Professional Documents
Culture Documents
ประเมินค่าเรื่องสัน
้
เรื่อง ถึงคราจะหนีไกลไปจากลำคลองสายนัน
้
เสนอ
ครูลินจง จุลสายพันธ์
ผู้จัดทำ
นายรพีภัทร หิมพาน
เลขที่ ๕ ชัน
้ มัธยมศึกษาปี ที่ ๖.๓
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนเพชรพิทยาคม
ก
คำนำ
รายงานเล่มนีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของวิชาภาษาไทย ๕ (ท๓๓๑๐๑) ชัน
้
มัธยมศึกษาปี ที่ ๖ โดยมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่องสัน
้
ถึงคราจะหนีไกลไปจากลำคลองสายนัน
้ ซึง่ รายงานเล่มนีม
้ ีเนื้อหาเกี่ยวกับ
ความรู้จากกลวิธีการนำเสนอเรื่อง เนื้อหาและแนวคิด การใช้ภาษา และ
คุณค่าของเรื่อง
ผู้จัดทำได้เลือกศึกษาเรื่อง ถึงคราจะหนีไกลไปจากลำคลองสายนัน
้
ขอขอบพระคุณ ครูลินจง จุลสายพันธ์ เป็ นอย่างสูงที่กรุณาตรวจและให้
คำแนะนำเพื่อแก้ไขตลอดการทำงาน ผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนีจ
้ ะมี
ประโยชน์และเป็ นแนวทางการศึกษาสำหรับผู้อ่าน ถ้าผิดพลาดประการ
ใดผู้จัดทำขออภัยมา ณ ที่นี ้
นายรพีภัทร หิมพาน
ผู้จัดทำ
ข
สารบัญ
หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
๑.เรื่องย่อ ๑
๒.เนื้อหาและแนวคิด ๑
๓.กลวิธีนำเสนอเรื่อง ๑
โครงเรื่อง ๑
แก่นเรื่อง ๑
การดำเนินเรื่อง ๑
ฉาก ๑
ค
ตัวละคร ๑
บทสนทนา ๑
๔.การใช้ภาษา ๒
๕.คุณค่าของเรื่อง ๒
๖.บรรณานุกรม ๓
๗.ภาคผนวก ๔
1
ประเมินคุณค่าเรื่องสัน
้ “ ถึงคราจะหนีไกลไปจากลำคลองสาย
นัน
้ ”
๑. เรื่องย่อ
ผู้หญิงกับลูกๆที่มีฐานะยากจน ซึ่งมีอาชีพขอทานเพื่อเลีย
้ งชีพไปวันๆ
เธอต้องจำใจทนอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมรอบๆบ้านที่เป็ นพิษ ผูค
้ น
มั่วสุม จนวันนึงเธอได้รู้ว่าสภาวะแวดล้อมที่เป็ นแหล่งมั่วสุมเหล่านีก
้ ำลัง
ส่งผลกระทบต่อลูกๆของเธอเธอจึงพาลูกๆหนีออกไปจากริมคลองแห่งนี ้
๒. เนื้อหาและแนวคิด
มีเนื้อเรื่องหาที่น่าติดตามและแนวคิดเกี่ยวกับสภาพปั ญหาสังคม
เมือง ชวนให้ผู้อ่านมีความรู้สึกอยากติดตามว่าเรื่อง “ ถึงคราจะหนีไกลไป
จากลำคลองสายนัน
้ ” จะมีการดำเนินเรื่องต่อไปอย่างไร เป็ นเรื่องสัน
้ เรื่อง
ที่ ๓ จากทัง้ หมด ๑๓ เรื่อง ในหนังสือ เรื่อง เจ้าขุนทอง...จะกลับมาเมื่อ
ฟ้ าสาง ของ อัศศิริ ธรรมโชติ ซึ่งได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอด
เยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ปี ๒๕๒๔
๓. กลวิธีนำเสนอเรื่อง
เรื่องนีม
้ ีกลวิธีนำเสนอเรื่องที่น่าสนใจ ดังนี ้
๑). โครงเรื่อง
เนื้อเรื่องกล่าวถึงผูห
้ ญิงคนหนึ่งกับลูกๆของเค้าที่มีฐานะยากจน มี
อาชีพขอทานเพื่อเลีย
้ งชีพไปวันๆ พวกเขาอาศัยอยู่ที่บ้านกระท่อมใต้
สะพานที่มีแค่เพียงสังกะสีล้อมเก่าๆรอบกับมุ้งกันยุงเก่าๆพอเป็ นที่ซุก
หัวนอน บริเวณริมคลองที่มีกลิ่นเหม็นอับ น้ำเน่า สภาพแวดล้อมรอบๆ
บ้านของเธอมีหญิงที่เป็ นโสเภณี จนวันนึงลูกสาวของเธอนัน
้ ได้พูดว่าอยาก
ที่จะเป็ นเหมือนสาวโสเภณีข้างบ้านเธอทนไม่ได้ที่จะเห็นลูกต้องนอนกับ
2
ชายไม่ซ้ำหน้า จึงต้องรีบพาลูกๆออกจากสภาพแวดล้อมแบบนัน
้ เรื่องสัน
้
เรื่องนี ้ สะท้อนให้เห็นถึงปั ญหาด้านสภาพปั ญหาสังคมเมือง ความไม่เท่า
เทียมกันของคน
๒). แก่นเรื่อง
ผู้แต่งต้องการเสนอก็คือ ชีวิตที่ของที่มีฐานะยากจน อาศัยอยู่ใน
สภาพแวดล้อมที่เป็ นพิษ ซึงผลกระทบต่อสภาพจิตใจและร่างกาย ส่งผล
ให้พวกเค้าเป็ นปั ญหาของต่อสังคมซึง่ จริงๆแล้วพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
เลยแต่พวกเขาไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงปั ญหานัน
้ ได้ต่างหาก
๓). การดำเนินเรื่อง
มีการเปิ ดเรื่องเรื่องที่น่าสนใจ เนื้อเรื่องเริ่มต้นผู้เขียนผูกปมไว้กับ
เรือให้ผู้อ่านได้คิดสงสัยว่าเรือที่ว่านัน
้ คือเรืออะไรกันแน่ทำไมแม่ถึงไม่
อยากให้ลูกขึน
้ และเนื้อเรื่องก็ได้เล่าเกี่ยวกับปั ญหาที่แม่และลูกๆต้องเจอ
และไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงมันได้ แต่ในสุดท้ายผู้เป็ นแม่ก็ไม่สามารถทนเฉย
กับปั ญหาเหล่านีต
้ ่อไปได้เพราะมันกำลังที่จะเข้ามาในตัวลูกๆของเค้าเค้า
จึงพาลูกหนีออกจากสภาวะแวดล้อมเหล่านี ้
๔). ฉาก
บ้านกระท่อมในสะพาน, ริมลำคลอง
๕). ตัวละคร
แม่ , ลูกชาย , ลูกสาว(น้อย) , ดาวเรือง(สาวโสเภณีข้างบ้าน)
๖). บทสนทนา
สอดคล้องกับเนื้อเรื่องและแสดงให้เห็นถึงลักษณะนิสัยบาง
ประการของตัวละคร
๔. การใช้ภาษา
3
ภาษาที่นำมาใช้เขียนเรื่องมีความเหมาะสมกับเหตุการณ์ในเรื่อง อ่าน
เข้าใจง่าย สามารถใช้ภาษาสร้างสรรค์อารมณ์ให้ผู้อ่าน โดยผ่านทางบท
สนทนาของตัวละครได้หลากหลายอารมณ์ เช่น “ อีห่...! พูดมากเดี๋ยวตบ!
แสดงให้เห็นว่าตัวละครนัน
้ มีอารมณ์รุนแรง เป็ นต้น และมีการใช้ประโยค
แบบบรรยายในการสร้างบรรยากาศให้เกิดความสมจริง เห็นภาพได้
ชัดเจนมากขึน
้ เช่น เขาต่อบุหรี่ให้แม่เสร็จสรรพแล้วส่งให้ หล่อนอัดเอา
ควันแรง ๆ แล้วพ่นฉุยโรยหายไปในความมืด
๕. คุณค่าของเรื่อง
เรื่องสัน
้ “ ถึงคราจะหนีไกลไปจากลำคลองสายนัน
้ ” มีคุณค่า ดังนี ้
๑. ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน
๒. ได้เห็นถึงสภาพปั ญหาสังคมการเมือง
๓. ได้เห็นว่าผู้ที่มีฐานะยากจนในสังคมเมืองนัน
้ ต้องยอมรับสภาพอย่าง
ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยง
๔. ได้เห็นถึงสภาพความเป็ นอยู่วิถีชีวิตที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
เรื่องนีน
้ ับเป็ นเรื่องสัน
้ ที่ให้ข้อคิดว่า แม้คนจะอาศัยอยู่ในตัวเมือง
เหมือนกันแต่มีความแตกต่างกันเป็ นอย่างมาก มีการแบ่งชนชัน
้ ซึง่ ทำให้
เกิดปั ญหาด้านการเท่าเทียมกันและปั ญหาต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็ น
สภาพแวดล้อมความเป็ นอยู่ ปั ญหาด้านจิตใจ ด้านสุขภาพ ด้านความคิด
เป็ นต้น
4
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
7
“ ถึงคราจะหนีไกลไปจากลำคลองสายนัน
้ ”
หล่อนเรียกลูกมากอดไว้ในวงแขนแล้วบอกลูกว่าคราวหลังอย่าลงไป
เล่นในเรือพรรค์นน
ั ้ อีก มันไม่ดี พอลูกขยับปากจะถามอะไรอีกต่อไป
หล่อนก็ตัดบท
“ เข้าบ้านดีกว่า” หล่อนลุกขึน
้ แล้วจูงลูกสาวตัวเล็ก ๆ เดินกลับ
บ้าน
เรียกมันว่าบ้านมานานหลายปี แล้ว นานจนรู้สึกไปว่ามันเป็ นบ้าน
จริงๆ อันที่จริงมันเป็ นเพียงฝาลังกับสังกะสีตกกระเก่าคร่ำปะติดปะต่อก่อ
ขึน
้ เป็ นรูปทรงง่าย ๆ ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ของสะพานน้ำคร่ำสิ่งก่อสร้างที่รอ
8
“ วันนีฉ
้ ันได้กับข้าวมาหลาย ” ลูกชายชีไ้ ปที่ถุงพลาสติกกองรวมอยู่
กับฝา
“ ฉันคลานไปตามใต้โต๊ะหลบ ไอ้หน้าเหีย
้ มเฝ้ าประตูเข้าไปได้เกือบ
จะได้ไก่ทอดมาด้วยละแม่ เขากำลังจะลุกจากโต๊ะพอดีเลือกแย่งกันเอง ไอ้
หน้าเหีย
้ มเลยเข้ามาเอะอะ เสียดาย ไม่งน
ั ้ ได้มากกว่านี.้ ..แม่หุงข้าวเข้า
ซี...”
“ เดี๋ยวอุ่นกับข้าวของเอ็งก่อน ” แม่ว่า
กระท่อมขยับไหวเพราะแรงสะเทือนจากรถที่แล่นผ่านสะพานไป...
อากาศเมื่อโชยกลิ่นน้ำคร่ำของลำคลองให้เหม็นอับ
อบขึน
้ ไปทั่ว แสงไฟสลัวสองลอดเข้าได้สะพานนัน
้ กระทบน้ำเกิดเงางาม
อยู่กับความมืด กระท่อมฝาลังกับสังกะสีเพื่อนสนิมประกอบเป็ นรูปทรง
ง่ายๆสามสี่หลังยืนเคียงกัน ดูตะคุ้มไปตามแนวของคลอง เสียงครืนครัน
จากความสะเทือนเบื้องบนเมื่อรถผ่านไปมาทำให้สังกะสีกับฝาลัง
ขยับเขยื้อนและส่งเสียงเสียง รถวิ่งเสียงกดแตร และเสียงนกหวีดเป่ าไกล
ออกไป เป็ นเสียงคุ้นเคยที่ตงั ้ ได้ยินภายในบ้านได้สะพานของหลอนและ
เพื่อนบ้าน
หล่อนนอนตะแคง เท้าดอกไว้กับพื้นไม้เก่า เอามืออีกข้างโอบลูกคน
เล็กที่หลับพับอยู่กับอก นอนฟั งเสียงรถ เสียงแตรและเสียงนกหวีดค่อย
เบาบางจางหายเอาเมื่อใกล้เพลาดึก นาน ๆ ครัง้ สะพานจะสั่นและรู้สก
ึ ว่า
กระท่อมขยับไหว แต่เสียงดนตรีกับเสียงกระทบดังกรุ๋งกริ๋งจากฝั่ งคลอง
ตรงข้ามได้ยินดังครัง้ นักเสียงดนตรีคือเพลง เสียงแก้วกระทบกันคืออาหาร
น้ำ และเหล้า หล่อนถอนใจยาวพลางเหลือบตาผ่านประตูที่เปิ ดอ้าเอาไว้
10
ลำคลอง ผูช
้ ายคนแล้วคนเล่าไม่ว่า หนุ่ม แก่ หรือเด็กรุ่น ผลัดกันมานั่งหัว
เรือให้ลูกชายมาหายไปทางคูลึก ตรงกลางลำเรือที่คลุมปกด้วยม่านหม่น
ลูกสาวของหล่อนจะนอนกอดกับผู้ชายหลายหน้าหลายคาและซ้ำ ๆ อยู่
ของทุกค่ำทุกคืน
หล่อนนึกถึงหน้ากากยางที่เป็ นรูปเสือ จะร้อยยางให้ลูกในวันพรุ่งนี-้
ความโหดร้ายของชีวิตที่หล่อนพบพานมาแล้วมีรอยเขีย
้ วรอยเล็บนัน
้ ยิ่ง
กว่าเสือจริงๆเสียอีก หล่อนจะปล่อยให้ลูกสาวที่รักตัง้ หัวใจของตนเป็ น
อย่างนัน
้ ได้อย่างไร
“ ฉันพายเรืออย่างน้ำดาวเรืองได้ไหม ” เสียงของลูกสาวหล่อนนึก
ได้ มันเมื่อเช้านีเ้ อง
“ ไม่ได้หรอก เอ็งไม่สวย เอ็งต้องโตกว่านี ้ มีสีแดงที่มากที่เล็บ และ
ที่แก้ม ตอนนีเ้ อ็งยังพายไม่ไหว ถึงพายได้กไ็ ม่มีผู้ชายนั่งเรือของเอ็ง ” พี่
ชายว่า
“ เถอะ! ฉันจะพายให้ได้ฉันจะพายเรือให้ได้และให้สวย ”
ลูกสาวว่า...
ความคิดฉับพลันผ่านเข้ามาในสมอง หัวใจตระหนกหวั่นหวาดนัน
้
ทำให้หล่อนผวาเข้ามุ้ง และดึงเอาลูกสาวกำลังหลับนัน
้ มากอดนอนแนบ
อก เสียงลูกร้องครางเบา ๆ ขณะสะพานไหวสั่นและกระท่อมริมน้ำ
สะเทือนส่งเสียงดัง พร้อมด้วยเสียงแล่นผ่านไปด้วยความรวดเร็ว
“ ฉันจะต้องไปจากที่นี่ พาลูกไปให้ไกลจากสิ่งนี.้ ..ไกลแสนไกล ”
น้ำตาของหล่อนไหลตกต้องปอยผมของลูก
15
เสียงเพลงและเสียงแก้วกระทบกรุ้งกริ่งจากฝั่ งคลองโน้นได้ยินแล้ว
นาน ๆ จะมีเสียงรถจากข้างบนแลนเลยผ่านราวสะพานสลับกับเสียงคราง
ของแมลงกลางคืน
หากเสียงพายกระทบน้ำที่ดังวังเวงอ้อยสร้อยเบาหวิวเคว้งคว้างและ
เลื่อนลอยอยู่กับสายน้ำของกลางคืนนัน
้ หล่อนนอนฟั งติดต่อกันนับตัง้ แต่
ดึกดื่น
จนรุ่งสาง หล่อนก็พาลูกจากลำคลองสายนัน
้ ไป