Professional Documents
Culture Documents
หัวใจอุ่นรักในวันหนาว ญดา
หัวใจอุ่นรักในวันหนาว ญดา
ญดา
เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ 978-616-7419-30-5
พิมพ์ครั้งที่ 1 เดือนมิถุนายน 2555
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแห่งชาติ
ญดา.
หัวใจอุ่นรักในวันหนาว.-- กรุงเทพฯ : บาลานซ์, 2555.
320 หน้า.
1. นวนิยายไทย. I. ชื่อเรื่อง.
895.913
ISBN 978-616-7419-30-5
บรรณาธิการ ทีมงาน MyRose
ศิลปกรรม Vicentee
ออกแบบปก 2mindspace
พิสูจน์อักษร Phai • Moto_ji
จัดทำโดย สำนักพิมพ์ มายโรส บริษัท บาลานซ์ พับลิชชิ่ง จำกัด
3/559
จะเอาอะไรกับเด็กอายุแค่นี้ที่ยังต้องเรียนรู้อีกมากมาย
เมื่อคิดได้ดังนั้นละมุนมาศก็จัดการกับตัวเองทันที เมื่อรู้ว่าคนตัวเล็ก
กำลังหิว ไม่ถึงห้านาทีร่างสูงแบบบางที่สูงเลยร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร
เล็กน้อย ในชุดกางเกงนอนตัวยาวกับเสื้อยืดตัวโคร่งทีส่ ีของมันซีดจนหาสี
ดั้งเดิมไม่เจอ ผมยาวสลวยถึงกลางหลังที่เจ้าตัวแค่รัดเอาไว้ลวก ๆ ออก
มาจากห้องนํ้า ก็พบว่าคนทีบ่ อกว่าหิว นั่งดูโทรทัศน์บนโซฟาตัวยาวกำลัง
หัวเราะ ทั้งลุ้นทั้งเชียร์การ์ตูนทอมแอนด์เจอร์รี่ (Tom & Jerry -
การ์ตูนทีวีซีรีสอ์ อกอากาศในสหรัฐอเมริกา) และทันทีที่ได้ยินเสียงเปิด
ประตูออกมาจากห้องนอน ร่างเล็ก ๆ นั้นหันมาหาพร้อม ยิ้มให้
“มามี้เสร็จแล้วหรือคะ”
“อือฮึ ฟีคิดออกหรือยังคะว่าอยากกินอะไรเช้านี้”
“แพนเค้กได้ไหมคะมามี้” ภาษาไทยชัดเจนพร้อมยิ้มหวานประจบบน
ใบหน้าเล็ก ๆ ทีบ่ างใสจนเป็นสีชมพู ผมที่ออกสีนํ้าตาลอ่อน ๆ ออกทาง
ฝรั่งมากกว่าไทย
“ได้ค่ะ งั้นมาช่วยมามี้ทำดีกว่าจะได้เสร็จเร็ว ๆ”
ร่างเล็ก ๆ ปิดโทรทัศน์แล้ววิ่งตามหลังละมุนมาศเข้าไปในครัวอย่าง
รวดเร็ว
“ฟีจะตอกไข่นะคะมามี้”
“ได้ค่ะ แต่ระวังอย่าให้เปลือกไข่ตกลงไปในนั้นนะคะ”
11/559
เกลียดชีวิตบ้านนอก เกลียดการทำไร่ทำนาที่ต้องตากแดดหน้าดำทั้งวันก็
เลยหนีไป ทิ้งหล่อนเอาไว้กับบิดา
จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อละมุนมาศอายุได้เก้าขวบเศษ มารดาก็กลับมา
พร้อมกับมาขอหล่อนไปเลี้ยง โดยให้เหตุผลกับบิดาว่าต้องการให้หล่อน
สบาย ได้เรียนดี ๆ เพราะว่ามารดาได้แต่งงานใหม่กับชายสูงวัยชาว
อเมริกันที่เป็นวิศวกรบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งส่งเขาไปทำงานที่เมืองไทยเลยได้
เจอกับมารดา แล้วก็รักกันและแต่งงานกัน
บิดาก็อนุญาต เพราะเห็นว่าเป็นอนาคตทีด่ ีของลูกสาว หลังจากนั้น
มารดาก็ให้หล่อนเข้าโรงเรียนนานาชาติหรูหรา ชีวิตทีพ่ ลิกผันจากโรงเรียน
บ้านนอกไปเรียนโรงเรียนนานาชาติ ทำให้ละมุนมาศปรับตัวได้ไม่ดีนัก อีก
ทั้งได้รับการดูถูกเหยียดหยาม ลูกเมียเช่าบ้าง ลูกผู้หญิงหากินบ้าง ลูกฝรั่ง
ขี้นกบ้าง และอีกสารพัดคำพูดเจ็บแสบที่ได้รับจากเพื่อน ๆ แต่ละมุนมาศ
ไม่เคยสนใจ ก้มหน้าก้มตาเรียนหนังสืออย่างมุ่งมั่น
ปีถัดมามิสเตอร์เดอเรคผู้เป็นบิดาเลี้ยงก็ได้รับคำสั่งให้ไปทำงานใน
ประเทศแถบตะวันออกกลาง ละมุนมาศและมารดาก็ได้ติดตามไปด้วย
และย้ายไปอีกในหลายประเทศตามคำสั่งของทางบริษัท ในขณะทีล่ ะมุน
มาศกำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติทปี่ ระเทศโอมาน บิดาที่เมืองไทย
ก็ได้เสียชีวิตลง
ชีวิตที่ขาดบิดาทำให้มิสเตอร์เดอเรคดูแลลูกสาวของภรรยาอย่าง
ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ความที่เป็นเด็กน่ารัก ตั้งใจเรียน ทำงานทุกอย่างในบ้าน
14/559
เพื่อนคนไทยที่คบหากันรับรู้ความรํ่ารวยนี้ ก็ขนานนามให้มารดาของ
หล่อนว่าม่ายเศรษฐีนี ซึ่งมารดาก็ยิ้มรับอย่างหน้าชื่นตาบาน ทั้งที่รวู้ ่าหลาย
คนต่อหน้าชื่นชมแต่ลับหลังนินทา แต่มารดาของหล่อนก็ไม่สนใจ บอก
แต่ว่า
“ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ พวกนั้นก็แค่อิจฉาที่ฉันมีเงิน เงินของฉัน
ชีวิตก็ของฉัน แกไม่ต้องคิดมากแทนฉันหรอก ก้มหน้าก้มตาเรียนของแก
ไป”
การมีเงินผ่านมือเข้ามามากมายอย่างไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต ทำให้
มารดาของหล่อนขาดความยั้งคิด หลงระเริง เพลิดเพลินไปกับการป้อยอ
เอาอกเอาใจจากเพื่อนฝูง แต่ละมุนมาศก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ไม่
แม้แต่จะบอกกล่าวหรือว่าเตือนสติ เพราะสองสามครั้งที่หล่อนพูดเตือน
อ้อม ๆ มารดาก็บอกว่า
“ฉันเป็นแม่ ฉันรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แกเป็นลูกก็อยูส่ ่วนของแกไป
ถ้ารักดีก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือ พ่อแกก็ให้เงินไว้แล้ว อย่ามายุ่งกับชีวิต
ของฉัน”
นั่นทำให้ละมุนมาศเก็บปากเก็บคำเสมอมา
2
อดีตที่ยังหลงเหลือในความทรงจำ
ละมุนมาศนึกถึงใบหน้าที่สดใสสวยงามของมารดา ที่ได้รับการ
ตกแต่งเป็นอย่างดีจากเครื่องสำอางราคาแพงลิบลิ่วยี่ห้อดัง กับ
เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับมีค่าหรูหรา ที่เดินกลับเข้ามาในบ้าน
พร้อมหอบหิ้วของเต็มสองไม้สองมือ
“นี่มูน” มารดาเรียกหล่อนว่า ‘มูน’ ตามบิดาเลี้ยง ด้วยเหตุผลทีว่ ่า
มันเพราะกว่า ทันสมัยกว่าคำว่า ‘มุน’
“ฉันซื้อของมาให้แก หัดแต่งตัวให้สมกับเป็นลูกของคุณนายละมุด
หน่อยสิ แต่งตัวซอมซ่อเหลือเกินแกนี่” มารดาว่าหล่อน พร้อมกับยื่นถุง
กระดาษที่ระบุยี่ห้อดังให้สามถุง
“อะ”
“ขอบคุณค่ะแม่” ละมุนมาศเปิดดูของในถุง เห็นแล้วก็นึกดีใจที่
มารดายังคิดถึงหล่อน
17/559
เลิกรากันไป มารดาของหล่อนก็จะหายหน้าไปอีกหลายวันกว่าจะกลับเข้า
มาอีกที
บางครั้งละมุนมาศนึกอยากจะถามมารดาว่าเป็นห่วงหล่อนบ้าง
หรือเปล่า ทิ้งหล่อนเอาไว้คนเดียวอย่างนี้ แต่ก่อนที่มบี ิดาเลี้ยงอยู่ หล่อนก็
ยังไม่รู้สึกเหงา แต่พอท่านจากไป ละมุนมาศก็รู้สึกถึงความเหงา แต่หล่อน
ก็โตเกินกว่าที่จะร้องขอให้มารดาอยูบ่ ้านด้วย เพราะเคยขอเมื่อครั้งบิดา
เลี้ยงเสียชีวิตใหม่ ๆ มารดาก็บอกว่า
“แกโตแล้ว ไม่ใช่เด็ก ๆ ซะเมื่อไร”
ละมุนมาศนึกค้านอยู่ในใจ ไม่กล้าทีจ่ ะปริปากออกมาว่าถึงแม้หล่อน
จะโต แค่ไหน ก็ยังต้องการความอบอุ่นจากแม่อยูด่ ี หล่อนไม่ได้ต้องการ
ให้มารดาทำอะไรให้ทุกอย่าง แค่ต้องการให้อยูด่ ้วยใกล้ ๆ ทานอาหาร
ด้วยกัน ทำนั่นทำนีด่ ้วยกันเหมือนแม่ของเพื่อน ๆ ก็เท่านั้น แต่มันไม่เคย
เกิดขึ้นเลยสักครั้ง
หลายครั้งที่เจอหน้านึกอยากทวงมารดา เรื่องที่เคยบอกว่าจะพาไป
ไหว้ บิดาเลี้ยงที่หลุมฝังศพ แต่ก็ไม่กล้า กลัวมารดาจะปฏิเสธ
ดวงตาคูห่ วานมองคนตัวเล็กที่นั่งทานอาหารอยู่ ใบหน้าสดใส
ยิ้มแย้มไม่เคยเกิดขึ้นกับหล่อนเลยสักครั้งที่ได้อยู่กับมารดา
“มามี้ มามี้ มีอะไรหรือเปล่า ทำไมจ้องหน้าฟีอย่างนั้นค้า”
เสียงเรียกของคนตรงหน้าทำให้ละมุนมาศรู้สึกตัว
20/559
คิดถึงในวันที่ต้องไปโรงเรียน หล่อนจะตื่นแต่เช้าอาบนํ้าแต่งตัว หา
อาหารกินเองง่าย ๆ แล้วก็ไปโรงเรียน ที่โรงเรียนบิดาเลี้ยงจ่ายเงินค่า
อาหารกลางวันกับทางโรงเรียนให้แล้ว ตอนเย็นก็พยายามทำอาหาร
อเมริกันง่าย ๆ ทานกับบิดาเลี้ยง หรือไม่ผู้เป็นมารดาก็จะสั่งอาหารจาก
ร้านอาหารมาให้แทน เพราะว่ามารดาชอบที่จะไปเข้ากลุ่มกับบรรดาเพื่อน
ๆ บิดาเลี้ยงก็รู้แต่ท่านก็ไม่เคยว่าอะไร หรือว่าแล้วแต่มารดาไม่ฟังก็ไม่รไู้ ด้
และตั้งแต่ทบี่ ิดาเลี้ยงเสียชีวิต ก็ทิ้งมรดกไว้ให้มากมาย มารดาก็ยิ่งเล่น
หนัก ขึ้นทุกที จนบางครั้งหล่อนแทบจะไม่เห็นหน้ามารดาเลยก็ว่าได้
หล่อนหลับมารดา ตื่น หล่อนตื่นบางทีมารดายังไม่กลับเข้าบ้าน หรือไม่ก็
กลับเข้าบ้านในตอนดึก ๆ ช่วงหลัง ๆ มาพร้อมกับคู่ควง ซึ่งก็มีทั้งคนไทย
และคนต่างชาติไม่ซํ้าหน้า
หลังจากเรียนจบมัธยมปลาย ละมุนมาศก็เลือกไปเรียนต่อที่
มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ไปอยูห่ อพักที่นั่น หล่อนไม่รวู้ ่า
มารดาจะคิดถึงและเป็นห่วงหล่อนบ้างหรือเปล่า หรือว่าโล่งใจที่หล่อนออก
มาดูแลตัวเองได้ ความสัมพันธ์ฉันแม่ลูกยิ่งห่างเหินกันมากขึ้น ละมุนมาศ
รู้ว่ามารดาใช้ชีวิตแบบไหน ก็ได้แต่หวังว่ามารดาจะมีความสุข
ในขณะที่เรียนมหาวิทยาลัยปีสอง ละมุนมาศก็ได้รับข่าวจากมารดาที่
โทรศัพท์มาบอกว่าจะย้ายไปอยู่ลาสเวกัสกับแฟนใหม่ที่ตกลงปลงใจจะใช้
ชีวิตร่วมกัน ละมุนมาศก็ได้แต่อึ้ง แต่ไม่ได้ทัดทานอะไร เพราะรูว้ ่าสิ่งที่
มารดาตัดสินใจ หล่อนไม่สามารถทีจ่ ะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และสุดท้าย
22/559
ละมุนมาศก็ได้แต่อวยพรให้มารดามีความสุข และตัวเองก็ตั้งหน้าตั้งตา
เรียนหนังสือ พร้อมทั้งใช้เงินอย่างประหยัด รู้ค่าของเงิน ทั้ง ๆ ที่บิดา
เลี้ยงก็ให้เงินไว้มากเกินพอสำหรับการเรียนจนจบปริญญาตรี
แต่ละมุนมาศก็ยังอยากที่จะมีเงินเก็บเอาไว้มาก ๆ ด้วยการทำงาน
พิเศษ ทำงานทุกอย่างที่มีเวลาว่าง ตั้งแต่ร้านกาแฟ ร้านขายหนังสือ ร้าน
อาหารจีน เป็นพนักงานจูงสุนัขเดินออกกำลังกาย โดยเฉพาะช่วงปิดเทอม
ฤดูร้อน หล่อนจะทำงานเก็บเงินเต็มที่เลยทีเดียว
หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ข่าวจากมารดา หลายครั้งที่ละมุนมาศโทร. ไป
หา แต่กไ็ ม่เคยได้พูดคุยกัน ทำได้แค่ฝากข้อความเอาไว้ แต่มารดาของ
หล่อนก็ไม่เคยโทร. กลับมา ทุกอย่างหายไปกับสายลมและกาลเวลา
ก่อนจะเรียนจบปริญญาตรี ละมุนมาศได้กลับมาที่บ้านซึ่งเคยเป็น
ของ บิดาเลี้ยงทีห่ ล่อนเคยอาศัยอยู่พบว่าเปลี่ยนเจ้าของใหม่ ละมุนมาศจึง
ได้รับรู้ว่ามารดาของหล่อนขายบ้านหลังนั้นไปแล้ว หล่อนรู้สึกเคว้งคว้างแต่
ไม่หมดปัญญา หล่อนบอกกับตัวเองว่าต้องอยูด่ ้วยตัวเองให้ได้ ตั้งใจเรียน
และก็ต้องหางานทำเพื่อเลี้ยงตัวเอง
หลังจากทีเ่ รียนจบแล้ว ละมุนมาศก็ยื่นใบสมัครงานไปยังหลาย
บริษัทใน รัฐนิวเจอร์ซีย์และได้รับการตอบรับ หล่อนเลือกบริษัทที่ตอบรับ
เป็นแห่งแรกซึ่งอยู่ทางชายฝั่งแอตแลนติกซิตี และได้ทำงานในสาขาที่ได้
เล่าเรียนมา นั่นคือ ทางด้านการเงิน ให้กับคลินิกแพทย์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็น
23/559
“ขอบคุณค่ะเด็กดี” ละมุนมาศกดริมฝีปากกับเรือนผมนุ่มนั้นแรง ๆ
ก่อนจะปล่อยคนตัวเล็กออกจากอ้อมกอด ลุกขึ้นจากเก้าอี้
“วันนี้มามี้ไปทำงานหรือเปล่าคะ”
“ไปตอนเย็นค่ะ แต่ตอนนี้มามี้ต้องทำงานบ้าน ทำความสะอาดครัว
ซักผ้าก่อนค่ะ” ละมุนมาศพูดไม่ทันจบคนตัวเล็กก็พูดขึ้นทันทีว่า
“ฟีช่วยค่ะ แล้วตอนเย็นฟีก็ต้องไปอยูก่ ับมิสซิสลี” คำพูดนั้นทำให้
ละมุนมาศยิ้มกว้างอย่างดีใจที่อีกคนเข้าใจ
“ถูกต้องแล้วค่ะ แต่พรุ่งนี้มามี้อยูบ่ ้านทั้งวัน เราจะหาอะไรทำด้วย
กัน”
“เราไปกินแมคโดนัลด์กันได้ไหมคะ แล้วก็ไปเล่นที่สนามเด็กเล่น
ฟีจะปั่นจักรยานไปได้ไหมคะมามี้” คำอ้อน ๆ พร้อมกับดวงตาสีฟ้าออก
เทา ๆ นั้นเงยขึ้นสบตา ละมุนมาศยิ้มให้คนตัวเล็ก
“ค่ะ”
“แล้วคารีนาจะมาเล่นกับฟีหรือเปล่าคะมามี้”
“เอ่อ อันนี้ไม่ทราบค่ะ มามี้ก็อยากเจอคุณยายเหมือนกัน ไม่ได้เจอ
มาหลายอาทิตย์แล้ว”
“เพี้ยง ขอให้คารีนามา ฟีจะได้มเี พื่อนเล่น” ละมุนมาศได้แต่ยิ้มให้
กับคนตัวเล็ก ที่ยกมือขึ้นพนมขอให้เพื่อนคนสนิทมาเล่นด้วย
25/559
“ฟีช่วยมามี้หน่อยได้ไหมคะ ไปเอาเสื้อผ้าในตะกร้าสำหรับซักมาให้
มามี้ที่ ห้องซักผ้าได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ” ร่างเล็กวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอนเล็ก ละมุนมาศก็เลยเดิน
เข้าห้องของตัวเอง รวบรวมเสื้อที่จะซักใส่ในตะกร้าหวาย เดินออกจากห้อง
ก็เห็นว่าตะกร้าเสื้อผ้าสีขาววางอยู่หน้าเครื่องซักผ้าแล้ว แต่เสื้อผ้าบางส่วนก็
ตกอยูต่ ามรายทางมาจากห้องนอนเล็ก อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ พร้อมกับ
ตะโกนออกไปเป็นภาษาอังกฤษว่า
“ขอบคุณค่ะฟี”
“ด้วยความยินดีค่ะ” ลูกสาวตอบกลับมาเป็นภาษาเดียวกัน
ตั้งแต่ฟีนิกซ์เริ่มพูดได้ ละมุนมาศก็พูดภาษาไทยกับฟีนิกซ์
ตลอดเวลาที่อยู่กันสองคน แต่ถ้ามีคนอื่นอยูด่ ้วยก็จะใช้ภาษาอังกฤษ
เพราะฉะนั้นฟีนิกซ์จึงพูดได้ทั้งสองภาษาเป็นอย่างดี
มีหลายครั้งที่หนุ่ม ๆ ในคอนโดมิเนียมให้ความสนใจ ฟีนิกซ์ตัว
น้อยของหล่อนก็มักจะเป็นตัวป่วน ทำตัวเป็นลูกสาวหวงแม่ ทำเอาหนุ่ม ๆ
ที่มาจีบถอยร่นกันไปหมด แต่ละมุนมาศก็ไม่ได้ว่าอะไร รู้ว่าฟีนิกซ์หวง
หล่อนเป็นอย่างมาก และอีกอย่างละมุนมาศยังไม่พร้อมที่จะรักใคร
หรือว่ามีใครเข้ามาในหัวใจ แค่ดูแลฟีนิกซ์กับทำงานสองอย่างในชีวิตนีก้ ็
แทบจะไม่มีเวลาได้คิดอะไรอีกแล้ว เรื่องของความรักจึงเป็นเรื่องที่อยูไ่ กล
ตัวมากเหลือเกินสำหรับละมุนมาศ
3
ฝากรอย...มาเฟีย
เดินเหินคล่องแคล่วว่องไว คุณยายกลีบบัวได้พาเหลนสาวตัวน้อยที่อายุ
อ่อนกว่าฟีนิกซ์สองเดือนมาเล่นที่สนามเด็กเล่น
ฟีนิกซ์และคารีนาเจอกันครั้งแรกก็เล่นด้วยกันได้เป็นอย่างดี ส่วน
ละมุนมาศก็คุยถูกคอกับคุณยายเป็นอย่างมาก คุยกันได้ทุกเรื่องตาม
ประสาคนพลัดถิ่นด้วยกัน และละมุนมาศก็พูดถึงเรื่องต้องการทำงาน
พิเศษ เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว คุณยายกลีบบัวก็แนะนำให้ไป
สมัครงานที่ภัตตาคารเวียตเฮาส์แห่งนี้
จากนั้นละมุนมาศก็ไปสมัครงาน ซึ่งก็ไม่คิดว่าทางร้านจะรับ แถมยัง
ให้หล่อนเลือกเวลาทำงานที่ต้องการได้อีกด้วย หล่อนเลือกทำงานสามวัน
คือ วันพฤหัสบดี ตอนเย็น วันศุกร์ตอนเย็น และวันเสาร์ตอนเย็นเท่านั้น
ละมุนมาศทำงานอย่างมีความสุข พอใจกับจำนวนเงินที่ได้รับ และ
เนื่องจากการทำงานที่หนักเอาเบาสู้ ไม่เคยเกี่ยงงานของหล่อน จึงเป็นที่
ถูกใจของเจ้านายยิ่งนัก
“ไฮ มิสมินต์” ละมุนมาศทักทายเจ้านาย ซึ่งเป็นผู้จัดการร้านทันทีที่
เจอหน้า
“ไฮ มุน มาพอดีเลย วันนี้มสิ เตอร์ไนฮัวและภรรยาจะมาทาน
อาหารเย็นที่นี่บนชั้นลอยนะ ฉันให้มนุ กับทอนเป็นคนดูแลท่าน โต๊ะหลัก
จัดสามที่ อีกโต๊ะจัดห้าที่สำหรับผู้ติดตาม”
28/559
ละมุนมาศทำงานไปเรื่อย ๆ รอการมาของท่านเจ้าของและภรรยา
ด้วยใจจดจ่อ เพราะว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หล่อนได้มีโอกาสบริการรับใช้
ถึงแม้ว่าเจ้าของจะมาทานที่ร้านบ่อยครั้ง แต่ไม่ค่อยมาในวันที่หล่อนทำงาน
เสียงสาว ๆ กรี๊ดกร๊าดเบา ๆ อย่างตื่นเต้นดังมาจากชั้นล่าง ไม่ถึง
สองนาที มิสมินต์กก็ ระวีกระวาดไปต้อนรับที่หน้าประตูโบสถ์ ขบวนอัน
อึมครึมที่ผู้ชายทั้งหมดแต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำสนิท ซึ่งประกอบไปด้วย
ท่านไนฮัว ฟรานซิสและมิสซิสลิซาเบธภรรยาลูกครึ่ง พร้อมกับผู้ติดตาม
จำนวนหนึ่งก็เดินเข้ามา มิสมินต์เดินนำขึ้นมาบน ชั้นลอย ซึ่งละมุนมาศ
มองว่าเป็นขบวนมาเฟียชัด ๆ และก็อดที่จะใจเต้นแรงไม่ได้ เพราะว่าเป็น
ครั้งแรกที่ละมุนมาศได้รับงานนี้ โดยเฉพาะคนตัวสูงใหญ่ทเี่ ดินตามหลัง
ท่านไนฮัว ฟรานซิส ที่เปล่งรัศมีแกร่งกล้านําหน้าท่านเจ้าของมาเลยทีเดียว
อดที่จะแอบคิดในใจไม่ได้ว่า ท่าทางท่านไนฮัว ฟรานซิส ไม่น่าจะ
เป็นมาเฟียหรือว่าผู้มีอิทธิพลรํ่ารวยอะไรเลย ถึงท่านจะตัวโต มีสง่าราศรี
น่าเกรงขาม ใบหน้าที่ออกลักษณะลูกครึ่งเวียดนามนั้นยิ้มแย้มแจ่มใส่
แววตาหลังแว่นสายตาคูน่ ั้นก็อบอุ่นอ่อนโยน ดูใจดีเป็นกันเองด้วยซํ้าไป
แต่คนที่เดินตามหลังมาติด ๆ นั่นสิ ท่าทางมาเฟียชัด ๆ ตัวสูงใหญ่กว่า
ท่านไนฮัว ฟรานซิส ไปตั้งมาก
หน้าตาน่ากลัวจริง ๆ
30/559
ในใจของละมุนมาศเลือนหายไปเกือบหมด ถึงแม้สัญชาตญาณลึก ๆ จะ
รู้สึกว่าตลอดเวลามีสายตาของใครบางคนจ้องมองมาที่หล่อนก็ตามที แต่
ละมุนมาศก็พยายามที่จะไม่สนใจ
หลังจากทักทายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทอนก็แยกไปดูแลเครื่องดื่ม
ที่โต๊ะของคณะผู้ติดตาม ละมุนมาศก็เลยต้องรับหน้าที่ดูแลโต๊ะท่านไนฮัว
เริ่มต้นทีเ่ ครื่องดื่มและแอปปิไทเซอร์ส (Appetizers – อาหาร
เรียกน้ำย่อย) ก่อนอาหาร ซึ่งตลอดระยะเวลาการทานอาหาร ท่านไนฮัว
มักจะถามละมุนมาศหลายอย่าง ตั้งแต่วิธีการทำคร่าว ๆ ส่วนประกอบของ
อาหารแต่ละอย่าง ซึ่งคำตอบของละมุนมาศก็ทำให้ท่านไนฮัวยิ้มอย่าง
พอใจ
“แสดงว่าต้องทำอาหารเป็น”
“ทำเป็นบ้างค่ะท่าน แต่ไม่เก่งมาก”
คำตอบทีอ่ ่อนน้อมถ่อมตนทำให้คนถามต้องยิ้ม และพยักหน้าหงึก
ๆ
จากนั้นก็เป็นอาหารหลักที่มีมากมายหลายชนิด อันนี้ละมุนมาศรู้ว่ามิ
สมินต์เป็นคนจัดการสั่ง เพื่อให้ท่านไนฮัวได้ชิมและติชมฝีมือการปรุงของ
พ่อครัวแม่ครัวในร้าน ซึ่งอาหารทุกจาน ทุกหม้อ ทุกคำถาม ละมุนมาศ
สามารถตอบได้เป็นที่พอใจของคนถาม ซึ่งคำถามโดยทั่วไปก็ไม่ได้ลึกซึ้ง
อะไรมากมายนัก เป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากกว่า
33/559
คำตอบที่น่ารักกับใบหน้ายิ้มแย้มและดวงตาสดใสของหล่อน ทำให้ท่านไน
ฮัวรื่นรมย์เป็นอย่างมาก ถึงกับออกปากชมกับมิสซิสลิซาเบธผู้เป็นภรรยา
เลยทีเดียว
“ละมุนมาศรู้เรื่องอาหารมากทีเดียวนะ”
คุณลิซาเบธพยักหน้ายิ้มรับแสดงความเห็นด้วย ในขณะทีผ่ ู้ร่วมโต๊ะ
อีกคนก็เก๊กท่านิ่ง ขนาดว่าท่านไนฮัวกับภรรยาหัวเราะชอบใจ เขาก็ยังคง
นิ่งราวกับไม่สนใจอะไร
แต่เหตุการณ์บางอย่างก็เกือบทำให้ละมุนมาศไม่อยากจะทำงาน
เพราะหลายต่อหลายครั้งทีห่ ล่อนไปยืนใกล้ ๆ เพื่อดูแลผู้ชายหน้าเข้มคน
นั้น บั้นท้ายอันงามงอนของหล่อนมีอันต้องถูกสัมผัสทุกครั้งไป ครั้งแรก
ยังไม่รู้สึกอะไรมากนัก และคิดว่าเป็นความไม่ตั้งใจ หล่อนจึงหันไปขอโทษ
เขา เพราะคิดว่าตัวเองไปสัมผัสโดนเขาเอง แต่พอครั้งที่สองหล่อนเริ่มรู้สึก
ไม่พอใจมากขึ้น
ครั้งที่สามความอดทนที่มอี ยู่ก็สิ้นสุดลง มือบางคว้ามือที่จับบั้นท้าย
ของ หล่อนไว้อย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าบึ้งตึง ความโกรธทีแ่ ทบจะระงับเอา
ไว้ไม่อยู่เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกลวนลาม ทำให้ละมุนมาศหายใจแรงหอบถี่
ทีเดียว แต่คนถูกจับได้กลับทำหน้าตาเฉย ไม่รู้สึกรู้สา แถมมุมปากหยัก
ได้รูปนั้นยังส่งยิ้มให้หล่อนอีกด้วย ใบหน้าทีย่ ิ้มน้อย ๆ ของเขาดูดี
มากมาย แต่ ณ เวลานี้ความโกธรที่ถูกกระทำหยามเกียรติหมิ่นศักดิ์ศรีลูก
ผู้หญิง ทำให้ใบหน้าหวานเครียดเขม็ง ริมฝีปากเม้มแน่น ดวงตาโตวาววับ
34/559
แต่ก่อนที่ละมุนมาศจะได้ทำอะไรลงไป ท่านไนฮัวก็ถามขึ้นว่า
“แล้วกรณีที่ลูกค้าลวนลามอย่างนีก้ ับพนักงานล่ะ ถ้าเป็นหนู หนูจะ
ทำอย่างไร”
คำถามนั้นทำให้ละมุนมาศรู้ว่ากำลังถูกทดสอบทางด้านอารมณ์ที่อาจ
จะเกิดขึ้นจากแขกไร้มารยาท ไร้เกียรติบางคนได้ ใบหน้าหวานยิ้มน้อย ๆ
ก่อนที่จะบอก คำตอบนั้น
“หนูก็จะทำอย่างนี้ไงคะ” มือเล็ก ๆ บาง ๆ ทีย่ ังกำอยู่ที่ข้อมือหนา
จิกเล็บทีไ่ ม่ยาวมากนักลงผิวหนังทีข่ ้อมืออย่างแรงและรวดเร็ว จนคนทีม่ ัว
แต่มองใบหน้าหวานเพลิน คิดไม่ถึงว่าหล่อนจะทำกับเขาอย่างนี้ ถึงกับ
หลุดเสียงร้องออกมา
“อูย” เสียงอูยนั้นเรียกเสียงหัวเราะของท่านไนฮัวและภรรยาเบา ๆ
แต่คนที่โดนเล็บมือหน้าเรียบตึงสนิท ดวงตาคู่คมวาววับจ้องสบมาเขม็ง
ราวกับเสือที่กำลังจ้องตะครุบเหยื่อ ทำเอาคนหยิกร้อน ๆ หนาว ๆ ใจ
กระตุกวูบเสียวสันหลังวาบ ในใจคิดว่า
ตกงานแน่ ๆ ที่เผลอไปทำร้ายแขกของเจ้าของร้านเข้าให้
แต่ก็ทำใจดีสู้ยิ้มให้น้อย ๆ ทั้ง ๆ ทีใ่ นใจแหยจนแทบอยากจะ
ร้องไห้
“หนูเป็นคนที่มีอารมณ์ขันจริง ๆ” ท่านไนฮัวพูดพร้อมกับหัวเราะ
ชอบใจ
35/559
“ค่ะท่าน”
“ด้วยความยินดีค่ะ/ครับ” ละมุนมาศยกมือไหว้ พร้อมกับทอนที่
คำนับก่อนกล่าวลา
ละมุนมาศสังเกตว่า มาเฟียหน้าขรึมคนนั้นกอดและจูบลาท่านไนฮัว
และภรรยา พอรถประจำตัวของท่านไนฮัวเคลื่อนออกไปแล้ว เขาจึงแยกไป
กับคนติดตามอีกสองคน ยังมีรถอีกสองคันที่จอดรออยู่ หล่อนเห็นเขาคุย
กับคนติดตามอีกคน คนติดตามรับปากแล้วก็โค้งหันกลับไปยังรถคันที่
จอดอยู่ข้างหลัง ส่วนเขา ‘มาเฟีย’ เข้าไปนั่งตอนหลังของรถอีกคัน และรถ
ทั้งสองคันขับตามกันออกไป เป็นอันสิ้นสุดการต้อนรับ ละมุนมาศ ทอน
ก็เดินตามมิสมินต์กลับเข้าไปข้างในร้าน
เสียงถอนหายใจของลูกน้องสาวทำให้มิสมินต์ต้องหันมาถาม
“ถึงกับถอนใจเลยเชียวหรือฮึ”
“ค่ะ โล่งอก มุนเกร็งตั้งนาน ตอนนีส้ บายใจแล้ว” ละมุนมาศไม่ได้
บอกว่าที่สบายใจ คือไม่มีสายตาเย็นชานิ่งขรึมของแขกคนนั้นต่างหาก
“ไม่เห็นมีอะไรที่น่าเกร็งเลย ท่านน่ารักจะตายไป”
“ค่ะ ท่านน่ารักจริง ๆ มุนขอตัวไปทำงานต่อนะคะมิสมินต์”
“จ้ะ ตามสบาย”
มิสมินต์วางโทรศัพท์ลงกับแป้น สายตาก็เหลือบมองลูกน้องคนสวย
ไปด้วย ในความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ค่อยเข้าใจนักว่า ลูกชายของเจ้านาย
37/559
วัยหลังเกษียนหลายคู่กำลังเคลื่อนตัวเข้ากับจังหวะของดนตรีที่กำลัง
บรรเลงเพลงหวานซึ้ง
ส่วนหลายคนที่ไม่ได้เต้นรำก็กำลังมีความสุขกับการทานอาหารเลิศ
รส จิบไวน์ชั้นดี คุยกันอย่างออกรส โดยมีโทรทัศน์จอใหญ่ข้างฝาผนัง
กำลังถ่ายทอดเกมกีฬา ส่วนระเบียงด้านนอกของห้องอาหารทีต่ ิดกับฝั่ง
ทะเล ในคํ่าคืนดึกดื่นที่อากาศเย็นกำลังพอดี ก็มีคู่รักหลายคู่ บ้าง
หยอกเย้า บ้างแสดงความรักต่อกัน ท่ามกลางเสียงคลื่นและแสงจันทร์
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
“นายครับ”
“เข้ามา มีอะไร” คารีโนละสายตาจากจอมอนิเตอร์ ส่งเสียงเข้มถาม
กลับ ลูกน้องที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง
“มิสเลอาโทร. มาครับ” พร้อมกับโทรศัพท์เครื่องเล็กยื่นมาให้ มือ
หนาที่นิ้วมือเรียวราวกับอิสตรีนั่นยื่นไปรับมาแนบหู
“ครับ”
“คารีโนที่รัก คืนนี้คุณว่างหรือเปล่าคะ” เสียงเซ็กซี่จากปลายสายส่ง
มา
“มีอะไรพิเศษไหม”
“ฉันคิดถึงคุณค่ะ เราไม่ได้เจอกันมาตั้งสามอาทิตย์แล้วนะคะ”
41/559
“ช่วงนี้ผมยุ่งคุณก็รู้นี่”
“รู้ค่ะ แต่เลอาก็ยังอยากเจอคุณ” ปลายสายยังอ้อนต่อ
“เอาไว้เสร็จงานแล้วผมจะไปหา” คารีโนรับปากก่อนที่จะปิดโทรศัพท์
ยื่นให้ลูกน้อง ที่เขารับปากก็เพราะว่าคืนนี้เขายังไม่มีที่หมายที่ไหนนั่นเอง
เลอาสาวสวยเชื้อสายละติน นักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐ
นิวเจอร์ซีย์ หล่อนกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่สอง คารีโนพบเลอาเมื่อตอน
เดินทางไปสำรวจตลาดที่ประเทศเปรูเมื่อสามเดือนที่แล้ว ในห้องอาหาร
ของโรงแรมที่หล่อนและเพื่อนนักศึกษามาเที่ยวกันในช่วงปิดภาคเรียนฤดู
ร้อน หลังจากที่พูดคุยทำความรู้จักกันได้ไม่นานนัก ความสัมพันธ์ก็
ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
แต่เป็นเพียงความสัมพันธ์ที่ฉาบฉวย เพียงเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ใน
แต่ละวันที่เขาสามารถหาได้ง่าย ๆ เพียงแต่ว่าเขาต้องการมันหรือเปล่า
เท่านั้นเอง มีผู้หญิงมากมายที่เดินเข้ามาหาเขา บางคนเพียงเพื่อความสนุก
ความสุขของร่างกาย บางคนเพียงเพื่อของกำนัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวก
หล่อนต้องการ ถึงแม้ว่าบางคนจะต้องการมากกว่านั้น แต่เขาก็ไม่สามารถ
ที่จะให้ใครได้ และหล่อนพวกนั้นก็ไม่เคยได้เข้าถึงครอบครัวของเขา
หลายครั้งที่มารดาของเขาเคยเอ่ยแซวทีเล่นทีจริงถึงเรื่องหาแม่ให้
ลูกสาว ตัวน้อย คารีโนก็ได้แต่ยิ้ม บางครั้งก็แก้ตัวไปตามเรื่อง และ
รอยยิ้มเล็ก ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าคม เมื่อคิดถึงใบหน้าหวานของใครบาง
42/559
คน ที่หลังจากหยิกแล้วเจ้าหล่อนก็ขอโทษพร้อมรอยยิ้มหวาน แต่ดู
อย่างไรก็คล้ายกับว่าเจ้าตัวสมนํ้าหน้าเขามากกว่า
อวดดี
คารีโนยกมือขวาขึ้นแตะบริเวณข้อมือซ้ายเบา ๆ ตรงรอยที่โดนหยิก
ก้มลงมองก็เห็นว่ารอยยังแดง ออกอาการตึงและเจ็บนิด ๆ มือหนาลูบไล้
เบา ๆ พลางคิดถึงเจ้าของมือเล็กที่มเี ล็บแหลมคมเป็นอาวุธทำร้ายเขาเมื่อ
ตอนหัวคํ่าที่ผ่านมา พร้อมกับรอยยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก
ท้าทายนัก อย่างนี่สิน่าค้นหา แล้วเราจะได้เห็นดีกัน
ละมุนมาศเลิกงานในตอนดึก กลับมาแวะที่ห้องของมิสซิสลีเพื่อรับ
คนตัวเล็กกลับห้อง ทันทีที่ฟีนิกซ์ตื่นขึ้นมาเห็นหล่อนก็ส่งเสียงเรียกอย่าง
ดีใจ
“มามี้”
“ว่าไงคะคนเก่ง กลับห้องเราเถอะนะ ลามิสซิสลีด้วยค่ะฟี”
“บายมิสซิสลี ขอบคุณค่ะ กู๊ดไนต์”
“ขอบคุณมากนะคะมิสซิสลีที่ช่วยดูแลฟีนิกซ์ ถ้าไม่มคี ุณ ฉันกับ
ฟีนิกซ์คงจะลำบากมากทีเดียว”
ละมุนมาศยื่นซองเงินทีเ่ ตรียมเอาไว้แล้วส่งให้มสิ ซิสลี พร้อมกับหัน
หลังนั่งลงให้ร่างเล็ก ๆ ขึ้นขี่บนหลัง
43/559
คนลามก คนฉวยโอกาส
แล้วก็ตัดใจเก็บเงินใส่กล่อง ปิดไฟ ล้มตัวลงนอน แต่
จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ หลับตาแต่สมองยังตื่น ภาพ
ต่าง ๆ ไหลเข้าสู่ความทรงจำตั้งแต่ที่ได้สบตากับเขา
ผู้ชายคนนั้น
ดวงตาทีแ่ ข็งกร้าวในแวบแรกที่เห็นออกจะดุดัน น่ากลัว ไม่นานนัก
มันกลับอ่อนแสงลง และปะปนไปด้วยความหมายที่หล่อนแปลไม่ได้ มัน
นิ่ง ลึกลํ้า ยากคะเน แต่หลังจากที่โดนหยิก ดวงตาเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
มันอาฆาตมาดร้ายน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก
คนอะไร คิดจะทำอะไรก็ได้ตามความพอใจอย่างนั้นใช่ไหม ตั้งแต่
ทำงานที่นี่หล่อนยังไม่เคยโดนใครดูถูกอย่างนี้มาก่อนเลย เจ็บใจนัก
เจ็บใจจนรู้สึกได้ว่าตัวสั่นไปหมด อยากจะร้องไห้ออกมาให้สมกับความ
คับแค้นใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มเท่านั้น
แต่อย่าให้มโี อกาสนะ หล่อนจะเอาคืนให้สาสมเลยทีเดียว แล้ว
หล่อนจะทำอะไรเขาได้...บ้างนะ ท่าทางมาเฟียดูน่ากลัวซะขนาดนั้น เฮ้อ
คงทำอะไรเขาไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ขออย่าให้ได้เจอกันอีกเลย ที่แล้วมา
หล่อนจะปล่อยให้มันผ่านไป จะอโหสิให้
คิดเอง เออเอง ถามตัวเอง มีคำตอบบ้าง ไม่มีคำตอบบ้าง ในที่สุด
ละมุนมาศก็เข้าสู่นิทราโดยไม่รู้ตัว
45/559
ในป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ยืนต้นสูงใหญ่ แทบจะมองไม่เห็นท้องฟ้า
เพราะว่าใบไม้ที่ขึ้นอย่างหนาแน่นปิดบังเอาไว้ ละมุนมาศสัมผัสได้ถึง
บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนเหมือนฝนจะตก มองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้
มีเพียงทางเดินเล็ก ๆ ที่รกชัฏ
ละมุนมาศเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อด้วยสายตาของตัวเอง
ทำเอาหัวใจดวงน้อยแทบวาย ร่างบางนิ่งขึง มือไม้อ่อนแรงราวกับจะล้มทั้ง
ยืน
สัตว์ร้ายตัวใหญ่ยักษ์ที่กำลังกกกอดรัดโรมรันเหยื่อตัวเล็กของมันที่
ละมุนมาศมองไม่ชัดว่าคืออะไร เห็นแต่เกล็ดสีดำมันเลื่อมของมันสะท้อน
เข้าตา ถึงแม้จะในระยะไกล แต่ละมุนมาศก็รู้ดีว่าเจ้าตัวนั้นคืออะไร สิ่งที่
หล่อนกลัว เกลียด ขยะแขยงที่สุดในชีวิตนั่นเอง
ในวินาทีที่ละมุนมาศกำลังตกตะลึงนั้น เจ้าของดวงตาสีแดงโชนก็เงย
ขึ้นมาสบ พอพบกับเหยื่อรายใหม่ ร่างใหญ่ยาวก็คลายตัวละจากเหยื่อใน
อ้อมกอดทันที
หัวใจดวงน้อยของละมุนมาศหล่นวูบ สมองน้อย ๆ สั่งตัวเองทันที
ว่าควรจะทำอย่างไร
หนี...เอาตัวให้รอด
สองขาทีห่ นาหนักพยายามออกวิ่งเต็มแรง สุดฝีเท้า สุดชีวิต แต่ก็
เหมือนกับว่ามันอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง วิ่งก็ไปได้ไม่ไกลนัก พอหันกลับไปมอง
46/559
ก็พบว่า เจ้าตัวใหญ่ยักษ์ที่โตกว่างูขนาดใหญ่หลายร้อยเท่านั้นเลื้อยตาม
หลังมาอย่างอ้อยอิ่ง สง่างาม แววตาสีแดงฉานนั้นมุ่งมั่นจ้องมาที่หล่อน
อย่างแน่วแน่ และในทันใดร่างเล็กของหล่อนก็ถูกตวัดรัดเอาไว้อย่าง
รวดเร็ว พร้อมกับยกขึ้นสูงเหนือพื้นดิน
“กรี๊ด...” ละมุนมาศร้องสุดเสียง พร้อมกับรู้สึกตัวสะดุ้งตื่น รีบผุด
ลุกขึ้นนั่งทันใด เสียงหายใจหอบถี่กระชั้น เหงื่อโทรมเต็มใบหน้าและ
เนื้อตัว มองซ้ายขวาแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ฝันหรอกหรือนี่ ไม่คิดว่ามันจะเหมือนจริงได้ขนาดนี้
มือเรียวยกขึ้นลูบหน้าตัวเองแรง ๆ สายตาที่ยังตื่นตระหนกมองออก
ไปนอกหน้าต่างห้องนอนยังมืดสลัว มองนาฬิกาทีป่ ลายเตียงเกือบจะหก
โมงเช้า ร่างบางล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แต่กไ็ ม่สามารถหลับลงได้เลย ยัง
รู้สึกถึงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงราวกับจะหลุดออกมานอกอก
สิ่งที่ละมุนมาศเกลียดที่สุดคืองู แต่ที่เห็นในฝันไม่ใช่งูตัวเล็ก ๆ
ธรรมดาที่เคยเห็นทั่วไปตามถนนตอนที่มันวิ่งตัดหน้ารถ หรือว่าที่หล่อน
เคยเห็นตามป่าหลังคอนโดมิเนียมในฤดูร้อน มันคล้าย ๆ กับงูยักษ์ที่
หล่อนเคยเห็นในหนังของช่องไซไฟ (Syfy - หนังซีรีสท์ างช่องโทรทัศน์)
หลายต่อหลายเรื่องนั่นเอง
ละมุนมาศอดที่จะนึกทบทวนความฝันของตัวเองไม่ได้ งูอะไรตัว
ใหญ่โตน่ากลัวขนาดนี้ พยายามคิดว่า
47/559
หล่อนได้ดูหนังเกี่ยวกับงูก่อนนอนหรือเปล่า
ก็ไม่
มีใครพูดเรื่องงูให้ฟังหรือเปล่า
ก็ไม่
คิดถึงเรื่องงูหรือเปล่า
ก็ไม่ แล้วหล่อนฝันถึงมันได้อย่างไรกัน
ยิ่งคิดถึงดวงตาน่ากลัวราวกับมีอำนาจของเจ้างูยักษ์ที่จ้องสบมา ก็อด
ทีจ่ ะขนลุกไม่ได้ ดวงตาที่ลุกโชนด้วยแสงแดงเจิดจ้า แสดงออกถึง
ความหมายมาดหรือว่าอาฆาตมาดร้าย เคืองแค้นอย่างเหลือเกิน ไม่เท่านั้น
ดูเหมือนกับว่า มันยังยิ้มเยาะส่งให้อีกด้วย
งูอะไรกัน แสดงความรู้สึกออกมาทางสายตาก็ได้ด้วย เฮอะ คิดว่า
หล่อนจะกลัวหรือไงกัน ก็แค่ความฝันเท่านั้นเอง
แต่พอคิดถึงความเชื่อของยายทีเ่ คยบอกตอนที่หล่อนยังเด็ก ๆ ใจที่
บอกว่าไม่กลัวกลับฝ่อขึ้นมาอีกทันใด
ฝันในเวลาเช้าตรู่มักจะเป็นจริง
ทีย่ ายเชื่ออย่างจริงจัง ก็เพราะว่ายายเคยฝันว่าตกบันได ตื่นขึ้นมา
เดินลงบันไดบ้านเช้าวันนั้น ยายก็เหยียบชายผ้าถุงของตัวเองเลยตกบันได
สามขั้น ยายก็เลยเชื่อ
48/559
อายุ...ที่คิดบวกลบในใจจากปีที่เกิด ยี่สิบหกปีเกือบจะยี่สิบเจ็ดปีแล้ว
การศึกษา...ปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย...รัฐนิวเจอร์ซีย์
ตำแหน่งงาน...เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานด้านการเงินของเอสซี แฟมิ
ลี่ แพรกทิส เซนเตอร์ (Family Practice – เวชศาสตร์ครอบครัว)
หล่อนทำงานที่คลินิกแพทย์นั่นเอง
สถานภาพ...โสด
หนึ่งหน้ากระดาษเอสี่ แต่ใจความสำคัญมีอยู่เพียงเท่านี้
แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ที่จะรับรู้ว่าเขาควรจะทำอย่างไรกับหล่อน คน
อวดดี
และแล้วหัวคิ้วก็ต้องขมวดเข้าหากันเมื่อเปิดหน้าถัดไป คือภาพ
เด็กหญิง ตัวน้อยที่ขี่หลังของคนในภาพ
ไหนว่า ‘โสด’ แล้วทำไมมีเด็กหญิงตัวน้อยท่าทางสนิทสนมขี่หลังอยู่
ด้วย
หล่อนเริ่มทำงานทีเ่ วียดเฮาส์ได้เกือบสามปีแล้ว บอกว่าโสด แล้ว
เด็กหญิงทีข่ ี่หลังอยู่นี่น่าจะอายุเกินสามปีแล้ว มันหมายความว่าอย่างไรกัน
นะ เลี้ยงเด็กให้ใครหรือว่าลูกของหล่อนจริง ๆ
คำถามเกิดขึ้นพร้อมกดอินเตอร์คอมเรียกหาลูกน้องคนสนิท
“เฟย เบียน”
54/559
มือหนาทิ้งกระดาษในมือลงบนโต๊ะอย่างไม่ไยดี ก่อนที่จะเดินตัวปลิว
กลับไปยังห้อง มองสำรวจหน้าตาตัวเองในกระจกแล้วก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า
หน้าตาของเขานี่ไม่ได้มีเสน่ห์เลยหรือไร ผู้หญิงคนนั้นถึงได้มองด้วย
สายตาที่ว่างเปล่า หรือว่าเขาหมดเสน่ห์ไปแล้ว แต่น่าจะไม่ใช่ เพราะเมื่อ
ตอนค่อนรุ่ง เลอาสาวสวยหุ่นดี สาวละตินผู้ร้อนแรงยังร้องครวญครางจน
หมดแรง และก็แทบจะไม่ยอมปล่อยเขาออกมาจากห้องพักของหล่อนเลย
ก็ว่าได้ ทำเอาเขากลับมาถึงบ้านตัวเองเกือบเช้าทีเดียว แล้วหล่อนเป็นใคร
กันถึงมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่าอย่างนั้น แถมตอนที่ทำร้ายเขาต่อหน้า
บิดามารดายังยิ้มเยาะเย้ยให้เขาอีกด้วย
เมื่อคืนถ้าไม่มีบิดามารดาอยู่ด้วย เขาคงจะได้ลงโทษหล่อนให้สาสม
เป็นแน่
แล้วนี่เขาจะมาคิดเรื่องของผู้หญิงคนนั้นทำไมกัน หล่อนไม่ได้สำคัญ
สักนิดพอทีจ่ ะให้คิดถึง ก็แค่เด็กในร้านของตัวเอง แต่หล่อนก็กล้าที่จะ
ทำร้ายให้เขาเจ็บ หล่อนคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน
รถโตโยต้าคันเล็กสองประตูสีแดงหม่น ที่เบาะหลังมีร่างน้อย ๆ นั่ง
อยูใ่ นคาร์ซตี (Car Seat - ที่นั่งที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ ในรถยนต์)
ใบหน้าที่น่ารักนั้นบ่งบอกถึงการมีเลือดผสม ออกอาการตื่นเต้นอย่างเห็น
ได้ชัด เมื่อรถเลี้ยวเข้าไปจอดในลานจอดรถของร้านแม็คโดนัลด์ที่อยู่ไม่
ไกลจากบ้าน
“ถึงแล้วฟีจะกินให้อร่อยไปเลย”
56/559
คำพูดของคนที่อยู่เบาะหลังทำให้ละมุนมาศอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“ฟีอยากกินอะไรหรือคะ”
“แฮปปีมีล ชีสเบอร์เกอร์ แล้วก็ไอศกรีม และก็เอาเจ้าหญิงตัวสีชมพู
นะคะมามี้”
“แล้วเครื่องดื่มอะไรดีคะ”
“ฟีขอดื่มนํ้าอัดลมได้ไหมคะ ฟีไม่ได้ดื่มมาตั้งนานแล้วนะคะมามี้ ลืม
ไปแล้วว่ารสชาติมันเป็นอย่างไร ฟีสัญญาว่าจะดื่มแค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งให้
มามี้ และพอกลับถึงบ้านฟีจะแปรงฟันทันทีเลย นะคะ...นะคะ พลีส...พลี
ส” เสียงอ้อน ๆ ของคนตัวเล็กพร้อมเหตุผลและสัญญาน่ารักนั้น ทำให้
ละมุนมาศแอบยิ้มอยู่ในใจ และก็ต้องพยักหน้าให้อย่างจำยอม บอกกับ
ตัวเองว่า
นาน ๆ ทีไม่น่าจะเป็นอะไร หล่อนไม่ได้พาฟีนิกซ์ออกมาทานอาหาร
อย่างนี้บ่อย ๆ สักหน่อย
จากนั้นก็เปิดประตูรถ แล้วก็ปรับเบาะรถให้ควํ่าไปข้างหน้า เพื่อเปิด
ช่องว่างระหว่างประตูให้กว้างขึ้นก่อนโน้มตัวเองเข้าไปหลังรถ ปลดสาย
เข็มขัดให้ร่างเล็ก ๆ นั้นออกมาจากคาร์ซีต
แต่เมื่อนึกถึงความไม่ค่อยสะดวกสบายแล้ว หลายครั้งที่ละมุนมาศ
คิดอยากจะได้รถใหม่ที่เป็นสี่ประตูเพื่อความสะดวกสบายในการเข้าออก
57/559
หลังอาหารกลางวันแล้ว คารีโนก็ไปส่งลูกสาวตัวน้อยที่บ้านของคุณ
ยาย แต่เนื่องจากว่าคุณยายกลีบบัวของเขานอนหลับพักผ่อนหลังอาหาร
กลางวัน ทำให้คารีโนไม่ได้ทักทายคุณยาย นอกจากทิ้งลูกสาวไว้กับวัน
คนดูแลคุณยายของเขา วันรายงาน เจ้านายตัวน้อยทันทีว่า
“วันนี้คุณทวดจะทำเค้กนะคะ วันเกิดของมิสซิสแซมมี”
“เย้ คารีนาจะช่วยคุณย่าทวดทำเค้กค่ะ แล้วก็แบ่งไปให้ฟดี ้วย” คารี
โนฝากบอกสวัสดีคุณยาย บอกขอบคุณวัน แล้วก็จูบลาลูกสาวตัวน้อย
“แดดดี้ไปทำงานก่อนแล้วตอนเย็นจะกลับมารับนะคะ”
เมื่อขับรถออกมาจากบ้านคุณยายแล้ว คารีโนก็มุ่งตรงไปยังอีเดนพ
ลาซา เพื่อไปตรวจดูความเรียบร้อยโดยทั่วไปของตลาด รวมทั้งเข้าไปดูแล
ร้านขายเครื่องประดับของมารดาด้วย
เขาทำงานจนกระทั่งแสงสว่างแห่งวันกำลังจะหายไป มีแสงจาก
หลอดไฟฟ้าเข้ามาแทนที่ คารีโนสั่งงานกับผู้จัดการร้านเสร็จแล้ว ก็แวะซื้อ
อาหารโปรดของตัวเองและลูกสาวที่ร้านขายของชำข้าง ๆ ร้านของมารดา
61/559
เมื่อกลับมาช่วยบิดาบริหารงาน เขาก็ได้รับการคุ้มครองอีกครั้งจาก
นักต่อสูฝ้ ีมือดีทบี่ ิดาของเขาฝึกเองกับมือ เบียนและเฟยติดตามคุ้มครอง
เขาตลอดเวลา รวมทั้งอาศัยอยู่กับเขาที่บ้านด้วย แต่ปัจจุบันนี้กฎหมาย
ค่อนข้างเข้มงวดกวดขัน ทำให้ระบบของมาเฟียแทบจะสลายไปเกือบหมด
แล้ว แต่ก็ยังมีผู้มีอิทธิพลอยู่ในสังคมอยูบ่ ้าง โดยเป็นที่นับถือกันในคน
กลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น
รถฮัมเมอร์ (Hummer - รถกระบะ รถอเนกประสงค์ ขับเคลื่อนสี่
ล้อ พัฒนาจากรถทางทหารมาให้บุคลทั่วไปใช้) สีดำคันโตเคลื่อนเข้าไป
จอดทีด่ ้านหน้าโบสถ์ ร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรหันไปคว้าถุงที่วาง
อยูข่ ้าง ๆ ก้าวลงจากรถ ไม่ได้มองสบตากับใคร แม้จะได้ยินเสียงกรี๊ด
กร๊าดเล็ก ๆ ของสาว ๆ ทีล่ านจอดรถ แต่คารีโนไม่ได้สนใจ เขาก้าวยาว
ๆ ขึ้นบันไดหน้าโบสถ์แล้วผลักประตูเข้าไปข้างใน
การที่เจ้านายแวะมาโดยไม่มใี ครโทร. มาบอกล่วงหน้า ทำเอามิ
สมินต์อดแปลกใจไม่ได้ เพราะเจ้านายมาคนเดียวโดยไม่มคี นติดตาม
และยิ่งแปลกใจมากขึ้นไปอีก เมื่อเจ้านายคนใหม่ถามหาละมุนมาศ แต่พอ
รู้ว่าหล่อนไม่ได้ทำงานวันนี้ เจ้านายก็สอบถามเกี่ยวกับวันเวลาทำงานของ
ลูกน้องสาวคนสวย รับรู้แล้วก็เดินกลับออกไปทันทีด้วยใบหน้าบึ้งตึง ไม่
แม้แต่จะแวะเข้าไปในออฟฟิศ ทำเอาสาวโสดหัวใจเย็นชากับความรักอย่าง
มิสมินต์ไม่ค่อยจะเข้าใจนัก
63/559
“ภาพอะไร”
“ก็ที่ผมส่งมาให้เมื่อตอนบ่าย ๆ ไงครับ”
“ยัง แต่จะดูตอนนี้แหละ”
“ตามสบายครับนาย”
คารีโนเดินเข้าห้องทำงาน เปิดไฟล์ที่ลูกน้องส่งมาให้ทันที เป็นภาพ
ของ หญิงสาวอวดดีที่เขาได้ยินมิสมินต์และคนอื่น ๆ ที่นั่นเรียกหล่อนว่า
มุน คนนั้นกับ เด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าชังที่สีผมและใบหน้าแสดงออกว่า
เป็นลูกผสม แต่ก็ดูออกว่าทั้งคู่มสี ายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน แววตาสดใสคู่
นั้นเหมือนกันราวกับแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกันเลยก็ว่าได้ และยังรูป
หน้าทีย่ าวเรียว ผมที่ยาวสลวยแม้จะมีสีทตี่ ่างกัน ทั้ง สองกำลังนั่ง
รับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะเด็กหญิงที่นั่งเคี้ยวตุ้ย ๆ
และทั้งสองก็พูดคุยกันด้วยภาษาไทยที่เขาพอฟังรู้เรื่อง โดยเฉพาะคำเรียก
ของเด็กหญิงตัวน้อยว่า มามี้ มันชัดเจนเหลือเกิน
หล่อนมีลูกแล้วจริง ๆ หรือเนี่ย แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกเสียดายอยูล่ ึก
ๆ อย่างนี้ก็ไม่รู้
เขาอดไม่ได้ที่จะมองตามสายตาของหล่อนที่มองเด็กน้อยคนนั้น
ด้วยแววตาที่แสดงความรักจากหัวใจ
ใบหน้าหวานสวยเนียนสะอาดที่ไม่ได้แต่งแต้มอะไรเลย นอกจากลิป
สติกสีชมพูอ่อน ๆ บนริมฝีปากอิ่มนั่นเท่านั้น ดวงตาโตยาวเรียว จมูกโด่ง
66/559
นี่เขาแค่สั่งให้ลูกน้องตามดูเท่านั้น แต่พวกมันดันถ่ายภาพส่งมาให้
ลึก ๆ แล้วก็อดที่จะขอบคุณในใจไม่ได้ ที่ได้เห็นภาพที่เป็นธรรมชาติน่ารัก
ของหล่อน
ตกลงว่าหล่อนก็มีลูกสาวจริง ๆ สินะ แต่ไม่มีสามีอย่างนั้นใช่ไหม
หย่า ถูกทิ้ง หรือว่าแค่ความผิดพลาดในวัยเรียน
ถ้าเด็กหญิงนั่นอายุเท่า ๆ กับลูกสาวของเขา ก็แสดงว่าหล่อนมีลูกตั้ง
แต่เรียนมหาวิทยาเลยสินะ ก้าวหน้าจริง ๆ ทำตัวเป็นอเมริกันเสียด้วย มี
ลูกไปด้วยเรียนไปด้วย แล้วนี่เขาจะคิดมากไปทำไม ในเมื่อเขาก็ไม่ได้
จริงจังด้วยสักหน่อย ก็แค่อยากเอาคืนเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น
เมื่อขออนุญาตจากเพื่อนร่วมวงแล้ว คุณละมุดก็ออกไปนอกระเบียง
บ้าน พร้อมกับบุหรี่และไฟแช็กในมือ เมื่อหาที่นั่งได้แล้วก็จุดบุหรี่ขึ้นสูบ
เงยหน้าขึ้นบนท้องฟ้าที่มืดมิด ค่อย ๆ พ่นควันออกทั้งทางปากและจมูก
อย่างช้า ๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย ใบหน้าทีเ่ คยอวบอูม เต่งตึง ดูดีอยู่เสมอ
ตอนนีก้ ลับซูบตอบลง ทำให้ดแู ก่กว่าอายุมากนัก ทั้งที่เจ้าของเพิ่งจะอายุ
แค่สี่สิบห้าปีเท่านั้นเอง
คุณละมุดนั่งสูบบุหรี่ไป สายตาก็มองผ่านกระจกหน้าต่างเข้าไปใน
บ้านหลังใหญ่ สถานที่รวมพลคนรักไพ่ ที่กลุ่มเพื่อนฝูงกำลังเล่นกันอย่าง
เคร่งเครียด เพื่อนกลุ่มเล็กๆ ที่นางรู้จักส่วนมากจะเป็นแม่บ้านไทยหรือไม่
ก็เพื่อนชาวเอเชียที่รักการเล่นไพ่เป็นชีวิตจิตใจ ถึงแม้ว่าจะเล่นกันด้วย
68/559
มันคงจะเป็นเวรกรรมนั่นเอง ที่ทำให้ชีวิตของนางต้องเป็นอย่างนี้
มันสายเกินไปแล้วใช่ไหม
“มาเข้าวงได้แล้วคุณละมุด คนอื่น ๆ รออยู่” เพื่อนในกลุ่มเปิด
ประตูออกมาเรียก คุณละมุดรีบสูดควันเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนทีจ่ ะบี้บุหรี่
ส่วนที่เหลือลงในกระถางต้นไม้ใกล้ตัว เดินเข้าไปในบ้านที่เพื่อน ๆ ในวง
รออยู่
“นี่คุณละมุด เห็นคุณเวียงเขาบอกว่ามีกาสิโนเปิดใหม่ที่แอตแลนติก
ซิตี เขาเคยไปเล่นมา ได้มาเยอะมากเลยทีเดียว”
คำว่า ‘กาสิโน’ ทำให้หัวสมองของคุณละมุดโลดแล่น เห็นแนวทางที่
จะได้เงินก้อนโตมาใช้หนี้ในทันทีเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ถ้าเล่นต้องเล่นให้เต็มที่ถึงจะได้ก้อนโต
“แต่พี่ไม่มีเงินก้อนไปเล่นหรอก”
“คุณเวียงไง ยืมเขาก่อนสิ ถ้าได้มาก็ค่อยเอามาคืน”
คำแนะนำจากเพื่อนร่วมวง ทำให้คุณละมุดต้องคิดอย่างหนัก
มันน่าเสี่ยงจริง ๆ
7
โล่งอก...(เล็ก ๆ)
วันนี้เป็นวันหยุดของคุณละมุด หลังจากที่เมื่อคืนเลิกงานแล้วก็ไป
นั่งเล่นที่บ้าน คุณเวียงทั้งคืน กว่าจะกลับมาถึงห้องพักนอกเมือง
พระอาทิตย์กส็ ่องแสงเต็มท้องฟ้าแล้ว อาบนํ้าล้มตัวลงนอนบนฟูกมุมห้อง
แต่สมองทีย่ ังมีหลากหลายความคิดยังแล่นอยู่ ตาที่พยายามบังคับให้หลับ
ก็เลยยังเบิกโพลง
แต่อดที่จะคิดถึงคำพูดของเพื่อนร่วมวงเรื่องการไปเล่นที่กาสิโนเปิด
ใหม่แล้ว เลือดแห่งความตื่นเต้นในร่างกายก็ไหลเวียนแบบพุ่งกระฉูด
ทีเดียว
ว่าแต่นางจะเอาเงินที่ไหนมาเป็นทุนสำรอง เมื่อคืนนั่งทั้งคืนได้มาไม่กี่
เหรียญ แต่กย็ ังโชคดีที่ไม่ขาดทุน มันน่าลองจริง ๆ เพราะรู้สึกว่านางจะมี
โชคกับบ่อนใหญ่ ๆ มากกว่าวงเล็ก ๆ กับเพื่อนฝูง
สายตาคูห่ ม่นกวาดไปรอบ ๆ ห้องที่พักอาศัย ซึ่งก็มีแต่ห้องเท่านั้น
ของมีค่ามีราคาต่าง ๆ ก็ยกไปให้เจ้าหนี้จนหมดไม่เหลืออะไรแล้ว มีเหลือ
แต่ที่นอน โทรทัศน์เก่า ๆ และเครื่องครัวที่ไม่มีราคาค่างวดไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
74/559
และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ละมุนมาศก็สังเกตว่าทุกครั้งที่หล่อนขับ
รถออกจากซอยมาถึงถนนใหญ่ ก็มักจะมีรถคันเดิม ๆ ขับตาม พอรถของ
หล่อนเลี้ยวเข้าที่ทำงาน รถคันนั้นก็วิ่งผ่านไป และขากลับก็เช่นกัน รถคัน
นั้นก็ตามมาจนหล่อนเลี้ยวเข้าคอนโดมิเนียม รถคันนั้นก็ผ่านไป
ใจนึกกระหวัดไปถึงคนทีห่ ล่อนเรียกเขาในใจว่า ‘มาเฟีย’ จะเป็นเขา
หรือเปล่านะ ทีส่ ่งคนมาติดตามเพื่อทำร้ายหล่อน คนลามกฉวยโอกาสคน
นั้น หรือว่าเขาไม่พอใจที่โดนหล่อนหยิกและหักหน้าเขาต่อหน้าท่านไนฮัว
และภรรยา รวมถึงลูกน้องทั้งหลายด้วย
ก็อาจเป็นไปได้ ว่าแต่เขาเป็นใครกันนะ หล่อนไม่รู้จักแม้แต่
ชื่อเสียงเรียงนาม มิสมินต์ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร อยากจะถามแต่กไ็ ม่กล้า
เกรงว่ามิสมินต์จะเข้าใจผิด คิดว่าหล่อนสนใจเขาเป็นพิเศษอีก
อีกด้านหนึ่งละมุนมาศพยายามที่จะคิดในทางทีด่ ีว่า เจ้าของรถคัน
นั้นคงจะมีเวลาออกจากบ้านเวลาใกล้เคียงกับหล่อน และก็สถานที่ทำงานก็
ไปทางเดียวกัน คงไม่มอี ะไร ถ้ามีก็น่าจะเกิดขึ้นแล้ว พอคิดได้เช่นนีก้ ็รู้สึก
สบายใจหมดกังวล
ร่างสูงในชุดสูทดูดนี ั่งซ่อนตัวอยู่ในรถคันหรู สายตาภายใต้แว่น
กันแดด สีดำสนิทกำลังจดจ่ออยู่ทสี่ นามเด็กเล่นที่อยูเ่ ยื้องไปทางด้านหลัง
ตึก หลังจากติดตามดูความเคลื่อนไหว วันนีเ้ ขาก็เห็นเด็กหญิงตัวน้อยออก
มาจากโรงเรียนเทควันโดกับหญิงมีอายุชาวเอเชียคนหนึ่ง เขาก็เลยตาม
และก็พบว่า หญิงคนนั้นพาเด็กน้อยไปเล่นที่ด้านหลังคอนโดมิเนียมที่พัก
77/559
“แล้วคุณอยู่ตึกไหนครับ”
“ฉันอยู่ตึกนั้นค่ะ” มิสซิสลีชี้ไปทางตึกที่ตั้งอยู่ด้านหลัง
“ไม่แน่นะครับ บางทีเราอาจจะได้เป็นเพื่อนบ้านกันก็ได้ ถ้าเขาให้
ราคาที่ผมพอใจ”
“ขอให้คุณโชคดี”
“ขอบคุณครับ ผมเฟยครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” เฟยยื่นมือออกไป
ข้างหน้า และมิสซิสลีก็ยื่นมือมาสัมผัสแนะนำตัว
“ฉันมิสซิสลีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”
“คุณพาลูกมาเล่นที่นี่ทุกวันหรือครับมิสซิสลี”
“ก็บ่อย ๆ ค่ะ แต่ไม่ใช่ลูกฉันหรอกค่ะ ฉันเป็นแค่คนดูแล”
“อ้าว หรือครับ เด็กน่ารักจัง ทำให้ผมอยากมีลูกบ้าง” เฟยรีบเปลี่ยน
เรื่อง เพื่อให้เข้าถึงเหตุที่เขาต้องมานั่งอยู่ที่สนามเด็กเล่นแห่งนี้
“ก็มีสิคะ เด็ก ๆ น่ารักออก เด็กผู้หญิงยิ่งน่ารัก ออดอ้อน อาจจะ
เป็นเพราะว่าลูกฉันโตแต่งงานไปหมดแล้วก็ได้ ทำให้ฉันมีความสุขทีไ่ ด้เล่น
กับเด็ก ๆ อีกครั้ง และฉันก็หลงรักฟีนิกซ์มาก ๆ เลยเชียวละ เด็กที่ฉัน
ดูแลน่ะค่ะชื่อฟีนิกซ์ แกน่ารักเป็นที่สุด”
“คนไหนครับ”
“คนที่นั่งเล่นอยู่ในรถไฟนั่นไง”
79/559
“ถ้าผมอยากจะจีบแม่ของเด็กน่ารักนั่นจริง ๆ คุณว่าหน้าตาอย่างผม
พอจะมีความหวังไหม ทีถ่ ามก็เพราะว่า ถ้าผมพอมีความหวัง ผมจะได้
ตัดสินใจซื้อห้องที่จะ ไปดู”
“แล้วคุณเคยเห็นแม่ของฟีนิกซ์แล้วหรือคะ”
“ยังหรอกครับ”
“ดูฟีนิกซ์ก็รู้ว่าแม่จะสวยแค่ไหน แต่ฟีนิกซ์ขี้หวงนะ ใครจะมาจีบแม่
ก็กันท่าหมด” มิสซิสลีหัวเราะน้อย ๆ
“ถ้าอย่างนั้นผมคงเลิกคิดแล้วละ ผมไม่อยากผิดหวัง และตอนนี้ผม
แค่อยากได้ห้องพักจริง ๆ ครับ ยังไม่คิดจีบหญิง” เพราะว่าถึงคิดก็ทำไม่
ได้ ประโยคสุดท้ายเฟยพูดกับตัวเองในใจ และก่อนที่เฟยจะได้ถามอะไร
ต่อ เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น เขาต้องกล่าวขอโทษ และเดิน
ห่างออกไปเล็กน้อยแล้วก็กดรับสาย
“ครับนาย”
“อยู่ไหน”
“สนามเด็กเล่นครับ”
“ได้ความอะไรบ้าง”
“ก็ได้บ้างครับนาย ว่าแต่นายอยู่ที่ไหนครับ ผมจะได้ไปหา”
“ตลาด”
81/559
“เจอกันครับนาย”
หลังจากเฟยวางหูจากเจ้านาย ก็เดินกลับไปหามิสซิสลีเพื่อกล่าวลา
“มิสซิสลีครับ ผมคงต้องขอตัวก่อน นายหน้าโทร. บอกว่ามาถึงแล้ว
ครับ ยินดีที่ได้คุยและรู้จักกับคุณครับ”
“ด้วยความยินดีค่ะ ฉันหวังว่าคุณจะได้ราคาตามที่คุณเสนอนะคะ
ขอให้ โชคดี”
“ขอบคุณครับ” เฟยนึกขอโทษเพื่อนใหม่ในใจที่พูดในสิ่งที่ไม่เป็น
ความจริง
เมื่อได้รับรูเ้ รื่องราวบางอย่างจากปากของลูกน้องคนสนิท คารีโนก็
รู้สึกโล่งใจ ประมวลจากคำพูดที่ได้รับการถ่ายทอดแล้ว น่าจะหมายความ
ว่า ละมุนมาศไม่มีสามี อยู่กันสองคนกับลูกสาวเท่านั้น เขาเข้าข้างความคิด
ของตัวเองโดยปราศจากหลักฐานหรือเปล่านะ แต่ก็ช่างเถอะ แค่รู้ว่าหล่อน
ไม่มีใครตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว
และก็เป็นเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่คารีโนไม่ได้เข้าไปที่เวียดเฮาส์
เพราะรูว้ ่าอีกคนไม่ได้มาทำงาน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวใจ ทำให้เขารู้สึก
แปลก ๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ เขากำลังตกหลุมรักอย่างนั้นหรือ
8
เจ้านายคนใหม่...คุณยายที่รัก
รถคันหรูที่ขับโดยเบียนออกมาโรงงานผลิตภายใต้แบรนด์ “ลิซ”
ต้องเปลี่ยนทิศทางทันที เนื่องจากว่าเจ้านายได้รับโทรศัพท์จากคุณยาย
บอกให้ไปหาที่บ้าน
คารีโนไม่ได้แวะที่บ้านใหญ่ของบิดา เพราะว่าท่านทั้งสองยังอยูท่ บี่ ้าน
ฟาร์มเนียมบากับลุงของเขา รถคันหรูแล่นตรงไปยังบ้านเล็กสีขาวบนเนินที่
เป็นของคุณยาย พอรถจอดสนิท ร่างสูงก็เดินตรงเข้าไปในบ้านอย่าง
คุ้นเคยทันที
“คุณยายครับ อยู่หรือเปล่าครับ” เสียงภาษาไทยแปร่ง ๆ เรียกหา
คุณยายตั้งแต่เจ้าตัวเดินเข้าบ้านเลยทีเดียว
“ยายอยู่นี่” คุณยายกลีบบัวส่งเสียงให้หลานชายได้รับรู้
“สวัสดีครับคุณยาย”
ร่างสูงของหลานชายเดินตรงเข้าไปทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า และกราบที่
ตักบางของผูเ้ ป็นยายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ก่อนที่จะเลื่อนตัวขึ้นนั่งข้าง ๆ
พร้อมกับอ้าแขนแข็งแรงโอบรอบเอวบาง แนบหน้าเข้ากับไหล่บอบบางนั้น
83/559
ไม่ว่าหลานชายของท่านจะเติบโตมากแค่ไหน ก็ยังมีอ้อมกอดและจูบ
ให้ท่านเสมอ
หลังจากทีโ่ ทร. ไปยํ้ากับมิสซิสลีให้ไปรับฟีนิกซ์ที่โรงเรียนสอนเท
ควันโดแล้ว ละมุนมาศก็มุ่งตรงไปยังเวียดเฮาส์ทันที
ร่างบางในชุดสูทสีน้ำตาลอ่อนทั้งเสื้อและกางเกง เดินแกมวิ่งเข้าไป
ทางประตูด้านหลังของภัตตาคารเวียดเฮาส์ ส่งยิ้มทักทายให้กับมิสมินต์
และทุกคนในห้องครัวที่กว้างใหญ่นั้นทันที
“สวัสดีค่ะมิสมินต์และทุก ๆ คน”
“สวัสดีมนุ /สวัสดี” ทันทีทมี่ สิ มินต์ผู้จัดการสาวเห็น ก็เดินตรงเข้ามา
หาด้วยใบหน้าที่ดกู ังวลเล็กน้อย กับคำสั่งที่ได้รับจากเจ้านายคนใหม่ที่เพิ่ง
มาถึงเมื่อห้านาทีที่ผ่านมา แต่ก็ยังยิ้มให้พร้อมกับบอกว่า
“เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้วรีบออกมานะ ฉันจะพาไปรู้จักกับผู้บริหาร
คนใหม่ ที่จะเข้ามาดูแลที่นี่แทนท่านไนฮัว”
“อะไรนะคะ ท่านไนฮัวขายร้านแล้วหรือคะ”
“ไม่ได้ขายหรอก แค่เปลี่ยนคนบริหารเท่านั้นเอง รีบไปแต่งตัวเถอะ
ก่อนที่ท่านจะรอนาน”
ร่างบางรีบวิ่งเข้าไปในห้องนํ้า พร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กในมือ
ทันที ไม่ถึงห้านาทีละมุนมาศก็แต่งตัวในชุดประจำชาติของเวียดนาม เสื้อ
แขนยาวสีชมพูคอจีนแขนยาวตัวยาวคลุมเข่า และกางเกงขายาวสีเดียวกัน
88/559
พร้อมกับตบแป้งบนใบหน้ามัน เติมลิปสติกสีชมพูเข้มบนเรียวปากอิ่ม
เม้มปากเบา ๆ แล้วก็ยิ้มยิงฟันให้กับกระจกห้องนํ้าหนึ่งทีเป็นการสำรวจ
ความสะอาดของฟัน เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยไร้สิ่งแปลกปลอม มือบางก็เก็บ
ของลงในกระเป๋า แล้วเอาไปเก็บในล็อกเกอร์ส่วนตัวที่อยู่หน้าห้องนํ้า ก่อน
ที่จะเดินยิ้มเต็มหน้าไปหามิสมินต์เพื่อไปพบเจ้านายคนใหม่
“เข้าไปพบเจ้านายได้เลย ท่านรออยู่” มิสมินต์ที่รออยูห่ น้าบันไดสั่ง
ลูกน้องคนสวย
“แล้วคนอื่นล่ะคะ”
“ทุกคนได้พบเจ้านายแล้ว เหลือแต่ยูคนเดียว”
ละมุนมาศไม่รอช้า จํ้าอ้าวขึ้นบันไดไปเคาะประตูห้องทำงานที่อยู่บน
ชั้นสอง พร้อมกับยิ้มให้กับชายหนุ่มรูปร่างแข็งแรงที่นั่งอยูห่ น้าห้อง รู้สึก
คุ้นหน้า แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะได้คิด ก็ได้ยินเสียงอนุญาตเข้ม ๆ ส่งออกมา
“เข้ามาได้”
ละมุนมาศผลักประตูเข้าไปยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยูใ่ นห้องทีม่ ีผู้ชายคน
หนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว พอหล่อนเข้าไปเขาก็ลุกขึ้นยืนมองเขม็งตรงมา
ละมุนมาศจึงส่งยิ้มกลับให้เป็นการทักทาย ส่วนสายตาคูเ่ รียวพุ่งตรงไปยัง
เก้าอี้ตัวโตที่หันหลังมาทางหล่อน เห็นแต่หัวดำ ๆ โผล่พ้นพนักเก้าอี้ขึ้นมา
แวบหนึ่งของความรู้สึก สังหรณ์ในใจแบบแปลก ๆ เมื่อละมุนมาศ
ไพล่ไปนึกถึงใบหน้านิ่งขรึมมึนตึง แต่ดเู จ้าเล่ห์และดุดันที่เต็มไปด้วย
89/559
ความหมายที่แปลไม่ออกของคนที่เคยนั่งทานอาหารกับท่านไนฮัวและ
ภรรยาขึ้นมาทันที นึกๆ แล้วก็อยากที่จะกลับออกไปนอกห้องถามมิสมินต์
ให้แน่ใจว่า
ใครคือเจ้านายคนใหม่
“เอ่อ คือว่า เจ้านายคุณไม่อยู่ใช่ไหมคะ ฉันจะได้ออกไปทำงานต่อ
รอให้ท่านมาก่อนแล้วฉันจะเข้ามาพบใหม่” ละมุนมาศหันไปทางคนที่ยืน
ตัวตรงอยูไ่ ม่ไกล แต่ยังไม่ทันได้รับคำตอบ เสียงห้าวทรงอำนาจก็ส่งมา
จากหลังพนักเก้าอี้ตัวโต
“มาแล้วหรือละมุนมาศ”
คำทักทายเป็นภาษาอังกฤษเข้ม ๆ ที่ส่งมานั้น ทำให้ละมุนมาศ
หันกลับไปมองและก็อยากจะวิ่งหนีทันทีที่เห็นหน้า
“ค่ะ คุณ...คุณเองหรือคะ ที่เป็นเจ้านายคนใหม่” ใจตกไปอยูท่ ี่
ตาตุ่ม ปากก็ถามออกไป หัวสมองก็คิดว่า
ตายแน่ ๆ งานนี้ เวรกรรมมีจริง ตามติดเร็วราวกับจรวดเลยก็ว่าได้
ทำทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว หล่อนไม่น่าไปทำร้ายเขาเลยวันนั้น ก็ใครจะรู้
ล่ะว่าจะเป็นเจ้านายคนใหม่ นะโม สังโฆ
เฮ้อ มีเจ้านายชีกอชอบแต๊ะอั๋งนี่ หล่อนมิต้องทำงานไปวิ่งหลีกหนี
เจ้านายไปด้วยหรือนี่ ไม่รวู้ ่าจะโดนแก้แค้นหรือว่าลองของอะไรจากเจ้านาย
90/559
“แล้วคุณล่ะ จะไม่แนะนำตัวเองหน่อยหรือ”
คำถามนั้นทำเอาอีกคนสะดุ้งเล็กน้อย
“คะ เอ่อ คุณก็รู้จักชื่อฉันไปแล้วนี่คะ มิสมินต์ก็แนะนำแล้วเมื่อ
วันก่อน ทำไมต้องแนะนำอีก”
ละมุนมาศย้อนกลับเบา ๆ รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยทีร่ วู้ ่าคนชีกอคนนี้
คือ เจ้านายคนใหม่ของที่นี่
“เบียน นายออกไปรอข้างนอกก่อน”
“ครับนาย” เบียนค้อมศีรษะเล็กน้อยให้เจ้านาย ก่อนจะเดินออกไป
จากห้องตามคำสั่ง
มาเฟียจริง ๆ ด้วย ขนาดลูกน้องยังต้องทำความเคารพก่อนออกไป
จากห้อง อา...แล้วหล่อนจะรอดหรือเปล่าวันนี้
ละมุนมาศนึกอยากจะวิ่งตามคนชื่อเบียนออกไปด้วย แต่พอนึกไป
แล้ว เรื่องอะไรหล่อนจะทำให้เขารู้ว่าหล่อนกลัวหรือว่าหวาดหวั่น
คารีโนจ้องมองคนตรงหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง ถามตัวเองในใจว่า
ใบหน้านี้หรือ ทีท่ ำให้เขาคิดถึงพะวงหา แถมเลือดในกายสูบฉีดแรง
กว่าปกติ ยิ่งดวงตาวาววับที่มองตอบกลับมาอย่างไม่เกรงกลัวนั่นอีก มัน
น่าสั่งสอนจริง ๆ
9
ไม่ยอม...ถูกรังแกฝ่ายเดียว
ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าไปหาช้า ๆ ทำให้คนตัวเล็กกว่ารีบแนะนำตัวเอง
ทันที แนะนำไปก็เดินหนีห่างออกไป
“ฉัน...ฉัน ชื่อ ละมุนมาศ นามสกุล อำนาจ เป็นคนไทยค่ะ” คำ
รายงานตัวที่ตะกุกตะกักในตอนแรก และรัวเร็วในตอนหลังแทบฟังไม่ทัน
ดวงตาที่หวาดระแวงราวกับตากวางต้องแสงไฟในตอนกลางคืนนั้น ทำให้
คารีโนแอบขำอยู่ในใจ แต่ใบหน้าคมเข้มก็ยังเรียบเฉย ดุดัน นิ่งขรึม ไร้
ความอ่อนโยน จนคนมองอดที่จะหวาดกลัวไม่ได้ แต่ก็ทำใจดีสู้
“ยะ...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ปากบอกยินดี แต่คารีโนรู้ว่าคนพูดไม่ได้ยิน
ดีสักนิด ดูใบหน้าแหย ๆ แต่แววตาวาววับนั่นสิ ต่างกันสิ้นเชิง
น่าขำจริง ๆ
แต่ประโยคต่อมาก็ทำให้เขากรุ่นโกรธขึ้นมาจนได้
“เอาเป็นว่าฉันขอลาออก ไม่ทำงานแล้วค่ะ”
93/559
“แต่...ฉัน”
“จริง ๆ แล้วคุณก็กลัวนั่นเอง” อีกฝ่ายพอจะจับความคิดของคน
ตรงหน้าได้ก็ยิ่งยั่ว
“ฉันไม่ได้กลัวอะไรทั้งนั้นแหละ” ตามสุภาษิตที่เคยได้ยินมา ฆ่าได้
หยามไม่ได้ ละมุนมาศก็เช่นเดียวกัน
“แล้วทำไมต้องลาออก”
“ก็บอกแล้ว ฉันแค่ไม่ชอบ”
“ไม่ชอบอะไร ไม่ชอบผมหรือว่าไม่ชอบงานที่ทำ แล้วทำไมทำมาได้
ตั้งหลายปี พอผมมาดูแล คุณก็จะลาออกอย่างนีใ้ ช้ได้ที่ไหน ผมรูว้ ่าคุณ
กลัวผม เพราะว่าคุณทำร้ายผมวันนั้นใช่ไหม แล้วคิดบ้างหรือไม่ว่า ทาง
ร้านจะมีปัญหามากแค่ไหนกับการลาออกกะทันหันของคุณ” พูดไปร่างสูง
เคลื่อนตัวเข้าใกล้ร่างบางเรื่อย ๆ ทำเอาคน ตัวเล็กคิดอะไรแทบไม่ออก
ยิ่งเห็นหน้าตาขึงขังที่แสดงความโกรธออกมาอย่างไม่ปิดบังนั่น ทำให้
หล่อนยิ่งกลัว กลัวว่าเขาจะทำร้าย กลัวเขาจะทำชีกอกับหล่อนอีก ยิ่ง
ตอนนีอ้ ยู่ในห้องทำงานกันสองต่อสองด้วยแล้ว ถ้าเขาคิดจะทำอะไร
หล่อนคงจะสู้ไม่ได้
จากทีจ่ ะต้องตกงานกะทันหัน ยังจะเจ็บตัวอีกหรือนี่ อันตรายจริง
ถ้าเกิดเขาระงับความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ ทำมิดีมิร้ายจับหล่อนหักคอ ตำรวจ
ก็คงจะจับเขาไม่ได้สินะ รํ่ารวยออกอย่างนี้ แต่ถึงแม้จับได้ เขาก็หลุดคดี
95/559
ขนาดแก้มยังนิ่มนวลเนียนและให้ความรู้สึกดีขนาดนี้ ถ้าเป็น
ริมฝีปาก อวบอิ่ม จะให้ความรู้สึกดีขนาดไหนกันแน่นะ
แต่ยังไม่ทันทีส่ มองจะได้คิดหรือสั่งอะไร มือข้างหนึ่งของเขาก็ยกขึ้น
จับปลายคางมนเอาไว้ บังคับให้ใบหน้าหวานอยูน่ ิ่ง ๆ แค่ได้เห็นใบหน้านี้
อยูใ่ กล้ ๆ เขาก็คิดอะไรไม่ออกแล้ว นอกจากกดริมฝีปากอุ่นประทับเข้า
กับริมฝีปากบาง ดูดเม้มคลอเคลียไม่สนใจ แขนอีกข้างก็รัดร่างบางเอาไว้
แน่น ความรู้สึกนีม้ ันเกิดขึ้นเร็วมาก ราวกับว่าเขาไม่สามารถบังคับตัวเอง
ได้ ความรู้สึกของเขาคืออยากจูบหล่อน ริมฝีปากที่อวบอิ่มเผยอเย้ายวน
นั่น ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากสัมผัส แตะต้อง ด้วยอารมณ์ภายในที่
กลัวหล่อนจะต่อต้าน เขาก็เลยดุดันบังคับเอาแต่แรก ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น
อ่อนโยนเรียกร้องในเวลาต่อมา คารีโนแทะเล็มริมฝีปากนุ่มที่หอมหวาน
นั้นอย่างหลงใหล
แต่เป็นเขาฝ่ายเดียวทีจ่ ูบ เจ้าหล่อนเอาแต่ยืนนิ่งขึง ตกตะลึง ตาโต
ไม่มกี ารโต้ตอบ มีด้วยหรือผู้หญิงที่ไม่พอใจรอยจูบของเขา ไม่รู้สึกถึง
ตื่นเต้นเร้าใจกับการสัมผัสริมฝีปากอย่างนี้
ครั้นดวงตาคู่คมได้สบกับดวงตากลมโตเรียวที่จ้องมาอย่างตกใจ ไม่
มีอาการขัดขืนใด ๆ เพราะเจ้าตัวมัวแต่ตกตะลึง และพอหล่อนรู้สึกตัว มือ
เล็ก ๆ นั่นก็ผลักหน้าอกเขาอย่างแรง ทำให้คารีโนต้องปล่อยเจ้าของ
ริมฝีปากอิ่ม เพราะเขาไม่เคยบังคับผู้หญิง ปล่อยแล้วก็หันหลังให้ แต่
แอบมองคนตัวเล็กในกระจก เขาเห็นหล่อนยกหลังมือขึ้นเช็ดรอยจูบทั้งบน
98/559
“ครับนาย” คารีโนยืนรอจนกระทั่งเห็นร่างบางของคนที่ทุบหลังเขา
เมื่อสักครู่ กลับมาทำงาน และตรวจดูความเรียบร้อยของบริเวณที่ได้
รับผิดชอบอย่างแข็งขัน เพื่อเตรียมต้อนรับแขกทีจ่ ะเข้ามาในทานอาหารใน
อีกไม่ช้านี้ ซึ่งชั้นลอยที่หล่อนทำงานก็อยูต่ รงข้ามกับห้องทำงานของเขา
พอดี
อย่างนี้ก็ดี เขาจะได้เห็นหล่อนอยู่ในสายตา ว่าแต่ทำไมเขาต้องอยาก
ให้หล่อนอยู่ในสายตาด้วย
คำถามทีย่ ังไม่มีคำตอบ ทำให้คารีโนต้องหันหลังเดินกลับมานั่งที่
เก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน แล้วก็หันมาสนใจกับสิ่งที่อยู่บนโต๊ะ
สายตาคู่คมก้มลงมองดูบัญชีที่มีพนักงานบัญชีทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะ
รวมทั้งใบเสร็จรายการรับจ่ายต่าง ๆ ในแต่ละเดือนที่ผ่านมา โดยช่วยกัน
ดูกับเบียน สายตาเขาจดจ้องอยู่ทงี่ าน แต่ในสมองของเขากลับไม่ได้รับรู้
อะไรมากมายนัก ส่วนสายตาของเขาก็พลอยเป็นไปด้วย มันคอยแต่จะแล
ชำเลืองสอดส่ายหาแต่ร่างบางของคนที่กำลังทำงานอยู่บนชั้นลอยตรงข้าม
กับห้องทำงานนี้ตลอดเวลา
ส่วนละมุนมาศก็นึกเดาว่า คนที่อยูใ่ นห้องทำงานตรงข้าม ก็คงจะ
มองหล่อนอยูเ่ ช่นกัน สัญชาตญาณบางอย่างที่ร้อน ๆ อยูต่ รงท้ายทอย
บอกว่ามีคนจ้องอยู่ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา
คนฉวยโอกาสคนนั้น ก็ไหนเพื่อนสนิทชาวอเมริกันของหล่อนบอกว่า
เวลาที่ผู้หญิงไม่ต้องการให้ผู้ชายจูบ ก็ให้เบือนหน้าหนี หลบริมฝีปากเขา
101/559
คืนนั้นทั้งคืนละมุนมาศทำงานด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสัก
เท่าไร ทำให้งาน ผิดพลาดบ่อยครั้ง ในใจก็นึกโทษคนลามกใจร้ายที่
เป็นต้นเหตุ และยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อเขาคิดแตะต้องคนตัวเล็กของหล่อน
มือบางสองข้างกำแน่น โกรธจนรู้สึกเกลียด นึกอยากทำร้ายคนใจร้ายให้
สาสม
คนใจร้ายใจดำ อย่าได้คิดแตะต้องฟีนิกซ์เป็นอันขาด
เมื่อลับหลังเจ้านายใหญ่ไปแล้ว เฮอร์โมซาสาวเสิร์ฟชาวเม็กซิกัน
ที่ทำงานคู่กันบนชั้นลอยวันนี้ ผู้ซึ่งหลงใหลความหล่อเหลาของเจ้านาย ก็
แทบจะถลาเข้ามาหาละมุนมาศทันทีที่เจ้าหล่อนว่างเลยก็ว่าได้ พร้อมกับ
คำถามที่ทำให้คนถูกถามถึงกับสะดุ้งในใจ
“นี่มุน ยูคุยอะไรมากมายกับเจ้านายคนใหม่บ้าง”
“ทำไมหรือ”
“ก็เห็นยูเข้าไปนานจังเลย ตอนที่เจอพวกเราแค่พูดแนะนำตัวนิด
เดียวเอง” สาวสวยยังไม่หายข้องใจ
105/559
เมื่อถึงเวลาใกล้ปิดร้าน พนักงานทุกคนก็ช่วยกันเก็บกวาดทำความ
สะอาดร้านตามปกติ เสียงพนักงานเสิร์ฟสาว ๆ ทั้งเวียดนาม อเมริกัน
เม็กซิกัน ทีป่ ลื้ม เจ้านายคนใหม่ก็ดังขึ้น ละมุนมาศคิดว่าไม่แปลกหรอก
ก็เขาออกจะหล่อ เท่ และดูดีขนาดนั้น งามสง่าราวกับเจ้าชายทางยุโรปก็ไม่
ปาน
แต่อนิจจาพวกนั้นคงจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้น่าปลื้มเลยสักนิด
เดียว เอาแต่ใจตัวเอง หลงตัวเอง ฉวยโอกาส ใช้พละกำลังที่เหนือกว่า
บังคับเอากับคนที่ด้อยกว่าอย่างหล่อน
มาเฟียดี ๆ นี่เอง
พอคิดได้ว่าเขาเป็นมาเฟียผูม้ ีอำนาจ เป็นผู้ที่เต็มไปด้วยอิทธิพล
ความรู้สึกกลัวก็เกิดขึ้นในใจ ยิ่งคิดถึงเรื่องโหดร้ายป่าเถื่อนที่เคยได้ยินมา
จากเพื่อน ๆ ชาวเวียดนามบางคน เกี่ยวกับเบื้องหลังของแก๊งมาเฟียที่มี
อิทธิพลทั้งหลาย ทั้งจีน ทั้งเวียดนามแล้ว ก็ทำเอาแข้งขาอ่อนล้า หัวใจ
กระตุก
ชีวิตของหล่อนจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่น่าไปทุบเสือ เอ๊ย...มาเฟียเลย
ทำไมถึงได้โชคร้ายอย่างนี้นะ น่าจะคิดให้ดีสักนิด ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ต้อง
มานั่งลำบากใจและระแวงอย่างนี้
แล้วเขาล่ะ มา...เอ่อ...มาจูบหล่อนทำไมกัน มันก็สมควรแล้วที่จะ
โดนกำปั้น นีย่ ังน้อยไปนะ ถ้ามีท่อนไม้อยูใ่ นมือรับรองว่าหัวแตกไปแล้ว
ถ้าเขาหัวแตก หล่อนก็คงถูกฆ่าตาย
107/559
“เป็นอะไรหรือมุน” เฮอร์โมซาถามเพื่อนสาวที่ยืนทำหน้าตามู่ทู่
ซี๊ดปาก ขาข้างหนึ่งยกขึ้นพร้อมกับเอามือจับปลายเท้าเอาไว้
“เจ็บเท้านิดหน่อย ฉันพลาดไปเตะขาเก้าอี้เข้าให้”
“ระวังหน่อยสิ ยูเตะขาเก้าอี้ประจำเลยนะ” สาวเซ็กซี่เตือนยิ้ม ๆ
“จ้ะ ขอบใจมาก”
ไม่ปลอบแล้วยังมาว่าซุ่มซ่ามอีก
หลังจากทีท่ ำทุกอย่างเสร็จแล้ว ทุกคนก็ทยอยกลับบ้าน มิสมินต์ที่
กำลังสำรวจความเรียบร้อยหันมาตะโกนบอกกับละมุนมาศว่า
“มุน รอฉันด้วย”
ละมุนมาศรอจนผู้จัดการสาวปิดล็อกประตูด้านหน้าเสร็จแล้วเดินมา
หาจึงได้ถามว่า
“มีอะไรหรือคะมิสมินต์”
“วันนีเ้ ป็นอะไร ฉันเห็นยูทำงานไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไรเลย มีอะไร
กวนใจหรือ” เงียบไม่มีเสียงตอบจากลูกน้องคนสวย นอกจากริมฝีปาก
อวบอิ่มที่เม้มเข้าหากันแน่นแล้วก็ปล่อยอาการนั้นยิ่งทำให้มิสมินต์สงสัย
มากขึ้นไปอีก หลังจากทีแ่ อบมองการทำงานของคนข้างตัวตั้งแต่ออกมา
จากห้องของเจ้านายเมื่อตอนหัวคํ่า
“มีอะไรที่อยากคุยให้ฉันฟังหรือเปล่า”
109/559
“ไม่มีค่ะ” ตอบพร้อมกับหลบสายตา
“ไม่มกี ็ไม่เป็นไร รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วง คุยกับฉันได้ทุกเรื่องนะ คิดว่า
ฉันเป็นพี่สาวหรือว่าน้าของยูก็ได้” คำพูดที่ออกมาจากปากของมิสมินต์ ทำ
ให้ละมุนมาศอดที่จะตื้นตันใจไม่ได้ ท่ามกลางชีวิตที่โดดเดี่ยวก็ยังมีคนที่
ยังห่วงใยหล่อนอยู่
“ขอบคุณค่ะมิสมินต์”
“ว่าแต่แน่ใจนะว่าไม่มีอะไร” มิสมินต์ถามยํ้า
“ค่ะ แต่ถ้ามี มิสมินต์จะเป็นคนแรกที่มนุ จะคุยด้วย ขอบคุณมากค่ะ
สำหรับความห่วงใยที่มีให้มนุ ” ละมุนมาศกอดร่างเล็กของเจ้านายอย่าง
ขอบคุณ
“งั้นก็ขับรถกลับบ้านดี ๆ”
“เช่นกันค่ะมิสมินต์ กู๊ดไนต์”
ละมุนมาศขับรถกลับบ้านคืนนั้น โดยไม่รู้ว่ามีรถอีกคันขับตามหลัง
ไปห่าง ๆ แต่มิสมินต์รู้และเห็นการกระทำบางอย่างของคนสนิทของ
เจ้านาย ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจ แต่กพ็ อจะมองออกว่าเจ้านายให้ความ
สนใจกับพนักงานสาวสวยคนขยันนิสัยดีคนนี้มากกว่าคำว่าเจ้านายกับ
ลูกน้องเป็นแน่ ถึงแม้จะไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นไปในทำนองไหนก็ตาม
ก็คงต้องดูกันต่อไป
110/559
ให้หล่อนกลับบ้าน คิดถึงใบหน้าสดใสไร้เดียงสานั้นแล้วก็อยากจะร้องไห้
ละมุนมาศไม่คิดว่าเรื่องราวเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับหล่อนได้
นึกโกรธไปถึงคนที่คิดร้ายอย่างนีก้ ับหล่อน แล้วถ้าหล่อนตาย
ฟีนิกซ์จะเป็นอย่างไร จะอยู่อย่างไร ไม่ได้...หล่อนจะตายไม่ได้
คิดได้ ดังนั้น กำลังใจในการฮึดสู้เอาตัวให้รอดก็บังเกิดขึ้น มือบาง
หันไปคว้าโทรศัพท์มือถือบนเบาะข้างตัวมากำไว้ เร่งความเร็วของรถเพิ่ม
ขึ้น ตั้งสติให้มั่น ถ้าเกิดถูกทำร้าย ซึ่งอาจจะเกิดได้หลายกรณี อย่างเช่น
คนร้ายอาจจะพุ่งชนท้ายหรือว่าเบียดให้รถหล่อนตกข้างทางหรือ ไม่กต็ ก
คลอง และก็ลงมายิงซํ้าเหมือนอย่างในทีวี ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ หล่อนจะ
ต้องตั้งสติให้ดี เพื่อที่จะได้ขอความช่วยเหลือจากไนน์วันวัน (911 -
ระบบขอความช่วยเหลือเร่งด่วนในอเมริกา) ได้ทันท่วงที
เป็นไงเป็นกัน
แค่เตรียมตัวก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และโชคดีทบี่ นถนนสาย
หลักยังมีรถสวนมาเป็นระยะ ๆ ถ้าคนร้ายคิดจะลงมือฆ่าหล่อนจริง ๆ ก็
คงจะต้องลงมือในเวลาอันรวดเร็วเพื่อที่จะได้หนีทัน
ละมุนมาศขับรถด้วยใจระทึก ขับไปก็มองกระจกหลังรถไปด้วย
และก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ตอนนี้รถของหล่อนกำลังเลี้ยว
เข้าหน้าหมู่บ้านแล้ว ไฟที่สว่างไสวสองข้างทางในยามดึกสงัดเช่นนี้ทำให้
จิตใจทีห่ วาดกลัวดีขึ้น เหตุการณ์ที่หล่อนคิดและกลัวก็ยังไม่เกิดขึ้น แต่ว่า
รถคันนั้นก็ยังตามมาห่าง ๆ พอจอดรถหน้า คอนโดมิเนียมละมุนมาศก็
113/559
พอเจ็บใจก็อดที่จะนํ้าตารื้นไม่ได้
คิดว่าเป็นเจ้านายแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นใช่ไหม คิดว่าเป็นผู้ชาย
แล้วจะทำร้ายผู้หญิงเมื่อไรก็ได้อย่างนั้นใช่ไหม คนบ้า คน...คน...หน้าไม่
อาย
แค่คิดจะเอาคืนก็รู้ว่าหมดสิทธิ์แล้ว เขาคงไม่ปล่อยหล่อนให้
ลอยนวลเป็นแน่ เพราะเขาก็ประกาศออกมาแล้ว เขาโกรธและ
อาฆาตมาดร้ายขนาดนั้นเลยหรือ
11
ระแวง...ระวัง
ละมุนมาศตื่นแต่เช้ามืดเนื่องจากว่านอนไม่ค่อยหลับ สมองของ
หล่อนครุ่นคิดอยูต่ ลอดเวลา จึงลุกขึ้นอาบนํ้าแต่งตัวเสร็จแล้วก็ยังไม่ถึง
เวลาที่จะต้องปลุกคนตัวเล็ก หล่อนจึงไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเล็ก
ข้างหน้าต่าง
โดยนั่งอยู่ในความมืด และก็อดทีจ่ ะคิดถึงรูปร่างลักษณะของรถที่
ติดตามหล่อนมาคันนั้น รถคันใหญ่จำได้ง่ายดายมากมาย รถยี่ห้อนี้ไม่ได้
วิ่งอยู่บนถนนมากนัก หล่อนทำเหมือนกับว่าไม่รู้ตัวว่ามีคนตาม ตอนที่อุ้ม
ฟีนิกซ์ออกมาจากห้องมิสซิสลี รถคันนั้นก็ยังจอดอยูท่ ี่เดิม แต่พอหล่อน
พาฟีนิกซ์เข้าไปนอนแล้ว ปิดไฟในห้องออกมาแง้มม่านแอบดูอีกที รถคัน
นั้นก็หายไปแล้ว
แล้วก็สรุปได้ว่า มันน่าจะเป็นรถคันเดียวกับที่ขับตามหล่อนในตอน
เช้าตอนไปทำงานและก็ตอนเย็นตอนกลับจากทำงาน
117/559
“บอกไปว่าฉันงานยุ่ง ยังคุยไม่ได้”
“ครับนาย”
ได้ยินชื่อ เลอา สาวสวยผู้ร้อนแรงแล้ว คารีโนก็รีบสลัดชื่อนั้นออก
ไปจากหัวสมองทันที ก้มหน้าก้มตาพิจารณากระเป๋าหลายใบในคอลเลกชัน
ใหม่ที่ทางฝ่ายตัดเย็บส่งตัวอย่างมาให้ดู
คารีโนมองตัวอย่างกระเป๋าทีเ่ รียงรายอยู่บนโต๊ะแล้ว ก็อดที่จะคิดถึง
นักเลงกำปั้นไปด้วยไม่ได้ คิดว่าหล่อนจะชอบสะพายกระเป๋าแบบไหนนะ
เพราะเท่าที่เห็นจากรูปห้าวันทีผ่ ่านมา หล่อนสะพายกระเป๋าใบเดียวเท่านั้น
ถ้าเป็นหญิงสาวทีเ่ ขาคบหา หล่อนพวกนั้นจะเปลี่ยนกระเป๋าทุกครั้งที่มาเจอ
เขาก็ว่าได้ เขาก็เลยไม่แน่ใจว่าเจ้าของกำปั้นชอบแบบไหนกันแน่
สมองก็คิด ตาก็มองคนในรูป มือก็ร่างแบบกระเป๋าไปด้วย สุดท้าย
เขาก็ได้กระเป๋าสะพายสำหรับสาวสมัย ที่อ่อนใน แข็งนอก ใจกล้า ใจเด็ด
ไม่ย่อท้อ หรือ เกรงกลัวอะไร คารีโนยกแบบในมือขึ้นดูแล้วก็ต้องยิ้ม ไม่
น่าเชื่อว่าเขาจะออกแบบกระเป๋าได้ในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมกับความคิดที่
ว่า
ไม่น่าเชื่อว่าเขาก็ออกแบบกระเป๋าผู้หญิงได้ ทั้ง ๆ ทีไ่ ม่เคยคิดทำมา
ก่อนเลย
“เบียน” คารีโนเรียกลูกน้องคนสนิทผ่านเทเลคอม
“เข้ามาในนี้หน่อย”
124/559
ไม่ถึงวินาทีร่างสูงของลูกน้องก็มาปรากฏตัวในห้อง
“เอาแบบนี้ไปให้มิสเตอร์เคนท์ตัดเย็บให้หน่อยสิ ไม่เร่งนะ เมื่อไร
ก็ได้ให้ มิสเตอร์เคนท์ตัดด้วยตัวเอง ตามรายละเอียดที่บอกเอาไว้” บอก
พร้อมกับตวัดลายเซ็นลงบนแบบ
“ครับนาย” เบียนรับปาก แต่ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าแบบของคอ
ลเลกชันหน้าร้อนเจ้านายก็อนุมัติไปแล้ว ทางโรงงานก็เริ่มตัดเย็บไปจนจะ
ส่งให้ลูกค้าแล้วนี่นา แล้วแบบที่อยู่ในมือของเขานีอ่ ะไร พิเศษอย่างนั้น
หรือ อีกไม่นานน่าจะได้รู้ว่ามันคืออะไร
หลังจากสะสางงานประจำวันทุกอย่างแล้ว ละมุนมาศก็ขับรถออก
จากคลินิกแพทย์มุ่งตรงไปยังเวียดเฮาส์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการขับรถกว่าสี่
สิบห้านาที ในเวลาหลังเลิกงานทีท่ ุกคนออกมาจากที่ทำงานกลับบ้าน รถจึง
ติดทุก ๆ สัญญาณไฟจราจรเลยก็ว่าได้
ละมุนมาศใช้ช่วงเวลานี้ คิดหาคำพูดเพราะ ๆ ไว้พูดกับเขาไปด้วย
“เจ้านายคนใหม่” หลังจากสัญญากับตัวเองว่า
จะพูดกับเขาให้รู้เรื่อง จะใจเย็น เอาเหตุเอาผลมาพูดกัน จะไม่
ทำร้ายร่างกายเขา พร้อมกับวงเล็บเอาไว้ในใจว่า เขาจะต้องไม่ทำอะไร
หล่อนด้วยเช่นกัน จะขอร้องเขาดี ๆ ว่าอย่ามายุ่งกับหล่อนเลย มันไม่
คุ้มกัน หล่อนไม่มีอะไรให้เขาตักตวงหรอก เงินเก็บก็ไม่ได้มีมากมายอะไร
มีหนี้สินจำนวนหนึ่ง แถมมีลูกติดอีกต่างหาก
125/559
หลากหลายคำพูดที่ละมุนมาศพยายามคิดและฝึกพูดออกมาให้มัน
น่าเห็นใจที่สุด และก็หวังว่าเขาจะเห็นใจ
ทันทีทเี่ ข้าไปในร้านก็พบหน้าผู้จัดการสาว จึงกล่าวทักทายแล้วละมุน
มาศยื่นหน้าไปกระซิบถามว่า
“มิสมินต์คะ วันนี้เจ้านายของมิสมินต์จะมาหรือเปล่าคะ”
“มีอะไรหรือเปล่ามุน”
“นิดหน่อยค่ะ”
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ปกติช่วงกลางวันท่านไปดูโรงงาน แต่ถ้ามา
ที่นี่ก็น่าจะเป็นดึก ๆ”
“ถ้าท่านมา มิสมินต์ช่วยแจ้งท่านด้วยนะคะว่า มุนมีเรื่องจะคุยกับ
ท่าน ขอเวลาแค่ห้านาทีเท่านั้น” คำตอบของลูกน้องกับหน้าตาเอาจริงเอาจัง
ดวงตามีแววครุ่นคิด ทำเอามิสมินต์นึกสงสัย
“มีอะไรหรือมุน” กระซิบถาม
“เอ่อ...มีนิดหน่อยค่ะ”
มิสมินต์ไม่กล้าเอ่ยปากถามต่อ ทั้ง ๆ อยากรู้ และท่าทางคนถูกถาม
ก็คงจะไม่เปิดปากแน่นอน
“ได้ ถ้าท่านมาฉันจะบอกให้”
126/559
“ขอบคุณค่ะมิสมินต์” ละมุนมาศเข้าไปกอดร่างเล็กของเจ้านายอย่าง
เอาใจ แต่ก็โดนเจ้านายผลักออกเบา ๆ
“ไม่ต้องมาอ้อนเลยย่ะ มีเรื่องอะไรไม่เห็นบอกให้ฉันฟัง ไม่ไว้ใจกัน
แล้วใช่ไหม” อีกคนพูดงอน ๆ ทำเอาละมุนมาศหัวเราะคิกออกมา
“ใครบอกว่าไม่ไว้ใจคะ มุนไว้ใจมิสมินต์ที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่เรื่องนี้มุ
นต้องจัดการเองค่ะ มุนก็ยังไม่รู้ว่มันจะออกหัวออกก้อยเลย เฮ้อ...มุนไป
ทำงานก่อนดีกว่า เดี๋ยวแขกก็เริ่มเข้าร้านแล้ว อย่าลืมนะคะมิสมินต์”
“ย่ะ”
มิสมินต์มองตามหลังลูกน้องสาวคนสวย พลางคิดว่า
ลูกน้องของหล่อนมีเรื่องอะไรที่ต้องพูดกับเจ้านายใหญ่ด้วยตัวเอง
หรือ
แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะลูกน้องของหล่อนคนนี้ไม่ใช่จะเปิดปากพูด
อะไรได้ง่าย ๆ ทั้งเรื่องของคนอื่นและเรื่องของตัวเอง แล้วก็อดที่จะคิดถึง
โทรศัพท์ทเี่ พิ่งจะได้รับก่อนที่เจ้าตัวจะเข้ามาไม่ได้ ปลายสายเป็นมารดา
ของเจ้านาย ฝากบอกให้ดูแล ‘ละมุนมาศ’ เป็นพิเศษ
แล้วหล่อนจะดูแลพิเศษได้แค่ไหนกัน เพราะเรื่องบางเรื่องมันเป็น
ของคน สองคน บุคคลที่สามไม่เกี่ยว ไหน ๆ ท่านฝากเอาไว้กต็ ้องดูแลให้
แต่คงจะทำได้เท่าที่ทำได้แค่นั้นเอง
12
มามี้...ขอโทษ
กลัวว่าคนตัวเล็กในอ้อมแขนที่กำลังหลับสนิทตอนนี้จะถูกทำร้ายไปด้วย
เจ็บใจจนนํ้าตาแทบไหล เมื่อคิดถึงความร้ายกาจของเขา ‘เจ้านายคนใหม่’
เขาคิดจะเอาหล่อนถึงตายเชียวหรือ แค่หยิกเขาครั้งเดียว และเขาก็
จูบหล่อนตั้งสองครั้งเป็นการเอาคืนแล้ว ยังให้คนตามมาจะทำร้ายกันอีก
โหดร้ายผิดมนุษย์ จริง ๆ
เมื่อเข้าห้อง ปิดล็อกประตูแน่นหนาแล้ว ละมุนมาศก็ส่งคนตัวเล็ก
เข้านอน และจัดการกับตัวเอง ในขณะทีห่ ัวสมองก็ยังไม่ว่างเว้นจาก
เรื่องราวที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป
ร่างบางพลิกตัวไปมาบนเตียงนอน ไม่สามารถทีจ่ ะหลับตาลงได้ หัว
สมองน้อย ๆ เต็มไปด้วยความคิดต่าง ๆ นานาในทางร้าย ๆ และ
สยดสยองน่ากลัวทั้งสิ้น นึกโกรธคนที่เป็นต้นเรื่องที่ทำให้ชีวิตของหล่อน
ต้องยุ่งยาก มีแต่ความวิตกกังวลในหัวใจ ชีวิตที่เคยเรียบง่ายมีความสุข
ตามประสา เปลี่ยนไปเป็นว้าวุ่นระคนหวาดกลัว ไร้ความสุขอย่างสิ้นเชิง
ตั้งแต่มาเจอ...เขา...ผู้ชายร้ายกาจ
แต่ก่อนแต่ไรละมุนมาศไม่เคยหวาดกลัวอะไรทั้งสิ้น เพราะหล่อน
ดำรงชีวิตอยูใ่ นความไม่ประมาท และไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่
ล่อแหลมหรือว่าผิดกฎหมายใด ๆ แต่ครั้งนีใ้ หญ่หลวงนัก ที่หล่อน
อาจหาญทำร้าย มาเฟีย ที่เห็นชีวิตของคนอื่น ไร้ค่าเป็นแค่ผักปลา
แล้วชีวิตของหล่อนจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่อยากจะคิด
131/559
คิดแล้วคิดอีกจนรู้สึกปวดหัว จนต้องค้นหายาแก้ปวดหัวในลิ้นชัก
โต๊ะข้าง หัวเตียงออกมาทาน นึกอยากจะร้องไห้ แต่ก็ไม่มนี ํ้าตา มันอัด
แน่นอยู่ในอกจนหนักไปหมด ละมุนมาศได้แต่ปลอบตัวเอง
หล่อนต้องเข้มแข็ง ทุกปัญหามีทางออก หล่อนต้องออกไปจาก
ปัญหานี้ให้ได้
หางานใหม่ ย้ายที่อยู่ใหม่ แต่การย้ายที่อยู่ใหม่ก็ใช่ว่าง่าย ๆ ต้อง
ขายคอนโดมิเนียมหลังนี้แล้วหาหลังใหม่ แต่จะไปหาที่ไหนได้ทัน
คอนโดมิเนียมตอนนี้ ราคาก็ตํ่าจนหลายรายต้องขายขาดทุน แล้วหล่อนจะ
เอาเงินที่ไหนมาจ่ายส่วนต่างที่ขาดทุน ส่วนงานก็ใช่ว่าจะหาได้ง่าย ๆ ใน
ภาวะเศรษฐกิจที่ตกตํ่ายํ่าแย่ ท่ามกลางจำนวนคนตกงานมากมาย แล้ว
หล่อนจะทำอย่างไรดี
ถ้าตัวคนเดียว ละมุนมาศก็คิดถึงการกลับไปเริ่มต้นใหม่ที่เมืองไทย
ถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่คุ้นเคยนัก แต่กย็ ังดีกว่าอยู่เป็นเป้าหมายให้ใครบาง
คนทำร้ายที่นี่
แต่ละมุนมาศก็ทำไม่ได้ เพราะมันคงไม่เหมาะกับฟีนิกซ์ ฟีนิกซ์เกิด
ที่นี่ คนตัวเล็กของหล่อนก็ควรทีจ่ ะอยูป่ ระเทศนี้ ประเทศที่มีทุกอย่าง
เพียบพร้อม
แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นแล้ว หล่อนควรจะทำอย่างไรดี คิดไม่ตก
ขอโทษฟี... มามี้ขอโทษ
132/559
ร่างที่เคยอวบอิ่มตอนนี้ผ่ายผอมลง ใบหน้าที่เคยแจ่มใสแล
เศร้าหมอง ดำคลํ้า ราวกับคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ในชุดผ้าขนหนู
กระโจมอกเพิ่งเดินออกมาจากห้องนํ้า เหลือบตามองโทรศัพท์มือถือทีถ่ ูก
โยนลงบนที่นอนเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาแล้วก็อดที่จะค้อนให้ไม่ได้ นึก
โมโหในใจเมื่อคิดว่านางพยายามโทรศัพท์หาลูกสาว แต่ลูกสาวกลับไม่
ยอมรับสาย โทร. ไปหลายครั้งก็ยังเงียบสนิท จนโมโหจึงโยนโทรศัพท์ทิ้ง
อย่างไม่ไยดี
แต่พอคิดอีกทีความโมโหก็ลดลง เมื่อคิดได้ว่าที่ลูกสาวไม่รับสาย ก็
อาจจะเป็นเพราะเบอร์ไม่คุ้นเลยไม่กล้ารับ
นานแค่ไหนแล้วนะที่นางไม่เคยได้รับการติดต่อจากลูกสาว ไม่เคย
สนใจไยดี นานแค่ไหนแล้วนะที่นางไม่เคยโทร. ไปหา บอกข่าวความเป็น
ไปของตัวเองและไถ่ถามข่าวคราวของลูก
ก็ไม่แปลกทีล่ ูกไม่รับสายของนาง เพราะคงไม่คิดว่าแม่จะโทร. หาใน
เวลาดึกดื่นเช่นนี้
คุณละมุดบอกกับตัวเองว่า
ค่อยหาเวลาโทร. ไปใหม่ หรือไม่ก็ไปหาที่ห้องพักเลยก็ได้
วูบหนึ่งทีค่ ิดละอายใจต่อการกระทำของตัวเอง เวลาไม่มีความทุกข์
ไม่เคยเลยสักครั้งที่นางจะคิดติดต่อไปหาลูกสาว แต่พอเวลาทุกข์ หลาย
ครั้งทีน่ างจับโทรศัพท์ขึ้นมากดหา แต่กดไปได้ครึ่งทางก็ต้องกดทิ้ง
133/559
“ผมกับเบียนยังครับ คุณยายมีอะไรทานบ้างครับ”
“จะเอาอะไร ข้าวต้ม ปลาทอด กุนเชียงทอด ไข่เค็มก็มี หรือจะเอา
ซินนามอนโรลส์ (Cinnamon Rolls - เป็นขนมหวานที่พบบ่อยในทวีป
อเมริกาเหนือและยุโรปเหนือ ซินนามอนโรลประกอบด้วยแผ่นยีสต์ม้วน
และโรยส่วนผสมระหว่างอบเชยและน้ำตาล (และลูกเกดหรือ องุ่นสับใน
บางกรณี) เหนือชั้นเนยบาง ๆ เมื่อรีดแป้งเป็นแผ่น แล้วตัดเป็นส่วน ๆ
และอบ ซินนามอนโรลมักจะโรยด้วยน้ำตาลครีมโรยหน้าขนมบ่อย ๆ หรือ
เคลือบเงา) ยายอบไว้แล้ว แค่อุ่นเท่านั้น วันต้มกาแฟเพิ่มด้วย” ตอนท้าย
หันไปสั่งวัน
“อะไรก็ได้ครับ ยกมาได้เลย”
“ผมไปช่วยวันนะครับ” เบียนบอกพร้อมกับเข้าไปในครัว ปล่อยให้
เจ้านายได้คุยกับคุณยายตามลำพัง
“คารีนาไปช่วยด้วยค่ะ” ร่างเล็ก ๆ วิ่งตามไปในครัวอีกคน ไม่นาน
นักอาหารทั้งหลายก็เริ่มเรียงรายอยู่บนโต๊ะ
“งานการเป็นอย่างไรบ้าง”
“ที่โรงงานก็เริ่มคอลเลกชันหน้าร้อนแล้วครับ น่าจะส่งให้ลูกค้าได้
ภายในต้นเดือนมิถุนายนครับคุณยาย พอฤดูร้อนมาถึงสินค้าเราก็
วางตลาดแล้ว ส่วนที่โรงแรมก็เรื่อย ๆ ครับ ตอนนีอ้ ากาศยังเย็นอยู่ ก็มี
ลูกค้าบ้าง ที่เวียดเฮาส์ก็ปกติครับ”
135/559
“ถ้าชอบก็เข้าไปคุยกับเขาสิ เราเป็นผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเริ่มเข้าหา”
“ผมว่าจะชวนเขามาอยู่ด้วยกันที่บ้านเลยดีกว่า ง่ายดี” สิ้นเสียงคุย
เสียง เผียะก็ดังขึ้น
“คุณยายมาตีผมทำไมครับ” ถามทั้ง ๆ ที่รู้ว่าทำไมถึงถูกตี
“ผู้หญิงเขามีพ่อมีแม่ อยู่ ๆ จะไปชวนเขามาอยูด่ ้วยได้อย่างไรกันลูก
ระวังเถอะ จะโดนลูกหินปาหัวไม่รู้ตัว”
คำตอบของคุณยายกลีบบัวทำให้หลานชายหัวเราะเสียงดังก้อง
ทีเดียว
“แดดดี้หัวเราะอะไรคะ” เสียงภาษาไทยแปร่ง ๆ ของลูกสาวที่นั่งดู
โทรทัศน์อยู่ไม่ไกลดังขึ้น ทำให้คารีโนตาโตกับสิ่งที่ได้ยิน
“คารีนาพูดภาษาไทยได้เยอะขนาดนี้เลยหรือลูก”
“ค่ะ คารีนาพูดไทยกับคุณทวดและก็ฟีนิกซ์” ใบหน้างง ๆ ของ
หลานชายทำให้คุณยายกลีบบัวต้องอธิบายเพิ่มเติม
“เพื่อนของคารีนาน่ะ แม่เป็นคนไทยก็เลยพูดไทยได้ ยายพาไปเล่น
ด้วยกันก็เลยพูดไทยได้ และคารีนาก็ชอบพูด เวลาอยูก่ ับยายเขาก็พูดไทย
ตลอดเลยนะ”
“ดีครับ เก่งมากคารีนา แดดดี้ภูมิใจในตัวหนูมาก ๆ เลย”
“ขอบคุณค่ะแดดดี้”
137/559
“ไฮ คารีนา”
“ไฮ ฟี ยูมานานแล้วหรือ”
เด็กหญิงคารีนาในชุดสีเหลืองอ่อนตัวยาวคลุมสะโพก พร้อมกับเสื้อ
แจ็กเกตสีเดียวกันกับกางเกงขายาวสีเหลืองเข้ม ผ้าผูกผมสีเดียวกันกับ
รองเท้าเข้าชุดทักทายกลับอย่างยินดี
“อือ ทำไมยูมาช้าจัง ฉันรอตั้งนานจนเบื่อแล้ว เราไปเล่นกันเถอะ”
สองมือน้อย ๆ จูงกันกำลังจะวิ่ง
“ฟียังไม่ทักทายคุณยายกับวันเลยนะคะ” ละมุนมาศทักทายคุณยาย
กลีบบัวและวัน แล้วก็ต้องรีบท้วงคนตัวเล็กทีก่ ำลังจะจูงมือเพื่อนไปวิ่ง
เล่นเอาไว้ ฟีนิกซ์ก็เลยต้องปล่อยมือเพื่อนตัวเล็ก เด็กหญิงทั้งสองก็เลย
ต้องหันกลับมาทักทายทุก ๆ คน พร้อมกับคำพูดไร้เดียงสาที่ทำให้คุณ
ยายกลีบบัวอดที่จะหัวเราะไม่ได้
“ขอโทษค่ะ ฟีดีใจที่เห็นคารีนาก็เลยลืม สวัสดีค่ะคุณยาย ไฮ วัน
ว่าแต่วันนี้คุณยายสวยจังเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ยายเข้าใจ และก็ขอบใจมาก แหม เข้าใจยอคนแก่นะ
จ๊ะ” คุณยายหัวเราะเบา ๆ
“คุณยายสวยจริง ๆ นะคะ” เสียงเล็ก ๆ ยืนยันทำให้คุณยาย
กลีบบัวต้องตอบกลับว่า
140/559
เมื่อได้รับอนุญาต มือเล็กก็คว้าถุงตรงหน้าแล้วเข้าไปกอดร่างบางของ
คุณยายเป็นการขอบคุณ พอผละออกมาก็เปิดถุงดู และใบหน้าเล็ก ๆ ก็
ยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าข้างในถุงนั้นเป็นอะไร
“ช็อกโกแลตชิฟคุกกี้ของชอบของฟีเลย ขอบคุณค่ะคุณยาย”
มือเล็ก ๆ ยกขึ้นไหว้ขอบคุณอีกครั้ง
“ด้วยความยินดีจ้ะ คารีนาก็ช่วยยายทำด้วยนะ เสร็จแล้วก็มานี่ ถึง
ได้มาช้าไงจ๊ะ จับดูสิยังอุ่น ๆ อยู่เลย”
เมื่อได้ยินคุณยายบอกอย่างนั้น ฟีนิกซ์ก็หันไปทางเพื่อนสนิททันที
“จริงหรือคารีนา ขอบคุณมากนะ ต้องอร่อยมาก ๆ เลย กลิ่นหอม
จัง นี่ฟีก็มขี องให้คารีนากับคุณยายและก็วัน ฟีช่วยมามี้ห่อด้วยนะ” ว่า
แล้วเจ้าตัวก็คว้าถุงที่วางอยู่บนเก้าอี้ยื่นส่งให้เพื่อนตัวเล็ก
“อะไรหรือฟี”
“เฟรชโรลส์ (Fresh Rolls – โรลผักสด เมนูอาหารเวียดนามนี้
สามารถเรียกได้หลายชื่อไม่ว่าจะเป็น Fresh Spring Rolls หรือไม่ก็
Summer Rolls ส่วนชื่อภาษาเวียดนามคือ Goi cuon) ค่อยกลับไป
กินที่บ้านนะ ให้คุณยายถือไว้ก่อนก็ได้ ตอนนี้เราไปเล่นกันเถอะ มามี้
ฟีกับคารีนาไปเล่นก่อนนะคะ”
ละมุนมาศพยักหน้าให้ พร้อมกับยื่นมือไปรับถุงจากเด็ก ๆ
142/559
มือเล็ก ๆ สองมือก็จับจูงกันวิ่งอย่างร่าเริงไปเล่นยังเครื่องเล่นที่
ตั้งอยูร่ ายรอบนั้น จากตรงนั้นไปตรงนี้อย่างตื่นเต้น พร้อมกับเสียงพูดคุย
โหวกเหวก
“เชิญคุณยายนั่งก่อนเถอะค่ะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ยายเพิ่งลงมาจากรถ ขอยืนยืดแข้งยืดขาหน่อยดีกว่า
อ๊ะ... อันนี้ข้าวต้มมัด ยายทำเอง ไม่รู้จะอร่อยเท่ากับที่เขาขายหรือเปล่า
ลองชิมดูนะจ๊ะ หนูมุน” คุณยายยื่นอีกถุงให้
“อุ๊ย ขอบพระคุณค่ะคุณยาย ทีหลังไม่ต้องลำบากนะคะ”
“ไม่ได้ลำบากหรือว่าเหนื่อยอะไรหรอก คนแก่อยูบ่ ้านเฉย ๆ ไม่รจู้ ะ
ทำอะไร พอดีมีข้าวเหนียวซื้อมาตั้งนานแล้วกินไม่หมดสักที ยายก็เลยชวน
วันทำข้าวต้มมัดกัน ต้องขอโทษด้วยที่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไม่ได้มา เพราะว่า
ต้องร่วมงานวันเกิดของมิสซิส แซมมี แม่บ้านที่บ้านของลูกสาว คารีนาก็
ผิดหวัง วันนี้ก็เลยคิดว่าต้องมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นคารีนางอนยายเป็นแน่”
“แต่ที่มาช้าก็เพราะว่ายายเปรย ๆ ว่าจะอบคุกกี้ พอคารีนาได้ยินก็
บอกว่าให้อบเลย จะได้เอาไปแบ่งให้ฟีนิกซ์กินด้วย พออบแล้วก็เลยต้อง
อบให้หมดกล่อง เพราะนำออกจากช่องแข็งแล้ว ก็เลยทำให้มาช้า คิดว่าถ้า
มาที่นแี่ ล้วไม่เจอหนู ยายก็ว่าจะพาไปที่คอนโดมิเนียม โชคดีได้เจอหนูกับ
หนูฟีที่นี่ ว่าแต่เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ สบายดี หรือเปล่า งานการยุ่งไหม ออก
เดินกันดีไหม จะได้ยืดแข้งยืดขา วันดูเด็ก ๆ นะ” คุณยายกลีบบัวหันไป
สั่งวัน ก่อนที่จะออกเดิน
143/559
คำถามนั้นทำเอาหน้าที่เป็นสีระเรื่อแดงเถือกขึ้นทันที คุณยายได้แต่
ชำเลืองมองอย่างไม่เข้าใจ
ถามถึงเจ้านายคนใหม่ แต่คนถูกถามหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาทันที
“เขายังเด็กอยู่เลยค่ะคุณยาย น่าจะประมาณสักสามสิบมั้งคะ มุนเดา
เอาค่ะ หน้าตาออกลูกครึ่งหรือว่าพวกผสมทั่วไป ดูดีทีเดียว วันไหนที่
เจ้านายเข้าเวียดเฮาส์ก็ทำเอาสาว ๆ ทำงานกันอย่างมีชีวิตชีวา
กระชุ่มกระชวยกันขึ้นเยอะ ก็เป็นเรื่องธรรมดา เหมือนเป็นอาหารตาอาหาร
ใจของสาว ๆ แต่เรื่องใจดีหรือไม่นี่ มุนบอกไม่ได้จริง ๆ เพราะว่ามุนเพิ่ง
จะได้เจอเจ้านายครั้งนี้เป็นครั้งที่สองเองค่ะ” ละมุนมาศตอบกลาง ๆ
“แล้วหนูคิดว่าเจ้านายคนใหม่เป็นอย่างไรในสายตาสาว ๆ อย่างหนู”
เสียงถอนหายใจจากคนตรงหน้า ทำให้คุณยายต้องเลิกคิ้วรอคำตอบ
เมื่อสักครูห่ น้าแดง ตอนนี้ถอนหายใจ หลานชายของท่านทำให้
ลูกน้องหนักใจขนาดนี้เลยหรืออย่างไรกัน
“ตอบยากจังเลยค่ะ เอาแบบทั่วไปสำหรับคนที่มองจากภายนอกก็
แล้วกัน นะคะ ตัวสูงใหญ่ หน้าตาแบบลูกผสมก็ดดู ี ท่าทางสง่าผ่าเผย
บุคลิกเป็นผู้นำ ตอนเห็นเขาครั้งแรกที่มาทานอาหารกับท่านไนฮัวและ
ภรรยา มุนคิดว่าเขาเหมือนมาเฟียมากกว่า”
คำพูดนั้นทำให้คุณยายหลุดหัวเราะออกมา ละมุนมาศอดที่จะสงสัย
ไม่ได้
145/559
“คุณยายหัวเราะทำไมคะ”
“หัวเราะตรงที่หนูบอกว่าท่าทางเหมือนมาเฟีย”
“จริง ๆ นะคะคุณยาย เขาเหมือนมาเฟียจริง ๆ ค่ะ ตัวก็ใหญ่โตอยู่
แล้ว หน้าตายังถมึงทึงด้วยค่ะ ทีนี้เอาแบบจริงใจตามที่ความรู้สึกของมุน
มุนจะบอกคุณยายตรง ๆ นะคะ มุนไม่ค่อยชอบเขาเท่าไรหรอกค่ะ
เจ้านายคนใหม่ชีกอ นิสัยไม่ดี เอาแต่ใจตัวเองจะตาย บ้าอำนาจ
ฉวยโอกาส คอยดูนะ ครั้งต่อไปถ้าเขาทำอย่างนั้นกับมุนอีก จะกัดให้ลิ้น
ขาดเลย...อุ๊บ” ความโมโหผสมกับความโกรธที่กักเก็บเอาไว้แต่เพียงลำพัง
ทำให้ละมุนมาศระบายออกมาโดยไม่ทันได้คิด และก็อดที่จะหน้าแดงไม่
ได้ ยกมือปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน เมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไป
คุณยายกลีบบัวอมยิ้มน้อย ๆ แต่ในสมองคิดว่า
เจ้าหลานชายตัวดีไปทำอะไรหญิงสาวน่ารักคนนี้กันแน่นะ ถึงได้โดน
หมายหัวเอาคืนซะขนาดนี้ ไปทำนิสัยไม่ดี เอาแต่ใจ ชีกอ บ้าอำนาจ
อย่างไรกันแน่ นีข่ นาดเพิ่งเจอกันแค่สองครั้งเองนะ เจ้าหลานชายทำอะไร
คนน่ารักตรงหน้านีก้ ันหนอ ไวไฟจริง ๆ เอ๊ะ...หรือว่าสาวไทยที่หลานชาย
พูดถึงจะเป็นคนนี้ หรือจะจริง
แต่จะโทษหลานชายคนเดียวก็ไม่ได้ เพราะว่าคนตรงหน้านี้ก็น่ารัก
เหลือเกิน ใครที่มองไม่เห็นความน่ารักไร้เดียงสา ก็แสดงว่าสายตาคง
ไม่ค่อยจะดีนั่นเอง มันชักจะยังไงเสียแล้ว อย่างนี้มีลุ้นสินะ
146/559
คุณยายกลีบบัวชำเลืองหางตามองคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ โหนกแก้มยัง
เป็นสีแดงสุกปลั่งแล้ว ก็อดที่จะถามออกไปไม่ได้ว่า
“มีอะไรอีกไหมจ๊ะ”
“ไม่...ไม่มีอะไร ไม่มอี ะไรจริง ๆ ค่ะคุณยาย และก็หวังว่าเขาจะไม่
เข้ามาที่ห้องอาหารบ่อย ๆ มุนไม่อยากเจอหน้าเขาเท่าไร มิสมินต์บอกว่า
เขามีธุรกิจที่ต้องดูแลหลายอย่างค่ะ”
คุณยายพยักหน้ารับ ทั้ง ๆ ที่นึกสงสัยกับท่าทางละลํ่าละลักปฏิเสธ
เป็นพัลวันนั่น แต่ก็ไม่กล้าที่จะบังคับถาม เพราะว่าไม่อยากให้อีกคนรู้สึก
อาย เพราะต่อไปอาจจะไม่กล้าเล่าอะไรให้ฟังอีก
ไปบังคับถามหลานชายตัวร้ายน่าจะได้เรื่องมากกว่า หรืออาจจะไม่ได้
เรื่องอะไรเลย เพราะรายนั้นไม่ค่อยจะเปิดเผยเรื่องราวของสาว ๆ ให้ฟัง
สักเท่าไหร่
“ว่าแต่วันนี้หนูมุนไปทำงานที่ร้านหรือเปล่าจ๊ะ”
“ทำค่ะ มุนต้องขอบพระคุณคุณยายมาก ๆ เลยนะคะ ที่ช่วยเหลือ
ให้ได้งานทำ”
มือเหี่ยวย่นยื่นมาจับมือเรียวเล็กของคนที่เดินข้าง ๆ เอาไว้
“พอแล้วจ้ะ เลิกขอบคุณได้แล้ว หนูมุนขอบคุณยายมาตั้งแต่ได้งาน
ทำที่ เวียดเฮาส์ มันเพียงพอแล้วจ้ะ อย่าถือว่ามันเป็นบุญเป็นคุณอะไรเลย
ช่วยอะไรได้ก็ช่วย ๆ กันไปนะ เราคนไทยด้วยกัน”
147/559
“แล้วเจอกันนะคารีนา อย่าลืมขอให้คุณทวดของยูพามาเล่นด้วยกัน
อีกนะ และก็ขอบคุณสำหรับคุกกี้ อย่าลืมกินเฟรชโรลล่ะ” พออีกฝ่าย
พยักหน้ารับ เด็กหญิงฟีนิกซ์ก็วิ่งผละจากไป ทิ้งไว้แต่รอยยิ้มบนใบหน้า
ของคนที่มองตามหลัง
น่ารักจริงทั้งสองคน ดอกไม้ทบี่ ริสุทธิ์ เจ้าหลานชายไปแตะต้องกลีบ
ดอกโตที่กำลังเบ่งบานให้หม่นหมองเสียแล้ว...หรือว่าอย่างไร คนนี้
หรือเปล่าน้า ที่หลานชายบอกว่าจะชวนไปอยู่บ้านด้วยกัน
“คารีนาอยากเล่นต่อหรือเปล่าจ๊ะหือ” คุณยายกลีบบัวก้มลงถาม
เหลนตัวน้อย
“ไม่อยากเล่นแล้วค่ะ ไม่มีฟไี ม่สนุก ว่าแต่ทำไมฟีรีบกลับจังเลยคะ
คุณทวด” ใบหน้าน้อย ๆ แก้มแดงระเรื่อ ดวงตาสีฟ้าปนนํ้าตาลเงยขึ้น
ถามอย่างสงสัย
“มามี้ของฟีต้องไปทำงานจ้ะ”
“ทำไมต้องทำงานคะ”
“คนที่โตแล้วต้องทำงานจ้ะ หาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเหมือนกับแดดดี้
ของหนูไงจ๊ะ แน่ใจนะว่าหนูไม่อยากเล่นต่อแล้ว งั้นเรากลับบ้านกันดีไหม
ไปช่วยทวดทำขนมเก็บไว้อีก”
“ก็ได้ค่ะ แล้วเมื่อไหร่คารีนาจะได้เล่นกับฟีอีกคะ”
“พรุ่งนี้ดีไหมจ๊ะ”
150/559
ละมุนมาศไปทำงานด้วยความมั่นใจว่ามิสซิสลีจะดูแลฟีนิกซ์ได้เป็น
อย่างดี แต่สิ่งทีท่ ำให้หงุดหงิดก็คือ หล่อนรอคอยที่จะคุยกับเจ้านาย แต่
เป็นอีกวันที่ละมุนมาศรอคอย ไม่มีแม้แต่เงาของเจ้านายให้เห็น
ละมุนมาศเองก็ไม่กล้าทีจ่ ะถามมิสมินต์ เกรงว่ามิสมินต์จะสงสัย จึง
ได้แต่ทำงานด้วยความกระวนกระวาย และก็เลิกงานกลับบ้านด้วยความ
วุ่นวายใจอีกวัน
14
ความ...จริง
“สีมันเหลืองน่าทานจังเลยค่ะมัม” พูดไปคุณลิซาเบธก็ตักกล้วยเชื่อม
ทานไปด้วย
“อร่อยจริง ๆ ค่ะ”
คุณยายก็คุยกับลูกสาว ลูกเขยก็คุยกับหลานสาวเรื่องม้าต่อไป
“เย้ ดีใจจังเลย”
หลานสาวตัวน้อยกระโดดเข้ากอดแกรนด์ฟา
“ขอบคุณค่ะแกรนด์ฟาที่ให้คารีนาตั้งชื่อให้ม้า คารีนาจะบอกแดดดี้
ด้วยค่ะ แล้วเมื่อไรเราจะได้ไปเยี่ยมสปริงกันคะแกรนด์ฟา”
“ไปเมื่อไรดี ถามแกรนด์มาสิ”
“แกรนด์มาเมื่อไรคารีนาจะได้ไปเยี่ยมสปริงคะ”
“เอาไว้ตอนซัมเมอร์ดีไหม ค่อยไปอยูห่ ลาย ๆ วัน ให้แกรนด์ฟา
สร้างบ้านที่ฟาร์มเสร็จก่อน”
“ดีค่ะ เย้ ๆ” จากนั้นหลานสาวตัวน้อยก็คุยกับคุณปู่เรื่องเจ้าสปริง
กันต่อสองคน
“คุณไนฮัวกำลังวางแปลนสร้างบ้านไว้ที่ฟาร์มอีกหลังค่ะ ตอนนี้คารี
โนก็ไปดูเวียดเฮาส์แทนแล้ว ไม่ต้องห่วงอะไร จะได้ไปอยู่นาน ๆ อังเดรก็
สนับสนุน อยากให้น้องอยูใ่ กล้ ๆ ตอนนีก้ ำลังคุยกับบริษัทก่อสร้างอยูค่ ่ะ
พร้อมเมื่อไรก็สร้างเลย”
156/559
“แล้ว...เอ่อ หนูน้อยนั่นเป็นลูกของใครคะ”
“ลูกของพ่อเลี้ยงคนล่าสุด หนูมุนเล่าให้ฟังว่าหลังจากพ่อเลี้ยงที่ดูแล
หนูมุนเสีย แม่กแ็ ต่งงานใหม่อีกครั้ง มีลูก พอเลิกกันก็เอาลูกเล็กมาให้
ลูกสาวคนโตเลี้ยง ไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงไปไหน เห็นว่าหนีไปตั้งแต่น้องยังไม่
คลอดด้วยซํ้า พี่สาวกับน้องสาวห่างกันยีส่ ิบปีทีเดียว เอาคนเล็กมาทิ้งไว้ให้
คนโต แล้วแม่ก็หายไปไม่เคยติดต่อมาอีกเลย นานแล้วมั้ง แต่เด็กก็รู้นะ
ว่าใครเป็นแม่จริง ๆ แต่จะจำอะไรได้บ้างนั้นก็ไม่แน่ เพราะว่ายังเด็กเกิน
ไม่ผูกพัน เด็ก ๆ น่ะ อยากมีแม่กันทุกคนแหละ ก็เลยเรียกพีเ่ ป็นแม่ คน
ของเราก็คงอยากมีเหมือนกันมั้งแม่ว่า” คุณยายกลีบบัวหันไปทางเหลนตัว
น้อยที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกล คุณลิซาเบธมองตาม
“ก็น่าสงสารนะคะ แต่ของเราต้องรออย่างเดียว”
“อาจจะไม่ต้องรอนานแล้วก็ได้มั้ง ไม่งั้นก็คงไม่ตามไปตอแยเขา
หรอก หลังจากที่โดนหยิกไปครั้งแรก”
“มัมคิดอย่างนั้นหรือคะ” อีกครั้งที่คุณลิซาเบธตาโต ผู้เป็นมารดา
ได้แต่ยิ้มน้อย ๆ
“ไม่รสู้ ิ แม่ก็เดาเอา โดนหยิกขนาดนี้ไม่กลับไปจูบเขาหรอกถ้าใจไม่
ชอบ หรือไม่กแ็ ค่เอาคืน หรือว่าไงไนฮัว” คุณยายกลีบบัวหันไปทางลูกเขย
ที่เงยหน้าจากหลานสาวมาส่งยิ้มให้
161/559
ร่างสูงในชุดกางเกงนอนขายาวกับเสื้อคลุมอาบนํ้าเดินออกมาจาก
ห้องนอน ตรงเข้าไปยังห้องทำงานที่อยู่ติดกัน
ในวันอาทิตย์อย่างนี้คารีโนให้ลูกน้องใช้ชีวิตตามสบายโดยไม่ต้องมา
ดูแลเขา แต่ทั้งคู่ก็มักจะติดตามเขาเสมอ วันนี้กเ็ ช่นกันคารีโนยังไม่ทันได้
เปิดคอมพิวเตอร์ เสียงทักก็ดังขึ้นเสียก่อน
“สวัสดีครับนาย”
“สวัสดีเบียน”
“กาแฟครับนาย บ้านเงียบทีเดียวนะครับ คุณหนูไม่อยู่”
“ขอบคุณมาก นั่นสิ ฉันก็คิดอย่างนั้น แต่บ้านคุณยายคงจะเสียงดัง
ก็ได้” พูดแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้เมื่อคิดถึงลูกสาวตัวเล็ก
“เฟยล่ะ”
“เดี๋ยวตามมาครับ”
พอพูดถึงอีกคนก็ตามเข้ามาพอดี
165/559
“สวัสดีครับนาย”
“สวัสดีเฟย กำลังถามหานายไม่ทันขาดคำ”
คำพูดของเจ้านายทำให้เฟยอดที่จะหัวเราะไม่ได้ก่อนที่จะถามขึ้นว่า
“นายดูภาพเมื่อวานหรือยังครับ เซอร์ไพรซ์สุด ๆ ครับ”
“ยังเลย ไม่มเี วลา ว่าแต่มีอะไรพิเศษหรือ” รอไม่นานรูปที่ต้องการก็
ปรากฏหน้าจอ คิ้วเข้มเลิกขึ้นแล้วก็หัวเราะออกมาเบา ๆ
“มิสละมุนมาศพาลูกสาวไปเล่นที่สนามเด็กเล่น นานพอสมควรมิสซิ
สซอลตันกับวันก็พาคุณหนูคารีนาไปสมทบ ลูกสาวของมิสละมุนมาศพอ
เห็นคุณหนูคารีนาก็วิ่งเข้าหาเลยครับ พูดคุยกันสนิทสนม ส่วนมิสซิสซอล
ตันก็ดสู นิทสนมกับมิสละมุนมาศครับนาย คุณหนูก็เล่นกับเพื่อนโดยมีวัน
เป็นคนดูแล ส่วนมิสซิสซอลตันก็เดินออกกำลังกายกับมิสละมุนมาศครับ
เล่นกันอยู่ประมาณสองชั่วโมง มิสละมุนมาศก็พาลูกสาวกลับครับ มิสซิส
ซอลตันก็พาคุณหนูกับวันกลับครับ”
คำอธิบายของเฟยทำให้คนเป็นนายยิ้มกว้างอยู่คนเดียว
“ขอบใจมากเฟย วันนีต้ ามสบายนะ มีธุระอะไรก็ไปทำเถอะ บ่าย ๆ
ฉันจะเข้าไปดูเครื่องจักรทีโ่ รงงานสักหน่อย เครื่องต้องพร้อมทีจ่ ะทำงานใน
วันพรุ่งนี้”
“ผมไปด้วยครับนาย” ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกัน
“ก็ตามใจ อีกชั่วโมงเจอกัน”
166/559
ลับหลังลูกน้องทั้งสองแล้ว คารีโนก็หันไปจ้องภาพที่ปรากฏอยู่บน
หน้าจอคอมพิวเตอร์ ในความคิดของเขาตอนนี้รู้สึกยินดีแปลก ๆ ทีเ่ ห็น
คนตัวบางกำลังเดิน คุยยิ้มแย้มกับคุณยายของเขา
งานนี้เขาคงไม่ต้องไปสืบไกลแล้วกระมัง คุณยายน่าจะเป็นคนให้
คำตอบที่เขาอยากรู้ทุกอย่างได้
คลิกภาพไปเรื่อย ๆ เห็นลูกสาวของเขากับลูกสาวของหล่อนวิ่งเล่น
ไล่กันอย่างสนุกสนานแล้ว ก็อดที่จะยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้
เด็กหญิงคนนี้หรือเปล่า คือเพื่อนที่ลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่า คุณทวด
พาไปเล่นและได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ เขาน่าจะถามลูกสาวเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
เช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องมันจะใกล้ตัวขนาดนี้
คิดแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาคนเดียวไม่ได้ คารีโนรู้สึกได้ถึงความกระ
ปรี้กระเป่ามีชีวิตชีวาในหัวใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แล้วก็อดที่จะคิดถึง
ริมฝีปากหวานของเจ้าของกำปั้นไม่ได้
ชักคิดถึง ! หมายความว่าอย่างไรนะ
ส่วนลูกน้องพอออกมาจากห้องนายก็มองตากัน ไม่มีคำพูดอะไรออก
มา แต่พอมาถึงห้องส่วนตัวเบียนก็พูดขึ้นทันที
“ฉันว่างานนี้เจ้านายเอาจริงว่ะ ตั้งแต่ตามเจ้านายมาหลายปี ฉันยังไม่
เคยเห็นเจ้านายให้นายตามดูสาวไหนเลย ขนาดว่าสวยเซ็กซี่สุด ๆ เจ้านาย
ยังไม่เคยทำอย่างนี้เลย นายคิดว่าไง”
167/559
นั่นแหละว่าเมื่อไรฟีจะมา...เมื่อไรฟีจะมา” คุณยายพูดไปหัวเราะไปกับ
ความอยากเจอเพื่อนของเหลนสาว ทำให้ละมุนมาศต้องหัวเราะตามไปด้วย
“เอ่อ คุณยายจะนั่งก่อนหรือว่าเดินดีคะ มุนอยากถามอะไรคุณยาย
บางอย่างได้ไหมคะ”
“นั่งดีกว่า ยายเดินหลายรอบแล้วละ ว่าแต่มอี ะไรหรือ” คุณยาย
นั่งลงข้าง ๆ เพราะเห็นหน้าตาอีกฝ่ายจริงจังเหลือเกิน
“คือว่าคุณยายอยู่ที่นมี่ านานแล้ว คุณยายเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ
มาเฟียบ้างหรือเปล่าคะ”
“มาเฟียอะไรจ๊ะ”
“มาเฟียเวียดนาม จีน อะไรพวกนี้แหละค่ะ ยังมีอยูไ่ หมคะ” ถาม
แล้วก็รอ คำตอบอย่างใจจดจ่อ
“ก็พอจะได้ยินมาบ้างเหมือนกัน ทำไมหรือจ๊ะ”
“แล้วตอนนี้ยังมีอยู่ไหมคะ”
“ไม่มแี ล้วมั้ง โดยเฉพาะในอเมริกาน่าจะถูกปราบหมดแล้วละ แต่
ทางอเมริกาใต้น่าจะยังมีอยู่”
“แต่น่าจะมีหลงเหลืออยู่บ้างหรือเปล่าคะคุณยาย”
คุณยายกลีบบัวไม่ได้ตอบแต่ถามกลับ
170/559
“หนูมุนสงสัยอะไรหรือจ๊ะ ไปรู้ไปเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเปล่า
บอกยายได้ไหม”
นํ้าเสียงห่วงใยของคุณยายทำให้ละมุนมาศไว้ใจที่จะพูด แต่ก่อนจะ
พูด ใบหน้าหวานก็หันซ้ายหันขวา ทำให้คุณยายนึกสงสัยนักว่าคนข้าง ๆ
คงจะไปรู้เห็นเรื่องน่ากลัวบางอย่างมาเป็นแน่
“คุณยายอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะคะ คือ...เอ่อ มุนสงสัยว่าเจ้าของ
คนใหม่ของเวียดเฮาส์จะเป็นมาเฟียค่ะคุณยาย”
คำกระซิบตอบนั้นทำให้คุณยายสะดุ้งโหยง ทีเดียว
ตายแล้ว หลานชายของยายเป็นมาเฟียตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย ทำไม
ยายไม่รู้
“แสดงว่าคุณยายก็พอจะรู้เหมือนกันใช่ไหมคะ” อีกคนแปลอาการ
สะดุ้งของคุณยายกลีบบัวไปอีกทาง
“หนูมุนจ๊ะ เล่าให้ยายฟังได้ไหมว่าทำไมหนูถึงได้สงสัยอย่างนั้น มี
อะไรทีน่ ่าสงสัยหรือ” พอเรียบเรียงความคิดได้คุณยายกลีบบัวก็แอบยิ้มใน
ใจ
หลานชายตัวดีไปทำอะไรให้คนที่นั่งข้าง ๆ ตอนนี้คิดไปได้ว่าเป็น
มาเฟีย กันนะ ไปทำกร่างอะไรกับสาวเจ้าไว้หนอ
“คือจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ชัดเจนขนาดนั้นนะคะ แต่มุนก็เดาเอา มัน
เป็นเพียงความคิดของมุนว่าเขาคงเป็นมาเฟียแน่ ๆ เพราะว่าเวลาเขา
171/559
ไปไหนมาไหน ก็มักจะมีคนติดตามสองคนเหมือนกับพวกบอดี้การ์ดค่ะ
และท่าทางเขาใหญ่น่าดู ทำอะไรก็เอาแต่ใจตัวเอง ข่มขู่ด้วยนะคะ”
หลานชายทำอะไรเอาแต่ใจตัวเองหรือว่าข่มขู่สาวเจ้าแน่นะ ถ้าคุณ
ยายถามคนข้าง ๆ จะตอบหรือเปล่านะว่าข่มขู่เรื่องอะไร
“เจ้าของเวียดเฮาส์เขาข่มขู่หนูมุนหรือ”
“เอ่อ...คือ...”
“บอกยายได้ไหม ข่มขู่เรื่องอะไร”
“มุนคงบอกคุณยายไม่ได้ มุนไม่อยากให้คุณยายมารับรู้หรือว่าติด
ร่างแหไปด้วย ช่วงนี้มุนอยากให้คุณยายหยุดมาเจอมุนสักพักนะคะ” คน
ตัวบางกระซิบบอก ด้วยนํ้าเสียงจริงจัง
“ขนาดนั้นเลยหรือหนูมุน”
“ค่ะ นะคะคุณยาย แค่สักพักเท่านั้นเอง รอให้มุนมั่นใจก่อนว่าไม่มี
อะไรร้ายแรงเกิดขึ้น แล้วค่อยทำทุกอย่างปกตินะคะ”
“เอาอย่างนั้นหรือหนูมุน”
“ค่ะ”
“แต่ยายว่า...”
“มุนเป็นห่วงคุณยายค่ะ นะคะ” อีกคนขอร้องด้วยดวงตาที่แสดง
ความจริงใจ จนเกือบทำให้คุณยายกลีบบัวเผลอบอกความจริง
172/559
แต่เอาไว้ก่อน ดูก่อนว่าหลานชายของท่านจะทำอย่างไรต่อไป
“หนูมุนจ๊ะ ยายแก่ขนาดนี้แล้วไม่มีใครคิดจะทำร้ายยายหรอก และ
ยายก็ไม่สนใจด้วยจ้ะ อย่าคิดมากนะ เราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนหนี
เอาตัวรอดคนเดียวก็ไม่ใช่เพื่อนนะสิใช่ไหม”
“มันก็ใช่ค่ะ แต่มุนไม่อยากให้คุณยายเดือดร้อนด้วย”
“แต่ยายไม่หนีหรอก ยายจะอยู่ตรงนี้ ใครหน้าไหนมาก็ไม่กลัว
ทั้งนั้น”
“โธ่...คุณยายคะ” ละมุนมาศเอนร่างเข้าไปกอดคุณยายด้วยความ
ซาบซึ้งในหัวใจ ในเมื่อคุณยายไม่กลัวแล้วหล่อนจะกลัวอะไร
“มุนซาบซึ้งจริง ๆ ค่ะคุณยาย ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ และก็
ขอโทษด้วยที่มุนทำให้คุณยายลำบากไปด้วย”
คุณยายกลีบบัวอยากจะบอกนักว่าไม่ได้ลำบากอะไรเลย เรื่องนี้
เกี่ยวกับ หลานชายสุดที่รักของท่าน จะไม่ให้ยุ่งด้วยอย่างไรกัน
แต่คุณยายก็ไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้ เพราะว่าจะรอดูหลานชาย
ก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป
แล้วก็นึกสะดุ้งในใจทีจ่ ู่ ๆ ก็ได้เป็นคุณยายมาเฟีย เด็กหนอเด็ก
น้อย อยากรู้นักว่าหลานชายตัวร้ายไปข่มขูอ่ ะไร หรือว่าการข่มขูเ่ ป็นวิธีการ
จีบสาวอีกแบบของหลานชาย
173/559
“มุนไม่เคยไปฟาร์มเลยค่ะ เคยขับรถผ่านเห็นแต่ป้ายชื่อว่าเป็นฟาร์ม
แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเขาทำอะไรบ้างในฟาร์ม”
“นี่ไง งั้นยายก็ชวนหนูมุนเลยละกัน จะได้วางแผนช่วงซัมเมอร์ถูก”
เข้าล็อกของคุณยายกลีบบัวพอดี
“มุนไม่กล้ารบกวนคุณยายและลูกเขย ลูกสาวคุณยายหรอกค่ะ
เกรงใจ”
“เกรงใจอะไรกัน ไม่มีอะไรให้เกรงใจหรอก ยายจะจัดงานวันเกิด
ที่นั่นด้วย หนูมุนต้องพาหนูฟีไปนะจ๊ะ ยายเชิญ”
“เอ่อ ค่ะ” สุดท้ายก็ต้องรับปาก
เวลากว่าสองชั่วโมงทีค่ ุณยายกลีบบัวและละมุนมาศได้คุยกัน มีทั้ง
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และภาพทั้งหมดก็อยู่ในสายตาของใครบางคนที่ตาม
ดูแลอยู่ห่าง ๆ พร้อมกับส่งไปให้เจ้านายดูเป็นระยะ ๆ
16
การกลับมา
เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ละมุนมาศสะดุ้งตื่นในกลางดึก หันไป
มองเวลาที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง ซึ่งจะเป็นเวลาตีหนึ่งแล้ว
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
เสียงเคาะที่ดังขึ้นอีกชุด ละมุนมาศก็ก้าวลงจากเตียง คว้าเสื้อคลุม
มาสวมทับชุดนอน ก่อนจะค่อย ๆ ย่องออกไปจากห้องไปยังประตู
ด้านหน้า ค่อย ๆ มองลอดตาแมวออกไปแล้วก็ต้องตกใจ ยกมือขึ้นขยี้ตา
ตัวเองมองอีกครั้ง
ร่างผอมบางของหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยูห่ น้าประตูในตอนนี้ ทำ
ให้ละมุนมาศต้องตั้งสติครู่หนึ่งก่อนจะรีบปลดโซ่ที่ล็อกประตูออกอย่าง
รวดเร็ว
“แม่” ละมุนมาศยกมือไหว้ นํ้าตาคลอด้วยความดีใจ นึกอยากจะเข้า
ไปกอดแต่ก็ไม่กล้าทำ เพราะว่าไม่เคยทำมาก่อน
179/559
“แม่เข้ามาข้างในก่อนสิคะ” ละมุนมาศรอจนมารดาเดินเข้ามาในห้อง
และ ปิดประตู คุณละมุดเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งที่โฟซาหน้าทีวี ก่อนที่จะ
กวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องของลูกสาว
“ห้องนี้แกซื้อหรือว่าเช่าเขา”
“ซื้อค่ะ”
“แกก็อยู่ดีกินดี มั่งมีเงินทอง ซื้อคอนโดฯ นี้ได้ ข้าวของทุกอย่างก็ดู
ดีมีราคา”
ละมุนมาศเดินมานั่งตรงข้ามเหลือบมองมารดา ไม่ค่อยเข้าใจนักว่า
มารดาพูดอย่างนั้นเพื่ออะไร ชมหรือว่าประชด ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี
ดีใจจนคิดอะไรไม่ออก แต่พอได้ยินมารดาถามอย่างนี้ ละมุนมาศก็ได้แต่
ปลง
“ก็ตามประสาค่ะ หนูก็ค่อย ๆ เก็บเงินซื้อไปเรื่อย ๆ ก็ไม่ได้หรูหรา
อะไร ของบางอย่างก็ซื้อมือสอง แต่ยังอยูใ่ นสภาพดี ก็เลยดูดีอย่างที่แม่
เห็น บางอย่างหนูกป็ รับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลง ทาสีใหม่ หรือว่าเปลี่ยนผ้า
หุ้มเบาะใหม่ เพื่อให้มันดูดี”
“ฟีนิกซ์ล่ะ” ผู้เป็นมารดาเปลี่ยนเรื่องเมื่อได้ฟังลูกสาวพูดถึงความ
มัธยัสถ์ในการใช้ชีวิตให้ฟัง
“นอนตั้งแต่สองทุ่มแล้วค่ะ ฟีคงดีใจถ้ารูว้ ่าแม่มา ฟีกอ็ ยากเจอแม่นะ
คะ ให้หนูไปปลุกดีไหม”
180/559
“ไม่ต้องหรอก”
คำตอบนั้นทำให้ละมุนมาศถึงกับหยุดความดีใจเอาไว้
“อย่ากวนเลย ปล่อยให้หลับเถอะ”
“แล้วแม่จะค้างหรือเปล่าคะ”
“ไม่ค้าง พรุ่งนี้ฉันมีงานต้องทำแต่เช้า”
คำตอบของมารดาทำให้ละมุนมาศรู้สึกเจ็บปวดแทนน้องสาวยิ่งนักที่
ไม่มีโอกาสได้เจอหน้า
“แล้วแม่สบายดีหรือคะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน แม่ทำงานด้วยหรือ”
ละมุนมาศมองเสื้อทีม่ ารดาใส่ก็รู้ว่าทำงานที่ไหน เพราะว่ามีชื่อบริษัท
ติดอยู่หน้าอกเสื้อ แล้วก็นึกแปลกใจ
“อืม ก็เรื่อย ๆ ก็ต้องทำงานสิ ฉันก็ต้องหาเลี้ยงตัวเองเหมือนกัน ไม่
มีใครเลี้ยงนี่ สามีก็ไม่มี ลูกได้ดิบได้ดกี ็ไม่เคยดูแล...” และก็อีกมากมายที่
ผูเ้ ป็นมารดาบ่น ทั้งกระแทกกระทั้น ประชดประชัน ไม่ว่ากีป่ ีผ่านไปมารดา
ก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ละมุนมาศได้แต่นั่งรับฟัง จนผู้เป็นมารดา
หยุดพูดถึงได้ถาม
“ว่าแต่แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่าแค่มาเยี่ยมหนูกับฟีเฉย ๆ”
“มี แต่ไม่รู้ว่าแกจะช่วยได้หรือเปล่า”
“อะไรหรือคะ”
181/559
“มีเงินสักหมื่นสองหมื่นหรือเปล่า”
“หา อะไรนะคะ หมื่นสองหมื่นบาทหรือว่าเหรียญคะ” ละมุนมาศ
ถามกลับตาโต นึกตกใจกับจำนวนเงินที่มารดาเอ่ยปาก
“บ้า หมื่นบาทจะพอยาไส้อะไรได้” ผู้เป็นแม่ตะคอกใส่ แต่พอรู้ตัวว่า
เสียงดังก็เลยต้องรีบลดเสียง
“แล้วแม่จะเอาเงินไปทำอะไรตั้งหมื่นเหรียญคะ”
“ไปใช้หนี้เขา”
ได้ฟังคำตอบแล้วละมุนมาศก็แทบจะเป็นลม มารดาไปสร้างหนี้อะไร
ไว้ตั้งหมื่นเหรียญ
“หนี้ แล้วแม่ไปทำอะไรถึงได้เป็นหนี้มากมาย แล้วเงินที่ปะป๊าทิ้งไว้
ให้ล่ะคะ ไปไหนหมด ตั้งเยอะไม่ใช่หรือคะ” ด้วยความตกใจละมุนมาศก็
เลยทวงถามในสิ่งที่มารดามีทั้งที่ไม่เคยคิดจะไถ่ถาม
“มันหมดไปตั้งนานแล้ว มาซักไซร้ให้มันได้อะไรขึ้นมา ฉันถาม แกก็
ตอบมาสิว่ามีหรือไม่มี ไม่ใช่ให้แกมาย้อนถามฉันอย่างนี้ ฉันเป็นแม่แกนะ
ไม่ใช่น้อง”
คำตอบนั้นทำให้ละมุนมาศพูดไม่ออก นึกถึงเงินทีห่ ล่อนตั้งใจเก็บ
หอม รอมริบจำนวนน้อยนิดในแต่ละเดือนหลังจากที่จ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด
แล้ว เก็บออมเอาไว้เพื่ออนาคตทั้งของตัวเองและน้องสาว
182/559
“มุนมีเงินเก็บไม่มากหรอกค่ะ ลำพังเงินเดือนที่ทำงานไม่พอใช้จ่าย
ในบ้านสองคนหรอกค่ะ มุนถึงต้องทำงานพิเศษด้วย ไม่งั้นคงจะลำบากทั้ง
มุนทั้งฟี ฟีโตขึ้น ทุกวัน ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นตามไปด้วย”
“ทำงานที่ภัตตาคารใหญ่ ๆ เงินน่าจะดี”
มารดารู้ได้อย่างไรว่าหล่อนทำงานทีภ่ ัตตาคาร ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า
มารดารู้ตลอดเวลาว่าหล่อนและน้องอยู่ที่ไหน อยูอ่ ย่างไร แต่ไม่เคยคิดที่
จะมาหาอย่างนั้น ใช่ไหม เจ็บปวดนัก โดยเฉพาะเจ็บปวดแทนคนตัวเล็กที่
มารดาไม่ได้สนใจห่วงใยเลย
“ค่ะ ก็ได้พอใช้จ่ายอย่างไม่ลำบากนัก ไหนจะค่าผ่อนคอนโดฯ ค่านํ้า
ค่าไฟ ค่าบำรุงสถานที่ ประกันรถยนต์ จิปาถะอีกหลายอย่าง มุนเลี้ยงฟีไม่
ให้ด้อยหรือว่าน้อย หน้าคนอื่น”
มารดาลุกขึ้นพร้อมกับโบกมือทันทีที่ละมุนมาศร่ายเรื่องค่าใช้จ่ายให้
ฟัง
“เอาแค่นี้ก่อนก็ได้ วันหลังฉันจะมาใหม่ กินใช้ก็ให้ระวังด้วย จะได้
มีเงินแบ่งให้แม่ใช้บ้าง”
ละมุนมาศได้แต่ฟังไม่ได้โต้ตอบอะไร
“แล้วแม่อยู่ที่ไหนคะ มุนกับน้องไปหาบ้างได้หรือเปล่า”
“จะไปหาทำไม เอาไว้ฉันมีอะไรจะมาหาเอง”
“เผื่อว่าฟี...” ยังไม่ทันที่ละมุนมาศจะพูดจบ มารดาก็เอ่ยยํ้าว่า
185/559
“ฉันบอกว่าจะมาหาเอง”
ในเมื่อมารดาพูดอย่างนั้น ละมุนมาศจึงไม่รจู้ ะทำอย่างไร ดื้อเพ่งไป
ก็ไม่มอี ะไรเปลี่ยนแปลง เพราะว่ามารดาไม่เคยฟังใคร ได้แต่บอกคนตัว
เล็กในใจว่า
ไม่เป็นไรนะฟี มามี้อยู่ตรงนี้
หลังจากทีม่ ารดากลับไปแล้ว ละมุนมาศก็เดินเข้าไปในห้องนอนเล็ก
ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขึ้นเตียง มุดเข้าใต้ผ้าห่มผืนบางลายเจ้าหญิงแสนสวย
พร้อมกับดึงร่าง น้อย ๆ เข้าสู่อ้อมกอดของตัวเองพร้อมหลับตาลง
สิ่งที่อยู่ในสมองตอนนี้มีแต่เรื่องของมารดา คิดถึงเงินที่เก็บหอมรอม
ริบเอาไว้เพื่อใช้จ่ายยามจำเป็นในอนาคตหรือเพื่อคนในอ้อมกอด แต่ละมุน
มาศก็ปฏิเสธคำร้องขอไม่ได้ มารดาเป็นผู้มีพระคุณที่ต้องทดแทน เพราะ
ถ้าไม่มีมารดา หล่อนก็คงจะไม่มีวันนี้เช่นกัน
หล่อนรู้สึกสงสารคนตัวเล็กจับหัวใจ ที่มารดาไม่แม้แต่จะอยู่รอพบ
พอได้เงินก็รีบกลับไปทันที ไม่แม้แต่จะจูบลา นึกดีใจที่ไม่ได้บอก
ความจริงว่ามีเงินอยู่เท่าไร ไม่อย่างนั้นคงไม่เหลือ หนีท้ ี่มารดาพูดถึงก็คง
ไม่แคล้วเป็นหนี้ในวงไพ่ ละมุนมาศรู้สึกตกใจมากเมื่อได้ฟังจำนวนเงินที่
มารดาบอกหา มันมากมายเหลือเกิน
หมื่นสองหมื่น หมายความว่ามารดาไปติดหนี้ใครจำนวนมากมาย
ขนาดนั้นเลยหรือ แล้วที่ผ่านมามารดาอยู่ได้อย่างไรกัน
186/559
“มอร์นิงค่ะมามี้”
“มอร์นิงค่ะฟี กำลังทำอะไรอยู่คะ”
ละมุนมาศยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเนียนเบา ๆ
“โทสต์ (Toast - ขนมปังปิ้ง) ฟีทำให้มามีด้ ้วยนะคะ ฟีทำอาหาร
ให้มามี้ทานก่อนไปทำงานค่ะ” คำตอบของคนตัวเล็กทำเอาละมุนมาศรู้สึก
แน่นหน้าอกขึ้นมาทันที เดินไปรวบร่างเล็กเข้าสู่อ้อมกอด นํ้าตาเอ่อซึม
อายุแค่นี้ แต่รู้จักทำอาหารเช้าเผื่อแผ่คนรอบข้าง แล้วอย่างนีจ้ ะไม่ให้
หล่อนรักได้อย่างไรกัน
“ขอบคุณค่ะเด็กดี มามี้ว่าต้องอร่อยแน่ ๆ เลย”
“มามี้ไปอาบนํ้าสิคะ โทสต์จะเรียบร้อยในเวลาไม่ถึงห้านาทีนี้ค่ะ”
ได้ฟังคำบอกแล้วก็อดที่จะจูบแรง ๆ ที่ข้างแก้มเนียนไม่ได้
“ขอบคุณค่ะ งั้นรอมามี้ห้านาทีนะคะ” ละมุนมาศเดินจากไปพร้อม
หัวใจทีเ่ ปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกดี ๆ ที่ได้รับจากคนตัวเล็ก พร้อมกับ
คำสัญญาจากหัวใจว่า
หล่อนจะทำทุกอย่างในชีวิตนี้ เพื่อให้คนตัวเล็กมีความสุข ได้รับสิ่งที่
ดีที่สุดในชีวิต
หลังจากอาบนํ้าแต่งตัวแล้ว ละมุนมาศก็กลับมายังห้องครัวอีกครั้ง
ทำนบ นํ้าตาแทบไหลเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่บนโต๊ะอาหารเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ห้องน้ำ
190/559
“จ้ะ”
ตอนนี้ลูกสาวตัวน้อยของเขาจูงมือเพื่อนสาวคนสนิทพากันวิ่งกลับมา
หา
“สวัสดีค่ะคุณยาย” มือเล็ก ๆ บาง ๆ สองข้างยกขึ้นไหว้อย่างน่ารัก
คารีโนแอบมองเด็กหญิงตรงหน้าผ่านแว่นกันแดดสีดำสนิท เจ้าหล่อนอยู่
ในชุดเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวสีฟ้าอ่อน ที่หน้าอกมีรูปเจ้าหญิงสวยงาม
ผมยาวสลวยสีนํ้าตาลอ่อนที่ปลายโผล่ออกมาจากหมวกแก๊บใบเล็กนั้นปลิว
ไสว แก้มสองข้างแดงระเรื่อ ดูท่าทางเด็กหญิงที่โบกมือวิ่งเข้ามาทักทาย
คุณยายของเขามาแต่ไกลแล้ว ก็รู้ว่าคงรู้จักกันมานานพอสมควร
“สวัสดีจ้ะหนูฟี” คุณยายเปิดยิ้มกว้างรับไหว้
“มานานหรือยังจ๊ะ”
“พอได้รับโทรศัพท์จากคุณยาย มิสซิสลีก็พาฟีมาเลยค่ะ”
“มิสซิสลีอยู่ที่ไหนหรือจ๊ะ”
มือเล็ก ๆ ชี้ไปทางที่มิสซิสลีนั่งคุยกับหญิงมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
อยู่ คุณยายมองตามแล้วก็ยกมือขึ้นโบกทักทาย ก่อนจะหันมาให้ความ
สนใจกับเด็กหญิงตัวน้อยตรงหน้าต่อ
“เอ้า คารีนา แนะนำแดดดี้ของหนูหน่อย ใช้ภาษาไทยนะจ๊ะ” คุณ
ยายกลีบบัวบอกเหลนสาวตัวน้อยที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า
193/559
“ถึงว่าฟีนิกซ์กับคารีนาถึงได้สนิทสนมกันเหลือเกิน”
“ใช่ เล่นกันบ่อย ๆ ก็เลยสนิทกัน ดูท่าว่าจะรักกันดี ว่าแต่เมื่อไร
ตรังจะแต่งงานมีครอบครัวล่ะลูกหือ สาวไทยคนนั้นไปถึงไหนแล้ว” จู่ ๆ
คุณยายก็เปลี่ยนเรื่อง
“สาวไทยคนนั้นก็ยังอยู่ครับ แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า”
“ไม่คืบหน้าแล้วเมื่อไรยายจะมีเหลนหือ ยายคงจะมีชีวิตที่ยืนยาวกว่า
นี้อีกเป็นแน่ ถ้าตรังมีเหลนให้ยาย”
“ตอนนี้คุณยายก็มีคารีนาแล้วไงครับ” หลานชายแกล้งตอบ
“แต่ยายก็ยังอยากได้อีกหลาย ๆ คน”
“งั้นก็เอาไว้ให้ผมหาเมียให้ได้ก่อนสิครับ ตอนนีค้ ุณยายก็เล่นกับคารี
นาและฟีนิกซ์ไปก่อน”
“แล้วสาว ๆ ที่เห็นควงอยู่นี่ไม่ดีพอเป็นเมียสักคนเลยหรือไง”
คำถามนั้นทำให้หลานชายตัวโตอดที่จะหัวเราะไม่ได้ก่อนที่จะตอบว่า
“ก็ดคี รับ แต่ยังไม่ดพี อที่จะเป็นหลานสะใภ้คุณยาย และอีกอย่างผม
ยังไม่รักใคร คุณยายไม่ต้องห่วงหรอกครับ รับรองคุณยายได้เลี้ยงเหลน
แน่ ๆ”
“เอาเป็นว่ายายจะรอนะ”
196/559
“อย่ามาแก้ตัวเลย” คนแก้ตัวก็เลยได้แต่ยิ้มชอบใจอยู่คนเดียว
“ไปจูบเขาแล้วมาว่าไม่เสียหายได้ไงลูก จะนิดเดียวหรือว่ามากก็
เสียหาย ที่คนอื่นเขาจูบกัน เพราะว่าเขาเป็นแฟนกัน รักกัน และก็คุ้นเคย
กับการแสดงออกทางความรักอย่างนั้น แต่ตรังกับหนูมุนไม่ใช่แฟนแล้วไป
หาเรื่องจูบเขาทำไมกัน”
“ก็...”
“ยายจะบอกให้นะ หนูมนุ ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างทีต่ รังเคยเจอ ที่ว่าเห็น
หน้า มองสบตากันไม่ถึงห้านาทีแล้วก็จูบกันได้น่ะ เขาเป็นคนรักนวลสงวน
ตัว เป็นไทยแท้ทีเดียว ซึ่งจริง ๆ เด็กสมัยนี้ก็แทบจะไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว
โดยเฉพาะเด็กที่มาโตที่นี่ แต่หนูมุน ยังเป็นอย่างนั้น”
“คุณยายรู้จักหนูมุนดีจังเลยนะครับ”
“รู้จักสิ เพราะว่ายายรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับหนูมุน”
“แล้วเขามีแฟนหรือยังครับ” ได้โอกาสเลยต้องถาม
“คนสวย น่ารัก นิสัยดีอย่างหนูมุน ตรังคิดว่าจะไม่มีหนุ่ม ๆ มา
ชอบหรือไง”
“แล้ว...”
“ตรังอย่าทำอะไรไม่ดีกับหนูมุนอีกนะลูก ในเมื่อหนูมุนไม่เต็มใจ มัน
ไม่ดี เหมือนไปบังคับฉกฉวย ถ้าเกิดหนูมุนโกรธขึ้นมาล่ะ ไม่กลัวโดนตบ
หรือไงฮึ”
202/559
แต่การเรียนรู้กันและกันมันก็ต้องมีบางครั้งที่จะแสดงความรักต่อกัน โอบ
กอด จับมือถือแขน จูบ คุณยายเข้าใจผมใช่ไหมครับ เวลาผมคิดถึงคุณ
ยาย รักคุณยาย เจอคุณยายผมก็กอดก็หอมก็จูบ คุณยายก็เหมือนกัน
แค่นี้นะครับคุณยาย ขอบคุณสำหรับเรื่องราวของหนูมุน ผมรักคุณยายนะ
ครับ”
“ยายก็รักตรังจ้ะ”
เมื่อวางหูจากหลานชายแล้ว คุณยายกลีบบัวก็ได้แต่กังวล ยิ่งคำพูด
ตอน ท้าย ๆ นั่น ทำให้คุณยายรู้ว่าหลานชายรับปาก แต่ก็ยังจะทำอยูด่ ี
แถมยังย้อนคุณยายด้วยความจริงอีกด้วย และคุณยายรู้ดวี ่า หลานชาย
ดื้อเงียบแค่ไหน ไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ทำตาม ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ยิ่งห้ามก็ยิ่ง
ทำอีกต่างหาก คุณยายพยายามที่จะเข้าใจ หลานชายที่ถูกเลี้ยงมาแบบ
อเมริกันเต็มตัว ถึงแม้ว่าจะมีสายเลือดแค่เศษเสี้ยวของอเมริกันก็ตามที
ไม่รู้ว่าคำขอร้องของคุณยายได้ผลหรือเปล่า ห่วงก็แต่หญิงสาวที่อ่อน
ต่อโลกในเรื่องของความรักอย่างละมุนมาศเท่านั้น
คำเรียกขานที่หลานชายเรียกอีกฝ่ายว่า หนูมุน นั่นอีก ฟังแล้วมันให้
ความรู้สึกทีอ่ ่อนโยนเหลือเกิน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป คุณยายคง
ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดแล้วล่ะมัง
“คุณย่าทวดคะ คารีนากับฟีเล่นเหนื่อยแล้วค่ะ ขอทานขนมได้ไหม
คะ” เสียงเรียกของเหลนสาวตัวน้อย ทำให้คุณยายกลีบบัวต้องทิ้ง
206/559
รอยยิ้มไม่ได้ห่างหายไปจากใบหน้าคมเข้มของคารีโนเลย เมื่อได้เห็น
ความน่ารักน่าชังของเด็ก ๆ แต่ละคนที่พยายามฝึกหัดหรือว่าทำตามที่
ครูผู้สอนแนะนำ ทั้งการเตะ (Kick) การชก (Punch) การบล็อค
(Block) และการออกท่าทางต่าง ๆ ไม่ใช่แต่เฉพาะคารีโนเท่านั้นทีอ่ ดยิ้ม
กับความตั้งอกตั้งใจของนักเทควันโดตัวน้อยน่ารักทั้งหลาย บรรดาพ่อแม่
รวมทั้งบรรดาคุณปูค่ ุณย่า คุณตาคุณยาย ซึ่งมาให้กำลังใจลูกหลาน ที่
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มปลื้มปีติแห่งความภาคภูมิใจและความสุข ทำให้
อดคิดถึงลูกสาวตัวน้อยของเขาไม่ได้
คารีนาจะชอบเตะต่อยอย่างนี้หรือเปล่านะ เขาคงต้องลองถามลูกสาว
ดู แล้วละ เผื่อเด็กทั้งสองจะได้มีเวลาเล่นด้วยกันมากขึ้น
สี่สิบห้านาทีผ่านไป การเรียนการสอนเสร็จสิ้นลง เด็ก ๆ ก็ทำความ
เคารพธงและจับมือขอบคุณผู้สอน ก่อนที่จะกลับไปยังห้องแต่งตัวเพื่อ
เปลี่ยนชุดยูนิฟอร์ม หลังจากเปลี่ยนชุดแล้ว บางคนก็กลับบ้าน บางคน
ต้องรอผู้ปกครองเลิกงานมารับ
เสียงพูดคุยกันราวกับผึ้งแตกรังของเด็ก ๆ และผู้ปกครองทีท่ ักทาย
กันเซ็งแซ่ไปหมด แต่ก่อนห้าโมงเย็นเล็กน้อย ร่างบางในชุดกระโปรงสั้น
ลายจุดสีม่วงอ่อนสลับดำ ถุงน่องสีดำ สวมทับด้วยสูทสีดำสนิทเข้าชุดกับ
กระเป๋าถือใบโตใบเดิมก็เดินเข้ามา พร้อมกับเสียงโทรศัพท์มือถือใน
กระเป๋าเสื้อสูทดังขึ้น คารีโนมองหน้าจอแล้วก็รีบคว้ามากดรับ
209/559
“สงสัยว่าแดดดี้ของคารีนาอาจจะมาดูโรงเรียนเทควันโดของฟีก็ได้นี่
คะ เผื่อว่าจะให้คารีนามาเรียนเทควันโดกับฟีไงคะ ถ้าเป็นอย่างนั้นฟีว่าดี
ไหมคะ”
“ดีค่ะ ฟีอยากให้คารีนามาเรียนด้วยกัน จะได้สนุก”
“อันนีม้ ามี้แค่คาดเดานะคะ ไม่รู้จะเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า ก็ต้องรอ
ถามคารีนาดู ว่าแต่ฟีอยากกินคะเย็นนี้ ข้าวต้มไหม”
“เย้ ข้าวต้มเบคอนนะคะ แต่ยังมีอีกเรื่องที่ฟีลืมถามมามี้” คำพูดนั้น
ทำให้คิ้วเรียวสวยของละมุนมาศเลิกสูงขึ้นทั้งสองข้าง แอบนึกในใจว่า
วันนี้คนตัวเล็กมีหลายเรื่องที่ลืม
“เรื่องอะไรคะ”
“ให้คารีนาเรียกมามี้ว่า ‘มามี้’ ได้ไหมคะ”
“หือ”
“คือว่าคารีนาไม่มมี ามี้น่ะค่ะ ฟีสงสารคารีนา ก็เลยอยากให้คารีนา
เรียกมามีเ้ หมือนกับฟี” เมื่อได้ฟังความคิดของคนตัวเล็กแล้ว ละมุนมาศก็
รัดร่างเล็กเข้าหาตัว นึกสงสารเพื่อนตัวเล็กอีกคน แต่แล้วก็แอบสะดุ้ง
“และคารีนาก็บอกว่าจะขอแดดดี้ให้ฟีเรียก ‘แดดดี้’ ด้วยค่ะ”
213/559
เมื่อมิสมินต์เรียกเข้าไปพบและถาม ละมุนมาศก็ต้องจำใจเล่าให้มิ
สมินต์ฟังในสิ่งที่เล่าได้ และมิสมินต์ตบมือดังเปาะทันทีที่ได้ฟังเรื่องราวจบ
ซึ่งจริง ๆ ก็พอจะรู้เรื่องบางอย่างมาคร่าว ๆ แล้ว
“โอ๊ย ไม่เห็นต้องคิดมากเลย ฉันว่าคนที่ขับรถตามยูต้องเป็นหนุ่ม ๆ
แน่ ๆ ก็ยูสวยออกอย่างนี้ ขนาดฉันเป็นผู้หญิงยังเห็นว่ายูสวยเลย ไม่รู้
หรือไงว่าฉันก็ยังแอบมองหน้ายูบ่อย ๆ”
“มุนนี่นะคะสวย” นิ้วมือเรียวชี้เข้าหาตัวเอง
“ก็ใช่นะสิ”
“งั้นปีนี้มิสมินต์ส่งมุนประกวดมิสยูเอสเอหน่อยสิคะ”
“เอาไหม”
“โอ๊ย มุนต้องไปต่อขาให้ยาวกว่านี้ก่อนค่ะ ขาสั้น สูงแค่ร้อยหกสิบ
ห้าแค่นี้ รอบแรกก็ตกแล้ว เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ แล้วไงต่อคะ”
“ฉันคิดว่าเขาคงจะชอบยู อยากจะจีบยู ก็เลยขับรถตามดูลาดเลา
ก่อนไง”
“ไม่ใช่คนโรคจิตคิดไม่ดีหรือคะมิสมินต์” ละมุนมาศแกล้งแหย่ตามที่
ใจคิด
“แหม ยูกพ็ ูดไป โรคจิตที่ไหน จะมีปัญญาขับรถหรูหราราคาแพง ๆ
อย่างนั้น”
216/559
“แล้วช่วงนี้เขายังตามยูอยู่หรือเปล่า”
“มุนก็ยังเห็นทุกวัน ตามอยูห่ ่าง ๆ เขาจะรอจนมุนเข้าห้องพักแล้วถึง
จะไป หรือบางครั้งก็ขับเลยไป แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะเข้ามาใกล้ มุนก็
เลยไม่เคยเห็นหน้า ถ้าเขาเข้ามาใกล้ ๆ มุนจะพูดกับเขาให้รู้เรื่องกันไป
เลย”
“ก็ดี คุยกับเขาให้รู้เรื่องจะได้เข้าใจกัน”
“ค่ะ มุนขอบคุณมิสมินต์มาก ๆ นะคะ ที่ให้รับฟังความคิดบ้า ๆ
บอ ๆ ของ มุน มุนเครียดมาหลายอาทิตย์ พอได้คุยกับมิสมินต์แล้วก็
รู้สึกโล่ง”
“ด้วยความยินดี มีอะไรหนักใจหรืออยากคุยอะไรก็คุยกับฉันได้
เสมอ”
“ขอบคุณค่ะมิสมินต์ ขอบคุณจริง ๆ”
ตรัง คารีโน เดินเข้าในงานเลี้ยงที่โรงแรมหรู ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน
วันเกิดภรรยาเพื่อนของบิดาที่รู้จักกันมานาน พร้อมกับเบียนคนสนิทคู่ใจ
จริง ๆ แล้ววันนี้เขาไม่ได้อยากมางานนี้เลย แต่ว่ามารดาขอร้องให้มาแทน
ก็เลยปฏิเสธไม่ได้ และก็ต้องปั้นหน้ายิ้มกับแขกเหรื่อ เพราะบางคนเขาจำ
แทบไม่ได้ว่าเคยเจอกันตั้งแต่เมื่อไร
“สวัสดีครับคุณเวียนบินต์”
“สวัสดีคารีโน เป็นไงบ้าง สบายดีไหม”
218/559
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณแอนนา”
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณเช่นกันค่ะคารีโน” สาวสวยแอนนายื่นมือมาสัมผัส
กับมือคารีโนทักทาย หล่อนไม่ได้ทักทายแค่จับมือเท่านั้น แต่ยังดึงร่างเขา
ไปกอดอีกด้วย คารีโนได้แต่ยิ้ม
“คุณยังไม่ได้ดื่มอะไรเลย ฉันพาไปหาอะไรดื่มดีไหมคะคารีโน” แอน
นาถาม หล่อนรู้สึกสนใจผู้ชายคนนีข้ ึ้นมาทันที เขาดูดแี ละหล่อเหลา
มากมายในสายตาของหล่อน ยิ่งถ้าเป็นลูกชายคนเดียวของท่านไนฮัวผูร้ ํ่า
รวยและมีชื่อเสียงแล้วด้วยก็น่าสนใจมากมายทีเดียว
“ไปสิจ๊ะคารีโน อย่าได้เกรงใจ ให้แอนนาดูแลนะจ๊ะ”
“ขอบคุณครับ” คารีโนปล่อยให้แอนนาพาเดินไปยังบูธเครื่องดื่ม ที่มี
นักผสมเครื่องดื่มมืออาชีพคอยบริการตามความต้องการของแขกเหรื่อ
หลังจากทีไ่ ด้เครื่องดื่มแล้ว แอนนาก็พาเขาไปรู้จักกับเพื่อน ๆ ของ
หล่อน ซึ่งแต่ละคนก็กรี๊ดกร๊าดกับการได้พบเจอเขา คารีโนได้แต่ยิ้มน้อย
ๆ กับการแสดงความสนใจอย่างออกนอกหน้าของผู้หญิงเหล่านั้น น่า
แปลกที่เขากลับคิดถึงอีกคน เจ้าหล่อนแทบจะหลีกหนีให้ห่างไกลทุกครั้งที่
เห็นเขา
อันที่จริงแล้วเขาชอบให้ผู้หญิงมาออดอ้อนเอาใจอยู่ข้าง ๆ ตัว แต่ไม่
ใช่ตอนนี้ เพราะสมองของเขามีแต่ภาพของใครบางคนที่ทำให้เขาว้าวุ่น
220/559
ขอเวลาตั้งตัวก่อนละกัน
ทันทีที่เห็นร่างบางของใครบางคนวิ่งลิ่วออกมาทางประตูหลังโบสถ์ไป
ยังรถที่จอดอยู่ เมื่อขึ้นรถได้ก็ขับออกไปทันที
เฟยขมวดคิ้วแล้วก็รีบกดโทรศัพท์ไปรายงานเจ้านายให้รับทราบ
ส่วนเจ้านายเมื่อได้รับรายงานก็ออกอาการหัวเสีย หงุดหงิด แต่ก็ทำอะไร
ไม่ได้ ได้แต่ออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิท
ขับรถออกมาจากที่นั่นแล้ว ละมุนมาศก็ปล่อยลมหายใจออกมาอย่าง
โล่งอก ทีห่ ลุดออกมาได้โดยไม่ต้องเจอหน้าผูเ้ ป็นเจ้านาย รู้สึกลิงโลดกับ
ชัยชนะเล็ก ๆ ของตัวเอง ถึงขนาดฮัมเพลงออกมาได้เบา ๆ
ขับรถไปก็มองกระจกหลังไปด้วย สังเกตว่ามีรถที่น่าสงสัยขับตามมา
หรือไม่ ขับช้าบ้างเร็วบ้างเพื่อสังเกตความผิดปกติด้วยใจที่เต้นแรง แต่ใน
คืนที่มีรถวิ่งอยู่บนท้องถนนมากพอประมาณกับความมืดมิดในยามราตรี
ทำให้ไม่สามารถที่จะสังเกตได้แน่ชัดว่า มีรถต้องสงสัยขับตามหรือเปล่า
การที่จำนวนรถบนถนนมากก็เป็นสิ่งที่ดี ทำให้ละมุนมาศมั่นใจในความ
223/559
ปลอดภัยของตัวเองว่า คนที่คิดร้ายต่อหล่อนจะไม่มีโอกาสที่จะลงมืออย่าง
แน่นอน ก็ค่อยสบายใจ และตอนนี้ก็มานึกได้ว่ายังไม่ได้ลาผู้จัดการ ก็เลย
ต้องกดโทรศัพท์ไปรายงานตัว คิดว่าถ้ามิสมินต์ยังยุ่งอยู่ ละมุนมาศก็จะ
ฝากข้อความเอาไว้เท่านั้น
เสียงโทรศัพท์มือถือในมือของมิสมินต์ดังขึ้น แต่ด้วยความเกรงใจ
เจ้านาย หล่อนเลยไม่กล้ารับสาย ปล่อยให้มันดังอยูอ่ ย่างนั้น จนผูเ้ ป็น
เจ้านายพยักหน้าให้รับได้ หล่อนก็เลยรีบกดรับสาย
“ว่าไง”
“มุนเองนะคะมิสมินต์ จริง ๆ แล้วมุนคิดไว้ว่าหากมิสมินต์ไม่ว่าง
รับสาย มุนจะฝากข้อความเอาไว้แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ” เสียง
ใส ๆ ที่แว่วออกมาดังพอจะทำให้เจ้านายที่นั่งอยูต่ รงข้ามได้ยิน ก็เลยทำ
ปากออกคำสั่งให้ผู้จัดการเปิดลำโพงเสียง มิสมินต์ก็เลยต้องทำตาม
“เสร็จแล้ว กำลังจะกลับบ้าน ว่าแต่ยูอยูไ่ หนเนี่ย แล้วมีอะไร
หรือเปล่า”
“กลางทางแล้วค่ะ เอ่อ มิสมินต์คะ ช่วยเก็บเงินทิปไว้ให้มุนด้วยนะ
คะ มุนลืมเอาออกมาด้วย”
“ไม่เก็บย่ะ แล้วทำไมจะกลับไม่ยอมบอกฉันสักคำ หายหน้าหายตา
ไปเลย” มิสมินต์ต่อว่าเล็ก ๆ ลืมไปว่ามีเจ้านายรับฟังอยู่ด้วย
224/559
“เขาไม่ได้ว่าอะไรผมไม่ใช่หรือ” คำที่ย้อนถามกลับมิสมินต์ได้แต่
พยักหน้ารับน้อย ๆ คารีโนส่งยิ้มให้ พร้อมกับบอกว่า
“ผมคงจะหิวข้าวตอนดึกจริง ๆ นั่นแหละ กลับกันเถอะ จะได้ไปหา
มื้อดึกกิน คุณจะไปด้วยไหม”
“เชิญเจ้านายตามสบายเถอะค่ะ”
“อ้อ อีกอย่าง ถ้าคุณเห็นลูกน้องของผมขับรถตามเขากลับบ้านก็ไม่
ต้องแปลกใจ และก็ไม่ต้องบอกเขานะ” คนสั่งสั่งแล้วก็เดินออกไปจาก
ห้องทำงานไปกับลูกน้องทันที มิสมินต์ได้แต่มองตาม และพยายามจะทำ
ความเข้าใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
นี่ไงสต็อกเกอร์ตัวจริงอยู่นี่เอง หล่อนรู้อยู่แล้วว่าลูกน้องสาวเป็น
กังวลเรื่องนี้ แต่จะบอกก็ไม่ได้ เพราะเจ้านายปิดปากเอาไว้แล้ว แต่ก็รู้สึก
เป็นห่วงอีกคนไม่ได้ อึดอัดจริง ๆ ไม่อยากจะเดาว่า เจ้านายหนุ่มกำลังคิด
อะไรอยูส่ นใจลูกน้องของหล่อนอย่างนั้นหรือ ลูกน้องของหล่อนจะรู้ตัวบ้าง
ไหมว่ากำลังเป็นที่สนใจของเจ้านายอยู่ แล้วนี่เมื่อไรจะรู้เรื่องกันล่ะนี่ อีก
ฝ่ายหนี...อีกฝ่ายก็ย่องตามอย่างเชื่องช้า...รอตะปบ
ความรักมันเป็นอย่างนี้เองหรอกหรือ ว่าแต่มันเริ่มต้นอย่างไรกันแน่
นะ หล่อนจำได้ที่ลูกน้องสาวเคยเล่าให้ฟัง เรื่องของเรื่องก็คือ มีการแตะอั๋ง
มีการหยิกตอบ แล้วเรื่องราวมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างนี้ได้อย่างไรกัน
เจ้านายสาวโสดหัวใจเย็นชาคิดอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจนัก
227/559
“อือ”
“มามีต้ ื่นสิคะ เป็นอะไร” เสียงเรียกอย่างตกใจดังขึ้น พร้อมกับมือ
เล็ก ๆ ก็เขย่าร่างสุดแรง ทำให้ละมุนมาศผวาตื่น
“ฟี” เสียงแหบเรียกคนตัวเล็กที่นั่งใบหน้าตกใจอยู่ข้าง ๆ
“มามี้เป็นอะไรคะ”
“มามี้ฝันค่ะ”
“ฝันร้ายหรือคะ”
“ก็ไม่ร้ายมากค่ะ เพียงแต่ว่ามามี้ไม่ชอบเท่านั้นเอง”
“มามี้ฝันถึงงูอีกแล้วหรือคะ” ละมุนมาศพยักหน้าให้กับคำถามนั้น
“แค่ความฝันค่ะ งูมันไม่ทำร้ายคนหรอกค่ะ สงสัยมามี้จะจำทีฟ่ ีเล่า
ให้ฟังเรื่องทีเ่ ขาเอาสัตว์เลื้อยคลานมาให้เด็ก ๆ ดูเมื่อวันก่อนที่โรงเรียน
หรือเปล่าคะ งูไม่น่ากลัวหรอกค่ะ ฟียังลูบตัวมันเลย ไม่เห็นมันกัด มามี้
อย่ากลัวไปเลยนะคะ” เสียงเล่าปลอบ พร้อมกับอ้อมกอดเล็ก ๆ ที่เจ้าตัว
ซุกหน้าเข้าหาอกอุ่นออดอ้อน ทำให้ละมุนมาศกอดรัดร่างนั้นเอาไว้แน่น
กดริมฝีปากที่กลางกระหม่อมนั่นอย่างขอบคุณ
“ขอบคุณค่ะ ตอนนี้มามี้หายกลัวแล้ว นอนต่อนะคะ ยังมืดอยู่เลย”
คนตัวเล็กในอ้อมกอดหลับไปแล้ว แต่ละมุนมาศยังไม่สามารถที่จะ
หลับตาลงได้
230/559
หลายคืนมาแล้วที่หล่อนฝันถึงงู เจ้างูยักษ์นั่นมันไล่หล่อนทุกครั้ง
ราวกับว่ามันแค่แหย่เล่นให้หวาดกลัว ไม่ได้ตั้งใจที่ทำร้ายหล่อนอย่าง
จริงจัง...งูบ้า
ละมุนมาศมาถึงที่ทำงานก่อนเวลาตามปกติ พร้อม ๆ กับเพื่อนสาว
ร่วมงาน
“มอร์นิงมุน”
“มอร์นิงลินดา อากาศดีจังเลย ฉันขอสูดเข้าปอดแรง ๆ สักครั้งก่อน
เข้าไปทำงาน” ละมุนมาศบอกเพื่อนสาวพร้อมกับทำท่าสูดอากาศบริสุทธิ์เข้า
ปอดแบบเต็มแรง ทำให้ลินดาอดที่จะหัวเราะไม่ได้กับท่าทางเอาจริงเอาจัง
นั้น
“สูดให้เต็มที่นะ ฉันเรียบร้อยแล้ว ขอเข้าไปก่อนละกัน” ละมุนมาศ
ยกมือเป็นเชิงบอกตามสบาย โดยที่ตัวเองยังตั้งหน้าตั้งตาสูดอากาศเข้า
ปอดเต็มที่แล้วก็รีบเข้าสู่ที่ทำงาน
“ปึก !”
“โอ๊ย !”
พร้อมกับร่างบางของละมุนมา ก็เซถลาไปปะทะกับฝาผนังทางเดิน
ด้วยมือทั้งสองข้างยันผนังเอาไว้
“ซอร์รแี่ มม” เสียงนุ่มทุ้มตามมา พร้อมกับมือหนาก็ดึงบ่าของละมุน
มาศเอาไว้ พอทรงตัวได้ละมุนมาศก็ยิ้มให้เขาแหย ๆ ไม่รู้ใครผิดใครถูก
231/559
คำขอของลูกสาวทำให้คารีโนใจเต้นแรงขึ้นมาทันใด
สองสาวน้อยนี่คิดอะไรกัน ถ้าเขาอนุญาตจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ มี
หวังคนกำปั้นโตได้โวยวายเป็นแน่ เออ แฮะ ชักอยากรูว้ ่าจะเป็นอย่างไร
ต่อไป
“เอาไว้ขอให้แดดดี้คิดก่อนได้ไหมคะ แล้วแดดดี้จะให้คำตอบ
ตอนนี้ถึงโรงเรียนแล้ว”
“ได้ค่ะ บายแดดดี้” คารีโนยื่นริมฝีปากหยักให้ลูกสาวจูบดัง
“จุ๊บ”
“บาย เบียน ขอบคุณที่มาส่งคารีนานะ”
“บายครับ คุณหนู ด้วยความยินดีครับ”
รถคันหรูจอดเทียบหน้าประตูโรงเรียน ลูกสาวตัวน้อยของเขาก็วิ่งเข้า
ไปหาคุณครูทรี่ ออยู่แล้ว พร้อมกับเด็ก ๆ กลุ่มใหญ่ คารีโนอดที่จะยิ้มกับ
ท่าทางร่าเริงน่ารักของลูกสาวไม่ได้ เมื่อเห็นเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งกวักมือ
เรียก ลูกสาวของเขาก็โบกมือตอบ
“สงสัยเด็กนั่นจะชื่อสเตอริงนะ ว่าไหมเบียน”
“มั้งครับ”
“แหม ลูกสาวฉัน ลงจากรถหนุ่ม ๆ ก็กวักมือเรียกซะแล้ว” คารีโน
พูดแล้วก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ เบียนได้แต่ยิ้ม
238/559
คิดถึงตรงนี้ ภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่โดนเขาจูบถึง
กับถลามาทุบกำปั้นน้อย ๆ ของตัวเองใส่หลังเขาแล้วก็ต้องยิ้มออกมา แล้ว
คารีโนก็รีบถลาไปที่โต๊ะทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์
ภาพน่ารัก ๆ ต้อนรับเช้าวันทำงานของเขาจากฝีมือลูกน้องคนสนิท
เห็นแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ภาพที่หล่อนคุยทักทายยิ้มแย้มกับเพื่อน
ร่วมงาน แล้วก็เงยหน้าแล้วทำท่าสูดอากาศเข้าปอดอย่างแรงนั้นเป็นธรรม
ชาติจริง ๆ ดูตั้งอกตั้งใจทำติดต่อกันหลายครั้ง แล้วก็หันหลังเข้าที่ทำงาน
วันนี้หล่อนแต่งตัวน่ารักทีเดียว ร่างบางนั้นก็ไม่ได้สูงมากนัก ด้วย
กางเกง ผ้ายืดสีดำเข้ารูปโชว์เรียวขาสวยกับรองเท้าบูทส้นสูงตัวบูทยาวแค่
กลางน่องสีดำสนิท เสื้อสีดำคอปาดตัวยาวคลุมสะโพก รัดด้วยเข็มขัดเส้น
เล็กสีแดง ที่คอมีผ้าพันคอสีแดงอมชมพูพาดอยู่ สะพายกระเป๋าใบโตใบ
เดิม
เห็นภาพแล้วก็อยากเห็นตัวจริง พอคิดอยากเห็นหน้า คารีโนก็
ตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับงานที่อยู่บนโต๊ะ ด้วยหัวใจที่กระตือรือร้น
กลับจากทานอาหารกลางวันที่สวนหย่อมด้านหลังคลินิกแล้ว ละมุน
มาศก็กลับเข้ามาข้างใน พร้อมกับที่ลินดาบอกว่า
“มีคนมารอพบยู อยู่ด้านนอกห้องรอหมอน่ะ”
“ฉันหรือ”
“อือ ยูนั่นและ ด้านหน้าเขาโทร. มาบอก”
240/559
“ไม่ถึงร้อยก็เอามาเถอะ”
“มุนต้องกลับเข้าไปเอาเงินที่โต๊ะทำงาน แม่รอแป๊บนะคะ” ละมุนมาศ
หันหลังกลับด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ขนาดหล่อนยังรู้สึกเจ็บปวดได้ขนาดนี้
แล้วคนตัวเล็กจะเป็นอย่างไรนะ กลับไปที่โต๊ะทำงานเพื่อนสาวเห็นก็ถามว่า
“ทำไมเร็วจัง”
“ฉันมาเอาของน่ะ”
คว้ากระเป๋าเงินได้ ละมุนมาศก็รีบกลับออกไปข้างนอก และทันทีที่
มารดาเห็นหน้าก็ยื่นมือออกมารอตรงหน้า ละมุนมาศก็หยิบเงินส่งให้
“มีแค่นี้แหละค่ะ เก้าสิบเหรียญ” มารดาก็คว้าหมับทันที
“ทีหน้าทีหลังพกให้เยอะกว่านี้ด้วย ฉันแวะมาหาจะได้ไม่เสียเวลา” ผู้
เป็นมารดาว่าให้อีก ละมุนมาศได้แต่กลํ้ากลืนความรู้สึกอดสูเอาไว้ในใจ
“มุนพกเท่าที่จำเป็นเท่านั้นค่ะ และก็ไม่มากนัก เพราะว่าไม่ได้ใช้จ่าย
อะไร อาหารกลางวันมุนก็เอามาจากบ้านแล้ว ว่าแต่เงินที่มนุ ให้แม่ไปวัน
นั้นละคะ” อดที่จะทวงถามไม่ได้
“หมดแล้ว จะมาถามทำไม ให้ได้อะไรขึ้นมา ถ้าฉันมีเงินก็คงไม่
บากหน้ามาขอแกหรอก ให้เงินแม่เชื้อเท่านี้มีปัญหาหรือไงกัน” พอมารดา
พูดอย่างนี้ ละมุนมาศก็ได้แต่ส่ายหน้าถอนหายใจ ไม่คิดจะต่อปากต่อคำ
อะไรอีก
243/559
เหนื่อยเพลียจากการทำงานหายไปเมื่อได้เห็นใบหน้าที่สดใสไร้เดียงกับ
รอยยิ้มที่บริสุทธิ์นั้น
แล้วจะเป็นอย่างไรกันนะ ถ้าบ้านนี้จะมีใครอีกสักคนสองคนเพิ่มขึ้น
มา งานนี้คงจะออกมารับเขาทั้งขบวน หรือไม่ก็อาจจะแค่เด็กหญิงตัวน้อย
สองคน มาช่วยกันกระโดดเหยง ๆ ต้อนรับการกลับบ้านของเขา
แค่คิดคารีโนก็รู้สึกว่าหัวใจของเขากระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันใด แล้วก็
คิดได้ว่าเขาน่าจะคุยกับลูกสาวเรื่องสองแม่ลูกกำมะลอนั้น ได้คิดดังนั้นการ
อาบนํ้าครั้งนีก้ ็เลยทำเวลาได้ดีที่สุดเท่าทีเ่ คยทำมา พอแต่งตัวเสร็จก็เข้าไป
ในส่วนของห้องนอน
“แดดดี้อาบนํ้าเร็วจังเลยคะ” ใบหน้าน้อย ๆ เงยหน้าขึ้นจากตุ๊กตาใน
มือ ถามพร้อมกับรอยยิ้ม
“แล้วดีไหมคะ”
“ดีค่ะ” ร่างเล็ก ๆ ของลูกสาวตัวน้อยมุดเข้าใต้ผ้าห่ม ไฟในห้องปิด
ลง เหลือแต่แสงสลัวของไฟกลางคืนข้างผนัง พร้อมกับร่างสูงใหญ่ของผู้
เป็นบิดาก็มุดตามเข้าไปด้วย ศีรษะน้อย ๆ ของลูกสาวพาดอยู่บนแขน
แข็งแรงของผู้เป็นบิดา พร้อมกับทวงถามว่า
“เรื่องที่คารีนาขอแดดดี้ให้ฟีเรียกแดดดีจ้ ะว่าอย่างไรคะ” คารีโนถึง
กับยิ้ม ลูกสาวเขาทวงเร็วจริง
“ไหนบอกให้เวลาแดดดี้คิดไงคะ”
247/559
“ก็ให้เวลาตั้งหลายชั่วโมงแล้วนี่คะ”
“คำตอบควรจะเป็นอย่างไรดีนะ คารีนาถึงจะพอใจ”
“เยสสิคะ”
“ต้องเยสอย่างเดียวหรือคะ โนได้ไหม” แกล้งถาม
“ไม่ได้ค่ะ”
“งั้นเอาเป็นว่า ถ้ามามี้ของฟีอนุญาต แดดดี้กอ็ นุญาตเช่นกันดีไหม
คะ”
“ดีค่ะ งั้นคารีนาจะบอกฟีอย่างนี้ ขอบคุณค่ะ คารีนารักแดดดีท้ ี่สุด
ในโลกเลยค่ะ” ริมฝีปากเล็ก ๆ นั่นยื่นมาจูบริมฝีปากหยักของบิดาแรง ๆ
“แดดดี้กร็ ักหนูที่สุดในโลกเหมือนกัน หลับได้แล้วค่ะ นอนแต่หัวคํ่า
ใบหน้าจะได้สดใส สวยเสมอ หลับฝันดีค่ะ”
“หลับฝันดีค่ะแดดดี้”
ความเงียบเข้ามาครอบคลุมห้องนอนกว้างนั้น ไม่ถึงห้านาทีนักร่าง
เล็ก ๆ ในอ้อมกอดของเขาก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง พร้อมกับเสียง
ลมหายใจเข้าออกเบา ๆ แล้วจู่ ๆ ก็มีคำพูดแผ่วเบาถามขึ้น ราวกับเจ้าตัว
เพิ่งจะนึกขึ้นได้
“ถ้ามีฟีกับมามี้ของฟีมาอยู่บ้านกับเรา คงจะสนุกนะคะแดดดี้”
248/559
คารีโนได้แต่ยิ้มในความมืด มือหนายกขึ้นลูบผมนุ่มสลวยเบา ๆ
พร้อมกับแตะริมฝีปากที่ข้างกระหม่อมเล็กอย่างแสนรัก
ลูกสาวเขาคงเหงา คงอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ รอเวลาสักนิดนะ
รอให้แดดดีพ้ ิชิตใจคนทีจ่ ะมาเป็นมามี้ของลูกก่อน รอให้งานหายยุ่งเขาคง
มีเวลาไปขอคบอีกคนอย่างจริงจังเสียที หรือว่าจะไปทั้งทีม่ ันยุ่ง ๆ อย่างนี้
ดีนะ
22
อุบัติเหตุ...ความจริง
เท่านั้นเองเรื่องราวที่ละมุนมาศได้รับ และมารดาก็บอกว่า
“ฉันฝากน้องไว้กับแกนะ” ให้น้องสาวตัวน้อยพร้อมกับเอกสาร
สำคัญต่าง ๆ และเสื้อผ้าเก่า ๆ หนึ่งกระเป๋า
ละมุนมาศไม่ได้ถามอะไรมากมาย ด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
นึกอยากปฏิเสธก็พูดไม่ออก เพราะสายตายกลมโตของร่างเล็กตัวผอมกระ
หร่อง ผมเผ้ายุ่งเหยิง มีหัวแม่มืออยู่ในปาก เสื้อผ้าที่เก่า ๆ เห็นแล้วก็จุก
ในอก สุดท้ายก็ได้แต่ยื่นมือออกไป ร่างเล็ก ๆ หลบไปข้างหลังมารดา
ทันที จนหล่อนยื่นตุ๊กตาตัวโตส่งให้ พร้อมกับพูดคุยด้วย คนตัวเล็กจึง
ยอมให้หล่อนเข้าหาและเล่นด้วย
มารดาอยู่ค้างคืนด้วยสองคืนและก็หายหน้าไป เกือบสีป่ ีทีเดียวที่
มารดากลับมาอีกครั้ง และเท่าที่สัมผัสได้ มารดาไม่เหลือความรู้สึกห่วงหา
อาทรหรือว่ารักและคิดถึงคนตัวเล็กเลย มาหาก็แค่ต้องการเงินเท่านั้น คิด
แล้วก็ปวดใจ ละมุนมาศไม่อยากให้รอยยิ้ม เสียงหัวเราะที่สดใสไร้เดียงสา
ทีม่ ีตลอดมาในช่วงเวลาทีใ่ ช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นแม่ลูก ต้องหายไปเมื่อคน
ตัวเล็กได้เจอกับมารดาที่แท้จริง
แล้วหล่อนจะทำอย่างไรดี
“มามีค้ ะ มามีล้ ืมหรือยังคะ” เสียงเรียกของคนตัวเล็ก ทำให้ละมุน
มาศหลุดออกมาจากความคิดกังวล
“ลืมอะไรคะ”
252/559
ละมุนมาศจูงมือคนตัวเล็กเอาไว้แน่น หางตาชำเลืองมองรถคันโตที่
จอดอยู่ไม่ไกล แล้วก็นึกอยากจะเดินเข้าไปถามว่า
ทำอย่างนี้ทำไม เพื่ออะไร ใครสั่งให้ทำ
แต่ก็ได้เพียงแต่คิดเท่านั้น รถคันนั้นไม่เคยแม้แต่จะมาใกล้ ๆ ให้
หล่อนได้เห็นชัด ๆ สักครั้ง
หลังจากส่งฟีนิกซ์ให้กับคุณครูประจำชั้น พร้อมกับพูดคุยทักทาย
แล้ว ละมุนมาศก็จูบลาคนตัวเล็กเพื่อไปทำงาน
ละมุนมาศขับรถออกมาจากโรงเรียนด้วยความเร็วตามที่กำหนด
เนื่องจากในช่วงที่เด็กไปโรงเรียนในตอนเช้าและเลิกโรงเรียนในตอนบ่าย
บริเวณรอบ ๆ โรงเรียนจะเปิดไฟกะพริบเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งหลาย
ต้องขับรถตามความเร็วที่กำหนดอย่างเคร่งครัด และพอพ้นเขตโรงเรียนมา
ได้แล้ว ละมุนมาศก็เร่งความเร็วของรถขึ้น พร้อมกับมองกระจกข้างทั้ง
สอง และก็มองกระจกหลัง หาทางหนีทีไล่ ให้พ้นจากการติดตาม หัน
ซ้ายหันขวา
โครม...ปึง...คลัก...คลัก...!
ขับรถอยูด่ ี ๆ ก็มเี สียงเกิดขึ้นใกล้ ๆ แล้วอยู่ ๆ รถก็หยุด ละมุน
มาศมองไปด้านข้าง ก็เห็นว่ารถของหล่อนเบียดชิดอยู่กับรถอีกคัน
ตายแล้ว อย่าบอกนะว่าเกิดอุบัติเหตุรถชน ใครชนใครกันแน่ หล่อน
ชนเขาหรือว่าเขามาชนหล่อน แล้วรถคันนี้โผล่มาจากตรงไหน มาได้
254/559
ชนใครไม่ชนดันมาชนบีเอ็มดับเบิลยูที่จอดอยูเ่ ฉย ๆ งานนี้ประกัน
ได้ขึ้น พรวด ๆ เป็นแน่
“เชิญไปนั่งพักที่รถของผมก่อนนะครับมิส”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ขอบคุณมาก ฉันโอ.เค.”
“งั้นก็ไม่เป็นไร ผมทำตามคำสั่งของเจ้านายครับ” คำตอบของคน
ตรงหน้าทำให้ละมุนมาศอดที่จะค้อนให้ไม่ได้ก่อนที่จะคิดได้ว่า
ว่าแต่เจ้านายเขามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน
“เจ้านายคุณมาเกี่ยวอะไรด้วย” ถามกลับอย่างที่ใจคิด
“อย่าเพิ่งถามตอนนี้เลยครับ ตำรวจกำลังมาแล้ว” เฟยรีบตัดบท ที่
ตำรวจมาเร็วก็เพราะว่าเขาโทร. แจ้งตำรวจทันทีที่เห็นเหตุการณ์
ตำรวจมาแล้ว ทำไมลูกน้องมาเฟียไม่กลัวอะไรเลยหรือไง แถมยัง
เดินเข้าไปหาตำรวจอีกด้วย ไม่เข้าใจจริง ๆ หรือว่าพวกนี้เส้นใหญ่
อิทธิพลคับฟ้าแม้แต่ตำรวจก็ยังกลัว
เจ้าหน้าที่ตำรวจซักถามเจ้าของรถคู่กรณีแล้ว ก็เดินมาหาละมุนมาศที่
ยืนอยู่บนฟุตปาธข้างถนน
“คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับมิส”
“ไม่ค่ะ”
“มีผู้โดยสารคนอื่นในรถของคุณหรือเปล่า”
257/559
“ไม่มีค่ะ ฉันคนเดียว”
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขอใบขับขี่ เอกสารเกี่ยวกับประกันภัย
และเอกสารเกี่ยวกับรถ ละมุนมาศก็ยื่นเอกสารทุกอย่างให้เจ้าหน้าตำรวจ
ซึ่งก็รับไป พร้อมเชิญให้ละมุนมาศตามไปที่รถด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิด
เครื่องคอมพิวเตอร์ในรถแล้วก็กรอกข้อมูล และมีการซักถามรายละเอียด
ของเหตุการณ์ทเี่ กิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งละมุนมาศก็ตอบทุกอย่างตามความ
เป็นจริง โดยมีเฟยยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่ก็
คืนเอกสารทุกอย่างให้
ละมุนมาศหันไปทางคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ได้ยินเขาพูดโทรศัพท์กับ
ทางปลายสายว่า
“ครับเจ้านาย ครับ ไม่มีปัญหาอะไรครับ ไม่เจ็บครับ ครับ ผมจะ
จัดการให้ครับ ไม่ต้องห่วงครับ ครับ ได้ครับ มิสครับ เจ้านายอยากคุย
ด้วยครับ” เฟยยื่นโทรศัพท์ของเขาส่งให้ พร้อมกับสายตาขอร้องให้หล่อน
รับโทรศัพท์ไปคุย ละมุนมาศรับโทรศัพท์เครื่องหรูมาอย่างงง ๆ นึกในใจ
ว่า
ทำไมหล่อนต้องคุยกับเจ้านายเขาด้วย อุบัติเหตุครั้งนีไ้ ม่ได้เกี่ยวกับ
เขาสักหน่อย ไม่เข้าใจจริง ๆ
“ฮัลโหล” ละมุนมาศพูดแค่นั้น ปลายสายก็ถามว่า
“คุณไม่เจ็บใช่ไหมมุน”
258/559
ละมุนมาศส่ายหน้าเป็นคำตอบ แต่พอคิดได้ว่าเขาไม่รับรู้จึงตอบกลับ
ไปว่า
“ไม่ค่ะ ขอบคุณทีถ่ าม แค่นี้นะคะ” กำลังจะวางหูทางปลายสายก็
บอกว่า
“เดี๋ยวก่อน”
“คะ”
“เฟยจะเป็นคนจัดการทุกอย่างให้คุณ ไว้ใจเขาได้ แล้วเจอกัน”
เจ้านายวางหูไปโดยไม่รอฟังคำตอบ
ชอบสั่งนัก ยุ่งอะไรกับเขาด้วยเนี่ย แล้วเจอกัน...ว่าแต่ใครอยากเจอ
เขากันนะ
ใจปฏิเสธแต่ลึก ๆ แล้วละมุนมาศรู้สึกอบอุ่นในยามที่อยูใ่ น
ภาวะคับขันคิดอะไรไม่ออก เขาก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
เอ๊ะ...ว่าแต่เขาจะช่วยเหลือหล่อนทำไมกัน ในเมื่อเขาโกรธเกลียด
เคียดแค้นหล่อนออกอย่างนั้น มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเป็นแน่ เขา
ให้คนตามหล่อนอยู่ไม่ใช่หรือ หรือว่า...เฟยคือคนที่ตามหล่อนอยู่ เฟยเป็น
เจ้าของฮัมเมอร์คันโตคันนั้นหรือเปล่า หล่อนก็ไม่เห็นด้วยสิว่าเฟยลงมา
จากรถคันไหน มีรถจอดอยู่รอบ ๆ แถวนี้ตั้งหลายคัน เฟย...เป็นเฟย
ใช่ไหม
259/559
ละมุนมาศได้แต่ส่ายศีรษะไปมาแรง ๆ ขับไล่ความสับสนงุนงงและ
ความหวาดกลัวเล็ก ๆ ออกไปจากหัวใจ แต่มันก็ทำได้ยากนัก
“มิสครับ ไม่สบายหรือเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ”
“ผมจะช่วยจัดการทุกอย่าง ตอนนีผ้ มอยากให้มิสโทร. ไปลางาน
บอกที่ทำงานว่ามิสมีอุบัติเหตุ และต้องอยู่จัดการเรื่องราวทั้งหมดนะครับ”
“ทำไมฉันต้องลางานด้วย”
“มีหลายเรื่องที่มสิ ต้องจัดการครับ” คนทีไ่ ม่เคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมา
ก่อนเลยในชีวิต ไม่เคยรู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ละมุนมาศมองคนตรงหน้า
ก็ดูไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ท่าทางก็ออกจะสุภาพ ห่างไกลจากคำว่าคนร้าย
สมัยนี้คนร้ายอยู่ในคราบสุภาพบุรุษกันเยอะแยะ
หลากหลายความคิดที่ตีกันอยู่ในสมองของละมุนมาศขณะนี้
แต่ในภาวะเช่นนี้ถ้าเฟยเป็นคนที่ติดตามหล่อนจริง ๆ และถ้าเขาจะ
จัดการกับหล่อน ก็คงจะสวมรอยไปกับอุบัติเหตุครั้งนี้ไปแล้ว
ละมุนมาศรู้ว่าหัวสมองหล่อนทึบมาก หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้คิด
อะไรไม่ค่อยออก
หรือว่าสมองของหล่อนได้รับการกระทบกระเทือนเสียแล้ว
260/559
สุดท้ายละมุนมาศก็โทรศัพท์ไปที่ทำงานบอกลางาน เพื่อนร่วมงาน
ตกใจกันเล็กน้อยเมื่อรู้ถึงสาเหตุ เพราะว่าในหนึ่งปีละมุนมาศแทบจะไม่
เคยลางานเลยก็ว่าได้นอกจากลาพักร้อนเท่านั้น และพอรูว้ ่าไม่ได้รับ
บาดเจ็บอะไรก็เลิกเป็นกังวล วางหูจากที่ทำงานแล้วละมุนมาศก็หันมาทาง
คนทีย่ ืนอยู่ข้าง ๆ เขาก็แนะนำให้หล่อนคุยกับเจ้าของรถคูก่ รณี ช่วยเก็บ
รายละเอียดของอีกฝ่าย และก็โทร. ไปรายงานอุบัติเหตุกับบริษัทประกัน
ซึ่งบริษัทประกันก็ซักถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นราวกับตำรวจเลยทีเดียว
เช้าวันนั้นใช้เวลากว่าสองชั่วโมงจึงเสร็จเรื่องราว รถของหล่อนก็มี
บริษัท ลากรถมานำไปโรงซ่อมรถ ละมุนมาศรู้สึกเหนื่อยอย่างไม่เคยเป็น
มาก่อน เหตุการณ์หลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้หล่อน
ตั้งรับแทบไม่ทัน
หลังจากทีร่ ถถูกลากไปแล้ว เฟยก็นำหล่อนมาที่รถของเขา ทันทีที่
เห็นรถละมุนมาศก็ตกใจ รู้สึกถึงเหงื่อที่ทะลักออกมาจนแทบจะเป็นลม
ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มสวยงามซีดเผือดทันใด
23
จริง...หรือ ?
เฟยเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของผู้หญิงของเจ้านายแล้ว ก็รีบเปิดประตู
รถให้หล่อนเข้าไปนั่งข้างใน
“เชิญครับมิส” นํ้าเสียงนุ่มนวลเชื้อเชิญ
ละมุนมาศพาแข้งขาที่อ่อนแรงขึ้นไปนั่งบนรถ เพราะจะวิ่งหนีหล่อนก็
คงจะไม่รอด
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ สู้กันให้ถึงที่สุดไปเลย เกิดครั้งเดียว ตายครั้ง
เดียว
บอกกับตัวเองทั้ง ๆ ที่แทบจะหมดแรง รู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาทันใด
และพอเฟยขึ้นรถทางด้านคนขับ ละมุนมาศก็ถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยทันที
“คุณเฟยเป็นคุณใช่ไหมที่ขับรถตามฉันตลอดเวลาที่ผ่านมา”
“ครับ” คนที่กำลังทำหน้าที่ขับรถรับปาก
“ทำไมคุณต้องตามฉันด้วย”
“คำสั่งของเจ้านายครับ”
262/559
“ทำไม”
“ผมว่าเรื่องนี้มิสรอถามเจ้านายของผมดีกว่า ผมคงตอบแทนไม่ได้”
“แล้วนี่เราจะไปไหนกันคะ ถ้าไม่คิดว่ารบกวนเกินไป คุณเฟยไปส่ง
ฉันที่ คอนโดฯ ได้ไหมคะ ฉันจะไปตั้งต้นที่นั่น ยอมรับค่ะว่าตอนนี้ฉัน
มึนงงไปหมดแล้ว ขอพักก่อนแล้วค่อยคิดต่อว่าจะทำอย่างไรต่อไป”
“ผมจะพามิสไปดูที่เขาลากรถไปโรงซ่อมนะครับ จะได้รวู้ ่ารถอยู่
ที่ไหน” คำตอบนั้นทำให้ละมุนมาศรู้ว่าหล่อนไม่มปี ระสบการณ์ด้านนี้เอา
เสียเลย
“หลังจากนั้นเจ้านายสั่งให้ผมพามิสไปหา” คำตอบถัดมานั้นทำให้
ละมุนมาศถึงกับพูดไม่ออก ก็เลยเงียบไม่ถามอะไรต่อ เพราะรูว้ ่าลูกน้องก็
ทำตามคำสั่งของเจ้านาย หล่อนขัดขืนไปก็คงจะเท่านั้น
นี่หล่อนคงไม่รอดแล้วใช่ไหม รู้อย่างนี้รถชนเมื่อกี้ ถ้าหล่อนได้รับ
บาดเจ็บก็คงจะถูกส่งไปโรงพยาบาลแทนที่จะถูกลูกน้องเขาพาไปอย่างนี้
เวรกรรมจริง แล้วนี่คนตัวเล็กของหล่อนจะอยู่อย่างไร จะเป็นอย่างไร
อีกความคิดหนึ่งก็บอกว่า
ดีเหมือนกัน จะได้พูดให้รู้เรื่องกันไปเลยว่าอะไรมันเป็นอะไร ดีกว่า
อึมครึมหวาดระแวงอยู่อย่างนี้ แต่ทั้งขึ้นทั้งล่อง หล่อนก็คงไม่รอดอยูด่ ี มา
มี้รักฟีนะคะ รักมาก ได้แต่หวังว่ามิสซิสลีจะติดต่อกับคุณยายกลีบบัว ถ้ารู้
ว่าหล่อนหายไปอย่างน่าสงสัย
263/559
สารพัดความคิดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้ละมุนมาศปวดหัวทีเดียว ก็
เลยหลับตาหันหน้าออกไปนอกรถ และด้วยความเครียดทีผ่ ่านมา กับ
ความเย็นกำลังพอดีของแอร์คอนดิชันนิ่งในรถ ความเงียบที่ได้ยิน
แม้กระทั่งเสียงลมหายใจของคนที่นั่ง ข้าง ๆ ทำให้ละมุนมาศเข้าสู่นิทรา
อย่างง่ายดาย จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกราวกับเสียงนั้นมาจากที่ไกลแสน
ไกล
“มิสลามุนมาสครับ มิสครับ”
“หือ” ละมุนมาศค่อย ๆ ลืมตาขึ้น มองไปรอบๆ ก็พบรถจอดอยูก่ ับ
ที่แล้ว ที่ไหนสักแห่ง หันไปทางด้านคนขับก็เห็นว่ามีแต่รถจอดอยู่รอบ ๆ
“ถึงแล้วครับ”
“ถึงไหน”
“โรงงานเจ้านายครับ”
มาถึงแล้วหรือนี่ กี่โมงกันแน่เนี่ย
ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเกือบเที่ยง
เอ้า ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ไม่สกู้ ็ถอยไม่ได้แล้ว อะไรมันจะเกิดก็
ให้มันเกิด ว่าแต่ทำไมมันต้องมาเกิดวันเดียวกันด้วยไม่รู้ เคราะห์ซํ้ากรรม
ซัดจริงๆ
“เชิญครับ” เฟยมองหน้าคนพิเศษของเจ้านายแล้วก็อดที่จะคิดไม่ได้
ว่า
264/559
แล้วเขาไปไหน
“มาแล้วหรือ” เสียงนุ่มทุ้มที่ดังขึ้นข้าง ๆ ตัว ทำให้ละมุนมาศสะดุ้ง
สุดตัวจนร่างกระโจนหนี เสียงหัวเราะดังขึ้นเบา ๆ คนฟังได้ยินเป็น
เสียงหัวเราะเยาะเย้ย ปลุกความโกรธและความกล้าในหัวใจขึ้นได้อย่างไม่
น่าเชื่อ
“คนบ้า นี่แน่ะ นี่แน่ะ” ไม่พูดพล่ามทำเพลง ร่างเล็กก็กระโจนเข้าใส่
ร่างสูงจนคนทีย่ ังไม่ทันตั้งตัวเซถลาไปเล็กน้อย พร้อมกับดึงร่างบางตามไป
ด้วย ส่วนคนที่ถูกดึงไปด้วยก็คิดว่ากำลังถูกลวนลามก็ยิ่งโวยวาย ทุบตีเขา
พัลวัน
“กล้าทำอย่างนี้กับฉันได้อย่างไรกัน ทำให้ฉันเกือบได้รับบาดเจ็บ คน
ไร้หัวใจ คนบ้า”
“โอ๊ย ๆ ผมทำอะไร” คนถูกทุบตีถามกลับ เพราะยังงง ๆ ที่อยู่ ๆ
อีกคนโวยวาย นํ้าตาคลอ สองมือน้อย ๆ ก็ทุบเขาไม่หยุด จนเขาต้อง
จับมือทั้งสองข้างไว้ แต่ขาทั้งสองข้างที่ยังเป็นอิสระก็ทำหน้าที่ของมันอย่าง
เต็มความสามารถ หัวรองเท้าบูท ส้นสูงที่แหลมกำลังงามนั้นทำร้ายเขาให้
เจ็บได้ดีทีเดียว
“ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ ให้คนขับรถตามฉัน จนฉันขับรถไปชนกับรถคน
อื่น คนใจร้าย”
267/559
คนใจร้ายที่ถูกกล่าวหาทำหน้ามึนงง จนกระทั่งเจอปลายรองเท้าเข้าที่
หน้าแข้งถึงกับร้อง
“โอ๊ย !” คนเตะเท้าออกไปถึงกับใจเสียเมื่อได้ยินเสียงร้องโอ๊ยจาก
เขา เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเหย ๆ นั้นแล้วก็นึกสงสาร แต่ละมุนมาศก็บอก
ตัวเองว่า
ทำถูกแล้ว หล่อนต้องรีบออกอาวุธก่อนทีอ่ ีกฝ่ายจะได้ตั้งตัว ไม่งั้น
หล่อนคงจะเป็นฝ่ายที่เพลี่ยงพลํ้าเป็นแน่
ส่วนคนที่เพิ่งจะโดนปลายรองเท้าของสาว ๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต ก็
ถึงกับสูดปากระบายความเจ็บ และคารีโนก็ตัดสินใจรวบร่างบางดึงให้ไป
นั่งที่เก้าอีห้ ลังโต๊ะทำงานของเขา พร้อมกับลากเก้าอีอ้ ีกตัวมานั่งตรงหน้า ใช้
ขาแข็งแรงของตัวเองหนีบขาเรียวเอาไว้แน่น มือข้างหนึ่งของเขาก็รวบ
ข้อมือเล็กทั้งสองเอาไว้ไม่ให้ได้มีโอกาสทำร้ายเขาได้อีก
“ปล่อย” คนทีโ่ ดนหนีบขาเอาไว้สั่งเสียงแหว เมื่อเห็นกระโปรงตัวสั้น
ของ ตัวเองร่นขึ้นไปอยู่กลางขา ทำให้เขาเห็นขาขาวเนียนของหล่อน
“นั่งเงียบ ๆ ก่อน ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน” ทำเสียงเข้มขู่แล้วเขา
ก็กด อินเทอร์คอม พร้อมกับส่งเสียงเข้มออกไปบอกเลขานุการหน้าห้องว่า
“ผมไม่รับแขกนะ จนกว่าจะอนุญาต” พูดเสร็จแล้วเขาก็หันใบหน้าที่
เรียบตึงกลับมา ยังไม่ทันได้พูดอะไร
268/559
“คิดว่าเป็นมาเฟียแล้วคิดว่าฉันจะกลัวหรือไงกันฮึ” เสียงเล็กขู่กลับ
ทั้งที่ในใจนึกหวั่น
นี่เขาคิดจะทำอะไร ถึงได้ลอ็ กหล่อนเอาไว้จนแทบกระดิกไม่ได้อย่าง
นี้
“ใครเป็นมาเฟีย” ไม่ใช่เฉพาะหน้าที่เรียบตึงเท่านั้น เสียงก็ยังแข็ง
แถมสายตายยังดุดันอีกด้วย
อ่า ตายนแน่ ๆ แต่เป็นไงเป็นกัน
“ก็คุณไง”
“ผมนี่นะเป็นมาเฟีย เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคุณ” คารีโนถามกลับนํ้า
ด้วย น้ำเสียงขำ ๆ
“ไม่ยอมรับล่ะสิ...ฮึ ไม่มีใครยอมรับหรอกว่าตัวเองเป็นมาเฟีย” คน
พูดพูดอย่างมั่นใจ คารีโนเห็นอาการนั้นแล้วก็นึกอยากจะรวบคนตรงหน้า
เข้าสู่อ้อมกอด กอดรับขวัญผู้หญิงของมาเฟีย แต่คิดว่าทำอย่างนั้นเขาคง
ได้สิ่งแลกเปลี่ยนมาแน่ ๆ
“มองทำไม คิดจะทำร้ายฉันล่ะสิ”
คิดได้เป็นเรื่องเป็นราวจริง ๆ
“ฉันมาที่นี่ก็เพื่อที่จะตกลงกับคุณ”
“ตกลงเรื่องอะไร”
269/559
“ก็เรื่องความแค้นของคุณไง คุณถึงได้ส่งให้เฟยติดตามฉันตลอด
คุณเกลียดโกรธฉันถึงขนาดที่จะทำร้ายกันให้ตายไปข้างหนึ่งเลยเชียวหรือ
แค่ฉันหยิกคุณ คุณก็โกรธแค้น แต่รไู้ หมว่าฉันก็โกรธเหมือนกันที่คุณทำ
กับฉันอย่างนี้ ฉันก็มีหัวใจนะ ไม่ใช่ผู้หญิงตามคลับตามบาร์ที่คุณสามารถ
แตะต้องได้ง่าย ๆ พอฉันปกป้องตัวเองตอบโต้กลับ คุณก็โกรธส่งคนไป
จะทำร้ายฉัน คนบ้า คนใจดำ รูไ้ หมว่าฉันมีลูกสาวตัวน้อยที่ต้องดูแล ชีวิต
ทุกวันนอกจากจะต้องห่วงตัวเอง ฉันยังต้องห่วงลูกสาวด้วย คุณมันใจร้าย
เอาแต่ใจตัวเอง” คนพูดนํ้าตาซึมด้วยความเจ็บใจที่โดนกระทำ แต่ไม่มีทาง
ทีล่ ะมุนมาศจะให้คนอื่นเห็นนํ้าตาของหล่อนเป็นอันขาด โดยเฉพาะผู้ชาย
ตรงหน้านี้
ความที่เคยคิดไว้ว่าจะพูดกับเขาดี ๆ ด้วยอารมณ์เย็น ๆ ขอร้องเขา
ให้เห็นใจคนตัวเล็กด้วย ที่ไหนได้ เมื่อได้พบเจอความกดดันในชีวิตที่ผ่าน
มาจากการกระทำของคนตรงหน้า ทำให้ละมุนมาศโกรธจนลืมตัว และพูด
ว่าเขาไม่หยุด
คารีโนได้ฟังคำต่อว่าจากคนตรงหน้าแล้ว ก็พอจะเข้าใจอะไรบาง
อย่าง นึกขำทีอ่ ีกคนคิดมากมาย คิดเป็นฉาก ๆ แต่ไกลกันแทบจะเป็นคน
ละเรื่องเลยก็ว่าได้
“ยิ้มเยาะฉันหรือไง” เสียงเล็ก ๆ แหวขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มของคน
ตรงหน้า
“ยิ้มไม่ได้หรือไง ขอถามหน่อยเถอะ แล้วเฟยทำอะไรคุณบ้าง”
270/559
สิ่งที่ได้รับรู้ทำให้ละมุนมาศได้แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจ
มิสมินต์กร็ ู้เรื่องนี้ แต่ทำไมไม่บอกให้หล่อนได้รับรูบ้ ้าง คิด ๆ แล้วก็
อดที่จะน้อยใจหัวหน้า แต่พอมาคิดอีกที มิสมินต์จงรักภักดีต่อเจ้านายที่
รับใช้กันมานานก็น่าจะถูกแล้ว เป็นอย่างนี้หล่อนจะงอนมิสมินต์ก็คงจะไม่
ถูก
แต่รู้สึกเขินจัง แล้วนี่จะมองหน้ามิสมินต์เหมือนเดิมได้อย่างไรกัน
เฮ้อ...ทำไมถึงมีแต่เรื่องที่คิดไม่ตกทั้งนั้นก็ไม่รู้
“มาลองคบกันไหม”
คำชวนง่าย ๆ ที่มาแบบไม่มีปมี่ ีขลุ่ย ทำให้คนที่กำลังใช้ความคิดอยู่
ตามลำพังถึงกับไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยิน
“คุณพูดว่าอะไรนะ”
“คบกันเถอะ”
“ทำไมต้องคบกัน”
276/559
คนถูกถามถึงกับมึน พร้อมกับแอบคิดในใจว่า
จะไร้เดียงสาไปถึงไหนเนี่ย
“เพื่อที่จะเรียนรู้กันและกันไง คนเรารักชอบกันก็ต้องคบหากัน”
“เราเป็นคนรักชอบกันตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ” ถามออกไปแล้วก็ต้อง
หน้าแดง เมื่อมองสบกับดวงตาคูค่ มที่จ้องมา ดวงตาดุดันคู่นั้นตอนนี้
อ่อนหวานเป็นประกายระริกทีเดียว
“ก็ตั้งแต่ที่ผมชอบคุณไง”
“ถ้าฉันตอบว่าไม่ล่ะ”
“ผมก็จะจูบคุณ” ไม่พูดเปล่าใบหน้าคมยื่นเข้าไปใกล้ มือบางก็ยกขึ้น
ผลักทันที คารีโนคว้าจับมือบางเอาไว้ ดึงไปจรดทีร่ ิมฝีปากอุ่น จูบแรง ๆ
ที่ฝ่ามือบางดังจุ๊บ
“คุณนี่” อีกฝ่ายหน้าแดงโวยเสียงดัง นึกอยากจะหยิกให้อีกสักครั้ง
แต่ก็ไม่กล้า กลัวอีกคนจะทำอย่างที่พูดเอาไว้ ก็เลยได้แต่ค้อนให้
เอะอะอะไรก็จูบ คนเอาแต่ใจ ฉวยโอกาสก็เท่านั้น แล้ว...หล่อนจะ
ใจสั่นทำไม
คารีโนได้แต่ยิ้มเอ็นดูให้กับอาการฮึดฮัดฟัดเหวี่ยงของคนตรงหน้า
หน้าตาสับสน เก้อเขินตื่น ๆ นี่ก็น่ารักไปอีกแบบ ตอนโมโหก็น่ารัก
ไปอีกแบบ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะใจเย็นได้ขนาดนี้
277/559
“ก็ลองทำดูสิ”
“อย่าท้านะ ผมยิ่งชอบลองอยูด่ ้วย แต่เอาไว้ค่อยลองทีหลังละกัน
รับรองว่าคุณต้องติดใจ”
คำพูดของคารีโนทำให้คนฟังค้อนหน้าควํ่าทีเดียว หน้าร้อนผ่าวกับ
วาจา ตรง ๆ นั้น
“เอาละ ทีนมี้ าพูดเรื่องอุบัติเหตุ แน่ใจนะว่าคุณไม่เจ็บตรงไหน ให้
พยาบาลของบริษัทดูหน่อยไหม จะได้แน่ใจ”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ขอบคุณ” เมื่อเห็นเขามีนํ้าใจถามไถ่
จริงใจหรือเปล่าไม่รู้ หล่อนก็ต้องขอบคุณ
“งั้นก็ดีแล้ว ส่วนรถของคุณ ในช่วงทีร่ อการซ่อมให้ผมไปรับไปส่ง
เองดีไหม”
ทำไมเขาจะต้องมารับส่งหล่อนด้วย
“ไม่ค่ะ” ละมุนมาศรีบปฏิเสธทันที
“คุณจะมาลำบากกับฉันทำไม เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย เรื่องนี้
ฉันจัดการเองได้ ฉันมีธุระหลายอย่างต้องทำ ไม่ต้องการรบกวนคุณ”
“ไม่รบกวนหรอก คบกันก็ต้องดูแลกัน” อีกคนพูดด้วยดวงตา
เจ้าเล่ห์
279/559
“ฉันไปรับปากคบกับคุณตอนไหนไม่ทราบ ฉันจะบอกความจริงอะไร
ให้ ฉันไม่ใช่คนโสดตัวคนเดียว มีลูกสาวหนึ่งคนอายุหกขวบ กำลังเรียน
ชั้นเตรียมเกรดหนึ่ง มีภาระอีกหลายอย่าง มีหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบ
ทำงานสองงาน ฉันไม่มเี วลาให้กับคนอื่นหรอก เพราะฉะนั้นคำตอบก็คือ
ไม่”
คารีโนแอบยิ้มอยู่ในใจ
จริงสินะ ก็หล่อนไม่รู้ว่าเขาเป็นหลานคุณยาย และก็รู้เรื่องของหล่อน
หมดแล้ว
“คุณตอบได้ แต่คุณทำไม่ได้หรอก เชื่อผมสิ เอาเป็นว่าผมรับลูกสาว
ของคุณได้ไม่มปี ัญหา ไปกันเถอะ เที่ยงกว่าแล้ว ผมหิว ไปหาอะไรกินกัน
ก่อนทีผ่ มจะโมโห เปลี่ยนความหิวอาหารเป็นหิวอย่างอื่นแทน คำปฏิเสธ
ของคุณผมถือว่าเป็นคำตอบรับละกัน”
แย่จริง ๆ ผู้ชายคนนี้ ไม่บ้าก็เมาแล้ว หน้าตาก็ดไี ม่น่าจะพูดไม่
รู้เรื่อง หรือว่าภาษาอังกฤษของหล่อนอ่อนด้อยขนาดที่เขาฟังแล้วแปลได้
ตรงข้ามกับความจริงขนาดนั้น
“ฉันจะกลับแล้วค่ะ เชิญคุณทานอาหารตามสบาย”
“ห้ามดื้อ” ใบหน้าคมยื่นเข้ามาใกล้ จนอีกคนต้องเบือนหนี มือข้าง
หนึ่งของเขาเปิดตู้ข้างใต้โต๊ะทำงาน หยิบบางอย่างออกมาสวมที่คอหล่อน
อย่างรวดเร็ว
280/559
คนตัวเล็กวิ่งเข้ามาในออฟฟิศด้านหน้าโรงเรียนด้วยความดีใจเมื่อ
เห็นมามี้นั่งรออยู่
“มามี้ มามี้” ร่างเล็กวิ่งเข้ามากอดละมุนมาศเอาไว้ ใบหน้าสวยใสยิ้ม
กว้างเต็มใบหน้า
“ทำไมวันนี้มามี้มารับฟีได้คะ”
“พอดีว่าวันนี้มามี้มธี ุระนิดหน่อยค่ะ เสร็จธุระแล้วก็เลยมารับฟี ดีใจ
ไหมคะ”
“ดีใจค่ะ เราไปกินแม็คโดนัลด์กันนะคะ ฟีไม่ได้กินมาตั้งนานแล้ว”
ได้ทีคนตัวเล็กรีบชวน ละมุนมาศพยักหน้าให้ คนที่ได้รับคำตอบถึงกับ
กระโดดโลดเต้น
และพอมาเห็นรถที่เป็นพาหนะคันใหม่ คนตัวเล็กก็สงสัยอีก ละมุน
มาศก็เลยเล่าความจริงให้ฟัง คนฟังตกใจเล็กน้อยพร้อมกับปลอบใจ
ละมุนมาศอดที่จะปลื้มกับคำปลอบใจที่ไร้เดียงสาแต่มาจากหัวใจและสมอง
น้อย ๆ นั้นไม่ได้
286/559
เฟย...มาทำอะไรดึก ๆ อย่างนี้
“มิสละมุนมาศ...” เสียงเรียกชื่อพร้อมกับคนข้างนอกประตูก็ชู
กระดาษบางอย่างให้เห็น ละมุนมาศก็เลยเปิดประตู ยังไม่ทันตั้งตัว มือ
ปริศนาจากอีกด้านของประตูก็ผลักประตูให้เปิดกว้าง พร้อมกับแทรกร่าง
สูงใหญ่ของเขาเข้ามา และก็ดึงประตูให้ปิดตามหลัง
“คุณ” เจ้าของห้องเพิ่งจะหาเสียงของตัวเองเจอ แต่ก็ช้าไป เพราะว่า
ร่างบางของหล่อนตกอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของเขาเสียแล้ว อ้อมกอดนั้น
รัดร่างของหล่อนเอาไว้ราวกับว่าโหยหาเป็นที่สุด ละมุนมาศพยายามดิ้นรน
ให้หลุด กำลังที่จะอ้าปากต่อว่าเขา แต่ไม่ทันได้พูด ริมฝีปากหยักได้รูปก็
ประทับลงมาทีร่ ิมฝีปากของหล่อนเสียก่อน แค่ประทับกันแนบแน่นเท่านั้น
และเขาก็ถอนริมฝีปากออก บอกว่า
“เหนื่อยจัง ขอดื่มนํ้าเย็น ๆ สักแก้วได้ไหม” พูดเสร็จเขาก็เดินไป
ทรุดตัว ลงนั่งที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ ปล่อยให้เจ้าของห้องละล้าละลัง คิดไม่
ตกว่าควรจะทำอย่างไร หล่อนไม่เคยต้อนรับหนุ่ม ๆ ในห้องพักยามวิกาล
อย่างนี้ด้วย และเขาก็มาแบบแปลก ๆ
เอ่อ...ต้องทำอย่างไรนะ
“จะยืนคิดอีกนานไหม” เสียงนุ่มทุ้มจากคนที่พาดศีรษะกับพนักโซฟา
ถามขึ้น เมื่อเห็นเจ้าของบ้านที่โดนเขาจูบยังไม่ขยับไปไหน
288/559
เมื่อโดนทักอย่างนั้น ละมุนมาศก็เลยสะบัดหน้าให้เขาก่อนที่จะเดิน
เข้าไปในห้องครัวที่อยู่ติดกัน พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดังหึ ๆ อย่าง
อารมณ์ดตี ามมา มือบางเปิดตู้เหนือศีรษะ คว้าแก้วมารองนํ้าแข็งและรินนํ้า
จากตู้เย็น ในใจก็ถามตัวเองไปด้วยว่า
เขามาทำอะไรดึก ๆ ที่นี่ แล้วนึกอย่างไรถึงโผล่มาได้ และอีกสารพัด
คำถามที่เกิดขึ้นในสมองของละมุนมาศตอนนี้
“นํ้าค่ะ” วางแก้วนํ้าเย็นเฉียบบนจานรองตรงหน้าคนเป็นแขก
พร้อมกับคำถาม
“ว่าแต่คุณมีธุระอะไรหรือคะ ถึงได้มาหาฉันดึกขนาดนี้”
“มาทวงบางอย่าง” ดวงตาคูค่ มจ้องสบมา ทำให้ละมุนมาศรู้สึกอึดอัด
มือข้างหนึ่งก็เลยต้องจับสาบชุดคลุมเอาไว้แน่น
“ฉันติดอะไรคุณหรือ”
“คำยกโทษไง” ละมุนมาศถึงกับยกมือข้างที่ว่างขึ้นตบหน้าผากตัวเอง
หล่อนลืมไปแล้วว่าเขาถามเรื่องนี้ และก็ไม่คิดว่าเขาจะมาหาหล่อนด้วยเหตุ
แค่นี้
“และก็คิดถึงด้วย”
ประโยคสั้น ๆ ที่ตามมา ทำให้หัวใจดวงน้อยของคนฟังเต้นระรัว ทำ
หน้า ไม่ถูกไปหลายวินาที ปากบางอ้าจะพูดบางอย่าง แต่กไ็ ม่มเี สียงอะไร
เล็ดลอดออกมา คารีโนอมยิ้มกับท่าทางตกใจของคนน่ารักตรงหน้า พอ
289/559
หล่อนรู้สึกตัวก็ปิดปากตัวเองลงและก็เงียบไป จนกระทั่งเขาต้องเปลี่ยน
เรื่องถามขึ้นว่า
“ลูกสาวคุณหลับแล้วหรือ”
“ค่ะ” คำตอบแผ่วเบา ดวงตาหวานคู่นั้นก็ไม่กล้าสบตากับเขา เจ้าตัว
เสไปมองแก้วนํ้าที่อยู่บนโต๊ะกลางแทน
“ไม่ถามผมบ้างหรือว่าเหนื่อยหรือเปล่า” จู่ ๆ คนที่นั่งตรงข้ามก็ถาม
ขึ้น แล้วก็ดันตัวเองขึ้นนั่งตัวตรง พร้อมกับยกแก้วนํ้าขึ้นดื่ม ในขณะที่
ดวงตาคู่คมเข้มของเขาส่งตรงมายังละมุนมาศ ริมฝีปากหยักได้รูปที่ยังดื่ม
นํ้าคลี่ยิ้มนิด ๆ มันดูดีมากจนคนมองรู้สึกได้ว่า ดวงตาของเขาที่เห็นวันนี้
มันเป็นสีฟ้าเข้มทีเดียว คิ้วหนา ๆ กับเคราเขียว ๆ ข้างแก้มและคางนั่นก็
เข้ากับใบหน้าของเขาเป็นอย่างดี ทำให้ดเู ข้มอย่างชายชาตรี ดูดีมากทีเดียว
และละมุนมาศก็ชอบดูเสียด้วย มัวแต่มองหน้าเขาเพลิน ทำให้หล่อนลืม
คำพูดที่จะโต้ตอบเขาไปหมด
“ว่าไง”
“ว่าไง อะไรคะ”
“ช่างเถอะ ผมกลับดีกว่า คุณจะได้นอน อ้อ ขอบคุณสำหรับนํ้าเย็น”
ร่างสูงลุกขึ้นยืน แล้วก็เดินไปทางประตูหน้า จริง ๆ แล้วที่เขามาที่นี่ก็ไม่ได้
ต้องการคำตอบอะไรมากมาย มันเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้นเอง เพราะไม่ว่า
หล่อนจะตอบว่าอย่างไร เขาก็จะทำตามที่ใจตัวเองต้องการเท่านั้น
290/559
นี่แสดงว่าหล่อนยอมรับความรู้สึกของเขาแล้วอย่างนั้นใช่ไหม สับสน
จริง ๆ เป็นห่วง...ขอคบ...แล้วก็...จูบ จูบ จูบ อย่างนั้นหรือ แต่หล่อนยัง
ไม่ได้ตอบรับคำขอคบของเขาเลยนี่นา ทำไมมันเหมือนกับว่าลัดขั้นตอน
แปลก ๆ เฟิสต์คิส เซกกันคิส เติร์ดคิส โฟร์ทคิส ของหล่อน เกิดขึ้น
รวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทันเลยทีเดียว
มันน่าเจ็บใจนัก ว่าแต่ทำไมหล่อนไม่ได้โกรธเขา เท่าที่มันควรจะเป็น
เลย เฮ้อ...แล้วคนเป็นแฟนเขาทำอย่างไรกันบ้างก็ไม่รู้
หลากหลายความคิดกว่าที่ละมุนมาศจะหลับลงได้ก็เข้าวันใหม่แล้ว
ถึงแม้ว่าเมื่อคืนจะนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ แต่วันนี้ละมุนมาศก็ไม่มอี าการง่วง
หรือว่าหาวนอน หน้าตาของหล่อนที่เพื่อนสาวร่วมงานทักในเช้านั้นก็คือ
“มีอะไรดี ๆ หรือเปล่า หน้าตาสดใสจัง หรือว่าอุบัติเหตุก่อรัก”
“ไม่มหี รอก อุบัติเหตุก่อรักอะไรล่ะ คู่กรณีหน้างอยิ่งกว่าอะไรอีก
และอีกอย่างถ้ามุนตาไม่ฝาด รู้สึกว่าเขาจะสวมแหวนที่นิ้วนางซ้ายแล้วนะ”
“งั้นก็แล้วไป นึกว่ามีอะไรดี ๆ” ละมุนมาศได้แต่ยิ้ม นีถ่ ้าหล่อนบอก
ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนสาวคงได้กรี๊ดลั่นห้องทำงานเป็นแน่ และวัน
นั้นในช่วงเช้าเพื่อนร่วมงานที่รับรู้เหตุการณ์ก็ทยอยกันเข้ามาถามเรื่องราว
ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก่อนที่จะแยกย้ายกันทำงาน
293/559
หลายครั้งที่ละมุนมาศคิดถึงคำพูดของเจ้านายชีกอ หลายครั้งที่
คิดถึงรอยจูบแผ่วเบาของเขา แล้วอดที่จะหน้าร้อนผ่าวไม่ได้ นึกเข่นเขี้ยว
อยู่ในใจ
มาทำให้หวั่นไหวแล้วก็จากไป โดยไม่มีคำมั่นสัญญาอะไรอย่างนั้น
หรือ แล้วเขาจะต้องสัญญาว่าอะไรล่ะ แล้วที่เขาพูดว่าชอบ ขอคบนี่ จริงจัง
แค่ไหนกันนะ ตอนนี้หล่อนกับเขาเป็นอะไรกัน แฟน คู่รัก หรือว่าอะไร
คำถามทีว่ นเวียนอยู่ในหัวสมองกลับไปกลับมา แต่ละมุนมาศยังหา
คำตอบไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องสลัดทิ้งไป สนใจกับงานที่อยู่ตรงหน้าแทน
ในเวลาหยุดพักทานอาหารกลางวัน ที่ละมุนมาศนำอาหารจากบ้านไป
รับประทานที่ทำงาน วันนี้มคี ุณหมอหนุ่มนามว่า เฟรเซอร์ ราวิ มานั่งทาน
เป็นเพื่อนที่ ม้านั่งหินอ่อนในสวนหย่อมหลังคลินิกด้วย
“ผมนั่งทานด้วยคนได้ไหมครับ”
“เชิญค่ะคุณหมอ”
คุณหมอหนุ่มชวนคุยในเรื่องอุบัติเหตุ และบอกความรู้สึกของเขาว่า
ตกใจมากแค่ไหน ที่ได้รับรู้ว่าหล่อนเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน
จากการพูดคุยและดวงตาทีส่ ื่อความหมาย ละมุนมาศรับรู้ถึง
สัญญาณที่ คุณหมอเฟรเซอร์ ราวิ พยายามส่งให้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ได้
คิดอะไร ได้แต่บอกกับ ตัวเองว่า
เขาส่งสัญญาณมา หล่อนไม่รับก็แค่นั้น
294/559
เมื่อมาถึงตรงนี้ละมุนมาศก็คิดถึงสัญญาณที่เจ้านายแห่งเวียดเฮ้าสส่ง
ให้
ขนาดว่าหล่อนยังไม่ได้ตอบรับ เขายังจูบหล่อนไปตั้งหลายครั้งแล้ว
ถ้าตอบรับจะเป็นอย่างไรนะ
แค่คิดก็หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที คุณหมอหนุ่มที่นั่งอยูต่ รงหน้าอดที่
จะยิ้มไม่ได้
คนตรงหน้าเขาน่ารักขนาดนี้ รู้อย่างนี้เขารับปากมาทำงานกับคุณลุง
ตั้งนานแล้ว
ละมุนมาศพูดคุยกับคุณหมออย่างถูกคอ แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน
ทั้งหมด โดยหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามในเรื่องส่วนตัว และพอเพื่อนสาวก
ลับมาจากทานอาหารข้างนอก ละมุนมาศก็เล่าเรื่องทานอาหารกลางวันกับ
คุณหมอ เพื่อนสาวก็บอกทันทีว่า
“ต่อไปนี้ฉันจะนำอาหารมาจากบ้านมากินกับยู ประหยัดได้อีก ไม่
ต้องเสียเวลาหาร้านอาหาร นั่งรออาหาร กว่าจะได้กิน กว่าจะขับรถไปกลับ
มาอีก”
“คิดแค่นั้นจริง ๆ ใช่ไหม” ละมุนมาศแกล้งถามกลับยิ้ม ๆ เพื่อน
สาวก็เลยค้อนให้ ก่อนที่จะมองซ้ายมองขวาแล้วยื่นหน้ามากระซิบว่า
“แหม ยูกร็ ู้ ๆ กันอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร คนนี้ฉันรักจริงหวังแต่งนะ
ไม่งั้นไม่ลงทุนขนาดนี้หรอก”
295/559
“ขอให้โชคดีนะ”
“ขอบคุณมาก แต่ถ้าช่วยเหลือด้วยก็จะเป็นการดีที่สุด”
“เอาไว้ฉันจะหาทางละกัน แต่ไม่รับปากนะ เรื่องนี้ยูต้องจัดการเองถึง
จะถูก”
ลินดาก็ทำตามที่พูดไว้ อาหารกลางวันในวันถัดมาก็มีลินดาเป็นเพื่อน
ร่วมวงอีกคน ละมุนมาศก็เลยสบายใจที่จะทานอาหารร่วมโต๊ะกับคุณหมอ
พอทานอาหารเสร็จก็ขอตัวกลับเข้าที่ทำงาน ปล่อยทั้งสองไว้ตามลำพัง
26
หัวใจ...ไม่กล้าพอ
ในคืนวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับพนักงานที่ทำงานในสำนักงาน หลาย
คนก็มักจะออกมาปลดปล่อยความอ่อนเพลีย เคร่งเครียดจากหน้าที่
การงานที่ทำมาตลอดทั้งอาทิตย์ มานั่งกินนั่งดื่มพูดคุยแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นกันที่ร้านอาหารกับเพื่อนฝูงที่สนิทหรือว่าคนรัก
หลายต่อหลายคูแ่ สดงความรักและคิดถึงกัน โดยไม่ต้องสนใจ
สายตาของใคร ๆ หลายครั้งทีล่ ะมุนมาศอดที่จะเขินไปกับการแสดงออกที่
เปิดเผยนั้นไม่ได้ เห็นคนอื่นจูบแสดงความรักต่อกันแล้ว ละมุนมาศก็แวบ
ไปคิดถึงคน
คนชีกอฉวยโอกาสทีจ่ ูบหล่อนได้ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน หล่อนไม่ได้
เจอเขามาตั้งแต่คืนที่เขาบุกไปหาที่ห้องและก็จูบหล่อนไปสองครั้ง
ผู้ชายอันตราย โดยเฉพาะอันตรายต่อหัวใจทีก่ ำลังสับสนดวงนี้ ไม่
เจอก็ดี หล่อนก็ไม่กล้าสู้หน้าเขาสักเท่าไร ไม่รวู้ ่าจะทำหน้าอย่างไร ทำหน้า
ไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอย่างไรกันแน่ และก็ไม่รวู้ ่ามิสมินต์จะ
รู้เรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน รู้สึกระแวงลึก ๆ แต่วันนี้มิสมินต์ก็ทำหน้าตา
297/559
คน แค่เห็นหน้าเขา หัวใจของละมุนมาศก็เต้นตึกตักสั่นระรัวอย่างแรง จน
มันแทบจะหลุดไปอยู่ที่ตาตุ่ม
ทันทีที่รู้สึกตัวละมุนมาศก็รีบวิ่งเข้าไปตามมิสมินต์ที่ในห้องทำงาน
ก่อนที่จะวิ่งหลบออกไปตรงทางด้านหลังโบสถ์ด้วยหัวใจที่เต้นโครมคราม
ได้ยินเสียงมิสมินต์เรียกตามหลังมา แต่ละมุนมาศไม่ได้สนใจ
ไม่คิดว่าเขาจะโผล่มาตอนที่ร้านปิดแล้วอย่างนี้ จู่ ๆ ก็โผล่มาอย่างนี้
จะไม่ให้หล่อนตกใจได้อย่างไรกัน ทางที่ดีที่สุดหลบไปก่อนตอนนี้
หล่อนยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเขา ยังสับสนไม่แน่ใจกับความรู้สึก
ของตัวเอง ลึก ๆ ถามตัวเองว่าดีใจหรือเปล่าที่ได้เห็นหน้าเขา คำตอบก็คือ
ดีใจ หัวใจของหล่อนเต้นระรัวราวกับกลองทีเดียว
เมื่อออกมานอกร้านได้ ละมุนมาศก็รีบวิ่งไปที่รถ ขึ้นรถได้กล็ ็อก
ทันที และก็ออกรถโดยไม่สนใจกับเสียงโทรศัพท์ที่กรีดร้องอยู่ในกระเป๋า
ในขณะที่คารีโนก็พอจะรู้ว่าอีกคนหายหน้าไป หลังจากที่มสิ มินต์
เรียกตาม ก็เลยบอกตัวเองในใจว่า
หนีได้ก็ตามใจ แล้วค่อยไปตามที่คอนโดฯ
คิดพร้อมกับรอยยิ้มที่จุดขึ้นตรงมุมปาก แต่เขาก็รีบปรับใบหน้าให้
บึ้งตึงเช่นเดิม พร้อมกับขอร้องมิสมินต์ให้หาตัวอีกคนมาพบ
มิสมินต์รู้ดวี ่าอีกคนหนีกลับบ้านไปแล้ว ตอนที่วิ่งออกไปทาง
ด้านหลังโบสถ์หล่อนเรียกอย่างไรก็ไม่ยอมหันหลัง ก็เลยต้องโทรศัพท์ไป
299/559
“ขอบคุณค่ะมิสมินต์ กู๊ดไนต์นะคะ”
หลังจากมิสมินต์กดปิดโทรศัพท์ เจ้านายก็บอกว่า
“เอาเบอร์ละมุนมาศให้ผมด้วย” มิสมินต์จัดการให้เจ้านายทันที
พอได้เบอร์โทรศัพท์แล้วใบหน้าที่บึ้งตึงก็ค่อยคลายลงจนเป็นปกติ และก็
เริ่มคุยเรื่องงานกันต่อ จนได้เวลาสมควรคารีโนก็ชวนลูกน้องกลับ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลายต่อหลายครั้ง จนละมุนมาศยกขึ้นมาดู
แต่ว่าเบอร์โทร. ไม่คุ้นเคยและไม่ได้รับการบันทึกไว้ ทำให้เจ้าของแค่มอง
และปล่อยให้มันเงียบเสียงไปเอง และมันก็ดังขึ้นแล้วดับไปจนกลับถึง
ที่พัก
ละมุนมาศล็อกรถแล้วก็เดินขึ้นคอนโดมิเนียม เสียงโทรศัพท์มือถือ
ในกระเป๋าก็ดังขึ้น ด้วยความทีเ่ กรงว่าเสียงมันจะดังรบกวนการหลับนอน
ของเพื่อนร่วมคอนโด มิเนียมในคํ่าคืนดึกดื่นเลยเที่ยงคืนแล้วอย่างนี้
ละมุนมาศก็เลยตัดสินใจกดรับ และคิดว่าถ้าเป็นใครที่หล่อนไม่รู้จักจะว่า
ให้เจ็บ ๆ จะได้จำว่าไม่ควรโทร. มากวนคนอื่นในยามคํ่าคืนอย่างนี้
“ฮัลโหล”
“ทำไมหนีกลับบ้าน” ประโยคทีไ่ ม่มีคำขึ้นต้นและลงท้าย แถมยังฟัง
ฉุนเฉียวอีกด้วย ทำให้คนรับมึนเล็ก ๆ พยายามคิดว่าเป็นใครโทร. มาหา
และก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคลา
301/559
“ไม่มี”
“กู๊ดไนต์ค่ะ” ละมุนมาศกดปิดเครื่องทันที พร้อมกับแอบยิ้มสะใจ
กดบันทึกหมายเลขเขาเอาไว้ พร้อมกับชื่อที่ว่า เจ้านายชีกอ แล้วก็หย่อน
มือถือลงในกระเป๋า อดที่จะคิดไม่ได้ว่า
เขาโทร. มาหล่อนด้วยเรื่องแค่นี้น่ะหรือ ไม่อยากจะเชื่อ เฮอะ แล้ว
ทำไมต้องโทร. มาหาหล่อนด้วย
ในใจแอบหวังเล็ก ๆ ว่าจะได้ยินคำที่เขาเคยบอก ‘คิดถึง’ แต่กไ็ ม่
ได้ยิน ไม่รู้ว่าควรจะน้อยใจ เสียใจดีหรือไม่
นี่หล่อนหวังอะไรจากเขากันแน่ สับสนในหัวใจจริง ๆ
ข้างฝ่ายเจ้านายที่นั่งอยู่ข้างหลังรถก็แทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ราคาแพง
ในมือทิ้ง นึกไปถึงหน้าคนที่ตัดสายโทรศัพท์ของเขาแล้ว ก็อยากให้หล่อน
อยูใ่ กล้ ๆ ตัว เขาจะลงโทษเสียให้เข็ดทีบ่ ังอาจไม่เห็นหัวเขา ที่บังอาจตัด
สาย ที่บังอาจทำให้เขาร้อนรุ่ม
วันนี้เขาคิดถึงหล่อนทั้งวันถึงแม้ว่างานจะยุ่ง ตอนดึกแค่คิดว่ามาเห็น
หน้าก่อนที่จะกลับบ้าน แต่เจ้าตัวดันแอบกลับบ้านอีกครั้ง คิดแล้วก็โมโห
“ไปนิวฟิลด์ (Newfield)” แค่นั้นเองเบียนก็หันหัวรถไปตามคำสั่ง
ทันที ในใจแอบคิดว่า
303/559
เจ้านายเอาจริงแฮะ ไม่เคยเลยสักครั้งที่เจ้านายจะไปหาผู้หญิงถึงห้อง
อย่างนี้ ท่าทางหัวเสียขว้างโทรศัพท์ทิ้งนั่นอีก ไม่เคยเกิดขึ้นสักครั้งในเวลา
ที่คุยกับสาว ๆ
ละมุนมาศแวะไปหาคนตัวเล็กที่ห้อง จูบกู๊ดไนต์แล้วละมุนมาศก็
ค่อย ๆ ย่องกลับห้อง นึกดีใจที่ไม่ต้องปลุกคนตัวเล็กกลางดึก เพราะว่า
ตอนนีม้ ิสซิสลีจะส่งฟีนิกซ์กลับห้องหลังจากรับ ประทานอาหารเย็นเสร็จ
เรียบร้อยแล้ว
กลับห้องของตัวเอง เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมจะเข้าห้องนํ้าเพื่ออาบนํ้า
สระผม เสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้น ละมุนมาศรีบคว้าชุดคลุมอาบนํ้ามาสวม
ทับก่อนทีจ่ ะตรงไปยังประตูด้านหน้า มองลอดตาแมวแล้วหัวใจก็แทบจะ
ตกไปอยู่ทตี่ าตุ่ม ร่างบางหันหลังพิงประตูมือข้างซ้ายจับหัวใจของตัวเองเอา
ไว้ นึกกลัวจนคิดอะไรไม่ออก จนกระทั่งได้ยินเสียงจากคนข้างนอก
“เปิดประตูด้วย...มุน” เสียงเข้มสั่งทะลุประตูเข้ามาทำเอาหัวใจดวง
น้อยเต้นแรงทีเดียว
ตายแล้ว คิด ๆ ๆ
“ถ้าไม่เปิดผมจะตะโกนให้ดังกว่านี้ ปลุกให้ชาวบ้านเขาตื่นขึ้นมารับรู้
ด้วย” คำขู่ของเขาทำให้ละมุนมาศคิดหนัก
304/559
อ้อมกอดที่แดงกํ่านั้นเชิดขึ้นน้อย ๆ อีกคนก็เลยก้มลงแตะริมฝีปากที่จมูก
โด่งนั่นเบา ๆ อย่างเอ็นดู
“คุณนี่ ฉันเพิ่งจะบอกไปหยก ๆ” คนตัวบางแหวให้เบา ๆ
แรงแทบไม่มีจะยืนตามลำพังต้องพิงเขาเอาไว้ แต่กน็ ่านับถือทีย่ ังมี
แรงคิดบอกเขาถึงเรื่องความไม่เหมาะสม
แต่คารีโนไม่สนใจ
“ผมไม่รับปาก เพราะว่าผมทำอย่างนั้นไม่ได้แน่ รูไ้ หมว่าผมอยากจูบ
คุณทุกครั้งที่เห็นหน้าเลยก็ว่าได้”
ไม่พูดเปล่า ใบหน้าคมก็ก้มลงแตะริมฝีปากริมฝีปากอิ่มแผ่วเบาอีก
ครั้ง ก่อนทีจ่ ะค่อย ๆ ดูดเม้มหยอกล้อไปรอบ ๆ ริมฝีปากอิ่ม และเขาก็
ตัดสินใจปล่อยร่างบาง เมื่อเห็นว่าอีกคนมีแรงพอที่จะยืนได้แล้วพร้อม
บอกว่า
“กู๊ดไนต์”
ร่างสูงเดินตัวตรงไปที่หน้าประตู ใบหน้าหวานค้อนตามหลังไปให้
และก็เดินตามเขาห่าง ๆ หัวใจยังสั่นไหวระรัว
ริมฝีปากหยักยิ้มนิด ๆ เมื่อหันกลับมาเห็นว่าคนตัวบางยืนห่างเขาไป
หลายวา แอบคิดในใจว่า
คงกลัวว่าเขาจะคว้ามากอดมาจูบลานั่นเอง ไม่เป็นไร ได้จูบแล้ว เอา
ไว้วันใหม่ละกัน
308/559
“ปิดประตูดี ๆ นะ”
พอลับร่างของแขกแล้ว ละมุนมาศก็แทบจะวิ่งไปปิดประตูทันที ปิด
ประตู ปิดไฟเสร็จแล้วก็วิ่งกลับเข้าห้องของตัวเอง ในใจก็นึกว่าคนที่เพิ่ง
จากไป พอไปส่องกระจกดูหน้าตัวเองแล้วก็แอบอาย หน้าของหล่อนยัง
แดงกํ่า ดวงตาทั้งคู่มีประกายสดใสระยิบระยับ ริมฝีปากอิ่มและรอบ ๆ
ปากก็มีรอยแดงจากตอหนวดเคราของเขานั่นเอง
คนบ้า หาเรื่องมาจูบได้ทุกครั้งไป แล้วนี่หล่อนเป็นอะไรกัน ทำไม
หัวใจถึงได้หวิวไหววาบหวามอย่างนี้ หล่อนชอบผู้ชายคนนี้อย่างนั้นใช่ไหม
ทีป่ ล่อยให้เขากอดจูบโดยไม่รู้สึกโกรธหรือว่าเกลียด มันเป็นแค่ความชอบ
หรือว่ามากกว่าชอบกันแน่นะ
27
เอาคืนเล็ก ๆ แต่ขาดทุนมากมาย
หลังจากออกมาจากโรงงานตั้งแต่เย็น คารีโนและเบียนก็ตรงไปยัง
ตลาดอีเดน ไปตรวจดูร้านต่าง ๆ แวะคุยกับเจ้าของร้านเกือบจะทุกร้าน
เลยก็ว่าได้ คารีโนให้ความสนใจในการดำเนินการของแต่ละกิจการที่อยูใ่ น
พื้นที่ของเขา และก็แวะไปดูร้านขายเครื่องประดับของมารดาด้วย เมื่อออก
มาจากอีเดนก็ดึกแล้ว จนมาถึงเวียดเฮาส์
“วันนีน้ ่าจะยุ่งน่าดู รถจอดเต็มลานจอดรถเลย นายอ้อมไปจอด
ด้านหลังนะเบียน”
“ครับเจ้านาย” เมื่อเบียนจอดรถก็ต้องแอบยิ้ม เมื่อเห็นเจ้านายแทบ
จะถลาลงไปจากรถทันทีทเี่ ขาจอด จนเขาต้องถลาตามไปด้วย พอเข้าไปใน
ร้าน มิสมินต์ก็เดินเข้าไปต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะเจ้านาย”
“สวัสดีมสิ มินต์ แขกแน่นนะ” ตอบลูกน้อง แต่สายตากวาดหาใคร
บางคนไปด้วย
“ค่ะ วันนี้วันหยุด แขกก็เลยแน่น”
310/559
“ละมุนมาศมาทำงานหรือเปล่า”
“มาค่ะ”
“บอกให้เข้าไปหาผมด้วย” สั่งแล้วก็เดินตรงเข้าห้องไปทันที
“ค่ะ” มิสมินต์รีบเดินเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว เห็นร่างบางกำลังยืน
รออาหารอยู่ก็เลยเข้าไปกระซิบ
“มุน”
“คะ”
“เจ้านายมา เรียกให้ไปหา ทิ้งตรงนีไ้ ว้ก่อน ฉันจะให้คนอื่นมาทำ
แทน”
“รอให้มนุ ทำตรงนีใ้ ห้เสร็จก่อนได้ไหมคะ” คนตัวบางยังต่อรองด้วย
หัวใจทีเ่ ต้นระรัว ไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาที่นี่วันนี้ หล่อนยังรู้สึกไม่ชินกับการ
เจอหน้าเขาสักเท่าไร เจอหน้าทุกครั้งก็อดที่จะนึกถึงรอยจูบของเขารํ่าไป
นี่จะมาไม้ไหนอีกก็ไม่รู้ เมื่อคืนก็ตามไปจูบหล่อนถึงบ้านเลยทีเดียว
ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่ทำอะไรให้เป็นที่ครหาที่นี่ หล่อนยังไม่อยากให้ใคร
รู้เรื่องนี้
“ไปเถอะ ช้าเดี๋ยวท่านก็โมโหเอาอีกหรอก”
311/559
เมื่อลงมาจากห้องทำงานของเจ้านาย ละมุนมาศก็แวะขอมิสมินต์ให้
ช่วยเตรียมกาแฟเย็นให้เจ้านาย ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว
ด้วยใบหน้าทีเ่ ต็มไปด้วยรอยยิ้มมาดมั่น สั่งอาหารสองสามอย่างกับลุงบิน
พ่อครัวผูใ้ จดี พร้อมกับยืนกำกับอยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทางจริงจัง บางครั้งก็
ช่วยเติมเครื่องปรุงอีกด้วย ลุงบินได้แต่มอง พร้อมกับทำตาปริบ ๆ ไม่
กล้าคิดว่าอาหารที่มีคนช่วยปรุงครั้งนี้จะมีรสชาติเป็นอย่างไร
จานแรกเนื้อกระเทียมพริกไทย ใส่พริกสดตำละเอียดไปมากกว่า
ระดับที่เผ็ดที่สุดของภัตตาคารเล็กน้อย ลุงบินแอบคิดในใจว่า
รับรองฝรั่งคนนี้ได้ปากพอง วิ่งเข้าห้องนํ้าไม่ทันเป็นแน่
จานทีส่ องไข่เจียวกุ้งสับ มีถั่วฝักยาวหั่นฝอยผสมท่าทางน่าอร่อย ว่า
แต่เกลือหรือนํ้าตาลกันแน่นะที่ใส่ลงไปเป็นช้อนอย่างนั้น
จานที่สามละมุนมาศหันไปกำกับแม่ครัวให้ทำต้มยำทะเลรสชาติ
จัดจ้าน ที่แม้แต่แม่ครัวก็ยังรู้สึกเสียวฟัน
ลุงบินมองตามหลังคนทีห่ อบเอาถาดใบใหญ่มาใส่อาหาร พร้อมกับมี
โถข้าวขนาดกลาง จานเสิร์ฟ ถ้วยซุป ช้อน ส้อม แถมด้วยแตงกวาหนึ่ง
จาน
สงสัยมิสมุนคงจะขี้เกียจเดินหลายรอบ เอาทุกอย่างไปพร้อมกันเลย
จนเอวเล็ก ๆ เอียงไปข้างหนึ่งทีเดียว
314/559
แค่เอาคืนเล็ก ๆ ต่อไปจะได้ไม่จูบหล่อนให้หัวใจเต้นแรงพรํ่าเพรื่อ
อีก
ละมุนมาศถือถาดขนาดใหญ่ที่มีอาหารและของสารพัดชนิดเดินขึ้นไป
ยังห้องของเจ้านาย เบียนรอเปิดประตูให้อยู่แล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
ใบหน้าคมเข้มทีก่ ำลังก้มหน้าก้มตากับงานตรงหน้าเงยขึ้นทันใด ที่
เห็นว่าร่างบางนำอาหารเข้ามาในห้อง จัดตั้งทีโ่ ต๊ะเล็กให้ คารีโนแอบมอง
การกระทำนั้นเงียบ ๆ จนทุกอย่างเรียบร้อย
“เรียบร้อยแล้วค่ะเจ้านาย” ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ จนร่างบางต้องถอย
หนี เขาก็ไม่ได้ตาม เพียงแต่บอกว่า
“อย่าเพิ่งไป มากินด้วยกันสิ” จู่ ๆ เขาก็ชวน ทำเอาคนถูกชวนตกใจ
“คะ”
“มานี่ มากินข้าวด้วยกันก่อน” ไม่ชวนอย่างเดียว เขาเดินเข้ามาดึง
แขนหล่อนให้ไปนั่งทีเ่ ก้าอี้ ทำเอาคนถูกชวนคิดหาทางเอาตัวรอดอย่าง
เร่งด่วน
“ขอบคุณค่ะ ฉันทานก่อนทำงานแล้ว เชิญเจ้านายตามสบายค่ะ” แต่
คนฟังไม่ใส่ใจ
“มาเถอะน่า มากินด้วยกัน ผมไม่ชอบกินข้าวคนเดียว มันเหงา”
ละมุนมาศส่งค้อนให้กับคำตอบนั่น
315/559
“แล้วทำไมไม่ชวนลูกน้องคุณมากินด้วยล่ะคะ”
“ไม่หรอก มิสมินต์จะดูแลเบียนเอง และผมก็อยากกินกับคุณ”
อ่า วันนี้หล่อนต้องตายแน่ ๆ
“บอกให้กินก็กินด้วยกันเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ ผมบอกมิสมินต์แล้ว
ว่าคุณจะดูแลผม” คนฟังกลืนนํ้าลายเหนียว ๆ ลงคออย่างฝืด ๆ
“ไม่ต้องเกรงใจ”
ไม่ได้เกรงใจ แต่หล่อนจะกินได้อย่างไรกัน ในเมื่ออาหารพวกนี้
รสชาติแย่สุดยอด
เขานั่งลงตรงข้าม จัดการตักข้าวใส่จานให้ ตักอาหารให้หล่อน
พร้อมกับบอกว่า
“กินเยอะ ๆ ดูแต่ละอย่างน่าอร่อยทั้งนั้น แล้วคุณรูไ้ ด้ไงว่าผมชอบ
เนื้อกระเทียมพริกไทย ต้มยำนี่ดูท่าทางจะรสจัดจ้านน่าดู ดูสีก็รู้ ไข่เจียวนี่
อีก ของโปรดของผมเลย” คารีโนตักอาหารพร้อมกับบรรยายไปด้วย
“กินสิ ไม่ต้องห่วงข้างนอกหรอก ถ้าใครถามก็บอกว่ามาช่วยงานผม
นะ”
คารีโนตักอาหารให้คนตรงหน้าอย่างเอาใจแล้ว เขาก็ตักอาหารใส่
จานตัวเอง แต่พอส่งอาหารเข้าปากคำแรกก็แทบจะคายออกมา แต่กต็ ้อง
กลํ้าฝืนทนกลืนลงไป มองคนที่นั่งอยูต่ รงข้ามแล้วก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ใบหน้าที่ยิ้มน้อย ๆ นั่นมองแวบเดียวก็รู้ว่ากำลังดีใจกับผลงานของตัวเอง
316/559
สงสารอวัยวะภายในไม่ได้ ไม่รู้ว่าตับไตไส้พุงจะเป็นอย่างไรบ้างหลังจาก
ทานอาหารมื้อนี้เสร็จ ทำได้ก็คือดื่มนํ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่พอ
เห็นท่าทางเอร็ดอร่อยของเจ้านายแล้วก็อดที่จะส่งค้อนให้ไม่ได้ พร้อมกับ
บอกกับตัวเองว่า
ทำทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว กรรมติดจรวดจริง ๆ ไม่รู้ว่าคืนนี้จะ
วิ่งเข้า ห้องนํ้ากี่รอบกันแน่ ใครจะคิดว่าเขาจะบังคับชวนให้หล่อนกินด้วย
กัน ถ้ารู้อย่างนี้กค็ งจะไม่ทำแบบนั้น มาคิดได้ตอนนี้กส็ ายเสียแล้ว เจ็บใจ
จริง ๆ งานนี้ต้องโทษตัวเองเท่านั้น
เมื่อโทษตัวเองแล้ว ละมุนมาศก็ก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารใน
จานจนหมด แล้วก็เอ่ยขอตัว
“ฉันอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ” ร่างบางพูดไปก็สูดนํ้ามูกและเช็ดนํ้า
ตาไปด้วย พอหล่อนลุกจากเก้าอี้ มือหนาก็ยื่นมือไปคว้ามือของหล่อนเอา
ไว้
“ปล่อยค่ะ”
ร่างสูงลุกขึ้นยืน ไม่ได้สนใจกับคำสั่งนั้น ลำแขนแข็งแรงดึงร่างบาง
เข้าสู่อ้อมกอดของตัวเอง พร้อมกับรัดเอาไว้แน่น
“ปล่อยนะ นี่คุณจะ...จะทำอะไร” ใบหน้าคมเข้มไม่สนใจ มือหนาจับ
คางมนเอาไว้ ก้มลงไปเรื่อย ๆ มองคนในอ้อมกอด เห็นใบหน้าที่ตอนนี้
แดงเถือกแล้วก็รู้สึกสงสาร พอเจ้าตัวรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นก็พยายามหัน
318/559
“หะ...หายแล้ว”
“อย่าลืมนะ กลับบ้านรอด้วย” ใบหน้าหวานพยักน้อย ๆ ยกมือขึ้น
ลูบใบหน้าตัวเอง พร้อมกับสลัดหัวจนผมกระจาย ตบแก้มตัวเองเบา ๆ
เรียกสติกลับคืน คนเห็นก็อดที่จะหัวเราะอย่างเอ็นดูไม่ได้ เมื่อรูว้ ่าคนที่ยืน
อยู่ตรงหน้าไม่วิ่งหนีตอนที่เขาปล่อย ก็เพราะว่ายังงงอยู่นั่นเอง
มีด้วยหรือสาวมึน เพราะว่าจูบของเขา
หลังจากหายงง หล่อนก็หันหลังกลับรีบเดินออกไปจากห้อง คารีโน
ได้แต่ส่ายหน้าน้อย ๆ
ไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ
แต่ก็อดที่จะยกมือขึ้นแตะริมฝีปาก ความหวานยังไม่หายไปจาก
ความรู้สึก ถึงแม้ว่าริมฝีปากของเขายังเผ็ดร้อน และรู้สึกจะมากขึ้นกว่าเดิม
เสียด้วย เพราะว่าเขาดูดความเผ็ดร้อนมาจากลิ้นเล็กและริมฝีปากของอีก
คน แต่มันก็ให้ความรู้สึกดี จนเขาลืมความหงุดหงิดที่โดนแกล้งเสียสิ้น
โดนแกล้งแล้วได้สิ่งตอบแทนแบบนี้ก็น่าเสี่ยง นี่หล่อนคงไม่รวู้ ่าเขา
ชอบอาหารรสจัด แต่ก็ยอมรับว่าอาหารวันนีร้ สจัดเกินกว่ามาตรฐานของเขา
เล็กน้อย วันนีค้ นตัวบางตั้งใจแกล้งเขา แกล้งคนอื่นแล้วตัวเองนํ้าตาไหล
พรากทีเดียว คิด ๆ ไปแล้วก็น่าสงสาร แต่ก็ดจี ะได้รแู้ ละไม่คิดแกล้งเขา
อีก พิษสงรอบตัวทีเดียว เปิดโอกาสเป็นไม่ได้
321/559
ละมุนมาศไม่รู้ว่ามันหมายความอย่างไร ความรู้สึกบางอย่างก็เกิดขึ้นในใจ
หลายต่อหลายครั้งที่หล่อนถามตัวเองว่า
มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเป็นแฟนกันแล้วจริง ๆ...
เหตุการณ์ที่กลับตาลปัตรจากการเอาคืนของตัวเองในวันนี้ ทำให้
หัวใจดวงน้อยหวั่นไหววาบหวามสุด ๆ การกระทำจาบจ้วงเอาแต่ใจใน
ตอนแรก เปลี่ยนเป็น อ่อนหวานและเว้าวอนอ่อนโยน เรียกร้องจนหล่อน
เคลิบเคลิ้ม เพลิดเพลิน ไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านทาน
เขาจูบเพียงเพื่อต้องการให้หล่อนหายจากอาการเผ็ดเท่านั้น...จริง ๆ
ไม่มีอะไรมากกว่านั้น หรือว่ามากกว่านั้น
ละมุนมาศยอมรับว่าอายที่ยินยอมให้เขาฉวยโอกาสกระทำตามใจ
อายที่ไม่หักห้ามตัวเอง ปล่อยให้เขา...และยังรู้สึกดีไปกับการกระทำนั้น
ด้วย
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันอบอุ่นกับการกระทำและอ้อมกอดของเขา ไม่
แปลกเลยที่เพื่อนสนิทของหล่อนหอบผ้าหอบผ่อนย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ใน
อะพาร์ตเมนต์ของแฟนหนุ่มตั้งแต่อาทิตย์แรกที่คบหากัน ไม่แปลกว่าทำไม
ทั้งคู่ถึงได้ผลัดกันจุ๊บ ผลัดกันจุ๊บ ได้ทุกที่ทุกเวลา มันรู้สึกดีอย่างนี้เองสิ
นะ
แล้วก็อดที่จะคิดถึงตอนเลิกงาน ที่เขาบอกให้ลูกน้องของเขาเฝ้า
หล่อนเอาไว้ไม่ให้หนีกลับก่อน เพราะเขาบอกจะมาส่ง และละมุนมาศก็หนี
325/559
แอบนึกว่าจะไม่มีกู๊ดไนต์คิสเสียแล้ว ทำไมหล่อนถึงได้รู้สึกดีทุกครั้ง
ที่เขาจูบก็ไม่รู้
คืนนั้นกว่าจะหลับตาลงได้ ละมุนมาศก็พลิกตัวกลับไปกลับมา ยก
มือขึ้นกอดรัดตัวเองเอาไว้ไม่รู้กี่ท่าต่อกี่ท่า ภาพที่เพิ่งจะเกิดขึ้นก็ไม่
ลบเลือนหายไปจากสายตา
รู้สึกอบอุ่นหัวใจขนาดนี้เรียกได้ว่าเป็นความรักหรือยังนะ
ทุกครั้งที่มาที่นี่ ‘คาสิโน’ คุณละมุดให้เหตุผลกับตัวเองว่าเพื่อ
เสี่ยงโชค เพื่อเงินก้อนใหญ่ บางครั้งก็มาเพื่อผ่อนคลายความรู้สึก
ตึงเครียด ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ชีวิตที่อยูต่ ัวคนเดียวเปลี่ยว
เหงาและโดดเดี่ยว การมาที่นี่ทำให้ได้เจอะเจอผู้คน ความเหงาก็หายไป
ถึงแม้ว่าทุกครั้งที่มาเล่นมักจะเสียมากกว่าที่จะได้ เสียหลายครั้งเพื่อที่จะได้
ครั้งเดียว ถ้าโชคดีมากก็ได้มาก ถ้าโชคดีน้อยก็ได้น้อย
ครั้งนี้กเ็ ช่นกัน หลังจากที่ทำงานล่วงเวลามาหลายวัน ทำให้คุณ
ละมุดไม่ได้ไปผ่อนคลาย วันนี้เป็นวันเงินเดือนออก พอเลิกงานดึกคืนนั้น
คุณละมุดก็ไม่เสียเวลาตรงไปยังกาสิโนเจ้าประจำริมทะเลทันที
ที่นั่นคุณละมุดก็ได้พบเพื่อนฝูงหลายคน ส่วนมากจะเป็นเจ้าหนี้
ทั้งนั้น ทั้งเจ้าหนี้เก่าเจ้าหนีใ้ หม่ แต่ก็ไม่มใี ครทวงหนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าจะ
เป็นการขัดลาภ คุณละมุดก็เลยสบายใจว่าจะไม่มีเจ้าหนี้คอยตามทวงหนี้
331/559
ภายในห้องโถงใหญ่โตกว้างขวางนี้ เมื่อเข้าไปแล้วผู้เล่นจะไม่รู้
กลางวัน กลางคืน เพราะแสงสว่างที่สมํ่าเสมอ ผู้คนที่มาเล่นหรือว่าแสวง
โชคก็ไม่เคยนึกเหนื่อยหรือว่าอ่อนเพลีย บางคนสามารถที่จะเล่นข้ามวัน
ข้ามคืนได้เลยทีเดียว
สถานที่แห่งนี้ให้ความสุขและเพลิดเพลินกับคุณละมุดเป็นอย่างมาก
นั่งเล่นแรก ๆ ก็ได้เรื่อย ๆ ใบหน้าของนางก็เลยยิ้มแย้มแจ่มใส แต่พอ
เล่นไปสักพักก็เริ่มเสีย และก็มไี ด้บ้างเสียบ้าง หลัง ๆ จะหนักไปทางเสีย
กับเสีย ทำให้คุณละมุดรู้สึกหงุดหงิดจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่ นึกถึงเงินเดือนที่
เพิ่งจะได้รับวันนี้และก็หมดไปกว่าครึ่งค่อนแล้ว สุดท้ายเลยขอตัวเพื่อน
ร่วมวงออกไปหามุมสูบบุหรี่คลายความกดดัน
สูบบุหรีไ่ ป มองฝ่าความมืดมิดเวิ้งว้างของทะเลไปด้วย พอเสียเงิน
คุณละมุดก็เริ่มที่จะคิดถึงหนี้สินที่มีอยู่ งานที่ทำ เงินเดือนที่ไม่พอใช้หนี้
ยืมใครต่อใครจนหนีหน้ากันไปหมด คิดแล้วก็เครียด เครียดจนบางครั้ง
ทานอาหารแทบจะไม่ลง คิดจะไปกู้เงินในระบบก็ทำไม่ได้ เพราะว่าไม่มี
เครดิตอะไรเลย ทำงานเงินเดือนก็แค่นิดหน่อย พอเลี้ยงตัวอย่าง
กระเหม็ดกระแหม่
คิดแล้วเครียดจริง ๆ จะทำอย่างไรต่อไปดี ทรัพย์สินก็ไม่มจี ะขาย
แล้ว หมดแล้ว อดทีจ่ ะคิดถึงอดีตสามีที่เสียชีวิตไป ทิ้งให้นางอยูก่ ับเงิน
มากมายที่ในชีวิตไม่เคยได้แตะต้อง ทำให้หลงเพลิดเพลินไปกับสิ่งยั่วยวน
ในทางไม่ดีทั้งสิ้น ทั้งไพ่ ทั้งบ่อน ทั้งม้าแข่ง จนเงินที่มีหายวับไปกับตา
332/559
แถมสามีคนใหม่ที่เจอกันในบ่อนก็นึกว่ารวย แต่งงานกันแล้วถึงได้รวู้ ่า
มีแต่ตัว กว่าจะรู้ว่าหลงผิดก็สายเกินไปเสียแล้ว
มันเป็นเวรกรรมอะไรกันหนอ ชีวิตถึงได้ตกระกำลำบากอย่างนี้ ถ้า
โชคดีได้ก้อนใหญ่สักก้อนก็คงจะดี จะได้นำเงินไปใช้หนี้ เริ่มต้นชีวิตใหม่
ไม่รู้ว่าสายเกินไป หรือยัง เพราะตอนนี้หนี้สินท่วมท้นจนไม่รวู้ ่าจะหาเงิน
ที่ไหนมาใช้เขา ร่างกายก็อ่อนล้าลงทุกวัน อายุก็มากขึ้น
หลายครั้งที่คุณละมุดคิดอยากกลับไปตั้งหลักที่เมืองไทย แต่พ่อแม่ก็
ไม่มแี ล้ว พี่ชายพี่สะใภ้ที่ไม่เคยได้ติดต่อกันมากว่าสิบปีจะยังต้อนรับกลับ
บ้านหรือเปล่าก็ไม่รู้ เมื่อตอนที่อยูด่ ีมีสุข ก็ไม่เคยที่จะคิดถึงพวกเขา มาถึง
ตอนนีค้ ิดถึงก็คงจะสายเกินไปเสียแล้ว และอีกอย่างไม่รวู้ ่าไปอยูเ่ มืองไทย
จะทำงานอะไร วุฒิการศึกษาก็ไม่มี อยู่ที่นี่ยังมีงานทำพอกินพอใช้ไปวัน ๆ
“ละมุดเป็นไงบ้าง” เสียงทักที่ดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้คุณละมุดที่
กำลังสูบบุหรี่พ่นควันไปคิดไปต้องหันกลับไปส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้
“ตอนแรกก็ได้ดีอยู่ แต่หลัง ๆ เริ่มหมดจนต้องชักทุน แล้วยูล่ะลิซ่า”
ลิซ่าเป็นเพื่อนรุ่นน้องชาวเวียดนามที่รู้จักในวงไพ่
“ก็เริ่มเสียเหมือนกัน เลยต้องออกมาพักหายใจก่อน เล่นบ่อนใหญ่ก็
อย่างนี้แหละ ได้ก็ได้เร็ว เสียก็เสียเร็ว นี่ฉันหมดไปเกือบพันแล้ว เล่นไป
ได้ไม่ถึงชั่วโมง ไม่เหมือนเราเล่นกันเองตาละไม่กเี่ หรียญ นั่งทั้งคืนยังหมด
333/559
ละมุนมาศปล่อยให้คนตัวเล็กวิ่งเล่นกับเด็ก ๆ คนอื่นรอเพื่อนสนิทที่
ยังเดินทางมาไม่ถึง เห็นใบหน้าเล็กที่สดใสของน้องสาวแล้วหัวใจของ
ละมุนมาศก็ปวดร้าวนัก
ในวันอาทิตย์ที่สดใส แสงแดดส่องสว่างจัดจ้า ท้องฟ้าเป็นสีครามมี
เมฆสีขาวแต่งแต้มให้สวยงาม ทำให้ความรู้สึกเวิ้งว้างหายไป แต่ละมุน
มาศกลับรู้สึกเหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจเลยทีเดียวก็ว่าได้ เหนื่อยทาง
ร่างกายก็เพราะว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาหล่อนต้องวิ่งเข้าห้องนํ้าไปหลายรอบจน
แทบหมดแรง
ส่วนเหนื่อยใจก็คือ เมื่อตอนเช้ามืดประมาณตอนตีสี่ มารดามาเคาะ
ประตูเรียกด้วยท่าทางเหนื่อยเพลียหน้าตาหมองคลํ้าอิดโรยราวกับไม่ได้
พักผ่อนมาหลายวัน ถามไถ่ทุกข์สุขมารดาก็ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก แต่
สิ่งที่มารดาสนใจก็คือเงิน เศร้าใจจนบอกไม่ถูก แต่ในเมื่อมารดามาหาก
ลางดึกอย่างนี้ ละมุนมาศก็ให้ตามที่ขอ สองพันเหรียญ พร้อมกับตัดสินใจ
บอกกับมารดาว่า
336/559
ละมุนมาศได้แต่ปลอบใจตัวเอง
“มามีค้ ะ คารีนากับคุณยายมาแล้วค่ะ” เสียงเล็ก ๆ เรียกขึ้นอย่าง
ยินดี พร้อมกับเจ้าของร่างก็วิ่งตรงไปหาเพื่อนสนิท ละมุนมาศสลัด
ความคิดทั้งหลายออกไปจากหัวสมอง เดินไปหาคุณยายกลีบบัว ยกมือ
ไหว้ทักทาย พร้อมกับเข้าไปกอดรัดร่างบางของคุณยายเอาไว้ราวกับจะหา
ที่พักพิง และพอรู้สึกตัวละมุนมาศก็ผละออกส่งยิ้มทักทายกับวัน
“มามี้ ฟีกับคารีนาไปเล่นก่อนนะคะ” เสียงเล็ก ๆ ถามขึ้นทันทีทที่ ำ
ความเคารพผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว ละมุนมาศพยักหน้าให้กับคนตัวเล็ก
สองร่างน้อย ๆ ก็วิ่งทันที
“คุณยายเป็นอย่างไรบ้างคะ สบายดีหรือเปล่า” ละมุนมาศหันไปทาง
คุณยายกลีบบัว
“ยายสบายดี หนูมุนล่ะจ๊ะ” คุณยายหันไปถามคนที่เดินอยูข่ ้าง ๆ ที่
วันนี้ คุณยายรู้สึกได้ว่า หญิงสาวข้างกายมีสายตาและใบหน้าทีไ่ ม่ค่อย
สดใสเท่าไร ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่หญิงสาวรุ่นหลานคนนีจ้ ะสดใสร่าเริง
ราวกับนกน้อยที่กำลังบินร่อนถลาลมในยามที่พระอาทิตย์อ่อนแสง
“มุนสบายดีค่ะ” ปากบอกออกไปแต่ในใจหนักอึ้งในหลาย ๆ เรื่อง
มันเป็นเรื่องที่พูดไม่ได้
“แต่หน้าตาหนูดูไม่ค่อยดีเลย พูดให้ยายฟังได้นะ”
339/559
“ขอบคุณค่ะคุณยาย อาจจะเป็นเพราะว่ามุนนอนไม่ค่อยหลับมั้งคะ
เมื่อคืนมุนทานอาหารรสจัดก็เลยท้องเสีย วิ่งเข้าห้องนํ้าหลายรอบทีเดียว
ค่ะ”
“แล้วทำไมทานเผ็ดนักล่ะจ๊ะ ปกติหนูไม่ทานเผ็ดนี่” คุณยายถาม
กลับอย่างสงสัย คนถูกถามนิ่งไปสักพักก่อนที่จะเล่าความจริงให้คุณยาย
ฟัง เมื่อคุณยายกลีบบัวได้ฟังแล้ว ก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ คิดถึงหลานชาย
สุดที่รักขึ้นมาทันที มองหน้าคนเล่าก็เห็นแววตาหวานคูน่ ั้นเต้นระริกทีเดียว
ไม่ได้หม่นหมองสักนิดยามที่เจ้าตัวพูดถึงเรื่องนี้ แม้ว่าจะมีท่าทีอิดโรยบ้าง
“ไม่รปู้ ่านนี้เจ้านายจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้” รำพึงออกมาด้วยความ
เป็นห่วง ทำให้คุณยายแอบยิ้ม
แกล้งเขาแล้วกลับมาเป็นห่วง กลับไปนีต่ ้องโทร. ไปถามอาการสัก
หน่อย
“คงไม่เป็นไรหรอกมั้งจ๊ะ ผู้ชายธาตุแข็งไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอก”
“แต่เขาไม่ว่ามุนสักคำนะคะคุณยาย บอกแต่ว่าครั้งต่อไปให้ลดเกลือ
ใน ไข่เจียวลงหน่อย นั่นทำให้มุนรู้สึกผิดจนนอนไม่หลับเลยทีเดียว”
คุณยายได้ฟังคำนั้นแล้วก็ต้องแอบยิ้ม
โกรธได้ไง อุตส่าห์ทำอาหารให้กินขนาดนั้น หลานชายคุณยาย
เอาจริงใช่ไหมเนี่ย ถึงได้ตามตอแยไม่ยอมปล่อยอย่างนี้
340/559
“ที่ฟาร์มเขาทำอะไรบ้างคะ น่าสนใจจริง ๆ”
“ช่วงหน้าหนาวเขาก็จะเพาะพันธุ์พืช ผัก ดอกไม้ ต้นไม้ในกรีนเฮาส์
(Green House -โรงเรือนปลูกพืช) พอสปริง (Spring – ฤดูใบไม้
ผลิ) อากาศอุ่นขึ้นมาก็เอาออกมาขาย คนที่นี่เขาชอบดอกไม้ ต้นไม้ ทั้ง
ไม้ดอกไม้ประดับ ส่วนซัมเมอร์ (Summer – ฤดูร้อน) ก็ปลูกผักขาย
เช่น พริกตุ้ม ข้าวโพด มะเขือเทศ แตงกวา ปีนี้มพี ืชผักของไทยเราขาย
ด้วย ทั้งพริกขี้หนู พริกชีฟ้ ้า ผักคะน้า โหระพา กะเพรา ของ สด ๆ จาก
ฟาร์มแม้ราคาสูง แต่ก็ขายได้ดีทีเดียว เมื่อก่อนมีเฉพาะลูกค้าฝรั่ง แต่ปีที่
ผ่านมามีลูกค้าเอเชียมากขึ้น ปากต่อปากบอกต่อ ๆ กันไป บางคนก็มา
เหมาเอาไปขายต่อที่ร้าน หรือไม่กเ็ อาไปขายในงานที่วัดไทยตามรัฐต่าง ๆ
ปกติพ่อค้าแม่ค้าพวกนี้เขาต้องล่องรถลงไปเอาพืชผักพวกนีท้ ี่ฟลอริดา เขา
ก็มาเอาที่นี่แทน วิ่งรถไม่ไกล ทุ่นค่านํ้ามันอีกด้วย”
“น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ ถึงว่านะคะ ที่นี่เด็ก ๆ ใฝ่ฝันอยากเป็น
ชาวนาหรือว่าเกษตกรกัน ไม่เหมือนเมืองไทยของเราที่เด็ก ๆ ไม่อยากเป็น
ชาวนา เพราะว่าชาวนายากจน”
“นั่นแหละ ที่นี่ชาวนาหรือว่าเกษตรกรเป็นคนส่วนน้อย ไม่แน่ใจว่า
ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า และรัฐบาลก็ดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี บางปีที่
ผลผลิตล้นตลาด ทางรัฐบาลไม่ให้ปลูกพืชผักนั้น ๆ เกษตรกรก็ไม่ต้อง
ปลูก แต่เขาก็ไม่เสียรายได้ เพราะว่ารัฐบาลจ่ายค่าทดแทนให้ไง ดีไหม”
343/559
ฟักทองอย่างเดียว หลานชายของยายยังแปลงฟาร์มให้เป็นสวนสนุกอีก
ด้วย เก็บค่าเข้าต่อหัวเมื่อปีที่แล้วสิบเหรียญ เด็กหญิงตํ่ากว่าสองขวบฟรี”
“โห ตั้งสิบเหรียญ แพงเหมือนกันนะคะ แล้วเด็ก ๆ ต้องโชว์บัตร
ประจำตัวด้วยหรือคะ”
“ไม่ต้องจ้ะ พ่อแม่โดยส่วนมากแล้วจะซื่อสัตย์ อาจจะมีบ้างที่คิดโกง
แต่มันเปอร์เซ็นต์น้อยมาก ๆ”
“ดีจังเลยค่ะ ความซื่อสัตย์นี่ต้องปลูกฝังกันตั้งแต่เด็ก ๆ เลยนะคะ
เท่าที่ได้ฟังคุณยายพูด รู้สึกว่าหลานชายของคุณยายจะเก่งมาก ๆ เลยนะ
คะ หัวธุรกิจสุด ๆ เลย ทำฟาร์มให้เป็นสวนสนุกก็ได้ด้วย มีแต่เงินกับเงิน
น่านับถือและน่ายกย่องที่สุดเลยค่ะ”
คุณยายก็แอบคิดในใจว่า
ถ้าคนข้าง ๆ รู้ว่าหลานชายคุณยายคือคนคนเดียวกับเจ้าของ
เวียดเฮาส์ มาเฟียในความสงสัย ทีเ่ พิ่งจะเจอฤทธิอ์ าหารไทยไปหมาด ๆ
จะยังชมอย่างนี้อยู่ หรือเปล่าก็ไม่รู้ คิดแล้วก็แอบเสียวสันหลัง ถ้าคนข้าง
ๆ รู้ความจริง คุณยายจะเสียเพื่อนรุ่นหลานที่น่ารักคนนี้ไปหรือเปล่าก็ไม่รู้
ได้แต่ภาวนาให้หลานชายจริงจัง
“ยายก็ว่าแพงนะ แต่หลานชายบอกว่าไม่แพงหรอก เขาว่าคุ้ม เข้ามา
แล้วเล่นได้ทั้งวัน บางที่มีแค่สวนสัตว์ให้เด็กเข้าไปดูยังเก็บตั้งสิบห้าเหรียญ
แน่ะ หลานชายของยายเขามีความคิดว่า ตอนนี้ฟาร์มต่าง ๆ เริ่มจะหายไป
345/559
“ซัมเมอร์นี้ยูจะไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่าคารีนา” ฟีนิกซ์ถามเพื่อนสาว
ตัวน้อยที่กำลังถีบขาส่งแรงให้ชิงช้าขึ้นไปสูงที่สุด
“ไม่รู้สิ ฟีไปไหนหรือ” อีกฝ่ายตะโกนตอบ
“มามีจ้ ะพาไปเที่ยวดิสนีย์ ฮอลลีวูด ทะเล ที่แคลิฟอร์เนีย” พอ
ได้ยินคำตอบ ขาที่ถีบสุดแรงก็ลดใบหน้าเล็ก ๆ ลง บ่งบอกถึงอาการ
ตื่นเต้น
“อูย โชคดีเป็นที่สุด คารีนาอยากไปจัง ต้องสนุกแน่ ๆ เลย”
“ยูกใ็ ห้แดดดี้พาไปสิ ไปพร้อมกันนะ เราจะได้เล่นด้วยกันไง เขามี
เครื่องเล่นเยอะแยะเลยละ สนุก ๆ ทั้งนั้น”
“ฟีเคยไปมาแล้วหรือ”
“ยัง” คำตอบนั้นทำให้เพื่อนตัวน้อยต้องเลิกคิ้ว อีกคนก็เลยต้อง
ไขข้อข้องใจ
“มามี้เปิดคอมพิวเตอร์ให้ดูน่ะ”
348/559
“งั้นคารีนาจะขอให้แดดดี้พาไป”
“ดีเลย”
“ฟีมีบอยเฟรนด์หรือยัง” จู่ ๆ เพื่อนตัวน้อยก็เปลี่ยนเรื่องคุย
“ยัง มามี้บอกว่ายังไม่ถึงเวลา คารีนามีแฟนแล้วหรือ”
“ยังหรอก แต่ว่าเมื่อวันก่อนสเตอริงเพื่อนในห้องที่เพิ่งย้ายมาใหม่
เป็นบัดดี้ ของคารีนาเอง มาขอให้คารีนาเป็นเกิร์ลเฟรนด์”
“แล้วยูตอบว่าไง”
“ก็บอกว่าต้องถามแดดดี้ก่อน สเตอริงก็เลยหน้ามุ่ยกลับไป”
“แล้วยูถามแดดดี้หรือยัง”
“ยัง แดดดี้งานยุ่ง กลับบ้านมืดทุกวัน”
เมื่อกดปิดโทรศัพท์แล้ว ละมุนมาศเดินกลับไปหาคุณยายกลีบบัว
พร้อมกับคำว่า ‘คิดถึง’ ที่ทางปลายสายส่งมาให้ยังอื้ออึงอยูใ่ นหัวสมอง
และส่วนทีล่ ึกที่สุดของหัวใจ นี่ถ้าหล่อนไม่บอกว่าคุยกับญาติผู้ใหญ่อยู่
เขาคงจะไม่ยอมวางสายเป็นแน่
คนอะไรลามกซะไม่มี แค่เสียงในโทรศัพท์ของเขาก็ทำให้หล่อนหัวใจ
เต้นแรงได้ขนาดนี้ คำพูดอ่อนโยนผสมอ่อนหวานนั่นอีก รบกวนหัวใจดี
แท้
349/559
“ตกลงไปพักกับยายนะ” คุณยายยํ้าอีกครั้งหลังจากที่คนตัวบางเดิน
กลับมา
“มุนเกรงใจค่ะคุณยาย มุนขับรถไปกลับดีกว่า ไปเช้าเย็นกลับให้ฟี
ได้เล่นสนุกให้เต็มที่”
“หนูยังมีเวลาคิด มันยังไม่ถึงเวลา ว่าแต่ซัมเมอร์นี้หนูฟีไป
ซัมเมอร์แคมป์ หรือเปล่าจ๊ะ”
“ปีนี้มุนว่าจะให้ฟีอยู่บ้านค่ะคุณยาย ให้มสิ ซิสลีดูแล สงสารน้องค่ะ
ไม่อยากให้ไปอยูแ่ คมป์ทั้ง ๆ ที่มุนก็ชอบนะคะ ฟีได้ทำอะไรหลายอย่าง
แต่เมื่อปีที่แล้วฟีเป็นหวัดตั้งหลายรอบ เดี๋ยวเป็น ๆ หาย ๆ ติดมาจากที่
แคมป์นั่นแหละค่ะ”
“เด็ก ๆ อยู่รวมกันก็อย่างนี้แหละ เด็กบางคนไม่สบาย พ่อแม่ต้อง
ทำงาน ไม่มีเวลาหยุดดูแล ก็ให้ยาลูกกินแล้วก็ส่งเข้าแคมป์ ให้หนูฟอี ยู่
บ้านก็ดีจ้ะ อ้อ...แล้วเรื่องไปเที่ยวแอลเอว่าไง จะให้ยายจองตั๋วเครื่องบิน
ให้หรือเปล่า”
“มุนคงต้องรบกวนคุณยายนะคะ เพราะว่ามุนไม่รู้จักใครเลย ตั้งแต่
มาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เดินทางไปไหนไกล ๆ ตั้งหลายปีมาแล้ว”
“ไม่รบกวนเลยจ้ะ ยายเต็มใจเสมอ ครั้งนีย้ ายจะจัดการให้ แล้วยาย
จะแนะนำให้รู้จักกับคนขายตั๋วนะจ๊ะ แต่ก่อนยายซื้อกับแม่เขาตลอด พอ
แม่แก่แล้วลูกสาวก็ทำต่อ ก็เลยรู้จักกันยาวนาน”
350/559
“ขอบคุณค่ะคุณยาย”
แล้วละมุนมาศก็บอกวันเดินทางไป-กลับ ให้คุณยายได้รับทราบ ซึ่ง
คุณยายก็บอกว่าจะจัดการให้ รวมทั้งเรื่องของการจองโรงแรมด้วย
หลังจากที่ได้คุยรายละเอียดต่าง ๆ กันแล้ว โดยคุณยายจะจองโรงแรมที่
ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับสถานที่ที่สองพี่น้องจะไปเที่ยวให้
“ส่วนเรื่องตั๋วเครื่องบิน สมัยนี้เขาไม่ออกตั๋วเป็นใบ ๆ กันแล้วนะหนู
มุน มันเป็นอีทิกเกต (E-Ticket หรือชื่อเต็มว่า Electronic Ticket
คือตั๋วเครื่องบินรูปแบบใหม่ที่สายการบินต่าง ๆ ได้พัฒนาบริการมาให้
บริการแก่ลูกค้า เพื่อลดต้นทุนและขจัดปัญหาด้านต่าง ๆ ในการเดินทาง
ของผู้โดยสารให้ลดลงมากที่สุด ทั้งปัญหาที่เกิดจากผู้โดยสารเอง ปัญหาที่
เกิดจากสายการบิน ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว และ
บริการที่ทันสมัยเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า) คนขายตั๋วเขาจะส่งแต่ใบ
รายการเดินทางมาให้ เราก็ไปเช็กอินที่ สนามบินได้เลย สมัยนี้อะไรมันก็
ง่าย เช็กอินก็ไม่ต้องมีพนักงานมาเช็ก เราเช็กได้เองอีกต่างหากเหมือนกับตู้
เอทีเอ็มนั่นแหละ”
“ทันสมัยจริง ๆ นะคะคุณยาย แล้วมุนจะทำเป็นหรือคะนี่” คน
ไม่ค่อยได้เดินทางเริ่มกังวล
“อย่ากังวลจ้ะ เราก็ทำตามที่เขาบอกหน้าจอนั่นแหละ ง่ายยิ่งกว่าปอก
กล้วยอีก ปอกกล้วยบางครั้งเล็บยังเปื้อนยางเลย อันนี้รับรองว่าไม่เปื้อน”
คุณยายพูดไปหัวเราะไปด้วย
351/559
“ไม่ต้องห่วงนะ พนักงานสายการบินก็จะคอยช่วยเหลือผู้โดยสารอยู่
แถว ๆ นั้นจ้ะ”
“ค่อยยังชั่วค่ะ ไม่งั้นมุนแย่แน่ ๆ”
“แล้วเพื่อนหนูมุนรู้แล้วหรือจ๊ะว่าหนูมุนจะไปหา”
“ยังไม่ทราบหรอกค่ะ มุนไม่อยากให้เพื่อนต้องเตรียมต้อนรับอะไร
ก็เลยว่าไปถึงที่นั่นแล้วจะโทร. ไปหา นัดเจอกันแบบเซอร์ไพรซ์น่าจะดี
กว่า” ใบหน้าหวานยิ้มอย่างซุกซนกับความคิดของตัวเอง ในขณะที่คุณ
ยายกลีบบัวยิ้มพร้อมกับคิดว่า
งานนี้คงได้เซอร์ไพรซ์กันหลายต่อ
“ดีจ้ะ เพื่อนหนูมุนต้องดีใจมากแน่ ๆ”
“ค่ะคุณยาย”
“มามีด้ ูนี่ ดูนี่ ฮูเรย์” เสียงเรียกของเด็กหญิงทั้งสองที่กำลังไกวชิงช้า
ให้ตัวเองไปอยู่ในจุดที่สูงที่สุดเรียกให้ละมุนมาศหันไปดู
“จับแน่น ๆ นะฟี คารีนาด้วยจ้ะ”
“ค่ามามี้ คารีนาจับแน่นค่ะ”
“ค่ะ มามี้ไม่ต้องห่วง ฟีจับแน่นที่สุดเลย รับรองว่าไม่ตก คารีนาไกว
สูง ๆ สิ นั่นอย่างนั้นแหละ ไม่ต้องกลัวหล่น จับแน่น ๆ วู้ สนุกจังเลย”
คุณยายกลีบบัวยิ้มกว้างที่ได้ยินคำเรียกขานของเหลนสาวเปลี่ยนไป
352/559
จากมามี้ของฟีเป็นมามี้เฉย ๆ
นางไม่รู้ว่าเหลนสาวผิดพลาดหรือว่าจงใจ จึงหันไปมองทางมามีก้ ็
เห็นว่า โหนกแก้มขึ้นสีระเรื่อทีเดียว
“คุณทวดดูคารีนาสิคะ สูงไหมคะ”
“สูงจ้ะ แต่ระวังด้วยนะ ตกมาได้เจ็บกันละงานนี้”
“คารีนาจับแน่นค่ะ ไม่ให้ตกด้วย กลัวเจ็บ นะฟีนะ” ตอนท้ายหันไป
ทางเพื่อนสนิท
“ใช่ ฟีกไ็ ม่ให้ตก ไม่อยากเจ็บเหมือนกัน” อีกคนสนับสนุน ละมุน
มาศได้แต่ยิ้มส่ายศีรษะน้อย ๆ ให้กับเด็ก ๆ
“คารีนาพูดไทยได้เยอะแล้วนะคะคุณยาย”
“ใช่จ้ะ ได้เล่นกับหนูฟีเลยพูดไทยได้เยอะ กับยายเขาก็พยายามพูด
ไทยด้วยตลอด แต่กลับบ้านไปอยู่กับพ่อไม่ได้พูดก็ลืมบ้างก็ไม่เป็นไร หัด
พูดบ่อย ๆ ก็จำได้เอง”
“ดีค่ะ พูดได้หลาย ๆ ภาษา”
“ว่าแต่หนูมุนเถอะ เป็นมามี้อย่างนี้หนุ่ม ๆ ได้ยินก็ถอดใจหมดสิจ๊ะ”
คุณยายกลีบบัวถามยิ้ม ๆ
353/559
ถ้อยคำเหล่านี้ดังก้องกลับไปกลับมาอยู่ในโสตประสาทของละมุน
มาศ อย่างที่ไม่สามารถสลัดออกไปได้
ตอนที่เข้าห้องนํ้าหล่อนก็คาดโทษเขา เพราะเขาทำให้หล่อนท้องเสีย
ทั้งที่ไม่เคยท้องเสียเลยหลายปี ทำให้เข้าห้องนํ้าหลายรอบจนแทบหมดแรง
โทษเขาแล้วก็โทษตัวเองต่อที่คิดเอาคืนเขาจนตัวเองยํ่าแย่อย่างนี้
แต่พอได้ยินคำพวกนี้ ความกรุ่นโกรธเล็ก ๆ ที่มีกห็ ายไปหมด
เหลือแต่ความหวามไหวในหัวใจ สารพัดคำหวานที่เขาส่งมาทำให้หัวใจ
อบอุ่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“มามี้ไม่สบายหรือคะ” เสียงคนตัวเล็กหันหน้ามาถามทันที
“มามี้แค่ท้องเสียค่ะ แต่เดี๋ยวก็หาย” ตอบพลางทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ
“ทำไมถึงท้องเสียคะ”
“มามี้ทานอาหารเผ็ดที่ทำงานเมื่อคืนค่ะ”
“อย่างนี้มามีต้ ้องดื่มนํ้าเยอะ ๆ นะคะ คุณครูที่โรงเรียนบอกว่าใคร
ท้องเสียต้องดื่มนํ้าเยอะ ๆ ค่ะ ร่างกายจะได้ไม่ขาดนํ้า” ว่าแล้วคนตัวเล็กก็
วิ่งเข้าไปในครัว รินนํ้าจากตู้เย็นมาให้ ทำเอาคนได้รับความห่วงใยถึงกับ
นํ้าตาซึมทีเดียว
“นี่ค่ะ”
ละมุนมาศดื่มนํ้าที่คนตัวเล็กเอามาให้จนหมดแล้วก็รั้งร่างเล็กเข้าสู่
อ้อมกอด ก้มลงจูบที่เรือนผมนุ่มแรง ๆ
359/559
“ขอบคุณค่ะฟี”
“เย็นนี้เราทำข้าวต้มนะคะมามี้”
“ได้ค่ะ ว่าแต่ข้าวต้มอะไรดี”
“ข้าวต้มกุ้งได้ไหมคะ ฟีชอบ”
“ได้ค่ะ มามี้ทำข้าวต้มกุ้งกับกุนเชียงทอดดีไหมคะ หรือจะเอา
ไข่เจียว” พูดถึงไข่เจียวแล้วก็ทำให้คิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอีกครั้ง ใน
สมองของหล่อนตอนนี้มใี บหน้าของใครบางคน พร้อมกับสัมผัสวาบหวาม
เต็มไปหมดจนต้องสลัดทิ้งอย่างรีบด่วน
“เอากุนเชียงนะคะมามี้”
“ค่ะ ๆ”
ละมุนมาศนึกหงุดหงิดที่ไพล่ไปคิดถึงใครบางคน
ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้ถึงมีเขามาอยู่ในความรู้สึกนึกคิดได้ตลอดเวลา
หรือว่าความรักมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
31
เนียนบาฟาร์ม
เมื่อประตูเปิดออก ก็ปรากฏร่างของวันและเด็กหญิงคารีนา
“ไฮ ฟี ทำไมมาช้าจัง คารีนารอตั้งแต่เช้าแน่ะ” เด็กหญิงคารีนาที่อยู่
ในชุด สีขาวสวยงามกระโดดออกมาจับมือเพื่อนรักอย่างตื่นเต้น ทักทาย
กันแล้วก็หันมาทางละมุนมาศ
“ไฮ มามี้” ทำเอาคนที่ถูกเรียกว่ามามี้เขินเล็กน้อย แต่ก็อ้าแขนรับร่าง
เล็ก ๆ ที่เดินเข้ามาให้กอด
“สวัสดีจ้ะคารีนา”
“ไฮ วัน” ฟีนิกซ์ไม่ลืมที่จะทักทายวัน
“นึกว่ายูจะไม่มาเสียแล้ว”
“มาสิ” ทั้งสองเริ่มจะชวนกันคุย ราวกับว่ามีกันแค่สองคนอยูต่ รงนั้น
ก่อนทีจ่ ะจูงมือกันเดินเข้าไปในบ้าน ละมุนมาศที่ทักทายวันพร้อมทั้งส่งของ
ในมือให้ มิสเตอร์อังเดรก็ขอตัวกลับบ้าน ละมุนมาศกล่าวขอบคุณและ
กล่าวลา ก่อนจะเดินตามวันเข้าไปในบ้าน
“ยูอยู่บ้านหลังนี้หรือคารีนา” เสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ถามเพื่อนตัวเล็ก
“โห บันไดสวยจัง โค้งด้วย” คนตัวเล็กที่เพิ่งจะย่างเท้าเข้าไปในบ้าน
พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น ละมุนมาศทีเ่ ดินตามหลังเข้ามาตกตะลึงกับความ
หรูหราสวยงามภายในตัวบ้าน
“เปล่า นี่บ้านแกรนด์มา แกรนด์ฟา ฉันไม่ได้อยูท่ ี่นี่ ฉันอยูก่ ับแดดดี้
ที่บ้านริมทะเล”
366/559
“ขอบใจมากจ้ะ”
“หวัดดีครับมัม” แล้วเสียงภาษาไทยก็เปลี่ยนเป็นเสียงภาษาอังกฤษ
แทน พร้อมกับเสียงจุ๊บตามมา
แดดดี้ของคารีนานี่น่ารักจริง ๆ จูบยายจูบแม่เสียงดังทีเดียว ชัก
อยากเห็นหน้าเสียแล้ว
“สวัสดีจ้ะลูก แดดอยู่ในห้องโน้น”
“ผมขอตัวไปหาแดดก่อนนะครับ” พอได้ยินเขาบอกว่าจะมาหาผูเ้ ป็น
บิดา ละมุนมาศก็ทำเป็นจดจ่ออยู่กับการ์ตูนในโทรทัศน์กับเด็ก ๆ ราวกับ
ไม่ได้รับรู้อะไร
“ไฮ แดด” แต่คำทักทายสดใสทีห่ น้าห้อง ทำให้ละมุนมาศไม่
สามารถบังคับตัวเองได้ หล่อนอยากรู้ว่าแดดดีข้ องเด็กหญิงตัวน้อยเป็น
ใคร น่ารักแค่ไหน และก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคนที่เดินเข้าไปหาผู้ที่เขาเรียก
ว่า
“แดด”
32
พ่อ...ของคารีน่า
แล้วภรรยาของเขาไปไหน เลิกกัน...หย่า...แต่คุณยายเคยบอกว่าคารี
นาไม่มีแม่ หมายความว่าอย่างไรกันนะ
คารีโนอุ้มลูกสาวไว้ในอ้อมแขนข้างหนึ่ง แล้วก็กางแขนอีกข้างโอบ
กอดทักทายบิดาของเขาไปด้วย แต่สายตาแวววาวคมเข้มคู่นั้นมองจ้องมา
ยังคนที่ยังยืนตกตะลึงอยู่ในห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนโยน
ภาพที่เห็นไม่เหมือนกับคนที่ชอบฉวยโอกาสหรือว่าเอาเปรียบหล่อน
มาก่อนเลยสักนิด
แต่ละมุนมาศแน่ใจว่าคือคนคนเดียวกันกับเจ้านายชีกอแน่นอน
หล่อนไม่ได้ตาฝาด เพราะว่าตามหลังเจ้านายมาติด ๆ นั่นคือลูกน้องคน
สนิทของเขาที่หล่อนเห็นเป็นประจำ
ท่านไนฮัวกอดทักทายลูกชาย พูดคุยไถ่ถามกันเล็กน้อยแล้วก็หันไป
รับความเคารพจากเฟยและเบียน
คารีโนอุ้มลูกสาวตัวน้อยเดินเข้าไปใกล้เพื่อนตัวเล็กที่ยังนั่งดูการ์ตูน
อยู่ เขาทักทายฟีนิกซ์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างคุ้นเคย
“ไฮ ฟี” ปากทักคนตัวเล็ก แต่สายตาคู่นั้นแลเลยมายังละมุนมาศที่
ยังยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ไม่ห่าง ดวงตาคู่คมฉายแววอ่อนหวานส่งมาให้อย่าง
ไม่คิดปิดบังเอาไว้สักนิด แต่คนรับกลับถลึงตาโตส่งให้แทน อีกคนได้แต่
ส่งยิ้มขัน ๆ กลับมาให้
“ไฮ ตรัง” ฟีนิกซ์ส่งเสียงทักทายด้วยรอยยิ้มอาย ๆ
374/559
ตอนที่เขาแนะนำตัวกับหล่อนตอนที่เข้ามาดูเวียดเฮาส์แรก ๆ เขาก็
บอกแค่ว่า ตรัง คารีโน หล่อนจำได้และก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกเลย เพราะ
เป็นเรื่องปกติทคี่ นที่นี่จะแนะนำตัวเองด้วยชื่อและนามสกุลง่าย ๆ เท่านั้น
และหล่อนก็ไม่ได้สนใจมากไปกว่านั้น เพราะเขาเป็นแค่เจ้านาย
มัวแต่ตกอยู่ในภวังค์ความคิด ไม่รวู้ ่าเขาวางเด็ก ๆ ในอ้อมกอดลง
ไปตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีหล่อนก็โดนประชิดร่างพร้อมโดนหอมแก้ม
แผ่วเบา
“สวัสดีหนูมุน” ภาษาอังกฤษทีเ่ ขาทักทายพูดคุยกับคนตัวเล็กเปลี่ยน
เป็นเสียงภาษาไทยแปร่ง ๆ ทำเอาคนฟังตาโตกว่าเดิม ไม่คิดว่าเขาจะพูด
ภาษาไทยกับหล่อน แถมยังเรียกชื่อหล่อนอย่างสนิทสนมอีกต่างหาก
อาการอ้าปากค้างตาโตของละมุนมาศ เรียกเสียงหัวเราะจากคนทักที่
คลอเคลียอยู่ใกล้ได้เป็นอย่างดี
เมื่อรู้ตัวว่าอยู่ในอ้อมกอดเขา ละมุนมาศก็ดิ้น แต่คนกอดก็ไม่ยอม
ปล่อย ไม่สนใจ กลับถามว่า
“ไม่เห็นดีใจเลยที่ได้เจอผมที่นี่ คิดถึงนะ ไม่เห็นหน้าตั้งหลายวัน”
ไม่พูดเปล่าเขาหอมแก้มหล่อนอีกครั้ง ละมุนมาศยังไม่ทันได้ว่าอะไร ก็
ได้ยินเสียงเล็ก ๆ พูดขึ้นอย่างดังว่า
“เย้ แดดดี้หอมมามี้ด้วย” เสียงนั้นไม่เบาเลยสักนิด
376/559
ละมุนมาศคิดว่าใครต่อใครในบ้านคงจะได้ยินกันถ้วนหน้าเป็นแน่
ใบหน้าหวานแดงแปร๊ด นึกโกรธคนทำมากนักที่ประเจิดประเจ้อ ก็เลย
ดิ้นรนออกจากอ้อมกอดเขา ซึ่งคนตัวโตก็ยอมปล่อยร่างในอ้อมกอดแต่
โดยดี ร่างบางเลยขยับออกไปห่าง ส่งค้อนให้อีกต่างหาก มองไปทางมุม
ห้องที่ท่านไนฮัวยืนคุยกับเฟยและเบียนอยู่ก่อนหน้า ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว
หายไปไหนกันหมด แล้วนี่หล่อนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“หอมตอนไหน ทำไมฟีไม่เห็น” ฟีนิกซ์ถามขึ้นเสียงดังพอ ๆ กัน
เด็ก ๆ พวกนี้จะทำให้หล่อนขายหน้าไปถึงไหน
“เมื่อกี้นี้ไง แดดดี้หอมมามี้แล้ว อีกหน่อยก็มีน้อง” เด็กหญิงคารีนา
ยังพูดต่อด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดีใจด้วยเสียงไม่เบาลงสักนิด
“มีน้องหรือ” คนตัวเล็กของหล่อนก็ถามกลับอย่างสนใจ
“ใช่ แดดดี้หอมมามี้แล้วก็นอนจับมือกัน ไม่นานก็จะมีน้องออกมา”
ละมุนมาศตาโตกับคำอธิบายอย่างภาคภูมิใจของเด็กหญิงคารีนา
หัวใจของหล่อนเต้นแรงระรัว ใบหน้าหวานร้อนผ่าว เงยหน้ามองอีกคนก็
เห็นว่ายิ้มแก้มแทบปริทีเดียว ก็เลยเอาข้อศอกกระทุ้งให้อย่างแรง
คนโดนศอกแหลม ๆ ไม่ได้กระเทือนสักนิด แถมยังหัวเราะหึ ๆ
ชอบใจอีกด้วย
“รู้ได้อย่างไร” เด็ก ๆ ยังคุยกันไม่จบ
377/559
“สเตอริงบอกมา ว่าแต่ฟีอยากมีน้องหรือเปล่า”
ละมุนมาศหนักใจ
เด็ก ๆ พวกนี้ไปเอาความรู้พวกนี้มาจากที่ไหนกัน
คารีโนคิดยิ้ม ๆ ว่าลูกสาวเขาข้อมูลแน่นปึ๊กทีเดียว
“อยากมีสิ ฟีจะช่วยมามี้เลี้ยงน้องด้วยละ”
“คารีนาก็จะช่วยนะ เราช่วยกันเลี้ยงน้อง” คนตัวเล็กของหล่อน
พยักหน้า เด็กหญิงคารีนาก็ยิ้มกว้างทีเดียว
หลังจากฟังทั้งสองคุยกันแล้ว ทำให้ละมุนมาศอายจนทำอะไรไม่ถูก
คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดีกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน ได้แต่อ้าปากหวอ
สมองหยุดทำงานชั่วคราว คารีโนแอบชำเลืองมองคนตัวบางแล้วก็ต้อง
อมยิ้ม ใบหน้าหวานสวยนั้น แดงกํ่าทั่วใบหูและลำคอ ริมฝีปากอวบอิ่มอ้า
ค้างเอาไว้น้อย ๆ อย่างตกตะลึง หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวไร้เดียงสาจาก
ลูกสาวของเขา กิริยาท่าทางเป็นธรรมชาตินั้นประทับใจเขามาก
เขาอดไม่ได้ก็เลยเข้าประชิดตัวรวบร่างบางเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว
ก้มหน้าลงจูบแก้มเนียนอีกครั้ง
“ตรังปล่อยหนูมุนได้แล้วจ้ะ” เสียงคุณยายกลีบบัวดังขึ้นจากทาง
ด้านหลัง ทำให้คนตัวโตต้องจำใจปล่อยร่างบางออกจากอ้อมกอดอย่าง
เสียดาย แต่ก็ยังยืนอยู่ไม่ห่าง
378/559
“ผมก็แค่ทักทายหนูมุนเท่านั้นเองครับคุณยาย” หลานชายหันไป
แก้ตัวเสียงอ่อย ๆ กับคุณยาย แต่ใบหน้ายิ้มกริ่มระรื่น
“ทักทายอะไร กอดไม่ยอมปล่อยอย่างนั้น เกเรจังนะ หนูมุนจ๊ะ ยาย
ขอโทษด้วยที่หลานชายของยายทำประเจิดประเจ้อให้หนูตกใจ” พร้อมกับ
แอบนึกในใจว่า
โดนกอดแค่นี้ก็หน้าแดงตัวแดง เจ้าหลานชายก็ฉวยโอกาสจริง ๆ นี่
ขนาดว่าขอกันแล้วนะยังทำได้ขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าคุณยายไม่เห็นว่าหลานชาย
ของท่านหอมแก้ม อีกคนไปกีท่ ี ต่อหน้ายังขนาดนี้ ไม่รู้ว่าลับหลังจะขนาด
ไหน
คนทีย่ ืนหน้าแดงกํ่าพูดอะไรไม่ออกได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ ให้กับคุณ
ยาย ยิ่งได้ยินเสียงแจ๋ว ๆ ของเด็กหญิงคารีนาที่วิ่งมาหาและเงยหน้าบอก
กับคุณทวดแล้ว ละมุนมาศก็ยิ่งอยากจะหายตัวออกไปจากที่นั่นเสียให้
รู้แล้วรู้รอด
“คุณทวดคะ แดดดี้หอมมามี้ด้วยค่ะ อีกหน่อยก็จะมีน้องใช่ไหมคะ”
“ใครบอกหนูจ๊ะคารีนา” คุณยายก้มหน้าแอบยิ้มถามเหลนสาว
“สเตอริงค่ะ สเตอริงบอกว่าแดดดี้กับมามี้ของสเตอริงหอมแก้มกัน
แล้วก็นอนจับมือกัน และก็มีน้องออกมาค่ะ อีกหน่อยคารีนาก็จะมีน้อง
ใช่ไหมคะ”
379/559
ความจริงที่มาที่ไปมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เห็นสายตาขอโทษของคุณ
ยายทีส่ ่งมาให้แล้ว ก็ได้แต่ส่งยิ้มกลับไปให้แหย ๆ เป็นความผิดของ
หล่อนเอง ที่ไม่เคยถามถึงรายละเอียดเรื่องครอบครัวของคุณยาย รวมทั้ง
เรื่องของเวียดเฮาส์ด้วย รับรู้แค่ในสิ่งที่คุณยายบอกให้ฟัง เพราะคิดว่าเป็น
เรื่องส่วนตัว คิดแต่ว่าคุณยายมาอยู่ที่นนี่ านหลายสิบปี คงจะรู้จักคนมาก
และฝากหล่อนไปทำงานที่นั่นเท่านั้นเอง ใครจะคิดว่าคุณยายเป็นแม่ยาย
หรือว่าคุณยายของเวียดเฮาส์ด้วยซํ้า
ทุกอย่างทีเ่ กิดขึ้นมันเกี่ยวโยงกันอย่างบังเอิญจริง ๆ ตั้งแต่หล่อนได้
พบและรู้จักกับคุณยายกลีบบัว คบหาสนิทชิดเชื้อไว้อกไว้ใจกัน จนนับถือ
เป็นญาติผู้ใหญ่ และคุณยายก็ฝากให้ไปทำงานทีภ่ ัตตาคารเวียดเฮาส์ โดย
ทีล่ ะมุนมาศไม่เคยระแคะระคายเลยว่า คุณยายมีส่วนเกี่ยวข้องกับที่นั่น
แถมหล่อนยังไปเผลอเล่าเรื่องชีกอของเจ้านายคนใหม่ ซึ่งเป็นหลานชาย
สุดที่รักของคุณยายให้ฟังอีก
ตาย ๆ จะต้องหางานพิเศษใหม่ทำหรือเปล่าเนี่ย ตอนนี้เรื่องเงินยิ่งมี
ปัญหาอยู่ด้วย ถ้าต้องหางานใหม่คงจะลำบาก ว่าแต่ใครจะคิดว่าคุณยายผู้
น่ารักจะมีหลาน ชีกอ ฉวยโอกาส เอาแต่ใจอย่างเขา ฮึ...
คนชีกอ คนฉวยโอกาส ทีท่ ำให้หัวใจของหล่อนหวั่นไหว จะเป็น
อย่างไรต่อไปก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาฟ้าลิขิตเสียแล้วกระมัง
“ไปที่ห้องอาหารกันเถอะ อาหารเรียบร้อยแล้ว” คุณลิซาเบธเดินเข้า
มาบอกกับทุกคน
382/559
ๆ คารีโนเห็นใบหน้านั้นแล้วก็ได้แต่ยิ้มคนเดียว จนไปถึงห้องหนึ่งละมุน
มาศก็ยิ้มออกมาทันที ที่เห็นว่ามีคุณยายกลีบบัว บิดามารดาของเขา คารี
นา และคนตัวเล็กของหล่อนนั่งรวมกันอยู่ที่นั่น
ห้องกระจกทั้งสามด้านและหลังคาโปร่งใสอยู่ในความมืดสลัว มีแต่
แสงที่สะท้อนมาจากโทรทัศน์ที่เด็ก ๆ กำลังดูอยู่เท่านั้น
“ทั้ง ๆ ที่อยากทำ แต่ผมพาคุณไปไหนไม่ได้หรอก ไม่อยากโดนคุณ
ยายตี” เสียงนุ่ม ๆ กระซิบข้างหู
“นั่งเถอะจ้ะหนูมุน ตรังพาหายไปไหนมาเนี่ย” คุณยายถามยิ้ม ๆ
“ผมไม่ได้พาไปไหนนะครับคุณยาย ทั้ง ๆ ที่อยากพาไปจะแย่ ผม
ไปดึง หนูมุนมาจากในครัวครับคุณยาย” คนเป็นหลานชายตอบ พร้อมกับ
ดึงร่างบางให้นั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับเขา
“อ้าว ไปทำอะไรในนั้น”
“เอ่อ” ยังไม่ทันที่ละมุนมาศจะได้ตอบ คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็โพล่งขึ้น
ว่า
“ไปช่วยวันล้างจานครับ”
“โอ๊ย ไม่ต้องหรอกจ้ะหนูมุน ยายให้หนูมาเที่ยว ไม่ได้ให้มาทำงาน
สักหน่อย งานพวกนั้นมีคนทำอยู่แล้ว ยายก็นึกว่าตรังพาหนูไปนั่งเล่น
ข้างนอกที่ระเบียงด้านข้างเสียอีก ชาหรือกาแฟดีจ๊ะ”
“มุนยังอิ่มอยู่เลยค่ะคุณยาย ขอบคุณค่ะ”
388/559
ละมุนมาศได้แต่นั่งฟังเขาคุยกับคุณยายและบิดามารดา เพราะไม่รวู้ ่า
จะคุยอะไร ถึงแม้ว่าคุณยายจะชวนหล่อนคุยบ้าง จนกระทั่งถึงเวลานอน
ของเด็ก ๆ คุณ ลิซาเบธก็เรียกให้วันและมิสไอวีพาเด็ก ๆ ไปนอน
“กู๊ดไนต์ก่อนจ๊ะเด็ก ๆ” คุณยายบอก เด็กหญิงคารีนาวิ่งเข้าไปหา
คุณยายเป็นคนแรก
“กู๊ดไนต์ค่ะคุณทวด” ร่างเล็กกอดคุณทวดและก็หันไปกอดคุณย่า
“กู๊ดไนต์แกรนด์มา” แล้วก็โผเข้าหาอ้อมแขนของคุณปู่
“กู๊ดไนต์แกรนด์ฟา” ต่อมาก็ปีนขึ้นไปบนตักของผู้เป็นบิดาจูบดังจ๊วบ
“กู๊ดไนต์แดดดี้” แล้วก็เอนตัวส่งอ้อมกอดเล็ก ๆ ไปยังคนที่นั่งข้าง
ๆ
“กู๊ดไนต์มามี้” เด็กหญิงฟีนิกซ์ทำตามบ้าง
“กู๊ดไนต์ค่ะคุณยาย กู๊ดไนต์ป้าลิซ กู๊ดไนต์ลุงไนฮัว”
“มาฟีเร็ว ๆ ให้แดดดี้กอดด้วยกัน” เด็กหญิงคารีนาส่งเสียงเรียก
คารีโนอ้าแขนกว้างออกรับ ฟีนิกซ์เดินเข้าไปหา เขาก็อุ้มร่างเล็ก ๆ
นั้นขึ้นบนตักนั่งเคียงข้างกับลูกสาวของเขา
“กู๊ดไนต์แดดดี้”
“กู๊ดไนต์ค่ะฟี คืนนี้จะนอนที่ไหนกันเนี่ย” คารีโนแกล้งถาม
391/559
คารีโนอยากจะเถียงคุณยายนักว่า ผู้หญิงไทยสมัยใหม่ที่เขาเจอ ก็
ไม่ต่างไปจากสาว ๆ อเมริกันสักเท่าไรเลย
“แต่...”
“แต่อะไรจ๊ะ”
“แต่ผมรักหนูมุนของคุณยายนี่ครับ จะไม่ให้แตะต้องเลยคงเป็นไป
ไม่ได้” เจ้าตัวโพล่งออกไปแล้ว ก็รู้สึกเขินที่ต้องมาสารภาพรักกับสาวให้
ผู้ใหญ่ได้รับรู้
“แล้วเจ้าตัวรู้หรือยัง” หลานชายได้แต่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ
“ให้หนูมุนนอนห้องฟ้าติดกับยายละกันนะ”
“ครับคุณยาย ผมจะพาไปให้ถึงห้องเลยทีเดียว” พอหลานชายพูด
อย่างนั้น คุณยายก็เลยจำต้องลุกขึ้น คุณไนฮัวลุกออกไปจากห้อง คุณลิซา
เบธก็ประคองมารดาไปยังห้องนอนที่อยูด่ ้านหลังของบ้าน รอจนมารดา
แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า ขึ้นเตียงเรียบร้อยแล้ว คุณลิซาเบธก็หย่อนตัวลง
นั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ เตียง เริ่มต้นบทสนทนาว่า
“คารีนากับฟีนิกซ์เข้ากันได้ดีเหลือเกินนะคะมัม”
“ใช่ แม่ว่าก็ดีนะ เด็ก ๆ เข้ากันได้ ผู้ใหญ่จะได้ไม่มีปัญหา”
“คารีโนคงชอบหนูมุนจริง ๆ ดูท่าทางแล้วหนักเอาการอยู่ เห็นวันนีก้ ็
รู้ว่ารักเขาหมดใจแล้วละ” คุณยายกลีบบัวยิ้มพร้อมเสริมว่า
394/559
สายตาอบอุ่นอ่อนโยนที่แสดงออกถึงความรู้สึกของหัวใจจากเจ้าของ
ที่เท้าข้อศอกตะแคงมองใบหน้าหวานที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ห่างไม่ถึงคืบ
พร้อมกับใบหน้ายิ้มอย่างเอ็นดูทสี่ ่งให้กับคนนอนหลับแล้ว จากนั้นนิ้วทั้งสี่
ก็ยื่นออกไปไล้ข้างแก้มเนียนแผ่วเบา ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างมีความสุข จน
คนทีก่ ำลังนอนหลับต้องยกมือขึ้นปัด พร้อมกับเบือนหน้าหนีซุกกับหมอน
มากขึ้น
“อือ”
อาการนั้นเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าคมสันกว้างขึ้น แต่กย็ ังไม่หยุดการ
กระทำนั้น ในที่สุดคนหลับต้องลืมตาตื่น และก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้า
คมอยู่ชิด แถมยังก้มลงมาจุ๊บแก้มของหล่อนอย่างรวดเร็ว
“ตื่นแล้วหรือ ถ้ายังไม่ตื่นผมจะอุ้มไปนอนที่ห้องนะ” คำพูดของเขา
ทำให้คนที่นอนอยู่ลุกขึ้นทันใด อีกคนได้แต่หัวเราะหึ ๆ
“งั้นก็ไปนอนก่อนนะคะ กู๊ดไนต์”
“แล้วรู้หรือว่านอนห้องไหน”
397/559
“เอ่อ ห้องไหนคะ”
“มานี่” มือหนาดึงมือบางมาจับจูงให้เดินตาม ผ่านห้องครัวไปทาง
ด้านหลัง
“ฟีนอนที่ไหนคะ”
“ฟีนอนกับคารีนาข้างบน ไม่ต้องห่วงนะ ส่วนห้องหนูมุนอยู่ติดกับ
ห้องของคุณยาย หรือว่าหนูมุนจะไปนอนกับผมอีกฝั่งหนึ่งก็ได้” คำถามกึ่ง
เชิญชวนนั้นทำให้คนฟังถึงกับหยิบเล็บลงในมือที่จับจูงอยู่แรง ๆ
“อูย”
“คุณนี่ฉวยทุกโอกาสจริง ๆ เลย” คนถูกว่าหัวเราะถูกใจ
“ก็มันน่าฉวยนี่ ว่าแต่คุณจะว่าอย่างไร”
“ขอบคุณค่ะ ฉันนอนใกล้ ๆ คุณยายดีกว่า รู้สึกจะปลอดภัยมาก
กว่า”
คนอันตรายได้แต่หัวเราะชอบใจก่อนจะบอกว่า
“คนเป็นแฟนกัน นอนด้วยกันไม่เห็นแปลก ถ้าไม่นอนด้วยกัน
เมื่อไรเราจะได้ศึกษากันละหือ หนูมุน”
“คนจะศึกษากันไม่จำเป็นต้องนอนด้วยกันก็ได้ค่ะ” อีกคนตอบเสียง
สะบัด
398/559
มาศตัดสินใจนอนแช่นํ้ากว่าครึ่งชั่วโมง พอแต่งตัวออกมานอกห้องก็ต้อง
ตกใจ เมื่อยังเห็นร่างสูงของใครบางคนยังอยู่ในห้อง
“คุณ”
มือบางสองข้างยกขึ้นกอดอกไว้ทันที ไม่คิดว่าเขาจะยังอยู่ ก้มลงมอง
ตัวเองในเสื้อกล้ามตัวเล็กกับกางเกงขาสั้นกุดแล้วก็หน้าร้อนผ่าว ไม่ใช่ว่า
ไม่เคยใส่ชุดนี้ แต่ไม่เคยใส่เปิดเผยให้ใครเห็น พอสบสายตาของเขาที่มอง
เขม็งมาตอนนี้ทำให้เนื้อตัวของหล่อนร้อนวูบวาบ จนต้องวิ่งกลับเข้าไปใน
ห้องนํ้า ได้ยินเสียงหัวเราะหึ ๆ ชอบใจตามมา นึกอยากจะว่าเขา แต่ก็คง
ไม่มปี ระโยชน์อะไร คว้าเสื้อคลุมที่แขวนอยูห่ น้าประตูห้องนํ้ามาใส่เดิน
กลับออกไปอีกครั้ง
“ฉันนึกว่าคุณกลับไปแล้วเสียอีก” อ้อมแอ้มหน้าแดงบอกออกไป
คนที่ยังนั่งอยู่บนเตียงเปิดยิ้มก่อนตอบว่า
“ผมยังไม่อยากไป ขออยู่คุยก่อนได้ไหม ไหน ๆ ตอนนี้หนูมนุ ก็ตา
สว่างแล้ว คุยได้ไหมครับ”
“คุยเรื่องอะไรคะ”
“หนูมุนไม่อยากรู้เรื่องของผมบ้างหรือ เรามาทำความรู้จักกันดีกว่า
นะ ผมจะให้หนูมนุ ถามทุกอย่างในสิ่งที่หนูมุนอยากรู้ และผมก็จะถามหนู
มุนบ้างดีไหม” เมื่อเขาเสนอในสิ่งที่หล่อนก็อยากรู้ ละมุนมาศคิดว่าก็น่าจะ
ดี เพราะว่าหล่อนยังรู้จักเขาน้อยเหลือเกิน
401/559
“ผมยังไม่เคยแต่งงาน” เขาตอบทันที
“อ้าว แล้ว...คารีนา”
“นึกว่าจะไม่ถาม ผมอยากให้คุณถาม ผมจะได้ตอบ” คนตัวโตดึง
ตัวเองลุกขึ้นนั่ง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาบนโซฟาหันหน้าเข้าหาคนตัวบางที่มอง
มาอย่างไม่เข้าใจ
“คารีนาก็ลูกสาวผม” คิ้วเข้มของคนฟังขมวดเข้าหากันอย่างรวดเร็ว
จนคนพูดต้องยื่นมือยกนิ้วขึ้นเกลี่ยให้คลายออกจากกัน
“ผมได้คารีนามาเมื่ออายุแปดเดือน เมื่อตอนที่ผมตามมัมกับแดด
และ คุณยายไปเยี่ยมศูนย์เด็กเล็กในศูนย์ผู้อพยพจากเฮอริเคนแคทรีนา
เด็กน้อยน่ารักวัยแปดเดือนคลานมาหาเกาะขาผม ผู้ดูแลบอกว่า หน่วย
กู้ภัยไปเจอเด็กน้อยได้รับบาดเจ็บนั่งร้องไห้อยู่ใกล้กับร่างของบิดามารดา
ในซากปรักหักพังของบ้าน แต่ได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก หัวใจผมกระตุก
เลยทีเดียวทีไ่ ด้รับรู้เรื่องราว รอยยิ้มของเด็กหญิงตัวน้อยทีเ่ กาะขาผม ทำ
ให้ผมหลงรักทันที”
“โถ น่าสงสาร” คนฟังอดทีจ่ ะนํ้าตาคลอไม่ได้ เรื่องราวของหล่อนกับ
คนตัวเล็กว่าน่าสงสารแล้ว เด็กหญิงตัวน้อยยิ่งน่าสงสารมากกว่านัก
“ถ้าสงสารก็ช่วยดูแลแกด้วยสิ”
“คุณก็ดูแลอยู่แล้วไงคะ พ่อกับแม่ของคุณและก็คุณยายด้วย”
404/559
“มันเหมือนกันที่ไหนล่ะ คุณก็รู้ว่าลูกผมต้องการมามี้มากที่สุด
ตอนนี้” เมื่อได้ฟังอย่างนั้นละมุนมาศก็หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด ไม่คิดว่า
เขาจะเอาลูกสาวมาอ้างอย่างนี้
“ว่าแต่คุณไม่อยากรู้เรื่องของฉันบ้างหรือคะ” รีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่
เรื่องของเขาจะพัวพันหล่อนให้เขินอายและหาคำตอบไม่ได้ไปมากกว่านี้
“อะ ฟังเรื่องของคุณบ้างก็ได้” ไม่พูดเปล่ามือหนานุ่มของเขาเอื้อมไป
จับมือบางคนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ มาจับ ลูบไล้เล่นแผ่วเบา ความรู้สึกวาบหวาม
ทำให้คนที่ตั้งใจจะพูดถึงกับพูดไม่ออก
“คุณปล่อยมือฉันก่อนสิคะ ฉัน...เอ่อ พูดไม่ถนัด”
“มันเกี่ยวอะไรกันหรือ”
“ก็...คุณทำให้ฉันไม่มสี มาธิ คิดอะไรไม่ออก” คนได้รับรู้เหตุผลถึง
กับยิ้มกว้าง
“แสดงว่าผมก็มอี ิทธิพลกับคุณพอสมควรสินะหนูมนุ ” พูดจบก็ยื่น
หน้าเข้าไปแตะริมฝีปากบางอย่างรวดเร็ว แล้วก็ล้มตัวลงนอนบนตักนุ่ม
ทันที
“อุ๊ย คุณนี่”
“อย่าผลักไสผมนะ เอาละ เล่าเรื่องของคุณได้แล้ว ก่อนที่จะผมจะ
ทำอย่างอื่นแทนการนอนฟังคุณพูด”
405/559
ละมุนมาศได้แต่หน้าแดง ค้อนให้คนที่นอนหนุนตักอย่างไม่รู้ว่าจะทำ
อย่างไร
“คุณอยากรู้อะไรบ้างล่ะคะ”
“เรื่องของคุณทุกอย่างตั้งแต่เกิดเลย”
ละมุนมาศเล่าเรื่องของตัวเองตั้งแต่จำความได้ จนเรียนจบการศึกษา
ระดับปริญญาตรีให้เขาฟัง แต่ยังไม่ทันเล่าเรื่องของฟีนิกซ์ให้ฟัง เขาก็ถาม
ขึ้นเสียก่อน
“แล้วแต่งงานตอนไหน”
คำถามเดียวกันกับที่หล่อนถามเขา ทำให้คนถูกถามได้แต่ส่ายหน้า
น้อย ๆ
“ฉันยังไม่เคยแต่งงาน”
คำตอบเดียวกันกับที่เขาเคยตอบหล่อน คนได้รับคำตอบหัวเราะ
เสียงดังก้องทีเดียวที่ถูกเอาคืน และละมุนมาศก็เล่าเรื่องของฟีนิกซ์ให้เขา
ฟังพร้อมถามเขาว่า
“คุณไม่เคยรู้เรื่องของฉันจากคุณยายของคุณหรือ”
“ก็พอรู้บ้าง ไม่มากนัก แต่ผมอยากฟังจากปากของหนูมุนมากกว่า”
เมื่อได้ฟังดังนั้น ละมุนมาศก็เล่าเรื่องของฟีนิกซ์ให้เขาฟัง พอฟังจบ
คนที่นอนหนุนตักก็บอกว่า
406/559
ดึกดื่นค่อนคืนแต่ร่างสูงในสระว่ายนํ้าในร่มที่อยู่ด้านข้างของบ้านก็ยัง
ว่ายกลับไปกลับมา หัวสมองของเขาคิดถึงแต่ริมฝีปากหวานที่ได้ดูดดื่มลิ้ม
รสกับร่างเล็กบางที่ซ่อนความเต่งตึงเอาไว้ การทีไ่ ด้แตะต้องใกล้ชิด นอน
หนุนตัก สูดดมความหอมของ กลิ่นนํ้าหอมอ่อน ๆ ผสมกับกลิ่นกายสาว
สะอาดสะอ้านที่ระเหยออกมาจากร่างบางนั้น ทำเอาความต้องการใน
ร่างกายของเขาที่ไม่ได้ปลดปล่อยมาเป็นเวลานาน พุ่งสูงจนเขาต้องรีบออก
มาจากห้องนั้น ก่อนที่จะผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณยาย และก็บังคับเอา
กับเจ้าของร่าง
คารีโนเชื่อว่าเขาสามารถที่จะทำให้คนปากแข็งยินยอมที่จะมีอะไรกับ
เขาได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องบังคับ ยิ่งไม่ประสีประสาอย่างนั้นด้วยไม่ยากเลย
ทีเ่ ขาจะนำพา แค่เขารุกหนัก ๆ อีกคนก็ตัวอ่อนระทวยไร้แรงต้านทาน แต่
เขาก็อยากให้เวลาหล่อนบ้าง
411/559
เซ็กซ์ที่เกิดจากความรักจะเติมเต็มในทุกหยาดอารมณ์และก็สุขสม
ด้วยกันทั้งสองฝ่าย เขาอยากให้หล่อนพร้อมและมีความสุขด้วยกันทุก
วินาที
ที่ริมสระลูกน้องคนสนิททั้งสองนั่งมองเจ้านายว่ายนํ้ากลับไปกลับมา
ราวกับนักกีฬาโอลิมปิกกำลังฝึกซ้อมก่อนการแข่งขันแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า
“นายคิดว่าเจ้านายเป็นอะไรวะ” เฟยถามขึ้น
“ไม่รสู้ ิ อาจจะโกรธมิสละมุนมาศหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะว่าออกมา
จากห้องนั้น เจ้านายก็กลับห้องหน้าเครียดทีเดียว ถึงห้องก็ไม่พูดไม่จา
เปลี่ยนเสื้อผ้าคว้ากางเกงว่ายนํ้ามาใส่แล้วก็กระโจนลงสระทันที”
“เจ้านายแพ้ก็ตอนนี้แหละ ฉันว่า”
“เออ นั่นสิ”
เมื่อขึ้นจากนํ้า คารีโนก็พบว่าลูกน้องทั้งสองก็เตรียมผ้าเช็ดตัว ผ้า
เช็ดผม และชุดคลุมเอาไว้รอแล้ว
“เจ้านายจะไปไหนหรือเปล่าครับ ผมจะได้เตรียมรถ”
“ไม่ไป พวกนายไปนอนได้แล้ว พรุ่งนีต้ อนกลับ เบียน นายขับรถ
ละมุนมาศกลับนะ”
“ครับเจ้านาย”
412/559
สองสาวตัวน้อยของเขาพร้อมเสียงจุ๊บกลับดังจ๊วบ ละมุนมาศใจเต้นระรัว
เมื่อเขาไล่จูบมาเรื่อย ๆ จนมาถึงหล่อน และก็ถอนใจอย่างโล่งอกเมื่อร่าง
สูงเดินผ่านหล่อนไปหย่อนตัวนั่งลงเก้าอี้ ข้าง ๆ นึกดีใจที่เขาไม่ได้จูบ
ทักทายหล่อนต่อหน้าครอบครัวของเขา
แต่ละมุนมาศก็รู้ว่าตัวเองคิดผิด เมื่อเขายื่นหน้ามาจูบที่แก้มหล่อน
แรง ๆ
“กู๊ดมอร์นิงหนูมุน” คนถูกจูบแต่เช้าทำหน้าไม่ถูก จูบเสร็จเขาหันไป
ขอบคุณวันที่กำลังเสิร์ฟกาแฟและอาหารเช้าให้ ในขณะที่เด็กหญิงคารีนา
พูดกับเพื่อนรักเสียงดังไม่น้อยว่า
“แดดดี้จูบมามี้อีกแล้วฟี”
ผู้ใหญ่ได้แต่แอบยิ้ม แดดดีย้ ิ้มกว้าง ในขณะทีม่ ามีห้ น้าแดงแปร๊ด
ก้มหน้าก้มตากับอาหารตรงหน้า คนยิ้มกว้างได้แต่เอ็นดู มองไปทาง
ลูกสาวแล้วก็แกล้งพูดขึ้นมาว่า
“เมื่อเช้านี้แดดดี้ฝันแปลก ๆ”
“ฝันว่าอะไรคะแดดดี้” ลูกสาวตัวน้อยถามขึ้นทันที
“ฝันเห็นเด็กหญิงสองคนในห้องแดดดี้ ไม่รู้ว่าแฝดหรือเปล่า รู้แต่ว่า
เป็น เด็กผู้หญิงสองคน” เด็กหญิงตัวน้อยสองคนหัวเราะกันคิกคักทีเดียว
ยื่นหน้าเข้ามาซุบซิบกัน แล้วเด็กหญิงคารีนาก็บอกว่า
415/559
“สัตว์เลี้ยงพวกนี้เราไม่ได้เลี้ยงไว้ขายหรอก เลี้ยงเอาไว้ดูเล่น
เป็นเพื่อนแก้เหงา เอาไว้ให้เด็ก ๆ ได้มาดูกันตอนเปิดฟาร์ม” คุณยาย
กลีบบัวบอกเรื่องราวของสัตว์เลี้ยง
“สัตว์พวกนี้มีชื่อนะ”
“ใครเป็นคนตั้งชื่อหรือคะคุณยาย”
“คารีนาไง เจอตัวไหนก็ตั้งชื่อหมด แต่ยายไม่รู้หรอกนะว่าเขาจำได้
จริง ๆ หรือเปล่าว่าตัวไหนชื่ออะไร จำได้ตัวเดียว เพิ่งจะคลอดเป็นลูกม้า
คารีนาตั้งชื่อให้ว่าสปริง มันเพิ่งจะเกิดตอนสปริงที่ผ่านมานี้เอง” คุณยาย
กลีบบัวหัวเราะ ละมุนมาศก็เลยหัวเราะตาม
“หนูมุนไม่โกรธยายใช่ไหมจ๊ะ” จู่ ๆ คุณยายกลีบบัวก็เปลี่ยนเรื่อง
นํ้าเสียงกังวลเล็กน้อย ทำให้ละมุนมาศโอบแขนรอบเอวบางของคุณยาย
เอาไว้
“มุนไม่เคยโกรธคุณยายค่ะ ไม่รู้ว่าจะโกรธเรื่องอะไร คุณยายอย่า
คิดมาก นะคะ”
“แล้วตกใจไหม” คุณยายกลีบบัวถามยิ้ม ๆ
“มุนยอมรับว่าตกใจค่ะ ตอนแรกที่เห็นท่านไนฮัวกับป้าลิซอยู่กับคุณ
ยาย ตกใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเห็นคุณตรัง และคารีนาเรียกคุณตรังว่าแดดดี้
อีก”
“เข้าใจกันแล้วใช่ไหม”
418/559
“ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณยายดีกว่า เชิญคุณตามสบายเถอะค่ะ”
“โห เป็นทางการเสียจริง ก็ได้ ฝากแฟนผมด้วยนะครับคุณยาย”
“จ้า” คุณยายได้แต่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ แอบมองหน้าแฟนหลานชายก็
เห็นแต่แก้มแดง ๆ
“หนูมุนจะกลับวันนี้เลยหรือจ๊ะ”
“ค่ะคุณยาย บ่าย ๆ กลับ ตั้งใจว่าให้ถึงบ้านก่อนคํ่า”
“ดีจ้ะ เมื่อไรว่างก็มาอีกนะ ที่นี่ยินดีต้อนรับหนูเสมอ หลานชายยาย
ก็น่าจะคิดเหมือนกัน”
“ขอบคุณค่ะคุณยาย”
“ยายก็ขอบคุณเช่นกันที่หนูมนุ มาร่วมงานวันเกิดของยาย แถมยังทำ
เค้กมาให้อีกด้วย แล้วยังมีของขวัญอีก”
“ด้วยความยินดีค่ะคุณยาย จริง ๆ แล้วทำเค้กเป็นไอเดียของฟีเขา
ค่ะ”
“น่ารักจริง ๆ หนูมุนเลี้ยงน้องได้ดีมาก หนูฟนี ่ารักและเป็นเด็กดี
มากทีเดียว”
ละมุนมาศได้แต่ยิ้มรับคำชมนั้น เสียงหัวเราะวี้ดว้ายโหวกเหวกของ
เด็ก ๆ ที่อยู่ใน เล้าหมู ทำให้ละมุนมาศแอบยิ้ม เมื่อมองเห็นภาพของ
คนในหัวใจในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อยืดราคาแพง กับรองเท้าบูทกันนํ้าหุ้ม
420/559
“เราแวะกินไอศกรีมได้ไหมคะแดดดี้”
“ได้ค่ะ”
“เย้/เย้ ดีใจจังเลย” สองเสียงประสานกัน และเด็ก ๆ หันไปเล่น
ตุ๊กตา เล่นเกม และคุยกันต่อ
มือหนานุ่มจากคนขับรถเอื้อมมาจับมือบางที่เจ้าของวางไว้บนตัก
ลูบไล้ เบา ๆ ละมุนมาศหันไปมอง สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือรอยยิ้มอบอุ่น
ดวงตาอ่อนโยนเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น เพราะว่าเจ้าตัวหันกลับไปมอง
ถนนต่อ
“กลับไปนี่ผมต้องลุยงานต่อ ช่วงนีเ้ ราต้องส่งของให้กับลูกค้าให้ทัน
ตามกำหนด อาจจะไม่ค่อยมีเวลาได้เจอคุณมากนัก คุณไม่ว่าอะไรใช่ไหม
หนูมุน”
“ไม่ค่ะ”
“แต่ผมสัญญา เมื่อไรที่ว่างจะแวะไปหาหนูมนุ ทันที โดยเฉพาะวัน
อาทิตย์ที่หนูมุนไม่ต้องทำงาน”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณทำงานไปเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน”
“เรียกว่าผมตรังสิ ผมอยากให้หนูมุนเรียกเหมือนกับที่คุณยายเรียก
ผม นะครับ พลีส” ไม่ใช่พลีสอย่างเดียว ใบหน้าที่มตี อหนวดเขียว ๆ กับ
สายตาคู่คมนั้นก็ส่งประกายอ้อนวอนร้องขอ จนในที่สุดละมุนมาศก็ตอบ
ว่า
422/559
“ได้ค่ะ เอ่อ...ตรัง”
“ขอบคุณมาก รู้ไหมว่ามันอบอุ่นแค่ไหนเวลาที่ได้ยินหนูมุนเรียกผม
ว่าตรัง”
ละมุนมาศยิ้มเล็กน้อยส่งให้เขาด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
ไม่ใช่ว่าเขารู้สึกอบอุ่นคนเดียว หล่อนก็รู้สึกด้วยเช่นกัน ทั้งอบอุ่น
ทั้งรู้สึกใกล้ชิด
ละมุนมาศได้โอกาสพิจารณาคนทีก่ ำลังขับรถอย่างตั้งใจ ภายในรถ
ไม่มเี สียงพูดคุย นอกจากเสียงเพลงที่เจ้าของรถเปิดทิ้งไว้เบา ๆ ไม่เคย
เลยสักครั้งที่หล่อนจะมีโอกาสได้สำรวจเขาในระยะที่ใกล้ชิดขนาดนี้
ถึงแม้ว่าจะโดนเขาจู่โจมถึงเนื้อถึงตัวและจูบมาแล้วหลายครั้ง
ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความเป็นลูกผสม ผิวที่ขาวจนออกชมพู และ
ความคมเข้มของหน้าตาทีผ่ สมผสานกันได้อย่างลงตัว ผมสีดำเหลือบ ๆ สี
นํ้าตาลที่เจ้าตัวตัดสั้นได้รูปทรงแลดูเนี้ยบสะอาดสะอ้าน คิ้วหนาเป็นปื้น
ขนตาที่ยาวเป็นแพ จมูกทีโ่ ด่งเป็นสันสวยรับกับใบหน้าเรียว และริมฝีปาก
หยักได้รูป เคราเขียว ๆ นั่นก็ยิ่งทำให้ใบหน้า คมเข้มชวนมองมากยิ่งขึ้น
ไปอีก
ก็หน้าตาดีอย่างนี้นี่เอง จะไม่ให้สาว ๆ ที่เวียดเฮาส์กรี๊ดกร๊าดทุกครั้ง
ทีไ่ ด้เห็นได้อย่างไรกัน หล่อนควรจะภูมิใจหรือเปล่านะ ทีม่ ีแฟนหล่อขนาด
นี้ แฟนอย่างนั้นหรือ นี่หล่อนมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วอย่างนั้นใช่ไหม
423/559
คิดแล้วใบหน้าก็ร้อนวูบวาบอยู่คนเดียว เมื่อกลับมาถึง
คอนโดมิเนียมก่อนตะวันจะตกดินเล็กน้อย
“ฟี ฟี ตื่นได้แล้ว ถึงบ้านแล้วนะคะ” ละมุนมาศเรียกพร้อมเขย่า
แขนคนตัวเล็ก แต่เด็กหญิงตัวน้อยก็ไม่ขยับเขยื้อน แถมมือของเด็กทั้ง
สองยังจับกันเอาไว้แน่น คารีโนเห็นแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
“หนูมุนที่รัก” เสียงกระซิบเรียกข้าง ๆ หูทำให้ละมุนมาศตกใจ
เล็กน้อย
“ใครไม่ตื่นคงต้องอดพิซซ่าแล้วมั้งเย็นนี้ ผมว่าจะสั่งพิซซ่าอร่อย ๆ
มากินตอนเย็นสักหน่อย คงไม่ได้กินแล้วละ” คารีโนหันมาคุยพร้อมหลิ่ว
ตาให้
“เอาไว้กินวันหลังนะหนูมุน เด็ก ๆ ไม่ยอมตื่น” ไม่ทันได้หันกลับ
เสียงเรียกเล็ก ๆ ก็ดังขึ้นอย่างงัวเงีย
“แดดดี้ พิซซ่าหรือคะ”
ละมุนมาศแอบยิ้มกับวิธีการของเขา
“อ้าว ตื่นแล้วหรือคะคารีนา ฟี ขึ้นห้องกันเถอะ”
“เราจะทานพิซซ่ากันหรือคะแดดดี้” คารีนาถามบิดาเพื่อความแน่ใจ
ซึ่งก็ได้รับการตอบรับด้วยการพยักหน้า ก่อนที่จะสั่งให้ลูกน้องไปหาซื้อพิซ
ซ่า
424/559
“ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นลูกสาวของมิสเตอร์เวียนบินต์กับมิสซิสซูซาน
เจ้านายเจอตอนไปงานวันเกิดมิสซิสซูซานแทนท่านไนฮัวกับมาดามครั้งโน้น
ไง”
เท่านั้นเองคนฟังก็ถึงบางอ้อ นึกในใจว่า
ลูกสาวมิสเตอร์เวียนบินต์ต้องมาติดใจเจ้านายของเขาเป็นแน่
“ใครสวยกว่าใครวะ”
“ใครน่ะใคร”
“มิสละมุนมาสกับคนนี้ไง”
“ฉันว่ามิสละมุนมาศสวยกว่า น่ารัก หวานแบบไทย ๆ และก็น่าจะ
ถูกใจ เจ้านาย ถึงได้ตามติดอย่างนั้น คนนี้คงไม่มีอะไร ฉันไม่เคยได้ยิน
เจ้านายพูดถึงด้วยซํ้าไป เชื่อฉันสิ ไม่ถึงสิบนาทีเจ้านายก็จะออกมา”
เฟยเชื่อคำพูดของเพื่อนสนิท เจ้านายของเขาไม่เคยวิ่งหนีสาว ๆ อยู่
แล้ว ผู้หญิงทุกคนเจ้านายพูดคุยอย่างสุภาพ แต่ไม่เคยให้ความหวังใคร
แม้แต่กับคู่ควงหรือคนที่มสี ัมพันธ์ด้วย และที่เขาเห็นเจ้านายวิ่งตามก็มมี ิ
สละมุนมาศคนเดียวเท่านั้น
ทั้ง ๆ ทีล่ ูกหนึ่งเจ้านายเขาก็ยังวิ่งตาม ไม่อยากจะเชื่อ เขาว่าแม่ม่าย
เสน่ห์แรงเป็นอย่างนี้นี่เอง
ร่างสูงภูมิฐานหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ พร้อมกับทักทายสาวสวย
ที่นั่งหันหลังให้ตรงหน้าบาร์เครื่องดื่ม
428/559
“ฉันอยากพิสูจน์ว่าสิ่งที่แอนนาพูดนั้นว่าจริงไหมต่างหากล่ะ” สาว
สวยเชื้อสายอังกฤษพูดพร้อมชะม้ายชายตา
“คุณคงจะผิดหวัง” คารีโนตอบพร้อมรอยยิ้มกว้างเปิดเผย
“โอ้ ไม่เลย ทุกอย่างเป็นอย่างที่แอนนาพูดไว้ คุณดูดมี าก แต่ฉันว่า
คุณเซ็กซี่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบผู้ชายมา”
“โห ขนาดนั้นเลยหรือครับ ไม่หรอกครับ ผมก็คนธรรมดาแค่นั้น
เอง”
“ทานอาหารด้วยกันไหมคะคารีโน” แอนนาถามแทรกขึ้น
“ผมเรียบร้อยมาแล้วครับ เชิญแอนนากับโทมิตามสบายดีกว่า
เอาเป็นว่าทานอาหารกันตามสบาย วันนีผ้ มขอต้อนรับแอนนาและเพื่อนก็
แล้วกันนะครับ อยากดื่มอะไรบอกคนของผมได้เลย ขอบคุณแอนนาที่
แวะมาทักทาย คุณด้วยโทมิ ผมต้องขอตัวไปทำงานก่อนและก็ต้องรีบกลับ
บ้าน เพราะว่าลูกสาวกับแม่ของลูกรออยูค่ รับ” บอกเสร็จคารีโนก็ผละจาก
สองสาวเดินออกไปจากห้อง โดยไม่สนใจอาการตกตะลึงของคนที่อยู่
ข้างหลัง
“ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า” โทมิถามเพื่อนสาวด้วยใบหน้าเหลอหลา
“ฉันก็ได้ยินเหมือนที่ยูได้ยิน”
“ว่าแต่เขามีครอบครัวแล้วหรือ”
“ไม่รู้สิ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย”
430/559
“ทางนั้นติดต่อมาให้แดดกับลูกเข้าหุ้นด้วย”
“แล้วแดดคิดว่าไงครับ”
“ยังไม่ได้คิดอะไร”
“ผมแล้วแต่แดดครับ”
“แดดอยากเกษียณมากกว่า แค่ที่เรามีตอนนี้กเ็ พียงพอแล้วมั้ง
ศูนย์การค้าใหม่ ๆ เกิดขึ้นทั่วทุกมุมถนนเลยก็ว่าได้ มากมายที่ไม่มคี นเช่า
ห้องก็ว่าง ที่มีคนเช่าก็ทำธุรกิจได้ไม่ดีกต็ ้องปิดตัวลง คนเช่าก็หมดตัว คน
ให้เช่าก็ขาดทุน แต่ตลาดของเราทำมากว่าสามสิบปีแล้ว แทบจะไม่มที ี่ว่าง
ให้คนใหม่ ๆ เข้ามาเลยก็ว่าได้ ที่มีอยู่ตอนนี้ก็เก็บกินแทบไม่หมด”
“ลูกคนเดียวบริหารงานทุกอย่างก็แทบจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองอยู่
แล้ว ถ้ามีเพิ่มขึ้นมาอีก คงจะเหนื่อยน่าดู ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ดูแลเอง
ทั้งหมดก็เถอะ แต่มันก็ต้องเบียดเวลาไปบ้าง จนหาความสุขไม่ได้เป็นแน่
ไหนลูกจะต้องเลี้ยงคารีนาด้วย อีกอย่างเห็นมัมเปรย ๆ ว่าเก็บเวลาไว้
ท่องเที่ยวดีกว่า เผื่อสักวันมีหลานให้เลี้ยงจะหนีเที่ยวไม่ได้ เพราะว่าติด
หลาน”
คารีโนยิ้มอ่อนโยนให้กับความคิดของมารดา เพราะตอนที่เขามีคารี
นาเข้ามาในชีวิต มารดาก็เห่อหลานสาวตัวน้อยน่ารัก จนเขาแทบจะยก
ลูกสาวให้มารดาไปเลี้ยงแทน ถ้ามีหลานของตัวเองจริงจะหลงแค่ไหนก็ไม่รู้
432/559
“อีกอย่างถ้าเขาอยากร่วมแค่ทุนมันก็คงโอ.เค. แต่ถ้ามันมากกว่านั้นก็
ไม่รู้เหมือนกัน”
“หมายความว่าอย่างไรครับแดด”
“เขาคงอยากเกี่ยวดองกับเราด้วยมั้ง”
“ความคิดใครหรือครับเนี่ย” คารีโนถามกลับบิดายิ้ม ๆ
“ไม่ใช่ของแดดกับมัมหรอก เราไม่มีนโยบายอย่างนี้ในสมอง”
“ขอบคุณครับแดด ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเขาดีกว่า เราก็อยู่
ของเราได้”
“แดดก็ว่าอย่างนั้น”
ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มน้อย ๆ กับสิ่งที่ได้รับรู้ ทำให้เขายิ่งรักบิดา
มารดามากมาย ที่ไหน ๆ ในโลกต้องมีเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น เกี่ยวดองกันทาง
ด้านธุรกิจ โดยการให้ลูกหลานของคนในตระกูลแต่งงานกันเพื่อความ
เป็นปึกแผ่นที่มั่นคง โดยไม่สนใจในเรื่องของหัวใจหรือว่าความรักเป็น
พื้นฐาน
โชคดีที่บิดาของเขาใช้สมองทำธุรกิจและให้หัวใจนำทางชีวิต ชีวิตก็
เลยมี ความสุข และเขาก็จะทำเช่นเดียวกัน
ระหว่างทางขับรถกลับบ้านเสียงโทรศัพท์มือถือของเบียนก็ดังขึ้น พอ
เขารับสายก็รายงานเจ้านาย
433/559
“มิสเลอาครับนาย” คารีโนยื่นมือไปรับโทรศัพท์จากลูกน้อง
“ไฮ เลอา”
“ที่รัก” เสียงเซ็กซี่ที่ดังกลับมา ไม่ได้ทำให้คารีโนรู้สึกตื่นเต้นอะไรอีก
เลย จนเขานึกแปลกใจตัวเอง แถมเสียงที่ได้ยินทำให้สมองของเขาตวัดไป
ยังอีกคน
ถ้าหล่อนเรียกเขาว่าที่รักด้วยเสียงเซ็กซี่อย่างนี้บ้าง มันจะให้
ความรู้สึกอย่างไรนะ
“คารีโน” อีกครั้งที่ปลายสายเรียก ทำให้คารีโนดึงตัวเองออกมาจาก
ความคิด
“ขอโทษเลอา ผมคิดอะไรนิดหน่อย”
“งานยุ่งหรือคะ”
“ครับ ว่าแต่คุณเป็นอย่างไรบ้าง ผมต้องขอโทษด้วยทีผ่ มไม่ค่อยมี
เวลาว่าง เลยไม่ได้ติดต่อหรือไปเจอคุณ ผมต้องเข้าไปคุมทีโ่ รงงานทุกวัน
คุณใกล้จะปิดเทอมแล้วใช่ไหม”
“ฉันรู้ค่ะ อีกอาทิตย์เดียวก็ปิดเทอมแล้ว ฉันก็ต้องกลับบ้าน คุณ
ต้องลืมฉันแน่ ๆ เลย และก็ไม่แน่ว่าฉันจะได้กลับมาอีกหรือเปล่า”
“ทำไมหรือ”
434/559
“พ่อกับแม่ของฉันอยากให้เรียนที่มหาวิทยาลัยใกล้บ้านค่ะ คุณจะว่า
อย่างไรคะคารีโน”
“ผมจะว่าอะไรได้ล่ะ”
“ฉันคงคิดถึงคุณมาก”
“อย่าคิดมาก คุณยังเด็ก ทำในสิ่งที่พ่อแม่บอกนั่นแหละดีที่สุดแล้ว”
“ดูคุณไม่แคร์ฉันเลยนะคะ” ปลายสายต่อว่ากลับมา
“คุณเป็นเพื่อนที่น่ารักเลอา”
“ฉันเป็นได้แค่เพื่อนของคุณเท่านั้นหรือคะ เป็นมากกว่าเพื่อนได้ไหม
หรือว่าตอนนี้คุณมีใครใหม่แล้ว”
“ผมจะบอกคุณ ถ้ามีใครใหม่”
“หวังว่าฉันคงจะไม่ได้รับข่าวร้ายในเร็ววันนีน้ ะคะ ฉันว่าคุณเปลี่ยน
ไปมากทีเดียว ตั้งแต่คืนนั้นคุณก็ไม่เคยไปหาฉันอีกเลย ไม่เคยโทร. หา
ด้วย” สาวสวยตั้ง ข้อสังเกต แต่นํ้าเสียงไม่ได้เศร้าเลยสักนิด
“คุณก็รู้ว่างานผมยุ่งมาก อย่าคิดอะไรมากเลย”
“ฉันไม่คิดอะไรมากหรอกค่ะ แต่ไม่รวู้ ่าคุณจะคิดหรือเปล่า ถ้าฉันจะ
บอกว่า ฉันมีแฟนแล้ว และเราก็หมั้นกันแล้วค่ะ”
“อะไรนะ” ถามกลับเสียงดัง
435/559
“อันนี้นายต้องไปถามมามี้ของคุณหนูแล้วครับ”
คำตอบที่ได้รับทำให้คนเป็นเจ้านายหัวเราะจับใจเสียงดังก้องรถ
ทีเดียว
ถึงเวลาที่เขาจะต้องเริ่มต้นรุกอีกคนอย่างจริงจังเสียแล้ว
เขาเคยได้ยินเรื่องราววิถีชีวิตของคนไทย เกี่ยวกับครอบครัวคนไทย
ในสมัยคุณยายยังเด็กว่าเป็นอย่างไร การใช้ชีวิตของหนุ่มสาวก่อนแต่งงาน
สมัยคุณยายเป็นอย่างไร แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว เขาไม่คิดว่าคนสมัยใหม่
อย่างละมุนมาศจะเป็น อย่างนั้น โดยเฉพาะคนที่เติบโตในดินแดนที่มี
อิสระเสรีแห่งนี้ เขาคิดว่า
มันออกจะแปลกหรือไม่แปลกเขาก็ต้องลองดู
ในขณะที่ทำงานละมุนมาศก็อดที่จะคิดถึงผู้เป็นมารดาไปด้วยไม่ได้
ไม่รู้ป่านนี้มารดาจะเป็นอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ได้เงินไปครั้งนั้นก็ไม่แวะ
มาหาอีกเลย ก็ได้แต่หวังว่ามารดาจะเข้าใจหล่อนบ้าง หรือไม่มารดาก็คงจะ
โกรธจนตัดแม่ตัดลูกกับหล่อนไปแล้วก็ได้
สงสารแต่คนตัวเล็ก ครั้งแรกที่หล่อนถูกมารดาทิ้งก็ยังมีบิดาและยาย
คอยดูแล จะว่าไปแล้วคนตัวเล็กก็ไม่โชคร้ายเสียเลยทีเดียว เพราะยังมี
หล่อนหรือพี่สาวที่รักคนตัวเล็กไม่ต่างไปจากลูกคนหนึ่ง
437/559
ก็ได้แต่หวังว่าสักวันมารดาจะกลับตัวกลับใจ ถึงวันนั้นสามคนแม่ลูก
จะได้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวที่มคี วามสุข ไม่รู้ว่าหล่อนหวังมากเกินไป
หรือเปล่า
ซีกหนึ่งของหัวใจเป็นทุกข์กังวล แต่อีกซีกหนึ่งกลับมีความสุขอิ่มเอิบ
ตั้งแต่วันเกิดคุณยายเป็นต้นมา หลังจากที่ทำความเข้าใจกันแล้ว เขาก็โทร.
มาหา ไต่ถามทุกข์สุข ส่งความคิดถึงแทบจะทุกวันก็ว่าได้ แค่นั้นหัวใจก็
เป็นสุขแล้ว
บางครั้งละมุนมาศก็รู้สึกสับสน ไม่รวู้ ่าคนเป็นแฟนกันควรที่จะทำ
อย่างไร แสดงออกถึงความรักกันแค่ไหน หลายครั้งนึกเขินที่จะพูดอะไร
ออกไปตามที่หัวใจต้องการ
เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานของละมุนมาศดังขึ้นก่อนเวลาเที่ยงวัน
เล็กน้อย พอยกหูขึ้นรับ เสียงช้า ๆ เนิบนาบภาษาอังฤกษสำเนียงเม็กซิกัน
จากเจ้าหน้าที่สูงวัยหน้าด้านก็ดังขึ้น
“มิสละมุนมาศมีแขกมารอพบที่ด้านหน้า”
“ขอบคุณค่ะ”
ละมุนมาศปิดคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะลุกจากโต๊ะทำงาน เดินออกไป
ด้านหน้าคลินิก มองกวาดไปรอบ ๆ ก็ไม่พบว่ามีคนทีห่ ล่อนรู้จัก นอกจาก
คนไข้ของคลินิกเท่านั้น
438/559
“แขกรออยู่ข้างนอก” มิสซิสเดวิสเลื่อนกระจกกั้นยื่นหน้าบอกยิ้ม ๆ
พร้อมกับหลิ่วตาอย่างมีเลศนัยส่งให้
“ขอบคุณค่ะ”
ละมุนมาศรีบเปิดประตูก้าวออกไปข้างนอกด้านหน้าตึก ทันทีทเี่ ห็น
แผ่นหลังที่คุ้นเคย หัวใจก็เต้นแรงอย่างระงับไม่อยู่ ไม่เจอเขาสองอาทิตย์
กว่า ๆ เพราะว่าเขาเดินทางไปต่างรัฐ ต่างประเทศบ้าง แต่คำหวานที่ได้รับ
ก่อนนอนทุกครั้ง ทำให้ใบหน้าหวานร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด ตอนไม่เห็นหน้า
ก็อยากเห็นหน้า แต่พอเขามาหาอย่างนี้แล้วก็รู้สึกเขินจนไม่กล้าสู้หน้า ไม่
คิดว่าเขาจะมาหาถึงที่ทำงาน อยากจะหันหลังกลับเข้าไปข้างใน แต่กไ็ ม่ทัน
เพราะว่าอีกคนหันมาเห็นเสียก่อน
“ที่รัก” ภาษาไทยแปร่ง ๆ คำนั้นทำให้คนได้ยินหัวใจเต้นสั่นระรัว
เลือดในกายพุ่งฉีดไปที่ใบหน้าร้อนผ่าวทีเดียว ไม่คิดว่าเขาจะเรียกหล่อน
อย่างนี้ รู้สึกเขินจนทำอะไรไม่ถูก
“คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะตรัง” ที่รักที่ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อดวงตา
เก้อเขินเสมองไปทางอื่นไม่ยอมสบตา
“ห่างเหินจังเลย” ร่างสูงพูดพร้อมเดินเข้ามาชิด
“คิดถึงนะ” ก้มลงกระซิบ พร้อมกับมือหนายื่นคว้าแขนเรียวเล็กเอา
ไว้ ก่อนที่อีกคนจะเดินหนีเพราะความเขินอาย
439/559
“จะเดินไปเองหรือว่าจะให้ผมอุ้มก็ได้นะ” คำขู่ของคนตัวโตที่ละมุน
มาศรู้ว่า เขาจะทำอย่างที่พูดจริง
“ว่าไง...หือ ก็ดนี ะ ผมชอบอุ้ม” คำพูดกับดวงตากรุ้มกริ่มของเขาทำ
ให้ ละมุนมาศอดที่จะค้อนให้ไม่ได้ก่อนที่จะอธิบาย
“แต่ฉันต้องบอกคนข้างในก่อนค่ะ ไม่ใช่หายไปเฉย ๆ เดี๋ยวเขาก็คิด
ว่าฉันถูกลักพาตัวหรอก”
“ผมไม่ได้หน้าตาเหมือนโจรสักหน่อย เอาเป็นว่าผมเข้าไปด้วยก็แล้ว
กัน” แก้ตัวแล้วคนตัวสูงก็จับจูงมือบางเดินนำเข้าไปในคลินิก คนตัวบาง
พยายามดึงมือออก แต่เขาไม่สนใจ แค่หันมายิ้มให้ด้วยดวงตาสดใส
ไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นคนเอาแต่ใจขนาดนี้ ความจริงที่หล่อนรูม้ า
นานพอสมควร เขาเอาแต่ใจ...แต่หล่อนเขิน
“นี่ตรังปล่อยเถอะค่ะ ไม่ต้องจับมือก็ได้ ฉันไม่หนีไปไหนหรอก”
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวคุณหายเข้าไปแล้วไม่ออกมาอีก แล้วผมจะบุกเข้า
ไปตามคุณได้อย่างไรกัน งานนี้ได้โดนตำรวจจับแน่ ๆ” มือหนากลับ
กระชับมือบางแน่นยิ่งขึ้นไปอีก ใบหน้าคมก้มลงมาใกล้กระซิบบอกว่า
“และต่อไปเรียกตัวเองว่ามุนนะ ถ้าไม่เรียกต้องถูกลงโทษ และผมก็
ชอบลงโทษด้วย”
คำขูอ่ ่อนหวานนั้นทำให้อีกคนได้แต่ถอนหายใจเล็ก ๆ แต่ในใจ
อบอุ่นไม่น้อย หัวใจดวงเล็กสั่นไหวโอนเอนจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
442/559
ละมุนมาศได้แต่เดินตามแรงจูงด้วยใบหน้าแดงกํ่า ตั้งแต่เกิดมายัง
ไม่เคยถูกหนุ่ม ๆ จูงมือเดินมาก่อน รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก แถมยังกลัว
เพื่อนร่วมงานจะเห็นอีกด้วย แต่คนจูงกลับไม่สนใจ จํ้าอ้าวเข้าไปข้างใน
สำนักงานด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย ใบหน้ายิ้มแย้ม
เมื่อเข้าไปข้างใน มือใหญ่ก็ปล่อยมือบางให้คนหน้าแดงเข้าไปหยิบ
กระเป๋า คนรอก็ได้แต่หวังว่าอีกคนจะไม่เบี้ยวเขา และก็ไม่ถึงห้านาที ร่าง
บางในชุดเสื้อสูทกางเกงขายาวสีดำก็ออกมาจากในข้าง พร้อมกับกระเป๋า
สะพายใบโตใบเดิม รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่ออย่างไม่รู้ตัว
คารีโนรีบเดินไปรับพร้อมจูงมือให้เดินตามโดยไม่สนใจคนที่ขัดขืน
สักนิด พร้อมกับแอบหันกลับไปมองหน้าแดง ๆ นั้นแล้วก็รู้สึกดีอย่างบอก
ไม่ถูก พอมาถึงรถคันโตเขาก็เปิดประตูให้หล่อนนั่ง แถมยังช่วยดันหลังส่ง
ให้หล่อนขึ้นบนรถอีกด้วย
รถเตี้ย ๆ ไม่มีใช้หรือไงนะ ถึงได้ใช้รถคันโต จะขึ้นทีต้องปีน
ละมุนมาศแอบค่อนขอดอยู่ในใจ พอนั่งได้ถนัดก็ดึงเข็มขัดนิรภัยมา
รัด ตัวเองทันที คนทีม่ องอยู่ข้างหลังได้แต่ยิ้มกับท่าทางเอาตัวรอดของ
หล่อน แต่เขาก็ยังยื่นหน้าเข้าไปชิด ทำเอาอีกคนสะดุ้งเล็กน้อย
“อุ๊ย”
การกระทำของเขาทำเอาคนที่นั่งบนเบาะถึงกับตัวเกร็ง เบียดตัวเอง
จนแทบจะจมลงไปกับเบาะรถ หยุดหายใจไปชั่วขณะ ละมุนมาศไม่กล้าที่
443/559
จะหายใจ กลัวว่ากลิ่นกายของเขาจะทำให้ระบบหายใจของหล่อนติดขัด
ทำงานผิดปกติ นึกฉุนคนทำยิ่งนัก ได้แต่ทำหน้าบึ้ง ๆ ทั้ง ๆ ที่มัน
ร้อนผ่าวขนาดนั้น แต่อีกคนก็ไม่ได้ทำอะไร แค่ยิ้ม ปิดประตูให้แล้วเขาก็
อ้อมไปทางด้านคนขับ
“ฉันต้องกลับมาทำงานนะคะ ว่าแต่เราจะไปกินที่ไหนคะ” เสียงหวาน
พูดขึ้นทันทีที่อีกคนออกรถ
“ไม่ต้องห่วงหรอกที่รัก หนูมนุ มาทันเวลาทำงานก็แล้วกัน ผมจะไม่
ทำให้คุณเสียงาน รับรอง แต่ถ้าผมทำอย่างนั้น ผมจะรับผิดชอบเอง” เขา
บอกพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้คนมองหัวใจกระตุก
“ฮึ” เสียงเล็ก ๆ หลุดออกมาจากคนตัวบางที่ออกอาการเขินไม่หาย
ถึงแม้เจ้าตัวจะพยายามกลบเกลื่อนเอาไว้ แล้วใบหน้าหวานก็หันไปมองใน
ทิศทางตรงกันข้ามทันที คารีโนได้แต่อมยิ้ม รู้สึกมีความสุขเสียจริง
“คิดถึงคุณจังที่รัก” มือหนานุ่มเอื้อมมาจับมือบางที่วางอยู่บนกระเป๋า
ถือใบโตแล้วก็ยกขึ้นจูบเบา ๆ
“คิดถึงผมบ้างไหมหนูมนุ ” คนถูกถามไม่กล้าตอบออกมาเป็นคำพูด
นึกเขินเหลือเกิน ได้แต่พยักหน้าให้น้อย ๆ ใบหน้าหวานแดงซ่าน คนได้
รับคำตอบก็ยิ้มกว้างทีเดียว และก็หันหน้ากลับไปให้ความสนใจกับถนน
ต่อ ความเงียบเกิดขึ้นในรถชั่วขณะ ละมุนมาศแอบมองเขา หัวใจดวงน้อย
มีความสุขมากนัก
444/559
ละมุนมาศไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกับเถ้าแก่เจ้าของร้าน นอกจาก
เสียงหัวเราะแจ่มใสกับท่าทางเขินอาย โหนกแก้มซับสีระเรื่อในบางครั้งของ
เขา ไม่นานนักเจ้าของร้านก็ลาไปช่วยงานหลังเคาน์เตอร์
จากนั้นก็ถึงคิวของคารีโน เขาหันมาถามหล่อนแล้วก็สั่งให้ ไม่นาน
นักของที่สั่งก็ได้มาถุงใหญ่ทีเดียว พร้อมกับเครื่องดื่มเย็น ๆ สองแก้ว
แถมเจ้าของร้านจะไม่รับเงินอีกต่างหาก แต่เขาก็ยัดเยียดให้จนได้ เจ้าของ
ร้านขอบคุณแล้วขอบคุณอีกอย่างนอบน้อมแถมเลยมาทางละมุนมาศอีก
ด้วย ทำเอาก้มรับแทบไม่ทัน และเขาก็จูงหล่อนออกจากร้าน
“ไปหาที่นั่งใต้ต้นไม้เย็น ๆ กินกันดีกว่า อากาศกำลังดีไม่ร้อนเกิน
ไป”
“งั้นก็ไปทีห่ ลังคลินิกละกันค่ะ มีโต๊ะนั่งอยู่” พอหล่อนเสนอ เขาก็
เห็นด้วย
คารีโนขับรถกลับไปที่คลินิก พอมาถึงคลินิก ละมุนมาศก็พาเขาเดิน
อ้อมไปทางด้านหลังตึก ซึ่งที่นั่นมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่ง
“อะ นี่ของคุณ” เขาพูด พร้อมกับยื่นแซนด์วิชสลัดทะเลส่งให้
“ขอบคุณค่ะ”
“ถ้าไม่อิ่มมีอีกสองอันนะ รู้สึกว่าเขาจะแถมมาให้อีกสองอัน สงสัยจะ
ติดใจในความน่ารักของหนูมุน” คำพูดของเขาทำให้ละมุนมาศได้แต่ส่าย
หน้า
448/559
เขาก็ต้องทำใจเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนอย่างไร มือหนายก
แซนด์วิชในมือขึ้นกัดด้วยความรู้สึกเป็นสุข พริกฮาลาปิโนที่ซ่อนอยูข่ ้างใน
ทำให้แซนด์วิชมีรสชาติดีขึ้น อร่อยขึ้นกว่าปกติหลายเท่านัก โดยเฉพาะ
การได้นั่งทานกับคนตรงหน้านี้
ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาตามจีบผู้หญิงอย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่ในชีวิตของ
เขามี ผู้หญิงมาให้เลือกมากมาย และคนตรงหน้านีก้ ็แสนจะธรรมดาเมื่อ
เทียบกับผู้หญิงทั้งหลายที่เข้ามาในชีวิตของเขา แถมเจ้าหล่อนยังชอบที่จะ
วิ่งหนีเขาอีกต่างหาก
เขาไม่อยากจะเชื่อตัวเองแล้วก็อดที่จะยิ้มคนเดียวไม่ได้ เมื่อเห็นว่า
อีกคนกำลังจดจ่ออยู่กับแซนด์วิชในมืออย่างเอาจริงเอาจริง
“มิสละมุนมาศอยู่นี่เอง” เสียงทักดังขึ้นจากข้างหลัง ทำให้ละมุนมาศ
ต้องหันไปมอง ก็เห็นคุณหมอที่มาพร้อมกล่องอาหารในมือ
“คุณหมอราวินั่งด้วยกันไหมคะ” ละมุนมาศเชิญ ในขณะที่คนตัวโต
จากฝั่งตรงข้ามก็เคลื่อนตัวเองไปนั่งชิด
“อุ๊ย”
“ขอบคุณครับ”
คุณหมอราวินั่งลงฝั่งตรงข้าม และตามมาด้วยลินดาเพื่อนร่วมงาน
สาวที่หย่อนตัวลงนั่งข้างคุณหมอ
“นั่งด้วยคนนะคะ”
451/559
สาวสวยลินดานั่งลงข้างคุณหมอแล้วก็ต้องตาโต เมื่อเห็นว่ามีหนุ่ม
หล่อนั่งอยู่ข้างเพื่อนสาว คารีโนพยักหน้าทักทายพร้อมรอยยิ้ม
“คุณหมอราวิ ลินดา นี่ตรัง คารีโนค่ะ” พร้อมกับเสียงนุ่มทุ้มที่ตาม
มา ทำให้ละมุนมาศถึงกับยิ้มไม่ออก
“ผมเป็นแฟนกับละมุนมาศครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” คารีโนยื่นมือออกไป
ตรงหน้ากระชับมือกับสาวสวยและคุณหมอราวิ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ/ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ไม่เคยทราบนะคะว่ามุนมีแฟนหล่อขนาดนี้”
“ขอบคุณครับ” รับคำเสียงนุ่มทีเดียว ละมุนมาศแทบจะมุดหน้าลง
ใต้โต๊ะ รู้สึกได้ว่าหน้าร้อนผ่าว นึกอยากจะหักหน้าอีกฝ่าย แต่พอคิดไปคิด
มาแล้วอยู่เฉย ๆ น่าจะดีกว่า
“นี่มุน ยูไปร้านนั้นมาหรือ”
“อือ ไม่ได้ตั้งใจหรอก พอดีคุณคารีโนมารับไปน่ะ”
“เชิญทานแซนด์วิชด้วยกันสิครับ มีอีกสองอัน”
“งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะคะ แต่อันเดียวก็คงจะพอ ฉันจะแบ่งครึ่ง
กับ คุณหมอราวิ” ลินดารับแซนด์วิชจากคาริโนแล้วก็จัดการแบ่งครึ่งให้กับ
คุณหมอ
“ขอบคุณครับ”
452/559
“ข้างในมีพริกด้วยนะคะคุณหมอ” ละมุนมาศเตือน
“ขอบคุณครับที่เตือน”
จากนั้นคุณหมอราวิก็ก้มหน้าก้มตาทานแซนด์วิช ปล่อยให้สาวสวย
ลินดาเป็นฝ่ายซักไซร้หนุ่มหล่ออยู่คนเดียว ละมุนมาศก็ได้แต่สนใจ
แซนด์วิชในมือและเป็นผู้ฟัง พอทานเสร็จก็ดื่มน้ำแล้วหันไปทางคนที่นั่ง
ข้าง ๆ
“ลินดา คุณหมอราวิคะ ฉันคงต้องขอตัวไปทำงานก่อน หมดเวลา
พักแล้ว” และก็หันไปทางคนที่นั่งข้าง ๆ
“ขอบคุณสำหรับแซนด์วิชนะคะตรัง” คารีโนพยักหน้ารับ แต่ไม่ใช่
แค่พยักหน้าเท่านั้น เขายังโอบบ่าร่างบางดึงเข้าหาตัว แตะริมฝีปากกับแก้ม
เนียนนั้นรวดเร็ว
“แล้วเจอกันครับที่รัก”
ส่วนคนโดนจูบต่อหน้าเพื่อนร่วมงานก็หน้าแดงแปร๊ด นึกโกรธคนทำ
ขึ้นมาทันใด เขาทำให้หล่อนอายเพื่อนร่วมงาน ซึ่งความจริงแล้วละมุนมาศ
ก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่คนรักจะจูบลากัน
แต่หล่อนเขินและอายเพราะคนบ้านี่ คิดจะทำอะไรก็ทำ มันน่าโกรธ
นัก
ละมุนมาศมองหน้าคนบ้าทีท่ ำให้หัวใจของหล่อนหวั่นไหว เห็นแต่
รอยยิ้มมีความสุขนั้นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ แล้วหล่อนก็รีบเดินตัวปลิว
453/559
เข้าไปในที่ทำงานทันที โดยมีสายตาคมเข้มหลังแว่นกันแดดสีดำสนิทมอง
ตามอย่างเอ็นดู มือหนารวบถุงแซนด์วิชและจัดการกับขยะส่วนตัวบนโต๊ะ
ทั้งหมด แล้วก็ขอตัวจากเพื่อนร่วมโต๊ะกลับไปที่โรงงาน
“นี่ค่ะคุณหมอ ซาลาเปาอร่อย ๆ ค่ะ ลินดาทำเอง” ลินดาวาง
ซาลาเปาในจานคุณหมอราวิ
“แฟนของมุนหล่อจังเลยนะคะ น่ารักด้วย ฉันไม่เคยรู้เลยว่ามุนมี
แฟน น่าอิจฉาจังเลยนะคะ”
“เอ่อ ขอบคุณครับ” คุณหมอราวิรับปากแบบหงอย ๆ พร้อมกับเอ่ย
ขอตัวเมื่อจัดการกับแซนด์วิชและซาลาเปาเสร็จ
“ซาลาเปาอร่อยมาก ขอบคุณครับลินดา ผมคงต้องขอตัวไปทำงาน
ก่อน”
“เชิญตามสบายค่ะ”
ลินดามองตามหลังคุณหมอรูปหล่อแล้วก็ได้แต่บอกตัวเองว่า
คงจะแห้วอีกตามเคย คุณหมอไม่เห็นสนใจหล่อนเลย เฮ้อ อย่าให้
เกิดมาสวยบ้างก็แล้วไป จะหยิ่งให้ดู
คารีโนขับรถไปในใจก็นึกอยากจะจูบลาริมฝีปากอิ่ม ๆ นั่นแทนแก้ม
เนียนที่เขาขโมยจูบมา แต่พอคิดว่า
ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้จะนั่งงอนหน้านิ่งคิ้วขมวดอยู่คนเดียว
หรือเปล่า ที่โดนเขาจูบแก้มต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่
454/559
อยากจะทำอย่างนั้น เพราะว่าอีกคนขี้อายกับการแสดงออกทางความรัก
อย่างโจ่งแจ้ง แต่เห็นสายตาหมอหนุ่มนั่นแล้วก็แอบหมั่นไส้ หล่อนนั่งอยู่
กับเขา หมอนั่นยังขยันส่งสายตาหวานให้ตลอด เขาก็เลยแสดงความเป็น
เจ้าของเสียเลย จะได้รู้ว่าของใคร และเจ้าของหวง
นี่ถ้าเป็นหญิงสาวคนอื่นของเขา คงจะได้จูบหรือมากกว่าจูบเป็นการ
ขอบคุณเป็นแน่
เอาไว้โอกาสต่อไป
ส่วนละมุนมาศกำลังนั่งทำงานอยู่ ลินดาก็เดินกลับเข้ามาในห้องด้วย
ใบหน้ายิ้มแย้ม ทักเสียงดังทีเดียว
“อาหารกลางวันเป็นอย่างไรบ้างมุน อร่อยไหม”
“ก็ดี เปลี่ยนจากแซนด์วิชที่บ้านเป็นแซนด์วิชจากร้านก็เท่านั้น”
“แหม ทำเป็นไม่เข้าใจนะ ฉันหมายถึงว่าหนุ่มหล่อคนนั้นย่ะ ไป
อย่างไรมาอย่างไรต่างหากล่ะ”
“เขาแวะมาและก็ทานแซนด์วิชด้วยกันก็แค่นั้น”
“อุ๊ย เล่าให้มันรู้เรื่องหน่อยเถอะ คนยิ่งอยากรู้อยู่ เอาแบบละเอียด
เลยนะ เพราะว่าเรื่องนี้ฉันไม่เคยระแคะระคายเลยสักนิด เห็นยูมาหลายปี
นีเ่ ป็นครั้งแรกที่ มีหนุ่มนอกวงการมานั่งทานข้าวกับยู” ลินดาลากเก้าอี้
ทำงานของตัวเองมานั่งข้าง ๆ ละมุนมาศได้แต่ส่ายศีรษะแต่หน้าขึ้นสีแดง
แปร๊ดทีเดียว
455/559
คนโดนจูบหันซ้ายหันขวาหน้าตาเลิ่กลั่กก่อนที่จะบอกเขาว่า
“ห้ามทำอะไรไม่ดีต่อหน้าเด็ก ๆ ด้วย” กระซิบบอกเสียงเข้ม คน
ได้ยินยิ้มกว้างทีเดียว
“ไอ้ที่ว่าทำไม่ดนี ี่คืออะไรหรือครับ อธิบายหน่อยได้ไหม” ถามทั้ง ๆ
ที่พอจะเดาออกว่าอีกคนหมายถึงอะไร
“ก็...” แค่คิดว่าจะพูดอะไร ใบหน้าหวานก็ซับสีระเรื่อ แววตาคู่หวาน
เก้อเขิน คารีโนมองใบหน้าคนตรงหน้าแล้วก็คิดอยากจะจูบขึ้นมาอีกครั้ง
แต่พอชะโงกเข้าไปหา อีกคนก็ยกมือขึ้นยันหน้าอกเขาเอาไว้เสียก่อน แต่
แรงเล็ก ๆ นั้นหรือจะสู้แรงคนที่ตัวสูงใหญ่กว่าได้
“ก็...อะไร พูดให้รู้เรื่องสิครับ” ใบหน้าคมโน้มลงถามด้วยดวงตา
เจ้าเล่ห์ พร้อมกับยื่นริมฝีปากเข้าไปใกล้ คนตัวเล็กกว่าก็ยกมืออีกข้างที่
ว่างขึ้นปิดปากอิ่มโดยอัตโนมัติ ทำให้คารีโนปล่อยเสียงหัวเราะออกมา
สุดเสียง
“มีอะไรสนุกหรือคะ แดดดี้หัวเราะเสียงดังทีเดียว” เสียงเล็ก ๆ ที่
เจ้าตัวเพิ่งจะออกมาจากห้องถามขึ้นอย่างสงสัย
“มามี้เล่าเรื่องตลกให้แดดดี้ฟังน่ะค่ะ”
ลื่นเป็นปลาไหลทีเดียว
“มามีเ้ ล่าเรื่องอะไรหรือคะ เล่าให้ฟฟี ังบ้างสิ” คนตัวเล็กเลยเกาะชาย
เสื้อ ออดอ้อน
461/559
“เอาไว้ก่อนนอนมามี้จะเล่าให้ฟังนะคะ” แก้ตัวแล้วก็หันไปจิกตากับ
คนต้นเรื่อง สิ่งที่ได้รับตอบคือรอยยิ้มใสซื่อ ละมุนมาศก็เลยก้มลงสนใจ
กับคนตัวเล็กข้างตัว
“ล้างมือสะอาดหรือยังคะ”
“ล้างแล้ว สะอาดค่ะ”
“พร้อมทำการบ้านหรือยังคะ”
“พร้อมแล้วค่ะ”
“วันนีม้ ีการบ้านอะไรบ้างคะ” เสียงหวานถามคนตัวเล็กอย่างเอาใจใส่
ทำให้คนที่จ้องมองอยู่นึกถึงลูกสาวของตัวเองขึ้นมาทันที อยากให้ลูกสาว
ของเขามีคนเอาใจใส่ด้วยความรักจากหัวใจอย่างนี้บ้าง
“คุณครูให้วาดรูปและก็เล่าเรื่องสามประโยคค่ะ ฟีจะทำเองแล้วให้มา
มี้ดู นะคะ”
“ได้ค่ะ งั้นมามี้เตรียมของทำอาหารเย็นก่อน ฟีทำการบ้านเสร็จเราจะ
ช่วยกันทำนะคะ” ละมุนมาศสั่งน้องสาวเสร็จแล้วก็เชิญผู้เป็นแขกว่า
“เชิญคุณไปนั่งที่โซฟานะคะ” ส่วนตัวเองก็หันหน้าเข้ามุมเพื่อเตรียม
ของ
คารีโนเดินตามร่างเล็กทีเ่ ดินไปนั่งที่เก้าอีพ้ ลาสติกสีหวานตัวเล็ก มี
โต๊ะไม้ตัวเล็กสีขาววางติดกับฝาผนังห้องพร้อมกับก้มหน้าก้มตาทำงานของ
462/559
ภาษาไทย จะว่าไปแล้วฟีนิกซ์ยังพูดด้วยสำเนียงไทยที่ชัดเจนกว่าอีกฝ่าย
มากนัก
คนตัวโตกับคนตัวเล็กเถียงกันบ้าง อำกันบ้าง ท้ากันบ้าง ปะปนไป
ด้วยเสียงโวยวายบ้าง หัวเราะบ้าง ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า
คนตัวเล็กของหล่อนคงจะโหยหาผู้เป็นบิดาหรือเปล่า ถึงได้สนิทสนม
กับเขาในเวลาอันสั้น หรือว่าไว้ใจเขาเพราะว่าเขาเป็นหลานชายของคุณยาย
เป็นพ่อของคารีนาด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้
เสียงหัวเราะและกรีดร้องดังขึ้นของคนตัวเล็กตอนที่โดนคนตัวโตกว่า
จี้ตรงเอว เสียงกรี๊ดกร๊าดนั้นทำให้ละมุนมาศต้องอมยิ้ม สักพักเสียงนั้นก็
หยุดลง และทั้งสองก็เปลี่ยนไปเล่นจรวดกระดาษแทน
ครั้งแรกทีข่ ว้างคนตัวโตกว่าชนะ ในครั้งต่อไปก็เลยมีการตั้งรางวัล
คนชนะจะได้ไปเที่ยวทะเล
“เยส แดดดี้แพ้แล้ว มามี้เป็นพยานด้วยค่ะ ฟีชนะ แดดดี้จะพาไป
เที่ยวทะเลตอนหน้าร้อนนี้กับคารีนา วู้” เสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ที่แสดงออกถึง
ความยินดีรายงานอย่างตื่นเต้น คารีโนได้แต่ยิ้มกับความสำเร็จนั้นแล้วก็
หันไปสบตากับคนที่อยู่ในครัว
ละมุนมาศทำเป็นไม่รับรู้ถามกลับคนตัวเล็กว่า
“ทำการบ้านเสร็จแล้วหรือคะฟี”
465/559
“กู๊ดไนต์ฟี”
“กู๊ดไนต์คารีนา แล้วอย่าลืมมาเล่นด้วยกันอีกนะ” ฟีนิกซ์สั่งเพื่อนตัว
เล็ก พอสองพ่อลูกก้าวออกไปจากห้องแล้ว ละมุนมาศก็ถอนหายใจอย่าง
โล่งอก ปิดประตูและก็บอกให้คนตัวเล็กเตรียมตัวอาบนํ้าก่อนนอน ใน
ขณะทีห่ ล่อนยังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง มือบางยกขึ้นแตะริมฝีปาก
อิ่มแผ่วเบา
คนเอาแต่ใจ ว่าแต่ทำไมหล่อนถึงไม่ได้รู้สึกรังเกียจเลยก็ไม่รู้ ทุก
สัมผัสที่อ่อนโยนของเขาซึมเข้าสู่หัวใจของหล่อนอย่างไม่สามารถทอดถอน
ได้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รักได้อย่างไร
“มามี้ ๆ ลืมหรือเปล่า ฟีรอมามี้อยู่นะคะ”
เสียงใส ๆ ที่ดังออกมาจากห้องนอนเล็ก ทำให้ละมุนมาศสลัดความ
ว้าวุ่นหวั่นไหวออกไป ก่อนที่จะเดินเร็ว ๆ เข้าไปหา ตวัดอุ้มร่างน้อยตรง
ไปยังห้องนํ้า
“เมื่อไรคารีนาจะได้มาเล่นกับฟีอีกคะมามี้”
“ไม่ทราบค่ะ อันนี้ก็แล้วแต่แดดดีข้ องคารีนานะคะว่าว่างพาคารีนามา
เมื่อไร หรือไม่ก็รอให้คุณยายพาคารีนามาเล่นที่สนามเด็กเล่นนะคะ”
“ค่ะ”
470/559
ละมุนมาศดูแลให้คนตัวเล็กอาบนํ้าด้วยตัวเอง โดยให้ความ
ช่วยเหลือบ้างเล็กน้อย แต่งตัว และก็ส่งเข้านอน ก่อนที่จะเดินกลับห้อง
เพื่อจัดการกับตัวเอง
เมื่ออาบนํ้าไป ละมุนมาศก็อดที่จะคิดถึงทุกสัมผัสของเขา ที่ทำให้
หล่อนทั้งสับสน ไม่เป็นตัวของตัวเอง กระแสแห่งอารมณ์ของเขาร้อนแรง
เหลือเกิน เขาทำให้หล่อนไร้เรี่ยวแรงทุกครั้งที่ถูกสัมผัส พอคิดถึงความ
วาบหวามก็แผ่ซ่านเข้าสู่หัวใจ ใบหน้าหวานร้อนผ่าวขึ้นมา จนต้องปรับสาย
นํ้าให้เย็นขึ้น
ก็คงต้องปล่อยให้หัวใจได้รับรู้และสัมผัสความรักด้วยตัวของมันเอง
39
...หวง
“คุณคิดถึงผมบ้างไหม”
“ก็...ค่ะ”
“อยากจูบผมด้วยไหม”
“ตรัง” ได้แต่เรียกชื่อของเขา เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี
“คนรักกัน จูบกันไม่เห็นจะแปลก” เขาตอบกลับพร้อมด้วย
เสียงหัวเราะชอบใจ
“คุณจะพูดแค่นี้ใช่ไหมคะ ฉันจะได้วางหู”
“อย่าเพิ่งวาง ผมโทร. มาบอกว่าวันนีผ้ มคงไม่เข้าไปที่เวียดเฮาส์นะ
เพราะว่าคารีนาไม่สบาย ผมต้องกลับบ้านไปดูลูก”
“แล้วคารีนาเป็นอย่างไรบ้างคะ” ถามกลับด้วยความเป็นห่วง
“เห็นมิสไอวีบอกว่าตัวร้อนนิดหน่อย ให้ทานยาแล้ว แต่ยังอ้อนอยู่
อยากให้แดดดี้กลับบ้าน คุณไม่ว่าอะไรใช่ไหมที่รักที่ผมจะไม่เข้า
เวียดเฮาส์”
“ไม่ค่ะ ไม่เลย คุณทำถูกแล้ว ดูแลคารีนานะคะ ขอให้หายเร็ว ๆ”
“ขอบคุณครับ ขับรถดี ๆ นะ เวลาทำงานก็ไม่ต้องส่งยิ้มหวานให้
แขกมากนัก ผมหวง ส่วนตอนดึกเฟยจะส่งคุณกลับบ้าน คิดถึงคุณนะ
ครับหนูมุนที่รัก จุ๊บ” จุ๊บเสร็จเขาก็วางสายไปทันที
ผมหวง
473/559
คำนี้ทำให้หัวใจของละมุนมาศอบอุ่นอย่างมาก รู้สึกมีค่าที่รู้ว่าเป็น
ที่รักและที่หวงของเขา
อยากให้มันเป็นอย่างนี้อีกนานแสนนาน
อยากจะบอกเขาว่า หล่อนก็หวงเขาเช่นกัน แต่ก็รู้สึกเขินเกินไป
ทันทีทเี่ ข้าไปในเวียดเฮาส์ มิสมินต์ที่ยืนอยูห่ น้าเคาน์เตอร์กท็ ักทันที
ว่า
“หน้าตาสดใส ไปเดตมาสดชื่นจังเลยนะ” คนถูกทักหัวเราะ ใน
ขณะทีพ่ นักงานสาว ๆ ที่อยู่ในร้านหูผึ่งกันทุกคน ละมุนมาศหัวเราะน้อย
ๆ ก่อนที่จะตอบว่า
“มิสมินต์รู้ได้อย่างไรคะว่ามุนไปเดตมา”
“โอ๊ย สาว ๆ ลางานวันหยุดจะมีอะไรนอกจากไปเดต” ละมุนมาศ
หัวเราะเต็มเสียงกับคำตอบนั้น แอบคิดในใจว่า
มิสมินต์คงจะไม่รู้เรื่อง
“มุนไม่ได้ไปเดตนะมิสมินต์ ไปร่วมงานวันเกิดผู้ใหญ่ที่นับถือค่ะ”
คำตอบนั้นทำให้มิสมินต์รู้ทันทีว่าลูกน้องสาวไปไหนมา เพราะก่อนหน้าที่
ลูกน้องจะมาลาหยุด มิสซิสซอลตันก็โทร. มาบอกไว้ก่อนแล้ว และวันเสาร์
ที่ผ่านมาลูกน้องในเวียดเฮาส์ก็อิ่มอร่อยกับเค้กก้อนโตที่ส่งมาจากเนียนบา
ฟาร์ม อภินันทนาการจากมิสซิสซอลตัน
“อ้าวเหรอ ฉันนึกว่ายูไปเดตเสียอีก นึกดีใจว่ายูจะมีแฟนสักที”
474/559
เสียงหนึ่งในหัวใจบอกออกมา มิสมินต์ได้แต่ส่ายศีรษะกับตัวเอง
เมื่อกลับถึงห้องพักและคุยกับมิสซิสลีเล็กน้อย จากนั้นละมุนมาศก็
เข้าไปจูบกู๊ดไนต์คนตัวเล็กในห้องนอนแล้วก็เข้าห้องตัวเอง รีบกดโทรศัพท์
ไปยังปลายสาย เบอร์ที่บันทึกเอาไว้
เจ้านายชีกอ
นับเป็นครั้งแรกที่หล่อนโทร. หาเขา ในระหว่างที่รอคนรับสาย หลาย
ครั้งทีล่ ะมุนมาศนึกอยากตัดสายทิ้ง นึกเขินที่เป็นฝ่ายโทร. หาเขาก่อน
แถมยังดึก ๆ ดื่น ๆ อีกด้วย ไม่รู้ว่าเขาหลับหรือยัง พอคิดถึงตรงนีก้ ็
เกือบจะตัดสาย แต่ปลายสายกดรับเสียก่อน
“ครับที่รัก” เสียงรับตอบกลับมาทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรง ใบหน้า
หวานยิ้มเขินอยู่คนเดียว
“ฉันไม่รบกวนคุณใช่ไหมคะตรัง”
“ไม่หรอก กลับถึงบ้านแล้วใช่ไหมครับ”
“ค่ะ เอ่อ...ฉันแค่จะโทร. มาถามว่าคารีนาเป็นอย่างไรบ้าง”
“ขอบคุณมากที่ถามถึงคารีนา ทานยาไปแล้ว ตัวเย็นขึ้น แต่ยังอ้อน
อยู่” เสียงจากปลายสายบอกถึงความรักในลูกสาวตัวน้อย ทำให้ละมุน
มาศอมยิ้ม
“เป็นอย่างนั้นแหละค่ะ แล้วอาการอื่นมีหรือเปล่าคะ คัดจมูกหรือว่า
ไอ”
476/559
“มามีค้ ะ แดดดี้กับคารีนาชวนฟีกับมามี้ไปหาคุณยายที่ฟาร์มค่ะ ไป
นะคะ มามี้ นะคะ นี่ค่ะ ให้มามี้คุยกับแดดดี้” คนตัวเล็กยื่นโทรศัพท์ส่ง
ให้
“ค่ะ”
“คุณทำอะไรอยู่ครับที่รัก” เสียงจากปลายสายนุ่มทุ้มดังกังวานเข้าไป
ถึงหัวใจเลยทีเดียว
“กำลังทำอาการกลางวันและอาหารเย็นเตรียมไว้ให้ฟีค่ะ”
“ไม่ต้องทำอาหารนะ ผมจะไปรับฟีทานอาหารเย็นกับคารีนา คุณ
บอกมิสซิสลีเอาไว้ด้วยละกัน เตรียมกระเป๋าค้างคืนด้วยนะ ฉลองปิดเทอม
ให้กับเด็ก ๆ”
เมื่อได้ยินเขาพูดอย่างนั้น ละมุนมาศก็ท้วงขึ้นทันที
“เดี๋ยวก่อนค่ะ พาไปทานอาหารเย็นไม่มปี ัญหาค่ะ แต่ไปค้างคืนนี่สิ
ฟีคงไม่ไปหรอกค่ะ” สิ้นเสียงของหล่อน เสียงเล็ก ๆ ที่อยูไ่ ม่ไกลก็ดังขึ้น
ทันที
“ฟีจะไปค้างคืนกับคารีนา มามี้ก็ไปด้วยกันนะคะ...นะคะ”
ละมุนมาศได้ยินเสียงหัวเราะหึ ๆ อย่างอารมณ์ดขี องทางปลายสายก็
รู้ตัวว่าแพ้อยู่รำไร
479/559
“คุณก็เก็บกระเป๋าด้วยนะที่รัก เลิกงานตอนดึกแล้วเราจะออก
เดินทางกันเลย แล้วเจอกันครับ จุ๊บ” เสียงจุ๊บพร้อมกับสายก็ตัดไปด้วย
ทิ้งให้อีกคนยังอ้าปากค้าง ในขณะที่คนตัวเล็กของหล่อนบอกว่า
“ฟีไปเก็บกระเป๋าก่อนนะคะมามี้” ร่างเล็ก ๆ วิ่งหายเข้าไปใน
ห้องนอนของตัวเอง ละมุนมาศได้แต่ค้อนลมค้อนแล้งอยูค่ นเดียว พลาง
คิดในใจว่าไม่เก็บหรอกกระเป๋า ยังคุยไม่รู้เรื่องเลย ก่อนจะไปทำงาน
ละมุนมาศก็บอกมิสซิสลีเรื่องที่จะมีคนมารับฟีนิกซ์ไปทานอาหารเย็น
ทีเ่ วียดเฮาส์ลูกค้าแน่นร้าน ทำให้ละมุนมาศต้องวิ่งให้บริการลูกค้า
ตลอดเวลาแทบจะไม่ได้หยุด จนกระทั่งเสียงเรียกที่คุ้นหูดังขึ้น
“มามี้/มามี้” ละมุนมาศจึงต้องเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะอาหารที่กำลังทำ
ความสะอาดไปตามทิศทางของเสียง ก้มหน้าลงไปมองก็ต้องตกใจตาโต
แต่คนข้างล่างทั้งสองกลับยิ้มแป้นยกมือขึ้นโบก เด็ก ๆ ทั้งสองแข่งกัน
เรียก
“มามี้/มามี้”
“เอ๊ะ มากันได้อย่างไร” เมื่อคิดไปละมุนมาศก็โบกมือตอบไปด้วย
ใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อเห็นสายตาอมยิ้มของคนตัวโต
หลายต่อหลายคนทั้งแขกและพนักงานในร้านมองตามอย่างสนใจ
ส่วน พนักงานของเวียดเฮาส์ต้องรีบหลบเมื่อเห็นนัยน์ตาเอาเรื่องของ
เจ้านาย
480/559
ทักทายกันแล้วคนตัวโตสามคนกับเด็กอีกสองก็เดินลับไปทาง
ด้านหลัง ละมุนมาศรู้ว่าทั้งหมดคงจะไปที่ห้องทำงานชั้นบนที่อยู่ตรงข้าม
ชั้นลอยนั่นเอง แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เฮอร์โมซาสาวอวบอึ๋มประจำชั้นลอย
เพื่อนร่วมงานก็เลียบ ๆ เคียง ๆ เข้ามาหา เพื่อช่วยทำความสะอาดและ
เก็บโต๊ะ
“หมายความว่าอย่างไรมุน”
“อะไรหรือ”
“ก็เด็กสองคนที่มากับเจ้านายเรียกยูว่ามามี้ไง”
“เรียกมามีฉ้ ันก็เป็นแม่นะสิ” ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ละมุนมาศก็รับ
ไปตามตรง ทำให้เพื่อนร่วมงานสาวที่ไม่รู้เรื่องถึงกับตกใจ
“จริงหรือ”
“จริงสิ”
“แล้ว เอ่อ ทำไมลูก ๆ ยูถึงมากับเจ้านายได้”
“ลูกฉันคนเดียว อีกคนลูกเจ้านาย”
“หา เจ้านายมีลูกแล้วหรือ แล้วทำไมลูกเจ้านายก็เรียกยูมามี้
หมายความว่ายูกับเจ้านาย...ใช่ไหม” ละมุนมาศยังไม่ได้ตอบ พนักงานก็
พาแขกมานั่งที่โต๊ะในส่วนรับผิดชอบของหล่อน เฮอร์โมซาก็เลยต้องกลับ
ไปทำงานของตัวเอง การสนทนาเลยต้องหยุดลงแค่นั้น
481/559
“มามี้/มามี้” เสียงเรียกของสองสาวนอกห้องนํ้าดังเข้ามา
“มามีอ้ ยู่ในห้องนํ้าค่ะ” ละมุนมาศส่งเสียงตอบกลับออกไป พร้อมกับ
ประตูก็ถูกดันเปิดเข้ามา เด็กน้อยทั้งสองเดินเข้ามาหา ละมุนมาศย่อตัวลง
กอดทั้งสองคน เอาไว้ สบตากับคนที่ยังอยูน่ อกประตู เขาก็ส่งยิ้มให้บอก
ว่า
“ลูกตามหาคุณ ผมก็เลยพามา มามะเด็ก ๆ ให้มามีเ้ ปลี่ยนเสื้อผ้า
ก่อนดีกว่า เราขึ้นไปรอข้างบนกันดีกว่านะ” เด็ก ๆ เดินออกไปจากห้องนํ้า
พร้อมกับส่งเสียงกลับมาบอกว่า
“เร็ว ๆ นะคะมามี้”
เมื่อปิดประตูห้องนํ้า มิสมินต์ก็ต้องตาโตหันไปทางลูกน้องคนสวย
พร้อมกับบอกว่า
“เล่ามาให้หมดเลย” คำสั่งเสียงเย็นเชิงบังคับแกมจริงนั้น ทำให้
ละมุนมาศต้องเล่าและก็เลือกที่จะเล่าเฉพาะเรื่องราวในส่วนที่ควรบอกแก่มิ
สมินต์ ซึ่งมิสมินต์ถึงกับตบมือแปะทีเดียว บอกว่า
“พอดีเลย ยูลูกหนึ่ง ยังสาว ยังสวย เจ้านายลูกหนึ่ง หล่อ
เพอร์เฟกต์ แต่งงานกันไปเลย เด็ก ๆ จะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์เสียที ดู
เด็ก ๆ ก็น่าจะเข้ากับยูและ เจ้านายได้ดีทีเดียว งานนี้ฉันสนับสนุน
แต่งงานกันแล้วก็มลี ูกอีก เด็ก ๆ จะได้เล่นกันสนุก พี่สาวจะได้ดูแลน้อง
ๆ น่ารักสุด ๆ เจ้านายทีเ่ ห็นมาดขรึมหายไปหมด เหลือแต่ภาพคุณพ่อที่
483/559
คำตอบของเด็กดีฟีนิกซ์ ยิ่งทำให้มิสมินต์ตาโตกว่าเดิมเป็นสองเท่า
เลยทีเดียว ในขณะที่ละมุนมาศคิดในใจว่าข้อแก้ตัวของหล่อนช่วยไม่ได้
เลยจริง ๆ มองไปทางคนตัวโตเห็นแต่รอยยิ้มที่อบอุ่นจริงใจก็ได้แต่
อ่อนใจ
ว่าไงก็คงต้องว่าตามกัน
“เดินทางกันได้แล้วค่ะเด็ก ๆ” คารีโนบอกเด็ก ๆ
40
จริงจัง...ใช่ไหม
คำตอบของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหวอย่างรุนแรง
ครอบครัว แค่เรา...เขาจริงจังใช่ไหม ไม่ใช่คิดเล่น ๆ ผ่านแล้วผ่าน
ไปใช่ไหม
ใบหน้าสวยจ้องมองคนพูด เขาก็หันมายิ้มให้พร้อมกับยํ้าว่า
“ผมพูดจริงนะที่รัก คุณคิดเหมือนผมไหม”
“ไม่รู้สิคะ มันเร็วไป”
“ไม่เร็วหรอก ความรู้สึกของหัวใจมันไม่ต้องรอเวลา บางครั้งเวลา
ผ่านไปนานเท่านานกับใครบางคน เรายังรู้สึกรักไม่ได้เลย คุณว่าจริงไหม”
“มั้งคะ แต่มุนยอมรับว่าตั้งตัวไม่ทัน บางครั้งคิดว่าสิ่งทีเ่ กิดขึ้นตอนนี้
มันเป็นความฝันมากกว่า บางครั้งคิดว่าเราห่างกันเกินไป”
“อะไรที่คิดว่าห่าง ฐานะอย่างนั้นหรือ”
“ค่ะ”
“คิดมากจริง ๆ ที่รักคุณรูไ้ หม ไม่ว่ายุคสมัยไหน เรื่องของ
ครอบครัวธุรกิจก็มีเรื่องของธุรกิจและเงินนำหน้าเสมอ” คำพูดของเขาทำ
ให้คนฟังถึงกับใจหล่นวูบทีเดียว แต่มือหนาที่กระชับมือบางเอาไว้แน่นนั้น
ทำให้ละมุนมาศนิ่งฟังเขาต่อไป
“แต่สำหรับครอบครัวของผมไม่ใช่อย่างนั้น เราไม่จำเป็นต้องไปต่อย
อดทางธุรกิจกับใคร คุณรู้ไหมว่าก่อนที่จะเป็นเวียดเฮาส์มาก่อน ก็เป็นแค่
488/559
เคยมีหายไปจนหมด ใครจะรู้ว่าผู้ชายเคร่งขรึมที่เหมือนกับมาเฟียคนนี้ จะ
มีมุมมองของชีวิตที่เรียบง่ายธรรมดาอย่างนี้
หัวใจของหล่อนจะเชื่อเขาได้จริง ๆ ใช่ไหม
สมองเล็กกำลังใช้เวลาใคร่ครวญ มือบางในอุ้งมือใหญ่ของเขาอบอุ่น
เสียงเพลงอ่อนหวานแผ่วเบา อากาศเย็นสบายกำลังพอดี ทำให้คนที่วิ่ง
ทำงานมาหลายชั่วโมง นอนหลับไม่เต็มอิ่มมาหลายคืน ซบหลับไปกับไหล่
กว้างอย่างไม่รู้ตัว
ละมุนมาศตื่นแต่เช้าด้วยความรู้สึกสดชื่นจากอากาศยามเช้าที่พัด
เข้ามาทางหน้าต่าง ร่างบางที่นอนลืมตาอยู่บนเตียงต้องตกใจ เมื่อประตู
ห้องนอนถูกเปิดเข้ามา ร่างบางเด้งตัวเองลุกขึ้น กำลังอ้าปากจะร้อง แต่
พอเห็นหน้าคนที่เข้ามาแล้ว ก็เพิ่งคิดได้ว่าตัวเองอยู่ในชุดนอนทีว่ าบ
หวิว ก็ต้องมุดกลับเข้าไปในผ้าห่มอีกรอบ ผู้บุกรุกได้แต่หัวเราะหึ ๆ
“มอร์นิงครับที่รัก ผมมาปลุกคุณหรือเปล่า” ร่างสูงเดินเข้าไปที่เตียง
ด้วยใบหน้ายิ้มละไม ใบหน้าหล่อสดใสเกลี้ยงเกลาจากการโกนหนวดกลิ่น
หอมฟุ้งทีเดียว ยังไม่ทันที่ละมุนมาศจะได้คิดอะไร เตียงนอนข้างตัวก็ยุบ
ลงพร้อมผ้าห่มก็ถูกเปิดออก
“ไปมุดอะไรอยู่ในนั้นครับ...หือ” เสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยนดังขึ้นเหนือ
ศีรษะ มือบางถูกยกขึ้นปิดปากตัวเองเอาไว้ แต่คนตัวโตไม่สนใจ ก้มหน้า
ลงจูบที่หน้าผากเนียนแรง ๆ คนโดนจูบแต่เช้าหน้าแดงกํ่า หัวใจเต้นแรง
490/559
“สวัสดีตอนเช้าครับคุณยาย”
ร่างสูงคุกเข่าลงกราบทีต่ ักของคุณยาย พร้อมกับกอดและหอมแก้ม
ดังฟอด
“สวัสดีตอนเช้าจ้ะตรัง ยายนึกว่ายังไม่ตื่นเสียอีก” คุณยายกลีบบัว
แซวยิ้ม ๆ
“ตื่นแล้วผมก็ไปปลุกหนูมุนครับ” คารีโนลุกไปทักทายบิดามารดา
“สวัสดีค่ะคุณยาย” ละมุนมาศยกมือไหว้ และก็เข้าไปกอดคุณยาย
กลีบบัวเช่นที่เคยทำเป็นประจำเมื่อเจอหน้ากัน
“สวัสดีจ้ะหนูมุน ดีใจทีห่ นูมนุ กับหนูฟมี าเยี่ยมยายที่นี่” คุณยาย
กลีบบัวกอดตอบ
“คารีนากับแดดดี้ก็มานะคะคุณทวด” เสียงเล็ก ๆ ของเหลนสาว
แทรกขึ้น เรียกเสียงหัวเราะได้จากทุกคน
“จ้า”
498/559
ละมุนมาศเดินไปทักทายท่านเจ้าของบ้านและภรรยา ซึ่งก็ได้รับการ
กอดทักทายจากทั้งสองท่าน
“นึกว่าจะไม่มาเสียแล้ว” ท่านไนฮัวกล่าวขึ้น ละมุนมาศได้แต่ยิ้ม ไม่
รู้ว่าจะตอบอย่างไร
“นั่งเถอะจ้ะมุน” คุณลิซาเบธบอก พร้อมกับที่ลูกชายเดินเข้ามา
จับมือบางให้นั่งลงที่ว่างข้าง ๆ มารดา
หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว คารีโน เบียน เฟย ก็ไปเตรียม
รถเอทีวี ละมุนมาศก็มีโอกาสได้นั่งคุยกับคุณยายกลีบบัวและคุณลิซาเบธ
โดยคุณไนฮัวขอตัวไปดูม้ากับเด็กหญิงทั้งสอง
“มาถึงกันดึกหรือเปล่าจ๊ะหนูมุน ยายไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยเมื่อคืน”
คุณยายกลีบบัวถามขึ้น
“ประมาณตีสองครึ่งได้ค่ะคุณยาย”
“ขับรถดึก ๆ ยายเป็นห่วงจังเลย”
“จริง ๆ แล้วมุนไม่คิดว่าจะมาที่นี่กันในตอนดึกหรอกค่ะ”
“อ้าว” คุณยายเลิกคิ้ว คุณลิซาเบธก็เงยหน้าจากนิตยสารในมือขึ้น
มอง
“คุณตรังไปรับมุนมาจากที่ทำงานพร้อมฟีและคารีนาค่ะ ก็เลยต้องมา
ดึก ๆ”
499/559
คำตอบนั้นทำให้คุณยายหันไปยิ้มให้กับลูกสาว
“ตรังไม่บังคับหนูมาหรือจ๊ะ”
“เปล่าค่ะ เอ่อ...คือ เพียงแต่ว่าไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ก็เลยไม่มี
อะไรติดมือมาฝากคุณยายเลย ขอโทษด้วยนะคะ”
“โอ๊ย ไม่ต้องเอาอะไรมาหรอก แค่มาให้ยายเห็นหน้าก็พอแล้ว หลาน
ชายของยายรุกหนูเร็วจริง ๆ หนูมุนรังเกียจหลานยายหรือเปล่าจ๊ะ”
“เอ่อ...คือ”
“คุณยายครับ หนูมุนรับรักผมแล้วครับ” เสียงหลานชายดังมาจาก
หน้าห้อง พร้อมกับร่างสูงก็เดินมาทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ ร่างบาง ยื่นหน้าเข้า
มาจูบที่แก้มเนียน คนโดนจูบหน้าซับสีเลือดทันที พร้อมกับตีไปที่แขน
แข็งแรง
“กว่าจะได้แต่งงานรับรองผมชํ้าแน่ ๆ ครับ มัม คุณยาย”
เมื่ออีกคนพูดเรื่องแต่งงานขึ้นมา ทำเอาคุณยายกับมารดาตาโต คน
ทีถ่ ูกดึงไปเกี่ยวข้องกับการแต่งงานก็หัวใจเต้นสั่นระรัว ส่วนคนพูดทิ้ง
ระเบิดไว้แล้วก็ กลบเกลื่อนด้วยการเปลี่ยนเรื่อง
“ผมจะพาหนูมุนไปดูผลไม้ และพาเด็ก ๆ ไปพายเรือในบึงกันครับ”
“จ้ะ ไปเถอะ หนูมุนเที่ยวให้สนุกนะจ๊ะ ยายจะทำผัดซีอิ๊วไว้รอ
หรือว่าจะให้เด็ก ๆ เอาไปส่งให้ในสวนก็ได้นะ”
500/559
“ไม่อยากรบกวนคุณยายเลยครับ”
“มัมจะจัดให้จ้ะ”
“ขอบคุณครับคุณยาย ขอบคุณครับมัม”
ร่างสูงเดินเข้ากอดคุณยายและมารดาเพื่อเป็นการขอบคุณ
“คุณยาย ป้าลิซ มุนขอตัวก่อนนะคะ”
ลับหลังหลานชายและว่าทีห่ ลานสะใภ้ไปแล้ว คุณยายกลีบบัวก็หันไป
ทางลูกสาว ซึ่งก็หันมาทางคุณยายเช่นกัน
“เอาจริงสินะหลานแม่”
“คงเอาจริงค่ะมัม พูดเรื่องแต่งงานแล้วนี่”
“ถึงขนาดไปบังคับเขามาดึกดื่นขนาดนี้ ไม่ธรรมดาแล้ว สงสารแต่หนู
มุน ตรังรุกเร็วจริง ๆ เห็นท่าอยากจะแต่งงานเต็มทีแล้วมั้ง ตามติดอย่างนี้
ว่าแต่หนูเถอะ ไม่รังเกียจหนูมุนใช่ไหมลูก” คุณยายกลีบบัวถามลูกสาว
“ไม่ค่ะ ลูกรักใครหนูก็รักด้วย หนูมุนก็เป็นคนดี”
“ไนฮัวว่าไง”
“ไม่ว่าไงหรอกค่ะ เขาตามใจลูก”
“ก็ดี จะได้ไม่มีปัญหาอะไร”
“ค่ะ”
501/559
รู้สึกเขินอาย แต่หัวใจดวงน้อยอบอุ่นวาบหวามนัก
ในสวนผลไม้ซึ่งแยกเป็นส่วน ๆ มองไปสุดลูกตา แต่ละอย่างกิน
พื้นที่หลายสิบเอเคอร์ (Acre - เป็นหน่วยวัดพื้นทีข่ องตะวันตก) มีทั้งแอ
ปเปิลเขียว แอปเปิลแดง เชอร์รี่ ลูกแพร ลูกพีช ที่ลูกยังเล็กอยู่ ส่วนแบ
ล็กเบอร์รี ราสเบอร์รี ทีเ่ ถาเกาะอยู่บนร้านมีดอกขาวโพลนเต็มไปหมด
และ สตรอเบอร์รีทปี่ ลูกยกแปลงขึ้นสูงเหนือเข่า แปลงทั้งหมดถูกหุ้มด้วย
พลาสติกกำลังบานออกดอกผลสะพรั่งห้อยระย้อยระย้าสวยงาม
ส่วนผักทีป่ ลูกในฟาร์มตอนนี้กค็ ือ พริก ซึ่งเป็นพันธุพ์ ริกจาก
เมืองไทย ทีด่ อกสีขาวกำลังบานเต็มต้นไปหมด มะเขือเทศหลากหลายสาย
พันธุ์ทั้งลูกเล็กลูกโตกำลังเจริญเติบโต พริกฮาลาปิโนของเม็กซิกัน พริก
หวานสารพัดสีทั้งสีแดง สีเขียว สีเหลือง และยังมีถั่วฝักสั้นที่เลื้อยขึ้นตาม
ร้านกำลังออกฝักอ่อน ๆ
ละมุนมาศฟังคำอธิบายจากผู้รู้ ที่ไม่น่าเชื่อว่านักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อที่
ท่าทางเหมือนกับมาเฟีย จะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับผักและผลไม้ในสวนได้มาก
ขนาดนี้
เด็ก ๆ ปีนต้นไม้กันอย่างสนุกสนานจนเหนื่อยแล้ว ก็ไปพายเรือ
ไปให้อาหารปลากันในหนองนํ้านานพอสมควร และก็ขึ้นบกไปเล่นที่
บ้านบนต้นไม้กันที่เพิ่งจะสร้างเสร็จไม่นาน
ทั้งเด็ก ๆ ทั้งมามีต้ ื่นเต้นกับบ้านต้นไม้เป็นอย่างมาก ในความ
แปลกประหลาดและน่ารัก ห้องโถงกว้างขวางห้องเดียวทรงหกเหลี่ยม
504/559
“หนูมุนล่ะลูก”
“อยู่ข้างบนบ้านกับเด็ก ๆ ครับ คุณยายมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“กลับมาได้ไหมลูก พอดีมีเรื่องเกี่ยวกับหนูมุนน่ะ” นํ้าเสียงทีไ่ ม่ค่อย
จะดีของคุณยายกลีบบัวทำให้คารีโนรับปาก
“ครับคุณยาย”
เมื่อวางสายจากคุณยายกลีบบัว คารีโนก็กระโจนขึ้นไปบนบ้าน เดิน
ตรงไปหาเด็ก ๆ ทีก่ ำลังวาดรูปกันอย่างสนุก บอกให้เตรียมตัวกลับแล้วก็
ก้าวเร็ว ๆ เข้าไปหา เห็นร่างบางที่นอนหลับอย่างมีความสุข ใบหน้าเนียน
ใสสะอาดไร้เครื่องสำอางแล้ว ก็อดไม่ได้ทจี่ ะก้มลงไปจูบแก้มเนียนหลาย
ครั้งตามที่หัวใจต้องการ ถึงแม้ในใจจะรู้สึกกังวลลึก ๆ กับสิ่งที่ยังไม่รู้ว่ามี
อะไรเกิดขึ้นและเกี่ยวข้องกับคนที่เขารักตรงหน้านี้
“หนูมุนที่รักตื่นได้แล้วครับ คุณยายโทร. มาตามแล้ว”
“อือ”
“ตื่นนะครับ คุณยายโทร. มาตามแล้วครับ”
“ค่ะ”
“ไม่ต้องเก็บของหรอก เดี๋ยวมีคนมาจัดการ”
506/559
เบียนและเฟยคอยช่วยคุณหนูตัวน้อยทั้งสองลงจากบ้าน คารีโนคอย
ดูแลคนตัวบางอย่างกังวล เช็กความปลอดภัยของเด็ก ๆ แล้วเขาก็ดึงคน
ตัวบางขึ้นรถทันที รถเอทีวีทั้งสามคันขับตามกันออกมามุ่งตรงสู่บ้านใหญ่
ละมุนมาศไม่กล้าถามเขาว่ามีเรื่องอะไร ถึงกับต้องปลุกหล่อนให้ตื่น
กลางหลับอย่างนี้ ยกนาฬิกาข้อมือดูก็ยังไม่ถึงเวลากลับบ้านด้วยซํ้า
ใช้เวลายี่สิบนาทีเศษ ๆ ก็มาถึงบ้านใหญ่ คุณยายกลีบบัวยืนรออยูท่ หี่ น้า
บ้านแล้ว พอรถจอดสนิทคุณยายก็เดินมาหาและจูงมือละมุนมาศให้เดิน
ตามเข้าไปในบ้าน
“หนูมุน ลูก” คุณยายกลีบบัวที่หน้าตาไม่ค่อยจะดีนักเรียกคนทีท่ ่าน
จูงมืออยู่
“ค่ะคุณยาย มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่าคุณยายไม่สบาย” ละมุน
มาศถามอย่างเป็นห่วง
“ยายสบายดีลูก เข้าไปนั่งก่อนดีกว่า ยายมีบางอย่างจะคุยด้วย”
ละมุนมาศเดินตามไปทรุดนั่งข้าง ๆ คุณยายกลีบบัว คารีโนเดินตามไปนั่ง
ติด ๆ กัน ในห้องนั้นมีคุณลิซาเบธและสามีนั่งอยูก่ ่อนแล้ว ส่วนเด็ก ๆ
วิ่งไปห้องดูโทรทัศน์
“มีอะไรหรือคะคุณยาย”
“มีคนโทร. เข้ามาที่โทรศัพท์ของหนูมนุ ที่วางอยู่ในห้องนอน สองครั้ง
แรกเด็กที่ทำความสะอาดห้องไม่กล้ารับ แต่พอครั้งที่สามวิ่งเอามาให้ยาย
507/559
ยายก็เลยรับแทน คุยกับทางปลายสายเขาก็ถามยายว่าเป็นเจ้าของโทรศัพท์
หรือเปล่า ยายก็บอกว่าไม่ใช่ แต่เป็นของว่าที่หลานสะใภ้” ว่าที่หลานสะใภ้
หน้าซับสีเลือดทันที คุณยายบีบมือบางในอุ้งมือของท่านเบา ๆ ก่อนที่จะ
พูดต่อว่า
“คนปลายสายเขาบอกว่าเป็นเพื่อนกับคุณละมุด”
“แม่มีอะไรหรือคะคุณยาย” เสียงหวานสั่นขึ้นมาทันที ใบหน้าซีด
ทันตา
“เขาบอกว่าแม่ละมุดของหนูเสียแล้ว” ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
อ้อมแขนแข็งแรงที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ก็ตวัดร่างบางเข้าหาตัว กอดรัดร่างที่
สะอื้นฮักเอาไว้กับอกแกร่ง มือหนาลูบไล้แผ่นหลังบางไปมาอย่า
ปลอบประโลม และอีกหลาย ๆ มือที่แตะส่งกำลังใจ ห้องทั้งห้องตกอยูใ่ น
ความเงียบ มีแต่เสียงสะอื้นแผ่วเบาที่เจ้าตัวพยายามกักเก็บเอาไว้
คารีโนจูบเรือนผมนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า เขาอยากจะช่วยผ่อนคลาย
ความเจ็บปวดรวดร้าว ความเหงา ความว้าเหว่และโดดเดี่ยวที่เกิดขึ้นใน
หัวใจของคนในอ้อมกอด แต่ที่เขาทำได้ตอนนี้ก็เพียงแค่นี้
ในที่สุดใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยนํ้าตาก็เงยขึ้น หันไปทางคุณยาย
กลีบบัว
“เมื่อไรคะคุณยาย”
508/559
“เมื่อสามวันก่อน และทางสมาคมคนไทยได้จัดการเผาไปแล้ว
เพราะว่าหาญาติไม่ได้ ทุกคนที่รู้จักคุณละมุดบอกว่ารู้จักกันสองปี ไม่เคยรู้
ว่าคุณละมุดมีญาติที่ไหนเลย เขาบอกว่าหลังจากเผาศพแล้วก็ได้เช็ก
โทรศัพท์คุณละมุด และเขาก็โทร. ตามหาคนที่มีเบอร์อยู่ในโทรศัพท์กไ็ ม่มี
ใครทีเ่ ป็นญาติเลย จนกระทั่งเขาพบเบอร์โทร.เขียนไว้เฉย ๆ ไม่มีชื่อ
เจ้าของ เขาก็เลยลองโทร. มานี่แหละ แต่ว่าทุกอย่างได้รับการจัดการจาก
สมาคมคนไทยไปแล้วนะลูก”
“เขาบอกไหมคะว่าทำไมแม่ถึงจากไปกะทันหันอย่างนี้”
“รายงานจากแพทย์บอกว่าเครียดจัดและหัวใจล้มเหลว”
“แล้วมุนต้องทำอย่างไรบ้างคะ”
“หนูมุน หนูยังมียาย มีป้าลิซ มีลุงไนฮัว มีตรัง และทุกคนที่นนี่ ะจ๊ะ
เราจะไม่ปล่อยให้หนูโดดเดี่ยวเป็นอันขาด”
“ขอบคุณค่ะคุณยาย” มือบางยกขึ้นกระพุ่มไหว้ขอบคุณไปยังทุกคน
“หนูมุนยังมีผมนะที่รัก ผมจะอยูข่ ้าง ๆ คุณตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป
แล้วเราจะทำอย่างไรต่อครับคุณยาย”
“ก็คงต้องติดต่อเอากระดูกมาก่อน แล้วก็ทำบุญกระดูก หลังจากนั้น
ก็หาที่ไว้กระดูกที่ไม่ไกลนัก ที่หนูมุนกับฟีจะได้ไปเยี่ยมได้สะดวก”
509/559
“มุนขอบพระคุณคุณยายนะคะที่ช่วยเหลือมุนในครั้งนี้ สงสารก็แต่ฟี
ค่ะ” พูดถึงคนตัวเล็กทีย่ ังไร้เดียงสา นํ้าตาแห่งความโศกเศร้าเสียใจก็ไหล
รินอีกครั้ง
มามี้จะเป็นมามี้ เป็นแม่ของคนตัวเล็กตลอดไป ความทุกข์ทั้งปวงมา
มี้ขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว แค่ขอให้ฟีมีความสุขเท่านั้น
เมื่อมีเวลาคิดถึงมารดา ละมุนมาศรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ดูแลหรือ
ตอบแทนมารดาให้มากกว่านี้ ถ้ารู้ว่าท่านจะจากไปเร็วอย่างนี้ หล่อนจะให้
ในสิ่งทีม่ ารดาต้องการทุกอย่าง แต่ว่ามันสายไปเสียแล้ว วันเวลาไม่เคย
หวนคืน ผ่านแล้วผ่านเลยไปไม่ย้อนกลับมา
สิ่งที่ละมุนมาศกังวลอยู่ตอนนี้ก็คือ ทำอย่างไรหล่อนถึงจะบอกคน
ตัวเล็กให้รับรู้เรื่องนีแ้ ล้วไม่ตกใจ ไม่เสียใจ เศร้าใจ ร้องไห้ หล่อนคงทน
ไม่ได้ทจี่ ะเห็นคนตัวเล็กเศร้าหมองและเจ็บปวด เมื่อได้นำเรื่องนีไ้ ปปรึกษา
กับคารีโน เขาก็ปลอบใจว่า
“เชื่อผมสิที่รักว่าฟีจะไม่เจ็บปวดหรือเศร้ามากนักหรอก เพราะผมมี
เพื่อน ร่วมรุ่นทีแ่ ต่งงานกับคนแก่อายุรุ่นพ่อ มีลูกด้วยกันสองคน คนโต
เจ็ดขวบ คนเล็ก ห้าขวบ วันที่บิดาเสียชีวิต เด็ก ๆ ก็ร้องไห้นิดเดียว ร้อง
เพราะว่าเห็นแม่ร้อง แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ร้องอีกเลย ในงานศพเด็ก ๆ วิ่ง
เล่นกับเพื่อนสนุกสนาน เพื่อนผมบอกมานะ และฟีกไ็ ม่เคยเห็นแม่เลย
อาจจะจำไม่ได้แล้วก็ได้ ตอนนี้หนูมุนเป็นมามี้อยูน่ ะที่รัก ในหัวใจของเขา
หนูมุนเป็นแม่ เชื่อผมสิ อย่ากลัวที่จะต้องบอกความจริง”
510/559
เมื่อฟังเด็กทั้งสองคุยกันแล้ว ละมุนมาศต้องรีบพูดต่อในสิ่งที่อยาก
จะพูด
“ฟีต้องเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนหนังสือ เชื่อฟังมามี้นะคะ แม่มุดจะได้
ไม่ห่วงและมีความสุข” บอกคนตัวเล็กออกไปแล้ว ละมุนมาศก็อยากที่จะ
ปล่อยให้นํ้าตาแห่งความสูญเสียไหลออกมา ให้สาสมกับความเสียใจ
เจ็บปวดและอ่อนแอ แต่หล่อนก็ทำไม่ได้ ไม่อยากให้คนตัวเล็กต้องร้อง
ตาม ได้แต่เก็บกลั้นเอาไว้จนเจ็บร้าวไปทั่วทั้งอก จุกแน่นไปจนถึงคอหอย
เลยทีเดียว
“ค่ะมามี้ ฟีจะเป็นเด็กดี จะตั้งใจเรียนหนังสือ จะเชื่อฟัง มามี้ไม่ต้อง
เป็นห่วงฟีนะคะ”
“คารีนาก็จะเป็นเด็กดีค่ะมามี้” อีกเสียงเล็ก ๆ ที่รับคำ ทำให้ละมุน
มาศต้องลุกขึ้นยื่นหน้าไปจูบแก้มเล็ก ๆ ทั้งสองอย่างขอบคุณ
“ขอบคุณค่ะ เด็กดีของมามี้ทั้งสองคนเลย เอาละ นอนได้แล้ว
พรุ่งนี้เราจะต้องเดินทางนะคะ ไปวัดทำบุญให้แม่มุดกันค่ะ”
“เย้ ไปวัดกัน” เด็กหญิงทั้งสองส่งเสียงร้องอย่างยินดี ละมุนมาศไม่
รู้ว่าคนตัวเล็กรับรูเ้ รื่องนี้มากน้อยแค่ไหน เด็ก ๆ เป็นอย่างนีน้ ี่เอง ไม่ต้อง
รับรูอ้ ะไร ถึงรับรู้ไม่นานก็ลืม แต่ทแี่ น่ ๆ หล่อนรู้ว่าคนตัวเล็กดีใจที่จะได้
ไปวัด ก็เพราะว่าทุกครั้งที่พาไปวัด คนตัวเล็กได้ชิมของแปลก ๆ ทั้งขนม
ทั้งอาหารไทย
512/559
เสียงเปิดประตูพร้อมกับเสียงทักถามก็ดังขึ้น
“ดีใจอะไรกันหรือคะ” ถามเด็ก ๆ พร้อมกับร่างสูงก็หย่อนตัวลงนั่ง
ข้าง ๆ ลูกสาวตัวน้อยของเขาอีกฟากหนึ่งของเตียง สายตาคมคู่นั้นจับจ้อง
มายังคนตัวบางที่นํ้าตาคลอหน่วยนอนกอดเด็กทั้งสองอยู่
“มามีบ้ อกว่าจะไปวัดทำบุญให้แม่มุดกันค่ะ” เด็กหญิงฟีนิกซ์เป็นคน
ตอบ
“ดีค่ะ แดดดี้ขอไปด้วยได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ”
“หลังจากทำบุญแล้ว เราจะไปค้างคืนกันที่คอนโดฯ มามีก้ ันนะคะ ดี
ไหม คารีนา”
“เย้ ดีค่ะ คารีนาจะนอนกับฟีนะคะ ให้แดดดี้นอนจับมือกับมามี้”
คนที่กำลังเศร้าอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงกับคำพูดไร้เดียงสานั้น
“อันนีเ้ ราค่อยคิดอีกทีว่าใครจะนอนตรงไหนนะคะ คืนนี้ดึกแล้วนอน
กันได้แล้วค่ะ แดดดี้จะนอนที่โซฟานะคะ”
“ทำไมแดดดี้ไม่นอนกับเราล่ะคะ” ลูกสาวตัวน้อยถามพร้อมกับขยับ
ที่ให้ แต่คนเป็นแดดดี้หัวเราะตอบว่า
“แดดดี้กลัวถูกถีบตกเตียงค่ะ” เด็กทั้งสองก็เลยหัวเราะขำกันใหญ่
ร่างสูงจึงก้มลงจูบลูกสาวและฟีนิกซ์ แลกกันคนละจุ๊บ ห่มผ้าให้ แล้วก็
513/559
ละมุนมาศขอบคุณพร้อมรอยยิ้มหวาน สิ่งที่ได้รับตอบแทนกลับมาก็
คือจูบที่เขาบรรจงมอบให้
มาถึงตอนนี้ละมุนมาศเริ่มที่จะคุ้นเคยกับการแสดงออกถึงความรัก
ของ เขาบ้างแล้ว จะไม่ให้คุ้นชินได้อย่างไร ไม่ว่าจะอยูท่ ี่ไหน เขาก็จูบ
หล่อนได้ตลอดเวลา เด็ก ๆ ปรบมือให้ทุกครั้งที่เห็นแดดดี้จูบมามี้
แต่ถึงแม้ว่าจะใกล้ชิดกันแค่ไหน จะอยู่บ้านเดียวกันก็แล้วแต่ เขายัง
รักษา คำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณยายกลีบบัวเป็นอย่างดี พร้อมกับคำสัญญา
ใหม่ที่เขาบอกว่า
เมื่อไรที่เกินเลย เขาพร้อมจะแต่งงานกับหล่อนทันที
คนให้สัญญาก็รํ่า ๆ จะทำอะไรเกินเลยทุกที ถ้าไม่ถูกคนตัวบางหยุด
เอาไว้เสียก่อน
วันเวลาผ่านไปหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามาในชีวิต ความโศกเศร้าค่อย
ๆ จางหายไป แต่ในหัวใจและความทรงจำของละมุนมาศก็ยังมีมารดาอยู่
ในนั้นเสมอ
ถึงเวลาแห่งคำสัญญาทีล่ ะมุนมาศให้ไว้กับคนตัวเล็ก การไปเที่ยวใน
วันปิดเทอมภาคฤดูร้อน คนตัวเล็กตื่นเต้นมาหลายวันที่รู้ว่าจะได้ขึ้น
เครื่องบินไปเที่ยว เตรียมเก็บของวันละนิดละหน่อย จนตอนนี้แทบจะล้น
กระเป๋าเลยก็ว่าได้ ส่วนเพื่อนรักที่ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยก็ออกอาการเหงาหงอย
เล็ก ๆ แต่ก็ตื่นเต้นช่วยเพื่อนรักเก็บกระเป๋าไปเที่ยว
518/559
เสียงแจ้ว ๆ ของคนตัวเล็กที่ตื่นเต้นกับการที่ได้ขึ้นเครื่องบินครั้ง
แรกดังไม่หยุด ละมุนมาศได้แต่ยิ้ม คุยกับคนขับรถบ้าง คุยกับคนตัวเล็ก
บ้าง
รถคันโตออกจากแอตแลนด์ตกิ ซิตี มุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติเจ
เอฟเค นิวยอร์ก (JFK International Airport) ในเวลาสองชั่วโมงครึ่ง
หลังจากที่จอดรถแล้ว เฟยก็จัดการนำกระเป๋าลงจากหลังรถ นั่นเองที่
ละมุนมาศเห็นกระเป๋าใบโตอีกใบหนึ่ง ซึ่งเฟยก็รับว่าเป็นของเขาพร้อมกับ
คำอธิบายที่ว่า
“เจ้านายให้ผมไปเที่ยวด้วย เพื่อดูแลมิสกับคุณหนูฟีนิกซ์”
ละมุนมาศได้แต่พยักหน้ารับ ในใจนึกถึงคนที่จัดการเรื่องนี้ ส่วนคน
ตัวเล็กที่รู้ว่ามีเพื่อนไปเที่ยวด้วยก็ดีใจ
“เย้ เฟยไปเที่ยวด้วย ดีใจจังเลย”
เครื่องบินโดยสารจากสนามบินเจเอฟเคถึงสนามบินเเอลเอเอกซ์
(ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส) ใช้เวลาในการบินหกชั่วโมงครึ่ง
ละมุนมาศรู้สึกอุ่นใจและขอบคุณที่มีคนของเขาตามมาด้วย พอออกมาจาก
เครื่องบิน เจ้านายก็โทร. หาลูกน้อง เฟยส่งต่อโทรศัพท์ให้กับละมุนมาศ
ยังไม่ทันได้ทักทายปลายสายก็ถามทันที
“หนูมุน การเดินทางเป็นอย่างไรบ้างครับที่รัก”
522/559
“ขอบคุณมาก คุณทำให้ผมแทบจะอดใจไม่ไหวแล้วนะหนูมุน”
“เอ่อ แค่นี้นะคะ เฟยรออยู่ เราต้องไปรับกระเป๋า บายค่ะ”
“รักคุณเช่นกัน จุ๊บ” ปลายสายส่งจุ๊บตอบกลับมาให้ คนรับอุ่นซ่าน
เข้าไปถึงหัวใจ
เฟยจัดการนำทางทุกอย่าง จนละมุนมาศคิดว่าการมาเที่ยวพักผ่อน
ครั้งนี้ หล่อนแทบจะไม่ได้ทำอะไรด้วยตัวเองเลย เป็นแต่ผู้ตามเท่านั้น เขา
ขับรถจิ๊ปเช่าพาละมุนมาศและฟีนิกซ์ไปแวะรับประทานอาหารเย็นที่ร้านพิซ
ซ่าเล็ก ๆ แห่งหนึ่งไม่ไกลจากสนามบินแอลเอเอ็กซ์มากนัก เป็นร้านที่เขา
บอกว่า
“ทุกครั้งที่ผมหรือว่าเบียนมากับเจ้านาย จะต้องแวะมาทานพิซซ่าที่
ร้านนี้เสมอ เจ้าของร้านเป็นเม็กซิกันที่เปิดร้านนีม้ ากว่ายีส่ ิบปีแล้ว ลูกค้าจะ
มากขึ้นแค่ไหน ร้านจะยุ่งแค่ไหน เขาก็ไม่เคยคิดขยายร้าน คนในพื้นที่
ส่วนมากจะซื้อออกไปนั่งทานข้างนอก ไม่ค่อยมีคนนั่งทานในร้านเท่าไร
นอกจากพวกต่างถิ่นเท่านั้น เพราะว่าแขกจะต้องบริการตัวเอง ไม่มี
พนักงานเสิร์ฟ ความอร่อยของพิซซ่าทำให้คนกินไม่สนใจในเรื่องนั้น”
คำโฆษณาของเฟยไม่เกินความจริงเลยสักนิด คนตัวเล็กที่ได้กินพิซ
ซ่าอร่อยก็คิดถึงเพื่อนรักทันที
“อยากให้คารีนามากินด้วยกันจังเลย”
524/559
คำพูดของทางปลายสายทำให้คนฟังรู้สึกดียิ่งนัก
“อีกไม่กี่วันก็เจอกันแล้วนะคะ”
“แต่ผมก็ไม่ชอบที่ต้องห่างจากคุณ”
“ขอบคุณค่ะ คุณเข้านอนได้แล้วนะคะ ดึกแล้ว คารีนาล่ะคะ”
“อยูน่ ี่ค่ะ” เสียงเล็ก ๆ แทรกเข้ามา ละมุนมาศก็เลยต้องเปิดลำโพง
คนตัวเล็กได้ยินเสียงเพื่อนรักก็ถลาเข้ามาทันที
“คารีนา ยูเป็นไงบ้าง”
“ไม่เป็นไร แต่อยากไปเที่ยวกับฟีจังเลย แดดดีบ้ อกว่าให้แดดดี้
ทำงานเสร็จก่อนแล้วค่อยไปเที่ยว”
“ฟียังไม่ได้เที่ยวเลย มาถึงก็เข้าโรงแรม พรุ่งนี้ถึงจะออกไปเที่ยว”
คนตัวเล็กรายงานเพื่อนรัก ทำให้ละมุนมาศอดที่จะยิ้มไม่ได้
“แล้วฟีจะขอมามี้ซื้อของไปฝากคารีนานะ รออยู่ที่บ้านนะ บาย”
“ก็ได้” อีกคนรับปากหงอย ๆ
“คารีนาอยากได้อะไรบอกมามี้นะคะ มามี้จะซื้อไปฝาก”
ละมุนมาศถามเด็กหญิงตัวน้อย
“คารีนาอยากไปเที่ยวกับมามี้กับฟี” คำตอบที่ได้ทำเอาตอบไม่ถูก
คนเป็นแดดดี้ก็เลยเป็นฝ่ายปลอบใจลูกสาวแทน
527/559
“รอให้แดดดี้ทำงานเสร็จก่อนแล้วค่อยไปนะคนดี” พร้อมกับได้ยิน
เสียงตอบรับเบา ๆ
“ค่ะ”
“ที่รัก คุณพักผ่อนเถอะนะ ผมจะทำงานต่ออีกเล็กน้อย งานจะได้
เสร็จ เร็ว ๆ”
“ค่ะ อย่าทำงานหนักเกินไปนะคะ พักผ่อนด้วย กู๊ดไนต์”
“กู๊ดไนต์ รักคุณนะ”
“เช่นกันค่ะ บาย”
หลังจากวางโทรศัพท์มือถือแล้ว ละมุนมาศก็ซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืน
หนาทันที รู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า หัวใจที่เต้นแรงอย่างมีความ
สุข ดวงตาหวานหลับพริ้ม ทั้ง ๆ ทีไ่ ม่มีความรู้สึกว่าอยากหลับสักนิด แต่
ก็ต้องหลับตา เพื่อที่จะซึมซับความรู้สึกอ่อนหวานเข้าสู่หัวใจ
43
จู่โจม...หัวใจ
“แต่งงานเมื่อไรอย่าลืมบอกนะ”
“บ้า เพิ่งจะคบกัน ยังไม่แต่งหรอก”
“ระวังไว้ให้ดเี ถอะ คนที่เคยบอกว่ายังไม่แต่งนะ แต่งก่อนเพื่อน
ทุกที”
“ยูไง” ลินด์ซีเลยหัวเราะเสียงดังเมื่อถูกย้อน
“นั่นสิ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปตอบตกลงแต่งงานกับรีดได้ไง
อารมณ์มันพาไปมั้ง ฮ่า ๆ ๆ”
เมื่อเพื่อนสาวคนสนิทกลับไปแล้ว ละมุนมาศก็อาบนํ้า เข้านอน แต่ก็
นอนไม่หลับ วันนีย้ ังไม่ได้รับโทรศัพท์จากใครบางคนเลย ยอมรับว่า
หล่อนรอโทรศัพท์เขามาทั้งวัน คิดว่าเขาจะโทร. มาหา มาถามไถ่ พูดคุย
กัน แต่กลับเงียบ นึกอยากจะเป็นฝ่ายโทร. ไปหา แต่ก็เกรงว่าจะเป็นการ
รบกวนการทำงานของเขามากเกินไป สุดท้ายก็ได้แต่รอ จากที่สังเกตวันนี้
ทั้งวันเขาก็ไม่ได้โทร. หาลูกน้องของเขาเช่นกัน
มีอะไร เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น หรือว่าทำงานหนักจนไม่สบายไปแล้ว
ก็ไม่รู้
หลากหลายความคิดที่กึกก้องอยู่ในหัวสมอง มองคนตัวเล็กที่ตอนนี้
หลับไปแล้ว ใบหน้าน้อย ๆ ทีไ่ ร้เดียงสามีความสุขสดใสที่ได้เห็นสิ่งต่าง ๆ
ในโลกกว้าง ละมุนมาศนึกดีใจที่พาคนตัวเล็กมาเที่ยวในครั้งนี้ ถึงแม้ว่า
530/559
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
“หนูมุน ฟี” เสียงเรียกทั้งชื่อหล่อนและฟี ร่างบางก็เลยตัดสินใจลุก
จากเตียงคว้าเสื้อคลุมอยู่ปลายเตียงมาสวมอย่างรวดเร็ว และเดินไปที่
ประตูพร้อมตั้งใจฟังเสียงเรียก
“หนูมุน ฟี”
“ใครคะ” ส่งเสียงกลับไป
“ผมเอง” หัวใจทีต่ อนแรกสั่นสะท้านเพราะความกลัว ก็เปลี่ยนเป็น
เต้นเเรง ด้วยความตื่นเต้นดีใจ ใบหน้าสวยแต้มยิ้มเต็มใบหน้า เมื่อแน่ใจ
แล้วว่าเป็นใคร ก็กดปลดกลอนทีล่ ็อกออก ร่างของหล่อนก็ถูกอ้อมแขน
แข็งแรงคว้าเข้าสูอ่ ้อมกอด พร้อมกับริมฝีปากหยักอุ่นก็ตามแนบชิด
ความคิดถึง โหยหา ห่วงใย กังวลสารพัด ถูกขจัดออกไปด้วยรอยจูบที่
อ่อนหวาน แต่แฝงไปด้วยความเร่าร้อนจนแทบหลอมละลาย
ละมุนมาศไม่มีโอกาสได้คัดค้านหรือว่าต่อต้าน นอกจากปล่อยให้
หัวใจได้ทำงานตามที่มันต้องการ ลิ้นเรียวเล็กถูกลิ้นหนาใหญ่เกี่ยว
กระหวัดรัดรึงหยอกล้อด้วยเสน่หานานเท่านาน จนเท้าแทบยืนไม่ติดพื้น
หายใจแทบไม่เป็นกระบวน สองมือต้องยกขึ้นเกาะเกี่ยวบ่าหนาเอาไว้แน่น
พอเขาดึงริมฝีปากออก ละมุนมาศถึงได้มโี อกาสหายใจเต็มที่ เรี่ยวแรงที่มี
อยูห่ ายไป ต้องพิงร่างและซบแนบกับอกแกร่งของเขาเอาไว้ และร่างบางก็
ถูกเขาช้อนอุ้มขึ้นสู่อ้อมอก
532/559
“แต่มันไม่เหมาะ”
“เราเป็นคู่หมั้นกันนะครับหนูมุนที่รัก”
“มันไม่ถูกต้อง”
“ไม่รลู้ ะ ผมไม่ยอมนอนคนเดียวแน่ ๆ” คนเอาแต่ใจก้มลงอุ้มร่าง
บางเดินไปทีเ่ ตียงกว้าง แอบมองใบหน้าหวาดหวั่นของคนในอ้อมกอดไป
ด้วย อดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงไปจูบแก้มเนียนแรง ๆ พร้อมกับคำสัญญา
“ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรหนูมุนนอกจากนอนกอดเฉย ๆ”
“สัญญาจริง ๆ นะคะ” คนที่ยังหวั่น ๆ ยํ้าคำสัญญา
“จริงครับ แต่ถ้าผมทำอะไร ผมยอมให้หนูมุนเอาคืนสองเท่าสามเท่า
เลยก็ได้”
คำตอบนั้นทำให้คนรับสัญญาส่งค้อนให้อย่างแรง ฟังแล้วก็รวู้ ่า
ขาดทุนทบแล้วทบอีก
อ้อมแขนแข็งแรงผ่อนร่างบางลงบนเตียงกว้าง ห่มผ้าให้พร้อมมุด
ตัวเองเข้าไปในผ้าห่มด้วยกัน
“ตรัง”
“ครับ”
“คุณจะไม่ใส่ชุดนอนก่อนหรือคะ”
539/559
“แล้วแดดดี้ของคารีนาล่ะครับ ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย”
คำบอกของเขาทำให้อีกคนตาโต เพิ่งจะมีโอกาสได้มองเขา ก็พบว่า
อีกคนยังนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวอยู่เลย ใบหน้าหวานร้อนซ่านขึ้นทันใด รีบ
ดึงตัวเองออกมา
“มุนไปหาให้ค่ะ” ร่างบางเดินก้มหน้างุดไปยังตู้เสื้อผ้า คารีโนเดิน
ตามรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นอีกคนตื่นเต้น ตาโต หน้าแดง เขินอาย
กระแสความร้อนที่แผ่กระจายอยู่ที่แผ่นหลังผ่านเข้าสู่หัวใจ ทำให้คน
ทีก่ ำลังเลือกเสื้อผ้ารีบคว้ากางเกงขาสั้นที่อยู่ใกล้มือที่สุด และก็แทบจะ
สะดุดลมหายใจของ ตัวเอง เมื่ออ้อมแขนแข็งแรงพร้อมบางสิ่งบางอย่างใน
มือของเขาวางแนบอยู่ที่หน้าท้องของหล่อน คางของเขากดลงบนบ่าเล็ก
ลมหายใจอุ่น ๆ กับริมฝีปากนุ่มก็แตะเบา ๆ ที่ข้างแก้ม
“ผมมีอะไรจะให้คุณอีกอย่างนะที่รัก นี่ไง”
สิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าท้องของหล่อนก็คือ กระเป๋าสะพายใบไม่เล็กนัก
ทีต่ ัดเย็บด้วยผ้าโลโก้ของ Liz พร้อมกับคำอธิบายทีท่ ำให้คนฟังหัวใจพอง
โตคับอก
“กระเป๋ารุ่นนีม้ ีใบเดียวในโลกทีอ่ อกแบบด้วยมือของผมเอง ขอมอบ
ให้มาดามเนียมบาในอนาคตครับ”
มาดามเนียมบาในอนาคตรู้สึกเขินเล็ก ๆ กับคำเรียกขานของเขา
545/559
สาวน้อยสองคนที่อยู่ในชุดสีขาวสะอาดฟูฟ่องกรอมเท้าราวกับเจ้าหญิงน้อย
ๆ บนศีรษะเล็ก ๆ นั่นก็คาดด้วยทีค่ าดผมลายลูกไม้สีขาวเดิน ๆ นั่ง ๆ
วนเวียนอยู่ข้างกายเจ้าสาว
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
เสียงเคาะประตูดังขึ้น สองสาวน้อยวิ่งถลาไปหาพร้อมกับเสียงถาม
“แดดดี้ค่ะ เปิดประตูให้แดดดี้หน่อยได้ไหมคะ”
“ไม่ได้ค่ะแดดดี้ คุณทวดไม่ให้เปิดจนกว่าจะถึงเวลาค่ะ” ลูกสาวตัว
น้อยเป็นคนตอบ
“แดดดี้รอหน่อยนะคะ อีกไม่นานแล้วค่ะ” เด็กหญิงฟีนิกซ์ช่วย
ปลอบ
แล้วสองสาวก็หัวเราะกันคิกคัก ทั้งสองทำตามคำบอกของคุณทวดที่
บอกว่า
ดูแลมามี้ อย่าเพิ่งให้แดดดี้เจอมามี้นะ มันยังไม่ถึงเวลา
ละมุนมาศได้แต่อมยิ้ม ตั้งแต่เขามาถึงหลังเที่ยงก็แวะเวียนมาเคาะ
ประตูห้อง แต่ก็ไม่ได้เข้ามา เพราะสองสาวน้อยทำตามคำบอกอย่าง
เคร่งครัด
หัวใจดวงน้อยตื่นเต้นมากนัก ไม่เจอหน้าเขาสองวันแล้ว ได้ยินแต่
เสียงทางโทรศัพท์ พอคิดถึงเสียงโทรศัพท์มือถือข้างตัวก็ดังขึ้น ละมุนมาศ
ขอเวลาคนแต่งหน้ายกโทรศัพท์มากดรับ
551/559
“ค่ะ”
“หนูมุนที่รัก เป็นอย่างไรบ้าง คิดถึงจัง อยากเห็นหน้า แต่ลูก ๆ ไม่
ยอม” เสียงโอดครวญที่ดังมาตามสาย ทำให้คนเป็นเจ้าสาวถึงกับหัวเราะ
คิกทีเดียว
“ช่วยกันทรมานผมหรือไงครับ ระวังโดนเอาคืน”
เมื่อได้ยินคำขู่ ใบหน้าสวยก็แดงระเรื่อทันที ในใจก็นึกหวาดหวั่น
“แค่นี้นะคะ ช่างรอแต่งหน้าอยู่ เดี๋ยวเจ้าสาวไม่สวยไม่รู้ด้วยนะคะ”
“รักนะครับ จุ๊บ” คนหน้าแดงกดปิดโทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะ และก็
พยักหน้าให้ช่างมาแต่งหน้าต่อ
“มามีส้ วยจังเลยค่ะ เหมือนกับเจ้าหญิงเลย” ฟีนิกซ์เข้ามากอดร่าง
ของ ละมุนมาศที่อยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ส่วนอีกคนก็ไม่น้อยหน้า
“แดดดี้เห็นต้องจุ๊บมามี้แน่ ๆ เลย” คำพูดไร้เดียงสา แต่ทำให้คนฟัง
รู้สึก เขินอาย ยิ่งอีกคนคาดโทษเอาไว้ด้วย
“ฟีกับคารีนาก็สวยมากเลยค่ะ ชุดก็สวย”
“แต่โตขึ้นฟีจะใส่ชุดเหมือนกับมามี้นะคะ”
“คารีนาด้วยค่ะ”
“รอให้โตก่อนนะคะ”
“ค่ะ/ค่ะ”
552/559
งานแต่งงานของลูกชายเจ้าของธุรกิจผู้มั่งคั่งกับเจ้าสาวคนสวย ที่ต้อง
เชิญแขกเหรื่อมาร่วมเป็นสักขีพยานทั้งคนรู้จักในแวดวงธุรกิจและเพื่อนฝูง
คนรู้จักจำนวนกว่าสองร้อยคน
สนามหญ้ากว้างหน้าบ้านตอนนี้เปลี่ยนเป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน
ดอกไม้ที่จัดในงานจำนวนมากเป็นดอกไม้จริง ที่ถูกนำมาปลูกก่อนหน้านั้น
ด้วยคำสั่งของเจ้าบ่าว หลังจากที่เจ้าสาวตกปากรับคำแต่งงาน ซึ่งกำลังออก
ดอกสะพรั่งสวยงามราวกับสวนสวยในเทพนิยาย รอบ ๆ มีการจัดซุ้มด้วย
ไม้ดอกสารพัดชนิดที่เป็นเถาเกาะเกี่ยวพันเลื้อยไปตามความโค้งของซุ้ม
มองดูให้ความสดชื่นมีชีวิตชวา มีเก้าอี้สำหรับแขกที่มาร่วมพิธีจัดเป็นสอง
แถว แถวตรงกลางให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินผ่านไปยังบาทหลวงผู้ทำพิธี
เมื่อถึงเวลาฤกษ์สะดวกที่แดดร่มในยามเย็น เจ้าบ่าวไปยืนรออยู่แล้ว
บนเวที พร้อมกับเพื่อนเจ้าบ่าวที่อยู่ในชุดสูทสีดำสนิท ส่วนเจ้าบ่าวอยูใ่ น
ชุดทักซิโด้สีดำหรูหรา เสื้อเชิ้ตสีขาว สวมทับด้วยเสื้อกั๊กสีดำ หูกระต่ายสี
ดำ ผมตัดสั้นสะอาดสะอ้าน ใบหน้าหล่อเหลาสดใสยิ้มแย้ม
เสียงเพลงมาร์ชดังขึ้น เจ้าสาวในชุดสีขาวลูกไม้ฝรั่งเศสเกาะอก ตัว
กระโปรงยาวกรอมเท้าทรงเอที่มีหางยาวเล็กน้อย ที่คอประดับด้วยสร้อย
เพชรเส้นโต เอวคอดผูกด้วยผ้าซาตินสีขาวบริสุทธิ์ปลายชายไว้ด้านข้าง
คลุมหน้าด้วยผ้าลูกไม้ชนิดเดียวกัน มือทั้งสองกำช่อดอกไม้ดอกเล็กสีขาว
สวยงาม เดินนำหน้าด้วยเด็กหญิงคารีนาที่ทำหน้าที่โปรยกลีบดอกกุหลาบ
ตามหลังด้วยเด็กหญิงฟีนิกซ์ที่ถือตะกร้าดอกไม้
553/559
“ทำไมมาพูดตอนนี้คะ เรายังเต้นรำกันอยู่เลย”
“ที่ผมพูดตอนนี้ก็เพราะว่า...” ปลายเสียงเปลี่ยนเป็นกระซิบข้างหู
แทน อีกคนก็หน้าแดงแปร๊ดใจสั่นขึ้นมาทันที คนกระซิบยิ้มนัยน์ตา
กรุ้มกริ่มหวานส่งให้
“ว่าไงครับ ตกลงกันก่อน ผมจะได้ทำได้ถูก”
“บ้า...ตรัง พูดอะไรก็ไม่รู้”
“ผมขอสามได้ไหม” อีกคนไม่ตอบ คนถามก็เลยเป็นฝ่ายเสนอแทน
“สามคนเลยหรือคะ”
“สามคู่ต่างหาก”
“หา !” เจ้าสาวตาโตกว่าเดิมเมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้าบ่าวเลยหัวเราะ
แล้วก็ก้มลงจูบกระหม่อมเป็นการปลอบขวัญ พร้อมกับอ้อมกอดทีร่ ัดร่าง
บางเข้าแนบชิด กระซิบข้างหูเบา ๆ
“รักคุณนะ”
“รักคุณเช่นกัน รักที่สุด” คำตอบแผ่วเบา แต่ก้องกังวานอยูใ่ น
โสตประสาทของคนฟัง ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มก่อนที่จะก้มลงประทับ
กับริมฝีปากอิ่ม ท่ามกลางเสียงปรบมือของผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ฟลอร์
เจ้าสาวเขินอายจนแทบจะมุดเข้าไปในอกกว้างของเจ้าบ่าว
556/559
หลายชั่วโมงกว่าที่งานเลี้ยงจะเลิกรา เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองได้รับ
อนุญาตให้อยู่ดึกได้ถึงสี่ทุ่ม พอถึงเวลานอนก็มาจูบลาแดดดี้และมามี้
พร้อมกับคำขอที่ทำให้แดดดี้ยิ้มกริ่ม แต่มามี้หน้าแดง
“อย่าลืมน้องของฟีนะคะ/อย่าลืมน้องของคารีนานะคะ”
เมื่อถึงเวลาเข้าหอ คุณยายกลีบบัวซึ่งยังถือประเพณีไทย ก็ปูที่นอน
ร่วมกับลูกสาวลูกเขยเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พร้อมกับคำอวยพรมากมาย
ที่มอบให้กับคู่แต่งงานใหม่
หลังจากประตูห้องหอปิดลง พร้อมกับร่างสูงแข็งแรงก็ช้อนร่างบางใน
ชุด เจ้าสาวแสนสวยขึ้นสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว จนคนที่ไม่ทันตั้งตัวร้อง
ด้วยความตกใจ
“ว้าย ตรัง ทำอะไรคะ ยังไม่ได้อาบนํ้าเลยนะ”
“ไม่ต้องอาบแล้วครับที่รัก คุณยังหอมไปทั้งตัว ผมรอเวลานี้มานาน
แค่ไหนแล้วหนูมนุ ตั้งแต่เจอหนูมุน ผมยังไม่ได้มีอะไรกับสาว ๆ ที่ไหน
เลย รอแต่หนูมนุ คนเดียวครับที่รัก” คนที่หวั่นไหว หวาดหวั่น ตื่นแต้น
และหวาดกลัวกับสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตก็ตัวสั่น นึกอยากจะขอเวลา
ทำใจ แต่ก็รู้ว่าอีกคนอดทนเพื่อหล่อนมาตั้งนาน
ร่างบางถูกผ่อนลงบนเตียงกว้าง ละมุนมาศรับรูว้ ่าอากาศภายใน
ห้องเย็นจัดทีเดียว ใครเป็นคนปรับอุณหภูมิในห้องตํ่าขนาดนี้กันหนอ
“แอร์เย็นจังเลยค่ะตรัง”
557/559