You are on page 1of 132

1

คําโปรย

“ฉันรู้สกึ เหมือนเมืองนีมีเทพเจ้าคอยปกป้ องคนไม่


มีทไปหลั
ี งจากรถไฟขบวนสุดท้าย”

เมือเส้นทางชีวติ บีบให้เดินไปบนทางทีไม่ได้เลือก...
แต่ในเมือชีวติ ก็ยังคงต้องดําเนินต่อไป แล้วทัง 5
จะมีวธิ ีอยู่กับชีวติ ทีคิดไม่ถงึ ให้มคี วามสุขได้อย่าง
ไร

พบกับเรืองสันแนวฟี ลกู้ดอบอุ่นหัวใจแบบจบใน
ตอน 5 เรือง ดีกรีตดิ อันดับหนังสือขายดีประจํา

2
ร้านคิโนะคุนิยะ ยอดขาย 4 แสนเล่มในญีปุ่ น ที
รับรองว่าจะทําให้คุณยิมออกได้แม้ในวันว้าวุ่นและ
มองเห็นแง่งามของชีวติ แม้ดงลงถึ
ิ งจุดตําสุดได้
อย่างแน่นอน
________________________________________
________________________________________
____

ตอนที 1-1 รถไฟขบวนแรกหลังเลิกงาน

คืนวันศุกร์ ชิมิสึ โซจิโร่ ไปทํางานด้วยรถไฟขบวนสุดท้าย

เขาขึนรถไฟสายชูโอจากสถานีเจอาร์อาซางายะมุง่ หน้า
สูโ่ ตเกียวตอนเทียงคืนยีสิบสีนาทีไปลงทีสถานีชินจูกเุ ป็ น
3
ประจํา

หลังเทียงคืนอย่างนีตามถนนหนทางยังพอมีบรรยากาศ
ศุกร์สดุ ท้ายของเดือนสิงหาคมหลงเหลือให้เห็น

กลินลมหายใจปนเหล้าฉุนจมูกขณะทีเขาแทรกตัวผ่าน
แถวผูค้ นทีรอรถไฟขาล่อง

สมัยเริมทํางานนีใหม่ๆ นีเป็ นเรืองชวนหงุดหงิด ทว่า


ตอนนีกลับเป็ นเรืองธรรมดา แถมยังกลายเป็ นพลังใจ
ระหว่างมุง่ หน้าไปทํางานเสียด้วย

ผูค้ นเมามายเพราะฤทธิเหล้า ส่วนตัวเขากําลังจะเริม


4
งานวันใหม่

คิดได้แบบนีก็ทาํ ให้รา่ เริงขึนได้มากทีเดียว

ทังชายวัยกลางคนทีเดินตุปัดตุเป๋ และกลุม่ พนักงาน


บริษัทหนุ่มๆ ทีกําลังคุยกันโหวกเหวกต่างตรากตรําทํา
งานกันมาแล้วหลายชัวโมง เมืองานในหนึงวันจบลงจึง
มาใช้เวลาสนุกสนานเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะมุง่ หน้ากลับ
บ้าน

คนทีกําลังไปทํางานไม่ได้ดีเด่ไปกว่าคนทีกําลังเมาเหล้า
หรอก

5
ถึงจะรูอ้ ยูแ่ ก่ใจ ทว่าเพือไปทํางานทีพูดได้ไม่เต็มปากว่า
สนุก เขาจําต้องฝื นยึดความรูส้ กึ เบิกบานนีไว้จนกลาย
เป็ นความเคยชิน

เมือเลียวพ้นมุมร้าน “คิตะคะตะราเม็ง” จะมองเห็น


ตรอก “โอโมอิเดะ” แคบๆ ทีมีผคู้ นบางตา

ถึงใครต่อใครจะมุง่ หน้าไปยังสถานีเพือกลับบ้านให้ทนั
รถไฟขบวนสุดท้ายกันหมด แต่อณ
ุ หภูมิสามสิบสอง
องศาของช่วงกลางวันยังคงอ้อยอิง

เมือมองเข้าไปตามร้านรวงทีเดินผ่านพบว่ายังมีลกู ค้าอยู่
ไม่นอ้ ย

6
ย่านนียังคงดูดเงินทังจากคนทีตัดใจจากรถไฟเทียวสุด
ท้ายแล้ว รวมถึงคนทีไม่คิดจะกลับด้วยรถไฟมาตังแต่
แรกต่อไป

มีคนกลุม่ หนึงอยูก่ ลางตรอกบริเวณทีแสงไฟนีออนสว่าง


ไสวเป็ นพิเศษ

ตรงมุมหนึงของร้านโซบะแบบยืนกินมีเคาน์เตอร์รูปตัว
แอลอยู่

อันทีจริงจะเรียกว่า “ยืนกิน” ก็ไม่ถกู นัก เพราะมีเก้าอีให้


นังตรงเคาน์เตอร์ดว้ ย

7
ก่อนไปทํางานเขามักจะแวะมาทีร้าน “สึรุยะ” แห่งนีอยู่
เสมอ

ในร้านมีชายโพกผ้าขนหนูยืนสลัดนําจากเส้นซารุอยู่
หน้าหม้อใบใหญ่ทีมีไอนําพวยพุง่

คนทีนังตามยาวของเคาน์เตอร์มมุ ฉากล้วนเป็ นชาวต่าง


ชาติผิวขาว แล้วยังมีพวกเดียวกันและผูห้ ญิงอีกสองคน
ทีแทบจะยืนล้อมกลุม่ คนเหล่านันไว้อีกหลายคน

ทังหมดนีล้วนเป็ นภาพชินตา

8
นักท่องเทียวต่างชาติทีพักอยูต่ ามโรงแรมใกล้ทางออก
ฝังทิศตะวันตกของสถานีตา่ งต้องการประสบการณ์
แปลกใหม่อย่างการมากินในร้านเล็กจ้อยในตรอกแออัด
หรือเดินท่องย่านโกลเด้นไก

คนเหล่านีมีอตั ราส่วนไม่นอ้ ยหลังจากทีคนญีปุ่ นล่าถอย


ไปพร้อมกับรถไฟขบวนสุดท้าย

เมนูรา้ นสึรุยะมีทงหมายเลขและภาษาอั
ั งกฤษเขียน
กํากับไว้

เก้าอีหน้าโซจิโร่วา่ งอยูพ่ อดี แม้จะเชือเชิญให้ชาวต่าง


ชาตินงั ทว่าดูทา่ ทางไม่มีใครสนใจ

9
“เชิญนังเถอะ ชาวต่างชาติพวกนีก็แค่มาเทียวชมน่ะ”

เขาจึงนังลงตามคําแนะนําของเจ้าของร้าน

“เอาอย่างเคยใช่ไหม”

“ครับ คาคิอาเงะโซบะ ใส่ไข่ดว้ ย”

“รับทราบ”

เมือเจ้าของร้านหย่อนเส้นลงในนําร้อน ชาวต่างชาติที

10
เพิงลงมือกินตรงเคาน์เตอร์ก็หนั มาพูดอะไรบางอย่าง

เจ้าของร้านทําหน้าบูดบึงจ้องคนพูดเหมือนจะไม่เข้าใจ
ภาษา ก่อนจะหันมามองโซจิโร่ดว้ ยสายตาขอความช่วย
เหลือ

“เขาอยากจะกินด้วยกันสองคน เลยอยากได้ถว้ ยแบ่ง


น่ะ”

เมือโซจิโร่หยิบยืนความช่วยเหลือ เจ้าของร้านจึงส่งสาย
ตาบอก “อ้อ อย่างนีนีเอง” มาให้ ก่อนหยิบชามจากชัน
ยืนให้ชาวต่างชาติ

11
“มูชาสกราเซียส”

“โอเค โอเค ยูอาร์เวลคัมเนะ”

เจ้าของร้านเอ่ยตอบลูกค้าทีขอบคุณเป็ นภาษาสเปน
ด้วยภาษาอังกฤษสําเนียงญีปุ่ น

ลูกค้าชาวต่างชาติแบ่งเส้นโซบะใส่ชามอย่างเก้ๆ กังๆ
แล้วยืนส่งให้เพือนๆ ข้างหลังทีส่งเสียงเจียวจ๊าวราวกับ
เด็กๆ พร้อมกับชิมโซบะไปด้วย

แม้ทา่ ทางจะใช้ตะเกียบไม่ถนัด แต่ก็ดจู ะสนุกสนานกัน


เป็ นอย่างดี
12
“วางเงินไว้ตรงนีนะ”

“ขอบคุณครับ ขอบคุณทีช่วย พูดภาษาอังกฤษได้แล้วยัง


พูดสเปนได้อีกแน่ะ”

“เฮียฟั งรูด้ ว้ ยเหรอว่าเมือกีภาษาสเปน”

“แหม ทําการค้าอย่างนี สวัสดี ขอบคุณก็พอได้เหมือน


กันนะ”

“ขอบคุณครับ”

13
“คงเพราะมีพวกไกด์บ๊คุ กับเว็บเพจแนะนําร้านเราอยู.่ ..”

“ผมเห็นนะ มีตงแต่
ั เมนู ราคา จนถึงวิธีสงเชี
ั ยวละ”

“เหรอครับ”

รอยยิมผุดพรายขึนบนใบหน้าเ**◌่ ยวย่นของเจ้าของร้าน

“ขอบคุณทีอุดหนุนนะครับ เรืองงานก็สๆู้ ”

“กราเซียส”

14
เขาเอ่ยขอบคุณด้วยสําเนียงญีปุ่ น แล้วออกจากร้านมา

ชินจูกเุ ป็ นย่านหลากเชือชาติ เมือพ้นคาบูกิโจฝังตรงข้าม


ถนนโฉะขุอนั ก็จะเป็ นโคเรียนทาวน์ประจําย่านชินโอคุ
โบะ

ทีนีมีเจ้าของธุรกิจชาวจีนจํานวนมาก ลูกจ้างหญิงทีทํา
งานในร้านอาหารมีตงแต่
ั ชาวเอเชีย ยุโรป ไปจนถึงคน
เชียร์แขกชาวแอฟริกา

ทุกคนต่างใช้ชีวิต ทํางาน หรืออยูอ่ าศัยในย่านนี จน


เรียกได้วา่ เป็ นคนท้องถิน รวมถึงมักจะมีชาวต่างชาติที

15
ดันด้นมาเยือนเป็ นระยะ

ชาวตะวันตกบางส่วนมาเพือสัมผัส “กลินอายญีปุ่ น”
ทํานองเดียวกับทีมาเทียวชมภูเขาไฟฟูจิ วัดเซ็นโซจิ หรือ
ย่านอากิฮาบาระเพือชมการแสดงหุน่ ยนต์ตวั ใหญ่บน
เวทีรถแห่ในร้านอาหาร บ้างก็มานังตามบาร์ไม้ทีมี
เฉพาะทีนังแบบเคาน์เตอร์ซงมี
ึ มากกว่าสองร้อยร้านใน
“โกลเด้นไก” หรือ “ตรอกโอโมอิเดะ”

สองข้างทางในตรอกแคบจึงมีรา้ นเหล้าเล็กๆ เรียงราย

ได้ช่วยคนแต่หวั วันอย่างนี ถือเป็ นวันดีทีเดียว

16
ระหว่างเดินเลียวผ่านตึกโอการ์ดตรงร้านขายสลากกิน
แบ่งเพือมุง่ หน้าไปทางคาบูกิโจ โซจิโร่นกึ ขึนได้วา่ ในวัน
แบบนีน่าจะลองซือสลากดูอาจถูกบ้างก็ได้

คนสเปนกลุม่ นันจะรูร้ สโซบะไหมนะ

ชาวตะวันตกไม่มีธรรมเนียมสูดเส้นเสียงดังเวลากิน ทํา
ให้ปากพองเมือกินอาหารเส้นเพราะไม่รูเ้ ทคนิคลด
อุณหภูมิทีร้อนจนเป็ นไอก่อนเข้าปาก

จะใช้ตะเกียบคีบเส้นผอมๆ เข้าปากก็ไม่ถนัด

แต่ถา้ เป็ นซูชิละก็ใครๆ ก็กินได้


17
ดังนันสําหรับชาวตะวันตก การจะกินโซบะให้อร่อยต้อง
อาศัยความเชียวชาญเป็ นอย่างมาก

18
ตอนที 1-2 รถไฟขบวนแรกหลังเลิกงาน

มีคนผ่านไปมาย่านอิจิบงั ไกในคาบูกิโจบางตา

อีกเดียวจึงจะผ่านจุดเรียกแขก

“แวะอีกร้านไหมครับ”

19
“มีสาวๆ น่ารักๆ ด้วยนะ”

“สนใจนวดไหม”

ยิงดึกผูช้ ายทีเดินคนเดียวในเมืองนียิงถูกกวนใจ

ร้านรวงมีแผนดึงแขกทีตกค้างจากรถไฟเทียวสุดท้ายให้
คลาดเคลือนจากจุดหมายปลายทางจนกว่าจะเช้า

ทว่าหากเดินจํามาทางนี พวกเขาจะรีบหลีกทางให้
อารมณ์เหมือนโมเสสเดินผ่านทะเลแหวกเลยทีเดียว

เนืองจากการสัมผัสร่างกายแม้แค่สะกิดก็ถือได้วา่ ละเมิด
20
ข้อบังคับของเมือง

แถมใจกลางย่านคาบูกิโจยังมีกล้องวงจรปิ ดอยูท่ วั พวก


เขาจึงไม่อยากให้เกิดปั ญหา

“โรมาเนีย”

ชายคนหนึงเข้ามาพูดชือประเทศห่างไกลใกล้ๆ หู ชือ
ประเทศทีกระซิบกระซาบกันมักจะอยูใ่ นยุโรปตะวันออก

หากรูว้ า่ ชือประเทศของตนถูกใช้เป็ นคําใบ้ในธุรกิจสีเทา


คนในประเทศเหล่านันจะรูส้ กึ อย่างไรหนอ

21
แต่เขาไม่วา่ งใส่ใจคนพวกนีหรอก

โซจิโร่กา้ วผ่านแหล่งบันเทิงยามดึกแซงหน้าคนเมามาก
หน้าหลายตาไปอย่างเฉยเมย

เมือมุง่ หน้าไปทางเหนือ ป้ายสถานขายบริการและคลับ


หนุ่มแก้เหงาก็หนาตาขึน

การสนองตัณหาอย่างโจ่งแจ้งและความทะยานอยาก
นับเป็ นสีสนั ของย่านนี

เมือพ้นถนนฮานะมิจิก็ถงึ ถนนโฉะขุอนั ซึงเป็ นย่านเลิฟ


โฮเต็ล
22
ยิงใกล้เข้าไปก็ยงมี
ิ ครู่ กั เดินไปทางเดียวกันเพิมมากขึน

หลังจากทํางานนีจึงได้รูว้ า่ ลําพังโรงแรมในย่านนีก็เกิน
ร้อยละหนึงของจํานวนสิงปลูกสร้างทัวประเทศแล้ว

ถึงจะเป็ นย่านสนองตัณหาและย่านทีหญิงสาวเดินคน
เดียวมีมากหน้าหลายตา ทว่าก็เป็ นย่านทีผูห้ ญิงแต่งตัว
เซ็กซีโชว์เนือหนังมังสาสามารถถือสมาร์ทโฟนราคา
หลายหมืนเยนแนบหูเดินไปมาคนเดียวกลางดึกได้

แม้จะมีจดุ ชวนระแวงระวังอยูห่ ลายแห่ง แต่ก็ไม่ใช่ยา่ นที


มีภาพลักษณ์อนั ตรายติดอันดับต้นๆ

23
เพียงครูเ่ ดียวแสงสีสองข้างทางก็หายไปเมือเข้าสูย่ า่ น
โรงแรม

ฝ่ ายหญิงทีเดินอยูก่ บั คูร่ กั หน้าโซจิโร่มาพักหนึงเริมมีทา่


ทีกระตือรือร้น

เขาเคยชินกับการคิดฟุง้ ซ่านถึงความสัมพันธ์ของคูร่ กั ที
เห็นบนถนนสายเดิมซึงผ่านไปมาทุกวันโดยไม่รูค้ วาม
จริง

เอาจริงๆ เขาก็ไม่จาํ เป็ นต้องรูห้ รอก เพราะนันเป็ นเพียง


ความคิดฆ่าเวลา

24
เนืองจากตังใจไม่เดินแซงคูร่ กั ทีเดินเอือยเฉือยรอบตัว
แทนทีจะมัวกังวลเรืองการเดินจึงคิดเรืองพวกนีไปเรือย
เปื อย

เขาสังเกตความสัมพันธ์ของทังคูจ่ ากเสือผ้า ทรงผม ท่า


ทางการเดิน รวมถึงข้อมูลอย่างอายุ อาชีพ และระยะ
ของความสัมพันธ์ระหว่างทีเดินตามคูร่ กั เหล่านัน

ก็เดามัวนันแหละ

ระหว่างทีกําลังสังเกตรายละเอียดของฝ่ ายหญิงทีสวม
เสือนอกสีขาวว่าน่าจะมีอายุราวยีสิบแปดกับฝ่ ายชาย

25
ผอมกะหร่องสวมสูทสีกรมท่าทีน่าจะมีอายุราวยีสิบสาม
ทังคูก่ ็เดินลับตาเข้าประตูโรงแรมไป

เขาโล่งอกพลางเร่งฝี เท้าด้วยความเร็วปกติ

เพียงครูเ่ ดียวก็ถงึ ทีทํางาน

“โรงแรมสปุตนิก”

มีโรงแรมชือเดียวกันนีทีเซนต์ปีเตอร์สเบิรก์ มอสโคว แต่


แน่ละไม่มีอะไรเกียวข้องกันเลยสักนิด

หากเป็ นคนวัยเกินหกสิบปี อาจคุน้ หูชือดาวเทียมตัวแรก


26
ของโลกทีอดีตสหภาพโซเวียตเป็ นผูป้ ระดิษฐ์ ตรงทาง
เข้าของโรงแรมจึงมีไฟนีออนเลียนแบบดาวเทียมดวงนัน
ส่องแสงเคียงดวงดาวทีกะพริบอยูร่ ายรอบ

สําหรับคนทีรูเ้ รืองดาวเทียมคงคิดว่าชือนีเข้าขันโบราณ
ทว่าดูเหมือนทีนีจะตังชือตามเพจรีวิว และการแนะนํา
แบบปากต่อปากในหมูค่ รู่ กั หนุ่มสาวด้วยการตกแต่ง
ภายในทีดูลายุ
ํ คแปลกตา

ช่วงสองทุม่ มักจะมีแขกที “แวะพัก” หลังอาหารจองห้อง


พักทีสปุตนิกจนเต็ม

ทันทีทีแขกเหล่านันกลับซึงเป็ นช่วงเวลาก่อนรถไฟขบวน

27
สุดท้าย หน้าทีในการทําความสะอาดจะเป็ นของคนเก็บ
กวาดกะแรก และงานทีเหลือจากคนเก็บกวาดกะแรกที
ต้องกลับด้วยรถไฟก็จะเป็ นหน้าทีของเขาในวันนี

ผูช้ ่วยเหลือกะดึก

“คุณโซจิโร่ช่วยเช็คนําทิงห้องเจ็ดศูนย์หนึงหน่อยนะ ใน
ห้องฝักบัว”

ผูจ้ ดั การสังงานทันทีทีตอกบัตรในห้องพักพนักงาน

ช่างเป็ นเรืองทีคุน้ เคยจนจําไม่ได้แล้วว่าปั ญหาเล็กๆ


น้อยๆ ในห้องนํากลายมาเป็ นหน้าทีหลักของเขาไป
28
ตังแต่เมือไร

การใช้ชีวิตในต่างประเทศหลายปี ทาํ ให้มีทกั ษะทางด้าน


นีไปเอง

ต่างจากในญีปุ่ น ไม่วา่ จะทีเวเนซุเอล่า ไนจีเรีย หรือชิลี


ปั ญหาห้องนําในบ้านเป็ นเรืองปกติรายวัน

แม้แต่ในประเทศทีพัฒนาแล้วอย่างยุโรปก็เช่นกัน

ไม่วา่ จะโทร.แจ้งเจ้าของบ้าน เรียกช่างประปา ปั ญหาก็


มักไม่จบลงง่ายๆ

29
จะต้องมีเหตุผลร้อยแปดเพือเป็ นข้ออ้างให้ไม่สามารถ
จัดการได้

ต่อให้มาได้ในทีสุดก็จะมีปัญหาขาดอะไหล่ทาํ ให้ตอ้ งรอ


ไปอีกหลายวัน

เพือให้อยูร่ อดอย่างผาสุกจึงจําต้องซ่อมห้องนําให้ได้
ด้วยตัวเอง

หลังเปลียนชุดทํางานเรียบร้อยเขาก็มงุ่ หน้าไปยังชันเจ็ด

วันนีเขาทํางานคูก่ บั คุณยากามิ

30
เมือเปิ ดประตู ปรับเครืองดูดอากาศสองจุดให้ “แรง”
เสียงหมุนครืดคราดก็ดงั สนันห้อง

ปั ญหาการถ่ายเทอากาศและห้องนําในเลิฟโฮเต็ลรุนแรง
กว่าปั ญหาตามบ้านหรือโรงแรมทัวไปมากนัก

สมัยทียังเป็ นศิษย์เก่าเขาเคยสังกัดชมรมเทนนิส
ของมหาวิทยาลัย

ได้ฟังจากเพือนคณะสถาปั ตยกรรมรุน่ เดียวกันทีได้พบ


หน้าหลังจากไม่ได้เจอกันนานเป็ นสิบๆ ปี วา่ ฝักบัวและ
อ่างอาบนําในเลิฟโฮเต็ลถูกใช้วนั ละหลายหน

31
เพียงเท่านีก็ก่อปั ญหาได้แล้ว

ทันทีทีแขกแจ้งเช็คเอาต์จะต้องทําความสะอาดและทํา
การถ่ายเทอากาศให้เร็วทีสุด เพราะหากไม่รบี จัดการ
ห้องให้เรียบร้อย อัตราการใช้หอ้ งก็จะตําลง เพราะแขก
ไม่อยากแกร่วคอยอยูห่ น้าฟร้อนต์

ดังนันการติดตังท่อในอาคารจึงมักจะเลือกใช้ขนาดใหญ่
เพือให้อากาศถ่ายเทได้เร็วทีสุด

ทีสปุตนิกก็เช่นกัน

หน่วยงานท้องถินมีกฎเกณฑ์ทีบังคับใช้กนั อย่างเข้มงวด
32
คือหากอาคารเก่าจะต้องสร้างใหม่

ทําให้โรงแรมต้องพยายามยืดอายุอาคารให้ใช้งานได้
นานทีสุด

ซึงชะตากรรมก็แขวนอยูบ่ นความเรียบร้อยของห้องนํานี
เอง

33
ตอนที 1-3 รถไฟขบวนแรกหลังเลิกงาน

เขาฟั งคําของเพือนอย่างตังอกตังใจ แม้ตอนนันจะยังไม่


เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาทํางานนีเข้าสักวัน

34
พืนห้องอาบฝักบัวซึงกันด้วยกระจกมีนาขั
ํ งสูงหลาย
เซนติเมตร บนผิวนํามีไขสบูล่ อยอยูท่ าํ ให้อดนึกถึงไขมัน
หน้าหม้อชาบูชาบูไม่ได้

โซจิโร่ใช้มือทีสวมถุงมือยางเรียบร้อยเปิ ดฝา แล้วใช้นิว


ล้วงท่อนําทิง

“เจ้านีเอง”

เขาพูดคนเดียวพลางดึงสิงทีติดอยูต่ รงปลายนิวออกไป
ทิง

ถุงยางนันเองทีอุดลึกอยูใ่ นท่อนําทิงตามคาด
35
ว่าแต่ทาํ ไมถึงมาอุดในท่อ

เขามักจะได้พบสิงของแปลกๆ ตามทีแปลก ๆ ในสถานที


ประหลาดๆ แห่งนี

นับตังแต่ของเหลวสารพัดรูปแบบ สุรา นําเหนียวๆ ไป


จนถึงกระดาษนุ่มๆ แปรงสีฟัน ผ้าอนามัย ก้นบุหรี คอน
แทคเลนส์ ต่างหู แหวน เข็มขัด ผ้าปิ ดตา เชือกผูกปม
แบตเตอรี ขวดเครืองดืม เชือกยาง ชุดชันใน ขนตา
ปลอม ของทีเรียกกันว่าของเล่น ถุงเท้า ผัก มีดโกน...

เขาพบทังของทีเป็ นไปได้ ของทีไม่คาดคิด ของสารพัด

36
สิงถูกทิงอยูใ่ นทีทีไม่น่าจะเป็ นไปได้

แตงกวาหักกลิงอยูบ่ นพืนห้องนํา กุญแจมือติดอยูใ่ นช่อง


หัวเตียง ถุงน่องมัดติดกับราวแขวนในตูเ้ สือผ้า ช้อน
รองเท้าถูกทิงไว้ในห้องนํา แถบกาวทีถูกปั นเป็ น
ก้อนกลมกองสุมตรงมุมห้อง หมอนชุ่มซอสมะเขือเทศ
หนังสือพิมพ์มว้ นเป็ นแท่ง ถ้วยกาแฟใส่นาปริ
ํ ศนา
ถูกวางทิงไว้ในห้องนํา ปื นฉีดนําตกอยูบ่ นพืน โต๊ะทําผม
ตีลงั กาขาชีฟ้า

ฉากชีวิตประจําวันเหล่านีราวกับงานศิลปะร่วมสมัยที
เหมาะควรกับการแปะคําอธิบายใต้ภาพว่า "ยุคสมัยอัน
อลหม่าน”

37
บรรดาคูร่ กั สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างน่าทึง

การนําข้าวของแปลกๆ สารพัดสิงทีไม่มีทางใช้ในห้อง
ของตัวเองเด็ดขาดมาใช้ทีนีแล้วกลับไป

พวกผูใ้ หญ่ช่างสรรหาการละเล่นพลิกแพลงกันในเลิฟ
โฮเต็ลราวกับเด็กๆ ทีค้นพบวิธีเล่นทีคาดไม่ถงึ

ถึงจะเรียกได้วา่ เป็ นงานทีเลือกเอง แต่ช่วงแรกๆ เขาก็อด


รังเกียจร่องรอยสดใหม่ของสิงทีหลงเหลืออยูใ่ นห้องไม่
ได้

38
สําหรับเขาทีไม่เคยเข้าใช้บริการสถานทีแบบนีมาก่อน
รูส้ กึ ว่าการใช้บริการเลิฟโฮเต็ลออกจะผิดบาป จึงอดนึก
สมเพชตัวเองไม่ได้ทีต้องมาทํางานสะสางความใคร่ของ
คนอืน

ครังแรกทีต้องแตะถุงยางใช้แล้วของคนอืนทําให้แทบ
อาเจียน

คงไม่แปลกถ้าเขาเคยคิดถอดใจจะเลิกทํางานนี

ทว่าตอนนีทุกอย่างเปลียนไปแล้ว

เขาเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง
39
เข้าใจว่าลูกค้าทีดันด้นมาถึงทีนีต่างตังใจจะมาผ่อน
คลาย

ทุกคนหนีจากชีวิตประจําวัน เพือลืมโลกทีจําเจ ใช้ทงั


ความรูส้ กึ จากก้นบึงของหัวใจและแกนกลางของร่าง
กายปลดเปลืองทุกสิงอย่างในฐานะมนุษย์คนหนึง เพือ
ให้เป็ นผูใ้ หญ่ทีดีพอสําหรับเด็กน้อยทียิมกว้างอยูใ่ นสวน
สนุก

เขาไม่เคยเห็นฉากอย่างว่าแม้แต่ครังเดียว

ทว่าร่องรอยทีคนเหล่านันทิงไว้ บางครังก็เหมือนถ่านที

40
ยังคุกรุน่

ไม่อาจรูไ้ ด้เลยว่าคนสองคนทีใช้เวลาทีนีกําลังมีความสุข
ซ่อนตัวจากโลก หรือถูกเหยียดหยามกันแน่

ไม่วา่ โลกภายนอกจะมองความสัมพันธ์ระหว่างคนสอง
คนอย่างไร ทว่าคูร่ กั จํานวนมากต่างเอืออาทรกันอย่าง
เร่าร้อนและจริงใจ

“จัดการท่อระบายนําห้องเจ็ดศูนย์หนึงเรียบร้อยแล้ว อีก
สิบห้านาทีเสร็จครับ”

เขาแจ้งผูจ้ ดั การผ่านอินเตอร์คอม
41
“เข้าใจแล้ว ตอนนีมีแขกรออยูส่ องคู่ ถ้าเรียบร้อยแล้ว
ช่วยแจ้งด้วย”

คุณยากามิผเู้ ป็ นคูห่ ชู ่วยทําเตียง ต่อด้วยจัดเครือง


อํานวยความสะดวกทีห้องแต่งตัว

เธอพ่นสเปรย์ดบั กลินทีใช้เป็ นประจําเมือทําห้องเสร็จ

ช่วงแรกเขากระอักกระอ่วนใจทีต้องเข้ามาทํางานภายใน
ห้องของเลิฟโฮเต็ลทียังมีรอ่ งรอยการร่วมรักให้เห็นกับ
ผูห้ ญิงสองต่อสอง ทว่ารุน่ พีทีทํางานอย่างคุณยากามิที
เคยชินแล้วกลับสงบนิง

42
เธออายุสสิี บห้าปี

อายุออ่ นกว่าเขาถึงสิบห้าปี ใบหน้าของเธอเกลียงเกลา

เธอมักสวมเสือโปโลของยูนิโคล่มาทํางาน

ช่วงพักเมือชมเธอว่า “ถ้าแต่งหน้าจะสวยเลยนะเนีย”
กลับโดนทําหน้าเบ้ใส่ “ผูช้ ายนีนะ พอแล้วละ” บท
สนทนาจึงจบลง

เขาไม่ได้อยากให้คณ
ุ ยากามิสนใจอะไรหรอก ทว่าหาก
ยิมสักนิดเธอก็ถือว่าเป็ นคนสวยทีเดียว จึงคิดหาวิธีทาํ
43
ให้เธอยิมได้จากใจ

ไม่ใช่ความรูส้ กึ ชอบพอ แต่อาจจะเป็ นความอยากรู ้


อยากเห็นแบบหลักลอย

แอบนึกสงสารว่าผูห้ ญิงอายุเท่าเธอจะทํางานอะไรก็ได้
เหตุใดจึงมาทํางานกลางดึกในเลิฟโฮเต็ล

ทีนีไม่ใช่สถานทีน่ารืนรมย์เลยสําหรับเขา

หากจะมีใครตีพิมพ์อตั ชีวประวัติเขา อาจจะต้องใช้ชือ


หนังสือประมาณว่า “ชีวิตทีตกตํา”

44
แบบนีแล้วยังมีหน้ามานึกสงสารคนอืนเขาอีกหรือ

ระหว่างทีคิดเรือยเปื อยก็ลา้ งห้องอาบนําเสร็จพอดี

เขาใช้ไม้ถเู ช็ดพืนห้องนําและอ่างอาบนําอย่างเบามือ
แล้วหันพัดลมไปเป่ าทางห้องนําเพือเร่งให้พืนแห้งเร็วขึน

จากนันใช้หนังเทียมเช็ดส่วนทีเป็ นโลหะของก๊อกนํา เช็ด


หยดนําบนกระจกห้องนําและห้องอาบนําเป็ นขันตอนสุด
ท้าย

จังหวะนันเองเขาได้ยินเสียงเพลงลอยมา

45
จึงหยุดเงียหูฟังด้วยความสงสัยว่าเป็ นเพลงอะไร ทว่าได้
ยินแต่เสียงพัดลม

หูแว่วหรือ

“ถ้าตรงนันเรียบร้อย ก็เสร็จแล้วค่ะ”

คุณยากามิกาํ ลังทําเครืองหมายลงบนแฟ้ม

“ห้องเลขทีเจ็ดศูนย์หนึง เก็บกวาดเรียบร้อยครับ”

เมือแจ้งทางอินเตอร์คอม โยนหนังชามัวร์ทีใช้แล้วลงรถ
เข็นอุปกรณ์ ดึงปลักไฟเสร็จเรียบร้อย ก็หิวพัดลมออก
46
จากห้องได้

ห้ามนังหลับ

ท่านทีนังหลับจะถูกขอให้ออกจากร้าน

มีปา้ ยประกาศเขียนด้วยอักษรขนาดใหญ่ไว้ชดั เจน

ทว่าลูกค้าทีมาไอด้าคาเฟ่ คนเดียวครึงหนึงกลับนังคอ
พับไม่ไหวติง บางครังถึงกับได้ยินเสียงกรน

โซจิโร่วางของลงบนทีนังข้างผนัง แล้วไปรับแซนด์วิชกับ

47
กาแฟทีเคาน์เตอร์

ทังทีทํางานมาเพียงสองชัวโมงครึงเท่านัน แต่เขากลับ
รูส้ กึ เหนือย

ตอนนีเลยเวลาตีสามครึงมาแล้ว

วันนีเลิฟโฮเต็ลมีคนเข้าออกหมุนเวียนตลอดเวลาจน
แทบไม่มีเวลาพักเลย

เขาต้องมานังฆ่าเวลาทีร้านซึงเปิ ดทําการยีสิบสีชัวโมง
แห่งนี เพือคอยเวลาขึนรถไฟขบวนแรกกลับบ้านเป็ น
ประจํา
48
49
ตอนที 1-4 รถไฟขบวนแรกหลังเลิกงาน

หลังตีสองทีแขกส่วนใหญ่เข้าพักแล้ว จะไม่คอ่ ยมีงาน


อะไรอีกจนถึงเช้า

โรงแรมจึงให้พนักงานชัวคราวอย่างเขากลับได้ เพือเป็ น
การประหยัดค่าแรง

ได้รบั ค่าตัวหนึงพันเยนต่อวันตายตัว ไม่ได้คา่ แท็กซี ก็


เลยต้องหาทีนังฆ่าเวลาเพือรอจนกว่ารถไฟขบวนแรกจะ
ออก

50
หากอากาศดีบางครังเขาจะไปนังเล่นกลางแจ้งตามสวน
สาธารณะ แต่สว่ นใหญ่มกั จะนังรอตามร้านอย่างไอด้า
จนถึงเช้า

ขนมปั งปิ ง ข้าวแกงกะหรีสูตรพิเศษ ข้าวแกงกะหรีหมู


ทอดสูตรพิเศษ ข้าวแกงกะหรีหน้าไข่สตู รพิเศษ
สปาเกตตีผดั ซอส ข้าวหน้าหมูคตั สึดง้ แซนด์วิช นําอัด
ลม นําส้มไบเลย์

ร้านกาแฟก็มีเมนูเหล่านีบริการเช่นเดียวกับคอฟฟี ช็อป

หากดูเฉพาะเมนูจะไม่ตา่ งจากร้านไดรฟ์ อินเก่าแก่ในยุค


โชวะ หรือไม่ก็บา้ นพักตามลานสกีในชนบท

51
แกงกะหรีเท่านันทีมีคาํ ว่า “สูตรพิเศษ” แปะหรา แต่
ความจริงแล้วหมายถึงฉลาก “สูตรพิเศษ” ทีติดอยูห่ อ่
อาหารแช่แข็งสําหรับร้านค้าต่างหาก

ร้านแบบนีมีดีตรงไหนจึงได้รบั ความนิยมนัก เขาเองก็ไม่


เข้าใจ

ทังการตกแต่ง จานชาม ชือร้าน ล้วนไร้สงโดดเด่


ิ นชวน
มอง ทว่าคงทําให้ผอ่ นคลายได้กระมัง

อย่างน้อยก็มีแซนด์วิชไข่รสชาติอร่อยกว่าหน้าตา

52
มีลกู ค้านังรอรถไฟขบวนแรกหนาตา แต่ก็มีลกู ค้าเข้าๆ
ออกๆ ไม่ขาดสาย

เยืองๆ กันมีหญิงสาวแต่งตัวแบบนักแสดงตามร้านคา
บาเรต์นงดื
ั มกาแฟเย็นพลางเล่นสมาร์ทโฟนตามลําพัง
อย่างรืนเริง

ใกล้ผนังฝังตรงข้ามมีผชู้ ายท่าทางเหมือนหนุ่มโฮสต์ถือ
โทรศัพท์ผลุบเข้าผลุบออกจากร้านไม่เลิก

ส่วนกลุม่ ทีดูเหมือนจะเป็ นนักศึกษามีอยูด่ ว้ ยกันสามคน


คนหนึงฟุบหลับ ชายหญิงอีกสองคนคุยกันท่าทางสนิท
สนม

53
หากไร้เพือนทีหลับอยู่ ลักษณะน่าจะมุง่ หน้าไปโรงแรม
มากกว่ามานังอยูใ่ นร้านกาแฟ

หรือไม่เพือนอีกคนอาจจะคิดเช่นนีจึงแสร้งทําเป็ นหลับ
โดยไม่แสร้งทําท่าเข้าอกเข้าใจบอกว่า “ฉันกลับละ” แล้ว
จากไป

สมัยเป็ นนักศึกษา เขาเองก็เคยทําแบบนีเหมือนกัน

ร้านไอด้าคาเฟ่ กลางดึกเป็ นตัวอย่างทีดีของชีวิตในคาบู


กิโจ

54
ผูค้ นทีทํางานกลางคืนในย่านนี ทังคนขายอาหาร ร้าน
ขายของสําหรับผูใ้ หญ่ หนุ่มโฮสต์ สาวร้านคาบาเรต์ คน
ชุดดํา คนเชียร์แขก รวมถึงลูกค้าทีตกรถไฟเทียวสุดท้าย
ล้วนมารวมตัวอยูท่ ีนี ทังทีร้านรวงก็แสนจะธรรมดา

ธรรมดาเกินไปเสียจนไร้นกั ท่องเทียว

เมือลองไปชวนคุยพบว่ากลุม่ คนสูงวัยส่วนใหญ่จะทํา
งานระดับล่างอย่างงานทําความสะอาดอาคารหรือเลิฟ
โฮเต็ลเหมือนเขา

พออายุเกินหกสิบแม้จะพึงฮัลโหลเวิรค์ ก็ยงั หางานได้


ยาก งานคนให้สญ
ั ญาณทําทางเปิ ดรับจํานวนมากก็จริง

55
แต่ก็ตอ้ งมันใจในพละกําลังของตน แถมงานใช้แรงงานก็
ออกจะน่าอายหากใครมาพบเห็นเข้า

ระหว่างหางานทีลับตาคนและรายได้ดีสาํ หรับคนอายุ
เท่านีเขาก็มาเจองานในเลิฟโฮเต็ลเข้า

เขาเริมงานนีตังแต่เมือสองปี ก่อนหรือตอนอายุหา้ สิบ


แปด

ทังทีไม่เคยย่างกรายเข้าเลิฟโฮเต็ลมาก่อนเลยและเป็ นที
ทีนึกไม่ถงึ ว่าชีวิตนีต้องเหยียบ แต่เมือเห็นประกาศรับ
สมัครโดยบังเอิญเขากลับสนใจขึนมาอย่างประหลาด

56
ถึงจะได้งาน ทว่ารายได้ก็ไม่ได้ดีนกั จนได้แต่นกึ สมเพช
ตัวเองว่าอับจนหนทางจนถึงขันจะทํางานอะไรก็ได้ทงั
นันแล้วหรือ

ตอนนันเขาโทรศัพท์ไปสอบถามแบบหวันๆ และก็ได้รบั
แจ้งให้เตรียมนําเอกสารประวัติไปสัมภาษณ์

เขาจึงปรับแก้ประวัติตวั เอง

จะให้กรอกอาชีพทีแท้จริงก็ลาํ บากเพราะไม่อยากถูก
มองว่าตกตํา แถมอาจส่งผลให้ถกู ปฏิเสธ จึงตัดสินใจขอ
ยืมชือบริษัทรับเหมารายเล็กของญาติมากรอกว่าเคยทํา
งานทีนัน

57
เขาบอกตัวเองว่าถึงจะถูกปฏิเสธก็ถือได้วา่ เป็ นการ
ศึกษาสังคมทางหนึง จึงเหยียบย่างเข้าเลิฟโฮเต็ลเป็ น
ครังแรกเพือจุดหมายในการสัมภาษณ์งาน

นอกจากผูจ้ ดั การทีเป็ นคนสัมภาษณ์บอกว่าไม่เคยมี


เอกสารประวัติของผูส้ มัครคนไหนหลุดรอดสายตาและ
ไม่กงั วลด้วยว่าจะมีผสู้ มัครคนไหนปฏิเสธงาน ยังกลับ
ถามทันทีวา่ ทํางานได้กีวันต่อสัปดาห์ กีชัวโมงต่อวัน

ช่วงกลางวันมีเฉพาะพนักงานประจําก็เพียงพอ ทว่าช่วง
เย็นและกลางคืนทีรีบเร่งจําเป็ นต้องมีพนักงานชัวคราว

58
ในทีสุดเขาจึงตกลงทํางานกะดึกวันอังคารถึงวันอาทิตย์
หกวันต่อสัปดาห์ แปดชัวโมงต่อวัน ตังแต่เวลาทุม่ ครึง
จนถึงตีสามครึง

ถ้าเป็ นวันศุกร์อย่างวันนีจะทํากะดึก ตังแต่เวลาตีหนึงถึง


ตีสามครึง ส่วนวันอาทิตย์ทาํ กะแรกถึงห้าทุม่ ครึง หยุด
วันจันทร์

อาจจะเรียกได้วา่ เป็ นงานสกปรก ทว่าหากเข้าทํางานใน


สํานักงานก็จะได้เงินเดือนน้อย

แม้จะอดนึกเปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้านีของตัวเองไม่
ได้ แต่ก็คิดเสียว่าการทํางานทีต้องใช้แรงกายถือเป็ น

59
ประสบการณ์แปลกใหม่

ก่อนหน้านีไม่นานเขายังเป็ นพนักงานบริษัทค้าขาย
ขนาดกลางแท้ๆ

เขาจบสาขาภาษาต่างประเทศ สามารถใช้ภาษาสเปน
และภาษาอังกฤษได้ จึงได้รบั มอบหมายให้ทาํ งานจัดซือ
วัตถุดิบในแผนกนํามันและแร่ธาตุ โดยประจําการที
อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และแอฟริกา

งานสนุก แต่สร้างครอบครัวไม่ได้

ชีวิตส่วนใหญ่อยูต่ า่ งประเทศ ซึงไม่ใช่อเมริกาเหนือหรือ


60
ยุโรป ต่อให้แต่งงานก็ตอ้ งทํางานห่างไกลครอบครัว

แม้จะมีผหู้ ญิงทีคบกันมาตังแต่สมัยเรียน แต่หลังจากทํา


งานได้สองปี ทีเขาเริมคิดว่าได้เวลาแต่งงานเสียที กลับ
ถูกส่งให้ไปทํางานทีเวเนซุเอลา ซึงเขาไม่อาจเอ่ยปาก
ชวนผูห้ ญิงทีเขารักว่า “โปรดไปกับผม” ได้ เพราะกลัวจะ
ถูกปฏิเสธ

การ์ดคริสต์มาสทีส่งหากันสินสุดลงในปี ทีสาม

เขาได้รบั ข่าวว่าเธอแต่งงานในเดือนเมษายนปี ถดั มา

ถึงจะเสียใจ แต่ก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก
61
จากนันเขาจึงตัดสินใจจะมีชีวิตอยูเ่ พืองานเท่านัน

มีธรรมเนียมหนึงของบริษัททีว่าพนักงานทีมีครอบครัว
จะได้กลับไปประจําทีสํานักงานใหญ่ภายในสามปี

ด้วยเหตุนีเขาจึงอยูท่ ีเวเนซุเอลาไปเสียห้าปี

ระหว่างนันเขาได้คบกับผูห้ ญิงคนหนึงทีนัน เธอมีชือว่า


ดาเนียลลา

62
ตอนที 1-5 รถไฟขบวนแรกหลังเลิกงาน

63
ไม่วา่ อย่างไรเขาก็ไม่คิดว่าเธอจะคุน้ เคยกับการใช้ชีวิตที
ญีปุ่ น เรืองไปทํางานไกลบ้านยิงเป็ นไปไม่ได้

ระหว่างทีกําลังใคร่ครวญว่าย้ายหนีไปประเทศอืนจะดี
ไหม เขาก็ถกู ส่งกลับญีปุ่ น

จึงกลายเป็ นการจากลากันทังนําตา

หลังจากกลับมาอยูญ
่ ีปุ่ นเพียงหนึงปี เขาก็ถกู ย้ายไป
ประจําทีไนจีเรีย ประเทศในทวีปแอฟริกา

จึงเข้าใจอย่างชัดแจ้งว่าเขาไม่เหมาะจะแต่งงานกับใคร
ทังนันและยอมรับการมีชีวิตอย่างคนไร้รากเหง้าของตัว
64
เองไปโดยปริยาย

พอเลยตีสี ผูค้ นก็พลุกพล่านจนเกือบเต็มไอด้าคาเฟ่

คนทีทํางานเสร็จแล้วทยอยตามมา ส่วนหนึงคือคนทีไม่
มังมีพอจะกลับบ้านโดยแท็กซี ทีเหลือคือคนทีไม่ได้
อาศัยอยูใ่ นละแวกนี

คนส่วนใหญ่ในทีนีคงไม่ขยับตัวออกจากร้านเป็ นแน่จน
กว่าจะถึงเวลาขึนรถไฟขบวนแรก

ชาวแอฟริกนั ร่างใหญ่สองคนคว้าแก้วโคล่าขนาดกลาง
มานังหลังโซจิโร่ แม้จะสือสารกันด้วยภาษาอังกฤษ แต่ดู
65
เหมือนไม่ใช่ชาวอเมริกนั

“ใกล้จะได้ออกจากมาโกโกแล้วละ”

เขายังจําชือสถานทีทีได้ยินจากบทสนทนาของสองคนนี
ได้

ทังคูเ่ ป็ นชาวไนจีเรียจริงๆ เสียด้วย

มาโกโกทีชายคนนันพูดถึงคือเมืองสลัมในเลกอส เมืองที
ใหญ่ทีสุดของไนจีเรีย

66
เป็ นบ้านเกิดของอเมนยา ผูช้ ่วย

เขาเองเคยนังรถผ่านใจกลางเมืองมาโกโกเพียงครังเดียว

“คุณชิมิสจึ ะลงจากรถตรงนีไม่ได้นะครับ”

หากมีคนรูว้ า่ เป็ นชาวต่างชาติจะตกเป็ นเป้าหมายของ


การปล้น เนืองจากผูค้ นในมาโกโกเป็ นคนระดับล่าง ชาว
ต่างชาติจงึ ถูกมองว่ารํารวยกว่าคนพืนถิน

โรงเรือนมุงหลังคาด้วยแผ่นเหล็กลูกฟูกขึนสนิมเรียงต่อ
กันจนสุดถนน

67
แม้แสงแดดแผดจ้า สีของเมืองกลับหมองมัว

จําได้วา่ ท่ามกลางทิวทัศน์มวั หม่นแบบนีมีเพียงเสือผ้า


เนือหยาบบนตัวผูค้ นเท่านันทียังคงมีสีสนั สดใส

สีแดง สีเขียว สีเหลือง เจิดจ้ากลางแสงแดดร้อนแรง

“อยูแ่ อฟริกาแท้ๆ” โซจิโร่คิดระหว่างมองลอดกระจกรถ


ออกไปภายนอก

บนถนนสายหลักทีมีสามล้อสีเหลืองจอดรอลูกค้าอยู่ ใต้
ร่มสีซีดเรียงรายนับไม่ถว้ นเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ขาย

68
แน่ละว่าร้านค้าทีมีสนิ ค้าในคลังมากเท่าไหร่ก็ยงตกเป็
ิ น
เป้าหมายของการปล้นง่ายขึน

เขาจึงอยูใ่ นเมืองนีต่อไปไม่ได้

“เมืองนีมีแต่คนจนครับ”

หากคิดว่าจะทําให้มงคั
ั งขึนแม้เพียงนิด เงินทองเท่า
ปลายก้อยก็จะกลายเป็ นสิงจูงใจ

ผลคือทรัพย์สนิ ของทุกคนทีอยูอ่ าศัยทีนันจะถูกเกลีย


อย่างเท่าเทียม

69
อาจฟั งดูเหมือนการเสียดสี ทว่าแท้จริงอาชญากรรมเกิด
ขึนเพือกระจายรายได้

“หากมีเงินเกินหน้าเกินตาใครก็ตอ้ งออกจากเมืองไป
ครับ มันเป็ นชะตากรรม”

อเมนยาเกิดในมาโกโก ไปอยูบ่ า้ นญาติในเขตเบดทาวน์


และอลากาเพือเข้าโรงเรียน สอบได้ทนุ รัฐบาล และจบ
การศึกษาระดับมหาวิทยาลัย

แม้แต่คนชันสูงในเผ่าใหญ่ๆ บางคนทีนีก็มาจากสลัม

ไนจีเรียมีชนเผ่านับร้อย ภาษาของเผ่าหนึงแทบจะใช้สอื
70
สารกับคนต่างเผ่าไม่ได้

การสนทนานอกเผ่าจึงจํากัดเพียงภาษาอังกฤษซึงเป็ น
ภาษาราชการเท่านัน

ภรรยาของอเมนยามีเชือสายหัวหน้าเผ่าอืนจึงสือสาร
ภาษาอังกฤษได้

อีกอย่างหากพูดภาษาอังกฤษได้ก็จะหางานดีๆ ทํา เพือ


ให้หลุดพ้นจากความยากจนได้

ดังอเมนยาทีได้เข้าทํางานในบริษัทญีปุ่ น

71
นันคือเหตุผลทีชาวไนจีเรียในคาบูกิโจคุยกันเป็ นภาษา
อังกฤษแทนภาษาแม่

โซจิโร่ฟังการสนทนาของชาวไนจีเรียต่อ

“เดียวจะได้ออกจากมาโกโกอะไรกัน ก็มาอยูญ
่ ีปุ่ นแล้ว
นี”

“ยังเหลือแม่อยู”่

“สบายดีไหม”

72
“ไม่รูส้ ิ มาโกโกไม่มีไปรษณีย”์

จะว่าไปเขาเคยได้ยินกระทังว่าแม้สง่ ไปรษณีย ์ ทันทีทีถึง


ปลายทางก็จะถูกขโมยไปทุกครัง

“มาอยูญ
่ ีปุ่ นนานเท่าไหร่แล้ว”

“สีปี แม่ฉนั อายุหา้ สิบห้าแล้ว”

“อายุยืนทีเดียวนะ”

“ฉันทํางานทีญีปุ่ น มีรายได้พอจะสร้างบ้านในทีทีดีกว่า

73
เลกอสหน่อย อยากให้แม่ทีมาโกโกอยูส่ บายขึน”

“ดีจงั ”

บทสนทนาของชายทีลวงคนเมาตามทางเข้าไปถูกขูดรีด
ในบาร์เพือรับส่วนแบ่งจากร้านรวงช่างน่าประทับใจ

โซจิโร่รูส้ กึ สับสน

ได้ยินมาว่างานแบบนันจะได้รบั ส่วนแบ่งสูงราวสิบห้าถึง
ยีสิบเปอร์เซ็นต์

ถ้าเป็ นเช่นนันหากร้านค้าขูดรีดจากลูกค้าได้สองแสนเย
74
น คนทีดึงลูกค้าเข้าร้านก็น่าจะได้สามหมืนถึงสีหมืนเยน

หากอยูต่ วั คนเดียว การดึงลูกค้าเข้าร้านได้สกั สิบคนต่อ


เดือนก็นบั ว่าเพียงพอ

แต่น่าแปลกทีเขาแทบไม่เคยเห็นภาพตอนคนเหล่านี
ลากลูกค้าเข้าร้านไหนเลยสักร้าน

เดียวนีต้องมีเงินมากแค่ไหนจึงจะซือบ้านในเลกอสได้
หนอ

นานแล้วทีเขาเลิกสนใจอัตราแลกเปลียนของประเทศที
เคยไปใช้ชีวิตอยู่
75
“แต่มีปัญหานิดหน่อย”

ทังสองเงียบกันไปชัวอึดใจ

“ฉันต้องเลิกกับนาโอโกะก่อน ฉันพาเธอกลับไปด้วยไม่
ได้”

“นันสินะ”

“เธอคิดว่าฉันเป็ นคนอเมริกนั เพราะตอนทีเจอกันใน


คลับ ฉันโกหกว่ามาจากฮาเร็ม ตังใจจะบอกว่าย่านสลัม
แท้ ๆ แต่เธอดันเข้าใจผิดว่าเป็ นย่านฮาร์เล็มในนิวยอร์ก
76
ตอนนันตังใจจะคบขําๆ แค่คืนเดียว เลยไม่ได้ใส่ใจแก้
ความเข้าใจผิด”

“ขีโม้เอ๊ย ฟั งเรืองนีเป็ นครังทีสามแล้ว”

เพือนสนิทว่ากล่าวอย่างรักใคร่

“ไม่นกึ เลยจริงๆ ว่าจะคบกันมาได้นานขนาดนี”

ท้ายประโยคจับได้วา่ เสียงเครือทีเดียว แต่เขาไม่ได้หนั ไป


มอง

77
บทสนทนาของทังสองจบลงเพียงเท่านัน

ระหว่างทีทํางานในบริษัทการค้า เขารูส้ กึ เหมือนการใช้


ชีวิตทุกทีเป็ นเพียงเรืองชัวคราว

แม้วา่ จะกลับมาญีปุ่ นหลายปี แล้วจึงยังไม่คบหาใครจน


ถึงขันแต่งงาน

แน่นอนว่าไม่เคยรูส้ กึ อยากมีบา้ นด้วย

อาจเป็ นเพราะสูญเสียตัวตนไประหว่างประจําตําแหน่ง

งานของเขาประสบความสําเร็จและทางสํานักงานใหญ่
78
ก็ได้มอบหมายหน้าทีทีสําคัญมากขึนเรือยๆ

อาจฟั งดูเหมือนเป็ นการอุทิศชีวิตส่วนตัวเพือทํางานให้


บริษัท

ใช่ เขาคิดว่าตัวเองตกเป็ นทาส ขณะเดียวกับทีก็ไต่เต้าสู่


ตําแหน่งทีสูงขึนไปเรือยๆ อย่างราบรืน

ก่อนอายุหา้ สิบเขาเป็ นผูจ้ ดั การสาขาทีชิลี และได้เช่า


บ้านหลังใหญ่ในเมืองหลวงซันติอาโก

79
ตอนที 1-6 รถไฟขบวนแรกหลังเลิกงาน

80
มองย้อนกลับไป ณ ตอนนันเรียกว่าเขากําลังอยูใ่ นจุดสูง
สุดของชีวิต

แต่เมือครบกําหนดเวลาต้องกลับญีปุ่ นเขากลับกลาย
เป็ น “คนนอก” ทีผูกพันทังคนในตําแหน่งทีสูงกว่าและ
ตํากว่าเพียงผิวเผิน

คงจะมีกลไกบางอย่างขับเคลือนในทีทํางาน

จากการทํางานเป็ นผูเ้ ชียวชาญการนําเข้าแร่กลับถูกย้าย


ไปฝ่ ายประมงซึงรับผิดชอบการนําเข้าของทะเล

เขาซึงแทบไม่รูช้ ือปลาเลยต้องมาดูแลการป้อนวัตถุดิบ
81
ในเครือธุรกิจซูชิบนสายพาน

หากเป็ นพนักงานบริษัททัวไปคงจะมีช่วงติดตามรุน่ พี
เพือเรียนรูง้ าน แต่เขาเป็ นหมายเลขสองของแผนกใหม่
จะมัวใจเย็นอยูไ่ ม่ได้

ด้วยอยากเป็ น “มืออาชีพ” ให้เร็วทีสุด จึงยอมก้มศีรษะ


เพือขอให้บรรดาลูกน้องสอนงาน

ย้อนไปตอนนัน เกิดเหตุการณ์ทีหัวหน้าแผนกอินางากิ
ป่ วยกะทันหัน ต้องเข้ารักษาตัวทีโรงพยาบาลในจังหวัด
เอฮิเมะ บ้านเกิด จึงมาทํางานไม่ได้

82
ขณะทีใกล้จะต้องส่งกุง้ กุลาดําล็อตแรกจากคูค่ า้ คือ
ประเทศไทยเข้ามา ปกติผจู้ ดั การอินางากิซงพู
ึ ดภาษา
ไทยได้จะเจรจาเองโดยตรง จึงไม่มีพนักงานคนไหนใน
แผนกรูร้ ายละเอียดเรืองการติดต่อนอกเหนือจากงาน
เอกสารเลย

แม้วา่ เอกสารสังซืออย่างเป็ นทางการจะเป็ นภาษา


อังกฤษ ทว่าดูเหมือนผูจ้ ดั การจะคุยรายละเอียดเป็ น
ภาษาไทยมาตลอด

และเนืองจากเป็ นการติดต่อค้าขายครังแรกจึงต้องทํา
การตรวจสินค้าตังแต่ตน้ ทาง แต่ผรู้ บั ผิดชอบกลับไม่อยู่

83
เขาอาจอีเมลติดต่อกับผูจ้ ดั การทีเข้าโรงพยาบาลได้ก็
จริง แต่จงั หวัดเอฮิเมะบนเกาะชิโกกุนนห่
ั างไกลเกินกว่า
จะเดินทางไปพบ จึงเพียงยืนยันชือผูต้ ิดต่อและแจ้งวัน
เวลาตรวจสินค้าก่อนส่งสินค้าให้อีกฝ่ ายทราบเท่านัน

“หวังว่าจะได้พบกันในวันนันนะครับ”

และแล้วคําตอบตามมารยาทพร้อมกําหนดเวลาก็มาถึง

เขานึกอยากพาคนทีคุน้ เคยกับธุรกิจด้านนีไปด้วย แต่


นอกจากตัวเองทีเพิงเข้าทํางานในแผนกนีแล้วก็ไม่มีใคร
ว่างเลย

84
เขาขอร้องคนรูจ้ กั ทีเป็ นพ่อค้าในตลาดสึคิจิให้สอนวิธี
ตรวจสอบคุณภาพกุง้ แช่แข็งให้ และยังขอให้พนักงานใน
แผนกแนะนําจุดทีต้องพิจารณาเป็ นพิเศษด้วย

แล้วเขาก็ขนเครื
ึ องบินจากนาริตะไปกรุงเทพฯพร้อมกับ
ความหนักใจ

ขณะเดียวกันก็รูส้ กึ ว่าหากจัดการงานนีแทนผูจ้ ดั การที


ป่ วยได้อย่างแข็งขันก็น่าจะยืดอกได้อย่างภาคภูมิใจ

เมือเครืองบินทีใช้เวลาตลอดวันลงจอดทีสนามบิน
สุวรรณภูมิตรงเวลาก็พบว่าฝ่ ายคูค่ า้ ชือทอมทีติดต่อกัน
ทางอีเมลเป็ นคนมารับด้วยตัวเอง

85
ชือคนไทยยาวจนน่ากลุม้ บ่อยครังเขาจึงตังชือเรียกคูค่ า้
ในการทําธุรกิจขึนเอง

ทอมดูเป็ นมิตร ท่าทางใจดีตามภาพลักษณ์ของคนไทย

“เดียวจะพาไปโรงแรม ผมจองร้านอาหารไว้ตอนทุม่ หนึง


จะมารับก่อนเวลาสามสิบนาทีนะครับ ก่อนหน้านันเชิญ
พักผ่อนทีห้องได้ตามสบาย”

ชายคนนันขับรถพลางพูดภาษาอังกฤษกระท่อน
กระแท่นยืดยาว

86
“ยังมีเวลาอีกสามชัวโมงก่อนทุม่ นึง ก่อนไปเช็คอินผม
อยากไปเยียมออฟฟิ ศคุณและพบประธานบริษัทสัก
หน่อยครับ”

เขาได้แจ้งไว้ทางอีเมลแล้ว

เขาพยายามพูดช้าๆ ใช้คาํ ทีง่ายทีสุดเท่าทีจะทําได้ ใน


เมือพูดภาษาไทยไม่ได้เลยจึงจําต้องสือสารด้วยภาษา
อังกฤษ

“ไม่เป็ นไรครับ ไม่ตอ้ งห่วง ดืมเบียร์สงิ ห์คอยทีโรงแรมดี


กว่า”

87
แต่เขาอยากไปตรวจสอบว่าบริษัททีว่าเป็ นอย่างไร
มากกว่า

“เบียร์ไว้ดืมตอนกินอาหารดีกว่าครับ ช่วยพาไปทีบริษัท
คุณเถอะครับ”

“ครับ ไม่เป็ นไร ไม่ตอ้ งเป็ นห่วง”

“นีเป็ นการติดต่องานครังแรกกับบริษัทของคุณ ผมควร


จะไปพบท่านประธานนะครับ”

“ไม่ตอ้ งกังวลเรืองนันหรอกครับ”

88
เขากังวลเรืองนีถึงได้เดินทางมาเมืองไทย แต่จะพูดว่าให้
พาไปบริษัทเพือสํารวจความน่าเชือถือก็พดู ลําบาก

“ถึงแล้วครับ หกโมงครึงพบกันทีล็อบบีนะครับ”

ขณะกําลังรูส้ กึ จนแต้มก็เดินทางมาถึงโรงแรมใจ
กลางกรุงเทพฯ พอดี

การเดินทางใช้เวลาเพียงไม่ถงึ หนึงชัวโมงจากสนามบิน

ทีนีเป็ นโรงแรมระดับกลาง แต่สอสารกั


ื นด้วยภาษา
อังกฤษได้อย่างปลอดโปร่ง ทําให้เขารูส้ กึ เหมือนขึน
สวรรค์
89
นีเป็ นครังแรกทีรูส้ กึ ถึงกําแพงภาษาในการทํางาน

เขาสือสารทังภาษาอังกฤษและสเปนได้คล่อง ทังยัง
ฉลาดโน้มน้าวให้อีกฝ่ ายคล้อยตาม

ทว่าพอมาถึงเมืองไทย เพียงก้าวเท้าออกจากสนาม
บินกลับจนใจด้วยอ่านตัวอักษรตามป้ายไม่ออก

เขารูส้ กึ เป็ นกังวลว่าคงไม่มีทางรูไ้ ด้เลยหากว่ามีประกาศ


ก้องทางวิทยุวา่ เกิดการยิงขีปนาวุธหรือประกาศเตือนภัย
พิบตั ิวา่ แม่นาเจ้
ํ าพระยากําลังจะล้นตลิง

90
แม้ใจกลางเมืองทีมีผคู้ นพลุกพล่าน เราก็อาจจะรูส้ กึ โดด
เดียวได้

แม้วา่ จะเห็นภาษาอังกฤษบนป้ายทางด่วนหมายเลขเจ็ด
ในทีสุด ทว่าเมือลงมาสูถ่ นนสายหลักก็กลายเป็ นโลก
แห่งภาษาไทย

เขาไม่รูเ้ รืองทีผูค้ นทีนีเข้าอกเข้าใจกันดีสกั คํา ไม่วา่ จะ


ป้ายร้านหรือประกาศต่างๆ

เขาอ่านตัวอักษรทีใช้กนั ไม่ออกเลย

รูส้ กึ โดดเดียวยิงกว่ายืนอยูก่ ลางทะเลทรายทางตอน


91
เหนือของไนจีเรียเสียอีก

ทอมมารับทีโรงแรมตามเวลานัดหมาย

เขาจองร้านอาหารหรูรมิ แม่นาไว้

แค่ชือร้านก็ยงั จําไม่ได้

การเดินทางในตอนนันจึงต้องนังรถยนต์ไปตามเวลาและ
สถานทีทีทอมกําหนดทังหมด

การอ่านอะไรไม่ออกทําให้เขารูส้ กึ เหมือนถูกปิ ดตา

92
ลักพาตัวไปตามทีต่างๆ

ตลอดมืออาหารทอมยํานักยําหนาโดยใช้ศพั ท์แสงทีฟั งดู


เหมือนท่องมาว่าธุรกิจของบริษัทเขาใหญ่โตเพียงใด แต่
น่าแปลกทีเขากลับดูไม่คอ่ ยเข้าใจบทสนทนาสัพเพเหระ

ก่อนการตรวจสินค้าเขาขอพบกับประธานบริษัทอีกครัง
ทว่าทอมก็ตอบเหมือนเดิมว่า “ไม่เป็ นไร” และ “อย่า
กังวล”

ท้ายทีสุดเมือถึงโรงแรมเขาก็เหนือยกับการเดินทาง
ประกอบกับเมามายเกินกว่าจะเจรจาต่อรองอะไรกับ
ทอมได้อีก

93
ทีนีก็เหลือเพียงตรวจสอบคุณภาพกุง้ แช่แข็งทีจะจัดส่งก็
เรียบร้อย

เขาคิดอย่างนันระหว่างเข้านอนอย่างอ่อนล้า

“รองหัวหน้าชิมิส!ึ ”

พนักงานแผนกประมงคนหนึงปรีมาหาโซจิโร่ดว้ ยสีหน้า
ซีดเผือด

94
ตอนที 1-7 รถไฟขบวนแรกหลังเลิกงาน

95
“บริษัทอาหารฮิโนโมโตะตีคืนกุง้ กุลาดําจากไทยทังหมด
ครับ บอกว่าใช้ไม่ได้”

“อะไรนะ!”

บริษัทอาหารฮิโนโมโตะคือบริษัททีกําลังขยายเครือข่าย
ร้านซูชิสายพานไปทัวประเทศ

เขารุดไปห้องเย็นกับพนักงานในแผนกทันที

เมือเห็นเลือดแผ่วงกว้างอยูต่ อ่ หน้าต่อตาขณะสวมเสือ
โค้ทกันหนาวก็ได้แต่หนักใจ
96
สินค้าทีเรียงรายแตกต่างจากทีเห็นในคลังสินค้าท่าเรือ
แหลมฉบังมาก

ตังแต่การบรรจุกล่องกระดาษทีผิดแผก ยิงไปกว่านันยัง
ดูเหมือนว่าจะขนส่งอย่างหนักมือจนมุมกล่องบุบบีไป
หลายใบ

เมือลองเปิ ดดูขา้ งในก็พบร่องรอยของการละลายสลับ


แข็งตัวซําๆ อย่างชัดเจน

แสดงว่าถูกวางทิงไว้นอกห้องเย็นหลายชัวโมง

97
เมือโทร.หาบริษัททีประเทศไทยก็มีแต่เสียงเรียกเข้า ไม่มี
คนรับ

ทังยังติดต่อหัวหน้าแผนกอินางากิทีน่าจะยังพักรักษาตัว
อยูใ่ นโรงพยาบาลทีเอฮิเมะไม่ได้ แต่กลับพบคําร้องขอ
เกษี ยณอายุเนืองจากเจ็บป่ วยเป็ นลายลักษณ์อกั ษรของ
เขาส่งมา

อันทีจริงหัวหน้าแผนกซึงใช้ภาษาไทยคล่องแคล่วเป็ นผู้
เดียวทีกําหนดว่าจะบุกเบิกพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่

ทีแม้จะเพิงเริมเป็ นคูค่ า้ กัน แต่กลับมีปริมาณการสังซือ


สูงผิดปกติ

98
อีกทังยังประหลาดตรงทีไม่มีพนักงานรับผิดชอบแม้แม้
แต่คนเดียว ทังทีเป็ นลูกค้ารายใหม่

เขารูส้ กึ หมดหวัง

ไม่มนใจว่
ั าสิงทีเห็นในห้องเย็นเมือครูค่ ืออะไรกันแน่

แล้วสถานทีทีไปตรวจสอบครังก่อนนันคือทีไหน ใช่ทา่
เรือแหลมฉบังจริงหรือเปล่า

รถของผูช้ ายคนนันไปไหนมาบ้าง เขาไม่รูแ้ ม้แต่ชือสถาน


ที
99
นีเขาลงชือตรวจรับของทีผิดแผกในสถานทีทีผิดพลาด
สินะ

เนืองจากเป็ นงานแรกทีไม่คนุ้ เคย จึงรูเ้ พียงว่าต้องตรวจ


สอบคุณภาพสินค้า ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่าสิงทีตรวจสอบ
จะใช่สนิ ค้าทีจัดส่งหรือไม่

เขาเขียนบิลจัดส่งห้องเย็นด้วยตัวเอง แล้วยังต้องมา
เขียนบิลสําหรับบริษัทกําจัดขยะและลงนามเองอีก

น่าละอายจริงๆ

100
ความสําเร็จทีเพียรสร้างมาจนถึงวันนีพังครืน

ในเมือเขาคือผูร้ บั ผิดชอบแผนกประมงจึงไร้ทางออก

รูปถ่ายกับทอมระหว่างมืออาหารเพียงรูปเดียวทีมีถ่าย
โดยพนักงานเสิรฟ์

เขาบอกว่า “จะแนบตามมาทางอีเมล” แต่มนั ไม่เคยมา


ถึง

ครึงปี ตอ่ มาเขาจึงตัดสินใจลาออกจากบริษัท

บ่อยไปทีบริษัทการค้าจะขาดทุนสักสีสิบล้านเยน จึงไม่
101
มีใครบีบบังคับให้เขาลาออกเพราะความผิดพลาด

บริษัทค้าขายเหมาะกับเขามาตลอด

เขามันใจในฝี มือด้านทรัพยากรแร่ธาตุวา่ มีประสบการณ์


สังสมเป็ นอย่างดี

ทว่าเขารับตัวเองไม่ได้ทีทํางานใหม่ผิดพลาดไปได้ถงึ
เพียงนัน

เขาห่อเ**◌่ ยวถึงขันฝื นตืนตอนเช้าไม่ไหว ทังทีตาสว่าง


แต่กลับลุกไม่ขนึ กว่าจะโทร.ไปลางานทีบริษัทได้ก็เลย
เทียง
102
รูส้ กึ เหนือยล้าจนคิดว่าอาจจะเป็ นโรคหัวใจ แต่ก็ยงั
คร้านเกินกว่าจะลุกไปหาหมอ

เขาทุม่ เทชีวิตด้วยความตังใจทีจะเป็ นนักธุรกิจชันยอด


แต่ยามนีกลับเฉือยชา

ขาดแม้แต่คณ
ุ สมบัติพืนฐานในการเป็ นพนักงานบริษัท
จนรับตัวเองแทบไม่ไหว

เหมือนกับเด็กทีปล่อยวางความล้มเหลวไม่ได้ ไม่วา่
อย่างไรก็แข็งใจไม่สาํ เร็จ

103
เขาเผลอหวนคิดเรืองเก่าๆ ระหว่างรอรถไฟขบวนแรกที
ไอด้า

ช่วงสูงสุดของชีวิตได้ผา่ นพ้นไปแล้ว

โซจิโร่ถอนหายใจ

บางครังเขาก็นกึ เสียใจว่าควรจะแต่งงานเสียตังแต่สมัย
ยังทํางานบริษัทค้าขาย

แต่เอาจริงๆ ตอนนันแม้จะมีความรักก็ไม่ได้คิดเรืองแต่ง
งานสักเท่าไร ไม่เคยแม้แต่จะคิดอยากมีภรรยาด้วยซํา

104
ไม่ทนั การณ์เสียละ คงไม่มีผหู้ ญิงคนไหนอยากแต่งงาน
กับผูช้ ายอายุเกินหกสิบจนๆ แบบนีหรอก

เขาลุกขึนไปรินนําใส่แก้ว

ระหว่างรอให้นาเต็
ํ มแก้ว เขาทอดสายตามองพืนตรงตู้
กดนําข้างเคาน์เตอร์

เห็นชายชาวไนจีเรียคนหนึงทีเก้าอีด้านหลังกําลังนังคอ
ตก ทําให้ผชู้ ายทีปกติน่าจะมีรูปร่างสูงใหญ่ดตู วั เล็กลง
ไปเลย

พอนําเต็มเขากะจะกลับไปนังทีก็พอดีกบั ประตูอตั โนมัติ


105
เปิ ดออก

ชาวไนจีเรียอีกคนหันขวับไปมองหญิงสาวทีเดินเข้ามา
แล้วเมินไปอีกทาง ทํานองว่าจําผิดคน

คนทีเดินเข้าร้านมาเป็ นหญิงสาวอายุราวยีสิบกลางๆ น่า


จะมาร้านนีเป็ นครังแรก

เธอสะพายกีตาร์ยืนอยูต่ รงประตูดว้ ยสีหน้ากังวล แล้ว


เปลียนเป็ นโล่งอกทันควันเมือเจอทีวางกีตาร์

คงจะเป็ นนักดนตรีจากไลฟ์ เฮ้าส์ในชินจูกซุ งมี


ึ จาํ นวน
มาก
106
เมือโซจิโร่เดินผ่านเธอเพือกลับไปนังที ประตูก็เปิ ดออก
อีกครัง

คราวนีเป็ นหญิงสาวอีกคนเดินเข้ามา

เธอยืนกวาดตามองรอบร้านก่อนส่งเสียงดัง

“ทอมมี! ไอ้คนโกหก”

คนทังร้านมองเธอทีตะโกนภาษาอังกฤษดังสนันเป็ นตา
เดียว

107
เธอไว้ผมบ๊อบสีนาตาลแดงตั
ํ ดแต่งได้รูป สวมเสือแขน
กุด สร้อยติดคอสีดาํ และกางเกงเข้ารูป

“นาโอโกะ!”

ชาวมาโกโกจากไนจีเรียผุดลุกขึน

“คุณมาทีนีทําไม?”

หญิงสาวเดินตรงไปหาสองหนุ่มด้วยท่าทางขึงขัง

108
เสียงจ้อกแจ้กในร้านพลันเงียบกริบลงราวกับปิ ดประตู
กันเสียง

“เพือนนายทีนังอยูข่ า้ งๆ เป็ นคนบอกฉัน”

เขาเหลือบมองข้างๆ ก่อนจะหันมาจ้องหญิงสาวทีปรีเข้า
มา

“ไอ้คนโกหก!”

หญิงสาวทีตอนนีมายืนตรงหน้าชายหนุ่มแล้วยังคง
ตะโกนคําเดียวกับตอนอยูห่ น้าประตู ทว่าครังนีเปลียน
มาพูดเสียงค่อยลง
109
เขายังคงจ้องมองเธอ

“ไอ้คนโกหก”

คราวนีเสียงเธอขาดห้วง

เขายังนิงเงียบ

“ทําไมถึงโกหกว่าเป็ นคนอเมริกนั ”

110
เกิดทีฮาร์เล็มนิวยอร์ก...

ตลอดหนึงปี ทีคบกันมาทําไมไม่เคยบอกว่าฉันเข้าใจผิด

ทําไมถึงสวมเสือยืดโรงภาพยนตร์อพอลโล ทังทีไม่เคย
แม้แต่ไปนิวยอร์กหรือฮาร์เล็มเลยสักครัง

ทําไมถึงพูดเรืองไร้สาระอย่างถนนสายหนึงร้อยยีสิบห้า
ตะวันตก ด็อกเตอร์ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ บูเลอวาร์
ด หรือร้านแก๊ปกับบานานารีพบั ลิกมักจะหันหน้าเข้าหา
กัน

111
สักวันเราจะไปฮาร์เล็ม เราจะกินข้าวทีเรดล็อบสเตอร์ที
อยูต่ ิดกับโรงภาพยนตร์อพอลโลด้วยกัน

ใช้คอมพิวเตอร์ของฉันดูกเู กิลสตรีทวิวด้วยกัน

พอเลียวหัวมุมแล้วเดินตรงไปเรือยๆ จะถึงอพาร์ตเมนต์
บนถนนสายหนึงร้อยสามสิบเจ็ดตะวันตก

ผมเกิดบนชันสองของอพาร์ตเมนต์นี

112
113
ตอนที 1-8 รถไฟขบวนแรกหลังเลิกงาน

พูดบ้าอะไร

ทําไมถึงกุเรืองพวกนี

ฉันรูม้ าตลอดนะ

รูม้ าตลอดว่านายเป็ นคนไนจีเรีย

หาดูแล้วด้วยว่ามีเรดล็อบสเตอร์ในเลกอสหรือเปล่า

114
ฉันรูแ้ ก่ใจดีวา่ สักวันนายจะกลับประเทศ

ไม่ใช่สหรัฐอเมริกา แต่เป็ นสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย

ถึงได้หาข้อมูลเกียวกับประเทศของนาย

ว่าฉันจะอาศัยอยูใ่ นประเทศของนายได้ไหม

จะตัดสินใจย้ายไปด้วยกันได้ไหม

ทอมมี ฉันเฝ้าครุน่ คิดว่าหากวันไหนนายเกิดบอกว่าผม


เป็ นชาวไนจีเรีย อยากชวนนาโอโกะกลับไปไนจีเรียด้วย

115
กัน

จะตอบว่า “ฉันจะไปด้วย” ดีไหม

ฉันใคร่ครวญซําแล้วซําอีก

แต่...แต่ก็ตดั สินใจไม่ได้

ตัดสินใจไม่ได้หรอก

เพราะแก ไอ้คนปลินปล้อน ห่วยแตก สวมเสือยืดโรงละ


ครอพอลโลเหมือนจะบอกว่า “ฉันเกิดทีนิวยอร์ก”

116
แถมยังพูดแบบนันไม่เลิกรา

คิดจะทําอะไร

ตังใจจะทําอะไรหรือ

“บ้านของนายไม่ได้อยูบ่ นถนนเลขทีหนึงร้อยสามสิบเจ็ด
ตะวันตก”

117
บรรยากาศเงียบกริบในร้านค่อยๆ ผ่อนคลาย

เมือหันไปมองหญิงสาวทีซุกอกชายร่างบึกบึนแล้วร้องไห้
อยูเ่ งียบๆ ทําให้ได้พบว่าเธอตัวเล็กนิดเดียว

ใกล้เวลาทีรถไฟขบวนแรกจะออกจากสถานีแล้ว

ลูกค้าในร้านต่างม้วนทิชชู เก็บแก้วกาแฟทีนําแข็ง
ละลายจนกลายเป็ นนําใส่ถาด เพือเตรียมตัวออก
จากร้าน

โซจิโร่เปิ ดปาก “ฉันเคยไปมาโกโกนะ”

118
ชายทีนังอยูข่ า้ งๆ เงยหน้าขึนมองอย่างประหลาดใจ ที
จู่ๆ ก็มีคนพูดภาษาอังกฤษด้วย

“ฉันมีเพือนทีเกิดทีมาโกโก เขาพยายามหางานทํา ซือ


บ้านในเขตอะรากาและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”

ก่อนทีอีกฝ่ ายจะทันพูดอะไร โซจิโร่ก็ลกุ ไปคืนถาด


แล้วออกจากร้านไป

ด้านนอกเริมสว่างแล้ว

เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทําไมจู่ๆ ถึงเล่าเรืองอเมนยาให้ชาว
ไนจีเรียสองคนนันฟั ง
119
รูเ้ พียงแค่อยากจะพูดอะไรสักหน่อย

คนออกันอยูบ่ นทางเท้าทันทีทีสัญญาณไฟข้ามถนนยาสุ
กุนิเปลียนเป็ นสีแดง

เมือได้เวลา ผูค้ นทีเฝ้าคอยรถไฟขบวนแรกตามสถานที


ต่างๆ กรูกนั ออกมาอย่างพร้อมเพรียงจากทุกทิศทุกทาง
ราวกับกําลังมุง่ หน้าไปแสวงบุญ

ทีชินจูกผุ คู้ นจะพากันมุง่ หน้าไปยังสถานีวนั ละสองครัง


คือตอนรถไฟขบวนสุดท้ายและขบวนแรกจะออก

120
โดยเฉพาะอย่างยิงขบวนแรก เหมือนยิงไปถึงก่อนเวลาก็
จะยิงได้บญ
ุ อะไรทํานองนัน

มีทงคนที
ั ดืมมากเกินไปและคนทีนอนไม่พอ บางครังก็
ทังสองกลุม่ คนเหล่านีแทบจะไม่มีใครปริปากเพราะต่าง
อยากจะล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ เต็มแก่

ราวห้าชัวโมงก่อนเขาเพิงเดินสวนกระแสผูค้ น แต่ตอนนี
กําลังไหลตามคนเหล่านันไป

เมืองทีเคยสว่างไสว กลับมืดสนิทจนต้องกลันใจ

ภายใต้ไฟถนนทีดับลงมีถงุ ขยะกองสุมรอเก็บ
121
อีกาตัวหนึงร่อนลงจิกถุงบนทางเท้า

มีกระป๋ องเบียร์และชูไฮเรียงรายหน้าประตูมว้ นกันบันได


ลงใต้ดินซึงงับไว้

คนทีแกะสลักเปิ ดกระป๋ องเหล่านีน่าจะเป็ นคูช่ ายหญิง


หรือชายทังคู่

ตอนนีพวกเขาอยูท่ ีไหน ทําอะไรกันอยูห่ นอ

เสียงรถเก็บขยะดังมาจากทีไหนสักแห่ง พร้อมเสียงเพลง
ทีดังซ้อนขึนมา
122
"เพลง" ทีดังแบบขาดๆ หายๆ เหมือนเคยได้ยินจากที
ไหนสักแห่ง

คุณยากามิหรือ

น่าจะเป็ นเพลงทีได้ยินตอนเก็บกวาดห้องเจ็ดศูนย์หนึง

เป็ นเพลงทีขาดเป็ นห้วงๆ แบบเดียวกัน ซึงมาดังซําอีก


ครังในยามนี

เมือลองหยุดเดินเสียงนันก็ยงเข้
ิ ามาใกล้ แต่พอหันไป
มองกลับไม่เห็นเจออะไรเข้าเค้า
123
ขณะกําลังคิด เขาก็เห็นเงาคนโผล่มาจากทางแยก

คุณยากามิจริงเสียด้วย

เธอไม่สงั เกตเห็นเขาทีหยุดยืนอยู่ กลับเดินผ่านไปด้วย


ท่าทางเบิกบาน

“ชาย...ทีเคย...”

เธอเผลอฮัมเพลงออกมา

124
ใช่แน่ๆ จังหวะทีหายใจเพลงจะขาดห้วง เพลงนันยังดัง
ต่อเนืองในความคิด ทว่าคนอืนกลับไม่ได้ยิน

เมือผ่อนลมหายใจก็ยงั ได้ยินเพลงดังต่อไป

“รัก...เป็ น...ทรงจํา”

เขารูจ้ กั เพลงนี

เคยได้ยินเพลงนีด้วยซํา

ในห้วงความคิดของโซจิโร่ จิกซอว์เริมปะติดปะต่อกัน

125
เป็ นรูปร่าง

เพลงชุดนักเรียนหญิงกับปื นกล ของฮิโรโกะ ยากุชิมารุ

เธอร้องเฉพาะท่อนฮุคซําๆ

เขารูส้ กึ คันไม้คนั มือ

“อรุณสวัสดิครับ” เขาเอ่ยพลางเดินไปวางมือลงบนไหล่
ทังสองของเธอ

“ว้าย” เธออุทานเสียงเบา

126
“คุณชิมิส!ึ ”

“อรุณสวัสดิครับ”

“อรุณสวัสดิอะไรกัน ตกใจหมดเลย”

“ได้ยินเสียงฮัมเพลงเลยคิดว่าคุณอารมณ์ดีจงั ”

“เอ๊ะ ฉันฮัมเพลงเหรอ”

“ใช่แล้ว คุณฮัมเพลงของฮิโรโกะ ยากุชิมารุ"

127
“คะ จริงเหรอ ฉันเนียนะร้องเพลง แปลกจริง”

“ตัวเองฮัมเพลงเองแท้ๆ”

“จริงเหรอเนีย”

“ทีโรงแรมคุณก็ฮมั เพลงนะ แต่แค่ครูเ่ ดียว มีเรืองอะไรดีๆ


ละสิ”

“ค่ะ เรืองดีมากๆ คือ เย็นนี...ฉันจะได้พบลูกชายน่ะ”

128
คุณยากามิทาํ หน้าสลดลงแวบหนึง

“ไม่ได้อยูด่ ว้ ยกันสินะ”

“พอเรียนจบมัธยมปลายเขาก็ออกจากบ้านไป”

เขาเสียใจทีได้ฟังเรืองทีไม่ควรได้ยิน แต่คณ
ุ ยากามิกลับ
หัวเราะ

ใช่ คุณยากามิหวั เราะ

คุณยากามิผมู้ ีรอยยิมพิมพ์ใจกําลังหัวเราะ

129
“ขืนมัวยืนคุยกันแบบนีจะตกรถไฟนะ”

“สบายมาก เพราะนีไม่ใช่รถไฟขบวนสุดท้าย หลังจาก


รถไฟขบวนแรกก็เลยมีขบวนถัดไป”

ก็จริงอยู่

“คุณยากามิกินข้าวเช้าด้วยกันไหม”

เขาลองรวบรวมความกล้าเอ่ยปากชวน

130
“ได้สิ แหม วันนีเป็ นวันดีหลายเรืองเลย”

พอได้ยินคําว่าวันดีหลายเรือง เขาก็อนุ่ ใจ

พอข้ามถนนยาสุกนุ ิ แล้วเดินตามทางไปยังสถานีรถไฟ
พบว่ายังไม่มีรา้ นไหนเปิ ดเลย

ทว่ามองไปทางฝังคาบูกิโจมีรา้ นอาหารแนวครอบครัว
ตังอยู่

อีกครังทีเขาหันหลังให้สถานี สวนกระแสผูค้ นทีหลังไหล


ไปขึนรถไฟ

131
แต่ละคนทีเดินสวนมาล้วนมีใบหน้าอ่อนล้า ทว่าสองคน
ทีเดินสวนกระแสกลับดูกระปรีกระเปร่า

ตีหา้ แล้ว สําหรับคนสองคนทีทํางานกลางคืน จากนีคือ


เวลาหลังเลิกงาน

เป็ นเช้าทีชายหญิง พนักงานของเลิฟโฮเต็ล ซึงทํางานมา


จนถึงสองชัวโมงก่อนจะได้กินอาหารเช้ากันสองต่อสอง

เขาสูดกลินอากาศยามเช้าทีเจือกลินสเปรย์ดบั กลินเบา
บางเข้าปอดลึกๆ ระหว่างรอสัญญาณไฟ

132

You might also like