You are on page 1of 221

อุ่นไอรักในสายลมหนาว

ภานุชนาถ
เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ 978-616-7419-28-2
พิมพ์ครั้งที่ 1 เดือนเมษายน 2555
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแห่งชาติ
ภานุชนาถ.
อุ่นไอรักในสายลมหนาว.-- กรุงเทพฯ : บาลานซ์, 2555.
150 หน้า.
1. นวนิยายไทย. I. ชื่อเรื่อง.
895.913
ISBN 978-616-7419-28-2
บรรณาธิการ ทีมงาน MyRose
ศิลปกรรม Vicentee
ออกแบบปก 2mindspace
พิสูจน์อักษร วัฒนะ • Moto_ji
จัดทำโดย สำนักพิมพ์ มายโรส บริษัท บาลานซ์ พับลิชชิ่ง จำกัด
3/221

102/20 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ


10200
โทรศัพท์ 0-2628-9642 โทรสาร 0-2628-7596
http://www.myrosebooks.com
E-mail: myrosebooks@gmail.com
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้
เพื่อนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิด
ลิขสิทธิ์
จัดจำหน่ายในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์(eBook) โดย

บริษัท ไอ.พี.เจ. อินเตอร์เนชั่นแนล(1988) จำกัด


73 หมู่ที่ 5 ตำบลหลักหก
อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี 12000
โทร. 0-2567-0759 โทรสาร 0-2567-5779
www.hytexts.com
Special Thanks for Opensource license
JS Font
CKeditor
คำนำนักเขียน

เนื่องจากช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อากาศบ้านเราร้อนมาก ๆ มาก


เสียจนหันไปทางไหนใครก็บ่นแต่เรื่องของอากาศ ซึ่ง ภานุชนาถ ก็มี
ความรู้สึกเช่นเดียวกันว่ามันร้อนจริงๆ ร้อนเสียจนนั่งทำงานไม่มคี วาม
สุข
สำหรับนิยายเรื่องใหม่...ภานุชนาถ เลยปรับเปลี่ยนโลเคชั่นนิดนึงค่ะ
เพื่อเพื่อนนักอ่านจะได้รู้สึกเย็นสบายขึ้น...เล่มล่าสุดนี้เราไปเที่ยวเมืองหนาว
กันดีกว่านะคะ ไปย่ำหิมะขาว ๆ ที่จุงฟราวด์ดินแดนสวรรค์กัน...ถ้าพร้อม
แล้วเราออกเดินทางพร้อมกันเลยนะคะไปพร้อม ๆ กับลูกทัวร์วไี อพีอย่าง
อมตะ และไกด์สาวแสนสวยอย่างอิงฟ้ากันเลยค่ะ
จาก “ยัยหน้าใสละลายหัวใจนายแบดบอย” จนมาถึง “เทหัวใจไม่มี
กั๊กรักสะกิดใจนายสุดซ่าส์” และเล่มล่าสุด ที่อยู่ในมือของทุกคนเล่มนี้
ภานุชนาถเองรู้สึกซึ้งใจมากมายค่ะที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ทั้งนี้...ภานุชนาถ ต้องขอบคุณเพื่อนนักอ่านทุกคนค่ะ ทีเ่ ป็นกำลังใจ
ให้กันเสมอมา บ้างก็แนะนำให้แบคแพ็คไปเมืองหนาวเลย เพื่อตามล่าหา
ข้อมูล บ้างก็ส่งรูปถ่ายสวย ๆ มาให้ โดยเฉพาะน้ำส้มเพื่อนทีน่ ่ารักจาก
6/221

อิตาลี ขอบคุณน้ำส้มทีส่ ่ง รูปถ่ายหิมะสวย ๆ มาให้ ดูแล้วหนาวไปถึงขั้ว


หัวใจเลย และทำให้ ...ภานุชนาถ...เกิดแรงบันดาลใจที่จะเขียนนิยายเรื่อง
นีใ้ ห้จบโดยเร็ว ขอบคุณพี่สาวคนสวยที่ชื่อ kaikip จากฮอลแลนด์ ที่ส่ง
กำลังใจมาให้เกือบทุกวัน ทำให้ภานุชนาถมีพลังใจที่จะเขียนงาน
ขอบคุณทุก ๆ คนทีเ่ กี่ยวข้องและพยายามที่จะพาผลงานของภานุช
นาถไปวางไกลถึงต่างประเทศ และรวมไปถึงน้องสาวที่น่ารักทุกคนนะคะ
ทีถ่ ามไถ่กันเข้ามาเสมอและส่งกำลังใจให้กันตลอด (และรวมไปถึงทุก ๆ
คนทีไ่ ม่ได้กล่าวชื่อไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ) ภานุชนาถ รู้สึกซึ้งใจและขอบคุณ
ทุกคนอีกครั้งอย่างมากมายค่ะ
เวลายิ่งผ่านไปใจยิ่งรู้สึกอบอุ่น ที่กำลังใจจากน้อง ๆ พี่ ๆ และ
เพื่อน ๆ ส่งผ่านเข้ามาในหลาย ๆ ช่องทางให้ ...ภานุชนาถ...มีแรงใจฮึดสู้
และขยันค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อผลงานเล่มล่าสุด ที่อยู่ในมือของทุกคนเล่มนี้
ค่ะ
ขอบคุณสำนักพิมพ์ที่อ้าแขนรับภานุชนาถ และให้โอกาสผลงานทุกๆ
เรื่องได้อยู่ในมือของเพื่อนนักอ่านค่ะ
ความรัก เกิดขึ้นได้เสมอ ทุก ๆ ที่ ทุกเวลาจริง ๆ ค่ะ สำหรับนิยาย
เล่มที่อยู่ในมือของเพื่อนนักอ่านทุกคนเล่มนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
ความอบอุ่น ในหลาย ๆ รูปแบบค่ะ
...ขอให้ความรักเกิดขึ้นในใจของเพื่อนนักอ่านทุกคนนะคะ ขอให้
ความรักเป็นเครื่องนำทางให้หัวใจของทุกคนพบเจอแต่ความสุขค่ะ
7/221

ทักทายกันได้ตลอดเวลานะคะ
http://pkphanuch.hi5.com
e-mail: phanuch@yahoo.com
Facebook/phanuchanart khamsopha
ด้วยใจ...
ภานุชนาถ คำโสภา
10/9/2553
บทนำ

ภายนอกหน้าต่างรอบ ๆ ห้องพัก หิมะยังคงปกคลุมไปทั่วบริเวณ


กิ่งไม้ ใบไม้เต็มไปด้วยเกล็ดใสแวววาว สำหรับคนที่เพิ่งเคยมาที่
สวิตเซอร์แลนด์เป็นครั้งแรก ความหนาวเย็นชนิดติดลบแบบนีเ้ รียกได้ว่า
จับขั้วหัวใจเลยทีเดียว บรรยากาศที่แสนดี เมืองสวยที่ใครได้มาเที่ยวก็คง
พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์
ชาติอันยิ่งใหญ่ สถาปัตยกรรมอันโดดเด่น ภูมิทัศน์ที่งดงามจับตาหากไม่
มาคงไม่ได้
อิงฟ้าเคยชินกับอากาศของสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ดังนั้นความหนาว
เย็นจึงไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิตสำหรับเธอเลยแม้แต่น้อย อิงฟ้านั่งปั้น
ตุ๊กตาหิมะ มาตั้งแต่อายุสี่ขวบ ตอนนั้นแก้มใส ๆ ของเด็กน้อยอิงฟ้าแดง
เป็นลูกตำลึงสุกเพราะความหนาว แต่เด็กน้อยก็ไม่หวั่นนั่งปั้นตุ๊กตาหิมะจน
เสร็จ เด็กน้อยภูมิใจมากกับผลงานของตัวเองถึงขนาดเต้นไปมารอบ ๆ
ตุ๊กตาหิมะฝีมือตนเอง เมื่ออิงฟ้าภูมิใจในผลงานของตน ผู้เป็นแม่จึงจับอิง
ฟ้าถ่ายรูปแล้วทำเป็นโปสการ์ดส่งกลับมาให้ ญาติ ๆ ที่เมืองไทยในวัน
คริสต์มาสปีนั้นด้วย
9/221

อิงฟ้าคือแรงบันดาลใจหนึ่งของพ่อ ความมุ่งมั่นของอิงฟ้าทำ
ให้...บ้านธาดา
รีสอร์ต...แห่งนี้เกิดขึ้นและเป็นรูปเป็นร่างจนถึงทุกวันนี้ สาวน้อยอิง
ฟ้าในวันนี้จึงเปรียบเสมือนหนึ่งพลังใจและเป็นสุดยอดดวงใจของพ่อ
นายธาดามีความสุขทุกครั้งที่ได้ต้อนรับลูกค้าจากเมืองไทย บ้างก็มา
เป็น กลุ่มทัวร์เพื่อท่องเที่ยว บ้างก็มาประชุมสัมมนาแล้วเวลาว่างก็เที่ยวชม
บรรยากาศอันสวยงามของสวิตเซอร์แลนด์ เล่นสกีบนภูเขา ย่ำหิมะขาวบน
ยุงเฟรา (Jungfrau) ยอดเขาสูง
ผู้คนของที่นมี่ ีลักษณะนิสัยแตกต่างจากคนไทยมาก ชาวสวิตทั่วไปมี
นิสัยรักความสงบ ความสะอาดเรียบร้อยและความเป็นระเบียบ ประเทศ
สวิตซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงเรื่องความงดงามของวิวทิวทัศน์
ภูเขาและทุ่งหญ้า มาตรฐานความเป็นอยูท่ ี่สูง ธุรกิจธนาคาร นาฬิกา
ผลิตภัณฑ์นมและเนย สถานที่ท่องเที่ยว ที่พักตากอากาศ ฉะนั้นบ้านธาดา
รีสอร์ตจึงเป็นส่วนหนึ่งในบรรยากาศทีง่ ดงามและมีเสน่ห์ในตัวเอง ด้วย
รอยยิ้มของพนักงานทุกคน หรือแม้แต่นายธาดาเองก็ตามล้วนแล้วแต่เป็น
ที่ประทับใจของแขกที่มาพักไม่รู้ลืม
“โอ๊ะ โอ๊ย...”
เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มทีน่ อนอยู่บนเตียง ดูท่าทางเขาพยายามจะ
ขยับตัว แต่เพียงนิดเดียวก็ล้มลงนอนอยู่ในท่าเดิม เพราะความเจ็บร้าวไป
10/221

ทั่วร่างกาย ความพยายามที่จะลุกจากเตียงยังคงมีต่อ หากแต่อิงฟ้าเข้าไป


ทัดทานไว้เสียก่อน
“ถ้าไม่ไหวก็อย่าเพิ่งลุกเลยคุณ นอนพักก่อนเถอะนะ คุณน่ะไม่
สบายมากไม่รู้ว่าจับไข้มากี่วันแล้ว”
“นี่ที่ไหน...ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะพยายามลุกจากเตียงให้ได้ ปากก็เอ่ยถาม
ด้วยประโยคซ้ำ ๆ แต่อิงฟ้าก็ไม่ใส่ใจที่จะตอบ เพราะรู้อยูแ่ ล้วว่าไม่มี
ประโยชน์อะไรที่จะพูดกับคนที่สติยังไม่เต็มร้อย
“คุณทานอะไรหน่อยดีไหม ดูเหมือนว่าคุณจะหลับไปตั้งยี่สิบกว่า
ชั่วโมงเลยนะ ฉันว่าคุณต้องหิวแล้วแน่ ๆ ฉันจะไปเอาข้าวต้มร้อน ๆ มา
ให้นะ”
เธอไม่ตอบคำถามแต่กใ็ ช่ว่าจะไม่ใส่ใจดูแล หนุ่มนิรนามทำหน้ายับ
ย่น มือทั้งสองข้างกุมขมับของตัวเอง อิงฟ้าดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจกับกิริยา
นั้นแต่กลับสาวเท้าตรงไปยังห้องครัว ไม่นานชามข้าวต้มก็ถูกยกมาเสิร์ฟ
เบื้องหน้าของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
“คุณทานข้าวต้มนี่ก่อนนะ แล้วค่อยคุยกันก็ได้ คุณไม่สบายต้องทาน
ยานี่ตามด้วย”
11/221

อิงฟ้าจัดแจงให้เสร็จสรรพ โดยที่ชายหนุ่มแปลกหน้าเองก็ไม่อาจ
ปฏิเสธได้ ยอมทำตามที่อิงฟ้าบอกอย่างว่าง่าย ไม่นานข้าวต้มชามโต ๆ ที่
เธอจัดมาให้ก็เกลี้ยงชาม อิงฟ้าเบิกตาโตอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
...อร่อยหรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้อย่างเดียวล่ะคือต้องซัดเกลี้ยงแบบนี้ หิวละ
สิท่า...แต่ทำหยิ่งนะ หิวขนาดนีย้ ังนอนอยูไ่ ด้หน้าตาเฉยตั้งหลายชั่วโมง
เลย...
อิงฟ้านึกค่อนแคะคนที่อยู่เบื้องหน้าในใจ
“เอ้า ทานยานี่ด้วยนะ คุณน่ะไม่สบายรู้ไหม”
“ผมอยู่ที่นี่ได้ยังไง ผม...ผม เอ่อ...”
“อ้าวคุณ แล้วกัน อิ่มแล้วหลับเลยเหรอ...”
พูดยังไม่ทันจบประโยค ชายหนุ่มนิรนามก็ล้มตัวลงนอนต่อ และ
หลับไปอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลีย สร้างความงุนงงให้อิงฟ้าไม่ใช่น้อย
1

...เช้าวันใหม่ คนที่นอนอยู่บนเตียงยังไม่ได้สติ แม้แต่การพลิกตัวสัก


ครั้งก็ไม่มี...
อิงฟ้าใช้ปลายนิ้วมือเรียวเล็กของตัวเองอังที่ปลายจมูก เพื่อเช็กดูว่า
เขายังมีลมหายใจอยู่หรือไม่ ม่านหน้าต่างที่ปิดสนิทในตอนแรกถูกรวบเปิด
ออกทั้งหมดเพื่อรับแสงของวันใหม่ อุปกรณ์ในห้องน้ำถูกเปลี่ยนใหม่
ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน หรือแม้แต่ของตกแต่งต่าง ๆ
เธอให้เหตุผลว่าเพื่อให้แขกนิรนามที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่นั้นตื่นขึ้นมาแล้ว
รู้สึกดีและประทับใจ
“หนูทำอะไรล่ะลูก เสียงดังรบกวนแขกนะ”
นายธาดาโผล่หน้าเข้ามาในห้องที่มีลูกสาวกับแม่บ้านกำลังช่วยกันจัด
เก็บห้องใหม่ ทั้งที่มีแขกนิรนามนอนหลับอยู่
“จัดห้องใหม่ค่ะพ่อ”
อิงฟ้าตอบคำถามของพ่ออย่างหน้าตาเฉย มือก็ยังไม่วายจับโน่นหยิบ
นี่ไม่วาง
13/221

“จัดห้องอะไรกัน แขกยังนอนอยู่เลย หนูไม่มีมารยาทเลยนะ”


นายธาดาเน้นเสียงหนักดุลูกสาว
“คุณพ่อคะ นายนี่ยังไม่ได้จ่ายค่าห้องพักให้เราเลยนะคะ มาจากไหน
ก็ไม่รู้ แล้วนี่ตื่นขึ้นมาจะมีเงินจ่ายให้เราหรือเปล่าก็ไม่รู้อีก ทำไมต้อง
เกรงใจ...”
“เขาเป็นคนเหมือนเรานะลูก ได้รับบาดเจ็บมา ไม่สบายมาเราไม่ช่วย
จะไม่ใจดำไปเหรอ แล้วเขาก็เป็นคนไทย พ่อกับฟ้าก็เป็นคนไทยนะ...”
นายธาดาเลิกคิ้ว มองหน้าลูกสาวเป็นเชิงเตือนให้ได้สติว่าคนเราไม่
ควรแล้งน้ำใจกับคนด้วยกันโดยเฉพาะคนที่กำลังล้ม
“ลูกเต้าเหล่าใครก็ไม่รู้ มาเจ็บมาป่วยแบบนี้ ป่านนี้พ่อแม่ไม่เป็นห่วง
แย่แล้วรึ”
“คุณพ่อขา ใครเขาจะมาเป็นห่วงคะ นายนีเ่ ป็นนักท่องเที่ยวชัด ๆ
นะคะ คุณพ่อต้องพูดใหม่ค่ะว่า...พ่อแม่ของนายหน้าจืดนี่ต้องคิดว่า ป่านนี้
นายหน้าจืดนี่เที่ยวไปถึงไหนแล้วน้อ...ต่างหากล่ะคะ”
อิงฟ้าไม่ลดราวาศอกที่จะต่อคำกับนายธาดาในเชิงหยอกเย้ากวน ๆ
ตามนิสัยแก่นซนของตัวเอง
“อิงฟ้า...ลูกนี่จริง ๆ เลย ว่าแต่จะทำอะไรก็รีบไปทำซะให้เสร็จ อยู่
ตรงนี้รบกวนแขกนะลูก”
14/221

“ไม่หรอกค่ะพ่อ ไม่รบกวนหรอก มีเสียงดังป๊อกแป๊กบ้างนี่สิดคี ่ะ


นายนี่จะได้รีบตื่นมาคุยกับเราให้รู้เรื่องว่า ชื่ออะไร เป็นใคร มาจากไหน
เมื่อวานตื่นขึ้นมาแป๊บเดียวเองกินเสร็จแล้วก็นอนหลับต่อซะงั้น”
“จะรบกวนเขาสิไม่ว่า เรานี่จริง ๆ เลย...”
นายธาดามองหน้าลูกสาวสุดรัก แล้วอดอมยิ้มไม่ได้กับความทีเ่ ป็น
คนไม่ลดราวาศอกให้ใครง่าย ๆ หากต้องการที่จะทำในสิ่งใด ๆ แล้ว
แม้แต่กับผู้เป็นพ่อเองเธอก็แย้งด้วยเหตุผลของตัวเองเสมอ
นายธาดาอยู่คุยกับลูกสาวได้ไม่นานแม่บ้านก็วิ่งมาตามให้ไปต้อนรับ
กรุ๊ปทัวร์ใหม่ที่กำลังมาลงที่หน้ารีสอร์ต
อิงฟ้ายังคงหยิบนั่นวางนี่อยู่ภายในห้อง แต่กย็ ังไม่ลืมที่จะเดินมายัง
ข้างเตียงของคนที่นอนหลับอยู่ เธอจ้องมองใบหน้าที่ขาวซีดนั้นอย่าง
พิจารณา
...นี่นายหน้าจืดเอ๊ย ใจคอจะนอนหลับอยูอ่ ย่างนี้หรือไงนะ ไม่หิวบ้าง
เหรอ เจ็บปวดตรงไหนบ้างหรือเปล่า ตื่นมาคุยกันหน่อยสินาย...
อดไม่ได้ที่จะทำหน้าตาล้อเลียนคนที่นอนนิ่งไม่รู้เรื่อง ใจหนึ่งก็อยาก
จะจับตัวเขย่าให้ตื่นเดี๋ยวนั้น เพื่อคาดคั้นเอาความจริงถึงที่มาทีไ่ ป แต่ก็นึก
เกรงใจพ่อทีค่ อยปรามอยู่ตลอดเวลาว่าเขาเป็นคนพลัดหลงมา มิหนำซ้ำยัง
ได้รับบาดเจ็บ ต้องให้การช่วยเหลือเขาก่อนที่จะนึกถึงผลประโยชน์ในเชิง
ธุรกิจอยู่ตลอดเวลา
15/221

...เพราะพ่อนะเนี่ย นายรอดตัวไป นายหน้าจืด !!!...


ไม่วายที่จะชี้นิ้วเป็นสัญญาณว่า ฝากไว้ก่อนเถอะ
ตึ่ง ตึ๊ง...
สัญญาณเตือนว่าเพื่อนรักที่อิงฟ้ากำลังออนเอ็มคุยอยู่ส่งคำถามมา
แล้ว ดึงความสนใจของเธอให้หันไปทางน้องแก้มแดงซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กคู่ใจที่
วางอยู่บนโต๊ะ ข้างเตียง
baitong says: นี่คุณเพื่อน ไม่ทราบว่ายังอยูร่ ึป่าวเอ่ย...ไม่ใช่ออน
ทิ้งไว้ แล้วตัวหายจ้อยไปไหนนะคะ
อิงฟ้า says: วุ๊ย คุณนายตอง...อย่าเพิ่งต่อว่ากันสิคะ อยู่นี่ไงยะ
คนอย่าง
อิงฟ้าน่ะมีการมีงานทำนี่นา ก็ต้องแวบไปนั่นมานี่บ้าง เข้าใจกัน
หน่อยสิคะคุณเพื่อน
baitong says: เจ้าชายหลงทางของคุณเพื่อนล่ะคะ ตอนนี้หาทาง
กลับบ้านเจอรึยัง ? หรือว่าหลงทางอยูใ่ นรีสอร์ตบ้านธาดาจนหาทางกลับ
บ้านไม่ได้แล้ว...เอ...อย่างนี้คุณเพื่อนจะรับเลี้ยงไว้ดูเล่นหรือเปล่าล่ะคะ
อิงฟ้า says: จะไปไหนได้ล่ะ ยังนอนหลับอุตไุ ม่รู้เรื่องเลย แต่
หากว่าหลงทางกลับบ้านจริง ๆ ก็ไม่เป็นไรหรอก อิงฟ้าจะชี้ทางให้แบบ
ชนิดที่ว่าวิ่งกลับไม่ทันเลย...คงเลี้ยงไว้ไม่ไหวอ่ะค่ะ
baitong says: ว่าแต่ เจ้าชายผู้หลงทางมา หล่อไหมฟ้า
16/221

อิงฟ้า says: อือ ก็ดีนะ ไม่เลว...


พอโดนคำถามนี้ อิงฟ้าถึงกับต้องช่างใจคิดก่อนที่จะตอบคำถาม
เพื่อน ใช่สิ หน้าตาหนุ่มนิรนามคนนี้ไม่เลวจริง ๆ ดูจากเสื้อผ้า
เครื่องแต่งกาย และกระเป๋าเดินทางก็ถือว่าคงไม่ธรรมดาแล้ว แต่
ชื่อเสียงเรียงนามอย่างไรก็ไม่รู้ได้ อิงฟ้าเรียกอย่างหน้าตาเฉยไปแล้ว ว่า
นายหน้าจืด แต่ก็คงห้ามใบตองไม่ได้ที่เธอจะเรียกเขาว่าเจ้าชายหลงทาง
เพราะใบตองคลั่งไคล้ซีรีส์เกาหลีเอามาก ๆ ถึงขนาดจินตนาการไปเองใน
โลกของความจริง
“โอ๊ะ โอ๊ย...”
อิงฟ้าเงยหน้ามองไปยังต้นเสียง ชายหนุ่มกำลังพยุงตัวเองจะลุกจาก
ที่นอน แต่แล้วก็ล้มลงนอนในท่าเดิม
“คุณ คุณตื่นแล้วเหรอ เป็นไงบ้าง”
อิงฟ้าปรี่เข้าไปหาแล้วช่วยพยุงให้ชายหนุ่มลุกนั่ง มือข้างหนึ่งคว้า
หมอนมาวางรองแผ่นหลังให้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนทีจ่ ะลุกไปรินน้ำดื่มใส่
แก้วส่งให้ เนื่องจากคนทีเ่ พิ่งลุกมีอาการคอแห้งอย่างเห็นได้ชัด เขา
พยายามที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้เป็น
ถ้อยคำ น้ำในแก้วถูกจิบไปนิดเดียวเขาก็ส่งแก้วน้ำนั้นคืนให้อิงฟ้า
“ที่นี่...ที่ไหน...”
17/221

“คุณเป็นคนไทยจริง ๆ ด้วย...เออ...ที่นคี่ ือรีสอร์ตของฉันค่ะ คุณ


หมดสติอยู่ที่หน้ารีสอร์ตของเราตั้งแต่สองวันก่อนแน่ะ”
“คุณธาดา เออ...คุณธาดาอยู่ที่นี่หรือเปล่า”
ชายหนุ่มเอ่ยถึงชื่อนายธาดาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“ค่ะ คุณพ่ออยู่ที่นี่ คุณอยากพบคุณพ่อเหรอ...แต่ตอนนี้คงไม่ได้นะ
เพราะคุณพ่อมีแขก คุณต้องรอก่อน”
อิงฟ้าสังเกตเห็นใบหน้าของชายหนุ่มนิรนามมีแววกังวลซ่อนอยู่ แต่
อาการไข้คงดีขึ้นแล้วเพราะสีหน้าดูมีสีสันขึ้นกว่าเมื่อวาน
“เอ่อ คุณอาจจะอยากทำธุระส่วนตัว ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวล่ะนะมี
อะไรก็เรียกแม่บ้าน...ฉันไปล่ะ”
อิงฟ้าก้มเก็บของและหอบเอาน้องแก้มแดงคู่ใจไว้แนบอก พูดกับ
ชายหนุ่มแต่ไม่ได้มองหน้าฝ่ายตรงข้าม หญิงสาวจึงไม่รเู้ ลยว่ากำลังถูก
สายตาของเขาจ้องมองอยู่
“เดี๋ยวสิ คุณธาดาอยู่ที่ไหน ผมอยากพบคุณธาดา”
“ทำไม คุณต้องการพบพ่อทำไม”
อิงฟ้าหยุดยืนหันหน้ามาทางชายหนุ่ม แล้วเอ่ยถามชัดถ้อยชัดคำด้วย
ความสงสัย เมื่อชายหนุ่มเบื้องหน้ายืนยันและต้องการที่จะพบนายธาดาให้
ได้
18/221

“ผมมีธุระกับคุณธาดา”
“คุณพ่อมีแขก นายต้องรอก่อน แล้วเดี๋ยวฉันจะบอกคุณพ่อให้ ...”
อิงฟ้าหันหลังให้แล้วก้าวออกไปจากห้องนั้นโดยเร็ว ไม่รอให้แขก
แปลกหน้าได้เอ่ยถามอะไรต่ออีก
ภายนอกหน้าต่างความหนาวเย็นยังคงอุณหภูมิของมันเช่นเดิม
ต้นไม้ใบไม้ถูกเกาะด้วยละอองของหิมะเป็นชั้นหนา เกล็ดใส ๆ เมื่อต้อง
แสงอาทิตย์ส่องประกายวับวาว
2

ในตอนสายของวันต่อมา...
...นายหน้าจืดนี่ถามถึงคุณพ่อทำไม ต้องการพบคุณพ่อทำไม
นะ...นายนี่รู้จักคุณพ่อด้วยเหรอ แต่คุณพ่อก็เห็นหน้านายคนนี้แล้วนี่นา
ไม่เห็นคุณพ่อบอกเลยว่ารู้จัก...
อิงฟ้าขมวดคิ้วอย่างสงสัยใคร่รู้และตั้งคำถามในใจคนเดียว เมื่อคิด
อะไรไม่ออกก็แถตัวลงนอนเหยียดยาวบนโซฟาสีครีมภายในห้องพักของ
ตัวเอง หญิงสาวครุ่นคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปอย่างสงสัย
“คุณอิงฟ้าคะ นายท่านสั่งว่าให้คุณอิงฟ้าไปดูแลกรุ๊ปทัวร์ใหม่ที่
กำลังจะมาลงนะคะ ทัวร์นี้มาจากเมืองไทยด้วยค่ะ”
แม่บ้านมาเรียกอิงฟ้าด้วยท่าทางรีบร้อน
“คุณพ่อไปไหนล่ะค่ะ”
“คุณท่านมีแขกค่ะในห้องทำงาน และบอกว่าทัวร์นี้ให้คุณอิงฟ้า
รับรองได้...เชิญค่ะ”
20/221

อิงฟ้าถูกฝึกงานเกี่ยวกับรีสอร์ตมาตั้งแต่เด็ก ๆ ดังนั้นการรับรอง
ดูแลลูกค้าไม่ว่าจะเป็นปัญหาใหญ่หรือเล็กแค่ไหนก็ตาม เธอก็แก้ไขและ
ผ่านพ้นไปได้เสมอ แม้ในรีสอร์ตแห่งนีจ้ ะมีพนักงานประจำหน้าที่อยู่แล้ว
ก็ตาม แต่นายธาดาและอิงฟ้าก็ยังเป็นตัวหลักทีจ่ ะคอยดูแลอยูห่ ่าง ๆ หรือ
บางครั้งก็ต้องเข้าไปคลุกคลีอยู่กับพนักงานด้วย
“ป้าไปบอกคุณกุลนะคะ ให้ดูแลแขกไปได้เลย อีกสิบนาทีฟ้าจะตาม
ไปค่ะ”
อิงฟ้าเชื่อมั่นในตัวพนักงานของรีสอร์ตแห่งนี้ทุกคน แม้ตัวเองจะเป็น
ลูกสาวของเจ้าของ แต่ก็ไม่เคยอวดเบ่งกับใคร ทุกคนมีหน้าที่ชัดเจนและ
รับผิดชอบในหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ด้วยเมืองแห่งนี้เป็นเมืองหนาว พ่อเคย
พูดกับอิงฟ้าอยู่ บ่อย ๆ ว่า
...เราจะต้องสร้างความอบอุ่นในใจให้เกิดขึ้นกับแขกของเราทุกคน
อย่าให้ใครต้องรู้สึกยิ่งหนาวเหน็บไปพร้อมกับอากาศด้วย...
ตึ่ง ตึ๊ง...
baitong says: ทำอะไรอยู่จ๊ะ แม่นางฟ้าของชั้น
อิงฟ้า says: ตอนนี้ฟ้าต้องดูแลแขกแทนคุณพ่อ อาจจะยุ่งในอีกไม่
กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ เดี๋ยวฟ้ามานะ
baitong says: แล้วทำไมยังมานั่งคุยอยูไ่ ด้ไม่รีบไปล่ะ ไม่ต้อง
ห่วงใบตองเลย สบาย ๆ คุณเพื่อน ตอนนีต้ องกำลังนั่งรถไฟใต้ดินอ่ะนะ
21/221

จะไปทำธุระให้คุณแม่ที่ศาลาแดงสักหน่อย เซ็ง ๆ อ่ะ เลยแวบมาคุย...ไป


เถอะ ๆ
อิงฟ้า says: เออ เดี๋ยวมานะ มีเรื่องเม้าท์ด้วย
baitong says: จ้า...มาตอนไหนก็ได้เสมอคุณเพื่อน ใบตองจะรอ
รับฟัง
ในเมื่อเป็นคำสั่งของพ่อ อิงฟ้าก็ต้องทำตามจะอิดออดไม่ได้ เพราะ
ในคำสั่งนี้ ต้องมีเหตุผลแฝงไว้เสมอ ทัวร์จากเมืองไทยกลุ่มนี้ประมาณ
เกือบยี่สิบคน กุลดาคือพนักงานต้อนรับตัวหลักอยูแ่ ล้วเธอสามารถจัดการ
ทุกอย่างได้อย่างไม่มีปัญหา แต่อิงฟ้าก็ต้องคอยซัพพอร์ทอีกทีอยู่ข้างหลัง
เหมือนอย่างที่นายธาดาทำ ส่วนใหญ่หากอยูก่ ับกุลดาสองคนอิงฟ้าจะไม่
ยุ่มย่ามมาก เธอจะไม่ก้าวก่ายหากกุลดาไม่เรียกหรือเอ่ยปรึกษาอะไร
เพราะถือว่าเป็นผู้ใหญ่กว่า
“คุณฟ้าคะกุลว่าคงไม่มปี ัญหาอะไรหรอกนะคะ เพราะว่าห้องพักถูก
จัดไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งคณะมีกิจกรรมเดียวคือประชุมสัมมนา ซึ่ง
ห้องประชุมกุลก็ได้ให้พนักงานตกแต่งไว้พร้อมแล้ว อาจจะมีบ้างก็คือเรื่อง
เที่ยวทีค่ ณะจะจัดการกันเองค่ะ ซึ่งเราคงจะอำนวยความสะดวกเรื่องรถ
รับส่งให้เท่านั้น”
“ค่ะ คุณกุลดูแลไปเลยนะคะ หากขาดเหลืออะไรค่อยบอกฟ้าอีกที
นะคะ”
22/221

วันนี้อิงฟ้าเหมือนไม่ค่อยมีกะจิตกะใจจะคิดทำอะไร เพราะมัวกังวล
แต่เรื่องพ่อกับนายหน้าจืดนั่น
อิงฟ้าก้าวห่างออกมาจากบริเวณเคาน์เตอร์ต้อนรับ ในใจก็คิดสาระ
ตะหลายเรื่อง ความรู้สึกบางอย่างแวบเข้ามาในใจ ร้อนวูบและหนาวเหน็บ
สลับกันอย่างที่หญิงสาวก็นึกประหลาดใจ
“โอ๊ะ !!!...”
เมื่อก้าวเดินอย่างไม่ระวัง อิงฟ้าก็ชนโครมเข้ากับชายหนุ่มร่างใหญ่
เข้าอย่างจัง จนตัวเองอุทานออกมาเมื่อร่างบางเซถลาไปอีกทาง หญิงสาว
เงยหน้ามองร่างหนาหนักนั้นช้า ๆ
“ขอโทษครับ คุณ...เป็นอะไรมากหรือเปล่า”
หนุ่มเบื้องหน้าส่งยิ้มให้อิงฟ้า ใบหน้าหล่อนั้นอวดลักยิ้มข้างแก้มให้
อิงฟ้าต้องอึ้งไปครู่หนึ่งเช่นกัน
...อือ หล่อกระชากใจนะยะ นี่มันเป็นเพราะชั้นซุ่มซ่ามหรือนายตั้งใจ
อ่อยชั้นกันแน่...
อิงฟ้ามองโลกในแง่ดี คิดในใจอย่างซน ๆ ในแบบของตัวเอง ทันใด
หนุ่มเบื้องหน้าก็ส่งมือมาให้อิงฟ้า เพื่อที่จะดึงตัวหญิงสาวให้ลุกขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฟ้าซุ่มซ่ามเองเดินไม่ระวังเลยชนคุณเข้า ฟ้า
ขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ มาผมช่วยนะ ส่งมือมาเถอะครับ”
23/221

เขายังคงยืนยัน เธอจึงไม่ปฏิเสธความช่วยเหลืออย่างเต็มใจนั้น เขา


ก้มลงอีกครั้งเก็บของที่หล่นอยู่บนพื้นส่งให้อิงฟ้า
“ขอบคุณค่ะ เอ่อ...คุณ...”
“ผมอมตะครับ หรือเรียกสั้น ๆ ว่าตะก็ได้ แล้วคุณล่ะ...”
“อิงฟ้าค่ะ”
“อิงฟ้า ชื่อเพราะดีนะครับ ไทย ๆ ดี”
เขาทวนชื่อหญิงสาว แล้วเบิกนัยน์ตาโตแล้วอมยิ้มนิด ๆ
“ไทยแท้เลยล่ะค่ะ หรืออาจจะเชย ๆ ก็ได้นะคะ แต่ชื่อนี้พ่อตั้งให้
มันมีความหมายในใจของพ่อ ถึงมันจะเชยแต่ฟ้าก็ชอบนะคะคุณอมตะ”
“ครับ คุณอิงฟ้าเรียกผมสั้น ๆ ว่าตะก็ได้นะครับ”
หนุ่มเบื้องหน้าท่าทางไม่ถือตัว อิงฟ้าจึงส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะขอตัว
เดินเลี่ยงออกไปจากบริเวณนั้นโดยไม่สนใจคนที่ยืนอยูต่ รงนั้น ปล่อยให้
ชายหนุ่มมองตามอย่างเสียดายที่ไม่ได้ทักทายกันมากกว่านี้
ห้องทำงานของพ่อถูกปิดล็อกจากทางด้านใน นานกว่าสองชั่วโมง
แล้วที่ อิงฟ้าชะเง้อมองดูหน้าประตูห้องเพราะความอยากรู้อยากเห็น
“คุณฟ้าคะ...มาด้อม ๆ มองๆ อะไรตรงนี้คะ”
“โอ๊ย...ลูกหยีตกใจหมดเลย มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง”
24/221

“อะไรกันค่ะ ลูกหยีออกจะเสียงดังนะคะ เมื่อกี้เห็นนะคะว่าคุณฟ้า


คุยอยู่กับใคร คุณฟ้ามองหาหนุ่มคนนั้นเหรอคะ”
“อะไรของลูกหยีน่ะ ฟ้าไม่เข้าใจ”
อิงฟ้าออกอาการงง ๆ กับคำถามของลูกหยี เธอกับลูกหยีที่มอี ายุ
ไล่เลี่ยกัน ลูกหยีเป็นลูกสาวคนเล็กของป้าสุนียซ์ ึ่งเป็นแม่บ้านของบ้านธาดา
รีสอร์ต
“ก็หนุ่มคนนั้นไงคะคุณฟ้า ที่คุณฟ้ายืนคุยด้วยน่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“คุณฟ้ามองหาเขาไม่ใช่เหรอคะ”
อิงฟ้าส่ายหน้ากับเรื่องที่ต่างคนต่างเข้าใจไปคนละแบบ ลูกหยีไม่ได้
รู้สึกว่าอิงฟ้ากำลังชะเง้อมองประตูห้องทำงานของพ่อ และความ
กระวนกระวายใจนั้นอิงฟ้าอยากรู้ว่าพ่อคุยอะไรกับนายหน้าจืดนั่นต่างหาก
ไม่ใช่มองหาหนุ่มคนนั้นที่เดินชนกับอิงฟ้าเมื่อสักครู่นี้
“ลูกหยีมีอะไรก็ไปทำซะไป หรือว่าไปช่วยคุณกุลก็ได้ ถ้ามีปัญหา
อะไรค่อยมาเรียกฟ้าละกันนะ...เออ ลูกหยีว่าแต่ห้องที่ให้ลูกหยีไปทำความ
สะอาดห้องน้ำเมื่อวานเรียบร้อยดีไหม มีอะไรขาดหรือเปล่า”
“อ๋อ ห้องของผู้ชายคนที่ไม่สบายเหรอคะ เรียบร้อยดีค่ะคุณฟ้า คุณ
ห้องนี้ไม่ได้เรียกหาอะไรเลย เราจัดอะไรไว้ให้คุณก็ใช้ตามนั้น...แต่ตอนนี้
เธอไม่อยู่ห้องนะคะ แม่เรียกเธอให้ไปพบคุณท่านตั้งนานแล้วล่ะค่ะ”
25/221

“อือ รู้แล้ว ลูกหยีไปได้แล้วล่ะ”


ภายในใจของอิงฟ้าเริ่มว้าวุ่นอีกครั้ง มันเกิดขึ้นอย่างไม่มเี หตุผล
ตั้งแต่ชายหนุ่มนิรนามคนนั้นเข้ามายังบ้านธาดารีสอร์ตแห่งนี้
บ่อยครั้งที่อิงฟ้าแอบถอนหายใจคนเดียว กับความรู้สึกที่ประหลาด
ในใจ แต่กย็ ากที่จะคาดเดาว่ามันเพราะอะไร แต่ที่แน่ ๆ เธออยากรู้
เหลือเกินตอนนี้กค็ ือ ชายหนุ่มนิรนามคนนั้นมาที่นี่เพื่ออะไร หากเพราะ
เรื่องไม่สำคัญก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะพ่อใช้เวลาในการพูดคุยนานผิดปกติ
และเป็นการส่วนตัวแบบนี้มันก็คงไม่ธรรมดา
ตึ่ง ตึ๊ง...
baitong says: ว่าไงจ๊ะคุณเพื่อน มาแบบผลุบโผล่เชียวนะ
อิงฟ้า says: ฟ้าไม่ค่อยสบายใจเลย ใจมันหวิว ๆ ยังไงไม่รู้...
baitong says: เรื่องอะไรล่ะ ที่ว่ามันหนัก ๆ ตอนนี้ หรือว่าพ่อ
หนุ่มหน้าจืดคนนั้น ???
อิงฟ้า says: ใช่ วันนี้คุณพ่อเรียกเขาไปคุยที่ห้องทำงานนานกว่า
สองชั่วโมงแล้วนะ ไม่รู้คุยอะไรกันถึงได้นานขนาดนี้ ดูท่าทางซีเรียสซะ
ด้วย เล่นล็อกห้องคุยนีม่ ันน่าสงสัยอยูน่ ะตอง จะไม่ให้ฟ้าคิดมากได้ยังไง
กันล่ะ
26/221

baitong says: แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คุยส่วนตัวจะต้องมี


ปัญหาอะไรนีน่ า ฟ้าคิดมากไปมั้ง...หรือว่าคิดอะไรกับเขากันแน่จ๊ะคุณ
เพื่อน
อิงฟ้า says: ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะตอง วันนีพ้ ่อสั่งฟ้าดูแลลูกค้าอ่ะ
นั่นก็หมายความว่าพ่อจะไม่ว่าง พ่อคงมีเรื่องสำคัญต้องสะสาง
baitong says: เป็นเรื่องปกติอยูแ่ ล้วนี่นา แล้วนี่มัวมานั่งแชตกัน
อยู่เนี่ย สถานการณ์ประจำวันราบรื่นดีเหรอ ทิ้งงานนะจ๊ะ
อิงฟ้า says: ไม่ยุ่งหรอก ราบรื่นดี ฟ้าก็ไม่ได้อยากก้าวก่ายคุณกุล
มาก นอกเสียจากว่าจะมีอะไรทีห่ นักกว่านี้เราก็จะช่วยกันแก้ปัญหาไป ทัวร์
มาเที่ยวที่นี่ ไม่เหมือนบ้านเรานะ ลูกค้าที่มาส่วนมากจะพอใจในสิ่งที่เราจัด
ไว้ให้อยูแ่ ล้ว นัก ท่องเที่ยวจะตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศมากกว่าที่จะมา
ใส่ใจกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของรีสอร์ตเรา
baitong says: อือ แล้วนี่จะเป็นเถ้าแก่เนี้ยบริหารรีสอร์ตอยู่ที่โน่น
หรือไง ใจคอจะไม่กลับมาเมืองไทยเลยเหรอคุณเพื่อน
อิงฟ้า says: ถ้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็คงจะได้กลับไปเที่ยว
บ้าง แต่ที่แน่ ๆ ต้องเรียนให้จบที่นี่ก่อน เพราะอยูท่ ี่นี่ฟ้ามีเวลาช่วยงานพ่อ
ได้เยอะกว่า ว่าแต่ตองมาเรียนที่นี่แน่นะปีหน้า
27/221

baitong says: ไปชัวร์ นะโชคดีฟ้า ชีวิตฟ้าสบาย ๆ เรียนก็สบาย


จบมาก็สบายไม่ต้องวิ่งหางานทำเหมือนคนอื่นเขา พ่อแม่มธี ุรกิจรองรับอยู่
แล้วมันเหมือนเข้าเส้นชัยไปแล้วครึ่งหนึ่งเลยนะ
อิงฟ้า says: อย่าบอกนะว่าอิจฉากัน ตองลองมาอยูท่ ี่นี่สิ แล้วจะรู้
ว่ามันลำบากแค่ไหน ต่างบ้านต่างเมืองยังไงก็ไม่สบายเท่าเมืองไทยหรอก
น่า...
อิงฟ้าตอบเพื่อนไปทั้งที่ภายในใจเวลานี้มีแต่ความลังเลใจ นายธาดา
ต้องการให้อิงฟ้าเรียนการโรงแรมที่สวิตฯ อย่างน้อยการที่เลือกเรียนการ
โรงแรมก็เพื่อที่จะได้มีความรู้ในการพัฒนาโรงแรมกึ่งรีสอร์ตของตัวเอง
ต่อไป ซึ่งก็เป็นสิ่งทีอ่ ิงฟ้าชอบ นับตั้งแต่แม่จากไปอิงฟ้าก็มชี ีวิตอยูอ่ ย่าง
โดดเดี่ยว เธอปรับเปลี่ยนความเหงา ความเศร้าต่าง ๆ ให้เป็นพลังในการ
ใช้ชีวิตอยู่ต่อไปโดยการคิดบวกเสมอ
แม้เลือกที่จะเรียนการโรงแรม แต่อีกส่วนหนึ่งของความชอบก็คือ
การเดินทางท่องเที่ยว การถ่ายภาพ และหัวใจสำคัญในสิ่งนี้ก็คือการเป็น
ไกด์นั่นเอง
ซึ่งนายธาดาก็ไม่ได้ห้ามหากเธออยากจะเป็นอะไรในอนาคต แต่ขอ
เพียงสิ่งเดียวก็คือไม่ให้ทอดทิ้งธุรกิจโรงแรมกึ่งรีสอร์ตแห่งนี้
3

มุมกาแฟภายในรีสอร์ต...
มุมกาแฟในรีสอร์ตบ้านธาดาถือเป็นมุมที่โรแมนติกที่สุดอีกมุมหนึ่ง
ซึ่งเป็นฝีมือการออกแบบของนายธาดา ที่อิงฟ้าโปรดปรานมากที่สุด เธอ
ชอบมานั่งหลบมุมอยู่บ่อย ๆ เพื่อคิดอะไรบางอย่างหรือแชตกับเพื่อน ๆ
ที่อยู่เมืองไทยด้วยโน้ตบุ๊กคู่ใจหรือที่อิงฟ้ามักเรียกเล่น ๆ ว่าน้องแก้มแดง
โดยเฉพาะค่ำคืนนี้ทหี่ ิมะกำลังโปรยปราย เมื่อมองผ่านแสงไฟสปอ
ตไลท์ดวงใหญ่แล้วสวยงามมากเหมือนอยู่ในดินแดนสวรรค์ยังไงอย่างนั้น
เลย อากาศภายนอกติดลบความหนาวเย็นแบบจับขั้วหัวใจทีค่ นเพิ่งมาจาก
เมืองร้อนอย่างเมืองไทยต้องร้องซี๊ด กันเลยทีเดียว...
คืนนีก้ ็เป็นอีกหนึ่งคืนที่อิงฟ้าเลือกมุมนี้นั่งทอดอารมณ์ และเพื่อแชต
กับเพื่อนจากเมืองไทย มุมกาแฟฝั่งนี้ถูกกรุด้วยกระจกใสทั้งหมดยาว
ตลอดแนว ทำให้สามารถมองเห็นบรรยากาศภายนอกได้อย่างชัดเจน
โดยเฉพาะในค่ำคืนนี้ หิมะที่โปรยปรายไม่ขาดสายเมื่อต้องกับแสงไฟปุยสี
ขาวนั้นจะทอประกายแวววาวราวเกล็ดเพชร
29/221

อิงฟ้าทรุดตัวลงนั่งในมุมเดิมที่คุ้นเคย ทิ้งร่างบางของตัวเองให้เอน
ลงกับโซฟานุ่มอย่างเศร้า ๆ
อีกฟากหนึ่งในมุมด้านหลังของอิงฟ้า...ใครคนหนึ่งก็เช่นเดียวกัน
เหมือนค่ำคืนนี้เป็นคืนของความเงียบเหงา อมตะชายหนุ่มจากเมืองไทยที่
เดินทางมาพร้อมกับกลุ่มสัมมนานั่งเอนหลังลงบนโซฟาฝั่งตรงกันข้าม เขา
เอนหลังลงอย่างเนือย ๆ เช่นกัน
ตึ่ง ตึ๊ง...
เสียงจากน้องแก้มแดงของอิงฟ้านั่นเอง มันคือเสียงสัญญาณการ
ทักทายในเอ็มเอสเอ็น
อมตะหลับตาลงช้า ๆ ความคิดของเขาล่องลอยไปไกล ภาพบางภาพ
เกิดขึ้นในมโนความคิด เสียงที่คุ้นเคยแบบนี้มันช่างชินหูเหลือเกิน
ตึ่ง ตึ๊ง...
pimm says: ตะ ยังไม่นอนเหรอคะ ออนอยู่ทำไมไม่ทักพิมพ์ล่ะ
amata says: อ๋อ ครับ พอดีผมอ่านแฟ้มงานของคุณพ่ออยู่ แล้ว
ทำไมคุณยังไม่นอน มันดึกแล้วนะ
pimm says: รู้ด้วยนี่ว่าดึก คุณก็พักได้แล้วนะคะ
amata says: ขออ่านงานต่ออีกสักพักก่อนครับ
30/221

pimm says: ตกลงตะจะทำงานที่บริษัทของคุณพ่อเลยจริง ๆ นะ


เหรอ ไหนสัญญาว่าจะเที่ยวกันก่อนสักพักไง เราเพิ่งเรียนจบมานะคะ
พิมพ์อยากเดินทางท่องเที่ยวก่อน
amata says: คงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกพิมพ์ ผมเป็นผู้ชายนะ
ครับ แล้วทีบ่ ้านก็ไม่มีใครถ้าผมมัวแต่ตะลอนเที่ยว ไม่ช่วยพ่อตอนนี้ แล้ว
เมื่อไหร่ล่ะท่านจะสบายเสียที ตอนนี้ท่านไม่สบายมากและบริษัทก็มปี ัญหา
ใหญ่ด้วย
pimm says: คุณมีเหตุผลของคุณตามเคย พิมพ์คงแย้งคุณไม่
ชนะอยู่ดีสนิ ะคะ ไม่รู้ล่ะพิมพ์งอนคุณแล้วด้วย ถ้าคุณไม่เที่ยวกับพิมพ์
ครั้งนี้ พิมพ์จะไปคนเดียวก็ได้ค่ะ
amata says: มันต้องมีเวลาล่ะน่า คุณรอสักพักได้ไหม ให้งาน
ของผมเข้าที่เข้าทางก่อน
pimm says: ไม่ค่ะ ตะทำงานของตะไปเถอะ ตามสบายเลย พิมพ์
จะไปเที่ยวยุโรปเดือนหน้านี้แล้ว พิมพ์ไม่ชอบเลยคนผิดสัญญา
พิมพ์มาดาแฟนสาวที่เพิ่งเรียนจบมาพร้อมกันจากอเมริกา ออก
อาการงอนรุนแรงที่อมตะผิดสัญญากับเธอ ทั้งคู่วางแผนจะเดินทางไป
เที่ยวยุโรปด้วยกันหลังจากเรียนจบ แต่ความเคยชินกับอาการงอนแบบนี้
ไม่ได้ทำให้อมตะรู้สึกแปลกใจอะไร พิมพ์มาดาออกจากระบบไปเองโดยไม่
ได้ลาเขา ซึ่งปกติหากเธองอนก็มักจะเป็นแบบนี้เสมอ
31/221

จากวันนั้นพิมพ์มาดาก็ไม่ได้เข้ามาในระบบอีกเลย งานที่ได้รับ
มอบหมายเริ่มเบียดเวลาของอมตะที่มีต่อพิมพ์มาดาไปอย่างไม่รู้ตัว
เสียงสัญญาณดังขึ้นอีกครั้ง อมตะหลุดจากความคิดทั้งมวล
ชายหนุ่มหันไปทางต้นเสียง เห็นอิงฟ้ากำลังนั่งเหม่อลอยสายตาของ
หญิงสาวมองไกลออกไปภายนอกกระจกใส อมตะลุกจากโซฟา เดินไปยัง
มุมที่อิงฟ้านั่งอยู่
“คุณฟ้า...นั่งทำอะไรคนเดียวครับ ผมขออนุญาตนั่งด้วยคนได้ไหม”
“อ่อ คุณอมตะ เชิญค่ะ”
หญิงสาวส่งยิ้มให้พรางเชื้อเชิญชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ เอ...ผมรบกวนหรือเปล่า”
“ไม่หรอกค่ะ ฟ้ามานั่งเล่นเฉย ๆ แล้วคุณอมตะล่ะคะ”
“ผมนอนไม่หลับครับ อากาศหนาว ๆ อย่างนีค้ ิดว่าจะลงมาหากาแฟ
ร้อนดื่มสักถ้วย”
“หากต้องการเครื่องดื่มแก้หนาว ฟ้าว่ารับชาร้อนดีกว่าไหมคะ กาแฟ
อาจจะทำให้คืนนี้นอนไม่หลับเลยทั้งคืนก็ได้นะ”
“อือ ก็ดีนะ...”
“ที่นี่มีชาใบหม่อนจากเมืองไทยด้วยนะคะ ชาใบหม่อนช่วยลดระดับ
น้ำตาลในเลือด ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ป้องกันการจับตัวของลิ่ม
32/221

เลือด เป็นประโยชน์สำหรับป้องกันโรคเบาหวาน และมีคุณสมบัติในการ


ลดความดันโลหิตด้วย และ อื่น ๆ อีกตั้งเยอะแน่ะ และที่สำคัญดื่มได้
บ่อย ๆ ด้วยนะคะ เนื่องจากมีคาเฟอีนต่ำช่วยบำรุงร่างกาย”
อิงฟ้าเผยรอยยิ้มสดใสหลังจากบอกกล่าวถึงสรรพคุณของชาใบ
หม่อนจบ คนนั่งฟังอมยิ้มเช่นกัน เขารู้สึกทึ่งในความรอบรู้ของเธอเป็น
อย่างมาก
“งั้นไม่ดื่มคงไม่ได้แล้วสินะครับเนี่ย”
“แล้วแต่คุณนะคะ ฟ้าก็แค่แนะนำ”
“ผมพูดเล่นต่างหากล่ะ ชาใบหม่อนสรรพคุณรอบตัวขนาดนีไ้ ม่ดื่ม
คงไม่ได้แล้วสิครับ”
อิงฟ้าส่งสัญญาณให้พนักงาน เพียงครูเ่ ดียวพนักงานก็เดินถือเมนู
เครื่องดื่มมาส่งให้ชายหนุ่มตรงข้าม อิงฟ้าสั่งชาใบหม่อนให้เขาที่หนึ่ง เพียง
ครู่เดียวพนักงานก็นำชามาเสิร์ฟ พร้อมทั้งนมอุ่น ๆ ให้อิงฟ้าหนึ่งที่ด้วย
“ฟ้าต้องดื่มนมค่ะ”
หญิงสาวแย้งตอบก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยถาม เนื่องจากเห็นเขาเลิกคิ้ว
เหมือนสงสัย เมื่อแก้วนมวางลงตรงหน้า
“ครับ”
33/221

“คุณตะคงมองว่าฟ้ายังเป็นเด็ก ๆ ใช่ไหมล่ะคะที่ยังต้องดื่มนมอยู่
นมนี่ดื่มก่อนนอนจะทำให้นอนหลับสบายค่ะ ความจริงฟ้ามีเครื่องดื่ม
โปรดหลายอย่างค่ะ”
อิงฟ้าพูดพรางยกแก้วนมขึ้นดื่ม
“ไม่หรอกครับ ผมกลับทึ่งในตัวคุณฟ้ามากกว่า คุณฟ้าดูเป็นผู้ใหญ่
มากว่าที่คิดเสียอีก”
“ขอบคุณค่ะ ฟ้าจะถือว่าเป็นคำชมนะคะ เออ...ว่าแต่คุณอมตะมา
สวิตฯครั้งนี้ประชุมสัมมนาอย่างเดียว หรือว่าท่องเที่ยวด้วยคะ”
หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีที่ประเด็นมันวนเวียนอยู่กับเรื่องของ
ตัวเอง
“ทั้งสองอย่างครับ ปีนี้อากาศที่เมืองไทยร้อนนานเหลือเกิน พอพูด
ถึงเรื่องเที่ยวเสียงเดียวที่เป็นเอกฉันท์เลยนั่นก็คือขอมาปั้นตุ๊กตาหิมะที่
สวิตฯ ตัวใหญ่ ๆ สักตัวสองตัว บ้างก็บอกว่าขอมานอนกลิ้งบนหิมะให้
หนำใจสักหน่อย บทสรุปของพวกเราคือหิมะครับในที่สุดพวกเราก็ลงเอย
ที่นี่”
“มาเที่ยวที่สวิตเซอร์แลนด์ ยังไงก็ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ทัศนียภาพ
ที่นี่สวยเกินบรรยาย ฟ้ารับรอง”
อิงฟ้าพยักหน้าให้ความมั่นใจ พร้อมทั้งฉีกยิ้มกว้าง เรื่องราวในใจที่
ค้างมาตั้งแต่บ่ายหายไปชั่วขณะ
34/221

“คุณฟ้าคงเที่ยวมาทั่วแล้วสิครับเนี่ย”
“ฟ้าอยูท่ ี่นี่มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วค่ะ แต่ก็สลับกับเมืองไทยด้วยเพราะ
ฟ้าเรียนที่เมืองไทย จะมาอยู่ที่นี่เวลาปิดเทอม หรือซัมเมอร์ เพื่อช่วยพ่อ
ทำงาน”
ขณะที่อิงฟ้าเล่าเรื่องของตัวเอง ชายหนุ่มก็ยกแก้วชาขึ้นดื่ม
“ชาใบหม่อนนี่รสชาติดีนี่ครับ”
“ถ้าเป็นคอชาก็บอกแบบนี้ล่ะค่ะ แต่ถ้าใครไม่ชอบก็อาจจะบอกว่าชา
มันขม โดยเฉพาะฟ้าเองนี่แหละค่ะ ถึงแม้จะรู้สรรพคุณแต่ฟ้าก็ไม่ดื่มชา
ฟ้าไม่ชอบอะไรที่มันขม ๆ ฝาด ๆ ลิ้น ว่าแต่คุณตะมีโปรแกรมเที่ยว
หรือยังคะ”
“ผมมาที่นเี่ ป็นครั้งแรกครับ นอกเหนือห้องประชุมแล้วก็อาจจะตาม
ขบวนกันไปย่ำหิมะเล่นกันก่อน”
“งั้นก็ต้องพิชิตยอดยุงเฟราให้ได้นะคะ ไหน ๆ มาแล้วต้องไปให้ถึง
ยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปให้ได้ เพราะที่นั่นคือหัวใจของประเทศ
สวิตเซอร์แลนด์ เมืองอินเทอร์ลาเคนถือเป็นศูนย์กลางของดินแดนยุงเฟรา
ทีม่ ีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เมืองอินเทอร์ลาเคนและบรรยากาศรอบเมือง
ตอบโจทย์ในใจของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มีต่อประเทศสวิตเซอร์แลนด์ค่ะ
เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างสองทะเลสาบและล้อมรอบด้วยภูเขา คุณ
อมตะลองนึกภาพสิคะเวลาที่เรานั่งจิบกาแฟอุ่น ๆ ที่ร้านกาแฟข้างถนน
35/221

ชมความงดงามของธารน้ำแข็งบนยอดเขายุงเฟรา มันเหนือคำบรรยาย
ขนาดไหน”
“ก็ว่าอย่างนั้นล่ะครับ ไม่รู้ว่าตัวเองจะสู้ความหนาวไหวไหม แต่ผมว่า
สวิตเซอร์แลนด์ตรงไหนก็สวย ขนาดรีสอร์ตริมทะเลสาบแห่งนีม้ องมุมไหน
ก็สวยไม่มีที่ติเลยจริง ๆ”
“อาจจะแปลกตาเพราะบรรยากาศไม่เหมือนเมืองไทยมั้งคะ และอาจ
จะสวยเพราะที่นี่มีหิมะตกด้วย”
อมตะรู้สึกว่าพอได้คุยกับอิงฟ้าแล้วเขายิ่งประทับใจในตัวหญิงสาว
มาก ๆ แววตาใส ๆ ในดวงตากลมโตคู่สวยนี้มองอย่างไรก็ไม่เบื่อ
“แล้วนี่คุณฟ้ามานั่งตรงนี้บ่อย ๆ เหรอครับ แล้วนี่...”
อมตะมองไปที่น้องแก้มแดงของอิงฟ้าที่เธอกำลังออนไลน์อยู่
“อ๋อ ฟ้ากำลังคุยกับเพื่อนอยู่นะค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราคุยกันทุกวัน
อยู่แล้วไม่รบกวนอะไร”
“คุณฟ้าชอบเล่นเอ็มเหรอครับ”
“มันเป็นอีกช่องทางทีไ่ ด้คุยกับเพื่อนง่าย ๆ ชอบไหม ก็ไม่เลวร้าย
อะไรนี่คะ บางทีเราก็ฝากข้อความกันทีไ่ ฮไฟว์บ้าง เฟชบุ๊กบ้างค่ะ แต่ฟ้าว่า
เอ็มหรือไม่ก็เมลมันส่วนตัวดีค่ะประเดี๋ยวฟ้าจะส่งภาพหิมะกำลังตกอยู่
ตอนนี้ไปให้เพื่อนอิจฉาเล่น
“นอนดึกเหมือนกันนะครับ ขนาดกลางวันต้องทำงานด้วย”
36/221

“เป็นบางวันน่ะค่ะคุณตะ ความจริงคืนนี้หนาวมากนะคะ ใคร ๆ ก็


คงจะนอนหลับสบายใต้ผ้าห่มอุ่นกันหมด แต่ฟ้าว่าเสียดายบรรยากาศออก
ค่ะ ฟ้าชอบมานั่งมองดูหิมะตกตรงมุมนี้เสมอ ถ้าเป็นเวลากลางวันฟ้าก็จะ
เก็บภาพเอาไว้ส่งไปให้เพื่อนดู”
“คุณฟ้าชอบถ่ายรูปด้วยเหรอครับ...”
“ไม่มใี ครไม่ชอบหรอกค่ะคุณตะ ด้วยบรรยากาศที่แสนวิเศษแบบนี้
คงปฏิเสธยากมาก ๆ”
“ใครเป็นเพื่อนคุณฟ้าคงโชคดีนะครับ”
“ยังไงคะ...แต่ฟ้าว่าอาจจะโชคร้ายมากกว่า”
“คุณฟ้าไม่รู้ตัวเองเลยเหรอครับว่าคุณน่ะเก่งมากทีเดียว ข้อมูลคุณ
แน่นทุกเรื่องเลยที่เราคุยกัน แม้แต่เรื่องของชา ซึ่งผมเองอยูเ่ มืองไทย
ตลอด ผมยังไม่เคยรู้เรื่องนี้เลยจริง ๆ”
“ชมกันเกินไปแล้วล่ะค่ะคุณตะ รายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้มันค่อย
ๆ หลั่งไหลเข้ามาในหัวฟ้าเพราะฟ้าต้องคลุกคลีกับมันต่างหากล่ะคะ”
“แต่ถ้าหากว่าคนไม่มีใจจะรับข้อมูลซะอย่าง ก็อาจจะไม่รู้เท่าคุณฟ้า
นะครับ”
“งั้นก็คงใช่มั้งคะ...”
ขณะสนทนากับชายหนุ่ม อิงฟ้าเหลือบเห็นว่าชาในถ้วยของเขาหมด
ไปนานแล้ว เธอจึงเอ่ยต่อ
37/221

“คุณตะรับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ”
“ไม่ดกี ว่าครับแค่นี้ก็พอ ผมรบกวนคุณฟ้ามากไปแล้ว ตอนนีก้ ็ดึก
มากแล้วขอตัวดีกว่าครับ”
ชายหนุ่มว่าพรางหันไปทางพนักงาน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณตะ ชาถ้วยเล็กนิดเดียวฟ้าเลี้ยงเองค่ะ”
เธอส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะบอกขอตัวกลับห้องพัก
เช่นเดียวกัน น้องแก้มแดงถูกพับเก็บรวดเร็วอิงฟ้าเดินไปยังเคาน์เตอร์
พนักงานพูดอะไรสองสามคำจึงเดินกลับมายังชายหนุ่ม ทั้งคูเ่ ดินออกจาก
มุมกาแฟที่สุดแสนโรแมนติกมาตามทางเดินที่ทอดยาวไปยังโซนห้องพัก
อิงฟ้ายืนส่งเขาทีต่ รงบริเวณทางแยกไปยังห้องต่าง ๆ ก่อนที่จะพาตัวเอง
กลับไปยังห้องพักที่อยู่ฝั่งหนึ่ง
กลับเข้ามาภายในห้องพักของตัวเองอิงฟ้าค่อย ๆ วางน้องแก้มแดง
ลงบนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียง แล้วทิ้งตัวเองลงนอนเอนกายบนเตียงกว้าง เมื่อ
ต้องอยู่คนเดียวความรู้สึกเมื่อบ่ายก็เริ่มเข้ามาทักทายอิงฟ้าอีกครั้ง
ชายหนุ่มหน้าจืดนั่นมีเรื่องอะไรที่ต้องคุยกับนายธาดา
...ทำไมคุณพ่อถึงมีความลับกับเราเกี่ยวกับนายคนนีด้ ้วยนะ ถึง
ขนาดต้องปิดห้องคุยกันตั้งหลายชั่วโมง...
การมาเยือนของชายหนุ่มนิรนามทำให้อิงฟ้ามีคำถามในใจมากมาย
ทั้งที่ชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นไม่เคยมาที่นี่ ไม่มใี ครเคยรู้จัก แต่วันหนึ่ง
38/221

เมื่อเขาก้าวเข้ามาในรีสอร์ตแห่งนี้ ความรู้สึกในใจของอิงฟ้าก็อ้างว้างอย่าง
ไม่มเี หตุผล ความหนาวเหน็บจากอากาศที่กำลังติดลบอยูใ่ นขณะนีย้ ังไม่
เท่าความหนาวในหัวใจของหญิงสาวเลย
4

เช้าวันใหม่อิงฟ้าตื่นเร็วกว่าปกติ เธอแต่งตัวสวยผิดตากว่าทุกวันทำ
ให้ลูกหยีต้องเหลียวหลังมองตามอย่างสงสัย อิงฟ้าเข้าไปติดโน้ตทีห่ น้า
โต๊ะทำงานของนายธาดา ก่อนที่จะสะพายเป้คู่ใจออกไปจากรีสอร์ต
คอฟฟีชอปที่เดิมทีอ่ ิงฟ้านั่งเป็นประจำ วันนี้มีแขกหนาตากว่าทุกวัน
นั่นหมายถึงว่าลูกค้าทัวร์มาลงเยอะ
“คุณกุลคะ วันนี้ยุ่งแต่เช้าเลยนะคะ”
“ค่ะคุณฟ้าพอดีว่าแขกรอรถมารับน่ะค่ะ โซนนี้กเ็ ลยหนาตาเป็นพิเศษ
นิดหนึ่ง แต่เดี๋ยวสักพักก็คงบางตาแล้วล่ะค่ะ”
“งั้นฟ้าก็ไม่ต้องช่วยสินะคะ คือว่า...”
“อ๋อ แต่งตัวสวย วันนี้คุณฟ้าไปข้างนอกเหรอคะ”
“อือ ค่ะ”
“ตามสบายค่ะคุณฟ้า ทางนี้ไม่ต้องห่วงกุลรับมือไหวอยูแ่ ล้ว มีลูกหยี
อีกคนสบายมากค่ะ”
40/221

“เที่ยวให้สนุกนะคะ อยู่แต่รีสอร์ตคุณฟ้าก็ก้มหน้าทำงานตลอดเลย
กุลว่าเปิดหูเปิดตาบ้างก็ดีนะ อีกหน่อยเรียนหนัก ๆ จะหาเวลาเที่ยวไม่ได้
นะคะ”
กุลดาเหมือนจะเข้าใจหญิงสาวดีในภาวะทีห่ งอยเหงาแบบนี้ อิงฟ้า
เอาใจใส่ในงานที่นายธาดามอบหมายให้เป็นอย่างดีมาตลอด ไม่เคย
ปริปากบ่นหรืองอแงขี้เกียจเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปที่ยังขาดความรับผิดชอบ
รถทัวร์ที่มารับนักท่องเที่ยวจอดรออยูท่ างเข้าด้านหน้าสองคัน อิงฟ้า
เดินผ่านลานจอดรถด้านหน้าโดยไม่ได้สนใจใคร แต่ภาพที่เธอก้าวออกมา
จากตัว รีสอร์ตอยู่ในสายตาของอมตะโดยตลอดขณะทีเ่ ขานั่งอยู่บนรถ
เรียบร้อย คณะสัมมนามีแผนการไปเดินย่ำหิมะเล่นอย่างที่อมตะบอกกับ
อิงฟ้า แต่ชายหนุ่มไม่ได้สนใจแผนการเที่ยวครั้งนีเ้ ท่าไหร่ เขาจำใจต้องมา
กับคณะก็เพราะหน้าที่และตำแหน่ง ผู้บริหาร
อิงฟ้านั่งรถของรีสอร์ตออกมาก่อนรถของนักท่องเที่ยว อมตะมอง
ตามอย่างเสียดายที่ไม่รวู้ ่าเธอออกไปไหน ค่ำคืนที่ผ่านมาเขารู้สึกว่าความ
เหงาที่ค้างอยู่ในใจมันถูกเบียดออกไปโดยหญิงสาวที่เขาเพิ่งได้สนทนาด้วย
เมื่อคืน อาการเบื่อหน่ายในตอนแรกที่อิดออดไม่อยากมาเที่ยวในทริป
สัมมนานี้หายไปหมดสิ้น
โบสถ์เก่าริมทะเลสาบ
41/221

อิงฟ้าเลือกที่จะให้ตัวเองลงเดินเที่ยวที่ริมทะเลสาบก่อนที่จะตัดสินใจ
ไปเที่ยวที่อื่น หญิงสาวออกมาวันนีไ้ ม่ได้ขออนุญาตนายธาดาก่อน
เพียงแต่เขียนโน้ตติดไว้ที่โต๊ะทำงานของพ่อเท่านั้น
ข้างทางเดินบริเวณรอบทะเลสาบ มีต้นสนยาวตลอดสองข้างทางแต่ก็
ถูกปกคลุมด้วยหิมะจนเกือบจะมองไม่เห็นใบสีเขียว อิงฟ้าหยิบเอา
กล้องถ่ายรูปในกระเป๋าออกมาถือไว้ในมือ มองมุมนั้นมุมนี้แล้วอมยิ้มคน
เดียว เธอกดชัตเตอร์ตามใจตัวเองเมื่อเห็นมุมถูกใจ เลนส์ของกล้องถูก
หมุนไปเรื่อย ๆ ตามทางเดินมีผู้คนเดินเก็บภาพเช่นเดียวกันกับอิงฟ้า เธอ
เข้าใจว่าคงเป็นนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงามของเมืองหนาวดินแดน
ในฝันแห่งนีเ้ ช่นเดียวกัน แม้จะออกมาข้างนอกและชื่นชมความงดงามของ
บรรยากาศภายนอกรีสอร์ตแล้ว แต่อิงฟ้าก็ไม่อาจสลัดความรู้สึกบางอย่าง
ทีค่ ้างใจได้อยู่ดี หญิงสาวเงยมองดูเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะอยูบ่ นยอดต้นสน
มือยกกล้องขึ้นตามสายตาที่มองแล้วกดชัตเตอร์ในมุมที่พอใจ ก่อนจะก้าว
ถอยหลังเพื่อหมุนตัวเดินกลับทางเดิม
“อุ๊ย !!!...”
ทันทีที่ชนเข้ากับร่างหนึ่งจนตัวเซ
“คุณอิงฟ้า”
“คุณอมตะ คุณมาที่นี่ด้วยเหรอคะ แต่เมื่อเช้าฟ้าเห็นว่าคณะทัวร์
ออกไปเที่ยวข้างนอกไม่ใช่เหรอคะ”
42/221

“ครับผม แต่พอดีผมขอลงระหว่างทาง”
“ทำไมล่ะคะ...”
“สวิตเซอร์แลนด์ไม่ว่าจะมองมุมไหนมันก็สวยงามไปหมด
โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมแบบนี้”
“ค่ะ แต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกันตรงไหนเลยกับการไม่ไปเที่ยว
พร้อมคณะนี่คะ”
“คุณฟ้าอาจจะมองแบบนั้น แต่ผมไม่ได้คิดแบบนั้นนี่ครับ คณะ
สัมมนาออกไปเที่ยววันนี้ถึงไม่มีผมก็คงไม่เป็นไรมั้งครับ เพราะส่วนใหญ่
เป็นพนักงาน ทุกคนมีบัดดี้มคี ู่หูกันหมด ไม่มผี มร่วมทางนะสิทุกคนจะ
สนุกกว่า”
“คุณตะกำลังจะบอกฟ้าว่า หากมีเจ้านายอยูใ่ นกลุ่มด้วย พนักงานจะ
เที่ยวไม่สนุกอย่างนั้นเหรอคะ”
“อืม...”
เมื่อหญิงสาวรู้ทันความคิดเขา ชายหนุ่มถึงกับยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“ก็ไม่เป็นไรค่ะ งั้นคุณตะก็มาเที่ยวกับฟ้าก็ได้นะคะ ฟ้าไม่ใช่
พนักงานในบริษัทของคุณตะ ฟ้าไม่อึดอัดหรอกค่ะ ว่าแต่คุณตะจะสนุก
ไหมถ้าจะเดินตามฟ้าไปเที่ยว”
“ถ้าคุณฟ้าไม่รังเกียจนะครับ”
43/221

ว่าแล้วหญิงสาวก็ยกกล้องขึ้นมาตั้งค่ากล้องนิดหน่อยเพื่อกดชัตเตอร์
ในจังหวะที่ชายหนุ่มเผลอยืนมองออกไปยังทะเลสาบที่ปกคลุมไปด้วย
น้ำแข็ง อิงฟ้าไม่รอช้าภาพที่สองสามก็ตามมาติด ๆ ด้วยความฉับไวของ
มือโปรในการถ่ายภาพของตัวเอง
บรรยากาศของเมืองหนาวเป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงหลาย ๆ คนที่
อยากจะมาสัมผัส โดยเฉพาะใครก็ตามที่ได้เดินทางท่องเที่ยวกับคู่รัก...คง
เพราะแบบนี้หรือเปล่าที่พิมพ์มาดาอ้อนวอนเขาสารพัด ขอร้องให้เขา
เดินทางท่องเที่ยวด้วยกันหลังจากเรียนจบ แต่ชายหนุ่มก็ไม่อาจตามใจเธอ
ได้เนื่องจากความรับผิดชอบในงานของครอบครัวต้องมาก่อนเป็นอันดับ
แรก เวลาทีไ่ ม่ตรงกัน จังหวะเวลาทีไ่ ม่สัมพันธ์กันทำให้มีช่องว่างระหว่าง
คนสองคน พิมพ์มาดาไม่เคยทำงาน ไม่เคยลำบาก เธออาจจะไม่เข้าใจว่า
หน้าที่ของลูกที่ต้องรับช่วงงานต่อจากครอบครัวมันเป็นอย่างไร
พิมพ์มาดาแตกต่างจากอิงฟ้ามากมายเหลือเกิน อิงฟ้าหญิงสาวตัว
เล็ก ๆ แต่ก็สามารถทำหน้าที่บริหารงานใหญ่ ๆ ได้ อมตะแทบไม่อยาก
เชื่อ หากเขาไม่เห็นด้วยตาตัวเอง
“คิดอะไรอยู่คะ หรือว่าหนาวจนเดินไม่ออกแล้ว”
อิงฟ้าเดินเข้ามาใกล้ ๆ เขาขณะทีห่ ญิงสาวแอบเก็บภาพเขาไว้ใน
หลายมุมพอแล้ว
“อ๋อ เปล่าครับ ผมแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง”
44/221

“หรือว่า คิดว่าแวะมาที่นี่อาจไม่สนุกเหมือนไปกับคณะ หรือเปล่าคะ”


“ไม่แน่นอนครับคุณฟ้า ผมว่าผมตัดสินใจถูกแล้วต่างหากที่ลงมา
เที่ยวที่นี่แล้วได้เจอคุณฟ้า”
ทั้งคู่เดินเลาะไปตามทางเดินริมทะเลสาบ ต้นไม้ที่มนี ้ำแข็งเกาะอยู่มัก
ดึงให้สายตาของอมตะต้องหันมองเสมอ ๆ ตามทางเดินอิงฟ้าหยุดเดินเป็น
ระยะเพื่อเก็บภาพสวย ๆ ภาพหญิงสาวหันซ้ายทีขวาที ทำให้อมตะอดไม่
ได้เช่นเดียวกันที่จะควักเอากล้องถ่ายรูปในเสื้อโค้ทออกมาเก็บภาพเธอ
เช่นกัน
“ช่วงนี้นักท่องเที่ยวเยอะเหมือนกันนะครับคุณฟ้า”
“ค่ะ ส่วนใหญ่อาจจะเป็นคนเมืองร้อนที่มาเที่ยวกัน เพราะความ
ตั้งใจเดียวเลยคือหากมาต้องได้เห็นหิมะ”
“แต่กห็ นาวเอาการเหมือนกันนีค่ รับ เที่ยวได้แต่อยูน่ าน ๆ คงไม่
ไหว”
“คุณตะดูยอดเขาสิคะ”
อิงฟ้าชี้ให้อมตะดูยอดเขาฝั่งตรงข้ามที่เห็นน้ำแข็งปกคลุมอยู่
“ครับสวยมาก”
“แล้วมองเรื่อยลงมายังทะเลสาบนี่ เห็นไหมว่ามันจะขาวโพลนไป
หมด เมืองทั้งเมืองเหมือนเมืองในฝันเลย ธรรมชาติดึงดูดนักท่องเที่ยวได้
ด้วยตัวของมันเองค่ะ”
45/221

“หากเป็นฤดูอื่น ๆ ก็คงสวยไม่ต่างกันสินะครับ”
“ค่ะ หากเป็นฤดูใบไม่ผลิ เมืองก็จะตกเป็นสีเขียว ดูสดชื่นค่ะอากาศ
เย็นสบาย ที่รสี อร์ตไม่เคยขาดลูกค้าเลย จะมีทัวร์มาลงตลอดทุกฤดูเลย
ค่ะ”
“แล้ววันนี้คุณฟ้าไม่อยู่ ที่รีสอร์ตไม่ยุ่งเหรอครับ”
“ไม่หรอกค่ะ วันนี้วันหยุดของฟ้าก็เลยออกมาเที่ยวพักผ่อน”
อมตะและอิงฟ้าคุยกันถูกคอในเวลาอันรวดเร็ว ความหนักใจเริ่มถูก
เบียดออกไปอย่างไม่รู้ตัว อิงฟ้าอาสาพาชายหนุ่มนั่งรถไฟเที่ยวในวันนี้ จุด
แรกทีแ่ วะคือร้านกาแฟข้างทางที่อิงฟ้าบอกว่ารสชาติเลิศแค่ไหน เมื่อต้อง
นั่งดื่มท่ามกลางอากาศแสนหนาวแบบนี้ เมื่ออมตะได้ลองลิ้มรสกาแฟร้อน
ก็รู้สึกอย่างที่อิงฟ้าบอกจริง ๆ
วันนี้ความแก่นซนของหญิงสาวถูกพับเก็บไว้ครึ่งหนึ่ง เพราะวันนี้เธอ
เหมือนมีหน้าที่กลาย ๆ ว่าต้องเป็นมนุษย์ข้อมูลนิดหน่อย เพื่อทำหน้าที่
ไกด์สาวชั่วคราว
กาแฟร้อนของเขาอยู่ในถ้วยที่แปลกตา อิงฟ้ากดชัตเตอร์เก็บภาพนั้น
ทันทีที่พนักงานเสิร์ฟเดินห่างออกไป
“มันเป็นความทรงจำน่ะค่ะคุณตะ”
เธอชิงตอบเมื่อเห็นชายหนุ่มมองหน้าเหมือนเป็นคำถาม
46/221

อิงฟ้าผูม้ ากด้วยความสามารถ ทำให้อมตะอุ่นใจอย่างทีไ่ ม่เคยรู้สึก


มาก่อน ในเมืองหนาวทีอ่ ุณหภูมิติดลบและหัวใจที่แสนอ้างว้างที่เขาพาข้าม
น้ำข้ามทะเลมาเยือน บัดนี้มันไม่รู้สึกเงียบเหงาเลยแม้แต่นิดเดียว
อิงฟ้าเป็นหญิงสาวทีล่ ะเอียดมาก แม้การออกมาเที่ยวนอกบ้านเพียง
เท่านีเ้ ธอก็สามารถเก็บเรื่องราวในการเดินทางได้เป็นอย่างดี แม้แต่กาแฟ
ถ้วยเล็ก ๆ ที่เขาดื่มก็ไม่พ้นสายตาเธอให้ต้องบันทึกเรื่องราวได้อย่างไม่
ขาดตอน ส่วนเครื่องดื่มของอิงฟ้าเองเป็นโกโก้ร้อนในแก้วที่แปลกตาอีก
เช่นเดียวกัน อมตะมองดูโดยรอบของร้านจึงได้ถึงบางอ้อ เนื่องจากการจัด
ตกแต่งร้านอย่างมีสไตล์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาชนะในการใช้ ล้วนแล้วแต่
เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ฉะนั้นจะต้องไม่เห็นร้านอื่นที่เป็นแบบนี้แน่นอน
นอกจากภูมิประเทศจะเป็นดินแดนแห่งความฝันแล้ว การได้มาเยือน
และได้ลิ้มรสกาแฟอุ่น ๆ ในร้านที่เรียบหรูและมีสไตล์แบบนี้แล้วสุด
แสนจะคุ้มค่าสำหรับอมตะ
“ที่คุณฟ้าพูดถึงยุงเฟราเมื่อคืน ที่นั่นมีอะไรน่าสนใจครับ ถ้าหาก
ผมจะไปจะต้องเดินทางยังไง”
“อ้าว คุณตะไม่ทราบข้อมูลมาก่อนเหรอคะ แล้วคณะสัมมนาของคุณ
ตะไม่ได้มีโปรแกรมนี้รวมอยู่ด้วยเหรอคะ”
อิงฟ้าขมวดคิ้วก่อนเอ่ยปากถามชายหนุ่มเบื้องหน้า
47/221

“อืม ผมไม่แน่ใจสำหรับโปรแกรมเที่ยวน่ะครับ ผมไม่ได้ดูข้อมูล


เรื่องนี้มาก่อน เพราะตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจทีจ่ ะมา แต่เนื่องจากว่า
คุณพ่อติดธุระสำคัญ ผมก็เลยต้องเดินทางมาสัมมนาในทริปนีแ้ ทน
ท่าน”
“อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง ตอนแรกฟ้าเข้าใจว่าคุณตะรู้ เพราะที่คุยกัน
เมื่อคืนคุณตะบอกว่าคงจะไปเดินย่ำหิมะเล่น ฟ้าเข้าใจว่าคุณตะจะไปที่นั่น”
“...”
อมตะยิ้มให้หญิงสาวพร้อมทั้งส่ายหน้าอย่างคนที่ไม่รู้ข้อมูลจริง ๆ
“ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากจะมีทัศนียภาพตระการตา
โรงแรมสุดหรูแล้ว ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ยังมี ดินแดนยุงเฟราที่ทอดตัว
อยูใ่ จกลางแนวเทือกเขาแอลป์ โดยมีเมืองอินเทอร์ลาเคนเป็นหัวใจของ
ดินแดนทีท่ ุกยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะ ซึ่งมีแนวเขายาวกว่า สิบแปด
กิโลเมตร หรือสิบเอ็ดไมล์ค่ะคุณตะ”
“ครับ”
“ดินแดนยุงเฟราเปี่ยมไปด้วยความงดงามของทะเลสาบในเทือกเขา
แม่น้ำ
ลำธาร น้ำตก ธารน้ำแข็ง และยอดเขา ภูมิประเทศทิวเขาจากทะเล
เมดิเตอร์เรเนียนถึงบริเวณขั้วโลกเหนือ ดินแดนยุงเฟราได้รับยกย่องให้
เป็นมรดกโลกจากยูเนสโกด้วยนะคะ เพราะเป็นสถานที่แรกในเทือกเขา
48/221

แอลป์ที่มีธารน้ำแข็งยาวที่สุดกว่ายีส่ ิบสองกิโลเมตร หรือสิบสีไ่ มล์


สถานีรถไฟทีส่ ูงที่สุดในยุโรปบนยุงเฟรายอร์ค ยอดเขาชิลธอร์นกับ
ภัตตาคารหมุนพิสกลอเรีย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เจมส์บอน
ตอน On Her Majesty’s Secret Service ค่ะ”
“อือ เก่งจังครับคุณฟ้า ข้อมูลของคุณฟ้าทำให้ผมอยากไปเที่ยวซะ
แล้วสิครับเนี่ย ไม่ไปคงเสียดายแย่”
“งั้นแหละค่ะ”
“ตอนแรกผมมาอย่างคนทีไ่ ร้ข้อมูลเอามาก ๆ พอทราบว่าต้องมา
สัมมนาผมก็เตรียมแต่เนื้องานล้วน ๆ เรื่องเที่ยวไม่ได้อยู่ในหัวเลย”
“แล้วอย่างนี้จะเที่ยวสนุกได้ยังไงล่ะคะ อย่างน้อย ๆ ก่อนไปเที่ยวก็
ต้องรู้ข้อมูลบ้างว่าที่ ๆ เราจะไปคือที่ไหน น่าสนใจอย่างไรนะคะ”
“งั้นคงต้องรบกวนคุณฟ้าแล้วสิครับเนี่ย”
“ไม่มปี ัญหาเลยค่ะ ด้วยความเต็มใจ ว่าแต่คุณอมตะจะมีเวลาเที่ยว
เหรอคะเพราะหากจะเที่ยวจริง ๆ ก็ต้องใช้เวลาด้วยนะคะ”
“หากต้องการประสบการณ์ชีวิตที่แปลกใหม่แต่ไม่ยอมค้นหา อย่างนี้
แล้วเราจะได้มาหรือครับ”
อมตะพูดด้วยรอยยิ้ม อิงฟ้ายิ้มตอบแต่ทำเหมือนไม่ได้ใส่ใจใน
คำพูดของเขาเท่าไหร่นัก หญิงสาวยกแก้วโกโก้ร้อนขึ้นดื่ม สายตาสอดส่าย
49/221

ไปรอบ ๆ ร้าน เหมือนจะบันทึกเอาสิ่งที่ผ่านสายตานั้นให้อยูใ่ น


ความทรงจำให้หมด
เธอรับรูถ้ ึงความรู้สึกบางอย่างจากชายหนุ่มเบื้องหน้า ว่าเขาคงไม่ได้
แค่พูดสนุก ๆ เท่านั้นแน่นอน แม้แต่วันนีด้ ้วย คงไม่ใช่แค่ความบังเอิญ
แน่ ๆ ที่เขาแวะมาเดินเที่ยวแล้วเจอกับอิงฟ้าที่โบสถ์เก่าริมทะเลสาบแห่ง
นั้น
...ให้ตายเถอะสุดหล่อ คนอย่างอิงฟ้าก็มีเสน่ห์ให้ผู้ชายปลื้มเหมือน
กัน นะเนี่ย ยายใบตองเอ๊ย...ฉันอยากจะร้องบอกแกดัง ๆ ข้ามทวีปไป
เลยว่าตอนนีม้ ีหนุ่มหล่อจากเมืองไทย มาเดินตามก้นฉันต้อย ๆ อยูท่ ี่
สวิตฯ นี่...
อิงฟ้าอดกระหยิ่มในใจไม่ได้ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองในเวลานี้ และ
คงจะอีกหลายวันที่เธออาจจะต้องเป็นไกด์เพื่อพาอมตะเที่ยวให้ทั่ว
สวิตเซอร์แลนด์
อมตะเองก็เพลิดเพลินกับทุก ๆ ที่ ที่อิงฟ้าพาเที่ยวในวันนี้ แม้
อากาศจะหนาวเย็นสักเพียงใดแต่เขากลับไม่ได้สนใจเลย หรืออาจจะไม่
รู้สึกเสียด้วยซ้ำไป
ใต้ต้นสนที่มีเกล็ดน้ำแข็งจับตัวกันหนาเตอะ ชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่า
หากเกล็ดน้ำแข็งนั้นหล่นลงมาโดนอิงฟ้าจะเป็นอย่างไร พลันชายหนุ่มก็
เอื้อมมือขึ้นไปเขย่ากิ่งสนเบา ๆ ดั่งใจคิดเกล็ดน้ำแข็งหล่นโดนอิงฟ้ากราว
50/221

“เฮ้ คุณอมตะ คุณทำอะไรของคุณน่ะ ฟ้าเปียกนะคะ”


“ขอโทษครับคุณฟ้า ผมแค่อยากรู้ว่ามันจะเหมือนหยดน้ำหลังฝนตก
หรือเปล่า”
“เข้าใจคิดนะคะ เอ...หรือว่าคุณแกล้งฟ้า งั้นอย่างนี้ดีกว่า”
อิงฟ้านึกสนุกบ้าง เธอไม่พูดพร่ำทำเพลง ก้มลงกำเอาหิมะปาใส่
ชายหนุ่มทันทีเป็นการแก้แค้นคืนเมื่อสักครู่
ภายในใจของอมตะชุ่มชื่นฉ่ำเย็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งคู่วิ่งไล่
ปาหิมะใส่กันอย่างสนุกสนานจนลืมความหนาวไปชั่วขณะ อิงฟ้าเองก็ลืม
หมดสิ้นสำหรับความกังวลในใจที่แบกรับมาทั้งคืน
5

กว่าสามทุ่มอิงฟ้ากลับเข้ามาถึงรีสอร์ต นายธาดาเข้าห้องพักไปแล้ว
แต่เมื่อเห็นว่ายังมีแสงไฟลอดออกมาจากภายในห้อง อิงฟ้าจึงเคาะประตู
เรียก ไม่มีเสียงตอบจากภายในหญิงสาวจึงถือวิสาสะหมุนลูกบิดเพื่อเปิด
เข้าไปภายในห้องของนายธาดา
“คุณพ่อคะ คุณพ่อนอนหรือยังคะ...”
อิงฟ้าก้าวเข้ามาภายในห้องของนายธาดา สายตาสอดส่ายไปรอบ ๆ
ห้องเนื่องจากประตูห้องไม่ได้ลอ็ ก ผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้นั่งอยูใ่ นจุดที่เคยเห็น
บ่อย ๆ นั่นคือโซฟาตัวโปรดที่นายธาดามักจะเอนหลังอ่านหนังสือพิมพ์
เป็นประจำ
“กลับมาแล้วเหรอสาวน้อย”
เสียงตอบของนายธาดาดังออกมาจากมุมหนึ่งของห้อง
“คุณพ่อยังไม่นอนเหรอคะ”
“อะไรกันลูก นี่มันเพิ่งกี่โมงเอง จะไล่ให้พ่อนอนแต่หัววันเลยเหรอ
หึ”
52/221

นายธาดาเดินถือแฟ้มออกมาจากมุมห้อง เดินโอบไหล่บุตรสาวมายัง
โซฟาสีเนื้อกลางห้อง ทั้งคู่นั่งลงพร้อม ๆ กัน
“เปล่าซะหน่อยค่ะพ่อ ฟ้าเห็นห้องเงียบ ๆ เลยคิดว่าพ่อนอนแล้วน่ะ
ค่ะ”
“เออ แล้วนี่ไปเที่ยวไหนมาล่ะลูก ปล่อยให้พ่อทานข้าวเย็นคนเดียว
นะ วันนี้”
“คนเดียวที่ไหนคะ ฟ้าเข้าใจว่าพ่อมีเพื่อนทานข้าวแล้วซะอีก ฟ้าก็
เลยไม่เข้ามาเร็วเพื่อขัดจังหวะ”
“หนูหมายถึงใคร ตั้งคำถามกับพ่อ และน้ำเสียงแบบนี้แสดงว่าคิด
อะไรอยู่ใช่ไหม”
“คิดอะไรคะ ฟ้าไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย”
หญิงสาวทำสีหน้ากระเง้ากระงอด
“ไม่ได้คิดอะไร แต่นี่มันอาการของคนน้อยใจชัด ๆ”
“คุณพ่อสนใจความรู้สึกของฟ้าด้วยเหรอคะ”
“เด็กโง่ พูดอะไรอย่างนั้นล่ะลูก พ่อที่ไหนล่ะไม่สนใจลูก หึ...”
ทิ้งคำสนทนาไว้เพียงเท่านั้นนายธาดาก็หันไปสนใจแฟ้มตรงหน้าอีก
ครั้ง อิงฟ้าสังเกตว่านายธาดาดูสีหน้าเครียดลง แต่หญิงสาวก็ไม่กล้าทักใน
ขณะนั้น มีเรื่องอะไรที่พ่อจะต้องเครียด หากเป็นเรื่องของรีสอร์ตขณะนีก้ ็
53/221

ลูกค้าแน่นตลอดแทบจะไม่มหี ้องว่างในฤดูหนาวแบบนี้ คนงานก็ไม่มี


ปัญหาอะไร ทุกอย่างกำลังไปได้ดแี ละลงตัว อีกหน่อยอิงฟ้าเรียนจบก็จะ
ได้มาบริหารที่นี่ช่วย ซึ่งมีแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้น
“เอ้อ ฟ้ามาก็ดีแล้วลูก พ่อมีเรื่องอยากคุยกับลูกอยู่พอดีเลย”
สายตาของนายธาดายังไม่ละจากแฟ้มเบื้องหน้าขณะที่เอ่ยกับ
บุตรสาว มือข้างหนึ่งยังคงเปิดเอกสารไปเรื่อย ๆ หน้าต่อหน้า
“เรื่องอะไรคะพ่อ”
“อือ เรื่องงานที่นี่ล่ะลูก”
“สำคัญมากไหมคะ”
“ก็ไม่น้อยล่ะลูก ต่อไปนีพ้ ่อคิดว่าจะให้กลินทร์มาช่วยงานทีร่ สี อร์ต
นะ ฟ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก จะได้มีเวลาเรียนเต็มที่ด้วยไงลูก”
“กลินทร์ คือใครคะพ่อ...แต่ทุกวันนีฟ้ ้าไม่เหนื่อยนะคะ ฟ้าทำได้ไม่มี
ปัญหาอะไรเลยนี่นา”
“ถึงอย่างนั้นเถอะลูก ฟ้าเหนื่อยกับพ่อมาเยอะนะลูก พ่ออยากให้ฟ้า
มีสังคมของตัวเอง ได้เรียนเต็มที่ มีเพื่อนฝูง มีกิจกรรม”
“พ่อคิดอะไรอยู่คะ หรือพ่อคิดอยากให้ฟ้าไปห่าง ๆ จากพ่อ”
“เหลวไหลฟ้า คิดอะไรอย่างนั้น”
“ก็พ่อจะให้คนอื่นมาทำงานแทนฟ้า ไม่ไล่แล้วยังไงล่ะคะ”
54/221

“พ่อให้เขามาช่วยงานลูก ไม่ใช่มาแทนที่ฟ้าสักหน่อย”
นายธาดาวางเอกสารเบื้องหน้าลง แล้วหันมาทางลูกสาว มือข้างหนึ่ง
โยกศีรษะหญิงสาวไปมาอย่างเอ็นดู
“ใครคือกลินทร์คะพ่อ”
อิงฟ้าถามย้ำกับบิดา ด้วยคิ้วทั้งสองข้างขมวดอย่างสงสัย หากอีกนัย
หนึ่ง ความรู้สึกในใจของเธอไม่พอใจอย่างแรง ทีท่ ราบข่าวจากนายธาดา
ในวันนี้
“ก็เด็กหนุ่มที่มานอนป่วยอยู่ที่นี่เมื่อวันก่อนไงลูก”
“นายหน้าจืดนั่น !...”
อิงฟ้าอุทานเสียงดัง
“เขาชื่อกลินทร์ลูก”
“แล้วคุณพ่อนึกยังไงให้เขามาทำงานกับเราค่ะ”
“เรื่องมันยาว แล้วพ่อจะเล่าให้ฟ้าฟังอีกทีวันหลังนะ”
“หรือมาเที่ยวแล้วไม่มีตังค์ค่าเครื่องบินกลับบ้าน ก็เลยจะหางานทำ
คุณพ่ออย่ารับใครสุ่มสี่สุ่มห้านะคะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นฟ้า ลูกพูดจาน่าเกลียดเกินไปแล้วนะ เขาเป็นแขกของ
พ่อ เขาตั้งใจมาที่นี่ไม่ใช่หลงทางมา เอาเถอะ ยังไงพ่อก็ตัดสินใจแล้ว ว่า
ตามนี้ละกัน...”
55/221

นายธาดาตัดบทที่จะไม่พูดถึงชายหนุ่ม แต่อิงฟ้าก็ทันได้เห็นแววตา
ของผู้เป็นบิดาว่าไม่ใช่เหตุผลเพียงเท่านี้แน่นอน
“้าไม่มีสิทธิโต้แย้งเลยใช่ไหมคะ”
“พ่อรู้ว่าฟ้าเป็นคนมีเหตุผล เรายังมีเวลาคุยกันอีกเยอะลูก...ว่าแต่วัน
นี้ไปเที่ยวไหนมาล่ะ ไม่เห็นพูดให้พ่อฟังเลย”
หญิงสาวเอนตัวลงพิงไหล่ผู้เป็นบิดาอย่างอ้อน ๆ ตามสไตล์สาวน้อย
แก่นซน ก่อนบอกเล่าให้พ่อฟังว่าวันนี้เธอไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง
นายธาดาหวนนึกถึงวันคืนเก่า ๆ ตามเส้นทางที่อิงฟ้าเล่าให้
ฟัง...โบสถ์เก่าริมทะเลสาบ เมื่อครั้งที่นายธาดายังหนุ่มเฟี้ยว เขามักจะออก
ไปเขียนรูปเสมอ ๆ หลังจากทีห่ ิมะตกผ่านพ้นไปวันสองวันแล้ว เวลานั้น
กิ่งสนเต็มไปด้วยหิมะจับตัวกันหนาทอเกล็ดใสแวววาวเมื่อต้องแสงแดด
อ่อนในยามสาย สำหรับคนที่เกิดในเมืองร้อนอย่างประเทศไทย ภาพทีเ่ ห็น
นั้นไม่ต่างอะไรกับดินแดนสวรรค์ ภาพสีน้ำมันฝีมือนายธาดาวันนั้นยังคง
ความงดงามอยู่จนถึงวันนี้ และกระจายอยูต่ ามห้อง ต่าง ๆ ในรีสอร์ตบ้าน
ธาดา
เวลานี้อิงฟ้ามีบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนพ่อ นั่นคือหญิงสาวชอบศิลปะ
รักในสีสันและชอบท่องเที่ยวเมื่อมีโอกาส แต่นายธาดาย่อมเข้าใจใน
ธรรมชาติและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปของยุคสมัย
56/221

อิงฟ้าชื่นชอบการถ่ายรูปมาก เธอมักเก็บรายละเอียดทุกอย่างรอบตัว
เสมอ นั่นหมายถึงว่าเธอจะมีกล้องถ่ายรูปติดตัวตลอดเวลา หรือไม่มือถือ
ของเธอต้องมีกล้องทีส่ ามารถถ่ายรูปได้ทันทีที่เธอผ่านสิ่งที่น่าสนใจ ทุก
ช็อตย่อมมีความหมายเสมอหากอิงฟ้าโฟกัสเห็นแล้วว่า ภาพเบื้องหน้านั้น
เธอต้องเก็บมันกลับบ้านไปด้วย
“พ่อรู้ไหมคะว่าวันนี้ฟ้าไปเจอใครมา”
“ไปเจอใคร ถ้าฟ้าไม่บอกพ่อจะรู้ไหมล่ะลูก”
“ลูกค้าที่รสี อร์ตเราค่ะพ่อ กลุ่มที่มาสัมมนากรุ๊ปใหญ่ ๆ นั่นแหละ
ค่ะ”
“อือ วันนี้เห็นออกไปเที่ยวข้างนอกนี่ลูก”
“ค่ะ แต่บอสใหญ่กลับทิ้งลูกน้องแวะลงเที่ยวข้างทางคนเดียวซะงั้น”
“หนูหมายถึงคุณอมตะใช่ไหม”
“ค่ะ”
“ฟ้าไปเที่ยวแล้วเจอเขางั้นสิ”
“ฟ้าว่าคงไม่ค่ะพ่อ ฟ้ารู้สึกว่าเขามาเจอฟ้ามากกว่า”
“ต่างกันตรงไหนล่ะลูก”
นายธาดาหัวเราะในคำพูดของบุตรสาวที่ช่างเปรียบความหมาย
57/221

“ก็ ถ้าหากว่าบังเอิญเจอกัน ประเดี๋ยวก็ต้องแยกกันต่างคนต่างไปสิ


คะ แต่นพี่ อเขามาเจอฟ้าเขากลับไม่ยอมไปไหน มิหนำซ้ำเดินเที่ยวกับฟ้า
เฉยเลยแบบว่าไม่รีบร้อนไปไหนเลย”
“อือ...”
“แต่แปลกนะคะพ่อ คุณอมตะไม่เคยมาเที่ยวสวิตฯ เลยสักครั้งทั้งที่
เป็นหนุ่มนักเรียนนอก”
“โธ่ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยลูก มีคนอีกตั้งเยอะแยะที่ไม่เคยมา
สวิตฯ ถึงจะเป็นนักเรียนนอกก็ใช่ว่าทุกคนจะต้องมาสวิตฯ นี่ลูก”
“อือ นั่นสินนะคะ หรือเพราะว่าฟ้าอยูน่ จี่ นชินแล้ว เลยรู้สึกว่าคนที่
ไม่เคยมาแปลก”
“ถูกต้องที่สุดเลยลูกรัก อ้าวแล้วเพื่อนหนูที่ชื่อใบตองล่ะ เคยมา
เที่ยวสวิตฯ หรือยังล่ะ”
“ยังค่ะพ่อ”
“นั่นไง แล้วคุณอมตะเขาแปลกตรงไหนล่ะ”
“แต่ใบตองยังเด็กอยู่นะคะพ่อ คุณอมตะเขาทำงานแล้ว”
“เอาล่ะ ที่พูดกับพ่อเรื่องนี้ ฟ้ากำลังจะบอกอะไรพ่อหรือเปล่า”
นายธาดาทำทีรู้ทันลูกสาว อิงฟ้าอมยิ้มที่พ่อทราบจุดประสงค์
58/221

“พ่อไม่อยากให้ฟ้าทำงานหนักเกินไปนะลูก ที่พ่อให้ฟ้าเข้ามาช่วยงาน
พ่อนี่ก็ถือว่าให้ลูกได้เรียนรู้งาน รู้จักรับผิดชอบ ไม่ใช่ว่าทำงาน
หามรุ่งหามค่ำ ฟ้าต้องเรียนหนังสือฟ้าต้องมีเวลาเป็นของตัวเอง”
“แต่หากฟ้าจะเป็นไกด์ให้ลูกค้ารีสอร์ตของเราในบางครั้งล่ะคะ พ่อจะ
ว่ายังไง”
“อันนีค้ ่อยว่ากันอีกทีนะลูก ดึกแล้วน้า...พ่อว่าคืนนี้ลูกไปพักผ่อน
ก่อนดีกว่าไหม”
“แสดงว่าอนุญาตแล้วนะคะ”
“พ่อยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
“ฟ้าอ่านสายตาพ่อออกค่ะ”
หญิงสาวทำน้ำเสียงหยอกเย้าผู้เป็นพ่อ ก่อนจะขอตัวกลับห้องพัก
ของตัวเอง
ตึ่ง ตึ๊ง...
โน๊ตบุ๊คที่เปิดออนไลน์ไว้ส่งเสียงเตือนเมื่อมีคนทักทายเข้ามา
baitong says: โห เพื่อนรัก เงียบกริบเชียวนะวันนี้
อิงฟ้า says: วันนีไ้ ปเที่ยวข้างนอกมา เลยขอลาหยุดจากเพื่อน ๆ
หนึ่งวันจ้า
59/221

baitong says: โอ้ โห อิจฉาจัง ออกจากบ้านไปเที่ยวอีกแระ ย่ำ


สโนว์เผื่อคนทางนี้มั้งหรือป่าวจ๊ะ
อิงฟ้า says: อ่ะ แน่นอน เปียกปอนไปหมดเลยจร้า หนาวจนไส้พุง
หดไปหมดเลยนะคะคุณเพื่อน
baitong says: เอ...ไปเที่ยวคนเดียว หรือหนีบหนุ่มหน้าจืดคน
ไหนไปด้วยจ๊ะ
อิงฟ้า says: ไม่อยากจะโม้เลยค่ะคุณเพื่อน ว่างานนี้มหี นุ่ม
ห้อยท้ายอิงฟ้าไปเที่ยวด้วยจริง ๆ แต่ไม่ยักใช่หนุ่มหน้าจืดนั่นค่ะ
baitong says: เอ๋ ยังไงกันใบตองชักสงสัย บอกมาซะดี ๆ ว่า
หนุ่มคนนั้นเป็นใครกัน แอบซุกไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ยอมบอกกันเลยนะ
อิงฟ้า says: เป็นลูกค้าที่รีสอร์ตจ๊ะ หนุ่มนักธุรกิจระดับผู้บริหาร
ทีเดียวเชียว แหม...ไม่ได้ซุกซ่อนที่ไหนเลย เพิ่งเข้ามาสัมมนาไม่กี่วันนี้เอง
baitong says: ว้าว...แม่เจ้า เพื่อนเราช่างเสน่ห์แรงเหลือหลาย ไม่
ทันไรมีหนุ่มหนีเที่ยวด้วยซะแระ...ว่าแต่พ่อหนุ่มคนนั้นหล่อเหลาเอาการ
เพียงใดค่ะคุณอิงฟ้า
อิงฟ้า says: มีแซวนะคะ คุณเพื่อน พอพูดถึงหนุ่มหล่อเป็นไม่ได้
เชียว ฟ้าว่าก็ดอี ่ะ ไม่เลวร้ายอะไร ควงไปไหนมาไหนไม่อายใครแน่นอน
น่ะตอง
baitong says: ให้ฟ้าควง หรือตองควงดีน้า...
60/221

อิงฟ้า says: ใครควงก็ได้ ควงแล้วไม่อายใครไง


baitong says: คอนเฟิร์มว่าหล่อเข้าขั้นแน่ ๆ เลย ไม่งั้นอิงฟ้าคง
ไม่ยอมให้เดินตามถูกไหมเพื่อน ว่าแต่เที่ยวไหนมาล่ะวันนี้ไม่เห็นเล่าสู่กัน
ฟังเลย
อิงฟ้า says: ก็อยากจะเล่านะ แต่เห็นว่าเพื่อนสนใจคน
ติดสอยห้อยตามมากกว่าอยากจะรู้ว่าฟ้าไปไหนมาบ้างอ่ะ
baitong says: ไม่เอาน่าว่ามาซะดี ๆ ปีหน้าตองจะขอแม่ไปเรียน
ต่อ สวิตฯ น่ะ เอาข้อมูลมาซะดี ๆ จะได้มีน้ำหนักให้แม่ใจอ่อน
อิงฟ้า says: ฟ้ามีแต่ข้อมูลเที่ยวน่ะซี้ ไม่มีข้อมูลเรียนเอาซะเลย
ไหวไหมคุณเพื่อน
baitong says: ก็ตัวฟ้าน่ะแหละคือข้อมูลที่ดีที่สุด แม่ตองจะ
ใจอ่อนก็เพราะฟ้าน้า อย่างน้อย ๆ ฟ้าก็คือหลักประกันว่าตองต้อง
ปลอดภัยเมื่ออยู่ที่โน่น
อิงฟ้า says: เอาจริงนะ มาแล้วเราจะได้อยูด่ ้วยกันซะที คิดถึงตอง
จะแย่ ไม่แน่นะฟ้าจะได้มีตองคอยเป็นเพื่อนรบกับนายหน้าจืดนั่น
baitong says: งานนี้คงสนุกน่าดูสินะเนี่ย อยากไปเร็ว ๆ จัง
เลย...ว่าแต่จะไม่เล่าใช่ไหมว่าไปเที่ยวไหนมา
อิงฟ้า says: วันนี้ฟ้าไปเดินถ่ายรูปที่โบสถ์เก่าริมทะเลสาบมาจ้า
สนุกมาก ฟ้าได้รูปมาเพียบแล้วจะส่งให้ตองดูนะ มันเป็นหน้าหนาวที่สุด
61/221

แสนโรแมนติกเลยล่ะ ทุกครั้งทีไ่ ด้ออกไปสัมผัสบรรยากาศภายนอก ฟ้ามี


ความสุขมาก โลกนี้ช่างสวยงามจริง ๆ มิน่าล่ะ พ่อถึงรักที่นี่ เอาไว้ตองมา
เมื่อไหร่ฟ้าจะเป็นไกด์ให้ รับรองได้ว่าไม่มีเบื่อแน่นอน ฟ้าชินกับความ
หนาวแล้วล่ะ และชอบที่สุดเลยกับสีขาวโพลนของหิมะและเกล็ดน้ำแข็ง
วันนี้หนาวมาก ๆ เพราะเมื่อคืนหิมะตกหนักเลย
baitong says: กะพูดให้อิจฉาใช่ไหมเนี่ย
อิงฟ้า says: พูดให้อยากมาต่างหากล่ะ
baitong says: อ่า...แล้วจะไป
อิงฟ้ากลับเข้ามายังห้องพักของตัวเอง แต่กไ็ ม่ลืมทีจ่ ะออนไลน์
ทักทายกับเพื่อนจากเมืองไทยอย่างใบตอง
วันนี้ทั้งวันตั้งแต่เช้ามา เธอมีความรู้สึกหลายอย่างสะกิดใจ
ตลอดเวลา เริ่มตั้งแต่ความรู้สึกขุ่นใจเรื่องชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวเข้ามายังรี
สอร์ต ความรู้สึกแปลกใหม่ทหี่ นุ่มแปลกหน้า ซึ่งเป็นลูกค้าของรีสอร์ต
พยายามให้ความสนิทสนมด้วย กับความบังเอิญพบกันทีโ่ บสถ์เก่าริม
ทะเลสาบขณะออกไปเที่ยวถ่ายภาพ มิหนำซ้ำยังติดสอยห้อยตามอิงฟ้า
ตะลอนเที่ยวทั้งวันอย่างไม่มีเบื่อ
ภาพของวันนี้ไหลผ่านเข้ามาในห้วงความคิดอีกครั้ง เธอถึงกับอมยิ้ม
คนเดียวลำพังขณะที่นั่งเอนหลังลงที่เก้าอี้ตัวโปรดริมหน้าต่าง
62/221

“บางครั้งคนเราก็มัวทำแต่งานจนลืมที่จะให้เวลากับตัวเอง แต่กว่าจะ
รู้ว่าโลกใบนี้ยังมีอะไรที่สวยงามให้ได้สัมผัส ก็เกือบจะสายเกินไป...”
อมตะเอ่ยขึ้นกับหญิงสาวขณะที่เขานั่งอยู่บนม้านั่งใต้ต้นสน สายตา
ทอดยาวไกลออกไปทางทะเลสาบเลยไปยังยอดเขาที่อยู่ไกลซึ่งปกคลุมไป
ด้วยน้ำแข็งขาวโพลน อิงฟ้าเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง
ก่อนจะหันกล้องโฟกัสไปยังยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งนั่น
เช่นกัน เธอกดชัตเตอร์หนึ่งครั้ง ภายในใจก็บันทึกไปพร้อม ๆ กันว่านั่น
คือสิ่งที่ชายหนุ่มให้ความสนใจในวินาทีนั้น
“ไม่มอี ะไรที่สายเกินไปหรอกค่ะคุณตะ หากเรานึกออกตอนนี้ หรือ
คิดได้ในเวลานี้ เราก็เติมเต็มลงไปสิคะ ถ้าหากว่าสิ่งนั้นมันขาดหาย
ไป...คนเราไม่มีใครทีจ่ ะเลือกให้ชีวิตสมบูรณ์แบบได้ตลอดเวลา ฟ้าเองก็
เช่นกัน ฟ้าเกิดที่เมืองไทย แต่มาโตที่นี่ เมื่อจำความได้ก็รู้แล้วว่าพ่อกำลัง
สร้างรีสอร์ตบ้านธาดา”
“นี่หมายความว่าคุณฟ้าก็อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก ๆ เหรอครับ”
“ไม่ค่ะ ตอนเด็กจริง ๆ ฟ้าอยูท่ ี่เมืองไทย เรียนที่นั่นจนจนประถม
หก คุณพ่อถึงย้ายฟ้ามาเรียนที่นี่ แต่พอซัมเมอร์ก็จะกลับเมืองไทยไปอยู่
กับคุณย่า คุณพ่อกลัวฟ้าจะเป็นเด็กฝรั่งจ๋าน่ะค่ะ แม้แต่ชื่อยังต้องเป็นไทย
ๆ เลยค่ะ”
“คุณฟ้าเป็นลูกคนเดียวเหรอครับ”
63/221

“ค่ะ แต่เราก็อยู่กันแค่สองคนพ่อลูก”
“แล้วคุณแม่คุณฟ้าล่ะครับ”
“คุณแม่เสียตั้งแต่ฟ้าอายุสิบห้า จากนั้นฟ้าก็อยู่กับพ่อมาตลอด”
แม้จะพูดถึงเรื่องเศร้าแต่เธอก็ไม่ได้เศร้าใจให้ชายหนุ่มเห็น กลับมี
สีหน้าฉ่ำยิ้มเมื่อพูดถึงเรื่องราวของแม่ให้เขาฟัง เธอมีจินตนาการที่สวยงาม
มองโลกใน แง่ดี จึงสามารถเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข
อิงฟ้าคิดเสมอว่าแม่อยู่ข้าง ๆ เธอเสมอ แม่เฝ้ามองดูเธอตลอดเวลา
ทุกครั้งทีเ่ ธอมองตัวเองผ่านกระจก ดวงตาคู่สวยนั้นคือตัวแทนดวงตาของ
แม่ ริมฝีปากบางได้รูปนั้นยิ้มให้เธอเสมอเมื่อหญิงสาวยิ้มให้ตัวเองผ่านทาง
กระจกนั้น ฉะนั้นเธอจะต้องเป็นหญิงสาวที่มีความสุขเสมอ เพราะเมื่อเธอ
มีความสุข มีรอยยิ้ม แม่ก็จะยิ้มอย่างมีความสุขด้วยเช่นกัน
6

โซนคอฟฟีชอปที่นั่งประจำของอิงฟ้า เวลานี้มคี นมาแทนที่ซะแล้ว อิง


ฟ้าหอบน้องแก้มแดงไว้แนบอก ชะงักฝีเท้าทันทีที่สายตาพลันไปเห็น
ชายหนุ่มที่กลินทร์นั่งอยู่ก่อนแล้ว
...อือ มีแทนทีด่ ้วยนะเนี่ย กะจะแทนทีฉ่ ันไปทุกตำแหน่งหรือยังไง
นายหน้าจืด...หึ เอาสิ นั่งให้สบายนะวันนีฉ้ ันยกให้หนึ่งวัน คราวหน้าอย่า
ให้เจอนะแม่จะแผลงฤทธิ์ให้...
อิงฟ้าบ่นคนเดียวในใจอุบอิบ ขณะพนักงานประจำคอฟฟีชอปเดิน
มาทักเธอ
“อ้าว คุณฟ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ ไหนบอกว่าไปเที่ยว”
“ก็ไปแล้ว กลับมาแล้วคะ ฟ้าไปเช้ากลับมาเย็น ๆ ไง”
“แหม นึกว่าคุณฟ้าแบ็กแพ็กซะอีก”
“นั่นทริปต่อไปค่ะ เมื่อวานฟ้าไปถ่ายรูปเล่น ๆ เท่านั้นเอง รู้สึกเซ็ง
ๆ เลยออกไปเก็บภาพสวย ๆ ข้างนอก”
“โห หิมะเพิ่งตกหนักมาก เมื่อคืน ข้างนอกหนาวแย่เลยคุณฟ้า”
65/221

“อ่ะ หนาวแน่นอน แต่ฟ้าซะอย่างเกิดมากับหิมะแล้วกลัวอะไรกับ


ความหนาวคะ”
“บรื๋ออ...ไม่ไหวหรอกค่ะ ขนาดฉันอยู่ที่นี่มาตั้งนานก็ยังไม่ชินเลย”
“ฟ้ามันคงหัวแข็งนะคะ อิงฟ้าไง เลยไม่กลัวความหนาว”
“แล้ววันนี้ไม่ออกไปไหนเหรอคะ พอดีเห็นมีพนักงานใหม่มาทำงาน
แล้ว”
พูดพรางชำเลืองสายตาไปทางกลินทร์ ซึ่งนั่งอยูโ่ ซฟาในที่ประจำของ
อิงฟ้า
“วันนี้ยังค่ะ ขอเวลาเตรียมตัวก่อน และเคลียร์อะไรนิดหน่อย”
“หรือเขาจะมาทำงานแทนคุณฟ้าคะ”
“แหม ใช้คำว่าแทนเลยเหรอคะ งั้นฟ้าก็คงตกงานซะแล้วสิคะเนี่ย”
อิงฟ้ารู้สึกหดหู่ใจขึ้นมาทันทีที่คิดว่า เด็กหนุ่มหน้าจืดที่ว่า กำลังจะ
มาแทน ที่เธอทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องงานในรีสอร์ต หรือแม้แต่ที่นั่งโปรดที่
เธอนั่งอยูบ่ ่อย ๆ ก็ตาม การถูกล่วงล้ำอธิปไตยเช่นนี้ทำให้อิงฟ้าไม่พอใจ
อย่างแรง ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่สบายใจ
อิงฟ้าหันหลังเดินกลับทันทีทคี่ วามรู้สึกหนัก ๆ มันคืบคลานเข้ามา
เบียดความรู้สึกดี ๆ ทุกอย่างในใจ
66/221

น้องแก้มแดงถูกวางลงบนโต๊ะตัวเล็กข้าง ๆ เตียงในห้องพักส่วนตัว
ของเธอ อิงฟ้าเปิดเครื่องออนไลน์ทันทีอย่างคนที่เบื่อหน่ายกับอะไรสุดขีด
ตึ่ง ตึ๊ง...
amata says: หวัดดีครับคุณฟ้า หน้าบึ้งแต่เช้าเลยนะครับ ใครน้า
ที่ทำให้คนน่ารัก ๆ อย่างคุณฟ้าอารมณ์เสียได้
อิงฟ้า says: นี่ใครเอ่ย รู้ได้ยังไงว่า เจ้าของเมล์นี้อารมณ์ไม่ดี
แทนที่จะเป็นใบตองเจ้าประจำ แต่เช้านี้กลับมีคนแปลกหน้าแอดเข้า
มาทักทายเด็กสาวก่อนใคร แถมไม่รู้สึกคุ้นเคยเลยสักนิด
amata says: ผมอมตะไงครับคุณฟ้า ขอโทษทีที่ถือวิสาสะก่อน
โดยที่ยังไม่ขออนุญาต
ชายหนุ่มเปลี่ยนชื่อในสถานะก่อนที่จะเฉลยว่าตัวเองเป็นใคร
อิงฟ้า says: นั่นสิคะ เหมือนจะคุ้น ๆ เลย แต่ฟ้าก็นึกไม่ออก
ขอโทษนะคะ เอ...แล้วนีค่ ุณตะรูอ้ ีเมล์ของฟ้าได้ไงคะ ฟ้าจำได้ว่ายังไม่เคย
คุยเรื่องนี้กับคุณตะเลยนี่นา
amata says: ผมต่างหากล่ะที่ควรเป็นฝ่ายขอโทษคุณฟ้า ที่ถือ
วิสาสะลักจำเอาอีเมลคุณฟ้ามาโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต
อิงฟ้า says: ช่างเถอะค่ะ ไม่เป็นไรเลย ฟ้าไม่ถือเป็นอารมณ์หรอก
นะคะ คุณตะอยู่ที่ไหนคะทำไมมีเวลาเข้ามาทักทายฟ้าได้
67/221

amata says: อยูไ่ ม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่ครับ ไม่งั้นคงไม่รวู้ ่า


วันนี้คุณฟ้าอารมณ์ไม่ดี
อิงฟ้า says: ไม่ได้เข้าสัมมนาเหรอคะ
amata says: อยู่ในห้องนี้ล่ะครับ แต่แวบเข้ามาได้
อิงฟ้า says: อย่างนี้ก็ขี้โกงนีน่ า ถือว่าเราเป็นผู้บริหารเอาเปรียบ
ลูกน้องไม่ดีนะคะ
amata says: โธ่...คุณฟ้า พูดซะผมรู้สึกผิดเลย นิดเดียวเองน่า
องค์กรไม่เสียหายอะไรแน่นอน ทีเ่ รามานี่กเ็ พื่อรีแลกซ์ด้วย ทำงานสบาย
ๆ ครับ
อิงฟ้า says: แหม อย่าซีเรียสนะคะ ฟ้าก็พูดไปงั้นเอง อย่าถือสา
กันนะคะ ...แล้วนีไ่ ม่มีใครรู้แน่นะคะว่าคุณตะไม่ได้ตั้งใจฟังสัมมนางาน
แต่กลับแวบมาแชตเล่นกับฟ้าเนี่ย
amata says: ถ้าคุณฟ้าไม่บอก ไม่มีใครรู้แน่นอนครับ
อิงฟ้า says: ซะงั้นเลย
amata says: งานของเราเป็นเพียงการจัดระบบงานให้เข้าที่เข้าทาง
และแจกแจงข้อดีข้อเสียต่าง ๆ เท่านั้น การที่เรามาไกล ๆ อย่างนี้เราถือว่า
ให้พนักงานได้รับรางวัลเท่า ๆ กัน...ว่าแต่คุณฟ้าไม่สบายใจอะไรเอ่ย บอก
ผมได้ไหม
68/221

อิงฟ้า says: ไม่มีอะไรมากมายค่ะ พอดีงานที่ฟ้ารับผิดชอบอยูม่ ี


เปลี่ยนแปลงนิดหน่อยก็เลยยังสับสนน่ะค่ะ
amata says: งั้นแทคแคร์นะครับ คุณฟ้าอย่าคิดมากนะ ต้อง
พักผ่อนบ้างอย่านอนดึกมากระวังจะไม่สบาย ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ไข
อันดับแรกเลยน่าจะพักผ่อนก่อนนะ
อิงฟ้า says: งั้นสงสัยฟ้าจะต้องรีแลกซ์ก่อนจริง ๆ แล้วล่ะ เครียด
ไปเห็นทีจะไม่ไหว
amata says: ดีครับ ผมก็ไม่ค่อยอยากเห็นคุณฟ้าทำหน้าบึ้ง ๆ
เหมือนกัน ยิ้มนะครับ คุณฟ้ายิ้มสวยออก
อิงฟ้า says: ไว้วันหลังเถอะนะคะ วันนีข้ อปรับอารมณ์ใหม่นิดหนึ่ง
ก่อน ฟ้าไม่ไหวจริง ๆ
amata says: อย่าปล่อยให้อุณหภูมิความร้อนใจ มาทำลายความ
สุขของตัวเองนะครับ
อิงฟ้า says: ต้องขอเวลาปรับนิดหนึ่งค่ะ แล้วมันจะคงที่เอง ฟ้า
รู้สึกว่าอุณหภูมิมันปรี๊ดไปนิดค่ะ
amata says: งั้นออกทัวร์ซะเลยดีไหมครับ ผมขออาสาเป็น
ลูกทัวร์รายแรกเลย และพร้อมเสมอในการเดินทาง แต่ก็ขอเวลาสองวัน
เพื่อเคลียร์อะไรก่อน จากนั้นก็ฟรีสไตล์ครับ
อิงฟ้า says: อย่าล้อเล่นนะคะ งานนี้ไกด์จำเป็นเอาจริงนะ
69/221

แผนการเดินทางท่องเที่ยวทริปแรกของอิงฟ้า ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วินาที
นั้น อมตะจะเป็นลูกทัวร์คนแรกที่อิงฟ้าจะนำทาง
...ใบตอง...
อีกสองวัน ฟ้าจะพาลูกทัวร์รายแรกเที่ยวให้ทั่วสวิตฯ เลย ทริปนี้คง
สนุก มาก ๆ แน่นอน แต่น่าเสียดายที่ตองไม่ได้อยูใ่ นทริปนี้ด้วย ไม่งั้นจะ
มันส์คูณสองเลย
อ่ะ...ยังไงฟ้าขอซ้อมมือก่อนละกันนะ ใบตองมาเมื่อไหร่ฟ้าจะได้พา
ไปทัวร์ให้สนุกกว่านี้หลาย ๆ เท่าเลย ฟ้าแนบรูปถ่ายที่ไปเที่ยวเมื่อวานมา
ให้ตองดูด้วยล่ะ เอาพอเป็นน้ำจิ้มนะจ๊ะ แต่ขอบอกว่าอย่าเพิ่งอิจฉากัน
ก่อนล่ะ ชุดใหญ่จะตามมาอีกในคราวต่อไปจร้า...
อีเมลจากอิงฟ้าส่งถึงใบตองเพื่อนรักที่เมืองไทย อีเมลนี้ส่งพร้อม ๆ
กับรูปถ่ายฝีมืออิงฟ้ากว่าสิบรูป ซึ่งอิงฟ้าเลือกที่ชอบที่สุด ที่สำคัญต้องเป็น
รูปทีม่ ีองค์ประกอบน่าสนใจและมีความหมายด้วย โดยเฉพาะภาพสุดท้าย
ที่โฟกัสผ่านด้านหลังของอมตะขณะที่เขากำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่งริมทะเลสาบ
แล้วมองไปยังภูเขาทีย่ อดปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งเบื้องหน้า บุรุษในภาพถ่าย
มีเพียงอิงฟ้าคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเป็นใคร นั่นคือมิติของภาพนีท้ ี่สำคัญ
ที่สุด ใบตองเองก็คงนึกไม่ถึงและมองไม่ออก
องค์ประกอบของภาพโดยรวมสำหรับภาพสุดท้ายนี้มีสามอารมณ์ ซึ่ง
หญิงสาวพอใจที่สุด นั่นคือความรู้สึกโดดเดี่ยว คิดถึง และสุดแสน
โรแมนติก นี่คืออารมณ์ความรู้สึกในการมองภาพถ่ายของอิงฟ้า
70/221

อมตะเองก็มีมุมมองของเขาเช่นเดียวกัน เป็นเรื่องราวของภาพถ่ายที่
เขาแอบเก็บเอาอิริยาบถของอิงฟ้าขณะที่เธอกำลังเพลิดเพลินกับการถ่าย
ภาพในมุม ต่าง ๆ ตลอดการตะลอนเที่ยวไปพร้อม ๆ กับหญิงสาวใน
วันก่อน
ภายในห้องพักผ่อนส่วนตัวของเขา ในบ้านธาดารีสอร์ต ชายหนุ่ม
พินิจพิเคราะห์ภาพถ่ายแต่ละภาพผ่านแล็ปท็อปคู่ใจ
ภาพแรกอิงฟ้ายืนหันหลังให้เขา เธอหันหน้าไปยังทะเลสาบกำลังตั้ง
กล้องเก็บภาพในมุมของเธอ และภาพต่อ ๆ มาชายหนุ่มมองแล้วอด
อมยิ้มมุมปากไม่ได้ ด้วยความชื่นชมความน่ารักใส ๆ และเป็นธรรมชาติ
ของอิงฟ้า ผ้าพันคอไหมพรมสีชมพูโอลด์โรสส่งให้ใบหน้าหญิงสาวขาว
เนียนมีสีสัน ดวงตาวาวใสเป็นประกายแห่งความสุขแข่งกับเกล็ดใส
แวววาวของหิมะ อิงฟ้าในยามที่เธออยู่ในโลกของตัวเอง ในกิจกรรมที่
ชอบช่างน่ารักสดใสจริง ๆ
ความเป็นธรรมชาติไม่เสแสร้งของอิงฟ้า ทำให้อมตะชายหนุ่มผู้มี
บุคลิกเคร่งขรึม กลายเป็นคนยิ้มง่ายขึ้น ภายในไม่กวี่ ันที่เดินทางมา
สัมมนาในสวิตเซอร์-แลนด์ แม้ตัวเขาเองอาจจะยังไม่รู้สึก แต่บรรดา
พนักงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เจ้านายหนุ่มเปลี่ยนไปเพราะไอเย็น
ของหิมะ หรือเป็นเพราะอะไรกันแน่ ธรรมชาติสวยงามของเมืองโรแมนติก
ที่สุดในโลกเปลี่ยนบุคลิกภาพของอมตะได้จริง ๆ ชายหนุ่มอาจจะ
71/221

ผ่อนคลายไปกับไอเย็นของอากาศ ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงนีท้ ำให้พนักงาน


รู้สึกดีและมีความสุขไปด้วยกับการมาทัวร์สัมมนาในครั้งนี้
การเดินทางท่องเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์จะเริ่มขึ้นแล้ว ด้วยไกด์สาว
คนเก่งอย่างอิงฟ้า...แต่ก่อนที่จะมีการเดินทางจริง ๆ อิงฟ้าก็ได้รับอีเมล
จากใบตองที่ส่งกลับจากเมืองไทยก่อน
...ช้าก่อนเพื่อนรัก !!!!!!!!!!...
จะรีบไปไหน จะรีบไปไหน รอเดี๋ยวก่อนสิจ๊ะ...คิดเร็ว ทำเร็วจริง
เพื่อนเรา แบบว่าใบตองออกตัวตามแทบไม่ทันแน่ะ...อยากจะ
ติดสอยห้อยตามนะ แต่คงไม่ทันแล้ว งั้นตองขอเอาหัวใจเกาะกระเป๋า
เดินทางไปด้วยคนนะจ๊ะฟ้า...แบบว่าอย่างน้อยล้อมันหมุนได้ฟ้าจะได้ไม่
เหนื่อยแบกไง...ล้อเล่นจ้า...เพื่อนเราคิดเร็ว ทำเร็วยังกับปรอทเลย แน่นอน
ล่ะ มันคงเป็นการเดินทางที่สนุกน่าดูเลยฟ้า ในเมื่อลูกทัวร์ของฟ้าเป็นหนุ่ม
หล่อนักบริหารซะด้วย
รูปที่ฟ้าส่งมา แจ่มมากเลยค่ะคุณเพื่อน สวยมาก ๆ ทำเอาคนเมือง
ร้อนอย่างตอง ถึงกับหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจเลยเชียว อย่างนี้ปีหน้าตอง
ต้องไปแน่ ๆ แล้วเจอกันนะจ๊ะฟ้า...อ้อ เมื่อวาน ตองไปอยุธยากับแม่มา
แหละ โห ตอนแรกเซ็งจัดเลยนะ แบบว่าชวนไปไหนไม่ชวน มาชวนตอง
ไปเที่ยวเมืองเก่าน่ะ วัยรุ่นอย่างตองนี้ต้องร้องยี้เลย แต่ไม่ไปก็ไม่ได้เพราะ
แม่ไม่มเี พื่อนนั่งรถ แต่พอไปถึงอยุธยาจริง ๆ ก็ไม่เลวนี่นา พอนั่งรถออก
จากกรุงเทพฯ ได้ตองว่าอากาศข้างนอกดีมาก ๆ เมืองเก่าก็มีเสน่ห์นะเนี่ย
72/221

ไม่เลวร้ายอย่างที่ตองคิดเอาไว้เลย น่าไปพักผ่อน...เสร็จธุระของแม่แล้ว
แม่ก็พาแวะเที่ยวชมพระราชวังบางปะอินด้วยล่ะ
น้ำจิ้มรสแซบจากเมืองไทยชงให้เพื่อนเป็นออเดิร์ฟก่อนการเดินทาง
ท่องเที่ยวที่สวยงามสุดโรแมนซ์นะจ๊ะ
อ่า...ตองจะเล่าให้ฟ้าฟังคร่าว ๆ นะจ๊ะ แบบว่าอดใจไม่ไหวน่ะ อยาก
นำเสนอของสวย ๆ งาม ๆ บ้านเราบ้างเหมือนกัน ตองมีข้อมูลเพียบ
สนุกและเพลิดเพลินในการเที่ยวชมเพราะแม่เป็นนักประวัติศาสตร์เก่าน่ะ
ตองเลยได้ความรู้มาฝากฟ้าเพียบเลย เวลาฟ้าดูรูปที่ตองส่งให้จะได้เข้าใจ
ด้วยไง
‘บางปะอิน’ เดิมเป็นทีป่ ระทับของพระเจ้าปราสาททองในสมัยอยุธยา
ตอนกลาง โดยได้สร้างพระตำหนักกลางน้ำหลังหนึ่งไว้ ชื่อพระที่นั่ง
ไอศวรรย์ทิพยอาสน์ และสร้างวัดในบริเวณใกล้เคียงกันให้ชื่อว่า วัด
ชุมพลนิกายาราม พระที่นั่งไอศวรรย์-ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งปราสาท
โถงทรงจตุรมุขอยู่กลางสระน้ำ รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบไทย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมื่อ
พ.ศ. 2419 โดยจำลองแบบมาจากพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาทใน
พระบรมมหาราชวังที่กรุงเทพฯ และพระราชทานนามว่า ไอศวรรย์ทิพย
อาสน์ ตาม พระที่นั่งองค์แรกซึ่งพระเจ้าปราสาททองโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง
ขึ้น เดิมพระที่นั่งสร้างด้วยไม้ทั้งองค์ ต่อมาในรัชกาลที่ 6 ทรงโปรดเกล้าฯ
73/221

ให้เปลี่ยนเสาและพื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด...ดังภาพที่เห็น
ด้านหลังตองนี้แหละจ้ะ
ส่วนอีกภาพ...พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ “เก๋งจีน-เทียน เม่ง เต้ย”
(เทียน=เวหา, เม่ง=จำรูญ, เต้ย=พระที่นั่ง) พ่อค้าชาวจีนร่วมกันสร้างถวาย
เมื่อปี พ.ศ. 2432 เป็นอาคารแบบจีน 2 ชั้น ทั้งช่างและวัสดุเครื่องไม้แกะ
และเครื่องตกแต่งต่างมาจากประเทศจีนมีกระดูกอูฐที่แกะสลักสวยงาม
มาก ๆ
อีกภาพ...พระที่นั่งวโรภาษพิมาน อยู่ทางตอนเหนือของ สะพาน
เสด็จ ซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.
2419 เดิมเป็นเรือนไม้สองชั้นใช้เป็นที่ตั้งประทับและท้องพระโรงร่วม
กัน ต่อมาโปรดเกล้าฯ ให้รื้อสร้างใหม่ตามแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก
ก่อด้วยอิฐ ทรงวิหารกรีกแบบคอรินเธียรอร์- เดอร์ มีมุขตอนหน้าใช้
เป็นท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกขุนนางในงานพระราชพิธี
ภาพต่อไป...พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรอยู่ทางทิศตะวันออกตรงข้ามกับ
สระน้ำ เป็นพระที่นั่งเรือนไม้สองชั้นตามแบบชาเลต์ของสวิต คือมี
เฉลียงชั้นบนและชั้นล่าง ทาสีเขียวอ่อนและสีเขียวแก่สลับกัน ภายใน
ประดับตกแต่งด้วยเครื่องเรือนไม้มะฮอกกานีจัดสลับลายทองทับที่สั่ง
จากยุโรปทั้งสิ้น นอกนั้นเป็นสิ่งของหายากในประเทศอันเป็นเครื่องราช
บรรณาการจากหัวเมืองต่าง ๆ ทั่วราชอาณาเขตรอบ ๆ มีสวนดอกไม้
สวยงาม เป็นทีน่ ่าเสียดายอย่างยิ่งทีพ่ ระที่นั่งอุทยานภูมเิ สถียรได้เกิด
74/221

เพลิงไหม้ขณะที่มกี ารซ่อมแซมเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2481 ทำให้


พระที่นั่งเสียหายไปกับกองเพลิงหมดเหลือแต่หอน้ำลักษณะคล้ายหอรบ
ของยุโรปเท่านั้น ต่อมาในปี พ.ศ.2531 สำนักพระราชวังได้
กราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต สร้างขึ้น
ใหม่ตามแบบเดิมทุกประการแต่เปลี่ยนวัสดุจากไม้เป็นอาคารคอนกรีต
แทน
ภาพต่อมา...หอวิฑูรทัศนา เป็นพระที่นั่งหอสูงยอดมน ตั้งอยู่กลาง
เกาะน้อยในสวนเขตพระราชวังชั้นใน ระหว่างพระที่นั่งอุทยานภูมเิ สถียร
กับพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่ง 3 ชั้น มีบันไดเวียน เป็นหอส่อง
กล้องชมภูมิประเทศบ้านเมืองโดยรอบ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ.
2424
และภาพนี้คือ...หอเหมมณเฑียรเทวราช หรือ ศาลพระเจ้าปราสาท
ทอง เป็นปรางค์ศิลาในเขตพระราชวังชั้นนอกริมสระใต้ต้นโพธิ์ เป็นที่
ประดิษฐานเทวรูปรัชกาลที่ 5 ทรงสร้างขึ้นแทนศาลเดิมที่ชาวบ้านสร้างไว้
อุทิศถวายพระเจ้าปราสาท-ทอง กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2422
พอดีตอนทีไ่ ปถึงมันบ่ายแล้วเลยมีเวลาน้อยในการเที่ยวชม แต่ตองก็
รู้สึกเย็นสบายนะเวลาเข้าไปในพระราชวังบางปะอิน เพราะข้างในมีบึงน้ำ
ขนาดใหญ่ ตองไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าบึงหรือทะเลสาบดีนะ แต่ยังไงก็ช่างก็
เป็นดั่งในรูปถ่ายที่ฟ้าเห็นแหละจ้ะ
75/221

พอเป็นน้ำจิ้มจริง ๆ นะฟ้า นี่แหละคือประสบการณ์ในการเดินทาง


เล็ก ๆ ของตองเมื่อวานนี้ ขอให้ฟ้ามีความสุขในการท่องเที่ยวทริปแรกนะ
ใบตอง
อ่านอีเมลจากใบตองเสร็จ อิงฟ้าเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังห้องเป็น
เวลาบ่ายโมงพอดี หญิงสาวจงใจที่จะยื้อเวลาให้มาถึงชั่วโมงนี้ เพื่อให้
เวลาอาหารกลางวันของนายธาดาผ่านไปก่อน ตัวเองค่อยลงไปยัง
ห้องอาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะนั่งร่วมโต๊ะอาหารที่มีชายหนุ่มที่ชื่อกลินทร์นั่ง
อยู่ด้วย
“ถ้าไม่รังเกียจ ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลัง อิงฟ้าหันไปตามเสียงนั้นที่ได้ยินทันที
“คุณตะ ทำไมมาเงียบ ๆ คะ เชิญค่ะ...”
อิงฟ้าแสดงมารยาทอย่างไม่เก้อเขิน
“ทำไมลงมาทานข้าวช้าล่ะครับ นี่มันบ่ายแล้วนะ”
“ฟ้าเพิ่งเสร็จธุระค่ะ ว่าแต่คุณตะทำไมยังไม่เข้าประชุมล่ะคะ”
อิงฟ้ามองเวลาจากนาฬิกาเรือนเล็ก ในข้อมือตัวเองก่อนเอ่ยถาม
อมตะ
76/221

“เราเริ่มประชุมบ่ายสองครับคุณฟ้าและคงยาวไปถึงหนึ่งทุ่มเลย ปรับ
แผนกันนิดหน่อย เพื่อให้สัมมนาครั้งนีเ้ สร็จเร็วขึ้น จะได้มีเวลาเหลือได้
เที่ยวกันเยอะขึ้น”
อาหารกลางวันของอิงฟ้าผ่านไปด้วยดีในช่วงบ่าย โดยมีอมตะนั่ง
ร่วมโต๊ะด้วยอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่หญิงสาวและชายหนุ่มก็ไม่ได้รู้สึกเก้อเขิน
หรืออึดอัดใจแต่อย่างไร การสนทนากันกลับมีรสชาติมากและเป็นกันเอง
ที่สุด นั่นเป็นเพราะว่าอิงฟ้ามีวิญญาณของการบริการอยูใ่ นตัวอยู่แล้ว
เนื่องจากเติบโตมาในรีสอร์ตแห่งนี้ตั้งแต่เด็ก การพบปะผู้คน
มากหน้าหลายตา การบริการลูกค้าที่มาใช้บริการห้องพักที่ รีสอร์ตคือหัวใจ
สำคัญที่สุดอยู่แล้ว ฉะนั้นอิงฟ้าจึงเก็บเอาอารมณ์ส่วนตัวซ่อนไว้ข้างใน
หัวใจโดยที่ไม่ให้ลูกค้าอย่างอมตะล่วงรู้ และรู้สึกถึงความไม่เต็มร้อยของ
อิงฟ้าได้
7

รถของทางรีสอร์ตเคลื่อนตัวออกจากรีสอร์ตตั้งแต่เช้า นายธาดา
ทราบข่าวการเดินทางท่องเที่ยวของอิงฟ้าผ่านทางโน้ตบนโต๊ะทำงาน นาย
ธาดาอ่านลายมือน่ารักของบุตรสาวจบก็อดทีจ่ ะส่ายหน้าไปมาไม่ได้ กับ
ความมุ่งมั่นและการตัดสินใจออกตัวเป็นไกด์ครั้งแรกของอิงฟ้า
“คุณตะต้องอึดนิดหนึ่งนะคะ เพราะเราต้องนั่งรถไฟกัน แต่ไม่ต้อง
กลัวค่ะ รถไฟของสวิตฯ สะอาดและตรงเวลามาก ๆ ฉะนั้นเราจะไม่
เสียเวลาเลย รับรองค่ะคุณตะต้องสนุกเต็มทริปแน่นอน”
“พร้อมเสมอครับคุณฟ้า ผมตั้งใจและเต็มใจสุด ๆ แล้วกับทัวร์
ครั้งนี้ของเรา”
“ถ้าพร้อมก็ไปกันเลยค่ะ...”
“อ้าว ได้เล้ย let’s go.”
อมตะเองก็เริ่มสนุกสนานไปกับอิงฟ้าแล้วเช่นกัน เขาไม่ได้รู้สึก
ยุ่งยากอะไรเลยกับการออกเดินทางครั้งนี้
78/221

ทั้งคู่ลงจากรถของรีสอร์ตที่สถานีรถไฟ เมื่อต้องเดินทางโดยรถไฟอิง
ฟ้าก็เตรียม พร้อมเต็มทีอ่ ย่างทะมัดทะแมงและคล่องแคล่วมาก อมตะเอง
ไม่หวั่นเลยกับการที่เลือกอิงฟ้าเป็นไกด์นำเที่ยว เขาเชื่อมั่นในตัวหญิงสาว
เต็มร้อยว่าทุกที่ที่เธอนำทาง เขาจะสนุกกับมันอย่างที่สุด
ในขบวนรถไฟแสนสะอาด ที่นั่งก็สุดสบาย หลังจากนั่งชมวิวมาสัก
พัก อิงฟ้าก็ผล็อยหลับไปในเบาะนั่งข้าง ๆ เขา นัยหนึ่งก็เพราะหญิงสาว
รู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยเวลาอยู่ใกล้ ๆ ผู้ชายคนนี้ อมตะเองก็
เช่นเดียวกันเขาเองยังแปลกใจ ทุกครั้งที่ได้เจออิงฟ้าความรู้สึกสบายใจก็
เกิดขึ้นอย่างประหลาด ชายหนุ่มนั่งหลับตานึกถึงเวลาที่ผ่านมาไม่กวี่ ัน กับ
ความรู้สึกที่แสนสบายในใจ
ภายใต้ใบหน้าเนียนใสของอิงฟ้าและเปลือกตาที่ปิดสนิท ภาพของแม่
ผ่านเข้ามาทักทายเธอในฝัน และช่างเป็นฝันที่แสนหวาน
นางดาริกานั่งมองหน้าบุตรสาวด้วยรอยยิ้มฉาบอยู่บนใบหน้าอย่าง
สุดรัก
“อิงฟ้า ตื่นเถอะลูก ลุกมาคุยกับแม่เร็ว”
“แม่ แม่จริง ๆ ด้วย ฟ้าคิดถึงแม่จังค่ะ”
หญิงสาวลืมตาตื่นเมื่อเสียงนั้นกระซิบที่ข้างหู อิงฟ้ากอดผู้เป็นแม่
แน่นอย่างคิดถึงจับใจ
“ทำไมฟ้าทิ้งพ่อมาแบบนี้ล่ะลูก หนูงอนคุณพ่อใช่ไหม”
79/221

“เปล่าซะหน่อย ฟ้ามาเที่ยวนะคะ พ่อก็มีเพื่อนอยู่พ่อไม่เหงาหรอก


ค่ะ”
“ฟ้าเป็นลูกพ่อ กับแม่ ยังไงพ่อก็ต้องเป็นห่วงลูกนะ”
“แม่รู้ได้ยังไงคะว่าพ่อเป็นห่วงฟ้า หลายวันมานี้ พ่อมีเพื่อนทานข้าว
มีเพื่อนคุยงาน พ่ออาจจะลืมไปแล้วมั้งค่ะว่ามีฟ้าอยู่”
“เด็กน้อยเอย...น้อยใจไปได้ พ่อแม่ที่ไหนลืมลูกตัวเอง”
“ช่างเถอะค่ะแม่ หากที่ที่ฟ้าเคยอยู่มคี นก้าวเข้ามาแทนที่จริง ๆ ฟ้าก็
จะไปตามทางของฟ้า”
“เดินทางปลอดภัยนะลูกอิงฟ้า ขอให้ลูกสนุกกับการเดินทางครั้งนี้
แม่รักลูกนะจ๊ะ”
“ฟ้าก็รักแม่ค่ะ ฟ้าคิดถึงแม่มาก ๆ ด้วยนะคะ”
อิงฟ้ากอดกระชับแม่แน่นขึ้นอย่างคนที่คิดถึงสุดหัวใจ กลิ่นกายของ
แม่ยังหอมเหมือนเดิมและติดจมูกอิงฟ้าไม่เคยเปลี่ยน แม่คือความอบอุ่นที่
ไม่เคยจางหาย ไม่ว่าจะเป็นในความฝันหรือความเป็นจริงหัวใจของสาว
น้อยอิงฟ้าก็ไม่เคยเหงาเลย
อิงฟ้าคิดเสมอว่า ความอบอุ่น...เป็นพลังสำคัญที่ทำให้ความรัก
สดใส ถ้าถึงวันหนึ่งที่มันหายไป อย่ามัวแต่นั่งถามตัวเองว่าเพราะอะไร
เพราะหัวใจคงไม่ต้องการคำตอบทีห่ าเหตุผลไม่ได้ แต่ต้องการความ
อบอุ่นที่เกิดจากจิตใจของเราเองมากกว่า...
80/221

เพราะการมองโลกในแง่ดแี ละคิดบวกเสมอ ชีวิตทีโ่ ดดเดี่ยวของเธอ


จึงสดใสเสมอในสายตาคนรอบข้าง
อิงฟ้าจะบอกกับตัวเองเสมอว่า เวลาคนเรามีความรัก ความอบอุ่น
คือสิ่งทีเ่ ราต้องการจากความรักของเรา เรารู้สึกดีทุกครั้งที่มีคนคนหนึ่งอยู่
เคียงข้าง คอยจับมือเราในเวลาต่าง ๆ ของชีวิต เป็นอะไรที่แสนวิเศษ
และมันจะเป็นตัวกระชับของคนสองคนให้ผูกพันกันในที่สุด
แต่ถ้าถึงวันที่ความอบอุ่นหายไป ความรักของเรา จะอยูบ่ นทางของ
ความสุขได้หรือไม่ ตัวเราตอบไม่ได้ คนรักของเราก็ตอบไม่ได้เช่นกัน
เพราะชีวิตของคนเรามันมีปัจจัยหลายอย่างในการอยูด่ ้วยกัน เมื่อไม่
รัก...พลังของการให้ก็เสื่อมถอย ความอบอุ่นจึงหมดกำลัง ที่จะทำหน้าที่ให้
หัวใจมีความสุข แต่ในเมื่อความอบอุ่นจากคนคนนั้นหายไป เราก็สร้างขึ้น
มาใหม่ ด้วยหัวใจของเราเอง อย่าลืมว่าเรายังมีความอบอุ่นในรูปแบบอื่น
ๆ ของชีวิตเลือกทำในสิ่งที่หัวใจเราเป็นสุข รักที่จะเป็นอะไร ก็เลือกที่จะ
เป็นอย่างนั้น เพราะความอบอุ่นของชีวิตรัก ไม่ได้จบลงเพียงแค่เส้นทางนี้
ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ การก้าวเดินของชีวิตเราย่อมเจอสิ่งใหม่ ๆ ที่
พร้อมจะสร้างความอบอุ่นให้หัวใจเราเสมอ...
ความรัก ความอบอุ่นในมุมความคิดของอิงฟ้า ไม่ได้เฉพาะเจาะจง
ว่าจะต้องเป็นความรักในแบบหนุ่มสาวเท่านั้น แต่อิงฟ้าสามารถปรับมันใช้
กับความรักในรูปแบบต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของตัวเองได้ด้วย
โดยเฉพาะความรักในใจของอิงฟ้าตอนนี้ที่มีให้พ่อและแม่ตลอดเวลา
81/221

อิงฟ้าขยับตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกตัวตื่น คนที่นั่งข้าง ๆ คืออมตะที่นั่ง


ตัวตรงแต่เปลือกตาปิดสนิท เธอค่อย ๆ ลุกจากเบาะนั่งและเบี่ยงตัว
เล็กน้อยค่อย ๆ ก้าวออกมาจากเก้าอี้ช้า ๆ เพราะเกรงว่าคนนั่งข้าง ๆ จะ
ตื่น
อิงฟ้าเดินไปยังตู้ทมี่ ีห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว อมตะค่อย ๆ ลืมตา
ขึ้นมองตามหลังหญิงสาว ตัวชายหนุ่มเองแค่หลับตาเพื่อพักผ่อนสายตา
และใช้ความคิดเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจที่จะหลับจริง ๆ
“อ้าว คุณตะ ตื่นแล้วเหรอคะ”
“ครับ...”
อมตะตอบไปอย่างนั้น เพราะไม่อยากอธิบายต่อว่าทำไม เพราะอะไร
เพราะความคิดทีไ่ หลวนในสมองของชายหนุ่มเวลานี้ มันไม่ใช่เรื่องเที่ยวใน
ทริปนี้ หากแต่เป็นเรื่องราวของหญิงสาวอีกคนหนึ่ง เขาเบี่ยงตัวเล็กน้อย
เพื่อให้อิงฟ้ากลับเข้ามานั่งที่เบาะข้าง ๆ เขาตามเดิม
อิงฟ้าสังเกตรู้ว่าแววตาของเขามีแววครุ่นคิด จึงไม่เอ่ยอะไรต่อ
หญิงสาวฉลาดพอที่จะปล่อยเวลานั้นให้เขาได้ครุ่นคิดต่อไปในเรื่องของเขา
หรือจัดการกับมันก่อน
ต่างคนต่างคิด และมีมโนภาพในเรื่องราวของตัวเอง ภายนอก
หน้าต่างของขบวนรถไฟคือภาพที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะปกคลุมสองข้างทาง
ไม่ว่าจะเป็นหลังคาบ้านเรือน ต้นไม้ ไหล่เขา หรือแม้แต่ท้องทุ่งทีก่ ว้างใหญ่
82/221

ทางสายนี้เมื่อหลายปีก่อนก็เป็นเช่นนี้ ภาพเบื้องหน้าชินตาเหลือเกิน แต่คน


ที่นั่งข้าง ๆ เปลี่ยนไปแล้ว
เมื่อก่อนคนที่นั่งเบาะข้าง ๆ จะคอยชี้ชวนบอกถึงจุดสำคัญของ
สถานที่ ต่าง ๆ ให้อิงฟ้ารู้ว่าตรงนั้นคืออะไร ตรงนี้คืออะไร และสิ่งที่รับรู้
วันนั้นก็ฝังลึกอยู่ในความทรงจำทุกเรื่องราว เพราะอย่างนี้นี่เองอิงฟ้าจึง
รู้สึกอบอุ่นเสมอเมื่อเห็นภาพ ต่าง ๆ เหล่านี้อีกครั้งและอีกครั้ง แม้วันนี้
คนที่นั่งข้าง ๆ ไม่ใช่แม่ก็ตาม แต่อิงฟ้าก็อุ่นใจ เพราะเขาคือลูกทัวร์
กิตติมศักดิ์ที่อิงฟ้าเลือกที่จะเป็นไกด์ให้เขาเป็นลูกทัวร์คนแรกของเธอ
บันทึกการเดินทางของอิงฟ้าตั้งแต่ครั้งวัยเยาว์ยังชัดเจนในทุก ๆ
รายละเอียดเธอเก็บมันไว้ในความทรงจำทุกภาพทุกตอน
“โอ้ โห นี่เหรอชุดเล่นสกีของลูกสาวแม่ แน่ใจเหรอลูกว่าฟ้าจะใส่ชุด
นี้ จริง ๆ”
เสียงของแม่ก้องอยู่ในความคิดคำนึง นานแค่ไหนแล้วนะที่สองคน
แม่ลูกคุยกันสนุกสนานและดูมีความสุข
“ทำไมล่ะคะแม่ ชุดของฟ้าไม่สวยเหรอคะ”
“ไม่ใช่ไม่สวย แต่แม่ว่ามันสวยเกินไปหรือเปล่า ชมพูพิ้งก์ทั้งชุดเลย
หวานมากเลยลูกจ๋า”
“โอ ไหมคะแม่”
อิงฟ้าทำหน้าทะเล้น
83/221

“แน่นอนสิคะ มานี่มา แม่ขอถ่ายรูปเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึกสักหน่อยมา”


อิงฟ้าอมยิ้มกับตัวเองเมื่อนึกถึงภาพวันนั้น เมื่อเหตุการณ์ได้ผ่านไป
แล้ว อิงฟ้าก็นึกขำตัวเองว่าเลือกชุดเล่นสกีได้หวานหยดจริง ๆ หากเป็น
วันนี้ เวลานี้ เอาชุดนั้นมาวางตรงหน้า เธอคงใส่ไม่ลงแน่ ๆ ไม่ใช่ว่าไม่
สวย หากแต่ว่ามันสวยมากและสีหวานจัดเกินไปต่างหาก
ทุกเรื่องราวที่เกี่ยวกับแม่ นึกถึงทีไรก็อบอุ่น นึกถึงทีไรก็มีความสุข
ในส่วนลึก ๆ ของหัวใจชายหนุ่มอย่างอมตะ ก็มีเรื่องที่ซ่อนเก็บไว้
เช่นเดียวกัน ก่อนทีเ่ ขาจะเข้ามาบริหารบริษัทแทนพ่อที่สุขภาพไม่ค่อย
แข็งแรงนั้น เขาก็เป็นเด็กหนุ่มที่มคี วามฝันเหมือน ๆ กับเด็กหนุ่มคนอื่น
ๆ ทั่วไป ด้วยหวังว่าเมื่อเรียนจบก็จะเดินตามฝันของตัวเองสักพักหนึ่ง นั่น
ก็คือเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ตั้งใจเอาไว้กับแฟนสาวพิมพ์มา
ดา ดังนั้นเขาและเธอจึงได้สัญญากันไว้ตั้งแต่เริ่มเดินทางไปเรียนด้วยกัน
เมื่อเรียนจบ จุดหมายปลายทางสำหรับความฝัน มันกลับไม่เป็นดังที่
ตั้งไว้ เมื่อเขาจำเป็นต้องเดินทางกลับเมืองไทยทันทีที่เรียนจบ เพื่อดูแล
กิจการทุกอย่างแทนพ่อที่สุขภาพเริ่มแย่ลง ด้วยความที่เป็นลูกชายคนเดียว
จึงหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบนีไ้ ปไม่ได้ พิมพ์มาดาเสียใจมากที่อมตะเลือก
ทีจ่ ะทิ้งความฝันที่วางแผนมาด้วยกัน หญิงสาวพยายามแล้วทีจ่ ะเข้าใจเขา
แต่แล้วเธอก็ไม่อาจยอมรับได้เมื่อภาระอันยิ่งใหญ่นี้ ทำให้อมตะไม่เหลือ
เวลาให้เธอเลย
...คนที่รักเรา คือคนที่ใช่สำหรับเรา
84/221

แต่บางครั้ง เรากลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่
คนที่รักเรา คือคนที่เราเพียงมองผ่าน
แต่เขา กลับมองเราอย่างใส่ใจ...
พิมพ์มาดา ทิ้งข้อความไว้ให้อมตะ ก่อนทีห่ ญิงสาวจะเดินทางจาก
เขาไป ในเมื่อมุมมองเริ่มแตกต่าง หรือหน้าที่และความรับผิดชอบทีต่ ่าง
กัน อมตะเองก็ไม่อาจรั้งหญิงสาว และเขาเองก็ทิ้งหน้าที่และความ
รับผิดชอบนี้ไม่ได้ด้วยเช่นกัน เขาและเธอจึงต้องเดินกันคนละเส้นทาง
อมตะจำใจต้องปล่อยเธอไปตามทางของเธอ แต่ด้วยความห่วงใย
เขาก็ส่งข้อความกลับไปเช่นกัน
...อย่าเลือกคนที่คิดว่า เราน่าจะอยู่กับเขาได้
แต่ให้เลือกคนที่คิดว่า เราคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา...
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กันมันก็ยังคงอยู่
ชายหนุ่มคงทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ในเมื่อภาระอันยิ่งใหญ่นี้เขาต้องรับ
มันไว้และต้องสานต่อ พนักงานในบริษัทอีกกว่าร้อยชีวิตจะเป็นอย่างไร
ธุรกิจที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษจะต้องหยุดชะงักหากเขาที่เป็นทายาท
เพียงคนเดียวไม่รับผิดชอบมัน ในที่สุดพิมพ์มาดาก็ก้าวห่างจากชีวิตยุ่ง ๆ
ของอมตะไป
85/221

ฝ่ายอิงฟ้าที่นั่งนิ่ง ๆ อยู่ข้างเขา ก็มีภาพความทรงจำผ่านเข้ามา


ทักทายเธอเช่นกัน เสียงของแม่นุ่มน่าฟังเสมอ อิงฟ้าชอบให้แม่เล่า
ประสบการณ์ชีวิตของแม่ให้ฟังบ่อย ๆ
“...เรื่องราวความรักของพ่อกับแม่ มันเกิดขึ้นตอนไหนน้า แม่เกือบ
จำไม่ได้แล้วล่ะ แต่พ่อกับแม่รู้จักกันมาก่อนที่จะรักกันเสียอีกนะ...”
“ยังไงคะแม่ แล้วใครปิ๊งใครก่อนคะ”
“ก็พ่อสิจ๊ะ วันนั้นแม่เข้าห้องเรียนช้า อ้อ เราถูกจับคู่ให้ทำเค้กด้วย
กันน่ะ พ่อทำหน้าบึ้งใส่แม่และคิดว่าแม่ไม่สนใจงานที่ได้รับมอบหมาย”
“พ่อโกรธเหรอคะ”
“ก็ไม่เชิงนะ อาจจะฟร์อมมากกกว่า แต่สุดท้ายเค้กของเราสองคนก็
ออกมาดีมาก ดีที่สุดเลยล่ะ จำได้ว่าได้รับคำชมจากอาจารย์เชฟด้วย
นะ...จากวันนั้นพ่อก็คุยกับแม่มากขึ้น และเราก็สนิทกันมากกว่าเดิม”
“ความรักของแม่ไม่หวือหวาเลย”
“มันเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปน่ะ เรารู้สึกว่ารักกันก็ตอนเรียนจบ
แล้ว พ่อต้องกลับเมืองไทย แต่แม่ยังอยู่ที่นี่”
“แล้วพ่อกลับไปเมืองไทยไหมคะแม่”
“กลับจ้ะ เกือบสามเดือนที่เราห่างกัน ตอนนั้นแม่คิดว่าเราคงไม่ได้
เจอกันอีกแล้ว แม่เริ่มทำงานทีส่ วิตฯ แต่พ่อชอบงานบริการและหวังจะทำ
ธุรกิจรีสอร์ต พ่อบอกว่าอยากทำ ไร่องุ่นสวย ๆ และรีสอร์ตงาม ๆ ควบคู่
86/221

ไปด้วย พ่อชอบธรรมชาติ...แต่แม่ชอบงานในร่มและอากาศก็ต้องดีด้วย
แม่ไม่ชอบอากาศร้อน หนทางชีวิตเราสองคนต่างกันมาก”
“แต่พ่อก็ทิ้งเมืองไทยมาหาแม่”
“ใช่จ้ะ หลังจากสามเดือน พ่อกลับมาที่สวิตฯ และทำงานที่นี่เพื่อ
ปรับตัวระยะหนึ่ง ในที่สุดพ่อก็ขอแม่แต่งงาน บ้านธาดารีสอร์ตเกิดขึ้น
เพราะความรู้สึกของพ่อ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะแม่ พ่อรักแม่ต่างหาก พ่อสร้างที่นี่ขึ้นมาเพื่อแม่
ต่างหาก...บ้านธาดารีสอร์ต ไม่ใช่ชื่อของพ่อคนเดียวนะคะ แม้ว่าพ่อจะชื่อ
ธาดาก็ตาม...ธาดาคือชื่อของพ่อกับแม่รวมกันค่ะ พ่อธาดา แม่ดาริกา ฟ้า
รู้”
บ้านธาดารีสอร์ต คือหัวใจของคนสามคนรวมกัน อิงฟ้ารู้ดวี ่าความ
หมายมันเป็นเช่นนี้ ฉะนั้นอิงฟ้าจึงช่วยงานที่นี่เต็มความสามารถโดยไม่
อิดออด ทุกครั้งทีพ่ ่อเอ่ยเรื่องงาน อิงฟ้าก็จะเต็มใจทุกครั้งด้วยเพราะคิดว่า
ทำเพื่อแม่
ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องราวของครอบครัว อิงฟ้าจะอุ่นใจเสมอและยิ้ม
อย่างมีความสุขทุก ๆ ครั้ง
เมื่อทั้งคูต่ ่างมีเรื่องราวในความทรงจำของตัวเอง ผ่านเข้ามาทักทาย
ในเวลาทีแ่ สนเงียบบนขบวนรถไฟสายแรกที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน จึง
ไม่มีการพูดคุยกันระหว่างอิงฟ้ากับอมตะตลอดการเดินทาง
87/221

เมื่อมาถึงเมืองลูเซิร์น ตามโปรแกรมที่วางแผนมา หญิงสาวจำได้


แม่นสำหรับเส้นทางสายนี้ เพื่อทิ้งบรรยากาศแบบส่วนตัวตลอดทางที่ผ่าน
มา อิงฟ้าจึงเป็นผู้เอ่ยก่อนเพื่อทำลายบรรยากาศที่แสนเงียบนั้น
“แวะหาอะไรทานรองท้องซะหน่อยดีไหมคะคุณตะ หิวหรือยังเอ่ย
ฟ้าเห็นคุณตะนั่งเงียบมาตลอดทางเลยนะคะ”
“ก็ดีครับ”
“อย่าตามใจฟ้านะคะ ต้องตามใจคุณตะค่ะ เพราะฟ้าเป็นไกด์มี
หน้าทีน่ ำทางและแนะนำ คนที่จะสนุกและรับความสุขในทริปนี้คือลูกทัวร์
ค่ะ”
“แหม ไม่ต้องเคร่งขนาดนั้นก็ได้ครับคุณฟ้า ยังไงผมก็สนุกแน่นอน
ความสุขมันเกิดขึ้นตั้งแต่ตัดสินใจว่าจะเที่ยวแล้วล่ะครับ วันนี้เราอยูท่ ี่นี่ก็
แล้วกันนะครับคุณฟ้า”
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา”
“ผมเคยเห็นในนิตยสารเขียนไว้ว่าทะสาบลูเซิร์นสวยมาก ผมอยาก
ไปเก็บภาพบรรยากาศริมทะเลสาบครับ”
อิงฟ้าจัดการจองโรงแรมทันทีที่อมตะเอ่ยว่าต้องการพักที่ลูเซิร์น
ชายหนุ่มเป็นลูกทัวร์ที่ดูง่าย ๆ ไม่เรื่องมากเลย เขารู้สึกตื่นตาตื่นใจกับทุก
ทีท่ ี่อิงฟ้าแนะนำ แม้แต่ร้านอาหารในความทรงจำของอิงฟ้า ที่เธอบอกว่า
เส้นทางนี้แม่เคยนำทางมาก่อนและอิงฟ้าก็ประทับใจมาก ๆ เมื่อได้ยิน
88/221

เช่นนั้นอมตะก็ยิ่งรู้สึกว่าเส้นทางที่อิงฟ้านำทางเที่ยวนั้นมีความหมายสำหรับ
เขาด้วย ชายหนุ่มจึงไม่รีบร้อนทีจ่ ะไปไหนนอกจากขอเก็บรายละเอียดไป
ด้วยเรื่อย ๆ ช้า ๆ อย่างสบาย ๆ
8

อิงฟ้านำทางอมตะมายังร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากโรงแรมที่พัก
นัก สำหรับชายหนุ่มแล้วทุกที่มันย่อมมีความแปลกหูแปลกตาอย่างที่สุด
เขายิ้มมุมปากอย่างสุขใจเพียงลำพัง เมื่อก้าวตามหญิงสาวมายังโต๊ะอาหาร
ภายในร้าน
“คุณฟ้าจะรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ เดี๋ยวผมสั่งให้”
“อะไรก็ได้นะคะที่ไม่มีคาเฟอีน”
อิงฟ้าบอกเขาเสียงใส ขณะที่ตัวเองยังไม่ละสายตาจากเมนูเบื้องหน้า
แววตาสดใสสอดส่ายหาเมนูแปลก ๆ เพื่อนำเสนอลูกทัวร์กิตติมศักดิข์ อง
เธอ และเพื่อต้องการให้เขาประทับใจที่สุด
“งั้น น้ำองุ่นดีไหมครับดีต่อสุขภาพด้วย”
“นั่นล่ะค่ะของโปรดฟ้าเลย”
“จุดไต้ตำตอละสิครับเนี่ย”
ว่าแล้วหญิงสาวก็เอ่ยทันควันเช่นกัน
90/221

“คุณตะรับชาร้อนไหมคะ อากาศเย็น ๆ แบบนี้ชาเขียวร้อน ๆ น่าจะ


ดีนะคะ การดื่มชาเขียวช่วยลดความอยากอาหารลงได้ และยังช่วย
เผาผลาญแคลอรีอีกด้วย สำคัญจริง ๆ ก็คงจะเรื่องที่ช่วยให้ผิวไม่แก่ก่อน
วัยค่ะ”
“คุณฟ้ารู้ตัวไหมครับว่าคุณฟ้าทำให้ผมทึ่งในตัวคุณได้เรื่อย ๆ เลย”
อมตะทำตาลุกวาวเมื่อเธอเอ่ยเรื่องสุขภาพขึ้นมา และทุกครั้งอิงฟ้าก็
มักมีข้อมูลอ้างอิงบอกเขาด้วยเสมอ
“จริง ๆ นะคะคุณตะ ประโยชน์จากชาเขียวยังมีอีกนะคะ สำหรับ
ประโยชน์จากเครื่องดื่มชาเขียว คือช่วยลดการอักเสบเหมือนกับโอเมก้า
สาม ชาเขียวยังช่วยปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูสดใสขึ้น อวบอิ่ม
ขึ้นและดูมีสุขภาพดีด้วยค่ะ คุณตะสังเกตดูนะคะร้านอาหารบางร้านเน้น
จุดขายเรื่องสุขภาพ ในบางหน้าของเมนูจะมีข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพให้ดู
ด้วย”
ดังนั้นอมตะจึงเลือกทานอาหารฝรั่งที่มีส่วนผสมของแครอท บรอก
โคลี มันฝรั่งและเนยเพราะมีวิตามินเอสูงมากทีส่ ำคัญช่วยซ่อมแซมผิวด้วย
โดยเฉพาะการมาเที่ยวเมืองหนาว ผิวคนไทยที่เคยชินกับอากาศร้อนอย่าง
อมตะย่อมแตกแห้งเป็นขุยง่าย การทานอาหารที่มีวิตามินเอสูงจึงเป็นสิ่งที่
ควรทำในความรู้สึกของเขา
91/221

บนโต๊ะอาหารทั้งคูส่ นทนากันอย่างสนิทสนม แต่ในบรรยากาศบน


โต๊ะส่วนตัวนั้นก็ไม่พ้นสายตาของใครคนหนึ่งที่จ้องมองอย่างอยากรู้เต็มที
ว่าหัวข้อในการสนทนาของหญิงสาวและชายหนุ่มนั้นคือเรื่องอะไร
หลังจากอาหารมื้อกลางวันผ่านไป อิงฟ้าก็พาชายหนุ่มกลับไป
พักผ่อนที่โรงแรม ก่อนที่ในช่วงบ่ายเธอจะพาเขาไปเที่ยวชมทะเลสาบ
ลูเซิร์นตามที่ได้ตกลงกันไว้
อมตะเดินมาส่งอิงฟ้ายังห้องพักของเธอ ก่อนที่เขาจะกลับเข้ามายัง
ห้องพักของตัวเอง
เมื่อเข้ามายังภายในห้องพักแล้ว อิงฟ้าก็คว้าน้องแก้มแดงออกมาจาก
กระเป๋าทันที ก่อนจะมาทิ้งตัวเองลงบนเตียงนอนกว้างอย่างสบายใจ เปิด
ออนไลน์เพื่อส่งข่าวสารถึงเพื่อนรักอย่างใบตองที่เมืองไทย
ตึ่ง ตึ๊ง...
อิงฟ้า says: หวัดดีตอง นึกว่าจะไม่ออนซะอีก ไม่งั้นฟ้าจะได้ส่ง
เมลหาแทนซะเลย
baitong says: ไม่ได้สิคุณเพื่อน ตองออนตลอดเวลาเพื่อรอคุย
กับคุณเพื่อนอยู่นะจ๊ะ
อิงฟ้า says: ฮั้นแน้ อยากรู้ล่ะสิว่าวันนี้ฟ้าพาลูกทัวร์ไปเที่ยวไหน
ใช่มั้ย
baitong says: อย่ามาทำเป็นรู้ทันเลย
92/221

อิงฟ้า says: อ่ะ หรือไม่จริง แต่เอาเถอะยังไงก็ช่าง ตอนนี้ฟ้ามาถึง


ลูเซิร์นแล้วล่ะ อาจจะเที่ยวที่นี่ก่อน เพราะลูกทัวร์อยากเก็บภาพบรรยากาศ
ของทะเลสาบอันแสนสวยนี้น่ะจ้ะ
baitong says: แหงล่ะ ก็ลูเซิร์นเป็นเมืองท่องเที่ยว เมือง
เศรษฐกิจ และเมืองประวัติศาสตร์นี่นา หากมาถึงแล้วไม่อยากอยู่เที่ยว
ก่อน แล้วจะไปทำไมกัน
อิงฟ้า says: รู้ดีนี่
baitong says: แหม ตองก็เรียนนะ ประวัติศาสตร์น่ะ แล้ว
โดยเฉพาะตองมุ่งมั่นต้องเข้าเรียนการโรงแรมที่โน่น ตองก็ต้องค้นคว้า
ข้อมูลเช่นกันค่ะคุณเพื่อน ตองขาดอยูอ่ ย่างเดียวเท่านั้นแหละจ้ะ คือการ
ได้ไปสัมผัสของจริงเท่านั้นเอง
อิงฟ้า says: แหม ข้อมูลแน่นอย่างนี้ ตองมาถึงเมื่อไหร่คงสนุกมาก
ๆ แบบไม่ต้องง้อใครเลยนะ...ฟ้าขอตัวทำธุระแป๊บหนึ่งนะ ขอเคลียร์
อุปกรณ์เก็บภาพของฟ้าก่อน กันพลาดน่ะ
อิงฟ้าคุยกับใบตองพอหอมปากหอมคอ เพื่อให้หายคิดถึงกันแล้วก็
เริ่มสาละวนอยูก่ ับอุปกรณ์ถ่ายภาพ เพื่อเช็กข้อมูลของตัวเองว่าจะพาอมตะ
เที่ยวต่อ ยังไง
93/221

นอกจากทะลสาบลูเซิร์นที่นักท่องเที่ยวทุกคนรู้จักกันดีว่าสวยงามแค่
ไหนแล้ว ยังมีสะพานไม้เก่าแก่นั่นอีกด้วยที่จะพลาดไม่ได้เลย อิงฟ้าจะ
ต้องพาอมตะเดินข้ามให้ได้
เมื่อถึงเวลาอิงฟ้าจึงยกหูโทรศัพท์เพื่อเตือนให้อมตะรู้ตัว ว่าต้องออก
ไปเดินเที่ยวแล้ว แต่ปรากฏว่าปลายสายไม่มีใครรับ อิงฟ้ากดซ้ำอีกครั้ง
“คุณตะ คุณไปไหนของคุณนะ ทำไมไม่รับสาย”
อิงฟ้าบ่นเบา ๆ กับตัวเองขณะทีม่ ือยังถือโทรศัพท์ค้างอยู่ อิงฟ้าไม่
ได้คิดว่าเขาจะไปรอข้างล่างเร็วขนาดนี้ อันดับแรกเธอคิดว่าต้องไปเรียกเขา
ทีห่ ้องดูก่อนเผื่อว่าอาจจะไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ คิดได้ดังนั้นจึงไปเคาะ
ประตูห้องของเขาทันที
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
“คุณตะคะ ฟ้าเองค่ะ”
“...”
ไม่มีวี่แววว่าคนข้างในจะได้ยิน หรือไม่เขาอาจจะไม่อยูใ่ นห้อง อิงฟ้า
กลับมายังห้องพักของตัวเองเก็บของบางอย่างที่จำเป็น ที่สำคัญคืออุปกรณ์
ถ่ายภาพของเธอลงในเป้เล็ก ๆ ซึ่งคุ้นเคยกันดีในการเดินทาง
บริเวณล็อบบีของโรงแรมระดับห้าดาว มีแต่แขกชาวต่างชาติซึ่งมี
บุคลิกต่างจากคนเอเชียมาก ที่นั่นไม่มีแม้เงาของชายหนุ่มที่อิงฟ้าคิดว่าจะ
ลงมานั่งคอยเธอก่อนเลย แม้สอดส่ายสายตามองหาจนทั่วแล้วก็ตาม
94/221

“ให้มันได้อย่างนี้สิคุณตะ ไปไหนทำไมไม่บอกกันเลยนะ”
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป อมตะก็ยังไม่จะปรากฏกายให้เห็น และที่สำคัญ
เลยเวลานัดมามากแล้ว อิงฟ้ารู้สึกใจหายเกรงว่าเขาอาจจะเป็นอะไรสัก
อย่าง ไม่ห่วงก็ต้องห่วงอย่างน้อย ๆ เขาก็คือลูกทัวร์ของเธอซึ่งอดไม่ได้ที่
ต้องนึกถึงสวัสดิภาพของเขาด้วย
“ไม่เป็นไรมั้ง อิงฟ้าเธออย่าวิตกกังวลไปเลย เขาเป็นผู้ชายนะ จะ
ห่วงอะไรเขานักหนา”
อิงฟ้าเตือนตัวเองเมื่อความรู้สึกในหัวใจมันเริ่มขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่เป็น
จังหวะ ถึงอย่างไรอิงฟ้าก็คิดว่าต้องรอเขาต่ออีกสักพัก และเลือกที่นั่งใหม่
ซึ่งอยู่ในจุดที่เด่นที่สุด เมื่อเขาก้าวเข้ามาจะได้เห็นทันที
แม้จะเผื่อเวลารอเขาอีก แต่ก็ไม่ปรากฏแม้เงาของชายหนุ่ม อิงฟ้าเริ่ม
รู้สึกหงุดหงิด เธอตัดสินใจติดต่อเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ถึงได้รู้ว่าอมตะฝาก
กุญแจไว้ นั่นหมายถึงว่าตัวเขาออกไปข้างนอกนั่นเอง
เมื่อเป็นเช่นนี้อิงฟ้าจึงพาตัวเองไปเดินเที่ยวเก็บภาพบรรยากาศ
ภายนอกลำพังคนเดียวบนถนนชอปปิง ซึ่งมีคนพลุกพล่าน นักท่องเที่ยว
ชาวต่างชาติค่อนข้างหนาตา ร้านค้าก็ต่างเปิดรอต้อนรับลูกค้าตลอด
เส้นทาง
อิงฟ้าเองก็ไม่ปล่อยเวลาและโอกาสแบบนี้สูญเปล่าแน่นอน เธอแวะดู
ของจุกจิกทีร่ ้านหนึ่งซึ่งมีของน่ารัก ๆ อวดตัวเอง ทำให้อดไม่ได้ทจี่ ะต้อง
95/221

เดินเข้าไปหยิบชม ที่สำคัญร้านนีค้ ่อนข้างเป็นสไตล์สวิตฯ มาก ๆ เพราะที่


ตัวสินค้าทุกชิ้นจะติดรูปธงชาติสวิตฯ เอาไว้ที่ตัวสินค้าด้วย ซึ่งถ้าใครได้รับ
ของฝากทุกชิ้นก็คงประทับใจแน่นอน อิงฟ้าหลับตานึกถึงเวลาที่ของฝาก
แต่ละชิ้นถึงมือผู้รับโดยวัดจากความรู้สึกของตัวเอง
ความรู้สึกดีใจทำให้หัวใจพองโตได้ พวงกุญแจเล็ก ๆ และ
ลูกกระพรวน ถูกอิงฟ้าเลือกไว้ในมือสองถึงสามชิ้นซึ่งดูแล้วถูกใจที่สุด
ขณะทีเ่ ดินเลือกของที่ระลึกอยูภ่ ายในร้าน พลันสายตาของอิงฟ้าก็แวบไป
เห็นใครคนหนึ่งผ่านหน้าร้านไป แม้ไม่ได้คุ้นเคยจนสนิทสนมมากมาย แต่
เธอก็มั่นใจว่าใช่เขา อิงฟ้ารีบก้าวตามออกมายังหน้าร้านมองตามเบื้องหลัง
ชายหนุ่มที่เดินไปเรื่อย ๆ ตามทางเดินแหล่งชอปปิงที่แสนจะคุ้นเคยของ
นักท่องเที่ยวทั่วไป ข้างกายเขามีหญิงสาวร่างระหงอยูใ่ นชุดที่เรียกได้ว่า
เปรี้ยวจัดจ้านอย่างมีรสนิยมเกาะแขน ทั้งคู่เดินเที่ยวช้า ๆ เรื่อย ๆ ดูมี
ความสุขเหลือเกินในสายตาของอิงฟ้า
“อืม...เหตุผลที่อยากอยู่เที่ยวที่นี่ แบบนีน้ ี่เอง อีตาบ้าเอ้ย ! มีเพื่อน
เดินเที่ยวฉ่ำอุราแบบนี้แล้ว มาจ้างเราให้เสียความรู้สึกทำไม ?”
อิงฟ้าพึมพำในใจลำพัง พรางย่นจมูกอย่างหมั่นไส้สุดฤทธิ์
“เอาซี้ วันนี้ก็ต่างคนต่างเที่ยวละกัน คุณตะ คุณผิดเวลาผิดคำพูด
เองนะ”
อิงฟ้านึกคาดโทษเขาในใจ แววตาใสเหมือนมีคำพูดและคำถาม
มากมายอยู่ในนั้น เมืองที่แสนสวยแบบนี้ สุดยอดเมืองทีใ่ ครก็ใฝ่ฝันอยาก
96/221

มาสัมผัสแม้ครั้งหนึ่งในชีวิต อิงฟ้าคิดว่า แม้ไม่ได้มีโอกาสนำทางเขา หรือ


บอกเล่าความงาม ความโรแมนติกของธรรมชาติทุกซอกมุม แต่หญิงสาวก็
จะพาตัวเอง และหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของตัวเองซึมซับเก็บมันไว้เพียงคนเดียว
ก็ได้ ยังมีใครหลายคนที่ต้องการจะให้ อิงฟ้าได้บอกเล่าและถ่ายทอดถึง
ความงดงาม และเห็นคุณค่าของดินแดนในฝันแห่งนีใ้ ห้ฟัง อย่างน้อยที่สุด
ยังมีอีกคนที่คอยติดตามข่าวสารจากอิงฟ้า เสมอ ๆ และเกือบตลอดเวลา
เพราะเธอคลั่งไคล้เมืองหนาวแห่งนีม้ าตั้งแต่เด็ก ๆ ฝันที่จะได้มาเรียนการ
โรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์ให้ได้ อีกไม่กเี่ ดือนข้างหน้าเมื่อเรียนจบมัธยมที่
เมืองไทย เธอก็ตั้งใจและมุ่งมั่นทีจ่ ะมาสอบเข้าเรียนการโรงแรมที่
สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีอิงฟ้าล่วงหน้ามาก่อนแล้วหนึ่งปี ใบตองเพื่อนทีแ่ สน
สนิทของอิงฟ้านั่นเอง
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เมื่อมาถึงลูเซิร์นก็น่าจะต้องส่งความคิดถึงกัน
จากเมืองนี้โดยตรงบ้างก็ดี อิงฟ้าเดินตามทางมาเรื่อย ๆ และไม่ยอมเสีย
ความตั้งใจแวะร้านขายโปสการ์ดซึ่งก็มีของที่ระลึกมากมายอีกเช่นกัน
โปสการ์ดสองใบที่อิงฟ้าเลือกไว้ในมือคือ ใบแรกเป็นรูป รูปปั้นสิงโต
ร้องไห้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นกลางของคนสวิตฯ ซึ่งใน
ประวัติศาสตร์เขียนเอาไว้ว่า
สมัยก่อนทหารสวิตฯ ขึ้นชื่อว่า “จงรักภักดีที่สุด” เลยมักจะถูกจ้าง
เอาไว้ป้องกันพระบรมวงศานุวงศ์ในยุโรป เหตุที่ต้องใช้ทหารสวิตฯ
เพราะว่า “เป็นกลางและจะทำงานให้คนที่จ้างเท่านั้น” หากวันใดก็ตามที่
97/221

คนในประเทศ ทหารในประเทศแปรพรรค ทหารสวิตก็ยังคงทำงานให้กับ


คนทีจ่ ้างต่อไป ไม่แปรพรรคแน่ The Lion of Lucern นี้เองสร้างขึ้น
เพื่อระลึกถึงวีรกรรมของทหารสวิตฯ ที่คอยรักษาวังให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 16
และพระนางมารีย์อังตวงเน็ตในช่วงปฎิวัติฝรั่งเศส
ภาพของสิงโตในมือ ทำให้อิงฟ้านึกถึงเวลาที่แม่เล่าถึงประวัติศาสตร์
ของสวิตเซอร์แลนด์
“วีรกรรมนั้นเกิดขึ้นเมื่อชาวบ้านพยายามบุกเข้ามาในพระราชวังเพื่อ
จับตัวกษัตริย์ ก็มที หารสวิตนี่แหละที่คอยรักษาวังไว้ ทหาร 700 คนยังไง
ก็สู้ชาวบ้านสามหมื่นคนทีโ่ กรธไม่ได้หรอก ทหารเหล่านี้จึงโดนฆ่าหมู่ แต่
เมื่อชาวบ้านพยายามจะเข้าไปหาตัวพระเจ้าหลุยส์กลับพบว่าเขาหนีหายไป
แล้ว ทหารสวิตฯ นี่เลยตายฟรีเพื่อปกป้องวังร้าง จึงเป็นที่มาของสิงโตตัวนี้
นั่นเอง...”
“ทำไมต้องเป็นสิงโตด้วยล่ะคะแม่ สัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดี
ทำไมเป็นอย่างอื่นไม่ได้”
ทันทีที่แม่เล่าจบ เด็กน้อยอิงฟ้าก็มักจะมีคำถามกลับเสมอ
“เป็นอย่างอื่นก็อาจจะได้มั้ง แต่ประวัติศาสตร์เลือกเป็นสิงโตนี่นา
เขาคงมีเหตุผลของเขา”
นั่นไง นักประวัติศาสตร์อย่างแม่ เริ่มเบื่อที่จะตอบคำถามลูกสาว
แสนซนบ้างแล้ว
98/221

อย่างน้อยวันนีอ้ ิงฟ้าก็ได้ของฝากติดมือกลับมาด้วย พร้อมด้วย


โปสการ์ดสองใบที่ตั้งใจจะส่งให้ใบตอง พร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องราว
ประวัติศาสตร์ชาติสวิตเซอร์แลนด์ด้วย เกี่ยวกับเมืองลูเซิร์นทีค่ ืนนี้เธอ
ต้องนอนพักที่นี่ เมืองที่คนสวิตลงความเห็นว่าเป็นเมืองน่าอยู่อันดับต้น
ๆ เลย เพราะมีครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ภูเขา ทะเลสาบ และเมืองเก่า
ภายในห้องพักส่วนตัว อิงฟ้าทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้าง หยิบ
โปสการ์ดทีเ่ พิ่งซื้อมาสองใบขึ้นมาดูอย่างพิจารณา ความคิดต่าง ๆ เริ่ม
หลั่งไหลผ่านเข้ามาทักทาย
ตึ่ง ตึ๊ง...
เสียงของความคิดถึงจากเมืองไทยมาแล้ว !
baitong says: ออนไว้แต่ใยไม่ทักทายกัน วันนีเ้ ที่ยวเหนื่อย
หรือไง
อิงฟ้า says: ฟ้าไม่เคยเหนื่อยในการเที่ยวนะจ๊ะ วันนีม้ ีของฝากไว้
ให้ตองด้วยล่ะ รอรับละกัน
baitong says: คงใหญ่โตมโหฬารน่าดูใช่ไหม
อิงฟ้า says: สำหรับความรู้สึกของคนให้แล้ว มันยิ่งใหญ่เท่าฟ้าเลย
ล่ะจะบอกให้
99/221

baitong says: โอ โห งั้นตองก็คงต้องแบกมันไว้อย่างหนักอึ้งเลย


สิ จะดีเร้อ ตองยิ่งไม่ชอบของฝากชิ้นใหญ่ ๆ แบบนั้นด้วยสิ กลัวว่าจะถือ
มันไม่ไหว
อิงฟ้า says: ถ้าเอาใจแบกไว้ มันจะอุ่นใจ และสุขใจมาก
baitong says: แบบนีพ้ อลุ้น งั้นตองจะรอรับแล้วกันนะ ว่าแต่
เป็นไงมาถึงลูเซิร์นวันแรก
คำถามของใบตองทำให้อิงฟ้านิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะเล่าเรื่องราวให้
เพื่อนฟัง อิงฟ้ารีบกลับเข้ามาห้องพักก่อนเวลาอาหารเย็น หวังเพื่อว่าเขาจะ
กลับมาห้องแล้ว แต่สุดท้ายก็มีเพียงความว่างเปล่าเช่นเดิม อมตะยังไม่
กลับเข้ามาห้องพักของเขา และไม่มีแม้โน้ตบอกเธอว่าหายไปไหน ทั้งที่
วันนี้เขามีโปรแกรมเที่ยวกับอิงฟ้าในตลอดช่วงบ่ายนี้ ทำให้โปรแกรมทีอ่ ิง
ฟ้าจัดไว้เพื่อเขาเริ่มรวน
เมื่อทำอะไรไม่ได้ ติดต่อเขาในเวลานี้กไ็ ม่ได้ อิงฟ้าคงทำได้อย่างมาก
ก็แค่รอ อย่างไรเสียผู้ชาญฉลาดอย่างอิงฟ้าก็ชิล ๆ อยู่แล้ว มีหรือจะ
ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เธอสามารถเที่ยวคนเดียวได้อย่างสบาย และไม่
เหงาด้วย ภาพถ่ายที่เก็บมาได้ถูกเปิดดูทีละภาพด้วยรอยยิ้มอย่างภูมิใจ
และมีความสุข ถนนหนทางที่มีผู้คนเดินกันไปมา ก็เป็นอีกฉากหนึ่งที่สวย
แปลกตาเนื่องจากว่านักท่องเที่ยวได้เปลี่ยนหน้าตาไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ซ้ำ
แม้สถานที่จะยังคงเดิมก็ตาม
100/221

“แม่คะ วันนี้ฟ้าเดินตามรอยแม่ด้วยนะคะ แม่เห็นไหมว่าฟ้าสามารถ


หลับตาแล้วเดินตามเส้นทางที่แม่เคยเดินได้ด้วย ฟ้าจะนำทางลูกทัวร์ของ
ฟ้าให้ได้ไปสัมผัสบรรยากาศของสวิตเซอร์แลนด์โดยแท้จริงให้ได้
เป็นกำลังใจให้ฟ้าด้วยนะคะแม่ ให้พวกเราเดินทางปลอดภัย”
มันเป็นคำพูดทีห่ ญิงสาวคิดว่า นี่คือการสื่อสารกับแม่ดาริกาของเธอ
แม้จะไม่มีแม่อยู่ข้าง ๆ แต่อิงฟ้าก็อุ่นใจทุกครั้งที่นึกถึง อิงฟ้าเป็นหญิงสาว
ทีม่ ีพลังคิดบวก ดังนั้นเธอจึงมีความสุขเสมอ ปรับชีวิตของตัวเองให้เข้าที่
เข้าทางได้ในทุก ๆ สถานการณ์
“แม่เห็นไหมคะว่าลูกสาวของแม่ก็มีฝีมือเหมือนกันน้า...”
เมื่อเลื่อนภาพมาถึงสิงโต อิงฟ้าก็นึกขึ้นมาได้ว่าซื้อโปสการ์ดมาเพื่อ
ส่งให้ใบตอง เธอหยุดภาพไว้เพียงเท่านั้น รีบคว้ากระเป๋าคู่ใจขึ้นมาเปิดดู
พร้อมทั้งหยิบโปสการ์ดใบที่เป็นรูปสิงโตร้องให้ขึ้นมาเพื่อเขียนข้อความ
และตั้งใจจะส่งในวันพรุ่งนี้เลย
ใบตอง...
ทีโ่ รงแรมหรูใจกลางเมืองลูเซิร์น อากาศเย็นเยียบแบบติดลบเลย
แหละ หนาวขนาดนี้ฟ้ายังชิล ๆ นะตอง
ใคร ๆ มักจะบอกว่าสิงโตตัวนีร้ ้องไห้ ตองลองมองดี ๆ แล้วบอก
ฟ้าทีสวิ ่า เห็นเหมือนอย่างทีใ่ ครเห็นหรือเปล่า ? มันเป็นสัญลักษณ์แห่ง
101/221

ความจงรักภักดีน่ะ...ฟ้าคงไม่ต้องเล่าประวัติศาสตร์มากมายหรอกนะ อันนี้
เอาไว้คุยกันทีหลัง แต่ เอ...ตองคงพอรู้อยู่แล้วล่ะ
วันนี้คือวันแรกที่ฟ้าพาลูกทัวร์วีไอพีของฟ้ามาเที่ยว แต่ลูกทัวร์ของ
ฟ้ากลับแวบหายตัวไปไหนก็ไม่รู้ สงสัยต้องตามหากันสักหน่อย ประเดี๋ยว
จะมาหาว่าไกด์สุดสวยอย่างฟ้าไม่ใส่ใจลูกทัวร์ เอาใจช่วยฟ้าด้วยนะให้ทริ
ปนี้ผ่านไปด้วยดีและประทับใจ...
ฝากสายลมหนาวพัดผ่านยอดเขาพิลาทุสแห่งลูเซิร์นไปถึงใบตองด้วย
นะ คิดถึงจังเลย
โปสการ์ดใบแรกเขียนเสร็จแล้ว อิงฟ้าจึงวางมันไว้ข้าง ๆ น้องแก้ม
แดง อากาศภายนอกในเวลาพลบค่ำเริ่มเย็นลงเล็กน้อย ภายนอกหน้าต่าง
ของโรงแรม เมื่อมองจากห้องพักของอิงฟ้าแล้วสวยงามด้วยไฟแสงสีที่
ประดับประดา หากใครทีย่ ังไม่เคยมาที่สวิต หรือมาเป็นครั้งแรกเมื่อเห็น
บรรยากาศแบบนี้คงจะต้องร้องกรี๊ด ๆ ด้วยความประทับใจเป็นแน่ แต่
สำหรับเธอมันเลยจุดนั้นมาแล้ว ความสวยงามสุดโรแมนติกแบบนี้มัน
ซึมซับอยู่ในความทรงจำของเธอมานานแสนนาน ไม่ว่าจะมองวันนั้นหรือ
วันนี้ก็อิ่มและอุ่นใจ
ด้วยเพราะบทบาทใหม่ที่อิงฟ้าเริ่มวางให้ตัวเอง นั่นก็คือพาลูกทัวร์
ของเธอดื่มด่ำไปกับดินแดนมหัศจรรย์นี้ให้ทั่วและเกิดความประทับใจที่สุด
ทุกทีท่ ี่สวยงามที่นักท่องเที่ยวต่างใฝ่ฝันที่จะมาสัมผัส อิงฟ้าต้องเป็นผู้นำ
ทางที่ดีและอำนวยความสะดวกให้ไปยังจุดหมายได้โดยสมบูรณ์แบบที่สุด
102/221

ไม่เว้นแม้แต่ลูกทัวร์คนสำคัญซึ่งเป็นรายแรกอย่างอมตะก็ตาม แม้
วันนี้เขาจะเกเรหนีเที่ยวเองคนเดียว ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ อิงฟ้าก็ยัง
หวังว่าเธอจะนำทางเขาท่องเที่ยวให้จบทริปนี้ ตาทที่ได้ตกลงกันไว้ให้จบทริ
ปแน่นอน
9

ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
น่าจะเป็นเสียงของการทักทายจากใครบางจากนอกห้อง หากไม่รู้จัก
กันคงไม่เคาะเรียก อิงฟ้าเข้าใจแบบนั้น เพราะหากเป็นพนักงานโรงแรมก็
ไม่น่าจะใช่ เพราะว่าอิงฟ้าไม่ได้สั่งอะไรเป็นพิเศษ
“คุณฟ้า...”
เป็นเสียงเรียกชื่อหญิงสาวด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคย อิงฟ้าจึงเปิด
ประตูออกมาดู ปรากฏว่าเป็นอมตะจริง ๆ
“คุณตะ...”
“เอ่อ...ผมขอโทษนะครับที่...”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ว่าแต่ตอนนี้คุณตะ เอ่อ...ทานดินเนอร์มาหรือยัง
คะ”
ชายหนุ่มถึงกับอึ้งนิด ๆ กับน้ำเสียงของหญิงสาวที่ทักทายเขาอย่าง
ปกติเหมือนไม่มอี ะไรเกิดขึ้น ทั้งที่เขาคาดเดาไว้แล้วว่าเธอต้องว้าวุ่นใจมาก
แค่ไหนที่เขาจู่ ๆ ก็หายไปไม่บอกกล่าวเธอให้รู้เลยสักคำ
104/221

“ผมก็มาชวนคุณฟ้าไง”
ชายหนุ่มไม่ตอบตรง ๆ แต่เฉไฉเล็กน้อย
“งั้นขอเวลาฟ้าเก็บของแป๊บหนึ่งนะคะ...”
อิงฟ้าผายมือไปที่เตียงนอนกว้าง ซึ่งมีข้าวของระเกะระกะไปหมด
พร้อมทั้งน้องแก้มแดงที่เปิดทิ้งไว้ นั่นหมายถึงว่าอิงฟ้าต้องเก็บข้าวของให้
เข้าที่เข้าทางก่อนที่จะไปทานดินเนอร์กับชายหนุ่มในค่ำคืนนี้
“ครับตามสบาย งั้นผมขออนุญาตเข้าไปรอข้างในได้ไหม”
เสียงของเขาดูเกรงใจ อิงฟ้าจึงพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต เมื่อก้าวมา
ยังภายในห้อง อมตะก็สังเกตเห็นภาพที่อิงฟ้าหยุดไว้เป็นรูป The Lion
of Lucern
“อ้อ ฟ้าเพิ่งออกไปถ่ายรูปมาเมื่อบ่ายนี้เองค่ะ”
อิงฟ้าตัดบทเพราะคิดว่าชายหนุ่มต้องตั้งคำถาม
“อือ น่าเสียดายที่ผมไม่ได้ไปด้วย ผมขอโทษ ...”
น้ำเสียงของชายหนุ่มนุ่มนวลอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้อิงฟ้ารอเขาเก้อ
ตลอดช่วงบ่าย โดยที่เขาไม่ได้บอกล่วงหน้าหรือโทร. มาบอกเลยแม้แต่นิด
เดียวว่าเขาไปไหนและทำอะไรที่ไหน หากอิงฟ้าจะโกรธเขาก็คงต้องยอมรับ
มัน และชดใช้ค่าเสียเวลาแก่เธอตามที่ควรจะเป็น
“ไม่เป็นไรนี่คะ คุณตะยังมีเวลาอีกตั้งเยอะให้ได้ไปเดินเที่ยวที่นั่น”
105/221

“ครับ”
ความแตกต่างทางความรู้สึกที่อมตะได้สัมผัสจากคนสองคนมันช่าง
แตกต่างและห่างไกลกันเหลือเกิน
อิงฟ้าที่เต็มไปด้วยความสดใส มองโลกในแง่ดี และเป็นคนที่มีความ
รับผิดชอบสูงมาก เธอรอบรู้เกือบทุกอย่าง...ทีส่ ำคัญอยู่ใกล้แล้วมีความสุข
สบายใจ
ส่วนพิมพ์มาดา เธอเป็นสาวสังคม ทันสมัย เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด ความรู้
สูงแต่ขาดความรับผิดชอบ เนื่องจากเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย เธอจึงไม่
ใส่ใจทีจ่ ะยุ่งกับธุรกิจการงานใด ๆ นอกจากเที่ยวและใช้เงินชอปปิงไปตาม
ประสา เวลาอยู่ใกล้อมตะก็ต้องเอาใจ พยายามไม่ขัดใจเธอในทุก ๆ เรื่อง
ความสัมพันธ์จึงจะดำเนินไปอย่างราบรื่นได้
สองคนสองแบบที่แตกต่าง แต่ก็ผ่านเข้ามาทักทายหัวใจเขาอยูใ่ น
ขณะนี้
อาหารมื้อค่ำผ่านไปอย่างง่าย ๆ เนื่องจากลูกทัวร์อย่างอมตะไม่ค่อย
จะเรื่องมากเท่าใดนัก อิงฟ้าเสนอแบบไหนเขาก็ตามใจเธอ ในเมื่อยังพอมี
เวลาอิงฟ้าจึงนำทางอมตะมาที่สะพานไม้เก่าที่เวลานี้ไฟแสงสีต่าง ๆ ใน
เวลากลางคืน ทำให้สะพานไม้มีเสน่ห์ไปอีกแบบ นักท่องเที่ยวหลายคนต่าง
พากันถ่ายรูปเพื่อเก็บไปเป็นที่ระลึก อมตะเองก็ดูท่าทางสนใจที่จะเก็บภาพ
ความสวยงามนั้นเช่นกัน ลมเย็น ๆ พัดผ่านมาให้อิงฟ้าต้องกระชับเสื้อ
หนาวของตัวเองเข้าหากัน แววตาใสมองทอดยาวไปไกลเหมือนเธอจะเห็น
106/221

อะไรที่อยูไ่ กล ๆ นั้น อมตะหันมาเห็นภาพนั้นพอดี ก็เลยทันที่จะเก็บภาพ


ของอิงฟ้าในโฟกัสนั้นไว้ได้
“คุณตะทำอะไรคะ แอบถ่ายรูปฟ้าเหรอคะ”
อิงฟ้าหันขวับมาทันทีทรี่ ู้สึกตัวเมื่อต้องแสงแฟลช อิงฟ้ากระพริบตา
สองสามทีก่อนจะว่าชายหนุ่มเป็นเชิงล้อเล่น
“นิดหนึ่งนะคุณฟ้าผมชอบมุมนี้จังเลย”
ว่าพรางเดินเข้ามาชิดหญิงสาวแล้วตั้งท่าถ่ายรูปคู่ทันทีโดยที่อิงฟ้าเอง
ก็ไม่ทันตั้งตัว เหมือนตกกระไดพลอยโจนที่ต้องถ่ายภาพคู่
“มานี่ดีกว่าค่ะคุณตะ ฟ้าถ่ายให้คุณตะนะคะ”
อิงฟ้ายื่นมือมาขอกล้องจากมือของชายหนุ่ม อย่างอาสาที่จะเก็บภาพ
สวย ๆ ให้เขา อมตะเองก็เต็มที่ยอมให้อิงฟ้าเรียกเขาไปมุมนั้นทีมุมนี้ที
นานเหลือเกินแล้วที่เขาไม่ได้ปลดปล่อยความรู้สึกของตัวเองแบบนี้
ทุกวันก็ได้แต่เคร่งเครียดทำงาน ๆ ประชุมนั่นประชุมนี่อยู่ตลอดเวลา จน
แทบไม่มีเวลาได้พักผ่อน เสียงหัวเราะของเขาถูกเก็บเงียบไว้ภายใต้หัวใจ
อันแข็งแกร่งดวงนี้นานเหลือเกิน...นั่นสินะ มันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจของเขา
ในเวลานี้
...จริงหรือที่ความรักเป็นตัวการที่ทำให้คนเราร่าเริงสดใสขึ้น นั่นสิ
นะ... ความรักไม่ได้เดินเข้ามาหาเราเอง แต่มใี ครสักคนต่างหากที่หอบมัน
มาให้เรา...ความรักเป็นตัวการทำให้คนร่าเริง สดใสจริง ๆ...
107/221

อมตะรำพึงกับตัวเอง ในขณะที่อิงฟ้าชี้ชวนให้เขาดูนั่นนี่รอบตัว อิง


ฟ้าพยายามที่จะให้เขามีภาพถ่ายสวย ๆ โดยอาสาเป็นตากล้องให้
“เป็นคุณใช่ไหมอิงฟ้า คุณพามันมาให้ผมรู้จักกับมันอีกครั้ง”
เสียงของเขารอดไรฟันออกมาแผ่วเบา
“คุณตะว่าอะไรนะคะ”
แต่มันก็พอทำให้อิงฟ้ารู้ว่าเขากำลังถามอะไรเธออยู่ ดวงตาทั้งคู่
ประสานกันอยู่หลายครั้ง อมตะยิ่งรู้สึกอุ่นใจ สบายใจที่จะไปไหนทุก ๆ
แห่งที่อิงฟ้าชี้ชวน
สะพานไม้เก่าในดินแดนสวรรค์แห่งนี้อาจจะมีมนต์ขลังซะแล้ว ความ
เย็นเยียบของอากาศพาหัวใจของชายหนุ่มล่องลอยพลิ้วไหว อิ่มใจ อบอุ่น
อย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน ชายหนุ่มหญิงสาวเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดิน
“ผมชอบที่นี่จังเลย”
“คุณตะหมายถึงสะพานนี่เหรอคะ หรือว่าทั้งหมดที่เป็นลูเซิร์น”
“ถ้าหากเป็นเวลานี้ ก็คงต้องบอกว่าชอบสะพานนีจ่ ังเลย ผมไม่เคย
คิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าจะมีโอกาสได้มาเดินที่สะพานแห่งนี้ และหาก
เป็นคืนนี้คงต้องบอกว่าชอบลูเซิร์นเมืองนีม้ ากมายเลยล่ะ ผมอาจจะหลับ
ตานอนได้เต็มตื่นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีทีเดียว และหากเป็นพรุ่งนีผ้ ม
คงต้องบอกว่าชอบสวิตเซอร์แลนด์ที่สุด ผมมีความสุขมากทีไ่ ด้มาสัมผัส
108/221

ประเทศนี้ คิดไม่ผิดจริง ๆ ครับที่ตัดสินใจเลือกที่นี่เป็นที่ประชุมสัมมนา


และให้โอกาสพนักงานได้พักผ่อน”
“ฟ้าหวังว่าทุกคนคงจะมีความสุขเช่นเดียวกับคุณตะนะคะ”
“ผมก็หวังเช่นนั้นครับ”
“ต้องขอบคุณ คุณฟ้ามาก ๆ นะครับที่ทำให้ผมได้สัมผัสกับ
บรรยากาศของที่นี่”
“เป็นหน้าที่ของฟ้าอยู่แล้วนี่คะ”
ห่างจากสะพานไม้ไม่ไกล อิงฟ้านำทางอมตะมาที่ย่านชอปปิง
นักท่องเที่ยวยังคงเดินชอปปิงกันอย่างครึกครื้นแข่งกับอากาศเย็นเยียบ
อย่างไม่สะทกสะท้าน
“คุณฟ้าเหนื่อยไหมครับ แวะดื่มอะไรร้อน ๆ ซะหน่อยดีไหม”
อมตะเป็นคนเอ่ยชวนเมื่อเหลือบเห็นร้านคอฟฟีชอปร้านหนึ่งท่าทาง
น่านั่ง อิงฟ้าเลือกโกโก้ร้อนเป็นเครื่องดื่มให้ตัวเอง ส่วนอมตะเลือกคาปูชิ
โนที่คุ้นลิ้นของเขาเหมือนเคย
“แปลกนะครับร้านนี้ใช้ดอกคาเนชั่นตกแต่งทั้งร้านเลย”
อมตะมองซ้ายทีขวาทีก่อนเอ่ยกับหญิงสาวในสิ่งที่เขาสังเกตเห็น
“คาร์เนชั่น เป็นดอกไม้ที่ชวนให้หลงใหลนี่คะ คาร์เนชั่นเป็นดอกไม้
ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจมากกว่าใครเพื่อนเลยนะคะในบรรดาดอกไม้ทั้งมวล”
109/221

“อือ ไม่ใช่กุหลาบหรอกเหรอครับ ผมกลับเข้าใจว่ากุหลาบเป็น


ดอกไม้ที่มีเสน่ห์ที่สุดแล้ว”
“ดอกไม้ทุกชนิดมีเสน่ห์และความหมายในตัวเองอยู่แล้วค่ะคุณตะ”
“นอกจากเรื่องชาแล้ว คุณฟ้ายังรู้เรื่องความหมายของดอกไม้อีกด้วย
นะครับเนี่ย”
“นิดหน่อยละค่ะ มันเป็นความรู้รอบตัวที่บังเอิญรู้น่ะค่ะ ฟ้าเรียนการ
โรงแรมบางทีเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ก็ต้องรู้ค่ะ”
“อือ แต่คาเนชั่นก็มีหลายสีนี่ครับ ความหมายจะแตกต่างกันไหม
เอ่ย”
“แน่นอนสิคะ ความหมายในแต่ละสีย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว
อย่างเช่น คาร์เนชั่นสีแดง เป็นดอกไม้ทสี่ ื่อว่า เห็นใจในความรักของฉันที่
มีต่อเธอบ้าง เป็นลูกออดอ้อนให้ใจอ่อน ประมาณนั้นน่ะค่ะ สีชมพูหวาน
เป็นดอกไม้ที่สื่อว่า ความรักของฉันกำลังจะผลิบาน โปรดถนอมหัวใจรัก
ฉันด้วย คาร์เนชั่นลาย ดอกไม้สำหรับปฏิเสธใครที่มาตามตื้อ ต้องรีบส่ง
ไปเพราะมันหมายถึง ไม่ได้คิดอะไรด้วยเลย และคาร์เนชั่นที่ถูกดึงกลีบ
ดอกออกไป เป็นดอกไม้สำหรับการปฏิเสธความรักโดยสิ้นเชิง ประมาณว่า
ฉันไม่เคยคิดรักเธอเลย แต่ที่ร้านนี้เจ้าของร้านอาจจะชอบดอกไม้ชนิดนี้
เป็นกรณีพิเศษก็ได้ค่ะ เห็นไหมคะว่าเมืองที่โรแมนติกอย่าง
สวิตเซอร์แลนด์ก็มักจะมีอะไรที่โรแมนติกสวยงามซุกซ่อนอยู่ได้ในทุก ๆ
มุมเหมือนกัน”
110/221

“นั่นสินะ ทุกที่ย่อมมีความสำคัญและมีความหมายในตัวเอง ที่


เมืองไทยก็เช่นเดียวกันครับยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ งาม ๆ ซุกซ่อน
อยูม่ ากมาย...ครั้งหนึ่งผมเคยไปเที่ยวเชียงคาน เมืองริมน้ำโขง...เวลาที่อยู่
ที่นั่น อยูใ่ นบรรยากาศของเชียงคานจริง ๆ...เหมือนเวลาจะหมุนช้าลง
เชียงคานเป็นอำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดเลย ยังคงอารยะธรรมแห่งลุ่มน้ำโขง
ทีผ่ สมผสานกับความทันสมัยของโลกปัจจุบันได้อย่างลงตัว ความ
เงียบสงบของเมือง ความน่ารักของผู้คน ที่ยังดำรงวิถีชีวิตแบบราบเรียบ
และกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างแนบแน่นดีเยี่ยม รวมไปถึง
ทัศนียภาพริมฝั่งโขงที่สวยงาม คงเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้นักเดินทาง
มักแวะเวียนไปต้องมนต์เสน่ห์”
“เอ...แต่ว่าเมื่อก่อนเชียงคาน อยูท่ ี่ประเทศลาวไม่ใช่เหรอคะ เหมือน
ว่าฟ้าจะคุ้น ๆ อย่างนั้น”
“ใช่ครับ แสดงว่าคุณฟ้าก็สนใจประวัติศาสตร์ด้วยเหมือนเหมือนกัน
เหรอเนี่ย”
“แม่เคยเล่าให้ฟังทั้งนั้นแหละค่ะ ฟ้าเลยคลับคล้ายคลับคลาแต่จำไม่
ได้ ”
“แต่เดิม เชียงคาน ตั้งอยู่ทเี่ มืองชะนะคามประเทศลาวครับ ก่อตั้ง
ขึ้น ประมาณพ.ศ. 1400 โดย ขุนคาม แห่งอาณาจักรล้านช้าง ต่อมา
พ.ศ.2250 อาณาจักรล้านช้างแยกออกเป็นสองอาณาจักร คือ อาณาจักร
หลวงพระบาง และ อาณาจักรเวียงจันทน์ โดยกำหนดอาณาเขตให้
111/221

ดินแดนเหนือแม่น้ำเหืองขึ้นไปเป็นอาณาเขตหลวงพระบาง และใต้แม่น้ำ
เหืองลงมาเป็นอาณาเขตเวียงจันทน์”
“ในปี พ.ศ.2320 พระเจ้ากรุงธนบุรี โปรดเกล้าฯ ให้ เจ้าพระยา
มหากษัตริย์-ศึก กับพระสุรสีห์ ยกทัพไปตีกรุงเวียงจันทน์ เมื่อรบชนะจึง
ได้อันเชิญพระแก้วมรกตกลับมายังกรุงธนบุรี และทำการรวมอาณาจักร
ล้านช้างเข้ามาเป็นประเทศราชของไทย พร้อมกับกวาดต้อนพลเมืองมาอยู่
เมืองปากเหือง จากนั้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์ เจ้าเมืองเวียงจันทน์
คิดกอบกู้เอกราชเพื่อแยกเป็นอิสระจากไทย แต่ในที่สุดเจ้าอนุวงศ์ ถูกจับ
ขังจนสิ้นชีวิต กองทัพไทยที่ยกมาปราบ เจ้าอนุวงศ์ ได้ยกทัพไปกวาดต้อน
ผู้คนจากฝั่งซ้ายของลำน้ำโขงมายังเมืองปากเหืองมากขึ้น พระเจ้า-
กรุงธนบุรี จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระอนุพินาศ (กิ่งต้นสกุลเครือทองศรี) เป็น
เจ้าเมืองปากเหืองคนแรกและ พระราชทานชื่อเมืองใหม่ว่า เมืองเชียงคาน”
“ครั้นถึงสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พวกจีนฮ่อ
ได้ยกทัพมาตีเมืองเวียงจันทน์ และได้เข้าปล้นสะดมเมืองเชียงคานเดิม
ที่อยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ชาวเชียงคานเดิมจึงอพยพผู้คนไปอยูเ่ มืองเชียง
คานใหม่ (เมืองปากเหือง) ครั้นต่อมาเห็นว่าชัยภูมเิ มืองเชียงคานใหม่
(เมืองปากเหือง) ไม่เหมาะสม ผู้คนจึงอพยพไปอยู่ที่ บ้านท่านาจันทร์
(ใกล้กับที่ตั้งของอำเภอเชียงคานปัจจุบัน) แล้วตั้งชื่อใหม่ว่า เมืองใหม่
เชียงคาน ต่อมาไทยได้เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงให้กับฝรั่งเศส ทำให้
เมืองปากเหืองตกเป็นของฝรั่งเศส คนไทยที่อยู่เมืองปากเหืองจึงอพยพมา
112/221

อยู่ เมืองใหม่เชียงคาน หรือ อำเภอเชียงคาน ในปัจจุบันตราบเท่า


ทุกวันนี้”
“นั่นสิคะ ฟ้าถึงบอกว่าไม่ค่อยคุ้นว่า ชื่อนี้เป็นสถานที่ที่อยูใ่ น
เมืองไทย
“ถ้าคุณฟ้ากลับไปเมืองไทยเมื่อไหร่ ผมยินดีจะเป็นไกด์ให้ครับ ผม
จะพาไปเที่ยวที่นี่ รับรองว่าคุณฟ้าจะสนุกและมีความสุขกับการถ่ายรูป
อย่างแน่นอน”
“โห ขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ ฟังดูน่าสนใจนะคะ”
มันช่างเป็นความสุขและความอิ่มใจอย่างยากจะอธิบายจริง ๆ การ
ได้ใกล้ชิดกับหญิงสาวและได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันตามลำพัง
เช่นนี้ ทำให้อมตะรู้ว่าคุณค่าของคนอยู่ที่การเรียนรู้และการกระทำจริง ๆ
จะมีหญิงสาวสักกีค่ นในโลกใบนีท้ จี่ ะฉลาดรอบรูแ้ ละใส่ใจ ที่จะใฝ่หา
ความรู้เรื่องรอบตัวแบบนี้ ส่วนใหญ่กไ็ ปตามแฟชั่นและเทคโนโลยี
สนุกสนานไปวัน ๆ มากกว่า
10

หลังจากเดินเที่ยวและทานรอบดึกกันเสร็จแล้ว ทั้งคู่จึงกลับที่พักเพื่อ
พักผ่อน เนื่องจากรุ่งเช้าอิงฟ้าต้องพาลูกทัวร์อย่างอมตะขึ้นเทือกเขาทิตลิส
(Titlis) และพิลาทุส (Pilatus) อาจจะต้องใช้เวลาทั้งวันทั้งเดินทางขึ้นไป
ชมความงามและกลับลงมาอีก ท่าทางอมตะตื่นเต้นไม่น้อยกับโปรแกรมที่
อิงฟ้าจัดไว้ให้ เขาเคยทราบจากข้อมูลท่องเที่ยวอย่างคร่าว ๆ เท่านั้น
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ขึ้นไปสัมผัสของจริง
คืนนีอ้ าจจะเป็นคืนแรกในชีวิตของเขาที่อาจจะนอนหลับฝันดี เพราะ
เขารู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก มันช่างยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด
จริง ๆ สำหรับความรู้สึกภายในหัวใจของเขาเวลานี้ คำว่า...ราตรีสวัสดิจ์ าก
เธอทำให้เขาตรึงมันไว้ในห้วงคำนึงตลอดเวลา เหมือนคำพูดอุ่น ๆ ที่เติม
ใจให้เขาอบอุ่น ท่ามกลางความหนาวเหน็บแห่งเมืองนี้
ร่างสูงโปร่งยืนนิ่งอยู่ริมหน้าต่างห้องพัก สายตาของชายหนุ่มทอด
ยาวออกไปไกลผ่านกระจกใสของหน้าต่างห้องพัก ภายในห้วงความคิด
ของเขามีหญิงสาวคนหนึ่งร่างบางนัยน์ตาใสภายใต้ดวงตากลมโตคูส่ วย ใน
114/221

สายตาของใคร ๆ เธออาจจะเป็นหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น แต่หารู้


ไม่ว่าเธอเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากสำหรับเขา เธอมีพลังในตัวเองเกินร้อย
ในห้วงความทรงจำ คือเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาไม่กชี่ ั่วโมงก่อนนี้ อิง
ฟ้าทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายได้ จากหัวใจที่หนักอึ้งมานานแสนนาน
ความรู้สึกทีเ่ หมือนถูกผูกเก็บไว้ใต้ส่วนลึกของหัวใจ บัดนี้เหมือนถูก
ปลดปล่อยจากพันธนาการแล้ว
“คุณตะคะ...”
เสียงเรียกของเธอทำให้เขาหันไปมอง แล้วเขาก็กลายเป็นนายแบบให้
เธอกดชัตเตอร์ไปโดยไม่ตั้งใจ ดูธรรมชาติมาก ภาพออกมาสวยกว่าที่เขา
ตั้งใจยืนให้ถ่ายเสียอีก หากเป็นคนอื่นทำกับเขาแบบนี้ เห็นทีต้องขอลบทิ้ง
ในเดี๋ยวนั้น แต่นี่เป็นอิงฟ้า ชายหนุ่มเต็มใจยิ่งกว่าด้วยซ้ำ หากจะต้องให้
เธอล้อเขาเล่นอีกแบบนี้สักกี่ครั้งเขาก็ยอมและเต็มใจ
เขาทิ้งตัวเองลงนอนเหยียดยาวบนเตียงกว้าง หลับตาลงช้า ๆ เพื่อ
บันทึกภาพของหญิงสาวให้อยู่ในความทรงจำอย่างละเอียดอีกครั้ง
อิงฟ้าทำให้เขารู้สึกว่าชาอร่อยกว่ากาแฟในบางครั้ง และทำให้เขารู้สึก
ว่าดอกไม้ชนิดอื่น ๆ ก็สามารถมอบแทนความรักได้ และเสน่ห์ของดอกไม้
ชนิดอื่น ๆ ก็ควรค่าแก่การจดจำไม่น้อยไปกว่ากุหลาบซึ่งเป็นราชินีแห่ง
ดอกไม้...การเขียนโปสการ์ดก็เช่นเดียวกัน เขาเริ่มเห็นคุณค่าของมันก็เมื่อ
ได้พบกับเธอ จากเมื่อก่อนเขาคิดเพียงว่า การสื่อสารด้วยเทคโนโลยีมัน
เร็วกว่าและน่าจะเป็นอะไรง่าย ๆ ที่ควรเลือกใช้ในปัจจุบันนี้ต่างหาก
115/221

และสิ่งที่อิงฟ้าทำให้เขาเรียนรู้อีกอย่างก็คือ...
การจะรักใครสักคน ไม่จำเป็นต้องคิดหาเหตุผล ว่าทำไมจึงรัก แค่รู้
ว่าต้องทำให้มันดีที่สุดเท่านั้นก็น่าจะพอแล้ว...
การจะรักใครสักคน ทำไมต้องเสียเวลาคิดว่าเขาทำอะไรเพื่อเราบ้าง
แต่น่าจะถามตัวเองต่างหากว่าวันนี้คุณทำอะไรเพื่อคนที่เรารักหรือยัง
การที่จะรักใครสักคน คงไม่ต้องมัวไประแวงว่า เขาจะมีคนอื่นไหม
นอกเหนือจากเรา แต่ควรจะระวังใจของตัวเอง ให้เข้มแข็งพอที่จะไม่รับ
ใครเข้ามาในใจอีก
การที่จะรักใครสักคน ไม่จำเป็นต้องบอกรักกันทุกวัน เพราะการที่
คอยห่วงใยกันอยู่เสมอ สามารถทดแทนคำว่ารักได้ดีที่สุดอยู่แล้ว
การที่จะรักใครสักคน เมื่อทะเลาะกันคำว่าแพ้หรือชนะก็ไม่สำคัญ
จงยอมให้เขาเป็นฝ่ายชนะเสมอ หากมันทำให้อีกฝ่ายสบายใจ
การที่จะรักใครสักคน ไม่จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลาก็ได้ แค่มี
เขาอยู่ในใจตลอดเวลาก็พอ
การที่จะรักใครสักคน ไม่ควรพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเขา แต่ควร
พยายามปรับตัวเอง เพื่อให้เข้ากับเขาจะดีกว่า
ความรักสอนให้คนเราได้เรียนรูใ้ นหลาย ๆ สิ่ง ความรักทำให้เป็น
มนุษย์ทสี่ มบูรณ์แบบ ความรักเป็นบทเรียนดี ๆ ที่ไม่อาจเข้าใจได้ถ่องแท้
ถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง...นี่คือสิ่งที่ได้เรียนรู้ จากการที่ได้รักใครสักคน
116/221

อิงฟ้าสามารถพูดถึงบทความเกี่ยวกับความรักความรู้สึก ให้เขาเข้าใจ
ได้เป็นอย่างดีอีกต่างหาก
“เก่งจังครับ คุณฟ้าช่างรอบรู้ทุกอย่างจริง ๆ เลย”
“อย่าชมกันลอย ๆ สิคะคุณตะ ฟ้าก็แค่พูดไปตามความรู้สึกน่ะค่ะ
แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดไปไกลขนาดนั้นนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ความรักมันมี
หลายรูปแบบนะคะ อย่างที่ฟ้ามีในตอนนี้ ก็คือฟ้ารักคุณพ่อ คุณแม่
มากมายและเพื่อน ๆ ที่เป็นกัลยาณมิตรที่ดีของฟ้าทุกคน...ทุกวันนีฟ้ ้ามี
ความสุขกับสิ่งนี้ค่ะ และก็บ้านธาดารีสอร์ตของเรา ที่นี่คือหัวใจของฟ้าเลย
นะคะ และก็รอบตัวเราในทุก ๆ ตารางนิ้วของประเทศในฝันแห่งนี้กค็ ือ
ลมหายใจของแม่ค่ะ”
ความรัก ความรู้สึกที่อยู่ในใจอิงฟ้า ดูช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน เพราะ
เธอเป็นแบบนี้ คิดแบบนี้ ชีวิตเธอจึงดูมคี วามสุข เขาเสียอีกที่ยังคิดไม่ได้
แบบนี้เลย ช่างน่าอายนักชายหนุ่มรู้สึกเช่นนั้น
11

รุ่งเช้าคนที่ทำหน้าที่เป็นไกด์กเ็ ตรียมพร้อมรออยูก่ ่อนแล้ว อาหารเช้า


ถูกสั่งมา สองทีเ่ พื่อลูกทัวร์คนสำคัญหนึ่งที่ อมตะเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหาร
หลังจากที่อาหารถูกเสิร์ฟเรียบร้อย
“ผมช้าอีกตามเคยสินะครับ”
เขาเอ่ยพร้อมทั้งส่งยิ้มให้อิงฟ้าเป็นการทักทายในเช้าของวันใหม่
“ไม่หรอกค่ะคุณตะ เชิญค่ะอาหารพร้อมแล้ว มันเป็นหน้าที่ของฟ้า
ต่างหากล่ะคะที่ต้องเตรียมพร้อมเพื่อรอลูกทัวร์”
“อือ น่าทานทั้งนั้นเลยนะครับ ไก่อบมันฝรั่งของโปรดผมเลย”
“ต้องตุนให้ท้องอิ่มคะ เราจะขึ้นเขากันอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่วันนี้
รับรองสนุกมากคุณตะจะต้องตะลึงกับสิ่งที่จะได้พบวันนี้แน่นอนค่ะ
แต่ก่อนอื่นคุณตะต้องตะลอน ๆ ไปนั่งรถไฟกับฟ้านี่สิคะ จะไหว
หรือเปล่า”
“เต็มร้อยครับ สู้ ๆ อยู่แล้ว”
118/221

“ไม่ไหวก็ต้องไหวค่ะ เพราะการเดินทางโดยรถไฟจะสะดวกที่สุดแล้ว
รับรองค่ะรถไฟที่สวิตฯ ตรงต่อเวลา ไม่เสียเวลาสักนาทีแน่นอน”
อิงฟ้าเอ่ยถึงการคมนาคมที่สุดยอดของสวิตเซอร์แลนด์ให้ลูกทัวร์
ของเธอฟัง อย่างน้อย ๆ เขาก็ต้องรู้เกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้
ด้วย เพื่อเป็นความรู้ในการเดินทางในแต่ละครั้ง
เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จทั้งไกด์สาวและลูกทัวร์หนุ่มก็พร้อมเดินทาง
ทันที ถึงสถานีรถไฟแปดโมงเช้า รถไฟมีออกทุก ๆ ชั่วโมง อมตะสังเกต
เห็นว่ารถไฟของสวิตเซอร์แลนด์สะอาดมากจริง ๆ ที่นั่งกว้างแสนสบาย
ทุกครั้งทีไ่ ด้นั่งก็ไม่เคย ผิดหวัง ทีส่ ำคัญตรงเวลาสมคำร่ำลือ มันช่างเป็น
การเดินทางที่ประทับใจมากสำหรับเขา หากเทียบกับเมืองไทยยังห่างกันลิบ
ลับ อิงฟ้าเลือกที่นั่งเป็นคู่ที่มีเก้าอี้ติดกัน เนื่องจากมากันสองคนและ
สะดวกที่เธอจะได้พูดคุยหรือบอกเล่าอะไรให้อมตะฟังได้สะดวก เมื่อรถไฟ
เคลื่อนตัวออกจากสถานีได้ไม่นาน อมตะก็ตื่นตาตื่นใจกับทิวทัศน์สอง
ข้างทาง ชายหนุ่มยกกล้องขึ้นมาจับภาพทิวทัศน์สองข้างทางเป็นระยะ ๆ
ข้างนอกหมอกค่อนข้างหนาปกคลุมไปทั่วบริเวณ ภาพที่เห็นจึงดูเย็นตา
มาก อิงฟ้าเองก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มไปตามทัศนียภาพที่เห็นเช่นเดียวกัน
แม้ภาพเหล่านี้เห็นจนชินตาแล้ว แต่ความงดงามนี้กย็ ังทำให้หัวใจของเธอ
สดชื่นและฉ่ำสุขเสมอ
“ถ้าผมไม่ได้เจอคุณฟ้าครั้งนี้ ผมคงไม่มโี อกาสได้เห็นอะไรสวย ๆ
แบบนี้แน่ ๆ เลย ไม่รู้จะขอบคุณคุณฟ้ายังไงดี”
119/221

อมตะเอ่ยลอย ๆ ขึ้นมาขณะที่ยกกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์ น้ำเสียง


ของเขาทำให้อิงฟ้าหันมามองชายหนุ่มที่ยืนติดริมหน้าต่างรถไฟ สายตาของ
เขายังคงสนใจวิวทิวทัศน์ภายนอก
“คุณตะก็พูดเกินไปค่ะ แม้ไม่เจอฟ้าแต่คณะของคุณตะก็มา
สวิตเซอร์แลนด์อยู่แล้ว ไม่ได้เห็นภาพเหล่านี้ เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ”
“เป็นความจริงครับ ผมตั้งใจมาที่นี่ก็คือทำงานไม่เคยคิดว่าจะได้ออก
มาเที่ยวแบบนี้ ผมมองข้ามอะไรหลายอย่างในชีวิตไป จนได้พบคุณ
ฟ้า...อือ คุณฟ้าทำให้ผมรู้ว่าการเขียนโปสการ์ดว่ามันมีคุณค่าแค่ไหน มัน
เป็นส่วนหนึ่งของการบันทึกความทรงจำดี ๆ”
“คุณตะอย่าพูดเอาใจฟ้านะคะ ยังมีใครอีกหลายคนนะคะที่คิดว่านี่
คือสิ่งที่เชยที่สุดเลย เพื่อนฟ้ายังหัวเราะเยาะฟ้าเลย”
“ผมไม่ได้พูดเอาใจ...แต่นี่คือความจริง หากผ่านวันนี้ไป บางทีอาจ
จะลืมด้วยซ้ำว่ามาที่นี่แล้วเป็นยังไง แต่เมื่อเป็นโปสการ์ดลองพลิกดูอีกทีสิ
เรื่องราวมันจะหลั่งไหลผ่านเข้ามาให้ยิ้มได้เลยล่ะครับ”
ชายหนุ่มย้ำชัดดูน้ำเสียงจริงจังขึ้น เขานั่งลงข้าง ๆ หญิงสาวแล้วเอ่ย
ต่อ
“ตั้งแต่เรียนจบกลับเมืองไทย ชีวิตของผมคืองานตลอดเวลา ผมไม่
เคยเที่ยวที่ไหนแม้แต่ในเมืองไทยก็น้อยมาก ๆ ครั้งหนึ่งเมื่อครั้งยังเรียน
120/221

อยู่ ผมเคยคิดว่าอยากเป็นนักเดินทาง อยากเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก


ผมมีความฝัน...”
อมตะหยุดพูดเพียงเท่านั้น อิงฟ้าพอเดาออกว่า เขาอาจจะมี
เหตุการณ์ทำให้ผิดหวังสักอย่าง แต่กไ็ ม่เอ่ยถามเขา เมื่อเขานิ่งเงียบไป
เพียงเท่านั้น คนเรามีเหตุผลมากมายที่เป็นข้อแม้ในการดำเนินชีวิต
...อือ นั่นสินะ เขามีเหตุผลของเขา...
เมื่อต้องนึกถึงคำว่าเหตุผล อิงฟ้าก็ฉุกนึกถึงเมื่อวานที่เห็นเขาเดินกับ
ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งอิงฟ้าจำได้ว่าไม่ใช่คนในคณะสัมมนาของเขาที่มาพักทีร่ ี
สอร์ตบ้านธาดา อิงฟ้ารู้สึกโล่งใจที่ตัวเองรู้สึกเข้าใจเขา ในเหตุผลข้อนี้ แม้
ใจหนึ่งอยากถามว่าเขาหายไปไหนในช่วงบ่ายของเมื่อวาน ทั้งที่เขานัดกับ
เธอไว้แท้ ๆ แต่เขาก็หายไปโดยไม่บอกกล่าว
“นั่นสินะคะ ฟ้าต้องส่งโปสการ์ดวันนีด้ ้วย อือ เพิ่งเขียนเสร็จใบ
เดียวเอง ...คือฟ้าส่งให้เพื่อนที่เมืองไทยน่ะค่ะ”
“ดีครับ คนรับคงดีใจ”
“ที่คุณตะพูดมาทั้งหมดน่ะ ใช่เลยค่ะ... คุณตะคิดเหมือนกันกับคุณ
แม่ฟ้าเลย บันทึกการเดินทางของคุณแม่ฟ้าส่วนมากจะมีโปสการ์ดจากที่
ต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบค่ะ แม่ไปที่ไหน แม่กจ็ ะเขียนโปสการ์ดส่งกลับ
บ้านเสมอดังนั้นแม่จะมีโปสการ์ดเยอะมาก ๆ แม้แต่ตัวของฟ้าเองตอนเด็ก
ๆ ยังเคยเป็นแบบให้แม่ถ่ายรูปไปทำโปสการ์ดเลยนะคะ”
121/221

อิงฟ้าเล่าถึงวันเก่า ๆ ของครอบครัวของเธอที่มคี วามรักความอบอุ่น


หล่อเลี้ยงหัวใจให้ชุ่มชื่นอย่างไร
“ทุกอย่างก็เลยถ่ายทอดมาสู่คุณฟ้าทุกวันนี้ใช่ไหม”
“มันซึมซับมาค่ะ และมันก็ส่งผ่านไปถึงเพื่อนของฟ้าคนหนึ่งที่อยู่
เมืองไทย เพื่อนฟ้าคนนี้ซึ่งเป็นคนสองขั้วเลย”
“ยังไงครับ”
“ใบตองค่ะวันว่างเธอสามารถนั่งแชตกับฟ้าโดยนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไป
เรื่อย ๆ โดยทีไ่ ม่สนใจใคร หลายคนบอกว่าเธอคือเจ้าแม่ไอที ในยุค
ดิจิตอลแบบนีเ้ ธอรู้ทุกอย่าง แต่ในขณะเดียวกันแม้เราจะมีช่องทางในการ
สื่อสารที่รวดเร็วขนาดไหนก็ตาม แต่ใบตองก็ชอบที่จะได้รับโปสการ์ดจาก
ฟ้าอยูน่ ั่นเอง ถ้าฟ้าไปไหนหรือไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม ใบตองจะทวง
โปสการ์ดเสมอเลย ฉะนั้นก่อนขึ้นเขาเราแวะส่งโปสการ์ดแป๊บหนึ่งก่อนนะ
คะ”
“ได้สิครับ คุณฟ้าตามสบายเลย”
บนกระเช้าที่ทั้งคู่กำลังจะขึ้นไปยังยอดเขาทิตลิส...
ขณะทีท่ ั้งอมตะและอิงฟ้าต่างก็ให้ความสนใจทิวทัศน์เบื้องล่าง อิงฟ้า
ยกกล้องถ่ายรูปของตัวเองโฟกัสมุมสวย ๆ ไปเรื่อย อมตะเองก็ไม่
น้อยหน้าทีจ่ ะเก็บบรรยากาศสวย ๆ บันทึกไว้ให้ได้มากที่สุด เนื่องจาก
วันนี้นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก ภายในกระเช้าจึงมีเพียงอมตะและอิงฟ้า
122/221

เท่านั้น ปกติแล้วหากนักท่องเที่ยวหนาตากว่านีก้ ระเช้าจะนั่งได้แน่นสุดก็


หกคน เมื่ออิงฟ้าหมุนตัวกลับมาด้านหลังของตัวเองก็ปะทะเข้ากับอมตะ
อย่างแรง ทำให้ร่างบางระหงเซถลาจะล้มลงก็พอดีกับที่อมตะไวกว่า แขน
แข็งแรงของเขาช้อนร่างของอิงฟ้าไว้ทัน ใบหน้าชิดกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ
กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ สัมผัสเข้ากับจมูกของหญิงสาว ความรู้สึกร้อนผ่าว
แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้า
นี่คือครั้งแรกที่ชายหนุ่มหญิงสาวได้ใกล้ชิดกันมากที่สุด หากไม่นับ
ครั้งแรกที่ทั้งคูเ่ ดินชนกันที่รีสอร์ตบ้านธาดา ครั้งนั้นกับครั้งนี้ความรู้สึก
ของหญิงสาวแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ครั้งนีห้ ัวใจเต้นแรงจนอิงฟ้าเองคิดว่า
เขาอาจจะได้ยิน ด้วยความเขินอายจึงรีบเบี่ยงตัวออกช้า ๆ
“ฟ้าซุ่มซ่ามอีกแล้ว ขอโทษนะคะ”
ชายหนุ่มส่งยิ้มให้อิงฟ้า แต่ไม่พูดอะไรเพียงใช้มือลูบผมของอิงฟ้า
แทนคำตอบทุกอย่าง อิงฟ้าเองกลับรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาดเมื่อมือของ
เขาลูบบนหัวของเธอเบา ๆ
กระเช้าเคลื่อนตัวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ อากาศเริ่มเบาบางในความรู้สึก
ของอมตะ เขานั่งลงช้า ๆ จากที่เมื่อสักครู่ยืนรับร่างของอิงฟ้าอยู่
“เดี๋ยวจะดีขึ้นเองค่ะ คุณตะยังไม่ชินน่ะค่ะ”
ชายหนุ่มยิ้มอีกเช่นเคยเมื่อหญิงสาวหันมาพูดกับเขาอย่าง
ห่วงใย...แน่นอนกิริยาท่าทางของอิงฟ้าบอกเขาเช่นนั้นจริง ๆ ทั้งที่เขายังไม่
123/221

เอ่ยอะไรด้วยซ้ำ แต่อิงฟ้าดูออกว่าเขารู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกเอาดื้อ

“สักพักจะมีจุดเชื่อมต่อ เราจะต้องเปลี่ยนกระเช้าที่ใหญ่ขึ้นกว่านี้
คราวนี้คงไม่อึดอัดแล้วล่ะค่ะ”
“ครับ”
เมื่อถึงจุดเชื่อมต่ออย่างที่อิงฟ้าบอก อมตะสังเกตเห็นว่ามี
นักท่องเที่ยวเยอะขึ้น นอกจากนักท่องเที่ยวอย่างเขาที่ซึ่งขึ้นมาชม
ความงามของยอดเขาทิตลิสเท่านั้นแล้ว ยังมีนักเล่นสกีอีกเป็นจำนวนมาก
ด้วย
ออกจากรถกระเช้าแล้ว อิงฟ้าและอมตะต้องเดินขึ้นบันไดอีกสามชั้น
ซึ่งแต่ละชั้นก็มีร้านอาหาร ร้านค้า ร้านขายของมากมาย และไปรษณีย์ให้
บริการอยู่ ทั้งคู่เลือกที่จะแวะไปรษณีย์ก่อนเพื่อให้อิงฟ้าส่งโปสการ์ด
จุดที่อมตะยืนอยู่ในขณะนี้ คนไทยน้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้ขึ้นมา
...นั่นสินะ เราจะให้มันผ่านเลยไปเฉย ๆ ได้ยังไงกัน...
ว่าแล้วอมตะจึงเดินออกไปร้านค้าใกล้ ๆ ที่มีของที่ระลึกมากมาย ใน
ระดับสายตาที่ชายหนุ่มมองปราดแรกคือโปสการ์ดซึ่งเป็นรูปยอดเขาทิตลิส
ทีป่ กคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน และโอบล้อมไปด้วยไอหมอกสีขาวเย็นตา
อมตะเลือกใบนั้นทันที และถัดมาก็คือทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lu-
cerne) ที่ทอดตัวยาวไกลด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม และที่ลืมไม่ได้เลย
124/221

นั่นก็คือภาพสะพานไม้เก่าทีม่ ีชื่อเสียง สะพานวิหาร (Chapel Bridge)


อมตะเขียนและส่งเช่นกัน เมื่อเสร็จจากการส่งโปสการ์ดแล้ว ทั้งคูจ่ ึงนั่ง
กระเช้าที่ใหญ่กว่าขึ้นไปยังยอดทิตลิส ยิ่งสูงลมยิ่งแรง
“ข้างบนนี้อากาศหนาวกว่าข้างล่างนะคะ”
อิงฟ้าเอ่ยเมื่อเห็นว่าอมตะกระเสื้อโค้ตของเขาเข้าหากัน
“เอาการเหมือนกันนะครับ”
“ไหวไหมคะ”
“ครับ”
อมตะไม่ยอมแพ้ความหนาวเพียงเท่านี้แน่นอน เขารู้ว่าอิงฟ้าเป็นห่วง
เขาทีด่ ูทุลักทุเลยังไงพิกล นักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ก็คงไม่ต่างกันหรอกน่า
อมตะคิดเช่นนั้น รอบ ๆ ตัวเขามีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มที่ส่งเสียง
เจี๊ยวจ๊าวกันขณะถ่ายรูป จะอย่างไรก็ตามมันคงเป็นเสียงของความสุขที่
เปล่งออกมาจากหัวใจ
จะมีก็แต่อมตะและอิงฟ้าที่มาเป็นคู่ เลยไม่มกี ารวี๊ดว๊ายกันเหมือน
นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ อิงฟ้าตั้งกล้องไว้ เพื่อถ่ายรูปตัวเองด้วย ส่วน
บรรยากาศโดยรอบนั้นไม่พ้นปลายนิ้วในการกดชัตเตอร์ของอิงฟ้าแม้สัก
ช็อตเดียว
ขณะที่อมตะกับอิงฟ้าเดินเล่นกันอยู่นั้นก็ต้องคอยหลบคนเล่นสกี
ด้วย เพราะมันเป็นเส้นทางเดียวกัน ระหว่างทางที่เดินก็มีเชือกกั้นไว้ด้วย
125/221

กลัวนักท่องเที่ยวหล่นลงไปหน้าผาสูง ๆ อิงฟ้าบ่นเสียดายที่เครื่องเล่นอื่น
ๆ ตรง glacier park งดให้บริการ ไม่เช่นนั้นอมตะคงมีกิจกรรมเล่นไม่
เบื่อแน่นอน แต่อย่างไรก็เห็นมีคนอุตสาห์หาถุงพลาสติกรองก้น แล้วไถล
ลงมาให้เห็น ทำให้ทั้งคู่รู้สึกฮาไปด้วย
ขาลงอมตะขอเป็นคนเก็บภาพจากกล้องของตัวเองอีกครั้ง เนื่องจาก
มุมที่แตกต่างก็ยิ่งสวย เมื่อผ่านวินาทีนี้ไปเขาก็ไม่อาจจะเห็นมันได้อีกแล้ว
ชายหนุ่มรู้สึกเช่นนั้น เมื่อลงจากกระเช้าแล้วทั้งอมตะและอิงฟ้าต่าง รีบวิ่ง
มาขึ้นรถไฟ ขบวน 13.10 เพื่อไปเยี่ยมเขาพิลาทุสต่อ ซึ่งรถไฟจากทิตลิส
เอนเกลเบิร์ก (Engelberg) ไม่มีวิ่งตรงไปพิลาทุส ทั้งคูต่ ้องไปต่อรถที่
สถานี Hergiswil เพื่อไปยัง Alpnachstad
เมื่อถึง Alpnachstad แล้วมองจากสถานีรถไฟ ก็เห็นจุดขึ้นลง
ยอดเขา พิลาทุสเลย ทางขวาจะมีป้ายไฟบอกว่า มียานพานะอะไรเปิดทำ
การขึ้นลงเขาอยู่บ้าง
ทั้งคู่นั่งรถรางสายที่ชันที่สุดในโลก ซึ่งมีพนักงานยืนรอคนที่ลงจาก
รถไฟ และรับอมตะและอิงฟ้าขึ้นเขาไปพร้อมกันซึ่งนั่งทอดเดียวถึงเลย
รถรางค่อย ๆ ไต่ขึ้นสูงไปเรื่อย ๆ มองลงมาจะเห็นก้อนเมฆคลอเคลียกับ
แนวเขา ป่าสนสวยงามมาก ที่สถานีเดียวกันนี้ มีเส้นทางลงเขา อีกเส้นทาง
ใช้รถกระเช้า ขาลงอมตะและอิงฟ้าตั้งใจจะลงด้วยเจ้า gondolas กับ
cogwheel เพื่อไปยัง Kriens ซึ่งเป็นกระเช้าสีแดง ท่าทางชันเหมือนกัน
แต่ไม่เปิดทำการก็เลยต้องลงทางเดิม
126/221

ยอดเขาพิลาทุสมีความสูงถึง 2,132 เมตร ขาลงอมตะรู้สึกว่ามันชัน


มาก มองออกไปภายนอกรถเห็นหิมะกระจัดกระจาย ตัดกับวิวรถรางที่
ค่อย ๆ เคลื่อนตัวลง เมื่อผ่านจุดหนึ่งจะเห็นทะเลหมอกสวยงามมาก ซึ่ง
ระหว่างทางมีจุดนั่งอาบแดดด้วย และมีร้านอาหาร และบันไดที่ให้
นักท่องเที่ยวเดินไปจุดชมวิวได้ ซึ่งจุดชมวิวทั้งหมดมีห้าจุดด้วยกัน
จากจุดชมวิวหนึ่ง มองไปยังจุดชมวิวอีกจุดหนึ่ง ลมแรงมากอมตะ
เลยขอไปยืนให้เสียวแวบ ๆ เล่น โดยให้อิงฟ้าเป็นคนถ่ายรูปให้เขาด้วย
งานนี้มหี รือไกด์สาวมือโปรจะพลาดได้ ภาพจึงออกมาสวยถูกใจนาย
แบบอย่างที่สุด
อีกจุดชมวิวหนึ่ง มีลักษณะคล้ายถ้ำ เมื่อเดินเข้าไปจะมีภาพตำนาน
ให้อ่าน
ขาลงมองเห็นเขาอีกลูกไกล ๆ และทะเลสาบลูเซิร์นด้วย ซึ่งปกตินั่ง
เรือกลับไปได้ แต่ว่าวันนี้ไม่เปิดทำการอีกเช่นกัน
รอรถไฟกลับแสงเริ่มมืดแล้ว ถึงลูเซิร์นอมตะชวนอิงฟ้าเดินเล่นอีก
ครั้งเพื่อซื้อของฝาก และถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกอีกนิดหน่อย เพราะมันอาจ
จะเป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะได้เที่ยวกับอิงฟ้า เวลาของเขามีไม่พอเลยอดขึ้น
ไปชมยอดยุงเฟราตามที่ได้ตั้งใจ
อมตะพูดสัญญากับอิงฟ้าว่า เขาจะกลับมาใหม่แน่นอน จะมาพิชิต
ยอดเขายุงเฟราให้ได้ ยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป และจะเลือกอิงฟ้าเป็น
ไกด์นำทางเช่นเดิม
12

อิงฟ้ากับอมตะกลับมาถึงบ้านธาดารีสอร์ต ในช่วงบ่าย ๆ บริเวณ


ด้านหน้ามีแขกของรีสอร์ตค่อนข้างหนาตา ทั้งลูกทัวร์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเช็ก
อิน และลูกค้าเดิมที่เพิ่งกลับจากเที่ยว
อิงฟ้าเดินเลยไปหากุลดาที่อยู่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน
“หวัดดีค่ะคุณกุล”
เสียงใสของอิงฟ้าดึงความสนใจของกุลดาให้หันมาที่ตัวเธอในทันที
“คุณฟ้า กลับมาแล้วเหรอคะ...เป็นยังไงบ้างคะ สนุกไหมเอ่ย”
“สุดยอดไปเลยค่ะคุณกุล ฟ้าสนุกมากเลยค่ะ แต่ลูกทัวร์ของฟ้าน่ะสิ
คะ คุณกุลต้องเป็นคนถามเองนะคะ”
อิงฟ้าหันมาทางอมตะที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ
“ว่าไงคะคุณอมตะ คุณฟ้าพาคุณอมตะไปตกระกำลำบากที่ไหน
หรือเปล่าคะ อือ...แล้วการเดินทางเป็นยังไงบ้างคะ”
ผู้จัดการสาวกล่าวทักทายอมตะด้วยความเป็นกันเอง แถม
หยิกแกมหยอกไกด์สาวคนเก่งอย่างอิงฟ้าด้วย
128/221

“สนุกมากครับคุณกุล ประทับมาก ๆ ยังเที่ยวไม่ทั่วเลย ไว้ผมกลับ


ไปเคลียร์งานต่ออีกสักหน่อยให้เข้าที่เข้าทาง ผมจะกลับมาเที่ยวใหม่ให้
เต็มอิ่มกว่านี้”
“งั้นฟ้าขอตัวแค่นกี้ ่อนนะคะคุณตะ พักผ่อนตามอัธยาศัยนะคะ
กลับมาเหนื่อย ๆ คุณตะอาจจะต้องมีเวลาพักผ่อนส่วนตัว”
“ครับ ตามสบายครับคุณฟ้า แล้วค่อยคุยกัน เออ...”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวฟ้าจะออนไลน์ไว้”
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเหมือนมีอะไรจะคุยต่อ แต่ไม่อาจเอ่ยตอนนี้ได้
หญิงสาวจึงเลือกทางออกให้เขาเอง และมันคงเป็นทางออกทีด่ ีที่สุดในเวลา
นี้ ลูกหยีเข้ามากระซิบกระซาบอิงฟ้าเหมือนมีความลับสุดยอดที่ใครก็รไู้ ม่
ได้ ทำให้อิงฟ้าต้องตัดใจเดินไปจากตรงนี้รวดเร็ว อมตะมองตามด้วย
ความรู้สึกแวบวับในใจ เวลาแห่งการจากลา จากเมืองในฝันแห่งนี้มันใกล้
จะสิ้นสุดลงทุกที
อมตะลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กไปยังห้องพักของตัวเอง เขาปฏิเสธที่
จะให้ใครช่วยเหลือในเรื่องนี้ เสื้อโค้ตตัวหนาพาดอยูใ่ นแขนข้างซ้าย
ชายหนุ่มส่งยิ้มเพียงเล็กน้อยให้พนักงานของรีสอร์ต พร้อมทั้งยกมือให้
สัญญาณว่าเขาช่วยเหลือ ตัวเองได้
พรุ่งนี้แล้วสินะที่ชายหนุ่มต้องเดินทางกลับเมืองไทยพร้อมคณะ
สัมมนาของเขา คณะของบริษัทเขายังไม่กลับมาจากเที่ยวส่งท้ายของทริปนี้
129/221

นั่นเป็นเพราะว่าเขาอนุญาตให้คณะเที่ยวตามอัธยาศัยได้จนถึงวันพรุ่งนี้
ฉะนั้นจึงยังไม่มีใครกลับเข้ามา ส่วนชายหนุ่มเองโดยส่วนตัวแล้วอยากอยู่
ที่รีสอร์ตนี้ให้นานที่สุดสำหรับการส่งท้าย
ตึ่ง ตึ๊ง...
อิงฟ้า says: ทำไมทำหน้าเศร้าจังล่ะคะ อย่างนีฟ้ ้าใจหายนะคะ
เหมือนว่าพาคุณตะไปเที่ยวแล้วไม่สนุกเลย
amata says: เอาอะไรมาพูดแบบนั้น ผมต้องบอกย้ำชัด ๆ กับ
คุณฟ้าอีกครั้งต่างหากล่ะครับว่า จะไม่ลืมเลย คุณฟ้าเป็นไกด์ที่ผม
ประทับใจมาก
อิงฟ้า says: อย่ามาปาดอกไม้ใส่ฟ้าหน่อยเลยคุณตะ ฟ้ารับคำติได้
นะคะ ใจฟ้าเข้มแข็งพอที่จะรับฟังได้ทุกอย่าง ไม่ใช่แต่คำชมเพียง
อย่างเดียว
amata says: มันเป็นความจริงนี่นา ไว้ให้ผมกลับไปเคลียร์งาน
ต่ออีกสักพัก ผมจะหาเวลามาเที่ยวอีก ผมสัญญา
อิงฟ้า says: อย่ามาสัญญาอะไรกับฟ้าตอนนี้เลยค่ะ หากคุณตะมา
อีกเมื่อไหร่รีสอร์ตของเรายินดีต้อนรับเสมอ
amata says: แล้วคุณฟ้าล่ะครับ ผมไม่ได้หมายถึงรีสอร์ต
อิงฟ้า says: ก็ด้วยกันล่ะค่ะ หากมาที่นี่ เราทุกคน ก็หมายถึงตัวฟ้า
ด้วย ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ
130/221

amata says: อย่าหายไปนะครับ


ชายหนุ่มรู้สึกสลดลงทันทีที่วินาทีต่อวินาทีได้ผ่านไปทีละนิด เขารู้สึก
ว่าเวลามันช่างมีค่าเหลือเกินก็เมื่อเขาได้เดินทางมาที่สวิตเซอร์แลนด์ใน
ครั้งนี้
amata says: คุณฟ้าดินเนอร์กับผมได้ไหมครับคืนนี้
อิงฟ้า says: ฟ้าพาไปตะลอนเที่ยวตั้งหลายวัน คุณตะไม่เบื่อที่จะนั่ง
ทานข้าวกับฟ้าเหรอคะเนี่ย
amata says: คุณฟ้ารับปากผมสิ ขอร้อง...พรุ่งนีค้ งไม่มีโอกาส
แล้ว
อิงฟ้า says: คุณตะพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ ฟ้ายังไม่ได้เจอคุณพ่อ
เลย เอาเป็นว่าเดี๋ยวขอเวลาสักพัก แล้วฟ้าจะกลับมาให้คำตอบได้ไหมคะ
อิงฟ้าเองก็หวั่นใจกับความรู้สึกในใจของตัวเองเช่นกัน ครั้นจะให้
คำตอบในทันทีก็เหมือนจะไม่เก็บอาการเอาเสียเลย ดังนั้นจึงขอเช็ก
ความรู้สึกของตัวเองก่อน ยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงที่จะมาให้คำตอบเขาก็
ยังไม่สายนี่นา อย่างไรคืนนี้เขาก็ยังอยูท่ ี่นี่อยูด่ ี แม้ไม่ได้ทานข้าวด้วยกัน ก็
ยังนั่งดื่มกาแฟรอบดึกกันได้อิงฟ้าคิดเช่นนั้น
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
เสียงเคาะประตูจากภายนอกห้องทำให้อิงฟ้าละความสนใจจาก
หน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเอง เธอนิ่งครู่หนึ่งเพื่อรอฟังว่าใครเป็นคนมา
131/221

เคาะเรียก เสียงจากภายนอกเบาจนหญิงสาวคาดการณ์ไม่ออกว่าเป็นใคร
จึงต้องเดินไปเปิดประตูห้องด้วยตัวเอง
“อ้าวลูกหยี ทำไมไม่เข้ามาล่ะ ห้องไม่ได้ล็อก เอาอะไรมาด้วยเนี่ย”
“น้ำผลไม้ค่ะคุณฟ้า”
“ไม่ได้สั่งซะหน่อย”
“เออ คุณผู้ชายทีเ่ ป็นลูกทัวร์คุณฟ้าสั่งลูกหยีให้เอาขึ้นมาให้ค่ะ แล้วก็
กล่องเล็ก ๆ นี่ด้วยค่ะ”
“งั้นเอาเข้ามาวางไว้บนโต๊ะก่อน ฟ้าขอจัดการกับธุระตรงนี้เดี๋ยวเดียว
เออ ที่รีสอร์ตยุ่งไหมลูกหยีช่วงที่ฟ้าไม่อยู่”
“ไม่ค่ะ ไม่ยุ่งเลย สบายมาก มีคุณผู้ชายที่มานอนป่วยที่นี่ช่วย
จัดการหลายอย่าง เบาแรงไปเยอะเลยค่ะ”
คำพูดของลูกหยี ทำให้อิงฟ้ารู้สึกจุกแน่นที่อกทันที เขาผู้มาใหม่มี
บทบาทในรีสอร์ตขนาดนี้เลยเหรอ เพียงแค่สัปดาห์เดียวที่อิงฟ้าไม่อยู่
เท่านั้นเอง
อิงฟ้าเดินมาที่โต๊ะมุมห้องที่มีแก้วน้ำองุ่นวางอยู่ ข้าง ๆ มีกล่องเล็ก
ๆ วางอยู่ อิงฟ้ามองอย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนจะหยิบกล่องนั้นขึ้นมา ลูกหยี
ขอตัวออกไปจากห้องเมื่อเห็นว่าอิงฟ้านิ่งเงียบ ไม่เอ่ยถามอะไรต่ออีก
ตึ่ง ตึ๊ง...
132/221

amata says: เล็ก ๆ น้อย ๆ อยากให้คุณฟ้าเก็บไว้เป็นที่ระลึก


จากผม
เมื่ออมตะส่งข้อความบอกเล่าว่าข้างในคือของที่ระลึก อิงฟ้าจึงเปิด
ออกดู ข้างในคือพวงกุญแจทีห่ ้อยด้วยนาฬิกาเล็ก ๆ มันคงมีความหมาย
อย่างแน่นอนสำหรับคนให้
อิงฟ้า says: ขอบคุณนะคะ... ทั้งสองอย่างเลย
amata says: กลับมาเหนื่อย ๆ ดื่มน้ำผลไม้สักแก้วนะครับ ส่วน
ในกล่องเล็ก ๆ นั้น คือสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองแห่งเวลา
เวลาทำให้ผมมีโอกาสได้มาพบคุณฟ้าไงครับ
อิงฟ้า says: ขอบคุณอีกครั้งค่ะคุณตะ แต่ฟ้าไม่มอี ะไรให้คุณตะ
เลย
amata says: ไม่เป็นไรครับ คุณฟ้าพักผ่อนเถอะ ผมจะรอ
คำตอบจากคุณในตอนเย็นอีกที
อมตะทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นแล้วก็ออกจากระบบไป
...ฉลาดจริง ๆ นะคุณ !!!...
อิงฟ้ารู้ทันอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แบบหมั่นไส้อีก
ฝ่ายเสียเหลือเกิน น้ำองุ่นทีว่ างอยู่บนโต๊ะถูกอิงฟ้ายกขึ้นมาดื่มทีละนิด
หญิงสาวอมยิ้ม นัยน์ตาคมใสฉายแววเป็นประกาย เพียงหนึ่งสัปดาห์ที่ได้
133/221

เดินทางด้วยกัน เธอไม่อยากเชื่อว่าเขาแอบจำรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับ


เธอกลับมาด้วย
พวงกุญแจที่เป็นนาฬิกาเรือนเล็ก ๆ ถูกอิงฟ้าหยิบขึ้นมาจากกล่อง
อิงฟ้าหยิบมาวางกลางที่นอนกว้างขณะที่ตัวเองล้มตัวลงนอนเหยียดยาวบน
เตียง หญิงสาวจ้องมองสิ่งเล็ก ๆ ที่เขาบอกว่าให้เป็นทีร่ ะลึก ความรู้สึก
ใจหายผ่านวูบเข้ามาในหัวใจ
“เวลาทำให้เราได้เจอกัน แต่เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องจากกันแล้วสินะคะ
คุณจงใจจะบอกอะไรกับฟ้าล่ะคะคุณตะ”
อิงฟ้านึกหาคำตอบเอากับสิ่งเล็ก ๆ ที่วางอยู่ข้าง ๆ ตัว
ตึ่ง...ตึ๊ง...
เสียงของสัญญาณคุ้นเคย
baitong says: หายไปเฉยเลยเพื่อนเรา วันนี้ออนได้แสดงว่าอยู่
ไหนสักแห่งแล้วสินะฟ้า ยังเที่ยวอยู่หรือป่าวคุณเพื่อน หรือว่าอยู่ ณ ที่ใด
ของโลกใบนี้ ส่งคำตอบกลับมาด่วนจี๋...
ตึ่ง...ตึ๊ง...
baitong says: ฟ้าอยู่ตรงนี้หรือเปล่า เอ...หรือว่าหลงเสน่ห์ลูกทัวร์
หนุ่มหล่อจนลืมเพื่อนไปซะแล้วจ๊ะ
เสียงสัญญาณเรียกจากใบตองนั่นเอง เวลานี้อิงฟ้าไม่อาจจะตอบ
คำถามอะไรเพื่อนได้ แม้จะได้อ่านทุกประโยคที่ใบตองถามมาก็ตาม
134/221

คำถามบางคำมันเริ่มจีใ้ จอิงฟ้าซะแล้ว ทำให้เธอจุกอกไม่กล้าต่อคำกับ


เพื่อน
นั่นสินะ...มันเกิดอะไรขึ้นภายในหัวใจของหญิงสาวในเวลานี้ อิงฟ้า
นั่งกอดเข่าอยูบ่ นโซฟาตัวโปรด ข้าง ๆ มีน้องแก้มแดงวางอยู่ เธอเลื่อน
เม้าส์เพื่อหาอะไรบางอย่าง น้องแก้มแดงอาจจะเข้าใจเจ้าของของมันเสีย
ก็ได้ในสถานการณ์เช่นนี้
ได้ยินไหม เพลงจากใจฉัน ก่อนนั้นฉันคงกลัวเกินไป
ไม่เคยจะบอกรักเธอ ได้แต่มองดูแสนไกล
เพราะคิดว่ามันคงไม่มีทาง แต่วันนี้อยากให้เธอรู้
ว่าฉันนั้นรักเธอเพียงใด เก็บมันไว้มาแสนนาน
อยากบอกคำว่ารักไป เท่านี้ฉันก็สุขใจแล้ว
นี่คือเพลงแรกที่ร้องให้เธอ เพื่อแทนทุกอย่างที่ฉันคิดไว้ในใจ
ถ้าหากว่าเรื่องราวยังไม่สายไป ถ้าเธอพอมีใจ
อยากได้ยินสักคำว่ารัก ได้ยินไหมบอกเธอว่ารัก
ไม่รู้ว่าเธอคิดยังไง ถ้าหากว่าเธอรับฟัง
และเธอไม่อยากสนใจ ครั้งนี้จะเป็นเพลงสุดท้าย
นี่คือเพลงแรกที่ร้องให้เธอ เพื่อแทนทุกอย่างที่ฉันคิดไว้ในใจ
ถ้าหากว่าเรื่องราวยังไม่สายไป ถ้าเธอพอมีใจ
135/221

อยากได้ยินสักคำว่ารัก อยากให้รู้ว่ามีคนหนึ่ง
ที่ยังเป็นห่วงเธอไม่เปลี่ยนแปลง ทุกทุกถ้อยคำ
คือเพลงรักเพื่อเธอ เพียงคนเดียวเท่านั้น
นี่คือเพลงแรกที่ร้องให้เธอ เพื่อแทนทุกอย่างที่ฉันคิดไว้ในใจ
ถ้าหากว่าเรื่องราวยังไม่สายไป ถ้าเธอพอมีใจ
อยากได้ยินสักคำว่ารัก...รอเธอมาบอกรัก
อิงฟ้าอาจจะยังมีคำถามในใจ หรือความสับสนทีซ่ ่อนอยู่ จึงไม่อาจ
โต้ตอบใบตองไปในเวลานี้ อีกฝั่งหนึ่งคงจะร้อนใจไม่น้อยทีอ่ ิงฟ้าเงียบ
เฉย
ตึ่ง...ตึ๊ง...
baitong says: โอ เค...ถ้ากำลังเที่ยวอยู่ก็ขอให้มคี วามสุขนะฟ้า
ดูแลตัวเองนะ กลับจากเที่ยวแล้วอย่าลืมส่งข่าวตองนะ
อีกฝ่ายเหมือนจะเข้าใจในสถานการณ์ ความเงียบแบบนี้ไม่ใช่เรื่อง
น่ากลัว แต่ใบตองก็ใจหายที่อิงฟ้าออนไลน์แต่ไม่ยอมทักทายเธอ ใจหนึ่งก็
อดคิดไม่ได้ว่า อิงฟ้าอาจจะอินเลิฟอยู่กับลูกทัวร์หนุ่มจนลืมทักทายเพื่อน
ไปแล้วหรืออย่างไร
13

ใบตอง...
หน้าทีก่ ารเป็นไกด์ของฟ้าได้สิ้นสุดลงแล้ว ในวันนี้เอง...การเดินทาง
ภายในหนึ่งสัปดาห์ถือว่าเข้มข้น สนุกเต็มร้อย ฟ้าได้ทำหน้าที่ของฟ้าอย่าง
สมบูรณ์แล้ว
ส่วนลูกทัวร์ของฟ้า เขาจะเป็นคนประเมินฟ้าอีกที ซึ่งก็ยังไม่ได้
คำตอบจากเขาอย่างสมบูรณ์ จนกว่าฟ้าจะส่งเขากลับเมืองไทยในวันพรุ่งนี้
เขาคงจะเดินทางกลับพร้อมคณะสัมมนาของเขาที่มาจากเมืองไทย และอีก
ไม่กี่วันข้างหน้าใบตองคงได้รับ โปสการ์ดจากฟ้าที่ส่งถึงตองด้วย จากที่
ต่าง ๆ ที่ฟ้าไป
ฟ้าเพิ่งกลับมาถึงรีสอร์ตสักพักนี่เอง ฟ้าต้องรายงานคุณพ่อก่อน
แล้วจะกลับมาคุยกับตองนะ
อิงฟ้าเลือกที่จะส่งเมลเพราะยังไม่อยากตอบคำถามเพื่อน เกี่ยวกับ
ลูกทัวร์หนุ่มของเธอ เวลาเพียงเท่านี้ยังคงพิสูจน์อะไรไม่ได้ เรื่องราวที่เกิด
ขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ มันเป็นเพียงความผูกพันระยะสั้น ๆ ที่ทุกวินาที
มันคงสวยงามไปหมด
137/221

น้องแก้มแดงก็ช่างรู้ใจเจ้าของ
วันเวลายาวนานคือการพิสูจน์ ว่าใครที่จะมีรักจริงสักที
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอ คนดีสักคนจะเดินเข้ามาในหัวใจ
ให้ชีวิตสมบูรณ์อย่างนี้ เธอคนเดียวที่ฉันภูมิใจ
เธอคนเดียวที่ฉันซึ้งใจ รู้ไหมว่าการกระทำของเธอ
มันซื้อหัวใจฉันไปหมดแล้ว
ที่นอกหน้าต่างเกิดเรื่องร้ายร้าย จะถูกใครใคร
ทำร้ายฉันไม่หวาดกลัว เธออยู่ข้างฉันเสมอ
เมื่อไรที่เจ็บจนเสียน้ำตา แค่มองหันมาจะเจอ
คนเดียวที่คอยจะเช็ดน้ำตาให้ฉัน เมื่อมีพายุฝนกระหน่ำ
คนคนเดียวที่พร้อมเดินตาม เปียกปอนไปพร้อมพร้อมกันคือเธอ
ฉันก็รู้ว่าฉันนั้นโชคดี ที่บังเอิญมาเจอคนที่รู้ใจเข้าใจ
ไม่ว่าฉันจะเป็นอย่างไร มันไม่ใช่ง่ายง่ายที่จะเจอ
มีคนเป็นล้านคนที่เดินเข้ามา โชคดีที่ได้พบได้เจอกับเธอ
เธอคนเดียวที่ฉันภูมิใจ เธอคนเดียวที่ฉันซึ้งใจ
รู้ไหมว่าการกระทำของเธอ มันซื้อหัวใจฉันไปหมดแล้ว
ที่นอกหน้าต่าง เกิดเรื่องร้ายร้าย
138/221

จะถูกใครใคร ทำร้ายฉันไม่หวาดกลัว
เธออยู่ข้างฉันเสมอ เมื่อไรที่เจ็บจนเสียน้ำตา
แค่มองหันมาจะเจอ คนเดียวที่คอยจะเช็ดน้ำตาให้ฉัน
เมื่อมีพายุฝนกระหน่ำ คนคนเดียวที่พร้อมเดินตาม
เปียกปอนไปพร้อมพร้อมกันคือเธอ
คนเดียวที่รักฉันจริงคือเธอ
...บ้าจริง ๆ อิงฟ้า ฟุ้งซ่านไปกันใหญ่แล้ว...
อิงฟ้าบอกกับตัวเอง ก่อนที่จะยกแก้วน้ำองุ่นขึ้นดื่ม ใบหน้าของเขา
ลอยขึ้นมาทักทายมโนความคิดอีกจนได้
เกล็ดใสแวววาวเกาะบนปอยผมของอิงฟ้า ตอนที่หญิงสาวใช้มือกอบ
เอาหิมะบนพื้นโยนขึ้นไปในอากาศ อมตะใช้มือปัดเบา ๆ ให้หิมะหล่นจาก
ผมของเธอ ใช่ว่าอิงฟ้าจะไม่รู้สึกอะไร แต่กท็ ำเป็นไม่สนใจ เฉไฉเรื่องอื่น
ไปเรื่อย เขาดูอ่อนโยนและเป็นห่วงเป็นใยอิงฟ้ามาก ๆ ในขณะที่เดินทาง
ด้วยกัน
ฉันไม่เคยยอมให้ใครทั้งนั้น
ฉันไม่เคยทำอะไรให้ใคร
มาแพ้ให้เธอทั้งหัวใจ
เหตุผลมันคืออะไร
139/221

ฉันที่หลายคนบอกดูเข้มแข็ง
ฉันไม่มีแรงขัดใจเธอสักที
คงเพราะหัวใจที่เธอมี
ดีกว่าคนไหนไหน
ต่อไปนี้นี่คือคนของเธอ
จากนี้ถ้ามีอะไรโหดร้ายกระเทือนถึงจิตใจ
ขอเพียงแค่เธอบอกเพียงเธอกอดฉัน
สัญญาถ้าฉันยังมีลมหายใจ
ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำน้ำตาเธอรินหลั่งไหล
ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ไปไกลไกลที่ไหน
ฉันจะรักเธอรักเธอคนเดียว
เรื่อยไปจนวันสุดท้ายด้วยหัวใจ
ต่อไปนี้นี่คือคนของเธอ
จากนี้ถ้ามีอะไรโหดร้ายกระเทือนถึงจิตใจ
ขอเพียงแค่เธอบอก เพียงเธอกอดฉัน
สัญญาถ้าฉันยังมีลมหายใจ
ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำน้ำตาเธอรินหลั่งไหล
140/221

ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ไปไกลไกลที่ไหน
ฉันจะรักเธอรักเธอคนเดียว
เรื่อยไปจนวันสุดท้ายด้วยหัวใจ
ฉันสัญญา ฉันจะรักเธอ รักเธอคนเดียว
เรื่อยไปจนวันสุดท้ายด้วยหัวใจ
ยิ่งปล่อยความคิดให้ล่องลอยเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าเขายิ่งมีอิทธิพล
ต่อความรู้สึกของอิงฟ้ามากเท่านั้น อิงฟ้าจำต้องให้น้องแก้มแดงได้
พักผ่อน
...คุณออกจากระบบหนีไปดื้อ ๆ แบบนี้ มัดมือชกกันนี่นาคุณตะ
แล้วอย่างนี้ฟ้าต้องรับปากดินเนอร์กับคุณอย่างนั้นสินะ...
อิงฟ้าปิดเครื่องก่อนที่ตัวเองจะอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ จากหญิงสาว
แก่นซนบทจะหวานก็ทำได้เช่นเดียวกัน ถึงเวลาแล้วสินะที่ชุดสวย ๆ อาจ
จะต้องทำหน้าที่ของมัน
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปอิงฟ้าก็พาตัวเองลงมาที่เคาน์เตอร์ด้านหน้ารีสอร์ต
ลูกหยีและกุลดาต่างมองเป็นตาเดียว ทั้งคูม่ องหน้ากันอย่างข้องใจที่อิงฟ้า
แต่งตัวสวยกว่าทุกวัน
“คุณกุลว่าไหมคะ การเป็นไกด์นี่ก็ดอี ย่างนะคะ นอกจากได้เที่ยวไป
เรื่อย ๆ แล้ว ยังทำให้คนเราสวยขึ้นได้ด้วย...อย่างนี้ลูกหยีไปเป็นไกด์ดี
กว่าไหมคะ”
141/221

“จุ๊ จุ๊...เบา ๆ สิลูกหยี เสียงดังไปได้ ประเดี๋ยวเถอะโดนคุณฟ้าเอ็ด


เอาจะรู้สึก”
“ก็จริงนี่นา คุณกุลดูสิคะ คุณฟ้าตั้งแต่กลับมาจากพาลูกทัวร์ไปเที่ยว
แล้วสีหน้าก็สดใสขึ้น โดยเฉพาะวันนี้คุณฟ้าแต่งตัวสวยกว่าทุกวันเลย
ด้วย”
คงไม่ใช่พนักงานเพียงเท่านี้ทตี่ ้องเหลียวหลังมองอิงฟ้า คนอื่น ๆ ก็
เหลียวหลังมองไม่ต่างกัน โดยเฉพาะหญิงสาวที่ใช้แว่นกันแดดอันโตคาด
บนศีรษะแทนทีค่ าดผม อิงฟ้าเดินผ่านเธอมาโดยไม่ได้สนใจว่าเจ้าหล่อน
กำลังขมวดคิ้วเหมือนสงสัยอะไร ฝรั่งผู้ชายตัวโตโน้มใบหน้าเข้าใกล้
เจ้าหล่อน เหมือนพูดอะไรสองสามคำ รอยยิ้มกลบเกลื่อนจึงผุดขึ้นที่
ใบหน้าแทนความสงสัยใคร่รู้นั้น
“พิมพ์มาดาค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยชื่อของตัวเองเป็นภาษาไทย ทำให้อิงฟ้าหันไปมอง เมื่อรู้
ว่ามีลูกค้าเป็นคนไทยเข้าเช็กอิน กุลดาทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้ารายนีแ้ ละ
จัดการให้พนักงานพาเจ้าหล่อนและฝรั่งตัวโตที่ยืนข้าง ๆ ไปยังห้องพัก
พิมพ์มาดาแจ้งกับพนักงานว่าเธอต้องการทำสปาเป็นการส่วนตัว ฉะนั้นจึง
หมายความว่าเธอจองห้องวีไอพีเพื่อตัวเธอเองในชั่วโมงถัดไป
อิงฟ้าเข้าไปตรวจดูความเรียบร้อยก่อนแขกจะเข้าใช้บริการ จึงเป็น
จังหวะเดียวกันกับที่พิมพ์มาดาพาตัวเธอเองมายังโซนสปาของรีสอร์ตพอดี
142/221

“อือ ขอโทษนะคะ ดิฉันรู้สึกคุ้นหน้าคุณเหลือเกิน เหมือนเคย


เจอกันที่ไหน”
พิมพ์มาดาเอ่ยทักอิงฟ้าเมื่อหญิงสาวเดินสวนมาพอดี
“ดูเหมือนว่าเราจะยังไม่เคยเจอกันนะคะ หรือว่าฉันหน้าโหลก็ไม่รู้สิ”
อิงฟ้ายิ้มเล็กน้อย ก่อนตอบคำถามนั้นของหญิงสาว
“เหรอคะ...”
พิมพ์มาดายังไม่ลดละในความคิด แต่กย็ ังสงสัยต่อไปอยูด่ ี
พนักงานเข้ามาต้อนรับพิมพ์มาดา ดังนั้นหญิงสาวจึงต้องจำใจเปลี่ยนความ
สนใจในตัวอิงฟ้าไปเป็นสปาที่เธอชอบเป็นชีวิตจิตใจแทน
14

หนึ่งสัปดาห์ที่อิงฟ้าไม่อยู่ ห้องอาหารมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่าง
เห็นได้ชัด คราวนีอ้ ิงฟ้าเป็นฝ่ายทีจ่ ะต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัยบ้าง แต่กไ็ ม่
อาจตั้งคำถามกับใครได้ในเวลานี้ หญิงสาวเดินสวนกับกลินทร์ ชายหนุ่ม
ซึ่งมานอนป่วยที่ รีสอร์ตในสัปดาห์ก่อน ทั้งคูไ่ ม่มีใครเอ่ยทักใครก่อน ดู
ราวกับว่าต่างคนต่างก็มีเรื่องยุ่งของตัวเอง
แน่นอนล่ะ...อิงฟ้ามีเรื่องสำคัญของตัวเองอย่างแน่นอน เพราะเธอรับ
นัดดินเนอร์กับอมตะในค่ำคืนนี้
อิงฟ้ามาในชุดเรียบหรู หากในสายตาของใครหลาย ๆ คนแล้วรู้สึก
เหมือนกับว่าเธอเป็นเจ้าหญิงน้อย ๆ ที่โดดเด่นที่สุดในคืนนี้เลยทีเดียว
ความสวยใสของอิงฟ้าในค่ำคืนนี้อยู่ในสายตาของนายธาดาด้วยเช่นกัน
ภายนอกรีสอร์ตในคืนนีห้ ิมะโปรยปราย เมื่อต้องกับแสงไฟจึงดู
สวยงามมาก เกล็ดสวยเป็นประกายราวกับแสงเพชรระยิบระยับ แน่นอน
ที่สุดความสวยนี้อยู่ใกล้แค่กระจกกั้นเพียงเท่านั้น อิงฟ้าเป็นคนเลือกโต๊ะที่
ติดกระจกในมุมที่เห็นภายนอกได้อย่างชัดเจน
144/221

คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วที่อมตะจะได้พักที่รีสอร์ตบ้านธาดา
บรรยากาศช่างเป็นใจ ความหนาวไม่ได้เป็นอุปสรรคทำให้ชายหนุ่ม
หญิงสาวหงุดหงิดใจเลยแม้แต่น้อย
“คืนแรกที่ได้พบคุณฟ้า หิมะก็ตกแบบนี้เลย”
เขาเอ่ยขณะที่ทั้งคู่นั่งพร้อมกันที่โต๊ะอาหารแล้ว
“ฤดูหนาวก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ บ่อย ๆ ที่หิมะจะตกตอนกลางคืน”
“ข้างนอกสวยมากครับ”
“หนาวมากด้วยค่ะ ตอนนี้อุณหภูมิคงติดลบ”
“เป็นบุญตาของพวกเราทั้งคณะเลยนะครับเนี่ย บรรยากาศแบบนี้ไม่
เกิดขึ้นแน่ ๆ ในเมืองไทย”
“ดูเหมือนว่าคุณตะจะชอบสวิตฯ เหมือนกัน”
“มาก ๆ เลยล่ะครับ ตอนนี้ให้หลับตาผมก็จำได้นะ กับทุกที่ที่ผม
เคยพบเห็น”
“ฟ้าดีใจค่ะที่คุณตะชอบ อย่างน้อย ๆ ฟ้าก็ประสบความสำเร็จใน
บทบาทหนึ่งที่เพิ่งผ่านมานี้”
อาหารถูกเสิร์ฟบนโต๊ะพร้อมหลังจากทั้งคูส่ นทนากันไม่นาน ภาพ
ชายหนุ่มหญิงสาวนั่งมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มฉ่ำสุข ซึ่งภาพนี้อยู่ในสายตา
ของใครหลาย ๆ คนทีเดียว อย่างน้อย ๆ ก็พนักงานในบริษัทของอมตะที่
145/221

ลงมาดินเนอร์กันในอีกมุม นายธาดาที่ยืนดูอยู่ในมุมหนึ่งห่าง ๆ กลินทร์


และสายตาอีกคู่หนึ่งซึ่งจ้องอย่างเอาเป็นเอาตายเลยทีเดียว นั่นก็คือพิมพ์
มาดา หญิงสาวคงนึกออกแล้วในตอนนี้ว่า คนที่เธอบอกว่าคุ้นหน้านั้นคือ
ใคร
โต๊ะดินเนอร์อยู่ห่างกันไม่ไกลมาก ภาพแห่งความสุขทีเ่ กิดขึ้นกับ
อมตะและอิงฟ้าจึงอยู่ในสายตาของพิมพ์มาดาโดยตลอด หญิงสาวไม่อาจ
ทักทายคนทั้งคู่ได้เนื่องจากกว่าเธอก็มีคู่ดินเนอร์ที่ท่าทางเอาอกเอาใจเธอ
มากเช่นกัน มันคงเป็นเรื่องยากทีจ่ ะปลีกเวลามาทักทายอมตะและอิงฟ้าใน
เวลาและบรรยากาศแบบนี้ หรือหากเธอจะเสียมารยาทก็คงจะทำได้
ว่ากันว่ารักทำให้คนเสียน้ำตา
หากว่ารับเอารักเข้ามาใจอาจสลาย
ถึงรู้อย่างนั้นก็ยังอยากเสี่ยงไม่หาย
อยากให้เธอมาเป็นความหมาย
ห้ามมันไม่ไหว
สั่งใจไม่ให้มันสั่นมันก็ไม่ฟังเท่าไหร่
ถามตัวเองถ้าช้ำปางตายจะทำยังไง
ใจตอบว่ายินดี
ขอแลกทั้งใจแค่ได้รักเธอต้องเจออะไรก็ยอม
146/221

ฉันพร้อมจะเจ็บฉันพร้อมจะตายเป็นไงเป็นกัน
เพราะมีหัวใจก็คงไร้ค่าหากไม่มีเธอในนั้น
ต่อให้มันแหลกสลายก็ยอม
ได้สัมผัสรักมันก็คุ้มชีวิตหนึ่ง
วันนี้ขอกอดเธอให้ซึ้งไม่ยอมกลับหลัง
ได้ยิ้มสักทีแม้พรุ่งนี้เจ็บกี่ครั้ง
ไม่หวั่นไหวไม่กลัวผิดหวังต้องรักเธอแล้ว
สั่งใจไม่ให้มันสั่นมันก็ไม่ฟังเท่าไหร่
ถามตัวเองถ้าช้ำปางตายจะทำยังไง
ใจตอบว่ายินดี
ขอแลกทั้งใจแค่ได้รักเธอต้องเจออะไรก็ยอม
ฉันพร้อมจะเจ็บฉันพร้อมจะตายเป็นไงเป็นกัน
เพราะมีหัวใจก็คงไร้ค่าหากไม่มีเธอในนั้น
ต่อให้มันแหลกสลาย
ขอแลกทั้งใจแค่ได้รักเธอต้องเจออะไรก็ยอม
ฉันพร้อมจะเจ็บฉันพร้อมจะตายเป็นไงเป็นกัน
เพราะมีหัวใจก็คงไร้ค่าหากไม่มีเธอในนั้น
147/221

ต่อให้มันแหลกสลายก็ยอม
เมื่อเสียงไวโอลินจบลง...
“เราจะมีโอกาสพบกันอีกหรือเปล่า”
น้ำเสียงของอมตะที่เอ่ยกับอิงฟ้าเบาอย่างน่าใจหาย แน่นอนเวลาของ
เขาน้อยลงทุกทีแล้ว นาทีของความสุขมันจะกลายเป็นความทรงจำในอีกไม่
กี่ชั่วโมงข้างหน้า แค่ผ่านคืนนี้ไปเขาก็จำต้องบินลัดฟ้ากลับสู่เมืองไทย และ
หายจากอิงฟ้าไปยาวนานแค่ไหนไม่มีใครรู้ได้ ระยะทางที่ไกลแสนไกล คง
ไม่มีใครบอกได้ว่าวันไหนจะได้กลับมาพบกันอีก
หากเป็นเช่นนั้นเมืองแห่งความฝัน จะกลายเป็นแค่ความทรงจำ
เท่านั้น ความทรงจำที่ทั้งเขาและอิงฟ้าคงจะเก็บมันไว้ในหน้าประวัติศาสตร์
ชีวิตที่ไม่มีวันลบเลือน
“สักวันหนึ่งค่ะ สักวันหนึ่งเราคงได้พบกันอีก โอกาสต้องมีแน่ ๆ
หากเราเปิดมันให้กับตัวเราเอง ฟ้าคงตอบคุณตะไม่ได้ว่าวันไหน คุณตะ
เองก็คงตอบตัวเองยังไม่ได้เช่นเดียวกันว่าเมื่อไหร่”
อิงฟ้าตอบเขาเพียงเท่านี้ ชายหนุ่มจึงได้คิด...
“นั่นสินะครับ โอกาสมันอยู่ทตี่ ัวเราเอง จะมัวไปถามใครทำไม ไม่มี
ใครตอบแทนใครได้”
“...”
148/221

รอยยิ้มจาง ๆ เกิดขึ้นที่มุมปากได้รูปของสาวน้อยอิงฟ้า คงไม่ใช่


เพียงเขาคนเดียวหรอกที่รู้สึกใจหาย อิงฟ้าเองก็น้อยเสียเมื่อไหร่ หัวใจ
รู้สึกอ้างว้างอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน หากผ่านคืนนี้ไปทั้งเขาและเธอ ต่างคน
ต่างจะเป็นอย่างไร
ภายนอกรีสอร์ตหิมะยังคงโปรยปราย เกล็ดใสแวววาวนั้นทอ
ประกายเมื่อต้องแสงไฟประดับจากภายนอก หัวใจของชายหนุ่มบัดนี้
อุณหภูมิเพิ่มระดับขึ้นเมื่อเสียงไวโอลินดังมาจากมุมหนึ่งของห้องอาหาร
ราวกับว่าคนอื่นจะรู้ความเป็นไปของหัวใจเขา ว่าตอนนี้รู้สึกเช่นไร
เหมือนท้องฟ้าเป็นใจให้ฉัน
โปรยหยาดฝนชโลมชีวันชุบชีวิตให้มีสีสัน
รักที่เหมือนมีเพียงในฝันคงไม่มีตัวตนอะไร
แล้วฝันนั้นที่มัวก็ใส
แล้วในคืนนี้ก็มีเพียงเราใต้หมู่ดาว
เธอกอดฉันไว้หนาวก็พลันอุ่นกาย
ไม่อยากให้ผ่านคืนนี้รู้ไหมขอให้มีเพียงเราได้ไหม
ฉันและเธอและภาษาใจให้นานเท่านานอย่างนี้
ไม่อยากให้ผ่านคืนนี้รู้ไหมทุกนาทีที่ใจฉันไหว
ฉันและเธอทุกลมหายใจ
149/221

แต่แล้วทำไมต้องจากฉันไป
เป็นดังต้นไม้ของเธอ เธอคอยดูแลชิดใกล้
จนมีดอกสวยแซมใบ
ได้โปรดอย่าปล่อยอย่าทิ้งให้มันร่วงโรย
เหมือนท้องฟ้าเป็นใจให้ฉัน
โปรยหยาดฝนชโลมชีวันชุบชีวิตให้มีสีสัน
รักที่เหมือนมีเพียงในฝันคงไม่มีตัวตนอะไร
แล้วฝันนั้นที่มัวก็ใส
แล้วในคืนนี้ก็มีเพียงเราใต้หมู่ดาว
เธอกอดฉันไว้หนาวก็พลันอุ่นกาย
ไม่อยากให้ผ่านคืนนี้รู้ไหมขอให้มีเพียงเราได้ไหม
ฉันและเธอและภาษาใจให้นานเท่านานอย่างนี้
ไม่อยากให้ผ่านคืนนี้รู้ไหมทุกนาทีที่ใจฉันไหว
ฉันและเธอทุกลมหายใจ
แต่แล้วทำไม ต้องจากฉันไป
แล้วทำไม...ต้องจากฉันไป
150/221

อมตะเดินมาส่งอิงฟ้าในทางโซนไปยังห้องพักส่วนตัวของเธอ ไม่มี
เสียงจากใคร มีเพียงลมหายใจแผ่วเบาที่ทั้งคู่ค่อย ๆ ให้มันผ่านเข้าออกช้า
ๆ แต่ไม่พูดอะไรก็ใช่ว่าทั้งคู่จะไม่รู้สึกถึงความปั่นป่วนในใจของตัวเอง ว่า
เพราะอะไร
การจากกันครั้งนี้ไกลเกินกว่าที่ใครจะเอ่ยว่าสัญญา ไกลเกินกว่าใคร
จะเอ่ยคำว่าจะพบกันอีกได้เมื่อไหร่ มิตรภาพที่สวยงามแบบนี้ อบอุ่นแบบ
นี้ มันจะเกิดขึ้นอีกตอนไหน อมตะมองตามหลังหญิงสาวที่เดินไปตาม
ทางเดินช้า ๆ ห้องพักของ อิงฟ้าอยู่ในโซนด้านหลังที่แยกตัวออกไปจาก
ห้องพักแขกทั่วไป อมตะจึงรู้สึกเกรงใจหากเขาจะเดินไปส่งอิงฟ้าให้ถึงห้อง
แม้ใจอยากจะทำแต่ก็ต้องห้ามใจ เพราะเพียงเท่านี้ภาพของคนทั้งคู่ก็อยูใ่ น
สายตาของกลินทร์โดยตลอดอยู่แล้ว และหญิงสาวสุดเปรี้ยวอย่างพิมพ์มา
ดาอีกด้วย
15

ฉันไม่รู้ว่าเธอนั้นคิดยังไง
แต่ขอขอบใจที่เธอมาห่วงใยกัน
ยิ่งวันเวลาผ่านไปใจฉันก็เริ่มผูกพัน
หลับฝันก็มีแค่เพียงภาพเธอ
และฉันก็รู้ว่าใจฉันคิดยังไง
ถ้าพูดออกไปแล้วเธอไม่คิดแบบฉัน
หากคำ ๆ เดียวคำนั้นทำให้เราต้องจากกัน
แค่คิดกับเธอในใจก็พอ
ต้องหยุดใจเอาไว้ว่าเราแค่เพื่อนกัน
ต้องหยุดไว้ตรงนั้นและฉันต้องทำได้
จะยอมเจ็บวันนี้เก็บคำว่ารักเธอไว้ในใจ
ดีกว่าพูดออกไปแล้วเสียเธอ
แต่ฉันไม่รู้ว่าใจเธอคิดยังไง
152/221

ถ้าพูดออกไปแล้วเธอไม่คิดแบบฉัน
หากคำๆเดียวคำนั้นทำให้เราต้องจากกัน
แค่คิดกับเธอในใจก็พอ
บอกรักกับเธอในใจก็พอ
วันหนึ่งหญิงสาวซน ๆ คนหนึ่งชนโครมเข้ากับเขา ชายหนุ่มที่เพิ่ง
เดินทางมาจากเมืองร้อนอย่างเมืองไทย พร้อมกับคณะสัมมนากลุ่มใหญ่
แววตาใส ๆ ที่เขาเห็นแวบแรกวันนั้นกลับตรึงอยู่ในความรู้สึกลึกในหัวใจ
ของเขาและเธอ แม้เพียงเสี้ยววินาทีก็ตาม
ตึ่ง...ตึ๊ง...
เสียงทักทายที่แสนคุ้นเคย หลังจากอิงฟ้ากดเปิดเครื่อง ก่อนที่ตัวเอง
จะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ น้องแก้มแดงซึ่งจะต้องเริ่มทำหน้าที่ของมันเช่นเคย
อย่างรู้ใจ
amata says: ฝันดีนะครับฟ้า
อิงฟ้า says: จะไล่กันเข้านอนเลยเหรอคะ
นานกว่าอิงฟ้าจะทักตอบเขา ทำให้อีกฝ่ายกระวนกระวายใจไม่น้อย
ทั้งที่เห็นอิงฟ้าเปิดออนไลน์นานแล้ว แต่เธอไม่ยอมทักตอบเขา
amata says: นึกว่าจะลืมกันตั้งแต่วินาทีนี้แล้วสิครับเนี่ย
153/221

อิงฟ้า says: คนเราหากลืมอะไรได้ง่ายขนาดนี้ก็ดสี ิคะ จะได้ไม่


ต้องมีความรู้สึกอะไร
amata says: ไม่อยากให้ฟ้านอนดึกมาก เหนื่อยมาทั้งสัปดาห์แล้ว
ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ
อิงฟ้า says: สักพักฟ้าคงนอนแล้วล่ะค่ะ คุณตะก็เหมือนกันนะคะ
พรุ่งนี้ต้องเดินทางควรพักผ่อนให้พอเช่นกัน
amata says: ผมมีความสุขในการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้มาก
ขอบคุณฟ้าอีกครั้ง แม้จะต้องจากที่นี่ไปตั้งแต่นาทีนี้ หรือวันพรุ่งนี้เวลา
ไหนก็ตาม ผมก็ยังอยากจะพูดคำนี้เสมอ
อิงฟ้า says: ความสุขในการเดินทาง ไม่ใช่อยูท่ ี่จุดหมายปลายทาง
เท่านั้นนะคะ แต่ความสุขที่แท้จริง มันอยู่ทรี่ ะหว่างทางต่างหาก หลาย
เรื่องราวที่ผ่านระหว่างทางคือประสบการณ์ที่ไม่มีจุดหมายปลายทาง
ค่ะ...พรุ่งนี้โชคดีในการเดินทางกลับบ้านนะคะ
อิงฟ้ารู้สึกว่ายิ่งต่อคำกันก็ยิ่งรู้สึกใจหาย สู้ยุติการคุยกันเพียงเท่านี้
น่าจะดีกว่ายืดเยื้อให้ใจทรมานไปมากกว่านี้
...มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกอิงฟ้า...
หญิงสาวเอ่ยเบา ๆ กับตัวเองที่ทำท่าเหมือนจะอ่อนแอ
...ใช่ ความสุขในการเดินทาง มันก็อยู่ตรงระหว่างทางนี่เองจริง ๆ
มันเกิดขึ้นแล้ว และก็กำลังจะผ่านไป...
154/221

อิงฟ้ารำพันกับตัวเอง ขณะที่ทิ้งตัวลงนอนเหยียดยาวบนเตียงกว้าง
หญิงสาวทีม่ ีความเหงาเป็นเพื่อนมาเกือบทั้งชีวิต เฝ้าเตือนตัวเองเสมอ
บอกตัวเองทุกครั้งที่ใจกำลังจะดำดิ่งไปมากกว่านี้ ก่อนที่จะดึงกลับคืนมา
ไม่ได้...ความเหงาอาจจะโอบกอดหัวใจเธอได้ก็คงเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง
เท่านั้น สุดท้ายมันก็ต้องหลุดลอยไปเพราะความแข็งแกร่งของหัวใจดวง
เล็ก ๆ ดวงนี้อยู่ดี
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นมี้ ันคืออะไร นี่หรือเปล่านะที่เขาเรียกว่าความ
รัก มันเป็นความรู้สึกได้สัมผัส กับความสุขร่วมกับคนคนหนึ่ง เมื่ออยู่ด้วย
กันก็จะมีความสุขมาก ไม่เคยเบื่อทีม่ ีเขาอยู่ใกล้ ๆ และเมื่อยามที่เขา
ห่างไกลไม่ได้เห็นหน้า ก็จะรู้สึกเหงา ๆ และคิดถึงแบบนี้
ภายนอกหน้าต่างในอีกมุมหนึ่งของห้องพักส่วนตัว สวยงามไม่แพ้
มุมอื่นเลยหากมองออกไปในขณะที่มีหิมะโปรยปราย
อิงฟ้าลุกจากเตียงนอนแล้วพาตัวเองไปยืนพิงประตูด้านหลังห้องซึ่ง
เป็น กระจกใสทั้งแนว อุณหภูมภิ ายในห้องอุ่นกว่าภายนอกมาก หญิงสาว
จึงถอดเสื้อคลุมตัวหนาออกพาดไว้ที่เก้าอีใ้ กล้ ๆ ตัว การได้ทำหน้าที่
นำทางลูกทัวร์เดินทางท่องเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์ของอิงฟ้าสำหรับลูกทัวร์
รายแรกจบลงอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว และก็ประทับใจกันทั้งผู้นำทางและ
ผู้ติดตาม
บนกระเช้าที่ทั้งคู่กำลังจะขึ้นไปยังยอดเขาทิตลิส...
155/221

ขณะทีท่ ั้งอมตะและอิงฟ้าต่างก็ให้ความสนใจทิวทัศน์เบื้องล่าง อิงฟ้า


ยกกล้องถ่ายรูปของตัวเองโฟกัสมุมสวย ๆ ไปเรื่อย อมตะเองก็ไม่
น้อยหน้าทีจ่ ะเก็บบรรยากาศสวย ๆ บันทึกไว้ให้ได้มากที่สุด เนื่องจาก
วันนี้นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก ภายในกระเช้าจึงมีเพียงอมตะและอิงฟ้า
เท่านั้น ปกติแล้วหากนักท่องเที่ยวหนาตากว่านีก้ ระเช้าจะนั่งได้แน่นสุดก็
หกคน เมื่ออิงฟ้าหมุนตัวกลับมาด้านหลังของตัวเองก็ปะทะเข้ากับอมตะ
อย่างแรง ทำให้ร่างบางเซถลาจะล้มลงก็พอดีกับอมตะที่ไวกว่า แขน
แข็งแรงของเขาช้อนร่างของอิงฟ้าไว้ทัน ใบหน้าชิดกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ
กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ สัมผัสเข้ากับจมูกของเธอ ความรู้สึกร้อนผ่าวแผ่ซ่านไป
ทั่วใบหน้า
นี่คือครั้งแรกที่ชายหนุ่มหญิงสาวได้ใกล้ชิดกันมากที่สุด หากไม่นับ
ครั้งแรกที่ทั้งคูเ่ ดินชนกันที่รีสอร์ตบ้านธาดา ครั้งนั้นกับครั้งนี้ความรู้สึก
ของหญิงสาวแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ครั้งนีห้ ัวใจเต้นแรงจนอิงฟ้าเองคิดว่า
เขาอาจจะได้ยิน ด้วยความเขินอายจึงรีบเบี่ยงตัวออกช้า ๆ
“ฟ้าซุ่มซ่ามอีกแล้ว ขอโทษนะคะ”
ชายหนุ่มส่งยิ้มให้อิงฟ้า แต่ไม่พูดอะไรเพียงใช้มือลูบผมของอิงฟ้า
แทนคำตอบทุกอย่าง อิงฟ้าเองกลับรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาดเมื่อมือของ
เขาลูบบนหัวของเธอเบา ๆ
กระเช้าเคลื่อนตัวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ อากาศเริ่มเบาบางในความรู้สึก
ของอมตะ เขานั่งลงช้า ๆ จากที่มักสักครู่ยืนรับร่างของอิงฟ้าอยู่
156/221

“เดี๋ยวจะดีขึ้นเองค่ะ คุณตะยังไม่ชินน่ะค่ะ”
ชายหนุ่มยิ้มอีกเช่นเคยเมื่อหญิงสาวหันมาพูดกับเขาอย่าง
ห่วงใย...แน่นอนกิริยาท่าทางของอิงฟ้าบอกเขาเช่นนั้นจริง ๆ ทั้งที่เขายังไม่
เอ่ยอะไรด้วยซ้ำ แต่อิงฟ้าดูออกว่าเขารู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกเอาดื้อ

“สักพักจะมีจุดเชื่อมต่อ เราจะต้องเปลี่ยนกระเช้าที่ใหญ่ขึ้นกว่านี้
คราวนี้คงไม่อึดอัดแล้วล่ะค่ะ”
“ครับ”
เมื่อถึงจุดเชื่อมต่ออย่างที่อิงฟ้าบอก อมตะสังเกตเห็นว่ามี
นักท่องเที่ยวเยอะขึ้น นอกจากนักท่องเที่ยวอย่างเขาที่ซึ่งขึ้นมาชม
ความงามของยอดเขาทิตลิสเท่านั้นแล้ว ยังมีนักเล่นสกีอีกเป็นจำนวนมาก
ด้วย
ออกจากรถกระเช้าแล้ว อิงฟ้าและอมตะต้องเดินขึ้นบันไดอีกสามชั้น
ซึ่งแต่ละชั้นก็มีร้านอาหาร ร้านค้า ร้านขายของมากมาย และไปรษณีย์ให้
บริการอยู่ ทั้งคู่เลือกที่จะแวะไปรษณีย์ก่อนเพื่อให้อิงฟ้าส่งโปสการ์ด
จุดทีอ่ มตะยืนอยู่ในขณะนี้ น้อยนักที่นักท่องเที่ยวจากเมืองไทยจะมี
โอกาสได้ขึ้นมา
...นั่นสินะ เราจะให้มันผ่านเลยไปเฉยๆ ได้ยังไงกัน...
157/221

ว่าแล้วอมตะจึงเดินออกไปร้านค้าใกล้ ๆ ที่มีของที่ระลึกมากมาย ใน
ระดับสายตาที่ชายหนุ่มมองปราดแรกคือโปสการ์ดซึ่งเป็นรูปยอดเขาทิตลิส
ทีป่ กคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน และโอบล้อมไปด้วยไอหมอกสีขาวเย็นตา
อมตะเลือกใบนั้นทันที และถัดมาก็คือทะเลสาบลูเซิร์น ที่ทอดตัวยาวไกล
ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม และที่ลืมไม่ได้เลยนั่นก็คือภาพสะพานไม้เก่าที่มี
ชื่อเสียง อมตะเขียนและส่งเช่นกัน เมื่อเสร็จจากการส่งโปสการ์ดแล้ว ทั้งคู่
จึงนั่งกระเช้าที่ใหญ่กว่าขึ้นไปยังยอดทิตลิส
“ข้างบนนี้อากาศหนาวกว่าข้างล่างนะคะ”
อิงฟ้าเอ่ยเมื่อเห็นว่าอมตะกระชับเสื้อโค้ตของเขาเข้าหากัน
“เอาการเหมือนกันนะครับ”
“ไหวไหมคะ”
“ครับ”
อมตะไม่ยอมแพ้ความหนาวเพียงเท่านี้แน่นอน เขารู้ว่าอิงฟ้าเป็นห่วง
เขาทีด่ ูทุลักทุเลยังไงพิกล นักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ก็คงไม่ต่างกันหรอกน่า
อมตะคิดเช่นนั้น รอบ ๆ ตัวเขามีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มที่ส่งเสียง
เจี๊ยวจ๊าวกันขณะถ่ายรูป จะอย่างไรก็ตามมันคงเป็นเสียงของความสุข
จะมีก็แต่อมตะและอิงฟ้าที่มาเป็นคู่ เลยไม่มกี ารวี๊ดว๊ายกันเหมือน
นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ อิงฟ้าตั้งกล้องไว้ เพื่อถ่ายรูปตัวเองด้วย ส่วน
158/221

บรรยากาศโดยรอบนั้นไม่พ้นปลายนิ้วในการกดชัตเตอร์ของอิงฟ้าแม้สัก
ช็อตเดียว
...เหตุการณ์วันที่ทั้งคู่เดินทางขึ้นไปบนยอดทิตลิสฉายซ้ำเข้ามาใน
ห้วงความคิดของสาวน้อยอิงฟ้าอีกครั้ง ช้า ๆ และชัดเจน...
ภาพความทรงจำนี้ผ่านมาทักทายอิงฟ้าเป็นฉาก ๆ ชัดเจน
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะความคิดของหญิงสาว ขณะที่อิงฟ้ายัง
ยืนพิงอยู่ที่ประตูระเบียงห้อง ใครคนหนึ่งค่อย ๆ เปิดประตูและก้าวเข้ามา
เบา ๆ
“คุณฟ้ายังไม่นอนเหรอคะ”
เป็นลูกหยีนั่นเอง
“ยังจ้ะ ฟ้ายังไม่อาบน้ำเลย กะว่าสักพัก”
อิงฟ้าหันกลับมายิ้มให้ลูกหยีน้อย ๆ แล้วเดินมานั่งที่โซฟาที่มโี ต๊ะตัว
เล็กที่ลูกหยีวางแก้วนมอุ่น ๆ ไว้
“เอ่อ คือว่า...พอดีลูกหยีเห็นว่าคุณฟ้ายังไม่นอน ก็เลยเอานมขึ้นมา
ให้น่ะค่ะ”
“ขอบใจจ้ะแต่วันนี้ฟ้าอิ่มมาก ไว้สักพักละกันนะ”
159/221

“ค่ะคุณฟ้า ลูกหยีผสมน้ำอุ่นให้คุณฟ้าดีกว่านะคะ คุณฟ้าจะได้


อาบน้ำพักผ่อน”
“อือ...”
อิงฟ้าพยักหน้ารับ เมื่อเห็นว่าลูกหยีตั้งใจที่จะดูแลเธอ ขณะทีล่ ูกหยี
ผสมน้ำอุ่นให้อิงฟ้า เธอก็ได้เล่าถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ทีเ่ กิดขึ้น และ
เปลี่ยนแปลงไปใน รีสอร์ตบ้านธาดาขณะทีอ่ ิงฟ้าพาลูกทัวร์ไปท่องเที่ยว
หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมากลินทร์เข้ามาดูแลงานในจุดที่อิงฟ้าเคยดูแล และสิ่งที่
เปลี่ยนแปลงไปก็คือ เครื่องดื่มบางเมนูถูกปรับเปลี่ยนใหม่ กลินทร์มี
โครงการที่จะสั่งเครื่องดื่มชาทีผ่ ลิตจากเมืองไทยเข้ามาเพิ่ม นอกเหนือจาก
ชาใบหม่อนที่นายธาดาอนุญาตให้อิงฟ้าจัดให้มีในระบบเครื่องดื่มของรี
สอร์ตบ้านธาดา
อิงฟ้าฟังลูกหยีจารนัยให้ฟังอย่างเงียบ ๆ เวลานั้นลูกหยีเองก็ไม่อาจ
รู้ว่าอิงฟ้าคิดอะไรอยู่ นอกเสียจากว่ามีใครบางคนในรีสอร์ตบ้านธาดาก็ไม่
พอใจกลินทร์เช่นกัน หญิงสาวก็ได้แต่หวังว่าอิงฟ้าจะกลับมาทวงหน้าที่ของ
เธอคืน เพราะตั้งแต่กลินทร์เริ่มลงงานวันแรก ลูกหยีกร็ ู้สึกว่าตัวเธอต้อง
ทำงานหนักขึ้น และเป็นเวลามาก ๆ เธอไม่สามารถจะแอบไปนั่งทำอะไร
ส่วนตัวได้เหมือนอย่างแต่ก่อน แม้ว่างานทุกอย่างจะราบรื่นก็ตาม หรือแม้
จะดูขลุกขลักแต่กลินทร์ก็แก้ไขได้ทุกที
“น้ำอุ่นพร้อมอาบแล้วนะคะคุณฟ้า อาบได้เลยค่ะ คุณฟ้าจะเอาอะไร
อีกไหมคะ หรือจะให้ลูกหยีทำอะไรอีกไหม”
160/221

“ไม่ต้องแล้วล่ะ ลูกหยีกลับไปพักได้แล้วไป มีอะไรจากนี้ฟ้าจัดการ


เอง”
“ค่ะ”
หลังจากที่ลูกหยีออกจากห้องไปแล้วอิงฟ้าก็เปลี่ยนเสื้อเพื่อที่จะ
อาบน้ำ เธอค่อย ๆ ลงนอนแช่ในอ่างน้ำอุ่นช้า ๆ ความหนักใจที่ติดอยูใ่ น
ห้วงความคิด ค่อย ๆ คลายลง อาจจะเพราะน้ำอุ่นช่วยให้ดีขึ้น บวกกับ
ลิ่นหอมอ่อน ๆ ของลาเวนเดอร์ ทำให้อิงฟ้ารู้สึกโล่งและผ่อนคลายได้จริง
ๆ การเดินทางกว่าหนึ่งสัปดาห์ ก็ทำให้อิงฟ้าเมื่อยล้าไม่น้อย เพราะต้องตื่น
แต่เช้าทุกวัน และตะลอนเที่ยวกันตลอดตามโปรแกรมที่วางไว้ ซึ่งมันเป็น
ความเหนื่อยที่แลกมาด้วยความสุขและความอิ่มใจ
16

รุ่งเช้าพนักงานทุกคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง แม้แต่ลูกหยีเองก็แทบ
จะไม่มีเวลาแวบมาคุยหรือพูดแหย่อิงฟ้าได้เหมือนเมื่อก่อน หน้าที่ของอิง
ฟ้าถูกใครบางคนเบียดแย่งไปทำทั้งหมด ไม่ว่าเธอจะก้าวย่างไปทางไหน ก็
ดูเหมือนว่าไม่สามารถจะหยิบจับหรือทำอะไรได้สะดวกเลย เพราะนั่น
หมายถึงว่ากลินทร์จะจัดการไปก่อนแล้วทั้งหมด
คณะสัมมนาของอมตะเตรียมตัวพร้อมกันที่ล็อบบีเรียบร้อยหลังจาก
อาหารเช้าเสร็จแล้ว รถของรีสอร์ตจอดเทียบรอตั้งแต่เช้าเช่นเดียวกัน อิง
ฟ้าสอดส่ายสายตามองหาใครบางคน
“คุณหาใครหรือเปล่า”
เสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลัง เป็นน้ำเสียงที่ไม่คุ้นเคย แต่ด้วย
สัญชาตญาณอิงฟ้ารู้ในคำถามนั้นทันทีว่าต้องเป็นคำถามที่จงใจถามเธอ
แน่นอน
“เปล่า...”
อิงฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงสั้นและห้วน
162/221

“แน่ใจ”
อิงฟ้าหันขวับมาทันที เมื่อคำถามที่สองตามมา
“มันกงการอะไรของคุณ ฉันยังไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือ ไม่ต้อง
ยุ่งสักเรื่องก็ได้มั้ง”
“แต่ท่าทางคุณดูร้อนรน ผมเลยคิดว่าสิ่งที่คุณมองหามันต้องสำคัญ
ตกลงจะให้ผมช่วยหาหรือเปล่า”
“ไม่ต้อง”
“แน่ใจ”
“เอ๊ะ คุณนี่ยังไง“
อิงฟ้าหงุดหงิดทันทีที่คำถามนั่นนี่หลุดออกมาจากปากชายหนุ่มหน้า
จืดทีย่ ืนอยูเ่ บื้องหน้าเธอ ความไม่ถูกชะตาเป็นทุนเดิมอยูแ่ ล้วทำให้อิงฟ้า
เก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ตะคอกใส่หน้ากลินทร์อย่างแรง
“ผมเพียงแต่จะช่วยเท่านั้นเอง เห็นว่าคุณหาอะไรวุ่นวาย”
ชายหนุ่มก็ไม่ลดละ
“ช่วยไปให้พ้น ๆ หน้าฉันทีเถอะ คุณยุ่งเรื่องของฉันทุกเรื่องแล้ว”
“หมายความว่ายังไง ผมรบกวนคุณงั้นเหรอ”
“ยังไม่รู้ตัวอีก ไปให้พ้นหน้าฉัน...”
“...”
163/221

กลินทร์นิ่งเงียบ เมื่อเห็นว่าอิงฟ้าเอาจริง
เมื่ออิงฟ้าทำท่าไม่เป็นมิตร กลินทร์จึงพาตัวเองถอยห่างออกมาจาก
บริเวณนั้น ความกระวนกระวายใจของอิงฟ้าเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลา
มันผ่านไปทุกนาที คงไม่มีใครรู้ว่าเวลาทุกนาทีที่ผ่านไปมันมีค่าและสำคัญ
ขนาดไหนสำหรับอิงฟ้า
จากล็อบบีไปยังห้องอาหารไม่มีแม้เงาของชายหนุ่มที่อิงฟ้ามองหา
ทั้งที่คณะสัมมนาของเขาก็มารวมตัวกันข้างล่างหมดแล้ว ห้องพักถูก
เช็กเอาท์เรียบร้อยแม้แต่ห้องของเขาด้วย
“เวลาของเธอหมดแล้วสาวน้อย”
เสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลัง อิงฟ้าไม่ได้รู้สึกคุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย
แต่ก็รู้ด้วยสัญชาตญาณว่า เสียงนั้นจงใจที่จะเอ่ยกับอิงฟ้านั่นเอง
“คุณ...”
อิงฟ้าหลิ่วตาเล็กน้อย เมื่อหันมาพบหญิงสาวร่างบางสุดเปรี้ยวคน
หนึ่ง
“อย่าพยายามเลย มันหมดเวลาของเธอแล้ว...หน้าที่ของเธอหมดแล้ว
สาวน้อย”
พิมพ์มาดาเอ่ยจบก็เดินจากอิงฟ้าไป ปล่อยให้หญิงสาวยืนงงเพียง
ลำพัง
164/221

...ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน แล้วจู่ ๆ ก็มาพูดกับเราแบบนี้


หมายความว่า ยังไง หมดเวลาของเราแล้วอย่างนั้นเหรอ...
หญิงสาวพูดกับตัวเองเบา ๆ อย่างไม่แน่ใจ
แต่แล้วอิงฟ้าก็เดินไปทางทีห่ ญิงสาวคนนั้นเดินไปเมื่อสักครูช่ ้า ๆ ซึ่ง
เป็นทางเดินไปยังคอฟฟีชอป หญิงสาวคนนั้นก้าวฉับ ๆ ไปยังชายหนุ่มที่
ยืนหันรีหันขวางอยู่ มือของเธอกอดแขนของชายหนุ่มฉับไวแล้วทั้งคู่ก็เดิน
ไปหยุดที่โต๊ะนั่งมุมหนึ่งที่ว่างอยู่
อิงฟ้ารู้สึกเย็นในหัวใจทันที เมื่อชายหนุ่มคนนั้นคืออมตะ ทั้งคู่สั่ง
กาแฟร้อนคนละถ้วย ท่าทางผู้หญิงคนนั้นเอาอกเอาใจและทำตัวสนิทสนม
กับเขา มากเสียจนอิงฟ้าร้อนรุ่มไปทั้งหัวใจ
“คุณตะ...”
ชื่อของเขาหลุดออกจากริมฝีปากบางได้รูปของอิงฟ้าเบามาก จน
กลายเป็นเสียงแหบพร่า มันหมดเวลาของอิงฟ้าแล้วจริง ๆ
ฉันคิดว่ารักมันคือความผูกพัน
คิดว่ารักแท้ต้องเดินผ่านวันและเวลา
ยิ่งเนิ่นนานนานไปเท่าไรความรักยิ่งมีค่า
ที่ฉันรู้ที่เคยฝันรักที่ฉันเคยเข้าใจ
ไม่คิดไม่ฝันเมื่อเธอผ่านเข้ามา
165/221

เหมือนว่าสายตาฉันเองมองไม่เห็นใคร ๆ
หยุดที่เธอแค่เพียงสบตาและวินาทีนั้น
โลกทั้งโลกหยุดเคลื่อนไหวท้องฟ้ากลับสดใส
ลมหายใจเหมือนหยุดไปในห้วงนาทีนี้
เช่นหัวใจลอยหลุดไปทันทีที่สบตา
เธอหยุดยั้งวันเวลาแค่เราได้พบกันในวันนี้
แค่พบเจอกับเธอ
ฉันเพิ่งเข้าใจว่ารักเป็นอย่างนี้
ฉันเพิ่งเข้าใจเมื่อได้มาเจอด้วยตัวเอง
เสี้ยวนาทีก็มีความหมายเปลี่ยนโลกได้ทั้งใบ
ฉันเพิ่งรู้ในวันนี้รักไม่ต้องการเวลา
ลมหายใจเหมือนหยุดไปในห้วงนาทีนี้
เช่นหัวใจลอยหลุดไปทันทีที่สบตา
เธอหยุดยั้งวันเวลาแค่เราได้พบกันในวันนี้
แค่พบเจอกับเธอก็รักเธอฉันรักเธอ
ลมหายใจเหมือนหยุดไปในห้วงนาทีนี้
เช่นหัวใจลอยหลุดไปทันทีที่สบตา
166/221

เธอหยุดยั้งวันเวลาแค่เราได้พบกันในวันนี้
แค่พบเจอกับเธอ
เหมือนหัวใจเหมือนหยุดไปในห้วงเวลานี้
เมื่อพบเธอความรักที่เคยเข้าใจก็เปลี่ยนไป
ไม่ต้องใช้วันเวลาแค่เราได้พบกันในวันนี้
แค่พบเจอกับเธอก็รักเธอฉันรักเธอ
แม้ว่าวันเวลาที่อิงฟ้ารู้สึกว่าเป็นวันที่มีความสุขที่สุด จะเกิดขึ้นใน
ระยะเวลาอันสั้นก็ตาม แต่มันก็มีความหมายในทุก ๆ นาที
อมตะลุกเดินออกไปจากคอฟฟีชอปพร้อมกับหญิงสาวสุดเปรี้ยวคน
นั้น เธอส่งอมตะขึ้นรถของรีสอร์ตโดยที่ไม่แคร์สายตาเพื่อนร่วมคณะ
สัมมนาของอมตะเลยว่าจะมองเธออย่างไร อิงฟ้ามองดูภาพนั้นอย่าง
ร้าวรานและเสียดายที่เธอไม่ได้ส่งเขาเป็นครั้งสุดท้าย
คำถามมากมายผุดขึ้นในใจของอิงฟ้า หญิงสาวคนนี้เป็นใครกัน เธอ
ฉกอมตะไปจากการนัดของอิงฟ้าไปหนหนึ่งแล้ว เมื่อตอนที่เดินทางไปถึง
ลูเซิร์นวันแรก อมตะหายไปกับเธอตลอดบ่ายถึงดึก หลังจากนั้นอิงฟ้าก็
เห็นหญิงสาวเดินกอดแขนของอมตะเที่ยวบนถนนชอปปิง เหมือนไม่รู้สึก
สะทกสะท้านใด ๆ และอมตะเองก็คงเป็นใจไปกับเธอด้วย เขาไม่สนใจสัก
นิดเดียวว่าไกด์ตัวเล็ก ๆ ซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวกำลังรอเขาอยูอ่ ย่าง
กระวนกระวายใจแค่ไหน
167/221

ตามเวลาของสวิตเซอร์แลนด์ เที่ยวบินกลับเมืองไทยเครื่องจะออก
เวลาบ่ายโมงตรง บัดนี้เข็มสั้นของนาฬิกาชี้ตรงเลขหนึ่งพอดีในขณะที่เข็ม
ยาวตรงเลข สิบสอง อิงฟ้าถอนหายใจช้า ๆ อย่างเนือย ๆ ร่างบางทรุดลง
นั่งตรงกลางโซฟาสีครีมภายในห้องพักส่วนตัวของเธอ
...เขาไปแล้ว เขากลับไปแล้ว...
17

ไม่ว่าอิงฟ้าจะเดินไปมุมไหนของรีสอร์ต เป็นต้องเจอกับกลินทร์เสมอ
เมื่อเป็นเช่นนี้อิงฟ้ายิ่งรู้ว่าตัวเองหงุดหงิดมาก ความอดทนหลายอย่างเริ่ม
เก็บไม่อยู่ โดยเฉพาะเรื่องระเบียบของพนักงานเคร่งครัดมาก มากเสียจน
รู้สึกอึดอัด ลูกหยีทเี่ คยแวบมาทักทายและหยอกเหย้าเล่นหัวกับอิงฟ้าใน
ทุกครั้ง บัดนี้ อิงฟ้าแทบจะไม่ได้เจอหน้าลูกหยีเลย
“ลูกหยีเดี๋ยวขึ้นมาหาฟ้าที่ห้องหน่อยสิ”
อิงฟ้าเห็นหลังลูกหยีไว ๆ จึงร้องเรียก
“อุ๊ย ไม่ได้หรอกค่ะคุณฟ้า งานลูกหยียังไม่เสร็จ เดี๋ยวโดนค่ะ”
“อะไรจะยุ่งขนาดนั้นหะ มาคุยกับฟ้าก่อนสิ”
“ไว้เลิกงานตอนเย็นดีกว่าค่ะคุณฟ้า”
ลูกหยีรีบเดินหายไปจากอิงฟ้าทันทีที่เธอพูดจบ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เป็นเพราะกฎใหม่ทกี่ ลินทร์ตั้งขึ้น เหตุผลก็เพราะว่าต้องการความเป็น
ระเบียบ และพนักงานต้องมีวินัยขึ้น ซึ่งนายธาดาเองก็เห็นด้วย จึงปล่อย
ให้กลินทร์เปลี่ยนแปลงอะไร หลาย ๆ อย่างในรีสอร์ตได้ตามใจ เพราะ
169/221

เห็นว่ากลินทร์เป็นเด็กใหม่ไฟแรง คงมีความเป็นคนพัฒนาและบริหาร
จัดการได้เป็นอย่างดี
อิงฟ้าหลบมุมมาอยู่ในโซนที่คนไม่พลุกพล่านมาก นั่นก็คือโซน
ห้องพักส่วนตัวที่ติดกับทะเลสาบ บริเวณนี้ลูกค้าไม่สามารถเดินมาถึงได้
เพราะถูกกั้นไว้ให้เป็นส่วนตัวจริง ๆ หากไม่ใช่ฤดูหนาว นายธาดาหรือไม่ก็
อิงฟ้ามักมานั่งทำงานบริเวณนี้ เนื่องจากโดยรอบมีทัศนียภาพสวยงามเย็น
สบาย
อิงฟ้ามาพร้อมกับน้องแก้มแดงเช่นเดิม...
ข้อความในเฟชบุ๊กจากใบตอง
...หนึ่งสัปดาห์ที่ฟ้าผลุบ ๆ โผล่ ๆ ตามตัวยากจัง ว่าแต่ตอนนีอ้ ยู่
มุมไหนของรีสอร์ตคะคุณเพื่อน หรือว่ามีลูกทัวร์รายใหม่ให้นำทางแล้ว
...ข่าวคราวของหนุ่มหน้าจืดของฟ้าหายไปพักหนึ่งแล้วด้วยนะ
อัพเดทให้ตองรู้ทีว่าหายป่วยแล้วหรือยัง หรือว่ายังนอนเป็นเจ้าชายนิทรา
อยู่เอ่ย...
...ลูกทัวร์หนุ่มรูปหล่อที่ฟ้านำทางอ่ะ เป็นไงบ้าง...อัพเดทด่วนด้วยจ้า
คุณเพื่อน ตองน่ะอยากรู้ทุกข่าวใจจะขาดรอน ๆ อยู่แล้วน้า...
แต่เป็นคำถามที่ฝากมาให้อิงฟ้าต้องตอบล้วนแล้วด่วน ๆ ทั้งนั้น
ข้อความตอบกลับใบตอง
170/221

...หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา บอกตรง ๆ ว่าสนุกมาก บางทีฟ้าไม่สะดวก


เลยที่จะอัพเดทข่าวให้ตองน่ะนะ
...ฟ้าอยูท่ ี่รีสอร์ตแล้วล่ะตอนนี้ อาจจะเป็นวันที่เซ็งสุดขีดด้วยแหละ
เพราะการเดินทางของฟ้าจบลงแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ลูกทัวร์ของฟ้าก็กลับไป
แล้วด้วย ยังไม่มีลูกทัวร์รายใหม่หรอกจ้า...ไม่เร็วขนาดนั้นมั้ง ขอ
พักเหนื่อยก่อนดีกว่า แต่จะว่าไปแล้วถือว่าฟ้าประสบความสำเร็จในขั้นแรก
เลยนะตอง
...ส่วนหนุ่มหน้าจืดที่ถามถึง ฟ้าต้องขอบอกก่อนว่า เขียนถึงเขาด้วย
ความเซ็งอย่างแรงเลย...หนึ่งสัปดาห์ทฟี่ ้าหายไปทัวร์ นายหน้าจืดนี่มาแทน
ทีฟ่ ้าทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงอะไรในรีสอร์ตไปตั้งเยอะ คือว่าคุณพ่อให้เขา
ช่วยทำงานน่ะ ตอนนี้ฟ้าเกลียดขี้หน้านายคนนี้ที่สุดเลย...
ลมเย็นพัดผ่านวูบใหญ่ อิงฟ้ากอดกระชับอกตัวเองแล้วอดถอน
หายใจไม่ได้ เหมือนการเดินทางของเวลาสำหรับเธอจะมีอุปสรรคและ
คำถามเสมอเลย
หญิงสาวร่างบางสุดเปรี้ยวคนนั้นเป็นใครกัน ทำไมเธอถึงต้อง
วนเวียนเข้ามาทำให้อะไรบางอย่างของอิงฟ้าต้องมีอุปสรรคด้วย ออกทัวร์
วันแรกเธอก็พาอมตะหนีหายไปตลอดบ่ายถึงดึก และวันทีอ่ มตะต้อง
เดินทางกลับเมืองไทย ผู้หญิงคนนี้ก็มาพาตัวอมตะไปนั่งล่ำลากันตัดหน้า
อิงฟ้าไปอีกหน จนอิงฟ้าเกือบจะนึกไปแล้วว่า...เธอขาดคุณสมบัติในการ
อยู่ในสังคมผู้ดีไปอย่างสิ้นเชิง
171/221

“คิดอะไรอยู่เหรอฟ้า...”
เสียงของนายธาดาดังมาจากทางด้านหลัง ทำให้อิงฟ้าหันขวับมาทันที
“คุณพ่อ”
อิงฟ้าส่งยิ้มหวานใส
“ไม่ได้ทานข้าวกับลูกนานมากเลย ไม่รู้ลูกสาวของพ่อหายไปไหน”
“ก็ฟ้าไม่อยู่นี่คะ คุณพ่อก็รู้”
“พ่อรู้ลูก แต่หนูกลับมาแล้ว ทำไมถึงหลบหน้าพ่อ เวลาอาหารเช้า
อาหารเย็นล่ะ ฟ้าไม่พอใจอะไร ฟ้าบอกพ่อสิ”
“ฟ้าไม่มอี ะไรไม่พอใจหรอกค่ะพ่อ ทุกอย่างปกติดี ฟ้าเหมือนเดิม
ทุกอย่าง เพียงแต่ว่า...”
หญิงสาวถอนหายใจยาวเมื่อพูดจบประโยค
“อาจจะมีหลายอย่างที่ลูกไม่ชอบใจนัก แต่หนูก็ต้องหัดเรียนรูท้ ี่จะ
เข้าใจกับสิ่งนั้นนะลูก ตอนนี้พ่อรู้ว่าฟ้าไม่ค่อยชอบหน้ากลินทร์เขา เพราะ
พ่อให้เขามาช่วยงานเราที่นี่ ฟ้าไม่พอใจที่มกี ารเปลี่ยนแปลงแบบนี้ แต่ถ้า
หากหนูใจกว้างกว่านี้ เปิดใจ...สักวันหนึ่งฟ้าจะเข้าใจเองว่าทำไมพ่อถึงให้
เขาช่วยเราทำงาน”
“ทำไมพ่อไม่อธิบายฟ้าตอนนี้ล่ะคะ”
172/221

“พ่ออยากให้ฟ้าเรียนรู้ไปเองมากกว่าลูก ก็ดสู ิ...พ่อขัดใจฟ้าสักเรื่อง


ไหม ในเมื่อตอนนี้ฟ้าอยากเรียนรู้เกี่ยวกับการเดินทาง ฟ้าอยากนำทาง
ลูกค้าของเราท่องเที่ยว พ่อก็โอเค ให้อิสระลูกคิด และเรียนรู้เอง ในที่สุด
ฟ้าก็ประสบความสำเร็จในขั้นแรกด้วยตัวเอง”
นายธาดาโอบไหล่บุตรสาวเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง หรืออาจจะ
แทนคำอธิบายทั้งมวลด้วย
“ค่ะ พ่อ...”
เหมือนอิงฟ้าจะเข้าใจเหตุผล หญิงสาวส่งยิ้มให้พ่อด้วยแววตาสดใส
ก่อนนายธาดาจะขอตัวกลับเข้าไปข้างในเพื่อทำธุระของตน
ลับหลังนายธาดาไปแล้ว ลูกหยีก็แอบหลบมาหาอิงฟ้าทีร่ ิมทะเลสาบ
ท่าทางเธอร้อนรนกระวนกระวายไม่ใช่น้อย
“คุณฟ้าคะ คุณฟ้า...”
“อ้าวลูกหยีว่าไง แล้วทำไมต้องทำท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ อย่างนั้นล่ะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ลูกหยีต้องแอบมานี่นา ไม่งั้นคุณกลินทร์รวู้ ่าลูกหยีอู้
งานก็โดนดุพอดี”
“แล้วกลัวเขาด้วยเหรอ ทำไมต้องกลัวด้วย...”
“...ลำบากใจค่ะคุณฟ้า”
“แล้วลูกหยีมีอะไรกับฟ้าเหรอ”
173/221

“คุณฟ้าจะปล่อยให้คุณกลินทร์มาทำงานแทนคุณฟ้าตลอดไปเหรอ
คะ...”
“ทำไม...”
“ลูกหยีไม่อยากแสดงความคิดเห็นอะไรมากหรอกค่ะ แต่ว่าหลาย
อย่างมันเปลี่ยนไป พวกเรารู้สึกอึดอัดที่ต้องแป๊ะ ๆ ทุกอย่าง เขาระเบียบ
จัดเกินไปค่ะ”
“ฟ้าคุยกับคุณพ่อแล้ว คุณพ่อเป็นคนอนุญาตเขาทำงานที่นี่ เราก็ต้อง
ให้โอกาสเขาทำไปก่อน บางอย่างลูกหยีก็ต้องอดทนนะ ถ้ามันมากเกินไป
จริง ๆ ฟ้าจะพูดกับคุณพ่ออีกที”
“ลูกหยีน่ะทนได้ค่ะ คุณท่านมีบุญคุณกับแม่และลูกหยีมาก ๆ งาน
แค่นี้ลูกหยีทำได้อยู่แล้ว เพราะถึงยังไงทุกอย่างมันก็เพื่อบ้านธาดารีสอร์ตอ
ยู่แล้วนี่คะ...แต่ว่าพวกเราเห็นคุณฟ้าถูกแย่งหน้าที่ ถูกแย่งตำแหน่งงาน
แบบนีพ้ วกเราทุกคนไม่ค่อยชอบใจเลย คุณกุลยังบ่นเลยนะคะว่าไม่เห็น
หน้าคุณฟ้ารู้สึกเหงา ๆ ยังไงไม่รู้”
อิงฟ้าได้ยินคำพูดของหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันพูดประโยคนี้ ทำ
ให้ความรู้สึกบางอย่างในใจมีการเคลื่อนไหว...บ้านธาดารีสอร์ตแห่งนี้เป็น
ที่รักของพนักงานทุกคนจริง ๆ ทุกคนอยูท่ ี่นี่ด้วยความรู้สึกที่ดี ด้วยความ
รัก
174/221

“เอาเถอะลูกหยี ปล่อยให้เขาทำไป อีกหน่อยเปิดเรียนลูกหยีกต็ ้อง


กลับไปเรียนกับฟ้าแล้ว เราก็จะไม่ต้องเจอหน้าเขาไง”
“คุณฟ้าแน่ใจเหรอคะว่าตัวเองสบายใจ”
“อือ...”
“งั้นลูกหยีขอตัวไปทำงานนะคะ เดี๋ยวแม่หาไม่เจอจะบ่นเอา”
ลูกหยีเดินจากอิงฟ้ามา ปล่อยให้เรือนพักผ่อนริมทะเลสาบมีเพียงอิง
ฟ้าลำพังคนเดียว ที่ตรงนี้แม้แต่กลินทร์กไ็ ม่อาจจะเข้ามาได้ เพราะเป็น
ส่วนต่อจากห้องพักส่วนตัวของอิงฟ้าและนายธาดาเท่านั้น เป็นพื้นที่ทถี่ ูก
กันไว้ส่วนบุคคลเท่านั้น จริง ๆ
หากเป็นโซนของลูกค้ารีสอร์ต ก็จะสามารถได้รับการเป็นส่วนตัว
เช่นกันในแต่ละห้องอยู่แล้ว และส่วนรวมก็จะเป็นโซนห้องอาหาร คอ
ฟฟีชอป หรือจุดชมวิวในอีกด้านหนึ่ง พนักงานในบ้านธาดารีสอร์ตมีทั้งคน
สวิตเซอร์แลนด์เองด้วยและคนไทยอีกส่วนหนึ่ง
...นายหน้าจืดเอ๊ย...นายจะรู้ตัวหรือเปล่านะว่าใคร ๆ เขาก็ไม่ชอบขี้
หน้านายทั้งนั้น นายอยากทำงานที่นี่มากนักใช่ไหม เอาเลย ทำไปเลย
ไม่ว่านายจะเป็นใครมาจากไหนก็ตาม ฉันตั้งนายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง
ของฉันเลยล่ะตอนนี้...
อิงฟ้านึกหมั่นไส้กลินทร์ที่ทำตัววางมาด เป็นนักบริหารที่นี่เพียงไม่กี่
วันที่ฟื้นไข้
175/221

มองไกลออกไปภายนอกทะเลสาบเวิ้งว้างยามหน้าหนาว ต้นไม้
โดยรอบทำหน้าที่ของมันอย่างเข้มแข็ง หิมะยังคงปกคลุมหนาเท่าเดิม
อากาศเย็นพัดผ่านมาต้องตัวอิงฟ้าเรื่อย ๆ แต่เธอก็ไม่สะทกสะท้านใด ๆ
เพียงกระชับเสื้อตัวหนาเข้าหากัน เป็นการเรียกความอบอุ่นให้กับร่างกาย
อิงฟ้ามองดูรูปของอมตะผ่านน้องแก้มแดง เขาต่างหากล่ะที่หนาว
สะท้านจับใจ ชายหนุ่มทีส่ วมโค้ตตัวใหญ่ยืนปากสั่นอยูบ่ นพื้นขาวโพลนไป
ด้วยหิมะสีขาวใส อิงฟ้าเฝ้าถามเขาว่าสามารถอยู่บนนีไ้ ด้นานเท่าไหร่ ไม่
ไหวก็ชวนกลับ แต่เขาสู้ที่จะอยู่บนทิตลิสต่อไปกับอิงฟ้า
“ไม่ล่ะ ผมไม่ยอมแพ้แน่ ๆ ขอให้ได้อยูบ่ นนีอ้ ีกหน่อยเถอะ ดูสิคน
อื่นเขามาเล่นสกีกันนะ แต่ผมมาเที่ยวชมบรรยากาศเฉย ๆ”
“มันเป็นความเคยชินของเขาแล้วนีค่ ะ เล่นสกีไปด้วยจะไม่รู้สึกหนาว
ค่ะ กิจกรรมทำให้เราเพลิดเพลิน...คุณตะจะเล่นไหมคะ”
“ไม่เอาดีกว่าคุณฟ้า ผมยังไม่เคยสัมผัสมัน จะเป็นภาระเปล่า ๆ ไว้
คราวหน้าจะมาลองหัดดู แต่คราวนี้ขอตัวล่ะ”
อิงฟ้าอมยิ้มเมื่อนึกถึงคำพูดของชายหนุ่ม ทุกครั้งที่นึกถึงรอยยิ้มของ
เขา เธอก็อุ่นใจอย่างประหลาดทุกที
นั่นสินะ ความอบอุ่น...เป็นพลังสำคัญทีท่ ำให้ความรักสดใส ถ้าถึง
วันหนึ่งทีม่ ันหายไป อย่ามัวแต่นั่งถามตัวเองว่าเพราะอะไร เพราะหัวใจคง
176/221

ไม่ต้องการคำตอบที่หาเหตุผลไม่ได้ แต่ต้องการความอบอุ่น ที่เกิดจาก


จิตใจของเราเองมากกว่า...
“...ฟ้าจำไว้นะลูก...เวลาเรามีความรัก ความอบอุ่นคือสิ่งทีเ่ ราต้องการ
จากความรักของเรา เราจะรู้สึกดีทุกครั้งที่ใครบางคนอยู่เคียงข้างเรา คอย
จับมือเราในเวลาต่าง ๆ ของชีวิตซึ่งมันเป็นอะไรที่แสนวิเศษมาก และมัน
จะเป็นตัวกระชับของคนสองคนให้ผูกพันกันในที่สุด”
“เหมือนอย่างความรักของพ่อกับแม่ใช่ไหมคะ”
“มันเป็นส่วนหนึ่งจ้ะลูก...ที่แม่กำลังบอกฟ้า มันอาจจะเกิดขึ้นกับคน
ทุกคนก็ได้ ความรักมันมีหลายรูปแบบ ส่วนความอบอุ่นไม่ว่าความรักจะ
อยู่ในรูปแบบไหนความอบอุ่นก็เกิดได้เสมอนะ...มันมาคู่กัน”
“แต่ถ้าถึงวันที่ความอบอุ่นหายไป ความรักของเรา จะอยูบ่ นทางของ
ความสุขได้หรือเปล่าคะแม่”
“ไม่มใี ครตอบได้หรอกฟ้า คนรักของเราก็ตอบไม่ได้หรอกเพราะชีวิต
ของคนเรามันมีปัจจัยหลายอย่างในการอยู่ด้วยกัน เมื่อไม่รัก...พลังของ
การให้ก็เสื่อมถอย ความอบอุ่นจึงหมดกำลังที่จะทำหน้าที่ให้หัวใจมีความ
สุข”
“แต่ในเมื่อความอบอุ่นจากใครบางคนหายไป เราก็สร้างขึ้นมาใหม่
ด้วยหัวใจของเราเองได้นี่คะแม่ เพราะว่าเรายังมีความอบอุ่นในรูปแบบอื่น
ๆ ของชีวิตเราอยู่แล้ว...ก็อย่างที่แม่บอกนี่คะว่า ความรักมีหลายรูปแบบ”
177/221

“ใช่แล้วจ้ะ...งั้นฟ้าก็เข้าใจแล้วใช่ไหมลูก ว่าความรัก ความอบอุ่น


ความหมายมันคืออะไร...เลือกทำในสิ่งที่หัวใจเราเป็นสุข รักที่จะเป็นอะไร
ก็เลือกทีจ่ ะเป็นอย่างนั้น เพราะความอบอุ่นของชีวิตรักไม่ได้จบลงเพียงแค่
เส้นทางนี้ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ การก้าวเดินของชีวิตเราย่อมเจอสิ่ง
ใหม่ ๆ ที่พร้อมจะสร้างความอบอุ่นให้หัวใจเราเสมอ...”
18

ที่โต๊ะอาหารของเช้าวันรุ่งขึ้น...
อิงฟ้าพาตัวเองมาถึงก่อนนายธาดาและกลินทร์ เธออยู่ในชุดที่สวย
กว่าทุกวัน อาจจะดูแปลกตาด้วยที่อิงฟ้ารวบผมสูงและใช้ผ้าพันคอสีชมพู
หวาน อิงฟ้าถูกแซวมาตั้งแต่ก้าวแรกเลยที่พาตัวเองมายังห้องอาหาร
“คุณฟ้าวันนี้สวยสุด ๆ ไปเลยค่ะ...ว่าแต่จะไปไหนหรือเปล่าคะเนี่ย”
“ทำไมล่ะลูกหยี ทำไมฟ้าต้องไปไหนด้วย”
“ก็แหม...วันนี้ชุดคุณฟ้าสวยเด็ดขาดจริง ๆ นี่คะ ถ้าไม่นัดใครที่ไหน
ลูกหยีก็คิดว่าคุณฟ้าต้องออกไปข้างนอกล่ะค่ะ”
“อย่ามาปากหวานชมกันอยู่ได้เลยน่า มันก็ปกติทุกวันนั่นแหละ
เพียงแต่ไม่มีใครสังเกตเองต่างหากล่ะ ฟ้าแค่มิกซ์แอนด์แมตมาเท่านั้น ทำ
ตื่นเต้นไปได้น่าลูกหยี”
อิงฟ้าเอ่ยกับคนทีส่ นิทและเคยเล่นหัวกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ด้วย
รอยยิ้มหวาน ๆ ตามแบบของเธอ
“ว่าแต่...ชุดนี้น่ะ ถ้าคุณฟ้าเบื่อเมื่อไหร่ ลูกหยียินดีรับช่วงต่อนะคะ”
179/221

ลูกหยีทำน้ำเสียงจริงจัง และใช้สายตากรอกไปมาอย่างอ้อนวอน
ตามสไตล์คนขี้เล่นเช่นกัน
“เอาเป็นว่า เมื่อมันทำหน้าที่ของมันเสร็จแล้วในวันนี้ ฟ้าก็จะเลิกใช้
งานมันแล้วล่ะ พรุ่งนี้ยกให้ลูกหยีเลยละกัน...ว่าแต่เอาไปจัดการส่งซักรีด
เองนะ”
อิงฟ้าทำหน้าทะเล้นกลับใส่ลูกหยี
“จริงนะคะ อย่าล้อลูกหยีเล่นนะคะ คุณฟ้าพูดจริงนะ”
ด้วยความดีใจ ลูกหยีกระโดดตัวลอย พร้อมทั้งส่งเสียงดังอย่าง
ลืมตัว และไม่ทันเห็นว่านายธาดาและกลินทร์เดินมาข้างหลัง
“อะไรกัน ลูกหยีเสียงดังไปข้างนอกเลย ใครผ่านมาตรงนี้ได้ยิน
ตกอกตกใจหมดเลย”
นายธาดาเอ่ยราบเรียบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจริงจังนัก
“อุ๊ย !!! คุณท่าน...ลูกหยีขอโทษค่ะ ดีใจไปหน่อยค่ะ...”
หญิงสาวเสียงอ่อย
“ลูกหยีตักข้าวเลยนะคะ คุณท่านจะรับข้าวต้มหรือขนมปังดีค่ะ”
ลูกหยีเอ่ยถามเสียงเบาอย่างเกรง ๆ
“มีอะไรก็จัดมาเถอะหิวแล้ว ว่าแต่อากาศเย็น ๆ แบบนี้ข้าวต้มร้อน
ๆ ก็ดีนะ”
180/221

“จัดการเลยลูกหยี ฟ้าก็ด้วยนะ แต่อย่าเยอะมากยังเช้าอยู่ท้องคงไม่


รับมากเท่าไหร่”
ว่าพรางส่งยิ้มให้ลูกหยีก่อนจะเอ่ยเบา ๆ เป็นเชิงล้อ
“อย่าลืมนะจ๊ะ เย็นนี้ไปรับชุดส่งซักรีดด้วย...ยกให้จ้ะ”
“คุณฟ้าก็...”
พูดจบสองสาวก็หัวเราะคิกคักตามประสา เมื่อเสิร์ฟอาหารเช้าเสร็จ
ลูกหยีก็ออกไปจากห้องอาหารปล่อยให้นายธาดา อิงฟ้า และกลินทร์นั่ง
ทานอาหารอย่างส่วนตัว บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบ ไม่มีใครเอ่ยอะไร
นายธาดาจึงเอ่ยนำก่อนเป็นการทำลายความเงียบนั้น
“เออ...ฟ้าไปเที่ยวมายังไม่เล่าให้พ่อฟังเลยนะว่าเป็นยังไง สนุกไหม
ว่าแต่พาลูกทัวร์เขาไปตกระกำลำบากยังไงบ้าง”
นายธาดาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนักและเป็นเชิงล้อลูกสาว
เล็กน้อย
“สนุกมากค่ะคุณพ่อ ทัวร์เล็ก ๆ ของฟ้าไม่ธรรมดานะคะเล็กแต่ก็
เล็กพริกขี้หนูค่ะ คุณพ่ออย่าประมาทฟ้านะ”
“อุ๊ย ใครจะกล้าไปว่าคุณหนูอิงฟ้าล่ะครับ นี่พ่อแค่ถามดูเท่านั้นเอง
ลูก”
“มันอาจจะเป็นครั้งแรกที่ฟ้าพาคนอื่นเที่ยวนะคะ แต่ผู้ติดตามก็ร้อง
ว้าว อย่างพอใจทุกที่เลยค่ะ”
181/221

“ไม่ใช่เขาพูดเอาใจลูกเฉย ๆ นะ”
“ฟ้าสังเกตที่พฤติกรรมต่างหากล่ะคะพ่อ เราจะไม่ประเมินผลโดย
การเอ่ยถามเพียงอย่างเดียวแน่นอน”
“โอ...ฉลาดนี่ลูกสาวพ่อ...เออว่าแต่กลินทร์ล่ะ เคยได้ทัวร์สวิตบ้าง
หรือยัง ตั้งแต่มานี่ กลินทร์ไปเที่ยวไหนบ้าง”
นายธาดาไม่ลืมที่จะหันไปดึงชายหนุ่มเข้าร่วมวงสนทนาด้วย เพื่อ
ทำลายบรรยากาศความอึดอัด
“ยังครับ”
ช่างเป็นคำตอบที่สั้นเสียจริง ๆ ในความรู้สึกของอิงฟ้า
“งั้นวันไหนว่าง ๆ ให้อิงฟ้าเขาพาไปสิ ขานี้เขาเชี่ยวชาญเส้นทาง
ท่องเที่ยวทีส่ วิตเซอร์แลนด์มาก ๆ เลยนะ...ฟ้าน่ะเขาลูกแม่ เส้นทางการ
เดินทางของเขาละเอียดยิบ รับรองไปไหนไม่หลง และสนุกของเขาด้วยล่ะ”
นายธาดาเอ่ยกราย ๆ เป็นคำเตือนว่าอิงฟ้าจะต้องทำอย่างไรด้วย
และเพื่อให้ชายหนุ่ม หญิงสาวทั้งคู่ไม่ห่างเหินกันจนเกินไป
“พ่อขา ฟ้ามีความคิดว่า บางครั้งเราอาจจะต้องนำอาหารไทยบางเมนู
เข้ามาใส่ไว้ในครัวของรีสอร์ตเราบ้างนะคะ”
“ทำไมล่ะลูก ทำไมฟ้าคิดอย่างนั้น”
182/221

“แค่บางอย่างเท่านั้นค่ะ เพราะว่าเท่าที่ฟ้าเที่ยวมาเนี่ย ทุกที่กม็ ีแต่


อาหารฝรั่ง หรือไม่ก็เป็นอิสลามน่ะค่ะ ฟ้าเลยคิดว่าถ้ามีอาหารไทยไว้คอย
ต้อนรับลูกค้าที่เป็นคนไทยหรือคนที่ชื่นชอบอาหารไทยบางอย่างก็น่าจะดี
นะคะ ยกตัวอย่างง่าย ๆ เลย ฟ้าพาคุณตะตะลอน ๆ เที่ยว เวลาหา
ของกินที่จะให้ถูกลิ้นถูกปากคนไทยนี่ ยากจังเลย...”
“อือ ก็ดนี ะ ลองคิดมาสิลูก แล้วลองมาคุยกันดูอีกที พ่อครัวของเรา
พร้อมหรือเปล่าด้วยนะ...แล้วกลินทร์ล่ะ ว่าไง”
กลินทร์ถูกดึงเข้ามาให้มีส่วนร่วมในวงสนทนาด้วย
ภายในโต๊ะอาหาร เป็นเพียงการพูดคุยกันธรรมดาอย่างไม่จริงจัง
นัก อิงฟ้าไม่สนใจว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร ไม่ว่าเขาจะคิดยังไงก็ตามอิงฟ้า
ก็ไม่พยายามที่จะสนใจเขาอยู่ดี
คณะสัมมนาของอมตะเดินทางถึงเมืองไทยเรียบร้อยและปลอดภัย
เสียงเจี๊ยวจ๊าวของพนักงานดูมีความสุขสำหรับการเดินทางในครั้งนีม้ าก ๆ
ถือว่าบริษัทประสบความสำเร็จเปลาะหนึ่ง ภายใต้การบริหารของผู้บริหาร
หนุ่มไฟแรงอย่างอมตะ
รถของบริษัทรอรับพนักงานจอดรออยูก่ ่อนแล้ว แต่อมตะขอแยกตัว
กลับบ้านลำพังด้วยรถของที่บ้าน แน่นอนที่สุดชายหนุ่มมีความหวังที่จะมี
เวลาเป็นส่วนตัวหลังจากจบการสัมมนานี้อย่างเร็วที่สุด บ้านพักส่วนตัวคือ
ที่ที่จะทำให้เขาได้มีโอกาสคิดถึงบางอย่างที่ค้างอยู่ในใจของเขาเวลานี้ด้วย
หรือความรู้สึกบางอย่างที่ติดหัวใจเขากลับมาด้วยนั่นเอง
183/221

ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ...
ห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ของชายหนุ่มในวันนี้ กลายเป็นความอ้างว้างที่
ไม่เคยเป็นมาก่อน ความเงียบเหงาคืบคลานเข้ามาเกาะกุมหัวใจเจ้าของห้อง
ในทุกอณูพื้นที่ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกยกขึ้นมาวางไว้ข้างบนทันทีที่มา
ถึง หลังจากที่อมตะแวะเข้ามาทักทายพ่อกับแม่ที่พักผ่อนอยูใ่ นโซน
ด้านหลังที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น
เนื่องจากคนสูงวัยสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงมาก ดังนั้นทุกคนจึงมี
ความเห็นว่าควรให้พ่อกับแม่พักอยู่ในโซนที่สงบและร่มรื่นโอบล้อมด้วย
ธรรมชาติ ต้นไม้ อย่างโซนด้านหลังขอตัวคฤหาสน์น่าจะเป็นอะไรทีด่ ีมาก
กว่า เพราะด้านหลังมีต้นไม้ที่มี ดอกส่งกลิ่นหอมแบบธรรมชาติในแบบที่
แม่ชอบ
เมื่อกลับขึ้นมายังห้องของตัวเองที่อยู่ด้านบน อมตะก็เป็นอันต้อง
ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่รู้ตัว ความโดดเดี่ยวคืบคลานเข้ามาทักทาย
หัวใจชายหนุ่ม ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งทีส่ องแล้วที่เขาต้องรับการทักทายจาก
ความเหงาแบบนี้
ครั้งแรก...พิมพ์มาดาประกาศตัดขาดจากเขาอย่างเด็ดขาด เมื่อหล่อน
รู้ว่าอมตะเลือกที่จะเข้ารับตำแหน่งบริหารจัดการงานทุกอย่างแทน
ครอบครัว หลังจากที่เรียนจบปริญญาโทมาจากอเมริกา หญิงสาวขอร้อง
เขาให้เดินทางท่องเที่ยวด้วยกันก่อน ตามที่ได้สัญญากันไว้ขณะที่ยังเรียน
184/221

อยู่ เมื่อความรักของทั้งคู่มีอุปสรรคทีต่ ้องเลือกเช่นนี้ พิมพ์มาดาไม่ชอบใจ


อย่างมากจึงขอเดินออกไปจากชีวิตของเขาในวันนั้น
ชายหนุ่มไม่อาจรั้งหล่อนไว้ได้ แม้จะพยายามใช้เหตุผลมากมาย
เพียงใดก็ตาม ตัวอมตะเองก็ไม่อาจจะทำตามทีพ่ ิมพ์มาดาร้องขอได้ด้วย นี่
คือเรื่องจริงที่เขาต้องยอมรับกับมัน และเป็นเหตุผลที่มันยาวนานมาจนถึง
วันนี้
หากวันนั้นอมตะรั้นกับครอบครัวโดยทำตามความรู้สึกของตัวเอง
เวลานี้อาจจะไม่มีคฤหาสน์หลังใหญ่หลังนี้ บริวารมากมาย และธุรกิจของ
ครอบครัวอีกมากมายเหล่านี้แน่นอน และคงไม่มีวันนี้ที่เขาได้พาคณะ
สัมมนาที่เป็นพนักของบริษัทของเขาเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย
และพ่อกับแม่ที่แก่ชราลงทุกที อาจจะไม่มีที่พักที่สุขสบายเหมือนอย่าง
ทุกวันนี้
ครั้งที่สอง...ความเหงา ความโดดเดี่ยวครั้งนีเ้ พิ่งเกิดขึ้นใหม่ มัน
ทักทายเขาทันทีที่เขากลับมาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนี้ เพราะมันคือโลก
ของความเป็นจริงที่ว่าที่นี่มเี พียงเขาเท่านั้น ซึ่งทุกเวลาทุกนาทีจะไม่มี
หญิงสาวช่างพูด ช่างเจรจาและเต็มไปด้วยข้อมูล มาพูดคุยกับเขา มาส่ง
ยิ้มให้เขาได้รู้สึกสุขและอิ่มอุ่นใจอีกต่อไป ทุก ๆ วันของเขาหลังจากวันนี้
ไปก็คงมีแต่งาน ๆ และงานเท่านั้น
19

สายของอีกวันหนึ่งลูกหยีเดินถือโปสการ์ดหนึ่งใบมายื่นให้อิงฟ้า
ขณะทีห่ ญิงสาวนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ที่เรือนพักผ่อนริมทะเลสาบ แม้
อากาศจะหนาวเพราะหิมะเพิ่งตกเมื่อคืนนีก้ ็ตาม แต่ความหนาวนั้นก็ไม่ได้
ทำให้อิงฟ้าสะทกสะท้านอะไรเลย
“คุณฟ้าคะ มานั่งคนเดียวอีกแล้ว หนาวจะตายค่ะ”
“มีอะไรลูกหยี”
อิงฟ้ากล่าวตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ
“เดี๋ยวลูกหยีไปเอาเสื้อคลุมมาให้นะคะ คุณฟ้าใส่เสื้อตัวบางเท่านี้
เดี๋ยวจะไม่สบายเอา...อ้อ เกือบลืมไปค่ะ คือมีโปสการ์ดมาถึงคุณฟ้าด้วย
นะคะ”
ลูกหยีวางโปสการ์ดใบนั้นไว้บนน้องแก้มแดง เนื่องจากว่าอิงฟ้ายังไม่
ได้เปิดเครื่องออนไลน์กับใคร
“มาจากไหน ใครส่งมา”
186/221

ลูกหยีไม่ตอบเพียงส่งยิ้มให้อิงฟ้าเท่านั้น ก่อนจะหันหลังกลับไปเพื่อ
ไปเอาเสื้อคลุมมาเพิ่มให้หญิงสาว
อิงฟ้า...
ผมเพิ่งรู้ว่า การเดินทางของชีวิตคนเรา
ก็เหมือนการขึ้นบันไดนั่นเอง
ที่ยิ่งไต่สูงขึ้น ๆ ก็ยิ่งเห็นโลกกว้างขึ้น
...แม้แต่การเดินทางของผมวันนี้ด้วย
ที่ยิ่งไต่สูงขึ้นเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเห็นทิวทัศน์กว้างขึ้นครับ
...ขอบคุณไกด์นำทางที่สุดแสนใจดี ที่ไม่เคยบ่น ไม่เคยว่าแม้สักครั้ง
ทั้งที่บางทีผมก็แอบเกเร ให้ร้อนใจ
อมตะ
อิงฟ้าอมยิ้มแววตาใสเป็นประกายทันที เธอถือโปสการ์ดเอาไว้
แนบอก หลับตาผ่อนลมหายใจเบา ๆ
...คุณนึกถึงความรู้สึกของฉันด้วยเหรอคุณอมตะ ไอ้เราก็นึกว่าจะ
ใจดำแบบนิ่ง ๆ ซะอีก แล้วตอนนี้ล่ะคุณจะเป็นยังไงบ้าง กลับถึงเมืองไทย
ก็คงลืมฉันแล้วสินะ...
อิงฟ้าพูดกับเจ้าโปสการ์ดเพียงลำพัง หารูไ้ ม่ว่ามีใครเดินมาทาง
ด้านหลัง
187/221

“คุณฟ้าคุยกับใครคะ ใครจะกลับไปเมืองไทยเหรอคะ”
ลูกหยีนั่นเองที่ทำหน้าเลิ่กลั่กมองหาคู่สนทนาของอิงฟ้า
“เปล่าหรอก ฟ้าพูดคนเดียวน่ะ...”
อิงฟ้าหันมายิ้มให้ลูกหยีอย่างแก้เขินที่เธอจู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาคนเดียวซะ
อย่างนั้น
“ลูกหยีเอาเสื้อมาให้ค่ะ ทีหลังต้องดูแลตัวเองกว่านี้นะคะคุณ
ฟ้า...เนี่ยแม่ยังบ่นกับลูกหยีอยู่เลยว่าคุณฟ้าผอมลงนะคะ เอาเครื่องดื่ม
อะไรร้อน ๆ ด้วยไหมคะลูกหยีจะจัดการชงมาให้”
“ไม่ต้องหรอกลูกหยี เหนื่อยเปล่า ๆ แค่ไปเอาเสื้อให้ฟ้าก็รบกวนลูก
หยีมากแล้ว ถ้าว่างอยากทำอะไรก็ไปเถอะ”
“แหม เรื่องเล็กน้อยคุณฟ้า คิดมากอะไรกับลูกหยีคะ อากาศเย็น
ขนาดนี้ได้เครื่องดื่มร้อน ๆ คล่องคอดีนะคะ ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ จะได้ไม่
เป็นหวัด...”
ว่าพรางเดินพรวด ๆ ไปทันที ตามสไตล์ฉายาลูกหยีแสนโก๊ะของทุก
ๆ คน ในรีสอร์ตบ้านธาดา หากเป็นเช่นนี้ไม่เกินสิบนาทีลูกหยีต้องได้
เครื่องดื่มอุ่น ๆ มาเสิร์ฟแน่นอน
อิงฟ้าหันกลับไปเปิดเครื่องทันที หลังจากที่ลูกหยีกลับเข้าไปในรี
สอร์ต เธอสวมเสื้อคลุมตัวหนาที่ลูกหยีนำมาให้ ก่อนทีจ่ ะเปิดออนไลน์เพื่อ
188/221

พบปะกับเพื่อน ๆ หรือใครบางคนที่รอคอยการทักทายจากอิงฟ้าเช่นกันใน
โลกไซเบอร์
ฉันเพิ่งเข้าใจว่ารักเป็นอย่างนี้
ฉันเพิ่งเข้าใจเมื่อได้มาเจอด้วยตัวเอง
เสี้ยวนาทีก็มีความหมายเปลี่ยนโลกได้ทั้งใบ
ฉันเพิ่งรู้ในวันนี้รักไม่ต้องการเวลา
ลมหายใจเหมือนหยุดไปในห้วงนาทีนี้
เช่นหัวใจลอยหลุดไปทันทีที่สบตา
เธอหยุดยั้งวันเวลาแค่เราได้พบกันในวันนี้
แค่พบเจอกับเธอ ก็รักเธอ...ฉันรักเธอ
มีเดียเพลเยอร์ของน้องแก้มแดงทำหน้าที่ของมันเช่นเคย
ราวกับว่ารู้ใจเจ้าของอย่างอิงฟ้าว่ากำลังคิดอะไรอยู่และรู้สึกเช่นไรใน
ขณะนี้
อิงฟ้าเปิดเมลเพื่ออ่านข่าวสารก่อนเป็นอันดับแรก เหมือนชื่อบางชื่อ
จะคุ้นเคยในสายตา ทันทีนั้นเมาส์ในมือก็คลิกลงตรงชื่อนั้น เพื่อคลาย
ความสงสัย
...คุณฟ้า...
189/221

วันแรกที่กลับมาถึงเมืองไทย และวินาทีแรกทีเ่ ครื่องบินแตะ


รันเวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิ ใจของผมว้าวุ่นที่สุด มันเป็นความจริงที่
ผมจะต้องกลับมาที่นี่ เพื่อหน้าที่ของผมที่ต้องรับผิดชอบมันต่อไป ผม
รู้สึกเศร้าใจมากที่ต่อไปนี้จะไม่ได้ตื่นขึ้นมาพบกับความหนาวเย็นของ
อากาศที่ติดลบ และก่อนนอนไม่มีโอกาสได้เห็นหิมะโปรยปรายอีกแล้ว
ผมไม่เคยลืมแม้แต่วินาทีเดียว ทุกทีท่ ี่เราไปตะลุยมาด้วยกัน ช่วง
เวลานั้นมันมีค่ากับผมมาก โดยเฉพาะวันที่ไปน้ำตกไรน์ (Rhein) -
ซัฟเฟาเซ่น (Schaffhausen) - บาเซิล (Basel) - ซูริก (Zurich)
ภายในวันเดียวแต่เราไปเที่ยวตั้งหลายเมือง ผมมีความสุขมากทีไ่ ด้นั่ง
รถไฟหลาย ๆ รอบเรียกว่าคุ้มไปเลย และก็เป็นวันสุดท้ายทีผ่ มจะเดินทาง
ไปไหน ๆ ได้ฟรี ๆ ครับ เนื่องจากตั๋ว สวิตพาสที่ซื้อมาเป็นแบบห้าวัน
และวันนั้นก็เป็นวันสุดท้ายพอดี ซึ่งเป้าหมายในวันนั้นของเราก็คือไปเที่ยว
น้ำตกไรน์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เราตั้งใจจะให้ถึง
น้ำตกประมาณ 9.00 น อยู่ที่น้ำตกสองชั่วโมงแล้วก็จะเดินทางไปเที่ยวที่
อื่นต่อ ตรวจสอบตารางรถไฟแล้วคุณฟ้าและผมต้องออกจากลูเซิร์นเวลา
ประมาณ 07.10 น. แม้เวลาอาจจะบีบคั้นการเดินทางของเราน่าดูแต่ผมก็มี
ความสุขมาก รถไฟขบวนทีเ่ รานั่งไปที่น้ำตกไรน์เป็นรถไฟขบวนเล็กแต่ผม
รู้สึกว่ามันสวยมาก และนั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้เห็นน้ำตกที่ใหญ่
ที่สุดในยุโรป ผมคิดถึงวันเวลานั้นไม่เคยลืมเลยครับ
190/221

อ่านมาถึงตรงนีอ้ ิงฟ้าก็หวนนึกถึงวันนั้นตาม ภาพมันยังคงชัดเจนไม่


ใช่เพียงอิงฟ้าคนเดียวเท่านั้นที่นึกถึงทุกวันเวลาที่ทั้งเขาและเธอเดินทาง
ท่องเที่ยวด้วยกัน จัดทัวร์เที่ยวครั้งแรกก็สุดประทับใจไกด์สาวอย่างอิงฟ้า
ไม่รู้ลืม ลูกทัวร์ประทับใจ ไกด์อย่างอิงฟ้าก็สุขใจนับว่าประสบความสำเร็จ
ทั้งคู่เดินทางมาถึงน้ำตกไรน์เช้ากว่านักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ
นักท่องเที่ยวไม่หนาตาจึงทำให้อิงฟ้าจับภาพได้อย่างธรรมชาติที่สุด
“คุณตะคะ รบกวนเป็นนายแบบให้ฟ้าหน่อยนะ”
“เอางั้นเลยเหรอครับ เอ...อย่างนี้นายแบบคิดค่าตัวดีหรือเปล่าน้า”
เขาเอ่ยอย่างล้อเลียน
“ได้เลยค่ะ งั้นทริปนี้ฟ้าจะได้คิดราคาแพง ๆ จะได้หายกัน”
พูดจบทั้งคูก่ ็หัวเราะประสานเสียงกันอย่างมีความสุข อิงฟ้าเปลี่ยน
จากการถ่ายภาพนิ่งเป็นวิดีโอบ้าง เธอแพนกล้องไปเรื่อยเพื่อเก็บ
บรรยากาศโดยรอบ จากนั้นก็ลงเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะกลางน้ำ เพื่อให้
อมตะได้เห็นน้ำตกไรน์ได้โดยรอบ
เรือมาส่งทั้งคู่ที่เกาะกลางน้ำตกแล้วก็เล่นกลับไปรับผู้โดยสารอื่นอีก
ทีเ่ กาะกลางน้ำตกจะมีบันไดเล็ก ๆ ให้ขึ้นไปบนยอด นักท่องเที่ยวต่าง
ทยอยกันขึ้นไปชมวิวโดยรอบน้ำตก ใครเบื่อแล้วก็ลงมาแรก ๆ อมตะไม่
อยากขึ้นไปเพราะเห็นว่า นักท่องเที่ยวเริ่มเยอะ เกรงว่าจะเบียดกันเกินไป
แต่อิงฟ้ารบเร้าว่ามาทั้งทีควรจะได้เห็นบรรยากาศจริงให้มันเต็มตาไปเลยดี
191/221

กว่า แต่พอเขาขึ้นไปก็รู้สึกดีใจทีไ่ ด้เห็นน้ำตกอีกมุมหนึ่ง เห็นสะพานสวย


ๆ และก็เห็นละอองน้ำเต็มไปหมดด้วย เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งเรือก็มารับ
นักท่องเที่ยวบนเกาะ และส่งนักท่องเที่ยวใหม่หมุนเวียนกันไป เรือมาส่ง
อมตะและอิงฟ้าอีกฝั่งหนึ่งของน้ำตก ที่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูป
กันมากที่สุด เนื่องจากว่าเห็นน้ำตกในมุมที่กว้างขึ้น และมีร้านอาหารที่
สามารถนั่งทานไปนั่งชมวิวของน้ำตกไปได้ด้วย บริเวณนั้นมีร้านขาย
ของที่ระลึกมากมายให้ทั้งคู่ได้แวะชมอีกแล้ว
อมตะเลือกที่จะซื้อโปสการ์ดอีก แน่นอนที่สุดต้องเป็นภาพน้ำตกที่
ใหญ่ที่สุดในยุโรปนั่นก็คือน้ำตกไรน์นี่เอง อิงฟ้าสังเกตเห็นว่าเขาส่งกลับ
เมืองไทย และอิงฟ้าก็ส่งอีกหนึ่งใบกลับเมืองไทยด้วยเช่นกัน
“เราต้องนั่งรถไฟไปที่เมืองซัฟเฟาเซ่นแล้วล่ะค่ะคุณตะ”
“ไปสิครับ”
“เหนื่อยไหมคะ เรานั่งพักก่อนก็ได้นะคะ กว่ารถไฟจะมาก็อีกตั้งยี่
สิบนาที”
“ไม่เหนื่อยเลย สนุกมากครับ”
“ฟ้าพาเดินข้ามสะพานมาตั้งไกล ยังบอกไม่เหนื่อยเลยเหรอคะ”
“ครับผม ให้เดินย้อนกลับไปอีกทีก็ยังได้อีกนะ”
“ไม่ไหวล่ะค่ะ งั้นฟ้าเชื่อใจว่าคุณตะว่าไหวจริง ๆ ”
192/221

ซัฟเฟาเซ่นเป็นเมืองเก่าที่เงียบสงบ และสุดโรแมนติกมากใน
ความรู้สึกของอมตะ หากใครมาเที่ยวกันเป็นคู่ ๆ และหาอะไรทานกันเบา
ๆ ก็จะสุดยอดไปเลยสำหรับบรรยากาศแบบนี้ ร้านขายไวน์เรียงรายกัน
เป็นแถวมากมาย
ถึงเมืองซัฟเฟาเซ่น อิงฟ้าก็พาอมตะเดินดูป้อมต่าง ๆ ดูหอนาฬิกา
แล้วก็เดินมาถึงป้อมมูน๊อท (Munot) ป้อมนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการ
รุกรานจากประเทศเยอรมนีเมื่อหลายร้อยปีก่อน ครั้งเมื่อเมืองซัฟเฟาเซ่น
ยังไม่ได้เป็นของสวิตเซอร์-แลนด์ ทั้งคู่เดินขึ้นไปบนป้อม บันไดค่อนข้าง
ชัน แต่กม็ ีจุดให้หยุดพักประมาณ สองถึงสามรอบเอาไว้พักเหนื่อยด้วย
เดินขึ้นไปเรื่อย ๆ พอหันกลับมามองด้านหลัง เห็นบ้านเมืองอย่างชัดเจน
และเห็นแม่น้ำไรน์คดเคี้ยวไปมาด้วย ด้านบนป้อมมีลานขนาดใหญ่ มี
ปืนใหญ่โบราณวางอยู่
“โห สวยจังเลยครับฟ้า”
ระหว่างนั่งรถกลับซูริก เมื่อรถไฟผ่านน้ำตกไรน์อีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นมุม
ทีส่ วยกว่ามุมที่ผมมา อมตะดูตื่นตาไปหมดกับสิ่งที่เขาได้พบเห็น อิงฟ้ายก
กล้องขึ้นมากดชัตเตอร์เพื่อเก็บภาพมุมสี่สิบห้าองศาของชายหนุ่มที่ดูมี
องค์ประกอบของภาพสมบูรณ์ดีและสวยมากในความรู้สึกของหญิงสาว
“คุณตะคะ ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ ถึงซูริกแล้วเรานั่งรถไฟต่อไปที่
บาเซิล (Basel )กันดีไหมคะ”
“อือได้สิครับ”
193/221

“เหนื่อยหรือเปล่าเอ่ย ฟ้าต้องถามคุณตะก่อนนะคะ ไม่อยากให้


โปรแกรมมันบีบเกินไปเดี๋ยวจะเที่ยวไม่สนุกอ่ะค่ะ”
“ผมไม่มปี ัญหาครับฟ้า ไปไหนไปกัน ถ้ายังมีเวลาผมตามใจไกด์
เต็มที่ครับ”
เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้น พอทั้งคู่มาถึงซูริกแล้วก็เปลี่ยนรถไฟไปบาเซิล
ทันที ซึ่งใช้เวลาเพียงห้าสิบนาที
อิงฟ้าเลือกพาอมตะนั่งรถรางชมเมือง ชมวิหารต่าง ๆ เมืองนี้ถือได้
ว่าเป็นเมืองศิลปะมาก ๆ อาคารบ้านเรือนถูกตกแต่งอย่างสวยงาม มีป้าย
น่ารักอยู่หน้าอาคาร รถรางก็ดูแปลก ๆ ดี แต่น่าเสียดายยอดวิหารที่นปี่ ิด
ซ่อมหนึ่งยอด เลยทำให้ถ่ายรูปออกมาไม่สวยนัก ดู ๆ แล้วเมืองนีน้ ่าจะ
เป็นเมืองทีท่ ันสมัยเมืองหนึ่ง สถานีรถไฟหรูมากมองเผิน ๆ คล้าย
สถานีรถไฟหัวลำโพง
ทั้งคู่ใช้เวลาสองชั่วโมงที่บาเซิล แล้วนั่งรถไฟเวลา 19.07 น.เพื่อไปซู
ริกแต่รถไฟเที่ยวนี้คนค่อนข้างแน่น เต็มเกือบทุกที่นั่ง ถึงซูริกเวลา 20.00
น.
เมื่อถึงซูริกแล้ว ยังพอมีเวลาอิงฟ้าเลยพาอมตะไปถ่ายรูปชมนาฬิกาที่
โบสถ์ St.Peter และเดินต่อไปยังแม่น้ำ ข้ามแม่น้ำไปเพื่อชมโบสถ์
Grossmuenster ด้วย ดวงอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้า อมตะและอิงฟ้าอยูท่ ี่
โบสถ์พอดี ชายหนุ่มพูดขึ้นมาด้วยความรู้สึกเต็มอิ่มในใจ
194/221

“บรรยากาศในตอนนี้ผมคิดว่า มันช่างโรเมนติกจังเลย”
อิงฟ้าหันกลับมาอ่านเมลของเขาในย่อหน้าสุดท้ายต่อ
...ถ้ามีเวลาผมจะกลับไปอีก หวังว่าคุณฟ้าคงจะต้อนรับผมเหมือน
เดิมนะครับ ยังไม่ได้ไปถึงยอดยุงเฟราเลย ผมสัญญาว่าเมื่องานซาลงกว่า
นี้ ผมจะหาเวลาไปอีกครั้ง
การเดินทางครั้งนี้ จะอยู่ในใจของผมตลอดไปนะครับ...
มันช่างเป็นอะไรทีอ่ ิ่มใจสำหรับอิงฟ้ามาก เธอเอนหลังลงกับม้านั่งที่บุ
ด้วยเบาะนุ่ม ๆ ยิ้มอย่างมีความสุขเพียงลำพัง เครื่องดื่มร้อน ๆ ถูกลูกหยี
ยกมาเสิร์ฟพอดี
“ยิ้มคนเดียวแบบนี้ แสดงว่าคุณฟ้าสบายใจแล้วสิคะ”
“คนว่างงานจะให้สบายใจได้ยังไงล่ะลูกหยี ความจริงฟ้าจะต้องทำ
อะไรตั้งหลายอย่าง แต่นี่อะไร ๆ เขาก็แย่งทำไปหมดแล้ว”
“ไม่เอาน่าคุณฟ้า อย่าคิดอย่างนี้สิคะ...ตอนนี้คุณฟ้าพักผ่อนก่อนดี
กว่าเพิ่งกลับมาจากทัวร์ก็คงจะเหนื่อยเดินทาง เดี๋ยวค่อยคิดใหม่นะคะ
เรื่องงานเอาไว้ก่อนก็ได้...แต่ตอนนี้ลูกหยีขอตัวก่อนค่ะ เดี๋ยวใครเขาจะ
หาว่าอู้งาน”
พูดจบลูกหยีก็เดินจากไปอีกครั้ง
...เฮ้อ...วันนี้เราคงจะว่างงานอย่างนี้ทั้งวันอย่างนั้นน่ะสิเนี่ย...
195/221

ใจคิดไปเรื่อยเปื่อย มือขวาของอิงฟ้าก็คลิกไปสู่โลกออนไลน์อีกหนึ่ง
ช่องทาง นั่นคือเฟชบุ๊ก ก็เจอข้อความจากใบตองอีกหนึ่งข้อความ
ยาวเหยียด
...ยายฟ้า...
ดีใจมากมายเลยค่ะคุณเพื่อน เมื่อวานตองได้รับโปสการ์ดจากคุณ
เพื่อนแล้วค่ะ โอ้โห...หนาวจับขั้วหัวใจขึ้นมาทันทีเลย!!!
ตองนั่งหลับตานึกถึงเรื่องราวในภาพแล้วอดตื่นเต้นไม่ได้ทุกทีเลย ปี
หน้าตองจะได้ไปเรียนการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์แล้วนะ คุณแม่อนุญาต
เรียบร้อยแล้วล่ะ...สำคัญขอให้ตองสอบเข้าเรียนที่นั่นให้ได้ทุกอย่างก็ไม่มี
ปัญหา
ทีแ่ น่ ๆ ตอนนี้ตองต้องอยู่เป็นเพื่อนแม่ก่อน พรุ่งนีเ้ ช้าแม่จะไป
ทำบุญที่ “นครนายก” อาจจะต้องค้างอ้างแรมด้วยล่ะ เพราะมันเป็นความ
ต้องการของคุณแม่ล้วน ๆ ทีร่ ะบุสถานที่มาเสร็จสรรพนับสิบแห่งหวัง
ตระเวนให้ทั่วภายในเวลาสามวันสองคืน ทำเอาคุณลูกอย่างตองเหงื่อตก
เลยล่ะ จะเป็นไปได้อย่างไรกันล่ะหนอ จึงต้องกรองสถานที่หลัก ๆ ขึ้นมา
จนกลายเป็นทริปลูกกตัญญูในครั้งนี้อ่ะจ้ะฟ้า...
ไว้จบทริปนี้ตองจะอัพโหลดทุก ๆ เรื่องราวลงเฟชบุ๊กของตอง ฟ้าเข้า
มารับบุญนะคะคุณเพื่อน เป็นกำลังใจให้ลูกกตัญญูอย่างตองด้วยน้า...
อิงฟ้าตอบกลับข้อความทันที
196/221

ใบตอง...
เป็นอะไรทีด่ ีมาก ๆ เป็นเรื่องทีน่ ่าภูมิใจที่สุดที่ได้เดินทางกับคุณแม่
ฟ้าเป็นกำลังใจให้เดินทางมีความสุขนะตอง ฟ้าเสียอีกเวลานี้ไม่มีโอกาสนั้น
เลย ฟ้า จะรอรับฟังเรื่องราวดี ๆ ในการเดินทางของตอง และรอรับบุญ
ด้วยนะ ตองโชคดีมาก ๆ ที่มีโอกาสได้อยูใ่ กล้แม่ อีกหน่อยมาอยู่
สวิตเซอร์แลนด์ จะไม่มีโอกาสพาแม่เที่ยวน้า
หลายวันมานีฟ้ ้าว่างงานน่ะ หน้าที่ถูกแย่งไปหมดแล้ว ก็เลยเบื่อ ๆ
เซ็ง ๆ บางทีก็ออนไลน์บ้างเป็นพัก ๆ ไม่ได้ทักทายกันบ่อย ๆ อย่าว่ากัน
นะ วันนี้กลับมาแก้ตัวแล้ว พร้อมอัพเดทความเคลื่อนไหวตอนนี้จ้ะ
จะว่าไปแล้วมันเหงาสุดขั้วเลยล่ะ...คนเคยทำงานตลอด ดูนั่นคิดนี่
แต่ตอนนี้ให้ฟ้ามานั่ง ๆ นอน ๆ แบบนี้ทุกวันเฉาตายแน่ ๆ เลย หลาย
อย่างในรีสอร์ต มันเริ่มเปลี่ยนแปลง เพราะผู้จัดการคนใหม่เขาน่ะ ฟ้าเลย
ยังไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองแทรกเข้าไปตอนไหนดี...
ลมเย็น ๆ พัดผ่านมาเป็นระลอก อิงฟ้ากระชับเสื้อเข้าหากัน ถอน
หายใจอย่างหน่าย ๆ แม้จะพยายามหาช่องทางทำให้ใจมันรู้สึกผ่อนคลาย
ยังไงแต่ก็ไม่เป็นผล
ขณะนีไ้ ม่มใี ครออนไลน์ทางเอ็มเอสเอ็นเลย ใบตองก็คงวุ่นวายอยู่
กับทริปพาแม่เที่ยวทำบุญ อีกหลายวันกว่าจะมีเวลามาทักทายกันอีก
เหมือนเดิม ส่วนใครบางคนก็หายเงียบไปเลยหลังจากกลับเมืองไทยไป
197/221

แล้ว มีเพียงเมลที่ส่งมา ซึ่งไม่รู้ว่าความเป็นจริงแล้วตัวเขาทำอะไรอยู่ อาจ


จะงานยุ่งมากมายจนไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย
วันนี้ทะเลสาบเบื้องหน้าอิงฟ้าดูเงียบเหงา ความเวิ้งว้างของแผ่นน้ำยิ่ง
ตอกย้ำว่า เธออยู่อย่างโดดเดี่ยวจริง ๆ ในวินาทีนี้
20

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป...
...ทริปนี้เกิดขึ้นจากความต้องการของบุพการีเป็นที่ตั้งเจ้าค้า...ก็
เลยกลายเป็นทริปลูกกตัญญูอย่างใบตองต้องนำทาง...
ใบตองขึ้นสถานะตัวเองที่เฟชบุ๊ก
อิงฟ้าเข้ามาที่เฟชบุ๊กของใบตองตามข้อความที่ได้รับ
...เป้าหมายหลักสำหรับวันนีค้ ือการทัวร์ทำบุญใน จังหวัดนครนายก
เริ่มต้นจาก พุทธสถานจีเต็กลิ้ม – วัดพราหมณี (หลวงพ่อปากแดง) –
อุทยานพระพิฆเนศ เพียงแค่สามแห่งก็หมดเวลาไปหนึ่งวันเต็ม ๆ แล้ว
จ้า...
ตองกับแม่ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ กันราว ๆ 9.30 น. ใช้เวลา
ประมาณ สองชั่วโมงก็มาถึงจุดหมายปลายทางแห่งแรก “วิหารเทพเจ้าแห่ง
โชคลาภ” หรือ “พุทธสถาน จี เต็ก ลิ้ม” จังหวัดนครนายก ที่ผู้คนนิยม
มากราบไหว้ขอพรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ และ
ตรุษจีน...คราวนี้ตองจะเอาบุญมาฝากฟ้าด้วยน้า รอรับด้วยนะคะคุณเพื่อน
199/221

ตามภาพแรกนะคะ...ในภาพคือ พระอมิตาพุทธเจ้า หมายถึง


พระพุทธเจ้าทีม่ แี สงสว่างและอายุยืนยาวอันหาประมาณมิได้ ซึ่งทางพุทธส
ถานฯ ได้จัดสร้างและนำมาประดิษฐานไว้โดยรอบ จำนวน 80 องค์ เพื่อ
ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงมีพระชนมายุครบ
80 พรรษา...โดยมากแล้ววัตถุประสงค์หลักของผู้ที่เดินทางมาพุทธสถาน จี
เต็ก ลิ้ม นี้ก็เพื่อมากราบบูชา เทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่ซิ้งเอี๊ย) ปาง
มหาเศรษฐีชัมภล ซึ่งเป็นปางใหญ่ที่สุดในสามปางของเทพเจ้าแห่งโชคลาภ
เพื่อให้ท่านประทานโชคลาภและความร่ำรวย รวมถึงป้องกันภัยจากภูตผี
ปีศาจทั้งปวง นอกจากนี้องค์ไฉ่ซิ้งเอี๊ยที่พุทธสถานฯ แห่งนี้ ยังเป็นองค์ที่
ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วยนะจะฟ้า
ทีด่ ้านหน้าองค์ไฉ่ซิ้งเอี๊ย จะมีป้ายบอกวิธีกราบไหว้เทพเจ้าแห่ง
โชคลาภไฉ่ซิ้งเอี้ย โดยให้จุดธูปแปดดอก ท่องคาถาหัวใจ “โอม ซัมภาลา
จาเลนไนเยน สวาหะ” จำนวนแปดจบ อันที่จริงแล้วมีบทสวดคาถาบูชา
แตกต่างกันสำหรับแต่ละนักษัตรด้วย แต่โดยทั่วไปแล้วก็มักจะท่องคาถา
หัวใจบทเดียวกันนีท้ ั้งหมด ที่ฐานขององค์ ไฉ่ซิ้งเอี๊ย มีสัญลักษณ์มงคล
“ตะขอเกี่ยวเงินทอง โชคลาภ” อยู่ สามารถขอพรได้ด้วยการนำหน้าผาก
และฝ่ามือทั้งสองข้างแนบสนิทกับสัญลักษณ์มงคลแล้วท่องคาถาตลอดจน
ขอพรที่ปรารถนา โดยจะมีคุณลุงเจ้าหน้าที่คอยยืนพากษ์คาถามงคลให้ฟัง
สำหรับบางท่านทีไ่ ม่ทราบบทสวด นอกจากองค์ไฉ่ซิ้งเอี๊ยองค์ใหญ่แล้ว ยัง
มีองค์ ไฉ่ซิ้งเอี้ยที่แกะสลักจากหยกเขียวน้ำหนัก 1,000 กิโลกรัมขนาด
ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งที่มือข้างซ้ายขององค์ไฉ่ซิ้งเอี๊ยนั้นจะบีบคอพังพอนให้
200/221

อ้าปากเพื่อคายแก้วแหวนเงินทองออกมา ฉะนั้นจึงมีผู้คนถือเคล็ดนำ
กระเป๋าใส่เงินมารองรับทีป่ ากพังพอนแล้วลูบจากหางถึงปาก เพื่อให้
เงินทองโชคลาภหลั่งไหลเข้ากระเป๋าของตน
ถัดมาไม่ไกลจากทีป่ ระดิษฐานองค์ไฉ่ซิ้งเอี๊ย เป็นที่ตั้งของ “อุทยาน
พระอว-โลกิเตศวรโพธิสัตว์” (กวนอิมพู่สัก) ผู้คนส่วนมากรู้จักและ
เรียกขานพระอวโล- กิเตศวรโพธิสัตว์กันในนามของ เจ้าแม่กวนอิม
นั่นเอง...พระองค์ทรงเป็นพระโพธิสัตว์ผู้มากล้นด้วยความเมตตาโปรด
เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง บริเวณด้านในสุดเป็นที่ประดิษฐานของ
“จตุมหาโลกบาล” ผู้มีหน้าที่อารักขาโลกทั้งสี่ทิศ ด้านหน้าของจตุมหาโลก
บาลจะมีลานแปดเหลี่ยมพร้อมสัญลักษณ์หยิน หยางอยูต่ รงจุดศูนย์กลาง
สำหรับให้ผู้ที่มาบูชาได้ขึ้นไปยืน ณ ตรงกลางลานเพื่อกราบบูชาให้ครบทั้ง
สี่ทิศ ฉะนั้นจึงเกิดเป็นภาพแปลกตาที่ต่างคนต่างหันบูชากันคนละทิศละ
ทางสะเปะสะปะ บ้างก็หันหน้าเข้าหากันอย่างที่เห็น ตองกับแม่กท็ ำเหมือน
กันอ่ะจ้ะ...
“เทพ เกียง ไท้ กง” ผู้ทำหน้าที่แต่งตั้งเทพเจ้า 365 องค์ กราบทูล
แก่ เง็ก-เซียนฮ่องเต้ ประดิษฐานอยู่ระหว่างลานแปดเหลี่ยมกับจตุมหา
โลกบาล
“เทพกวงลู่” เทพเจ้าต่ออายุ บูชาด้วยการถวายผลไม้เพื่อให้ท่าน
ประทานพรให้มีอายุยืนยาว
201/221

จุดหมายทีส่ องของวันนี้ “วัดพราหมณี” (หลวงพ่อปากแดง) อยู่บน


ถนนสายนครนายก – น้ำตกสาริกา วิ่งผ่านตัวเมืองมาประมาณสี่กิโลเมตร
คอหวยทั้งหลายคงรู้จักวัดแห่งนี้เป็นอย่างดีว่ามีชื่อเสียงมากน้อย
ขนาดไหน ซึ่งในวันที่พวกเราไปเยือนวัดแห่งนี้เป็นวันก่อนหวยออก
เพียงสองวัน จึงคราครั่งไปด้วยฝูงชนจำนวนมากทีห่ วังจะมานำเลขเด็ด
ติดตัวกลับไป และเพราะเหล่ามหาชนจำนวนมหาศาลแออัดยัดเยียดนี้
ทำให้อากาศแสนจะร้อนอบอ้าวจนแทบจะขาดสติ ไม่มีอารมณ์แม้แต่จะ
หยิบกล้องออกจากกระเป๋า เลยมีรูปถ่ายกลับมาเพียงแค่นี้อ่ะจ้ะฟ้า...
ห่างจากวัดพราหมณีขึ้นไปราวหนึ่งกิโลเมตร เลี้ยวซ้ายทีแ่ ยกประชา
เกษม เข้าไปประมาณสองร้อยเมตร เป็นที่ตั้งของ “อุทยานพระพิฆเนศ”
ซึ่งมีเทวรูป พระพิฆเนศขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยประดิษฐานอยู่
พระพิฆเนศเป็นเทพเจ้าองค์สำคัญในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และใน
ปัจจุบันนีพ้ ระพิฆเนศ ได้กลายเป็นมหาเทพที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคน
ไทยเป็นอย่างมาก และได้รับการเคารพบูชาเป็นองค์ประธานในการ
ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ มากมาย เนื่องจากเป็นมหาเทพที่มสี ติปัญญาสูง
และเป็นผู้ขจัดปัดเป่าอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง จนได้รับการขนานนามให้
เป็น “เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ” ที่ทรงโปรดประทานพรให้สมปรารถนา
สำเร็จทุกสิ่งตามคำอธิษฐานที่ไม่เกินวาสนาบารมีของแต่ละบุคคล
พระวรกายขององค์พระพิฆเนศมีลักษณะโดดเด่นที่ร่างกายเป็น
มนุษย์แต่กลับมีเศียรเป็นคชสาร อันมีตำนานที่มาของเศียรคชสารแตกต่าง
202/221

หลากหลายเรื่องราว ส่วนอาวุธและวัตถุที่ทรงถือไว้ในมือนั้นก็มีความ
แตกต่างกันออกไปหลายสิบชนิดเช่นกัน
สำหรับเทวรูปพระพิฆเนศที่ประดิษฐานอยู่ ณ อุทยานแห่งนี้ ในพระ
หัตถ์ด้านขวาบนทรงถือ “ตรีศูล” พลังแห่งฤทธานุภาพ ผู้เป็นใหญ่ในสาม
โลก สามารถขจัดปัญหาและอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง ส่วนพระหัตถ์ด้าน
ขวาล่างทรงถือ “งาหัก” ซึ่งเป็นงาของพระองค์เอง เป็นสัญลักษณ์แห่ง
ความเสียสละ เนื่องจากพระองค์ได้หักงาของตนเป็นหอกพุ่งเข้าใส่ปีศาจ
คชสารในระหว่างการต่อสู้ แต่บางตำนานกล่าวว่างาของพระองค์ถูกขวาน
ปรศุรามหักเสีย
พระหัตถ์ด้านซ้ายบนทรงถือ “บ่วง” ใช้สำหรับกำราบมนุษย์ที่
ประพฤติผิดและชี้นำพาไปสู่เส้นทางแห่งธรรมะและหลุดพ้น ส่วนพระหัตถ์
ด้านซ้ายล่างทรงถือ “ขนมโมทกะ” หรือขนมต้ม เนื่องจากพระองค์ชอบ
เสวยขนมโมทกะ อันมีความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ในทุกสิ่ง ซึ่งบาง
ครั้งอาจจะเห็นองค์พระพิฆเนศในปางอื่น ทรงถือ “ขนมหวานลัดดู” แทน
ขนมโมทกะ ซึ่งหมายถึงความสุขและความสำเร็จ โดยพระองค์จะประทาน
ขนมลัดดูให้กับผู้ประพฤติตนดี
ผู้คนพากันเรียงแถวมากระซิบที่หนูหูทิพย์กันล้นหลาม การมา
กระซิบที่ หนูหูทิพย์นี้ ก็เนื่องจากในแต่ละวันมีผู้คนหลั่งไหลมาขอพรต่อ
องค์พระพิฆเนศเป็นจำนวนมาก จึงต้องมากระซิบกับหนูบริวารของ
พระองค์ เพื่อให้คอยเตือนถึงคำอธิษฐานของตนให้พระองค์ได้รับทราบ
203/221

และประทานพรให้ โดยการกระซิบที่หูหนูนั้น หากกระซิบที่หขู วาให้โอบมือ


ไปปิดทีห่ ูข้างซ้ายของหนูไว้ด้วย ในทางกลับกันหากกระซิบที่หูซ้ายก็ให้โอบ
มือไปปิดที่หูข้างขวาของหนูไว้เช่นกัน
ไม่แน่ใจว่าหนูเลขานุการนี้ จะเป็นหนูเดียวกันกับที่เป็นพาหนะของ
องค์พระพิฆเนศหรือไม่ หากเป็นหนูพาหนะของพระองค์นั้นมีชื่อเรียกขาน
ว่า “มุสิกะ” ซึ่งมีตำนานเล่าขานแตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเรื่องราวหนึ่ง
เกี่ยวกับหนูพาหนะของพระองค์ คือ ขณะที่พระองค์ได้สู้รบกับปีศาจ
คชสาร นามว่า กาจามุกะ พระองค์ทรงหักงาของตนใช้แทนหอกพุ่งเข้า
ทำร้ายกาจามุกะจนบาดเจ็บสาหัส ขณะทีก่ าจามุกะพยายามหนีด้วยการ
แปลงกายเป็นหนูยักษ์ พระองค์ได้กระโดดขึ้นนั่งและปรามจนสิ้นฤทธิ์
แล้วใช้เป็นพาหนะของพระองค์ตลอดมา โดยประทานนามให้ว่า มุสิกะ
นั่นเอง
ภายในอุทยานฯ แห่งนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงพระพิฆเนศ 108
ปาง และหอมหาเทพ ซึ่งประดิษฐาน พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ อัน
เป็นมหาเทพสูงสุดทั้งสามพระองค์ ให้ได้สักการะบูชากัน แต่เนื่องจากเวลา
ค่อนข้างเย็นย่ำพอสมควรแล้ว เดี๋ยวจะเดินทางเข้าที่พัก “คีรมี ายา เขา
ใหญ่” ค่ำจนเกินไป จึงไม่ได้เดินเข้าไปเที่ยวชมสักการะกัน
เช้าวันใหม่ ของวันที่สองของทริปจร้า...
สถานทีแ่ รกสำหรับเช้าวันนี้ “อุทยาน มูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์
(โต พรหมรังสี)” วัดบ้านโนนกุ่ม อ.สีคิ้ว หรือทีร่ ู้จักกันดีในชื่อ “วัด
204/221

สรพงษ์” ใบตองเคยมาเยี่ยมเยือนและทำรีวิวไว้แล้ว...การตกแต่ง
ภายนอกมหาวิหารสมเด็จพุฒาจารย์โตฯ แม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์ร้อย
เปอร์เซ็นต์ แต่ก็คืบหน้าขึ้นมาก
ส่วนรูปหล่อจำลองหลวงปู่โต ที่เมื่อคราวก่อนยังเห็นลักษณะ
ภายนอกชัดเจนว่าทำขึ้นจากทองเหลืองรมดำ มาครั้งนี้ได้ถูกขัดพื้นผิว
ชั้นนอกออกเพื่อบูรณะปฏิสังขรเสียใหม่ จึงได้ยินเสียงบ่นเสียดายกัน
ขรมจากผู้มีจิตศรัทธาที่ตั้งใจเดินทางมาไกลเพื่อชื่นชมรูปหล่อหลวงปู่โต
นี้ พื้นที่โล่งด้านหน้าวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราชในวันนี้ได้ถูกปรับ
เปลี่ยนให้กลายเป็นทุ่งดอกทานตะวันขนาดย่อม
ก่อนเดินทางกลับแวะพักคลายร้อนดื่มชากาแฟเย็น ๆ ที่ร้าน
กาแฟหลวงปู่ กันสักนิด ภายในร้านมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งพักผ่อนรับลมเย็น

ขากลับแวะทานอาหารมื้อเที่ยงกันที่ ‘สวนเมืองพร รีสอร์ต’ ซึ่งอยู่
ไม่ไกลจากอุทยานฯ หลวงปู่โตนัก
จุดชมวิวอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ที่นับเป็นจุดขายของรีสอร์ตแห่งนี้
เพราะสามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำลำตะคองได้ในมุมมองแบบพาโนรา
ม่า ซึ่งจะดีมากถ้าหากได้มาในช่วงอากาศหนาวเย็นสักหน่อย เพราะ
ท่ามกลางความร้อนระอุอย่างนี้ไม่สามารถแม้แต่จะลืมตาสู้แดดได้ไหว
ไม่ได้เก็บภาพมามากนัก เอาแค่พอเป็นพิธกี ่อนกลับ เพราะไม่อาจสู้กับ
205/221

ความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ได้...คิดถึงฟ้ามากมาย ช่างภาพคนเก่งแม้
ในมุมแบบนี้ฟ้าคงสู้ตายแน่ ๆ แต่ตองขอยอมแพ้เลยนะ
เมื่ออิ่มท้องก็พร้อมลุย พาคุณแม่มาลุยเครื่องเล่นที่ “ทองสมบูรณ์
คลับ” และเพราะว่าครั้งนี้มาพร้อมกับวัยรุ่น (ใหญ่) และเพื่อนคุณแม่ ถึง
ได้รู้ว่าผู้มีอายุเกิน หกสิบปี ไม่ต้องเสียค่าบัตรรถโดยสารเข้าไปยังบริเวณ
กิจกรรม และยังได้นั่งกระเช้าลอยฟ้าฟรีอีกด้วย ครั้นเอาเข้าจริงวัยรุ่น
(ใหญ่) กลับไม่ยอมเล่นเครื่องเล่นอะไรเลย แต่อันที่จริงก็ไม่ค่อยอยากให้
ท่านลงไปลุยนักเพราะเกรงว่าจะบาดเจ็บได้ สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าต้องลง
ไปลุยซะเองให้คุ้มกับการเดินทางมาสักหน่อย ตากล้องเลยพลอยไม่ได้ทำ
หน้าที่เพราะมัวแต่เล่นจนลืมวัย (ฮา) ไม่มีภาพประกอบอีกแล้วเรา...
ก่อนกลับรีสอร์ตแวะทานอาหารเย็นกันที่ “ครัวหญ้าคา” ถนนธนะ
รัตน์ ซึ่งในเวลานั้นทั้งร้านมีเพียงเราครอบครัวเดียว จากที่เคยได้ยินว่าจะ
มีคนแน่นขนัดจนต้องรอคิวกันนาน คงจะเพราะยังไม่ถึงเวลาทาน
อาหารเย็นของผู้คนส่วนใหญ่ บวกกับไม่ใช่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวก็เป็นได้
เช้าวันที่สาม...
วันนีจ้ ะต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันแล้ว...ฉะนั้นจึงไม่พลาดที่
จะต้องแวะชมสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ภายใต้คอนเซปต์ New walking
street shopping center ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากบนเขาใหญ่
เนื่องจากรูปแบบการตกแต่งอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์
อิตาเลียน “ปาลิโอ เขาใหญ่” (Palio Khaoyai) นั่นเอง
206/221

ปาลิโอ ตั้งอยู่บนถนนธนะรัชต์ กม. 17 ติดกับโรงแรมจุลดิศ


มองหาได้ไม่ยากเพราะอยู่ริมถนนเห็นได้เด่นชัด ภายในประกอบด้วย
กลุ่มอาคารชั้นเดียวและสองชั้น มีลักษณะเป็นวิลเลจมอลล์ ด้วยแนว
คิดถนนคนเดินสไตล์อิตาเลียน ร้านค้าต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการจึง
ต้องถูกคัดกรองเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกัน ลานน้ำพุและหอนาฬิกา
ทีก่ ลายเป็นสัญลักษณ์ของวิลเลจมอลล์แห่งนี้ไปแล้ว สามารถสัมผัสบรร
กาศ Little Italy บนเขาใหญ่ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 ถึง 22:00 น
โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชม แทบจะทุกจุดภายในวิลเลจแห่งนี้จะถูก
ประดับประดาตกแต่งอย่างสวยงามไม่ให้ถูกเว้นว่างไว้ สีสันของต้นไม้
ดอกไม้ทั้งจริงและปลอมเห็นอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ป้ายร้านค้าต่าง ๆ ล้วนถูก
ออกแบบมาอย่างสวยงามสะดุดตา
ภายในสถานที่แห่งนี้มีมุมสวย ๆ มากมายที่เหมาะแก่การถ่ายภาพ
พอร์ต-เทรต (Portrait) มากเลยอ่ะฟ้า...ยิ่งมาเที่ยวที่นี่ ยิ่งคิดถึงฟ้า
มากเลย เมื่อไหร่ฟ้ามาเที่ยวเมืองไทย ตองจะพามาที่นี่อีกครั้งนะ...
หลังจากหลงไปกับสีสันลิตเติ้ลอิตาลีกันพักใหญ่ ก็แวะทานสเต็กที่
ฟาร์มโชคชัยเป็นมื้อกลางวันของวันนี้ จากนั้นจึงแวะซื้อน้ำองุ่นจากไร่
“พี.บี.วัลเล่ย์ เขาใหญ่ ไวน์เนอรี่” (PB Valley Khaoyai Winery)
ก่อนจะกลับเข้าสู่คืนวันที่แสนวุ่นวายของชีวิตเมืองหลวงกันอีกครั้ง...See
you again Khaoyai.
207/221

ทริปเป็นเพื่อนพาแม่เที่ยวทำบุญของตองก็ต้องจบลงเพียงเท่านี้นะคะ
คุณเพื่อน หวังว่าเพื่อนคงจะสนุกไปกับตอง และรับบุญไปด้วยอย่าง
เต็มอิ่มนะคะ...
หลังจากวันนี้ตองก็ได้เป็นอิสระของตัวเองแล้วล่ะ...ว่าแต่ฟ้าล่ะ กลับ
จากพาคุณลูกทัวร์รูปหล่อเที่ยว งานที่รีสอร์ตเป็นยังไงบ้าง มีอะไรให้
ตื่นเต้นอีกไหม แล้วพ่อหนุ่มหน้าจืดคนนั้นล่ะมีบทบาทอะไรล้ำหน้าฟ้าอีก
หรือเปล่า
อิงฟ้าตอบกลับข้อความใบตองทางเฟชบุ๊กกลับไป
...ดีใจและและอิ่มใจไปกับทริปดี ๆ ของตอง ฟ้ามองเห็นความสุขใน
การเดินทางพาแม่เที่ยวครั้งนี้ของตองเลยนะ อิ่มบุญมากมายเลยอ่ะ
คืนนีฟ้ ้าอาจจะนอนหลับฝันดีไปเลย คุณแม่ของตองก็ต้องอิ่มบุญ
อิ่มใจ และมีความสุขมากที่การเดินทางพักผ่อน และทำบุญครั้งนีไ้ ป
พร้อมกับลูกสาว...
บทส่งท้าย
...หนึ่งเดือนหลังจากรับบุญ และรับรูข้ ่าวพาแม่เที่ยวของใบตอง
แล้ว...
ตึ่ง...ตึ๊ง...
amata says: หวัดดีครับฟ้า
ผ่านไปกว่าสิบนาที อิงฟ้าไม่ยอมทักกลับ อมตะเองก็คงรู้สึกใจหาย
208/221

ตึ่ง...ตึ๊ง...
amata says: มันเป็นการลำบากมากกว่าผมจะตัดสินใจเปิด
ออนไลน์ทางเอ็มเอสเอ็น ผมกลัวการโต้ตอบที่มันสัมผัสไม่ได้ แต่วันนี้
เมื่อตัดสินใจที่จะเปิดออนไลน์ ผมก็อาจจะผิดหวังซะแล้วก็ได้...
ห้านาทีผ่านไป...
อิงฟ้า says: สวัสดีค่ะ นึกว่าลืมกันไปแล้วสิคะ คุณตะคงงานยุ่ง
มากเลยมีเวลาคุยหรือเปล่าคะ
amata says: ผมดีใจที่ฟ้ายอมคุยด้วย นึกว่าจะเงียบไม่ทักกัน
แล้วสิครับ
อิงฟ้า says: ในสายตาคุณตะ ฟ้าเป็นคนใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ
คะ
เพียงประโยคนี้จากอิงฟ้า ชายหนุ่มถึงรู้สึกโล่งใจได้ในทันที...นั่นสินะ
อิงฟ้าเป็นคนที่มีเหตุผล อดทน และใจดีแค่ไหน เขาลืมข้อนีไ้ ปได้อย่างไร
กัน
รอยยิ้มจาง ๆ ฉาบบนใบหน้าชายหนุ่มทันทีที่ได้อ่านประโยคตอบ
จาก อิงฟ้า แต่ไม่ทันทีท่ ั้งคู่จะได้สนทาผ่านเอ็มเอสเอ็นกันต่อ ใครคนหนึ่ง
ก็มาเคาะห้องเรียกอิงฟ้า เมื่ออิงฟ้าเปิดประตูก็พบว่าเป็นลูกหยีนั่นเอง อิง
ฟ้ารีบออกไปตามคำเรียก เนื่องจากว่านายธาดาต้องการพบอิงฟ้าด่วน
209/221

ห้องทำงานของนายธาดามีกลินทร์นั่งอยู่ก่อนแล้ว สีหน้าชายหนุ่ม
เคร่งเครียด นายธาดาแจงให้อิงฟ้าทราบก่อนว่ากลินทร์จะขอลาออกจาก
งานของ รีสอร์ต เพื่อความสบายใจของอิงฟ้า
“ทำไมคิดว่าเมื่อออกไปแล้วฟ้าจะสบายใจล่ะคะ”
อิงฟ้าเอ่ยขึ้นมาลอย ๆ
“หรือว่าฟ้ามีปัญหาอะไรกับกลินทร์เค้าล่ะลูก”
นายธาดาหันมาทางบุตรสาวเลยเอ่ยถามตรงๆ
“ฟ้าไม่มอี ะไรนีค่ ะพ่อ ในเมื่อพ่อเห็นสมควรแล้วว่าเขาควรทำงานที่นี่
ฟ้าก็ไม่ขัดข้องอะไรตั้งแต่แรก และฟ้าก็ไม่ได้มายุ่มย่ามวุ่นวายด้วย”
“แต่ผมเห็นคุณฟ้าดูท่าทางไม่มีความสุข ฉะนั้นผมไปดีกว่า”
กลินทร์หันมาทางอิงฟ้าแล้วเอ่ย
“คุณเอาอะไรมาวัดว่าฉันมีความสุขหรือไม่มี ถ้าคุณมองออกถึงขนาด
นั้น คุณควรมองเพื่อนร่วมงานของคุณดีกกว่า ถ้าคุณสามารถรู้ และเก็บ
ไปปรับตัวเองได้...คุณก็จะไม่พูดคำนีอ้ อกมา สำหรับฟ้ามันไม่มีอะไรมาก
หรอก บังเอิญว่าฟ้าเคยทำงานตลอดเวลา แล้ววันหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วไม่มี
อะไรทำ ภาพมันก็เลยออกมาอย่างทีค่ ุณเห็น...แต่ฟ้าก็พยายามปรับตัวเอง
อยู่”
“งั้นผมก็คงต้องขอโทษคุณฟ้าด้วย”
210/221

กลินทร์หันมาทางอิงฟ้า แล้วเอ่ยคำขอโทษเธอ
“แล้วกลินทร์คิดว่า เมื่อตัวเองไปจากที่นี่แล้ว ตัวเองจะมีความสุข
ไหม แล้วอาล่ะจะรู้สึกอย่างไร คิดตรงนี้หรือเปล่า หากกลินทร์ไปซะวันนี้
ก็เหมือนอาแร้งน้ำใจ หลานคนเดียวเลี้ยงไม่ได้”
“ว่าไงนะคะพ่อ...”
เมื่อนายธาดาพูดประโยคนั้นจบ อิงฟ้าถึงกับอึ้ง...นายธาดาจึงได้
อธิบายความจริงทั้งหมดกับอิงฟ้าว่า กลินทร์คือหลานชายคนเดียวของดาริ
กาแม่ของอิงฟ้า แต่ทั้งคูไ่ ม่เคยเจอกันเลย ที่กลินทร์ต้องเดินทางมาทีร่ ี
สอร์ตบ้านธาดาก็เนื่องจากว่าเพื่อทำงาน เขาเพิ่งสูญเสียพ่อไปไม่นานมานี้
และเขาเพิ่งได้ทราบจากพ่อว่ามีญาติอยู่ที่สวิตฯ พ่อของเขาจึงมอบหมายให้
กลินทร์มาหานายธาดาเพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องงาน และเพื่อเขาจะได้
เรียนจบในปีสุดท้าย
อิงฟ้าพอทีจ่ ะเดาสถานการณ์หลังจากนั้นออก ว่ากลินทร์มาที่นี่เพื่อ
อะไร
“ฟ้าได้ยินไม่ผิดหรอกลูก เวลานี้พ่อคิดว่าถ้ามีปัญหาอะไร ก็ควรคุย
กันซะให้เข้าใจ”
“ฟ้าเข้าใจ แล้วพ่อล่ะคะว่าไง”
211/221

“พ่อคิดว่ากลินทร์ควรทำงานที่นี่ต่อไป อย่างน้อย ๆ คุณแม่ของฟ้าก็


จะได้สบายใจว่าเราไม่ทอดทิ้งกัน หรือกลินทร์ว่าไง คิดไว้แล้วเหรอว่าไป
จากที่นี่แล้วจะไปทำอะไร”
“...เอ่อ...ยังครับ แต่คงไม่เป็นไร ผมไม่อยากให้ทุกคนไม่สบายใจ
เพราะผม”
“อย่าคิดอย่างนั้นสิ กลินทร์ต้องนึกถึงอนาคตตัวเองก่อนนะ ตอนนี้
กลินทร์ต้องเรียนให้จบ และต้องทำงาน เราเป็นลูกผู้ชายต่อไปต้องเป็น
ที่พึ่งให้แม่”
“คุณอยู่ที่นี่ต่อไปนั่นแหละ”
อิงฟ้าเอ่ยสั้น ๆ
“อือ...กลินทร์คิดใหม่ดกี ว่าไหม คิดให้ดี ๆ ว่าจะเอายังไง อาจะไม่
ขัดหากการตัดสินใจนั้นกลินทร์ได้ไตร่ตรองมาแล้วเป็นอย่างดี...แต่อาขอ
ให้กลับไปคิดใหม่ดี ๆ แล้วกลับมาบอกอาก็ยังไม่สาย”
“ถ้าคิดว่าตัวเองยังมีดี และอยากจะพิสูจท์ฝีมือ ก็ควรจะอยูท่ ำงาน
ต่อไป เร็ว ๆ นี้ฟ้าอาจจะมีลูกทัวร์อีกกลุ่มหนึ่ง ฟ้าคงไม่ได้อยู่ทรี่ สี อร์ต
หลายวัน ฉะนั้นคุณควรช่วยงานคุณพ่อที่นี่ก่อน นอกเสียจากว่าคุณมีที่ไป
ที่ดีกว่านี้ หรือคุณสู้กับงานที่นี่ไม่ได้แล้วก็บอกมา”
“อือ นั่นสิ ฟ้าเองก็ไม่ขัดข้องอะไรนี่นา กลินทร์สบายใจได้นะ”
212/221

ยังไม่มีคำตอบอะไรในวันนี้ แต่แววตาที่จะเอาชนะในตัวชายหนุ่มยัง
ฉายแววให้นายธาดาเห็น
นมอุ่น ๆ ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะที่มอี ิงฟ้านั่งอยู่ ขณะทีเ่ ธอกำลังให้ความ
สนใจกับน้องแก้มแดง คืนวันนีท้ ี่นั่งมุมโปรดของอิงฟ้าว่าง เธอจึงลงมานั่ง
หลบมุมดื่มนมอุ่น ๆ ก่อนที่จะขึ้นไปนอนพักผ่อนตามปกติ
ตึ่ง...ตึ๊ง...
baitong says: ดีใจกับฟ้านะที่ปัญหาคลี่คลายลง ไม่มีอะไรวุ่น
ๆ ที่รีสอร์ต อีกแล้ว
อิงฟ้า says: ต้องปล่อยให้มันเป็นไป ต่างคนต่างก้าวถอยหลังคน
ละก้าว baitong says: ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า จู่ ๆ นายหน้าจืดที่ฟ้าว่า
เขามาตลอด สุดท้ายก็คือพี่ชายฟ้าอ่ะ
อิงฟ้า says: เขาเป็นแค่ญาติคนหนึ่งเท่านั้น ฟ้ายังไม่ได้ทราบ
รายละเอียดมากนัก แต่คุณพ่อทำท่าหนักใจตั้งแต่วันแรกที่รู้จุดประสงค์
ของเขาแล้วล่ะ หลานของคุณแม่กจ็ ริง แต่ฟ้าว่ามันก็ห่าง ๆ น่ะ แม่ยังไม่
เคยเล่าให้ฟ้าฟังเลย ฉะนั้นเขาคงไม่สำคัญ
baitong says: ฟ้ายังแอนตี้เขาอยู่ใช่ไหม
อิงฟ้า says: มันต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ เรื่องนี้ใช่ว่าพูดออกมา
จะเข้าใจได้เลย ตอนนี้ใจฟ้าก็ไม่ได้ยอมรับเต็มร้อย แต่กต็ ้องลองให้
213/221

โอกาสเขาก่อน...อึดอัดใจก็ใช่ แต่อีกหน่อยฟ้าก็จะจัดทริปอีก คงไม่ได้เจอ


หน้ากันบ่อย ๆ คงไม่เป็นไรมั้ง
baitong says: จะไปอีกแล้วเหรอคุณเพื่อน ดีจังจะได้ไม่เบื่อ
อิงฟ้า says: ฟ้าก็ว่างั้นแหละ
อิงฟ้าอดถอนหายใจไม่ได้จริง ๆ เมื่อต้องนึกถึงคำว่าเบื่อ เธอ
เอนหลังลงพิงโซฟานุ่มหลับตาเหมือนกับจะใช้ความคิดกับเรื่องบางอย่าง
“โทษนะครับ ไม่ทราบจะขอนั่งด้วยคนได้หรือเปล่า”
เสียงหนึ่งดังขึ้นข้าง ๆ และดูคุ้นหูนัก อิงฟ้าลืมตาขึ้นช้า ๆ
“คุณอมตะ !”
อิงฟ้าอุทานเสียงดัง เมื่อเห็นเขายืนอยู่เบื้องหน้า
“ครับผมเอง”
อมตะฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาว
“อยากได้ชาใบหม่อนร้อน ๆ สักถ้วยน่ะครับ”
“ทำไมคุณมาที่นี่ไม่เห็นบอกฟ้าเลย”
“ผมไม่กล้าบอกล่วงหน้า เพราะไม่แน่ใจว่าวันไหนจะได้เดินทาง
แน่นอน กลับไปงานก็ยุ่ง ๆ แต่บังเอิญว่ามันเสร็จเรียบร้อยลงตัวเร็ว ผมก็
เลยบินมาทันที”
“มีใครรออยู่ทางนี้งั้นเหรอคะ”
214/221

“อือ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ”
“...”
อิงฟ้าดูสีหน้าเศร้าลงทันที
“ผมคิดถึงโต๊ะตัวนี้ คิดถึงชาใบหม่อนของที่นี่”
“ฟ้าหมายถึงคนน่ะค่ะ”
“นั่นสินะ ผมจำได้ว่ายังไม่ได้ไปพิชิตยอดยุงเฟราเลย...แล้วคุณว่าไง
จะจัดทริปนี้ให้ผมได้เมื่อไหร่”
อมตะตัดบทคำถามของหญิงสาว
“คุณตะแน่ใจเหรอคะว่าจะไม่หนีทริปของฟ้าอีก”
คราวนี้อมตะเป็นฝ่ายนิ่งบ้าง
“อือ...ผมขอโทษที่เคยทำให้คุณกังวล ครั้งนี้จะไม่มแี น่นอน ถ้าคุณ
พร้อม ผมก็พร้อมเดินทางนะ”
“จะไม่ให้ฟ้าตั้งตัวเลยเหรอคะเนี่ย”
“ผมให้เวลาคิดคืนนี้ทั้งคืนเลย...”
อมตะแจงให้อิงฟ้าทราบว่าเขาเดินทางมาสวิตเซอร์แลนด์เพียงคน
เดียว และมาเพื่อทริปพิเศษนี้โดยเฉพาะ และเขาก็ไม่มีใครรออยูท่ ี่นี่อย่าง
ทีอ่ ิงฟ้าเข้าใจ ส่วนหญิงสาวที่อิงฟ้าเห็นนั้นคือพิมพ์มาดาอดีตคนรักของเขา
215/221

ทีบ่ ังเอิญมาเจอกันที่นี่ พิมพ์มาดาเพิ่งแต่งงานกับนักธุรกิจชาวเยอรมัน


และทั้งคู่ก็กำลังเดินทางท่องเที่ยวฮันนีมูนกัน
เรื่องระหว่างเขากับพิมพ์มาดามันจบลงไปตั้งนานแล้ว หากเขาและ
เธอจะมีการพูดคุยกันบ้างต่อจากนี้ไป ก็คงเป็นได้เพียงฐานะเพื่อนคนหนึ่ง
เท่านั้น
อมตะและอิงฟ้าออกเดินทางโดยรถไฟมุ่งหน้าสู่เมืองอินเทอร์ลาเคน
เพื่อที่อมตะจะได้พิชิตยอดยุงเฟราให้ได้ในครั้งนี้
“ดินแดนยุงเฟราทอดอยูใ่ จกลางแนวเทือกเขาแอลป์ Bernese
Oberland โดยมีเมือง อินเทอร์ลาเคน (Interlaken) เป็นหัวใจของ
ดินแดนทีท่ ุกยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะ แนวเขายาวกว่า 18 กิโลเมตร หรือ
11 ไมล์ ความประทับใจแรกจากทัศนียภาพตระการตาที่รูปภาพหรือ แผ่น
โปสการด์ใด ๆ ก็ไม่สามารถถ่ายทอดความงดงามได้เพียงพอหากไม่ดูด้วย
สายตาตัวเอง”
“ดินแดนยุงเฟรา เปี่ยมไปด้วยความงดงามของทะเลสาบในเทือกเขา
แม่น้ำ ลำธาร น้ำตก ธารน้ำแข็ง และยอดเขา ภูมิประเทศทิวเขาจากทะเล
เมดิเตอร์เรเนียนถึงบริเวณขั้วโลกเหนือ ดินแดนยุงเฟรา ได้รับยกย่องให้
เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก สถานทีแ่ รกในเทือกเขาแอลป์ที่มธี ารน้ำแข็งยาว
ที่สุดในเทือกเขาแอลป์กว่า 22 กิโลเมตร หรือ 14 ไมล์ มีสถานีรถไฟที่สูง
ที่สุดในยุโรปบนยุงเฟรา ยอร์ค หลังคายุโรปที่ระดับความสูง 3,345
เมตร”
216/221

ระหว่างทางอิงฟ้าก็เล่าถึงดินแดนจยุงเฟราให้อมตะฟังอย่างละเอียด
ซึ่งชายหนุ่มก็ฟังอย่างตั้งใจ
“หัวใจของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อยู่ทเี่ มืองอินเทอร์ลาเคน เป็น
ศูนย์กลางของดินแดนยุงเฟราทีท่ ี่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นักท่องเที่ยว
ชาวอเมริกาเคยให้สัมภาษณ์ว่า เมืองอินเทอร์ลาเคน และบรรยากาศรอบ
เมืองตอบโจทย์ในใจของเราที่มตี ่อประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองขนาดเล็ก
ตั้งอยูร่ ะหว่างสองทะเลสาบและล้อมรอบด้วยภูเขา ตอกย้ำถึงความจริงที่
ความเจริญไม่สามารถครอบงำความงดงามทางธรรมชาติได้”
“คุณตะลองนึกภาพดูสคิ ะ ถ้านั่งจิบกาแฟร้านกาแฟข้างถนน ชม
ความงดงามของธารน้ำแข็งบนยอดเขายุงเฟรามันจะเหนือคำบรรยายแค่
ไหน และหากคุณต้องการมากกว่านั้น ก็สามารถหาได้ง่ายดาย ทุกอย่าง
พร้อมบริการ การเดินทางที่แสนสะดวก ปลอดภัย วางใจและตรงเวลา
ด้วยรถไฟ รถกระเช้าลอยฟ้าและรถบัสประจำทางสีเหลืองโดดเด่น สู่ยอด
เขา ที่ราบสูงและถ้ำน้ำแข็งบนยุงเฟรายอร์ค หมู่บ้านปลอดรถยนต์เวงเง่น
และมูร์เรน ผ่านทิวสนเทือกเขาแอลป์ นั่งเรือล่องสองทะเลสาบน้ำสีมรกต
ของทะเลสาบ Thun (ทูน) และ Brienz (เบรียนส์) เป็นเพียงตัวอย่าง
ของหลากหลายกิจกรรมประเพณีที่จะเกิดขึ้นตลอดปีที่นี่ค่ะ”
“กิจกรรมกีฬาก็ไม่เคยหยุดนิ่ง ดินแดนที่คุณสามารถจัดกิจกรรม
กลางแจ้งตั้งแต่อาบแดดจนถึงดิ่งพสุธา กีฬากลางแจ้งเช่น ขี่จักรยาน เดิน
เขา ล่องเรือ ว่ายน้ำ สควอช เทนนิส ยิงธนู แบดมินตัน ตกปลา ขี่ม้า
217/221

เดินป่า ปิงปอง โบว์ลิ่ง กอลฟ์ ให้รางวัลตัวเองด้วยการเข้าโปรแกรมเสริม


สุขภาพ หากต้องการกีฬาที่ตื่นเต้น ลองล่องแพ พายเรือแคนู บันจี้จัมป์
ดิ่งพสุธา หรือพาราไกลดิ้งเหินเวหาด้วยร่มชูชีพ ยังไม่รวมถึงการปีนเขา
หรือปีนน้ำแข็งด้วยค่ะ”
“ส่วนฤดูหนาว จะมีการวางแผนเส้นทางการเดินทางบนภูเขามากกว่า
50 แบบ เส้นทางกว่า 200 กิโลเมตร สำหรับการเล่นสกีและ สโนว์บอร์ด
และกว่า 100 กิโลเมตร สำหรับการเดินเขาฤดูหนาวและเลื่อนหิมะเส้นทาง
ยาวที่สุดในยุโรปกว่า 15 กิโลเมตร จาก ฟัลฮอร์น (Faulhorn) ลงมาถึง
กรินเดอล์วาล์ด (Grindelwald) สุดยอดประทับใจโดยเฉพาะเล่นเวลา
กลางคืน เคิรล์ลิ่ง (curling) สเก็ตน้ำแข็ง ) หรือบาวาเรียน เคิรล์ลิ่ง
(ice-stick shooting) สามารถเล่นได้ในร่มและกลางแจ้ง การเดินเขา
บนหิมะที่แสนสงบยังเป็นที่นิยมอดีตจวบจนปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ทุกสถานี
พร้อมให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำเกี่ยวกับกีฬาเพื่อให้คุณหรรษา”
“หากที่กล่าวมาทั้งหมดใช้พลังมากเกินไป คุณตะลองวาดภาพนั่ง
กระเช้าผ่านทุ่งหญ้าและแนวป่าปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ท้องฟ้าสีน้ำ
เงินสดใส
ทีบ่ าร์ให้บริการเบียร์เย็น ๆ ไวน์ แชมเปญ หรือชแนปป์อึกเล็ก ๆ
ใกล้ ๆ กันเป็นร้าน อาหารบนภูเขา ที่นั่งนอกชานสำหรับทานอาหารว่าง
หรือรับประทานอาหารก็ได้นะคะ ฤดูหนาวบนเทือกเขาแอลป์ไม่ใช่มี
เพียงแค่ความหนาวเย็นอย่างเดียว”
218/221

หลังจากอิงฟ้าจารนัยทุกอย่างให้ฟัง อมตะก็ยิ้มออกมาอย่างเต็มอิ่ม
กับข้อมูลเลยทีเดียว เขารู้สึกทึ่งในตัวอิงฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ชายหนุ่ม
วางมือตัวเองบนมือหญิงสาว
“ผมดีใจ และรู้สึกมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ ๆ คุณ...ฟ้า”
“ถ้าหากมันเป็นความรู้สึกที่ออกมาจากหัวใจจริง ๆ ฟ้าต่างหากล่ะคะ
ที่จะรู้สึกดีมากกว่า”
วิวระหว่างทางยิ่งผ่านยิ่งสวย อมตะยกกล้องถ่ายรูปของตัวเองขึ้น
ถ่ายเกือบจะทุกช็อตทุกมุม อิงฟ้าเองก็ไม่ต่างกัน
ขึ้นมาถึงยอดยุงเฟรา อมตะถึงกับถอดแว่นกันแดดออกมองด้วย
สายตาตัวเอง เขาต้องการมองเห็นให้เต็มตาชัด ๆ ถึงความสวยงามของ
น้ำแข็งทีป่ กคลุมไปทั่วบริเวณ อิงฟ้ากดชัตเตอร์ฉับไวเพื่อเก็บภาพ
บรรยากาศโดยรอบและตัวชายหนุ่มด้วย
เพียงเท่านี้อมตะก็สุดประทับใจมากแล้ว โดยเฉพาะทางเดินในถ้ำ
น้ำแข็งที่มีน้ำแข็งแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เขายิ่งตื่นตาตื่นใจ
อมตะเอี้ยวมาข้างหลังอิงฟ้า เพื่อถ่ายรูปคูก่ ันในทางเดินถ้ำน้ำแข็ง
เพียงภาพแรกก็ถูกใจเขาแล้ว ภาพทั้งคู่หยอกล้อถ่ายรูปเล่นกันอยูใ่ น
สายตาของสองสามีภรรยาชาวสวิตฯ คูห่ นึ่งตลอดเวลา ด้วยความใจดีของ
สองสามีภรรยาคู่นั้นที่อาสาถ่ายรูปคู่ให้ ระหว่างอมตะและอิงฟ้าจึงมี
ภาพถ่ายคู่กันสวย ๆ ในหลาย ๆ ช็อต
219/221

...ความรัก ความอบอุ่นระหว่างมนุษย์สามารถถ่ายทอดถึงกันได้ ไม่


เว้นแม้เชื้อชาติ ภาษา และระยะทาง ความรักสามารถเชื่อมต่อและส่งถึง
กันได้ทุกที่ทุกเวลา
ความรู้สึกของชายหนุ่มหญิงสาว วันทีห่ ัวใจจูนกันลงตัวแล้วอย่าง
วันนี้ หัวใจของทั้งคู่จึงเต็มไปด้วยความอิ่มและอุ่นเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกัน
ระหว่างเขาและเธอไม่ต้องมีคำสัญญาใด ๆ หากแต่หัวใจเรียกร้อง
แม้ไกลเพียงใดก็เดินทางมาพบกันจนได้
- จบบริบูรณ์ -
@Created by PDF to ePub

You might also like