Professional Documents
Culture Documents
การอ่านและพิจารณาวรรณคดี บทละครพูดคาฉันท์เรื่องมัทนะพาธา
จัดทาโดย
เสนอ
อ.พนมศักดิ์ มนูญปรัชญาภรณ์
โรงเรียนสาธิตนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดล
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรมการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน
(Project Based Learning)
รายวิชาภาษาไทยและวัฒนธรรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕
ก
คานา
คณะผู้จัดทา
๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑
ข
สารบัญ
คานา ก
สารบัญ ข
เนื้อเรื่องย่อ 1
โครงเรื่อง 1
ตัวละคร 1
ฉากท้องเรื่อง 2
บทเจรจา 2
แก่นเรื่อง 3
การสรรคา 3
การเรียบเรียงคา 10
โวหารภาพพจน์ 10
ลีลาคาประพันธ์ 13
คุณค่าทางอารมณ์ 16
คุณค่าทางคุณธรรม 17
คุณค่าทางด้านอื่นๆ 18
บรรณานุกรม 19
1
เนื้อเรื่องย่อ
สุเทษณ์ให้มายาวิน บริวารของสุเทษณ์ใช้เวทมนตร์คาถาไปสะกดให้นางมายังวิมานของสุเทษณ์
เทพบุตร แต่ก็ยังไม่พอใจเพราะว่า สุเทษณ์เห็นว่านางมัทนาตอบคาถามของเขาเหมือนผู้ไม่มีสติอยู่กับเนื้อกับ
ตัว จึงให้มายาวินคลายมนตร์สะกด เมื่อนางรู้สึกตัวก็ตกใจกลัวที่เข้าไปถึงวิมานของสุเทษณ์ สุเทษณ์จึงถือ
โอกาสฝากรัก มัทนาแสดงความจริงใจว่านางไม่ได้รักสุเทษณ์จึงไม่อาจรับรักได้ เมื่อได้ยินดังนั้นสุเทษณ์ไม่พอใจ
นางมัทนา จึงสาปให้นางจุติจากสวรรค์ไปเกิดบนโลกมนุษย์โดยนางเป็นผู้ร้องขอให้ตนเองเกิดไปเป็นดอก
กุหลาบในป่าหิมาวันโดยเปิดโอกาสให้นางกลายร่างเป็นมนุษย์ได้เมื่อถึงคืนวันเพ็ญเพียงหนึ่งวันกับหนึ่งคืน
เท่านั้นและเมื่อใดที่นางมีรักเมื่อนั้นจึงจะพ้นคาสาปและกลายร่างเป็นมนุษย์ได้อย่างปกติ หากเมื่อใดที่นางมี
ทุกข์เพราะความรักก็ให้นางอ้อนวอนต่อพระองค์และพระองค์จะช่วยเหลือ
โครงเรื่อง
มัทนะพาธา เป็นเรื่องเกี่ยวกับเทพธิดาผู้ตกเป็นเหยื่อของความรักที่ไม่ต้องการของเทพบุตรจนถูกสาป
กลายเป็นดอกกุหลาบ และไม่สมหวังกับความรักที่มีต่อเจ้าชายเพราะกลอุบายของมเหสีของเจ้าชาย
ตัวละคร
เทพบุตรสุเทษณ์ - เทพบุตรที่หลงรักในตัวนางมัทนามาตั้งแต่อดีตแต่กลับได้รับความรักที่ไม่สมหวัง
กลับแทน เป็นคนเอาแต่ใจ และไม่คานึงถึงูอื
ผ้ ่น ดังตัวอย่างบทกวีต่อไปนี้
“ ฟังถ้อยคาดารัสมะธุระวอน ดนุนี้ผิเอออวย
จักเป็นมุสาวะจะนะด้วย บ มิตรงกะความจริง.
อันชายประกาศวะระประทาน ประดิพัทธะแด่หญิง,
หญิงควรจะเปรมกะมะละยิ่ง ผิวะจิตตะตอบรัก;
แต่หากฤดี บ อะภิรมย์ จะเฉลยฉะนั้นจัก
เป็นปดและลวงบุรุษรัก ก็จะหลงละเลิงไป.”
ฉากท้องเรื่อง
บทเจรจา
เป็นบทตอนที่สุเทษณ์ได้เรียกมัทนาไปพบเพื่อจะบอกรักมัทนาและครู่าครวญให้มัทนารับรักแต่ทว่ามัท
นาอยู่ ในมนตร์สะกด มัทนาจึงตอบสุเทษณ์ทื่อเหมือนคนที่ไม่มีจิตใจ ดัง เช่นบทนี้
แก่นเรื่อง
มัทนะพาธาเป็นบทละครพูดคาฉันท์ถูกแต่งโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือรัชกาลที่
๖ โดยพระองค์ทรงคิดโครงเรื่องเองทั้งหมดโดยมีแก่นสาคัญของเรื่องอยู่ ๒ ข้อคือ
๑. เพื่อแสดงให้เห็นถึงอานุภาพของความรักและความเจ็บปวดที่เกิดจากความรัก ความหลงอาจจะเกิดขึ้นได้
กับใครก็ตามที่มีความรัก “มัทนะพาธา” คือชื่อเรื่องที่พระองค์ตัดสินใจที่จะใช้ คาว่ามัทนะ หรือ มทน แปลว่า
ความรัก หรือ ความลุ่มหลง ส่วนคาว่า พาธา หรือ พาธ แปลว่า ความเบียดเบียน หรือ ความทุกข์ ทาให้พอนา
๒ คานี้มารวมกันจึงมีความหมายว่า “ความทุกข์และความเดือดร้อนที่เกิดจากความรัก”
การสรรคา
ในมัทนะพาธามีการใช้การสรรคาอยู่มากมาย ซึ่งการสรรคานั้นผู้แต่งจะต้องเลือกใช้คาให้ตรงตาม
ความต้องการ เหมาะสมกับเนื้อเรื่องและฐานะของบุคคลในเรื่อง ตลอดจนสอดคล้องกับลักษณะของคา
ประพันธ์ นอกจากนี้ยังต้องเลือกสรรคาให้เกิดความงามความไพเราะทางด้านเสียง รวมทั้งให้เหมาะสมกับ
บริบทในเรื่องด้วย ดังต่อไปนี้
4
การใช้คาให้ตรงตามความหมายที่ต้องการ
มัทพาธานั้นเป็นคาฉันท์ที่มีการเลือกสรรคาอย่างดีเยี่ยมจึงทาให้คาฉันท์นี้เป็นคาฉันท์ที่สามารถเข้าใจ
ได้ง่ายและเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือเมื่อมายาวินแนะนาสุเทษณ์ว่ามีไม้ดอกชนิดหนึ่ง
ที่น่าจะกาหนดให้เป็นกาเนิดของมัทนาในโลกมนุษย์ ซึ่งผู้แต่งได้เลือกสรรคาอย่างดีทาให้อธิบายคุณสมบัติของ
ดอกกุหลาบได้อย่างชัดเจน ดังนี้
ไม้เรียกผะกากุพฺ- ชะกะสีอรุณแสง
ปานแก้มแฉล้มแดง ดรุณีณยามอาย;
ดอกใหญ่และเกสร สุวคนธะมากมาย,
อยู่ทนบวางวาย มธุรสขจรไกล;
อีกทั้งสะพรั่งหนาม ดุจะเข็มประดับไว้
ผึ้งเขียวสิบินไขว่ บมิใคร่จะห่างเหิน.
อันกุพฺชะกาหอม บริโภคอร่อยเพลิน,
รสหวานสิหวานเชิญ นรลิ้มเพราะเลิศรส;
กินแล้วระงับตรี พิธะโทษะหายหมด,
คือลมและดีลด ทุษะเสมหะเสื่อมสรรพ์;
อีกทั้งเจริญกา- มะคุณาภิรมย์นันท์,
เย็นในอุราพลัน, และระงับพยาธี.
คาประพันธ์ข้างต้นเป็นคาอธิบายลักษณะและประโยชน์ของดอกกุหลาบว่าดอกไม้นี้ชื่อกุพช
กะมีสีชมพูแดงเหมือนแสงอาทิตย์และเหมือนแก้มผู้หญิงเมื่อเขินอาย มีดอกที่ใหญ่ มีเกสรมีกลิ่นหอมที่
ส่งไปได้ไหและ ยาวนาน มีหนาม ผึ้งชอบมาตอมดอกไม้นี้ ดอกสามารถรับประทานได้ รสชาติหอม
หวาน ใช้ระงับตรีโทษ (อาการไข้ที่มีลม เสมหะ และเลือดเกิดขึ้นพร้อมกัน ๓ อย่าง ซึ่งให้โทษหนัก)
และยังช่วยบารุงร่างกายให้ชื่นใจและระงับโรคได้
การเลือกใช้คาให้เหมาะสมกับเรื่องและฐานะของบุคคลในเรื่อง เช่น
เหมาะสมเพราะมายาวินเป็นข้ารับใช้ของสุเทษณ์ สุเทษณ์จึงสามารถใช้คาพูดที่ดูเป็นกันเองกับมายาวินได้
5
เลือกใช้คาให้เหมาะสมแก่ลักษณะของคาประพันธ์ เช่น
มายาวิน อันเวทอาถรรพณ์ ที่พันผูกจิต
แห่งนางมิ่งมิตร อยู่บัดนี้นา
จงเคลือ่ นคลายฤทธิ์ จากจิตกัญญา
คลายคลายอย่าช้า สวัสดีสวาหาย!
เหมาะสมเพราะว่าโคลงสี่สุภาพนั้นต้องมีการใช้คาที่จากัดและต้องมีสัมผัสที่ถูกต้องและยังต้องมีการใส่
วรรณยุกต์ให้ถูกที่อีกด้วย ซึ่งในที่นี้มายาวินกาลังร่ายมนต์เพื่อคลายฤทธิ์ของมนต์ให้นางมัทนากลับมาได้สติ ซึ่ง
ผู้แต่งเลือกสรรคาได้ดีจึงสามารถทาให้ผู้อ่านเห็นภาพได้
เลือกใช้คาโดยคานึงถึงเสียง
ก. คาเลียนเสียงธรรมชาติ
มัทนะพาธาไม่มีการใช้คาเลียนเสียงธรรมชาติ
ข. คาที่เล่นเสียงวรรณยุกต์
สุเทษณ์ โอ้โอ๋กระไรนะมะทะนา บ มิตอบพะจีพอ?
มัทนา โอ้โอ๋กระไรอะมระง้อ มะทะนามิพอดี!
ค. คาที่เล่นเสียงสัมผัส
อ้าอรเอกองค์อุไร
ชวนชักชมเชย
ง. คาที่เล่นเสียงหนักเบา
สุเทษณ์ : พี่รักและหวังวธุจะรัก และบทอดบทิ้งไป
มัทนา : พระรักสมัครณพระหทัย ฤจะทอกจะทิ้งเสีย?
สุเทษณ์ : ความรักละเหี่ยอุระระทด เพราะมิอาจจะคลอเคลีย
มัทนา : ความรักระทดอุระละเหี่ย ฤจะหายเพราะเคลียคลอ
ตัวอย่างการใช้คาไวพจน์ในบทกลอน บทกวี
มืดสิ้นแสงเทียนประทีปส่อง ก็ผ่องแสงจันทร์กระจ่างสว่างส่ง
บุปผชาติสาดเกสรขจรลง บุษบงเบิกแบ่งระบัดบาน
เรณูนวลหวนหอมมารวยริน พระพายพัดประทิ่นกลิ่นหวาน
เฉื่อยฉิวปลิวรสสุมามาลย์ ประสานสอดกอดหลับระงับไป
ผู้หญิง ดูก่อนสุชาตา
บอกหน่อยเถอะว่าดะรุณิเจ้า
อรไท บ่ แจ้งการ?
พี่รักและหวังวธุจะรัก
เหตุใดยุพิน
นงคราญฉลอง
มิให้นงรัตน์
แห่งนางมิ่งมิตร
จากจิตกัญญา
ไหนไหนก็เจ้าสายสมร
อ้ามัทนาโฉมฉาย
อ้าอรเอกองค์อุไร
พี่รักวะธูนวล
อันนาริกับชาย
เพราะพะธูพิถีพิถัน
ขอโฉมเฉลาปลง
พี่รักอนงค์นาง
วนิดาพยายาม
ผิวะให้อนงค์นวล
ดีละ,จะให้มารศรี
โฉมยงจะว่าฉันใด
เมื่อนั้นแหละให้ทรามวัย
7
ดอกไม้ ขอเป็นซึ่งมาลี
ก็บุปผาอย่างใดมี
ธ โปรดเป็นยอดมาลา
ไม้เรียกผะกากุพฺ-
ใน สวนมาลิศ
คาพูด วรพจน์ประการใด,
ฤ ก็ตอบพะจีพลัน.
จะเฉลยพระวาที
ข้าขอแถลงวะจะนะตาม
มะทะนาและตอบวจี
อย่าทรงพระโศกี วรพักตร์จะหม่นจะหมอง.
พี่นี้นะรักเจ้า และจะเฝ้าประคับประคอง
คู่ชิดสนิทน้อง บ่ มิให้ระคางระคาย.
พี่รักวะธูนวล บ่ มิควรระอาระอาย,
อันนาริกับชาย ฤ ก็ควรจะร่วมจะรัก.
รูปเจ้าวิไลราว ระแสร้งประจิตประจักษ์,
มิควรจะร้างรัก เพราะพะธูพิถีพิถัน;
และรักสมัครมี มนะมุ่งทะนุถนอม.
8
ขอโฉมเฉลาปลง พระฤดีประนีประนอม.
รับรักและยินยอม ดนุรักสมัครสมาน.
หากนางมิข้องขัด ประดิพัทธ์ประสมประสาน
ทั้งสองจะสุขนาน มนะจ่อ บ จืด บ จาง.
อ้าช่วยระงับดับ ทุขะพี่ระคายระคาง;
ชีพอยู่ก็เหมือนตาย, เพราะมิวายระทวยระทม
พอให้ดนูนี้ สุขะรื่นระเริงระรวย.
ยิ่งฟังพะจีศรี ก็ระตีประมวลประมูล,
จะมิต้องนั่งละห้อย นอนโศกเศร้าสร้อย ชะเง้อชะแง้แลหรือ?
สุขะรื่นระเริงระรวย
การเล่นเสียงพยัญชนะ คือคาที่คล้องจองกันด้วยเสียงพยัญชนะต้น
เช่น
เมื่อมั่งมีมากมายมิตรหมายมอง
เมื่อมัวหมองมิตรมองหม่นเหมือนหมูหมา
เมื่อไม่มีมิตรหมางเมินไม่มองมา
เมื่อมอดม้วยแม้หมูหมาไม่มามอง
10
อ้าอรเอกองค์อุไร
ชวนชักชมเชย
บัวตูมตุมตุ่มตุ้ม กลางตม
สูงส่งทงทานลม ล่มล้ม
แมลงเม้าเม่าเมาฉม ซมซราบ
รูรู่รู้ริมก้ม พาดไม้ไทรทอง
เขาขันคูคู่คู้ เคียงสอง
เยื้องย่างนางยูงทอง ท่องท้อง
ทิวทุ้งทุ่งทุงมอง มัจฉพราศ
เทาเท่าเท้ายางหย้อง เลียบลิ้มริมทาง
โอ้โอ๋ละเหี่ยอุระสดับ
การเรียบเรียงคา
การเรียบเรียงประโยคในเรื่องนี้ เนื้อหาเข้มข้นขึ้นตามลาดับตั้งแต่ความสาคัญน้อยจนถึงขั้นสุดท้ายที่
สาคัญที่สุด ในบทประพันธ์เรื่องมัทนะพาธา มีการเรียบเรียงคาหลากหลายรูปแบบ โดยคาประพันธ์นั้น มีการ
เรียบเรียงประโยคให้เนื้อหาเข้มข้นขึ้นไปตามลาดับโดยมีประโยคสุดท้ายสาคัญที่สุด
11
โวหารภาพพจน์
อุปมาโวหารที่ปรากฏในบทละครพูดคาฉันท์เรื่องมัทนะพาธา มีดังนี้
ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดใด
ความรักเหมือนโคถึก กาลังคึกผิขังไว้
ก็โลดออกจากคอกไป บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ดูราวละเมอ เผลอเลอฤดี ประดุจไม่มี ชีวิตจิตใจ
ดังนี้จะยวน ชวนเชยฉันใด เปรียบเหมือนไป พูดกับหุ่นยนต์.
อ้ามัทนาโฉมฉาย เฉิดช่วงดังสาย วิชชุประโชติอัมพร
แต่อยู่ดีดีทันใด บังเกิดร้อนใน อุระประหนึ่งไฟผลาญ
รูปเจ้าวิไลราว สุระแสร้งประจิตประจักษ์
พี่รักอนงค์นาง ผิมิสมฤดีถวิล
เหมือนพี่มิได้คง วรชีวะชีวิติน-
ชีพอยู่ก็เหมือนตาย เพราะมิวายระทวยระทม
ไม้เรียกผะกากุพฺ- ชะกะสีอรุณแสง
ปานแก้มแฉล้มแดง ดรุณีณยามอาย
อีกทั้งสะพรั่งหนาม ดุจะเข็มประดับไว้
บุคคลวัต คือ การกล่าวถึงสิ่งต่างๆ ที่ไม่มีชีวิต ไม่มีความคิด ไม่มีวิญญาณ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ อิฐ ปูน หรือ
สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ เช่น ต้นไม้ สัตว์ โดยให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ แสดงกิริยาอาการและความรู้สึกได้เหมือน
มนุษย์ เช่น
- ลมละเมอ
- ก้อนหินร้องไห้
- มองซิ...มองทะเล เห็นลมคลื่นเห่จูบหิน
- บางครั้งมันบ้าบิ่น กระแทกหินดังครืนครืน
- ทะเลไม่เคยหลับใหลใครตอบได้ไหมไฉนจึงตื่น
- บางครั้งยังสะอื้น ทะเลมันตื่นอยู่ร่าไป
12
ด้วยกลิ่นของข้าบาท ก็จะได้ประณตน้อม
ใจนิตย์บูชาจอม สุระบ่มบาเพ็ญบุญ
ชีพอยู่ก็เหมือนตาย, เพราะมิวายระทวยระทม
เพียงหนึ่งทิวาราตรี; แต่หากนางมี ความรักบุรุษเมื่อใด
13
ลีลาคาประพันธ์
๑) เสาวรจนี (เสาว ว. ดี, งาม. + รจนี ก. ตกแต่ง, ประพันธ์; ว. งาม) รสนี้เป็นการชมความงาม ชมโฉม พร่า
พรรณาแลบรรยายถึงความงามแห่งนาง ทั้งตามขนบกวีเก่าก่อนแลในแบบฉบับส่วนตัว ตัวอย่างเช่น
...หนุ่มน้อยโสภาน่าเสียดาย ควรจะนับว่าชายโฉมยง
ทนต์แดงดั่งแสงทับทิม เพริศพริ้มเพรารับกับขนง
เกศาปลายงอนงามทรง เอวองค์สารพัดไม่ขัดตา...
จากบทข้างต้น เป็นการกล่าวชมรูปโฉมของวิหยาสะกา ซึ่งถูกสังคามาระตาสังหาร กล่าวว่าวิหยา
สะกานั้น เป็นชายหนุ่มรูปงาม ฟันนั้นเป็นแสงแวววาวสีแดงราวกับแสงของทับทิม ซึ่งตัดรับกับคิ้ว รวมทั้งปลาย
เส้นผมซึ่งงอนงามขึ้นเป็นทรงสวยงาม รับกับทรวดทรงองค์เอวของวิหยาสะกา
อ้าเจ้าลาเพาพักตร์ สิริลักษะณาวิไล,
แปลความได้ว่า มัทนาคนงาม
อ้ายอดสิเนหา มะทะนาวิสุทธิศรี,
อย่าทรงพระโศกี วรพักตร์จะหม่นจะหมอง.
พี่นี้นะรักเจ้า และจะเฝ้าประคับประคอง
คู่ชิดสนิทน้อง บ่ มิให้ระคางระคาย.
ว่าพลางทางชมคณานก โผนผกจับไม้อึงมี่
เบญจวรรณจับวัลย์ชาลี เหมือนวันพี่ไกลสามสุดามา
นางนวลจับนางนวลนอน เหมือนพี่แนบนวลสมรจินตะหรา
จากพรากจับจากจานรรจา เหมือนจากนางสการะวาตี
แขกเต้าจับเต่าร้างร้อง เหมือนร้างห้องมาหยารัศมี
นกแก้วจับแก้วพาที เหมือนแก้วพี่ทั้งสามสั่งความมา ฯลฯ
16
อ้าเทพศักดิ์สิทธิ์ซึ่ง พระจะลงพระอาญา,
ข้าเป็นแต่เพียงข้า บ มิมุ่งจะอวดดี.
หม่อมฉันนี่อาภัพ และก็โชคบ่พึงมี,
จึ่งไม่ได้รองศรี วรบาทพระจอมแมน.
คุณค่าทางอารมณ์
มัทนะพาธาเป็นวรรณคดีเรื่องหนึ่งที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครออกมาได้ดี
ทาให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจในเนื้อเรื่องได้อย่างดีโดยวรรณคดีเรื่องนี้ได้เน้นถึงความรู้สึกถึงความรัก แต่นิยามของ
คาว่าความรักในเรื่องมัทนะพาธาไม่ใช่เรื่องราวของความรักที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบแต่วรรณคดีเรื่องนี้ยังสื่อถึง
ความรักที่เห็นแก่ตัวของตัวละครหลักซึ่งก็คือเทพบุตรสุเทษณ์
อารมณ์ของความรักที่เห็นแก่ตัวของเทพบุตรสุเทษณ์คือสาเหตุของเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเรื่อง
โดยที่ เทพบุตรสุเทษณ์ต้องการให้เทพธิดามัทนารับรักของตนแต่เพียงผู้เดียว แต่เมื่อนางไม่ยอมรับความรักของ
เขา เขาโกรธแล้วจึงสาปเธอให้นางจุติไปเกิดบนโลกมนุษย์ในครั้งแรก
นอกจากอารมณ์ของอารมณ์รักที่เห็นแก่ตัวและรักแบบไม่ไว้วางใจนั้น มัทนะพาธายังมีอีกหนึ่งอารมณ์
ที่แอบแฝงอยู่ในวรรณคดีเรื่องนี้ นั่นก็คือเรื่องราวของความรักระหว่างพ่อลูกแบบพ่อแม่รังแกฉันทลูกใน
17
คุณค่าทางคุณธรรม
ในเรื่องมัทนะพาธานี้ได้ให้คุณค่าทางคุณธรรมและข้อคิดหลักๆถึง ๓ หัวข้อได้แก่
๑. การครองตนของผู้หญิง
๒. การมีบริวารที่ไร้คุณธรรมอาจส่งผลให้ผู้เป็นนายต้องเดือดร้อน
๓. ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์
ในช่วงแรกของเรื่องมัทนะพาธา จะเห็นได้ว่านางถูกมายาวินใช้เวทมนตร์เรียกนางมาที่พักของ
เทพบุตรสุเทษณ์ ในทางกลับกัน ถ้านางระมัดระวังและอยู่ให้ไกลจากผู้ชายที่มีกิเลสตัณหาสูง นางอาจจะไม่ถูก
มนตร์ของมายาวินและไม่ถูกสาปให้กลายเป็นกุหลาบ กุหลาบเป็นดอกไม้สวยงามที่มีหนามเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่
ได้ชมเด็ดหรือจะหักกิ่งไปชม ซึ่งดอกกุหลาบสามารถเปรียบได้กับผู้หญิงที่มีความสวยงามและเป็นที่หมายปอง
ของเพศตรงข้ามพร้อมด้วยสติปัญญาที่เฉียบขาดแหลมคม รู้ทันพวกผู้ชายเหล่านั้น จะทาให้ผู้หญิงคนนั้น
สามารถเอาตัวรอดจากผู้ที่คิดจะหมิ่นศักดิ์ศรีหรือหยามเกียรติได้
นอกจากเรื่องการครองตนของผู้หญิงแล้วนั้น มัทนะพาธายังได้พูดเกี่ยวกับการมีบริวารที่ไร้คุณธรรม
อาจส่งผลให้ผู้เป็นนายต้องเดือดร้อน โดยในตอนต้น เทพบุตรสุเทษณ์เป็นผู้ออกคาสั่งให้มายาวินร่ายมนตร์
คาถาใส่นางมัทนาเพื่อเรียกนางมาในที่ของตน ถึงแม้การกระทาของมายาวินจะทาให้นายของตนเองมีความสุข
ที่ได้พบหน้านาง แต่การกระทานั้นทาให้นางมัทนารู้สึกอับอายและทาให้นางร้องไห้ออกมา
คุณค่าทางด้านอื่นๆ
บรรณานุกรม
อ.บุญกว้าง ศรีสุทโธ ๓. คุณค่าด้านสังคม [ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ สืบค้นได้
จาก https://sites.google.com/a/htp.ac.th/mathna-phatha/7-bth-wikheraah/7-3-khunkha-dan-
sangkhm
Maneerat Panwai บทวิเคราะห์ [ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ สืบค้นได้จาก
http://arrow1203.blogspot.com/p/blog-page_97.html
พ่อแม่รังแกฉัน (บาป 14 ประการของมารดาบิดา)
[ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ สืบค้นได้จาก
http://campus.sanook.com/1373333/
ที่มาของเรื่อง[ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ สืบค้นได้จาก
http://arrow1203.blogspot.com/p/blog-page.html ๑.คุณค่าด้านเนื้อหา[ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อวันที่ ๒๔
พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ สืบค้นได้จาก https://sites.google.com/a/htp.ac.th/mathna-phatha/7-bth-
wikheraah/7-1-khunkha-dan-neuxha