You are on page 1of 559

หัวใจอุ่นรักในวันหนาว

ญดา
เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ 978-616-7419-30-5
พิมพ์ครั้งที่ 1 เดือนมิถุนายน 2555
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแห่งชาติ
ญดา.
หัวใจอุ่นรักในวันหนาว.-- กรุงเทพฯ : บาลานซ์, 2555.
320 หน้า.
1. นวนิยายไทย. I. ชื่อเรื่อง.
895.913
ISBN 978-616-7419-30-5
บรรณาธิการ ทีมงาน MyRose
ศิลปกรรม Vicentee
ออกแบบปก 2mindspace
พิสูจน์อักษร Phai • Moto_ji
จัดทำโดย สำนักพิมพ์ มายโรส บริษัท บาลานซ์ พับลิชชิ่ง จำกัด
3/559

102/20 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ


10200
โทรศัพท์ 0-2628-9642 โทรสาร 0-2628-7596
http://www.myrosebooks.com
E-mail: myrosebooks@gmail.com
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้
เพื่อนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิด
ลิขสิทธิ์
จัดจำหน่ายในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์(eBook) โดย

บริษัท ไอ.พี.เจ. อินเตอร์เนชั่นแนล(1988) จำกัด


73 หมู่ที่ 5 ตำบลหลักหก
อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี 12000
โทร. 0-2567-0759 โทรสาร 0-2567-5779
www.hytexts.com
Special Thanks for Opensource license
JS Font
CKeditor
คำนำนักเขียน

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๕ ใครที่มีความสุขก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ใครที่มี


ความทุกข์ก็ขอให้หมดทุกข์และมีความสุขนะคะ
ความสำเร็จของนิยายเรื่องนี้ขอมอบแด่ คุณแม่อุดดี ปันแก้ว ในวัน
ครบรอบวันเกิดเดือนกุมภาพันธ์นี้...ขอให้คุณแม่จงมีความสุข มีสุภาพที่
แข็งแรงตลอดไป เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลานตราบนานเท่านานเทอญ
...ผู้อ่านเคยเข้าใจอะไรผิด หรือว่าเข้าใจใครผิด ๆ บ้างไหม คิดเอง
เออเอง คิดในสิ่งที่เห็น สรุปเองเรียบร้อย...นางเอกของนิยายเรื่องนี้กเ็ ป็น
อย่างนี้ ว่าแต่ว่า นางเอกเข้าใจอะไรผิด คิดหรือว่าสรุปอะไรเอง อยากรู้
ต้องตามอ่านในเล่มค่ะ
บางคนอาจจะได้อ่านกันมาบ้างแล้วในเวบเด็กดี เวบวิชาการ เวบมาย
โรส ป้าดาขอขอบคุณทุก ๆ เวบทีใ่ ห้พื้นที่ในการลงเรื่องให้ผู้อ่านได้อ่าน
กันอย่างอบอุ่น
ขอขอบคุณผู้อ่านทุก ๆ ท่านที่เข้ามาอ่าน มาพูดคุย มารอ มาลุ้น มา
ช่วยแก้ไขคำผิดหรือว่าข้อความทีผ่ ิดพลาด และให้กำลังใจกับป้าดาเสมอ
มา
6/559

ขอบคุณพี่ทิพวัลย์ เอียมานนท์ พี่สาวที่น่ารักที่ช่วยเปลี่ยนชื่อเพราะ


ๆ ให้กับนางเอกของเรื่องนี้
ขอบคุณคุณเอ คุณเปิ้ล คุณจูน และทีมงานมายโรสทุก ๆ ท่าน
Many thanks to my husband Wayne Mack and my
son Darren Mack for all understanding, love and sup-
port, without you both I couldn’t get it done.
ป้าดาขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้กับผู้อ่านด้วยนะคะ ขอให้มีความสุขกับ
การอ่านกันทุกคนค่ะ
ด้วยรักและขอบคุณ
ป้าดา / ญดา
1
คนตัวเล็กของหัวใจ

ร่างบางที่นอนคุดคูอ้ ยูใ่ นผ้าห่มผืนหนา เปลือกตาบางปิดสนิท


ใบหน้าหวานที่มี ผิวหน้าเนียนใสสะอาดมีรอยยิ้มน้อย ๆ ราวกับกำลังอยู่
ในความฝันแสนหวานในสภาวะอากาศที่กำลังเย็นสบายในฤดูใบไม้ผลิ
กลางเดือนมีนาคมอย่างนี้ ทำให้คนที่กำลังนิทราอย่างมีความสุขไม่อยากที่
จะลืมตาตื่น
เนื่องจากเมื่อคืนกว่าทีล่ ะมุนมาศจะกลับถึงห้องพัก ก็เลยเวลา
เที่ยงคืนไปแล้ว อาบนํ้าอาบท่าลบล้างกลิ่นอาหารที่ติดตัวมาจากร้านอาหาร
ที่ทำงาน กว่าจะได้เข้านอนก็ปาเข้าไปวันใหม่แล้ว และเช้านี้เป็นเช้าวันเสาร์
ที่ไม่ต้องตาลีตาเหลือกตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานอีกด้วย
ใบหน้าเล็ก ๆ สีชมพูกับดวงตาที่ซุกซนสดใส ส่งนิ้วมือเล็ก ๆ ไต่ไป
ตามใบหน้าเนียนที่นอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขนั้น และหลายครั้งที่
คนนอนยกมือขึ้นปัดอย่างรำคาญ เรียกรอยยิ้มน่ารักอย่างถูกใจบนดวง
หน้าเล็ก ๆ นั้นได้ทุกครั้งไป
8/559

แต่ครั้งนีค้ นทีน่ อนหลับไม่ได้ปัดสิ่งที่รบกวนทิ้ง แต่กลับคว้าเอาสิ่งที่


กำลังไล้แผ่วเบาบนใบหน้าส่งเข้าปากของตัวเองแล้วก็เคี้ยว จนได้ยิน
เสียงหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ พร้อมกับอ้อมแขนของคนทีน่ อนอยูก่ ค็ ว้า
คนข้าง ๆ เข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ก่อนทีจ่ มูกโด่งเล็ก ๆ นั้นจะระดม
จูบไปทั่วทั้งใบหน้าทีห่ อมกรุ่นกลิ่นแป้งเด็กอย่าง รักใคร่ เสียงหัวเราะ
เอิ๊กอ๊ากชอบใจทำให้คนที่เพิ่งจะได้นอนไม่ถึงหกชั่วโมงต้องตัดใจลืมตาตื่น
ขึ้นมา
“ทำไมตื่นเช้าล่ะคะ...หือ”
“ฟีนอนไม่หลับ ท้องมันร้องว่าหิวค่ะมามี้” พูดไปมือน้อย ๆ ก็ลูบ
ท้องตัวเองไปด้วย
“หิวอะไรแต่เช้าคะ”
“ดินเนอร์เมื่อคืนฟีกินนิดเดียวเอง”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ ฟีไม่ชอบลันเชเบิลนักเก็ต (Lunchable, Nug-
get - อาหารกลางวันง่าย ๆ สำหรับเด็ก ๆ ที่มขี ายเป็นชุด ประกอบไป
ด้วย เครื่องดื่ม ขนม และอาหาร ชื่อว่าอาหารกลางวัน แต่สามารถทานได้
ทุกเวลา) แล้วหรือ”
“ชอบค่ะ แต่ฟีคิดถึงมามีก้ ็เลยกินไม่อร่อย” เสียงอ่อย ๆ ที่ได้ยินทำ
ให้หัวใจของละมุนมาศวูบไหว นึกสงสารคนตัวเล็กที่หล่อนต้องทิ้งไป
9/559

ทำงานประจำและทำงานพิเศษในตอนเย็นวันพฤหัสบดี วันศุกร์ และวัน


เสาร์ มีวันหยุดจริง ๆ แค่วันเดียวในหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นเช้านี้ฟีอยากกินอะไรคะ” ละมุนมาศรีบถามอย่างเอาใจ
“อะไรก็ได้ค่ะที่มามี้ทำ ฟีกินหมด”
“จริงหรือ งั้นมามี้ทำอะไรเผ็ด ๆ ใส่พริกเยอะ ๆ ให้ฟกี ินดีกว่า
ท่าทางน่าอร่อย”
“โอ๊ย งั้นฟีคงกินไม่ได้” คนตัวเล็กร้องเสียงโอดโอย ทำให้ละมุน
มาศอดหลุดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ล้อเล่นค่ะ ว่าแต่ฟีแปรงฟัน ล้างหน้าหรือยังคะ”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” บอกพร้อมยิงฟันซี่เล็ก ๆ ให้ดูเป็นการยืนยัน
“ถ้าอย่างนั้นรอมามี้แป๊บหนึ่ง ขอเข้าห้องนํ้าล้างหน้าแปรงฟันก่อน ได้
ไหมคะ”
“ได้ค่ะ”
ละมุนมาศยื่นหน้าไปจูบแก้มหอมเนียนนั้นอีกครั้ง ก่อนทีจ่ ะเดินเข้า
ไปใน ห้องนํ้าทีใ่ ช้ร่วมกันระหว่างสองห้องนอน มีประตูเปิดเข้าได้ทั้งสอง
ทาง เห็นแล้วก็รู้ว่าเด็กอายุเกือบหกขวบมีความพยายามแค่ไหนในการ
ช่วยเหลือตัวเอง จึงได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ เพราะว่าบางส่วนของ
ยาสีฟันหกเลอะอยู่ในอ่าง นํ้ากระเด็นกระจายไปทั่วทั้งอ่างและกระจก
10/559

จะเอาอะไรกับเด็กอายุแค่นี้ที่ยังต้องเรียนรู้อีกมากมาย
เมื่อคิดได้ดังนั้นละมุนมาศก็จัดการกับตัวเองทันที เมื่อรู้ว่าคนตัวเล็ก
กำลังหิว ไม่ถึงห้านาทีร่างสูงแบบบางที่สูงเลยร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร
เล็กน้อย ในชุดกางเกงนอนตัวยาวกับเสื้อยืดตัวโคร่งทีส่ ีของมันซีดจนหาสี
ดั้งเดิมไม่เจอ ผมยาวสลวยถึงกลางหลังที่เจ้าตัวแค่รัดเอาไว้ลวก ๆ ออก
มาจากห้องนํ้า ก็พบว่าคนทีบ่ อกว่าหิว นั่งดูโทรทัศน์บนโซฟาตัวยาวกำลัง
หัวเราะ ทั้งลุ้นทั้งเชียร์การ์ตูนทอมแอนด์เจอร์รี่ (Tom & Jerry -
การ์ตูนทีวีซีรีสอ์ อกอากาศในสหรัฐอเมริกา) และทันทีที่ได้ยินเสียงเปิด
ประตูออกมาจากห้องนอน ร่างเล็ก ๆ นั้นหันมาหาพร้อม ยิ้มให้
“มามี้เสร็จแล้วหรือคะ”
“อือฮึ ฟีคิดออกหรือยังคะว่าอยากกินอะไรเช้านี้”
“แพนเค้กได้ไหมคะมามี้” ภาษาไทยชัดเจนพร้อมยิ้มหวานประจบบน
ใบหน้าเล็ก ๆ ทีบ่ างใสจนเป็นสีชมพู ผมที่ออกสีนํ้าตาลอ่อน ๆ ออกทาง
ฝรั่งมากกว่าไทย
“ได้ค่ะ งั้นมาช่วยมามี้ทำดีกว่าจะได้เสร็จเร็ว ๆ”
ร่างเล็ก ๆ ปิดโทรทัศน์แล้ววิ่งตามหลังละมุนมาศเข้าไปในครัวอย่าง
รวดเร็ว
“ฟีจะตอกไข่นะคะมามี้”
“ได้ค่ะ แต่ระวังอย่าให้เปลือกไข่ตกลงไปในนั้นนะคะ”
11/559

“รับรองค่ะ” สิ้นเสียงรับรองแข็งขัน ก็ตามมาด้วยเสียง


“โพละ” และ
“โอ๊ะโอ๋”
ละมุนมาศหันไปมอง ก็เห็นว่าทุกอย่างลงไปกองรวมกันอยูใ่ นถ้วย
เรียบร้อยแล้ว ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นส่งยิ้มให้อย่างแหย ๆ
“ซอร์รี (sorry - ขอโทษ) มันลื่นหลุดมือน่ะค่ะมามี้” ใบหน้าหงอย
ๆ ยอมรับผิดเงยขึ้น
“ไม่เป็นไรนะ แต่ต่อไปฟีต้องระวังให้มากกว่าเดิมนะคะ” ละมุนมาศ
พูดและยิ้มเป็นกำลังใจส่งให้ พร้อมกับกดจมูกและริมฝีปากบางลงทีก่ ลาง
กระหม่อม หล่อนรูว้ ่าคนตัวเล็กยังต้องเรียนรูอ้ ะไรอีกหลายอย่างนักใน
ชีวิตนี้
เสียงช้อนกระทบกับถ้วย พร้อมกับเสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วกับคำถาม
มากมายที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น นํ้าเสียงตื่นเต้นกับรอยยิ้มบน
ใบหน้าเล็ก ๆ นั้น ทำให้ละมุนมาศยิ้มได้อย่างมีความสุข ลืมความ
เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าความทุกข์กังวลกับชีวิตไปหมดสิ้น
ไม่นานนักอาหารเช้าง่าย ๆ อย่างแพนเค้กก็เสร็จ ส่งกลิ่นหอมกรุ่น
ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องพักเล็ก ๆ นั่น
ละมุนมาศป้ายเนยบนแพนเค้ก และราดนํ้าหวานเพียงเล็กน้อยให้กับ
คนตัวเล็กที่นั่งจ้องรอกินอย่างใจจดจ่อ
12/559

“นี่ค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ” ละมุนมาศเลื่อนจานไปให้ตรงหน้า


พร้อมกับรินนํ้าส้มและนมส่งให้
“ขอบคุณค่ะมามี้” มือน้อย ๆ ยกขึ้นไหว้
“ด้วยความยินดีค่ะ เพื่อฟี มามี้ทำได้เสมอ มามี้รักฟีนะคะ”
มือบางยื่นไปลูบผมนุ่มของคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน คนตัวเล็กเงย
หน้าขึ้นส่งยิ้มให้
“ฟีก็รักมามี้ค่ะ รักมากที่สุดในโลกเลย และแพนเค้กของมามี้อร่อย
ที่สุดในโลกเหมือนกัน”
คำบอกนั้นทำให้คนฟังเปิดยิ้มกว้าง เมื่อคิดว่าคนตัวเล็กเข้าใจพูดให้
คนฟังรู้สึกดีเหลือเกิน
“กินเถอะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อย”
เมื่อได้รับอนุญาต มือเล็ก ๆ นั้นก็ใช้ส้อมตัดแพนเค้กเป็นชิ้นเล็ก
แล้วตักเข้าปาก ใบหน้าน้อย ๆ ยิ้มอย่างมีความสุข ละมุนมาศมองหน้าคน
ตรงหน้าที่กำลังกินอย่างมีความสุข แล้วอดที่คิดถึงชีวิตของตัวเองไม่ได้
จากคำพูดของยายทีเ่ สียชีวิตไปแล้วบอกว่า เมื่อมารดาของหล่อนเลิก
กับบิดา หลังจากแต่งงานกันได้ไม่ถึงห้าปี จบชีวิตคู่ที่เริ่มต้นด้วยความรัก
ในวัยหนุ่มสาว ซึ่งเหตุผลในการเลิกราก็คือทนความลำบากไม่ได้ มารดา
ของหล่อนต้องการชีวิตทีส่ ุขสบาย มีเงินใช้ มีเสื้อผ้าสวย ๆ ใส่ ไม่ต้อง
ทำงาน และไม่ต้องการลำบากอยูก่ ับความรักที่กินไม่ได้ของบิดา มารดา
13/559

เกลียดชีวิตบ้านนอก เกลียดการทำไร่ทำนาที่ต้องตากแดดหน้าดำทั้งวันก็
เลยหนีไป ทิ้งหล่อนเอาไว้กับบิดา
จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อละมุนมาศอายุได้เก้าขวบเศษ มารดาก็กลับมา
พร้อมกับมาขอหล่อนไปเลี้ยง โดยให้เหตุผลกับบิดาว่าต้องการให้หล่อน
สบาย ได้เรียนดี ๆ เพราะว่ามารดาได้แต่งงานใหม่กับชายสูงวัยชาว
อเมริกันที่เป็นวิศวกรบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งส่งเขาไปทำงานที่เมืองไทยเลยได้
เจอกับมารดา แล้วก็รักกันและแต่งงานกัน
บิดาก็อนุญาต เพราะเห็นว่าเป็นอนาคตทีด่ ีของลูกสาว หลังจากนั้น
มารดาก็ให้หล่อนเข้าโรงเรียนนานาชาติหรูหรา ชีวิตทีพ่ ลิกผันจากโรงเรียน
บ้านนอกไปเรียนโรงเรียนนานาชาติ ทำให้ละมุนมาศปรับตัวได้ไม่ดีนัก อีก
ทั้งได้รับการดูถูกเหยียดหยาม ลูกเมียเช่าบ้าง ลูกผู้หญิงหากินบ้าง ลูกฝรั่ง
ขี้นกบ้าง และอีกสารพัดคำพูดเจ็บแสบที่ได้รับจากเพื่อน ๆ แต่ละมุนมาศ
ไม่เคยสนใจ ก้มหน้าก้มตาเรียนหนังสืออย่างมุ่งมั่น
ปีถัดมามิสเตอร์เดอเรคผู้เป็นบิดาเลี้ยงก็ได้รับคำสั่งให้ไปทำงานใน
ประเทศแถบตะวันออกกลาง ละมุนมาศและมารดาก็ได้ติดตามไปด้วย
และย้ายไปอีกในหลายประเทศตามคำสั่งของทางบริษัท ในขณะทีล่ ะมุน
มาศกำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติทปี่ ระเทศโอมาน บิดาที่เมืองไทย
ก็ได้เสียชีวิตลง
ชีวิตที่ขาดบิดาทำให้มิสเตอร์เดอเรคดูแลลูกสาวของภรรยาอย่าง
ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ความที่เป็นเด็กน่ารัก ตั้งใจเรียน ทำงานทุกอย่างในบ้าน
14/559

เท่าที่จะทำได้ แถมยังดูแลบิดาเลี้ยงอย่างจริงใจ ทำให้ละมุนมาศได้รับ


ความรัก ความเอ็นดูจากมิสเตอร์ เดอเรคมากมายอย่างจริงใจ บิดาเลี้ยงก็
เอาใจใส่ดูแลหล่อนราวกับลูกสาวของตัวเองก็ว่าได้ ทำให้ละมุนมาศสนิท
กับบิดาเลี้ยงมากกว่ามารดาด้วยซํ้าไป
เมื่อละมุนมาศอายุได้สิบหกปี บิดาเลี้ยงก็กลับไปตั้งรกรากอยู่ที่รัฐแม
รี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา ละมุนมาศกับมารดาก็ติดตามไปด้วย แต่ชีวิตก็มี
ความสุขได้แค่ปเี ศษ ๆ เท่านั้น เพราะบิดาเลี้ยงเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน
เนื่องจากเหตุผลทางสุขภาพ ความสูญเสียอีกครั้งที่ทำให้ละมุนมาศเสียใจ
เป็นอย่างมาก และการจากไปของบิดาเลี้ยงได้ทิ้งมรดกมากมายไว้ให้ผเู้ ป็น
มารดา
ละมุนมาศจำได้ว่า หล่อนรู้สึกโศกเศร้ากับการจากไปของบิดาเลี้ยง
มากมายแต่ผู้เป็นมารดากลับร่าเริงดีใจกับการจากไปของสามี ซึ่งละมุน
มาศไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็ไม่ก้าวก่าย
สองเดือนกว่า ๆ หลังจากที่ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทชาว
อเมริกันของบิดาเลี้ยงและทนายความ ช่วยจัดการในเรื่องของทรัพย์สิน
ต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศของบิดาเลี้ยงแล้ว มารดาของหล่อนก็ยิ่งมี
ความสุขมากขึ้น เมื่อรู้ว่ามรดกของสามีตกเป็นของตัวเองเกือบทั้งหมด
และมีส่วนหนึ่งทีบ่ ิดาเลี้ยงแบ่งไว้ให้กับหล่อน ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงเพื่อการ
ศึกษา
15/559

เพื่อนคนไทยที่คบหากันรับรู้ความรํ่ารวยนี้ ก็ขนานนามให้มารดาของ
หล่อนว่าม่ายเศรษฐีนี ซึ่งมารดาก็ยิ้มรับอย่างหน้าชื่นตาบาน ทั้งที่รวู้ ่าหลาย
คนต่อหน้าชื่นชมแต่ลับหลังนินทา แต่มารดาของหล่อนก็ไม่สนใจ บอก
แต่ว่า
“ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ พวกนั้นก็แค่อิจฉาที่ฉันมีเงิน เงินของฉัน
ชีวิตก็ของฉัน แกไม่ต้องคิดมากแทนฉันหรอก ก้มหน้าก้มตาเรียนของแก
ไป”
การมีเงินผ่านมือเข้ามามากมายอย่างไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต ทำให้
มารดาของหล่อนขาดความยั้งคิด หลงระเริง เพลิดเพลินไปกับการป้อยอ
เอาอกเอาใจจากเพื่อนฝูง แต่ละมุนมาศก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ไม่
แม้แต่จะบอกกล่าวหรือว่าเตือนสติ เพราะสองสามครั้งที่หล่อนพูดเตือน
อ้อม ๆ มารดาก็บอกว่า
“ฉันเป็นแม่ ฉันรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แกเป็นลูกก็อยูส่ ่วนของแกไป
ถ้ารักดีก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือ พ่อแกก็ให้เงินไว้แล้ว อย่ามายุ่งกับชีวิต
ของฉัน”
นั่นทำให้ละมุนมาศเก็บปากเก็บคำเสมอมา
2
อดีตที่ยังหลงเหลือในความทรงจำ

ละมุนมาศนึกถึงใบหน้าที่สดใสสวยงามของมารดา ที่ได้รับการ
ตกแต่งเป็นอย่างดีจากเครื่องสำอางราคาแพงลิบลิ่วยี่ห้อดัง กับ
เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับมีค่าหรูหรา ที่เดินกลับเข้ามาในบ้าน
พร้อมหอบหิ้วของเต็มสองไม้สองมือ
“นี่มูน” มารดาเรียกหล่อนว่า ‘มูน’ ตามบิดาเลี้ยง ด้วยเหตุผลทีว่ ่า
มันเพราะกว่า ทันสมัยกว่าคำว่า ‘มุน’
“ฉันซื้อของมาให้แก หัดแต่งตัวให้สมกับเป็นลูกของคุณนายละมุด
หน่อยสิ แต่งตัวซอมซ่อเหลือเกินแกนี่” มารดาว่าหล่อน พร้อมกับยื่นถุง
กระดาษที่ระบุยี่ห้อดังให้สามถุง
“อะ”
“ขอบคุณค่ะแม่” ละมุนมาศเปิดดูของในถุง เห็นแล้วก็นึกดีใจที่
มารดายังคิดถึงหล่อน
17/559

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ตอนนี้ฉันมีเงินแล้ว จะทำอะไรก็ได้ตามใจ


ตัวเอง ไม่ต้องขอปาป๊าแกทุกบาททุกสตางค์ ว่าแต่แกเถอะ รูห้ รือเปล่าว่า
ฉันได้เงินจากปาป๊าแกมาเท่าไร”
ละมุนมาศได้แต่ส่ายศีรษะน้อย ๆ หล่อนไม่เคยรับรู้ในเรื่องนั้น
“เกือบสามล้านเหรียญเลยทีเดียวแกเอ๋ย อยากรูว้ ่าเทียบเป็นเงินไทย
เท่าไรตอนนี้ แกก็คูณเข้าไปสิ แกคิดดูสิว่ามันเท่าไร รวมบ้านหลังนี้ด้วยนะ
แถมยังเบี้ยเลี้ยงบำเหน็จบำนาญอะไรอีกเยอะแยะหลายอย่าง โอ๊ย ฉันไม่
เคยรู้สึกมีความสุขเท่านี้มาก่อนเลย รู้อย่างนี้ฉันไม่แต่งงานกับพ่อแกให้เสีย
ความบริสุทธิห์ รอก แถมยังต้องลำบากตากแดดหน้าดำทนทำไร่ทำนามาตั้ง
หลายปี แต่กช็ ่างเถอะ มันผ่านไปแล้ว ถ้าไม่มวี ันแห่งความยากลำบากวัน
นั้น ฉันก็คงไม่กระเสือกกระสนหนีจนได้ดมี ีความสุขในวันนีห้ รอก และก็
ไม่ใช่ฉันที่สบายคนเดียว แกก็สบายไปด้วยไม่ใช่หรือ น่าเสียดายที่พ่อแก
ด่วนตายจากไปเสียก่อน ไม่อย่างนั้นฉันก็จะแบ่งให้บ้าง” เมื่อฟังมารดา
สาธยายแล้ว ละมุนมาศก็รู้สึกเศร้าใจ ได้แต่พยักหน้ารับคำ
“ค่ะ”
“นี่แกไม่ดีใจกับฉันเลยหรือไงฮึ อกตัญญูจริง ๆ เล้ยแกนี่ แม่เชื้อรํ่า
รวยได้ดิบได้ดีไม่ต้องลำบากลำบน แต่แกทำหน้าอย่างกับแบกโลกเอาไว้ทั้ง
โลก เฮ้อ ฉันละไม่เข้าใจแกจริง ๆ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันสบายแล้ว จะ
ขอใช้ชีวิตให้สบาย ๆ สมกับที่ต้องทุกข์ยากมานานเสียที ส่วนแกก็โชคดี
นะทีป่ าป๊าแกทำพินัยกรรมไว้ให้แกเรียบร้อย ทนายบอกว่า แกจะมีเงิน
18/559

เรียนจนจบมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว เงินนั่นฉันจะแตะไม่ได้ด้วย เพราะ


ทนายจะเป็นคนดูแล ส่วนแกจะแตะได้กต็ ่อเมื่อแกเข้ามหาวิทยาลัย
นั่นแหละ นีพ่ ูดถึงถ้าแกรักดีนะ ถ้าแกไม่รักดีก็แล้วแต่ ฉันคงบังคับแกให้
รักดีไม่ได้หรอก”
ละมุนมาศไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดสั่งสอนเชิงกระแนะกระแหน
ประชดประชันของมารดามากนัก เพราะมัวแต่คิดถึงการเรียนต่อในระดับ
มหาวิทยาลัยที่หล่อนใฝ่ฝัน แต่ถึงแม้ว่าบิดาจะไม่ทิ้งเงินก้อนนีไ้ ว้ให้ ละมุน
มาศก็บอกกับตัวเองว่า หล่อนจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เรียนต่ออย่าง
แน่นอน
“ค่ะแม่ ขอบคุณค่ะ” ขอบคุณนะคะปาป๊า ประโยคหลังละมุนมาศ
พูดกับ ตัวเองในใจ
“ย่ะ แล้วก็อย่าทำตัวเศร้าซึมกระทืออย่างนี้อีกนานล่ะ ไหน ๆ พ่อแก
ก็เสียไปแล้ว ว่าง ๆ แม่จะพาไปเยี่ยมที่หลุมฝังศพ” มารดาพูดเสร็จก็เดิน
ตัวปลิวออกไปจากบ้าน โดยที่ไม่เคยบอกว่าไปไหน ละมุนมาศได้แต่มอง
ตาม นึกอยากจะถาม แต่กลัวว่ามารดาจะว่าให้อีกก็เลยได้แต่เงียบ
หลังจากนั้นเป็นต้นมาละมุนมาศก็แทบจะไม่เห็นมารดากลับมาบ้าน
บ่อยนัก นอกจากวันไหนที่มารดานัดเพื่อน ๆ มาที่บ้านและมีงานเลี้ยงเกิด
ขึ้น อาหารหลากหลายชนิดที่มารดาสั่งมาจากร้านอาหารชื่อดัง กินดื่มกัน
อย่างมีความสุขสนุกสนาน และก็ตั้งวงเล่นไพ่ข้ามวันข้ามคืน หลังจาก
19/559

เลิกรากันไป มารดาของหล่อนก็จะหายหน้าไปอีกหลายวันกว่าจะกลับเข้า
มาอีกที
บางครั้งละมุนมาศนึกอยากจะถามมารดาว่าเป็นห่วงหล่อนบ้าง
หรือเปล่า ทิ้งหล่อนเอาไว้คนเดียวอย่างนี้ แต่ก่อนที่มบี ิดาเลี้ยงอยู่ หล่อนก็
ยังไม่รู้สึกเหงา แต่พอท่านจากไป ละมุนมาศก็รู้สึกถึงความเหงา แต่หล่อน
ก็โตเกินกว่าที่จะร้องขอให้มารดาอยูบ่ ้านด้วย เพราะเคยขอเมื่อครั้งบิดา
เลี้ยงเสียชีวิตใหม่ ๆ มารดาก็บอกว่า
“แกโตแล้ว ไม่ใช่เด็ก ๆ ซะเมื่อไร”
ละมุนมาศนึกค้านอยู่ในใจ ไม่กล้าทีจ่ ะปริปากออกมาว่าถึงแม้หล่อน
จะโต แค่ไหน ก็ยังต้องการความอบอุ่นจากแม่อยูด่ ี หล่อนไม่ได้ต้องการ
ให้มารดาทำอะไรให้ทุกอย่าง แค่ต้องการให้อยูด่ ้วยใกล้ ๆ ทานอาหาร
ด้วยกัน ทำนั่นทำนีด่ ้วยกันเหมือนแม่ของเพื่อน ๆ ก็เท่านั้น แต่มันไม่เคย
เกิดขึ้นเลยสักครั้ง
หลายครั้งที่เจอหน้านึกอยากทวงมารดา เรื่องที่เคยบอกว่าจะพาไป
ไหว้ บิดาเลี้ยงที่หลุมฝังศพ แต่ก็ไม่กล้า กลัวมารดาจะปฏิเสธ
ดวงตาคูห่ วานมองคนตัวเล็กที่นั่งทานอาหารอยู่ ใบหน้าสดใส
ยิ้มแย้มไม่เคยเกิดขึ้นกับหล่อนเลยสักครั้งที่ได้อยู่กับมารดา
“มามี้ มามี้ มีอะไรหรือเปล่า ทำไมจ้องหน้าฟีอย่างนั้นค้า”
เสียงเรียกของคนตรงหน้าทำให้ละมุนมาศรู้สึกตัว
20/559

“คะ เอ่อ ฟีว่าอะไรนะคะ”


“มามี้เป็นอะไรคะ มองหน้าฟีตั้งนานแน่ะ”
“มามี้ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ แค่คิดถึงแดดดี้เดอเรคแค่นั้นเอง”
“คิดถึงเราก็ไปเยี่ยมสิคะ ไม่เห็นต้องคิดอะไรเลย”
“เอาไว้ว่างเมื่อไร เราค่อยไปเยี่ยมแดดดี้เดอเรคกันนะคะ”
“ค่ะ ตอนนี้ฟีอิ่มแล้ว ขอฟีไปดูทีวีต่อได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ”
“รักมามีท้ ี่สุดในโลกเลยค่ะ” ร่างเล็ก ๆ ลงจากเก้าอี้เดินมาหา
พร้อมกับยื่นริมฝีปากเล็ก ๆ มาจุ๊บที่ข้างแก้มของละมุนมาศแรง ๆ
“มามี้ก็รักฟีที่สุดในโลกเช่นกันค่ะ”
ละมุนมาศเกี่ยวเอาร่างเล็กเข้ามากอด และก็จูบที่ข้างแก้มเนียนแรง
ๆ ก่อนจะปล่อยให้เป็นอิสระ
ร่างเล็กวิ่งกลับไปนั่งดูโทรทัศน์ที่ห้องนั่งเล่น ละมุนมาศก็ดึงจาน
อาหารที่อีกคนเหลือทิ้งไว้ทาเนยบนแพนเค้ก จิ้มแพนเค้กกับนํ้าหวานที่
เหลือบนจานแล้วส่งเข้าปากตัวเอง เคี้ยวกลืนไปอย่างแกน ๆ ดื่มนํ้าส้ม
ตาม ใจก็อดกระหวัดถึงมารดาอีกครั้ง นับครั้งได้ในชีวิตที่โตมากับมารดา
ละมุนมาศแทบจะไม่เคยมีโอกาสได้ทานอาหารเช้าฝีมือมารดาเลยก็ว่าได้
เพราะหล่อนไม่เคยเห็นมารดาตื่นแต่เช้าเลยสักครั้ง
21/559

คิดถึงในวันที่ต้องไปโรงเรียน หล่อนจะตื่นแต่เช้าอาบนํ้าแต่งตัว หา
อาหารกินเองง่าย ๆ แล้วก็ไปโรงเรียน ที่โรงเรียนบิดาเลี้ยงจ่ายเงินค่า
อาหารกลางวันกับทางโรงเรียนให้แล้ว ตอนเย็นก็พยายามทำอาหาร
อเมริกันง่าย ๆ ทานกับบิดาเลี้ยง หรือไม่ผู้เป็นมารดาก็จะสั่งอาหารจาก
ร้านอาหารมาให้แทน เพราะว่ามารดาชอบที่จะไปเข้ากลุ่มกับบรรดาเพื่อน
ๆ บิดาเลี้ยงก็รู้แต่ท่านก็ไม่เคยว่าอะไร หรือว่าแล้วแต่มารดาไม่ฟังก็ไม่รไู้ ด้
และตั้งแต่ทบี่ ิดาเลี้ยงเสียชีวิต ก็ทิ้งมรดกไว้ให้มากมาย มารดาก็ยิ่งเล่น
หนัก ขึ้นทุกที จนบางครั้งหล่อนแทบจะไม่เห็นหน้ามารดาเลยก็ว่าได้
หล่อนหลับมารดา ตื่น หล่อนตื่นบางทีมารดายังไม่กลับเข้าบ้าน หรือไม่ก็
กลับเข้าบ้านในตอนดึก ๆ ช่วงหลัง ๆ มาพร้อมกับคู่ควง ซึ่งก็มีทั้งคนไทย
และคนต่างชาติไม่ซํ้าหน้า
หลังจากเรียนจบมัธยมปลาย ละมุนมาศก็เลือกไปเรียนต่อที่
มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ไปอยูห่ อพักที่นั่น หล่อนไม่รวู้ ่า
มารดาจะคิดถึงและเป็นห่วงหล่อนบ้างหรือเปล่า หรือว่าโล่งใจที่หล่อนออก
มาดูแลตัวเองได้ ความสัมพันธ์ฉันแม่ลูกยิ่งห่างเหินกันมากขึ้น ละมุนมาศ
รู้ว่ามารดาใช้ชีวิตแบบไหน ก็ได้แต่หวังว่ามารดาจะมีความสุข
ในขณะที่เรียนมหาวิทยาลัยปีสอง ละมุนมาศก็ได้รับข่าวจากมารดาที่
โทรศัพท์มาบอกว่าจะย้ายไปอยู่ลาสเวกัสกับแฟนใหม่ที่ตกลงปลงใจจะใช้
ชีวิตร่วมกัน ละมุนมาศก็ได้แต่อึ้ง แต่ไม่ได้ทัดทานอะไร เพราะรูว้ ่าสิ่งที่
มารดาตัดสินใจ หล่อนไม่สามารถทีจ่ ะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และสุดท้าย
22/559

ละมุนมาศก็ได้แต่อวยพรให้มารดามีความสุข และตัวเองก็ตั้งหน้าตั้งตา
เรียนหนังสือ พร้อมทั้งใช้เงินอย่างประหยัด รู้ค่าของเงิน ทั้ง ๆ ที่บิดา
เลี้ยงก็ให้เงินไว้มากเกินพอสำหรับการเรียนจนจบปริญญาตรี
แต่ละมุนมาศก็ยังอยากที่จะมีเงินเก็บเอาไว้มาก ๆ ด้วยการทำงาน
พิเศษ ทำงานทุกอย่างที่มีเวลาว่าง ตั้งแต่ร้านกาแฟ ร้านขายหนังสือ ร้าน
อาหารจีน เป็นพนักงานจูงสุนัขเดินออกกำลังกาย โดยเฉพาะช่วงปิดเทอม
ฤดูร้อน หล่อนจะทำงานเก็บเงินเต็มที่เลยทีเดียว
หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ข่าวจากมารดา หลายครั้งที่ละมุนมาศโทร. ไป
หา แต่กไ็ ม่เคยได้พูดคุยกัน ทำได้แค่ฝากข้อความเอาไว้ แต่มารดาของ
หล่อนก็ไม่เคยโทร. กลับมา ทุกอย่างหายไปกับสายลมและกาลเวลา
ก่อนจะเรียนจบปริญญาตรี ละมุนมาศได้กลับมาที่บ้านซึ่งเคยเป็น
ของ บิดาเลี้ยงทีห่ ล่อนเคยอาศัยอยู่พบว่าเปลี่ยนเจ้าของใหม่ ละมุนมาศจึง
ได้รับรู้ว่ามารดาของหล่อนขายบ้านหลังนั้นไปแล้ว หล่อนรู้สึกเคว้งคว้างแต่
ไม่หมดปัญญา หล่อนบอกกับตัวเองว่าต้องอยูด่ ้วยตัวเองให้ได้ ตั้งใจเรียน
และก็ต้องหางานทำเพื่อเลี้ยงตัวเอง
หลังจากทีเ่ รียนจบแล้ว ละมุนมาศก็ยื่นใบสมัครงานไปยังหลาย
บริษัทใน รัฐนิวเจอร์ซีย์และได้รับการตอบรับ หล่อนเลือกบริษัทที่ตอบรับ
เป็นแห่งแรกซึ่งอยู่ทางชายฝั่งแอตแลนติกซิตี และได้ทำงานในสาขาที่ได้
เล่าเรียนมา นั่นคือ ทางด้านการเงิน ให้กับคลินิกแพทย์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็น
23/559

ที่ทำงานเล็ก ๆ กับเพื่อนร่วมงานแค่สิบสองคน รวมทั้งหมอ พยาบาล


และพนักงานฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ละมุนมาศใช้เงินที่เหลือจากการเรียนที่บิดาเลื้ยงทิ้งไว้ให้ไปดาวน์
คอนโดมิเนียมสองห้องนอนสองห้องนํ้าเล็ก ๆ ทีเ่ จ้าของโครงการกำลัง
ก่อสร้างนอกเมืองแอตแลนติกซิตี เมืองชายทะเลที่สวยงามไม่ไกลจาก
ที่ทำงานมากนัก
ความคิดของละมุนมาศสะดุดลงเมื่อได้ยินเสียงวิ่งตึงตังเข้ามาใกล้ ๆ
อดที่จะยิ้มไม่ได้เมื่อคนตัวเล็กเข้ามายืนข้างตัวพร้อมกับถามว่า
“มามีย้ ังกินไม่อิ่มอีกหรือคะ ฟีว่ามันเย็นแล้วนะ มันยังอร่อยอยูไ่ หม
คะ หรือว่ามามี้เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า” เสียงถามอย่างห่วงใย
พร้อมกับฝ่ามือเล็ก ๆ ที่ยกขึ้นแปะที่หน้าผาก ราวกับเจ้าตัวเป็นคุณหมอ
ผู้เชี่ยวชาญกระนั้น ทำให้ละมุนมาศต้องคว้าร่างเล็กมากอดเอาไว้แนบอก
อย่างแสนรัก
“มามี้ไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง”
“มีฟีอยู่ในความคิดของมามี้หรือเปล่าคะ”
“มีจ้ะ ฟีอยู่ในความคิดของมามีเ้ สมอ มามีอ้ ิ่มแล้วละ จะล้างจานและ
ทำความสะอาดครัว ฟีจะช่วยมามี้ทำอะไรดีคะ”
“ฟีจะเช็ดโต๊ะอาหารค่ะ”
24/559

“ขอบคุณค่ะเด็กดี” ละมุนมาศกดริมฝีปากกับเรือนผมนุ่มนั้นแรง ๆ
ก่อนจะปล่อยคนตัวเล็กออกจากอ้อมกอด ลุกขึ้นจากเก้าอี้
“วันนี้มามี้ไปทำงานหรือเปล่าคะ”
“ไปตอนเย็นค่ะ แต่ตอนนี้มามี้ต้องทำงานบ้าน ทำความสะอาดครัว
ซักผ้าก่อนค่ะ” ละมุนมาศพูดไม่ทันจบคนตัวเล็กก็พูดขึ้นทันทีว่า
“ฟีช่วยค่ะ แล้วตอนเย็นฟีก็ต้องไปอยูก่ ับมิสซิสลี” คำพูดนั้นทำให้
ละมุนมาศยิ้มกว้างอย่างดีใจที่อีกคนเข้าใจ
“ถูกต้องแล้วค่ะ แต่พรุ่งนี้มามี้อยูบ่ ้านทั้งวัน เราจะหาอะไรทำด้วย
กัน”
“เราไปกินแมคโดนัลด์กันได้ไหมคะ แล้วก็ไปเล่นที่สนามเด็กเล่น
ฟีจะปั่นจักรยานไปได้ไหมคะมามี้” คำอ้อน ๆ พร้อมกับดวงตาสีฟ้าออก
เทา ๆ นั้นเงยขึ้นสบตา ละมุนมาศยิ้มให้คนตัวเล็ก
“ค่ะ”
“แล้วคารีนาจะมาเล่นกับฟีหรือเปล่าคะมามี้”
“เอ่อ อันนี้ไม่ทราบค่ะ มามี้ก็อยากเจอคุณยายเหมือนกัน ไม่ได้เจอ
มาหลายอาทิตย์แล้ว”
“เพี้ยง ขอให้คารีนามา ฟีจะได้มเี พื่อนเล่น” ละมุนมาศได้แต่ยิ้มให้
กับคนตัวเล็ก ที่ยกมือขึ้นพนมขอให้เพื่อนคนสนิทมาเล่นด้วย
25/559

“ฟีช่วยมามี้หน่อยได้ไหมคะ ไปเอาเสื้อผ้าในตะกร้าสำหรับซักมาให้
มามี้ที่ ห้องซักผ้าได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ” ร่างเล็กวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอนเล็ก ละมุนมาศก็เลยเดิน
เข้าห้องของตัวเอง รวบรวมเสื้อที่จะซักใส่ในตะกร้าหวาย เดินออกจากห้อง
ก็เห็นว่าตะกร้าเสื้อผ้าสีขาววางอยู่หน้าเครื่องซักผ้าแล้ว แต่เสื้อผ้าบางส่วนก็
ตกอยูต่ ามรายทางมาจากห้องนอนเล็ก อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ พร้อมกับ
ตะโกนออกไปเป็นภาษาอังกฤษว่า
“ขอบคุณค่ะฟี”
“ด้วยความยินดีค่ะ” ลูกสาวตอบกลับมาเป็นภาษาเดียวกัน
ตั้งแต่ฟีนิกซ์เริ่มพูดได้ ละมุนมาศก็พูดภาษาไทยกับฟีนิกซ์
ตลอดเวลาที่อยู่กันสองคน แต่ถ้ามีคนอื่นอยูด่ ้วยก็จะใช้ภาษาอังกฤษ
เพราะฉะนั้นฟีนิกซ์จึงพูดได้ทั้งสองภาษาเป็นอย่างดี
มีหลายครั้งที่หนุ่ม ๆ ในคอนโดมิเนียมให้ความสนใจ ฟีนิกซ์ตัว
น้อยของหล่อนก็มักจะเป็นตัวป่วน ทำตัวเป็นลูกสาวหวงแม่ ทำเอาหนุ่ม ๆ
ที่มาจีบถอยร่นกันไปหมด แต่ละมุนมาศก็ไม่ได้ว่าอะไร รู้ว่าฟีนิกซ์หวง
หล่อนเป็นอย่างมาก และอีกอย่างละมุนมาศยังไม่พร้อมที่จะรักใคร
หรือว่ามีใครเข้ามาในหัวใจ แค่ดูแลฟีนิกซ์กับทำงานสองอย่างในชีวิตนีก้ ็
แทบจะไม่มีเวลาได้คิดอะไรอีกแล้ว เรื่องของความรักจึงเป็นเรื่องที่อยูไ่ กล
ตัวมากเหลือเกินสำหรับละมุนมาศ
3
ฝากรอย...มาเฟีย

เวียดเฮาส์ (Viet House) ภัตตาคารอาหารนานาชาติทขี่ ึ้นชื่อมาก


ที่สุดในเมืองนี้ ซึ่งใช้ตึกของโบสถ์เก่าแห่งหนึ่งในเมืองแอตแลนติกเป็นที่ตั้ง
ภายใต้หลังคาทรงสูงสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ที่ตลอดแนวตรงกลางยก
เป็นชั้นลอยแบบสองชั้น และสามารถรองรับนักท่องเที่ยวและลูกค้าได้เป็น
จำนวนมาก แต่ราคาอาหารและเครื่องดื่มนั้นละมุนมาศคิดว่ามันแพง
เหลือเกินในความรู้สึกของคนทำงานกินเงินเดือนที่ไม่ได้มากมายอะไรอย่าง
หล่อน แต่ก็มีแขกมากินมาดื่มทุกวัน โดยเฉพาะในคืนวันศุกร์ วันเสาร์
และวันหยุดราชการต่าง ๆ
ละมุนมาศโชคดีทไี่ ด้ทำงานที่นี่ เนื่องจากว่าวันหยุดวันหนึ่งเมื่อสามปี
ที่แล้ว ที่หล่อนพาฟีนิกซ์ไปเล่นทีส่ นามเด็กเล่นไม่ไกลจากคอนโดมิเนียม
ที่พักมากนัก และได้มีโอกาสเจอกับคุณยายกลีบบัว ซอลตัน คนไทยที่
แต่งงานกับสามีชาวอเมริกัน และย้ายมาตั้งรกรากที่อเมริกาเป็นเวลาหลาย
สิบปแล้ว ปัจจุบันคุณยายกลีบบัวอายุ เจ็ดสิบแปดปี สุขภาพยังแข็งแรง
27/559

เดินเหินคล่องแคล่วว่องไว คุณยายกลีบบัวได้พาเหลนสาวตัวน้อยที่อายุ
อ่อนกว่าฟีนิกซ์สองเดือนมาเล่นที่สนามเด็กเล่น
ฟีนิกซ์และคารีนาเจอกันครั้งแรกก็เล่นด้วยกันได้เป็นอย่างดี ส่วน
ละมุนมาศก็คุยถูกคอกับคุณยายเป็นอย่างมาก คุยกันได้ทุกเรื่องตาม
ประสาคนพลัดถิ่นด้วยกัน และละมุนมาศก็พูดถึงเรื่องต้องการทำงาน
พิเศษ เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว คุณยายกลีบบัวก็แนะนำให้ไป
สมัครงานที่ภัตตาคารเวียตเฮาส์แห่งนี้
จากนั้นละมุนมาศก็ไปสมัครงาน ซึ่งก็ไม่คิดว่าทางร้านจะรับ แถมยัง
ให้หล่อนเลือกเวลาทำงานที่ต้องการได้อีกด้วย หล่อนเลือกทำงานสามวัน
คือ วันพฤหัสบดี ตอนเย็น วันศุกร์ตอนเย็น และวันเสาร์ตอนเย็นเท่านั้น
ละมุนมาศทำงานอย่างมีความสุข พอใจกับจำนวนเงินที่ได้รับ และ
เนื่องจากการทำงานที่หนักเอาเบาสู้ ไม่เคยเกี่ยงงานของหล่อน จึงเป็นที่
ถูกใจของเจ้านายยิ่งนัก
“ไฮ มิสมินต์” ละมุนมาศทักทายเจ้านาย ซึ่งเป็นผู้จัดการร้านทันทีที่
เจอหน้า
“ไฮ มุน มาพอดีเลย วันนี้มสิ เตอร์ไนฮัวและภรรยาจะมาทาน
อาหารเย็นที่นี่บนชั้นลอยนะ ฉันให้มนุ กับทอนเป็นคนดูแลท่าน โต๊ะหลัก
จัดสามที่ อีกโต๊ะจัดห้าที่สำหรับผู้ติดตาม”
28/559

“ค่ะมิสมินต์” ละมุนมาศรับปาก ก่อนทีจ่ ะรีบไปจัดการทุกอย่างให้


เรียบร้อย ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า
คนรวยไม่ว่าชาติไหน ๆ ก็มักจะมีคนติดตามคุ้มครองทีเ่ รียกให้
สวยหรูว่าบอดี้การ์ดนั่นเอง
เมื่อนึกถึงท่านไนฮัว ฟรานซิส เจ้าของภัตตาคาร ละมุนมาศเคยเห็น
มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อสองเดือนที่แล้ว ตอนที่ท่านเข้ามาประชุมพนักงาน
ประจำปี ซึ่งท่านมาตรงกับวันที่ละมุนมาศทำงานพอดี และก็ได้รับรู้มาจาก
มิสมินต์ว่าท่านเจ้าของรํ่ารวยมาก มีโรงแรมขนาดกลางริมทะเลที่
แอตแลนติกซิตี เป็นเจ้าของโรงงานผลิตสินค้าชื่อดัง ภายใต้ยี่ห้อ ‘ลิซาเบธ’
ทีม่ ีลูกค้าผู้พิศมัยสินค้าราคาแพงอยู่ทั่วโลก ซึ่งมีตั้งแต่กระเป๋าสะพาย
กระเป๋าเงิน และอีกสารพัดของใช้สวยงามจุกจิกโดยเฉพาะของคุณผู้หญิง
อีกทั้งยังเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องประดับจำพวกเพชร พลอย และอัญมณี
ต่าง ๆ เป็นเจ้าของตลาดเวียดนามทาวน์ที่กว้างใหญ่ชื่อว่า อีเดนพลาซา
(Eden Plaza) ตลาดขนาดใหญ่ที่หลายคนบอกว่า
ไม่ต้องไปถึงโฮจิมินห์ซติ ีหรอก แค่ไปตลาดอีเดนก็ได้บรรยากาศที่ไม่
ต่างกันเลย
ละมุนมาศเคยไปชมบรรยากาศมาแล้ว และเห็นด้วยกับคำพูดของ
ใคร หลาย ๆ คน เพราะว่าร้านที่ขายของอยู่ในนั้นมีตั้งแต่ของสดจนถึง
ร้านเพชรเลยทีเดียว แถมยังมีแม่ค้าแม่ขายมือสมัครเล่นวางของสดขาย
ตามทางเดินอีกด้วย
29/559

ละมุนมาศทำงานไปเรื่อย ๆ รอการมาของท่านเจ้าของและภรรยา
ด้วยใจจดจ่อ เพราะว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หล่อนได้มีโอกาสบริการรับใช้
ถึงแม้ว่าเจ้าของจะมาทานที่ร้านบ่อยครั้ง แต่ไม่ค่อยมาในวันที่หล่อนทำงาน
เสียงสาว ๆ กรี๊ดกร๊าดเบา ๆ อย่างตื่นเต้นดังมาจากชั้นล่าง ไม่ถึง
สองนาที มิสมินต์กก็ ระวีกระวาดไปต้อนรับที่หน้าประตูโบสถ์ ขบวนอัน
อึมครึมที่ผู้ชายทั้งหมดแต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำสนิท ซึ่งประกอบไปด้วย
ท่านไนฮัว ฟรานซิสและมิสซิสลิซาเบธภรรยาลูกครึ่ง พร้อมกับผู้ติดตาม
จำนวนหนึ่งก็เดินเข้ามา มิสมินต์เดินนำขึ้นมาบน ชั้นลอย ซึ่งละมุนมาศ
มองว่าเป็นขบวนมาเฟียชัด ๆ และก็อดที่จะใจเต้นแรงไม่ได้ เพราะว่าเป็น
ครั้งแรกที่ละมุนมาศได้รับงานนี้ โดยเฉพาะคนตัวสูงใหญ่ทเี่ ดินตามหลัง
ท่านไนฮัว ฟรานซิส ที่เปล่งรัศมีแกร่งกล้านําหน้าท่านเจ้าของมาเลยทีเดียว
อดที่จะแอบคิดในใจไม่ได้ว่า ท่าทางท่านไนฮัว ฟรานซิส ไม่น่าจะ
เป็นมาเฟียหรือว่าผู้มีอิทธิพลรํ่ารวยอะไรเลย ถึงท่านจะตัวโต มีสง่าราศรี
น่าเกรงขาม ใบหน้าที่ออกลักษณะลูกครึ่งเวียดนามนั้นยิ้มแย้มแจ่มใส่
แววตาหลังแว่นสายตาคูน่ ั้นก็อบอุ่นอ่อนโยน ดูใจดีเป็นกันเองด้วยซํ้าไป
แต่คนที่เดินตามหลังมาติด ๆ นั่นสิ ท่าทางมาเฟียชัด ๆ ตัวสูงใหญ่กว่า
ท่านไนฮัว ฟรานซิส ไปตั้งมาก
หน้าตาน่ากลัวจริง ๆ
30/559

ท่านไนฮัวพูดคุยกับมิสมินต์ด้วยภาษาเวียดนามดึ๊ก ๆ ด๋อย ๆ ที่


ละมุนมาศแทบจะไม่กระดิกหู จบการทักทายมิสมินต์ก็เชื้อเชิญให้แขก
ทั้งหมดนั่ง
ละมุนมาศเห็นว่า มาเฟียคนนั้นนั่งที่โต๊ะของท่านไนฮัวและภรรยา
ดวงตาคมเข้มมีอำนาจคูน่ ั้นมองสบมาบ่อยครั้ง ทำเอารู้สึกขยาด นึกกลัว
อยูใ่ นใจลึก ๆ แต่ก็พยายามทีจ่ ะไม่มองเขาตรง ๆ แต่ขนาดว่าไม่ได้มอง
ตรง ๆ ยังรับรู้ได้ถึงกระแสความน่ากลัวบางอย่างที่ส่งมา มันทำให้หล่อน
ร้อนวูบแบบแปลก ๆ จึงแอบนึกในใจว่า
เขาเป็นใครถึงได้นั่งร่วมโต๊ะกับท่านไนฮัว คงจะเป็นแขกพิเศษ หรือ
ไม่ก็คงเป็นคู่ค้าคนสำคัญ
ความคิดของละมุนมาศสะดุดลงเมื่อได้ยินเสียงมิสมินต์แนะนำ
“นี่ละมุนมาศและก็ทอนจะเป็นผู้ดูแลท่านในการดินเนอร์คืนนี้ค่ะ”
ละมุนมาศเปิดยิ้มหวาน พร้อมกับยกมือไหว้อย่างอ่อนช้อย
“คนไทยใช่ไหม” ท่านไนฮัว ฟรานซิสถามขึ้นอย่างอ่อนโยน ละมุน
มาศยิ้มพร้อมกับตอบรับ
“ค่ะ”
“ลิซาเบธภรรยาฉันก็ลูกครึ่งไทย” ท่านไนฮัวพูดขึ้นยิ้ม ๆ หันไปทาง
ภรรยาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
31/559

“สวัสดีจ๊ะ” เสียงหวานที่พูดออกมาเป็นภาษาไทยแปร่ง ๆ ทำให้


ละมุนมาศอดที่จะยิ้มอย่างยินดีไม่ได้
“สวัสดีค่ะท่าน”
ละมุนมาศยกมือขึ้นไหว้อย่างอ่อนช้อยอีกครั้ง ใบหน้าหวาน
เปล่งประกายยินดี
ลูกครึ่งไทยนี่เอง ถึงว่าถึงได้สวยหวานอย่างนี้ แต่หน้าตาคุ้น ๆ
“ฉันพูดได้ไม่เยอะหรอกนะ ฟังพอรู้เรื่องบ้างแต่พูดยากเอาการอยู่
และก็ไม่ค่อยได้พูดสักเท่าไร ลืมเกือบหมดแล้ว แต่คุณแม่ฉันยังพูดไทย
ได้ชัดเจน” มิสซิส ลิซาเบธออกตัวเป็นภาษาอังกฤษ ละมุนมาศก็เลยได้แต่
ยิ้มตอบ
“ค่ะ”
หลังจากนั้นละมุนมาศก็ใช้ภาษาอังกฤษแทน
“ไงทอน สบายดีไหม” ทอนยิ้มปากแทบฉีกถึงใบหู เมื่อท่านไนฮัว
ทักทายอย่างเป็นกันเอง
“สบายดีครับท่าน ขอบคุณครับ”
“ไม่ต้องเกร็งนะ ตามสบาย คิดว่าพวกเราเป็นแขกคนหนึ่งของร้านก็
แล้วกัน อย่าคิดว่าเป็นเจ้าของแล้วต้องบริการเราอย่างดี ทำทุกอย่างให้
เป็นปกติ รับรองว่า พวกเราจะไม่จู้จี้จุกจิกกวนใจเป็นอันขาด” นํ้าเสียง
อบอุ่นพร้อมรอยยิ้มเอ็นดูของท่านไนฮัว ทำให้ความเกร็งและประหม่ากลัว
32/559

ในใจของละมุนมาศเลือนหายไปเกือบหมด ถึงแม้สัญชาตญาณลึก ๆ จะ
รู้สึกว่าตลอดเวลามีสายตาของใครบางคนจ้องมองมาที่หล่อนก็ตามที แต่
ละมุนมาศก็พยายามที่จะไม่สนใจ
หลังจากทักทายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทอนก็แยกไปดูแลเครื่องดื่ม
ที่โต๊ะของคณะผู้ติดตาม ละมุนมาศก็เลยต้องรับหน้าที่ดูแลโต๊ะท่านไนฮัว
เริ่มต้นทีเ่ ครื่องดื่มและแอปปิไทเซอร์ส (Appetizers – อาหาร
เรียกน้ำย่อย) ก่อนอาหาร ซึ่งตลอดระยะเวลาการทานอาหาร ท่านไนฮัว
มักจะถามละมุนมาศหลายอย่าง ตั้งแต่วิธีการทำคร่าว ๆ ส่วนประกอบของ
อาหารแต่ละอย่าง ซึ่งคำตอบของละมุนมาศก็ทำให้ท่านไนฮัวยิ้มอย่าง
พอใจ
“แสดงว่าต้องทำอาหารเป็น”
“ทำเป็นบ้างค่ะท่าน แต่ไม่เก่งมาก”
คำตอบทีอ่ ่อนน้อมถ่อมตนทำให้คนถามต้องยิ้ม และพยักหน้าหงึก

จากนั้นก็เป็นอาหารหลักที่มีมากมายหลายชนิด อันนี้ละมุนมาศรู้ว่ามิ
สมินต์เป็นคนจัดการสั่ง เพื่อให้ท่านไนฮัวได้ชิมและติชมฝีมือการปรุงของ
พ่อครัวแม่ครัวในร้าน ซึ่งอาหารทุกจาน ทุกหม้อ ทุกคำถาม ละมุนมาศ
สามารถตอบได้เป็นที่พอใจของคนถาม ซึ่งคำถามโดยทั่วไปก็ไม่ได้ลึกซึ้ง
อะไรมากมายนัก เป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากกว่า
33/559

คำตอบที่น่ารักกับใบหน้ายิ้มแย้มและดวงตาสดใสของหล่อน ทำให้ท่านไน
ฮัวรื่นรมย์เป็นอย่างมาก ถึงกับออกปากชมกับมิสซิสลิซาเบธผู้เป็นภรรยา
เลยทีเดียว
“ละมุนมาศรู้เรื่องอาหารมากทีเดียวนะ”
คุณลิซาเบธพยักหน้ายิ้มรับแสดงความเห็นด้วย ในขณะทีผ่ ู้ร่วมโต๊ะ
อีกคนก็เก๊กท่านิ่ง ขนาดว่าท่านไนฮัวกับภรรยาหัวเราะชอบใจ เขาก็ยังคง
นิ่งราวกับไม่สนใจอะไร
แต่เหตุการณ์บางอย่างก็เกือบทำให้ละมุนมาศไม่อยากจะทำงาน
เพราะหลายต่อหลายครั้งทีห่ ล่อนไปยืนใกล้ ๆ เพื่อดูแลผู้ชายหน้าเข้มคน
นั้น บั้นท้ายอันงามงอนของหล่อนมีอันต้องถูกสัมผัสทุกครั้งไป ครั้งแรก
ยังไม่รู้สึกอะไรมากนัก และคิดว่าเป็นความไม่ตั้งใจ หล่อนจึงหันไปขอโทษ
เขา เพราะคิดว่าตัวเองไปสัมผัสโดนเขาเอง แต่พอครั้งที่สองหล่อนเริ่มรู้สึก
ไม่พอใจมากขึ้น
ครั้งที่สามความอดทนที่มอี ยู่ก็สิ้นสุดลง มือบางคว้ามือที่จับบั้นท้าย
ของ หล่อนไว้อย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าบึ้งตึง ความโกรธทีแ่ ทบจะระงับเอา
ไว้ไม่อยู่เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกลวนลาม ทำให้ละมุนมาศหายใจแรงหอบถี่
ทีเดียว แต่คนถูกจับได้กลับทำหน้าตาเฉย ไม่รู้สึกรู้สา แถมมุมปากหยัก
ได้รูปนั้นยังส่งยิ้มให้หล่อนอีกด้วย ใบหน้าทีย่ ิ้มน้อย ๆ ของเขาดูดี
มากมาย แต่ ณ เวลานี้ความโกธรที่ถูกกระทำหยามเกียรติหมิ่นศักดิ์ศรีลูก
ผู้หญิง ทำให้ใบหน้าหวานเครียดเขม็ง ริมฝีปากเม้มแน่น ดวงตาโตวาววับ
34/559

แต่ก่อนที่ละมุนมาศจะได้ทำอะไรลงไป ท่านไนฮัวก็ถามขึ้นว่า
“แล้วกรณีที่ลูกค้าลวนลามอย่างนีก้ ับพนักงานล่ะ ถ้าเป็นหนู หนูจะ
ทำอย่างไร”
คำถามนั้นทำให้ละมุนมาศรู้ว่ากำลังถูกทดสอบทางด้านอารมณ์ที่อาจ
จะเกิดขึ้นจากแขกไร้มารยาท ไร้เกียรติบางคนได้ ใบหน้าหวานยิ้มน้อย ๆ
ก่อนที่จะบอก คำตอบนั้น
“หนูก็จะทำอย่างนี้ไงคะ” มือเล็ก ๆ บาง ๆ ทีย่ ังกำอยู่ที่ข้อมือหนา
จิกเล็บทีไ่ ม่ยาวมากนักลงผิวหนังทีข่ ้อมืออย่างแรงและรวดเร็ว จนคนทีม่ ัว
แต่มองใบหน้าหวานเพลิน คิดไม่ถึงว่าหล่อนจะทำกับเขาอย่างนี้ ถึงกับ
หลุดเสียงร้องออกมา
“อูย” เสียงอูยนั้นเรียกเสียงหัวเราะของท่านไนฮัวและภรรยาเบา ๆ
แต่คนที่โดนเล็บมือหน้าเรียบตึงสนิท ดวงตาคู่คมวาววับจ้องสบมาเขม็ง
ราวกับเสือที่กำลังจ้องตะครุบเหยื่อ ทำเอาคนหยิกร้อน ๆ หนาว ๆ ใจ
กระตุกวูบเสียวสันหลังวาบ ในใจคิดว่า
ตกงานแน่ ๆ ที่เผลอไปทำร้ายแขกของเจ้าของร้านเข้าให้
แต่ก็ทำใจดีสู้ยิ้มให้น้อย ๆ ทั้ง ๆ ทีใ่ นใจแหยจนแทบอยากจะ
ร้องไห้
“หนูเป็นคนที่มีอารมณ์ขันจริง ๆ” ท่านไนฮัวพูดพร้อมกับหัวเราะ
ชอบใจ
35/559

“แหะ ๆ นิดหน่อยค่ะ แต่จะว่าไปแล้วเรื่องแบบนีไ้ ม่เคยเกิดขึ้นกับ


หนูเลย แขกที่นี่น่ารักและมีมารยาท ให้เกียรติพนักงานกันทุกคนค่ะ เมื่อกี้
อาจจะรุนแรงไปบ้าง ต้องขอโทษด้วยนะคะท่าน” พูดแล้วก็หันหน้าไปยัง
คนที่นั่งหน้าตึงอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับก้มศีรษะให้น้อย ๆ เป็นเชิงขอโทษ แต่
ไม่มสี ัญญาณตอบกลับ นอกจากดวงตาคู่คมแวววาวกับรอยยิ้มน้อย ๆ ที่
มุมปากหยักได้รูปสวยนั้น ความน่าดูทำให้ละมุนมาศลืมตัวจ้องมองใบหน้า
เขาไปชั่วขณะ แต่พอรู้สึกตัวก็ต้องรีบหันกลับ รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา
ทันใด
หลังจากโดนหยิกแล้ว แขกร่วมโต๊ะของท่านไนฮัวก็ประพฤติตัวดีขึ้น
ซึ่งก็ทำให้ละมุนมาศพอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้กระทำอะไรกับ
หล่อนอีก และใบหน้านิ่ง ๆ ราวกับรูปสลักนั้นก็ตึงได้ตลอดเวลาเช่นกัน
ต่างกับเวลาทีเ่ ขาคุยกับมิสซิสลิซาเบธ ใบหน้านิ่งขรึมนั้นจะอ่อนโยนลง
ทันใด
คืนนั้นกว่าขบวนของท่านไนฮัวจะกลับก็ดึกพอสมควร มิสมินต์
ละมุนมาศ และทอนเดินตามไปส่งถึงรถทีจ่ อดรออยู่หน้าร้านเลยทีเดียว
ท่านเจ้าของร้านหันมายิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณมากนะมิสมินต์ ละมุนมาศ ทอน สำหรับการบริการที่
ประทับใจ ฉันรับประทานอาหารได้เยอะมาก อาหารก็อร่อย รสชาติยัง
เข้มข้นเหมือนเดิม บอกให้ทุกคนในครัวรักษามาตรฐานรสชาติและความ
สะอาดของอาหารเอาไว้อย่าให้เปลี่ยนแปลง”
36/559

“ค่ะท่าน”
“ด้วยความยินดีค่ะ/ครับ” ละมุนมาศยกมือไหว้ พร้อมกับทอนที่
คำนับก่อนกล่าวลา
ละมุนมาศสังเกตว่า มาเฟียหน้าขรึมคนนั้นกอดและจูบลาท่านไนฮัว
และภรรยา พอรถประจำตัวของท่านไนฮัวเคลื่อนออกไปแล้ว เขาจึงแยกไป
กับคนติดตามอีกสองคน ยังมีรถอีกสองคันที่จอดรออยู่ หล่อนเห็นเขาคุย
กับคนติดตามอีกคน คนติดตามรับปากแล้วก็โค้งหันกลับไปยังรถคันที่
จอดอยู่ข้างหลัง ส่วนเขา ‘มาเฟีย’ เข้าไปนั่งตอนหลังของรถอีกคัน และรถ
ทั้งสองคันขับตามกันออกไป เป็นอันสิ้นสุดการต้อนรับ ละมุนมาศ ทอน
ก็เดินตามมิสมินต์กลับเข้าไปข้างในร้าน
เสียงถอนหายใจของลูกน้องสาวทำให้มิสมินต์ต้องหันมาถาม
“ถึงกับถอนใจเลยเชียวหรือฮึ”
“ค่ะ โล่งอก มุนเกร็งตั้งนาน ตอนนีส้ บายใจแล้ว” ละมุนมาศไม่ได้
บอกว่าที่สบายใจ คือไม่มีสายตาเย็นชานิ่งขรึมของแขกคนนั้นต่างหาก
“ไม่เห็นมีอะไรที่น่าเกร็งเลย ท่านน่ารักจะตายไป”
“ค่ะ ท่านน่ารักจริง ๆ มุนขอตัวไปทำงานต่อนะคะมิสมินต์”
“จ้ะ ตามสบาย”
มิสมินต์วางโทรศัพท์ลงกับแป้น สายตาก็เหลือบมองลูกน้องคนสวย
ไปด้วย ในความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ค่อยเข้าใจนักว่า ลูกชายของเจ้านาย
37/559

ต้องการอะไรกันแน่ ทีใ่ ห้ลูกน้องคนสนิทโทร. มาถามประวัติลูกน้องของ


หล่อนกลางดึกอย่างนี้
แต่พอความคิดหนึ่งวูบขึ้นมา เมื่อนึกถึงสิ่งทีล่ ูกน้องสาวเล่าให้ฟัง
ก่อนกลับบ้าน ก็ทำให้มิสมินต์ถึงกับขนลุก รำพึงในใจคนเดียวว่า
ตายแน่ ๆ ละมุนมาศ ไปหยิกเสือเข้าให้แล้ว จะเกิดอะไรขึ้น และ
หล่อนจะช่วยอะไรได้บ้าง แต่จะช่วยอะไรได้ หล่อนก็ตัวแค่นี้เอง ว่าแต่ถ้า
จะโกรธจนถึงต้องทำร้ายกัน ทำไมต้องถามประวัติด้วย หรือว่า...โอ๊ย ขอ
ให้อย่าเป็นอย่างที่คิดเลย เพราะไม่รู้ว่ากวางสาวไร้เดียงสาจะหนีจากเสือ
หนุ่มตัวร้ายได้อย่างไรกัน ชํ่าชองขนาดนั้น
เฮ้อ ละมุนมาศ ละมุนมาศผู้ใจเย็น มีแต่รอยยิ้มละไมใหักับลูกค้า
อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาหยิกเสือ แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป เสือคงไม่ปล่อยเหยื่อ
ไปโดยไม่ขยํ้า
จากทีว่ ิตกกังวลเรื่องเลือดตกยางออก มิสมินต์ก็เปลี่ยนมาวิตกเรื่อง
อื่นแทน
แต่ไหนแต่ไรมารับประทานอาหาร ก็ไม่เคยเห็นว่าคุณคารีโนจะแตะ
อั๋งลวนลามพนักงานเสิร์ฟเลยแม้แต่ครั้งเดียว ขนาดเด็กสาว ๆ สวย ๆ
เซ็กซี่ อกโต ๆ ชายตามองให้ท่าขนาดนั้นยังไม่ได้รับความสนใจเลย
38/559

เฮ้อ แล้วมันเกิดขึ้นกับลูกน้องคนนีไ้ ด้อย่างไรกัน นีถ่ ึงขนาดให้คน


สนิทมาถามหาประวัติอย่างนี้ น่ากลัวจริง ๆ แล้วหล่อนจะทำอะไรได้บ้าง
เนี่ย
4
ฝันร้าย

เมื่อออกจากเวียดเฮาส์แล้ว คารีโนและเบียนลูกน้องคนสนิท ซึ่งเป็น


ทั้งคนขับรถและผู้คุ้มกัน ก็แวะเข้าไปดูความเรียบร้อยที่โรงแรมริมหาด
ข้างนอกในยามราตรีที่มืดมิดได้ยินแต่เสียงคลื่นซัดสาด ในช่วงกลาง
ฤดู ใบไม้ผลิอากาศอุ่นกำลังพอดีอย่างนี้ ผู้คนเริ่มออกมาท่องเที่ยวที่
ชายทะเลกันบ้างแล้ว แต่ส่วนมากจะเป็นผู้สูงอายุที่หลบความหนาวมาจาก
รัฐที่อยู่ทางตอนเหนือ ทำให้โรงแรมขนาดกลางเก้าสิบห้องพักของตระกูล
เนียมบาที่ก่อตั้งมานานได้รับการต้อนรับ นักท่องเที่ยวอีกครั้ง หลังจากที่
ซาไปในช่วงฤดูหนาว
ร่างสูงโปร่งทีเ่ ต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่น ความสูงกว่าร้อยแปดสิบ
เซนติเมตรนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวโตในห้องทำงานบนชั้นเจ็ดของ ลิซ บีช
อินน์
ดวงตาคู่คมหันไปมองจอมอนิเตอร์ของโทรทัศน์วงจรปิดที่ตั้งอยู่รอบ
ๆ ห้อง ก่อนจะค่อย ๆ ไล่ไปตามหน้าจอ ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เขา
มองเห็นอยูต่ อนนี้ที่ฟลอร์เต้นรำในห้องอาหารเย็น มีนักท่องเที่ยวสูงอายุ
40/559

วัยหลังเกษียนหลายคู่กำลังเคลื่อนตัวเข้ากับจังหวะของดนตรีที่กำลัง
บรรเลงเพลงหวานซึ้ง
ส่วนหลายคนที่ไม่ได้เต้นรำก็กำลังมีความสุขกับการทานอาหารเลิศ
รส จิบไวน์ชั้นดี คุยกันอย่างออกรส โดยมีโทรทัศน์จอใหญ่ข้างฝาผนัง
กำลังถ่ายทอดเกมกีฬา ส่วนระเบียงด้านนอกของห้องอาหารทีต่ ิดกับฝั่ง
ทะเล ในคํ่าคืนดึกดื่นที่อากาศเย็นกำลังพอดี ก็มีคู่รักหลายคู่ บ้าง
หยอกเย้า บ้างแสดงความรักต่อกัน ท่ามกลางเสียงคลื่นและแสงจันทร์
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
“นายครับ”
“เข้ามา มีอะไร” คารีโนละสายตาจากจอมอนิเตอร์ ส่งเสียงเข้มถาม
กลับ ลูกน้องที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง
“มิสเลอาโทร. มาครับ” พร้อมกับโทรศัพท์เครื่องเล็กยื่นมาให้ มือ
หนาที่นิ้วมือเรียวราวกับอิสตรีนั่นยื่นไปรับมาแนบหู
“ครับ”
“คารีโนที่รัก คืนนี้คุณว่างหรือเปล่าคะ” เสียงเซ็กซี่จากปลายสายส่ง
มา
“มีอะไรพิเศษไหม”
“ฉันคิดถึงคุณค่ะ เราไม่ได้เจอกันมาตั้งสามอาทิตย์แล้วนะคะ”
41/559

“ช่วงนี้ผมยุ่งคุณก็รู้นี่”
“รู้ค่ะ แต่เลอาก็ยังอยากเจอคุณ” ปลายสายยังอ้อนต่อ
“เอาไว้เสร็จงานแล้วผมจะไปหา” คารีโนรับปากก่อนที่จะปิดโทรศัพท์
ยื่นให้ลูกน้อง ที่เขารับปากก็เพราะว่าคืนนี้เขายังไม่มีที่หมายที่ไหนนั่นเอง
เลอาสาวสวยเชื้อสายละติน นักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐ
นิวเจอร์ซีย์ หล่อนกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่สอง คารีโนพบเลอาเมื่อตอน
เดินทางไปสำรวจตลาดที่ประเทศเปรูเมื่อสามเดือนที่แล้ว ในห้องอาหาร
ของโรงแรมที่หล่อนและเพื่อนนักศึกษามาเที่ยวกันในช่วงปิดภาคเรียนฤดู
ร้อน หลังจากที่พูดคุยทำความรู้จักกันได้ไม่นานนัก ความสัมพันธ์ก็
ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
แต่เป็นเพียงความสัมพันธ์ที่ฉาบฉวย เพียงเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ใน
แต่ละวันที่เขาสามารถหาได้ง่าย ๆ เพียงแต่ว่าเขาต้องการมันหรือเปล่า
เท่านั้นเอง มีผู้หญิงมากมายที่เดินเข้ามาหาเขา บางคนเพียงเพื่อความสนุก
ความสุขของร่างกาย บางคนเพียงเพื่อของกำนัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวก
หล่อนต้องการ ถึงแม้ว่าบางคนจะต้องการมากกว่านั้น แต่เขาก็ไม่สามารถ
ที่จะให้ใครได้ และหล่อนพวกนั้นก็ไม่เคยได้เข้าถึงครอบครัวของเขา
หลายครั้งที่มารดาของเขาเคยเอ่ยแซวทีเล่นทีจริงถึงเรื่องหาแม่ให้
ลูกสาว ตัวน้อย คารีโนก็ได้แต่ยิ้ม บางครั้งก็แก้ตัวไปตามเรื่อง และ
รอยยิ้มเล็ก ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าคม เมื่อคิดถึงใบหน้าหวานของใครบาง
42/559

คน ที่หลังจากหยิกแล้วเจ้าหล่อนก็ขอโทษพร้อมรอยยิ้มหวาน แต่ดู
อย่างไรก็คล้ายกับว่าเจ้าตัวสมนํ้าหน้าเขามากกว่า
อวดดี
คารีโนยกมือขวาขึ้นแตะบริเวณข้อมือซ้ายเบา ๆ ตรงรอยที่โดนหยิก
ก้มลงมองก็เห็นว่ารอยยังแดง ออกอาการตึงและเจ็บนิด ๆ มือหนาลูบไล้
เบา ๆ พลางคิดถึงเจ้าของมือเล็กที่มเี ล็บแหลมคมเป็นอาวุธทำร้ายเขาเมื่อ
ตอนหัวคํ่าที่ผ่านมา พร้อมกับรอยยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก
ท้าทายนัก อย่างนี่สิน่าค้นหา แล้วเราจะได้เห็นดีกัน
ละมุนมาศเลิกงานในตอนดึก กลับมาแวะที่ห้องของมิสซิสลีเพื่อรับ
คนตัวเล็กกลับห้อง ทันทีที่ฟีนิกซ์ตื่นขึ้นมาเห็นหล่อนก็ส่งเสียงเรียกอย่าง
ดีใจ
“มามี้”
“ว่าไงคะคนเก่ง กลับห้องเราเถอะนะ ลามิสซิสลีด้วยค่ะฟี”
“บายมิสซิสลี ขอบคุณค่ะ กู๊ดไนต์”
“ขอบคุณมากนะคะมิสซิสลีที่ช่วยดูแลฟีนิกซ์ ถ้าไม่มคี ุณ ฉันกับ
ฟีนิกซ์คงจะลำบากมากทีเดียว”
ละมุนมาศยื่นซองเงินทีเ่ ตรียมเอาไว้แล้วส่งให้มสิ ซิสลี พร้อมกับหัน
หลังนั่งลงให้ร่างเล็ก ๆ ขึ้นขี่บนหลัง
43/559

“ด้วยความยินดีมุน อย่าคิดมาก ฉันก็ไม่เหงาเพราะมีฟีนิกซ์มาเล่น


ด้วย”
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ กู๊ดไนต์มิสซิสลี”
“กู๊ดไนต์มุน กู๊ดไนต์ฟี”
ร่างบางที่มีคนตัวเล็กขี่หลังอยู่ในสายตาของใครบางคนซึ่งหลบอยู่ที่
มุมหนึ่งของบันได ทุกอาการและความเคลื่อนไหวอยูใ่ นเครื่องบันทึกขนาด
เล็ก แต่ไฮเทคเหลือล้นตามคำสั่งของเจ้านาย
หลังจากส่งคนตัวเล็กเข้านอนแล้ว ละมุนมาศก็อาบนํ้าสระผมชำระ
สารพัดกลิ่นอาหารที่ติดตัวมาจากภัตตาคาร กว่าจะเข้านอนได้กเ็ กือบจะ
ตีหนึ่งเลยทีเดียว แต่ก่อนจะล้มตัวลงนอน มือบางก็อดไม่ได้ที่จะคว้าซองที่
ได้รับจากมิสมินต์ก่อนกลับบ้าน ทีบ่ อกว่าเป็นทิปส่วนตัวจากท่านไนฮัวคืน
นี้ มือบางค่อย ๆ เปิดซองช้า ๆ แล้วก็ต้องตาโตกับจำนวนเงินที่ได้รับ
สองร้อยเหรียญ จะว่าไปแล้วในแต่ละคืนที่หล่อนทำงาน ก็มักจะได้ค่าทิป
ประมาณนี้ แต่ต้องวิ่งให้บริการขาแทบขวิด แทบไม่ได้หยุดหายใจ แต่วัน
นี้ทำงานแบบสบาย พูดคุยเสียมากกว่า
ถึงว่าสิ มีแต่คนอยากรับใช้ท่านเจ้าของ เพราะว่าอย่างนี้นี่เอง โชคดี
ที่หล่อนได้โอกาส
แต่พอคิดถึงบางอย่างแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที อดไม่ได้ที่จะว่า
คนต้นเหตุ
44/559

คนลามก คนฉวยโอกาส
แล้วก็ตัดใจเก็บเงินใส่กล่อง ปิดไฟ ล้มตัวลงนอน แต่
จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ หลับตาแต่สมองยังตื่น ภาพ
ต่าง ๆ ไหลเข้าสู่ความทรงจำตั้งแต่ที่ได้สบตากับเขา
ผู้ชายคนนั้น
ดวงตาทีแ่ ข็งกร้าวในแวบแรกที่เห็นออกจะดุดัน น่ากลัว ไม่นานนัก
มันกลับอ่อนแสงลง และปะปนไปด้วยความหมายที่หล่อนแปลไม่ได้ มัน
นิ่ง ลึกลํ้า ยากคะเน แต่หลังจากที่โดนหยิก ดวงตาเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
มันอาฆาตมาดร้ายน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก
คนอะไร คิดจะทำอะไรก็ได้ตามความพอใจอย่างนั้นใช่ไหม ตั้งแต่
ทำงานที่นี่หล่อนยังไม่เคยโดนใครดูถูกอย่างนี้มาก่อนเลย เจ็บใจนัก
เจ็บใจจนรู้สึกได้ว่าตัวสั่นไปหมด อยากจะร้องไห้ออกมาให้สมกับความ
คับแค้นใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มเท่านั้น
แต่อย่าให้มโี อกาสนะ หล่อนจะเอาคืนให้สาสมเลยทีเดียว แล้ว
หล่อนจะทำอะไรเขาได้...บ้างนะ ท่าทางมาเฟียดูน่ากลัวซะขนาดนั้น เฮ้อ
คงทำอะไรเขาไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ขออย่าให้ได้เจอกันอีกเลย ที่แล้วมา
หล่อนจะปล่อยให้มันผ่านไป จะอโหสิให้
คิดเอง เออเอง ถามตัวเอง มีคำตอบบ้าง ไม่มีคำตอบบ้าง ในที่สุด
ละมุนมาศก็เข้าสู่นิทราโดยไม่รู้ตัว
45/559

ในป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ยืนต้นสูงใหญ่ แทบจะมองไม่เห็นท้องฟ้า
เพราะว่าใบไม้ที่ขึ้นอย่างหนาแน่นปิดบังเอาไว้ ละมุนมาศสัมผัสได้ถึง
บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนเหมือนฝนจะตก มองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้
มีเพียงทางเดินเล็ก ๆ ที่รกชัฏ
ละมุนมาศเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อด้วยสายตาของตัวเอง
ทำเอาหัวใจดวงน้อยแทบวาย ร่างบางนิ่งขึง มือไม้อ่อนแรงราวกับจะล้มทั้ง
ยืน
สัตว์ร้ายตัวใหญ่ยักษ์ที่กำลังกกกอดรัดโรมรันเหยื่อตัวเล็กของมันที่
ละมุนมาศมองไม่ชัดว่าคืออะไร เห็นแต่เกล็ดสีดำมันเลื่อมของมันสะท้อน
เข้าตา ถึงแม้จะในระยะไกล แต่ละมุนมาศก็รู้ดีว่าเจ้าตัวนั้นคืออะไร สิ่งที่
หล่อนกลัว เกลียด ขยะแขยงที่สุดในชีวิตนั่นเอง
ในวินาทีที่ละมุนมาศกำลังตกตะลึงนั้น เจ้าของดวงตาสีแดงโชนก็เงย
ขึ้นมาสบ พอพบกับเหยื่อรายใหม่ ร่างใหญ่ยาวก็คลายตัวละจากเหยื่อใน
อ้อมกอดทันที
หัวใจดวงน้อยของละมุนมาศหล่นวูบ สมองน้อย ๆ สั่งตัวเองทันที
ว่าควรจะทำอย่างไร
หนี...เอาตัวให้รอด
สองขาทีห่ นาหนักพยายามออกวิ่งเต็มแรง สุดฝีเท้า สุดชีวิต แต่ก็
เหมือนกับว่ามันอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง วิ่งก็ไปได้ไม่ไกลนัก พอหันกลับไปมอง
46/559

ก็พบว่า เจ้าตัวใหญ่ยักษ์ที่โตกว่างูขนาดใหญ่หลายร้อยเท่านั้นเลื้อยตาม
หลังมาอย่างอ้อยอิ่ง สง่างาม แววตาสีแดงฉานนั้นมุ่งมั่นจ้องมาที่หล่อน
อย่างแน่วแน่ และในทันใดร่างเล็กของหล่อนก็ถูกตวัดรัดเอาไว้อย่าง
รวดเร็ว พร้อมกับยกขึ้นสูงเหนือพื้นดิน
“กรี๊ด...” ละมุนมาศร้องสุดเสียง พร้อมกับรู้สึกตัวสะดุ้งตื่น รีบผุด
ลุกขึ้นนั่งทันใด เสียงหายใจหอบถี่กระชั้น เหงื่อโทรมเต็มใบหน้าและ
เนื้อตัว มองซ้ายขวาแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ฝันหรอกหรือนี่ ไม่คิดว่ามันจะเหมือนจริงได้ขนาดนี้
มือเรียวยกขึ้นลูบหน้าตัวเองแรง ๆ สายตาที่ยังตื่นตระหนกมองออก
ไปนอกหน้าต่างห้องนอนยังมืดสลัว มองนาฬิกาทีป่ ลายเตียงเกือบจะหก
โมงเช้า ร่างบางล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แต่กไ็ ม่สามารถหลับลงได้เลย ยัง
รู้สึกถึงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงราวกับจะหลุดออกมานอกอก
สิ่งที่ละมุนมาศเกลียดที่สุดคืองู แต่ที่เห็นในฝันไม่ใช่งูตัวเล็ก ๆ
ธรรมดาที่เคยเห็นทั่วไปตามถนนตอนที่มันวิ่งตัดหน้ารถ หรือว่าที่หล่อน
เคยเห็นตามป่าหลังคอนโดมิเนียมในฤดูร้อน มันคล้าย ๆ กับงูยักษ์ที่
หล่อนเคยเห็นในหนังของช่องไซไฟ (Syfy - หนังซีรีสท์ างช่องโทรทัศน์)
หลายต่อหลายเรื่องนั่นเอง
ละมุนมาศอดที่จะนึกทบทวนความฝันของตัวเองไม่ได้ งูอะไรตัว
ใหญ่โตน่ากลัวขนาดนี้ พยายามคิดว่า
47/559

หล่อนได้ดูหนังเกี่ยวกับงูก่อนนอนหรือเปล่า
ก็ไม่
มีใครพูดเรื่องงูให้ฟังหรือเปล่า
ก็ไม่
คิดถึงเรื่องงูหรือเปล่า
ก็ไม่ แล้วหล่อนฝันถึงมันได้อย่างไรกัน
ยิ่งคิดถึงดวงตาน่ากลัวราวกับมีอำนาจของเจ้างูยักษ์ที่จ้องสบมา ก็อด
ทีจ่ ะขนลุกไม่ได้ ดวงตาที่ลุกโชนด้วยแสงแดงเจิดจ้า แสดงออกถึง
ความหมายมาดหรือว่าอาฆาตมาดร้าย เคืองแค้นอย่างเหลือเกิน ไม่เท่านั้น
ดูเหมือนกับว่า มันยังยิ้มเยาะส่งให้อีกด้วย
งูอะไรกัน แสดงความรู้สึกออกมาทางสายตาก็ได้ด้วย เฮอะ คิดว่า
หล่อนจะกลัวหรือไงกัน ก็แค่ความฝันเท่านั้นเอง
แต่พอคิดถึงความเชื่อของยายทีเ่ คยบอกตอนที่หล่อนยังเด็ก ๆ ใจที่
บอกว่าไม่กลัวกลับฝ่อขึ้นมาอีกทันใด
ฝันในเวลาเช้าตรู่มักจะเป็นจริง
ทีย่ ายเชื่ออย่างจริงจัง ก็เพราะว่ายายเคยฝันว่าตกบันได ตื่นขึ้นมา
เดินลงบันไดบ้านเช้าวันนั้น ยายก็เหยียบชายผ้าถุงของตัวเองเลยตกบันได
สามขั้น ยายก็เลยเชื่อ
48/559

ถ้าเป็นอย่างทีย่ ายเคยบอกจริง ๆ หล่อนจะต้องไปเจองูยักษ์ที่ไหน


อย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้ก็คงต้องงดพาคนตัวเล็กไปปั่นจักรยานใน
ป่าหลังคอนโดฯ สักระยะน่าจะเป็นการดี เพราะหล่อนเกลียดงูเป็นที่สุด
ทั้งเกลียด ทั้งกลัว ทั้งขยะแขยงเลยทีเดียว ทั้ง ๆ ที่มันก็ไม่มีมือมีเท้ามา
ต่อกรอะไรด้วยเลย
“มามี้” เสียงงัวเงียเรียกขึ้นที่หน้าประตูห้องที่ละมุนมาศเปิดกว้างทิ้ง
ไว้ตลอดทั้งคืน ร่างเล็ก ๆ ในชุดนอนสีฟ้าตัวยาว ด้านหน้าเต็มไปด้วย
ภาพของเจ้าหญิงในเทพนิยาย ผมที่ยาวพันกันยุ่งเหยิง หอบเจ้าหมาขนปุย
ตัวน้อยในอ้อมแขนยืนขยี้ตาอยู่ที่ประตู
“เข้ามาสิจ๊ะฟี มานอนกับมามี้ดีกว่า” พอได้รับคำอนุญาต ร่างเล็ก ๆ
จึงเดินมาที่เตียง ปีนขึ้นซุกตัวเข้าหาอ้อมแขนที่เปิดรออยู่แล้ว
“หลับนะจ๊ะ ยังเช้าอยู่เลย” ละมุนมาศบอกกับคนในอ้อมกอด ก่อน
ที่จะยื่นริมฝีปากไปจูบที่เรือนผมนุ่มสีนํ้าตาลนั้นเบา ๆ พร้อมกับกระซิบ
“มามี้รักฟีนะ เราจะมีกันและกันตลอดไป”
ร่างเล็กซุกหน้าเข้าหาอกอุ่นอย่างออดอ้อน ละมุนมาศได้แต่ยิ้มอย่าง
มี ความสุข ชีวิตตอนนี้หล่อนไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แค่มเี วลาว่างบ้าง มี
งานทำ มีเงินเลี้ยงดูคนในอ้อมกอดของหล่อนตอนนี้ให้มีความสุขแค่นั้นก็
เพียงพอแล้ว
5
คนอวดดี

ร่างสูงทีน่ อนควํ่าหน้าอยู่บนเตียง แผ่นหลังเปล่าเปลือยโดยมีผ้าห่ม


ผืนหนาคลุมท่อนล่างเอาไว้ เจ้าของร่างขยับตัวเล็กน้อยแล้วก็พลิกตัวนอน
หงาย เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าอกแกร่งทีแ่ ข็งแรงสมบูรณ์ ปราศจากไขมัน
เนื่องจากได้รับการเอาใส่จากผู้เป็นเจ้าของเป็นอย่างดี ทั้งการเลือกกิน
อาหารที่มีประโยชน์และการออกกำลังกายอย่างสมํ่าเสมอ
เจ้าของใบหน้าคมยังหลับตา เขาตื่นแล้วแต่ยังไม่อยากลุกจากเตียง
นอน นิ่ง ๆ และก็ปล่อยความคิดคำนึงไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่
ผ่านมา
ใบหน้าหวานที่ติดแน่นอยู่ในความทรงจำ คารีโนจำได้ว่าเขาจ้อง
หล่อนตั้งแต่แรกเจอเลยทีเดียว แต่พอหล่อนหันหน้ามาทางเขาก็รีบหลบตา
หนีทันที และหันไป ยิ้มแย้มอ่อนหวานให้กับบิดามารดาเขาแทน
คารีโนยังแอบสำรวจหล่อนต่อไป ใบหน้าสวยที่มีดวงตาโตรีราวกับ
ตากวางสุกใสแวววาว จมูกโด่งงามเป็นสันเล็ก ๆ รับกับริมฝีปากอวบอิ่มที่
เคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูจาง ๆ ผมยาวสลวยที่เจ้าตัวรวบเอาไว้เป็น
50/559

หางม้า ทำให้ใบหน้านั้นดูโดดเด่น ลูกผมบาง ๆ ที่หน้าผากของหล่อนดูมี


เสน่ห์ยิ่งนัก ยามที่เจ้าตัวอมยิ้มนิด ๆ อยูต่ ลอดเวลาที่คุยกับบิดามารดา
ของเขานั้นยิ่งทำให้น่าดูขึ้นไปอีก ดูอ่อนโยน ใจดี อบอุ่น แต่ทุกครั้งที่
สายตาของหล่อนสบมามองทางเขา ดวงตาคูส่ วยนั้นก็จะเปลี่ยนไปทันที
เป็นว่างเปล่าไร้ความอ่อนโยน
เป็นแต่กับเขาคนเดียว จนทำให้รู้สึกขุ่นใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ พอสบโอกาสเขาก็เลยเรียกร้องความ
สนใจ ลูบไล้บั้นท้ายกลมกลึงงามงอนของหล่อนเบา ๆ ถึงสามครั้ง แค่ได้
สัมผัสแตะต้องบั้นท้ายนุ่มหยุ่นของหล่อน ก็ทำให้ความรู้สึกภายในของเขา
ร้อนรุ่มลุกโชนจนแทบจะทนไม่ได้ เขาทำได้แค่สูดกลิ่นหอมจาง ๆ
เย้ายวนที่ระเหยออกมาจากร่างของหล่อน แต่ยิ่งเหมือนกับสุมไฟมากขึ้นไป
อีก นึกแล้วก็อยากจะลากหล่อนมากระทำตามที่ใจต้องการเหลือเกิน ไม่น่า
เชื่อว่าหล่อนจะทำให้ความรู้สึกของเขาร้อนแรงพุ่งกระฉูดได้ขนาดนั้น แม้
จะรู้สึกว่าขายหน้านิด ๆ แต่ก็คิดว่าคุ้มกับการโดนเล็บยาวแหลมคมนั้น
หยิกอย่างแรง จนหนังกำพร้าของเขาถลอก เจ็บไปถึงกระดองใจเลย
ทีเดียว
เจ็บตัวไม่เท่าไร เล็กน้อย เขาเจ็บมามากกว่านี้ แต่เจ็บใจนีส่ ิ หล่อน
กล้ามาก กล้าทำให้ ตรัง คารีโน ฟรานซ์ เนียมบา...เจ็บ นีถ่ ้าไม่อยูต่ ่อหน้า
บิดามารดา เขาได้ดึงหล่อนมาลงโทษให้สมกับความกล้าบ้าบิ่นนั่นเป็นแน่
51/559

ในชีวิตของ ตรัง คารีโน ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาบาดเจ็บได้


มากขนาดนี้ เนื้อตัวร่างกายของเขาเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนถวิลหาอยาก
ครอบครอง แต่หล่อนกลับแสดงออกว่าไม่สนใจ แถมยังทำร้ายอีก มันให้
ความรู้สึกที่ท้าทายเหลือเกิน
เขาจะทำให้หล่อนรู้ว่าไม่ควรทำให้เขาระคายแม้แต่นิดเดียว หล่อน
ยังไม่รู้จักเขาสินะ ว่าแต่เขาจะทำอย่างไรดี
หลังจากคิดหาวิธีอยู่นาน ก็ยังไม่มีวิธีที่จะจัดการกับคนที่ทำให้เขา
เจ็บตัวได้ คารีโนก็เลยลุกจากเตียงหลังเวลาเที่ยงวันเล็กน้อย มือหนาคว้า
ผ้าขนหนูสีขาวที่พาดอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงมาพันท่อนล่าง คว้าเสื้อคลุมตัวโต
ทีว่ างพาดอยูบ่ นเก้าอี้ยาวปลายเตียงขึ้นมาสวม รัดสายที่เอวแล้วก็เดินออก
ไปจากห้องนอน ตรงไปยังห้องทำงานที่อยู่ติดกับห้องนอน สายตาของเขา
มองไปยังรายงานจากลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ที่วางรออยู่บนโต๊ะทำงานแล้ว
รอยยิ้มแห่งความพอใจปรากฏบนริมฝีปากหยักได้รูปนั่นเล็กน้อย แต่ก็
ต้องวางลงบนโต๊ะเมื่อได้ยินเสียงวิ่งตึงตังเข้ามาใกล้ พร้อมกับเสียงเล็กร้อง
ขึ้นอย่างยินดี
“แดดดี้ แดดดี้ ตื่นแล้วหรือคะ”
“ตื่นแล้วค่ะ ไหนมาให้แดดดี้จูบหน่อยสิคะ”
ร่างเล็กถลาเข้าหาอ้อมแขนที่อ้าออก คารีโนยกร่างลูกสาวตัวน้อยขึ้น
มาจูบที่ริมฝีปากดังจ๊วบ แล้วก็ยกร่างเล็กขึ้นแบกบนบ่า เรียกเสียงกรี๊ด
กร๊าดหัวเราะชอบใจจากเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี
52/559

“แดดดี้อาบนํ้าสิคะ วันนีแ้ ดดดีส้ ัญญาว่าทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว


จะพาคารีนาไปหาเกรทแกรนด์มา (Great Grandma - คุณย่าทวด)
นะคะ ลืมหรือเปล่าคะ”
“ไม่ลืมหรอก แต่ตอนนี้แดดดี้ขออาบนํ้าก่อนได้ไหมคะ”
“ค่ะ คารีนาจะลงไปรอข้างล่างกับมิสไอวีนะคะ” ใบหน้าเล็ก ๆ ยื่น
เข้าไปจูบริมฝีปากของบิดาแรง ๆ คารีโนปล่อยลูกสาวตัวน้อยออกจาก
อ้อมกอด
หลายครั้งก็นึกสงสารลูกสาวที่ไม่มีมารดาคอยดูแล แต่เขาก็ยังหาคน
ที่ เหมาะสม คนทีจ่ ะรักลูกสาวของเขาอย่างจริงใจไม่ได้ ผู้หญิงที่เข้ามาหา
เขาแต่ละคนก็เป็นได้แค่คู่ควง หล่อนพวกนั้นไม่มคี วามเป็นแม่อยู่ในหัวใจ
จะให้เป็นแม่ของลูกเขาคงไม่ได้แน่ ๆ
คารีโนรู้ว่าลูกสาวเหงา เพราะมีชีวิตอยูก่ ับแต่พี่เลี้ยง ถึงแม้พี่เลี้ยงจะ
รักและเอาอกเอาใจก็ยังไม่เท่ากับความรัก ความอบอุ่นหรือว่าสายใย
สัมพันธ์ที่เด็กๆ ควรได้รับจากมารดา
แต่ทำอย่างไรได้ เขายังหาคนที่จะมาเป็นแม่ของลูกไม่เจอ
อาบนํ้าแต่งตัวเสร็จ คารีโนก็กลับเข้าไปยังห้องทำงานอีกครั้ง มือหนา
คว้ากระดาษบนโต๊ะทำงานขึ้นมาอ่าน สายตาคูค่ มดุราวเหยี่ยวที่กำลังออก
หากิน ไล่ไปตามตัวอักษรทุกตัวอย่างรวดเร็วฉับไว
ลามุนมาด อามนารท...ชื่อที่คารีโนพยายามที่จะอ่านออกเสียง
53/559

อายุ...ที่คิดบวกลบในใจจากปีที่เกิด ยี่สิบหกปีเกือบจะยี่สิบเจ็ดปีแล้ว
การศึกษา...ปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย...รัฐนิวเจอร์ซีย์
ตำแหน่งงาน...เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานด้านการเงินของเอสซี แฟมิ
ลี่ แพรกทิส เซนเตอร์ (Family Practice – เวชศาสตร์ครอบครัว)
หล่อนทำงานที่คลินิกแพทย์นั่นเอง
สถานภาพ...โสด
หนึ่งหน้ากระดาษเอสี่ แต่ใจความสำคัญมีอยู่เพียงเท่านี้
แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ที่จะรับรู้ว่าเขาควรจะทำอย่างไรกับหล่อน คน
อวดดี
และแล้วหัวคิ้วก็ต้องขมวดเข้าหากันเมื่อเปิดหน้าถัดไป คือภาพ
เด็กหญิง ตัวน้อยที่ขี่หลังของคนในภาพ
ไหนว่า ‘โสด’ แล้วทำไมมีเด็กหญิงตัวน้อยท่าทางสนิทสนมขี่หลังอยู่
ด้วย
หล่อนเริ่มทำงานทีเ่ วียดเฮาส์ได้เกือบสามปีแล้ว บอกว่าโสด แล้ว
เด็กหญิงทีข่ ี่หลังอยู่นี่น่าจะอายุเกินสามปีแล้ว มันหมายความว่าอย่างไรกัน
นะ เลี้ยงเด็กให้ใครหรือว่าลูกของหล่อนจริง ๆ
คำถามเกิดขึ้นพร้อมกดอินเตอร์คอมเรียกหาลูกน้องคนสนิท
“เฟย เบียน”
54/559

“ครับนาย” เสียงขึงขังของลูกน้องทั้งสองส่งมาตามสาย ไม่ถึงนาทีทั้ง


คู่ก็เข้ามาในห้อง
“นี่หมายความว่าไง” มือหนายื่นภาพตรงหน้าไปให้ดู
“บอกมาให้หมดอะไรที่นายรู้นั่นแหละ”
“ประวัตินไี้ ด้มาจากมิสมินต์ครับ แล้วผมก็ตามมิสละมุนมาศไปยัง
คอนโดฯ ที่พักหลังเลิกงานตอนดึก ก็พบว่าเธอไปรับเด็กหญิงคนหนึ่งก่อน
ทีจ่ ะกลับห้องของ ตัวเอง ผมได้ยินเด็กคนนั้นเรียกมิสละมุนมาศว่ามามี้
แต่มิสมินต์ไม่ได้บอกว่า มิส ละมุนมาศแต่งงานหรือว่ามีลูกครับ”
“เฟย ถ้ามีเวลาว่าง นายช่วยหาให้หน่อยนะว่าใครคือสามีหรือว่าอดีต
สามีของละมุนมาศ พร้อมทั้งติดตามการเคลื่อนไหวของทั้งสองคนด้วยว่ามี
ใครเข้ามาเกี่ยวข้องกับคนทั้งคู่บ้าง” เสียงเบา ๆ แต่จริงจังของเจ้านายทำ
ให้เฟยรีบรับปากทันใด แม้ว่าในใจจะนึกสงสัย
“ครับนาย”
รู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ ทีร่ ู้ว่าหล่อนมีลูกแล้ว เขาคิดว่าหล่อนน่าจะเป็น
คนโสดไม่มีพันธะ เพราะดูแล้วอายุกไ็ ม่มากนัก หน้าตาก็เด็กซะขนาดนั้น
มีลูกแล้วหรือนี่ แล้วอย่างนี้เขาจะทำอะไรได้
แต่ก็ช่างเถอะ เขาไม่ได้คิดจะเอาหล่อนมาเป็นภรรยาสักนิด ก็แค่
อยากจะเอาคืน ’คนอวดดี’ ก็เท่านั้นเอง
55/559

มือหนาทิ้งกระดาษในมือลงบนโต๊ะอย่างไม่ไยดี ก่อนที่จะเดินตัวปลิว
กลับไปยังห้อง มองสำรวจหน้าตาตัวเองในกระจกแล้วก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า
หน้าตาของเขานี่ไม่ได้มีเสน่ห์เลยหรือไร ผู้หญิงคนนั้นถึงได้มองด้วย
สายตาที่ว่างเปล่า หรือว่าเขาหมดเสน่ห์ไปแล้ว แต่น่าจะไม่ใช่ เพราะเมื่อ
ตอนค่อนรุ่ง เลอาสาวสวยหุ่นดี สาวละตินผู้ร้อนแรงยังร้องครวญครางจน
หมดแรง และก็แทบจะไม่ยอมปล่อยเขาออกมาจากห้องพักของหล่อนเลย
ก็ว่าได้ ทำเอาเขากลับมาถึงบ้านตัวเองเกือบเช้าทีเดียว แล้วหล่อนเป็นใคร
กันถึงมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่าอย่างนั้น แถมตอนที่ทำร้ายเขาต่อหน้า
บิดามารดายังยิ้มเยาะเย้ยให้เขาอีกด้วย
เมื่อคืนถ้าไม่มีบิดามารดาอยู่ด้วย เขาคงจะได้ลงโทษหล่อนให้สาสม
เป็นแน่
แล้วนี่เขาจะมาคิดเรื่องของผู้หญิงคนนั้นทำไมกัน หล่อนไม่ได้สำคัญ
สักนิดพอทีจ่ ะให้คิดถึง ก็แค่เด็กในร้านของตัวเอง แต่หล่อนก็กล้าที่จะ
ทำร้ายให้เขาเจ็บ หล่อนคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน
รถโตโยต้าคันเล็กสองประตูสีแดงหม่น ที่เบาะหลังมีร่างน้อย ๆ นั่ง
อยูใ่ นคาร์ซตี (Car Seat - ที่นั่งที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ ในรถยนต์)
ใบหน้าที่น่ารักนั้นบ่งบอกถึงการมีเลือดผสม ออกอาการตื่นเต้นอย่างเห็น
ได้ชัด เมื่อรถเลี้ยวเข้าไปจอดในลานจอดรถของร้านแม็คโดนัลด์ที่อยู่ไม่
ไกลจากบ้าน
“ถึงแล้วฟีจะกินให้อร่อยไปเลย”
56/559

คำพูดของคนที่อยู่เบาะหลังทำให้ละมุนมาศอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“ฟีอยากกินอะไรหรือคะ”
“แฮปปีมีล ชีสเบอร์เกอร์ แล้วก็ไอศกรีม และก็เอาเจ้าหญิงตัวสีชมพู
นะคะมามี้”
“แล้วเครื่องดื่มอะไรดีคะ”
“ฟีขอดื่มนํ้าอัดลมได้ไหมคะ ฟีไม่ได้ดื่มมาตั้งนานแล้วนะคะมามี้ ลืม
ไปแล้วว่ารสชาติมันเป็นอย่างไร ฟีสัญญาว่าจะดื่มแค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งให้
มามี้ และพอกลับถึงบ้านฟีจะแปรงฟันทันทีเลย นะคะ...นะคะ พลีส...พลี
ส” เสียงอ้อน ๆ ของคนตัวเล็กพร้อมเหตุผลและสัญญาน่ารักนั้น ทำให้
ละมุนมาศแอบยิ้มอยู่ในใจ และก็ต้องพยักหน้าให้อย่างจำยอม บอกกับ
ตัวเองว่า
นาน ๆ ทีไม่น่าจะเป็นอะไร หล่อนไม่ได้พาฟีนิกซ์ออกมาทานอาหาร
อย่างนี้บ่อย ๆ สักหน่อย
จากนั้นก็เปิดประตูรถ แล้วก็ปรับเบาะรถให้ควํ่าไปข้างหน้า เพื่อเปิด
ช่องว่างระหว่างประตูให้กว้างขึ้นก่อนโน้มตัวเองเข้าไปหลังรถ ปลดสาย
เข็มขัดให้ร่างเล็ก ๆ นั้นออกมาจากคาร์ซีต
แต่เมื่อนึกถึงความไม่ค่อยสะดวกสบายแล้ว หลายครั้งที่ละมุนมาศ
คิดอยากจะได้รถใหม่ที่เป็นสี่ประตูเพื่อความสะดวกสบายในการเข้าออก
57/559

รถของคนตัวเล็ก แต่มันก็ต้องใช้เงินพอสมควร พอคิดถึงเงินก็ต้องหยุด


ความต้องการเอาไว้แค่นั้น
“ขอบคุณค่ะ รักมามี้ที่สุดในโลกเลย”
คำพูดหวาน ๆ พร้อมกับจูบที่ข้างแก้มแรง ๆ ทำให้ละมุนมาศยิ้ม
กว้าง ลืมเรื่องราวทุกอย่างที่อยู่ในสมองเสียหมดสิ้น คนตัวเล็กน่ารักนักใน
เวลาที่เจ้าหล่อนออดอ้อนเอาใจอย่างนี้
“ด้วยความยินดีค่ะ”
และพอคนตัวเล็กอ้าแขนให้ ละมุนมาศก็คว้าร่างนั้นเข้าสู่อ้อมกอด
พร้อมกับจูบแรง ๆ ที่แก้มเนียนสีชมพูสดนั้นอย่างรักใคร่สุดหัวใจ
ชายสองคนที่ขับรถตามมาตั้งแต่หน้าคอนโดมิเนียมจอดรถแล้วก็เข้า
ไปในร้านแม็คโดนัลด์ เลือกสั่งอาหารพร้อมกับไปนั่งโต๊ะที่ติดกับโซนเด็ก
ทีต่ กแต่งเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าตัวน้อย ๆ โดยที่บนเก้าอี้และบนโต๊ะ
แต่ละตัววาดภาพสัตว์ทเี่ ป็นตัวการ์ตูนชื่อดังในโทรทัศน์ด้วยสีสันสดใส จึง
ทำให้บริเวณนั้นเต็มไปด้วยลูกค้าเด็ก ๆ
“มามีล้ องชีสเบอร์เกอร์ของฟีไหมคะ อร๊อยอร่อยค่ะ” เสียงเล็ก ๆ
เชิญชวน พร้อมกับยื่นสิ่งที่อยู่ในมือไปให้ตรงหน้า ละมุนมาศยื่นหน้าไป
แล้วอ้าปากทานของที่ถูกยื่นมาให้เล็กน้อย
“ขอบคุณค่ะ อื้อ อร่อยจริง ๆ ด้วย ฟีอยากชิมของมามีไ้ หมคะ”
พร้อมกับยื่นแซนด์วิชด้านทีย่ ังไม่ได้กัดออกไปให้อีกคน ละมุนมาศรู้ว่าคน
58/559

ตรงหน้าไม่ชอบทานปลา แต่ก็ยังพยายาม แต่อีกคนยังอิดออดไม่ค่อย


มั่นใจ
“ว่าแต่แซนด์วิชปลาอร่อยไหมคะ”
“อร่อยสิคะ ถ้าไม่อร่อย มามี้จะสั่งหรือ หือ ลองไหมคะ อร่อยน้า”
“เอาไว้ครั้งต่อไปนะคะ ฟีจะชิม”
“ปลาอร่อยและก็มีประโยชน์ด้วย ถ้าใครอยากฉลาด สวย และมี
สุขภาพที่แข็งแรงต้องทานปลาเยอะ ๆ ค่ะ”
“สวยเหมือนมามี้ใช่ไหมคะ”
“สวยกว่ามามี้อีกตั้งมากมายเลยละค่ะ”
“งั้นฟีชิมนิดหนึ่งก็ได้” เสียงเล็ก ๆ เสนอขึ้นอย่างไม่ค่อยแน่ใจสัก
เท่าไร
“เก่งมากค่ะ อีกหน่อยโตขึ้นฟีจะสวยและเป็นคนเก่ง คนดี ไม่เชื่อ
คอยดู นะคะ”
“เหมือนมามี้ใช่ไหมคะ”
“ถ้าอยากสวยแบบมามีต้ ้องทานผักเยอะ ๆ ค่ะ เพราะมามี้ชอบทาน
ผัก มาก ๆ” ละมุนมาศบอก พร้อมกับยื่นหน้าไปตรงกลางโต๊ะให้คนตัว
เล็กจูบ และก็ทานอาหารต่ออย่างมีความสุข เสียงพูดคุยพร้อมกับเรื่องราว
59/559

ต่าง ๆ ที่คนตัวเล็กเล่าให้ฟัง เรียกเสียงหัวเราะเบา ๆ จากละมุนมาศได้


เป็นอย่างดี
6
หงุดหงิด

หลังอาหารกลางวันแล้ว คารีโนก็ไปส่งลูกสาวตัวน้อยที่บ้านของคุณ
ยาย แต่เนื่องจากว่าคุณยายกลีบบัวของเขานอนหลับพักผ่อนหลังอาหาร
กลางวัน ทำให้คารีโนไม่ได้ทักทายคุณยาย นอกจากทิ้งลูกสาวไว้กับวัน
คนดูแลคุณยายของเขา วันรายงาน เจ้านายตัวน้อยทันทีว่า
“วันนี้คุณทวดจะทำเค้กนะคะ วันเกิดของมิสซิสแซมมี”
“เย้ คารีนาจะช่วยคุณย่าทวดทำเค้กค่ะ แล้วก็แบ่งไปให้ฟดี ้วย” คารี
โนฝากบอกสวัสดีคุณยาย บอกขอบคุณวัน แล้วก็จูบลาลูกสาวตัวน้อย
“แดดดี้ไปทำงานก่อนแล้วตอนเย็นจะกลับมารับนะคะ”
เมื่อขับรถออกมาจากบ้านคุณยายแล้ว คารีโนก็มุ่งตรงไปยังอีเดนพ
ลาซา เพื่อไปตรวจดูความเรียบร้อยโดยทั่วไปของตลาด รวมทั้งเข้าไปดูแล
ร้านขายเครื่องประดับของมารดาด้วย
เขาทำงานจนกระทั่งแสงสว่างแห่งวันกำลังจะหายไป มีแสงจาก
หลอดไฟฟ้าเข้ามาแทนที่ คารีโนสั่งงานกับผู้จัดการร้านเสร็จแล้ว ก็แวะซื้อ
อาหารโปรดของตัวเองและลูกสาวที่ร้านขายของชำข้าง ๆ ร้านของมารดา
61/559

หลังจากขับรถเรื่อย ๆ ออกมากลางทาง รู้ตัวอีกทีเขาก็เกือบมาถึง


เวียดเฮาส์แล้ว คารีโนก็เลยต้องโทร. ไปบอกให้คนขับรถของบิดาพา
ลูกสาวตัวน้อยมาส่งให้ที่บ้าน
นี่เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่นะ ใจลอยจนขับรถเรื่อยเปื่อยได้ขนาดนี้
เลยเชียวหรือ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ก็คิดถึงความปลอดภัยของตัวเองขึ้นมาทันใด
ปัจจุบันการตัดอำนาจหรือว่าทำร้ายคู่แข่งไม่ค่อยจะมีเปิดเผยกันนัก แต่ใน
อดีตเมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนทีค่ ุณปู่ของเขาเดินทางมาจากฝรั่งเศสพร้อม
คุณย่าและบิดาของเขา เพื่อมาบุกเบิกตลาดอีเดนแห่งนี้ ก็มกี ารฆ่ากัน
ทำร้ายกันพอสมควร โดยเฉพาะจากกลุ่มมาเฟียเวียดนามที่อพยพมาจาก
เวียดนาม สมัยทีเ่ วียดนามแตก การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันทางธุรกิจมี
มากมายหลายรูปแบบ คุณปูข่ องเขาจึงได้มีระบบคุ้มกันอย่างแน่นหนาให้
กับคุณย่าและลูก ๆ ของท่าน และบิดาของเขาก็กระทำในทำนองเดียวกัน
กับครอบครัวของท่าน
เขามีผู้คุ้มกันตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ เป็นทั้งคนขับรถและดูแลทุกอย่าง
พอเขาโตขึ้นคนดูแลก็ดูอยู่ห่าง ๆ เขาก็ใช้ชีวิตเหมือนกับวัยรุ่นทั่วไป แต่
อยูใ่ นสายตาของคนดูแลตลอดเวลา จนกระทั่งบิดาของเขาส่งไปเรียนที่
ฝรั่งเศส ซึ่งที่นั่นเขาได้รับอิสรภาพเต็มที่ ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเสรีกว่าหกปี
จนจบปริญญาโทด้านการบริหาร
62/559

เมื่อกลับมาช่วยบิดาบริหารงาน เขาก็ได้รับการคุ้มครองอีกครั้งจาก
นักต่อสูฝ้ ีมือดีทบี่ ิดาของเขาฝึกเองกับมือ เบียนและเฟยติดตามคุ้มครอง
เขาตลอดเวลา รวมทั้งอาศัยอยู่กับเขาที่บ้านด้วย แต่ปัจจุบันนี้กฎหมาย
ค่อนข้างเข้มงวดกวดขัน ทำให้ระบบของมาเฟียแทบจะสลายไปเกือบหมด
แล้ว แต่ก็ยังมีผู้มีอิทธิพลอยู่ในสังคมอยูบ่ ้าง โดยเป็นที่นับถือกันในคน
กลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น
รถฮัมเมอร์ (Hummer - รถกระบะ รถอเนกประสงค์ ขับเคลื่อนสี่
ล้อ พัฒนาจากรถทางทหารมาให้บุคลทั่วไปใช้) สีดำคันโตเคลื่อนเข้าไป
จอดทีด่ ้านหน้าโบสถ์ ร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรหันไปคว้าถุงที่วาง
อยูข่ ้าง ๆ ก้าวลงจากรถ ไม่ได้มองสบตากับใคร แม้จะได้ยินเสียงกรี๊ด
กร๊าดเล็ก ๆ ของสาว ๆ ทีล่ านจอดรถ แต่คารีโนไม่ได้สนใจ เขาก้าวยาว
ๆ ขึ้นบันไดหน้าโบสถ์แล้วผลักประตูเข้าไปข้างใน
การที่เจ้านายแวะมาโดยไม่มใี ครโทร. มาบอกล่วงหน้า ทำเอามิ
สมินต์อดแปลกใจไม่ได้ เพราะเจ้านายมาคนเดียวโดยไม่มคี นติดตาม
และยิ่งแปลกใจมากขึ้นไปอีก เมื่อเจ้านายคนใหม่ถามหาละมุนมาศ แต่พอ
รู้ว่าหล่อนไม่ได้ทำงานวันนี้ เจ้านายก็สอบถามเกี่ยวกับวันเวลาทำงานของ
ลูกน้องสาวคนสวย รับรู้แล้วก็เดินกลับออกไปทันทีด้วยใบหน้าบึ้งตึง ไม่
แม้แต่จะแวะเข้าไปในออฟฟิศ ทำเอาสาวโสดหัวใจเย็นชากับความรักอย่าง
มิสมินต์ไม่ค่อยจะเข้าใจนัก
63/559

มาไม้ไหนกันละเนี่ย ทำท่าทางอย่างกับโกรธใคร และโกรธเรื่องอะไร


ไม่เข้าใจจริง ๆ
คารีโนขับรถกลับบ้านริมหาดอย่างหัวเสีย รู้สึกหงุดหงิดในใจโดยที่
เขาก็ไม่รู้สาเหตุเช่นกันว่ามันมาจากอะไร รูแ้ ต่ว่าไม่ได้เห็นหน้า ‘คนอวดดี’
คนนั้น
เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ หงุดหงิดเพราะว่าไปแล้วไม่เจอ และทำไม
เขาต้องหงุดหงิดด้วย ก็แค่คนอวดดี ไม่เข้าใจตัวเองเท่าไรนัก
การขับรถในวันอาทิตย์ตอนมืด ๆ ถนนที่ไม่ค่อยมีรถราวิ่งมากนัก
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงคารีโนก็กลับมาถึงบ้านริมหาด ทันทีที่ได้พบหน้าลูกสาวตัว
น้อยพร้อมรอยยิ้มหวานใสไร้เดียงสา ความหงุดหงิดที่มีมาตั้งแต่ออกมา
จากเวียดเฮาส์ก็มลายหายไป
“แดดดี้ทำไมมามืดจังเลยคะ” ร่างน้อย ๆ ในชุดนอนผ้าฝ้ายสีชมพู
หวานตัวยาวครึ่งน่องแขนตุ๊กตา วิ่งเข้ามาหาทันทีทเี่ ห็นผู้เป็นบิดาเดินเข้ามา
ในบ้าน คารีโนก้มตัวลงอุ้มร่างน้อย ๆ ขึ้นสู่อ้อมกอด
“แดดดี้ไปทำงานมาค่ะ และก็มีของมาฝากด้วย”
คารีโนยกถุงที่อยู่ในมืออีกข้างให้ดูก่อนที่จะยื่นให้มิสไอวี
“อะไรคะ เรดพอร์ก (Red Pork - หมูแดง) หรือเปล่า”
“ถูกต้องที่สุด เอาไว้ทานพรุ่งนี้นะคะ”
64/559

“เย้ ขอบคุณค่ะ แดดดีน้ ่ารักที่สุดเลย คารีนารักแดดดี้ที่สุดในโลก


เลยค่ะ” บอกรักพร้อมริมฝีปากเล็ก ๆ ที่ยื่นมาแตะข้างแก้มสากของเขาแรง

“ขอบคุณค่ะ แดดดี้ก็รักหนูที่สุดในโลกเลย ว่าแต่ไปบ้านเกรทแก
รนด์มาเป็นอย่างไรบ้างคะ”
“ช่วยเกรทแกรนด์มาทำเค้กค่ะ วันนีเ้ ป็นวันเกิดของมิสซิสแซมมี
วันนี้หนูก็ได้ทานเค้กอร่อย ๆ”
“เค้กอย่างเดียวหรือคะ”
“เค้ก พิซซ่า และก็ไอศกรีม”
“น่าอร่อยจัง”
“แต่คารีนาไม่ได้ไปเล่นกับฟีนะคะ”
“เอาไว้ค่อยไปวันอื่นสิคะ ขึ้นข้างบนเถอะ ใกล้ถึงเวลานอนแล้ว แดด
ดี้พาหนูเข้านอนนะคะ”
“ค่ะ เย้ ดีใจจังเลย”
หลังจากทีส่ ่งลูกสาวตัวน้อยเข้านอนและจูบราตรีสวัสดิ์แล้ว คารีโนก็
กลับมายังห้องของตัวเองที่มีลูกน้องคนสนิทรออยู่แล้ว พอเห็นหน้าเจ้านาย
ลูกน้องก็ถามทันที
“นายครับ นายเห็นภาพหรือยังครับ”
65/559

“ภาพอะไร”
“ก็ที่ผมส่งมาให้เมื่อตอนบ่าย ๆ ไงครับ”
“ยัง แต่จะดูตอนนี้แหละ”
“ตามสบายครับนาย”
คารีโนเดินเข้าห้องทำงาน เปิดไฟล์ที่ลูกน้องส่งมาให้ทันที เป็นภาพ
ของ หญิงสาวอวดดีที่เขาได้ยินมิสมินต์และคนอื่น ๆ ที่นั่นเรียกหล่อนว่า
มุน คนนั้นกับ เด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าชังที่สีผมและใบหน้าแสดงออกว่า
เป็นลูกผสม แต่ก็ดูออกว่าทั้งคู่มสี ายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน แววตาสดใสคู่
นั้นเหมือนกันราวกับแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกันเลยก็ว่าได้ และยังรูป
หน้าทีย่ าวเรียว ผมที่ยาวสลวยแม้จะมีสีทตี่ ่างกัน ทั้ง สองกำลังนั่ง
รับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะเด็กหญิงที่นั่งเคี้ยวตุ้ย ๆ
และทั้งสองก็พูดคุยกันด้วยภาษาไทยที่เขาพอฟังรู้เรื่อง โดยเฉพาะคำเรียก
ของเด็กหญิงตัวน้อยว่า มามี้ มันชัดเจนเหลือเกิน
หล่อนมีลูกแล้วจริง ๆ หรือเนี่ย แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกเสียดายอยูล่ ึก
ๆ อย่างนี้ก็ไม่รู้
เขาอดไม่ได้ที่จะมองตามสายตาของหล่อนที่มองเด็กน้อยคนนั้น
ด้วยแววตาที่แสดงความรักจากหัวใจ
ใบหน้าหวานสวยเนียนสะอาดที่ไม่ได้แต่งแต้มอะไรเลย นอกจากลิป
สติกสีชมพูอ่อน ๆ บนริมฝีปากอิ่มนั่นเท่านั้น ดวงตาโตยาวเรียว จมูกโด่ง
66/559

เชิดนั้นน่าบีบ จริง ๆ การแต่งตัวก็ธรรมดาเหมือนกับวัยรุ่นทั่วไป เสื้อกัน


หนาวตัวบาง ผ้าพันคอสีเทา กับกางเกงยีนส์ตามสมัยนิยม ส่วนรูปร่าง
บอบบางนั่นก็ไม่น่าจะผ่านการมีลูกมาแล้วเลยด้วยซํ้า หรือว่า
หล่อนเป็นแค่เด็กใจแตกทีม่ ลี ูกตั้งแต่ยังเรียนหนังสืออยู่ เด็กหญิง
นั่นถึงได้โตขนาดนี้แล้ว
คารีโนนั่งมองใบหน้าที่ติดอยู่ในห้วงคิดคำนึงของเขาตลอดเวลา
หล่อนน่ารักมากมายในอากัปกิริยาที่เป็นธรรมชาติ ผมยาวสลวยที่เขาเห็น
มัดเป็นหางม้าเมื่อคืน บัดนี้ปล่อยสยายแสกกลาง ข้างแก้มทั้งสองข้างมีผม
ทีซ่ อยไล่ระดับกันลงไปสวยงามนัก ใบหน้าหวานทีม่ ีรอยยิ้มสดใสอยู่
ตลอดเวลา อากาศทีก่ ำลังเย็นสบาย สองข้างแก้มเนียนเป็นสีชมพูระเรื่อ
ทีเดียว
ไม่นานนักเด็กหญิงตัวน้อยก็ลุกจากเก้าอี้ที่นั่งเดินไปต่อแถวหน้า
เคาน์เตอร์ แล้วก็หันกลับมาหาผู้เป็นมารดา มารดาก็ยกนิ้วโป้งให้เป็น
สัญญาณว่า เก่งมาก พร้อมกับส่งยิ้มหวานน่ารักให้ ทำให้คารีโนอดที่จะ
ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวกับการกระทำอันแสนจะน่ารักเป็นธรรมชาตินั้น
เข้าแถวได้ไม่นานนักเด็กหญิงตัวน้อยก็กลับมาพร้อมกับไอศกรีมในมือและ
รอยยิ้มเต็มใบหน้า และภาพสุดท้ายเป็นภาพที่เด็กหญิงยื่น ริมฝีปากเข้าไป
จุ๊บที่แก้มเนียนนั้นเบา ๆ ทำเอาคนมองแอบที่จะอิจฉาเล็ก ๆ ไม่ได้
รู้สึกราวกับว่าเขาผิดหวังเล็ก ๆ ว่าแต่เขาหวังอะไรจากหล่อนกันแน่
ก็แค่ ผู้หญิงอวดดีที่ไม่มีดีจะอวดก็เท่านั้น
67/559

นี่เขาแค่สั่งให้ลูกน้องตามดูเท่านั้น แต่พวกมันดันถ่ายภาพส่งมาให้
ลึก ๆ แล้วก็อดที่จะขอบคุณในใจไม่ได้ ที่ได้เห็นภาพที่เป็นธรรมชาติน่ารัก
ของหล่อน
ตกลงว่าหล่อนก็มีลูกสาวจริง ๆ สินะ แต่ไม่มีสามีอย่างนั้นใช่ไหม
หย่า ถูกทิ้ง หรือว่าแค่ความผิดพลาดในวัยเรียน
ถ้าเด็กหญิงนั่นอายุเท่า ๆ กับลูกสาวของเขา ก็แสดงว่าหล่อนมีลูกตั้ง
แต่เรียนมหาวิทยาเลยสินะ ก้าวหน้าจริง ๆ ทำตัวเป็นอเมริกันเสียด้วย มี
ลูกไปด้วยเรียนไปด้วย แล้วนี่เขาจะคิดมากไปทำไม ในเมื่อเขาก็ไม่ได้
จริงจังด้วยสักหน่อย ก็แค่อยากเอาคืนเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น
เมื่อขออนุญาตจากเพื่อนร่วมวงแล้ว คุณละมุดก็ออกไปนอกระเบียง
บ้าน พร้อมกับบุหรี่และไฟแช็กในมือ เมื่อหาที่นั่งได้แล้วก็จุดบุหรี่ขึ้นสูบ
เงยหน้าขึ้นบนท้องฟ้าที่มืดมิด ค่อย ๆ พ่นควันออกทั้งทางปากและจมูก
อย่างช้า ๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย ใบหน้าทีเ่ คยอวบอูม เต่งตึง ดูดีอยู่เสมอ
ตอนนีก้ ลับซูบตอบลง ทำให้ดแู ก่กว่าอายุมากนัก ทั้งที่เจ้าของเพิ่งจะอายุ
แค่สี่สิบห้าปีเท่านั้นเอง
คุณละมุดนั่งสูบบุหรี่ไป สายตาก็มองผ่านกระจกหน้าต่างเข้าไปใน
บ้านหลังใหญ่ สถานที่รวมพลคนรักไพ่ ที่กลุ่มเพื่อนฝูงกำลังเล่นกันอย่าง
เคร่งเครียด เพื่อนกลุ่มเล็กๆ ที่นางรู้จักส่วนมากจะเป็นแม่บ้านไทยหรือไม่
ก็เพื่อนชาวเอเชียที่รักการเล่นไพ่เป็นชีวิตจิตใจ ถึงแม้ว่าจะเล่นกันด้วย
68/559

จำนวนเงินที่ไม่มากนัก ไม่กี่ร้อยเหรียญในแต่ละคืน แต่เล่นบ่อย ๆ ก็


หมดตัวได้เช่นกัน
ในอดีตที่ผ่านมาหลายครั้งทีค่ ุณละมุดหมดตัว ไม่มีเงินแม้แต่จะเติม
นํ้ามันรถหรือว่าซื้ออาหารรับประทาน งานที่ทำก็ต้องรอถึงสิ้นเดือนกว่าที่
เงินจะออก จนต้องหยิบยืมจากเพื่อนฝูง แรก ๆ ก็มคี นหยิบยื่นให้ แต่พอ
หลัง ๆ เพื่อนฝูงก็เริ่มหายหน้าหายตา โทร. หาก็ไม่รับสาย จนกระทั่งได้
เจอกับเพื่อนชาวลาวและเวียดนามกลุ่มใหม่ ซึ่งชักชวนให้ไปเล่นที่บ่อน
กาสิโน โชคดีที่คุณละมุดได้เงินมาจำนวนหนึ่ง และได้เอาไปใช้คืนเพื่อนฝูง
หลังจากนั้นเพื่อน ๆ ก็กลับมาคบหากันเหมือนเดิม และก็รวมกลุ่มตั้งวง
กันอีกครั้ง
ช่วงหลังทีไ่ ม่ได้ไปกาสิโน เนื่องจากไม่มีเงินสำรองมากนัก เพราะว่า
แต่ละคนทีไ่ ปเล่นตอนแรก ๆ ก็ได้มากกว่าเสีย แต่พอนานไปก็เริ่มจะเสีย
มากกว่าได้ เพื่อน ๆ ก็เลยลงความเห็นว่าเล่นกันในบ้านวงเล็กอย่างนี้ดี
กว่า เสียก็เสียให้กับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม ซึ่งทุกคนที่หมดเงินก็เห็นดีด้วย
โดยมีคุณเวียงรับเป็นเจ้าของสถานที่
เมื่อมาถึงตอนนี้ คุณละมุดก็เริ่มคิดถึงเงินจำนวนหนึ่งทีเ่ ก็บไว้ใช้ใน
ยามจำเป็นได้หมดลงแล้ว แถมยังหนี้จำนวนหนึ่งที่ยืมมาจากคุณเวียง
เจ้าของบ้านที่เปิดบ้านให้เพื่อน ๆ มาตั้งวงเล่นกันคลายเครียด แต่บางครั้ง
เมื่อต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก มันกลับยิ่งทำให้รู้สึกเครียดมากขึ้นไปอีก
แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากต้องเล่นต่อ เพื่อเสาะแสวงหาโชค ถ้า
69/559

เล่นได้ก็ได้เงินไปปลดหนี้ แต่ดูเหมือนยิ่งหา หนี้ก็ยิ่งพอกพูนเพิ่มขึ้นเรื่อย


ๆ ไม่มีวี่แววว่าจะลดลงเลย
พอคิดถึงเรื่องเงินก็หนักใจจนต้องถอนหายใจออกมาอย่างแรง ตาม
ลำพังแล้วเงินเดือนที่ทำงานเป็นพนักงานจัดของในห้างสรรพสินค้า ค่า
ชั่วโมงที่ได้ไม่กดี่ อลลาร์ต่อเดือน ก็แค่พออยูพ่ อกินอย่างประหยัดตัวคน
เดียว มาคิดได้ตอนนีก้ ็ดูเหมือนว่ามันจะสายเกินไปเสียแล้ว หลายครั้งที่
ไม่มเี งินเล่น นึกอยากจะเลิก แต่ เพื่อน ๆ ไม่ยอม แถมยังให้ยืมเงินอีก
ด้วย คุณละมุดจึงปฏิเสธไม่ได้ ก็เลยต้องเล่นต่อไป
ตอนแรกที่หัดเล่นก็เพราะว่าต้องการเพื่อนพูดคุยคลายเหงา จากการ
ทีไ่ ด้ติดตามสามีไปอยูต่ ่างประเทศ อยู่บ้านในแต่ละวันแทบจะไม่ได้คุยกับ
ใคร มันเหงา และว้าเหว่มากมาย พอมีโอกาสได้เจอเพื่อนคนไทยใน
ต่างแดนต่างก็ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยชวนกันไปเล่น คนที่เล่นเป็นก็สอนคนที่
เล่นไม่เป็น จนสุดท้ายก็เล่นเป็นกันทุกคน แรก ๆ ก็เล่นกันแค่เดือนละ
ครั้ง แต่หลังจากนั้นก็รู้สึกสนุก ความเหงาว้าเหว่ที่เคยมีก็หายไป ต่อมาก็
นัดเล่นกันเรื่อย ๆ ว่างเมื่อไรก็นัดเจอกัน หลายคนแทบจะลืมครอบครัวที่
ต้องรับผิดชอบกันเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะย้ายไปอยู่ประเทศไหน เพื่อนฝูงคนไทยที่คบหาก็มักจะเล่น
ไพ่กันเป็นประจำ ยิ่งพอสามีเสียชีวิต ทิ้งมรดกไว้ให้มากมาย ความเหงาที่
มีมากขึ้น ชีวิตที่ขาด เสาหลัก ทำให้มีความสุขทีจ่ ะอยูก่ ับเพื่อนฝูงมากกว่า
70/559

เล่นกันได้บ่อยขึ้น หนักเข้าก็พากันไปเล่นในบ่อนกาสิโน จนทรัพย์มรดก


จำนวนมากมายที่ได้รับจากสามีค่อย ๆ ร่อยหรอและก็หมดลงอย่างไม่รู้ตัว
บ้านทีเ่ คยอยู่อย่างสุขสบายก็ต้องขาย และไปเช่าอะพาร์ตเมนต์ห้อง
เล็ก ๆ นอกเมืองห่างไกลความเจริญ และก็ต้องทำงานหนักงก ๆ เพื่อ
ค่าตอบแทนเพียง เล็กน้อยในการประทังชีวิต และก็ย้ายจากรัฐนั้นไปรัฐนี้
เรื่อย ๆ แล้วแต่จะมีเพื่อนฝูงชวนไป
ชีวิตที่เคยคิดว่าต้องฝืนทนกลํ้ากลืนอยูก่ ับสามีคราวพ่อ ผ่านเข้ามา
ในความทรงจำอีกครั้ง ความสุข สะดวกสบายทีไ่ ด้รับในสมัยอดีต ทำให้
อดที่จะนํ้าตาซึมไม่ได้ มือข้างที่คีบบุหรี่สั่นนิด ๆ ยกขึ้น ใช้หลังหัวแม่มือ
ป้ายนํ้าตาทิ้ง มาถึงตอนนี้ชีวิตที่แทบจะไม่เหลืออะไรเลย แถมติดหนี้
ใครต่อใครรวมถึงคุณเวียงเจ้าของบ้านอีกหลายพันเหรียญ ยังไม่รู้ว่าจะเอา
ปัญญาที่ไหนหาไปคืนเขา
ยิ่งรู้จากเพื่อนในกลุ่มว่า คุณเวียงเป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่ง รู้จักผู้คน
มากมายโดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลโหญ่โตในกลุ่มคนลาว คนเวียดนาม คนจีน
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคุณละมุดก็ไม่รู้ว่าผู้มีอิทธิพลนั้นเป็นอย่างไร แค่
เห็นคุณเวียงมีบ้านหลังใหญ่โต มีเงินเป็นฟ่อน ๆ ให้ผู้คนในวงได้หยิบยืม
ด้วยดอกเบี้ยราคากันเองแล้ว ก็คิดว่าน่าจะเป็นจริงดังที่เพื่อนบอกมา
ผู้มีอิทธิพล เมื่อคิดถึงคำนี้แล้วก็รู้สึกเย็นเยือก เสียวสันหลังขึ้นมา
โดยไม่รู้ตัว ในวงการพนันทีไ่ ม่ถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะที่ไหน ๆ ของโลกก็
71/559

มักจะมีคนพวกนี้อยู่เสมอ และเวลาทีม่ ีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ข่าวก็มักจะถูกปิด


เงียบ รู้กันในกลุ่มเท่านั้น
ปีก่อนทีเ่ พื่อนคนลาวเสียชีวิตคาวงก็ไม่รตู้ ้นสายปลายเหตุ อ่า..คิดไป
แล้วก็น่ากลัวนัก นางต้องหาเงินมาใช้หนี้คุณเวียงให้ได้ ว่าแต่จะทำอย่างไร
แค่คิดจะหยิบยืมจากเพื่อนคนไทย ก็รู้สึกเหมือนจะหมดหนทาง
พวกเพื่อนคนไทยมากมายที่เคยคบหาในช่วงที่มีเงินทอง มีกินมีใช้
จ่ายอย่างคล่องมือ แต่พอเงินหมด เพื่อนฝูงที่เคยคบหาก็หายหน้าไป ยิ่ง
หมดตัวก็ยิ่งหาเพื่อนไม่เจอ กว่าที่จะรู้สัจธรรมของชีวิต ก็ดูเหมือนกับว่า
มันจะสายเกินไปเสียแล้ว และถ้าจะให้เลิกเล่นไพ่ในตอนนี้ คุณละมุดก็ทำ
ไม่ได้เช่นกัน
คิดถึงชีวิตที่ระหกระเหินของตัวเอง หลังจากที่เป็นอิสระจากสามี
คราวพ่อ คุณละมุดได้มีโอกาสใช้ชีวิตตามใจตัวเองอีกครั้งกับเงินในมือ
จำนวนมากมาย ซื้อของราคาแพง ๆ ใช้เงินแบบไม่เสียดาย เปลี่ยนผู้ชาย
เป็นว่าเล่น แต่ละคนก็รุ่นน้องรุ่นลูกทั้งนั้น พอเงินหมดพวกนั้นก็หายหน้า
ไป จนสุดท้ายที่คิดจะหยุดอยู่ที่สามีคนใหม่ที่นางลงทุนแต่งงานอย่าง
ใหญ่โต แต่ชีวิตคู่ก็ไม่ได้เป็นดังที่หวังเอาไว้
นางจึงระเหเร่ร่อนไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็มาหยุดอยูท่ ี่รัฐนิวเจอร์ซีย์
รัฐทีล่ ูกสาวตั้งหลักปักฐานอยู่ บ่อยครั้งที่คุณละมุดแอบไปดูลูกสาว แต่ก็
ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะกล้าปรากฏตัวให้เห็น นางไม่อยากให้ลูกเห็นสภาพที่
ดูไม่ได้อย่างนี้ แต่พอคิดไปคิดมา
72/559

มันคงจะเป็นเวรกรรมนั่นเอง ที่ทำให้ชีวิตของนางต้องเป็นอย่างนี้
มันสายเกินไปแล้วใช่ไหม
“มาเข้าวงได้แล้วคุณละมุด คนอื่น ๆ รออยู่” เพื่อนในกลุ่มเปิด
ประตูออกมาเรียก คุณละมุดรีบสูดควันเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนทีจ่ ะบี้บุหรี่
ส่วนที่เหลือลงในกระถางต้นไม้ใกล้ตัว เดินเข้าไปในบ้านที่เพื่อน ๆ ในวง
รออยู่
“นี่คุณละมุด เห็นคุณเวียงเขาบอกว่ามีกาสิโนเปิดใหม่ที่แอตแลนติก
ซิตี เขาเคยไปเล่นมา ได้มาเยอะมากเลยทีเดียว”
คำว่า ‘กาสิโน’ ทำให้หัวสมองของคุณละมุดโลดแล่น เห็นแนวทางที่
จะได้เงินก้อนโตมาใช้หนี้ในทันทีเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ถ้าเล่นต้องเล่นให้เต็มที่ถึงจะได้ก้อนโต
“แต่พี่ไม่มีเงินก้อนไปเล่นหรอก”
“คุณเวียงไง ยืมเขาก่อนสิ ถ้าได้มาก็ค่อยเอามาคืน”
คำแนะนำจากเพื่อนร่วมวง ทำให้คุณละมุดต้องคิดอย่างหนัก
มันน่าเสี่ยงจริง ๆ
7
โล่งอก...(เล็ก ๆ)

วันนี้เป็นวันหยุดของคุณละมุด หลังจากที่เมื่อคืนเลิกงานแล้วก็ไป
นั่งเล่นที่บ้าน คุณเวียงทั้งคืน กว่าจะกลับมาถึงห้องพักนอกเมือง
พระอาทิตย์กส็ ่องแสงเต็มท้องฟ้าแล้ว อาบนํ้าล้มตัวลงนอนบนฟูกมุมห้อง
แต่สมองทีย่ ังมีหลากหลายความคิดยังแล่นอยู่ ตาที่พยายามบังคับให้หลับ
ก็เลยยังเบิกโพลง
แต่อดที่จะคิดถึงคำพูดของเพื่อนร่วมวงเรื่องการไปเล่นที่กาสิโนเปิด
ใหม่แล้ว เลือดแห่งความตื่นเต้นในร่างกายก็ไหลเวียนแบบพุ่งกระฉูด
ทีเดียว
ว่าแต่นางจะเอาเงินที่ไหนมาเป็นทุนสำรอง เมื่อคืนนั่งทั้งคืนได้มาไม่กี่
เหรียญ แต่กย็ ังโชคดีที่ไม่ขาดทุน มันน่าลองจริง ๆ เพราะรู้สึกว่านางจะมี
โชคกับบ่อนใหญ่ ๆ มากกว่าวงเล็ก ๆ กับเพื่อนฝูง
สายตาคูห่ ม่นกวาดไปรอบ ๆ ห้องที่พักอาศัย ซึ่งก็มีแต่ห้องเท่านั้น
ของมีค่ามีราคาต่าง ๆ ก็ยกไปให้เจ้าหนี้จนหมดไม่เหลืออะไรแล้ว มีเหลือ
แต่ที่นอน โทรทัศน์เก่า ๆ และเครื่องครัวที่ไม่มีราคาค่างวดไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
74/559

พลันก็คิดถึงลูกสาวทีเ่ รียนจบมีทำงานแล้ว ถึงแม้ว่าที่ผ่านมานางจะ


ไม่ค่อยได้ใส่ใจดูแลเท่าไร แต่ก็เป็นเพราะนาง ลูกสาวถึงได้ขึ้นมาจากปลัก
ตมบ้านนอกคอกนาที่ห่างไกลความเจริญมาเป็นนักเรียนนอกอยู่ที่นี่
จะเป็นอย่างไรนะ ถ้านางจะไปขอหยิบยืมเงินลูกสาวมาใช้บ้าง ลูก
น่าจะมีความกตัญญู เห็นแม่เชื้อทีก่ ำลังลำบากตากตรำอย่างนีค้ งจะให้เงิน
มาใช้บ้าง ถ้าเล่นได้ครั้งนี้ ก็จะเอาเงินไปใช้หนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อคิดหาช่องทางได้แล้ว ดวงตาคู่หม่นก็เรืองแสงขึ้นมาก่อนที่จะ
ค่อย ๆ หลับตาลง พร้อมกับรอยยิ้มน้อย ๆ กับความหวังที่เรืองรองอยูใ่ น
ใจ
ในตอนเช้าของวันทำงาน ละมุนมาศจะขับรถไปส่งฟีนิกซ์ที่โรงเรียน
ก่อนทีจ่ ะไปทำงาน ส่วนในตอนเลิกเรียน ทางโรงเรียนสอนเทควันโด ซึ่ง
เปิดให้บริการดูแลเด็ก ๆ หลังโรงเรียนเลิก จะเป็นผู้รับผิดชอบในการรับ
ฟีนิกซ์จากโรงเรียน และดูแลจนกว่าละมุนมาศจะเลิกงานไปรับ
ละมุนมาศชอบโรงเรียนสอนเทควันโดแห่งนี้มาก เพราะว่าไม่ไกล
จากคอนโดมิเนียมที่พัก และฟีนิกซ์กช็ อบเนื่องจากคนดูแลสวยและเล่า
นิทานเก่ง รวมทั้งมีกิจกรรมหลายอย่างให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ โดยเฉพาะ
ทางด้านศิลปะต่าง ๆ มีการดูแลสอนการบ้าน เรียนการต่อสู้ป้องกันตัว
ส่วนในช่วงฤดูร้อนก็เช่นกัน ที่นี่ก็จะเปิด ซัมเมอร์แคมป์ (Summer
Camp - รับดูแลเด็ก ๆ ทั้งวัน ในช่วงเวลาที่ผู้ปกครองต้องไปทำงานใน
ช่วงฤดูร้อน) ในช่วงฤดูร้อนทางผู้ดูแลจะพาเด็ก ๆ ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ
75/559

ทีส่ นุกสนานและช่วยเหลือสังคม ไม่ว่าจะเป็นทำสวนครัว ว่ายนํ้า เก็บขยะ


ตามสวนสาธารณะภายในหมู่บ้าน บางครั้งก็เดินออกกำลังหรือว่าปั่น
จักรยาน
ส่วนในตอนเย็นในวันที่ละมุนมาศต้องไปทำงานพิเศษหลังงานประจำ
ที่ ภัตตาคารเวียดเฮาส์ มิสซิสลีเพื่อนข้างห้องชาวฟิลิปปินส์จะเป็นคนไปรับ
ฟีนิกซ์ และช่วยดูแลจนกว่าละมุนมาศจะเลิกงานในตอนดึกกลับมาถึง
ห้องพัก
นี่เป็นวิถีชีวิตที่เกิดขึ้นหลังจากที่ละมุนมาศมีคนตัวเล็กมาให้ดูแล
ชีวิตทุกวันที่หล่อนพยายามจะทำให้ดีที่สุดเพื่อครอบครัวที่มีอยู่ เหมือนกับ
แม่เลี้ยงเดี่ยวอีก หลาย ๆ คนในประเทศนี้ที่ต้องทั้งทำงานและเลี้ยงลูก
ชีวิตที่ต้องทำงานหนักเพื่อปากท้องความอยู่รอดของสองชีวิต
ละมุนมาศทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดีด้วยความรู้สึก
ผ่อนคลาย ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องอื่นใด ถึงแม้ว่าบางครั้งที่มีเวลาว่างเป็น
ส่วนตัว เรื่องราวบางอย่างทีน่ ่าอดสูที่เกิดขึ้นในคืนวันทีท่ ำงานพิเศษ ก็
มักจะผุดขึ้นมาในความทรงจำ มันยาก เหลือเกินที่จะลบมันทิ้งหรือว่าทำ
เป็นไม่สนใจ และทุกครั้งทีเ่ รื่องนีผ้ ุดขึ้นมาในสมอง ละมุนมาศก็อดไม่ได้ที่
จะกรุ่นโกรธลึก ๆ และทำได้แค่สะบัดหน้าส่งค้อนลมค้อนแล้งไปให้กับคน
ต้นเรื่อง
คงไม่มีวันที่หล่อนจะลืมได้ โดยเฉพาะคนที่ทำลายศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง
ไทยให้ขุ่นข้องหมองใจ
76/559

และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ละมุนมาศก็สังเกตว่าทุกครั้งที่หล่อนขับ
รถออกจากซอยมาถึงถนนใหญ่ ก็มักจะมีรถคันเดิม ๆ ขับตาม พอรถของ
หล่อนเลี้ยวเข้าที่ทำงาน รถคันนั้นก็วิ่งผ่านไป และขากลับก็เช่นกัน รถคัน
นั้นก็ตามมาจนหล่อนเลี้ยวเข้าคอนโดมิเนียม รถคันนั้นก็ผ่านไป
ใจนึกกระหวัดไปถึงคนทีห่ ล่อนเรียกเขาในใจว่า ‘มาเฟีย’ จะเป็นเขา
หรือเปล่านะ ทีส่ ่งคนมาติดตามเพื่อทำร้ายหล่อน คนลามกฉวยโอกาสคน
นั้น หรือว่าเขาไม่พอใจที่โดนหล่อนหยิกและหักหน้าเขาต่อหน้าท่านไนฮัว
และภรรยา รวมถึงลูกน้องทั้งหลายด้วย
ก็อาจเป็นไปได้ ว่าแต่เขาเป็นใครกันนะ หล่อนไม่รู้จักแม้แต่
ชื่อเสียงเรียงนาม มิสมินต์ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร อยากจะถามแต่กไ็ ม่กล้า
เกรงว่ามิสมินต์จะเข้าใจผิด คิดว่าหล่อนสนใจเขาเป็นพิเศษอีก
อีกด้านหนึ่งละมุนมาศพยายามที่จะคิดในทางทีด่ ีว่า เจ้าของรถคัน
นั้นคงจะมีเวลาออกจากบ้านเวลาใกล้เคียงกับหล่อน และก็สถานที่ทำงานก็
ไปทางเดียวกัน คงไม่มอี ะไร ถ้ามีก็น่าจะเกิดขึ้นแล้ว พอคิดได้เช่นนีก้ ็รู้สึก
สบายใจหมดกังวล
ร่างสูงในชุดสูทดูดนี ั่งซ่อนตัวอยู่ในรถคันหรู สายตาภายใต้แว่น
กันแดด สีดำสนิทกำลังจดจ่ออยู่ทสี่ นามเด็กเล่นที่อยูเ่ ยื้องไปทางด้านหลัง
ตึก หลังจากติดตามดูความเคลื่อนไหว วันนีเ้ ขาก็เห็นเด็กหญิงตัวน้อยออก
มาจากโรงเรียนเทควันโดกับหญิงมีอายุชาวเอเชียคนหนึ่ง เขาก็เลยตาม
และก็พบว่า หญิงคนนั้นพาเด็กน้อยไปเล่นที่ด้านหลังคอนโดมิเนียมที่พัก
77/559

หลังจากนั่งแอบมองความเป็นไปอยูน่ านพอสมควร เฟยก็เดินตรงไป


ทีส่ นามเด็กเล่นจุดหมาย ทีต่ อนนี้มเี ด็ก ๆ หลายคนทั้งเด็กเล็กและเด็กโต
ทีบ่ ้างก็กำลังวิ่งเล่นไล่กัน บ้างก็กำลังเล่นเครื่องเล่น มีทั้งเสียงเรียกตะโกน
กันโหวกเหวกบ้าง เสียงร้องไห้บ้างปะปนกันไป
นักสืบหนุ่มนั่งลงที่ม้านั่งข้างสนาม กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็พบ
กับ เด็กหญิงหน้าตาน่ารักที่เขาจำหน้าได้อย่างขึ้นใจกำลังนั่งเล่นอยูใ่ น
รถไฟคนเดียว เฟยตัดสินใจเดินเข้าไปหาหญิงวัยกลางคน ที่เขารู้ว่าเป็น
พี่เลี้ยงของเด็กหญิงฟีนิกซ์เพื่อนคนสนิทของคุณหนูคารีนาลูกสาวเจ้านาย
ร่างสูงเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ยิ้มให้ พร้อมกับกล่าวทักทาย
“สวัสดีครับมิส ผมนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ”
“สวัสดีค่ะ เชิญตามสบาย พาลูกมาเล่นหรือคะ” มิสซิสลีเปิดการ
สนทนาด้วยไมตรี เพราะคิดว่าคงจะเป็นบิดาที่เลิกงานแล้วพาลูก ๆ มา
เล่น ในขณะที่ผู้เป็นมารดากำลังทำอาหารเย็นนั่นเอง
“เปล่าครับ คือว่าผมกำลังหาห้องพักอยูค่ รับ นายหน้าที่ผมติดต่อ
บอกว่าที่คอนโดฯ แห่งนี้ แต่ไม่ทราบว่าตึกไหนน่ะครับ มีคนจะขายห้อง
ผมก็เลยแวะมาดู แต่มาก่อนเวลานัด นายหน้ายังมาไม่ถึงครับ ก็เลยต้อง
รอ แต่ว่าขี้เกียจรอในรถ ก็เลยถือโอกาสเดินดูบรรยากาศรอบ ๆ ไปด้วย
จะได้รู้ว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เผื่อจะช่วยในการตัดสินใจ” เฟยนึกชม
ตัวเองอยู่ในใจที่หาเหตุผลได้น่าฟังที่สุด
78/559

“แล้วคุณอยู่ตึกไหนครับ”
“ฉันอยู่ตึกนั้นค่ะ” มิสซิสลีชี้ไปทางตึกที่ตั้งอยู่ด้านหลัง
“ไม่แน่นะครับ บางทีเราอาจจะได้เป็นเพื่อนบ้านกันก็ได้ ถ้าเขาให้
ราคาที่ผมพอใจ”
“ขอให้คุณโชคดี”
“ขอบคุณครับ ผมเฟยครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” เฟยยื่นมือออกไป
ข้างหน้า และมิสซิสลีก็ยื่นมือมาสัมผัสแนะนำตัว
“ฉันมิสซิสลีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”
“คุณพาลูกมาเล่นที่นี่ทุกวันหรือครับมิสซิสลี”
“ก็บ่อย ๆ ค่ะ แต่ไม่ใช่ลูกฉันหรอกค่ะ ฉันเป็นแค่คนดูแล”
“อ้าว หรือครับ เด็กน่ารักจัง ทำให้ผมอยากมีลูกบ้าง” เฟยรีบเปลี่ยน
เรื่อง เพื่อให้เข้าถึงเหตุที่เขาต้องมานั่งอยู่ที่สนามเด็กเล่นแห่งนี้
“ก็มีสิคะ เด็ก ๆ น่ารักออก เด็กผู้หญิงยิ่งน่ารัก ออดอ้อน อาจจะ
เป็นเพราะว่าลูกฉันโตแต่งงานไปหมดแล้วก็ได้ ทำให้ฉันมีความสุขทีไ่ ด้เล่น
กับเด็ก ๆ อีกครั้ง และฉันก็หลงรักฟีนิกซ์มาก ๆ เลยเชียวละ เด็กที่ฉัน
ดูแลน่ะค่ะชื่อฟีนิกซ์ แกน่ารักเป็นที่สุด”
“คนไหนครับ”
“คนที่นั่งเล่นอยู่ในรถไฟนั่นไง”
79/559

“อ๋อ ครับ น่ารักจริง ๆ ด้วย แม่คงจะสวย พ่อคงจะหล่อ ลูกถึงได้


ออกมา น่ารักอย่างนี้ แต่หน้าตาน่าจะเป็นลูกผสมนะครับ เพราะว่าเขาเด่น
กว่าเด็กทั่วไป”
“ใช่แล้วค่ะ เป็นเด็กผสม แม่เป็นไทย พ่อเป็นฝรั่ง แต่ฉันไม่เคยเห็น
พ่อของฟีนิกซ์หรอกนะคะ และฟีนิกซ์ไม่เคยพูดถึงพ่อเลย”
“อ้าว แล้วเด็กอยู่กับใครล่ะครับ”
“ฉันย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ก่อนครอบครัวของฟีนิกซ์สองเดือน ก็เห็นว่า
ตอนแรกแม่ของฟีนิกซ์อยูค่ นเดียว เธอเก่งนะคะ ตกแต่งห้องเอง ทาสีเอง
ทุกอย่างเลยก็ว่าได้ จนในที่สุดห้องตกแต่งเรียบร้อย ฟีนิกซ์ก็มาอยู่ค่ะ”
“ว่าแต่คุณมาล้วงความลับ เพื่อที่จะจีบแม่ของฟีนิกซ์หรือเปล่าเนี่ย”
มิสซิสลียกมือขึ้นปิดปากของตัวเองเอาไว้ทันที ดวงตารีเล็กเบิกขึ้นเล็กน้อย
ก่อนที่จะถามว่า
“คุณเป็นแฟนของมิสละมุนมาศหรือ”
คำถามนั้นทำให้เฟยหัวเราะน้อย ๆ
“ทำไมคุณถึงคิดเช่นนั้น”
“ก็เพราะว่ามีหนุ่ม ๆ หลายคนที่สนใจมิสละมุนมาศก็มักจะมาถาม
ฉัน อย่างนี้แหละ”
80/559

“ถ้าผมอยากจะจีบแม่ของเด็กน่ารักนั่นจริง ๆ คุณว่าหน้าตาอย่างผม
พอจะมีความหวังไหม ทีถ่ ามก็เพราะว่า ถ้าผมพอมีความหวัง ผมจะได้
ตัดสินใจซื้อห้องที่จะ ไปดู”
“แล้วคุณเคยเห็นแม่ของฟีนิกซ์แล้วหรือคะ”
“ยังหรอกครับ”
“ดูฟีนิกซ์ก็รู้ว่าแม่จะสวยแค่ไหน แต่ฟีนิกซ์ขี้หวงนะ ใครจะมาจีบแม่
ก็กันท่าหมด” มิสซิสลีหัวเราะน้อย ๆ
“ถ้าอย่างนั้นผมคงเลิกคิดแล้วละ ผมไม่อยากผิดหวัง และตอนนี้ผม
แค่อยากได้ห้องพักจริง ๆ ครับ ยังไม่คิดจีบหญิง” เพราะว่าถึงคิดก็ทำไม่
ได้ ประโยคสุดท้ายเฟยพูดกับตัวเองในใจ และก่อนที่เฟยจะได้ถามอะไร
ต่อ เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น เขาต้องกล่าวขอโทษ และเดิน
ห่างออกไปเล็กน้อยแล้วก็กดรับสาย
“ครับนาย”
“อยู่ไหน”
“สนามเด็กเล่นครับ”
“ได้ความอะไรบ้าง”
“ก็ได้บ้างครับนาย ว่าแต่นายอยู่ที่ไหนครับ ผมจะได้ไปหา”
“ตลาด”
81/559

“เจอกันครับนาย”
หลังจากเฟยวางหูจากเจ้านาย ก็เดินกลับไปหามิสซิสลีเพื่อกล่าวลา
“มิสซิสลีครับ ผมคงต้องขอตัวก่อน นายหน้าโทร. บอกว่ามาถึงแล้ว
ครับ ยินดีที่ได้คุยและรู้จักกับคุณครับ”
“ด้วยความยินดีค่ะ ฉันหวังว่าคุณจะได้ราคาตามที่คุณเสนอนะคะ
ขอให้ โชคดี”
“ขอบคุณครับ” เฟยนึกขอโทษเพื่อนใหม่ในใจที่พูดในสิ่งที่ไม่เป็น
ความจริง
เมื่อได้รับรูเ้ รื่องราวบางอย่างจากปากของลูกน้องคนสนิท คารีโนก็
รู้สึกโล่งใจ ประมวลจากคำพูดที่ได้รับการถ่ายทอดแล้ว น่าจะหมายความ
ว่า ละมุนมาศไม่มีสามี อยู่กันสองคนกับลูกสาวเท่านั้น เขาเข้าข้างความคิด
ของตัวเองโดยปราศจากหลักฐานหรือเปล่านะ แต่ก็ช่างเถอะ แค่รู้ว่าหล่อน
ไม่มีใครตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว
และก็เป็นเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่คารีโนไม่ได้เข้าไปที่เวียดเฮาส์
เพราะรูว้ ่าอีกคนไม่ได้มาทำงาน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวใจ ทำให้เขารู้สึก
แปลก ๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ เขากำลังตกหลุมรักอย่างนั้นหรือ
8
เจ้านายคนใหม่...คุณยายที่รัก

รถคันหรูที่ขับโดยเบียนออกมาโรงงานผลิตภายใต้แบรนด์ “ลิซ”
ต้องเปลี่ยนทิศทางทันที เนื่องจากว่าเจ้านายได้รับโทรศัพท์จากคุณยาย
บอกให้ไปหาที่บ้าน
คารีโนไม่ได้แวะที่บ้านใหญ่ของบิดา เพราะว่าท่านทั้งสองยังอยูท่ บี่ ้าน
ฟาร์มเนียมบากับลุงของเขา รถคันหรูแล่นตรงไปยังบ้านเล็กสีขาวบนเนินที่
เป็นของคุณยาย พอรถจอดสนิท ร่างสูงก็เดินตรงเข้าไปในบ้านอย่าง
คุ้นเคยทันที
“คุณยายครับ อยู่หรือเปล่าครับ” เสียงภาษาไทยแปร่ง ๆ เรียกหา
คุณยายตั้งแต่เจ้าตัวเดินเข้าบ้านเลยทีเดียว
“ยายอยู่นี่” คุณยายกลีบบัวส่งเสียงให้หลานชายได้รับรู้
“สวัสดีครับคุณยาย”
ร่างสูงของหลานชายเดินตรงเข้าไปทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า และกราบที่
ตักบางของผูเ้ ป็นยายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ก่อนที่จะเลื่อนตัวขึ้นนั่งข้าง ๆ
พร้อมกับอ้าแขนแข็งแรงโอบรอบเอวบาง แนบหน้าเข้ากับไหล่บอบบางนั้น
83/559

อย่างออดอ้อน ก่อนทีจ่ ะก้มหน้าลงหอมแก้มนุ่มทั้งซ้ายทั้งขวาหลายครั้ง


จนผู้เป็นยายหลับตาปี๋ทีเดียว
“พอได้แล้วตรัง ก่อนที่ยายจะเวียนหัวจนเป็นลม” นั่นเองหลานชาย
ตัวโตจึงได้หยุดแสดงความรัก ความคิดถึงกับคุณยาย แต่ยังโอบกอดเอา
ไว้ พร้อมกับส่งยิ้มเอาใจเหมือนเมื่อตอนเด็ก ๆ
“ว่าแต่คุณยายมีอะไรหรือครับ หรือว่าไม่สบาย”
“ไม่มอี ะไร แค่ไม่เห็นหน้าหลายวัน ก็เลยคิดถึงหลานไม่ได้หรอก
หรือ” คุณยายหยุดพูดเมื่อวันเดินเข้ามาเสิร์ฟนํ้า
“ไฮ วัน สบายดีหรือเปล่า” คารีโนหันไปทักทายคนดูแลส่วนตัวของ
คุณยายด้วยภาษาเวียดนามอย่างคล่องแคล่ว
“ไฮ ตรัง ฉันสบายดี ขอบคุณมาก คุยกับคุณยายตามสบายนะ ฉัน
ขอตัวไปทำงานก่อน” พอวันออกไปจากห้อง หลานชายก็หันไปทางคุณยาย
และออดอ้อนอีกครั้ง
“ผมก็คิดถึงคุณยายครับ แต่ช่วงนีง้ านเยอะ เลิกงานก็ต้องดูแลคารี
นา จนตอนนี้แทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลยครับ” บ่นพร้อมกับซบหน้า
กับไหล่บอบบางนั้นอย่างออดอ้อน
“นึกว่าลืมภาษาไทยไปแล้ว”
“ก็ลืมบ้างครับ แต่ยังพูดกับคุณยายรู้เรื่อง” คุณยายหัวเราะชอบใจ
กับคำบอกของหลานชาย
84/559

“ที่ว่าไม่มีเวลานี่ มัวเพลินกับสาว ๆ หรือไงกันฮึ” คุณยายแกล้งบ่น


หลานชาย
“โธ่ คุณยายครับ ใครบอกว่าผมเพลินกับสาว ๆ กันครับ ช่วงนีผ้ ม
แทบจะไม่มีใครเลย ทำแต่งานตลอดครับ เลิกงานก็กลับบ้าน แต่กก็ ลับคํ่า
ทุกวัน และก็ต้องให้เวลากับคารีนาด้วย ยิ่งตอนนี้ผมต้องแวะไปดู
เวียดเฮาส์อีก ไม่มีเวลาไปหาสาว ๆ เลย งานนีห้ ลานชายคุณยายคงจะ
ต้องถูกสาว ๆ ทิ้งเป็นแน่ครับ” หลานชายพูดด้วยความละห้อยออดอ้อน
แต่แววตาสดใสนัก
“เชื่อได้หรือนี่ เอาเถอะ งานเยอะก็ต้องรู้จักแบ่งเวลาให้ถูก ทั้ง
ส่วนตัว ทั้งลูก ยายรู้ว่าคารีนาก็เหงา อยากใช้เวลากับพ่อ”
“ครับ ผมก็พยายามแบ่งเวลาอยู่ครับ”
“แล้วที่เวียดเฮาส์เป็นไงบ้าง” คุณยายเริ่มเข้าเรื่อง
“ก็ดคี รับ ผมพยายามเข้าไปดูบ่อย ๆ ตอนเย็นว่างวันไหนก็เข้าไป ดู
แล้วไม่น่ามีปัญหา เราเปิดมานาน มีแต่ลูกค้าประจำเป็นส่วนมาก ลูกค้า
สัญจรก็พอมี คนงานก็ยังเป็นชุดเดิมที่อยูก่ ับเรามานาน ตอนนี้ผมกำลังดู
ว่าควรให้อะไรเพิ่มเติมกับพวกเขาบ้าง”
“ก็ดแี ล้วลูก คนทำงานให้เรา เราก็ต้องดูแลเขาให้ดที ี่สุด ไม่มีเขาเรา
ก็อยู่ไม่ได้โดยเฉพาะคนที่ซื่อสัตย์กับเรา”
85/559

“ครับคุณยาย เออ คุณยายครับ เดี๋ยวคํ่า ๆ เบียนจะพาคารีนามา


ที่นี่ เห็นเก็บกระเป๋าเอาไว้หลายวันแล้ว เตรียมตัวมาค้างกับเกรทแกรนด์
มา ผมฝากคุณยายดูแลคารีนาด้วยนะครับ”
“จ้ะ อย่าห่วงเลย คารีนาเป็นเด็กดี ไม่กวนหรอก”
“ขอบคุณครับคุณยาย งั้นวันนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ คุณยายก็ต้อง
ดูแล ตัวเองด้วย มัมกับแดดก็ยังไม่กลับจากบ้านลุงอังเดร ถ้ามีอะไรก็ให้
วันโทร. ไปหาผมนะครับ”
“จ้ะ ไม่มีอะไรหรอก ยายแข็งแรงดี ว่าแต่จะไม่กินข้าวกับยายหรือ”
“ถึงจะแข็งแรง แต่ผมก็ยังเป็นห่วงคุณยายอยู่ดีครับ”
คารีโนกอดร่างของคุณยายเอาไว้แน่น พร้อมกับก้มลงจูบแก้มนิ่ม
แรง ๆ คุณยายยิ้มอย่างมีความสุข
“วันนีผ้ มคงจะทานอาหารกับคุณยายไม่ได้ เอาไว้วันหลังนะครับ ผม
เพิ่งทานอาหารกลางวันตอนบ่ายสองแก่ ๆ นี้เอง ยังไม่หิวเลยครับ”
“ไม่เป็นไร ว่าแต่ทำไมอาหารกลางวันทำไมทานบ่ายนักล่ะลูก”
คุณยายมองหน้าหลานชายอย่างเป็นห่วง
“กินอาหารไม่เป็นเวลาระวังกระเพาะจะถามหา”
“ผมติดประชุมครับ แต่คุณยายไม่ต้องห่วง เบียนดูแลไม่ให้กระเพาะ
ผมได้ว่างหรอกครับ ถึงไม่ใช่อาหารหนักก็เป็นอาหารว่าง มีตลอด”
86/559

“ค่อยยังชั่ว ขอบใจที่ดูแลหลานชายฉันนะเบียน” คุณยายหันไป


ขอบคุณเบียนที่นั่งห่างออกไปด้วยภาษาเวียดนามที่นุ่มนวล
“ด้วยความยินดีครับมิสซิสซอลตัน”
“งั้นผมต้องกลับก่อน ผมรักคุณยายนะครับ และก็เป็นห่วงคุณยาย
เสมอ”
หลานชายตัวโตก้มลงกราบที่ตักของคุณยาย ทำเอาคุณยายนํ้าตาซึม
“ขอบใจมาก ยายก็รักตรังรู้ใช่ไหมลูก”
“รู้ครับ”
“งั้นก็ดูแลตัวเอง ทำงานหนักก็ต้องรู้จักดูแลตัวเอง พักผ่อนบ้าง”
“ครับคุณยาย ขอบคุณครับ”
“เกือบลืม นี่ของยายฝากไปให้มิสมินต์หน่อยนะ พอดียายทำ
ขนมไทยเอาไว้ และมิสมินต์ก็คงจะจัดให้ตรังตอนกินข้าวเย็น”
“ครับคุณยาย”
คารีโนยื่นของต่อให้ลูกน้อง ก่อนทีจ่ ะก้มลงจูบที่แก้มซ้ายขวาของคุณ
ยายก่อนลา
“ขับรถดี ๆ นะเบียน”
“ครับมิสซิสซอลตัน”
คุณยายมองตามหลังรถของหลานชายด้วยใบหน้ายิ้มอย่างมีความสุข
87/559

ไม่ว่าหลานชายของท่านจะเติบโตมากแค่ไหน ก็ยังมีอ้อมกอดและจูบ
ให้ท่านเสมอ
หลังจากทีโ่ ทร. ไปยํ้ากับมิสซิสลีให้ไปรับฟีนิกซ์ที่โรงเรียนสอนเท
ควันโดแล้ว ละมุนมาศก็มุ่งตรงไปยังเวียดเฮาส์ทันที
ร่างบางในชุดสูทสีน้ำตาลอ่อนทั้งเสื้อและกางเกง เดินแกมวิ่งเข้าไป
ทางประตูด้านหลังของภัตตาคารเวียดเฮาส์ ส่งยิ้มทักทายให้กับมิสมินต์
และทุกคนในห้องครัวที่กว้างใหญ่นั้นทันที
“สวัสดีค่ะมิสมินต์และทุก ๆ คน”
“สวัสดีมนุ /สวัสดี” ทันทีทมี่ สิ มินต์ผู้จัดการสาวเห็น ก็เดินตรงเข้ามา
หาด้วยใบหน้าที่ดกู ังวลเล็กน้อย กับคำสั่งที่ได้รับจากเจ้านายคนใหม่ที่เพิ่ง
มาถึงเมื่อห้านาทีที่ผ่านมา แต่ก็ยังยิ้มให้พร้อมกับบอกว่า
“เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้วรีบออกมานะ ฉันจะพาไปรู้จักกับผู้บริหาร
คนใหม่ ที่จะเข้ามาดูแลที่นี่แทนท่านไนฮัว”
“อะไรนะคะ ท่านไนฮัวขายร้านแล้วหรือคะ”
“ไม่ได้ขายหรอก แค่เปลี่ยนคนบริหารเท่านั้นเอง รีบไปแต่งตัวเถอะ
ก่อนที่ท่านจะรอนาน”
ร่างบางรีบวิ่งเข้าไปในห้องนํ้า พร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กในมือ
ทันที ไม่ถึงห้านาทีละมุนมาศก็แต่งตัวในชุดประจำชาติของเวียดนาม เสื้อ
แขนยาวสีชมพูคอจีนแขนยาวตัวยาวคลุมเข่า และกางเกงขายาวสีเดียวกัน
88/559

พร้อมกับตบแป้งบนใบหน้ามัน เติมลิปสติกสีชมพูเข้มบนเรียวปากอิ่ม
เม้มปากเบา ๆ แล้วก็ยิ้มยิงฟันให้กับกระจกห้องนํ้าหนึ่งทีเป็นการสำรวจ
ความสะอาดของฟัน เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยไร้สิ่งแปลกปลอม มือบางก็เก็บ
ของลงในกระเป๋า แล้วเอาไปเก็บในล็อกเกอร์ส่วนตัวที่อยู่หน้าห้องนํ้า ก่อน
ที่จะเดินยิ้มเต็มหน้าไปหามิสมินต์เพื่อไปพบเจ้านายคนใหม่
“เข้าไปพบเจ้านายได้เลย ท่านรออยู่” มิสมินต์ที่รออยูห่ น้าบันไดสั่ง
ลูกน้องคนสวย
“แล้วคนอื่นล่ะคะ”
“ทุกคนได้พบเจ้านายแล้ว เหลือแต่ยูคนเดียว”
ละมุนมาศไม่รอช้า จํ้าอ้าวขึ้นบันไดไปเคาะประตูห้องทำงานที่อยู่บน
ชั้นสอง พร้อมกับยิ้มให้กับชายหนุ่มรูปร่างแข็งแรงที่นั่งอยูห่ น้าห้อง รู้สึก
คุ้นหน้า แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะได้คิด ก็ได้ยินเสียงอนุญาตเข้ม ๆ ส่งออกมา
“เข้ามาได้”
ละมุนมาศผลักประตูเข้าไปยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยูใ่ นห้องทีม่ ีผู้ชายคน
หนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว พอหล่อนเข้าไปเขาก็ลุกขึ้นยืนมองเขม็งตรงมา
ละมุนมาศจึงส่งยิ้มกลับให้เป็นการทักทาย ส่วนสายตาคูเ่ รียวพุ่งตรงไปยัง
เก้าอี้ตัวโตที่หันหลังมาทางหล่อน เห็นแต่หัวดำ ๆ โผล่พ้นพนักเก้าอี้ขึ้นมา
แวบหนึ่งของความรู้สึก สังหรณ์ในใจแบบแปลก ๆ เมื่อละมุนมาศ
ไพล่ไปนึกถึงใบหน้านิ่งขรึมมึนตึง แต่ดเู จ้าเล่ห์และดุดันที่เต็มไปด้วย
89/559

ความหมายที่แปลไม่ออกของคนที่เคยนั่งทานอาหารกับท่านไนฮัวและ
ภรรยาขึ้นมาทันที นึกๆ แล้วก็อยากที่จะกลับออกไปนอกห้องถามมิสมินต์
ให้แน่ใจว่า
ใครคือเจ้านายคนใหม่
“เอ่อ คือว่า เจ้านายคุณไม่อยู่ใช่ไหมคะ ฉันจะได้ออกไปทำงานต่อ
รอให้ท่านมาก่อนแล้วฉันจะเข้ามาพบใหม่” ละมุนมาศหันไปทางคนที่ยืน
ตัวตรงอยูไ่ ม่ไกล แต่ยังไม่ทันได้รับคำตอบ เสียงห้าวทรงอำนาจก็ส่งมา
จากหลังพนักเก้าอี้ตัวโต
“มาแล้วหรือละมุนมาศ”
คำทักทายเป็นภาษาอังกฤษเข้ม ๆ ที่ส่งมานั้น ทำให้ละมุนมาศ
หันกลับไปมองและก็อยากจะวิ่งหนีทันทีที่เห็นหน้า
“ค่ะ คุณ...คุณเองหรือคะ ที่เป็นเจ้านายคนใหม่” ใจตกไปอยูท่ ี่
ตาตุ่ม ปากก็ถามออกไป หัวสมองก็คิดว่า
ตายแน่ ๆ งานนี้ เวรกรรมมีจริง ตามติดเร็วราวกับจรวดเลยก็ว่าได้
ทำทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว หล่อนไม่น่าไปทำร้ายเขาเลยวันนั้น ก็ใครจะรู้
ล่ะว่าจะเป็นเจ้านายคนใหม่ นะโม สังโฆ
เฮ้อ มีเจ้านายชีกอชอบแต๊ะอั๋งนี่ หล่อนมิต้องทำงานไปวิ่งหลีกหนี
เจ้านายไปด้วยหรือนี่ ไม่รวู้ ่าจะโดนแก้แค้นหรือว่าลองของอะไรจากเจ้านาย
90/559

คนใหม่หรือเปล่า เพราะแววตาทีห่ ล่อนจำได้ วันที่หยิกเขานั้นมันดูน่ากลัว


มาก โชคร้ายจริง ๆ คงจะได้ตกงานแน่คราวนี้
ความรู้สึกเสียววาบที่สันหลังวิ่งปราดลงไปถึงตาตุ่ม และก็สะท้อน
กลับขึ้นมาบนสันหลังอีกครั้ง เมื่อเห็นดวงตาคู่คมดุดันที่มองเขม็งตรงมา
ราวกับว่ามันมีอะไร หลาย ๆ อยู่ในนั้นใบหน้านิ่ง ๆ ที่มองตรงมาทำให้
ต้องถามออกไปเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่า
“คุณ เอ่อ เป็นเจ้านายคนใหม่หรือคะ”
“ใช่ ผมตรัง คารีโน เจ้านายคนใหม่ของที่นี่”
ตรัง คารีโน ไม่ใช่เนียมบา คงจะเป็นหุ้นส่วนกัน ตอนแรกหล่อนคิด
ว่า เขาน่าจะเป็นลูกหลานของตระกูลเนียมบา แต่ไม่ใช่...
แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อ เสียงเข้ม ๆ นั้นก็พูดต่อว่า
“และนี่คนของผม เบียน ส่วนคนข้างนอกชื่อเฟย”
ละมุนมาศหันไปส่งยิ้ม ก้มหัวน้อย ๆ ทำความรู้จักกับเบียน ส่วนอีก
คนไม่รวู้ ่าเจ้านายคนใหม่เพี้ยนหรือเปล่า แนะนำคนให้รู้จักกันโดยไม่ต้อง
ให้เห็นหน้า
อย่างนี้ก็มีด้วย
แต่เท่าทีเ่ ห็นแวบ ๆ คนชื่อเบียนจะตัวเล็กกว่าคนที่ชื่อเฟยซึ่งอยู่
ข้างนอกนั่น
91/559

“แล้วคุณล่ะ จะไม่แนะนำตัวเองหน่อยหรือ”
คำถามนั้นทำเอาอีกคนสะดุ้งเล็กน้อย
“คะ เอ่อ คุณก็รู้จักชื่อฉันไปแล้วนี่คะ มิสมินต์ก็แนะนำแล้วเมื่อ
วันก่อน ทำไมต้องแนะนำอีก”
ละมุนมาศย้อนกลับเบา ๆ รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยทีร่ วู้ ่าคนชีกอคนนี้
คือ เจ้านายคนใหม่ของที่นี่
“เบียน นายออกไปรอข้างนอกก่อน”
“ครับนาย” เบียนค้อมศีรษะเล็กน้อยให้เจ้านาย ก่อนจะเดินออกไป
จากห้องตามคำสั่ง
มาเฟียจริง ๆ ด้วย ขนาดลูกน้องยังต้องทำความเคารพก่อนออกไป
จากห้อง อา...แล้วหล่อนจะรอดหรือเปล่าวันนี้
ละมุนมาศนึกอยากจะวิ่งตามคนชื่อเบียนออกไปด้วย แต่พอนึกไป
แล้ว เรื่องอะไรหล่อนจะทำให้เขารู้ว่าหล่อนกลัวหรือว่าหวาดหวั่น
คารีโนจ้องมองคนตรงหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง ถามตัวเองในใจว่า
ใบหน้านี้หรือ ทีท่ ำให้เขาคิดถึงพะวงหา แถมเลือดในกายสูบฉีดแรง
กว่าปกติ ยิ่งดวงตาวาววับที่มองตอบกลับมาอย่างไม่เกรงกลัวนั่นอีก มัน
น่าสั่งสอนจริง ๆ
9
ไม่ยอม...ถูกรังแกฝ่ายเดียว

ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าไปหาช้า ๆ ทำให้คนตัวเล็กกว่ารีบแนะนำตัวเอง
ทันที แนะนำไปก็เดินหนีห่างออกไป
“ฉัน...ฉัน ชื่อ ละมุนมาศ นามสกุล อำนาจ เป็นคนไทยค่ะ” คำ
รายงานตัวที่ตะกุกตะกักในตอนแรก และรัวเร็วในตอนหลังแทบฟังไม่ทัน
ดวงตาที่หวาดระแวงราวกับตากวางต้องแสงไฟในตอนกลางคืนนั้น ทำให้
คารีโนแอบขำอยู่ในใจ แต่ใบหน้าคมเข้มก็ยังเรียบเฉย ดุดัน นิ่งขรึม ไร้
ความอ่อนโยน จนคนมองอดที่จะหวาดกลัวไม่ได้ แต่ก็ทำใจดีสู้
“ยะ...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ปากบอกยินดี แต่คารีโนรู้ว่าคนพูดไม่ได้ยิน
ดีสักนิด ดูใบหน้าแหย ๆ แต่แววตาวาววับนั่นสิ ต่างกันสิ้นเชิง
น่าขำจริง ๆ
แต่ประโยคต่อมาก็ทำให้เขากรุ่นโกรธขึ้นมาจนได้
“เอาเป็นว่าฉันขอลาออก ไม่ทำงานแล้วค่ะ”
93/559

นี่แค่หล่อนรู้ว่าเขาเป็นเจ้านายคนใหม่ ก็ขอลาออกเลยหรือไง ไม่


เจียมตัว อวดดีเป็นที่สุด แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกไม่พอใจด้วย แล้วเขาจะ
สนใจทำไมกัน ไม่ทำก็เรื่องของหล่อนสิ
แต่ไม่รู้ว่าทำไม เขาก็ปล่อยไปไม่ได้เช่นกัน
“ทำไมต้องลาออก มีเหตุผลอะไร” นํ้าเสียงห้วนดุกับสายตาขุ่นมัว
แสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน ทำให้คนที่มองหน้าเขาต้อง
หลบตาอ้อมแอ้มตอบว่า
“ไม่มีค่ะ”
“คุณกลัวผมงั้นสิ” เจ้านายคนใหม่ส่งสายตาวาววับเจ้าเล่ห์มองคนตัว
เล็กตรงหน้า ใบหน้าสวยเชิดขึ้น สายตาหวานคูน่ ั้นที่หันมาสบตาเขาวาววับ
ทีเดียว
ได้ผล แสดงว่าเขาถามจี้ตรงจุดพอดี
“ทำไมฉันจะต้องกลัวคุณ ฉันก็...ก็แค่ไม่ชอบและอยากลาออกแค่นั้น
เอง” คำตอบตอนท้ายแผ่วลง แต่อีกคนก็ยังได้ยินอยูด่ ี ทำเอาคนได้ยินถึง
กับหน้าบึ้ง
ไม่ชอบหมายความว่าเกลียดเขาใช่ไหม มันท้าทายจริง มีแต่ผู้หญิงวิ่ง
เข้าหาเขา แต่คนตรงหน้าวิ่งหนี แถมบอกว่าไม่ชอบอีกด้วย มันน่าโกรธนัก
“ถ้าไม่กลัวก็พิสูจน์สิ” คนท้าส่งสายตาแวววาว รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ที่ได้ ต่อปากต่อคำกับคนตรงหน้า
94/559

“แต่...ฉัน”
“จริง ๆ แล้วคุณก็กลัวนั่นเอง” อีกฝ่ายพอจะจับความคิดของคน
ตรงหน้าได้ก็ยิ่งยั่ว
“ฉันไม่ได้กลัวอะไรทั้งนั้นแหละ” ตามสุภาษิตที่เคยได้ยินมา ฆ่าได้
หยามไม่ได้ ละมุนมาศก็เช่นเดียวกัน
“แล้วทำไมต้องลาออก”
“ก็บอกแล้ว ฉันแค่ไม่ชอบ”
“ไม่ชอบอะไร ไม่ชอบผมหรือว่าไม่ชอบงานที่ทำ แล้วทำไมทำมาได้
ตั้งหลายปี พอผมมาดูแล คุณก็จะลาออกอย่างนีใ้ ช้ได้ที่ไหน ผมรูว้ ่าคุณ
กลัวผม เพราะว่าคุณทำร้ายผมวันนั้นใช่ไหม แล้วคิดบ้างหรือไม่ว่า ทาง
ร้านจะมีปัญหามากแค่ไหนกับการลาออกกะทันหันของคุณ” พูดไปร่างสูง
เคลื่อนตัวเข้าใกล้ร่างบางเรื่อย ๆ ทำเอาคน ตัวเล็กคิดอะไรแทบไม่ออก
ยิ่งเห็นหน้าตาขึงขังที่แสดงความโกรธออกมาอย่างไม่ปิดบังนั่น ทำให้
หล่อนยิ่งกลัว กลัวว่าเขาจะทำร้าย กลัวเขาจะทำชีกอกับหล่อนอีก ยิ่ง
ตอนนีอ้ ยู่ในห้องทำงานกันสองต่อสองด้วยแล้ว ถ้าเขาคิดจะทำอะไร
หล่อนคงจะสู้ไม่ได้
จากทีจ่ ะต้องตกงานกะทันหัน ยังจะเจ็บตัวอีกหรือนี่ อันตรายจริง
ถ้าเกิดเขาระงับความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ ทำมิดีมิร้ายจับหล่อนหักคอ ตำรวจ
ก็คงจะจับเขาไม่ได้สินะ รํ่ารวยออกอย่างนี้ แต่ถึงแม้จับได้ เขาก็หลุดคดี
95/559

อยูด่ ี อ่า...งานนี้หล่อนได้ตายฟรีแน่ ๆ แล้วฟีนิกซ์จะอยูก่ ับใคร ไม่ได้...ไม่


ได้
“ว่าไง”
“คะ” ละมุนมาศงง จู่ ๆ เขาก็ถามขึ้น
“คุณกลัวหรือว่าไม่ชอบอะไร ไหนลองบอกมาสิ” คราวนีค้ ารีโนลดนํ้า
เสียงทีห่ ้วนลงจนเกือบเป็นอ่อนโยน จ้องมองคนตรงหน้าที่ดู ๆ ไปก็ยัง
เหมือนกับเด็กสาวที่เพิ่งจะอายุยี่สิบมากกว่าคนที่เป็นแม่คน สองเท้าของ
เขายังก้าวไปข้างหน้าช้า ๆ อีกคนก็ต้องถอยหลังหนีช้า ๆ เช่นกัน
สนุกจริง ๆ ท่าทางหล่อนถอยหนี ราวกับหนูกำลังหนีแมวอย่างไร
อย่างนั้น
“เอ่อ คือว่า คือ...ไม่มีอะไรค่ะ ฉันจะไปทำงานต่อ แค่นใี้ ช่ไหมที่คุณ
อยากพูด ฉันต้องออกไปทำงานเสียที เสียเวลามามากแล้ว และก็เป็นการ
เอาเปรียบคนอื่นด้วย เพื่อนร่วมงานจะว่าเอาได้” ร่างบางหมุนตัวกลับ แต่
ช้าไปกว่าคนอีกคน มือหนานุ่มดึงแขนของคนตรงหน้าที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
ร่างเล็กเซถลาเข้าสู่อ้อมอกของเขา คารีโนก้มมองคนที่ดิ้นขลุกขลักอยูใ่ น
อ้อมกอด แล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาคนเดียวไม่ได้ ก่อนที่จะค่อย ๆ ก้มลง
ไปกระซิบที่ข้างหูของคนที่กำลังทำตัวแข็งเป็นท่อนไม้ว่า
“ตกลงทำงานต่อนะ อย่าโยกโย้ เพราะว่าผมจะไม่ปล่อยคุณให้
ลอยนวลเป็นแน่”
96/559

คำขูข่ องเขาทำให้คนตัวบางรู้สึกตัว ออกอาการดิ้นรนเพื่อออกจาก


อ้อมกอดของเขาอีกครั้ง
มีด้วยหรือ ทีผ่ ู้หญิงดิ้นหนี้อ้อมกอดของเขา มีแต่คนอยากให้เขา
กอดไม่ว่า
“ลูกสาวของคุณด้วย”
คำกระซิบขู่นี้ชะงักอาการดิ้นรนของคนในอ้อมกอดเป็นอย่างดี
เขารู้เรื่องของฟีนิกซ์ได้อย่างไรกัน ขนาดมิสมินต์ยังไม่รู้เลย หรือว่า...
หัวสมองทีก่ ำลังสับสนครุ่นคิดวุ่นวาย ทำให้ละมุนมาศไม่รวู้ ่าตอนนี้
เขาดันหล่อนมาชิดกับโซฟารับแขกที่ตั้งอยูไ่ ม่ไกล จนสะโพกชนกับขอบ
โซฟาถึงได้รู้สึกตัว ด้วยความโมโหใบหน้าหวานจึงเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่าง
โกรธจัด ดวงตากลมโตวาววับ ริมฝีปากอิ่มทีเ่ ผยอเล็ก ๆ กำลังจะบอกเขา
ว่า
อย่ามายุ่งกับลูกสาวของหล่อน
แต่แค่หล่อนเผยอริมฝีปากจะพูด เขาก็ก้มใบหน้าคมที่เต็มไปด้วย
เครา เข้ม ๆ ลงมาหา จนละมุนมาศตกใจรีบหลบทันใด ทำให้ริมฝีปากอุ่น
ของเขากระทบกับแก้มนวลอย่างแรง พร้อมกับมือเล็ก ๆ ก็ออกแรงผลัก
แต่ร่างสูงของเขาไม่แม้แต่จะกระเทือน
ส่วนคนที่พลาดเป้าหมายได้แต่แอบยิ้ม
97/559

ขนาดแก้มยังนิ่มนวลเนียนและให้ความรู้สึกดีขนาดนี้ ถ้าเป็น
ริมฝีปาก อวบอิ่ม จะให้ความรู้สึกดีขนาดไหนกันแน่นะ
แต่ยังไม่ทันทีส่ มองจะได้คิดหรือสั่งอะไร มือข้างหนึ่งของเขาก็ยกขึ้น
จับปลายคางมนเอาไว้ บังคับให้ใบหน้าหวานอยูน่ ิ่ง ๆ แค่ได้เห็นใบหน้านี้
อยูใ่ กล้ ๆ เขาก็คิดอะไรไม่ออกแล้ว นอกจากกดริมฝีปากอุ่นประทับเข้า
กับริมฝีปากบาง ดูดเม้มคลอเคลียไม่สนใจ แขนอีกข้างก็รัดร่างบางเอาไว้
แน่น ความรู้สึกนีม้ ันเกิดขึ้นเร็วมาก ราวกับว่าเขาไม่สามารถบังคับตัวเอง
ได้ ความรู้สึกของเขาคืออยากจูบหล่อน ริมฝีปากที่อวบอิ่มเผยอเย้ายวน
นั่น ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากสัมผัส แตะต้อง ด้วยอารมณ์ภายในที่
กลัวหล่อนจะต่อต้าน เขาก็เลยดุดันบังคับเอาแต่แรก ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น
อ่อนโยนเรียกร้องในเวลาต่อมา คารีโนแทะเล็มริมฝีปากนุ่มที่หอมหวาน
นั้นอย่างหลงใหล
แต่เป็นเขาฝ่ายเดียวทีจ่ ูบ เจ้าหล่อนเอาแต่ยืนนิ่งขึง ตกตะลึง ตาโต
ไม่มกี ารโต้ตอบ มีด้วยหรือผู้หญิงที่ไม่พอใจรอยจูบของเขา ไม่รู้สึกถึง
ตื่นเต้นเร้าใจกับการสัมผัสริมฝีปากอย่างนี้
ครั้นดวงตาคู่คมได้สบกับดวงตากลมโตเรียวที่จ้องมาอย่างตกใจ ไม่
มีอาการขัดขืนใด ๆ เพราะเจ้าตัวมัวแต่ตกตะลึง และพอหล่อนรู้สึกตัว มือ
เล็ก ๆ นั่นก็ผลักหน้าอกเขาอย่างแรง ทำให้คารีโนต้องปล่อยเจ้าของ
ริมฝีปากอิ่ม เพราะเขาไม่เคยบังคับผู้หญิง ปล่อยแล้วก็หันหลังให้ แต่
แอบมองคนตัวเล็กในกระจก เขาเห็นหล่อนยกหลังมือขึ้นเช็ดรอยจูบทั้งบน
98/559

ริมฝีปากและข้างแก้มอย่างแรง ๆ ราวกับจะให้มันหลุดออกไป เห็นแล้วก็


ทำให้รู้สึกหงุดหงิด
หล่อนรังเกียจรอยจูบเขาอย่างนั้นหรือ
ยิ่งเห็นดวงตาวาววับ อาการเม้มริมฝีปากแน่นของหล่อนแล้ว คารีโน
ก็คิดว่าเขาไม่วายต้องโดนหยิกแรง ๆ อีกรอบเป็นแน่ รอบนี้น่าจะหนักกว่า
รอบที่แล้ว
แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คารีโนยิ้มน้อย ๆ กับตัวเอง แต่แล้วเขาก็รู้สึกว่าตัวเองคิดผิด เมื่อ
ร่างบางถลาเข้ามาทางด้านหลังของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นกำปั้นน้อย ๆ ก็
ทุบลงบนแผ่นหลังแกร่งเต็มแรงหนึ่งที พอเขาหันกลับ ร่างบางวิ่งไปทาง
ประตู เปิดและก็วิ่งออกจาก ห้องทำงานไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียง
ประตูทปี่ ิดตามหลังดังปัง ภาพนั้นทำให้เขาได้แต่หัวเราะอย่างขำ ๆ และก็
ต้องส่ายศีรษะอยู่คนเดียว
ตกลงหล่อนอายุสิบหกหรือยี่สิบหกกันแน่ พิษสงไม่เบา และนีเ่ ป็น
ครั้งแรกในชีวิตทีเ่ กิดมาของ ตรัง คารีโน เลยทีเดียว ทีจ่ ูบผู้หญิงแล้วเจอ
กำปั้นอันร้อนแรงเป็นการตอบแทน แปลกแต่จริง น่าสนใจไม่น้อย
มือเรียวหนาเอื้อมไปลูบข้างหลังตรงที่โดนกำปั้น ริมฝีปากหยักได้รูป
ยกขึ้นยิ้มอย่างไม่รู้ตัว มืออีกข้างก็ยกขึ้นลูบไล้ริมฝีปากเบา ๆ คิดถึงจูบที่
99/559

เพิ่งจะผ่านไป มันให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ๆ มากมาย มันตื่นเต้น น่า


ค้นหา จนใจเขาระทึกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ไม่เข้าใจตัวเองนักว่าทำไมถึงได้อยากจูบหล่อนขึ้นมากะทันหันจน
ตัวเองก็ตกใจ แต่ดูท่าทางอาการของหล่อนแล้วคงจะตกใจมากกว่าที่โดน
เขาจู่โจมจูบ โตจนมีลูกหนึ่งคนแล้วยังจูบไม่เป็นอีก มีลูกมาได้อย่างไรกัน
สองจูบแลกกับหนึ่งหมัด ถ้ามากกว่านี้ เขาจะเจอกี่หมัดกันแน่นะ น่าลอง
จริง ๆ
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
เสียงเคาะประตูห้องทำให้คารีโนเอ่ยปากอนุญาต เพราะพอจะรูว้ ่า
เป็นลูกน้องทั้งสองของเขานั่นเอง เสียงเปิดประตูเข้ามา พร้อมกับคำถาม
“มีอะไรหรือเปล่าครับเจ้านาย ผมเห็นมิสละมุนมาศวิ่งหน้าตาตื่นออก
ไป” เบียนถามขึ้นอย่างเกรงใจ
“แล้วนายคิดว่าเป็นอะไร” คำถามกลับเรียบ ๆ จากเจ้านายที่ยืนหัน
หลังให้อย่างสงบนิ่ง มือสองข้างยกขึ้นกอดอก สายตามองตรงทะลุกระจก
ออกไปยังบริเวณห้องอาหาร ที่จากห้องนี้สามารถเห็นทุกอย่างภายใน
ห้องอาหารหรูหรากว้างขวางนั่นทั้งชั้นล่างและชั้นลอย
“ไม่ได้คิดครับ”
“งั้นก็ไม่ต้องคิด แยกย้ายกันไปทำงานตามเดิม”
100/559

“ครับนาย” คารีโนยืนรอจนกระทั่งเห็นร่างบางของคนที่ทุบหลังเขา
เมื่อสักครู่ กลับมาทำงาน และตรวจดูความเรียบร้อยของบริเวณที่ได้
รับผิดชอบอย่างแข็งขัน เพื่อเตรียมต้อนรับแขกทีจ่ ะเข้ามาในทานอาหารใน
อีกไม่ช้านี้ ซึ่งชั้นลอยที่หล่อนทำงานก็อยูต่ รงข้ามกับห้องทำงานของเขา
พอดี
อย่างนี้ก็ดี เขาจะได้เห็นหล่อนอยู่ในสายตา ว่าแต่ทำไมเขาต้องอยาก
ให้หล่อนอยู่ในสายตาด้วย
คำถามทีย่ ังไม่มีคำตอบ ทำให้คารีโนต้องหันหลังเดินกลับมานั่งที่
เก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน แล้วก็หันมาสนใจกับสิ่งที่อยู่บนโต๊ะ
สายตาคู่คมก้มลงมองดูบัญชีที่มีพนักงานบัญชีทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะ
รวมทั้งใบเสร็จรายการรับจ่ายต่าง ๆ ในแต่ละเดือนที่ผ่านมา โดยช่วยกัน
ดูกับเบียน สายตาเขาจดจ้องอยู่ทงี่ าน แต่ในสมองของเขากลับไม่ได้รับรู้
อะไรมากมายนัก ส่วนสายตาของเขาก็พลอยเป็นไปด้วย มันคอยแต่จะแล
ชำเลืองสอดส่ายหาแต่ร่างบางของคนที่กำลังทำงานอยู่บนชั้นลอยตรงข้าม
กับห้องทำงานนี้ตลอดเวลา
ส่วนละมุนมาศก็นึกเดาว่า คนที่อยูใ่ นห้องทำงานตรงข้าม ก็คงจะ
มองหล่อนอยูเ่ ช่นกัน สัญชาตญาณบางอย่างที่ร้อน ๆ อยูต่ รงท้ายทอย
บอกว่ามีคนจ้องอยู่ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา
คนฉวยโอกาสคนนั้น ก็ไหนเพื่อนสนิทชาวอเมริกันของหล่อนบอกว่า
เวลาที่ผู้หญิงไม่ต้องการให้ผู้ชายจูบ ก็ให้เบือนหน้าหนี หลบริมฝีปากเขา
101/559

แล้วผู้ชายจะรับรู้และไม่จูบ แล้วนีอ่ ะไรกัน หล่อนหลบไม่ให้เขาจูบปาก


เขาก็จูบแก้ม และบังคับจูบปากของหล่อนอีกจนได้
คนเอาแต่ใจ คิดว่าตัวเองเป็นมาเฟียจะบังคับทำอะไรใครก็ได้ใช่ไหม
โอ๊ย โกรธจนพูดไม่ออก
นึกแล้วก็อยากจะขอผู้จัดการไปทำงานที่ไกลที่สุดจากห้องกระจกซึ่งมี
คน ฉวยโอกาสอยู่ข้างในนั้น แต่ก็ไม่กล้าทำอย่างที่คิด เพราะแต่ละคนมี
บริเวณรับผิดชอบเป็นของตัวเองแล้ว และอีกอย่างตรงนีค้ ือที่ประจำของ
หล่อน
สำนึกที่บอกกับตัวเองก็คือว่า ไม่ควรที่จะเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับ
งาน เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ไม่ได้รับรู้อะไรด้วย และก็ไม่ควรที่จะ
เดือดร้อนกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ถึงแม้จะเจ็บใจจนนํ้าตาแทบไหล จนนึก
อยากจะขอลาป่วยกะทันทันกับมิสมินต์กลับบ้านไปตั้งแต่ออกมาจากห้อง
นั้นแล้วก็ตาม แต่ละมุนมาศก็ทำไม่ได้
เพราะขาดงานก็ขาดเงิน ขาดรายได้ที่พึงจะมี คิดแล้วก็ได้แต่เจ็บใจ
ตัวเอง
และหลายครั้งทีต่ ้องยกมือขึ้นเช็ดทีร่ ิมฝีปากบางไป ในใจก็ว่าอีกคน
ไปด้วย
ร่างสูงที่นั่งพิงศีรษะกับพนักเก้าอี้หลับตาลงช้า ๆ เมื่อคิดถึงริมฝีปาก
อิ่มอุ่นที่นุ่มเนียนน่าสัมผัส และเขาก็ได้สัมผัสแล้ว แม้จะนานแค่วินาที
102/559

ก็ตาม แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นมากมาย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของลิปสติกสี


หวานกลิ่นสตรอเบอร์รีนั้น กับกลิ่นกายทีย่ ังมีกลิ่นนํ้าหอมอ่อน ๆ ปลุกเร้า
ความรู้สึกภายในใจของเขาให้ร้อนรุ่มได้อย่างไม่ น่าเชื่อ
คารีโนถอนหายใจออกมาอย่างช้า ๆ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ทำอย่าง
นั้นกับหล่อน คนทีเ่ ขาเพิ่งจะเห็นหน้าได้แค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น และก็ไม่รู้
ทำไมเขาถึงอยากแตะต้อง สัมผัส กอดรัด หรือทำมากกว่าจูบทีร่ ิมฝีปาก
นีถ่ ้าเขาไม่เห็นว่าหล่อนตกตะลึง นิ่งขึง ตกใจ ก็คงจะได้จูบหล่อนไปถึง
ไหน ๆ เป็นแน่
เขาแค่จูบหล่อนไม่ได้ข่มขืนสักหน่อย ทำไมถึงต้องตกใจขนาดนั้น
เป็นครั้งแรกในชีวิตของลูกผู้ชายอย่างเขา ที่จูบผู้หญิงแล้วโดนทุบด้วย
กำปั้นจริง ๆ หล่อนเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันแน่นะ ผู้หญิงนี่เข้าใจยาก
จริง ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงไทยแบบหล่อน
คารีโนรีบสลัดความคิดต่าง ๆ ออกไปจากหัว ก่อนทีจ่ ะสั่งให้ลูกน้อง
เรียก ผู้จัดการเข้ามาพบ
รายละเอียดบางสิ่งบางอย่างทีไ่ ด้รับรู้จากการยืนยันของผู้จัดการ ทำ
ให้หัวใจของคารีโนเต้นแรงขึ้น และสมาธิในการทำงานก็กลับมา ใบหน้า
คมเข้มเรียบตึง แต่จุดรอยยิ้มที่มุมปากบ่อยครั้ง และก่อนที่จะเลิกงาน คา
รีโนก็สั่งลูกน้องคนสนิทว่า
“เฟยเหมือนเดิมนะ เบียนกลับ” คำสั่งของเจ้านายที่ยังก้มหน้าก้มตา
อยูก่ ับงานตรงหน้า ทำให้เฟยกับเบียนหันไปสบตากันโดยไม่ได้นัดหมาย
103/559

แต่ไม่มคี ำถาม นอกจากคำว่าเป็นทีร่ ู้กันว่า ‘เหมือนเดิม’ ของเจ้านายคือ


อะไร
“ครับนาย” พอลูกน้องรับคำ คารีโนก็คว้ากระเป๋าส่วนตัวของตัวเอง
ขึ้นมาวางบนโต๊ะ รวบรวมจัดเก็บของสำคัญต่าง ๆ ลงกระเป๋าด้วยตัวเอง
พอร่างสูงของเจ้านายกับคนติดตามออกมาจากห้องทำงาน มิสมินต์
ซึ่งกำลังดูแลความเป็นไปของชั้นลอยก็รีบเดินลงไปหาทันที คารีโนเดิน
ตัวตรงไปยังบันไดทางลง สายตาคู่คมก็แอบชำเลืองมองคนที่กำลังยิ้มแย้ม
พูดคุยกับลูกค้าอยู่ ทำเอาคนแอบมองกัดฟันเล็ก ๆ โดยไม่รู้ตัว
ทีกับเขาทีเ่ ป็นเจ้านายไม่เห็นหล่อนยิ้มให้เขาอย่างนี้เลย แถมยังหยิก
ยังทุบเขาอีกต่างหาก ฮึ มันน่านัก
หางตาเรียวตวัดกลับพร้อมถอนหายใจอย่างโล่งอก ทีเ่ ห็นร่างสูง
แข็งแรงของเจ้านายชีกอเดินออกไปจากร้านพร้อมลูกน้องทั้งสอง
10
โกรธ...เกลียด...หวาดกลัว

คืนนั้นทั้งคืนละมุนมาศทำงานด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสัก
เท่าไร ทำให้งาน ผิดพลาดบ่อยครั้ง ในใจก็นึกโทษคนลามกใจร้ายที่
เป็นต้นเหตุ และยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อเขาคิดแตะต้องคนตัวเล็กของหล่อน
มือบางสองข้างกำแน่น โกรธจนรู้สึกเกลียด นึกอยากทำร้ายคนใจร้ายให้
สาสม
คนใจร้ายใจดำ อย่าได้คิดแตะต้องฟีนิกซ์เป็นอันขาด
เมื่อลับหลังเจ้านายใหญ่ไปแล้ว เฮอร์โมซาสาวเสิร์ฟชาวเม็กซิกัน
ที่ทำงานคู่กันบนชั้นลอยวันนี้ ผู้ซึ่งหลงใหลความหล่อเหลาของเจ้านาย ก็
แทบจะถลาเข้ามาหาละมุนมาศทันทีที่เจ้าหล่อนว่างเลยก็ว่าได้ พร้อมกับ
คำถามที่ทำให้คนถูกถามถึงกับสะดุ้งในใจ
“นี่มุน ยูคุยอะไรมากมายกับเจ้านายคนใหม่บ้าง”
“ทำไมหรือ”
“ก็เห็นยูเข้าไปนานจังเลย ตอนที่เจอพวกเราแค่พูดแนะนำตัวนิด
เดียวเอง” สาวสวยยังไม่หายข้องใจ
105/559

“เอ่อ พอดีว่าตอนที่ฉันเข้าไป เจ้านายกำลังคุยเรื่องงานกับลูกน้องเขา


อยูก่ ็เลยให้ฉันรอ จนเจ้านายทำงานเสร็จถึงได้แนะนำตัวก็แค่นั้น ไม่มี
อะไรมากหรอก”
“นึกว่าเจ้านายคุยอะไรเป็นพิเศษกับยูเสียอีก”
“ไม่หรอกจ้ะ”
“ว่าแต่เจ้านายคนใหม่ของเราหล่อสุด ๆ ไปเลยนะ ฉันน่ะหลงรัก
ตั้งแต่เห็นหน้าเลยทีเดียว เฮ้อ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะมองฉันบ้างหรือเปล่า ยูว่า
ฉันเซ็กซี่พอหรือเปล่ามุน”
ร่างสูงสวยที่มีรูปร่างอย่างที่ละมุนมาศเคยอิจฉา เพราะว่าร่างทีก่ ำลัง
หมุนตัวอยู่ตรงหน้าหล่อนนี้มีทั้งหน้าอกที่ใหญ่โตและสะโพกที่ผายกลม
ใบหน้าสวยที่มีเครื่องหน้าคมเข้ม ผมที่ดัดเป็นลอน
“เซ็กซี่สิ ฉันยังชอบหุ่นของยูเลย หน้าตายูก็สวยคมเข้ม แต่ถ้าเขาไม่
มองยู ยูก็มองเขาสิ สักวันเขาต้องหันมามองยูแน่ ๆ”
“จริงหรือ” สาวสวยเซ็กซี่ทรงโตถามกลับด้วยเสียงชวนฝัน
“ฉันคิดอย่างนั้นนะ ใกล้เลิกงานแล้ว ฉันขอไปเก็บโต๊ะก่อนละกัน”
ละมุนมาศรีบขอตัวจากเพื่อนร่วมงาน แอบนึกขอบคุณตัวเองทีห่ า
ข้อแก้ตัวได้แบบนํ้าขุ่น ๆ และก็นึกโกรธคนที่ทำให้หล่อนถูกสงสัยไปด้วย
เพราะเขาคนเดียวทำให้เพื่อนร่วมงานสงสัยในตัวหล่อน
106/559

เมื่อถึงเวลาใกล้ปิดร้าน พนักงานทุกคนก็ช่วยกันเก็บกวาดทำความ
สะอาดร้านตามปกติ เสียงพนักงานเสิร์ฟสาว ๆ ทั้งเวียดนาม อเมริกัน
เม็กซิกัน ทีป่ ลื้ม เจ้านายคนใหม่ก็ดังขึ้น ละมุนมาศคิดว่าไม่แปลกหรอก
ก็เขาออกจะหล่อ เท่ และดูดีขนาดนั้น งามสง่าราวกับเจ้าชายทางยุโรปก็ไม่
ปาน
แต่อนิจจาพวกนั้นคงจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้น่าปลื้มเลยสักนิด
เดียว เอาแต่ใจตัวเอง หลงตัวเอง ฉวยโอกาส ใช้พละกำลังที่เหนือกว่า
บังคับเอากับคนที่ด้อยกว่าอย่างหล่อน
มาเฟียดี ๆ นี่เอง
พอคิดได้ว่าเขาเป็นมาเฟียผูม้ ีอำนาจ เป็นผู้ที่เต็มไปด้วยอิทธิพล
ความรู้สึกกลัวก็เกิดขึ้นในใจ ยิ่งคิดถึงเรื่องโหดร้ายป่าเถื่อนที่เคยได้ยินมา
จากเพื่อน ๆ ชาวเวียดนามบางคน เกี่ยวกับเบื้องหลังของแก๊งมาเฟียที่มี
อิทธิพลทั้งหลาย ทั้งจีน ทั้งเวียดนามแล้ว ก็ทำเอาแข้งขาอ่อนล้า หัวใจ
กระตุก
ชีวิตของหล่อนจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่น่าไปทุบเสือ เอ๊ย...มาเฟียเลย
ทำไมถึงได้โชคร้ายอย่างนี้นะ น่าจะคิดให้ดีสักนิด ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ต้อง
มานั่งลำบากใจและระแวงอย่างนี้
แล้วเขาล่ะ มา...เอ่อ...มาจูบหล่อนทำไมกัน มันก็สมควรแล้วที่จะ
โดนกำปั้น นีย่ ังน้อยไปนะ ถ้ามีท่อนไม้อยูใ่ นมือรับรองว่าหัวแตกไปแล้ว
ถ้าเขาหัวแตก หล่อนก็คงถูกฆ่าตาย
107/559

อ่า...แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า หล่อนจะ


สู้จนถึงที่สุด อย่าคิดว่าจะเอาความเป็นมาเฟียมีอำนาจล้นเหลือมาข่มหล่อน
เสียให้ยากเลย เป็นไงเป็นกัน บ้านเมืองมีขื่อมีแป กฎหมายที่แเข็งแกร่งจะ
ต้องช่วยหล่อนได้ และถ้าทำงานที่นี่ไม่ได้กห็ างานใหม่ ไม่เห็นจะยากตรง
ไหน ประสบการณ์ก็มี คงจะมีที่อื่นรับหล่อนบ้าง
แต่จะมีที่ไหนที่เจ้านายใจดีและเข้าใจหล่อนเหมือนที่นบี่ ้างก็ไม่รู้ เข้า
งานช้ากว่าคนอื่นก็ได้ เลือกวันทำงานเองก็ได้ ไม่มีที่ไหนเหมือนที่นี่อีกแล้ว
งานดี ๆ เงินดี ๆ เจ้านายน่ารักใช่ว่าจะหาได้ง่าย ๆ...เฮ้อ
แต่พอคิดถึงเจ้านายคนใหม่แล้ว ละมุนมาศก็ออกอาการหน้า
ร้อนผ่าวอยูค่ นเดียว มือบางยกขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองแรง ๆ ริมฝีปาก
อิ่มเม้มแน่น ในใจก็อดที่จะแอบว่าคนต้นเหตุไม่ได้ ที่ทำให้งานของหล่อน
วันนี้สะดุด และเกิดความรู้สึกหวิว ๆ ด้วยความที่ใจยังวาบหวาม สติก็
เลยไม่ค่อยจะคงที่สักเท่าไร
คน...คนบ้า คนลามก หน้าไม่อาย เอ๊ย...มาเฟีย ไม่ใช่มาเฟียหรอก
แค่คนฉวยโอกาสแค่นั้นเอง
ละมุนมาศสับสน โมโห แต่หาทางออกไม่ได้ เอาคืนก็ไม่ได้ หล่อน
เลยยกเท้าเตะขาเก้าอี้ตัวข้าง ๆ เบา ๆ เป็นการระบายอารมณ์
“อูย”
108/559

“เป็นอะไรหรือมุน” เฮอร์โมซาถามเพื่อนสาวที่ยืนทำหน้าตามู่ทู่
ซี๊ดปาก ขาข้างหนึ่งยกขึ้นพร้อมกับเอามือจับปลายเท้าเอาไว้
“เจ็บเท้านิดหน่อย ฉันพลาดไปเตะขาเก้าอี้เข้าให้”
“ระวังหน่อยสิ ยูเตะขาเก้าอี้ประจำเลยนะ” สาวเซ็กซี่เตือนยิ้ม ๆ
“จ้ะ ขอบใจมาก”
ไม่ปลอบแล้วยังมาว่าซุ่มซ่ามอีก
หลังจากทีท่ ำทุกอย่างเสร็จแล้ว ทุกคนก็ทยอยกลับบ้าน มิสมินต์ที่
กำลังสำรวจความเรียบร้อยหันมาตะโกนบอกกับละมุนมาศว่า
“มุน รอฉันด้วย”
ละมุนมาศรอจนผู้จัดการสาวปิดล็อกประตูด้านหน้าเสร็จแล้วเดินมา
หาจึงได้ถามว่า
“มีอะไรหรือคะมิสมินต์”
“วันนีเ้ ป็นอะไร ฉันเห็นยูทำงานไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไรเลย มีอะไร
กวนใจหรือ” เงียบไม่มีเสียงตอบจากลูกน้องคนสวย นอกจากริมฝีปาก
อวบอิ่มที่เม้มเข้าหากันแน่นแล้วก็ปล่อยอาการนั้นยิ่งทำให้มิสมินต์สงสัย
มากขึ้นไปอีก หลังจากทีแ่ อบมองการทำงานของคนข้างตัวตั้งแต่ออกมา
จากห้องของเจ้านายเมื่อตอนหัวคํ่า
“มีอะไรที่อยากคุยให้ฉันฟังหรือเปล่า”
109/559

“ไม่มีค่ะ” ตอบพร้อมกับหลบสายตา
“ไม่มกี ็ไม่เป็นไร รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วง คุยกับฉันได้ทุกเรื่องนะ คิดว่า
ฉันเป็นพี่สาวหรือว่าน้าของยูก็ได้” คำพูดที่ออกมาจากปากของมิสมินต์ ทำ
ให้ละมุนมาศอดที่จะตื้นตันใจไม่ได้ ท่ามกลางชีวิตที่โดดเดี่ยวก็ยังมีคนที่
ยังห่วงใยหล่อนอยู่
“ขอบคุณค่ะมิสมินต์”
“ว่าแต่แน่ใจนะว่าไม่มีอะไร” มิสมินต์ถามยํ้า
“ค่ะ แต่ถ้ามี มิสมินต์จะเป็นคนแรกที่มนุ จะคุยด้วย ขอบคุณมากค่ะ
สำหรับความห่วงใยที่มีให้มนุ ” ละมุนมาศกอดร่างเล็กของเจ้านายอย่าง
ขอบคุณ
“งั้นก็ขับรถกลับบ้านดี ๆ”
“เช่นกันค่ะมิสมินต์ กู๊ดไนต์”
ละมุนมาศขับรถกลับบ้านคืนนั้น โดยไม่รู้ว่ามีรถอีกคันขับตามหลัง
ไปห่าง ๆ แต่มิสมินต์รู้และเห็นการกระทำบางอย่างของคนสนิทของ
เจ้านาย ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจ แต่กพ็ อจะมองออกว่าเจ้านายให้ความ
สนใจกับพนักงานสาวสวยคนขยันนิสัยดีคนนี้มากกว่าคำว่าเจ้านายกับ
ลูกน้องเป็นแน่ ถึงแม้จะไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นไปในทำนองไหนก็ตาม
ก็คงต้องดูกันต่อไป
110/559

แต่อย่างไรก็ตาม มิสมินต์กไ็ ม่อยากให้ลูกน้องสาวสวยน่ารักของ


หล่อนเป็นแค่ของเล่นหรือว่าอาหารยามว่างของเจ้านายเท่านั้น และก็ไม่
อยากจะเชื่อว่าเจ้านายจะสนใจลูกน้องของหล่อนอย่างจริงจัง เพราะว่า
หล่อนเคยเห็นผู้หญิงส่วนใหญ่ทเี่ จ้านายควงมาทานอาหารที่นี่ แต่ละคน
สวย เซ็กซี่ระดับนางงาม นางแบบ หรือไม่กล็ ูกสาวนักธุรกิจด้วยกันเท่านั้น
ไม่ใช่ไร้ชื่อเสียงและเรียบร้อยใสซื่อเป็นผ้าพับไว้เหมือนลูกน้องของหล่อน
คนนี้
น่าแปลกจริง ๆ
ยิ่งพอคิดถึงคำถามของเจ้านายที่อยู่ ๆ ก็เรียกไปถามว่า
“ละมุนมาศแต่งงานแล้วหรือยัง”
คำถามนั้นทำเอามิสมินต์จ้องมองเจ้านายอย่างไม่เข้าใจ ในใจก็นึกว่า
ทำไมเจ้านายต้องถามเรื่องนี้ด้วย ทีกับลูกน้องสาว ๆ คนอื่นเรียกพบ
ทั้งหมดพร้อมกันแล้วก็ให้ทุกคนแนะนำตัวก็เท่านั้น ไม่เห็นถามใครเลยสัก
คนว่าแต่งงานมีครอบครัวแล้วหรือยัง
ว่าแต่เรื่องแปลก ๆ นี้หล่อนควรจะรายงานมิสซิสซอลตันหรือว่ามิสซิ
ส เนียมบาดีไหมนะ เพราะว่าทั้งสองคนก็กำชับให้หล่อนดูแลละมุนมาศ
เป็นอย่างดี หนักใจ จริง ๆ ทางนีก้ ็เจ้านายโดยตรง ทางโน้นก็คุณยายและ
คุณแม่ของเจ้านาย ละมุนมาศสังเกตว่ามีรถคันโตขับตามหลังออกมา
ตั้งแต่รถของหล่อนเคลื่อนตัวออกจากหลังโบสถ์แล้ว นึกสงสัยในใจก็เลย
111/559

เร่งความเร็วรถให้มากยิ่งขึ้น ในตอนดึก ๆ อย่างนี้รถราบนท้องถนนก็


ไม่ค่อยจะมีเท่าไร ถ้าเป็นรถของคนทีป่ องร้ายจริง หล่อนก็เป็นเป้าสายตา
และคงเอาตัวรอดยากขึ้น
อย่าบอกนะว่าโดนกำปั้นไปหนึ่งที เขาถึงกับส่งคนมาเพื่อที่จะทำร้าย
หล่อนทีเดียวหรือนี่
มันเป็นวิถีของมาเฟีย รู้อย่างนี้น่าจะให้หลาย ๆ หมัดจะได้คุ้มกัน
หน่อย
แล้วละมุนมาศก็อดที่จะคิดถึงซีรีส์ฆาตกรรมอำพรางทั้งหลายแหล่ที่
หล่อนชอบดูในโทรทัศน์ และก็คิดว่าถ้ามันเกิดขึ้นกับหล่อนบ้างจะทำ
อย่างไร
คิด ๆ ๆ...
สมองเล็ก ๆ ทำงานอย่างหนัก แต่ละมุนมาศปลอบใจตัวเองว่า อาจ
จะเป็นแค่ใครบางคนที่ต้องใช้ทางเดียวกับหล่อนก็เท่านั้นเอง แต่ความกลัว
ก็ยังไม่หายไป ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว จนคิดอะไรแทบไม่ออก
ใจหายวูบขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเหลือบมองกระจกส่องหลัง ก็ยังเห็นว่ารถ
คันเดิมยังตามมาไม่ห่าง ทิ้งระยะพอสมควร ไม่ว่าหล่อนจะเลี้ยวซ้าย
หรือว่าขวา ขับเร็วขึ้นว่าผ่อนให้ช้าลง รถคันนั้นก็ยังตามไม่ถดถอย เหงื่อ
ในคํ่าคืนทีอ่ ากาศกำลังเย็นสบายซึมเต็มใบหน้า มือทั้งสองข้างที่ชื้นเหงื่อก็
สั่นจนนึกโกรธตัวเอง หัวใจเต้นโครมครามรัวกับกลองศึก คิดถึงคนที่รอ
112/559

ให้หล่อนกลับบ้าน คิดถึงใบหน้าสดใสไร้เดียงสานั้นแล้วก็อยากจะร้องไห้
ละมุนมาศไม่คิดว่าเรื่องราวเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับหล่อนได้
นึกโกรธไปถึงคนที่คิดร้ายอย่างนีก้ ับหล่อน แล้วถ้าหล่อนตาย
ฟีนิกซ์จะเป็นอย่างไร จะอยู่อย่างไร ไม่ได้...หล่อนจะตายไม่ได้
คิดได้ ดังนั้น กำลังใจในการฮึดสู้เอาตัวให้รอดก็บังเกิดขึ้น มือบาง
หันไปคว้าโทรศัพท์มือถือบนเบาะข้างตัวมากำไว้ เร่งความเร็วของรถเพิ่ม
ขึ้น ตั้งสติให้มั่น ถ้าเกิดถูกทำร้าย ซึ่งอาจจะเกิดได้หลายกรณี อย่างเช่น
คนร้ายอาจจะพุ่งชนท้ายหรือว่าเบียดให้รถหล่อนตกข้างทางหรือ ไม่กต็ ก
คลอง และก็ลงมายิงซํ้าเหมือนอย่างในทีวี ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ หล่อนจะ
ต้องตั้งสติให้ดี เพื่อที่จะได้ขอความช่วยเหลือจากไนน์วันวัน (911 -
ระบบขอความช่วยเหลือเร่งด่วนในอเมริกา) ได้ทันท่วงที
เป็นไงเป็นกัน
แค่เตรียมตัวก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และโชคดีทบี่ นถนนสาย
หลักยังมีรถสวนมาเป็นระยะ ๆ ถ้าคนร้ายคิดจะลงมือฆ่าหล่อนจริง ๆ ก็
คงจะต้องลงมือในเวลาอันรวดเร็วเพื่อที่จะได้หนีทัน
ละมุนมาศขับรถด้วยใจระทึก ขับไปก็มองกระจกหลังรถไปด้วย
และก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ตอนนี้รถของหล่อนกำลังเลี้ยว
เข้าหน้าหมู่บ้านแล้ว ไฟที่สว่างไสวสองข้างทางในยามดึกสงัดเช่นนี้ทำให้
จิตใจทีห่ วาดกลัวดีขึ้น เหตุการณ์ที่หล่อนคิดและกลัวก็ยังไม่เกิดขึ้น แต่ว่า
รถคันนั้นก็ยังตามมาห่าง ๆ พอจอดรถหน้า คอนโดมิเนียมละมุนมาศก็
113/559

คว้ากระเป๋าถือและของสำคัญในรถ ถลาลงจะรถ ล็อกแล้วก็วิ่งขึ้นบันได


คอนโดมิเนียมไปทันที
ส่วนเฟยที่ทำตามคำสั่งของเจ้านาย ก็ขับรถตามไปจอดอยู่ไกล ๆ
ทำทีเป็นว่าขับรถเข้าไปจอดหน้าคอนโดมิเนียมอีกแห่งที่เยื้อง ๆ กัน แต่เขา
สามารถเห็นหล่อนอยู่ในสายตาตลอดเวลา จนกระทั่งเห็นร่างบางอุ้ม
เด็กหญิงตัวน้อยมายืนอยู่หน้าห้อง เปิดประตูห้องแล้วก็สองร่างก็หายเข้า
ไปห้องพร้อมกับบานประตูที่ปิดลง เฟยคิดว่าหมดหน้าที่ของเขาสำหรับคืน
นี้แล้ว ก็เลยถอยรถออกจากที่นั่น ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า
เจ้านายของเขาไม่เคยเลยสักครั้งตั้งแต่ติดตามรับใช้กันมาหลายปี ที่
จะให้เขาหรือว่าเบียนตามติดดูแลผู้หญิงที่ไหนขนาดนี้ มันต้องมีอะไรที่
เป็นพิเศษเป็นแน่
หลังจากพาฟีนิกซ์เข้านอนแล้ว ละมุนมาศก็อาบนํ้ากระโดดขึ้นเตียง
แต่ก็ไม่สามารถที่จะข่มตาให้หลับได้ เปิดเพลงเบา ๆ กล่อมก็แล้ว
สวดมนต์ก็แล้ว หาหนังสืออ่านก็แล้วก็ยังไม่สามารถที่จะหลับลงได้ สมอง
ยังตื่นตัวตลอดเวลาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งทีร่ ้านอาหาร และตอนที่ขับ
รถกลับบ้าน
แต่พอคิดถึงเรื่องวาบหวามที่เกิดขึ้นเมื่อตอนหัวคํ่า มือบางยกขึ้นแตะ
เบา ๆ ที่ข้างแก้มและริมฝีปาก เผลอส่งค้อนกับสายลมไปให้คนทำด้วย
มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกันนะ จำได้ว่าหล่อนเงยหน้าขึ้นจะบอกเขาว่า
ห้ามแตะต้องฟีนิกซ์เป็นอันขาด เขาก็ก้มหน้าลงมาอย่างรวดเร็ว ด้วยความ
114/559

ตกใจ หล่อนเบี่ยงหน้าหนี เขาก็จูบแก้ม นึกว่าเขาแค่พลาด แต่ที่ไหนได้


เขากลับบังคับจูบเอาจากหล่อนอีกจนได้
แค่คิดใบหน้าก็ร้อนผ่าว ใจหวิวไหวอย่างระงับไม่อยู่ จนต้องยกมือ
ทั้ง สองข้างขึ้นปิดหน้าเอาไว้และหลับตาลง
ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร มันรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน ไม่รู้สึกด้วย
ซํ้าว่ามันเป็นอย่างไร เพราะหล่อนมัวแต่ตกตะลึง ไม่คิดว่าเขาจะบังคับจูบ
นึกโกรธคนที่มาพรากจูบแรก ทั้ง ๆ ที่เคยคิดเอาไว้อย่างโรแมนติกวาบ
หวามว่า
ท่ามกลางแสงเทียนทีส่ ่องสว่างในความมืด เสียงเพลงหวานซึ้ง...กับ
คนที่รัก มองสบสายตา บอกรักกันด้วยหัวใจ สองมือเกาะเกี่ยวกันไว้ แล้ว
ก็ค่อย ๆ จูบกันไปอย่างอ้อยอิ่ง ค่อยเป็นค่อยไป ดูดดื่ม อบอุ่นและ
อ่อนหวาน
ไม่ใช่กับใครก็ไม่รู้ทคี่ ิดจะจูบก็จ้วงจูบ หักหาญนํ้าใจ ไร้ความ
โรแมนติกอย่างนี้...คนบ้า แล้วอย่างนี้หล่อนก็เลยไม่รู้ว่าเฟิสต์คิสจริง ๆ
เป็นอย่างไร หมดกัน ไม่มีอีกแล้วเฟิสต์คิสในชีวิตนี้ เพราะว่าครั้งต่อไปมัน
ก็ต้องเรียกว่า เซคคันคิส
โอ๊ย...หงุดหงิด โกรธด้วย หล่อนจะต้องเอาคืนคนที่ทำลายเฟิสต์คิส
ของหล่อนให้ได้ ว่าแต่เอาคืนวิธไี หนกันแน่นะ แค่เขาเข้าใกล้ประชิดตัว
หัวใจดวงน้อยก็หวั่นไหวจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว มันน่าเจ็บใจตัวเองจริง ๆ
115/559

พอเจ็บใจก็อดที่จะนํ้าตารื้นไม่ได้
คิดว่าเป็นเจ้านายแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นใช่ไหม คิดว่าเป็นผู้ชาย
แล้วจะทำร้ายผู้หญิงเมื่อไรก็ได้อย่างนั้นใช่ไหม คนบ้า คน...คน...หน้าไม่
อาย
แค่คิดจะเอาคืนก็รู้ว่าหมดสิทธิ์แล้ว เขาคงไม่ปล่อยหล่อนให้
ลอยนวลเป็นแน่ เพราะเขาก็ประกาศออกมาแล้ว เขาโกรธและ
อาฆาตมาดร้ายขนาดนั้นเลยหรือ
11
ระแวง...ระวัง

ละมุนมาศตื่นแต่เช้ามืดเนื่องจากว่านอนไม่ค่อยหลับ สมองของ
หล่อนครุ่นคิดอยูต่ ลอดเวลา จึงลุกขึ้นอาบนํ้าแต่งตัวเสร็จแล้วก็ยังไม่ถึง
เวลาที่จะต้องปลุกคนตัวเล็ก หล่อนจึงไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเล็ก
ข้างหน้าต่าง
โดยนั่งอยู่ในความมืด และก็อดทีจ่ ะคิดถึงรูปร่างลักษณะของรถที่
ติดตามหล่อนมาคันนั้น รถคันใหญ่จำได้ง่ายดายมากมาย รถยี่ห้อนี้ไม่ได้
วิ่งอยู่บนถนนมากนัก หล่อนทำเหมือนกับว่าไม่รู้ตัวว่ามีคนตาม ตอนที่อุ้ม
ฟีนิกซ์ออกมาจากห้องมิสซิสลี รถคันนั้นก็ยังจอดอยูท่ ี่เดิม แต่พอหล่อน
พาฟีนิกซ์เข้าไปนอนแล้ว ปิดไฟในห้องออกมาแง้มม่านแอบดูอีกที รถคัน
นั้นก็หายไปแล้ว
แล้วก็สรุปได้ว่า มันน่าจะเป็นรถคันเดียวกับที่ขับตามหล่อนในตอน
เช้าตอนไปทำงานและก็ตอนเย็นตอนกลับจากทำงาน
117/559

มั่นใจ ไม่ผิดแน่ นี่เขาโกรธแค้นหล่อนขนาดนี้เลยหรือ แค่หยิก


เดียวกับทุบหลังอีกครั้งนี่นะ ถึงกับจะเอากันให้ตายไปข้างหนึ่งเลยเชียว
หรือ
หัวใจที่สงบลงระทึกขึ้นมาอีกครั้ง รู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัยของ
ชีวิต หล่อนอยูท่ ี่นมี่ าตั้งหลายปี ไม่เคยมีเหตุการณ์อกสั่นขวัญแขวนอย่างนี้
เกิดขึ้นเลยสักครั้ง และก็ไม่เคยนึกกลัวอะไร เพราะรูว้ ่าคนที่นี่ต่างเคารพ
กฎหมาย ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำมาหากิน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร ละมุน
มาศไม่เคยทำร้ายใคร และก็ไม่คิดว่าจะมีใครมาทำร้ายหล่อนด้วยเช่นกัน
และย่านที่อยู่อาศัยนี้ก็แทบจะไม่มีข่าวหรือคดีเกี่ยวกับการฆาตกรรม หรือ
อะไรร้ายแรงเกิดขึ้นเลยก็ว่าได้
แต่พอหล่อนได้รู้จักกับ ‘เขา’ มาเฟียคนนั้น แถมยังไปทำร้ายเขาให้
อีก ตั้งแต่วันนั้นชีวิตของหล่อนก็ไม่สงบเหมือนเดิม โดยเฉพาะจิตใจของ
หล่อนที่ทั้งระแวง หวาดกลัว หวาดหวั่น หวั่นไหวไปหมด
หล่อนคิดมากเกินไปหรือเปล่า หวาดกลัว หวาดระแวงเกินไป
หรือเปล่านะ ไม่ได้ห่วงตัวเองสักเท่าไร แต่ห่วงคนตัวเล็กมากกว่า
เท่าที่เคยได้ยินมา แก๊งมาเฟียเวียดนามโหดมาก ทั้งค้ายาเสพติด ค้า
ผู้หญิง แถมมีอิทธิพลของเครือข่ายที่ตำรวจก็เข้าไม่ถึงอีกต่างหาก
เฮ้อ...แล้วหล่อนจะรอดไหมนี่
118/559

ละมุนมาศส่งฟีนิกซ์ที่โรงเรียนก่อนเวลา วันนีห้ ล่อนเข้าไปพูดคุย


กับคุณครูประจำชั้นและคุณครูผู้ช่วย พร้อมกับกำชับเรื่องของคนที่มา
รับฟีนิกซ์ออกจากโรงเรียน ว่าจะต้องเป็นคนของโรงเรียนเทควันโด
เท่านั้น
เมื่อกลับมาถึงห้อง ละมุนมาศก็โทรศัพท์ไปบอกทีโ่ รงเรียนเทควันโด
กำชับเรื่องนี้ด้วย และขอให้ทางผู้ดูแลเด็กช่วยดูแลฟีนิกซ์เป็นพิเศษ เสร็จ
แล้วก็โทร. ไปบอกที่ทำงานว่าหล่อนจะเข้าสายสักครึ่งชั่วโมง โดยขอพัก
กลางวันแค่ครึ่งชั่วโมง
สาเหตุที่ต้องการเข้างานสายครึ่งชั่วโมง ก็เพราะว่าละมุนมาศต้องการ
พิสูจน์อะไรบางอย่าง หล่อนอยากจะรู้ว่า รถคันที่ตามหล่อนจะยังตามอยู่
หรือเปล่า เพื่อที่จะได้ตัดสินใจอะไรให้แน่ชัด
ในขณะที่คนที่นั่งรออยู่ในรถเมื่อถึงเวลาปกติที่รถคันเล็กจะเคลื่อน
ออกจากลานจอดหน้าคอนโดมิเนียม แต่เช้าวันนีย้ ังเห็นจอดอยูท่ ี่เดิม ห้า
นาทีผ่านไป สิบนาทีผ่านไป ยี่สิบนาทีผ่านไปแล้ว ก็ยังไม่เห็นเจ้าของรถลง
มาจากคอนโดมิเนียม
ปกติมสิ ละมุนมาศไม่เคยสาย จะเรียกว่าตรงเวลาเป๊ะทุกวันก็ว่าได้
แต่วันนี้ผิดปกติ
เฟยก็เลยกดโทรศัพท์ไปรายงานเจ้านาย ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือ
รอต่อไป
119/559

เมื่อเวลาผ่านไปอีกไม่ถึงห้านาที ร่างบางของคนที่เขารออยูก่ ็เดินลงมา


จากคอนโดมิเนียม ก่อนที่จะขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว เฟยขับรถตาม
ไปห่าง ๆ พร้อมกับรายงานเจ้านายไปด้วย
ละมุนมาศขับรถไปเรื่อย ๆ หัวสมองก็คิดไปต่างๆ นานา สลับกับ
การถอนหายใจยาว ๆ บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงเรื่องความปลอดภัย
ของฟีนิกซ์ หล่อนไม่นึกเป็นห่วงเท่าไรถ้าฟีนิกซ์อยู่ที่โรงเรียน เพราะว่า
ประตูโรงเรียนจะไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้า และถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ปกครองก็
ต้องยื่นบัตรประจำตัวก่อนทุกครั้ง ทางโรงเรียนถึงจะเปิดประตูให้ และใน
กรณีฉุกเฉินคนทีจ่ ะรับเด็กออกมาได้ก็คือ คนที่มชี ื่ออยูใ่ นทะเบียนประวัติ
เท่านั้น ซึ่งก็คือหล่อนแต่เพียงผู้เดียว ส่วนที่โรงเรียนเทควันโดจะมีสองคน
ที่รับฟีนิกซ์ได้ก็คือหล่อนและมิสซิสลี
หลายครั้งที่ละมุนมาศถามตัวเองว่า
หล่อนควรที่จะแจ้งความกับการตำรวจหรือเปล่านะ
คำตอบก็คือรอก่อน
เพราะเขาก็ไม่ได้มาข่มขู่หรือว่าทำร้ายร่างกายอะไร หล่อนเองก็ยังไม่
ชัดเจนว่า คนที่ตามหล่อนเป็นคนร้ายหรือเปล่า หล่อนอาจจะคิดไปเอง
เฮ้อ...สับสนจริง ๆ
ละมุนมาศคิดเรื่อยเปื่อยจนลืมสำรวจรอบตัว เงยหน้ามอง
กระจกหลังตอนที่เลี้ยวออกจากถนนใหญ่กต็ ้องตกใจ เมื่อเห็นรถฮัมเมอร์
120/559

คันโตสีนํ้าตาลคันเดิมทีเ่ คยเห็นเช่นวันที่ผ่านมาอยู่ไม่ไกลนัก ละมุนมาศก็


รู้สึกใจสั่นตัวสั่นขึ้นมาอย่างสุดจะระงับเอาไว้ได้ มือสองข้างชื้นเหงื่อ
พยายามประคองรถให้เลี้ยวเข้าไปจอดที่ข้างคลินิกอย่างช้า ๆ ออกจากรถ
ได้ ล็อกรถแล้วก็วิ่งเข้าไปแตะบัตรที่ประตูให้ประตูเปิดแล้วก็วิ่งเข้าไป
ข้างในทันที
ส่วนคนที่ขับรถตามก็อดที่จะยิ้ม และก็กดดูภาพที่กล้องตัวจิ๋วในมือ
ที่ตั้งถ่ายเอาไว้ตอนที่หล่อนลงจากรถ
สงสัยวันนี้มิสละมุนมาศมาทำงานสาย ลงจากรถได้กว็ ิ่งหน้าตั้งเข้าไป
ในที่ทำงานเลย
หมดภารกิจในช่วงเช้าของเขาอีกวัน เฟยขับรถกลับไปสมทบกับ
เจ้านายที่โรงงาน ‘ลิซ’ ทันที
คารีโนลงไปลุยกับทีมงานออกแบบและตัดเย็บคอลเลกชันของฤดู
ร้อนปีนี้ ซึ่งคอลเลกชันใหม่จะต้องออกสู่ตลาดภายในกลางเดือนมิถุนายน
นี้
ตลอดทั้งวันวันนี้เช้าจรดเย็น เขาเข้าไปดูแลในส่วนที่เป็นโรงงานด้วย
ตัวเอง ตรวจดูตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงขบวนการผลิตและการบรรจุหีบห่อ
เลยทีเดียว
โรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่มีพนักงานฝ่ายผลิตประมาณร้อยยี่
สิบคน แบ่งเป็นสองกะทำงานที่ต้องผลิตตั้งแต่หกโมงเช้าจนถึงสี่ทุ่ม
121/559

ผลิตภัณฑ์คุณภาพสำหรับสุภาพสตรีของ ‘ลิซ’ มีกระเป๋าสะพาย


หลายขนาด กระเป๋าเงินใบเล็กมากมายหลายรูปแบบ มีทั้งแบบหนัง ผ้า
ผ้าผสมกับหนัง ซึ่งในแต่ละปี “ลิซ” จะมีคอลเลกชันสำหรับฤดูหนาว ฤดู
ใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ใน
แต่ละคอลเลกชันจะผลิตออกมาในจำนวนจำกัด จึงทำให้ ลิซเป็นที่
ต้องการครอบครองของผู้ที่มีกำลังจ่ายเป็นอย่างยิ่ง
ถึงแม้ว่าความต้องการของลูกค้าจะมีมากขึ้น ตลาดต้องการมากขึ้น
แต่ลิซก็ยังคงการผลิตและความมีคุณภาพเอาไว้เช่นเดิมตั้งแต่ก่อตั้ง โดย
การไม่ขยายฐานการผลิตออกไปยังต่างประเทศที่มคี ่าแรงตํ่ากว่า สินค้าของ
ลิซจะผลิตที่นี่ที่เดียวในโลกเท่านั้น
แต่ถึงแม้ว่าจะทำงานจนสมองแทบไม่มเี วลาคิดถึงเรื่องอื่น แต่คารีโน
ก็รู้สึกแปลก ๆ ในหัวใจ ที่หลายครั้งความคิดของเขามักจะแวบไปยังคนที่
ฝากกำปั้นไว้บนหลังเมื่อคืนทีผ่ ่านมา หลายครั้งที่เขาสลัดมันทิ้ง แต่ก็ทำได้
แค่เพียงชั่วครู่เท่านั้นและมันก็กลับมาอีก
ทำไมในสมองของเขาถึงได้มีหล่อนอยู่เต็มไปหมด
ทุกครั้งที่มโี อกาสกลับมานั่งทีโ่ ต๊ะในห้องทำงาน เขาจะต้องกดดูภาพ
ในจอคอมพิวเตอร์ทุกครั้งไป วันนี้ภาพของใครบางคนอยูใ่ นชุดลาย
ดอกไม้สีแดงอมชมพู พื้นสีดำตัวกระโปรงยาวเหนือเข่า ถุงน่องสีดำใน
รองเท้าส้นสูงรัดส้นสานสีดำ เสื้อตัวนอกสีชมพูคลุมอยูเ่ หนือเอว กระเป๋า
122/559

สะพายใบโตพร้อมกับกระเป๋าใบเล็กในมือ มีหลายภาพทีเดียว ตั้งแต่เดิน


ลงมาจากคอนโดมิเนียมที่พักเลยก็ว่าได้
แต่ภาพทีป่ ระทับใจเขาเป็นภาพที่หล่อนกำลังก้าวลงจากรถ แล้วก็วิ่ง
หน้าตั้งผมปลิวลืมความสวยเข้าไปในที่ทำงาน เห็นแล้วก็อดที่จะยิ้มกับ
ตัวเองไม่ได้
ราวกับนักวิ่งลมกรด ไม่มีมาดเอาซะเลย แต่ก็น่ารัก
หล่อนจะรู้หรือเปล่านะว่า ภาพของหล่อนในทุกวัน ในอิริยาบท
แปลก ๆ มาปรากฏอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขาอย่างนี้
น่าจะไม่รู้ เพราะว่าถ้าหล่อนรู้ เขาคงไม่โดนแค่หยิกหรือว่ากำปั้น
เป็นแน่ และเขาก็ไม่อยากเดาว่าจะโดนอะไร
คารีโนนึกขำตัวเองที่แวบหนึ่งของการประชุมก็ยังแวบไปคิดถึงหล่อน
ได้
เป็นเอามากจริง ๆ นึกสงสัยว่าเขาคงจะติดใจกำปั้นของหล่อนเข้าให้
แล้วกระมัง
“นายครับ” เสียงของเบียนทีต่ อนนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของมิสซิสซิ
ดนีย์ เลขานุการสูงวัยคนเก่าแก่ของบิดาเรียกเข้ามา
“มีอะไร”
“มิสเลอาโทร. มาครับ”
123/559

“บอกไปว่าฉันงานยุ่ง ยังคุยไม่ได้”
“ครับนาย”
ได้ยินชื่อ เลอา สาวสวยผู้ร้อนแรงแล้ว คารีโนก็รีบสลัดชื่อนั้นออก
ไปจากหัวสมองทันที ก้มหน้าก้มตาพิจารณากระเป๋าหลายใบในคอลเลกชัน
ใหม่ที่ทางฝ่ายตัดเย็บส่งตัวอย่างมาให้ดู
คารีโนมองตัวอย่างกระเป๋าทีเ่ รียงรายอยู่บนโต๊ะแล้ว ก็อดที่จะคิดถึง
นักเลงกำปั้นไปด้วยไม่ได้ คิดว่าหล่อนจะชอบสะพายกระเป๋าแบบไหนนะ
เพราะเท่าที่เห็นจากรูปห้าวันทีผ่ ่านมา หล่อนสะพายกระเป๋าใบเดียวเท่านั้น
ถ้าเป็นหญิงสาวทีเ่ ขาคบหา หล่อนพวกนั้นจะเปลี่ยนกระเป๋าทุกครั้งที่มาเจอ
เขาก็ว่าได้ เขาก็เลยไม่แน่ใจว่าเจ้าของกำปั้นชอบแบบไหนกันแน่
สมองก็คิด ตาก็มองคนในรูป มือก็ร่างแบบกระเป๋าไปด้วย สุดท้าย
เขาก็ได้กระเป๋าสะพายสำหรับสาวสมัย ที่อ่อนใน แข็งนอก ใจกล้า ใจเด็ด
ไม่ย่อท้อ หรือ เกรงกลัวอะไร คารีโนยกแบบในมือขึ้นดูแล้วก็ต้องยิ้ม ไม่
น่าเชื่อว่าเขาจะออกแบบกระเป๋าได้ในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมกับความคิดที่
ว่า
ไม่น่าเชื่อว่าเขาก็ออกแบบกระเป๋าผู้หญิงได้ ทั้ง ๆ ทีไ่ ม่เคยคิดทำมา
ก่อนเลย
“เบียน” คารีโนเรียกลูกน้องคนสนิทผ่านเทเลคอม
“เข้ามาในนี้หน่อย”
124/559

ไม่ถึงวินาทีร่างสูงของลูกน้องก็มาปรากฏตัวในห้อง
“เอาแบบนี้ไปให้มิสเตอร์เคนท์ตัดเย็บให้หน่อยสิ ไม่เร่งนะ เมื่อไร
ก็ได้ให้ มิสเตอร์เคนท์ตัดด้วยตัวเอง ตามรายละเอียดที่บอกเอาไว้” บอก
พร้อมกับตวัดลายเซ็นลงบนแบบ
“ครับนาย” เบียนรับปาก แต่ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าแบบของคอ
ลเลกชันหน้าร้อนเจ้านายก็อนุมัติไปแล้ว ทางโรงงานก็เริ่มตัดเย็บไปจนจะ
ส่งให้ลูกค้าแล้วนี่นา แล้วแบบที่อยู่ในมือของเขานีอ่ ะไร พิเศษอย่างนั้น
หรือ อีกไม่นานน่าจะได้รู้ว่ามันคืออะไร
หลังจากสะสางงานประจำวันทุกอย่างแล้ว ละมุนมาศก็ขับรถออก
จากคลินิกแพทย์มุ่งตรงไปยังเวียดเฮาส์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการขับรถกว่าสี่
สิบห้านาที ในเวลาหลังเลิกงานทีท่ ุกคนออกมาจากที่ทำงานกลับบ้าน รถจึง
ติดทุก ๆ สัญญาณไฟจราจรเลยก็ว่าได้
ละมุนมาศใช้ช่วงเวลานี้ คิดหาคำพูดเพราะ ๆ ไว้พูดกับเขาไปด้วย
“เจ้านายคนใหม่” หลังจากสัญญากับตัวเองว่า
จะพูดกับเขาให้รู้เรื่อง จะใจเย็น เอาเหตุเอาผลมาพูดกัน จะไม่
ทำร้ายร่างกายเขา พร้อมกับวงเล็บเอาไว้ในใจว่า เขาจะต้องไม่ทำอะไร
หล่อนด้วยเช่นกัน จะขอร้องเขาดี ๆ ว่าอย่ามายุ่งกับหล่อนเลย มันไม่
คุ้มกัน หล่อนไม่มีอะไรให้เขาตักตวงหรอก เงินเก็บก็ไม่ได้มีมากมายอะไร
มีหนี้สินจำนวนหนึ่ง แถมมีลูกติดอีกต่างหาก
125/559

หลากหลายคำพูดที่ละมุนมาศพยายามคิดและฝึกพูดออกมาให้มัน
น่าเห็นใจที่สุด และก็หวังว่าเขาจะเห็นใจ
ทันทีทเี่ ข้าไปในร้านก็พบหน้าผู้จัดการสาว จึงกล่าวทักทายแล้วละมุน
มาศยื่นหน้าไปกระซิบถามว่า
“มิสมินต์คะ วันนี้เจ้านายของมิสมินต์จะมาหรือเปล่าคะ”
“มีอะไรหรือเปล่ามุน”
“นิดหน่อยค่ะ”
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ปกติช่วงกลางวันท่านไปดูโรงงาน แต่ถ้ามา
ที่นี่ก็น่าจะเป็นดึก ๆ”
“ถ้าท่านมา มิสมินต์ช่วยแจ้งท่านด้วยนะคะว่า มุนมีเรื่องจะคุยกับ
ท่าน ขอเวลาแค่ห้านาทีเท่านั้น” คำตอบของลูกน้องกับหน้าตาเอาจริงเอาจัง
ดวงตามีแววครุ่นคิด ทำเอามิสมินต์นึกสงสัย
“มีอะไรหรือมุน” กระซิบถาม
“เอ่อ...มีนิดหน่อยค่ะ”
มิสมินต์ไม่กล้าเอ่ยปากถามต่อ ทั้ง ๆ อยากรู้ และท่าทางคนถูกถาม
ก็คงจะไม่เปิดปากแน่นอน
“ได้ ถ้าท่านมาฉันจะบอกให้”
126/559

“ขอบคุณค่ะมิสมินต์” ละมุนมาศเข้าไปกอดร่างเล็กของเจ้านายอย่าง
เอาใจ แต่ก็โดนเจ้านายผลักออกเบา ๆ
“ไม่ต้องมาอ้อนเลยย่ะ มีเรื่องอะไรไม่เห็นบอกให้ฉันฟัง ไม่ไว้ใจกัน
แล้วใช่ไหม” อีกคนพูดงอน ๆ ทำเอาละมุนมาศหัวเราะคิกออกมา
“ใครบอกว่าไม่ไว้ใจคะ มุนไว้ใจมิสมินต์ที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่เรื่องนี้มุ
นต้องจัดการเองค่ะ มุนก็ยังไม่รู้ว่มันจะออกหัวออกก้อยเลย เฮ้อ...มุนไป
ทำงานก่อนดีกว่า เดี๋ยวแขกก็เริ่มเข้าร้านแล้ว อย่าลืมนะคะมิสมินต์”
“ย่ะ”
มิสมินต์มองตามหลังลูกน้องสาวคนสวย พลางคิดว่า
ลูกน้องของหล่อนมีเรื่องอะไรที่ต้องพูดกับเจ้านายใหญ่ด้วยตัวเอง
หรือ
แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะลูกน้องของหล่อนคนนี้ไม่ใช่จะเปิดปากพูด
อะไรได้ง่าย ๆ ทั้งเรื่องของคนอื่นและเรื่องของตัวเอง แล้วก็อดที่จะคิดถึง
โทรศัพท์ทเี่ พิ่งจะได้รับก่อนที่เจ้าตัวจะเข้ามาไม่ได้ ปลายสายเป็นมารดา
ของเจ้านาย ฝากบอกให้ดูแล ‘ละมุนมาศ’ เป็นพิเศษ
แล้วหล่อนจะดูแลพิเศษได้แค่ไหนกัน เพราะเรื่องบางเรื่องมันเป็น
ของคน สองคน บุคคลที่สามไม่เกี่ยว ไหน ๆ ท่านฝากเอาไว้กต็ ้องดูแลให้
แต่คงจะทำได้เท่าที่ทำได้แค่นั้นเอง
12
มามี้...ขอโทษ

เวลาทีผ่ ่านไปแต่ละนาที ละมุนมาศรู้สึกกระวนกระวายอยู่ในใจลึก


ๆ หลายครั้งทีห่ ล่อนมองไปยังประตูทางเข้า แต่จนบัดนี้พระอาทิตย์กต็ ก
ดินไปแล้ว ความมืดมิดของราตรีเข้ามาแทนที่ มองนาฬิกาที่เดินผ่านไป
แต่ละชั่วโมง ก็ยังไม่ปรากฏว่าเจ้านายคนใหม่ที่หล่อนอยากคุยตกลงด้วย
ย่างกรายเข้ามาในร้านเสียที
ส่วนหนึ่งของความรู้สึกบอกว่า ถ้าหล่อนยังไม่คุยกับเขา ก็เหมือนกับ
ว่าจะยืดเวลาของชีวิตให้หล่อนและคนตัวเล็กไปได้อีกหนึ่งวัน
อย่างไรก็ตาม หล่อนจะต้องพูดให้รู้เรื่องไปเลยว่าจะเอาอย่างไร ถ้าไม่อย่าง
นั้นชีวิตของหล่อนก็คงเดินอยู่บนความหวาดกลัว หวาดระแวง
กระวนกระวาย ไม่มีความสุขอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันจบ
จนกระทั่งถึงเวลาปิดร้าน เจ้านายคนใหม่ก็ยังไม่มา มิสมินต์บอก
หล่อนก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านว่า
“วันนีเ้ จ้านายไม่เข้า ฉันเดาเอาว่างานที่โรงงานน่าจะยุ่ง เรื่องที่จะคุย
กับเจ้านายไม่เร่งใช่ไหม”
128/559

ไม่ใช่เดาแต่มิสมินต์รู้ว่างานของเจ้านายทีโ่ รงงานต้องเร่ง เพราะว่า


ตอนนีใ้ กล้จะหน้าร้อนแล้ว กระเป๋าคอลเลกชันใหม่ใกล้จะออกแล้ว
ต่างหาก เจ้านายก็เลยต้อง คุมเข้มอยู่ทางโน้น
“ไม่ได้รีบเร่งอะไรหรอกค่ะมิสมินต์ เอาไว้ท่านมาเมื่อไรมุนค่อยคุย
ก็ได้ค่ะ”
“ให้ฉันโทร. ไปบอกไหม”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ไม่ได้รีบขนาดนั้น”
“ว่าแต่ยูจะไม่บอกฉันจริง ๆ หรือว่ามีเรื่องอะไร” มิสมินต์ยังคง
ติดใจ ละมุนมาศได้แต่ยิ้มตาหยีส่งให้ผู้จัดการ
“มุนก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าเรื่องอะไร”
“อ้าว”
“คือว่ามันบอกไม่ถูกน่ะค่ะ มุนก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก”
“งั้นก็กู๊ดไนต์”
“กู๊ดไนต์มิสมินต์ เจอกันพรุ่งนี้เย็นนะคะ”
มิสมินต์มองตามรถของลูกน้องที่เคลื่อนออกไปจากหลังโบสถ์ แล้ว
รถคันโตอีกคันก็เคลื่อนตามออกไปด้วยระยะที่ทิ้งห่างพอสมควร เห็นภาพ
นั้นแล้วก็อดที่จะคิดถึงผู้เป็นเจ้านายไม่ได้
129/559

ขนาดตัวเองไม่ได้มา ก็ยังให้ลูกน้องมาดูแลแทน มันชัดเจนขนาดนี้


เลยหรือ ไม่อยากจะเชื่อ แต่สิ่งที่ได้เห็นและรับรู้ ก็ทำให้ไม่สามารถที่จะคิด
เป็นอื่นได้เลย หัวใจหนุ่ม ๆ สมัยนี้ทำงานเร็วเหลือเกิน สาวแก่อย่าง
หล่อนตามไม่ค่อยจะทัน ว่าแต่เรื่องนีห้ ล่อนจะต้องรายงานคุณแม่กับคุณ
ยายเจ้านายหรือเปล่านะ เอาเป็นว่าถ้าท่านถามค่อยตอบละกัน
ละมุนมาศขับรถมาจอดตรงที่จอดรถหน้าคอนโดมิเนียม ทันใดนั้น
เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างตัวก็ดังขึ้น ทำเอาร่างบางสะดุ้ง แต่พอตั้ง
ตัวได้ก็คว้าโทรศัพท์มากดดูหมายเลข แต่แล้วก็ต้องแปลกใจ เพราะเบอร์ที่
ปรากฏหน้าจอไม่ คุ้นเคยเอาเสียเลย ด้วยความกลัว ละมุนมาศก็เลยรีบ
คว้าข้าวของลงจากรถ เมื่อล็อกรถแล้วก็แทบจะวิ่งขึ้นห้อง และแล้วก็ต้อง
ตกใจเมื่อเห็นรถคันโตคันเดิมที่ต้องสงสัยจอดอยู่ไกล ๆ
มาได้อย่างไร ทำไมหล่อนไม่เห็น แล้วหล่อนจะรอดอีกนานแค่ไหน
ความกลัวแล่นปราดเข้าสู่หัวใจ สองเท้ารีบวิ่งขึ้นบันไดคอนโดมิเนียม
หัวใจเต้นแรง มือทั้งสองข้างสั่นสะท้านจนแทบจะจับราวบันไดไว้ไม่ได้ หัว
สมองคิดอะไรแทบไม่ออก เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่ง
ทำให้ความกลัวพุ่งเข้าสู่หัวใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร สุดท้ายละมุนมาศก็ถอด
แบตเตอรี่ออกจากโทรศัพท์มือถือ เป็นการยุติทุกอย่าง
หลังจากรับฟีนิกซ์ทหี่ ้องของมิสซิสลี ละมุนมาศก็แทบจะพาคน
นอนหลับบนหลังวิ่งกลับห้อง ลำพังตัวหล่อนคนเดียวก็ไม่ได้กลัว เท่ากับ
130/559

กลัวว่าคนตัวเล็กในอ้อมแขนที่กำลังหลับสนิทตอนนี้จะถูกทำร้ายไปด้วย
เจ็บใจจนนํ้าตาแทบไหล เมื่อคิดถึงความร้ายกาจของเขา ‘เจ้านายคนใหม่’
เขาคิดจะเอาหล่อนถึงตายเชียวหรือ แค่หยิกเขาครั้งเดียว และเขาก็
จูบหล่อนตั้งสองครั้งเป็นการเอาคืนแล้ว ยังให้คนตามมาจะทำร้ายกันอีก
โหดร้ายผิดมนุษย์ จริง ๆ
เมื่อเข้าห้อง ปิดล็อกประตูแน่นหนาแล้ว ละมุนมาศก็ส่งคนตัวเล็ก
เข้านอน และจัดการกับตัวเอง ในขณะทีห่ ัวสมองก็ยังไม่ว่างเว้นจาก
เรื่องราวที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป
ร่างบางพลิกตัวไปมาบนเตียงนอน ไม่สามารถทีจ่ ะหลับตาลงได้ หัว
สมองน้อย ๆ เต็มไปด้วยความคิดต่าง ๆ นานาในทางร้าย ๆ และ
สยดสยองน่ากลัวทั้งสิ้น นึกโกรธคนที่เป็นต้นเรื่องที่ทำให้ชีวิตของหล่อน
ต้องยุ่งยาก มีแต่ความวิตกกังวลในหัวใจ ชีวิตที่เคยเรียบง่ายมีความสุข
ตามประสา เปลี่ยนไปเป็นว้าวุ่นระคนหวาดกลัว ไร้ความสุขอย่างสิ้นเชิง
ตั้งแต่มาเจอ...เขา...ผู้ชายร้ายกาจ
แต่ก่อนแต่ไรละมุนมาศไม่เคยหวาดกลัวอะไรทั้งสิ้น เพราะหล่อน
ดำรงชีวิตอยูใ่ นความไม่ประมาท และไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่
ล่อแหลมหรือว่าผิดกฎหมายใด ๆ แต่ครั้งนีใ้ หญ่หลวงนัก ที่หล่อน
อาจหาญทำร้าย มาเฟีย ที่เห็นชีวิตของคนอื่น ไร้ค่าเป็นแค่ผักปลา
แล้วชีวิตของหล่อนจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่อยากจะคิด
131/559

คิดแล้วคิดอีกจนรู้สึกปวดหัว จนต้องค้นหายาแก้ปวดหัวในลิ้นชัก
โต๊ะข้าง หัวเตียงออกมาทาน นึกอยากจะร้องไห้ แต่ก็ไม่มนี ํ้าตา มันอัด
แน่นอยู่ในอกจนหนักไปหมด ละมุนมาศได้แต่ปลอบตัวเอง
หล่อนต้องเข้มแข็ง ทุกปัญหามีทางออก หล่อนต้องออกไปจาก
ปัญหานี้ให้ได้
หางานใหม่ ย้ายที่อยู่ใหม่ แต่การย้ายที่อยู่ใหม่ก็ใช่ว่าง่าย ๆ ต้อง
ขายคอนโดมิเนียมหลังนี้แล้วหาหลังใหม่ แต่จะไปหาที่ไหนได้ทัน
คอนโดมิเนียมตอนนี้ ราคาก็ตํ่าจนหลายรายต้องขายขาดทุน แล้วหล่อนจะ
เอาเงินที่ไหนมาจ่ายส่วนต่างที่ขาดทุน ส่วนงานก็ใช่ว่าจะหาได้ง่าย ๆ ใน
ภาวะเศรษฐกิจที่ตกตํ่ายํ่าแย่ ท่ามกลางจำนวนคนตกงานมากมาย แล้ว
หล่อนจะทำอย่างไรดี
ถ้าตัวคนเดียว ละมุนมาศก็คิดถึงการกลับไปเริ่มต้นใหม่ที่เมืองไทย
ถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่คุ้นเคยนัก แต่กย็ ังดีกว่าอยู่เป็นเป้าหมายให้ใครบาง
คนทำร้ายที่นี่
แต่ละมุนมาศก็ทำไม่ได้ เพราะมันคงไม่เหมาะกับฟีนิกซ์ ฟีนิกซ์เกิด
ที่นี่ คนตัวเล็กของหล่อนก็ควรทีจ่ ะอยูป่ ระเทศนี้ ประเทศที่มีทุกอย่าง
เพียบพร้อม
แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นแล้ว หล่อนควรจะทำอย่างไรดี คิดไม่ตก
ขอโทษฟี... มามี้ขอโทษ
132/559

ร่างที่เคยอวบอิ่มตอนนี้ผ่ายผอมลง ใบหน้าที่เคยแจ่มใสแล
เศร้าหมอง ดำคลํ้า ราวกับคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ในชุดผ้าขนหนู
กระโจมอกเพิ่งเดินออกมาจากห้องนํ้า เหลือบตามองโทรศัพท์มือถือทีถ่ ูก
โยนลงบนที่นอนเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาแล้วก็อดที่จะค้อนให้ไม่ได้ นึก
โมโหในใจเมื่อคิดว่านางพยายามโทรศัพท์หาลูกสาว แต่ลูกสาวกลับไม่
ยอมรับสาย โทร. ไปหลายครั้งก็ยังเงียบสนิท จนโมโหจึงโยนโทรศัพท์ทิ้ง
อย่างไม่ไยดี
แต่พอคิดอีกทีความโมโหก็ลดลง เมื่อคิดได้ว่าที่ลูกสาวไม่รับสาย ก็
อาจจะเป็นเพราะเบอร์ไม่คุ้นเลยไม่กล้ารับ
นานแค่ไหนแล้วนะที่นางไม่เคยได้รับการติดต่อจากลูกสาว ไม่เคย
สนใจไยดี นานแค่ไหนแล้วนะที่นางไม่เคยโทร. ไปหา บอกข่าวความเป็น
ไปของตัวเองและไถ่ถามข่าวคราวของลูก
ก็ไม่แปลกทีล่ ูกไม่รับสายของนาง เพราะคงไม่คิดว่าแม่จะโทร. หาใน
เวลาดึกดื่นเช่นนี้
คุณละมุดบอกกับตัวเองว่า
ค่อยหาเวลาโทร. ไปใหม่ หรือไม่ก็ไปหาที่ห้องพักเลยก็ได้
วูบหนึ่งทีค่ ิดละอายใจต่อการกระทำของตัวเอง เวลาไม่มีความทุกข์
ไม่เคยเลยสักครั้งที่นางจะคิดติดต่อไปหาลูกสาว แต่พอเวลาทุกข์ หลาย
ครั้งทีน่ างจับโทรศัพท์ขึ้นมากดหา แต่กดไปได้ครึ่งทางก็ต้องกดทิ้ง
133/559

เนื่องจากไม่อยากรบกวน แต่ครั้งนี้สุด ๆ แล้วจริง ๆ ถ้าไม่พึ่งพาลูก ก็ไม่


รู้จะพึ่งพาใคร บัตรเครดิตทีม่ ีก็กดเงินสดมาใช้ดอกเบี้ยท่วมท้น ทบต้นทบ
ดอก จนทุกวันนีก้ ็มปี ัญญาจ่ายแค่ยอดตํ่าสุดต่อเดือนทีเ่ ขากำหนดเท่านั้น
ต้นเรือนหมื่น ดอกอีกไม่รู้เท่าไรที่ทบแล้วทบอีกอยู่ตรงนั้น
เมื่อหมดหนทาง เพื่อนฝูงก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากหยิบยืม เพราะหนี้เก่า
ยังไม่ได้ใช้ ไปยืมใหม่อีกเพื่อนก็คงจะไม่ให้ยืม คิดแล้วก็เศร้าในหัวใจ
กว่าจะหลับตาลงได้ในคํ่าคืนนั้นเวลาก็ผ่านไปแล้วหลายชั่วโมง คุณละมุด
ได้แต่หวังว่า
ตื่นขึ้นมาวันใหม่จะมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นกับชีวิตบ้าง
เสียงกริ่งหน้าบ้านในตอนเช้า ทำให้คุณยายกลีบบัวทีก่ ำลัง
รับประทานอาหารเช้าหันไปยิ้มกับวัน พร้อมกับบอกว่า
“มาแล้วเหลนฉัน” สิ้นเสียงของคุณยาย คนตัวเล็กกับผูเ้ ป็นบิดาก็
เปิดประตูหน้าบ้านเข้ามา คนตัวเล็กวิ่งเข้ามากอดทักทายสวัสดีอย่างร่าเริง
“สวัสดีค่ะคุณทวด/ไฮ วัน/สวัสดีครับคุณยาย/ไฮ วัน”
คารีโนกอดและจูบแก้มคุณยาย ทักทายด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะหันไป
รับการทักทายจากเบียน
“กินอะไรมาหรือยังลูก ตรัง เบียน”
“คารีนาทานอาหารเช้ากับมิสไอวีแล้วค่ะ” เสียงเล็ก ๆ รายงานแจ๋ว
ทีเดียว คุณทวดกลีบบัวพยักหน้ารับ
134/559

“ผมกับเบียนยังครับ คุณยายมีอะไรทานบ้างครับ”
“จะเอาอะไร ข้าวต้ม ปลาทอด กุนเชียงทอด ไข่เค็มก็มี หรือจะเอา
ซินนามอนโรลส์ (Cinnamon Rolls - เป็นขนมหวานที่พบบ่อยในทวีป
อเมริกาเหนือและยุโรปเหนือ ซินนามอนโรลประกอบด้วยแผ่นยีสต์ม้วน
และโรยส่วนผสมระหว่างอบเชยและน้ำตาล (และลูกเกดหรือ องุ่นสับใน
บางกรณี) เหนือชั้นเนยบาง ๆ เมื่อรีดแป้งเป็นแผ่น แล้วตัดเป็นส่วน ๆ
และอบ ซินนามอนโรลมักจะโรยด้วยน้ำตาลครีมโรยหน้าขนมบ่อย ๆ หรือ
เคลือบเงา) ยายอบไว้แล้ว แค่อุ่นเท่านั้น วันต้มกาแฟเพิ่มด้วย” ตอนท้าย
หันไปสั่งวัน
“อะไรก็ได้ครับ ยกมาได้เลย”
“ผมไปช่วยวันนะครับ” เบียนบอกพร้อมกับเข้าไปในครัว ปล่อยให้
เจ้านายได้คุยกับคุณยายตามลำพัง
“คารีนาไปช่วยด้วยค่ะ” ร่างเล็ก ๆ วิ่งตามไปในครัวอีกคน ไม่นาน
นักอาหารทั้งหลายก็เริ่มเรียงรายอยู่บนโต๊ะ
“งานการเป็นอย่างไรบ้าง”
“ที่โรงงานก็เริ่มคอลเลกชันหน้าร้อนแล้วครับ น่าจะส่งให้ลูกค้าได้
ภายในต้นเดือนมิถุนายนครับคุณยาย พอฤดูร้อนมาถึงสินค้าเราก็
วางตลาดแล้ว ส่วนที่โรงแรมก็เรื่อย ๆ ครับ ตอนนีอ้ ากาศยังเย็นอยู่ ก็มี
ลูกค้าบ้าง ที่เวียดเฮาส์ก็ปกติครับ”
135/559

“ก็ดจี ้ะ ทำงานหนัก พักบ้างนะ ยายเป็นห่วง สาว ๆ ห่างบ้างก็ดี จะ


ได้มเี วลาหลับนอนบ้าง อะ...นี่ไข่เค็ม ไม่เค็มมากหรอก กำลังดีทีเดียว”
คุณยายตักไข่เค็มใส่จานให้หลานชาย และก็หันไปส่งภาษาอังกฤษกับ
เบียน
“ตามสบายนะเบียน”
“ขอบคุณครับมิสซิสซอลตัน”
“ขอบคุณครับคุณยาย ไม่เค็มจริง ๆ ด้วย ผมทำงานอย่างเดียว
ตอนนีไ้ ม่มีเวลาอยู่กับสาว ๆ หรอกครับ ถ้าผมจะหาแม่ให้ลูก คุณยายว่า
สาวไทยเป็นอย่างไรบ้างครับ” คำถามของหลานชายทำให้คุณยายถึงกับเลิก
คิ้ว คิดถึงคนร่างบางอีกคนขึ้นมาทันที
ชักจะอย่างไรเสียแล้ว หลานชายพูดถึงสาวไทยครั้งแรกในชีวิตเลยก็
ว่าได้
“ไปสะดุดตาสาวไทยเข้าหรือไงจ๊ะ”
“ครับคุณยาย”
“แล้วเป็นไงบ้าง”
“ไม่ทราบครับ”
“อ้าว...แล้วมันอย่างไรกัน”
“ผมเข้าหาไม่ถูกครับ เขานิ่ง ๆ เงียบ ๆ”
136/559

“ถ้าชอบก็เข้าไปคุยกับเขาสิ เราเป็นผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเริ่มเข้าหา”
“ผมว่าจะชวนเขามาอยู่ด้วยกันที่บ้านเลยดีกว่า ง่ายดี” สิ้นเสียงคุย
เสียง เผียะก็ดังขึ้น
“คุณยายมาตีผมทำไมครับ” ถามทั้ง ๆ ที่รู้ว่าทำไมถึงถูกตี
“ผู้หญิงเขามีพ่อมีแม่ อยู่ ๆ จะไปชวนเขามาอยูด่ ้วยได้อย่างไรกันลูก
ระวังเถอะ จะโดนลูกหินปาหัวไม่รู้ตัว”
คำตอบของคุณยายกลีบบัวทำให้หลานชายหัวเราะเสียงดังก้อง
ทีเดียว
“แดดดี้หัวเราะอะไรคะ” เสียงภาษาไทยแปร่ง ๆ ของลูกสาวที่นั่งดู
โทรทัศน์อยู่ไม่ไกลดังขึ้น ทำให้คารีโนตาโตกับสิ่งที่ได้ยิน
“คารีนาพูดภาษาไทยได้เยอะขนาดนี้เลยหรือลูก”
“ค่ะ คารีนาพูดไทยกับคุณทวดและก็ฟีนิกซ์” ใบหน้างง ๆ ของ
หลานชายทำให้คุณยายกลีบบัวต้องอธิบายเพิ่มเติม
“เพื่อนของคารีนาน่ะ แม่เป็นคนไทยก็เลยพูดไทยได้ ยายพาไปเล่น
ด้วยกันก็เลยพูดไทยได้ และคารีนาก็ชอบพูด เวลาอยูก่ ับยายเขาก็พูดไทย
ตลอดเลยนะ”
“ดีครับ เก่งมากคารีนา แดดดี้ภูมิใจในตัวหนูมาก ๆ เลย”
“ขอบคุณค่ะแดดดี้”
137/559

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว คารีโนก็ขอตัวไปทำงาน โดยทิ้ง


ลูกสาวตัวน้อยเอาไว้กับคุณยาย
คล้อยหลังหลานชายไปแล้ว คุณยายกลีบบัวก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า
แสดงว่าหลานชายคิดจริงจังหรือ ถึงได้บอกว่าจะชวนมาอยู่บ้านด้วย
แถมพูดด้วยดวงตาแวววาวอีกต่างหาก ว่าแต่สาวไทยคนนี้เป็นใครกันหนอ
13
คุณยาย...หาข่าว

ในตอนสาย ๆ ของวันหยุดสุดสัปดาห์ ละมุนมาศก็ได้รับโทรศัพท์


จากคุณยาย กลีบบัว ว่าจะพาเหลนสาวตัวน้อยมาเล่นที่สนามเด็กเล่นที่
ประจำในช่วงบ่าย หล่อนก็รับปากคุณยายว่าจะพาฟีนิกซ์ไปเล่นด้วยกัน
เมื่อคนตัวเล็กรู้ว่าจะได้วิ่งเล่นกับเพื่อนรักก็ดใี จเป็นอย่างยิ่ง ละมุน
มาศบอกให้ทำอะไร บอกให้ช่วยอะไรก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
หลังจากทานอาหารกลางวันแล้ว ละมุนมาศก็พาฟีนิกซ์ไปเล่นที่
สนามเด็กเล่น โดยปล่อยให้ฟีนิกซ์วิ่งเล่นกับเด็กคนอื่น ๆ ที่เข้ามาเล่นใน
สนามเด็กเล่นแห่งนี้ กว่าชั่วโมง คุณยายกลีบบัว เด็กหญิงคารีนา และวัน
ผู้ติดตามก็เดินเข้ามาในสนามเด็กเล่น ร่างบางลุกจากที่นั่งตะโกนเรียกคน
ตัวเล็กที่กำลังขี่ม้าโยกอยู่คนเดียว
“ฟี...ฟี คุณยายกับคารีนามาค่ะ” ร่างเล็ก ๆ ในเสื้อแจ็กเกตสีม่วง
อ่อน กางเกงขายาวสีม่วมเข้ม รองเท้าผ้าใบสีเดียวกันรับรูแ้ ละรีบปีนลง
จากหลังม้าแล้วก็วิ่งหน้าตั้ง ผมที่ยาวกลางหลังปลิวสยายพร้อมรอยยิ้ม
เต็มใบหน้าไปหาเพื่อนเล่นที่คิดถึงทันที
139/559

“ไฮ คารีนา”
“ไฮ ฟี ยูมานานแล้วหรือ”
เด็กหญิงคารีนาในชุดสีเหลืองอ่อนตัวยาวคลุมสะโพก พร้อมกับเสื้อ
แจ็กเกตสีเดียวกันกับกางเกงขายาวสีเหลืองเข้ม ผ้าผูกผมสีเดียวกันกับ
รองเท้าเข้าชุดทักทายกลับอย่างยินดี
“อือ ทำไมยูมาช้าจัง ฉันรอตั้งนานจนเบื่อแล้ว เราไปเล่นกันเถอะ”
สองมือน้อย ๆ จูงกันกำลังจะวิ่ง
“ฟียังไม่ทักทายคุณยายกับวันเลยนะคะ” ละมุนมาศทักทายคุณยาย
กลีบบัวและวัน แล้วก็ต้องรีบท้วงคนตัวเล็กทีก่ ำลังจะจูงมือเพื่อนไปวิ่ง
เล่นเอาไว้ ฟีนิกซ์ก็เลยต้องปล่อยมือเพื่อนตัวเล็ก เด็กหญิงทั้งสองก็เลย
ต้องหันกลับมาทักทายทุก ๆ คน พร้อมกับคำพูดไร้เดียงสาที่ทำให้คุณ
ยายกลีบบัวอดที่จะหัวเราะไม่ได้
“ขอโทษค่ะ ฟีดีใจที่เห็นคารีนาก็เลยลืม สวัสดีค่ะคุณยาย ไฮ วัน
ว่าแต่วันนี้คุณยายสวยจังเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ยายเข้าใจ และก็ขอบใจมาก แหม เข้าใจยอคนแก่นะ
จ๊ะ” คุณยายหัวเราะเบา ๆ
“คุณยายสวยจริง ๆ นะคะ” เสียงเล็ก ๆ ยืนยันทำให้คุณยาย
กลีบบัวต้องตอบกลับว่า
140/559

“ขอบใจจ้า หนูฟีก็สวยเหมือนกัน ชุดสีม่วงที่ใส่วันนี้ยายว่าเข้ากับที่


คาดผมอันนี้มาก ๆ เลย”
ที่คาดผมสีชมพูที่ประดับด้วยดอกไม้สีชมพูอมม่วงในมือของคุณยาย
กลีบบัว ทำให้คนทีเ่ ห็นถึงกับยิ้มกว้างทีเดียว คุณยายกลีบบัวก็เลยคาดที่
คาดผมลงไปบนศีรษะเล็ก ๆ ตรงหน้าให้ พร้อมกับลูบผมนุ่มสลวยอย่าง
เอ็นดู
“เห็นไหม ยายบอกแล้วว่ามันต้องเหมาะกับหนูฟี สวยเชียว ยายให้
จ้ะ”
“ขอบคุณค่ะคุณยาย แล้วของคารีนาล่ะคะ”
“ด้วยความยินดีจ้ะ คารีนาได้สเี หลืองทิ้งไว้ในรถมั้ง ใช่ไหมคารีนา”
ตอนท้ายหันไปถามเหลนสาว เพราะไม่เห็นมีทคี่ าดผมอยู่บนศีรษะเล็ก ๆ
นั่น และเหลนสาวพยักหน้าให้เป็นคำตอบ
“วันนี้ยายก็มีของกินเล่นมาให้หนูฟีด้วยนะ”
คุณยายกลีบบัวยื่นมือไปรับถุงจากวันก่อนที่จะยื่นส่งให้ ฟีนิกซ์เปิด
ยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้นดีใจ ดวงตาสีฟ้าอมเขียวคูน่ ั้นไหวระริก เงยหน้ามอง
ละมุนมาศพยักหน้าส่งให้เป็นเชิงอนุญาตให้รับของได้ เพราะกฎที่เข้มงวด
ที่สุดซึ่งคนตัวเล็กจะต้องปฏิบัติตามก็คือ
ไม่รับของจากใครไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น จนกว่าจะได้รับอนุญาต
เท่านั้น
141/559

เมื่อได้รับอนุญาต มือเล็กก็คว้าถุงตรงหน้าแล้วเข้าไปกอดร่างบางของ
คุณยายเป็นการขอบคุณ พอผละออกมาก็เปิดถุงดู และใบหน้าเล็ก ๆ ก็
ยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าข้างในถุงนั้นเป็นอะไร
“ช็อกโกแลตชิฟคุกกี้ของชอบของฟีเลย ขอบคุณค่ะคุณยาย”
มือเล็ก ๆ ยกขึ้นไหว้ขอบคุณอีกครั้ง
“ด้วยความยินดีจ้ะ คารีนาก็ช่วยยายทำด้วยนะ เสร็จแล้วก็มานี่ ถึง
ได้มาช้าไงจ๊ะ จับดูสิยังอุ่น ๆ อยู่เลย”
เมื่อได้ยินคุณยายบอกอย่างนั้น ฟีนิกซ์ก็หันไปทางเพื่อนสนิททันที
“จริงหรือคารีนา ขอบคุณมากนะ ต้องอร่อยมาก ๆ เลย กลิ่นหอม
จัง นี่ฟีก็มขี องให้คารีนากับคุณยายและก็วัน ฟีช่วยมามี้ห่อด้วยนะ” ว่า
แล้วเจ้าตัวก็คว้าถุงที่วางอยู่บนเก้าอี้ยื่นส่งให้เพื่อนตัวเล็ก
“อะไรหรือฟี”
“เฟรชโรลส์ (Fresh Rolls – โรลผักสด เมนูอาหารเวียดนามนี้
สามารถเรียกได้หลายชื่อไม่ว่าจะเป็น Fresh Spring Rolls หรือไม่ก็
Summer Rolls ส่วนชื่อภาษาเวียดนามคือ Goi cuon) ค่อยกลับไป
กินที่บ้านนะ ให้คุณยายถือไว้ก่อนก็ได้ ตอนนี้เราไปเล่นกันเถอะ มามี้
ฟีกับคารีนาไปเล่นก่อนนะคะ”
ละมุนมาศพยักหน้าให้ พร้อมกับยื่นมือไปรับถุงจากเด็ก ๆ
142/559

มือเล็ก ๆ สองมือก็จับจูงกันวิ่งอย่างร่าเริงไปเล่นยังเครื่องเล่นที่
ตั้งอยูร่ ายรอบนั้น จากตรงนั้นไปตรงนี้อย่างตื่นเต้น พร้อมกับเสียงพูดคุย
โหวกเหวก
“เชิญคุณยายนั่งก่อนเถอะค่ะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ยายเพิ่งลงมาจากรถ ขอยืนยืดแข้งยืดขาหน่อยดีกว่า
อ๊ะ... อันนี้ข้าวต้มมัด ยายทำเอง ไม่รู้จะอร่อยเท่ากับที่เขาขายหรือเปล่า
ลองชิมดูนะจ๊ะ หนูมุน” คุณยายยื่นอีกถุงให้
“อุ๊ย ขอบพระคุณค่ะคุณยาย ทีหลังไม่ต้องลำบากนะคะ”
“ไม่ได้ลำบากหรือว่าเหนื่อยอะไรหรอก คนแก่อยูบ่ ้านเฉย ๆ ไม่รจู้ ะ
ทำอะไร พอดีมีข้าวเหนียวซื้อมาตั้งนานแล้วกินไม่หมดสักที ยายก็เลยชวน
วันทำข้าวต้มมัดกัน ต้องขอโทษด้วยที่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไม่ได้มา เพราะว่า
ต้องร่วมงานวันเกิดของมิสซิส แซมมี แม่บ้านที่บ้านของลูกสาว คารีนาก็
ผิดหวัง วันนี้ก็เลยคิดว่าต้องมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นคารีนางอนยายเป็นแน่”
“แต่ที่มาช้าก็เพราะว่ายายเปรย ๆ ว่าจะอบคุกกี้ พอคารีนาได้ยินก็
บอกว่าให้อบเลย จะได้เอาไปแบ่งให้ฟีนิกซ์กินด้วย พออบแล้วก็เลยต้อง
อบให้หมดกล่อง เพราะนำออกจากช่องแข็งแล้ว ก็เลยทำให้มาช้า คิดว่าถ้า
มาที่นแี่ ล้วไม่เจอหนู ยายก็ว่าจะพาไปที่คอนโดมิเนียม โชคดีได้เจอหนูกับ
หนูฟีที่นี่ ว่าแต่เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ สบายดี หรือเปล่า งานการยุ่งไหม ออก
เดินกันดีไหม จะได้ยืดแข้งยืดขา วันดูเด็ก ๆ นะ” คุณยายกลีบบัวหันไป
สั่งวัน ก่อนที่จะออกเดิน
143/559

“ฟีก็บอกว่าเหงา เพราะเล่นคนเดียว แต่ก็เล่นได้ค่ะ”


“พอดีลูกสาวยายไม่อยู่ไปเยี่ยมพี่ชายของสามีที่บ้านฟาร์มนอกเมือง
วันเกิดคนในบ้านยายก็เลยต้องจัดการให้ ยายขอโทษด้วย”
“โอ้ ไม่เป็นไรค่ะ คุณยายไม่ต้องขอโทษมุนหรอกค่ะ ไม่ใช่ความผิด
ของ คุณยายสักหน่อยนี่คะ”
ละมุนมาศเดินตามคุณยายกลีบบัวรอบ ๆ สนามเด็กเล่นเป็นการ
ออกกำลังกาย พร้อมกับเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้คุณยายฟัง รวมถึงเรื่องเจ้านาย
คนใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาดูแลร้าน
“งานประจำของมุนก็ยุ่งพอประมาณค่ะ มันขึ้นอยู่กับว่ามีคนไข้มาก
น้อยแค่ไหน บางช่วงคนไข้ก็เยอะมาก ๆ บางช่วงก็ไม่เยอะเท่าไร ก็แล้วแต่
ค่ะ ส่วนงานพิเศษที่เวียดเฮาสก็ได้เจ้านายคนใหม่ ยังหนุ่มอยูเ่ ลยค่ะ มิ
สมินต์บอกว่า นโยบายทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม มุนก็ยังได้รับความปรานี
เหมือนเดิม ส่วนมิสมินต์ก็ยังน่ารักกับมุนไม่เปลี่ยนแปลง ดูแลเอาใจใส่มุ
นเสมอ มุนคิดว่าตัวเองโชคดีมาก ๆ ที่ได้ทำงานที่นั่น”
คุณยายกลีบบัวหันไปมองใบหน้าของคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้แก้มนวล
ออกสีแดงระเรื่อ เนื่องจากความเย็นของอากาศในเดือนเมษายน แต่ก็อดที่
จะถามไม่ได้ว่า
“แล้วเจ้านายคนใหม่เป็นอย่างไรบ้าง ใจดีเหมือนกับเจ้านายคนเก่าที่
หนูมุนเคยเล่าให้ยายฟังหรือเปล่าจ๊ะ”
144/559

คำถามนั้นทำเอาหน้าที่เป็นสีระเรื่อแดงเถือกขึ้นทันที คุณยายได้แต่
ชำเลืองมองอย่างไม่เข้าใจ
ถามถึงเจ้านายคนใหม่ แต่คนถูกถามหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาทันที
“เขายังเด็กอยู่เลยค่ะคุณยาย น่าจะประมาณสักสามสิบมั้งคะ มุนเดา
เอาค่ะ หน้าตาออกลูกครึ่งหรือว่าพวกผสมทั่วไป ดูดีทีเดียว วันไหนที่
เจ้านายเข้าเวียดเฮาส์ก็ทำเอาสาว ๆ ทำงานกันอย่างมีชีวิตชีวา
กระชุ่มกระชวยกันขึ้นเยอะ ก็เป็นเรื่องธรรมดา เหมือนเป็นอาหารตาอาหาร
ใจของสาว ๆ แต่เรื่องใจดีหรือไม่นี่ มุนบอกไม่ได้จริง ๆ เพราะว่ามุนเพิ่ง
จะได้เจอเจ้านายครั้งนี้เป็นครั้งที่สองเองค่ะ” ละมุนมาศตอบกลาง ๆ
“แล้วหนูคิดว่าเจ้านายคนใหม่เป็นอย่างไรในสายตาสาว ๆ อย่างหนู”
เสียงถอนหายใจจากคนตรงหน้า ทำให้คุณยายต้องเลิกคิ้วรอคำตอบ
เมื่อสักครูห่ น้าแดง ตอนนี้ถอนหายใจ หลานชายของท่านทำให้
ลูกน้องหนักใจขนาดนี้เลยหรืออย่างไรกัน
“ตอบยากจังเลยค่ะ เอาแบบทั่วไปสำหรับคนที่มองจากภายนอกก็
แล้วกัน นะคะ ตัวสูงใหญ่ หน้าตาแบบลูกผสมก็ดดู ี ท่าทางสง่าผ่าเผย
บุคลิกเป็นผู้นำ ตอนเห็นเขาครั้งแรกที่มาทานอาหารกับท่านไนฮัวและ
ภรรยา มุนคิดว่าเขาเหมือนมาเฟียมากกว่า”
คำพูดนั้นทำให้คุณยายหลุดหัวเราะออกมา ละมุนมาศอดที่จะสงสัย
ไม่ได้
145/559

“คุณยายหัวเราะทำไมคะ”
“หัวเราะตรงที่หนูบอกว่าท่าทางเหมือนมาเฟีย”
“จริง ๆ นะคะคุณยาย เขาเหมือนมาเฟียจริง ๆ ค่ะ ตัวก็ใหญ่โตอยู่
แล้ว หน้าตายังถมึงทึงด้วยค่ะ ทีนี้เอาแบบจริงใจตามที่ความรู้สึกของมุน
มุนจะบอกคุณยายตรง ๆ นะคะ มุนไม่ค่อยชอบเขาเท่าไรหรอกค่ะ
เจ้านายคนใหม่ชีกอ นิสัยไม่ดี เอาแต่ใจตัวเองจะตาย บ้าอำนาจ
ฉวยโอกาส คอยดูนะ ครั้งต่อไปถ้าเขาทำอย่างนั้นกับมุนอีก จะกัดให้ลิ้น
ขาดเลย...อุ๊บ” ความโมโหผสมกับความโกรธที่กักเก็บเอาไว้แต่เพียงลำพัง
ทำให้ละมุนมาศระบายออกมาโดยไม่ทันได้คิด และก็อดที่จะหน้าแดงไม่
ได้ ยกมือปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน เมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไป
คุณยายกลีบบัวอมยิ้มน้อย ๆ แต่ในสมองคิดว่า
เจ้าหลานชายตัวดีไปทำอะไรหญิงสาวน่ารักคนนี้กันแน่นะ ถึงได้โดน
หมายหัวเอาคืนซะขนาดนี้ ไปทำนิสัยไม่ดี เอาแต่ใจ ชีกอ บ้าอำนาจ
อย่างไรกันแน่ นีข่ นาดเพิ่งเจอกันแค่สองครั้งเองนะ เจ้าหลานชายทำอะไร
คนน่ารักตรงหน้านีก้ ันหนอ ไวไฟจริง ๆ เอ๊ะ...หรือว่าสาวไทยที่หลานชาย
พูดถึงจะเป็นคนนี้ หรือจะจริง
แต่จะโทษหลานชายคนเดียวก็ไม่ได้ เพราะว่าคนตรงหน้านี้ก็น่ารัก
เหลือเกิน ใครที่มองไม่เห็นความน่ารักไร้เดียงสา ก็แสดงว่าสายตาคง
ไม่ค่อยจะดีนั่นเอง มันชักจะยังไงเสียแล้ว อย่างนี้มีลุ้นสินะ
146/559

คุณยายกลีบบัวชำเลืองหางตามองคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ โหนกแก้มยัง
เป็นสีแดงสุกปลั่งแล้ว ก็อดที่จะถามออกไปไม่ได้ว่า
“มีอะไรอีกไหมจ๊ะ”
“ไม่...ไม่มีอะไร ไม่มอี ะไรจริง ๆ ค่ะคุณยาย และก็หวังว่าเขาจะไม่
เข้ามาที่ห้องอาหารบ่อย ๆ มุนไม่อยากเจอหน้าเขาเท่าไร มิสมินต์บอกว่า
เขามีธุรกิจที่ต้องดูแลหลายอย่างค่ะ”
คุณยายพยักหน้ารับ ทั้ง ๆ ที่นึกสงสัยกับท่าทางละลํ่าละลักปฏิเสธ
เป็นพัลวันนั่น แต่ก็ไม่กล้าที่จะบังคับถาม เพราะว่าไม่อยากให้อีกคนรู้สึก
อาย เพราะต่อไปอาจจะไม่กล้าเล่าอะไรให้ฟังอีก
ไปบังคับถามหลานชายตัวร้ายน่าจะได้เรื่องมากกว่า หรืออาจจะไม่ได้
เรื่องอะไรเลย เพราะรายนั้นไม่ค่อยจะเปิดเผยเรื่องราวของสาว ๆ ให้ฟัง
สักเท่าไหร่
“ว่าแต่วันนี้หนูมุนไปทำงานที่ร้านหรือเปล่าจ๊ะ”
“ทำค่ะ มุนต้องขอบพระคุณคุณยายมาก ๆ เลยนะคะ ที่ช่วยเหลือ
ให้ได้งานทำ”
มือเหี่ยวย่นยื่นมาจับมือเรียวเล็กของคนที่เดินข้าง ๆ เอาไว้
“พอแล้วจ้ะ เลิกขอบคุณได้แล้ว หนูมุนขอบคุณยายมาตั้งแต่ได้งาน
ทำที่ เวียดเฮาส์ มันเพียงพอแล้วจ้ะ อย่าถือว่ามันเป็นบุญเป็นคุณอะไรเลย
ช่วยอะไรได้ก็ช่วย ๆ กันไปนะ เราคนไทยด้วยกัน”
147/559

“ไม่ค่ะ คุณยายมีบุญคุณกับมุนกับฟี ถ้าไม่ได้ทำงานพิเศษที่นั่น มุน


ก็คงจะลำบากมากกว่านี้ งานที่ห้องอาหารนั้นได้เงินดี ผู้จัดการก็น่ารัก เข้า
อกเข้าใจมุนมาก ๆ เลยค่ะ ถ้าไม่ได้ทำงานที่นั่น มุนกับฟีคงจะไม่มชี ีวิตที่
ลงตัวอย่างทุกวันนี้เป็นแน่ โดยเฉพาะมุน ไหนจะต้องดูแลฟี ไหนจะ
ต้องหาเงินด้วย แต่พอได้ทำงานทีร่ ้านนี้ มุนก็มเี งินสดไม่ขาดมือ มุน
ใช้จ่ายเป็นค่าอาหารและค่านั่นค่านี่จิปาถะในบ้าน มุนก็พยายามใช้จ่ายแต่
ในสิ่งทีจ่ ำเป็น ไม่ฟุ่มเฟือย ก็อยู่ได้อย่างมีความสุข และก็ยังมีเวลาให้ฟี
อย่างทีไ่ ม่เคยคิดมาก่อน มีเงินเหลือเก็บเอาไว้ให้ฟเี รียนหนังสือตอนโตอีก
ด้วย มุนต้อง เตรียมเก็บตั้งแต่ตอนนีเ้ ลยนะคะคุณยาย เก็บไปทีละนิดละ
หน่อยค่ะ”
“ดีแล้วจ้ะ ยายเห็นด้วย”
“งั้นวันนี้มนุ ต้องกลับแล้วนะคะคุณยาย มุนจะได้เตรียมตัวไปทำงาน
พรุ่งนีถ้ ึงจะได้อยูบ่ ้านทั้งวัน ตอนบ่าย ๆ มุนก็จะพาฟีมาเล่นที่นี่อีก ถ้าคุณ
ยายไม่มีธุระอะไรพรุ่งนี้บ่าย ๆ พาคารีนามาเล่นกับฟีอีกก็ได้นะคะ ส่วนวัน
จันทร์ฟีก็หยุดเพราะว่าเป็นวันทำงานของครูค่ะ”
“อ้าวเหรอ ไม่รู้ว่าคารีนาได้หยุดหรือเปล่า ยายก็ไม่ได้ถามด้วย แล้ว
หนูฟีหยุดอย่างนี้จะอยู่กับใครจ๊ะ”
“มุนให้ฟีอยู่กับมิสซิสลีค่ะ วันหยุดทั้งทีไม่อยากให้เขาต้องไปอยูท่ ี่
เดยแคร์น่ะค่ะ ก็เลยให้อยู่บ้านและให้มิสซิสลีดูให้ค่ะ”
148/559

“อืม ก็ดีจ้ะ พรุ่งนี้ยายไม่มอี ะไรทำหรอก แก่ปูนนีแ้ ล้วลูกหลานไม่ให้


ทำอะไร เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เจอกันจ้ะหนูมุน ส่วนวันจันทร์หากยายมาเดินเล่น
ที่นี่ก็คงจะได้เจอ หนูฟีกับมิสซิสลีก็เป็นได้ เอาไว้ยายจะโทร. หาหนูฟีเอง
ได้ไหมจ๊ะ”
“ได้ค่ะ คุณยายโทร. เข้าเบอร์ที่ห้องได้เลยค่ะ ฟีคงจะรบเร้ามิสซิสลี
พามาเล่นที่นี่ ถ้าคุณยายโทร. มาชวน และถ้าฟีรวู้ ่าพรุ่งนีจ้ ะได้เล่นกับคารี
นาอีกต้องดีใจมาก แน่ ๆ เลย งั้นวันนี้มุนลาเลยนะคะ สวัสดีค่ะ” ละมุน
มาศยกมือไหว้ พร้อมกับกอดลาร่างบางของคุณยาย
“สวัสดีจ้ะ”
คุณยายกลีบบัวมองตามร่างโปร่งบางของหญิงสาวที่ท่านถูกชะตา
ร่างบางเดินไปหาเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองที่กำลังเล่นกันอยู่ ก้มลงพูดด้วย
แล้วเด็กหญิงฟีนิกซ์ก็จูงมือเพื่อนตัวเล็กวิ่งอย่างรวดเร็วตรงมาทางท่าน
ก่อนที่จะยกมือไหว้อย่างน่ารัก
“สวัสดีค่ะคุณยาย ฟีกลับบ้านแล้วนะคะ และก็ขอบคุณสำหรับคุกกี้
ด้วยค่ะ”
“จ้า โชคดีจ้ะฟี แล้วเจอกัน เป็นเด็กดีของมามี้นะจ๊ะ”
“ค่ะ” รับคำแล้วร่างเล็ก ๆ ก็หันไปทางเพื่อนเล่น กอดร่างของอีกคน
รวบแน่น
149/559

“แล้วเจอกันนะคารีนา อย่าลืมขอให้คุณทวดของยูพามาเล่นด้วยกัน
อีกนะ และก็ขอบคุณสำหรับคุกกี้ อย่าลืมกินเฟรชโรลล่ะ” พออีกฝ่าย
พยักหน้ารับ เด็กหญิงฟีนิกซ์ก็วิ่งผละจากไป ทิ้งไว้แต่รอยยิ้มบนใบหน้า
ของคนที่มองตามหลัง
น่ารักจริงทั้งสองคน ดอกไม้ทบี่ ริสุทธิ์ เจ้าหลานชายไปแตะต้องกลีบ
ดอกโตที่กำลังเบ่งบานให้หม่นหมองเสียแล้ว...หรือว่าอย่างไร คนนี้
หรือเปล่าน้า ที่หลานชายบอกว่าจะชวนไปอยู่บ้านด้วยกัน
“คารีนาอยากเล่นต่อหรือเปล่าจ๊ะหือ” คุณยายกลีบบัวก้มลงถาม
เหลนตัวน้อย
“ไม่อยากเล่นแล้วค่ะ ไม่มีฟไี ม่สนุก ว่าแต่ทำไมฟีรีบกลับจังเลยคะ
คุณทวด” ใบหน้าน้อย ๆ แก้มแดงระเรื่อ ดวงตาสีฟ้าปนนํ้าตาลเงยขึ้น
ถามอย่างสงสัย
“มามี้ของฟีต้องไปทำงานจ้ะ”
“ทำไมต้องทำงานคะ”
“คนที่โตแล้วต้องทำงานจ้ะ หาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเหมือนกับแดดดี้
ของหนูไงจ๊ะ แน่ใจนะว่าหนูไม่อยากเล่นต่อแล้ว งั้นเรากลับบ้านกันดีไหม
ไปช่วยทวดทำขนมเก็บไว้อีก”
“ก็ได้ค่ะ แล้วเมื่อไหร่คารีนาจะได้เล่นกับฟีอีกคะ”
“พรุ่งนี้ดีไหมจ๊ะ”
150/559

“พรุ่งนี้ พรุ่งนี้จริง ๆ หรือคะ เย้ ๆ ดีใจจังเลย คุณทวดไม่ได้พูด


เล่นใช่ไหมคะ”
เมื่อคุณทวดส่ายศีรษะปฏิเสธ เหลนสาวตัวน้อยก็กระโดดตัวลอย
“เยส ๆ ๆ” อย่างดีใจ
ก่อนจะออกจากห้องพักไปทำงานที่เวียดเฮาส์ ละมุนมาศก็สั่ง
เป็นมั่นเป็นเหมาะกับฟีนิกซ์ว่าให้อยู่กับมิสซิสลีตลอดเวลา และก็กำชับมิส
ซิสลีว่าอย่าให้ฟีนิกซ์ห่างสายตาเป็นอันขาด เป็นไปได้ที่จะให้เล่นอยูแ่ ต่ใน
ห้องพัก ซึ่งละมุนมาศให้เหตุผลว่า
“มีข่าวว่าช่วงนี้เด็กถูกลักพาตัวหลายคน”
เท่านั้นเองมิสซิสลีก็รับปากอย่างแข็งขัน ในขณะที่คนตัวเล็กบอกว่า
“มามีไ้ ม่ต้องห่วงค่ะ ฟีจะอยู่แต่ในห้องของมิสซิสลี จะไม่ไปไหน จะ
ไม่เปิดประตูให้คนแปลกหน้าด้วย แต่ถ้าคนร้ายจะเข้ามาในห้อง ฟีกจ็ ะสู้
และก็ป้องปกมิสซิสลีด้วยค่ะ”
คำพูดไร้เดียงสาจากเด็กหญิงตัวน้อย ทำเอามิสซิสลีถึงกับนํ้าตาซึม
คว้าร่างเล็กเข้ามากอดพึมพำขอบคุณ
“มามี้ขับรถดี ๆ นะคะ ฟีรักมามี้ค่ะ”
คนตัวเล็กรักหล่อนขนาดนี้ เป็นห่วงหล่อนขนาดนี้ แล้วหล่อนจะ
ปล่อยให้เหตุการณ์ร้าย ๆ เกิดขึ้นกับคนตัวเล็กได้อย่างไรกัน คนใจร้าย
ตายเป็นตาย หล่อนจะปกป้องคนตัวเล็กด้วยชีวิตเลยทีเดียว
151/559

ละมุนมาศไปทำงานด้วยความมั่นใจว่ามิสซิสลีจะดูแลฟีนิกซ์ได้เป็น
อย่างดี แต่สิ่งทีท่ ำให้หงุดหงิดก็คือ หล่อนรอคอยที่จะคุยกับเจ้านาย แต่
เป็นอีกวันที่ละมุนมาศรอคอย ไม่มีแม้แต่เงาของเจ้านายให้เห็น
ละมุนมาศเองก็ไม่กล้าทีจ่ ะถามมิสมินต์ เกรงว่ามิสมินต์จะสงสัย จึง
ได้แต่ทำงานด้วยความกระวนกระวาย และก็เลิกงานกลับบ้านด้วยความ
วุ่นวายใจอีกวัน
14
ความ...จริง

“ไฮ แกรนด์มา ไฮ แกรนด์ฟา” เสียงทักทายของเหลนสาวตัวน้อย


เสียงดังทีเดียว ทำให้คุณยายกลีบบัวที่กำลังเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ในตอน
สาย ๆ อยู่ทหี่ ลังบ้านกับวันต้องหันไปมอง แล้วก็ต้องยิ้มเมื่อเห็นลูกสาว
และลูกเขย
“ไฮ คารีนา” คุณลิซาเบธก้มลงกอดรัดร่างเล็กเข้าสู่อ้อมกอด หอม
แก้มเนียนใสเบา ๆ ก่อนที่จะส่งต่อให้กับคุณไนฮัวสามีได้ชื่นชมหลานสาว
“ไฮ มัม”
“ไฮ ไนฮัว ลิซ มาถึงกันนานหรือยังลูก”
“แวะที่บ้านแล้วก็มาหามัมนี่แหละค่ะ”
“เข้าไปนั่งในบ้านกันก่อน”
“มัมออกกำลังกายนี่คะ หนูเดินกับมัมก็ได้”
“แม่เดินนานแล้วละ ต้องนั่งเสียที เดี๋ยวบ่าย ๆ ก็จะไปเดินอีก”
ได้ยินดังนั้นคุณลิซาเบธก็เข้าไปประคองมารดาพาเดินเข้าบ้านทันที
153/559

“งั้นก็ได้ค่ะ หนูเป็นห่วงแทบแย่ เพราะหน้าบ้านเปิดทิ้งไว้ แต่เรียกหา


ใครก็ไม่เจอ รถก็ไม่มี โทร. เข้ามือถือมัมก็ได้ยินแต่เสียง เดินตามก็เห็นว่า
อยูใ่ นห้องรับแขก” นํ้าเสียงเป็นห่วงของลูกสาวทำให้คุณยายรู้สึกเป็นสุขใน
หัวใจ
“อ้อ โทษทีจ้ะ รถน่ะแม่ให้มิสซิสแซมมีขับไปไว้ที่อู่ เพราะเมื่อวานแม่
พา คารีนาไปเล่นสนามเด็กเล่น ขากลับได้กลิ่นนํ้ามัน สงสัยจะรั่วที่ไหนสัก
แห่ง วันก็ได้กลิ่น คารีนายังได้กลิ่นเลย วันนีแ้ ม่ก็เลยให้คนของลูกลอง
เช็กแต่เช้าจ้ะ นั่งเถอะ ดื่มอะไรไหม แม่มนี ํ้าส้ม คั้นเองรสชาติดมี าก ๆ
เลย” คุณยายกลีบบัวหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอีป้ ระจำตัว โดยมีลูกสาวนั่งลง
ข้าง ๆ และปล่อยให้เหลนสาวคุยจ้อกับคุณปู่
“ก็ดีค่ะ”
“ขอให้ไนฮัวกับคารีนาด้วยนะวัน อ้อ...เอากล้วยไข่เชื่อมออกมาด้วย
ขอบใจมาก” คุณยายกลีบบัวหันไปสั่งวันก่อนจะหันไปทางลูกสาว
“อังเดรเป็นไงบ้าง” คุณยายกลีบบัวถามถึงพี่ชายของลูกเขยที่อยูท่ ี่
ฟาร์ม
“ก็ดคี ่ะ เลี้ยงสัตว์ตอนนี้เต็มฟาร์มแล้วค่ะ ก็หลานสาวคุณแม่นะสิคะ
ไปหาคุณลุงเมื่อไรก็เอาสัตว์ไปเพิ่มให้ทุกที ปีนี้สวนสัตว์เปิดของเราน่าจะมี
สัตว์มากทีเดียว”
คุณยายกลีบบัวได้แต่ยิ้มกับคำบอกเล่าของลูกสาว
154/559

“และก็ปลูกพืชผัก เพาะพันธุด์ อกไม้ตามประสาเขานั่นแหละค่ะ ด้าน


สุขภาพก็แข็งแรงดี นี่แม่ม้าตัวหนึ่งของไนฮัวก็เพิ่งตกลูก เขาก็เลยเห่อมาก
จนแทบจะกินจะนอนกับม้าตลอดเวลาที่อยูโ่ น่นเลยก็ว่าได้ค่ะ” คุณยาย
กลีบบัวได้แต่หัวเราะชอบใจ หันไปมองลูกเขยก็เห็นแต่รอยยิ้ม
“ลูกม้าหรือคะแกรนด์ฟา” เสียงเล็กถามขึ้นเป็นภาษาไทยอย่าง
ตื่นเต้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษทันทีที่รู้สึกตัว
“ใช่แล้ว ลิเลียนมันตกลูกเพิ่งจะอายุได้สามวัน” คุณไนฮัวเป็นคน
ตอบหลานสาว
“อุ๊ย จริงหรือคะ ให้หนูตั้งชื่อมันได้ไหม ว่าแต่มันเป็นเด็กผู้หญิง
หรือว่าเด็กผู้ชายคะ” คนตัวเล็กขยับเข้าไปจับแขนของแกรนด์ฟาเอาไว้แน่น
พร้อมกับเขย่าเบา ๆ
“เด็กผู้ชาย เอาสิ ถ้าหนูอยากตั้งชื่อให้มัน แกรนด์ฟาก็จะขอบคุณ
มาก”
“หนูจะให้มันชื่อว่าสปริงดีไหมคะแกรนด์ฟา เพราะว่ามันเกิดตอน
สปริงพอดีเลย”
“เออ แฮะ เข้าใจคิดนะคารีนา” คุณยายกลีบบัวพูดขึ้น พร้อมกับหัน
ไปขอบใจวันที่นำนํ้าส้มและกล้วยไข่เชื่อมมาเสิร์ฟ
“ลองชิมดูสลิ ูก เมื่อวานกลับมาจากพาคารีนาไปเล่น แม่กับวันก็เลย
แวะไปตลาดอีเดน ก็เลยได้กล้วยไข่มาเชื่อม ไม่หวานมากหรอก”
155/559

“สีมันเหลืองน่าทานจังเลยค่ะมัม” พูดไปคุณลิซาเบธก็ตักกล้วยเชื่อม
ทานไปด้วย
“อร่อยจริง ๆ ค่ะ”
คุณยายก็คุยกับลูกสาว ลูกเขยก็คุยกับหลานสาวเรื่องม้าต่อไป
“เย้ ดีใจจังเลย”
หลานสาวตัวน้อยกระโดดเข้ากอดแกรนด์ฟา
“ขอบคุณค่ะแกรนด์ฟาที่ให้คารีนาตั้งชื่อให้ม้า คารีนาจะบอกแดดดี้
ด้วยค่ะ แล้วเมื่อไรเราจะได้ไปเยี่ยมสปริงกันคะแกรนด์ฟา”
“ไปเมื่อไรดี ถามแกรนด์มาสิ”
“แกรนด์มาเมื่อไรคารีนาจะได้ไปเยี่ยมสปริงคะ”
“เอาไว้ตอนซัมเมอร์ดีไหม ค่อยไปอยูห่ ลาย ๆ วัน ให้แกรนด์ฟา
สร้างบ้านที่ฟาร์มเสร็จก่อน”
“ดีค่ะ เย้ ๆ” จากนั้นหลานสาวตัวน้อยก็คุยกับคุณปู่เรื่องเจ้าสปริง
กันต่อสองคน
“คุณไนฮัวกำลังวางแปลนสร้างบ้านไว้ที่ฟาร์มอีกหลังค่ะ ตอนนี้คารี
โนก็ไปดูเวียดเฮาส์แทนแล้ว ไม่ต้องห่วงอะไร จะได้ไปอยู่นาน ๆ อังเดรก็
สนับสนุน อยากให้น้องอยูใ่ กล้ ๆ ตอนนีก้ ำลังคุยกับบริษัทก่อสร้างอยูค่ ่ะ
พร้อมเมื่อไรก็สร้างเลย”
156/559

“ก็ดจี ้ะ วันก่อนแม่โทร. ให้ตรังมาหา ก็ได้คุยกันนิดหน่อย” พอพูด


ถึงหลานชายโดยมีเหลนสาวอยู่ด้วย คุณยายกลีบบัวก็เลยพูดเสียงเบาลง
ได้ยินกันแค่สองคน
“มีการพูดถึงสาวไทยด้วยนะ” คุณลิซาเบธได้แต่เบิกตาโต เพราะไม่
คิดว่าลูกชายจะพูดให้มารดาฟัง
“สงสัยคนนั้นแน่เลย วันก่อนที่แวะไปทานอาหารที่ร้าน เจอเด็กสาว
คนไทย ไม่รู้ไปทำท่าไหนเข้า เลยโดนสั่งสอนเข้าให้ ร้องอูยทีเดียว” คุณลิ
ซาเบธพูดแทบจะเป็นเสียงกระซิบ
“มีอะไรหรือ”
“ก็หลานชายมัมนะสิคะ ไปทำอะไรเขาก่อนก็ไม่รู้”
คำบอกของลูกสาวทำให้คุณยายกลีบบัวเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม และคุณ
ลิซาเบธก็เล่ารายละเอียดให้มารดาฟังคุณยายกลีบบัวฟังแล้วก็อดไม่ได้ที่จะ
หัวเราะออกมา
“ไปเจอกุหลาบไทยหนามคมเข้าล่ะสิ เจ้าชู้ไม่เลือกที่ เคยเจอแต่
กุหลาบที่เขาริดหนามมาตลอดก็เลยย่ามใจ ไม่รวู้ ่าจะสมนํ้าหน้าดีไหม หนู
มุนน่ะ แม่เป็นคนแนะนำให้ไปทำงานที่นั่นเองแหละ”
“อ้าว คนนี้เองหรือคะที่มัมเคยเล่าให้หนูฟัง”
157/559

“ใช่แล้ว เด็กคนนี้แหละ แต่เขาไม่รู้หรอกนะว่าแม่เกี่ยวข้องอะไรกับ


เวียดเฮาส์ แม่ยังไม่ได้บอกความจริงกับเขา ทุกวันนี้ทเี่ จอกัน เขาก็ยัง
ขอบคุณแม่อยู่ทุกครั้งไป”
“โถ น่าสงสารจริง ๆ ต้องบอกให้มิสมินต์ช่วยเป็นหูเป็นตาให้”
“แต่แม่ว่าต้องคุยกับคนของเราน่าจะดีกว่า เด็กดีอย่างนั้นไม่อยากให้
มา เสียหายหรือว่าเป็นแค่ของเล่นให้กับตรัง”
“หนูว่าคารีโนคงไม่คิดอะไรหรอกมั้งคะ ทีผ่ ่านมาไม่เคยเห็นเขาจะ
สนใจเด็กในปกครองสักคน ทั้งที่โรงแรม ที่โรงงาน ที่ตลาด มีเด็กสาว ๆ
สวย ๆ เซ็กซีต่ ั้งเยอะตั้งแยะ ยังไม่เห็นเขาจะสนใจใคร มัมอย่าห่วงไปเลย
ค่ะ”
“ไม่ห่วงได้ไงล่ะ วันนี้แม่ได้ยินหนูมุนเปรย ๆ ออกมาว่าเจ้านายคน
ใหม่ชีกอ และก็เผลอหลุดออกมาว่าถ้าทำครั้งต่อไปจะกัดให้ลิ้นขาดเลย”
คำพูดกระซิบกระซาบของคุณยายกลีบบัว ทำเอาลูกสาวตาโตอย่างคิดไม่
ถึงกับการกระทำของลูกชาย
“ไม่น่าเชื่อ จริง ๆ หรือคะ ว่าแต่หนูนั่นเล่าให้มัมฟังขนาดนีเ้ ลยหรือ
คะ”
“อือ...ฮือ และแม่เชื่อนะ ตรังน่ะ เอาแต่ใจตัวเองจะตาย ใครห้ามได้
ซะที่ไหน และอีกอย่างนะ หนูมุนไม่รู้นี่ว่าแม่เป็นใคร ก็เลยเล่าให้ฟัง จริง
ๆ ไม่ได้เล่าหรอก มันหลุดออกมามากกว่า หนูมนุ นับถือแม่ ไว้ใจ มี
158/559

ทุกข์สุขอะไรก็เล่าให้แม่ฟังตามปกติแหละ เราเจอกันบ่อย ๆ ตอนที่แม่ไป


ออกกำลังกาย หนูมนุ บอกว่ามีเจ้านายใหม่ แม่ก็เลยแอบล้วงลึก ถามว่า
เจ้านายคนใหม่เป็นอย่างไรบ้าง เขาคงอึดอัดก็เลยหลุดออกมาแล้วก็
หน้าแดง แต่พอแม่ถามยํ้าว่าเจ้านายคนใหม่ทำอะไร เขาก็บอกปัดว่าไม่มี
อะไร แต่จริง ๆ คงมี แกคงอายทีจ่ ะบอกแม่” คุณยายกลีบบัวพูดไปส่าย
ศีรษะไปด้วยเมื่อคิดถึง หลานชายสุดที่รักเพียงคนเดียว
“ตายแล้ว ไม่อยากเชื่อว่าคารีโนจะไปติดใจหนูนั่นเข้าจริง ๆ แต่จะว่า
ไปแล้วหน้าตาแกน่ารักมาก สวยทีเดียวแหละ หน้าตาไทย ๆ
ยิ้มแย้มแจ่มใส ดูก็รู้ว่าทำงานด้วยนํ้าใสใจจริง คุณไนฮัวก็ชมว่าน่ารัก
จริงใจ ใจเด็ด ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่กล้าที่จะจัดการคารีโนต่อหน้าคุณไนฮัว
แต่หนูนั่นเด็ดขาดจริง ๆ กล้าหาญ ไม่ยอมถูกรังแกฝ่ายเดียว คารีโนยัง
พูดไม่ออกเลยวันนั้น โดนหยิกเข้าให้ ไม่รทู้ ิ้งรอยเอาไว้หรือเปล่า
เอ๊ะ...หรือว่าคารีโนแค่ไปเอาคืนทีโ่ ดนเขาหยิกวันนั้น หรือคุณว่าไงคะไนฮัว
ลูกเราเคยยอมใครซะที่ไหนกัน” คุณลิซาเบธหันไปกระซิบถามสามี
“ไม่หรอกมั้ง ไอ้ที่ไม่ยอมใครนั่นมันเรื่องของเด็กผู้ชาย แต่ถ้าอยาก
รู้ความจริงก็ถามลูกชายคุณสิ มานั่งเดาให้เสียเวลาทำไมกัน” คุณไนฮัว
ตอบภรรยายิ้ม ๆ
“ถามเรื่องนี้ตอบให้ก็ดีสิคะ ระวังให้ดเี ถอะ สักวันจะโดนตีหัวแตก
เพราะว่าไปยุ่งกับผู้หญิงของคนอื่น” คุณลิซาเบธบ่นกับตัวเองเบา ๆ
“หนูมุนยังไม่มีแฟนหรอกจ้ะ”
159/559

“มัมรูไ้ ด้อย่างไรคะ สวยน่ารักอย่างนั้นไม่มแี ฟนเป็นไปไม่ได้หรอก


ค่ะ”
“รู้สิ หนูมุนบอกแม่ แกมีชีวิตที่น่าสงสารมากนะ ไม่มีผู้ปกครอง
แถมยังต้องเลี้ยงน้องเป็นลูกอีก คิดดูสิ ตอนที่เลี้ยงน้องตัวเล็ก หนูมุนอายุ
แค่ยี่สิบสองยีส่ ิบสามเอง เด็กสาวอายุเท่านั้นต้องเลี้ยงเด็กอีกคน ไม่ต่าง
จากแม่เลี้ยงลูกเลย หนูเคยมีลูกมาแล้วก็รู้นี่ลิซว่ามันเหนื่อยแค่ไหน แต่หนู
มีทุกอย่าง ในขณะทีห่ นูมนุ ต้องหาเองทุกอย่าง ต้องทำงานสองที่เพื่อหาเงิน
ให้เพียงพอกับสองชีวิต ไหนจะทำงานไหนจะต้องดูแลน้อง แทบจะไม่มี
เวลาว่างเป็นของตัวเองเลย และเขาก็คงจะเห็นแม่เป็นผู้ใหญ่ไว้ใจได้ ก็เลย
คุยให้ฟัง ถ้าหนูมุนรู้ว่าแม่เป็นยายของตรังเขาคงจะไม่กล้าเล่าให้แม่ฟัง
หรอก”
“ค่ะ แล้วเด็กน้อยคนนั้นเป็นน้องจริง ๆ ใช่ไหมคะ”
“ใช่แล้ว ฟีนิกซ์เป็นน้องสาวต่างพ่อ แม่เอามาทิ้งไว้ให้ตั้งแต่อายุสอง
ขวบ เรียนเพิ่งจบก็มภี าระเลย ฟีนิกซ์อายุแก่กว่าคารีนาของเราสองเดือนก็
เลยเล่นด้วยกัน สนิทสนมกันดี พูดเข้ากันไปเป็นปี่เป็นขลุ่ยทีเดียว”
“แต่ดูหนูมนุ อะไรนีก่ ็เป็นคนดี รับผิดชอบนะคะ ทำมาหากินเลี้ยง
น้องตัวเป็นเกลียว”
“เป็นคนดีคนหนึ่งละ ในสายตาของแม่เท่าทีแ่ ม่ดู ๆ ฟัง ๆ ได้พูดคุย
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทัศนคติในการดำรงชีวิต และอะไรอีกหลาย ๆ
อย่างน่ะ”
160/559

“แล้ว...เอ่อ หนูน้อยนั่นเป็นลูกของใครคะ”
“ลูกของพ่อเลี้ยงคนล่าสุด หนูมุนเล่าให้ฟังว่าหลังจากพ่อเลี้ยงที่ดูแล
หนูมุนเสีย แม่กแ็ ต่งงานใหม่อีกครั้ง มีลูก พอเลิกกันก็เอาลูกเล็กมาให้
ลูกสาวคนโตเลี้ยง ไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงไปไหน เห็นว่าหนีไปตั้งแต่น้องยังไม่
คลอดด้วยซํ้า พี่สาวกับน้องสาวห่างกันยีส่ ิบปีทีเดียว เอาคนเล็กมาทิ้งไว้ให้
คนโต แล้วแม่ก็หายไปไม่เคยติดต่อมาอีกเลย นานแล้วมั้ง แต่เด็กก็รู้นะ
ว่าใครเป็นแม่จริง ๆ แต่จะจำอะไรได้บ้างนั้นก็ไม่แน่ เพราะว่ายังเด็กเกิน
ไม่ผูกพัน เด็ก ๆ น่ะ อยากมีแม่กันทุกคนแหละ ก็เลยเรียกพีเ่ ป็นแม่ คน
ของเราก็คงอยากมีเหมือนกันมั้งแม่ว่า” คุณยายกลีบบัวหันไปทางเหลนตัว
น้อยที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกล คุณลิซาเบธมองตาม
“ก็น่าสงสารนะคะ แต่ของเราต้องรออย่างเดียว”
“อาจจะไม่ต้องรอนานแล้วก็ได้มั้ง ไม่งั้นก็คงไม่ตามไปตอแยเขา
หรอก หลังจากที่โดนหยิกไปครั้งแรก”
“มัมคิดอย่างนั้นหรือคะ” อีกครั้งที่คุณลิซาเบธตาโต ผู้เป็นมารดา
ได้แต่ยิ้มน้อย ๆ
“ไม่รสู้ ิ แม่ก็เดาเอา โดนหยิกขนาดนี้ไม่กลับไปจูบเขาหรอกถ้าใจไม่
ชอบ หรือไม่กแ็ ค่เอาคืน หรือว่าไงไนฮัว” คุณยายกลีบบัวหันไปทางลูกเขย
ที่เงยหน้าจากหลานสาวมาส่งยิ้มให้
161/559

“ที่แม่เป็นห่วงก็คือ หนูมุนเป็นไทยมาก ๆ รักนวลสงวนตัว ใสซื่อ


ไร้เดียงสา กลัวจะตามนายตรังไม่ทันเอาน่ะสิ ตรังน่ะ เจ้าเล่ห์ใช่ย่อย แม่
ถึงไม่อยากให้หนูมุนต้องมาเป็นของเล่นของตรัง”
“อย่างนี้มัมต้องบอกหลานเองก็แล้วกันค่ะ เขาเกรงใจคุณยายมาก
กว่าหนูที่เป็นแม่เสียอีก”
“ตรังนะ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ของต้องห้ามมันน่าฉวยจะตายไป” คุณ
ยาย กลีบบัวพูดเหมือนรู้จักหลานชายของตัวเองดี
“อ้าว งั้นถ้าอย่างนี้ก็ต้องยุสิคะ”
“ยุไม่ได้ ยิ่งยุก็ยิ่งยุ่งล่ะสิ” คุณยายกลีบบัวหัวเราะน้อย ๆ
“แล้วมัมจะทำอย่างไรคะ”
“ก็คงต้องขอกันตรง ๆ แต่ต้องรอดูก่อนว่าตรังไปทำอะไรมากเกิน
งาม หรือเปล่า จะไปว่าเรื่องนีม้ ันก็พูดยากนะ เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ยุ่งมากก็
ไม่ได้จะเป็นการก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันอีก”
“หนูจะลองถามกับมิสมินต์ดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง และจะให้มสิ มินต์
ช่วยดูเป็นหูเป็นตาอีกทีค่ะ”
“มิสมินต์จะทำอะไรได้ รายนั้นเกรงใจเจ้านาย แม้กระทั่งกับแม่เขาก็
เกรงใจ ถ้าเจ้านายว่าไงก็คงไม่กล้าขัด เอาไว้แม่จะคุยกับตรังเอง ว่าแต่จะ
กินข้าวกลางวันกับแม่กับคารีนาไหมวันนี้”
162/559

“คงไม่ได้ค่ะ เพราะบ่ายนี้ต้องไปร่วมงานแต่งงานค่ะมัม งั้นหนูกับ


คุณไนฮัวคงขอตัวก่อน ต้องไปเตรียมตัว คารีนาหนูจะกลับกับแกรนด์มา
หรือว่าจะอยู่กับ เกรทแกรนด์มาที่นี่ก่อน”
“คารีนาจะอยู่ช่วยเกรทแกรนด์มากับวันทำขนมได้ไหมคะ”
คำตอบภาษาไทยแปร่ง ๆ แต่ชัดเจนทำให้ผเู้ ป็นย่าเลิกคิ้วอย่าง
ตื่นเต้น
“พูดไทยได้เยอะแล้วนะเนี่ย เก่งจัง แต่แกรนด์มาไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร
คารีนาพูดภาษาอังกฤษกับแกรนด์มานะ”
“ค่ะ” คารีนาหันไปส่งภาษาอังกฤษกับคุณย่าแทน ทำเอาคุณปู่หัวเราะ
หึ ๆ ก่อนที่จะพูดว่า
“ผมว่าคุณต้องเรียนภาษาไทยใหม่แล้วมั้ง”
“นั่นสิคะคุณ แต่แหม ฉันแก่แล้วคงหัดยากแล้วค่ะ ลิ้นมันแข็ง ว่า
แต่คารีนาไปหัดพูดไทยตอนไหนคะมัม” คุณลิซาเบธหันไปทางมารดา
“พูดกับแม่ไง เราใช้ภาษาไทยกันตลอด เพราะว่าคารีนาอยากพูดให้
เก่งจะได้ไปพูดกับเพื่อนรักเขาไง”
“ดีจังเลยค่ะ ได้หลายภาษา แกรนด์มา อ่า กาบ แหล่วนะค้า” คุณลิ
ซาเบธหันไปส่งภาษาไทยกระท่อนกระแท่นกับหลานสาว เรียกรอยยิ้ม
เอ็นดูได้จากมารดาและสามี
163/559

“ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ แกรนด์มา แกรนด์ฟา” เสียงใส ๆ ตอบเป็น


ภาษาอังกฤษ ก่อนที่ร่างเล็ก ๆ วิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของคุณปู่คุณย่า
“จ้ะ” คุณลิซาเบธและคุณไนฮัวกอดจูบลามารดาก่อนที่จะออกจาก
บ้าน เดินกลับบ้านใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้า
เมื่อออกมาจากบ้านมารดา คุณลิซาเบธก็รายงานสามีเรื่องของลูกชาย
ทันที คุณไนฮัวได้แต่หัวเราะหึ ๆ อย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะออกความเห็นว่า
“กลับไปจูบเขานี่ไม่ธรรมดาแล้วมั้งลูกชายคุณ”
“นั่นสิคะ หรือว่าคารีนามีแววจะได้แม่ซะละมั้ง”
“ทางโน้นก็มตี ิดมาด้วยหนึ่งคน ของเราก็มีหนึ่งคน ก็น่าจะสมดุลกัน
ดี คุณว่าไหม”
“แหม คุณ เข้าใจคิดนะคะ”
“คุณไม่อยากได้ลูกสะใภ้หรอกหรือ”
“อันนั้นก็แล้วแต่ลูกค่ะ ชีวิตของเขา แต่ว่าไปยุ่งกับหนูมนุ อย่างนี้มัน
ไม่ถูก ยิ่งมัมบอกว่าเป็นไทย รักนวลสงวนตัวอย่างนั้น อยากรูจ้ ังว่าไปจูบ
เขานีไ่ ด้รับอะไรตอบแทนกลับมา เขาคงไม่ให้จูบฟรีหรอกมั้ง ครั้งก่อนยัง
โดนหยิก ครั้งนี้น่าจะโดนไม่น้อยกว่าหยิก” จบคำพูดของภรรยา คุณไนฮัว
ได้แต่หัวเราะ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอย่างไร เพราะว่าเดินเข้ามาในบ้าน
แล้ว มิซซิสแซมมีก็เดินเข้ามาต้อนรับ การสนทนาก็เลยต้องหยุดลง
15
สงสัย

ร่างสูงในชุดกางเกงนอนขายาวกับเสื้อคลุมอาบนํ้าเดินออกมาจาก
ห้องนอน ตรงเข้าไปยังห้องทำงานที่อยู่ติดกัน
ในวันอาทิตย์อย่างนี้คารีโนให้ลูกน้องใช้ชีวิตตามสบายโดยไม่ต้องมา
ดูแลเขา แต่ทั้งคู่ก็มักจะติดตามเขาเสมอ วันนี้กเ็ ช่นกันคารีโนยังไม่ทันได้
เปิดคอมพิวเตอร์ เสียงทักก็ดังขึ้นเสียก่อน
“สวัสดีครับนาย”
“สวัสดีเบียน”
“กาแฟครับนาย บ้านเงียบทีเดียวนะครับ คุณหนูไม่อยู่”
“ขอบคุณมาก นั่นสิ ฉันก็คิดอย่างนั้น แต่บ้านคุณยายคงจะเสียงดัง
ก็ได้” พูดแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้เมื่อคิดถึงลูกสาวตัวเล็ก
“เฟยล่ะ”
“เดี๋ยวตามมาครับ”
พอพูดถึงอีกคนก็ตามเข้ามาพอดี
165/559

“สวัสดีครับนาย”
“สวัสดีเฟย กำลังถามหานายไม่ทันขาดคำ”
คำพูดของเจ้านายทำให้เฟยอดที่จะหัวเราะไม่ได้ก่อนที่จะถามขึ้นว่า
“นายดูภาพเมื่อวานหรือยังครับ เซอร์ไพรซ์สุด ๆ ครับ”
“ยังเลย ไม่มเี วลา ว่าแต่มีอะไรพิเศษหรือ” รอไม่นานรูปที่ต้องการก็
ปรากฏหน้าจอ คิ้วเข้มเลิกขึ้นแล้วก็หัวเราะออกมาเบา ๆ
“มิสละมุนมาศพาลูกสาวไปเล่นที่สนามเด็กเล่น นานพอสมควรมิสซิ
สซอลตันกับวันก็พาคุณหนูคารีนาไปสมทบ ลูกสาวของมิสละมุนมาศพอ
เห็นคุณหนูคารีนาก็วิ่งเข้าหาเลยครับ พูดคุยกันสนิทสนม ส่วนมิสซิสซอล
ตันก็ดสู นิทสนมกับมิสละมุนมาศครับนาย คุณหนูก็เล่นกับเพื่อนโดยมีวัน
เป็นคนดูแล ส่วนมิสซิสซอลตันก็เดินออกกำลังกายกับมิสละมุนมาศครับ
เล่นกันอยู่ประมาณสองชั่วโมง มิสละมุนมาศก็พาลูกสาวกลับครับ มิสซิส
ซอลตันก็พาคุณหนูกับวันกลับครับ”
คำอธิบายของเฟยทำให้คนเป็นนายยิ้มกว้างอยู่คนเดียว
“ขอบใจมากเฟย วันนีต้ ามสบายนะ มีธุระอะไรก็ไปทำเถอะ บ่าย ๆ
ฉันจะเข้าไปดูเครื่องจักรทีโ่ รงงานสักหน่อย เครื่องต้องพร้อมทีจ่ ะทำงานใน
วันพรุ่งนี้”
“ผมไปด้วยครับนาย” ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกัน
“ก็ตามใจ อีกชั่วโมงเจอกัน”
166/559

ลับหลังลูกน้องทั้งสองแล้ว คารีโนก็หันไปจ้องภาพที่ปรากฏอยู่บน
หน้าจอคอมพิวเตอร์ ในความคิดของเขาตอนนี้รู้สึกยินดีแปลก ๆ ทีเ่ ห็น
คนตัวบางกำลังเดิน คุยยิ้มแย้มกับคุณยายของเขา
งานนี้เขาคงไม่ต้องไปสืบไกลแล้วกระมัง คุณยายน่าจะเป็นคนให้
คำตอบที่เขาอยากรู้ทุกอย่างได้
คลิกภาพไปเรื่อย ๆ เห็นลูกสาวของเขากับลูกสาวของหล่อนวิ่งเล่น
ไล่กันอย่างสนุกสนานแล้ว ก็อดที่จะยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้
เด็กหญิงคนนี้หรือเปล่า คือเพื่อนที่ลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่า คุณทวด
พาไปเล่นและได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ เขาน่าจะถามลูกสาวเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
เช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องมันจะใกล้ตัวขนาดนี้
คิดแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาคนเดียวไม่ได้ คารีโนรู้สึกได้ถึงความกระ
ปรี้กระเป่ามีชีวิตชีวาในหัวใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แล้วก็อดที่จะคิดถึง
ริมฝีปากหวานของเจ้าของกำปั้นไม่ได้
ชักคิดถึง ! หมายความว่าอย่างไรนะ
ส่วนลูกน้องพอออกมาจากห้องนายก็มองตากัน ไม่มีคำพูดอะไรออก
มา แต่พอมาถึงห้องส่วนตัวเบียนก็พูดขึ้นทันที
“ฉันว่างานนี้เจ้านายเอาจริงว่ะ ตั้งแต่ตามเจ้านายมาหลายปี ฉันยังไม่
เคยเห็นเจ้านายให้นายตามดูสาวไหนเลย ขนาดว่าสวยเซ็กซี่สุด ๆ เจ้านาย
ยังไม่เคยทำอย่างนี้เลย นายคิดว่าไง”
167/559

“ฉันไม่ได้คิดอะไร แกคิดให้หมดแล้วไง” ร่างสูงของเฟยที่กำลังเอน


ตัวลงนอน มือข้างหนึ่งคว้ารีโมตคอนโทรลมาเปิดโทรทัศน์
“แสดงว่าแกก็เห็นด้วยกับฉัน ว่าแต่มิสละมุนมาศนี่มีลูกติดจริง ๆ
หรือวะ” เบียนทรุดตัวลงนั่งตรงข้าม
“ก็ไม่เห็นแปลก เจ้านายก็ยังมีคุณหนูคารีนาเลย”
“อันนั้นแกก็รู้นี่”
“เอาน่า ขอให้เป็นคนที่เจ้านายรักและรักคุณหนูคารีนาก็พอไม่ใช่
หรือ”
“แล้วเจ้านายรักหรือเปล่า”
“รักไม่รักไม่รู้ แกอยู่กับเจ้านายทั้งวันทำไมไม่ถามเจ้านายล่ะ มาถาม
ฉันทำไมวะ”
“งั้นถามใหม่ แล้วมิสละมุนมาศชอบเจ้านายหรือเปล่า” อีกคนยังไม่
เลิกตั้งคำถาม
“ฉันจะไปรู้ได้อย่างไรวะ”
“ก็นึกว่าแกจะรู้” เฟยยกเท้าขึ้นเตรียมถีบเพื่อนรัก เบียนรีบลุกเดิน
ออกไปจากห้อง พร้อมกับเสียงหัวเราะหึ ๆ เฟยได้แต่ส่ายหน้าน้อย ๆ หัน
ไปสนใจโทรทัศน์แทน
168/559

ทันทีทเี่ ห็นเพื่อนรักปั่นจักรยานข้ามถนนมา เด็กหญิงคารีนาก็วิ่งออก


ไปรับหน้าทันที
“ไฮ ฟี /ไฮ มามี้ของฟี” เด็กหญิงตัวน้อยทักผู้มาใหม่เสียงใสทีเดียว
“ไฮ คารีนา/สวัสดีจ้ะคารีนา มานานแล้วหรือจ๊ะ”
“นานแล้วค่ะ”
“ขอโทษที่วันนี้ฟีมาช้านะ ทำให้ยูต้องรอ พอดีว่าวันนีฟ้ อี ยากปั่น
จักรยานมา แต่ว่ายางมันแบนน่ะ ก็เลยต้องสูบลมยางทั้งของฟีและมามี้
เลย และมันก็สูบยากนะ มามีก้ ็แรงไม่พอ พอดีมีคนช่วยเลยเสร็จแล้ว ฟีก็
รีบปั่นมาเลย” เด็กหญิงฟีนิกซ์แก้ตัวเสียงดังฟังชัด เรียกรอยยิ้มจาก
ผู้ใหญ่ที่เดินมาสมทบได้เป็นอย่างดี
หลังจากทักทายผู้ใหญ่เสร็จแล้ว เด็กหญิงทั้งสองก็ขอตัวออกไปวิ่ง
เล่นทันที
“มุนต้องขอโทษด้วยค่ะคุณยายที่วันนี้มาช้า ใช้เวลาปั๊มลมยาง
รถจักรยานอยู่นาน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ แรงไม่พอ สูบเข้าไปพอดึงจุก
ออกลมก็ออกมาตามด้วย ยางรถก็เลยแบนเหมือนเดิม เกือบจะถอดใจ
กำลังจะเปลี่ยนใจ พอดีมีเพื่อนบ้านมาผ่านมาช่วยถึงได้สำเร็จ”
“ไม่ต้องขอโทษยายหรอก วันนีย้ ายออกมาเร็ว เพราะทนเสียงรบเร้า
ของคนอยากเจอเพื่อนไม่ไหว ก็เลยต้องพามา มาถึงไม่เจอก็ถามอยู่
169/559

นั่นแหละว่าเมื่อไรฟีจะมา...เมื่อไรฟีจะมา” คุณยายพูดไปหัวเราะไปกับ
ความอยากเจอเพื่อนของเหลนสาว ทำให้ละมุนมาศต้องหัวเราะตามไปด้วย
“เอ่อ คุณยายจะนั่งก่อนหรือว่าเดินดีคะ มุนอยากถามอะไรคุณยาย
บางอย่างได้ไหมคะ”
“นั่งดีกว่า ยายเดินหลายรอบแล้วละ ว่าแต่มอี ะไรหรือ” คุณยาย
นั่งลงข้าง ๆ เพราะเห็นหน้าตาอีกฝ่ายจริงจังเหลือเกิน
“คือว่าคุณยายอยู่ที่นมี่ านานแล้ว คุณยายเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ
มาเฟียบ้างหรือเปล่าคะ”
“มาเฟียอะไรจ๊ะ”
“มาเฟียเวียดนาม จีน อะไรพวกนี้แหละค่ะ ยังมีอยูไ่ หมคะ” ถาม
แล้วก็รอ คำตอบอย่างใจจดจ่อ
“ก็พอจะได้ยินมาบ้างเหมือนกัน ทำไมหรือจ๊ะ”
“แล้วตอนนี้ยังมีอยู่ไหมคะ”
“ไม่มแี ล้วมั้ง โดยเฉพาะในอเมริกาน่าจะถูกปราบหมดแล้วละ แต่
ทางอเมริกาใต้น่าจะยังมีอยู่”
“แต่น่าจะมีหลงเหลืออยู่บ้างหรือเปล่าคะคุณยาย”
คุณยายกลีบบัวไม่ได้ตอบแต่ถามกลับ
170/559

“หนูมุนสงสัยอะไรหรือจ๊ะ ไปรู้ไปเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเปล่า
บอกยายได้ไหม”
นํ้าเสียงห่วงใยของคุณยายทำให้ละมุนมาศไว้ใจที่จะพูด แต่ก่อนจะ
พูด ใบหน้าหวานก็หันซ้ายหันขวา ทำให้คุณยายนึกสงสัยนักว่าคนข้าง ๆ
คงจะไปรู้เห็นเรื่องน่ากลัวบางอย่างมาเป็นแน่
“คุณยายอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะคะ คือ...เอ่อ มุนสงสัยว่าเจ้าของ
คนใหม่ของเวียดเฮาส์จะเป็นมาเฟียค่ะคุณยาย”
คำกระซิบตอบนั้นทำให้คุณยายสะดุ้งโหยง ทีเดียว
ตายแล้ว หลานชายของยายเป็นมาเฟียตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย ทำไม
ยายไม่รู้
“แสดงว่าคุณยายก็พอจะรู้เหมือนกันใช่ไหมคะ” อีกคนแปลอาการ
สะดุ้งของคุณยายกลีบบัวไปอีกทาง
“หนูมุนจ๊ะ เล่าให้ยายฟังได้ไหมว่าทำไมหนูถึงได้สงสัยอย่างนั้น มี
อะไรทีน่ ่าสงสัยหรือ” พอเรียบเรียงความคิดได้คุณยายกลีบบัวก็แอบยิ้มใน
ใจ
หลานชายตัวดีไปทำอะไรให้คนที่นั่งข้าง ๆ ตอนนี้คิดไปได้ว่าเป็น
มาเฟีย กันนะ ไปทำกร่างอะไรกับสาวเจ้าไว้หนอ
“คือจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ชัดเจนขนาดนั้นนะคะ แต่มุนก็เดาเอา มัน
เป็นเพียงความคิดของมุนว่าเขาคงเป็นมาเฟียแน่ ๆ เพราะว่าเวลาเขา
171/559

ไปไหนมาไหน ก็มักจะมีคนติดตามสองคนเหมือนกับพวกบอดี้การ์ดค่ะ
และท่าทางเขาใหญ่น่าดู ทำอะไรก็เอาแต่ใจตัวเอง ข่มขู่ด้วยนะคะ”
หลานชายทำอะไรเอาแต่ใจตัวเองหรือว่าข่มขู่สาวเจ้าแน่นะ ถ้าคุณ
ยายถามคนข้าง ๆ จะตอบหรือเปล่านะว่าข่มขู่เรื่องอะไร
“เจ้าของเวียดเฮาส์เขาข่มขู่หนูมุนหรือ”
“เอ่อ...คือ...”
“บอกยายได้ไหม ข่มขู่เรื่องอะไร”
“มุนคงบอกคุณยายไม่ได้ มุนไม่อยากให้คุณยายมารับรู้หรือว่าติด
ร่างแหไปด้วย ช่วงนี้มุนอยากให้คุณยายหยุดมาเจอมุนสักพักนะคะ” คน
ตัวบางกระซิบบอก ด้วยนํ้าเสียงจริงจัง
“ขนาดนั้นเลยหรือหนูมุน”
“ค่ะ นะคะคุณยาย แค่สักพักเท่านั้นเอง รอให้มุนมั่นใจก่อนว่าไม่มี
อะไรร้ายแรงเกิดขึ้น แล้วค่อยทำทุกอย่างปกตินะคะ”
“เอาอย่างนั้นหรือหนูมุน”
“ค่ะ”
“แต่ยายว่า...”
“มุนเป็นห่วงคุณยายค่ะ นะคะ” อีกคนขอร้องด้วยดวงตาที่แสดง
ความจริงใจ จนเกือบทำให้คุณยายกลีบบัวเผลอบอกความจริง
172/559

แต่เอาไว้ก่อน ดูก่อนว่าหลานชายของท่านจะทำอย่างไรต่อไป
“หนูมุนจ๊ะ ยายแก่ขนาดนี้แล้วไม่มีใครคิดจะทำร้ายยายหรอก และ
ยายก็ไม่สนใจด้วยจ้ะ อย่าคิดมากนะ เราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนหนี
เอาตัวรอดคนเดียวก็ไม่ใช่เพื่อนนะสิใช่ไหม”
“มันก็ใช่ค่ะ แต่มุนไม่อยากให้คุณยายเดือดร้อนด้วย”
“แต่ยายไม่หนีหรอก ยายจะอยู่ตรงนี้ ใครหน้าไหนมาก็ไม่กลัว
ทั้งนั้น”
“โธ่...คุณยายคะ” ละมุนมาศเอนร่างเข้าไปกอดคุณยายด้วยความ
ซาบซึ้งในหัวใจ ในเมื่อคุณยายไม่กลัวแล้วหล่อนจะกลัวอะไร
“มุนซาบซึ้งจริง ๆ ค่ะคุณยาย ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ และก็
ขอโทษด้วยที่มุนทำให้คุณยายลำบากไปด้วย”
คุณยายกลีบบัวอยากจะบอกนักว่าไม่ได้ลำบากอะไรเลย เรื่องนี้
เกี่ยวกับ หลานชายสุดที่รักของท่าน จะไม่ให้ยุ่งด้วยอย่างไรกัน
แต่คุณยายก็ไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้ เพราะว่าจะรอดูหลานชาย
ก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป
แล้วก็นึกสะดุ้งในใจทีจ่ ู่ ๆ ก็ได้เป็นคุณยายมาเฟีย เด็กหนอเด็ก
น้อย อยากรู้นักว่าหลานชายตัวร้ายไปข่มขูอ่ ะไร หรือว่าการข่มขูเ่ ป็นวิธีการ
จีบสาวอีกแบบของหลานชาย
173/559

“หนูมุน ยายไม่ได้ลำบากอะไรเลย อย่าห่วงยายนะจ๊ะ แก่ขนาดนี้


แล้วไม่มใี ครเขาคิดร้ายอะไรกับยายหรอก หนูมนุ ดูแลตัวเองและก็หนูฟใี ห้
ดีนะ แต่ยายว่าอย่าคิดมากเลย มันไม่มีอะไรหรอก เรื่องที่หนูเข้าใจก็อาจ
จะไม่ใช่เรื่องจริง เรามาคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า ว่าแต่อากาศเริ่มอุ่นขึ้นแล้ว
อีกเดือนเศษ ๆ ก็จะร้อน ปีนี้หนูมนุ จะพา หนูฟีไปพักร้อนที่ไหนหรือเปล่า
จ๊ะ” คุณยายรีบดึงคนที่กำลังกังวลออกนอกเรื่อง
“มุนยังไม่ได้คุยกับมิสมินต์เรื่องนี้ แต่ได้จองพักร้อนที่คลินิกไว้แล้ว
ค่ะ ประมาณปลายเดือนหกต้นเดือนเจ็ด มุนจะพาฟีไปเที่ยวสักอาทิตย์ค่ะ
ฟีก็ตื่นเต้นใหญ่เลยที่จะได้ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต เพราะว่าตอนนี้มุน
มีเงินเก็บพอทีจ่ ะพาฟีไปเที่ยวไกล ๆ ได้บ้าง มุนหยอดกระป๋องมาตั้งสองปี
จากเงินทำงานพิเศษ ขอบพระคุณคุณยายอีกครั้งค่ะ” มือบางยกขึ้นกราบที่
ไหล่บอบบางของคุณยายกลีบบัว ท่านมองหน้าหวานนั้นแล้วก็อดดีใจด้วย
ไม่ได้ ที่การช่วยเหลือของท่านทำให้คนข้าง ๆ มีชีวิตที่ดีขึ้น
“ยายยินดีด้วยจริง ๆ ว่าแต่จะไปเที่ยวไหน วางแผนเอาไว้หรือยังจ๊ะ
เรื่องตั๋วเครื่องบินล่ะ ยายสนิทกับคนที่ขายตั๋วเครื่องบินนะ อุดหนุนกันมา
นานหลายสิบปี ถ้าหนูมุนต้องการให้ยายช่วยอะไรก็บอกได้นะจ๊ะ”
“อุ๊ย จริงหรือคะคุณยาย มุนอาจจะขอความช่วยเหลือจากคุณยาย
เรื่องตั๋วเครื่องบินนะคะ ฟีอยากไปเลโก้แลนด์ (LEGO Land) -
สวนสนุกของตัวต่อเลโก้) แล้วก็ไปทะเลด้วยค่ะ พอดีมนุ มีเพื่อนสนิทที่
เรียนด้วยกันมา เขาอยู่ที่นั่น ก็เลยจะถือโอกาสแวะไปเยี่ยมเพื่อนด้วยค่ะ”
174/559

“ที่นั่นอากาศดี ไปเที่ยวเถอะ จะได้เปิดหูเปิดตา ดีแล้วจ้ะ เป็นการ


ให้กำไรกับชีวิต ทำงานหนักมันก็ต้องมีการพักผ่อนบ้าง คิดถึงตอนยาย
สาว ๆ ทำงานก็สนุก หนักบ้างเบาบ้าง ถึงเวลาเที่ยวก็เที่ยว ส่วนเรื่องตั๋ว
เครื่องบินรอให้หนูมุนได้วันลาที่แน่นอนจะเดินทางไหน กลับวันไหน
แน่นอนแล้วก็บอก ยายจะจัดการให้”
“ขอบคุณค่ะคุณยาย” มือบางสองข้างยกขึ้นไหว้ขอบคุณ
“จ้า อย่าคิดมาก นิดหน่อยเอง”
“ได้คุยกับคุณยายแล้วมุนก็คิดถึงแม่ อยากให้แม่มาอยูด่ ้วยกันจัง
ค่ะ”
“ไม่ได้ข่าวเลยหรือหนูมุน”
“ไม่เลยค่ะ แม่เงียบหายไป ไม่เห็นติดต่อกลับมา ตั้งแต่เอาฟีมาทิ้งไว้
ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไรบ้าง โทร. ไปหาก็ไม่เคยติด ไม่รู้ว่าแม่เปลี่ยน
เบอร์ใหม่ไปแล้วหรือยัง ถึงได้ไม่ติดต่อกลับมาเลย” เสียงที่เปล่งออกมา
นั้นสั่นเครือ ทำให้คุณยาย กลีบบัวต้องเอื้อมมือเหี่ยว ๆ ไปจับมือบางเอา
ไว้อย่างปลอบประโลม
“อย่าคิดมาก สักวันแม่ของหนูมุนก็จะต้องติดต่อกลับมา ช่วงนีเ้ ขา
อาจจะยุ่ง คิดในทางที่ดีเอาไว้นะ ดูแลหนูฟีให้ดีที่สุดคือหน้าที่ของหนู
ตอนนี้”
175/559

“ค่ะ มุนก็คิดและหวังอย่างนั้น แต่ก็อยากเจอแม่บ้าง อยากรูว้ ่าแม่


สุขสบายดีหรือเปล่า”
“บางทีแม่ของหนูมุนอาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่ต้องทำอย่างนี้ ที่ไม่ได้
มาหา ไม่ได้ติดต่อมา ตอนนี้หนูมุนก็ดูแลหนูฟไี ป และการเป็นแม่กต็ ้อง
เข้มแข็งให้มาก สายเลือดนะมันเข้มข้น ลืมกันไม่ได้ง่าย ๆ หรอก อย่าไป
กังวลเลย เชื่อยายนะ”
“ค่ะคุณยาย”
“แล้วหนูฟีล่ะ”
“มุนก็คุยเรื่องแม่มุดให้ฟีฟังตลอด ฟีก็รู้ว่าแม่มุดเป็นแม่ค่ะ ฟีไหว้รูป
แม่ก่อนนอนทุกคืน แต่มุนก็ไม่รู้ว่าฟีเข้าใจอะไรมากมายหรือเปล่า”
“ดีแล้วจ้ะ หนูมนุ ทำถูกแล้ว หนูฟีจะได้ไม่ตกใจเกินไป ถ้าต้องเจอ
กับแม่ จริง ๆ แต่จะเอาอะไรกับเด็กอายุแค่นี้ ทำทุกวันนี้ให้มคี วามสุข หนู
ฟีต้องการแค่นั้นจ้ะ”
“ค่ะคุณยาย มุนก็คิดอย่างนั้น แล้วคุณยายล่ะคะ หน้าร้อนปีนคี้ ุณ
ยายจะไปเที่ยวไหนหรือเปล่าคะ”
“ก็คงจะไปอยู่ที่บ้านฟาร์มของลูกเขยเหมือนทุกปีที่ผ่านมา เขามีบ้าน
หลัง เล็ก ๆ อยู่ที่นั่น ตอนนี้กำลังสร้างหลังใหญ่กว่าเดิม ยายก็คงจะไป
อยู่ที่นั่นจนถึงวันขอบคุณพระเจ้าโน่นเลย”
“มุนคงคิดถึงคุณยาย”
176/559

“ว่าง ๆ หนูมนุ ก็พาหนูฟีไปเยี่ยมยายก็ได้นี่ ขับรถไปประมาณสาม


ชั่วโมง กว่า ๆ ไม่ได้ไกลเลย ลางานทีเ่ วียดเฮาส์สักวันสองวัน ค้างสักคืน
วันรุ่งขึ้นค่อยกลับ”
“ค่ะ ถ้ามุนมีโอกาสต้องไปเที่ยวแน่ ๆ ค่ะ และฟีกค็ งชอบ ถ้ามีคารี
นาไปด้วย”
“แน่นอนจ้ะ ยายต้องพาคารีนาไปด้วยอยู่แล้ว ไปอยูท่ ี่ฟาร์มได้วิ่ง
เล่นสนุกสนาน ยายก็อยากให้หนูฟไี ปด้วยกันนะ ถ้าหนูมนุ ไว้ใจยาย คอก
ม้าที่ฟาร์มก็เพิ่งจะได้ลูกม้าตัวใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัว คารีนาก็ตื่นเต้นจะแย่
อยากไปเห็น”
“อุ๊ย มีม้าด้วยหรือคะ”
“จ้ะ ลูกเขยและหลานชายเขาชอบม้า มีหลายตัวทีเดียว ไม่ใช่มีแต่ม้า
นะ มีสัตว์เลี้ยงมากมายหลายชนิด สี่ห้าปีก่อนที่ลูกเขยยายจะเกษียณ
ตัวเอง เขาก็ไปเริ่มสร้างฟาร์มกับพี่ชายของเขาบนที่มรดก เนื้อทีต่ ั้งสองร้อย
กว่าเอเคอร์เลยทีเดียว”
“โห ลูกเขยคุณยายมีที่ดินเยอะขนาดนั้นเลยหรือคะ” คนถามตาโต
กับสิ่งที่ได้ยิน
“จ้ะ เป็นที่มรดกตกทอดน่ะ ตั้งแต่สมัยปู่ย่าของเขา ปีพันแปดร้อย
กว่า ๆ (ค.ศ. 1800) สมัยที่เขาเข้ามาบุกเบิกอเมริกาโน่นแหละ”
177/559

“มุนไม่เคยไปฟาร์มเลยค่ะ เคยขับรถผ่านเห็นแต่ป้ายชื่อว่าเป็นฟาร์ม
แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเขาทำอะไรบ้างในฟาร์ม”
“นี่ไง งั้นยายก็ชวนหนูมุนเลยละกัน จะได้วางแผนช่วงซัมเมอร์ถูก”
เข้าล็อกของคุณยายกลีบบัวพอดี
“มุนไม่กล้ารบกวนคุณยายและลูกเขย ลูกสาวคุณยายหรอกค่ะ
เกรงใจ”
“เกรงใจอะไรกัน ไม่มีอะไรให้เกรงใจหรอก ยายจะจัดงานวันเกิด
ที่นั่นด้วย หนูมุนต้องพาหนูฟีไปนะจ๊ะ ยายเชิญ”
“เอ่อ ค่ะ” สุดท้ายก็ต้องรับปาก
เวลากว่าสองชั่วโมงทีค่ ุณยายกลีบบัวและละมุนมาศได้คุยกัน มีทั้ง
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และภาพทั้งหมดก็อยู่ในสายตาของใครบางคนที่ตาม
ดูแลอยู่ห่าง ๆ พร้อมกับส่งไปให้เจ้านายดูเป็นระยะ ๆ
16
การกลับมา

เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ละมุนมาศสะดุ้งตื่นในกลางดึก หันไป
มองเวลาที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง ซึ่งจะเป็นเวลาตีหนึ่งแล้ว
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
เสียงเคาะที่ดังขึ้นอีกชุด ละมุนมาศก็ก้าวลงจากเตียง คว้าเสื้อคลุม
มาสวมทับชุดนอน ก่อนจะค่อย ๆ ย่องออกไปจากห้องไปยังประตู
ด้านหน้า ค่อย ๆ มองลอดตาแมวออกไปแล้วก็ต้องตกใจ ยกมือขึ้นขยี้ตา
ตัวเองมองอีกครั้ง
ร่างผอมบางของหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยูห่ น้าประตูในตอนนี้ ทำ
ให้ละมุนมาศต้องตั้งสติครู่หนึ่งก่อนจะรีบปลดโซ่ที่ล็อกประตูออกอย่าง
รวดเร็ว
“แม่” ละมุนมาศยกมือไหว้ นํ้าตาคลอด้วยความดีใจ นึกอยากจะเข้า
ไปกอดแต่ก็ไม่กล้าทำ เพราะว่าไม่เคยทำมาก่อน
179/559

“แม่เข้ามาข้างในก่อนสิคะ” ละมุนมาศรอจนมารดาเดินเข้ามาในห้อง
และ ปิดประตู คุณละมุดเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งที่โฟซาหน้าทีวี ก่อนที่จะ
กวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องของลูกสาว
“ห้องนี้แกซื้อหรือว่าเช่าเขา”
“ซื้อค่ะ”
“แกก็อยู่ดีกินดี มั่งมีเงินทอง ซื้อคอนโดฯ นี้ได้ ข้าวของทุกอย่างก็ดู
ดีมีราคา”
ละมุนมาศเดินมานั่งตรงข้ามเหลือบมองมารดา ไม่ค่อยเข้าใจนักว่า
มารดาพูดอย่างนั้นเพื่ออะไร ชมหรือว่าประชด ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี
ดีใจจนคิดอะไรไม่ออก แต่พอได้ยินมารดาถามอย่างนี้ ละมุนมาศก็ได้แต่
ปลง
“ก็ตามประสาค่ะ หนูก็ค่อย ๆ เก็บเงินซื้อไปเรื่อย ๆ ก็ไม่ได้หรูหรา
อะไร ของบางอย่างก็ซื้อมือสอง แต่ยังอยูใ่ นสภาพดี ก็เลยดูดีอย่างที่แม่
เห็น บางอย่างหนูกป็ รับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลง ทาสีใหม่ หรือว่าเปลี่ยนผ้า
หุ้มเบาะใหม่ เพื่อให้มันดูดี”
“ฟีนิกซ์ล่ะ” ผู้เป็นมารดาเปลี่ยนเรื่องเมื่อได้ฟังลูกสาวพูดถึงความ
มัธยัสถ์ในการใช้ชีวิตให้ฟัง
“นอนตั้งแต่สองทุ่มแล้วค่ะ ฟีคงดีใจถ้ารูว้ ่าแม่มา ฟีกอ็ ยากเจอแม่นะ
คะ ให้หนูไปปลุกดีไหม”
180/559

“ไม่ต้องหรอก”
คำตอบนั้นทำให้ละมุนมาศถึงกับหยุดความดีใจเอาไว้
“อย่ากวนเลย ปล่อยให้หลับเถอะ”
“แล้วแม่จะค้างหรือเปล่าคะ”
“ไม่ค้าง พรุ่งนี้ฉันมีงานต้องทำแต่เช้า”
คำตอบของมารดาทำให้ละมุนมาศรู้สึกเจ็บปวดแทนน้องสาวยิ่งนักที่
ไม่มีโอกาสได้เจอหน้า
“แล้วแม่สบายดีหรือคะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน แม่ทำงานด้วยหรือ”
ละมุนมาศมองเสื้อทีม่ ารดาใส่ก็รู้ว่าทำงานที่ไหน เพราะว่ามีชื่อบริษัท
ติดอยู่หน้าอกเสื้อ แล้วก็นึกแปลกใจ
“อืม ก็เรื่อย ๆ ก็ต้องทำงานสิ ฉันก็ต้องหาเลี้ยงตัวเองเหมือนกัน ไม่
มีใครเลี้ยงนี่ สามีก็ไม่มี ลูกได้ดิบได้ดกี ็ไม่เคยดูแล...” และก็อีกมากมายที่
ผูเ้ ป็นมารดาบ่น ทั้งกระแทกกระทั้น ประชดประชัน ไม่ว่ากีป่ ีผ่านไปมารดา
ก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ละมุนมาศได้แต่นั่งรับฟัง จนผู้เป็นมารดา
หยุดพูดถึงได้ถาม
“ว่าแต่แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่าแค่มาเยี่ยมหนูกับฟีเฉย ๆ”
“มี แต่ไม่รู้ว่าแกจะช่วยได้หรือเปล่า”
“อะไรหรือคะ”
181/559

“มีเงินสักหมื่นสองหมื่นหรือเปล่า”
“หา อะไรนะคะ หมื่นสองหมื่นบาทหรือว่าเหรียญคะ” ละมุนมาศ
ถามกลับตาโต นึกตกใจกับจำนวนเงินที่มารดาเอ่ยปาก
“บ้า หมื่นบาทจะพอยาไส้อะไรได้” ผู้เป็นแม่ตะคอกใส่ แต่พอรู้ตัวว่า
เสียงดังก็เลยต้องรีบลดเสียง
“แล้วแม่จะเอาเงินไปทำอะไรตั้งหมื่นเหรียญคะ”
“ไปใช้หนี้เขา”
ได้ฟังคำตอบแล้วละมุนมาศก็แทบจะเป็นลม มารดาไปสร้างหนี้อะไร
ไว้ตั้งหมื่นเหรียญ
“หนี้ แล้วแม่ไปทำอะไรถึงได้เป็นหนี้มากมาย แล้วเงินที่ปะป๊าทิ้งไว้
ให้ล่ะคะ ไปไหนหมด ตั้งเยอะไม่ใช่หรือคะ” ด้วยความตกใจละมุนมาศก็
เลยทวงถามในสิ่งที่มารดามีทั้งที่ไม่เคยคิดจะไถ่ถาม
“มันหมดไปตั้งนานแล้ว มาซักไซร้ให้มันได้อะไรขึ้นมา ฉันถาม แกก็
ตอบมาสิว่ามีหรือไม่มี ไม่ใช่ให้แกมาย้อนถามฉันอย่างนี้ ฉันเป็นแม่แกนะ
ไม่ใช่น้อง”
คำตอบนั้นทำให้ละมุนมาศพูดไม่ออก นึกถึงเงินทีห่ ล่อนตั้งใจเก็บ
หอม รอมริบจำนวนน้อยนิดในแต่ละเดือนหลังจากที่จ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด
แล้ว เก็บออมเอาไว้เพื่ออนาคตทั้งของตัวเองและน้องสาว
182/559

“มีแต่ไม่ถึงค่ะ แม่ก็รู้นี่คะว่า หนูทำงานเงินเดือนไม่ได้มากมายอะไร


หนูเพิ่งทำงานได้ไม่กี่ปใี นคลินิกเล็ก ๆ เงินที่ได้มาแต่ละเดือนก็ต้องใช้จ่าย
ต่าง ๆ รวมทั้งต้องเลี้ยงน้องด้วย หนูทำงานก็ต้องเอาน้องไปฝากเดย์แคร์
(Day Care - สถานที่รับเลี้ยงเด็กในเวลากลางวัน) เดือนหนึ่งก็หลาย
ร้อยแล้วค่ะ วันทีห่ นูไปทำงานพิเศษต้องเลิกดึกก็ต้องจ้างคนเลี้ยงพิเศษ
ด้วย หนูต้องทำงานสองที่ เพราะทีเ่ ดียวเงินไม่พอเลี้ยงน้อง รวมค่าใช้จ่าย
ต่าง ๆ มีเงินเหลือเก็บเดือนหนึ่งก็ไม่กรี่ ้อย หนูต้องพยายามเก็บไว้ให้น้อง
เรียนหนังสือในอนาคตอีกด้วย” ละมุนมาศบอกตามความเป็นจริง
“ตกลงมีเท่าไร” ผู้เป็นมารดาถามอย่างไม่สนใจ
“มีไม่เยอะหรอกค่ะ เพราะหนูไม่ได้เก็บเอาไว้ในรูปเงินสด หนูซื้อ
เป็นพันธบัตรเก็บไว้ให้น้อง” ละมุนมาศตอบออกไปตามความเป็นจริง ใน
ใจก็นึกกลัวว่ามารดาจะโวยวาย หล่อนไม่อยากให้คนตัวเล็กตื่นขึ้นมารับรู้
ในเรื่องนี้
“อะไรกัน ทำงานมาตั้งหลายปีแล้ว ยังเก็บเงินไม่ได้ ช่างเถอะ มีแค่
ไหนก็แค่นั้น เอามาเท่าที่มีนั่นแหละ ฉันต้องเอาไปใช้หนี้เขา ไม่งั้นคงแย่”
“แม่ก็เลิกเป็นหนี้สิคะ” หลุดปากออกไปตามที่ใจคิด
“แกพูดง่าย ๆ ถ้าเลิกได้ ฉันเลิกไปนานแล้ว”
คำพูดที่ย้อนกลับมาทันทีทันใด นั่นทำให้ละมุนมาศเงียบ และเก็บ
คำพูดที่อยากจะพูดอีกหลายคำไว้ในใจ เพราะมารดาคงไม่ยอมรับฟัง
183/559

หล่อนคิดว่ามารดาคงจะเล่นการพนันเป็นแน่ และหนี้กค็ งจะเป็นหนี้พนัน


นั่นเอง
แม่กย็ ังเป็นแม่คนเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวเอง ความคิดของแม่
เป็นใหญ่เสมอไม่ว่าถูกหรือผิด ไม่รู้ว่าจะโทษอะไรดี จะโทษการศึกษาที่มี
ไม่มากนักก็ไม่น่าจะใช่ เพราะว่าหลายคนที่จบปอสีห่ รือไม่ได้เรียนหนังสือ
บางคน ก็ยังสามารถทำมาหากิน ตั้งเนื้อตั้งตัวจนเป็นเศรษฐีได้ แม่ก็น่าจะ
ทำได้เช่นกัน แต่แม่เลือกที่จะเล่นการพนัน มันก็เลยเป็นอย่างนี้
คิดแล้วก็เศร้าใจ ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างแรง แล้วก็เดินเข้าไป
ใน ห้องนอน หยิบสมุดเช็คออกมาจากกล่องเก็บเงิน เขียนชื่อมารดาลงใน
ช่องผู้รับ พร้อมกับจำนวนเงินสองพันห้าร้อยเหรียญและก็เซ็นชื่อ เมื่อยื่น
ส่งให้มารดาก็คว้าหมับทันที
เงินสองพันห้าร้อยเหรียญไม่ใช่น้อย ๆ กว่าทีห่ ล่อนจะเก็บได้ก็
ใช้เวลานานหลายเดือนทีเดียว รู้สึกใจหายกับจำนวนเงินทีห่ ล่อนหวังว่าจะ
ได้ใช้ประโยชน์ในอนาคต แต่พอคิดว่าให้มารดาผู้ให้กำเนิด ละมุนมาศก็
ตัดใจ
หาใหม่ เก็บใหม่
แต่พอมารดาเห็นจำนวนเงินที่หล่อนให้ก็ถามว่า
“มีเงินให้แม่แค่นี้เองหรือ”
184/559

“มุนมีเงินเก็บไม่มากหรอกค่ะ ลำพังเงินเดือนที่ทำงานไม่พอใช้จ่าย
ในบ้านสองคนหรอกค่ะ มุนถึงต้องทำงานพิเศษด้วย ไม่งั้นคงจะลำบากทั้ง
มุนทั้งฟี ฟีโตขึ้น ทุกวัน ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นตามไปด้วย”
“ทำงานที่ภัตตาคารใหญ่ ๆ เงินน่าจะดี”
มารดารู้ได้อย่างไรว่าหล่อนทำงานทีภ่ ัตตาคาร ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า
มารดารู้ตลอดเวลาว่าหล่อนและน้องอยู่ที่ไหน อยูอ่ ย่างไร แต่ไม่เคยคิดที่
จะมาหาอย่างนั้น ใช่ไหม เจ็บปวดนัก โดยเฉพาะเจ็บปวดแทนคนตัวเล็กที่
มารดาไม่ได้สนใจห่วงใยเลย
“ค่ะ ก็ได้พอใช้จ่ายอย่างไม่ลำบากนัก ไหนจะค่าผ่อนคอนโดฯ ค่านํ้า
ค่าไฟ ค่าบำรุงสถานที่ ประกันรถยนต์ จิปาถะอีกหลายอย่าง มุนเลี้ยงฟีไม่
ให้ด้อยหรือว่าน้อย หน้าคนอื่น”
มารดาลุกขึ้นพร้อมกับโบกมือทันทีที่ละมุนมาศร่ายเรื่องค่าใช้จ่ายให้
ฟัง
“เอาแค่นี้ก่อนก็ได้ วันหลังฉันจะมาใหม่ กินใช้ก็ให้ระวังด้วย จะได้
มีเงินแบ่งให้แม่ใช้บ้าง”
ละมุนมาศได้แต่ฟังไม่ได้โต้ตอบอะไร
“แล้วแม่อยู่ที่ไหนคะ มุนกับน้องไปหาบ้างได้หรือเปล่า”
“จะไปหาทำไม เอาไว้ฉันมีอะไรจะมาหาเอง”
“เผื่อว่าฟี...” ยังไม่ทันที่ละมุนมาศจะพูดจบ มารดาก็เอ่ยยํ้าว่า
185/559

“ฉันบอกว่าจะมาหาเอง”
ในเมื่อมารดาพูดอย่างนั้น ละมุนมาศจึงไม่รจู้ ะทำอย่างไร ดื้อเพ่งไป
ก็ไม่มอี ะไรเปลี่ยนแปลง เพราะว่ามารดาไม่เคยฟังใคร ได้แต่บอกคนตัว
เล็กในใจว่า
ไม่เป็นไรนะฟี มามี้อยู่ตรงนี้
หลังจากทีม่ ารดากลับไปแล้ว ละมุนมาศก็เดินเข้าไปในห้องนอนเล็ก
ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขึ้นเตียง มุดเข้าใต้ผ้าห่มผืนบางลายเจ้าหญิงแสนสวย
พร้อมกับดึงร่าง น้อย ๆ เข้าสู่อ้อมกอดของตัวเองพร้อมหลับตาลง
สิ่งที่อยู่ในสมองตอนนี้มีแต่เรื่องของมารดา คิดถึงเงินที่เก็บหอมรอม
ริบเอาไว้เพื่อใช้จ่ายยามจำเป็นในอนาคตหรือเพื่อคนในอ้อมกอด แต่ละมุน
มาศก็ปฏิเสธคำร้องขอไม่ได้ มารดาเป็นผู้มีพระคุณที่ต้องทดแทน เพราะ
ถ้าไม่มีมารดา หล่อนก็คงจะไม่มีวันนี้เช่นกัน
หล่อนรู้สึกสงสารคนตัวเล็กจับหัวใจ ที่มารดาไม่แม้แต่จะอยู่รอพบ
พอได้เงินก็รีบกลับไปทันที ไม่แม้แต่จะจูบลา นึกดีใจที่ไม่ได้บอก
ความจริงว่ามีเงินอยู่เท่าไร ไม่อย่างนั้นคงไม่เหลือ หนีท้ ี่มารดาพูดถึงก็คง
ไม่แคล้วเป็นหนี้ในวงไพ่ ละมุนมาศรู้สึกตกใจมากเมื่อได้ฟังจำนวนเงินที่
มารดาบอกหา มันมากมายเหลือเกิน
หมื่นสองหมื่น หมายความว่ามารดาไปติดหนี้ใครจำนวนมากมาย
ขนาดนั้นเลยหรือ แล้วที่ผ่านมามารดาอยู่ได้อย่างไรกัน
186/559

ก็ได้แต่หวังว่าเงินที่หล่อนให้ไป มารดาจะนำไปใช้หนี้จริง ๆ ไม่เอา


ไปเล่นจนหมดอีก แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นหล่อนจะทำอย่างไร จะต้องขวนขวาย
หาเงินสำรองไว้ให้มารดาไม่จบไม่สิ้นอย่างนี้ต่อไปหรือ แล้วอนาคตของ
หล่อนกับฟีนิกซ์ล่ะ
แม่จะรู้บ้างไหมหนอ ว่ามีหลายคนทีห่ มดเนื้อหมดตัวไปกับตรงนั้น
แล้วเมื่อไรแม่ถึงจะรู้ตัวเสียที ถ้าหล่อนจะเตือนผู้ให้กำเนิดจะบาปหรือเปล่า
นะ
ยิ่งคิดถึงมารดา อ้อมกอดของละมุนมาศก็รัดร่างน้อยในอ้อมกอด
แน่นเข้าอีก ริมฝีปากอิ่มจูบขมับน้อย ๆ อย่างแสนรัก
มามี้รักฟีนะคะ รักมากที่สุด
จากที่คิดกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยของตัวเองและคนตัวเล็ก
ละมุนมาศก็มีเรื่องให้คิดใหม่คือเรื่องของมารดา นึกเป็นห่วงยิ่งกว่า แต่
ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จะแก้ปัญหาอย่างไร หรือว่าจะดึงมารดาออกมา
จากตรงนั้นได้อย่างไร
ปัญหานี้หนักหนาสาหัสทีเดียว
จากทีห่ ล่อนเคยรับรู้มาว่า คนที่ติดการพนันหรือสิ่งมึนเมาพวกนี้
สามารถเลิกได้ หล่อนควรแนะนำมารดาให้ไปขอความช่วยเหลือจาก
หน่วยงานที่ดูแลในเรื่องนี้ ถ้าไม่เช่นนั้นท่านจะลำบากมากขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ
เพราะดูแล้วท่านเปลี่ยนไปมาก ร่างกายผ่ายผอม หน้าตาหมองเศร้าราวกับ
187/559

คนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ จนแทบไม่มเี ค้าเดิมที่เคยอวบอิ่ม มีความสุข


หน้าตาสดใส รักสวยรักงาม ดูแลตัวเองทั้งเรื่องการแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม
ไม่เคยปล่อยเนื้อปล่อยตัวอย่างนี้
มารดาทีห่ ล่อนเคยเห็นหลายปีที่แล้ว ตอนที่พาน้องสาวตัวน้อยมาทิ้ง
ไว้ให้ก็ยังไม่โทรมถึงขนาดนี้
เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของมารดากันแน่นะ หรือว่ามารดาไม่สบายและ
ไม่ได้รับการรักษา ช่วงชีวิตที่ผ่านมาหล่อนไม่เคยเห็นมารดาทำงานเป็น
เรื่องเป็นราวอะไรเลย แต่พอคิดอีกทีก็ดีที่มารดาทำงาน ถ้าไม่ทำงานคงจะ
ลำบากกว่านี้เป็นแน่ แล้วงานที่มารดาทำจะได้ชั่วโมงละเท่าไร จะพอกิน
พอใช้หรือเปล่า และเงินที่หล่อนให้ไปก็ได้แต่หวังว่าท่านจะนำไปใช้ในสิ่งที่
เป็นประโยชน์จริง ๆ
สารพัดเรื่องราวในสมองที่ทำให้ละมุนมาศไม่สามารถหลับตาลงได้
17
แดดดี้...ของคารีน่า

“เคล้ง !” เสียงทีด่ ังอยู่นอกห้องปลุกให้ร่างบางที่กำลังหลับสนิทใน


ตอนเช้าลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ ใบหน้าที่ยังยับยู่ยหี่ ันไปทางหน้าต่าง แดด
อ่อน ๆ ในตอนเช้าที่ส่องผ่านผ้าม่านลูกไม้สีขาวสะอาดเข้ามา ทำให้รู้ว่าถึง
เวลาต้องตื่นแล้ว
ละมุนมาศมองหาร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของหล่อนตลอดคืนแต่ไม่
มี แล้วก็คิดถึงเสียงที่ดังอยู่ข้างนอก เหลือบมองนาฬิกาแล้วก็พอจะรู้ว่าอีก
คนคงจะหิวและหาอะไรทานนั่นเอง ยกมือขึ้นลูบหน้าแล้วคิดถึงเรื่องราวที่
เกิดขึ้นเมื่อตอนดึก จนทำให้หล่อนนอนไม่หลับ กว่าจะหลับได้กป็ าเข้าไป
วันใหม่แล้ว วันนี้เลยตื่นสายกว่าปกติ พอคิดได้ว่าต้องไปทำงาน ละมุน
มาศก็เลยต้องลุกจากเตียง วันนี้หล่อนไปทำงานสายและเลิกคํ่าได้
เพราะว่าโรงเรียนของฟีนิกซ์หยุดและจะอยู่ในความดูแลของมิสซิสลี
เมื่อเดินเข้าไปในครัว ก็เห็นร่างเล็กในชุดนอนสีเหลืองอ่อนยืนอยู่บน
ตั่ง ในมือมีส้อมอันโต และพอคนตัวเล็กได้ยินเสียงหาวก็หันมา ใบหน้า
น้อย ๆ ที่ผมเรียบด้านหน้ายังเปียกอยู่ส่งยิ้มให้อย่างน่ารัก
189/559

“มอร์นิงค่ะมามี้”
“มอร์นิงค่ะฟี กำลังทำอะไรอยู่คะ”
ละมุนมาศยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเนียนเบา ๆ
“โทสต์ (Toast - ขนมปังปิ้ง) ฟีทำให้มามีด้ ้วยนะคะ ฟีทำอาหาร
ให้มามี้ทานก่อนไปทำงานค่ะ” คำตอบของคนตัวเล็กทำเอาละมุนมาศรู้สึก
แน่นหน้าอกขึ้นมาทันที เดินไปรวบร่างเล็กเข้าสู่อ้อมกอด นํ้าตาเอ่อซึม
อายุแค่นี้ แต่รู้จักทำอาหารเช้าเผื่อแผ่คนรอบข้าง แล้วอย่างนีจ้ ะไม่ให้
หล่อนรักได้อย่างไรกัน
“ขอบคุณค่ะเด็กดี มามี้ว่าต้องอร่อยแน่ ๆ เลย”
“มามี้ไปอาบนํ้าสิคะ โทสต์จะเรียบร้อยในเวลาไม่ถึงห้านาทีนี้ค่ะ”
ได้ฟังคำบอกแล้วก็อดที่จะจูบแรง ๆ ที่ข้างแก้มเนียนไม่ได้
“ขอบคุณค่ะ งั้นรอมามี้ห้านาทีนะคะ” ละมุนมาศเดินจากไปพร้อม
หัวใจทีเ่ ปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกดี ๆ ที่ได้รับจากคนตัวเล็ก พร้อมกับ
คำสัญญาจากหัวใจว่า
หล่อนจะทำทุกอย่างในชีวิตนี้ เพื่อให้คนตัวเล็กมีความสุข ได้รับสิ่งที่
ดีที่สุดในชีวิต
หลังจากอาบนํ้าแต่งตัวแล้ว ละมุนมาศก็กลับมายังห้องครัวอีกครั้ง
ทำนบ นํ้าตาแทบไหลเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่บนโต๊ะอาหารเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ห้องน้ำ
190/559

มีขนมปังปิ้งสีแ่ ผ่นในจานวางตรงกลางโต๊ะ ถ้วยเล็กพร้อมช้อนกับซีเรียล


สองถ้วย แก้วพลาสติกรูปเจ้าหญิงทีม่ ีนํ้าส้มอยูเ่ ลอะเทอะเล็กน้อยสองแก้ว
และนมขวดใหญ่ตั้งอยู่ พร้อมกับเจ้าตัวที่กำลังเปิดตู้เย็นหาของบางอย่าง
ละมุนมาศป้ายนํ้าตาที่กำลังเอ่อล้นออกมาทางหางตาก่อนที่จะทักขึ้น
ว่า
“ฟีกำลังหาอะไรคะ”
“เนยกับแยมส้มที่มามี้ชอบน่ะค่ะ แต่หาไม่เจอ”
คำตอบนั้นทำให้ละมุนมาศถึงกับจุกแน่นในอกหายใจแทบไม่ออก ที่
ได้รับรู้ถึงความเอาใจใส่ของคนตัวเล็ก ในใจนึกอยากอ่อนแอ ปล่อยให้นํ้า
ตาแห่งความตื้นตันปลื้มปีติรินไหลแต่ก็ทำไม่ได้ หล่อนไม่อยากให้คนตัว
เล็กเห็นนํ้าตาจึงต้องยิ้มกว้าง ก่อนที่จะเดินไปหยิบเนยที่อยูช่ ั้นบนสุดของ
ตู้เย็นออกมา
“นี่ค่ะ ต้องการอะไรอีกไหมคะ”
“พอแล้วค่ะ มากินอาหารเช้ากันดีกว่าค่ะมามี้”
มือเล็กจูงมือใหญ่ให้เดินตาม ละมุนมาศก้มลงอุ้มร่างเล็กขึ้นมา
พร้อมกับหอมแก้มเนียนอย่างแสนรัก ก่อนที่จะวางร่างเล็กลงบนเก้าอีต้ ัวที่
เสริมเบาะให้สูงซึ่งเป็นที่ประจำของเจ้าตัว พร้อมกับแปะกระดาษเช็ดปากไว้
ที่คอเสื้อให้
191/559

“มามีข้ อบคุณมาก ๆ เลยในสิ่งที่ฟที ำให้ มามี้ดีใจมาก ขอบคุณที่


เป็นเด็กดีของมามี้ มามี้รักฟีนะคะ รักมากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้”
“ฟีก็รักมามี้ค่ะ รักมากที่สุดในโลกเลย” คำบอกรักพร้อมจมูกเล็ก ๆ
ก็ยื่นมาหอมแก้มฟอดใหญ่
หลังอาหารเช้ามื้อนั้น คนตัวเล็กก็ได้รับข่าวว่าหากคารีน่าหยุดวันนี้
คุณยายกลีบบัวจะพามาเล่นด้วย ให้รอโทรศัพท์อยูใ่ นห้อง ทำเอาคนตัว
เล็กดีใจกระโดดตัวลอยร้องเย้ ๆ ละมุนมาศได้แต่ยิ้มให้กับภาพที่เห็น นึก
ดีใจที่เห็นคนตัวเล็กมีความสุข จนทำให้ละมุนมาศต้องภาวนาในใจว่า
ขอให้โรงเรียนของคารีนาหยุดด้วยเถอะ ไม่อยากเห็นคนตัวเล็กดีใจ
เก้อ คงจะเสียความรู้สึกน่าดู เพี้ยง !
รอยยิ้มเต็มใบหน้าของคุณยายกลีบบัวในชุดออกกำลังทะมัดทะแมง
ทีเ่ ดินนำหลานชายตัวโตเข้าไปในสนามเด็กเล่น โดยมีเหลนสาวตัวน้อยวิ่ง
นำหน้าไปก่อนแล้ว
วันนี้หลานชายคุณยายมาหา มารับคุณยาย วัน และลูกสาวไปทาน
อาหารกลางวันนอกบ้าน แล้วก็พามาที่สนามเด็กเล่นแห่งนีต้ ามคำขอของ
คุณยาย
“คุณยายมาที่นี่บ่อยหรือครับ” คารีโนถาม หลังจากทีเ่ ห็นคุณยาย
ของเขา ยิ้มแย้มทักทายคนที่พาลูกหลานหรือพี่เลี้ยงที่พาเด็ก ๆ มาเล่นที่นี่
อย่างคุ้นเคย
192/559

“จ้ะ”
ตอนนี้ลูกสาวตัวน้อยของเขาจูงมือเพื่อนสาวคนสนิทพากันวิ่งกลับมา
หา
“สวัสดีค่ะคุณยาย” มือเล็ก ๆ บาง ๆ สองข้างยกขึ้นไหว้อย่างน่ารัก
คารีโนแอบมองเด็กหญิงตรงหน้าผ่านแว่นกันแดดสีดำสนิท เจ้าหล่อนอยู่
ในชุดเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวสีฟ้าอ่อน ที่หน้าอกมีรูปเจ้าหญิงสวยงาม
ผมยาวสลวยสีนํ้าตาลอ่อนที่ปลายโผล่ออกมาจากหมวกแก๊บใบเล็กนั้นปลิว
ไสว แก้มสองข้างแดงระเรื่อ ดูท่าทางเด็กหญิงที่โบกมือวิ่งเข้ามาทักทาย
คุณยายของเขามาแต่ไกลแล้ว ก็รู้ว่าคงรู้จักกันมานานพอสมควร
“สวัสดีจ้ะหนูฟี” คุณยายเปิดยิ้มกว้างรับไหว้
“มานานหรือยังจ๊ะ”
“พอได้รับโทรศัพท์จากคุณยาย มิสซิสลีก็พาฟีมาเลยค่ะ”
“มิสซิสลีอยู่ที่ไหนหรือจ๊ะ”
มือเล็ก ๆ ชี้ไปทางที่มิสซิสลีนั่งคุยกับหญิงมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
อยู่ คุณยายมองตามแล้วก็ยกมือขึ้นโบกทักทาย ก่อนจะหันมาให้ความ
สนใจกับเด็กหญิงตัวน้อยตรงหน้าต่อ
“เอ้า คารีนา แนะนำแดดดี้ของหนูหน่อย ใช้ภาษาไทยนะจ๊ะ” คุณ
ยายกลีบบัวบอกเหลนสาวตัวน้อยที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า
193/559

“ฟี นี่แดดดีข้ องคารีน่า ชื่อ ตรัง คารีโน แดดดีพ้ ูดไทยได้ด้วยนะฟี


นี่ฟี เพื่อนรักของคารีนาค่ะแดดดี้”
“สวัสดีค่ะตรัง เอ่อ...อะไรต่อนะ” ตอนท้ายหันไปทางคนแนะนำ
“คารีโน”
“ชื่อของคุณยาวจังเลย ฉันเรียกคุณง่าย ๆ สั้น ๆ ได้ไหมคะ”
ใบหน้าเล็ก ๆ น่ารักนั้นเงยขึ้นถาม
ตรัง คารีโน มองอย่างเอ็นดู
“ได้สิ เรียกฉันว่าตรังเหมือนคุณยายก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนรักของ
คารีนาค่ะ”
จากนั้นยื่นมือหนาของตัวเองออกไปตรงหน้า
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณเช่นกันค่ะ” คนตัวเล็กเงยหน้าคอตั้งบ่าส่งยิ้มอย่าง
อาย ๆ พร้อมกับยื่นมือเล็ก ๆ มาจับมือของเขาอย่างน่ารัก ทำให้ ตรัง คา
รีโน ต้องย่อตัวลงนั่งยอง ๆ ส่งยิ้มอบอุ่นให้
“ฟีนิกซ์ชื่อน่ารักมาก เก่งจังเลยค่ะ พูดไทยได้ด้วย”
“ขอบคุณค่ะ คุณก็พูดไทยได้เก่ง เอ่อ ขอฟีกับคารีนาไปเล่นก่อนได้
ไหมคะ” คนตัวเล็กขออนุญาต คารีโนก็เลยพยักหน้าให้
“ก่อนกลับมาหายายด้วยนะ มีขนมมาให้หนูด้วย” คุณยายตะโกน
ตามหลัง
194/559

“ค่ะ หนูจะไม่ลืม คุณยายก็อย่าเพิ่งกลับนะคะ ไปกันเถอะคารีนา”


“จ้ะ”
สองร่างเล็ก ๆ จับจูงมือพากันวิ่งจากไปแล้วคุณยายก็ออกเดินต่อ
โดยมี หลานชายเดินขนาบอยู่ข้าง ๆ คอยระวัง
“ฟีนิกซ์น่ารักนะครับ” พูดออกไปแล้วก็รอฟังต่อว่าคุณยายของเขาจะ
พูดอะไรบ้าง
“เด็กลูกครึ่งจะน่ารักอย่างนี้แหละ แม่เป็นไทยไง ตรังก็อาจจะคุ้น
หน้าคนไทยไงจ๊ะ เด็กคนนี้หน้าตาน่ารัก มารยาทก็งาม มามี้เขาสอนดี แต่
ชีวิตน่าสงสารนะ”
“ทำไมหรือครับ”
“พ่อแม่เลิกกัน แม่ก็หอบหิ้วลูกสาวหนี แล้วก็เอามาทิ้งให้อยูก่ ับ
พี่สาวต่างพ่อเป็นคนเลี้ยงตั้งแต่เล็ก ๆ ไง จากพี่สาวก็เลยต้องเป็นมามี้
เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่จบมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ”
คำตอบนั้นทำให้คารีโนอึ้งไปชั่วขณะ
“มามีก้ ต็ ้องทำงานสองที่ เพื่อหาเงินตัวเป็นเกลียวมาเลี้ยงน้อง
เพื่อให้ครอบครัวอยู่รอด จนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนเลยทีเดียว”
“คุณยายรู้จักฟีนิกซ์นานแล้วหรือครับ”
“ก็สามปีกว่าได้แล้วมั้ง”
195/559

“ถึงว่าฟีนิกซ์กับคารีนาถึงได้สนิทสนมกันเหลือเกิน”
“ใช่ เล่นกันบ่อย ๆ ก็เลยสนิทกัน ดูท่าว่าจะรักกันดี ว่าแต่เมื่อไร
ตรังจะแต่งงานมีครอบครัวล่ะลูกหือ สาวไทยคนนั้นไปถึงไหนแล้ว” จู่ ๆ
คุณยายก็เปลี่ยนเรื่อง
“สาวไทยคนนั้นก็ยังอยู่ครับ แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า”
“ไม่คืบหน้าแล้วเมื่อไรยายจะมีเหลนหือ ยายคงจะมีชีวิตที่ยืนยาวกว่า
นี้อีกเป็นแน่ ถ้าตรังมีเหลนให้ยาย”
“ตอนนี้คุณยายก็มีคารีนาแล้วไงครับ” หลานชายแกล้งตอบ
“แต่ยายก็ยังอยากได้อีกหลาย ๆ คน”
“งั้นก็เอาไว้ให้ผมหาเมียให้ได้ก่อนสิครับ ตอนนีค้ ุณยายก็เล่นกับคารี
นาและฟีนิกซ์ไปก่อน”
“แล้วสาว ๆ ที่เห็นควงอยู่นี่ไม่ดีพอเป็นเมียสักคนเลยหรือไง”
คำถามนั้นทำให้หลานชายตัวโตอดที่จะหัวเราะไม่ได้ก่อนที่จะตอบว่า
“ก็ดคี รับ แต่ยังไม่ดพี อที่จะเป็นหลานสะใภ้คุณยาย และอีกอย่างผม
ยังไม่รักใคร คุณยายไม่ต้องห่วงหรอกครับ รับรองคุณยายได้เลี้ยงเหลน
แน่ ๆ”
“เอาเป็นว่ายายจะรอนะ”
196/559

“คุณย่าทวด/แดดดี้/คุณยายคะ ดูนสี่ ิคะ” สองเสียงเล็ก ๆ ช่วยกัน


เรียก พร้อมกับทีส่ องร่างน้อย ๆ ก็โหนรูดเสาเลียนแบบพนักงานดับเพลิง
ลงมาถึงพื้นอย่างรวดเร็ว คุณยายได้แต่ส่ายศีรษะน้อย ๆ หันไปพูดกับ
หลานชายว่า
“คารีนาสดใสน่ารักนักเมื่ออยู่กับหนูฟี เล่นเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เขา
รักเพื่อนเขามาก ทำอะไรกินอะไรก็คิดถึงคนเป็นเพื่อนเสมอ”
“ครับ ผมดีใจที่คารีนามีความสุข ดีใจที่เห็นเขามีเพื่อน”
“ไฮ มิสซิสกลีบบัว สบายดีหรือเปล่า” มิสซิสลีเดินเข้ามาทักทาย
อย่างคุ้นเคย ทำให้การสนทนาของคุณยายกับหลานชายต้องหยุดลง คารี
โนรู้สึกเสียดาย เขาอยากถามคุณยายเกี่ยวกับเด็กหญิงฟีนิกซ์มากกว่านีแ้ ต่
ก็ทำไม่ได้
“ไฮ มิสซิสลี ฉันสบายดี ขอบคุณมาก แล้วคุณล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง
นานแล้วสินะที่ไม่ได้เจอคุณ”
“ฉันสบายดี ขอบคุณ ปกติฉันดูแลฟีนิกซ์แค่ตอนเย็น แต่วันนี้
โรงเรียนของฟีนิกซ์หยุดก็เลยได้ดูทั้งวัน”
คุณยายกลีบบัวแนะนำหลานชายให้รู้จักกับมิสซิสลี ทักทายกันเสร็จ
แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น ทำให้คารีโนขอตัวออกจากวง
สนทนา คุยสักพักวางสายแล้วก็เดินไปหาลูกสาว บอกลาไปทำงานแล้วเขา
197/559

ก็ขอตัวจากคุณยาย โดยทิ้งลูกสาว ตัวน้อยไว้กับคุณยายและวัน ทั้ง ๆ ที่


เขามีอะไรหลายอย่างที่สงสัยอยากถาม แต่โอกาสไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไร
18
คำตอบที่ต้องการ

คารีโนขับรถไปคิดไปอย่างนึกเสียดาย เขามีโอกาสได้อยูก่ ับคุณยาย


แต่ไม่มโี อกาสได้ถามในสิ่งที่สงสัย ขับรถออกมาได้ไม่นานก็คิดวิธีออก เขา
ก็คว้าโทรศัพท์มากดหาหมายเลขที่บันทึกเอาไว้
“อย่าบอกนะว่าคิดถึง ถึงได้โทร. มาหายาย” เสียงแซวมาจากทาง
ปลายสาย ทำให้คารีโนหัวเราะทันที
“ครับ ตรังคิดถึงคุณยายจริง ๆ ครับ”
“ปากหวานอีกแล้ว มีอะไรหรือลูก” เสียงอบอุ่นอ่อนโยนถามกลับ
“ผมอยากถามคุณยายเรื่องฟีนิกซ์ครับ”
“ทำไมถึงได้ติดใจฟีนิกซ์นักล่ะหือ”
“ผมสงสัยบางอย่างครับ ฟีนิกซ์กับละมุนมาศเป็นอะไรกันครับคุณ
ยาย”
คำถามตรงจุดของหลานชาย ทำให้คุณยายเปิดยิ้มกว้างอยู่คนเดียว
199/559

“ฟีนิกซ์กับหนูมนุ หรือลูก ว่าแต่ตรังว่างพอที่จะฟังยายหรือเปล่าล่ะ


ลูก ต้องขับรถอยูไ่ ม่ใช่หรือ ไม่สะดวกมั้ง” คารีโนรูว้ ่าคุณยายกำลังมี
ลูกเล่น ท่านรู้ว่าเขาอยากรู้ก็เลยออกนอกทางเล็กน้อย
“ผมมีหูฟังครับคุณยาย” พอเขาบอกอย่างนั้น คุณยายก็หัวเราะเบา
ๆ ก่อนที่จะพูดว่า
“เรื่องของเรื่องก็คือว่า ฟีนิกซ์เรียกหนูมุนว่ามามี้จริง แต่หนูมนุ เป็น
พี่สาว ฟีนิกซ์หวงพี่สาว และอีกอย่างคงคิดถึงแม่ อยากมีแม่ เด็กเล็ก ๆ
ถูกแม่ทิ้งก็ขาดความอบอุ่นไง อยูก่ ับพี่สาวก็เลยเรียกพี่สาวว่ามามี้ ซึ่งพี่สาว
ก็ยอมและเข้าใจก็เลยเป็นอย่างนั้นตลอดมา” คำตอบของคุณยาย ทำให้
หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น ใบหน้าหล่อเข้มยิ้มกว้างอยู่คนเดียว
“แล้วคุณยายรู้จักหนูมุนมานานหรือครับ และที่เขาไปทำงานที่ร้าน
ของเรา ก็เพราะคุณยายใช่หรือเปล่าครับ” คารีโนเรียกอีกฝ่ายว่าหนูมุน
ตามคุณยายของเขา
“หลายปีแล้วละ ยายเจอหนูมุนและฟีนิกซ์ที่สนามเด็กเล่นนั่นแหละ
คุยกันไปคุยกันมาก็รู้ว่าต้องเลี้ยงน้อง อยากมีรายได้เพิ่ม ยายก็เลยแนะนำ
ให้ไปสมัครที่ร้าน จริง ๆ แล้วก็ฝากมิสมินต์นั่นแหละ ฟีนิกซ์กับคารีนาก็
อายุพอ ๆ กัน ช่วงหลังมานี้ยายก็เลยพาคารีนาไปเล่นกับฟีนิกซ์ด้วย เล่น
เข้ากันได้อย่างดี แต่หนูมุนไม่รหู้ รอกนะว่ายายเป็นใคร จนบัดนี้ พูดถึง
เรื่องนี้ก็ดีแล้ว ยายไม่รู้ว่าตรังคิดอย่างไรกับหนูมนุ ถึงได้ถาม ถ้าไม่ได้คิด
อะไรก็อย่าไปทำให้เขาเสียหาย หนูมุนเป็นเด็กดี น่าสงสาร ยายไม่อยากให้
200/559

เขาเป็นแค่ของเล่นของตรัง เข้าใจไหมลูก ยายขอ” คำขอของคุณยาย


ทำเอา คารีโนสะดุ้งเล็กน้อย
“หมายความว่าไงครับ ของเล่น แล้วหนูมุนเขามาฟ้องอะไรคุณยาย
หรือครับ”
“ของเล่นก็หมายความว่า ตรังไม่ได้คิดจริงจังไงลูก แค่มีความสุขไป
วัน ๆ อะไรแบบนั้น และหนูมุนก็ไม่ได้ฟ้องอะไรยายด้วย เวลามีอะไรหนู
มุนก็จะพูดให้ยายฟัง คนตัวคนเดียวไม่มญ ี าติผู้ใหญ่ให้รับฟังเรื่องราว
และหนูมุนก็ไว้ใจยายไง เราคุยกันทุกเรื่อง พอดีช่วงที่ไนฮัวโอนร้านให้ตรัง
ดูแล หนูมุนก็เล่าให้ยายฟังเรื่องเจ้านายคนใหม่ และมีหลุดออกมา ไม่
ชัดเจนนักหรอก ยายเดาเอาว่าเจ้านายคนใหม่ต้องทำอะไรหนูมุนแน่ ๆ ก็
เราน่ะเจ้าชู้ไม่เบา เห็นใครสวยเป็นไม่ได้ และหนูมุนก็ทั้งสวยทั้งน่ารักอย่าง
นั้น แต่หนูมนุ ก็ไม่ได้บอกยายหรอกนะว่าตรังทำอะไร ว่าแต่ไปทำอะไรเขา
เข้าล่ะหือ” คำถามของคุณยาย ทำให้คารีโนหัวเราะเสียงดังก้องอย่างถูกใจ
“ผมเรียกร้องความสนใจจากเขา แล้วก็จูบนิดเดียวเองครับ”
“จูบเลยหรือ โอ้ ตายแล้วตรัง ทำอย่างนั้นได้อย่างไรลูก หนูมุน
เสียหายหมด” คุณยายเอะอะมาตามสาย
คารีโนได้แต่หัวเราะ
“ไม่เสียหายหรือว่าบุบสลายหรอกครับ นิดเดียวเอง คนอื่นเขาจูบกัน
รุนแรงกว่านี้”
201/559

“อย่ามาแก้ตัวเลย” คนแก้ตัวก็เลยได้แต่ยิ้มชอบใจอยู่คนเดียว
“ไปจูบเขาแล้วมาว่าไม่เสียหายได้ไงลูก จะนิดเดียวหรือว่ามากก็
เสียหาย ที่คนอื่นเขาจูบกัน เพราะว่าเขาเป็นแฟนกัน รักกัน และก็คุ้นเคย
กับการแสดงออกทางความรักอย่างนั้น แต่ตรังกับหนูมุนไม่ใช่แฟนแล้วไป
หาเรื่องจูบเขาทำไมกัน”
“ก็...”
“ยายจะบอกให้นะ หนูมนุ ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างทีต่ รังเคยเจอ ที่ว่าเห็น
หน้า มองสบตากันไม่ถึงห้านาทีแล้วก็จูบกันได้น่ะ เขาเป็นคนรักนวลสงวน
ตัว เป็นไทยแท้ทีเดียว ซึ่งจริง ๆ เด็กสมัยนี้ก็แทบจะไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว
โดยเฉพาะเด็กที่มาโตที่นี่ แต่หนูมุน ยังเป็นอย่างนั้น”
“คุณยายรู้จักหนูมุนดีจังเลยนะครับ”
“รู้จักสิ เพราะว่ายายรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับหนูมุน”
“แล้วเขามีแฟนหรือยังครับ” ได้โอกาสเลยต้องถาม
“คนสวย น่ารัก นิสัยดีอย่างหนูมุน ตรังคิดว่าจะไม่มีหนุ่ม ๆ มา
ชอบหรือไง”
“แล้ว...”
“ตรังอย่าทำอะไรไม่ดีกับหนูมุนอีกนะลูก ในเมื่อหนูมุนไม่เต็มใจ มัน
ไม่ดี เหมือนไปบังคับฉกฉวย ถ้าเกิดหนูมุนโกรธขึ้นมาล่ะ ไม่กลัวโดนตบ
หรือไงฮึ”
202/559

“ไม่กลัวครับ ตบผมก็จูบอีก และถ้าโกรธผมก็จะง้อ” คารีโนไม่รวู้ ่า


คำตอบของเขาทำให้เกิดรอยยิ้มบนใบหน้าเหี่ยวย่นของคุณยายเป็นอย่างดี
“แล้ว...แล้ว ถ้าเกิดผมจริงจังกับหนูมนุ ของคุณยายล่ะครับ” ตรังถาม
หยั่งเสียงผู้เป็นยาย
“ถ้าจริงจังก็ต้องทำให้ถูกต้อง”
“ผมต้องทำอย่างไรให้ถูกต้อง ที่นเี่ ขาคบกันเป็นแฟนกันก็อยูด่ ้วยกัน
จะได้ศึกษากันอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะได้ตัดสินอนาคต พอใจก็อยูด่ ้วยกัน
ไม่พอใจ เข้ากันไม่ได้ก็เลิกกัน จนกว่าจะแน่ใจถึงจะแต่งงาน”
“หนูมุนคงไม่ทำอย่างนั้นแน่ ที่ถูกต้องของยายก็คือ เข้าตามตรอก
ออกตามประตู หนูมุนไม่มีใครแล้ว อยู่ลำพังตัวคนเดียว”
“แล้วพ่อแม่ของหนูมุนไปไหนล่ะครับ” ได้ทีจึงสืบถามจากคุณยายไป
ด้วย คารีโนเรียกหนูมุนตามคุณยายอย่างรู้สึกคุ้นเคยและอ่อนโยนใน
หัวใจ
“พ่อของหนูมุนเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนแม่อันนีย้ ายก็ไม่รู้ หนูมุน
บอกว่า คุณละมุด แม่ของหนูมุนชื่อละมุด หายไปตั้งแต่เอาฟีนิกซ์มาทิ้งไว้
ให้เมื่อหลายปีก่อน ไม่เคยติดต่อกลับมาอีกเลย เอาเป็นว่าต่อไปนี้ยายจะ
เป็นผู้ใหญ่ให้หนูมุนเอง”
คำตอบของคุณยาย ทำให้คารีโนถึงกับต้องหัวเราะ แอบคิดในใจว่า
ตกลงคุณยายเป็นยายของเขาหรือว่าเป็นยายของหนูมุนกันแน่นะ
203/559

“หัวเราะอะไร จำไว้ละกัน ห้ามเกินเลยเด็ดขาด เกินเมื่อไร่ ยายจะ


ให้ตรัง รับผิดชอบด้วยการแต่งงานทันที เข้าใจไหม ต้องเข้าตามตรอก
ออกตามประตู”
“ตกลงคุณยายเป็นยายของผมหรือว่าของหนูมุนครับ” คารีโนแกล้ง
แหย่ คุณยาย
“ทั้งสองคน”
“แล้วการเข้าตามตรอกของคุณยายหมายความว่าไงครับ ผมไม่
เข้าใจ”
คำถามของเขาทำให้คุณยายหัวเราะอย่างขำ ๆ มาตามสายก่อนที่จะ
อธิบายว่า
“มันเป็นสำนวนไทย เป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิง เข้าถึงผู้ใหญ่ ให้
ผู้ใหญ่รับรู้ แล้วคู่หนุ่มสาวก็ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป ศึกษากันไป ให้เป็นไป
ตามขั้นตอน ไม่ล่วงลํ้าให้อีกฝ่ายเสียหาย จนกว่าจะถึงเวลาแต่งงาน ไม่ใช่
ว่า รู้จักกัน คบกัน ก็พาฝ่ายหญิงไปปู้ยี่ปู้ยำทำตามอารมณ์ ความต้องการ
ทางร่างกายอย่างนั้นเป็นการลัดขั้นตอน ไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่”
“โห ฟังดูยากจังเลย ล่วงลํ้าอะไรครับ” เป็นอีกครั้งที่คุณยายต้อง
หัวเราะ แล้วก็อธิบายกลับอย่างอารมณ์ดี
“ก็แบบว่าหญิงชายมีอะไรกันไงล่ะ”
204/559

“โห ห้ามตรงนี้ด้วย แล้วจะคบกันไปทำไมครับเนี่ย แล้วปู้ยี่ปู้ยำอะไร


ของคุณยายนี่หมายความว่าอย่างไรครับ รู้สึกว่าวันนี้ผมฟังคุณยายพูดแล้ว
ภาษาไทยผมด้อยลงไปมากเลย เรื่องมากยากนัก ผมไปขอคบแล้วก็ชวน
มาอยู่ด้วยที่บ้านเลยดีกว่า ง่ายกว่า บอกกันตรง ๆ ไปเลยจะได้ไม่
เสียเวลา ผมจะรับผิดชอบฟีนิกซ์ด้วย ให้ฟีนิกซ์มาอยูก่ ับคารีนาเด็กสอง
คนนั้นก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี ดีเสียอีกคารีนาจะได้ไม่เหงา”
“ทำอย่างนั้นยายว่าหนูมุนคงยอมหรอก”
“คุณยายไม่ให้กำลังใจตรังเลยหรือครับ น่าน้อยใจจัง” แกล้งอ้อน
คุณยาย
“ยายอยากให้ตรังคิดให้ดี ว่าแค่เขาแปลก ไม่เหมือนใคร อยาก
เอาชนะ หรือว่าเป็นเพราะหัวใจของตัวเอง”
“คือ...”
“หาคำตอบของตัวเองให้เจอ คำตอบที่ออกมาจากหัวใจ แล้วตรังจะรู้
ว่าควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ว่าแต่จะรับปากเรื่องที่ยายขอได้หรือเปล่าจ๊ะ”
คำขอของคุณยายทำเอาคารีโนนิ่งไปสักพักก่อนที่จะบอกว่า
“ก็ได้ครับ”
รับปากไปก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
“นี่ถ้าไม่ใช่คุณยาย ผมไม่รับปากนะครับ เอาเป็นว่าผมจะทำให้ดี
ที่สุด อันนี้มันก็ต้องขึ้นอยูก่ ับหนูมุนของคุณยายด้วย ถ้าไม่ดื้อก็ไม่มีอะไร
205/559

แต่การเรียนรู้กันและกันมันก็ต้องมีบางครั้งที่จะแสดงความรักต่อกัน โอบ
กอด จับมือถือแขน จูบ คุณยายเข้าใจผมใช่ไหมครับ เวลาผมคิดถึงคุณ
ยาย รักคุณยาย เจอคุณยายผมก็กอดก็หอมก็จูบ คุณยายก็เหมือนกัน
แค่นี้นะครับคุณยาย ขอบคุณสำหรับเรื่องราวของหนูมุน ผมรักคุณยายนะ
ครับ”
“ยายก็รักตรังจ้ะ”
เมื่อวางหูจากหลานชายแล้ว คุณยายกลีบบัวก็ได้แต่กังวล ยิ่งคำพูด
ตอน ท้าย ๆ นั่น ทำให้คุณยายรู้ว่าหลานชายรับปาก แต่ก็ยังจะทำอยูด่ ี
แถมยังย้อนคุณยายด้วยความจริงอีกด้วย และคุณยายรู้ดวี ่า หลานชาย
ดื้อเงียบแค่ไหน ไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ทำตาม ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ยิ่งห้ามก็ยิ่ง
ทำอีกต่างหาก คุณยายพยายามที่จะเข้าใจ หลานชายที่ถูกเลี้ยงมาแบบ
อเมริกันเต็มตัว ถึงแม้ว่าจะมีสายเลือดแค่เศษเสี้ยวของอเมริกันก็ตามที
ไม่รู้ว่าคำขอร้องของคุณยายได้ผลหรือเปล่า ห่วงก็แต่หญิงสาวที่อ่อน
ต่อโลกในเรื่องของความรักอย่างละมุนมาศเท่านั้น
คำเรียกขานที่หลานชายเรียกอีกฝ่ายว่า หนูมุน นั่นอีก ฟังแล้วมันให้
ความรู้สึกทีอ่ ่อนโยนเหลือเกิน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป คุณยายคง
ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดแล้วล่ะมัง
“คุณย่าทวดคะ คารีนากับฟีเล่นเหนื่อยแล้วค่ะ ขอทานขนมได้ไหม
คะ” เสียงเรียกของเหลนสาวตัวน้อย ทำให้คุณยายกลีบบัวต้องทิ้ง
206/559

ความคิดทั้งหมดไป สำหรับตรัง คารีโน หลังจากที่เขาได้รับรู้ความจริงของ


ละมุนมาศแล้ว หัวใจดวงโตก็รู้สึกดีใจยิ่งนัก
หล่อนไม่ได้เป็นของใครอย่างที่เขาคิด ถึงเวลาที่เขาจะต้องเริ่มต้นรุก
อย่างจริงจัง เขาเคยได้ยินได้เรื่องราววิถีชีวิตของคนไทย เกี่ยวกับ
ครอบครัวคนไทยในสมัยคุณยายยังสาว ๆ รวมถึงการใช้ชีวิตของ
หนุ่มสาวก่อนแต่งงานสมัยคุณยายเป็นอย่างไร แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว เขา
ไม่คิดว่าคนสมัยใหม่อย่างละมุนมาศหรือว่าคนอื่น ๆ จะเป็นอย่างนั้น
โดยเฉพาะคนที่เติบโตในดินแดนทีม่ อี ิสระเสรีแห่งนี้ ขนาดนักเรียนไทย
หลายคนที่เขาเคยรู้จักตอนที่เรียนอยู่ที่ฝรั่งเศสหรือแม้แต่เด็กไทยที่มา
เรียนต่อที่นี่ ส่วนมากก็มีความคิดแบบอเมริกันกันทั้งนั้น
แล้วละมุนมาศล่ะ หล่อนจะคิดแบบไหนกัน
ในส่วนทีค่ ุณยายขอ เขาก็รับปากไปแล้ว และเรื่องอื่น ๆ ก็ค่อยว่า
กันตามอารมณ์และสถานการณ์ เพิ่งจะรูว้ ่าการจะจีบสาวไทยนี่เต็มไปด้วย
ข้อห้ามอะไรมากมาย ไม่รู้ว่าคุณตาไปจีบคุณยายสมัยยังสาว ๆ ได้อย่างไร
กัน
นับถือคุณตาเขาจริง ๆ
เขาเด็กสมัยใหม่จะยอมได้อย่างไรกัน แค่คิดหัวใจก็ลิงโลดโจน
ทะยาน จนรู้สึกว่าอยากจะเจอเจ้าตัว และพูดคุยกันให้รู้เรื่องไปเลย
หนูมุน...
207/559

หลังจากทีส่ ะสางงานที่โรงงานแล้ว ระหว่างทางกลับบ้านคารีโนยก


นาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วก็สั่งเบียนให้เลี้ยวเข้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
“นายรออยู่ในรถนะ ฉันขอไปทำธุระสักครึ่งชั่วโมง”
“ครับนาย”
เบียนมองตามร่างสูงของเจ้านายที่เดินข้ามถนนไปยังโรงเรียนสอนเท
ควันโด นึกแปลกใจว่าเจ้านายของเขาไปที่นั่นทำไม
หาโรงเรียนเทควันโดให้คุณหนูคารีนาอย่างนั้นหรือ
ร่างสูงของคารีโนนั่งอยู่ที่เก้าอี้นอกฟลอร์ฝึกของชุดเทควันโดในเวลา
สี่โมงเย็น ร่วมกับบิดา มารดา ผู้ปกครองของเด็ก ๆ เขาไม่คิดว่าตัวเองจะ
มาถูกเวลา เพราะว่าบนฟลอร์ที่กว้างใหญ่นั้นว่างเปล่า
แต่เพียงไม่นานนักเด็ก ๆ ในวัยน่ารักทั้งหญิงชาย ผมดำ ผมทอง
ผมแดง เรียกว่าทุกสีผิว ทั้งเอเชียน อินเดียน เม็กซิกัน ก็เดินเข้าแถวเรียง
หนึ่งออกมาจากห้องแต่งตัว สายตาของคารีโนมองตรงไปทีเ่ ด็กหญิงตัว
น้อย ผมสีนํ้าตาอ่อนในชุดยูนิฟอร์มสีขาวสะอาด คาดเข็มขัดสายสีนํ้าเงินที่
บ่งบอกระดับขั้นความสามารถในการเรียนรู้ ทันทีที่สบตากับเด็กหญิง คารี
โนก็โบกมือให้พร้อมส่งยิ้มทักทาย ใบหน้าน้อย ๆ น่ารักส่งยิ้มตอบกลับ
อาย ๆ ก่อนที่จะเดินตามเพื่อน ๆ เข้าไปในฟลอร์ เพื่ออบอุ่นร่างกายก่อน
การฝึกฝน
208/559

รอยยิ้มไม่ได้ห่างหายไปจากใบหน้าคมเข้มของคารีโนเลย เมื่อได้เห็น
ความน่ารักน่าชังของเด็ก ๆ แต่ละคนที่พยายามฝึกหัดหรือว่าทำตามที่
ครูผู้สอนแนะนำ ทั้งการเตะ (Kick) การชก (Punch) การบล็อค
(Block) และการออกท่าทางต่าง ๆ ไม่ใช่แต่เฉพาะคารีโนเท่านั้นทีอ่ ดยิ้ม
กับความตั้งอกตั้งใจของนักเทควันโดตัวน้อยน่ารักทั้งหลาย บรรดาพ่อแม่
รวมทั้งบรรดาคุณปูค่ ุณย่า คุณตาคุณยาย ซึ่งมาให้กำลังใจลูกหลาน ที่
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มปลื้มปีติแห่งความภาคภูมิใจและความสุข ทำให้
อดคิดถึงลูกสาวตัวน้อยของเขาไม่ได้
คารีนาจะชอบเตะต่อยอย่างนี้หรือเปล่านะ เขาคงต้องลองถามลูกสาว
ดู แล้วละ เผื่อเด็กทั้งสองจะได้มีเวลาเล่นด้วยกันมากขึ้น
สี่สิบห้านาทีผ่านไป การเรียนการสอนเสร็จสิ้นลง เด็ก ๆ ก็ทำความ
เคารพธงและจับมือขอบคุณผู้สอน ก่อนที่จะกลับไปยังห้องแต่งตัวเพื่อ
เปลี่ยนชุดยูนิฟอร์ม หลังจากเปลี่ยนชุดแล้ว บางคนก็กลับบ้าน บางคน
ต้องรอผู้ปกครองเลิกงานมารับ
เสียงพูดคุยกันราวกับผึ้งแตกรังของเด็ก ๆ และผู้ปกครองทีท่ ักทาย
กันเซ็งแซ่ไปหมด แต่ก่อนห้าโมงเย็นเล็กน้อย ร่างบางในชุดกระโปรงสั้น
ลายจุดสีม่วงอ่อนสลับดำ ถุงน่องสีดำ สวมทับด้วยสูทสีดำสนิทเข้าชุดกับ
กระเป๋าถือใบโตใบเดิมก็เดินเข้ามา พร้อมกับเสียงโทรศัพท์มือถือใน
กระเป๋าเสื้อสูทดังขึ้น คารีโนมองหน้าจอแล้วก็รีบคว้ามากดรับ
209/559

“ไฮ เบบี้” ปากพูดกับปลายสาย แต่สายตาของเขาไม่ได้ละไปจาก


ใบหน้าหวานนั้นเลย จนกระทั่งร่างนั้นเดินไปทางด้านหลัง เขาก็เดินกลับ
ไปที่รถ
“แดดดี้กลับมาทานอาหารที่บ้านนะคะ คารีนากับมิสไอวีทำอาหารไว้
รอ”
คำพูดนั้นเรียกรอยยิ้มของผู้เป็นบิดา
“แน่นอนที่สุด อีกไม่ถึงชั่วโมงเจอกัน เลิฟยูเบบี้”
เมื่อวางหูจากลูกสาวแล้ว คารีโนก็อดที่จะคิดถึงใครบางคนที่เขาเพิ่ง
จะเห็นหน้าไม่ได้
เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ แค่เห็นหน้าหล่อนเขาก็มีความสุข ในชีวิต
ของเขาที่ผ่านมามีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา ด้วยหน้าตา ชื่อเสียง ฐานะที่มีอยู่ ทำ
ให้มผี ู้หญิงมากหน้าหลายตา อีกทั้งผู้ใหญ่หลายคนที่มีลูกสาว หลานสาว
ก็เข้ามาทางบิดามารดาของเขา เพียงเพื่อจะได้เกี่ยวดองกันทางธุรกิจ ซึ่ง
ไม่ว่าชาติไหนภาษาไหน เรื่องเกี่ยวดองกันทางธุรกิจก็ยังมีอยู่ เหมือนกับที่
คุณยายของเขาเคยเล่าให้ฟัง
แต่สำหรับเขาแล้ว เรื่องนี้ไม่เคยมีในหัวสมอง เงินทองทีบ่ ิดามารดา
และเขามีไม่จำเป็นต้องไปต่อยอดกับใครเพื่อให้มันเพิ่มขึ้น ถ้าเขาจะ
แต่งงาน ก็เพื่อที่จะมีครอบครัวที่มีความสุขกับคนที่เขารักเท่านั้น
19
คิดได้อย่างไรกัน

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ละมุนมาศทำงานอย่างไม่มคี วามสุขเท่าใดนัก


ใบหน้าที่เคยสดใสร่าเริงมีชีวิตชีวาก็หม่นหมอง ครุ่นคิด โดยเฉพาะเวลา
ที่อยู่คนเดียว เพราะหล่อนห่วงความรู้สึกของคนตัวเล็กและก็ห่วงมารดา
ด้วย
สำหรับมารดาแล้ว ถึงแม้จะเป็นห่วงแค่ไหน แต่ละมุนมาศก็ไม่
สามารถที่จะติดต่อกับมารดาได้ อดที่จะนึกสงสัยว่า
ทำไมมารดาถึงไม่บอกที่อยู่หรือว่าเบอร์โทรศัพท์ให้หล่อนได้รับรู้
เผื่อมีอะไรจะได้ติดต่อกันได้ มารดามีเหตุผลอะไรที่ต้องปิดบังหรือเปล่านะ
เมื่อมีเรื่องของมารดาเข้ามาให้รู้สึกเจ็บปวด ละมุนมาศก็พยายาม
ใช้เวลาว่างทีม่ ีอยู่ทุกวันกับคนตัวเล็กให้มากที่สุด หล่อนใช้เวลาพักทาน
อาหารกลางวันแค่ครึ่งชั่วโมง เพื่อที่จะได้กลับบ้านเร็วขึ้นอีกครึ่งชั่วโมง คน
ตัวเล็กก็ดีใจนัก แต่อดที่จะสงสัยไม่ได้
“มามี้ทำไมกลับบ้านเร็วคะ ทำงานเสร็จเร็วหรือคะ”
211/559

“ใช่แล้วค่ะ มามี้ทำงานเสร็จแล้วก็กลับบ้าน มามีอ้ ยากอยูก่ ับฟีไงคะ


ไม่ดีหรือ”
“ดีสิคะ ฟีอยากอยู่บ้านกับมามี้มากกว่าอยู่ที่เทควันโดหรือกับมิสซิ
สลี” คนตัวเล็กบอกความจริงในใจ
“ฟีไม่ชอบเทควันโดกับมิสซิสลีหรอกหรือคะ”
“ชอบค่ะ เทควันโดก็สนุก มิสซิสลีกใ็ จดี แต่ว่าฟีอยากอยูก่ ับมามี้
มากกว่า ฟีรักมามีน้ ะคะ” ละมุนมาศคว้าร่างเล็กเข้าสู่อ้อมกอด รัดเอาไว้
แน่น พร้อมกับก้มลงจูบที่เรือนผมสีนํ้าตาลอ่อนนุ่มแรง ๆ รู้สึกแน่นในอก
เหลือเกิน พร้อมกับสัญญากับ ตัวเองว่า
หล่อนจะเป็นมามี้ของคนตัวเล็กตลอดไป ตราบเท่าที่คนตัวเล็ก
ต้องการ
“เออ มามีค้ ะ ฟีลืมบอกไป ว่าจะบอกมามี้ตั้งหลายวันแต่ก็ลืมทุกที
เลย”
“มีอะไรหรือคะ”
“วันที่ฟีหยุดโรงเรียนน่ะค่ะ คุณยายพาคารีนามาเล่นกับฟี แล้วคารี
นาก็พาแดดดี้มารู้จักกับฟีด้วยนะคะ”
“หรือคะ แดดดี้ของคารีนาใจดีหรือเปล่าคะ”
“ใจดีมั้งคะ ฟีคุยด้วยนิดเดียวแล้วก็ไปวิ่งเล่นกับคารีนา และเมื่อ
วันก่อนฟีก็เห็นแดดดี้ของคารีนาที่โรงเรียนเทควันโดด้วยค่ะ”
212/559

“สงสัยว่าแดดดี้ของคารีนาอาจจะมาดูโรงเรียนเทควันโดของฟีก็ได้นี่
คะ เผื่อว่าจะให้คารีนามาเรียนเทควันโดกับฟีไงคะ ถ้าเป็นอย่างนั้นฟีว่าดี
ไหมคะ”
“ดีค่ะ ฟีอยากให้คารีนามาเรียนด้วยกัน จะได้สนุก”
“อันนีม้ ามี้แค่คาดเดานะคะ ไม่รู้จะเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า ก็ต้องรอ
ถามคารีนาดู ว่าแต่ฟีอยากกินคะเย็นนี้ ข้าวต้มไหม”
“เย้ ข้าวต้มเบคอนนะคะ แต่ยังมีอีกเรื่องที่ฟีลืมถามมามี้” คำพูดนั้น
ทำให้คิ้วเรียวสวยของละมุนมาศเลิกสูงขึ้นทั้งสองข้าง แอบนึกในใจว่า
วันนี้คนตัวเล็กมีหลายเรื่องที่ลืม
“เรื่องอะไรคะ”
“ให้คารีนาเรียกมามี้ว่า ‘มามี้’ ได้ไหมคะ”
“หือ”
“คือว่าคารีนาไม่มมี ามี้น่ะค่ะ ฟีสงสารคารีนา ก็เลยอยากให้คารีนา
เรียกมามีเ้ หมือนกับฟี” เมื่อได้ฟังความคิดของคนตัวเล็กแล้ว ละมุนมาศก็
รัดร่างเล็กเข้าหาตัว นึกสงสารเพื่อนตัวเล็กอีกคน แต่แล้วก็แอบสะดุ้ง
“และคารีนาก็บอกว่าจะขอแดดดี้ให้ฟีเรียก ‘แดดดี้’ ด้วยค่ะ”
213/559

โห เด็กน้อยสองคนนีค่ ิดอะไรกันนะ มีหวังเป็นเรื่องถ้าบิดาของ


เด็กหญิงตัวน้อยรู้เรื่อง ดีไม่ดีจะคิดว่าหล่อนอยูเ่ บื้องหลังแล้วเขาจะคิด
อย่างไร จะดูถูกหล่อนแค่ไหนก็ไม่รู้
“เอ่อ...คือ ขอเวลาให้มามีค้ ิดก่อนได้ไหมคะ เพราะว่าเรื่องนี้มันเป็น
เรื่องใหญ่มาก”
“ได้ค่ะ แต่อย่าปฏิเสธนะคะ” คำขอร้องบวกกับใบหน้าน่าสงสารนั้น
ทำให้ละมุนมาศต้องยกมือขึ้นขยี้ผมนุ่มนั้นอย่างเอ็นดู
“ตอนนี้มามี้ต้องขอตัวไปทำข้าวต้มก่อนนะคะ” ละมุนมาศรีบเปลี่ยน
เรื่อง หันเหความสนใจ และก็หวังว่าคนตัวเล็กจะลืมเรื่องที่ถามนี้เหมือน
กับที่เจ้าตัวลืมที่จะถาม
ลืมไปเลยยิ่งดี เพราะมันหาคำอธิบายยากนัก
“ฟีช่วยไหมคะมามี้”
“ไม่ต้องค่ะ ขอบคุณมากเด็กดีของมามี้ ข้าวต้มทำง่ายมาก ฟีระบาย
สีต่อนะคะ” คนตัวเล็กรับปาก และก็ก้มหน้าก้มตากับการระบายสีรูป
เจ้าหญิงต่อไป ละมุนมาศนึกดีใจ
ถ้าบิดาของคารีนาจะให้คารีนามาเรียนเทควันโดที่เดียวกับฟีนิกซ์
ความเป็นเพื่อนจะได้แน่นแฟ้นขึ้น คนตัวเล็กของหล่อนจะได้ไม่เหงา
214/559

ส่วนเรื่องของเจ้านายคนใหม่ ละมุนมาศก็ลืมเรื่องทีเ่ กิดขึ้นไปชั่วขณะ


หล่อนไม่ได้เจอหน้าเขาอีกเลยหลังจากวันนั้น มิสมินต์บอกว่า เจ้านายยุ่ง
กับโรงงานผลิตสินค้า ก็เลยไม่ได้เข้ามาที่ร้าน
ไม่เข้ามาก็ดี หล่อนจะได้ไม่ต้องหลบ นึกกรุ่น ๆ ที่เขาทำให้หล่อน
เสียความเป็นตัวของตัวเอง ต้องหลบลี้หนีหน้า และไม่รู้ว่าถ้าเจอกันแล้ว
เขาจะเอาเปรียบหรือว่าฉวยโอกาสอะไรกับหล่อนอีกหรือเปล่านี่สิ
ละมุนมาศแทบจะไม่ได้สนใจเรื่องของคนที่ขับรถตาม เพราะว่าผ่าน
มาหลายวันแล้ว ก็ยังไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงหรือสิ่งที่หล่อนหวาดกลัวเกิด
ขึ้นทั้งกับตัวเองและฟีนิกซ์ ละมุนมาศก็เลยเบาใจ และบอกกับตัวเองว่า
หล่อนคงจะกังวลหรือคิดมากเกินไปเหมือนกับที่คุณยายบอกนั่นเอง
แต่ก็ยังไม่ถึงกับโล่งอก เนื่องจากว่าหล่อนยังไม่ได้คุยกับเขา...คนต้นเหตุ
เพื่อสะสางทุกอย่างให้เลิกแล้วต่อกัน
มิสมินต์เห็นหน้าตาท่าทางของลูกน้องที่หน้านิ่วคิ้วขมวดหลายต่อ
หลายครั้งในระหว่างทำงานแล้วก็นึกสงสัย
เรื่องทีล่ ะมุนมาศกังวลตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของคนที่ขับรถตาม แต่เป็น
เรื่องของครอบครัวที่หล่อนไม่สามารถพูดหรือบอกใครได้ นึกอยากมีพี่สาว
พี่ชาย น้องสาว หรือน้องชาย ใครสักคนในครอบครัวทีห่ ล่อนสามารถ
ปรึกษา หรือช่วยกันแก้ปัญหานี้ด้วยกัน
215/559

เมื่อมิสมินต์เรียกเข้าไปพบและถาม ละมุนมาศก็ต้องจำใจเล่าให้มิ
สมินต์ฟังในสิ่งที่เล่าได้ และมิสมินต์ตบมือดังเปาะทันทีที่ได้ฟังเรื่องราวจบ
ซึ่งจริง ๆ ก็พอจะรู้เรื่องบางอย่างมาคร่าว ๆ แล้ว
“โอ๊ย ไม่เห็นต้องคิดมากเลย ฉันว่าคนที่ขับรถตามยูต้องเป็นหนุ่ม ๆ
แน่ ๆ ก็ยูสวยออกอย่างนี้ ขนาดฉันเป็นผู้หญิงยังเห็นว่ายูสวยเลย ไม่รู้
หรือไงว่าฉันก็ยังแอบมองหน้ายูบ่อย ๆ”
“มุนนี่นะคะสวย” นิ้วมือเรียวชี้เข้าหาตัวเอง
“ก็ใช่นะสิ”
“งั้นปีนี้มิสมินต์ส่งมุนประกวดมิสยูเอสเอหน่อยสิคะ”
“เอาไหม”
“โอ๊ย มุนต้องไปต่อขาให้ยาวกว่านี้ก่อนค่ะ ขาสั้น สูงแค่ร้อยหกสิบ
ห้าแค่นี้ รอบแรกก็ตกแล้ว เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ แล้วไงต่อคะ”
“ฉันคิดว่าเขาคงจะชอบยู อยากจะจีบยู ก็เลยขับรถตามดูลาดเลา
ก่อนไง”
“ไม่ใช่คนโรคจิตคิดไม่ดีหรือคะมิสมินต์” ละมุนมาศแกล้งแหย่ตามที่
ใจคิด
“แหม ยูกพ็ ูดไป โรคจิตที่ไหน จะมีปัญญาขับรถหรูหราราคาแพง ๆ
อย่างนั้น”
216/559

“ก็ไม่ใช่ว่าคนจนเท่านั้นนี่คะที่เป็นโรคจิต คนรวยก็เป็นได้ คนรวย


ยิ่งมีโอกาสเป็นมาก เพราะไม่รู้ว่าจะใช้เงินที่มีมากมายอย่างไรให้หมดไงคะ
ก็เลยฟุ้งซ่าน” คำตอบพร้อมกับเสียงหัวเราะขำ ๆ ของละมุนมาศ ทำให้มิ
สมินต์ค้อนขวับอย่างแรง ก่อนที่จะบอกอย่างจริงจังว่า
“ยูกพ็ ูดไป แต่ฉันว่าไม่ใช่คนโรคจิตหรอก ต้องเป็นคนทีช่ อบยู
นั่นแหละ”
“แต่มุนว่าถ้าไม่ใช่โรคจิต ก็คงจะเป็นพวกสต็อกเกอร์ (Stalker -
พวกทีช่ อบสะกดรอยตาม) แน่ ๆ เพราะถ้าไม่ใช่พวกสะกดรอยตามแล้ว
เขารูไ้ ด้ไงคะว่า มุนอยู่ที่ไหน ทำงานอะไร ออกจากบ้านเวลาไหน กลับบ้าน
เวลาไหน”
“อ้าว ก็ต้องรู้สิ ผู้ชายจะชอบผู้หญิงสักคน มันก็ต้องมีการสืบเสาะหา
หรือไม่เขาก็อาจจะตามยูมานานแล้วก็ได้ ก็เลยรูว้ ่าเวลาไหนยูทำอะไรบ้าง
ยูไม่รู้ตัวเองมากกว่า”
“โห อย่างนี้ยิ่งน่ากลัว สะกดรอยตามอย่างนี้ที่มุนเคยดูในหนัง พวก
นีเ้ ป็นพวกที่รักรุนแรง ดีไม่ดอี าจจะมีการลักพาตัว ถ้าอีกฝ่ายไม่ทำตามที่
ต้องการ ไม่เอาหรอกค่ะ อย่ามายุ่งกับมุนเลย มุนยังไม่พร้อมที่จะมีใคร”
“แล้วถ้าเขาเปิดเผยตัว เดินเข้าไปบอกรักตรง ๆ ยูจะทำอย่างไร”
“มุนก็จะคุยกับเขาดี ๆ บอกความจริงกับเขา อธิบายให้เขาฟังว่ามุน
ยังไม่คิดเรื่องนี้ ยังมีภาระรับผิดชอบอีกมากมายหลายอย่างในชีวิต”
217/559

“แล้วช่วงนี้เขายังตามยูอยู่หรือเปล่า”
“มุนก็ยังเห็นทุกวัน ตามอยูห่ ่าง ๆ เขาจะรอจนมุนเข้าห้องพักแล้วถึง
จะไป หรือบางครั้งก็ขับเลยไป แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะเข้ามาใกล้ มุนก็
เลยไม่เคยเห็นหน้า ถ้าเขาเข้ามาใกล้ ๆ มุนจะพูดกับเขาให้รู้เรื่องกันไป
เลย”
“ก็ดี คุยกับเขาให้รู้เรื่องจะได้เข้าใจกัน”
“ค่ะ มุนขอบคุณมิสมินต์มาก ๆ นะคะ ที่ให้รับฟังความคิดบ้า ๆ
บอ ๆ ของ มุน มุนเครียดมาหลายอาทิตย์ พอได้คุยกับมิสมินต์แล้วก็
รู้สึกโล่ง”
“ด้วยความยินดี มีอะไรหนักใจหรืออยากคุยอะไรก็คุยกับฉันได้
เสมอ”
“ขอบคุณค่ะมิสมินต์ ขอบคุณจริง ๆ”
ตรัง คารีโน เดินเข้าในงานเลี้ยงที่โรงแรมหรู ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน
วันเกิดภรรยาเพื่อนของบิดาที่รู้จักกันมานาน พร้อมกับเบียนคนสนิทคู่ใจ
จริง ๆ แล้ววันนี้เขาไม่ได้อยากมางานนี้เลย แต่ว่ามารดาขอร้องให้มาแทน
ก็เลยปฏิเสธไม่ได้ และก็ต้องปั้นหน้ายิ้มกับแขกเหรื่อ เพราะบางคนเขาจำ
แทบไม่ได้ว่าเคยเจอกันตั้งแต่เมื่อไร
“สวัสดีครับคุณเวียนบินต์”
“สวัสดีคารีโน เป็นไงบ้าง สบายดีไหม”
218/559

“ผมสบายดีครับ ขอบคุณ สวัสดีครับมาดามซูซาน สุขสันต์วันเกิด


นะครับ กล่องใหญ่นี่เป็นของมัมกับแดดฝากมาให้ และก็ฝากบอกขอโทษ
ด้วยทีไ่ ม่ได้มาอวยพรด้วยตัวเอง เพราะว่าติดงานอีกทีห่ นึ่ง และนีเ่ ป็น
ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ จากผม” คารีโนบอกพร้อมยื่นของขวัญกล่องใน
อ้อมแขนให้กับเจ้าของวันเกิด
“สวัสดีค่ะคารีโน ขอบคุณมากที่มา และก็ขอบคุณสำหรับของขวัญ
ด้วย แล้วฉันจะขอบคุณไนฮัวและมาดามทีหลัง ว่าแต่คุณเถอะ ไม่ค่อย
เห็นออกงานเลยช่วง หลัง ๆ มานี่” เจ้าของวันเกิดทักด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ยื่นมือไปรับกล่องของขวัญก่อนที่จะส่งต่อให้คนที่อยู่ข้างหลัง
“งานผมยุ่งครับ ช่วงนี้อยู่แต่ที่โรงงาน”
“แต่อย่างไรก็ขอบคุณมากที่มางานของฉัน”
“ด้วยความยินดีครับ”
“มัม” เสียงเล็ก ๆ ที่ดังขึ้นด้านหลัง ทำให้ทุกคนหันไปมอง รวมถึง
คารีโนด้วย สาวสวยหน้าตาเซ็กซี่สะดุดตา ที่แต่งหน้าได้ประณีตสวยงาม
ในชุดเกาะอกสีดำตัวยาวเข้ารูปนั้น เน้นให้ทรวดทรงโดดเด่น อวบอึ๋มน่าดู
ทีเดียว
“เอ่อ คารีโนคะ ฉันขอแนะนำให้รู้จักกับแอนนาลูกสาวของฉันเอง
แอนนาจ๊ะ นี่ตรัง คารีโน ลูกชายคนเดียวของท่านไนฮัวและมาดามลิชาเบธ
แอนนายังเรียนอยู่ที่อังกฤษค่ะ”
219/559

“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณแอนนา”
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณเช่นกันค่ะคารีโน” สาวสวยแอนนายื่นมือมาสัมผัส
กับมือคารีโนทักทาย หล่อนไม่ได้ทักทายแค่จับมือเท่านั้น แต่ยังดึงร่างเขา
ไปกอดอีกด้วย คารีโนได้แต่ยิ้ม
“คุณยังไม่ได้ดื่มอะไรเลย ฉันพาไปหาอะไรดื่มดีไหมคะคารีโน” แอน
นาถาม หล่อนรู้สึกสนใจผู้ชายคนนีข้ ึ้นมาทันที เขาดูดแี ละหล่อเหลา
มากมายในสายตาของหล่อน ยิ่งถ้าเป็นลูกชายคนเดียวของท่านไนฮัวผูร้ ํ่า
รวยและมีชื่อเสียงแล้วด้วยก็น่าสนใจมากมายทีเดียว
“ไปสิจ๊ะคารีโน อย่าได้เกรงใจ ให้แอนนาดูแลนะจ๊ะ”
“ขอบคุณครับ” คารีโนปล่อยให้แอนนาพาเดินไปยังบูธเครื่องดื่ม ที่มี
นักผสมเครื่องดื่มมืออาชีพคอยบริการตามความต้องการของแขกเหรื่อ
หลังจากทีไ่ ด้เครื่องดื่มแล้ว แอนนาก็พาเขาไปรู้จักกับเพื่อน ๆ ของ
หล่อน ซึ่งแต่ละคนก็กรี๊ดกร๊าดกับการได้พบเจอเขา คารีโนได้แต่ยิ้มน้อย
ๆ กับการแสดงความสนใจอย่างออกนอกหน้าของผู้หญิงเหล่านั้น น่า
แปลกที่เขากลับคิดถึงอีกคน เจ้าหล่อนแทบจะหลีกหนีให้ห่างไกลทุกครั้งที่
เห็นเขา
อันที่จริงแล้วเขาชอบให้ผู้หญิงมาออดอ้อนเอาใจอยู่ข้าง ๆ ตัว แต่ไม่
ใช่ตอนนี้ เพราะสมองของเขามีแต่ภาพของใครบางคนที่ทำให้เขาว้าวุ่น
220/559

แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายวัน แต่ภาพหลาย ๆ ภาพของหล่อนก็ไม่เคย


หลุดออกไปจากความทรงจำของเขาเลย
หลังจากอยู่พูดคุยกับแอนนาสักพักคารีโนจึงขอตัว โดยที่ไม่รอ
คำตอบร่างสูงเดินลิ่วกลับไปลาเจ้าของงานโดยมีเบียนเดินตามติด ๆ
ตาข้างขวากระตุกหลายครั้งจนรู้สึกผิดปกติ ทำให้คิดถึงคำพูดของ
มารดา ทีม่ ักจะพูดทุกครั้งที่ตากระตุกว่าจะเกิดเรื่องไม่ค่อยดี ยิ่งหลายคืน
ทีผ่ ่านมานี้หล่อนฝันเห็นงูไล่เป็นประจำ ก็เลยทำให้ละมุนมาศทำงานอย่าง
เป็นกังวล เข้างานมาตั้งแต่หัวคํ่าจนจะเลิกงานในอีกไม่ถึงสิบนาทีข้างหน้านี้
ก็ยังไม่มีเรื่องราวอะไรไม่ดีเกิดขึ้น ลูกค้าก็น่ารักกันทุกคน
แต่ละมุนมาศก็คิดถึงคนฉวยโอกาสขึ้นมา นึกระแวงอยูล่ ึก ๆ แค่
คิดถึงเขา หัวใจหล่อนก็เต้นแรงขึ้น การไม่ได้เจอหน้าเขามาตั้งแต่วันนั้น ก็
ไม่ได้ทำให้หล่อนลืมเลือนในสิ่งที่เกิดขึ้น ยิ่งทำให้หล่อนไม่พร้อมที่จะเจอ
เขา เพราะไม่รู้ว่าจะมองหน้าหรือว่าจะทำหน้าอย่างไรดี
หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงพนักงานสาวชาว
เวียดนามสองคนที่อยู่ชั้นล่าง กระดี้กระด๊าบอกกันเสียงดังทีเดียว ละมุน
มาศหันไปทางประตูด้านหน้า แล้วก็แอบถอนใจอย่างโล่งอกที่ไม่เห็นมีใคร
เข้ามา
หัวใจที่เต้นระทึกตึกตักลดความเร็วลงจนเป็นปกติ พร้อมกับละมุน
มาศก็ทำงานของตัวเองต่อไป แต่ไม่นานนัก เสียงกรี๊ดกร๊าดของสาว ๆ ก็
ดังขึ้น ครั้งนีม้ ีชื่อของเขาโผล่มาให้ได้ยินชัดเจนทีเดียว และพอหล่อนมอง
221/559

ไปยังทางเข้าร้าน หัวใจก็เต้นโครมครามขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นร่างสูงโปร่งที่


กระจ่างชัดอยู่ในความรู้สึกทั้งยามหลับยามตื่นเดินนำหน้าลูกน้องคนสนิท
เข้ามาในร้าน สายตาแกร่งกล้าของเขามองขึ้นมาบนชั้นลอย ละมุนมาศต้อง
รีบก้มหน้าเช็ดโต๊ะอย่างขะมักเขม้น ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่เห็นหล่อนอยู่บน
นี้
ไม่รู้จะมาให้สะกิดใจทำไม ร้านจะปิดอยู่แล้ว เห็นหน้าเจ้านายคน
ใหม่แล้ว ทำให้หล่อนใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ละมุนมาศก็อดที่จะถามตัวเองไม่ได้ว่า
ทำไมต้องใจเต้นแรงด้วย
แต่ก็ไม่สามารถที่จะตอบตัวเองได้ นอกจากก้มหน้าก้มตาทำงาน
ต่อไปให้เสร็จ พยายามที่จะไม่สนใจ นอกจากแอบว่าให้ในใจ
คนชอบเอาเปรียบ
รีบทำงานของตัวเองเสร็จแล้ว ละมุนมาศก็แอบคว้ากระเป๋าสัมภาระ
ย่องออกไปทางประตูหลัง โดยไม่รอกล่าวคำลามิสมินต์
20
หนี...น่าสงสัย

ขอเวลาตั้งตัวก่อนละกัน
ทันทีที่เห็นร่างบางของใครบางคนวิ่งลิ่วออกมาทางประตูหลังโบสถ์ไป
ยังรถที่จอดอยู่ เมื่อขึ้นรถได้ก็ขับออกไปทันที
เฟยขมวดคิ้วแล้วก็รีบกดโทรศัพท์ไปรายงานเจ้านายให้รับทราบ
ส่วนเจ้านายเมื่อได้รับรายงานก็ออกอาการหัวเสีย หงุดหงิด แต่ก็ทำอะไร
ไม่ได้ ได้แต่ออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิท
ขับรถออกมาจากที่นั่นแล้ว ละมุนมาศก็ปล่อยลมหายใจออกมาอย่าง
โล่งอก ทีห่ ลุดออกมาได้โดยไม่ต้องเจอหน้าผูเ้ ป็นเจ้านาย รู้สึกลิงโลดกับ
ชัยชนะเล็ก ๆ ของตัวเอง ถึงขนาดฮัมเพลงออกมาได้เบา ๆ
ขับรถไปก็มองกระจกหลังไปด้วย สังเกตว่ามีรถที่น่าสงสัยขับตามมา
หรือไม่ ขับช้าบ้างเร็วบ้างเพื่อสังเกตความผิดปกติด้วยใจที่เต้นแรง แต่ใน
คืนที่มีรถวิ่งอยู่บนท้องถนนมากพอประมาณกับความมืดมิดในยามราตรี
ทำให้ไม่สามารถที่จะสังเกตได้แน่ชัดว่า มีรถต้องสงสัยขับตามหรือเปล่า
การที่จำนวนรถบนถนนมากก็เป็นสิ่งที่ดี ทำให้ละมุนมาศมั่นใจในความ
223/559

ปลอดภัยของตัวเองว่า คนที่คิดร้ายต่อหล่อนจะไม่มีโอกาสที่จะลงมืออย่าง
แน่นอน ก็ค่อยสบายใจ และตอนนี้ก็มานึกได้ว่ายังไม่ได้ลาผู้จัดการ ก็เลย
ต้องกดโทรศัพท์ไปรายงานตัว คิดว่าถ้ามิสมินต์ยังยุ่งอยู่ ละมุนมาศก็จะ
ฝากข้อความเอาไว้เท่านั้น
เสียงโทรศัพท์มือถือในมือของมิสมินต์ดังขึ้น แต่ด้วยความเกรงใจ
เจ้านาย หล่อนเลยไม่กล้ารับสาย ปล่อยให้มันดังอยูอ่ ย่างนั้น จนผูเ้ ป็น
เจ้านายพยักหน้าให้รับได้ หล่อนก็เลยรีบกดรับสาย
“ว่าไง”
“มุนเองนะคะมิสมินต์ จริง ๆ แล้วมุนคิดไว้ว่าหากมิสมินต์ไม่ว่าง
รับสาย มุนจะฝากข้อความเอาไว้แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ” เสียง
ใส ๆ ที่แว่วออกมาดังพอจะทำให้เจ้านายที่นั่งอยูต่ รงข้ามได้ยิน ก็เลยทำ
ปากออกคำสั่งให้ผู้จัดการเปิดลำโพงเสียง มิสมินต์ก็เลยต้องทำตาม
“เสร็จแล้ว กำลังจะกลับบ้าน ว่าแต่ยูอยูไ่ หนเนี่ย แล้วมีอะไร
หรือเปล่า”
“กลางทางแล้วค่ะ เอ่อ มิสมินต์คะ ช่วยเก็บเงินทิปไว้ให้มุนด้วยนะ
คะ มุนลืมเอาออกมาด้วย”
“ไม่เก็บย่ะ แล้วทำไมจะกลับไม่ยอมบอกฉันสักคำ หายหน้าหายตา
ไปเลย” มิสมินต์ต่อว่าเล็ก ๆ ลืมไปว่ามีเจ้านายรับฟังอยู่ด้วย
224/559

“โห มิสมินต์ใจร้ายจัง ก็ได้ค่ะ ไม่เก็บมุนปรับเป็นสองเท่านะคะ


โทษฐานทีไ่ ม่รักษาผลประโยชน์ของลูกน้อง ฮิ ๆ มุนขอโทษค่ะ ที่ไม่ได้
บอกมิสมินต์ก่อนออกมา คือว่า...เอ่อ มันกะทันหัน และคิดว่ามิสมินต์คง
ยุ่ง เพราะต้องต้อนรับเจ้านาย มุนก็เลยตัดสินใจกลับก่อน อย่าโกรธมุนนะ
คะมิสมินต์ผู้ใจดี” เสียงอ้อน ๆ ส่งมาทำให้มิสมินต์อดที่จะยิ้มไม่ได้ แต่
เมื่อรูสึกตัวก็ต้องรีบหุบยิ้ม
“ไม่ต้องมาอ้อนเลยย่ะ กระทันหันอะไรกัน ฉันเห็นนะว่ายูย่องออก
ไปทางหลังร้านน่ะ” หลุดปากต่อว่าทางปลายสายออกไปแล้วก็เพิ่งจะ
รู้สึกตัว เหลือบตามองเจ้านายก็เห็นว่ากำลังอมยิ้มอยู่ ส่วนคนปลายสายก็
หลุดหัวเราะกิ๊กออกมาทันทีที่ถูกรู้ทัน
“ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก”
“เห็นแล้วยังมาว่ามุนอีก มุนขอโทษจริง ๆ นะคะ ว่าแต่ทำไมนํ้าเสียง
มิสมินต์แปลก ๆ โดนเจ้านายบ่นให้หรือเปล่าคะ”
“ช่างเถอะไม่มีอะไรหรอก” มิสมินต์รีบบอกปัด เพราะว่าเจ้านายมอง
เขม็งตรงมา
“ตอบอย่างนี้แสดงว่าถูกบ่นจริง ๆ มุนรูน้ ะคะว่าใครบ่นให้มสิ มินต์
ผู้ชายวัยขนาดนี้หงุดหงิดตอนดึกนี่แปลก ๆ ว่าไหมคะมิสมินต์ น่า
สงสัย...” ปลายสายพูดค้างเอาไว้แค่นั้น และก็หยุดไปเฉย ๆ ส่วนมิสมินต์
ก็หายใจแทบไม่ทั่วท้อง เงยหน้ามองคนที่นั่งฟังอยูต่ รงข้ามแล้วก็รู้สึกเสียว
แทนคนทางปลายสาย เมื่อเห็นดวงตาใคร่รขู้ องคนที่กำลังถูกนินทาวาววับ
225/559

จึงได้แต่เงียบ ใจเต้นตึกตัก อยากจะวางหู แต่กต็ ้องพูดต่อ เมื่อเจ้านาย


เขียนในกระดาษให้พูดว่า
“เอ่อ สงสัยอะไรหรือ”
“นั่นแน่ มิสมินต์กอ็ ยากรู้ใช่ไหมคะ ฮิ ๆ มุนก็แค่สงสัยว่าคนบ่น
จะ...”
“จะ...อะไร”
“หิวข้าวมื้อดึกมั้งคะ” คำตอบของปลายสายทำให้มิสมินต์รู้สึกโล่งอก
จนหลุดหัวเราะออกมา ส่วนคนที่ฟังอยูด่ ้วยอดที่จะยิ้มไม่ได้ เพราะเขาก็
กลั้นใจลุ้นฟังคำตอบกับมิสมินต์ไปด้วย
“มุน ยูนี่...จริง ๆ เลย”
“ก็จริงนะสิคะ ไม่เชื่อมิสมินต์เจ้านายครั้งต่อไปก็ลองถามเจ้านายท่าน
ดูสิคะ แค่นี้ก่อนนะคะมิสมินต์ ขอบคุณที่คุยเป็นเพื่อน จนมุนขับรถเกือบ
ถึงบ้านแล้ว กู๊ดไนต์ค่ะ”
“กู๊ดไนต์มนุ ” หลังจากวางหูจากลูกน้องแล้ว มิสมินต์ก็กำลังจะ
เอ่ยปากกับ เจ้านาย แต่คนเป็นเจ้านายกลับพูดขึ้นก่อนว่า
“คุณกลับบ้านเถอะ ดึกแล้ว”
“ค่ะ เอ่อ...เจ้านายไม่โกรธละมุนมาศใช่ไหมคะ”
226/559

“เขาไม่ได้ว่าอะไรผมไม่ใช่หรือ” คำที่ย้อนถามกลับมิสมินต์ได้แต่
พยักหน้ารับน้อย ๆ คารีโนส่งยิ้มให้ พร้อมกับบอกว่า
“ผมคงจะหิวข้าวตอนดึกจริง ๆ นั่นแหละ กลับกันเถอะ จะได้ไปหา
มื้อดึกกิน คุณจะไปด้วยไหม”
“เชิญเจ้านายตามสบายเถอะค่ะ”
“อ้อ อีกอย่าง ถ้าคุณเห็นลูกน้องของผมขับรถตามเขากลับบ้านก็ไม่
ต้องแปลกใจ และก็ไม่ต้องบอกเขานะ” คนสั่งสั่งแล้วก็เดินออกไปจาก
ห้องทำงานไปกับลูกน้องทันที มิสมินต์ได้แต่มองตาม และพยายามจะทำ
ความเข้าใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
นี่ไงสต็อกเกอร์ตัวจริงอยู่นี่เอง หล่อนรู้อยู่แล้วว่าลูกน้องสาวเป็น
กังวลเรื่องนี้ แต่จะบอกก็ไม่ได้ เพราะเจ้านายปิดปากเอาไว้แล้ว แต่ก็รู้สึก
เป็นห่วงอีกคนไม่ได้ อึดอัดจริง ๆ ไม่อยากจะเดาว่า เจ้านายหนุ่มกำลังคิด
อะไรอยูส่ นใจลูกน้องของหล่อนอย่างนั้นหรือ ลูกน้องของหล่อนจะรู้ตัวบ้าง
ไหมว่ากำลังเป็นที่สนใจของเจ้านายอยู่ แล้วนี่เมื่อไรจะรู้เรื่องกันล่ะนี่ อีก
ฝ่ายหนี...อีกฝ่ายก็ย่องตามอย่างเชื่องช้า...รอตะปบ
ความรักมันเป็นอย่างนี้เองหรอกหรือ ว่าแต่มันเริ่มต้นอย่างไรกันแน่
นะ หล่อนจำได้ที่ลูกน้องสาวเคยเล่าให้ฟัง เรื่องของเรื่องก็คือ มีการแตะอั๋ง
มีการหยิกตอบ แล้วเรื่องราวมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างนี้ได้อย่างไรกัน
เจ้านายสาวโสดหัวใจเย็นชาคิดอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจนัก
227/559

เมื่อกลับมาถึงบ้าน อาบนํ้า และเข้านอนแล้ว แต่คารีโนก็ยังไม่หาย


หงุดหงิด เรื่องที่ใครบางคนแอบหนีกลับบ้าน มองหาก็หลบตาแกล้งทำเป็น
ไม่เห็นก้มหน้าก้มตาทำงาน ยิ่งรู้ว่าเจ้าตัวพยายามหลีกลี้หนีหน้า เขาก็ยิ่ง
หงุดหงิด
ตลอดเวลาคารีโนพยายามทำงานให้หนักและก็สำรวจหัวใจตัวเองไป
ด้วย ว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่กับผู้หญิงที่เขาเพิ่งจะเจอหน้า ตลอดเวลาที่ไม่ได้
เข้ามาที่เวียดเฮาส์ เขารู้สึกได้ว่ามันกระวนกระวาย อยู่ไม่ค่อยจะเป็นสุข
เท่าไร นึกอยากมาหา อยากเห็นหน้า บางครั้งนึกอยากโผล่ไปหาที่บ้าน แต่
เขาไม่มีเรื่องเร่งด่วนหรือจำเป็นกับหล่อนขนาดนั้น ได้แต่อดใจรอที่จะเจอ
ในวันที่หล่อนมาทำงานที่เวียดเฮาส์ หลายครั้งที่เขาคิดว่าตัวเองบ้า
ถึงแม้ว่าจะได้เห็นภาพของหล่อนทุกวันจากการติดตามของลูกน้อง
คู่ใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะทำให้เขาหายคิดถึง มันกลับยิ่งทำให้
เขาคิดถึง อยากกอดรัดสัมผัส ยิ่งรู้ว่าหล่อนรู้จักสนิทสนมกับคุณยายของ
เขา ก็ยิ่งทำให้อยากเข้าใกล้ แอบยินดีลึก ๆ ที่รวู้ ่าลูกสาวของหล่อนกับ
ลูกสาวของเขาก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี
แต่ตัวหล่อนนี่สิ ครั้งที่แล้วเขาจูบ หล่อนก็ตอบกลับด้วยการทุบเขา
คืน นี่เขาอุตส่าห์ปลีกตัวมาจากงาน คิดว่าจะได้เห็นหน้าให้ชื่นใจ แต่กลับ
ต้องมาหงุดหงิดแทน ถ้าเขาเป็นเด็กวัยรุ่นคงได้ตามไปเอาเรื่องถึงบ้าน
เป็นแน่ แต่เขาก็ทำหุนหันอย่างนั้นเหมือนเด็ก ๆ ไม่ได้ อายุอานามก็ปาเข้า
ไปสามสิบกว่าแล้ว
228/559

เฮ้อ รู้อย่างนี้ให้มิสมินต์เรียกมาพบเสียก็ดี ว่าแต่จะทำอย่างไร เขา


ถึงจะให้หล่อนมาอยู่ใกล้ ๆ ตา ได้เรียนรูซ้ ึ่งกันและกัน เหมือนคน
หนุ่มสาวโดยทั่วไป ได้สัมผัส ได้ใกล้ชิด
คารีโนนึกแปลกใจที่เขายอมรับกับตัวเองง่าย ๆ ว่า
เขาชอบหล่อนเข้าให้แล้ว
ละมุนมาศพยายามส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง
เมื่อเจ้างูยักษ์ทเี่ ลื้อยตามหลังมาชูหัวขึ้นสูง ในขณะทีค่ นอื่น ๆ ทั่วบริเวณ
ต่างก็วิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุนเอาตัวรอด ไม่มีใครสักคนที่จะช่วยหล่อน
ละมุนมาศสั่งตัวเองให้วิ่ง แต่เจ้างูใหญ่กเ็ ลื้อยโฉบไปดักทางข้างหน้าเอาไว้
พร้อมกับอ้าปากก้มลงมาฉกดึงมือหล่อนให้ชูขึ้น จนตัวของหล่อนลอยจาก
พื้น แล้วร่างมหึมานั้นก็ค่อย ๆ รัดร่างของหล่อนเอาไว้อย่างอ่อนโยน
ละมุนมาศกลัวอย่างมากเมื่อคิดถึงงูที่รัดเหยื่อ จึงพยายามดิ้นรน
หลีกหนี เอาตัวรอด แต่ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด เจ้างูใหญ่นั้นไม่ได้ทำร้าย
หล่อนแต่อย่างใด มัน ค่อย ๆ คลายตัวออก แถมยังแลบลิ้นออกมาเลีย
ใบหน้าของหล่อนอีกด้วย นํ้าลาย ลื่น ๆ นั้นทำให้ละมุนมาศรังเกียจ
พยายามส่ายหน้าหนีแต่ก็ทำไม่ได้
เสียงดิ้นรนกับเสียงอืออาสลัดร่างสุดชีวิต ทำให้ร่างเล็กที่นอนอยู่ข้าง
ๆ ต้องลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงียและพยายามเรียก
“มามี้...มามี้”
229/559

“อือ”
“มามีต้ ื่นสิคะ เป็นอะไร” เสียงเรียกอย่างตกใจดังขึ้น พร้อมกับมือ
เล็ก ๆ ก็เขย่าร่างสุดแรง ทำให้ละมุนมาศผวาตื่น
“ฟี” เสียงแหบเรียกคนตัวเล็กที่นั่งใบหน้าตกใจอยู่ข้าง ๆ
“มามี้เป็นอะไรคะ”
“มามี้ฝันค่ะ”
“ฝันร้ายหรือคะ”
“ก็ไม่ร้ายมากค่ะ เพียงแต่ว่ามามี้ไม่ชอบเท่านั้นเอง”
“มามี้ฝันถึงงูอีกแล้วหรือคะ” ละมุนมาศพยักหน้าให้กับคำถามนั้น
“แค่ความฝันค่ะ งูมันไม่ทำร้ายคนหรอกค่ะ สงสัยมามี้จะจำทีฟ่ ีเล่า
ให้ฟังเรื่องทีเ่ ขาเอาสัตว์เลื้อยคลานมาให้เด็ก ๆ ดูเมื่อวันก่อนที่โรงเรียน
หรือเปล่าคะ งูไม่น่ากลัวหรอกค่ะ ฟียังลูบตัวมันเลย ไม่เห็นมันกัด มามี้
อย่ากลัวไปเลยนะคะ” เสียงเล่าปลอบ พร้อมกับอ้อมกอดเล็ก ๆ ที่เจ้าตัว
ซุกหน้าเข้าหาอกอุ่นออดอ้อน ทำให้ละมุนมาศกอดรัดร่างนั้นเอาไว้แน่น
กดริมฝีปากที่กลางกระหม่อมนั่นอย่างขอบคุณ
“ขอบคุณค่ะ ตอนนี้มามี้หายกลัวแล้ว นอนต่อนะคะ ยังมืดอยู่เลย”
คนตัวเล็กในอ้อมกอดหลับไปแล้ว แต่ละมุนมาศยังไม่สามารถที่จะ
หลับตาลงได้
230/559

หลายคืนมาแล้วที่หล่อนฝันถึงงู เจ้างูยักษ์นั่นมันไล่หล่อนทุกครั้ง
ราวกับว่ามันแค่แหย่เล่นให้หวาดกลัว ไม่ได้ตั้งใจที่ทำร้ายหล่อนอย่าง
จริงจัง...งูบ้า
ละมุนมาศมาถึงที่ทำงานก่อนเวลาตามปกติ พร้อม ๆ กับเพื่อนสาว
ร่วมงาน
“มอร์นิงมุน”
“มอร์นิงลินดา อากาศดีจังเลย ฉันขอสูดเข้าปอดแรง ๆ สักครั้งก่อน
เข้าไปทำงาน” ละมุนมาศบอกเพื่อนสาวพร้อมกับทำท่าสูดอากาศบริสุทธิ์เข้า
ปอดแบบเต็มแรง ทำให้ลินดาอดที่จะหัวเราะไม่ได้กับท่าทางเอาจริงเอาจัง
นั้น
“สูดให้เต็มที่นะ ฉันเรียบร้อยแล้ว ขอเข้าไปก่อนละกัน” ละมุนมาศ
ยกมือเป็นเชิงบอกตามสบาย โดยที่ตัวเองยังตั้งหน้าตั้งตาสูดอากาศเข้า
ปอดเต็มที่แล้วก็รีบเข้าสู่ที่ทำงาน
“ปึก !”
“โอ๊ย !”
พร้อมกับร่างบางของละมุนมา ก็เซถลาไปปะทะกับฝาผนังทางเดิน
ด้วยมือทั้งสองข้างยันผนังเอาไว้
“ซอร์รแี่ มม” เสียงนุ่มทุ้มตามมา พร้อมกับมือหนาก็ดึงบ่าของละมุน
มาศเอาไว้ พอทรงตัวได้ละมุนมาศก็ยิ้มให้เขาแหย ๆ ไม่รู้ใครผิดใครถูก
231/559

“คุณเป็นอย่างไรบ้าง” หนุ่มหน้าคมในชุดเสื้อกาวน์สีขาว หน้าอกปัก


ชื่อ นายแพทย์ เฟรเซอร์ ราวิ
“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ แค่ตกใจนิดหน่อย”
“ผมขอโทษที่ไม่ได้มอง แถมยังเดินเร็วด้วย เลยชนคุณเต็มแรง”
“เกิดอะไรขึ้นหรือราวิ” คุณหมอเมอรอน ลาบิด คุณหมอเจ้าของ
คลินิกที่เดินผ่านมาทักขึ้น คุณหมอราวิกเ็ ลยอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง
และสุดท้ายคุณหมอ ลาบิดก็แนะนำให้ละมุนมาศรู้จักคุณหมอคนใหม่ของ
คลินิก ซึ่งเป็นหลานชายของคุณหมอนั่นเอง และต่างก็แยกย้ายกันไป
ทำงาน
เมื่อละมุนมาศเดินเข้ามาในห้องทำงาน ลินดาเพื่อนสาวชาวเวียดนาม
ก็ทักขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า
“มุน ยูเห็นคุณหมอคนใหม่หรือยัง หล่อมาก ๆ ชื่อก็เพราะนะ
เฟรเซอร์ ราวิ อายุเพิ่งจะยี่สิบเก้า โอย...สเปกฉันเลย” นํ้าเสียงของเพื่อน
ร่วมงานตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ละมุนมาศได้แต่ยิ้มส่ายหน้าให้กับท่าทางที่
แสดงออกเกินจริงนั้น
“ฉันเจอคุณหมอคนใหม่แล้วละ”
“เป็นไง ยูว่าหล่อไหม”
“ไม่รู้สิ ฉันยังไม่มีเวลาสำรวจ”
232/559

“หล่อมากเลย มุนเอ๋ย หัวใจฉันหวั่นไหวไปหมดแล้ว นี่ขนาดว่าเพิ่ง


เจอวันแรกนะ ไม่คิดว่าคุณหมอคนใหม่จะหล่อขนาดนี้ คนหล่ออย่าง
คุณหมอราวิเหมาะกับคนสวยอย่างฉันนี่แหละ งั้นคนนี้ฉันจองนะ”
“ตามสบายจ้ะ ขอให้โชคดี” ในใจนึกอยากจะบอกเพื่อนว่า
หล่อนไม่ชอบหนุ่มแขก ถึงแม้ว่าจะหล่อคมเข้มแค่ไหนก็ตามที
“ขอบคุณมากมุนที่ไม่ลงแข่งขันกับฉัน”
ละมุนมาศได้แต่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ ให้กับความเปิดเผยของลินดา
คุณหมอคนใหม่ทุกคนที่เข้ามาทำงานที่นี่ คนไหนหล่อ หล่อนเป็นจอง
ทุกคน และก็ไม่เคยมีคู่แข่ง เพราะว่าละมุนมาศสละสิทธิ์ตลอด และ
ผู้ร่วมงานคนอื่นก็มีครอบครัว มีแฟน กันไปหมดแล้ว ที่ผ่านมาไม่เคย
ประสบผลสำเร็จสักครั้ง แต่เพื่อนสาวก็ไม่คิดท้อถอยในเรื่องนี้
วันนั้นทั้งวันละมุนมาศทำงานด้วยความรู้สึกที่เศร้าลึก ๆ อดทีจ่ ะ
คิดถึงมารดาไม่ได้ พอคิดถึงมารดาก็คิดถึงคนตัวเล็กไปด้วย มันโยงใย
กันไปหมด คิดจนปวดหัวแต่ก็ไม่สามารถทีจ่ ะแก้ปัญหานี้ได้ จนสุดท้าย
ก็ต้องสลัดมันทิ้งแล้วก็ก้มหน้าก้มตากับงานที่ต้องรับผิดชอบ โดยบอกกับ
ตัวเองว่า
อย่าคิดมาก ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ปัญหา
233/559

ถึงแม้จะบอกกับตัวเองอย่างนั้น แต่กไ็ ม่ได้ทำให้ละมุนมาศรู้สึก


ปลอดโปร่งโล่งใจได้เลย เหมือนกับที่หลายคนบอกว่าห้ามอย่างอื่นห้ามได้
แต่ไม่เคยห้ามความคิดของตัวเองได้เลย มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
ถึงแม้จะมีหลายเรื่องให้คิด แต่แวบหนึ่งของความคิดก็มผี ู้ชายร่างสูง
ใหญ่ เจ้านายจอมฉวยโอกาสเข้ามาแทรกได้เสมอ แต่ละมุนมาศก็รีบสลัด
ออกไปด้วยใบหน้าเก้อเขินเล็กน้อย
21
พ่อ...ลูกสาวตัวน้อย

“สวยจังเลย ลูกสาวใครหนอ” คารีโนเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นลูกสาวตัวน้อย


ในชุดนักเรียนของโรงเรียนเอกชนชื่อดังเดินเข้ามาในห้องอาหารตอนเช้า
“ลูกสาวแดดดีค้ ่ะ” คำตอบพร้อมร่างเล็ก ๆ ก็ถลาเข้าสู่อ้อมกอด
อบอุ่น จมูกโด่ง ๆ สูดความหอมจากแก้มเล็กอย่างแรง
“แก้มหอมจังเลย ทานอาหารเช้าก่อนค่ะ เราจะได้ไปโรงเรียนกัน”
หลังจากอาหารเช้าแล้ว คารีโนมักจะทำหน้าที่ไปส่งลูกสาวตัวน้อยที่
โรงเรียนด้วยตัวเอง โดยเบียนจะทำหน้าที่ขับรถ ส่วนเฟยทีข่ ับรถอีกคัน
ตาม แต่ถ้าเขาต้องเดินทางไปต่างรัฐหรือว่าต่างประเทศ เฟยจะทำหน้าที่
แทน ส่วนในตอนเย็นหลังโรงเรียนเลิก มิสไอวีเป็นคนรับลูกสาวตัวน้อย
ของเขากลับบ้าน
ทุกเช้าเวลาที่เขาได้ทำหน้าทีข่ องบิดา ทำให้คารีโนมีความสุขยิ่งนัก
ลูกสาว ตัวน้อยของเขาช่างพูดออดอ้อน น่ารัก ฉลาดเฉลียว มีจิตใจที่ดี
แต่หลายครั้งทีล่ ูกสาวมักจะถามถึงมารดา นั่นเป็นสิ่งที่คารีโนหลีกเลี่ยงที่จะ
ตอบทุกครั้งไป
235/559

จะเป็นอย่างไรนะ ถ้าเขาจะหาแม่ให้ลูกสาว ตั้งหลายปีมาแล้ว เขาไม่


เคยคิด แต่พอมาเจอใครบางคน เขากลับคิดที่จะหาแม่ให้ลูก ก็แปลกดี
เมื่อรถเริ่มออกตัว ลูกสาวตัวน้อยของเขาก็เริ่มคุยจ้อ
“แดดดี้ทำงานหนักไหมค้า”
“หนักสิคะ แดดดี้ทำงานหนัก หนูก็ต้องตั้งใจเรียน เข้าใจไหมลูก”
“เข้าใจค่ะ แดดดี้รู้ไหมคะว่า คารีนามีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นอีกคนค่ะ”
“จริงหรือคะ”
“ค่ะ สเตอริง เพิ่งย้ายมาจากโคเรีย (Korea - เกาหลี) แต่สเตอริง
เป็นคนอเมริกัน ตัวขาว ผมทองด้วย สูงกว่าคารีนานิดหนึ่ง เพิ่งมาเรียน
ได้สองวัน และก็เป็นเพื่อนสนิทกับคารีนาด้วย”
“ว่าแต่สเตอริงนี่ผู้หญิงหรือว่าผู้ชายคะ”
“ผู้ชายค่ะ”
“แล้วหนูดูแลเพื่อนสนิทคนใหม่อย่างไรบ้างคะ”
“ก็ดูแลทุกอย่างค่ะ พาไปห้องพยาบาลด้วย เพราะว่าตอนวิ่งเล่นกัน
สเตอริงล้ม หัวเข่าถลอก คารีนาก็พาไปทายาที่ห้องพยาบาล”
“ทำไมเขาไม่ไปห้องพยาบาลกับคนอื่นคะ”
236/559

“สเตอริงเลือกคารีนาคะ กับคนอื่นเขาไม่ยอมไป” คำตอบพร้อมกับ


ใบหน้าภาคภูมิ ใจของลูกสาวทำให้คารีโนอดไม่ได้ที่จะดึงร่างเล็กเข้าหา
พร้อมกับจูบที่ข้างแก้มแรง ๆ
“แล้วหนูมีเพื่อนสนิททั้งหมดกี่คนคะ”
“สองคนค่ะ” ลูกสาวตัวน้อยตอบ พร้อมกับยกนิ้วโชว์ประกอบ
จำนวนด้วย
“ชื่ออะไรบ้างคะ”
“สเตอริงและก็ฟีค่ะ”
“แล้วฟีล่ะคะเป็นอย่างไรบ้าง”
“ฟีเป็นเพื่อนทีค่ ารีนารักมากที่สุดค่ะ เราเล่นด้วยกันสนุกมาก ฟีใจดี
มามี้ของฟีก็ใจดี ฟีบอกว่าอยากมีแดดดีเ้ หมือนคารีนา คารีนาก็เลยบอกว่า
จะขออนุญาตให้ฟีเรียกแดดดีด้ ้วยได้ไหมคะ แล้วฟีก็จะขออนุญาตมามีใ้ ห้
คารีนาเรียกว่ามามี้อีกคน”
คำพูดของลูกสาวทำให้คนเป็นพ่อถึงกับอมยิ้มอยูใ่ นหน้า พร้อมกับ
แสงสว่างที่วาบเข้ามาในหัวใจ
“แล้วตอนนี้หนูเรียกมามี้ของฟีว่าอย่างไรคะ”
“มามีข้ องฟีค่ะ ถ้าคารีนาจะขอให้ฟเี รียกแดดดี้จะได้หรือเปล่าคะพลี
ส”
237/559

คำขอของลูกสาวทำให้คารีโนใจเต้นแรงขึ้นมาทันใด
สองสาวน้อยนี่คิดอะไรกัน ถ้าเขาอนุญาตจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ มี
หวังคนกำปั้นโตได้โวยวายเป็นแน่ เออ แฮะ ชักอยากรูว้ ่าจะเป็นอย่างไร
ต่อไป
“เอาไว้ขอให้แดดดี้คิดก่อนได้ไหมคะ แล้วแดดดี้จะให้คำตอบ
ตอนนี้ถึงโรงเรียนแล้ว”
“ได้ค่ะ บายแดดดี้” คารีโนยื่นริมฝีปากหยักให้ลูกสาวจูบดัง
“จุ๊บ”
“บาย เบียน ขอบคุณที่มาส่งคารีนานะ”
“บายครับ คุณหนู ด้วยความยินดีครับ”
รถคันหรูจอดเทียบหน้าประตูโรงเรียน ลูกสาวตัวน้อยของเขาก็วิ่งเข้า
ไปหาคุณครูทรี่ ออยู่แล้ว พร้อมกับเด็ก ๆ กลุ่มใหญ่ คารีโนอดที่จะยิ้มกับ
ท่าทางร่าเริงน่ารักของลูกสาวไม่ได้ เมื่อเห็นเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งกวักมือ
เรียก ลูกสาวของเขาก็โบกมือตอบ
“สงสัยเด็กนั่นจะชื่อสเตอริงนะ ว่าไหมเบียน”
“มั้งครับ”
“แหม ลูกสาวฉัน ลงจากรถหนุ่ม ๆ ก็กวักมือเรียกซะแล้ว” คารีโน
พูดแล้วก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ เบียนได้แต่ยิ้ม
238/559

ส่งลูกสาวตัวน้อยแล้ว คารีโนก็แวะไปดูความเรียบร้อยของลิซ บีช


อินน์ สิ่งทีจ่ ะทำเป็นประจำก็คือ แวะทักทายหลังจากเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์
ประชาสัมพันธ์ รับรายงานความเป็นไปของโรงแรมในตอนกลางคืนแล้ว
เขาก็แวะไปที่ห้องอาหารเช้าดูความพร้อมเพรียงและการบริการใน
ห้องอาหาร ก่อนที่จะขึ้นไปยังห้องทำงานที่อยู่บนชั้นสูงสุดของตึก
คารีโนชอบที่จะทำงานบนชั้นสูงสุดของตึก เพราะเขาชอบมองทะเล
ตั้งแต่เด็กมาแล้วที่เขาตามคุณปูม่ าทำงาน เขาก็ชอบที่จะขึ้นไปมองทะเล
จากชั้นสูงสุดของตึกเสมอ
ลิซ บีช อินน์ แห่งนี้เป็นธุรกิจทีส่ ร้างขึ้นตั้งแต่คุณปู่ทวดอพยพมา
จากฝรั่งเศส มาขึ้นฝั่งทีม่ หาสมุทรแอตแลนติกตรงนี้ พร้อมกับจับจอง
ที่ดินทำกิน จนได้รับเอกสารที่ถูกต้องจากทางราชการ ตอนแรก ๆ คุณ
ปู่ทวดของเขาก็แค่สร้างที่พักแรมเล็ก ๆ ขึ้นมา เพื่อรองรับผู้ที่อพยพข้าม
นํ้าข้ามทะเลมาจากต่างประเทศ ซึ่งพวกอพยพพวกนี้ ตอนที่เดินทางมาถึง
แรก ๆ ก็ยังไม่มที ี่พัก ก็มักจะพักที่พักแรมแห่งนี้ก่อน และก็ค่อย ๆ
อพยพต่อไปหรือว่าหาที่อยู่ถาวร และมาถึงรุ่นคุณปู่ของเขาก็ขยายใหญ่จน
เป็นตึก เจ็ดชั้นเหมือนกับที่เห็นในปัจจุบัน
ลิซ เป็นชื่อของคุณย่า ซึ่งชื่อเต็ม ๆ คือเอลิซาเบธ ฟลอเรนซ์เนียม
บา
น่าแปลกว่า มารดาของเขาก็ ลิซ เช่นกัน แต่เป็น ลิซาเบธ โรสลิน
เนียมบา พอมาคิดถึงผู้หญิงของเนียมบารุ่นเขา อยากจะรู้นักว่าจะเป็นใคร
239/559

คิดถึงตรงนี้ ภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่โดนเขาจูบถึง
กับถลามาทุบกำปั้นน้อย ๆ ของตัวเองใส่หลังเขาแล้วก็ต้องยิ้มออกมา แล้ว
คารีโนก็รีบถลาไปที่โต๊ะทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์
ภาพน่ารัก ๆ ต้อนรับเช้าวันทำงานของเขาจากฝีมือลูกน้องคนสนิท
เห็นแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ภาพที่หล่อนคุยทักทายยิ้มแย้มกับเพื่อน
ร่วมงาน แล้วก็เงยหน้าแล้วทำท่าสูดอากาศเข้าปอดอย่างแรงนั้นเป็นธรรม
ชาติจริง ๆ ดูตั้งอกตั้งใจทำติดต่อกันหลายครั้ง แล้วก็หันหลังเข้าที่ทำงาน
วันนี้หล่อนแต่งตัวน่ารักทีเดียว ร่างบางนั้นก็ไม่ได้สูงมากนัก ด้วย
กางเกง ผ้ายืดสีดำเข้ารูปโชว์เรียวขาสวยกับรองเท้าบูทส้นสูงตัวบูทยาวแค่
กลางน่องสีดำสนิท เสื้อสีดำคอปาดตัวยาวคลุมสะโพก รัดด้วยเข็มขัดเส้น
เล็กสีแดง ที่คอมีผ้าพันคอสีแดงอมชมพูพาดอยู่ สะพายกระเป๋าใบโตใบ
เดิม
เห็นภาพแล้วก็อยากเห็นตัวจริง พอคิดอยากเห็นหน้า คารีโนก็
ตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับงานที่อยู่บนโต๊ะ ด้วยหัวใจที่กระตือรือร้น
กลับจากทานอาหารกลางวันที่สวนหย่อมด้านหลังคลินิกแล้ว ละมุน
มาศก็กลับเข้ามาข้างใน พร้อมกับที่ลินดาบอกว่า
“มีคนมารอพบยู อยู่ด้านนอกห้องรอหมอน่ะ”
“ฉันหรือ”
“อือ ยูนั่นและ ด้านหน้าเขาโทร. มาบอก”
240/559

“ขอบใจมาก” แม้จะนึกสงสัยว่าใครมาหาหล่อนในยามนี้ แต่ละมุน


มาศก็ไม่มีเวลาคิดมาก
“งั้นเดี๋ยวฉันกลับมา”
“ตามสบาย”
ละมุนมาศออกมาเมียงมองดูที่ห้องรอหมอ ก็เห็นคนป่วยนั่งกัน
เต็มไปหมด แต่ไม่มีคนที่หล่อนรู้จัก แต่พอมองออกไปนอกคลินิก ละมุน
มาศก็แทบจะวิ่งออกไปทันที
“สวัสดีค่ะคุณยาย” ละมุนมาศยกมือไหว้ แล้วก็กอดร่างบางของคุณ
ยายเอาไว้อย่างยินดี
“สวัสดีจ้ะหนูมุน”
“คุณยายมาหาหมอ ไม่สบายหรือเปล่าคะ แล้วทำไมไม่เข้าไปข้างใน”
คุณยายหัวเราะก่อนที่จะตอบว่า
“ยายไม่ได้มาหาหมอหรอกจ้ะ วันมาเยี่ยมญาติเขาแถว ๆ นี้ ยายก็
เลยติดรถมาด้วย หลายวันก่อนยายไปได้สับปะรดมาจากตลาดอีเดน รส
หวาน ยายก็เลยทำสับปะรดกวน พอดีผ่านมาทางนี้กเ็ ลยแวะเอาสับปะรด
กวนมาให้หนูมนุ ลองชิมดู เอาป้ายโทสต์ หรือว่าจะกินกับแครกเกอร์
(Craker - ขนมปังกรอบ) ก็ได้จ้ะ” บอกพร้อมกับยื่นของในมือให้
“โถ คุณยายไม่น่าลำบาก แต่ก็ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ” มือเล็ก ๆ
ยกขึ้นไหว้อย่างขอบพระคุณก่อนรับของ
241/559

“ต้องอร่อยมากแน่ ๆ เลยค่ะ มุนเคยหัดทำแต่มันไม่เคยได้เรื่อง


เลย” คุณยายได้แต่ยิ้มเอ็นดูให้กับคนตรงหน้า
“กลับเข้าไปทำงานเถอะ ยายไม่รบกวนแล้วล่ะ ถ้าชอบวันหลังยายจะ
ทำให้กินอีก”
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะคุณยาย” ละมุนมาศเดินไปส่งคุณยายที่รถ และ
ก็กลับเข้าห้องทำงาน แต่แค่ไม่ถึงยี่สิบนาทีกม็ ีสายเรียกเข้ามาอีกครั้งว่ามี
คนมาหา ในใจ ละมุนมาศคิดว่า
ว่าคุณยายลืมอะไรหรือเปล่า
ก็เลยรีบขอตัวจากเพื่อนร่วมงานแล้วก็รีบออกไป ครั้งนี้ละมุนมาศ
ตรงออกไปด้านนอกอาคารทันที
ครั้งนี้คนที่เห็นกลับเป็นร่างบางของมารดายืนหันหลังสูบบุหรี่พิงรถที่
จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ละมุนมาศก้าวเท้ายาว ๆ เข้าไปหา
“สวัสดีค่ะแม่ มีอะไรหรือเปล่าคะ ถึงได้มาหามุนที่นี่” ทั้งยินดีและ
แปลกใจ แต่ก็เพียงไม่นานเท่านั้น เมื่อมารดาบอกอย่างร้อนรนว่า
“มีเงินให้แม่สักร้อยสองร้อยไหม” คำถามนั้นทำเอาหัวใจดวงน้อย
ห่อเหี่ยวขึ้นมาทันที
แม่มาหาหล่อนก็เพราะเรื่องเงินเท่านั้นเองหรือ
“มุนมีไม่ถึงร้อยหรอกค่ะ มุนไม่เคยพกเงินสดเยอะ ๆ”
242/559

“ไม่ถึงร้อยก็เอามาเถอะ”
“มุนต้องกลับเข้าไปเอาเงินที่โต๊ะทำงาน แม่รอแป๊บนะคะ” ละมุนมาศ
หันหลังกลับด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ขนาดหล่อนยังรู้สึกเจ็บปวดได้ขนาดนี้
แล้วคนตัวเล็กจะเป็นอย่างไรนะ กลับไปที่โต๊ะทำงานเพื่อนสาวเห็นก็ถามว่า
“ทำไมเร็วจัง”
“ฉันมาเอาของน่ะ”
คว้ากระเป๋าเงินได้ ละมุนมาศก็รีบกลับออกไปข้างนอก และทันทีที่
มารดาเห็นหน้าก็ยื่นมือออกมารอตรงหน้า ละมุนมาศก็หยิบเงินส่งให้
“มีแค่นี้แหละค่ะ เก้าสิบเหรียญ” มารดาก็คว้าหมับทันที
“ทีหน้าทีหลังพกให้เยอะกว่านี้ด้วย ฉันแวะมาหาจะได้ไม่เสียเวลา” ผู้
เป็นมารดาว่าให้อีก ละมุนมาศได้แต่กลํ้ากลืนความรู้สึกอดสูเอาไว้ในใจ
“มุนพกเท่าที่จำเป็นเท่านั้นค่ะ และก็ไม่มากนัก เพราะว่าไม่ได้ใช้จ่าย
อะไร อาหารกลางวันมุนก็เอามาจากบ้านแล้ว ว่าแต่เงินที่มนุ ให้แม่ไปวัน
นั้นละคะ” อดที่จะทวงถามไม่ได้
“หมดแล้ว จะมาถามทำไม ให้ได้อะไรขึ้นมา ถ้าฉันมีเงินก็คงไม่
บากหน้ามาขอแกหรอก ให้เงินแม่เชื้อเท่านี้มีปัญหาหรือไงกัน” พอมารดา
พูดอย่างนี้ ละมุนมาศก็ได้แต่ส่ายหน้าถอนหายใจ ไม่คิดจะต่อปากต่อคำ
อะไรอีก
243/559

“ฉันไปล่ะ” แล้วมารดาก็หมุนตัวจากไป ละมุนมาศได้แต่มองตาม


อย่างคิดไม่ตกกับสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น
แม่มาหาแต่ละครั้งก็มีแต่เรื่องเงินเท่านั้น นี่แม่กค็ งจะตามมานานแล้ว
ถึงได้รู้ว่าหล่อนทำงานที่ไหน แล้วจะทำอย่างไรต่อไปดี ถ้ายังให้เงินแม่
ต่อไปอย่างนี้ เงินที่มีอยู่ก็คงจะไม่เพียงพอตามที่แม่ต้องการและหล่อนก็จะ
ต้องหมดตัวเข้าสักวัน
เงินทองที่นี่ไม่ใช่ว่าหาได้ง่าย ๆ มีคนจำนวนมากมายที่ตกงานอยูใ่ น
ขณะนี้เพราะพิษเศรษฐกิจ สำหรับตัวหล่อนและคนตัวเล็กยังใช้จ่ายกัน
อย่างประหยัด
แต่ถ้าไม่ให้ก็คงจะบาปมาก เพราะว่าแม่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูหล่อน
มา ทำให้หล่อนได้มีวันนี้ คิดไม่ตกเลยจริง ๆ ไม่คิดว่าชีวิตจะต้องมาเจอ
กับอะไรแบบนี้ ทีผ่ ่านมาแม่เอาน้องมาทิ้งไว้ให้เลี้ยง หล่อนก็ไม่เคยว่าอะไร
เลี้ยงด้วยหัวใจและความรับผิดชอบทั้งหมด แต่ถ้าต้องมารับผิดชอบเรื่องนี้
เพิ่มขึ้นอีก จะต้องทำงานสักกี่ที่กันแน่ถึงจะมีเงินเพียงพอให้กับความ
ต้องการของแม่กันแน่นะ เศร้าจริง ๆ
ละมุนมาศเดินกลับเข้าที่ทำงานด้วยหัวใจทีห่ นักอึ้ง คิดไม่ตกว่าควร
จะทำอย่างไรต่อไปดี โดยไม่ได้ทันเห็นสายตาอ่อนหวานของใครบางที่ส่ง
มาให้
ทันทีทคี่ ารีโนกลับถึงบ้านในตอนมืด ลูกสาวตัวน้อยในชุดนอนลาย
การ์ตูนสีฟ้าสดใสที่กำลังจะเข้านอนก็วิ่งออกมารับถึงรถที่จอด ร่างเล็ก ๆ
244/559

ของลูกสาวกระโดดหยอง ๆ อย่างตื่นเต้นดีใจ ใบหน้าเล็ก ๆ ยิ้มแย้ม


ยินดีอยู่ด้านนอก รอให้เขาลงจากรถ
ถ้าคนที่ยืนอยู่กับลูกสาวของเขาไม่ใช่มสิ ไอวี แต่เป็นใครบางคนที่เขา
คิดถึง การกลับบ้านวันนีจ้ ะเป็นอย่างไรนะ เขาก็คงก้าวลงจากรถคว้าทั้งแม่
ทั้งลูกมาจูบมาหอมให้สมกับความคิดถึงเป็นแน่ นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่หรือ
“แดดดี้ แดดดี้มาแล้ว เย้ ดีใจจังเลย คารีน่าคิดถึงแดดดี้ที่สุดเลย
ค่ะ” เสียงเรียกอย่างดีใจของลูกสาวเรียกความรู้สึกนึกคิดของเขาให้กลับ
มา คารีโนส่งกระเป๋า ในมือให้กับเบียน ก่อนที่จะย่อตัวลงรวบร่างเล็กขึ้นสู่
อ้อมอก พร้อมกับจุ๊บริมฝีปาก เล็ก ๆ นั้นอย่างแสนรัก
“แดดดี้ก็คิดถึงคารีนาค่ะ”
“งานหนักหรือคะ แดดดี้ถึงกลับบ้านมืด”
“ค่ะ งานหนัก”
“แล้วทำไมแดดดี้ต้องทำงานหนักด้วยคะ”
“แดดดี้ต้องหาเงินนี่คะ หาเงินเก็บไว้ให้หนูตอนโต จะได้เรียน
หนังสือสูง ๆ เข้าบ้านกันเถอะค่ะ ข้างนอกอากาศเย็นเดี๋ยวไม่สบาย”
“เราจะไปหาเกรทแกรนด์มากันหรือเปล่าคะวันนี้”
“วันนี้มืดแล้ว ป่านนี้เกรทแกรนด์มาคงเข้านอนแล้วละค่ะ”
245/559

“งั้นไปพรุ่งนีเ้ ช้า ๆ เลยนะคะ ว่าแต่คืนนี้คารีนานอนกับแดดดี้ได้


ไหมคะ”
“ได้ค่ะ หนูเปลี่ยนชุดนอนนี่อาบนํ้าหรือยังคะ”
“อาบแล้วค่ะ ตัวหอมไหมคะ”
“อื้อ หอมจังเลย ชุดก็สวยด้วยค่ะ”
“ชุดนี้แกรนด์มาให้มาใหม่ค่ะ ยังมีอีกหลายชุดนะคะแดดดี้ สวย ๆ
ทั้งนั้นเลยค่ะ” ลูกสาวตัวน้อยรายงานอย่างยิ้มแย้มมีความสุข
คารีโนรู้ว่ามารดาของเขาชอบซื้อของให้หลานสาวทั้งเสื้อผ้าทั้งของเล่น
แทบจะเรียกว่าทุกอาทิตย์ด้วยซํ้าไป ทุกครั้งที่กลับมาจากบ้านมารดาหรือว่า
บ้านคุณยาย ลูกสาวของเขาจะกลับมาพร้อมกับถุงเสื้อผ้าเป็นประจำ
มารดาคงจะรู้ว่าเขาไม่ค่อยได้มีเวลาหาซื้อเสื้อผ้าให้ลูกสาวนั่นเอง
“แดดดี้ขออาบนํ้าก่อนได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ คารีนาไปเล่นในห้องแดดดี้นะคะ”
“ค่ะ”
คารีโนพาลูกสาวตัวน้อยไปบนห้อง ปล่อยให้เจ้าตัวเล่นตุ๊กตาบน
เตียงตามลำพัง เขาก็เข้าห้องอาบนํ้า
ในทุกครั้งที่กลับมาบ้านก่อนคํ่า ถ้าลูกสาวตัวน้อยยังไม่เข้านอนก็
มักจะวิ่งออกไปต้อนรับเขาเป็นประจำ มันให้ความรู้สึกทีด่ ีมากมาย ความ
246/559

เหนื่อยเพลียจากการทำงานหายไปเมื่อได้เห็นใบหน้าที่สดใสไร้เดียงกับ
รอยยิ้มที่บริสุทธิ์นั้น
แล้วจะเป็นอย่างไรกันนะ ถ้าบ้านนี้จะมีใครอีกสักคนสองคนเพิ่มขึ้น
มา งานนี้คงจะออกมารับเขาทั้งขบวน หรือไม่ก็อาจจะแค่เด็กหญิงตัวน้อย
สองคน มาช่วยกันกระโดดเหยง ๆ ต้อนรับการกลับบ้านของเขา
แค่คิดคารีโนก็รู้สึกว่าหัวใจของเขากระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันใด แล้วก็
คิดได้ว่าเขาน่าจะคุยกับลูกสาวเรื่องสองแม่ลูกกำมะลอนั้น ได้คิดดังนั้นการ
อาบนํ้าครั้งนีก้ ็เลยทำเวลาได้ดีที่สุดเท่าทีเ่ คยทำมา พอแต่งตัวเสร็จก็เข้าไป
ในส่วนของห้องนอน
“แดดดี้อาบนํ้าเร็วจังเลยคะ” ใบหน้าน้อย ๆ เงยหน้าขึ้นจากตุ๊กตาใน
มือ ถามพร้อมกับรอยยิ้ม
“แล้วดีไหมคะ”
“ดีค่ะ” ร่างเล็ก ๆ ของลูกสาวตัวน้อยมุดเข้าใต้ผ้าห่ม ไฟในห้องปิด
ลง เหลือแต่แสงสลัวของไฟกลางคืนข้างผนัง พร้อมกับร่างสูงใหญ่ของผู้
เป็นบิดาก็มุดตามเข้าไปด้วย ศีรษะน้อย ๆ ของลูกสาวพาดอยู่บนแขน
แข็งแรงของผู้เป็นบิดา พร้อมกับทวงถามว่า
“เรื่องที่คารีนาขอแดดดี้ให้ฟีเรียกแดดดีจ้ ะว่าอย่างไรคะ” คารีโนถึง
กับยิ้ม ลูกสาวเขาทวงเร็วจริง
“ไหนบอกให้เวลาแดดดี้คิดไงคะ”
247/559

“ก็ให้เวลาตั้งหลายชั่วโมงแล้วนี่คะ”
“คำตอบควรจะเป็นอย่างไรดีนะ คารีนาถึงจะพอใจ”
“เยสสิคะ”
“ต้องเยสอย่างเดียวหรือคะ โนได้ไหม” แกล้งถาม
“ไม่ได้ค่ะ”
“งั้นเอาเป็นว่า ถ้ามามี้ของฟีอนุญาต แดดดี้กอ็ นุญาตเช่นกันดีไหม
คะ”
“ดีค่ะ งั้นคารีนาจะบอกฟีอย่างนี้ ขอบคุณค่ะ คารีนารักแดดดีท้ ี่สุด
ในโลกเลยค่ะ” ริมฝีปากเล็ก ๆ นั่นยื่นมาจูบริมฝีปากหยักของบิดาแรง ๆ
“แดดดี้กร็ ักหนูที่สุดในโลกเหมือนกัน หลับได้แล้วค่ะ นอนแต่หัวคํ่า
ใบหน้าจะได้สดใส สวยเสมอ หลับฝันดีค่ะ”
“หลับฝันดีค่ะแดดดี้”
ความเงียบเข้ามาครอบคลุมห้องนอนกว้างนั้น ไม่ถึงห้านาทีนักร่าง
เล็ก ๆ ในอ้อมกอดของเขาก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง พร้อมกับเสียง
ลมหายใจเข้าออกเบา ๆ แล้วจู่ ๆ ก็มีคำพูดแผ่วเบาถามขึ้น ราวกับเจ้าตัว
เพิ่งจะนึกขึ้นได้
“ถ้ามีฟีกับมามี้ของฟีมาอยู่บ้านกับเรา คงจะสนุกนะคะแดดดี้”
248/559

คารีโนได้แต่ยิ้มในความมืด มือหนายกขึ้นลูบผมนุ่มสลวยเบา ๆ
พร้อมกับแตะริมฝีปากที่ข้างกระหม่อมเล็กอย่างแสนรัก
ลูกสาวเขาคงเหงา คงอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ รอเวลาสักนิดนะ
รอให้แดดดีพ้ ิชิตใจคนทีจ่ ะมาเป็นมามี้ของลูกก่อน รอให้งานหายยุ่งเขาคง
มีเวลาไปขอคบอีกคนอย่างจริงจังเสียที หรือว่าจะไปทั้งทีม่ ันยุ่ง ๆ อย่างนี้
ดีนะ
22
อุบัติเหตุ...ความจริง

“มามี้คะ เมื่อคืนฟีฝันด้วยค่ะ” จู่ ๆ คนที่นั่งเบาะหลังรถก็พูดขึ้น


“ฝันว่าอย่างไรคะ”
“ฝันว่าแหม่มุดในรูปมาหาค่ะ” คำตอบของคนตัวเล็กทำให้ละมุนมาศ
ถึงกับสะดุ้งในใจเล็ก ๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้ในกระจกส่องหลังและก็ได้เห็น
ในสิ่งทีไ่ ม่คาดคิด รถคันโตสีนํ้าตาลคันเดิมขับตามห่าง ๆ ใจเต้นอย่างแรง
อีกครั้ง แต่ก็พยายามไม่สนใจ
“แม่มุดคงคิดถึงเรามั้งคะ”
“แล้วแหม่มุดจะรักฟีกับมามี้หรือเปล่าคะ” คนตัวเล็กยังออกเสียง
เป็นแหม่ ไม่เคยเป็นแม่ชัดเจน อาจจะเป็นเพราะว่าไม่ค่อยได้ใช้คำนี้มาก
นักเลยเพี้ยน
“รักสิคะ รักเหมือนกับที่มามี้รักฟี รักที่สุด แล้วฟีรักแม่มุดหรือเปล่า
คะ”
“รักค่ะ”
250/559

“ใกล้ถึงโรงเรียนแล้ว บอกมามีห้ น่อยสิคะ ว่าฟีต้องทำอย่างไรบ้าง


เวลาที่อยู่โรงเรียน” ละมุนมาศเปลี่ยนเรื่อง
“ตั้งใจเรียนหนังสือ เชื่อฟังคุณครู ปฏิบัติตามกฎของโรงเรียน ไม่
รังแกเพื่อน ช่วย เหลือเพื่อนในสิ่งที่ทำได้และไม่ขัดต่อกฏของคุณครู และ
ก็เป็นเด็กดีของมามี้ค่ะ” คนตัวเล็กท่องให้ฟังเสียงเจื้อยแจ้ว ละมุนมาศ
ได้แต่ยิ้ม
“ดีมากค่ะ”
จะเป็นอย่างไรนะ ถ้าคนตัวเล็กได้เจอกับแม่มุดจริง ๆ เพราะดูท่า
ทางแม่แล้วไม่ค่อยจะตื่นเต้นดีใจเท่าไรเลย หล่อนไม่อยากให้คนตัวเล็ก
ผิดหวัง ถ้าแม่ไม่ได้รักหรือว่าคิดถึงอย่างจริงใจ ไม่อยากให้คนตัวเล็ก
เสียใจ ไม่อยากให้คนตัวเล็กรู้ความจริงว่าเป็นลูกที่แม่ไม่ต้องการ
ละมุนมาศอดที่จะคิดถึงเรื่องราวทีไ่ ด้รับรู้ เมื่อตอนทีม่ ารดาเอา
น้องสาวตัวน้อยมาให้ในดึกคืนนั้นไม่ได้ คืนที่มารดาจูงร่างเล็ก
กระจ้อยร่อยผอมจนเห็นกระดูกของเด็กหญิงตัวน้อยมาเคาะห้องพักเก่าที่
หล่อนเช่าอยู่ ก่อนที่คอนโดมิเนียมที่ซื้อจะสร้างเสร็จ
เมื่อเห็นเด็กหญิงตัวน้อยในตอนแรก ละมุนมาศไม่คิดว่าจะเป็น
ลูกสาวของแม่กับสามีใหม่ หรือว่าเป็นน้องสาวของหล่อน ครั้งแรกทีเ่ ห็น
และรับรู้ ละมุนมาศช็อกไปชั่วขณะ จนมารดาพูดขึ้นว่า
“ฉันแยกทางกับพ่อของฟีนิกซ์แล้ว มันไม่ดี”
251/559

เท่านั้นเองเรื่องราวที่ละมุนมาศได้รับ และมารดาก็บอกว่า
“ฉันฝากน้องไว้กับแกนะ” ให้น้องสาวตัวน้อยพร้อมกับเอกสาร
สำคัญต่าง ๆ และเสื้อผ้าเก่า ๆ หนึ่งกระเป๋า
ละมุนมาศไม่ได้ถามอะไรมากมาย ด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
นึกอยากปฏิเสธก็พูดไม่ออก เพราะสายตายกลมโตของร่างเล็กตัวผอมกระ
หร่อง ผมเผ้ายุ่งเหยิง มีหัวแม่มืออยู่ในปาก เสื้อผ้าที่เก่า ๆ เห็นแล้วก็จุก
ในอก สุดท้ายก็ได้แต่ยื่นมือออกไป ร่างเล็ก ๆ หลบไปข้างหลังมารดา
ทันที จนหล่อนยื่นตุ๊กตาตัวโตส่งให้ พร้อมกับพูดคุยด้วย คนตัวเล็กจึง
ยอมให้หล่อนเข้าหาและเล่นด้วย
มารดาอยู่ค้างคืนด้วยสองคืนและก็หายหน้าไป เกือบสีป่ ีทีเดียวที่
มารดากลับมาอีกครั้ง และเท่าที่สัมผัสได้ มารดาไม่เหลือความรู้สึกห่วงหา
อาทรหรือว่ารักและคิดถึงคนตัวเล็กเลย มาหาก็แค่ต้องการเงินเท่านั้น คิด
แล้วก็ปวดใจ ละมุนมาศไม่อยากให้รอยยิ้ม เสียงหัวเราะที่สดใสไร้เดียงสา
ทีม่ ีตลอดมาในช่วงเวลาทีใ่ ช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นแม่ลูก ต้องหายไปเมื่อคน
ตัวเล็กได้เจอกับมารดาที่แท้จริง
แล้วหล่อนจะทำอย่างไรดี
“มามีค้ ะ มามีล้ ืมหรือยังคะ” เสียงเรียกของคนตัวเล็ก ทำให้ละมุน
มาศหลุดออกมาจากความคิดกังวล
“ลืมอะไรคะ”
252/559

“ก็เรื่องที่ฟอี ยากให้มามี้เป็นมามี้ให้คารีนาไงคะ ถ้าคารีนามีมามี้ ฟีก็


มีแดดดี้ไงคะ” คำถามทีไ่ ม่คิดว่าคนถามจะทวงเร็วขนาดนี้ ละมุนมาศลืม
ไปแล้วด้วยซํ้าไป
มันมีกันง่ายหรือไงหนอ มามี้ แดดดี้เนี่ย
“เอ่อ เอาอย่างนี้ดีไหมคะ ถ้าแดดดี้ของคารีนาโอ.เค. มามีก้ ไ็ ม่มี
ปัญหา แต่ฟีก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของแดดดี้ของคารีนาด้วยนะคะ”
“ค่ะ” บอกคนตัวเล็กไปแล้ว ละมุนมาศก็ได้แต่ภาวนาในใจให้
เด็กหญิง คารีนาไม่คิดจริงจังกับเรื่องนี้ หรือไม่กล็ ืมไปเลย แต่ถ้าไม่ลืม ก็
ขอให้บิดาของเด็กหญิงคารีนาปฏิเสธ เด็ก ๆ จะได้เลิกคิด ตัวหล่อนไม่
กล้าปฏิเสธเมื่อเห็นความตั้งใจของ เด็ก ๆ และก็หวังว่าเขาคงจะมีเหตุผลที่
ดีให้กับลูกสาวของเขาด้วย
ไม่ใช่ว่ามาดูถูกหล่อนเข้าให้ล่ะ งานนี้หล่อนคงจะอายอยูฝ่ ่ายเดียว
เป็นแน่ จะว่าไปแล้วตั้งแต่รู้จักคุณยายกลีบบัวและเหลนสาวตัวน้อย
หล่อนก็ไม่เคยเห็นหลานชายของคุณยายเลยสักครั้ง
ละมุนมาศละความคิดทั้งหมด เมื่อรถเคลื่อนเข้าไปจอดที่ลานจอดรถ
ของโรงเรียน
“ถึงแล้ว วันนี้มามี้จะไปส่งให้ถึงห้องเรียนเลย ดีไหมคะ”
“เย้ ดีค่ะ”
253/559

ละมุนมาศจูงมือคนตัวเล็กเอาไว้แน่น หางตาชำเลืองมองรถคันโตที่
จอดอยู่ไม่ไกล แล้วก็นึกอยากจะเดินเข้าไปถามว่า
ทำอย่างนี้ทำไม เพื่ออะไร ใครสั่งให้ทำ
แต่ก็ได้เพียงแต่คิดเท่านั้น รถคันนั้นไม่เคยแม้แต่จะมาใกล้ ๆ ให้
หล่อนได้เห็นชัด ๆ สักครั้ง
หลังจากส่งฟีนิกซ์ให้กับคุณครูประจำชั้น พร้อมกับพูดคุยทักทาย
แล้ว ละมุนมาศก็จูบลาคนตัวเล็กเพื่อไปทำงาน
ละมุนมาศขับรถออกมาจากโรงเรียนด้วยความเร็วตามที่กำหนด
เนื่องจากในช่วงที่เด็กไปโรงเรียนในตอนเช้าและเลิกโรงเรียนในตอนบ่าย
บริเวณรอบ ๆ โรงเรียนจะเปิดไฟกะพริบเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งหลาย
ต้องขับรถตามความเร็วที่กำหนดอย่างเคร่งครัด และพอพ้นเขตโรงเรียนมา
ได้แล้ว ละมุนมาศก็เร่งความเร็วของรถขึ้น พร้อมกับมองกระจกข้างทั้ง
สอง และก็มองกระจกหลัง หาทางหนีทีไล่ ให้พ้นจากการติดตาม หัน
ซ้ายหันขวา
โครม...ปึง...คลัก...คลัก...!
ขับรถอยูด่ ี ๆ ก็มเี สียงเกิดขึ้นใกล้ ๆ แล้วอยู่ ๆ รถก็หยุด ละมุน
มาศมองไปด้านข้าง ก็เห็นว่ารถของหล่อนเบียดชิดอยู่กับรถอีกคัน
ตายแล้ว อย่าบอกนะว่าเกิดอุบัติเหตุรถชน ใครชนใครกันแน่ หล่อน
ชนเขาหรือว่าเขามาชนหล่อน แล้วรถคันนี้โผล่มาจากตรงไหน มาได้
254/559

อย่างไรกัน ทำไมหล่อนถึงมองไม่เห็น แล้วจะต้องทำอย่างไรบ้างเนี่ย ครั้ง


แรกในชีวิตที่หล่อนขับรถไปชนรถคนอื่นอย่างนี้ โชคร้ายจริง ๆ
ละมุนมาศส่ายศีรษะอย่างมึนงง เสร็จแล้วก็นึกได้ว่ายังไม่ได้สำรวจ
ตัวเอง พอสำรวจคร่าว ๆ แล้วนึกดีใจที่ไม่มีบาดแผลตรงไหน มองไปยัง
รถอีกคันไม่เห็นมีเจ้าของรถนั่งอยู่
นี่หล่อนชนรถทีจ่ อดอยู่เฉย ๆ ข้างถนนอย่างนั้นหรือ ทั้งชน ทั้งครูด
ให้มันได้อย่างนี้สิ ซวยจริง ๆ แล้วนี่หล่อนจะไปหาเจ้าของรถได้จากที่ไหน
แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไร ละมุนมาศก็เห็นชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดูดี
เตรียมพร้อมสำหรับการไปทำงาน ใบหน้าบึ้งตึง ดวงตาเขียวปั๊ดแสดง
อาการหัวเสียเดินมาที่รถ พร้อมกันนั้นก็เพ่งมองผ่านกระจกเข้ามา ก็ทำให้
ใจของละมุนมาศฝ่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เจ้าของรถแน่ ๆ เลย
ตั้งแต่ขับรถเป็น มีใบขับขี่จนถึงวันนี้ นี่เป็นครั้งแรกทีเ่ กิดอุบัติเหตุ
แต่มันเป็นการชนฝ่ายเดียว ละมุนมาศนึกโกรธไปยังคนที่ขับรถตาม ถ้าไม่
มีรถคันนั้น หล่อนก็คงไม่เสียสมาธิ หันซ้ายหันขวา จนชนรถที่จอดอยูเ่ ฉย
ๆ อย่างนี้
รูไ้ ปถึงไหนอายไปถึงนั่น ดีไม่ดีตำรวจเรียกตรวจระดับแอลกอฮอล์
อีก
255/559

มองในกระจกส่องหลังก็เห็นว่า รถฮัมเมอร์คันโตจอดอยูห่ ่างจากรถ


ของหล่อนพอประมาณ แต่ละมุนมาศไม่มีเวลาคิดอะไรมากนัก เพราะว่า
เจ้าของรถคู่กรณีกำลังเดินเข้ามาใกล้ มือบางเลยต้องเลื่อนกระจกลง
พร้อมกับรีบบอกว่า
“ขอโทษค่ะ ขอโทษจริง ๆ ฉันจะเรียกประกันนะคะ ได้โปรดใจเย็น
ๆ ไว้ก่อน” บอกแล้วก็เลื่อนกระจกขึ้นตามเดิม พร้อมกับคว้ากระเป๋าข้าง
ตัวมาควานหาโทรศัพท์ และกำลังจะกดหาบริษัทประกัน เสียงเคาะ
กระจกหน้าต่างทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ต้องตกใจ
เฟยมาได้ไง มาจากทางไหนเนี่ย
“มิสละมุนมาศเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ”
เฟยดึงประตูรถให้เปิดออกอย่างรีบเร่ง
“ไม่...ไม่เป็นไรค่ะ คิดว่าไม่เจ็บตรงไหนด้วย แค่ตกใจเท่านั้นเอง”
ละมุนมาศละลํ่าละลักตอบแล้วก็ก้าวออกมาจากรถ พอยืนเต็มตัวได้ก็
สำรวจแขนขาตัวเองอีกครั้ง แน่ใจว่าไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหน พร้อมกับ
เดินไปดูหน้ารถตรงที่ชนแล้วก็ต้องตกใจ หน้าเสียทันทีเมื่อเห็นความ
เสียหายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เห็นรถตัวเองแล้วก็สงสาร ยับเยินไปมาก ใน
ขณะทีร่ ถอีกฝ่ายที่เป็นบีเอ็มดับเบิลยูคันหรูที่สีข้างไม่ต้องพูดถึง ถลอก
ปอกเปิก กระจกมองข้างหลุดกระเด็น ท้ายรถบุบ
256/559

ชนใครไม่ชนดันมาชนบีเอ็มดับเบิลยูที่จอดอยูเ่ ฉย ๆ งานนี้ประกัน
ได้ขึ้น พรวด ๆ เป็นแน่
“เชิญไปนั่งพักที่รถของผมก่อนนะครับมิส”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ขอบคุณมาก ฉันโอ.เค.”
“งั้นก็ไม่เป็นไร ผมทำตามคำสั่งของเจ้านายครับ” คำตอบของคน
ตรงหน้าทำให้ละมุนมาศอดที่จะค้อนให้ไม่ได้ก่อนที่จะคิดได้ว่า
ว่าแต่เจ้านายเขามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน
“เจ้านายคุณมาเกี่ยวอะไรด้วย” ถามกลับอย่างที่ใจคิด
“อย่าเพิ่งถามตอนนี้เลยครับ ตำรวจกำลังมาแล้ว” เฟยรีบตัดบท ที่
ตำรวจมาเร็วก็เพราะว่าเขาโทร. แจ้งตำรวจทันทีที่เห็นเหตุการณ์
ตำรวจมาแล้ว ทำไมลูกน้องมาเฟียไม่กลัวอะไรเลยหรือไง แถมยัง
เดินเข้าไปหาตำรวจอีกด้วย ไม่เข้าใจจริง ๆ หรือว่าพวกนี้เส้นใหญ่
อิทธิพลคับฟ้าแม้แต่ตำรวจก็ยังกลัว
เจ้าหน้าที่ตำรวจซักถามเจ้าของรถคู่กรณีแล้ว ก็เดินมาหาละมุนมาศที่
ยืนอยู่บนฟุตปาธข้างถนน
“คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับมิส”
“ไม่ค่ะ”
“มีผู้โดยสารคนอื่นในรถของคุณหรือเปล่า”
257/559

“ไม่มีค่ะ ฉันคนเดียว”
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขอใบขับขี่ เอกสารเกี่ยวกับประกันภัย
และเอกสารเกี่ยวกับรถ ละมุนมาศก็ยื่นเอกสารทุกอย่างให้เจ้าหน้าตำรวจ
ซึ่งก็รับไป พร้อมเชิญให้ละมุนมาศตามไปที่รถด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิด
เครื่องคอมพิวเตอร์ในรถแล้วก็กรอกข้อมูล และมีการซักถามรายละเอียด
ของเหตุการณ์ทเี่ กิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งละมุนมาศก็ตอบทุกอย่างตามความ
เป็นจริง โดยมีเฟยยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่ก็
คืนเอกสารทุกอย่างให้
ละมุนมาศหันไปทางคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ได้ยินเขาพูดโทรศัพท์กับ
ทางปลายสายว่า
“ครับเจ้านาย ครับ ไม่มีปัญหาอะไรครับ ไม่เจ็บครับ ครับ ผมจะ
จัดการให้ครับ ไม่ต้องห่วงครับ ครับ ได้ครับ มิสครับ เจ้านายอยากคุย
ด้วยครับ” เฟยยื่นโทรศัพท์ของเขาส่งให้ พร้อมกับสายตาขอร้องให้หล่อน
รับโทรศัพท์ไปคุย ละมุนมาศรับโทรศัพท์เครื่องหรูมาอย่างงง ๆ นึกในใจ
ว่า
ทำไมหล่อนต้องคุยกับเจ้านายเขาด้วย อุบัติเหตุครั้งนีไ้ ม่ได้เกี่ยวกับ
เขาสักหน่อย ไม่เข้าใจจริง ๆ
“ฮัลโหล” ละมุนมาศพูดแค่นั้น ปลายสายก็ถามว่า
“คุณไม่เจ็บใช่ไหมมุน”
258/559

ละมุนมาศส่ายหน้าเป็นคำตอบ แต่พอคิดได้ว่าเขาไม่รับรู้จึงตอบกลับ
ไปว่า
“ไม่ค่ะ ขอบคุณทีถ่ าม แค่นี้นะคะ” กำลังจะวางหูทางปลายสายก็
บอกว่า
“เดี๋ยวก่อน”
“คะ”
“เฟยจะเป็นคนจัดการทุกอย่างให้คุณ ไว้ใจเขาได้ แล้วเจอกัน”
เจ้านายวางหูไปโดยไม่รอฟังคำตอบ
ชอบสั่งนัก ยุ่งอะไรกับเขาด้วยเนี่ย แล้วเจอกัน...ว่าแต่ใครอยากเจอ
เขากันนะ
ใจปฏิเสธแต่ลึก ๆ แล้วละมุนมาศรู้สึกอบอุ่นในยามที่อยูใ่ น
ภาวะคับขันคิดอะไรไม่ออก เขาก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
เอ๊ะ...ว่าแต่เขาจะช่วยเหลือหล่อนทำไมกัน ในเมื่อเขาโกรธเกลียด
เคียดแค้นหล่อนออกอย่างนั้น มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเป็นแน่ เขา
ให้คนตามหล่อนอยู่ไม่ใช่หรือ หรือว่า...เฟยคือคนที่ตามหล่อนอยู่ เฟยเป็น
เจ้าของฮัมเมอร์คันโตคันนั้นหรือเปล่า หล่อนก็ไม่เห็นด้วยสิว่าเฟยลงมา
จากรถคันไหน มีรถจอดอยู่รอบ ๆ แถวนี้ตั้งหลายคัน เฟย...เป็นเฟย
ใช่ไหม
259/559

ละมุนมาศได้แต่ส่ายศีรษะไปมาแรง ๆ ขับไล่ความสับสนงุนงงและ
ความหวาดกลัวเล็ก ๆ ออกไปจากหัวใจ แต่มันก็ทำได้ยากนัก
“มิสครับ ไม่สบายหรือเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ”
“ผมจะช่วยจัดการทุกอย่าง ตอนนีผ้ มอยากให้มิสโทร. ไปลางาน
บอกที่ทำงานว่ามิสมีอุบัติเหตุ และต้องอยู่จัดการเรื่องราวทั้งหมดนะครับ”
“ทำไมฉันต้องลางานด้วย”
“มีหลายเรื่องที่มสิ ต้องจัดการครับ” คนทีไ่ ม่เคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมา
ก่อนเลยในชีวิต ไม่เคยรู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ละมุนมาศมองคนตรงหน้า
ก็ดูไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ท่าทางก็ออกจะสุภาพ ห่างไกลจากคำว่าคนร้าย
สมัยนี้คนร้ายอยู่ในคราบสุภาพบุรุษกันเยอะแยะ
หลากหลายความคิดที่ตีกันอยู่ในสมองของละมุนมาศขณะนี้
แต่ในภาวะเช่นนี้ถ้าเฟยเป็นคนที่ติดตามหล่อนจริง ๆ และถ้าเขาจะ
จัดการกับหล่อน ก็คงจะสวมรอยไปกับอุบัติเหตุครั้งนี้ไปแล้ว
ละมุนมาศรู้ว่าหัวสมองหล่อนทึบมาก หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้คิด
อะไรไม่ค่อยออก
หรือว่าสมองของหล่อนได้รับการกระทบกระเทือนเสียแล้ว
260/559

สุดท้ายละมุนมาศก็โทรศัพท์ไปที่ทำงานบอกลางาน เพื่อนร่วมงาน
ตกใจกันเล็กน้อยเมื่อรู้ถึงสาเหตุ เพราะว่าในหนึ่งปีละมุนมาศแทบจะไม่
เคยลางานเลยก็ว่าได้นอกจากลาพักร้อนเท่านั้น และพอรูว้ ่าไม่ได้รับ
บาดเจ็บอะไรก็เลิกเป็นกังวล วางหูจากที่ทำงานแล้วละมุนมาศก็หันมาทาง
คนทีย่ ืนอยู่ข้าง ๆ เขาก็แนะนำให้หล่อนคุยกับเจ้าของรถคูก่ รณี ช่วยเก็บ
รายละเอียดของอีกฝ่าย และก็โทร. ไปรายงานอุบัติเหตุกับบริษัทประกัน
ซึ่งบริษัทประกันก็ซักถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นราวกับตำรวจเลยทีเดียว
เช้าวันนั้นใช้เวลากว่าสองชั่วโมงจึงเสร็จเรื่องราว รถของหล่อนก็มี
บริษัท ลากรถมานำไปโรงซ่อมรถ ละมุนมาศรู้สึกเหนื่อยอย่างไม่เคยเป็น
มาก่อน เหตุการณ์หลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้หล่อน
ตั้งรับแทบไม่ทัน
หลังจากทีร่ ถถูกลากไปแล้ว เฟยก็นำหล่อนมาที่รถของเขา ทันทีที่
เห็นรถละมุนมาศก็ตกใจ รู้สึกถึงเหงื่อที่ทะลักออกมาจนแทบจะเป็นลม
ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มสวยงามซีดเผือดทันใด
23
จริง...หรือ ?

เฟยเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของผู้หญิงของเจ้านายแล้ว ก็รีบเปิดประตู
รถให้หล่อนเข้าไปนั่งข้างใน
“เชิญครับมิส” นํ้าเสียงนุ่มนวลเชื้อเชิญ
ละมุนมาศพาแข้งขาที่อ่อนแรงขึ้นไปนั่งบนรถ เพราะจะวิ่งหนีหล่อนก็
คงจะไม่รอด
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ สู้กันให้ถึงที่สุดไปเลย เกิดครั้งเดียว ตายครั้ง
เดียว
บอกกับตัวเองทั้ง ๆ ที่แทบจะหมดแรง รู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาทันใด
และพอเฟยขึ้นรถทางด้านคนขับ ละมุนมาศก็ถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยทันที
“คุณเฟยเป็นคุณใช่ไหมที่ขับรถตามฉันตลอดเวลาที่ผ่านมา”
“ครับ” คนที่กำลังทำหน้าที่ขับรถรับปาก
“ทำไมคุณต้องตามฉันด้วย”
“คำสั่งของเจ้านายครับ”
262/559

“ทำไม”
“ผมว่าเรื่องนี้มิสรอถามเจ้านายของผมดีกว่า ผมคงตอบแทนไม่ได้”
“แล้วนี่เราจะไปไหนกันคะ ถ้าไม่คิดว่ารบกวนเกินไป คุณเฟยไปส่ง
ฉันที่ คอนโดฯ ได้ไหมคะ ฉันจะไปตั้งต้นที่นั่น ยอมรับค่ะว่าตอนนี้ฉัน
มึนงงไปหมดแล้ว ขอพักก่อนแล้วค่อยคิดต่อว่าจะทำอย่างไรต่อไป”
“ผมจะพามิสไปดูที่เขาลากรถไปโรงซ่อมนะครับ จะได้รวู้ ่ารถอยู่
ที่ไหน” คำตอบนั้นทำให้ละมุนมาศรู้ว่าหล่อนไม่มปี ระสบการณ์ด้านนี้เอา
เสียเลย
“หลังจากนั้นเจ้านายสั่งให้ผมพามิสไปหา” คำตอบถัดมานั้นทำให้
ละมุนมาศถึงกับพูดไม่ออก ก็เลยเงียบไม่ถามอะไรต่อ เพราะรูว้ ่าลูกน้องก็
ทำตามคำสั่งของเจ้านาย หล่อนขัดขืนไปก็คงจะเท่านั้น
นี่หล่อนคงไม่รอดแล้วใช่ไหม รู้อย่างนี้รถชนเมื่อกี้ ถ้าหล่อนได้รับ
บาดเจ็บก็คงจะถูกส่งไปโรงพยาบาลแทนที่จะถูกลูกน้องเขาพาไปอย่างนี้
เวรกรรมจริง แล้วนี่คนตัวเล็กของหล่อนจะอยู่อย่างไร จะเป็นอย่างไร
อีกความคิดหนึ่งก็บอกว่า
ดีเหมือนกัน จะได้พูดให้รู้เรื่องกันไปเลยว่าอะไรมันเป็นอะไร ดีกว่า
อึมครึมหวาดระแวงอยู่อย่างนี้ แต่ทั้งขึ้นทั้งล่อง หล่อนก็คงไม่รอดอยูด่ ี มา
มี้รักฟีนะคะ รักมาก ได้แต่หวังว่ามิสซิสลีจะติดต่อกับคุณยายกลีบบัว ถ้ารู้
ว่าหล่อนหายไปอย่างน่าสงสัย
263/559

สารพัดความคิดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้ละมุนมาศปวดหัวทีเดียว ก็
เลยหลับตาหันหน้าออกไปนอกรถ และด้วยความเครียดทีผ่ ่านมา กับ
ความเย็นกำลังพอดีของแอร์คอนดิชันนิ่งในรถ ความเงียบที่ได้ยิน
แม้กระทั่งเสียงลมหายใจของคนที่นั่ง ข้าง ๆ ทำให้ละมุนมาศเข้าสู่นิทรา
อย่างง่ายดาย จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกราวกับเสียงนั้นมาจากที่ไกลแสน
ไกล
“มิสลามุนมาสครับ มิสครับ”
“หือ” ละมุนมาศค่อย ๆ ลืมตาขึ้น มองไปรอบๆ ก็พบรถจอดอยูก่ ับ
ที่แล้ว ที่ไหนสักแห่ง หันไปทางด้านคนขับก็เห็นว่ามีแต่รถจอดอยู่รอบ ๆ
“ถึงแล้วครับ”
“ถึงไหน”
“โรงงานเจ้านายครับ”
มาถึงแล้วหรือนี่ กี่โมงกันแน่เนี่ย
ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเกือบเที่ยง
เอ้า ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ไม่สกู้ ็ถอยไม่ได้แล้ว อะไรมันจะเกิดก็
ให้มันเกิด ว่าแต่ทำไมมันต้องมาเกิดวันเดียวกันด้วยไม่รู้ เคราะห์ซํ้ากรรม
ซัดจริงๆ
“เชิญครับ” เฟยมองหน้าคนพิเศษของเจ้านายแล้วก็อดที่จะคิดไม่ได้
ว่า
264/559

เป็นผู้หญิงคนแรกจริง ๆ ทีเ่ ชิญมาหาเจ้านายเขาแล้วก็ทำหน้าราวกับ


ถูกพามาทำร้ายอย่างไรอย่างนั้น มิสไม่มที ่าทีดีอกดีใจ หรือกระตือรือร้น
กับกระเป๋าใบใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดซัมเมอร์นี้เลย แปลกมาก ๆ
ละมุนมาศเดินตามร่างสูงของเฟยเข้าไปข้างในตึก ผ่านประตูเข้าไป
เป็นห้องโถงเล็ก ๆ ที่มีเจ้าหน้าที่หญิงสองคนอยูห่ ลังเคาน์เตอร์ ที่ผนัง
ด้านหลังเคาน์เตอร์ มีคำว่า Liz ละมุนมาศหลับตาแล้วก็ลืมตาอีกครั้ง
ถามตัวเองในใจว่า
นี่หล่อนเข้ามาที่ Liz นี่เชียวหรือ Liz เป็นของเขาอย่างนั้นหรือ
มาเฟีย ตัวจริง
แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก ละมุนมาศก็ได้ยินสาวสวยพูดขึ้นว่า
“เจ้านายบอกให้เข้าไปพบได้เลยค่ะเฟย”
“ขอบคุณครับกูดา”
“ด้วยความยินดีค่ะ” ประชาสัมพันธ์สาวสวยยิ้มรับ และก็ส่งผ่านมา
ให้กับละมุนมาศด้วย ซึ่งละมุนมาศก็ยิ้มตอบแต่พองาม
“เชิญครับมิส” เฟยหันมาเชิญให้เดินตาม ละมุนมาศเดินตามร่างสูง
ของเฟยผ่านห้องต่าง ๆ ทีม่ ีพนักงานทำงานกันอย่างเคร่งครัด มีทั้งห้อง
โล่ง ๆ ทีม่ ีพนักงานหลายคนนั่งใกล้กัน โดยมีผนังกั้นแบ่งเป็นที่ส่วนตัว
และมีห้องเล็กประจำสำหรับแต่ละคน เฟยเดินนำละมุนมาศขึ้นบันไดไปยัง
265/559

ชั้นสอง เดินผ่านห้องทำงานไปสามห้อง สุดปลายทางเดินก็พบกับ


เลขานุการหน้าห้องที่ลุกขึ้นทันทีที่เห็น พร้อมกับส่งยิ้มและเสียงทักทาย
“สวัสดีค่ะเฟย เชิญได้เลยค่ะ/สวัสดีค่ะมิส”
“สวัสดีครับซิดนีย์/สวัสดีค่ะ” ละมุนมาศส่งยิ้มทักทาย พยายามทำ
สีหน้าที่แจ่มใสที่สุด ทั้ง ๆ ที่หัวใจเต้นแรง หลังประตูบานนั้นใครคนหนึ่ง
ที่หล่อนโกรธ กลัว ไม่ชอบหน้าอยู่ในนั้น
แล้วทำไมรู้สึกใจเต้นแรงขนาดนี้กันแน่นะ เหงื่อก็ชื้นมือจนต้องถู
ฝ่ามือกับชายเสื้อ ลมหายใจก็เหมือนกับจะชะงักขึ้นมาทันที
เฟยเดินนำไปเปิดประตูพร้อมกับบอกว่า
“เชิญครับมิส เจ้านายรออยู่ข้างใน” เปิดประตูแล้วร่างสูงของเขาก็
เบี่ยงตัวให้หล่อนเข้าไป
“แล้วคุณไม่เข้าไปด้วยหรือคะ” ไม่แน่ใจว่าเสียงถามของตัวเองสั่น
หรือเปล่า แต่ทแี่ น่ ๆ ละมุนมาศรู้สึกว่าขาของหล่อนหนักจนแทบจะก้าวไม่
ออก
“ตามสบายครับมิส” พอละมุนมาศก้าวเข้าไปประตูก็ปิดตามหลัง
เอาน่า ไหน ๆ ก็มาถึงนี่แล้ว คุยกันไปเคลียร์ไปเลย จะฆ่าจะแกง
กันก็ให้มันรู้กันไป
ละมุนมาศมองไปรอบ ๆ ห้องทำงาน หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่กไ็ ม่
เห็นจะมีร่างของเจ้านายอยู่
266/559

แล้วเขาไปไหน
“มาแล้วหรือ” เสียงนุ่มทุ้มที่ดังขึ้นข้าง ๆ ตัว ทำให้ละมุนมาศสะดุ้ง
สุดตัวจนร่างกระโจนหนี เสียงหัวเราะดังขึ้นเบา ๆ คนฟังได้ยินเป็น
เสียงหัวเราะเยาะเย้ย ปลุกความโกรธและความกล้าในหัวใจขึ้นได้อย่างไม่
น่าเชื่อ
“คนบ้า นี่แน่ะ นี่แน่ะ” ไม่พูดพล่ามทำเพลง ร่างเล็กก็กระโจนเข้าใส่
ร่างสูงจนคนทีย่ ังไม่ทันตั้งตัวเซถลาไปเล็กน้อย พร้อมกับดึงร่างบางตามไป
ด้วย ส่วนคนที่ถูกดึงไปด้วยก็คิดว่ากำลังถูกลวนลามก็ยิ่งโวยวาย ทุบตีเขา
พัลวัน
“กล้าทำอย่างนี้กับฉันได้อย่างไรกัน ทำให้ฉันเกือบได้รับบาดเจ็บ คน
ไร้หัวใจ คนบ้า”
“โอ๊ย ๆ ผมทำอะไร” คนถูกทุบตีถามกลับ เพราะยังงง ๆ ที่อยู่ ๆ
อีกคนโวยวาย นํ้าตาคลอ สองมือน้อย ๆ ก็ทุบเขาไม่หยุด จนเขาต้อง
จับมือทั้งสองข้างไว้ แต่ขาทั้งสองข้างที่ยังเป็นอิสระก็ทำหน้าที่ของมันอย่าง
เต็มความสามารถ หัวรองเท้าบูท ส้นสูงที่แหลมกำลังงามนั้นทำร้ายเขาให้
เจ็บได้ดีทีเดียว
“ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ ให้คนขับรถตามฉัน จนฉันขับรถไปชนกับรถคน
อื่น คนใจร้าย”
267/559

คนใจร้ายที่ถูกกล่าวหาทำหน้ามึนงง จนกระทั่งเจอปลายรองเท้าเข้าที่
หน้าแข้งถึงกับร้อง
“โอ๊ย !” คนเตะเท้าออกไปถึงกับใจเสียเมื่อได้ยินเสียงร้องโอ๊ยจาก
เขา เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเหย ๆ นั้นแล้วก็นึกสงสาร แต่ละมุนมาศก็บอก
ตัวเองว่า
ทำถูกแล้ว หล่อนต้องรีบออกอาวุธก่อนทีอ่ ีกฝ่ายจะได้ตั้งตัว ไม่งั้น
หล่อนคงจะเป็นฝ่ายที่เพลี่ยงพลํ้าเป็นแน่
ส่วนคนที่เพิ่งจะโดนปลายรองเท้าของสาว ๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต ก็
ถึงกับสูดปากระบายความเจ็บ และคารีโนก็ตัดสินใจรวบร่างบางดึงให้ไป
นั่งที่เก้าอีห้ ลังโต๊ะทำงานของเขา พร้อมกับลากเก้าอีอ้ ีกตัวมานั่งตรงหน้า ใช้
ขาแข็งแรงของตัวเองหนีบขาเรียวเอาไว้แน่น มือข้างหนึ่งของเขาก็รวบ
ข้อมือเล็กทั้งสองเอาไว้ไม่ให้ได้มีโอกาสทำร้ายเขาได้อีก
“ปล่อย” คนทีโ่ ดนหนีบขาเอาไว้สั่งเสียงแหว เมื่อเห็นกระโปรงตัวสั้น
ของ ตัวเองร่นขึ้นไปอยู่กลางขา ทำให้เขาเห็นขาขาวเนียนของหล่อน
“นั่งเงียบ ๆ ก่อน ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน” ทำเสียงเข้มขู่แล้วเขา
ก็กด อินเทอร์คอม พร้อมกับส่งเสียงเข้มออกไปบอกเลขานุการหน้าห้องว่า
“ผมไม่รับแขกนะ จนกว่าจะอนุญาต” พูดเสร็จแล้วเขาก็หันใบหน้าที่
เรียบตึงกลับมา ยังไม่ทันได้พูดอะไร
268/559

“คิดว่าเป็นมาเฟียแล้วคิดว่าฉันจะกลัวหรือไงกันฮึ” เสียงเล็กขู่กลับ
ทั้งที่ในใจนึกหวั่น
นี่เขาคิดจะทำอะไร ถึงได้ลอ็ กหล่อนเอาไว้จนแทบกระดิกไม่ได้อย่าง
นี้
“ใครเป็นมาเฟีย” ไม่ใช่เฉพาะหน้าที่เรียบตึงเท่านั้น เสียงก็ยังแข็ง
แถมสายตายยังดุดันอีกด้วย
อ่า ตายนแน่ ๆ แต่เป็นไงเป็นกัน
“ก็คุณไง”
“ผมนี่นะเป็นมาเฟีย เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคุณ” คารีโนถามกลับนํ้า
ด้วย น้ำเสียงขำ ๆ
“ไม่ยอมรับล่ะสิ...ฮึ ไม่มีใครยอมรับหรอกว่าตัวเองเป็นมาเฟีย” คน
พูดพูดอย่างมั่นใจ คารีโนเห็นอาการนั้นแล้วก็นึกอยากจะรวบคนตรงหน้า
เข้าสู่อ้อมกอด กอดรับขวัญผู้หญิงของมาเฟีย แต่คิดว่าทำอย่างนั้นเขาคง
ได้สิ่งแลกเปลี่ยนมาแน่ ๆ
“มองทำไม คิดจะทำร้ายฉันล่ะสิ”
คิดได้เป็นเรื่องเป็นราวจริง ๆ
“ฉันมาที่นี่ก็เพื่อที่จะตกลงกับคุณ”
“ตกลงเรื่องอะไร”
269/559

“ก็เรื่องความแค้นของคุณไง คุณถึงได้ส่งให้เฟยติดตามฉันตลอด
คุณเกลียดโกรธฉันถึงขนาดที่จะทำร้ายกันให้ตายไปข้างหนึ่งเลยเชียวหรือ
แค่ฉันหยิกคุณ คุณก็โกรธแค้น แต่รไู้ หมว่าฉันก็โกรธเหมือนกันที่คุณทำ
กับฉันอย่างนี้ ฉันก็มีหัวใจนะ ไม่ใช่ผู้หญิงตามคลับตามบาร์ที่คุณสามารถ
แตะต้องได้ง่าย ๆ พอฉันปกป้องตัวเองตอบโต้กลับ คุณก็โกรธส่งคนไป
จะทำร้ายฉัน คนบ้า คนใจดำ รูไ้ หมว่าฉันมีลูกสาวตัวน้อยที่ต้องดูแล ชีวิต
ทุกวันนอกจากจะต้องห่วงตัวเอง ฉันยังต้องห่วงลูกสาวด้วย คุณมันใจร้าย
เอาแต่ใจตัวเอง” คนพูดนํ้าตาซึมด้วยความเจ็บใจที่โดนกระทำ แต่ไม่มีทาง
ทีล่ ะมุนมาศจะให้คนอื่นเห็นนํ้าตาของหล่อนเป็นอันขาด โดยเฉพาะผู้ชาย
ตรงหน้านี้
ความที่เคยคิดไว้ว่าจะพูดกับเขาดี ๆ ด้วยอารมณ์เย็น ๆ ขอร้องเขา
ให้เห็นใจคนตัวเล็กด้วย ที่ไหนได้ เมื่อได้พบเจอความกดดันในชีวิตที่ผ่าน
มาจากการกระทำของคนตรงหน้า ทำให้ละมุนมาศโกรธจนลืมตัว และพูด
ว่าเขาไม่หยุด
คารีโนได้ฟังคำต่อว่าจากคนตรงหน้าแล้ว ก็พอจะเข้าใจอะไรบาง
อย่าง นึกขำทีอ่ ีกคนคิดมากมาย คิดเป็นฉาก ๆ แต่ไกลกันแทบจะเป็นคน
ละเรื่องเลยก็ว่าได้
“ยิ้มเยาะฉันหรือไง” เสียงเล็ก ๆ แหวขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มของคน
ตรงหน้า
“ยิ้มไม่ได้หรือไง ขอถามหน่อยเถอะ แล้วเฟยทำอะไรคุณบ้าง”
270/559

“ก็ขับรถตามไง แต่ยังไม่ได้ทำอะไร เพราะว่ายังไม่มโี อกาส นีฉ่ ันจะ


บอกอะไรให้นะว่า ฉันจะไม่ปล่อยโอกาสให้เขาได้ทำร้ายฉันหรอก ถึงทำ
ฉันก็จะสู้ และตอนนีฉ้ ันก็รู้ต้นตอแล้วว่าคุณเป็นคนสั่ง ฉันจะแจ้งตำรวจ
ดำเนินคดีกับคุณ”
“เอาตัวให้รอดออกไปจากที่นี่ก่อนดีไหมแล้วค่อยแจ้งตำรวจ”
ใบหน้าคมยื่นเข้าไปใกล้ ทำให้ใบหน้าหวานต้องเบนหนีไปจนศีรษะ
ชนกับพนักเก้าอี้
“ปล่อยฉันสิ ปล่อย ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณแล้ว พูดจบแล้วและก็
จะกลับบ้าน เลิกแล้วต่อกันเสียที” ปากก็พูด มือทั้งสองข้างก็พยายามที่จะ
ดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการของเขา แต่ก็ไม่สามารถทำได้
“คุณพูดจบแล้ว แต่ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย และก็นั่งฟังเงียบ ๆ ไม่
งั้น...จูบ”
คำว่าจูบของเขามาพร้อมริมฝีปากที่เม้มนิด ๆ กับสายตาแพรวพราว
ทีจ่ ้องอยู่ทรี่ ิมฝีปากสีชมพูอ่อนของหล่อน ทำให้ละมุนมาศต้องเม้ม
ริมฝีปากแน่นแบบไม่รู้ตัว ทำให้อีกฝ่ายทีจ่ ้องมองอยูอ่ ดที่จะหัวเราะอย่าง
เอ็นดูไม่ได้
“ไม่ต้องหัวเราะเลยและก็ไม่มที าง ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำอย่างนั้น
กับฉันอีกเป็นอันขาด”
271/559

“ลองไหม” อีกคนท้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดวงตาคูค่ มทีม่ องสบ


ระยิบระยับเป็นประกายเหลือบมองริมฝีปากอิ่มอย่างมีความหมาย แถมยัง
แลบลิ้นออกมาเลีย รอบ ๆ ริมฝีปากอีกด้วย ทำเอาคนถูกมองถึงกับหน้า
ร้อนผ่าว สายตาของเขาทำให้ ละมุนมาศหวั่นไหวมากนัก และเขานั่งติด
กับหล่อนใบหน้าห่างกันไม่ถึงฟุต
อ่า...อันตรายกับหัวใจจริง ๆ สายตานั่นอีก ไม่ได้ ๆ ต้องรีบปกป้อง
ตัวเองด่วน
เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างบางก็นั่งเหยียดตัวตรง เชิดใบหน้าทีถ่ ึงแม้จะ
ร้อนผ่าว ๆ ไม่ใช่แค่ใบหน้าเท่านั้น ผิวเนื้อของหล่อนก็ดูเหมือนจะร้อน
แปลก ๆ ไปทั้งตัวเลยก็ว่าได้
คารีโนมองคนปากกล้าที่ตอนนี้เงียบสนิท มีแต่ดวงตาที่วาววับอย่าง
โกรธจัด ใบหน้าหวาน ๆ นั่นเชิดราวกับไม่แยแสอะไร เห็นแล้วก็นึกขำปน
เอ็นดู ท่าท่างทีเ่ ห็นราวกับลูกสาวตัวน้อยของเขา เวลาที่เจ้าหล่อนงอนอะไร
สักอย่างและรอให้เขาง้อนั่นเอง
นี่ถ้าเขาไม่รวบข้อมือหล่อนเอาไว้ คงได้ยกขึ้นกอดอก ทีนี้ละ เหมือน
กันเด๊ะทีเดียว นี่หล่อนคงจะเลียนแบบน้องสาวตัวน้อยเวลางอนแน่ ๆ เลย
คารีโนดึงความคิดของตัวเองกลับมา เมื่อคิดว่าถึงเวลาที่เขาควรจะ
พูดเสียที
272/559

“เอาละ ทีนผี้ มจะพูดบ้าง ฟังเฉย ๆ ถ้าไม่เฉย รับรองได้เลยว่าไม่ใช่


แค่จูบเท่านั้นทีผ่ มจะทำ” ขู่สำทับแล้วมือหนาใหญ่ของเขาก็ปล่อยข้อมือทั้ง
สองข้างของคนตรงหน้าให้เป็นอิสระ พร้อมกับลูบรอยแดงเบา ๆ อย่าง
อ่อนโยน ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้น คนถูกขู่กใ็ จเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ นึกกลัว
คำขู่กับสายตาจริงจังนั้นมากทีเดียว
“จะบอกให้ฟังว่าทีส่ ่งเฟยให้ขับรถตาม ก็เพราะว่าให้ไปดูแล เห็นขับ
รถดึก ๆ คนเดียวกลัวว่าจะเกิดอันตราย ก็เท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะส่งเฟย
หรือว่าใครไปทำร้ายคุณ นี่คือความจริง แต่ถ้าการกระทำของผมทำให้คุณ
หวาดกลัว หวาดระแวง หวาดหวั่น ผมก็ขอโทษด้วย ผมลืมคิดถึงข้อนั้น
ไป คิดแต่เป็นห่วงคุณอย่างเดียว ก็เลยให้เฟยขับรถตาม ยกโทษให้ผมได้
ไหม”
คำบอกเล่าของเขาทำให้ละมุนมาศถึงกับมึนงง ไม่เข้าใจว่ามัน
หมายความว่าอย่างไร คำขอโทษที่นํ้าเสียงออกจะออดอ้อนนั่นอีก
อ่า...สับสนจริง ทำไมเขาต้องเป็นห่วงหล่อนด้วยนะ
“ทำไมคุณต้องทำอย่างนั้นด้วย” ละมุนมาศถามกลับราวกับละเมอ
“ผมเป็นห่วงคุณ”
คำตอบสั้น ๆ ที่ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้น จนรู้สึกได้ว่าหน้าอก
ของตัวเองสะท้อนขึ้นลงแรง ๆ
273/559

“เป็นห่วงทำไม” คำถามที่คิดอยูใ่ นใจ และไม่คิดว่ามันจะหลุดออก


มาจาก ริมฝีปากของตัวเอง
“ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องเป็นห่วงคุณ อาจจะเป็นเพราะว่าผมชอบคุณ
มั้ง”
คำตอบนั้นทำให้หัวใจดวงน้อยกระโจนจนแทบจะหลุดออกมานอก
อก
คำที่ได้ยินจากปากของเขา ‘ผมชอบคุณ’ ไม่จริงใช่ไหม ที่หล่อน
ได้ยินมันไม่จริงใช่ไหม นี่หล่อนกำลังฝันอยูห่ รือ ไม่ใช่ฝันแต่มันคือ
ความจริงต่างหาก เอ๊ะ...หรือว่าหล่อนฟังผิดไป
“ชอบอะไรกัน อย่ามาพูดอะไรมั่ว ๆ นะ” คนหน้าแดงตอบเสียง
สะบัด พยายามไม่ให้ใจเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“พอบอกชอบกลับไม่เชื่อ” เสียงนุ่มทุ้มตอบกลับกลั้วเสียงหัวเราะ
“จะเชื่อได้ไงในเมื่อคุณเกลียดแล้วก็โกรธฉันอยูน่ ี่ หรือกลัวว่าฉัน
จะแจ้งความที่คุณส่งคนติดตามจะทำร้ายฉันมากกว่า ก็เลยพูดออกมา
อย่างนี้ และฉันก็ไม่เชื่อด้วยจะบอกให้”
เป็นไปไม่ได้
“ไม่เชื่อก็ไปถามมิสมินต์ดูสิ”
274/559

“หา ! มิสมินต์รู้เรื่องนี้ด้วยหรือ” ถามกลับอย่างตกใจ อีกคนได้แต่


พยักหน้าให้ มองใบหน้าทีข่ ึ้นสีระเรื่อของคนตรงหน้าแล้ว หัวใจก็รู้สึก
เบิกบานอย่างบอกไม่ถูก
ถึงแม้เรื่องนี้จะยังไม่ไปถึงไหน แต่เขารู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
เพื่อพิชิตหัวใจของคนตรงหน้านี้
24
คบกันไหม

สิ่งที่ได้รับรู้ทำให้ละมุนมาศได้แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจ
มิสมินต์กร็ ู้เรื่องนี้ แต่ทำไมไม่บอกให้หล่อนได้รับรูบ้ ้าง คิด ๆ แล้วก็
อดที่จะน้อยใจหัวหน้า แต่พอมาคิดอีกที มิสมินต์จงรักภักดีต่อเจ้านายที่
รับใช้กันมานานก็น่าจะถูกแล้ว เป็นอย่างนี้หล่อนจะงอนมิสมินต์ก็คงจะไม่
ถูก
แต่รู้สึกเขินจัง แล้วนี่จะมองหน้ามิสมินต์เหมือนเดิมได้อย่างไรกัน
เฮ้อ...ทำไมถึงมีแต่เรื่องที่คิดไม่ตกทั้งนั้นก็ไม่รู้
“มาลองคบกันไหม”
คำชวนง่าย ๆ ที่มาแบบไม่มีปมี่ ีขลุ่ย ทำให้คนที่กำลังใช้ความคิดอยู่
ตามลำพังถึงกับไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยิน
“คุณพูดว่าอะไรนะ”
“คบกันเถอะ”
“ทำไมต้องคบกัน”
276/559

คนถูกถามถึงกับมึน พร้อมกับแอบคิดในใจว่า
จะไร้เดียงสาไปถึงไหนเนี่ย
“เพื่อที่จะเรียนรู้กันและกันไง คนเรารักชอบกันก็ต้องคบหากัน”
“เราเป็นคนรักชอบกันตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ” ถามออกไปแล้วก็ต้อง
หน้าแดง เมื่อมองสบกับดวงตาคูค่ มที่จ้องมา ดวงตาดุดันคู่นั้นตอนนี้
อ่อนหวานเป็นประกายระริกทีเดียว
“ก็ตั้งแต่ที่ผมชอบคุณไง”
“ถ้าฉันตอบว่าไม่ล่ะ”
“ผมก็จะจูบคุณ” ไม่พูดเปล่าใบหน้าคมยื่นเข้าไปใกล้ มือบางก็ยกขึ้น
ผลักทันที คารีโนคว้าจับมือบางเอาไว้ ดึงไปจรดทีร่ ิมฝีปากอุ่น จูบแรง ๆ
ที่ฝ่ามือบางดังจุ๊บ
“คุณนี่” อีกฝ่ายหน้าแดงโวยเสียงดัง นึกอยากจะหยิกให้อีกสักครั้ง
แต่ก็ไม่กล้า กลัวอีกคนจะทำอย่างที่พูดเอาไว้ ก็เลยได้แต่ค้อนให้
เอะอะอะไรก็จูบ คนเอาแต่ใจ ฉวยโอกาสก็เท่านั้น แล้ว...หล่อนจะ
ใจสั่นทำไม
คารีโนได้แต่ยิ้มเอ็นดูให้กับอาการฮึดฮัดฟัดเหวี่ยงของคนตรงหน้า
หน้าตาสับสน เก้อเขินตื่น ๆ นี่ก็น่ารักไปอีกแบบ ตอนโมโหก็น่ารัก
ไปอีกแบบ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะใจเย็นได้ขนาดนี้
277/559

“คุณห้ามผมไม่ได้หรอก ผมมันประเภทยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เอาละ


เข้าใจแล้วใช่ไหมว่าเรื่องราวทั้งหมดมันคืออะไร แล้วจะบอกอะไรให้นะ
ผมไม่ได้เป็นมาเฟียหรือว่าใช้ชีวิตหลังม่านมัว ๆ อะไร ก็แค่ดูแลธุรกิจของ
ครอบครัวที่เป็นธุรกิจถูกกฎหมายทุกประการ เงินได้กเ็ สียภาษีทุกเซ็นต์
เป็นผู้ชายธรรมดาที่มเี ลือดเนื้อและความรู้สึก ส่วนเฟยกับเบียนนั่นก็ดูแล
ติดตามกันมานานหลายปี ช่วยผมทำงาน อยูบ่ ้านเดียวกัน ไปไหนมาไหนก็
ไปด้วยกัน”
ไม่ผิดใช่ไหมที่เขาไม่ได้พูดทั้งหมดว่าทั้งสองนั้นคุ้มครองเขาด้วย
“แล้วมาบอกฉันทำไม”
“บอกให้รู้ไว้ จะได้ไม่เข้าใจอะไรผิด ๆ อีก และอีกอย่างนะ ถ้าผม
เป็นมาเฟีย รับรองว่าคุณหยิกผมแล้วไม่ได้ลอยนวลอยู่อย่างนี้หรอก ถูก
จัดการไปนานแล้ว”
“ก็ลองจัดการดูสิ...ฮึ”
“อยากรู้ไหมว่าผมจะจัดการอย่างไร”
“ก็ฆ่าไง”
“โห สวย ๆ น่ารัก ๆ อย่างนี้ต้องจัดการพาขึ้นเตียง ฆ่าทำไม มือ
เปื้อนเลือดเปล่า ๆ”
คำตอบนั้นทำให้คนฟังถึงกับหน้าแดงแปร๊ด ดวงตาวาววับใจสั่นไหว
แต่ก็ยังไม่ยอม
278/559

“ก็ลองทำดูสิ”
“อย่าท้านะ ผมยิ่งชอบลองอยูด่ ้วย แต่เอาไว้ค่อยลองทีหลังละกัน
รับรองว่าคุณต้องติดใจ”
คำพูดของคารีโนทำให้คนฟังค้อนหน้าควํ่าทีเดียว หน้าร้อนผ่าวกับ
วาจา ตรง ๆ นั้น
“เอาละ ทีนมี้ าพูดเรื่องอุบัติเหตุ แน่ใจนะว่าคุณไม่เจ็บตรงไหน ให้
พยาบาลของบริษัทดูหน่อยไหม จะได้แน่ใจ”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ขอบคุณ” เมื่อเห็นเขามีนํ้าใจถามไถ่
จริงใจหรือเปล่าไม่รู้ หล่อนก็ต้องขอบคุณ
“งั้นก็ดีแล้ว ส่วนรถของคุณ ในช่วงทีร่ อการซ่อมให้ผมไปรับไปส่ง
เองดีไหม”
ทำไมเขาจะต้องมารับส่งหล่อนด้วย
“ไม่ค่ะ” ละมุนมาศรีบปฏิเสธทันที
“คุณจะมาลำบากกับฉันทำไม เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย เรื่องนี้
ฉันจัดการเองได้ ฉันมีธุระหลายอย่างต้องทำ ไม่ต้องการรบกวนคุณ”
“ไม่รบกวนหรอก คบกันก็ต้องดูแลกัน” อีกคนพูดด้วยดวงตา
เจ้าเล่ห์
279/559

“ฉันไปรับปากคบกับคุณตอนไหนไม่ทราบ ฉันจะบอกความจริงอะไร
ให้ ฉันไม่ใช่คนโสดตัวคนเดียว มีลูกสาวหนึ่งคนอายุหกขวบ กำลังเรียน
ชั้นเตรียมเกรดหนึ่ง มีภาระอีกหลายอย่าง มีหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบ
ทำงานสองงาน ฉันไม่มเี วลาให้กับคนอื่นหรอก เพราะฉะนั้นคำตอบก็คือ
ไม่”
คารีโนแอบยิ้มอยู่ในใจ
จริงสินะ ก็หล่อนไม่รู้ว่าเขาเป็นหลานคุณยาย และก็รู้เรื่องของหล่อน
หมดแล้ว
“คุณตอบได้ แต่คุณทำไม่ได้หรอก เชื่อผมสิ เอาเป็นว่าผมรับลูกสาว
ของคุณได้ไม่มปี ัญหา ไปกันเถอะ เที่ยงกว่าแล้ว ผมหิว ไปหาอะไรกินกัน
ก่อนทีผ่ มจะโมโห เปลี่ยนความหิวอาหารเป็นหิวอย่างอื่นแทน คำปฏิเสธ
ของคุณผมถือว่าเป็นคำตอบรับละกัน”
แย่จริง ๆ ผู้ชายคนนี้ ไม่บ้าก็เมาแล้ว หน้าตาก็ดไี ม่น่าจะพูดไม่
รู้เรื่อง หรือว่าภาษาอังกฤษของหล่อนอ่อนด้อยขนาดที่เขาฟังแล้วแปลได้
ตรงข้ามกับความจริงขนาดนั้น
“ฉันจะกลับแล้วค่ะ เชิญคุณทานอาหารตามสบาย”
“ห้ามดื้อ” ใบหน้าคมยื่นเข้ามาใกล้ จนอีกคนต้องเบือนหนี มือข้าง
หนึ่งของเขาเปิดตู้ข้างใต้โต๊ะทำงาน หยิบบางอย่างออกมาสวมที่คอหล่อน
อย่างรวดเร็ว
280/559

“อะไรน่ะ” ละมุนมาศถามกลับอย่างตกใจ คนถูกถามไม่ได้สนใจ


ตอบ มือหนานุ่มของเขาคว้าข้อมือบางไปจับจูงพาเดินโดยไม่สนใจอาการ
ขัดขืนของหล่อนสักนิด ละมุนมาศคิดหนักกับท่าทีของเขา จะขัดขืนก็คงจะ
ไม่ได้ เพราะดู ๆ แล้วเขาคงต้องทำตามใจตัวเองเป็นแน่ สุดท้ายก็ต้อง
ยอม ปล่อยให้เขาจับจูง พอก้มลงมองที่คอก็รวู้ ่าเป็นบัตรผูเ้ ข้าเยี่ยมชม
โรงงานนั่นเอง
“กระเป๋าฉันล่ะ”
“ไม่ต้องหรอก ผมเลี้ยงเอง ที่โรงอาหารของโรงงานนะ วันนี้ผมมี
ประชุมบ่าย เอาไว้วันหน้าค่อยไปกินอะไรอร่อย ๆ”
สรุปเองเรียบร้อยแล้วอย่างนี้ หล่อนจะปฏิเสธเขาได้อย่างไรกัน อะไร
ก็ขู่ อะไรก็บังคับ เอาแต่ใจจริง ยังมีการพูดถึงวันหน้าอีก
“ไม่มีมื้อหน้าแล้วค่ะ มื้อนี้มื้อเดียวก็พอแล้ว ฉันไม่ชอบรบกวนใคร”
คนเดินนำหน้าหันมามองแต่ไม่ได้พูดอะไร มือหนาดึงประตูห้องให้
เปิดออก ข้างนอกห้องมีเลขานุการสูงวัยและลูกน้องคนสนิททั้งสองกำลัง
คุยกันอยู่ เบียนส่งยิ้มพร้อมกับทักทาย
“สวัสดีครับมิส”
ละมุนมาศรับคำทักทายแทบไม่ทัน
ก็ลูกน้องเขาเคยทักทายหล่อนเสียที่ไหนกัน
“เอ่อ สวัสดีค่ะเบียน”
281/559

“ไปกินข้าวกลางวันกัน” คารีโนชวนลูกน้องทั้งสอง ก่อนที่จะจูง


หล่อนออกเดินนำหน้า ละมุนมาศรู้สึกเขินอายลูกน้องของเขานัก ที่เขา
จับมือหล่อนจูงอย่างประเจิดประเจ้อเช่นนี้ ก็เลยค่อย ๆ แกะมือเขาออก
ดึงมือตัวเองกลับ ซึ่งเขาก็ปล่อยแต่โดยดี ทำให้ละมุนมาศค่อยหายใจได้
คล่องขึ้นบ้าง
เมื่อเดินลงบันไดมาชั้นล่าง ก็พบว่าโต๊ะทำงานหลายโต๊ะว่างเปล่า
เนื่องจากเจ้าของโต๊ะไปทานอาหารกลางวันกันแล้ว
ละมุนมาศแอบมองตามแผ่นหลังแข็งแกร่งของคนที่เดินนำอยู่
ข้างหน้า แล้วก็ถามตัวเองว่า
เรื่องราวมันกลับตาลปัตรอย่างนี้ไปได้อย่างไรกันนะ หล่อนไม่อยาก
เชื่อในสิ่งที่เขาพูดมากนักว่าเขาชอบหล่อน คนเราชอบกันได้ในเร็ววันขนาด
นีเ้ ชียวหรือ ไม่มีอะไรให้น่าประทับใจสักนิด ไม่น่าจะเป็นไปได้เลยจริง ๆ
หรือว่าเขาแกล้งหลอกให้หล่อนหลงเชื่อ แล้วค่อยคิดบัญชีทีหลัง
ร่างสูงเดินนำออกจากอาคารสำนักงานผ่านโกดังเก็บของ ที่ละมุน
มาศรูก้ ็เพราะว่ามันเป็นอาคารหลังคาสูง ข้างในมีแต่ของที่วางอยูบ่ นชั้นวาง
ของทีส่ ูงท่วมศีรษะไปหลายช่วงตัว เดินลัดเลาะตามชายคาอาคารไปยังตึก
ชั้นเดียวอีกหลังที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ห้องแรกมีป้ายติดไว้ว่าเป็นห้องพยาบาล
เดินลัดเลาะชายคาไปอีกนิดก็เป็นห้องอาหารขนาดไม่ใหญ่มากนัก มี
พนักงานบริษัทกำลังนั่งทานอาหารกันอยูจ่ ำนวนหนึ่ง ซึ่งหลายคนที่หันมา
282/559

มองก็ยิ้มให้บ้าง ซุบซิบกันบ้าง เมื่อเห็นว่ามีคนแปลกหน้าที่แขวนบัตรผู้มา


เยี่ยมเดินตามเจ้านาย พร้อมกับลูกน้องคนสนิททั้งสอง
เมื่อเดินเข้าไปจนเกือบถึงเคาน์เตอร์ขายอาหาร คนที่เดินนำหน้าก็
หันกลับมาอย่างรวดเร็ว จนคนที่เดินตามเพลิน ๆ แทบจะหยุดตัวเองไม่
ทัน
“อยากทานอะไร เดินดูก่อนไหม”
“อะไรก็ได้ ฉันกินได้หมด” บอกออกไปเพื่อจะได้ไปจากตรงนี้เสียที
เมื่อบอกออกไปแล้ว เขาก็เดินจากไปพร้อมเบียน ส่วนเฟยพาละมุนมาศไป
นั่งที่โต๊ะตรงมุมห้องซึ่งมีโต๊ะขนาดสี่คนว่างอยู่
อาหารกลางวันมื้อนั้นละมุนมาศทานด้วยอาการที่ฝืดคอเล็กน้อย
เพราะว่าคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ส่งนั่นส่งนี่ให้ตลอด ทำให้สองลูกน้องคนสนิท
ต้องแอบมองสบตากันยิ้ม ๆ
หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว คารีโนก็พาละมุนมาศกลับไป
ยังห้องทำงานของเขาอีกครั้งเพื่อเอากระเป๋า และสั่งให้ลูกน้องจัดการเรื่อง
รถเช่าให้หล่อนด้วย เนื่องจากว่าเขามีประชุมในช่วงบ่าย
การกระทำที่ทำให้ละมุนมาศรู้สึกอายจนหน้าร้อนผ่าวไปหมดก็คือ
เขาเดินมาส่งหล่อนถึงที่จอดรถ พร้อมกับเปิดประตูรถให้ พอละมุนมาศ
ขึ้นไปนั่ง คว้าเข็มขัดนิรภัยมารัดตัวเอาไว้ กำลังจะหันหน้าไปขอบคุณ มือ
หนาของเขาก็ประคองท้ายทอยของหล่อนเอาไว้ ริมฝีปากหยักได้รูปประทับ
283/559

จูบแผ่วเบา ละมุนมาศยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาก็ผละออก ปิดประตูพร้อมส่ง


เสียงสั่งลูกน้องที่ยังยืนอยู่ข้าง ๆ รถว่า
“ขับรถดี ๆ”
ละมุนมาศรู้สึกได้ถึงใบหน้าทีร่ ้อนผ่าวของตัวเอง นึกโกรธกับการ
กระทำโจ่งแจ้งของเขาจนพูดไม่ออก และมันก็เกิดขึ้นรวดเร็วมากจนคิดไม่
ทันว่าจะตอบแทนเขาอย่างไร มองออกไปนอกกระจกรถก็เห็นใบหน้าคม
ของเขายิ้มส่งมาให้ ลูกน้องคนสนิททีย่ ืนอยูข่ ้าง ๆ เขาก็ยิ้มเช่นกัน หล่อน
เลยได้แต่สะบัดหน้างอ ๆ ส่งค้อนไปให้ หันไปทางคนขับรถที่เพิ่งจะขึ้นมา
นั่ง ก็เห็นว่าใบหน้ายิ้มกริ่มทีเดียว รู้สึกกรุ่นโกรธจนพูดไม่ออก
อย่าให้เจออีกละกัน คนฉวยโอกาส แล้วหล่อนจะหลบลี้หนีหน้าเขา
พ้นได้อย่างไรกัน เฮ้อ...จะรอดไหมเนี่ยทำไมหัวใจของหล่อนถึงได้แกว่ง
แบบแปลก ๆ ก็ไม่รู้
ตลอดทางที่เฟยพาไปจัดการเรื่องเช่ารถ ละมุนมาศก็ได้แต่เงียบไม่
พูดจา เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร หล่อนไม่ใช่คนช่างพูดนักกับคนที่เพิ่งจะ
รู้จัก เฟยเองก็เช่นกัน เขาทำหน้าที่ขับรถอย่างเงียบ ๆ
จนกระทั่งจัดการเรื่องเช่ารถให้หล่อนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็โทร.
ไปรายงานเจ้านาย ละมุนมาศขอบคุณเขาในการช่วยเหลือต่าง ๆ ก่อนที่จะ
ขับรถกลับคอนโดมิเนียม เหลือบมองกระจกหลัง ก็ยังเห็นรถคันโตขับ
ตาม จนกระทั่งมาถึงคอนโดมิเนียมที่พัก รถคันนั้นก็เลี้ยวกลับออกไป
284/559

ละมุนมาศกลับขึ้นคอนโดมิเนียมด้วยความรู้สึกสับสน เครียด และ


เหนื่อย จนแทบไม่อยากทำอะไร นอกจากล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาว
ปล่อยความคิดไปเรื่อยเปื่อย ทบทวนเหตุการณ์ทเี่ กิดขึ้นวันนี้ นับว่าโชคดี
ทีไ่ ม่ได้รับบาดเจ็บอะไร และก็ไม่มคี นตัวเล็กนั่งไปด้วย ไม่อย่างนั้นคนตัว
เล็กของหล่อนจะต้องตกใจมากแน่ ๆ
การได้รับรู้ความรู้สึกของใครบางคน ทำให้ละมุนมาศทำตัวไม่ถูก
เรื่องราวมันพลิกกลับแบบหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่เคยวิตกกังวลก็เปลี่ยน
เป็นสับสนวุ่นวาย
โดยเฉพาะหัวใจที่เคยโกรธ เกลียด กลัว หวาดระแวง ก็เปลี่ยนไป
เป็นหวาดหวั่น
ในใจละมุนมาศนึกอยากโทร. ไปถามมิสมินต์ในเรื่องที่เจ้านายบอก
แต่ก็ไม่กล้า ปล่อยให้มันเงียบไปเองน่าจะดีกว่า เพราะว่าถ้าหล่อนโทร. ไป
ถามมิสมินต์จะต้องถูกแซวเป็นแน่
ละมุนมาศยังไม่พร้อมที่จะคบหากับใคร ยิ่งช่วงนีม้ ีเรื่องของมารดา
เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หล่อนต้องดูแลมารดาเพิ่มขึ้นอีกคน ห่วงที่หล่อนไม่มี
วันทอดทิ้ง ไม่ว่ามารดาจะเป็นอย่างไรก็ตาม ก็ได้แต่หวังว่าสิ่งทีห่ ล่อนบอก
เขาไปไม่ว่าจะเรื่องลูกสาว เรื่องภาระรับผิดชอบ น่าจะทำให้เขาคิดได้ว่าไม่
ควรเข้ามายุ่งกับหล่อน
25
กู๊ดไนต์...คิส

คนตัวเล็กวิ่งเข้ามาในออฟฟิศด้านหน้าโรงเรียนด้วยความดีใจเมื่อ
เห็นมามี้นั่งรออยู่
“มามี้ มามี้” ร่างเล็กวิ่งเข้ามากอดละมุนมาศเอาไว้ ใบหน้าสวยใสยิ้ม
กว้างเต็มใบหน้า
“ทำไมวันนี้มามี้มารับฟีได้คะ”
“พอดีว่าวันนี้มามี้มธี ุระนิดหน่อยค่ะ เสร็จธุระแล้วก็เลยมารับฟี ดีใจ
ไหมคะ”
“ดีใจค่ะ เราไปกินแม็คโดนัลด์กันนะคะ ฟีไม่ได้กินมาตั้งนานแล้ว”
ได้ทีคนตัวเล็กรีบชวน ละมุนมาศพยักหน้าให้ คนที่ได้รับคำตอบถึงกับ
กระโดดโลดเต้น
และพอมาเห็นรถที่เป็นพาหนะคันใหม่ คนตัวเล็กก็สงสัยอีก ละมุน
มาศก็เลยเล่าความจริงให้ฟัง คนฟังตกใจเล็กน้อยพร้อมกับปลอบใจ
ละมุนมาศอดที่จะปลื้มกับคำปลอบใจที่ไร้เดียงสาแต่มาจากหัวใจและสมอง
น้อย ๆ นั้นไม่ได้
286/559

“มามีโ้ ชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แถมยังได้รถคันใหม่มาขับอีกด้วย


ฟีชอบรถคันนี้จัง ทางเข้ามันสะดวก มามี้เอารถคันเก่าไปแลกคันนี้มาหรือ
คะ”
เด็กหนอเด็ก มันแลกกันง่าย ๆ ก็ดีนะสิ
ละมุนมาศอดที่จะยิ้มกับความคิดและความสะดวกที่คนตัวเล็กพูดถึง
พร้อมกับอธิบายว่า
“รถคันนี้เช่าเขามาใช้ช่วงที่รถของมามี้ยังซ่อมไม่เสร็จค่ะ ถ้ารถซ่อม
เสร็จก็ต้องเอาไปคืนเขา” อธิบายคนตัวเล็กไปแล้ว ละมุนมาศได้แต่บอก
ตัวเองในใจว่า
มามี้สัญญา มีเงินเมื่อไรจะเปลี่ยนเป็นรถที่ทางเข้าสะดวกให้ จะได้ไม่
ต้องก้มตัวเวลาเข้าออกจากรถ ศีรษะจะได้ไม่ชนกับหลังคารถอีก แต่
ตอนนี้คงต้องทนไปก่อนนะ
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
เสียงเคาะประตูห้องในตอนดึก ทำให้ละมุนมาศผวาลงจากเตียง
เปิดไฟทีห่ ัวเตียง หลังจากที่ฟังเสียงแล้วน่าจะมาจากหน้าห้องของหล่อน
นั่นเอง ก่อนทีจ่ ะคว้าชุดคลุมตัวโตมาสวมวิ่งออกไปจากห้อง ในใจคิดว่า
คงจะเป็นมารดานั่นเองที่มาดึก ๆ อย่างนี้ เมื่อวิ่งไปถึงหน้าประตู ส่ง
สายตาลอดตาแมวออกไปแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นคนที่ยืนอยูห่ น้าประตู
ห้อง
287/559

เฟย...มาทำอะไรดึก ๆ อย่างนี้
“มิสละมุนมาศ...” เสียงเรียกชื่อพร้อมกับคนข้างนอกประตูก็ชู
กระดาษบางอย่างให้เห็น ละมุนมาศก็เลยเปิดประตู ยังไม่ทันตั้งตัว มือ
ปริศนาจากอีกด้านของประตูก็ผลักประตูให้เปิดกว้าง พร้อมกับแทรกร่าง
สูงใหญ่ของเขาเข้ามา และก็ดึงประตูให้ปิดตามหลัง
“คุณ” เจ้าของห้องเพิ่งจะหาเสียงของตัวเองเจอ แต่ก็ช้าไป เพราะว่า
ร่างบางของหล่อนตกอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของเขาเสียแล้ว อ้อมกอดนั้น
รัดร่างของหล่อนเอาไว้ราวกับว่าโหยหาเป็นที่สุด ละมุนมาศพยายามดิ้นรน
ให้หลุด กำลังที่จะอ้าปากต่อว่าเขา แต่ไม่ทันได้พูด ริมฝีปากหยักได้รูปก็
ประทับลงมาทีร่ ิมฝีปากของหล่อนเสียก่อน แค่ประทับกันแนบแน่นเท่านั้น
และเขาก็ถอนริมฝีปากออก บอกว่า
“เหนื่อยจัง ขอดื่มนํ้าเย็น ๆ สักแก้วได้ไหม” พูดเสร็จเขาก็เดินไป
ทรุดตัว ลงนั่งที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ ปล่อยให้เจ้าของห้องละล้าละลัง คิดไม่
ตกว่าควรจะทำอย่างไร หล่อนไม่เคยต้อนรับหนุ่ม ๆ ในห้องพักยามวิกาล
อย่างนี้ด้วย และเขาก็มาแบบแปลก ๆ
เอ่อ...ต้องทำอย่างไรนะ
“จะยืนคิดอีกนานไหม” เสียงนุ่มทุ้มจากคนที่พาดศีรษะกับพนักโซฟา
ถามขึ้น เมื่อเห็นเจ้าของบ้านที่โดนเขาจูบยังไม่ขยับไปไหน
288/559

เมื่อโดนทักอย่างนั้น ละมุนมาศก็เลยสะบัดหน้าให้เขาก่อนที่จะเดิน
เข้าไปในห้องครัวที่อยู่ติดกัน พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดังหึ ๆ อย่าง
อารมณ์ดตี ามมา มือบางเปิดตู้เหนือศีรษะ คว้าแก้วมารองนํ้าแข็งและรินนํ้า
จากตู้เย็น ในใจก็ถามตัวเองไปด้วยว่า
เขามาทำอะไรดึก ๆ ที่นี่ แล้วนึกอย่างไรถึงโผล่มาได้ และอีกสารพัด
คำถามที่เกิดขึ้นในสมองของละมุนมาศตอนนี้
“นํ้าค่ะ” วางแก้วนํ้าเย็นเฉียบบนจานรองตรงหน้าคนเป็นแขก
พร้อมกับคำถาม
“ว่าแต่คุณมีธุระอะไรหรือคะ ถึงได้มาหาฉันดึกขนาดนี้”
“มาทวงบางอย่าง” ดวงตาคูค่ มจ้องสบมา ทำให้ละมุนมาศรู้สึกอึดอัด
มือข้างหนึ่งก็เลยต้องจับสาบชุดคลุมเอาไว้แน่น
“ฉันติดอะไรคุณหรือ”
“คำยกโทษไง” ละมุนมาศถึงกับยกมือข้างที่ว่างขึ้นตบหน้าผากตัวเอง
หล่อนลืมไปแล้วว่าเขาถามเรื่องนี้ และก็ไม่คิดว่าเขาจะมาหาหล่อนด้วยเหตุ
แค่นี้
“และก็คิดถึงด้วย”
ประโยคสั้น ๆ ที่ตามมา ทำให้หัวใจดวงน้อยของคนฟังเต้นระรัว ทำ
หน้า ไม่ถูกไปหลายวินาที ปากบางอ้าจะพูดบางอย่าง แต่กไ็ ม่มเี สียงอะไร
เล็ดลอดออกมา คารีโนอมยิ้มกับท่าทางตกใจของคนน่ารักตรงหน้า พอ
289/559

หล่อนรู้สึกตัวก็ปิดปากตัวเองลงและก็เงียบไป จนกระทั่งเขาต้องเปลี่ยน
เรื่องถามขึ้นว่า
“ลูกสาวคุณหลับแล้วหรือ”
“ค่ะ” คำตอบแผ่วเบา ดวงตาหวานคู่นั้นก็ไม่กล้าสบตากับเขา เจ้าตัว
เสไปมองแก้วนํ้าที่อยู่บนโต๊ะกลางแทน
“ไม่ถามผมบ้างหรือว่าเหนื่อยหรือเปล่า” จู่ ๆ คนที่นั่งตรงข้ามก็ถาม
ขึ้น แล้วก็ดันตัวเองขึ้นนั่งตัวตรง พร้อมกับยกแก้วนํ้าขึ้นดื่ม ในขณะที่
ดวงตาคู่คมเข้มของเขาส่งตรงมายังละมุนมาศ ริมฝีปากหยักได้รูปที่ยังดื่ม
นํ้าคลี่ยิ้มนิด ๆ มันดูดีมากจนคนมองรู้สึกได้ว่า ดวงตาของเขาที่เห็นวันนี้
มันเป็นสีฟ้าเข้มทีเดียว คิ้วหนา ๆ กับเคราเขียว ๆ ข้างแก้มและคางนั่นก็
เข้ากับใบหน้าของเขาเป็นอย่างดี ทำให้ดเู ข้มอย่างชายชาตรี ดูดีมากทีเดียว
และละมุนมาศก็ชอบดูเสียด้วย มัวแต่มองหน้าเขาเพลิน ทำให้หล่อนลืม
คำพูดที่จะโต้ตอบเขาไปหมด
“ว่าไง”
“ว่าไง อะไรคะ”
“ช่างเถอะ ผมกลับดีกว่า คุณจะได้นอน อ้อ ขอบคุณสำหรับนํ้าเย็น”
ร่างสูงลุกขึ้นยืน แล้วก็เดินไปทางประตูหน้า จริง ๆ แล้วที่เขามาที่นี่ก็ไม่ได้
ต้องการคำตอบอะไรมากมาย มันเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้นเอง เพราะไม่ว่า
หล่อนจะตอบว่าอย่างไร เขาก็จะทำตามที่ใจตัวเองต้องการเท่านั้น
290/559

แค่อยากเห็นหน้า อยากจูบก่อนนอน อ่า...ความรู้สึกนี้รุนแรงยิ่งนัก


ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นกับเขาได้
ละมุนมาศเดินตามไปส่งห่าง ๆ และแล้วร่างสูงก็หันกลับเดินมาคว้า
ร่าง ของหล่อนดึงเข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ก้มลงปิดริมฝีปากกับ
ริมฝีปากนุ่มเบา ๆ ดูดเบา ๆ ก่อนจะปล่อย พร้อมกับคำพูดที่ว่า
“กู๊ดไนต์”
มือหนาเปิดประตู พร้อมกับก้าวเดินออกไปและก็ดึงประตูปิดให้ด้วย
ส่วนคนทีโ่ ดนจูบแบบจู่โจมสองครั้งในเวลาไม่นานก็ได้แต่ตะลึง พอคิดได้
ก็ปิดล็อกประตู พร้อมกับส่งค้อนให้กับคนที่เพิ่งจะจากไป
ร่างบางปิดไฟ วิ่งกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง ถอดชุดคลุมออก ปิด
ไฟหัวเตียงแล้วก็มุดตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนหนา คลุมผ้าห่มมิดศีรษะ ลืมตา
โพลงอยู่ในความมืด พร้อมกับมือบางที่แตะอยูบ่ นริมฝีปาก หัวใจทีเ่ ต้น
ระรัว ใบหน้าที่ร้อนผะผ่าวราวกับจะเป็นไข้
แล้วเขามาจูบหล่อนทำไมกัน คนบ้านี่ นึกจะมาก็มา นึกจะจูบก็จูบ
ราวกับว่าหล่อนเป็นแฟนเขาอย่างนั้น แล้วหล่อนเป็นแฟนเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
กัน รู้สึกว่ายังไม่พ้นวัน เขาก็จูบหล่อนไปแล้วหลายครั้ง
มันหมายความว่าอย่างไรกัน เขาจริงจังอย่างนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่รวู้ ่า
หล่อนมีลูกสาวอย่างนั้นหรือ ไม่รังเกียจใช่ไหม หรือว่าไม่สนใจ ไม่แคร์
291/559

แล้วคำว่า ‘คิดถึง’ ทีเ่ ขาบอกนั่นล่ะ มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่ คนเรา


คิดถึงกันได้ขนาดนี้เชียวหรือ
ว่าแต่เขา บางครั้งละมุนมาศก็แอบคิดถึงเขาเช่นกัน โดยเฉพาะคิดถึง
รอยจูบของเขา คิดถึงรอยจูบก็คิดถึงเจ้าของหน้าเข้ม ๆ ดวงตาที่
เต็มไปด้วยประกายระริกนั่นด้วย
คิดถึงเขา หัวใจของหล่อนก็หวั่นไหว หวามในอกลึก ๆ อาการอย่าง
นี้มันคืออะไรกันแน่นะ
ละมุนมาศขับรถไปทำงานด้วยความปลอดโปร่ง ไม่ต้องกังวลกับ
เรื่องรถที่ขับตามอีกต่อไป แม้ว่าตอนนีห้ ล่อนไม่ได้สนใจอีกแล้วว่าจะมีรถ
ขับตามหรือไม่ และทีห่ ายห่วงเป็นปลิดทิ้งก็คือ ความปลอดภัยของคนตัว
เล็กทีห่ ล่อนวิตกกังวล แต่ถึงแม้จะมีความกังวลเรื่องของมารดาอยูบ่ ้าง แต่
ละมุนมาศยังร้องเพลงหงุงหงิงคนเดียวในขณะที่ขับรถ
นึกแปลกใจตัวเองยิ่งนัก นานเท่าไรแล้วนะที่หล่อนไม่เคยร้องเพลง
คนเดียวอย่างนี้
ยิ่งคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อตอนดึกแล้วก็อดที่จะหน้าร้อนผ่าวไม่
ได้ ละมุนมาศไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมหล่อนถึงไม่ทำร้ายเขากลับ
ตอนที่เขาจูบ ยิ่งคำบอกที่ว่า คิดถึง ของเขานั่นอีกที่ผ่อนคลายความรู้สึก
หลายอย่างในใจของหล่อนให้เบาบางลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
292/559

นี่แสดงว่าหล่อนยอมรับความรู้สึกของเขาแล้วอย่างนั้นใช่ไหม สับสน
จริง ๆ เป็นห่วง...ขอคบ...แล้วก็...จูบ จูบ จูบ อย่างนั้นหรือ แต่หล่อนยัง
ไม่ได้ตอบรับคำขอคบของเขาเลยนี่นา ทำไมมันเหมือนกับว่าลัดขั้นตอน
แปลก ๆ เฟิสต์คิส เซกกันคิส เติร์ดคิส โฟร์ทคิส ของหล่อน เกิดขึ้น
รวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทันเลยทีเดียว
มันน่าเจ็บใจนัก ว่าแต่ทำไมหล่อนไม่ได้โกรธเขา เท่าที่มันควรจะเป็น
เลย เฮ้อ...แล้วคนเป็นแฟนเขาทำอย่างไรกันบ้างก็ไม่รู้
หลากหลายความคิดกว่าที่ละมุนมาศจะหลับลงได้ก็เข้าวันใหม่แล้ว
ถึงแม้ว่าเมื่อคืนจะนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ แต่วันนี้ละมุนมาศก็ไม่มอี าการง่วง
หรือว่าหาวนอน หน้าตาของหล่อนที่เพื่อนสาวร่วมงานทักในเช้านั้นก็คือ
“มีอะไรดี ๆ หรือเปล่า หน้าตาสดใสจัง หรือว่าอุบัติเหตุก่อรัก”
“ไม่มหี รอก อุบัติเหตุก่อรักอะไรล่ะ คู่กรณีหน้างอยิ่งกว่าอะไรอีก
และอีกอย่างถ้ามุนตาไม่ฝาด รู้สึกว่าเขาจะสวมแหวนที่นิ้วนางซ้ายแล้วนะ”
“งั้นก็แล้วไป นึกว่ามีอะไรดี ๆ” ละมุนมาศได้แต่ยิ้ม นีถ่ ้าหล่อนบอก
ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนสาวคงได้กรี๊ดลั่นห้องทำงานเป็นแน่ และวัน
นั้นในช่วงเช้าเพื่อนร่วมงานที่รับรู้เหตุการณ์ก็ทยอยกันเข้ามาถามเรื่องราว
ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก่อนที่จะแยกย้ายกันทำงาน
293/559

หลายครั้งที่ละมุนมาศคิดถึงคำพูดของเจ้านายชีกอ หลายครั้งที่
คิดถึงรอยจูบแผ่วเบาของเขา แล้วอดที่จะหน้าร้อนผ่าวไม่ได้ นึกเข่นเขี้ยว
อยู่ในใจ
มาทำให้หวั่นไหวแล้วก็จากไป โดยไม่มีคำมั่นสัญญาอะไรอย่างนั้น
หรือ แล้วเขาจะต้องสัญญาว่าอะไรล่ะ แล้วที่เขาพูดว่าชอบ ขอคบนี่ จริงจัง
แค่ไหนกันนะ ตอนนี้หล่อนกับเขาเป็นอะไรกัน แฟน คู่รัก หรือว่าอะไร
คำถามทีว่ นเวียนอยู่ในหัวสมองกลับไปกลับมา แต่ละมุนมาศยังหา
คำตอบไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องสลัดทิ้งไป สนใจกับงานที่อยู่ตรงหน้าแทน
ในเวลาหยุดพักทานอาหารกลางวัน ที่ละมุนมาศนำอาหารจากบ้านไป
รับประทานที่ทำงาน วันนี้มคี ุณหมอหนุ่มนามว่า เฟรเซอร์ ราวิ มานั่งทาน
เป็นเพื่อนที่ ม้านั่งหินอ่อนในสวนหย่อมหลังคลินิกด้วย
“ผมนั่งทานด้วยคนได้ไหมครับ”
“เชิญค่ะคุณหมอ”
คุณหมอหนุ่มชวนคุยในเรื่องอุบัติเหตุ และบอกความรู้สึกของเขาว่า
ตกใจมากแค่ไหน ที่ได้รับรู้ว่าหล่อนเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน
จากการพูดคุยและดวงตาทีส่ ื่อความหมาย ละมุนมาศรับรู้ถึง
สัญญาณที่ คุณหมอเฟรเซอร์ ราวิ พยายามส่งให้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ได้
คิดอะไร ได้แต่บอกกับ ตัวเองว่า
เขาส่งสัญญาณมา หล่อนไม่รับก็แค่นั้น
294/559

เมื่อมาถึงตรงนี้ละมุนมาศก็คิดถึงสัญญาณที่เจ้านายแห่งเวียดเฮ้าสส่ง
ให้
ขนาดว่าหล่อนยังไม่ได้ตอบรับ เขายังจูบหล่อนไปตั้งหลายครั้งแล้ว
ถ้าตอบรับจะเป็นอย่างไรนะ
แค่คิดก็หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที คุณหมอหนุ่มที่นั่งอยูต่ รงหน้าอดที่
จะยิ้มไม่ได้
คนตรงหน้าเขาน่ารักขนาดนี้ รู้อย่างนี้เขารับปากมาทำงานกับคุณลุง
ตั้งนานแล้ว
ละมุนมาศพูดคุยกับคุณหมออย่างถูกคอ แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน
ทั้งหมด โดยหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามในเรื่องส่วนตัว และพอเพื่อนสาวก
ลับมาจากทานอาหารข้างนอก ละมุนมาศก็เล่าเรื่องทานอาหารกลางวันกับ
คุณหมอ เพื่อนสาวก็บอกทันทีว่า
“ต่อไปนี้ฉันจะนำอาหารมาจากบ้านมากินกับยู ประหยัดได้อีก ไม่
ต้องเสียเวลาหาร้านอาหาร นั่งรออาหาร กว่าจะได้กิน กว่าจะขับรถไปกลับ
มาอีก”
“คิดแค่นั้นจริง ๆ ใช่ไหม” ละมุนมาศแกล้งถามกลับยิ้ม ๆ เพื่อน
สาวก็เลยค้อนให้ ก่อนที่จะมองซ้ายมองขวาแล้วยื่นหน้ามากระซิบว่า
“แหม ยูกร็ ู้ ๆ กันอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร คนนี้ฉันรักจริงหวังแต่งนะ
ไม่งั้นไม่ลงทุนขนาดนี้หรอก”
295/559

“ขอให้โชคดีนะ”
“ขอบคุณมาก แต่ถ้าช่วยเหลือด้วยก็จะเป็นการดีที่สุด”
“เอาไว้ฉันจะหาทางละกัน แต่ไม่รับปากนะ เรื่องนี้ยูต้องจัดการเองถึง
จะถูก”
ลินดาก็ทำตามที่พูดไว้ อาหารกลางวันในวันถัดมาก็มีลินดาเป็นเพื่อน
ร่วมวงอีกคน ละมุนมาศก็เลยสบายใจที่จะทานอาหารร่วมโต๊ะกับคุณหมอ
พอทานอาหารเสร็จก็ขอตัวกลับเข้าที่ทำงาน ปล่อยทั้งสองไว้ตามลำพัง
26
หัวใจ...ไม่กล้าพอ

ในคืนวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับพนักงานที่ทำงานในสำนักงาน หลาย
คนก็มักจะออกมาปลดปล่อยความอ่อนเพลีย เคร่งเครียดจากหน้าที่
การงานที่ทำมาตลอดทั้งอาทิตย์ มานั่งกินนั่งดื่มพูดคุยแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นกันที่ร้านอาหารกับเพื่อนฝูงที่สนิทหรือว่าคนรัก
หลายต่อหลายคูแ่ สดงความรักและคิดถึงกัน โดยไม่ต้องสนใจ
สายตาของใคร ๆ หลายครั้งทีล่ ะมุนมาศอดที่จะเขินไปกับการแสดงออกที่
เปิดเผยนั้นไม่ได้ เห็นคนอื่นจูบแสดงความรักต่อกันแล้ว ละมุนมาศก็แวบ
ไปคิดถึงคน
คนชีกอฉวยโอกาสทีจ่ ูบหล่อนได้ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน หล่อนไม่ได้
เจอเขามาตั้งแต่คืนที่เขาบุกไปหาที่ห้องและก็จูบหล่อนไปสองครั้ง
ผู้ชายอันตราย โดยเฉพาะอันตรายต่อหัวใจทีก่ ำลังสับสนดวงนี้ ไม่
เจอก็ดี หล่อนก็ไม่กล้าสู้หน้าเขาสักเท่าไร ไม่รวู้ ่าจะทำหน้าอย่างไร ทำหน้า
ไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอย่างไรกันแน่ และก็ไม่รวู้ ่ามิสมินต์จะ
รู้เรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน รู้สึกระแวงลึก ๆ แต่วันนี้มิสมินต์ก็ทำหน้าตา
297/559

ปกติ ไม่มีวี่แววล้อเลียนอะไรเลย ได้แต่หวังว่า มิสมินต์จะไม่รู้ความ


เปลี่ยนแปลงอันนี้
ในส่วนลึก ๆ ของหัวใจ ละมุนมาศยอมรับกับตัวเองว่าแอบน้อยใจ
เล็ก ๆ เขาจูบหล่อนแล้วก็หายไปเลย ไม่เคยโทร. ติดต่อถามไถ่ข่าวคราว
ปากก็บอกว่าคิดถึง ถ้าเขาคบกับหล่อนจริง ก็น่าจะโทร. หา ไม่ใช่หาย
เงียบเข้ากลีบเมฆไปอย่างนี้
แล้วนี่หล่อนหวังอะไรจากเขากันแน่นะ คนหล่อ รวยอย่างเขา จะ
จริงจังอะไรกับหล่อนที่เป็นแม่ลูกติดกัน เขาก็คงเห็นหล่อนเป็นแค่
ของแปลกเท่านั้น ไม่ได้จริงจังอะไร...เจ็บเล็ก ๆ
ละมุนมาศสลัดความคิดทั้งปวงออกไปจากสมอง ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน
จนกระทั่งถึงเวลาปิดร้าน พนักงานหลายคนทำหน้าที่ในส่วนรับผิดชอบของ
ตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ทยอยกันกลับบ้าน ละมุนมาศก็เช่นกัน นึก
โล่งใจที่วันนี้หล่อนไม่ต้องเจอ...เขา
คนทีท่ ำให้หัวใจของหล่อนแปลก ๆ ทั้งสับสน ทั้งร้อนรน หวั่นไหว
แถมมีแอบน้อยใจในบางเวลา
ละมุนมาศนั่งรอมิสมินต์อยู่ทหี่ น้าเคาน์เตอร์ เพื่อที่จะเดินออกไปที่
จอดรถด้านหลังพร้อมกัน แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อมองไปที่ประตูด้านหน้า
โบสถ์ที่มสิ มินต์เพิ่งจะล็อกได้ไม่ถึงสิบนาทีที่ผ่านมา ตอนนี้ปรากฏร่างสูง
ใหญ่ของเจ้านายชีกอยืนหน้าเรียบตึงอยู่ตรงนั้นกับลูกน้องของเขาทั้งสอง
298/559

คน แค่เห็นหน้าเขา หัวใจของละมุนมาศก็เต้นตึกตักสั่นระรัวอย่างแรง จน
มันแทบจะหลุดไปอยู่ที่ตาตุ่ม
ทันทีที่รู้สึกตัวละมุนมาศก็รีบวิ่งเข้าไปตามมิสมินต์ที่ในห้องทำงาน
ก่อนที่จะวิ่งหลบออกไปตรงทางด้านหลังโบสถ์ด้วยหัวใจที่เต้นโครมคราม
ได้ยินเสียงมิสมินต์เรียกตามหลังมา แต่ละมุนมาศไม่ได้สนใจ
ไม่คิดว่าเขาจะโผล่มาตอนที่ร้านปิดแล้วอย่างนี้ จู่ ๆ ก็โผล่มาอย่างนี้
จะไม่ให้หล่อนตกใจได้อย่างไรกัน ทางที่ดีที่สุดหลบไปก่อนตอนนี้
หล่อนยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเขา ยังสับสนไม่แน่ใจกับความรู้สึก
ของตัวเอง ลึก ๆ ถามตัวเองว่าดีใจหรือเปล่าที่ได้เห็นหน้าเขา คำตอบก็คือ
ดีใจ หัวใจของหล่อนเต้นระรัวราวกับกลองทีเดียว
เมื่อออกมานอกร้านได้ ละมุนมาศก็รีบวิ่งไปที่รถ ขึ้นรถได้กล็ ็อก
ทันที และก็ออกรถโดยไม่สนใจกับเสียงโทรศัพท์ที่กรีดร้องอยู่ในกระเป๋า
ในขณะที่คารีโนก็พอจะรู้ว่าอีกคนหายหน้าไป หลังจากที่มสิ มินต์
เรียกตาม ก็เลยบอกตัวเองในใจว่า
หนีได้ก็ตามใจ แล้วค่อยไปตามที่คอนโดฯ
คิดพร้อมกับรอยยิ้มที่จุดขึ้นตรงมุมปาก แต่เขาก็รีบปรับใบหน้าให้
บึ้งตึงเช่นเดิม พร้อมกับขอร้องมิสมินต์ให้หาตัวอีกคนมาพบ
มิสมินต์รู้ดวี ่าอีกคนหนีกลับบ้านไปแล้ว ตอนที่วิ่งออกไปทาง
ด้านหลังโบสถ์หล่อนเรียกอย่างไรก็ไม่ยอมหันหลัง ก็เลยต้องโทรศัพท์ไป
299/559

ตาม พร้อมกับรอคนปลายสายกดรับอย่างใจจดจ่อ และถึงกับต้องถอน


หายใจเมื่อได้ยินเสียงรับฝากข้อความดังขึ้นแทน เงยหน้าขึ้นมองเจ้านาย
เห็นหน้าบึ้งตึงนั้นแล้วก็เลยตัดสินใจกดหมายเลขเดิมอีกรอบ และครั้งนีก้ ็
ประสบผล
“มุนค่ะ” พอปลายสายรับ มิสมินต์กเ็ ปิดลำโพงให้ดังจนสุดเสียง
โดยที่คนเป็นเจ้านายไม่ต้องบอก
“รู้แล้วย่ะ แล้วทำไมไม่รับสายยะ”
“มุนควานหาโทรศัพท์ไม่เจอค่ะ มันอยู่ในกระเป๋า และมุนก็กำลังขับ
รถอยู่ด้วย มีอะไรให้มุนรับใช้หรือเปล่าคะมิสมินต์ เอ...มุนก็ว่ามุนทำงาน
ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วนา” ปลายสายทำเสียงยานคาง ทำให้มสิ มินต์
นึกหมั่นเขี้ยวนัก ในขณะที่คนฟังถึงกับอมยิ้ม นึกคาดโทษอยู่ในใจว่า
ถ้าอยู่ใกล้ ๆ เขาจะลงโทษเสียให้เข็ด
“ทำไมกลับบ้านไม่รอ” ปล่อยฉันให้เผชิญหน้าเจ้านายอยู่คนเดียว
ประโยคหลังมิสมินต์พูดกับตัวเองในใจ
“มุนคิดว่ามิสมินต์ต้องคุยเรื่องงานกับเจ้านายก็เลยกลับก่อนค่ะ”
“แล้วนี่ถึงบ้านหรือยัง” ปลายสายหัวเราะน้อย ๆ ก่อนที่จะตอบว่า
“แหม มิสมินต์ก็ มุนเพิ่งออกมาได้ห้านาทีเองนะคะ ประชดได้
ชัดเจนจริง ๆ”
“รู้ตัวก็ดีย่ะ งั้นก็แค่นี้ละกัน ขับรถดี ๆ ล่ะ”
300/559

“ขอบคุณค่ะมิสมินต์ กู๊ดไนต์นะคะ”
หลังจากมิสมินต์กดปิดโทรศัพท์ เจ้านายก็บอกว่า
“เอาเบอร์ละมุนมาศให้ผมด้วย” มิสมินต์จัดการให้เจ้านายทันที
พอได้เบอร์โทรศัพท์แล้วใบหน้าที่บึ้งตึงก็ค่อยคลายลงจนเป็นปกติ และก็
เริ่มคุยเรื่องงานกันต่อ จนได้เวลาสมควรคารีโนก็ชวนลูกน้องกลับ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลายต่อหลายครั้ง จนละมุนมาศยกขึ้นมาดู
แต่ว่าเบอร์โทร. ไม่คุ้นเคยและไม่ได้รับการบันทึกไว้ ทำให้เจ้าของแค่มอง
และปล่อยให้มันเงียบเสียงไปเอง และมันก็ดังขึ้นแล้วดับไปจนกลับถึง
ที่พัก
ละมุนมาศล็อกรถแล้วก็เดินขึ้นคอนโดมิเนียม เสียงโทรศัพท์มือถือ
ในกระเป๋าก็ดังขึ้น ด้วยความทีเ่ กรงว่าเสียงมันจะดังรบกวนการหลับนอน
ของเพื่อนร่วมคอนโด มิเนียมในคํ่าคืนดึกดื่นเลยเที่ยงคืนแล้วอย่างนี้
ละมุนมาศก็เลยตัดสินใจกดรับ และคิดว่าถ้าเป็นใครที่หล่อนไม่รู้จักจะว่า
ให้เจ็บ ๆ จะได้จำว่าไม่ควรโทร. มากวนคนอื่นในยามคํ่าคืนอย่างนี้
“ฮัลโหล”
“ทำไมหนีกลับบ้าน” ประโยคทีไ่ ม่มีคำขึ้นต้นและลงท้าย แถมยังฟัง
ฉุนเฉียวอีกด้วย ทำให้คนรับมึนเล็ก ๆ พยายามคิดว่าเป็นใครโทร. มาหา
และก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคลา
301/559

หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวขึ้นมาทันใด ไม่คิดว่าเขาจะโทร. มาหา


เพราะว่าเขาไม่เคยโทร. หาสักครั้ง
“ว่าไง ทำไมเงียบไป” เสียงท้วงมาจากปลายสาย
“ว่าแต่คุณเป็นใครหรือคะ” เสียงหวานย้อนถามกลับไปเรียบ ๆ
“ตรัง คารีโน” เสียงเข้มหงุดหงิดส่งกลับมาชัดเจน ละมุนมาศย่น
จมูกให้
ชัดเจนจนหัวใจของหล่อนเต้นตุ้บตั้บระรัวไปหมดแล้ว
“แล้วคุณรูเ้ บอร์มือถือฉันได้อย่างไรกันเนี่ย” ถามออกไปทั้ง ๆ ที่ไม่
แปลกใจที่เขาจะมีเบอร์โทรศัพท์ของหล่อน แต่ไม่คิดว่าเขาจะโทร. หามาก
กว่า
“ผมก็ต้องรู้อยู่แล้ว ทำอะไรอยู่ โทร. ไปตั้งหลายครั้งแล้วทำไมไม่
ยอมรับสาย” อีกฝ่ายยังส่งนํ้าเสียงฉุน ๆ มาให้ ทั้ง ๆ ที่อยากตอบว่า
ทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับคุณ แต่ที่ตอบออกไปก็คือ
“เบอร์ไม่คุ้น ฉันก็เลยไม่รับค่ะ”
“งั้นก็บันทึกไว้ ต่อไปจะได้คุ้น”
มันเรื่องอะไรที่หล่อนจะทำอย่างนั้น แต่บันทึกไว้ก็ดี ทีหน้าทีหลัง
โทร. มาอีกจะได้หลบทัน
“เอ่อ ว่าแต่คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
302/559

“ไม่มี”
“กู๊ดไนต์ค่ะ” ละมุนมาศกดปิดเครื่องทันที พร้อมกับแอบยิ้มสะใจ
กดบันทึกหมายเลขเขาเอาไว้ พร้อมกับชื่อที่ว่า เจ้านายชีกอ แล้วก็หย่อน
มือถือลงในกระเป๋า อดที่จะคิดไม่ได้ว่า
เขาโทร. มาหล่อนด้วยเรื่องแค่นี้น่ะหรือ ไม่อยากจะเชื่อ เฮอะ แล้ว
ทำไมต้องโทร. มาหาหล่อนด้วย
ในใจแอบหวังเล็ก ๆ ว่าจะได้ยินคำที่เขาเคยบอก ‘คิดถึง’ แต่กไ็ ม่
ได้ยิน ไม่รู้ว่าควรจะน้อยใจ เสียใจดีหรือไม่
นี่หล่อนหวังอะไรจากเขากันแน่ สับสนในหัวใจจริง ๆ
ข้างฝ่ายเจ้านายที่นั่งอยู่ข้างหลังรถก็แทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ราคาแพง
ในมือทิ้ง นึกไปถึงหน้าคนที่ตัดสายโทรศัพท์ของเขาแล้ว ก็อยากให้หล่อน
อยูใ่ กล้ ๆ ตัว เขาจะลงโทษเสียให้เข็ดทีบ่ ังอาจไม่เห็นหัวเขา ที่บังอาจตัด
สาย ที่บังอาจทำให้เขาร้อนรุ่ม
วันนี้เขาคิดถึงหล่อนทั้งวันถึงแม้ว่างานจะยุ่ง ตอนดึกแค่คิดว่ามาเห็น
หน้าก่อนที่จะกลับบ้าน แต่เจ้าตัวดันแอบกลับบ้านอีกครั้ง คิดแล้วก็โมโห
“ไปนิวฟิลด์ (Newfield)” แค่นั้นเองเบียนก็หันหัวรถไปตามคำสั่ง
ทันที ในใจแอบคิดว่า
303/559

เจ้านายเอาจริงแฮะ ไม่เคยเลยสักครั้งที่เจ้านายจะไปหาผู้หญิงถึงห้อง
อย่างนี้ ท่าทางหัวเสียขว้างโทรศัพท์ทิ้งนั่นอีก ไม่เคยเกิดขึ้นสักครั้งในเวลา
ที่คุยกับสาว ๆ
ละมุนมาศแวะไปหาคนตัวเล็กที่ห้อง จูบกู๊ดไนต์แล้วละมุนมาศก็
ค่อย ๆ ย่องกลับห้อง นึกดีใจที่ไม่ต้องปลุกคนตัวเล็กกลางดึก เพราะว่า
ตอนนีม้ ิสซิสลีจะส่งฟีนิกซ์กลับห้องหลังจากรับ ประทานอาหารเย็นเสร็จ
เรียบร้อยแล้ว
กลับห้องของตัวเอง เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมจะเข้าห้องนํ้าเพื่ออาบนํ้า
สระผม เสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้น ละมุนมาศรีบคว้าชุดคลุมอาบนํ้ามาสวม
ทับก่อนทีจ่ ะตรงไปยังประตูด้านหน้า มองลอดตาแมวแล้วหัวใจก็แทบจะ
ตกไปอยู่ทตี่ าตุ่ม ร่างบางหันหลังพิงประตูมือข้างซ้ายจับหัวใจของตัวเองเอา
ไว้ นึกกลัวจนคิดอะไรไม่ออก จนกระทั่งได้ยินเสียงจากคนข้างนอก
“เปิดประตูด้วย...มุน” เสียงเข้มสั่งทะลุประตูเข้ามาทำเอาหัวใจดวง
น้อยเต้นแรงทีเดียว
ตายแล้ว คิด ๆ ๆ
“ถ้าไม่เปิดผมจะตะโกนให้ดังกว่านี้ ปลุกให้ชาวบ้านเขาตื่นขึ้นมารับรู้
ด้วย” คำขู่ของเขาทำให้ละมุนมาศคิดหนัก
304/559

“เอ่อ รอสักครู่นะคะ สามนาที” บอกเสร็จละมุนมาศก็เปิดไฟในห้อง


ด้านนอก แล้วก็วิ่งกลับเข้าห้องนอน ค้นตู้หาชุดชั้นในมาใส่ พร้อมกับ
เสื้อยืดและกางเกงแล้วก็วิ่งกลับไปเปิดประตู
คารีโนเห็นคนหน้ายู่ ผมยุ่งทีเ่ ปิดประตูให้เขาแล้วก็อดที่จะขำในใจไม่
ได้ แต่ก็ต้องเก๊กหน้าขรึมเอาไว้ พลางคิดไปถึงสาเหตุที่เจ้าตัวขอเวลาสาม
นาที คงจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้านี่เอง
ทันทีที่ได้เห็นหน้า ความรู้สึกหงุดหงิดทั้งปวงก็หายไป
นี่ถ้าคนตรงหน้าถลาเข้ามากอดมาจูบทันทีที่เห็นหน้า จะเป็นอย่างไร
นะ คงจะรู้สึกดีไม่น้อย เขาจะได้จับมาจูบเสียให้หายคิดถึง
แต่มันไม่ใช่ คนตรงหน้าก็ยังยืนนิ่ง
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ละมุนมาศถามเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้ายัง
เงียบอยู่
เจ้าของห้องยังยืนขวางประตูเอาไว้ไม่ขยับเขยื้อนหรือว่าเชื้อเชิญ ร่าง
สูงของคนเป็นแขกก็เลยเบียดตัวเข้าไปในห้อง แค่เขาก้าวเดินหล่อนก็เบี่ยง
ตัวหลบ ก็ถ้าไม่หลบคารีโนก็จะคว้าร่างบางนั้นเข้าสู่อ้อมกอดของตัวเอง
อย่างที่คิดเอาไว้แน่นอน
ละมุนมาศมองตามร่างของแขกที่ไม่ได้เชื้อเชิญเดินไปนั่งที่โซฟา อดที่
จะค้อนให้ไม่ได้ แต่สุดท้ายก็จำใจไปนั่งลงตรงข้าม
“ทำไมต้องหลบหน้า”
305/559

“ไม่ได้หลบ” สายตาหวานจ้องสบสายตาคู่คม แต่สุดท้ายก็ต้องเส


หลบ คารีโนเห็นอาการนั้นแล้วก็แอบยิ้ม
“แต่ก็แอบกลับ”
“คุณมาหาฉันมีเรื่องแค่นี้หรือคะ” กลั้นใจถามออกไปทั้ง ๆ ที่ใจสั่น

“คิดถึง อยากเห็นหน้า มาหาไม่ได้หรือ” คำถามนั้นทำให้คนถูกถาม
เม้มริมฝีปากอิ่มของตัวเองเอาไว้แน่น ในขณะทีส่ องข้างแก้มก็แดงกํ่า
ดวงตาคู่หวานไหวระริก มือทั้งสองข้างยกขึ้นกอดอกเอาไว้
“แต่ว่ามันดึกแล้ว”
ตอบไปคนละเรื่องเลย
“มันดึกแล้วคิดถึงไม่ได้หรือไงกัน ผมคิดถึงคุณทั้งวัน”
เขาจะทำให้หล่อนละลายอยู่ตรงนี้เลยหรือไงกัน ไม่ได้ ๆ ต้องทำใจ
ให้เข้มแข็งเข้าไว้
“ขอบคุณที่คิดถึงฉันค่ะ แต่ว่ามันดึกแล้ว คุณควรจะกลับบ้านไป
พักผ่อนนะคะ”
ร่างสูงลุกขึ้นยืนอย่างว่าง่าย ละมุนมาศลุกตาม แต่แล้วก็แทบจะร้อง
กรี๊ด เมื่อแขนแข็งแรงตวัดรัดร่างของหล่อนเข้าสู่อ้อมกอดของเขาเอาไว้
แน่น
306/559

“อย่าดิ้นนะ แค่คิดถึง” เสียงพึมพำก่อนทีเ่ ขาจะแตะริมฝีปากที่ข้าง


ขมับแผ่วเบา
“ผมต้องเดินทางไปเปรู คุยเรื่องร้านที่จะเปิดเพิ่มที่นั่น ไม่ได้ติดต่อ
คุณเลย ไม่โกรธใช่ไหม นี่พอลงจากเครื่องกับเบียน ผมก็แวะไปหาคุณที่
เวียดเฮาส์ทันที แต่คุณสิหนีกลับ อย่างนี้ต้องถูกลงโทษนะ”
คำพูดว่า ‘ลงโทษ’ ของเขาทำให้ใบหน้าหวานเงยขึ้น และสิ่งที่ได้รับก็
คือจูบที่หนักแน่นเนิ่นนาน ความเชี่ยวชาญและมุ่งมั่นของเขาทำให้คนที่ไร้
ประสบการณ์แขนขา อ่อนแรง ร่างกายอ่อนระทวย ปล่อยให้เขาดูดดื่ม
อย่างกระหายจนกระทั่งเขาพอใจ
นี่หล่อนเป็นอะไรกันแน่ ไม่เข้าใจตัวเองจริง ๆ ยินยอมให้เขากอด
จูบอย่างนี้ได้อย่างไรกัน
ละมุนมาศไม่ปฏิเสธว่าอ้อมกอดของเขาอบอุ่นยิ่งนัก แต่หล่อนก็ไม่
กล้าที่จะปล่อยให้มันเกินเลยไปมากกว่านี้ หลังจากที่รวบรวมกำลังใจได้ก็
เอ่ยปากบอกเขาว่า
“ปล่อยค่ะ มันไม่ดี” พร้อมกับพยายามดันตัวเองออกมาจาก
อ้อมกอดของเขา แต่อีกคนก็ไม่ยอมปล่อย
“ไม่ดีอย่างไร ดีออก ผมชอบ มันอบอุ่นดี”
“มันไม่เหมาะสม ถ้าจะคบกัน คุณต้องให้เกียรติฉันด้วย ไม่ใช่ว่าจะ
จูบจะกอดตอนไหนเมื่อไรก็ได้” อีกฝ่ายพูดชัดเจน ใบหน้าหวานใน
307/559

อ้อมกอดที่แดงกํ่านั้นเชิดขึ้นน้อย ๆ อีกคนก็เลยก้มลงแตะริมฝีปากที่จมูก
โด่งนั่นเบา ๆ อย่างเอ็นดู
“คุณนี่ ฉันเพิ่งจะบอกไปหยก ๆ” คนตัวบางแหวให้เบา ๆ
แรงแทบไม่มีจะยืนตามลำพังต้องพิงเขาเอาไว้ แต่กน็ ่านับถือทีย่ ังมี
แรงคิดบอกเขาถึงเรื่องความไม่เหมาะสม
แต่คารีโนไม่สนใจ
“ผมไม่รับปาก เพราะว่าผมทำอย่างนั้นไม่ได้แน่ รูไ้ หมว่าผมอยากจูบ
คุณทุกครั้งที่เห็นหน้าเลยก็ว่าได้”
ไม่พูดเปล่า ใบหน้าคมก็ก้มลงแตะริมฝีปากริมฝีปากอิ่มแผ่วเบาอีก
ครั้ง ก่อนทีจ่ ะค่อย ๆ ดูดเม้มหยอกล้อไปรอบ ๆ ริมฝีปากอิ่ม และเขาก็
ตัดสินใจปล่อยร่างบาง เมื่อเห็นว่าอีกคนมีแรงพอที่จะยืนได้แล้วพร้อม
บอกว่า
“กู๊ดไนต์”
ร่างสูงเดินตัวตรงไปที่หน้าประตู ใบหน้าหวานค้อนตามหลังไปให้
และก็เดินตามเขาห่าง ๆ หัวใจยังสั่นไหวระรัว
ริมฝีปากหยักยิ้มนิด ๆ เมื่อหันกลับมาเห็นว่าคนตัวบางยืนห่างเขาไป
หลายวา แอบคิดในใจว่า
คงกลัวว่าเขาจะคว้ามากอดมาจูบลานั่นเอง ไม่เป็นไร ได้จูบแล้ว เอา
ไว้วันใหม่ละกัน
308/559

“ปิดประตูดี ๆ นะ”
พอลับร่างของแขกแล้ว ละมุนมาศก็แทบจะวิ่งไปปิดประตูทันที ปิด
ประตู ปิดไฟเสร็จแล้วก็วิ่งกลับเข้าห้องของตัวเอง ในใจก็นึกว่าคนที่เพิ่ง
จากไป พอไปส่องกระจกดูหน้าตัวเองแล้วก็แอบอาย หน้าของหล่อนยัง
แดงกํ่า ดวงตาทั้งคู่มีประกายสดใสระยิบระยับ ริมฝีปากอิ่มและรอบ ๆ
ปากก็มีรอยแดงจากตอหนวดเคราของเขานั่นเอง
คนบ้า หาเรื่องมาจูบได้ทุกครั้งไป แล้วนี่หล่อนเป็นอะไรกัน ทำไม
หัวใจถึงได้หวิวไหววาบหวามอย่างนี้ หล่อนชอบผู้ชายคนนี้อย่างนั้นใช่ไหม
ทีป่ ล่อยให้เขากอดจูบโดยไม่รู้สึกโกรธหรือว่าเกลียด มันเป็นแค่ความชอบ
หรือว่ามากกว่าชอบกันแน่นะ
27
เอาคืนเล็ก ๆ แต่ขาดทุนมากมาย

หลังจากออกมาจากโรงงานตั้งแต่เย็น คารีโนและเบียนก็ตรงไปยัง
ตลาดอีเดน ไปตรวจดูร้านต่าง ๆ แวะคุยกับเจ้าของร้านเกือบจะทุกร้าน
เลยก็ว่าได้ คารีโนให้ความสนใจในการดำเนินการของแต่ละกิจการที่อยูใ่ น
พื้นที่ของเขา และก็แวะไปดูร้านขายเครื่องประดับของมารดาด้วย เมื่อออก
มาจากอีเดนก็ดึกแล้ว จนมาถึงเวียดเฮาส์
“วันนีน้ ่าจะยุ่งน่าดู รถจอดเต็มลานจอดรถเลย นายอ้อมไปจอด
ด้านหลังนะเบียน”
“ครับเจ้านาย” เมื่อเบียนจอดรถก็ต้องแอบยิ้ม เมื่อเห็นเจ้านายแทบ
จะถลาลงไปจากรถทันทีทเี่ ขาจอด จนเขาต้องถลาตามไปด้วย พอเข้าไปใน
ร้าน มิสมินต์ก็เดินเข้าไปต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะเจ้านาย”
“สวัสดีมสิ มินต์ แขกแน่นนะ” ตอบลูกน้อง แต่สายตากวาดหาใคร
บางคนไปด้วย
“ค่ะ วันนี้วันหยุด แขกก็เลยแน่น”
310/559

“ละมุนมาศมาทำงานหรือเปล่า”
“มาค่ะ”
“บอกให้เข้าไปหาผมด้วย” สั่งแล้วก็เดินตรงเข้าห้องไปทันที
“ค่ะ” มิสมินต์รีบเดินเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว เห็นร่างบางกำลังยืน
รออาหารอยู่ก็เลยเข้าไปกระซิบ
“มุน”
“คะ”
“เจ้านายมา เรียกให้ไปหา ทิ้งตรงนีไ้ ว้ก่อน ฉันจะให้คนอื่นมาทำ
แทน”
“รอให้มนุ ทำตรงนีใ้ ห้เสร็จก่อนได้ไหมคะ” คนตัวบางยังต่อรองด้วย
หัวใจทีเ่ ต้นระรัว ไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาที่นี่วันนี้ หล่อนยังรู้สึกไม่ชินกับการ
เจอหน้าเขาสักเท่าไร เจอหน้าทุกครั้งก็อดที่จะนึกถึงรอยจูบของเขารํ่าไป
นี่จะมาไม้ไหนอีกก็ไม่รู้ เมื่อคืนก็ตามไปจูบหล่อนถึงบ้านเลยทีเดียว
ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่ทำอะไรให้เป็นที่ครหาที่นี่ หล่อนยังไม่อยากให้ใคร
รู้เรื่องนี้
“ไปเถอะ ช้าเดี๋ยวท่านก็โมโหเอาอีกหรอก”
311/559

“ก็ได้ค่ะ และถ้ามุนโดนทุ่มออกมา มิสมินต์ช่วยรับด้วยนะคะ”


ละมุนมาศยื่นหน้าไปกระซิบกับผู้จัดการสาวใจดี ก่อนที่จะผละเดินออก
จากครัวไปด้วยใจที่เต้นแรง
“ถ้าทุ่มออกมาจริง ๆ ฉันจะรับให้เอง” ละมุนมาศหันกลับมายกนิ้ว
หัวแม่มือให้กับเจ้านาย และพอเดินมายืนอยูห่ น้าประตูห้องทำงานของ
เจ้านาย ละมุนมาศรู้สึกลังเลเล็กน้อยก่อนทีจ่ ะยกมือขึ้นเคาะประตูห้องเบา
ๆ ไม่ถึงวินาทีประตูก็ถูกเปิดโดยคนที่อยู่ข้างใน
“สวัสดีครับมิส เชิญครับ” เบียนก้มหัวให้หล่อนเล็กน้อย
“เอ่อ สวัสดีค่ะเบียน” หนุ่มร่างสูงที่ยังสูงไม่เท่ากับผู้เป็นเจ้านายเบี่ยง
ตัวออกไปนอกห้อง พอละมุนมาศเดินเข้าไปในห้อง เขาก็ปิดประตูห้องให้
เจ้านายที่ก้มหน้าอยู่กับบางสิ่งบนโต๊ะก็เงยหน้าทันที
“ทำไมมาช้าจัง”
“ฉันทำงานอยู่ค่ะ ว่าแต่เจ้านายต้องการอะไรหรือเปล่าคะ”
“มาใกล้ ๆ หน่อยสิ คิดถึงจัง” เสียงนุ่ม ๆ นั้นออกคำสั่ง ทำให้คน
ฟังถึงกับส่ายหน้า
“ไม่ค่ะ ว่าแต่คุณมีอะไรหรือคะ ฉันมีงานต้องทำนะคะ”
“เข้ามาใกล้ ๆ แล้วจะบอก” แววตาเจ้าเล่ห์ทำให้ละมุนมาศถึงกับ
หัวใจเต้นแรง รู้สึกหวั่นไหวเล็ก ๆ ไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน ก็เลยยืนเฉย ๆ
คนสั่งทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ แต่ใบหน้ายิ้มแย้ม
312/559

“ถ้าต้องให้ผมลุกจากเก้าอี้ไปดึงคุณมาละก็ รับรองงานนีค้ ุณโดน


หนักแน่ ๆ” คำขู่กับดวงตาที่เป็นประกายวิบวับนั่น ทำให้คนถูกขูจ่ ำต้อง
เดินเข้าไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวโตของเขาอย่างกล้า ๆ เกรง ๆ
“ว่าไงคะ มีอะไรหรือเปล่า”
“หาอะไรให้กินหน่อยสิ”
ที่เรียกมานี่ ก็เพื่อจะให้หาอะไรให้กินเท่านั้นเองหรือ
“ได้ค่ะ ว่าแต่คุณจะทานอะไรคะ อาหารจีน เวียดนาม”
มือบางล้วงกระดาษออกมาจากกระเป๋าด้านหน้าผ้ากันเปื้อน เตรียม
ตัวจดด้วยท่าทีแข็งขัน ท่าทางนั้นทำให้คนทีจ่ ้องอยูแ่ ล้วอดที่จะขำในใจไม่
ได้
หล่อนทำราวกับว่ากำลังต้อนรับลูกค้าเลยทีเดียว น่ารักจริง ๆ
“ขอเป็นอาหารไทยได้ไหม สองสามอย่างกับข้าวสวยก็พอ
“เครื่องดื่มล่ะคะ”
“กาแฟเย็น”
“ได้ค่ะเจ้านาย เออ ต้องจัดให้ลูกน้องของคุณด้วยหรือเปล่าคะ”
“ไม่ต้อง เบียนดูแลตัวเองได้”
น่าหมั่นไส้จริง ๆ ทีลูกน้องบอกดูแลตัวเองได้ แต่เจ้านายต้องให้
หล่อนมาดูแล พอดีเลย หล่อนจะดูแลเขาให้ประทับใจไปเลยทีเดียว
313/559

เมื่อลงมาจากห้องทำงานของเจ้านาย ละมุนมาศก็แวะขอมิสมินต์ให้
ช่วยเตรียมกาแฟเย็นให้เจ้านาย ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว
ด้วยใบหน้าทีเ่ ต็มไปด้วยรอยยิ้มมาดมั่น สั่งอาหารสองสามอย่างกับลุงบิน
พ่อครัวผูใ้ จดี พร้อมกับยืนกำกับอยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทางจริงจัง บางครั้งก็
ช่วยเติมเครื่องปรุงอีกด้วย ลุงบินได้แต่มอง พร้อมกับทำตาปริบ ๆ ไม่
กล้าคิดว่าอาหารที่มีคนช่วยปรุงครั้งนี้จะมีรสชาติเป็นอย่างไร
จานแรกเนื้อกระเทียมพริกไทย ใส่พริกสดตำละเอียดไปมากกว่า
ระดับที่เผ็ดที่สุดของภัตตาคารเล็กน้อย ลุงบินแอบคิดในใจว่า
รับรองฝรั่งคนนี้ได้ปากพอง วิ่งเข้าห้องนํ้าไม่ทันเป็นแน่
จานทีส่ องไข่เจียวกุ้งสับ มีถั่วฝักยาวหั่นฝอยผสมท่าทางน่าอร่อย ว่า
แต่เกลือหรือนํ้าตาลกันแน่นะที่ใส่ลงไปเป็นช้อนอย่างนั้น
จานที่สามละมุนมาศหันไปกำกับแม่ครัวให้ทำต้มยำทะเลรสชาติ
จัดจ้าน ที่แม้แต่แม่ครัวก็ยังรู้สึกเสียวฟัน
ลุงบินมองตามหลังคนทีห่ อบเอาถาดใบใหญ่มาใส่อาหาร พร้อมกับมี
โถข้าวขนาดกลาง จานเสิร์ฟ ถ้วยซุป ช้อน ส้อม แถมด้วยแตงกวาหนึ่ง
จาน
สงสัยมิสมุนคงจะขี้เกียจเดินหลายรอบ เอาทุกอย่างไปพร้อมกันเลย
จนเอวเล็ก ๆ เอียงไปข้างหนึ่งทีเดียว
314/559

แค่เอาคืนเล็ก ๆ ต่อไปจะได้ไม่จูบหล่อนให้หัวใจเต้นแรงพรํ่าเพรื่อ
อีก
ละมุนมาศถือถาดขนาดใหญ่ที่มีอาหารและของสารพัดชนิดเดินขึ้นไป
ยังห้องของเจ้านาย เบียนรอเปิดประตูให้อยู่แล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
ใบหน้าคมเข้มทีก่ ำลังก้มหน้าก้มตากับงานตรงหน้าเงยขึ้นทันใด ที่
เห็นว่าร่างบางนำอาหารเข้ามาในห้อง จัดตั้งทีโ่ ต๊ะเล็กให้ คารีโนแอบมอง
การกระทำนั้นเงียบ ๆ จนทุกอย่างเรียบร้อย
“เรียบร้อยแล้วค่ะเจ้านาย” ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ จนร่างบางต้องถอย
หนี เขาก็ไม่ได้ตาม เพียงแต่บอกว่า
“อย่าเพิ่งไป มากินด้วยกันสิ” จู่ ๆ เขาก็ชวน ทำเอาคนถูกชวนตกใจ
“คะ”
“มานี่ มากินข้าวด้วยกันก่อน” ไม่ชวนอย่างเดียว เขาเดินเข้ามาดึง
แขนหล่อนให้ไปนั่งทีเ่ ก้าอี้ ทำเอาคนถูกชวนคิดหาทางเอาตัวรอดอย่าง
เร่งด่วน
“ขอบคุณค่ะ ฉันทานก่อนทำงานแล้ว เชิญเจ้านายตามสบายค่ะ” แต่
คนฟังไม่ใส่ใจ
“มาเถอะน่า มากินด้วยกัน ผมไม่ชอบกินข้าวคนเดียว มันเหงา”
ละมุนมาศส่งค้อนให้กับคำตอบนั่น
315/559

“แล้วทำไมไม่ชวนลูกน้องคุณมากินด้วยล่ะคะ”
“ไม่หรอก มิสมินต์จะดูแลเบียนเอง และผมก็อยากกินกับคุณ”
อ่า วันนี้หล่อนต้องตายแน่ ๆ
“บอกให้กินก็กินด้วยกันเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ ผมบอกมิสมินต์แล้ว
ว่าคุณจะดูแลผม” คนฟังกลืนนํ้าลายเหนียว ๆ ลงคออย่างฝืด ๆ
“ไม่ต้องเกรงใจ”
ไม่ได้เกรงใจ แต่หล่อนจะกินได้อย่างไรกัน ในเมื่ออาหารพวกนี้
รสชาติแย่สุดยอด
เขานั่งลงตรงข้าม จัดการตักข้าวใส่จานให้ ตักอาหารให้หล่อน
พร้อมกับบอกว่า
“กินเยอะ ๆ ดูแต่ละอย่างน่าอร่อยทั้งนั้น แล้วคุณรูไ้ ด้ไงว่าผมชอบ
เนื้อกระเทียมพริกไทย ต้มยำนี่ดูท่าทางจะรสจัดจ้านน่าดู ดูสีก็รู้ ไข่เจียวนี่
อีก ของโปรดของผมเลย” คารีโนตักอาหารพร้อมกับบรรยายไปด้วย
“กินสิ ไม่ต้องห่วงข้างนอกหรอก ถ้าใครถามก็บอกว่ามาช่วยงานผม
นะ”
คารีโนตักอาหารให้คนตรงหน้าอย่างเอาใจแล้ว เขาก็ตักอาหารใส่
จานตัวเอง แต่พอส่งอาหารเข้าปากคำแรกก็แทบจะคายออกมา แต่กต็ ้อง
กลํ้าฝืนทนกลืนลงไป มองคนที่นั่งอยูต่ รงข้ามแล้วก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ใบหน้าที่ยิ้มน้อย ๆ นั่นมองแวบเดียวก็รู้ว่ากำลังดีใจกับผลงานของตัวเอง
316/559

เผ็ดไม่เท่าไร แต่เค็มนี่สิ ทำเอาขนลุกเกรียวทีเดียว


พอกลํ้ากลืนลงคอได้ เขาก็ปรับสีหน้าพร้อมบอกว่า
“อร่อยมาก กินสิ ไม่เห็นคุณกินเลย อะนี่ กินให้หมดด้วยนะ ถ้าไม่
หมดผมจะป้อน” หลังจากที่ขคู่ นตรงหน้าแล้ว เขาก็ก้มหน้าก้มตากินอาหาร
ในจานของตัวเอง และทุกครั้งที่ตักอาหารใส่จานตัวเอง เขาก็จะตักเผื่อคน
ที่นั่งตรงข้ามด้วย
คารีโนแอบชำเลืองมองอีกคนที่กำลังฝืนกลืนอาหารตรงหน้า ที่
รสชาติสุดแสนจะบรรยายได้ ทั้งเค็ม ทั้งเผ็ด ทั้งเปรี้ยว เห็นแล้วก็สงสาร
นัก แต่ในเมื่อเขากินได้ หล่อนก็ต้องกินได้เช่นกัน
นานแค่ไหนแล้วนะ ที่หล่อนไม่ได้กินอาหารที่มพี ริกเป็นส่วนประกอบ
อย่างนี้ ก็คงจะตั้งแต่ทจี่ ากบ้านนอกไปเรียนต่อ แล้วตามบิดาเลี้ยงไปอยูใ่ น
หลาย ๆ ประเทศ และการที่อยู่ตัวคนเดียว กินอาหารง่าย ๆ ที่มีขายตาม
ร้านฝรั่งโดยทั่วไป และพอมี น้องสาวมาอยู่ด้วย ก็ทำกันแต่อาหารจืด ๆ
ถึงแม้จะมาทำงานทีร่ ้านอาหารแห่งนี้ หล่อนก็ไม่เคยกินอาหารเผ็ด ๆ เลย
นีเ่ ป็นครั้งแรกที่ได้กิน และก็เผ็ดแบบสุด ๆ จนแทบจะหายใจทางปากอยู่
แล้ว อยู่ ๆ ไม่รู้ว่านํ้าตามันไหลมาทางไหน ต้องรีบก้มหน้าซ่อนมันเอาไว้
และก็นึกถึงคนตรงหน้าที่เป็นฝรั่งขึ้นมาได้ ละมุนมาศก็เลยเงยหน้า
ขึ้นมองเจ้านาย สิ่งทีเ่ ห็นก็คือ เขากินอาหารอย่างไม่มีทีท่าอะไรเลย มีแต่
ใบหน้าเท่านั้นที่ แดงกํ่า แต่ถึงกระนั้นเขายังกินอาหารทั้งหมดได้อย่าง
สบาย ๆ ในขณะที่หล่อนเผ็ดจน นํ้าตาไหล ริมฝีปากบวมเห่อ แล้วก็นึก
317/559

สงสารอวัยวะภายในไม่ได้ ไม่รู้ว่าตับไตไส้พุงจะเป็นอย่างไรบ้างหลังจาก
ทานอาหารมื้อนี้เสร็จ ทำได้ก็คือดื่มนํ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่พอ
เห็นท่าทางเอร็ดอร่อยของเจ้านายแล้วก็อดที่จะส่งค้อนให้ไม่ได้ พร้อมกับ
บอกกับตัวเองว่า
ทำทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว กรรมติดจรวดจริง ๆ ไม่รู้ว่าคืนนี้จะ
วิ่งเข้า ห้องนํ้ากี่รอบกันแน่ ใครจะคิดว่าเขาจะบังคับชวนให้หล่อนกินด้วย
กัน ถ้ารู้อย่างนี้กค็ งจะไม่ทำแบบนั้น มาคิดได้ตอนนี้กส็ ายเสียแล้ว เจ็บใจ
จริง ๆ งานนี้ต้องโทษตัวเองเท่านั้น
เมื่อโทษตัวเองแล้ว ละมุนมาศก็ก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารใน
จานจนหมด แล้วก็เอ่ยขอตัว
“ฉันอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ” ร่างบางพูดไปก็สูดนํ้ามูกและเช็ดนํ้า
ตาไปด้วย พอหล่อนลุกจากเก้าอี้ มือหนาก็ยื่นมือไปคว้ามือของหล่อนเอา
ไว้
“ปล่อยค่ะ”
ร่างสูงลุกขึ้นยืน ไม่ได้สนใจกับคำสั่งนั้น ลำแขนแข็งแรงดึงร่างบาง
เข้าสู่อ้อมกอดของตัวเอง พร้อมกับรัดเอาไว้แน่น
“ปล่อยนะ นี่คุณจะ...จะทำอะไร” ใบหน้าคมเข้มไม่สนใจ มือหนาจับ
คางมนเอาไว้ ก้มลงไปเรื่อย ๆ มองคนในอ้อมกอด เห็นใบหน้าที่ตอนนี้
แดงเถือกแล้วก็รู้สึกสงสาร พอเจ้าตัวรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นก็พยายามหัน
318/559

หน้าหนี แต่ก็ไม่สามารถที่จะหนีไปไหนได้ มือบางสองข้างยกขึ้นยันแผงอก


แกร่งของเขาเอาไว้ แต่อ้อมแขนแข็งแกร่งก็ดันแผ่นหลังบอบบางให้ชิดตัว
มากยิ่งขึ้น เจ้าตัวก็ได้แต่เม้มปากที่บวมเจ่อให้ปิดสนิท แต่กย็ ากนักด้วย
ความเผ็ดที่หล่อนต้องหายใจทางปากเพื่อบรรเทาความเผ็ด และนํ้าตาก็ยัง
ไหลพราก
คารีโนหัวเราะน้อย ๆ กับอาการต่อต้านของคนในอ้อมกอด แต่เขาก็
ไม่สนใจ ก้มหน้าลงไปเรื่อย ๆ ปล่อยลมหายใจให้รินรดบนใบหน้าหวาน
จนอีกคนแทบจะหายใจไม่ออก ก่อนที่จะประกบริมฝีปากหยักได้รูปกับ
ริมฝีปากที่เม้มสนิทนั้นเบา ๆ และเล็มอย่างอ่อนโยนไปรอบ ๆ ก่อนจะ
เปลี่ยนเป็นดูดเม้มหนัก ๆ จนเจ้าของเริ่มปล่อย ริมฝีปากให้เขาได้ดูดเลีย
ความเผ็ดให้แต่โดยดี
ดวงตาหวานหลับพริ้มอย่างยอมจำนนต่อความรู้สึกของหัวใจ ปาก
อิ่มที่บวมเจ่อก็ค่อย ๆ เปิด โดยที่เจ้าตัวไม่สามารถบังคับได้ ลิ้นแข็งที่อุ่น
จนร้อนค่อย ๆ ดัน ตัวเองเข้าสู่โพรงปากนุ่ม เกาะเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้น
เรียวเล็กอย่างอ่อนโยน ดุนไล่หยอกล้อรุกไล่ลิ้นเล็กไปจนทั่วซํ้าแล้วซํ้าเล่า
อย่างไม่มเี บื่อ โดยมีฝ่ามือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นประคองใบหน้านวลเอาไว้
เมื่อรู้สึกได้ถึงสองมือบางที่เกาะรอบเอวเขาเอาไว้ อดที่จะยิ้มอยู่คนเดียว
ในที่สุดคนตัวบางก็ตัวอ่อนพิงเขาเอาไว้
319/559

ละมุนมาศรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังล่องลอย เท้าที่ยืนอยูบ่ นพื้น


ไร้ นํ้าหนัก เรี่ยวแรงทีม่ ีเหือดหายไปหมด จนต้องอิงร่างอ่อนแรงพิงกับร่าง
สูงแข็งแรงของเขาเอาไว้
“อือ” เสียงครางเบา ๆ ราวกับละเมอ ที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบาง
ทำให้คารีโนรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ไม่นานนักคนตัวบางก็เริ่มรู้สึกตัว จึงผลักด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด
เขาก็เลยต้องหยุดและถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย จ้องมองใบหน้า
หวานทีก่ ำลังหลับตาพริ้มนั้นแล้วก็นึกอยากที่จะทำอะไรต่อ ไม่อยากหยุด
อยูแ่ ค่นี้ แต่เขาก็จำเป็นต้องหยุด ทีเ่ ขาทำได้กแ็ ค่จูบซับนํ้าตาทั้งสองข้าง
แก้มให้อย่างอ่อนโยน
“หายเผ็ดแล้วหรือยังหือ” คำถามพร้อมด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ ทำให้
ละมุนมาศรู้สึกตัวรีบผละออกอย่างรวดเร็ว และก็แทบจะล้ม จนอีกฝ่าย
ต้องคว้าตัวเอาไว้
“อะไรกัน จูบแค่นี้หมดแรงเลยหรือ”
“ปล่อยค่ะ” เสียงหวานสั่งเขาแผ่วเบา เมื่อคารีโนมั่นใจว่าหล่อนยืน
อยู่ได้แล้ว เขาก็เลยปล่อยมือจากเอวบาง
“ผมจะไปส่งกลับบ้านนะคืนนี้ รอด้วย” คนหน้าแดงเม้มปากไม่
ยอมรับคำสั่ง จนเขาต้องก้มหน้าลงไปชิด
“ยังไม่หายเผ็ดใช่ไหม”
320/559

“หะ...หายแล้ว”
“อย่าลืมนะ กลับบ้านรอด้วย” ใบหน้าหวานพยักน้อย ๆ ยกมือขึ้น
ลูบใบหน้าตัวเอง พร้อมกับสลัดหัวจนผมกระจาย ตบแก้มตัวเองเบา ๆ
เรียกสติกลับคืน คนเห็นก็อดที่จะหัวเราะอย่างเอ็นดูไม่ได้ เมื่อรูว้ ่าคนที่ยืน
อยู่ตรงหน้าไม่วิ่งหนีตอนที่เขาปล่อย ก็เพราะว่ายังงงอยู่นั่นเอง
มีด้วยหรือสาวมึน เพราะว่าจูบของเขา
หลังจากหายงง หล่อนก็หันหลังกลับรีบเดินออกไปจากห้อง คารีโน
ได้แต่ส่ายหน้าน้อย ๆ
ไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ
แต่ก็อดที่จะยกมือขึ้นแตะริมฝีปาก ความหวานยังไม่หายไปจาก
ความรู้สึก ถึงแม้ว่าริมฝีปากของเขายังเผ็ดร้อน และรู้สึกจะมากขึ้นกว่าเดิม
เสียด้วย เพราะว่าเขาดูดความเผ็ดร้อนมาจากลิ้นเล็กและริมฝีปากของอีก
คน แต่มันก็ให้ความรู้สึกดี จนเขาลืมความหงุดหงิดที่โดนแกล้งเสียสิ้น
โดนแกล้งแล้วได้สิ่งตอบแทนแบบนี้ก็น่าเสี่ยง นี่หล่อนคงไม่รวู้ ่าเขา
ชอบอาหารรสจัด แต่ก็ยอมรับว่าอาหารวันนีร้ สจัดเกินกว่ามาตรฐานของเขา
เล็กน้อย วันนีค้ นตัวบางตั้งใจแกล้งเขา แกล้งคนอื่นแล้วตัวเองนํ้าตาไหล
พรากทีเดียว คิด ๆ ไปแล้วก็น่าสงสาร แต่ก็ดจี ะได้รแู้ ละไม่คิดแกล้งเขา
อีก พิษสงรอบตัวทีเดียว เปิดโอกาสเป็นไม่ได้
321/559

คิดถึงจูบครั้งนี้แล้วก็ต้องยิ้ม มีหลายรสชาติทีเดียว ทั้งเปรี้ยว เผ็ด


เค็ม ให้ความรู้สึกที่ดี จนเขานึกอยากมีหล่อนอยู่ในอ้อมกอดตลอดเวลา
ไม่คิดว่าหล่อนจะทำให้เขาบ้าคลั่งได้ขนาดนี้ พอได้จูบก็อยากที่จะทำอะไร
ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่อยากหยุด อดไม่ได้ที่จะคิดถึงภาพที่มหี ล่อนอยู่บนเตียง
กับเขา จะทำให้เขาเร่าร้อนสักแค่ไหนกันนะ นีเ่ พียงแค่จูบเขาก็แทบคลั่ง
แล้ว
มิสมินต์ที่ยืนรออยู่แถวข้างบันได ก็เดินกลับไปกลับมารอคนที่วิ่ง
หน้าแดงกํ่าเข้าไปในห้องนํ้า หล่อนรู้สึกร้อนใจจนแทบระงับเอาไว้ไม่อยู่ ไม่
รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนั้น
เกิดอะไรกันแน่นะ ถ้าหล่อนตาไม่ฝาด เห็นใบหน้าสวยนั้นแดงกํ่า
ริมฝีปากบวมเจ่อทีเดียว ทั้งสองคงจะ...อย่างดูดดื่ม จะว่าต่างฝ่ายต่างปิ๊ง
กันหรือ ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะอีกฝ่ายวิ่งหนีได้กว็ ิ่งหนีก่อนทุกที โดนเรียก
เข้าไปเจอเมื่อไรก็วิ่งออกมาจากห้องทุกที วันนีก้ ็วิ่งหน้าแดงปากแดงออกมา
มีแต่เจ้านายของหล่อนเท่านั้นทีแ่ สดงออกโจ่งแจ้งอยูค่ นเดียว น่าสงสัยจริง
ๆ เจ้านายของหล่อนทำอะไรรุนแรงกับลูกน้องคนสวยหรือเปล่านะ ชัก
อยากรู้...ตื่นเต้นจัง...จะเป็นเหมือนที่หล่อนคิดเอาเองหรือเปล่า ริมฝีปาก
ประกบแนบชิด ตาสบตา แลกความรู้สึกของกันและกัน อ่า...
“มิสมินต์”
“...”
“มิสมินต์คะ” เสียงดังขึ้นอีกนิด
322/559

“ว้าย เรียกเบา ๆ ก็ได้ ฉันไม่ได้หูหนวก มีอะไรว่ามา” หันไปเอ็ด


ลูกน้องสาวชาวเม็กซิกัน
“ในครัวเรียก บอกว่าเตาทอดดับค่ะ”
“เออ ขอบใจมากที่มาบอก” มิสมินต์รีบสลัดความคิดวาบหวามออก
ไปจากหัวสมองของตัวเอง ก่อนที่จะกระวีกระวาดเข้าไปในครัว ในใจก็คิด
ว่า
ทำไมเตาทอดมันต้องมีปัญหาตอนนี้ด้วยนะ ไม่รู้จักเวลํ่าเวลาเสียเลย
หงุดหงิด
28
คือรัก...ใช่ไหม ?

หลังจากทีค่ นมาส่งกลับไปแล้ว ละมุนมาศก็โทรศัพท์หามิสมินต์เรื่อง


ขอลาหยุดงานในวันเสาร์ถัดไป ซึ่งมิสมินต์ก็อนุญาต และรับปากที่จะหา
คนมาทำแทนให้ ก่อนจะโทร. ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยว่ามิสมินต์จะไม่อนุญาต
แต่พอได้คุยแล้วก็โล่งใจ วางโทรศัพท์แล้วละมุนมาศก็ร้องเพลงเบา ๆ
เดินเข้าไปในห้องคนตัวเล็ก จูบราตรีสวัสดิ์ แล้วก็กลับเข้าห้องตัวเอง อาบ
นํ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ยังไม่รู้สึกง่วง ตายังสว่างสดใส เนื่องจากมีบางสิ่ง
บางอย่างที่ยังรบกวนจิตใจและความรู้สึก จนไม่สามารถที่จะบังคับตัวเอง
ให้หลับลงได้
ดวงตาที่เหม่อมองฝ่าความมืดมิดของราตรีกาลออกไปนอกหน้าต่าง
ห้องนอน ภายในห้องปิดไฟมืดสนิท ร่างบางของเจ้าของห้องนั่งเอาคางเกย
กับพนักโซฟาตัวหนานุ่ม ปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไปกับความรู้สึกนึกคิด
ต่าง ๆ ที่ผ่านมา มือบางยกขึ้นแตะริมฝีปากเนิ่นนานด้วยหัวใจที่ไหวระริก
คิดถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่รินรดอยูบ่ นใบหน้า ดวงตาคมเข้มพราว
หวาน เต็มไปด้วยประกายอบอุ่นอ่อนหวาน เปิดเผยความรู้สึกบางอย่างที่
324/559

ละมุนมาศไม่รู้ว่ามันหมายความอย่างไร ความรู้สึกบางอย่างก็เกิดขึ้นในใจ
หลายต่อหลายครั้งที่หล่อนถามตัวเองว่า
มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเป็นแฟนกันแล้วจริง ๆ...
เหตุการณ์ที่กลับตาลปัตรจากการเอาคืนของตัวเองในวันนี้ ทำให้
หัวใจดวงน้อยหวั่นไหววาบหวามสุด ๆ การกระทำจาบจ้วงเอาแต่ใจใน
ตอนแรก เปลี่ยนเป็น อ่อนหวานและเว้าวอนอ่อนโยน เรียกร้องจนหล่อน
เคลิบเคลิ้ม เพลิดเพลิน ไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านทาน
เขาจูบเพียงเพื่อต้องการให้หล่อนหายจากอาการเผ็ดเท่านั้น...จริง ๆ
ไม่มีอะไรมากกว่านั้น หรือว่ามากกว่านั้น
ละมุนมาศยอมรับว่าอายที่ยินยอมให้เขาฉวยโอกาสกระทำตามใจ
อายที่ไม่หักห้ามตัวเอง ปล่อยให้เขา...และยังรู้สึกดีไปกับการกระทำนั้น
ด้วย
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันอบอุ่นกับการกระทำและอ้อมกอดของเขา ไม่
แปลกเลยที่เพื่อนสนิทของหล่อนหอบผ้าหอบผ่อนย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ใน
อะพาร์ตเมนต์ของแฟนหนุ่มตั้งแต่อาทิตย์แรกที่คบหากัน ไม่แปลกว่าทำไม
ทั้งคู่ถึงได้ผลัดกันจุ๊บ ผลัดกันจุ๊บ ได้ทุกที่ทุกเวลา มันรู้สึกดีอย่างนี้เองสิ
นะ
แล้วก็อดที่จะคิดถึงตอนเลิกงาน ที่เขาบอกให้ลูกน้องของเขาเฝ้า
หล่อนเอาไว้ไม่ให้หนีกลับก่อน เพราะเขาบอกจะมาส่ง และละมุนมาศก็หนี
325/559

กลับไม่ได้จริง ๆ จนกระทั่งเขาคุยงานกับมิสมินต์เสร็จ ซึ่งพอมิสมินต์เห็น


ว่าหล่อนยังรออยู่ข้างนอกกับเบียนก็บอกทันทีว่า
“ขอบคุณมากมุนที่อยู่รอวันนี้”
แต่คนเป็นเจ้านายบอกแก้ให้ว่า
“ผมบอกให้ละมุนมาศอยู่รอผม”
คำตอบนั้นทำให้มสิ มินต์ถึงกับอ้าปากค้าง พูดไม่ออกไปเลยทีเดียว
แต่แค่ไม่ถึงห้าวินาทีดวงตาเล็ก ๆ คู่นั้นก็ส่งประกายวิบวับ พร้อมกับบอก
ว่า
“งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะเจ้านาย มุน กู๊ดไนต์”
“กู๊ดไนต์มสิ มินต์” ละมุนมาศจำได้ว่ากล่าวลาเจ้านายสาวด้วยเสียง
อ่อย ๆ และก็รีบเดินนำหน้าออกไปทางด้านหลังโบสถ์ แต่มือหนาของอีก
คนก็ยื่นมาคว้ามือหล่อนไปจับจูงให้เดินด้วยกัน ยิ่งทำให้มสิ มินต์ตาโตขึ้น
อีกเท่าตัว แต่ไม่ได้พูดอะไร ละมุนมาศได้แต่หน้าร้อนผ่าว ถอนหายใจ ไม่
รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไร พอคิดจะแก้ตัว เจ้านายใหญ่ก็พูดขึ้นว่า
“ขอกุญแจรถหน่อย” ละมุนมาศยื่นกุญแจรถในมือส่งให้ เขารับไป
พร้อมกับส่งต่อให้ลูกน้องที่เดินตามหลัง
“เบียน นายขับรถคันนี้ตามไปนะ”
“ครับนาย”
326/559

พอออกมานอกโบสถ์ มิสมินต์ก็ยกมือขึ้นโบก ใบหน้ายิ้มระรื่น


“บายมุน ขอให้โชคดี”
“บายค่ะมิสมินต์”
ไม่รู้ว่าจะโชคดีหรือว่าโชคร้ายก็ไม่รู้
ละมุนมาศได้แต่คิดในใจ มือหนาก็จูงให้หล่อนเดินตามไปขึ้นรถฮัม
เมอร์คันโตของเขา ซึ่งเป็นสีเดียวกับคันที่เฟยขับ ทันทีที่เห็นรถละมุนมาศ
ก็คิดว่าเฟยคงจะนั่งรออยู่ในรถ แต่ไม่ใช่ เขาขับเอง หลังจากที่เขาช่วยส่ง
หล่อนขึ้นรถแล้ว ละมุนมาศก็คว้าเข็มขัดมารัดตัวเองอย่างรวดเร็ว อาการ
ของหล่อนทำให้คนที่ยังยืนอยู่ข้าง ๆ ต้องหัวเราะหึ ๆ ออกมา ละมุนมาศ
ก็เลยได้แต่ส่งค้อนให้ เขาก็เลยถามว่า
“กลัวผมช่วยขนาดนั้นเลยหรือ”
“เปล่าค่ะ” คำปฏิเสธของหล่อนไม่ได้ทำให้ความเชื่อของเขา
เปลี่ยนแปลง คารีโนปิดประตูรถให้แล้วก็อ้อมมาทางด้านคนขับ เบียนที่ขับ
รถของหล่อนมาจอดรออยู่แล้ว
“ความจริงคุณไม่ต้องส่งฉันก็ได้ค่ะ” พอเขาออกรถ ละมุนมาศก็เลย
พูดขึ้น
“ฉันกลับบ้านเองได้”
“ไม่เป็นไร ผมไปส่งน่ะดีแล้ว ช่วงนีเ้ ฟยยุ่งและผมก็เป็นห่วงคุณ ว่า
แต่รถคุณซ่อมแล้วขับเหมือนเดิมไหม” ไม่ถามเปล่า มือหนานุ่มของเขา
327/559

เอื้อมมาจับมือบางของหล่อนทีว่ างอยู่บนตัก จะดึงมือหนีเขาก็กำเอาไว้แน่น


เป็นการบังคับกลาย ๆ ก่อนจะลูบไล้เบา ๆ อย่างอ่อนโยน
“ค่ะ เหมือนเดิม ขอบคุณที่ถาม เอ่อ...ปล่อยมือก่อนได้ไหมคะ คุณ
ขับรถอยู่นะ มันอันตราย” คนหน้าแดงพยายามดึงมือออกจากมือเขา ยิ่ง
ได้สบตาคูค่ มที่ออกประกายหวานของเขาในความมืดสลัวแล้ว หัวใจดวง
น้อยก็ยิ่งเต้นกระหนํ่าระรัว
“ไม่ต้องห่วง ผมขับรถมือเดียวได้สบายมาก รู้ไหมผมอยากจับมือ
คุณมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสเลย มือเล็กนิดเดียวเอง ทำอะไรได้บ้างเนี่ย
อ้อ ผมยังไม่ได้ขอบคุณเลยทีค่ ุณทำอาหารให้ ผมไม่ได้กินอาหารไทย
รสชาติอย่างนี้มานานแล้ว อร่อยมาก แต่ไข่เจียวรสชาติมันเค็มไปหน่อย
เผ็ดกับเปรี้ยวผมชอบ”
พอเขาชมเรื่องอาหาร ละมุนมาศก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย แต่พอ
คิดถึงตอนที่ถูกเขาจูบระบายความเผ็ดให้แล้ว ใบหน้าที่ว่าร้อนอยู่แล้วก็ยิ่ง
ร้อนขึ้นไปอีก ดีทวี่ ่าในรถมืด ไม่อย่างนั้นหล่อนคงไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรดี
ยังไม่ทันที่ละมุนมาศจะได้ตอบอะไร คนข้าง ๆ ก็พูดต่อว่า
“ไข่เจียวเค็มตั้งใจหรือว่าอุบัติเหตุ” คำพูดลอย ๆ แต่คนฟังสะดุ้ง
เล็ก
“เอ่อ...คือ”
“ไม่เป็นไร ครั้งต่อไปลดเกลือลงหน่อยนะ จะอร่อยมากทีเดียว”
328/559

เขารูห้ รือนี่ น่าขายหน้าจริง ๆ และก็ไม่รู้ว่าประชดหรือเปล่าเรื่อง


ความอร่อย
แต่ละมุนมาศก็รู้สึกผิดมากยิ่งขึ้นไปอีก ที่เขาไม่ได้ว่าหล่อนแรง ๆ
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าถูกแกล้ง
“ลืมบอกไปว่าผมทานเผ็ดได้ น่าจะมากกว่าคุณด้วยซํ้า ว่าแต่ปาก
หายเผ็ดหรือยัง” คนในความมืดนั่งเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น มีแต่
ความเงียบไม่มีคำตอบ
“ทำไมเงียบไปหือ” เขาหันหน้ามาแวบหนึ่งแล้วก็หันกลับไปตามเดิม
“ก็ไม่มีอะไรจะพูดนีค่ ะ คุณพูดหมดแล้ว” คนถูกย้อนได้แต่หัวเราะหึ

“วันอาทิตย์หน้าทีบ่ ้านจะจัดงานวันเกิดให้แกรนด์มาของผม อยากให้
คุณไปร่วมงานด้วย ผมเชิญคุณ เพราะอยากให้คุณรู้จักคนในครอบครัว
ของผม คุณจะว่าอย่างไร งานจัดวันเสาร์ตอนเย็น ๆ”
พอเขาพูดถึงงานวันเกิด ละมุนมาศก็นึกถึงวันเกิดของคุณยาย
กลีบบัวขึ้นมาทันใด
หล่อนยังไม่ได้ลางานกับมิสมินต์เลย
ละมุนมาศนึกดีใจที่เขาอยากให้หล่อนไปเจอครอบครัวของเขา ถึงแม้
จะรู้สึกว่ามันเร็วไปสักนิด เขาขอคบหล่อนไม่นานก็จะพาไปรู้จักกับ
329/559

ครอบครัว หล่อนยังไม่พร้อม และอีกอย่างหล่อนก็รับปากที่จะไปงาน


วันเกิดของคุณยายกลีบบัวแล้ว
“ฉันคงไปไม่ได้ค่ะ เพราะว่ามีงานวันเกิดของญาติผู้ใหญ่ที่ฉัน
เคารพนับถือต้องไปร่วมงาน ขอโทษด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไร”
ละมุนมาศนึกขอบคุณที่เขาเข้าใจง่าย ๆ ไม่ดื้อดึงหรือว่าบังคับให้
หล่อนยุ่งยากใจ
“เอ่อ ปล่อยมือก่อนได้ไหมคะ ใกล้จะถึงบ้านแล้ว”
เขาพยักหน้าให้แล้วก็ยกมือหล่อนขึ้นจุ๊บก่อนที่จะปล่อย
หัวใจดวงน้อยลอยฟูฟ่องเลยทีเดียวกับการกระทำของเขา รู้สึก
อบอุ่น...จนไม่อยากที่จะดึงมือกลับ
เขาเดินไปส่งหล่อนถึงประตูหน้าห้อง พร้อมกับบอกว่า
“วันนี้ไม่เข้าห้องนะ”
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” รีบบอกขอบคุณและแทรกตัวเข้าไปในห้อง
พอดันประตูให้ปิดคนตรงหน้าก็ยื่นออกมาดันเอาไว้ พร้อมกับเบียดตัวเอง
เข้ามาในห้อง คว้าร่างของหล่อนเข้าสู่อ้อมกอด ประทับริมฝีปากลงมาที่
เรียวปากอิ่มอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะผละออกห่างหันหลังกลับปิดประตูห้อง
ให้ ทิ้งให้คนโดนจูบหน้าร้อนผ่าวหัวใจระรัวเขินอายอยู่คนเดียว
330/559

แอบนึกว่าจะไม่มีกู๊ดไนต์คิสเสียแล้ว ทำไมหล่อนถึงได้รู้สึกดีทุกครั้ง
ที่เขาจูบก็ไม่รู้
คืนนั้นกว่าจะหลับตาลงได้ ละมุนมาศก็พลิกตัวกลับไปกลับมา ยก
มือขึ้นกอดรัดตัวเองเอาไว้ไม่รู้กี่ท่าต่อกี่ท่า ภาพที่เพิ่งจะเกิดขึ้นก็ไม่
ลบเลือนหายไปจากสายตา
รู้สึกอบอุ่นหัวใจขนาดนี้เรียกได้ว่าเป็นความรักหรือยังนะ
ทุกครั้งที่มาที่นี่ ‘คาสิโน’ คุณละมุดให้เหตุผลกับตัวเองว่าเพื่อ
เสี่ยงโชค เพื่อเงินก้อนใหญ่ บางครั้งก็มาเพื่อผ่อนคลายความรู้สึก
ตึงเครียด ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ชีวิตที่อยูต่ ัวคนเดียวเปลี่ยว
เหงาและโดดเดี่ยว การมาที่นี่ทำให้ได้เจอะเจอผู้คน ความเหงาก็หายไป
ถึงแม้ว่าทุกครั้งที่มาเล่นมักจะเสียมากกว่าที่จะได้ เสียหลายครั้งเพื่อที่จะได้
ครั้งเดียว ถ้าโชคดีมากก็ได้มาก ถ้าโชคดีน้อยก็ได้น้อย
ครั้งนี้กเ็ ช่นกัน หลังจากที่ทำงานล่วงเวลามาหลายวัน ทำให้คุณ
ละมุดไม่ได้ไปผ่อนคลาย วันนี้เป็นวันเงินเดือนออก พอเลิกงานดึกคืนนั้น
คุณละมุดก็ไม่เสียเวลาตรงไปยังกาสิโนเจ้าประจำริมทะเลทันที
ที่นั่นคุณละมุดก็ได้พบเพื่อนฝูงหลายคน ส่วนมากจะเป็นเจ้าหนี้
ทั้งนั้น ทั้งเจ้าหนี้เก่าเจ้าหนีใ้ หม่ แต่ก็ไม่มใี ครทวงหนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าจะ
เป็นการขัดลาภ คุณละมุดก็เลยสบายใจว่าจะไม่มีเจ้าหนี้คอยตามทวงหนี้
331/559

ภายในห้องโถงใหญ่โตกว้างขวางนี้ เมื่อเข้าไปแล้วผู้เล่นจะไม่รู้
กลางวัน กลางคืน เพราะแสงสว่างที่สมํ่าเสมอ ผู้คนที่มาเล่นหรือว่าแสวง
โชคก็ไม่เคยนึกเหนื่อยหรือว่าอ่อนเพลีย บางคนสามารถที่จะเล่นข้ามวัน
ข้ามคืนได้เลยทีเดียว
สถานที่แห่งนี้ให้ความสุขและเพลิดเพลินกับคุณละมุดเป็นอย่างมาก
นั่งเล่นแรก ๆ ก็ได้เรื่อย ๆ ใบหน้าของนางก็เลยยิ้มแย้มแจ่มใส แต่พอ
เล่นไปสักพักก็เริ่มเสีย และก็มไี ด้บ้างเสียบ้าง หลัง ๆ จะหนักไปทางเสีย
กับเสีย ทำให้คุณละมุดรู้สึกหงุดหงิดจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่ นึกถึงเงินเดือนที่
เพิ่งจะได้รับวันนี้และก็หมดไปกว่าครึ่งค่อนแล้ว สุดท้ายเลยขอตัวเพื่อน
ร่วมวงออกไปหามุมสูบบุหรี่คลายความกดดัน
สูบบุหรีไ่ ป มองฝ่าความมืดมิดเวิ้งว้างของทะเลไปด้วย พอเสียเงิน
คุณละมุดก็เริ่มที่จะคิดถึงหนี้สินที่มีอยู่ งานที่ทำ เงินเดือนที่ไม่พอใช้หนี้
ยืมใครต่อใครจนหนีหน้ากันไปหมด คิดแล้วก็เครียด เครียดจนบางครั้ง
ทานอาหารแทบจะไม่ลง คิดจะไปกู้เงินในระบบก็ทำไม่ได้ เพราะว่าไม่มี
เครดิตอะไรเลย ทำงานเงินเดือนก็แค่นิดหน่อย พอเลี้ยงตัวอย่าง
กระเหม็ดกระแหม่
คิดแล้วเครียดจริง ๆ จะทำอย่างไรต่อไปดี ทรัพย์สินก็ไม่มจี ะขาย
แล้ว หมดแล้ว อดทีจ่ ะคิดถึงอดีตสามีที่เสียชีวิตไป ทิ้งให้นางอยูก่ ับเงิน
มากมายที่ในชีวิตไม่เคยได้แตะต้อง ทำให้หลงเพลิดเพลินไปกับสิ่งยั่วยวน
ในทางไม่ดีทั้งสิ้น ทั้งไพ่ ทั้งบ่อน ทั้งม้าแข่ง จนเงินที่มีหายวับไปกับตา
332/559

แถมสามีคนใหม่ที่เจอกันในบ่อนก็นึกว่ารวย แต่งงานกันแล้วถึงได้รวู้ ่า
มีแต่ตัว กว่าจะรู้ว่าหลงผิดก็สายเกินไปเสียแล้ว
มันเป็นเวรกรรมอะไรกันหนอ ชีวิตถึงได้ตกระกำลำบากอย่างนี้ ถ้า
โชคดีได้ก้อนใหญ่สักก้อนก็คงจะดี จะได้นำเงินไปใช้หนี้ เริ่มต้นชีวิตใหม่
ไม่รู้ว่าสายเกินไป หรือยัง เพราะตอนนี้หนี้สินท่วมท้นจนไม่รวู้ ่าจะหาเงิน
ที่ไหนมาใช้เขา ร่างกายก็อ่อนล้าลงทุกวัน อายุก็มากขึ้น
หลายครั้งที่คุณละมุดคิดอยากกลับไปตั้งหลักที่เมืองไทย แต่พ่อแม่ก็
ไม่มแี ล้ว พี่ชายพี่สะใภ้ที่ไม่เคยได้ติดต่อกันมากว่าสิบปีจะยังต้อนรับกลับ
บ้านหรือเปล่าก็ไม่รู้ เมื่อตอนที่อยูด่ ีมีสุข ก็ไม่เคยที่จะคิดถึงพวกเขา มาถึง
ตอนนีค้ ิดถึงก็คงจะสายเกินไปเสียแล้ว และอีกอย่างไม่รวู้ ่าไปอยูเ่ มืองไทย
จะทำงานอะไร วุฒิการศึกษาก็ไม่มี อยู่ที่นี่ยังมีงานทำพอกินพอใช้ไปวัน ๆ
“ละมุดเป็นไงบ้าง” เสียงทักที่ดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้คุณละมุดที่
กำลังสูบบุหรี่พ่นควันไปคิดไปต้องหันกลับไปส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้
“ตอนแรกก็ได้ดีอยู่ แต่หลัง ๆ เริ่มหมดจนต้องชักทุน แล้วยูล่ะลิซ่า”
ลิซ่าเป็นเพื่อนรุ่นน้องชาวเวียดนามที่รู้จักในวงไพ่
“ก็เริ่มเสียเหมือนกัน เลยต้องออกมาพักหายใจก่อน เล่นบ่อนใหญ่ก็
อย่างนี้แหละ ได้ก็ได้เร็ว เสียก็เสียเร็ว นี่ฉันหมดไปเกือบพันแล้ว เล่นไป
ได้ไม่ถึงชั่วโมง ไม่เหมือนเราเล่นกันเองตาละไม่กเี่ หรียญ นั่งทั้งคืนยังหมด
333/559

ไม่ถึงร้อย นี่เล่นแป๊ปเดียวกระเป๋าเบาไปเลย” แล้วเสียงที่ปกติก็เปลี่ยนเป็น


เสียงกระซิบแทน พร้อมกับคนพูดก็เอียงหน้าเข้ามาจนชิด
“นี่คุณได้ข่าวหรือเปล่า ที่อีเดนน่ะมีบ่อนเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ คุณเวียงเขา
บอกมา เห็นว่าเขาไปเล่นได้ตั้งหลายหมื่นแน่ะ เพิ่งเปิดได้เดือนสองเดือน
นี่เอง ถ้าไปกันเองไม่มคี นทีร่ ู้จักเขาไม่ให้เข้านะ จะต้องมีคนที่รู้จักและยื่น
บัตรพิเศษเท่านั้นถึงจะเข้าได้ เขาจะเปิดตอนทีร่ ้านอาหารปิดแล้ว เล่นกัน
ได้ตลอดคืนเลย สนใจไหม”
“สนใจสิ จะไปกันเมื่อไร” ความสว่างวาบเข้าสู่สมอง คุณละมุดรู้สึก
ได้ถึงความกระตือรือร้นทันใด
“เอาไว้ฉันจะโทร. บอกนะ ต้องติดต่อคุณเวียงก่อน เตรียมทุนเอาไว้
ละกัน”
“ได้ เออ ฉันคงจะต้องกลับแล้วละ ตีสามแล้ว พรุ่งนีต้ ้องทำงาน
แต่เช้าด้วย ไปก่อนนะ แล้วเจอกัน บาย” คุณละมุดบอกลาเพื่อนรุ่นน้อง
แล้วขึ้นรถขับออกมา และก็คิดเสียดายเงินที่เสียไป ตอนแรกที่เล่นก็ได้
เรื่อย ๆ จนทำให้ลืมตัว และก็อยากได้เพิ่มมากขึ้นอีกก็เลยลงเงินเพิ่มขึ้น
หนักมือขึ้นเล่นไปเล่นมา เงินตรงหน้าก็เริ่มหดหายไปเรื่อย ๆ จนต้อง
ตัดสินใจหยุด นึกดีใจทีห่ ยุดทัน ไม่อย่างนั้นเงินที่เพิ่งจะออกมา วันนีค้ ง
หมด และก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า
ถ้าหยุดเล่นตอนที่ได้เงินก็น่าจะดี
334/559

คิดได้กต็ ่อเมื่อมันหมดไปแล้ว คิดแล้วก็หงุดหงิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้


หลายครั้งทีค่ ิดอยากจะเลิก แต่ก็ทำไม่ได้สักที เวลาหายหน้าหายตาไป
เพื่อน ๆ ก็โทร. มาชวน ถึงแม้จะบอกว่าไม่มเี งินเล่น เพื่อนฝูงก็ให้ยืมโดย
ไม่ต้องขอ เป็นอย่างนี้ทุกครั้งทำให้ตัดใจไม่ได้สักที
29
ไม่มีปัญหา

ละมุนมาศปล่อยให้คนตัวเล็กวิ่งเล่นกับเด็ก ๆ คนอื่นรอเพื่อนสนิทที่
ยังเดินทางมาไม่ถึง เห็นใบหน้าเล็กที่สดใสของน้องสาวแล้วหัวใจของ
ละมุนมาศก็ปวดร้าวนัก
ในวันอาทิตย์ที่สดใส แสงแดดส่องสว่างจัดจ้า ท้องฟ้าเป็นสีครามมี
เมฆสีขาวแต่งแต้มให้สวยงาม ทำให้ความรู้สึกเวิ้งว้างหายไป แต่ละมุน
มาศกลับรู้สึกเหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจเลยทีเดียวก็ว่าได้ เหนื่อยทาง
ร่างกายก็เพราะว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาหล่อนต้องวิ่งเข้าห้องนํ้าไปหลายรอบจน
แทบหมดแรง
ส่วนเหนื่อยใจก็คือ เมื่อตอนเช้ามืดประมาณตอนตีสี่ มารดามาเคาะ
ประตูเรียกด้วยท่าทางเหนื่อยเพลียหน้าตาหมองคลํ้าอิดโรยราวกับไม่ได้
พักผ่อนมาหลายวัน ถามไถ่ทุกข์สุขมารดาก็ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก แต่
สิ่งที่มารดาสนใจก็คือเงิน เศร้าใจจนบอกไม่ถูก แต่ในเมื่อมารดามาหาก
ลางดึกอย่างนี้ ละมุนมาศก็ให้ตามที่ขอ สองพันเหรียญ พร้อมกับตัดสินใจ
บอกกับมารดาว่า
336/559

“หนูไม่มเี งินที่จะให้แม่ได้บ่อย ๆ นะคะ ที่ให้แม่วันนีน้ ี่เป็นเงินที่หนู


เก็บเอาไว้ว่าจะพาฟีไปเที่ยวซัมเมอร์นี้ เอาอย่างนี้ดไี หมคะ ต่อไปนี้หนูจะ
ให้แม่เป็นเดือนเดือนละหนึ่งพันเหรียญ แม่ให้ที่อยู่หรือว่าเลขที่บัญชีทิ้งไว้
แล้วหนูจะจัดการให้ทุกเดือน”
เท่านั้นเองมารดาก็โกรธปึงปัง
“เงินหนึ่งพันเหรียญเท่านั้นจะพอยาไส้อะไร เงินให้แม่ไม่มี แต่ฉัน
เห็นแกเพิ่งจะซื้อรถใหม่ เช้งเชียว ท่าทางจะแพงน่าดู” ละมุนมาศได้แต่
ท้อใจ ก่อนที่จะบอกความจริงว่า
“ที่แม่เห็นน่ะเป็นรถเช่า เช่าเขามาขับไม่กี่วันตอนทีร่ ถหนูเข้าอู่ รถ
ซ่อมเสร็จก็เอาไปคืนเขาแล้ว ไม่ใช่รถใหม่อย่างที่แม่เข้าใจหรอก ถ้าไม่เชื่อ
แม่ไปดูได้ รถหนูจอดอยู่หน้าตึก ส่วนเรื่องเงินหนูอยากให้แม่ประหยัด
บ้าง” หลุดปากออกไปอย่างที่ใจคิด ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากจะพูดกับมารดาอย่าง
นั้น
“แกเป็นลูกอย่ามาสั่งสอนฉัน” มารดาขึ้นเสียงดังอย่างโกรธจัดก่อนที่
จะลดเสียงลง เมื่อนึกได้ว่าลูกสาวคนเล็กหลับอยู่ในห้อง
“หนูขอโทษค่ะ หนูแค่บอกแม่เท่านั้นเองไม่ได้สอน แม่รู้ไหมคะว่า
เงินหนึ่งพันเหรียญเป็นค่าอาหารของหนูและฟีได้ตั้งสามเดือนทีเดียว”
“ฉันไม่พูดกับแกแล้ว ช่วยเหลือแม่เชื้อเท่านี้แกบ่นซะมากมาย ฉันมี
เงินเมื่อไรจะเอามาคืนให้ แกจะได้ไม่ลำเลิกบุญคุณทีหลัง” มารดาตอบ
337/559

กลับอย่างฉุนเฉียว เป็นอย่างนีท้ ุกครั้งไป เมื่อมารดาไม่สามารถโต้ตอบกับ


ความเป็นจริงได้ก็จะสะบัดหน้าจากไป
เมื่อคืนมารดาก็สะบัดหน้าออกไปจากห้องพร้อมเงินสองพันเหรียญ
ไม่แม้แต่จะแวะเข้าไปดูลูกสาวคนเล็ก ทำให้ละมุนมาศรู้สึกสงสารคนตัว
เล็กมากนัก หัวใจก็ เจ็บปวดแทนจนรู้สึกว่าไม่อยากให้คนตัวเล็กรับรู้อะไร
เกี่ยวกับมารดาอีกต่อไป
ต่อไปนี้หล่อนจะต้องหาเงินเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งพันเหรียญ เพื่อให้มารดา
ตามที่ได้บอกไว้
คงต้องหางานพิเศษเพิ่มขึ้น อาจจะต้องของานที่คลินิกเพิ่ม ทำมาก
ชั่วโมงขึ้นในตอนเย็นวันธรรมดาและก็ตอนเช้าวันเสาร์ หรือไม่ก็ขอเพิ่มวัน
ทำงานที่เวียดเฮาส์ แต่ถ้าไม่มีงานเพิ่มให้ล่ะ จะทำอย่างไร
คิดถึงเรื่องงานเรื่องเงินแล้วละมุนมาศก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่าง
แรง
ทำไมอะไร ๆ มันถึงได้ประดังเข้ามา ตอนแรกที่มีคนตัวเล็กมาให้
เลี้ยงหล่อนก็นั่งถอนหายใจ หวั่นวิตก กลัวเลี้ยงน้องได้ไม่ดี กลัวไม่มเี งิน
เลี้ยงน้อง กลัวไม่มเี วลาให้ ตอนนี้เริ่มหายใจคล่องขึ้นแล้วกลับมีเรื่อง
มารดาเข้ามาอีก
มันก็คงต้องสู้กันต่อไป ทำให้ถึงที่สุด เพราะถึงอย่างไรก็ทิ้งไม่ได้ทั้ง
แม่ทั้งน้อง
338/559

ละมุนมาศได้แต่ปลอบใจตัวเอง
“มามีค้ ะ คารีนากับคุณยายมาแล้วค่ะ” เสียงเล็ก ๆ เรียกขึ้นอย่าง
ยินดี พร้อมกับเจ้าของร่างก็วิ่งตรงไปหาเพื่อนสนิท ละมุนมาศสลัด
ความคิดทั้งหลายออกไปจากหัวสมอง เดินไปหาคุณยายกลีบบัว ยกมือ
ไหว้ทักทาย พร้อมกับเข้าไปกอดรัดร่างบางของคุณยายเอาไว้ราวกับจะหา
ที่พักพิง และพอรู้สึกตัวละมุนมาศก็ผละออกส่งยิ้มทักทายกับวัน
“มามี้ ฟีกับคารีนาไปเล่นก่อนนะคะ” เสียงเล็ก ๆ ถามขึ้นทันทีทที่ ำ
ความเคารพผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว ละมุนมาศพยักหน้าให้กับคนตัวเล็ก
สองร่างน้อย ๆ ก็วิ่งทันที
“คุณยายเป็นอย่างไรบ้างคะ สบายดีหรือเปล่า” ละมุนมาศหันไปทาง
คุณยายกลีบบัว
“ยายสบายดี หนูมุนล่ะจ๊ะ” คุณยายหันไปถามคนที่เดินอยูข่ ้าง ๆ ที่
วันนี้ คุณยายรู้สึกได้ว่า หญิงสาวข้างกายมีสายตาและใบหน้าทีไ่ ม่ค่อย
สดใสเท่าไร ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่หญิงสาวรุ่นหลานคนนีจ้ ะสดใสร่าเริง
ราวกับนกน้อยที่กำลังบินร่อนถลาลมในยามที่พระอาทิตย์อ่อนแสง
“มุนสบายดีค่ะ” ปากบอกออกไปแต่ในใจหนักอึ้งในหลาย ๆ เรื่อง
มันเป็นเรื่องที่พูดไม่ได้
“แต่หน้าตาหนูดูไม่ค่อยดีเลย พูดให้ยายฟังได้นะ”
339/559

“ขอบคุณค่ะคุณยาย อาจจะเป็นเพราะว่ามุนนอนไม่ค่อยหลับมั้งคะ
เมื่อคืนมุนทานอาหารรสจัดก็เลยท้องเสีย วิ่งเข้าห้องนํ้าหลายรอบทีเดียว
ค่ะ”
“แล้วทำไมทานเผ็ดนักล่ะจ๊ะ ปกติหนูไม่ทานเผ็ดนี่” คุณยายถาม
กลับอย่างสงสัย คนถูกถามนิ่งไปสักพักก่อนที่จะเล่าความจริงให้คุณยาย
ฟัง เมื่อคุณยายกลีบบัวได้ฟังแล้ว ก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ คิดถึงหลานชาย
สุดที่รักขึ้นมาทันที มองหน้าคนเล่าก็เห็นแววตาหวานคูน่ ั้นเต้นระริกทีเดียว
ไม่ได้หม่นหมองสักนิดยามที่เจ้าตัวพูดถึงเรื่องนี้ แม้ว่าจะมีท่าทีอิดโรยบ้าง
“ไม่รปู้ ่านนี้เจ้านายจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้” รำพึงออกมาด้วยความ
เป็นห่วง ทำให้คุณยายแอบยิ้ม
แกล้งเขาแล้วกลับมาเป็นห่วง กลับไปนีต่ ้องโทร. ไปถามอาการสัก
หน่อย
“คงไม่เป็นไรหรอกมั้งจ๊ะ ผู้ชายธาตุแข็งไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอก”
“แต่เขาไม่ว่ามุนสักคำนะคะคุณยาย บอกแต่ว่าครั้งต่อไปให้ลดเกลือ
ใน ไข่เจียวลงหน่อย นั่นทำให้มุนรู้สึกผิดจนนอนไม่หลับเลยทีเดียว”
คุณยายได้ฟังคำนั้นแล้วก็ต้องแอบยิ้ม
โกรธได้ไง อุตส่าห์ทำอาหารให้กินขนาดนั้น หลานชายคุณยาย
เอาจริงใช่ไหมเนี่ย ถึงได้ตามตอแยไม่ยอมปล่อยอย่างนี้
340/559

“อย่าคิดมากเลยจ้ะ เก็บเอาไว้เป็นความทรงจำที่ดี ๆ ดีกว่า แล้วหนู


มุนทานยาหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณยาย”
“ยายเกือบลืมถาม วันเสาร์หน้านีเ้ จ้านายเขาอนุญาตให้หยุดได้
หรือเปล่าจ๊ะ”
“ได้ค่ะ มิสมินต์น่ารักมากให้มุนหยุด”
“งั้นก็นี่จ้ะ ที่อยู่ของยาย” คุณยายยื่นกระดาษให้ ละมุนมาศรับมาดู
“ให้ยายส่งคนมารับไหม ขับรถไกลอยู่นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณยาย มุนขับรถไปกับฟีได้ค่ะ”
“งั้นก็ตามใจจ้ะ”
ส่วนเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองคนที่มุดตัวเข้าไปนั่งเล่นอยู่ในรถไฟ
เหล็กนั้น ก็กำลังคุยกันถึงเรื่องที่ได้คุยกันเอาไว้
“แดดดี้ของยูว่าไงบ้าง ตกลงให้ฟีเรียกแดดดี้ได้ไหม” คนอยากมี
แดดดี้ทวงถามขึ้น
“ได้สิ”
“จริงหรือ” ดวงตาเป็นประกายทีเดียว
“จริง แล้วมามี้ของฟีว่าไง”
“ได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
341/559

“ดีใจจังเลย ต่อไปคารีนาจะได้มมี ามีก้ ับแดดดี้ครบเสียที ฟีด้วย ว่า


แต่ฟไี ม่อยากไปอยู่กับคารีนาหรือ บ้านคารีนาหลังใหญ่นะ อยูก่ ันได้หลาย
คน คารีนาจะให้ฟีนอนในห้องด้วยกัน”
“บ้านคารีนาอยู่ไหน”
“อยู่ติดกับทะเลเลย ที่แอตแลนติกซิตี”
“โห ไกลจัง ฟีอยากไปอยู่ด้วย แต่คงจะไกลโรงเรียนและที่ทำงาน
ของมามี้ด้วย”
“ฟีก็ไปเรียนโรงเรียนเดียวกับคารีนาสิ”
“ฟีต้องเรียนเทควันโดตอนเย็น”
“ให้แดดดี้ของคารีนาหรือคนของแดดดีม้ าส่งก็ได้” อีกฝ่ายเสนอ
อย่างไร้ปัญหา
“ฟีต้องให้มิสซิสลีดูแล”
“ไปอยู่ที่บ้านคารีนาให้มิสไอวีดูแลเราสองคน”
และอีกหลาย ๆ ข้อเสนอตามมา
“เอาไว้ค่อยคิดได้ไหม เล่นก่อนดีกว่า”
คำว่าเล่นทำให้เพื่อนตัวเล็กเห็นด้วย รีบลุกออกจากรถไฟวิ่งตรงนำ
ไปทางชิงช้า
“ไปสวิง (Swing – ชิงช้า) กันดีกว่า”
342/559

“ที่ฟาร์มเขาทำอะไรบ้างคะ น่าสนใจจริง ๆ”
“ช่วงหน้าหนาวเขาก็จะเพาะพันธุ์พืช ผัก ดอกไม้ ต้นไม้ในกรีนเฮาส์
(Green House -โรงเรือนปลูกพืช) พอสปริง (Spring – ฤดูใบไม้
ผลิ) อากาศอุ่นขึ้นมาก็เอาออกมาขาย คนที่นี่เขาชอบดอกไม้ ต้นไม้ ทั้ง
ไม้ดอกไม้ประดับ ส่วนซัมเมอร์ (Summer – ฤดูร้อน) ก็ปลูกผักขาย
เช่น พริกตุ้ม ข้าวโพด มะเขือเทศ แตงกวา ปีนี้มพี ืชผักของไทยเราขาย
ด้วย ทั้งพริกขี้หนู พริกชีฟ้ ้า ผักคะน้า โหระพา กะเพรา ของ สด ๆ จาก
ฟาร์มแม้ราคาสูง แต่ก็ขายได้ดีทีเดียว เมื่อก่อนมีเฉพาะลูกค้าฝรั่ง แต่ปีที่
ผ่านมามีลูกค้าเอเชียมากขึ้น ปากต่อปากบอกต่อ ๆ กันไป บางคนก็มา
เหมาเอาไปขายต่อที่ร้าน หรือไม่กเ็ อาไปขายในงานที่วัดไทยตามรัฐต่าง ๆ
ปกติพ่อค้าแม่ค้าพวกนี้เขาต้องล่องรถลงไปเอาพืชผักพวกนีท้ ี่ฟลอริดา เขา
ก็มาเอาที่นี่แทน วิ่งรถไม่ไกล ทุ่นค่านํ้ามันอีกด้วย”
“น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ ถึงว่านะคะ ที่นี่เด็ก ๆ ใฝ่ฝันอยากเป็น
ชาวนาหรือว่าเกษตกรกัน ไม่เหมือนเมืองไทยของเราที่เด็ก ๆ ไม่อยากเป็น
ชาวนา เพราะว่าชาวนายากจน”
“นั่นแหละ ที่นี่ชาวนาหรือว่าเกษตรกรเป็นคนส่วนน้อย ไม่แน่ใจว่า
ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า และรัฐบาลก็ดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี บางปีที่
ผลผลิตล้นตลาด ทางรัฐบาลไม่ให้ปลูกพืชผักนั้น ๆ เกษตรกรก็ไม่ต้อง
ปลูก แต่เขาก็ไม่เสียรายได้ เพราะว่ารัฐบาลจ่ายค่าทดแทนให้ไง ดีไหม”
343/559

“โห สุดยอด อย่างนี้นี่เอง งั้นมุนก็อยากเป็นเกษตรกรค่ะ” คนหน้า


หม่นเมื่อแรกเจอกำลังตื่นเต้นกับการเป็นเกษตรกรของที่นี่
“ปีหน้าว่าง ๆ ค่อยไปปลูกอะไรที่ฟาร์มกับยายนะ เมื่อสองปีที่ผ่าน
มาผลไม้พวกเชอร์รี แอปเปิล พีช แบล็กเบอร์รี สตรอเบอร์รีกอ็ อกผล เขา
ก็เปิดฟาร์มให้คนมาเที่ยวเก็บ เก็บได้เท่าไรก็ชั่งกิโลจ่ายเงิน”
“แล้วเก็บกินได้ไหมคะ”
“ได้จ้ะ ส่วนนั้นไม่คิดตังค์”
“โห อย่างนี้ก็ขาดทุนสิคะ กินเต็มท้องแล้วที่เหลือค่อยชั่งกิโล”
“ท้องคนเราไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมายหรอกจ้ะ และเขาก็เก็บค่ากิโล
ราคาแพงกว่าผลไม้ที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ตตั้งสองสามเท่าแน่ะ พวกนี้เวลา
เขามาเก็บ เขาไม่เก็บแค่พาวนด์ (Pound - หน่วยของการวัดการชั่ง)
สองพาวนด์หรอกจ้ะ เก็บกันเป็นสิบ ๆ พาวนด์กันเลยทีเดียว เอาไว้
แช่แข็ง ฝรั่งชอบทำพายทำขนม และผลไม้ของเราสดกว่า”
“นั่นสิคะ ไม่ต้องปลูก เก็บอย่างเดียว แถมยังได้ของที่สดใหม่กว่าที่
เขาเอามาวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ต ไม่รวู้ ่าเก็บมาตั้งแต่เมื่อไร รสชาติก็ดี
กว่ากันเยอะ คุณยายว่าไหมคะ”
“จ้ะ แล้วพอช่วงปลายฤดูร้อนต้นฤดูใบไม้ร่วงเขาก็จะเปิดฟาร์มอีก
ครั้งนี้ให้คนมาตัดฟักทองไปตกแต่งบ้านในช่วงฮาโลวีน ไม่ใช่แค่ตัด
344/559

ฟักทองอย่างเดียว หลานชายของยายยังแปลงฟาร์มให้เป็นสวนสนุกอีก
ด้วย เก็บค่าเข้าต่อหัวเมื่อปีที่แล้วสิบเหรียญ เด็กหญิงตํ่ากว่าสองขวบฟรี”
“โห ตั้งสิบเหรียญ แพงเหมือนกันนะคะ แล้วเด็ก ๆ ต้องโชว์บัตร
ประจำตัวด้วยหรือคะ”
“ไม่ต้องจ้ะ พ่อแม่โดยส่วนมากแล้วจะซื่อสัตย์ อาจจะมีบ้างที่คิดโกง
แต่มันเปอร์เซ็นต์น้อยมาก ๆ”
“ดีจังเลยค่ะ ความซื่อสัตย์นี่ต้องปลูกฝังกันตั้งแต่เด็ก ๆ เลยนะคะ
เท่าที่ได้ฟังคุณยายพูด รู้สึกว่าหลานชายของคุณยายจะเก่งมาก ๆ เลยนะ
คะ หัวธุรกิจสุด ๆ เลย ทำฟาร์มให้เป็นสวนสนุกก็ได้ด้วย มีแต่เงินกับเงิน
น่านับถือและน่ายกย่องที่สุดเลยค่ะ”
คุณยายก็แอบคิดในใจว่า
ถ้าคนข้าง ๆ รู้ว่าหลานชายคุณยายคือคนคนเดียวกับเจ้าของ
เวียดเฮาส์ มาเฟียในความสงสัย ทีเ่ พิ่งจะเจอฤทธิอ์ าหารไทยไปหมาด ๆ
จะยังชมอย่างนี้อยู่ หรือเปล่าก็ไม่รู้ คิดแล้วก็แอบเสียวสันหลัง ถ้าคนข้าง
ๆ รู้ความจริง คุณยายจะเสียเพื่อนรุ่นหลานที่น่ารักคนนี้ไปหรือเปล่าก็ไม่รู้
ได้แต่ภาวนาให้หลานชายจริงจัง
“ยายก็ว่าแพงนะ แต่หลานชายบอกว่าไม่แพงหรอก เขาว่าคุ้ม เข้ามา
แล้วเล่นได้ทั้งวัน บางที่มีแค่สวนสัตว์ให้เด็กเข้าไปดูยังเก็บตั้งสิบห้าเหรียญ
แน่ะ หลานชายของยายเขามีความคิดว่า ตอนนี้ฟาร์มต่าง ๆ เริ่มจะหายไป
345/559

หมดแล้ว เพราะมันเปลี่ยนเป็นเมืองเป็นที่อยู่อาศัยหมด เด็ก ๆ ที่เกิดมา


ในสมัยใหม่ก็จะไม่รู้จักฟาร์ม ว่าจริง ๆ แล้วฟาร์มทำอะไรได้บ้าง”
“มันก็จริงนะคะ เด็กสมัยนี้แทบจะไม่รู้จักคำว่าฟาร์มกันแล้ว เพราะ
เกิดมาก็ไม่เคยเห็น เห็นแต่คอมพิวเตอร์ ทีวี เกมสารพัดชนิด ของเล่น
พลาสติกเสียเป็น ส่วนใหญ่”
“นั่นแหละจ้ะ หลานชายของยายก็เลยทำส่วนหนึ่งเป็นที่เล่นของเด็ก
ๆ เช่น สไลเดอร์ ที่ต้องนั่งกระสอบป่านสไลด์ลงมา สูงตํ่าหลายขนาด
สำหรับเด็กในวัยต่าง ๆ กัน แล้วก็ยังมีไต่เชือก โหนเชือก ไต่และปีนป่าย
อะไรอีกมากมาย ที่เป็นเครื่องเล่นของเด็กในฟาร์มน่ะ อ้อ และก็มี
สวนสัตว์เปิดให้เด็ก ๆ เข้าไปสัมผัสกับสัตว์ เช่น แพะ แกะ นกอีมู ไก่
สารพัดชนิด มีการขายอาหารถูก ๆ ให้เด็กนำไปเลี้ยงสัตว์ด้วย ในร่มก็จะ
มี วัวนม หมู มีการโชว์รีดนมวัวด้วย เด็ก ๆ จะได้สัมผัสกับของจริง โดย
จะมีผทู้ ี่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้คอยดูแล และก็มรี ถไถลากกระบะปูฟางให้
คนนั่งชมรอบ ๆ ฟาร์ม สูดอากาศที่บริสุทธิ์ด้วยจ้ะ ขึ้นเนิน ลงห้วย ผ่าน
ถํ้าผีสิง สนุกมาก ปีที่แล้วคารีนาเล่นทั้งวันทุกวันหยุดเลยทีเดียว”
“ฟังดูน่าสนุกนะคะ แล้วมีคนมาเที่ยวเยอะไหมคะ”
“เยอะสิ คนทั่วทั้งรัฐแหละ และก็มมี าจากต่างรัฐที่ใกล้เคียงด้วย
ส่วนทางโรงเรียนแต่ละโรงเรียนก็จองมาเลยว่าจะเอาเด็กนักเรียนมาเที่ยว
เป็นฟิลด์ทริป (Field Trip – การเรียนหรือเก็บข้อมูลนอกสถานที่) เป็น
การเรียนรูน้ อกห้องเรียนไปด้วย เด็ก ๆ เราเก็บค่าเข้าแค่ยสี่ ิบเปอร์เซ็นต์
346/559

เท่านั้น และเด็ก ๆ พวกนี้เวลามาเที่ยว พ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายายก็ขับรถ


ตามมาด้วย มาดูแล ลูก ๆ เราก็ได้ค่าเข้าจากผู้ติดตามของเด็กด้วยไง”
“โห ได้ทั้งสองทางเลย ฟังแล้วก็ตื่นเต้นค่ะ รับรองว่าถ้ามุนเล่าให้ฟี
ฟัง จะต้องอยากไปแน่ ๆ ค่ะคุณยาย ว่าแต่ฟาร์มเปิดเมื่อไรคะ มุนจะได้
จองวันลาล่วงหน้ากับมิสมินต์แต่เนิ่น ๆ”
“ฟาร์มเปิดวันที่ ๒๕ กันยายนถึงสิ้นเดือนตุลาคม ฮาโลวีนจ้ะ”
“แต่สำหรับมุน มุนอยากจะไปเก็บเชอร์รีและก็แบล็กเบอร์รคี ่ะ ของ
ชอบของ มุนเลย อันนี้ไปวันหยุดได้ แต่ถ้าพาฟีไปเล่นของที่ว่า มุนคงจะ
ต้องจองวันลากับมิสมินต์เอาไว้เลยดีกว่า”
“ไปพักกับยายนะ” คุณยายรีบรวบรัด
จริง ๆ แล้วท่านคิดเอาไว้ว่า วันหยุดเสาร์อาทิตย์ท่านจะขออนุญาต
หญิงสาว ให้ฟีนิกซ์ไปค้างคืนที่ฟาร์มกับเหลนสาวของท่าน
ละมุนมาศยังไม่ทันได้ตอบ เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อดังขึ้น
เสียก่อน ก็เลยต้องขอตัวจากคุณยาย และเดินห่างออกไปเพื่อรับโทรศัพท์
30
ได้ไหม...

“ซัมเมอร์นี้ยูจะไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่าคารีนา” ฟีนิกซ์ถามเพื่อนสาว
ตัวน้อยที่กำลังถีบขาส่งแรงให้ชิงช้าขึ้นไปสูงที่สุด
“ไม่รู้สิ ฟีไปไหนหรือ” อีกฝ่ายตะโกนตอบ
“มามีจ้ ะพาไปเที่ยวดิสนีย์ ฮอลลีวูด ทะเล ที่แคลิฟอร์เนีย” พอ
ได้ยินคำตอบ ขาที่ถีบสุดแรงก็ลดใบหน้าเล็ก ๆ ลง บ่งบอกถึงอาการ
ตื่นเต้น
“อูย โชคดีเป็นที่สุด คารีนาอยากไปจัง ต้องสนุกแน่ ๆ เลย”
“ยูกใ็ ห้แดดดี้พาไปสิ ไปพร้อมกันนะ เราจะได้เล่นด้วยกันไง เขามี
เครื่องเล่นเยอะแยะเลยละ สนุก ๆ ทั้งนั้น”
“ฟีเคยไปมาแล้วหรือ”
“ยัง” คำตอบนั้นทำให้เพื่อนตัวน้อยต้องเลิกคิ้ว อีกคนก็เลยต้อง
ไขข้อข้องใจ
“มามี้เปิดคอมพิวเตอร์ให้ดูน่ะ”
348/559

“งั้นคารีนาจะขอให้แดดดี้พาไป”
“ดีเลย”
“ฟีมีบอยเฟรนด์หรือยัง” จู่ ๆ เพื่อนตัวน้อยก็เปลี่ยนเรื่องคุย
“ยัง มามี้บอกว่ายังไม่ถึงเวลา คารีนามีแฟนแล้วหรือ”
“ยังหรอก แต่ว่าเมื่อวันก่อนสเตอริงเพื่อนในห้องที่เพิ่งย้ายมาใหม่
เป็นบัดดี้ ของคารีนาเอง มาขอให้คารีนาเป็นเกิร์ลเฟรนด์”
“แล้วยูตอบว่าไง”
“ก็บอกว่าต้องถามแดดดี้ก่อน สเตอริงก็เลยหน้ามุ่ยกลับไป”
“แล้วยูถามแดดดี้หรือยัง”
“ยัง แดดดี้งานยุ่ง กลับบ้านมืดทุกวัน”
เมื่อกดปิดโทรศัพท์แล้ว ละมุนมาศเดินกลับไปหาคุณยายกลีบบัว
พร้อมกับคำว่า ‘คิดถึง’ ที่ทางปลายสายส่งมาให้ยังอื้ออึงอยูใ่ นหัวสมอง
และส่วนทีล่ ึกที่สุดของหัวใจ นี่ถ้าหล่อนไม่บอกว่าคุยกับญาติผู้ใหญ่อยู่
เขาคงจะไม่ยอมวางสายเป็นแน่
คนอะไรลามกซะไม่มี แค่เสียงในโทรศัพท์ของเขาก็ทำให้หล่อนหัวใจ
เต้นแรงได้ขนาดนี้ คำพูดอ่อนโยนผสมอ่อนหวานนั่นอีก รบกวนหัวใจดี
แท้
349/559

“ตกลงไปพักกับยายนะ” คุณยายยํ้าอีกครั้งหลังจากที่คนตัวบางเดิน
กลับมา
“มุนเกรงใจค่ะคุณยาย มุนขับรถไปกลับดีกว่า ไปเช้าเย็นกลับให้ฟี
ได้เล่นสนุกให้เต็มที่”
“หนูยังมีเวลาคิด มันยังไม่ถึงเวลา ว่าแต่ซัมเมอร์นี้หนูฟีไป
ซัมเมอร์แคมป์ หรือเปล่าจ๊ะ”
“ปีนี้มุนว่าจะให้ฟีอยู่บ้านค่ะคุณยาย ให้มสิ ซิสลีดูแล สงสารน้องค่ะ
ไม่อยากให้ไปอยูแ่ คมป์ทั้ง ๆ ที่มุนก็ชอบนะคะ ฟีได้ทำอะไรหลายอย่าง
แต่เมื่อปีที่แล้วฟีเป็นหวัดตั้งหลายรอบ เดี๋ยวเป็น ๆ หาย ๆ ติดมาจากที่
แคมป์นั่นแหละค่ะ”
“เด็ก ๆ อยู่รวมกันก็อย่างนี้แหละ เด็กบางคนไม่สบาย พ่อแม่ต้อง
ทำงาน ไม่มีเวลาหยุดดูแล ก็ให้ยาลูกกินแล้วก็ส่งเข้าแคมป์ ให้หนูฟอี ยู่
บ้านก็ดีจ้ะ อ้อ...แล้วเรื่องไปเที่ยวแอลเอว่าไง จะให้ยายจองตั๋วเครื่องบิน
ให้หรือเปล่า”
“มุนคงต้องรบกวนคุณยายนะคะ เพราะว่ามุนไม่รู้จักใครเลย ตั้งแต่
มาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เดินทางไปไหนไกล ๆ ตั้งหลายปีมาแล้ว”
“ไม่รบกวนเลยจ้ะ ยายเต็มใจเสมอ ครั้งนีย้ ายจะจัดการให้ แล้วยาย
จะแนะนำให้รู้จักกับคนขายตั๋วนะจ๊ะ แต่ก่อนยายซื้อกับแม่เขาตลอด พอ
แม่แก่แล้วลูกสาวก็ทำต่อ ก็เลยรู้จักกันยาวนาน”
350/559

“ขอบคุณค่ะคุณยาย”
แล้วละมุนมาศก็บอกวันเดินทางไป-กลับ ให้คุณยายได้รับทราบ ซึ่ง
คุณยายก็บอกว่าจะจัดการให้ รวมทั้งเรื่องของการจองโรงแรมด้วย
หลังจากที่ได้คุยรายละเอียดต่าง ๆ กันแล้ว โดยคุณยายจะจองโรงแรมที่
ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับสถานที่ที่สองพี่น้องจะไปเที่ยวให้
“ส่วนเรื่องตั๋วเครื่องบิน สมัยนี้เขาไม่ออกตั๋วเป็นใบ ๆ กันแล้วนะหนู
มุน มันเป็นอีทิกเกต (E-Ticket หรือชื่อเต็มว่า Electronic Ticket
คือตั๋วเครื่องบินรูปแบบใหม่ที่สายการบินต่าง ๆ ได้พัฒนาบริการมาให้
บริการแก่ลูกค้า เพื่อลดต้นทุนและขจัดปัญหาด้านต่าง ๆ ในการเดินทาง
ของผู้โดยสารให้ลดลงมากที่สุด ทั้งปัญหาที่เกิดจากผู้โดยสารเอง ปัญหาที่
เกิดจากสายการบิน ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว และ
บริการที่ทันสมัยเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า) คนขายตั๋วเขาจะส่งแต่ใบ
รายการเดินทางมาให้ เราก็ไปเช็กอินที่ สนามบินได้เลย สมัยนี้อะไรมันก็
ง่าย เช็กอินก็ไม่ต้องมีพนักงานมาเช็ก เราเช็กได้เองอีกต่างหากเหมือนกับตู้
เอทีเอ็มนั่นแหละ”
“ทันสมัยจริง ๆ นะคะคุณยาย แล้วมุนจะทำเป็นหรือคะนี่” คน
ไม่ค่อยได้เดินทางเริ่มกังวล
“อย่ากังวลจ้ะ เราก็ทำตามที่เขาบอกหน้าจอนั่นแหละ ง่ายยิ่งกว่าปอก
กล้วยอีก ปอกกล้วยบางครั้งเล็บยังเปื้อนยางเลย อันนี้รับรองว่าไม่เปื้อน”
คุณยายพูดไปหัวเราะไปด้วย
351/559

“ไม่ต้องห่วงนะ พนักงานสายการบินก็จะคอยช่วยเหลือผู้โดยสารอยู่
แถว ๆ นั้นจ้ะ”
“ค่อยยังชั่วค่ะ ไม่งั้นมุนแย่แน่ ๆ”
“แล้วเพื่อนหนูมุนรู้แล้วหรือจ๊ะว่าหนูมุนจะไปหา”
“ยังไม่ทราบหรอกค่ะ มุนไม่อยากให้เพื่อนต้องเตรียมต้อนรับอะไร
ก็เลยว่าไปถึงที่นั่นแล้วจะโทร. ไปหา นัดเจอกันแบบเซอร์ไพรซ์น่าจะดี
กว่า” ใบหน้าหวานยิ้มอย่างซุกซนกับความคิดของตัวเอง ในขณะที่คุณ
ยายกลีบบัวยิ้มพร้อมกับคิดว่า
งานนี้คงได้เซอร์ไพรซ์กันหลายต่อ
“ดีจ้ะ เพื่อนหนูมุนต้องดีใจมากแน่ ๆ”
“ค่ะคุณยาย”
“มามีด้ ูนี่ ดูนี่ ฮูเรย์” เสียงเรียกของเด็กหญิงทั้งสองที่กำลังไกวชิงช้า
ให้ตัวเองไปอยู่ในจุดที่สูงที่สุดเรียกให้ละมุนมาศหันไปดู
“จับแน่น ๆ นะฟี คารีนาด้วยจ้ะ”
“ค่ามามี้ คารีนาจับแน่นค่ะ”
“ค่ะ มามี้ไม่ต้องห่วง ฟีจับแน่นที่สุดเลย รับรองว่าไม่ตก คารีนาไกว
สูง ๆ สิ นั่นอย่างนั้นแหละ ไม่ต้องกลัวหล่น จับแน่น ๆ วู้ สนุกจังเลย”
คุณยายกลีบบัวยิ้มกว้างที่ได้ยินคำเรียกขานของเหลนสาวเปลี่ยนไป
352/559

จากมามี้ของฟีเป็นมามี้เฉย ๆ
นางไม่รู้ว่าเหลนสาวผิดพลาดหรือว่าจงใจ จึงหันไปมองทางมามีก้ ็
เห็นว่า โหนกแก้มขึ้นสีระเรื่อทีเดียว
“คุณทวดดูคารีนาสิคะ สูงไหมคะ”
“สูงจ้ะ แต่ระวังด้วยนะ ตกมาได้เจ็บกันละงานนี้”
“คารีนาจับแน่นค่ะ ไม่ให้ตกด้วย กลัวเจ็บ นะฟีนะ” ตอนท้ายหันไป
ทางเพื่อนสนิท
“ใช่ ฟีกไ็ ม่ให้ตก ไม่อยากเจ็บเหมือนกัน” อีกคนสนับสนุน ละมุน
มาศได้แต่ยิ้มส่ายศีรษะน้อย ๆ ให้กับเด็ก ๆ
“คารีนาพูดไทยได้เยอะแล้วนะคะคุณยาย”
“ใช่จ้ะ ได้เล่นกับหนูฟีเลยพูดไทยได้เยอะ กับยายเขาก็พยายามพูด
ไทยด้วยตลอด แต่กลับบ้านไปอยู่กับพ่อไม่ได้พูดก็ลืมบ้างก็ไม่เป็นไร หัด
พูดบ่อย ๆ ก็จำได้เอง”
“ดีค่ะ พูดได้หลาย ๆ ภาษา”
“ว่าแต่หนูมุนเถอะ เป็นมามี้อย่างนี้หนุ่ม ๆ ได้ยินก็ถอดใจหมดสิจ๊ะ”
คุณยายกลีบบัวถามยิ้ม ๆ
353/559

“ฟีหวงมุนค่ะ คงกลัวมุนจะรักคนอื่นมากกว่าตัวเองก็เลยหวง และมุ


นก็เข้าใจดีเหมือนกัน จะได้ไม่มีใครมายุ่งกับเรามากนัก อยู่กันสองคน
แบบนี้ก็สบายดี ถ้ามีคนอื่นเข้ามาอีก มุนคงไม่มีเวลาให้เขาหรอกค่ะ”
“แต่หนูกต็ ้องมีวิถีชีวิตของตัวเองเช่นกัน คนที่นเี่ ขาก็ไม่ได้ปิดกั้น
ตัวเองนี่จ๊ะ ประเภทว่ารักฉันก็ต้องรักหมาของฉันด้วยอะไรแบบนี้ไง”
“มุนทราบค่ะ แต่ตอนนีม้ ุนยังต้องทำงานหนัก ยังอยากมีเวลาให้ฟี
มาก ๆ ฟียังเล็กนัก และก็ยังไม่อยากมีห่วงมาเพิ่ม อีกอย่างมุนก็คงไม่มี
เวลาให้ใครหรอกค่ะ”
“แล้วถ้าเกิดมีใครที่เขาอยากดูแลทั้งหนูมุนและหนูฟีล่ะ”
“ถ้าเขาเข้าใจว่ามุนไม่มีเวลาให้ และเขารับฟีได้ มุนก็อาจจะพิจารณา
นะคะ แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครอาสาเข้ามาเลยค่ะ” ละมุนมาศตอบ พร้อมกับ
หัวเราะน้อย ๆ ซึ่งคุณยายมองแล้วก็อดที่จะคิดถึงหลานชายไม่ได้ ก็น่ารัก
อย่างนี้หลานชายของท่านถึงได้ทำอะไรแปลก ๆ
รถแล่นออกมาจากสนามเด็กเล่นแล้ว คุณยายกลีบบัวก็หันไปทาง
เหลนสาวตัวน้อย ถามเรื่องทีต่ ิดอยู่ในใจทันที คำตอบที่ได้รับก็ทำเอาคุณ
ยายยิ้มเต็มแก้ม ดวงตาเป็นประกาย
“ก็คารีนาอยากมีมามี้ ฟีก็อยากมีแดดดี้ เราก็เลยตกลงกันแล้ว ฟีก็
ไปถาม มามี้ คารีนาก็ไปถามแดดดี้ แดดดี้ก็บอกว่าโอ.เค.”
“โอ.เค. เลยหรือ”
354/559

“คือจริง ๆ แล้วแดดดี้บอกว่า ถ้ามามี้ฟีโอ.เค. แดดดี้ก็โอ.เค. ค่ะ”


“อ้อ”
“แล้ววันนี้ฟกี ็บอกว่ามามี้โอ.เค. ค่ะ ตอนนี้ฟีกับคารีนาก็มีแดดดีม้ ามี้
ครบทั้งสองคน คุณทวดว่าดีไหมคะ”
“ดีจ้ะ”
อะไรมันจะง่ายอย่างนั้น เด็ก ๆ พวกนีต้ กลงกันเองหรือเปล่าก็ไม่รู้
แต่ที่ แน่ ๆ หลานชายตัวดีของคุณยายรู้แน่ ๆ ว่าใครเป็นมามี้ น่าสงสาร
อีกคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร เด็ก ๆ พวกนี้ก็ช่างคิดนัก เป็นกามเทพกัน
อย่างไม่รู้ตัวทีเดียว ในเมื่อ เด็ก ๆ สานแล้ว คุณยายก็จะช่วยสานต่อ
คุณยายกลีบบัวคิดถึงการลาพักร้อนของสองแม่ลูกที่จะเกิดขึ้นในอีก
ไม่นานข้างหน้านี้แล้ว ก็อดที่จะยิ้มคนเดียวไม่ได้
หลังจากทีพ่ ูดคุยกับคุณยายและลูกสาวตัวน้อย ซึ่งรายงานเรื่องราว
ต่าง ๆ ทีเ่ จ้าตัวทำแล้ว คารีโนก็กดโทรศัพท์หาอีกคนทันที นึกเป็นห่วงขึ้น
มาครามครัน
ตอนที่เขาโทร. ไปหาก็ไม่ยอมบอกว่าท้องเสีย น่าจับมาลงโทษจริง ๆ
และก็ใช้เวลานานทีเดียวกว่าที่อีกฝ่ายจะรับสาย ครั้งแรกเงียบ ครั้งที่
สองมีคนรับสาย แต่เป็นเสียงเล็ก ๆ น่ารักที่เขาเดาได้ว่าเป็นใคร
355/559

“ฮัลโหล มามีอ้ ยู่ในห้องนํ้าค่ะ ไม่ว่างมารับสาย กรุณาโทร. มาใหม่


นะคะ” เสียงภาษาอังกฤษใส ๆ ส่งมาตามสาย คารีโนอดที่จะยิ้มไม่ได้ แต่
ยังไม่ทันที่เขาจะได้บอกขอบคุณ อีกฝ่ายก็ตัดสายไปแล้ว
เขานึกเป็นห่วงคนทีย่ ังเข้าห้องนํ้า ป่านนี้แล้วหล่อนยังเข้าห้องนํ้าอีก
หรือ เมื่อคืนเขาเข้าห้องน้ำสองรอบก็ไม่เข้าอีกเลย อีกคนน่าจะอาการหนัก
เป็นแน่
หัวใจรู้สึกกระวนกระวายยิ่งนัก ร่างสูงเดินไปมาอยู่ที่บริเวณสระนํ้า
มีลูกน้องทั้งสองนอนตากแดดอยู่ที่เก้าอี้ริมสระ
หมดแรงไปแล้วหรือยังป่านนี้
เขารอจนกระทั่งเวลาผ่านไปสิบห้านาที ก็กดโทรศัพท์ไปอีกครั้ง
ครั้งนี้รอไม่นานปลายสายก็รับ เป็นเสียงเล็ก ๆ อีกเช่นเคย
“ฟีนิกซ์ค่ะ”
“ไฮ ฟีนิกซ์ ฉันขอพูดสายกับมามี้ได้หรือเปล่าคะ”
“ไม่ทราบว่าใครโทร. มาคะ”
“เจ้านายที่ร้านอาหารค่ะ”
“กรุณารอสักครู่นะคะ”
“ขอบคุณค่ะฟีนิกซ์” และเขาก็ได้ยินเสียงปลายสายตะโกนเสียงดัง
ทีเดียว
356/559

“มามี้ โทรศัพท์ค่ะ จากเจ้านายที่ร้านอาหาร”


“ขอบคุณค่ะฟี” พร้อมกับเสียงจุ๊บและเสียงวิ่งจากไป คารีโนรอ
อย่างใจจดจ่อ สุดท้ายก็มีเสียงส่งมา
“ค่ะ” สั้น ๆ แต่หวานในความรู้สึกของคนฟัง หัวใจดวงโตเต้นแรง
ขึ้นมาทันที
“คิดถึงคุณจัง”
“คุณบอกฉันแล้วนะคะวันนี้” ปลายสายท้วงมา ทำให้คารีโนอดที่จะ
หัวเราะไม่ได้
“บอกอีกไม่ได้หรือไงกัน ว่าแต่เสียงคุณฟังดูไม่สดใสเลย ไม่สบาย
หรือเปล่า” เขาถามทั้ง ๆ ที่รู้
“เปล่าค่ะ ฉันสบายดี”
คนปากแข็ง
“ถามหน่อยเถอะ คุณไม่มีอาการอะไรบ้างหรือ ทานเผ็ดขนาดนั้น
อย่างเช่น ท้องเสียอะไรแบบนี้ ขนาดผมที่ทานเผ็ดได้ เมื่อคืนยังวิ่งเข้าห้อง
นํ้าตั้งสองครั้ง ไม่เป็นไรจริง ๆ นะ”
พอเขาถามอย่างนี้ปลายสายก็ตอบกลับทันที
“ไม่ค่ะ”
357/559

“แต่เมื่อกีผ้ มโทร. มา ลูกสาวคุณยังบอกเลยว่ามามีเ้ ข้าห้องนํ้า”


ปลายประโยคเขาทำเสียงเล็ก ๆ เลียนเด็กหญิงตัวน้อยด้วย
“ฉัน...เอ่อ ฉัน...ขัดห้องนํ้า”
คำแก้ตัวติด ๆ ขัด ๆ ทำให้คารีโนเปิดยิ้มกว้าง หล่อนคงไม่อยาก
ให้เขารู้ว่าท้องเสีย เพราะว่าแกล้งเขานั่นเอง
“ผมเป็นห่วงนะ ไปหาได้ไหม”
“ไม่ต้องมาหานะคะ ฉันมีอะไรต้องทำหลายอย่าง ไม่มีเวลารับแขก
ค่ะ ขอบคุณสำหรับความห่วงใย แค่นี้...”
“มุน ถ้ามีอะไรโทร. หาผมนะ ให้ผมเป็นคนแรกที่คุณคิดถึงได้ไหม”
“ค่ะ” เสียงตอบรับแผ่วเบา คารีโนรูว้ ่าปลายสายจะต้องหน้าแดงอยู่
เป็นแน่
“บายครับ จุ๊บ” พอเขาจุ๊บ ปลายสายก็กดวางทันที
มือหนากดปิดโทรศัพท์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทำให้ลูกน้องทั้งสองที่
แอบมองอยู่ถึงกับหันหน้ามองกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ส่วนคนที่เพิ่งจะวางหูจากเจ้านายเดินออกจากห้องนอนก็หน้า
ร้อนผ่าว หัวใจหวั่นไหวอยู่คนเดียว
คิดถึง เป็นห่วง ขอเป็นคนแรกที่คิดถึง
358/559

ถ้อยคำเหล่านี้ดังก้องกลับไปกลับมาอยู่ในโสตประสาทของละมุน
มาศ อย่างที่ไม่สามารถสลัดออกไปได้
ตอนที่เข้าห้องนํ้าหล่อนก็คาดโทษเขา เพราะเขาทำให้หล่อนท้องเสีย
ทั้งที่ไม่เคยท้องเสียเลยหลายปี ทำให้เข้าห้องนํ้าหลายรอบจนแทบหมดแรง
โทษเขาแล้วก็โทษตัวเองต่อที่คิดเอาคืนเขาจนตัวเองยํ่าแย่อย่างนี้
แต่พอได้ยินคำพวกนี้ ความกรุ่นโกรธเล็ก ๆ ที่มีกห็ ายไปหมด
เหลือแต่ความหวามไหวในหัวใจ สารพัดคำหวานที่เขาส่งมาทำให้หัวใจ
อบอุ่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“มามี้ไม่สบายหรือคะ” เสียงคนตัวเล็กหันหน้ามาถามทันที
“มามี้แค่ท้องเสียค่ะ แต่เดี๋ยวก็หาย” ตอบพลางทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ
“ทำไมถึงท้องเสียคะ”
“มามี้ทานอาหารเผ็ดที่ทำงานเมื่อคืนค่ะ”
“อย่างนี้มามีต้ ้องดื่มนํ้าเยอะ ๆ นะคะ คุณครูที่โรงเรียนบอกว่าใคร
ท้องเสียต้องดื่มนํ้าเยอะ ๆ ค่ะ ร่างกายจะได้ไม่ขาดนํ้า” ว่าแล้วคนตัวเล็กก็
วิ่งเข้าไปในครัว รินนํ้าจากตู้เย็นมาให้ ทำเอาคนได้รับความห่วงใยถึงกับ
นํ้าตาซึมทีเดียว
“นี่ค่ะ”
ละมุนมาศดื่มนํ้าที่คนตัวเล็กเอามาให้จนหมดแล้วก็รั้งร่างเล็กเข้าสู่
อ้อมกอด ก้มลงจูบที่เรือนผมนุ่มแรง ๆ
359/559

“ขอบคุณค่ะฟี”
“เย็นนี้เราทำข้าวต้มนะคะมามี้”
“ได้ค่ะ ว่าแต่ข้าวต้มอะไรดี”
“ข้าวต้มกุ้งได้ไหมคะ ฟีชอบ”
“ได้ค่ะ มามี้ทำข้าวต้มกุ้งกับกุนเชียงทอดดีไหมคะ หรือจะเอา
ไข่เจียว” พูดถึงไข่เจียวแล้วก็ทำให้คิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอีกครั้ง ใน
สมองของหล่อนตอนนี้มใี บหน้าของใครบางคน พร้อมกับสัมผัสวาบหวาม
เต็มไปหมดจนต้องสลัดทิ้งอย่างรีบด่วน
“เอากุนเชียงนะคะมามี้”
“ค่ะ ๆ”
ละมุนมาศนึกหงุดหงิดที่ไพล่ไปคิดถึงใครบางคน
ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้ถึงมีเขามาอยู่ในความรู้สึกนึกคิดได้ตลอดเวลา
หรือว่าความรักมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
31
เนียนบาฟาร์ม

“มามีค้ ้า แต่งตัวเสร็จหรือยังค้า” เสียงเล็ก ๆ สดใสดังขึ้นหน้าประตู


ห้องนอน ทำให้ละมุนมาศที่กำลังแต้มลิปสติกบนเรียวปากอยูใ่ นห้องนํ้าหัน
ไปมองแล้วก็ต้องเปิดยิ้มกว้าง เมื่อเห็นคนตัวเล็กน่ารักในชุดสีชมพูตัวพอง
ยาวครึ่งน่องราวกับเจ้าหญิง ผมหวีเรียบแปร้ คาดผมด้วยที่คาดผมลาย
ลูกไม้สชี มพู สะพายกระเป๋าสีชมพูใบเล็กที่ประดับด้วยพูข่ นนกสีขาว สวม
รองเท้าหุ้มส้นสีขาวมีส้นเล็ก ๆ ฉีกยิ้มสวย ริมฝีปากบางนั่นเป็นมันทีเดียว
“สวยจังเลยค่ะฟี” คนได้รับคำชมฉีกยิ้มหวานมากกว่าเดิม
“ขอบคุณค่ะมามี้ มามี้ก็สวยจังเลย”
“ขอบคุณค่ะ เรียบร้อยทุกอย่างแล้วใช่ไหมคะ”
“เรียบร้อยตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ” ละมุนมาศยิ้มให้กับคำตอบนั้น เพราะ
ตลอดเวลาหลังอาหารเช้า คนตัวเล็กก็เตรียมจัดกระเป๋า เตรียมเอง
ทุกอย่างสำหรับการไปค้างคืนที่ฟาร์มนอกเมืองในงานวันเกิดของคุณยาย
กระเป๋าเจ้าหญิงแบบลากใบเล็กอัดแน่นไปด้วยของที่เจ้าตัวบอกว่าจำเป็น
361/559

หลังอาหารกลางวัน คนตัวเล็กก็เช็กอีกครั้งว่าลืมอะไรหรือไม่ ละมุน


มาศแอบยิ้มให้กับความตื่นเต้นนั้นอย่างเอ็นดู ไม่บ่อยนักที่คนตัวเล็กจะได้
จัดกระเป๋าหรือว่า เดินทางไปค้างคืนที่ไหน
“มามี้ก็เสร็จแล้ว งั้นก็เอากระเป๋าไปใส่รถกันได้เลย”
“พร้อมค่ะมามี้”
“รู้ไหมคะว่าเราต้องขับรถสามชั่วโมงกว่า ๆ ทีเดียว กว่าจะถึงฟาร์มที่
จัดงานวันเกิดคุณยาย”
“ค่ะ ฟีจะไม่งอแง” คนตัวเล็กรับปากอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ
รถยนต์คันเก่าที่มีผู้โดยสารตัวน้อยนั่งอยูใ่ นเบาะเด็กข้างหลัง ขับ
ออกจากคอนโดมิเนียมที่พักไปตามเส้นทางที่ละมุนมาศได้ศึกษาจากแผนที่
ในอินเทอร์เน็ตบ้างแล้ว พอออกถนนสายหลักได้ก็ขับตรงไปเรื่อย ๆ
หลังจากนั้นก็คอยฟังคำแนะนำจากจีพีเอส (GPS - ระบบนำทาง)
คนตัวเล็กที่อยู่เบาะหลังก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว มีเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเล่ามา
ถามอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย โดยเฉพาะเรื่องของเพื่อนรักที่เจ้าตัวตื่นเต้นอย่าง
มากทีจ่ ะได้เจอกันไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ แถมยังเป็นการเจอกันนอกบ้านอีก
ด้วย ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปอีก
ไม่นานนักคนทีพ่ ูดจ้อย ๆ มาตลอดทางก็ค่อย ๆ เงียบเสียงไป เมื่อ
ละมุนมาศเริ่มเปิดเพลงในรถเบา ๆ และคนข้างหลังก็เริ่มคอเอียง ดวงตา
หรี่ปรือในขณะที่เจ้าตัวพยายามที่จะฝืนมันเอาไว้
362/559

สามชั่วโมงเศษ ๆ ละมุนมาศก็มาถึง ‘เนียมบาฟาร์ม’ ป้ายหน้า


ประตูเข้าฟาร์มเป็นไม้ปีกแผ่นเดียว ประตูฟาร์มเป็นเหล็กสีสันสวยงาม
ส่วนรั้วของฟาร์มเป็นลวดหนามสูงท่วมหัวทีเดียว เท่าที่ละมุนมาศขับรถ
มากว่าจะถึงประตู รั้วลวดหนามก็ยาวเป็นแนว
เมื่อแน่ใจว่าเลขที่หน้าฟาร์มกับเลขที่ที่อยู่ในมือตัวเดียวกันแล้ว
ละมุนมาศก็ค่อย ๆ เลี้ยวรถไปที่ประตู เลื่อนกระจกลงบอกกับคนงาน
และประตูกเ็ ปิดออกทันที ขอบคุณคนเปิดประตูแล้ว ละมุนมาศก็ค่อย ๆ
ขับรถไปตามลูกศรชี้ ไม่ถึงห้าร้อยเมตรก็พบกับสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ของ
สวนสนุกตามแบบที่คุณยายเคยเล่าให้ฟัง มีสไลเดอร์หลากหลายชนิด มี
เรือนไม้ชั้นเดียวโล่งโปร่งเป็นแนวยาวพอสมควร ละมุนมาศขับรถไปตาม
ทางเรื่อย ๆ จนถึงบ้านสองหลังขนาดมหึมา หลังหนึ่งใหญ่กว่าอีกหลัง
ชัดเจน แต่หลังทีเ่ ล็กกว่าก็ไม่ได้เล็กเลย เห็นบ้านแล้วละมุนมาศรู้สึกว่า
ตัวเองเล็กลงไปทันที
บ้านหรือว่าคฤหาสน์กันแน่เนี่ย
ละมุนมาศเปิดยิ้มเมื่อเห็นคุณลุงคนหนึ่งออกมาหน้าบ้าน จึงค่อย ๆ
เคลื่อนรถเข้าไปจอดใต้ต้นไม้ พร้อมกับปลุกคนตัวเล็กไปด้วย คนทีถ่ ูก
ปลุกก็ลืมตาตื่นทันทีไม่มีงอแง ใบหน้าเล็ก ๆ หันไปมองรอบรถ
“เรามาถึงแล้วหรือคะมามี้”
“ถึงแล้วค่ะ”
363/559

ทันทีทรี่ ถจอดสนิท คุณลุงตัวโตที่ละมุนมาศมองแวบหนึ่งรู้สึกคุ้น


หน้า คุณลุงส่งยิ้มให้อย่างอบอุ่น พร้อมกับช่วยดึงประตูเปิดให้ ละมุนมาศ
ส่งยิ้มหวานพร้อมขอบคุณด้วยภาษาอังกฤษ
“ขอบคุณมากค่ะมิสเตอร์”
“ด้วยความยินดี ผมอังเดร” คุณลุงตอบกลับและแนะนำตัวสั้น ๆ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ละมุนมาศ และก็มลี ูกสาวตัวน้อยอยูด่ ้านหลังรถ
ด้วยค่ะ” จับมือแนะนำตัวแล้ว ละมุนมาศก็หันกลับเข้าไปในรถก้มตัวลง
เลื่อนเบาะรถ แล้วก็ช่วยคนตัวเล็กออกมาจากเบาะหลังรถ และหันไปยัง
คุณลุงอีกครั้ง
“นี่ฟีนิกซ์ค่ะ ฟี นี่มิสเตอร์อังเดร”
“ไฮ มิสเตอร์อังเดร” คนตัวเล็กที่เพิ่งจะตื่นยืนแอบ ๆ อยูข่ ้างหลังมา
มี้เอ่ยทักทายมิสเตอร์อังเดรเสียงเบา
“ไฮ ฟีนิกซ์ ยินดีที่ได้รู้จัก” มิสเตอร์อังเดรย่อตัวลง ยื่นมือออกไป
ให้คนตัวเล็กจับ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างอาย ๆ มือเล็ก ๆ ยื่นออกมา
จับมือใหญ่เบา ๆ
“ฉันว่าคารีนาเพื่อนของยูน่าจะรออยู่ในบ้านนะ เข้าบ้านกันเถอะ” พอ
ได้ยินชื่อเพื่อนรัก คนตัวเล็กก็ออกมาจากข้างหลัง
364/559

มิสเตอร์อังเดรจูงมือเล็ก ๆ เดินเข้าไปในบ้านอีกหลัง ละมุนมาศเปิด


กระโปรงหลังรถเอาของวันเกิดออกมาแล้วเดินตามไปในบ้าน สายตาคูส่ วย
มองสำรวจไปรอบ ๆ แอบนึกในใจว่า
ไม่น่าเชื่อว่าคนเราจะรํ่ารวยมากมายได้อย่างนี้ คนรวยก็รวยแบบสุด
ๆ คนจนก็จนติดดิน ไม่ว่าประเทศไหนในโลกคงต้องยกให้เป็นความ
โชคดีที่เจ้าของมีบรรพบุรุษทีร่ ํ่ารวย ซึ่งมีมรดกมากมายตกทอดมาให้ หรือ
ไม่ก็ความขยันหมั่นเพียรของเจ้าของเองที่สร้างเนื้อสร้างตัวจนมีฐานะ
ละมุนมาศเดินขึ้นบันไดห้าขั้นไปยังตัวบ้าน สมทบกับมิสเตอร์อังเดร
และคนตัวเล็กทีย่ ืนรออยู่ทปี่ ระตูหน้าบ้าน ซึ่งเป็นประตูไม้ใหญ่โตสองบาน
ประดับด้วยกระจกที่มีลวดลายสวยงาม ประตูสองข้างตกแต่งด้วยกระจก
มีผ้าม่านสีขาวลายลูกไม้ปิดอยู่
“ไจแกนติก (Gigantic – ใหญ่โตมโหฬาร)” คำพูดไร้เดียงสาที่
จริงใจหลุดออกมาจากริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มนั้น ทำให้มิสเตอร์อังเดรอดที่จะ
หัวเราะออกมาไม่ได้ ส่วนละมุนมาศได้แต่ยิ้มไม่กล้าหัวเราะ เพราะเป็น
ความคิดของหล่อนเช่นกัน
“ประตูใหญ่จังเลยนะมามี้” คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นพูดกับละมุนมาศ
สายตาคู่นั้นตื่นเต้น มองออกไปยังบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน
“หลังนั้นก็ใหญ่เหมือนกับปราสาทของเจ้าหญิงเลย มามี้ชอบไหมคะ”
“ชอบค่ะ”
365/559

เมื่อประตูเปิดออก ก็ปรากฏร่างของวันและเด็กหญิงคารีนา
“ไฮ ฟี ทำไมมาช้าจัง คารีนารอตั้งแต่เช้าแน่ะ” เด็กหญิงคารีนาที่อยู่
ในชุด สีขาวสวยงามกระโดดออกมาจับมือเพื่อนรักอย่างตื่นเต้น ทักทาย
กันแล้วก็หันมาทางละมุนมาศ
“ไฮ มามี้” ทำเอาคนที่ถูกเรียกว่ามามี้เขินเล็กน้อย แต่ก็อ้าแขนรับร่าง
เล็ก ๆ ที่เดินเข้ามาให้กอด
“สวัสดีจ้ะคารีนา”
“ไฮ วัน” ฟีนิกซ์ไม่ลืมที่จะทักทายวัน
“นึกว่ายูจะไม่มาเสียแล้ว”
“มาสิ” ทั้งสองเริ่มจะชวนกันคุย ราวกับว่ามีกันแค่สองคนอยูต่ รงนั้น
ก่อนทีจ่ ะจูงมือกันเดินเข้าไปในบ้าน ละมุนมาศที่ทักทายวันพร้อมทั้งส่งของ
ในมือให้ มิสเตอร์อังเดรก็ขอตัวกลับบ้าน ละมุนมาศกล่าวขอบคุณและ
กล่าวลา ก่อนจะเดินตามวันเข้าไปในบ้าน
“ยูอยู่บ้านหลังนี้หรือคารีนา” เสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ถามเพื่อนตัวเล็ก
“โห บันไดสวยจัง โค้งด้วย” คนตัวเล็กที่เพิ่งจะย่างเท้าเข้าไปในบ้าน
พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น ละมุนมาศทีเ่ ดินตามหลังเข้ามาตกตะลึงกับความ
หรูหราสวยงามภายในตัวบ้าน
“เปล่า นี่บ้านแกรนด์มา แกรนด์ฟา ฉันไม่ได้อยูท่ ี่นี่ ฉันอยูก่ ับแดดดี้
ที่บ้านริมทะเล”
366/559

“ฉันชอบทะเล บ้านแกรนด์มายูหลังใหญ่สุด ๆ สวยด้วย มามี้ว่า


ไหมคะ” เสียงใสหันมาถามคนที่เดินตามอย่างตื่นเต้น
“ค่ะ”
“ท่านอยู่ข้างใน” วันหันมาบอกละมุนมาศเบา ๆ
ร่างบางของคนเป็นแขกเดินตามวันผ่านห้องต่าง ๆ เข้าไปจนถึง
ด้านหลัง ก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังแว่วออกมา
“มีแขกเยอะหรือคะวัน” ละมุนมาศกระซิบถามคนนำทาง
“ไม่หรอกค่ะ มีแต่ลูกสาวและลูกเขยของท่านเท่านั้น”
ไม่นานนักวันก็พาละมุนมาศกับฟีนิกซ์เข้าไปหาคุณยาย ทีก่ ำลังยืน
คุยอยูก่ ับชายหญิงคู่หนึ่งที่หันหลังให้ในห้องนั่งเล่นที่อยูห่ ลังบ้าน ซึ่งพอ
ละมุนมาศเห็นหน้าก็ต้องตกใจ
ท่านไนฮัวกับภรรยา เนียมบา ฟาร์ม ทำไมหล่อนไม่ฉุกคิดตั้งแต่แรก
นะ ว่าแต่คุณยายเป็นอะไรกับสามีภรรยาคู่นี้ อย่าบอกนะว่า...
“คุณทวดคะ” เสียงเล็กเรียกนำไปก่อนตัว
“อ้าว มาแล้วเหรอ เข้ามาสิจ๊ะหนูมุน หนูฟี” คุณยายกลีบบัวส่งเสียง
เรียกทันทีที่เห็น มือเหี่ยว ๆ กวักไปด้วย ละมุนมาศจูงมือน้อย ๆ ของคน
ตัวเล็กเดินเข้าไปหาคุณยายที่ตอนนี้เกิดอาการเขินอาย เพราะเห็นว่ามีคน
อื่นที่ไม่รู้จักมาก่อนอยู่ด้วย
367/559

“สวัสดีค่ะคุณยาย สุขสันต์วันเกิดนะคะ ขอให้คุณยายมีอายุยืนยาว


มีสุขภาพทีแ่ ข็งแรงค่ะ” ละมุนมาศยกมือทำความเคารพ พร้อมกับที่คุณ
ยายกลีบบัวก็กอดร่างบางเอาไว้
“ขอบใจมากหนูมุน”
“สวัสดีค่ะคุณยาย” ฟีนิกซ์ยกมือไหว้
“สวัสดีจ้ะหนูฟี มาหายายหน่อยสิ ว่าแต่ทำอะไรมาฝากยายหรือจ๊ะ”
คุณยายเรียกเด็กหญิงให้เข้าไปหาใกล้ ๆ ในขณะที่ละมุนมาศหันไปยกมือ
ไหว้ท่านไนฮัวและภรรยา
“ฟีกับมามีท้ ำเค้กวันเกิดมาให้คุณยายค่ะ” เสียงเล็ก ๆ รายงานเบา
ๆ สายตาคู่สวยนั้นก็แอบชำเลืองมองดูคนแปลกหน้าไปด้วย
“ขอบใจมากจ้ะ ยายว่าเค้กต้องอร่อยแน่ ๆ เลยว่าไหมคารีนา” ตอน
ท้าย หันไปหาเหลนตัวเล็กทีย่ ืนเกาะอยูไ่ ม่ห่าง ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าอย่าง
เห็นด้วย คุณยายกลีบบัวจึงได้แต่ยิ้ม
“เอาละ หยุดเรื่องเค้กเอาไว้ก่อน ยายขอแนะนำให้หนูฟีกับหนูมุน
รู้จักกับลูกสาวและลูกเขยของยายนะจ๊ะ หนูมุนคงจะรู้จักทั้งคูแ่ ล้ว หนูฟีจ๊ะ
นีล่ ูกสาวของยาย ลิซาเบธ เรียกว่าป้าลิซก็ได้ ข้าง ๆ นั่นไนฮัว เรียกลุงไน
ฮัวละกัน ส่วนคนสวยตัวน้อยนี่ฟีนิกซ์เป็นเพื่อนรักของคารีนานั่นเอง” คุณ
ยายกลีบบัวแนะนำเป็นภาษาอังกฤษเสียงนุ่มอ่อนโยน
368/559

“ไฮ ป้าลิซ ไฮ ลุงไนฮัว” เสียงของเด็กหญิงฟีนิกซ์เป็นภาษาอังกฤษ


ทักทายกลับไปเบา ๆ
“ไฮ ฟีนิกซ์/ไฮ ฟีนิกซ์ น่ารักจริง ๆ เลย อายุเท่าไรแล้วคะฟีนิกซ์”
คุณลิซาเบธก้มลงถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“จะหกขวบแล้วค่ะ”
“รุ่นเดียวกับคารีนาเลย ไปโรงเรียนหรือยังคะ”
“ไปแล้วค่ะ”
“ฉันขออนุญาตเรียกฟีเหมือนกับคารีนาได้ไหมจ๊ะ” คุณลิซาเบธถาม
“ได้ค่ะ”
ฟีนิกซ์ในตอนแรกก็เขินอายคนแปลกหน้า แต่หลังจากที่ได้พูดคุยกับ
สองสามีภรรยาที่มีแต่ความอบอุ่นและเอ็นดูมอบให้ โดยมีเพื่อนตัวเล็กแย่ง
กันพูด ก็ทำให้ฟีนิกซ์คุ้นเคยกับทุกคนได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เมื่อทักทายกันเสร็จแล้ว คุณยายกลีบบัวและคุณลิซาเบธก็ขอตัวเข้า
ครัว โดยให้ละมุนมาศอยู่กับเด็ก ๆ และมิสเตอร์ไนฮัว
ตอนนี้เด็ก ๆ ก็เลยคุยจ้อดูการ์ตูนทอมแอนด์เจอรี เสียงเชียร์เสียง
ลุ้นอย่างตื่นเต้นของเด็กหญิงทั้งสองที่มตี ่อเจ้าหนูตัวน้อยดังลั่นห้อง โดย
ท่านไนฮัวนั่งคุยกับละมุนมาศหัวเราะเบา ๆ ร่วมด้วย
369/559

หลังจากทีไ่ ต่ถามทุกข์สุขแล้ว ท่านไนฮัวก็เล่าเรื่องในฟาร์มให้ฟัง ซึ่ง


ละมุนมาศพอได้รับรู้มาบ้างจากคุณยายกลีบบัว ก็เลยทำให้การพูดคุย
ออกรสไม่ติดขัด
นึกไม่ออกว่าเวลาปลูกผัก ท่านจะมีผู้คุ้มกันหรือเปล่านะ
ละมุนมาศคิดภาพนั้นไม่ออกจริง ๆ และจู่ ๆ ท่านไนฮัวก็วกเข้ามา
เรื่อง เวียดเฮาส์
“เจ้านายคนใหม่เป็นอย่างไรบ้างละมุนมาศ”
“เอ่อ...” ทำเอาคนถูกถามตอบแทบไม่ถูก เพราะว่าไม่ได้คิดเอาไว้
ก่อน
“ถึงกับพูดไม่ออกเลยหรือ มีอะไรบอกฉันได้นะ”
“ขอบคุณค่ะ แต่เจ้านายคนใหม่ก็ดีค่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
“ค่อยยังชั่ว นึกว่าไม่ดี บริหารงานไม่ได้เรื่อง ฉันจะไล่ออก”
“เอ่อ ดีค่ะ” ละมุนมาศต้องรีบปฏิเสธ โดยไม่ทันได้สังเกตใบหน้ายิ้ม
น้อย ๆ ของคนถาม เพราะว่าเสียงที่ดังมาจากหน้าบ้านนั้น เรียกความ
สนใจของละมุนมาศได้เป็นอย่างดี
“คุณยายคร้าบ” เสียงห้าวทุ้มแปร่ง ๆ ตะโกนเข้ามาแต่ไกล และ
เสียงนั้นก็ไม่เบาเลยทีเดียว ละมุนมาศฟังแล้วก็คิดใบหน้าไม่ออกว่าคนพูด
จะตัวโตแค่ไหน เพราะเรียกคุณยายเสียงดังขนาดนั้น
370/559

“แดดดี้” เด็กหญิงคารีนาเรียกขึ้น แต่ร่างเล็ก ๆ นั้นไม่ได้


ขยับเขยื้อนไปไหน ยังดูการ์ตูนอย่างจดจ่อ
“มาแล้วหลานชายฉัน นึกว่าจะไม่มาให้เห็นหน้าเสียอีก ดีที่ยังอุตส่าห์
จำ วันเกิดของยายได้” เสียงคุณยายกลีบบัวที่น่าจะพูดกับลูกสาวดังมา ทำ
ให้ละมุนมาศต้องยิ้ม ไม่อยากนึกหน้าคุณยายว่าจะดีใจขนาดไหน ที่
ลูกหลานเหลนมากันพร้อมหน้าอย่างนี้
“คุณยายครับ อยู่ที่ไหนครับ” เสียงภาษาไทยแปร่ง ๆ ดังใกล้เข้ามา
อีกนิด
“อยู่ในห้องอาหารนี่จ้ะ” คุณยายกลีบบัวส่งเสียงตอบกลับไป
“สุขสันต์วันเกิดครับคุณยาย” เสียงบอกพร้อมเสียงจุ๊บจ๊วบที่ละมุน
มาศคิดว่า หลานชายตัวโตคงจะหอมแก้มคุณยายนั่นเอง คิดแล้วก็ต้อง
แอบยิ้ม
หลานชายคุณยายน่ารักจริง ๆ ถึงว่าสิ คารีนาถึงได้หวานน่ารักอย่าง
นี้ คงไม่เป็นไรใช่ไหม ที่หล่อนจะแอบฟังคนในครอบครัวเขาคุยกัน
“นี่หอมพอแล้วหรือยัง” เสียงสดใสมีความสุขของคุณยายถามหลาน
ชายกลั้วหัวเราะ
“ขอบใจมาก ยายนึกว่าหลานชายจะลืมวันเกิดของยายเสียแล้ว”
“ไม่ลืมครับ ใครจะลืมวันเกิดคุณยายได้ครับ” เสียงภาษาไทยแปร่ง
ๆ ตอบกลับ
371/559

“ขอบใจมากจ้ะ”
“หวัดดีครับมัม” แล้วเสียงภาษาไทยก็เปลี่ยนเป็นเสียงภาษาอังกฤษ
แทน พร้อมกับเสียงจุ๊บตามมา
แดดดี้ของคารีนานี่น่ารักจริง ๆ จูบยายจูบแม่เสียงดังทีเดียว ชัก
อยากเห็นหน้าเสียแล้ว
“สวัสดีจ้ะลูก แดดอยู่ในห้องโน้น”
“ผมขอตัวไปหาแดดก่อนนะครับ” พอได้ยินเขาบอกว่าจะมาหาผูเ้ ป็น
บิดา ละมุนมาศก็ทำเป็นจดจ่ออยู่กับการ์ตูนในโทรทัศน์กับเด็ก ๆ ราวกับ
ไม่ได้รับรู้อะไร
“ไฮ แดด” แต่คำทักทายสดใสทีห่ น้าห้อง ทำให้ละมุนมาศไม่
สามารถบังคับตัวเองได้ หล่อนอยากรู้ว่าแดดดีข้ องเด็กหญิงตัวน้อยเป็น
ใคร น่ารักแค่ไหน และก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคนที่เดินเข้าไปหาผู้ที่เขาเรียก
ว่า
“แดด”
32
พ่อ...ของคารีน่า

ร่างบางเด้งลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันใด หัวใจเต้นระรัว ดวงตากลมเบิกโต


ริมฝีปากบางเม้นสนิท สมองหยุดทำงานไปชั่วขณะ
“ไฮ คารีโน นึกว่าลืมวันเกิดของแกรนด์มาไปแล้ว” ท่านไนฮัวลุกขึ้น
จากที่นั่งทักทายลูกชาย
“ไม่ลืมครับแดด”
“แดดดี้” เสียงเรียกอย่างยินดีออกมาจากริมฝีปากน้อย ๆ ของ
เด็กหญิง คารีนา พร้อมกับที่ร่างเล็กวิ่งเข้าหา คารีโนก้มตัวลงอุ้มลูกสาวตัว
น้อยขึ้นสู่อ้อมกอด ริมฝีปากหยักจูบที่แก้มของลูกสาวเบา ๆ
อ่า...แดดดี้ เขาเป็นพ่อของคารีนาอย่างนั้นใช่ไหม หล่อนฟังไม่ผิดแน่
ๆ เขาเป็นลูกชายของท่านไนฮัวกับคุณลิซาเบธ เป็นหลานชายของคุณยาย
แถมยังพูดไทยได้อีกด้วย และคารีนาก็เป็นลูกสาวของเขา
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ก็คิดถึงภรรยาของเขาขึ้นมาทันที และหัวใจดวง
น้อยก็รู้สึกแปลบ ๆ อย่างบอกไม่ถูก สองตาสอดส่ายหาใครบางคนไปด้วย
แต่ก็ไม่เห็นมีใคร
373/559

แล้วภรรยาของเขาไปไหน เลิกกัน...หย่า...แต่คุณยายเคยบอกว่าคารี
นาไม่มีแม่ หมายความว่าอย่างไรกันนะ
คารีโนอุ้มลูกสาวไว้ในอ้อมแขนข้างหนึ่ง แล้วก็กางแขนอีกข้างโอบ
กอดทักทายบิดาของเขาไปด้วย แต่สายตาแวววาวคมเข้มคู่นั้นมองจ้องมา
ยังคนที่ยังยืนตกตะลึงอยู่ในห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนโยน
ภาพที่เห็นไม่เหมือนกับคนที่ชอบฉวยโอกาสหรือว่าเอาเปรียบหล่อน
มาก่อนเลยสักนิด
แต่ละมุนมาศแน่ใจว่าคือคนคนเดียวกันกับเจ้านายชีกอแน่นอน
หล่อนไม่ได้ตาฝาด เพราะว่าตามหลังเจ้านายมาติด ๆ นั่นคือลูกน้องคน
สนิทของเขาที่หล่อนเห็นเป็นประจำ
ท่านไนฮัวกอดทักทายลูกชาย พูดคุยไถ่ถามกันเล็กน้อยแล้วก็หันไป
รับความเคารพจากเฟยและเบียน
คารีโนอุ้มลูกสาวตัวน้อยเดินเข้าไปใกล้เพื่อนตัวเล็กที่ยังนั่งดูการ์ตูน
อยู่ เขาทักทายฟีนิกซ์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างคุ้นเคย
“ไฮ ฟี” ปากทักคนตัวเล็ก แต่สายตาคู่นั้นแลเลยมายังละมุนมาศที่
ยังยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ไม่ห่าง ดวงตาคู่คมฉายแววอ่อนหวานส่งมาให้อย่าง
ไม่คิดปิดบังเอาไว้สักนิด แต่คนรับกลับถลึงตาโตส่งให้แทน อีกคนได้แต่
ส่งยิ้มขัน ๆ กลับมาให้
“ไฮ ตรัง” ฟีนิกซ์ส่งเสียงทักทายด้วยรอยยิ้มอาย ๆ
374/559

“เรียกแดดดี้สิฟี” คารีนาบอกเพื่อนรัก ฟีนิกซ์ได้แต่ยิ้มอาย ๆ


“นี่ฟอี ยากให้แดดดีอ้ ุ้มไหม แดดดี้อุ้มฟีด้วยสิคะ” เสียงใส ๆ ของ
ลูกสาวถามเพื่อนแล้วก็หันไปเรียกร้องให้ผเู้ ป็นบิดาอุ้มเพื่อนรักอีกคน ผู้
เป็นบิดาก็ว่าง่าย ก้มร่างสูงลงคว้าร่างเล็กอีกร่างขึ้นสู่อ้อมแขน เด็กหญิงทั้ง
สองหัวเราะคิกคักชอบใจ
“หนักไหมคะแดดดี้”
“แขนแดดดี้จะหักแล้วค่ะ จะหมดแรงแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวเย็นด้วย”
คำพูดไร้เรี่ยวแรงของผู้เป็นบิดา ทำให้เด็กน้อยทั้งสองหัวเราะชอบใจ มือ
น้อยของลูกสาวลูบใบหน้าของบิดาเล่น แถมยังชวนเพื่อนรักทำตามอีกด้วย
ตอนแรก ๆ เด็กหญิงฟีนิกซ์ก็ยังไม่กล้า แต่ไม่นานนักความเขินอายก็หาย
ไป แขนเล็ก ๆ โอบรอบคอแกร่งแน่นทีเดียว
ละมุนมาศมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างคิดไม่ถึง
ฟีนิกซ์ไปสนิทสนมกับเขาได้อย่างไรกัน ทำไมหล่อนไม่รู้อะไรเลย
แต่พอคิดถึงคำพูดที่หล่อนเคยได้ยินจากปากของคนตัวเล็กเรื่อง
หลานชายของคุณยาย บิดาของคารีนาแล้วก็ต้องร้องอ๋อในใจ แล้วแอบนึก
โทษตัวเองที่ไม่สอบถามรายละเอียดตื้นลึกหนาบางให้ดีกว่านี้
หรือว่าถามแล้วและก็ลืมไปแล้ว แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ หล่อนไม่เคยรู้
หรือว่าระแคะระคายเรื่องของเขามาก่อนแน่ ๆ สับสนจริง ๆ เป็นเขาได้
อย่างไรกัน โลกกลมอะไร เช่นนี้
375/559

ตอนที่เขาแนะนำตัวกับหล่อนตอนที่เข้ามาดูเวียดเฮาส์แรก ๆ เขาก็
บอกแค่ว่า ตรัง คารีโน หล่อนจำได้และก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกเลย เพราะ
เป็นเรื่องปกติทคี่ นที่นี่จะแนะนำตัวเองด้วยชื่อและนามสกุลง่าย ๆ เท่านั้น
และหล่อนก็ไม่ได้สนใจมากไปกว่านั้น เพราะเขาเป็นแค่เจ้านาย
มัวแต่ตกอยู่ในภวังค์ความคิด ไม่รวู้ ่าเขาวางเด็ก ๆ ในอ้อมกอดลง
ไปตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีหล่อนก็โดนประชิดร่างพร้อมโดนหอมแก้ม
แผ่วเบา
“สวัสดีหนูมุน” ภาษาอังกฤษทีเ่ ขาทักทายพูดคุยกับคนตัวเล็กเปลี่ยน
เป็นเสียงภาษาไทยแปร่ง ๆ ทำเอาคนฟังตาโตกว่าเดิม ไม่คิดว่าเขาจะพูด
ภาษาไทยกับหล่อน แถมยังเรียกชื่อหล่อนอย่างสนิทสนมอีกต่างหาก
อาการอ้าปากค้างตาโตของละมุนมาศ เรียกเสียงหัวเราะจากคนทักที่
คลอเคลียอยู่ใกล้ได้เป็นอย่างดี
เมื่อรู้ตัวว่าอยู่ในอ้อมกอดเขา ละมุนมาศก็ดิ้น แต่คนกอดก็ไม่ยอม
ปล่อย ไม่สนใจ กลับถามว่า
“ไม่เห็นดีใจเลยที่ได้เจอผมที่นี่ คิดถึงนะ ไม่เห็นหน้าตั้งหลายวัน”
ไม่พูดเปล่าเขาหอมแก้มหล่อนอีกครั้ง ละมุนมาศยังไม่ทันได้ว่าอะไร ก็
ได้ยินเสียงเล็ก ๆ พูดขึ้นอย่างดังว่า
“เย้ แดดดี้หอมมามี้ด้วย” เสียงนั้นไม่เบาเลยสักนิด
376/559

ละมุนมาศคิดว่าใครต่อใครในบ้านคงจะได้ยินกันถ้วนหน้าเป็นแน่
ใบหน้าหวานแดงแปร๊ด นึกโกรธคนทำมากนักที่ประเจิดประเจ้อ ก็เลย
ดิ้นรนออกจากอ้อมกอดเขา ซึ่งคนตัวโตก็ยอมปล่อยร่างในอ้อมกอดแต่
โดยดี ร่างบางเลยขยับออกไปห่าง ส่งค้อนให้อีกต่างหาก มองไปทางมุม
ห้องที่ท่านไนฮัวยืนคุยกับเฟยและเบียนอยู่ก่อนหน้า ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว
หายไปไหนกันหมด แล้วนี่หล่อนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“หอมตอนไหน ทำไมฟีไม่เห็น” ฟีนิกซ์ถามขึ้นเสียงดังพอ ๆ กัน
เด็ก ๆ พวกนี้จะทำให้หล่อนขายหน้าไปถึงไหน
“เมื่อกี้นี้ไง แดดดี้หอมมามี้แล้ว อีกหน่อยก็มีน้อง” เด็กหญิงคารีนา
ยังพูดต่อด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดีใจด้วยเสียงไม่เบาลงสักนิด
“มีน้องหรือ” คนตัวเล็กของหล่อนก็ถามกลับอย่างสนใจ
“ใช่ แดดดี้หอมมามี้แล้วก็นอนจับมือกัน ไม่นานก็จะมีน้องออกมา”
ละมุนมาศตาโตกับคำอธิบายอย่างภาคภูมิใจของเด็กหญิงคารีนา
หัวใจของหล่อนเต้นแรงระรัว ใบหน้าหวานร้อนผ่าว เงยหน้ามองอีกคนก็
เห็นว่ายิ้มแก้มแทบปริทีเดียว ก็เลยเอาข้อศอกกระทุ้งให้อย่างแรง
คนโดนศอกแหลม ๆ ไม่ได้กระเทือนสักนิด แถมยังหัวเราะหึ ๆ
ชอบใจอีกด้วย
“รู้ได้อย่างไร” เด็ก ๆ ยังคุยกันไม่จบ
377/559

“สเตอริงบอกมา ว่าแต่ฟีอยากมีน้องหรือเปล่า”
ละมุนมาศหนักใจ
เด็ก ๆ พวกนี้ไปเอาความรู้พวกนี้มาจากที่ไหนกัน
คารีโนคิดยิ้ม ๆ ว่าลูกสาวเขาข้อมูลแน่นปึ๊กทีเดียว
“อยากมีสิ ฟีจะช่วยมามี้เลี้ยงน้องด้วยละ”
“คารีนาก็จะช่วยนะ เราช่วยกันเลี้ยงน้อง” คนตัวเล็กของหล่อน
พยักหน้า เด็กหญิงคารีนาก็ยิ้มกว้างทีเดียว
หลังจากฟังทั้งสองคุยกันแล้ว ทำให้ละมุนมาศอายจนทำอะไรไม่ถูก
คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดีกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน ได้แต่อ้าปากหวอ
สมองหยุดทำงานชั่วคราว คารีโนแอบชำเลืองมองคนตัวบางแล้วก็ต้อง
อมยิ้ม ใบหน้าหวานสวยนั้น แดงกํ่าทั่วใบหูและลำคอ ริมฝีปากอวบอิ่มอ้า
ค้างเอาไว้น้อย ๆ อย่างตกตะลึง หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวไร้เดียงสาจาก
ลูกสาวของเขา กิริยาท่าทางเป็นธรรมชาตินั้นประทับใจเขามาก
เขาอดไม่ได้ก็เลยเข้าประชิดตัวรวบร่างบางเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว
ก้มหน้าลงจูบแก้มเนียนอีกครั้ง
“ตรังปล่อยหนูมุนได้แล้วจ้ะ” เสียงคุณยายกลีบบัวดังขึ้นจากทาง
ด้านหลัง ทำให้คนตัวโตต้องจำใจปล่อยร่างบางออกจากอ้อมกอดอย่าง
เสียดาย แต่ก็ยังยืนอยู่ไม่ห่าง
378/559

“ผมก็แค่ทักทายหนูมุนเท่านั้นเองครับคุณยาย” หลานชายหันไป
แก้ตัวเสียงอ่อย ๆ กับคุณยาย แต่ใบหน้ายิ้มกริ่มระรื่น
“ทักทายอะไร กอดไม่ยอมปล่อยอย่างนั้น เกเรจังนะ หนูมุนจ๊ะ ยาย
ขอโทษด้วยที่หลานชายของยายทำประเจิดประเจ้อให้หนูตกใจ” พร้อมกับ
แอบนึกในใจว่า
โดนกอดแค่นี้ก็หน้าแดงตัวแดง เจ้าหลานชายก็ฉวยโอกาสจริง ๆ นี่
ขนาดว่าขอกันแล้วนะยังทำได้ขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าคุณยายไม่เห็นว่าหลานชาย
ของท่านหอมแก้ม อีกคนไปกีท่ ี ต่อหน้ายังขนาดนี้ ไม่รู้ว่าลับหลังจะขนาด
ไหน
คนทีย่ ืนหน้าแดงกํ่าพูดอะไรไม่ออกได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ ให้กับคุณ
ยาย ยิ่งได้ยินเสียงแจ๋ว ๆ ของเด็กหญิงคารีนาที่วิ่งมาหาและเงยหน้าบอก
กับคุณทวดแล้ว ละมุนมาศก็ยิ่งอยากจะหายตัวออกไปจากที่นั่นเสียให้
รู้แล้วรู้รอด
“คุณทวดคะ แดดดี้หอมมามี้ด้วยค่ะ อีกหน่อยก็จะมีน้องใช่ไหมคะ”
“ใครบอกหนูจ๊ะคารีนา” คุณยายก้มหน้าแอบยิ้มถามเหลนสาว
“สเตอริงค่ะ สเตอริงบอกว่าแดดดี้กับมามี้ของสเตอริงหอมแก้มกัน
แล้วก็นอนจับมือกัน และก็มีน้องออกมาค่ะ อีกหน่อยคารีนาก็จะมีน้อง
ใช่ไหมคะ”
379/559

“โห เหลนฉัน ไปได้ทฤษฎีนี้มาจากไหนกันเนี่ย” คุณยายกลีบบัวถึง


กับส่ายศีรษะให้กับสิ่งทีไ่ ด้รับรู้ ไม่รู้จะตอบเหลนสาวว่าอย่างไรดี หันไป
มองคนหน้าแดงที่ทำท่าจะร้องไห้แล้วก็นึกสงสาร
“เรื่องมีน้องเอาไว้ก่อนนะจ๊ะ คารีนาและหนูฟตี อนนี้หนูไปดูที่
ห้องอาหารสิว่าแกรนด์มากับวันจัดโต๊ะเสร็จเรียบร้อยหรือยัง แล้วก็มาบอก
ทวดด้วย ขอบคุณมากคนเก่ง” คุณยายรีบตัดบท
“ค่ะ/ค่ะ” สองร่างเล็กวิ่งไปแล้ว คุณยายก็หันมาทางแขก
“หนูมุนอย่าถือสานะจ๊ะ ความคิดของเด็ก ๆ น่ะ คงจะได้มาจาก
เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนนั่นเอง ยายยังไม่ได้บอกหนูเลยว่า ตรังเป็นหลานของ
ยายเอง เป็นลูกชาย คนเดียวของลิซาเบธและไนฮัว เป็นพ่อของคารีนา
และก็เป็นเจ้านายของหนูนั่นแหละ พูดไทยได้ไม่มาก แต่ก็คุยกันรู้เรื่อง
เพราะพูดกับยายมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่สำเนียงอาจจะเพี้ยนไปบ้างเพราะ
ไม่ค่อยได้พูดเท่าไร โตขึ้นมัวแต่ติดสาว ๆ ก็เลยไม่มีเวลาคุยภาษาไทยกับ
ยาย” คุณยายเฉลยข้อข้องใจทั้งหมด และก็ตีแขนหลานชายสุดที่รักไป
ด้วย หนึ่งที
“อูย คุณยายตีผมทำไมครับ”
“เมื่อกี้ตรังทำอะไหนูมุนไม่งามเลย”
380/559

“ก็แค่กอดจูบหอมแก้มทักทายหนูมนุ เท่านั้นเองครับ ไม่ได้เจอกัน


หลายวันผมงานยุ่ง พอเจอก็เลยทักทายบอกความคิดถึง” คำพูดแก้ตัวของ
หลานชายทำให้ คุณยายได้แต่ส่ายศีรษะน้อย ๆ
“สาวอื่นน่ะทำได้ แต่หนูมุนเป็นแขกของยาย”
“แขกของคุณยายแต่เป็นคนของผม” หลานชายเถียงใบหน้าระรื่น
ทีเดียว
“หมายความว่าไงจ๊ะ”
“ผมกับหนูมุนคบกัน เป็นแฟนกันครับ”
ไปตกลงเป็นแฟนกันตอนไหนเนี่ย คุณยายตกข่าวหรือไงกัน
“แล้วสาว ๆ คนอื่นล่ะ เคลียร์เรียบร้อยแล้วหรือไง”
“โธ่ คุณยายครับ หมดกัน ไม่มคี รับ ไม่มแี ล้ว ไม่มีใครสักคน
ตอนนี้” หลานชายโอดโอยแก้ตัวใบหน้ายิ้มระรื่น
คุณยายไม่แปลกใจสักเท่าไรที่ได้ยินคำบอกของหลานชาย แต่ยัง
แอบคิด ด้วยว่า
เดินหน้าไปหลายก้าวแล้วสินะ ถึงขนาดรับว่าคบกัน สงสารก็แต่อีก
คนที่เพิ่งจะได้รับรู้ความจริงวันนี้ ขออย่างเดียวอย่าโกรธคนแก่คนนี้เลยนะ
ส่วนละมุนมาศที่กำลังมึนงงกับสิ่งที่ได้รับรู้ ทำเอาพูดไม่ออกไปเลย
ทีเดียว ได้แต่ยืนมองคุณยายกับหลานชายคุยกัน
381/559

ความจริงที่มาที่ไปมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เห็นสายตาขอโทษของคุณ
ยายทีส่ ่งมาให้แล้ว ก็ได้แต่ส่งยิ้มกลับไปให้แหย ๆ เป็นความผิดของ
หล่อนเอง ที่ไม่เคยถามถึงรายละเอียดเรื่องครอบครัวของคุณยาย รวมทั้ง
เรื่องของเวียดเฮาส์ด้วย รับรู้แค่ในสิ่งที่คุณยายบอกให้ฟัง เพราะคิดว่าเป็น
เรื่องส่วนตัว คิดแต่ว่าคุณยายมาอยู่ที่นนี่ านหลายสิบปี คงจะรู้จักคนมาก
และฝากหล่อนไปทำงานที่นั่นเท่านั้นเอง ใครจะคิดว่าคุณยายเป็นแม่ยาย
หรือว่าคุณยายของเวียดเฮาส์ด้วยซํ้า
ทุกอย่างทีเ่ กิดขึ้นมันเกี่ยวโยงกันอย่างบังเอิญจริง ๆ ตั้งแต่หล่อนได้
พบและรู้จักกับคุณยายกลีบบัว คบหาสนิทชิดเชื้อไว้อกไว้ใจกัน จนนับถือ
เป็นญาติผู้ใหญ่ และคุณยายก็ฝากให้ไปทำงานทีภ่ ัตตาคารเวียดเฮาส์ โดย
ทีล่ ะมุนมาศไม่เคยระแคะระคายเลยว่า คุณยายมีส่วนเกี่ยวข้องกับที่นั่น
แถมหล่อนยังไปเผลอเล่าเรื่องชีกอของเจ้านายคนใหม่ ซึ่งเป็นหลานชาย
สุดที่รักของคุณยายให้ฟังอีก
ตาย ๆ จะต้องหางานพิเศษใหม่ทำหรือเปล่าเนี่ย ตอนนี้เรื่องเงินยิ่งมี
ปัญหาอยู่ด้วย ถ้าต้องหางานใหม่คงจะลำบาก ว่าแต่ใครจะคิดว่าคุณยายผู้
น่ารักจะมีหลาน ชีกอ ฉวยโอกาส เอาแต่ใจอย่างเขา ฮึ...
คนชีกอ คนฉวยโอกาส ทีท่ ำให้หัวใจของหล่อนหวั่นไหว จะเป็น
อย่างไรต่อไปก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาฟ้าลิขิตเสียแล้วกระมัง
“ไปที่ห้องอาหารกันเถอะ อาหารเรียบร้อยแล้ว” คุณลิซาเบธเดินเข้า
มาบอกกับทุกคน
382/559

“มาจ้ะหนูมุน ไปหาอะไรกินกัน วันนี้อาหารหลายชนิดทั้งไทยทั้งเทศ


ยายลงมือทำเอง” ละมุนมาศก้มหน้ารับพร้อมเดินตาม บอกไม่ถูกว่ารู้สึก
อย่างไรที่ได้เจอเขาโดยไม่คาดฝันที่นี่
ทั้งตกใจ ตกตะลึง ตื่นเต้น บางความรู้สึกนึกอยากจะโกรธ แต่ก็ไม่รู้
จะโกรธใครดี และหัวใจดวงนีก้ ็โกรธไม่ลงอีกต่างหาก โดยเฉพาะเขา
เจ้าของดวงตาออดอ้อน เจ้าเล่ห์ วิบวับหวานเป็นประกายนั่นอีก
หล่อนจะโกรธลงได้อย่างไร อ่า...แล้วที่เขาขอคบหล่อนล่ะ มันจริงจัง
จริงใจแค่ไหนกันนะ สับสนเล็ก ๆ ได้แต่หวังว่าเขาจะอธิบายเรื่องทั้งหมด
ให้หล่อนได้กระจ่าง
มองตามหลังเห็นภาพอบอุ่นที่คนตัวโตกำลังเดินโอบประคองคุณยาย
กลีบบัวไปยังโต๊ะอาหาร พร้อมกับพูดคุยด้วยภาษาไทยเสียงสูง ๆ ตํ่า ๆ
แต่ออดอ้อนอยู่ในทีแล้ว ละมุนมาศก็ต้องยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะอ่อนโยน ขี้อ้อน และสดใสอย่างนี้เวลาที่อยู่กับ
ครอบครัว โดยเฉพาะกับคุณยายของเขา
มุมที่ละมุนมาศไม่เคยเห็นมาก่อน นอกจากที่ทำงานที่เขามักจะว่า
ท่าทางเคร่งขรึม น่าเกรงขาม มีแต่ออกคำสั่ง เจ้าเล่ห์ เอาแต่ใจตัวเอง
ฉวยโอกาส เอาแต่ได้ หาเศษหาเลยกับหล่อน คิดแล้วก็อดที่แอบค้อนส่ง
ตามหลังไปให้ไม่ได้
33
ดินเนอร์...

โต๊ะอาหารยาวมีที่นั่งสิบคน มีคุณยายนั่งหัวโต๊ะ ซ้ายมือเป็นลูกสาว


และลูกเขย ขวามือคุณยายเป็นเหลนสาวตัวน้อยที่เจ้าตัวจองนั่งข้าง ๆ คุณ
ทวดเจ้าของวันเกิด และก็ดึงเอาเพื่อนรักอย่างฟีนิกซ์ไปนั่งข้าง ๆ ด้วย
“คารีนาจะนั่งติดคุณทวดกับฟีนะคะแดดดี้ ให้แดดดี้นั่งกับมามี้” คำ
ขอพร้อมกับคำสั่งของลูกสาวตัวน้อยทำให้บิดายิ้มกว้าง พร้อมกับนึก
ขอบคุณลูกสาวในใจ เหลือบมองบิดามารดาก็เห็นท่านแอบอมยิ้ม
“ได้เลยค่ะ คารีนานั่งตรงนี้ ฟีนั่งตรงนีน้ ะคะ” มือหนาเลื่อนเก้าอี้ให้
สองสาวตัวน้อย และก็ช่วยอุ้มร่างน้อย ๆ ขึ้นบนเก้าอี้ พร้อมกับช่วยเหน็บ
ผ้ากันเปื้อนที่คอชุดสวยให้ด้วย
หลังจากจัดการกับเด็ก ๆ เรียบร้อยแล้ว คารีโนก็เลื่อนเก้าอีต้ ัวถัดมา
ให้กับคนที่ยังยืนมึน ๆ กับความจริงที่ได้รับรู้อยูน่ ั่งข้าง ๆ คนตัวเล็กของ
หล่อนและเขานั่งลงติดกัน โดยมีผู้เป็นลุงนั่งติดกับบิดาของเขา
ส่วนห้องถัดไปมีอีกโต๊ะที่จัดอยู่อีกห้องติดกันเป็นคณะผู้ติดตาม
และตลอดระยะเวลาทานอาหาร คารีโนก็พูดคุยกับทุกคนพร้อมทั้งเอาใจใส่
384/559

คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไปด้วยโดยการตักอาหารให้ เมื่อเห็นว่าผู้เป็นแขก


ไม่ค่อยจะตักอาหารเองสักเท่าไร
“ทานเยอะ ๆ นะหนูมนุ ” คำพูดพร้อมกับการตักอาหารใส่จานให้ ทำ
ให้บิดา มารดา และคุณยายแอบสบตาและก็ยิ้มให้แก่กัน คุณยายกลีบบัว
คิดว่า
เอาใจน่าดู
ในขณะที่ผู้เป็นบิดาคิดว่า
งานนี้สงสัยลูกชายเอาจริง ตั้งแต่เห็นกอดทักทายไม่ยอมปล่อยแล้ว
ไม่เคยสักครั้งที่ลูกชายจะแสดงออกกับหญิงสาวคนอื่น ๆ ต่อหน้าบิดา
มารดาอย่างนี้
ฝ่ายมารดาก็คิดเช่นกันว่า
สงสัยลูกชายจะชอบเด็กสาวคนนีจ้ ริง ๆ เอาอกเอาใจอย่าง
ออกนอกหน้า ยิ่งดวงตาทีแ่ พรวพราวระยิบระยับราวกับมีดวงดาวสักล้าน
ดวงอยู่ในนั้นแล้วด้วย ลูกชายกำลังคิดจริงจังที่จะหาแม่ให้หลานสาวตัว
น้อยเป็นแน่ คำเรียกขานของหลานสาวว่า ‘มามี้’ นั่นอีก
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว วันก็เข็นเค้กทั้งสองก้อนที่
ประดับเทียนสว่างไสว ทันทีที่เด็กหญิงทั้งสองเห็นเค้กก็ส่งเสียงร้องเพลง
แฮปปีเบิร์ธเดย์ทันทีและทุกคนก็ร้องตาม เมื่อถึงเวลาเป่าเทียน เด็กหญิง
คารีนาและเด็กหญิงฟีนิกซ์ก็เป็นคนช่วยกำกับดูแลและเชียร์ให้กำลังใจ
385/559

เจ้าของวันเกิดอยูข่ ้าง ๆ ใบหน้าเหี่ยวย่นที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของคุณยาย


บ่งบอกถึงความสุขที่มีอย่างท่วมท้น
หลังจากตัดเค้กแจกแล้ว คุณยายกลีบบัวก็กล่าวขอบคุณ พร้อมกับ
แจกของตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณยายทำเองให้กับทุกคน เด็กหญิง
คารีนาและเด็กหญิงฟีนิกซ์ดีใจเป็นอย่างยิ่งกับตุ๊กตาตัวโตที่ได้รับ
พร้อมกับซองเล็ก ๆ พอเห็นลูกสาวได้ตุ๊กตาตัวโต หลานชายก็เอ่ยขึ้นว่า
“ขอผมสักตัวได้ไหมครับคุณยาย อยากเอาไปนอนกอด”
“ยังกอดตุ๊กตานอนอีกหรือฮึ” คุณยายถามกลับยิ้ม ๆ
“ก็ผมไม่มีใครให้นอนกอดนี่ครับ” ปากบอกคุณยาย แต่ตาชำเลือง
ไปทางคนร่างบาง เมื่อได้ยินเขาพูดอย่างนั้น ละมุนมาศก็นึกสงสัยถึงเรื่อง
ภรรยาของเขาหรือว่ามารดาของเด็กหญิงคารีนาขึ้นมาทันที
ภรรยาของเขาไปไหนนะ อยากรู้จัง เพราะที่ได้รับรูจ้ ากคุณยายก็คือ
เด็กหญิงไม่มีแม่ และคุณยายก็ไม่เคยพูดถึงมารดาของเด็กหญิงสักครั้ง
อย่าว่าแต่หลานสะใภ้เลย คุณยายไม่เคยเอ่ยชื่อหลานชาย ไม่เคยเอ่ยชื่อ
ลูกสาวลูกเขยให้ได้ยินสักครั้ง
และละมุนมาศก็ไม่เคยซักถาม พอมารู้อีกทีทำเอาแทบช็อกเลย
ทีเดียว ถ้าหล่อนยังเป็นเด็กอย่างฟีนิกซ์คงจะวิ่งหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสัก
แห่ง หลบหลีกจากทุกอย่างเสียดื้อ ๆ แต่หล่อนก็โตเกินกว่าที่จะทำอย่าง
386/559

นั้นได้ จนต้องนั่งสับสนอยู่อย่างนี้ และหวังว่าเสร็จจากงานนี้แล้วหล่อนจะ


ได้รับความกระจ่าง ถ้าไม่กระจ่างก็คงต้องต่างคนต่างไป
หลังจากอิ่มหนำสำราญจากอาหารคาวหวาน และได้รับแจกซองกัน
ถ้วนหน้าแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ละมุนมาศก็ได้รับด้วย คณะผู้ติดตามคนอื่น ๆ
ก็แยกย้ายกันไป เบียน เฟย ก็ขอตัวตามวันเข้าไปในครัว ละมุนมาศก็เลย
ขอตัวไปช่วยด้วย แต่ไม่นานก็ต้องออกมาจากห้องครัว เพราะว่ามือแข็ง
แรงของใครบางคนดึงหล่อนให้เดินตามออกไปทางหลังบ้าน
“นี่คุณ” พอรู้ตัวว่าพูดภาษาอังกฤษ ละมุนมาศก็เปลี่ยนเป็น
ภาษาไทยทันที
“นี่คุณจะพาฉันไปไหน ฉันจะช่วยวันล้างจานนะคะ”
“ไม่ต้องช่วยหรอก เฟยกับเบียนจัดการได้” แล้วเขาก็จูงหล่อนให้
เดินตามไปเรื่อย ๆ
“แต่มันไม่ดีนะคะ ฉันควรจะช่วยพวกเขาทำงานก่อน”
“ไม่ต้องทำหรอก หนูมุนเป็นแขกของคุณยายนะ” คนที่ถูกเรียกว่า
หนูมุนเพิ่งจะระลึกได้ และไม่คิดว่าเขาจะเรียกหล่อนอย่างสนิทสนมอย่างนี้
ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนนัก
“งั้นก็พาฉันไปหาคุณยายสิคะ วันนีว้ ันเกิดคุณยาย ฉันก็ควรที่จะอยู่
กับ คุณยายมากกว่านะคะ แล้วคุณจะพาฉันไปไหนเนี่ย” เสียงสั่น ๆ ของ
คนพูดกับหน้าตาที่เป็นกังวล เมื่อเขาพาไปยังห้องต่าง ๆ ทีเ่ ปิดไฟแค่สลัว
387/559

ๆ คารีโนเห็นใบหน้านั้นแล้วก็ได้แต่ยิ้มคนเดียว จนไปถึงห้องหนึ่งละมุน
มาศก็ยิ้มออกมาทันที ที่เห็นว่ามีคุณยายกลีบบัว บิดามารดาของเขา คารี
นา และคนตัวเล็กของหล่อนนั่งรวมกันอยู่ที่นั่น
ห้องกระจกทั้งสามด้านและหลังคาโปร่งใสอยู่ในความมืดสลัว มีแต่
แสงที่สะท้อนมาจากโทรทัศน์ที่เด็ก ๆ กำลังดูอยู่เท่านั้น
“ทั้ง ๆ ที่อยากทำ แต่ผมพาคุณไปไหนไม่ได้หรอก ไม่อยากโดนคุณ
ยายตี” เสียงนุ่ม ๆ กระซิบข้างหู
“นั่งเถอะจ้ะหนูมุน ตรังพาหายไปไหนมาเนี่ย” คุณยายถามยิ้ม ๆ
“ผมไม่ได้พาไปไหนนะครับคุณยาย ทั้ง ๆ ที่อยากพาไปจะแย่ ผม
ไปดึง หนูมุนมาจากในครัวครับคุณยาย” คนเป็นหลานชายตอบ พร้อมกับ
ดึงร่างบางให้นั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับเขา
“อ้าว ไปทำอะไรในนั้น”
“เอ่อ” ยังไม่ทันที่ละมุนมาศจะได้ตอบ คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็โพล่งขึ้น
ว่า
“ไปช่วยวันล้างจานครับ”
“โอ๊ย ไม่ต้องหรอกจ้ะหนูมุน ยายให้หนูมาเที่ยว ไม่ได้ให้มาทำงาน
สักหน่อย งานพวกนั้นมีคนทำอยู่แล้ว ยายก็นึกว่าตรังพาหนูไปนั่งเล่น
ข้างนอกที่ระเบียงด้านข้างเสียอีก ชาหรือกาแฟดีจ๊ะ”
“มุนยังอิ่มอยู่เลยค่ะคุณยาย ขอบคุณค่ะ”
388/559

“ตามสบายนะหนูมุน ห้องนีเ้ ป็นห้องดูดาว จะนั่งจะเอนก็ตามสบาย


เก้าอี้ทุกตัวปรับเอนนอนได้” คุณลิซาเบธที่นั่งอยู่กับท่านไนฮัวกล่าวขึ้น
“ขอบคุณค่ะมิสซิสเนียมบา”
“อย่าเรียกมิสซิสเนียมบาเลย เรียกฉันว่าป้าลิซดีกว่ามั้ง”
“ขอบคุณค่ะป้าลิซ”
“ให้เรียกป้าหรือครับมัม นึกว่าให้เรียกเหมือนผม” ลูกชายหันไปแซว
มารดา พร้อมกับปรับเก้าอี้ให้เอนนอน ทำเอาคนที่นั่งอยูข่ ้าง ๆ เด้งตัวขึ้น
แทบไม่ทัน แต่มือหนาก็ดึงร่างบางให้เอนลงไปนอนจนได้
“นอนเอนดีกว่าจะได้สบาย ๆ”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ครับ นอนเถอะ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก คนเต็มห้องอย่าง
นี้” ได้ฟังแล้วละมุนมาศก็ได้แต่ส่งค้อนให้เขา
ฉวยโอกาสแม้กระทั่งต่อหน้าคนในครอบครัวของเขา
“ตรังอย่าแกล้งน้องนะ” เสียงคุณยายส่งมาสำทับ
“ไม่แกล้งครับ ผมไม่อยากโดนคุณยายตี” บอกคุณยายแล้วก็หันไป
ทาง มารดาถามยํ้าอีกครั้ง
“ทำไมไม่ให้เรียกเหมือนผมครับมัม”
389/559

“อันนั้นก็แล้วแต่ลูกสิ แต่มัมว่าค่อยเป็นค่อยไปดีกว่านะ หนูมุน


ตกใจแย่เลย” คุณลิซาเบธบอกยิ้ม ๆ
“ผมใจร้อนครับ”
“อะไรเพิ่งจะมาใจร้อนตอนนี้จ๊ะหือ ตรังอย่าทำให้หนูมนุ อายสิลูก”
คุณยายช่วยแก้ไขสถานการณ์
“อย่าเอาเปรียบหนูมุนด้วย”
“ไม่ได้เอาเปรียบครับคุณยาย ถามหนูมุนดูสิครับ”
“บอกยายนะหนูมุน ถ้าตรังเอาเปรียบไม่ต้องกลัว ยายจะจัดการให้
จะตีให้น่องลายเหมือนตอนเด็ก ๆ เลยไม่เชื่อคอยดู” คุณยายคาดโทษ
หลานชายได้แต่หัวเราะชอบใจ
“ผมต้องโดนคุณยายตีอีกแน่ ๆ”
“แดดดี้โดนคุณทวดตีเรื่องอะไรคะ” เสียงเล็ก ๆ ของลูกสาวถามขึ้น
“ยังไม่โดนจ้ะ แต่ถ้าแดดดี้ดื้อก็ไม่แน่” คุณยายกลีบบัวตอบเหลน
สาว
“แดดดี้ก็อย่าดื้อสิคะ เป็นเด็กดีแล้วจะไม่โดนตี”
“ไม่ดื้อจ้ะ แดดดี้เป็นเด็กดี”
“งั้นก็ไม่โดนตี” เด็กหญิงฟีนิกซ์ช่วยเสริม เรียกเสียงหัวเราะของ
ผู้ใหญ่ได้ ทุกคน
390/559

ละมุนมาศได้แต่นั่งฟังเขาคุยกับคุณยายและบิดามารดา เพราะไม่รวู้ ่า
จะคุยอะไร ถึงแม้ว่าคุณยายจะชวนหล่อนคุยบ้าง จนกระทั่งถึงเวลานอน
ของเด็ก ๆ คุณ ลิซาเบธก็เรียกให้วันและมิสไอวีพาเด็ก ๆ ไปนอน
“กู๊ดไนต์ก่อนจ๊ะเด็ก ๆ” คุณยายบอก เด็กหญิงคารีนาวิ่งเข้าไปหา
คุณยายเป็นคนแรก
“กู๊ดไนต์ค่ะคุณทวด” ร่างเล็กกอดคุณทวดและก็หันไปกอดคุณย่า
“กู๊ดไนต์แกรนด์มา” แล้วก็โผเข้าหาอ้อมแขนของคุณปู่
“กู๊ดไนต์แกรนด์ฟา” ต่อมาก็ปีนขึ้นไปบนตักของผู้เป็นบิดาจูบดังจ๊วบ
“กู๊ดไนต์แดดดี้” แล้วก็เอนตัวส่งอ้อมกอดเล็ก ๆ ไปยังคนที่นั่งข้าง

“กู๊ดไนต์มามี้” เด็กหญิงฟีนิกซ์ทำตามบ้าง
“กู๊ดไนต์ค่ะคุณยาย กู๊ดไนต์ป้าลิซ กู๊ดไนต์ลุงไนฮัว”
“มาฟีเร็ว ๆ ให้แดดดี้กอดด้วยกัน” เด็กหญิงคารีนาส่งเสียงเรียก
คารีโนอ้าแขนกว้างออกรับ ฟีนิกซ์เดินเข้าไปหา เขาก็อุ้มร่างเล็ก ๆ
นั้นขึ้นบนตักนั่งเคียงข้างกับลูกสาวของเขา
“กู๊ดไนต์แดดดี้”
“กู๊ดไนต์ค่ะฟี คืนนี้จะนอนที่ไหนกันเนี่ย” คารีโนแกล้งถาม
391/559

“คารีนาจะนอนกับฟีค่ะ ในห้องมีเตียงสองอัน นะฟีนะ นอนกับคารี


นานะ ให้มามี้นอนกับแดดดี้” คำพูดนั้นทำเอาละมุนมาศสะดุ้งโหยงทีเดียว
แต่คารีโนกลับหัวเราะหึ ๆ อย่างถูกใจ
คุณยายมองหน้าระรื่นของหลานชายแล้วก็ต้องแอบยิ้ม
“ไม่ต้องห่วงนะหนูฟี หลับให้สบาย พรุ่งนีต้ ื่นสาย ๆ ทานอาหารเช้า
แล้วเราไปให้อาหารหมูกัน”
“เย้ ๆ เราไปให้อาหารหมูกันนะฟี แล้วคารีนาจะพาไปดูสปริงด้วย”
“น่าสนุกจัง”
“เอาละจ้ะ เด็ก ๆ ไปนอนกันได้แล้ว” คุณลิซาเบธตัดบท
“ฟียังไม่ได้จูบมามี้เลย” ร่างเล็ก ๆ ข้ามจากตักของคารีโนไปหาคน
ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
“จุ๊บ นอนหลับฝันดีค่ะฟี”
“หลับฝันดีค่ะมามี้”
“หลับฝันดีค่ะมามี้” เด็กหญิงคารีนาเอาอย่างบ้าง ผู้ใหญ่ได้แต่ยิ้ม
พอลับร่างของเด็ก ๆ และพี่เลี้ยงแล้ว คุณยายก็พูดขึ้นว่า
“สงสัยคารีนาอยากมีมามีม้ าก ๆ หนูมุนอย่าถือสานะจ๊ะ เด็กไม่มีแม่
ก็อย่างนี้แหละ”
392/559

“ไม่หรอกค่ะคุณยาย มุนเข้าใจ ฟีก็เป็นค่ะ” คนตอบหน้าซับสีระเรื่อ


ทีเดียว ทำเอาคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อดใจไม่ไหว พอคุณยายเผลอเขาก็ยื่น
ริมฝีปากเข้าแตะเร็ว ๆ ที่ข้างขมับ ทำเอาคนถูกจูบทำหน้าไม่ถูกไปเลย
ทีเดียว นึกอยากจะตอบโต้ที่โดนเอาเปรียบ แต่ละมุนมาศก็ทำไม่ได้
“หนูมุนถ้าง่วงบอกยายนะ จะให้วันพาไปที่ห้อง”
“ค่ะคุณยาย มุนยังไม่ง่วงหรอกค่ะ ปกตินอนดึกกว่านี้” ละมุนมาศ
ฟังคนในครอบครัวคุยกันด้วยเรื่องสัพเพเหระสบาย ๆ แต่พอท่านไนฮัว
คุยกับลูกชายเรื่องของฟาร์มที่จะเปิดให้คนเข้าชม คุณยายกับคุณลิซาเบธก็
เป็นผู้ฟัง ละมุนมาศก็ฟังไปด้วย
แต่พอฟังไปฟังมา ไม่นานคนทีบ่ อกว่าไม่ง่วง ศีรษะก็เริ่มเอียงไปข้าง
ๆ ก่อนทีจ่ ะซบไปกับหมอน คารีโนปล่อยให้คนไม่ง่วงนอนพร้อมดึงผ้าห่ม
ข้าง ๆ ตัวห่มให้ คุณยายเห็นการกระทำนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะบอกว่า
“ปลุกน้องไปนอนดีกว่านะตรัง”
“เดี๋ยวผมจัดการเองครับ ไม่ต้องห่วงครับ”
“ยายห่วงหนูมุนจ้ะ ไม่ได้ห่วงตรังหรอก”
“โห น้อยใจ รับรองครับว่าผมจะไม่ทำอะไรหนูมุนของคุณยายให้
เสียหาย”
“แค่กอดแค่หอมหนูมุนก็เสียหายแล้วจ้ะ ผู้หญิงไทยเขาถือ” คุณยาย
กระซิบบอกหลานชาย
393/559

คารีโนอยากจะเถียงคุณยายนักว่า ผู้หญิงไทยสมัยใหม่ที่เขาเจอ ก็
ไม่ต่างไปจากสาว ๆ อเมริกันสักเท่าไรเลย
“แต่...”
“แต่อะไรจ๊ะ”
“แต่ผมรักหนูมุนของคุณยายนี่ครับ จะไม่ให้แตะต้องเลยคงเป็นไป
ไม่ได้” เจ้าตัวโพล่งออกไปแล้ว ก็รู้สึกเขินที่ต้องมาสารภาพรักกับสาวให้
ผู้ใหญ่ได้รับรู้
“แล้วเจ้าตัวรู้หรือยัง” หลานชายได้แต่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ
“ให้หนูมุนนอนห้องฟ้าติดกับยายละกันนะ”
“ครับคุณยาย ผมจะพาไปให้ถึงห้องเลยทีเดียว” พอหลานชายพูด
อย่างนั้น คุณยายก็เลยจำต้องลุกขึ้น คุณไนฮัวลุกออกไปจากห้อง คุณลิซา
เบธก็ประคองมารดาไปยังห้องนอนที่อยูด่ ้านหลังของบ้าน รอจนมารดา
แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า ขึ้นเตียงเรียบร้อยแล้ว คุณลิซาเบธก็หย่อนตัวลง
นั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ เตียง เริ่มต้นบทสนทนาว่า
“คารีนากับฟีนิกซ์เข้ากันได้ดีเหลือเกินนะคะมัม”
“ใช่ แม่ว่าก็ดีนะ เด็ก ๆ เข้ากันได้ ผู้ใหญ่จะได้ไม่มีปัญหา”
“คารีโนคงชอบหนูมุนจริง ๆ ดูท่าทางแล้วหนักเอาการอยู่ เห็นวันนีก้ ็
รู้ว่ารักเขาหมดใจแล้วละ” คุณยายกลีบบัวยิ้มพร้อมเสริมว่า
394/559

“แอบเนียนไปกอดทักทายหนูมนุ ด้วย นีข่ นาดแม่ขอแล้วนะ คิดดูก็


แล้วกัน ในบ้านเรายังขนาดนี้ ลับหลังจะขนาดไหนก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าหนูมนุ จะ
รับไหวหรือเปล่า” คำตอบของมารดาทำให้ลูกสาวยิ้ม เพราะรู้จักลูกชายดี
ว่าเป็นอย่างไร
“หนูไม่เคยเห็นลูกเป็นอย่างนีม้ าก่อน ไม่เคยเห็นเขาสดใสดูมีความ
สุขขนาดนี้ วันก่อนหนูโทร. ไปเวียดเฮาส์ มิสมินต์รายงานว่า เจ้านายเข้า
ไปทีร่ ้านทุกวันศุกร์ และเสาร์เกือบทุกอาทิตย์ทีเดียว เห็นบอกว่าช่วงแรกมุ
นแอบหนีกลับบ้านประจำ ช่วงหลัง ๆ มานี่รู้สึกว่าจะติดใจอาหารไทย
เรียกให้หนูมุนทำอาหารไทยให้ทานทุกครั้งไป”
“จริงหรือ”
“ค่ะ หนูว่ามัมมีสิทธิ์ได้หลานสะใภ้แน่ ๆ ปีสองปีนี้”
“ปีสองปีเชียวหรือ ช้าไปมั้งแม่ว่า ตรังคงไม่รอนานขนาดนั้น ดูท่า
ทางแล้วอยากจะรวบรัดหนูมุนซะเต็มแก่”
คำถามของคุณยายกลีบบัวเรียกเสียงหัวเราะจากลูกสาวได้เป็นอย่าง
ดี
“ดึกแล้ว มัมนอนนะคะ หนูก็จะไปนอนเหมือนกัน กู๊ดไนต์มัม” คุณ
ลิซาเบธกอดและจูบมารดาก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง
“กู๊ดไนต์ลิซ หลับฝันดีนะลูก” ประโยคสุดท้ายคุณยายกลีบบัวพูด
ออกมาเป็นภาษาไทย
395/559

“ขอบคุณค่ะแหม่” ภาษาไทยที่ตอบกลับมาของลูกสาว ทำให้คุณยาย


กลีบบัวต้องนอนอมยิ้ม คิดในใจว่าไม่เคยสักครั้งทีค่ ุณยายจะได้เป็นแม่
เพราะว่าเป็นแหม่ทุกที
34
เรื่องราว...

สายตาอบอุ่นอ่อนโยนที่แสดงออกถึงความรู้สึกของหัวใจจากเจ้าของ
ที่เท้าข้อศอกตะแคงมองใบหน้าหวานที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ห่างไม่ถึงคืบ
พร้อมกับใบหน้ายิ้มอย่างเอ็นดูทสี่ ่งให้กับคนนอนหลับแล้ว จากนั้นนิ้วทั้งสี่
ก็ยื่นออกไปไล้ข้างแก้มเนียนแผ่วเบา ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างมีความสุข จน
คนทีก่ ำลังนอนหลับต้องยกมือขึ้นปัด พร้อมกับเบือนหน้าหนีซุกกับหมอน
มากขึ้น
“อือ”
อาการนั้นเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าคมสันกว้างขึ้น แต่กย็ ังไม่หยุดการ
กระทำนั้น ในที่สุดคนหลับต้องลืมตาตื่น และก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้า
คมอยู่ชิด แถมยังก้มลงมาจุ๊บแก้มของหล่อนอย่างรวดเร็ว
“ตื่นแล้วหรือ ถ้ายังไม่ตื่นผมจะอุ้มไปนอนที่ห้องนะ” คำพูดของเขา
ทำให้คนที่นอนอยู่ลุกขึ้นทันใด อีกคนได้แต่หัวเราะหึ ๆ
“งั้นก็ไปนอนก่อนนะคะ กู๊ดไนต์”
“แล้วรู้หรือว่านอนห้องไหน”
397/559

“เอ่อ ห้องไหนคะ”
“มานี่” มือหนาดึงมือบางมาจับจูงให้เดินตาม ผ่านห้องครัวไปทาง
ด้านหลัง
“ฟีนอนที่ไหนคะ”
“ฟีนอนกับคารีนาข้างบน ไม่ต้องห่วงนะ ส่วนห้องหนูมุนอยู่ติดกับ
ห้องของคุณยาย หรือว่าหนูมุนจะไปนอนกับผมอีกฝั่งหนึ่งก็ได้” คำถามกึ่ง
เชิญชวนนั้นทำให้คนฟังถึงกับหยิบเล็บลงในมือที่จับจูงอยู่แรง ๆ
“อูย”
“คุณนี่ฉวยทุกโอกาสจริง ๆ เลย” คนถูกว่าหัวเราะถูกใจ
“ก็มันน่าฉวยนี่ ว่าแต่คุณจะว่าอย่างไร”
“ขอบคุณค่ะ ฉันนอนใกล้ ๆ คุณยายดีกว่า รู้สึกจะปลอดภัยมาก
กว่า”
คนอันตรายได้แต่หัวเราะชอบใจก่อนจะบอกว่า
“คนเป็นแฟนกัน นอนด้วยกันไม่เห็นแปลก ถ้าไม่นอนด้วยกัน
เมื่อไรเราจะได้ศึกษากันละหือ หนูมุน”
“คนจะศึกษากันไม่จำเป็นต้องนอนด้วยกันก็ได้ค่ะ” อีกคนตอบเสียง
สะบัด
398/559

“มันจำเป็น เราจะได้รู้ว่าเข้ากันได้หรือเปล่า ทั้งความรู้สึกนึกคิด วิถี


การดำรงชีวิต รวมถึงเรื่องเซ็กซ์ด้วย สำคัญนะ” พอเขาพูดเรื่องเซ็กซ์อีก
คนก็คนหน้าขึ้นสีแดงแปร๊ดทันที รีบหยุดเขาทันที
“เลิกพูดถึงนีก้ ่อนเถอะค่ะ เราเพิ่งจะเริ่มต้นคบกัน คุณต้องให้เวลา
ฉันบ้าง จะว่าไปฉันแทบไม่รู้จักคุณเลยก็ว่าได้”
คำพูดนั้นทำให้คนที่กำลังจะเปิดประตูห้องตาสว่างวับขึ้นมาทันที
“นั่นไง เราถึงต้องใกล้ชิดกัน มาทำความรู้จักกันดีกว่า” ไม่พูดเปล่า
เขายังดึงร่างบางเข้าหาตัว คนตัวบางเลยต้องรีบตัดบท
“ขอบคุณค่ะที่มาส่ง” ละมุนมาศเปิดประตูห้อง มือหนาก็ยื่นเข้าไป
เปิดไฟให้ แสงสว่างในห้องทำให้เห็นความสวยงามภายใน เห็นห้องนอน
แล้วละมุนมาศก็รู้สึก ตื่นเต้น ห้องสวย ตกแต่งได้หรูหราน่าอยู่ สายตา
หวานมองกวาดไปรอบ ๆ ห้อง ก็รู้สึกได้ถึงแขนแข็งแรงที่ดึงร่างของหล่อน
เข้าไปกอดรัดเอาไว้แน่นกับตัว ใบหน้าก้มตํ่าลงมา ละมุนมาศก็เลยหลบ
“นี่คุณอยู่เฉย ๆ สิ” เสียงสั่งเขาสั่นนิด ๆ คนถูกสั่งหัวเราะเบา ๆ
“ก็หนูมุนอยากน่ารักทำไมล่ะครับ”
คนน่ารักได้แต่ปิดปากเงียบ ซุกหน้ากับอกกว้างโดยไม่เปิดโอกาสให้
อีกคนได้ทำตามใจ และอีกคนก็ไม่ได้ดึงดันเอาแต่ใจ ได้แต่กอดร่างบาง
เอาไว้ เกยคางกับเรือนผมนุ่ม หลับตาลง
399/559

“ชอบจัง ชอบที่มีคุณอยู่ในอ้อมกอดอย่างนี้” ละมุนมาศได้แต่ฟังเขา


พูด รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของอ้อมกอดนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันรู้สึกดี
เหลือเกิน ปลอดภัย มั่นคง จนรู้สึกไม่อยากทีจ่ ะออกไปจากอ้อมกอดนี้
เลย ต่างคนต่างเงียบ ละมุนมาศไม่กล้าเงยหน้าหรือว่าลืมตา กลัวว่าจะ
ต้องสบตากับเขา
“ได้กอดคุณแล้วรู้สึกดีจริง ๆ ขอกอดทั้งคืนได้ไหม”
คำถามนั้นทำให้คนที่กำลังเคลิ้มรีบส่ายหัวบอกว่า
“ไม่ได้ค่ะ คุณกลับไปห้องได้แล้วนะคะ ฉันจะอาบนํ้านอน”
“คุณไปอาบนํ้านอนได้เลย กระเป๋าเสื้อผ้าของคุณน่าจะมีคนเอาเข้ามา
ให้แล้ว” บอกแล้วเขาก็เดินเข้าไปในส่วนของห้องนํ้า สักครูร่ ่างสูงก็เดิน
กลับมาบอกว่า
“กระเป๋าเสื้อผ้าคุณอยู่ในห้องคลอสเซต (Closet – ตู้ติดผนัง) ใน
ห้องนํ้า”
“ขอบคุณค่ะ กู๊ดไนต์นะคะ” ขอบคุณและบอกลาเขาแล้ว ละมุนมาศ
รีบเดินเข้าไปในห้องนํ้าโดยไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าหล่อนเข้าห้องนํ้าเขาก็
คงจะกลับห้องของตัวเองไป
ละมุนมาศใช้เวลาสำรวจความสวยงามและหรูหราของห้องนํ้าก่อนที่
จะอาบนํ้า อ่างอาบนํ้าขนาดใหญ่ที่สามารถลงไปนอนได้ทั้งตัว ทำให้ละมุน
400/559

มาศตัดสินใจนอนแช่นํ้ากว่าครึ่งชั่วโมง พอแต่งตัวออกมานอกห้องก็ต้อง
ตกใจ เมื่อยังเห็นร่างสูงของใครบางคนยังอยู่ในห้อง
“คุณ”
มือบางสองข้างยกขึ้นกอดอกไว้ทันที ไม่คิดว่าเขาจะยังอยู่ ก้มลงมอง
ตัวเองในเสื้อกล้ามตัวเล็กกับกางเกงขาสั้นกุดแล้วก็หน้าร้อนผ่าว ไม่ใช่ว่า
ไม่เคยใส่ชุดนี้ แต่ไม่เคยใส่เปิดเผยให้ใครเห็น พอสบสายตาของเขาที่มอง
เขม็งมาตอนนี้ทำให้เนื้อตัวของหล่อนร้อนวูบวาบ จนต้องวิ่งกลับเข้าไปใน
ห้องนํ้า ได้ยินเสียงหัวเราะหึ ๆ ชอบใจตามมา นึกอยากจะว่าเขา แต่ก็คง
ไม่มปี ระโยชน์อะไร คว้าเสื้อคลุมที่แขวนอยูห่ น้าประตูห้องนํ้ามาใส่เดิน
กลับออกไปอีกครั้ง
“ฉันนึกว่าคุณกลับไปแล้วเสียอีก” อ้อมแอ้มหน้าแดงบอกออกไป
คนที่ยังนั่งอยู่บนเตียงเปิดยิ้มก่อนตอบว่า
“ผมยังไม่อยากไป ขออยู่คุยก่อนได้ไหม ไหน ๆ ตอนนี้หนูมนุ ก็ตา
สว่างแล้ว คุยได้ไหมครับ”
“คุยเรื่องอะไรคะ”
“หนูมุนไม่อยากรู้เรื่องของผมบ้างหรือ เรามาทำความรู้จักกันดีกว่า
นะ ผมจะให้หนูมนุ ถามทุกอย่างในสิ่งที่หนูมุนอยากรู้ และผมก็จะถามหนู
มุนบ้างดีไหม” เมื่อเขาเสนอในสิ่งที่หล่อนก็อยากรู้ ละมุนมาศคิดว่าก็น่าจะ
ดี เพราะว่าหล่อนยังรู้จักเขาน้อยเหลือเกิน
401/559

“ดีค่ะ งั้นก็ไปนั่งด้านนอกละกัน จะได้คุยกันรู้เรื่อง”


“ไม่ต้องหรอก นั่งโซฟาหน้าทีวีดีกว่า” ละมุนมาศยังไม่ได้สังเกตว่ามี
โทรทัศน์หรือว่าโซฟาอยู่ตรงไหนของห้อง เขาก็จูงมือหล่อนผ่านเตาผิงไป
โซฟาหน้าโทรทัศน์
ละมุนมาศเพิ่งจะมีโอกาสได้สำรวจห้อง ทั่วทั้งห้องทาสีฟ้าหรือว่าสีเทา
อ่อนตา มองสีไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากแสงไฟสีเหลืองนวลที่สว่างไปทั่วทั้ง
ห้อง ผ้าม่านสีเข้มหรูหราสวยงาม มีเตาผิงอยู่กลางห้อง คั่นระหว่าง
เตียงนอนกับส่วนที่ดโู ทรทัศน์ หน้าโทรทัศน์มีโซฟาตัวยาวตั้งอยูห่ นึ่งตัว
ตัวเล็กเดี่ยวอีกสองตัว
เจ้าของบ้านเปิดโทรทัศน์และดึงหล่อนให้นั่งลงข้าง ๆ ละมุนมาศ
ขยับตัวออกห่างไปนั่งพิงพนักโซฟาอีกด้านคนตัวโตก็ตามประชิด แถมเอน
ศีรษะได้รูปซบลงบน หัวไหล่บอบบางนั่นด้วย
“นี่คุณ นั่งดี ๆ สิคะ” เสียงสั่น ๆ ของคนสั่งทำให้อีกคนแอบยิ้ม
หวั่นไหวล่ะสิ
“ขอนั่งแบบนี้ได้ไหม สบายจังเลย เอ้า ถามมาเลยอยากรู้อะไรก็ถาม
ได้” เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าอีกคนกำลังหวาดกลัว
“แต่ฉัน...” ไม่อยากให้เขารู้ว่าหัวใจดวงน้อยของหล่อนหวั่นไหวจนไม่
เป็นตัวของตัวเองแล้วกับการใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวอย่างนี้ของเขา
“เป็นอะไร...หือ”
402/559

“นั่งดี ๆ นะคะ แล้วเราจะได้คุยกัน”


“คุณหวั่นไหวหรือหนูมนุ ” เสียงนุ่มทุ้มกับใบหน้าที่เงยขึ้นจากหัวไหล่
จมูกโด่ง ๆ ของเขาพ่นลมหายใจอยู่ตรงข้างแก้มทำให้ละมุนมาศแทบ
หายใจไม่ออก
“เปล่าค่ะ” เสียงตอบกลับแทบไม่ได้ยิน
“งั้นก็คุยกัน ว่าไง คุณอยากรู้อะไรก็ถามผมได้เลย” แล้วคนตัวโตก็
เปลี่ยนเป็นนั่งพิงกับพนักโซฟา ขายาวเหยียดไปบนโต๊ะกลาง มือสองข้าง
กอดอก ดวงตาคูค่ มที่มองมาทางหล่อนวิบวับแพรวพราว จนละมุนมาศ
ต้องหลบไปมองรอบ ๆ ห้องแทน เรียกเสียงหัวเราะเบา ๆ จากอีกคนได้
เป็นอย่างดี
เรื่องราวของเขาตั้งแต่เด็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยวีรกรรมสารพัดอย่าง บาง
อย่างทำให้ละมุนมาศอดที่จะหลุดหัวเราะออกมาไม่ได้ ความหวาดหวั่นใน
หัวใจหายไป ความรู้สึกว่าเขาเป็นคนแปลกหน้าก็หายไปด้วย
ชีวิตในทุกช่วงทุกวัยที่เขาเล่าให้ฟัง จนกระทั่งจบมัธยมปลายไปเรียน
ทีฝ่ รั่งเศส เรียนจบปริญญาโทกลับมาช่วยบิดามารดาดูแลธุรกิจของ
ครอบครัว
“เรื่องราวของผมก็มแี ค่นี้” เขาจบเรื่องราวของตัวเองเท่านั้น แต่คน
ฟังยังไม่กระจ่าง ก็เลยโพล่งถามออกไปในสิ่งที่ข้องใจ
“แล้วคุณแต่งงานตอนไหนคะ”
403/559

“ผมยังไม่เคยแต่งงาน” เขาตอบทันที
“อ้าว แล้ว...คารีนา”
“นึกว่าจะไม่ถาม ผมอยากให้คุณถาม ผมจะได้ตอบ” คนตัวโตดึง
ตัวเองลุกขึ้นนั่ง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาบนโซฟาหันหน้าเข้าหาคนตัวบางที่มอง
มาอย่างไม่เข้าใจ
“คารีนาก็ลูกสาวผม” คิ้วเข้มของคนฟังขมวดเข้าหากันอย่างรวดเร็ว
จนคนพูดต้องยื่นมือยกนิ้วขึ้นเกลี่ยให้คลายออกจากกัน
“ผมได้คารีนามาเมื่ออายุแปดเดือน เมื่อตอนที่ผมตามมัมกับแดด
และ คุณยายไปเยี่ยมศูนย์เด็กเล็กในศูนย์ผู้อพยพจากเฮอริเคนแคทรีนา
เด็กน้อยน่ารักวัยแปดเดือนคลานมาหาเกาะขาผม ผู้ดูแลบอกว่า หน่วย
กู้ภัยไปเจอเด็กน้อยได้รับบาดเจ็บนั่งร้องไห้อยู่ใกล้กับร่างของบิดามารดา
ในซากปรักหักพังของบ้าน แต่ได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก หัวใจผมกระตุก
เลยทีเดียวทีไ่ ด้รับรู้เรื่องราว รอยยิ้มของเด็กหญิงตัวน้อยทีเ่ กาะขาผม ทำ
ให้ผมหลงรักทันที”
“โถ น่าสงสาร” คนฟังอดทีจ่ ะนํ้าตาคลอไม่ได้ เรื่องราวของหล่อนกับ
คนตัวเล็กว่าน่าสงสารแล้ว เด็กหญิงตัวน้อยยิ่งน่าสงสารมากกว่านัก
“ถ้าสงสารก็ช่วยดูแลแกด้วยสิ”
“คุณก็ดูแลอยู่แล้วไงคะ พ่อกับแม่ของคุณและก็คุณยายด้วย”
404/559

“มันเหมือนกันที่ไหนล่ะ คุณก็รู้ว่าลูกผมต้องการมามี้มากที่สุด
ตอนนี้” เมื่อได้ฟังอย่างนั้นละมุนมาศก็หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด ไม่คิดว่า
เขาจะเอาลูกสาวมาอ้างอย่างนี้
“ว่าแต่คุณไม่อยากรู้เรื่องของฉันบ้างหรือคะ” รีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่
เรื่องของเขาจะพัวพันหล่อนให้เขินอายและหาคำตอบไม่ได้ไปมากกว่านี้
“อะ ฟังเรื่องของคุณบ้างก็ได้” ไม่พูดเปล่ามือหนานุ่มของเขาเอื้อมไป
จับมือบางคนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ มาจับ ลูบไล้เล่นแผ่วเบา ความรู้สึกวาบหวาม
ทำให้คนที่ตั้งใจจะพูดถึงกับพูดไม่ออก
“คุณปล่อยมือฉันก่อนสิคะ ฉัน...เอ่อ พูดไม่ถนัด”
“มันเกี่ยวอะไรกันหรือ”
“ก็...คุณทำให้ฉันไม่มสี มาธิ คิดอะไรไม่ออก” คนได้รับรู้เหตุผลถึง
กับยิ้มกว้าง
“แสดงว่าผมก็มอี ิทธิพลกับคุณพอสมควรสินะหนูมนุ ” พูดจบก็ยื่น
หน้าเข้าไปแตะริมฝีปากบางอย่างรวดเร็ว แล้วก็ล้มตัวลงนอนบนตักนุ่ม
ทันที
“อุ๊ย คุณนี่”
“อย่าผลักไสผมนะ เอาละ เล่าเรื่องของคุณได้แล้ว ก่อนที่จะผมจะ
ทำอย่างอื่นแทนการนอนฟังคุณพูด”
405/559

ละมุนมาศได้แต่หน้าแดง ค้อนให้คนที่นอนหนุนตักอย่างไม่รู้ว่าจะทำ
อย่างไร
“คุณอยากรู้อะไรบ้างล่ะคะ”
“เรื่องของคุณทุกอย่างตั้งแต่เกิดเลย”
ละมุนมาศเล่าเรื่องของตัวเองตั้งแต่จำความได้ จนเรียนจบการศึกษา
ระดับปริญญาตรีให้เขาฟัง แต่ยังไม่ทันเล่าเรื่องของฟีนิกซ์ให้ฟัง เขาก็ถาม
ขึ้นเสียก่อน
“แล้วแต่งงานตอนไหน”
คำถามเดียวกันกับที่หล่อนถามเขา ทำให้คนถูกถามได้แต่ส่ายหน้า
น้อย ๆ
“ฉันยังไม่เคยแต่งงาน”
คำตอบเดียวกันกับที่เขาเคยตอบหล่อน คนได้รับคำตอบหัวเราะ
เสียงดังก้องทีเดียวที่ถูกเอาคืน และละมุนมาศก็เล่าเรื่องของฟีนิกซ์ให้เขา
ฟังพร้อมถามเขาว่า
“คุณไม่เคยรู้เรื่องของฉันจากคุณยายของคุณหรือ”
“ก็พอรู้บ้าง ไม่มากนัก แต่ผมอยากฟังจากปากของหนูมุนมากกว่า”
เมื่อได้ฟังดังนั้น ละมุนมาศก็เล่าเรื่องของฟีนิกซ์ให้เขาฟัง พอฟังจบ
คนที่นอนหนุนตักก็บอกว่า
406/559

“ไม่เป็นไร ผมรับได้ ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหมว่า ผมรับลูกสาว


ของหนูมุนได้”
“หึ”
“ผมถามเรื่องแม่ได้ไหม”
“ได้ค่ะ ได้ทุกเรื่องที่คุณอยากรู้”
“ตอนนี้แม่หนูมุนอยู่ไหน”
“ฉันไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ฉันรู้จักแม่ดี แม่มักจะเป็นอย่างนี้ เป็นอิสระ
และฉันก็ไม่ก้าวก่ายเรื่องของแม่ แม่รวู้ ่าฉันกับฟีอยูท่ ี่ไหน ทำงานที่ไหน
บ้าง คิดถึงเมื่อไรแม่ก็มาหาได้เสมอ”
“อยากให้ผมช่วยไหม”
“ไม่ต้องค่ะ ขอบคุณมาก”
“งั้นกลับไปนี่ หนูมุนย้ายไปอยูก่ ับผมและลูกที่บ้านนะ ดีไหม” จู่ ๆ
อีกคนก็ชวน คนฟังส่ายหน้าทันที
“ไม่ค่ะ ไม่ดี ไม่ดีแน่ ๆ และอีกอย่างฉันก็มีบ้านของตัวเอง มีงานที่
ต้องทำ”
“ก็ไม่เป็นไร หนูมุนก็ทำงานต่อไป หรือว่าจะลาออกจากงานแล้วก็ไป
ช่วยผมทำงาน รับรองว่ามีงานให้ทำแน่ ๆ ฟีกย็ ้ายไปอยูโ่ รงเรียนเดียวกับ
407/559

คารีนา ผมรับผิดชอบทุกอย่างทั้งแม่ทั้งลูกไม่มปี ัญหา และคารีนาจะต้อง


ดีใจแน่ ๆ ที่ฟีจะไปอยู่ด้วย นะ นะ”
“ไม่ค่ะ ฉันจะไม่ไปอยูบ่ ้านใครเด็ดขาด ถ้ายังไม่แต่งงาน” คนที่นอน
หนุนตักลุกขึ้นนั่งทันใด
“งั้นก็แต่งงานกัน” ดวงตาคูค่ มเข้มที่มองสบมาเต็มไปด้วยประกาย
หวานและจริงจัง จนละมุนมาศไม่สามารถที่จะทนสบตากับเขาได้ ต้องหัน
ไปมองทางอื่น แต่อีกคนก็ไม่ยอมเช่นกัน มือหนาจับปลายคางมนให้
ใบหน้าหวานหันมามองเขาจนได้
“มองตาผมสิ แล้วจะรู้ว่าผมพูดจริง ผมจริงจังนะ”
“ฉันรู้ค่ะว่าคุณพูดจริง แต่ขอเวลาให้เราได้ศึกษา คบหา เรียนรูก้ ัน
ก่อนได้ไหม ฉันอยากให้แน่ใจ และก็อยากแต่งงานแค่ครั้งเดียวในชีวิต
อยูก่ ันไปจนตายจากกัน คุณเข้าใจฉันหรือเปล่าคะ” ไม่ใช่แค่พยักหน้ารับ
เท่านั้น เขายังยื่นหน้าเข้าไปหาใบหน้าหวานที่อยูห่ ่างไม่ถึงฟุต ประกบ
ริมฝีปากหยักเข้ากับริมฝีปากบางจูบแรง ๆ หนึ่งครั้ง
“เข้าใจครับ” แล้วเขาก็ลุกขึ้น ดึงมือบางให้ลุกขึ้นตามด้วย
“แล้วคุณคิดจะแต่งงานเมื่อไร บอกผมได้ไหม”
“รอให้ฟจี บชั้นประถมก่อนค่ะ” คำตอบนั้นทำให้คนฟังก้มตัวลงช้อน
ร่างบางเข้าสู่อ้อมอกของเขาอย่างรวดเร็ว
408/559

“ว้าย นี่คุณจะทำอะไร” เสียงหวานโวยวาย วงแขนเล็กโอบรอบ


คอแข็งแกร่งแน่น
“ทำให้หนูมุนเป็นภรรยาผมโดยไม่ต้องรอให้ฟีจบชั้นประถมไง”
คำตอบขึงขังที่อีกฝ่ายก้มลงตอบนั้น ทำให้คนในอ้อมกอดถึงกับตัว
แข็ง ตาโต พูดไม่ออก หัวใจเต้นแรง
“บ้า ไม่นะ นี่คุณ ฉันจะร้องเสียงดังให้คนได้ยินทั่วเลยนะ” อีกคน
ไม่ตอบ เขาผ่อนร่างของหล่อนลงบนเตียง แล้วยื่นหน้ามาประทับที่
ริมฝีปากเลาะเล็มดูดเม้มหยอกล้อทั่วริมฝีปากล่าง
“ร้องสิ คนจะได้รู้ และเราก็แต่งงานกัน” กระซิบแผ่วเบาทีร่ ิมฝีปาก
ก่อนทีจ่ ะรุกเร้าอย่างร้อนแรง จนอีกคนหายใจหายคอแทบไม่ทัน สติที่
ตั้งใจจะทำอะไรหลุดหายไปหมด พรึงเพริดไปกับอารมณ์ที่เขาพาไปจน
พอใจแล้วริมฝีปากหยักก็ผละออก
“นอนได้แล้วครับ ดึกแล้ว กู๊ดไนต์” พูดพร้อมจูบแรง ๆ ที่หน้าผาก
“ต่อไปเรียกผมว่าตรังนะ และผมจะเรียกหนูมุนว่าที่รัก”
ร่างสูงเดินไปปิดไฟ และก้าวออกไปจากห้อง ละมุนมาศยกมือขึ้น
กอดตัวเองเอาไว้แน่น จูบราตรีสวัสดิ์ที่เร่าร้อน วาบหวาม เรียกร้อง ทำให้
หล่อนแทบละลาย ไร้เรี่ยวแรง ตรงกันข้ามกับก้อนเนื้อหัวใจข้างในกลับ
เต้นโครมครามแทบจะเป็นกระโจนเลยก็ว่าได้
409/559

มือบางยกขึ้นแตะทีร่ ิมฝีปาก รู้สึกราวกับว่าริมฝีปากของเขายังอยูต่ รง


นั้น ยังให้ความรู้สึกที่วาบหวาม จูบครั้งนีด้ ุดัน เร่าร้อน เอาจริงเอาจัง จน
หล่อนทำอะไร ไม่ถูก ปล่อยให้เขาตักตวงเต็มที่ ถ้าเขาไม่ยับยั้งเอาไว้
หล่อนคงแย่แน่ ๆ เพราะว่าไม่มีเรี่ยวแรงทีจ่ ะห้ามเขาได้ และก็นึกขอบคุณ
ทีจ่ ู่ ๆ เขาก็ผละออก ทิ้งให้หัวใจของหล่อนทำงานหนักเพียงลำพัง แต่ไม่
ได้เหนื่อยเลย วาบหวามเสียมากกว่า
“ตรัง” เสียงหวานที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอิ่มแผ่วเบา
‘ที่รัก’ ทำไมรู้สึกดีอย่างนี้นะ เหมือนกับว่าจะลอยได้เลยทีเดียว แค่
คำคำเดียวมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของหัวใจขนาดนี้เชียวหรือ
35
วันสบาย ๆ

ดึกดื่นค่อนคืนแต่ร่างสูงในสระว่ายนํ้าในร่มที่อยู่ด้านข้างของบ้านก็ยัง
ว่ายกลับไปกลับมา หัวสมองของเขาคิดถึงแต่ริมฝีปากหวานที่ได้ดูดดื่มลิ้ม
รสกับร่างเล็กบางที่ซ่อนความเต่งตึงเอาไว้ การทีไ่ ด้แตะต้องใกล้ชิด นอน
หนุนตัก สูดดมความหอมของ กลิ่นนํ้าหอมอ่อน ๆ ผสมกับกลิ่นกายสาว
สะอาดสะอ้านที่ระเหยออกมาจากร่างบางนั้น ทำเอาความต้องการใน
ร่างกายของเขาที่ไม่ได้ปลดปล่อยมาเป็นเวลานาน พุ่งสูงจนเขาต้องรีบออก
มาจากห้องนั้น ก่อนที่จะผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณยาย และก็บังคับเอา
กับเจ้าของร่าง
คารีโนเชื่อว่าเขาสามารถที่จะทำให้คนปากแข็งยินยอมที่จะมีอะไรกับ
เขาได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องบังคับ ยิ่งไม่ประสีประสาอย่างนั้นด้วยไม่ยากเลย
ทีเ่ ขาจะนำพา แค่เขารุกหนัก ๆ อีกคนก็ตัวอ่อนระทวยไร้แรงต้านทาน แต่
เขาก็อยากให้เวลาหล่อนบ้าง
411/559

เซ็กซ์ที่เกิดจากความรักจะเติมเต็มในทุกหยาดอารมณ์และก็สุขสม
ด้วยกันทั้งสองฝ่าย เขาอยากให้หล่อนพร้อมและมีความสุขด้วยกันทุก
วินาที
ที่ริมสระลูกน้องคนสนิททั้งสองนั่งมองเจ้านายว่ายนํ้ากลับไปกลับมา
ราวกับนักกีฬาโอลิมปิกกำลังฝึกซ้อมก่อนการแข่งขันแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า
“นายคิดว่าเจ้านายเป็นอะไรวะ” เฟยถามขึ้น
“ไม่รสู้ ิ อาจจะโกรธมิสละมุนมาศหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะว่าออกมา
จากห้องนั้น เจ้านายก็กลับห้องหน้าเครียดทีเดียว ถึงห้องก็ไม่พูดไม่จา
เปลี่ยนเสื้อผ้าคว้ากางเกงว่ายนํ้ามาใส่แล้วก็กระโจนลงสระทันที”
“เจ้านายแพ้ก็ตอนนี้แหละ ฉันว่า”
“เออ นั่นสิ”
เมื่อขึ้นจากนํ้า คารีโนก็พบว่าลูกน้องทั้งสองก็เตรียมผ้าเช็ดตัว ผ้า
เช็ดผม และชุดคลุมเอาไว้รอแล้ว
“เจ้านายจะไปไหนหรือเปล่าครับ ผมจะได้เตรียมรถ”
“ไม่ไป พวกนายไปนอนได้แล้ว พรุ่งนีต้ อนกลับ เบียน นายขับรถ
ละมุนมาศกลับนะ”
“ครับเจ้านาย”
412/559

“คารีนา เราจะเข้าไปจริง ๆ เหรอ” เสียงกระซิบทีไ่ ม่เบานักดังขึ้นที่


หน้าประตูห้องนอนที่เปิดกว้าง คนที่กำลังนอนหลับอยูบ่ นเตียงหรี่ตา
แอบมองแล้วก็ต้องยิ้มคนเดียว เมื่อเห็นสองร่างน้อย ๆ กำลังปรึกษากัน
“จริงสิ”
“แต่แดดดี้หลับอยู่นะ” อีกคนไม่กล้า
“เราต้องไม่ทำเสียงดังสิ คารีนาแค่จะดูว่าแดดดีน้ อนจับมือกับมามี้
หรือเปล่าเท่านั้นเอง”
โห ลูกสาวเขาเอาจริงหรือนี่
“แต่...”
“เข้ามาเถอะน่า”
“เดี๋ยวแดดดี้โกรธเอานะ” ท้วงด้วยความเกรงใจ
“แดดดี้ใจดีไม่โกรธหรอก ถ้าโกรธเราก็บอกมามี้ไง”
ยังไม่ทันไรเลย ลูกสาวเขาเอามามี้มาข่มแดดดี้เสียแล้ว
คนคิดได้แต่ยิ้มให้กับตัวเอง ไม่นานนักร่างเล็ก ๆ ของลูกสาวเขาก็
ย่องมาที่เตียงก่อนจะหันไปทางประตู มือน้อย ๆ กวักเรียกเพื่อนรักที่ยัง
แอบอยู่นอกห้อง
“มาสิฟี”
จากนั้นร่างเล็กของอีกคนก็ค่อย ๆ ย่องตามเข้ามาในห้อง
413/559

“ฟีค่อย ๆ ยกผ้าคลุมขึ้นนะ เบา ๆ ล่ะ อย่าให้แดดดี้ตื่นแล้วค่อย


ๆ มุดเข้าไปดู”
สองสาวจับปลายผ้าคลุมเตียงทั้งสองด้านขึ้นก่อนจะค่อย ๆ มุด
ศีรษะเล็ก ๆ เข้าไปในผ้าห่ม พร้อมกับที่ร่างน้อย ๆ ก็ค่อย ๆ เคลื่อนขึ้น
ไปบนเตียงกว้าง รู้ตัวอีกทีทั้งคู่ก็ไปอยู่บนเตียงแล้ว
“มามี้ไม่ได้อยู่บนเตียง” ฟีนิกซ์กระซิบบอก
“เราไปกันเถอะ ก่อนที่แดดดี้จะตื่นมาเจอ” สองสาวรีบลงจากเตียงวิ่ง
ออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
คารีโนได้แต่หัวเราะหึ ๆ ตามหลัง เมื่อได้ล่วงรูค้ วามคิดของเด็ก ๆ
เสียงวิ่งของเด็กหญิงทั้งสองดังโครมครามลั่นบ้าน แต่ไม่ได้ทำให้คนฟัง
รู้สึกรำคาญแต่อย่างใด เขากลับรู้สึกได้ถึงความมีชีวิตชีวา ความเป็นบ้าน
มากยิ่งขึ้น ชีวิตที่โตมาคนเดียว ทำอะไรคนเดียว มันเหงานัก พอได้ยิน
เสียงโหวกเหวก หัวเราะ วิ่งไล่กันอย่างนี้ให้ความรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ไหน ๆ ก็ตื่นแล้ว คารีโนก็เลยลุกจากเตียงเข้าห้องนํ้า อาบนํ้า
แต่งตัว ลงมาข้างล่าง เขาก็แวะไปยังห้องนอนแขก แต่ไม่มีคนอยู่ แวะห้อง
คุณยายก็ไม่มคี นอยู่ ก็เลยเดินทะลุไปยังห้องครัว ที่นั่นทุกคนกำลังทาน
อาหารเช้ากันอยู่
คารีโนเดินเข้ามาในห้องอาหารตอนเช้าที่เป็นแบบโต๊ะกลมขนาดใหญ่
แปดที่นั่ง เขาทักทายบิดา จูบมารดา และก็จูบคุณยายที่นั่งอยูถ่ ัดมา จูบ
414/559

สองสาวตัวน้อยของเขาพร้อมเสียงจุ๊บกลับดังจ๊วบ ละมุนมาศใจเต้นระรัว
เมื่อเขาไล่จูบมาเรื่อย ๆ จนมาถึงหล่อน และก็ถอนใจอย่างโล่งอกเมื่อร่าง
สูงเดินผ่านหล่อนไปหย่อนตัวนั่งลงเก้าอี้ ข้าง ๆ นึกดีใจที่เขาไม่ได้จูบ
ทักทายหล่อนต่อหน้าครอบครัวของเขา
แต่ละมุนมาศก็รู้ว่าตัวเองคิดผิด เมื่อเขายื่นหน้ามาจูบที่แก้มหล่อน
แรง ๆ
“กู๊ดมอร์นิงหนูมุน” คนถูกจูบแต่เช้าทำหน้าไม่ถูก จูบเสร็จเขาหันไป
ขอบคุณวันที่กำลังเสิร์ฟกาแฟและอาหารเช้าให้ ในขณะที่เด็กหญิงคารีนา
พูดกับเพื่อนรักเสียงดังไม่น้อยว่า
“แดดดี้จูบมามี้อีกแล้วฟี”
ผู้ใหญ่ได้แต่แอบยิ้ม แดดดีย้ ิ้มกว้าง ในขณะทีม่ ามีห้ น้าแดงแปร๊ด
ก้มหน้าก้มตากับอาหารตรงหน้า คนยิ้มกว้างได้แต่เอ็นดู มองไปทาง
ลูกสาวแล้วก็แกล้งพูดขึ้นมาว่า
“เมื่อเช้านี้แดดดี้ฝันแปลก ๆ”
“ฝันว่าอะไรคะแดดดี้” ลูกสาวตัวน้อยถามขึ้นทันที
“ฝันเห็นเด็กหญิงสองคนในห้องแดดดี้ ไม่รู้ว่าแฝดหรือเปล่า รู้แต่ว่า
เป็น เด็กผู้หญิงสองคน” เด็กหญิงตัวน้อยสองคนหัวเราะกันคิกคักทีเดียว
ยื่นหน้าเข้ามาซุบซิบกัน แล้วเด็กหญิงคารีนาก็บอกว่า
415/559

“เมื่อเช้านีค้ ารีนากับฟีไปทีห่ ้องแดดดี้ค่ะ เราแอบไปทีเ่ ตียง อยากดูว่า


แดดดี้กับมามีน้ อนจับมือกันหรือเปล่า” คนเป็นมามี้สะดุ้งโหยง เงยหน้าขึ้น
ทำตาโต
“แต่ไม่เจอมามี้ คารีนากับฟีก็ออกมา ไม่ได้กวนให้แดดดี้ตื่นใช่ไหม
คะ”
“ไม่หรอกค่ะ แดดดี้นึกว่าฝันไปซะอีก”
“เห็นไหมฟี คารีนาบอกแล้วว่าแดดดีไ้ ม่ตื่นหรอก” ลูกสาวตัวน้อย
หันไปบอกเพื่อนรัก
“ที่คารีนากับฟีไม่เจอมามี้ ก็เพราะว่ามามี้นอนที่ห้องฟ้าติดกับห้อง
ของคุณทวดค่ะ” คารีโนบอกลูกสาว
“แล้วทำไมมามี้กับแดดดี้ไม่นอนเตียงเดียวกัน เหมือนกับแดดดี้กับ
มามี้ของสเตอริงล่ะคะ”
คนทีถ่ ูกดึงไปอยู่ในหัวข้อสนทนาถึงกับสำลักอาหารเลยทีเดียว คน
ที่นั่ง ข้าง ๆ ก็เลยต้องยกนํ้าให้ ลูบหลังให้
การกระทำที่อ่อนโยนนั้นอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ทั้งหมด
“ขอบคุณค่ะ” ละมุนมาศหันไปขอบคุณเขา
“ด้วยความยินดีครับหนูมุน” ก่อนจะหันไปพูดกับเด็ก ๆ
416/559

“คารีนา ฟี ฟังนะคะ แดดดี้กับมามีย้ ังไม่ได้แต่งงานกัน ก็ยังไม่ได้


นอนเตียงเดียวกัน” คารีโนพยายามอธิบาย
“แดดดี้ก็แต่งงานกับมามี้สิคะ”
คำตอบของลูกสาวทำให้บิดายิ้มกว้างอย่างถูกใจ ดวงตาคมวิบวับหัน
ไปมองสบตากับคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทันที คนหน้าแดงถลึงตากลับ เขาก็เลย
หัวเราะชอบใจ
“เรื่องแต่งงานเอาไว้ให้แดดดี้คุยกับมามี้กันสองคนทีหลังนะจ๊ะเด็ก ๆ
ว่าแต่ใครอยากไปให้อาหารหมู ไปดูสปริงบ้าง ทานอาหารเช้าให้เสร็จแล้ว
เราจะได้ไปกัน” คุณยายกลีบบัวพูดขึ้นก่อนทีว่ ่าทีห่ ลานสะใภ้จะเขินอายไป
มากกว่านี้
“คารีนาไปค่ะ”
“ฟีก็ไปค่ะ มามี้ไปไหมคะ”
“ไปค่ะ”
“แกรนด์มา แกรนด์ฟา แดดดี้ไปหรือเปล่าคะ” แกรนด์ฟาและบิดา
พยักหน้าให้เป็นคำตอบ ส่วนแกรนด์มาส่ายหน้า พร้อมกับเหตุผลว่าจะอยู่
ช่วยวันเตรียมอาหารกลางวัน
คารีโนแอบชำเลืองมองใบหน้าหวานของคนที่นั่งใกล้ ๆ สิ่งที่ได้เห็นก็
คือ โหนกแก้มที่แดงระเรื่อ นึกอยากฝังจมูกหรือว่าแตะริมฝีปากของตัวเอง
เข้าไปตรงนั้น แต่เขาก็ไม่กล้า ไม่อยากให้คนตัวบางงอนเอาอีก
417/559

“สัตว์เลี้ยงพวกนี้เราไม่ได้เลี้ยงไว้ขายหรอก เลี้ยงเอาไว้ดูเล่น
เป็นเพื่อนแก้เหงา เอาไว้ให้เด็ก ๆ ได้มาดูกันตอนเปิดฟาร์ม” คุณยาย
กลีบบัวบอกเรื่องราวของสัตว์เลี้ยง
“สัตว์พวกนี้มีชื่อนะ”
“ใครเป็นคนตั้งชื่อหรือคะคุณยาย”
“คารีนาไง เจอตัวไหนก็ตั้งชื่อหมด แต่ยายไม่รู้หรอกนะว่าเขาจำได้
จริง ๆ หรือเปล่าว่าตัวไหนชื่ออะไร จำได้ตัวเดียว เพิ่งจะคลอดเป็นลูกม้า
คารีนาตั้งชื่อให้ว่าสปริง มันเพิ่งจะเกิดตอนสปริงที่ผ่านมานี้เอง” คุณยาย
กลีบบัวหัวเราะ ละมุนมาศก็เลยหัวเราะตาม
“หนูมุนไม่โกรธยายใช่ไหมจ๊ะ” จู่ ๆ คุณยายกลีบบัวก็เปลี่ยนเรื่อง
นํ้าเสียงกังวลเล็กน้อย ทำให้ละมุนมาศโอบแขนรอบเอวบางของคุณยาย
เอาไว้
“มุนไม่เคยโกรธคุณยายค่ะ ไม่รู้ว่าจะโกรธเรื่องอะไร คุณยายอย่า
คิดมาก นะคะ”
“แล้วตกใจไหม” คุณยายกลีบบัวถามยิ้ม ๆ
“มุนยอมรับว่าตกใจค่ะ ตอนแรกที่เห็นท่านไนฮัวกับป้าลิซอยู่กับคุณ
ยาย ตกใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเห็นคุณตรัง และคารีนาเรียกคุณตรังว่าแดดดี้
อีก”
“เข้าใจกันแล้วใช่ไหม”
418/559

“ก็...ค่ะ” ตอบรับพร้อมใบหน้าซับสีเลือด คุณยายต้องแอบยิ้ม


“หลานชายยายดูเหมือนจะเจ้าชูน้ ะ แต่แปลกกลับไม่เคยหาแม่ให้
ลูกสาวได้สักคน ควงคนนั้นทีคนนี้ที คบคนนั้นคนนี้ แต่ไม่เคยเลยสักครั้ง
ทีจ่ ะพาสาว ๆ เข้าบ้านหรือว่าคิดแต่งงานหาแม่ให้ลูกสาว แล้วที่เขาบอกว่า
คบกับหนูมุนอยู่เป็นจริงแค่ไหนจ๊ะ” คุณยายกลีบบัวหันไปถามด้วยสีหน้า
จริงจัง
“เขาก็ขอคบกับมุนค่ะ ตอนนั้นมุนยังไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกท่านไนฮัว เป็น
หลานคุณยาย”
“ว่าแต่หลานยายยังชีกอ ฉวยโอกาสอยู่หรือเปล่าจ๊ะ” คุณยาย
กลีบบัวถาม ยิ้ม ๆ ด้วยแววตาที่ทำให้ละมุนมาศถึงกับหน้าขึ้นสี
“นินทาอะไรผมอยู่หรือเปล่าครับคุณยาย” ถามคุณยายแต่หันไปจุ๊บ
แก้มเนียนของคนข้าง ๆ คุณยาย
“เผียะ”
“อูย”
“รังแกหนูมุนอีกแล้วนะตรัง” คุณยายกลีบบัวว่าหลานชาย แต่สีหน้า
แอบยิ้ม หลานชายยิ่งได้ใจใหญ่
“เป็นแฟนกัน จูบกันไม่แปลกหรอกครับคุณยาย ผมไม่ได้จูบแฟน
คนอื่นสักหน่อย” ตอบคุณยายแล้วก็หันไปทางคนหน้าแดง
“ไปให้อาหารหมูกับเด็ก ๆ กันไหมหนูมุน”
419/559

“ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณยายดีกว่า เชิญคุณตามสบายเถอะค่ะ”
“โห เป็นทางการเสียจริง ก็ได้ ฝากแฟนผมด้วยนะครับคุณยาย”
“จ้า” คุณยายได้แต่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ แอบมองหน้าแฟนหลานชายก็
เห็นแต่แก้มแดง ๆ
“หนูมุนจะกลับวันนี้เลยหรือจ๊ะ”
“ค่ะคุณยาย บ่าย ๆ กลับ ตั้งใจว่าให้ถึงบ้านก่อนคํ่า”
“ดีจ้ะ เมื่อไรว่างก็มาอีกนะ ที่นี่ยินดีต้อนรับหนูเสมอ หลานชายยาย
ก็น่าจะคิดเหมือนกัน”
“ขอบคุณค่ะคุณยาย”
“ยายก็ขอบคุณเช่นกันที่หนูมนุ มาร่วมงานวันเกิดของยาย แถมยังทำ
เค้กมาให้อีกด้วย แล้วยังมีของขวัญอีก”
“ด้วยความยินดีค่ะคุณยาย จริง ๆ แล้วทำเค้กเป็นไอเดียของฟีเขา
ค่ะ”
“น่ารักจริง ๆ หนูมุนเลี้ยงน้องได้ดีมาก หนูฟนี ่ารักและเป็นเด็กดี
มากทีเดียว”
ละมุนมาศได้แต่ยิ้มรับคำชมนั้น เสียงหัวเราะวี้ดว้ายโหวกเหวกของ
เด็ก ๆ ที่อยู่ใน เล้าหมู ทำให้ละมุนมาศแอบยิ้ม เมื่อมองเห็นภาพของ
คนในหัวใจในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อยืดราคาแพง กับรองเท้าบูทกันนํ้าหุ้ม
420/559

ขึ้นไปถึงเข่า กำลังช่วยเด็ก ๆ ให้อาหารหมูในเล้า ส่วนเด็กหญิงทั้งสองก็


วิ่งไล่จับหมูกันอย่างสนุกสนาน
“มามีค้ ะ เข้ามาในนี้สคิ ะ หมูมันน่ารักมาก ๆ เลย” เสียงลูกสาวตัว
น้อยเรียกมาจากในเล้า
“มาสิคะมามี้ หมูมันไม่กัดหรอกค่ะ” เด็กหญิงคารีนาช่วยสนับสนุน
“ไปให้อาหารหมูกันดีกว่าจ้ะหนูมุน เด็ก ๆ เรียกมามี้แล้ว” คุณยาย
กลีบบัวบอกยิ้ม ๆ มองหน้าหลานชายก็เห็นว่ายิ้มแก้มแทบปริเลยทีเดียว
“ค่ะคุณยาย”
เสียงเด็กหญิงทั้งสองคุยกันอยู่ด้านหลังรถคันโตตั้งแต่รถเคลื่อนออก
จากหน้าบ้านในฟาร์ม ปล่อยให้แดดดีเ้ ป็นคนขับรถ โดยมีมามี้นั่งเขินอยู่
ข้าง ๆ ตามหลังมาด้วยรถคันเล็กที่ขับโดยเบียนหนุ่มตัวโต และรถคันโต
อีกคันขับโดยเฟย
ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คนขับหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง
พยายามสนใจกับสิ่งแวดล้อมข้างทาง ต้นไม้ใบไม้ที่เขียวขจี มากกว่าคน
ขับรถตัวโตที่ทำให้หัวใจของหล่อนหวั่นไหว
คารีโนชำเลืองมองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ บ่อยครั้ง ที่ได้เห็นก็คือข้างแก้ม
เนียนเท่านั้น อดที่จะแอบยิ้มไม่ได้ ที่เห็นท่าทางขัดเขินนั้น
“ใครหิว ใครอยากเข้าห้องนํ้าบอกแดดดี้นะคะ” เสียงนุ่มทุ้มกล่าวขึ้น
“ค่ะ/ค่ะ” เสียงตอบรับมาจากหลังรถ
421/559

“เราแวะกินไอศกรีมได้ไหมคะแดดดี้”
“ได้ค่ะ”
“เย้/เย้ ดีใจจังเลย” สองเสียงประสานกัน และเด็ก ๆ หันไปเล่น
ตุ๊กตา เล่นเกม และคุยกันต่อ
มือหนานุ่มจากคนขับรถเอื้อมมาจับมือบางที่เจ้าของวางไว้บนตัก
ลูบไล้ เบา ๆ ละมุนมาศหันไปมอง สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือรอยยิ้มอบอุ่น
ดวงตาอ่อนโยนเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น เพราะว่าเจ้าตัวหันกลับไปมอง
ถนนต่อ
“กลับไปนี่ผมต้องลุยงานต่อ ช่วงนีเ้ ราต้องส่งของให้กับลูกค้าให้ทัน
ตามกำหนด อาจจะไม่ค่อยมีเวลาได้เจอคุณมากนัก คุณไม่ว่าอะไรใช่ไหม
หนูมุน”
“ไม่ค่ะ”
“แต่ผมสัญญา เมื่อไรที่ว่างจะแวะไปหาหนูมนุ ทันที โดยเฉพาะวัน
อาทิตย์ที่หนูมุนไม่ต้องทำงาน”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณทำงานไปเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน”
“เรียกว่าผมตรังสิ ผมอยากให้หนูมุนเรียกเหมือนกับที่คุณยายเรียก
ผม นะครับ พลีส” ไม่ใช่พลีสอย่างเดียว ใบหน้าที่มตี อหนวดเขียว ๆ กับ
สายตาคู่คมนั้นก็ส่งประกายอ้อนวอนร้องขอ จนในที่สุดละมุนมาศก็ตอบ
ว่า
422/559

“ได้ค่ะ เอ่อ...ตรัง”
“ขอบคุณมาก รู้ไหมว่ามันอบอุ่นแค่ไหนเวลาที่ได้ยินหนูมุนเรียกผม
ว่าตรัง”
ละมุนมาศยิ้มเล็กน้อยส่งให้เขาด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
ไม่ใช่ว่าเขารู้สึกอบอุ่นคนเดียว หล่อนก็รู้สึกด้วยเช่นกัน ทั้งอบอุ่น
ทั้งรู้สึกใกล้ชิด
ละมุนมาศได้โอกาสพิจารณาคนทีก่ ำลังขับรถอย่างตั้งใจ ภายในรถ
ไม่มเี สียงพูดคุย นอกจากเสียงเพลงที่เจ้าของรถเปิดทิ้งไว้เบา ๆ ไม่เคย
เลยสักครั้งที่หล่อนจะมีโอกาสได้สำรวจเขาในระยะที่ใกล้ชิดขนาดนี้
ถึงแม้ว่าจะโดนเขาจู่โจมถึงเนื้อถึงตัวและจูบมาแล้วหลายครั้ง
ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความเป็นลูกผสม ผิวที่ขาวจนออกชมพู และ
ความคมเข้มของหน้าตาทีผ่ สมผสานกันได้อย่างลงตัว ผมสีดำเหลือบ ๆ สี
นํ้าตาลที่เจ้าตัวตัดสั้นได้รูปทรงแลดูเนี้ยบสะอาดสะอ้าน คิ้วหนาเป็นปื้น
ขนตาที่ยาวเป็นแพ จมูกทีโ่ ด่งเป็นสันสวยรับกับใบหน้าเรียว และริมฝีปาก
หยักได้รูป เคราเขียว ๆ นั่นก็ยิ่งทำให้ใบหน้า คมเข้มชวนมองมากยิ่งขึ้น
ไปอีก
ก็หน้าตาดีอย่างนี้นี่เอง จะไม่ให้สาว ๆ ที่เวียดเฮาส์กรี๊ดกร๊าดทุกครั้ง
ทีไ่ ด้เห็นได้อย่างไรกัน หล่อนควรจะภูมิใจหรือเปล่านะ ทีม่ ีแฟนหล่อขนาด
นี้ แฟนอย่างนั้นหรือ นี่หล่อนมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วอย่างนั้นใช่ไหม
423/559

คิดแล้วใบหน้าก็ร้อนวูบวาบอยู่คนเดียว เมื่อกลับมาถึง
คอนโดมิเนียมก่อนตะวันจะตกดินเล็กน้อย
“ฟี ฟี ตื่นได้แล้ว ถึงบ้านแล้วนะคะ” ละมุนมาศเรียกพร้อมเขย่า
แขนคนตัวเล็ก แต่เด็กหญิงตัวน้อยก็ไม่ขยับเขยื้อน แถมมือของเด็กทั้ง
สองยังจับกันเอาไว้แน่น คารีโนเห็นแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
“หนูมุนที่รัก” เสียงกระซิบเรียกข้าง ๆ หูทำให้ละมุนมาศตกใจ
เล็กน้อย
“ใครไม่ตื่นคงต้องอดพิซซ่าแล้วมั้งเย็นนี้ ผมว่าจะสั่งพิซซ่าอร่อย ๆ
มากินตอนเย็นสักหน่อย คงไม่ได้กินแล้วละ” คารีโนหันมาคุยพร้อมหลิ่ว
ตาให้
“เอาไว้กินวันหลังนะหนูมุน เด็ก ๆ ไม่ยอมตื่น” ไม่ทันได้หันกลับ
เสียงเรียกเล็ก ๆ ก็ดังขึ้นอย่างงัวเงีย
“แดดดี้ พิซซ่าหรือคะ”
ละมุนมาศแอบยิ้มกับวิธีการของเขา
“อ้าว ตื่นแล้วหรือคะคารีนา ฟี ขึ้นห้องกันเถอะ”
“เราจะทานพิซซ่ากันหรือคะแดดดี้” คารีนาถามบิดาเพื่อความแน่ใจ
ซึ่งก็ได้รับการตอบรับด้วยการพยักหน้า ก่อนที่จะสั่งให้ลูกน้องไปหาซื้อพิซ
ซ่า
424/559

สองพ่อลูกและอีกสองลูกน้องที่เป็นแขก ทำให้ห้องพักเล็ก ๆ ของ


ละมุนมาศคับแคบไปถนัดตา แต่หลังจากที่ทานพิซซ่ากันเสร็จเรียบร้อย
แล้ว คารีโนก็ขอตัวกลับ เพราะว่าไม่อยากรบกวนเจ้าของห้องนานเกินไป
แต่กว่าจะกลับได้ เขาก็ให้สัญญาลูกสาวไปหลายข้อ
“วันนีเ้ รากลับก่อนนะคะ ให้มามีก้ ับฟีได้พักผ่อน เพราะว่าพรุ่งนีฟ้ ี
กับคารีนาก็ต้องไปโรงเรียน มามี้ต้องไปทำงาน วันหลังเราค่อยมาหามามี้
กับฟีใหม่ หรือไม่เราก็เอาอาหารมาทานกับมามี้และฟี หรือไม่ก็ชวนมามี้กับ
ฟีไปทานอาหารที่บ้านเราบ้าง หรือไม่แดดดี้กับคารีนาก็พามามี้กับฟีไปทาน
อาหารข้างนอกนะคะ ถ้าคารีนาเป็นเด็กดี วันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้
แดดดี้จะขออนุญาตมามีใ้ ห้ฟีไปสลีปโอเวอร์ (Sleep over – นอนค้าง
คืน) กับคารีนานะคะ”
คำว่า สลีปโอเวอร์ นั่นเอง ที่ทำให้ลูกสาวยอมลากลับบ้านแต่โดยดี
แต่เมื่อละมุนมาศมาคิดดูแล้ว ที่เขาสัญญากับลูกสาวมันเกี่ยวข้องกับหล่อน
และคนตัวเล็ก ทั้งนั้น
เจ้าเล่ห์จริง ๆ แต่หัวใจดวงนี้ก็รู้สึกเป็นสุขนัก
36
บอกเลิก

ไม่ว่าจะเลิกงานดึกดื่นแค่ไหน คารีโนก็มักจะแวะไปทีโ่ รงแรมริม


ทะเล ถ้าในตอนเช้าไม่ได้แวะไป และคืนนีก้ ็เช่นกัน เมื่อเขาไปที่นั่น
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่ล็อบบีก็รายงานทันที
“มีผู้หญิงชื่อแอนนามาถามหาค่ะเจ้านาย”
“แอนนาไหน” ผู้เป็นนายถามกลับอย่างงง ๆ
“แอนนา...นูเย็น” พอได้ยินนามสกุล คารีโนก็คิดออกทันที
“แล้วแขกอยู่ที่ไหน”
“นั่งดื่มกาแฟอยู่ในห้องโรสค่ะ”
ห้องโรสคือห้องดินเนอร์ที่หรูหราของโรงแรม มีบริการเต็มรูปแบบ มี
ฟลอร์สำหรับเต้นรำด้วย
“มากันกี่คน”
“สองคนค่ะ ผู้หญิงทั้งคู่”
426/559

“ขอบใจมาก ขอดูภาพในห้องอาหารหน่อยสิ” คารีโนสั่งก่อนที่จะหัน


ไปสนใจหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วก็คิดถึงใบหน้าหวานคมของใครบางคน
ช่วงนี้เขาดูงานหลายอย่าง ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาได้แวะไปที่เวียดเฮาส์เลย
ไม่เห็นหน้ามาเป็นอาทิตย์ อดที่จะคิดถึงหน้าหวาน ๆ ทีด่ ื้อรั้นในบางครั้ง
จนแทบจะทนไม่ได้เลยทีเดียว
“ภาพที่ห้องอาหารค่ะ”
คารีโนหันไปมองภาพทีป่ รากฏในจอโทรทัศน์วงจรปิด สาวสวยในชุด
สายเดี่ยวเซ็กซี่สีม่วงสดที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่กับเพื่อนสาวฝรั่งผมทอง
ไม่อยากจะคิดว่าหล่อนมาหาเขาถึงที่นี่ เพราะว่าหลังจากที่เจอกันที่งาน
วันเกิดของมารดาหล่อนแล้ว เขาก็ไม่ได้เจอหล่อนอีกเลย จนลืมไปว่าเขา
เคยได้รับการแนะนำให้รู้จักมาก่อน
“ฉันจะเข้าไปทักทายเขาหน่อยนะ ไม่ต้องตาม”
“ครับนาย” ลูกน้องทั้งสองได้แต่รับคำ
มีผู้หญิงหลายคนที่วิ่งตามเขา แต่ผู้หญิงคนหนึ่งทำให้เขาต้องวิ่งตาม
เมื่อคิดแล้วก็อดที่จะยิ้มให้กับตัวเองไม่ได้ จากนั้นใบหน้าหวานสวย
ของใครบางคนก็แวบเข้ามา แค่นี้หัวใจของเขาก็อิ่มเอิบแล้ว
หลังจากลับหลังเจ้านาย เฟยก็ถามเพื่อนคู่หูทันที
“ใครวะ ฉันไม่เคยได้ยินชื่อเลย”
427/559

“ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นลูกสาวของมิสเตอร์เวียนบินต์กับมิสซิสซูซาน
เจ้านายเจอตอนไปงานวันเกิดมิสซิสซูซานแทนท่านไนฮัวกับมาดามครั้งโน้น
ไง”
เท่านั้นเองคนฟังก็ถึงบางอ้อ นึกในใจว่า
ลูกสาวมิสเตอร์เวียนบินต์ต้องมาติดใจเจ้านายของเขาเป็นแน่
“ใครสวยกว่าใครวะ”
“ใครน่ะใคร”
“มิสละมุนมาสกับคนนี้ไง”
“ฉันว่ามิสละมุนมาศสวยกว่า น่ารัก หวานแบบไทย ๆ และก็น่าจะ
ถูกใจ เจ้านาย ถึงได้ตามติดอย่างนั้น คนนี้คงไม่มีอะไร ฉันไม่เคยได้ยิน
เจ้านายพูดถึงด้วยซํ้าไป เชื่อฉันสิ ไม่ถึงสิบนาทีเจ้านายก็จะออกมา”
เฟยเชื่อคำพูดของเพื่อนสนิท เจ้านายของเขาไม่เคยวิ่งหนีสาว ๆ อยู่
แล้ว ผู้หญิงทุกคนเจ้านายพูดคุยอย่างสุภาพ แต่ไม่เคยให้ความหวังใคร
แม้แต่กับคู่ควงหรือคนที่มสี ัมพันธ์ด้วย และที่เขาเห็นเจ้านายวิ่งตามก็มมี ิ
สละมุนมาศคนเดียวเท่านั้น
ทั้ง ๆ ทีล่ ูกหนึ่งเจ้านายเขาก็ยังวิ่งตาม ไม่อยากจะเชื่อ เขาว่าแม่ม่าย
เสน่ห์แรงเป็นอย่างนี้นี่เอง
ร่างสูงภูมิฐานหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ พร้อมกับทักทายสาวสวย
ที่นั่งหันหลังให้ตรงหน้าบาร์เครื่องดื่ม
428/559

“ไฮ แอนนา” เจ้าของชื่อหันกลับ พร้อมกับรอยยิ้มทีบ่ ่งบอกได้ว่า


เจ้าตัวยินดีแค่ไหนที่เห็นเขา
“ไฮ คารีโน ลูกน้องคุณบอกหรือคะว่าแอนนาแวะมาหาคุณที่นี่”
“ใช่ครับ”
“นี่โทมิเพื่อนของแอนนาค่ะ นี่ตรัง คารีโน ที่ฉันเล่าให้ฟังไง” แอนนา
หันไปทางเพื่อนสาว พร้อมกับแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน
“สวัสดีค่ะคารีโน ยินดีที่ได้รู้จักคุณ”
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณเช่นกันครับโทมิ” คารีโนยื่นมือไปกระชับกับมือ
บางที่ยื่นมาให้ พร้อมกับส่งยิ้มที่ทำให้คนตรงหน้าเขินอาย หน้าขาว ๆ นั้น
ขึ้นสีระเรื่อทันใด
“อยากรู้จังว่าแอนนาเล่าเรื่องอะไรของผมให้คุณฟังกันนะ” คารีโนยิ้ม
น้อย ๆ ในขณะทีถ่ ามสาวสวยผมทองที่ส่งสายตาเซ็กซี่มาให้เขา โทมิยิ้ม
หวานทันทีพร้อมตอบว่า
“มีแต่เรื่องดี ๆ ค่ะ ตลอดเวลาหลังจากที่แอนนาเจอคุณในงาน
วันเกิดคุณแม่ของเธอ ไม่มีวันไหนที่แอนนาจะไม่พูดถึงคุณ จนฉันต้อง
ตามมาดูถึงที่”
“โทมิเป็นคนอังกฤษ เป็นเพื่อนสนิทของแอนนาที่มหาวิทยาลัยค่ะ
เราเรียนคณะเดียวกัน แอนนาก็เลยชวนโทมิมาเที่ยวด้วย”
429/559

“ฉันอยากพิสูจน์ว่าสิ่งที่แอนนาพูดนั้นว่าจริงไหมต่างหากล่ะ” สาว
สวยเชื้อสายอังกฤษพูดพร้อมชะม้ายชายตา
“คุณคงจะผิดหวัง” คารีโนตอบพร้อมรอยยิ้มกว้างเปิดเผย
“โอ้ ไม่เลย ทุกอย่างเป็นอย่างที่แอนนาพูดไว้ คุณดูดมี าก แต่ฉันว่า
คุณเซ็กซี่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบผู้ชายมา”
“โห ขนาดนั้นเลยหรือครับ ไม่หรอกครับ ผมก็คนธรรมดาแค่นั้น
เอง”
“ทานอาหารด้วยกันไหมคะคารีโน” แอนนาถามแทรกขึ้น
“ผมเรียบร้อยมาแล้วครับ เชิญแอนนากับโทมิตามสบายดีกว่า
เอาเป็นว่าทานอาหารกันตามสบาย วันนีผ้ มขอต้อนรับแอนนาและเพื่อนก็
แล้วกันนะครับ อยากดื่มอะไรบอกคนของผมได้เลย ขอบคุณแอนนาที่
แวะมาทักทาย คุณด้วยโทมิ ผมต้องขอตัวไปทำงานก่อนและก็ต้องรีบกลับ
บ้าน เพราะว่าลูกสาวกับแม่ของลูกรออยูค่ รับ” บอกเสร็จคารีโนก็ผละจาก
สองสาวเดินออกไปจากห้อง โดยไม่สนใจอาการตกตะลึงของคนที่อยู่
ข้างหลัง
“ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า” โทมิถามเพื่อนสาวด้วยใบหน้าเหลอหลา
“ฉันก็ได้ยินเหมือนที่ยูได้ยิน”
“ว่าแต่เขามีครอบครัวแล้วหรือ”
“ไม่รู้สิ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย”
430/559

“เขาดูดีมากเลย ยิ่งเขาเปิดเผยอย่างนี้ยิ่งดูดี ฉันอิจฉาผู้หญิงคนนั้น


จังเลย ยูทำใจได้แล้ว เขาบอกขนาดนี้แสดงว่าเขาไม่เคยคิดอะไรเกินเลย”
“อกหักตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นเลยหรือนี่ เอ้า ดื่ม ๆ ของฟรี เติมให้
เต็มทีเ่ ลย” สองสาวสวยเซ็กซีค่ ุยกันไปดื่มไป ไม่นานก็มีหนุ่ม ๆ เข้ามาคุย
ด้วย
ทันทีที่เห็นเจ้านายเดินกลับมา เบียนก็หันไปทางเพื่อนคู่หูและบอกว่า
“เห็นไหม ฉันพูดผิดที่ไหน”
“เออ เห็นแล้ว”
“กลับ” เจ้านายเดินผ่านไป พร้อมกับบอกลูกน้องไปด้วย สองหนุ่ม
เดินตามทันที
ขณะทีน่ ั่งในรถ คารีโนก็อดที่จะคิดถึงคำพูดของบิดาที่เคยพูดให้เขา
ฟังนานแล้วว่า
“คุณเวียนบินต์ดูจะสนใจลูกมาก ทุกครั้งที่เจอกันท่านจะถามถึงลูก
เสมอ และก็เล่าเรื่องของหนูแอนนาให้มัมกับแดดฟังบ่อย ๆ”
“คงไม่มีอะไรหรอกมั้งครับ”
“ไม่รหู้ รือว่า คุณเวียนบินต์กำลังจะทำศูนย์การค้าและออฟฟิศ ใน
ที่ดินที่เขาเพิ่งจะซื้อไม่ไกลจากตลาดของเรา”
“ผมก็พอได้ข่าวมาบ้างครับ แต่ก็ไม่เกี่ยวกับเราอยู่ดี”
431/559

“ทางนั้นติดต่อมาให้แดดกับลูกเข้าหุ้นด้วย”
“แล้วแดดคิดว่าไงครับ”
“ยังไม่ได้คิดอะไร”
“ผมแล้วแต่แดดครับ”
“แดดอยากเกษียณมากกว่า แค่ที่เรามีตอนนี้กเ็ พียงพอแล้วมั้ง
ศูนย์การค้าใหม่ ๆ เกิดขึ้นทั่วทุกมุมถนนเลยก็ว่าได้ มากมายที่ไม่มคี นเช่า
ห้องก็ว่าง ที่มีคนเช่าก็ทำธุรกิจได้ไม่ดีกต็ ้องปิดตัวลง คนเช่าก็หมดตัว คน
ให้เช่าก็ขาดทุน แต่ตลาดของเราทำมากว่าสามสิบปีแล้ว แทบจะไม่มที ี่ว่าง
ให้คนใหม่ ๆ เข้ามาเลยก็ว่าได้ ที่มีอยู่ตอนนี้ก็เก็บกินแทบไม่หมด”
“ลูกคนเดียวบริหารงานทุกอย่างก็แทบจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองอยู่
แล้ว ถ้ามีเพิ่มขึ้นมาอีก คงจะเหนื่อยน่าดู ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ดูแลเอง
ทั้งหมดก็เถอะ แต่มันก็ต้องเบียดเวลาไปบ้าง จนหาความสุขไม่ได้เป็นแน่
ไหนลูกจะต้องเลี้ยงคารีนาด้วย อีกอย่างเห็นมัมเปรย ๆ ว่าเก็บเวลาไว้
ท่องเที่ยวดีกว่า เผื่อสักวันมีหลานให้เลี้ยงจะหนีเที่ยวไม่ได้ เพราะว่าติด
หลาน”
คารีโนยิ้มอ่อนโยนให้กับความคิดของมารดา เพราะตอนที่เขามีคารี
นาเข้ามาในชีวิต มารดาก็เห่อหลานสาวตัวน้อยน่ารัก จนเขาแทบจะยก
ลูกสาวให้มารดาไปเลี้ยงแทน ถ้ามีหลานของตัวเองจริงจะหลงแค่ไหนก็ไม่รู้
432/559

“อีกอย่างถ้าเขาอยากร่วมแค่ทุนมันก็คงโอ.เค. แต่ถ้ามันมากกว่านั้นก็
ไม่รู้เหมือนกัน”
“หมายความว่าอย่างไรครับแดด”
“เขาคงอยากเกี่ยวดองกับเราด้วยมั้ง”
“ความคิดใครหรือครับเนี่ย” คารีโนถามกลับบิดายิ้ม ๆ
“ไม่ใช่ของแดดกับมัมหรอก เราไม่มีนโยบายอย่างนี้ในสมอง”
“ขอบคุณครับแดด ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเขาดีกว่า เราก็อยู่
ของเราได้”
“แดดก็ว่าอย่างนั้น”
ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มน้อย ๆ กับสิ่งที่ได้รับรู้ ทำให้เขายิ่งรักบิดา
มารดามากมาย ที่ไหน ๆ ในโลกต้องมีเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น เกี่ยวดองกันทาง
ด้านธุรกิจ โดยการให้ลูกหลานของคนในตระกูลแต่งงานกันเพื่อความ
เป็นปึกแผ่นที่มั่นคง โดยไม่สนใจในเรื่องของหัวใจหรือว่าความรักเป็น
พื้นฐาน
โชคดีที่บิดาของเขาใช้สมองทำธุรกิจและให้หัวใจนำทางชีวิต ชีวิตก็
เลยมี ความสุข และเขาก็จะทำเช่นเดียวกัน
ระหว่างทางขับรถกลับบ้านเสียงโทรศัพท์มือถือของเบียนก็ดังขึ้น พอ
เขารับสายก็รายงานเจ้านาย
433/559

“มิสเลอาครับนาย” คารีโนยื่นมือไปรับโทรศัพท์จากลูกน้อง
“ไฮ เลอา”
“ที่รัก” เสียงเซ็กซี่ที่ดังกลับมา ไม่ได้ทำให้คารีโนรู้สึกตื่นเต้นอะไรอีก
เลย จนเขานึกแปลกใจตัวเอง แถมเสียงที่ได้ยินทำให้สมองของเขาตวัดไป
ยังอีกคน
ถ้าหล่อนเรียกเขาว่าที่รักด้วยเสียงเซ็กซี่อย่างนี้บ้าง มันจะให้
ความรู้สึกอย่างไรนะ
“คารีโน” อีกครั้งที่ปลายสายเรียก ทำให้คารีโนดึงตัวเองออกมาจาก
ความคิด
“ขอโทษเลอา ผมคิดอะไรนิดหน่อย”
“งานยุ่งหรือคะ”
“ครับ ว่าแต่คุณเป็นอย่างไรบ้าง ผมต้องขอโทษด้วยทีผ่ มไม่ค่อยมี
เวลาว่าง เลยไม่ได้ติดต่อหรือไปเจอคุณ ผมต้องเข้าไปคุมทีโ่ รงงานทุกวัน
คุณใกล้จะปิดเทอมแล้วใช่ไหม”
“ฉันรู้ค่ะ อีกอาทิตย์เดียวก็ปิดเทอมแล้ว ฉันก็ต้องกลับบ้าน คุณ
ต้องลืมฉันแน่ ๆ เลย และก็ไม่แน่ว่าฉันจะได้กลับมาอีกหรือเปล่า”
“ทำไมหรือ”
434/559

“พ่อกับแม่ของฉันอยากให้เรียนที่มหาวิทยาลัยใกล้บ้านค่ะ คุณจะว่า
อย่างไรคะคารีโน”
“ผมจะว่าอะไรได้ล่ะ”
“ฉันคงคิดถึงคุณมาก”
“อย่าคิดมาก คุณยังเด็ก ทำในสิ่งที่พ่อแม่บอกนั่นแหละดีที่สุดแล้ว”
“ดูคุณไม่แคร์ฉันเลยนะคะ” ปลายสายต่อว่ากลับมา
“คุณเป็นเพื่อนที่น่ารักเลอา”
“ฉันเป็นได้แค่เพื่อนของคุณเท่านั้นหรือคะ เป็นมากกว่าเพื่อนได้ไหม
หรือว่าตอนนี้คุณมีใครใหม่แล้ว”
“ผมจะบอกคุณ ถ้ามีใครใหม่”
“หวังว่าฉันคงจะไม่ได้รับข่าวร้ายในเร็ววันนีน้ ะคะ ฉันว่าคุณเปลี่ยน
ไปมากทีเดียว ตั้งแต่คืนนั้นคุณก็ไม่เคยไปหาฉันอีกเลย ไม่เคยโทร. หา
ด้วย” สาวสวยตั้ง ข้อสังเกต แต่นํ้าเสียงไม่ได้เศร้าเลยสักนิด
“คุณก็รู้ว่างานผมยุ่งมาก อย่าคิดอะไรมากเลย”
“ฉันไม่คิดอะไรมากหรอกค่ะ แต่ไม่รวู้ ่าคุณจะคิดหรือเปล่า ถ้าฉันจะ
บอกว่า ฉันมีแฟนแล้ว และเราก็หมั้นกันแล้วค่ะ”
“อะไรนะ” ถามกลับเสียงดัง
435/559

“อย่าตกใจค่ะ คุณได้ยินไม่ผิดหรอก ฉันหมั้นแล้ว” ปลายสายส่ง


เสียงหัวเราะชอบใจกลับมา คารีโนก็เลยต้องหัวเราะไปด้วย
“ผมต้องบอกว่ายินดีกับคุณด้วยจริง ๆ เอาเป็นว่าผมจะส่งของขวัญ
ไปให้คุณนะเลอา ขอให้คุณมีความสุข”
“ขอบคุณค่ะคารีโน”
“ผมขอให้คุณโชคดี มีความสุขกับคู่หมั้นของคุณ”
“ขอบคุณค่ะ ฉันก็ขอให้คุณมีความสุข เจอคนที่ใช่เช่นกัน”
เมื่อกดปิดโทรศัพท์แล้ว คารีโนก็ยิ้มกว้างจนลูกน้องแปลกใจ
“มีอะไรดี ๆ หรือครับนาย”
“เรื่องร้ายมากกว่ามั้ง”
คนเป็นลูกน้องใช้สายตาเป็นคำถาม เจ้านายจึงบอกต่อว่า
“เลอาโทร. มาบอกว่าเขาหมั้นแล้ว และก็จะกลับไปเรียนต่อทีบ่ ้าน
ฉันก็ยินดีกับเขาไป อ้อ พรุ่งนี้จัดการส่งของขวัญไปให้เลอาด้วย”
“ครับนาย ผมจะจัดการให้”
“ในที่สุดฉันก็ถูกผู้หญิงบอกเลิก ไม่น่าเชื่อว่าในชีวิตของฉันจะโดน
ผู้หญิงบอกเลิก แสดว่าฉันไม่ได้เรื่องจริง ๆ ใช่ไหมเบียน แล้วอย่างนี้จะ
หาแม่ให้คารีนาได้อย่างไร หึ” นํ้าเสียงทีอ่ อกจะรื่นรมย์ขนาดนั้น ทำให้
ลูกน้องคนสนิทกล้าที่จะตอบว่า
436/559

“อันนี้นายต้องไปถามมามี้ของคุณหนูแล้วครับ”
คำตอบที่ได้รับทำให้คนเป็นเจ้านายหัวเราะจับใจเสียงดังก้องรถ
ทีเดียว
ถึงเวลาที่เขาจะต้องเริ่มต้นรุกอีกคนอย่างจริงจังเสียแล้ว
เขาเคยได้ยินเรื่องราววิถีชีวิตของคนไทย เกี่ยวกับครอบครัวคนไทย
ในสมัยคุณยายยังเด็กว่าเป็นอย่างไร การใช้ชีวิตของหนุ่มสาวก่อนแต่งงาน
สมัยคุณยายเป็นอย่างไร แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว เขาไม่คิดว่าคนสมัยใหม่
อย่างละมุนมาศจะเป็น อย่างนั้น โดยเฉพาะคนที่เติบโตในดินแดนที่มี
อิสระเสรีแห่งนี้ เขาคิดว่า
มันออกจะแปลกหรือไม่แปลกเขาก็ต้องลองดู
ในขณะที่ทำงานละมุนมาศก็อดที่จะคิดถึงผู้เป็นมารดาไปด้วยไม่ได้
ไม่รู้ป่านนี้มารดาจะเป็นอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ได้เงินไปครั้งนั้นก็ไม่แวะ
มาหาอีกเลย ก็ได้แต่หวังว่ามารดาจะเข้าใจหล่อนบ้าง หรือไม่มารดาก็คงจะ
โกรธจนตัดแม่ตัดลูกกับหล่อนไปแล้วก็ได้
สงสารแต่คนตัวเล็ก ครั้งแรกที่หล่อนถูกมารดาทิ้งก็ยังมีบิดาและยาย
คอยดูแล จะว่าไปแล้วคนตัวเล็กก็ไม่โชคร้ายเสียเลยทีเดียว เพราะยังมี
หล่อนหรือพี่สาวที่รักคนตัวเล็กไม่ต่างไปจากลูกคนหนึ่ง
437/559

ก็ได้แต่หวังว่าสักวันมารดาจะกลับตัวกลับใจ ถึงวันนั้นสามคนแม่ลูก
จะได้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวที่มคี วามสุข ไม่รู้ว่าหล่อนหวังมากเกินไป
หรือเปล่า
ซีกหนึ่งของหัวใจเป็นทุกข์กังวล แต่อีกซีกหนึ่งกลับมีความสุขอิ่มเอิบ
ตั้งแต่วันเกิดคุณยายเป็นต้นมา หลังจากที่ทำความเข้าใจกันแล้ว เขาก็โทร.
มาหา ไต่ถามทุกข์สุข ส่งความคิดถึงแทบจะทุกวันก็ว่าได้ แค่นั้นหัวใจก็
เป็นสุขแล้ว
บางครั้งละมุนมาศก็รู้สึกสับสน ไม่รวู้ ่าคนเป็นแฟนกันควรที่จะทำ
อย่างไร แสดงออกถึงความรักกันแค่ไหน หลายครั้งนึกเขินที่จะพูดอะไร
ออกไปตามที่หัวใจต้องการ
เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานของละมุนมาศดังขึ้นก่อนเวลาเที่ยงวัน
เล็กน้อย พอยกหูขึ้นรับ เสียงช้า ๆ เนิบนาบภาษาอังฤกษสำเนียงเม็กซิกัน
จากเจ้าหน้าที่สูงวัยหน้าด้านก็ดังขึ้น
“มิสละมุนมาศมีแขกมารอพบที่ด้านหน้า”
“ขอบคุณค่ะ”
ละมุนมาศปิดคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะลุกจากโต๊ะทำงาน เดินออกไป
ด้านหน้าคลินิก มองกวาดไปรอบ ๆ ก็ไม่พบว่ามีคนทีห่ ล่อนรู้จัก นอกจาก
คนไข้ของคลินิกเท่านั้น
438/559

“แขกรออยู่ข้างนอก” มิสซิสเดวิสเลื่อนกระจกกั้นยื่นหน้าบอกยิ้ม ๆ
พร้อมกับหลิ่วตาอย่างมีเลศนัยส่งให้
“ขอบคุณค่ะ”
ละมุนมาศรีบเปิดประตูก้าวออกไปข้างนอกด้านหน้าตึก ทันทีทเี่ ห็น
แผ่นหลังที่คุ้นเคย หัวใจก็เต้นแรงอย่างระงับไม่อยู่ ไม่เจอเขาสองอาทิตย์
กว่า ๆ เพราะว่าเขาเดินทางไปต่างรัฐ ต่างประเทศบ้าง แต่คำหวานที่ได้รับ
ก่อนนอนทุกครั้ง ทำให้ใบหน้าหวานร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด ตอนไม่เห็นหน้า
ก็อยากเห็นหน้า แต่พอเขามาหาอย่างนี้แล้วก็รู้สึกเขินจนไม่กล้าสู้หน้า ไม่
คิดว่าเขาจะมาหาถึงที่ทำงาน อยากจะหันหลังกลับเข้าไปข้างใน แต่กไ็ ม่ทัน
เพราะว่าอีกคนหันมาเห็นเสียก่อน
“ที่รัก” ภาษาไทยแปร่ง ๆ คำนั้นทำให้คนได้ยินหัวใจเต้นสั่นระรัว
เลือดในกายพุ่งฉีดไปที่ใบหน้าร้อนผ่าวทีเดียว ไม่คิดว่าเขาจะเรียกหล่อน
อย่างนี้ รู้สึกเขินจนทำอะไรไม่ถูก
“คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะตรัง” ที่รักที่ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อดวงตา
เก้อเขินเสมองไปทางอื่นไม่ยอมสบตา
“ห่างเหินจังเลย” ร่างสูงพูดพร้อมเดินเข้ามาชิด
“คิดถึงนะ” ก้มลงกระซิบ พร้อมกับมือหนายื่นคว้าแขนเรียวเล็กเอา
ไว้ ก่อนที่อีกคนจะเดินหนีเพราะความเขินอาย
439/559

“ตรังอย่าทำอย่างนี้สิ นี่ที่ทำงานนะคะ” มือบางพยายามบิดออกจาก


มือใหญ่
“นอกตึกที่ทำงานครับ ถึงแม้จะในตึกก็ไม่มใี ครเขาว่าอะไรหรอก ถ้า
แฟนกันจะแสดงความรักความคิดถึงกันอย่างนี้” อย่างนี้ที่ว่าก็คือริมฝีปาก
อุ่นแตะที่ข้างแก้มเนียน
คนทีไ่ ด้รับความคิดถึงจึงได้แต่ตะลึง หัวใจเต้นแรง ใบหน้าร้อนผ่าว
ริมฝีปากอวบอิ่มได้แต่เม้มเข้าหากันแน่น หลบตาอย่างขวยเขิน
37
แฟน...ผม

“ไปกินข้าวเที่ยงกันเถอะ อีกไม่กนี่ าทีกจ็ ะเที่ยงแล้ว” คนชวนยก


นาฬิกาเรือนหรูบนข้อมือขึ้นดู
“เอ่อ...คือ”
“ไปเถอะ”
“แต่ฉันเอาอาหารกลางวันมากินด้วยแล้วนะคะ”
“เอาไว้กินวันอื่นสิ”
“ได้ไงคะ และฉันก็ไม่ได้หยิบกระเป๋าถือติดมือมาด้วย”
“ไม่ต้องหรอก” อีกคนออกแรงจูงให้อีกฝ่ายเดินตามไปที่รถของเขา
แต่มือเรียวเล็กรีบดึงเขาเอาไว้เสียก่อน
“งั้นขอเข้าไปเอากระเป๋าก่อนได้ไหมคะ”
“ถ้าปล่อยคุณกลับเข้าไป รับรองได้ว่าผมไม่ได้กินข้าวกลางวันแน่ ๆ
ที่รัก” คารีโนบอก พร้อมกับดึงแขนคนตัวบางให้เดินตาม แต่ร่างบางก็ดึง
ตัวเองเอาไว้จนตัวโก่งทีเดียว
441/559

“จะเดินไปเองหรือว่าจะให้ผมอุ้มก็ได้นะ” คำขู่ของคนตัวโตที่ละมุน
มาศรู้ว่า เขาจะทำอย่างที่พูดจริง
“ว่าไง...หือ ก็ดนี ะ ผมชอบอุ้ม” คำพูดกับดวงตากรุ้มกริ่มของเขาทำ
ให้ ละมุนมาศอดที่จะค้อนให้ไม่ได้ก่อนที่จะอธิบาย
“แต่ฉันต้องบอกคนข้างในก่อนค่ะ ไม่ใช่หายไปเฉย ๆ เดี๋ยวเขาก็คิด
ว่าฉันถูกลักพาตัวหรอก”
“ผมไม่ได้หน้าตาเหมือนโจรสักหน่อย เอาเป็นว่าผมเข้าไปด้วยก็แล้ว
กัน” แก้ตัวแล้วคนตัวสูงก็จับจูงมือบางเดินนำเข้าไปในคลินิก คนตัวบาง
พยายามดึงมือออก แต่เขาไม่สนใจ แค่หันมายิ้มให้ด้วยดวงตาสดใส
ไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นคนเอาแต่ใจขนาดนี้ ความจริงที่หล่อนรูม้ า
นานพอสมควร เขาเอาแต่ใจ...แต่หล่อนเขิน
“นี่ตรังปล่อยเถอะค่ะ ไม่ต้องจับมือก็ได้ ฉันไม่หนีไปไหนหรอก”
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวคุณหายเข้าไปแล้วไม่ออกมาอีก แล้วผมจะบุกเข้า
ไปตามคุณได้อย่างไรกัน งานนี้ได้โดนตำรวจจับแน่ ๆ” มือหนากลับ
กระชับมือบางแน่นยิ่งขึ้นไปอีก ใบหน้าคมก้มลงมาใกล้กระซิบบอกว่า
“และต่อไปเรียกตัวเองว่ามุนนะ ถ้าไม่เรียกต้องถูกลงโทษ และผมก็
ชอบลงโทษด้วย”
คำขูอ่ ่อนหวานนั้นทำให้อีกคนได้แต่ถอนหายใจเล็ก ๆ แต่ในใจ
อบอุ่นไม่น้อย หัวใจดวงเล็กสั่นไหวโอนเอนจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
442/559

ละมุนมาศได้แต่เดินตามแรงจูงด้วยใบหน้าแดงกํ่า ตั้งแต่เกิดมายัง
ไม่เคยถูกหนุ่ม ๆ จูงมือเดินมาก่อน รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก แถมยังกลัว
เพื่อนร่วมงานจะเห็นอีกด้วย แต่คนจูงกลับไม่สนใจ จํ้าอ้าวเข้าไปข้างใน
สำนักงานด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย ใบหน้ายิ้มแย้ม
เมื่อเข้าไปข้างใน มือใหญ่ก็ปล่อยมือบางให้คนหน้าแดงเข้าไปหยิบ
กระเป๋า คนรอก็ได้แต่หวังว่าอีกคนจะไม่เบี้ยวเขา และก็ไม่ถึงห้านาที ร่าง
บางในชุดเสื้อสูทกางเกงขายาวสีดำก็ออกมาจากในข้าง พร้อมกับกระเป๋า
สะพายใบโตใบเดิม รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่ออย่างไม่รู้ตัว
คารีโนรีบเดินไปรับพร้อมจูงมือให้เดินตามโดยไม่สนใจคนที่ขัดขืน
สักนิด พร้อมกับแอบหันกลับไปมองหน้าแดง ๆ นั้นแล้วก็รู้สึกดีอย่างบอก
ไม่ถูก พอมาถึงรถคันโตเขาก็เปิดประตูให้หล่อนนั่ง แถมยังช่วยดันหลังส่ง
ให้หล่อนขึ้นบนรถอีกด้วย
รถเตี้ย ๆ ไม่มีใช้หรือไงนะ ถึงได้ใช้รถคันโต จะขึ้นทีต้องปีน
ละมุนมาศแอบค่อนขอดอยู่ในใจ พอนั่งได้ถนัดก็ดึงเข็มขัดนิรภัยมา
รัด ตัวเองทันที คนทีม่ องอยู่ข้างหลังได้แต่ยิ้มกับท่าทางเอาตัวรอดของ
หล่อน แต่เขาก็ยังยื่นหน้าเข้าไปชิด ทำเอาอีกคนสะดุ้งเล็กน้อย
“อุ๊ย”
การกระทำของเขาทำเอาคนที่นั่งบนเบาะถึงกับตัวเกร็ง เบียดตัวเอง
จนแทบจะจมลงไปกับเบาะรถ หยุดหายใจไปชั่วขณะ ละมุนมาศไม่กล้าที่
443/559

จะหายใจ กลัวว่ากลิ่นกายของเขาจะทำให้ระบบหายใจของหล่อนติดขัด
ทำงานผิดปกติ นึกฉุนคนทำยิ่งนัก ได้แต่ทำหน้าบึ้ง ๆ ทั้ง ๆ ที่มัน
ร้อนผ่าวขนาดนั้น แต่อีกคนก็ไม่ได้ทำอะไร แค่ยิ้ม ปิดประตูให้แล้วเขาก็
อ้อมไปทางด้านคนขับ
“ฉันต้องกลับมาทำงานนะคะ ว่าแต่เราจะไปกินที่ไหนคะ” เสียงหวาน
พูดขึ้นทันทีที่อีกคนออกรถ
“ไม่ต้องห่วงหรอกที่รัก หนูมนุ มาทันเวลาทำงานก็แล้วกัน ผมจะไม่
ทำให้คุณเสียงาน รับรอง แต่ถ้าผมทำอย่างนั้น ผมจะรับผิดชอบเอง” เขา
บอกพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้คนมองหัวใจกระตุก
“ฮึ” เสียงเล็ก ๆ หลุดออกมาจากคนตัวบางที่ออกอาการเขินไม่หาย
ถึงแม้เจ้าตัวจะพยายามกลบเกลื่อนเอาไว้ แล้วใบหน้าหวานก็หันไปมองใน
ทิศทางตรงกันข้ามทันที คารีโนได้แต่อมยิ้ม รู้สึกมีความสุขเสียจริง
“คิดถึงคุณจังที่รัก” มือหนานุ่มเอื้อมมาจับมือบางที่วางอยู่บนกระเป๋า
ถือใบโตแล้วก็ยกขึ้นจูบเบา ๆ
“คิดถึงผมบ้างไหมหนูมนุ ” คนถูกถามไม่กล้าตอบออกมาเป็นคำพูด
นึกเขินเหลือเกิน ได้แต่พยักหน้าให้น้อย ๆ ใบหน้าหวานแดงซ่าน คนได้
รับคำตอบก็ยิ้มกว้างทีเดียว และก็หันหน้ากลับไปให้ความสนใจกับถนน
ต่อ ความเงียบเกิดขึ้นในรถชั่วขณะ ละมุนมาศแอบมองเขา หัวใจดวงน้อย
มีความสุขมากนัก
444/559

คนเอาแต่ใจ แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าหัวใจของหล่อนก็โหยหา อยากเห็น


หน้า เขาทำให้หล่อนคิดถึงเขาทุกวัน
“เป็นอะไรหรือ”
“คะ”
“ก็ผมเห็นคุณทำหน้าตาแปลก ๆ สะบัดใส่ผมอีกต่างหาก”
คำตอบของเขาทำให้ละมุนมาศอดที่จะขำไม่ได้ ไม่คิดว่าเขาจะแอบ
เห็น
“เปล่าค่ะ”
“หิวไหม”
“นิดหน่อยค่ะ”
รถคันโตเลี้ยวเข้าไปในชอปปิงเซนเตอร์เล็ก ๆ ข้างถนนที่มีร้านค้าอยู่
ไม่ถึงสิบคูหา แต่มรี ้านอาหารหลายชาติตั้งอยู่ ทั้งเวียดนาม จีน เปรู และ
ร้านอเมริกันเร่งด่วนอยู่หลายร้าน รวมถึงร้านทำผมทำเล็บด้วย
ทันทีที่รถจอดละมุนมาศก็รีบเปิดประตูรถออกไปยืนรออยู่บนฟุตปาธ
อย่างรวดเร็ว คารีโนยิ้มมุมปากให้กับท่าทางลนลานนั้น หล่อนคงจะกลัว
เขาช่วยเหลือแบบหาโอกาสนั่นเอง
เมื่อออกจากรถได้ เขาก็ยื่นมือไปเกาะกุมมือบาง พร้อมกับสายตา
บังคับ ที่ทำให้ละมุนมาศปฏิเสธไม่ได้ แม้ในใจอยากจะปฏิเสธด้วยความ
445/559

เขินอายด้วยไม่คุ้นชิน แต่เห็นดวงตาจริงใจคูน่ ั้นแล้ว หัวใจของหล่อนก็


ยินยอมให้เขาจูงมือเดินเข้าไปในร้าน ซึ่งร้านนี้ละมุนมาศเคยมากับลินดา
หลายครั้ง เข้าไปในร้านก็เห็นลูกค้ายืนเรียงแถวกันหลายคน เขาพาหล่อน
ไปยืนต่อแถวด้วยเช่นกัน
“ที่รัก คุณเคยกินแซนด์วิชร้านนี้ไหม” คนตัวสูงก้มลงถาม คำ
เรียกขานว่า ที่รักของเขา ทำให้ละมุนมาศรู้สึกเก้อเขิน ใบหน้าหวานร้อน
วูบวาบกับความใกล้ชิดที่แทบจะเรียกว่าไม่มีช่องว่างนั่นด้วย
“เคยค่ะ” ตอบเขาเสียงเบา เพราะว่ามีคนเดินมาต่อแถวข้างหลัง
หล่อนด้วย
“มากินกับใคร”
“เพื่อนที่ทำงาน”
“ผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย” คนขี้หวงเริ่มออกอาการ
“ถามทำไมคะ”
“ก็แค่อยากรู้”
“ผู้หญิงค่ะ”
คำตอบนั้นทำให้ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มทันที ละมุนมาศนึกอยาก
จะค้อนให้ แต่ก็ไม่ได้ทำ
“เอ่อ คุณปล่อยมือฉันก่อนได้ไหมคะ”
446/559

“ทำไม มีอะไรหรือครับ” ถามด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม เพราะรูว้ ่าอีกคน


กำลัง เขินอาย
“ฉัน...”
“ไม่เห็นต้องอายใคร นี่หนูมุน ควงกับผมคุณต้องเชิดหน้าเอาไว้รู้
ไหมที่รัก” คนตัวสูงก้มลงกระซิบเสียงหวาน คนฟังหัวใจเต้นแรง ไม่ใช่แค่
เสียงกระซิบเท่านั้นที่ทำให้หัวใจสั่นคลอน ลมหายใจแผ่วเบาที่ปะทะกับใบ
หูนั่นด้วย ทำเอาขนต้นคอลุกชัน เนื้อตัวร้อนผ่าว คนที่ต่อแถวข้างหลังก็
ขยับมาเบียดชิด ละมุนมาศก็ต้องขยับหนี พร้อมกับอ้อมแขนแข็งแรงก็ยก
ขึ้นโอบแผ่นหลังของหล่อนเอาไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ยังไม่ทัน
ที่ละมุนมาศจะได้ตอบอะไร ก็มีเสียงทักทายดังขึ้นไม่ไกล
“ไฮ มิสเตอร์คารีโน” เสียงทักทายนั้นทำให้คนที่ก้มหน้าลงมาชิดต้อง
เงยขึ้นหันไปทางคนทัก ชายสูงอายุเดินยิ้มร่ามาทักทายด้วยภาษาอังกฤษ
สำเนียงจีน พร้อมโค้งให้อย่างนอบน้อมตามด้วยรอยยิ้มจริงใจที่เผื่อแผ่มา
ถึงหล่อนด้วย ซึ่งละมุนมาศก็ได้แต่ยิ้มตอบ พร้อมกับก้มศีรษะน้อย ๆ
และภาษาอังกฤษก็เปลี่ยนเป็นภาษาจีนที่ละมุนมาศไม่รู้ว่าทั้งคู่พูดอะไรกัน
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะพูดได้หลายภาษาอย่างนี้ อย่างน้อยที่ละมุนมาศรู้
ตอนนี้ก็คือ อังกฤษ ไทย เวียดนาม ฝรั่งเศส และก็ยังมีจีนด้วย
หลายครั้งที่สายตาเจ้าของร้านชำเลืองมองมายังมือหนาที่จับจูงมือของ
หล่อนแล้ว ละมุนมาศก็รู้สึกเขินจนนึกอยากจะแกะมือเขาออกแต่กท็ ำไม่ได้
เพราะมือหนาจับมือของหล่อนแน่นทีเดียว
447/559

ละมุนมาศไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกับเถ้าแก่เจ้าของร้าน นอกจาก
เสียงหัวเราะแจ่มใสกับท่าทางเขินอาย โหนกแก้มซับสีระเรื่อในบางครั้งของ
เขา ไม่นานนักเจ้าของร้านก็ลาไปช่วยงานหลังเคาน์เตอร์
จากนั้นก็ถึงคิวของคารีโน เขาหันมาถามหล่อนแล้วก็สั่งให้ ไม่นาน
นักของที่สั่งก็ได้มาถุงใหญ่ทีเดียว พร้อมกับเครื่องดื่มเย็น ๆ สองแก้ว
แถมเจ้าของร้านจะไม่รับเงินอีกต่างหาก แต่เขาก็ยัดเยียดให้จนได้ เจ้าของ
ร้านขอบคุณแล้วขอบคุณอีกอย่างนอบน้อมแถมเลยมาทางละมุนมาศอีก
ด้วย ทำเอาก้มรับแทบไม่ทัน และเขาก็จูงหล่อนออกจากร้าน
“ไปหาที่นั่งใต้ต้นไม้เย็น ๆ กินกันดีกว่า อากาศกำลังดีไม่ร้อนเกิน
ไป”
“งั้นก็ไปทีห่ ลังคลินิกละกันค่ะ มีโต๊ะนั่งอยู่” พอหล่อนเสนอ เขาก็
เห็นด้วย
คารีโนขับรถกลับไปที่คลินิก พอมาถึงคลินิก ละมุนมาศก็พาเขาเดิน
อ้อมไปทางด้านหลังตึก ซึ่งที่นั่นมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่ง
“อะ นี่ของคุณ” เขาพูด พร้อมกับยื่นแซนด์วิชสลัดทะเลส่งให้
“ขอบคุณค่ะ”
“ถ้าไม่อิ่มมีอีกสองอันนะ รู้สึกว่าเขาจะแถมมาให้อีกสองอัน สงสัยจะ
ติดใจในความน่ารักของหนูมุน” คำพูดของเขาทำให้ละมุนมาศได้แต่ส่าย
หน้า
448/559

“จริง ๆ นะ อันนีผ้ มไม่ได้พูดเอง มิสเตอร์เจียงเขาชมคุณจริง ๆ นะ


ที่รัก ไม่เชื่อผมหรือ”
“ตอนไหนคะ ฉันไม่เห็นได้ยิน” คนถูกชมว่าน่ารักกลบเกลื่อนความ
เขินด้วยการยกแซนด์วิชใส่ปาก
“ก็ตอนที่คุยกันด้วยภาษาจีน”
“คุณนินทาอะไรฉันหรือเปล่าคะ”
คำถามนั้นทำให้คนฟังอดที่จะหัวเราะไม่ได้
“ไม่ได้นินทา ใครเขาจะนินทากันต่อหน้า นินทาต้องลับหลังสิ อันนี้
ชมครับ” คำแก้ตัวของเขาทำให้ละมุนมาศได้แต่ค้อนให้
“ฮึ”
“ฮึอะไร” ละมุนมาศส่ายศีรษะ คนถามยิ้ม ดวงตาที่มองสบมามัน
อ่อนหวานอย่างเหลือเกิน ทำให้ละมุนมาศต้องหลบตาเสยกแซนด์วิชใน
มือขึ้นใส่ปาก พอเคี้ยวไปได้สักพักก็ต้องอ้าปาก คว้านํ้ามาดื่ม ใบหน้า
หวานแดงเห่อขึ้นมาทันที
“เผ็ดหรือ”
ใบหน้าหวานพยักหน้าตอบรับ ปากบางอ้ากว้างพยายามเป่าลมออก
จากปากระบายความร้อน มือก็แกะดูแซนด์วิชไปด้วย เห็นพริกฮาลาปิโน
(Jalapeno Chilli - พริกของชาวเม็กซิกัน กำเนิดที่เมืองฮาลาป้า
(Jalapa) มีสีเขียวไปจนถึงสีแดงตามอายุ ขนาดประมาณ 5-9
449/559

เซนติเมตร นิยมมากในอเมริกาโดยเฉพาะอาหารเม็กซิกันเทกซัส ที่อยูใ่ น


แซนด์วิชแล้วก็ตาโต เพราะว่ามันมากกว่าปกติตั้งหลายเท่า ชิ้นใหญ่ ๆ
ยาว ๆ ทั้งนั้น ใบหน้าคมยื่นมามองแล้วก็บอกว่า
“ขอโทษ ผมลืมบอกเขาว่าไปว่าไม่ต้องใส่พริกในแซนด์วิชของคุณ
เพราะปกติเขาจะทำอย่างนี้ให้ผม เฟยและเบียนเผ็ดมากไหม” เสียงถามใน
ตอนท้ายทอดอ่อน กับดวงตาที่แสดงความห่วงใยบ่งบอกถึงความอาทร
ใส่ใจ
“คุณมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ ถึงได้มาหาที่นี่” คนหัวใจ
หวั่นไหวรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่เขาจะเปิดเผยอะไรทางดวงตามากกว่านี้
“ก็บอกแล้วไงว่าคิดถึง”
คำพูด ‘คิดถึง’ ที่เขาพูดยํ้าหลายครั้งในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ทำ
ให้คนฟังหัวใจเต้นโครมคราม ใบหน้าร้อนวูบวาบราวกับจะเป็นไข้ แต่ไม่รู้
จะทำอย่างไร ละมุนมาศจึงได้แต่ก้มหน้าทานแซนด์วิชในมือ โดยพยายาม
ไม่สนใจคนที่อยู่ตรงหน้า ได้แต่บอกกับตัวเองว่า
ทำหัวใจให้เข้มแข็งเข้าไว้ อย่าหวั่นไหวมากนัก แต่มันก็ห้ามได้ยาก
เหลือเกิน
คารีโนแอบมองหน้าคนที่กำลังเขินและแสดงออกแบบไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็
อดที่จะยิ้มไม่ได้ ไม่คิดว่าคำพูดแค่นี้ของเขาจะได้ทำให้อีกคนขวยเขิน
หน้าแดงได้มากขนาดนี้ ถ้าเป็นสาวฝรั่ง เขาคงได้รับจูบเป็นคำขอบคุณ
450/559

เขาก็ต้องทำใจเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนอย่างไร มือหนายก
แซนด์วิชในมือขึ้นกัดด้วยความรู้สึกเป็นสุข พริกฮาลาปิโนที่ซ่อนอยูข่ ้างใน
ทำให้แซนด์วิชมีรสชาติดีขึ้น อร่อยขึ้นกว่าปกติหลายเท่านัก โดยเฉพาะ
การได้นั่งทานกับคนตรงหน้านี้
ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาตามจีบผู้หญิงอย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่ในชีวิตของ
เขามี ผู้หญิงมาให้เลือกมากมาย และคนตรงหน้านีก้ ็แสนจะธรรมดาเมื่อ
เทียบกับผู้หญิงทั้งหลายที่เข้ามาในชีวิตของเขา แถมเจ้าหล่อนยังชอบที่จะ
วิ่งหนีเขาอีกต่างหาก
เขาไม่อยากจะเชื่อตัวเองแล้วก็อดที่จะยิ้มคนเดียวไม่ได้ เมื่อเห็นว่า
อีกคนกำลังจดจ่ออยู่กับแซนด์วิชในมืออย่างเอาจริงเอาจริง
“มิสละมุนมาศอยู่นี่เอง” เสียงทักดังขึ้นจากข้างหลัง ทำให้ละมุนมาศ
ต้องหันไปมอง ก็เห็นคุณหมอที่มาพร้อมกล่องอาหารในมือ
“คุณหมอราวินั่งด้วยกันไหมคะ” ละมุนมาศเชิญ ในขณะที่คนตัวโต
จากฝั่งตรงข้ามก็เคลื่อนตัวเองไปนั่งชิด
“อุ๊ย”
“ขอบคุณครับ”
คุณหมอราวินั่งลงฝั่งตรงข้าม และตามมาด้วยลินดาเพื่อนร่วมงาน
สาวที่หย่อนตัวลงนั่งข้างคุณหมอ
“นั่งด้วยคนนะคะ”
451/559

สาวสวยลินดานั่งลงข้างคุณหมอแล้วก็ต้องตาโต เมื่อเห็นว่ามีหนุ่ม
หล่อนั่งอยู่ข้างเพื่อนสาว คารีโนพยักหน้าทักทายพร้อมรอยยิ้ม
“คุณหมอราวิ ลินดา นี่ตรัง คารีโนค่ะ” พร้อมกับเสียงนุ่มทุ้มที่ตาม
มา ทำให้ละมุนมาศถึงกับยิ้มไม่ออก
“ผมเป็นแฟนกับละมุนมาศครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” คารีโนยื่นมือออกไป
ตรงหน้ากระชับมือกับสาวสวยและคุณหมอราวิ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ/ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ไม่เคยทราบนะคะว่ามุนมีแฟนหล่อขนาดนี้”
“ขอบคุณครับ” รับคำเสียงนุ่มทีเดียว ละมุนมาศแทบจะมุดหน้าลง
ใต้โต๊ะ รู้สึกได้ว่าหน้าร้อนผ่าว นึกอยากจะหักหน้าอีกฝ่าย แต่พอคิดไปคิด
มาแล้วอยู่เฉย ๆ น่าจะดีกว่า
“นี่มุน ยูไปร้านนั้นมาหรือ”
“อือ ไม่ได้ตั้งใจหรอก พอดีคุณคารีโนมารับไปน่ะ”
“เชิญทานแซนด์วิชด้วยกันสิครับ มีอีกสองอัน”
“งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะคะ แต่อันเดียวก็คงจะพอ ฉันจะแบ่งครึ่ง
กับ คุณหมอราวิ” ลินดารับแซนด์วิชจากคาริโนแล้วก็จัดการแบ่งครึ่งให้กับ
คุณหมอ
“ขอบคุณครับ”
452/559

“ข้างในมีพริกด้วยนะคะคุณหมอ” ละมุนมาศเตือน
“ขอบคุณครับที่เตือน”
จากนั้นคุณหมอราวิก็ก้มหน้าก้มตาทานแซนด์วิช ปล่อยให้สาวสวย
ลินดาเป็นฝ่ายซักไซร้หนุ่มหล่ออยู่คนเดียว ละมุนมาศก็ได้แต่สนใจ
แซนด์วิชในมือและเป็นผู้ฟัง พอทานเสร็จก็ดื่มน้ำแล้วหันไปทางคนที่นั่ง
ข้าง ๆ
“ลินดา คุณหมอราวิคะ ฉันคงต้องขอตัวไปทำงานก่อน หมดเวลา
พักแล้ว” และก็หันไปทางคนที่นั่งข้าง ๆ
“ขอบคุณสำหรับแซนด์วิชนะคะตรัง” คารีโนพยักหน้ารับ แต่ไม่ใช่
แค่พยักหน้าเท่านั้น เขายังโอบบ่าร่างบางดึงเข้าหาตัว แตะริมฝีปากกับแก้ม
เนียนนั้นรวดเร็ว
“แล้วเจอกันครับที่รัก”
ส่วนคนโดนจูบต่อหน้าเพื่อนร่วมงานก็หน้าแดงแปร๊ด นึกโกรธคนทำ
ขึ้นมาทันใด เขาทำให้หล่อนอายเพื่อนร่วมงาน ซึ่งความจริงแล้วละมุนมาศ
ก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่คนรักจะจูบลากัน
แต่หล่อนเขินและอายเพราะคนบ้านี่ คิดจะทำอะไรก็ทำ มันน่าโกรธ
นัก
ละมุนมาศมองหน้าคนบ้าทีท่ ำให้หัวใจของหล่อนหวั่นไหว เห็นแต่
รอยยิ้มมีความสุขนั้นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ แล้วหล่อนก็รีบเดินตัวปลิว
453/559

เข้าไปในที่ทำงานทันที โดยมีสายตาคมเข้มหลังแว่นกันแดดสีดำสนิทมอง
ตามอย่างเอ็นดู มือหนารวบถุงแซนด์วิชและจัดการกับขยะส่วนตัวบนโต๊ะ
ทั้งหมด แล้วก็ขอตัวจากเพื่อนร่วมโต๊ะกลับไปที่โรงงาน
“นี่ค่ะคุณหมอ ซาลาเปาอร่อย ๆ ค่ะ ลินดาทำเอง” ลินดาวาง
ซาลาเปาในจานคุณหมอราวิ
“แฟนของมุนหล่อจังเลยนะคะ น่ารักด้วย ฉันไม่เคยรู้เลยว่ามุนมี
แฟน น่าอิจฉาจังเลยนะคะ”
“เอ่อ ขอบคุณครับ” คุณหมอราวิรับปากแบบหงอย ๆ พร้อมกับเอ่ย
ขอตัวเมื่อจัดการกับแซนด์วิชและซาลาเปาเสร็จ
“ซาลาเปาอร่อยมาก ขอบคุณครับลินดา ผมคงต้องขอตัวไปทำงาน
ก่อน”
“เชิญตามสบายค่ะ”
ลินดามองตามหลังคุณหมอรูปหล่อแล้วก็ได้แต่บอกตัวเองว่า
คงจะแห้วอีกตามเคย คุณหมอไม่เห็นสนใจหล่อนเลย เฮ้อ อย่าให้
เกิดมาสวยบ้างก็แล้วไป จะหยิ่งให้ดู
คารีโนขับรถไปในใจก็นึกอยากจะจูบลาริมฝีปากอิ่ม ๆ นั่นแทนแก้ม
เนียนที่เขาขโมยจูบมา แต่พอคิดว่า
ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้จะนั่งงอนหน้านิ่งคิ้วขมวดอยู่คนเดียว
หรือเปล่า ที่โดนเขาจูบแก้มต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่
454/559

อยากจะทำอย่างนั้น เพราะว่าอีกคนขี้อายกับการแสดงออกทางความรัก
อย่างโจ่งแจ้ง แต่เห็นสายตาหมอหนุ่มนั่นแล้วก็แอบหมั่นไส้ หล่อนนั่งอยู่
กับเขา หมอนั่นยังขยันส่งสายตาหวานให้ตลอด เขาก็เลยแสดงความเป็น
เจ้าของเสียเลย จะได้รู้ว่าของใคร และเจ้าของหวง
นี่ถ้าเป็นหญิงสาวคนอื่นของเขา คงจะได้จูบหรือมากกว่าจูบเป็นการ
ขอบคุณเป็นแน่
เอาไว้โอกาสต่อไป
ส่วนละมุนมาศกำลังนั่งทำงานอยู่ ลินดาก็เดินกลับเข้ามาในห้องด้วย
ใบหน้ายิ้มแย้ม ทักเสียงดังทีเดียว
“อาหารกลางวันเป็นอย่างไรบ้างมุน อร่อยไหม”
“ก็ดี เปลี่ยนจากแซนด์วิชที่บ้านเป็นแซนด์วิชจากร้านก็เท่านั้น”
“แหม ทำเป็นไม่เข้าใจนะ ฉันหมายถึงว่าหนุ่มหล่อคนนั้นย่ะ ไป
อย่างไรมาอย่างไรต่างหากล่ะ”
“เขาแวะมาและก็ทานแซนด์วิชด้วยกันก็แค่นั้น”
“อุ๊ย เล่าให้มันรู้เรื่องหน่อยเถอะ คนยิ่งอยากรู้อยู่ เอาแบบละเอียด
เลยนะ เพราะว่าเรื่องนี้ฉันไม่เคยระแคะระคายเลยสักนิด เห็นยูมาหลายปี
นีเ่ ป็นครั้งแรกที่ มีหนุ่มนอกวงการมานั่งทานข้าวกับยู” ลินดาลากเก้าอี้
ทำงานของตัวเองมานั่งข้าง ๆ ละมุนมาศได้แต่ส่ายศีรษะแต่หน้าขึ้นสีแดง
แปร๊ดทีเดียว
455/559

“ฉันทำงานก่อนได้ไหม เลิกงานแล้วจะเล่าให้ฟัง” คนหน้าแดงเริ่ม


หาทางออก
“ไม่ต้องเลย อย่าโยกโย้ วันนีย้ ูไม่ได้ทำงานที่ร้านอาหาร กลับหลัง
เวลาได้ เล่ามาซะดี ๆ” ฝ่ายที่อยากรู้ไม่ยอม
สุดท้ายละมุนมาศก็จำต้องเล่าให้ฟัง พออีกคนได้ฟังก็ตาโตตื่นเต้น
“เป็นเจ้าของเวียดเฮาส์เลยหรือ อีกหน่อยยูกไ็ ม่ต้องทำงานนี่แล้วละ
ไปนั่งเป็นมาดามนับเงินที่เวียดเฮาส์ดกี ว่า เรื่องนั้นไม่เท่าไร แต่เรื่อง
เปิดเผยจริงใจและก็หล่อได้สเปกฉันนี่สิ มันห้ามไม่ให้ชอบไม่ได้จริง ๆ นี่
ถ้าไม่เกรงใจว่า ฉันเพิ่งขอ...”
เพื่อนร่วมงานหันซ้ายหันขวาแล้วก็พูดต่อว่า
“คุณหมอจากยูไปหยก ๆ นะ ฉันจะขอคารีโนอีกสักคน แต่ช่างเถอะ
เอาเป็นว่าคนนี้ฉันยกให้ยูดูแลก็แล้วกัน” เพื่อนสาวทำท่าตัดใจ ละมุนมาศ
ได้แต่หัวเราะ
“ฉันเดาว่าต้องมีหนุ่ม ๆ หลายคนเป็นแน่เชียวที่ต้องอกหัก”
“โอ๊ย ใครจะมาอกหักกับฉันกัน”
“ไม่รสู้ ิ ฉันแค่เดาเอา” ปากบอกว่าเดา แต่ใจคิดถึงท่าทางผิดหวังของ
คุณหมอราวิ
“แหม ก็ยูสวยน่ารักออกปานนี้ ต้องมีคนแอบชอบยูบ้างละ งั้นก็
ทำงานต่อเถอะ แต่อย่าคิดถึงแฟนมากนัก เกรงใจคนไม่มีแฟนอย่างฉัน
456/559

บ้างก็ดี อิจฉาจริง ๆ” พูดแล้วเจ้าตัวก็เด้งตัวเอง ผลักเก้าอีต้ ิดล้อกลับไป


ยังโต๊ะทำงานที่อยู่ข้าง ๆ กัน
เมื่อเพื่อนสาวพูดถึงเรื่องแฟนขึ้นมา ละมุนมาศก็คิดถึงคนทีท่ ิ้งรอย
จูบก่อนจากไปทันที
แฟนทีช่ อบบังคับ ข่มขู่ ฉวยโอกาสเป็นที่หนึ่ง แต่ไม่ปฏิเสธว่ามันทำ
ให้หัวใจอบอุ่นเหลือเกิน
ยิ่งคิดถึงคำบอกเล่าของเขาว่า...คิดถึง...แล้ว ละมุนมาศก็อดที่จะค้อน
ลมค้อนแล้งส่งไปทางสายลมให้อีกคนไม่ได้ ส่วนใบหน้าสวยก็ร้อนผ่าว
หัวใจก็เต้นแรงขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่
38
ตามติด

ภาพทีพ่ ี่น้องโผเข้ากอดพี่สาวพร้อมจูบที่มอบให้กัน ทำให้คารีโนอดที่


จะยิ้มไม่ได้ สองสามวันทีผ่ ่านมานีเ้ ขายุ่งมากจนต้องทานอาหารกลางวันใน
ห้องทำงาน เพื่อที่จะได้มีเวลามาเจอหน้าใครบางคนที่อยู่ในใจเขา
ตลอดเวลา
“คิดถึงมามี้หรือเปล่าคะ”
“คิดถึงค่ะ” ใบหน้าน้อย ๆ เงยขึ้นมองสบตา แล้วก็เลยทักคนที่ยืน
อยู่เบื้องหลังไปด้วย
“ไฮ แดดดี้” คำว่าแดดดี้ทำให้คนเป็นมามี้หันไปมองข้างหลัง
“สวัสดีค่ะฟี” ร่างสูงใหญ่ของเขายืนซ้อนอยูข่ ้างหลัง ใบหน้า
หล่อเหลาในชุดสูทที่เรียบหรูส่งยิ้มมาให้ ทำให้หัวใจดวงเล็กสั่นไหววูบวาบ
ได้ทุกครั้งไป
“คารีนามาหรือเปล่าคะ” คนตัวเล็กถามถึงเพื่อนเล่นทันที
“เดี๋ยวก็มาค่ะ เฟยไปรับอยู่”
458/559

“ดีจัง จะได้เล่นด้วยกัน ว่าแต่มามี้คะ เราจะทำแมกแอนด์ชีส แล้วก็


เค้ก กล้วยหอมใช่ไหมคะเย็นนี้”
“ใช่แล้วค่ะ งั้นเรากลับบ้านกันเลยดีกว่านะคะ”
รถคันหรูขับตามหลังรถคันเล็กไปเรื่อย ไม่ถึงห้านาทีกเ็ ลี้ยวเข้าไปยัง
คอนโดมิเนียมที่พักของสองสาว
คารีโนลงจากรถโดยไม่ลืมที่จะคว้าถุงคุกกี้ที่เขาแวะซื้อมาจากร้านดัง
ติดมือออกมา เดินไปสมทบกับคนทั้งสอง
“คุณยายฝากขนมมาให้” บอกพร้อมกับยื่นขนมถุงใหญ่ให้
ฟีนิกซ์เงยหน้ามองมามี้รอคำอนุญาต ละมุนมาศพยักหน้าให้ มือน้อย ๆ
ก็ยื่นออกไปรับพร้อมคำกล่าวขอบคุณด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดีใจ คารีโนอด
ยิ้มตามไม่ได้ นึกขอบคุณตัวเองที่คิดถูกแวะซื้อขนมติดมือมาด้วย
จีบแม่...เอ๊ย พี่สาวต้องเอาใจน้องสาวตัวน้อยละงานนี้
“ขอบคุณค่ะแดดดี้”
“ด้วยความยินดีค่ะ ว่าแต่แดดดี้กับคารีนาจะขอทานอาหารกับฟีและ
มามี้จะได้ไหมคะ” คารีโนย่อตัวลงแกล้งถาม
“ได้ไหมคะมามี้” เมื่อละมุนมาศพยักหน้าให้ คนตัวเล็กของหล่อนก็
จูงมือแขกให้เดินตามทันที
ละมุนมาศเดินนำหน้า ได้ยินเสียงเล็ก ๆ คุยกับแขกแจ้ว ๆ
459/559

“แดดดี้ชอบแมกแอนด์ชสี (Macaroni and Cheese - มักกะโร


นีและชีส ในประเทศสหรัฐอเมริกาเรียก Mac and Cheese) ไหมคะ”
เสียงคนตัวเล็กเอ่ยปากถาม
“แมกแอนด์ชีสเป็นอาหารโปรดของแดดดี้และคารีนาเลยทีเดียวค่ะ”
“มามีค้ ะ แดดดีก้ ับคารีนาก็ชอบแมกแอนด์ชสี เหมือนฟีกับมามี้เลย
เราทำเยอะ ๆ นะคะ ให้แดดดีก้ ับคารีนากินด้วย เฟยกับเบียนด้วย” คน
ตัวเล็กส่งเสียงดังฟังชัด
เมื่อเข้าไปในห้อง แขกก็ทำตัวตามสบาย
“เชิญนั่งค่ะ”
“ขอบคุณครับ” รับปากแต่ยังไม่ได้ขยับไปไหน ได้แต่จ้องมองร่าง
บางที่กำลังจัดของที่หอบมาจากที่ทำงานให้เข้าที่เข้าทาง
“ฟีอย่าลืมไปล้างมือล้างหน้าก่อนแล้วก็มาทำการบ้านนะคะ มามี้จะ
เตรียมอาหารเย็น” ละมุนมาศสั่งคนตัวเล็กที่กำลังจะวิ่งเข้าห้องของตัวเอง
“ค่ะมามี้ แต่อย่าทำเสร็จก่อนนะคะ ฟีอยากช่วย”
“ทำเผื่อผมกับลูกด้วยนะที่รัก” คำขอร้องออดอ้อน อ่อนโยนด้วย
ภาษาไทยสำเนียงฝรั่งกับคำว่า ‘ที่รัก’ นั่นอีก ได้ฟังทีไรหัวใจมันเต้นแรง
ทุกที ไม่ใช่แค่คำขอร้องเท่านั้น ร่างสูงถลาเข้าประชิดพร้อมกับก้มหน้าลง
แตะริมฝีปากนุ่มเข้ากับริมฝีปากบางเร็ว ๆ
“คิดถึงจัง”
460/559

คนโดนจูบหันซ้ายหันขวาหน้าตาเลิ่กลั่กก่อนที่จะบอกเขาว่า
“ห้ามทำอะไรไม่ดีต่อหน้าเด็ก ๆ ด้วย” กระซิบบอกเสียงเข้ม คน
ได้ยินยิ้มกว้างทีเดียว
“ไอ้ที่ว่าทำไม่ดนี ี่คืออะไรหรือครับ อธิบายหน่อยได้ไหม” ถามทั้ง ๆ
ที่พอจะเดาออกว่าอีกคนหมายถึงอะไร
“ก็...” แค่คิดว่าจะพูดอะไร ใบหน้าหวานก็ซับสีระเรื่อ แววตาคู่หวาน
เก้อเขิน คารีโนมองใบหน้าคนตรงหน้าแล้วก็คิดอยากจะจูบขึ้นมาอีกครั้ง
แต่พอชะโงกเข้าไปหา อีกคนก็ยกมือขึ้นยันหน้าอกเขาเอาไว้เสียก่อน แต่
แรงเล็ก ๆ นั้นหรือจะสู้แรงคนที่ตัวสูงใหญ่กว่าได้
“ก็...อะไร พูดให้รู้เรื่องสิครับ” ใบหน้าคมโน้มลงถามด้วยดวงตา
เจ้าเล่ห์ พร้อมกับยื่นริมฝีปากเข้าไปใกล้ คนตัวเล็กกว่าก็ยกมืออีกข้างที่
ว่างขึ้นปิดปากอิ่มโดยอัตโนมัติ ทำให้คารีโนปล่อยเสียงหัวเราะออกมา
สุดเสียง
“มีอะไรสนุกหรือคะ แดดดี้หัวเราะเสียงดังทีเดียว” เสียงเล็ก ๆ ที่
เจ้าตัวเพิ่งจะออกมาจากห้องถามขึ้นอย่างสงสัย
“มามี้เล่าเรื่องตลกให้แดดดี้ฟังน่ะค่ะ”
ลื่นเป็นปลาไหลทีเดียว
“มามีเ้ ล่าเรื่องอะไรหรือคะ เล่าให้ฟฟี ังบ้างสิ” คนตัวเล็กเลยเกาะชาย
เสื้อ ออดอ้อน
461/559

“เอาไว้ก่อนนอนมามี้จะเล่าให้ฟังนะคะ” แก้ตัวแล้วก็หันไปจิกตากับ
คนต้นเรื่อง สิ่งที่ได้รับตอบคือรอยยิ้มใสซื่อ ละมุนมาศก็เลยก้มลงสนใจ
กับคนตัวเล็กข้างตัว
“ล้างมือสะอาดหรือยังคะ”
“ล้างแล้ว สะอาดค่ะ”
“พร้อมทำการบ้านหรือยังคะ”
“พร้อมแล้วค่ะ”
“วันนีม้ ีการบ้านอะไรบ้างคะ” เสียงหวานถามคนตัวเล็กอย่างเอาใจใส่
ทำให้คนที่จ้องมองอยู่นึกถึงลูกสาวของตัวเองขึ้นมาทันที อยากให้ลูกสาว
ของเขามีคนเอาใจใส่ด้วยความรักจากหัวใจอย่างนี้บ้าง
“คุณครูให้วาดรูปและก็เล่าเรื่องสามประโยคค่ะ ฟีจะทำเองแล้วให้มา
มี้ดู นะคะ”
“ได้ค่ะ งั้นมามี้เตรียมของทำอาหารเย็นก่อน ฟีทำการบ้านเสร็จเราจะ
ช่วยกันทำนะคะ” ละมุนมาศสั่งน้องสาวเสร็จแล้วก็เชิญผู้เป็นแขกว่า
“เชิญคุณไปนั่งที่โซฟานะคะ” ส่วนตัวเองก็หันหน้าเข้ามุมเพื่อเตรียม
ของ
คารีโนเดินตามร่างเล็กทีเ่ ดินไปนั่งที่เก้าอีพ้ ลาสติกสีหวานตัวเล็ก มี
โต๊ะไม้ตัวเล็กสีขาววางติดกับฝาผนังห้องพร้อมกับก้มหน้าก้มตาทำงานของ
462/559

ตัวเอง เขาก็เลยเดินดูรูปต่าง ๆ ที่วางโชว์อยูต่ ามชั้นวางของ แอบมองไป


ทางห้องครัวก็เห็นแต่ด้านหลังของเจ้าของบ้าน
รูปแต่ละรูปแสดงถึงความรัก ความผูกพันของทั้งสองคนเป็นอย่างดี
เพราะแต่ละรูปมีแต่รอยยิ้มสดใส และยังมีรูปของหล่อนกับบิดาเลี้ยงทีเ่ ป็น
ฝรั่ง กับอีกคนน่าจะเป็นบิดาจริงซึ่งเป็นคนไทย แต่ไม่มีรูปของหล่อนกับ
คนที่น่าจะเป็นมารดาเลย
บ้านหลังเล็ก ๆ ที่ตกแต่งธรรมดา ไม่ได้หรูหราอะไรเลย แต่
เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นของคนสองคน บ้านเขาใหญ่โตแต่ไม่
อบอุ่นเท่านี้ ถึงแม้จะอยู่กันหลายคน มันขาดบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งเขาก็รู้ดีว่า
มันคืออะไร และก็พยายามทีจ่ ะเติมเต็ม นึกอยากจะเข้าไปจูบคนตัวบางใน
ห้องครัวอีก แต่ก็เกรงว่าจะงอนให้อีก เขาก็เลยเดินไปนั่งยอง ๆ ข้างคนที่
กำลังทำการบ้านอย่างตั้งอกตั้งใจ
“ฟีวาดรูปอะไรคะ”
“สนามเด็กเล่นค่ะ” เจ้าตัวตอบโดยที่ไม่ได้เงยหน้าจากกระดาษ มือ
เล็ก ๆ ยังวาดรูปไปเรื่อย ๆ
“อันนีอ้ ะไรคะ” คารีโนชี้มือไปที่ลายเส้นและส่วนโค้งยึกยักที่เขาเห็น
ในรูป
“ชิงช้าค่ะ” คำตอบนั้นเรียกรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าคมได้ทันที
463/559

“อืม น่าเล่นจังเลย แล้วนี่ใครคะ” คารีโนถามถึงรูปคนที่มหี ัวโต ๆ


ลำตัวและแขนขาลีบเล็กในชุดกระโปรงสั้นรองเท้าส้นสูง
“มามีค้ ่ะ แล้วคนนี้ก็ฟี นี่คารีนา นี่แดดดี้ เราไปเล่นที่สนามเด็กเล่น
กันค่ะ” คนฟังนึกดีใจที่มเี ขาอยู่ในรูปนั้นด้วย มือหนายกขึ้นลูบผมสลวย
เบา ๆ ก่อนที่จะก้มลงจรดริมฝีปากที่กลางกระหม่อม
“มามีข้ องฟีสวยจังเลยค่ะ ฟีว่าไหมคะ” ชมเสียงดังเพื่อให้ใครอีกคน
ที่อยู่ในห้องครัวได้ยินด้วย ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาด คนที่อยูใ่ นห้องครัวหัน
มาส่งค้อนให้เขา คารีโนได้แต่ยิ้มอยู่คนเดียว
“ค่ะ มามี้สวยเหมือนฟีเลย”
“ถูกต้องที่สุด”
“แล้วคารีนาสวยเหมือนใครคะ”
“คารีนาก็สวยเหมือนมามี้ของคารีนาค่ะ”
“แล้วมามี้ของคารีนาไปไหนคะ”
“อยู่บนฟ้าโน่น”
“อยูไ่ กลจัง” เสียงเล็ก ๆ แอบบ่น คารีโนได้แต่ยิ้มให้ รู้ว่าคนตัวเล็ก
ไม่เข้าใจเท่าไรนัก
ละมุนมาศแอบฟังทั้งสองสนทนากันด้วยภาษาไทยแปร่ง ๆ ซึ่งฟัง
แล้วก็ได้แต่แอบยิ้มสำเนียงเพี้ยน ๆ หน้าตาที่ออกฝรั่ง แต่กลับพูดกันด้วย
464/559

ภาษาไทย จะว่าไปแล้วฟีนิกซ์ยังพูดด้วยสำเนียงไทยที่ชัดเจนกว่าอีกฝ่าย
มากนัก
คนตัวโตกับคนตัวเล็กเถียงกันบ้าง อำกันบ้าง ท้ากันบ้าง ปะปนไป
ด้วยเสียงโวยวายบ้าง หัวเราะบ้าง ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า
คนตัวเล็กของหล่อนคงจะโหยหาผู้เป็นบิดาหรือเปล่า ถึงได้สนิทสนม
กับเขาในเวลาอันสั้น หรือว่าไว้ใจเขาเพราะว่าเขาเป็นหลานชายของคุณยาย
เป็นพ่อของคารีนาด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้
เสียงหัวเราะและกรีดร้องดังขึ้นของคนตัวเล็กตอนที่โดนคนตัวโตกว่า
จี้ตรงเอว เสียงกรี๊ดกร๊าดนั้นทำให้ละมุนมาศต้องอมยิ้ม สักพักเสียงนั้นก็
หยุดลง และทั้งสองก็เปลี่ยนไปเล่นจรวดกระดาษแทน
ครั้งแรกทีข่ ว้างคนตัวโตกว่าชนะ ในครั้งต่อไปก็เลยมีการตั้งรางวัล
คนชนะจะได้ไปเที่ยวทะเล
“เยส แดดดี้แพ้แล้ว มามี้เป็นพยานด้วยค่ะ ฟีชนะ แดดดี้จะพาไป
เที่ยวทะเลตอนหน้าร้อนนี้กับคารีนา วู้” เสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ที่แสดงออกถึง
ความยินดีรายงานอย่างตื่นเต้น คารีโนได้แต่ยิ้มกับความสำเร็จนั้นแล้วก็
หันไปสบตากับคนที่อยู่ในครัว
ละมุนมาศทำเป็นไม่รับรู้ถามกลับคนตัวเล็กว่า
“ทำการบ้านเสร็จแล้วหรือคะฟี”
465/559

“เสร็จตั้งนานแล้วค่ะมามี้ ไปเถอะค่ะแดดดี้ เราไปช่วยมามีท้ ำแมก


แอนด์ชีสและก็เค้กกล้วยหอมกันดีกว่า ว่าแต่เมื่อไรคารีนาจะมาคะ” ถาม
พร้อมกับแขนเล็กทั้งสองข้างอ้าให้คนตัวโตกว่าอุ้ม ซึ่งคารีโนก็คว้าร่างเล็ก
ๆ นั้นขึ้นอุ้มและเดินเข้าไปในครัวอย่างไม่เกี่ยงงอน แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้
ตอบอะไร เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น
“คารีนามาแล้ว เย้ ๆ” ร่างเล็ก ๆ ดิ้นลงจากอ้อมกอด วิ่งไปทีห่ น้า
ประตู แต่ก็ไม่สามารถที่จะเปิดประตูได้เพราะว่าติดล็อกที่อยู่สูง
“แดดดี้เปิดประตูเร็ว ๆ ค่ะ”
เมื่อเปิดประตู ร่างเล็ก ๆ ที่ยังมีกระเป๋าเป้สีชมพูแขวนอยู่ข้างหลังก็
ถลาเข้ามา
“ฟี แดดดี้” ร่างเล็กวิ่งเข้าหาอ้อมกอดของบิดาทีเ่ ปิดรอรับอยู่แล้ว
เสียงจุ๊บ ๆ ดังขึ้น ก่อนที่จะปล่อยร่างเล็กออกจากอ้อมกอด
“ไปช่วยมามี้ทำอาหารกันดีกว่า” คารีนายื่นกระเป๋าเป้ส่งให้แล้วก็วิ่ง
ตามอีกคนเข้าไปในครัว คารีโนคุยกับลูกน้องแล้วก็ปิดประตู เก็บสัมภาระ
ของลูกสาวแล้วก็เดินตามเข้าไปสมทบในครัว
เสียงจ้อกแจ้กจอแจวุ่นวายของเด็ก ๆ และมามี้ทกี่ ำลังช่วยกันทำ
อาหาร ทำให้คารีโนอดที่จะยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าภาพใน
ครัวเล็ก ๆ จะดูอบอุ่นขนาดนี้ ลูกสาวสองคนกับคุณแม่ยังสาวที่ไม่เคย
แต่งงาน กำลังกำกับลูก ๆ ทำอาหาร
466/559

มามี้ก็น่ารัก ใจเย็นกับเด็ก ๆ ค่อย ๆ สอน ค่อย ๆ ทำและอธิบาย


กันไป เด็ก ๆ ก็ถามคำถามที่สงสัย ทำไม ทำไม บางครั้งคำตอบที่ได้รับ
ทำให้เขาต้องยิ้มไปด้วย
อาหารเย็นบนโต๊ะอาหารเล็ก ๆ ที่มีอาหารแค่สามอย่าง เป็นแมก
แอนด์ชีส ซุปมะเขือเทศกุ้งสับ กับขนมปังกระเทียม อาหารทีธ่ รรมดาแต่
อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ เด็ก ๆ ทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย คนเป็นมามีก้ ็
ก้มหน้าก้มตาทาน ไม่ค่อยจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาเท่าไร และหลังจาก
ทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว เด็ก ๆ ก็ขอตัวไปเล่นในห้อง ละมุนมาศก็
เข้าครัวเก็บกวาดทำความสะอาด
คนตัวโตที่นั่งกระสับกระส่ายอยู่ในห้องรับแขกที่แอบมองการทำงาน
อยูต่ ลอดเวลา คิดว่าคนตัวบางทำอะไรหนักหนากับห้องเล็ก ๆ นั่น ตั้งแต่
ล้างจาน ทำความสะอาดเคาน์เตอร์ เช็ดเตา เก็บของต่าง ๆ ให้เข้าที่ กวาด
และเช็ดพื้นห้องแล้ว และแม้กระทั่งเช็ดอ่างล้างจานด้วย รูท้ ั้งรูว้ ่าอีกคน
คงจะถ่วงเวลาทีจ่ ะอยู่กับเขาสองต่อสองต่อหน้า เด็ก ๆ นั่นเอง คิดแล้วก็
ต้องแอบคาดโทษ
อย่าให้เวลานั้นเป็นของเขาขึ้นมาละกัน โดนรุกหนักแน่ ๆ ตอนนี้
ปล่อยไปก่อน
เมื่อเห็นอีกคนถอดผ้ากันเปื้อนออก คนทีร่ ออยู่แล้วก็เดินเข้าไปหา
อย่างรวดเร็ว พร้อมกับอ้อมกอดแข็งแรงที่รัดร่างบางเอาไว้จากข้างหลัง
“อุ๊ย ปล่อยค่ะ”
467/559

“ไม่ปล่อย คุณทำงานนานเกินไปแล้วที่รัก ห้องก็เล็กนิดเดียวทำอะไร


ตั้งมากมาย ไม่มีเวลาให้ผมเลย” พอโดนต่อว่าคนตัวบางเลยพูดไม่ออก
“ก็...”
“ไม่มอี ะไรหรอก ผมแค่อยากขอบคุณสำหรับอาหารเย็นครับที่รัก
อร่อยมาก” ยังไม่ทันจะได้โต้ตอบ ละมุนมาศรู้สึกได้ถึงริมฝีปากนุ่มได้รับ
การสัมผัสอย่างอ่อนโยน เขาดูดเม้มเบา ๆ รอบริมฝีปากนุ่มอย่างหลงใหล
อ้อมแขนแกร่งรัดร่างบางเอาไว้แน่น เสียงลมหายใจเข้าออกแรงขึ้น คนตัว
บางก็อ่อนระทวย มือทั้งสองข้างต้องยกขึ้นเกาะไหล่เขาเอาไว้ ใบหน้าหวาน
แดงกํ่า ริมฝีปากหยักตักตวงความหวานเนิ่นนานตามคำสั่งของหัวใจ
สุดท้าย และเขาก็ตัดใจปล่อยให้ริมฝีปากอิ่มเป็นอิสระ แนบใบหน้าคมสัน
ทีข่ ้างขมับ หายใจลึกสกัดกลั้นความรู้สึกต่าง ๆ ที่พรั่งพรูขึ้นมาเอาไว้ก่อน
ที่จะบอกคนในอ้อมกอดว่า
“ดึกแล้ว ผมคงต้องกลับก่อน ลูกจะได้นอน พรุ่งนีต้ ้องไปโรงเรียน
ยืนได้ไหม” ชายหนุ่มก้มลงถาม ทำให้คนถูกถามตวัดค้อนส่งให้ ดึงตัวเอง
ออกมาจากอ้อมกอดของเขา เดินนำไปยังห้องนอนเล็ก คนตัวโตเดินตาม
ยกมือหนาขึ้นลูบผมนุ่มสลวยเบา ๆ
ในห้องนอนเล็กบนเตียงสีชมพูนั่น เด็กน้อยทั้งสองกำลังเล่นตุ๊กตา
กันอย่างสนุกสนาน และละมุนมาศได้ยินเขาบอกลูกสาวว่าถึงเวลากลับ
บ้านแล้ว ไม่ทันขาดคำเสียงเล็กก็ถามกลับทันที
“ทำไมรีบกลับจังเลยคะแดดดี้”
468/559

“หนูและฟีต้องเข้านอน พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน เด็ก ๆ ต้องนอนหัว


คํ่า โตขึ้นจะได้สวยเหมือนมามี้ไงคะ”
“จริงหรือคะ” สองเสียงถามขึ้นพร้อมกัน เรียกรอยยิ้มพอใจของคน
เจ้าเล่ห์ได้ทันที คารีโนรีบพยักหน้ารับ
“จริงสิคะ ไม่เชื่อก็ลองถามมามี้ดสู ิ” ตอบลูกสาว แต่สายตาคูค่ มก้ม
ลงสบกับดวงตาหวานของอีกคน พร้อมกับรอยยิ้ม คนที่ถูกดึงไปเกี่ยวข้อง
ด้วยจิกตาใส่ แต่ คารีโนไม่ได้สนใจ นอกจากยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับเดินไป
ช้อนร่างลูกสาวตัวน้อยอุ้มขึ้นจากเตียง
“บอกลามามี้ก่อนสิคะลูก”
“บายค่ะมามี้” ไม่ได้บอกลาอย่างเดียว คนในอ้อมกอดของบิดายื่น
หน้าเข้าไปหาคนเป็นมามี้จนตัวเอียง ผู้เป็นบิดาก็เลยเดินเข้าไปใกล้ให้
ลูกสาวได้จุ๊บแก้มมามี้
“จุ๊บ” แล้วก็เอียงแก้มตัวเองให้มามี้ได้จุ๊บด้วย ละมุนมาศเห็นท่าทาง
นั้นแล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ ก็เลยต้องยื่นแก้มตัวเองให้เด็กหญิงตัวน้อยได้จุ๊บ
ใบหน้าหวานร้อนผ่าวเมื่อเห็นสายตายิ้มได้ของเขา ก็เลยต้องจิกตาส่งให้
“กู๊ดไนต์จ้ะคารีนา”
ส่วนเด็กหญิงฟีนิกซ์เห็นเพื่อนตัวน้อยจุ๊บมามี้ของตัวเอง ก็เลยขอให้
คารีโน จุ๊บบ้าง ซึ่งเขาก็ทำตามได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ละมุนมาศอดที่
จะค้อนให้ไม่ได้
469/559

“กู๊ดไนต์ฟี”
“กู๊ดไนต์คารีนา แล้วอย่าลืมมาเล่นด้วยกันอีกนะ” ฟีนิกซ์สั่งเพื่อนตัว
เล็ก พอสองพ่อลูกก้าวออกไปจากห้องแล้ว ละมุนมาศก็ถอนหายใจอย่าง
โล่งอก ปิดประตูและก็บอกให้คนตัวเล็กเตรียมตัวอาบนํ้าก่อนนอน ใน
ขณะทีห่ ล่อนยังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง มือบางยกขึ้นแตะริมฝีปาก
อิ่มแผ่วเบา
คนเอาแต่ใจ ว่าแต่ทำไมหล่อนถึงไม่ได้รู้สึกรังเกียจเลยก็ไม่รู้ ทุก
สัมผัสที่อ่อนโยนของเขาซึมเข้าสู่หัวใจของหล่อนอย่างไม่สามารถทอดถอน
ได้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รักได้อย่างไร
“มามี้ ๆ ลืมหรือเปล่า ฟีรอมามี้อยู่นะคะ”
เสียงใส ๆ ที่ดังออกมาจากห้องนอนเล็ก ทำให้ละมุนมาศสลัดความ
ว้าวุ่นหวั่นไหวออกไป ก่อนที่จะเดินเร็ว ๆ เข้าไปหา ตวัดอุ้มร่างน้อยตรง
ไปยังห้องนํ้า
“เมื่อไรคารีนาจะได้มาเล่นกับฟีอีกคะมามี้”
“ไม่ทราบค่ะ อันนี้ก็แล้วแต่แดดดีข้ องคารีนานะคะว่าว่างพาคารีนามา
เมื่อไร หรือไม่ก็รอให้คุณยายพาคารีนามาเล่นที่สนามเด็กเล่นนะคะ”
“ค่ะ”
470/559

ละมุนมาศดูแลให้คนตัวเล็กอาบนํ้าด้วยตัวเอง โดยให้ความ
ช่วยเหลือบ้างเล็กน้อย แต่งตัว และก็ส่งเข้านอน ก่อนที่จะเดินกลับห้อง
เพื่อจัดการกับตัวเอง
เมื่ออาบนํ้าไป ละมุนมาศก็อดที่จะคิดถึงทุกสัมผัสของเขา ที่ทำให้
หล่อนทั้งสับสน ไม่เป็นตัวของตัวเอง กระแสแห่งอารมณ์ของเขาร้อนแรง
เหลือเกิน เขาทำให้หล่อนไร้เรี่ยวแรงทุกครั้งที่ถูกสัมผัส พอคิดถึงความ
วาบหวามก็แผ่ซ่านเข้าสู่หัวใจ ใบหน้าหวานร้อนผ่าวขึ้นมา จนต้องปรับสาย
นํ้าให้เย็นขึ้น
ก็คงต้องปล่อยให้หัวใจได้รับรู้และสัมผัสความรักด้วยตัวของมันเอง
39
...หวง

หลายวันที่ไม่ได้เห็นหน้ากัน เพราะว่าต่างคนต่างทำงาน นอกจาก


เสียงทางโทรศัพท์เท่านั้น ละมุนมาศอดที่จะคิดไม่ได้ถึงความสัมพันธ์ที่
เปลี่ยนไปของหล่อนและเขา หล่อนจะทำหน้าอย่างไรถ้าเจอเขาใน
เวียดเฮาส์ รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจนัก กลัวว่าเขาจะทักทายหล่อนด้วยการจูบ
ต่อหน้าคนอื่น
ละมุนมาศรู้สึกกังวลไปหมด แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไร เสียงโทรศัพท์
มือถือบนเบาะข้างตัวก็ดังขึ้น มือบางรีบคว้ามากดรับทันที
“ที่รัก ผมเอง” ยังไม่ทันที่หล่อนจะได้เอ่ยปาก ทางปลายสายก็ส่ง
เสียงมาให้หัวใจเต้นแรง
“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“คิดถึงคุณจังหนูมุน อยากจูบคุณด้วย”
คำพูดของเขาทำให้คนฟังหน้าร้อนผ่าว ตวัดค้อนส่งให้ปลายสาย
ทันที ยังไม่ทันได้ตอบอะไร เขาก็ถามต่อว่า
472/559

“คุณคิดถึงผมบ้างไหม”
“ก็...ค่ะ”
“อยากจูบผมด้วยไหม”
“ตรัง” ได้แต่เรียกชื่อของเขา เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี
“คนรักกัน จูบกันไม่เห็นจะแปลก” เขาตอบกลับพร้อมด้วย
เสียงหัวเราะชอบใจ
“คุณจะพูดแค่นี้ใช่ไหมคะ ฉันจะได้วางหู”
“อย่าเพิ่งวาง ผมโทร. มาบอกว่าวันนีผ้ มคงไม่เข้าไปที่เวียดเฮาส์นะ
เพราะว่าคารีนาไม่สบาย ผมต้องกลับบ้านไปดูลูก”
“แล้วคารีนาเป็นอย่างไรบ้างคะ” ถามกลับด้วยความเป็นห่วง
“เห็นมิสไอวีบอกว่าตัวร้อนนิดหน่อย ให้ทานยาแล้ว แต่ยังอ้อนอยู่
อยากให้แดดดี้กลับบ้าน คุณไม่ว่าอะไรใช่ไหมที่รักที่ผมจะไม่เข้า
เวียดเฮาส์”
“ไม่ค่ะ ไม่เลย คุณทำถูกแล้ว ดูแลคารีนานะคะ ขอให้หายเร็ว ๆ”
“ขอบคุณครับ ขับรถดี ๆ นะ เวลาทำงานก็ไม่ต้องส่งยิ้มหวานให้
แขกมากนัก ผมหวง ส่วนตอนดึกเฟยจะส่งคุณกลับบ้าน คิดถึงคุณนะ
ครับหนูมุนที่รัก จุ๊บ” จุ๊บเสร็จเขาก็วางสายไปทันที
ผมหวง
473/559

คำนี้ทำให้หัวใจของละมุนมาศอบอุ่นอย่างมาก รู้สึกมีค่าที่รู้ว่าเป็น
ที่รักและที่หวงของเขา
อยากให้มันเป็นอย่างนี้อีกนานแสนนาน
อยากจะบอกเขาว่า หล่อนก็หวงเขาเช่นกัน แต่ก็รู้สึกเขินเกินไป
ทันทีทเี่ ข้าไปในเวียดเฮาส์ มิสมินต์ที่ยืนอยูห่ น้าเคาน์เตอร์กท็ ักทันที
ว่า
“หน้าตาสดใส ไปเดตมาสดชื่นจังเลยนะ” คนถูกทักหัวเราะ ใน
ขณะทีพ่ นักงานสาว ๆ ที่อยู่ในร้านหูผึ่งกันทุกคน ละมุนมาศหัวเราะน้อย
ๆ ก่อนที่จะตอบว่า
“มิสมินต์รู้ได้อย่างไรคะว่ามุนไปเดตมา”
“โอ๊ย สาว ๆ ลางานวันหยุดจะมีอะไรนอกจากไปเดต” ละมุนมาศ
หัวเราะเต็มเสียงกับคำตอบนั้น แอบคิดในใจว่า
มิสมินต์คงจะไม่รู้เรื่อง
“มุนไม่ได้ไปเดตนะมิสมินต์ ไปร่วมงานวันเกิดผู้ใหญ่ที่นับถือค่ะ”
คำตอบนั้นทำให้มิสมินต์รู้ทันทีว่าลูกน้องสาวไปไหนมา เพราะก่อนหน้าที่
ลูกน้องจะมาลาหยุด มิสซิสซอลตันก็โทร. มาบอกไว้ก่อนแล้ว และวันเสาร์
ที่ผ่านมาลูกน้องในเวียดเฮาส์ก็อิ่มอร่อยกับเค้กก้อนโตที่ส่งมาจากเนียนบา
ฟาร์ม อภินันทนาการจากมิสซิสซอลตัน
“อ้าวเหรอ ฉันนึกว่ายูไปเดตเสียอีก นึกดีใจว่ายูจะมีแฟนสักที”
474/559

“ยังค่ะ ยัง มุนยังโสด”


“งั้นก็แล้วไป ไปทำงานกันได้แล้วจ้ะสาว ๆ แหม หูผึ่งเชียวนะ พูด
ถึงเรื่องเดตเนี่ย”
เมื่อสาว ๆ แยกย้ายกันไปทำงาน ละมุนมาศก็เดินยิ้มเข้าไปด้านหลัง
เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวทำงาน
ตลอดคืนละมุนมาศทำงานด้วยความรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย ไม่รวู้ ่า
เด็กหญิงคารีนาจะมีอาการอย่างไรบ้าง เด็ก ๆ เวลาไม่สบายมักจะอ้อน
เหมือนกับคนตัวเล็กของหล่อนนั่นเอง หล่อนก็ได้แต่หวังว่า ลูกสาวของเขา
จะไม่เป็นอะไรมากนัก
เมื่อถึงเวลาปิดร้าน ละมุนมาศก็เดินออกไปยังที่จอดรถด้านหลัง
เวียดเฮาส์กับมิสมินต์ ซึ่งที่นั่นมิสมินต์เห็นรถคันโตจอดรออยูไ่ ม่ห่าง ก็นึก
สงสัยว่าทำไมเจ้านายไม่เข้าไปข้างใน พอแยกย้ายกันขึ้นรถ มิสมินต์กร็ อ
ให้ลูกน้องสาวออกรถไปก่อนและรถคันโตก็ขับตาม ทำให้เห็นว่าใครเป็น
คนขับรถ
เจ้านายไม่มา ลูกน้องก็มาทำหน้าที่แทน อิจฉาคนมีความรักจริง ๆ
เห็นคนมีความรักแล้วก็นึกอยากจะกลับไปเป็นสาวอายุยสี่ ิบห้าเสียจริง มา
คิดได้ตอนนีก้ ็สายไปแล้ว หัวใจที่เคยหวั่นไหวมาก่อน มันก็ด้านชากับ
ความรักไปหมดแล้ว เป็นโสดต่อไปอย่างนีด้ ีที่สุด เอ๊ะ หรือว่าหล่อนยังไม่
เจอคนที่ใช่
475/559

เสียงหนึ่งในหัวใจบอกออกมา มิสมินต์ได้แต่ส่ายศีรษะกับตัวเอง
เมื่อกลับถึงห้องพักและคุยกับมิสซิสลีเล็กน้อย จากนั้นละมุนมาศก็
เข้าไปจูบกู๊ดไนต์คนตัวเล็กในห้องนอนแล้วก็เข้าห้องตัวเอง รีบกดโทรศัพท์
ไปยังปลายสาย เบอร์ที่บันทึกเอาไว้
เจ้านายชีกอ
นับเป็นครั้งแรกที่หล่อนโทร. หาเขา ในระหว่างที่รอคนรับสาย หลาย
ครั้งทีล่ ะมุนมาศนึกอยากตัดสายทิ้ง นึกเขินที่เป็นฝ่ายโทร. หาเขาก่อน
แถมยังดึก ๆ ดื่น ๆ อีกด้วย ไม่รู้ว่าเขาหลับหรือยัง พอคิดถึงตรงนีก้ ็
เกือบจะตัดสาย แต่ปลายสายกดรับเสียก่อน
“ครับที่รัก” เสียงรับตอบกลับมาทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรง ใบหน้า
หวานยิ้มเขินอยู่คนเดียว
“ฉันไม่รบกวนคุณใช่ไหมคะตรัง”
“ไม่หรอก กลับถึงบ้านแล้วใช่ไหมครับ”
“ค่ะ เอ่อ...ฉันแค่จะโทร. มาถามว่าคารีนาเป็นอย่างไรบ้าง”
“ขอบคุณมากที่ถามถึงคารีนา ทานยาไปแล้ว ตัวเย็นขึ้น แต่ยังอ้อน
อยู่” เสียงจากปลายสายบอกถึงความรักในลูกสาวตัวน้อย ทำให้ละมุน
มาศอมยิ้ม
“เป็นอย่างนั้นแหละค่ะ แล้วอาการอื่นมีหรือเปล่าคะ คัดจมูกหรือว่า
ไอ”
476/559

“ไม่มคี รับ พรุ่งนี้น่าจะหายและไปโรงเรียนได้ ผมบอกไว้แล้วว่าถ้า


พรุ่งนีไ้ ปโรงเรียนได้ วันหยุดปิดเทอมจะมีเซอร์ไพรซ์ให้ คุณทำตัวให้ว่าง
ด้วยนะที่รัก”
“อ้าว แล้วฉันไปเกี่ยวอะไรด้วยคะ”
“ทั้งคุณทั้งฟีนั่นแหละ พรุ่งนี้บ่าย ๆ ผมจะบอก คุณเข้านอนเถอะ
พรุ่งนี้ต้องทำงานอีก รักคุณนะหนูมุน กู๊ดไนต์”
“กู๊ด...” ยังพูดไม่ทันจบปลายสายก็โพล่งขึ้นมาว่า
“ไม่บอกรักผมบ้างหรือ”
คำถามนั้นทำเอาคนถูกถามตอบแทบไม่ถูก หัวใจดวงน้อยเต้นแรง
ขึ้น ความเงียบเกิดขึ้นในสาย สุดท้ายละมุนก็บอกเขาว่า
“กู๊ดไนต์ คิดถึงนะคะ” มือบางกดปิดโทรศัพท์ทันที ยกมือขึ้นปิด
หน้าตัวเองเอาไว้แน่น ไม่รวู้ ่าคำคิดถึงหลุดออกไปจากปากของหล่อนได้
อย่างไร ตอนนี้ละมุนมาศรู้สึกได้ถึงใบหน้าที่ร้อนผ่าว หัวใจที่เต้นแรงของ
ตัวเอง แล้วก็ต้องรีบวิ่งเข้าไปในห้องนํ้า มองหน้าตัวเองในกระจก เห็น
หน้าแดง ๆ ของตัวเองแล้วก็ถามตัวเองว่า
คำว่าคิดถึงมันหลุดออกไปได้อย่างไร ไม่คิดว่าตัวเองจะพูดออกไป
อย่างนั้น เขินเป็นที่สุด อย่างนีเ้ ขาก็ล่วงรูค้ วามในใจของหล่อนหมดสิ แต่
คำว่า ‘รัก’ ของเขานี่สิ มันเป็น ‘รัก’ จริง ๆ ใช่ไหม ว่าแต่ ‘รัก’ คืออะไร
477/559

นะ คำทีไ่ ม่มีความหมายแน่ชัด พอมันเกิดขึ้นกับหัวใจจริง ๆ กลับหา


ความหมายไม่เจอ น่าแปลกนัก
ส่วนปลายสายก็ได้แต่ยิ้มกว้าง อันที่จริงแล้วแค่หล่อนโทร. มาหาเขา
ในยามดึกหลังเลิกงานอย่างนี้เพื่อถามอาการของลูกสาวเขา แค่นั้นก็
เพียงพอแล้วที่ได้รับรู้ว่าหล่อนเป็นห่วงเขา เป็นลูกสาวของเขา คำว่า คิดถึง
ทีห่ ลุดออกมาจากปากของหล่อน ก็ทำให้หัวใจดวงโตของเขาพองคับอก
เลยทีเดียว อดคิดถึงคนปลายสายที่เขาบอกรัก ไม่รวู้ ่าจะหน้าแดงอยูค่ น
เดียวหรือเปล่า
สำหรับเขาได้รับรู้ว่าอีกคนเป็นห่วง คิดถึง ก็เพียงพอแล้ว และก็ได้
แต่หวังว่าในอนาคตอันใกล้นี้ อีกคนจะบอกรักเขากลับบ้าง แม้จะใช้เวลา
สักนิดแต่เขาจะรอ
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในขณะที่ละมุนมาศกำลังทำอาหารกลางวัน คน
ตัวเล็กที่อยู่ใกล้โทรศัพท์เป็นคนรับสาย หล่อนได้แต่เงี่ยหูฟัง
“สวัสดีค่ะ ฟีนิกซ์พูดค่ะ ไฮ แดดดี้” คำว่าแดดดี้ทำให้คนทีเ่ งี่ยหูฟัง
อยูใ่ นครัวถึงกับวางมือจากการหั่นผัก เดินย่องไปที่หน้าประตูแอบฟังคน
ตัวเล็กพูดโทรศัพท์
“ค่ะ อยากไปค่ะ ค้างคืนด้วยหรือคะ แต่ฟตี ้องถามมามี้ก่อนนะคะ”
แล้วคนตัวเล็กก็หันมาทางหล่อน
478/559

“มามีค้ ะ แดดดี้กับคารีนาชวนฟีกับมามี้ไปหาคุณยายที่ฟาร์มค่ะ ไป
นะคะ มามี้ นะคะ นี่ค่ะ ให้มามี้คุยกับแดดดี้” คนตัวเล็กยื่นโทรศัพท์ส่ง
ให้
“ค่ะ”
“คุณทำอะไรอยู่ครับที่รัก” เสียงจากปลายสายนุ่มทุ้มดังกังวานเข้าไป
ถึงหัวใจเลยทีเดียว
“กำลังทำอาการกลางวันและอาหารเย็นเตรียมไว้ให้ฟีค่ะ”
“ไม่ต้องทำอาหารนะ ผมจะไปรับฟีทานอาหารเย็นกับคารีนา คุณ
บอกมิสซิสลีเอาไว้ด้วยละกัน เตรียมกระเป๋าค้างคืนด้วยนะ ฉลองปิดเทอม
ให้กับเด็ก ๆ”
เมื่อได้ยินเขาพูดอย่างนั้น ละมุนมาศก็ท้วงขึ้นทันที
“เดี๋ยวก่อนค่ะ พาไปทานอาหารเย็นไม่มปี ัญหาค่ะ แต่ไปค้างคืนนี่สิ
ฟีคงไม่ไปหรอกค่ะ” สิ้นเสียงของหล่อน เสียงเล็ก ๆ ที่อยูไ่ ม่ไกลก็ดังขึ้น
ทันที
“ฟีจะไปค้างคืนกับคารีนา มามี้ก็ไปด้วยกันนะคะ...นะคะ”
ละมุนมาศได้ยินเสียงหัวเราะหึ ๆ อย่างอารมณ์ดขี องทางปลายสายก็
รู้ตัวว่าแพ้อยู่รำไร
479/559

“คุณก็เก็บกระเป๋าด้วยนะที่รัก เลิกงานตอนดึกแล้วเราจะออก
เดินทางกันเลย แล้วเจอกันครับ จุ๊บ” เสียงจุ๊บพร้อมกับสายก็ตัดไปด้วย
ทิ้งให้อีกคนยังอ้าปากค้าง ในขณะที่คนตัวเล็กของหล่อนบอกว่า
“ฟีไปเก็บกระเป๋าก่อนนะคะมามี้” ร่างเล็ก ๆ วิ่งหายเข้าไปใน
ห้องนอนของตัวเอง ละมุนมาศได้แต่ค้อนลมค้อนแล้งอยูค่ นเดียว พลาง
คิดในใจว่าไม่เก็บหรอกกระเป๋า ยังคุยไม่รู้เรื่องเลย ก่อนจะไปทำงาน
ละมุนมาศก็บอกมิสซิสลีเรื่องที่จะมีคนมารับฟีนิกซ์ไปทานอาหารเย็น
ทีเ่ วียดเฮาส์ลูกค้าแน่นร้าน ทำให้ละมุนมาศต้องวิ่งให้บริการลูกค้า
ตลอดเวลาแทบจะไม่ได้หยุด จนกระทั่งเสียงเรียกที่คุ้นหูดังขึ้น
“มามี้/มามี้” ละมุนมาศจึงต้องเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะอาหารที่กำลังทำ
ความสะอาดไปตามทิศทางของเสียง ก้มหน้าลงไปมองก็ต้องตกใจตาโต
แต่คนข้างล่างทั้งสองกลับยิ้มแป้นยกมือขึ้นโบก เด็ก ๆ ทั้งสองแข่งกัน
เรียก
“มามี้/มามี้”
“เอ๊ะ มากันได้อย่างไร” เมื่อคิดไปละมุนมาศก็โบกมือตอบไปด้วย
ใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อเห็นสายตาอมยิ้มของคนตัวโต
หลายต่อหลายคนทั้งแขกและพนักงานในร้านมองตามอย่างสนใจ
ส่วน พนักงานของเวียดเฮาส์ต้องรีบหลบเมื่อเห็นนัยน์ตาเอาเรื่องของ
เจ้านาย
480/559

ทักทายกันแล้วคนตัวโตสามคนกับเด็กอีกสองก็เดินลับไปทาง
ด้านหลัง ละมุนมาศรู้ว่าทั้งหมดคงจะไปที่ห้องทำงานชั้นบนที่อยู่ตรงข้าม
ชั้นลอยนั่นเอง แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เฮอร์โมซาสาวอวบอึ๋มประจำชั้นลอย
เพื่อนร่วมงานก็เลียบ ๆ เคียง ๆ เข้ามาหา เพื่อช่วยทำความสะอาดและ
เก็บโต๊ะ
“หมายความว่าอย่างไรมุน”
“อะไรหรือ”
“ก็เด็กสองคนที่มากับเจ้านายเรียกยูว่ามามี้ไง”
“เรียกมามีฉ้ ันก็เป็นแม่นะสิ” ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ละมุนมาศก็รับ
ไปตามตรง ทำให้เพื่อนร่วมงานสาวที่ไม่รู้เรื่องถึงกับตกใจ
“จริงหรือ”
“จริงสิ”
“แล้ว เอ่อ ทำไมลูก ๆ ยูถึงมากับเจ้านายได้”
“ลูกฉันคนเดียว อีกคนลูกเจ้านาย”
“หา เจ้านายมีลูกแล้วหรือ แล้วทำไมลูกเจ้านายก็เรียกยูมามี้
หมายความว่ายูกับเจ้านาย...ใช่ไหม” ละมุนมาศยังไม่ได้ตอบ พนักงานก็
พาแขกมานั่งที่โต๊ะในส่วนรับผิดชอบของหล่อน เฮอร์โมซาก็เลยต้องกลับ
ไปทำงานของตัวเอง การสนทนาเลยต้องหยุดลงแค่นั้น
481/559

หลังจากทีร่ ้านปิดแล้ว พนักงานที่ทำหน้าที่ในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ


เสร็จก็กลับบ้านกัน แต่ละมุนมาศก็เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
ใคร่รู้ของเพื่อนร่วมงานเกือบจะทุกคนแจ่มชัด หลายคนทีซ่ ุบซิบกัน แต่ไม่
ใครกล้าถามหล่อนตรง ๆ พอทำงานของตัวเองเสร็จ กำลังจะเดินไป
เปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนํ้าหญิง มิสมินต์เห็นเข้าก็ดึงหล่อนเข้าห้องนํ้าทันที
ละมุนมาศได้แต่ยิ้ม พอจะเดาออกว่าทำไมมิสมินต์ถึงได้ทำอย่างนี้
“มีอะไรเร่งด่วนหรือคะมิสมินต์”
“นี่ ๆ บอกมาเลยนะว่า มันหมายความว่าอย่างไรกัน ยูปิดบังอะไร
ฉันอยู่ บอกมาให้หมด” มิสมินต์กระซิบขู่ ละมุนมาศอดที่จะยิ้มไม่ได้ก่อน
ที่จะตอบว่า
“เรื่องไหนที่มิสมินต์คิดว่า มุนปิดบังก็ถามมาได้เลยค่ะ มุนคิดว่า
เจ้านายแนะนำเด็ก ๆ ให้มิสมินต์รู้จักแล้วเสียอีก”
“แนะนำแล้ว” คำสารภาพนั้นทำให้ละมุนมาศยิ้มก่อนที่จะบอกว่า
“งั้นก็ตามนั้นค่ะ คนที่อยู่ในเสื้อสีชมพูนั่นลูกสาวมุน”
“ยูแต่งงานแล้วหรือ” ละมุนมาศส่ายหน้าเป็นคำตอบ ไม่มีคำปฏิเสธ
ซึ่งมิสมินต์ ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่หล่อนไม่ควรจะเข้าไป
ก้าวก่ายก็เลยไม่ถามต่อ แต่ยิงคำถามใหม่
“แล้วคุณหนูคารีนาเรียกยูว่ามามี้ หมายความว่าอย่างไร” แต่ยังไม่
ทันที่ ละมุนมาศจะได้ตอบ
482/559

“มามี้/มามี้” เสียงเรียกของสองสาวนอกห้องนํ้าดังเข้ามา
“มามีอ้ ยู่ในห้องนํ้าค่ะ” ละมุนมาศส่งเสียงตอบกลับออกไป พร้อมกับ
ประตูก็ถูกดันเปิดเข้ามา เด็กน้อยทั้งสองเดินเข้ามาหา ละมุนมาศย่อตัวลง
กอดทั้งสองคน เอาไว้ สบตากับคนที่ยังอยูน่ อกประตู เขาก็ส่งยิ้มให้บอก
ว่า
“ลูกตามหาคุณ ผมก็เลยพามา มามะเด็ก ๆ ให้มามีเ้ ปลี่ยนเสื้อผ้า
ก่อนดีกว่า เราขึ้นไปรอข้างบนกันดีกว่านะ” เด็ก ๆ เดินออกไปจากห้องนํ้า
พร้อมกับส่งเสียงกลับมาบอกว่า
“เร็ว ๆ นะคะมามี้”
เมื่อปิดประตูห้องนํ้า มิสมินต์ก็ต้องตาโตหันไปทางลูกน้องคนสวย
พร้อมกับบอกว่า
“เล่ามาให้หมดเลย” คำสั่งเสียงเย็นเชิงบังคับแกมจริงนั้น ทำให้
ละมุนมาศต้องเล่าและก็เลือกที่จะเล่าเฉพาะเรื่องราวในส่วนที่ควรบอกแก่มิ
สมินต์ ซึ่งมิสมินต์ถึงกับตบมือแปะทีเดียว บอกว่า
“พอดีเลย ยูลูกหนึ่ง ยังสาว ยังสวย เจ้านายลูกหนึ่ง หล่อ
เพอร์เฟกต์ แต่งงานกันไปเลย เด็ก ๆ จะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์เสียที ดู
เด็ก ๆ ก็น่าจะเข้ากับยูและ เจ้านายได้ดีทีเดียว งานนี้ฉันสนับสนุน
แต่งงานกันแล้วก็มลี ูกอีก เด็ก ๆ จะได้เล่นกันสนุก พี่สาวจะได้ดูแลน้อง
ๆ น่ารักสุด ๆ เจ้านายทีเ่ ห็นมาดขรึมหายไปหมด เหลือแต่ภาพคุณพ่อที่
483/559

น่ารัก เป็นแฟมิลี่แมน อบอุ่นมาก ๆ ลูกอยากมาหาคุณ ผมก็เลยพามา


ฉันใจจะขาดเสียให้ได้” เสียงที่ผู้จัดการสาวเก๊กให้นุ่มทุ้มเลียนเสียงเจ้านาย
ภาพฝันทีผ่ ู้จัดการสาวเพิ่งพูดไปหยก ๆ ทำให้ใบหน้าที่แดงอยูแ่ ล้วก็
ร้อนผ่าวขึ้นอีกหลายเท่าตัว แถมผู้จัดการยังยํ้าอีกว่า
“ฉันพูดจริง ๆ นะ ฉันไม่เคยเห็นภาพเจ้านายแบบนีม้ าก่อนเลย ยู
โชคดี สุด ๆ เลยมุนเอ๋ย ลูกใหม่ของยูกับเจ้านายจะต้องหล่อสวยน่ารัก
สุด ๆ ไปเลย เฮ้อ อยากเห็นเร็ว ๆ จัง”
“มิสมินต์พูดอะไรก็ไม่รู้ มุนไม่พูดด้วยแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า”
คนหน้าแดงลับหายเข้าไปในห้องนํ้า มิสมินต์ตะโกนบอกว่า
“ฉันพูดจริง ๆ นะมุน รีบเปลี่ยน เราจะได้ไปหาเจ้านายด้วยกัน”
ในใจมิสมินต์อดที่จะนึกสงสัยไม่ได้ว่า
ลูกหนึ่งมาได้อย่างไรกัน ทำไมหล่อนไม่เคยรู้มาก่อนเลย คิดว่าโสด
มาตลอด ต้องมีอะไรที่หล่อนไม่รู้เป็นแน่ แต่เรื่องนีก้ ็ไม่เกี่ยวกับหล่อนอยูด่ ี
เรื่องส่วนตัวของคนอื่นที่หล่อนไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว ถ้าลูกน้องสาวอยาก
ให้หล่อนรู้เจ้าตัวก็จะบอกเอง
เมื่อคิดได้ดังนั้นมิสมินต์ก็หยุดความใคร่รู้ของตัวเองไว้ พร้อมกับ
ประตู ห้องนํ้าที่เปิดออก ร่างบอบบางในชุดสบาย ๆ กางเกงยีนส์ขาสั้น
เหนือเข่า เสื้อยืดสีชมพูตัวเล็กพอดีตัว ผมที่มัดขณะทำงานก็ปล่อยให้เป็น
อิสระกระจายบนแผ่นหลัง
484/559

สวย น่ารัก สดใส อย่างนี้นี่เอง ขนาดลูกหนึ่งเจ้านายยังไม่สน จอด


อย่างไม่ต้องแจวเลยงานนี้เจ้านายเรา...อิจฉา ๆ ๆ
หลังจากทีร่ ายงานเจ้านายถึงเรื่องต่าง ๆ ภายในเวียดเฮาส์แล้ว มิ
สมินต์ก็ฝากขอบคุณเจ้านายไปยังมิสซิสซอลตันเรื่องเค้กที่ส่งมาให้กับ
พนักงานของเวียดเฮาส์ ซึ่งพอได้ยินคำว่าเค้ก เด็กหญิงคารีนากับเด็กหญิง
ฟีนิกซ์ก็หูผึ่งทันที หลังจากที่นั่งเงียบฟังแดดดี้คุยกับมิสมินต์มานาน
“มีเค้กด้วยหรือคะแดดดี้” เด็กหญิงคารีนาที่นั่งอยูก่ ับละมุนมาศและ
ฟีนิกซ์ส่งเสียงถามขึ้น
“มิสมินต์พูดถึงเค้กวันเกิดของคุณทวดค่ะ” คารีโนตอบลูกสาว
“หรือคะ ว้า นึกว่าจะได้กินเค้ก”
“พรุ่งนี้หนูค่อยทำกับฟีกับมามี้ที่บ้านเราสิคะ”
คำว่าบ้านเราทำให้ผู้จัดการสาวตาโต แต่เจ้านายยิ้มกว้าง
“เอาละ มิสมินต์กลับบ้านได้แล้ว ขอบคุณมากสำหรับรายงาน”
“เย้ ได้กลับบ้านแล้ว เราจะไปหาคุณทวดกันนะคะมามี้” เด็กหญิงคา
รีนารีบชวน
“ไปได้อย่างไรคะดึกแล้ว ต้องกลับบ้านนอน”
“ไปนอนบ้านฟาร์มค่ะ แดดดี้เก็บเสื้อผ้ามาให้มามี้แล้ว”
485/559

คำตอบของเด็กดีฟีนิกซ์ ยิ่งทำให้มิสมินต์ตาโตกว่าเดิมเป็นสองเท่า
เลยทีเดียว ในขณะที่ละมุนมาศคิดในใจว่าข้อแก้ตัวของหล่อนช่วยไม่ได้
เลยจริง ๆ มองไปทางคนตัวโตเห็นแต่รอยยิ้มที่อบอุ่นจริงใจก็ได้แต่
อ่อนใจ
ว่าไงก็คงต้องว่าตามกัน
“เดินทางกันได้แล้วค่ะเด็ก ๆ” คารีโนบอกเด็ก ๆ
40
จริงจัง...ใช่ไหม

หลังจากทีข่ ับรถตามกันสามคัน เพื่อนำรถของละมุนมาศกลับไปจอด


ทีค่ อนโดมิเนียม และหลังจากนั้นรถยนต์คันโตสองคันก็ขับตามกันไปยัง
จุดหมายปลายทาง ‘เนียนบา ฟาร์ม’
เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองยังคุยกันถึงสารพัดที่เจ้าตัวจะคิดได้เอามาคุย
เล่นตุ๊กตาบ้าง เล่นเกมในไอแพดบ้าง เสียงหัวเราะพูดคุยกันดังไปได้ไม่
นานนัก ก็ค่อย ๆ เงียบเสียงลงและหายไปในที่สุด
“เด็ก ๆ หลับไปแล้ว คุณง่วงก็นอนได้นะครับที่รัก”
“ไม่เป็นไรค่ะ มุนจะนั่งเป็นเพื่อนคุณขับรถ จะได้ไม่เหงา” คนได้
เพื่อนส่งยิ้มให้ พร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือบางดึงมาจูบแล้วก็วางไว้บน
หน้าขาของตัวเอง คนโดนจูบหน้าร้อนวาบ พยายามจะดึงมือตัวเองกลับ
แต่อีกคนก็ไม่ยอมปล่อย จนต้องหาเรื่องคุยต่อเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน
อาย
“ความจริงคุณน่าจะให้เฟยหรือว่าเบียนขับรถให้นะคะ”
“ไม่ต้องหรอก ผมอยากอยู่เป็นครอบครัว แค่เราเท่านั้น”
487/559

คำตอบของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหวอย่างรุนแรง
ครอบครัว แค่เรา...เขาจริงจังใช่ไหม ไม่ใช่คิดเล่น ๆ ผ่านแล้วผ่าน
ไปใช่ไหม
ใบหน้าสวยจ้องมองคนพูด เขาก็หันมายิ้มให้พร้อมกับยํ้าว่า
“ผมพูดจริงนะที่รัก คุณคิดเหมือนผมไหม”
“ไม่รู้สิคะ มันเร็วไป”
“ไม่เร็วหรอก ความรู้สึกของหัวใจมันไม่ต้องรอเวลา บางครั้งเวลา
ผ่านไปนานเท่านานกับใครบางคน เรายังรู้สึกรักไม่ได้เลย คุณว่าจริงไหม”
“มั้งคะ แต่มุนยอมรับว่าตั้งตัวไม่ทัน บางครั้งคิดว่าสิ่งทีเ่ กิดขึ้นตอนนี้
มันเป็นความฝันมากกว่า บางครั้งคิดว่าเราห่างกันเกินไป”
“อะไรที่คิดว่าห่าง ฐานะอย่างนั้นหรือ”
“ค่ะ”
“คิดมากจริง ๆ ที่รักคุณรูไ้ หม ไม่ว่ายุคสมัยไหน เรื่องของ
ครอบครัวธุรกิจก็มีเรื่องของธุรกิจและเงินนำหน้าเสมอ” คำพูดของเขาทำ
ให้คนฟังถึงกับใจหล่นวูบทีเดียว แต่มือหนาที่กระชับมือบางเอาไว้แน่นนั้น
ทำให้ละมุนมาศนิ่งฟังเขาต่อไป
“แต่สำหรับครอบครัวของผมไม่ใช่อย่างนั้น เราไม่จำเป็นต้องไปต่อย
อดทางธุรกิจกับใคร คุณรู้ไหมว่าก่อนที่จะเป็นเวียดเฮาส์มาก่อน ก็เป็นแค่
488/559

ร้านไทยเล็ก ๆ เท่านั้น คุณตาของผมเปิดร้านอาหารไทยให้คุณยายฝั่ง


ตรงข้ามกับโบสถ์ พอมัมแต่งงานกับแดด คุณตาก็ให้ร้านมาเป็นของขวัญ
พอเขาย้ายโบสถ์ แดดก็ขอซื้อต่อและช่วยกันทำให้เป็นเวียดเฮาส์จนถึง
ปัจจุบันนี้”
“ส่วนโรงงานกับโรงแรมก็เช่นกัน แต่ก่อนมันก็เล็ก ๆ ไม่ได้ต่อยอด
กับครอบครัวไหน ทำกันมาเรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้ และผมก็ไม่สนใจที่จะ
ต้องมีธุรกิจมากมายจนหาความสุขในชีวิตไม่ได้ ไม่ต้องมีเป็นหมื่น ๆ ล้าน
ถ้าผมต้องการต่อยอดทางธุรกิจ ผมจะแต่งงานกับลูกสาวหรือว่าหลานสาว
ใครก็ได้ แต่ผมไม่ต้องการ ผมแค่ต้องการมีธุรกิจเพื่อเลี้ยงครอบครัว ทำ
ให้ครอบครัวมีความสุข อบอุ่น เงินทองที่มอี ยูต่ อนนี้ก็เพียงพอที่จะเลี้ยง
ครอบครัว ลูกหลาน ทุกวันนี้ก็ทำงานเก็บเงินไปเรื่อย ๆ ผมไม่บ้าทำงาน
จนลืมครอบครัวเด็ดขาด คุณไว้ใจได้ที่รักว่าถ้าคุณเป็นครอบครัวเดียวกับ
ผม คุณจะมีครอบครัวที่อบอุ่นหนูมุน”
ครอบครัวเดียวกับเขาอย่างนั้นหรือ
“เอ่อ...คือ”
“เชื่อใจผมนะ” บอกแล้วก็ยกมือบางขึ้นจุ๊บอีกครั้ง พร้อมกับความ
เงียบที่เข้ามาครอบคลุม
ละมุนมาศรู้สึกได้ถึงหัวใจที่พองโตจนคับอก มันเต้นระรัวสุดกำลังที่
จะยับยั้ง การทีไ่ ด้รับรู้ความรู้สึกนึกคิดของเขา ทำให้ความกังวลเล็ก ๆ ที่
489/559

เคยมีหายไปจนหมด ใครจะรู้ว่าผู้ชายเคร่งขรึมที่เหมือนกับมาเฟียคนนี้ จะ
มีมุมมองของชีวิตที่เรียบง่ายธรรมดาอย่างนี้
หัวใจของหล่อนจะเชื่อเขาได้จริง ๆ ใช่ไหม
สมองเล็กกำลังใช้เวลาใคร่ครวญ มือบางในอุ้งมือใหญ่ของเขาอบอุ่น
เสียงเพลงอ่อนหวานแผ่วเบา อากาศเย็นสบายกำลังพอดี ทำให้คนที่วิ่ง
ทำงานมาหลายชั่วโมง นอนหลับไม่เต็มอิ่มมาหลายคืน ซบหลับไปกับไหล่
กว้างอย่างไม่รู้ตัว
ละมุนมาศตื่นแต่เช้าด้วยความรู้สึกสดชื่นจากอากาศยามเช้าที่พัด
เข้ามาทางหน้าต่าง ร่างบางที่นอนลืมตาอยู่บนเตียงต้องตกใจ เมื่อประตู
ห้องนอนถูกเปิดเข้ามา ร่างบางเด้งตัวเองลุกขึ้น กำลังอ้าปากจะร้อง แต่
พอเห็นหน้าคนที่เข้ามาแล้ว ก็เพิ่งคิดได้ว่าตัวเองอยู่ในชุดนอนทีว่ าบ
หวิว ก็ต้องมุดกลับเข้าไปในผ้าห่มอีกรอบ ผู้บุกรุกได้แต่หัวเราะหึ ๆ
“มอร์นิงครับที่รัก ผมมาปลุกคุณหรือเปล่า” ร่างสูงเดินเข้าไปที่เตียง
ด้วยใบหน้ายิ้มละไม ใบหน้าหล่อสดใสเกลี้ยงเกลาจากการโกนหนวดกลิ่น
หอมฟุ้งทีเดียว ยังไม่ทันที่ละมุนมาศจะได้คิดอะไร เตียงนอนข้างตัวก็ยุบ
ลงพร้อมผ้าห่มก็ถูกเปิดออก
“ไปมุดอะไรอยู่ในนั้นครับ...หือ” เสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยนดังขึ้นเหนือ
ศีรษะ มือบางถูกยกขึ้นปิดปากตัวเองเอาไว้ แต่คนตัวโตไม่สนใจ ก้มหน้า
ลงจูบที่หน้าผากเนียนแรง ๆ คนโดนจูบแต่เช้าหน้าแดงกํ่า หัวใจเต้นแรง
490/559

“คุณเข้ามาได้อย่างไรคะ เอ่อ มุนจำได้ว่าล็อกประตูแล้วเมื่อคืน”


เขายกกุญแจอันเล็กเท่ากับไม้จิ้มฟันให้ดู คนทีน่ อนอยูบ่ นเตียงก็เลย
ส่งค้อนให้ คนได้รับหัวเราะชอบใจ
“ตรัง คุณออกไปก่อนได้ไหมคะ ให้มุนอาบนํ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
“คุณก็อาบไปสิ ผมจะรอ เราจะได้ลงไปทานอาหารเช้าด้วยกัน”
นั่นไง ฟังเสียที่ไหน
“แต่...”
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ใบหน้ายิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ พอจะรูว้ ่าทำไมอีกคน
ถึงมุดอยู่ในผ้าห่ม น่าจะเป็นชุดนอนทีแ่ สนจะเซ็กซี่วาบหวิวที่เขาจัดการให้
นั่นเอง อยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้ามันอยู่บนเรืองร่างของคนที่นอนอยู่ตรงหน้า
เขาแล้วจะเป็นอย่างไร แค่คิดเขาก็รู้สึกว่าเนื้อตัวร้อนวูบวาบขึ้นมา
ทันทีทันใด ร่างสูงล้มตัวลงนอนข้าง ๆ คว้าร่างเล็กใต้ผ้าห่มมากอดแรง ๆ
ขาแข็งแรงข้างหนึ่งพาดอยู่บนขาเล็กในผ้าห่ม ลมหายใจร้อนผ่าว ใจเต้น
แรงขึ้นมาอย่างหยุดไม่อยู่
ไม่รอดแน่ ๆ วันนี้
“ตรัง หยุดก่อนค่ะ อย่าทำอย่างนี้นะ มุนจะฟ้องคุณยายจริง ๆ ด้วย
และมุน ก็ยังงอนคุณอยู่นะ” คนตัวเล็กดิ้นหนีพร้อมโวยวายเบา ๆ เมื่อ
สัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่อยู่นอกผ้าห่ม
491/559

“ก็ฟ้องสิ ผมรับผิดชอบทุกอย่าง ว่าแต่งอนผมเรื่องอะไรครับที่รัก”


ไม่ถามเปล่าใบหน้าคมซบซุกลงที่ข้างแก้มเนียน ปล่อยลมหายใจอุ่น ๆ
ปะทะกับผิวแก้มเนียน คนใต้ผ้าห่มใจหวิวระทึก เลือดในกายซาบซ่านพุ่งสู่
ใบหน้าจนร้อนผ่าวไปหมด
“ก็ เรื่อง เสื้อผ้า ไหน...ไหน ว่าคุณเก็บให้ ไม่เห็นมีเสื้อผ้าของมุนสัก
ชิ้น”
“เรื่องนี้เอง ก็จริงนี่ ผมเก็บให้ แต่ไปเก็บมาจากร้านไงครับที่รัก ว่า
แต่คุณชอบไหม” ดวงตากรุ้มกริ่มที่ละมุนมาศนึกอยากควักออกมานัก
เจ้าเล่ห์นัก แล้วอย่างนี้หล่อนจะรอดหรือนี่ คิดผิดหรือเปล่านะที่
อ่า...รัก...เขา
“ผมชอบมาก ชุดนอนนี่ก็เซ็กซี่สุด ๆ ผมเลือกเองเลยนะ วิคตอเรีย
ซีเคร็ต (Victoria’s Secret - เป็นยี่ห้อของชุดชั้นในสตรีและผลิตภัณฑ์
ด้านความงามของอเมริกา) ของเขาคุณภาพเยี่ยมจริง ๆ” ไม่พูดเปล่ามือ
หนาทำท่าจะดึงผ้าห่มออกไปจากตัวหล่อนอีก ละมุนมาศรีบตะครุบเอาไว้
สุดแรง
“ไม่ได้นะ” เสียงสั่น ๆ กับใบหน้าที่ตื่นตะลึงของคนในอ้อมกอด ทำ
ให้คารีโนอดไม่ได้ทจี่ ะเลื่อนตัวลงไปซุกไซร้ใบหน้าที่ซอกคอหอม ๆ ไหล่
เนียนที่มีแค่สายชุดนอนเล็ก ๆ คนตัวบางหลับตาปี๋ตัวสั่นขึ้นมาทันที
492/559

“ไม่นะ ได้โปรด อย่า...อย่าทำ มันไม่ดี ลุกก่อนนะคะ ตรัง พลีส มุ


น...เอ่อ หิวแล้ว ขอไปอาบนํ้าก่อน แล้วเราจะได้ไปทานอาหารเช้ากัน” คำ
ขอร้องกับลมหายใจที่ขาด ๆ หาย ๆ ไม่ปะติดปะต่อ ทำให้คารีโนอดที่จะ
ยิ้มไม่ได้ ริมฝีปากหยักเน้นจูบหนักที่ซอกคอแรง ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจ
ปล่อย เพราะถ้าไม่ปล่อยจะเป็นเขาเองที่ยับยั้งตัวเองไม่ได้
“ไปอาบนํ้าได้แล้วครับที่รัก ก่อนที่ผมจะทนไม่ได้” ร่างแข็งแรงผละ
ออกลุกขึ้นนั่งหันหลังให้อย่างตัดใจ
“หลับตาด้วยนะตรัง”
“ครับ หลับตาแล้วครับ” รับคำหนักแน่น ใบหน้าหล่อเหลาปิดตาคู่
คมสนิท คนใต้ผ้าห่มก็ถลาลงจากเตียง วิ่งหน้าตั้งเข้าไปในห้องนํ้า
พร้อมกับเสียงหัวเราะหึ ๆ ดังตามหลังมา คนวิ่งนึกอยากจะหันกลับไปซัด
คนทีห่ ัวเราะนักแต่ก็ทำไม่ได้ คนที่วิ่งหน้าตั้งไม่ได้เห็นสายตาคูค่ มที่
เต็มไปด้วยไฟสวาทมองตามหลังอย่างละห้อย
ร่างเล็กที่อยู่ในชุดนอนตัวบางที่เขาเห็นแต่ด้านหลัง มีแต่กางเกง
ชั้นในตัวน้อยสุดแสนเซ็กซีท่ ี่เขาเลือกกับมืออยูบ่ นตัวของหล่อน ภาพ
สวยงามทีป่ รากฏแก่สายตาแค่ไม่กวี่ ินาทีนั้น ทำให้บางสิ่งบางอย่างของ
ร่างกายที่อยู่ใต้กางเกงยีนส์ตัวเก่งขยายใหญ่โตจนรู้สึกอึดอัด นึกอยากจะ
เดินตามเข้าไปในห้องนํ้าทีเ่ ขารู้ว่ามันไม่มลี ็อก แต่คารีโนก็ได้แต่ถอน
หายใจ ปลอบใจ และปลอบร่างกายของตัวเองด้วยการผ่อนร่างลงนอนบน
493/559

เตียง ถอนหายใจอย่างแรง มือหนาคว้ารีโมตคอนโทรลข้างตัวมาเปิดเพลง


เบา ๆ ฟัง
กว่าครึ่งชั่วโมงร่างบางก็เดินออกมาจากห้องนํ้าด้วยเสื้อผ้าที่มีอยู่ในตู้
เมื่อมองไปที่เตียงร่างสูงใหญ่นอนหลับตา ลมหายใจสมํ่าเสมอ มือสองข้าง
ประสานกันไว้บนอก ใบหน้าที่คมเข้ม เครื่องหน้าที่เหมาะเจาะสมส่วน ทำ
ให้คนแอบมองอดทีจ่ ะใจสั่นเล็ก ๆ ไม่ได้ ร่างบางขยับเข้าไปชิดเตียงอย่าง
ไม่รู้ตัว ก้มหน้าลงไปมองใกล้ ๆ ตามที่ใจต้องการแล้วก็ต้องร้อง
“ว้าย” เมื่อคนทีน่ อนบนเตียงลืมตาตื่นขึ้นมา และตวัดร่างบางที่ก้ม
อยูใ่ กล้ ๆ ให้ล้มลงบนตัว คนที่เสียหลักก็นอนซบหน้าอยู่บนหน้าอกแกร่ง
แถมคนที่อยู่ใต้ร่างก็ดึงร่างบางให้ขึ้นไปทับร่างเขาทั้งตัว
“ปล่อยนะ” เสียงหวานที่ฟังดูแล้วหวั่นไหวชัดเจน
“จะลักหลับผมหรือ...หือ” คนข้างใต้ก็ไม่ปล่อยกลับรัดแน่นขึ้นไปอีก
“เปล่าค่ะ เอ่อ...มุนแค่จะปลุก เห็นคุณหลับ เราลงไปข้างล่างกันเถอะ
สายแล้ว” เสียงหวาน ๆ อ้อนแต่แผ่วเบาเหลือเกิน
“ขอจูบก่อนได้ไหม” ถามโดยไม่ต้องการคำตอบ มือข้างหนึ่งประคอง
ลำคอเล็กให้ก้มลงมา ริมฝีปากหยักได้รูปจูบประทับ ดูดเม้มอย่างอ่อนโยน
เลาะเล็มความหวานจากริมฝีปาก พร้อมกับสูดดมความหอม ดวงตาคู่คม
จ้องมองสบกับดวงตาหวานเยิ้ม ร่างบางอ่อนระทวยอยูบ่ นร่างแข็งแรง
หัวใจหวั่นไหวไร้เรี่ยวแรง เลือดในตัวซาบซ่าน ลมหายใจแทบจะ
494/559

หยุดชะงัก เมื่อลิ้นหนาค่อย ๆ เปิดริมฝีปากบาง แต่ยังไม่ทันได้เก็บเกี่ยว


ความหวาน
“มามี้/มามี้” เสียงเล็ก ๆ สองเสียงที่ดังประสานอยูห่ น้าห้อง
พร้อมกับเสียงเคาะประตูรัวถี่ยิบ
“ปล่อยค่ะ” อ้อมแขนแข็งแรงจำต้องปล่อยร่างบางที่อ่อนระทวยผลัก
ให้ลุกขึ้นพร้อมกัน แล้วร่างบางก็วิ่งเข้าไปในห้องนํ้า
คารีโนยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองแรง ๆ สลัดความวาบหวามในร่างกาย
ให้หมดไปก่อนที่จะลุกไปเปิดประตู
“มา...” เสียงเล็ก ๆ ของทั้งสองหยุดชะงักเมื่อเห็นคนที่เปิดประตู
“แดดดี้/แดดดี้ มามี้ล่ะคะ” คารีโนย่อตัวลงนั่งรวบสองร่างเล็ก ๆ
ในชุดน่ารักสดใสเข้าสู่อ้อมกอด หอมแก้มคนละฟอดแรง ๆ ก่อนตอบ
“มามี้อาบนํ้าค่ะ”
“คารีนากับฟีรอมามี้ตั้งนานไม่เห็น ก็เลยมาตามให้ไปทานอาหารเช้า
ด้วยกันค่ะ”
“แดดดี้ว่าหนูกับฟีไปรอที่ห้องอาหาร เตรียมอาหารไว้รอมามีด้ กี ว่า
ทานอาหารเช้าเสร็จแล้วเราจะพามามี้ไปขับเอทีวีกัน” คนตัวเล็กทั้งสอง
ตาโตทีเดียว
“ใครอยากไปต้องเตรียมตัวค่ะ อย่าลืมบอกให้วันเตรียมอาหาร
กลางวันสำหรับปิกนิกด้วยนะคะ”
495/559

“ค่ะ/ค่ะ” สองร่างเล็ก ๆ วิ่งจากไปแล้ว คนเป็นแดดดี้ได้แต่ยิ้มก่อน


ที่จะเดินไปเคาะประตูห้องนํ้า
“ที่รักออกมาได้แล้วครับ ไปทานอาหารเช้ากันเถอะ”
ประตูห้องนํ้าค่อย ๆ แง้มออกมา พร้อมกับสายตาคู่หวานเหลือบ
ซ้ายทีขวาที คนที่มองอยู่อดที่จะหัวเราะไม่ได้
“ลูก ๆ ไปแล้วครับ” พร้อมกับที่มือหนาดึงประตูห้องนํ้าให้เปิดออก
คว้าร่างบางมากอดและจูบเรือนผมนุ่มแรง ๆ
“ไม่รเู้ ป็นอะไร อยู่กับหนูมุนแล้วผมอยากจะกอดจะจูบคุณ
ตลอดเวลาเลย หนูมุนทำเสน่ห์ผมหรือเปล่าครับ” คนที่ถูกกล่าวหาว่า
ทำเสน่ห์ส่งค้อนให้ และก็รีบแกะอ้อมแขนที่รัดร่างหล่อนเอาไว้ออก
“ไปกันเถอะค่ะ”
มือบางถูกมือหนาจับจูงให้เดินไปด้วย พอไปใกล้ห้องทานอาหารมือ
บาง ก็พยายามแกะมือหนาออก แต่เจ้าของกลับกระชับให้แน่นขึ้นไปอีก
ได้ยินเสียงคุย แจ๋ว ๆ มาจากในห้องแล้วละมุนมาศก็ต้องหน้าร้อนผ่าว
“จริง ๆ ค่ะคุณทวด แกรนด์มา แดดดีอ้ ยู่ในห้องของมามี้จริง ๆ
ค่ะ”
“เราเจอแดดดี้ แต่ไม่เจอมามี้ค่ะ แดดดีบ้ อกว่ามามี้อาบนํ้าอยู่” อีก
เสียงช่วยสนับสนุน ละมุนมาศได้ยินแล้วก็อยากจะหายตัวไปจากที่นั่นแต่ก็
ทำไม่ได้
496/559

“อ้าวตรัง หนูมนุ เข้ามาสิจ๊ะ” คุณยายกลีบบัวเงยหน้าขึ้นทักทาย


เมื่อเห็นว่าหลานชายจูงมือบางของอีกคนเดินเข้ามาหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ส่วนคนที่เดินเยื้อง ๆ ก้มหน้างุดทีเดียว
41
ข่าวร้าย

“สวัสดีตอนเช้าครับคุณยาย”
ร่างสูงคุกเข่าลงกราบทีต่ ักของคุณยาย พร้อมกับกอดและหอมแก้ม
ดังฟอด
“สวัสดีตอนเช้าจ้ะตรัง ยายนึกว่ายังไม่ตื่นเสียอีก” คุณยายกลีบบัว
แซวยิ้ม ๆ
“ตื่นแล้วผมก็ไปปลุกหนูมุนครับ” คารีโนลุกไปทักทายบิดามารดา
“สวัสดีค่ะคุณยาย” ละมุนมาศยกมือไหว้ และก็เข้าไปกอดคุณยาย
กลีบบัวเช่นที่เคยทำเป็นประจำเมื่อเจอหน้ากัน
“สวัสดีจ้ะหนูมุน ดีใจทีห่ นูมนุ กับหนูฟมี าเยี่ยมยายที่นี่” คุณยาย
กลีบบัวกอดตอบ
“คารีนากับแดดดี้ก็มานะคะคุณทวด” เสียงเล็ก ๆ ของเหลนสาว
แทรกขึ้น เรียกเสียงหัวเราะได้จากทุกคน
“จ้า”
498/559

ละมุนมาศเดินไปทักทายท่านเจ้าของบ้านและภรรยา ซึ่งก็ได้รับการ
กอดทักทายจากทั้งสองท่าน
“นึกว่าจะไม่มาเสียแล้ว” ท่านไนฮัวกล่าวขึ้น ละมุนมาศได้แต่ยิ้ม ไม่
รู้ว่าจะตอบอย่างไร
“นั่งเถอะจ้ะมุน” คุณลิซาเบธบอก พร้อมกับที่ลูกชายเดินเข้ามา
จับมือบางให้นั่งลงที่ว่างข้าง ๆ มารดา
หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว คารีโน เบียน เฟย ก็ไปเตรียม
รถเอทีวี ละมุนมาศก็มีโอกาสได้นั่งคุยกับคุณยายกลีบบัวและคุณลิซาเบธ
โดยคุณไนฮัวขอตัวไปดูม้ากับเด็กหญิงทั้งสอง
“มาถึงกันดึกหรือเปล่าจ๊ะหนูมุน ยายไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยเมื่อคืน”
คุณยายกลีบบัวถามขึ้น
“ประมาณตีสองครึ่งได้ค่ะคุณยาย”
“ขับรถดึก ๆ ยายเป็นห่วงจังเลย”
“จริง ๆ แล้วมุนไม่คิดว่าจะมาที่นี่กันในตอนดึกหรอกค่ะ”
“อ้าว” คุณยายเลิกคิ้ว คุณลิซาเบธก็เงยหน้าจากนิตยสารในมือขึ้น
มอง
“คุณตรังไปรับมุนมาจากที่ทำงานพร้อมฟีและคารีนาค่ะ ก็เลยต้องมา
ดึก ๆ”
499/559

คำตอบนั้นทำให้คุณยายหันไปยิ้มให้กับลูกสาว
“ตรังไม่บังคับหนูมาหรือจ๊ะ”
“เปล่าค่ะ เอ่อ...คือ เพียงแต่ว่าไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ก็เลยไม่มี
อะไรติดมือมาฝากคุณยายเลย ขอโทษด้วยนะคะ”
“โอ๊ย ไม่ต้องเอาอะไรมาหรอก แค่มาให้ยายเห็นหน้าก็พอแล้ว หลาน
ชายของยายรุกหนูเร็วจริง ๆ หนูมุนรังเกียจหลานยายหรือเปล่าจ๊ะ”
“เอ่อ...คือ”
“คุณยายครับ หนูมุนรับรักผมแล้วครับ” เสียงหลานชายดังมาจาก
หน้าห้อง พร้อมกับร่างสูงก็เดินมาทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ ร่างบาง ยื่นหน้าเข้า
มาจูบที่แก้มเนียน คนโดนจูบหน้าซับสีเลือดทันที พร้อมกับตีไปที่แขน
แข็งแรง
“กว่าจะได้แต่งงานรับรองผมชํ้าแน่ ๆ ครับ มัม คุณยาย”
เมื่ออีกคนพูดเรื่องแต่งงานขึ้นมา ทำเอาคุณยายกับมารดาตาโต คน
ทีถ่ ูกดึงไปเกี่ยวข้องกับการแต่งงานก็หัวใจเต้นสั่นระรัว ส่วนคนพูดทิ้ง
ระเบิดไว้แล้วก็ กลบเกลื่อนด้วยการเปลี่ยนเรื่อง
“ผมจะพาหนูมุนไปดูผลไม้ และพาเด็ก ๆ ไปพายเรือในบึงกันครับ”
“จ้ะ ไปเถอะ หนูมุนเที่ยวให้สนุกนะจ๊ะ ยายจะทำผัดซีอิ๊วไว้รอ
หรือว่าจะให้เด็ก ๆ เอาไปส่งให้ในสวนก็ได้นะ”
500/559

“ไม่อยากรบกวนคุณยายเลยครับ”
“มัมจะจัดให้จ้ะ”
“ขอบคุณครับคุณยาย ขอบคุณครับมัม”
ร่างสูงเดินเข้ากอดคุณยายและมารดาเพื่อเป็นการขอบคุณ
“คุณยาย ป้าลิซ มุนขอตัวก่อนนะคะ”
ลับหลังหลานชายและว่าทีห่ ลานสะใภ้ไปแล้ว คุณยายกลีบบัวก็หันไป
ทางลูกสาว ซึ่งก็หันมาทางคุณยายเช่นกัน
“เอาจริงสินะหลานแม่”
“คงเอาจริงค่ะมัม พูดเรื่องแต่งงานแล้วนี่”
“ถึงขนาดไปบังคับเขามาดึกดื่นขนาดนี้ ไม่ธรรมดาแล้ว สงสารแต่หนู
มุน ตรังรุกเร็วจริง ๆ เห็นท่าอยากจะแต่งงานเต็มทีแล้วมั้ง ตามติดอย่างนี้
ว่าแต่หนูเถอะ ไม่รังเกียจหนูมุนใช่ไหมลูก” คุณยายกลีบบัวถามลูกสาว
“ไม่ค่ะ ลูกรักใครหนูก็รักด้วย หนูมุนก็เป็นคนดี”
“ไนฮัวว่าไง”
“ไม่ว่าไงหรอกค่ะ เขาตามใจลูก”
“ก็ดี จะได้ไม่มีปัญหาอะไร”
“ค่ะ”
501/559

รถเอทีวสี ามคัน สีนํ้าเงินหนึ่งคัน สีแดงสองคัน เด็กหญิงตัวน้อย


เลือกสีแดง โดยฟีนิกซ์นั่งซ้อนท้ายไปกับเฟย คารีนานั่งซ้อนท้ายเบียน ซึ่ง
คารีโนตรวจสอบความเรียบร้อยของหมวกกันน็อกและเข็มขัดที่รัดคนขับ
และเด็กน้อยทั้งสองด้วยตัวเอง
“ขับดี ๆ นะ”
“ครับเจ้านาย ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลคุณหนูเท่าชีวิตครับ” ทั้งสอง
รับคำ คารีโนก็หันไปทางลูกสาว
“คารีนาเกาะเบียนแน่น ๆ นะคะลูก”
“ค่ะแดดดี้”
“ฟีเกาะเฟยแน่น ๆ นะคะ ห้ามปล่อยมือ”
“ค่ะแดดดี้” รับคำร่าเริงแล้วก็หันไปทางมามี้
“มามี้เกาะแดดดี้แน่น ๆ นะคะ”
“จ้ะ” มามี้รับคำหน้าแดงระเรื่อ
จัดการเรื่องของเด็ก ๆ เรียบร้อยแล้ว คารีโนก็ขึ้นนั่งคร่อมคันสีแดง
ทีจ่ อดเคียงข้างกัน พร้อมกับยื่นมือไปดึงร่างบางขึ้นไปนั่งข้างหลัง โดยดึง
มือบางมากอดรอบเอวเขาเอาไว้ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็ให้สัญญาณ
ทั้งสองออกนำหน้าไปก่อน
502/559

รถเอทีวที ั้งสามคันค่อย ๆ ขับตามกันไปบนถนนดินในฟาร์ม พอ


เบียนกับเฟยขับคู่กัน เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองก็ตะโกนคุยกันอย่าง
สนุกสนานร่าเริง ในขณะที่รถคันที่ตามหลังสุด คนขับยิ้มเต็มใบหน้าเมื่อ
ดึงมือบางทั้งสองข้างให้กอดเอวเขาเอาไว้เต็ม ๆ จนร่างบางต้องเอนตัวเข้า
ไปแนบชิดร่างแข็งแกร่งของเขา บางสิ่งบางอย่างนุ่มหยุ่นเบียดชิดแผ่นหลัง
ให้ความรู้สึกที่ดีกับคนได้รับสัมผัสเหลือเกิน จนต้องฮัมเพลงออกมาเบา ๆ
หลายครั้งที่เขาปล่อยมือจากแฮนด์ที่จับไปลูบมือบางที่เกาะอยู่บนเอวของ
เขา
“หนูมุน ผมมีความสุขจังเลย คุณมีความสุขไหม” คนถูกถามไม่กล้า
ตอบ แค่ได้ใกล้ชิดแนบชิดแผ่นหลังของเขาอย่างนี้ หัวใจก็หวั่นไหววาบ
หวามจนห้ามไม่ได้อยู่แล้ว
“ว่าไงครับ มีความสุขไหม ส่งเสียงให้ผมรู้หน่อย”
“ค่ะ” แผ่วเบาอยู่ข้าง ๆ หู คนขับจอดรถทันที
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ละมุนมาศถามเมื่อร่างสูงลงไปยืนข้าง ๆ รถ
“เปล่า แค่อยากจูบคุณเท่านั้นเอง” ใบหน้าเข้มยื่นเข้ามาใกล้ก้มลงจูบ
ที่ ริมฝีปากอิ่มเบา ๆ ก่อนที่จะปล่อยและขึ้นรถ คนถูกจูบได้แต่หน้าแดง
เขาหาทางจูบหล่อนได้ตลอดเวลาโดยไม่เลือกสถานที่ ลับหลังเด็ก ๆ เป็น
จูบหล่อนทุกที พอละมุนมาศมองไปข้างหน้า ก็เห็นว่ารถสองคันที่นำไป
ก่อนจอดรออยู่นิ่ง ๆ แอบนึกโมโหคนขับที่อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่รวู้ ่า
เด็ก ๆ จะเห็นหรือเปล่า
503/559

รู้สึกเขินอาย แต่หัวใจดวงน้อยอบอุ่นวาบหวามนัก
ในสวนผลไม้ซึ่งแยกเป็นส่วน ๆ มองไปสุดลูกตา แต่ละอย่างกิน
พื้นที่หลายสิบเอเคอร์ (Acre - เป็นหน่วยวัดพื้นทีข่ องตะวันตก) มีทั้งแอ
ปเปิลเขียว แอปเปิลแดง เชอร์รี่ ลูกแพร ลูกพีช ที่ลูกยังเล็กอยู่ ส่วนแบ
ล็กเบอร์รี ราสเบอร์รี ทีเ่ ถาเกาะอยู่บนร้านมีดอกขาวโพลนเต็มไปหมด
และ สตรอเบอร์รีทปี่ ลูกยกแปลงขึ้นสูงเหนือเข่า แปลงทั้งหมดถูกหุ้มด้วย
พลาสติกกำลังบานออกดอกผลสะพรั่งห้อยระย้อยระย้าสวยงาม
ส่วนผักทีป่ ลูกในฟาร์มตอนนี้กค็ ือ พริก ซึ่งเป็นพันธุพ์ ริกจาก
เมืองไทย ทีด่ อกสีขาวกำลังบานเต็มต้นไปหมด มะเขือเทศหลากหลายสาย
พันธุ์ทั้งลูกเล็กลูกโตกำลังเจริญเติบโต พริกฮาลาปิโนของเม็กซิกัน พริก
หวานสารพัดสีทั้งสีแดง สีเขียว สีเหลือง และยังมีถั่วฝักสั้นที่เลื้อยขึ้นตาม
ร้านกำลังออกฝักอ่อน ๆ
ละมุนมาศฟังคำอธิบายจากผู้รู้ ที่ไม่น่าเชื่อว่านักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อที่
ท่าทางเหมือนกับมาเฟีย จะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับผักและผลไม้ในสวนได้มาก
ขนาดนี้
เด็ก ๆ ปีนต้นไม้กันอย่างสนุกสนานจนเหนื่อยแล้ว ก็ไปพายเรือ
ไปให้อาหารปลากันในหนองนํ้านานพอสมควร และก็ขึ้นบกไปเล่นที่
บ้านบนต้นไม้กันที่เพิ่งจะสร้างเสร็จไม่นาน
ทั้งเด็ก ๆ ทั้งมามีต้ ื่นเต้นกับบ้านต้นไม้เป็นอย่างมาก ในความ
แปลกประหลาดและน่ารัก ห้องโถงกว้างขวางห้องเดียวทรงหกเหลี่ยม
504/559

เนื้อทีท่ ั้งหมดน่าจะกว้างกว่าบ้านหลังเล็ก ๆ เลยก็ว่าได้ สร้างระหว่างต้นไม้


ใหญ่สตี่ ้น โดยใช้ต้นไม้ทั้งสี่ต้นเป็นเสาบ้าน มีบันไดที่สามารถชักขึ้นลงได้
ประตูหน้าต่างติดมุ้งลวดเหล็กดัดและผ้าม่านพร้อมสรรพ มุมหนึ่งจัดเป็น
ที่นั่งเล่น มีชิงช้าสองที่นั่งสองตัวใหญ่แขวนอยู่ พร้อมกับเปลนอนเล่นขึง
อยูใ่ กล้ ๆ กัน มุมหนึ่งเป็นห้องครัวเล็ก ๆ อีกมุมมีตั่งนอนที่สร้างยกพื้น
ถาวรขึ้นมา มีฟูกผืนใหญ่ปูอยู่ มีหมอนหลายใบกองอยู่บนนั้น
หลังจากทานอาหารกลางวันกันบนบ้านต้นไม้แล้ว เด็ก ๆ ก็นอนเล่น
เกม ไอแพดกัน มีเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะกันกระหนุงกระหนิง
คารีโนตามลูกน้องทั้งสองลงไปจากบ้าน ละมุนมาศก็เลยหย่อนตัวลง
ใน เปลนอน ลมพัดใบไม้ไหวพัดพาเอาสายลมเย็นเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิด
ทิ้งไว้แผ่วเบา หนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อน ประกอบกับคืนที่ผ่านมากว่า
จะนอนก็ดึกแล้ว และยังนอนไม่เต็มอิ่ม ฟังเสียงเด็ก ๆ คุยกันอย่างมี
ความสุข ดวงตาคู่หวานก็ค่อย ๆ หรี่ปรือและหลับไปในที่สุด
เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงดังขึ้น ทำให้คารีโนที่กำลังคุย
กับ ลูกน้องทั้งสองต้องรีบล้วงโทรศัพท์มากดรับโดยไม่ได้มองหน้าจอ
เพราะเขารู้ว่ามีแต่คนในครอบครัวเท่านั้นที่จะโทร. หาเขาเบอร์นี้ได้
“ครับ”
“ตรังอยู่ที่ไหนลูก” เสียงคุณยายดังมาตามสายอย่างร้อนรน
“อยู่บ้านต้นไม้ครับ”
505/559

“หนูมุนล่ะลูก”
“อยู่ข้างบนบ้านกับเด็ก ๆ ครับ คุณยายมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“กลับมาได้ไหมลูก พอดีมีเรื่องเกี่ยวกับหนูมุนน่ะ” นํ้าเสียงทีไ่ ม่ค่อย
จะดีของคุณยายกลีบบัวทำให้คารีโนรับปาก
“ครับคุณยาย”
เมื่อวางสายจากคุณยายกลีบบัว คารีโนก็กระโจนขึ้นไปบนบ้าน เดิน
ตรงไปหาเด็ก ๆ ทีก่ ำลังวาดรูปกันอย่างสนุก บอกให้เตรียมตัวกลับแล้วก็
ก้าวเร็ว ๆ เข้าไปหา เห็นร่างบางที่นอนหลับอย่างมีความสุข ใบหน้าเนียน
ใสสะอาดไร้เครื่องสำอางแล้ว ก็อดไม่ได้ทจี่ ะก้มลงไปจูบแก้มเนียนหลาย
ครั้งตามที่หัวใจต้องการ ถึงแม้ในใจจะรู้สึกกังวลลึก ๆ กับสิ่งที่ยังไม่รู้ว่ามี
อะไรเกิดขึ้นและเกี่ยวข้องกับคนที่เขารักตรงหน้านี้
“หนูมุนที่รักตื่นได้แล้วครับ คุณยายโทร. มาตามแล้ว”
“อือ”
“ตื่นนะครับ คุณยายโทร. มาตามแล้วครับ”
“ค่ะ”
“ไม่ต้องเก็บของหรอก เดี๋ยวมีคนมาจัดการ”
506/559

เบียนและเฟยคอยช่วยคุณหนูตัวน้อยทั้งสองลงจากบ้าน คารีโนคอย
ดูแลคนตัวบางอย่างกังวล เช็กความปลอดภัยของเด็ก ๆ แล้วเขาก็ดึงคน
ตัวบางขึ้นรถทันที รถเอทีวีทั้งสามคันขับตามกันออกมามุ่งตรงสู่บ้านใหญ่
ละมุนมาศไม่กล้าถามเขาว่ามีเรื่องอะไร ถึงกับต้องปลุกหล่อนให้ตื่น
กลางหลับอย่างนี้ ยกนาฬิกาข้อมือดูก็ยังไม่ถึงเวลากลับบ้านด้วยซํ้า
ใช้เวลายี่สิบนาทีเศษ ๆ ก็มาถึงบ้านใหญ่ คุณยายกลีบบัวยืนรออยูท่ หี่ น้า
บ้านแล้ว พอรถจอดสนิทคุณยายก็เดินมาหาและจูงมือละมุนมาศให้เดิน
ตามเข้าไปในบ้าน
“หนูมุน ลูก” คุณยายกลีบบัวที่หน้าตาไม่ค่อยจะดีนักเรียกคนทีท่ ่าน
จูงมืออยู่
“ค่ะคุณยาย มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่าคุณยายไม่สบาย” ละมุน
มาศถามอย่างเป็นห่วง
“ยายสบายดีลูก เข้าไปนั่งก่อนดีกว่า ยายมีบางอย่างจะคุยด้วย”
ละมุนมาศเดินตามไปทรุดนั่งข้าง ๆ คุณยายกลีบบัว คารีโนเดินตามไปนั่ง
ติด ๆ กัน ในห้องนั้นมีคุณลิซาเบธและสามีนั่งอยูก่ ่อนแล้ว ส่วนเด็ก ๆ
วิ่งไปห้องดูโทรทัศน์
“มีอะไรหรือคะคุณยาย”
“มีคนโทร. เข้ามาที่โทรศัพท์ของหนูมนุ ที่วางอยู่ในห้องนอน สองครั้ง
แรกเด็กที่ทำความสะอาดห้องไม่กล้ารับ แต่พอครั้งที่สามวิ่งเอามาให้ยาย
507/559

ยายก็เลยรับแทน คุยกับทางปลายสายเขาก็ถามยายว่าเป็นเจ้าของโทรศัพท์
หรือเปล่า ยายก็บอกว่าไม่ใช่ แต่เป็นของว่าที่หลานสะใภ้” ว่าที่หลานสะใภ้
หน้าซับสีเลือดทันที คุณยายบีบมือบางในอุ้งมือของท่านเบา ๆ ก่อนที่จะ
พูดต่อว่า
“คนปลายสายเขาบอกว่าเป็นเพื่อนกับคุณละมุด”
“แม่มีอะไรหรือคะคุณยาย” เสียงหวานสั่นขึ้นมาทันที ใบหน้าซีด
ทันตา
“เขาบอกว่าแม่ละมุดของหนูเสียแล้ว” ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
อ้อมแขนแข็งแรงที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ก็ตวัดร่างบางเข้าหาตัว กอดรัดร่างที่
สะอื้นฮักเอาไว้กับอกแกร่ง มือหนาลูบไล้แผ่นหลังบางไปมาอย่า
ปลอบประโลม และอีกหลาย ๆ มือที่แตะส่งกำลังใจ ห้องทั้งห้องตกอยูใ่ น
ความเงียบ มีแต่เสียงสะอื้นแผ่วเบาที่เจ้าตัวพยายามกักเก็บเอาไว้
คารีโนจูบเรือนผมนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า เขาอยากจะช่วยผ่อนคลาย
ความเจ็บปวดรวดร้าว ความเหงา ความว้าเหว่และโดดเดี่ยวที่เกิดขึ้นใน
หัวใจของคนในอ้อมกอด แต่ที่เขาทำได้ตอนนี้ก็เพียงแค่นี้
ในที่สุดใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยนํ้าตาก็เงยขึ้น หันไปทางคุณยาย
กลีบบัว
“เมื่อไรคะคุณยาย”
508/559

“เมื่อสามวันก่อน และทางสมาคมคนไทยได้จัดการเผาไปแล้ว
เพราะว่าหาญาติไม่ได้ ทุกคนที่รู้จักคุณละมุดบอกว่ารู้จักกันสองปี ไม่เคยรู้
ว่าคุณละมุดมีญาติที่ไหนเลย เขาบอกว่าหลังจากเผาศพแล้วก็ได้เช็ก
โทรศัพท์คุณละมุด และเขาก็โทร. ตามหาคนที่มีเบอร์อยู่ในโทรศัพท์กไ็ ม่มี
ใครทีเ่ ป็นญาติเลย จนกระทั่งเขาพบเบอร์โทร.เขียนไว้เฉย ๆ ไม่มีชื่อ
เจ้าของ เขาก็เลยลองโทร. มานี่แหละ แต่ว่าทุกอย่างได้รับการจัดการจาก
สมาคมคนไทยไปแล้วนะลูก”
“เขาบอกไหมคะว่าทำไมแม่ถึงจากไปกะทันหันอย่างนี้”
“รายงานจากแพทย์บอกว่าเครียดจัดและหัวใจล้มเหลว”
“แล้วมุนต้องทำอย่างไรบ้างคะ”
“หนูมุน หนูยังมียาย มีป้าลิซ มีลุงไนฮัว มีตรัง และทุกคนที่นนี่ ะจ๊ะ
เราจะไม่ปล่อยให้หนูโดดเดี่ยวเป็นอันขาด”
“ขอบคุณค่ะคุณยาย” มือบางยกขึ้นกระพุ่มไหว้ขอบคุณไปยังทุกคน
“หนูมุนยังมีผมนะที่รัก ผมจะอยูข่ ้าง ๆ คุณตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป
แล้วเราจะทำอย่างไรต่อครับคุณยาย”
“ก็คงต้องติดต่อเอากระดูกมาก่อน แล้วก็ทำบุญกระดูก หลังจากนั้น
ก็หาที่ไว้กระดูกที่ไม่ไกลนัก ที่หนูมุนกับฟีจะได้ไปเยี่ยมได้สะดวก”
509/559

“มุนขอบพระคุณคุณยายนะคะที่ช่วยเหลือมุนในครั้งนี้ สงสารก็แต่ฟี
ค่ะ” พูดถึงคนตัวเล็กทีย่ ังไร้เดียงสา นํ้าตาแห่งความโศกเศร้าเสียใจก็ไหล
รินอีกครั้ง
มามี้จะเป็นมามี้ เป็นแม่ของคนตัวเล็กตลอดไป ความทุกข์ทั้งปวงมา
มี้ขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว แค่ขอให้ฟีมีความสุขเท่านั้น
เมื่อมีเวลาคิดถึงมารดา ละมุนมาศรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ดูแลหรือ
ตอบแทนมารดาให้มากกว่านี้ ถ้ารู้ว่าท่านจะจากไปเร็วอย่างนี้ หล่อนจะให้
ในสิ่งทีม่ ารดาต้องการทุกอย่าง แต่ว่ามันสายไปเสียแล้ว วันเวลาไม่เคย
หวนคืน ผ่านแล้วผ่านเลยไปไม่ย้อนกลับมา
สิ่งที่ละมุนมาศกังวลอยู่ตอนนี้ก็คือ ทำอย่างไรหล่อนถึงจะบอกคน
ตัวเล็กให้รับรู้เรื่องนีแ้ ล้วไม่ตกใจ ไม่เสียใจ เศร้าใจ ร้องไห้ หล่อนคงทน
ไม่ได้ทจี่ ะเห็นคนตัวเล็กเศร้าหมองและเจ็บปวด เมื่อได้นำเรื่องนีไ้ ปปรึกษา
กับคารีโน เขาก็ปลอบใจว่า
“เชื่อผมสิที่รักว่าฟีจะไม่เจ็บปวดหรือเศร้ามากนักหรอก เพราะผมมี
เพื่อน ร่วมรุ่นทีแ่ ต่งงานกับคนแก่อายุรุ่นพ่อ มีลูกด้วยกันสองคน คนโต
เจ็ดขวบ คนเล็ก ห้าขวบ วันที่บิดาเสียชีวิต เด็ก ๆ ก็ร้องไห้นิดเดียว ร้อง
เพราะว่าเห็นแม่ร้อง แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ร้องอีกเลย ในงานศพเด็ก ๆ วิ่ง
เล่นกับเพื่อนสนุกสนาน เพื่อนผมบอกมานะ และฟีกไ็ ม่เคยเห็นแม่เลย
อาจจะจำไม่ได้แล้วก็ได้ ตอนนี้หนูมุนเป็นมามี้อยูน่ ะที่รัก ในหัวใจของเขา
หนูมุนเป็นแม่ เชื่อผมสิ อย่ากลัวที่จะต้องบอกความจริง”
510/559

แต่เป็นความจริงตามที่พูด เมื่อละมุนมาศตัดสินใจบอกเรื่องนีก้ ับคน


ตัวเล็ก
“ฟี แม่มุดจากเราไปแล้ว ไปอยู่บนฟ้า” ละมุนมาศกลั้นใจบอกคนที่
นอนซุกอยู่ในอ้อมกอดเกี่ยวกับเรื่องของมารดา หลังจากที่เล่าอ้อมไปอ้อม
มาด้วยหัวใจที่เจ็บร้าว เมื่อบอกออกไปแล้ว ก็รอลุ้นจนแทบไม่กล้าหายใจ
กลัวปฏิกิริยาการสูญเสียของคนตัวเล็กจะรุนแรง แต่คนตัวเล็กเพียงแต่
ถามกลับว่า
“หมายความว่าอย่างไรคะ”
“หมายความว่า แม่มุดจะไม่มาหาเราแล้วไงคะ”
“แม่มุดไม่คิดถึงเราหรือคะ”
“คิดถึงค่ะ แต่ว่าแม่มุดมาไม่ได้”
“ถึงว่าสิคะ วันก่อนฟีเห็นแม่มุดที่อยูใ่ นรูปโบกมือบ๊ายบายด้วย แต่
ไม่เป็นไรค่ะมามี้ แม่มุดจะมองเราจากบนฟ้า” คำตอบราวกับปลอบใจนั้น
ทำให้ละมุนมาศเจ็บแน่นจุกอกขึ้นมาทันใด แต่ยังไม่ทันได้ตอบว่าอะไร
เด็กหญิงคารีนาเพื่อนรักที่นอนอยู่เคียงข้างก็เป็นผู้สนับสนุนว่า
“มัมของคารีนาก็อยู่บนฟ้า มองคารีนาจากบนฟ้าด้วย”
“จริงหรือ”
“จริงสิ แดดดี้บอกคารีนาอย่างนั้นนะ”
511/559

เมื่อฟังเด็กทั้งสองคุยกันแล้ว ละมุนมาศต้องรีบพูดต่อในสิ่งที่อยาก
จะพูด
“ฟีต้องเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนหนังสือ เชื่อฟังมามี้นะคะ แม่มุดจะได้
ไม่ห่วงและมีความสุข” บอกคนตัวเล็กออกไปแล้ว ละมุนมาศก็อยากที่จะ
ปล่อยให้นํ้าตาแห่งความสูญเสียไหลออกมา ให้สาสมกับความเสียใจ
เจ็บปวดและอ่อนแอ แต่หล่อนก็ทำไม่ได้ ไม่อยากให้คนตัวเล็กต้องร้อง
ตาม ได้แต่เก็บกลั้นเอาไว้จนเจ็บร้าวไปทั่วทั้งอก จุกแน่นไปจนถึงคอหอย
เลยทีเดียว
“ค่ะมามี้ ฟีจะเป็นเด็กดี จะตั้งใจเรียนหนังสือ จะเชื่อฟัง มามี้ไม่ต้อง
เป็นห่วงฟีนะคะ”
“คารีนาก็จะเป็นเด็กดีค่ะมามี้” อีกเสียงเล็ก ๆ ที่รับคำ ทำให้ละมุน
มาศต้องลุกขึ้นยื่นหน้าไปจูบแก้มเล็ก ๆ ทั้งสองอย่างขอบคุณ
“ขอบคุณค่ะ เด็กดีของมามี้ทั้งสองคนเลย เอาละ นอนได้แล้ว
พรุ่งนี้เราจะต้องเดินทางนะคะ ไปวัดทำบุญให้แม่มุดกันค่ะ”
“เย้ ไปวัดกัน” เด็กหญิงทั้งสองส่งเสียงร้องอย่างยินดี ละมุนมาศไม่
รู้ว่าคนตัวเล็กรับรูเ้ รื่องนี้มากน้อยแค่ไหน เด็ก ๆ เป็นอย่างนีน้ ี่เอง ไม่ต้อง
รับรูอ้ ะไร ถึงรับรู้ไม่นานก็ลืม แต่ทแี่ น่ ๆ หล่อนรู้ว่าคนตัวเล็กดีใจที่จะได้
ไปวัด ก็เพราะว่าทุกครั้งที่พาไปวัด คนตัวเล็กได้ชิมของแปลก ๆ ทั้งขนม
ทั้งอาหารไทย
512/559

เสียงเปิดประตูพร้อมกับเสียงทักถามก็ดังขึ้น
“ดีใจอะไรกันหรือคะ” ถามเด็ก ๆ พร้อมกับร่างสูงก็หย่อนตัวลงนั่ง
ข้าง ๆ ลูกสาวตัวน้อยของเขาอีกฟากหนึ่งของเตียง สายตาคมคู่นั้นจับจ้อง
มายังคนตัวบางที่นํ้าตาคลอหน่วยนอนกอดเด็กทั้งสองอยู่
“มามีบ้ อกว่าจะไปวัดทำบุญให้แม่มุดกันค่ะ” เด็กหญิงฟีนิกซ์เป็นคน
ตอบ
“ดีค่ะ แดดดี้ขอไปด้วยได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ”
“หลังจากทำบุญแล้ว เราจะไปค้างคืนกันที่คอนโดฯ มามีก้ ันนะคะ ดี
ไหม คารีนา”
“เย้ ดีค่ะ คารีนาจะนอนกับฟีนะคะ ให้แดดดี้นอนจับมือกับมามี้”
คนที่กำลังเศร้าอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงกับคำพูดไร้เดียงสานั้น
“อันนีเ้ ราค่อยคิดอีกทีว่าใครจะนอนตรงไหนนะคะ คืนนี้ดึกแล้วนอน
กันได้แล้วค่ะ แดดดี้จะนอนที่โซฟานะคะ”
“ทำไมแดดดี้ไม่นอนกับเราล่ะคะ” ลูกสาวตัวน้อยถามพร้อมกับขยับ
ที่ให้ แต่คนเป็นแดดดี้หัวเราะตอบว่า
“แดดดี้กลัวถูกถีบตกเตียงค่ะ” เด็กทั้งสองก็เลยหัวเราะขำกันใหญ่
ร่างสูงจึงก้มลงจูบลูกสาวและฟีนิกซ์ แลกกันคนละจุ๊บ ห่มผ้าให้ แล้วก็
513/559

เดินมายังอีกฝั่งของเตียง อีกคนรู้ทันที่ว่าเขาจะทำอะไร ก็เลยรีบซุกหน้าเข้า


หาเด็ก ๆ แต่ก็ยังไม่พ้น ริมฝีปากอุ่นแตะที่เรือนผมนุ่มพร้อมคำว่า
“รักนะครับ นอนให้หลับ ผมและลูกจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ จะไม่
ให้คุณโดดเดี่ยวเพียงลำพัง กู๊ดไนต์ที่รัก”
“กู๊ดไนต์ค่ะตรัง” อุบอิบตอบแล้วก็รีบคว้าผ้าห่มขึ้นคลุมตัว
คำบอกรัก คำสัญญา และจูบที่อบอุ่น ทำให้หัวใจดวงน้อยทีก่ ำลัง
เศร้าโศกเสียใจ รู้สกึ มีพลังขึ้นมามากมายทีจ่ ะต่อสูก้ ับวันใหม่ของชีวิตที่
เปลี่ยนไป
42
คนข้างใจกับคำว่า...รัก

หลังจากทีไ่ ปรับกระดูกทำบุญและนำกระดูกไปไว้ที่สุสานแล้ว ละมุน


มาศก็ได้รับกระเป๋าสะพายของมารดาที่เพื่อนคนหนึ่งของมารดาได้เก็บไว้ให้
สิ่งที่อยูใ่ นกระเป๋าทำให้ละมุนมาศรู้ว่า มารดาก็พยายามที่จะใช้หนี้คืนเพื่อน
ๆ ที่ยืมมา ดูจากรายละเอียดชื่อเจ้าหนี้ วันเวลาที่ยืม วันเวลาที่คืน ใน
สมุดบันทึกเล่มเล็กของมารดา
ในวันถัดมาละมุนมาศก็นัดจ่ายหนี้สินที่เหลือให้กับเจ้าหนี้ของมารดา
ซึ่งบางคนก็ยกให้ บางคนก็ขอรับคืนแค่ครึ่งเดียว ซึ่งละมุนมาศก็ขอบคุณ
ทุกคนที่ได้ดูแลและช่วยเหลือมารดาของหล่อนตลอดมา
ในวันที่หล่อนไปทำความสะอาด และเก็บของที่ห้องเช่าของมารดา
เพื่อส่งคืนให้กับคนให้เช่า รูปของหล่อนกับคนตัวเล็กที่มารดาขยายมาใส่
กรอบวางไว้บนโทรทัศน์เห็นแล้วนํ้าตาก็รินไหล ไม่เท่านั้นในกล้องดิจิทัล
รุ่นเก่าของมารดา ก็ยังมีภาพของหล่อนกับคนตัวเล็กอีกมากมายหลายรูป
ถึงแม้ว่าจะเป็นรูปที่ไม่ชัดเจน เนื่องจากว่าถ่ายจากระยะไกล แต่มันก็ทำให้
515/559

หล่อนรู้ว่า มารดายังติดตามดูแล รัก คิดถึง และห่วงใยหล่อนและคนตัว


เล็กอยู่เสมอ แต่ไม่เคยแสดงออก
ละมุนมาศพยายามหาคำตอบมาหักล้างคำถามที่เกิดขึ้นในใจว่า
ทำไมมารดาไม่ติดต่อหรือไปหาหล่อนกับน้องทั้ง ๆ ที่ก็อยู่ไม่ไกลกัน
คนเช่าบอกว่ามารดาเช่าห้องอยู่ที่นั่นสองปีกว่าเลยทีเดียว เมื่อหา
คำตอบไม่ได้ ละมุนมาศก็บอกว่าตัวเองว่า มารดาคงมีเหตุผลส่วนตัว
นั่นเอง
แต่ไม่ว่ามารดาจะเป็นอย่างไร ก็ยังเป็นผู้มีพระคุณและหล่อนก็รัก
มารดาเสมอ ส่วนคนตัวเล็กก็พูดถึงมารดาแค่อาทิตย์แรก หลังจากนั้นก็
ค่อย ๆ เลือนไป
รู้สึกอิจฉาความเป็นเด็กก็ตรงนี้เอง ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องทุกข์ และ
ลืมได้อย่างง่ายดาย
ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ด้วยความช่วยเหลือจากคุณยายกลีบบัว
และครอบครัวเนียมบา ละมุนมาศซาบซึ้งในความรัก ความห่วงใย และ
ความหวังดีจากทุกคนโดยเฉพาะเขา...ตรัง คารีโน
ในวันที่หัวใจโดดเดี่ยว อ้างว้าง เหน็บหนาว ไร้ที่พักพิง ในวันที่รวู้ ่า
ผู้มีพระคุณคนเดียวในชีวิตที่เหลืออยู่ได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนคืน
516/559

คนที่อยูข่ ้าง ๆ หล่อนก็คือเขา อ้อมกอดที่โอบรัดในยามที่รู้สึกท้อแท้


ว่างเปล่า มือหนาที่คอยเช็ดนํ้าตาเวลาที่มันไหลริน คำพูดปลอบประโลมที่
ได้ยินตลอดเวลาในยามที่เปลี่ยวเหงา
ชีวิตกลับเข้าสู่ปกติอีกครั้ง หลังจากที่จัดการเรื่องของมารดา
เรียบร้อยแล้ว คารีโนให้ละมุนมาศลาออกจากเวียดเฮาส์ ใช้เวลาวันเสาร์
อาทิตย์ดูแลลูกสาวของเขาแทน
ในวันปกติที่หล่อนต้องไปทำงาน สองพ่อลูกก็มาค้างที่คอนโดมิเนียม
ด้วย ตอนกลางวันเด็ก ๆ อยู่ในความดูแลของมิสซิสลี วันหยุดหรือว่าเย็น
วันศุกร์ก็หอบหิ้วกันไปอยู่บ้านริมทะเลจนถึงเช้าวันจันทร์ และบางครั้งก็ไป
อยู่บ้านที่ฟาร์มกับคุณยายและครอบครัวเนียมบาสลับกันไปแล้วแต่ความ
ต้องการของเด็ก ๆ
ทีบ่ ้านริมทะเลละมุนมาศมีห้องส่วนตัวกว้างใหญ่ ซึ่งแทบจะเท่ากับ
พื้นที่ทั้งหมดของคอนโดมิเนียมที่หล่อนอยูด่ ้วยซํ้าไป โดยหันหน้าเข้าสู่
ทะเลทีเ่ จ้าของบ้านยกให้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเขานอนฟังเสียงทะเลมานาน
หลายปีแล้ว แต่ก็ใช่ว่าเขาจะยกให้เลย เพราะว่าทุกคืนร่างสูงจะมานอนอยู่
ข้าง ๆ ลูกสาวของเขาอีกมุมหนึ่งของเตียงด้วยตลอด ด้วยเหตุผลที่ว่า
“ผมไม่อยากให้หนูมนุ โดดเดี่ยวกับเด็ก ๆ วันเศร้าได้ผ่านพ้นไปแล้ว
แต่นี้ต่อไปจะมีแต่ความสุขเข้ามาในชีวิตของหนูมนุ และฟี โดยมีผมและลูก
เป็นส่วนร่วมด้วย”
517/559

ละมุนมาศขอบคุณพร้อมรอยยิ้มหวาน สิ่งที่ได้รับตอบแทนกลับมาก็
คือจูบที่เขาบรรจงมอบให้
มาถึงตอนนี้ละมุนมาศเริ่มที่จะคุ้นเคยกับการแสดงออกถึงความรัก
ของ เขาบ้างแล้ว จะไม่ให้คุ้นชินได้อย่างไร ไม่ว่าจะอยูท่ ี่ไหน เขาก็จูบ
หล่อนได้ตลอดเวลา เด็ก ๆ ปรบมือให้ทุกครั้งที่เห็นแดดดี้จูบมามี้
แต่ถึงแม้ว่าจะใกล้ชิดกันแค่ไหน จะอยู่บ้านเดียวกันก็แล้วแต่ เขายัง
รักษา คำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณยายกลีบบัวเป็นอย่างดี พร้อมกับคำสัญญา
ใหม่ที่เขาบอกว่า
เมื่อไรที่เกินเลย เขาพร้อมจะแต่งงานกับหล่อนทันที
คนให้สัญญาก็รํ่า ๆ จะทำอะไรเกินเลยทุกที ถ้าไม่ถูกคนตัวบางหยุด
เอาไว้เสียก่อน
วันเวลาผ่านไปหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามาในชีวิต ความโศกเศร้าค่อย
ๆ จางหายไป แต่ในหัวใจและความทรงจำของละมุนมาศก็ยังมีมารดาอยู่
ในนั้นเสมอ
ถึงเวลาแห่งคำสัญญาทีล่ ะมุนมาศให้ไว้กับคนตัวเล็ก การไปเที่ยวใน
วันปิดเทอมภาคฤดูร้อน คนตัวเล็กตื่นเต้นมาหลายวันที่รู้ว่าจะได้ขึ้น
เครื่องบินไปเที่ยว เตรียมเก็บของวันละนิดละหน่อย จนตอนนี้แทบจะล้น
กระเป๋าเลยก็ว่าได้ ส่วนเพื่อนรักที่ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยก็ออกอาการเหงาหงอย
เล็ก ๆ แต่ก็ตื่นเต้นช่วยเพื่อนรักเก็บกระเป๋าไปเที่ยว
518/559

คืนวันก่อนที่จะเดินทาง สองพ่อลูกมาค้างด้วยที่คอนโดมิเนียม เพื่อ


จะไปส่งขึ้นเครื่องบิน หลังจากที่ส่งเด็ก ๆ เข้านอนแล้ว คารีโนก็แวะมา
เคาะประตูห้องนอนใหญ่ที่เปิดอ้าไว้ ละมุนมาศยังสาละวนอยูก่ ับการจัด
กระเป๋าเดินทาง
“หนูมุน ผมเข้าไปได้ไหมครับที่รัก”
“เข้ามาได้เลยค่ะ” คนที่นั่งเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเงยหน้าขึ้นบอก
อนุญาต คนตัวโตจึงเดินเข้าไปหา พร้อมกับก้มลงจูบที่เรือนผมนุ่มเบา ๆ
“อิจฉาคนทีจ่ ะไปเที่ยวจริง ๆ เลย” พูดพร้อมกับไปล้มตัวนอนเอน
บนเตียงสีขาวสะอาด คนฟังได้แต่ยิ้มไม่ตอบว่าอะไร
“หนูมุนจะไปเที่ยวไม่ห่วงผมเลยหรือที่รัก” คนถามทำใบหน้าละห้อย
น่าสงสาร คนฟังหัวเราะคิก
“ตั้งหลายวัน ถ้าผมคิดถึงคุณจะทำอย่างไรล่ะ ลูกผมด้วย คงคิดถึง
มามี้ คิดถึงฟีน่าดู”
“คุณก็ลางานไปเที่ยวด้วยกันสิคะ รับรองว่าฟีต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่
จะได้เที่ยวกับคารีนา” คนตัวบางเชิญชวนเพราะคิดว่าเขาทิ้งงานไม่ได้อยู่
แล้ว
“ว่าแต่ไม่เห็นหน้าผมหลายวัน คุณจะคิดถึงผมไหม”
519/559

คำตอบทีค่ นตัวโตได้รับก็คือ ใบหน้าหวานที่พยักหน้าให้อย่าง


หนักแน่น จนคนที่นอนเอนอยู่บนเตียงอดทนไม่ไหวต้องลุกจากเตียงไป
นั่งลงใกล้ ๆ กอดรัดร่างบางเข้าหาตัว เชยคางให้รับจูบอ่อนหวานจากเขา
“ขอบคุณครับ ผมคงทนไม่ได้แน่ ๆ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบคุณอย่างนี้
ไม่รู้ว่าจะทรมานผมไปถึงไหนกัน เราแต่งงานกันเถอะ”
อีกคนได้แต่ส่งค้อนเล็ก ๆ ให้กับคนขอก่อนที่จะพูดว่า
“เราคุยเรื่องนี้กันแล้วนะคะ”
“แล้วเมื่อไรหนูมุนจะใจอ่อนยอมแต่งงานสักทีล่ะครับ”
“ขอเวลามุนอีกสักนิดนะคะ”
“ผมไม่รอนาน และก็ไม่รับรองด้วยจะบอกให้”
“คนเอาแต่ใจ มุนจะฟ้องคุณยาย”
“ฟ้องเลย คุณยายจะได้จับแต่งงานล่ะไม่ว่า” อีกคนบอกยิ้ม ๆ
“ใจเย็น ๆ นะคะ แค่ทเี่ ป็นอยู่นเี่ ราก็เหมือนกับแต่งงานกันแล้ว
นอนก็นอนห้องเดียวกัน ถึงจะคนละเตียงก็เถอะ เช้าคุณไปส่งมุนทำงาน
แถมบางวันยังตามไปทานข้าวกลางวันอีกด้วย”
“ก็ผมคิดถึงหนูมุนนี่ครับ”
“คิดถึงอะไร แค่ไม่เห็นหน้ากันวันละไม่กี่ชั่วโมงเอง นอกนั้นก็อยู่
ด้วยกันตลอด จนมุนกลัวว่าคุณจะเบื่อมุนขึ้นมาสักวัน”
520/559

“ไม่ สัญญาว่าจะไม่เบื่อ แต่เวลาจะพิสูจน์คำพูดของผมเอง หนูมุน


คอยดู ละกันครับ และถึงจะเห็นหน้ากันบ่อย ๆ ก็ยังคิดถึง นี่ถ้าไม่ติด
งาน ผมจะไปเที่ยวกับ หนูมุนด้วย” คนดื้อไม่ยอมจำนน คนพูดก็เลย
ได้แต่ก้มหน้ากับการเก็บกระเป๋าต่อ
“ความจริงเรื่องเดินทางไปสนามบินพรุ่งนี้ มุนขับรถไปจอดที่เจเอฟเค
เลยง่ายกว่า ไม่ต้องรบกวนเฟยนะคะตรัง เกรงใจเฟยจะแย่ ไหนจะช่วย
คุณทำงาน ไหนจะต้องมาดูแลมุนด้วย”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก เฟยมีหน้าที่ต้องดูแลหนูมุนอยู่แล้วไม่รู้หรือ”
ทำไมจะไม่รู้
ตั้งแต่คบกันเปิดเผย เฟยก็ตามติดหล่อนตลอดเวลา เขาบอกว่า
หล่อนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งของเนียมบา ถึงจะยังไม่สมบูรณ์ในตอนนี้
แต่มันจะไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ หัวใจดวงน้อย
ตื้นตันเกินจะกล่าว แล้วหัวใจดวงนี้จะทรยศเจ้าของได้อย่างไรกัน
สองพ่อลูกพร้อมเบียนยืนส่งหน้าคอนโดมิเนียม ละมุนมาศทิ้งกุญแจ
คอนโดมิเนียมเอาไว้กับเขา หลังจากที่กอดจูบรํ่าลากันจนพอใจแล้ว สอง
พ่อลูกก็ส่งสองแม่ลูกขึ้นรถ และละมุนมาศก็เห็นคนเป็นเจ้านายคุยกับ
ลูกน้องนานพอสมควร ก่อนที่ลูกน้องจะขึ้นมาบนรถ
รถฮัมเมอร์คันโตที่ขับโดยเฟยเคลื่อนออกจากคอนโดมิเนียม โดยมี
รถอีกคันขับตาม และก็แยกย้ายกันไปตามจุดหมายปลายทาง
521/559

เสียงแจ้ว ๆ ของคนตัวเล็กที่ตื่นเต้นกับการที่ได้ขึ้นเครื่องบินครั้ง
แรกดังไม่หยุด ละมุนมาศได้แต่ยิ้ม คุยกับคนขับรถบ้าง คุยกับคนตัวเล็ก
บ้าง
รถคันโตออกจากแอตแลนด์ตกิ ซิตี มุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติเจ
เอฟเค นิวยอร์ก (JFK International Airport) ในเวลาสองชั่วโมงครึ่ง
หลังจากที่จอดรถแล้ว เฟยก็จัดการนำกระเป๋าลงจากหลังรถ นั่นเองที่
ละมุนมาศเห็นกระเป๋าใบโตอีกใบหนึ่ง ซึ่งเฟยก็รับว่าเป็นของเขาพร้อมกับ
คำอธิบายที่ว่า
“เจ้านายให้ผมไปเที่ยวด้วย เพื่อดูแลมิสกับคุณหนูฟีนิกซ์”
ละมุนมาศได้แต่พยักหน้ารับ ในใจนึกถึงคนที่จัดการเรื่องนี้ ส่วนคน
ตัวเล็กที่รู้ว่ามีเพื่อนไปเที่ยวด้วยก็ดีใจ
“เย้ เฟยไปเที่ยวด้วย ดีใจจังเลย”
เครื่องบินโดยสารจากสนามบินเจเอฟเคถึงสนามบินเเอลเอเอกซ์
(ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส) ใช้เวลาในการบินหกชั่วโมงครึ่ง
ละมุนมาศรู้สึกอุ่นใจและขอบคุณที่มีคนของเขาตามมาด้วย พอออกมาจาก
เครื่องบิน เจ้านายก็โทร. หาลูกน้อง เฟยส่งต่อโทรศัพท์ให้กับละมุนมาศ
ยังไม่ทันได้ทักทายปลายสายก็ถามทันที
“หนูมุน การเดินทางเป็นอย่างไรบ้างครับที่รัก”
522/559

“ดีค่ะ ฟีตื่นเต้นจะแย่ ตอนเครื่องขึ้นก็เกร็งนิด ๆ แต่หลังจากนั้นก็


คุยจ้อกับเฟยค่ะ เสียดายที่คุณกับคารีนาไม่ได้มาด้วยกัน แต่ก็ขอบคุณ
มากนะคะตรัง ที่ส่งเฟย มาเที่ยวเป็นเพื่อนมุนกับฟี”
“ด้วยความยินดีครับ เฟยจะดูแลคุณและฟีอย่างดีที่รัก มีอะไรก็บอก
เฟย คิดถึงคุณจัง รักด้วย”
“รักเช่นกันค่ะ” บอกเขาด้วยเสียงแผ่วเบา แต่หัวใจกลับเต้นระรัวเร็ว
มือบางกดปิดเครื่องทันที ใบหน้าหวานร้อนผ่าวแดงกํ่า ยื่นโทรศัพท์คืนให้
กับเฟยพร้อมเสียงสัญญาณเรียกเข้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง เฟยกดรับก่อนจะยื่น
กลับมาให้อีกครั้ง นึกไม่อยากจะรับ แต่กเ็ กรงว่าคนของเขาจะสงสัย ก็เลย
จำเป็นต้องยื่นมือบางรับโทรศัพท์ ส่งเสียงแผ่วเบาลงไป
“ค่ะ”
“เมื่อกี้ที่คุณพูดจริงหรือที่รัก” นํ้าเสียงตื่นเต้นจากคนต้นสาย ทำให้
หัวใจไหวระริกทีเดียว
“...” เงียบไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี จนกระทั่งเขาถามยํ้าอีกครั้ง
“คุณพูดจริงหรือเปล่าที่รัก ตอบให้ผมชื่นใจหน่อย”
“ค่ะ” ตอบออกไปแล้วก็รู้สึกเขินตัวเอง หล่อนก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่า
หลุดปากบอกรักเขาไปได้อย่างไร อาจจะเป็นระยะทางที่ห่างไกลกัน
หรือเปล่าก็ไม่รทู้ ี่ทำให้กล้า แต่ที่แน่ ๆ ละมุนมาศรู้ว่าสิ่งที่บอกเขาออกไป
คือความจริงจากหัวใจ
523/559

“ขอบคุณมาก คุณทำให้ผมแทบจะอดใจไม่ไหวแล้วนะหนูมุน”
“เอ่อ แค่นี้นะคะ เฟยรออยู่ เราต้องไปรับกระเป๋า บายค่ะ”
“รักคุณเช่นกัน จุ๊บ” ปลายสายส่งจุ๊บตอบกลับมาให้ คนรับอุ่นซ่าน
เข้าไปถึงหัวใจ
เฟยจัดการนำทางทุกอย่าง จนละมุนมาศคิดว่าการมาเที่ยวพักผ่อน
ครั้งนี้ หล่อนแทบจะไม่ได้ทำอะไรด้วยตัวเองเลย เป็นแต่ผู้ตามเท่านั้น เขา
ขับรถจิ๊ปเช่าพาละมุนมาศและฟีนิกซ์ไปแวะรับประทานอาหารเย็นที่ร้านพิซ
ซ่าเล็ก ๆ แห่งหนึ่งไม่ไกลจากสนามบินแอลเอเอ็กซ์มากนัก เป็นร้านที่เขา
บอกว่า
“ทุกครั้งที่ผมหรือว่าเบียนมากับเจ้านาย จะต้องแวะมาทานพิซซ่าที่
ร้านนี้เสมอ เจ้าของร้านเป็นเม็กซิกันที่เปิดร้านนีม้ ากว่ายีส่ ิบปีแล้ว ลูกค้าจะ
มากขึ้นแค่ไหน ร้านจะยุ่งแค่ไหน เขาก็ไม่เคยคิดขยายร้าน คนในพื้นที่
ส่วนมากจะซื้อออกไปนั่งทานข้างนอก ไม่ค่อยมีคนนั่งทานในร้านเท่าไร
นอกจากพวกต่างถิ่นเท่านั้น เพราะว่าแขกจะต้องบริการตัวเอง ไม่มี
พนักงานเสิร์ฟ ความอร่อยของพิซซ่าทำให้คนกินไม่สนใจในเรื่องนั้น”
คำโฆษณาของเฟยไม่เกินความจริงเลยสักนิด คนตัวเล็กที่ได้กินพิซ
ซ่าอร่อยก็คิดถึงเพื่อนรักทันที
“อยากให้คารีนามากินด้วยกันจังเลย”
524/559

ละมุนมาศและเฟยได้แต่ยิ้ม เมื่อทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว รถจิ๊ปก็


เปิดหลังคารับลมในตอนเย็น ๆ คนที่เพิ่งจะเคยนั่งรถเปิดหลังคาเป็นครั้ง
แรกก็ตื่นเต้นหนักหนา ละมุนมาศมีความสุขที่เห็นคนตัวเล็กมีความสุขใน
โลกกว้าง พอขึ้นรถละมุนมาศก็ขอนั่งหน้าเป็นเพื่อนกับคนขับ คำตอบที่ได้
รับจากคนขับพร้อมรอยยิ้มบอกว่า
“เชิญนั่งข้างหลังดีกว่าครับ”
ละมุนมาศก็ไม่ต่อล้อต่อเถียง ยอมทำตามแต่โดยดี
“ว่าแต่เราจะไปไหนกันต่อคะ”
“เจ้านาย...เอ๊ย ไม่ใช่ครับ คุณยายบอกว่าแผนของมิสก็คือนัดเจอ
เพื่อนสนิท ท่านก็เลยจองโรงแรมไว้ให้ในแอนนาฮาม (Anaheim - เป็น
เมืองใน Orange County, California) อยูไ่ ม่ไกลจากบ้านเพื่อนมิส
ส่วนมิสจะทำอะไร นัดเพื่อนที่ไหน บัญชามาได้เลยครับ อีกสีค่ ืนพักที่
โรงแรมริมทะเล เล่นนํ้าทะเล หรือว่าจะไปเที่ยวเลโก้แลนด์ ดิสนีย์แลนด์
ฮอลลีวูด หรือยูนิเวอร์แซลสตูดิโอก็ตามสบายครับ แต่ถ้ามิสจะไปเที่ยว
ซานดีเอโกก็ขับรถไปได้ ไม่ไกลจากที่พักเท่าไร”
“เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ฉันขอเจอเพื่อนก่อน แล้วหลังจากนั้นเรามาดูกันอีก
ทีว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก่อนหลัง ถ้ามีเวลาเราก็ไปเที่ยวทุกที่นั่นแหละ ไหน ๆ
ก็มาถึงนี่แล้ว ขอบคุณค่ะเฟย ขอบคุณล่วงหน้าที่จะพาเที่ยว”
525/559

“ขอบคุณค่ะเฟย” เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้น เรียกรอยยิ้มจากหนุ่มหล่อคน


ขับรถได้เป็นอย่างดี
“ด้วยความยินดีครับ”
เฟยเดินเข้าไปในห้องพัก เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยและความ
ปลอดภัยให้กับละมุนมาศและฟีนิกซ์แล้ว เขาก็ขอตัวกลับห้องตัวเอง ซึ่งก็
อยู่ฝั่งตรงข้ามนั่นเอง
หลังจากจัดการให้คนตัวเล็กอาบนํ้าเตรียมตัวนอนแล้ว ละมุนมาศก็
โทรศัพท์หาเพื่อนสาวคนสนิท ซึ่งพอปลายสายได้รับก็กรี๊ดกร๊าดกลับมา
อย่างยินดี พร้อมกับต่อว่าเล็กน้อยที่หายหน้าหายตาไม่ติดต่อเป็นเวลา
หลายเดือน ซึ่งละมุนมาศก็ได้แต่หัวเราะ แก้ตัว และขอโทษ พร้อมกับนัด
เจอกันในวันรุ่งขึ้น
อาบนํ้าเสร็จแล้วกำลังจะปิดไฟเตรียมตัวนอน ก็มีเสียงโทรศัพท์เรียก
เข้า ละมุนมาศมองหน้าจอก็ต้องยิ้มอยู่คนเดียว พร้อมกับกดรับด้วย
เสียงหวาน
“ค่ะ”
“หลับหรือยังครับที่รัก”
“กำลังค่ะ”
“คิดถึงคุณจัง ผมต้องโทร. มาหา มาจูบคุณก่อน ไม่งั้นผมคงนอน
ไม่หลับเป็นแน่”
526/559

คำพูดของทางปลายสายทำให้คนฟังรู้สึกดียิ่งนัก
“อีกไม่กี่วันก็เจอกันแล้วนะคะ”
“แต่ผมก็ไม่ชอบที่ต้องห่างจากคุณ”
“ขอบคุณค่ะ คุณเข้านอนได้แล้วนะคะ ดึกแล้ว คารีนาล่ะคะ”
“อยูน่ ี่ค่ะ” เสียงเล็ก ๆ แทรกเข้ามา ละมุนมาศก็เลยต้องเปิดลำโพง
คนตัวเล็กได้ยินเสียงเพื่อนรักก็ถลาเข้ามาทันที
“คารีนา ยูเป็นไงบ้าง”
“ไม่เป็นไร แต่อยากไปเที่ยวกับฟีจังเลย แดดดีบ้ อกว่าให้แดดดี้
ทำงานเสร็จก่อนแล้วค่อยไปเที่ยว”
“ฟียังไม่ได้เที่ยวเลย มาถึงก็เข้าโรงแรม พรุ่งนี้ถึงจะออกไปเที่ยว”
คนตัวเล็กรายงานเพื่อนรัก ทำให้ละมุนมาศอดที่จะยิ้มไม่ได้
“แล้วฟีจะขอมามี้ซื้อของไปฝากคารีนานะ รออยู่ที่บ้านนะ บาย”
“ก็ได้” อีกคนรับปากหงอย ๆ
“คารีนาอยากได้อะไรบอกมามี้นะคะ มามี้จะซื้อไปฝาก”
ละมุนมาศถามเด็กหญิงตัวน้อย
“คารีนาอยากไปเที่ยวกับมามี้กับฟี” คำตอบที่ได้ทำเอาตอบไม่ถูก
คนเป็นแดดดี้ก็เลยเป็นฝ่ายปลอบใจลูกสาวแทน
527/559

“รอให้แดดดี้ทำงานเสร็จก่อนแล้วค่อยไปนะคนดี” พร้อมกับได้ยิน
เสียงตอบรับเบา ๆ
“ค่ะ”
“ที่รัก คุณพักผ่อนเถอะนะ ผมจะทำงานต่ออีกเล็กน้อย งานจะได้
เสร็จ เร็ว ๆ”
“ค่ะ อย่าทำงานหนักเกินไปนะคะ พักผ่อนด้วย กู๊ดไนต์”
“กู๊ดไนต์ รักคุณนะ”
“เช่นกันค่ะ บาย”
หลังจากวางโทรศัพท์มือถือแล้ว ละมุนมาศก็ซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืน
หนาทันที รู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า หัวใจที่เต้นแรงอย่างมีความ
สุข ดวงตาหวานหลับพริ้ม ทั้ง ๆ ทีไ่ ม่มีความรู้สึกว่าอยากหลับสักนิด แต่
ก็ต้องหลับตา เพื่อที่จะซึมซับความรู้สึกอ่อนหวานเข้าสู่หัวใจ
43
จู่โจม...หัวใจ

ละมุนมาศตื่นนอนตอนเช้าแบบสบาย ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา อาบ


นํ้าแต่งตัว เก็บกระเป๋า เพื่อเตรียมเช็กเอาต์ หลังจากที่ทานอาหารเช้าและ
รอเจอกับเพื่อนสาวคนสนิท
หลังจากทีต่ ะลอนเที่ยวกันมาทั้งวัน โดยผู้นำเที่ยวเจ้าถิ่นตั้งแต่ช่วง
สาย ๆ จนถึงคํ่า รับประทานอาหารคํ่ากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เช็กเอาต์เข้า
พักที่โรงแรมริมทะเลแล้วลินด์ซีก็ขอตัวกลับ แต่ก่อนจะกลับหล่อนก็
กระซิบในสิ่งที่ติดอยู่ในใจกับเพื่อนสาวคนสนิทเมื่อมีโอกาส
“ฉันอยากเห็นหน้าแฟนยูจริง ๆ นะมุน อยากรู้ว่าเขาหล่อขนาดไหน
ถึงได้ชนะใจเด็กสาวจากคอนแวนต์แบบยูได้น่ะ”
คำพูดของเพื่อนสนิททำให้ละมุนมาศหลุดหัวเราะออกมา
“ไม่ได้หล่ออะไรมากมายหรอก”
“หล่อกว่าสามีฉันหรือเปล่า”
“เอ่อ ไม่รู้สิ หล่อกันคนละแบบมั้ง”
529/559

“แต่งงานเมื่อไรอย่าลืมบอกนะ”
“บ้า เพิ่งจะคบกัน ยังไม่แต่งหรอก”
“ระวังไว้ให้ดเี ถอะ คนที่เคยบอกว่ายังไม่แต่งนะ แต่งก่อนเพื่อน
ทุกที”
“ยูไง” ลินด์ซีเลยหัวเราะเสียงดังเมื่อถูกย้อน
“นั่นสิ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปตอบตกลงแต่งงานกับรีดได้ไง
อารมณ์มันพาไปมั้ง ฮ่า ๆ ๆ”
เมื่อเพื่อนสาวคนสนิทกลับไปแล้ว ละมุนมาศก็อาบนํ้า เข้านอน แต่ก็
นอนไม่หลับ วันนีย้ ังไม่ได้รับโทรศัพท์จากใครบางคนเลย ยอมรับว่า
หล่อนรอโทรศัพท์เขามาทั้งวัน คิดว่าเขาจะโทร. มาหา มาถามไถ่ พูดคุย
กัน แต่กลับเงียบ นึกอยากจะเป็นฝ่ายโทร. ไปหา แต่ก็เกรงว่าจะเป็นการ
รบกวนการทำงานของเขามากเกินไป สุดท้ายก็ได้แต่รอ จากที่สังเกตวันนี้
ทั้งวันเขาก็ไม่ได้โทร. หาลูกน้องของเขาเช่นกัน
มีอะไร เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น หรือว่าทำงานหนักจนไม่สบายไปแล้ว
ก็ไม่รู้
หลากหลายความคิดที่กึกก้องอยู่ในหัวสมอง มองคนตัวเล็กที่ตอนนี้
หลับไปแล้ว ใบหน้าน้อย ๆ ทีไ่ ร้เดียงสามีความสุขสดใสที่ได้เห็นสิ่งต่าง ๆ
ในโลกกว้าง ละมุนมาศนึกดีใจที่พาคนตัวเล็กมาเที่ยวในครั้งนี้ ถึงแม้ว่า
530/559

หลายครั้งทีค่ นตัวเล็กสนุกและคิดถึงเพื่อนตัวน้อย แต่พอมีความตื่นเต้น


ใหม่ ๆ เข้ามาก็ลืมไป
คิดไปคิดมาตาก็เหลือบไปมองประตูห้องที่เป็นประตูเชื่อม ซึ่งเฟย
บอกว่าห้องปลอดภัย เพราะว่าจะมีกลอนล็อกทั้งสองด้าน แขกที่พักอีก
ห้องหนึ่งก็ไม่สามารถเปิดเข้ามาได้ ซึ่งละมุนมาศก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย
นอนพลิกไปพลิกมาหลับไปไม่รู้ตัว มารู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงเคาะ
ประตู ฟังจนแน่ใจแล้วก็รวู้ ่าเป็นเสียงเคาะที่มาจากประตูเชื่อมห้องนั่นเอง
ความรู้สึกกลัว ตื่นตัวขึ้นมาทันใด คว้านาฬิกาข้อมือที่วางอยูข่ ้างเตียงขึ้น
มาดูก็เป็นเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว
ใครนะดึกดื่นมาเคาะประตู มีสองอย่างเท่านั้น คือ คนร้าย หรือไม่ก็
ผี
เมื่อคิดว่าเป็นผี ร่างบางก็มุดเข้าใต้ผ้าห่ม คว้าร่างเล็กมากอดเอาไว้
แน่น แต่พอคิดได้ว่าน่าจะหยิบโทรศัพท์มาด้วย ก็เลยต้องยื่นมือออกไป
คว้าโทรศัพท์มาไว้ใต้ผ้าห่มด้วยกัน ถ้าเกิดไม่ชอบมาพากลจะได้โทร. ไป
เรียกเฟยมาช่วย
เสียงเคาะประตูยังดังอยู่ ไม่เท่านั้นยังมีเสียงเรียกชื่อเบา ๆ ด้วย
“หนูมุน” คนฟังรู้สึกว่ามันเยือกเย็นมากนัก ร่างบางก็แทบจะขดตัว
เป็นเลขศูนย์
“หนูมุน” พอตั้งใจฟังเสียงอีกครั้ง
531/559

ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
“หนูมุน ฟี” เสียงเรียกทั้งชื่อหล่อนและฟี ร่างบางก็เลยตัดสินใจลุก
จากเตียงคว้าเสื้อคลุมอยู่ปลายเตียงมาสวมอย่างรวดเร็ว และเดินไปที่
ประตูพร้อมตั้งใจฟังเสียงเรียก
“หนูมุน ฟี”
“ใครคะ” ส่งเสียงกลับไป
“ผมเอง” หัวใจทีต่ อนแรกสั่นสะท้านเพราะความกลัว ก็เปลี่ยนเป็น
เต้นเเรง ด้วยความตื่นเต้นดีใจ ใบหน้าสวยแต้มยิ้มเต็มใบหน้า เมื่อแน่ใจ
แล้วว่าเป็นใคร ก็กดปลดกลอนทีล่ ็อกออก ร่างของหล่อนก็ถูกอ้อมแขน
แข็งแรงคว้าเข้าสูอ่ ้อมกอด พร้อมกับริมฝีปากหยักอุ่นก็ตามแนบชิด
ความคิดถึง โหยหา ห่วงใย กังวลสารพัด ถูกขจัดออกไปด้วยรอยจูบที่
อ่อนหวาน แต่แฝงไปด้วยความเร่าร้อนจนแทบหลอมละลาย
ละมุนมาศไม่มีโอกาสได้คัดค้านหรือว่าต่อต้าน นอกจากปล่อยให้
หัวใจได้ทำงานตามที่มันต้องการ ลิ้นเรียวเล็กถูกลิ้นหนาใหญ่เกี่ยว
กระหวัดรัดรึงหยอกล้อด้วยเสน่หานานเท่านาน จนเท้าแทบยืนไม่ติดพื้น
หายใจแทบไม่เป็นกระบวน สองมือต้องยกขึ้นเกาะเกี่ยวบ่าหนาเอาไว้แน่น
พอเขาดึงริมฝีปากออก ละมุนมาศถึงได้มโี อกาสหายใจเต็มที่ เรี่ยวแรงที่มี
อยูห่ ายไป ต้องพิงร่างและซบแนบกับอกแกร่งของเขาเอาไว้ และร่างบางก็
ถูกเขาช้อนอุ้มขึ้นสู่อ้อมอก
532/559

“อุ๊ย ทำอะไรคะตรัง” ไม่มีคำตอบนอกจากคำว่า


“คิดถึงคุณจนแทบจะบ้า”
คำคิดถึงที่ได้รับรู้ทำให้หัวใจดวงน้อยปีติยิ่งนัก เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง
เขา ใบหน้าหวานก็ต้องร้อนผ่าวเมื่อสบกับดวงตาคูค่ มทีห่ วานเยิ้ม
เต็มไปด้วยเสน่หาอย่างเปิดเผยนั้น ร่างสูงแข็งแรงเดินผ่านห้องนอนของเขา
ไปยังห้องรับแขกที่อยู่ถัดไป วางร่างบางบนโซฟาพร้อมร่างสูงก็นั่งลงข้าง ๆ
“มาได้อย่างไรคะ”
“เร่งสะสางงานให้เสร็จแล้วก็พาลูกตามคุณมา ทนคิดถึงไม่ไหว ห่าง
แค่ วันเดียวผมทำงานแทบไม่รู้เรื่องเลย คารีนาก็เหงาหงอย ผมก็เลยต้อง
เร่งทำงาน”
หัวใจดวงน้อยกระโดดไร้จังหวะเมื่อรู้ว่าเขาก็คิดถึงหล่อนจนต้องตาม
มา
“แต่งงานกันเถอะนะหนูมุน” จู่ ๆ อีกคนก็พูดขึ้นมา ไม่พูดเปล่าแต่
เขาคุกเข่าลงบนพื้น ล้วงบางสิ่งบางอย่างออกมาจากระเป๋าเสื้อเชิ้ตลายสกอ
ตเล็ก ๆ นั่นพร้อมเปิดฝากล่อง
เพชรนํ้างามเม็ดโตที่ส่องประกายเจิดจ้าท่ามกลางความมืดสลัวของ
ราตรี ทำให้คนที่นั่งอยู่บนโซฟาตาโต มือสองข้างยกขึ้นปิดปากในท่าพนม
มือสั่นนิด ๆ ไร้ คำพูดใด ๆ นอกจากหัวใจที่สั่นไหว มึนงง คิดไม่ออก
ดวงตาคู่โตหวั่นไหว มือหนาหยิบสิ่งที่อยู่ในกล่องออกมา
533/559

“แต่งงานกันนะหนูมุน ผมไม่อยากรออีกแล้ว รักหนูมุน อยากอยู่


ใกล้ ๆ หนูมุน เป็นคนคนเดียวกัน รักและดูแลกันและกัน”
มือข้างที่ว่างของเขาดึงมือซ้ายของหล่อนไปจับเอาไว้ ลูบไล้แผ่วเบา
“เอ่อ...คือ”
“นะครับที่รัก” แต่ยังไม่ทันได้ตอบรับหรือว่าปฏิเสธ แหวนวงน้อยแต่
เพชรเม็ดโตก็ถูกสวมเข้านิ้วนางข้างซ้ายของหล่อน ความเย็นของแหวน
กระทบกับผิวเนื้อ ทำให้ละมุนมาศรู้สึกตัว หัวใจดวงน้อยสั่นระรัว สับสน
ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ได้แต่มองหน้าเขา คนที่นั่งอยูท่ ี่พื้นก็ลุกขึ้น
มานั่งข้าง ๆ อ้อมแขนแข็งแรงรวบเอา ร่างบางเข้าสู่อ้อมกอด จูบที่ข้างแก้ม
ก่อนที่จะไล้เรื่อยไปกดจูบแรง ๆ ที่ริมฝีปากอิ่มเนิ่นนานก่อนจะบอกว่า
“ขอบคุณนะที่รัก ขอบคุณที่รับรักผม ว่าแต่ทำไมไม่เห็นพูดอะไรเลย
หือ ไม่ดีใจหรือ”
“ก็...”
“อย่าบอกว่านะว่าหนูมนุ ตกใจจนพูดไม่ออก” เขาพูดพร้อมกับกลั้ว
หัวเราะ
“มันก็จริงนี่คะ จู่ ๆ คุณก็มาหาแบบไม่คิดไม่ฝัน แล้วยังมา...เอ่อ
ขอแต่งงานกลางดึกด้วย จะไม่ให้มนุ ตกใจได้ไง” คนหน้าหวานส่งค้อนให้
อีกคนหัวเราะเบา ๆ
“ดีแล้วที่ตกใจ ไม่งั้นผมคงโดนปฏิเสธแน่ ๆ ว่าแต่คุณดีใจ”
534/559

“ไม่รู้สิคะ มุนยังงงอยู่ นี่หมายความว่าคุณหมั้นมุนหรือคะ”


คำถามนั้นทำให้คนฟังรัดอ้อมแขนดึงร่างบางขึ้นนั่งบนตัก ยื่นหน้า
ผ่านบ่าบอบบางไปกระซิบข้างหูว่า
“ถูกแล้วครับ ผมหมั้นหนูมุนแล้ว และก็จะแต่งงานกันในอนาคต”
“แต่งเลยหรือคะ”
“ก็แต่งนะสิ กลับไปนี่ก็จัดการเรื่องแต่งงานเลย ผมไม่รอแล้ว ถ้า
ต้องให้รอ รับรองได้ว่าคุณได้เข้าหอก่อนเข้าพิธีแต่งงานแน่ ๆ หรือไม่ก็
ท้องโย้คลอดลูกก่อนได้แต่งงานก็ไม่รู้ ทางที่ดีตกลงแต่งงานเสียโดยดี”
คนที่ถูกรวบรัดได้แต่ถอนหายใจค้อนให้แรง ๆ แต่หัวใจตื้นตันนัก
ขนาดขอแต่งงาน เขายังทั้งขู่ ทั้งปลอบ แต่หนักไปทางขู่มากกว่า
สรุปแล้วไม่ว่าอย่างไรก็ต้องแต่งงาน ในเมื่อเขาจริงใจตามมาขอแต่งงานถึง
ที่นี่แล้ว หัวใจหล่อนก็เป็นของเขาแล้ว ไม่แต่งคงไม่ได้แล้ว
“เงียบไปเลย คิดอะไรหรือเปล่า”
“คิดว่าจะแต่งดีหรือเปล่าน่ะค่ะ”
“ห้ามแม้แต่จะคิดปฏิเสธ ไม่งั้นคืนนี้คุณไม่รอดแน่” ชายหนุ่มแกล้ง
กระซิบเสียงพร่า ทำเอาคนบนตักรีบพยักหน้า ก็เลยได้รับจูบแผ่วเบาที่ข้าง
ลำคอ ทำเอาคนถูกจูบแทบจะอ่อนระทวย ดีที่เขาหยุดก่อน
535/559

“ขอบคุณครับ ว่าง่าย ๆ อย่างนี้น่ารักจริง ๆ ว่าที่ภรรยาผมนี่ เออ


ว่าแต่คุณชอบแหวนไหมหนูมุน แหวนนี้เป็นของโบราณที่คุณยายได้มาจาก
คุณตา โดยส่งต่อให้กับมัมและมัมก็ให้ผมมาให้คุณ ส่วนแหวนของผมจะ
ให้คุณตอนที่เราแต่งงานกันนะ”
“เอ่อ มัมกับคุณยายรู้เรื่องนี้ด้วยหรือคะ”
“ตอนแรกทีผ่ มรู้ว่าคุณจะมาเที่ยว เพราะคุณยายบอก ผมก็กะจะพา
ลูกมาตามตื๊อคุณ ให้ลูกช่วย ตอนนั้นเรายังไม่ได้คบกันเป็นเรื่องเป็นราว
แต่พอเราเข้าใจกัน คบกัน หลังจากที่คุณแม่คุณจากไป ผมก็ฉวยโอกาส
นั้นเข้าถึงคุณกับลูก และอยู่ด้วยกันทุกวันทุกคืน พอคุณจากมาวันเดียว
ผมก็รู้สึกว่าทนไม่ได้ แผนก็เปลี่ยนเป็นหมั้นและขอแต่งงานแทน”
คนทีไ่ ด้ฟังเหตุผลและเรื่องราวตื้นตันใจจนพูดไม่ออก นํ้าตาคลอ
หน่วยตา คนได้ทีก็รุกต่อ
“ผมง่วงจังเลย ขอนอนกอดคุณได้ไหมคืนนี้”
เมื่อโดนไม้นี้เข้า ที่กำลังซึ้ง ๆ อยูห่ ายไปทันที ใบหน้าหวานหันไป
เผชิญกับคนพูด
“พูดอยู่แหมบ ๆ ง่วงได้ไงคะ”
“ไม่ง่วงได้ไงครับ เมื่อคืนผมทำงานกับเบียนไม่ได้นอนเลยก็ว่าได้
จนถึงเวลาขึ้นเครื่อง นะ นะ ผมขอนอนกอดอย่างเดียว ฉลองหมั้น
เพราะรู้ว่าทำอย่างอื่นไม่ได้” อีกคนยังอ้อนต่อพร้อมเหตุผล
536/559

“ไม่ได้ค่ะ พรุ่งนี้เด็ก ๆ ตื่นขึ้นมาเห็นเข้าจะตกใจ” อีกคนปฏิเสธ


อย่างเร็ว แต่คนฟังค้านว่า
“ผมว่าเด็ก ๆ จะดีใจมากกว่า เพราะว่าคารีนามาที่นี่ก็ไม่รวู้ ่าผมจะ
พามาเจอฟีกับมามี้ เซอร์ไพรซ์น่ะ นะ นั่งรอผมอยูต่ รงนีส้ ักครู่นะครับ”
รวบรัดตัดความแล้วก็ลุกจากไป
ละมุนมาศไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร ได้แต่นั่งรอ ก้มลงมองแหวนทีส่ วม
อยู่ที่ นิ้วนางข้างซ้ายและก็ถามตัวเองว่า
มือนี้ข้างซ้ายใช่ไหม นิ้วนางซ้ายมีไว้สำหรับสวมแหวนหมั้น เขาก็
บอกยํ้าแล้วว่าหมั้นและจะแต่งงาน หล่อนกำลังจะเข้าสู่เหตุการณ์นั้น
ตอนนีไ้ ม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ หล่อนรู้สึกทั้งดีใจ ตื่นเต้น
สับสน ไม่แน่ใจ อยากร้องไห้ในเวลาเดียวกัน
คิดแล้วก็ส่ายศีรษะไม่อยากจะเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง ๆ มันเกิดขึ้น
รวดเร็ว จำได้ว่าเขาเคยถามหล่อนแล้วเรื่องแต่งงาน หล่อนก็ตอบไปแล้ว
แต่เป็นการตอบทีเล่น ทีจริง ไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมแบบตั้งตัวไม่ทันอย่างนี้
แถมแหวนวงนี้ยังเป็นแหวนของ คุณยายของคุณแม่เขาอีกด้วย
คิดหนักจริง ๆ ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงได้เกิดขึ้นรวดเร็วอย่างนี้
หล่อนมัวแต่ครุ่นคิดเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น จนลืมคิดถึงเรื่องรอบตัว
พอเงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ ห้องก็พบว่ามีแต่ความเงียบ ไม่เห็นแม้แต่
เจ้าของห้อง ได้ยินเสียงนํ้าในห้องนํ้าละมุนมาศคิดไม่ตกว่าควรจะทำ
537/559

อย่างไรดี กลับห้องของตัวเองหรือว่ารอเขาตามที่เขาบอกเอาไว้ ขณะที่


กำลังคิด ประตูห้องนํ้าก็เปิดออก หันไปมองก็พบกับร่างสูงแข็งแรงที่มี
กางเกงบ็อกเซอร์อยู่บนเรือนร่างตัวเดียว คนมองได้แต่ตาโต หน้าร้อนผ่าว
ขึ้นมาทันใด ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ และร่างบางเด้งลุกจากโซฟาทันใด
“เอ่อ กู๊ดไนต์ค่ะ” บอกราตรีสวัสดิ์แล้วก็เดินตัวลีบกำลังจะผ่านเขา
แขน แข็งแรงก็ตวัดคว้าร่างบางเอาไว้เสียก่อน
“ตรังอย่าทำอย่างนี้นะ” เสียงสั่น ๆ ห้าม พยามยามดึงร่างตัวเองให้
หลุดจากอ้อมแขนของเขา
“ปล่อยก่อนค่ะ ดึกแล้ว คุณเดินทางมาถึงเหนื่อย ๆ นอนได้แล้วนะ
คะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
“ไม่เอา ผมจะคุยคืนนี้”
“แต่มุนง่วงแล้วค่ะ”
“ก็นอนด้วยกัน”
“นอนได้ไงคะ มุนได้นอนทับคารีนาแน่ ๆ”
“ทับได้ไง คารีนาไม่ได้อยู่บนเตียงห้องนี้สักหน่อย” พอได้ยินเขาพูด
อย่างนั้น ละมุนมาศหันไปมองที่เตียงก็พบว่าบนเตียงว่างเปล่า
“ผมย้ายลูกไปนอนกับฟีแล้ว พรุ่งนี้รับรองตื่นขึ้นมาสองคนนั้นต้อง
ดีใจ แน่ ๆ” ละมุนมาศได้แต่ค้อนให้กับคนเจ้าคิดเจ้าแผนการ
538/559

“แต่มันไม่เหมาะ”
“เราเป็นคู่หมั้นกันนะครับหนูมุนที่รัก”
“มันไม่ถูกต้อง”
“ไม่รลู้ ะ ผมไม่ยอมนอนคนเดียวแน่ ๆ” คนเอาแต่ใจก้มลงอุ้มร่าง
บางเดินไปทีเ่ ตียงกว้าง แอบมองใบหน้าหวาดหวั่นของคนในอ้อมกอดไป
ด้วย อดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงไปจูบแก้มเนียนแรง ๆ พร้อมกับคำสัญญา
“ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรหนูมุนนอกจากนอนกอดเฉย ๆ”
“สัญญาจริง ๆ นะคะ” คนที่ยังหวั่น ๆ ยํ้าคำสัญญา
“จริงครับ แต่ถ้าผมทำอะไร ผมยอมให้หนูมุนเอาคืนสองเท่าสามเท่า
เลยก็ได้”
คำตอบนั้นทำให้คนรับสัญญาส่งค้อนให้อย่างแรง ฟังแล้วก็รวู้ ่า
ขาดทุนทบแล้วทบอีก
อ้อมแขนแข็งแรงผ่อนร่างบางลงบนเตียงกว้าง ห่มผ้าให้พร้อมมุด
ตัวเองเข้าไปในผ้าห่มด้วยกัน
“ตรัง”
“ครับ”
“คุณจะไม่ใส่ชุดนอนก่อนหรือคะ”
539/559

“ใส่แล้วครับ นี่แหละชุดนอนผม ปกติถ้านอนคนเดียวผมไม่ใส่


เสื้อผ้านะ”
คำตอบนั้นทำให้คนฟังหัวใจเต้นแรงจนแทบจะกระโจนออกมานอก
อก ได้แต่ปิดปากเงียบ อ้อมแขนแข็งแรงตวัดรัดเอวบางเอาไว้แน่นนอน
ซ้อนอยูด่ ้านหลัง ปล่อยลมหายใจที่ทำให้ร่างกายอันเร่าร้อนของเขา
ผ่อนคลาย นึกอยากจะจูบคนใน อ้อมกอด แต่กร็ ู้ว่าถ้าทำแล้วจะเป็นเขา
เองทีเ่ จ็บปวด จนอาจจะต้องบังคับเอากับอีกคน สุดท้ายก็ได้แต่จูบทีเ่ รือน
ผมนุ่ม
“กู๊ดไนต์มายเดียร์ เลิฟยู”
“กู๊ดไนต์”
นึกอยากจะทวงคำบอกรัก แต่คารีโนคิดว่าแค่ได้นอนกอดตัวเป็น ๆ
แค่นี้ก็ดีมากแล้วสำหรับสาวไทยหวงตัวคนนี้ นึกอยากจะให้คืนนี้เป็นคืน
แต่งงาน ทีเ่ ขาจะได้ทำอะไรตามใจตัวเอง ยิ่งเห็นอีกคนอยูใ่ นชุดคลุมเซ็กซี่
ทีเ่ ขาซื้อให้ครั้งก่อน แล้วก็นึกวาดภาพชุดนอนที่หล่อนสวมอยูข่ ้างในแล้ว
ลมหายใจก็ติดขัดขึ้นมาทันที ความปรารถนาในอารมณ์ตีตื้นขึ้นมาจนแทบ
จะระงับเอาไว้ไม่ได้
ส่วนคนที่นอนหันหลังให้เขา ก็รู้สึกได้ถึงกระแสความร้อนที่แผ่
กระจายอยูท่ ั่วแผ่นหลัง ส่งมายังหัวใจทีพ่ ยายามจะควบคุมให้สงบ เสียง
ลมหายใจแรงถี่ของเขาทำให้หัวใจของหล่อนสั่นสะท้าน
540/559

“หนูมุนนอนเฉย ๆ นะ อย่าดิ้น ไม่อย่างนั้นเราได้พรีฮันนีมูน (Pre


Honeymoon - ดื่มนํ้าผึ้งพระจันทร์ก่อนแต่ง) กันแน่ ๆ” เสียงสั่นพร่า
ดังขึ้นหลังใบหู คนที่ถูกขอร้องเกร็งตัวขึ้นมาทันใด จนทำให้อีกคนนึก
เอ็นดู
“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ นอนสบาย ๆ เถอะ เฮ้อ ไม่คิดว่ามันจะ
ทรมานได้ขนาดนี้ หนูมุนไม่เห็นใจผมจริง ๆ หรือครับที่รัก” เสียงพูดพรํ่า
พรรณนาอย่างน่าสงสารนั้น ทำให้อีกคนหมุนตัวกลับมา ใบหน้าหวาน
เผชิญกับใบหน้าคมเข้มในความมืด กระซิบบอกเขาว่า
“รออีกไม่นานค่ะ อดทนนะคะ ถึงเวลานั้นมุนจะตามใจคุณทุกอย่าง
นอนหลับพักผ่อนได้แล้วค่ะ พรุ่งนี้จะได้พาเด็ก ๆ เที่ยว” พูดจบก็ยื่น
ริมฝีปากไปจูบที่ ริมฝีปากหยักแผ่วเบา ก่อนจะหมุนร่างกลับนอนหันหลัง
ให้เหมือนเดิม คนตัวโตที่ถูกปลอบให้นอนหลับได้แต่ส่ายหน้ายิ้มกว้าง รัด
ร่างบางเข้าแนบชิด
“รักหนูมนุ นะครับที่รัก ใจแข็งจริง ๆ ถึงเวลาแล้วไม่ตามใจผมเป็น
เรื่อง แน่ ๆ” ตอนท้ายประโยคได้แต่อุบอิบกับตัวเอง คนฟังได้แต่ยิ้มใน
ความมืด
ร่างบางที่ถูกร่างสูงแข็งแรงกอดกระชับที่ต่างคนต่างคิด คนหนึ่ง
หวั่นไหว หวาดหวั่น กลัวใจตัวเองจะอ่อนแอยอมพ่ายแพ้ต่อความต้องการ
ของร่างกายทั้งของเขาและของตัวเอง ส่วนหัวใจก็เต้นแรงจนแทบจะหายใจ
541/559

ไม่ออก กลิ่นเนื้อหนุ่มแน่นผสมกับกลิ่นสบู่ กลิ่นแชมพูสระผม


ล้วนแล้วแต่ทำให้ลมหายใจสะดุด จนต้องค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออก
ส่วนอีกคนก็ได้แต่สูดดมความหอมบนเรือนผมนุ่ม พยายามที่จะ
เข้าใจคนในอ้อมกอด เพียงเพื่ออยากให้อีกคนได้ภูมิใจในตัวเอง ได้ทำใน
สิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ ถึงแม้ว่าเขาจะปวดร้าวแค่ไหน แต่เพื่อคนที่รักแล้วก็ต้อง
ยอมทน ด้วยการพยายามเก็บมือไม้ให้นิ่งที่สุด ทั้ง ๆ ที่ร่างกายและ
อารมณ์ของเขากระเจิดกระเจิงจนกู่ไม่กลับแล้ว เขาต้องบอกตัวเองว่า
อดทน อดกลั้น รอเมื่อถึงเวลา คิดได้ดังนั้นก็รู้สึกผ่อนคลาย ไม่นานนัก
คนทีอ่ ดนอน สะสางงานก่อนที่จะเดินทางตามมา และคนที่ตะลอนเที่ยว
ทั้งวันก็เข้าสู่นิทรา
ละมุนมาศนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้งคืน จนมีความรู้สึกว่าแทบจะไม่ได้
นอนเลยก็ว่าได้ พอเริ่มเห็นความสว่างของท้องฟ้า ก็รีบลุกจากเตียงกลับ
ห้องทันที เดินผ่านเตียงที่มสี องร่างเล็ก ๆ นอนอยู่ด้วยกันแล้วก็อดที่จะ
ยิ้มไม่ได้ แค่คิดว่าคนตัวเล็กของหล่อนจะดีใจแค่ไหนที่รวู้ ่าเพื่อนรักตามมา
เที่ยวด้วยกัน ไม่ใช่แค่คนตัวเล็กเท่านั้นที่ดีใจ หล่อนเองก็ดใี จจนหัวใจ
พองคับอกเลยทีเดียวก็ว่าได้
อาบนํ้าแต่งตัวเตรียมพร้อมกับการท่องเที่ยวในวันใหม่ เตรียมเสื้อผ้า
ให้คนตัวเล็กเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งดูแผนที่ สถานที่ที่น่าสนใจทั้งหลาย
เสียงร่างเล็กบนเตียงพลิกตัวหลายครั้งแต่ยังไม่ยอมตื่น แต่สุดท้ายก็
ลืมตาและก็ตาโตทันใด เมื่อเห็นอีกคนนอนอยู่ข้าง ๆ
542/559

“คารีนา คารีนา ตื่น ๆ”


มือเล็กเขย่าร่างนั้นอย่างแรง
“ตื่น ๆ”
“อือ” คนถูกเรียกยังงัวเงียไม่ยอมลืมตาตื่น
“คารีนาตื่นหรือยัง”
“โน”
“ตื่นได้แล้ว นี่ มาได้อย่างไร” คนทีต่ ื่นเต้นได้เพื่อนเที่ยวตาสว่างโดย
ไม่ต้องล้างหน้า
“ลืมตามาคุยกันเดี๋ยวนี้นะ”
คนตัวเล็กอีกคนลุกขึ้นนั่งลืมตาตื่นอย่างเชื่องช้างัวเงียแล้วก็ตาโต
ใบหน้าน้อย ๆ แสดงความดีใจอย่างชัดเจน กระโดดเข้ากอดเพื่อนรัก
“ฟีมาอยู่ที่นี่ได้ไง”
“ฟีสิต้องถามยู ว่ามาอยู่บนเตียงฟีได้ไง”
“คารีนาขึ้นเครื่องบินมากับแด๊ดดีก้ ับเบียน แล้วก็หลับและตื่นมาเจอ
กับฟี นี่ไงล่ะ”
“เย้ ดีใจจังเลย เราจะได้เที่ยวด้วยกันไง มามี้คะ มามี้เห็นคารีนา
หรือยังคะ” เสียงเล็กๆ เรียกไปยังคนเป็นมามี้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างหน้าต่าง
“เห็นแล้วค่ะ มอร์นิงฟี/มอร์นิงคารีนา”
543/559

“มอร์นิงมามี้” สองเสียงเล็ก ๆ สดใสนัก


“ถ้าตื่นแล้วก็อาบนํ้าแต่งตัวค่ะ ทานอาหารเช้าแล้วเราจะได้ไปเที่ยว
กัน”
“เย้ ไปเที่ยว” สองร่างถลาลงจากเตียง คนหนึ่งไปเข้าห้องนํ้า อีกคน
ยังเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้จะไปทางไหน ละมุนมาศก็เลยบอกว่า
“คารีนาจะไปอาบนํ้าที่ห้องแดดดี้หรือจะอาบกับฟีคะ”
“อาบกับฟี แต่คารีนาไม่มีชุดค่ะ”
“มามี้จะหาชุดให้นะคะ”
“ขอบคุณค่ะมามี้” ริมฝีปากเล็กยื่นไปแตะที่แก้มเนียนแรง ๆ ภาพ
นั้นอยู่ในสายตาของคนเป็นบิดาที่เดินมาหยุดตรงประตูเชื่อมห้องพอดี
“งั้นไปอาบนํ้ากับฟีนะคะ”
ร่างเล็กวิ่งเข้าไปในห้องนํ้าแล้ว ละมุนมาศก็แอบย่องผ่านประตูเข้าไป
ยังอีกห้อง และก็ต้องตกใจแทบจะร้องกรี๊ดออกมา เมื่อร่างของหล่อนโดน
อ้อมแขนปริศนาดึงเข้าสู่อ้อมกอด ทั้งยังไม่มโี อกาสได้เปล่งเสียงออกมา
เพราะริมฝีปากอิ่มถูกปิดด้วยริมฝีปากอุ่นนุ่มที่บดเคล้าอย่างเอาแต่ใจ
จนกระทั่งพอใจจึงถอนริมฝีปากออก แต่ก็ยังอ้อยอิ่งและเล็มรอบ ๆ
ปากหวานอย่างหลงใหล จนอีกคนต้องยกมือขึ้นผลักใบหน้าหล่อเหลานั้น
ออก
“พอได้แล้วค่ะ มุนจะมาหาเสื้อผ้าให้คารีนานะคะ”
544/559

“แล้วแดดดี้ของคารีนาล่ะครับ ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย”
คำบอกของเขาทำให้อีกคนตาโต เพิ่งจะมีโอกาสได้มองเขา ก็พบว่า
อีกคนยังนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวอยู่เลย ใบหน้าหวานร้อนซ่านขึ้นทันใด รีบ
ดึงตัวเองออกมา
“มุนไปหาให้ค่ะ” ร่างบางเดินก้มหน้างุดไปยังตู้เสื้อผ้า คารีโนเดิน
ตามรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นอีกคนตื่นเต้น ตาโต หน้าแดง เขินอาย
กระแสความร้อนที่แผ่กระจายอยู่ที่แผ่นหลังผ่านเข้าสู่หัวใจ ทำให้คน
ทีก่ ำลังเลือกเสื้อผ้ารีบคว้ากางเกงขาสั้นที่อยู่ใกล้มือที่สุด และก็แทบจะ
สะดุดลมหายใจของ ตัวเอง เมื่ออ้อมแขนแข็งแรงพร้อมบางสิ่งบางอย่างใน
มือของเขาวางแนบอยู่ที่หน้าท้องของหล่อน คางของเขากดลงบนบ่าเล็ก
ลมหายใจอุ่น ๆ กับริมฝีปากนุ่มก็แตะเบา ๆ ที่ข้างแก้ม
“ผมมีอะไรจะให้คุณอีกอย่างนะที่รัก นี่ไง”
สิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าท้องของหล่อนก็คือ กระเป๋าสะพายใบไม่เล็กนัก
ทีต่ ัดเย็บด้วยผ้าโลโก้ของ Liz พร้อมกับคำอธิบายทีท่ ำให้คนฟังหัวใจพอง
โตคับอก
“กระเป๋ารุ่นนีม้ ีใบเดียวในโลกทีอ่ อกแบบด้วยมือของผมเอง ขอมอบ
ให้มาดามเนียมบาในอนาคตครับ”
มาดามเนียมบาในอนาคตรู้สึกเขินเล็ก ๆ กับคำเรียกขานของเขา
545/559

“ขอบคุณค่ะตรัง ขอบคุณมาก สวยมากค่ะ” หันหน้ากลับไปขอบคุณ


เขา ก็ได้รับจูบหนักหน่วงเป็นการตอบแทน พอถอนริมฝีปากออกเขาก็บอก
ว่า
“เมื่อตอนเช้าผมโทร. ไปบอกคุณยาย มัม แดดแล้ว ว่ากลับไปนี่เรา
จะแต่งงานกัน ทุกคนดีใจกันใหญ่เลย”
“อุ๊ย คุณบอกท่านแล้วหรือคะ”
“ครับ บอกแต่เนิ่น ๆ จะได้เตรียมงานถูก ว่าแต่เมื่อคืนแอบหนีจาก
เตียงตอนไหนฮึ อย่างนี้ต้องโดนทำโทษอย่างหนัก” ยังไม่ทันที่นักโทษจะ
โดนทำโทษ เสียงวิ่งตึงตังพร้อมสองเสียงก็ประสานกันเรียกขึ้นเสียก่อน
“มามี้ ๆ ๆ”
นักโทษหน้าหวานก็เลยยิ้มอย่างมีชัย คนจะทำโทษก็เลยจูบแรง ๆ ที่
บ่าเนียน ก่อนคว้ากางเกงขาสั้นในมือบางมาสวมอย่างรวดเร็ว
“มามีอ้ ยู่ห้องนีค้ ่ะ” สิ้นเสียงตอบรับ ร่างเล็ก ๆ สองร่างกับผ้าขนหนู
พันตัวพะรุงพะรัง ผมเปียกโชกก็วิ่งเข้ามาหา
“แดดดี้/แดดดี้” สองร่างถลาเข้าหาร่างสูงใหญ่ที่ยังเปลือยหน้าอก
ร่างสูงย่อตัวลงรับสองร่างเล็ก ๆ นั้นเข้าสู่อ้อมกอด
“จุ๊บ/จุ๊บ คิดถึงแดดดี้จังเลยค่ะ”
546/559

“แดดดี้กค็ ิดถึงฟี คิดถึงมามี้ด้วย ก็เลยต้องรีบทำงานและตามมา”


ปากบอกเด็ก ๆ แต่สายตาหวานส่งไปยังละมุนมาศแทน ทำเอาคนที่ได้
สบตาต้องรีบหาทางออก
“ฟี คารีนา เช็ดผม เป่าผม แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนนะคะ เราจะได้
ลงไปทานอาหารเช้าแล้วก็ไปเที่ยวกัน” คำว่าเที่ยวทำให้สองสาวดิ้นลงจาก
อ้อมกอดและแยกย้ายกันไปแต่งตัว สองหนุ่มที่ยืนรออยูน่ อกห้องเตรียม
ตัวทันทีที่ประตูห้องนอนของเจ้านายเปิดออก ภาพทีเ่ ห็นก็คือ สองสาวน้อย
ถลาออกมานอกห้องก่อนใคร ตามด้วยเจ้านายที่ใบหน้ายิ้มแย้ม ส่วนสาว
สวยที่เจ้านายจูงมือหน้าเป็นสีชมพูทีเดียว
“ไฮ เบียน/ไฮ เฟย” สองสาวน้อยน่ารักทักทายอย่างแจ่มใส สอง
หนุ่มยิ้มกว้างทักทายตอบ
ทีโ่ ต๊ะอาหารเช้าของโรงแรม ผู้เป็นเจ้านายก็ประกาศข่าวดีให้ทุกคน
ได้รับทราบ คนตัวเล็กสองคนตื่นเต้นดีใจที่แดดดี้กับมามี้จะแต่งงานกัน
เหตุผลก็คือจะได้มนี ้อง ทำเอามามี้หน้าแดงแปร๊ด ส่วนลูกน้องทั้งสองก็
แสดงความยินดีพร้อมคำนับนายหญิง ทำเอานายหญิงทำตัวแทบไม่ถูก ดี
ที่คนข้าง ๆ คอยดูแล
การท่องเที่ยวพักร้อนครั้งนี้ของละมุนมาศและคนตัวเล็กไม่ได้เหงา
หรือว่าสนุกเดียวดาย เพราะว่ามีสองพ่อลูกติดตามคอยดูแล ห่วงใย และ
เป็นเพื่อนเล่น โดยเฉพาะคนสนิททั้งสองที่ดูแลเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสอง
547/559

แทนอย่างรู้ใจ ปล่อยให้เจ้านายและนายหญิงได้มโี อกาสเรียนรู้ ใกล้ชิด


แสดงความรักกันสองคนตามประสา
หัวใจดวงน้อยรู้สึกมีความสุขจนแทบล้นกับการเอาใจใส่ดูแลของเขา
มือหนาเกาะเกี่ยวเกาะกุมมือเล็กเอาไว้ไม่เคยให้ห่างกาย เขาเอาใจใส่ทั้ง
หล่อนและคนตัวเล็กไม่ต่างกัน ไม่ว่าเมื่อวานหรือว่าวันนี้ เขาเคยปฏิบัติ
อย่างไร ที่ผ่านมามันยิ่งมากขึ้น ทุกวัน คนตัวเล็กก็รักเขาและมีความสุข นี่
คือสิ่งทีล่ ะมุนมาศต้องการ ครอบครัวที่ไม่ใช่ของหล่อนคนเดียว แต่เป็น
ของคนตัวเล็กด้วย
44
หัวใจ...ครอบครัว...เดียวกัน

หลังจากทีก่ ลับมาจากแคลิฟอร์เนีย ละมุนมาศก็กลับไปทำงานต่อ


และก็ลาแต่งงาน พร้อมทั้งลาออกด้วย ลินดาเพื่อนร่วมงานคนสนิทก็
โอดครวญและอิจฉาเล็ก ๆ แต่ก็ยินดีกับเพื่อนที่ได้พบรักและแต่งงาน
การลาออกจากงานเป็นการขอร้องของว่าที่เจ้าบ่าว ที่ต้องการให้ว่าที่
เจ้าสาวได้มเี วลาให้กับครอบครัวและลูก ๆ แต่ถ้าอยากทำงานก็ให้ช่วย
ธุรกิจของสามี ซึ่ง ละมุนมาศก็เห็นด้วยและยอมรับ
และทันทีที่มิสมินต์รู้เรื่องแต่งงานของอดีตลูกน้องที่กำลังจะกลายเป็น
เจ้านายก็โทร. มาหา พร้อมกับคำอวยพรยืดยาว เพื่อนร่วมงานทีเ่ วียดเฮาส์
ต่างก็อวยพร
คารีโนก็จัดการเรื่องการแต่งงานทันที ซึ่งสถานที่แต่งงานที่เจ้าบ่าว
เลือกด้วยความเห็นชอบของว่าที่เจ้าสาวก็คือ ฟาร์ม เนียมบา โดยคุณยาย
กลีบบัว คุณลิซาเบธ ท่านไนฮัว ก็สนับสนุนให้จัดงานแต่งงานตามฤกษ์
สะดวกตามใจคนอยากแต่ง ซึ่งว่าที่เจ้าสาวมีเวลาเตรียมตัวแค่สองอาทิตย์
เท่านั้น
549/559

สำหรับเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองที่รับรู้เรื่องนี้กต็ ื่นเต้น ดีใจเป็น


อย่างยิ่งทีจ่ ะได้ย้ายไปอยู่บ้านเดียวกันแบบถาวร ดีใจที่จะมีแดดดี้ มามีอ้ ยู่
ร่วมกันเป็นครอบครัว จะได้มีน้องน้อย ๆ คุณยายกลีบบัวดีใจที่ได้หลาน
สะใภ้ถูกใจ บิดามารดาก็ดีใจทีล่ ูกชายเลือกแต่งงานกับคนที่รัก เพื่อสร้าง
ครอบครัวที่อบอุ่นต่อไป
ไม่ว่าจะเตรียมงานแต่งยุ่งแค่ไหน คารีโนก็มีเวลาสำหรับว่าที่เจ้าสาว
และ เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองเสมอ โดยตอนเย็นจะทานอาหาร ดูโทรทัศน์
อ่านหนังสือก่อนนอนร่วมกัน และก็ส่งเด็ก ๆ เข้านอนกับมามี้ โดยมี
ข้อแม้ที่เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองยอมรับ นั่นก็คือ
หลังแต่งงานแล้วจะนอนกับมามี้และแดดดีไ้ ม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะมี
น้องตัวน้อยให้ไม่ได้
เด็กหญิงทั้งสองก็รับปากเป็นอย่างดี เพราะว่าอยากมีน้องตัวน้อย
เหมือนกับเพื่อน ๆ โดยเด็กหญิงคารีนาขอน้องผู้หญิง เด็กหญิงฟีนิกซ์ขอ
น้องผู้ชาย ผู้เป็นแดดดี้ได้แต่ยิ้มกริ่มบอกว่าจะจัดการให้
ละมุนมาศเดินทางไปบ้านฟาร์มสองวันล่วงหน้าก่อนวันพิธีพร้อม
เด็กหญิงทั้งสองในการเตรียมตัว สองวันที่หล่อนและเขาไม่ได้เจอหน้ากัน
เพราะว่าความห่างไกล และคารีโนก็ต้องการที่จะสะสางงานให้ได้มากที่สุด
ก่อนที่บิดาจะมาดูแลแทนช่วงที่เขาดื่มนํ้าผึ้งพระจันทร์กับเจ้าสาว
ห้องฟ้าหลังบ้านทีใ่ ช้เป็นห้องแต่งตัวและพักผ่อนของเจ้าสาว ที่ตอนนี้
กำลังแต่งตัวและให้ช่างแต่งหน้าเติมความสวยในวันสำคัญของชีวิต โดยมี
550/559

สาวน้อยสองคนที่อยู่ในชุดสีขาวสะอาดฟูฟ่องกรอมเท้าราวกับเจ้าหญิงน้อย
ๆ บนศีรษะเล็ก ๆ นั่นก็คาดด้วยทีค่ าดผมลายลูกไม้สีขาวเดิน ๆ นั่ง ๆ
วนเวียนอยู่ข้างกายเจ้าสาว
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
เสียงเคาะประตูดังขึ้น สองสาวน้อยวิ่งถลาไปหาพร้อมกับเสียงถาม
“แดดดี้ค่ะ เปิดประตูให้แดดดี้หน่อยได้ไหมคะ”
“ไม่ได้ค่ะแดดดี้ คุณทวดไม่ให้เปิดจนกว่าจะถึงเวลาค่ะ” ลูกสาวตัว
น้อยเป็นคนตอบ
“แดดดี้รอหน่อยนะคะ อีกไม่นานแล้วค่ะ” เด็กหญิงฟีนิกซ์ช่วย
ปลอบ
แล้วสองสาวก็หัวเราะกันคิกคัก ทั้งสองทำตามคำบอกของคุณทวดที่
บอกว่า
ดูแลมามี้ อย่าเพิ่งให้แดดดี้เจอมามี้นะ มันยังไม่ถึงเวลา
ละมุนมาศได้แต่อมยิ้ม ตั้งแต่เขามาถึงหลังเที่ยงก็แวะเวียนมาเคาะ
ประตูห้อง แต่ก็ไม่ได้เข้ามา เพราะสองสาวน้อยทำตามคำบอกอย่าง
เคร่งครัด
หัวใจดวงน้อยตื่นเต้นมากนัก ไม่เจอหน้าเขาสองวันแล้ว ได้ยินแต่
เสียงทางโทรศัพท์ พอคิดถึงเสียงโทรศัพท์มือถือข้างตัวก็ดังขึ้น ละมุนมาศ
ขอเวลาคนแต่งหน้ายกโทรศัพท์มากดรับ
551/559

“ค่ะ”
“หนูมุนที่รัก เป็นอย่างไรบ้าง คิดถึงจัง อยากเห็นหน้า แต่ลูก ๆ ไม่
ยอม” เสียงโอดครวญที่ดังมาตามสาย ทำให้คนเป็นเจ้าสาวถึงกับหัวเราะ
คิกทีเดียว
“ช่วยกันทรมานผมหรือไงครับ ระวังโดนเอาคืน”
เมื่อได้ยินคำขู่ ใบหน้าสวยก็แดงระเรื่อทันที ในใจก็นึกหวาดหวั่น
“แค่นี้นะคะ ช่างรอแต่งหน้าอยู่ เดี๋ยวเจ้าสาวไม่สวยไม่รู้ด้วยนะคะ”
“รักนะครับ จุ๊บ” คนหน้าแดงกดปิดโทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะ และก็
พยักหน้าให้ช่างมาแต่งหน้าต่อ
“มามีส้ วยจังเลยค่ะ เหมือนกับเจ้าหญิงเลย” ฟีนิกซ์เข้ามากอดร่าง
ของ ละมุนมาศที่อยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ส่วนอีกคนก็ไม่น้อยหน้า
“แดดดี้เห็นต้องจุ๊บมามี้แน่ ๆ เลย” คำพูดไร้เดียงสา แต่ทำให้คนฟัง
รู้สึก เขินอาย ยิ่งอีกคนคาดโทษเอาไว้ด้วย
“ฟีกับคารีนาก็สวยมากเลยค่ะ ชุดก็สวย”
“แต่โตขึ้นฟีจะใส่ชุดเหมือนกับมามี้นะคะ”
“คารีนาด้วยค่ะ”
“รอให้โตก่อนนะคะ”
“ค่ะ/ค่ะ”
552/559

งานแต่งงานของลูกชายเจ้าของธุรกิจผู้มั่งคั่งกับเจ้าสาวคนสวย ที่ต้อง
เชิญแขกเหรื่อมาร่วมเป็นสักขีพยานทั้งคนรู้จักในแวดวงธุรกิจและเพื่อนฝูง
คนรู้จักจำนวนกว่าสองร้อยคน
สนามหญ้ากว้างหน้าบ้านตอนนี้เปลี่ยนเป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน
ดอกไม้ที่จัดในงานจำนวนมากเป็นดอกไม้จริง ที่ถูกนำมาปลูกก่อนหน้านั้น
ด้วยคำสั่งของเจ้าบ่าว หลังจากที่เจ้าสาวตกปากรับคำแต่งงาน ซึ่งกำลังออก
ดอกสะพรั่งสวยงามราวกับสวนสวยในเทพนิยาย รอบ ๆ มีการจัดซุ้มด้วย
ไม้ดอกสารพัดชนิดที่เป็นเถาเกาะเกี่ยวพันเลื้อยไปตามความโค้งของซุ้ม
มองดูให้ความสดชื่นมีชีวิตชวา มีเก้าอี้สำหรับแขกที่มาร่วมพิธีจัดเป็นสอง
แถว แถวตรงกลางให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินผ่านไปยังบาทหลวงผู้ทำพิธี
เมื่อถึงเวลาฤกษ์สะดวกที่แดดร่มในยามเย็น เจ้าบ่าวไปยืนรออยู่แล้ว
บนเวที พร้อมกับเพื่อนเจ้าบ่าวที่อยู่ในชุดสูทสีดำสนิท ส่วนเจ้าบ่าวอยูใ่ น
ชุดทักซิโด้สีดำหรูหรา เสื้อเชิ้ตสีขาว สวมทับด้วยเสื้อกั๊กสีดำ หูกระต่ายสี
ดำ ผมตัดสั้นสะอาดสะอ้าน ใบหน้าหล่อเหลาสดใสยิ้มแย้ม
เสียงเพลงมาร์ชดังขึ้น เจ้าสาวในชุดสีขาวลูกไม้ฝรั่งเศสเกาะอก ตัว
กระโปรงยาวกรอมเท้าทรงเอที่มีหางยาวเล็กน้อย ที่คอประดับด้วยสร้อย
เพชรเส้นโต เอวคอดผูกด้วยผ้าซาตินสีขาวบริสุทธิ์ปลายชายไว้ด้านข้าง
คลุมหน้าด้วยผ้าลูกไม้ชนิดเดียวกัน มือทั้งสองกำช่อดอกไม้ดอกเล็กสีขาว
สวยงาม เดินนำหน้าด้วยเด็กหญิงคารีนาที่ทำหน้าที่โปรยกลีบดอกกุหลาบ
ตามหลังด้วยเด็กหญิงฟีนิกซ์ที่ถือตะกร้าดอกไม้
553/559

หัวใจดวงน้อยสั่นระรัว ทั้งประหม่า ตื่นเต้น จนแทบจะทำอะไรไม่


ถูก ได้แต่บอกตัวเองให้เดินตามคนโปรยดอกไม้ไปเรื่อย ๆ ทางสั้น ๆ ที่
ดูเหมือนกับยืดยาว เหลือเกิน ท่ามกลางสายตาหลายร้อยคู่ที่มองจ้องมา
หลายคนส่งยิ้มให้กำลังใจ หลายคนซุบซิบพูดคุย ละมุนมาศรู้สึก
หวาดหวั่น แต่วันสำคัญของชีวิตหล่อนจะต้องทำให้ดีที่สุด
บริเวณหน้าเวทีเจ้าบ่าวหันมาเหลือบมองเจ้าสาวเล็กน้อย และก็
หันกลับด้วยใบหน้าอมยิ้มเขิน ๆ หน้าขึ้นสี ในขณะเพื่อนเจ้าบ่าวทั้งสองก็
แอบยิ้มให้แก่กัน พอ เจ้าสาวเดินไปถึง เจ้าบ่าวก็หันมายื่นมือรับมือเจ้าสาว
แล้วจูงให้ขึ้นไปยืนใกล้ ๆ กันต่อหน้าบาทหลวง อดไม่ได้ที่จะยิ้มส่งให้
หัวใจที่เต้นระทึกรู้สึกผ่อนคลายลงเมื่อยืนอยู่เคียงข้างกับเขา
พิธีการต่าง ๆ ผ่านพ้นไปด้วยดี เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวพร้อมกระซิบบอก
ว่า
“ภรรยาใครสวยจัง”
คนสวยได้แต่ยิ้มหน้าแดง หลังจากพิธีทางศาสนาแล้ว ก็เป็นการถ่าย
รูปครอบครัว เจ้าบ่าวยิ้มแก้มแทบปริ เจ้าสาวยิ้มน้อย ๆ แต่พองาม
แขกเหรื่อที่มาร่วมงานก็ได้รับเชิญเข้าสู่งานเลี้ยงแบบกลางแจ้ง ซึ่งก็
อยูต่ ิดกับบริเวณงานพิธี อากาศในตอนเย็นกำลังดี ท้องฟ้าที่สดใสในฤดู
ร้อน อาหารจึงเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ (Buffet - การจัดเลี้ยงอาหารที่ผู้กิน
สามารถตักอาหารได้เอง) ที่ผู้จัดการเวียดเฮาส์เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
554/559

เจ้าบ่าวเจ้าสาวซึ่งเป็นสามีภรรยาหมาด ๆ เดินทักทาย พูดคุย


ขอบคุณ ถ่ายรูปกับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานอย่างทั่วถึง สองมือของคู่
แต่งงานใหม่เกาะเกี่ยวประสานกันอยู่ตลอดเวลา อิ่มหนำสำราญกับอาหาร
เลิศรสจากภัตตาคารหรูแล้ว คู่สามีภรรยาใหม่ก็เปิดฟลอร์เต้นรำ
ร่างบางงดงามในชุดเจ้าสาวที่ตอนนี้ได้เก็บหางชุดแล้วอยู่ในอ้อมกอด
ของ เจ้าบ่าว ความเหมาะสมและงดงามไม่เท่ากับใบหน้าที่เปื้อนยิ้มกับ
แววตาอ่อนโยนอบอุ่นคู่นั้น ทีท่ อดมองเจ้าสาวด้วยความรู้สึกทั้งหมดของ
หัวใจ
ละมุนมาศตัวสั่นน้อย ๆ ในอ้อมแขนอบอุ่นของเขา หล่อนแทบจะไม่
รู้ว่าเป็นเพลงอะไร หัวใจเต้นระทึก ยิ่งได้สบตากับดวงตาคมเข้มที่เปิด
เปลือยหัวใจและความรู้สึกของเขาแล้ว ร่างบางก็ยิ่งหวั่นไหวมากยิ่งขึ้น
“ดีใจที่มีวันนี้ อยากจะบอกว่าขอบคุณที่แต่งงานกับผม ขอบคุณที่จะ
ดูแลเราพ่อลูก ขอบคุณที่ไม่รังเกียจพ่อลูกติดคนนี้”
เจ้าสาวหัวเราะคิกก่อนที่จะตอบว่า
“มุนก็ขอบคุณที่แต่งงานกับมุน ขอบคุณที่ไม่รังเกียจแม่ลูกติดอย่างมุ
น”
ถึงเวลาที่เจ้าบ่าวหัวเราะบ้าง
“เราจะมีน้องให้ฟีกับคารีนากี่คนดี ฮึ...ที่รัก” คำถามของเจ้าบ่าวทำให้
เจ้าสาวตาโตทีเดียว เพราะไม่คิดว่าเขาจะถามในตอนนี้
555/559

“ทำไมมาพูดตอนนี้คะ เรายังเต้นรำกันอยู่เลย”
“ที่ผมพูดตอนนี้ก็เพราะว่า...” ปลายเสียงเปลี่ยนเป็นกระซิบข้างหู
แทน อีกคนก็หน้าแดงแปร๊ดใจสั่นขึ้นมาทันที คนกระซิบยิ้มนัยน์ตา
กรุ้มกริ่มหวานส่งให้
“ว่าไงครับ ตกลงกันก่อน ผมจะได้ทำได้ถูก”
“บ้า...ตรัง พูดอะไรก็ไม่รู้”
“ผมขอสามได้ไหม” อีกคนไม่ตอบ คนถามก็เลยเป็นฝ่ายเสนอแทน
“สามคนเลยหรือคะ”
“สามคู่ต่างหาก”
“หา !” เจ้าสาวตาโตกว่าเดิมเมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้าบ่าวเลยหัวเราะ
แล้วก็ก้มลงจูบกระหม่อมเป็นการปลอบขวัญ พร้อมกับอ้อมกอดทีร่ ัดร่าง
บางเข้าแนบชิด กระซิบข้างหูเบา ๆ
“รักคุณนะ”
“รักคุณเช่นกัน รักที่สุด” คำตอบแผ่วเบา แต่ก้องกังวานอยูใ่ น
โสตประสาทของคนฟัง ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มก่อนที่จะก้มลงประทับ
กับริมฝีปากอิ่ม ท่ามกลางเสียงปรบมือของผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ฟลอร์
เจ้าสาวเขินอายจนแทบจะมุดเข้าไปในอกกว้างของเจ้าบ่าว
556/559

หลายชั่วโมงกว่าที่งานเลี้ยงจะเลิกรา เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองได้รับ
อนุญาตให้อยู่ดึกได้ถึงสี่ทุ่ม พอถึงเวลานอนก็มาจูบลาแดดดี้และมามี้
พร้อมกับคำขอที่ทำให้แดดดี้ยิ้มกริ่ม แต่มามี้หน้าแดง
“อย่าลืมน้องของฟีนะคะ/อย่าลืมน้องของคารีนานะคะ”
เมื่อถึงเวลาเข้าหอ คุณยายกลีบบัวซึ่งยังถือประเพณีไทย ก็ปูที่นอน
ร่วมกับลูกสาวลูกเขยเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พร้อมกับคำอวยพรมากมาย
ที่มอบให้กับคู่แต่งงานใหม่
หลังจากประตูห้องหอปิดลง พร้อมกับร่างสูงแข็งแรงก็ช้อนร่างบางใน
ชุด เจ้าสาวแสนสวยขึ้นสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว จนคนที่ไม่ทันตั้งตัวร้อง
ด้วยความตกใจ
“ว้าย ตรัง ทำอะไรคะ ยังไม่ได้อาบนํ้าเลยนะ”
“ไม่ต้องอาบแล้วครับที่รัก คุณยังหอมไปทั้งตัว ผมรอเวลานี้มานาน
แค่ไหนแล้วหนูมนุ ตั้งแต่เจอหนูมุน ผมยังไม่ได้มีอะไรกับสาว ๆ ที่ไหน
เลย รอแต่หนูมนุ คนเดียวครับที่รัก” คนที่หวั่นไหว หวาดหวั่น ตื่นแต้น
และหวาดกลัวกับสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตก็ตัวสั่น นึกอยากจะขอเวลา
ทำใจ แต่ก็รู้ว่าอีกคนอดทนเพื่อหล่อนมาตั้งนาน
ร่างบางถูกผ่อนลงบนเตียงกว้าง ละมุนมาศรับรูว้ ่าอากาศภายใน
ห้องเย็นจัดทีเดียว ใครเป็นคนปรับอุณหภูมิในห้องตํ่าขนาดนี้กันหนอ
“แอร์เย็นจังเลยค่ะตรัง”
557/559

“รับรองว่ามันจะอุ่นขึ้นครับที่รัก เชื่อผม รักหนูมุนนะครับ” คำรักจบ


ลงพร้อมริมฝีปากหยักได้รูปที่กดลงบนริมฝีปากอิ่มอย่างอ่อนโยน
อ่อนหวาน ปิดคำพูดที่จะตามมาของคนที่กำลังหวาดกลัว หวาดหวั่นได้
เป็นอย่างดี
คารีโนรับรู้เรื่องนีจ้ ากคุณยายที่เตือนเขาไว้ก่อนแล้ว มันยิ่งทำให้เขา
ตื่นเต้นทีจ่ ะได้สัมผัสกับความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เขาจึงใจเย็นที่จะนำพา
คนในอ้อมกอดไปสู่ความสุขร่วมกัน
สัมผัสทางกายที่อ่อนโยนทะนุถนอม ทำให้คนได้รับความรักรู้สึกได้
ถึงความอบอุ่น อ่อนหวาน ที่ถ่ายทอดจากร่างหนาสู่ร่างบาง
กระแสธารแห่งความรักไหลวนเวียนอย่างไม่รู้จบสิ้น ความรักที่อีก
ฝ่ายมอบให้กับคนในอ้อมกอดอย่างไม่มวี ันเหือดหาย สายใยรักทีร่ ้อยด้วย
หัวใจสองดวงถักทอแน่นหนาและสวยงาม ชีวิตคู่อีกคูห่ นึ่งที่เริ่มต้น
ขึ้น...เป็นครอบครัว ครอบครัวที่เริ่มต้นด้วยแดดดี้...มามี้...ลูก ๆ...และก็จะ
มีลูก ๆ อีกหลายคนตามมา...ในอนาคต
- จบบริบูรณ์ -
@Created by PDF to ePub

You might also like