนํ ้า] ทันทีที่ได้ ยินแม่ถามกลับมา ฉันก็เหลือบตาไป


มองพี่คินทร์ แทน

ปลอดภัยจากทุกอย่างยกเว้ นปากคอของพี่คินทร์ น่ะสิ ดุฉนั ประจําเลย

“ปลอดภัยค่ะแม่” ฉันตอบแม่กลับไป

[ดีแล้ ว นี่พ่อบ่นคิดถึงแล้ วนะ]

“นํ ้าก็คิดถึงพ่อกับแม่คะ่ พ่ออยู่ไหมคะ นํ ้าอยากคุยกับพ่อ”

[พ่อไปทํางานยังไม่กลับเลย] พ่อฉันเป็ นแบบนี ้ประจําเลย ทํางานหาม


รุ่งหามคํ่าตลอด

“นํ ้าฝากบอกพ่อหน่อยนะคะแม่ บอกพ่อว่าอย่าหักโหมมากไปนะคะ


นํ ้าเป็ นห่วง”
[ได้ ๆ เดี๋ยวแม่บอกพ่อให้ นะ จะสามทุ่มแล้ ว นอนได้ แล้ วลูก] พอแม่
บอก ฉันก็ผละหูออกจากโทรศัพท์เพื่อดูเวลาทันที

จริ งด้ วย... เหลือเวลาอีกแค่สิบกว่านาทีก็จะสามทุ่มแล้ ว ถึงเวลานอน


ของฉันแล้ ว

“โอเคค่ะแม่ ฝั นดีนะคะ”

[ฝั นดีจ้ะ]

เสร็จสิ ้นบทสนทนาระหว่างฉันกับแม่ ฉันก็หนั ไปมองพี่คินทร์ ที่ยงั คง


นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ที่เตียง พลางเม้ มริ มฝี ปากแน่นเพราะไม่ร้ ูจะบอกเขายังไงดีวา่ ฉัน
จะนอนแล้ ว ถ้ าบอกแล้ วพี่คินทร์ จะดุฉนั ไหมนะ

“พี่...คินทร์ คะ” ฉันเรี ยกชื่อพี่คินทร์ เสียงเบา

ถ้ าเขาไม่ให้ ฉนั นอนจริ งๆ ฉันจะไปขอนอนกับเคท ฉันคิดแผนสํารอง


เอาไว้ แล้ ว

“แม่งเอ๊ ย!” เสียงสบถดังออกมาจนลัน่ ห้ อง ทําเอาฉันสะดุ้งจนทํา


โทรศัพท์หล่นลงกับโซฟา

ฉันจะโดนดุอีกแล้ วใช่ไหม...

“…” ฉันก้ มหน้ างุด พลางหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ ้นมากด


แชทหาเคท
แมวนํ ้า : นํ ้าจะโดนพี่คินทร์ ดอุ ีกแล้ ว

แมวนํ ้า : ส่งสติกเกอร์ ...

ฉันกดสติกเกอร์ ร้องไห้ ไปให้ เคทด้ วย ทังๆที


้ ่ตวั เองก็กําลังจะร้ องไห้ ตาม
สติกเกอร์ ที่สง่ ไปเหมือนกัน

เคท : อีกแล้ วเหรอเนี่ย โอ๊ ยยยย

เคท : รอแป๊ บ เดี๋ยวฉันไป

พอได้ รับคําตอบกลับมาจากเคท ฉันก็เหลือบตาไปมองพี่คินทร์ ที่ยงั คง


นอนกดโทรศัพท์ยิกๆไปด้ วย หัวคิ ้วเขาขมวดเข้ าหากันจนดูย่งุ เหยิง ต้ องโดนแน่ๆ ฉัน
ต้ องโดนพี่คินทร์ ดแุ น่เลย

ปั ง!

เสียงกระแทกประตูเปิ ดดังขึ ้นมากะทันหัน ฉันหันขวับไปมองทันที ที่แท้


ก็เป็ นเคทที่เปิ ดเข้ ามา

“พี่คินทร์ !!!” เคทเรี ยกชื่อพี่คินทร์ เสียงดังจนเจ้ าของชื่อหันไปมอง


อย่างงุนงง

“ว่า” พี่คินทร์ ตอบกลับเคทเสียงราบเรี ยบ

“ดุไอ้ นํ ้ามันทําไม?!” เคทตะโกนกร้ าวใส่พี่คินทร์ ด้วย ฉันคงไม่ได้


กําลังทําให้ พี่น้องแตกคอกันใช่ไหม เริ่ มกลัวแล้ วนะ
“ดุเรื่ องอะไรวะ!?” พี่คินทร์ ถามกลับเสียงสูง เขาเลิกคิ ้วขึ ้นด้ วย “หัว
ร้ อนกับเกมอยู่เนี่ย! จะเอาเวลาไหนไปดุ”

“…” ทังห้
้ องเกิดความเงียบขึ ้น

สองสายตาของพี่คินทร์ และเคทหันมาจ้ องฉัน เคทถลึงตาให้ ฉนั ราวกับ


ว่าฉันหาเรื่ องเดือดร้ อนให้ เธอ ส่วนพี่คินทร์ ก็จ้องฉันตาดุราวกับว่าฉันเป็ นตัวร้ ายที่ใส่
ร้ ายพระเอกอย่างเขา ให้ ตายเถอะ... ก็ใครจะไปรู้ละ่ ว่าเขาหัวร้ อนกับเกม ก็สบถ
ออกมาเสียงดังตอนฉันเรี ยกพอดี ฉันก็นกึ ว่าจะโดนเขาดุอีกแล้ ว

“นํ ้าง่วงแล้ วค่ะ” ฉันรี บเปลี่ยนเรื่ องทันที พลางส่งสายตาละห้ อยของ


ตัวเองไปมองเตียงนอนที่พี่คินทร์ นอนเล่นเกมอยู่ ก่อนจะหันไปมองเคทเพื่อให้ ช่วย
เรื่ องนี ้ด้ วย

“ไอ้ นํ ้ามันนอนสามทุ่มทุกวัน พี่จะเลิกเล่นเกมเมื่อไหร่ ” เคทกอดอกหัน


ไปถามพี่คินทร์

“ตีสอง” เสียงทุ้มของพี่คินทร์ ตอบกลับมาอย่างไม่ร้ ูสกึ รู้สาใดๆ

ตีสองของเขานัน่ มันเวลานอนของเด็กมัธยมอย่างฉันเลยนะ วัย


มหาวิทยาลัยเขานอนกันเวลานี ้ประจําแลยใช่ไหม

“โห... ดึกไป พี่เลิกเล่นเกมแล้ วนอนได้ แล้ ว” เคทบอก ก่อนจะชี ้นิ ้วมา


ทางฉัน “เห็นใจยัยเด็กอนามัยคนนี ้ด้ วย”
ดะ...เด็กอนามัยเหรอ?

ฉันกระพริ บตาปริ บๆสองทีอย่างงงงวย “…”

“สามทุ่มมันเวลานอนของพี่ที่ไหนวะ เรี ยนมหาวิทยาลัยตีสองนี่ถือว่า


เบาะๆแล้ วนะ” เบาะๆงันเหรอ

“งันพี
้ ่ก็ไปนัง่ เล่นเกมที่โซฟา ให้ ไอ้ นํ ้ามันนอนที่เตียงไป” เคทเสนอ
ความคิดเห็น

“ได้ ไง นี่ห้องพี่ เตียงนี ้ก็ของพี่ด้วย ให้ เพื่อนแกไปนอนที่โซฟาสิ” พี่คิ


นทร์ ย่ปู ากให้ เคท พลางขมวดคิ ้วตอบเคทกลับไป ก่อนจะหันมาเลิกคิ ้วใส่ฉนั

“ไอ้ นํ ้ามันเป็ นผู้หญิงนะพี่คินทร์ ทําไมพี่ไม่เป็ นสุภาพบุรุษเลย!” เค


ทขึ ้นเสียงใส่พี่คินทร์

คือถ้ าจะให้ ฉนั นอนที่โซฟา ฉันก็นอนได้ นะ ฉันนอนที่ไหนก็ได้

“ไม่เป็ นไรหรอกเคท เดี๋ยวนํ ้าไปนอนที่โซฟาก็ได้ ”

“ไม่ได้ !” เคทตอบกลับมาเสียงเข้ ม ปกติฉนั ไม่เคยเห็นเธอขึ ้นเสียง


แบบนี ้มาก่อนเลย “พี่คินทร์ ! พี่ลกุ ไปนัง่ เล่นเกมที่โซฟาเลย อย่ามาทําตัวเบบี๋ อายุก็
ไม่ใช่น้อยๆแล้ วนะ หัดแยกแยะหน่อยสิ ถ้ ายังคิดอยู่แบบนี ้ กลับไปเรี ยนประถมใหม่
เลยดีไหม”
“…”
ความอึ ้งและตกตะลึงตรงเข้ าเล่นงานฉันอย่างจัง ฉันนัง่ มองเคทที่ดุ
พี่ชายของตัวเองตาค้ าง อ้ าปากหวออย่างคาดไม่ถึง นี่เป็ นครัง้ แรกที่ฉนั เห็นเคทโม
โหจนลมออกหูแบบนี ้ แล้ วแต่ละประโยคที่เธอพูดออกมา มันก็ล้วนแต่เป็ นการสัง่ สอน
พี่ชายแท้ ๆของตัวเอง

“ไปนอนที่โซฟาเลย!” เคทชี ้นิ ้วไปที่โซฟา แต่สายตากลับจับจ้ องอยู่ที่


พี่คินทร์

“เออ! ไปก็ได้ !” พี่คินทร์ ถลึงตาใส่เคท แต่ก็ยอมลุกออกไปนัง่ เล่มเกม


ที่โซฟาตามที่เคทบอก

ให้ ตายสิ... เคทสามารถปกป้องฉันจากพี่คินทร์ ได้ จริ งๆด้ วย พี่คินทร์ เชื่อ


ฟั งน้ องสาวของตัวเองขนาดนี ้เลยเหรอ

“ไปนอนได้ แล้ วไอ้ นํ ้า!” จากนันเคทก็


้ หนั มาออกคําสัง่ กับฉันบ้ าง

ฉันหันไปมองอย่างงงๆ แต่ก็ยอมเดินไปที่เตียงแล้ วขยับร่ายกายขึ ้นไป


นอนแอ้ งแม้ งกระพริ บตาปริ บๆมองเคทอยู่บนนัน้ “…”

“น้ องหรื อแม่กนั แน่วะ” เสียงทุ้มของพี่คินทร์ บน่ พึมพําออกมา

“พี่คินทร์ !!!” เคทหันขวับไปจ้ องทันที

“จ๋า...” คําว่า ‘จ๋า’ ที่หลุดออกจากปากคนตัวสูงแทบจะทําให้ เสียง


หัวเราะของฉันหลุดออกมาในวินาทีนนเลย ั้ แต่ยงั ดีที่กลันมั
้ นเอาไว้ ได้ ทนั
“อยากเล่นเกมก็เล่นไป แต่เคทจะปิ ดไฟให้ ไอ้ นํ ้ามันนอนแล้ ว”

“อยากปิ ดก็ปิดดิ” พี่คินทร์ ว่า ก่อนจะยักไหล่อย่างสบายอารมณ์

เคทเดินไปที่สวิตช์แล้ วกดมันลง ทังห้้ องเหลือเพียงแสงไฟจากจอ


โทรศัพท์ของพี่คินทร์ เท่านันที
้ ่ยงั เปล่งแสงสว่างอยู่ เคทเปิ ดประตูเดินออกไป ทันทีที่
บานประตูปิดลง เปลือกตาของฉันก็ปิดลงตาม

ได้ นอนสักที เฮ้ อ...


KINN Talks.
อยากนอนนักใช่ไหม ได้ ...

ความคิดชัว่ ร้ ายผุดขึ ้นในสมองของผมเมื่อหันไปมองร่างของยัยอุ๋งที่


นอนตะแคงไปอีกฝั่ งแล้ วหลับอย่างสบายอารมณ์ ห้ องนี ้เป็ นห้ องที่ผมเปิ ดขึ ้นมาเพราะ
แม่บอกให้ มาอยู่กบั ยัยอุ๋งสองคน ซึง่ ก่อนหน้ านี ้ผมอาศัยอยู่กบั ไอ้ เฟี ยตมาโดยตลอด
พอแยกห้ องกับมันก็นกึ ว่าจะได้ ใช้ ชีวิตตามที่ใจอยาก แต่วนั นี ้เตียงของผม พื ้นที่
ส่วนตัวของผม กลับถูกใครบางคนยึดไปหน้ าตาเฉย โดยมีน้องสาวตัวแสบของผมเป็ น
ทัพหน้ าให้ ด้วย

ผมถอดหูฟังออกจากโทรศัพท์ ก่อนจะเร่งเสียงเอฟเฟกต์ของเกมให้ ดงั


ขึ ้นแบบสูงสุด จากนันก็
้ ทําการเล่นให้ มนั ส์ระเบิดไปเลย!
เสียงเอฟเฟกต์ของเกมดังอยู่เป็ นระยะๆ และผมแน่ใจว่าเธอไม่มีทาง
หลับลงได้ หรอก เสียงดังขนาดนี ้ เป็ นใครก็หลับไม่ลง ขนาดไอ้ เฟี ยตมันยังไม่ได้ นอน
ตอนที่ผมเปิ ดเสียงเล่นเกมเลย

แต่แล้ วเมื่อเล่นเกมผ่านไปสักพัก ร่างเล็กที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงกลับไม่มี


ทีท่าว่าจะขยับตัวตื่นขึ ้นมาเลย นัน่ หลับหรื อซ้ อมตายวะ...

ผมค่อยๆวางโทรศัพท์ของตัวเองลง พลางสาวเท้ าเดินเข้ าไปหายัยอุ๋งที่


หลับเป็ นตายอยู่ที่เตียง พอเพ่งมองใบหน้ าของเธอดีๆ ถึงได้ ร้ ูว่าเธอหลับจริ งๆ แถมยัง
หลับลึกเป็ นตายด้ วย ลมหายใจสมํ่าเสมอถูกผ่อนออกมาเป็ นจังหวะ เล่นเอาผมโคตร
อิจฉากับความหลับง่ายหลับลึกจนน่าหมัน่ ไส้ ของเธอ

“ยัยอุ๋ง!” ผมยื่นมือไปตบที่แก้ มนุ่มเบาๆเพื่อหวังจะให้ เธอตื่นขึ ้นมา

“อื ้อ...” แต่สิ่งที่ตอบผมกลับมากลับมีเพียงแค่เสียงครางอื ้ออึง พร้ อม


กับการพลิกตัวไปอีกฝั่ งแทน

ผมยกมือขึ ้นเกาหัวตัวเองอย่างงงงวย กวนเธอขนาดนี ้ยังหลับลงอยู่อีก


อิหยังวะ...

---------------------
MAWNUM Talks.
หลับสบายจังเลย...
ร่างกายของฉันเด้ งขึ ้นจากเตียงโดยอัตโนมัติอย่างที่ชอบเป็ นตอนตื่น
นอนใหม่ๆ แสงอาทิตย์จากหน้ าต่างที่สาดเล็ดลอดผ้ าม่านออกมา ทําให้ ร้ ูว่าตอนนี ้ได้
เริ่ มวันใหม่เข้ าไปแล้ ว มือข้ างหนึง่ ถูกใช้ ยกขึ ้นขยี ้ตาเบาๆ ก่อนที่สายตาของตัวเองจะ
สอดส่ายไปทัว่ บริ เวณห้ อง เมื่อคืนพี่คินทร์ เล่นเกมถึงเมื่อไหร่กนั นะ

เมื่อกวาดสายตาไปทัว่ แล้ วก็ต้องสะดุดลงที่โซฟาตัวยาวที่มีร่างของพี่คิ


นทร์ นอนหลับอยู่ อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนเขานอนตรงนันทั
้ งคื
้ นเลย ฉันไม่ได้ ตงใจจะ
ั้
แย่งที่นอนจากพี่คินทร์ นะ

“อ่า... แย่แล้ ว” แย่จริ งๆซะด้ วย พอเขาตื่นขึ ้นมาต้ องพูดแขวะฉันอีก


แน่เลย

ฉันค่อยๆขยับร่างกายของตัวเองลงจากเตียง พลางสาวเท้ าย่องเข้ าไป


หาพี่คินทร์ ที่นอนหลับสนิทอยู่ที่โซฟา พี่คินทร์ สงู มากเลย แล้ วก็ตวั ใหญ่มากด้ วย ขา
ของเขามันเลยตัวโซฟาไปอีก แต่สิ่งที่แปะอยู่บนหน้ าพี่คินทร์ กลับทําให้ ฉนั ขมวดคิ ้ว
มุ่นอย่างสงสัย นัน่ มัน...แผ่นมาส์กหน้ าใช่ไหม
Rrrr!
เสียงริ งโทนจากโทรศัพท์มือถือของพี่คินทร์ ดงั ขึ ้น ทําให้ ฉนั สะดุ้งจน
เผลอก้ าวถอยหลังออกมาเล็กน้ อย พี่คินทร์ ผดุ ลุกขึ ้นนัง่ อย่างว่องไว เขาเอื ้อมมือไป
หยิบโทรศัพท์มือถือที่กําลังแผดเสียงอยู่ที่ปลายโซฟาขึ ้นมากดรับสาย แผ่นมาส์กที่
แปะหน้ าไว้ หล่นลงบนตักเขา

“โหล...” เสียงทุ้มของพี่คินทร์ เอ่ยทักปลายสายไป


“…” ฉันยืนนิ่งเงียบอยู่ที่ด้านข้ างแทน

“เออ มึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูขบั รถตามไป” ใครโทรมาหาเขากันนะ


“เออๆ เจอกัน”

ทันทีที่เขากดวางสาย และในจังหวะที่ฉนั กําลังจะเอ่ยทัก เขาก็โพล่ง


ขึ ้นมาก่อนอย่างกะทันหัน “มายืนหน้ าแบ๊ วทําไมตรงนี ้” เสียงที่ใช้ ถามไม่ได้ ออกไป
ทางหงุดหงิด แต่ทว่ากลับทําให้ คนฟั งอย่างฉันรู้สกึ กระอักกระอ่วนใจอย่างบอกไม่ถกู
เลย

“เมื่อคืนพี่คินทร์ นอนตรงนี ้ทังคื


้ นเลยเหรอคะ” ฉันถามเขาออกไป
ถึงแม้ มนั จะดูเป็ นคําถามที่ไม่น่าถามเพราะตาก็เห็นอยู่ทนโท่ก็ตามที

“เออดิ ถามจริ ง นัน่ นอนหรื อซ้ อมตายวะ” เขาถามเสียงสูง คิ ้วข้ างหนึง่


ของพี่คินทร์ เลิกขึ ้น

“นะ...นอนสิคะ” ฉันหน้ าเหวอไป ทําไมถามกันแบบนี ้ล่ะ

“ขาเธอเนี่ย พาดไปทังเตี
้ ยงเลยนะ กะจะไม่ให้ ฉนั นอนเตียงตังแต่ ้ แรก
เลยใช่ไหมล่ะ” ประโยคถัดมาที่ออกจากปากของเขากลับทําฉันหน้ าเหวอมาก
กว่าเดิมอีกหลายเท่า แม่บอกว่าฉันเป็ นคนนอนดิ ้น แต่ไม่ได้ เล่าให้ ฉนั ฟั งเลยว่าฉัน
นอนดิ ้นขนาดไหน “เห็นตอนปกตินี่เรี ยบร้ อยจะตายชัก พอตอนนอนนี่ร้ ูเลย...”

ความอายแทรกเข้ าในความรู้สกึ ฉันอย่างจัง ให้ ตายเถอะ... น่าอายจัง


เลย พี่คินทร์ ต้องเห็นหมดแล้ วแน่ๆว่าท่านอนของฉันเป็ นแบบไหน
“นะ...นํ ้า” ฉันอํ ้าอึ ้ง ไม่ร้ ูจะพูดต่อไปยังไงดี เลยทําได้ แค่หลุบตามอง
พื ้น ตําหนิตวั เองในใจ พลางพูดขอโทษพี่คินทร์ ที่นงั่ กอดอกจ้ องฉันไม่วางตา “นํ ้าขอ
โทษค่ะ”

“ฉันจะไปมหาวิทยาลัย เธออยู่คนเดียวได้ นะ”

“ได้ ค่ะ นํ ้าอยู่ได้ ” ฉันพยักหน้ ารับหงึกๆ

แค่อยู่คนเดียวเอง ตอนอยู่ที่กรุงเทพฉันก็อยู่คนเดียวบ่อยจะตายไป

“นี่เงิน...” พี่คินทร์ เอื ้อมมือไปหยิบกระเป๋ าสตางค์ของตัวเองที่วางอยู่


บนโซฟาขึ ้นมา เขาหยิบแบงก์พนั หนึง่ ใบส่งให้ ฉนั “หิวอะไรก็ให้ ไอ้ เคทพาไป โอเค
ไหม”

“…” ฉันพยักหน้ ารับอย่างว่าง่าย

แต่หนึง่ พันบาทเนี่ย มันมากเกินไปหรื อเปล่า

“เอาไปดิ” พี่คินทร์ ยื่นแบงก์พนั ส่งให้ ฉนั อีกรอบเมื่อเห็นว่าฉันไม่รับมา


สักที

ฉันเม้ มปากแน่น พลางยื่นมือไปรับแบงก์พนั ใบนันมา ้ ยืนลังเลอยู่นาน


ในที่สดุ ก็ตดั สินใจได้ ว่าจะต้ องถามเขาออกไป “แล้ ว...พี่คินทร์ จะกลับเมื่อไหร่คะ”

“…” แต่พอเห็นเขาตวัดสายตาดุดนั มาให้ ก็ทําให้ ฉนั ต้ องหลุบตาตํ่า


มองพื ้นแทน
ต้ องโดนเขาดุแน่เลย เฮ้ อ...

“…” ฉันยู่ปากให้ คนตัวสูง แต่ฉนั มัน่ ใจว่าเขาไม่เห็นหรอก ฉันก้ ม


หน้ าอยู่นี่นา

“เย็นๆ” คําตอบเสียงราบเรี ยบจากปากพี่คินทร์ ทําให้ ฉนั เงยหน้ าขึ ้น


มองอย่างรวดเร็ว

เขาไม่ได้ ดเุ หรอ นี่ฉนั ...ไม่โดนพี่คินทร์ ดเุ หรอ ฝั น... ฝั นไปแล้ วแน่ๆ

“…” ฉันมองเขาตาค้ าง คนตรงหน้ าฉันตอนนี ้ใช่พี่คินทร์ จริ งๆใช่ไหม

“มองอะไร!” เสียงเข้ มของพี่คินทร์ ตวาดกลับมา ทําให้ ความคิดใน


สมองฉันแตกกระเจิงไปคนละทิศทาง

“ปะ...เปล่าค่ะ” ฉันส่ายหน้ าพรื ด

ทําไมพี่คินทร์ หล่อจัง ยิ่งตอนที่เขาไม่ได้ ดฉุ นั เขาน่ารักขึ ้นเป็ นกองเลย


T_T
KINN Talks.
ผมขมวดคิ ้วมองยัยอุ๋งที่ตอนนี ้เอาแต่จ้องหน้ าผมตาเป็ นประกาย จะ
ซาบซึ ้งอะไรขนาดนัน้ กะอีแค่ผมให้ เงินเธอไว้ ใช้ ตอนที่ผมไม่อยู่เฉยๆเนี่ยนะ แปลกคน
...
“ฉันไปอาบนํ ้าละ” ผมบอกเธอ ก่อนจะลุกขึ ้นจากโซฟาโดยที่ไม่ลืม
หยิบแผ่นมาส์กหน้ าที่แปะทิ ้งไว้ เมื่อคืนออกมาด้ วย

อยู่คนเดียว ขอแค่เธออย่าเถลไถลเป็ นพอ ผมขี ้เกียจตามหา

มหาวิทยาลัย

“วันนี ้ไปบาร์ กนั ” ผมขมวดคิ ้วมองไอ้ เฟี ยตที่จ่ๆู ก็พดู ขึ ้นมาหน้ าตาเฉย

ที่มนั พูดขึ ้นมาน่ะผมไม่แปลกใจ เพราะเดี๋ยวนี ้มันเริ่ มพูดขึ ้นเยอะแล้ ว


นับตังแต่
้ คบกันกับน้ องฟิ ล์ม แต่ไอ้ ที่ผมแปลกใจก็คือประโยคของมันนี่แหละ ไปบาร์
คืออะไร ปกติไม่เคยชวนผมเข้ าร้ านเหล้ าเลยนับตังแต่
้ คบกันมา แต่วนั นี ้เกิดคึกอะไร
ขึ ้นกับมัน แปลกๆนะแบบนี ้

“ผีอะไรเข้ าสิงมึงเนี่ย” ผมเลิกคิ ้วถามมันเสียงสูง

“ผีห่าอะไรล่ะ แค่อยากไปสักครัง้ กูจะพาฟิ ล์มไปด้ วย”

“เดี๋ยวนี ้เอาใหญ่นะมึง พาน้ องใจแตก” แฟนมันเพิ่งอยู่ปีหนึง่ เองนะ

“ก็แค่ไปเปิ ดหูเปิ ดตา ไม่ได้ จะพาไปมอมเหล้ า สมองมึงนี่คิดเรื่ อง


สร้ างสรรค์ๆเป็ นบ้ างไหม”

ถ้ าจะพูดขนาดนี ้ ด่าผมว่าโง่เลยเถอะ

“ไปก็ได้ แต่กตู ้ องกลับห้ องก่อน” ผมยักไหล่ตอบมันกลับไป ไปบาร์ ทงั ้


ที จะพลาดได้ ไง สถานที่โปรดปรานผมเลยแหละ
“กลัวเมียหายเหรอ” ประโยคของไอ้ เฟี ยตทําให้ ผมหันขวับไปมอง
อย่างขุ่นเคือง

เรื่ องที่ผมหมันกั
้ บยัยอุ๋งยังไม่มีใครรู้เรื่ อง นอกจากผม ไอ้ เฟี ยต
ครอบครัวของผม และครอบครัวของยัยอุ๋งเท่านัน้ และเรื่ องนี ้จะต้ องถูกเหยียบไว้ ให้
มิดที่สดุ ด้ วย ผมไม่อยากให้ ใครรู้เรื่ องนี ้

“ตังแต่
้ มีแฟนนี่มงึ พูดมากไปนะบางที” ผมแขวะมันกลับไปอย่าง
หมัน่ ไส้

ไอ้ เฟี ยตเบะปากใส่ผม พลางยกแก้ วชานมไข่มกุ ขึ ้นมาดูดกินอย่าง


สบายอารมณ์ ผมว่าผมหมัน่ ไส้ มนั (มากด้ วย)

“สามทุ่มเจอกันที่แซ่บบาร์ เดี๋ยวกูลว่ งหน้ าไปก่อน” ไอ้ เฟี ยตยกนาฬิกา


ขึ ้นมาดู ก่อนจะเงยหน้ าขึ ้นบอกผม

“เออ เดี๋ยวกูขอกลับไปอาบนํ ้าแต่งตัวพรมนํ ้าหอมก่อน เดี๋ยวสาวไม่


ติด” ผมบอกมันขําๆ

“มีเมียแล้ ว...” แต่ประโยคถัดมาของมัน กลับทําให้ ผมถึงกับขําไม่ออก


มันจะพูดขึ ้นมาทําไม

“มึงไปเลยไป เบื่อ” ผมผลักมันให้ เดินไปขึ ้นรถมอเตอร์ ไซค์บิ๊กไบค์ที่


เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ ว
“พูดความจริ ง” ถ้ ามันยังไม่หยุดพูด ผมสาบานเลยว่าจะเดินไป
กระโดดถีบปากมันเดี๋ยวนี ้เลย

“มึงรี บๆไปเลยสัส!” ผมถลึงตาพูดใส่มนั อย่างเคืองๆ

ไอ้ เฟี ยตยกยิ ้มที่มมุ ปาก ก่อนจะเดินตรงไปยังรถมอเตอร์ ไซค์บิ๊กไบค์


ของตัวเอง รอยยิ ้มของมันนี่นบั วันจะกวนตีนขึ ้นทุกวันแล้ วนะ!
MAWNUM Talks.
กึก!

“อ๊ ะ...” ฉันอุทานขึ ้นเบาๆเมื่อได้ ยินเสียงบางอย่างที่ประตู

ก่อนที่ร่างกายจะเด้ งขึ ้นจากโซฟาหลังจากที่นงั่ ดูยทู ปู ไปเรื่ อยเปื่ อยทัง้


วันแล้ ว ร่างสูงของพี่คินทร์ เปิ ดประตูเข้ ามา ฉันเหลือบตามองเวลาบนจอโทรศัพท์ของ
ตัวเอง ตอนนี ้เวลาสองทุ่มแล้ ว ไหนบอกจะกลับเย็นๆไง

“พี่คินทร์ กลับมาแล้ วเหรอคะ” ฉันถามออกไปตามมารยาท

“ตาบอดเหรอ” แต่คําตอบที่พี่คินทร์ ตอบกลับมากลับทําให้ ฉนั ต้ องหุบ


ปากของตัวเองลงโดยฉับพลัน

เขาชอบพูดแบบนี ้กับฉันตลอดเลย โทนเสียงแข็งๆ กับบุคลิกที่ดดุ นั อยู่


ตลอดเวลาที่อยู่กบั ฉัน
“…” ฉันเลือกที่จะเงียบ และเลือกที่จะเปิ ดแชทขึ ้นมาคุยกับเคทแทน
ไม่อยากคุยกับเขาแล้ ว

“ไปอาบนํ ้า” แต่เสียงคําสัง่ เด็ดขาดจากพี่คินทร์ กลับทําให้ หวั คิ ้วฉัน


ขมวดเข้ าหากันแน่น และนิ ้วมือที่กําลังจะกดเข้ าเมสเซนเจอร์ ชะงักค้ างนิ่งงันอยู่อย่าง
นัน้

“ไปไหนคะ” ฉันถามเขากลับไป

“ไปบาร์ ” พี่คินทร์ เดินไปที่ต้ เู สื ้อผ้ า เขาถอดเสื ้อช็อปสีนํ ้าเงินซีดของ


ตัวเองออก มัดกล้ ามของท่อนแขนพี่คินทร์ ทําให้ หวั ใจฉันเต้ นไม่เป็ นจังหวะเลย ฉันสูด
หายใจเข้ าปอดลึกๆ ก่อนจะกลันมั้ นเอาไว้ “ไปชวนเคทด้ วย”

“นะ...นํ ้าไม่ไปได้ ไหมคะ นํ ้าเริ่ มง่วงแล้ ว” นี่มนั ใกล้ เวลานอนของฉัน


แล้ วด้ วย

“ไม่ได้ ” พี่คินทร์ สวนขึ ้นทันควันหลังประโยคของฉันจบลงไม่ถึงเสี ้ยว


วินาที

“นํ ้าไม่เคยไปบาร์ แล้ วก็ไม่อยากไปด้ วย”

เอาจริ งๆเลยนะ ตังแต่


้ เกิดมาจนอายุครบสิบแปดปี ฉันไม่เคยเข้ าผับเข้ า
บาร์ เลยสักครัง้

“ไม่เคยก็จะพาไปอยู่นี่ไง รี บไปอาบนํ ้าได้ แล้ ว” พี่คินทร์ กดดันฉันทาง


สายตา
และฉันรู้ดีวา่ ตัวเองต่อต้ านไปก็ไร้ ประโยชน์ เพราะเดี๋ยวเขาก็บงั คับฉัน
ไปด้ วยอยู่ดี ดูอย่างตอนที่ไปกินข้ าวสิ เขายังบังคับให้ ฉนั ไปกินด้ วยเลย

“ค่ะ” ฉันพยักหน้ ายอมรับแต่โดยดี ก่อนจะเดินไปที่ต้ เู สื ้อผ้ าแล้ วหยิบ


เสื ้อยืดกับกระโปรงยีนส์ออกมา พร้ อมกับผ้ าเช็ดตัวอีกหนึง่ ผืน ก่อนจะเดินไปที่ห้องนํ ้า

แต่ยงั ไม่ทนั ที่เท้ าจะแตะพื ้นห้ องนํ ้า เสียงทุ้มของพี่คินทร์ ก็ตะโกน


ตามหลังมาว่า “อาบเร็วๆล่ะ เดี๋ยวฉันต้ องอาบต่ออีก”

ฉันพยักหน้ ารับ แล้ วก้ าวเข้ าห้ องนํ ้าไป วันนี ้เพิ่งวันที่สองเอง สู้ๆนะ
แมวนํ ้า...

แซ่บบาร์

“คิดไงเนี่ยพี่คินทร์ ” เสียงเคทถามขึ ้นหลังจากที่เราเดินเข้ ามาใน


สถานที่ที่เรี ยกว่า ‘แซ่บบาร์ ’

“หมายความว่าไง” พี่คินทร์ ถามกลับโดยที่เท้ ายังคงเดินแหวกฝูงชนที่


เดินเบียดเสียดกัน

“คิดยังไงถึงพามาบาร์ เดี๋ยวเคทจะโทรฟ้องแม่ว่าพี่พาไอ้ นํ ้ามาเถล


ไถล”

“น้ อยๆหน่อยเหอะ พามาเปิ ดหูเปิ ดตา” พี่คินทร์ ว่าด้ วยนํ ้าเสียง


หงุดหงิด
ถึงเสียงเพลงที่นี่จะดังกระหึม่ จนสะเทือนเยื่อแก้ วหู แต่ทว่านํ ้าเสียงที่พี่คิ
นทร์ พดู ฉันกลับได้ ยินอย่างชัดเจนทุกถ้ อยคํา นี่ใช่ไหมที่เรี ยกว่าบาร์ คนเยอะๆ
เสียงดนตรี ที่ดงั จนหัวใจเต้ นตึกๆ แล้ วก็... บรรดากลิ่นแอลกอฮอล์ที่โชยเตะจมูกเข้ า
มาทุกทิศทาง ครัง้ แรกของการเข้ าบาร์ ของฉัน

“ไอ้ เฟี ยต!” เดินมาสักพัก พี่คินทร์ ก็ยกมือขึ ้นสูง พร้ อมกับร้ องเรี ยกชื่อ
พี่เฟี ยต

ฉันชะเง้ อหน้ าไปมอง พี่เฟี ยตนัง่ อยู่กบั ผู้หญิงหนึง่ คน ดูท่าทางแล้ ว


เหมือนจะสนิทสนมกับพี่เฟี ยตพอสมควรเลย ดูจากที่นงั่ ข้ างกัน ใส่เสื ้อสีเดียวกันราว
กับเป็ นคูร่ ัก ไหนจะมือที่จบั กันแน่นนัน่ อีก

“สวัสดีคะ่ พี่เฟี ยต” เคทยกมือขึ ้นสวัสดีพี่เฟี ยตเป็ นคนแรกเมื่อเราเดิน


ไปถึงโต๊ ะที่พี่เฟี ยตนัง่ อยู่

“สวัสดีคะ่ ” ฉันก็ยกมือขึ ้นไหว้ พี่เฟี ยตบ้ าง

“สวัสดีครับ นี่แฟนพี่ ชื่อฟิ ล์ม” พี่เฟี ยตแนะนําผู้หญิงตรงหน้ าให้ ฉนั


กับเคทได้ ร้ ูจกั

เธอมีดวงตากลมโต ตัวเล็ก ไม่ผอมจนเกินไป เรี ยกว่าหุ่นกําลังพอดี


หน้ าตาแบ๊ วมากเลย น่ารักจัง...

“สวัสดีคะ่ พี่ฟิล์ม” เคทยกมือขึ ้นสวัสดีพี่ฟิล์ม ฉันก็ยกมือขึ ้นสวัสดีตาม


แต่ไม่ได้ เอ่ยทักทายเธอออกไป
“…” พี่ฟิล์มเหวอไปเล็กน้ อย ก่อนจะเงยหน้ าขึ ้นมองพี่เฟี ยต

“นี่น้องไอ้ คินทร์ ส่วนนี่...” พี่เฟี ยตยื่นมือไปชี ้เคทแล้ วแนะนําให้ พี่ฟิล์ม


รู้จกั ก่อนจะเลื่อนมาที่ฉนั เสียงทุ้มหยุดลงที่ตรงนัน้ ก่อนจะฉีกยิ ้มร่าให้ พี่เฟี ยตจนตา
หยี “เมียมัน”

“ห๊ ะ?!” พี่ฟิล์มถึงกับอุทานขึ ้นมาเสียงดัง เธอเบนสายตามามองพี่คิ


นทร์ ที่ยืนอยู่ข้างฉัน

ฉันกระพริ บตาหนึง่ ที ไม่ร้ ูว่าควรจะปฏิเสธไปยังไงดี เลยเลือกที่จะเงียบ


แทนน่าจะดีกว่า

“อือ... เมียมัน” พี่เฟี ยตยํ ้าอีกรอบ

“โอโหพี่คินทร์ ... หยุดไปไม่กี่วนั นี่พกเมียมาด้ วยเลยเหรอ สุดยอด


เลยอ่ะ ฮ่าๆๆ” พี่ฟิล์มพูดขําๆ ก่อนจะยื่นมือไปตีแขนพี่คินทร์ เบาๆ

“หยุดพูดไปเลยฟิ ล์ม” พี่คินทร์ ถลึงตาใส่พี่ฟิล์ม ก่อนจะทรุดตัวลงนัง่


บนเก้ าอี ้ตัวที่ว่างอยู่

เคทเดินเข้ ามาหาฉัน พลางสอดมือเข้ ามากระชับมือฉันแน่น เธอดึงตัว


ฉันให้ นงั่ ลงข้ างๆพี่คินทร์ ส่วนเคทก็นงั่ ประกบฉันอีกด้ านหนึง่ เลยกลายเป็ นว่า
ด้ านขวาฉันคือร่างสูงของพี่คินทร์ ส่วนด้ านซ้ ายคือเคท
หลังจากนัง่ ไปสักพัก แต่ก็กินเวลานานถึงหนึง่ ชัว่ โมง พี่เฟี ยตกับพี่ฟิล์ม
ก็ขอตัวกลับกันก่อน เพราะพี่ฟิล์มมีเรี ยนเช้ า ทําให้ อยู่นานไม่ได้ เธอชวนฉันกับเคทไป
ดูหนังด้ วยกันด้ วย ฉันตอบตกลงพี่ฟิล์มไปแล้ วด้ วย ไม่ได้ เข้ าโรงหนังมาสักพักแล้ วนี่
นะ ส่วนเคทก็ขอตัวไปเข้ าห้ องนํ ้า พี่คินทร์ ก็ไปจ่ายค่าเครื่ องดื่มที่สงั่ มา ฉันเลยนัง่ อยู่ที่
โต๊ ะคนเดียว

ฉันมองไปรอบๆอย่างหวาดระแวง ผู้คนที่เดินสวนกันไปมาเยอะแยะ
ขนาดนี ้ เราไม่มีทางรู้เลยว่าใครมาดีหรื อมาร้ าย จิตใจของมนุษย์คาดเดายากที่สดุ เลย

ฉันหันกลับมามองที่โต๊ ะตรงหน้ าอีกครัง้ พลางหยิบโทรศัพท์มือถือ


ขึ ้นมากดดูอะไรเล่นๆในเฟสบุ๊คฆ่าเวลา เมื่อเวลาผ่านไปสิบนาที ฉันถึงได้ เงยหน้ าขึ ้น
มองรอบตัวอีกครัง้ ไม่มีวี่แววว่าเคทจะกลับมาเลย ฉันลุกขึ ้นจากเก้ าอี ้ ตอนนี ้จิตใจไม่
อยู่กบั ร่องกับรอยแล้ ว ฉันเป็ นห่วงเคท

ฉันควรเดินตามหาเคทไหมนะ...
KINN Talks.
“เดี๋ยวพี่จะกลับละ ดูแลรักษาตัวเองดีๆ” ผมพูดกับรุ่นน้ องสาขา
ตรงหน้ า เธอเป็ นน้ องสาขาปี สอง ตอนนี ้จะขึ ้นปี สามแล้ ว บังเอิญเจอกันพอดี ผมเลย
คุยเพลินไปหน่อย ประจวบเหมาะกับที่เธอถามเรื่ องการไปฝึ กงานกับผมด้ วย เลย
อธิบายเธอซะยาวเลย

ป่ านนี ้น้ องสาวผมกับยัยอุ๋งรอนานแล้ ว...


“โอเค บ๊ ายบายพี่คินทร์ ” เธอยกมือขึ ้นโบกลาผม ก่อนจะเดินออกไป

ผมเดินกลับไปยังโต๊ ะของตัวเอง แต่ปรากฏว่าตอนนี ้ทังยั้ ยเคท


และยัยอุ๋งไม่ได้ อยู่ตรงนันแล้
้ ว หัวคิ ้วของผมขมวดเข้ าหากันแน่น เส้ นประสาทเริ่ มเต้ น
ตุบๆขึ ้นมา

“ไปไหนวะเนี่ย!” สายตาของตัวเองเริ่ มสอดส่ายหาร่างของเด็กผู้หญิง


ทังสองคน

“พี่คินทร์ !” แรงสะกิดที่หวั ไหล่จากทางด้ านหลัง ทําให้ ผมหมุนตัว


กลับไปมองอย่างว่องไว เป็ นเคท... “ไอ้ นํ ้าอ่ะ” เคทชะเง้ อคอมามอง ก่อนจะถามขึ ้น

“พี่ควรถามแกมากกว่าว่าเพื่อนแกหายไปไหน ทําไมไม่นงั่ รอพี่ที่นี่!”

“เคทไปเข้ าห้ องนํ ้ามา เคทบอกให้ ไอ้ นํ ้ามันรอที่นี่นะ” เคทขมวดคิ ้ว


ตอบผมด้ วยนํ ้าเสียงจริ งจัง

“ไปตามหาเร็ว ถ้ าไม่เจอให้ ไปรอพี่ที่รถ โอเคนะ” ผมบอกเคทก่อนจะ


วิ่งออกไปตามหา

ผมไม่ร้ ูว่าตัวเองควรจะเริ่ มหาจากส่วนไหนของบาร์ แต่ผมรู้แค่วา่ วิ่งไป


ไหนก็ได้ ขอแค่ได้ ตามหาตัวยัยอุ๋งให้ เจอ แล้ วคนเยอะขนาดนี ้ เป้นเรื่ องยากมากที่จะ
ค้ นหา เส้ นประสาทผมเริ่ มเต้ นตุบๆเร็วขึ ้นเรื่ อยๆ มันปวดจนแทบจะระเบิดในยามที่
กวาดตามองแล้ วไม่เจอยัยอุ๋ง

“ไปไหนของเธอวะ!” ผมทึ ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด


พยายามวิ่งตามหาในบาร์ จนทัว่ แล้ วแต่ก็ยงั ไม่เจอ สถานที่อีกที่หนึง่ คือ
ห้ องนํ ้าหญิง ถ้ าเธอไม่อยู่ที่นนั่ ก็ไม่มีที่ไหนให้ ไปแล้ ว

ทันทีที่สองเท้ าของตัวเองวิ่งมาถึงหน้ าห้ องนํ ้าหญิง ผมเดินเข้ าไปด้ านใน


โดยที่ไม่สนว่าใครจะมองยังไง กวาดสายตารอบเดียวก็ไม่เจอเธอ จิตใจของผมเริ่ มไม่
อยู่กบั ตัว มันว้ าวุน่ จนแทบจะบ้ าตายอยู่แล้ วในวินาทีนนั ้

“ไม่เอาค่ะ ดะ...เดี๋ยวจะกลับแล้ ว” จังหวะนันเสี


้ ยงของใครบางคนก็ดงั
เข้ ามาในหูผม

สัญชาตญาณบางอย่างในตัวผมมันบอกให้ วิ่งตามเสียงที่ได้ ยินนันไป ้


ทันทีที่วิ่งมาถึงด้ านหลังของบาร์ สิ่งที่ปรากฏตรงหน้ าคือยัยอุ๋งที่ถกู มือของผู้ชายคน
หนึง่ จับแขนอยู่ สีผิวขาวๆของเธอตัดกับสีผิวนํ ้าตาลของผู้ชายคนนัน้ หน้ าตาของเธอ
บิดเบี ้ยว นัยน์ตากลมโตคลอไปด้ วยนํ ้าใสๆ

“ไปเถอะน่า... เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ” ผู้ชายคนนันพู


้ ดด้ วยนํ ้าเสียแหบพร่า

และมันโคตรน่าสะอิดสะเอียนมากในความรู้สกึ ของผม ขนาดผมเป็ น


ผู้ชายยังรังเกียจนํ ้าเสียงแบบนัน้ ไม่อยากจะจินตนาการถึงยัยอุ๋งนี่โดนมันจับแขนอยู่
เลย

ผมสาวเท้ าเดินเข้ าไปหาอย่างว่องไว สิ่งแรกที่ผมทําคือปั ดแขนของ


ผู้ชายคนนันออก
้ และคว้ าแขนของยัยอุ๋งให้ มาหลบหลังตัวเอง ตัวของยัยอุ๋งสัน่ จนผม
สัมผัสได้
“ขอโทษทีครับ! นี่แฟนผม!” ผมพูดกับผู้ชายตรงหน้ า

มันถลึงตาแข็งกร้ าวใส่ผม ก่อนจะเดินหัวเสียออกไป

ผมหมุนตัวกลับไปมองเด็กวัยสิบแปดปี ที่ยืนตัวสัน่ อยู่ด้านหลังตัวเอง


ก่อนจะตวาดเธอเสียงดังจนคนตรงหน้ าสะดุ้งเฮือก “ไปไหนทําไมไม่บอก ไม่กลัวโดน
ลากไปข่มขืนหรื อไง!”

“ฮึก... ฮือ...” เสียงสะอื ้นดังออกมาจากปากเธอ

หมับ!

ร่างของเธอโผเข้ ากอดผมไว้ แน่น วงแขนเรี ยวเล็กอ่อนนุ่มตวัดรอบเอว


ผม เธอกระชับวงแขนแน่นขึ ้น ซบใบหน้ าที่คลอไปด้ วยนํ ้าตาเข้ ากับอกของผม สัมผัส
อุ่นๆตรงอกทําให้ ร้ ูว่าเธอร้ องไห้ มากมายขนาดไหน

“ทีนี ้อย่าไปไหนมาไหนคนเดียวอีก เข้ าใจไหม” ผมยืนนิ่งให้ เธอกอด


อยู่อย่างนัน้

“ฮึก... นํ ้ากลัว” ร่างกายสัน่ เทิ ้มของเธอตอกยํ ้าคําว่า ‘กลัว’ ได้ เป็ น


อย่างดี

สองแขนของผมค่อยๆยกขึ ้นกอดตอบเธอ พลางลูบไล้ ที่แผ่นหลังของ


เธอเบาๆเพื่อปลอบโยน “ไม่เป็ นไรแล้ ว เลิกร้ องได้ แล้ วน่า...”

“อึก... ฮึก...” แต่ผมรู้ดีวา่ ต่อให้ ปลอบยังไงเธอก็ไม่หยุดร้ องไห้ หรอก


เธอเหมือนเคท... น้ องสาวของผมเป็ นแบบเธอเป๊ ะเลย

เพียงแค่เธอดูบอบบางมากกว่าน้ องสาวของผมหลายเท่า...
-------------------------
MAWNUM Talks.
“ฮึก... ฮึก...” ฉันนัง่ สะอื ้นร้ องไห้ มาเป็ นชัว่ โมงแล้ ว

พี่คินทร์ นงั่ เล่นเกมอยู่ที่เตียงเหมือนเดิม ส่วนฉันนัง่ ร้ องไห้ ไม่หยุดอยู่ที่


โซฟา เหตุการณ์เมื่อช่วงคํ่าที่ผ่านมามันน่ากลัวมาก ฉันกําลังเดินตามหาเคทอยู่ดีๆก็มี
ผู้ชายคนหนึง่ โผล่มาจับแขน แถมเขายังบีบจนแขนฉันเจ็บไปหมดเลยด้ วย ตอนนันฉั ้ น
ยังประหม่าทังหวาดกลั
้ ว ฉันตามหาเคทไม่เจอ และตัวเองยังต้ องมาโดนคนที่ไม่ร้ ูจกั
พาเดินไปไหนก็ไม่ร้ ูด้วย

แต่พอพี่คินทร์ โผล่เข้ ามา ความโล่งอกผสมกับดีใจอยู่ในส่วนลึกมันก็ตี


ตื ้นขึ ้นมาจนยากจะระงับ ฉันดีใจที่พี่คินทร์ มาทันเวลา ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้ าเขามา
ช้ ากว่านี ้ฉันจะเป็ นยังไง แต่ถึงอย่างนันมั
้ นก็ยงั ใจหายอยู่ดี อาการของฉันก็เลยเป็ น
อย่างที่เห็น ร้ องไห้ ไม่หยุดแบบนี ้

“เธอไม่เหนื่อยบ้ างเหรออุ๋ง” พี่คินทร์ ถามขึ ้น ทังๆที


้ ่สายตาเขายังคง
มองแต่จอโทรศัพท์

“ฮึก... ฮือ...” เหนื่อยสิ ร้ องไห้ แบบนี ้เสียพลังงานไปเยอะเลย แต่ฉนั


หยุดร้ องไม่ได้ นี่
“เธอร้ องมาเป็ นชัว่ โมงแล้ วนะ ไม่ง่วงหรื อไง” พี่คินทร์ วางโทรศัพท์ลง
ก่อนจะพลิกตัวมามองหน้ าฉันตรงๆ

“ฮึก... นํ ้ากลัว...” ฉันกลัวจริ งๆนะ ผู้ชายคนนันแรงเยอะมาก


“รู้แล้ วว่ากลัว ไม่พาไปแล้ ว โอเคไหม” พี่คินทร์ เลิกคิ ้วถาม

“…” ฉันหยักหน้ ารับหลายๆที

เหตุการณ์ที่เกิดขึ ้นในวันนี ้ทําฉันเข็ดหลาบไปเลย ไม่อยากเจอแบบนัน้


อีกแล้ ว

“พรุ่งนี ้เดี๋ยวพาไปดูหนัง” เสียงทุ้มของพี่คินทร์ เอ่ยขึ ้น เขาขยับกายลง


จากเตียง ก่อนจะเดินหน้ าตรงไปยังห้ องนํ ้า

“…” ฉันมองตามพี่คินทร์ ที่สาวเท้ าเดินเข้ าห้ องนํ ้าไปเงียบๆ

ประมาณสิบนาทีเขาถึงได้ เดินออกมาพร้ อมกับแผ่นมาส์กหน้ าสีขาว


พี่คินทร์ ก้าวขึ ้นไปบนเตียงอีกครัง้ ก่อนจะเอนตัวลงนอน ฉันขมวดคิ ้วมองท่าทางของ
เขาด้ วยความมึนงง ปกติฉนั เคยเห้ นแต่พวกผู้หญิงที่ชอบใช้ มาส์กก่อนจะนอน แต่นี่
พี่คินทร์ เป็ นผู้ชาย มันทําให้ ฉนั อดคิดไม่ได้ จริ งๆว่าเขาอาจจะเป็ น...

เฮือก...

จู่ๆพี่คินทร์ ก็หนั ขวับมามองฉันกะทันหันจนฉันตังรั้ บไม่ทนั เขากระพริ บ


ตาหนึง่ ที สีหน้ าพี่คินทร์ เป็ นแบบไหนฉันไม่ร้ ูเลย ใบหน้ าของเขาถูกแผ่นมาส์กแปะอยู่
“ฉันหล่อใช่ไหมล่ะ” เขาถามขึ ้นมา

“…” ฉันเงียบไปอย่างตกตะลึง

ตึกตัก... ตึกตัก...

หัวใจของฉันกระหนํ่าเต้ นอย่างรุนแรงจากคําพูดห้ วนๆของพี่คินทร์ เขา


ไม่ได้ ใช้ นํ ้าเสียงหวานหยดจนแทบหลอมละลาย มันเป็ นแค่นํ ้าเสียงที่เขามักจะใช้ พดู
กับฉัน ห้ วนๆสันๆ ้ ไม่ได้ มีอะไรเลิศเลอ แต่ทว่ามันกลับทําให้ หวั ใจฉันทํางานหนัก
อย่างน่ากลัว นํ ้าตาที่ไหลออกมาต่อเนื่องก่อนหน้ านี ้เหือดแห้ งไป ทิ ้งไว้ แค่อาการ
ใจเต้ นตึกตักของฉันเท่านัน้

“…” พี่คินทร์ สบตากับฉันอยู่แบบนัน้

ฉันกลืนนํ ้าลายลงคออึกหนึง่ ก่อนจะตอบเขากลับไปเสียงเบา “หล่อ


ค่ะ”
“...”
“…”
“แค่กๆ” แล้ วจู่ๆเขาก็กระแอมไอออกมา ก่อนจะพลิกตัวไปนอนในท่า
เดิม

พี่คินทร์ หลับตาลง เขาไม่ได้ พดู กับฉันอีกเลย นี่ฉนั ... พูดอะไรผิดไปหรื อ


เปล่านะ
“…” ฉันปรายตาไปมองพี่คินทร์ อีกครัง้ ดูเหมือนเขาจะหลับไปแล้ ว
แน่เลย ฉันลุกขึ ้นจากโซฟา ตรงไปหยิบกระดาษทิชชู่ที่วางอยู่ตรงโต๊ ะเขียนหนังสือมา
ซับนํ ้าตาของตัวเองออก

“มานอน” แต่เสียงทุ้มตํ่าของเขาก็ทําให้ ฉนั สะดุ้งจนต้ องหันกลับไป


มอง “ห้ าทุ่มกว่าแล้ ว ไหนบอกนอนสามทุ่มประจําไงยัยเด็กอนามัย”

“ดะ...เดี๋ยวนํ ้าไปค่ะ” เสียงที่ตอบพี่คินทร์ กลับไปตะกุกตะกักสิ ้นดีเลย

หลังจากซับนํ ้าตาด้ วยทิชชู่เสร็จ ฉันก็เดินไปล้ างหน้ าล้ างตาในห้ องนํ ้า


ก่อนจะเดินกลับมาที่เตียง แต่ก็ต้องพบว่าเตียงได้ ถกู คนตัวสูงแบ่งเขตแดนไว้ เรี ยบร้ อย
แล้ ว หมอนข้ างใบโตถูกเขานํามาวางไว้ ที่กลางเตียง พี่คินทร์ ลืมตาขึ ้นมามองฉันที่
ยังคงยืนนิ่งอยู่กบั ที่อย่างลังเล

“มานอนสิ แบ่งเขตแดนให้ แล้ ว ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะทําอะไรเธอหรอก”

ฉันเม้ มริ มฝี ปากแน่น สายตาจับจ้ องอยู่ที่เตียงนอนที่เหลือพื ้นที่


พอประมาณ “…”

“ไม่นอนก็แล้ วแต่เธอนะ” พี่คินทร์ ว่า ก่อนจะพลิกตัวไปอีกฝั่ ง ใน


จังหวะที่ฉนั ตัดสินใจขยับกายขึ ้นไปนัง่ บนเตียง เสียงทุ้มของเขาก็บอกกลับมาอีกรอบ
ว่า “ปิ ดไฟด้ วย สว่างไป นอนไม่หลับ”

ฉันเลยเดินไปปิ ดไฟ ก่อนจะเดินกลับมาที่เตียง พี่คินทร์ ไม่ได้ สนใจฉัน


อีก ผ้ าห่มที่กองอยู่ตรงปลายเตียงถูกฉันตวัดขึ ้นมาห่มจนถึงลําคอ สายตามองตรงไป
ยังเพดาน จะว่าไป... นี่เป็ นครัง้ แรกเลยที่ฉนั รู้สกึ ว่าได้ นอนร่วมเตียงกันกับเขาเป็ นครัง้
แรก ถึงแม้ มนั จะถูกกันเขตด้
้ วยหมอนข้ างก็ตาม

เช้ าวันใหม่

แสงแดดในยามเช้ าที่สาดส่องเข้ ามาผ่านผ้ าม่านทางหน้ าต่างทําให้ หวั


คิ ้วของฉันขมวดเข้ าหากันแน่น เปลือกตาที่ปิดสนิทในตอนแรกค่อยๆเปิ ดขึ ้น สมองอัน
มึนงงจากการตื่นนอนทําให้ ร่างกายฉันเหนื่อยล้ าจนลุกไม่ขึ ้นเลยหรื อไงนะ ที่เอวของ
ฉันมันหนักแปลกๆด้ วย

ทันทีที่เปลือกตาเปิ ดเต็มที่ ดวงตาที่พร่าเบลอก็พยายามจัดการกับ


ตัวเองโดยการปรับภาพด้ านหน้ าให้ ชดั เจน เมื่อมันชัดเจนแล้ ว สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ า
ก็ทําให้ ฉนั ถึงกับตัวแข็งค้ าง จมูกฉันชนอยู่กบั หน้ าอกแกร่งของพี่คินทร์ ฉันค่อยๆเลื่อน
สายตาลงมอง ที่เอวฉันมีแขนของเขาพาดอยู่ ส่วนแผ่นหลังก็มีฝ่ามือของเขาทาบอยู่
ด้ วยเช่นกัน

ลมหายใจอุ่นๆของพี่คินทร์ เป่ าอยู่บนศีรษะฉันนี่เอง ฉันจะทํายังไงดี จะ


ปลุกเขายังไงดี

“พี่คินทร์ ...” ฉันเรี ยกชื่อพี่คินทร์ เบาๆ

“อือ...”

“อุบ!”
เสียงครางงึมงําดังออกมาจากลําคอแกร่ง ตามด้ วยแรงมหาศาลของ
ผู้ชายตัวใหญ่อย่างพี่คินทร์ ที่โอบรัดร่างกายฉันแน่นขึ ้นจนใบหน้ าฉันอัดเข้ ากับแผงอก
ของเขาจนเกิดเสียงดัง ‘อุบ’ อย่างที่เห็น เขาขยับตัวยุกยิกราวกับรํ าคาญ

“พี่คินทร์ คะ... เช้ าแล้ ว”

“แป๊ บหนึง่ หมอนข้ างนิ่มมาก ขอกอดก่อน” เขาตอบกลับมาโดยที่ตา


ยังหลับอยู่

แต่หมอนข้ างที่เขาพูดถึงมันไม่ใช่หมอนข้ างนี่สิ มันคือตัวฉันนะ

“แต่พี่คินทร์ กอดนํ ้าอยู่นะคะ” ฉันตอบเสียงอู้อี ้ เพราะริ มฝี ปากดันอยู่


ชิดติดอกเขาแล้ วตอนนี ้

“!!!”
KINN Talks.
‘แต่พี่คินทร์ กอดนํ ้าอยู่นะคะ’

ผมลืมตาโพลงด้ วยความตกใจสุดขีดเมื่อได้ ยินเสียงของยัยอุ๋งที่ดงั เข้ ามา


ในหู ก่อนที่มนั จะสะท้ อนเป็ นเสียงก้ องซํ ้าๆในหัวสมองราวกับไปยืนที่หน้ าผาสูงแล้ ว
ตะโกนออกไป สายตาของตัวเองหลุบมองตํ่าในวินาทีนนเลย ั้ ร่างเล็กของยัยอุ๋งที่
ตอนนี ้จมเข้ ามาในอ้ อมกอดของผม ใบหน้ าของเธออยู่ใกล้ กบั อกผมในระยะประชิด

ซึง่ ... หมอนข้ างที่ผมพูดถึงมันคือยัยอุ๋ง


ผมปล่อยมือออกจากเอวเธออย่างว่องไว ก่อนจะถอยร่นออกมาเพื่อ
รักษาระยะห่าง หมอนข้ างที่ว่าตอนนี ้ลงไปนอนแอ้ งแม้ งอยู่ที่พื ้นแล้ ว ส่วนหมอนข้ างที่
ผมนอนกอดตลอดทังคื้ นตอนนี ้นอนทําตาปริ บๆมองผมอยู่

“ธะ...เธอ” ผมพูดอะไรไม่ออกเลย

“นํ ้าขอโทษนะคะ ไม่ร้ ูว่าหมอนข้ างมันหล่นไปที่พื ้นได้ ยงั ไง”

ใช่... มันหล่นไปที่พื ้นได้ ยงั ไง เมื่อคืนผมเป็ นคนเอามากันเขตระหว่


้ าง
ผมกับยัยอุ๋งไว้ แล้ วแท้ ๆ

“ไม่เป็ นไร รี บไปอาบนํ ้าได้ แล้ ว ฉันจะได้ พาไปดูหนัง ”

วันนี ้ภารกิจสําคัญของผมคือต้ องพายัยอุ๋งไปดูหนังเพราะเธอขวัญเสีย


จากเหตุการณ์เมื่อคืนมา ความจริ งผมก็ร้ ูสกึ สงสารเธอล่ะนะ แต่สว่ นหนึง่ มันก็เป็ น
ความผิดของเธอด้ วยที่ไม่รอผมอยู่ที่โต๊ ะ เดินไปไหนมาไหนทังๆที
้ ่สถานที่มนั ไม่ได้ เอื ้อ
ต่อความปลอดภัย เธอควรจะโดนผมดุมากกว่าปลอบด้ วยซํ ้า

“เราจะดูเรื่ องอะไรคะ” ยัยอุ๋งกระพริ บตาถาม

“ดิอเวนเจอร์ อินฟิ นิตี ้วอร์ ...มัง”


้ ผมปรายตาไปมองยัยอุ๋งที่นอนทํา
ตาแป๋ วอยู่ข้างๆ ก่อนจะตอบไปเสียงเรี ยบ

“งันนํ
้ ้าไปอาบนํ ้าแล้ วนะคะ” เธอตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุก
ขึ ้นจากเตียงตรงไปยังตู้เสื ้อผ้ า ยัยอุ๋งหันมามองผมหลังจากหยิบเสื ้อผ้ าของตัวเองออก
มาแล้ ว ก่อนจะฉีกยิ ้มกว้ างให้ ผมจนเห็นซี่ฟันขาวๆ แววตาตื่นเต้ นระคนดีใจฉายชัด
ออกมาอย่างชัดเจน “พี่คินทร์ ต้องซื ้อป๊ อปคอร์ นเข้ าไปนัง่ กินด้ วยนะคะ” เธอบอกทิ ้ง
ท้ ายเอาไว้ ก่อนจะวิ่งเข้ าห้ องนํ ้าไป

“…” ผมกระพริ บตามองตามหลังของเธออย่างมึนงง

ผมยอมรับเลยว่าตังแต่
้ เกิดมาเป็ นคนจนอายุขนาดนี ้ ยัยนี่แปลกคน
ที่สดุ แล้ ว
MAWNUM Talks.
“ต๊ าดา ตัด๊ ตา ด๊ าดา” เสียงฮัมเพลงดังขึ ้นอยู่เป็ นระยะจากปากฉัน

ก็มนั ดีใจนี่นา อุดอู้อยู่แต่ในห้ องสี่เหลี่ยม หันมองไปทางไหนก็มีแต่ผนัง


กับเฟอร์ นิเจอร์ ชินตา อย่างกับถูกขังอยู่ในคุกเลย พอพี่คินทร์ อาสาจะพาฉันไปดูหนัง
ความรู้สกึ ตื ้นตันผสมกับความดีใจเล็กๆก็ผดุ ขึ ้นมาระนาวราวกับเด็กได้ ต๊ กุ ตาของเล่น
ตัวใหม่ ยิ่งพอหันไปเจอพี่คินทร์ ที่กําลังยืนเช็ดผมเปี ยกๆอยู่หน้ าตู้เสื ้อผ้ า ฉันก็ยิ่งอยาก
วิ่งไปกอดให้ ร้ ูแล้ วรู้รอด

“ดีใจใหญ่เลยนะยัยอุ๋ง” พี่คินทร์ หนั มาถลึงตาใส่ฉนั

ยิ ้มแหยๆถูกส่งไปให้ เขา ก่อนที่เสียงอู้อี ้จะตอบกลับคนตัวสูงไป “ก็นํ ้าดี


ใจหนิคะ”

“แค่เห็นหน้ าเธอบานเป็ นกะละมังขนาดนัน้ ฉันก็ร้ ูโดยอัตโนมัติละว่า


เธอดีใจ”
“…” ฉันย่นจมูกกลับไปให้ พี่คินทร์ ก่อนจะเอาโทรศัพท์ขึ ้นมากดแชท
หาเคท

แมวนํ ้า : เคททททท

แมวนํ ้า : เสร็จยังงงงง

ทันทีที่แชทของฉันส่งไปหาเคทขึ ้นว่าอ่านแล้ ว รอยยิ ้มก็ผดุ ขึ ้นบนใบหน้ า


ฉันทันที

เคท : แป๊ บนึงดิ ขี ้อยู่

แมวนํ ้า : ….

ฉันกับเคทเราสนิทกันจนคุยเรื่ องทุกอย่างได้ โดยเปิ ดเผยแบบไม่อายกัน


แล้ ว แต่มนั ก็อย่างที่เห็นนี่แหละ บางครัง้ มันก็ตรงซะจนฉันพูดไม่ออกเลย

“เคทเสร็จยัง” พี่คินทร์ ถามขึ ้นในขณะที่มือข้ างหนึง่ ของเขาคว้ าเสื ้อยืด


สีเทาจากตู้เสื ้อผ้ าออกมาสวมใส่ลวกๆ

“เอ่อ...” ฉันอํ ้าอึ ้ง ไม่ร้ ูจะบอกไปยังไงดี จะให้ ฉนั บอกไปตรงๆก็ดู


เหมือนจะเสียมารยาทอยู่พอตัว “คือ...”

“ว่าไง มัวแต่เอ่อๆอ่าๆอยู่ได้ ตอบให้ มนั ชัดถ้ อยชัดคําหน่อย เดี๋ยวพอ


ติดมหาวิทยาลัยตอนโดนอาจารย์สมั ภาษณ์เข้ าเรี ยนเธอจะทํายังไง” ยาวเลย... มีวนั
ไหนที่พี่คินทร์ จะไม่ดฉุ นั ไหมเนี่ย
“เคทขี ้อยู่ค่ะ!” ฉันตอบไปแบบชัดถ้ อยชัดคํา

รู้สกึ หน้ าร้ อนผ่าวขึ ้นมานิดๆด้ วย แต่มนั ก็เป็ นธรรมดาอยู่แล้ วสําหรับ


ชีวิตมนุษย์ จะอายก็คงแปลกเกินไป

“แค่กๆ” เสียงไอจากคนตัวสูงทําให้ ฉนั หลุบตาตํ่ามองพื ้นแทน ก็บอก


ให้ ตอบแบบชัดถ้ อยชัดคํานี่นา อย่ามาว่าฉันทีหลังก็แล้ วกัน “บอกเคทไป ให้ เวลาอีก
ยี่สิบนาที ถ้ าไม่มาจะล่วงหน้ าไปก่อนแล้ ว”

“อะ...เอางันเลยเหรอคะ”
้ ฉันถามพี่คินทร์ อย่างไม่แน่ใจนัก

แต่ก็ยอมเปิ ดเมสเซนเจอร์ ขึ ้นมาอีกรอบ ก่อนที่นิ ้วจะจิ ้มบนแป้นพิมพ์


ของหน้ าจอโทรศัพท์ขนาดเกือบหกนิ ้วถึงคําบอกแกมสัง่ ของพี่คินทร์ ไปให้ เคท

แมวนํ ้า : พี่คินทร์ ให้ เวลาอีกยี่สิบนาทีนะเคท ถ้ าไม่เสร็จจะล่วงหน้ าไป


ก่อน

เคท : อะไรนักหนาวะ งันไปกั


้ นเลย ไม่ไปแล้ ว ท้ องเสียเนี่ย!

แมวนํ ้า : งือออออ

แมวนํ ้า : ไม่เอา นํ ้าไม่กล้ าอยู่กบั พี่คินทร์ สองต่อสอง

เคท : =_=!

เคท : แล้ วที่อยู่ห้องกันสองคนนัน่ ไม่เรี ยกสองต่อสองเหรอยัยบ๊ อง!


อ่า... จริ งด้ วยแฮะ ฉันอยู่ห้องกับพี่คินทร์ สองต่อสองมาสองคืนแล้ วนี่นา
ลืมไปเลย

แมวนํ ้า : ไม่ร้ ูละ่ นํ ้าจะบังคับให้ เคทไปด้ วย

เคท : นี่ฟังนะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากไปนะเว้ ย แต่มนั ท้ องเสียจะให้ ทํา


ยังไง

ฉันเม้ มริ มฝี ปากแน่นอย่างขัดใจเมื่อได้ อ่านข้ อความตอบกลับมาของ


เคท ก่อนจะตัดสินใจเงยหน้ าขึ ้นเผชิญกับพี่คินทร์ อีกครัง้

“อุ๊ย!” เสียงอุทานเบาๆหลุดออกจากปากฉัน เมื่อเงยหน้ าขึ ้นมองก็


ปรากฏว่าใบหน้ าของพี่คินทร์ อยู่ห่างจากใบหน้ าฉันไม่ถึงคืบเลยด้ วยซํ ้า ตากลมโต
ของพี่คินทร์ กระพริ บสามครัง้ หลังจากจ้ องตากับฉันได้ เพียงสองวินาทีเท่านัน้

ตึกตัก... ตึกตัก...

เสียงเต้ นโครมครามของหัวใจฉันดังขึ ้นมาในหูอย่างรัวเร็ว ใครจะคิดว่า


การได้ สบตากับคนที่ชอบเพียงแค่สองวินาทีก็ทําให้ หวั ใจเต้ นตึกตักระรัวขึ ้นมาราวกับ
ตีกลองได้ แบบนี ้ ถึงมันจะเป็ นเพียงระยะเวลาสันๆ
้ หากแต่มนั กลับทําให้ หวั ใจฉันสูบ
ฉีดเลือดพลุง่ พล่านไปทัว่ ร่างกายอย่างน่ากลัว

เสียงทุ้มเอ่ยขึ ้นตรงหน้ าฉัน โดยที่คนตัวสูงยังไม่ได้ เว้ นระยะห่างออกไป


ลมหายใจอุ่นๆของเขาเป่ าริ นรดอยู่แถวๆริ มฝี ปากฉันด้ วย “ว่าไง”

“เคทบอกว่าท้ องเสียค่ะ คงจะไม่ได้ ไป” ฉันตอบไปตามความจริ ง


“งันเราก็
้ ไปกันสองคน” พี่คินทร์ ว่าก่อนจะผละใบหน้ าหล่อเหลาของ
เขาออกไป

ทําให้ ใจที่เต้ นระสํ่าก่อนหน้ านี ้ของฉันเริ่ มค่อยๆสงบลงทีละนิดอย่างใจ


เย็น ฉันสูดลมหายใจเข้ าปอด กระเด้ งตัวลุกขึ ้นจากโซฟาเมื่อเห็นพี่คินทร์ ตงท่ั ้ าจะเดิน
ไปที่ประตู

เมเจอร์ ซินีเพลกซ์

ผู้คนที่กําลังเดินพลุกพล่านไปมาทําให้ ฉนั เกิดอาการตาลายได้ อย่างไม่


ยากเย็น เพราะตอนเช้ าไม่ได้ กินข้ าว พี่คินทร์ ก็พามาที่เมเจอร์ เลย ตอนนี ้ฉันนัง่ ดูดเป๊ ป
ซี่เพื่อรอเวลาเข้ าโรงเพื่อไปดูดิอเวนเจอร์ อินฟิ นิตี ้วอร์ ที่หลายคนรี วิวในเฟสบุ๊คว่าสนุก
มาก ซึง่ ฉันก็เป็ นพวกชอบอ่านรี วิวก่อนจะดูอยู่แล้ ว ถึงมันจะหายตื่นเต้ นไปบ้ างเพราะ
มีคนเล่าถึงฉากในภาพยนตร์ แต่ฉนั ก็ยงั อ่านอยู่ดี

“เอาแต่กินเป๊ ปซี่ เดี๋ยวก็ปวดท้ องหรอกยัยอุ๋ง ” พี่คินทร์ ที่นงั่ ปาป๊ อป


คอร์ นเข้ าปากพูดขึ ้นเสียงเอื่อยเฉื่อย

ฉันเหลือบตาไปมองเขาอย่างระมัดระวัง “ก็นํ ้าหิวหนิคะ”

“เอา...” พี่คินทร์ ยื่นป๊ อปคอร์ นที่อยู่ในถังกระดาษมาให้ ฉนั “กินดิ กิน


นี่ยงั ดีกว่านํ ้าอัดลม”

“ไม่เอาหรอกค่ะ นํ ้าชอบกินเวลาดูหนังมากกว่า” ฉันส่ายหน้ าพรื ด กิน


ก่อนดูหนังฉันไม่คอ่ ยเท่าไหร่
“ดื ้อ...” เสียงทุ้มตํ่าของพี่คินทร์ ทําให้ ปากฉันเบะลงนิดหน่อย

ฉันก้ มหน้ าก้ มตาดูดนํ ้าเป๊ ปซี่ที่ยงั หลงเหลืออยู่ในแก้ วอีกครัง้ แต่พอเงย


หน้ าขึ ้นอีกทีกลับต้ องเบิกตากว้ างเพราะอาการตกตะลึงกับภาพที่เห็น หลายสายตา
จากผู้หญิงทุกวัยทอดมองมาที่พี่คินทร์ มากมาย ทําให้ ฉนั ต้ องเหลือบตามองตาม
อย่างไม่เข้ าใจนัก

พี่คินทร์ อยู่ในชุดเสื ้อยืดสีเทา กางเกงยีนส์สีนํ ้าเงินซีด เขาไม่ได้ แต่งตัวดู


ดีราวกับนายแบบแฟชัน่ โชว์ หากทว่ามันกลับมีเสน่ห์ล้นเหลืออย่างบอกไม่ถกู ออร่า
ความหล่อเหลาของพี่คินทร์ กระจายออกมาจนฉันที่เป็ นเด็กอายุสิบแปดปี ดไู ม่มี
ความหมายไปเลย ฉันยู่ปากให้ เขาก่อนจะก้ มหน้ าลงดูดนํ ้าเป๊ ปซี่ตอ่ อย่างใจเย็น

แต่หลายสายตาก็ยงั คงไม่หยุดมองอยู่ดี ฉันกระเถิบเข้ าไปหาพี่คินทร์ อีก


นิดหน่อย พลางส่งสายตาเขียวปั๊ ดไปให้ ผ้ หู ญิงที่เอาแต่จ้องพี่คินทร์ ตาเป็ นมัน

“อย่าเข้ ามาใกล้ ฉนั ได้ ไหมเนี่ย =_=” พี่คินทร์ หลุบตามองฉันที่นงั่ อยู่


ห่างจากเขาเพียงแค่คืบเดียว

เมื่อโดนดุจากนํ ้าเสียงเข้ มขรึมของพี่คินทร์ ฉันก็ขยับร่างกายออกมานัง่


ห่างจากเขายาวเป็ นวา ไม่ให้ ใกล้ ก็ได้ ไม่ให้ ใกล้ ก็ไม่เข้ าไป

“น้ องครับ” เพิ่งนัง่ ห่างจากพี่คินทร์ ได้ ยงั ไม่ถึงนาที จู่ๆด้ านข้ างอีกฝั่ ง
ของฉันก็มีคนหย่อนก้ นลงมานัง่ ใกล้ ๆ “พี่ขอไลน์ได้ ไหมครับ”
“เอ่อคือ...” ฉันไม่กล้ าให้ ไปเพราะยังลังเล ก่อนจะค่อยๆปรายตาไป
มองพี่คินทร์ ที่นงั่ ห่างเป็ นวาในตอนแรก

พี่คินทร์ หนั ขวับมามองฉันตาเขม็งเลย คิ ้วเข้ มของเขาขมวดมุ่น ก่อนจะ


กระเถิบเข้ ามานัง่ ใกล้ ฉนั ซะจนไม่มีที่ว่างให้ หายใจหายคอ เสียงทุ้มแต่ทว่าแข็งขึงดัง
ออกมา “ขอโทษครับ เขามีแฟนแล้ ว”

ตึกตัก... ตึกตัก...

คําว่า ‘แฟน’ ที่ฉนั ได้ ยินมาแล้ วครัง้ หนึง่ ตอนที่กําลังจะโดนฉุดจากชาย


แปลกหน้ าหลุดออกจากปากพี่คินทร์ อีกครัง้ ครัง้ ก่อนที่ฉนั ได้ ยินมันไม่มีเวลามานัง่ ดี
ใจนี่นาว่าพี่คินทร์ จะพูดแบบนี ้ออกมา แต่ครัง้ นี ้ฉันมีเวลาเหลือเพียบเลย อาการอึกทึก
ครึกโครมของหัวใจเล่นเอาฉันแทบจะตัวปลิว เขินจัง...

มือข้ างหนึง่ ของพี่คินทร์ เอื ้อมมาจับเอวฉันไว้ ก่อนจะกระชับให้ ร่างฉัน


ขยับเข้ าไปใกล้ เขาอีก สัมผัสแบบแนบชิดในครัง้ นี ้ทําฉันตัวร้ อนฉ่าเป็ นไฟเลย ทังเขิ
้ น
ทังดี
้ ใจอย่างบอกไม่ถกู ฉันหลงรักพี่คินทร์ ขนาดนันเลยใช่้ ไหมนะ

“ขอโทษครับ” พี่ผ้ ชู ายคนนันค้


้ อมตัวลงอย่างสุภาพพร้ อมกับเอ่ยขอ
โทษก่อนจะลุกออกไป

พอลับร่างของเขา พี่คินทร์ ก็ปล่อยมือออกจากเอวฉันอย่างว่องไว เขา


ขยับห่างออกไปพลางหยิบโทรศัพท์ขึ ้นมากดอะไรก็ไม่ร้ ู เล่นเกมอีกแน่เลย
หลังจากนัง่ รอเวลาหนังเข้ าฉายได้ ห้านาทีสดุ ท้ าย ฉันก็เริ่ มรู้สกึ ครั่นเนื ้อ
ครั่นตัวแปลกๆ หัวคิ ้วของฉันเริ่ มเรี ยบตึงขึ ้นเรื่ อยๆ อาการเจ็บแปลบที่ท้องน้ อยเล่น
งานอย่างเฉียบพลัน

“โอ๊ ย!” ฉันร้ องออกมาเมื่อรู้สกึ แปลกๆ

“เป็ นอะไร” พี่คินทร์ ถามเสียงเรี ยบ เขายังคงกินป๊ อปคอร์ นและเล่น


โทรศัพท์อยู่เหมือนเดิม

“นํ ้าขอไปเข้ าห้ องนํ ้าก่อนนะคะ” ฉันวางแก้ วเป๊ ปซี่ที่ดดู หมดแล้ วในมือ
ลงข้ างลําตัว ก่อนจะลุกพรวดขึ ้นจากโซฟาหน้ าเมเจอร์ แล้ ววิ่งหาห้ องนํ ้าทันทีทนั ใด

ฉันว่ามันแปลกๆแล้ วนะอาการแบบนี ้

หลังจากเข้ ามาในห้ องนํ ้า สํารวจตัวเองเรี ยบร้ อยก็ถึงกับต้ องเบิกตา


กว้ างอย่างตกตะลึงเมื่ออันเดอร์ แวร์ ที่ฉนั สวมใส่อยู่มีรอยเลือดสีแดงๆคล้ ายกับ
ประจําเดือน หรื อว่านี่จะเป็ นผลจากการกินยาคุมฉุกเฉิน ถ้ านับวันที่ฉนั กินยาคุม
ฉุกเฉินมาจนถึงวันนี ้ นี่ก็เป็ นวันสุดท้ ายแล้ วด้ วย

แย่แล้ ว... จะมาเป็ นอะไรวันนี ้นะนํ ้า


ฉันทรุดตัวนัง่ ลงบนชักโครก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ า
สะพายสีชมพูหวานแหววข้ างลําตัว กดเบอร์ ของพี่คินทร์ แล้ วโทรออกทันที

“พี่คินทร์ คะ” ฉันกรอกเสียงลงไปอย่างไม่รีรอเมื่อพี่คินทร์ กดรับสาย


[ว่า] พี่คินทร์ ตอบกลับมาสันๆ

“นํ ้าเป็ นประจําเดือนค่ะ ช่วยไปซื ้อผ้ าอนามัยมาให้ หน่อยได้ ไหมคะ”


ถึงมันจะดูไม่คอ่ ยเหมาะสมเท่าไหร่ที่จะใช้ ผ้ ชู ายไปซื ้อของแบบนี ้ให้ แต่ในเวลานี ้ฉัน
พึง่ พาเขาได้ คนเดียวเท่านัน้ จะให้ ฉนั เดินโทงๆออกไปทังๆที
้ ่มีเลือดประจําเดือนไหล
อยู่ตลอดเวลาแบบนี ้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน

[อะไรนะ!] พี่คินทร์ ถามกลับมาด้ วยนํ ้าเสียงตื่นตกใจ [เธอจะให้ ฉนั ไปซื ้ออะไรให้


นะ]

“ผะ...ผ้ าอนามัยค่ะ” ฉันตอบกลับไปด้ วยนํ ้าเสียงตะกุกตะกัก


ได้ แต่ภาวนาในใจว่าขอให้ เขาช่วยที เพราะตอนนี ้ฉันตกที่นงั่ ลําบากจริ งๆ

[เธอจะให้ ฉนั ไปซื ้อเนี่ยนะ ฉันซื ้อไม่เป็ นหรอก]

“นํ ้าจะบอกพี่คินทร์ เองค่ะว่านํ ้าจะเอาแบบไหน”


[…]
KINN Talks.
(=_=) นี่คือสีหน้ าของผมหลังจากได้ รับโทรศัพท์จากยัยอุ๋ง
เป็ นครัง้ แรกในชีวิตของหนุ่มฮ็อตอย่างผมที่มีผ้ หู ญิงใช้ ไปซื ้อผ้ าอนามัยให้ ซึง่ ... มัน
เป็ นความแปลกใหม่ที่ผมไม่สามารถอธิบายได้ ว่าแม่งแปลกใหม่ยงั ไงบ้ าง ผมรู้แค่วา่
ผมโคตรมึนงงและปวดหัวเป็ นอย่างมากกับยัยเด็กอายุสิบแปดปี ที่กลายมาเป็ นเมีย
ผมเพียงชัว่ ข้ ามคืนคนนันมาก
้ ตังแต่
้ เธอก้ าวเข้ ามาในชีวิตผม ผมรู้สกึ ว่าตัวเองเล่น
เกมอย่างเป็ นปกติสขุ เหมือนทุกวันไม่ได้ เลย

[พี่คินทร์ ฟังนํ ้านะคะ] เสียงของยัยอุ๋งพูดขึ ้นมาอีกรอบหลังจากผมเงียบไป [เอา


ยี่ห้อลอริ เอะ ขนาด25เซนติเมตร มีปีก กลางวันนะคะ]

“…” จะบอกว่าผมไม่เคยซื ้อมาก่อนเลยเถอะไอ้ ผ้าอนามงอนามัยเนี่ย

[พี่คินทร์ คะ] ยัยอุ๋งพูดขึ ้นมาอีกรอบ โทนเสียงสูงขึ ้นเล็กน้ อย

“ฟั งอยู”่ ผมตอบกลับอย่างเหนื่อยหน่ายใจ กะอีแค่ผ้าอนามัย ทําไมต้ องมี


รายละเอียดยิบย่อยมากมายขนาดนันด้ ้ วยวะ “แป๊ บหนึง่ ได้ ป่ะ ฉันขอจดก่อน”
ผมเปิ ดแอปบันทึกข้ อความของโทรศัพท์ขึ ้นมา โดยที่หยู งั คงฟั งเสียงจากหูฟังอยู่

[ได้ ค่ะ]

“ว่ามาใหม่อีกรอบ ช้ าๆ”

[เอายี่ห้อลอริ เอะ ขนาด25เซนติเมตร มีปีก แบบกลางวันนะคะ] ยัยอุ๋งค่อยๆแจกแจง


รายละเอียดให้ ผมฟั งช้ าๆอย่างตังใจ

นัน่ ผ้ าอนามัยหรื อวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์วะ มีกลางวันกลางคืนแยกย่อยอีก
ต่างหาก ผมโคตรสงสารผู้หญิงเลยที่ต้องเกิดมาเป็ นแบบนี ้ ลําพังรายละเอียดของ
ปั ญหาในชีวิตประจําวันก็มากพออยู่แล้ ว ยังต้ องมานัง่ เลือกผ้ าอนามัยให้ ปวดสมอง
อีก
“อือ... รอไปก่อน ฉันจะไปซื ้อที่เซเว่นให้ ขี ้เกียจเดินหาร้ านในห้ าง” ผมว่า ก่อนจะกด
ตัดสายไป
ใครจะคิดฝั นว่าเดือนวิศวะอุตสาหการอย่างผมจะต้ องไปเดินเซเว่นเพื่อเลือกซื ้อ
ผ้ าอนามัยให้ ผ้ หู ญิง ให้ ตายเถอะครับอาเมน...
7-ELEVEN
“มีอะไรให้ ช่วยเหลือไหมคะ” เสียงของพนักงานเซเว่นคนหนึง่ ถามขึ ้นหลังจากที่ผม
ยืนมองเจ้ าพวกห่อหลากสีสนั ที่วางเรี ยงรายกันอยู่บนชันด้
้ วยความหนักใจ

“คือ...” ผมอํ ้าอึ ้งอย่างไม่ร้ ูจะอธิบายยังไงให้ เธอเข้ าใจดี

ให้ ตายเถอะยัยอุ๋ง เธอมันโคตรตัวยุ่งเลย!


“มาซื ้อผ้ าอนามัยใช่ไหมคะ” เธอถามยํ ้าอีกรอบ

“ครับ” ผมพยักหน้ ารับ ก่อนจะเปิ ดบันทึกโน้ ตที่พิมพ์ทิ ้งเอาไว้ ขึ ้นมาให้ เธอดู

“อ๋อ พอดียี่ห้อนี ้ขนาดนี ้หมดแล้ วนะคะ เหลือแค่ขนาดอื่น”

“ขนาดไหนก็ได้ ครับ ผมปวดหัวจะแย่แล้ ว” ผมบอกพนักงานไปปั ดๆ พลางยกมือขึ ้น


คลึงขมับของตัวเองเบาๆ

“แฟนใช้ มาซื ้อใช่ไหมล่ะคะ” เธอเหลือบตามองผม ก่อนจะถามเสียงเบา จากนัน้


เสียงหัวเราะคิกคักก็ดงั ตามมา “เป็ นแบบนี ้ประจําแหละค่ะ คุณไม่ใช่คนแรกหรอกนะ
คะ”
“หมายความว่าไงครับ” ผมขมวดคิ ้วถามกลับไป

“ก็ที่ผ้ ชู ายมาซื ้อผ้ าอนามัยให้ ผ้ หู ญิงไงล่ะคะ ฉันทํางานอยู่ที่นี่มานานแล้ ว เห็นประจํา


แหละค่ะ” เธอว่าขําๆ ก่อนจะเอื ้อมมือไปหยิบผ้ าอนามัยห่อหนึง่ จากชันวางยั ้ ดใส่มือ
ผม “ขนาดนี ้จะใหญ่กว่า แต่ตา่ งกันไม่มากหรอกค่ะ บอกแฟนคุณทนใส่ไปก่อนนะ
คะ”

“เอาอะไรก็เอามาเถอะครับ” ผมบอกอย่างจนใจ็เอามาเถอครบ
ทําไมแค่มาซื ้อผ้ าอนามัย พลังงานที่ผมสะสมไว้ ถึงได้ ถอยหดลดหายไปแบบทวีคณ

แบบนี ้วะ

“งันเอาขนาดนี
้ ้ไปเลยค่ะ” พนักงานเซเว่นคนเดิมยืนยัน
ผมก้ มลงมองห่อผ้ าอนามัยสีสนั สดใสในมือ ก่อนจะเอามันไปซ่อนไว้ ข้างหลังของ
ตัวเองพลางสอดส่ายสายตามองไปรอบเซเว่นอย่างระแวดระวัง ขืนมีใครใน
มหาวิทยาลัยมาเห็นผมในสภาพแบบนี ้คงมีหวังได้ เอาไปเม้ าท์กนั สนุกปากแน่นอน
และผมไม่มีทางให้ เรื่ องแบบนันเกิ
้ ดขึ ้นกับตัวเองหรอกบอกเลย
-------------------------

MAWNUM Talks.
ฉันนัง่ เล่นเฟสบุ๊คฆ่าเวลาในระหว่างที่รอให้ พี่คินทร์ ไปซื ้อผ้ าอนามัยให้
อย่างเหนื่อยหน่ายใจ ก่อนมาฉันก็น่าจะเอะใจก่อนว่าจะเป็ นประจําเดือนแบบนี ้
เพราะตัวเองกินยาคุมฉุกเฉินเข้ าไปแล้ ว เลยลืมสนิทเลยว่าจะต้ องเป็ นประจําเดือนอีก
ครัง้

ในขณะที่นิ ้วกําลังจะกดดูคลิปแมวเหมียวตัวสีขาวขนฟู จู่ๆก็มีสายเรี ยก


เข้ าจากพี่คินทร์ โผล่พรึบขึ ้นมาที่หน้ าจอ ฉันยิ ้มอย่างดีใจ ก่อนจะปั ดนิ ้วเพื่อรับสายเขา

“ได้ ไหมคะ” ฉันถามพี่คินทร์ ออกไป

[ได้ ] พอพี่คินทร์ ตอบกลับมา ความโล่งใจก็เข้ ามาแทนที่ความกังวล


[แต่ไม่ใช่25เซนติเมตรที่เธอขอ]

“ไม่เป็ นไรค่ะ” ฉันตอบกลับไป “พี่คินทร์ ... เอาเข้ ามาให้ นํ ้าในห้ องนํ ้า


หญิงได้ ไหมคะ”

ถึงมันจะน่าอายแค่ไหนก็ตาม... แต่ฉนั ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ วจริ งๆ ไว้


ค่อยขอโทษเขาทีหลังก็แล้ วกัน

[ไม่มีทาง เธอจะให้ ฉนั เข้ าไปในห้ องนํ ้าหญิงเนี่ยนะ ผู้หญิงในห้ องนํ ้าคง
ตราหน้ าฉันว่าเป็ นพวกโรคจิตถํ ้ามองพอดี]

“แต่นํ ้าออกไปไม่ได้ หนิคะ” ฉันพูดเสียงออดอ้ อน บางทีก็คงต้ องงัด


มารยาหญิงที่มีอนั น้ อยนิดออกมาใช้ เพื่อให้ ชีวิตดํารงอยู่ได้ บ้างแล้ ว

[เดินออกมาเอาเอง] พี่คินทร์ ว่าเสียงแข็ง


“ก็ได้ ค่ะ นํ ้าออกไปเอาเองก็ได้ นํ ้าก็แค่ต้องอายที่เดินออกไปทังๆที
้ ่
เลือดสีแดงติดกระโปรง ทีนี ้นํ ้าก็จะไม่กล้ ามาเที่ยวอีก นํ ้าจะกลายเป็ นคนซึมเศร้ า ไม่
กล้ าเข้ าสังคม นํ ้า...”

[เยอะ!] ยังไม่ทนั ที่ประโยคยาวเหยียดที่ฉนั สรรหามาจะได้ พดู ออกไป


หมด พี่คินทร์ ก็สวนขึ ้นมาซะก่อน [เธออยู่ห้องนํ ้าชันเมเจอร์
้ ใช่ไหม ห้ องไหน]

“นํ ้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ นํ ้าวิ่งเข้ ามาไม่ได้ ดู” ฉุกเฉินแบบนันใคร



จะมีเวลาดูละ่ ว่าตัวเองวิ่งเข้ าห้ องนํ ้าห้ องที่เท่าไหร่

[รอนัน่ แหละ เดี๋ยวเอาเข้ าไปให้ ] ฉันยิ ้มออกทันทีที่ได้ ยินแบบนัน้

อย่างน้ อยมารยาหญิงที่งดั ขึ ้นมาใช้ ก็ได้ ผลล่ะนะ ฉันน่ะร้ ายกว่าที่คิดนะ


ฮึ...

ในจังหวะที่เขากําลังจะกดวาง และฉันกําลังจะเอาโทรศัพท์ออกจากหู
จู่ๆก็ได้ ยินเสียงบ่นพึมพําคล้ ายตําหนิฉนั อยู่เนืองๆขึ ้นมาว่า ‘ยัยตัวแสบ’ ฉันกลืน
นํ ้าลายลงคออึกหนึง่ แต่มาขนาดนี ้แล้ ว จะกลัวก็คงไม่ทนั แล้ วถูกไหม

KINN Talks.
“ยัยอุ๋ง! ออกมาได้ เมื่อไหร่ฉนั ฆ่าเธอแน่!” ผมบ่นให้ ยยั อุ๋งที่ติดอยู่ใน
ห้ องนํ ้าเพราะดันเกิดเป็ นประจําเดือนขึ ้นมากะทันหันโดยไม่ทนั ได้ ตงตั
ั้ ว

แล้ วความซวยจะตกอยู่ที่ใครถ้ าไม่ใช่คนหล่อเหลาเอาการอย่างผม


นอกจากจะใช้ ผมไปซื ้อผ้ าอนามัยให้ แล้ ว เธอยังใช้ ผมให้ เดินเอาเข้ าไปให้ ถึงห้ องนํ ้า
หญิงอีกด้ วย เออ... ยัยนี่นบั ว่าแปลกจริ งๆ แปลกมากด้ วย แถมความกล้ าของเธอก็
มากขึ ้นทุกวัน วันนี ้ใช้ ผมไปซื ้อผ้ าอนามัยให้ วันหน้ าไม่ใช้ ผมซักผ้ าให้ เลยเหรอ

ผมเดินหัวเสียเข้ าไปในห้ องนํ ้าหญิง ก่อนจะปะทะสายตาสามคูท่ ี่มอง


มาเป็ นตาเดียวหลังจากก้ าวแรกของผมได้ ผ่านพ้ นไป ผู้หญิงสามคนต่างมุมที่ยืนตรง
กระจกบานใหญ่หนั มามองผม คนหนึง่ กําลังหวีผมอยู่และหวีอนั นันก็ ้ ร่วงลงจากมือ
เธอ คนหนึง่ กําลังทาลิปสติกที่ริมฝี ปากและมันก็เลอะไปด้ านข้ าง ส่วนคนสุดท้ าย
กําลังล้ างมือ ปรากฏว่าเปิ ดนํ ้าแรงนกระเด็นใส่ตวั เอง

ให้ ตาย... นี่มนั วันวินาศสันตะโรอะไรวะเนี่ย ทําไมผมต้ องมาเจออะไร


แบบนี ้ด้ วย

“ขะ...ขอโทษครับ” ผมค้ อมหัวให้ ผ้ หู ญิงสามคนนันพร้


้ อมกล่าวคําขอ
โทษที่เดินเข้ ามาในห้ องนํ ้าหญิง ก่อนจะตะโกนเสียงดังเพื่อให้ คนที่อยู่ในห้ องนํ ้าห้ อง
ใดห้ องหนึง่ ในนี ้ได้ ยิน “ยัยอุ๋ง!”

“คะ” เสียงเล็กบางติดออกไปทางแหลมนิดหน่อยตอบกลับมา

ผมเดินไปยังต้ นเสียง ก่อนจะยื่นมือไปเคาะประตูห้องนํ ้าที่ปิดสนิทอยู่


“มาแล้ ว! รี บๆยื่นมือออกมาเอาเดี๋ยวนี ้เลยนะ ไม่งนฉั
ั ้ นจะตัดมือเธอทิ ้งเดี๋ยวนี ้เลย!”

“…” ไร้ เสียงตอบรับจากเธอ แต่ก็มีมือขาวๆยื่นออกมาใต้ บานประตู


ห้ องนํ ้าแทน
ผมรี บหยิบเจ้ าห่อผ้ าอนามัยที่เดินถือมาตลอดทางจนคนในห้ างมองใน
มือนันไปอย่
้ างรวดเร็ว ก่อนจะสะบัดตัวเดินออกจากห้ องนํ ้าหญิงมา ขืนอยู่นานกว่านี ้
ผมได้ โดนยามของห้ างไล่ตะเพิดออกจากห้ างโทษฐานเป็ นโรคจิตแน่ๆ

MAWNUM Talks.
หลังจากจัดการภารกิจฉุกเฉินเสร็จสิ ้นฉันก็เดินออกมาจากห้ องนํ ้า สิ่ง
แรกที่ตาเห็นคือแผ่นหลังตังตรงของพี
้ ่คินทร์ ที่ยืนรออยู่ ฉันค่อยๆเดินเข้ าไปหาเขา
ก่อนจะเอื ้อมมือไปกระตุกชายเสื ้อยืดของเขาเบาๆเพื่อเรี ยกให้ เขาหันมามองว่าฉัน
ออกจากห้ องนํ ้ามาแล้ ว

“…” พี่คินทร์ หนั กลับมามองฉัน สายตาดุดนั ถูกส่งมาให้

ฉันช้ อนตาขึ ้นมองเขาอย่างหวาดๆ ตอนอยู่ในห้ องนํ ้าก็กล้ าพูดกล้ าคุย


อยู่หรอก แต่พอมาคุยกันตรงๆแบบมองตาแบบนี ้มันก็ร้ ูสกึ กระอักกระอ่วนใจแปลกๆ
จะว่ากลัวก็ได้ ฉันกลัวเขาดุฉนั อีก

“ไป... ดูหนังไหมคะ” ฉันเม้ มปากแน่นพลางถามออกไปอย่างลังเล

หนังน่าจะฉายไปแล้ วแหละ เพราะมันก็เลยเวลารอบที่ฉายมา


พอสมควรแล้ วด้ วย แต่ถึงอย่างนันฉั
้ นก็ยงั อยากจะถามเขาอยู่ดี เผื่อเขาจะไม่วา่ อะไร

“ดูบ้านเธอสิอ๋งุ ! มันเลยเวลามาแล้ วไม่เห็นเหรอ!” พี่คินทร์ ตวาดลัน่


จนฉันสะดุ้ง
“กะ...ก็นํ ้าแค่ถามพี่คินทร์ เฉยๆ พี่คินทร์ ทําไมต้ องดุนํ ้าด้ วยล่ะคะ” ฉัน
ถามเสียงสัน่ ความร้ อนผ่าวเกิดขึ ้นที่ขอบตา

โดนดุทีไร ฉันจะร้ องไห้ ทกุ ทีเลย ไหนพ่อบอกว่าเขาจะยอมใจอ่อนให้ ฉนั


บ้ างไง ไม่เห็นจะมีวี่แวว

“แล้ วเธอจะร้ องไห้ ทําไมเนี่ย! ฉันยังไม่ได้ ทําอะไรเลยนะเว้ ย!” แล้ ว


พี่คินทร์ ก็เริ่ มโวยวายเสียงดัง

ฉันหันไปมองบรรยากาศรอบตัว คนที่เดินผ่านไปมาหยุดดูเราสองคน
บางคนก็ซุบซิบนินทา บางคนก็มองมาแบบแปลกๆ

“กะ...ก็พี่คินทร์ จะขึ ้นเสียงใส่นํ ้าทําไมคะ ฮึก... นํ ้าไม่ชอบเสียงดัง” ใน


ที่สดุ นํ ้าตาก็ไหลออกจากหางตาฉันอย่างน่าอาย

“คนมองใหญ่แล้ วเนี่ย เลิกร้ องได้ แล้ วยัยบ้ า!” พี่คินทร์ ดฉุ นั อีกแล้ ว ฉัน
โดนเขาดุอีกแล้ ว

“ฮึก... ฮือ... ทําไมพี่คินทร์ ต้องดุนํ ้าด้ วย ฮึก...”

“เดี๋ยวก่อนอุ๋ง เธอต้ องตังสติ


้ นะ” พี่คินทร์ ขยับเข้ ามาใกล้ ฉนั ก่อนที่ฝ่า
มือทังสองข้
้ างของเขาจะประกบเข้ าที่สองข้ างแก้ มของฉัน พลางยื่นหน้ าเข้ ามาใกล้
“เธอตังสติ
้ นะอุ๋ง เธอต้ องตังสติ
้ ก่อน”

“…” ฉันพยักหน้ ารับหลายๆรอบจนผมเปิ ง


ฉันต้ องตังสติ
้ ใช่... ฉันต้ องตังสติ
้ ก่อน

“ทีนี ้เธอลองสูดหายใจเข้ าลึกๆแล้ วค่อยๆผ่อนออก” พี่คินทร์ ว่าอย่างใจ


เย็น

และฉันก็ทําตามที่เขาพูดอย่างว่าง่าย “…” ฉันสูดลมหายใจเข้ าลึกๆ


พลางผ่อนออกมายืดยาวเป็ นจังหวะ

“กลับห้ องกันเถอะ หนังมันเลยเวลาฉายไปมากแล้ ว เข้ าไปดูตอนนี ้ก็ไม่


สนุกหรอก” พี่คินทร์ ผละมือออกไป เขายืนกอดอกทอดสายตามามองฉันนิ่งๆ

“งันดู
้ รอบอื่นได้ ไหมคะ ไหนๆก็มาแล้ ว” ฉันว่าพลางยกมือขึ ้นเช็ด
นํ ้าตาที่ยงั ปริ่ มอยู่ตรงหางตาออก

“เธอจะดูรอบไหนล่ะ ตอนนี ้เหลือแค่รอบบ่ายสองยี่สิบแล้ ว”

แปะ!

ฉันยกมือขึ ้นตบกันหนึง่ ทีเมื่อได้ คําเสนอแนะที่น่ายินดีจากคนตัวสูง


รอบบ่ายสองครึ่งก็ไม่เสียหายนะ ตอนนี ้ก็เกือบเที่ยงแล้ ว เดี๋ยวไปกินข้ าวรอเวลาหนัง
เข้ าฉายก็ได้

“งันจองรอบบ่
้ ายสองยี่สิบก็ได้ ค่ะ แล้ วเราก็ไปกินข้ าวรอเวลาฉาย” ฉัน
กระพริ บตาปริ บๆให้ พี่คินทร์ เห็นใจ

อย่างน้ อยเขาต้ องใจอ่อนบ้ างสิ นํ ้าหยดลงหินทุกวันหินยังผุกร่อนได้ เลย


“เฮ้ อ...” พี่คินทร์ ถอนหายใจออกมายืดยาว เขาเลิกคิ ้วมองฉัน ก่อนที่
มุมปากข้ างหนึง่ ของพี่คินทร์ จะยกสูงขึ ้นจากเดิมเพียงนิดหน่อย คล้ ายกับเขากําลังจะ
ยิ ้มให้ ฉนั เลย “เธอนี่มนั เด็กชัดๆเลยยัยอุ๋ง”

พูดเพียงเท่านันพี ้ ่คินทร์ ก็เดินออกไปเลย ฉันวิ่งตามพี่คินทร์ ไปติดๆ พอ


เขาหันมาฉันก็รีบส่งยิ ้มให้ ทนั ที

“พี่คินทร์ น่ารักจังเลยค่ะ”

“…” สิ ้นเสียงคําชื่นชมของฉัน จู่ๆเขาก็เงียบไปอย่างไร้ สาเหตุ

ฉัน... คงไม่ได้ พดู อะไรผิดใช่ไหมนะ

“…” ฉันหลุบตามองพื ้นทางเดินแทนที่จะเป็ นหน้ าเขา เขาอาจจะไม่


ชอบที่ฉนั พูดแบบนันก็
้ ได้

“ฉันน่ารักแล้ วก็หล่อมากด้ วย” เสียงกระซิบทุ้มตํ่าที่ข้างหูทําให้ ฉนั


ถึงกับตาค้ าง ก่อนจะเงยหน้ าขึ ้นเพื่อมาเจอกับรอยยิ ้มกว้ างของพี่คินทร์ ที่สง่ มาให้

‘รอยยิ ้ม’ ฉันทวนคําว่ารอยยิ ้มในใจอย่างไม่คาดฝั น คนที่เอาแต่หน้ านิ่วคิ ้ว


ขมวดทุกครัง้ ที่ฉนั พูดด้ วย แต่ตอนนี ้เขากลับยิ ้มให้ ฉนั ใครหลายคนอาจจะมองว่ายิ ้ม
แล้ วมันน่าดีใจตรงไหน มันน่าดีใจตรงที่คนที่สง่ ยิ ้มมาให้ คือคนที่เราต้ องการจะเห็น
รอยยิ ้มในทุกวันที่ตื่นนอนยังไงล่ะ
----------------------------------------------
HIDDEN LOVE 12 :: ถ่านไฟเก่า

ฉันกับพี่คินทร์ ใช้ เวลากินข้ าวประมาณสิบห้ านาทีเพียงเท่านัน้ ตอนนี ้


เราทังสองคนนั
้ ง่ อ้ อยอิ่งกันอยู่ที่ร้านอาหารมาสักพักแล้ ว เพราะไม่ร้ ูว่าจะทําอะไรใน
ระหว่างรอเวลาหนังเข้ าฉาย เลยนัง่ เล่นมองนัน่ มองนี่ไปเรื่ อยเปื่ อยแทน

“…”
“…”
บรรยากาศระหว่างฉันกับพี่คินทร์ ไม่ได้ ตงึ เครี ยดเหมือนที่ผ่านมา อย่าง
น้ อยเราก็ผ่อนคลายใส่กนั มากขึ ้น พี่คินทร์ กําลังนัง่ เล่นเกมในโทรศัพท์อยู่ ตอนที่เขา
ทําปากยู่หน้ าย่นเพราะหงุดหงิดกับเกมก็ดนู ่ารักไปอีกแบบเหมือนกัน อายุก็ยี่สิบกว่า
แล้ ว ทําไมถึงยังติดเกมอยู่อีกนะ

“นํ ้า...” ในระหว่างที่ลอบสังเกตใบหน้ าพี่คินทร์ อยู่เงียบๆ จู่ๆก็มีเสียง


หนึง่ เรี ยกชื่อฉันขึ ้นที่ด้านข้ าง พร้ อมกับแรงสะกิดเบาๆที่หวั ไหล่

“อ้ าวคิว!” ฉันหันไปมองผู้มาใหม่ ก่อนจะเบิกตากว้ างทักเขาออกไป


เสียงดัง

‘คิว’ คือเดือนโรงเรี ยนฉันเอง เราเรี ยนอยู่ห้องเดียวกันมาตลอดเลย


และเขายังได้ รับการคัดเลือกเป็ นหัวหน้ าห้ องทุกปี อีกด้ วย คิวเป็ นคนเรี ยนเก่ง หล่อ
และมีความสามารถรอบด้ านมากๆ ไม่แปลกใจเลยที่สาวๆในโรงเรี ยนกรี๊ ดกร๊ าดเขา
กันยกใหญ่ หล่อแถมยังนิสยั ดีแบบนี ้ เป็ นใครก็ต้องชอบเป็ นธรรมดา
“เราไม่นกึ ว่าจะเจอนํ ้าที่เชียงใหม่นะ” คิวเอ่ยแซวฉันยิ ้มๆ

“เราก็ไม่นกึ เหมือนกันว่าจะเจอคิวที่นี่ แล้ วนี่มาทําอะไรเหรอ” ฉันเลิก


คิ ้วถามคิว

“คุยกันนี่เห็นหัวฉันมัง่ ไหม” เสียงเข้ มจากพี่คินทร์ ดงั ขึ ้นมาขัดใน


ระหว่างที่คิวกําลังจะอ้ าปากตอบฉัน

คิวมองหน้ าฉันเลิกลัก่ ฉันส่งยิ ้มแหยไปให้ คิว ก่อนจะแนะนําพี่คินทร์


เพื่อให้ คิวได้ ทําความรู้จกั

“นี่พี่คินทร์ นะคิว” ฉันบอกชื่อของคนตัวสูงให้ คิวได้ รับรู้ “เป็ น...” ส่วน


สถานะของพี่คินทร์ กบั ฉันที่จะแนะนําให้ คิวได้ ร้ ูฉนั กลับพูดไม่ออกไปซะดื ้อๆ

“ตอบให้ มนั ดีๆนะอุ๋ง!” พี่คินทร์ ถลึงตาใส่ฉนั ก่อนที่เขาจะเบนสายตา


กลับไปมองจอโทรศัพท์เหมือนเดิม

“เป็ นพี่ชายเพื่อนสนิทของเราเอง”

“…” หลังจากพูดสถานะให้ คิวได้ ร้ ูเสร็จ ฉันก็หนั ไปมองพี่คินทร์ อีก


ครัง้

แต่ทว่าสิ่งที่ได้ กลับมานันทํ
้ าให้ ฉนั ต้ องหลุบตามองแก้ วนํ ้าที่อยู่บนโต๊ ะ
โดยฉับพลัน ฉันก็แนะนําถูกแล้ วไม่ใช่เหรอ ทําไมพี่คินทร์ ต้องมองฉันตาเขียวปั๊ ดแบบ
นันด้
้ วยล่ะ เขาเป็ นคนบอกฉันเองนี่วา่ ให้ ปกปิ ดความลับที่เราหมันกั
้ นเอาไว้
“พี่ชายของเคท?” คิวเลิกคิ ้วถามฉันเสียงสูงราวกับไม่คอ่ ยแน่ใจนัก

“อ่า... ใช่ๆ” ฉันพยักหน้ ารับสองทีรัวๆ

“สวัสดีครับพี่คินทร์ ผมชื่อคิว เป็ นเพื่อนกับแมวนํ ้าครับ ” คิวหันไปยก


มือขึ ้นไหว้ ทําความเคารพพี่คินทร์ พร้ อมกับค้ อมตัวให้ อย่างสุภาพ

“ไม่ได้ อยากรู้จกั !”

“พี่คินทร์ !!!”
เมื่อพี่คินทร์ ตอบกลับมาอย่างเสียมารยาท ก็ต้องเป็ นฉันอีกเหมือนเดิมที่แบกหน้ ารับ
ไว้ ฉันหันไปส่งยิ ้มเจื่อนให้ คิว ก่อนจะลุกขึ ้นจากเก้ าอี ้แล้ วเอนหัวไปกระซิบที่ข้างหูคิว
ว่า “พี่เขาหงุดหงิดเพราะเล่นเกมแพ้ น่ะคิว อย่าใส่ใจเลยนะ”

“คินทร์ ...” ยังไม่ทนั ที่ฉนั จะได้ สง่ สายตาดุไปให้ พี่คินทร์ จู่ๆก็มีเสียงของผู้หญิงคน


หนึง่ เรี ยกชื่อพี่คินทร์ ขึ ้นมา
แถมชื่อที่เรี ยกยังดูสนิทสนมกันมาก เหมือนกับว่ารู้จกั กันมานานแล้ วเลยด้ วย

“ครี ม...” ฉันหันไปมองตามเสียงเรี ยกนันอย่


้ างเลื่อนลอย
ผู้หญิงหุ่นดี ผิวขาว หน้ าสวย แถมยังส่วนสูงเหมือนนางแบบคนนี ้เป็ นใครกัน

“ไม่เจอกันนานเลย เป็ นยังไงบ้ าง” ผู้หญิงคนนันพู


้ ดพร้ อมกับส่งยิ ้มหวานให้ พี่คินทร์

“ก็ดี เรื่ อยๆ” พี่คินทร์ ตอบกลับอย่างเป็ นกันเองทังนํ


้ ้าเสียงและท่าทาง
ฉันหันไปมองคิวที่ยืนนิ่งไม่แสดงความคิดเห็นด้ วยความงงงวย

“พี่ครี มรู้จกั พี่คินทร์ ด้วยเหรอ” คิวหันไปพูดกับพี่ผ้ หู ญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้ าพี่คินทร์

“รู้จกั สิ แล้ วเธอรู้จกั คินทร์ ได้ ยงั ไงคิว” พี่ผ้ หู ญิงคนเดิมถามคิวกลับ

ตอนนี ้ฉันงงไปหมดแล้ วนะ สรุปคือ... คิวรู้จกั กับพี่ผ้ หู ญิงที่ชื่อ ‘ครี ม’ และพี่ครี มก็
รู้จกั กับพี่คินทร์ ด้วยอีกทอดหนึง่ ส่วนฉันกับคิวเราก็เป็ นเพื่อนที่เรี ยนมาด้ วยกันตังแต่

สมัยมัธยม อย่างนี ้ถูกไหม

“พี่คินทร์ เป็ นพี่ชายของเพื่อนคิวเอง” คิวตอบเสียงเรี ยบ

“…” พี่ครี มพยักหน้ ารับรู้ ก่อนที่ดวงตาโฉบเฉี่ยวของเธอจะหันมามองทางฉัน แล้ ว


ก็เสกลับไปมองคิว

“นี่เพื่อนคิว ชื่อแมวนํ ้า เป็ นเพื่อนกับน้ องสาวของพี่คินทร์ ” คิวแนะนําฉันให้ ร้ ูจกั กับพี่


ครี ม
ฉันยกมือขึ ้นทําความเคารพพี่ครี ม เธอรับไหว้ ฉนั พลางส่งยิ ้มชวนละลายใจมาให้
หน้ าก็สวยมากอยู่แล้ ว พอยิ ้มปุ๊ บยิ่งสวยขึ ้นไปมากกว่าเดิมอีกแฮะ
ฉันเบนสายตาจากหน้ าพี่ครี มไปมองพี่คินทร์ ตอนนี ้พี่คินทร์ กําลังจ้ องหน้ าพี่ครี มตาไม่
กระพริ บเลย ก็พี่ครี มสวยขนาดนัน้ พี่คินทร์ ไม่มองก็คงแปลกแย่แล้ ว ฉันยู่ปากให้ คน
ตัวสูงอย่างน้ อยอกน้ อยใจ ทีกบั ฉันมองเหมือนจะกินเลือดกินเนื ้อกันตลอดเวลา ทีกบั
ผู้หญิงสวยๆหน่อยมองตาค้ างเชียว!
KINN Talks.
เธอยังเหมือนเดิมทุกอย่าง... ไม่เคยเปลี่ยนแปลงแม้ กระทัง่ รอยยิ ้ม
ผมมองหน้ าครี ม ความทรงจําครัง้ เก่าไหลเวียนเข้ ามาในหัวสมองผมราวกับนํ ้าหลาก
เหตุการณ์ต่างๆมากมายระหว่างผมกับครี ม มีแค่ผมกับไอ้ เฟี ยตเท่านันที ้ ่ร้ ูดี และผม
รู้สกึ อยู่เสมอว่าผมไม่เคยลืมผู้หญิงตรงหน้ าได้ เลยแม้ เวลาจะผ่านไปมากมายแค่ไหน
ก็ตาม ครี มยังคงเป็ นอดีตที่ยากจะลืมเลือนสําหรับผม

“ไม่เจอครี มนานเลย” ผมยกยิ ้มที่มมุ ปากน้ อยๆให้ ครี ม


มันอยากจะยิ ้ม แต่ก็ยิ ้มไม่ออก ผมไม่ร้ ูว่าเพราะอะไร อยากยิ ้มแทบตาย... แต่มนั ทํา
ไม่ได้ จริ งๆ

“เราขอโทษนะคินทร์ เราไปเรี ยนต่อที่ตา่ งประเทศมา”


ครัง้ นัน...
้ ย้ อนกลับไปสมัยมัธยมปลายในช่วงที่ครี มยังคบกับผมอยู่ เราสัญญากันว่า
เรี ยนจบแล้ วจะไปเรี ยนต่อวิศวะที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน พอวันจบครี มก็หายไปโดยที่
ผมติดต่อเธอไม่ได้ อีก ผมไม่ร้ ูว่าครี มหายไปไหน ไปหาที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่ ผมแทบ
คลัง่ ตายเลยตอนนัน้ จําได้ ว่าร้ องไห้ จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับอยู่หลายวัน อาการของ
ผมโคตรสาหัสเลยว่าไหม ใครจะคิดว่าผู้หญิงคนที่เดินจากผมไปแบบไม่บอกกล่าวใน
วันนันจะกลั
้ บมายืนอยู่ตรงหน้ าผมอีกครัง้ ในวันนี ้

“เราหาทางติดต่อครี มไม่ได้ เลย” ผมบอกเสียงเบา


ทังๆที
้ ่เธอก็ยืนอยู่ตรงหน้ าผมแล้ วในตอนนี ้ ทังๆที้ ่ผมอยากจะดึงเธอเข้ ามากอดให้ หาย
คิดถึง แต่พอหันไปเห็นยัยอุ๋งที่ยืนนิ่งเงียบอยู่ ความละอายแก่ใจมันกลับพุ่งชนใส่จน
ผมแทบจะทรงตัวเอาไว้ ไม่อยู่

“ตอนนี ้เราเรี ยนจบแล้ วเลยกลับมาอยู่ที่ไทย เรากะว่าจะเข้ าไปช่วยงานที่บริ ษัทของ


พ่อ แล้ วคินทร์ ละ่ ... เรี ยนวิศวะจบหรื อยัง” เธอยังจําได้ จําเรื่ องราวระหว่างเราได้ ดี

“ปี นี ้ปี สดุ ท้ ายแล้ ว” ผมบอกเสียงราบเรี ยบ ก่อนจะขยับไปสุดเก้ าอี ้เพื่อให้ ครี มที่ยงั คง
ยืนอยู่ได้ นงั่ ให้ หายเมื่อย “นัง่ สิ”

“ขอบคุณนะ” ครี มยิ ้มให้ ผม ก่อนจะทรุดตัวนัง่ ลงข้ างๆ

“ทําไมครี มถึงไม่บอกข่าวเราเลย ปล่อยให้ เรารอ...” ประโยคของผมขาดความเชื่อม


ต่อไปโดยปริ ยายเมื่อสมองนึกขึ ้นได้ ว่าไม่ควรพูดแบบนันออกไป

“เราขอโทษนะ พอดีเราไปแบบเร่งด่วนเลย โทรศัพท์เครื่ องเก่าของเราก็เลยลืมไว้ ที่


บ้ าน เราจําเบอร์ คินทร์ ไม่ได้ ก็เลยไม่ได้ โทรบอก”

“แต่เฟสบุ๊ค...” เฟสบุ๊คของผมก็ยงั มี เธอน่าจะติดต่อมาหาผมบ้ าง “ช่างมันเถอะ”


ผมปั ดเรื่ องโต้ แย้ งเธอออกไป จะพยายามรื อ้ ฟื น้ อดีตที่พงั ทลายลงไปแล้ วมันก็ไม่ได้
เปลี่ยนแปลงอะไรอยู่ดี

“แล้ วนี่... คินทร์ มาทําอะไรที่นี่เหรอ”


“พาน้ องสาวของเพื่อนมาดูหนังน่ะ” ผมตอบครี มกลับไป พร้ อมกับเสไปมองยัยอุ๋งที่
นัง่ ก้ มหน้ างุดอยู่อีกฝั่ งของโต๊ ะ “ไปดูด้วยกันไหม” ก่อนจะเอ่ยชวนครี มให้ ไปดู
ด้ วยกัน

“อืม... เอาสิ เราว่างพอดี” ครี มตอบรับฉับไว


ครี มก็ยงั คงเป็ นครี ม ทุกอย่างในตัวเธอไม่ได้ มีอะไรเปลี่ยนไปเลย

MAWNUM Talks.
ฉันมองตามแผ่นหลังเด็ดเดี่ยวของพี่คินทร์ สลับกับแผ่นหลังตังตรงสง่ ้ าของพี่ครี ม เขา
สองคนกําลังเดินเคียงข้ างกัน ส่วนสูงของพี่ครี มดูสมดุลกับร่างสูงโปร่งของพี่คินทร์
มาก จนมองด้ านหลังนึกว่าเป็ นแฟนกัน หลังจากที่นงั่ เอื่อยเฉื่อยอยู่ที่ร้านอาหาร
จนกระทัง่ พี่ครี มมาเจอกับพี่คินทร์ ทังสองคนก็
้ คยุ กันนานมาก ซึง่ ฉันไม่ร้ ูหรอกว่าพี่คิ
นทร์ กบั พี่ครี มคุยอะไรกันบ้ าง แต่ดยู งั ไงเขาก็ดเู หมาะสมกัน ขนาดชื่อยังเหมาะเจาะ
กันเลย คินทร์ กบั ครี ม...
ฉันคิดอย่างน้ อยใจพลางหันไปมองคิวที่เดินอยู่เคียงข้ าง

“พี่ครี มสวยจังเลยเนอะคิว” ฉันพูดกับคิว ทังๆที


้ ่สายตายังคงจับจ้ องแผ่นหลังของพี่คิ
นทร์ กบั พี่ครี มที่เดินนําหน้ า

“นํ ้าก็สวยเหมือนกันนะ” คําพูดของคิวทําให้ ฉนั หันกลับไปมองเขาตรงๆ


คิวส่งยิ ้มน้ อยๆมาให้ ฉนั อย่างน้ อยเขาก็ร้ ูจกั ปลอบใจฉัน แต่ฉนั รู้ดีวา่ ตัวเองสวย
เทียบเคียงพี่ครี มไม่ได้ หรอก แค่ความสูงพี่ครี มก็ชนะขาดแล้ ว...
--------------------------

‘อึดอัด’ คํานี ้วกวนอยู่ภายในหัวสมองฉันมาสักพักแล้ ว ไม่ร้ ูว่าตัวเอง


จะอึดอัดอะไร ในเมื่อมันควรจะชินได้ แล้ วที่ถกู พี่คินทร์ เมินแบบนัน้
ตอนนี ้เราทังสี้ ่คนนัง่ เรี ยงกันอยู่ในโรงหนังห้ องที่สอง หนังที่กําลังฉายอยู่คือเรื่ อง
ดิอเวนเจอร์ อินฟิ นิตี ้วอร์ ที่ฉนั อ่านสปอยล์มาว่ามันสนุกมาก แต่พอมาดูจริ งๆแล้ วฉัน
กลับรู้สกึ เบื่อ ไม่ร้ ูว่าเป็ นเพราะอะไร
ฉันปรายตาไปมองพี่คินทร์ กบั พี่ครี มที่นงั่ เรี ยงไปฝั่ งทางซ้ าย พี่คินทร์ นงั่ ขอบสุด ส่วน
ฉันกับพี่ครี มนัง่ ติดกัน ฉันชวนคิวมานัง่ ดูหนังด้ วยกัน เพราะคิวบอกฉันว่าพี่ครี มเป็ น
พี่สาวแท้ ๆของเขาเอง ถึงว่าทําไมชื่อตัวอักษรเดียวกัน ตอนนี ้คิวนัง่ อยู่ทางด้ านขวา
ของฉัน เขาดูจอตาไม่กระพริ บเลย

“…” ไม่มีการสนทนาใดๆเกิดขึ ้นทังสิ


้ ้น มีเพียงแค่สายตาเท่านันที
้ ่เคลื่อนไหว
พี่คินทร์ หนั มามองพี่ครี มเป็ นระยะ ส่วนฉันก็หนั ไปมองพี่คินทร์ เป็ นระยะเช่นเดียวกัน
พี่คินทร์ มองพี่ครี ม ฉันมองพี่คินทร์ อีกที สภาพฉันตอนนี ้ไม่ตา่ งอะไรกับคนที่รอคอย
ความรักจากพี่คินทร์ อยู่เพียงฝ่ ายเดียว คิดแล้ วมันก็น่าน้ อยใจนะว่าไหม ทําไมฉันต้ อง
เป็ นฝ่ ายไล่ตามพี่คินทร์ อยู่ฝ่ายเดียวด้ วย

“นํ ้า...” ฉันหันไปมองตามเสียงเรี ยกของคิว

“ฮึ...” ก่อนจะเลิกคิ ้วขึ ้นด้ วยความสงสัย

“กินป๊ อปคอร์ นไหม” คิวยื่นถังป๊ อปคอร์ นมาให้ ฉนั


“เราไม่คอ่ ยหิวเลยคิว” ฉันบอกคิวอย่างจนใจ ก่อนจะส่งยิ ้มน้ อยๆให้ เขา
ที่ไม่หิวอาจจะเป็ นเพราะความรู้สกึ เบื่อของฉันก็ได้ ฉันเบื่อทีไร พาลไม่กินข้ าวกินปลา
ทุกที

“กินเถอะ เราเห็นนํ ้านัง่ หงอยมาสักพักแล้ วนะ” แต่คิวก็ยงั คงยื่นถังป๊ อปคอร์ นมาให้


ฉันอยู่ดี
ฉันหยิบป๊ อปคอร์ นออกมากินทีละคําเรื่ อยๆ พลางปรายตาไปมองพี่คินทร์ อีกรอบ เขา
ก็ยงั คงมองเพียงแค่พี่ครี ม มันทําให้ ความร้ อนผ่าวเกิดขึ ้นที่ขอบตาของฉันอย่างน่าใจ
หาย ยอมรับเลยว่าฉันรู้สกึ อิจฉาพี่ครี มอย่างบอกไม่ถกู พี่ครี มอยู่เฉยๆก็มีคนมาชอบ
แต่ดฉู นั สิ เอาแต่ไขว่คว้ าความรักที่เป็ นไปไม่ได้
ฉันนัง่ น้ อยใจอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีใครรับรู้ จนกระทัง่ หนังฉายจบเรื่ อง ความสนุกและ
ตื่นเต้ นที่สะสมมาจากเมื่อวานหายไปจนหมด เหลือทิ ้งไว้ แค่ความน้ อยเนื ้อตํ่าใจ

“แล้ วนี่คิวกับพี่ครี มกลับยังไงเหรอ” ฉันหันไปถามคิวเมื่อเดินออกมาจากโรงหนังแล้ ว

“คงกลับแท็กซี่อ่ะ” คิวตอบเสียงเรี ยบ

แต่พี่ครี มก็เดินเข้ ามาบอกว่า “คินทร์ จะไปส่งเรานะคิว”


ฉันหันไปมองพี่คินทร์ ที่เดินตามพี่ครี มเข้ ามา อาศัยจังหวะที่เขาหันไปมองคิวและไม่มี
ใครสนใจฉันแอบย่นจมูกไปให้ เขาหนึง่ ครัง้ อย่างหมัน่ ไส้ ทีกบั พี่ครี มล่ะอาสาไปส่ง ที
กับฉันผลักไสตลอดเลย!
“งันนํ
้ ้ากลับเองก็ได้ ค่ะ” ฉันบอกเสียงสัน่ ทังๆที
้ ่พยายามคุมโทนเสียง
ตัวเองให้ นิ่งแล้ ว แต่มนั กลันไม่
้ อยู่จริ งๆ

ไม่รอให้ ใครเอ่ยปากอนุญาต ฉันหมุนตัวเองเดินออกมาเลยทันที ตอนนี ้


อยากร้ องไห้ จะแย่แล้ ว

หมับ!

แต่เดินไปได้ เพียงไม่กี่ก้าว ข้ อมือของฉันก็ถกู ใครบางคนกระชากอย่าง


แรงจนร่างตัวเองเซไปด้ านหลัง แล้ วก็เป็ นไปตามคาด สันจมูกฉันชนกับแผงอกของ
ใครบางคนเข้ าอย่างจังจนรู้สกึ เจ็บแปลบ ฉันยกมือข้ างหนึง่ ที่ยงั ว่างขึ ้นสํารวจจมูก
ของตัวเอง พลางช้ อนตาขึ ้นมองเจ้ าของแรงมหาศาลที่ฉดุ กระชากฉันอย่างไม่ออมแรง

“กลับกับฉัน” เป็ นพี่คินทร์ ... เขาพูดเสียงราบเรี ยบ ไม่ได้ ดแุ ต่ก็เหมือน


ดุอยู่ดีนนั่ แหละ ถึงแม้ โทนเสียงจะปกติก็ตามทีเถอะ

“นํ ้ากลับเองได้ ค่ะ พี่คินทร์ ไปส่งพี่ครี มกับคิวเถอะ” ฉันขมวดคิ ้วตอบ


กลับไป

อย่าร้ องไห้ นะนํ ้า เข้ มแข็งเข้ าไว้ สิ


“อย่างี่เง่า ที่นี่เชียงใหม่ไม่ใช่กรุงเทพฯ” สายตากดดันที่ได้ รับจากพี่คิ
นทร์ บีบคันหั
้ วใจฉันอย่างหนักหน่วง

“นํ ้างี่เง่าตรงไหนคะ” ฉันรู้ดีวา่ ตัวเองกําลังงี่เง่าในตอนนี ้ แต่ไม่ร้ ูสิ ฉัน


อยากงี่เง่าบ้ าง ฉันก็เป็ นคนนะ ฉันมีความรู้สกึ แบบคนทัว่ ไปนัน่ แหละ
“เธอพูดไม่ร้ ูเรื่ องแล้ วนะอุ๋ง” เสียงของพี่คินทร์ เข้ มขึ ้นมาอีกนิดหน่อย

มันทําให้ ฉนั กลัว แต่ถึงจะกลัวยังไง ฉันก็ยงั อยากจะงี่เง่าใส่เขาอยู่ดี

“…” ฉันขมวดคิ ้วจ้ องหน้ าพี่คินทร์ กลับนิ่งๆโดยไม่โต้ ตอบอะไร


กลับไปอีก

“มานี่” พี่คินทร์ ว่าเพียงเท่านัน้ เขาก็ลากฉันกลับมาที่เดิมได้ จนสําเร็จ

พี่ครี มกับคิวมองหน้ ากันอย่างงุนงง ก่อนที่สายตาของพี่ครี มจะลดลงมา


มองมือของพี่คินทร์ ที่กมุ ข้ อมือฉันอยู่ ฉันรี บสะบัดข้ อมือของตัวเองออกจากการเกาะ
กุมของพี่คินทร์ ทนั ที ความลับเรื่ องการหมันหมายระหว่
้ างเราสองคน ฉันจะไม่แพร่ง
พรายให้ ใครรู้โดยเด็ดขาด ในเมื่อมันคือความต้ องการของพี่คินทร์ ฉันก็มีแต่ต้องทํา
ตามเท่านัน้

“กลับกันเถอะครี ม” พี่คินทร์ หนั ไปพูดกับพี่ครี ม ก่อนที่เขาจะหลุบตา


มองฉัน

ฉันมองเมินพี่คินทร์ ไป พลางเดินเข้ าไปหาคิวที่ยืนนิ่งอยู่ ฉันสอดมือของ


ตัวเองเข้ ากับฝ่ ามืออบอุ่นของคิว ฉันอยากประชดเขาบ้ าง จะได้ ร้ ูว่าคนอย่างฉันไม่ได้
ทําเป็ นแค่นงั่ ร้ องไห้ อย่างเดียว

พี่คินทร์ ลดสายตาลงมองมือฉันที่เกาะกุมมือของคิวอยู่ ก่อนที่คิ ้วเข้ ม


ของเขาจะขมวดมุ่น ตามมาด้ วยการตอบโต้ จากพี่คินทร์ ที่เดินชนฉันกับคิวจนมือที่เรา
กุมกันอยู่หลุดออกจากกันไป พี่คินทร์ เดินหัวเสียออกไปแล้ ว ส่วนพี่ครี มก็หนั มามอง
ฉันกับคิว สีหน้ าของเธอบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเห็นใจฉัน

“ไปกันเถอะ” พี่ครี มว่า ก่อนจะเดินตามพี่คินทร์ ออกไป

ลับร่างของพี่คินทร์ กบั พี่ครี ม ลมหายใจทังหมดที


้ ่ฉนั กลันเอาไว้
้ ก็ถกู ผ่อน
ออกมาเฮือกใหญ่ ร่างกายทุกส่วนของฉันอ่อนแรงไปหมด เหนื่อยล้ าจนเกือบจะก้ าว
ขาไม่ออกอยู่แล้ ว

“เป็ นอะไรหรื อเปล่านํ ้า” นํ ้าเสียงแกมห่วงใยที่คิวถาม ทําให้ ฉนั หันไป


มองคิว ก่อนจะส่ายหน้ าน้ อยๆให้ เขา

จะให้ ฉนั บอกคิวว่าน้ อยใจพี่คินทร์ งนเหรอ


ั้ ทังๆที
้ ่เราไม่ได้ เป็ นอะไรกัน
แม้ แต่น้อยเนี่ยนะ ฝั นเฟื่ องมากเกินไปแล้ ว

“เราขอโทษนะที่จ่ๆู ก็ยื่นมือไปจับมือคิวแบบนัน”
้ ฉันเอ่ยขอโทษคิว
สําหรับเหตุการณ์ก่อนหน้ านี ้ “ไปกันเถอะ” ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนี ้เมื่อคิวพยัก
หน้ าให้ แล้ ว

ฉันเดินตามหลังพี่ครี มมาที่ลานจอดรถ ในขณะที่พี่คินทร์ ขึ ้นไปนัง่


ประจํายังเบาะคนขับรถเรี ยบร้ อย พี่คินทร์ ปรายตามามองฉันแน่นิ่ง รู้หรอกว่าฉันต้ อง
นัง่ ตรงไหน เบาะหลังมันเป็ นที่ประจําของฉันอยู่แล้ ว ไม่ต้องให้ เขาปริ ปากฉันก็ร้ ูดีโดย
อัตโนมัติ
ฉันเดินไปเปิ ดประตูขึ ้นไปนัง่ ที่เบาะหลัง ในขณะที่พี่ครี มยังยืนรอ
น้ องชายของเธออยู่ ฉันมองพี่คินทร์ ผ่านกระจกมองหลัง แต่พอสายตาดุดนั หันมาสบ
กัน ฉันก็เสมองไปทางอื่นแทน ไม่อยากมองหน้ าเขาแล้ วในตอนนี ้ ยิ่งมองฉันก็ยิ่งรู้สกึ
น้ อยใจจนอยากจะร้ องไห้ ซะให้ ได้

“มานัง่ หน้ า” เสียงเข้ มแกมออกคําสัง่ ของพี่คินทร์ ดงั ขึ ้นมาทําลาย


ความเงียบในรถ

“นํ ้านัง่ หลังถูกแล้ วค่ะ ทุกครัง้ พี่คินทร์ ก็ให้ นํ ้าข้ างหลังประจําอยู่แล้ ว”


ฉันตอบกลับไป ไม่ร้ ูว่าความกล้ ามันผุดขึ ้นมาจากไหนนักหนา ถึงได้ ต่อล้ อต่อเถียงเขา
ออกไปแบบนัน้

“แต่ครัง้ นี ้ฉันสัง่ ให้ เธอมานัง่ หน้ า” หงุดหงิดแล้ วสินะ นํ ้าเสียงแบบนัน้


ของเขา

“นํ ้าอยากนัง่ หลัง” ฉันยังคงยืนยันคําเดิม

นี่คงเป็ นครัง้ แรกที่ฉนั ไม่ยอมพี่คินทร์ เพราะคนเราทุกคนมันมีขีดจํากัด


ฉันก็เหมือนกัน ฉันไม่ร้ ูหรอกว่าขีดจํากัดการยินยอมของฉันมันอยู่ที่ตรงไหน แต่ถ้า
เป็ นเวลานี ้ ขีดจํากัดของฉันมันพังทลายลงไปแล้ ว...
KINN Talks.
ผมขมวดคิ ้วมองยัยอุ๋งที่นงั่ กอดอกอยู่ที่เบาะหลัง พลางทอดสายตามอง
ออกไปด้ านนอกแทนที่จะหันมาสบตากับผมผ่านกระจกมองหลังตรงๆ มันทําให้ ผม
หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถกู เมื่อเธอดื ้อด้ านแบบนี ้ ยัยอุ๋งที่ว่าง่ายคนนันหายไปไหน
้ ทําไม
ตอนนี ้ถึงมียยั อุ๋งคนที่ต่อต้ านผมขึ ้นมาแทนที่

“มานัง่ ...”

“ครี มนัง่ หน้ าได้ ไหมคินทร์ ”

ยังไม่ทนั ที่ประโยคของผมจะพูดออกมาได้ ครบถ้ วนสมบูรณ์ จู่ๆประตู


ด้ านข้ างเบาะคนขับก็ถกู เปิ ดออกโดยฝี มือของครี ม ประโยค ‘มานัง่ หน้ า’ ที่ผมกําลัง
จะใช้ พดู กับยัยอุ๋งถูกพับเก็บไปทันที ผมพยักหน้ าให้ ครี มเป็ นเชิงอนุญาต จะปฏิเสธ
เธอก็ไม่ได้

หลังจากสตาร์ ตขับออกมาได้ ไม่กี่นาที หลังจากที่นงั่ เงียบมานาน ครี มก็


เป็ นฝ่ ายเปิ ดปากขึ ้นทําลายความเงียบ

“คินทร์ ใส่แหวนด้ วยเหรอ” ผมปรายตาไปมองครี มเมื่อถูกถาม

ก่อนจะเลื่อนสายตามองตามครี ม พบว่าครี มกําลังมองแหวนเพชรที่


นิ ้วนางที่ผมสวมใส่อยู่ วินาทีนนใจผมเต้
ั้ นรัวไปหมด ไม่ร้ ูจะอธิบายครี มยังไงเกี่ยวกับ
แหวนดี เลยเลือกที่จะโกหกออกไปแทน

“แหวนที่แม่ให้ เป็ นของขวัญน่ะ” ผมตอบกลับครี มไป พลางเลื่อน


สายตาไปมองกระจกมองหลังอีกครัง้
สิ่งที่พบคือตาแดงๆของยัยอุ๋งที่มองมาทางผม ก่อนที่เธอจะเสมองออก
ไปนอกรถแทน ใจผมหายวาบ เส้ นประสาทเริ่ มเต้ นตุบตับขึ ้นมา นี่ผม... กําลังทําร้ าย
จิตใจยัยอุ๋งอยู่หรื อเปล่าวะ
-----------------------------

“ยัยอุ๋ง!” ผมเรี ยกยัยอุ๋งเสียงดังเมื่อเธอเอาแต่เดินหนีผมหลังจากที่ไปส่งครี มกับคิว


เสร็จ

“…” เธอไม่ตอบ และเอาแต่เดินท่าเดียวโดยไม่สนใจเสียงที่ผมเรี ยก

“เธอหยุดเดี๋ยวนี ้นะอุ๋ง!” ผมสัง่ เสียงเข้ ม เริ่ มมีนํ ้าโหขึ ้นมาแล้ วเหมือนกัน

ทําไมดื ้อด้ านแบบนี ้วะ น่าจับตีซะให้ เข็ด!

“…” เธอไม่หยุดฟั งผม และเอาแต่เดินหนีท่าเดียว


ปฏิกิริยาต่อต้ านอย่างชัดเจนของยัยอุ๋งทําให้ ผมเริ่ มหมดความอดทน ผมเดินเข้ าไป
กระชากข้ อมือเล็กของเธอไว้ จนยัยอุ๋งหันมาเผชิญหน้ ากันตรงๆ ตาแดงๆของเธอที่เริ่ ม
มีนํ ้าใสๆมาหล่อเลี ้ยงช้ อนขึ ้นมองผม แก้ มทังสองข้
้ างของเธอเริ่ มขึ ้นสีระเรื่ อ
โดยเฉพาะส่วนจมูกที่แดงมากอย่างเห็นได้ ชดั เพราะเธอเป็ นคนที่ขาวมากๆ

“จะคุยกันดีๆได้ หรื อยัง” ผมถามเสียงเรี ยบ ส่งสายตากดดันไปให้ เธอ

“นํ ้าไม่มีอะไรต้ องคุย” ยัยอุ๋งตอบกลับมาเสียงสัน่ เครื อ


แม้ กระทัง่ ข้ อมือของเธอก็ยงั สัน่ จนผมสัมผัสได้ ยัยอุ๋งมองหน้ าผมนิ่งๆ แต่ยิ่งผมเห็น
นํ ้าตาที่เอ่อคลอของเธอ ผมกลับไม่กล้ าที่จะมองหน้ าเธอในแบบที่เธอมองผมเลย

“กลับไปคุยกันที่ห้อง” ผมพยายามระงับโทสะของตัวเอง ก่อนจะเดินจูงมือเธอให้


เดินไปที่ห้องด้ วยกัน

พรึ่บ!
แต่การกระทําของยัยอุ๋งกลับทําคิ ้วผมขมวดด้ วยความตึงเครี ยด เธอสะบัดข้ อมือออก
จากพันธนาการของผมไป ผมหันขวับไปมองยัยอุ๋งที่ยืนแน่นิ่ง เธอหันหน้ าเข้ ากําแพง

“ฮึก... ฮือ...” เสียงร้ องไห้ เริ่ มดังขึ ้นมาเบาๆ ก่อนที่ประโยคถัดมาของเธอจะทําให้


อารมณ์โมโหของผมพุ่งขึ ้นสูง “นํ ้าจะถอนหมันให้ ้ พี่คินทร์ เอง”

“ฉันไม่ให้ เธอถอน!” ผมสวนกลับทันควัน

“เราหมันกั
้ นไปทําไมคะ ฮึก... แม้ แต่หน้ าเรายังไม่อยากมองกันเลย ไม่สิ... ต้ องบอก
ว่าแม้ แต่หน้ าของนํ ้าพี่คินทร์ ยงั ไม่อยากจะมองเลย”

“…”
“นํ ้าคิดว่าตัวเองจะทนได้ แต่นํ ้าเป็ นคนที่มีความอดทนตํ่าจริ งๆ นํ ้าขอถอนหมันค่
้ ะ”
นํ ้าเสียงของยัยอุ๋งที่พดู ออกมาไม่มนั่ คงเลย มันทังสั
้ น่ ไหวและปะปนไปกับเสียงสะอื ้น
เบาๆที่ดงั ออกมา ผมเพิ่งรู้วนั นี ้เองว่ายัยอุ๋งบอบบางทางจิตใจมากขนาดไหน เธอ
เหมือนดอกไม้ ที่ไม่แข็งแรง เหมือนแค่ผมแตะเธอก็พร้ อมจะสลายตัวไปในอากาศทันที
MAWNUM Talks.
ฉันไม่ร้ ูว่าตัวเองไปเอาความกล้ าแบบนี ้มาจากไหน รู้ทงรู ั ้ ้ ว่าถ้ าฉันถอนหมัน้
ผลกระทบอีกมากมายจะตามมาอย่างแน่นอน อย่างแรกคือพ่อแม่ของเราทังสองฝ่ ้ าย
จะต้ องแตกหักกันไปข้ างหนึง่ อย่างที่สองคือความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเคทอาจจะ
ไม่เป็ นเหมือนเดิม แต่ฉนั อยากถอนหมันจริ ้ งๆ ฉันรู้สกึ ว่าตัวเองไม่เคยมีความสุขกับ
การวิ่งตามอยู่ฝ่ายเดียวทังๆที
้ ่ไม่ร้ ูว่าอีกคนจะเปิ ดใจให้ เมื่อไหร่
ไม่ร้ ูเลย... ฉันไม่ร้ ูอะไรเลย

“ฮึก... ฮือ...” นํ ้าอุ่นๆไหลออกจากหางตาฉันซํ ้าแล้ วซํ ้าเล่า


ฉันพูดออกไปทังๆที้ ่ตวั เองไม่ได้ มองหน้ าพี่คินทร์ เลยด้ วยซํ ้า ฉันหันหน้ าเข้ ากําแพง
และไม่ร้ ูด้วยว่าตอนนี ้พี่คินทร์ กําลังทําสีหน้ าแบบไหนอยู่ เขาอาจจะโมโหอยู่ก็ได้ หรื อ
อาจจะไม่ใส่ใจกับความงี่เง่าบ้ าบอของฉัน

“กลับไปคุยกันที่ห้อง” แต่คนตัวสูงกลับเดินมาคว้ าข้ อมือฉันไว้ อีกรอบ


ครัง้ นี ้ฉันสะบัดออกทันที แต่ทว่าการเกาะกุมของเขามันกลับทําให้ สะบัดเท่าไหร่ก็ไม่
ยอมหลุดเลย พี่คินทร์ บีบข้ อมือฉันแน่นมาก ถึงมันจะรู้สกึ เจ็บ แต่ร่างกายฉันกลับรับรู้
ความเจ็บนันได้ ้ เพียงแค่ที่ใจเท่านัน้

“ปล่อยนํ ้า!” ฉันขึ ้นเสียงใส่เขา

“แมวนํ ้า!” พี่คินทร์ เรี ยกชื่อฉันเสียงดังจนฉันสะดุ้ง


เป็ นครัง้ แรกที่ฉนั ได้ ยินคนตัวสูงเรี ยกชื่อเล่นของฉัน เพราะปกติแล้ วเขาจะเรี ยกฉัน
ว่าอุ๋ง

“…” ฉันหันไปหาเขา ช้ อนตาขึ ้นสบกับดวงตาสีนิลนันนิ


้ ่งๆ

“เธออย่างี่...”

เพี๊ยะ!
ไม่รอให้ ประโยคของเขาได้ พดู ออกมาอย่างสมบูรณ์ ฝ่ ามือของฉันก็ทําหน้ าที่ไวกว่า
ความคิด มันกระทบลงบนหน้ าพี่คินทร์ อย่างแรงจนเขาหน้ าหัน ฉันรี บสะบัดข้ อมือ
ของตัวเองออกมาจนหลุดได้ สําเร็จ และตังหน้
้ าตังตาวิ
้ ่งไปที่ห้องของเคทแทนที่จะเป็ น
ห้ องของพี่คินทร์

ปึ กๆๆ!

“เคท! เปิ ดประตูให้ นํ ้าหน่อย ฮึก...”

ฉันใช้ แรงทังหมดที
้ ่หลงเหลืออยู่ทบุ บานประตูที่ปิดสนิทนันอย่
้ างรุนแรง
พร้ อมกับตะโกนเรี ยกเคทเพื่อให้ เธอเปิ ดประตูให้ ฉันหันไปมองพี่คินทร์ หลังจากที่โดน
ฉันตบไป เขายืนนิ่งอยู่สกั พัก ก่อนจะสาวเท้ าเดินมาทางฉันด้ วยท่าทางคุกคามข่มขู่

ปึ กๆๆ!

“เคท!!! เปิ ดประตูให้ นํ ้าที” ฉันรี บใช้ ทงกํ


ั ้ าปั น้ และฝ่ ามือทุบบาน
ประตูนนอี
ั ้ กครัง้
“มีอะไร” ทันทีที่บานประตูเปิ ดออกในจังหวะที่พี่คินทร์ กําลังจะเดิน
มาถึงตัวฉัน ฉันก็วิ่งเข้ าไปในห้ องของเคทและขังตัวเองอยู่ในห้ องนํ ้าทันที “เฮ้ ย...”
ฉันได้ ยินเสียงอุทานของเคทด้ วย

“หลบไปเคท!” เสียงของพี่คินทร์ ยงั คงดังตามมาติดๆ

เสียงการก้ าวเท้ าของเขาดังเข้ ามาในห้ องของเคท และแน่นอนว่าฉันที่


ขังตัวเองอยู่ในห้ องนํ ้าได้ ยินทุกฝี ก้ าวการเดินเข้ ามาของพี่คินทร์ ฉันรี บถอยห่างจาก
ประตูห้องนํ ้าเมื่อกดล็อกเสร็จเรี ยบร้ อย

“นี่มนั เรื่ องอะไรกันเนี่ยพี่คินทร์ ” เคทถามอย่างตื่นตกใจ

“ฮึก... อึก...” ฉันรี บใช้ มือขึ ้นประกบริ มฝี ปากตัวเองเอาไว้ ไม่อยากให้


เสียงสะอื ้นนี ้เล็ดลอดออกไปให้ คนตัวสูงได้ ยินเลยจริ งๆ

“เพื่อนแกงี่เง่าใส่พี่! พี่ไม่ชอบ!” เสียงตวาดด้ วยความเกรี ย้ วกราดของ


พี่คินทร์ ทําให้ ฉนั สะดุ้งเป็ นหนที่สอง

“เดี๋ยวๆๆ หมายความว่าไงเนี่ย” เคทยังคงจี ้ถามพี่คินทร์ ต่อ

ปั งๆๆ!

“ออกมาเดี๋ยวนี ้นะแมวนํ ้า!”


เสียงพี่คินทร์ ตะโกนเข้ ามาพร้ อมกับเสียงทุบประตูด้วยความรุนแรง
ความกลัวโลดแล่นเข้ าสูก่ ้ นบึ ้งของหัวใจฉันอย่างน่ากลัว ฉันกลัวว่าประตูมนั จะพัง
ด้ วยนํ ้ามือของพี่คินทร์ ถ้ าเขาเข้ ามาได้ ฉันจะโดนเขาทําอะไรบ้ างก็ไม่ร้ ู

“ฮึก... อึก...” ฉันพยายามกลันเสี


้ ยงสะอื ้นของตัวเองเอาไว้ ทังๆที
้ ่
นํ ้าตายังคงไหลออกมาไม่ขาดสาย

“ยัยอุ๋ง!”

ปั งๆๆๆ!

“ออกมาสิวะ!”

“พี่คินทร์ ! พี่ออกไปก่อนดีกว่า เดี๋ยวเคทคุยกับไอ้ นํ ้าให้ เอง” ฉันเดาว่า


ตอนนี ้เคทกําลังพยายามห้ ามพี่คินทร์ อยู่

“ออกมาเมื่อไหร่ เธอกับฉันต้ องเคลียร์ กนั ยาวแน่ยยั อุ๋ง!”

ปั ง!

เสียงตะโกนของพี่คินทร์ สิ ้นสุดเพียงเท่านัน้ ก่อนจะตามมาด้ วยเสียง


เหมือนเขาใช้ เท้ าถีบประตูห้องนํ ้าจนเกิดเสียงดังอย่างที่เห็น ฉันที่พยายามกลันเสี
้ ยง
สะอื ้นและนํ ้าตาอยู่ก็กลันไม่
้ ไหวต่อไปแล้ ว

“ฮึก... ฮือ...” ฉันปล่อยโฮออกมาเมื่อเสียงฝี เท้ าที่หนักหน่วงของพี่คิ


นทร์ เดินออกไป
“นํ ้า...”

ปึ กๆ!

เสียงเรี ยกของเคทดังขึ ้นต่อจากนัน้ พร้ อมกับเสียงเธอใช้ มือตบประตูอีก


สองที

“ฮึก... นํ ้าอยากอยู่คนเดียว” ฉันตอบเคทกลับไปด้ วยเสียงสัน่ เครื อของ


ตัวเอง

ตอนนี ้ฉันอยากอยู่คนเดียว ฉันไม่อยากเห็นหน้ าใครทังนั ้ น้ ต่อให้ ใครจะ


บอกว่าฉันงี่เง่าแค่ไหน แต่ฉนั รู้ดีวา่ ที่ฉนั งี่เง่าแบบนี ้เป็ นเพราะใคร...

KINN Talks.
“แม่งเอ๊ ย!” ผมสบถเสียงดังพร้ อมกับยกมือทังสองข้
้ างขึ ้นทึ ้งหัวตัวเอง
อย่างหัวเสีย

นอกจากยัยอุ๋งจะไม่ออกมาคุยกับผมแล้ ว เธอยังเลือกที่จะหนีปัญหา
โดยการขังตัวเองไว้ ในห้ องนํ ้าอีก ผมก็แค่อยากจะปรับความเข้ าใจกับเธอ อยากคุยให้
รู้เรื่ องเกี่ยวกับการหมันของเรา
้ ผมไม่ร้ ูว่าตัวเองตอนนี ้เป็ นอะไร แต่มนั หงุดหงิดไป
หมด ผมหงุดหงิดมากจนอยากจะทําลายทุกอย่างที่ขวางหน้ าเลย

“พี่คินทร์ ” ผมหันหน้ าไปมองตามเสียงเรี ยกของเคท

“ยอมออกมาไหม” ก่อนจะถามออกไปเสียงเรี ยบ
“นี่มนั เรื่ องอะไรกัน ทําไมทะเลาะกันรุนแรงงันอ่
้ ะ” เคทเดินเข้ ามาทรุด
ตัวนัง่ ลงที่โซฟาข้ างๆผม

“พี่ไม่ร้ ูว่าตัวเองเป็ นอะไร” ผมยกมือขึ ้นคลึงขมับของตัวเองเบาๆเพื่อ


คลายความตึงเครี ยดของเส้ นประสาท

“พี่คินทร์ ...” เคทเรี ยกชื่อผมเสียงเบา ก่อนที่ฝ่ามือของเธอจะแตะลง


บนบ่าผม “พี่ต้องเข้ าใจนํ ้ามันด้ วยนะ นํ ้ามันเป็ นผู้หญิง ผู้หญิงไม่เหมือนผู้ชายนะ”
“…”
“พี่ร้ ูไหมว่านํ ้ามันอ่อนไหวแค่ไหน ใครพูดอะไรกระทบจิตใจมันนิด
หน่อยก็ร้องไห้ แล้ ว พี่ไม่สงสารมันบ้ างเหรอ ลําพังแค่มนั ต้ องมาถูกหมันกั
้ บถูกบังคับ
มาอยู่ที่นี่กบั พี่ก็สาหัสมากพอแล้ วนะพี่คินทร์ ”
“…”
“เคทไม่ได้ จะบอกว่าพี่คินทร์ ไม่ดีนะ แต่เคทแค่อยากจะบอกว่านํ ้ามันก็
มีหวั ใจ มันก็เป็ นคนเหมือนเรา เคทไม่ร้ ูหรอกว่าเรื่ องวันนี ้เป็ นยังไง แต่พี่คินทร์ ลองไป
คิดทบทวนดูดีๆว่าไม่กี่วนั ที่ผ่านมา พี่ทําอะไรที่ทําร้ ายจิตใจนํ ้ามันหรื อเปล่า ”

“พี่ขออยู่คนเดียวสักพักได้ ไหมเคท” ผมหันไปบอกเคทตรงๆ

“ได้ ” เคทถอนหายใจออกมา ก่อนจะลุกขึ ้นจากโซฟาและเดินออกไป


ลับร่างของเคท ผมก็ลกุ ขึ ้นจากโซฟา ตรงไปเปิ ดตู้เย็นและหยิบเบียร์
ออกมาสามกระป๋ อง ก่อนจะเดินกลับมาที่โซฟาอีกครัง้ ผมเปิ ดเบียร์ กระป๋ องแรกออก
และยกซดรวดเดียวจนหมด เมาก็เมา ถึงผมจะคอแข็งไม่เท่าไอ้ เฟี ยตก็ตามเถอะ

MAWNUM Talks.
ปึ กๆ!

“นํ ้า... แกนัง่ ร้ องไห้ อยู่นนมาชั


ั ้ ว่ โมงหนึง่ แล้ วนะ ออกมาได้ แล้ ว” เสียง
เคทตะโกนเข้ ามาในห้ องนํ ้า พร้ อมกับเสียงทุบประตูที่หฉู นั ได้ ยินอีกสองที

“ฮึก... ฮือ...” ฉันยังไม่อยากออกไปไหนทังนั


้ น้

“ในนันมั ้ นเย็นนะเว้ ย เดี๋ยวก็เป็ นหวัดหรอก แกยิ่งไม่สบายบ่อยด้ วย”


นัน่ แหละสิ่งที่ฉนั ต้ องการ

ถ้ าฉันไม่สบายมากๆ อาจจะโดนส่งตัวกลับกรุงเทพฯก็ได้ แล้ วฉันก็จะ


ไม่ได้ เจอหน้ าพี่คินทร์ อีก ไม่ต้องมาทนกับการวิ่งไขว่คว้ าความรักที่ไม่มีอยู่จริ งของเขา

“ฮึก... ฮือ...”

ฉันนัง่ ชันเข่าและซุกหน้ าลงไปบนนัน้ นํ ้าตาที่อณ ุ หภูมิอ่นุ ๆไหลรดลงกับ


ผิวเนื ้อของฉัน ตอนนี ้ฉันมีสิทธิ์ที่จะร้ องไห้ ได้ ตามสบายแล้ ว ฉันไม่เข้ าใจเลยว่าที่ผ่าน
มาตัวเองกําลังทนกับอะไรอยู่ และตอนนี ้ฉันได้ อะไรกลับมาจากการอดทนนันบ้ ้ าง สิ่ง
ที่พ่อเคยบอกฉันก่อนมาที่นี่ ฉันยังจําได้ ดี แต่ฉนั ไม่ไหวแล้ ว ฉันท้ อเอง ฉันขี ้ขลาดเอง
------------------------
“ฮึก... ฮึก...” ฉันยังคงร้ องไห้ อยู่ที่เดิม สถานที่เดิม และเหตุการณ์
ยังคงเป็ นเหมือนเดิม

“ไอ้ นํ ้า...” เสียงเคทเรี ยกฉันจากด้ านนอก เธอเรี ยกฉันมาสิบกว่ารอบ


แล้ วในเวลาสามชัว่ โมงที่ผ่านมา “ออกมาเถอะ ไปกินข้ าวกัน ฉันหิวแล้ วนะ”

“ฮึก... เคทไปกินเลย นํ ้าไม่หิว” ฉันตอบเคทกลับไปด้ วยนํ ้าเสียง


กระท่อนกระแท่นที่เกิดจากการสะอื ้นของตัวเอง

“แกเป็ นอะไร บอกฉันได้ ไหม” และเคทก็ยงั จี ้คําถามเดิมกลับมาถาม


ฉันอีกเป็ นรอบที่เท่าไหร่แล้ วก็ไม่ร้ ู

“ฮึก... ฮือ...” ฉันซุกหน้ าลงบนเข่าอีกครัง้ อยากหยุดร้ องแต่ก็ทําไม่ได้


เลย

“ฉันหิวข้ าวนะ ออกมาเถอะ” เคทโอดครวญเสียงยาน

“เคทไปกินเลย นํ ้าไม่หิว” ฉันก็ยงั คงยืนยันคําเดิม

ตอนนี ้ฉันกินอะไรไม่ลงหรอก และฉันก็ไม่อยากออกจากห้ องนํ ้าด้ วย


เพราะถ้ าฉันออกไปเจอพี่คินทร์ อีก ฉันอาจจะโดนเขาทําอะไรสักอย่าง เพราะเขาโมโห
มาก ตอนที่เขาใช้ เท้ าถีบประตูห้องนํ ้ามันทําให้ ฉนั ผวาไปด้ วยความกลัว
“งันเดี
้ ๋ยวฉันจะซื ้อขึ ้นมาให้ รอไปก่อนนะ” สิ ้นเสียงนัน้ ดูเหมือนว่าเคท
จะเดินออกจากห้ องไปแล้ ว

ฉันนัง่ รอเวลาอยู่ภายในห้ องนํ ้าอยู่หลายนาที ก่อนจะตัดสินใจได้ ว่าฉัน


ต้ องออกไปจากที่นี่ อย่างน้ อยก็ออกไปให้ ใครสักคนช่วยเหลือ แต่คนนันต้ ้ องไม่ใช่พี่
เฟี ยต เพราะถ้ าฉันบอกพี่เฟี ยต เขาจะต้ องเอาไปบอกพี่คินทร์ ต่ออีกแน่นอน ตัวเลือก
เดียวของฉันตอนนี ้คือใครก็ได้ ใครก็ได้ ที่สามารถให้ ฉนั พักอยู่ด้วยได้

เมื่อตัดสินใจเด็ดขาดแล้ วฉันก็ลกุ ขึ ้นจากพื ้นห้ องนํ ้าที่เย็นเฉียบ พลาง


ยกมือขึ ้นปาดนํ ้าตาที่ยงั ไหลเป็ นทางของตัวเองออกไป ฉันรู้สกึ ปวดตามาก เหมือนตา
มันบวมยังไงก็ไม่ร้ ู

ฉันกวาดตามองไปทัว่ บริ เวณห้ อง เคทออกไปจากห้ องแล้ วจริ งๆ ส่วน


พี่คินทร์ ... หวังว่าคงไม่ได้ ยืนดักรอฉันอยู่ที่หน้ าประตูห้องหรอกใช่ไหม ฉันเดินออกไป
ยังประตูห้อง มือสัน่ ๆของตัวเองจับไปที่ลกู บิด ก่อนจะหมุนมันเพื่อให้ ประตูได้ เปิ ดออก
วินาทีที่ประตูห้องเปิ ด หัวใจฉันเต้ นกระหนํ่าอย่างน่ากลัว

ห้ องฝั่ งตรงข้ ามคือห้ องของพี่คินทร์ และบานประตูมนั ปิ ดอยู่ เขาอาจจะ


ออกไปที่ไหนสักที่ หรื ออาจจะขลุกตัวอยู่ที่ห้อง ฉันก้ าวออกจากห้ องของเคทและปิ ด
ประตูลงเบาๆ

ฉันจะโทรบอกพ่อกับแม่เรื่ องนี ้ดีไหม ไม่อยากให้ ท่านไม่สบายใจเลย


“เอาไงดีนะนํ ้า” ฉันพึมพํากับตัวเอง ตัวเลือกของฉันไม่มี มันมืดแปด
ด้ านไปหมดเลย

ก๊ อกๆ!

“พี่เฟี ยต!”

ในจังหวะที่สมองกําลังครุ่นคิดหาทางออก เสียงเคาะประตูสองทีกบั
เสียงเล็กแหลมที่ตะโกนเรี ยกชื่อพี่เฟี ยตก็ดงั ขึ ้นมา ฉันหันขวับไปมองทางต้ นเสียงนัน้
ผู้หญิงตัวเล็กหน้ าตาน่ารักที่อยู่ในชุดนักศึกษากําลังเคาะห้ องพี่เฟี ยตอยู่ และฉันจําไม่
ผิดแน่วา่ นัน่ คือพี่ฟิล์มแฟนของพี่เฟี ยต

ฉันรี บเดินตรงไปหาพี่ฟิล์มทันที เหมือนสวรรค์เห็นใจฉันที่สง่ พี่ฟิล์มมา


ในเวลาที่ฉนั ไร้ ทางออกแบบนี ้

“พี่ฟิล์มคะ” ฉันเรี ยกชื่อพี่ฟิล์มเสียงเบา

“…” เธอหันมามองฉันนิ่งๆ ก่อนที่ดวงตากลมโตนันจะเบิ ้ กกว้ างขึ ้น


“น้ องแมวนํ ้า! ทําไมหน้ าตาเป็ นแบบนี ้ล่ะ ทําไมร้ องไห้ แบบนี”้ เสียงเล็กของเธอดูตื่น
ตกใจมากที่มองหน้ าฉัน

“ฮึก... ฮือ...” ฉันปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะทน ก่อนจะโผเข้ ากอดพี่


ฟิ ล์มแน่น

“โอ๋ๆๆ น้ องเป็ นอะไร ร้ องไห้ ทําไม” เธอถามฉันด้ วยนํ ้าเสียงห่วงใย


ก่อนจะรับฉันเข้ าสูอ่ ้ อมกอดของตัวเอง
“ฮึก... นํ ้าขอไปอยู่กบั พี่ฟิล์มสักพักได้ ไหมคะ” ฉันตอบเสียงอู้อี ้ใน
ลําคอ

“ทะเลาะกับพี่คินทร์ มาเหรอ” เธอลูบหัวฉันขึ ้นลงราวกับจะช่วยปลอบ


ประโลม

“ฮึก...” ฉันเลือกที่จะไม่ตอบออกไป อาจจะดูไร้ มารยาท แต่ฉนั ไม่


อยากพูดถึงพี่คินทร์ แล้ ว

“โอ๋ๆๆ งันไปอยู
้ ่ห้องพี่ก่อนก็ได้ ” พี่ฟิล์มผละร่างกายออกจากฉัน เธอ
ทําท่าจะเคาะห้ องพี่เฟี ยตอีกรอบ

“พี่ฟิล์มคะ” แต่ฉนั ขัดเธอไว้ ซะก่อน กําปั น้ เล็กนันเลยยั


้ งไม่ทนั ที่จะ
สัมผัสกับบานประตูที่ปิดสนิทอยู่

“หืม...” เธอครางรับ พร้ อมกับเลิกคิ ้วขึ ้นมองฉัน “ว่าไงคะ”

“นํ ้าไม่อยากให้ พี่เฟี ยตรู้เรื่ องนี ้ พี่เฟี ยตอาจจะเอาไปบอก...” ฉันเว้ น


ชื่อของพี่คินทร์ เอาไว้ ฉันกลัวว่าถ้ าตัวเองเอ่ยออกไปตอนนี ้ อาจจะทําให้ ร้องไห้ ออกมา
อีกก็ได้

“พี่พอเข้ าใจละ งันเอาเป็


้ นว่า... ตอนนี ้น้ องแมวนํ ้าไปอยู่ที่ห้องของพี่
ก่อน แต่พี่จําเป็ นต้ องบอกเรื่ องนี ้กับพี่เฟี ยตนะ อย่างน้ อยพี่เฟี ยตน่าจะช่วยแก้ ปัญหา
ได้ ดีกว่าพี่”
“แต่นํ ้า...” ฉันยังไม่อยากให้ พี่คินทร์ ร้ ูว่าฉันอยู่ที่ไหน “งันพี
้ ่ฟิล์มขอพี่
เฟี ยตว่าอย่าบอกพี่คินทร์ ได้ ไหมคะ”

“นํ ้าฟั งพี่นะ พี่ไม่ร้ ูหรอกว่านํ ้าทะเลาะอะไรกับพี่คินทร์ มา แต่การเงียบ


ใส่และการหนีปัญหามันไม่ใช่ทางออกที่ดีนะ พี่ว่านํ ้าต้ องหาทางปรับความเข้ าใจกับ
พี่คินทร์ นํ ้าจะปล่อยให้ มนั เป็ นแบบนี ้ต่อไปเรื่ อยๆไม่ได้ ถ้ านํ ้าไม่บอกพี่คินทร์ ไม่บอก
ใครเลย ทุกคนอาจจะเป็ นห่วงนํ ้า”
“…”
“พี่วา่ ลองหาทางคุยกับพี่คินทร์ ดดู ีกว่า ลองปรับความเข้ าใจกัน มัน
อาจจะมีอะไรดีขึ ้นมาก็ได้ ”

“ไม่มีหรอกค่ะ พี่คินทร์ ไม่เคยฟั งนํ ้าอยู่แล้ ว” เขาเคยรับฟั งเหตุผลอะไร


จากฉันบ้ างไหม แค่ฉนั เอ่ยปาก เขาก็พร้ อมจะดุฉนั อยู่ตลอดเวลา

“แต่พี่ว่าเท่าที่พี่ร้ ูจกั พี่คินทร์ มา พี่คินทร์ ไม่ใช่คนเลวร้ ายอะไรขนาดนัน้


หรอก อาจจะมีบ้างที่โมโหหรื อหงุดหงิด แต่มนั ก็เป็ นอารมณ์ตามธรรมชาติของมนุษย์
ถูกไหม”

“…” มันก็ถกู อย่างที่พี่ฟิล์มว่า

“ตอนนี ้พี่จะยังไม่บอกพี่เฟี ยต แต่ตอนคํ่าๆพี่จําเป็ นต้ องบอก นํ ้าเข้ าใจ


พี่หน่อยนะ”

“…” ฉันพยักหน้ ารับอย่างจนใจ


สุดท้ ายฉันก็หนีปัญหาไม่พ้นจริ งๆสินะ ยังไงฉันก็ต้องพุ่งชนกับปั ญหา
ใหญ่นี ้

“งันเราไปพั
้ กที่ห้องพี่กนั ” พี่ฟิล์มพยุงฉันเดินออกไป ก่อนที่ฉนั จะได้ ยิน
เธอพึมพําเบาๆว่า “ไปไหนอีกนะพี่เฟี ยต! ไม่ยอมเปิ ดประตูให้ อีกแล้ ว!”
KINN Talks.
“พี่คินทร์ !!!” แรงเขย่าที่หน้ าอกผสมกับเสียงเรี ยกที่ดงั ออกมาเป็ น
ระยะๆ ทําให้ เปลือกตาที่หนักอึ ้งของผมค่อยๆเปิ ดขึ ้น “ตื่นเร็วๆสิพี่คินทร์ !”

“…” ผมค่อยๆหรี่ ตามอง เป็ นเคทที่กําลังเขย่าตัวผมอยู่ สีหน้ าของ


เธอตื่นตกใจราวกับไปเห็นอะไรสยองขวัญมายังไงยังงัน้

“ไอ้ นํ ้ามันหายตัวไป!”

“ว่าไงนะ!” ทันทีที่ได้ ยินประโยคของเคท ผมก็สวนกลับทันควันใน


วินาทีนนเลย
ั้

เส้ นประสาทของผมเริ่ มเต้ นตุบตับขึ ้นมาอีกครัง้ อาการว้ าวุน่ ในจิตใจ


เริ่ มเข้ าครอบงําสติสมั ปชัญญะหมดแล้ ว

“ไอ้ นํ ้ามันหายไปไหนก็ไม่ร้ ู พอเคทกลับมาจากซื ้อข้ าว มันก็ไม่อยู่ใน


ห้ องนํ ้าแล้ ว” เคทบอกด้ วยนํ ้าเสียงแตกตื่น

“ตามหาทัว่ หรื อยัง” ผมถาม


“เคทเดินหาทัว่ ห้ องแล้ ว แต่ยงั ไม่ได้ เดินตามหาที่อื่น เคทมาบอกพี่คิ
นทร์ ก่อน”

“เดินตามหาให้ ทวั่ หอนี ้ก่อน เดี๋ยวพี่จะไปตามหาหอฟิ ล์ม ยัยอุ๋งอาจจะ


เดินไปที่หอนัน”
้ ผมรี บบอกน้ องสาวของตัวเอง ก่อนจะลุกพรวดขึ ้นจากโซฟาทันที แต่
อาการมึนหัวกลับเล่นงานจนร่างกายผมทรงตัวไม่อยู่ “แม่งเอ๊ ย!” ผมสบถให้ กบั
ร่างกายของตัวเอง กินเบียร์ ไปแค่สามกระป๋ อง จําเป็ นต้ องโลกหมุนขนาดนี ้ไหม

“พี่คินทร์ เป็ นอะไร” เคทถามพร้ อมกับขยับเข้ ามาช่วยพยุงผมอีกแรง

“พี่มนึ หัวนิดหน่อย” ผมสะบัดหัวไล่อาการมึนตึงของตัวเองออกไป

“กินเบียร์ เหรอ”

“อือ...” ผมครางรับเมื่อถูกถาม “ไม่ต้องเป็ นห่วงพี่ ไปตามหาเพื่อนแก


ไป”

“งันเคทจะเดิ
้ นตามหาที่หอนี ้ให้ พี่คินทร์ ก็เดินไปตามที่หอพี่ฟิล์มนะ”

“…” ผมพยักหน้ ารับ ก่อนที่เคทจะเดินออกไป

ว่าแล้ วว่ามันต้ องเกิดเรื่ องยุ่งๆขึ ้น เผลอแป๊ บเดียวไม่ได้ เลย!


MAWNUM Talks.
“พอใส่ได้ ไหม” พี่ฟิล์มถามขึ ้นในจังหวะฉันเดินออกจากห้ องนํ ้าพอดี
“ใส่ได้ ค่ะ พอดีตวั นํ ้าเลย” ฉันยิ ้มให้ เธอ พร้ อมกับก้ มลงสํารวจตัวเอง
อีกรอบ

พอมาที่ห้อง พี่ฟิล์มก็ไล่ให้ ฉนั ไปอาบนํ ้าเลย เธอบอกว่าหน้ าตาฉันตอน


ร้ องไห้ ดไู ม่ได้ เอามากๆ ตาก็บวม หน้ าก็แดงไปหมด เห็นแล้ วเธอจะร้ องไห้ ตาม

“หิวไหม เดี๋ยวพี่ไปซื ้อข้ าวให้ ”

“…” ฉันส่ายหัวเบาๆ ตอนนี ้กระเพาะฉันไม่รับอะไรเลย

“เอาน่า... กินข้ าวหน่อยเถอะ พี่ไม่อยากเห็นเราผอมแบบนันนะ ้ พี่


อิจฉา ฮ่าๆๆ” เธอว่า ก่อนจะหัวเราะคิกคัก ใบหน้ าพี่ฟิล์มตอนยิ ้มนี่น่ารักมากๆเลย

“งันก็
้ ได้ ค่ะ” ฉันไม่อยากขัดเธออีก เลยตอบรับแบบอมยิ ้มให้ เธอไป

“รอพี่แป๊ บนะ” พี่ฟิล์มส่งยิ ้มกว้ างกลับมาให้ ฉนั ก่อนที่มือข้ างหนึง่ ของ


เธอจะคว้ ากระเป๋ าใบเล็กที่ดเู หมือนจะเป็ นกระเป๋ าสตางค์ไป

พี่ฟิล์มเดินไปที่ประตูห้อง ในจังหวะที่เธอกําลังเปิ ดประตูออก เสียงทุ้ม


คุ้นหูก็ดงั ขึ ้นมา

“ฟิ ล์ม! เห็นแมวนํ ้าไหม”


---------------------------------
ตึกตัก...
เสียงหัวใจฉันกระหนํ่าเต้ นรัวเร็วเมื่อได้ ยินเสียงทุ้มคุ้นหูที่คนคนนันเอ่
้ ย
ขึ ้นมา นัน่ เป็ นเสียงของพี่คินทร์ ร่างกายทุกส่วนของฉันเกร็งอย่างที่ไม่เคยเป็ นมาก่อน
ฉันนัง่ ตัวแข็งทื่อ มองไปที่พี่ฟิล์มที่ยืนเงียบอยู่ที่หน้ าประตูห้อง โชคดีที่ประตูที่พี่ฟิล์ม
เปิ ดออกมันแค่แง้ มๆเท่านัน้ พี่คินทร์ เลยมองไม่เห็นว่าฉันนัง่ อยู่ข้างในแบบนี ้

“อะ...อ้ าวพี่คินทร์ ไม่มีเรี ยนเหรอ” พี่ฟิล์มเอ่ยทักพี่คินทร์ ไป

“มี แต่พี่ไม่ไป วันนี ้พายัยอุ๋ง...” เสียงของพี่คินทร์ ตอบกลับมา แต่ก็


ขาดหายไป “พี่หมายถึงแมวนํ ้า... วันนี ้พาแมวนํ ้าไปดูหนังมา”

“อ๋อ... โอเค งันหนู


้ ไปซื ้อข้ าวก่อนนะ” พี่ฟิล์มรี บพูดเร็วๆ ก่อนจะเดิน
ออกไปจากห้ อง พร้ อมกดล็อกลูกบิดและปิ ดประตูลงหลังจากนัน้

“เดี๋ยวฟิ ล์ม... ฟิ ล์มยังไม่ตอบพี่เลยว่าเห็นแมวนํ ้าไหม” แต่พี่คินทร์ ก็


ยังคงจี ้ถามพี่ฟิล์มอยู่เหมือนเดิม

“ไม่เห็นนะ แมวนํ ้าหายตัวไปเหรอพี่คินทร์ ”

“ใช่ ยัยนัน่ หนีออกมาจากห้ องเคท” ฉันเบะปากให้ กบั คําพูดของพี่คิ


นทร์

ที่ฉนั ต้ องหนีออกมาแบบนี ้มันเป็ นเพราะใครล่ะ เพราะเขานัน่ แหละ เขา


คนเดียวเลย!

“แล้ ว...พี่ตามหาที่หอทัว่ หรื อยัง”


“พี่ให้ เคทตามหาอยู่ พี่มาตามหอนี ้ เผื่อฟิ ล์มจะเห็น”

“หนูไม่เห็นน้ องเลย งัน...


้ เดี๋ยวถ้ าเห็นจะโทรไปบอกพี่นะ แต่ตอนนี ้ขอ
หนูไปซื ้อข้ าวก่อน หิวมาก”

“โอเค ถ้ าเห็นพี่ฝากดูแลเขาด้ วย พี่เป็ นห่วง”

สิ ้นเสียงบทสนทนาระหว่างทังสองคน้ ทุกอย่างรอบตัวก็เงียบไปหมด
แม้ แต่เสียงลมหายใจของฉันก็ไม่ได้ ยินแล้ ว มันเหมือนหัวใจฉันจะขาดในวินาทีที่ได้
ยินพี่คินทร์ พดู ว่า ‘พี่ฝากดูแลเขาด้ วย พี่เป็ นห่วง’

ไม่ร้ ูว่าฉันหูแว่วหรื อสมองคิดไปเองหรื อเปล่า แต่ประโยคเมื่อครู่มนั ทํา


ให้ หวั ใจของฉันสัน่ ไหวไปหมด มันทังบี ้ บคันจนเจ็
้ บแปลบ แต่ก็ดีใจจนหัวใจเต้ นระทึก
ไปหมด ที่พี่คินทร์ พดู ... เขาไม่ได้ ตงใจพู
ั ้ ดมันออกมาใช่ไหม

KINN Talks.
เธอหายไปไหนกันแน่...

ผมหันซ้ ายหัวขวา กวาดตามองไปทัว่ บริ เวณทุกซอกทุกมุมของอาคาร


แต่ก็ไม่มีร่างของยัยอุ๋งโผล่มาให้ เห็นเลย เม็ดเหงื่อผุดขึ ้นตามกรอบหน้ าผากผม ก่อน
จะไหลลงตามขมับเพราะความเหน็ดเหนื่อย ผมตามหาเธอทัว่ ทังหอฟิ ้ ล์มแล้ วแต่ก็ไม่
มี เธอจะไปที่ไหน จะโดนใครทําอะไรหรื อเปล่า ผมคิดจนปวดหัวไปหมด
Rrrr!
เสียงริ งโทนจากโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ ้น ผมรี บหยิบมันขึ ้นมา ก่อน
จะกดรับสายทันทีที่เห็นว่าใครโทรมา

[พี่คินทร์ ! เคทตามหาทัว่ แล้ ว ไม่เจอเลย] เสียงของเคทตอบกลับมา


ทันทีหลังการกดรับสายของผม

“พี่ก็ตามทัว่ หอฟิ ล์มแล้ ว” ผมพูดปนเสียงหอบหายใจ

ก่อนหน้ านี ้ผมก็ลองโทรตามเธอแล้ ว แต่เธอปิ ดเครื่ อง โทรเท่าไหร่ก็ไม่


ติด ป่ านนี ้จะเป็ นตายร้ ายดียงั ไง

[งันเราไปแจ้
้ งความกันดีไหม] เคทเสนอความคิดเห็น

“ไม่ได้ หรอก ยัยอุ๋งหายไปยังไม่ถึงชัว่ โมง ตํารวจเขาไม่รับแจ้ งความ


หรอก”

[แต่การแจ้ งความมันก็สามารถแจ้ งได้ ตลอดเวลา ไม่จําเป็ นต้ องครบ24


ชัว่ โมงก็ได้ ไม่ใช่เหรอพี่คินทร์ ] ใช่... มันแจ้ งได้ ตลอด แต่ตํารวจเขาไม่รับแจ้ งแน่นอน

เพราะการแจ้ งความคนหาย ตํารวจอาจจะต้ องใช้ ดลุ พินิจของตัวเองใน


การไม่รับแจ้ งความคนหายในกรณีที่ไม่สมควรแก่เหตุได้ เพราะตอนนี ้ยัยอุ๋งหายไปยัง
ไม่ถึงชัว่ โมง ตํารวจอาจจะคิดว่าเธออาจจะแค่ไปที่ไหนสักที่ ไม่ได้ หายตัวไป

“ใช่ แต่ตํารวจเขาไม่รับแจ้ งหรอก ตอนนี ้เราคงทําได้ แค่รอ ถ้ าพรุ่งนี ้


ยัยอุ๋งยังไม่กลับมา พี่จะไปแจ้ งความเอง”
[โอเค งันพี
้ ่คินทร์ กลับมาที่ห้องเลยก็ได้ เดี๋ยวเคทรอที่ห้อง]

“อืม...”

อย่าเป็ นอะไรไปนะยัยตัวยุ่ง เธอทําฉันหัวปั่ นมาหลายชัว่ โมงแล้ ว!


MAWNUM Talks.
ก๊ อกๆ!

ฉันสะดุ้งทันทีที่ได้ ยินเสียงเคาะประตูห้อง ก่อนจะมองไปที่ประตูอย่าง


หวาดๆเพราะกลัวว่าจะเป็ นพี่คินทร์

“นํ ้า... นี่พี่เอง พี่ลืมเอากุญแจห้ องออกไปตอนล็อกอ่ะ เปิ ดประตูให้ พี่


หน่อย” ที่แท้ ก็เป็ นพี่ฟิล์ม

ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะตะโกนตอบพี่ฟิล์มกลับ “รอแป๊ บ


หนึง่ นะคะพี่ฟิล์ม”

สองเท้ าของตัวเองรี บสาวเข้ าไปใกล้ ประตู พลางเปิ ดมันออกเพื่อให้ คน


ด้ านนอกได้ เดินเข้ ามา

“รอพี่นานไหม”

“ไม่เลยค่ะ” ฉันส่ายหัวน้ อยๆ พร้ อมกับส่งยิ ้มให้ เธอ

ผู้หญิงตัวเล็กๆแค่นี ้ แต่กลับเดินถือของพะรุงพะรังเต็มไปหมดเลย
“นํ ้าคง... ได้ ยินที่พี่คินทร์ พดู กับพี่แล้ วใช่ไหม”

“…” ฉันพยักหน้ ารับสองที ได้ ยินสิ... ได้ ยินทุกอย่างเลย

“พี่คินทร์ เป็ นห่วงนํ ้ามากนะ”

“นํ ้าเข้ าใจค่ะ แต่นํ ้าขอเวลาได้ ไหมคะ นํ ้าคิดว่าอารมณ์ตอนนี ้ของ


ตัวเองไม่คงที่เลย”
ฉันคิดว่าตอนนี ้ตัวเองยังไม่พร้ อมที่จะคุยกับพี่คินทร์ เพราะถ้ าเกิดคุยกันไป ฉันอาจจะ
ทําตัวงี่เง่าใส่เขาอีกก็ได้ แล้ วพอเขาโมโห ฉันก็จะโมโหตามเขาไปด้ วย

“พี่เข้ าใจ งันนํ


้ ้าพักผ่อนก่อนนะ พี่มีติวแคลตอนเย็น จะกลับมาอีกทีก็สองทุ่มเลย”

“ค่ะ” ฉันตอบรับพี่ฟิล์มเสียงหนักแน่น

“ดูแลตัวเองดีๆนะอุ๋งๆ” พี่ฟิล์มยื่นมือมายีผมฉันเบาๆ ก่อนที่เธอจะยิ ้มทิ ้งท้ ายไว้ แล้ ว


เดินออกจากห้ องไป แต่ถึงอย่างนันก็้ ยงั ไม่ลืมที่จะล็อกประตูให้ ฉนั
ฉันปรายตาไปมองพวกถุงอาหารที่พี่ฟิล์มซื ้อขึ ้นมาให้ ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมา
ยืดยาว วันนี ้ฉันไม่หิวอะไรเลยจริ งๆ ฉันกินอะไรไม่ลงเลย

KINN Talks.
20 : 25 น.
ผมนัง่ ถอนหายใจอยู่ที่เตียงติดต่อกันหลายชัว่ โมงแล้ ว สายตาก็จบั จ้ องอยู่แค่ที่ประตู
ห้ องเพราะหวังว่าใครบางคนจะเปิ ดมันเข้ ามา แต่ก็ไม่มี่วี่แวว ผมบอกให้ เคทกลับไปที่
ห้ องของตัวเองแล้ ว เพราะยัยอุ๋งอาจจะกลับไปรอเธอที่ห้องแล้ วก็ได้ แต่ถึงอย่างนันก็้
ยังไม่มีการติดต่อกลับมาจากน้ องสาวของผมอยู่ดี

กึก!
เสียงบิดลูกบิดทําให้ ผมหันขวับไปมองทันที หัวใจเต้ นตัวราวกับเสียงกลอง สายตา
มองค้ างอยู่ที่ประตูนิ่งๆ

“ไอ้ คินทร์ ...” แต่พอเห็นว่าคนที่มาคือใคร ผมก็ต้องก้ มลงมองโทรศัพท์ของตัวเอง


เหมือนเดิม
โทรศัพท์ที่ตอนนี ้ขึ ้นหน้ าบันทึกการโทรของผม ผมโทรหายัยอุ๋งมาประมาณห้ าสิบสาย
แล้ ว แต่ผลที่ได้ ก็เหมือนเดิม เธอปิ ดเครื่ องเอาไว้ แต่ถึงอย่างนันความพยายามของผม

ก็ยงั ไม่ลดถอยอยู่ดี ผมยังคงโทร...

“มึงมาทําไม” ผมถามไอ้ เฟี ยตกลับไปอย่างเซ็งจัด

“งันกู
้ กลับนะ”

ผมปรายตาไปมองมันเคืองๆ อะไรของมันวะ “…”

“ไม่รัง้ กูหน่อยเหรอ” ผมว่ามันกวนตีน ทุกคนคิดเหมือนกันไหมครับ

“ไปกวนตีนไกลๆไป กูซีเรี ยสอยู่” ผมว่า ก่อนจะกดดทรออกเบอร์ ของยัยอุ๋งอีกครัง้


“เขาไม่รับหรอก” ไอ้ เฟี ยตตอบกลับมา

“มึงรู้ได้ ไงว่ากูโทรหาใคร” ผมตวัดสายตาไปมองมันเขม็ง ก่อนจะถามออกไป

“หน้ าบูดเป็ นตูดหมางี ้ ดูก็ร้ ูว่าเมียหาย”


“…”
ใช่... เมียหาย หายไปไหนก็ไม่ร้ ู

“น้ องอยู่ที่ห้องฟิ ล์ม”

“มึงว่าไงนะ!” ผมสวนกลับทันควันหลังจากที่ได้ ยินไอ้ เฟี ยตพูด


พร้ อมกับร่างกายของตัวเองที่ขยับลงจากเตียงโดยอัตโนมัติ ผมรี บก้ าวเท้ าไปที่ประตู
ห้ อง แต่ในจังหวะที่กําลังจะเดินออกไป ไอ้ เฟี ยตกลับคว้ าไหล่ผมเอาไว้ ซะก่อน ผมหัน
ไปมองมันอย่างไม่เข้ าใจ

“มึงอย่าเพิ่งไป มาคุยกับกูก่อน” ไอ้ เฟี ยตบอกเสียงเรี ยบ มันเดินเข้ าไปในห้ องผม


ด้ วยท่าทางชิลล์ๆ

“…” ผมขมวดคิ ้วมองท่าทางของผม ก่อนจะถอนหายใจออกมา และเดินตามมัน


เข้ าไปในห้ อง
ผมรู้ดีวา่ ท่าทางแบบนี ้ของมันคืออะไร ถ้ าเป็ นคนอื่นอาจจะไม่สนใจและเดินออกไป
ตามที่ใจอยากแล้ วก็ได้ แต่นี่เป็ นผม ผมที่เป็ นเพื่อนกับมันมานานจนรู้นิสยั ทุกอย่าง
ผมรู้ว่าท่าทางแบบนี ้ของไอ้ เฟี ยตคือการคุยธุระที่ซีเรี ยสพอสมควร
“ใครเริ่ ม” มันถาม หลังจากที่หย่อนก้ นลงบนโซฟาเป็ นที่เรี ยบร้ อย

“ยัยนัน่ !” ผมตอบกลับทันที

“แน่ใจ?” แต่พอมันถามอีกรอบ ผมกลับต้ องขมวดคิ ้วด้ วยความคิดหนัก และไม่กล้ า


ที่จะตอบกลับไปทันทีอีก
มันเป็ นแบบนี ้เสมอ ถามยํ ้าเพื่อให้ อีกฝ่ ายคิดก่อนจะพูดออกมา

“อาจจะกูด้วย...มัง”
้ ผมหลุบตามองพื ้น ตอบมันกลับไป

“งันแสดงว่
้ าไม่ใช่แค่มงึ แต่น้องก็เริ่ มด้ วย” ไอ้ เฟี ยตพยักหน้ า ก่อนจะทําท่าครุ่นคิด
สักพัก “เล่ามา”

“กูกบั ยัยนัน่ ไปดูหนังที่เมเจอร์ ...” ผมเริ่ มเล่ารายละเอียดของเรื่ องราวทังหมดให้


้ มนั
ฟั ง
ใช้ เวลาประมาณห้ านาทีก็เล่าจบ ไอ้ เฟี ยตเงียบไป ผมก็เงียบตาม มันทําท่าเคร่งขรึม
แบบนี ้ตลอด เหมือนกับมีเรื่ องที่สมองของมันต้ องคิดตลอดเวลา ง่ายๆก็คือ... มัน
เหมือนพวกที่ฉลาดมากๆ อะไรทํานองนัน้

“สรุปก็คือต้ นเหตุของเรื่ องมาจากมึง แล้ วปลายเหตุของเรื่ องก็มาจากน้ องที่งี่เง่าเอง”


มันเงยหน้ าขึ ้นมามองผมหลังจากระดมสมองคิดหาสาเหตุเสร็จ “ใช่ไหม” ก่อนจะ
ถามยํ ้าเพื่อยืนยันสาเหตุ

“มัง...”
้ ผมตอบกลับไป
“คินทร์ ... มึงฟั งกู อดีตของมึงน่ะตัดทิ ้งไป ปั จจุบนั ของมึงคือแมวนํ ้า กูไม่ร้ ูหรอกว่ามึง
เจ็บปวดมากมายขนาดไหนที่อกหัก เพราะกูไม่เคยอกหักมาก่อน กูไม่ร้ ูหวั อกของมึง
หรอกว่ามึงรู้สกึ ยังไง แต่มงึ ต้ องเข้ าใจด้ วยว่าอดีตมันย้ อนกลับไปแก้ ไขอะไรไม่ได้
เพราะมึงมีแมวนํ ้าอยู่”
“…”
“มึงสามารถสานสัมพันธ์กบั ครี มต่อได้ ถ้ามึงไม่มีแมวนํ ้า มึงจะจีบครี มอีกครัง้ หรื อมึง
จะกลับไปคบกับครี มอีกกี่รอบก็ได้ ถ้ามึงโสด แต่นี่ไม่ใช่... มึงมีคหู่ มันแล้
้ ว”
“…”
“ถึงมึงจะบอกว่าไม่ได้ ตงใจให้
ั้ เรื่ องแบบนันมั
้ นเกิดขึ ้น แต่มงึ ก็ต้องรู้ด้วยว่ามึงเปิ ด
บริ สทุ ธิ์น้องเขาไปแล้ ว”

“…” ผมเงยหน้ าขึ ้นมองมันนิ่งๆ

“ตอนนี ้กูแค่อยากให้ มงึ รับผิดชอบตรงจุดนี ้ แล้ วพอถึงเวลา ณ จุดๆหนึง่ ที่แมวนํ ้า


ไม่ได้ รักมึง และมึงไม่ได้ รักแมวนํ ้าจริ งๆ ตอนนันมึ
้ งถึงจะละทิ ้งความรับผิดชอบนี ้ได้
เพราะความรู้สกึ ของทังสองคนไม่
้ ได้ ชอบพอกัน”

“แต่ตอนนี ้กูกบั ยัยนัน่ ก็ไม่ได้ ชอบกันอยู่แล้ ว” ผมเอียงคอตอบมันกลับไปเสียงเครี ยด

“แน่ใจมากแค่ไหนที่พดู ออกมาแบบนัน”
้ ไอ้ เฟี ยตหรี่ ตาถาม
“…” ผมไม่เข้ าใจเลย ทังๆที ้ ่สมองผมมันคิดว่าแน่ใจแล้ วที่พดู แบบนันออกมา
้ แต่
ทําไมหัวใจมันต้ องเต้ นอย่างเจ็บปวดขนาดนี ้ก็ไม่ร้ ู

“เคทบอกกูแล้ วเรื่ องที่มงึ หมันกั


้ บน้ องสามเดือน กูให้ เวลาสามเดือนนี ้กับมึง ถ้ าครบ
สามเดือนแล้ วหัวใจมึงยังรักครี มเหมือนเดิม กูจะยอมให้ มงึ กลับไปคบกับครี มได้ ตาม
สบาย กูจะไม่ขดั คอมึงอีก”
“…”
“แต่ตอนนี ้ มันยังอยู่ในระยะเวลาสามเดือนนัน้ กูขอให้ มงึ รับผิดชอบแมวนํ ้ามากเท่าที่
มึงจะทําได้ ” พูดจบเพียงเท่านัน้ ไอ้ เฟี ยตก็ลกุ ขึ ้นจากโซฟาและเดินตรงมาที่ผม ฝ่ ามือ
ข้ างหนึง่ ของมันตบลงบนบ่าผมหนักๆหนึง่ ที “ตอนนี ้อย่าเพิ่งไปตามน้ อง ปล่อยน้ องไว้
กับฟิ ล์มก่อน พรุ่งนี ้มึงค่อยไปรับน้ องกลับมา”

ไอ้ เฟี ยตเดินออกไปจากห้ องหลังจากพูดทุกอย่างจบ ทิ ้งผมให้ ยืนนิ่งอยู่


แบบนี ้ ผมกระพริ บตาสองทีเพื่อเรี ยกสติของตัวเองกลับมา คําพูดทุกประโยคของไอ้
เฟี ยตไหลเวียนเข้ ามาในหัวผมอีกครัง้ ทุกอย่างที่มนั พูดมา... ผมสลัดทิ ้งไปไม่ได้ แม้ แต่
สักประโยคเดียว

MAWNUM Talks.
หนาว... คือสิ่งเดียวที่ร่างกายสัน่ เทาของฉันสัมผัสได้
ฉันขดตัวเข้ าหาผ้ าห่มอย่างโหยหาความอบอุ่น พลางซุกหน้ าลงกับ
หมอนใบโต อาการหนาวเหน็บไล่ลามไปทัว่ ทังร่้ างกาย ในขณะที่เปลือกตายังคงปิ ด
สนิทจนเกิดภาพดํามืด

“นํ ้า...” เสียงเรี ยกคุ้นหูของพี่ฟิล์มค่อยๆแทรกซึมเข้ ามาในหูฉนั

“อือ... นํ ้าขอนอนต่ออีกสักพักได้ ไหมคะ นํ ้าหนาว” ฉันตอบพี่ฟิล์ม


กลับไปทังๆที
้ ่ยงั หลับตาสนิท

“นํ ้าตัวร้ อนมากเลยนะ ป่ วยใช่ไหมเนี่ย” ฝ่ ามือเย็นเฉียบของพี่ฟิล์มอัง


ลงที่หน้ าผากของฉัน

“นํ ้า...” ฉันพึมพํา รู้สกึ ไม่อยากลืมตาเลย

“เดี๋ยวพี่มานะ” สิ ้นเสียงของพี่ฟิล์ม การเคลื่อนไหวบางอย่างก็เกิดขึ ้น


เหมือนเธอจะลุกออกไปแล้ ว

สักพักก็ดเู หมือนว่าเธอจะกลับมา เพราะเสียงยวบยาบของเตียงดังขึ ้น


และการเคลื่อนไหวบางอย่างก็ดงั เข้ ามาในหูของฉันด้ วย

ฉันเอ่ยทักพี่ฟิล์มกลับไป “พี่ฟิล์มไปไหนมาคะ”

“รี บลุกขึ ้นมาได้ แล้ วยัยอุ๋ง ฉันจะพาไปโรงพยาบาล” แต่เสียงที่ตอบ


กลับมานันกลั
้ บไม่ใช่พี่ฟิล์ม แต่เป็ นเสียงทุ้มของพี่คินทร์ !
ฉันลืมตาขึ ้นทันที หันขวับไปมองเจ้ าของเสียงฉับพลัน ใบหน้ าของพี่คิ
นทร์ เด่นหราอยู่ในดวงตาฉัน คิ ้วเข้ มที่เขาชอบขมวดเป็ นสิ่งเดียวที่สายตาอันพร่าเลือน
ของฉันสังเกตได้ ว่าเป็ นเขาจริ งๆ

“พี่คินทร์ ...” ฉันพึมพําเรี ยกชื่อพี่คินทร์ เสียงเบา

“ลุกขึ ้นมาเร็ว จะพาไปโรงพยาบาล”

“…” ฉันพูดไม่ออกเลย

ทําไมพี่คินทร์ ถึงมาอยู่ที่นี่ ทําไมเขาถึงอยู่ตรงหน้ าฉันในเวลานี ้

“มัวแต่จ้องฉันอยู่ได้ รี บๆลุกขึ ้นมา” เขาสัง่ เสียงเข้ ม วงแขนข้ างหนึง่


ของพี่คินทร์ สอดเข้ ามาที่ด้านหลังของฉันเพื่อช่วยพยุงให้ ฉนั ลุกขึ ้นจากเตียง

“นะ...นํ ้า” ฉันยันแขนข้ างหนึง่ ลงกับเตียงเพื่อจะพยุงตัวเองให้ ลกุ ขึ ้น


แต่ทว่ามันกลับอ่อนแรงจนยากจะลุกจริ งๆ

“เธอป่ วยแล้ วเนี่ย” พี่คินทร์ พดู ด้ วยนํ ้าเสียงหงุดหงิด พลางยื่นมือข้ าง


หนึง่ มาอังที่หน้ าผากฉันเบาๆ

ในยามที่เขาวางมือลงบนหน้ าผากของฉัน สัมผัสนันมั


้ นช่างอ่อนโยนจน
ทําให้ ฉนั นํ ้าตาคลอขึ ้นมา ทําไมเขาต้ องมาทําดีกบั ฉันในเวลาแบบนี ้ มันทําให้ ฉนั คิด...
คิดว่าเขาอาจจะ...
-----------------------
ตึกตัก... ตึกตัก...

เสียงหัวใจฉันเต้ นระทึกด้ วยความตื่นเต้ น มันไม่ได้ ตื่นเต้ นเพราะถูกพี่คิ


นทร์ อ้ มุ แต่มนั ตื่นเต้ นเพราะเขาแสดงท่าทีอ่อนโยนต่อฉันต่างหาก หัวใจฉันทํางาน
หนักเพราะใบหน้ าของพี่คินทร์ อยู่ห่างกันเพียงไม่กี่เซนต์เท่านัน้ ทุกจังหวะการก้ าวเดิน
มันทําให้ ใบหน้ าของเราใกล้ แล้ วห็ไกลออกจากกัน เขากําลังจะพาฉันไปโรงพยาบาล
...

พี่คินทร์ บอกว่าฉันป่ วย ตัวฉันร้ อนจี๋เลย แต่ฉนั ไม่เห็นจะรู้สกึ ว่าร่างกาย


ของตัวเองร้ อนเท่าไหร่เลย ตรงกันข้ ามฉันกลับรู้สกึ ว่าใบหน้ าของฉันในตอนนี ้ร้ อนฉ่า
ยิ่งกว่าร่างกายที่อ่อนแอของตัวเองซะอีก

“หนีมาป่ วยห้ องคนอื่นแบบนี ้คิดว่าเขาจะเดือดร้ อนไหม เดินเองก็ไม่ได้


ลําบากฉันอุ้มอีก” พี่คินทร์ หลุบตามองฉัน แถมยังบ่นยาวเป็ นหางว่าวให้ ฟังอีก

ฉันก้ มหน้ างุด หันหน้ าเข้ าหาแผ่นอกแน่นปึ ก้ ของเขาแทน “…”

“ไม่ต้องมาทําเงียบเลยนะ ฉันยังไม่ได้ คิดบัญชีที่เธอทําฉันหัวหมุนตาม


หาทังวั
้ นเลย”

“นํ ้าไม่ได้ อยากให้ พี่คินทร์ ตามหาสักหน่อย...” ฉันตอบเสียงอู้อี ้

มันจริ งนะ ฉันไม่ได้ อยากให้ เขาต้ องมาเหนื่อยตามหาหรอก


“เรื่ องของครี ม...” ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองพี่คินทร์ ทนั ทีที่คนตัวสูงเอ่ยปาก
เขาพูดถึงเรื่ องพี่ครี มอีกแล้ ว แล้ วก็ไม่ร้ ูทําไมเหมือนกัน พอฉันนึกถึงหน้ าตาสะสวย
ของพี่ครี มทีไร ช่วงหัวคิ ้วมันก็เรี ยบตึงแปลกๆ แถมอารมณ์น้อยใจก็ถาโถมเข้ าใส่จน
ฉันแทบจะระงับอารมณ์ตวั เองไว้ ไม่อยู่อีกด้ วย “ครี มเป็ นแฟนเก่าฉัน ฉันยังรู้สกึ ดีกบั
ครี มอยู่...”

“…” ฉันเม้ มริ มฝี ปากแน่น ฝ่ ามือเย็นเฉียบ ในขณะที่ดวงตากําลัง


ร้ อนผ่าว

“แต่ตอนนี ้เธอเป็ นคูห่ มันฉั


้ น ฉันจะไม่คิดถึงครี มอีก โอเคไหม” พี่คินทร์
หลุบตามองฉัน ฉันช้ อนตามองเขาแว๊ บหนึง่ ก่อนจะเบนสายตาไปมองทางด้ านหน้ า
แทน “ตาแดงทําไม”
“…”
ไม่ร้ ูสิ... น้ อยใจมังแบบนี
้ ้

“ถามไม่ตอบ เดี๋ยวทุ่มลงตรงนี ้เลย!” พี่คินทร์ ข่ฉู นั พร้ อมทําท่าจะทุ่ม


ฉันลงตรงทางเดินจริ งๆ แต่ฉนั ก็กระชับอ้ อมแขนที่คล้ องอยู่กบั ลําคอแกร่งของเขาแน่น
ขึ ้นเพื่อป้องกันตัวเอง

ฉันรู้หรอกว่าเขาไม่กล้ าทํา แต่อะไรก็เกิดขึ ้นได้ ถ้ าเขาทําฉันหลุดมือ


ขึ ้นมาจริ งๆ ความสูงที่อยู่ห่างจากพื ้นมันก็ไม่ได้ น้อยๆ เพราะพี่คินทร์ สงู ร้ อยแปดสิบ
กว่าเซนต์ได้ เลย ตกลงไปก็คงเจ็บเอาเรื่ องเหมือนกัน
“ขอบคุณนะคะ” ฉันตอบเขากลับไปเสียงเบา

“เรื่ อง?” เสียงทุ้มตอบกลับมา


“…”
นึกเรื่ องอะไรไม่ออกหรอก ฉันรู้แค่วา่ อยากขอบคุณเขาก็เท่านัน้ ทังๆที
้ ่
ฉันเหวี่ยงเขาไปแบบไม่มีเหตุผลขนาดนัน้ แต่พี่คินทร์ ก็ยงั ยอมตามหาฉัน ถึงแม้ จะรู้ดี
อยู่แก่ใจว่ามันเป็ นหน้ าที่ของเขาที่ต้องดูแลคูห่ มันอย่
้ างฉัน แต่ถึงอย่างนันฉั
้ นก็ดีใจที่
อย่างน้ อยพี่คินทร์ ก็ยอมตามหา

“ไม่ตอบอีกแล้ ว” ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองเมื่อเขาพูดขึ ้นมาอีกรอบ

เป็ นจังหวะเดียวกับที่คนตัวสูงก็หลุบตามองฉันแบบพอดิบพอดี สายตา


ฉันประสานอยู่กบั ดวงตาดําขลับเจ้ าอารมณ์ของพี่คินทร์ นิ่งเนิ่นนาน ทังๆที ้ ่มนั เป็ นการ
สบตาโดยที่อีกฝ่ ายไม่ได้ ร้ ูสกึ อะไรกับตัวเอง แต่หวั ใจฉันกลับเต้ นตึกตักได้ อย่างไม่
ยากเย็น

ขอแค่ได้ รัก... มันก็ดีแล้ วไม่ใช่เหรอแมวนํ ้า


KINN Talks.
“ไม่ได้ เป็ นอะไรมากหรอกครับ เป็ นไข้ หวัดธรรมดาเพราะอยู่ในที่
อากาศชื ้นนานเท่านันเอง ้ เดี๋ยวหมอจะสัง่ ยาแก้ ไข้ หวัดกลับไปให้ กินนะครับ กินเรื่ อยๆ
จนกว่าไข้ จะลดและอาการดีขึ ้นนะ” หมอพูดให้ ผมฟั ง ก่อนจะหันไปบอกยัยอุ๋งที่นงั่
นิ่งอยู่ที่เก้ าอี ้ด้ านข้ างผม “รับยาที่แผนกจ่ายยาช่องห้ านะครับ”
“ขอบคุณครับหมอ” ผมยกมือขึ ้นไหว้ หมอ ก่อนจะลุกขึ ้นจากเก้ าอี ้และ
เข้ าไปพยุงยัยอุ๋งที่กําลังพยายามจะลุกขึ ้นด้ วยตัวเอง แต่ดทู ่าจะไม่ไหว

“ขอบคุณค่ะ” ยัยอุ๋งยิ ้มแห้ งๆให้ ผม

“กลับห้ องไปแล้ วนอนพักผ่อนเลยนะ รี บๆหาย ฉันจะได้ ดเุ ธอได้ สกั ที”

เช้ าวันนี ้ผมกะไว้ ว่าจะมารับยัยอุ๋งที่ห้องฟิ ล์มไปดุเรื่ องที่หนีออกมาไม่


บอกกล่าวกัน แต่กลับได้ รับโทรศัพท์จากฟิ ล์มก่อนว่ายัยอุ๋งตัวร้ อนจี๋ เธอน่าจะป่ วย ผม
ก็รีบแจ้ นมาหาเธอที่ห้องฟิ ล์มทันที เรื่ องที่จะดุเธอเลยต้ องพับเก็บไป กลายเป็ นว่า
ตอนนี ้กลับต้ องมาดูแลคนป่ วยแทนที่จะได้ ดเุ ด็กดื ้อตามที่ใจอยาก

“พี่คินทร์ ก็ตงท่
ั ้ าจะดุนํ ้าอย่างเดียว” เธอบ่นอุบอิบ พลางก้ มหน้ างุดจน
ผมมองเห็นแค่แก้ มป่ องๆ

“…” ผมแค่นยิ ้มให้ กบั ท่าทางน้ อยใจเป็ นเด็กของเธอ

แหงล่ะ... อายุเท่าไหร่กนั เชียว เพิ่งเรี ยนจบมัธยมปลาย ไม่แปลกที่เธอ


จะมีนิสยั เด็กๆแบบนี ้

หลังจากพายัยอุ๋งไปหาหมอเรี ยบร้ อย ผมก็พาเธอกลับมาที่ห้อง บังคับ


ให้ เธอกินโจ๊ กที่ตวั เองไปซื ้อมาให้ แล้ วก็ต้องบังคับให้ เธอกินยาอีก แต่ว่า... ปั ญหามัน
อยู่ที่ยยั อุ๋งเอาแต่เอียงหน้ าหลบยาที่อยู่ในมือผมท่าเดียวเลย บังคับยังไงก็ไม่กิน ให้
ตายเถอะ...
“เธอไม่กินมันจะหายได้ ยงั ไงล่ะอุ๋ง!” ผมดุเธอเสียงเข้ ม พลางพยายาม
ป้อนยาเธอไปด้ วย

“มันขม...” ยัยอุ๋งตอบ พลางพลิกใบหน้ าไปมาเป็ นพัลวัน

“หวานเป็ นลม ขมเป็ นยา ไม่เคยได้ ยินหรื อไง”

“อื ้อ...”

ผมบีบแก้ มเธอเอาไว้ ก่อนจะยัดยาจํานวนสามเม็ดในมือตัวเองเข้ าปาก


เล็กไป จากนันก็
้ เอื ้อมมือไปหยิบนํ ้าอุ่นที่รินทิ ้งไว้ มาและกรอกนํ ้าใส่ปากให้ แต่ยยั อุ๋งก
ลับเม้ มปากไว้ แน่น ไม่ยอมกินนํ ้าจากแก้ วดีๆ แถมยังไม่ยอมกลืนยาอีกด้ วย

“ยัยอุ๋ง!” ผมขึ ้นเสียงใส่เธอด้ วยความหงุดหงิด

ทําไมถึงได้ ดื ้อด้ านแบบนี ้วะ! ยาไม่กินแล้ วจะหายได้ ยงั ไง

“แค่กๆ” เสียงไอเล็กๆดังออกจากลําคอของเธอ

เอาสิ... อยากอมยานักก็อมเลย ขมลิ ้นขนาดนันจะทนได้


้ แค่ไหน

“กลืนยา!” ผมขมวดคิ ้วสัง่ เธอเสียงดุ

ยัยอุ๋งส่ายหน้ าอย่างไม่ยินยอมแน่นอน “ไม่...”

“จะกลืนดีๆไหม!” ผมถามยํ ้าอย่างหมดความอดทน

และจะบอกว่าความอดทนผมตํ่ามากๆด้ วย
“ไม่...” ยัยอุ๋งยังคงยืนกรานคําเดิม

“ได้ ...” ผมพยักหน้ า

มือที่ถือแก้ วนํ ้าอยู่ยกขึ ้นจรดริ มฝี ปากของตัวเอง กรอกนํ ้าเปล่าอุณหภูมิ


อุ่นนันเข้
้ ามาในปาก ผมบีบแก้ มของยัยอุ๋งแน่นขึ ้นจนปากเธอเผยอออก ยัยอุ๋งเบิกตา
กว้ างอย่างคาดไม่ถึง ผมยกยิ ้มที่มมุ ปากให้ เธอ ในเมื่อไม่ยอมกินดีๆ มันก็ต้องใช้ วิธีนี ้
แหละ

MAWNUM Talks.
อึก...

สมองฉันหยุดประมวลผลและว่างเปล่าไปชัว่ ขณะเมื่อถูกพี่คินทร์
ประกบริ มฝี ปากลงมา หูของตัวเองได้ ยินเพียงเสียงกลืนนํ ้าอึกหนึง่ เท่านัน้ นอกนันฉั
้ น
ก็ไม่ได้ ยินอะไรแล้ ว ร่างกายฉันเกร็งเครี ยดและเย็นเฉียบขึ ้นมาเรื่ อยๆ แม้ แต่ลมหายใจ
ที่ควรจะผ่อนเข้ าออกตามธรรมชาติก็ถกู กลันเอาไว้
้ ผิวแก้ มของพี่คินทร์ เสียดสีอยู่กบั
ผิวแก้ มของฉันเบาๆ

“อื ้อ...” ฉันครางเบาๆเมื่อรู้สกึ ถึงความอึดอัดในจิตใจ

ปึ กๆๆ!

ฉันรี บตีมือของตัวเองลงกับอกแกร่งของพี่คินทร์ รัวเร็วเมื่อตังสติ


้ ได้ ดู
เหมือนพี่คินทร์ ก็เพิ่งจะรู้ตวั เหมือนกัน เขาผละริ มฝี ปากออกไป พลางขมวดคิ ้วมองฉัน
อย่างอึ ้งๆ ซึง่ ไม่ต่างจากฉันที่เบิกตากว้ างมองเขาอย่างตกตะลึงเช่นเดียวกัน นิ ้วมือ
ข้ างหนึง่ ของฉันยกขึ ้นแตะที่ริมฝี ปากเบาๆ

สัมผัสเมื่อครู่ยงั คงอบอวลอยู่ ให้ ตายสิ... ฉัน...

“…” ฉันหอบหายใจเข้ าออกเมื่อกลันหายใจต่


้ อไปไม่ไหวแล้ ว

“ฉะ...ฉันขอโทษนะเว้ ย! ก็เธอไม่ยอมกินยา!” พี่คินทร์ ขยับร่างกาย


ออกไป เขาปรายตามามองฉัน ก่อนจะเดินออกจากห้ องไปอย่างเร่งรี บ

“…” ฉันนิ่งเงียบ สายตาจับจ้ องไปที่บานประตูที่ปิดสนิทจากฝี มือ


ของพี่คินทร์

ก่อนจะลูบไล้ นิ ้วมือไปตามริ มฝี ปากของตัวเองเบาๆ สัมผัสอุ่นๆยังคงไม่


หายไปไหน มันยังคงอยู่กบั ริ มฝี ปากฉัน

จูบเหรอ...?

มันเป็ นแบบนี ้เหรอ จูบเป็ นแบบนี ้ใช่ไหม?

12 : 21 น.

หลับไม่ลงจริ งๆ ฉันไม่สามารถข่มตาให้ หลับลงได้ เลย อาการว้ าวุน่ ใจ


เล่นงานจนสมองฉันคิดวุน่ วายไปหมด ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ ้นมาเปิ ด
เครื่ องและหาอะไรดูในยูทปู ไปพลางๆ แต่ยงั ไม่ทนั ที่นิ ้วจะสัมผัสลงบนหน้ าจอ
ทัชสกรี น จู่ๆก็มีข้อความบางอย่างเด้ งขึ ้นมาที่หน้ าจอ
ฉันกดอ่านมันทันที...

เบอร์ 095xxxxxxx พยายามติดต่อคุณ...


ฉันกวาดสายตาอ่านข้ อมูลของข้ อความนัน้ ก่อนจะเบิกตากว้ างอย่าง
ตกตะลึงเมื่อเห็นจํานวนสายเรี ยกเข้ าในตอนที่ฉนั ปิ ดเครื่ องเอาไว้ มีทงสายเรี
ั้ ยกเข้ า
ของเคทและพี่คินทร์ แต่สายเรี ยกเข้ าส่วนมากมันมาจาก...พี่คินทร์

ตึกตัก... ตึกตัก...

ฉันยกมือขึ ้นกุมในตําแหน่งหัวใจของตัวเองให้ มนั หยุดเต้ นอย่างรุนแรง


และสงบลง เขาก็แค่เป็ นห่วงเท่านันเองถึ
้ งได้ โทรตามฉันมากมายขนาดนี ้ เขาคงไม่ได้
รู้สกึ อะไรกับฉันหรอก ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองออกไป ฉันจะฟุ้งซ่าน
แบบนี ้ไม่ได้ ฉันต้ องหาอะไรทํา...
KINN Talks.
“เมื่อไหร่มงึ จะเสด็จกลับห้ องตัวเองสักที” ไอ้ เฟี ยตพูดขึ ้นเสียงเรี ยบ
หลังจากที่ผมมาขออาศัยอยู่ที่ห้องมันมาสักพักแล้ ว

“กูยงั ไม่อยากกลับ” ผมตอบกลับไป พลางกดตีป้อมในเกมROV


เพื่อไล่อาการฟุ้งซ่านของความคิดตัวเอง

เวลาอยู่กบั เกม... ผมจะลืมทุกสิ่ง

แต่...
“แม่งเอ๊ ย!” ผมสบถออกมาเสียงดัง ทํายังไงมันก็ไม่ลืม

ตอนนันผมคิ
้ ดอะไรอยู่กนั แน่ ทําไมถึงได้ ไปจูบเด็กคนนันแบบนั
้ น้
ถึงแม้ ว่าผมจะอยากป้อนนํ ้าเธอเพราะเธอดื ้อด้ านไม่ยอมกินยา แต่เอามือจับกรอก
ปกติก็ได้ แล้ วไหม ทําไมผมถึงทําแบบนันกั้ บเธอ

ทําไมมมมมมมมมม!
-------------------------------

“…”
หลังจากเสียงสบถของผมจบลง เสียงของไอ้ เฟี ยตก็เงียบไป ผมเหลือบ
ตาไปมองมัน ไอ้ เฟี ยตเลิกคิ ้วขึ ้นมองผมนิ่งๆ สีหน้ าฉายชัดถึงความสงสัย มันคงกําลัง
งงแหละว่าผมเป็ นอะไร ผมยิ ้มแหยๆให้ มนั ก่อนจะตอบกลับไป

“กูหวั ร้ อนกับเกม แหะๆ” ก่อนที่เสียงหัวเราะ ‘แหะๆ’ จะถูกส่งไปให้


มันด้ วยอีกที

“แล้ วน้ องเป็ นยังไงบ้ าง ฟิ ล์มแชทมาบอกกูว่าน้ องป่ วย” ไอ้ เฟี ยตถา
มขึ ้นในขณะที่กําลังไล่สายตาอ่านหนังสือในมืออยู่

“ก็ดี” ผมตอบกลับไปเสียงเรี ยบ พยายามเพ่งสายตาโฟกัสแค่เกมใน


จอมือถือของตัวเอง
ยัยอุ๋งน่ะสบายดีทกุ อย่าง มีแค่ผมเนี่ยแหละที่ดจู ะไม่สบาย มานัง่ คิด
มากกับการกระทําอันอุกอาจของตัวเองอยู่นี่ไง ผมไม่เข้ าใจจริ งๆนะว่าทําไมถึงได้ จบู
ไปแบบนัน้ รู้ตวั อีกทีมนั ก็จบู ไปแล้ ว

“มึงพาน้ องไปหาหมอมาแล้ วเหรอ”

“พาไปแล้ ว” ผมตอบกลับคําถามที่สองของไอ้ เฟี ยต

ไม่พาไปได้ ไงล่ะ ตัวร้ อนอย่างกับไฟขนาดนัน้

“งันมึ
้ งกลับห้ องไปอยู่กบั น้ องเถอะ กูว่าน้ องอาจจะไข้ ขึ ้นอีกก็ได้ ” ผม
หันขวับไปมองไอ้ เฟี ยตทันทีที่มนั พูดจบ

ก่อนจะส่ายหน้ ารัวให้ มนั ก็ผมยังไม่อยากกลับห้ องตอนนี ้ “…”

“ทําไมมึงถึงไม่อยากกลับห้ อง” ไอ้ เฟี ยตขมวดคิ ้วถาม

“กูยงั เล่นเกมไม่จบ” ผมอ้ างตอบกลับไป

จะให้ โพล่งออกไปว่า อ๋อ... กูจบู แมวนํ ้าแหละ แล้ วก็ฟ้ งซ่


ุ านวิ่งออกมา
ไม่กล้ ากลับเข้ าห้ อง งี ้เหรอ มันคงหัวเราะผมจนตาหยีพอดี ตังแต่
้ มนั มีแฟน รู้สกึ จะ
เป็ นปราชญ์เรื่ องความรักซะเหลือเกิน

“กูไม่เชื่อ” เนี่ย... ฉลาดอีก

แกล้ งโง่เชื่อผมบ้ างก็ได้ ไหมบางที ความฉลาดของมันบางทีก็น่ากลัว


เกินไปแล้ วนะ
“มึงกําลังจะพูดอะไร” ผมถามกลับไปเสียงเรี ยบ

ผมไม่ร้ ูว่าเก็บซ่อนอารมณ์สบั สนของตัวเองตอนนี ้มิดไหม ไม่ร้ ูว่าไอ้ เฟี ย


ตมันจะรู้หรื อเปล่าว่าตอนนี ้ผมว้ าวุน่ ในหัวใจมากมายแค่ไหน

“มึงเป็ นอะไร แปลกๆนะ” ไอ้ เฟี ยตวางหนังสือในมือลง ก่อนจะหันมา


นัง่ ถามผมแบบตรงๆ

ให้ ตาย... แค่ถามปกติก็กดดันจะตายห่าอยู่แล้ ว เล่นจิกตานัง่ จ้ องแล้ วก็


ถามแบบนี ้ผมควรจะทําตัวยังไง

“กูเปล่า...” ผมตอบเสียงยาน พลางยกมือขึ ้นปาดเหงื่อบนขมับของ


ตัวเองออกลวกๆ

กดดันทีไร เหงื่อออกทุกที มันจะจับได้ ว่าผมเป็ นอะไรก็เพราะปฏิกิริยาที่


ร่างกายผมแสดงออกมาเนี่ยแหละ

“กลับห้ องไปได้ แล้ วไป เดี๋ยวกูจะออกไปมหาวิทยาลัย วันนี ้มึงก็หยุด


ดูแลน้ องไปแล้ วกัน” ไอ้ เฟี ยตโบกมือไล่ผม

“กูขออยู่ห้องมึงต่ออีกสักครึ่งชัว่ โมง”

“ไม่!” มันตอบกลับมาทันควัน ไม่คิดก่อนหรื อไงวะ

ผมขมวดคิ ้วมองมันอย่างไม่เข้ าใจ แต่พอเห็นใบหน้ าเรี ยบเฉยไม่แสดง


อารมณ์ใดๆของมัน ผมก็ร้ ูได้ ทนั ทีว่าไอ้ เพื่อนคนนี ้มันเริ่ มจะหงุดหงิดผมเข้ าให้ แล้ ว ผม
กลืนนํ ้าลงคออึกหนึง่ ก่อนจะลุกพรวดขึ ้นจากที่นงั่ อย่างว่องไวแล้ วโค้ งตัวให้ มนั พร้ อม
กับพูดออกไปด้ วยนํ ้าเสียงสุภาพ

“ขอโทษครับพี่ ไปก็ได้ ครับ” ผมรี บเอ่ยขอโทษมันทันที ผมไม่อยากมี


เรื่ องกับไอ้ เฟี ยตเท่าไหร่หรอก

เพราะรับรู้ได้ ตงแต่
ั ้ เรี ยนอยู่มธั ยมด้ วยกันแล้ วว่าหมัดไอ้ บ้านี่หนักใช่
ย่อยแค่ไหน

ผมเดินออกมาจากห้ องของไอ้ เฟี ยตอย่างเลื่อนลอย จะกลับห้ องก็ไม่ได้


ไม่ร้ ูว่ากลับไปแล้ วผมต้ องทําตัวแบบไหน จะทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ ้นเลยก็ดเู หมือน
จะไม่เนียนเท่าไหร่ หรื อผมควรจะหาทางพูดกับยัยอุ๋งว่าผมไม่ได้ ตงใจ
ั ้ มันทําไปเอง
โดยไม่ร้ ูตวั อันนี ้ก็ดเู หมือนจะไม่เข้ าท่าอีก

คิดจนปวดหัวไปหมดแล้ วตอนนี ้...

“อ้ าวพี่คินทร์ !” ผมเงยหน้ าขึ ้นจากจอโทรศัพท์ของตัวเอง สายตามอง


ตรงไปด้ านหน้ าที่มีเสียงเรี ยกดังขึ ้น

“อ้ าวฟิ ล์ม...” ผมเอ่ยทักทายฟิ ล์มกลับ มาโผล่ที่นี่ คงไปมหาวิทยาลัย


พร้ อมไอ้ เฟี ยตนัน่ แหละ “ไปมหาวิทยาลัยพร้ อมไอ้ เฟี ยตเหรอ”

“ใช่ๆ” ฟิ ล์มพยักหน้ า พลางกระชับกระเป๋ าสะพายข้ างลําตัวเข้ าหา


ตัวเอง “หนูว่าจะมาดูอาการน้ องแมวนํ ้าด้ วยว่าเป็ นยังไงบ้ าง”

“ไม่เป็ นอะไรมากหรอก ไข้ หวัดธรรมดา พี่ให้ กินยาแล้ ว”


“อ้ อ... เคๆ งันหนู
้ ไปหาพี่เฟี ยตแล้ วนะ ฝากดูแลน้ องแมวนํ ้าด้ วยนะพี่คิ
นทร์ ” พอพูดจบ ฟิ ล์มก็เดินผ่านร่างผมไป

ทําไมทุกคนต้ องดูเป็ นห่วงเป็ นใยยัยอุ๋งกันขนาดนันด้


้ วยวะ ไม่เข้ าใจเลย
ไอ้ เฟี ยตก็อีกราย ทีผมป่ วยไม่เห็นจะถามถึงว่าอาการเป็ นยังไง คบกับมันมาตังหลาย

ปี ไม่เห็นจะสนใจผมเลย แต่กบั ยัยอุ๋งเพิ่งเข้ ามาพัวพันผมได้ แค่ไม่กี่วนั คนรอบข้ างก็
พากันเป็ นห่วงหมดเลย อิจฉาเว้ ย...

MAWNUM Talks.
“ฮัดชิ ้ว!” ฉันจามขึ ้นเป็ นรอบที่เท่าไหร่แล้ วก็ไม่ร้ ู

พอพี่คินทร์ ออกไปหลังจากเหตุการณ์นนั ้ ฉันก็ฟ้ งซ่


ุ านจนไม่ร้ ูจะทํายังไง
กับตัวเองดี ตอนนี ้ก็เลยลุกขึ ้นมาเก็บกวาดห้ องแทน ขืนให้ ฉนั นอนอยู่เฉยๆ ฉันได้
ฟุ้งซ่านจนสติแตกแน่ๆ

ปั ง!

เสียงเปิ ดประตูดงั ขึ ้นมาจนทําฉันสะดุ้งไปทังร่้ าง ก่อนที่ไม้ กวาดในมือ


จะร่วงผล็อยลงกับพื ้น ฉันหันไปมองที่ประตูอย่างช้ าๆ ร่างสูงของพี่คินทร์ ยืนขมวดคิ ้ว
อยู่ ทัว่ ทังร่้ างของเขาเปี ยกชุ่มไปด้ วยเหงื่อ นี่เขา... ไปทําอะไรมา

“เธอทําอะไร!” พี่คินทร์ ขมวดคิ ้วถามเสียงดุ ไม่รอให้ ฉนั ได้ เป็ นฝ่ ายทัก
ขึ ้นก่อนให้ เสียเวลา
“กะ... เก็บกวาดห้ องค่ะ” ฉันพยายามควบคุมสติของตัวเอง และตอบ
พี่คินทร์ กลับไป แต่สายตากลับหลุบลงมองพื ้นเป็ นที่เรี ยบร้ อยแล้ ว

“ฉันบอกให้ เธอนอนพักไม่ใช่เหรอ ทําไมไม่ฟัง!” พี่คินทร์ เดินดุม่ ๆเข้ า


มาใกล้ ฉันช้ อนตาขึ ้นมองเขาอย่างหวาดๆ ก่อนจะหลุบตาลงมองพื ้นอีกครัง้ เมื่อสบ
กับดวงตาคมกริ บขี ้หงุดหงิดคูน่ นั ้

“กะ...ก็นํ ้า” ฉันพยายามจะเถียงกลับ แต่ประโยคท้ ายมันกลับติดค้ าง


อยู่ในลําคอ ไม่กล้ าที่จะเอ่ยออกไปให้ จบ

‘ก็นํ ้าฟุ้งซ่านเพราะพี่คินทร์ นนั่ แหละ’ เป็ นประโยคที่ฉนั จะใช้ พดู เถียง


กลับไป แต่ถ้าพูดไปแบบนัน้ ฉันควรจะทําตัวยังไงหลังจากนันล่ ้ ะ

“ไม่ต้องมาเถียง” พี่คินทร์ ว่าเสียงดุ ก่อนจะก้ มลงเก็บไม้ กวาดที่ฉนั ทํา


ร่วงไว้ ขึ ้นมา “ไปนอน!”

สิ ้นเสียงคําสัง่ เด็ดขาดจากปากคนตัวสูง ฉันก็คอตกเดินกลับไปที่เตียง


ทันที หลังจากล้ มตัวลงนอน พี่คินทร์ ก็รับหน้ าที่ต่อจากฉัน เขาหยิบไม้ กวาดไปกวาด
ตามที่ต่างๆที่ฉนั กวาดทิ ้งไว้ ก่อนจะใช้ ที่ตกั ผงเก็บกวาดเศษต่างๆที่อยู่บนพื ้นจนเสร็จ

คําว่า ‘พ่อบ้ าน’ ผุดขึ ้นในสมองฉันแว๊ บหนึง่ ฉันไม่อยากคิดแบบนัน้


หรอกนะ แต่พี่คินทร์ ในตอนนี ้เหมือนพ่อบ้ านจริ งๆ

“มองอะไร!” เขาหันขวับกลับมาจ้ องฉันเขม็ง หลังจากเอาไม้ กวาดกับ


ที่ตกั ผงไปเก็บไว้ ที่มมุ ห้ อง
“ปะ...เปล่านี่คะ” ฉันรี บเอ่ยปฏิเสธ ก่อนจะเสมองไปทางระเบียงห้ อง
แทน

ทังๆที
้ ่ฉนั ฟุ้งซ่านแทบตาย แต่พี่คินทร์ ไม่ร้ ูสกึ อะไรเลยหรื อไงนะ
Author Talks.
ครึ่งชัว่ โมงก่อนการเข้ าห้ องของคินทร์

“แฮ่กๆ!” เสียงหอบหายใจปะปนกับเสียงกระโดดเป็ นจังหวะ

คนที่เดินผ่านไปมาในระแวกนันถึ้ งกับยืนมองกันเป็ นแถวเมื่อร่างสูง


ของคินทร์ กระโดดตบอยู่หน้ าห้ องของตัวเองอยู่หลายครัง้ ไม่ใช่เพราะเขาอยากจะ
ออกกําลังกายเพื่อให้ สขุ ภาพร่างกายแข็งแรง แต่เป็ นเพราะเขาไม่ร้ ูจะทํายังไงให้
ตัวเองหายสับสนในเวลานี ้

คินทร์ ไม่ร้ ูว่าตัวเองควรจะทําตัวยังไงในตอนที่เดินเข้ าไปในห้ อง ไม่ร้ ูว่า


ตัวเองจะต้ องพูดอะไรกับแมวนํ ้า เขาไม่เข้ าใจตัวเองว่าทําไมถึงได้ จบู แมวนํ ้าไปแบบ
นัน้ มันเป็ นเหตุการณ์ที่ไร้ การควบคุม รู้ตวั อีกทีเขาก็จบู แมวนํ ้าไปแล้ ว

“ทําไงดีวะ” หลังจากกระโดดตบเสร็จ ร่างสูงก็หมุนตัวเข้ าหาผนังห้ อง


แล้ วพึมพํากับตัวเองเบาๆ

คนที่เดินผ่านไปมาอาจจะกําลังคิดว่าเขาบ้ า แต่ใครจะไปรู้ว่าเขา
ในตอนนี ้มันยิ่งกว่าคนบ้ าด้ วยซํ ้า หัวใจทํางานหนักทังๆที
้ ่ไม่ร้ ูว่าเป็ นเพราะอะไร สมอง
คิดหนักทังๆที ้ ่ไม่ร้ ูว่าทําไปทําไม คําถามมากมายวนเวียนอยู่ภายในสมองของคินทร์
ซํ ้าแล้ วซํ ้าเล่า พยายามหาเหตุผลเท่าไหร่ สุดท้ ายมันก็คิดไม่ออกอยู่ดี

ห้ านาทีหลังจากเก็บกวาดห้ องเสร็จ

หลังจากการยืนทําใจอยู่หน้ าห้ องตังนานสองนาน


้ คินทร์ ก็ตดั สินใจเปิ ด
ประตูห้องเข้ ามา เขากะว่าจะทําตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ ้น ถึงมันจะดูหน้ าด้ าน
แต่นี่เป็ นทางเดียวที่สมองอันน้ อยนิดของเขาพอจะคิดหาทางออกได้ แต่พอเปิ ดเข้ ามา
เจอแมวนํ ้ากําลังยืนกวาดห้ องอยู่ เขาก็เกิดหงุดหงิดขึ ้นมาอย่างไร้ สาเหตุ เขาบอกให้
แมวนํ ้านอนพัก แต่เธอกลับดื ้อลุกขึ ้นมาทําความสะอาดห้ องซะงัน้

ดังนันเขาเลยบั
้ งคับให้ แมวนํ ้าไปนอนพักผ่อน และตัวเองก็กลับมาทํา
ความสะอาดต่อจากแมวนํ ้าจนเสร็จ จนกระทัง่ ตอนนี ้เขานัง่ เล่นเกมอยู่ที่โซฟา แต่
สายตาของเขากลับไม่ได้ จดจ่ออยู่ที่เกมในจอมือถือเลยแม้ แต่น้อย ตรงกันข้ ามมัน
กลับจับจ้ องไปยังร่างของแมวนํ ้าที่นอนตะแคงหันหลังให้ เขาอยู่

คินทร์ ขมวดคิ ้วมองร่างของแมวนํ ้าอย่างไม่เข้ าใจ เขาวางเกมในมือลง


ก่อนจะยกนิ ้วขึ ้นมานับวันที่เขากับแมวนํ ้าใช้ ชีวิตอยู่ด้วยกัน ตอนนี ้มันเพิ่งจะเข้ า
อาทิตย์ที่สองเท่านันเอง
้ แต่ทําไมผู้หญิงตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงนันถึ ้ งได้ สร้ าง
ปรากฏการณ์แปลกๆให้ กบั ตัวเขามากมายขนาดนี ้

ทังเรื
้ ่ องที่บอกว่าเธอคือแฟนของตัวเองถึงสามครัง้ ในรอบอาทิตย์ที่ผ่าน
มา ทังเรื
้ ่ องที่ตวั เองยอมไปซื ้อผ้ าอนามัยให้ เธอทังๆที
้ ่มนั ไม่ใช่เรื่ องที่ผ้ ชู ายอย่างเขาจะ
ทําได้ ไหนจะเรื่ องที่เขาตามหาเธอจนหัวหมุนหลังจากที่เธอหายตัวไปจนทําให้ ตวั เอง
กินไม่ได้ นอนไม่หลับอีก เหตุการณ์บ้าบอพวกนี ้มันเกิดขึ ้นกับคนอย่างเขาได้ ยงั ไง

หรื อว่า... เขากําลังจะเป็ นบ้ าเข้ าให้ แล้ วจริ งๆ


---------------------------

ฉันนอนมองพี่คินทร์ ที่เดินกลับไปกลับมาอยู่สองสามรอบ เขาเหมือน


กําลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ ดูจากหัวคิ ้วที่ขมวดจนชนกันยุ่งนันก็
้ น่าจะเดาออกว่า
คงเป็ นเรื่ องที่น่าซีเรี ยสพอตัวอยู่เหมือนกัน

“พี่คินทร์ เป็ นอะไรหรื อเปล่าคะ” ฉันลองถามหยัง่ เชิงไป เผื่อว่าตัวเอง


อาจจะช่วยอะไรได้ บ้าง

“…” เขาหันขวับมาจ้ องฉันเขม็ง

ฉันหลุบตาลงมองผ้ าห่มที่คลุมตัวอยู่ทนั ที จ้ องขนาดนี ้ไม่ถามแล้ วก็ได้

ปึ ง!

“ไอ้ นํ ้า...” เสียงเปิ ดประตูดงั ขึ ้นพร้ อมกับเสียงเรี ยกชื่อฉัน

ฉันหันไปมองผู้มาใหม่ ก่อนจะเลิกคิ ้วขึ ้นเมื่อเห็นเคท “เคท...”

“แกไปไหนมาเนี่ย! ฉันเป็ นห่วงนะเว้ ย!” เคทเดินเข้ ามาทรุดตัวนัง่ ลง


ที่ปลายเตียง ขมวดคิ ้วถามฉันเสียงเครี ยด
“นํ ้าขอโทษ” ฉันก้ มหน้ างุด ไม่กล้ าสบตากับเพื่อนสนิทของตัวเอง

ฉันรู้ตวั ว่าตัวเองก่อเรื่ องไว้ มากมายแค่ไหน หนีออกไปโดยที่ไม่บอกใคร


ล่วงหน้ า ทําให้ พี่คินทร์ หวั หมุนตามหา แถมยังทําให้ พี่ฟิล์มลําบากมาดูแลฉันอีก
ความผิดครัง้ นี ้ดูเหมือนจะร้ ายแรงอยู่เหมือนกัน

“ไม่ต้องมาทําหน้ าสลดใส่เลยนะ แกไปไหนทําไมไม่บอก ถ้ าเกิดเรื่ อง


เหมือนตอนที่ไปบาร์ ครัง้ นันจะทํ
้ ายังไง!” เคทยังคงดุฉนั ต่อ

สมควรแล้ วล่ะ ฉันนี่ตวั ปั ญหาชัดๆเลย

“นํ ้ารู้ว่านํ ้าผิด” ฉันเงยหน้ าขึ ้นสบตากับเคทแบบสํานึกในความผิด


ร้ ายแรงของตัวเอง ก่อนจะหันไปมองพี่คินทร์ ที่ยืนกอดอกฟั งเราทังคู้ ค่ ยุ กันอยู่

“ไม่ต้องมามอง!” พี่คินทร์ ว่าเสียงดุ ก่อนจะเดินไปทรุดตัวนัง่ ลงบน


โซฟา

“ทีหลังไปไหนมาไหนก็หดั บอกกันบ้ าง ถ้ าเกิดแกเป็ นอะไรไปแล้ วฉันกับ


พี่คินทร์ จะทํายังไง”

“นํ ้าขอโทษ” ฉันพูดเสียงเอื่อย สํานึกผิดไม่ทนั แล้ วเนี่ย

“ไม่เป็ นอะไรก็ดีแล้ ว แล้ วนี่กินอะไรบ้ างหรื อยัง” เคทขยับตัวเข้ ามาใกล้


ก่อนจะลูบไล้ ฝ่ามือไปตามเนื ้อตัวฉันอย่างเป็ นห่วงเป็ นใย

“พี่คินทร์ ซื ้อโจ๊ กมาให้ นํ ้าแล้ ว”


“แล้ วพี่ไปตามมันเจอที่ไหนเนี่ยพี่คินทร์ ” เคทหันไปถามพี่คินทร์ บ้าง

“อยู่ห้องแฟนไอ้ เฟี ยตน่ะสิ” พี่คินทร์ ขมวดคิ ้วตอบ

“แล้ วแกไปอยู่ห้องแฟนพี่เฟี ยตได้ ยงั ไง” หลังจากได้ รับคําตอบจาก


ปากพี่ชาย เคทก็หนั มาจี ้ถามฉันต่อ

“พี่ฟิล์มมาหาพี่เฟี ยตที่ห้อง นํ ้าวิ่งออกไปเจอพี่ฟิล์มพอดี ก็เลยขอไปอยู่


ที่ห้องพี่ฟิล์ม” ฉันสารภาพออกไปตามตรง

พลางเหลือบตาไปมองพี่คินทร์ ที่นงั่ มองอยู่ด้วย พี่คินทร์ ชกั สีหน้ าใส่ฉนั


ก่อนจะหันหน้ าหนีอย่างหงุดหงิด ฉันไม่ได้ เล่าให้ เขาฟั งหรอกว่าหนีออกมายังไง เพิ่ง
จะมาเล่าก็ตอนที่เคทถามเนี่ยแหละ พี่คินทร์ ก็เลยพลอยรู้ไปด้ วย

“เออ... แล้ วทีนี ้จะออกไปไหนมาไหนแบบไม่บอกกล่าวกันแบบนี ้อีก


ไหม!”

“ไม่แล้ ว...” ฉันตอบเสียงเบา พลางเอื ้อมมือไปลูบแขนเคทขึ ้นลง


เพื่อให้ เธอผ่อนคลายความตึงเครี ยด

“ไม่ต้องมาลูบเลย” เคทชักแขนหนีฉนั ก่อนจะชี ้นิ ้วใส่แทน “น่าตีจริ งๆ


เลยแกเนี่ย!”

“น่าตีจริ งๆ!” ยังไม่ทนั ที่ฉนั จะได้ อ้าปากตอบเคท แต่เสียงพึมพําของ


พี่คินทร์ ก็ดงั ขึ ้นมาซะก่อน
ทังฉั
้ นและเคทต่างหันไปมองเขาด้ วยกันทังคู
้ ่ “…”

“อะ...อะไร! มองไร!” พี่คินทร์ อกึ อัก ก่อนจะขยับตัวเอนลงนอนบน


โซฟา

เคทส่ายหน้ าเบาๆ ก่อนจะหันมาพูดกับฉันต่อ “ฉันมีธรุ ะต้ องกลับ


กรุงเทพ แกอยู่ที่นี่กบั พี่คินทร์ นะ”

“กะ...กลับกรุงเทพ?” ฉันทวนคําของเคทซํ ้าอย่างตะกุกตะกัก

“อืม... พอดีฉนั ต้ องไปจัดการเอกสารเรี ยนต่อมหาวิทยาลัยนิดหน่อยน่ะ


เอกสารของฉันมันมีปัญหา”

“…” ฉันพยักหน้ ารับรู้ ก่อนจะเลิกคิ ้วมองเคทเมื่อนึกคําถามขึ ้นได้


“แล้ ว... เคทจะกลับมาเมื่อไหร่ นํ ้าไม่อยากอยู่คนเดียว”

“อาทิตย์หน้ าก็กลับแล้ ว” เคทตอบฉัน ก่อนจะหันไปพูดกับพี่คินทร์


“พี่คินทร์ ...”
“…”
“เคทต้ องกลับไปจัดการเอกสารเรี ยนต่อมหาวิทยาลัยอ่ะ เอกสารที่ยื่น
ไปมันมีปัญหานิดหน่อย เดี๋ยวจะกลับมาอาทิตย์หน้ า ฝากดูแลไอ้ นํ ้าแทนเคทด้ วยนะ”

“แล้ วจะไปยังไง” นัน่ สิ... เคทจะกลับกรุงเทพยังไง


“เดี๋ยวนัง่ เครื่ องกลับ แม่โอนเงินค่าตัว๋ เครื่ องบินมาให้ แล้ ว อีกครึ่งชัว่ โมง
เดี๋ยวเคทจะให้ ขบั พาไปส่งที่สนามบินนะ”

“อือ...” พี่คินทร์ ครางรับ จากนันก็


้ เอนตัวนอนต่ออย่างสบายอารมณ์

“เดี๋ยวฉันไปเตรี ยมตัวก่อน แกก็นอนพักผ่อนไปละกัน”

“อื ้อ...” ฉันครางรับ

เคทลุกขึ ้นจากเตียง ก่อนจะมองฉันทิ ้งท้ ายไว้ แล้ วเดินออกจากห้ องไป

“อุ๋ง!” เมื่อลับร่างของเคท เสียงของพี่คินทร์ ก็ดงั ขึ ้นมาเรี ยกความ


สนใจจากฉันให้ หนั ไปมอง

“คะ” ฉันเอ่ยตอบรับเขา

“ฉันว่าเรามีเรื่ องต้ องคุยกันว่ะ” เสียงเครี ยดพร้ อมกับสีหน้ าจริ งจังของ


พี่คินทร์ ทําให้ ฉนั สังหรณ์ใจไม่ดีเลย
“…”
“คือที่ฉนั ...” ประโยคของพี่คินทร์ หยุดลงเพียงเท่านัน้ ก่อนที่เขาจะยก
นิ ้วขึ ้นมาสองนิ ้วแล้ วจิ ้มเข้ าหากัน สายตาคมดุจ้องมาที่ฉนั เขม็ง “แบบนันกั
้ บเธออ่ะ”

“…” ฉันนิ่งเงียบเพื่อดูว่าเขาจะพูดอะไรต่อไป
“ฉันไม่ได้ อยากจะ...เธอนะเว้ ย!” พี่คินทร์ เว้ นคําพูดระหว่าง ‘จะ’ กับ
‘เธอ’ เอาไว้ นิ ้วที่ประกบกันอยู่ก่อนหน้ านี ้ก็ขยับเข้ าขยับออกจากกันอีกหลายครัง้
“ก็เธอไม่ยอมกินยา มีสองทางที่ฉนั จะบังคับได้ ก็คือจับกรอกปากเธอกับทําแบบนัน้
ถ้ าจับกรอกปากเธอก็จะสําลักใช่ไหมล่ะ ฉันก็เลยเลือกที่จะทําแบบนันแทน ้ เข้ าใจใช่
ไหม”

“…” ฉันอ้ าปากค้ างกับคําพูดของพี่คินทร์ รู้สกึ งงนิดหน่อย แต่ก็พอ


จับใจความได้ ว่าเขากําลังจะสื่ออะไร

“เข้ าใจไหมเนี่ย!” จนกระทัง่ เสียงเข้ มพูดขึ ้น ฉันถึงได้ สติกลับคืน

“คะ...ค่ะ” ฉันพยักหน้ ารัวๆ

“อือ!”

พอพูดทุกอย่างจบ พี่คินทร์ ก็เอนตัวลงนอนบนโซฟาอีกรอบ เขายกแขน


ขึ ้นก่ายบนหน้ าผาก เสียงดีดนิ ้วดังเปาะแปะอย่างเป็ นจังหวะ ฉันเอียงคอมอง
พฤติกรรมของพี่คินทร์ ก่อนจะย้ อนนึกคําพูดก่อนหน้ านี ้ของเขาในสมอง ที่เขาจะสื่อก็
คือไม่ได้ ตงใจที
ั ้ ่จะใช้ ปากป้อนนํ ้าฉันอย่างนันสิ
้ นะ

แต่ทําไมเขาต้ องอธิบายรัวเร็วแบบนันด้
้ วยล่ะ แถมท่าทางยังดูแปลกๆ
ชอบกล

สามสิบนาทีต่อมา
ปึ ง!

“เสร็จแล้ วพี่คินทร์ !” เสียงเคทเปิ ดประตูเข้ ามาพร้ อมกับตะโกนเรี ยก


พี่คินทร์ เสียงดังจนทําฉันที่กึ่งหลับกึ่งตื่นกลับมาตาสว่างอีกครัง้

“อยู่นี่นะยัยอุ๋ง ห้ ามหนีไปไหนอีก!” พี่คินทร์ ลกุ ขึ ้นจากโซฟา ก่อนจะชี ้


นิ ้วมาที่ฉนั แล้ วสัง่ เสียงดุ

“…” ฉันพยักหน้ ารับรู้ ก่อนจะมองไปทางเคท

“เดี๋ยวอาทิตย์หน้ าฉันก็กลับแล้ ว ไว้ ไปเที่ยวกัน ” เคทบอกยิ ้มๆ

“อื ้อ...” ฉันครางรับให้ เธอ พร้ อมกับยกมือขึ ้นโบกลา

พอพี่คินทร์ กบั เคทออกไปจากห้ อง ฉันก็ถอนหายใจออกมายาวเหยียด


อย่างเบื่อหน่าย นอนติดเตียงอย่างกับคนเป็ นอัมพาตแบบนี ้รู้สกึ ไม่ดีเลย ฉันกวาดตา
ไปมองรอบๆห้ อง ทังห้้ องก็ดสู ะอาดเรี ยบร้ อยหมดแล้ ว ไม่มีงานให้ ฉนั ทําแล้ วจริ งๆ

ในระหว่างที่สายตากําลังไล่มองไปยังแต่ละจุดของห้ อง จู่ๆมันก็สะดุด
ลงตรงชันวางที
้ ่อยู่ข้างโต๊ ะเขียนหนังสือ ฉันรี บลุกขึ ้นจากที่นอนแล้ วตรงไปยังจุดนัน้
ทันที หนังสือที่วางเรี ยงอยู่บนชันน่
้ าจะทําให้ อาการเบื่อของฉันหายไปได้

เมื่อเดินมาถึงชันหนั
้ งสือ ฉันก็ย่อตัวลง กวาดสายตามองชื่อหนังสือแต่
ละเล่มเพื่อจะหาอะไรมาอ่านแก้ เซ็ง

การจัดการทางวิศวกรรม...
สถิติวิศวกรรม...
วิศวกรรมความปลอดภัยสําหรับวิศวกรรมอุตสาหการ...
มีแต่หนังสือที่เกี่ยวกับวิศวกรรมอุตสาหการที่พี่คินทร์ เรี ยนอยู่ทงนั
ั ้ นเลย

“อ๊ ะ...” ฉันอุทานออกมาเมื่อเจอหนังสือเล่มหนึง่ ที่ไม่ได้ เกี่ยวกับ


วิศวกรรมอุตสาหการ

มันเป็ นหนังสือที่สนั ปกเขียนว่า ‘โรงเรี ยนนฤนารถลือชา รุ่น56’

ฉันรี บหยิบมันออกมา และเปิ ดไปที่หน้ าแรกทันที มันเป็ นหนังสือรุ่นของ


พี่คินทร์ สมัยเรี ยนมัธยม แต่ละหน้ าจะเขียนความรู้สกึ ของอาจารย์และลูกศิษย์
หลังจากเรี ยนจบเอาไว้ มีของพี่คินทร์ ด้วย เขาสวมชุดนักเรี ยน ตัดผมรองทรงสูง หน้ า
หล่อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย

ข้ อความในหนังสือที่พี่คินทร์ ให้ ไว้ คือ ‘ผมรักโรงเรี ยนนี ้เปรี ยบเสมือน


บ้ านหลังที่สอง โรงเรี ยนแห่งนี ้เป็ นสถานที่ให้ ความรู้อนั ศักดิส์ ิทธิ ์ ปลูกฝั งให้ ผมเป็ นคน
ดีของสังคม ขอบคุณอาจารย์ทกุ คนที่สงั่ สอนผมนะครับ ต่อจากนี ้ผมจะนําความรู้ที่ได้
จากสถานที่แห่งนี ้ไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตต่อไป และอนาคตของผมจะต้ องสดใสครับ
เพราะผมหล่อ…’
“คิก...” ฉันหลุดหัวเราะทันทีหลังจากอ่านจบ

พี่คินทร์ ก็คือพี่คินทร์ เขาชอบหลงตัวเองประจํานัน่ แหละ


มีของพี่เฟี ยตด้ วยนะ ข้ อความของพี่เฟี ยตให้ ไว้ ว่า ‘ผมขอขอบคุณ
อาจารยทุกท่านที่ประสิทธิป์ ระสาทวิชาความรู้ให้ ครับ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่อยู่
ด้ วยกันมา ผมสัญญาว่าจะนําความรู้ที่ได้ รับจากโรงเรี ยนแห่งนี ้ไปปรับใช้ ให้ เข้ ากับ
ชีวิตประจําวัน ไม่วา่ ชีวิตภายภาคหน้ าจะเป็ นยังไง ผมเชื่อว่าการกระทําในวันนี ้จะ
ส่งผลถึงอนาคตครับ…’
พี่เฟี ยตเป็ นคนที่มีเหตุผลเสมอเลย ฉันล่ะอิจฉาพี่ฟิล์มจังที่มีแฟนดีๆแบบ
เขา เฮ้ อ...

พอเปิ ดไปเรื่ อยๆจนจบ ฉันก็ปิดมันลงและยัดเข้ าไปวางในชันไว้



เหมือนเดิม ไม่มีอะไรอ่านแล้ วล่ะ อาบนํ ้าดีกว่า

ฉันเดินตรงไปหยิบผ้ าขนหนูจากตู้เสื ้อผ้ าออกมา ก่อนจะเดินสาวเท้ า


ตรงไปยังห้ องนํ ้า ใช้ เวลาประมาณห้ านาทีก็ลอกคราบตัวเองออกจนหมด ฉันเอื ้อมมือ
ไปบิดก๊ อกนํ ้าของฝั กบัว นํ ้าเย็นๆที่ไหลผ่านร่างกาย ถึงแม้ ว่ามันจะหนาวเพราะพิษไข้
ยังไม่หายไป แต่มนั ก็เย็นสดชื่นดีอยู่เหมือนกัน

ใช้ เวลาประมาณครึ่งชัว่ โมง ฉันก็อาบนํ ้าเสร็จเรี ยบร้ อย ในระหว่างที่


หยิบผ้ าเช็ดตัวมาเช็ดนํ ้าตามร่างกายของตัวเอง จู่ๆฉันก็นกึ ถึงข้ อความในหนังสือรุ่น
ของพี่คินทร์ รอยยิ ้มน้ อยๆปรากฏขึ ้นบนใบหน้ าฉัน เขาหล่อจริ งๆนัน่ แหละ ฉันยังจํา
วันวาเลนไทน์ที่โรงเรี ยนวันนันได้
้ เลย เขาได้ ทงดอกกุ
ั้ หลาบทังช็ ้ อกโกแลตทังสติ้ กเกอร์
จนผู้ชายทังโรงเรี
้ ยนหมัน่ ไส้
แต่ก็ไม่มีใครกล้ าทําอะไรพี่คินทร์ อยู่ดี เพราะเขาเป็ นเพื่อนกับพี่เฟี ยต
แล้ วพี่คินทร์ ก็ไม่ใช่พวกที่ใครจะมาแหยมด้ วยง่ายๆ

“เฮ้ อ...” ฉันถอนหายใจออกมายืดยาว

ไม่ร้ ูว่าสามเดือนที่ฉนั ต้ องอยู่กบั พี่คินทร์ จะเป็ นยังไง ถ้ าฉันทํานาย


อนาคตได้ ก็ดีสิ

“เอ๊ ะ!” ฉันอุทานออกมาเมื่อนึกอะไรขึ ้นได้ รี บหันขวับไปมองราวแขวน


ที่อยู่ด้านหลังทันที “แย่แล้ ว”

แย่จริ งๆซะด้ วย ดันลืมหยิบชุดติดมือออกมาจากตู้เสื ้อผ้ าด้ วย

ฉันรี บห่อตัวเองด้ วยผ้ าเช็ดตัวที่เปี ยกเป็ นหย่อมๆ ก่อนจะเอื ้อมมือไป


เปิ ดประตูห้องนํ ้าออกนิดหน่อย แล้ วกวาดสายตามองว่าพี่คินทร์ กลับมาหรื อยัง

หลังจากกวาดสายตามองรอบๆห้ องแล้ วไม่เห็นพี่คินทร์ ฉันก็ค่อยๆก้ าว


เท้ าออกมาจากห้ องนํ ้าอย่างเงียบเชียบ สองเท้ าของตัวเองจํ ้าอ้ าวตรงไปยังตู้เสื ้อผ้ า
แล้ วหยิบชุดนอนออกมาจากตู้ ก่อนจะหมุนตัวเพื่อจะเดินกลับไปยังห้ องนํ ้าตามเดิม
แต่ทว่า...

“พรวด!” เสียงบ้ วนอะไรบางอย่างกลับดังขึ ้นซะก่อน

ฉันหันไปมองอย่างตกตะลึงก็ปะทะกับดวงตาดําขลับของพี่คินทร์ ที่ยืน
อยู่ตรงมุมห้ องแบบพอดิบพอดี เขามองฉันค้ างไว้ แบบนัน้ ริ มฝี ปากรอบๆของคนตัวสูง
มีคราบเลอะของนํ ้ากาแฟอยู่ ส่วนฉันก็ยืนนิ่งเพราะตกใจที่เห็นเขายืนเงียบแบบไม่
บอกกล่าวกัน ก่อนจะตังสติ
้ และก้ มลงสํารวจร่างกายของตัวเอง

“กรี๊ ด!!!” ฉันกรี ดร้ องออกมาอย่างบ้ าคลัง่ รี บก้ มลงหยิบผ้ าเช็ดตัวที่


ร่วงอยู่บนพื ้นขึ ้นมาห่อหุ้มร่างกายของตัวเองเอาไว้ แล้ วรี บวิ่งเข้ าห้ องนํ ้าไปอย่างว่องไว

ที่แท้ เขาก็บ้วนนํ ้ากาแฟออกมาเพราะว่าเห็นฉันโป๊ เหรอ?! ฮือ... T_T


KINN Talks.
‘อึ ้งกิมกี่’ คงจะสามารถใช้ เรี ยกอาการตาค้ างของผมได้ ในขณะนี ้

มือข้ างหนึง่ ของผมยกขึ ้นเช็ดนํ ้ากาแฟที่เลอะอยู่ตรงขอบปากออกอย่าง


เลื่อนลอย ในขณะที่ตายังคงมองค้ างและไม่กระพริ บหลังจากเห็นบางสิ่งบางอย่างที่
...

“เชี่ย! ไอ้ คินทร์ มงึ ...”

แปะๆๆ!

ผมรี บสะบัดหัวไล่ภาพที่ติดค้ างอยู่ในห้ วงทรงจําออกไป ก่อนจะยกมือ


ขึ ้นตบที่ข้างแก้ มของตัวเองหนักๆเพื่อเรี ยกสติที่ลอยเคว้ งก่อนหน้ านี ้กลับมา
ความรู้สกึ ร้ อนๆหนาวๆไล่ขึ ้นมาตามร่างกายจนถึงใบหน้ า

สาบานเลยว่าตังแต่
้ เกิดมาจนอายุขนาดนี ้ ผมยังไม่เคยเห็นเรื อนร่าง
เปลือยเปล่าของผู้หญิงเลยสักครัง้ วันนันที
้ ่พลาดมีอะไรกันกับยัยอุ๋งที่บ้านผมก็ไม่ได้
เห็นอะไรเลย เพราะมันมืดมาก แถมตาผมปรื อเพราะอาการเมาด้ วย มันก็แค่ร้ ูสกึ
เท่านัน้ ไม่ได้ เห็นชัดเต็มสองตาแบบภาพHDเหมือนวันนี ้

“ทําไงดีวะ” ผมพึมพํากับตัวเอง

ก่อนที่เท้ ามันจะอยู่ไม่นิ่ง เดินกลับไปกลับมาเหมือนหนูติดจัน่

“ทําไงดีวะๆๆๆ” ผมพึมพําประโยคเดิมซํ ้าๆ พลางยกมือขึ ้นทึ ้งผม


ตัวเองไปด้ วย

สายตากวาดมองไปยังห้ องนํ ้าที่มียยั อุ๋งอยู่ในนัน้ ก่อนจะหันกลับมามอง


สภาพตัวเอง ตอนนี ้ผมรู้สกึ ว่าร่างกายของตัวเองแปลกไป มันรู้สกึ ...

“แม่งเอ๊ ย!” เสียงสบถหยาบคายหลุดออกจากปากผม

สิ่งเดียวที่ทําได้ ตอนนี ้ก็คงจะเป็ น...

“เอาวะ” ผมตัดสินใจเด็ดขาดแล้ วว่า... “แฮ่ก... หนึง่ ! แฮ่ก... สอง!”

กระโดดตบคงเป็ นทางเดียวที่จะช่วยผมให้ หลุดพ้ นจากอาการอึดอัด


หัวใจและร่างกายในตอนนี ้ หลังจากกระโดดอยู่สามสี่รอบ ผมก็หรุดตัวนอนลงกับพื ้น
ก่อนจะวิดพื ้นไปอีกสองสามรอบ แล้ วลุกขึ ้นกลับมากระโดดตบใหม่ ทําแม่งจนกว่าจะ
เหนื่อยตายไปเลยยิ่งดี

MAWNUM Talks.
“ทําไงดีๆๆๆ” ฉันพึมพํากับตัวเอง ตอนนี ้รู้สกึ อยากจะร้ องไห้ ซะให้ ได้
เลยจริ งๆ

ทําไมฉันถึงได้ สะเพร่าทําผ้ าเช็ดตัวหลุดแบบนันนะ


้ ไม่อยากจะ
จินตนาการเลยว่าคนตัวสูงเห็นอะไรไปแล้ วบ้ าง แล้ วทีนี ้ฉันจะกล้ าออกจากห้ องนํ ้าไป
สู้หน้ าพี่คินทร์ ได้ ยงั ไง แถมเคทก็กลับกรุงเทพอีก ทีนี ้ฉันจะทํายังไง

“โอ๊ ย... ฮือ” ฉันครวญครางกับตัวเอง ก่อนจะทรุดตัวลงนัง่ ที่พื ้น


ห้ องนํ ้าแล้ วชันเข่าขึ ้น ซุกใบหน้ าลงไปอย่างคิดหนัก

พี่คินทร์ ก็ยงั อยู่ข้างนอก ฉันยังได้ ยินเสียงเขา

“ทําไงดีนะแมวนํ ้า โอ๊ ย...”

ตกอยู่ในสถานการณ์คบั ขันแบบนี ้ฉันควรจะหันไปขอความช่วยเหลือ


จากใคร
---------------------------
สามวันต่อมา

หลังจากผ่านเหตุการณ์ชวนอกสัน่ ขวัญแขวนมาได้ เพียงสามวัน ฉันกับ


พี่คินทร์ เราก็ไม่เหมือนเดิมอีก ฉันไม่กล้ าคุยกับเขา ส่วนเขาก็ไม่ปริ ปากพูดกับฉัน
เหมือนกัน เราอยู่ด้วยกันแบบเงียบๆ จะมีบางครัง้ ที่ฉนั จะเอ่ยปากเพื่อบอกพี่คินทร์ ว่า
ตัวเองขาดเหลืออะไร แต่เหตุการณ์โดยรวมแล้ วถือว่าอึมครึมพอสมควร
“...”
“…”
อย่างเช่นตอนนี ้ที่เขากําลังนอนเล่นเกมที่โซฟา แล้ วฉันก็กําลังนัง่ แชท
กับเคทอยู่ที่เตียง ปกติแล้ วพี่คินทร์ จะเปิ ดเสียงเกมเพื่อก่อกวนฉัน แต่หลังจากสาม
วันที่ผ่านมา เขากลับใส่หฟู ั งเล่นเกมอยู่คนเดียวแทน

แมวนํ ้า : เมื่อไหร่เคทจะกลับ

ฉันแชทไปหาเคททุกวัน แต่ยงั ไม่ได้ เล่าเรื่ องนันให้


้ เคทฟั ง เพราะฉันเองก็
อาย

เคท : อีกสามวันก็กลับแล้ ว

ในระหว่างที่เคทพิมพ์ตอบกลับมา ฉันถึงได้ ละสายตาจากพี่คินทร์ ลง


มองจอโทรศัพท์ดงั เดิม

แมวนํ ้า : นํ ้าเหงา

แมวนํ ้า : ส่งสติดเกอร์ ...

ฉันกดส่งสติกเกอร์ ร้องไห้ กลับไปให้ เคท ก่อนจะเหลือบตามองพี่คินทร์


อีกครัง้

ครัง้ นี ้ฉันสบตากับเขาเข้ าโดยบังเอิญ ก่อนที่พี่คินทร์ จะหันขวับลงเล่น


เกมต่อ และหมุนร่างกายเข้ าหาพนักพิงของโซฟาแทน ฉันย่นจมูกให้ เขาเล็กน้ อย
เคท : ก็อยู่กบั พี่คินทร์ นนั่ ไง สุดที่รักของแก

เมื่อเห็นประโยคที่เคทพิมพ์ตอบกลับมาก็ทําให้ สองข้ างแก้ มฉันร้ อนฉ่า


ขึ ้นมาซะดื ้อๆ คําว่า ‘สุดที่รักของแก’ ทําให้ หวั ใจฉันเต้ นอย่างรุนแรงขึ ้นมาระดับหนึง่
ฉันรี บพิมพ์แก้ ตวั กลับไปทันที ก่อนที่ร่างกายจะแสดงปฏิกิริยามากไปกว่านี ้

แมวนํ ้า : บ้ าเหรอ

เคท : ไม่เรี ยกสุดที่รักแล้ วจะเรี ยกอะไร คุณสามี?

เหมือนได้ ยินเสียงของเคทดังออกมาจากโทรศัพท์ทงๆที
ั ้ ่มนั เป็ นเพียงแค่
ตัวอักษรเท่านัน้

แมวนํ ้า : บ้ า! ไม่คยุ ด้ วยแล้ ว

ฉันปั ดแชทเมสเซนเจอร์ ของเคททิ ้งอย่างไม่ใยดี ทําไมต้ องแซวฉันตลอด


ด้ วย ฉันก็เขินเป็ นนะ

KINN Talks.
นับตังแต่
้ วนั นัน้ ผมกับยัยอุ๋งก็ไม่คอ่ ยได้ พดู คุยกันแบบเดิมอีก ผมไม่
กล้ าดุเธอเหมือนเดิมอย่างที่ผ่านมา แล้ วเธอก็ไม่กล้ าพูดกล้ าคุยกับผมแบบเมื่อก่อน
ถามว่าอึดอัดไหม ใช่... มันก็ค่อนข้ างอึดอัด แต่ผมว่าก็ดีแล้ ว ปล่อยให้ อยู่กบั ตัวเอง
บ้ าง จะได้ ไม่คิดฟุ้งซ่าน
ภาพเมื่อสามวันที่แล้ วยังติดตาผมราวกับเป็ นเงาตามตัว จะสลัดทิ ้งไป
ยังไงก็ไม่หลุด ผมก็สงสารยัยอุ๋งเหมือนกันที่เธอต้ องมาอายเพราะผมเห็นร่างกาย
เปลือยเปล่าของเธอ แต่มนั จะทํายังไงได้ มันเป็ นเหตุสดุ วิสยั จริ งๆ

ที่ผมยืนอยู่ตรงนันในเวลานั
้ นคื
้ อผมกลับมาจากส่งเคทที่สนามบิน
เรี ยบร้ อยแล้ วได้ ประมาณห้ านาที ก็เลยเดินไปชงกาแฟมากินตามปกติ แต่ไม่นกึ ไม่ฝัน
ว่ายัยตัวยุ่งจะเดินออกมาจากห้ องนํ ้าแล้ วดันทําผ้ าเช็ดตัวที่น่งุ อยู่หลุด ผมก็เลยนํ ้า
กาแฟพุ่งอย่างที่เห็นน่ะสิ

ไลน์~

ในระหว่างที่นิ ้วกําลังจะกดเข้ าโหมดแบทเทิล5ต่อ5ในเกม ROV จู่ๆ


เสียงไลน์ก็ดงั ขึ ้นมาผ่านหูฟังที่ผมกําลังใส่อยู่ ผมขมวดคิ ้วอย่างสงสัย ก่อนจะกดเข้ า
ไปเพื่อดูว่าใครส่งข้ อความอะไรมา

เฟี ยต : วันนี ้ตอนคํ่ามีงานเกษตรแฟร์ ที่มอ มึงจะไปไหม

เออว่ะ... ลืมซะสนิทเลย งานเกษตรแฟร์ เป็ นงานที่จดั ขึ ้นทุกปี เป็ นการ


จัดแสดงนิทรรศการและเทคโนโลยีด้านการเกษตรของพวกบรรดานักศึกษาภาควิชา
เกษตร จะมีพวกอาหารแปรรูปทางการเกษตรมากมาย และยังมีพวกพืชผักที่ปลูกกัน
โดยใช้ เทคโนโลยีตา่ งๆอีกด้ วย นับว่างานเกษตรแฟร์ ที่มหาวิทยาลัยของผมเป็ นอีก
งานหนึง่ ที่ผ้ คู นในมหาวิทยาลัยให้ ความสนใจกันเลยทีเดียว

คินทร์ : มึงไปไหม
ผมเม้ มปากแน่น ก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ถามมันกลับไป

เฟี ยต : ไปดิ กูว่าจะไปเดินกับฟิ ล์ม

คินทร์ : งันกู
้ ไม่ไปนะ

ผมพิมพ์ตอบกลับไป ก่อนจะเหลือบตาไปมองยัยอุ๋งที่นอนห่มผ้ าตะแคง


ข้ างไปอีกฝั่ งแล้ ว

เฟี ยต : ทําไมล่ะ

เฟี ยต : มึงก็ชวนน้ องแมวนํ ้ามาไง อยู่แต่ในห้ อง น่าเบื่อจะตาย

ระหว่างนันผมก็
้ เหลือบตาไปมองยัยอุ๋งอีกครัง้ เด็กอายุสิบแปดต้ องมา
ติดแหง็กอยู่กบั นักศึกษาวิศวกรรมอุตสาหการที่ไม่เอาไหนอย่างผมคงอึดอัดน่าดู

คินทร์ : เดี๋ยวกูลองชวนดู

เฟี ยต : อือ

ผมสูดลมหายใจเข้ าปอดลึกๆ ก่อนจะรวบรวมความกล้ าที่มีทงหมดเอ่


ั้ ย
ปากชวนยัยอุ๋งที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง

“อุ๋ง...” ผมเรี ยกเธอไปแล้ ว เสียงดังมากด้ วย

“…” ยัยอุ๋งพลิกตัวกลับมา นอนมองผมตาปริ บๆ

“ที่มหาวิทยาลัยมีงานเกษตรแฟร์ เธออยากไปเที่ยวไหม”
“ไม่เป็ นไรค่ะ”

‘ไม่เป็ นไร’ หมายความว่ายังไงวะ ปฏิเสธ?

ผมขมวดคิ ้วอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นเธอพลิกตัวกลับไปนอนในท่าเดิม
รู้สกึ ตัวอีกทีก็ตอนที่ตวั เองทรุดตัวนัง่ ลงบนเตียงแล้ ว ยัยอุ๋งพลิกตัวกลับมามองผม
อย่างตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้ างพร้ อมกับร่างกายอ้ อนแอ้ นที่ผดุ ลุกขึ ้นแทบจะทันที

“ไปแต่งตัว ฉันจะพาไปเที่ยว” ผมสัง่ เสียงเธอเสียงเข้ ม

“พี่คินทร์ ...” เสียงเล็กครางชื่อผมเบาๆ

“ให้ เวลาห้ านาที” คราวนี ้ผมตัดบทดื ้อๆ ก่อนจะเดินออกมานัง่ ไขว่ห้าง


รอเธออยู่ที่โซฟา

ยัยอุ๋งทําหน้ าเหวอ ก่อนจะทําท่าเหมือนจะเอ่ยท้ วงผม แต่พอเธอกําลัง


จะพูดออกมา ผมเลยส่งสายตากดดันของตัวเองไปให้ จังหวะนันเธอจึ ้ งพับเก็บคําพูด
ที่จะใช้ เอ่ยท้ วงทิ ้งไป และลุกขึ ้นไปหยิบชุดจากตู้เสื ้อผ้ าแล้ วเดินเข้ าไปเปลี่ยนใน
ห้ องนํ ้า

MAWNUM Talks.
ไม่ร้ ูว่าเกิดอะไรขึ ้น... จู่ๆพี่คินทร์ ก็ชวนฉันออกมาจากหอ เขาบอกว่าที่
มหาวิทยาลัยของเขามีงานเกษตรแฟร์ และถามฉันว่าอยากไปไหม ซึง่ ฉันก็บอกเขาไป
แล้ วว่าไม่เป็ นไร ฉันไม่อยากให้ เขาลําบากต้ องพาฉันไปไหนมาไหนอีก แต่พี่คินทร์
กลับยื่นคําขาดโดยให้ ฉนั ไปแต่งตัวออกมากับเขา
แถมยัง... ให้ ฉนั นัง่ ที่เบาะหน้ าข้ างเขาอีก ทังๆที
้ ่ทกุ ครัง้ เขาจะให้ ฉนั ไป
นัง่ ที่เบาะหลังประจํา

ฉันเหลือบไปมองพี่คินทร์ ที่นงั่ ทําหน้ านิ่งขับรถ ก่อนจะเม้ มริ มฝี ปากด้ วย


ความอึดอัด เราเงียบใส่กนั มาโดยตลอด ฉันเลยไม่ร้ ูจะคุยอะไรกับเขา

นัง่ รถออกมาเพียงยี่สิบนาที เราก็มาถึงงานเกษตรแฟร์ ของมหาวิทยาลัย


ที่พี่คินทร์ เรี ยน ฉันก้ าวลงจากรถ ในรัศมีการมองเห็นนันฉั้ นเห็นพี่เฟี ยตยืนอยู่กบั พี่
ฟิ ล์มที่หน้ างานด้ วย

พี่คินทร์ หลุบตามองฉันเมื่อเขาเดินมายืนอยู่เคียงข้ าง เขาเดินนําฉันไป


ทางพี่เฟี ยต ส่วนฉันก็มีหน้ าที่เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย

“สวัสดีคะ่ พี่เฟี ยตพี่ฟิล์ม” ฉันยกมือขึ ้นไหว้ ทําความเคารพทังสองคน



เมื่อเดินมาถึง

“น้ องแมวนํ ้าหายป่ วยหรื อยัง” พี่ฟิล์มถามยิ ้มๆ

“หายแล้ วค่ะ” ฉันก็ตอบเธอไปยิ ้มๆเหมือนกัน

“ฟิ ล์ม!” เสียงเรี ยกชื่อพี่ฟิล์มจากอีกฟากหนึง่ ที่ฉนั ยืนอยู่ไม่ไกล


เท่าไหร่ก็ดงั ขึ ้น

สายตาทังสี
้ ่คเู่ บนไปมองอย่างให้ ความสนใจ ผู้มาใหม่สามคนกําลังเดิน
ตรงเข้ ามาหาพี่ฟิล์มด้ วยหน้ าตายิ ้มแย้ ม คนแรกเป็ นผู้ชายที่อยู่ในชุดนักศึกษา เขาตัว
ไม่สงู มาก หน้ าตาดูหวานมากกว่าผู้หญิงทัว่ ไปบางคนเสียด้ วยซํ ้า คนที่สองเป็ นพี่
ผู้หญิงท่าทางเรี ยบร้ อย หน้ าตาของเธอสะสวย อยู่ในชุดเสื ้อยืดกางเกงยีนส์ขาสัน้
น่ารัก ส่วนคนสุดท้ ายคือผู้หญิงท่าทางแก่นแก้ ว หน้ าตาน่ารัก ชุดที่เธอสวมคือกางเกง
เอี๊ยมสีขาวเสื ้อยืดสีเหลืองเข้ มตัดกับผิวขาวๆของเธอ

“เฮ้ ย!” พี่ฟิล์มยิ ้มออก ก่อนจะยกมือขึ ้นโบกไปมา

“…” ทันทีที่ทงสามคนเดิ
ั้ นมาหยุดลงตรงหน้ าฉันและพี่คินทร์ ทังสาม

คนก็ยกมือขึ ้นไหว้ ทําความเคารพพี่เฟี ยตและพี่คินทร์ พร้ อมกับแย้ มยิ ้มให้ ก่อนที่
สายตาทังสามคู
้ จ่ ะหยุดลงที่ฉนั เป็ นลําดับสุดท้ าย

“เอ้ อ... ลืมแนะนําให้ ร้ ูจกั เลย นี่น้องแมวนํ ้า” พี่ฟิล์มทําท่านึกขึ ้นได้


ก่อนจะผายมือมาทางฉันและแนะนําชื่อฉันให้ กบั ทังสามได้ ้ ทําความรู้จกั “เป็ น...”

“พี่ฟิล์มคะ...” ฉันรี บเอ่ยชื่อพี่ฟิล์มขัดทันทีที่เธอกําลังจะพูดความลับ


บางอย่างออกมา

พี่ฟิล์มหันมามองฉัน ฉันส่งสายตาอ้ อนวอนไปให้ เธอ ก่อนที่เธอจะพยัก


หน้ าเหมือนเข้ าใจในสิ่งที่ฉนั จะสื่อ

“เป็ นเพื่อนน้ องสาวพี่คินทร์ ” ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อพี่ฟิล์ม


บอกไปแบบนัน้ ความลับระหว่างฉันกับพี่คินทร์ จะเปิ ดเผยมากไปกว่านี ้ไม่ได้ “นี่พี่
พาร์ ท พี่ปิ่น แล้ วก็พี่แก้ ว เป็ นเพื่อนพี่นะ” ก่อนที่เธอจะแนะนําบรรดาเพื่อนๆทังสาม

คนให้ ฉนั ได้ ร้ ูจกั

ฉันยกมือขึ ้นไหว้ ทําความเคารพพี่ทงสามคน


ั้ “สวัสดีคะ่ ”
“พี่คินทร์ มีน้องสาวด้ วยเหรอพี่ ผมขอจีบได้ ไหม” พี่พาร์ ทเอ่ยขึ ้นแซวๆ

“เอาลูกปื นไปกินก่อน” พี่คินทร์ พดู กลับไปติดตลก

“โคตรโหด...” พี่พาร์ ทลากเสียงยาว “งันน้


้ องคนนี ้ล่ะพี่ ผมจีบได้ ไหม”
ก่อนที่เขาจะเบนสายตาขี ้เล่นนันมามองทางฉั
้ น

“เอ่อ...” ฉันอํ ้าอึ ้งอย่างไม่ร้ ูจะทํายังไงกับสถานการณ์นี ้ดี

“ไม่ได้ !” แต่ยงั ไม่ทนั ที่ฉนั จะได้ เอ่ยค้ าน จู่ๆพี่คินทร์ ก็สวนพี่พาร์ ทกลับ


ไปซะก่อน ฉันช้ อนตาขึ ้นมองเขาอย่างงุนงง “น้ องยังเด็กอยู่ ปล่อยให้ น้องไปมีอนาคต
ที่ดีเถอะ”

“โห... พูดงี ้เลยเหรอพี่คินทร์ ผมเสียใจนะพี่” พี่พาร์ ททําหน้ าเศร้ าก่อน


จะหันมาทางฉัน “พี่ล้อเล่นนะครับ แหะๆ”

“เข้ าไปในงานกันเลยดีไหม ท้ องเราเรี ยกร้ องหาอาหารแล้ ว” พี่แก้ ว


เสนอความคิดเห็นขึ ้นบ้ าง

“ใช่ๆ วันนี ้เราเตรี ยมท้ องมากินไอติมอย่างเดียวเลย” พี่ปิ่นพูดขึ ้นตาม

“งันทั
้ งสามคนเข้
้ าไปก่อนได้ เลยนะ เดี๋ยวเราจะเดินกับพี่เฟี ยต” พี่ฟิล์ม
บอกพร้ อมกับมือที่กระชับเข้ ากับมือของพี่เฟี ยต

พี่พาร์ ท “เหม็นความรักเด้ อ”

พี่ปิ่น “อิจฉา...”
พี่แก้ ว “แหม...”

“ฮ่าๆๆ ก็นี่แฟนเรา” พี่ฟิล์มเอนหัวซบลงบนบ่าแกร่งของพี่เฟี ยต

น่ารักจัง...

“เคๆ ไว้ เจอกัน” พี่พาร์ ทพูดพร้ อมกับเดินนําสองสาวเข้ าไปในงาน พี่


แก้ วและพี่ปิ่นหันมาโบกมือลา ก่อนจะเดินตามพี่พาร์ ทเข้ าไป

“งันแยกกั
้ นตรงนี ้เลยไหมคะ” พี่ฟิล์มหันมาถามความเห็นจากพี่เฟี ยต
และพี่คินทร์

“ทําไมรี บ” เสียงทุ้มของพี่เฟี ยตเอ่ยถาม

“หนูหิว” พี่ฟิล์มตอบ พร้ อมกับย่นจมูกใส่พี่เฟี ยตอย่างน่ารัก

“งันมึ
้ งไปกับน้ องแมวนํ ้านะไอ้ คินทร์ ” พี่เฟี ยตหันมาบอกพี่คินทร์

“อือ” พี่คินทร์ ตอบรับ

จากนันทั
้ งสองคนก็
้ โบกมือลาฉันกับพี่คินทร์ แล้ วก็เดินเข้ างานไป

พี่คินทร์ หลุบตามองฉัน ก่อนจะมองงานเกษตรแฟร์ เบื ้องหน้ า และเอื ้อม


มือมากุมข้ อมือของฉันเอาไว้ สัมผัสอบอุ่นไล่ลามไปทังแขนฉั
้ น และกระตุ้นให้ หวั ใจ
ฉันเต้ นตึกตักขึ ้นมาอย่างหนักหน่วง ร่างกายทังร่้ างของฉันเกร็งไปหมด พี่คินทร์ ดงึ ให้
ฉันเดินตามเขาเข้ าไปในงานเงียบๆ
ในงานมีนิทรรศการเกษตรมากมาย พืชผลทางการเกษตรแปลกๆที่ฉนั
ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนก็มี อาหารแปรรูปที่พวกพี่ๆนักศึกษาทํามาจากพืชผลทาง
การเกษตรก็มี สําหรับฉันมันน่าตื่นเต้ นมาก แต่ผิดกับคนที่เดินกุมมือฉันอยู่ในขณะนี ้
ไปโดยสิ ้นเชิง พี่คินทร์ ไม่ร้ ูสกึ ตื่นตาตื่นใจแบบฉันเลยสักนิด

“เธอหิวอะไรไหม” คนตัวสูงหลุบตาลงมองฉัน ก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ย


ถามขึ ้น

“…” ฉันส่ายหน้ าเบาๆ เพราะปกติก็ไม่กินข้ าวเย็นอยู่แล้ ว

“ไปหาอะไรกินกัน”
“…”
สิ ้นเสียงนันร่
้ างกายของฉันก็ถกู ดึงไปตามแรงมหาศาลของเขา พี่คินทร์
พาฉันเดินหาร้ านข้ าวที่อยู่ในงาน จนกระทัง่ มาเจอร้ านข้ าวที่อยู่อีกฟากหนึง่ ของงาน
เราทังสองคนถึ
้ งได้ เดินเข้ าไปนัง่ ด้ านใน

“สัง่ สิ” พอหย่อนก้ นลงบนเก้ าอี ้ได้ ไม่ถึงห้ านาที พี่คินทร์ ก็หยิบเมนูที่
วางอยู่บนโต๊ ะส่งให้ ฉนั ทันที

“พี่คินทร์ สงั่ ก่อนก็ได้ ค่ะ” ฉันยื่นเมนูกลับไปให้ เขา

ก็เขาเป็ นผู้ใหญ่กว่าฉัน จะให้ เด็กอย่างฉันสัง่ อาหารข้ ามหน้ าข้ ามตาได้


ยังไง
“…” พี่คินทร์ ถลึงตากลับมาให้ ฉนั แต่ก็ยอมรับเมนูอาหารกลับไป

เขากวาดสายตามองเมนูอาหาร ก่อนจะพลิกหน้ าเมนูไปมาสักพัก


จากนันถึ
้ งได้ หยิบกระดาษที่ทางร้ านวางไว้ ให้ เพื่อเขียนเมนูที่จะสัง่ มาเขียน เขาช้ อน
ตามองฉันในขณะที่เขียนเสร็จแล้ ว คล้ ายกับรอเขียนให้ ว่าฉันอยากจะสัง่ อะไร

ฉันหยิบเมนูอาหารมากาง ก่อนจะสัง่ เมนูง่ายๆอย่างข้ าวผัดหมูไป ฉัน


กินเผ็ดไม่ได้ ในเมนูก็มีแต่อาหารที่ใส่พริ กทังนั
้ น้ จะมีก็แค่ข้าวผัดเนี่ยแหละที่ฉนั พอจะ
สัง่ มากินได้

พอสัง่ อาหารและนํากระดาษไปให้ ทางร้ านเสร็จ เราก็นงั่ รอ ในจังหวะที่


ฉันกําลังจะอ้ าปากถามบางอย่างกับพี่คินทร์ แต่เสียงหนึง่ ก็ดงั ขึ ้นมาซะก่อน

“ไอ้ คินทร์ !” เสียงของพี่ผ้ ชู ายคนหนึง่ ตะโกนเรี ยกชื่อพี่คินทร์ จากทาง


ด้ านหลัง

พี่คินทร์ หนั ไปมอง “อ้ าวเฮ้ ย! ไอ้ เชี่ยนัฐ ไปไงมาไงวะ”

“กูต่างหากที่ต้องถามมึงไปไงมาไง หายหน้ าหายตาไปหลายวันเลย


นะสัส ไม่เรี ยนแล้ วไง๊ ” พี่ผ้ ชู ายคนนันเดิ
้ นเข้ ามาหาพี่คินทร์ ก่อนจะทักทายอย่างสนิท
สนมเป็ นกันเอง

“กูติดธุระนิดหน่อย” พี่คินทร์ ตอบ “นัง่ ดิ” ก่อนจะเชิญพี่ผ้ ชู ายคนนัน้


นัง่ ลง
“ขอบใจ” พี่ผ้ ชู ายเอ่ย เขาหันมามองฉันราวกับเพิ่งสังเกตเห็นว่าฉันก็
นัง่ อยู่ตรงนี ้ด้ วย “แล้ วนี่...”

“เพื่อนน้ องสาวกู” พี่คินทร์ ตอบ

ฉันยิ ้มให้ พี่ผ้ ชู ายที่เป็ นเพื่อนกับพี่คินทร์ ก่อนจะยกมือไหว้ เขา “สวัสดี


ค่ะ”

“สวัสดีครับ” พี่ผ้ ชู ายโค้ งหัวให้ ฉนั นิดหน่อย ก่อนจะหันไปถามถึง


น้ องสาวกับพี่คินทร์ “แล้ วไหนน้ องสาวมึง”

“กลับกรุงเทพไปทําเรื่ องเอกสารเรี ยนต่อมหาวิทยาลัย”

“อ่อ...” พี่ผ้ ชู ายพยักหน้ ารับ ก่อนจะหันมามองฉันแล้ วส่งยิ ้มกว้ างมา


ให้ “พี่ชื่อนัฐนะครับ เป็ นเพื่อนสาขาไอ้ คินทร์ มนั ”

“ค่ะ” ฉันเอ่ยยิ ้มๆ

“น้ องน่ารักจัง พี่ขอเบอร์ ได้ ไหมครับ”

“อะ...เอ่อ” ฉันเหลือบตาไปมองพี่คินทร์ เล็กน้ อยในจังหวะที่ถกู ถาม

“ตีน!” และนัน่ คือเสียงของพี่คินทร์ ที่ตอบกลับพี่นฐั ราวกับโมโหอะไร


บางอย่างมา
-----------------------
“…”
“…”
ทังฉั
้ นและพี่นฐั ต่างหันขวับไปมองพี่คินทร์ ด้วยอาการอึ ้งกันทังคู
้ ่ ฉันที่
คิดว่าตัวเองตกใจมากพออยู่แล้ ว แต่พอเห็นสีหน้ าซีดเผือดของพี่นฐั กลับชนะขาดฉัน
ไปหลายเท่า

“ตีนไก่ที่นี่อร่อยเปล่าวะ” พี่คินทร์ พดู ขึ ้นมาลอยๆ ก่อนที่มือแกร่งจะ


คว้ าเอาเมนูตรงหน้ าขึ ้นมาเปิ ดดู

“กูนกึ ว่ามึงด่ากูนะไอ้ เชี่ยคินทร์ ” พี่นฐั หรี่ ตามองไปทางพี่คินทร์ อย่าง


จับผิด

“เปล่า...” พี่คินทร์ ปฏิเสธเสียงยาว “กูแค่ถามหาตีนไก่เฉยๆ พอดีช่วง


นี ้หิว”

“นึกว่าหวงน้ องคนนี ้ซะอีก” พี่นฐั พูดยิ ้มๆพลางส่ายหน้ าเบาๆ พร้ อม


กับหันมาทางฉัน “เมื่อกี ้ที่พี่จะขอเบอร์ เราอ่ะ พี่ล้อเล่นนะ พี่มีแฟนแล้ วครับ”

“…” ฉันพยักหน้ ารับพร้ อมกับส่งยิ ้มแหยกลับไปให้ พี่นฐั

วันนี ้มีแต่คนล้ อเล่นกับฉันจังแฮะ ตังแต่


้ พี่พาร์ ทแล้ ว ตอนนี ้ก็ยงั มีพี่นฐั
อีก
“มึงมีแฟน?” เสียงทุ้มจากพี่คินทร์ เอ่ยขึ ้น เขาวางเมนูอาหารในมือลง
บนโต๊ ะ คิ ้วเข้ มขมวดมองไปที่พี่นฐั

“เออดิ” พี่นฐั ตอบรับเสียงหนักแน่น “ไม่มาเรี ยนหลายวัน ตามข่าวกู


ไม่ทนั เลยอ่ะดิสสั ”

“ใคร”

“ปริ ม” พี่นฐั ตอบกลับไปเมื่อถูกพี่คินทร์ ถาม “มึงจําปริ มที่เรี ยนไอทีได้


ไหม”

“ที่พวกผู้ชายไอทีตามจีบกันให้ วนุ่ นัน่ น่ะเหรอ” พี่คินทร์ เลิกคิ ้วถาม

“อือ” พี่นฐั ก็ครางรับ

“โอโห... เล่นของสูงนะมึง” พี่คินทร์ พดู ติดตลก

“มันก็ต้องเสี่ยงบ้ างสิวะ มัวแต่ไม่กล้ าจะได้ เขามาเป็ นแฟนไหมล่ะ ”

ใช่... ความรักเป็ นสิ่งที่ต้องลองเสี่ยงดู มีสองทางที่จะได้ กลับมาคือ


ผิดหวังกับสมหวังเท่านัน้ แต่สําหรับพี่คินทร์ แล้ ว... ฉันควรจะลงทุนเสี่ยงดีไหมนะ ฉัน
ไม่เคยบอกชอบพี่คินทร์ และไม่ร้ ูว่าพี่คินทร์ จะมองปฏิกิริยาที่ฉนั แสดงต่อเขาออกไหม
ว่าฉันรู้สกึ ยังไงกับเขาบ้ าง แต่ถึงยังไงฉันก็ยงั ไม่พร้ อมที่จะบอกชอบเขาอยู่ดี

มันคงยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม...
ฉันยกโทรศัพท์มือถือขึ ้นมาดูเวลาในระหว่างที่พี่คินทร์ สนทนาเรื่ อง
ต่างๆกับพี่นฐั อยู่ ตัวเลขสี่ตวั บนหน้ าจอบ่งบอกว่าตอนนี ้สี่ท่มุ ห้ าสิบสองนาทีแล้ ว และ
ฉันก็เริ่ มง่วงแล้ วด้ วย...

KINN Talks.
ในระหว่างที่กําลังคุยความเป็ นมาของการเป็ นแฟนกันระหว่างปริ มกับ
ไอ้ นฐั สายตาของผมก็สะดุดกับท่าทางของยัยอุ๋งที่ยกมือขึ ้นมาป้องปากหาวหวอดๆ
ตาของเธอแดงนิดหน่อยคล้ ายกับง่วงนอนเต็มที ผมยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ ้นมาเหลือบดู
เวลา ตอนนี ้ก็เกือบห้ าทุ่มแล้ ว ถึงเวลานอนของเธอแล้ วสินะ

“มาแล้ วค่ะ” พนักงานของร้ านพูดขึ ้นเมื่อเดินถือจานข้ าวสองจานมา


ส่งให้ ที่โต๊ ะ

“ช่วยห่อใส่กล่องให้ หน่อยได้ ไหมครับ” ผมรี บบอกจุดประสงค์ของ


ตัวเองไปก่อนที่พนักงานจะเดินหนี

“ได้ ค่ะ” พนักงานยิ ้มรับ ก่อนจะหอบจานข้ าวสองจานกลับไป สักพักก็


เดินเอาใส่ถงุ กลับมาให้ ที่โต๊ ะ

“ห่อทําไมคะพี่คินทร์ ” ยัยอุ๋งถามขึ ้นด้ วยหน้ าตาตื่นตกใจ

“เธอง่วง ฉันจะพากลับห้ อง”

“มึงจะกลับแล้ วเหรอวะ” ไอ้ นฐั ถาม


“เออ...” ผมตอบกลับเสียงเรี ยบ

“ไม่เป็ นไรค่ะ นํ ้าไม่ง่วงเท่าไหร่ ”

ไอ้ คําว่า ‘ไม่ง่วงเท่าไหร่ ’ ของเธอเนี่ย มันโคตรจะสวนทางกับท่าทางที่


พูดไปก็เตรี ยมจะอ้ าปากหาวไปโดยสิ ้นเชิงเลย ยังจะปากแข็งบอกว่าไม่ง่วงอยู่ได้

“หาวจนนํ ้าตาไหลขนาดนี ้ยังบอกไม่ง่วง ช่วยพูดให้ ปากตรงกับการ


กระทําของตัวเองหน่อยได้ ไหมยัยอุ๋ง”

“เดี๋ยวๆ น้ องแทนตัวเองว่านํ ้า แต่มงึ เรี ยกน้ องอุ๋ง สรุปน้ องชื่อนํ ้าอุ๋ง


เหรอวะ” ไอ้ นฐั ถามขึ ้นอย่างอยากรู้

“ชื่อแมวนํ ้า”

“ชื่อน่าร้ าก...” ไอ้ นฐั ลากเสียงยาว พร้ อมกับหันไปยิ ้มให้ ยยั อุ๋ง

ส่วนยัยอุ๋งก็ยิ ้มตอบไอ้ นฐั ราวกับสนิทสนมกัน หนังตาผมกระตุกหนึง่


ครัง้ ก่อนที่หวั คิ ้วมันจะรู้สกึ ตึงขึ ้นมาอีกนิดหน่อย

“…” ผมหยิบโทรศัพท์ขึ ้นมากดถ่ายรูปไอ้ นฐั ที่กําลังส่งยิ ้มแพรวพราว


ให้ ยยั อุ๋งอยู่

วาบ!

แสงแฟลชสว่างขึ ้นในวินาทีที่นิ ้วสัมผัสกับปุ่ มถ่ายรูปบนจอโทรศัพท์


ไอ้ นฐั หันมาขมวดคิ ้วมองผม ก่อนจะเอ่ยถาม
“ทําอะไรของมึงวะ ถ่ายเพื่อ?”

“ส่งให้ ปริ มดูว่าแฟนที่ได้ ไปมันเจ้ าชู้แค่ไหน” ผมบอก มุมปากเหยียด


ขึ ้น ก่อนที่นิ ้วจะกดเข้ าเฟสบุ๊คของปริ มค้ างไว้

“เฮ้ ย! มึงจะบ้ าเหรอไอ้ คินทร์ !” ไอ้ นฐั หยิบโทรศัพท์จากมือผมไป มัน


กดลบรูปทิ ้งแล้ วยื่นกลับมาให้ ผม

“ทําไม?” ผมเลิกคิ ้วขึ ้นอย่างไม่สะทกสะท้ าน “กลัวแฟนรู้เหรอว่ามึง


เจ้ าชู้”

“กูก็แค่ล้อเล่นกับน้ องไหม” ไอ้ นฐั ตอบกลับนํ ้าเสียงซีเรี ยส ก่อนจะหัน


ไปทางยัยอุ๋ง “เมื่อกี ้พี่เห็นแหวนที่นิ ้วนางข้ างซ้ ายของแมวนํ ้าด้ วย”

“!!!” ยัยอุ๋งสะอึกไป ซึง่ ไม่ต่างจากผมที่ตกใจไม่แพ้ กนั

เธอรี บซ่อนมือซ้ ายที่มีแหวนอยู่ไว้ ข้างลําตัวทันที

“แหวนหมันเหรอครั
้ บ” ไอ้ นฐั ยังคงจี ้ถามที่ยยั อุ๋งอยู่

“วะ...แหวน แหวนที่แม่ให้ มาค่ะ” ยัยอุ๋งตอบกลับด้ วยนํ ้าเสียง


ตะกุกตะกัก

ทังๆที
้ ่ผมควรจะดีใจที่เธอตอบแบบนัน้ แต่มนั กลับทําให้ ในใจของผม
รู้สกึ แปลกๆขึ ้นมา เหตุการณ์นี ้คล้ ายกับเหตุการณ์ที่ผมตอบครี มเรื่ องแหวนบนนิ ้วนาง
ข้ างซ้ ายของตัวเองเมื่อหลายวันก่อน และมันยังเป็ นประโยคเดียวกันที่ผมใช้ อีกด้ วย
ผมจ้ องเธอเขม็ง พอยัยอุ๋งสบตากับผมเข้ า เธอก็รีบก้ มหน้ าตํ่าเพื่อหลบสายตาผมทันที

“กูกลับก่อนนะ” ผมรี บตัดบททันทีโดยการหยิบถุงกล่องข้ าวขึ ้นมา ลุก


พรวดขึ ้นจากเก้ าอี ้ และเดินอ้ อมโต๊ ะไปคว้ าแขนยัยอุ๋งให้ เดินออกมาพร้ อมกัน

“เจอกันเว้ ยมึง!” โดยที่เสียงของไอ้ นฐั ตะโกนตามหลังมา


MAWNUM Talks.
ฉันโดนพี่คินทร์ ลากออกมาจากร้ าน โดยที่เขาเอาแต่ก้าวฉับๆด้ วยขา
ยาวๆ แต่ฉนั เอาแต่วิ่งตามพี่คินทร์ จนตัวเองเกิดอาการเหนื่อยหอบเพราะก้ าวไม่ทนั ก็
ดูความสูงระหว่างฉันกับพี่คินทร์ สิ ก้ าวยาวขนาดนี ้ ขาสันอย่
้ างฉันจะไปทันได้ ยงั ไงกัน

“พี่คินทร์ ช้าๆหน่อยค่ะ” ฉันคว้ าแขนเสื ้อเชิ ้ตตัวยาวของเขาเอาไว้

พี่คินทร์ หนั ขวับมามองฉันด้ วยอาการหงุดหงิด นัยน์ตาของเขายิ่งฉาย


แววอย่างชัดเจนเลยว่าหงุดหงิดแค่ไหน

“ทําไมไม่กินนม?!”
“…”
ทันทีที่ได้ ยินคําถามจากปากคนตัวสูงที่กระชากเสียงถามห้ วนๆ อาการ
งงก็พ่งุ ชนฉันเต็มเปา ทําไมไม่กินนม หมายถึงอะไร

“เตี ้ย!” ฉันสะดุ้งทันทีที่เขาตะโกนใส่หน้ า “ขาก็สน!”


ั้
“นะ...นํ ้า” ฉันพูดไม่ออกเลย

คือจะบอกยังไงดี ครอบครัวฉันก็มีเชื ้อสายจีนผสมมา ซึง่ ส่วนใหญ่คน


จีนก็ไม่ได้ สงู มากมายอะไรอยู่แล้ ว พ่อแม่ของฉันถ้ าเทียบความสูงกับพ่อแม่ของพี่คิ
นทร์ แล้ วถือว่าแพ้ ราบคาบ ดังนันส่้ วนหนึง่ ฉันจึงได้ รับการถ่ายทอดพันธุกรรมความสูง
มาจากพ่อแม่ด้วย ส่วนนมที่เขาพูดถึงน่ะ... ฉันกินประจํานะ พ่อแม่ฉนั บังคับให้ กิน
แต่มนั สูงได้ เท่านี ้ จะเอาแค่ไหนเล่า!

“กลับห้ องไปแล้ วรี บนอนเลยนะ!” พอพูดจบ เขาก็ตงท่


ั ้ าจะเดินต่อ

แต่ฉนั ก็รัง้ ข้ อมือแกร่งเอาไว้ ก่อน “พี่คินทร์ หงุดหงิดอะไรคะ” และเอ่ย


ถามออกไปด้ วยความสงสัย

เพราะตังแต่
้ ที่พี่นฐั ถามฉันเรื่ องแหวนหมันตอนอยู
้ ่ร้านข้ าว อาการของ
เขาก็แปลกไปตังแต่
้ ตอนนัน้ เขาหงุดหงิด ซึง่ ฉันไม่สามารถหยัง่ รู้ได้ ว่าที่พี่คินทร์
หงุดหงิดส่วนหนึง่ มาจากฉันหรื อเปล่า

“ใครหงุดหงิด ไม่ได้ หงุดหงิดเว้ ย!”


“…”
ยังไม่ทนั ที่ฉนั จะได้ อ้าปากเถียงว่าอาการที่เขาเป็ นอยู่ตอนนี ้นี่แหละที่
เรี ยกว่าหงุดหงิด พี่คินทร์ ก็ลากฉันเดินต่อ จนกระทัง่ มาถึงรถ เขาถึงได้ ยดั ฉันเข้ าไปนัง่
ก่อนจะเดินไปนัง่ ประจํายังเบาะคนขับและสตาร์ ตรถขับออกไป

เวลา 23 : 21 น.
หลังจากกลับห้ องมา เราทังคู
้ ก่ ็มานัง่ กินข้ าวกันอยู่ที่โต๊ ะกินข้ าวริ ม
ระเบียง ฉันกําลังตักข้ าวเข้ าปากและแอบลอบสังเกตอาการของพี่คินทร์ ไปด้ วย หัวคิ ้ว
ของเขาจรดกันตลอดเวลาเลย

“…”
จังหวะหนึง่ ที่พี่คินทร์ เงยหน้ าขึ ้นมา สายตาของฉันประสานเข้ ากับ
นัยน์ตาสีดําสนิทขี ้หงุดหงิดของเขาเข้ า

“มองไร!” พี่คินทร์ ถามเสียงห้ วน พลางยกช้ อนขึ ้นมาตักข้ าวเข้ าปาก


แล้ วเคี ้ยวตุ้ยๆ

“พี่คินทร์ หงุดหงิดอะไรนํ ้าหรื อเปล่าคะ” ฉันถามออกไปตามตรง

...และหวังจะให้ เขาตอบมาตามตรงด้ วย

“ฉันจะไปหงุดหงิดอะไรเธอ” เขาถามเสียงสูงแกมประชดประชันไปใน
ตัว

“…” ฉันยู่ปากให้ เขาในจังหวะที่พี่คินทร์ ก้มหน้ าลง

สายตาเคลื่อนลงไปมองยังตําแหน่งนิ ้วนางข้ างซ้ ายของพี่คินทร์ พบว่า


ตอนนี ้พี่คินทร์ ไม่ได้ สวมแหวนหมันของเราเอาไว้
้ พลันในใจฉันก็ร้ ูสกึ ว่างเปล่าและวูบ
โหวงขึ ้นมา จะว่าเสียใจก็ไม่เชิง แต่มนั ก็เป็ นสิทธิของพี่คินทร์ ที่เขาจะถอดแหวน
หรื อไม่ถอดก็ได้ เพราะยังไงความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนก็เป็ นเพียงแค่การหมันใน ้
นามเท่านัน้
ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อยล้ า พลางเลื่อนสายตา
ตัวเองกลับมามองข้ าวในจานแทน มีแค่ฉนั ที่สวมแหวนหมันไว้
้ ตลอดเวลา แม้ แต่ตอน
อาบนํ ้าฉันก็ไม่ได้ ถอดมันออก

นี่ฉนั กําลังทําอะไรอยู่นะ แอบรักคนที่เขาไม่รักเราต้ องทนเจ็บแบบนี ้เอง


เหรอ...

----------------------
“พี่คินทร์ ...” ฉันเอ่ยเรี ยกชื่อพี่คินทร์ เสียงสัน่ “ไม่สวมแหวนหมันเหรอ

คะ” แค่ควบคุมโทนเสียงให้ มนั่ คงทําไมมันถึงได้ ยากเย็นขนาดนี ้

“ไม่” เสียงทุ้มตอบกลับเบาๆ ในขณะที่เขากําลังตักข้ าวเข้ าปาก

“ค่ะ” ฉันพยักหน้ ารับ หลุบตาลงมองข้ าวของตัวเอง และกินอยู่เงียบๆ

“ฉันกลัวมันหล่นหาย” แต่ประโยคถัดมาของพี่คินทร์ กลับทําให้ ฉนั เงย


หน้ าขึ ้นมอง เป็ นจังหวะเดียวกับที่พี่คินทร์ ก็เงยหน้ าขึ ้นมามองฉันพอดี “ฉันเรี ยนวิศ
วะ ต้ องทํานัน่ ทํานี่บอ่ ย กลัวมันหล่นหายเลยถอดเก็บไว้ ”

“อ่า...” ฉันครางรับพลางส่งยิ ้มน้ อยๆให้ เขา

พอพี่คินทร์ ก้มหน้ าลงกินข้ าวต่อ ฉันถึงได้ ก้มหน้ าลงกินข้ าวของตัวเอง


เงียบๆ แต่รอยยิ ้มกลับผุดขึ ้นบนใบหน้ าจนยากจะปิ ดบัง มันดีใจจนอธิบายไม่ถกู เลย
หัวใจดวงน้ อยของฉันเต้ นตึกตักขึ ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา อย่างน้ อยฉันก็ได้ ร้ ูถึงเหตุผลที่
เขาไม่สวมแหวน ที่แท้ เขาก็กลัวว่ามันจะหาย
“ทําไม?” เสียงทุ้มเอ่ยขึ ้นถาม “เธอคิดว่าฉันไม่อยากหมัน้ ก็เลยถอด
แหวนเพราะไม่อยากใส่เหรอ”

“คะ...คือว่า” ฉันอํ ้าอึ ้ง ไม่ร้ ูจะโต้ ตอบกลับยังไง ก็ฉนั คิดแบบที่เขาพูด


จริ งๆ เถียงเขาไม่ออกหรอก

“ฉันไม่ได้ ไร้ เหตุผลขนาดนันนะอุ


้ ๋ง ถึงฉันจะไม่อยากหมัน้ แต่ฉนั ก็ร้ ู
หน้ าที่ของตัวเองดี”
“…”
“พรุ่งนี ้ฉันจะไปเรี ยน คงอยู่ดแู ลเธอไม่ได้ ฉันขาดมาหลายวันแล้ ว ”

“มะ...ไม่ต้องเป็ นห่วงเลยค่ะ นํ ้าดูแลตัวเองได้ สบายมาก” ฉันรี บพูด


สวนขึ ้นทันที

“มัน่ ใจจังเลยนะ” พี่คินทร์ เงยหน้ าขึ ้นมอง ก่อนจะส่ายหน้ าให้ ฉนั เบาๆ

“พี่คินทร์ คะ...” ฉันเอ่ยเรี ยกชื่อเขาเบาๆ “อันนันคื ้ ออะไรเหรอคะ นํ ้า


เห็นพี่คินทร์ ใส่ไว้ ตลอดเลย” ก่อนจะชี ้นิ ้วไปยังสร้ อยคอที่มีจี ้รูปทรงประหลาดห้ อยอยู่

พี่คินทร์ มองตามนิ ้วที่ฉนั ชี ้ ก่อนที่มือแกร่งจะกําจี ้อันนันเอาไว้


้ แล้ วยกขึ ้น
นิดหน่อยเพื่อให้ มนั อยู่ในระดับสายตาฉัน “อันนี ้เหรอ”

“…” ฉันพยักหน้ ารับสองครัง้ ติด

“เกียร์ ” เสียงทุ้มตอบกลับมาสันๆ

‘เกียร์ ’ เหรอ ฉันไม่เคยได้ ยินมาก่อนเลย...

“รูปร่างมันแปลกๆ” ฉันพึมพําเสียงเบา กะจะให้ ได้ ยินแค่ตวั เอง แต่พอ


คนตัวสูงพูดต่อทําให้ ฉนั รู้ว่าสิ่งที่ตวั เองพูดไปเมื่อกี ้มันเข้ าหูพี่คินทร์ ด้วย

“มันเป็ นรูปเฟื องของเครื่ องจักร หมายถึงการทํางานของเครื่ องจักรกล


ต้ องอาศัยฟั นเฟื องแต่ละตัวประกบเข้ าหากันเพื่อให้ เครื่ องจักรกลนันทํ
้ างานได้ อย่างมี
ประสิทธิภาพ ขาดเฟื องตัวใดตัวหนึง่ ไป เครื่ องจักรกลจะไม่สามารถทํางานได้ ”
“…”
“มันเปรี ยบเหมือนกับเด็กที่เรี ยนวิศวะแต่ละคน ซึง่ คณะ
วิศวกรรมศาสตร์ เราจะต้ องทํางานร่วมกับคนอื่นๆ ทังเพื
้ ่อนในคณะ รุ่นพี่ รุ่นน้ อง ก็
เปรี ยบเหมือนกับเฟื องแต่ละตัวมาทํางานร่วมกันจนกลายเป็ นเกียร์ ”
“…”
“คณะวิศวะในหลายๆมหาวิทยาลัยก็เลยสร้ างสัญลักษณ์ประจําคณะ
อย่างเกียร์ ขึ ้นมาให้ เด็กที่เรี ยนวิศวะได้ สวมใส่เพื่อเป็ นของที่ระลึก”

“อ๋อ... อย่างนี ้นี่เอง” ฉันพยักหน้ ารับอย่างเข้ าใจเมื่อพี่คินทร์ เล่าจบ

“เธออยากได้ เหรอ” เสียงเรี ยบของพี่คินทร์ ที่เอ่ยถาม ทําให้ ฉนั ชะงักไป

“อะ...เอ่อ”
“ถ้ าอยากได้ ฉนั จะถอดให้ ” พูดจบมือแกร่งก็เอื ้อมไปปลดสร้ อยเกียร์ ที่
ห้ อยอยู่บนคอของเขาออกมาแล้ วยื่นส่งให้ ฉนั “เก็บไว้ ดีๆก็แล้ วกัน หลังจากสามเดือน
ที่เราถอนหมันกั
้ น เธอค่อยเอามาคืนให้ ฉนั ก็ได้ ”

“…” ฉันรี บรับสร้ อยเกียร์ จากมือพี่คินทร์ กลับมาอย่างงงๆ

“เธอเหงาไหม”

“…” ฉันช้ อนตาขึ ้นมองพี่คินทร์ อีกครัง้ เมื่อถูกถาม จู่ๆก็ถามแบบนี ้


หมายความว่ายังไงนะ

“เธอสมัครเรี ยนที่ไหนยัยอุ๋ง เรี ยนคณะอะไร” แล้ วเขาก็เปลี่ยนเรื่ องคุย


เฉยเลย

“นํ ้าสมัครไว้ ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับพี่คินทร์ ค่ะ แล้ วก็มหาวิทยาลัยใน


กรุงเทพอีกสองสามที่ นํ ้าสมัครอักษรศาสตร์ ไปค่ะ” ฉันเริ่ มแจกแจงรายละเอียดให้
พี่คินทร์ ฟัง

“อืม...” พี่คินทร์ ครางรับ จากนันเขาก็


้ เงียบไป และนัง่ กินข้ าวต่อ

ฉันแบมือออก มองเกียร์ ที่พี่คินทร์ ยื่นมาให้ ฉันไม่ร้ ูหรอกว่าเกียร์ มี


ความสําคัญต่อพี่คินทร์ ยงั ไง และความหมายของมันจะเป็ นแบบไหน แต่เขาให้ มนั ไว้
กับฉัน ฉันก็จะดูแลมันให้ เขาอย่างดี รอจนถึงวันที่เรา...ถอนหมันกั ้ น วันนันฉั
้ นจะเป็ น
ฝ่ ายคืนสร้ อยเกียร์ อนั นี ้ให้ เขาเอง
ก๊ อกๆ

ฉันละสายตาจากจอโทรศัพท์ในมือ ก่อนจะมองไปยังบานประตูห้องที่
ถูกเคาะสองทีจากภายนอก ฉันวางโทรศัพท์เอาไว้ ที่โซฟา แล้ วลุกออกไปเปิ ดประตู

“ไอ้ นํ ้า!” เป็ นเคทเองที่เคาะประตู “ฉันกลับมาแล้ ว คิดถึงกันไหม”


เคทพูดด้ วยนํ ้าเสียงตื่นเต้ น พลางเดินเข้ ามากอดฉันจนร่างกายเราแนบสนิทกันจนหา
ที่ว่างไม่เจอ

“คิดถึงสิถามได้ ” ฉันกระชับอ้ อมกอดให้ แน่นขึ ้นด้ วยความคิดถึง

“ไปเที่ยวกัน” ฉันผละตัวเองออกจากอ้ อมกอดของเคท พลางขมวดคิ ้ว


ใส่เธอ

กลับมาก็ชวนเที่ยวเลย อะไรกันเนี่ย

“เคทเพิ่งกลับมาไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ไง แต่ฉนั อยากเที่ยวอ่ะ นะแกนะ...” เคทเคลื่อนมือมาจับที่แขนฉัน


พร้ อมเขย่าเบาๆรบเร้ ากัน

“แต่นํ ้าต้ องขออนุญาตพี่คินทร์ ก่อน”

“ไม่ต้องขอหรอก ไปกับฉัน แกไม่ต้องกลัวอะไร” ฉันหรี่ ตามองเคทอ


ย่างไม่แน่ใจนัก “เชื่อใจฉันสิ พี่คินทร์ ไม่กล้ าทําอะไรแกหรอก ตราบใดที่ฉนั ยังอยู่”
“นํ ้ากลัวโดนพี่คินทร์ ดอุ ีก” ฉันหลุบตาลงมองพื ้น ความกังวลเล็กๆ
เกิดขึ ้นในจิตใจ

“เอางี ้ เดี๋ยวฉันโทรบอกพี่คินทร์ เอง แกไม่ต้องโทร โอเค้ ?” เคทเอ่ย


เสียงสูง ก่อนจะเลิกคิ ้วขึ ้นด้ วยท่าทางสบายๆ

“กะ...ก็ได้ ” ฉันตอบรับเสียงเบา

พอการตอบรับของฉันจบลงเท่านัน้ เคทก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ ้นมากด


อะไรบางอย่างอยู่พกั หนึง่ ก่อนจะยกมันขึ ้นจ่อที่หขู องตัวเอง

“ฮัลโหลพี่คินทร์ ” เธอพูดกับพี่ชายของเธอ
“…”
“วันนี ้เคทจะชวนไอ้ นํ ้าไปเที่ยว พี่อนุญาตไหม”

“…” ฉันเงียบลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ

เขาจะอนุญาตให้ ฉนั เที่ยวไหมนะ

“โอเคๆ ไม่กลับดึกหรอกน่า... อืมๆ โอเค” พูดจบเคทก็วางโทรศัพท์


จากพี่คินทร์ ก่อนที่เธอจะหันมามองฉันและส่งยิ ้มกว้ างมาให้ “บอกแล้ วว่าได้ ”

ฉันยิ ้มออกด้ วยความดีใจจนเนื ้อเต้ น ในที่สดุ พี่คินทร์ ก็ยอมให้ ฉนั ไป


เที่ยวได้ แต่ว่า... ทําไมวันนี ้ถึงยอมง่ายขนาดนี ้นะ
“งันนํ
้ ้าไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ” ฉันรี บบอกเคทด้ วยความตื่นเต้ น เตรี ยม
จะหมุนตัวเดินเข้ าห้ องไปเปลี่ยนเสื ้อผ้ า แต่กลับโดนคว้ าไหล่เอาไว้ ซะก่อน

“เดี๋ยวๆ” ฉันหันไปมองเคทอย่างงุนงง “นี่อะไร เกียร์ ใคร” เคทชี ้นิ ้ว


มายังสร้ อยห้ อยเกียร์ ที่อยู่บนคอของฉัน

“เกียร์ ของพี่คินทร์ ”

“แล้ วไปได้ มายังไงเนี่ย บอกมาเลยนะ” เคทดึงข้ อมือฉันแล้ วพาเดิน


เข้ าไปในห้ อง ก่อนจะกดฉันให้ นงั่ ลงบนโซฟา สายตาโฉบเฉี่ยวจ้ องมองฉันอย่าง
คาดคัน้

“กะ...ก็พี่คินทร์ ยื่นมาให้ นํ ้าก็เลยรับเอาไว้ ” ฉันตอบกลับไปตามความ


เป็ นจริ ง ตากระพริ บปริ บๆไปให้ เคทด้ วย

“รู้ความหมายของเกียร์ หรื อเปล่า” เคทถามเสียงดัง ทําเอาฉันตกใจจน


สะดุ้ง

“…” ฉันส่ายหน้ าเบาๆ

“ไอ้ นํ ้า!” เรี ยกชื่อฉันอีกแล้ ว

หมับ!

แล้ วจู่ๆเคทก็ดงึ ฉันเข้ าไปกอดเอาไว้ ก่อนจะพูดข้ างหูฉนั คล้ ายกับดีใจ


“ฉันไม่บอกแกเรื่ องความหมายของเกียร์ หรอกนะ มันเป็ นเรื่ องระหว่าง
แกกับพี่คินทร์ แต่ฉนั เชื่อว่าแกจะสมหวังในความรักของแกแน่นอน” พูดแบบนี ้
หมายความว่ายังไงกัน

“มะ...หมายความว่ายังไง” สมองฉันยังคงมึนงงและประมวลผลคําพูด
ของเคทไม่ทนั

“ไปเปลี่ยนชุดได้ แล้ วไป” เคทผละร่างกายออกจากฉัน แล้ วดึงข้ อมือ


ฉันให้ ลกุ ขึ ้นจากโซฟา จากนันก็
้ ดนั ฉันให้ เดินไปทางตู้เสื ้อผ้ า

แต่คําพูดของเคทเมื่อกี ้มันหมายความว่ายังไงกันนะ ฉันฟั งไม่ทนั เลย


KATE Talks.
จากที่ไม่แน่ใจว่าพี่ชายของตัวเองจะตัดใจจากผู้หญิงที่ทําให้ เสียใจคน
นันได้
้ ไหม แต่ตอนนี ้ฉันเริ่ มมัน่ ใจแล้ วว่าพี่คินทร์ จะตัดใจจากพี่ผ้ หู ญิงคนนันได้
้ เพราะ
ยัยเพื่อนอุ๋งของฉันคนนี ้...

ฉันรู้ดีวา่ เกียร์ มนั แทนอะไรในตัวของวิศวะ เพราะฉันก็ตงใจจะสอบเข้


ั้ า
เรี ยนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับพี่ชายตัวเอง ซึง่ ฉันได้
ทําการค้ นคว้ าหาข้ อมูลมาหมดแล้ วว่ามีอะไรที่สําคัญเกี่ยวกับวิศวะบ้ าง แน่นอนว่า
หนึง่ ในนันมี
้ เกียร์

ที่ฉนั ตัดสินใจไม่บอกให้ แมวนํ ้ารู้ว่าเกียร์ เปรี ยบเหมือนหัวใจของวิศวะ


เพราะฉันไม่อยากไปสร้ างความหวังให้ กบั เพื่อนคนนี ้ของฉัน แมวนํ ้าหลงรักพี่ชายฉัน
มาตังนานแล้
้ ว แต่พี่คินทร์ ไม่แม้ แต่จะชายตามองเธอเลยสักครัง้ จนกระทัง่ มาวันนี ้ที่
ฉันคิดว่าพี่ชายของตัวเองน่าจะหวัน่ ไหวให้ กบั แมวนํ ้าบ้ างแล้ ว ไม่งนคงไม่
ั้ ให้ ของ
สําคัญขนาดนี ้กับเธอ

ฉันไม่ร้ ูว่าพี่คินทร์ กําลังคิดและทําอะไรอยู่ แต่ฉนั หวังไว้ แค่อย่างเดียวว่า


แผนการใกล้ ชิดของทังสองคนที
้ ่ฉนั กับแม่วางแผนไว้ น่าจะต้ องมีผลบ้ างไม่มากก็น้อย
แหละน่า...

MAWNUM Talks.
เซ็นทรัลเฟสติวลั เชียงใหม่

นับตังแต่
้ ออกมาจากห้ อง เคทก็มีอาการแปลกไป เธอเดินอมยิ ้มมา
ตลอดทางเลย ซึง่ ฉันไม่เข้ าใจเลยว่าอาการแบบนี ้ของเคทคืออะไรกันแน่ เพราะตังแต่ ้
ฉันบอกว่าพี่คินทร์ ให้ เกียร์ กบั ฉัน เคทก็บอกว่าฉันจะต้ องสมหวังในความรักของตัวเอง
แต่ไหนล่ะหนทางแห่งความสมหวัง ในเมื่อมีแค่ฉนั เท่านันที ้ ่หลงรักเขาอยู่ฝ่ายเดียวจน
โงหัวไม่ขึ ้น

“กินอะไรดี” เคทหันมาถาม ก่อนจะกวาดสายตามองข้ ามหัวฉันไป


ด้ านหลัง

ฉันตัวเตี ้ยกว่าเคท(มาก) ก็ไม่แปลกใจหรอก ในเมื่อพี่ชายของเธอก็สงู


อย่างกับเสาไฟฟ้าอยู่แล้ ว น้ องสาวก็คงเป็ นลูกไม้ หล่นไม่ไกลต้ นแน่นอน

“กินอะไรก็ได้ ” ฉันตอบเคทกลับไปอย่างไม่เรื่ องมาก


“งัน...
้ บาร์ บีคิวพลาซ่าไหม” เคทชี ้ไปยังร้ านบาร์ บีคิวพลาซ่าที่อยู่
ด้ านหลังฉัน

ฉันหันไปมอง ก่อนจะพยักหน้ า “ก็ได้ นะ”

“ไปกันเถอะ” แล้ วเธอก็ลากฉันให้ เดินเข้ าไปในร้ านอย่างรวดเร็ว

หลังจากหย่อนก้ นลงนัง่ พร้ อมกับสัง่ อาหารเสร็จสรรพ จังหวะนันเองฉั


้ น
ถึงได้ สงั เกตเห็นคิวที่นงั่ อยู่โต๊ ะข้ างๆกัน

“อ้ าวคิว!” ฉันเอ่ยทักคิว

“เฮ้ ยคิว!” ส่วนนี่คือเสียงของเคท

“อ้ าว... แมวนํ ้า! เคท!” คิวหันมามองเราทังสองคน


้ พร้ อมกับเอ่ย
ทักทายกลับมา

“มายังไงเนี่ย” เคทเป็ นฝ่ ายเอ่ยถามคิวก่อนเป็ นคนแรก

“มากับพี่ครี มแล้ วก็แฟนพี่ครี มน่ะ”

‘พี่ครี มแล้ วก็แฟนพี่ครี ม’ งันเหรอ...



------------------------------

ฉันเบนสายตาไปมองข้ างกายของคิว แต่ทว่ามันก็ไม่มีร่างของพี่ครี มกับ


แฟนของเธอนัง่ อยู่เลย คิวล้ อกันเล่นหรื อเปล่าเนี่ย
“นี่คิวมีพี่ด้วยเหรอ แล้ ว...” เคทลากเสียงยาว พลางชะเง้ อคอมองไป
ยังจุดเดียวกันกับที่ฉนั มองก่อนหน้ านี ้ “ไหนพี่คิวอ่ะ”

“พี่เรากับแฟนไปเดินช็อปปิ ง้ กันแล้ ว เราหิวก็เลยมาหาอะไรกิน ” คิว


ตอบ

“งันมานั
้ ง่ ด้ วยกันดิ นัง่ หลายคน สนุกดี” เคทกวักมือเรี ยกคิวอย่างเป็ น
กันเอง

“เอางันเหรอ”
้ คิวเลิกคิ ้วขึ ้นพลางถามอย่างไม่แน่ใจนัก ก่อนที่เขาจะ
เบนสายตามามองฉัน

“…” ฉันส่งยิ ้มน้ อยๆให้ คิว และพยักหน้ า

คิวลุกจากที่นงั่ เดิมมานัง่ ร่วมโต๊ ะกับฉันและเคท คิวกับเคทนัง่ ฝั่ ง


เดียวกัน ส่วนฉันนัง่ คนเดียวอยู่ที่ฝั่งตรงข้ าม เรานัง่ คุยเกี่ยวกับสารทุกข์สกุ ดิบของกัน
และกันว่าเป็ นยังไงบ้ างในช่วงปิ ดเทอมที่ผ่านมา คิวเล่าว่าเขามาที่เชียงใหม่เพราะมา
เยี่ยมคุณปู่ กับคุณย่าที่ไร่องุ่น แล้ วก็จะอยู่ยาวไปสักเดือนสองเดือนแล้ วค่อยกลับ
กรุงเทพไปเรี ยนต่อมหาวิทยาลัย
เรานัง่ คุยกันอยู่สกั อาหารก็มาเสิร์ฟพอดี เรื่ องคุยเลยต้ องพับเก็บลงกรุไปก่อน วินาทีนี ้
เรื่ องกินเท่านันที
้ ่สําคัญ
หนึง่ ชัว่ โมงผ่านไป
“ฉันไม่ไหวแล้ วอ่ะ ขอไปเข้ าห้ องนํ ้าแป๊ บนะ” เคทลุกพรวดขึ ้น ก่อนจะเดินอย่างเร่ง
รี บออกไป

“…” ทังฉั้ นและคิวต่างนัง่ จ้ องตากันไปมา เพราะไม่ร้ ูจะคุยเรื่ องอะไรกันดีหลังจากที่


เคทเดินออกไปเข้ าห้ องนํ ้า

“นํ ้ามาทําอะไรที่เชียงใหม่เหรอ ยังไม่เล่าให้ เราฟั งเลย” และจู่ๆคิวก็เป็ นฝ่ ายเปิ ด


ประเด็นถามขึ ้น

“อ๋อ... พอดีเรามาเที่ยวกับเคทน่ะ” ฉันบอกไปเพียงเท่านัน้ เพราะตอนนี ้ยังต้ องรักษา


ความลับเรื่ องการหมันกั
้ บพี่คินทร์ เอาไว้

“อ๋อ...” คิวพยักหน้ า ก่อนที่สายตาคมกริ บของเขาจะเลื่อนลงมามองยังตําแหน่ง


ลําคอของฉัน “นํ ้าใส่สร้ อยเกียร์ ด้วยเหรอ”
หลังจากถูกถาม ฉันก็รีบกุมจี ้เกียร์ อนั นันเอาไว้
้ ให้ พ้นสายตาของคิว พลางหลุบตาลง
และเงียบเสียงเอาไว้ ฉันไม่อยากโกหกคิวไปมากกว่านี ้แล้ ว มันรู้สกึ ละอายใจและไม่
สบายใจมากเลยนะกับการที่อีกคนไว้ ใจเรา แต่เรากลับโกหกเขาได้ ลงคอ

“เราขอโทษนะ ถ้ านํ ้าไม่สะดวกบอกก็ไม่เป็ นไร”

“…” ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองคิว และส่งยิ ้มแหยให้ เขา

“เราขอไลน์นํ ้าไว้ ได้ ไหม เอาไว้ คยุ กัน”

“เอ่อคือ...” ฉันอํ ้าอึ ้ง เบนสายตามองผ่านคิวไป ไม่กล้ าสบตากับคิวเลย


ถ้ าฉันให้ ไลน์กบั คิว พี่คินทร์ จะว่าอะไรไหมนะ สําหรับฉันแล้ ว...คิวคือเพื่อนที่ดีคนหนึง่
ฉันคิดกับคิวแค่นนจริั ้ งๆ แต่ถ้าคิดในแง่กลับกัน พี่คินทร์ จะว่าอะไรฉันล่ะ ในเมื่อเขา
เองก็ไม่ได้ สนใจอะไรฉันอยู่แล้ วจริ งไหม

“ไม่ได้ ไม่เป็ นไรนะ เราไม่เซ้ าซี ้”

“ดะ...ได้ สิ” ฉันตอบรับกลับไปอย่างตะกุกตะกัก


คิวส่งยิ ้มกว้ างมาให้ ก่อนที่โทรศัพท์เครื่ องหรูจะถูกยื่นมาตาม ฉันรับโทรศัพท์ของคิว
มากดค้ นหาไลน์ของตัวเอง จากนันก็ ้ กดแอดเพื่อนให้ เขาเสร็จสรรพ ก่อนจะยื่นกลับไป
ให้ คิวดังเดิม

“ขอบใจนะ” คิวส่งยิ ้มจริ งใจมาให้ หลังจากรับโทรศัพท์ไป


ความจริ งแล้ วตอนที่ฉนั อยู่กบั คิวก็ไม่ได้ ร้ ูสกึ อึดอัดอะไร เขาทําให้ ฉนั รู้สกึ สบายใจทังๆ

ที่เราไม่ได้ มีบทสนทนาอะไรมากมายเลย แปลกดีจงั ...

KINN Talks.
ไลน์~
เสียงไลน์ที่ดงั ขึ ้นในระหว่างที่ผมกําลังกินข้ าวอยู่กบั กลุม่ เพื่อน ทําให้ หวั คิ ้วของผม
ขมวดเข้ าหากันอย่างนึกสงสัย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ ้นมาเปิ ดดูว่าใครส่งอะไรมา
สิ่งแรกที่เห็นคือภาพยัยอุ๋งที่นงั่ ยิ ้มในแบบที่ไม่กว้ างนัก ส่วนที่ผมสะดุดตาที่สดุ ก็คงจะ
เป็ นไอ้ คิวน้ องชายของครี มที่นงั่ อยู่ตรงข้ ามกับยัยอุ๋ง แถมสายตาของมันยังมองยัยอุ๋
งแบบแปลกๆด้ วย สายตาแบบนี ้มันไม่ใช่สายตาในแบบที่เพื่อนมองเพื่อน แต่ผมรู้สกึ
ว่ามันมีอะไรมากกว่านัน้
คนที่สง่ มาคือไอ้ นฐั ...

นัฐ : น้ องแมวนํ ้ามากับไอ้ หนุ่มหน้ ามนที่ไหนเนี่ย

คินทร์ : เพื่อนเขา
ผมพิมพ์ตอบกลับไปสันๆ
้ และหวังให้ มนั เป็ นแค่เพื่อนกันอย่างที่ผมพิมพ์ไปด้ วย

นัฐ : สรุปเพื่อนกันเหรอ แหมะ กูก็นกึ ว่าแฟนน้ อง

นัฐ : โคตรเคมีเข้ ากัน มึงว่าเปล่า

นัฐ : ส่งรูปภาพ...

นัฐ : ดูดิ
ผมสูดลมหายใจเข้ าปอดลึกๆเพื่อไล่ระดับความร้ อนที่ค่อยๆประทุอยู่กลางอกออกไป
ก่อนจะกดเข้ ากล้ องแล้ วถ่ายรูปนิ ้วกลางในท่าฟั คยูกลับไปให้ ไอ้ นฐั

คินทร์ : ส่งรูปภาพ...
ผมกดส่งไปให้ มนั จากนันก็
้ กดอัดเสียงของตัวเองส่งไปให้ มนั ด้ วยอีกรอบหนึง่

“ไม่ต้องส่งมาหากูไอ้ สสั ! กูไม่ได้ อยากรู้เรื่ องชาวบ้ านขนาดนัน!”



“…” จบประโยคของผม เพื่อนที่นงั่ กินข้ าวร่วมโต๊ ะกันอยู่ก็หนั มามองเป็ นตาเดียว
รวมถึงไอ้ เฟี ยตก็เป็ นหนึง่ ในนันด้
้ วย

“เป็ นไรวะ” ไอ้ เฟี ยตเอ่ยถามผมนิ่งๆ ก็ตามบุคลิกมันนัน่ แหละ

“เตรี ยมกระทะให้ กทู ี จะทอดไข่ให้ แดก”

“…” คําพูดของผมทําเอาเพื่อนทังกลุ
้ ม่ เงียบกริ บ ก่อนจะหันไปมองหน้ ากันอย่าง
เหลอหลา

“หัวร้ อนเว้ ย!” พูดจบก็ตกั ข้ าวเข้ าปากคําโตๆ

20 : 25 น.
สายตาของผมเคลื่อนไปมองเวลาที่อยู่ด้านบนของหน้ าจอโทรศัพท์เป็ นครัง้ ที่เท่าไหร่
แล้ วก็ไม่ร้ ูตงแต่
ั ้ กลับมาถึงห้ อง เคทยังไม่พายัยอุ๋งกลับมา ไหนบอกว่าไม่กลับดึกไงวะ
ไอ้ น้องขี ้โกหก!

แอ๊ ด!
เสียงเปิ ดประตูเข้ ามา ทําให้ ผมตวัดสายตาไปมอง ยัยอุ๋งเดินเข้ ามาเป็ นคนแรก และ
ตามด้ วยเคทที่เดินเข้ ามาด้ วยใบหน้ าเปื อ้ นยิ ้มราวกับไปทําเรื่ องอะไรที่มีความสุข
นักหนามา

“ไหนบอกไม่กลับดึกไง!” ผมตวาดเสียงถามไอ้ น้องตัวยุ่งทันที


จากนันก็
้ ตวัดสายตาดุดนั ของตัวเองไปมองยัยอุ๋งที่ยืนก้ มหน้ าก้ มตาทําท่าสงบเสงี่ยม
อยู่ด้านข้ างเคท ยัยอุ๋งหลุบตาลงตํ่าเมื่อสบตากับผมเข้ า หึ ! เตรี ยมตัวขึ ้นเขียงเลย ลับ
มีดพร้ อมสับเละแล้ ว!

“เพิ่งสองทุ่มเองพี่คินทร์ ดึกที่ไหนเนี่ย” เคทก้ มลงมองนาฬิกาข้ อมือของตัวเอง ตอบ


กลับเสียงสูง

“หัดเถียงพี่ตงแต่
ั ้ เมื่อไหร่เคท!” ผมเริ่ มขึ ้นเสียง

“พี่คินทร์ โมโหอะไรเนี่ย!” เคทก็ขึ ้นเสียงบ้ าง

“กลับห้ องไปได้ แล้ ว พี่มีเรื่ องจะคุยกับยัยอุ๋ง” ผมรี บออกปากไล่น้องตัวเองกลับห้ อง


ไป

“ไม่!” เคทรี บปฏิเสธเสียงแข็ง วางท่าต่อต้ านผมอย่างไม่ปิดบัง “จะคุยอะไร คุยตรง


นี ้เลย!”

“พี่จะคุยกันสองคน แกไม่ต้องยุ่ง”
พูดจบเพียงเท่านัน้ ผมก็ดนั ตัวเองลุกจากโซฟาย่างสามขุมเข้ าไปหาคนเป็ นน้ องสาว
ก่อนจะดันให้ ร่างของเคทเดินออกไปจนพ้ นประตูห้องของตัวเอง จนกระทัง่ เธอเริ่ ม
แผดเสียงโวยวายขึ ้นมา

“พี่คินทร์ ! พี่จะทําอะไรไอ้ นํ ้า!”


“ไม่ต้องยุ่งสักเรื่ องจะตายไหม!” ผมรี บผลักเคทให้ ออกไปจากห้ อง และดันประตูปิด
ลง จากนันก็
้ ลอ็ กลูกบิดทันที

ปึ กๆๆ!
เสียงเคาะประตูจากเคทดังขึ ้นรัวๆที่ด้านนอก ตามด้ วยเสียงเอะอะโวยวายจะเป็ นจะ
ตายของเธอ

“พี่คินทร์ เปิ ดประตู!”

ปึ กๆๆ!

“เปิ ดสิวะไอ้ พี่บ้า!”

คําพูดคําจาแต่ละคําของมัน ถามหน่อยว่าใครเป็ นพี่ใครเป็ นน้ อง?


รอจนกระทัง่ น้ องสาวของผมมันเอะอะโวยวายจนพอใจแล้ วก็ล้มเลิกการแหกปากไป
เอง ผมถึงได้ เริ่ มเปิ ดประเด็นคุยกับยัยอุ๋งหลังจากที่นงั่ จ้ องเธอเขม็งมาสักพักแล้ ว

“วันนี ้เธอไปไหนมา” ผมหรี่ ตาถามยัยอุ๋งอย่างกดดัน

“ไปเที่ยวกับเคทค่ะ” ยัยอุ๋งตอบด้ วยนํ ้าเสียงปกติไม่มีอะไรปิ ดบัง

“เธอไปนัง่ กินอาหารกับผู้ชายสองต่อสองมาใช่ไหมอุ๋ง” นี่แหละคือประเด็นที่ผมจะ


เอามาคุยกับเธอ

“คิวเหรอคะ” ยัยอุ๋งเงยหน้ าขึ ้นสบตากับผมตรงๆ


“แล้ วคิดว่าใครล่ะ” ผมยกมือขึ ้นกอดอก พร้ อมกับลุกขึ ้นเดินไปเดินมา “เธอเป็ น
คูห่ มันฉั
้ นถูกไหม”

“…” ยัยอุ๋งพยักหน้ า

“ฉันก็เป็ นคูห่ มันเธอใช่


้ ไหม”

“…” แล้ วเธอก็พยักหน้ าอีก

“ฉันไม่ย่งุ กับครี มแล้ ว เธอก็ไม่ควรไปยุ่งกับผู้ชายคนไหนที่ไม่ใช่ฉนั ?” ผมเอ่ยเสียงสูง


เน้ นยํ ้าให้ มนั ดูเหมือนประโยคคําถามที่กดดันให้ อีกฝ่ ายเอ่ยปากตอบ

“ค่ะ” ยัยอุ๋งตอบรับด้ วยนํ ้าเสียงจริ งจัง “แต่นํ ้ากับคิวเราเป็ นแค่เพื่อนกันนะคะ”

“เธอคิดกับเขาแค่เพื่อน แล้ วเขาคิดกับเธอแค่เพื่อนหรื อเปล่าล่ะอุ๋ง ”

“…” และจังหวะนี ้ที่ยยั อุ๋งเงียบไป เถียงไม่ออกล่ะสิ

“ต่อไปนี ้เธอห้ ามไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ฉนั อีกเข้ าใจไหม” ผมชี ้นิ ้วใส่


หน้ ายัยอุ๋งอย่างถือสิทธิ์

“แต่เคทก็ไปกินกับเราด้ วยนะคะ นํ ้าไม่ได้ ไปกินกับคิวแค่สองคนสักหน่อย”

ยัง... ยังจะเถียงอีก!
ผมเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ตรงโซฟาขึ ้นมาเปิ ดรูปภาพที่ไอ้ นฐั ถ่ายส่งมาให้
แล้ วชูให้ ยยั อุ๋งดู
“ฉันมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี ้ เธอมีอะไรจะเถียงอีกไหม”

“มีค่ะ” ท่าทางสู้ยิบตาของเธอทําให้ ผมถึงกับชะงักไปทังร่้ างกาย บทจะเถียงก็เอา


จริ งเอาจังเหมือนกันนี่ “เคทไปเข้ าห้ องนํ ้า นํ ้ากับคิวก็เลยอยู่กนั แค่สองคน”

“แล้ วไง” ผมไม่สนหรอกว่าเคทจะไปเข้ าห้ องนํ ้า หรื อใครจะติดธุระทําอะไร ผมเชื่อใน


สิ่งที่ตาผมเห็น

“พี่คินทร์ ไม่มีเหตุผลเลย!”

“ฉันก็เป็ นของฉันแบบนี ้แหละ รับไม่ได้ ก็เรื่ องของเธอ” ผมยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ

“นํ ้ารับไม่ได้ ค่ะ!” สิ ้นเสียงเล็กแหลมนัน้ เธอก็ตวัดสายตาตําหนิผมอย่างชัดเจน


ก่อนจะเดินตรงไปยังตู้เสื ้อผ้ าโดยไม่สนใจผมอีก
แต่ผมเป็ นพวกประเภทเกลียดคนเมินใส่ด้วยสิ เห็นแบบนี ้แล้ วอยากไฟต์สกั ตัง้
ผมรี บเดินจํ ้าอ้ าวเข้ าไปคว้ าแขนยัยอุ๋งเอาไว้ ก่อนที่เธอจะเดินเข้ าห้ องนํ ้า ดันร่าง
ของยัยอุ๋งให้ แผ่นหลังของเธอชนกับผนัง ตามด้ วยสายตากดดันที่จ้องมองเข้ าไปใน
ดวงตากลมโตเป็ นประกาย และกรอกนํ ้าเสียงแข็งขึงของตัวเองลงไปว่า “ฉันไม่ชอบ
ใจที่เธออยู่กนั สองต่อสองกับไอ้ คิว” ก่อนจะก้ มลงไปที่ใบหูเล็ก กระซิบเสียงเบาต่ออีก
ว่า “เข้ าใจไหมอุ๋ง”
----------------------------
MAWNUM Talks.
ตึกตัก... ตึกตัก...

หากนี่คือเรื่ องตลก สําหรับฉันมันเป็ นตลกที่ดรู ้ ายแรงที่สดุ ต่อหัวใจ


น้ อยๆดวงนี ้...

ใบหน้ าของพี่คินทร์ อยู่ห่างจากใบหน้ าของฉันเพียงคืบเดียวเท่านัน้ ฉัน


ได้ กลิ่นลมหายใจของเขาด้ วย หัวใจของฉันตอนนี ้กําลังเต้ นตุบตับอย่างรุนแรง
เนื่องจากการกระทําของพี่คินทร์ การกระทําที่ไม่ชดั เจนของเขา

“พี่คินทร์ ...” ฉันหลุบตาลงมองพื ้น ในขณะที่ปากก็เอ่ยเรี ยกชื่อเขา


เสียงเบา

‘ถอยออกไปก่อนได้ ไหมคะ นํ ้าจะแย่แล้ ว’ ฉันอยากจะพูดแบบนี ้


ออกไป แต่เหมือนลิ ้นมันแข็ง ปากมันชายังไงก็ไม่ร้ ู ฉันรู้ดีวา่ ตัวเองไม่มีภมู ิต้านทาน
ทางด้ านจิตใจเท่าไหร่หรอก ยิ่งพี่คินทร์ เป็ นผู้ชายที่ฉนั หลงรักมาเนิ่นนาน ความ
ต้ านทานของฉันมันยิ่งตํ่าจนแค่ทบุ ครัง้ เดียวก็คงพังทลายย่อยยับอยู่ตรงนี ้

“เธอกับไอ้ คิวเป็ นเพื่อนกันฉันไม่วา่ แต่ฉนั ไม่ชอบให้ เธอกับมันอยู่กนั แค่


สองต่อสอง ถึงเราจะไม่ได้ ประกาศให้ คนอื่นรู้ว่าเราเป็ นคูห่ มันกั ้ น แต่เธอก็ต้องสํานึก
ด้ วยสิวา่ เรื่ องแบบนี ้มันไม่ควรทํา”

เป็ นประโยคเจ็บแสบของพี่คินทร์ ทําเอาฉันถึงกับตวัดสายตาขึ ้นมาจ้ อง


กับเขาตรงๆ สายตาของพี่คินทร์ ม่งุ มัน่ เด็ดเดี่ยว แต่สายตาของฉันสัน่ ไหวไม่มนั่ คง
“นะ...นํ ้าจะไปอาบนํ ้าแล้ วค่ะ” พูดเพียงเท่านันฉั
้ นก็รีบดันร่างกาย
แข็งแกร่งออกจากตัวเองทันที

ร่างของพี่คินทร์ เซถอยหลังไปแค่ก้าวเดียว เขาสูดลมหายใจเข้ าปอด


ลึกๆหนึง่ รอบ ก่อนจะผ่อนออกมาแรงๆอีกหนึง่ รอบ ฉันมองเขาอย่างหวาดหวัน่ และ
รี บวิ่งเข้ าห้ องนํ ้าโดยไม่หนั ไปมองเขาอีก

เมื่อพ้ นจากรัศมีสายตาของคนตัวสูง ฉันถึงได้ ร้ ูว่าหัวใจของตัวเองตอนนี ้


เต้ นเร็วและรัวมากแค่ไหน นํ ้าใสๆเอ่อคลออยู่ที่ดวงตาทังสองข้
้ างของฉัน แต่มนั ไม่ใช่
การร้ องไห้ มันคือความตื่นเต้ นจนทําฉันนํ ้าตาไหลเลยต่างหาก

หนึง่ ชัว่ โมงผ่านไป

ฉันใช้ เวลาอาบนํ ้าประมาณสี่สิบนาที ส่วนอีกยี่สิบนาทียืนทําใจอยู่หน้ า


กระจกในห้ องนํ ้า หมู่นี ้ฉันคิดว่าพี่คินทร์ ดแู ปลกไปมาก เรื่ องทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉันดู
เหมือนจะเป็ นความหงุดหงิดและไม่ชอบใจของเขาไปซะหมด ซึง่ ฉันไม่แน่ใจเลยว่า
ตัวเองควรจะถามเขาออกไปตรงๆดีไหมว่าทําไมเขาถึงเป็ นแบบนี ้ แต่พอมาลองคิดอีก
ทีก็ไม่ถามน่าจะดีกว่า

ฉันมองตัวเองในกระจกที่ผมเปี ยกลูไ่ ปตามใบหน้ าและมีหยดนํ ้าไหลลง


ตามข้ างแก้ ม ฉันพยายามเฝ้าถามตัวเองมาตลอดว่าตอนนี ้ฉันกําลังทําอะไรอยู่
คําตอบที่ได้ รับกลับมามันมีแค่คําว่าไม่ร้ ูเต็มไปหมดในหัวสมอง
ฉันคือผู้หญิงที่เสียความบริ สทุ ธิ์จากความไม่ตงใจตัั ้ งแต่
้ อายุสิบแปด คนทัว่ ไปอาจ
มองว่าฉันเหลวแหลกทําตัวไม่ดี แต่ไม่ร้ ูสิ ใครไม่เป็ นฉันก็คงไม่เข้ าใจ ฉันไม่ได้ อยาก
ให้ เรื่ องแบบนี ้เกิดขึ ้นกับตัวเอง มีอะไรกันกับคนที่เราแอบชอบอยู่ฝ่ายเดียวทังๆที
้ ่อีก
ฝ่ ายไม่ได้ ร้ ูสกึ อะไรกับเราเลย แบบนี ้มันเป็ นความรู้สกึ ที่อธิบายออกมายากเหมือนกัน
นะ
จะว่าเจ็บก็ไม่ใช่ซะทีเดียว จะว่าไม่เจ็บเลยก็ไม่ถกู อีกเหมือนเดิม...
ฉันสูดลมหายใจเข้ าปอดลึกๆ ก่อนจะเอื ้อมมือไปหยิบผ้ าขนหนูมาเช็ดนํ ้าที่เกาะอยู่
ตามร่างกายออกและหยิบชุดนอนมาสวมใส่ตามปกติ จากนันจึ ้ งเอาผ้ าขนหนูอีกผืน
ห่อหุ้มผมที่เปี ยกนํ ้าเอาไว้ และหมุนตัวหันหน้ าไปทางประตูห้องนํ ้าและเปิ ดประตู
ออกไปเผชิญกับโลกแห่งความเป็ นจริ ง
สิ่งที่สายตาของฉันปะทะเข้ าเป็ นอันดับแรกคือดวงตาคมกริ บของพี่คินทร์ ที่นอนจ้ อง
ฉันอยู่บนเตียง ในมือของเขาถือโทรศัพท์มือถืออยู่ ดูเหมือนเขาจะเล่นเกมอีกแล้ ว

“พี่คินทร์ ไม่อาบนํ ้าเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามด้ วยนํ ้าเสียงปกติ ตัดความวุน่ วายใจจาก


เรื่ องทังหมดออกไป

“ยุ่งไรด้ วย!” และนัน่ แหละคือสิ่งที่ฉนั ได้ รับกลับมา


นํ ้าเสียงเข้ มของเขาที่แข็งกร้ าวไปในเชิงหงุดหงิด แต่ก็ดีหน่อยที่มนั ไม่ใช่การดุฉนั

“ไม่อาบนํ ้าระวังหนอนขึ ้นนะคะ” ฉันเอ่ยแซวขําๆ

“หล่อขนาดนี ้ หนอนที่ไหนจะกล้ าขึ ้น”


(=_=!) ว่าแล้ วเชียว... ไม่หลงตัวเองก็ไม่ใช่เขาสินะ

“ค่ะ” ฉันไม่ร้ ูว่าจะตอบอะไรกลับไปนอกจากคําว่า ‘ค่ะ’ แล้ วจริ งๆ

“ยัยอุ๋ง”

“…” ฉันค่อยๆหันไปมองเมื่อถูกเรี ยก ในขณะที่มือกําลังแขวนผ้ าเช็ดตัวที่เปี ยกนํ ้า


หมาดๆไว้ ที่ไม้ แขวนเสื ้อหน้ าตู้เสื ้อผ้ า

“มานี่หน่อยดิ๊” เขากวักมือเรี ยกฉันด้ วย

“…” ฉันเม้ มริ มฝี ปากแน่น ก่อนจะเดินเข้ าไปหาเขาอย่างจนใจ


ทันทีที่ก้นแตะถึงเตียง คนตัวสูงก็ยื่นโทรศัพท์ที่ค้างหน้ าเกมเกมหนึง่ มาให้ ฉันเงยหน้ า
มองใบหน้ าหล่อเหลานันอย่้ างไม่เข้ าใจนัก

“เล่นให้ หน่อยดิ จะไปอาบนํ ้า”

“o[]o” และนี่คือหน้ าตาของฉันหลังจากที่พี่คินทร์ ยดั โทรศัพท์มือถือที่ขึ ้นหน้ าเกม


ของเขาใส่มือไว้ ให้
เขายักคิ ้วหนึง่ ที จากนันก็
้ เดินตรงไปยังตู้เสื ้อผ้ า หยิบเสื ้อผ้ าและผ้ าเช็ดตัวเดินเข้ า
ห้ องนํ ้าไป แต่ก่อนที่จะปิ ดประตูห้องนํ ้าลง เสียงทุ้มยังตะโกนออกมาบอกแกมคําสัง่
อีก

“ฉันกําลังจะขึ ้นแรงค์คอน เพราะฉะนันเกมนี


้ ้ห้ ามแพ้ เข้ าใจ๊ ?” จากนันเขาก็
้ ปิด
ประตูห้องนํ ้าลง
“o[]o”
โทรศัพท์ของพี่คินทร์ ในมือฉันกําลังแผดเสียงเอฟเฟกต์ของเกมอย่างต่อเนื่อง หน้ าจอ
เกมตอนนี ้ขึ ้นว่า5vs5 ซึง่ น่าจะเป็ นโหมดที่เขากดเข้ ามาเล่นค้ างเอาไว้ ตอนนี ้มัน
กําลังโหลดอะไรก็ไม่ร้ ู คนแรกเต็ม100%แล้ ว คนที่สองเกือบเต็ม100% คนที่สาม
55% คนที่สี่ซงึ่ น่าจะเป็ นไอดีของพี่คินทร์ เพราะมันเขียนว่า KINN_King
ตอนนี ้โหลดเต็ม100%เรี ยบร้ อยแล้ ว ส่วนคนสุดท้ ายของทีมโหลดได้ 20%อยู่เลย ทีม
ฝั่ งตรงข้ ามเต็ม100%กันทุกคนแล้ ว

และปั ญหาใหญ่สําหรับฉันก็คือ... เกมนี ้มันเล่นยังไง?!

หลังจากโหลดเต็ม100%ครบทุกคน หน้ าจอของเกมก็ขึ ้นมาให้ ได้ ยลโฉม


องค์ประกอบโดยรวมคือมีแผนที่อยู่ด้านบนซ้ ายของหน้ าจอ ด้ านล่างขวามีวงกลมสี
ฟ้ารูปหมัดคล้ ายปุ่ มกดอยู่ และมีวงกลมอีกสามวงล้ อมรอบวงกลมสีฟ้านันอี
้ กที โดย
วงกลมสามวงนันจะมี
้ รูปแตกต่างกัน ซึง่ ฉันไม่ร้ ูเลยว่ามันหมายถึงอะไร
ตรงข้ างกันก็มีวงกลมอีกสามวงเช่นเดียวกัน แต่อนั นี ้จะวงเล็กกว่านิดหน่อย แถมยังมี
ตัวอักษรภาษาอังกฤษอยู่ด้านล่างของวงกลมอันเล็กนันด้ ้ วย วงกลมอันเล็กแรกเขียน
ว่า Recall วงกลมอันที่สองเขียนว่า Heal วงกลมอันที่สามเขียนว่า Sprint
เท่านันยั
้ งไม่หมด ยังมีสญ
ั ลักษณ์รถเข็นอยู่ด้านล่างของแผนที่ด้วย และสัญลักษณ์
ต่างๆที่กระจายอยู่เต็มหน้ าจอจนทําฉันตาลาย ด้ านล่างซ้ ายมีวงกลมสีนํ ้าเงินจางอยู่
ด้ วย อันใหญ่กว่าวงกลมในตอนแรกที่ฉนั เห็นอีก ตอนนี ้ตัวฮีโร่ในเกมเริ่ มเดินกัน
เรี ยบร้ อยแล้ ว
ยังไม่ทนั ที่ฉนั จะได้ ทําอะไร จู่ๆก็มีเสียงจากในเกมพูดขึ ้นมาด้ วยถ้ อยคําหยาบคายว่า
“ไอ้ เหี ้ยแวนมึงยืนนิ่งทําเชี่ยไรวะ มาช่วยเพื่อนตีป้อมดิสสั !”

“ละ...แล้ วแวนคือใครคะ” ฉันพูดโต้ ตอบกลับไป ในใจรู้สกึ หวาดหวัน่ เต็มพิกดั

“เฮ้ ย! ผู้หญิงนี่หว่า”

“คะ...คือมันเล่นยังไงคะ นํ ้าเล่นไม่เป็ น” สาบานว่าอีกนิดฉันจะร้ องไห้ แล้ วนะ

“เล่นไม่เป็ นน่าจะลงเล่นฝึ กกับบอทนะครับ ไม่น่ามาลงแรงค์เลย”

“นํ ้าโดนเจ้ าของไอดีบงั คับให้ เล่นค่ะ เขาไปอาบนํ ้าเลยให้ นํ ้าเล่นแทน” ฉันพูดเสียง


สัน่ พลางพยายามสูดลมหายใจเข้ าปอดลึกๆเพื่อผ่อนคลายอาการเกร็งของมือ

“เอางี ้ครับ คุณเล่นแครี่ ผมเล่นแทงค์ คุณเห็นวงกลมใหญ่ๆสีจางๆทางด้ านล่าง


ซ้ ายมือไหมครับ แตะลงไปมันจะเป็ นการเดินของฮีโร่ ส่วนวงกลมสีฟ้ารูปกําปั น้
ด้ านขวาคือปุ่ มยิงโจมตีฝ่ายตรงข้ าม สามปุ่ มล้ อมรอบคือสกิลต่างๆของตัวที่คณ ุ เล่น
อยู่ในตอนนี ้ คุณสามารถกดซื ้อไอเทมจากร้ านค้ าได้ ก็ต่อเมื่อคุณตีครี ปเพื่อเอาเหรี ยญ
ทองมาซื ้อ เอาเป็ นว่าคุณเดินตามตัวผมมาก็แล้ วกันครับ ไอดีผมชื่อ โคตรเซียนเก๋า
เกม”
คําอธิบายยาวเหยียดจากคนแปลกหน้ าในเกมทําให้ ฉนั กวาดสายตามองหาชื่อไอดี
ทันที จนในที่สดุ ก็เจอ หลังจากนันจึ้ งลองแตะนิ ้วลงไปบนวงกลมใหญ่สีจางด้ านล่าง
ซ้ ายดู ตัวฮีโร่ก็ค่อยๆเดินไปข้ างหน้ าตามทิศทางการบังคับของนิ ้วมือ

“แบบนี ้เหรอคะ”
“ครับ พวกเราทีมสีนํ ้าเงิน ส่วนฝั่ งตรงข้ ามทีมสีแดง คุณเห็นไอ้ พวกครี ปตัวเล็กๆที่เดิน
เข้ ามาไหมครับ ไอ้ ตวั สีแดงๆเล็กๆอ่ะ ลองกดที่วงกลมสีฟ้ารูปกําปั น้ เพื่อยิงดูครับ ”
ฉันเพ่งสายตามองวงกลมสีฟ้ารูปกําปั น้ ตามคําแนะนําของโคตรเซียนเก๋าเกม ลองกด
ดูจึงรู้ว่ามันสามารถยิงได้ พอตัวครี ปที่ว่าตาย มันก็มีเหรี ยญทองกระเด็นออกมา ที่รูป
รถเข็นก็ขึ ้นไอเทมกรอบสีทองมาให้

“ยิงแล้ วค่ะ”

“ทีนี ้กดซื ้อไอเทมได้ แล้ วครับ ไอ้ ที่มนั เด้ งขึ ้นมาตรงรูปรถเข็นนัน่ แหละครับ กดไปเลย
กดอะไรก็ได้ ”

“กดแล้ วค่ะ” ฉันกดซื ้อไอเทมตามคําบอกเรี ยบร้ อยแล้ ว

“ทีนี ้ลองตีครี ปเอาเหรี ยญเพื่ออัพสกิลดูนะครับ”


พอลองตีครี ปไปเรื่ อยๆ ตรงวงกลมสามวงที่ล้อมรอบอยู่ก็ขึ ้นคล้ ายกับเครื่ องหมาย
บวกขึ ้นมาสองวง ฉันลองกดดูทนั ที วินาทีนี ้กดอะไรได้ ก็กด เพราะปลายทางคือฉัน
ต้ องชนะเท่านันถู
้ กไหม ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ วด้ วย

“อัพสกิลแล้ วค่ะ”

“ทีนี ้คุณเดินตามผมมา จําไว้ ว่าแค่กดยิงฝ่ ายตรงข้ ามและรักษาพลังชีวิตไม่ให้ หมดก็


พอครับ ที่เหลือผมกับเพื่อนจะจัดการเอง”
ผมกับเพื่อนเหรอ แสดงว่าเขาไม่ได้ เล่นคนเดียวสิแบบนี ้ มีเพื่อนของเขาอยู่ในเกมด้ วย
สินะ

“ดะ...ได้ ค่ะ” ฉันตอบตกลงและเริ่ มเดินตามเขาไป


จากนันเสี
้ ยงพูดคุยในเกมก็เริ่ มมีมากขึ ้นเรื่ อยๆ

โอเค ตามก็ตาม เฮ้ อ... (=_=!)


KINN Talks.
สามสิบนาทีผ่านไป
ผมเดินออกมาจากห้ องนํ ้า ก่อนที่สายตาของตัวเองจะเบนไปมองยัยอุ๋งที่นงั่ หน้ าดํา
ครํ่ าเครี ยดกดโทรศัพท์ของผมยิกๆอยู่ที่เตียง ที่มมุ ปากของตัวเองยกยิ ้มขึ ้นโดยไม่ร้ ูตวั
สัง่ อะไรก็ทํา ว่าง่ายเหมือนกันนี่

“เป็ นไงบ้ างยัยอุ๋ง!” ผมขึ ้นเสียงใส่จนเธอสะดุ้งเล็กน้ อย


แต่ถึงอย่างนันความสนใจของยั
้ ยอุ๋งก็ไม่ได้ พ่งุ ตรงมาที่ผมเลย เธอเอาแต่จดจ่ออยู่กบั
เกมที่ผมบังคับให้ เล่นก่อนจะไปอาบนํ ้า ก่อนที่เสียงเล็กจะตอบกลับมาด้ วยความ
จริ งจัง

“พี่คินทร์ อย่าเพิ่งกวนนํ ้าได้ ไหมคะ นํ ้ากําลังตีป้อมอยู่!”


“…”
เล่นไปแค่แป๊ บเดียว รู้จกั คําว่าตีปงตีป้อมกับเขาด้ วย?
“ป้อมด้ านนอกเหลือแค่ป้อมเลนกลางป้อมเดียวแล้ วค่ะ เดี๋ยวก็ตีป้อมใหญ่ได้ แล้ ว ”
เป็ นเอามากจริ งๆ นี่ผมไม่ได้ กําลังชักนํายัยอุ๋งให้ กลายเป็ นเด็กติดเกมใช่ไหมครับ

“กดออกได้ แล้ วน่า... ช่างหัวเกมมันเถอะ” ผมว่าพลางเดินไปพาดผ้ าเช็ดตัวที่เปี ยก


นํ ้าหมาดๆตากไว้ ที่ไม้ แขวนเสื ้อหน้ าตู้เสื ้อผ้ าหลังโต

“ไม่ได้ ค่ะ ใกล้ จะชนะแล้ วนะคะ” ยัยอุ๋งหันมาพูดกับผมด้ วยท่าทางจริ งจัง สีหน้ าของ
เธอบ่งบอกได้ เป็ นอย่างดีวา่ ตอนนี ้ซีเรี ยสกับเกมมากแค่ไหน

“…”
“ชนะแล้ วค่ะ!” พอกําลังจะก้ าวเท้ าเข้ าไปหา ยัยอุ๋งก็ตะโกนขึ ้นมาเสียงดังจนทําเอา
ผมสะดุ้ง
คิ ้วผมขมวดมุ่น พลางสาวเท้ าจํ ้าอ้ าวเข้ าไปหายัยอุ๋งและยึดโทรศัพท์ของตัวเอง
กลับคืนมา สิ่งที่อยู่บนหน้ าจอทําให้ ผมตกตะลึงยิ่งกว่าอะไรดี

KINN_King ได้ รับ MVP ผู้ชนะ!

“เฮ้ ย!” ผมอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“…” ก่อนจะหลุบตาลงมองยัยอุ๋งที่นงั่ กะพริ บตาปริ บๆอยู่บนเตียง

“เธอเล่นได้ MVPผู้ชนะเลยเหรอวะอุ๋ง”

“MVPผู้ชนะคืออะไรคะ” ยัยอุ๋งเอียงคอนิดหน่อย พลางเอ่ยปากถาม


“เป็ นไปได้ ไงวะ ใครสอนเธอ”

เป็ นไปไม่ได้ หรอก เธอไม่เคยแตะเกมมาก่อน จู่ๆจะมาได้ MVPฝั่ งผู้ชนะได้ ยงั ไงกัน


ผมว่าต้ องมีคนสอนเธอเล่นแน่นอน ไม่งนคงไม่
ั้ เซียนเกมขนาดนี ้แน่

“ไอดีโคตรเซียนเก๋าเกมค่ะ เขาพูดแนะนํานํ ้าตลอดทังเกมเลย


้ แถมเขากับเพื่อนใน
เกมยังคอยช่วยนํ ้าตลอดเลยด้ วย นํ ้าไม่ตายเลยใช่ไหมคะ” นัน่ ไง
ยังไม่ทนั ที่ผมจะได้ กดปุ่ มโฮมเพื่อเข้ าสูห่ น้ าจอหลักของโทรศัพท์ จู่ๆก็มีข้อความส่งมา
ในเกมROV และที่สําคัญเป็ นไอดีของไอ้ โคตรเซียนเก๋าเกมที่ยยั อุ๋งเพิ่งจะพูดถึงไป
หยกๆเมื่อกี ้ด้ วย

‘ขอไลน์หน่อยได้ ไหมครับคุณ เล่นครัง้ หน้ าจะได้ ชวนเล่นด้ วย เดี๋ยวผมกับเพื่อนกันให้


เหมือนเดิม’
ประโยคที่สง่ มาทําให้ หวั ผมรู้สกึ ถึงไอความร้ อนบางอย่างที่กําลังพวยพุ่งขึ ้นที่หวั ผม
รี บกดพิมพ์ตอบกลับไป

‘ขอโทษครับ ผมเป็ นเจ้ าของไอดีเกม คนที่เล่นกับคุณก่อนหน้ านี ้เป็ นเมียผมเองครับ


^^’
พอพิมพ์ตอบกลับไป ก็ไม่มีข้อความอะไรตอบกลับมาอีกเลย หึ!

“ฮ็อตแม้ กระทัง่ ในเกมนะยัยอุ๋ง ต่อไปนี ้ฉันคงต้ องจ้ างคนเฝ้าเธอแล้ วมัง”


“หมายความว่ายังไงคะ” เสียงถามไร้ เดียงสาของเธอทําให้ สติผมแทบแตกกระเจิง


“ยังจะมาทําหน้ าซื่อตาใสอีก!”
“…”
“ไปเอาไดร์ มาเป่ าผมให้ ฉนั เลย!” ผมออกคําสัง่ โยนโทรศัพท์ลงไปข้ างหมอน และ
ทิ ้งตัวลงนอนควํ่าหน้ าบนเตียง

“ค่ะ” ยัยอุ๋งตอบรับเสียงเบา ก่อนจะลุกออกไป


เธอกลับมาพร้ อมกับไดร์ เป่ าผมในมือ ผมรี บเด้ งตัวลุกขึ ้น และนัง่ หันหลังให้ เธอทันที

“เป่ าดีๆนะเว้ ย เส้ นผมทุกเส้ นบนหนังหัวฉันมีค่านะ เสียหายไปนี่หมดหล่อ ”

“รู้แล้ วค่า~” ยัยอุ๋งลากเสียงยาว ก่อนจะกดเปิ ดไดร์ จ่อมันเข้ ามาที่หวั ของผม

“เล่นเก่งขนาดนี ้ คราวหน้ าเธอก็เล่นให้ ฉนั อีกเรื่ อยๆเลยดีไหมอุ๋ง” ผมลองถามหยัง่


เชิง อยากรู้เหมือนกันว่าคําตอบของเธอจะเป็ นอะไร

“ได้ เหรอคะ” เป็ นคําถามกลับที่ฟังจากนํ ้าเสียงแล้ วทังตื


้ ่นเต้ นและดีใจมาก
และอย่าหวังว่าผมจะทําให้ ความหวังของเธอสัมฤทธิ์ผล ไม่มีทาง...

“ไม่” ผมเอ่ยปฏิเสธตัดหนทางเธออย่างไร้ เยื่อใย

ให้ ไปเล่นเกมแล้ วก็ตกมาผู้ชายกลับมาเป็ นขบวนน่ะเหรอ อย่าได้ หวังเลย!

“แล้ วพี่คินทร์ จะถามนํ ้าทําไมคะ” นํ ้าเสียงที่ตอบกลับมาหลังการปฏิเสธของผม


เหมือนกับกําลังน้ อยใจไม่มีผิด
“ปั จจุบนั แค่เธอไปไหนมาไหนก็มีผ้ ชู ายโดนตกเป็ นโขยงแล้ ว ขืนให้ เธอไปเพ่นพ่านใน
เกม ไอดีฉนั คงต้ องตอบแชททุกวันจนมือเป็ นระวิงแน่!”

ตอบคําถามที่หลายคนสงสัยค่า ^^
สําหรับบางคนที่สงสัยว่าทําไมเราถึงเลือกแวนให้ มาโผล่ในเกม เราจะขออธิบายดังนี ้
ค่ะ

เราคิดว่าแวนไม่ได้ กากเลยค่ะ 555555 อีกอย่างคือการเล่นrovต้ องอาศัยทีม


เวิร์คและมีนํ ้าใจนักกีฬาค่ะ อีคนบ้ าเกมอย่างตาคินทร์ แน่นอนว่านางต้ องเล่นมาแล้ ว
จนชํานาญทุกตําแหน่ง ไม่วา่ จะเมจ แอสซาซิน ไฟต์เตอร์ แทงค์หรื ออื่นๆ อีกทังระดั ้ บ
ไดม่อน5ขึ ้นไปจะมีระบบสําหรับแบนฮีโร่จากฝ่ ายตรงข้ ามด้ วย เราคิดว่าฝ่ ายตรงข้ าม
คงคิดไม่ถึงว่าอีพี่จะเอาแวนมาลงด้ วยค่ะ เพราะหลายคน(ส่วนมาก)คิดว่าแวนกาก
ดังนันที
้ มฝ่ ายตรงข้ ามน่าจะเลือกแบนฮีโร่ที่คิดว่าอีกฝ่ ายจะนํามาลงแรงค์ ซึง่ แวนคง
ไม่อยู่ในความคิดของเขา ในเกมเราก็เจาะจงเขียนให้ มีแทงค์ด้วย2ตัว คือไอดีโคตร
เซียนเก๋าเกมและเพื่อนของเขา ถ้ าตัวแวนไปยืนผิดที่ผิดทาง แน่นอนว่าตายค่ะ
555555555 แต่ถ้ายืนถูกตําแหน่ง รู้จงั หวะหลบหลีก ไม่โดนล่อง่าย รู้จกั ลาส(อัน
นี ้ไม่แนะนํานะคะ อาจโดนเพื่อนในเกมด่าได้ 55555) เราคิดว่าแวนคือตัวเทพ
ระดับหนึง่ เลยค่ะ เราถึงเลือกให้ มีสกิลSprintสําหรับวิ่งหนีให้ แวนในเกมด้ วย
สําหรับชุดไอเทม แน่นอนว่าก่อนเล่นพี่มนั ต้ องเซ็ตไว้ ให้ น้องอุ๋งก่อนอยู่แล้ ว อีกทังรู้ น
ยังไงมันก็ต้องใส่ไว้ ก็แค่ให้ น้องอุ๋งเล่นแทนเท่านันเอง

อย่างที่เห็นว่าตอนอออกจากห้ องนํ ้ามา นางก็มาบอกให้ น้องอุ๋งกดออกได้ เลยทังๆที
้ ่
เกมยังไม่จบ แสดงว่านางแค่อยากแกล้ งน้ องอุ๋งเท่านันเองค่
้ ะ 555555 นางไม่ได้
ให้ น้องอุ๋งเล่นจริ งจังขนาดนัน้

อันนี ้เป็ นความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะคะ เราก็เคยเล่นมาบ้ าง แต่ไม่ได้ เล่นเก่ง


อะไร ไม่ร้ ูว่าคนอื่นคิดเห็นยังไงบ้ าง ยังไงลองทิ ้งคอมเมนต์ไว้ ได้ นะคะ มาแลกเปลี่ยน
กัน ^^
------------------------
MAWNUM Talks.
หลังจากเป่ าผมให้ พี่คินทร์ กบั ตัวเองจนแห้ งเสร็จเรี ยบร้ อย ฉันก็ต้องมา
นัง่ ตอบแชทเคทที่สง่ มารัวๆอีก ส่วนพี่คินทร์ ก็นงั่ เล่นเกมของเขาต่ออยู่บนเตียง

เคท : แกปลอดภัยครบ32ใช่ไหมไอ้ นํ ้า

เคท : ตอบสิเว้ ย!

เคท : เงียบแบบนี ้ฉันใจคอไม่ดีนะ

เคท : แกคงไม่ได้ โดนพี่คินทร์ มนั จิ ้มรอบสองใช่ไหมนํ ้า

เคท : ไอ้ นํ ้า!!!!


ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นข้ อความของเคทที่สง่ มา แต่ละ
ประโยคของเธอทําให้ ฉนั ถึงกับต้ องยกมือขึ ้นนวดคลึงขมับของตัวเองเพื่อให้
เส้ นประสาทค่อยๆผ่อนคลาย

แมวนํ ้า : นํ ้าไม่เป็ นไร

แมวนํ ้า : พี่คินทร์ ไม่ได้ ทําอะไรนํ ้าหรอกเคท

แมวนํ ้า : นํ ้าสบายดี ไม่ต้องห่วงนะ ^^

เคท : ถ่ายรูปมา!

ยังไม่ถึงนาทีด้วยซํ ้าที่ฉนั กดส่งข้ อความไปหาเคท เธอตอบกลับมาทัน


ควันราวกับจ้ องแชทฉันอยู่เลยว่าฉันจะว่างตอบเมื่อไหร่

ฉันยกโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ ้นมาถ่ายรูปเซลฟี่ ชสู องนิ ้ว จากนันก็



กดส่งไปให้ เคทตามคําขอ(แกมคําสัง่ )ของเธอ

แมวนํ ้า : ส่งรูปภาพ...

แมวนํ ้า : พอใจยังงงงง

เคท : ใจหายหมด นึกว่าโดนพี่คินทร์ มนั เจาะไข่แดงรอบสองไปแล้ ว

ประโยคถัดมาของเคททําให้ สองข้ างแก้ มของฉันร้ อนผ่าวขึ ้นมาอย่าง


ห้ ามไม่อยู่ ฉันเหลือบตาไปมองพี่คินทร์ แว๊ บหนึง่ จากนันก็
้ เม้ มริ มฝี ปากแน่นและพิมพ์
ตอบเคทกลับ
แมวนํ ้า : จะบ้ าเหรอ!

เคท : ยังอยู่ครบ32ก็โอเคแล้ ว

เคท : สามทุ่มกว่าแล้ ว แกนอนเหอะ ฉันก็จะนอนละ

แมวนํ ้า : โอเค ฝั นดีนะ

เคท : ฝั นดีๆ

สิ ้นสุดบทสนทนาอันสันระหว่
้ างฉันกับเคท ฉันก็กดออกจากแชทเม
สเซนเจอร์ ก่อนจะหันไปมองพี่คินทร์ ที่เอาแต่เล่นเกมอย่างจริ งจังจนหัวคิ ้วเข้ มขมวด
ชนกันยุ่งเหยิง

“พี่คินทร์ คะ นํ ้าง่วงแล้ ว” ฉันเอ่ยเรี ยกชื่อเขาเบาๆ จากนันก็


้ บอก
จุดประสงค์ของตัวเองไป

พักนี ้ฉันกับพี่คินทร์ เราค่อนข้ างเคารพสิทธิระหว่างกันและกันมากขึ ้น


แต่ติดอย่างเดียวก็คือเขามักจะไม่ชอบให้ ฉนั ไปไหนมาไหนคนเดียวเท่าไหร่ เพราะเขา
กลัวจะเกิดเหตุการณ์ซํ ้ารอยอย่างตอนที่เขาพาฉันไปบาร์ ครัง้ นัน้ ดังนันถ้
้ าฉันไปไหน
จะต้ องมีใครสักคนที่ไว้ ใจได้ ไปด้ วย

“ฉันยังเล่นเกมไม่จบ” เสียงทุ้มพึมพําตอบ
“…”
“เธอนอนที่โซฟาไปก่อนก็แล้ วกัน ถ้ าฉันเล่นเสร็จแล้ วเดี๋ยวปลุกเอง”
เมื่อได้ ยินอย่างนัน้ ฉันก็ทําอะไรไม่ได้ นอกซะจากล้ มตัวนอนลงบน
โซฟา เขาเป็ นแบบนี ้ประจํานัน่ แหละ เล่นเกมจนดึกดื่น ฉันยังรู้สกึ แปลกใจไม่หายเลย
ว่าเล่นเกมจนดึกดื่นขนาดนัน้ เขาตื่นไปเรี ยนทันเวลาได้ ยงั ไง ไม่ง่วงหรื อไงกัน

KINN Talks.
00 : 31 น.

ผมเหลือบตาไปมองเวลาที่ด้านบนของจอโทรศัพท์ ก่อนจะยกมือข้ าง
หนึง่ ขึ ้นขยี ้ตาตัวเองเบาๆเนื่องจากตอนนี ้เริ่ มล้ าสายตาแล้ ว ผมหันไปมองยัยอุ๋งที่นอน
หลับปุ๋ยอยู่บนโซฟา รู้สกึ อิจฉาเธออยู่เหมือนกัน ไม่วา่ ผมจะเล่นเกมเสียงดังแค่ไหน
เธอก็ยงั หลับลง

นิ ้วข้ างหนึง่ ของตัวเองกดออกจากเกม วางโทรศัพท์ไว้ ข้างหมอน ขยับ


กายลงจากเตียงและเดินตรงไปหายัยอุ๋ง ขาทังสองข้ ้ างค่อยๆย่อลงข้ างโซฟาตัวยาว
ยัยอุ๋งกําลังนอนหลับอยู่ แถมหลับสนิทด้ วย

ใบหน้ ายามหลับของเธอไม่ตา่ งอะไรกับเด็กอนุบาลที่ต้องนอนกลางวัน


หลังกินข้ าวเสร็จ มันดูน่ารักผสมกับน่าเอ็นดู โดยเฉพาะแก้ มป่ องๆของเธอที่ทําให้ ผม
อยากจะยื่นมือไปหยิกให้ ร้ ูแล้ วรู้รอด ลมหายใจของยัยอุ๋งผ่อนเข้ าออกอย่างสมํ่าเสมอ

“อุ๋ง...” ผมเอ่ยเรี ยกเธอ พลางยื่นมือไปเขย่าร่างกายของเธอเบาๆ


เพื่อให้ เธอตื่น
“…” ไร้ เสียงตอบรับกลับมาจากร่างเล็กตรงหน้ า มีเพียงแค่การขยับ
ร่างกายยุกยิกราวกับรํ าคาญเท่านัน้

“ถ้ าไม่ตื่นฉันจะปล่อยให้ นอนอยู่ตรงนี ้นะ” ผมก้ มลงไปกระซิบขู่ที่ข้าง


ใบหูเล็ก

“อื ้อ...” แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ ้นนอกจากเสียงครางงึมงําของเธอ

“…” ผมขมวดคิ ้วเมื่อได้ กลิ่นหอมบางอย่างโชยมาเตะจมูก

มันไม่ใช่นํ ้าหอมแบบที่ผ้ หู ญิงทัว่ ไปชอบใช้ แต่มนั เป็ นกลิ่นเหมือนแป้ง


เด็กมากกว่า

“...เหงา” เสียงพึมพําบางอย่างเล็ดลอดออกมา

ผมพยายามเงี่ยหูฟังเพื่อจะจับใจความจากประโยคพึมพําของเธอ แต่
มันก็ได้ ยินเพียงแค่คําว่า ‘เหงา’ เท่านัน้

“เธอพูดว่าอะไรนะ” ผมถามเธอ พร้ อมขยับใบหน้ าเขาไปใกล้ อีก


เล็กน้ อย จะได้ ฟังเสียงได้ ถนัดมากขึ ้น

“นํ ้าเหงา...”
“…”
‘นํ ้าเหงา...’ เหรอ
ผมผละออกมาเมื่อหูของตัวเองได้ ยินชัดเจนแล้ ว ยิ่งเพ่งมองใบหน้ าของ
เธอยามหลับมันก็ยิ่งรู้สกึ สงสาร ผมยอมรับว่าก่อนหน้ านี ้ผมไม่ได้ ร้ ูสกึ อะไรกับเธอเลย
และยังมองเธอว่าเป็ นตัวซวยอีกด้ วย แต่กบั ตอนนี ้มันแตกต่างจากตอนนันไปอย่ ้ าง
สิ ้นเชิง ผมรู้สกึ สงสารยัยอุ๋งที่เธอต้ องมาทนอยู่กบั ผม ชีวิตวัยรุ่นของเธอถูกจํากัด...

ในที่สดุ ผมก็ตดั สินใจไม่ปลุกเธอ ขืนปลุกให้ ตื่นขึ ้นมาก็จะเป็ นการ


รบกวนการนอนของเธอเปล่าๆ ในจังหวะที่กําลังจะขยับกายลุกขึ ้นเพื่อจะไปเอาผ้ าห่ม
บนเตียงมาห่มให้ เธอ แต่ทว่าแขนผมก็โดนคนตัวเล็กคว้ าเอาไว้ ซะก่อน

“อื ้อ...” แถมเธอยังเอามือผมไปวางกับแก้ ม แล้ วยังถูไถแก้ มนุ่มไปมา


บนฝ่ ามือผมอีกด้ วย

“…” สัมผัสอุ่นๆตรงฝ่ ามือทําให้ ผมพูดไม่ออก

ผมกระพริ บตาถี่ๆเพื่อเรี ยกสติของตัวเองกลับมา และพยายามจะดึงมือ


ออกจากการเกาะกุมของยัยอุ๋ง แต่ทว่ายิ่งดึงเท่าไหร่ ยัยอุ๋งก็ยิ่งกระชับแน่นขึ ้นเท่านัน้

“ฮื่อ...” คิ ้วเรี ยวขมวดเข้ าหากันและครางออกมาคล้ ายกับหงุดหงิด

แต่... หงุดหงิดอะไร! ผมต่างหากล่ะที่ควรต้ องหงุดหงิด

“ปล่อยได้ แล้ วน่า... ฉันจักจี ้นะเว้ ย”

“ไม่เอา...” นอกจากจะไม่ปล่อยให้ ผมเป็ นอิสระ ยัยอุ๋งยังส่ายหน้ าพรื ด


ทังๆที
้ ่ตายังหลับพริ ม้ อยู่
นี่ถ้าเธอไม่หลับจริ งๆ ผมจะคิดว่าเธอแกล้ งหลับเพราะหวังจะแต๊ ะอัง๋ ผม
แล้ วนะ

“แต๊ ะอัง๋ ฉันขนาดนี ้ จ่ายมาเลยสองล้ าน!”

“อือ...”

คุยกับคนนอนหลับ ผมบ้ าหรื อเปล่าวะเนี่ย!

ในเมื่อเธอไม่ยอมปล่อย ทางเดียวที่ทําได้ ก็มีแต่ต้องอุ้มไปนอนที่เตียง


เท่านัน้ ผมย่อตัวลง ดึงมือของตัวเองออกมา ค่อยๆช้ อนตัวยัยอุ๋งขึ ้นมาจากโซฟาและ
เดินตรงไปที่เตียง ระหว่างนันเธอก็
้ เอาหน้ าถูไถกับหน้ าอกผมไปมาราวกับเป็ นหมอน
ชันเลิ
้ ศ แต่ขอเถอะ ช่วยถูตรงอื่นที่มนั ไม่ใช่หน้ าอกได้ ไหมวะ แบบนี ้มันเสียวนะเว้ ย !

พอเดินมาถึงเตียง ผมก็ค่อยๆวางร่างเล็กของยัยอุ๋งลงบนเตียงอย่างเบา
มือ ก่อนจะล้ มตัวลงนอนข้ างๆเธอ

หมับ!

และในจังหวะที่ตาผมปิ ดลงยังไม่ถึงเสี ้ยววินาที จู่ๆก็ต้องเบิกโพลงขึ ้น


อีกครัง้ อย่างตกใจเมื่อวงแขนเล็กตวัดมาโอบรอบต้ นคอผมและดันตัวเองเข้ ามาใกล้ ๆ

ลมหายใจสมํ่าเสมอของยัยอุ๋งเป่ ารดอยู่ที่ต้นคอของผมเบาๆ มันให้


ความรู้สกึ อุ่นๆปนจักจี ้นิดหน่อย ผมหลุบตาลงมองยัยอุ๋งที่จ่ๆู ก็โอบกอดกันแบบไม่มีปี่
มีขลุย่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักหน่วงเมื่อทําอะไรต่อไม่ได้ จะขยับร่างกายของ
ตัวเองให้ ออกมาก็ไม่ได้ จะปลุกเธอให้ ตื่นขึ ้นมาทังๆที
้ ่ยงั หลับสนิทก็ไม่ดี ทําอะไรไม่ได้
เลย...

MAWNUM Talks.
แสงสว่างที่แยงตาทําให้ ฉนั ต้ องขมวดคิ ้วมุ่น ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ ้นช้ าๆ
สิ่งแรกที่สายตาอันพร่าเบลอหลังตื่นนอนเห็นคือ...

เฮือก...

ฉันรี บเงยหน้ าขึ ้นมองทันที ริ มฝี ปากของพี่คินทร์ อยู่ชิดกับหน้ าผากฉัน


เลย แถมแขนของเขายังโอบรอบเอวฉันอย่างแน่นหนาด้ วย

ฉันกัดริ มฝี ปากตัวเองแน่นอย่างไม่ร้ ูจะทํายังไงกับสถานการณ์นี ้ดี พี่คิ


นทร์ ยงั คงนอนหลับอยู่ จะปลุกเขาให้ ตื่นขึ ้นมาก็ใช่เรื่ อง แต่เราจะอยู่ในท่าทางแบบนี ้
ไม่ได้ มันอันตรายต่อหัวใจของฉันเป็ นอย่างมาก

ในขณะที่กําลังระดมสมองคิดหาทางออก จังหวะนันความคิ ้ ดอย่างหนึง่


ก็แทรกเข้ ามาในหัวฉัน ฉันช้ อนตาขึ ้นมองพี่คินทร์ อีกรอบเพื่อให้ แน่ใจว่าเขาหลับสนิท
อยู่จริ งๆ จากนันก็
้ ค่อยๆยกนิ ้วชี ้ขึ ้นมาและจิ ้มลงไปบนอกแกร่งแน่นปึ ก้ ของเขาสาม
ครัง้ ติดต่อกัน

จึกๆๆ

และหลับตาลงเพื่อให้ แผนการแนบเนียนที่สดุ เท่าที่จะทําได้


“อือ...” เสียงทุ้มครางออกมาอย่างหงุดหงิด พลางขยับตัวเล็กน้ อย

แต่ทว่าก็ยงั ไม่มีทีท่าว่าเขาจะตื่นขึ ้นมาเลย ดังนันฉั


้ นจึงจิ ้มนิ ้วลงไปบน
ตําแหน่งเดิมอีกสามครัง้

จึกๆๆ

“…” แต่คราวนี ้กลับมีเพียงแค่เสียงถอนหายใจแรงๆของพี่คินทร์ ที่


ผ่อนออกมาจนเป่ ารดหน้ าผากฉันแทน

เอาไงดีๆๆๆ ฉันควรต้ องทํายังไงดี

จึกๆๆ

“อะไรวะ!” เมื่อได้ ยินเสียงของพี่คินทร์ พดู ออกมา ฉันก็หลับตาลงทันที

เนียนไหมนะ ขออย่าให้ เขาจับได้ เถอะ

เงียบกริ บ...

ทุกอย่างรอบตัวเงียบกริ บไปหมด ไม่มีแม้ กระทัง่ เสียงลมหายใจจากคน


ตัวสูง ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ฉันค่อยๆลืมตาขึ ้นข้ างหนึง่ แต่กลับเป็ นจังหวะเดียวกัน
กับที่พี่คินทร์ ก็ลืมตาขึ ้นมาพอดี เลยกลายเป็ นว่าตอนนี ้เราสบตากันเข้ าให้ แล้ ว

แต่มนั จะดีกว่านี ้มาก ถ้ าสายตาของพี่คินทร์ ที่มองมาตอนนี ้ไม่ได้ ดดุ นั


เหมือนกําลังจะหัน่ ฉันเป็ นชิ ้นๆราวกับผักปลาแบบนี!้
---------------------------
“คะ...คือ” ฉันอํ ้าอึ ้งทําอะไรไม่ถกู ได้ แต่หลุบตาลงมองหน้ าอกของพี่คิ
นทร์ แทนในยามที่เขามองจ้ องมา

“จิ ้มไรนักหนา รู้ไหมคนกําลังนอน!” เสียงเข้ มแกมดุดนั ถูกส่งผ่าน


ออกมาจากลําคอแกร่ง

“นะ...นํ ้าตื่นแล้ ว นํ ้าก็แค่จะลุกไปแปรงฟั น” ฉันช้ อนตาขึ ้นมองเขา


อย่างหวาดๆ พร้ อมกับพูดเสียงอู้อี ้ในลําคอ

“ก็ลกุ ไปสิ ไม่ได้ เกาะขาเธอไว้ สกั หน่อย”

ไม่ได้ เกาะขาน่ะใช่ แต่เขาเกาะเอวฉันไว้ นี่นา...

“กะ...ก็พี่คินทร์ เกาะเอวนํ ้าเอาไว้ นี่คะ นํ ้าลุกไม่ได้ ” ฉันลดสายตาลง


มองฝ่ ามือใหญ่ที่วางแหมะอยู่บนเอวของตัวเอง จากนันก็ ้ ช้อนตาขึ ้นมองพี่คินทร์ อีก
ครัง้ เพื่อเตือนให้ เขาดูว่าตําแหน่งที่วางมือของเขามันอยู่บนเอวฉันจริ งๆ

พอพี่คินทร์ ลดสายตาลงมองตําแหน่งมือของตัวเอง เขาก็รีบเอามือ


ออกไปทันที

“แค่กๆๆ” ก่อนจะไอออกมาเสียงดัง

หลังจากนันพี้ ่คินทร์ ก็หมุนตัวกลับไปนอนตะแคงอีกฝั่ งแทน ฉันได้ แต่


มองแผ่นหลังกว้ างอย่างไม่เข้ าใจนัก ที่ไอเมื่อกี ้หมายถึงกําลังป่ วยอยู่หรื อเปล่านะ
“พี่คินทร์ ป่วยหรื อเปล่าคะ” ฉันถามออกไปอย่างห่วงใย พลางเอื ้อมมือ
ไปแตะที่แขนของเขาเบาๆเพื่อจะตรวจว่าอุณหภูมิร่างกายของพี่คินทร์ เป็ นแบบไหน

พรึ่บ!

แต่ปฏิกิริยาของพี่คินทร์ กลับทําฉันสะอึกไปหนึง่ ครัง้ เพราะเขาสะบัด


แขนออกจากการเกาะกุมของฉันไป ก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ยออกมาคล้ ายกับหงุดหงิด

“น่ารํ าคาญจังเธอเนี่ย!”
“…”
ฉันเม้ มริ มฝี ปากแน่นเพราะขอบตาที่เริ่ มร้ อนผ่าวขึ ้นเรื่ อยๆ ก่อนจะตัด
ใจลุกขึ ้นจากที่นอนและเดินลงจากเตียงไปหยิบผ้ าเช็ดตัวและเสื ้อผ้ าเข้ าห้ องนํ ้าไปโดย
ไม่พดู อะไรอีก

KINN Talks.
แรงไปเปล่าวะ...

ผมพลิกตัวเองกลับมานอนหงาย ก่อนจะหันไปมองทางประตูห้องนํ ้าที่


ยังปิ ดสนิทอยู่อย่างนันมาประมาณหนึ
้ ง่ ชัว่ โมงแล้ ว อยากจะยกมือขึ ้นตบปากตัวเอง
สักทีที่พดู พล่อยๆออกไปแบบนัน้ แต่อีกใจหนึง่ ก็คิดว่าทําไมตัวเองจะต้ องทําแบบนัน้
ด้ วยวะ เพราะทุกครัง้ คําพูดของผมก็ทําร้ ายจิตใจยัยอุ๋งเป็ นปกติอยู่แล้ ว ไม่เห็นจะต้ อง
สนใจเลยว่าเธอจะรู้สกึ ยังไง
“…” ผมเบะปากอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือจากข้ าง
หมอนขึ ้นมากดแชทหาไอ้ เฟี ยต

คินทร์ : วันนี ้ตลาดนัดมอไหม

ผมนอนเคาะนิ ้วลงกับที่นอนสองสามครัง้ เพื่อรอไอ้ เฟี ยตตอบกลับมา


แต่พอมันอ่านปุ๊ บ แทนที่มนั จะตอบกลับมาปั๊ บ กลับหายไปเฉยๆโดยไม่สนใจข้ อความ
ของผมสักนิด

คินทร์ : ไอ้ ห่าเฟี ยต!

คินทร์ : เอาใหญ่เลยนะมึงเดี๋ยวนี ้

คินทร์ : อ่านแชทเพื่อนแล้ วไม่ตอบนี่เก๋ามากมัง้

เฟี ยต : เก๋าไม่เก๋าก็เรี ยนเก่งกว่ามึง

เหมือนถูกค้ อนปอนด์ทบุ ลงกลางกบาลจนเกิดอาการน็อคหลังจากที่


ได้ รับข้ อความตอบกลับจากเพื่อนรักอย่างไอ้ เฟี ยต

เออ... ผมไม่เถียงหรอกว่ามันเรี ยนเก่งกว่า ไอ้ เวรตะไลนี่กวนประสาท


จริ งๆ ปกติผมจะต้ องเป็ นฝ่ ายกวนมันสิ แต่ทําไมเดี๋ยวนี ้มันกลายมาเป็ นฝ่ ายกวน
ประสาทผมแทนแล้ วล่ะ

คินทร์ : กูถามไรหน่อยดิ

คินทร์ : เวลาฟิ ล์มเหงานี่มงึ ทํายังไงให้ น้องหายเหงาวะ


เฟี ยต : พาไปเที่ยว ไปดูหนัง ไปเดต

พาไปเที่ยวพอได้ พาไปดูหนังก็ยงั โอเค แต่...ไปเดต? อย่างมันรู้จกั


เดต? WTF! โลกมันหมุนเร็วจนผมมึน...

คินทร์ : แค่นี ้เหรอวะ

คินทร์ : ทําไมมันดูไม่มีอะไรเลย นี่พวกมึงสองคนเป็ นแฟนกันจริ งๆไหม

เฟี ยต : ใช้ หวั ใจรัก ไม่ได้ ใช้ สิ่งของหรื อการพาไปนู่นไปนี่

ฉึก...

คําพูดของมันนับวันจะเฉียบคมขึ ้นทุกวันจนเสียบทะลุอกผมได้ แล้ วนะ


เอาจริ งๆ นับตังแต่
้ มีแฟนนี่เป็ นปราชญ์เรื่ องความรักขึ ้นเยอะมาก ทังๆที
้ ่นนั่ เป็ นความ
รักครัง้ แรกของมันด้ วยซํ ้า อกหักขึ ้นมาเมื่อไหร่ผมไม่ปลอบใจมันแน่คอยดู

เฟี ยต : ทําไม? น้ องแมวนํ ้าเหงา?

คินทร์ : เปล่า ไม่มีไร

ผมตอบปั ดไปกับความรู้ทนั อันแสนเฉลียวฉลาดของไอ้ เฟี ยต

เฟี ยต : ถ้ าน้ องเหงาก็พาไปเที่ยวตลาดนัดมอสิ

คินทร์ : เป็ นความคิดที่ดี

เฟี ยต : ยอมรับแล้ วล่ะสิมงึ หึ!


ผมเบิกตากว้ างทันทีหลังจากได้ รับข้ อความล่าสุดจากไอ้ เฟี ยตที่สง่ กลับ
มา ในที่สดุ ผมก็หลุดพิมพ์บอกมันไป บอกตรงๆว่าโคตรเหี ้ย...

คินทร์ : เออ แค่นี ้แหละสัส

ผมรี บกดออกจากแชททันทีก่อนที่ไอ้ เฟี ยตมันจะได้ พิมพ์อะไรไป


มากกว่านี ้ พลางปรายตาไปมองบานประตูห้องนํ ้าที่กําลังเปิ ดออกมา ยัยอุ๋งที่อยู่ใน
ชุดใหม่เดินออกจากห้ องนํ ้า เธอปรายตามามองผมแว๊ บหนึง่ ก่อนจะมองเมินผมไป

ผมขมวดคิ ้วให้ กบั ท่าทางแปลกๆของเธอ เป็ นอะไรอีกวะนัน่ ...

“อุ๋ง...” ผมเอ่ยเรี ยกคนตัวเล็กที่ยงั ยืนตากผ้ าเช็ดตัวที่เปี ยกเป็ นหย่อมๆ


กับไม้ แขวนเสื ้อหน้ าตู้เสื ้อผ้ า

“…” ไร้ เสียงตอบกลับจากเธอ

ทําหูทวนลมใส่ผมเหรอวะ

“ฉันเรี ยกเธอได้ ยินไหม” ผมเปล่งเสียงของตัวเองทักยัยอุ๋งไปอีกครัง้

“ได้ ยินค่ะ” กว่าจะตอบ

“แล้ วทําไมไม่ตอบ”

“ไม่อยากตอบ มีอะไรไหมคะ”
“O.O”
นี่ผมไม่ได้ หฝู าดใช่ไหมวะที่ได้ ยินยัยอุ๋งตอบกลับมาแบบนัน้ ถ้ าผมไม่ได้
หูฝาดไปจริ งๆ แล้ วที่ได้ ยินการตอบกลับฉบับไม่เกรงกลัวผมนัน่ คืออะไร นัน่ มันยัยอุ๋งที่
กลัวผมจนหัวหดเมื่อก่อนหน้ านี ้จริ งๆเหรอวะ

“นํ ้าจะไปกินข้ าว พี่คินทร์ จะฝากอะไรไหมคะ”

“ไม่ฝาก! ฉันจะไปด้ วย” ผมตอบกลับทันทีเมื่อเริ่ มมีนํ ้าโหขึ ้นมาบ้ าง


แล้ ว

“คนยังไม่อาบนํ ้าแปรงฟั น มีสิทธิ์ไปกินข้ าวทังอย่


้ างนันได้
้ ด้วยเหรอ
คะ” โอโห... เดี๋ยวนี ้หัดยอกย้ อน

“รอฉันแป๊ บหนึง่ อาบไม่เกินครึ่งชัว่ โมงหรอก”

“…” แล้ วเธอก็ไม่ตอบผมกลับมาอีกเลย

ให้ ตายสิวะ... ตอนนี ้ผมรู้สกึ เหมือนหัวตัวเองกําลังจะระเบิดแตก


ออกเป็ นเสี่ยงๆเลย รู้สกึ เหมือนโดนยัยอุ๋งปั่ นประสาทยังไงก็ไม่ร้ ู

ผมลุกจากเตียง เดินย่างสามขุมเข้ าไปหาคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงตู้เสื ้อผ้ า


สายตาเราประสานกัน เหมือนมีประกายไฟจากทังดวงตาของผมและยั
้ ยอุ๋งที่กําลังลุก
โชน ปกติเธอจะหลบตาไม่กล้ าจ้ อง แต่คราวนี ้ยัยอุ๋งกลับท้ าทายอํานาจมืดของผมโดย
การจ้ องตาผมกลับอย่างไม่ยอมแพ้ กนั อีกด้ วย

ได้ ... จะเอาอย่างนี ้ใช่ไหมอุ๋ง!


MAWNUM Talks.
ฉันมองตามหลังพี่คินทร์ ไปในตอนที่เขาหยิบผ้ าเช็ดตัวและเสื ้อผ้ าเดิน
เข้ าห้ องนํ ้า เมื่อกี ้ที่จ้องตากับเขาเป็ นเพราะฉันรู้สกึ น้ อยเนื ้อตํ่าใจหรื อเปล่าก็ไม่ร้ ูที่เขา
สะบัดแขนใส่ฉนั แบบนัน้ คนอุตส่าห์เป็ นห่วงกลัวว่าจะป่ วย แต่ดเู ขาสิ เขานี่มนั ใจร้ าย
ที่สดุ เลย

แล้ วเมื่อกี ้ว่าไงนะ จะให้ ฉนั รอไปกินข้ าวพร้ อมกันเหรอ เหอะ! ฉันไม่รอ
ให้ เสียเวลาหรอก อยากกินข้ าวก็เดินลงไปกินคนเดียวเถอะ ต่อไปนี ้ฉันจะไม่สนใจพี่คิ
นทร์ แล้ ว!

เมื่อคิดได้ ดงั นันฉั


้ นก็เดินไปหยิบเงินที่อยู่ในลิ ้นชักตรงโต๊ ะข้ างเตียง
ออกมา มันเป็ นเงินสํารองที่พ่อโอนให้ ฉนั ทุกอาทิตย์ ฉันเก็บเอาไว้ เพราะถ้ าเมื่อไหร่
ทะเลาะกับพี่คินทร์ ขึ ้นมา ฉันจะได้ พงึ่ พาเงินตัวเองโดยไม่ต้องให้ ใครเดือดร้ อนเหมือน
ตอนนันอี
้ ก

หลังจากได้ เงินเรี ยบร้ อย ฉันก็ปรายตาไปมองประตูห้องนํ ้าที่มีคนใจร้ าย


กําลังอาบนํ ้าอยู่ในนันก่
้ อนจะเบะปากให้ หนึง่ ครัง้ อย่างหมัน่ ไส้ จากนันก็
้ เดินสาวเท้ า
ออกจากห้ องไป

ฉันใช้ เวลาเดินมาร้ านข้ าวประมาณห้ านาทีเห็นจะได้ ก่อนจะกวาดตา


มองเมนูอาหารที่จะกิน หลังจากนันก็ ้ หยิบกระดาษมาเขียนชื่อ ‘ข้ าวผัด’ ลงไป และ
ยื่นให้ ป้าเจ้ าของร้ านพร้ อมกับส่งยิ ้มจริ งใจไปให้
ตอนนี ้เป็ นเวลาเช้ า ปกติร้านข้ าวจะไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ เพราะแถวนี ้มี
แต่คนที่เรี ยนมหาวิทยาลัยอาศัยอยู่ พวกเขาจะไม่นิยมกินข้ าวเช้ ากัน ซึง่ ฉันก็ไม่เข้ าใจ
เหมือนกันว่าทําไม ข้ าวเช้ ามีประโยชน์ต่อสมองมากเลยนะ วันไหนที่ฉนั ไม่ได้ กินข้ าว
เช้ ามันจะรู้สกึ สมองตื ้อๆตันๆคิดไม่ออก แต่อาจจะเพราะพวกเขาเรี ยนหนักหรื อเปล่า
ดังนันจึ
้ งอยากจะนอน ไม่อยากลุกขึ ้นมากินข้ าวเช้ ากัน

ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูยทู ปู ตามปกติ เพราะที่ห้องพี่คินทร์ ไม่มี


ทีวี ดังนันกิ
้ จวัตรประจําวันของฉันก็เลยเป็ นการเช็คข่าวจากเฟสบุ๊คและทวิตเตอร์
ส่วนดูหนังก็ต้องดูจากยูทปู ตามชาแนลต่างๆแทน

ในจังหวะที่กดเข้ ามาหน้ ายูทปู จู่ๆก็มีคลิปหนึง่ สะดุดตาฉันเข้ าอย่างจัง


เพราะความน่ารักจากปกคลิปทําให้ นิ ้วของฉันกดเข้ าไปดูอย่างไม่ร้ ูตวั มันเป็ นคลิป
ของสุนขั พันธุ์ซามอยด์ตวั สีขาวเหมือนหิมะที่กําลังอ้ อนเจ้ าของด้ วยกิริยาท่าทาง
น่ารักๆจนฉันอดอมยิ ้มตามอย่างห้ ามไม่ได้

อยากเลี ้ยงจังเลย...
ปึ ก!

เสียงทุบโต๊ ะด้ วยความรุนแรงประหนึง่ อยากจะพังมันให้ ราบเป็ นหน้ า


กลองดังขึ ้นด้ านหน้ าฉัน พร้ อมกับเสียงทุ้มแสนคุ้นเคยของใครบางคนก็ดงั ขึ ้นมาตาม
จนทําฉันสะดุ้งตกใจเกือบจะทําโทรศัพท์หล่นจากมือ

“บอกให้ รอทําไมไม่รอวะ!”
“พี่คินทร์ !!!” ฉันเอ็ดเขาเสียงดัง

“ทําไม!” ส่วนเขาก็ย้อนถามกลับเสียงดังอย่างไม่สะทกสะท้ าน
เช่นเดียวกัน

“สะกดคําว่า ‘มารยาท’ เป็ นไหมคะ” ฉันขมวดคิ ้วถามกลับเสียงเบา


แกมตําหนิ

“ไม่... ตกภาษาไทยตังแต่
้ ม.หนึง่ ” แล้ วก็ตามคาด กวนประสาท
เหมือนเดิมไม่มีผิด

และอย่าได้ สงสัยว่าทําไมป้าเจ้ าของร้ านถึงไม่ได้ ว่าอะไรเราสองคนเลย


เพราะฉันกับพี่คินทร์ เรามากินข้ าวเช้ าที่นี่กนั ประจําถ้ าไม่ได้ ออกไปกินข้ างนอก ป้า
เจ้ าของร้ านก็คงจะชินแล้ วกับพฤติกรรมการทะเลาะกันด้ วยเรื่ องเล็กน้ อยของฉันกับ
เขา แต่ฉนั ก็คิดว่ามันไม่เหมาะสมอยู่ดี เราอยู่ในพื ้นที่ร้านอาหาร ก็ไม่ควรเสียงดังจน
เกินเหตุ เพราะมันจะดูไม่มีมารยาทเอามากๆ

“สัง่ ข้ าวไปเลยค่ะ” ฉันหยิบใบเมนูที่วางอยู่บนโต๊ ะส่งให้ เขาอย่างไม่ใส่


ใจนัก

พอพี่คินทร์ รับไป ฉันก็กดดูคลิปเจ้ าสุนขั ซามอยด์คลิปต่อๆไปอีก

มันหยุดดูไม่ได้ เลยจริ งๆนะ ทังน่


้ ารักทังขี
้ ้อ้ อน แถมยังมีขนสีขาวน่ากอด
ด้ วย ปกติฉนั ชอบอะไรที่เป็ นสีขาวกับสีชมพูมาก เพราะมันให้ ความรู้สกึ หวานแหวว
สดชื่น และสงบไปในเวลาเดียวกัน
“ดูไรอ่ะ” พี่คินทร์ ถามพร้ อมกับชะโงกหน้ ามามองคลิปที่ฉนั ดูอยู่

“ดูซามอยด์ค่ะ!” ฉันกระแทกเสียงตอบกลับไป จากนันก็


้ ก้มหน้ าก้ ม
ตาดูคลิปต่อ

“ไอ้ หมาสีขาวๆนัน่ อ่ะเหรอ”

“ใช่คะ่ ” ฉันพยักหน้ ารับ ก่อนจะหันโทรศัพท์ของตัวเองไปให้ เขาดู


“น่ารักไหมคะ นํ ้าอยากเลี ้ยงมากเลย”

“ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหน” หลังจากได้ ดู พี่คินทร์ ก็เบะปากให้ กบั สุนขั


ซามอยด์ในคลิป ก่อนจะก้ มหน้ าเขียนเมนูอาหารของตัวเอง จากนันก็ ้ เอาไปให้ ป้า
เจ้ าของร้ าน และกลับมานัง่ ที่โต๊ ะพร้ อมกับพูดเข้ าข้ างตัวเองว่า “ฉันน่ารักกว่าไอ้ หมา
ตัวนี ้เยอะ เลี ้ยงฉันแทนก็ได้ นะ”

ฉันเงยหน้ าขึ ้นส่ายหัวให้ กบั พี่คินทร์ อย่างเอือมระอา ฉันไม่นกึ ฝั นเลยว่า


ผู้ชายที่ฉนั หลงรักมาตลอดจะเป็ นคนหลงตัวเองได้ ถึงขนาดนี ้ ภายนอกดูเหมือนพี่คิ
นทร์ จะเป็ นผู้ชายอบอุ่นอ่อนโยน ดูถ่อมตัว แต่พอมารู้จกั จริ งๆแล้ วนัน... ้ ละไว้ ในฐาน
ที่เข้ าใจก็แล้ วกัน

KINN Talks.
ตลอดเวลาที่นงั่ กินข้ าวด้ วยกัน ยัยอุ๋งเอาแต่นงั่ ดูคลิปสุนขั พันธุ์ซามอยด์
พร้ อมกับหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข ผมไม่เข้ าใจเลยว่าทําไมพวกผู้หญิงถึงได้ อิน
กับอะไรพวกนี ้นัก โดยเฉพาะสัตว์ที่เป็ นพวกแมวกับหมา ผมรู้สกึ ว่ามันโคตรน่า
รํ าคาญเลย

วันนี ้ผมมีเรี ยนตอนเย็น เป็ นวิชาเสรี บงั คับที่ต้องเลือกลง ตอนนี ้ก็เลยมี


เวลามากินข้ าวเช้ า ปกติผมไม่คอ่ ยกินข้ าวเช้ าหรอก เพราะไอ้ เฟี ยตมันไม่กิน ผมก็เลย
ติดนิสยั มันมาเพราะอยู่ห้องเดียวกันกับมันมาตลอด แต่พอมาอยู่กบั ยัยอุ๋ง ยัยอุ๋งกิน
ข้ าวเช้ าเป็ นประจํา และผมต้ องทําหน้ าที่มาคุมเธอกินข้ าว เพราะกลัวเธอจะได้ รับ
อันตรายอีก

เหตุการณ์ที่ยยั อุ๋งร้ องไห้ ตอนที่ไปบาร์ ครัง้ นันยั


้ งติดตาผมอยู่เลย นํ ้าตา
ท่วมหน้ า จมูกกับตาของเธอแดงไปหมด เห็นแล้ วโคตรสะเทือนใจในความรู้สกึ ของผม
และผมเพิ่งเคยเห็นยัยอุ๋งร้ องไห้ หนักขนาดนันเป็้ นครัง้ แรก

ในตอนที่เราพลาดมีอะไรกันเข้ า ตอนนันเธอก็
้ ยงั ไม่ร้องไห้ หนักขนาด
นันเลย...

“คิก...” เสียงหัวเราะเล็กแหลมที่ดงั ขึ ้นมา ทําให้ ผมช้ อนตาขึ ้นมอง


ก่อนจะส่ายหน้ าให้ กบั ความไร้ เดียงสาเป็ นเด็กของเธอ

พอนัง่ กินข้ าวไปสักพัก จู่ๆหูของผมก็ได้ ยินเสียงบางอย่างจากจิตใต้


สํานึกที่ดงั ก้ องขึ ้นมา ผมส่ายหน้ าแรงๆเพื่อสะบัดมันให้ หลุดพ้ นออกไปเมื่อคิดว่ามัน
คงไม่ดีเท่าไหร่แน่
แต่ไม่วา่ จะสะบัดยังไง ประโยคนันก็
้ ยงั ดังก้ องไปก้ องมาราวกับบูมเมอ
แรงอยู่ดี

ประโยคที่ว่า ‘น่ารักไหมคะ นํ ้าอยากเลี ้ยงมากเลย’

มหาวิทยาลัย

“มึงรู้จกั ร้ านขายหมาซามอยด์ในเชียงใหม่เปล่าวะไอ้ เฟี ยต” ผมเอ่ย


ถามไอ้ เฟี ยตที่นงั่ อ่านหนังสืออยู่ที่เก้ าอี ้ฝั่ งตรงข้ ามกัน

ตอนนี ้เราทังสองคนกํ
้ าลังรอเรี ยนคาบวิชาเสรี กนั อยู่ ซึง่ ผมกับมันเรี ยน
กันคนละวิชา แต่บงั เอิญได้ เรี ยนเวลาเดียวกันพอดี ก็เลยต้ องมานัง่ รอเวลาเรี ยนกัน
แบบนี ้ ไอ้ เฟี ยตก็เป็ นปกติของมันที่ต้องเอาหนังสือมาอ่านเพื่อไม่ให้ เวลาเสียไปโดย
เปล่าประโยชน์ ส่วนผมน่ะเหรอ... ตีป้อมROVสิครับจะรออะไร

“…” มันเงยหน้ าขึ ้นมองผม ก่อนจะส่ายหัวเบาๆแล้ วก้ มหน้ าก้ มตา


จดจ่ออยู่กบั หนังสือต่อ

“กูอยากซื ้อ ช่วยหาร้ านให้ หน่อยดิ” ผมยังคงรบเร้ ามันต่อ

“มีโทรศัพท์ก็เสิร์ชเอาเองดิวะ”

เออว่ะ ไม่น่าโง่ให้ มนั ด่าเลย ผมมีโทรศัพท์นี่หว่า...


ผมหยิบโทรศัพท์ออกมากดค้ นหาร้ านขายสุนขั พันธุ์ซามอยด์ใน
อินเตอร์ เน็ตพิกดั เชียงใหม่ ในที่สดุ ก็เจอแล้ วร้ านหนึง่ ผมยิ ้มออกทันที ก่อนจะลุก
พรวดขึ ้นจากเก้ าอี ้

“แล้ วนัน่ มึงจะไปไหน” เสียงของไอ้ เฟี ยตถามขึ ้นเมื่อเห็นว่าผมกําลังจะ


เดินไปจากตรงนี ้

“ไปซื ้อหมาให้ เมีย...”


“…”
--------------------------

หลังจากขับรถตามจีพีเอสที่บอกทางมาร้ านขายสุนขั ของโทรศัพท์ ใน


ที่สดุ รถของผมก็มาหยุดอยู่ที่ร้านเพาะเลี ้ยงพันธุ์สนุ ขั แห่งหนึง่ ที่อยู่ไกลจาก
มหาวิทยาลัยประมาณสองกิโลเมตร

ผมเดินลงจากรถหลังจากดับเครื่ องยนต์เสร็จแล้ ว ก่อนจะก้ าวเท้ าเข้ าไป


ยังร้ านตรงหน้ า พอเปิ ดประตูเข้ าไป เสียงกระดิ่งที่ห้อยอยู่ตรงบานประตูก็ดงั กรุ๊งกริ๊ ง
จากนันก็้ ตามมาด้ วยเสียงเห่าของสุนขั หลายตัวที่อยู่ภายในร้ าน

“สวัสดีคะ่ มาซื ้อสุนขั ของทางร้ านเหรอคะ” ผู้หญิงสวมแว่นแต่งตัว


ธรรมดาๆเดินเข้ ามาหาผม พร้ อมกับยกมือขึ ้นไหว้ อย่างนอบน้ อมและโปรยยิ ้มหวาน
มาให้
“ครับ” ผมตอบกลับไปเสียงเรี ยบ พลางกวาดสายตามองเจ้ าสุนขั
หลากหลายสายพันธุ์ที่อยู่ในกรงต่างขนาด “มีซามอยด์ขายไหมครับ”

“ขอโทษจริ งๆค่ะ เดือนนี ้เราไม่ได้ นําซามอยด์เข้ ามาขายเลย มีแค่พนั ธุ์


เชาเชาที่เป็ นพันธุ์ผสมระหว่างซามอยด์กบั มาสตีฟค่ะ” พนักงานของร้ านทําหน้ า
เสียดาย พลางผายมือให้ ผมมองไปที่กรงสุนขั กรงหนึง่ ที่มีสนุ ขั ขนปุยสีครี มพันธุ์เชาเชา
กําลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ ไม่สนใจจะเห่ารับแขกแบบตัวอื่นๆ

“ทําไมมันถึงนอนแบบนี ้ล่ะครับ” ผมก้ มลงมองหน้ าเจ้ าสุนขั ตัวอ้ วนใน


กรง ก่อนจะย่อตัวลงข้ างๆกรงของมัน และยื่นนิ ้วเข้ าไปเขี่ยขนปุยนุ่มเบาๆ

“น้ องอายุยงั ไม่ถึงปี เลยค่ะ เป็ นเพศผู้ ตัวนี ้จะขี ้เซากว่าตัวอื่นๆ นําเข้ า
จากต่างประเทศ ราคาจะอยู่ที่สี่หมื่นถึงห้ าหมื่นบาทค่ะ”

บ๊ อก บ๊ อก!

ในจังหวะที่ผมกําลังจะเขี่ยขนนุ่มของเชาเชาตรงหน้ าต่อ จู่ๆเสียงเห่า


เล็กแหลมของสุนขั อีกตัวก็ดงั ขึ ้นมา ผมขมวดคิ ้วและหันไปมองทันที

“เก๋าเหรอแก” ผมเลิกคิ ้วถามสุนขั พันธุ์ไซบีเรี ยนฮัสกี ้ตัวสีขาวล้ วนที่


กําลังตังหน้
้ าตังตาเห่
้ าผมอยู่ในกรง

“ตัวนี ้เป็ นไซบีเรี ยนเพศผู้ค่ะ นําเข้ าจากต่างประเทศเหมือนกัน อายุยงั


ไม่ถึงปี เหมือนกันค่ะ ตัวนี ้ประมาณสามหมื่นห้ าพันบาท”
“…” ผมเงียบเสียงลง มองตาเจ้ าไซบีเรี ยนตัวเก่งที่อยู่ในกรงอย่าง
รู้สกึ ถูกชะตา

ถ้ าผมซื ้อไปสองตัว ก็เท่ากับว่าต้ องจ่ายเงินเกือบแสนเลยเหรอวะ ใน


บัญชีผมตอนนี ้เหลืออยู่สองแสนโดยเก็บจากที่พ่อโอนให้ ใช้ เป็ นประจําทุกเดือน เดือน
ละสามหมื่นบาท แล้ วกว่าจะเก็บได้ ครบสองแสนขนาดนี ้ ผมเก็บมาตังแต่ ้ เข้ าปี หนึง่
เลยนะ

“…”
“ผมเอาตัวนี ้ครับ” ผมหันไปหาเจ้ าของร้ านพร้ อมกับชี ้นิ ้วเข้ าไปหาไซบี
เรี ยนตัวเก่งตรงหน้ า “แล้ วก็เชาเชาตัวนันด้
้ วยครับ ”

เอาวะ... แสนก็แสนสิ จะเป็ นอะไรไป ยังไม่ตายสักหน่อย เดี๋ยวเก็บใหม่


ก็ได้ กะอีแค่ซื ้อหมาแค่นี ้เอง ไม่ระคายเคืองผิวหนังกระเป๋ าตังค์ผมหรอก หึ !

“โอเคค่ะ” เจ้ าของร้ านส่งยิ ้มให้ ผม พร้ อมกับเดินไปเอากรงอันใหม่ที่


ถือได้ กลับมาสองกรง กรงแรกใส่เชาเชา ส่วนกรงที่สองใส่ไซบีเรี ยน

“ผมโอนเข้ าบัญชีแทนได้ ไหมครับ พอดีไม่ได้ พกเงินสดเยอะขนาดนัน”


“ได้ ค่ะ” เธอหันกลับมาตอบ ก่อนจะง่วนอยู่กบั การจัดการสุนขั ทังสอง



ตัวให้ พอใส่เจ้ าสองตัวเข้ ากรงเสร็จก็หนั มาหาผมอีกครัง้ “จะซื ้ออาหารไปพร้ อมเลย
ไหมคะ ที่ร้านก็มีอาหารสุนขั ขายนะคะ”

“ซื ้อไปพร้ อมเลยก็ได้ ครับ” ผมตอบปั ดๆ


“งันรอสั
้ กครู่นะคะ” เธอยิ ้มตอบ ก่อนจะเดินเข้ าไปหลังร้ าน

ผมเดินไปจ้ องมองเจ้ าสุนขั สองตัวที่อยู่กนั คนละกรง อีกตัวนอนหลับไม่


สนใจใคร เหมือนยัยอุ๋งตอนนอนไม่มีผิด ส่วนอีกตัวก็หน้ าตาดีหล่อเหลา เห่าผมไม่
หยุด ตอนแรกก็กะจะซื ้อแค่ซามอยด์ให้ ยยั อุ๋ง แต่ในเมื่อซามอยด์ไม่มี เอาเชาเชาไป
แทนก็ได้ มงั ้ แต่ผมก็ดนั ถูกชะตากับไซบีเรี ยนตัวนี ้ด้ วยนี่สิ

“ไปอยู่กบั ฉันนะ” ผมยิ ้มให้ ไซบีเรี ยนในกรง

“อันนี ้เป็ นอาหารนะคะ ส่วนอันนี ้เป็ นชามใส่อาหารที่ทางร้ านแถมให้ ”


เจ้ าของร้ านเดินกลับออกมาพร้ อมกับถุงอาหารสุนขั ถุงใหญ่ที่ใส่ถงุ พลาสติกไว้
เรี ยบร้ อย ในนันมี
้ ชามใส่อาหารสุนขั ด้ วยสองชาม

“ผมขอเลขที่บญ
ั ชีหน่อยครับ” ผมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ ้นมากด
เข้ าโมบายล์แบงกิ ้ง

“นี่ค่ะ” สาวแว่นเจ้ าของร้ านรี บยื่นแผ่นกระดาษที่เขียนเลขที่บญ


ั ชีให้

“ทังหมดนี
้ ้เท่าไหร่ครับ” ผมเงยหน้ าขึ ้นถามเจ้ าของร้ านอีกครัง้ เมื่อกด
เลขที่บญ
ั ชีเสร็จสรรพหมดแล้ ว จะเหลือก็แต่ยอดเงินที่ต้องโอนเข้ าเท่านัน้

“ค่าน้ องหมารวมอาหารทังหมดเจ็
้ ดหมื่นสามพันสองร้ อยบาทค่ะ แต่ว่า
... เราคิดแค่เจ็ดหมื่นก็พอค่ะ” สาวแว่นหน้ าตาดีบอกพร้ อมกับยกมือขึ ้นดันแว่นด้ วย
ท่าทางเอียงอายในจังหวะที่ผมจ้ องมองเธอ
ผมกดโอนยอดเงินตามจํานวนที่เธอบอก ก่อนจะหันไปถามคนที่ยืนจ้ อง
ผมจนตัวบิด “เข้ าหรื อยังครับ”

“…” แต่ทว่าเธอกลับเอาแต่จ้องผมตาไม่กะพริ บเลยแม้ แต่น้อย

ผมยกมือขึ ้นโบกไปมาต่อหน้ าเธอ “คุณครับ”

“คะ?”

“ผมถามว่าเงินเข้ าหรื อยังครับ”

“สักครู่นะคะ” เหมือนเธอจะเพิ่งรู้ตวั จึงเดินไปหยิบโทรศัพท์ของ


ตัวเองที่วางอยู่ตรงโต๊ ะขึ ้นมาตรวจสอบยอดเงิน “เข้ าแล้ วค่ะ”

“ครับ”

เมื่อทําการซื ้อเสร็จเรี ยบร้ อย ผมก็เดินไปหยิบถุงอาหารเอาไปใส่รถไว้


ก่อนเป็ นลําดับแรก จากนันก็้ เดินมาถือกรงทังสองกรงไปไว้
้ ที่เบาะหลังเป็ นลําดับ
สุดท้ าย ก่อนจะขับรถกลับห้ องเพื่อที่จะได้ มอบเพื่อนเล่นสี่ขาให้ ยยั อุ๋ง

MAWNUM Talks.
วันนี ้พี่คินทร์ สงั่ ห้ ามไม่ให้ ฉนั ออกไปเที่ยวกับเคท เพราะกลัวเคทจะพา
ฉันเถลไถลอีก ฉันก็เลยต้ องนอนเล่นนัง่ เล่นอยู่แต่ในห้ องสี่เหลี่ยมที่หนั ไปทางไหนก็
เจอแต่โต๊ ะ เตียง เก้ าอี ้ และอื่นๆ รู้สกึ เหงาจังเลย... อย่างน้ อยถ้ าฉันอยู่ที่บ้านตอนนี ้
ฉันก็ยงั มีพ่อแม่ที่สามารถคุยเล่นด้ วยได้ แต่พอมาอยู่ที่นี่ฉนั ไม่มีใครเลย
เคทก็มวั แต่ง่วนอยู่กบั เอกสารการเรี ยนต่อของเธอ ส่วนเอกสารของฉัน
จัดการเรี ยบร้ อยหมดแล้ ว จะเหลือก็แค่เดินทางไปสอบเท่านัน้ ซึง่ ตอนนี ้มันยังไม่ถึง
เวลาที่ฉนั จะต้ องสอบ

ฉันนัง่ ถอนหายใจทิ ้งไปอย่างไม่มีอะไรจะทํา ในจังหวะนันบานประตู



ห้ องก็เปิ ดเข้ ามาโดยใครบางคน

บ๊ อก บ๊ อก!

เสียงเห่าของสุนขั ทําให้ หวั คิ ้วฉันจรดเข้ าหากัน ร่างของพี่คินทร์ ปรากฏ


ขึ ้นหลังจากนัน้ และตามด้ วยกรงสุนขั สองกรงกับถุงอาหารที่เขาถือเข้ ามาในห้ องอย่าง
ทุลกั ทุเล

“พี่คินทร์ !!!” ฉันเรี ยกชื่อเขาเสียงดังด้ วยความตกใจที่เห็นสุนขั น่ารัก


สองตัวที่อยู่ในกรง

“…” พี่คินทร์ ไม่ตอบ เขาเดินเอาถุงอาหารไปวางไว้ ที่มมุ ห้ อง จากนัน้


ก็ถือกรงมาวางไว้ ที่ข้างเตียง

“ของใครอ่ะคะ” ฉันถามอย่างตื่นเต้ นเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตสองตัวที่อยู่ใน


กรง

“ของฉัน” เขาตอบเสียงเรี ยบ พลางใช้ มือเปิ ดกรงออกและนําเจ้ าสุนขั


สองตัวนันขึ
้ ้นมานอนบนเตียง
“นะ...นํ ้าขอจับบ้ างได้ ไหมคะ นํ ้าขอลูบหัวน้ องได้ ไหม” ฉันเดินเข้ าไป
หาพี่คินทร์ ที่ทรุดตัวนัง่ อยู่ตรงปลายเตียง พลางมองเจ้ าสุนขั สีครี มกับสีขาวที่อยู่บน
เตียง “พันธุ์อะไรเหรอคะ”

ตึกตัก... ตึกตัก...

ให้ ตายเถอะ... หัวใจของฉันเต้ นแรงมากจนน่ากลัว ทําไมฉันถึงได้ ร้ ูสกึ ดี


ใจขนาดนี ้ก็ไม่ร้ ู ฉันรู้สกึ ว่าเจ้ าสุนขั สองตัวที่อยู่ตรงหน้ าจะเข้ ามาเป็ นส่วนหนึง่ ของชีวิต
ยังไงยังงันเลย
้ อีกตัวนอนหลับปุ๋ย ส่วนอีกตัวเอาแต่เห่าฉันไม่หยุดเลย

“ตัวนี ้เชาเชา” พี่คินทร์ ชี ้ไปยังสุนขั สีครี มตัวอ้ วนที่กําลังนอนไม่สนใจ


ใคร ก่อนจะชี ้ไปยังสุนขั สีขาวล้ วนอีกตัวที่กําลังเห่าฉันอย่างเอาเป็ นเอาตาย “ตัวนี ้ไซ
บีเรี ยน”

“พี่คินทร์ เพิ่งซื ้อมาเหรอคะ น้ องน่ารักมากเลย” ฉันยิ ้มออกมาอย่างเอ็นดู

“ฉันซื ้อมาให้ ตวั เอง” เสียงทุ้มเอ่ยขึ ้น จากนันก็


้ อ้ มุ เจ้ าไซบีเรี ยนตัวเก่งเข้ าไปในอ้ อม
กอด “อยู่กบั พ่อนะ ชื่ออะไรดีเรา”
ประโยคที่พี่คินทร์ ใช้ พดู กับมันทําให้ ฉนั ยิ ้มออกมาอย่างห้ ามไม่อยู่ ไม่นกึ ว่าคนอย่าง
พี่คินทร์ จะมีมมุ นี ้กับเขาด้ วย ตอนที่พี่คินทร์ ฉีกยิ ้มกว้ างให้ กบั ไซบีเรี ยนในอ้ อมกอด
มันช่างดูอบอุ่นสวนทางกับปากคอเราะรายของเขาจริ งๆ

“ชื่อลูกชิ ้นดีไหมคะ” ฉันลองเสนอความคิดเห็น


“…” พี่คินทร์ ปรายตามามองฉันนิ่งๆ จากนันก็ ้ ก้มลงมองไซบีเรี ยนในอ้ อมกอดแล้ ว
เอ่ยถาม “ชอบชื่อนี ้ไหม ลูกชิ ้นๆๆ” แล้ วเขาก็ลองเรี ยกชื่อตามที่ฉนั แนะนําไป
ไซบีเรี ยนในอ้ อมกอดของพี่คินทร์ ดจู ะชอบใจกับชื่อนี ้นะ กระดิกหางใหญ่เลย...

“อีกตัวชื่อหมูปิง้ ได้ ไหมคะ” ฉันชี ้ไปยังเชาเชาที่นอนหลับปุ๋ยอยู่

“ก็... แล้ วแต่เธอสิ”

“นํ ้าอุ้มน้ องบ้ างได้ ไหมคะ” ฉันกัดริ มฝี ปากแน่น พลางจ้ องพี่คินทร์ อย่างอ้ อนวอน

“อยากอุ้มก็อ้ มุ สิ ไม่ได้ ห้ามสักหน่อย”


ทันทีที่ได้ ยินเสียงทุ้มเอ่ยบอก ฉันก็ตรงเข้ าไปอุ้มเชาเชาบนเตียงขึ ้นมาหอมทันที
ต่อไปนี ้ฉันจะไม่เหงาแล้ วใช่ไหม ฉันจะมีเพื่อนเล่นแล้ วใช่หรื อเปล่า
----------------------------

“งื ้อ...” ฉันครางใส่เจ้ าตัวอ้ วนทังสองตั


้ วที่กําลังกินอาหารอย่าง
เอร็ดอร่อยอยู่อย่างหมัน่ เขี ้ยว

ลูกชิ ้นค่อนข้ างติดพี่คินทร์ มากกว่าฉัน ส่วนหมูปิง้ ติดฉันมากกว่าพี่คิ


นทร์ พอหมูปิง้ ตื่นขึ ้นมาก็กระโจนเข้ ามาเลียฉันคนแรกเลย

ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ ้นมาคอลวิดีโอหาเคทเพื่อจะอวดเจ้ าสองตัวให้


เคทได้ เห็นว่าตอนนี ้ฉันจะไม่เหงาอีกต่อไปแล้ ว ฉันมีเจ้ าสองตัวนี ้เป็ นเพื่อนแก้ เหงา
เรี ยบร้ อยแล้ ว แต่วา่ เคทมาเล่นกับเจ้ าสองตัวนี ้ไม่ได้ เพราะเธอแพ้ ขนหมากับขนแมว
มาตังแต่
้ เด็กๆ ถ้ าได้ กลิ่นจะจามไม่หยุดเลย

[ว่า] พอเคทกดรับ เธอก็ทกั ขึ ้นมา

ตอนนี ้เธอกําลังนัง่ กินบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปแบบถ้ วยอยู่ด้วยล่ะ ตรงหน้ ามี


เอกสารกระจัดกระจายอยู่เต็มพื ้นที่โต๊ ะเลย สงสัยจะยังจัดการกับเอกสารเรี ยนต่ออยู่
แน่นอน

“นํ ้ามีอะไรจะให้ ดดู ้ วย” ฉันบอกอย่างตื่นเต้ น พลางกดสลับไปยัง


กล้ องหลังเพื่อถ่ายเจ้ าสองตัวให้ เคทดู

[เฮ้ ย! น่ารักอ่ะ ไปซื ้อมาเหรอ] เคทดูตื่นเต้ นขึ ้นมาทันทีที่เห็น

“ของพี่คินทร์ น่ะ” ฉันบอก พลางเหลือบตาไปมองพี่คินทร์ เล็กน้ อย


แล้ วจึงเบนสายตากลับมาจดจ่ออยู่กบั การสนทนาของตัวเอง

[เป็ นไปได้ ไง พี่คินทร์ มนั ไม่อินกับอะไรแบบนี ้หนิ]

“แค่กๆ อะฮึม่ ...” ยังไม่ทนั ที่ฉนั จะได้ ตอบเคทกลับ แต่เสียงไอของคน


ที่นงั่ กินขนมอยู่ทางโซฟาด้ านหลังฉันก็ดงั ขึ ้นมาซะก่อน

ฉันหันไปมองพี่คินทร์ ที่ทบุ อกตัวเองเป็ นพัลวัน ก่อนจะเอ่ยถาม “พี่คิ


นทร์ เป็ นอะไรไหมคะ”
“…” พี่คินทร์ ไม่ตอบ เขาเดินไปหยิบนํ ้าจากตู้เย็นมากินคยเดียว
เงียบๆ

[อ้ าว... พี่คินทร์ มนั อยู่ด้วยเหรอ] เคทถามขึ ้นเมื่อได้ ยินเสียงเขา

“ใช่...” ฉันตอบกลับไปสันๆ
้ ก่อนจะกดสลับกล้ องกลับมาเป็ นกล้ อง
หน้ าเพื่อใช้ คยุ กับเคทเหมือนเดิม

[เออเนี่ย... เดี๋ยวฉันจัดการเอกสารต่ออีกก่อนนะ แล้ วดึกๆจะแชทไปคุย


ด้ วย]

“อื ้อ... โอเค บ๊ ายบาย” ฉันพยักหน้ ารับ ก่อนจะยกมือขึ ้นมาโบกลา

หน้ าจอดับวูบไปทันทีหลังสิ ้นเสียงเคท ฉันก้ มลงมองเจ้ าสองตัวต่ออย่าง


ไม่สนใจสิ่งรอบข้ างนัก แค่ตอนนี ้มีลกู ชิ ้นกับหมูปิง้ ฉันก็ร้ ูสกึ ดีแล้ วล่ะ อย่างน้ อยฉันก็
ไม่อ้างว้ างและโดดเดี่ยวเหมือนอย่างเดิมแล้ ว

แต่สิ่งที่ฉนั กังวลก็คือ... เชาเชาและไซบีเรี ยนน่ะเป็ นสุนขั ที่ค่อนข้ างดื ้อ


เอาการเลยล่ะ ชอบทําลายข้ าวของมากๆด้ วย สงสัยทุกวันฉันต้ องหาปลอกคอมาสวม
ใส่ให้ สองตัวนี ้พร้ อมกับพาไปวิ่งเล่นหน่อยแล้ ว

“พี่คินทร์ คะ นํ ้าอยากได้ ปลอกคอของเจ้ าสองตัวนี ้จังเลยค่ะ” ฉันหันไป


บอกคนตัวสูงที่พอกินนํ ้าเสร็จก็เดินกลับมานัง่ กินขนมบนโซฟาต่อ

เขายังอยู่ในชุดเสื ้อช็อปกางเกงยีนส์อยู่เลย ยังไม่เปลี่ยนชุดเลยตังแต่



กลับมา
“เดี๋ยวไว้ วนั หลังค่อยไปเลือกซื ้อแล้ วกัน วันนี ้เธอก็ดแู ลพวกมันแบบที่ไม่
มีปลอกคอไปก่อน”

“แต่พวกมันชอบวิ่งเล่นมากเลยนะคะ นํ ้าจะพาพวกมันไปวิ่งเล่นยังไง”
ฉันโต้ แย้ งกลับไป

“งันเดี
้ ๋ยวพรุ่งนี ้ฉันจะซื ้อมาให้ ” บอกเพียงเท่านัน้ พี่คินทร์ ก็หยิบ
โทรศัพท์ขึ ้นมากดยิกๆอยู่คนเดียว

เล่นเกมอีกแล้ วสิท่า... ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ ้นมาบ้ าง


จากนันก็้ ค่อยๆย่างเท้ าเข้ าไปหาคนตัวสูง ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ของตัวเองไปให้ เขา และ
ฉีกยิ ้มร่าให้

“พี่คินทร์ ช่วยโหลดเกมที่พี่คินทร์ ให้ นํ ้าเล่นแทนวันนันให้


้ หน่อยได้ ไหม
คะ” ฉันกะพริ บตาปริ บๆเรี ยกร้ องความเห็นใจไปด้ วย

“…” แต่พี่คินทร์ กลับเงียบไปเลย เขาปรายตามองฉันนิ่งๆ

“พี่คินทร์ คะ...” ฉันเอื ้อมมือไปเขย่าที่แขนเขาเบาๆ

ฉันก็อยากเล่นอีกเหมือนกันนี่นา...

“ไม่โหลดให้ ไม่ให้ เล่น!” เสียงทุ้มแสนเด็ดขาดจากคนตัวสูงดังออกมา


ตัดความหวังฉันลงอย่างไร้ เยื่อใย ก่อนที่เขาจะทิ ้งตัวนอนลงบนโซฟา จากนันก็
้ เล่น
เกมของเขาไปอย่างสบายอารมณ์
ฉันเบะปากให้ พี่คินทร์ หนึง่ ครัง้ ให้ กบั ความใจจืดใจดําของเขา จากนันก็

เดินกลับมาเฝ้าเจ้ าสองตัวที่กําลังกินอาหารจนเกือบจะหมดแล้ วต่อ

“ลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ไม่อยากเล่นเกมเหรอ แต่นํ ้าอยากเล่นเกมมากเลย


นะ” พอพูดจบก็หนั ไปมองคนเจ้ าสําราญเบิกบานใจกับเกมบนโซฟาอย่างอิจฉา

“ลูกชิ ้นกับหมูปิง้ เป็ นหมา หมาไม่เล่นเกม เข้ าใจ๊ ?” เสียงทุ้มของพี่คิ


นทร์ พมึ พําตอบกลับมา

แต่ใครคุยกับเขากันล่ะ... ฉันคุยกับลูกชิ ้นและหมูปิง้ ต่างหาก

วันต่อมา

วันนี ้ก็เป็ นเหมือนทุกๆวัน เพียงแค่ฉนั กับพี่คินทร์ เราตื่นเร็วกว่าปกติมาก


เพราะมีเจ้ าตัวยุ่งสองตัวที่มาตะกุยตะกายอยู่ข้างๆเพราะความหิว ฉันตื่นขึ ้นมาให้
อาหารลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ก่อน พอให้ อาหารเสร็จก็ไปกินข้ าวกับพี่คินทร์ โดยต้ องอุ้มเจ้ า
สองตัวนี ้ไปกินข้ าวด้ วย เพราะถ้ าขืนปล่อยให้ อยู่ในห้ องกันสองตัว มีหวังข้ าวของพัง
พินาศแน่นอน

“เหมือนพ่อแม่ลกู เลยนะหนู” พอหย่อนก้ นลงนัง่ บนเก้ าอี ้ได้ ไม่ถึงสอง


วินาที จู่ๆป้าเจ้ าของร้ านข้ าวก็เอ่ยแซวขึ ้นมา

ทําเอาหน้ าฉันร้ อนเห่อขึ ้นมาอย่างบอกไม่ถกู เลย พี่คินทร์ อ้ มุ ลูกชิ ้น ส่วน


ฉันอุ้มหมูปิง้ ถ้ าดูจากองค์รวมแล้ วเราก็เหมือนครอบครัวหนึง่ ที่พาลูกทังสองคนมากิ
้ น
ข้ าว แต่ถ้ามองตามความเป็ นจริ ง เราก็เป็ นแค่คนแปลกหน้ าสําหรับกันและกันเท่านัน้
แหละ

ยิ่งคิดฉันก็ยิ่งรู้สกึ ร้ อนผ่าวที่ขอบตา จะว่าไปแล้ วนี่ก็เกือบเข้ าเดือนที่


สองแล้ ว เหลือเวลาอีกแค่เดือนกว่าๆเท่านันที ้ ่ฉนั จะได้ อยู่กบั พี่คินทร์ พอครบสาม
เดือน... เราทังสองคนก็
้ จะกลับไปอยู่ในสถานะคนแปลกหน้ าสําหรับกันและกัน
เหมือนเดิม คิดแล้ วมันคงเจ็บน่าดูเลยนะ

“เธออยู่ที่ห้องรอฉันกลับมาตอนเย็นแล้ วกัน เดี๋ยวพาเจ้ าสองตัวนี ้ไปวิ่ง


เล่นที่สระนํ ้าหลังมหาวิทยาลัยฉัน” พี่คินทร์ เงยหน้ าขึ ้นมาพูดกับฉันในระหว่างที่เขา
กําลังเขียนเมนูข้าวเช้ าลงในกระดาษรับเมนู

“ค่ะ” ฉันตอบรับ ก่อนจะก้ มลงหอมหมูปิง้ ที่ดิ ้นไปมาในอ้ อมแขน

เชาเชาเป็ นสุนขั ที่โตเร็วมาก ตอนนี ้ฉันอุ้มเขาได้ แต่อีกไม่นานฉันคงอุ้ม


เขาไม่ไหวแล้ ว

ฉันกับพี่คินทร์ ใช้ เวลากินอาหารเช้ าด้ วยกันประมาณหนึง่ ชัว่ โมง ก่อนที่


เขาจะกลับมาส่งฉันที่ห้องพร้ อมกับลูกชิ ้นและหมูปิง้

“พ่อไปเรี ยนแล้ วนะ” พี่คินทร์ พดู กับลูกชิ ้น พลางก้ มลงไปหอมอย่างน่า


เอ็นดู ก่อนจะหันมาหอมหมูปิง้ ที่อยู่ในอ้ อมแขนของฉันบ้ าง “ดูแลแม่ดีๆนะหมูปิง้ ”

‘แม่’ เหรอ... พี่คินทร์ เรี ยกแทนตัวฉันว่าแม่เหรอ และถ้ าฉันหูไม่แว่วไป


เอง ฉันยังได้ ยินเขาแทนตัวเองว่าพ่อด้ วย
ตึกตัก... ตึกตัก...

เสียงหัวใจฉันกระหนํ่าเต้ นไม่เป็ นจังหวะเลยในยามที่พี่คินทร์ สง่ ยิ ้ม


เล็กน้ อยมาให้ ถึงมันจะเป็ นยิ ้มที่ไม่กว้ างมากนัก แต่ก็นบั ว่าเป็ นครัง้ แรกที่เขายิ ้มให้
ฉันในแบบที่ไม่มีเหตุการณ์อะไรมากระตุ้น พี่คินทร์ วางลูกชิ ้นลงบนพื ้น ก่อนจะเดิน
ออกจากห้ อง เขายังบอกทิ ้งท้ ายไว้ อีกด้ วย

“ล็อกห้ องดีๆล่ะ”

ฉันพยักหน้ ารับ จังหวะนันบานประตู


้ ก็ปิดสนิทลง

ลูกชิ ้นเดินเข้ ามาเลียที่ขาฉัน ดังนันฉั


้ นเลยวางหมูปิง้ ลงเพื่อให้ เป็ นเพื่อน
เล่นกับลูกชิ ้น อย่างน้ อยทังสองตั
้ วก็มีเพื่อน และฉันก็ยงั มีเจ้ าตัวป่ วนทังสองตั
้ วเป็ น
เพื่อนในยามที่เหงาและรู้สกึ โดดเดี่ยวแบบนี ้ ฉันอยากไปเรี ยนเร็วๆจัง...

ระยะเวลาของวันนี ้ดําเนินไปเรื่ อยๆจนกระทัง่ ถึงยามบ่ายแก่ๆ ฉันลุกขึ ้น


จากโซฟาตรงไปยังตู้เย็นเพื่อจะหยิบนํ ้าออกมาดื่มเพราะรู้สกึ กระหาย แต่พอจังหวะที่
มือเอื ้อมคว้ าประตูต้ เู ย็นได้ ประตูห้องก็ถกู เปิ ดพรวดเข้ ามาจนทําให้ มือของฉันชะงัก
ค้ างอยู่แบบนัน้

“นํ ้า! พี่คินทร์ ตกบันได ตอนนี ้อยู่ที่โรงพยาบาล!” และนัน่ เป็ นเสียง


ของเคท
สมองฉันขาวโพลนไปชัว่ ขณะเมื่อได้ ยินเรื่ องราวที่เคทบอก มือที่ชะงัก
ค้ างทิ ้งตัวดิ่งลงตามแรงโน้ มถ่วงของโลก มันไร้ เรี่ ยวแรงทางร่างกายไปโดยปริ ยาย
สายตารู้สกึ พร่ามัวขึ ้นเพราะม่านนํ ้าตากําลังเข้ าบดบังพื ้นที่ภายใน

“นํ ้าอยากไปหาพี่คินทร์ ...” เป็ นประโยคเดียวที่ฉนั จะสามารถเค้ น


ออกไปให้ เคทได้ รับรู้ทงๆที
ั ้ ่ร่างกายและนํ ้าเสียงมันเริ่ มควบคุมความสัน่ เครื อไม่อยู่แล้ ว

“ฉันเรี ยกแท็กซี่แล้ ว ไปกันเถอะ” เคทรี บเข้ ามาดึงข้ อมือฉันให้ เดินตาม


ไป

“…” ฉันรัง้ ข้ อมือเธอไว้ เมื่อหันไปมองเห็นลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ที่นอนหลับ


อยู่ตรงพื ้นห้ องริ มระเบียง “สองตัวนัน...”

“ปล่อยสองตัวยุ่งไว้ ที่นี่ก่อน แกเอาไปด้ วยไม่ได้ หรอก เดี๋ยวฉันจาม


ใส่อ่ะ”
ใช่สิ ฉันก็ลืมไป เคทแพ้ ขนหมากับขนแมวนี่นา... แถมตอนนี ้จมูกของเธอก็เริ่ มแดงขึ ้น
แล้ วด้ วย

ฉันรี บกระชับข้ อมือเคทให้ แน่นขึ ้นและเดินออกจากห้ องพร้ อมกัน โดยที่


กดล็อกประตูลกู บิดไว้ แล้ วเรี ยบร้ อย

KINN Talks.
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย
จึกๆๆ

“โอ๊ ย...” ผมแหกปากลัน่ ห้ องปฐมพยาบาลเมื่อไอ้ เฟี ยตจิ ้มนิ ้วลงบน


เฝื อกที่ผมเพิ่งจะเข้ ามาสดๆร้ อนๆเมื่อไม่กี่นาทีก่อน “จิ ้มหาพ่อง!” ก่อนจะหันไปด่า
มันที่เอาแต่ทําหน้ ามึนยืนกอดอกมองผมด้ วยท่าทีขําขันชนิดไม่มีห่วงเพื่อนที่ร่วมเป็ น
ร่วมตายกันมาแม้ แต่น้อย

“กูให้ มงึ ถ่ายงานให้ แป๊ บเดียว นึกไม่ถึงว่าอยากจะเป็ นสไปเดอร์ แมน


กระโดดลงจากตึกด้ วยการกลิ ้งตกบันได” ไอ้ เฟี ยตว่าเสียงกระท่อนกระแท่นเพราะมัน
กําลังหัวเราะเยาะผมอยู่

“ไอ้ สสั ! ใครแม่งจะไปรู้ว่าตรงนันมั


้ นเป็ นบันได กูหนั หลังถ่ายนี่หว่า...”
ผมบ่นอุบ พลางลูบมือลงบนเฝื อกสีขาวที่พนั รอบขาตัวเอง “ดีนะไม่เอาหน้ าลง ไม่งนั ้
ใบหน้ าอันหล่อเหลาราวเทพบุตรเดินดินของกูมีหวังเสียโฉม”

“ซาตานสิมงึ !” ไอ้ เฟี ยตถลึงตาใส่ผมอย่างหมัน่ ไส้ “กูโทรบอกเค


ทให้ บอกแมวนํ ้าแล้ วนะว่ามึงตกบันได”

“บอกทําไมวะ เดี๋ยวยัยนัน่ ก็ร้องไห้ ขี ้มูกโป่ งอีกหรอก จิตใจยิ่งอ่อนแอ


กว่ามนุษย์มนาเขาอยู่”

“กูให้ พยาบาลไปเอารถเข็นมาละ เดี๋ยวต้ องพาไอ้ เดี ้ยงอย่างมึงไปรับยา


อีก” มันหันซ้ ายหันขวา เหมือนกําลังสอดส่ายสายตาหาของบางอย่าง “นัน่ ไง มา
ละ” แล้ วมันก็ชี ้ไปยังพยาบาลสาวสวยที่เดินเข็นรถเข็นเข้ ามาให้
“นี่ค่ะ เดี๋ยวเชิญรับยาที่เคาท์เตอร์ ด้านหน้ าได้ เลยนะคะ” พยาบาลคน
สวยเข็นรถมาตรงหน้ าผม พลางผายมือไปทางประตูห้องปฐมพยาบาลเพื่อจะบอกว่า
เคาท์เตอร์ ยาอยู่ทางด้ านไหน

มหาวิทยาลัยของผมเรี ยกว่าครบวงจรมาก มีทกุ อย่างตังแต่ ้ สากกะเบือ


ยันเรื อรบ โรงพยาบาลก็มีเช่นเดียวกัน จัดตังขึ้ ้นเพื่อให้ นกั ศึกษาที่เรี ยนแพทยศาสตร์
หลังจากเรี ยนจบจะได้ เข้ ามาทําหน้ าที่เป็ นหมอของที่นี่

“คุณพยาบาลช่วยผมพยุงเพื่อนหน่อยได้ ไหมครับ” ไอ้ เฟี ยตเอ่ย


ปากขอความช่วยเหลือจากพยาบาลสาว

“ได้ ค่ะ” พยาบาลรี บปรี่ เข้ ามาหิ ้วปี กผมอีกฝั่ งช่วยไอ้ เฟี ยต จนกระทัง่
ผมนัง่ ลงบนรถเข็นได้ สําเร็จ เธอถึงได้ เอ่ยขึ ้นด้ วยนํ ้าเสียงชวนฟั ง “พยายามอย่าขยับ
ร่างกายมากนะคะ อาจจะต้ องใช้ เวลาสักประมาณสองสัปดาห์ที่จะต้ องเข้ ามา
เอ็กซเรย์อีกรอบถึงจะเปลี่ยนเฝื อกได้ ระยะเวลาที่จะได้ ถอดเฝื อกจะอยู่ที่สามถึงสี่
สัปดาห์ค่ะ”

“ขอบคุณครับ” ผมขมวดคิ ้วทันทีเมื่อไอ้ เฟี ยตเป็ นฝ่ ายเอ่ยขอบคุณ


แทนผมไปแล้ ว

นี่ผมหรื อมันกันแน่วะที่ตกบันได...

“มึงจะขอบคุณแทนกูทําเชี่ยไรเนี่ย” ผมเงยหน้ าขึ ้นไปถามมันที่ตอนนี ้


กําลังเก็บข้ าวของให้ ผมอยู่ที่เตียง
“มึงชักช้ า” และนัน่ แหละครับที่มนั ตอบผม

จะบอกว่าผมไม่ได้ ชกั ช้ าอะไรมากมายหรอก แต่เข้ าใจอารมณ์คนที่


กําลังฟั งคําแนะนําแล้ วไม่ร้ ูว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่ไหม ที่พยาบาลคนนันพู
้ ดผมก็นกึ ว่า
เธอจะพูดอะไรต่อ เลยไม่ได้ เอ่ยขอบคุณออกไปทันที

หลังจากเก็บข้ าวของเสร็จเรี ยบร้ อย ไอ้ เฟี ยตก็ทําหน้ าที่เข็นรถของผม


ออกไปยังเคาท์เตอร์ ยา นัง่ รอสักพักพยาบาลก็เรี ยกชื่อผม จากนันก็ ้ จ่ายยาให้ เป็ นยา
แก้ ปวดกระดูกกับยาแก้ อกั เสบแล้ วก็ยาทัว่ ๆไปที่ต้องใช้ รักษานัน่ แหละ ไม่ได้ มีอะไร
พิเศษจากชาวบ้ านชาวช่องเขาเท่าไหร่

และที่สําคัญ... ผมยังได้ ของแถมเป็ นไม้ คํ ้ายันอีกด้ วย ดีจริ งๆ

“พี่คินทร์ !!!” เสียงเรี ยกคุ้นหูดงั ขึ ้นทางด้ านหลังผม

ผมค่อยๆหันไปมอง ก่อนจะพบกับร่างของสาวน้ อยวัยไล่เลี่ยกันที่ยืนอยู่


สองคน แน่นอนว่าคนแรกคือเคท น้ องสาวแท้ ๆที่คลานตามกันมา ส่วนคนที่สอง... ก็
คือยัยอุ๋ง เด็กขี ้แยที่กลายมาเป็ นเมียผมเพียงชัว่ ข้ ามคืน เคทน่ะหน้ าตาปกติ ดูไม่มี
อะไรมากมาย แต่ยยั อุ๋งเนี่ยสิหนัก ทังตาแดงหน้
้ าแดงไปหมดเลย

หมับ!

ในจังหวะที่ผมกําลังจะก้ าวเท้ าเข้ าไปหาทังสองคน


้ จู่ๆยัยอุ๋งก็วิ่งเข้ ามา
กอดผมเอาไว้ แน่น ใบหน้ าของเธอซบลงบนอกผม ก่อนจะตามมาด้ วยนํ ้าเสียงอู้อี ้
คล้ ายกับเด็กขี ้งอแง
“พี่คินทร์ เป็ นยังไงบ้ างคะ ฮึก...” แล้ วเสียงสะอื ้นเนี่ย อย่าบอกนะว่า
ร้ องไห้

“ฉันไม่ได้ เป็ นอะไร แค่กระดูกแตกนิดหน่อยกับมีแผลถลอกตามแขน”


ผมบอกเธอในขณะที่ก้มลงมองแผ่นหลังบอบบางที่กระเพื่อมขึ ้นลงเป็ นจังหวะ

“ฮึก... นํ ้าเป็ นห่วงพี่คินทร์ ” ผมขมวดคิ ้วทันทีที่หน้ าอกของตัวเองรู้สกึ


ได้ ถึงอุณหภูมิอ่นุ ๆของนํ ้าบางอย่างที่แทรกซึมผ่านเสื ้อช็อปเข้ ามา

“เธอ... ร้ องไห้ เหรอ” ก่อนจะถามออกไปอย่างไม่แน่ใจนัก

ยัยอุ๋งผละตัวเองออกไป จากนันก็
้ ยกมือขึ ้นเช็ดนํ ้าตาตัวเองป้อยๆ แล้ ว
ก็ฉีกยิ ้มให้ ผม “…”

“นี่ยยั เด็กโง่...” ผมใช้ มืออีกข้ างที่ไม่ได้ จบั ไม้ คํ ้ายันขึ ้นวางบนหัวของ


เธอ พร้ อมทังขยี
้ ้เบาๆ “ฉันน่ะแข็งแรงจะตาย ไม่ตายง่ายๆหรอกนะ”

“แค่กๆๆ!” แต่แล้ วเสียงไอขึ ้นมาของใครบางคนก็ทําให้ ผมชะงัก มือที่


วางค้ างอยู่ขนหัวของยัยอุ๋งจึงถูกดึงกลับออกมาลูบจมูกของตัวเองแทน “หวาน
พอแล้ วมัง้ เห็นใจน้ องด้ วย” นัน่ แหละผมถึงได้ ร้ ูว่าเสียงไอเมื่อกี ้เป็ นของเคท

“คนมองหมดแล้ ว” ส่วนนี่เป็ นเสียงของไอ้ เฟี ยต


เมื่อได้ ยินดังนัน้ ผมเลยกวาดสายตามองไปยังจุดที่คนนัง่ รอพยาบาล
เรี ยกชื่อเพื่อจ่ายยาให้ แบบผม ก็พบว่ามีคนมองมาอยู่จริ งๆ แถมบางคนยังมองแล้ วยัง
พากันซุบซิบนินทาอีกด้ วย

“กลับห้ องกันเถอะ” ผมบอกปั ดๆ ก่อนจะเดินออกมาจากจุดนันโดยไม่



สนใจใครอีก
-----------------------

MAWNUM Talks.
“ระวังนะคะ” ฉันรี บปรี่ เข้ าไปคล้ องแขนของตัวเองเข้ ากับลําแขนแกร่ง
ของคนตัวสูงด้ วยความรวดเร็ว เมื่อพี่คินทร์ ทําท่าจะเซล้ มในขณะที่ก้าวเข้ าไปในห้ อง

“ฉันไม่เป็ นอะไรหรอกน่า...” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างขัดใจ

“ปากดี ทีกจู ิ ้มนิดเดียวล่ะร้ องจะเป็ นจะตายลัน่ โรงพยาบาล” เสียงของ


พี่เฟี ยตเอ่ยขึ ้นทางด้ านหลัง

เมื่อพยุงพี่คินทร์ เข้ ามาในห้ องเสร็จเรี ยบร้ อย จังหวะที่ฉนั เงยหน้ าขึ ้น


มองห้ องก็ถึงกับตกตะลึงจนตาค้ าง เพราะสภาพของห้ องเละเทะมาก กระดาษทิชชู่
ถูกกัดจนกระจายทัว่ ทังห้
้ อง ข้ าวของล้ มระเนระนาดไปหมด ส่วนตัวการที่ทําก็...

“ลูกชิ ้น! หมูปิง้ !” ฉันยืนท้ าวมือกับเอว ก่อนจะตวาดเสียงลัน่ เมื่อเห็น


เจ้ าตัวการทังสองตั
้ วกําลังนอนกัดกระดาษทิชชู่อยู่ที่พื ้นอย่างสนุกสนาน
“โหห้ องมึง...” พี่เฟี ยตที่เดินเข้ ามาเป็ นคนที่สามเอ่ยทักขึ ้นด้ วยนํ ้าเสียง
แปลกใจ

“เห้ ย!” ส่วนนี่เป็ นเสียงของเคทที่ก้าวเข้ ามาในห้ องเป็ นคนสุดท้ าย


“เละสุด”

“อื ้อหือ...” พี่คินทร์ ครางขึ ้นมา

ฉันค่อยๆหันหน้ าไปหาเขา ก่อนจะยกมือขึ ้นไหว้ เพื่อขอโทษ “นํ ้าขอ


โทษนะคะที่ปล่อยลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ไว้ ในห้ อง เพราะเคทแพ้ ขนหมา นํ ้าก็เลยไม่ได้ เอา
เจ้ าตัวยุ่งสองตัวนี ้ไปด้ วย”

ฉันก้ มหน้ าลงมองพื ้น เตรี ยมรอรับคําด่าจากพี่คินทร์ แล้ วเรี ยบร้ อย ฉัน


คิดว่าครัง้ นี ้ต้ องโดนเขาจัดหนักแน่ๆ เพราะพี่คินทร์ บอกกับฉันไว้ ว่าเชาเชากับไซบี
เรี ยนน่ะดื ้อมาก ห้ ามปล่อยให้ พวกเขาอยู่กนั ตามลําพัง ไม่งนห้ ั ้ องไม่เป็ นห้ องแน่

“ไม่เป็ นไรหรอก” แต่คําพูดของพี่คินทร์ กลับทําให้ ฉนั ต้ องเงยหน้ า


ขึ ้นมาสบตากับเขาแบบงงๆ

หูฉนั ไม่ได้ แว่วใช่ไหม เขาไม่ดอุ ะไรเลย...

“งัน...
้ พี่คินทร์ นงั่ รอที่เตียงก่อนนะคะ เดี๋ยวนํ ้าขอทําความสะอาดห้ อง
ก่อน” ฉันเข้ าไปพยุงเขาให้ เดินไปนัง่ รอที่เตียง
จากนันก็ ้ เดินไปคว้ าตัวลูกชิ ้นกับหมูปิง้ มาวางไว้ บนโซฟา แล้ วชี ้หน้ า
“ลูกชิ ้น! หมูปิง้ ! รู้ไหมว่าวันนี ้มีความผิดอะไร!”

พอทังสองตั
้ วเห็นฉันขึ ้นเสียงใส่ก็พากันหมอบลง แถมยังทําหน้ าสลดอีก
ด้ วย หมูปิง้ น่ะดูเหมือนจะสํานึกกับสิ่งที่ทํา แต่ลกู ชิ ้นนี่สิ ทําไมถึงตังท่
้ าเหมือนจะเถียง
ใส่ฉนั แบบนี ้ล่ะ

บ๊ อก บ๊ อก!

“ลูกชิ ้น! เถียงเหรอ!” ลูกชิ ้นเห่าใส่ฉนั ด้ วย นี่จะไม่ยิมรับผิดใช่ไหม

“นี่เหรอหมาที่มงึ บอกจะไปซื ้อให้ เมีย” เสียงพี่เฟี ยตถามขึ ้น ทําให้ ฉนั


ละความสนใจจากลูกชิ ้นและหมูปิง้ หันไปมองเขาแทน “โดดเรี ยนไปซื ้อหมาให้ เมีย
โคตรลงทุน...”

“อะแฮ่ม! กูว่าฟิ ล์มกําลังรอไปกินข้ าวกับมึงอยู่นะ รี บไปได้ แล้ วไป”


พี่คินทร์ รีบโบกมือไล่พี่เฟี ยตทันที

“ไปก็ได้ ...” พี่เฟี ยตลากเสียงยาวเป็ นการทิ ้งท้ าย ก่อนจะหันมาพูดกับ


ฉัน “พี่ฝากไอ้ คินทร์ มนั ด้ วยนะแมวนํ ้า ช่วงนี ้ก็ดแู ลมันช่วยพี่หน่อยก็แล้ วกัน” ก่อนที่
เขาจะเดินเอาของมาวางไว้ ที่โซฟา จากนันก็ ้ ยิ ้มให้ ฉนั แล้ วก็เดินจากไป

“งันฉั
้ นกลับห้ องก่อนนะนํ ้า ไม่ไหวแล้ วอ่ะ คันจมูกยุบยิบๆไปหมดเลย
เนี่ย” ส่วนเคทก็ยืนอยู่นานไม่ได้ เพราะอาการแพ้ ขนหมาของเธอดูเหมือนจะกําเริ บ
ขึ ้นมา “ไปแล้ วนะพี่คินทร์ ดูแลตัวเองดีๆ หายไวๆ อย่าเพิ่งตายหนีน้อง” จากนันเธอ

ก็เดินออกจากห้ องไป โดยที่ไม่ลืมปิ ดประตูให้ เสร็จสรรพ

ฉันเม้ มริ มฝี ปากแน่น ก่อนจะตัดสินใจบอกพี่คินทร์ ไปว่า “งัน...


้ เดี๋ยว
นํ ้าไปเก็บของก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวก่อน” แต่เสียงทุ้มกลับรัง้ ให้ เท้ าของฉันหยุดอยู่กบั ที่ และสายตา


ก็หนั ไปมองเขาที่นงั่ อยู่บนเตียง “ฉันซื ้อปลอกคอกับสายจูงมาให้ แล้ วนะ อยู่ใน
กระเป๋ าที่ไอ้ เฟี ยตมันวางไว้ ตรงนันแหละ”
้ พี่คินทร์ ชี ้นิ ้วมาที่กระเป๋ าที่วางอยู่ข้างๆ
ลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ที่นอนแอ้ งแม้ งอยู่

“ค่ะ” ฉันพยักหน้ ารับพร้ อมรอยยิ ้ม จากนันก็ ้ หยิบกระเป๋ าขึ ้นมาเปิ ด


เอาปลอกคอกับสายจูงออกมาผูกให้ ลกู ชิ ้นกับหมูปิง้ พอผูกเสร็จก็ชี ้หน้ าทังสองตั
้ วเพื่อ
จะดุต่อ “ต่อไปนี ้อย่าเล่นแบบนี ้อีกรู้ไหม ไม่น่ารักเลย!”

พอดุเสร็จ ฉันก็เดินจูงทังสองตั
้ วไปหาพี่คินทร์ จากนันก็
้ ยื่นสายจูงไปให้
เขา “นํ ้าฝากทังสองตั
้ วไว้ ก่อนนะคะ ขอนํ ้าไปทําความสะอาดห้ องก่อน”

“…” พี่คินทร์ ปรายตามามองนิ่งๆ แต่ก็ยอมรับไปถือไว้ แต่โดยดี

ฉันหมุนตัวกลับ กวาดตามองสภาพห้ องที่เละเทะอีกครัง้ พลางพึมพํา


ในใจว่า ‘เหนื่อยอีกแล้ วสินะแมวนํ ้า เฮ้ อ...’
KINN Talks.
เป็ นเวลาเกือบชัว่ โมงกว่ายัยอุ๋งจะทําความสะอาดทังห้ ้ องจนกลับมาอยู่
ในสภาพที่ปกติได้ เล่นเอาเธอเหนื่อยหอบใช่ย่อย ตอนนี ้เป็ นเวลาเย็นมากแล้ ว ที่ผม
จะพาเจ้ าตัวยุ่งสองตัวนี ้ไปวิ่งเล่นกับยัยอุ๋งคงจะได้ เป็ นแค่ความหวังลมๆแล้ งๆ ในเมื่อ
ตอนนี ้ผมเดี ้ยงไปแล้ ว ขาใช้ การไม่ได้ ข้างหนึง่ จะเดินให้ ปกติก็ไม่ได้ ด้วย เพราะยังรู้สกึ
ปวดตุบๆอยู่เลย

“อุ๋ง...” ผมเอ่ยเรี ยกคนที่กําลังง่วนอยู่กบั การเรี ยงของกลับเข้ าสูท่ ี่เดิม

“คะ?” ยัยอุ๋งหันกลับมาหาผม พร้ อมขานรับเสียงเบาปนหอบ

“ฉันจะอาบนํ ้ายังไงวะ”

นี่แหละครับปั ญหาที่ผมกังวล เกิดมาโตจนหมาเลียก้ นไม่ถึง ไม่เคย


ประสบพบเจอกับการใส่เฝื อกเลยสักครัง้ พอเป็ นแบบนี ้แล้ ว ผมเลยไม่ร้ ูว่าจะต้ องทํา
ตัวยังไงให้ ชินกับการมีไอ้ เฝื อกปูนสีขาวที่ห้ มุ ขาเอาไว้ ข้างหนึง่

“นํ ้าก็ไม่ร้ ูเหมือนกันค่ะ นํ ้าไม่เคยเป็ น” ยัยอุ๋งเม้ มปาก ก่อนจะส่าย


หน้ ารัว

“…”
ถามยัยอุ๋งไปก็คงไม่เกิดอะไรขึ ้นมา ดังนันผมเลยหยิ
้ บโทรศัพท์มือถือ
ขึ ้นมาโทรหาไอ้ เฟี ยต ไอ้ นนั่ คงเป็ นคนเดียวแล้ วแหละที่ผมจะพึง่ พาได้ ในยามคับขัน
แบบนี ้

[ว่า] ไอ้ เฟี ยตเอ่ยทักขึ ้นเมื่อกดรับสาย


“กูจะอาบนํ ้ายังไง เอาขาพาดเก้ าอี ้ นํ ้าแม่งก็กระเด็นใส่อีก ”

[มันมีถงุ กันนํ ้าสําหรับคนใส่เฝื อกอยู่]

“ราคา?” ผมถามเมื่อเห็นว่านี่เป็ นทางเลือกที่เข้ าท่าที่สดุ

[ประมาณพันกว่าๆ]

“ซื ้อมาให้ กหู น่อยดิ เอาตังมึงออกไปก่อนนะ”

จะว่าผมนิสยั เสียก็ได้ แต่นี่เป็ นอะไรที่ปกติมาก เพราะก่อนหน้ านี ้ที่ผม


อยู่ห้องเดียวกันกับมันก่อนจะแยกมาอยู่กบั ยัยอุ๋งสองคน ผมก็ให้ ไอ้ เฟี ยตจ่ายค่าห้ อง
เองทังหมด
้ ผมไม่ได้ ออกช่วยมันด้ วย และปกติมนั ก็จะบ่นผมจนขี ้หูเต้ น แต่นนั่ แหละ
ครับ... พ่อแม่ผมกับพ่อแม่มนั สนิทกัน ผมจะทําอะไร พ่อแม่มนั ก็ไม่วา่ อยู่แล้ ว อิ _อิ

[มึงนี่ตลอดเลยนะไอ้ คินทร์ บ้ านก็รวย ผลาญเงินกูตงแต่


ั ้ ปีหนึง่ ยันปี สี่
เลยนะไอ้ สสั !]

“เอาหน่า... ถือว่าช่วยเพื่อนไม่ได้ ไงวะ แค่นี ้เอง”

แค่นี ้น่ะของผม แต่ของมันน่ะไม่ใช่...

[เออ! รอแป๊ บ]

จากนันไอ้
้ เฟี ยตก็วางสายไป
ผมรอถุงกันนํ ้าจากมันประมาณครึ่งชัว่ โมง ไอ้ เฟี ยตก็เอามาให้ ถึงห้ อง
พร้ อมกับบ่นผมยาวเป็ นหางว่าว ผมให้ ยยั อุ๋งพยุงพาไปอาบนํ ้าที่ห้องนํ ้า และฝากเจ้ า
ตัวยุ่งสองตัวให้ ยยั อุ๋งดูแลต่อ จะว่าไป... มีหมาสองตัวนี ้แล้ วก็ดีเหมือนกัน ผม
กับยัยอุ๋งจะได้ ไม่ร้ ูสกึ เขินเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง

MAWNUM Talks.
วันนี ้เป็ นวันที่ฉนั เสียเหงื่อมากกว่าทุกวันเนื่องจากต้ องเก็บกวาดสิ่งที่
ลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ทําเละเทะเอาไว้ แถมยังต้ องดูแลพี่คินทร์ อีกด้ วย ส่วนคนที่เหนื่อยไม่
แพ้ กนั กับฉันก็ดเู หมือนจะเป็ นพี่เฟี ยต เพราะเขาถูกพี่คินทร์ ใช้ ให้ ไปซื ้อนัน่ ซื ้อนี่มาให้
ตลอด รวมไปถึงข้ าวเย็นด้ วย พี่เฟี ยตนี่เดินเข้ าออกห้ องของพวกเราเป็ นว่าเล่นเลย

ตอนนี ้ฉันกับพี่คินทร์ เราเตรี ยมที่จะเข้ านอนกันแล้ ว เพราะตอนนี ้มันสี่


ทุ่มกว่าเกือบจะห้ าทุ่มแล้ วด้ วย ฉันเดินไปปิ ดไฟ จากนันก็ ้ เดินมาล้ มตัวลงนอนเตียง
เดียวกับพี่คินทร์ เรามีหมอนข้ างกันกางระหว่
้ างกันและกัน

แต่พอฉันหันไปเห็นเขากําลังหยิบโทรศัพท์มา ทําท่าเหมือนจะเล่นเกม
ฉันจึงเอื ้อมมือไปคว้ าโทรศัพท์ออกมาจากมือคนตัวสูง พร้ อมเอ็ดเขาเสียงเบา

“พี่คินทร์ ห้ามเล่นเกมค่ะ!” และนี่คงเป็ นครัง้ แรกที่ฉนั ออกคําสัง่ กับพี่คิ


นทร์

“เอาคืนมานะยัยอุ๋ง!” พี่คินทร์ พดู เสียงเข้ ม ทําท่าเหมือนจะดุฉนั

“พี่คินทร์ ป่วยอยู่นะคะ!” ฉันขึ ้นเสียงใส่


นี่ขนาดป่ วยอยู่แล้ วยังจะเล่นเกมอีกเหรอ

“ก็ฉนั จะเล่นเกม!” เขาเถียงกลับอย่างดื ้อดึง

“นํ ้าไม่ให้ เล่นค่ะ! นอนลงไปเลยนะคะ นํ ้าจะยึดโทรศัพท์จากพี่คินทร์


จนกว่าจะเช้ า นํ ้าถึงจะคืนให้ ”

“อะไรวะ!” พี่คินทร์ พดู ออกมาคล้ ายไม่พอใจ ก่อนที่เขาจะพลิกตัวหัน


ไปนอนตะแคงอีกฝั่ ง “ก็คนจะเล่นเกม...” แล้ วเขาก็พมึ พําอยู่คนเดียว

เมื่อเห็นดังนันฉั
้ นก็เลยอุ่นใจขึ ้นมาระดับหนึง่ อย่างน้ อยก็ไม่ดื ้อมาก
พอที่จะทําให้ ฉนั ปวดหัวได้ รู้จกั ฟั งกันบ้ างก็ดี ฉันหลับตาลง วางโทรศัพท์ไว้ ข้างหมอน
ของตัวเอง เหนื่อยมาทังวั้ นแล้ ว ขอให้ วนั นี ้หลับฝั นดีหน่อยเถอะ

จึกๆๆ

อะไรบางอย่างที่จิ ้มอยู่ตรงแขนทําให้ คิ ้วฉันขมวดเข้ าหากันด้ วยความ


รํ าคาญ ก่อนจะยกแขนหนีออกมา

จึกๆๆ

แต่คราวนี ้มันกลับจิ ้มลงบนเอวฉันแทน

“อือ...” ฉันครางเสียงสูงเพราะเริ่ มทนไม่ไหว

“ยัยอุ๋ง...” เสียงทุ้มของพี่คินทร์ ทกั ขึ ้นมา ในขณะที่นิ ้วของเขายังจิ ้มฉัน


ไม่หยุด
“คะ...” ฉันครางตอบด้ วยความงัวเงียขันสุ
้ ด

นี่ฉนั เพิ่งหลับไปได้ ไม่กี่นาทีเอง เขาจะมาจงมาจิ ้มทํามะเขืออะไรเนี่ย !

“ฉันปวดฉี่ พาไปฉี่หน่อย”
“…”
-----------------------
“เร็วๆดิ จะทะลักออกมาแล้ วเนี่ย” เสียงเร่งของพี่คินทร์ ทําให้ ฉนั ต้ อง
ลืมตาโพลงขึ ้นท่ามกลางแสงสลัวๆ

“ไม้ คํ ้ายันพี่คินทร์ ก็วางอยู่ข้างเตียงไม่ใช่เหรอคะ” ฉันถามกลับไปเสียง


อ่อย

อารมณ์ตอนนี ้มันกําลังจะเข้ าสูห่ ้ วงหลับลึกอยู่แล้ ว ทําไมเขาต้ องมา


ปลุกด้ วยนะ

“ใช่สิ!” แต่แล้ วนํ ้าเสียงคล้ ายกับน้ อยใจของพี่คินทร์ กลับทําให้ ฉนั ต้ อง


ปวดหัวหนักกว่าเดิม เขาเด้ งตัวขึ ้นจากเตียง จากนันก็ ้ หนั ขวับมาจ้ องฉัน และที่มนั น่า
กลัวคือฉันไม่ร้ ูว่าตอนนี ้เขากําลังทําสายตาแบบไหนใส่ตวั เองอยู่ “แค่พาไปฉี่แค่นี ้ก็
ไม่ได้ เธอคงเหนื่อยมากเลยเนอะที่ต้องมาดูแลคนป่ วยที่เดินไม่ได้ อย่างฉัน”
“พี่คินทร์ ร้ ูได้ ยงั ไงคะ” ฉันถามกลับทันที นี่เขารู้ได้ ยงั ไงว่าวันนี ้ฉัน
เหนื่อยมาก เมื่อยขบไปทังตั ้ วเลยเนี่ย “นํ ้าเหนื่อยมากจริ งๆค่ะ งัน...
้ นํ ้านอนเลยนะ
คะ” คราวนี ้ฉันถึงได้ หลับตาลงสูค่ วามมืดมิดอีกครัง้

“ฉันประชด!” เพียงไม่ถึงเสี ้ยววินาที นํ ้าเสียงกระแทกแดกดันของพี่คิ


นทร์ ก็ดงั ขึ ้นมาอีกรอบ

ทําเอาฉันที่กําลังเคลิ ้มจนเกือบจะหลับต้ องดึงสติกลับมาสูโ่ ลกแห่ง


ความเป็ นจริ งอีกครัง้

“พี่คินทร์ คะ วันนี ้นํ ้าทังไปหาพี


้ ่คินทร์ ที่โรงพยาบาล ทังทํ
้ าความสะอาด
ห้ อง ทังคุ
้ มเจ้ าตัวดื ้อทังสองตั
้ วให้ อยู่ในความสงบ ไหนจะช่วยปรนนิบตั ิพดั วีให้ พี่คิ
นทร์ อีกต่างๆนาๆอ่ะ นํ ้าขอนอนได้ ไหมคะ นํ ้าเหนื่อยจริ งๆ”

ว่าจบเพียงเท่านัน้ ฉันก็พลิกตัวหันหนีเขาทันที อยากจะรู้จริ งๆว่ากะอี


แค่พาตัวเองไปเข้ าห้ องนํ ้าแค่นี ้ มันจะยากเย็นแค่ไหนกันเชียว ก็ตอนที่ฉนั พยุงเขาเข้ า
ห้ องเขายังบอกอยู่เลยว่าไม่เป็ นไรนี่นา...

“ยัยอุ๋ง!!!”

หมับ!

และแล้ วความหวังที่จะได้ นอนหลับของฉันก็พงั ทลายลงโดยนํ ้ามือพี่คิ


นทร์ ที่เอื ้อมมือมาดึงแขนฉันให้ ลกุ ขึ ้นจากเตียง ทังๆที
้ ่หวั ยังหักห้ อยโตงเตงด้ วยอาการ
ง่วงนอนเต็มที
“พี่คินทร์ !!!” ฉันตวาดเสียงใส่เขาอย่างหงุดหงิด

“พาไปแป๊ บเดียว... ห้ องนํ ้าก็อยู่แค่นี ้เอง” เขาเอ่ยด้ วยนํ ้าเสียงอ้ อน


วอน พลางชี ้นิ ้วไปยังห้ องนํ ้าที่ยงั คงเปิ ดไฟสว่างจ้ าอยู่

“ก็ได้ ค่ะ แต่มีข้อแม้ นะคะ” ฉันหรี่ ตาลงประเมินท่าทีของเขา “ถ้ านํ ้า


พาพี่คินทร์ ไปฉี่แล้ ว พี่คินทร์ ต้องปล่อยให้ นํ ้านอน โอเคไหมคะ”

“ด้ วยความยินดีครับผม...” เขายกมือขึ ้นมาทําท่าเหมือนทหาร


จากนันก็
้ ขยับตัวไปตรงปลายเตียงและวางขาลงที่พื ้น ก่อนจะหันมามองฉันนิ่งๆ
“มาดิ มาพยุง...”

“ค่ะ...” ฉันลากเสียงยาวอย่างหมัน่ ไส้ ก่อนจะค่อยๆคลานลงจาก


เตียง และเดินไปพยุงพี่คินทร์ ให้ ลกุ ขึ ้นเดินไปห้ องนํ ้าด้ วยกัน

พอวางเขาให้ นงั่ ลงบนชักโครกเสร็จ ฉันก็ยืนรอเพื่อให้ พี่คินทร์ ทําธุระ

“ออกไปดิ” เสียงทุ้มออกคําสัง่ ทันที

“คะ?” ฉันขานรับไปหนึง่ ครัง้

“ฉันจะฉี่ เธอจะยืนมองหรื อไง”

“อะ...อ๋อ ค่ะๆ”
พอรู้ตวั ว่าฉันกําลังยืนนิ่ง หันหน้ าเข้ าไปในห้ องนํ ้า มองทุกการกระทํา
ของพี่คินทร์ อยู่ เขาก็บอกให้ ฉนั หันออกไป สาบานเลยว่าฉันง่วงจนสมองเบลอไป
หมดแล้ วจริ งๆ

“เสร็จแล้ ว...” เสียงพี่คินทร์ พดู ขึ ้นอีกครัง้ หลังจากเสียงกดชักโครกดัง


ขึ ้น

“…” ฉันหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ ากับเขา จากนันก็


้ ก้าวเข้ าไปพยุง
พี่คินทร์ เพื่อให้ เดินกลับไปนอนที่เตียง

คราวนี ้ก็คงหมดปั ญหาแล้ วสินะ... ฉันคงนอนได้ แล้ วแหละ

จึกๆๆ

“อื ้อ...” ฉันครางในลําคอเมื่อช่วงเอวถูกนิ ้วจิ ้มติดกันรัวๆสามครัง้

หัวคิ ้วที่เรี ยบตึงค่อยๆขมวดเข้ าหากัน และถ้ าฉันจําไม่ผิด ฉันเพิ่งเอน


หลังนอนไปได้ ไม่กี่นาทีที่แล้ วเอง

“อุ๋ง...”

จึกๆๆ

“อะไรคะ...” ฉันขานรับคําเรี ยกไป พลางเบี่ยงตัวหนีเมื่อถูกจิ ้มอีกเป็ น


หนที่สอง

“ฉันอยากเล่นเกม”
“!!!”
ทีนี ้แหละ... ตาฉันที่หลับพริ ม้ อยู่ก็เป็ นอันต้ องลืมขึ ้นอัตโนมัติราวกับ
หุ่นยนต์สงั่ การ ฉันตวัดสายตาไปมองคนที่นอนกะพริ บตาปริ บๆอยู่ข้างๆ ก่อนจะสูด
ลมหายใจเข้ าลึกๆเพื่อประคองให้ ตวั เองยังมีสติ ไม่โมโหกับการกระทําเป็ นเด็กของพี่คิ
นทร์

“ขอเล่นเกมหน่อยดิ” เขาแบมือมาตรงหน้ าฉัน จากนันก็


้ สง่ ยิ ้มหวาน
หยดย้ อยชนิดมัดใจสาวได้ เป็ นขบวนมาให้ ด้วย

“ไม่ให้ เล่นค่ะ!” ฉันพูดเสียงเด็ดขาด ทําไมไม่ฟังกันบ้ างเลยนะ ดึก


ขนาดนี ้แล้ วยังจะเล่นเกมอยู่อีก

“ก็ฉนั นอนไม่หลับอ่ะ ทุกครัง้ ฉันต้ องเล่นเกมจนถึงตีหนึง่ ตีสองทุกวัน


ก่อนนอน มันชินแล้ วนี่ แล้ วเธอก็ไม่ให้ ฉนั เล่นแบบนี ้อ่ะ ฉันก็นอนไม่หลับสิ!”

“ก็นี่มนั ดึกแล้ วนี่คะ อีกอย่างพี่คินทร์ ป่วยอยู่นะคะ แล้ วเล่นเกมตอนไม่


มีแสงสว่างแบบนี ้มันเสียสายตามากไม่ร้ ูเหรอ!”

อย่าให้ ฉนั ได้ ปรี๊ ดแตกเชียว! ฉันพ่นไม่หยุดปากแน่นอน

“แล้ วเธอจะมาขึ ้นเสียงใส่ฉนั ทําไมเนี่ย!” พี่คินทร์ เริ่ มขึ ้นเสียงบ้ าง

“ก็แล้ วพี่คินทร์ จะอยากเล่นเกมทําไมดึกๆดื่นๆล่ะคะ!” ฉันเริ่ ม


หงุดหงิดขึ ้นมาบ้ างแล้ วนะ “นํ ้าจะนอนก็ไม่ได้ นอน โดนพี่คินทร์ สะกิดไม่ร้ ูกี่รอบแล้ ว
พี่คินทร์ นอนลงไปเลยนะคะ!” ฉันชี ้นิ ้วใส่หน้ าคนตัวสูง พร้ อมกับออกคําสัง่
“ไม่นอน!” แต่พี่คินทร์ กลับดื ้อดึงโดยการนัง่ กอดอกนิ่งๆแทน

ขนาดป่ วยยังมีฤทธิ์เดชต่อต้ านอีก!

บ๊ อก บ๊ อก!

เสียงเห่าของลูกชิ ้นดังขึ ้นหลังจากนัน้ ฉันหันไปมองก็พบว่าลูกชิ ้นกับหมู


ปิ ง้ เริ่ มตื่นขึ ้นมาดูเราสองคนแล้ วว่ากําลังทําอะไรกันอยู่

“พี่คินทร์ ทําลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ตื่นนะคะ!”

“ดี! เธอก็ห้ามนอนเหมือนกัน” เขาเบะปากใส่ฉนั ก่อนจะยักไหล่ด้วย


ท่าทางสบายๆ

“พี่คินทร์ จะนอนหรื อไม่นอนคะ” ฉันกัดฟั นถามเสียงเครี ยด ถ้ าเขายัง


ตอบไม่นอนอีกล่ะก็ เห็นดีกนั แน่

“ไม่... เฮ้ ย!”


“…”
“นี่เธอทําอะไรเนี่ย!”

ฉันขยับร่างกายเข้ าไปหาคนตัวสูง ก่อนจะผลักอกเขาให้ นอนราบลงบน


เตียง จากนันก็
้ ชะโงกหน้ าเข้ าไปใกล้ ๆ ลมหายใจของเราทังสองคนเป่
้ ารดกันเบาๆ ฉัน
จ้ องตาสีนิลของพี่คินทร์ ตรงๆ กดดันทางสายตาแบบนี ้ เขาคงไม่กล้ าหือเท่าไหร่หรอก
“พี่คินทร์ ต้องนอน! ถ้ าไม่นอน... นํ ้าจะไปนอนห้ องเคท แล้ วก็จะปล่อย
ให้ พี่คินทร์ ช่วยเหลือตัวเองอยู่ที่นี่คนเดียว” และนี่แหละคือคําขู่ของฉัน

ฉันรู้ว่าเวลาที่อวัยวะส่วนใดส่วนหนึง่ ของเราใช้ การไม่ได้ มนั ลําบากมาก


แค่ไหน เพราะฉันเคยผ่านการเข้ าค่ายลูกเสือตอนมัธยมต้ นมา คุณครูให้ ฉนั กับเพื่อน
มัดขาติดกันเพื่อทําภารกิจในด่านต่างๆของค่าย ตอนนันมั ้ นทรมานทังร่้ างกายทัง้
จิตใจเลยล่ะ เดินเหินก็ไม่สะดวก สะดุดขากันล้ มบ้ างก็มี

“…” ไร้ เสียงตอบกลับจากคนตัวสูง มีเพียงการกะพริ บตาและลม


หายใจเท่านันที
้ ่เราใช้ สื่อสารกันอยู่

“จะนอนไม่นอน?” ฉันถามหยัง่ เชิงไปอีกครัง้

“เออ...” พี่คินทร์ พยักหน้ า จากนันก็


้ ตอบว่า “นอนก็ได้ ”
“…”
“เอามือออกไปดิ มือเธอกดหัวนมฉันจนเจ็บไปหมดแล้ วเนี่ย!”

ฉันสะดุ้งเล็กน้ อยเมื่อได้ ยิน ก่อนจะถอนฝ่ ามือออกมาจากหน้ าอกของ


เขา แล้ วทิ ้งท้ ายด้ วยการมองเขาชนิดอาฆาตแค้ นสุดขีด คราวนี ้ฉันหวังว่าจะไม่มีการ
จิ ้มใดๆเกิดขึ ้นบนร่างกายของฉันแล้ วนะ ไม่งนฉั ั ้ นปล่อยเขาทิ ้งแน่!
KINN Talks.
นี่เมียหรื อแม่กนั แน่วะครับ?
ผมเฝ้าถามคําถามนี ้กับตัวเองมาหลายวันนับจากเข้ าเฝื อก ยัยอุ๋งจํากัด
สิทธิ์การใช้ ชีวิตของผมทุกอย่าง ไม่วา่ จะเป็ นการเล่นเกมตอนดึกๆ การกินข้ าวให้ ตรง
เวลา การไม่เดินไปเดินมาเพราะจะทําให้ ขาบวมมากกว่าเดิม ซึง่ โดยรวมแล้ วมันคือ
การบังคับผมทางอ้ อมซะมากกว่า

บอกตรงๆเลยว่าตอนนี ้ผมโคตรอึดอัด...

“เป็ นไงบ้ างแมวนํ ้า” ยังไม่ทนั ที่ผมจะได้ เอนหลังลงนอนกับที่ราบบน


โซฟา จู่ๆเสียงของไอ้ เฟี ยตก็ดงั ขึ ้นมา พร้ อมกับบานประตูที่เปิ ดพรวดเข้ ามาอย่าง
รวดเร็ว

“มีอะไร” ผมถามมันเซ็งๆ

ไอ้ นี่ก็อีกคนเหมือนกัน มันห้ ามไม่ให้ ผมไปเรี ยนจนกว่าอาการบวมที่ขา


จะดีขึ ้น บงการชีวิตผมตังแต่
้ ปีหนึง่ ยันปี สี่ นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ ว ผมก็ยงั ไม่ได้ ไป
เหยียบมหาวิทยาลัยเลยสักวัน

“ศุกร์ นี ้ไปหัวหินกัน”
“???”
ผมกับยัยอุ๋งหันมองหน้ ากันทันที เราทังคู
้ ต่ ่างมีเครื่ องหมายคําถามแปะ
เต็มใบหน้ าไปหมด อะไรของมันวะ จู่ๆก็ชวนไปหัวหิน แฟนมันเอาอะไรผิดสําแดงให้
กินหรื อเปล่า

“ไปยังไง ไปกับใคร” ผมเริ่ มถามรายละเอียดทันที


“ไปรถยนต์สว่ นตัวไง กูชวนฟิ ล์มกับเพื่อนๆฟิ ล์มแล้ ว แล้ วกูก็ชวนไอ้
เฟรมกับไอ้ รามแล้ ว มันโอเค...”

ไอ้ เฟรมกับไอ้ รามเป็ นเพื่อนของพวกผมเอง เรี ยกว่าสนิทกันพอสมควร


ผม ไอ้ เฟี ยต ไอ้ เฟรม แล้ วก็ไอ้ ราม เราทังสี
้ ่คนเป็ นเพื่อนกันตังแต่
้ ปีหนึง่ เพราะฟอร์ ม
วงกันเพื่อเล่นดนตรี โดยมีไอ้ เฟรมเป็ นนักร้ องนํา ผมกับไอ้ เฟี ยตเราจะสลับกับเป็ นมือ
กลอง บางครัง้ ก็เป็ นมือกีตาร์ ส่วนไอ้ รามจะทําหน้ าที่เล่นเบส

“แล้ วมึงก็มาชวนกู?”

“ถูก...” ไอ้ เฟี ยตพยักหน้ ารับ “ไหนๆมึงก็เดี ้ยงละ พามึงไปเที่ยวผ่อน


คลายสักอาทิตย์คงไม่เป็ นไรหรอก ยังไงคาบเรี ยนของมหาวิทยาลัยเราแม่งก็ไม่เช็คชื่อ
อยู่แล้ ว”

“ว่าไงอุ๋ง” ผมตัดสินใจได้ เองที่ไหนล่ะ นู่นเลยครับ... ต้ องรอให้ แม่คนที่


สองของผมอนุญาตก่อน

ตอนดุนี่โคตรเหมือนเสือเลยให้ ตาย... ตอนมาใหม่ๆแมวแม่งยังอายเลย


ขอบอก

“…” ยัยอุ๋งหันหน้ าไปมองไอ้ เฟี ยตนิ่งๆ เธอเม้ มริ มฝี ปากแน่นคล้ าย


กับกําลังขบคิดอะไรบางอย่างอยู่ จากนันก็
้ ตอบกลับไอ้ เฟี ยตไปว่า “ไปเปิ ดหูเปิ ดตา
บ้ างก็ดีนะคะ”
---------------------------
วันศุกร์

กว่าจะขับรถมาถึงหัวหินก็กินเวลานานจนผมต้ องนัง่ บิดซ้ ายทีขวาที


อย่างทรมาน ก้ นกบปวดไปหมดจนอยากจะร้ องไห้ ให้ ร้ ูแล้ วรู้รอด ยิ่งตอนนี ้ขาผมข้ าง
หนึง่ ใช้ การไม่ได้ ก็แย่พออยู่แล้ ว ยังต้ องมานัง่ รถทรมานร่างกายเล่นอีก

“กว่าจะถึง... ก้ นกบกูชํ ้าไปหมดแล้ วมัง”


้ ผมบ่นอุบ ในขณะที่ก้าวลง
จากรถอย่างทุลกั ทุเล

“บ่นห่าไรของมึง” ไอ้ เฟี ยตที่ทําหน้ าที่เป็ นคนขับรถก้ าวออกมา ก่อนจะ


ทําหน้ าเซ็งใส่ผม

“ที่นี่รีสอร์ ทป้ากูเอง พวกมึงเลือกห้ องได้ ตามสบายเลยนะ” ไอ้ ราม


สะพายกระเป๋ าเป้เดินเข้ ามาหาพวกผมสองคน

ตรงหน้ าของเราเป็ นรี สอร์ ทหลังใหญ่หลังหนึง่ ที่มีผ้ คู นเดินพลุกพล่านไป


มา บรรยากาศโดยรอบตกแต่งเพื่อให้ เข้ ากับบรรยากาศของทะเลหัวหิน เสียงคลื่นซัด
กระทบชายฝั่ งเป็ นระลอกให้ ความรู้สกึ สบายอกสบายใจจนผมอดอมยิ ้มออกมาอย่าง
ห้ ามไม่ได้ ผมสูดลมหายใจเข้ าปอดลึกๆอย่างผ่อนคลายเพื่อรับบรรยากาศธรรมชาติ
ของทะเล

ไม่ได้ มาพักผ่อนแบบนี ้นานแล้ วเหมือนกัน ตังแต่


้ ... ผมเข้ าปี หนึง่ เลยมัง้
“ทุกคนมารวมกันตรงนี ้ก่อน!” ไอ้ เฟี ยตยกมือขึ ้นป้องปากตะโกนเรี ยก
ทุกคนที่กําลังเดินลงจากรถให้ มายืนรวมกัน ดูเหมือนว่ายีนส์ผ้ นู ําในร่างกายของมันคง
กําลังเดือดพล่านได้ ที่

หลังจากเสียงเรี ยกของไอ้ เฟี ยตหยุดลง ทุกคนก็เดินเข้ ามารวมกัน รวม


ทังยั
้ ยอุ๋งที่กําลังจูงลูกชิ ้นกับหมูปิง้ เดินเข้ ามาด้ วย
เรามารถยนต์สามคัน มีรถผม รถไอ้ เฟี ยต แล้ วก็รถไอ้ ราม ซึง่ แต่ละคันจะแบ่งผู้นงั่ คัน
ละห้ าคน คันของผมก็มีผม ไอ้ เฟี ยต เคท ยัยอุ๋ง และฟิ ล์ม ส่วนคันของไอ้ รามก็มีไอ้ ราม
กับเพื่อนฟิ ล์มอีกหนึง่ คน รู้สกึ น้ องคนนันน่
้ าจะชื่อพาร์ ทหรื ออะไรสักอย่างเนี่ยแหละ
ผมก็จําไม่คอ่ ยได้ เท่าไหร่ ส่วนรถของไอ้ เฟี ยตก็มีไอ้ เฟรมเป็ นคนขับมาให้ ซึง่ กระเป๋ า
สัมภาระส่วนใหญ่จะอยู่ที่รถของไอ้ เฟี ยต ไอ้ เฟรมเลยได้ นงั่ คนเดียวเพื่อให้ พื ้นที่ว่าง
ภายในรถได้ ใช้ วางกระเป๋ ากัน
ส่วนเจ้ าดื ้อทังสองตั
้ วผมกับยัยอุ๋งลงมติกนั แล้ วว่าต้ องเอามาด้ วย เพราะถ้ าขืนเอาไป
ฝากใครไว้ คงได้ ทําข้ าวของคนอื่นพังเสียหายแน่นอน และแน่นอนว่าเคทแพ้ ขนหมา
ขนแมว เลยจําเป็ นต้ องเอาทังสองตั
้ วไปไว้ คนั ไอ้ เฟี ยตแทน

“เราจะแบ่งกันพักห้ องละสองคนนะ เดี๋ยวพี่กบั ไอ้ คินทร์ จะอยู่ด้วยกัน” ไอ้ เฟี ยตชี ้นิ ้ว
มาทางผม ก่อนจะแจกแจงรายละเอียดให้ ทกุ คนฟั ง จากนันก็ ้ เริ่ มไล่ชี ้แต่ละคนที่เอ่ย
ชื่อ “ไอ้ รามมึงอยู่กบั ไอ้ เฟรมแล้ วก็น้องพาร์ ท ฟิ ล์มอยู่กบั ปิ่ นและแก้ ว ส่วนเคทอยู่กบั
แมวนํ ้า ตามนี ้เลย...”
“อะ...เอ่อ” เสียงยัยอุ๋งเอ่ยขึ ้นมาหลังจากไอ้ เฟี ยตพูดจบ “คือว่าเคทแพ้ ขนหมา งัน้
นํ ้าขอฝากลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ไว้ ห้องพี่เฟี ยตได้ ไหมคะ”
ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทําไมยัยอุ๋งไม่พดู ว่าฝากไว้ กบั ผม เพราะเรื่ องที่ผมหมันกั ้ บเธอ
ในนี ้มีแค่ผม ไอ้ เฟี ยต ฟิ ล์ม เคท และยัยอุ๋งเท่านันที
้ ่ร้ ูเรื่ อง ส่วนคนอื่นๆยังไม่ร้ ู ซึง่
ตอนนี ้ผมจะให้ คนอื่นรู้ไม่ได้ เด็ดขาด เพราะอาจจะเกิดเรื่ องวุน่ วายตามมาได้

“ได้ สิ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวพี่ดใู ห้ ” ไอ้ เฟี ยตเอ่ยตอบยัยอุ๋งด้ วยหน้ าตายิ ้มแย้ ม

“ห้ องไอ้ เฟรมกับห้ องของฟิ ล์มอยู่กนั ตังสามคน


้ มันจะกว้ างพอเหรอวะ” ผมเอ่ยถาม
อย่างสงสัย

“คืองี ้มึง...” ไอ้ รามเอ่ยขึ ้น ผมหันไปฟั งมันทันที “รี สอร์ ทป้ากูจะมีห้องเตียงคู่ ห้ อง


เตียงเดี่ยว แล้ วก็ห้องวีไอพี ซึง่ ห้ องวีไอพีมนั จะอยู่ชนบนสุ
ั้ ด เป็ นห้ องแยกออกอีกทีสอง
ห้ อง พวกกูกบั แฟนไอ้ เฟี ยตจะไปพักที่ชนบนสุ ั้ ด ส่วนพวกมึงกับพวกน้ องสาวมึงจะพัก
อยู่ห้องข้ างๆมึง”

“อ่อ...” ผมพยักหน้ ารับรู้รายละเอียดเมื่อได้ คนเรี ยนเก่งอย่างไอ้ รามอธิบาย


สมแล้ วที่ได้ เอมาทุกวิชา...

“รี บขนของเข้ าห้ องกันเถอะ เดี๋ยวกูโทรหาป้าแป๊ บหนึง่ ” ไอ้ รามรี บแยกตัวออกไปกด


โทรศัพท์โทรหาผู้เป็ นป้า
ส่วนผมก็มีหน้ าที่เดินอย่างทุลกั ทุเลเข้ าไปในรี สอร์ ทโดยให้ คนที่อวัยวะครบสามสิบ
สองเป็ นคนขนกระเป๋ าเข้ าไปให้ แทน ถึงขาผมจะเดี ้ยง ใช้ ชีวิตลําบากไปนิดหน่อย แต่
พอมาคิดดูดีๆแล้ ว ก็ดีแล้ วแหละที่มนั เดี ้ยง เพราะผมจะได้ ใช้ คนทําอะไรให้ ได้ ง่ายๆ
ฮ่าฮ่าฮ่า!

20 : 19 น. รี สอร์ ทนัมเบอร์ วนั

“เรี ยกกูลงมาทําอะไรเนี่ย ขายิ่งปวดๆอยู่!”


ทันทีที่เดินลงมาถึงชันล่
้ างสุดของรี สอร์ ท ผมก็เปล่งเสียงบ่นของตัวเองออกไปให้ ผ้ เู ป็ น
เพื่อนทังสามคนกั
้ บรุ่นน้ องอีกหนึง่ คนที่นงั่ ตาปริ บๆฟั งทันที
เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาหลังจากอาบนํ ้าเสร็จ ผมเดินออกมาจากห้ องนํ ้าแล้ วไม่เห็นไอ้
เฟี ยต เลยกะว่าจะนอนเล่นเกมรอมันอยู่ที่ห้อง แต่ไอ้ เฟี ยตมันดันโทรมาบอกผมว่าให้
ผมเดินลงมาที่ชนล่ ั ้ าง เพราะไอ้ เฟรมเรี ยกทุกคน(เฉพาะผู้ชาย)มาเล่นเกมกันที่ชนั ้
ล่างแทน
ผมว่าเกมที่มนั จะเล่นน่ะไม่สร้ างสรรค์แน่นอน ไอ้ บ้านี่มนั เหมือนคนปกติทวั่ ไปซะที่
ไหน

“เบียร์ ห้าแก้ วนี ้มีสามแก้ วที่เป็ นเบียร์ จริ งๆ ส่วนอีกสองแก้ วจะมียาผสมอยู่ แก้ วแรก
ผสมยานอนหลับ แก้ วที่สองผสมยาปลุกเซ็กส์ กูให้ พนักงานสลับแก้ วให้ ละ ทีนี ้พวก
มึงเลือกเลยว่าจะเอาแก้ วไหน ดวงดีก็ได้ เบียร์ แต่ถ้าไม่ดี...” ไอ้ เฟรมว่า ก่อนที่สายตา
เจ้ าเล่ห์ของมันจะมองมาทางผม แล้ วเอ่ยขึ ้นด้ วยนํ ้าเสียงเย็นเฉียบ “ก็ได้ ยา...”
ผมไล่สายตามองแก้ วเบียร์ ห้าแก้ วที่ตงเรี
ั ้ ยงหน้ ากระดานด้ านหน้ าไอ้ เฟี ยต ก่อนจะเงย
หน้ าขึ ้นมองไอ้ เฟรมอีกรอบ มันยักคิ ้วใส่ผมสองที ก่อนจะเอ่ยขึ ้นอย่างท้ าทาย
“กล้ าเปล่า...”

“กูไม่เล่น!” ผมรี บตัดบทมันทิ ้งอย่างไม่ใยดี

เล่นROVยังจะสร้ างสรรค์กว่าเกมที่มนั คิดขึ ้นมาเลย แล้ วเมื่อกี ้พูดว่าอะไรนะ ผสม


ยาปลุกเซ็กส์กบั ยานอนหลับงันเหรอ
้ ผมไม่อยากจะคิดเลยว่านี่คือความคิดของ
นักศึกษาปริ ญญาตรี ชนปี
ั ้ ที่สี่

“มึงกลัวอะไรวะ แก้ วเบียร์ จริ งๆแม่งคิดเป็ น60%ของทังหมด


้ มีโอกาสที่มงึ จะได้ เบียร์
มากกว่าได้ ยาอีก” ไอ้ เฟรมว่า ก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาด้ วยท่าทางสบายๆ
ผมปรายตาไปมองไอ้ เฟี ยตที่นงั่ กดโทรศัพท์ไม่สนใจโลกภายนอก ก่อนจะเอ่ยถามมัน
ว่า “ไอ้ เฟี ยต... กูร้ ูว่ามึงเป็ นคนมีเหตุผลที่สดุ ในกลุม่ ละ มึงรู้ว่าเกมนี ้ไม่สร้ างสรรค์ มึง
คงไม่เล่นหรอก...ใช่ไหม”

“มาพักผ่อนหย่อนใจ เล่นนิดเล่นหน่อยจะเป็ นอะไรไปล่ะ” มันเงยหน้ าขึ ้นจากจอมือ


ถือ พลางเอ่ยเสียงเรี ยบตอบกลับผม
คราวนี ้ตัวช่วยสุดท้ ายของผมก็เห็นจะเป็ นไอ้ รามนี่แหละ ปกติไอ้ รามมันไม่คอ่ ยกิน
พวกแอลกอฮอล์เท่าไหร่หรอก เรี ยกได้ ว่ากินได้ บ้างตามโอกาส แต่ไม่บอ่ ยเท่าพวกผม
สามคน

“ไอ้ ราม... นี่รีสอร์ ทป้ามึงนะ มึงจะให้ ไอ้ เฟรมมาทําแบบนี ้ในรี สอร์ ทป้ามึงเหรอ”
“ไม่เป็ นไร ป้ากูบอกแล้ วว่าอยากทําอะไรก็ทําเลยตามสบาย” ไอ้ รามยักไหล่ ก่อนจะ
พยักพเยิดหน้ าไปทางเพื่อนของฟิ ล์มที่นงั่ อยู่กบั พวกเราด้ วย “มึงดูดิ ขนาดน้ องมันยัง
กล้ าเลย มึงปอดแหกอะไร”
ผมไม่ได้ ปอดแหกหรอกนะ แต่ถ้าเกิดผมดวงซวยจับได้ แก้ วยาปลุกเซ็กส์ขึ ้นมาล่ะจะ
ทํายังไง ผมไม่ได้ กลัวหรอกไอ้ การกินเบียร์ แบบนี ้น่ะ แต่ผมกลัวว่าตัวเองจะควบคุม
ร่างกายไม่ได้ เผลอไปปลํ ้ายัยอุ๋งซํ ้าสองขึ ้นมา มีหวังผมซวยยันชาติหน้ าแน่นอน

“เออไอ้ สสั ! มา! จะให้ กเู อาแก้ วไหน!” ผมทิ ้งตัวลงนัง่ บนโซฟาข้ างไอ้ เฟี ยต พร้ อม
กับพูดออกไปเสียงดังฟั งชัด

“มึงเลือกเองเลย จะได้ ร้ ูว่ากูไม่ได้ โกง เผื่อมึงได้ แก้ วยาปลุกเซ็กส์ไป มึงจะได้


สําเหนียกว่ามึงซวยด้ วยตัวเอง ฮ่าๆๆ!” ไอ้ เฟรมว่า ก่อนจะหัวเราะร่วน

ขําดีจริ งนะพวกมึง!

“งันกู
้ เอาแก้ วนี ้...” ผมยื่นมือออกไปเลือกแก้ วเบียร์ มาหนึง่ แก้ ว ก่อนจะยกมันขึ ้นจรด
ริ มฝี ปาก สูดกลิ่นของมันเข้ าไปในปอดเบาๆ จากนันก็ ้ เหลือบตามองไอ้ เฟรม ไอ้ เฟรม
ทําหน้ าไม่ร้ ูไม่ชี ้ นัน่ แหละครับ... “กูขอเปลี่ยนแก้ วใหม่” ผมรี บวางแก้ วเดิมทิ ้งไป
ทันที จากนันก็ ้ หยิบแก้ วใหม่ขึ ้นมากระดกซดรวดเดียวหมดเกลี ้ยง

“เค๊ ! ตามึงละไอ้ เฟี ยต...” ไอ้ เฟรมหันหน้ าไปทางไอ้ เฟี ยต

“กูเอาแก้ วนี ้” ไอ้ เฟี ยตหยิบออกไปหนึง่ แก้ ว แล้ วกระดกซดรวดเดียวหมดเหมือนกัน


กับผม
“ตามึงไอ้ ราม...”

“กูเอานี่ละกัน” ไอ้ รามก็หยิบแก้ วออกไปดื่มแบบจิบเบาๆ


ตรงหน้ าเหลือแก้ วเบียร์ อยู่เพียงสองแก้ วเท่านัน้ ไอ้ เฟรมหันไปมองไอ้ พาร์ ท จากนันก็

ใช้ สายตากดดันให้ น้องมันเลือกแก้ วเบียร์ ออกไป

“งันแก้
้ วสุดท้ ายนี ้เป็ นของกู” แล้ วมันก็หยิบแก้ วสุดท้ ายขึ ้นไปจิบเบาๆ
ผมเหลือบตามองแก้ วของตัวเองหลังจากดื่มหมดแล้ วเงียบๆ แต่ยงั ไม่ทนั ที่สายตาจะ
ละจากแก้ ว ผมกลับสังเกตเห็นบางอย่างที่ก้นแก้ วด้ วย มันเป็ นผงสีขาว...

อย่าบอกนะว่า... ฉิบหายแล้ วกู!


MAWNUM Talks.
“เดี๋ยวนํ ้ามานะเคท นํ ้าขอไปดูลกู ชิ ้นกับหมูปิง้ ที่ห้องพี่เฟี ยตก่อน” หลังจากอาบนํ ้า
แต่งตัวเสร็จเรี ยบร้ อย ฉันก็หนั ไปบอกเคทที่นงั่ เอากระดาษทิชชู่ซบั นํ ้าตาเนื่องจากอิน
เนอร์ จากการดูซีรีส์กําลังเล่นงานเธอ

“ฮึก... อือ รี บไปรี บกลับนะ ฮึก...”

“อ่า... เคๆ” ฉันพยักหน้ ารับ ก่อนจะเดินไปทางประตูและเปิ ดมันออกไป


ห้ องของพี่เฟี ยตกับพี่คินทร์ อยู่ทางขวาข้ างห้ องฉัน ดีหน่อยที่ไม่ต้องเดินไกล พอมายืน
อยู่หน้ าห้ องพี่เฟี ยตเป็ นที่เรี ยบร้ อย ฉันก็ยกมือขึ ้นเคาะบานประตูนนสองครั
ั้ ง้
ก๊ อกๆ!

“พี่เฟี ยตคะ... นํ ้าขอเข้ าไปดูลกู ชิ ้นกับหมูปิง้ ได้ ไหมคะ”

“…” ไร้ การตอบรับจากเสียงเจ้ าของห้ อง


หัวคิ ้วของฉันค่อยๆขมวดเข้ าหากันอย่างคิดหนัก ในขณะที่มือข้ างหนึง่ เอื ้อมไปจับ
ลูกบิดประตูแล้ วเปิ ดมันออกเบาๆ
ประตูก็ไม่ได้ ลอ็ กด้ วย พี่เฟี ยตกับพี่คินทร์ ไปไหนกันนะ

บ๊ อก บ๊ อก!
เสียงเห่าของลูกชิ ้นดังขึ ้นที่ข้างเตียง พอทังสองตั
้ วเห็นฉันก็รีบวิ่งเข้ ามากระโดดใส่ หาง
ของเจ้ าตัวดื ้อกระดิกไปมาราวกับดีใจที่เห็นฉันมาหา

“งื ้อ... เป็ นยังไงบ้ าง กินอาหารหรื อยัง” ฉันทรุดตัวลงนัง่ ยองๆข้ างทังสองตั


้ ว ยกมือ
ขึ ้นลูบหัวของมันเบาๆ
ฉันเหลือบตาไปมองถ้ วยใส่อาหารที่วางอยู่ตรงมุมห้ อง ถุงอาหารถุงใหม่ที่เตรี ยมมายัง
ไม่มีการแกะหรื อแงะใดๆทังสิ ้ ้น ฉันถอนหายใจออกมายืดยาว สาบานเลยว่าถ้ าเคทไม่
แพ้ ขนหมา ฉันจะเอาลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ไปอยู่ที่ห้องด้ วย พี่คินทร์ ซื ้อลูกชิ ้นกับหมูปิง้
มาแล้ วไม่ร้ ูจกั ดูแลทังสองตั
้ วเลย!

“มาๆๆ ตามนํ ้ามานี่เร็ว เดี๋ยวนํ ้าเอาอาหารให้ นะ” ฉันเดินไปยังถ้ วยอาหาร ก่อนจะ


เรี ยกเจ้ าสองตัวให้ เดินตามไป
ฉันหยิบถุงอาหารขึ ้นมา กวาดสายตามองหาสิ่งที่จะเอามาตัดถุงออก แต่มนั ก็ไม่มี
อะไรเลยแฮะ หรื อว่าจะอยู่ในกระเป๋ าพี่คินทร์ ...
ฉันเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ต้ เู สื ้อผ้ าแทน และสาวเท้ าเดินเข้ าไปยังตรงนัน้ ก่อนจะเปิ ดตู้
ออก แล้ วหยิบกระเป๋ าสัมภาระของพี่คินทร์ ออกมาหากรรไกร

หมับ!

“อ๊ ะ!” ฉันร้ องลัน่ ด้ วยความตกใจเมื่อมีวงแขนของใครบางคนโอบรัดรอบกายฉัน


อย่างแนบแน่น
แผ่นหลังที่มีเสื ้อนอนกันอยู
้ ่สมั ผัสกับแผ่นอกแข็งแกร่งของคนด้ านหลัง เสียงหอบ
หายใจหนักๆของคนด้ านหลังทําให้ หวั ใจฉันแทบหลุดออกมาจากอก ลมหายใจอุ่นๆ
ของเขาเป่ าริ นรดอยู่ตรงใบหูฉนั เบาๆจนขนอ่อนทังร่้ างกายเริ่ มลุกชันขึ ้น

“อุ๋ง...” เสียงเรี ยกนันทํ


้ าให้ ฉนั รับรู้ได้ ทนั ทีว่าคนที่กําลังโอบกอดกันจากทางด้ านหลัง
เป็ นใคร

“พี่คินทร์ ...” ฉันครางชื่อพี่คินทร์ เสียงเบา และพยายามย่นคอหนีสมั ผัสชวนขนลุกที่


ไล่ลามอยู่แถวต้ นคอ

“ร้ อนมาก...” เสียงทุ้มพึมพําเบาๆที่ข้างหูฉนั ก่อนจะสบถออกมาราวกับหัวเสีย


“แม่งเอ๊ ย!”

“พี่คินทร์ ปล่อยนํ ้าก่อนได้ ไหมคะ” ฉันขยับตัวนิดหน่อยเพราะรู้สกึ อึดอัด


“อือ... ขอโทษที” พี่คินทร์ ผละวงแขนออกไป
ฉันรี บหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ ากับเขาตรงๆ สีหน้ าของพี่คินทร์ ดไู ม่คอ่ ยสู้ดีนกั
หน้ าผากเขามีแต่เม็ดเหงื่อเต็มไปหมดเลย แถมเสียงลมหายใจของพี่คินทร์ ยงั ผ่อนเข้ า
ออกอย่างรุนแรงอีกด้ วย

“พี่คินทร์ โอเคไหมคะ ดูท่าไม่ดีเลย ปวดแผลหรื อเปล่า” ฉันรี บถามอาการเขาทันที

“ไม่เป็ นไร เธอออกไปก่อนไป” เขาเค้ นเสียงตอบ ก่อนจะเดินอย่างทุลกั ทุเลไปทิ ้งตัว


นอนลงบนเตียง

“นํ ้าจะเข้ ามาให้ อาหารลูกชิ ้นกับหมูปิง้ พี่คินทร์ มีกรรไกรตัดถุงอาหารไหมคะ เมื่อกี ้


นํ ้ากําลังหา แต่พี่คินทร์ มากอดนํ ้าก่อน” พอพูดมาถึงจุดนี ้ ฉันก็ก้มหน้ าลงมองพื ้น
แทน สองข้ างแก้ มเกิดอาการร้ อนขึ ้นหน่อยๆ

“ลองหาดู อยู่ในกระเป๋ านัน่ แหละ ฉันหยิบมาด้ วยอยู่” เขาชี ้นิ ้วไปที่ต้ เู สื ้อผ้ า
เหมือนเดิม “ช่วยเร่งแอร์ ให้ หน่อย เอาเย็นๆได้ เลยยิ่งดี”

“ค่ะ” ฉันรี บเดินไปเปิ ดแอร์ เร่งให้ เขาตามคําสัง่


จากนันก็
้ เดินกลับมาค้ นหากรรไกรในกระเป๋ าของพี่คินทร์ ต่อ หาอยู่สกั พักถึงเจอ ฉัน
เดินกลับไปยังถ้ วยใส่อาหารของเจ้ าสองตัว จากนันก็
้ ใช้ กรรไกรตัดถุงอาหารออก และ
เทอาหารลงให้ ลกู ชิ ้นและหมูปิง้ กิน

“พี่คินทร์ เป็ นอะไรไหมคะ ให้ นํ ้าไปเรี ยกพี่เฟี ยตให้ ไหม” และเปลี่ยนความสนใจมาที่


คนตัวสูงบนเตียงต่อ
“ไม่เป็ นไร เดี๋ยวมันก็ขึ ้นมา เธอก็ออกไปได้ แล้ ว อยู่นานๆเดี๋ยวคนอื่นมาเห็น ”

“…” ฉันเม้ มปากแน่นอย่างลังเล ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้ าไปหาพี่คินทร์ ที่นอนหอบ


หายใจอย่างรุนแรงอยู่ที่เตียง ฉันเอื ้อมมือไปอังหน้ าผากของเขา พลางเอ่ยด้ วย
นํ ้าเสียงห่วงใย “พี่คินทร์ ไม่โอเคเลย”

หมับ!
มือหยาบใหญ่ของเขาคว้ าข้ อมือฉันข้ างที่ใช้ องั หน้ าผากเอาไว้ แรงบีบมหาศาลบีบลง
บนข้ อมือฉันจนทําฉันนิ่วหน้ าเพราะความเจ็บที่เพิ่มขึ ้นเรื่ อยๆไม่ทีท่าว่าจะลดลง

“ฉันบอกให้ ออกไป!” เขาตวาดลัน่ เสียงดังจนร่างฉันสะดุ้งด้ วยความตกใจ


สายตาคมดุดนั จ้ องฉันราวกับอยากจะเอาเรื่ องกัน แต่นนั่ กลับทําให้ ฉนั งงเป็ นไก่ตา
แตก ฉันก็แค่เป็ นห่วงกลัวว่าเขาจะป่ วยเท่านันเอง
้ ทําไมถึงต้ องโมโหใส่ฉนั รุนแรง
ขนาดนี ้ด้ วย

“พะ...พี่คินทร์ ก็ปล่อยมือนํ ้าก่อนสิคะ พี่คินทร์ จบั มือนํ ้าอยู่” ฉันตอบเสียงสัน่


พยายามกลันนํ้ ้าตาเอาไว้ เพราะข้ อมือตอนนี ้เจ็บจนระบมไปหมดเลย

“…” เขาลดสายตาลงมองมือของตัวเองที่กําข้ อมือฉันเอาไว้ ก่อนจะผละออกไป


ฉันถลึงตาใส่คนตัวสูงที่นอนหลับตาลงหลังจากปล่อยมือจากข้ อมือฉันแล้ ว จากนันก็

หมุนตัวเตรี ยมจะเดินออกจากห้ อง

หมับ!
“อ๊ ะ...”
แต่จงั หวะนันเอง...
้ ข้ อมือของฉันกลับถูกฉุดรัง้ ด้ วยความรุนแรงจนร่างกายเซลงบน
เตียง พี่คินทร์ ดงึ ฉันเข้ าไปในอ้ อมกอด ก่อนที่ใบหน้ าของเขาจะซุกลงบนหลังต้ นคอฉัน
อย่างรวดเร็วชนิดที่ฉนั ไม่ทนั ได้ ตงตั
ั ้ วเลยด้ วยซํ ้า

“พี่คินทร์ !!!” ฉันร้ องเสียงหลงเมื่อริ มฝี ปากอุ่นร้ อนจรดลงบนผิวเนื ้อฉันเบาๆ

“ฉันบอกให้ เธอออกไปเร็วๆ ทําไมไม่ฟัง!”


-----------------------

“อึก... พี่คินทร์ ...” ฉันกลืนนํ ้าลายเหนียวๆลงคออย่างยากลําบาก


พลางเอ่ยเรี ยกชื่อพี่คินทร์ เสียงแผ่ว

ร่างกายทุกส่วนร้ อนวูบวาบไปหมดยามที่พี่คินทร์ ฝังริ มฝี ปากอุ่นร้ อนนัน้


ลงมาบนต้ นคอฉันเบาๆ ฉันเกร็งตัวเอง แม้ กระทัง่ มือที่โดนเขาเกาะกุมเอาไว้ ก็ยงั เกร็ง
ตาม

“ขออยู่... แบบนี ้สักพัก” เสียงทุ้มเอ่ยบอกด้ วยนํ ้าเสียง


กระท่อนกระแท่นปนเสียงหอบหายใจหนักๆ

“…” ฉันนิ่งเงียบ ร่างกายของเราทังคู


้ ไ่ ร้ การขยับเขยื ้อน

“ฉันเล่นเกมกับเพื่อน กินเบียร์ กนั มีสองแก้ วที่มียาปลุกเซ็กส์กบั ยา


นอนหลับผสมอยู่ ฉันดวงซวย... ได้ ยาปลุกเซ็กส์มา”
“!!!” เมื่อได้ ยินประโยคที่พี่คินทร์ พดู ออกมาทีละคํา ทําให้ ฉนั ถึงกับ
ลมหายใจขาดห้ วงลง

“แต่ไม่ต้องกลัว ฉันจะไม่ทําอะไรเธอ ฉันน่าจะควบคุมได้ ...” ฉันถอน


หายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ก็ต้องกลับไปหนักใจเหมือนเดิมเมื่อเขาพูดคําสุดท้ าย
ของประโยคออกมา “มัง...”

ทําไมต้ อง ‘มัง้ ’ ด้ วยเล่า!!!


“นํ ้ากลัว... พี่คินทร์ ปล่อยนํ ้าก่อนได้ ไหมคะ” ฉันเอ่ยบอกเสียงเบา พลาง
ขยับตัวยุกยิกนิดหน่อยเพราะความใกล้ ชิดของเราทังคู ้ ก่ ําลังทําให้ หวั ใจฉันทํางาน
หนัก

ตึกตัก... ตึกตัก...

หัวใจฉันกระหนํ่าเต้ นด้ วยความรัวเร็วผสานเป็ นจังหวะเดียวกันกับลม


หายใจอุ่นร้ อนของคนตัวสูงทางด้ านหลัง ฉันขบฟั นลงบนริ มฝี ปากของตัวเองแรงๆเพื่อ
เรี ยกสติ หัวคิ ้วตึงเครี ยดอย่างหนัก

“ขออยู่แบบนี ้สักพักไม่ได้ เหรอ...” เสียงของพี่คินทร์ เริ่ มแหบพร่าจนทํา


ฉันขนลุก

มันน่ากลัวจริ งๆนะ เขาทังตั


้ วใหญ่เทอะทะ กอดฉันไว้ แบบนี ้ เหมือนฉัน
ตัวเล็กลงเรื่ อยๆเลย
“แต่เราไม่ควรกอดกันแบบนี ้นะคะ คนอื่นอาจจะเข้ ามาเห็น ” ฉันรี บหา
เหตุผลมาอ้ าง ก่อนที่สายตาจะสะดุดลงที่ลกู ชิ ้นกับหมูปิง้ ที่นอนแลบลิ ้นทําตาแป๋ วอยู่
ข้ างกัน หางของพวกมันกระดิกไปมาราวกับดีใจที่เห็นฉันกับพี่คินทร์ กอดกันกลม
“ลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ก็มองเราอยู่ด้วย”

“มองแล้ วไง มันทําอะไรไม่ได้ หรอก”


“…”
ทําไงดีนะ สถานการณ์อนั ตรายแบบนี ้ ฉันจะทํายังไงกับชีวิตในตอนนี ้ดี
ใครก็ได้ ช่วยโผล่มาที พี่เฟี ยตก็ได้ พี่ฟิล์มก็ได้ ช่วยโผล่เข้ ามาทีเถอะ
ฉันพยายามขยับร่างกายอีกรอบเพื่อให้ คนตัวสูงรู้สกึ รํ าคาญ แต่ทว่าพอ
ได้ ยินประโยคถัดมาของพี่คินทร์ กลับทําให้ ร่างกายฉันนิ่งค้ างยิ่งกว่ารูปปั น้ ปูนแข็งๆ
ซะอีก

“อย่าดิ ้นมากได้ ไหมอุ๋ง ถ้ าฉันเกิดควบคุมอารมณ์ตวั เองไม่อยู่ อาจจะ


ปลํ ้าเธอตรงนี ้ก็ได้ ”

“…” ฉันเงียบเสียงลงทันที พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ ตื่นตระหนก


จนเกินไป

ฉันถูกพี่คินทร์ โอบกอดจากทางด้ านหลัง ริ มฝี ปากของเขายังคงคลอ


เคลียอยู่ที่ต้นคอฉันไม่ห่างไปไหน ลมหายใจที่ผ่อนเข้ าออกอย่างรุนแรงของพี่คินทร์ ก็
ยังคงดังเข้ ามาในหูฉนั ซํ ้าแล้ วซํ ้าเล่าอยู่อย่างนัน้
เป็ นเวลาหลายสิบนาทีที่เรานอนกอดกันอยู่ในท่าเดิม จนกระทัง่ ฉันเริ่ ม
รู้สกึ ถึงอุณหภูมิของร่างกายของตัวเองที่เย็นเฉียบลงเรื่ อยๆเนื่องจากการเร่งแอร์ ฉัน
ถึงได้ สะกิดนิ ้วลงบนวงแขนใหญ่ที่โอบรัดกันอยู่

“พี่คินทร์ คะ... นํ ้าเริ่ มหนาวแล้ ว”

“หันกลับมาหาฉัน”

เดี๋ยวๆๆ มันต้ องไม่ใช่แบบนี ้สิ พี่คินทร์ ต้องปล่อยวงแขนออกจาก


ร่างกายฉันและบอกว่า ‘เธอรี บออกไป’ แบบนี ้สิถึงจะถูก มันผิดแผนแล้ วนะ

“แต่วา่ ...”

“หันมา!” เสียงตะคอกดังๆจากเขาทําให้ ฉนั สะดุ้งซํ ้าสอง ก่อนจะ


ค่อยๆหมุนตัวกลับไปหาเขาตามคําขู่

“พี่คินทร์ ทํานํ ้ากลัว” ฉันพูดเสียงสัน่ ทังๆที


้ ่พยายามควบคุมมันให้ นิ่ง
แล้ วแท้ ๆ

หมับ!

“อื ้อ...”

เขายังไม่ทนั ได้ ตอบอะไรกลับมา ร่างกายฉันก็ถกู ดันเข้ าหาอ้ อมกอด


อบอุ่นซะแล้ ว ใบหน้ าฉันซุกอยู่บนอกแกร่งที่กระเพื่อมขึ ้นลงเป็ นจังหวะ ในขณะที่แผ่น
หลังกําลังรับรู้ได้ ถึงสัมผัสจากมือใหญ่ที่ลบู ไล้ อยู่
“นอนได้ แล้ ว”

เดี๋ยว... ไม่สิ ยังนอนไม่ได้

ปั ง!

“ไอ้ คินทร์ !!!”

ยังไม่ทนั ที่จะได้ คิดอะไรมากมาย จู่ๆเสียงเปิ ดประตูด้วยความรุนแรงก็


ดังขึ ้นมาพร้ อมกับนํ ้าเสียงทุ้มแสนคุ้นเคยของพี่เฟี ยตที่เรี ยกชื่อพี่คินทร์ เสียงดัง
“…”
“มึงไม่ต้องมาหน้ ามึน! ปล่อยน้ องเลย!” พี่เฟี ยตเดินเข้ ามาแกะวง
แขนของพี่คินทร์ ออกจากตัวฉันได้ จนสําเร็จ เขาดึงฉันลุกขึ ้นจากเตียง ก่อนจะถลึงตา
ใส่พี่คินทร์ ที่ขมวดคิ ้วจ้ องมองเราทังคู
้ อ่ ยู่ “มึงจะทําอะไรน้ อง!”

“แล้ วกูได้ ทําอะไรยัง” พี่คินทร์ ตอบเสียงเฉื่อย ก่อนจะพลิกตัวเองไปอยู่


ในท่านอนหงายแล้ วหลับตาลง

“ถ้ ากูไม่เข้ ามา มึงปลํ ้าน้ องไปแล้ ว” พี่เฟี ยตเอ่ยเสียงเครี ยด ก่อนจะหัน


มาหาฉัน “นํ ้ากลับห้ องไปก่อนไป ล็อกห้ องดีๆด้ วย”

“ค่ะพี่เฟี ยต” ฉันพยักหน้ ารับ ก่อนจะเบนสายตาไปมองพี่คินทร์ ที่นอน


แผ่หลาอยู่บนเตียงอีกครัง้

“ไม่ต้องห่วงหรอกนํ ้า เดี๋ยวพี่จดั การเอง” พี่เฟี ยตพูดขึ ้นอีกครัง้


ฉันพยักหน้ ารับ และเดินออกมาจากห้ อง ก่อนจะปิ ดประตูลงให้ พี่เฟี ยต
เสร็จสรรพ

เหตุการณ์วนั นี ้ทําใจฉันเต้ นไม่หยุดเลย...


KINN Talks.
“มีอะไรจะสารภาพไหม” ผมเหลือบตาขึ ้นมองไอ้ เฟี ยตที่ยืนท้ าวเอวอยู่
ข้ างเตียง พลางเอ่ยถามผมด้ วยนํ ้าเสียงจริ งจัง

“ไม่มี” ผมตอบเสียงเรี ยบ

ร่างกายของผมตอนนี ้ถึงแม้ มนั จะเย็นลงเพราะการเร่งแอร์ แต่มนั ก็


ยังคงร้ อนวูบวาบอยู่ดี เมื่อกี ้... ผมเกือบจะปลํ ้ายัยอุ๋งไปแล้ ว แต่ไม่ร้ ูทําไมผมถึงไม่ทํา
ทังๆที
้ ่โอกาสมันอยู่ตรงหน้ าแท้ ๆ อาจจะเพราะยัยอุ๋งยังเด็กเกินไป และแค่เธอบอกว่า
‘กลัว’ ผมก็พร้ อมที่จะหยุดตัวเอง

เป็ นเรื่ องแปลกที่ผมหาคําตอบให้ ตวั เองไม่ได้ เลยในตอนนี ้...

“เมื่อกี ้มึงทําอะไรน้ องไปบ้ าง สารภาพมา!”

“ไม่ได้ ทําอะไร แค่กอด”

ผมพูดความจริ ง... แต่ก็แค่พดู ไม่หมด ผมรู้ตวั เองดีวา่ ทําอะไรยัยอุ๋งไป


บ้ าง ผมจูบต้ นคอเธอไปด้ วย แถมยังสูดกลิ่นหอมจางๆจากร่างกายเธอเข้ าปอดไปอีก
หลายรอบเหมือนกัน ทําไมไอ้ ยาบ้ านี่ถึงได้ ทําให้ ผมเหมือนคนโรคจิตขนาดนี ้วะเนี่ย!
“ก็ดี เพราะมึงไม่ได้ ร้ ูสกึ อะไรกับน้ อง ก็ไม่ควรทําแบบนี ้กับน้ องนะคิ
นทร์ ” ไอ้ เฟี ยตบอกเสียงเรี ยบ ก่อนจะทรุดตัวลงนัง่ ที่ปลายเตียง

ผมยกมือขึ ้นก่ายหน้ าผากตัวเอง คําพูดของไอ้ เฟี ยตวนเวียนอยู่ในสมอง


ผมไปมา ‘ไม่ได้ ร้ ูสกึ อะไรก็อย่าทํา’ งันเหรอ...

วันต่อมา 07 : 13 น.

“เป็ นไงบ้ างวะเพื่อนคินทร์ สดุ เลิฟของกู” ไอ้ เฟรมเอ่ยทักขึ ้นด้ วยท่าทาง


ร่าเริ ง ใบหน้ าของมันทําให้ ผมรู้สกึ อยากจะเอาเท้ าไปแนบให้ ร้ ูแล้ วรู้รอด

“ไอ้ เพื่อนเหี ้ย...” ผมด่ามันเสียงเรี ยบ ก่อนจะเบนสายตาไปมอง


ทิวทัศน์ของบริ เวณโดยรอบแทน

ตอนนี ้ผมออกมานอนรับลมรับแสงแดดอ่อนๆในยามเช้ าที่สระนํ ้าของรี


สอร์ ท เพราะผมเป็ นคนเดียวที่ขาใช้ การไม่ได้ เลยต้ องหากิจกรรมที่ไม่โลดโผนทํา ซึง่
หนึง่ ในนันก็
้ คือการมานัง่ ทําตัวเป็ นพระเอกเอ็มวีสดุ หล่อที่สระนํ ้านี่ไง

“อ้ าว... ด่างี ้ไม่ได้ นะครับ ในเมื่อมึงเป็ นคนเลือกแก้ วไปเอง” ไอ้ เฟรม
ว่า พลางยักไหล่และเบะปากใส่ผมราวกับว่าตัวเองไม่ได้ มีความผิด

“…” ผมเถียงไม่ออก

ผมไม่น่าเปลี่ยนแก้ วเลย ดันเจอแจ็คพอตซะได้ เวร...


“เดี๋ยวกูกบั ไอ้ เฟี ยตแล้ วก็ไอ้ น้องที่ชื่อพาร์ ทจะไปเล่นเจ็ตสกีกนั มึงก็
นอนกินลมชมวิวที่นี่ไปละกันนะ”

“แล้ วไอ้ รามล่ะ” ผมเอ่ยถามเมื่อไม่ได้ ยินไอ้ เฟรมขานชื่อไอ้ ราม

“นอนหลับเป็ นตายอยู่บนห้ องนัน่ น่ะ ยังไม่ตื่น คาดว่าน่าจะโดนแก้ วยา


นอนหลับ”

นัน่ ล่ะครับ... เกมอันสร้ างสรรค์ที่คิดขึ ้นโดยสมองของนักศึกษาปริ ญญา


ตรี ชนปี
ั ้ ที่สี่

“อืม...” ผมครางรับเสียงตํ่า ก่อนจะนอนลงบนเก้ าอี ้ตัวยาวดังเดิม

ไอ้ เฟรมเดินออกไปแล้ ว ทีนี ้ก็เหลือแค่ผม...

“นี่นํ ้า! ฉันอยากว่ายนํ ้ามานานแล้ ว มาเร็วๆสิ”

...หรื อเปล่าวะ

เสียงพูดคุยคุ้นหูที่ดงั แว่วมาตามสายลม ทําให้ ผมต้ องลืมตาขึ ้นมอง


ก่อนจะเห็นว่าคนที่กําลังเดินเข้ ามาในบริ เวณสระว่ายนํ ้านันเป็
้ นใคร ที่แท้ ก็เป็ นยัยเคท
กับยัยอุ๋ง...

“อ้ าวพี่คินทร์ !” เคทสังเกตเห็นผมพอดีจงึ เอ่ยเรี ยกด้ วยความตื่นเต้ น

“มาทําอะไร” ผมถาม ก่อนจะเบนสายตาไปมองคนที่ยืนก้ มหน้ างุดอยู่


ด้ านหลังเคท
“มาว่ายนํ ้าไง เคทชวนไอ้ นํ ้ามันมาด้ วย นี่ๆๆ” เคทรี บดันยัยอุ๋งให้ มายืน
ด้ านหน้ าเธอ ก่อนจะพูดอวดโอ้ ชดุ ว่ายนํ ้าที่เธอเป็ นคนเลือกให้ ยยั อุ๋งใส่ “พี่คินทร์ ว่า
ชุดนี ้สวยเปล่า น่ารักมาก เหมาะกับไอ้ นํ ้ามากเลย เคทเลือกเอง เป็ นไงๆ”

ผมไล่สายตามองยัยอุ๋งตังแต่ ้ หวั จรดเท้ า ชุดว่ายนํ ้าที่ยยั อุ๋งสวมใส่อยู่


เป็ นชุดเสื ้อแขนยาวรัดรูป กางเกงขาสันจนเห็
้ นเรี ยวขาขาวๆ ความจริ งมันก็ไม่โป๊ เท่า
ชุดของน้ องผมที่เป็ นเสื ้อว่ายแบบไม่มีแขน แถมยังกว้ านอกลึกจนเห็นร่องอก ด้ านล่าง
เป็ นกางเกงที่สนมากยิ
ั้ ่งกว่ายัยอุ๋งด้ วยซํ ้า แต่ทําไมไม่ร้ ู ผมถึงได้ คิดว่ากางเกงว่ายนํ ้า
ของยัยอุ๋งมันสันเกิ
้ นไปหรื อเปล่า

ผมละความสนใจจากยัยอุ๋งมามองที่บริ เวณโดยรอบแทน เมื่อเห็น


สายตาของผู้คนทังชายและหญิ
้ งที่ก่อนหน้ านี ้เดินไปมาอยู่หยุดมองยัยอุ๋งพร้ อมกับยิ ้ม
กริ่ มอย่างมีเลศนัยก็ทําให้ หน้ าผมถึงกับหน้ ากระตุกเบาๆ

มองไรนักหนาวะ!
“มันสันไป!
้ ไปเปลี่ยนชุด!” ผมออกคําสัง่ กับยัยอุ๋งทันที

“อะไรสันพี
้ ่คินทร์ ” แต่กลับเป็ นยัยเคทที่ถามกลับมาแทนที่จะ
เป็ นยัยอุ๋ง

“ชุดว่ายนํ ้า” ผมตอบเสียงเรี ยบ

“นี่เรี ยกสันเหรอ
้ ยาวกว่านี ้ก็ใส่ชดุ นอนมาว่ายนํ ้าเถอะ” เคทตอบกลับ
มาด้ วยนํ ้าเสียงหงุดหงิด
ผมหันขวับไปจ้ องคนเป็ นน้ องสาว ก่อนจะขมวดคิ ้วแน่นพร้ อมชักสีหน้ า
ใส่อย่างไม่พอใจ

“เดี๋ยวนํ ้าไปเปลี่ยนก็ได้ ค่ะ ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก”

โอเค... ดี!
MAWNUM Talks.
ตอนนี ้ก็เกือบจะเย็นแล้ วที่เราอยู่ที่รีสอร์ ทและทํากิจกรรมคลายเครี ยด
ต่างๆกัน เมื่อเช้ าเคทชวนฉันไปว่ายนํ ้า แต่ดนั โดนพี่คินทร์ ไล่ให้ มาเปลี่ยนชุดว่ายนํ ้า
ใหม่โดยให้ เหตุผลว่าชุดที่ฉนั สวมใส่มนั สันเกิ
้ นไป ตอนแรกฉันก็คิดว่าชุดว่ายนํ ้าของ
ตัวเองมันดูจะโป๊ เกินไปหรื อเปล่า แต่พอเห็นชุดว่ายนํ ้าของคนอื่นแล้ ว ฉันกลับรู้สกึ ว่า
ของชุดของตัวเองนี่ยิ่งกว่าชุดว่ายนํ ้าของเด็กวัยอนุบาลเลย

และตลอดเวลาที่เราว่ายนํ ้าเล่นกัน ฉันกลับโดนพี่คินทร์ จ้องทุกการ


กระทํา ไม่วา่ จะขยับตัวลงสระ ตอนว่ายนํ ้า ตอนเล่นนํ ้ากับเคท หรื อว่าตอนไหนๆก็หนี
ไม่พ้นสายตาเฉียบคมของพี่คินทร์ แม้ แต่ฝีก้ าวเดียว

ตอนนี ้เป็ นเวลาเย็นมากแล้ ว ทุกคนกําลังเตรี ยมตัวอาบนํ ้าเพื่อเข้ าร่วม


ปาร์ ตี ้ตอนคํ่ากัน ตอนนี ้ฉันก็กําลังรออาบนํ ้าต่อจากเคทอยู่

“เคท! จะเสร็จหรื อยัง” ฉันตะโกนถามเคทที่เข้ าไปอาบนํ ้าได้ ครึ่ง


ชัว่ โมงแล้ ว

“ยังๆ กําลังถูสบูอ่ ่ะ” เคทตะโกนกลับออกมาเสียงดัง


“งันเดี
้ ๋ยวนํ ้ามานะ ขอไปดูลกู ชิ ้นกับหมูปิง้ ที่ห้องพี่เฟี ยตก่อน” พอพูด
จบ ฉันก็เดินออกจากห้ องทันที

ฉันอดห่วงเจ้ าสองตัวไม่ได้ เลยจริ งๆ พวกผู้ชายนี่เป็ นเพศที่ไม่ชอบอะไร


แบบนี ้เลยสินะ เมื่อเช้ าฉันก็เป็ นคนมาให้ อาหารลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ตกเย็นฉันยังต้ องไป
ให้ อาหารเจ้ าสองตัวนันต่้ ออีก รู้อย่างนี ้ฝากลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ไว้ ที่ห้องพี่ฟิล์มดีกว่า

ก๊ อกๆ

เมื่อเดินมาถึงหน้ าห้ องพี่เฟี ยต ฉันสูดลมหายใจเข้ าปอดลึกๆ ก่อนจะยก


มือขึ ้นเคาะบานประตูตรงหน้ าสองทีด้วยใจเต้ นระทึก พลางคิดในใจว่าถ้ าเข้ าไปแล้ ว
เจอพี่คินทร์ เข้ า ฉันจะทําตัวยังไงดี เหตุการณ์ของเมื่อคืนยังไม่เลือนหายจากความ
ทรงจําฉันเลยแม้ แต่วินาทีเดียว

“ใคร?” เสียงทุ้มตอบกลับมา

แต่ฉนั กลับเดาไม่ออกเลยว่าเสียงนันเป็
้ นของพี่คินทร์ หรื อพี่เฟี ยตกันแน่

“นํ ้าเองค่ะ” ฉันขานตอบกลับไป

“เปิ ดเข้ ามาได้ เลยนํ ้า พี่ไม่ได้ ลอ็ ก”


สรรพนามที่เรี ยกฉันว่านํ ้าคงเป็ นพี่เฟี ยตแล้ วล่ะ เพราะพี่คินทร์ มกั จะเรี ยกฉันว่าอุ๋ง
มากกว่า โล่งอกไปที...
ฉันเคลื่อนมือไปจับที่ลกู บิด ก่อนจะเปิ ดออกเบาๆแล้ วก้ าวเข้ าไปในห้ อง พอลูกชิ ้นกับ
หมูปิง้ เห็นก็รีบวิ่งเข้ ามากระโดดใส่ฉนั ยกใหญ่เลย

“คือนํ ้า...” ฉันเอ่ยขึ ้น ก่อนจะเว้ นวรรคคําพูดไว้ แป๊ บหนึง่ และกวาดสายตามองทัว่


ห้ องเพื่อสํารวจว่าพี่คินทร์ อยู่ที่นี่ด้วยหรื อเปล่า “นํ ้ามาให้ อาหารลูกชิ ้นกับหมูปิง้ น่ะ
ค่ะ”

“อ๋อ ไอ้ คินทร์ มนั เอาให้ ไอ้ สองตัวนี ้กินแล้ วแหละ ตอนนี ้มันลงไปข้ างล่างกับพวกไอ้
เฟรมแล้ ว” พี่เฟี ยตหันหน้ าจากตู้เสื ้อผ้ ามาตอบฉัน

“อะ...อ๋อ โอเคค่ะ งันนํ้ ้ากลับไปอาบนํ ้าที่ห้องก่อนนะคะ” ฉันพยักหน้ ารับ พลางฉีก


ยิ ้มให้ พี่เฟี ยต “ไปแล้ วนะตัวยุ่ง อย่าพังข้ าวของนะรู้ไหม” ก่อนจะก้ มลงลูบลูกชิ ้นกับ
หมูปิง้ ที่ยืนกระดิกหางอยู่ข้างๆ แล้ วเดินออกมาจากห้ อง
โชคดีจริ งๆที่พี่คินทร์ ไม่อยู่ ไม่งนหั
ั ้ วใจฉันได้ ทํางานหนักแน่เลย...

19 : 14 น.

“โอเค! มาครบกันหมดแล้ วเนอะ” พี่เฟรมพูดขึ ้นเมื่อกวาดสายตามองจนทัว่ บริ เวณ


แล้ ว
ตอนนี ้ทุกคนลงมากันหมดแล้ ว งานปาร์ ตี ้จัดริ มสระนํ ้า รู้สกึ ว่าพี่รามจะขอป้าของเขา
จัดเป็ นการส่วนตัว ตอนนี ้เลยไม่มีลกู ค้ าคนไหนมาเดินแถวนี ้เลย

“ครบๆ” พี่รามขานตอบ
“มิวสิกมา!” พี่เฟรมชูมือขึ ้นฟ้า ก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง

เพลงก็ดงั ขึ ้นมาต่อจากนัน้ จังหวะของเพลงเป็ นเพลงEDMที่ผ้ คู นนิยมเปิ ดกันใน


งานปาร์ ตี ้

“มึงเปิ ดเสียงดังเกินละ” พี่เฟี ยตที่นงั่ จิบเบียร์ ข้างๆพี่ฟิล์มพูดขึ ้น

“อะไรวะ กูอตุ ส่าห์เปิ ดบิ๊วพวกมึงขนาดนี ้แล้ วยังไม่ลกุ เต้ นให้ กอู ีกเหรอ” พี่เฟรมพูด
ขึ ้นอย่างขัดใจ ก่อนจะหันไปพูดกับพี่ฟิล์ม “ฟิ ล์มบิ๊วไอ้ เฟี ยตให้ พี่หน่อยดิ มันเชื่อฟั ง
น้ องคนเดียวอ่ะ”

“…” พี่ฟิล์มไม่พดู อะไร แต่ส่งยิ ้มราวกับรู้เท่าทันไปให้ พี่เฟรมแทน ก่อนจะขยับหน้ า


เข้ าไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูพี่เฟี ยตเบาๆ

“แก... เบียร์ สกั แก้ วไหม” เคทที่นงั่ อยู่ข้างฉันมาสักพักสะกิดแขนฉันเบาๆ พลาง


พยักพเยิดหน้ าไปทางขวดเบียร์ ยี่ห้อดังที่ตงวางเรี
ั้ ยงรายอยู่บนโต๊ ะ

“แต่นํ ้าไม่เคยกินมาก่อนเลยนะ” ฉันตอบกลับเคท พลางเหลือบตามองพวก


แอลกอฮอล์หลากหลายชนิดบนโต๊ ะ

“ไม่เคยกินก็ลองไงครับน้ องแมวนํ ้า” จังหวะนันเองพี


้ ่เฟรมก็เป็ นฝ่ ายโต้ ตอบฉันแทน
ก่อนจะหยิบแก้ วที่มีนํ ้าแข็งเต็มแก้ วไปริ นแอลกอฮอล์สีอําพันแล้ วยื่นมาตรงหน้ าฉัน
ฉันกลืนนํ ้าลายเหนียวๆลงคอ ในขณะที่มองแก้ วเบียร์ นนนิ
ั ้ ่งๆอย่างลําบากใจ ฉันหัน
ไปมองเคท เคทก็พยักหน้ าเชียร์ พอฉันหันกลับไปที่แก้ วเบียร์ นนอี
ั ้ กทีก็เจอกับสายตา
คมดุของพี่คินทร์ ที่กําลังหรี่ มองกันอยู่
สายตาของเขาเหมือนกําลังประเมินความกล้ าในตัวฉัน ราวกับท้ าทายฉันว่า ‘กล้ าที่
จะกินหรื อเปล่า’
KINN Talks.
ผมมองประเมินยัยอุ๋งที่กําลังมองแก้ วเบียร์ อย่างลังเล หน้ าตาหน่อมแน้ มอย่างเธอคง
ยังไม่เคยแตะเบียร์ มาก่อนแน่นอน ดูท่าทางก็ร้ ูแล้ ว ผิดกับเคทน้ องสาวของผม
เพราะเคทมันอยากเข้ าเรี ยนคณะวิศวกรรมศาสตร์ มันเลยมีความเชื่อว่าคณะวิศวะ
จะต้ องกินพวกของมึนเมาให้ เป็ น เลยแอบพ่อแม่กินมาตังแต่ ้ ขึ ้นชันมั
้ ธยมปลายแล้ ว
ซึง่ นัน่ เป็ นความเชื่อที่ผิดมหันต์มาก เพราะคณะวิศวะบางคนเขาก็ไม่กินกัน จะมีแค่
คนบางจําพวกเท่านันที ้ ่กินเพื่อความสนุกสนาน

“ถ้ าไม่อยากกินก็ไม่ต้องกินหรอกนํ ้า พวกพี่ไม่ได้ บงั คับ” ไอ้ เฟี ยตเอ่ยขึ ้นด้ วยท่าทาง
จริ งจัง

“โห่ไอ้ เฟี ยต... ก็ให้ น้องเขาลองไงมึง ประสบการณ์อ่ะประสบการณ์ ...” ไอ้ เฟรมพูด


ขึ ้นอย่างขัดใจ

“…” ยัยอุ๋งถอนหายใจ ก่อนจะเอื ้อมมือไปหยิบแก้ วเบียร์ ที่ไอ้ เฟรมเป็ นคนริ นให้ ขึ ้น


จรดริ มฝี ปากของตัวเอง
ผมหรี่ ตามองเธออีกครัง้ ด้ วยความลุ้นว่าเธอจะกล้ าไหม ถ้ าให้ วางเดิมพัน ผมว่าเด็ก
อ่อนหัดอย่างยัยอุ๋งไม่กล้ าแตะของมึนเมาแบบนันหรอก

“จะกินจริ งเหรอนํ ้า มันขมมากเลยนะ พี่ลองมาแล้ ว ไม่อร่อยหรอก” ฟิ ล์มที่นงั่ เงียบ
อยู่ข้างไอ้ เฟี ยตพูดขึ ้นบ้ าง

“ปล่อยเขากินไปเถอะฟิ ล์ม พี่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะกล้ าแค่ไหน” ผมพูดขึ ้น


อย่างไม่ใส่ใจ พลางหยิบแก้ วเบียร์ ขึ ้นมาจิบอย่างสบายใจ ก่อนจะเบนสายตาไปมอง
บรรยากาศรอบๆแทน

“เฮ้ ยนํ ้า!” จังหวะนันเองที


้ ่เคทเอ่ยขึ ้นราวกับตกใจ ทําให้ ผมต้ องเบนสายตากลับมา
มองที่ยยั อุ๋งอีกครัง้

ปรากฏว่า... เธอกินเบียร์ เข้ าไปจริ งๆ แถมยังหมดแก้ วเลยด้ วย!

“แค่กๆๆ” ยัยอุ๋งไอออกมาติดกัน ก่อนจะยกมือขึ ้นเช็ดคราบฟองเบียร์ ที่ติดอยู่ตรงมุม


ปากออก

“แกกินจริ งเหรอวะเนี่ย” เคทเอ่ยขึ ้นอีกครัง้ ในความกล้ าบ้ าบิ่นของเพื่อนตัวเอง


ซึง่ มันก็ไม่ตา่ งจากผมเหมือนกัน เหลือเชื่อเลยเด็กคนนี ้ ตังแต่
้ อยู่ด้วยกันมา เธอชอบ
ทําอะไรที่ทําให้ ผมแปลกใจอยู่เรื่ อยๆเลย

“พี่เฟรมคะ นํ ้าขออีกแก้ วค่ะ!” ยัยอุ๋งพูดขึ ้นเสียงเด็ดขาด สายตาของเธอมองตรง


มายังผมอย่างเย้ ยหยัน
ในขณะที่ทงโต๊ั ้ ะกลับหันมองหน้ ากัน พร้ อมกับส่งยิ ้มแหยให้ กนั และกันอย่างอึ ้งๆ ผม
กระตุกยิ ้มที่มมุ ปาก ก่อนจะยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ พลางส่งแก้ วให้ ไอ้ เฟรมริ นเบียร์ เติม
ให้ เรื่ อยๆ
ความจริ งผมดื่มเบียร์ ไม่เก่งเท่าไอ้ เฟี ยต หรื อพูดง่ายๆก็คือคอผมไม่แข็งเท่ามัน ผมกิน
แล้ วมีโอกาสที่จะเมา แต่ไอ้ เฟี ยตมันกินได้ เรื่ อยๆ ไม่มีทีท่าจะเมาง่ายๆ ผมโคตรแปลก
ใจมาก เพราะปกติมนั ไม่กินเบียร์ บอ่ ยเท่าผมหรอก แต่ทําไมมันถึงคอแข็งก็ไม่ร้ ู
ครึ่งชัว่ โมงผ่านไป

“พี่เฟรม... เติมให้ นํ ้าอีกค่ะ” ยัยอุ๋งพูดขึ ้นเสียงยาน พลางยื่นแก้ วไปให้ ไอ้ เฟรมที่นงั่


เต้ นโยกซ้ ายย้ ายขวาอยู่ตรงข้ ามกัน

“พอแล้ วมังนํ
้ ้า ดื่มเยอะแล้ วเนี่ย แกเมาแล้ วนะ” เคทเอ่ยปราม ก่อนจะแย่งแก้ วใน
มือยัยอุ๋งไป

“ไม่เอา... นํ ้ายังไม่เมาเลย”

ยังไม่เมา? ตัวเหลวยิ่งกว่านํ ้าขนาดนันเรี


้ ยกว่ายังไม่เมาเหรอวะ

“แกอย่ามาเถียงฉันสิ ไปๆ ไปนอนได้ แล้ ว” เคทดึงแขนยัยอุ๋งให้ ลกุ ขึ ้นจากเก้ าอี ้อย่าง


ทุลกั ทุเล แต่พอร่างกายหลุดพ้ นจากที่นงั่ ยัยอุ๋งก็แทบจะล้ มลงไปกองที่พื ้นถ้ าเคทไม่
พยุงเอาไว้ “แกไหวไหมเนี่ย”

“พี่เฟี ยตไปส่งน้ องที” ฟิ ล์มเอ่ยขึ ้นร้ อนใจ พลางลุกขึ ้นจากที่นงั่ ตรงไปหายัยอุ๋งเพื่อ


ช่วยหิ ้วปี กอีกแรง

“…” ส่วนไอ้ คนที่โดนแฟนไหว้ วานก็หนั มาถลึงตาใส่ผม ก่อนจะขมวดคิ ้วให้ อย่าง


ตําหนิ
ว่าแต่... ผมมีความผิดอะไรครับท่านผู้อ่าน?

“มองกูทําไม” ผมถามเสียงเรี ยบ ก่อนจะปรายตาไปมองยัยอุ๋งที่ตอนนี ้ไม่มี


สติสมั ปชัญญะหลงเหลือแล้ ว

“เดี๋ยวพี่อ้ มุ เองเคท” ไอ้ เฟี ยตผู้มีจิตอาสาเดินเข้ าไปหายัยอุ๋ง ก่อนจะช้ อนตัวเธอขึ ้น


โดยมีฟิล์มและเคทเดินตามไปด้ วย
พอทังสามคนออกไป
้ ทุกคนก็กลับสูส่ ถานการณ์ปกติ จนกระทัง่ ผ่านไปประมาณสิบ
ห้ านาที เคท ไอ้ เฟี ยต และฟิ ล์มถึงได้ กลับเข้ ามาร่วมปาร์ ตี ้ของเรากันอีกครัง้

“ฮ้ าว...” ผมยกมือขึ ้นป้องปากตัวเองที่กําลังหาวออกมา ก่อนจะบอกเพื่อนๆเสียงดัง


ฟั งชัดว่า “พวกมึง... กูง่วงแล้ วว่ะ ไปนอนก่อนนะ”

“อะไรๆ ปกติปาร์ ตี ้ไม่เลิกมึงไม่กลับไม่ใช่หรื อไง” ไอ้ เฟรมว่า พลางหรี่ ตามองผม


อย่างจับผิด

“ก็กงู ่วง ความง่วงแม่งเข้ าใครออกใครวะ ห้ ามได้ เหรอ” ผมว่าอย่างหงุดหงิด


ไอ้ เฟี ยตที่นงั่ จิบเบียร์ อยู่ด้านข้ างผมถึงกับหันมาจ้ องเขม็ง ผมรู้ว่ามันคงเดาท่าทางผม
ออกว่าผมไม่ได้ ง่วงจริ งๆ เพราะเราสองคนเป็ นเพื่อนกันมานาน ย่อมรู้นิสยั ของกันและ
กันอยู่แล้ ว

มันโน้ มใบหน้ าเข้ ามากระซิบที่ข้างหูผมว่า “กูร้ ูนะว่ามึงจะไปหาน้ องแมวนํ ้า อย่าทํา


อะไรให้ มนั เกินเลยนะคินทร์ กูขอเตือนไว้ ก่อน”
“เออ...” ผมตอบรับมันเสียงยาน
ผมจะไปทําอะไรได้ วะ ขาก็เดี ้ยงไปข้ างละ จะไปทําอิท่าไหน มันก็คิดมากเกินไป...

“กูไปล่ะนะ” ผมค่อยๆพยุงตัวเองลุกจากเก้ าอี ้ ก่อนจะก้ าวเท้ าออกมาจากงานปาร์ ตี ้


โดยที่ไม่มีเพื่อนคนไหนสงสัยเลยแม้ แต่คนเดียว(ยกเว้ นไอ้ เฟี ยต)
ผมใช้ เวลาเดินขึ ้นมาที่ห้องยัยอุ๋งประมาณสิบห้ านาที ดีที่รีสอร์ ทป้าไอ้ รามมีลิฟท์ ไม่
อยากจะคิดเลยว่าถ้ าลิฟท์ไม่มี ต้ องโดยสารทางบันไดแทน สภาพผมจะเหลือรอด
ความเป็ นคนมาถึงวันนี ้ไหม
ก๊ อกๆ
ผมยกมือขึ ้นเคาะประตูห้องของยัยอุ๋งสองครัง้ ก่อนจะเอนหูเข้ าไปใกล้ กบั บานประตู
เพื่อจะฟั งความเคลื่อนไหวด้ านใน แต่ทว่ามันก็ไม่มีเสียงดังอะไรตอบกลับมาเลย ผม
เลยตัดสินใจเอื ้อมมือไปบิดลูกบิดออกเบาๆก่อนจะแทรกตัวเข้ าไปในห้ องอย่างเงียบ
เชียบ
ยัยอุ๋งตอนนี ้กําลังนอนอยู่บนเตียง ตาของเธอหลับพริ ม้ ในขณะที่พวงแก้ มกลับแดง
เปล่งปลัง่ เนื่องจากฤทธิ์แอลกอฮอล์อย่างชัดเจน ผมกวาดสายตามองไปรอบๆบริ เวณ
เตียง พบกะละมังใส่นํ ้าพร้ อมผ้ าขนหนูผืนเล็กที่วางอยู่ตรงโต๊ ะข้ างเตียง สงสัยเคทคง
จะเช็ดตัวให้ เธอแล้ ว
สองเท้ าของผมพาตัวเองไปนัง่ ที่ขอบเตียง ก่อนจะเพ่งมองใบหน้ าแดงกํ่าของคนเมาที่
นอนหลับไม่ร้ ูอิโหน่อิเหน่อะไรบนเตียง แค่ผมท้ าทายไปนิดเดียวก็ถึงขันสติ
้ หลุดรับคํา
ท้ าผมโดยการกินเบียร์ จนตัวเองต้ องเมามาย เธอเป็ นคนประเภทไหนกันแน่วะ ยัว่ นิด
หน่อยก็ติดไฟแล้ วเหรอ
ไร้ เดียงสาซะจริ ง...

“…” ผมเอื ้อมมือไปวางบนหน้ าผากกลมกลึงนันเบาๆเพื ้ ่อวัดอุณหภูมิ เมื่อรู้สกึ ว่า


หน้ าผากเธอยังร้ อนนิดๆอยู่ ถึงได้ เดินไปบิดผ้ าจากกะละมังใส่นํ ้ามาเช็ดหน้ าให้ เธอ

“อือ...” ยัยอุ๋งครางราวกับรํ าคาญ และเอาแต่ปัดมือผมออกจากหน้ าผากของเธอ

“ให้ ฉนั เช็ดหน้ าให้ ก่อนเร็ว” ผมเอ็ดเธอ ก่อนจะจับมือของเธอให้ อยู่นิ่งๆ และลงมือ


เช็ดหน้ าให้ เธอต่อ

“ฮึก... ฮือ...”
“!!!”
มือของผมชะงักค้ างทันทีเมื่อหูได้ ยินเสียงครวญครางร้ องไห้ ของคนที่นอนอยู่บนเตียง
แถมนํ ้าตาของเจ้ าตัวยังไหลออกมาราวกับสัง่ ได้ อีกด้ วย ผมทําอะไรไม่ถกู ได้ แต่เอาผ้ า
ไปซับนํ ้าตาของเธอเมื่อมันไหลท่วมออกมา

“เธอจะร้ องไห้ ทําไมเนี่ย”

“ฮึก... นํ ้าไม่อยากคืนเกียร์ พี่คินทร์ ” คนตัวเล็กที่นอนหน้ าแดงกํ่าอยู่บนเตียงพึมพํา


ออกมาราวกับคนเพ้ อ ในมือของเธอกุมสร้ อยเกียร์ ของผมที่อยู่บนคอไว้ แน่น

“…” ผมเงียบไป ในใจรู้สกึ แปลกๆชอบกล


“ฮึก... ฮือ...” แต่เมื่อเห็นเธอเอาแต่ร้องไห้ ไม่หยุด ผมเลยได้ แต่ถอนหายใจออกมา
อย่างไม่ร้ ูจะทํายังไงดี

“ไม่อยากคืนก็ไม่ต้องคืน เลิกงอแงได้ แล้ วน่า...”

หมับ!
มือของผมที่บรรจงเช็ดหน้ าเธออยู่ชะงักทันทีเมื่อมือเล็กเอื ้อมมาจับไว้ แน่น ดวงตา
กลมโตค่อยๆปรื อขึ ้นมา เธอกะพริ บตาหนึง่ ครัง้ สายตาของเราทังคู้ ป่ ระสานกันเนิ่น
นาน

“จริ งนะคะ” ยัยอุ๋งเอ่ยเสียงเบา ร่างกายของเธอโน้ มขึ ้นมาจนอยู่ในระดับเดียวกันกับ


ผม “ถ้ านํ ้าไม่คืน พี่คินทร์ ไม่วา่ อะไรจริ งๆนะคะ”

“…” ผมจ้ องเธอนิ่งๆ ก่อนจะพยักหน้ าให้ แทนคําตอบ

“พี่คินทร์ คะ”

“ว่า...” ผมขานรับเมื่อถูกคนตัวเล็กตรงหน้ าขานเรี ยก

“นํ ้าชอบพี่คินทร์ มาก นํ ้าไม่ร้ ูว่าทําไมพี่คินทร์ ถึงเกลียดนํ ้า ฮึก... นํ ้าไม่ร้ ูว่าตัวเองทํา


อะไรผิด” ยัยอุ๋งพึมพําทังนํ ้ ้าตา เธอหลุบตาลงตํ่า หยดนํ ้าใสๆที่เอ่อล้ นออกมาหยดลง
บนผ้ าห่มที่คลุมร่างกายของเธอเอาไว้ จนมันเกิดเป็ นด่างดวงขึ ้น “นํ ้าชอบพี่คินทร์ มา
ตังแต่
้ ประถมเลย ฮึก... แต่พี่คินทร์ ชอบพี่ครี มใช่ไหมคะ นํ ้ารู้ว่าพี่คินทร์ ไม่ชอบนํ ้า”
“…”
ตึกตัก... ตึกตัก...
หัวใจของผมเต้ นเป็ นจังหวะอย่างเชื่องช้ าเมื่อได้ ยินสิ่งที่ยยั อุ๋งพูดออกมา ผมนิ่งไป
ความจริ งมันค่อนข้ างตกใจมากเลยต่างหาก แต่ผมไม่เข้ าใจเลยว่าทําไมหัวใจของ
ตัวเองตอนนี ้ถึงได้ ร้ ูสกึ วูบโหวงและเจ็บปวดแปลกๆ
ที่เธอพูดมา... มันไม่จริ งเลยสักนิด ผมไม่ได้ ร้ ูสกึ เกลียดเธอ ถึงผมจะชอบดุเธอในตอน
ที่เธอทําอะไรขัดใจ ถึงผมจะไม่ชอบให้ เธออยู่ใกล้ ตวั เอง แต่มนั ก็ไม่ร้ ูว่าทําไมอีก
เหมือนกัน ข้ างในมันเหมือนต่อต้ าน ผมก็แค่ไม่อยากให้ เธออยู่ใกล้ แต่ผมก็ไม่อยาก
ให้ เธอไปไหนไกลตัว
อาการแบบนี ้ของผมมันคืออะไร ผมก็ยงั ไม่แน่ใจ มันเคลือบแคลงสงสัย แต่ผมก็ไม่
เคยคิดจะหาคําตอบให้ กบั อาการนี ้ของตัวเอง...

“นํ ้าชอบพี่คินทร์ นะคะ” จังหวะนันยั


้ ยอุ๋งก็เงยหน้ าขึ ้นมาสบตากับผมอีกครัง้
ใบหน้ าแดงกํ่าที่เปรอะเปื อ้ นไปด้ วยคราบนํ ้าตาของเธอค่อยๆเคลื่อนเข้ ามาใกล้ ใบหน้ า
ผมเรื่ อยๆ ลมหายใจผสมกลิ่นแอลกอฮอล์ผ่อนออกมาโดนปลายจมูกผมแผ่วๆ ก่อนที่
ริ มฝี ปากนุ่มจะแตะลงบนกลีบปากผมเบาๆ แต่ในจังหวะที่เธอกําลังจะผละออก ผม
กลับรัง้ ท้ ายทอยเธอเอาไว้ ด้วยมือของตัวเอง และดันให้ เธอประกบริ มฝี ปากลงมาให้
แนบแน่นมากกว่าเดิม

ถ้ านี่คือการ ‘จูบ’ กันของเราสองคน พรุ่งนี ้เธอจะจําเรื่ องราวทังหมดได้


้ หรื อเปล่า
นะยัยอุ๋ง?
02 : 39 น.

“มานัง่ ดีดกีตาร์ อะไรดึกๆดื่นๆวะ” เสียงทุ้มที่ดงั ขึ ้นจากทางด้ านหลัง ทําให้ นิ ้วที่กําลัง


เคาะลงบนสายกีตาร์ ของผมหยุดลง

ผมหันไปมองผู้มาใหม่ ก่อนจะหันกลับมามองยังจุดเดิมที่ตวั เองมอง


ก่อนหน้ านี ้

“กูนอนไม่หลับ” ผมเอ่ยตอบไอ้ เฟี ยตกลับไป

“ทําไม” ไอ้ เฟี ยตเอ่ยถาม มันค่อยๆหย่อนก้ นลงนัง่ ข้ างๆผม

ตอนนี ้ผมนัง่ อยู่ที่ชายหาด พวกเพื่อนๆกับคนอื่นๆน่าจะนอนกัน


หมดแล้ ว เพราะนี่ก็เป็ นเวลาตีสองกว่าแล้ วด้ วย แต่ผมกลับนอนไม่หลับ ผมกําลัง
คิดถึงเรื่ องที่ยยั อุ๋งบอก...

“มึงว่าคนเมาเขาพูดความจริ งกันไหมวะ” ผมถามไอ้ เฟี ยตออกไป


พลางถอนหายใจออกมายืดยาว ในใจตอนนี ้รู้สกึ สับสนไปหมด

“มึงหมายถึง... น้ องแมวนํ ้าเหรอ”

“มึงว่าคนเมาเขาจะรู้ไหมว่าพูดอะไรออกมาบ้ าง มึงว่าเขาจะจําที่เขา
พูดได้ ไหม” ผมยังคงยิงคําถามใส่มนั ไม่หยุด
ตอนนี ้ผมโคตรอยากหาคําตอบที่ชดั เจนให้ กบั ตัวเอง ผมไม่ร้ ูว่าตอน
ที่ยยั อุ๋งพูดออกมาว่า ‘ชอบผม’ มันเป็ นเรื่ องจริ งไหม เพราะคนเมาสติไม่ได้ เต็มร้ อย
เปอร์ เซ็นต์ คงไม่ร้ ูหรอกว่าตัวเองพูดหรื อทําอะไรลงไปบ้ าง

“ก็ถ้าให้ กพู ดู ในฐานะคนที่มีอายุและประสบการณ์รวมกันมาแล้ วยี่สิบ


สองปี กูก็จะบอกแค่ว่าคนเมาเขามักจะพูดอะไรที่อดั อันในหั
้ วใจออกมา”

“มึงรู้ไหมว่าวันนี ้กูร้ ูอะไรมา” ผมถามไอ้ เฟี ยตเสียงเรี ยบ สายตามอง


ออกไปยังท้ องทะเลอันแสนไกล

“…” ไอ้ เฟี ยตเงียบเสียงเพื่อฟั งผม

ผมเลยเอ่ยต่ออย่างไม่ใส่ใจ “ยัยอุ๋งบอกว่าชอบกู”
“…”
ผมหันไปมองหน้ ามันตรงๆ ไอ้ เฟี ยตกําลังขมวดคิ ้ว ใบหน้ าของมันดู
ตกใจเล็กน้ อย แต่ถึงอย่างนันมั
้ นก็ยงั ไม่ปริ ปากพูดอะไรต่อ ปล่อยให้ ผมเอ่ยถามมัน
โดยที่ไม่ขดั

“มึงว่าเขาพูดจริ งไหม”

“…” มันไม่ตอบ แต่กลับระบายยิ ้มอ่อนโยนออกมาแทน ก่อนจะหัน


ไปมองทะเลด้ านหน้ า และพูดกับผมในเวลาต่อมา “ถ้ าน้ องเขาชอบมึงจริ งๆ แล้ วมึง
ล่ะคินทร์ ”
หมายความว่ายังไง... ทําไมมันต้ องมาย้ อนถามผมกลับด้ วย

“กูไม่เข้ าใจ” ผมขมวดคิ ้วตอบกลับไป

“มึงถามตัวเองให้ แน่ใจก่อนว่าตอนนี ้มึงรู้สกึ ยังไงกับน้ องเขา ถ้ าชอบก็


คือชอบ ถ้ าไม่ชอบก็คือไม่ชอบ มึงเคยบอกกูเองว่ามันมีแค่สองอย่างนี ้ ไม่มีคําว่า
อาจจะหรื อไม่แน่ใจ”

“กูยงั หาคําตอบให้ ตวั เองไม่ได้ ”

จริ งๆผมไม่ร้ ูด้วยซํ ้าว่าความรู้สกึ ของตัวเองที่มีต่อยัยอุ๋งตอนนี ้มันคือ


อะไร ผมรู้สกึ สับสนจนไม่สามารถระบุได้ ว่ายัยอุ๋งจัดอยู่ในสถานะไหนของผม
ในตอนนี ้ จริ งอยู่ที่เธอคือคูห่ มันของผม
้ แต่เดือนหน้ าเราก็จะถอนหมันกั ้ นแล้ ว

“เป็ นเพราะครี มใช่ไหม” ผมหันขวับไปมองไอ้ เฟี ยตทันทีหลังจากมัน


พูดจบ “ไม่ใช่มงึ ลืมครี มไม่ได้ แต่เป็ นเพราะมึงเข็ดจากความรักใช่ไหมคินทร์ ”

ผมไม่แน่ใจ... วันนันที
้ ่ผมเจอครี ม ผมดีใจมากที่เจอเธออีกครัง้ มันเป็ น
เรื่ องที่ผมไม่คาดฝั นมาก่อนว่าจะเจอเธออีก เธอหายออกไปจากชีวิตผมหลายปี แล้ ว
เธอก็กลับเข้ ามา วันเวลาและเหตุการณ์ในอดีตไหลย้ อนกลับมาหาผมอีกครัง้ รอยยิ ้ม
ของครี ม คําพูดของครี ม ทุกอย่างที่เป็ นครี ม ผมไม่เคยลืมเลย

“กูไม่แน่ใจ กูคิดจนปวดหัวไปหมด แม่ง...”


“คินทร์ ... ความรักที่มงึ ยึดติดอยู่ ปล่อยวางบ้ างสิวะ มึงไม่จําเป็ นต้ อง
เก็บเอาไว้ ตลอดก็ได้ ไหม มึงลองเปิ ดใจ ลองถามตัวเองว่าพร้ อมมากแค่ไหนที่จะมี
ความรักอีกครัง้ ไม่ใช่วา่ เข็ดจากความรักครัง้ หนึง่ แล้ วมึงก็ไม่คิดจะเปิ ดใจให้ ใครอีก ”
“…”
“หรื อมึงจะรอให้ เรื่ องมันสายเกินไป รอให้ แมวนํ ้าทนไม่ไหวและตัดใจ
จากมึงก่อนเหรอ กูบอกเลยว่าพอถึงตอนนันแล้ ้ วมึงอย่ามาเสียดายทีหลังก็แล้ วกัน กู
เคยเกือบพลาดมาแล้ ว กูไม่อยากให้ มงึ เกือบพลาดแบบกูนะคินทร์ ”

ย้ อนถามตัวเอง... สิ่งที่ผมทําได้ ตอนนี ้ก็คือย้ อนถามตัวเองใช่ไหม

“วันนี ้กูจบู เขา” ผมสารภาพออกไปอย่างลูกผู้ชาย

“ขอเหตุผล”

“กูไม่มีเหตุผล” ผมส่ายหัวอย่างจนใจ ก้ มหน้ าลงมองเม็ดทรายที่นอน


นิ่งสนิทอยู่บนพื ้น

ผมรู้สกึ อิจฉาเม็ดทรายพวกนี ้จริ งๆที่มนั ไม่มีชีวิต ไม่มีความรู้สกึ นึกคิด


ไม่รับรู้สิ่งต่างๆภายนอก ทําได้ แค่นอนสงบนิ่งให้ ผ้ คู นเหยียบยํ่าไปมา แต่ถึงอย่างนัน้
มันก็คงไม่ได้ ร้ ูสกึ อะไร เพราะตลอดมามันก็ถกู เหยียบยํ่าอยู่แบบนี ้ ผิดกับผม... ผมมี
ความรู้สกึ แต่กลับบอกไม่ได้ ว่าความรู้สกึ เหล่านันมั ้ นคืออะไร มันโคตรทรมานจน
อยากจะร้ องไห้ ออกมา
“อืม... กูก็ไม่ได้ อยากให้ มงึ สรรหาเหตุผลมาตอบกูหรอก เพราะบางครัง้
การกระทําก็ไม่จําเป็ นต้ องมีเหตุผลมายืนยันก็ได้ เพราะที่มงึ ทําลงไป มันอาจมาจาก
ความรู้สกึ ข้ างในของมึง”
“…”
“กูไปนอนละ ง่วง...”

พอพูดประโยคยาวเหยียดแต่กินใจจบ ไอ้ เฟี ยตก็ลกุ ออกไปดื ้อๆ ทิ ้งให้


ผมอยู่คนเดียวท่ามกลางสายลมที่พดั วนไปมาเบาๆรอบกาย...

MAWNUM Talks.
“อื ้อ...” ฉันครางในลําคอเมื่อรู้สกึ ครั่นเนื ้อครั่นตัวแปลกๆ

ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ ้นมอง แต่พอตารับรู้ถึงแสงสว่างจ้ าก็ต้องหรี่ ลง


เพื่อให้ นยั น์ตาปรับสภาพ ในขณะที่สมองก็ใช้ ประมวลผลเหตุการณ์ของเมื่อวานไป
ด้ วย

“ตื่นแล้ วเหรอ” เสียงเคทถามขึ ้น

ฉันหันไปมองเคทและพยักหน้ าให้ ก่อนจะยกมือขึ ้นคลึงขมับของตัวเอง


เพราะรู้สกึ ปวดตุบๆ “…”

“อะนี่... นํ ้าขิงจะช่วยให้ แกสดชื่นขึ ้น” เคทเดินเอาแก้ วนํ ้าขิงมายื่นให้


ฉันรับมาดื่มรวดเดียวหมด ก่อนจะส่งแก้ วเปล่ากลับไปให้ เธอ และเอ่ย
ถามเรื่ องราวของเมื่อวาน “นํ ้ากลับมาที่ห้องได้ ยงั ไงอ่ะเคท”

ฉันสะบัดหัวเล็กน้ อยเมื่อความรู้สกึ ปวดยังเล่นงาน พยายามนึกย้ อนถึง


เหตุการณ์เมื่อวาน แต่มนั ก็นกึ ไม่ออก ฉันจําได้ ลางๆว่าดื่มแอลกอฮอล์ไปเพราะอยาก
ท้ าทายพี่คินทร์ หลังจากนันก็
้ ดเู หมือนว่าตัวเองจะเมามาก และฉันก็นกึ อะไรไม่ออก
อีกเลย

“พี่เฟี ยตอุ้มขึ ้นมาส่ง ฉันบอกแกแล้ วว่าอย่าดื่มมาก ทําไมไม่ฟังกันเลย


แกเพิ่งหัดกินพวกแอลกอฮอล์ครัง้ แรกนะนํ ้า” เคทเดินเอาแก้ วไปเก็บ และกลับมา
ทรุดตัวนัง่ ลงที่ขอบเตียง พลางขมวดคิ ้วจ้ องฉันอย่างหนักใจ

“นํ ้าขอโทษ” ฉันก้ มหน้ ามองผ้ าห่มแทน ความรู้สกึ ผิดถาโถมเข้ าใส่

“รี บไปอาบนํ ้าได้ แล้ วไป เผื่ออาการจะดีขึ ้น”

“โอเค...”

ฉันลุกขึ ้น ค่อยๆเดินลงจากเตียง แต่ในจังหวะที่เท้ าแตะพื ้น และลําตัว


ตังฉากกั
้ บพื ้นโลก ทุกอย่างรอบตัวก็หมุนวนไปหมด

ตุบ!

“เฮ้ ย!”
ร่างกายของฉันหล่นฮวบลงตามแรงโน้ มถ่วงของโลกทันที เสียงร้ องของ
เคทราวกับตกใจดังขึ ้นมา ก่อนที่เธอจะวิ่งมานัง่ ยองๆข้ างฉัน และเอ่ยถามด้ วยความ
เป็ นห่วงกัน

“เป็ นยังไงบ้ างวะ โอเคไหม”

“อื ้อ... นํ ้าไม่เป็ นไร แค่เวียนหัวนิดหน่อย” ฉันสูดลมหายใจเข้ าลึกๆ


เพื่อให้ สมองได้ รับออกซิเจนมากขึ ้น

“มาๆ เดี๋ยวช่วยพยุงพาไปห้ องนํ ้า” เคทปรี่ เข้ ามาช่วยพยุงฉันขึ ้นจาก


พื ้น และพาเข้ าไปในห้ องนํ ้า

“เคท... นํ ้าจําอะไรไม่ได้ เลย” ฉันเงยหน้ าขึ ้นบอกเคท เมื่อตัวเองมานัง่


อยู่บนชักโครกเสร็จเรี ยบร้ อย

“แหงสิ... ดื่มเยอะขนาดนันคงจํ
้ าได้ หรอก” เคทยืนกอดอก จิกตามอง
ฉันอย่างตําหนิ

พรึบ!

“อ๊ ะ!”

ฉันอุทานออกมาเมื่อสมองมีความรู้สกึ ปวดจี๊ดแทรกขึ ้นมาอย่างรวดเร็ว


ภาพเหตุการณ์ของเมื่อวานตีกนั หลายเหตุการณ์จนฉันแยกไม่ออกว่าอะไรเกิดขึ ้น
ก่อนหลัง
‘นํ ้าชอบพี่คินทร์ นะคะ’

“!!!” ฉันเบิกตากว้ างเมื่อประโยคหนึง่ ดังก้ องขึ ้นในความรู้สกึ

เมื่อวาน... ฉันคงไม่ได้ พดู แบบนี ้ออกไปใช่ไหม

“เป็ นอะไร ไหวไหมเนี่ย เดี๋ยวฉันไปขอให้ พี่เฟี ยตไปหาซื ้อยาแก้ เมาค้ าง


ให้ เอาไหม” เคทก้ มหน้ าลงมาถามฉัน

“เดี๋ยวนํ ้ามานะเคท!” ฉันรี บบอกเคทด้ วยความร้ อนใจ

ก่อนจะวิ่งติดสปี ดออกมาจากห้ อง และตรงไปที่ห้องของพี่คินทร์ แทน


ฉันยกมือขึ ้นกะว่าจะเคาะประตู แต่ทว่า...

พรึบ!

ประตูด้านหน้ าดันเปิ ดออกก่อนในจังหวะที่มือฉันกําลังจะสัมผัสกับมัน


ร่างสูงของพี่คินทร์ ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้ าฉัน เขาขมวดคิ ้วจ้ องมองฉัน ส่วนฉันก็จ้อง
เขากลับอย่างตกตะลึงเช่นเดียวกัน ในมือของพี่คินทร์ มีกระเป๋ าเดินทางด้ วย ฉัน
กะพริ บตาหนึง่ ครัง้ เพื่อเรี ยกสติของตัวเองกลับ ก่อนจะเค้ นเสียงเพื่อถามเขาออกไป

“พะ...พี่คินทร์ จะไปไหนคะ” เสียงฉันสัน่ เครื อ มันรู้สกึ แปลกๆ

“ฉันจะกลับกรุงเทพ” พี่คินทร์ ตอบเสียงเรี ยบ


แต่ฉนั กลับรู้สกึ วูบโหวงอย่างแปลกประหลาด ทําไมฉันถึงได้ ร้ ูสกึ ว่าเขา
เหมือนกําลังจะจากฉันไป เหมือนกับว่าพี่คินทร์ คนเดิมที่ฉนั รู้จกั จะไม่มีอีกแล้ วในโลก
ใบนี ้

“ทําไมกลับก่อนล่ะคะ ยังเหลืออีกตัง...”

“ฉันมีธรุ ะ”

ประโยคที่ฉนั ต้ องการจะถามออกไปถูกเขาพูดแทรกขึ ้นมาทันที ฉันอึ ้ง


ไปเล็กน้ อย ร่างกายไร้ เรี่ ยวแรงไปโดยปริ ยาย ภาพด้ านหน้ าสัน่ ไหวจนเกือบจะทําให้
ฉันล้ มลงกับพื ้นถ้ าไม่ตงสติ
ั ้ ดีๆ

“เมื่อวาน... นํ ้าได้ พดู อะไรกับพี่คินทร์ ไปไหมคะ” ฉันสูดลมหายใจลึก


รวบรวมความกล้ าทังหมดของตั
้ วเองถามออกไป

“…” คนตัวสูงตรงหน้ าเงียบ นัยน์ตาดําขลับนัน่ เย็นชาจนแทบจะแช่


แข็งฉัน

“พี่คินทร์ ...” ฉันครางชื่อเขาเสียงเบา

“เธอไม่ได้ พดู อะไรกับฉัน เพราะฉันไม่ได้ เข้ าไปหาเธอหลังจากที่ไอ้ เฟี ย


ตอุ้มเธอขึ ้นมาที่ห้อง”

“งะ...งันเหรอคะ”
้ ฉันก้ มหน้ าลงมองพื ้นแทน พื ้นที่บนดวงตาเริ่ มมีนํ ้า
ใสๆเข้ าครอบครอง
“อ้ าวนํ ้า...” ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองเมื่อถูกเรี ยก “มาหาไอ้ คินทร์ เหรอ”

“ปะ...เปล่าค่ะ” ฉันรี บเอ่ยปฏิเสธ พลางมองไปยังพี่คินทร์ ที่ยืนนิ่งอยู่


ข้ างพี่เฟี ยต “นะ...นํ ้าแค่จะมาดูลกู ชิ ้นกับหมูปิง้ ค่ะพี่เฟี ยต”

“อ้ อ! อยู่ในห้ องแหละ” พี่เฟี ยตตอบ ก่อนจะตบมือลงบนไหล่พี่คินทร์


หนักๆหนึง่ ที “แล้ วมึง... เมื่อไหร่จะไป ยืนบื ้อทําหอยกาบอะไร”

“…” พี่คินทร์ ปรายตามองฉันนิ่งๆ เขาเดินผ่านฉันไปราวกับฉันไม่ได้


อยู่ในสายตา

ฉันกลืนนํ ้าลายเหนียวๆลงคอ ความรู้สกึ ระหว่างฉันกับเขามันไม่ใช่แบบ


นี ้ ถึงเขาจะชอบดุฉนั แต่เขาก็ไม่เคยทําตัวห่างเหินเหมือนเราไม่ร้ ูจกั กัน เมื่อวานมัน
เกิดเรื่ องอะไรขึ ้น... ระหว่างฉันกับเขาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ วใช่ไหม

“เดี๋ยวพี่ไปส่งไอ้ คินทร์ แล้ วจะกลับมานะนํ ้า อยู่กบั พี่ฟิล์มไปก่อนนะ”


หลังจากพ้ นร่างพี่คินทร์ ไป พี่เฟี ยตก็เดินออกมาพร้ อมกับฉีกยิ ้มร่าให้ ฉนั ก่อนที่เขาจะ
วางมือลงบนหัวฉันแล้ วขยี ้ผมเบาๆ “อย่าคิดมาก... มันก็เป็ นอย่างนี ้แหละ เดี๋ยวก็
กลับมาเป็ นปกติเหมือนเดิม”

“…” ฉันเม้ มริ มฝี ปากแน่น พลางพยักหน้ ารับ

แล้ วพี่คินทร์ จะกลับมาเป็ นปกติเมื่อไหร่ละ่ ... ถึงจะโดนเขาเมินแบบก่อน


หน้ าที่เราจะหมันกั
้ น แต่นี่มนั ไม่เหมือนกับตอนนันเลยสั
้ กนิด ฉันรู้สกึ ว่ามันแตกต่าง
ออกไป
“คิดมากอีกแล้ วไอ้ น้องคนนี ้นี่...” พี่เฟี ยตพูดขึ ้นยิ ้มๆ จากนันก็
้ เดิน
ออกไป

ฉันเดินเข้ าไปในห้ อง ทิ ้งตัวนัง่ ลงบนเตียง มองหน้ าลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ที่


นอนหลับไม่ร้ ูอิโหน่อิเหน่อะไรตามประสาสุนขั ทังห้ ้ องดูว่างเปล่าไปเลยพอไม่มีพี่คิ
นทร์ กบั พี่เฟี ยต ฉันถอนหายใจออกมา นํ ้าตาเริ่ มปริ่ มตรงขอบตา
ไม่ร้ ูว่านี่เป็ นสัญญาณบ่งบอกอะไร แต่ถ้าสุดท้ ายฉันกับเขาไม่ใช่คกู่ นั ต่อให้ ดนั ทุรัง
ยังไงก็คงรักกันไม่ได้ อยู่ดี...

KINN Talks.
“มึงพูดแบบนันแน่้ ใจแล้ วใช่ไหม” ไอ้ เฟี ยตเอ่ยถาม ในขณะที่รถกําลังออกตัวไป
ข้ างหน้ าอย่างเชื่องช้ า

“แน่ใจอะไร” ผมถามกลับมันอย่างไม่เข้ าใจ พลางเสมองออกไปนอกกระจกรถแทน

“ก็ที่พดู แทงใจดําน้ องแมวนํ ้าแบบนันไง


้ แน่ใจว่าจะทําแบบนี?้ ”

“แน่ใจ...” ผมตอบเสียงเรี ยบ คิดมาดีแล้ วที่ทําแบบนัน้ ผมไม่เสียใจเลยสักนิด “มึง


เลิกพูดได้ แล้ วนะ กูจะนอน” จากนันก็
้ รีบตัดบทไอ้ เฟี ยต พร้ อมกับเอนหัวลงกับเบาะ
แล้ วหลับตาลงแทน

“กูไม่ให้ มงึ นอนหรอก” ไอ้ เฟี ยตเปรยขึ ้น มันเอื ้อมมือไปเพิ่มเสียงเพลงที่เปิ ดคลอ


เบาๆในรถก่อนหน้ านี ้ให้ ดงั ขึ ้น
ถ้ าผมไม่ร้ ูจกั มันมาก่อน ผมอาจจะต่อยมันเพราะสาเหตุกวนตีนเกินหน้ าเกินตาก็ได้ ...

MAWNUM Talks.
หลังจากนัง่ อยู่ที่ห้องพี่คินทร์ เป็ นเวลานาพอสมควรแล้ ว ฉันก็ลกุ เอาอาหารไปเทให้
ลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ก่อนจะเดินกับมาที่ห้องของตัวเองด้ วยสภาพอิดโรย
พอเปิ ดประตูเข้ ามา ก็พบว่าเคทแต่งตัวเสร็จเรี ยบร้ อยแล้ ว ดูท่าวันนี ้น่าจะมีกิจกรรม
อะไรให้ ทําอีกแล้ วสินะ แต่ไม่ไหวหรอก จะให้ ฉนั ไปทํากิจกรรมทังๆที้ ่จิตใจว้ าวุน่ แบบนี ้
ฉันทําไม่ไหวแน่ๆ

“รี บๆไปอาบนํ ้าเลย วันนี ้เราจะนัง่ เรื อไปเที่ยวเกาะกัน ” เคทบอกด้ วยสีหน้ าแย้ มยิ ้ม

“นํ ้าไม่อยากไปอ่ะเคท” ฉันบอกเสียงเบา ก่อนจะพาร่างกายและจิตใจที่เลื่อนลอย


ของตัวเองไปยังตู้เสื ้อผ้ า และหยิบเสื ้อผ้ าชุดใหม่กบั ผ้ าเช็ดตัวติดมือออกมาด้ วย

“เป็ นอะไรอีกเนี่ย” เคทถามด้ วยความแปลกใจ


ฉันก้ มหน้ าลงมองพื ้น กะพริ บตาหนึง่ ครัง้ ก่อนที่นํ ้าตาหนึง่ หยดจะไหลลงบนพื ้น
ตามมาด้ วยร่างกายที่สนั่ สะท้ านและขาของตัวเองที่อ่อนยวบลง

ตุบ!

“เฮ้ ย!” เคทร้ องด้ วยความตกใจ เธอรี บวิ่งเข้ ามาดูฉนั ที่นงั่ ร้ องไห้ อยู่ที่พื ้นทันที

“ฮึก...” ฉันสะอื ้นออกมาอย่างห้ ามไม่อยู่ ในใจเจ็บปวดมากเกินกว่าจะทนรับได้


“เป็ นอะไรนํ ้า” เคทดึงฉันเข้ าไปกอดปลอบ พร้ อมกับลูบมือขึ ้นลงบนแผ่นหลังฉัน
เบาๆ

“พี่คินทร์ กลับกรุงเทพไปแล้ ว ฮึก... นํ ้าไม่ไหวแล้ วเคท นํ ้าอึดอัด พี่คินทร์ เป็ นอะไรของ


เขาก็ไม่ร้ ู จู่ๆก็เปลี่ยนไปแบบนี ้ นํ ้าเดาใจเขาไม่เคยได้ เลย” ฉันระบายความอึดอัดใน
ใจที่มีให้ เคทฟั ง

“ใจเย็นๆ พี่คินทร์ มนั อาจจะมีธรุ ะก็ได้ ”

“ธุระอะไรของเขา นํ ้าถามเขาก็ไม่ยอมบอก ฮึก... บอกแค่จะกลับไปทําธุระ” ฉันเงย


หน้ าขึ ้นมองเคท ปล่อยโฮให้ เคทเห็นอย่างไม่อาย “ธุระบ้ าบออะไรของเขากัน!”

“เอาน่า... ตอนนี ้อย่าเพิ่งคิดมากเลย เดี๋ยวฉันโทรถามให้ โอเคไหม” เคทเลิกคิ ้วถาม


เธอยื่นมือมาเช็ดนํ ้าตาบนหน้ าออกให้ ฉนั ลวกๆ “เลิกร้ องได้ แล้ ว เดี๋ยวไม่สวยนะ ไปๆ
รี บไปอาบนํ ้า”

“ฮึก... นํ ้าจะไม่ง้อพี่คินทร์ แล้ ว จะเป็ นอะไรก็เรื่ องของเขา จะไปหาผู้หญิงคนไหนก็ไป


เลย ก็แค่ผ้ ชู ายคนเดียว ไม่มีเขานํ ้าก็ไม่ตาย!!!” ฉันตะโกนออกมาเป็ นเฮือกสุดท้ าย
ก่อนจะพยายามรวบรวมแรงทังหมดที ้ ่มีลกุ ขึ ้นจากพื ้นเองโดยไม่ให้ เคทช่วยอีก
ต่อจากนี ้ไป... ฉันไม่ง้อเขาแล้ ว ทําไมฉันต้ องวิ่งตามให้ เจ็บปวดอยู่ฝ่ายเดียวด้ วย มัน
ไม่ยตุ ิธรรมเอาซะเลย!
สองวันต่อมา
รี สอร์ ทนัมเบอร์ วนั
วันนี ้เป็ นวันสุดท้ ายของทริ ปเที่ยวแล้ ว ทุกคนกําลังเก็บของเตรี ยมตัวกลับเชียงใหม่ พี่
เฟี ยตกลับมาตังแต่้ เมื่อวาน แต่พี่คินทร์ ไม่ได้ กลับมาด้ วย สองสามวันมานี ้นับตังแต่

พี่คินทร์ กลับ ฉันก็หงอยเหงาลง จากที่ไม่คอ่ ยพูดอยู่แล้ ว ตอนนี ้ก็ไม่พดู เลย ถึงจะ
ประกาศกร้ าวออกไปว่าจะไม่สนใจเขา แต่ภายในใจลึกๆมันก็ยงั คิดถึงพี่คินทร์ อยู่ดี
ความรักเป็ นเรื่ องที่แปลกประหลาดมากจริ งๆ มันทําให้ ทงเจ็
ั ้ บปวดและมีความสุขใน
คราวเดียวกัน

“เก็บของเสร็จยังเคท” ฉันหันไปมองทางประตูเมื่อได้ ยินเสียงทุ้มที่ตะโกนเข้ ามาใน


ห้ อง
พี่เฟี ยตยืนพิงกรอบประตูด้วยท่าทางสบายๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ ้นมากดโทรออก
หาใครสักคน

“ใกล้ เสร็จแล้ วพี่เฟี ยต” เคทยกกระเป๋ าขึ ้นมาจากพื ้นและเอ่ยตอบ

“เคๆ เดี๋ยวขนของลงไปข้ างล่างเลยนะ พี่ไปขนของที่ห้องก่อน” พอพี่เฟี ยตวางสาย


เสร็จ เขาก็หนั มาตอบเคท ก่อนจะเบนสายตามามองฉัน “เอ้ อนํ ้า... ไอ้ สองตัวนันอ่
้ ะ
เดี๋ยวพี่ให้ เอาไปไว้ รถที่ไอ้ เฟรมขับเหมือนเดิมนะ”

“…” ฉันพยักหน้ ารับ ก่อนจะหันมารูดซิปกระเป๋ าเดินทางของตัวเอง


พลางก้ มลงมองสร้ อยเกียร์ ของพี่คินทร์ ที่อยู่บนคอ ถึงเวลาที่จะต้ องคืนมันให้ เจ้ า
ของเดิมแล้ วใช่ไหม...
KINN Talks.
ผมนอนแอ้ งแม้ งอยู่บนเตียง ในมือถือโทรศัพท์มองหน้ าจอนิ่งๆเพราะไม่ร้ ูว่าจะทํา
อะไรดี เกมที่เคยเล่น เพลงที่เคยฟั ง ตอนนี ้ผมเบื่อทุกอย่างไปหมด ในหัวสมองของ
ตัวเองมีแต่เรื่ องของยัยอุ๋ง ประโยคของเธอ สัมผัสของเธอ ทุกอย่างที่เป็ นเธอ ผมสลัด
ออกไปไม่ได้ เลย

Rrrr!
ผมเพ่งมองจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองเมื่อมีสายเรี ยกเข้ าจากใครบางคน พอเห็นชื่อ
ที่ปรากฏแล้ ว ผมถึงได้ กดรับอย่างไม่ลงั เล

“ว่า...”

[กูกําลังจะกลับแล้ ว ฝากซื ้ออะไรไหม] เป็ นไอ้ เฟี ยตนัน่ แหละ

“ซื ้อเบียร์ มาให้ จะดีมาก เบียร์ ในตู้เย็นหมดเกลี ้ยงแล้ ว” ผมกรอกเสียงเอื่อยเฉื่อยของ


ตัวเองลงไป

[แดกไรนัก อยากตายเป็ นผีเหรอ เดี๋ยวเมียมึงเป็ นหม้ ายนะ] มันพูดมากขึ ้นทุกวัน


จริ งๆ ผมว่าติดมาจากฟิ ล์มแฟนมันชัวร์ !

“เขายอมรับหรื อเปล่าเถอะว่าเป็ นเมียกู” ผมเอ่ยอย่างเซ็งๆ

[ไม่เป็ นเมีย ให้ เป็ นผัวมึงเหรอ]

“กวนตีนไอ้ สสั !”
ตู๊ด...

ครับ... นัน่ ไอ้ เฟี ยตเอง นัน่ เพื่อนที่ผมรักที่สดุ เองแหละ (=_=!)


MAWNUM Talks.
หอพักอิงแอบ เชียงใหม่
ฉันยืนมองบานประตูห้องของตัวเอง พลางถอนหายใจออกมาด้ วยความเหนื่อยหน่าย
พี่คินทร์ ต้องอยู่ในนันแน่
้ นอน
แกรกๆ
ฉันก้ มลงมองลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ที่กําลังใช้ เท้ าตะกุยตะกายประตูห้องจนเกิดเสียงแกรกๆ
พวกมันเงยหน้ าขึ ้นมองฉันและแลบลิ ้นให้ หางสีขาวกระดิกไปมาราวกับดีใจที่ได้ กลับ
บ้ าน

อยากเข้ าห้ องไปหาพ่อล่ะสิ!


ฉันสูดลมหายใจเข้ าปอดลึกๆ ก่อนจะทําใจกล้ ายื่นมือไปจับลูกบิด จังหวะนันก็
้ ผ่อน
ลมหายใจออกมาเพื่อให้ ตวั เองผ่อนคลาย และเปิ ดประตูเข้ าไปเงียบๆ
พอปิ ดประตูลง ฉันก็ปะทะกับสายตาเฉียบคมของพี่คินทร์ ที่มองตรงมา เขาขมวดคิ ้ว
เล็กน้ อย ฉันเบะปากให้ อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเอาสายเชือกจูงของลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ออก
ให้ พอปลดออกเท่านันแหละ
้ เจ้ าตัวยุ่งสองตัวก็วิ่งขึ ้นไปกระโดดใส่พี่คินทร์ ที่นอนอยู่
บนเตียงทันที
“เฮ้ ย!” เสียงทุ้มของพี่คินทร์ ร้องขึ ้น พร้ อมกับใช้ มือดันลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ที่จะเข้ าไปเลีย
ออกห่าง “อุ๋ง... เธอจะปล่อยพวกมันทําไมเนี่ย”

“…” ฉันไม่ตอบ ก่อนจะเดินเอาโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋ าสตางค์ไปวางทิ ้งไว้ ที่


โซฟา นํากระเป๋ าไปเก็บที่ต้ เู สื ้อผ้ า และเดินไปยังประตูแทน

“เธอจะไปไหน” แต่ก็ยงั ไม่วายโดนคนตัวสูงตะโกนถาม

“…” ฉันเงียบใส่อีกหน แต่พลันนึกอะไรขึ ้นได้ เลยเดินกลับไปที่เตียง


ฉันจ้ องหน้ าพี่คินทร์ ด้วยสีหน้ าราบเรี ยบ มองใบหน้ าหล่อเหลาที่ย่งุ เหยิงจากการ
วุน่ วายของสุนขั ทังสองตั
้ ว ก่อนจะเอื ้อมมือไปถอดสร้ อยเกียร์ ของพี่คินทร์ ออกจาก
ลําคอของตัวเอง พร้ อมกับโยนใส่อกเขา และตะโกนใส่อย่างเกรี ย้ วกราด

“เอาคืนไปเลยไอ้ ผ้ ชู ายเฮงซวย!”
จากนันก็
้ วิ่งออกมาจากห้ องทันที โดยที่ไม่เหลียวหลังมองอีก
พอวิ่งออกมาได้ สกั พักจนกระทัง่ ถึงหน้ าหอ ฉันกลับนึกขึ ้นได้ ว่าตัวเองดันลืมหยิบ
โทรศัพท์มือถือกับกระเป๋ าสตางค์ออกมาด้ วย แต่หากจะย้ อนกลับเข้ าไปในห้ องอีก
ครัง้ ก็คงไม่ดีแน่
ตะโกนใส่เจ้ าของห้ องอย่างเกรี ย้ วกราดขนาดนัน้ หวังว่าพี่คินทร์ คงไม่ลอ็ กห้ องเพื่อ
ไม่ให้ ฉนั เข้ าหรอกใช่ไหมนะ T_T
KINN Talks.
ผมกะพริ บตาหนึง่ ครัง้ หลังจากตังสติ
้ ได้ ก่อนจะหยิบสร้ อยเกียร์ ของตัวเองขึ ้นมาดู เมื่อ
กี ้... ผมทังอึ
้ ้งทังตกใจในเวลาเดี
้ ยวกัน ยัยอุ๋งขว้ างเกียร์ ใส่อกผม จากนันก็
้ ตะโกนว่าผม
เป็ น ‘ผู้ชายเฮงซวย’ แล้ วเธอก็วิ่งออกจากห้ องไปเลย เล่นเอาผมกินจุดได้ อย่างไม่
ยากเย็น

“อะไรของเธอวะ” ผมพึมพํากับตัวเอง
ลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ที่กระโจนขึ ้นเตียงมาเลียผมก่อนหน้ านี ้ก็นิ่งไปเหมือนกัน พวกมันคง
ตกใจที่จ่ๆู ยัยอุ๋งก็เกรี ย้ วกราดขึ ้นมา

“ลงไปนัง่ ข้ างล่างกันเลย!” ผมชี ้หน้ าพวกมัน และออกคําสัง่ เสียงเข้ ม


พวกมันครางเสียงดังงิดๆ จากนันก็
้ พากันกระโดดลงไปนอนที่ข้างเตียงอย่างว่าง่าย
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ ้นมา จากนันก็
้ กดโทรออกเบอร์ ของยัยอุ๋งทันที
เสียงสัญญาณรอสายดังติดต่อกันประมาณสามสี่ครัง้ จากนันก็
้ ...

Rrrr!
เสียงริ งโทนของโทรศัพท์มือถือดังขึ ้นภายในห้ อง ผมค่อยๆก้ าวลงจากเตียงอย่าง
ทุลกั ทุเล ก่อนจะเดินตามเสียงริ งโทนที่ดงั อยู่ไป และพบว่ามันวางทิ ้งไว้ ที่โซฟาพร้ อม
กับกระเป๋ าสตางค์ของเธอ

“ยัยอุ๋ง!” ผมตะโกนฉายาของคนตัวเล็กออกมาอย่างหัวเสีย
นอกจากจะวิ่งออกไปไหนไม่ร้ ูแล้ วยังไม่พกโทรศัพท์ติดตัวไปอีก ไม่ทําให้ ผมเป็ นห่วง
สักครัง้ จะได้ ไหมเนี่ยยัยเด็กคนนี!้

หลังจากที่เดินเอื่อยเฉื่อยไปเรื่ อย ฉันก็เดินกลับมาที่ห้องเพราะไม่มีที่ไป
อีกตามเคย ตอนนี ้ยืนอยู่หน้ าห้ องแล้ วแท้ ๆ แต่ฉนั ก็ไม่กล้ าที่จะเปิ ดประตูเข้ าไป เพราะ
ก่อนหน้ านันดั้ นตะโกนใส่หน้ าพี่คินทร์ ไปเต็มเหนี่ยวว่าเขาเป็ น ‘ไอ้ ผ้ ชู ายเฮงซวย’ ถ้ า
พี่คินทร์ ไม่เจ้ าคิดเจ้ าแค้ นจนเกินเหตุ เขาก็น่าจะให้ อภัยที่ฉนั เผลอปากพูดแบบนัน้
ออกไป แต่ถ้าเขาเกิดเจ้ าคิดเจ้ าแค้ นอยากหาเรื่ องกันขึ ้นมาล่ะ ฉันควรทํายังไง

ฉันใช้ เท้ าเขี่ยพื ้นหน้ าห้ อง พลางเดินไปเดินมาอย่างนันอยู


้ ่สกั พัก ก่อน
จะตัดสินใจเปิ ดประตูห้องเข้ าไป กวาดสายตามองแค่ครัง้ เดียวก็เป็ นอันต้ องหยุดลง
ตรงระเบียงห้ องที่พี่คินทร์ กําลังยืนจ้ องฉันอยู่อย่างเอาเป็ นเอาตาย

“ไปไหนมา” เสียงทุ้มถามขึ ้นด้ วยนํ ้าเสียงแกมดุดนั เล็กน้ อย

“ไปเดินเล่นค่ะ” ฉันตอบเสียงเรี ยบ ก่อนจะเดินไปหาลูกชิ ้นกับหมูปิง้ ที่


นอนอยู่บนพื ้นข้ างเตียง

“เธอไม่ร้ ูเหรอว่าไปไหนมาไหนคนเดียวมันอันตราย หัดฟั งกันบ้ างได้


ไหม ดื ้อให้ มนั เป็ นเวลาบ้ างได้ ไหมอุ๋ง”

“นํ ้า...” กะจะเถียงกลับ แต่ฉนั กลับเถียงไม่ออก


“พ่อแม่เธอฝากให้ ฉนั ดูแลเธอนะอุ๋ง เธอก็ทําตัวให้ ฉนั ห่วงน้ อยลงบ้ าง
ไม่ได้ เหรอ” นํ ้าเสียงทุ้มเอื ้อนเอ่ยเสียงแผ่วเบา นํ ้าเสียงที่พี่คินทร์ ใช้ ดอู บอุ่นอ่อนโยน
ขึ ้นมา

แต่... ฉันไม่เข้ าใจ อะไรคืออารมณ์ของเขาที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบ


นันกั
้ น สองวันก่อนเขายังทําเมินเฉยเย็นชาใส่ฉนั อยู่เลย แต่พอมาวันนี ้ทําไมถึงได้ ใช้
นํ ้าเสียงนุ่มนวลกับฉันอย่างนัน้

“นํ ้าแค่ไปเดินเล่นแถวนี ้เอง” ฉันแย้ งขึ ้น

“เธอเป็ นผู้หญิง อายุสิบแปดปี อ่อนแอ สู้คนไม่ไหว ถ้ ามีคนมาฉุดไป


เธอจะสู้ไหวหรื อเปล่า ทําไมไม่คิดให้ เยอะๆ”

“นํ ้าไม่เข้ าใจ... วันก่อนพี่คินทร์ ยงั พูดแทงใจดํานํ ้าอยู่เลย แต่ทําไมวันนี ้


ถึงได้ มาพูดดีกบั นํ ้าแบบนี ้คะ พี่คินทร์ เป็ นไบโพล่าเหรอ” ฉันขมวดคิ ้วถามเสียงสูง

“วันก่อนฉันพูดแทงใจดําอะไรเธอ ก็บอกอยู่ว่ากลับมาทําธุระ”

“คําก็ธรุ ะ สองคําก็ธรุ ะ แล้ วมันธุระอะไร ทําไมพี่คินทร์ ไม่บอกนํ ้ามา


ตามตรงเลยคะ จู่ๆก็จะกลับ แถมยังทําท่าทีเย็นชาใส่นํ ้าด้ วย นํ ้าตามอารมณ์พี่คินทร์
ไม่ทนั หรอกนะคะ บางครัง้ นํ ้าก็คิดว่าพี่คินทร์ ก็คงจะมีเหตุผลของพี่คินทร์ ที่ทําแบบนัน้
แต่นํ ้าก็อดคิดไม่ได้ จริ งๆว่าบางทีพี่คินทร์ ก็ไร้ เหตุผลและงี่เง่าเกินไป” หลังจบประโยค
ยาวเหยียดของตัวเองที่พ่นออกไป ฉันก็ถึงกับหอบกินเลยทีเดียว พออารมณ์ขึ ้นมันก็
พุ่งพรวดขึ ้นมาอย่างห้ ามไม่อยู่เลย
“ฉันไปเปลี่ยนเฝื อกมา”
“…”
ฉันมองหน้ าเขาอย่างงุนงง ก่อนจะเหลือบมองเฝื อกที่ขาของพี่คินทร์ พบว่ามันเป็ น
เฝื อกใหม่จริ งๆด้ วย สรุปว่าที่เขาต้ องกลับมาก่อนเพราะหมอที่โรงพยาบาลนัดเปลี่ยน
เฝื อกหรอกเหรอ

“แค่บอกว่ามาเปลี่ยนเฝื อกมันก็จบแล้ วไม่ใช่เหรอคะ มัวแต่บอกว่ามีธรุ ะอยู่ได้ ” ฉัน


บ่นอุบอิบ พลางทรุดตัวลงนัง่ ยองๆข้ างลูกชิ ้นกับหมูปิง้ และเอื ้อมมือไปลูบหัวทังสอง

ตัวอย่างเอ็นดู

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่ อง” ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองพี่คินทร์ เขามองฉันด้ วยสีหน้ า


เคร่งเครี ยด “เรามาทําข้ อตกลงกันก่อน ต่อไปนี ้ถ้ าเธอกับฉันเกิดทะเลาะกันขึ ้นมา ไม่
ว่าจะด้ วยความเข้ าใจผิดหรื ออะไรก็ตาม เธอต้ องไม่เดินออกจากห้ องไปแบบวันนี ้อีก
ถึงเธอจะคิดว่ามันไม่เป็ นอะไร แต่เหตุร้ายมันเลือกเวลาและสถานที่เกิดไหม”
“…”
“ต่อไปนี ้ไม่วา่ ฉันหรื อเธอ ถ้ าเราทะเลาะกันอีก หรื อเข้ าใจกันผิดไม่วา่ เรื่ องอะไรก็ตาม
ก่อนมาคุยกันให้ นบั หนึง่ ถึงหนึง่ ร้ อยแล้ วค่อยคุย โอเคไหม”
นับหนึง่ ถึงร้ อยเหรอ... ฉันก็หายโกรธเขาพอดีกว่าจะนับเสร็จ
“…”
“เข้ าใจไหมอุ๋ง” เสียงถามยํ ้าจากพี่คินทร์ ทําให้ ฉนั พยักหน้ ารับอย่างจําใจ
แต่ถึงอย่างนันมั
้ นก็เป็ นเรื่ องดีเลยล่ะ เพราะฉันกับเขาจะได้ คยุ เปิ ดอกกันอย่างใจเย็น
มากขึ ้น ถ้ าฉันโกรธแล้ วประชดเขาไปแบบเมื่อก่อน มันก็ไม่ตา่ งอะไรกับไฟ ยิ่งพี่คินทร์
เป็ นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้ วเป็ นทุนเดิม ยิ่งฉันประชดมันก็จะเหมือนการเติมไฟเข้ าไป
ในความร้ อนของจิตใจพี่คินทร์ มากขึ ้น แล้ วเราก็จะลงเอยกันที่การทะเลาะกันข้ ามวัน
ข้ ามคืน

KINN Talks.
ผมส่ายหัวให้ กบั ความไร้ เดียงสาของเด็กวัยสิบแปดปี ที่กําลังนัง่ ลูบหัวเจ้ าสุนขั ตัวดื ้อ
ทังสองตั
้ ว ความจริ งการที่มียยั อุ๋งเข้ ามาในชีวิต พอมาย้ อนคิดดูแล้ ว มันก็ไม่ได้ แย่
อะไรเท่าไหร่หรอก ตรงกันข้ ามผมกลับรู้สกึ ว่าตัวเองดูเป็ นคนมีเหตุผลขึ ้นมาเยอะมาก
นับตังแต่
้ อยู่กบั ยัยอุ๋งมา
ผมไม่ร้ ูว่าอะไรที่มนั สามารถเปลี่ยนนิสยั ส่วนลึกของผมให้ ไปในทางที่ดีขึ ้น แต่ผมรู้แค่
ว่ายัยเด็กคนนันทํ ้ าให้ โลกของผมวุน่ วายมากขึ ้นแต่มนั กลับรู้สกึ สบายอกสบายใจทุก
ครัง้ ที่มีเธออยู่ด้วย ถึงจํารํ าคาญเธอไปบ้ างในบางเวลาก็ตามที
ตอนนี ้ผมรู้แล้ วว่าคําพูดของเธอตอนที่เมาแล้ วเผลอพูดออกมานันมั ้ นคงไม่ใช่เรื่ อง
หลอกลวง แต่ผมอยากให้ เธอพูดมันออกมาต่อหน้ าผมโดยที่สติยงั หลงเหลือครบทุก
ประการ ผมอยากได้ ยินจากปากเธอตรงๆ เพราะผมคิดว่า... ความรู้สกึ ของผมที่มี
ให้ ยยั อุ๋งในตอนนี ้ มันอาจจะมีบางอย่างกําลังแทรกซึมอยู่ในเบื ้องลึกของจิตใจตัวเอง

“เธอหิวข้ าวไหม” ผมถามออกไป

ยัยอุ๋งเงยหน้ าขึ ้นมามองผมตรงๆ ก่อนจะส่ายหน้ าไปมา “…”


“แต่ฉนั หิว ไปกินข้ าวกันไหม”

“พี่คินทร์ เดินไหวเหรอคะ” ยัยอุ๋งถามอย่างลังเล พลางเคลื่อนสายตาลงมองเฝื อกที่


ขาของผม
ความจริ งมันก็ไม่ปวดอะไรมากมายแล้ ว ไม่เหมือนครัง้ แรกที่เข้ าเฝื อก ตอนนันมั
้ นทัง้
ปวดทังไม่
้ อยากเดินเลย

“ไหวสิ ฉันแข็งแรงจะตาย” ผมตอบยิ ้มๆ

แต่ยยั อุ๋งกลับนิ่งเงียบไป เธอมองผมอย่างอึ ้งๆ “…”

“มองอะไรขนาดนัน”
้ ผมยกมือขึ ้นโบกไปมาเมื่อเธอเอาแต่จ้องผมนิ่ง

“ปะ...เปล่าค่ะ” เหมือนเธอจะรู้สกึ ตัวขึ ้นมา เลยกะพริ บตาหนึง่ ครัง้ จากนันก็


้ ลกุ ขึ ้น
ยืน “ปะ...ไปเลยไหมคะ”

“…” ผมพยักหน้ ารับ พลางสาวเท้ าเข้ าไปหาคนตัวเล็ก ก่อนจะสอดมือของตัวเอง


เข้ าไปจับมือของยัยอุ๋งไว้ แน่น
ผมก้ มลงมอง ยัยอุ๋งก็เงยหน้ าขึ ้นมองผมเหมือนเดิม พอประสานสายตากันได้ เพียงไม่
นาน เธอก็เป็ นฝ่ ายที่เสมองไปทางอื่นแทน ที่ใบหูเล็กเริ่ มขึ ้นสีแดงระเรื่ อจนผมอดยิ ้ม
ออกมาอย่างเอ็นดูไม่ได้

“พี่คินทร์ หิวข้ าวไม่ใช่เหรอคะ รี บไปกันเถอะค่ะ” ยัยอุ๋งรบเร้ า ก่อนจะ


เดินจูงมือผมเดินไปที่ประตูห้องอย่างรวดเร็ว
เวลาเขินก็น่ารักเหมือนกันนะยัยเด็กคนนี ้...
MAWNUM Talks.
ฉันตักข้ าวเข้ าปากคําหนึง่ ดื่มนํ ้าตามคําหนึง่ ด้ วยความเขินอาย เพราะ
พี่คินทร์ เอาแต่นงั่ จ้ องฉันไม่วางตาจนฉันทําอะไรไม่ถกู แถมเขายังทําท่าอ่อนโยนกับ
ฉันขึ ้นผิดหูผิดตาอีกด้ วย ตอนนี ้เรานัง่ กินข้ าวกันที่ร้านข้ าวแถวๆหอพักกัน

“พี่คินทร์ ไม่หิวข้ าวแล้ วเหรอคะ” ฉันเลิกคิ ้วถาม เพราะเห็นเขาเอาแต่


จ้ องฉันลูกเดียวเลย

“หิว แต่ยงั ไม่อยากกินตอนนี ้” เขาตอบเสียงเรี ยบ สายตาหวานลึกลํ ้า


ยังคงจ้ องฉันอยู่ ถ้ าฉันเป็ นขี ้ผึ ้ง คงละลายกลายเป็ นนํ ้าขี ้ผึ ้งเหลวไปแล้ ว “เธอเคยชอบ
ใครไหมอุ๋ง”

“!!!” ฉันเบิกตากว้ างเมื่อโดนคําถามไม่คาดฝั นจากพี่คินทร์ ก่อนจะ


เสมองไปทางอื่นเพื่อไม่ให้ อาการผิดปกติของตัวเองแสดงออกมาให้ เขาจับได้ “นะ...
นํ ้า”

“เห็นเคทบอกว่าเธอไม่เคยมีแฟนมาก่อน เธอไม่เคยชอบใครมาก่อน
เหรอ” ฉันหันมามองเขาอีกครัง้ เส้ นประสาทเต้ นตุบตับเพราะกําลังคิดหาคําตอบ

“คือว่า...” แต่ไม่วา่ ยังไง คําตอบที่ได้ กลับมีแต่ความว่างเปล่า

จะให้ ฉนั โกหกอะไรออกไปล่ะ ในเมื่อหัวใจฉันมันมีแต่พี่คินทร์ มาตลอด


ตังแต่
้ เรี ยนประถมแล้ ว นับว่าเป็ นการแอบรักข้ างเดียวที่ยาวนานจริ งๆ
“เธอไม่คิดอยากจะมีแฟนแบบคนอื่นๆเขาบ้ างเหรอ”

“นํ ้ายังไม่อยากมีค่ะ” ฉันส่ายหน้ าพรื ด ยืนยันคําตอบของตัวเองด้ วย


เสียงสัน่ ๆ

“แปลก...” ฉันขมวดคิ ้วมองพี่คินทร์ อย่างไม่เข้ าใจนักกับคําพูด


ประหลาดของเขา

ร้ อยวันพันปี ไม่เคยถามฉันเกี่ยวกับความรักเลยสักครัง้ วันนี ้เกิดคึก


อะไรขึ ้นมา ถึงได้ ถามมาเป็ นชุดขนาดนัน้

“…” ฉันก้ มหน้ าก้ มตาลงกินข้ าวต่ออย่างไม่ใส่ใจ

อาจจะบังเอิญก็ได้ มง...
ั้

“ฉันมีเรื่ องตลกจะเล่าให้ ฟัง” พอพี่คินทร์ พดู ขึ ้นแบบนัน้ ฉันก็ต้องเงย


หน้ าขึ ้นฟั งเขาอย่างจริ งจัง

“…”
“มีเด็กผู้หญิงคนหนึง่ แอบรักผู้ชายคนหนึง่ มานานมาก แต่ไม่เคยบอก
ให้ เขารู้ความรู้สกึ ที่เธอมีต่อเขาเลยสักครัง้ ไม่วา่ จะทํายังไงเด็กผู้หญิงคนนันก็
้ ไม่ยอม
บอก จนกระทัง่ ผู้ชายคนนันมี ้ ผ้ หู ญิงคนใหม่เข้ ามา และเขากับผู้หญิงคนใหม่นนตกลง
ั้
คบกัน เธอรู้ไหมว่าเด็กผู้หญิงคนนันเป็ ้ นยังไง”
ฉันอึ ้งไปเมื่อได้ ฟังเรื่ องตลกที่พี่คินทร์ กําลังเล่าให้ ฟัง ก่อนจะตอบเขา
กลับไปด้ วยเสียงราบเรี ยบของตัวเอง “เป็ นยังไงคะ”

“เธอก็ผิดหวัง นัง่ ร้ องไห้ ขี ้มูกโป่ ง และตําหนิตวั เองว่าควรจะบอกความ


ในใจกับผู้ชายคนนันไป”

“…”
“ฮ่าๆๆ ตลกชะมัดเลยว่าไหม” แล้ วสักพักเขาก็ระเบิดหัวเราะออกมา
ราวกับว่านัน่ เป็ นเรื่ องตลก

“ที่เด็กผู้หญิงคนนันไม่
้ ยอมบอก เธออาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่ไม่
สามารถบอกออกไปก็ได้ นะคะ” ฉันแย้ งขึ ้นอย่างไม่เห็นด้ วย

“งันบอกมาสิ
้ วา่ มีเหตุผลอะไรที่ไม่ยอมบอก” พี่คินทร์ ชะโงกหน้ าเข้ า
มาใกล้ โดยที่ฉนั ไม่ทนั ได้ ตงตั
ั้ ว

สายตาฉันประสานกันกับนัยน์ตาสีดําขลับของพี่คินทร์ เนิ่นนาน พลัน


เสียงหัวใจก็เต้ นขึ ้นมาอย่างรัวเร็ว

ตึกตัก... ตึกตัก...

ฉันมองหน้ าพี่คินทร์ นิ่ง ก่อนจะหลุบตาลงมองจานข้ าวของตัวเอง ทําไม


เขาถึงได้ ยื่นหน้ ามาใกล้ กนั ขนาดนี ้ ทําเอาใจฉันสัน่ ไหวมากไปจริ งๆ ตอนนี ้มันเต้ น
โครมครามจนเกือบจะกระเด็นหลุดออกจากอกอยู่แล้ ว
“นะ...นํ ้าจะไปรู้ได้ ยงั ไงล่ะคะ” ฉันตอบเสียงเบา พลางหยิบช้ อนขึ ้นมา
ตักข้ าวเข้ าปากทังๆที
้ ่หน้ ายังก้ มอยู่แบบนัน้

ฉันจะไปรู้เหตุผลของเด็กผู้หญิงคนนันได้
้ ยงั ไงล่ะ ฉันไม่ใช่เด็กผู้หญิงคน
นันสั
้ กหน่อย

“อ้ าวเหรอ... ก็นกึ ว่าเธอรู้ เห็นค้ านหลังชนฝาขนาดนัน”


“นํ ้าไม่ร้ ูหรอกค่ะ นํ ้าไม่ใช่เด็กผู้หญิงคนนัน”


แต่ถ้าสมมติวา่ ฉันเป็ นเด็กผู้หญิงคนนัน้ เหตุผลของฉันก็คงจะเป็ น


‘กลัวการผิดหวัง’ เพราะฉันแอบชอบพี่คินทร์ มาตังแต่ ้ ประถม จนตอนนี ้ฉันก็ยงั ชอบ
เขาอยู่ และคิดว่าภายภาคหน้ าฉันก็จะยังชอบเขาอยู่แบบนี ้ไปเรื่ อยๆ มันตัดใจยากนะ
ฉันชอบพี่คินทร์ มาตังแต่้ เรี ยนประถมชันปี
้ ที่3 ถ้ าให้ นบั เวลาจนถึงตอนนี ้มันก็สิบปี แล้ ว
ที่ฉนั ยังชอบพี่คินทร์ ไม่เปลี่ยนแปลง

“แล้ วถ้ าเธอเป็ นเด็กผู้หญิงคนนัน้ เธอจะหาเหตุผลอะไรมาอ้ างว่าทําไม


ถึงไม่ยอมบอกชอบคนที่แอบชอบอยู่” ฉันเงยหน้ าจากจานข้ าวขึ ้นมองหน้ าพี่คินทร์
อีกครัง้ เมื่อถูกถาม

ก่อนที่คิ ้วของตัวเองจะค่อยๆขยับเข้ าหากันด้ วยความคิดหนัก ทําไม


วันนี ้เขาไล่จี ้ถามคําถามแบบนี ้กับฉันจัง

“ก็คง...กลัวความผิดหวังมังคะ”
้ ฉันลองเสี่ยงตอบไปแบบงงๆ
“แล้ วลองบอกหรื อยัง”

ตึกตัก... ตึกตัก...

พอจบประโยคจากปากพี่คินทร์ หัวใจฉันก็เต้ นตึกตักขึ ้นมาอย่างห้ ามไม่


อยู่ ยิ่งมองหน้ าเขามันก็ยิ่งเต้ นโครมคามอย่างหนัก แววตามุ่งมัน่ เด็ดเดี่ยวที่จ้องมอง
ฉันในตอนนี ้คืออะไร เขารู้อะไรมาหรื อเปล่า...

“ทะ...ทําไมถามอย่างนันล่
้ ะคะ” ฉันถามเสียงสัน่ ความรู้สกึ กลัวเริ่ ม
กัดกินหัวใจ

“ก็แค่ถามดูเฉยๆ” พี่คินทร์ ยกั ไหล่ด้วยท่าทางสบายๆ ก่อนจะก้ มหน้ า


ลงกินข้ าวตามปกติ

แต่ที่ไม่ปกติก็คงจะเป็ นฉันที่นงั่ มองเขาด้ วยหัวใจที่สนั่ ไหวไปหมด ขอ


อย่างเดียว... อย่าให้ เขารู้ความในใจฉันก็พอ เพราะฉันยังไม่พร้ อมจะเผชิญความ
เจ็บปวดในตอนนี ้
KINN Talks.
ผมส่ายหน้ าให้ กบั คนตัวเล็กที่เดินดุม่ ๆไม่รอใครด้ านหน้ าอย่างเอ็นดู แค่
จี ้ถามเธอไปแค่ไม่กี่คําถามก็ถึงกับใจเต้ นตึกตัก คิดว่าผมไม่ได้ ยินเสียงหัวใจเธอเหรอ
ผิดแล้ ว... ผมเล่นเกมบ่อย ต้ องใช้ หฟู ั งเสียงเกมตลอด ทําไมแค่เสียงหัวใจที่เต้ นโครม
ครามของเธอผมถึงจะไม่ได้ ยินล่ะ

ไลน์~
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ ้นมาดูเมื่อเสียงไลน์ดงั ขึ ้น พอกดเข้ าไป ก็พบว่าไอ้
เฟี ยตเป็ นคนส่งข้ อความมาให้ เป็ นรูปแคปหน้ าเพจ ‘ขาโหดวิศวะปะทะเฟรชชี่หน้ า
ใส’ ซึง่ ก่อนหน้ านี ้เป็ นเพจที่ตงขึ
ั ้ ้นมาเพื่อติดตามความรักของไอ้ เฟี ยตกับฟิ ล์ม แต่พอ
ทังสองคนเป็
้ นแฟนกันเรี ยบร้ อย เพจที่ว่านี ้ก็กลายมาเป็ นเพจติดตามความรักของคน
ดังในมหาวิทยาลัยแทน ไม่ว่าจะเป็ นเดือนหรื อดาวคณะ เพจนี ้จะลงข้ อมูลทุกอย่าง

เฟี ยต : มึงดูดิไอ้ คินทร์

ผมขมวดคิ ้วอีกครัง้ เมื่อได้ รับข้ อความต่อมาจากไอ้ เฟี ยต ก่อนจะกดเข้ า


ดูรูปที่มนั แคปส่งมา และไล่สายตาอ่านข้ อความในรูปที่เพจนี ้โพสต์ลงอย่างละเอียด

ความว่า... ‘OMG!!! วันนี ้แอดมินเพิ่งได้ รับรูปถ่ายจากเฟสบุ๊


คไม่ระบุตวั ตนแอคหนึง่ มาค่ะ เป็ นรูปของพี่คินทร์ อดีตเดือนคณะวิศวะอุตสาหการ
กําลังกอดกับผู้หญิงแหละเธออออ! รูปนี ้ถูกถ่ายที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยจ้ า!
พี่คินทร์ จะว่ายังไงคะ ช่วยมาอธิบายให้ FCด้ วยน้ า T_T’
หลังจากอ่านข้ อความเรี ยบร้ อยหมดทุกอย่าง ผมก็กดออกจากไลน์และ
โทรศัพท์หาไอ้ เฟี ยตทันที

[ว่า]

“ใครถ่ายรูปมา มึงรู้ไหม” ผมกรอกเสียงถามลงไปในสายทันทีที่มนั กด


รับ

[กูจะไปรู้ได้ ยงั ไงล่ะ] มันตอบเสียงราบเรี ยบ ไม่มีความตื่นเต้ นใดๆผสม


“บอกแอดมินเพจลบรูปออกจากเพจให้ กทู ี”

[มึงกลัวคนรู้?]

“ไม่ใช่ กูกลัวยัยอุ๋งเสียหาย”

พอพูดจบผมก็รีบวางสายทันที จากนันก็
้ กดเข้ าเฟสบุ๊คเพื่อดูคอมเม้ นต์
ใต้ รูปว่ามีคนพูดถึงเรื่ องนี ้ยังไงบ้ าง

‘อือหือ... ใจชัน้ !!! อกหักดังเป๊ าะเลยค่ะซิส TT’

‘ชะนีนางนี ้คือใครคะแอดมิน บังอาจมายุ่งกับคนหล่อของเดี๊ยนได้ ยงั ไง!’

‘ขอวาร์ ปน้ องผู้หญิงทีครับ น่ารักจัง’

‘เขร้ !!! ไปอีกคนแล้ วว่ะ 55555’

เรื่ องมันไปกันใหญ่แล้ ว... ยอดแชร์ ตอนนี ้แป๊ บเดียวขึ ้นร้ อยกว่าแชร์ แล้ ว
ด้ วย

ผมกดเข้ าอินบ็อกซ์ของเพจไป ในระหว่างที่กําลังพิมพ์เพื่อจะบอกให้


เพจลบภาพดังกล่าวออก แต่เมสเซนเจอร์ ของผมก็เด้ งรัวขึ ้นมานับสิบข้ อความ ทัง้
ข้ อความของเพื่อนสาขาและเพื่อนต่างสาขา รวมทังข้
้ อความจากคนอื่นๆที่ไม่ใช่เพื่อน
ที่สง่ มาอีก

“เชี่ย...” ผมสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะรี บพิมพ์ข้อความหาแอด


มินเพจต่อไป
เวคินทร์ ภัทรวิเชียรชัยกุล : แอดมินช่วยลบภาพที่โพสต์ลงให้ พี่หน่อย
ได้ ไหมครับ

แอดมิน : คงไม่ได้ แล้ วค่ะพี่คินทร์ ขอโทษนะคะ T^T

เวคินทร์ ภัทรวิเชียรชัยกุล : แต่พี่ไม่ชอบที่น้องโพสต์ลงแบบนันเลยนะ



ครับ พี่เสียหาย น้ องคนในรูปที่กอดกับพี่เขาก็เสียหาย

แอดมิน : แสดงว่าพี่คินทร์ กอดกันกับน้ องในรูปจริ งๆเหรอคะ O.O

เวคินทร์ ภัทรวิเชียรชัยกุล : จะกอดหรื อไม่กอด ยังไงมันก็เป็ นเรื่ อง


ส่วนตัวของพี่นะครับ พี่มาขอร้ องให้ น้องลบขนาดนี ้แล้ วน้ องก็ยงั ไม่ลบ งันพี
้ ่ขอ
ดําเนินคดีนะครับ

แอดมิน : ก็ได้ ค่ะพี่คินทร์ เดี๋ยวลบให้ นะคะ อย่าแจ้ งความนะ เก๊ าขอ


โต๊ ดดดด // ไหว้ ย่อ

ผมกดออกจากอินบ็อกซ์เพจทันที ทําไมถึงต้ องให้ เล่นไม้ แข็งก่อนถึงจะรู้


ว่าอะไรควรทําหรื อไม่ควรทํา

ติ๊งๆๆ!

แต่ถึงอย่างนันเมสเซนเจอร์
้ ของผมก็ยงั เด้ งขึ ้นมาไม่หยุดจนปั ดทิ ้งไม่
ไหว ในขณะที่ข้อความทางไลน์ก็มีมาเรื่ อยๆไม่หยุดหย่อน ผมเงยหน้ าขึ ้นมองยัยอุ๋งที่
เดินอยู่ทางด้ านหน้ า ก่อนจะตัดสินใจปิ ดโทรศัพท์ไป
ตอนนี ้ผมไม่สนแล้ วว่าผมจะถูกคนในมหาวิทยาลัยวิพากษ์ วิจารณ์ยงั ไง
แต่ผมสนความรู้สกึ ของยัยเด็กคนนันมากกว่
้ า ถ้ าเธอรู้เรื่ องนี ้ขึ ้นมา อาจจะรู้สกึ ไม่
สบายใจขึ ้นมาก็ได้

MAWNUM Talks.
พอกลับมาถึงห้ อง ฉันกับพี่คินทร์ ก็ต่างแยกย้ ายกันทํากิจกรรมส่วนตัว
ฉันนัง่ อยู่ที่โซฟากําลังดูยทู ปู แก้ เบื่อ ส่วนพี่คินทร์ ก็นอนอยู่บนเตียง แต่ที่แปลกคือเขา
ไม่ได้ เอาโทรศัพท์ขึ ้นมาเล่นเกมในแบบที่ชอบทํา แต่เขากลับหยิบหนังสือการ์ ตนู มา
นอนอ่านแทน

เหตุการณ์ของวันนี ้ตอนที่เราไปกินข้ าวด้ วยกัน ทําให้ ฉนั รู้สกึ แปลกใจ


เกินกว่าจะปั ดเรื่ องนันทิ
้ ้งไปได้ พี่คินทร์ ทําเหมือนกับว่ารู้ความในใจของฉัน เพราะเขา
เอาแต่พดู แปลกๆ แต่ฉนั สังเกตท่าทางของเขาแล้ ว ก็ไม่ได้ มีพิรุธอะไรให้ เห็น หรื อเขา
จะแค่ถามฉันดูเฉยๆแบบที่ว่า

ปั ง!

“พี่คินทร์ !” ฉันเงยหน้ าขึ ้นจากโทรศัพท์หนั ไปมองทางต้ นเสียงที่ดงั ขึ ้น


อย่างตกอกตกใจทันที

เป็ นเคทที่วิ่งหน้ าตังเข้


้ ามา เธอตกใจเล็กน้ อยที่เห็นหน้ าฉัน แต่ก็เดินเข้ า
ไปหาพี่ชายของเธอ แทนที่จะเดินเข้ ามาหาฉัน

คงมีเรื่ องด่วนกับพี่ชายของเธอมัง...

ฉันส่ายหน้ าอย่างไม่ใส่ใจ ก้ มหน้ าลงมองจอโทรศัพท์ของตัวเองต่อไป
ทันใดนันหมู
้ ปิง้ กับลูกชิ ้นก็กระโจนขึ ้นมาหา ทังสองตั้ วกระดิกหาง พลางเลียไปทัว่ จน
ฉันเกิดจัก๊ จี๋ขึ ้นมา

“อะไรกันหมูปิง้ ลูกชิ ้น” ฉันถามทังสองตั


้ วด้ วยเสียงกระท่อนกระแท่น
ปนหัวเราะ

ก่อนจะเสมองไปยังพี่คินทร์ และเคทที่นงั่ คุยกันหน้ าตาเคร่งเครี ยด มี


เรื่ องอะไรกันหรื อเปล่านะ ทําไมถึงได้ คยุ กันจริ งจังอย่างนัน้

KINN Talks.
ผมกลืนนํ ้าลายลงคออย่างยากลําบาก ขนาดอินบ็อกซ์ไปบอกให้ เพจ
ลบรูปทิ ้งแล้ ว แต่ก็ยงั มีมือดีแคปรูปเอาไว้ และโพสต์ลงอีก จนตอนนี ้ทังหน้
้ าทามไลน์
เฟสบุ๊คของผมเต็มไปด้ วยการแท็กรูปแคปจากเพจขาโหดวิศวะปะทะเฟรชชี่หน้ าใส
จนเคทวิ่งเข้ ามาเพื่อเอาโทรศัพท์ของเธอที่เข้ าหน้ าเฟสบุ๊คของผมให้ ดู

“เอาไงอ่ะพี่คินทร์ ” เคทเม้ มริ มฝี ปากแน่นและจ้ องหน้ าผมอย่างหนักใจ


ก่อนจะหันไปมองยัยอุ๋งที่นงั่ อยู่ที่โซฟาและถอนหายใจออกมาหนักหน่วง “จะให้ ไอ้ นํ ้า
เห็นรูปนี ้ไม่ได้ นะ มันยิ่งเป็ นคนคิดมากอยู่”

“พี่ก็คิดไม่ออกว่าควรจะทํายังไง แม่ง... ปวดหัวจริ งๆ” ผมยกมือขึ ้น


คลึงขมับตัวเองเพื่อคลายความตึงเครี ยดของเส้ นประสาท

“ให้ พี่เฟี ยตช่วยดีไหม” เคทเสนอความคิดเห็น


“ไอ้ เฟี ยตมันจะช่วยอะไรพี่ได้ ”

“งันพี
้ ่คินทร์ ก็ประกาศไปเลยสิวา่ ไอ้ นํ ้าเป็ นคูห่ มันของพี
้ ่”

“พูดมันง่าย แต่ทําน่ะโคตรยาก” ผมถอนหายใจ ก่อนจะมองไป


ทางยัยอุ๋งที่ตอนนี ้กําลังเล่นกับลูกชิ ้นและหมูปิง้ อยู่

“เคทว่าทําก็ไม่ยากนะ อยู่ที่พี่คินทร์ แล้ วแหละว่าจะทําหรื อเปล่า หรื อ


พี่คินทร์ กลัวอะไรอยู่”

ผมขมวดคิ ้วครุ่นคิดอย่างหนัก ผมไม่ได้ กลัวอะไร แต่ตอนนี ้ผมแค่อยาก


ได้ ยินจากปากยัยอุ๋งในตอนที่เธอยังสติดีอยู่ว่าเธอชอบผมจริ งๆ ผมแค่...อยากได้ ยิน
อีกสักครัง้ เท่านัน้

เพราะในใจของผมตอนนี ้...ก็คงเริ่ มหวัน่ ไหวให้ กบั ยัยอุ๋งแล้ วเหมือนกัน


MAWNUM Talks.
หลังจากวันนันที้ ่เคทมาคุยกับพี่คินทร์ ทังสองคนก็
้ ดแู ปลกไปเลย พี่คิ
นทร์ ก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่หน้ าจอคอมพิวเตอร์ เล่นเกมตลอดทังวั้ น ส่วนเคทก็ไม่เคยมา
หาฉันที่ห้องอีก จนฉันแอบสงสัยไม่ได้ ว่าเกิดอะไรขึ ้นกันแน่ ทําไมทังสองคนถึ
้ งได้ ทํา
ตัวแปลกๆกันขนาดนัน้

ความอึดอัดสุมแน่นในอกจนฉันต้ องถอนหายใจออกมาเป็ นรอบที่ล้าน


ก่อนจะตวัดสายตาไปมองคนตัวสูงที่กําลังนัง่ เล่นเกมอยู่ที่โต๊ ะคอมพิวเตอร์ และถาม
ออกไปด้ วยความอยากรู้เต็มทน
“พี่คินทร์ คะ ช่วงนี ้พี่คินทร์ กบั เคทมีอะไรปกปิ ดนํ ้าหรื อเปล่า”

คนตัวสูงเหลือบตามองฉัน ก่อนจะหันไปมองจอคอมพิวเตอร์ ต่อและ


เอ่ยตอบด้ วยนํ ้าเสียงราบเรี ยบ “ไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมาก...”

ก็เป็ นเพราะเขานัน่ แหละที่ทําให้ ฉนั ต้ องมานัง่ คิดเล็กคิดน้ อยแบบนี ้ มี


เรื่ องอะไรก็ไม่บอกกัน แบบนี ้ฉันจะรู้ได้ ยงั ไงว่าตัวเองควรจะทําตัวยังไง นี่ก็เข้ าเดือนที่
สามแล้ วด้ วย สิ ้นเดือนฉันก็ต้องถอนหมันกั ้ บพี่คินทร์ อีก คิดแล้ วมันก็น่าใจหาย
เหมือนกันนะ ฉันอยู่กบั เขามาสองเดือน ระยะเวลาสองเดือนนี ้ยิ่งทําให้ ฉนั ผูกพันกับ
เขาจนยากจะถอนตัวออกมา ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ าเราถอนหมันกั ้ นไปแล้ ว ฉันจะห้ าม
ใจไม่ให้ คิดถึงเขาได้ ยงั ไง

ความรักนี่ก็แปลกจริ ง... รู้ทงรู


ั ้ ้ ว่ามันอาจจะทําให้ ตวั เองเจ็บปวด แต่ฉนั
ก็ยิ่งอยากเดินเข้ าไปใกล้ ความเจ็บปวดนันเหมื
้ อนกับแมงเม่าที่บินเข้ าหาเปลวไฟ
ร้ อนแรง

“พี่คินทร์ จะได้ ถอดเฝื อกออกเมื่อไหร่คะ” ฉันเหลือบตาไปมองเฝื อกสี


ขาวที่อยู่บนขาของเขา

พักนี ้รู้สกึ เขาจะเดินคล่องตัวมากกว่าเดิมแล้ วด้ วย อีกไม่นานก็คงได้


ถอดเฝื อกออกแล้ วสินะ

“พรุ่งนี ้ก็ไปถอดแล้ ว ไปด้ วยกันไหม”


“นํ ้าจะไปทําไมคะ ไม่ใช่ธรุ ะของนํ ้าสักหน่อย” ฉันก้ มหน้ างุด พลาง
หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดเล่น

“แล้ วเธอไม่ห่วงฉันเหรอ”

ฉันเบิกตากว้ างเมื่อเสียงทุ้มดังขึ ้นข้ างหู ลมหายใจอุ่นร้ อนจากคนตัวสูง


เป่ ารดลงมา จนทําให้ ฉนั ต้ องหันขวับไปมองด้ วยความใจหาย สายตาของเราสองคน
ประสานกัน ลมหายใจของฉันแทบหยุดลงตรงนันเมื ้ ่อเขายื่นหน้ าเข้ ามาใกล้ ๆ

ตึกตัก... ตึกตัก...

เสียงของหัวใจฉันเต้ นรัวขึ ้นมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายแข็งค้ างไปชัว่ ขณะ


เขาเดินมานี่ตงแต่
ั ้ เมื่อไหร่ ทําไมเท้ าเบาอย่างกับแมวแบบนี ้

“พะ...พี่คินทร์ ” ฉันเรี ยกชื่อเขาเสียงเบา พลางกะพริ บตาสองครัง้ เพื่อ


เรี ยกสติของตัวเอง ก่อนจะหลุบตาลงมองมือของตัวเองแทน

ช่วงนี ้ทําไมเขาถึงชอบเข้ ามาใกล้ ฉนั จัง ทังยื


้ ่นหน้ าเข้ ามาใกล้ ทังจ้
้ อง
มองฉันใกล้ ๆ ไม่ร้ ูหรื อไงว่าหัวใจฉันทํางานหนักขนาดไหน

“ฉันถามอะไรเธอหน่อยสิอ๋งุ ” ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองใบหน้ าหล่อเหลานัน้


อีกครัง้ เพื่อรอฟั งคําถามจากเขา “เธอแอบชอบใครอยู่ บอกฉันได้ ไหม”
“…”
“ฉันไม่ร้ ูหรอกว่าเธอกําลังคิดอะไรอยู่ แต่ฉนั อยากบอกให้ เธอรู้ไว้ ว่าถ้ า
เธอกําลังแอบชอบใครอยู่ ฉันอยากให้ เธอกล้ าพูดความในใจกับเขาคนนัน้ บางครัง้
ชีวิตคนเราก็ไม่โชคร้ ายตลอดไปหรอกนะ”

ไม่โชคร้ ายตลอดไปงันเหรอ?

ถ้ าเป็ นคนอื่น... ฉันอาจจะกล้ าพูดความในใจออกไปให้ เขาได้ รับรู้ แต่


คนตรงหน้ าคือพี่คินทร์ ผู้ชายที่ฉนั แอบชอบมาเนิ่นนานนับหลายปี ฉันจะไม่ขี ้ขลาด
เลยถ้ าไม่ใช่เขาคนนี ้ เพราะพี่คินทร์ คือคนเดียวที่ฉนั รู้สกึ ว่าตัวเองขี ้ขลาดทุกครัง้ ใน
ตอนที่เผชิญหน้ ากับเขา

ไม่วา่ จะตอนไหน ฉันก็ไม่เคยมีความกล้ าเลยสักครัง้ ฉันเคยดูละครบาง


เรื่ องที่นางเอกกล้ าตะโกนสารภาพรักกับพระเอกไป ฉันยังแอบรู้สกึ อิจฉานางเอก
ละครเรื่ องนันแทบตายที
้ ่เธอกล้ าสารภาพออกไปโดยไม่กลัวความผิดหวัง แต่นี่มนั ชีวิต
จริ ง และคนตรงหน้ าฉันคือพระเอก แต่แตกต่างกับฉัน... ฉันอาจไม่ใช่นางเอกในชีวิต
ของเขาก็ได้

“นํ ้า...” ฉันอํ ้าอึ ้งเพราะไม่ร้ ูจะพูดอะไรออกไป ในใจรู้สกึ วูบโหวงอย่าง


บอกไม่ถกู

“ฉันจะเป็ นคนๆนันให้ ้ เธอบอกกับฉันก็ได้ ” ฉันช้ อนตาขึ ้นมองคน


ตรงหน้ านิ่ง แววตามุ่งมัน่ เด็ดเดี่ยวของเขาทําให้ ฉนั รู้สกึ ได้ ถึงความกล้ าในหัวใจของ
ตัวเอง
แต่ถึงอย่างนันมั
้ นก็ยงั น้ อยกว่าความกลัวที่จะผิดหวังในหัวใจของฉันอยู่
ดี

“…”
“บอกชอบฉันแทนก็ได้ ไว้ เธอพร้ อมเมื่อไหร่ก็ค่อยไปบอกเขา”

ไม่มีวนั นันหรอก...
้ ฉันไม่มีทางพร้ อมไม่วา่ จะเป็ นเมื่อไหร่ ฉันไม่พร้ อม
เลยสักนิด ไม่พร้ อมเลยจริ งๆ

“นํ ้าไม่พร้ อมหรอกค่ะ”

“ทําไมล่ะ”

“เพราะนํ ้าไม่เคยมัน่ ใจเลยว่าความรักของนํ ้าที่มีต่อเขาคนนันจะ



สามารถทลายกําแพงที่หนาแน่นในหัวใจของเขาได้ ”

ฉันยังจําสายตาของพี่คินทร์ ที่มองพี่ครี มได้ อย่างแม่นยํา แววตาที่ห่วง


หาอาวรณ์ แววตาที่เต็มเปี่ ยมไปด้ วยความรักอย่างล้ นหลาม ยอมรับตามตรงว่าฉัน
รู้สกึ อิจฉาพี่ครี มที่ได้ ความรักจากพี่คินทร์ ไป แต่มนั ก็ไม่ใช่ความผิดของเธอ ในเมื่อฉัน
เป็ นคนนอกตังแต่ ้ ต้น ไม่วา่ จะทํายังไง ฉันก็คือคนนอก...

“แล้ วเธอไม่คิดบ้ างเหรอว่ากําแพงในหัวใจของเขาคนนันอาจจะโดน



พังทลายลงตังนานแล้
้ วโดยที่เขาไม่ร้ ูตวั ก็ได้ ”
“…”
“…”
“นํ ้าง่วงแล้ วค่ะ ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ” ฉันเลี่ยงการสบตากับคนตัว
สูง ก่อนจะลุกขึ ้นจากโซฟาตรงไปยังเตียงนอน

พอหัวถึงหมอน ฉันก็หลับตาลงทันที ไม่อยากคิดอะไรให้ ปวดหัวแล้ ว...


KINN Talks.
ผมมองตามร่างของยัยอุ๋งที่เดินไปล้ มตัวนอนบนเตียงอย่างเอ็นดู ไม่ว่า
จะไล่ต้อนเธอเท่าไหร่ เธอก็ไม่เคยแม้ แต่จะตกหลุมพรางที่ผมสร้ างขึ ้นมาเลยสักครัง้

“ถ้ าฉันบอกก่อน เธอคงไม่ตกใจจนเป็ นลมล้ มพับไปหรอกใช่ไหมอุ๋ง”


ผมหันหน้ าไปทางคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียง พลางพึมพําถามออกไปเสียงเบา

ผมไม่ร้ ูว่าตัวเองหวัน่ ไหวให้ กบั ยัยอุ๋งตังแต่


้ เมื่อไหร่ ความรู้สกึ ของผมไม่
ชัดเจน ข้ อนี ้ผมรู้ดี... แต่พอวันนันที
้ ่หวั หินยัยอุ๋งเกิดสารภาพว่าแอบชอบผมมาตังนาน ้
แล้ ว หัวใจของผมกลับอ่อนยวบลงอย่างเห็นได้ ชดั จนกระทัง่ เธอจูบผม และผมก็จบู
กลับ ผมถึงได้ รับรู้ว่าหัวใจของตัวเองเต้ นรุนแรงไม่แพ้ เธอเลย

ก่อนหน้ านี ้ผมเป็ นที่ปรึกษาเรื่ องหัวใจให้ กบั ไอ้ เฟี ยต แต่ตวั เองกลับไม่ร้ ู
เรื่ องของหัวใจตัวเองเลยว่ารู้สกึ กับยัยอุ๋งยังไง มันน่าตลกดีเหมือนกัน ทําตัวเป็ น
ปราชญ์รอบรู้ให้ คําปรึกษา แต่พอเป็ นเรื่ องของตัวเองกลับง่อยแดกแบบนัน้ คิดแล้ วก็
ตลกชะมัด
ผมส่ายหน้ าให้ กบั ความอ่อนของตัวเอง ก่อนจะเดินไปยังเตียงกว้ าง
พลางนัง่ ลงที่ขอบเตียงใกล้ กบั ร่างของคนตัวเล็กที่นอนหลับตาอยู่ ลมหายใจ
สมํ่าเสมอจากเธอทําให้ รับรู้ได้ เป็ นอย่างดีวา่ เธอหลับลึกไปแล้ ว ขี ้เซาจริ งๆ

รอยยิ ้มค่อยๆปรากฏขึ ้นบนใบหน้ าของผม ก่อนที่มือข้ างหนึง่ ของตัวเอง


จะเอื ้อมไปคลึงแก้ มเนียนนุ่มของเธอเบาๆ ยัยอุ๋งขยับตัวยุกยิกราวกับรํ าคาญเมื่อถูก
รบกวน ผมหัวเราะเบาๆในลําคอ ต่อให้ เธอจะบอกว่าตัวเองโตแล้ ว แต่ตอนนี ้ใน
สายตาของผม ยัยอุ๋งกลับเป็ นเด็กผู้หญิงไร้ เดียงสาที่อ่อนต่อโลก หากย้ อนกลับไป
แก้ ไขเหตุการณ์ในอดีตได้ ผมก็อยากจะทํา
วันนันที้ ่ผมเผลอมีอะไรกันกับยัยอุ๋งไป ผมไม่ร้ ูจริ งๆว่าตัวเองเดินเข้ าผิดห้ อง เคท
พายัยอุ๋งมานอนที่ห้องของตัวเอง เพราะห้ องของเคทกับห้ องของผมอยู่ติดกัน ห้ อง
ของเคทจะอยู่ก่อน ส่วนห้ องของผมจะอยู่ถดั ไป และวันนันผมเมามากจนไม่
้ ร้ ูตวั ด้ วย
ซํ ้าว่าตัวเองเดินเข้ าห้ องผิดและเผลอทําร้ ายจิตใจยัยเด็กคนนี ้ไป พอตื่นขึ ้นมาและโดน
แม่จบั หมันแบบกะทั
้ นหัน ตอนนันผมเลยรู
้ ้ สกึ โมโหจนเอาแต่โทษเธออยู่ฝ่ายเดียวแล้ ว
แต่พอมาตอนนี ้... ผมกลับรู้สกึ ว่ายัยเด็กคนนี ้กลับมีความอดทนมากจริ งๆ
นิสยั แบบผมใครจะทนได้ ถ้าไม่ใช่ครอบครัวและเพื่อนรักอย่างไอ้ เฟี ยต แต่เธอกลับทน
ผมมาตลอด ระยะเวลาสองเดือนกว่าแทบจะเป็ นเครื่ องพิสจู น์ว่ายัยอุ๋งเป็ นผู้หญิงที่
อดทนกับอารมณ์ของผมได้ มากที่สดุ แล้ ว

“นอนหลับลึกขนาดนี ้ ไม่กลัวฉันจะทํามิดีมิร้ายเธอเลยเหรออุ๋ง” ผมเอ่ยถามคนที่


นอนไม่ร้ ูอิโหน่อิเหน่
“…” แต่ก็ไร้ เสียงโต้ ตอบกลับมา
ผมหยิบเกียร์ ของตัวเองขึ ้นมา ผมรู้ว่าเกียร์ สําคัญต่อนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ มาก
แค่ไหน แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันจะสําคัญกับตัวเองขนาดนัน้ ที่วนั นันผมให้
้ เกียร์ ยยั อุ๋งใส่
เพราะผมแค่คิดว่ามันก็คือเครื่ องประดับอย่างหนึง่ ที่พวกผู้หญิงหลายคนอยากจะได้
จากแฟน แต่พอเมื่อหลายวันก่อนที่เธอถอดสร้ อยเกียร์ และโยนกลับมาให้ ผม ผมกลับ
รู้สกึ ว่ามันสําคัญมากจนไม่อยากจะให้ เธอถอดมันออก
รุ่นพี่ที่คณะเคยบอกผมว่าเกียร์ คือสัญลักษณ์แทนใจของชาววิศวะอย่างพวกเรา ให้
เก็บรักษาเอาไว้ ให้ ดี วันนันผมยั
้ งนึกขําอยู่เลยว่ากะอีแค่จี ้ฟั นเฟื องอันนิดเดียว มันจะ
สําคัญอะไรขนาดนัน้ แต่พอมาวันนี ้... ผมกลับรู้แล้ วว่ามันสําคัญต่อตัวเองมากแค่ไหน
เพราะเวลาให้ เกียร์ ใครไป ก็คงเหมือนให้ ใจที่ติดไปกับเกียร์ ด้วย
ผมค่อยๆยกหัวของยัยอุ๋งขึ ้น และสวมสร้ อยเกียร์ ของตัวเองกลับไปให้ เธอเหมือนเดิม
ถึงเธอจะยังไม่ยอมบอกว่าชอบผม แต่ผมจะทําให้ เธอบอกออกมาให้ ได้

“ให้ ใจกลับไปแล้ ว ถ้ าเกิดโยนคืนมาอีก คราวนี ้ไม่ให้ แล้ วนะเข้ าใจไหม” ผมพูดเสียง


เบา ก่อนจะโน้ มใบหน้ าของตัวเองลงไปประกบริ มฝี ปากลงบนแก้ มนุ่มหนึง่ ที

‘ถ้ าเกียร์ คือใจ คนที่ได้ ไปก็คือหัวใจของเจ้ าของเกียร์ ’


MAWNUM Talks.
“อื ้อ...” ฉันครางออกมาเมื่อรู้สกึ ครั่นเนื ้อครั่นตัวอยากอาบนํ ้าเต็มทน
แล้ ว
เปลือกตาที่ปิดสนิทจากการนอนหลับค่อยๆเปิ ดขึ ้นรับแสงแดดที่สาด
ส่องเข้ ามาทางระเบียง ก่อนจะพยุงตัวเองให้ ลกุ ขึ ้นมาจากเตียง ยืดตัวไปทางซ้ ายที
ขวาที และบิดขี ้เกียจพลางกวาดตามองไปทัว่ ทังห้้ อง

“เอ๊ ะ...” ฉันขมวดคิ ้วและอุทานออกมาเบาๆเมื่อรู้สกึ ว่าตัวเองอยู่ใน


ห้ องคนเดียวโดยไร้ เงาร่างของพี่คินทร์

ฉันกวาดตามองทังห้ ้ องที่ว่างเปล่า ก่อนจะเดินลงจากเตียง หมูปิง้ กับ


ลูกชิ ้นยังคงนอนอยู่ที่พื ้นข้ างโซฟา ฉันค่อยๆย่างเท้ าไปยังหน้ าห้ องนํ ้าที่ปิดสนิทอยู่
ก่อนจะยกมือขึ ้นเคาะบานประตูห้องนํ ้าเบาๆสองทีเพื่อจะตรวจสอบดูว่าพี่คินทร์ อยู่
ด้ านในหรื อเปล่า

ก๊ อกๆ!

“พี่คินทร์ คะ...” ฉันลองเรี ยกชื่อพี่คินทร์ เบาๆ

“…” ไร้ เสียงตอบกลับมาจากภายในห้ องนํ ้า

หรื อว่า... เขาจะไปเรี ยนหรื อเปล่านะ

เมื่อคิดได้ ดงั นัน้ ฉันจึงเดินกลับไปที่เตียงและหยิบโทรศัพท์มือถือของ


ตัวเองขึ ้นมากดต่อสายหาเขา รอสายสักพักพี่คินทร์ ก็กดรับ

[โหล...] เสียงทุ้มตํ่าเอ่ยตอบกลับมาหลังจากรับสายแล้ ว

“พี่คินทร์ ไปไหนคะ” ฉันเอ่ยถามอย่างร้ อนรน


[มาถอดเฝื อกไง ลืมแล้ วเหรอ เพิ่งบอกไปเมื่อคืน]

อ่า... จริ งสินะ ฉันก็ลืมไป เมื่อคืนเพิ่งคุยกันแท้ ๆ

“ทําไมพี่คินทร์ ไม่ปลุกนํ ้าให้ ไปด้ วยล่ะคะ”

[ก็เธอบอกว่าไม่ใช่ธรุ ะของเธอไม่ใช่เหรอ]

“กะ...ก็” ฉันเถียงไม่ออก มันใช่อย่างที่พี่คินทร์ พดู นัน่ แหละ เพราะเมื่อ


วานฉันก็บอกเขาไปแบบนี ้เป๊ ะเลย

[เดี๋ยวบ่ายๆน่าจะกลับ ฝากซื ้ออะไรไหม]

“มะ...ไม่เป็ นไรค่ะ เดี๋ยวนํ ้าเดินไปกินข้ าวที่ร้านข้ างหอก็ได้ ”

[อืม... โอเค งันแค่


้ นี ้นะ] เสียงทุ้มตอบกลับมา ก่อนจะกดวางสายไป

ฉันถอนหายใจออกมายืดยาว และเดินไปเทอาหารไว้ ให้ ลกู ชิ ้นกับหมูปิง้


แต่จงั หวะที่ก้มลงเทอาหาร ฉันกลับรู้สกึ ถึงแรงหน่วงของบางอย่างที่อยู่บนคอ ฉันก้ ม
ลงมองมัน ก่อนจะต้ องเบิกตากว้ างอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่ห้อยอยู่บนคอของ
ตัวเอง

“มะ...มาได้ ยงั ไง” ฉันยืดตัวกลับไปยืนในท่าเดิม ก่อนจะหยิบสร้ อย


เกียร์ ที่ห้อยอยู่บนคอนันขึ
้ ้นมาf^

และไม่ผิดแน่... นี่มนั สร้ อยเกียร์ ของพี่คินทร์ ชดั ๆเลย แต่ฉนั โยนคืนเขา


ไปแล้ ว ทําไมวันนี ้มันถึงมาอยู่บนคอของฉันอีกล่ะ
ยังไม่ทนั ที่สมองจะได้ คิดสงสัย ฉันก็กดเบอร์ โทรหาพี่คินทร์ อีกรอบเพื่อ
จะสอบถามความเป็ นไปของสร้ อยเกียร์ แต่ทว่าพอโทรติดเขากลับปิ ดเครื่ องไปแล้ วซะ
งัน้

[หมายเลขที่ท่านเรี ยกไม่สามารถติดต่อได้ ในขณะนี ้...]

“ทําไมปิ ดเครื่ องนะ” ฉันผละหูออกมาจากโทรศัพท์ และกดโทรหาเขา


อีกรอบหนึง่ แต่มนั ก็ยงั ขึ ้นเสียงคอลเซ็นเตอร์ เหมือนเดิม

ไว้ เขากลับมาค่อยถามก็ได้ มงั ้ แต่...ก็ดีแล้ วล่ะที่เกียร์ ของเขากลับมาหา


ฉัน เพราะฉันก็ยงั นึกเสียใจอยู่เหมือนกันที่โยนเกียร์ คืนไปให้ พี่คินทร์ ทังๆที ้ ่นี่เป็ น
ของขวัญเพียงชิ ้นเดียวเท่านันที
้ ่ฉนั ได้ รับจากเขา ถึงแม้ เขาจะไม่ได้ ตงใจให้ ั้ แต่สําหรับ
ฉันก็ถือเป็ นของสําคัญจากคนที่ตวั เองแอบรักอยู่ทกุ วี่ทกุ วัน

KINN Talks.
“ยิ ้มน้ อยยิ ้มใหญ่เลยนะมึง” ผมหันไปหาไอ้ เฟี ยตที่กําลังขับรถพาไป
โรงพยาบาล ก่อนจะหุบยิ ้มลงเมื่อถูกมันแซว

“มึงไม่ต้องยุ่งสักเรื่ องได้ ไหม ตังแต่


้ คบกับฟิ ล์มนี่จ้ นุ จ้ านจัง!” ผม
ขมวดคิ ้วว่ามันกลับไป

กวนตีนได้ ตลอดเวลา เปลี่ยนไปยังกับคนละคน ความรักนี่มนั อานุภาพ


ร้ ายแรงจริ งๆ ไอ้ บ้านี่ถึงได้ เป็ นเอาขนาดนี ้

“สรุปกับน้ องแมวนํ ้านี่ขนไหนกั


ั้ นแล้ ว” มันเลิกคิ ้วถาม
และที่ผมหมันไส้
้ มนั ที่สดุ ก็คือใบหน้ านิ่งเฉยเย็นชา แต่คําพูดสรรหาบา
ทาประดับหน้ าซะเหลือเกิน

“ขันไหนอะไรของมึ
้ ง” ผมถามออกไปอย่างไม่เข้ าใจ

“ก็ความสัมพันธ์ของพวกมึงสองคนไง”

“คูห่ มันไง”
้ ผมตอบกลับ พลางเบือนหน้ าไปมองทางด้ านหน้ า
แทน “มองทางด้ วยไอ้ ห่า เดี๋ยวก็ได้ ตายโหงหรอก” ผมบ่นเมื่อไอ้ เฟี ยตเอาแต่จ้อง
หน้ าผมแต่ไม่จ้องมองทางข้ างหน้ าที่กําลังขับรถอยู่

มันยิ ้มออกมาเล็กน้ อย ก่อนจะหันไปมองทางและพูดต่อว่า “กูร้ ูแล้ วว่า


คูห่ มัน้ แต่มงึ คิดยังไงกับน้ องเขา ชอบหรื อไม่ชอบ” พอโดนประโยคคําถามนี ้ของมัน
ผมก็หนั ไปมองทันที

หัวคิ ้วที่ขมวดอยู่แล้ วของตัวเองยิ่งขมวดซํ ้าไปกว่าเดิม ถามแบบนี ้มัน


ต้ องการอะไร ความชัดเจนจากผมเหรอ

“ชอบ” ผมตอบออกไป ก่อนจะยกยิ ้มมุมปากเมื่อไอ้ เฟี ยตเริ่ มเผยยิ ้ม


เจ้ าเล่ห์ออกมา “มัง?”

“มังนี
้ ่คือชอบ?” มันจะถามอะไรนักหนาวะ

“เออ! ชอบก็ชอบ!” ผมพยักหน้ ารัว ตอบกลับมันไปอย่างรวดเร็ว

สารภาพก็ได้ ว่าชอบ... แต่ชอบตอนไหนไม่ร้ ู อันนี ้อย่ามาถามผมก็พอ


“หึ...” ผมหันกลับไปมองไอ้ เฟี ยตเมื่อได้ ยินเสียงหัวเราะในลําคอจาก
มัน

“หัวเราะไร!” ผมเอ่ยถามออกไปอย่างขัดใจ ทําไมเรื่ องแบบนี ้มันต้ อง


หัวเราะด้ วย

“เปล๊ า!” ไอ้ เฟี ยตยักไหล่ ก่อนจะจดจ่ออยู่กบั การขับรถต่อไป

ผมนอนคิดมาทังคื ้ นแล้ วเกี่ยวกับความรู้สกึ ของตัวเอง ผมเคยรู้สกึ แบบ


นี ้กับครี มมาก่อน เพราะฉะนันผมจึ
้ งสามารถยืนยันได้ แล้ วว่าตัวเองกําลังคิดยังไง
กับยัยอุ๋ง ผมไม่เหมือนไอ้ เฟี ยตที่นอนกระสับกระส่ายด้ วยความสับสนหลายวันหลาย
คืนแบบว่ามันคิดยังไงกับฟิ ล์มกันแน่ เพราะมันไม่เคยมีแฟนมาก่อน แต่ผมไม่ใช่ ผม
เคยมีแฟน

และผมก็ร้ ูด้วยว่าที่ยยั อุ๋งสารภาพว่าชอบผมในวันนันที ้ ่หวั หินเป็ นเรื่ อง


จริ ง ผมไม่ได้ ฟังธงว่าเธอจะชอบผม แต่ผมแค่ร้ ูสกึ ว่ายัยอุ๋งคิดกับผมแบบนันจริ ้ งๆ แค่
ใช้ ความรู้สกึ ... ความรู้สกึ ของผมเท่านันที ้ ่สามารถยืนยันได้ ว่ายัยอุ๋งคิดยังไง แต่ผมก็
ยังอยากฟั งจากปากเธอ อยากให้ เธอกล้ าพูดออกมาว่าชอบผม อยากให้ เธอกล้ ามาก
ขึ ้นกว่านี ้อีกหน่อยเท่านันเอง

“ไอ้ เฟี ยต...” ผมเรี ยกชื่อไอ้ เฟี ยตเสียงดังเมื่อนึกอะไรขึ ้นมาได้

“ว่า” มันหันมาเลิกคิ ้วถามผมงงๆ


“กูอยากให้ มงึ ช่วยอะไรหน่อย เดี๋ยวจอดข้ างหน้ าเลย” ผมชี ้ไปที่ทาง
ข้ างฟุตบาทเพื่อจะให้ มนั เลี ้ยวไปจอดรถตรงนัน้

“อะไรของมึงอีก ใกล้ เวลาหมอนัดแล้ วเนี่ย” ไอ้ เฟี ยตขมวดคิ ้วพูดด้ วย


สีหน้ าเคร่งเครี ยด

“แป๊ บเดียวไอ้ สาส...”

ผลสุดท้ ายไอ้ เฟี ยตก็จําเป็ นต้ องเลี ้ยวรถไปจอดที่ข้างทางตามที่ผมบอก


มันหันมามองผมนิ่งๆ พลางส่ายหน้ าคล้ ายกับเอือมระอาผมเต็มทน ผมกระดิกนิ ้ว
เรี ยกมันให้ ยื่นหน้ าเข้ ามา ราวกับว่าส่งสารถึงกัน เพราะพอกระดิกนิ ้วได้ สองที มันก็ยื่น
หน้ าเข้ ามาใกล้ ๆราวกับรู้ใจกัน

ผมกระซิบบางอย่างลงไปข้ างหูมนั หลังจากพูดจบไอ้ เฟี ยตก็มองหน้ า


ผมนิ่งๆคล้ ายกับไม่อยากจะเชื่อใจกัน

“มึงแน่ใจแล้ วนะที่จะทําแบบนี ้” มันถามผมราวกับว่าที่ผมกระซิบบอก


ไปนันเป็
้ นเรื่ องราวใหญ่โต

“แน่ดิ ไม่แน่กจู ะบอกมึงให้ ช่วยเพื่อ?”

เรื่ องนี ้ผมต้ องให้ มนั ช่วยเท่านันถึ


้ งจะสําเร็จ ไม่งนผมอาจจะไม่
ั้ มีโอกาส
อีกแล้ วก็ได้
MAWNUM Talks.
หลังจากลงไปกินข้ าวที่ร้านอาหารข้ างหอเสร็จ กลับมาฉันก็มานอน
แอ้ งแม้ งอยู่ที่เตียงเพราะไม่ร้ ูจะทําอะไร พี่คินทร์ ก็ยงั ไม่กลับมา ฉันร้ อนใจอยากถาม
เขาจะแย่อยู่แล้ ว

ทําไมเกียร์ ของเขาถึงได้ มาอยู่บนคอฉันเหมือนเดิมได้ หรื อว่าพี่คินทร์ จะ


เอามาสวมใส่ให้ ฉนั คืนงันเหรอ
้ แต่ทําไมล่ะ เพราะอะไรเขาถึงเอามันมาใส่ให้ ฉนั คืน
แบบนี ้ แถมยังไม่โกรธที่ฉนั โมโหใส่อีกด้ วย ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว ยิ่งตังคํ
้ าถามมาก
เท่าไหร่ก็ยิ่งอยากรู้คําตอบที่ชดั เจน

“เฮ้ อ...” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อหน่าย ก่อนจะเดินไปหาหมู


ปิ ง้ กับลูกชิ ้นที่กดั กันเล่นอยู่ที่โซฟา

พอทังสองตั
้ วเห็นฉันเดินเข้ าไปหา ก็เปลี่ยนเป้าหมายมาเลียฉันแทน

“หมูปิง้ กับลูกชิ ้นรู้ไหมว่าทําไมนํ ้าถึงชอบพี่คินทร์ ” ฉันเอ่ยถามเจ้ าสอง


ตัวที่ทรุดตัวลงนอนมองหน้ าฉันตาแป๋ ว “ก็เพราะพี่คินทร์ ไม่เหมือนคนอื่น จะว่านํ ้าโง่
ก็ได้ นะที่ชอบผู้ชายแบบเขา ทังปากร้
้ าย หน้ าดุ ตัวก็ใหญ่ นํ ้านี่บ้าจังเลยเนอะ...” ฉัน
เอื ้อมมือไปลูบหัวของทังสองตั
้ วอย่างเอ็นดู

ในเมื่อระบายความในใจออกมาให้ เจ้ าตัวรับรู้ไม่ได้ ระบายกับสุนขั ของ


เขาก็คงไม่แย่เท่าไหร่หรอกใช่ไหม

ไลน์~
ยังไม่ทนั ที่ฉนั จะได้ จบั เจ้ าสองก้ อนกลมขึ ้นมาเล่นด้ วย เสียงไลน์จาก
โทรศัพท์ก็ดงั ขึ ้นมา ฉันขมวดคิ ้วอย่างสงสัยและเดินกลับไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรง
โต๊ ะคอมพิวเตอร์ ขึ ้นมาอ่านข้ อความจากผู้สง่ ทันที

คิว : นํ ้าว่างไหม เราจะชวนไปดูหนัง

เป็ นคิวนี่เอง... เขาหายไปเลยนับตังแต่


้ เจอกันครัง้ นัน้ ขอไลน์ฉนั ไปก็ไม่
ทักมาหากันเลย

แมวนํ ้า : วันนี ้เราไม่วา่ งอ่ะคิว ขอโทษนะ T^T

ฉันโกหก... ความจริ งคือฉันว่างทังวั้ นนัน่ แหละ แต่ตอนนี ้มีสิ่งเดียวที่ฉนั


อยากจะทําคือถามพี่คินทร์ เกี่ยวกับเกียร์ ของเขาให้ ร้ ูเรื่ อง แค่รอเขากลับมาเท่านัน้

คิว : อ้ าวเหรอ... โอเคๆ งันไว้


้ วนั หลังเดี๋ยวเรามาชวนใหม่นะ

แมวนํ ้า : ส่งสติกเกอร์ ...

ฉันกดส่งสติกเกอร์ โอเคกลับไปให้ คิว ก่อนจะวางโทรศัพท์กลับเข้ าที่เดิม


และหมุนตัวกลับเตรี ยมจะเดินไปยังโซฟา

Rrrr!
แต่ทว่า... พอก้ าวไปได้ เพียงก้ าวเดียว เสียงริ งโทนจากโทรศัพท์มือถือก็
ดังขึ ้นมาซะก่อน ทําให้ ฉนั ต้ องหันกลับไปหยิบมันขึ ้นมาอีกรอบเพื่อจะดูว่าใครโทรมา

เป็ นเบอร์ แปลกด้ วย...


“ฮัลโหล...” ฉันกดรับสายและจ่อมันเข้ าที่หู ก่อนจะเอ่ยทักปลายสายที่
โทรมา

[นํ ้า! ไอ้ คินทร์ มนั โดนรถชนที่หน้ าโรงพยาบาล!]


KINN Talks.
“มึงแน่ใจแล้ วใช่ไหมที่ทําแบบนี ้” ผมปรายตาไปมองหน้ า ‘พี่หมอวิน’
ที่พดู ขึ ้นมาด้ วยนํ ้าเสียงหนักใจ ก่อนจะเบนสายตาไปมองไอ้ เฟี ยตที่กําลังห่มผ้ าสีขาว
ให้ และเทเอฟเฟกต์เลือดปลอมที่ให้ พี่หมอลงทุนไปหามาลงบนร่างกายผมในตอนนี ้

พี่หมอวินเป็ นญาติห่างๆของไอ้ เฟี ยต ทํางานให้ กบั โรงพยาบาลของ


มหาวิทยาลัยมาประมาณห้ าปี เศษ เรี ยกว่าครอบครัวไอ้ เฟี ยตครอบคลุมจักรวาลเลยก็
ว่าได้ ลุงก็เป็ นอธิการบดีที่นี่ พ่อแม่ก็ทําธุรกิจใหญ่โต ลูกชายหัวแก้ วหัวแหวนก็เรี ยน
เก่งถึงขันเป็
้ นมือหนึง่ ของสาขา แถมหน้ าตายังหล่อเหลา(น้ อยกว่าผม)อีกด้ วย

บางครัง้ ผมก็อยากตะโกนถามมันว่า... ‘ความเพอร์ เฟกค์นี ้มึงได้ แต่ใด


มา’ เหลือเกิน
“พอแล้ วไอ้ สสั เยอะเกิน” ผมขมวดคิ ้วบอกไอ้ เฟี ยตเมื่อมันเอาแต่เท
เลือดปลอมใส่ขากับช่วงลําตัวของผมจนเปี ยกชุ่มมาถึงผิวเนื ้อ

“เดี๋ยวไม่สมจริ ง” มันว่าด้ วยหน้ าตามึนๆ ก่อนจะตังใจบี ้ บถุงเลือดใส่


ผมอีกจนหมดถุงเป็ นที่เรี ยบร้ อย จากนันก็
้ เดินถุงเปล่านันไปทิ
้ ้งถังขยะที่วางอยู่ตรงมุม
ห้ อง
“ขอโทษทีว่ะพี่หมอ เรื่ องนี ้มันต้ องลงทุนหน่อย” ผมหันหน้ าไปพูดกับพี่
หมอวินที่ตอนนี ้ยืนทําหน้ าเอือมระอาสุดๆอยู่

“มึงก็เอากับมันด้ วยเหรอเฟี ยต กูไม่อยากเชื่อเลยว่าน้ องกูสติไป


หมดแล้ ว” พี่หมอวินส่ายหน้ าให้ ไอ้ เฟี ยต ก่อนจะเดินเข้ าไปจับไหล่ของมันเอาไว้ แล้ ว
เอ่ยถามด้ วยนํ ้าเสียงห่วงใย “มึงเรี ยนหนักใช่ไหม พักผ่อนบ้ างนะน้ องพี”่

“ก็ไอ้ บ้านี่มนั อยากให้ ผ้ หู ญิงเป็ นฝ่ ายบอกรักก่อน” ไอ้ เฟี ยตชี ้นิ ้วมา
ทางผม

“เอาหน่า...” ผมครางเสียงตํ่า ก่อนจะมองไปรอบๆพื ้นที่ห้องสีขาว

“คิดได้ ไงวะไอ้ คินทร์ มึงเป็ นผู้ชายนะเว้ ย จะให้ ผ้ หู ญิงบอกรักก่อนแบบ


นี ้มันได้ เหรอวะ” เสียงพี่หมอวินพูดขึ ้นราวกับขัดใจ

“ก็เขาปากแข็งไงพี่หมอ” ผมสวนกลับอย่างไม่ยอมแพ้

ก็ยยั นัน่ ไม่ยอมบอกให้ ผมรู้ก่อนว่าแอบชอบผมมานานแค่ไหนแล้ ว


เพราะฉะนันผมก็
้ ไม่มีทางยอมบอกความรู้สกึ ของตัวเองให้ ยยั อุ๋งรู้ก่อนเหมือนกัน เลย
ต้ องอาศัยไม้ ตายทําให้ เธอยอมบอกรักก่อนแบบนี ้ไง

“มึงก็ปากแข็งเหมือนกันนัน่ แหละ ถึงขันลงทุ้ นจัดฉากทําอะไรไร้ สาระ


แบบนี ้น่ะ แล้ วยังให้ กมู าเดือดร้ อนกับพวกมึงด้ วยเนี่ย คิดได้ ยงั ไง” พี่หมอวินยกมือ
ขึ ้นคลึงขมับของตัวเองราวกับปวดหัวกับเรื่ องที่พวกผมพากันทําอยู่ “อายุก็ตงยี ั ้ ่สิบ
สองกันแล้ วไอ้ ห่า...”
“เอาน่ะพี่หมอ ถือว่าทําบุญทําทานให้ มนั ก่อนวันเรี ยนจบแล้ วกัน” ไอ้
เฟี ยตตบบ่าพี่หมอเบาๆ พร้ อมกับพยักพเยิดหน้ ามาทางผม

“เออๆ รี บๆทําแล้ วก็รีบๆไปเลยนะ รกโรงพยาบาล” พี่หมอวินปั ดมือ


ก่อนจะเดินออกจากห้ องไป คงเพราะไม่อยากเห็นความติ๊งต๊ องของพวกผมสองคน
แล้ ว

ผมหันไปมองไอ้ เฟี ยตที่ยืนนิ่งอยู่ ก่อนจะขมวดคิ ้วมองหน้ าตามึนตึงไม่


รู้สกึ รู้สาใดๆของมัน

“ไอ้ เฟี ยต...” ผมเอ่ยเรี ยกชื่อมันเสียงเบา

“…” มันหันมามองด้ วยสีหน้ างงๆ

“มึงไม่เนียน” ผมว่ามัน เพราะสีหน้ าเวลาเพื่อนสนิทมิตรสหายได้ รับ


บาดเจ็บหรื อเสียชีวิตก็ต้องเศร้ าสร้ อยสิวะ แต่นี่มนั ดันยืนมองผมด้ วยสีหน้ าเรี ยบเฉย
แบบนี ้ได้ ยงั ไง

“แป๊ บหนึง่ ...” มันยกมือขึ ้นมาหยุดไม่ให้ ผมพูดต่อ ก่อนจะหยิบขวดนํ ้า


บางอย่างออกมาจากกระเป๋ ากางเกง เงยหน้ าขึ ้น และบรรจงหยดมันลงบนตาของ
ตัวเอง “เพื่อนคินทร์ ... ฮือ!!!”

ผมสะดุ้งทันทีเมื่อจู่ๆมันก็เดินเข้ ามาหาพร้ อมกับเขย่าตัวผมราวกับฟ้า


ถล่มแผ่นดินสะเทือน นํ ้าที่มนั หยดเข้ าดวงตาก่อนหน้ านี ้ไหลออกมา มันทําสีหน้ าบิด
เบี ้ยว
“=_=!” ผมมองมันอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

ถ้ าผมเป็ นคนมอบรางวัลนักแสดง ผมขอมอบรางวัลนักแสดงชายยอด


แย่ให้ มนั เลย เล่นใหญ่รัชดาลัยเธียร์ เตอร์ แต่ความสมจริ งแม่งอยู่ที่ไหน แอคติ ้งห่ว
ยแตกฉิบหายเลย

MAWNUM Talks.
ตุบ!

หลังจากได้ รับสายจากเบอร์ แปลกเรื่ องพี่คินทร์ ร่างของฉันก็ทรุดฮวบลง


บนพื ้นอย่างไม่มีปี่ขลุย่ โทรศัพท์ที่จบั ไว้ ก่อนหน้ านี ้ร่วงลงจนกลิ ้งห่างออกไป หมูปิง้ กับ
ลูกชิ ้นวิ่งเข้ ามาหมอบอยู่ข้างๆฉันพร้ อมเลียไปทัว่ ม่านตาของฉันเริ่ มพร่ามัวขึ ้นเรื่ อยๆ
เนื่องจากหยาดนํ ้าตาที่เข้ ามาแทนที่

ฉันสูดลมหายใจลึก ในขณะที่หยดนํ ้าตาร่วงผล็อยลงแล้ วหนึง่ หยด ก่อน


จะพยายามพยุงร่างกายที่ไร้ ซงึ่ เรี่ ยวแรงของตัวเองขึ ้นอย่างทุลกั ทุเล หมูปิง้ กับลูกชิ ้นก็
ลุกขึ ้นยืนตาม ทังสองตั
้ วกระดิกหางไปมา แต่พอเห็นว่าฉันร้ องไห้ ทังสองตั ้ วก็หยุด
กระดิกหางแล้ วก็หมอบลงบนพื ้นด้ วยท่าทางหงอยเหงา

ฉันเดินไปที่ประตูห้องของตัวเอง ก่อนจะยื่นมืออันสัน่ เทาไปจับลูกบิด


และเปิ ดมันออกไป พลางเดินไปที่ห้องข้ างๆเพื่อเคาะห้ องของเคท

ก๊ อกๆ!
“คะ...เคท” ฉันเอ่ยเรี ยกชื่อเธอด้ วยเสียงอันสัน่ เครื อของตัวเองเมื่อเดิน
มาถึง

เพียงไม่นาน บานประตูที่ปิดสนิทอยู่ก็เปิ ดออกพร้ อมกับร่างของเคทที่


เดินเกาหัวออกมา

“ว่า” เธอถามขึ ้นด้ วยนํ ้าเสียงงัวเงีย ก่อนจะยกมือขึ ้นป้องปากหาว

“ฮึก... พี่คินทร์ ถกู ระ...รถชน” กว่าจะเค้ นนํ ้าเสียงของตัวเองบอกเคทอ


อกไปได้ ฉันก็แทบจะเป็ นลมล้ มพับอยู่ตรงนัน้

โลกทังใบหมุ
้ นวนไปหมด...

“วะ...ว่าไงนะ?!” เคทตาสว่างทันทีที่ได้ ยินเรื่ องราวจากปากฉัน “แกรู้


ได้ ยงั ไง ใครบอกแกไอ้ นํ ้า”

“นํ ้ารับสายเบอร์ แปลกไป ฮึก... แล้ วเบอร์ นนก็


ั ้ บอกว่าพี่คินทร์ ถกู รถชน
ที่หน้ าโรงพยาบาล” ฉันรี บอธิบายรายละเอียดให้ เธอฟั งทันที

“เดี๋ยวก่อนนะ...” เคทยกมือขึ ้นห้ ามฉันพูดต่อ เธอยืนครุ่นคิดอยู่พกั


หนึง่ ก่อนจะปรายตามามองฉันนิ่งๆ และพูดขึ ้นว่า “ถ้ าพี่คินทร์ มนั โดนรถชนจริ งๆ
ต้ องมีเบอร์ จากโรงพยาบาลหรื อไม่ก็เบอร์ พี่คินทร์ มนั โทรเข้ าเครื่ องฉันไม่ก็เครื่ องของ
พ่อกับแม่ฉนั แล้ วสิ แต่นี่กลับโทรเข้ าเบอร์ แก แถมยังเป็ นเบอร์ แปลกด้ วยที่โทรมา แก
ว่าเรื่ องนี ้มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ”
ฉันขมวดคิ ้วทันทีเมื่อได้ ยินคําพูดชวนให้ ครุ่นคิดจากปากเคท “เคทจะบ
อกว่าเรื่ องนี ้เป็ นเรื่ องโกหกเหรอ”

“เปล่า... ฉันไม่ได้ บอกว่าเป็ นเรื่ องโกหก แต่ฉนั ก็แค่แปลกใจ”

“งันเราลองไปดู
้ ที่โรงพยาบาลดูไหม” ฉันลองเสนอความคิดเห็น

“อืม... ลองไปดูสิ เดี๋ยวฉันเข้ าไปเปลี่ยนชุดแป๊ บหนึง่ เข้ ามารอข้ างใน


ก่อน” เคทเปิ ดประตูให้ ฉนั เดินตามเธอเข้ าไปในห้ อง

ฉันยกมือขึ ้นปาดคราบนํ ้าตาที่เลอะอยู่บนแก้ มออกลวกๆ พยายาม


ปลอบใจตัวเองว่าคงไม่มีเรื่ องร้ ายแรงอะไรเกิดขึ ้นหรอก อีกอย่างมันก็แปลกอย่างที่เค
ทบอกจริ งๆ ถ้ าพี่คินทร์ เกิดอุบตั ิเหตุร้ายแรงทางโรงพยาบาลน่าจะโทรมาแจ้ งที่
ครอบครัวก่อนสิ ไม่ใช่ให้ เบอร์ แปลกโทรมาบอกฉันก่อนแบบนี ้

เคทเดินไปหยิบชุดที่ต้ เู สื ้อผ้ า ก่อนจะเดินไปเปลี่ยนในห้ องนํ ้า เพียงไม่


นานเธอก็เดินออกมา สีหน้ าของเคทคล้ ายกับกําลังครุ่นคิดบางอย่างที่เคร่งเครี ยดอยู่

เป๊ าะ!

จากนันก็้ ตามมาด้ วยเสียงดีดนิ ้วคล้ ายกับนึกอะไรออกของเธอ เคทยิ ้มอ


อกมา ก่อนจะเดินเข้ ามาหาฉัน

“พอไปถึงโรงพยาบาล แกห้ ามพูดอะไรออกมาเด็ดขาดนะนํ ้า ไม่วา่ จะ


เห็นอะไรก็ตาม ห้ ามพูดเข้ าใจไหม” เคทชี ้หน้ าฉันพร้ อมออกคําสัง่ เด็ดขาด
“อื ้อ...” ฉันพยักหน้ ารับรู้

“แต่แกมีหน้ าที่ร้องไห้ นะโอเคไหม ร้ องเอาให้ ดงั ๆเลย ฉันพูดอะไรด้ วย


แกต้ องตอบว่าได้ เท่านันนะ”

“มะ...หมายความว่ายังไงอ่ะเคท นํ ้าไม่เข้ าใจ” ฉันส่ายหน้ าให้ กบั


คําพูดของเธอด้ วยความไม่เข้ าใจ

“ฉันคิดว่าเรื่ องนี ้มันต้ องมีอะไรไม่ชอบมาพากลสักอย่าง”

“ไม่ชอบมาพากลเหรอ”

“ฉันคิดว่านี่อาจจะเป็ นแผนของพี่คินทร์ ฉันเป็ นน้ องสาวแท้ ๆ ทําไมจะ


ไม่ร้ ูเล่ห์เหลี่ยมของพี่ชายตัวเอง เอาเป็ นว่าแกทําตามที่ฉนั บอกก็พอ”

“อะ...โอเค” ฉันตอบรับเคทไปด้ วยความงุนงง

เรื่ องนี ้มันต้ องมีเบื ้องหลังอะไรแน่เลยใช่ไหม...


KINN Talks.
“มายัง” ผมตะโกนถามไอ้ เฟี ยตที่นงั่ เล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ที่เก้ าอี ้หน้ า
ห้ องฉุกเฉิน

“…” ไอ้ เฟี ยตเงยหน้ าขึ ้นมามองผมนิ่งๆ จากนันก็้ หนั ไปมองด้ านข้ าง
เพื่อจะตรวจสอบว่ายัยอุ๋งมาโรงพยาบาลตามที่ผมบอกให้ มนั ใช้ เบอร์ พี่หมอวินโทรไป
บอกแล้ วหรื อยัง “ยังไม่โผล่แม้ แต่เงา” ไอ้ เฟี ยตตะโกนตอบกลับมา
“ทําไมนานจังวะ” ผมบ่นพึมพํา

เพราะถ้ าคาดการณ์จากเวลาที่ผมใช้ ให้ ไอ้ เฟี ยตโทรไปบอกยัยอุ๋ง ตอนนี ้


ก็น่าจะผ่านมาเกือบสี่สิบนาทีแล้ ว ยัยอุ๋งน่าจะมาถึงโรงพยาบาลแล้ วสิ แต่นี่กลับกิน
เวลานานเกินจนผิดสังเกต

“มาแล้ วๆ” ยังไม่ทนั ที่ความสงสัยจะกระจ่าง เสียงของไอ้ เฟี ยตก็


ตะโกนขึ ้นด้ วยความตื่นเต้ น

มันยกขวดนํ ้าไปหยอดใส่ดวงตาของตัวเอง ส่วนผมก็ทําหน้ าที่เอาสําลี


อุดจมูกของตัวเองพร้ อมกับกลันลมหายใจเอาไว้
้ โชคดีที่ตอนเด็กๆผมเรี ยนดํานํ ้ามา
เลยรู้วิธีกลันหายใจให้
้ ได้ นานๆ จากนันก็
้ หลับตาลง ไอ้ เฟี ยตเดินเข้ ามาคลุมผ้ าสีขาว
ให้ ถ้ ายัยอุ๋งมาถึงก็น่าจะใช้ เวลาสักสองนาทีในการสารภาพรักกับผม เพราะฉะนัน้
แผนการครัง้ นี ้น่าจะราบรื่ นและสมบูรณ์แบบตามที่ผมคาดหวังไว้ แน่นอน

“ฮึก...” เสียงสะอื ้นทุ้มตํ่าของไอ้ เฟี ยตดังขึ ้นมา

“พี่เฟี ยตคะ พี่คินทร์ อยู่ที่ไหนคะ” จากนันก็


้ ตามมาด้ วยนํ ้าเสียง
แตกตื่นของยัยอุ๋ง

“มัน... ฮึก... พี่เสียใจด้ วยนะนํ ้า” แอคติ ้งห่วยแตกขนาดนัน้ ขออย่าให้


แผนผมพังเลย

“พี่คินทร์ มนั เป็ นอะไรพี่เฟี ยต!” ทันใดนันนํ


้ ้าเสียงเล็กแหลมคุ้นหูก็ดงั
ขึ ้นมาด้ วย
และถ้ าผมเดาไม่ผิด เสียงนัน่ น่าจะเป็ นเคทน้ องสาวของผม

“มัน... มันโดนรถชน ฮึก... พอพี่พามันไปเอาเฝื อกออกเสร็จ ตอนที่


กําลังจะเดินไปขึ ้นรถ มันดันโดนรถชนเข้ า” ไอ้ เฟี ยตเล่าเหตุการณ์ให้ เคทฟั ง

“ขนาดนันเลยเหรอพี
้ ่เฟี ยต!” เคทเอ่ยขึ ้นด้ วยนํ ้าเสียงสัน่ เครื อ

หมับ!

ผมขมวดคิ ้วทันทีเมื่อร่างกายถูกจับโดยใครบางคน ผ้ าสีขาวที่ไอ้ เฟี ยต


คลุมหน้ าให้ ก่อนหน้ านี ้ค่อยๆร่นลง จากนันก็
้ ตามด้ วยการเขย่าตัวผมอย่างรุนแรง
เกิดขึ ้นจนเตียงที่ผมนอนอยู่ขยับเคลื่อนไปมาและเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊ าดขึ ้น

“ฮือ!!! พี่คินทร์ !!!” เคทร้ องไห้ ขึ ้นมาเสียงดัง เธอเขย่าตัวผมไปมา


“พี่ตายไปแบบนี ้ ไอ้ นํ ้ามันก็เป็ นหม้ ายดิพี่!”
“…”
“แต่พี่ไม่ต้องห่วงอะไรนะ เดี๋ยวเคทจะทําหน้ าที่หาผัวใหม่ให้ ไอ้ นํ ้ามัน
เอง!”
MAWNUM Talks.
พอเคทพูดจบ ทุกคนในห้ องฉุกเฉินก็เงียบไป ยอมรับว่าครัง้ แรกที่ฉนั
เข้ ามาเห็นพี่คินทร์ ก็ร้ ูสกึ ตกใจมากที่มีเลือดชุ่มโชกไปทังตั
้ วเขาแถมยังมีผ้าขาวคลุมอีก
ด้ วย แต่มีบางอย่างที่ฉนั ผิดสังเกตก็คือพี่เฟี ยต เพราะบุคลิกของพี่เฟี ยตเป็ นคนเคร่ง
ขรึมจริ งจังกับทุกเรื่ อง ถ้ าพี่คินทร์ เกิดตายขึ ้นมาจริ งๆ เขาคงไม่ยืนร้ องไห้ แบบนี ้
แน่นอน

ฉันหรี่ ตามองคนที่นอนโดยมีสําลีสีขาวอุดจมูกอย่างจับผิด “ได้ ...”


ก่อนจะตอบไปตามที่เคทบอกไว้ ก่อนหน้ าที่เราจะมาโรงพยาบาล

พรึ่บ!

ยังไม่ทนั ที่ทกุ อย่างจะถูกคลี่คลายให้ หายสงสัย จู่ๆร่างสูงที่นอนแน่นิ่ง


สนิทบนเตียงก่อนหน้ านี ้ก็ลกุ ขึ ้นมาอย่างกะทันหัน สําลีที่อดุ จมูกอยู่ถกู คนตัวสูงดึง
ออกและปามันทิ ้งลงบนพื ้น ก่อนจะหันขวับมาจ้ องหน้ าฉันด้ วยสีหน้ าแกมดุดนั เหมือน
ทุกครัง้ ที่เขาชอบใช้ ข่ใู ห้ ฉนั กลัว

ฉันสะดุ้งเล็กน้ อย ก่อนจะถลึงตาใส่เขาอย่างไม่ยอมแพ้ “…”

“อ้ าว...” เสียงเคทพูดออกมาเสียงสูง “ไหนว่าประสบอุบตั ิเหตุไงพี่คิ


นทร์ ตายแล้ วไม่ใช่เหรอ ลุกขึ ้นมาแบบนี ้ได้ ไง เดี๋ยวไม่เนียนนะ”

“…” พี่คินทร์ ละสายตาจากฉันไปจ้ องเคทเขม็ง “จะหาผัวใหม่


ให้ ยยั อุ๋งเหรอเคท!” เขากระแทกเสียงถามคล้ ายกับโมโห

แต่ควรจะเป็ นฉันมากกว่าไหมที่ต้องเป็ นฝ่ ายโมโห เล่นอะไรแบบนี ้ก็ไม่ร้ ู


หัวใจฉันหล่นไปอยู่ที่พื ้นแล้ วรู้ไหม ไม่ร้ ูหรื อไงว่าเป็ นห่วงแทบแย่

“เออดิ ก็ผวั เก่ามันตายแล้ วนี่!” เคทเน้ นเสียงตรงคําว่า ‘ผัวเก่า’


อย่างชัดเจน
“แล้ วเธอก็ตอบว่าได้ เนี่ยนะ!” แล้ วพี่คินทร์ ก็หนั มามองฉันอีกครัง้
พร้ อมถามด้ วยนํ ้าเสียงแกมหงุดหงิด เขาเอียงคอเล็กน้ อย หัวคิ ้วเข้ มขมวดเข้ าหากัน
อย่างหนัก

“พี่คินทร์ เล่นอะไรแบบนี ้คะ นํ ้าเป็ นห่วงแทบแย่” ฉันพูดด้ วยนํ ้าเสียง


จริ งจัง

อยากให้ ร้ ูบ้างว่าฉันเสียความรู้สกึ แค่ไหน เขาเห็นว่าเรื่ องแบบนี ้มันสนุก


หรื อไงกัน เล่นกับความรู้สกึ ฉันแบบนี ้ได้ ยงั ไง

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่ อง!” เสียงเข้ มตวาดใส่จนฉันเผลอกัดปากตัวเอง


ไปหนึง่ ครัง้ เพราะความรู้สกึ กดดันเริ่ มถาโถมเข้ ามา “มานี่เลย!”

คนตัวสูงก้ าวขาลงจากเตียงด้ วยความรวดเร็ว ไม่ถึงเสี ้ยววินาที ฝ่ ามือ


ใหญ่ของพี่คินทร์ ก็เอื ้อมมากําข้ อมือฉันเอาไว้ ก่อนจะดึงให้ เดินตามเขาออกไปจาก
ห้ องฉุกเฉินท่ามกลางสายตาของผู้คนที่กําลังพลุกพล่านอยู่ภายในโรงพยาบาล

“พี่คินทร์ ! พี่จะเอาไอ้ นํ ้าไปไหน!” เสียงเคทตะโกนไล่หลังมา

ฉันหันไปมองเธอ ก่อนจะหลุบตาลงมองข้ อมือที่ถกู พี่คินทร์ กําแน่นจน


เลือดลมไหลเวียนลําบาก “พี่คินทร์ จะพานํ ้าไปไหน นํ ้าเจ็บนะคะ!”

“ไอ้ เฟี ยต! กูฝากไปส่งเคทที่หอด้ วย!” พี่คินทร์ ไม่ตอบคําถามฉัน แต่


เขาเลือกที่จะออกคําสัง่ กับพี่เฟี ยตแทน
“พี่จะพาไอ้ นํ ้าไปไหน!” แต่ก็ยงั ไม่วายที่เสียงของเคทจะดังตามมา
ด้ วยความไม่พอใจอยู่ดี

ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองพี่คินทร์ ที่เดินดุม่ ๆไม่รอใคร ด้ วยความสูงของเขาที่


ห่างกับฉันพอสมควร ดังนันการก้
้ าวของเขาเพียงก้ าวเดียวก็เท่ากับฉันต้ องวิ่งเหยาะๆ
ถึงสองก้ าว ใบหน้ าของพี่คินทร์ ย่งุ เหยิงไปหมด บ่งบอกได้ เป็ นอย่างดีวา่ ตอนนี ้เขา
กําลังอารมณ์เสียแค่ไหน

“พี่คินทร์ ปล่อยนํ ้านะ!” ฉันเริ่ มต่อต้ านเขาโดยการสะบัดข้ อมือของ


ตัวเอง แต่ทว่ามันก็ยงั ไม่หลุดออกจากพันธนาการของคนตัวสูงอยู่ดี

พี่คินทร์ เดินพาฉันมายังลานจอดรถของโรงพยาบาล ก่อนที่ร่างของฉัน


จะถูกเขาเหวี่ยงเบาๆจนไปชนกับรถคันหนึง่ ในจังหวะที่กําลังจะตังตั
้ ววิ่งหนี แต่ร่างสูง
ของพี่คินทร์ ก็ขวางเอาไว้ และคร่อมฉันด้ วยแขนทังสองข้
้ างของเขา กักกันไม่ให้ ฉนั หนี
ออกไปไหนได้

“อยากได้ ผวั ใหม่มากไหม” เขาเอ่ยเสียงเรี ยบ แต่อตั ราการหายใจของ


พี่คินทร์ กลับดูรุนแรงราวกับโทสะมันพุ่งจนฉุดไม่อยู่แล้ ว

“นํ ้าไม่เคยคิดแบบนันนะคะ”
้ ฉันส่ายหน้ าเพื่อยืนยันคําพูดของตัวเอง

“แล้ วทําไมถึงตอบว่าได้ ” นํ ้าเสียงแกมกดดันของเขาทําให้ ฉนั คิดหนัก

ฉันรู้ดีวา่ ต่อให้ อธิบายยังไง ตอนนี ้พี่คินทร์ ก็ไม่ฟังแน่ๆ เพราะอารมณ์


ของเขาไม่คงที่เลย
“นํ ้าก็แค่ตอบตามที่เคท... อื ้อ!”

คําอธิบายของฉันหลุบหายลงลําคอ เมื่อจู่ๆริ มฝี ปากตัวเองก็ถกู คนตัว


สูงประกบจูบลงมาโดยไม่ทนั ตังตั ้ ว ฉันเบิกตากว้ าง ร่างกายแข็งทื่อ ในขณะที่ความ
เย็นเฉียบลามไล่ไปทัว่ ทังตั
้ ว หัวใจเหมือนหยุดเต้ นไปในวินาทีนนั ้

ปึ ก!

เมื่อพยายามรวบรวมสติได้ ฉันก็กํากําปั น้ ทุบลงบนอกแกร่งหนึง่ รอบจน


เกิดเสียงดัง ‘ปึ ก’ แต่ถึงอย่างนันริ
้ มฝี ปากของตัวเองก็ยงั ไม่เป็ นอิสระอยู่ดี กําปั น้ ที่
สองจึงถูกฉันลงนํ ้าหนักไปที่อกแกร่งอีกครัง้ อย่างจงใจ

“อื ้อ...” ฉันเปล่งเสียงครางในลําคอเมื่อถูกคนตัวสูงบดจูบลงมาอย่าง


รุนแรง

ราวกับคนตรงหน้ าตังใจจะลงโทษกั
้ น เขาเอียงองศาใบหน้ าเล็กน้ อย
ก่อนจะบดเคล้ าริ มฝี ปากฉันอย่างหนักหน่วง ร่างกายที่ต่อต้ านเขาก่อนหน้ านี ้เริ่ มไร้
เรี่ ยวแรง จากที่กํากําปั น้ ทุบอกเขาอยู่ ตอนนี ้มันแปรเปลี่ยนเป็ นขยุ้มเสื ้อตรงอกของ
พี่คินทร์ ไปเรี ยบร้ อยแล้ ว

เวลาแต่ละวินาทีที่ถกู พี่คินทร์ จบู นันเหมื


้ อนเนิ่นนานชัว่ กัปชัว่ กัลป์
ร่างกายฉันเริ่ มอ่อนแรงลงทีละน้ อย อัตราการหายใจเริ่ มช้ าลงจนทําให้ ม่านตาพร่า
เบลอ ในจังหวะที่ฉนั เหมือนกําลังจะเป็ นลม เขาก็ถอนจูบออกไป
“เฮือก...” ฉันสูดลมหายใจเข้ าปอดด้ วยความรวดเร็วเมื่อริ มฝี ปากเป็ น
อิสระ พยายามตักตวงออกซิเจนให้ ได้ มากที่สดุ

“เมื่อไหร่เธอจะยอมสารภาพว่าชอบฉันสักทีอ๋งุ ”
“!!!”
ทันทีที่ได้ ยินคําถามจากคนตรงหน้ า ดวงตาฉันก็เบิกกว้ างอีกครัง้ หัวใจ
กระตุกวูบสัน่ ไหว บอกทีว่าฉันกําลังหูแว่ว ฉันฟั งผิดไปใช่ไหม...

“เมื่อไหร่เธอจะยอมรับและสารภาพออกมาให้ ฉนั รู้สกั ที หรื อต้ องรอให้


ฉันตายจริ งๆก่อนเหรอถึงจะยอมบอก”
“…”
“ฉันรู้แล้ วว่าเธอแอบชอบฉันอยู่”

“พะ...พี่คินทร์ ” ฉันเรี ยกชื่อเขาเสียงสัน่ รู้สกึ ถึงความชาที่ไล่ลามไปทัว่


ร่างกาย

“วันนันที
้ ่หวั หิน ฉันเข้ าไปหาเธอที่ห้องหลังจากไอ้ เฟี ยตอุ้มเธอไปส่ง
เธอจูบฉัน แล้ วก็บอกว่าชอบฉันมาก”
“…”
“วันนี ้ฉันอยากได้ ยินมันจากปากเธอในตอนที่เธอยังมีสติครบถ้ วน
สมบูรณ์อยู่ว่าเธอชอบฉันจริ งๆ ถ้ าเธอไม่ยอมบอกมันออกมา ฉันจะถือว่าวันนันที ้ ่เธอ
พูดมันคือเรื่ องล้ อเล่น”
“…”
ล้ อเล่นเหรอ... ฉันไม่เคยคิดจะล้ อเล่นกับเรื่ องแบบนี ้เลย เพียงแค่ฉนั
กลัวคําตอบจากปากพี่คินทร์ เท่านันเอง
้ สมมติว่าถ้ าฉันยอมรับสารภาพว่าชอบเขา
ออกไป แล้ วถ้ าคําตอบของพี่คินทร์ คือไม่ จะให้ ฉนั ทํายังไง ฉันทนไม่ไหวหรอก ไม่ไหว
จริ งๆ

“ว่าไงอุ๋ง” ฉันหลุบตาลงมองพื ้นด้ านล่างทันทีที่ถกู สายตาคมดุดนั จ้ อง

“นํ ้า...” บอกตามตรงว่าตอนนี ้ฉันกังวลและกดดันเป็ นที่สดุ

ทําไมต้ องเป็ นวันนี ้ด้ วย วันที่ฉนั ยังไม่พร้ อมแบบนี.้ ..


KINN Talks.
ผมจ้ องมองคนตัวเล็กตรงหน้ านิ่ง ยอมรับก็ได้ ว่าตอนนี ้ผมก็ชอบยัยอุ๋ง
เหมือนกัน แต่ผมก็ยงั อยากได้ ยินคําสารภาพของยัยอุ๋งด้ วย จะว่าผมเห็นแก่ตวั ก็ได้
แต่ผมก็แค่อยากให้ เธอมีความกล้ ามากกว่านี ้ เพราะในอนาคตเธอจะต้ องเข้ า
มหาวิทยาลัยแล้ ว จะมัวขี ้ขลาดแบบนี ้ไม่ได้

ประสบการณ์สี่ปีในรัว้ มหาวิทยาลัยหล่อหลอมผมขึ ้นมา สิ่งแรกต้ อง


อาศัยความกล้ าของผม วันแรกที่ผมเข้ ามาเรี ยนที่นี่ ผมก็ถกู รุ่นพี่วางตัวให้ ลงประกวด
เดือนสาขาแล้ ว ตอนแรกผมโคตรขี ้ขลาด กลัวจะทํามันออกมาได้ ไม่ดี กลัวจะทําให้
สาขาอุตสาหการเสียหน้ า

แต่คําพูดของรุ่นพี่คนหนึง่ ก็ทําให้ ความคิดผมเปลี่ยน...

‘มึงไม่กล้ าวันนี ้แล้ วมึงจะกล้ าวันไหนวะ ชีวิตมึงจะตายวันตายพรุ่งยังไม่ร้ ู


เลย จะกลัวห่าอะไร โลกนี ้มันไม่มีอะไรน่ากลัวแล้ ว’
ประโยคนันทํ้ าให้ ผมจดจํามาจนถึงทุกวันนี ้ เป็ นเพราะรุ่นพี่คนนันที
้ ่ทําให้
ผมกล้ าทําในสิ่งที่ตวั เองอยากทํา กล้ าพูดในสิ่งที่ตวั เองต้ องการ จนกระทัง่ ตอนนี ้ผมก็
อยากส่งมอบความกล้ าเหล่านันให้ ้ ยยั อุ๋งบ้ าง ให้ เธอกล้ าสารภาพความในใจออกมา
ให้ ผมได้ ร้ ู ให้ เธอกล้ ายอมรับความเป็ นจริ งไม่ว่ามันจะเจ็บปวดหรื อมีความสุขก็ตาม

“งันเรื
้ ่ องวันนันเธอก็
้ แค่ล้อเล่นสินะ” ผมเอ่ยทิ ้งท้ ายเอาไว้ ก่อนจะขยับ
เท้ าเดินถอยออกมา

ผมมองคนตรงหน้ าอย่างชัง่ ใจ พลางหมันตัวเดินออกไปไม่หยุดแม้ แต่


ก้ าวเดียว

“พี่คินทร์ คะ!!!” เสียงเรี ยกชื่อผมดังขึ ้นมาจากยัยอุ๋ง

“…” แต่ถึงอย่างนันผมก็
้ ยงั ไม่ยอมหยุดเดินอยู่ดี

“พี่คินทร์ หยุดเดินเดี๋ยวนี ้นะคะ!” คําสัง่ เด็ดขาดทําให้ จงั หวะการก้ าว


เดินของผมช้ าลง
หมับ!

ร่างของผมหยุดชะงักเมื่อถูกสวมกอดจากทางด้ านหลัง ใบหน้ า


ของยัยอุ๋งแนบลงมาบนแผ่นหลังผมเบาๆ เพียงไม่นานผมก็ร้ ูสกึ ถึงนํ ้าอุณหภูมิอ่นุ ๆที่
เปี ยกลงบนผิวเนื ้อผ่านเสื ้อของตัวเอง เสียงหัวใจของยัยอุ๋งเต้ นรัวเร็ว

“…”
“ฮึก... นํ ้าชอบพี่คินทร์ ” ในที่สดุ เธอก็ยอมสารภาพออกมา
“…”
“นํ ้าชอบพี่คินทร์ มาก ชอบมานานแล้ วด้ วย นํ ้ารู้ว่าพี่คินทร์ ไม่ชอบนํ ้า
แต่นํ ้าขอพี่คินทร์ ได้ ไหมคะ ช่วงเวลาที่เหลืออยู่อีกไม่กี่วนั ก่อนเราจะถอนหมันกั ้ น นํ ้า
อยากให้ พี่คินทร์ ทําตัวเหมือนเดิม ทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ ้น ทําเหมือนว่านํ ้าไม่เคย
สารภาพรักกับพี่คินทร์ ”
“…”
“ได้ ไหมคะ”

“ไม่...” ผมตอบกลับไปเสียงเรี ยบ ก่อนจะแกะวงแขนของเธอออก


แล้ วหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ ากับคนตัวเล็กที่ใบหน้ าตอนนี ้เต็มไปด้ วยหยาดนํ ้าตา
“ฉันจะไม่ทําตัวเหมือนเดิม”

“ฮึก... พี่คินทร์ ...” พอผมพูดจบ นํ ้าตาของยัยอุ๋งก็ไหลออกมาหนัก


มากกว่าเดิม
ร่างของเธอสะท้ อนขึ ้นลงเนื่องจากอาการสะอื ้น ผมเอื ้อมมือไปวางลง
บนบ่าเล็กก่อนจะบีบมันเบาๆ ยัยอุ๋งเงยหน้ าขึ ้นมองผม ก่อนจะหลุบตาลงมองพื ้นเพื่อ
หลีกเลี่ยงการสบตากัน ผมถอนหายใจออกมายืดยาว ก่อนที่รอยยิ ้มจะค่อยๆปรากฏ
บนใบหน้ าของตัวเอง

“เป็ นแฟนกันแล้ วจะทําตัวเหมือนเดิมได้ ยงั ไง”


MAWNUM Talks.
หากนี่คือความฝั น... ได้ โปรดให้ ฉนั ตื่นขึ ้นจากฝั นอันเพ้ อเจ้ อนี ้ด้ วยเถอะ

ฉันกะพริ บตาหนึง่ ครัง้ ยกมือขึ ้นมาแตะบนหน้ าของตัวเองอย่างเลื่อน


ลอย ก่อนจะตบลงเบาๆที่ข้างแก้ มเพื่อให้ ตวั เองรู้สกึ ตัวตื่นขึ ้นจากความฝั นบ้ าบอนี ้สัก
ที หากทว่ายิ่งตบเท่าไหร่บริ เวณแก้ มกลับยิ่งเจ็บแปลบตามแรงตบที่ตวั เองบรรจงตบ
ลงเท่านัน้

หรื อว่า... นี่เป็ นความจริ งงันเหรอ?


“จ้ องฉันอะไรขนาดนันยั
้ ยเด็กโง่” เสียงทุ้มของพี่คินทร์ ดงั ขึ ้นอีกครัง้

และนัน่ คือสิ่งยํ ้าเตือนที่ทําให้ ฉนั รู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝั นอีกต่อไป

“พี่คินทร์ ...” ฉันครางชื่อคนตรงหน้ าเสียงเบา

คิ ้วของตัวเองขมวดเข้ าหากันด้ วยความไม่เข้ าใจ มือที่ตบแก้ มตัวเองอยู่


เปลี่ยนเป็ นเช็ดนํ ้าตาที่ปริ่ มอยู่ตรงหางตาออกแทน
“กว่าจะยอมพูดนะ” คนตัวสูงก้ าวเข้ ามาใกล้ กนั ฝ่ ามือข้ างหนึง่ ของ
เขายื่นมาคลึงแก้ มฉันเบาๆ “ขี ้แงไม่เปลี่ยนเลยนะอุ๋ง เลิกร้ องไห้ ได้ แล้ ว”

“ทะ...ทําไม” ฉันเอ่ยออกมาอย่างงุนงง

นี่หมายความว่ายังไง แล้ วเมื่อกี ้ที่เขาพูดมันหมายถึงอะไร เป็ นแฟนกัน


อะไร ฉันไม่เข้ าใจเลย

“หืม...” พี่คินทร์ เลิกคิ ้วสูง เอียงคอเล็กน้ อย รอยยิ ้มที่ปรากฏอยู่บน


ใบหน้ าหล่อเหลายิ่งทําให้ ฉนั งงมากขึ ้นไปอีกเท่าตัว “ทําไมอะไร”

“เมื่อกี ้พี่คินทร์ พดู ว่าเป็ นแฟนกัน...” ฉันทวนคําพูดก่อนหน้ านันเสี


้ ยง
เบา ก่อนมันจะหยุดลงกลางคัน พลางนึกย้ อนกลับไปยังเหตุการณ์ก่อนหน้ านี ้ที่ฉนั
โอบกอดเขาจากทางด้ านหลัง สารภาพรักกับเขา และเขาก็แกะมือฉันออก จากนันเขา ้
ก็พดู ว่า ‘เป็ นแฟนกันแล้ วจะทําตัวเหมือนเดิมได้ ยงั ไง’ หรื อว่า... ฉันอาจจะหูฝาดไป
เอง “ต้ องฟั งผิดแน่ๆ”

“ฟั งผิดว่าอะไร” คําถามจากคนตัวสูงทําให้ ฉนั เงยหน้ าขึ ้นมองเขาอีก


ครัง้ อย่างชัง่ ใจ

“ปะ...เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” ฉันบ่ายเบี่ยง ก่อนจะฉีกยิ ้มแหยๆให้ พี่คินทร์

“ฟั งผิดว่า ‘เป็ นแฟนกันแล้ วจะทําตัวเหมือนเดิมได้ ยงั ไง’ น่ะเหรอ...”


“!!!”
เป๊ ะเลย... ประโยคนี ้เหมือนกันเป๊ ะๆไม่มีคลาดเคลื่อนแม้ แต่คําพูดเดียว

“เธอฟั งไม่ผิดหรอกอุ๋ง”
“…”
“ฉันชอบเธอ”

ตึกตัก... ตึกตัก...

คําพูดทุกคําที่ออกมาจากปากของคนตรงหน้ าทําให้ อตั ราการเต้ นของ


หัวใจฉันรัวเร็วขึ ้นมา ร่างกายชาวาบไปทุกส่วน มือทังสองข้
้ างก็เย็นเฉียบอีกด้ วย ฉัน
จ้ องพี่คินทร์ นิ่งเนิ่นนาน หรี่ ตามองเขาอย่างประเมินไปด้ วย หรื อเขาอยากจะล้ อเล่น
อะไรกับฉันอีก

“พี่คินทร์ พดู เล่นแบบนี ้...นํ ้าไม่ขําเลยนะคะ” ฉันส่ายหน้ าบอกจริ งจัง

ฉันชอบทุกอย่างที่พี่คินทร์ เป็ น หลายคนอาจจะมองว่าฉันทังโง่ ้ ทงซื


ั ้ ่อบื ้อ
ทังๆที
้ ่เขาเป็ นคนข่มขืนตัวเองแท้ ๆ ยังจะชอบเขาอยู่ได้ ทังๆที ้ ่ตวั เองเสียเปรี ยบทุก
อย่าง ทังๆที
้ ่เขาทังปากร้
้ าย วางมาดดุดนั ชอบพูดทําร้ ายนํ ้าใจฉันอยู่เรื่ อย แต่
ความรู้สกึ ของฉันก็ยงั มัน่ คงไม่เปลี่ยนแปลง ลองได้ รักใครสักคนอย่างจริ งใจแล้ ว เราก็
จะมองข้ ามข้ อเสียทุกอย่างในตัวเขาไปเอง แม้ จะรู้ว่าตัวเองไม่มีความสุขกับความรัก
ข้ างเดียว แต่มนั ก็ทําให้ ฉนั ได้ เห็นคุณค่าในความรักโง่ๆนัน้

ฉันชอบพี่คินทร์ ... ชอบมานานมากแล้ ว และจะชอบแบบนี ้ไปเรื่ อยๆ


“ฉันพูดจริ ง” นํ ้าเสียงมัน่ คงหนักแน่นจากคนตัวสูงทําให้ ร่างกายฉันชา
วาบขึ ้นอีกระลอก

“…”
“ฉันชอบเธอ ชอบตอนไหนก็ไม่ร้ ูด้วย”

ราวกับทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง เหลือไว้ เพียงแค่เราสองคนที่อยู่ใน


ช่วงเวลานี ้ด้ วยกัน สีหน้ าและแววตาจริ งจังของพี่คินทร์ ทําให้ ฉนั รู้สกึ ได้ ว่าที่เขาพูด
ออกมามันไม่ใช่เรื่ องโกหกใดๆทังสิ้ ้น แต่ฉนั ไม่เข้ าใจ เป็ นไปได้ ยงั ไง มีหลายอย่างที่ฉนั
ยังสงสัยและอยากถามให้ กระจ่างแจ้ ง

“นํ ้าไม่เข้ าใจ” ตอนนี ้ฉันงงไปหมดแล้ ว

“ฉันชอบเธอ แค่นี ้มันไม่น่าเข้ าใจตรงไหน” ฉันอ้ าปากหวอ พี่คินทร์ ยื่น


นิ ้วมาดีดหน้ าผากฉันจนเกิดเสียงดัง ‘เป๊ าะ’ ก่อนที่ฝ่ามือหยาบใหญ่จะเอื ้อมมาคว้ า
เอวฉันไว้ และดึงให้ เข้ าไปชิดเขามากยิ่งขึ ้น สายตาคมดุดนั ถูกส่งมาให้ ตามด้ วย
นํ ้าเสียงแกมหงุดหงิดของคนตัวสูง “น่ารํ าคาญจังเธอเนี่ย!”

ก่อนที่ทกุ อย่างจะเกิดขึ ้นรวดเร็วโดยที่ฉนั ไม่ทนั ได้ ตงตั


ั ้ ว จู่ๆร่างสูงก็โน้ ม
ใบหน้ าลงมาหอมแก้ มกัน จากนันก็ ้ ผละออกไป ตามมาด้ วยจูบเบาๆที่สมั ผัสอยู่
ตรงหน้ าผากฉัน และทิ ้งท้ ายด้ วยเสียงกระซิบทุ้มตํ่าของพี่คินทร์ ที่ดงั อยู่ข้างหูจนทําให้
ฉันถึงกับต้ องเบิกตากว้ างด้ วยความตกตะลึง

“พี่คินทร์ ชอบน้ องแมวนํ ้า ได้ ยินไหมครับ”


“!!!”
ตึกตัก... ตึกตัก... ตึกตัก...

เสียงกระซิบที่ดงั อยู่ข้างหูทําให้ หวั ใจฉันเต้ นรัวเร็ว ลมหายใจเริ่ มผ่อน


เข้ าออกอย่างรุนแรง หูตาพร่ามัวไปหมด ภาพตรงหน้ าค่อยๆดับวูบลง....

KINN Talks.
สลบไปแล้ ว...

ผมยกยิ ้มที่มมุ ปากเมื่อคนตัวเล็กที่โดนผมแอบขโมยหอมแก้ มและจูบ


หน้ าผากพร้ อมกับทีเด็ดการกระซิบบอกชอบไปก่อนหน้ านี ้สลบไปแล้ ว เธอยังอ่อนต่อ
โลกมากจริ งๆ เด็กยังไงก็คือเด็กอยู่วนั ยังคํ่า ผมส่ายหน้ าให้ กบั ความไร้ เดียงสาของ
ร่างเล็กในอ้ อมกอด ก่อนจะค่อยๆย่อตัวลงและอุ้มยัยอุ๋งขึ ้นมา

ใบหน้ าตอนหลับของยัยอุ๋งเป็ นสิ่งที่ผมเห็นทุกวันจนชินชา บางครัง้ มันก็


น่ารักจนผมอยากจะยื่นมือไปหยิกแก้ มป่ องพองนันให้ ้ ร้ ูแล้ วรู้รอด แต่บางทีมนั ก็น่า
หมัน่ ไส้ เพราะไม่วา่ วันไหนเธอก็จะนอนหลับง่ายมาก ไม่วา่ ผมจะเล่นเกมเสียงดังหรื อ
รบกวนเธอยังไง เธอก็ยงั หลับลงตลอด

จนผมรู้สกึ ว่าโลกเดิมของผมที่โดนไอ้ เฟี ยตบ่นมาตลอดกับโลกใบใหม่


ที่ยยั อุ๋งเดินเข้ ามามันช่างแตกต่างกันโดยสิ ้นเชิง ตอนที่ผมยังอยู่ห้องกับไอ้ เฟี ยต มัน
จะชอบบ่นผมทุกครัง้ ว่าผมเล่นเกมดึกจนรบกวนการนอนของมัน แต่กบั ยัยอุ๋ง เธอไม่
เคยบ่นผมเลย เธอนอนหลับได้ ทงๆที ั ้ ่ผมยังเล่นเกมเสียงดังแบบนัน้ ถ้ าเป็ นไอ้ เฟี ยต...
ต่อให้ มนั บ่นแค่ไหนผมก็ไม่มีทางที่จะหยุดเล่น แต่กบั ยัยอุ๋ง... แค่เธอนอนหลับ ผมก็
รู้สกึ อยากเลิกเล่นเกมดึกๆเพียงเพราะไม่อยากรบกวนเวลานอนของเด็กอย่างเธอ

ตังแต่
้ มียยั อุ๋งเข้ ามา ผมเพิ่งสังเกตตัวเองได้ ไม่กี่วนั นี ้เองว่าผมเปลี่ยนไป
มากแค่ไหน ผมเลิกเล่นเกมตอนดึกๆ เข้ าเรี ยนทุกคาบ ตังใจทํ ้ าโปรเจกต์มากขึ ้น จนไอ้
เฟี ยตมันพูดว่า ‘นี่มงึ ใช่ไอ้ คินทร์ จริ งๆใช่ไหม’ เลย ผมก็ไม่เข้ าใจว่าทําไมทุกสิ่งทุก
อย่างมันถึงได้ เปลี่ยนไปแบบนัน้ ทังๆที ้ ่ยยั อุ๋งไม่ได้ ทําอะไรให้ ผมรู้สกึ อยากจะ
เปลี่ยนแปลงตัวเองเลยด้ วยซํ ้า

แต่อาจจะเพราะมีอะไรบางอย่างที่ดลใจผมอยู่ลกึ ๆว่าผมต้ อง
ปรับเปลี่ยนตัวเองเพราะในอนาคตผมอาจจะต้ องทําหน้ าที่ของหัวหน้ าครอบครัวก็ได้

ผมอุ้มยัยอุ๋งพาเข้ าไปในโรงพยาบาล เดินฝ่ าฝูงชนที่มองมาด้ วยสายตา


หลากหลายความคิด ก่อนจะเดินเข้ าไปหาพี่หมอวินในห้ องประจํา

“พี่หมอ... ช่วยหน่อย น้ องเป็ นลม” ผมเอ่ยปากเมื่อพี่หมอยังไม่ร้ ูตวั ว่า


ผมเดินเข้ ามาในห้ องแล้ ว

พี่หมอวินเงยหน้ าขึ ้นจากเอกสารที่เซ็นอยู่ ก่อนจะผงะเมื่อเห็นผม


อุ้มยัยอุ๋งที่สลบอยู่ในอ้ อมอก “เฮ้ ย! อะไรของมึงอีกเนี่ย!”

“แฟนผมเป็ นลม ช่วยหน่อยดิ”


“มึงนี่มนั วุน่ วายจริ งๆเลยไอ้ คินทร์ เฮ้ อ...” พี่หมอวินปิ ดเอกสารในมือ
ลง ก่อนจะขยับแว่นนิดหน่อย และลุกขึ ้นจากเก้ าอี ้ “ตามมา!” ก่อนที่เสียงทุ้มจะ
บอกเสียงดังฟั งชัดและเดินออกจากห้ องไป

ผมเดินตามไป พลางก้ มลงมองใบหน้ าของคนที่สลบไสลอยู่ในอ้ อมอก


ตัวเอง รอยยิ ้มปรากฏขึ ้นอีกครัง้ บนใบหน้ าผม ยัยเด็กคนนี ้น่ารักจริ งๆ

MAWNUM Talks.
“อื ้อ...” ฉันครางออกมาแผ่วเบา พร้ อมกับขยับร่างกายเพื่อให้ อยู่ใน
ท่าที่สบายมากยิ่งขึ ้น

เปลือกตาเปิ ดขึ ้นรับกับแสงสลัวๆจากทางระเบียง ตอนนี ้ทุกอย่างมืดไป


หมด มีเพียงแสงไฟที่สอ่ งเข้ ามาผ่านผ้ าม่านจากทางระเบียงเท่านัน้ ไม่ร้ ูเลยว่าตอนนี ้
ตัวเองอยู่ที่ไหน และนี่มนั เป็ นเวลาเท่าไหร่แล้ ว

‘พี่คินทร์ ชอบน้ องแมวนํ ้า ได้ ยินไหมครับ’

แต่พอสมองนึกย้ อนกลับไปยังเหตุการณ์ก่อนหน้ า นํ ้าเสียงนุ่มนวลของพี่คิ


นทร์ ก็สะท้ อนดังก้ องขึ ้นมาในห้ วงความคิด หัวใจฉันที่เคยสงบลงก็กลับมาเต้ นโครม
ครามอีกครัง้ และฉันคิดว่าตัวเองไม่ได้ ฝันไปแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ ้นรวดเร็ว
จนฉันตังตั
้ วไม่ทนั แต่ถึงอย่างนันฉั้ นก็ดีใจมากที่ได้ ยินพี่คินทร์ บอกชอบแบบนัน้

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสองเดือนกว่า ฉันได้ แต่เฝ้าหวังว่าความรัก


ของฉันที่บม่ เพาะมาเนิ่นนานนันจะสามารถทลายกํ
้ าแพงความรักครัง้ เก่าของพี่คินทร์
ได้ บ้าง แต่การกระทําบางอย่างของเขาก็ทําให้ ฉนั ได้ แต่ท้อใจ ทุกอย่างที่พี่คินทร์ ทํา
ฉันไม่สามารถทําความเข้ าใจได้ ว่าที่เขาทําเพราะเขาชอบฉันจริ งๆหรื อเปล่า เพราะพี่คิ
นทร์ เอาแต่ดฉุ นั เมินฉัน ไม่สนใจฉัน แต่บางครัง้ เขาก็ใจดีจนทําหัวใจฉันอ่อนยวบ

มีบางครัง้ ที่เราทะเลาะกันด้ วยเรื่ องเล็กๆน้ อยๆ ถ้ าเป็ นเมื่อก่อนเราทังคู


้ ก่ ็
คงจะแข็งข้ อใส่กนั แต่ปัจจุบนั ต่างฝ่ ายต่างก็ปรับตัวเองเข้ าหากันมากขึ ้น ฉันไม่คอ่ ยงี่
เง่า ส่วนเขาก็อารมณ์เย็นมากขึ ้น

ฉันลอบยิ ้มออกมาอย่างดีใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้ านัน้ มือที่วาง


อยู่ถกู ยกขึ ้นมาลูบแก้ มของตัวเองเบาๆ สัมผัสอบอุ่นยังติดตรึงอยู่ตรงผิวแก้ มของฉัน
อยู่เลย

“รู้นะว่ายิ ้มอยู่” ฉันหุบยิ ้มของตัวเองลงฉับพลันเมื่อหูได้ ยินเสียงทุ้มคุ้น


หูพมึ พําที่ด้านหลัง

ก่อนจะพลิกตัวกลับไปนอนอีกฝั่ ง มองทะลุผ่านความมืดก็ปะทะกับเงา
ดําตะคุม่ เงาหนึง่ หัวคิ ้วฉันขมวดเข้ าหากัน ก่อนที่ริมฝี ปากจะเม้ มแน่น และตัดสินใจ
ถามออกไปด้ วยความไม่แน่ใจ “ใครน่ะ...”

หมับ!

“อ๊ ะ!”

ไร้ เสียงตอบกลับมา มีเพียงการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็วเท่านัน้


ที่ตอบสนอง ร่างของฉันถูกวงแขนแข็งแกร่งของใครบางคนตวัดเข้ าไปจนชิดแนบแน่น
กับร่างกายของเขา ความอบอุ่นแผ่ซา่ นไปทัว่ ทังร่้ างกาย แต่ทว่ามันกลับไม่ได้ น่ากลัว
อย่างที่ควรจะเป็ น ฉันรู้สกึ ปลอดภัยมากเลยด้ วยซํ ้า

“ขอหอมแก้ มก่อนหนึง่ ที เดี๋ยวเฉลยว่าเป็ นใคร”

ใบหน้ าฉันร้ อนฉ่าในจังหวะที่ถกู รวบเข้ าไปในอ้ อมกอดอบอุ่นนัน้


นํ ้าเสียงทุ้มตํ่าแสนคุ้นหูทําให้ จิตนาการได้ ไม่ยากว่าคนคนนันเป็
้ นใคร ฉันเงยหน้ าขึ ้น
มองใบหน้ าหล่อเหลาในความมืด หัวใจเต้ นตึกตักจนยากจะระงับ แต่ทว่านัยน์ตาของ
ตัวเองกลับรู้สกึ ได้ ถึงนํ ้าใสๆที่ก่อตัวขึ ้นมาโดยไม่ร้ ูตวั

“พี่คินทร์ ปล่อยนํ ้าก่อนค่ะ” เมื่อรู้สกึ ว่าตัวเองเริ่ มจะกลันนํ


้ ้าตาเอาไว้ ไม่
อยู่ ฉันถึงได้ ผละตัวเองออกมา และนอนพลิกมาอีกฝั่ งแทน

“…” เสียงของพี่คินทร์ เงียบไป เหลือทิ ้งไว้ เพียงลมหายใจแผ่วเบา


ของเราทังสองคน

“ฮึก...” และสุดท้ ายฉันก็ร้องไห้ ออกมาอย่างห้ ามไม่อยู่

พรึบ!

จากนันแสงไฟก็
้ ถกู เปิ ดขึ ้นมา นัน่ ยิ่งทําให้ นํ ้าตาฉันไหลออกมามากขึ ้น
เป็ นเท่าตัว

“เธอร้ องไห้ ทําไม” เสียงทุ้มของพี่คินทร์ ถามเสียงเครี ยด เขาจับฉัน


พลิกไปนอนหงาย โน้ มใบหน้ าเขามาใกล้ ก่อนที่ฝ่ามืออบอุ่นนันจะไล้
้ นํ ้าตาตรงแก้ ม
ออกให้
“ฮึก... ฮือ...”

ไม่ร้ ูสิ... ฉันรู้สกึ ดีใจมากเกินไปมัง้ เพราะฉันเฝ้าแอบมองพี่คินทร์ อยู่


ห่างๆมานานมากแล้ ว แม้ แต่เข้ าไปคุยฉันยังไม่กล้ าเลย ฉันแอบชอบเขามาเนิ่นนาน
เฝ้ามองเขามีผ้ หู ญิงเข้ าหามากมาย ส่วนฉันก็เป็ นได้ แค่เงาจางๆไม่มีตวั ตนที่คอยแต่
แอบรักเขาไปวันๆ ไม่นกึ ไม่ฝันว่าการที่ฉนั เป็ นเงาไร้ ตวั ตนในวันนันจะเริ
้ ่ มมีตวั ตนขึ ้น
ในวันนี ้

“ร้ องไห้ ทําไม หยุดร้ องได้ แล้ ว” พี่คินทร์ บอกเสียงดุ ก่อนที่นิ ้วแกร่งจะ
ยื่นมาดีดหน้ าผากฉันจนเกิดเสียงดัง ‘เป๊ าะ’ ขึ ้น “ถ้ าไม่หยุดไม่ให้ หอมแก้ มนะ...”

หมับ!

สิ ้นสุดประโยคนันของพี
้ ่คินทร์ ฉันก็เด้ งตัวขึ ้นไปสวมกอดเขาทันที
ตอนนี ้แค่อยากกอดเขาเท่านัน้ ก็แค่อยากกอดให้ แน่นที่สดุ ที่ตวั เองจะกอดได้ ...

KINN Talks.
ผมขมวดคิ ้วมุ่นอย่างไม่ค่อยเข้ าใจนัก แต่ก็ยอมสวมกอดยัยอุ๋งตอบ
กลับไป เธอร้ องไห้ สะอึกสะอื ้นหนักกว่าเดิมเมื่อถูกผมกระชับอ้ อมกอดนันให้ ้ แน่นขึ ้น
ฝ่ ามือของผมลูบขึ ้นลงบนแผ่นหลังบอบบางเพื่อจะปลอบประโลม ผมไม่เข้ าใจว่าเธอ
ร้ องไห้ ทําไม แต่เสียงก้ อนเนื ้อที่อกข้ างซ้ ายของเธอมันดังมากจนผมได้ ยิน

“นํ ้าฝั นไปใช่ไหม...” เสียงอู้อี ้พูดขึ ้นมาแผ่วเบา แต่มนั กลับสัน่ เครื อไม่
มัน่ คง
“เธอไม่ได้ ฝันหรอกอุ๋ง” ผมกระซิบข้ างใบหูเล็ก และกระชับอ้ อมกอดให้
แน่นขึ ้นมากกว่าเดิม

ถึงจะไม่คอ่ ยเข้ าใจที่ยยั อุ๋งร้ องไห้ อยู่ในตอนนี ้ แต่ผมก็อยากจะยํ ้าเตือน


เธอให้ ร้ ูว่าเธอไม่ได้ ฝันไป

ผมไม่ร้ ูหรอกว่าความรักที่มีอยู่ตอนนี ้มันจะเป็ นความรักที่มนั่ คง


ตลอดไปหรื อเปล่า เพราะเราทังคู ้ อ่ ายุยงั น้ อย อนาคตจะเป็ นยังไงผมยังไม่ร้ ูเลย ยัยอุ๋ง
เพิ่งเรี ยนจบมัธยมปลาย ส่วนผมกําลังเรี ยนปี สี่อยู่ เราทังคู
้ ต่ ่างมีหน้ าที่ของตัวเอง ต่าง
มีภาระที่ต้องรับผิดชอบ แต่ผมก็แค่อยากจะรักษาช่วงเวลานี ้เอาไว้ ช่วงเวลาที่ผมยัง
สามารถมีความรักได้ ช่วงเวลาที่ผมไม่อยากเสียไปเพราะไม่ร้ ูใจตัวเอง

ผมบอกแล้ วว่าผมไม่ใช่ไอ้ เฟี ยต ผมเคยมีแฟนมาก่อน ผมไม่จําเป็ นต้ อง


ปรึกษามันว่าที่ตวั เองเป็ นอยู่มนั เรี ยกว่าความรักหรื อเปล่า แค่ความรู้สกึ เท่านันที ้ ่เป็ น
คําตอบ ก็แค่ใช้ ใจสัมผัสความรู้สกึ ที่เป็ นอยู่ แค่นี ้ก็ร้ ูได้ แล้ วว่าตัวเองกําลังเป็ นอะไร

“นํ ้ารักพี่คินทร์ ...”

ตึกตัก... ตึกตัก...

น่าตลกดีว่าไหม ทังๆที ้ ่อาการใจเต้ นเวลาที่โดนบอกรักมันน่าจะเกิดกับ


ผู้หญิงมากกว่าผู้ชายด้ วยซํ ้า แต่ตอนนี ้หัวใจผมกลับเต้ นเร็วแรงเพียงเพราะหูได้ ยินคํา
ว่า ‘รัก’ จากปากของคนตัวเล็กตรงหน้ า มุมปากของผมยกขึ ้นอย่างไม่ร้ ูตวั ในที่สดุ ก็
ยอมผละตัวเองออกมาจากยัยอุ๋ง
เรานัง่ มองหน้ ากันอยู่แบบนัน้ ก่อนที่ผมจะโน้ มใบหน้ าเข้ าไปหายัยอุ๋ง
และประทับริ มฝี ปากของตัวเองลงบนแก้ มนุ่มนันเบาๆ
้ จากนันก็
้ เคลื่อนใบหน้ าของ
ตัวเองไปยังใบหูเล็กพร้ อมกับกระซิบเสียงเบา

“ฉันก็รักเธอ...”
“…”
“…”
แล้ วความเงียบก็เคลื่อนเข้ ามาปกคลุมเราทังสองคน
้ ยัยอุ๋งเลี่ยงจะ
สบตากับผม เธอก้ มหน้ างุดแถมยังแอบอมยิ ้มให้ เห็นอีกต่างหาก ผมหัวเราะในลําคอ
อย่างเอ็นดู ในที่สดุ ก็เป็ นฝ่ ายที่พดู ขึ ้นก่อนเอง

“ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยเหรอ” ผมเอ่ยถามคนตัวเล็กที่นงั่ นิ่งอยู่ตรงหน้ า

“…” ยัยอุ๋งส่ายหน้ าช้ าๆ ทําเอาผมแทบหลุดขําออกมาเลย

บทจะน่ารักก็น่ารักได้ ขนาดนี ้เลย? ดาเมจรุนแรงต่อหัวใจมากจริ งๆ

“อย่างเช่น... เกียร์ ฉนั กลับไปอยู่ที่เธอได้ ยงั ไง ไม่สงสัยเหรอ” ผมเลิก


คิ ้วถามพลางยกยิ ้มร้ ายกาจออกมา

“จริ งด้ วย...” เหมือนเจ้ าตัวจะเพิ่งนึกขึ ้นได้ เลยพึมพําออกมา มือเล็ก


ยกขึ ้นคว้ าสร้ อยเกียร์ ที่ห้อยอยู่บนคอ และทําท่าจะถอดมันออก แต่ผมยื่นมือไปจับ
เอาไว้ ได้ ทนั
ให้ ไปแล้ ว... จะไม่ยอมให้ เธอถอดออกอีกโดยเด็ดขาด

“ถ้ าถอดคราวนี ้ไม่ให้ อีกแล้ วนะ” คราวนี ้ยัยอุ๋งถึงกับขมวดคิ ้วมองหน้ า


ผมอย่างไม่เข้ าใจ

“ทําไมล่ะคะ”

“ทังโง่
้ ทงซื
ั ้ ่อบื ้อขนาดนี ้ฉันชอบไปได้ ยงั ไงนะ” ผมไม่ตอบคําถามเธอ
แต่บน่ พึมพํากับตัวเองแทน ทันใดนันฝ่ ้ ามือจากยัยอุ๋งก็กระทบลงบนอกผมดัง ‘ปึ ก’
จนผมอึ ้งไป “…”

“…” ยัยอุ๋งหน้ างองํ ้า เธอจิกตามองผมอย่างเอาเรื่ อง และทําท่าจะ


ลุกขึ ้นจากเตียง

หมับ!

“อ๊ ะ!”

แต่จงั หวะนันผมก็
้ คว้ าข้ อมือเธอเอาไว้ ได้ ทนั ออกแรงกระตุกนิดเดียวก็
ทําให้ เธอเข้ ามาอยู่ในอ้ อมกอดของตัวเองได้ ไม่ยากเย็น ยัยอุ๋งดิ ้นขลุกขลัก มือเล็กตีไป
ทัว่ ร่างกายผมจนเกิดเสียงดัง ‘แปะๆๆ’ ผสมกับเสียงบ่นงุ้งงิ ้งของเธอ

“ปล่อยนํ ้าเลยนะ!”

“ยังพูดไม่จบเลย จะไปไหน” ผมก็แค่บน่ นิดเดียวเอง จําเป็ นต้ องโกรธ


ขนาดนี ้ไหมเนี่ย
“ไม่อยากคุยด้ วย!” ฟั งจากนํ ้าเสียงดูเธอน่าจะหงุดหงิดอยู่พอสมควร

“ถึงโง่หรื อซื่อบื ้อขนาดไหนแต่ฉนั ก็โดนเธอดาเมจความรักจากเธอไป


แล้ วนะ รับผิดชอบหน่อยสิ”

“…” คราวนี ้เธอถึงได้ หยุดดิ ้น และนัง่ หอบหายใจในอ้ อมกอดของผม


แทน

“เธอชอบฉันตังแต่
้ เมื่อไหร่เหรออุ๋ง เล่าให้ ฟังหน่อยสิ” และเป็ นบ้ าอะไร
ก็ไม่ร้ ู ผมถึงได้ อยากฟั งจากปากยัยอุ๋งถึงความเป็ นมาที่เธอชอบผม

“นํ ้า...”

“เล่ามา ฉันรอฟั งอยู่”


MAWNUM Talks.
ฉันจะเริ่ มเล่าจากตรงไหนดี มันนานมากแล้ วที่ฉนั ชอบเขา น่าจะตังแต่

ประถมเลยด้ วยซํ ้า เพราะฉันกับเคทเราเป็ นเพื่อนกันมานานแล้ ว พ่อแม่ของเราก็ร้ ูจกั
กัน หลายครัง้ ที่ฉนั มาเล่นกับเคทที่บ้านของเธอและได้ เจอกับพี่คินทร์

ฉันจําเหตุการณ์วนั แรกที่ฉนั เจอพี่คินทร์ ได้ ดี ตอนนันฉั


้ นมาเล่นที่บ้าน
เคท และพี่คินทร์ กําลังอ่านหนังสืออยู่ในห้ องสมุดของบ้ าน ฉันกับเคทอยากเล่นพ่อแม่
ลูก แต่เราไม่มีคนมาเล่นเป็ นพ่อให้ เคทก็เลยไปขอให้ พี่คินทร์ ช่วยมาเล่นเป็ นพ่อให้
ส่วนฉันและเคทเราเป่ ายิงฉุบเลือกว่าใครจะได้ เป็ นแม่ ซึง่ คนที่แพ้ จะได้ เป็ นแม่ และฉัน
เป่ ายิงฉุบแพ้ เคท
วันนันเราเล่
้ นพ่อแม่ลกู กันสามคน และมันทําให้ ฉนั มองพี่คินทร์
เปลี่ยนไป ความรู้สกึ เล็กๆมันก่อตัวขึ ้นนับตังแต่
้ นนเป็
ั ้ นต้ นมา ซึง่ ฉันไม่เข้ าใจหรอกว่า
มันคือความรู้สกึ แบบไหน พิเศษยังไง แต่พอนานวันเข้ าฉันถึงได้ ร้ ูตวั ว่าสายตาของ
ตัวเองไม่สามารถมองคนอื่นได้ เลยนอกจากพี่คินทร์

จนกระทัง่ ฉันตัดสินใจพูดเรื่ องนี ้กับเคทว่าฉันรู้สกึ กับพี่ชายของเธอใน


แบบพิเศษจนเคทเชียร์ ให้ ฉนั ไปบอกชอบพี่คินทร์ แต่วนั นันที้ ่ฉนั เตรี ยมใจและกําลังจะ
ไปบอกชอบเขา ฉันกลับได้ รับข่าวร้ ายว่าเขามีแฟนแล้ ว มันเหมือนโลกทังใบของฉั ้ น
พังทลายลงตรงนัน้ ฉันกลับบ้ านไปร้ องไห้ อยู่คนเดียว และปนิธานกับตัวเองไว้ ว่าจะ
เลิกชอบเขา แต่เอาเข้ าจริ งฉันก็ยงั ไม่เลิก ฉันยังแอบมองพี่คินทร์ แอบชื่นชมเขาอยู่
ห่างๆมาโดยตลอด

ฉันเป็ นแบบนันเรื
้ ่ อยมาจนเกิดเรื่ องที่ฉนั กับเขาเผลอมีอะไรกันเข้ า วัน
นันฉั
้ นถูกเคทชวนไปงานเลี ้ยงฉลองเรี ยนจบมัธยมปลายของที่บ้านเธอ ตกดึกฉันง่วง
มากเลยขอให้ เคทพาไปนอนที่ห้องของเธอ และไม่นกึ ไม่ฝันว่าพี่คินทร์ จะเดินเข้ าห้ อง
ผิด คิดว่าห้ องของเคทเป็ นห้ องของตัวเอง
วันนันเขาเมาจนพู
้ ดไม่ร้ ูเรื่ อง กลิ่นเหล้ าฉุนกึกในจมูกฉันจนฉันพลอยเวียนหัวไปด้ วย
แต่ฉนั จับใจความได้ ประโยคเดียวตอนที่เขากําลังทําเรื่ องแบบนันกั ้ บฉันคือ ‘ทําไม…
ต้ องทิ ้งเราไปด้ วย ทําไมถึงปล่อยให้ เรารอ’ ซึง่ ฉันได้ ยินไม่ชดั ว่าเขาพูดชื่อใครออกมา
และฉันสู้แรงเขาไม่ไหวเลย ฉันพยายามจะร้ องตะโกนให้ คนเข้ ามาช่วย แต่พี่คินทร์
กลับใช้ มือปิ ดปากฉันไว้ จนร้ องตะโกนออกไปไม่ได้
ยอมรับว่าฉันเสียใจกับเรื่ องที่เกิดขึ ้นมาก เพราะเขาเอาแต่บอกว่าฉันเป็ นตัวซวย ทํา
ให้ ชีวิตเขาต้ องพังย่อยยับ ตอนนันภาพพี
้ ่คินทร์ ในคราบพี่ชายแสนดีในอดีตของฉัน
หายวับไปกับตา ฉันไม่ร้ ูว่าอะไรเปลี่ยนเขาให้ เป็ นแบบนี ้
ฉันเงยหน้ าขึ ้นมองพี่คินทร์ อีกครัง้ จ้ องมองเข้ าไปในดวงตาลึกลํ ้าที่เมื่อก่อนฉันไม่
สามารถล่วงรู้ได้ เลยว่าคนตรงหน้ าคิดอะไรอยู่ แต่ตอนนี ้ฉันกลับสัมผัสได้ ถึงความรู้สกึ
บางอย่างของเขา เหมือนกับว่าดวงตาลึกลํ ้าคูน่ นมั ั ้ นได้ หายไปแล้ ว พี่ชายแสนดีใน
อดีตของฉันกลับมาแล้ ว

“ไม่ต้องรู้หรอกค่ะ” ฉันบอกเขายิ ้มๆ

ฟอด~

และนัน่ ทําให้ พี่คินทร์ กดจมูกลงบนแก้ มฉันอย่างรวดเร็ว ฉันอึ ้งไป


ร่างกายแข็งทื่อไม่ขยับเขยื ้อนใดๆ

“ถ้ าไม่บอกก็ต้องโดนหอมแก้ มจนกว่าจะยอมบอก!”

“นํ ้าไม่บอกหรอกค่ะ”

ฉันไม่มีทางบอกให้ เขารู้แน่นอน ขืนเล่าออกไปฉันได้ เขินจนทําตัวไม่ถกู


แน่ๆ

จบ

You might also like