You are on page 1of 781

เซียนหมอหญิงยอดนั กฆ่า

เธอ...ภูตหมอผูเ้ มตตาต่อคนไข้ และเธอ...ก็คือยอดนั กฆ่าผู้ไร้ปรานี ต่อศัตรู !

เธอ... ‘เฟิ่ งจิว


่ ’ หญิงสาวจากยุคศตวรรษที่ 21 เชีย
่ วชาญเรือ
่ งพิษและยา
ชำนาญการลอบฆ่า

ข้ามเวลามาเกิดใหม่ในร่าง ‘เฟิ่ งชิงเกอ’ สาวงามที่จะถูกขืนใจจนสิน


้ ใจทัง้ ยัง
ถูกทำร้ายจนมีใบหน้าเสียโฉม!

เธอจะรักษาใบหน้าและคนเจ็บไข้ด้วยยาและสมุนไพรวิเศษในโลกนี้ ในฐานะ
‘ภูตหมอ’

และเธอก็จะสวมชุดแดงท่องทัว่ หล้า ตวัดกระบี่สะเทือนฟ้าในฐานะ ‘นั กฆ่า’

ชำระแค้นตามคำสัง่ เสียของเฟิ่ งชิงเกอด้วยน้ำมือของเธอเอง

“จงใช้ชว
ี ต
ิ ที่เหลืออยูใ่ ห้เป็นสุขเถิด ก่อนที่เจ้าจะได้อยูอ
่ ย่างตายทัง้ เป็น
ตลอดชีวต
ิ นี้ !”
ตอนที่ 1 แผนร้ายกลางป่า

แคว้นแสงสุรย
ิ น

เมืองอวิ ๋นเยวีย

ภูเขาเขียวตัง้ เรียงรายโอบล้อมไปด้วยเมฆหมอก ต้นไม้เขียวชอุม


่ ในป่าเขา
ต่างพลิว
้ ไหวท่ามกลางสายลมอันแผ่วเบา ป่าไม้ในยามเช้าตรู ช
่ า่ งดูงดงาม
และเงียบสงบ…

ทว่า ตอนนี้ ในป่าลึกที่หา่ งไกลไร้ผูค


้ น กลับกลายเป็นฉากหลังของความป่า
เถื่อนและการนองเลือด

เด็กสาวนางหนึ่ งในชุดผ้าแพรชัน
้ ดี เวลานี้ ถูกชายฉกรรจ์รา่ งกายกำยำ
สองคนตรึงแขนไว้ด้านหลังแล้วกดให้คุกเข่าลง นางก้มศีรษะลงในสภาพ
ลมหายใจรวยริน เส้นผมยุง่ เหยิงปรกตรงข้างแก้ม เปียกชุม
่ ด้วยเลือดที่
ไหลอาบบนใบหน้าอย่างรวดเร็ว หยดเลือดแต่ละหยดค่อยๆ ร่วงหล่นและ
แทรกซึมลงสู่ผน
ื ดิน

เมื่อเด็กสาวที่หายใจรวยรินได้ยน
ิ เสียงฝีเท้าเข้าใกล้ จึงกัดฟันเงยหน้าขึ้น
มอง ใบหน้าที่มีคราบเลือดปรากฏให้เห็น นั ่นคือใบหน้าที่ถูกทำลายจนเสีย
โฉม ผิวหน้าถูกมีดกรีดเป็นแผลเปิด เหวอะหวะโชกเลือด ช่างน่ากลัวยิง่ นั ก

“เจ้าเป็นใคร? ทำไมต้องทำร้ายข้าด้วย?” เด็กสาวเปล่งเสียงแผ่วเบาออกมา


อย่างไร้เรีย
่ วแรง นางฝืนประคองสติไม่ให้เป็นลมไปเพราะเสียเลือดมาก
พลางจับจ้องใบหน้าที่ถูกบดบังด้วยผ้าผืนบาง เรือนร่างนั ้นเป็นของสตรีผู้
งดงาม

สตรีที่ปิดบังใบหน้าผูน
้ ั ้นสวมกระโปรงสีฟ้าอ่อนราวผืนน้ำกับปุยเมฆ ที่เอวมี
พูส
่ ีเดียวกันห้อยอยู่ กำลังสะบัดไหวเบาๆ ตามย่างก้าวนวยนาดของเด็กสาว
ดูแล้วช่างน่ามอง

นางหยุดฝีเท้าลงตรงหน้าเด็กสาวที่ถูกกดให้คุกเข่าอยูบ
่ นพื้น ก้มลงมองสาว
น้ อยที่ตอนนี้ ใบหน้าเสียโฉม ก่อนจะกล่าวด้วยดวงตาคู่งามที่มีรอยยิม
้ เยาะ
“ข้าคือเฟิ่ งชิงเกอ คุณหนูใหญ่แห่งจวนฮูก
่ ั ๋วกง (แม่ทัพพิทักษ์ ดินแดน) เป็น
แก้วตาดวงใจของแม่ทัพใหญ่เฟิ่ งเซียวผูท
้ รงอำนาจ นายน้ อยแห่งตระกูล
เฟิ่ ง ผูส
้ ืบทอดในอนาคตของตระกูลเฟิ่ ง ขณะเดียวกันก็เป็นคู่หมัน
้ ของท่าน
อ๋องสามผูม
้ ากพรสวรรค์แห่งแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ”

น้ำเสียงที่คุ้นเคยและคำพูดของหญิงตรงหน้า ทำให้นางถึงกับเบิกตามอง
อย่างตกตะลึง “เจ้า! เจ้าเป็นใคร? เจ้าเป็นใครกันแน่ ! ข้าต่างหากล่ะคือเฟิ่ ง
ชิงเกอ! ข้าคือเฟิ่ งชิงเกอ!” ร่างแบบบางสัน
่ เทาเล็กน้ อย ความคิดหนึ่ งผุดขึ้น
ในหัว ดวงตานางเผยแววเหลือเชื่อ

นิว
้ มือขาวเรียวค่อยๆ ดึงผ้าที่ปิดหน้าลง รู ปโฉมที่สง่าและงดงามสะท้อนเข้า
สู่ดวงตาของเด็กสาวบนพื้น เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยเสียจนไม่อาจคุ้นเคยได้
อีก นางตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

ใบหน้าที่งดงามหาใดเปรียบนั ้นเชิดขึ้นเล็กน้ อย มองใบหน้าที่ดูน่ากลัวของ


เด็กสาวบนพื้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงซึ่งมีความเฝ้ารออย่างไม่สิน
้ สุดและ
ความตื่นเต้นดีใจที่ไม่อาจหักห้ามได้ “เฟิ่ งชิงเกอ ตัง้ แต่วน
ั นี้ ไปข้าจะมา
แทนที่ตัวตนของเจ้า ตำแหน่ งของเจ้า และครอบครองทุกสิง่ ที่เจ้ามีอย่าง
ชอบธรรม ส่วนเจ้า…” เสียงนางชะงักไป ก่อนจะพูดกลัว้ หัวเราะเบาๆ “ด้วย
ความฉลาดของเจ้า ไม่สู้เจ้าลองคิดดูเองว่าข้าจะทำเช่นไรกับเจ้า?”

พอได้ฟังน้ำเสียงเดิมของคนตรงหน้า เฟิ่ งชิงเกอสัน


่ สะท้านไปทัง้ ร่าง
ดวงตาเบิกกว้างมองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ “รัว่ รัว่ อวิ ๋น? จะ เจ้า
คือซูรวั ่ อวิ ๋น!”

ซูรวั ่ อวิ ๋นคือเด็กกำพร้าคนหนึ่ งที่โตมาด้วยกันกับนางตัง้ แต่เล็ก และเฟิ่ งชิง


เกอก็เป็นคนพานางจากข้างถนนมาอยูย
่ งั จวนฮูก
่ ั ๋วกง ให้เป็นคู่คิดอยูข
่ า้ ง
กาย เป็นสหายสนิ ทที่คุยได้ทุกเรือ
่ ง และเป็นพีน
่ ้ องที่นางมองเช่น
ครอบครัว…

แต่อย่างไรนางก็นึกไม่ถึง โฉมหน้าของคนที่ทำร้ายและอยากจะแย่งชิงฐานะ
ตำแหน่ งนาง กลับกลายเป็นซูรวั ่ อวิ ๋น…

“ทำไมกัน? ข้าดีกับเจ้าขนาดนี้ ทำไมถึงต้องทำเช่นนี้ ด้วย?” หัวใจที่ถูกหัก


หลังเจ็บปวดราวถูกมีดแทง พอนึ กถึงว่าใบหน้าตนเองถูกทำให้เสียโฉม ตัว
ตนจะถูกแทนที่ และจะไม่มีใครรู เ้ รือ
่ งนี้ ก็ทำให้ความเกลียดชังผุดขึ้นใน
หัวใจนางอย่างอดไม่ได้

“ทำไมอย่างงัน
้ รึ? หึ… แน่ นอนว่าเพื่อทุกอย่างที่เจ้ามีอย่างไรเล่า ทัง้ ท่านปู่
ท่านพ่อที่เห็นเจ้าเป็นดัง่ แก้วตาดวงใจ และชายผูม
้ ากพรสวรรค์ที่รก
ั เจ้าเข้า
กระดูกดำ ทว่า…” ดวงตางดงามของนางโค้งยิม
้ พลางมองเฟิ่ งชิงเกอบนพื้น
“ทัง้ หมดนี้ ก็จะเป็นของข้าแล้ว ทัง้ ความรักความเอ็นดูของท่านปู่ท่านพ่อ
ความอ่อนโยนและความรู ส
้ ึกลึกซึ้งของพีม
่ ู่หรง ทุกอย่างจะกลายเป็นของ
ข้า”
ตอนที่ 2 ถูกส่งไปขาย

นางมองเฟิ่ งชิงเกอบนพื้นที่ถูกทำร้ายจนไม่เหลือสภาพด้วยความพอใจ ทว่า


ยังไม่หยุดแค่นั้น นางพูดต่อไปว่า “เดิมทีขา้ ควรฆ่าเจ้าทันทีเพื่อเลี่ยงปัญหา
หลังจากนี้ และทำลายศพของเจ้าซะ จะได้ไม่มีใครหาเจอ แต่วา่ หึๆ…”

พอได้ยน
ิ เสียงหัวเราะที่ชว
ั ่ ร้ายเช่นนั ้น ใจเฟิ่ งชิงเกอเย็นวาบ ก่อนจะได้ยน
ิ น้ำ
เสียงราวมารร้ายดังมาอีก

“เจ้ารู ห
้ รือไม่ ทำไมข้าถึงให้คนทำลายแค่ใบหน้าอันงดงามของเจ้า แต่กลับ
ไม่แตะต้องผิวกายขาวๆ ของเจ้า?” นางยอบตัวลงเล็กน้ อย มองประจันหน้า
กับเฟิ่ งชิงเกอ “นั ่นเพราะว่าข้าต้องนำตัวเจ้าไปขายยังที่เลวร้ายที่สุด ที่ที่
พวกผูช
้ ายจะไปเสพสุขกัน เชื่อข้าเถอะ ถึงใบหน้าของเจ้าจะเสียโฉมเหมือน
ผี แต่ผว
ิ เนี ยนดัง่ เนื้ อหยกของเจ้าจะต้องมีคนชอบอยูไ่ ม่น้อย เจ้าคิดว่า
อย่างไร?

อย่ามองข้าแบบนั ้นสิ ใบหน้าเจ้าเสียโฉมไปแล้ว ต่อให้เจ้าบอกว่าตนเองเป็น


คุณหนูใหญ่แห่งจวนฮูก
่ ั ๋วกงก็คงไม่มีใครเชื่อ ทุกคนมีแต่จะบอกว่าเจ้าเป็น
คนบ้า ถ้าเจ้าหนี ? หึ พลังแค่ระดับสองเช่นเจ้าน่ ะไม่พอหรอก” ระหว่างพูด
นางก็ยด
ั ยาเม็ดหนึ่ งเข้าปากเฟิ่ งชิงเกอไป จากนั ้นหัวเราะเบาๆ พลางยืนขึ้น
ปัดกระโปรงพร้อมพูดว่า “เจ็ดวัน อีกเจ็ดวันหลังจากนี้ ถึงเจ้าไม่ถูกเล่นงาน
จนตาย ก็คงถูกพิษตายอยูด
่ ี”

เฟิ่ งชิงเกอกัดฟัน ตะคอกไปว่า “ซูรวั ่ อวิ ๋น ต่อให้ตายกลายเป็นผี ข้าก็จะไม่


ปล่อยเจ้าแน่ !”
“หึ ตอนเป็นๆ เจ้ายังทำอะไรข้าไม่ได้ ตายกลายเป็นผีก็ยงิ่ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”
นางยิม
้ เยาะหยัน แล้วออกคำสัง่ ไป “นำตัวมันไป ส่งไปขายแล้วอย่าให้เหลือ
ร่องรอย ถ้าจะให้ดีก็ฆ่าปิดปากคนที่มารับต่อเสีย”

“ขอรับ!” ชายกำยำทัง้ สองตอบรับอย่างเคารพ จากนั ้นยื่นมือแบกร่างเฟิ่ งชิง


เกอที่ปางตายขึ้นบ่า และกระโจนตัวสองสามครัง้ หายเข้าไปในป่าลึก

ตอนนี้ เอง ชายวัยกลางคนชุดสีดำซึ่งยืนอยูด


่ ้านหลังซูรวั ่ อวิ ๋นอยูต
่ ลอดก็ก้าว
ขึ้นมา “คุณหนู เวลาค่ำแล้ว จะกลับจวนก่อนหรือไม่ขอรับ?”

“อืม ต้องกลับแล้วล่ะ” นางผุดยิม


้ อ่อนโยน มองไปยังท้องฟ้าพลางพูดเสียง
เบา “ตัง้ แต่นี้ไป ข้าคือเฟิ่ งชิงเกอ และเฟิ่ งชิงเกอก็คือข้า”

ค่ำคืนในอีกสองวันให้หลัง หอสุคนธรส หมู่บา้ นต้าหล่าง

พอได้กลิน
่ หอมหวน เฟิ่ งชิงเกอที่หมดสติอยูก
่ ็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น สมองยังไร้ซ่ึง
การตอบรับใดๆ จนนางได้ยน
ิ เสียงดังจิจ
๊ ๊ะแปลกๆ และรู ส
้ ึกว่าแขนตัวเอง
กำลังถูกมือคู่หนึ่ งสัมผัส จึงตกใจจนร้องเสียงหลง พลิกตัวกลิง้ ตกเตียงไป

“ฮีๆ
่ ตื่นแล้วหรือ? ตื่นแล้วก็ดี ข้าไม่ชอบทำอะไรกับปลาตาย ข้าชอบแบบ
ดุเดือดคึกคัก นั ่นสิถึงจะเลิศรส” ดวงตาของชายอัปลักษณ์ อายุราวสามสิบ
กำลังหรีม
่ องเฟิ่ งชิงเกอที่กลิง้ ตกพื้นแล้วถดตัวไปด้านข้าง ในดวงตามีแต่
ความตื่นเต้น “ไม่นึกเลยจริงๆ ว่าวันนี้ จะมีของดีขนาดนี้ มาถึงมือข้า ถึงหน้า
จะเสียโฉม แต่ผว
ิ ขาวเนี ยนเช่นนี้ จิๆ
๊ งามไม่แพ้พวกคุณหนูตระกูลใหญ่เลย”
เฟิ่ งชิงเกอถดตัวถอยห่าง ในดวงตานางมีความตื่นตระหนกที่ยากจะปิดบัง
“เจ้า เจ้าอย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา!” นางลุกขึ้นวิง่ ไปยังประตูหอ
้ งทันใด ทว่า
วิง่ ได้สองก้าวก็ถูกชายผูน
้ ั ้นกอดเอาไว้

“คิดจะหนี ? เหอะๆ เข้ามาในห้องนี้ แล้ว คิดว่าเจ้าจะหนี พน


้ รึ? มาเถอะ ให้ขา้
ได้เชยชมผิวกายขาวๆ ของเจ้าหน่ อย” ชายผู้นั้นยิม
้ ระรีร้ ะริก ยื่นมือไปฉี ก
แขนเสื้อตัวบางบนร่างนางออก ทันใดนั ้นต้นแขนขาวๆ ก็สะท้อนสู่สายตา
ทำให้ดวงตาเขามีประกายตื่นเต้นที่รุม
่ ร้อนฉายขึ้นมา

“อ๊ะ!” เฟิ่ งชิงเกอร้องเสียงหลง ความรู ส


้ ึกรังเกียจที่ถูกชายผูน
้ ั ้นกอดรัดไว้
ทำให้นางขนลุกชันทัง้ ตัว ขณะที่มือกำลังผลักไสก็คลำเจอมีดสัน
้ เล่มหนึ่ ง
ข้างเอวเขา นางดึงมีดออกมาอย่างไม่คิดสักนิ ด แล้วแทงไปที่หว
ั ใจของชาย
ผูน
้ ั ้น

“ชิ! สารเลว!” ชายผูน


้ ั ้นกำลังคิดทำมิดีมิรา้ ย จึงหลบไม่ทันไปชัว่ ขณะ
หน้าอกถูกฟันเป็นรอยเลือดทางหนึ่ ง เจ็บเสียจนเขาต้องผลักร่างเฟิ่ งชิง
เกอออก

“กรีด
๊ !”

ผัวะ!

ศีรษะนางชนเข้ากับหัวมุมเตียง เลือดสดๆ ทะลักออกมาราวน้ำพุ นางคิดจะ


ลองลุกยืนขึ้น ทว่าเซไปมาเล็กน้ อยก็ล้มลงกับพื้นและหมดสติไป…
ตอนที่ 3 ฉั นคือเฟิ่ งจิ่ว

“สมควรตาย!” ครัน
้ ชายผูน
้ ั ้นมองเห็นเลือดไหลออกจากอกตนก็โมโหขึ้นมา
เตะไปยังท้องของนางอย่างโหดร้าย ก่อนจะก่นด่าอย่างหัวเสีย “ลุกขึ้นมา!
อย่ามาแกล้งตายกับข้า!” ระหว่างพูดมือก็ดึงคอเสื้อนาง จากนั ้นลากขึ้นมา
โยนลงบนเตียงใหญ่

ความเจ็บที่ศีรษะและอาการปวดที่ท้อง ทำให้คนที่เดิมหมดสติไปถึงกับ
ขมวดคิว
้ ขึ้นน้ อยๆ ในหัวนางเหมือนมีเสียงหนึ่ งกำลังร้องไห้ ดังเสียจนนาง
หงุดหงิดอยูใ่ นใจ “หุบปาก!”

น้ำเสียงเย็นเยือกตะคอกออกมา ขณะที่ลืมตาขึ้น คิว


้ ก็ขมวดแน่ นอยูไ่ ม่
คลาย ในหัวนางมีเสียงร่ำไห้อยูจ
่ ริงๆ และตรงหน้ายังมีชายอัปลักษณ์ คน
หนึ่ งถอดเสื้อผ้าจนเหลือแค่กางเกงชัน
้ ใน กำลังมองมาอย่างหื่นกาม

สายตานางกวาดผ่านร่างชายอัปลักษณ์ ผูน
้ ่ารังเกียจ แล้วมองไปรอบห้อง
แบบโบราณนี้ ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรงอย่างอดไม่ได้

ตัง้ แต่ตะคอกออกไปด้วยเสียงเย็นเยียบ เสียงนั ้นที่เคยร้องไห้อยูใ่ นหัวก็


เหมือนจะชะงักและเงียบไปแล้ว

“หึ! รู แ
้ ล้วสินะว่าแกล้งตายไปก็ไม่มีประโยชน์ ? เจ้าอยูเ่ ล่นเป็นเพื่อนข้าอย่าง
ว่าง่ายดีกว่า ไม่เช่นนั ้นข้าก็มีวธ
ิ จ
ี ัดการกับเจ้า!” ยามเอ่ย เขาก็กระโจนไปหา
เฟิ่ งชิงเกอที่นั่งอยูบ
่ นเตียงราวหมาป่าหิวโหยกระโจนเข้าหาเหยื่อ
“รนหาที่ตาย!” นางแค่นเสียงเย็นด้วยสีหน้ารังเกียจ ก่อนยกขาขึ้นถีบร่าง
ชายอัปลักษณ์ ที่กระโจนเข้ามา

ผัวะ

ชายอัปลักษณ์ ถูกถีบโดยไม่ทันตัง้ ตัว ทัง้ ร่างล้มลงไปนอนร้องครวญคราง


อยูบ
่ นพื้นราวกับคางคก พอได้สติกลับมา เขารีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ถลึงตา
มองเด็กสาวที่นั่งอยูข
่ า้ งเตียงพลางกำหมัดชกออกไป “นั งหญิงแพศยา! เจ้า
กล้าถีบข้า ข้าจะซัดเจ้าให้ตายเสีย!”

ทว่าสิง่ ที่ทำให้เขาตกตะลึงคือ นางกลับรับหมัดที่ชกออกไปไว้ และไม่รูว้ า่


ใช้ลูกไม้อะไรถึงหักแขนเขาไปข้างหลังได้อก
ี ได้ยน
ิ เพียงเสียงกระดูกหักดัง
กร๊อบ เขาเจ็บจนหน้าซีดเผือด เปล่งเสียงร้องออกมาตามสัญชาตญาณ แต่
สองมืออันเย็นเยียบนั ้นกลับบีบคอเขาไว้ ทันทีที่เสียงกร๊อบดังมาอีก ศีรษะ
เขาเอียงข้าง ดวงตาเบิกโพลงค่อยๆ ปิดลง จนกระทัง่ ตาย แม้แต่เสียงร้องก็
ยังไม่อาจร้องออกมา

เวลาเหมือนถูกหยุดไปชัว่ ขณะ เสียงในห้องกลับมาเงียบเชียบ เงียบจนได้ยน



เสียงเข็มตกลงบนพื้น

และตอนนี้ เอง เด็กสาวที่นั่งอยูบ


่ นเตียงกลับยกนิว
้ มือขาวเรียวขึ้นดู นางเลิก
คิว
้ เล็กน้ อย แล้วรอยยิม
้ ชัว่ ร้ายก็ปรากฏบนริมฝีปาก ทว่าเมื่อรอยยิม
้ ชัว่ ร้าย
มาประดับบนใบหน้าที่เสียโฉม จะดูอย่างไรก็รูส
้ ึกแปลก ชวนให้คนขนลุกขน
พอง
ชายที่ตายไปอาจจะกำชับไว้ก่อนแล้ว ไม่วา่ ห้องไหนเกิดการเคลื่อนไหวอะไร
ก็ไม่ต้องเข้ามา ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้สองชายฉกรรจ์ที่เฝ้าอยูน
่ อกห้องจะได้ยน

เสียงต่อสู้ภายในห้อง ก็คิดว่าคงเป็นเสียงชายอัปลักษณ์ กำลังกลัน
่ แกล้งเด็ก
สาวอยู่ ดังนั ้นพวกเขาจึงไม่ได้สนใจ

เด็กสาวบนเตียงเดินไปนั ่งลงหน้ากระจกทรงดอกกระจับ มองใบหน้าน่ากลัว


ที่สะท้อนกลับมาในกระจก นั ยน์ ตานางหรีล
่ งน้ อยๆ นิว
้ มือเคาะเบาๆ บนโต๊ะ
เครือ
่ งแป้ง จนเกิดเป็นเสียงดังก๊อกๆ ขึ้นมา

“พูดมาสิ! เธอเป็นใคร?” นางมองที่กระจก เหมือนพูดกับตัวเอง

แต่หลังจากพูดออกไป ในหัวก็กลับมีเสียงสะอื้นลอยมา “ข้าคือเฟิ่ งชิงเกอ


เจ้าล่ะเป็นใคร?”

“เฟิ่ งจิว
่ ” เธอปริปากบอกไป “เธอคงตายไปแล้วสินะ? แล้วจะทิง้ เสี้ยวจิตตัว
เองไว้ในหัวฉั นทำไม?”

“ข้าไม่ยอม! ข้าแค้น! ซูรวั ่ อวิ ๋น! ซูรวั ่ อวิ ๋นทำข้าไว้เจ็บนั ก…” เสียงสะอึกสะอื้น
ที่เจือความเกลียดชังดังสะท้อนอยูใ่ นหัว

เฟิ่ งจิว
่ เงียบไป ไม่ปริปากส่งเสียงอยูน
่ าน ทำแค่ฟังเสียงในหัวที่กำลังร้องไห้
ทัง้ ความเกลียดชังและความไม่ยน
ิ ยอมลอยมาถึงหัวใจของเฟิ่ งจิว
่ ทำให้เธอ
เกิดความรู ส
้ ึกจงเกลียดจงชังที่ไม่ใช่ของตนขึ้นมา
ตอนที่ 4 ความทรงจำที่หลอมรวมกัน

“หยุดร้องไห้ก่อน แล้วเล่าเรือ
่ งทัง้ หมดให้ฉันฟังทีเถอะ!” เธอพูดพลางขมวด
คิว
้ แอบคิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะอยากทำให้เรือ
่ งวิญญาณในหัวกับเหตุการณ์
ตรงหน้าชัดเจนละก็ เดาว่าเธอคงจากไปนานแล้ว และก็คงไม่มานั ่งฟังนาง
ร้องห่มร้องไห้ไม่หยุดอยูต
่ รงนี้

เสียงในหัวชะงักไป แล้วร้องไห้เบาๆ ขึ้นมาอีกครัง้ นางไม่ได้บอกเรือ


่ งราวให้
เฟิ่ งจิว
่ ฟังโดยละเอียด เพราะคนฉลาดเช่นเธอย่อมรู ด
้ ี เวลานี้ ต้องทำเช่นไร
จึงจะดีกับตนที่สุด ด้วยเหตุนี้นางจึงกล่าวว่า “ข้าตายแล้ว และร่างนี้ ก็กลาย
เป็นของเจ้าแล้ว เฟิ่ งจิว
่ ข้าเพียงอยากขอร้องเจ้าไว้สองเรือ
่ ง เรือ
่ งแรก ข้า
อยากให้ซูรวั ่ อวิ ๋นใช้ชว
ี ต
ิ เหมือนตายทัง้ เป็น! ฆ่านางตายในดาบเดียวไม่อาจ
คลายความเคียดแค้นในใจข้าได้ นางต้องได้รบ
ั ความทรมานจนอยูไ่ ม่สู้ตาย
เท่านั ้น ถึงจะสามารถขจัดความแค้นในใจข้า!”

น้ำเสียงนางเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ถึงเวลานี้ แล้ว นางรู ด


้ ีวา่ ตัวเองไม่
อาจทวงคืนสิง่ ใดอีก สิง่ ที่นางต้องการ คือทำให้ซูรวั ่ อวิ ๋นที่ทำร้ายนางจนเป็น
แบบนี้ ได้อยูเ่ หมือนตายทัง้ เป็น!

เฟิ่ งจิว
่ เลิกคิว
้ เธอไม่ปริปาก เพียงแต่ยกมุมปากขึ้น ดูเหมือนยิม
้ แต่ก็ไม่ใช่
ยิม

ตอนนี้ เฟิ่ งชิงเกอเหมือนรู ว้ า่ ในใจเธอกำลังคิดอะไร จึงพูดอีกว่า “ข้าไม่รูว้ า่
เจ้ามาจากที่ใด และไม่รูต
้ ัวตนเมื่อก่อนของเจ้าเช่นกัน แต่จากการตอบ
สนองที่เยือกเย็นเมื่อครู ก
่ ับร่างกายที่คล่องแคล่วนั ้น ข้าเชื่อว่าเจ้าไม่ใช่คน
ธรรมดาเป็นแน่ อย่างน้ อยก็คงไม่โง่เขลาเช่นข้า ที่ต้องมีจุดจบทัง้ โดน
สวมรอยและถูกฆ่าตาย”

เมื่อได้ยน
ิ แล้ว ดวงตาเฟิ่ งจิว
่ เป็นประกายขึ้นมา รอยยิม
้ บนริมฝีปากยิง่ ดู
ลึกล้ำขึ้นหลายส่วน “พูดมาเถอะ! แล้วเรือ
่ งที่สองคืออะไร”

ได้ยน
ิ คำพูดนั ้น เฟิ่ งชิงเกอก็รูว้ า่ อีกฝ่ายรับปากแล้ว ขณะที่แอบถอนหายใจ
น้ำเสียงนางเศร้าโศกและเสียใจอยูเ่ ล็กน้ อย “ครอบครัวของข้าดีกับข้านั ก
เห็นข้าเป็นดัง่ แก้วตาดวงใจ ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยดูแลพวกเขาแทนข้าได้
อย่าให้พวกเขารู ้ รู ว้ า่ ข้าไม่อยูแ
่ ล้ว…”

นิว
้ เรียวขาวผ่องเคาะลงบนโต๊ะเบาๆ จนเกิดเสียงดังก๊อกๆ กลับทำให้เฟิ่ งชิง
เกอกังวลใจขึ้นมา นางไม่มีทางรู ค
้ วามคิดของเฟิ่ งจิว
่ ได้เลย แต่นางที่ไม่มี
ทางเลือกอื่นก็ไม่หวังจะได้ยน
ิ คำปฏิเสธจากเฟิ่ งจิว
่ ด้วยเหตุนี้จึงเอ่ยว่า “ข้า
จะทิง้ ความทรงจำทัง้ หมดของข้าไว้ให้เจ้า เช่นนี้ เจ้าจะได้รูเ้ รือ
่ งราวที่เกิดขึ้น
ทัง้ หมด เฟิ่ งจิว
่ เจ้าต้องช่วยข้า เจ้าต้องช่วยข้านะ…”

เมื่อเฟิ่ งจิว
่ ได้ยน
ิ เสียงนั ้น ศีรษะก็พลันปวดหนึ บ เหมือนถูกใครฝืนยัดอะไร
บางอย่างเข้ามา เธอขมวดคิว
้ และหลับตาลงรับความเจ็บปวด ผ่านไปสักพัก
ถึงจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น แล้วในหัวเธอก็มีความทรงจำที่เดิมทีไม่ใช่ของตัวเอง
เพิม
่ มามากมาย…
อาจเพราะความทรงจำของเฟิ่ งชิงเกอและของเธอหลอมรวมกันแล้ว ขณะที่
ภาพเหตุการณ์ ตอนใบหน้าถูกกรีดทำลายฉายแวบขึ้นในหัว เธอจึงถึงกับมี
ความรู ส
้ ึกเช่นเดียวกันอยูบ
่ า้ ง คล้ายว่าคนคนนั ้นที่เจ็บปวดจากการถูกมีด
กรีดก็เป็นเธอด้วยเช่นกัน

“ซูรวั ่ อวิ ๋นงัน


้ หรือ? หึๆ น่าสนใจดีนี่” การผสานรวมของความทรงจำในหัว
ทำให้เธอเข้าใจสถานการณ์ ของตัวเองในตอนนี้ และเรือ
่ งอื่นๆ เธอลุกขึ้นเดิน
มาอยูข
่ า้ งๆ ร่างของชายที่สิน
้ ชีพไปแล้วผู้นั้น ก่อนเก็บของมีค่าจากเสื้อผ้าที่
เขาถอดไว้จนหมดเกลี้ยง

ชุดกระโปรงบนตัวเธอ แขนเสื้อข้างหนึ่ งถูกฉี กออก ตรงคอเสื้อเองก็ถูก


กระชากจนขาดวิน
่ เธอจึงฉี กผ้าซับในกระโปรงชิน
้ หนึ่ งมาปิดหน้าไว้ ตอนนี้
ใบหน้าเสียโฉมเช่นนี้ ดึงดูดสายตาคนเกินไป จะออกไปจากที่นี่ก็ต้องเงียบๆ
ไว้ ถึงจะไม่เป็นที่สนใจ

น่าเสียดาย ในห้องนี้ จะหาสักกี่รอบก็ไม่มีชุดที่พอใส่ได้เลย ส่วนเสื้อผ้าของ


ชายผูน
้ ั ้นเธอใส่ไม่ลง ในสายตาเธอมันสกปรกเกินไปจริงๆ

พอคิดว่าที่แห่งนี้ เป็นสถานที่แสวงหาความสำราญ เช่นนั ้นเธอจึงฉี กแขน


เสื้ออีกข้างหนึ่ งออก เผยให้เห็นแขนขาวราวรากบัวทัง้ สองข้าง ก่อนจะ
จัดการกับกระโปรงอีกสักหน่ อย ด้วยการเปลี่ยนมันเป็นชุดกระโปรงเกาะอก
จากนั ้นสายตาเธอไปหยุดอยูต
่ รงผ้าโปร่งบางของม่านเตียง จึงเอื้อมมือไป
ดึงมาคลุมตัวไว้ แล้วออกไปทางหน้าต่างด้านหลัง…
ครัน
้ ลงถึงพื้นได้อย่างมัน
่ คง เธอก็มองสำรวจไปรอบๆ เห็นแค่ทางด้านหน้าที่
เดินไปได้ หลังจากนั ้นจึงแฝงตัวปะปนไปกับเหล่าสตรีที่ยน
ื คุยสังสรรค์กันอยู่
ด้านหน้า ขณะที่เธอเร่งฝีเท้าจากไป เสียงกรีดร้องก็พลันดังขึ้นมา

“กรีด
๊ ! มีคนถูกฆ่า!”
ตอนที่ 5 หนึ่ งคมมีดที่ปาดคอ

ความแตกแล้ว! วิง่ สิ!

นี่ คือการตอบสนองแรกของเธอ และเธอก็ลากเท้าวิง่ ออกไปจริงๆ แต่ใครจะ


รู ว้ า่ เบื้องหน้ากลับมีแสงเย็นเยียบสายหนึ่ งแวบมา กลิน
่ อายกระหายเลือด
ชวนขนลุกนั ้นชัดเจนว่าเป็นจิตสังหารที่น่าพรัน
่ พรึง พอเห็นแสงเย็นวาบตรง
มาทางนี้ เธอจึงย่อตัวลงอย่างไม่ต้องคิด

ฟุ่บ!

“กรีด
๊ …”

พลังกระบีท
่ ี่รวดเร็วดุดันเหมือนแฉลบผ่านเหนื อหัวไป ข้างหูเต็มไปด้วยเสียง
ร้องอุทานและเสียงกรีดร้อง ฝูงชนที่วงิ่ กันสะเปะสะปะต่างผลักกันไปมา แต่
เฟิ่ งจิว
่ กลับพบว่าข้างกายมีที่วา่ งมากมาย พอเงยหน้ามอง เธอก็อยูต
่ รง
กลาง ในขณะที่คนรอบข้างถูกหนึ่ งกระบีน
่ ั ้นปาดคอจนสิน
้ ใจ

‘ยังดีที่เราหลบได้เร็ว’

ขณะเธอแอบนึ กว่าตนช่างโชคดี พร้อมก้าวขาเตรียมเคลื่อนไหว รองเท้าข้อ


สูงสีดำคู่หนึ่ งกลับมาหยุดลงตรงหน้า ดวงตาเธอที่หลุบลงพลันมีแสงสลัว
วาบผ่าน เธอเงยหน้าอย่างขลาดกลัว ร่างกำลังสัน
่ เทิม
้ “ฮือ…”
ชายสวมชุดดำผูห
้ นึ่ งยืนอยูเ่ บื้องหน้า ใบหน้ามีผา้ สีดำปิดไว้จึงเห็นหน้าไม่ชด

แต่ดวงตาคู่นั้นฉายแววโหดเหีย
้ มชัว่ ร้าย ทำให้คนอกสัน
่ ขวัญแขวนเฉกเช่น
ยาพิษ เวลานี้ กระบีท
่ ี่เขาถือชีล
้ งพื้นยังมีเลือดสีสดไหลริน หยดลงบนพื้นทีละ
หยดจนเป็นจุดคล้ายมีดอกเหมยแดงเบ่งบาน

ไม่รูว้ า่ เธอจงใจหรือไม่ เพราะร่างกายสัน


่ เทา ผ้าผืนบางที่คลุมอยูบ
่ นร่างจึง
ลื่นหล่นลงพื้น เผยให้เห็นผิวพรรณขาวเนี ยนเกลี้ยงเกลา เธอปิดบังใบหน้า
ไว้ แต่ดวงตาที่ตราตรึงใจกลับคลอไปด้วยน้ำ ประกอบกับร่างแบบบางที่สัน

ไหว ทำให้ดูแล้วน่าสงสารยิง่

เห็นชัดว่าชายชุดดำผูน
้ ั ้นไม่ใช่คนหลงใหลในนารี ยามเห็นผิวกายขาวเนี ยน
แววตาชัว่ ร้ายมีประกายขึ้นมาชัว่ ขณะหนึ่ ง แต่ก็ละสายตาไปอย่างรวดเร็ว
เขามองไปยังกลุ่มคนที่ถอยหนี ราวกับกำลังหาอะไร และตอนนั ้นเอง มือที่ถือ
กระบีไ่ ว้ก็ขยับเบาๆ เตรียมจะฆ่าคนที่ขวางหูขวางตาตรงหน้านี้ เสีย

รังสีการฆ่าฟันตลบอบอวล ทำให้เฟิ่ งจิว


่ ตะโกนขึ้นอย่างตื่นตระหนก “ฮือ…
อย่าฆ่าข้าเลย…” ทว่าพริบตาที่กำลังยืนขึ้น มือเธอสัมผัสผ่านต้นขา ก่อนที่
กริชประกายคมกริบจะฟันไปที่ขอ
้ มือซึ่งถือกระบี่ไว้ด้วยความเร็วดัง่ สายฟ้า
ฟาด

ฉั วะ! แกร๊ง!

เพราะไม่รูส
้ ึกว่าเด็กสาวตรงหน้ามีจิตคิดสังหาร ทำให้เขาประมาทเลินเล่อไป
อีกทัง้ ด้วยระยะใกล้ ข้อมือที่ไม่ทันระวังจึงบาดเจ็บเลือดไหลและสัน
่ ไหวไม่
หยุด กระบีใ่ นมือก็รว่ งลงพื้นอย่างจับไว้ไม่อยู่ จากนั ้นเขาแทบจะยกเท้าเตะ
ไปตามสัญชาตญาณ

ขาที่เตะไปนั ้นมีทัง้ คลื่นลมและพลังแฝงรุ นแรง ผูม


้ ีวรยุทธ์รบ
ั ลูกเตะเขาไปก็
รอดชีวต
ิ ยาก แต่กลายเป็นว่านางหลบเท้าของเขาที่ถีบไปตรงหน้าอกนางได้
ด้วยท่วงท่าพิสดาร เพียงแวบหนึ่ ง เขาเห็นว่าเด็กสาวกระโจนเข้ามา กริชใน
มือนางเล็งที่หน้าอกเขา เขาจึงยื่นมือต้านรับตามสัญชาตญาณ แต่ใครจะคิด
ว่าที่นางโจมตีเป็นการหลอกล่อ ในขณะที่กริชนั ้นแทงมา ขานางก็เตะเข้า
ตรงหว่างขาของเขา

“อ๊าก!”

ความเจ็บปวดแทบขาดใจทำให้เขาคร่ำครวญอย่างทรมาน สองขาหดชิด
และอ่อนยวบลงโดยไม่อาจควบคุม แต่เพราะเหตุนี้จึงเป็นโอกาสทองของ
นาง กริชเล่มนั ้นถูกนางดึงกลับมาปาดเข้าที่ลำคอเขา ปาดคอในหนึ่ งคมมีด!
ปลิดชีวต
ิ ในหนึ่ งการโจมตี!

ถึงตายแล้ว ดวงตาของชายชุดดำก็ยงั คงเบิกกว้างอย่างไม่ยอมและแค้นใจ


ราวกับไม่อยากเชื่อว่าตนเองจะตายด้วยน้ำมือของสตรีนางเดียว

ฝูงชนที่ต่ ืนตกใจจนถอยห่างต่างมองเหตุการณ์ เบื้องหน้าด้วยความตกตะลึง


พวกเขาเบิกตาโตอย่างเหลือเชื่อ ไม่กล้าเชื่อว่าเด็กสาวอ้อนแอ้นที่ก่อนหน้า
นี้ ยงั ร้องไห้เสียงเบาจะกลายเป็นมือสังหารในพริบตา ซ้ำยังสังหารชายชุดดำ
ผูน
้ ั ้นด้วยวิธท
ี ี่โหดเหีย
้ มดุดัน แต่ไม่รอให้พวกเขาได้สติ หลังจากสังหารคน
แล้ว เด็กสาววิง่ หนี ออกไปโดยไม่คิดหันหลังกลับ และหายลับไปในค่ำคืน…
ตอนที่ 6 แรกพบชายแกร่ง

เงาร่างผอมเล็กร่างหนึ่ งนั ่งหาวอยูต


่ รงมุมถนนอับสายตาผูค
้ น ดวงตานาง
ชำเลืองมองทหารแต่ละกองลาดตระเวนไปมาบนทางถนนใหญ่ซ่ึงมีผูค
้ น
สัญจร มือหยิบแอปเปิลลูกหนึ่ งจากในอกเสื้อขึ้นมากัดอย่างเบื่อหน่าย

ร่างนั ้นสวมเสื้อผ้าขอทานที่ทัง้ เก่าและสกปรก ใบหน้ามอมแมมเปรอะดินอยู่


ไม่น้อย เส้นผมทัง้ หมดรวบเก็บไว้ในเศษผ้าชิน
้ หนึ่ ง ดูแล้วเป็นขอทานน้ อย
ร่างผอมบาง ใครก็คงนึ กไม่ถึงว่าคณิ กาหอนางโลมที่ทำให้หว
ั หน้าหมู่บา้ น
โกรธเกรีย
้ วจนต้องออกคำสัง่ ตามจับ จะเป็นขอทานน้ อยมุมถนนเช่นนี้

‘ซวยจริงๆ! จะออกไปยังดี? ต่อให้เราอดทนรอได้ แต่ยาพิษในตัวรอไม่ได้


หรอกนะ!’ เฟิ่ งจิว
่ กัดแอปเปิลพลางถอนใจเสียงเบา หากเธอรู ต
้ ัง้ แต่แรกว่า
ชายน่ารังเกียจที่ถูกตนฆ่าเมื่อคืนเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของหัวหน้า
หมู่บา้ น อย่างไรเธอก็ไว้ชว
ี ต
ิ เขา อย่างน้ อยตอนนี้ ท่านผู้นำก็คงไม่ส่งทหาร
อารักขามาตามหาตัวเธอกันทัว่ หมู่บา้ น

แต่ชายชุดดำเมื่อคืนเป็นใครกัน? นั กฆ่า?

เมื่อนึ กถึงกลิน
่ อายพลังที่พวยพุง่ ออกมาจากร่างในขณะที่เขาลงมือ ใจเธอ
ขุน
่ เคืองอยูบ
่ า้ ง เดิมทีเธอคิดว่าคนส่วนใหญ่จะเกิดใหม่ในยุคราชวงศ์โบราณ
อะไรทำนองนั ้น แต่ใครจะรู ว้ า่ คนของโลกนี้ ฝึกวิชาเซียนด้วย วิชาเซียน ของ
พวกนี้ ชา่ งเพ้อฝันเกินไปแล้ว แต่พอคิดว่าคนจากศตวรรษที่ 21 เช่นเธอมา
เกิดใหม่ในที่ประหลาดนี้ ได้ ก็ไม่แปลกอะไรนั กแล้ว
ฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนเลยนะ! หากอยูต
่ ่อหน้าเหล่าผูฝ
้ ึกเซียน ทักษะฝีมือของ
เธอก็ไม่มีประโยชน์ แล้ว!

พอกินแอปเปิลหมดเธอก็โยนทิง้ ก่อนจะนั ่งถอนหายใจอยูต


่ รงนั ้นอย่างเหงา
หงอยไร้ชว
ี ต
ิ ชีวา จนกระทัง่ มีเสียงหนึ่ งดังก้องกังวานขึ้นตรงหน้า

แกร๊ง!

ด้านในชามผุพงั เบื้องหน้า มีก้อนเงินก้อนหนึ่ งกลิง้ วนรอบแล้วหยุดนิ่ งตรง


กลางชาม เฟิ่ งจิว
่ ตกตะลึง เธอเห็นเงินในชามเก่า จึงหยิบขึ้นมาดู ความรู ส
้ ึก
ไม่ต่างอะไรจากก้อนหินเลย แค่ภายนอกเป็นสีเงินเท่านั ้น

เธอเงยหน้ามองไปทางคนที่โยนเงินมา เห็นเพียงแผ่นหลังอันงดงามซึ่งสวม
เสื้อคลุมสีดำไว้ เขากำลังเดินอย่างช้าๆ ด้วยย่างก้าวแผ่วเบามัน
่ คง ทัง้ ร่างมี
รัศมีเย็นชาที่คนทัว่ ไปไม่อาจเข้าใกล้แผ่กระจาย

เฟิ่ งจิว
่ ขบคิด แล้วพุง่ ไปกอดต้นขาเขาอย่างไม่ต้องคิด ปากก็ตะโกนร่ำไห้
“ฮือ…พีเ่ ขย! พีเ่ ขยข้าหาท่านเจอแล้ว! อืม!” ทันใดนั ้นคนตรงหน้าเบีย
่ งตัว
หลบ เธอกระโจนเข้าหาพื้นที่วา่ งเบื้องหน้าเพราะความเฉื่ อย สองมือถลอก
ปลอกเปิกจนต้องร้องครวญคราง

ชายในเสื้อคลุมสีดำขมวดคิว
้ น้ อยๆ พอสายตาที่ลึกล้ำและแข็งกร้าวกวาด
มองขอทานบนพื้น เขาก็ก้าวเดินต่อไป แค่มองเขาก็ดูออกว่าขอทานบนพื้น
เป็นแค่คนธรรมดาที่ไร้วรยุทธ์
แน่ นอนว่าตอนนี้ เฟิ่ งจิว
่ เป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดาจริงๆ ระดับพลังเล็ก
น้ อยของร่างก่อนก็สูญสลายไปเพราะยาที่ซูรวั ่ อวิ ๋นฝืนยัดเข้าปากมา เธอใน
เวลานี้ จึงเป็นแค่คนคนหนึ่ งที่ไร้ซ่ึงวรยุทธ์

เพราะเหตุนี้ เมื่อเหล่าผูฝ
้ ึกเซียนเห็นสามัญชนที่ไร้วรยุทธ์อย่างนาง ก็จะยิง่
ไม่สนใจและไม่ระวังตัวกันมากนั ก

“พีเ่ ขย! พีเ่ ขยอย่าทิง้ ข้าเลย ฮือ…ช่างยากเย็นยิง่ นั กกว่าข้าจะหาท่านพบ พี่


เขย…” เมื่อเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาได้ก็กระโจนไปด้านหน้าอีก และล้มลง
อีกหลายครัง้ จนในที่สุด ชายในเสื้อคลุมสีดำตรงหน้าก็หยุดฝีเท้าลง

“พีเ่ ขย!” เธอจะไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป ทัง้ แขนขาของเฟิ่ งจิว


่ กอดเข้าที่
ขาชายผูน
้ ั ้น รัดเขาไว้แน่ น แล้วปรายตาที่มีน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมองอย่างขลาด
กลัวเล็กน้ อย

แต่เมื่อเห็นใบหน้าของชายผูน
้ ี้ มุมปากเธอกลับกระตุกแวบหนึ่ งโดยไม่อาจ
ควบคุม…เธอกอดผิดขาเสียแล้วหรือเปล่า?
ตอนที่ 7 ติดตามเขาไป

ชายตรงหน้านี้ หากมองเพียงแผ่นหลังก็เข้ากับคำว่าชายหนุ่มอยู่ ทว่าเมื่อ


เห็นใบหน้า เธอก็อยากเอามือก่ายหน้าผากแล้วถอนหายใจยาวๆ สักที นี่ มัน
ท่านอาอายุสามสิบกว่าชัดๆ เลย!

ใบหน้าคมคายที่เด็ดเดี่ยวองอาจถูกหนวดเคราปิดบังไปเกินครึง่ ถึงพยายาม
ก็เห็นเพียงเค้าโครง มองเห็นหน้าได้ไม่ชด
ั เจน แม้ดวงตาเขาลึกล้ำและน่า
พิศวง แต่จะมองเช่นไรก็เป็นท่านอาอายุสามสิบกว่า ไม่ค่อยสมกับเป็นพีเ่ ขย
ของคนร่างเล็กเช่นเธอสักเท่าไหร่

แต่ตอนนี้ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เธอกอดต้นขาเขาไว้ไม่ปล่อย พลางตะโกน


ร้องไห้ “พีเ่ ขย ฮือๆ… นั บว่าข้าหาท่านพบแล้ว พีเ่ ขย…”

หลิงโม่หานขมวดคิว
้ กระบีม
่ องขอทานน้ อยร่างผมที่กอดขาตนไว้ราวกับหมี
เพราะไม่คุ้นชินกับการถูกเนื้ อต้องตัว ตอนนี้ รา่ งกายจึงแข็งทื่ออยูห
่ น่ อยๆ
เขาสะบัดขา พูดเสียงทุ้มว่า “เจ้าทักคนผิดแล้ว ปล่อย!” ทว่าขาเขาถูกกอด
ไว้แน่ นจนสะบัดขอทานน้ อยผูน
้ ั ้นออกไม่ได้

“ฮือๆ… พีเ่ ขย ข้าทักไม่ผด


ิ หรอก พีส
่ าวบอกข้าว่าท่านมีหนวดเคราขึ้นดก
ตอนเด็กๆ ข้าเคยเห็นท่าน ทักไม่ผด
ิ คนแน่ ฮือๆ…พีเ่ ขย ท่านอย่าไล่ขา้ ไปเลย
พีส
่ าวข้าตาย ในบ้านไม่มีใครแล้ว ขนาดแม่เลี้ยงก็ยงั ขายข้าทิง้ ฮือๆ…พี่
เขย…”

“ข้าไม่ใช่พเี่ ขยเจ้า เจ้าทักผิดแล้วจริงๆ!”


สีหน้าหลิงโม่หานยิง่ เย็นชา กลิน
่ อายเย็นเยือกทัว่ ร่างก็ยงิ่ หนาแน่ น ท่าทาง
น่ากลัวมาก แต่กลายเป็นว่าขอทานน้ อยที่กอดขาเขาอยูก
่ ลับไม่ปล่อยมือเลย
เขาสะบัดขาหลายรอบก็ยงั สลัดออกไม่ได้ พอยื่นมือจะแกะตัวออก กลับเห็น
เด็กน้ อยกรีดร้องและยิง่ กอดแน่ น ศีรษะขยับขึ้นไปโดนส่วนอ่อนไหวตรง
หว่างขาโดยไม่ตัง้ ใจ ทำให้รา่ งเขาแข็งทื่อ ทัง้ ใบหน้ามืดทะมึน

“ปล่อย!”

“ข้าไม่ปล่อย เว้นแต่ท่านจะรับปากพาข้าไปด้วย”

เฟิ่ งจิว
่ เกาะติดเขาอย่างไร้ยางอาย จึงไม่รูส
้ ึกตัวว่าศีรษะเล็กๆ ของตนชนเข้า
กับจุดอ่อนไหวของเขา ซ้ำยังแอบยินดีที่ตนโชคดีในใจ แม้ท่านอาผูน
้ ี้ จะเย็น
ชาอยูบ
่ า้ ง แต่ยงั ดีที่เขาแค่พูด ไม่ถึงกับลงไม้ลงมือ ชัดเจนว่าเขาเป็นคนไม่
ทำร้ายคนธรรมดาคนหนึ่ งที่ไม่มีวรยุทธ์

หลิงโม่หานฝืนอดกลัน
้ อารมณ์ อยากฆ่าคนไว้ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ
“ปล่อยมือซะ ข้าจะให้เจ้าตามไป”

“ฮือ… พีเ่ ขย ข้ารู ว้ า่ ท่านคงไม่เมินเฉยข้า” เธอเช็ดดวงตาที่เดิมทีก็ไม่ได้มี


น้ำตาแล้วเร่งลุกยืนขึ้น กลับเห็นเขาหันตัวเดินนำไปด้านหน้า จึงรีบรุ ดตาม
ไปในทันที

พอเห็นระยะทางระหว่างทัง้ สองยิง่ ทิง้ ห่าง ดวงตาเฟิ่ งจิว


่ มีประกายยิม
้ เยาะ
พาดผ่าน ไม่แปลกใจเลยที่เขารับปากให้เธอตามไปด้วยอย่างใจกว้างเช่นนั ้น
ที่แท้คือเหตุผลนี้ เอง เพราะเขาอยากสลัดเธอทิง้ สินะ?
น่าเสียดายที่เขาคิดผิดถนั ด เธอจะตามฝีเท้าเขาไม่ทันได้อย่างไร? อีกอย่าง
ก่อนจะออกจากหมู่บา้ นต้าหล่างนี้ เธอต้องตามติดเขาไว้ คนผูน
้ ี้ ดูแล้วไม่
ธรรมดา หากตามอยูข
่ า้ งๆ เขา ทหารอารักขาพวกนั ้นคงไม่กล้าเข้ามาขวาง
แน่

“พีเ่ ขย ท่านเดินช้าๆ หน่ อยสิ ข้าใกล้จะตามไม่ทันแล้วนะ พีเ่ ขย…” เฟิ่ งจิว


่ วิง่
เหยาะๆ ตามหลัง พอเห็นเขาเดินไปยังประตูทางเข้าออกของหมู่บา้ น ใจก็นึก
ยินดี รีบสาวเท้าวิง่ ตามไป

ฝีเท้าหลิงโม่หานหยุดนิ่ งลง เขาหันกลับมา เห็นมือเล็กอันสกปรกของ


ขอทานน้ อยกำลังดึงชายเสื้อตนอยู่ จึงสะบัดแขนทันทีเพื่อสลัดขอทานน้ อย
ออก ก่อนจะก้าวต่อไปเบื้องหน้า

“พีเ่ ขย ท่านอย่าโกรธเลย ข้าจะไม่ดึงเสื้อท่านอีกแล้ว พีเ่ ขย…”

เธอวิง่ เหยาะๆ พลางตะโกนอย่างน่าเวทนา หางตาเหลือบเห็นว่าเมื่อทหาร


อารักขาที่เฝ้าตรงประตูหมู่บา้ นเห็นท่านอาเบื้องหน้า สีหน้าก็เปลี่ยนไปน้ อยๆ
พวกเขาพากันก้มหัวทำความเคารพ และหลังจากได้ยน
ิ เธอเรียกว่าพี่เขย
เหล่าทหารที่เดิมทีจะเดินมาหาก็หยุดนิ่ งอยูท
่ ี่เดิม แล้วแอบพินิจมองทัง้ สอง
ด้วยสีหน้าแปลกๆ
ตอนที่ 8 เช่นนั้ นเรียกท่านอา

“พีเ่ ขย พวกเราจะไปไหนกัน?” หลังเดินห่างออกมาจากประตูหมู่บา้ น เฟิ่ งจิว



เริม
่ จ้องพิเคราะห์คนข้างกาย

ตอนนั ้นเอง ฝีเท้าหลิงโม่หานชะงักลง เขาเหลือบมองขอทานน้ อย แล้วพูด


เสียงทุ้มว่า “เจ้าก็ออกมาแล้ว ไม่ต้องมาตามข้าอีกล่ะ”

เฟิ่ งจิว
่ ตกตะลึง ก่อนจะยิม
้ หวานต่อ “พีเ่ ขย ท่านพูดอะไรน่ ะ?” ที่แท้ท่านอา
ผูน
้ ี้ ก็รูแ
้ ต่แรกแล้วว่าเธออยากออกมา! ก็ใช่ เขาคนนี้ ดูไม่ธรรมดา แค่ลูกไม้
ตื้นๆ ของเธอจะดูไม่ออกได้อย่างไร? ทว่าถึงเขาดูออกก็ยงั ยอมช่วย นี่ สิที่
ทำให้เธอประหลาดใจ

พอเห็นเขายิง่ ก้าวเดินออกห่าง เฟิ่ งจิว


่ ก็รบ
ี เร่งตาม “พีเ่ ขย…” เธอยังไม่ทัน
พูดจบก็ถูกเขาตัดบท

“ข้าไม่ใช่พเี่ ขยของเจ้า อย่าได้เรียกมัว่ ซัว่ ” น้ำเสียงทุ้มต่ำมีความเยือกเย็น


เต็มไปด้วยแรงดึงดูด และแสดงถึงเสน่ หค
์ วามเป็นชายชาตรี

“หรือข้าทักคนผิดจริงๆ เสียแล้ว? พีส


่ าวข้าบอกว่าพีเ่ ขยมีหนวดเคราขึ้นดก
จึงจำหน้าได้งา่ ยนั ก” เธอวิง่ เหยาะๆ ขึ้นมามองประเมินอยูข
่ า้ งกายเขา แล้ว
ฉี กยิม
้ กว้าง “อืมๆ ข้าอาจจะทักผิดจริงๆ พีเ่ ขยข้าควรต้องอายุน้อยกว่าท่าน
อีกสักหน่ อย”
หลิงโม่หานเดินไปตามทางของตัวเอง เขาเมินเฉยขอทานน้ อยข้างกายโดย
สิน
้ เชิง ในสายตาเขา ขอทานไร้วรยุทธ์ที่มีแค่ความหลักแหลมเพียงเล็กน้ อย
หาได้อยูใ่ นสายตาไม่ ดังนั ้นจึงรีบเร่งฝีเท้าไป ย่างก้าวเร็วกว่าตอนอยูใ่ น
เมืองหลายเท่านั ก

ฝีเท้าเขาที่เร็วขึ้นทันทีทันใด ทำให้เฟิ่ งจิว


่ แอบประหลาดใจกับตัวเอง เห็น
ฝีเท้าเขาเหมือนย่ำอยูบ
่ นพื้น แต่ราวกับว่าสองขาแฉลบผ่านไปโดยไม่ติดพื้น
การเคลื่อนไหวร่างกายเร็วมาก ทว่าไม่ค่อยคับคล้ายกับวิชาฝีเท้าตามเมฆ
ของเธอที่ไปไหนมาไหนได้อย่างไร้รอ
่ งรอยสักเท่าไหร่

“ท่านอา ท่านอารอข้าด้วยสิ!” ไม่ใช่วา่ เธออยากตามติดเขาไปจริงๆ หรอก


แต่พอออกประตูหมู่บา้ นมาก็เป็นถนนเส้นใหญ่ ยิง่ ไปกว่านั ้น ตอนนี้ เธอก็
ไม่มีความคิดว่าต้องตามคนคนนี้ ไปทุกหนทุกแห่ง เธอยังต้องหาสมุนไพรมา
แก้พษ
ิ ในร่างอีกนะ!

จะว่าไปซูรวั ่ อวิ ๋นนั ่นเลวร้ายอย่างไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เริม


่ แรกที่นางทำเช่น
นั ้นกับเฟิ่ งชิงเกอ นางไม่เพียงแค่แย่งชิงฐานะทัง้ หมด นึ กไม่ถึงว่ายังจะส่ง
เฟิ่ งชิงเกอไปขายในสถานที่อย่างหอนางโลม และคิดจะให้อก
ี ฝ่ายถูกกระทำ
ชำเราจนตาย จิๆ
๊ ผูห
้ ญิงคนนี้ นี่นะ! ช่างร้ายกาจเช่นงูพษ
ิ จริงๆ

แต่วา่ ตามความทรงจำเดิมของเฟิ่ งชิงเกอ ซูรวั ่ อวิ ๋นนี่ ก็ดูเหมือนเธออยู่ หรือ


จะมาจากศตวรรษที่ 21? ทัง้ ยังเชีย
่ วชาญเรือ
่ งยาอีก ไม่เช่นนั ้นนางคงทำ
หน้ากากที่เหมือนกับเฟิ่ งจิว
่ ทุกกระเบียดนิว
้ ขนาดนั ้นออกมาไม่ได้หรอก
ยิง่ คิดในใจก็ยงิ่ ตื่นเต้นอยูบ
่ า้ ง แม้เดิมทีรูส
้ ึกว่าเป็นเรือ
่ งน่าเบื่อ แต่ดูเหมือน
จะสนุกขึ้นเรือ
่ ยๆ ซะแล้วสิ!

ทว่าเมื่อหลิงโม่หานเบื้องหน้าได้ยน
ิ เสียงเรียกท่านอา มุมปากก็กระตุกน้ อยๆ
เขาลูบเคราบนใบหน้าตัวเองอย่างเคยตัว ก่อนจะเร่งฝีเท้าขึ้นอีกเพื่อสลัดคน
ด้านหลังทิง้ แต่สองชัว่ ยามผ่านไป เขาก็หยุดฝีเท้าลงแล้วหันหน้าเหลือบ
มอง ยามเห็นว่าเงาร่างอันผอมบางนั ้นยังคงตามหลังเขาอยูส
่ ามจัง้ [1]กว่า
ก็แอบแปลกใจกับตัวเอง

[1] จัง้ คือหน่วยวัดของจีน 1 จัง้ เท่ากับประมาณ 3.33 เมตร

คนที่ไร้วรยุทธ์อย่างเขาตามมาทันได้อย่างไรกัน?

เฟิ่ งจิว
่ วิง่ หอบฮักตามมา เธอก้มลงใช้สองมือยันเข่าไว้พลางหอบหายใจเฮือก
ใหญ่ “ฮู!่ ข้าเหนื่ อยจะตายอยูแ
่ ล้ว ท่านอา ท่านเดินเร็วขนาดนั ้นทำไมกัน?”

หลิงโม่หานขมวดคิว
้ พินิจมองขอทานน้ อยผูม
้ อมแมมอย่างละเอียด สักพัก
จึงพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “เจ้าอย่าได้ตามข้ามาอีกเลย ที่ที่ขา้ ต้องไปคือป่า
เก้าหมอบ ที่แห่งนั ้นอันตรายยิง่ เจ้าเข้าไปก็มีแต่ตายเปล่าๆ”

“ไม่ใช่นะ ท่านอา ข้าไม่ได้ตามท่าน เดิมทีขา้ เองก็จะไปป่าเก้าหมอบ แต่ใน


เมื่อท่านเองก็ไปป่านั ่นเหมือนกัน พวกเราไปด้วยกันเลยไม่ดีกว่าหรือ?”
ตอนที่ 9 สู่ป่าเก้าหมอบ

หลิงโม่หานไม่สนใจคนด้านหลังอีก เดินสาวเท้าก้าวยาวไป เขาคิดว่าขอทาน


น้ อยคงเป็นคุณชายน้ อยของตระกูลเศรษฐีสักตระกูลที่แอบออกมาเที่ยวเล่น
ตัง้ แต่ตอนที่อก
ี ฝ่ายเข้ามากอดขา หลิงโม่หานก็สังเกตุเห็นว่าตัวขอทานน้ อย
ไม่ได้ดูต่ำต้อยเช่นขอทานทัว่ ไป มิหนำซ้ำดวงตายังมีความฉลาดแกมโกง
แฝงอยู่ หากเป็นแค่ขอทานคนหนึ่ งจะไปมีได้อย่างไรกัน? และยังได้ยน
ิ เขา
บอกอย่างคาดไม่ถึงอีกว่าจะไปป่าเก้าหมอบ จึงยิง่ แน่ ใจว่าเด็กหนุ่มคนนี้ ไป
เล่นสนุกเป็นแน่

ถ้าขอทานน้ อยรนหาที่ตายตามเข้าป่าเก้าหมอบมาจริงๆ หลิงโม่หานก็จะไม่


ยุง่ เรือ
่ งชาวบ้านด้วยการไปช่วยเขา

พอเห็นว่าท่านอาตรงหน้าไม่สนใจ เฟิ่ งจิว


่ ก็ไม่ปริปากอะไรอีก แค่วงิ่ เหยาะๆ
ตามไปด้านหลัง ทว่าหากมองอย่างละเอียดแล้ว จะเห็นว่าฝีเท้าของเธอ
แปลกมาก ความเร็วไม่ชา้ ไปกว่าหลิงโม่หานที่อยูด
่ ้านหน้าสักเท่าไร

ทัง้ สองเดินตามกันไป หลิงโม่หานที่อยูด


่ ้านหน้าไม่หยุดพักเลย เฟิ่ งจิว
่ ทาง
ด้านหลังเองก็ไม่หยุด เพราะเวลากระชัน
้ ชิด เธอจึงต้องรีบไปหาสมุนไพรแก้
พิษในร่างที่ป่าเก้าหมอบ มิเช่นนั ้นชีวต
ิ น้ อยๆ นี้ คงต้องจบเห่ลงที่นี่จริงๆ

ที่จริงแล้ว เมื่อก่อนเรือนร่างนี้ เป็นร่างของคุณหนูผูส


้ ูงศักดิ์ พอไม่ได้กินอะไร
ซ้ำยังมาวิง่ ทัง้ วันทัง้ คืนเช่นนี้ สำหรับเธอเลยถึงขีดจำกัดเสียแล้ว สองขาทัง้
เมื่อยทัง้ หนั ก ฝีเท้าที่ก้าวเดินก็ค่อยๆ ช้าลง และระยะห่างกับหลิงโม่หานก็ยงิ่
ไกลกันออกไป
โชคดีที่ในที่สุดเธอก็มาถึงปากทางเข้าป่าเก้าหมอบในเช้าตรู ข
่ องวันถัดมา
ทว่าตอนนี้ เธอไม่เห็นเงาร่างของท่านอาผูน
้ ั ้นแล้ว

“ฮู!่ เหนื่ อยชะมัดเลย” เธอทิง้ ตัวลงนั ่งบนพื้น หอบหายใจเสียงดังดัง่ วัว


เหงือ
่ ไหลเหมือนสายฝน ท้องก็ยงั หิวอีกด้วย ตอนนี้ เธอเวียนหัวเล็กน้ อย
แถมยังคลื่นไส้อยูบ
่ า้ ง

ตัง้ แต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ เธอฉวยเอาแอปเปิลลูกหนึ่ งจากพ่อค้าเร่ที่ขาย


ผลไม้มากิน จนเวลานี้ ไม่รูว้ า่ ย่อยไปถึงไหนแล้ว ตอนนี้ ถึงได้หว
ิ จนผนั งท้อง
หน้าและหลังแทบจะติดกัน เธอคิดเพียงว่าหากมีน่องไก่อะไรทำนองนี้ ให้กิน
ก็คงดี

เธอพักอยูค
่ รู ห
่ นึ่ งถึงเช็ดเหงือ
่ แล้วก็ลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นป่าเก้าหมอบเบื้องหน้า
ก็ผุดรอยยิม
้ ตัง้ ตารอออกมา “ฮิๆ ในป่าเก้าหมอบนี้ น่าจะมีอาหารป่า…”
นึ กถึงตรงนี้ เธอก็กลืนน้ำลายอีก ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในทันที

ในป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ นี้มีวช
ั พืชขึ้นรกรุ งรัง ดวงอาทิตย์เหนื อหัวถูกใบไม้
บดบังไปกว่าครึง่ จึงมีเพียงแสงแดดเล็กน้ อยส่องเข้ามาในป่า กลิน
่ พื้นดิน
ชื้นแฉะและกลิน
่ หอมของต้นหญ้าลอยลู่ตามลมมาถึงจมูก

ในมือเฟิ่ งจิว
่ ถือกิง่ ไม้ที่หก
ั มาจากต้นพลางปัดไปซ้ายทีขวาที หนึ่ งคือเพื่อ
แหวกพวกหญ้ารกที่ขวางทางตรงหน้าออกไป สองคือเพื่อไล่พวกงูพษ
ิ ที่หลบ
ซ่อนอยูใ่ นพุม
่ ไม้
เฟิ่ งจิว
่ เดินไปอย่างช้าๆ ดวงตาเสาะหาบรรดาสมุนไพรที่อาจถูกวัชพืชบังไว้
อย่างละเอียด เธอพบพิษในร่างนานแล้ว ถ้าจะให้คนอื่นแก้ให้คงเป็นเรือ
่ ง
ยาก แต่สำหรับเธอที่เชีย
่ วชาญเรือ
่ งยาพิษกลับไม่ยากเลย แน่ นอนว่าก่อน
อื่นต้องหาสมุนไพรที่ต้องการให้ได้ก่อน มิฉะนั ้นต่อให้เธอเป็นเซียนหมอก็
ไม่มีทางรักษาพิษของตัวเองได้ด้วยมือเปล่า

อาจเพราะอยูร่ อบนอกป่า ถึงแม้จะมีสมุนไพร แต่ก็ล้วนเป็นชนิ ดที่เห็นได้


บ่อยมาก ส่วนอาหารป่าที่เธอนึ กภาพไว้ยงิ่ ไม่ต้องพูดถึง เดินมาจะครึง่ ชัว่
ยามแล้วยังไม่เห็นอาหารป่าที่กินได้เลย จิง้ เหลนที่ปีนอยูบ
่ นต้นไม้ก็เจอแค่
ไม่กี่ตัวด้วยซ้ำ

ท้องเธอหิวจนไม่สบายตัวเลยจริงๆ ครัน
้ เห็นในพุม
่ หญ้ามีดอกของว่านสาม
ใบ เธอก็เลือกช่อใหญ่ๆ มาถือไว้ เดินไปพลางกินไปพลาง แม้ก้านของว่าน
สามใบจะเปรีย
้ ว แต่ดอกมีกลิน
่ หอมอยูจ
่ างๆ ถึงจะเทียบกับอะไรไม่ได้ ก็ดี
กว่าปล่อยให้ท้องว่าง

“เอ๊ะ? นึ กไม่ถึงเลยว่าที่นี่จะมีต้นเหมยติดดินด้วย?” เฟิ่ งจิว


่ วิง่ เข้าไปอย่าง
แปลกใจ สมุนไพรที่โตอยูข
่ า้ งต้นไม้คือหนึ่ งในสมุนไพรแก้พษ
ิ ที่เธอออกตาม
หานั ่นเอง
ตอนที่ 10 ตามหายาเพียงลำพัง

ครัน
้ กินดอกของว่านสามใบส้มจนหมด เธอทิง้ ใบกับก้านไป ก่อนจะขุดต้น
เหมยติดดินออกมาจากพื้นดินอย่างระมัดระวัง ทว่าเธอที่นั่งยองอยูบ
่ นพื้น
กลับไม่รูว้ า่ ในพุม
่ หญ้านั ้นมีงูพษ
ิ ตัวสีขาวสลับดำกำลังเลื้อยเข้ามาหา

ยามงูพษ
ิ เข้าใกล้เธอ มันยกหัวขึ้นแล้วเปล่งภาษางูออกมา ส่งเสียงขูฟ
่ ่อ
เบาๆ ในชัว่ พริบตานั ้น มันกระโจนตัวออกไปทันที เขีย
้ วงูที่แยกออกมุ่งเข้ามา
จะกัดตรงน่ องขาของเฟิ่ งจิว
่ ที่นั่งอยู่

สีหน้าท่าทางของเฟิ่ งจิว
่ พลันเปลี่ยนไป แผ่รงั สีอำมหิตออกมาในพริบตานั ้น
ดวงตาทัง้ สองดุดันขึ้นกว่าเดิมมาก เมื่อหันไปอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่ งก็จับ
จุดตายที่หลังงูแล้วใช้นิว
้ ออกแรงกดเข้าเนื้ อ มีเสียงฟ่อดังขึ้นมา มือที่จับ
บริเวณหัวใจงูจิกเข้าไปอย่างแข็งทื่อ

“ฟ่อ!” งูพษ
ิ ส่งเสียงร้อง หลังจากชักกระตุกสองสามครัง้ ก็ออ
่ นยวบลงไป

“อ้อ? ไม่นึกว่าจะเป็นงูปล้องเงิน” เหมือนความดุดันก่อนหน้านี้ เป็นแค่ภาพ


ลวงเพียงชัว่ วูบ เฟิ่ งจิว
่ ในตอนนี้ มีท่าทางเอื่อยเฉื่ อย จ้องงูพษ
ิ ในมือแล้วยิม

ขึ้นมา “ไม่มีทัง้ กระต่ายป่าทัง้ หมูป่า งัน
้ ก็เอางูตัวนี้ มาย่างเติมท้องแล้วกัน”
แต่พอพูดไป รอยยิม
้ บนใบหน้าก็แข็งทื่อ

เพราะเธอพบกับปัญหาใหญ่มากข้อหนึ่ ง…เธอไม่มีไฟ
ในป่าที่ช้น
ื แฉะนี้ จะก่อไฟขึ้นมาด้วยแรงเสียดสีนั้นไม่ใช่เรือ
่ งง่าย และเธอ
ดันไม่มีกระบอกจุดไฟด้วย ถึงจะมีเนื้ องูก็ไม่มีทางเอามาย่างกินได้อยูด
่ ี!

“ช่างมันเถอะ ช่างมันเถอะ ฉั นจะพยายามอีกแล้วกัน! อย่างน้ อยก็ต้องหาที่


แห้งๆ หน่ อยถึงจะหาทางก่อไฟได้” เธอพึมพำเสียงเบา จะทิง้ งูปล้องเงินใน
มือไปก็รูส
้ ึกเสียดาย ดังนั ้นจึงจัดการเท่าที่สะดวกจะทำได้

เธอตัดหัวงูไป ลอกหนั งทิง้ คว้านดีงูออก แล้วค่อยนำงูที่มองรู ปลักษณ์ เดิม


ไม่ออกมาแขวนพันไว้บนกิง่ ไม้ เธอเช็ดกลิน
่ เลือดที่คลุ้งเต็มมือกับผืนหญ้า
ก่อนจะเลือกสมุนไพรที่กลิน
่ ค่อนข้างแรงมาถูตรงมือ พอกำจัดกลิน
่ คาวบน
นั ้นได้ก็เดินต่อไปข้างหน้า

ด้วยเหตุนี้เอง หากอยูใ่ นป่านี้ ก็จะเห็นขอทานน้ อยคนหนึ่ งที่สวมเสื้อผ้า


โทรมๆ ร่างกายสกปรกเดินอยูค
่ นเดียวในป่าเก้าหมอบซึ่งสุดแสนอันตราย
บนไหล่แบกกิง่ ไม้ไว้ และด้านหลังของกิง่ ไม้จะมีงูที่ลอกหนั งออกแล้วเสียบไว้
แกว่งไปมาอยูต
่ รงนั ้น…

ตลอดทัง้ วัน เธอตามหาสมุนไพรแก้พษ


ิ ในป่านี้ เพียงลำพัง ค่อยๆ เดินจาก
รอบนอกเข้าไปด้านในโดยไม่รูเ้ นื้ อรู ต
้ ัว จนในที่สุดก่อนท้องฟ้าจะมืดลง เธอ
ก็รวบรวมสมุนไพรแก้พษ
ิ ที่ต้องการมาได้

เฟิ่ งจิว
่ อาศัยท้องฟ้าที่ยงั พอมองเห็นหาไม้แห้งๆ มาใช้ เริม
่ ขัน
้ ตอนการจุดไฟ
แบบดัง้ เดิมที่สุด แต่เพราะความชื้นในป่า เธอจึงใช้เวลาเต็มๆ กว่าหนึ่ งชัว่
ยามถึงจะจุดไฟขึ้นมาได้ มือทัง้ สองข้างก็เป็นแผลพุพอง แต่หลังจากเธอได้
กินเนื้ องูยา่ งในที่สุด ก็คิดว่าทัง้ หมดนี้ มันช่างคุ้มค่า
สมุนไพรแก้พษ
ิ ก็หามาแล้ว ซ้ำยังได้เติมท้องจนอิม
่ เฟิ่ งจิว
่ ขยำพวกสมุนไพร
ที่เก็บมาเมื่อตอนบ่ายนำมาถูลงบนตัว ก่อนจะดับกองไฟ แล้วปีนขึ้นไปบน
ต้นไม้ใหญ่หาที่สบายๆ สักที่ไว้พก
ั ผ่อนดีๆ สักคืน

เพราะอยูใ่ นที่แบบนี้ ตัวคนเดียว เธอจึงไม่สามารถจุดไฟไว้เช่นปกติได้ ไม่


อย่างนั ้นพอตกกลางดึกจะกลายเป็นเป้าของพวกสัตว์รา้ ย ตอนนี้ เธอไม่มี
แรงต่อกรกับสัตว์รา้ ยมากขนาดนั ้นแล้ว ดังนั ้นถึงแม้บนต้นไม้จะค่อนข้าง
หนาวและไม่มีเปลวไฟให้ความอบอุน
่ แต่ก็ปลอดภัยกว่าไม่ใช่หรือ?

เป็นจริงอย่างที่คาดไว้ พอยิง่ ดึกดื่น ในป่าก็มีเสียงหมาป่าเห่าหอนดังมา


แว่วๆ เสียงของมันดังกึกก้องอยูใ่ นยามค่ำคืน ทำให้ต่ ืนตกใจได้กว่าปกติ

ทว่าตอนนี้ เฟิ่ งจิว


่ กลับนอนหลับได้สนิ ท ปล่อยให้เสียงเห่าหอนนั ้นกลายเป็น
ดัง่ เสียงเพลงกล่อมเด็กท่ามกลางค่ำคืนในป่าไป

จึงเป็นเรือ
่ งปกติที่เธอจะไม่รูว้ า่ บนต้นไม้หา่ งไปไม่ไกลมีเงาร่างสีดำที่มอง
เห็นการเคลื่อนไหวทัง้ หมดของเธอในป่านี้ อยู…

ตอนที่ 11 พบท่านอาอีกครัง้

ดวงตาดำลึกล้ำของหลิงโม่หานฉายแววประหลาดใจอยูเ่ บาๆ เขาแปลกใจ


นิ ดหน่ อยที่เจอขอทานน้ อยในนี้ เดิมเขาคิดว่าหลังจากพบอันตรายที่เกิดขึ้น
ในป่าเก้าหมอบ ขอทานน้ อยคงออกไปเอง ใครจะนึ กว่าอีกฝ่ายกลับมาถึง
ด้านในนี้ ด้วยตัวคนเดียว

หลิงโม่หานพบเขาเมื่อตอนบ่าย ตอนนั ้นเด็กน้ อยกำลังนั ่งขุดสมุนไพรอยูบ


่ น
พื้น สมุนไพรพวกนั ้นหลิงโม่หานมองว่าไม่มีประโยชน์ อะไรเลย ทว่าเขากลับ
เก็บมันขึ้นมา และยังนึ กไม่ถึงว่าเขาจะเดินเอ้อระเหยอยูค
่ นเดียวในป่านี้
เหมือนไม่รูจ
้ ักอันตราย

ด้วยนิ สัยอันเฉยชา หลิงโม่หานจะไม่ให้ความสนใจกับขอทานน้ อยคนนี้ มาก


นั ก ทว่าไม่รูท
้ ำไมเขากลับไม่ยอมจากไป ยังแอบดูทางนั ้นอยู่ พอเห็นขอทาน
น้ อยใช้กริชทำรู เล็กๆ บนกิง่ ไม้แห้งที่เก็บมา แล้วหยิบกิง่ ไม้เล็กอีกก้านมานั ่ง
หมุนปั่ นลงไปในรู นั้น เดิมทีหลิงโม่หานยังไม่รูว้ า่ เขากำลังทำอะไรกันแน่ แต่
หลังจากเขานั ่งปั่ นอยูก
่ ว่าหนึ่ งชัว่ ยามเต็มก็เห็นควันไฟพวยพุง่ ออกมา หลิง
โม่หานยิง่ แปลกใจ

นึ กไม่ถึงว่าพอใช้ไม้สองแท่งเสียดสีกันจะมีไฟออกมาได้ด้วย? วิธก
ี ารแปลกๆ
เช่นนี้ เขาไม่เคยเห็นใครใช้มาก่อน ต้องรู ไ้ ว้วา่ ปกตินอกจากกระบอกจุดไฟ
แล้วก็ยงั มีหน
ิ เหล็กไฟที่ใช้จุดไฟได้ หากโชคไม่ดีนำอาวุธสองสิง่ นี้ มาเสียดสี
ด้วยกัน จะระเบิดเป็นประกายไฟออกมาได้ แต่วธ
ิ ก
ี ่อไฟที่คล้ายๆ แบบนี้ เขา
กลับเห็นเป็นครัง้ แรก
แต่ก็ชด
ั เจนว่าขอทานน้ อยผูน
้ ี้ ไม่ใช่ไม่รูจ
้ ักอันตราย หลังจากใช้กองไฟเล็กๆ
นั ้นย่างงูที่ถูกถลกหนั งมากินประทังท้อง เขาก็ดับไฟลง จากนั ้นปีนขึ้นไปหา
ที่นอนพักบนต้นไม้ใหญ่อย่างคล่องแคล่ว ท่าทางไม่คิดอะไรมากมาย หลิงโม่
หานอยูต
่ รงนี้ ยงั ได้ยน
ิ เสียงเขากรนอยูเ่ ลย

ถ้าตอนนี้ หลิงโม่หานรู ว้ า่ เฟิ่ งจิว


่ กำลังคิดอะไรอยูใ่ นใจ เดาว่าเขาคงไม่คิด
แบบนั ้น

เดิมทีเฟิ่ งจิว
่ ก็ไม่สังเกตเห็นว่ามีคนกำลังจ้องมองเธออยู่ เพราะเธอไม่รูส
้ ึก
ถึงจิตสังหารรอบๆ ตัว แต่ขณะที่ปรือตาหลับบนต้นไม้ ต่อให้ไม่ต้องลืมตา
เธอก็รูส
้ ึกได้ถึงดวงตาคู่หนึ่ งที่กำลังมองสำรวจ เพราะเหตุนี้เธอจึงส่งเสียง
กรนออกมาราวกับหลับสนิ ทไปแล้ว

แท้ที่จริงเฟิ่ งจิว
่ กำลังคิดอยู่ ไม่รูว้ า่ อีกฝ่ายจ้องมองมาตัง้ แต่ตอนไหน และ
คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่รูส
้ ึกตัวเลยว่าถูกคนมองอยู่

แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่โผล่หน้า และก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามอะไร จึงเป็นปกติที่


เธอจะไม่เปิดโปงคนในมุมมืดนั ้น ทว่าก็แอบระแวดระวังขึ้นมา ถึงอย่างไร
คนของโลกนี้ ก็ฝึกบำเพ็ญเป็นเซียน จะปฏิบต
ั ิกับพวกเขาเช่นคนธรรมดาไม่
ได้ มิเช่นนั ้นฝ่ายที่เสียเปรียบคงมีแค่ตัวเธอเอง

เช้าตรู ว่ น
ั ต่อมา เฟิ่ งจิว
่ ตื่นขึ้นท่ามกลางเสียงร้องของนกในป่า ระหว่างที่ก่ึง
หลับกึ่งตื่น เธอยื่นมือบิดขีเ้ กียจพลางหาวหวอด แต่ก็เสียสมดุลจากการยืด
เส้นร่างกายจนทัง้ ร่างตกลงจากต้นไม้
“อ๊ะ!”

ตุ๊บ

เธอร้องอุทาน ตามด้วยเสียงตุ๊บยามเมื่อตกลงบนพื้น ร่วงลงในพุม


่ วัชพืชใต้
ต้นไม้นั้น

“ซี๊ด! เจ็บชะมัดเลย” เธอลุกขึ้นยืนแล้วลูบๆ ที่เอว บิดตัวเล็กน้ อยถึงจะถอน


หายใจออกมา “ยังดีที่ไม่หก
ั ”

ที่ไม่ไกลออกไป ใบไม้เขียวชอุม
่ กำลังบดบังเงาร่างสีดำของหลิงโม่หานไว้ครึง่
หนึ่ ง ครัน
้ ดวงตาดำขลับลึกล้ำกวาดมองร่างนั ้นก็รบ
ี เบนสายตาออกไป

ตัง้ แต่ตอนที่ขอทานน้ อยตื่นขึ้นมา เขาก็ลืมตาขึ้น จึงเห็นว่าขอทานน้ อยที่


งัวเงียยืดตัวบิดขีเ้ กียจแล้วตกต้นไม้ไป ข้างล่างต้นไม้มีทัง้ วัชพืชและดิน
โคลน ถึงตกลงไปแบบนั ้นก็คงจะไม่เป็นปัญหาใหญ่อะไร เขาจึงมอง
สังเกตการณ์ อย่างเงียบๆ โดยไม่ดึงอีกฝ่ายขึ้นมา

ขอทานน้ อยลูบเอวพลางมองหาก้อนหินสองก้อนใหญ่ที่อยูร่ อบๆ จากนั ้นนั ่ง


ลงใต้ต้นไม้ตรงนั ้น แล้วล้วงพวกสมุนไพรจากในอกเสื้อมาบดผสมกัน ก่อน
จะยัดเข้าปาก หลิงโม่หานขมวดคิว
้ กระบี่อย่างอดไม่ได้ขณะมองขอทานน้ อย
เขาแอบคิดว่าเมื่อคืนขอทานน้ อยเพิง่ กินเนื้ องูยา่ งไป หรือว่าไม่ทันไรก็หว

เสียจนต้องหยิบสมุนไพรมาประทังความหิวแล้ว?
แต่สมุนไพรพวกนั ้นยัดกินไปแบบนั ้นเลยไม่ได้กระมัง? หรือเขาไม่รูว้ า่ ถ้ากิน
สมุนไพรไปมัว่ ซัว่ แล้วจะมีปัญหา? ขณะหลิงโม่หานกำลังคิด ก็เห็นขอทาน
น้ อยส่งเสียงพรวดและสำรอกเลือดสีดำๆ ออกมา แล้วทัง้ ร่างก็ล้มลงไป…
ตอนที่ 12 จูบแรกของท่านอา

พอเห็นภาพเช่นนั ้น เขาขมวดคิว
้ มองอยูค
่ รู ห
่ นึ่ งพลางครุ น
่ คิด จนผ่านไปสัก
พัก เขาไม่เห็นทีท่าว่าขอทานน้ อยจะตื่นขึ้นมา จึงสูดหายใจเข้า แล้วเดินไป
ทางด้านนั ้น

“ตายแล้วรึ?”

เขาใช้เท้าถีบร่างที่ไม่ขยับเขยื้อนนั ้นเบาๆ ทีหนึ่ ง ก็เห็นว่าไม่มีการโต้ตอบ จึง


โน้ มตัวลงเพื่อตรวจดูลมหายใจของขอทานน้ อย ใครจะรู ว้ า่ พอเขาโน้ มตัวลง
ร่างเล็กที่เดิมทีนอนไร้ลมหายใจจู่ๆ ก็ผลุงขึ้นกระโจนมาทางเขา ทำให้หลิง
โม่หานที่ยงั ไม่เตรียมตัวเตรียมใจล้มลงบนพื้น

“ท่านอา! ฮ่าๆๆ… เอ๋!”

เสียงของเฟิ่ งจิว
่ ที่กำลังหัวเราะอย่างสบายใจชะงักไป รอยยิม
้ บนใบหน้าแข็ง
ทื่อเล็กน้ อย เธอมองท่านอาที่ถูกเธอผลักล้มอยูบ
่ นพื้น ดวงตาเขาดูตกตะลึง
ก่อนจะเห็นอุง้ มือมารที่ตะปบอยูต
่ รงหน้าอกเธอ ผ่านไปพักหนึ่ ง เธอก็ยงั
ดึงสติกลับมาไม่ได้

นี่ นี่ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? นี่ เธอถูกลวนลามเสียแล้ว?

สัมผัสอันอ่อนนุ่มที่ส่งผ่านมาถึงฝ่ามือทำให้ในหัวของหลิงโม่หานขาวโพลน
ไปในทันที ความตกตะลึงเต็มเปี่ ยมในดวงตาเขา นี่ เป็นครัง้ แรกในชีวต
ิ ที่เขา
พูดตะกุกตะกัก “เจ้า เจ้าเป็นผูห
้ ญิงรึ?” ขณะที่พูดก็พลันดึงสติและสองมือ
นั ้นกลับ

แต่พอเขาดึงมือกลับ เฟิ่ งจิว


่ ที่นิ่งอึ้งไปไม่ต่างกันก็ไม่โต้ตอบอะไรมา พอสูญ
เสียแรงค้ำจากสองมือของเขา ทัง้ ร่างก็ล้มลงไป ปากจิม
้ ลิม
้ ทาบลงบนริม
ฝีปากบางที่เต็มไปด้วยหนวดยาวๆ โดยบังเอิญ

“อื้อ!”

ทัง้ สองคนส่งเสียงขึ้นจมูก สองริมฝีปากชนกันจนรู ส


้ ึกเจ็บ

ครัง้ นี้ ร่างหลิงโม่หานแข็งทื่อไปแล้ว ดวงตาเขาเบิกกว้างเพราะความเหลือ


เชื่อ ราวกับตื่นตกใจจากอะไรบางอย่าง จากนั ้นสองตาเหลือกขึ้นเป็นลมไป

พอเห็นท่านอาหมดสติ สีหน้าเฟิ่ งจิว


่ ก็ดำมืดลง เธอตะกายตัวขึ้นลูบๆ ใบหน้า
ที่ถูกหนวดทิม
่ จนเจ็บอยูน
่ ิ ดหน่ อย พลางถมน้ำลายและเช็ดปากไป “ข้าไม่ได้
รังเกียจที่ท่านเป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อนหรอกนะ แต่ท่านยังจะเป็นลมอย่างไม่
เกรงใจได้อยูอ
่ ก
ี หรือ?”

เมื่อแตะพวกโคลนที่เกาะอยูบ
่ นใบหน้า แล้วค่อยมองท่านอาที่เป็นลมไปแล้ว
จริงๆ เธอก็แค่รูส
้ ึกหมดคำพูด

เธอจัดการกับสมุนไพรแก้พษ
ิ บดแล้วกลืนมันไปทัง้ ดิบๆ ผลของยานี้ รุนแรง
เกินไปจนเธอกระอักเลือดสดๆ ออกมา เธอจึงอาศัยโอกาสนี้ หลอกล่อคนใน
มุมมืด เพื่อจะลองดูวา่ เป็นใครกันแน่ ? แต่กลับไม่นึกว่าเสียงที่ได้ยน
ิ จะเป็น
เสียงของท่านอา ดังนั ้นเธอจึงอยากแกล้งเขาสักหน่ อย ใครจะนึ กว่าสุดท้าย
ตัวเองกลับถูกเขาลวนลาม ซ้ำยังกลายเป็นว่าคนที่ลวนลามเธอดันตกใจจน
เป็นลมไปอย่างไม่คาดคิดอีก?

เฟิ่ งจิว
่ นั ่งขัดสมาธิลงข้างๆ และอาศัยโอกาสที่เขายังไม่ต่ ืนพินิจมองเขา
อย่างละเอียด เธอพบว่าท่านอาผู้นี้ก็หน้าตาไม่เลวเลยจริงๆ

ถึงแม้ใบหน้าจะถูกหนวดเคราบดบังไปกว่าครึง่ แต่สองคิว
้ กระบี่ จมูกโด่ง
เป็นสัน และยังโครงหน้าที่เด็ดเดี่ยวเย็นชา รวมถึงริมฝีปากน่าดึงดูดที่ซ่อน
อยูใ่ ต้เครา แทบไม่มีส่วนใดไร้เสน่ หค
์ วามเป็นชายของเขาเลย

สายตาที่ช่น
ื ชมของเธอค่อยๆ เคลื่อนลง มองผ่านร่างกายกำยำและสองขา
ที่เรียวยาวแกร่งของเขา ก่อนจะแอบพยักหน้ากับตัวเอง ‘อืม ร่างกายเขาใส่
เสื้อผ้าก็ดูได้ถอดเสื้อผ้าก็ดูดี ถึงไม่เห็นก็รูว้ า่ เขาต้องมีกล้ามเนื้ อหน้าท้อง
เป็นมัดๆ แน่ นอน’

ขณะกำลังจะยื่นมือออกไปสัมผัสกล้ามเนื้ อหน้าท้องของเขาราวกับถูกผีเข้า
ทว่าในตอนนั ้น น้ำเสียงเยือกเย็นก็ดังขึ้นมาข้างหู

“เจ้าทำอะไรน่ ะ!”

หลิงโม่หานขมวดคิว
้ มอง พลิกตัวลุกยืนขึ้นแล้วถอยห่างออกจากนาง ขณะที่
เพิง่ ฟื้ น เขานึ กไม่ถึงเลยว่าจะเห็นนางกำลังพินิจมองเรือนร่างของเขาด้วย
ดวงตาเป็นประกาย ถึงจะบอกว่าที่จริงสายตานั ้นคือความชื่นชม แต่ผูห
้ ญิง
คนหนึ่ งใช้สายตาเช่นนั ้นจ้องมองผูช
้ ายมันดูเหมาะสมหรือ?
พอได้ยน
ิ เสียงของเขา มือที่เพิง่ ยื่นไปก็ยกขึ้นเกาหัวตามธรรมชาติ แล้วพูด
ยิม
้ ๆ อย่างเหนี ยมอายว่า “ท่านอา ข้าไม่ได้ทำอะไรนะ!” ชิ! ทำไมถึงตื่นมา
เร็วขนาดนี้ ? เธอยังอยากสัมผัสกล้ามหน้าท้องนั ่นอยูเ่ ลย!
ตอนที่ 13 แผ่นยาหนั งวัว

พอเห็นรอยยิม
้ ที่ปรากฏบนใบหน้านาง รวมถึงประกายที่ฉายอยูใ่ นดวงตา
นึ กถึงความนุ่มหยุน
่ ที่มือเขาจับไปก่อนหน้านี้ และยังสัมผัสยามริมฝีปากชน
กัน เพียงชัว่ ครู ่ ใบหน้าเขาก็มืดทะมึนลง แต่แค่ใบหน้าถูกหนวดเคราบังไว้จึง
มองไม่ออกเท่านั ้น

เห็นเขาหันเดินจากไปโดยไม่พูดไม่จา เฟิ่ งจิว


่ จึงตะลึงอยูน
่ ้ อยๆ เธอครุ น
่ คิด
ครู ห
่ นึ่ งก่อนจะสาวเท้าก้าวตามไป “ท่านอา ที่จริงพวกเราก็มีวาสนาต่อกัน
ไม่ใช่หรือ? ขนาดท่านอยูด
่ ้านในนี้ ก็ยงั ได้พบกันอีก ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไม
พวกเราไม่รว่ มทางกันเสียเลยล่ะ?”

เมื่อเห็นเขาเดินไปโดยไม่สนใจอย่างสิน
้ เชิง เธอก็ไม่ใส่ใจ หากคิดถึงความ
แข็งแรงของตัวเอง วิง่ พล่านอยูท
่ ี่นี่ตัวคนเดียวก็ยงั อันตรายอยูบ
่ า้ งจริงๆ แต่
ถ้าตามเขาคนนี้ ไปด้วยจะปลอดภัยมากกว่าเยอะ

ดังนั ้นเขาเดินเธอตาม เขาหยุดเธอก็หยุดตาม ทว่าหากเทียบกับคนที่ไม่คิด


อะไรมากเช่นเธอ กลิน
่ อายเย็นเยียบบนร่างของหลิงโม่หานตรงหน้ากลับยิง่
หนาแน่ นขึ้น จนสุดท้าย ในที่สุดเขาก็กวาดตามองมาด้วยความเย็นชาอย่าง
เหลืออด พลางก็ขมวดคิว
้ ถาม “ทำไมเจ้าถึงเอาแต่ตามข้า?”

เขาคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนที่เข้าหาง่ายอะไร ปกติพวกคนที่พบเห็นเขามีใคร
บ้างที่ไม่รก
ั ษาระยะห่างสักสามก้าว?
ต่อให้เป็นคนที่ไม่รูก
้ ัน พอถูกเขาผลักไสก็จะไม่ทำตัวหน้าด้านหน้าทนตาม
ติดไปตลอดอีก แต่กลายเป็นว่าหญิงคนนี้ กลับทำตัวราวแผ่นยาหนั งวัว
เหนี ยวหนาที่สะบัดอย่างไรก็ไม่พน

“เพราะข้ารู จ
้ ักแค่ท่านคนเดียวน่ ะสิ!” เฟิ่ งจิว
่ บอกเขาไปตามเหตุผลอัน
สมควร ถึงแววตาจะมีประกายหยอกล้อ แต่สิง่ ที่แสดงออกบนใบหน้ากลับ
เป็นความจริงจังหาใดเปรียบ “ตัง้ แต่ท่านให้เศษเงินกับข้า ข้าก็มัน
่ ใจว่าท่าน
เป็นคนที่ดีมากๆ คนหนึ่ ง!”

เส้นเลือดบนหน้าผากหลิงโม่หานเริม
่ ไม่สงบ คิว
้ เขากระตุก สีหน้าก็ตึงๆ แม้
กระทัง่ ริมฝีปากยังเม้มแน่ นเป็นเส้นตรง สายตาลึกล้ำกวาดมองไปทางนาง
ก่อนจะเดินหน้าต่อไปโดยไม่พูดอะไรอีก

หากรู แ
้ ต่แรกว่าเงินที่โยนช่วยไปจะนำแผ่นยาหนั งวัวชิน
้ นี้ มาหาเขา ต่อให้มี
เงินนั ้นติดตัวเขาก็คงไม่โยนออกไปแน่ สวรรค์รูด
้ ีวา่ ตอนนั ้นเขาไม่ได้มอบ
เศษเงินนั ้นให้ด้วยความมีน้ำใจ แต่เพียงคลำเจอก้อนเงินจากเอวพอดี และ
เห็นว่าขอทานน้ อยนั ่งอยูต
่ รงนั ้นจึงโยนมันออกไป ใครจะไปรู ว้ า่ …

เฟิ่ งจิว
่ ที่เดินตามหลิงโม่หานเห็นเขายิง่ เดินไปในที่ที่ลึกขึ้น สายตาก็เป็น
ประกายเล็กน้ อยอย่างอดไม่ได้ เธอมองเงาร่างสีดำเบื้องหน้า แล้วถาม
“ท่านอา ข้าได้ยน
ิ ว่าด้านในนั ้นมีสัตว์รา้ ยอยูม
่ ากนั กจริงหรือไม่?” เดิมก็ไม่
หวังให้เขากล่าวอะไร แต่นึกไม่ถึงว่ากลับได้ยน
ิ เสียงอันเฉยเมยและเย็นชา
ดังลอยมา

“ในเมื่อรู แ
้ ล้วก็รบ
ี ออกไปเสีย”
“ท่านอา ข้าก็ตามเก็บยาอยูข
่ า้ งกายท่านนี่ แหละ จะไม่สร้างปัญหาให้ท่าน
หรอก” เธอเพิง่ ตรวจเส้นชีพจรดู พบว่าพอสำลักเลือดออกมาก็ถอนพิษใน
ร่างไปมากกว่าครึง่ ขอแค่ตอนเย็นกินสมุนไพรแก้พษ
ิ อีกรอบก็น่าจะใช้ได้
แล้ว

เดิมทีเธอคิดจะถอนพิษในร่างแล้วค่อยออกไปจากป่าเก้าหมอบ ใครใช้ให้
เธอได้พบท่านอาอีกกันล่ะ? เธอคิดจะหายาไประหว่างที่ตามอยูข
่ า้ งๆ เขา ถึง
แม้ก่อนหน้านี้ เธอจะเข้ามาด้านในแล้ว แต่ก็เป็นแค่รอบนอกของด้านในอีก
ที ตอนนี้ เดินตามเขาลึกเข้าไป ในใจเธอก็ทัง้ ตื่นเต้นและตัง้ ตารออยูบ
่ า้ ง

ไม่รูว้ า่ ด้านในจะมีสมุนไพรแบบไหนอีก? ได้ยน


ิ ว่ายิง่ เป็นที่อน
ั ตรายก็ยงิ่ ได้
พบยาทิพย์ หากเธอสามารถหายาทิพย์ได้ยงิ่ ดี ถึงไม่ได้ใช้ก็ยงั เอาไปขายได้!

อีกอย่าง ตอนนี้ ใบหน้าเธอถูกซูรวั ่ อวิ ๋นทำลายจนเป็นเช่นนี้ ขนาดมองตัวเอง


ยังรู ส
้ ึกกลัวเลย จึงเป็นธรรมดาที่เธอต้องคิดหาวิธรี ก
ั ษาบาดแผลบนใบหน้า
ให้หายดี มิเช่นนั ้นหากต้องใช้ใบหน้านี้ ไปตลอดชีวต
ิ คงได้ถูกปรามาสว่าเป็น
ปีศาจแน่
ตอนที่ 14 แค่ขอทานคนหนึ่ ง

ทัง้ สองคนเดินตามกันไป เพราะคำเตือนของหลิงโม่หาน แม้เธอจะเดินตาม


ก็อยูห
่ า่ งจากเขาถึงสามก้าว และเธอก็รูว้ า่ ท่านอาผูน
้ ี้ ไม่อาจใกล้ชด
ิ สตรีเพศ
มิเช่นนั ้นพอถูกเธอจูบโดยไม่ทันระวัง คงไม่เป็นลมไปอย่างรับไม่ได้เช่นนั ้น
หรอก

ถึงแม้เธอไม่ค่อยสบายใจ แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นท่านอาที่อายุค่อนข้าง
มากผูห
้ นึ่ ง เรือ
่ งผ่านไปแล้วจะพูดถึงอีกก็ไม่ดีนัก ต่างฝ่ายจะได้ไม่กระอัก
กระอ่วนกันไปเปล่าๆ

แต่สิง่ ที่ทำให้อารมณ์ เธอค่อยๆ ดีข้น


ึ คือเมื่อยิง่ เดินเข้าไปด้านใน ตลอดทาง
ที่ตามเขาอยูด
่ ้านหลังก็เก็บยาทิพย์ได้ไม่น้อยเลย สมุนไพรชนิ ดนี้ จะมีพลัง
วิญญาณอยู่ แม้เป็นเพียงพวกยาทิพย์ที่เห็นได้ค่อนข้างบ่อย แต่ก็ทำให้
อารมณ์ ของเธอยิง่ เบิกบานขึ้นมา

เอ๋? นั ่นมันสามแฉกแดง? เป็นยาทิพย์ที่ใช้รก


ั ษาแผลภายนอกได้ดีที่สุดนี่

พอเห็นต้นยาทิพย์ที่เติบโตอยูก
่ ลางพุม
่ วัชพืช เธอจึงวิง่ ระรืน
่ เข้าไปและขุด
เก็บมันมาอย่างระมัดระวัง ถึงอย่างไรต้นสามแฉกแดงก็เป็นยาทิพย์ที่มี
มูลค่าเทียบเท่าเงิน ยาทิพย์แบบนี้ จะพบอยูแ
่ ค่ด้านในของป่า หากอยูเ่ พียง
รอบนอกก็ไม่อาจได้พบเห็น

จริงๆ แล้วยาทิพย์พวกนี้ เหมือนกับยาสมุนไพรล้ำค่าที่เธอรู จ


้ ักในยุค
ศตวรรษที่ 21 ไม่วา่ จะชื่อยาหรือรู ปลักษณ์ ของยาทิพย์ก็ล้วนเหมือนกันทุก
กระเบียดนิว
้ มีแค่อย่างเดียวที่ไม่เหมือนกันคือที่โลกนี้ จะฝึกฝนพลัง
วิญญาณและพลังเร้นลับ หนำซ้ำสมุนไพรส่วนใหญ่ก็เป็นยาทิพย์ สรรพคุณ
ของมันจึงยิง่ โดดเด่น

ฟิ้ ว!

ในตอนนั ้นเอง เสียงดังฟิ้ วที่รวดเร็วรุ นแรงพุง่ มาทางเธอ เฟิ่ งจิว


่ ที่ขุดยา
ทิพย์อยูอ
่ ย่างระวังหลบออกไปด้วยความว่องไวโดยที่ยงั ไม่เงยหน้า และตอน
นี้ ต้นสามแฉกแดงถูกเธอขุดขึ้นมาไว้ในกำมือแล้ว

หลิงโม่หานที่อยูด
่ ้านหน้าได้ยน
ิ เสียงก็หน
ั กลับไปมองทันที มือที่อยูข
่ า้ งกาย
ยกขึ้นน้ อยๆ เมื่อลูกศรดอกนั ้นยิงไปหาขอทานน้ อย ทว่าพอเห็นนางหลบได้
ฉั บไว เขาจึงดึงมือกลับอย่างสงบเยือกเย็น แล้วมองไปทางคนที่มาจากอีก
ด้านหนึ่ ง

ยามนี้ เฟิ่ งจิว


่ กำลังมองลูกศรคมกริบซึ่งปักอยูต
่ รงที่เธอเพิง่ นั ่งเมื่อครู ่ ถ้าเมื่อ
กี้หลบไม่เร็วพอ ลูกศรนี้ คงพุง่ มาโดนร่างเธอแล้ว

สำหรับการปองร้ายที่ไร้เหตุผลเช่นนี้ ริมฝีปากเธอปรากฏรอยยิม
้ ไม่มีพษ
ิ ภัย
ทว่ากลับมองผูม
้ าเยือนด้วยดวงตาที่ไม่มีรอยยิม
้ อยูแ
่ ม้แต่น้อย

คนพวกนั ้นคือกองกำลังที่มีกันประมาณยีส
่ ิบคน หัวหน้าเป็นชายวัยกลางคน
ท่าทางสุขุม ผูท
้ ี่ตามมาข้างกายคือชายหนุ่มอายุราวๆ ยีส
่ ิบกับสาวน้ อยวัย
ประมาณสิบห้าสิบหก กลุ่มคนด้านหลังต่างสวมเครือ
่ งแบบคล่องตัวเหมือน
กัน คลับคล้ายว่าจะเป็นสมาชิกของตระกูล ดูๆ แล้วเหมือนจะเป็นตระกูล
หนึ่ งที่ออกมาฝึกวิชา

หลังจากพินิจมองคนเหล่านั ้นโดยไม่พูดไม่จาแวบหนึ่ ง สายตาของเฟิ่ งจิว


่ จับ
จ้องไปที่รา่ งของสาวน้ อยผูน
้ ั ้น เห็นว่านางสวมชุดกระโปรงเกาะอกผ้าโปร่ง
บางสีชมพู เนิ นอกอวบอิม
่ ที่โผล่ออกมาเกินครึง่ ช่างทรงเสน่ ห์ เอวเล็กๆ ก็
บีบรัดเสียจนดูเพรียวบางอ่อนช้อย ทว่าจากคันธนูดำในมือกับลูกศรที่ด้าน
หลัง ชัดเจนมากว่านางคือคนที่ยงิ ลูกศรดอกนั ้นมา

“ส่งต้นสามแฉกแดงมาซะ!”

สาวน้ อยผูน
้ ั ้นมองเฟิ่ งจิว
่ ที่เนื้ อตัวสกปรกด้วยสายตาหยิง่ ผยอง พร้อมพูด
อย่างดูถูกว่า “ขอทานคนหนึ่ งไม่ไปนั ่งมุมถนน ซ้ำยังกล้าวิง่ เข้ามาหาที่ตาย
ถึงในนี้ อก
ี ใช้ชว
ี ต
ิ เบื่อแล้วจริงๆ สินะ!”

สายตามองประเมินโดยไม่ปิดบังของเฟิ่ งจิว
่ กวาดมองที่รา่ งนาง แล้วกล่าว
น้ำเสียงเหยียดหยามเลียนอย่างอีกฝ่าย “แล้วเจ้าไม่ไปอยูท
่ ี่เรือนอีห
้ ง[1]
กลับวิง่ มาอวดเนื้ อหนั งถึงป่าเก้าหมอบ อยากจะยัว่ ยวนใครกัน?”

[1] เรือนอีห
้ ง คือที่พำนั กของเจียเป่าอวีจ
้ ากเรือ
่ ง ‘ความฝันในหอแดง’ อยู่
ภายในอุทยานต้ากวนซึ่งเป็นสถานที่ที่คุณหนูและสตรีของตระกูลอยูร่ ว่ มกัน

เฟิ่ งจิว
่ พูดออกมาเช่นนี้ มุมปากของหลิงโม่หานด้านหน้าก็กระตุกเล็กน้ อย
แล้วส่ายหัวกับตัวเอง ‘นางใช่ผูห
้ ญิงเสียที่ไหน? ก็เป็นอันธพาลอยูช
่ ด
ั ๆ’
เมื่อคนทางด้านของสาวน้ อยได้ยน
ิ กลับมีท่าทีเย็นชา สายตาแต่ละคู่ที่มีจิต
สังหารจับจ้องอยูบ
่ นร่างเฟิ่ งจิว
่ ราวกับกระบีค
่ ม มีเพียงชายวัยกลางคนกับ
ชายหนุ่มที่ยงั มีท่าทีเช่นในตอนแรก แค่แววตาทัง้ สองที่มองเฟิ่ งจิว
่ กลับ
เหมือนกำลังมองคนตายก็ไม่ปาน…

“เจ้ามันรนหาที่ตาย!”
ตอนที่ 15 ฝีมือแปลกประหลาด

สาวน้ อยผูน
้ ั ้นโวยวายอย่างอับอาย ก็ไม่รูว้ า่ ใบหน้างามนั ้นแดงเพราะโกรธ
เคืองหรือกระดาก นางยกคันธนูในมือขึ้นมาอีกครัง้ อย่างไม่ต้องคิด หยิบลูก
ศรออกมาพาดสายธนูและเล็งยิงไปที่เฟิ่ งจิว

ฟิ้ ว!

ลูกศรที่มีกลิน
่ อายพลังเร้นลับพุง่ มายังขัว้ หัวใจของเฟิ่ งจิว
่ ด้วยความเร็วปาน
สายฟ้าฟาด ดูเหมือนนางหมายจะเล่นงานเฟิ่ งจิว
่ ให้ถึงตาย จึงลงมืออย่าง
มาดร้ายเช่นนี้

คนทางด้านสาวน้ อยยืนนิ่ งไม่ไหวติง ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าเองก็


ราวกับจงใจเมินเฉย ถึงอย่างไรในสายตาพวกเขา เฟิ่ งจิว
่ ก็แค่ขอทานตัว
เล็กๆ ที่ไม่มีพลังเร้นลับอะไร อาจเพียงเพราะโชคดีถึงเข้ามาด้านในนี้ ได้ คน
เช่นขอทานผูน
้ ี้ พวกเขาใช้แค่นิว
้ มือเดียวก็สามารถบีบคอตายได้ตามใจชอบ
แล้ว

ตอนนี้ หลิงโม่หานที่อยูห
่ า่ งจากเฟิ่ งจิว
่ ไปไม่กี่ก้าวก็ไม่คิดขัดขวาง เขาอยาก
ลองดูวา่ ขอทานน้ อยคนนี้ จะมีฝีมือสักแค่ไหนกัน? จากที่เขาสังเกตนางมา
นางไม่ใช่พวกไร้สมอง ในทางตรงกันข้าม นางหัวแหลมมากเลยทีเดียว และ
จะไม่ทำเรือ
่ งอะไรที่ตัวเองไม่มัน
่ ใจแน่

แต่เห็นชัดว่าบนตัวนางไม่มีกลิน
่ อายของพลังเร้นลับ แล้วนางเอาความ
มัน
่ ใจมาจากไหนกันแน่ ถึงได้กล้ามายุแหย่ผูอ
้ ่น
ื เช่นนี้ ?
ขณะที่กำลังคิด สายตาเขาหรีล
่ งในทันใด

เขาเพียงเห็นนางโต้ตอบด้วยการพลิกตัวตีลังกาหลบลูกศรอย่างปราด
เปรียว ลูกศรดอกนั ้นพุง่ ผ่านใต้รา่ งนางไปพอดีโดยไม่ทำให้บาดเจ็บแม้แต่
น้ อย

เมื่อเห็นภาพเช่นนั ้น ไม่เพียงแค่หลิงโม่หาน แม้กระทัง่ ดวงตาของชายวัย


กลางคนกับชายหนุ่มก็ฉายประกายประหลาดใจ ต้องรู ไ้ ว้วา่ เดิมทีบนร่างของ
อีกฝ่ายก็ไม่มีกลิน
่ อายพลังเร้นลับ อีกทัง้ ความเร็วของลูกศรที่ยงิ ออกไปเร็ว
และแรงแค่ไหน พวกเขาล้วนชัดเจนดี หากว่ากันตามปกติ ขอทานคนนั ้นไม่
อาจหลบมันได้เลยด้วยซ้ำ

แต่กลายเป็นว่าเขากลับหลบได้ นั ่นก็พส
ิ ูจน์ วา่ เขาไม่ได้งา่ ยดายอย่างที่เห็น
ภายนอกสักนิ ด

“น่ารังเกียจ!”

สาวน้ อยตะโกนเสียงหวานอย่างเกรีย
้ วกราด นางเอื้อมมือไปด้านหลัง หยิบ
ลูกศรมาวางบนสายธนูแล้วยิงออกไปอีกครัง้

ทว่าเห็นได้ชด
ั ลูกศรคมที่เล็งเป้าหาขอทานน้ อยไม่สามารถยิงถูกเขาได้เลย
ไม่วา่ นางจะยิงสักกี่ดอกก็โดนแต่ที่วา่ งเปล่า มองเห็นขอทานน้ อยผูน
้ ั ้นเชิด
คางขึ้นมองนางด้วยใบหน้าที่ยงั คงยิม
้ เยาะ ราวกับกำลังบอกว่า ‘นี่ น่ะหรือ
ฝีมือของเจ้า?’
นางโกรธจนต้องเก็บธนู แล้วดึงกริชที่เอวมาจู่โจมใส่เฟิ่ งจิว

“ยังมาอีก? ถ้ามาอีกข้าไม่เกรงใจแล้วนะ!” ริมฝีปากเฟิ่ งจิว


่ ยกยิม
้ ประหลาด
สายตากวาดมองสาวน้ อยผูน
้ ั ้น แล้วออกตัวไปรับกริชที่โจมตีมาหาโดยไม่คิด
หลบ

“ขอทานน้ อย! เจ้าตายซะเถอะ!”

สายตาหลิงโม่หานจับจ้องที่การเคลื่อนไหวของเฟิ่ งจิว
่ เขาเห็นแต่นางพุง่ ไป
ทันควันพร้อมใช้วธ
ิ ก
ี ารแปลกประหลาดยึดกริชจากมือสาวน้ อยมาได้ ความ
รวดเร็วนั ้น ขนาดเขาเองก็ยงั เห็นไม่ชด
ั ว่านางทำได้อย่างไรกันแน่

พอมองอีกครัง้ กริชเล่มนั ้นก็อยูใ่ นมือนางแล้ว นางสาวเท้าเคลื่อนตัวมาอยู่


ด้านหลังของสาวน้ อย และนึ กไม่ถึงว่าจะอาศัยโอกาสนี้ ใช้มือลากผ่านผิว
ขาวๆ ของอีกฝ่าย เขามองเสียจนเหงือ
่ ตกอย่างอดไม่ได้

นี่ นางเป็นผูห
้ ญิงจริงๆ รึ? ไม่ใช่อน
ั ธพาลแน่ นะ?

“จิๆ
๊ ลื่นจังนะ”

เฟิ่ งจิว
่ พูดชม ดวงตาเธอหรีล
่ ง มือข้างหนึ่ งโอบเอวบางอันอ่อนนุ่มของสาว
น้ อย ส่วนอีกมือก็ถือกริชจี้ไว้ที่คอขาวระหง เสมือนจงใจหยอกล้อนาง เธอ
ขยับเข้าไปสูดดมกลิน
่ ใกล้ๆ คอนางก่อนทำหน้าเคลิบเคลิม

“หอมมากนะเนี่ ย!”
ครัง้ นี้ แม้แต่ใบหน้าของชายวัยกลางคนที่เคยไม่แยแสยังคร่ำเคร่ง

ชายหนุ่มข้างๆ เองก็โกรธ ในดวงตาเขามีความขุน


่ เคืองอย่างเห็นได้ชด
ั มือ
ใต้แขนเสื้อกำหมัดแน่ น ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นสาวน้ อยตกอยูใ่ นมือของฝ่ายตรง
ข้าม เขาคงลงมือไปอย่างอดใจไม่ได้จริงๆ แล้ว

หลิงโม่หานปิดตาลงอย่างหมดคำพูด ไม่อาจทนดูต่อไปได้แล้วจริงๆ
ตอนที่ 16 สบโอกาสขูก
่ รรโชก

และตอนนี้ เด็กสาวกลับนิ่ งอึ้งไปแล้ว นางทำหน้าเหลือเชื่อ ไม่กล้าเชื่อว่าตัว


เองจะถูกขอทานน้ อยคนหนึ่ งยึดกริชไปซ้ำยังถูกจับอีก

หนำซ้ำยิง่ ไม่กล้าเชื่อว่าขอทานน้ อยจะใจกล้าขนาดนี้ ต่อหน้าคนตัง้ มากมาย


ก็ยงั กล้าเอาเปรียบนาง!

“หลานสาวข้ามักมีนิสัยหยิง่ ผยอง จึงเสียมารยาทไปบ้าง ขอคุณชายน้ อย


อย่าได้ถือสานางเลย”

น้ำเสียงที่ทัง้ ทุ้มต่ำและแฝงไว้ซ่ึงความน่าเกรงขามดังลอยมา เฟิ่ งจิว


่ เปรย
ตามองไป แววตาเป็นประกาย

แน่ นอนว่าชายวัยกลางคนเป็นคนพูด เขาไม่ได้พูดเพื่อข่มขู่ แต่เพื่อขอโทษ


เขาสามารถเก็บกลัน
้ ความโกรธในใจและสีหน้าไม่สบอารมณ์ ทัง้ ยังคุยกับ
เธอได้ด้วยใบหน้ายิม
้ แย้มอ่อนโยน ช่างทำให้รูส
้ ึกแปลกใจจริงๆ!

“มีนิสัยจองหองแล้วจะคร่าชีวต
ิ ใครได้ตามใจชอบรึ? หากข้าหลบได้ไม่เร็วพอ
เดาว่าคงไปรายงานตัวที่ยมโลกแล้ว”

เฟิ่ งจิว
่ มองชายวัยกลางคนด้วยสายตาเย็นเยียบ ริมฝีปากผลิรอยยิม
้ ที่
เหมือนจะยิม
้ แต่ก็ไม่ยม
ิ้ “เมื่อให้มาแล้วไม่ใช้คืนคงเสียมารยาทแย่ อันที่จริง
ข้าก็อยากตอบแทนคุณหนูผูง้ ดงามท่านนี้ ให้ดีๆ เสียหน่ อย” ระหว่างพูด กริช
ที่จ่ออยูต
่ รงคอของเด็กสาวก็กดลงไปเล็กน้ อย เลือดสดๆ ไหลออกมาทันที
ช่างเด่นชัดเป็นพิเศษเมื่ออยูบ
่ นผิวขาวนวล

“อ๊ะ!”

เพราะความเจ็บเด็กสาวถึงได้สติ แต่ตัวนางกลับแข็งทื่อไปเพราะกริชที่จี้อยู่
ตรงคอ ไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย ใบหน้าก็ปรากฏความตื่นตกใจ “เจ้า เจ้า
อย่าทำอะไรซี้ซัว้ นะ!”

“ปัดโธ่เอ๊ย ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ลูกศรที่ท่านยิงมาเมื่อครู ท


่ ำข้าตกใจ ตอนนี้
มือข้าจึงสัน
่ อยูน
่ ิ ดหน่ อย ไม่ระวังทำท่านเลือดออกเสียแล้ว!”

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าชายวัยกลางคนมืดครึม
้ ลง รอยยิม
้ เป็นมิตรหาย
ไปภายในพริบตา เขามองเฟิ่ งจิว
่ พลางถามด้วยเสียงที่กดต่ำลง “เจ้าคิดจะ
เอาอย่างไรกันแน่ ?”

เฟิ่ งจิว
่ ได้ยน
ิ เช่นนั ้นก็หยีตายิม
้ “ข้าไม่คิดจะเอายังไง แค่กำลังคิดว่าหากมี
เงินทองมาปลอบขวัญสักหน่ อย มือข้าก็คงไม่สัน
่ แล้ว”

ชายวัยกลางคนได้ฟังคำพูดนั ้น สีหน้าก็กลับเป็นปกติบา้ งแล้ว เขาส่ง


สัญญาณไปทางเด็กหนุ่มด้านข้าง แล้วจึงเห็นเด็กหนุ่มพยักหน้าก้าวเดิน
ออกมา ดึงถุงใบเล็กที่ดูไม่สะดุดตามาจากตรงเอว จากนั ้นหยิบทองหยวน
เป่า[1]สองก้อนออกมา
[1] หยวนเป่า เงินจีนในสมัยโบราณประเภทหนึ่ ง มีลักษณะคล้ายเรือ นูน
ป่องตรงกลาง ทัง้ สองข้างยกโค้ง นิ ยมแกะสลักลวดลายมงคลและอักษร
มงคลแบบต่างๆ

“ทองคำสองก้อนนี้ ให้คุณชายน้ อยไว้ปลอบขวัญเป็นอย่างไร?”

ตอนนี้ ดวงตาของเฟิ่ งจิว


่ กวาดมองถุงใบเล็กของเขาที่ดูไม่เตะตาสักเท่าไหร่
ตามความทรงจำในหัวนาง นั ่นน่าจะเป็นถุงฟ้าดินที่สามารถใช้เก็บสิง่ ของ
เป็นของที่ประเมินค่าไม่ได้ ดูท่าฐานะของเด็กหนุ่มคนนี้ ต้องไม่ธรรมดาแน่ !

สายตาเธอหันมองทองสองก้อนบนมือเขา แล้วกล่าวอย่างดูหมิน
่ ว่า “นี่ ท่าน
ให้ขอทานรึไง? คิดว่าทองคำสองก้อนนี้ จะปลอบขวัญข้าได้หรือ?”

สีหน้าเด็กหนุ่มทะมึนลงน้ อยๆ เขาชายตามองขอทานน้ อยที่เนื้ อตัวมอมแมม


ผูน
้ ั ้น แอบคิดว่า ‘แล้วเจ้าไม่ใช่ขอทานหรือไง?’

แม้ในใจจะดูถูก แต่ใบหน้ากลับไม่แสดงออก และยังหยิบทองคำออกมาอีกสี่


ก้อน “แบบนี้ ล่ะพอไหม?”

หลิงโม่หานเหลือบมองทองเหล่านั ้น แล้วจึงเบนสายตาไปเงียบๆ

เงินประเภททองคำและเงินจะซื้อได้เพียงพวกของในทางโลก ถ้าอยากซื้อ
ของสำหรับการฝึกวิชา หากไม่มีเหรียญมณี ก็ไม่สามารถซื้อได้ เมื่อเทียบกับ
เหรียญมณี ราคาแพง ทองคำพวกนี้ ยงั ไม่พอจริงๆ ทว่าสิง่ ที่ขอทานน้ อย
ร้องขอกลับไม่ใช่สิง่ อื่น นึ กไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะขอเงินทอง ช่างโง่เขลาเสียจริง
เฟิ่ งจิว
่ คร้านสนใจว่าคนอื่นคิดเช่นไร พอเห็นทองคำพวกนั ้นก็ขบคิดในใจ
ก่อนพูดว่า “ถือว่าถ้าพวกเราไม่กระทบกระทัง่ ก็คงไม่รูจ
้ ักกัน หากข้าปล่อย
นางแล้ว พวกท่านอย่าได้ลงมือกับข้าอีก”

“แน่ นอน” ชายวัยกลางคนตอบรับเสียงเบา

“เจ้าล่ะว่าอย่างไร?” เธอขยับเข้าใกล้ใบหน้าของสาวน้ อย แล้วยิม


้ ตาหยีถาม
ตอนที่ 17 ท่านอา เจ้าพวกนี้ กินคนหรือไม่?

สาวน้ อยกัดฟันกรอด นางพยักหน้า “ขอแค่เจ้าปล่อยข้าไป ข้าจะไม่ลงมือกับ


เจ้าอีก”

เฟิ่ งจิว
่ ได้ยน
ิ ถึงจะส่งสัญญาณให้ชายหนุ่มผูน
้ ั ้นส่งทองคำมา

ชายหนุ่มเดินมาด้านหน้า เขาเหลียวมองสาวน้ อย ก่อนจะยื่นทองคำในมือ


ส่งให้เฟิ่ งจิว
่ หลังจากเฟิ่ งจิว
่ รับมันมาก็เก็บเข้าในอกเสื้อ ถอนกริชออกแล้ว
โยนไปทางชายหนุ่ม

ชายหนุ่มก้าวถอยเล็กน้ อยเพื่อหยิบกริชมา ในขณะเดียวกัน สาวน้ อยผู้นั้นก็


หันกายยกขาขึ้นเตะไปทางเฟิ่ งจิว
่ “เจ้าอันธพาลสมควรตาย! เจ้าเอาเปรียบ
ข้า!”

เฟิ่ งจิว
่ ระวังตัวอยูแ
่ ต่แรก หลังจากได้ทองคำไปก็ล่าถอยอย่างรวดเร็ว ขา
ของนางจึงย่อมเตะเข้าหาความว่างเปล่า

นางยังคิดจะเข้าไปอีก และตอนนั ้นเอง ชายวัยกลางคนเรียกด้วยเสียงทุ้มต่ำ


“อิง้ โหรว กลับมา”

“ท่านอารอง!” สาวน้ อยกระทืบเท้า นางไม่ยอมแพ้จึงไม่เลิกราอยูเ่ ช่นนี้ ทว่า


เมื่อเห็นสายตาตักเตือนของท่านอารองและแววตาที่พใี่ หญ่ส่งมา ถึงจะยอม
กัดริมฝีปากเดินกลับไป
อีกด้านหนึ่ ง ทองหยวนเป่าในอกเสื้อเฟิ่ งจิว
่ หนั กอยูน
่ ิ ดหน่ อย ด้วยเกรงว่า
มันจะทับยาทิพย์ที่เธอเก็บไว้ตรงเสื้อชัน
้ ในเสียหมด จึงนำทองคำเหล่านั ้น
ออกมา แล้วหยิบให้หลิงโม่หานดูราวกับเป็นสิง่ ล้ำค่าแปลกใหม่ “ท่านอา
ท่านดูสิขา้ มีเงินไม่น้อยเลย! รอออกไปแล้วข้าค่อยเลี้ยงเหล้าท่านเป็น
อย่างไร?”

หลิงโม่หานมองนางแวบหนึ่ ง เขาก้าวเดินไปด้านหน้า เฟิ่ งจิว


่ ที่อยูด
่ ้านหลัง
จึงตามไปทันที “ท่านอา ท่านเดินช้าๆ หน่ อยสิ!”

เมื่อเห็นพวกเขาทัง้ สองคนเดินตามกันออกไป สายตาของชายหนุ่มมีจิต


สังหารพาดผ่าน “ท่านอารอง เหตุใดถึงไม่ฆ่าเจ้าเด็กเหลือขอนั ่นล่ะขอรับ?”

“ชายชุดดำผูน
้ ั ้นหาใช่คนธรรมดาไม่ วรยุทธ์ของเขาข้าเองก็มองไม่ออก
หนำซ้ำเจ้าเด็กเหลือขอนั ่นประหลาดนั ก เห็นชัดๆ ว่าไม่มีวรยุทธ์ แต่กลับมี
ท่าร่างเช่นนั ้น ต้องไม่ใช่แค่ขอทานทัว่ ไปเป็นแน่ ”

เสียงเขาชะงักไปเล็กน้ อย ก่อนจะพูดว่า “การเดินทางครัง้ นี้ พวกเรายังมี


เรือ
่ งสำคัญกว่าที่ต้องทำ อย่าให้ปัญหาอื่นเข้ามาขวาง ส่วนเรือ
่ งนี้ ก็ปล่อย
เช่นนี้ ไป อย่าได้พูดถึงอีก”

“ขอรับ!” แม้จะไม่ขด
ั ใจ แต่ก็ทำได้เพียงยอมรับ ถึงอย่างไรหากเทียบกับ
ภารกิจในการเดินทางครัง้ นี้ ของพวกเขา เจ้าเด็กเหลือขอนั ่นก็เป็นเพียง
เรือ
่ งเล็กน้ อยจริงๆ
เมื่อคิดถึงภารกิจในการเดินทางนี้ เด็กสาวผู้นั้นข่มความไม่ยอมและความ
ขุน
่ เคืองในใจไว้ ก่อนจะถามอย่างเฝ้ารอ “ท่านอารอง ในป่าเก้าหมอบนี้ จะมี
สัตว์เทวะถือกำเนิ ดขึ้นจริงๆ หรือเจ้าคะ?”

“ใช่ พวกตระกูลใหญ่ที่เชื่อก็ทยอยรู ข
้ า่ วและมาเยือนป่าเก้าหมอบนี้ หรือจะ
พูดว่าพวกเขามาอยูท
่ ี่ไหนสักแห่งในป่านี้ แล้วก็ได้ ดังนั ้นการเคลื่อนไหวของ
พวกเราต้องไวขึ้น เพื่อเลี่ยงไม่ให้เสียโอกาสแรกไป” ชายวัยกลางคนพยัก
หน้า สายตาเขามองลึกเข้าไปยังป่าเก้าหมอบ ก้นบึ้งดวงตามีเจตนารมณ์ ที่
มุ่งมัน
่ ให้ได้มาซึ่งสิง่ ที่ต้องการ

เมื่อได้ยน
ิ เช่นนั ้น ชายหนุ่มจึงคิดไตร่ตรองอยูส
่ ักพัก ก่อนกล่าวว่า “หรือสอง
คนนั ้นก็มาหาสัตว์เทวะ? ข้าเห็นพวกเขาเองก็เดินลึกเข้าไป เดาว่าคงมีเป้า
หมายเดียวกับพวกเรา”

ดวงตาชายวัยกลางคนฉายแววดุรา้ ยดัง่ นกอินทรี แล้วพูดเสียงต่ำว่า “หาก


เหมือนกันจริง ระหว่างทางก็ต้องหาโอกาสฆ่าพวกเขาซะ!” เขาพูดพลาง
พากลุ่มคนเดินหน้าต่อไป

ส่วนหลิงโม่หานที่เดินนำหน้าไปไม่นานก็หยุดฝีเท้าลง สายตาดุดันที่ลึกล้ำ
กวาดมองรอบๆ อย่างระแวดระวัง

เฟิ่ งจิว
่ เห็นเขาหยุดลง จึงอาศัยโอกาสนี้ ถอดเสื้อนอกบนตัวออก เธอผูกมัน
เป็นห่อผ้าสัมภาระอย่างง่ายๆ แล้วค่อยล้วงพวกสมุนไพรที่เก็บมาระหว่าง
ทางออกจากอกเสื้อมาใส่ลงในกระเป๋า และยัดพวกทองเข้าไปด้วย ก่อนจะ
ผูกติดตัวไว้หนาแน่ น
แม้ชุดที่เธอสวมจะเป็นเสื้อผ้าขอทาน ทว่าใส่ไว้หลายชัน
้ ถอดออกสักตัวสอง
ตัวจึงไม่เป็นอะไรมากนั ก

แต่ขณะที่เธอผูกห่อผ้าแล้วเงยหน้าขึ้น กลับนิ่ งอึ้งไปน้ อยๆ ด้วยเห็นเหล่า


สัตว์รา้ ยไม่ทราบชนิ ดที่มีเขีย
้ วแหลมคมและตัวโตดัง่ วัวพากันเดินออกมา
จากป่ารอบๆ จึงถามไปพลางกะพริบตาปริบๆ “ท่านอา เจ้าพวกนี้ มันกินคน
หรือไม่?”
ตอนที่ 18 เผยเขีย
้ วเล็บครัง้ แรก!

“กรร!”

สิง่ ที่ตอบรับเธอหาใช่เสียงของหลิงโม่หานไม่ แต่เป็นเสียงคำรามโกรธ


เกรีย
้ วก้องหูของสัตว์รา้ ยตรงหน้า

ขณะที่เสียงขูค
่ ำรามนั ้นดังขึ้น เหล่าสัตว์รา้ ยก็ก้าวเท้ากระโจนมาทางพวก
เขาสองคน ปากใหญ่ที่อา้ กว้างมีน้ำลาย เขีย
้ วคมที่ปรากฏมีประกายแห่ง
ความกระหายเลือด ทำให้คนเห็นแล้วรู ส
้ ึกใจสัน

“ขึ้นต้นไม้ไปซะ!” ดวงตาเยือกเย็นของหลิงโม่หานกวาดมอง พลางตะเบ็ง


เสียงทุ้ม

พอได้ยน
ิ เสียงสัง่ ขึ้นต้นไม้ของเขา ในดวงตาของเฟิ่ งจิว
่ ก็ฉายยิม
้ เยาะแทน
การพูดว่า ‘ท่านอาคนนี้ นี่ไม่เลวเลย!’

“ท่านอา เช่นนั ้นท่านระวังตัวเองหน่ อย” เธอปีนขึ้นต้นไม้ใหญ่ด้านข้างอย่าง


รวดเร็ว มือกอดลำต้นพลางก็มองเหตุการณ์ เบื้องล่าง อยากเห็นนั กว่าฝีมือ
ของท่านอาจะถึงระดับไหนกันเชียว

ทว่าเมื่อหางตาเธอจากบนต้นไม้เหลือบเห็นชายหนุ่มที่หลบอยูด
่ ้านหลังและ
กำลังถือคันธนูเล็งไปทางท่านอา แววตาก็มีประกายเยียบเย็น เธอครุ น
่ คิด
ในใจ จนสัตว์รา้ ยตัวหนึ่ งพุง่ ชนต้นไม้ที่เธอเกาะอยู่ ดังนั ้นมือที่กอดกิง่ ไม้อยู่
จึงคลายออก เธอตกลงมาจากบนต้นไม้ตามแรงกระแทก
“อ๊ะ!”

หลิงโม่หานที่กำลังรับมือกับสัตว์รา้ ยสิบกว่าตัวหันกลับไปมองตาม
สัญชาตญาณ สีหน้าเคร่งขึ้นน้ อยๆ เจ้านี่ ทำให้เขาเป็นห่วงอยูเ่ รือ
่ ย! เขา
กลัน
้ ใจกำลังจะเข้าไปรับนาง กลับเห็นนางขยิบตามาให้ พอเห็นเช่นนั ้นเขา
ขมวดคิว
้ เล็กน้ อยพลางตวัดดาบฟันใส่สัตว์รา้ ยที่พุง่ เข้ามา

ตอนนั ้นเอง หลังเฟิ่ งจิว


่ ร่วงจากต้นไม้ก็สับเท้าวิง่ “อ๊า! ช่วยด้วย!”

ท่าร่างเธอแปลกประหลาด เห็นชัดว่าไม่มีพลังเร้นลับ แต่กลับวิง่ ท่ามกลาง


สัตว์รา้ ยพวกนั ้นได้โดยไม่ถูกชน พอวิง่ ไปรอบหนึ่ งก็ยงั ไม่มาหลบหลังหลิงโม่
หาน แต่วงิ่ ย้อนไปตามทางที่พวกเขามา

“ช่วยด้วย…”

คนหลายสิบคนที่หลบอยูห
่ ลังต้นไม้ไม่ไกลเห็นทิศทางที่เฟิ่ งจิว
่ วิง่ มา และ
สัตว์รา้ ยอีกเจ็ดแปดตัวที่ตามไล่หลัง สีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไปในชัว่ ขณะ
หนึ่ ง

“บ้าจริง!”

ชายหนุ่มสบถเสียงเบา เพราะการเคลื่อนไหวของเงาร่างสีดำตรงหน้าคันธนู
ในมือจึงไม่มีทางเล็งถูก พอเห็นสัตว์รา้ ยที่วงิ่ มาทางพวกเขาอีก ก็รูว้ า่ เขาเสีย
โอกาสลอบฆ่าไปเสียแล้ว ทันใดนั ้นคันธนูในมือขยับ และยิงไปหาขอทาน
น้ อยตรงหน้า
“เตรียมพร้อมสู้!” ชายวัยกลางคนตะโกนเสียงเข้ม ขณะที่เค้นพลังเร้นลับ
ออกมาก็ดึงกระบีค
่ ู่กายออกจากข้างเอว

เมื่อเห็นชายหนุ่มยิงธนูมาทางเธอ มุมปากเฟิ่ งจิว


่ กระตุกขึ้น ปรากฏเป็นรอย
ยิม
้ ที่ทัง้ แปลกและชัว่ ร้าย

เพียงครัง้ เดียวไม่มีสอง กับคนที่คิดแต่จะเอาชีวต


ิ เธอ เธอคงไม่อาจปล่อย
เขาไปได้ทุกครัง้

อีกอย่างเธอก็เริม
่ คันไม้คันมือเสียแล้ว ขอลองกำลังต่อสู้ของตัวเองกับคน
กลุ่มนี้ หน่ อยแล้วกัน!

พอตัดสินใจแน่วแน่ รังสีฆ่าฟันก็แผ่กระจายออกจากร่างเธอ กลิน


่ อายดุดัน
แสดงถึงพละกำลังของผูเ้ หนื อกว่า เพียงแค่แววตาที่เปลี่ยนไปและกลิน
่ อาย
ที่ล้อมกายเธอ ก็ทำให้ในใจของหัวหน้าชายวัยกลางคนเกิดคลื่นพายุโหม
กระหน่ำขึ้นมา ตื่นตระหนกไม่มีสิน
้ สุด!

เขาอ่านคนมานั บไม่ถ้วน ย่อมมองออกว่าขอทานน้ อยในตอนนี้ ชา่ งแตกต่าง


กับคนก่อนหน้าราวเป็นคนละคน พลังเช่นผู้เหนื อกว่าของเขา รังสีสังหารที่
รุ นแรง และความมัน
่ ใจตรงหว่างคิว
้ แค่มองก็อกสัน
่ ขวัญแขวนอย่างอดไม่
ได้

แต่คนคนนี้ ไม่มีพลังเร้นลับ เขาเชื่อว่าแม้พลังที่แสดงออกมาจะแข็งแกร่ง


กว่านี้ แต่หากอยูใ่ นการต่อสู้ก็คงไม่อาจแกร่งเท่าเขาได้!
สายตาของหลิงโม่หานจับจ้องที่รา่ งขอทานน้ อย ในสายตาลึกล้ำฉายประ
กายจางๆ

เป็นไปตามคาด นางไม่ได้ไร้พษ
ิ สงและง่ายดายเช่นที่แสดงออกมาจริงๆ แต่
พอคิดดูเขาถึงสิน
้ ความสงสัย เดิมทีขอทานน้ อยคนนี้ ก็ไม่ธรรมดาอยูแ
่ ล้ว
ลองถามดูสิ มีผูห
้ ญิงปกติคนไหนกล้าเข้ามาในป่าเก้าหมอบที่เต็มไปด้วย
สัตว์รา้ ยนี้ เพียงลำพังบ้าง?

แต่ถึงอย่างไร นางที่ไม่มีพลังเร้นลับก็เกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนพวกนั ้น

ทว่าอีกไม่นานนั ก เขาก็รูว้ า่ ตัวเองประเมินนางต่ำเกินไป…


ตอนที่ 19 จิตสังหารเหลือล้น!

เขาเพียงเห็นว่าร่างนั ้นหลบลูกศรที่ยงิ มาหาด้วยท่วงท่าประหลาด หลังจาก


ลากสัตว์รา้ ยเจ็ดแปดตัวมาหาคนกลุ่มนั ้น ถึงค่อยถีบขาใช้สองมือเกาะกิง่ ไม้
อาศัยแรงเฉื่ อยที่พุง่ ไปด้านหน้า สองขานางถีบลงไปอย่างแรงจากบนต้นไม้
แน่ นอนว่าเป้าหมายคือชายหนุ่มที่ถือคันธนู

“หลบไปเร็ว!”

ชายวัยกลางคนตะโกนอย่างตื่นตระหนก อยากจะเข้าไปดึงอีกฝ่ายหลบออก
ไป ทว่าสัตว์รา้ ยก็พุง่ มา เขาเองยังเอาตัวไม่รอด จะมีมือไหนว่างไปช่วยได้กัน
เล่า? ด้วยเหตุนี้เขาจึงทำได้เพียงเบิกตามองขอทานน้ อยถีบขาลงมา

โชคดีที่พอชายหนุ่มได้ยน
ิ เสียงตะโกนก็ได้สติในทันใด ร่างกายเขาก้าวถอย
ตามสัญชาตญาณ หลบขาของเฟิ่ งจิว
่ ที่ถีบลงมาเหนื อหัวซึ่งอาจทำให้ถึงตาย
นั ้นได้ แต่เพราะยังหลบช้าไปครึง่ จังหวะใบหน้าจึงถูกถีบไปทีหนึ่ ง ทัง้ ร่าง
โซเซถอยไปอีกหลายก้าวเพราะเหตุนี้ และตอนนี้ เอง สัตว์รา้ ยตัวหนึ่ ง
กระโจนเข้ามา สาวน้ อยด้านข้างจึงเข้ามาช่วยเขาต้านไว้

“ท่านพี!่ ท่านจะยืนเฉยอยูท
่ ำไม!” เด็กสาวตะโกนด้วยน้ำเสียงกระวน
กระวาย ใบหน้าวิตกกังวลอย่างยากจะปิดซ่อน

ชายหนุ่มดึงสติกลับมาในตอนนั ้น ความเจ็บที่รอ
้ นผ่าวบนใบหน้าทำให้ใจเขา
ทัง้ ขุน
่ เคืองและโกรธเกรีย
้ ว เขาดึงคันธนูในมือกลับ แล้วปล่อยพลังเร้นลับ
ออกมา พลันสองหมัดรวมพลังโจมตีออกไป ได้ยน
ิ เพียงเสียงตูมดังขึ้น สัตว์
ร้ายที่กระโจนเข้ามาถูกเขาโจมตีลอยออกไปอย่างไม่น่ ม
ุ นวลนั ก

“กรร!”

ตึง!

สัตว์รา้ ยส่งเสียงโหยหวน ร่างล้มลงบนพื้นอย่างรุ นแรง สะเทือนจนพื้นสัน



เล็กน้ อย

เมื่อเห็นชายหนุ่มชกสัตว์รา้ ยลอยไปในหมัดเดียว องครักษ์ หลายสิบนายก็


ราวกับได้ขวัญกำลังใจ แววตาพวกเขาเปล่งประกาย ก่อนจะตะโกนกันเสียง
ดัง “คุณชายเก่งกาจนั ก!”

ความตื่นเต้นในใจปลุกเร้าให้ลุกสู้อย่างฮึกเหิม ความตื่นตระหนกเพราะต้อง
เผชิญหน้ากับสัตว์รา้ ยอย่างกะทันหันก็สงบลงแล้วในเวลานี้ แค่ชว
ั ่ ขณะหนึ่ ง
เหล่าสัตว์รา้ ยเจ็ดแปดตัวก็ถูกฟันตายไปทีละตัว

เพียงเห็นศพของสัตว์รา้ ยล้มระเนระนาด กลิน


่ คาวเลือดรุ นแรงคละคลุ้งไป
ทัว่ …

วิกฤตคลี่คลาย ตอนนี้ ผูค


้ นถึงพบว่าบริเวณไม่ไกลก็มีรา่ งไร้วญ
ิ ญาณของ
สัตว์รา้ ยเจ็ดแปดตัวนอนอยู่ ชัดเจนมากว่าชายชุดดำเป็นคนฆ่าเพียงลำพัง
ทว่าก็ไม่เห็นเงาร่างของชายชุดดำผูน
้ ั ้นเสียแล้ว ไม่เพียงเท่านั ้น ขอทานน้ อย
กับท่านอารองของพวกเขาก็หายไปด้วย
“ท่านพี่ ท่านอารองล่ะ?” สาวน้ อยมองหารอบๆ ก็ไม่เห็นร่างพวกเขาเลย

ชายหนุ่มยกมือขึ้นเช็ดเลือดตรงมุมปาก แววตาจ้องมองที่ไหนสักแห่งอย่าง
ดุรา้ ย ไม่พูดไม่จา แต่ก็ย่น
ื คันธนูส่งคืนให้นาง ก่อนจะสาวเท้าก้าวไปทาง
ด้านซ้าย

พอเด็กสาวกับองครักษ์ เห็นเช่นนั ้นก็เร่งรีบตามไป

ในป่าที่มีต้นไม้ปกคลุมหนาทึบ รังสีแห่งการฆ่าฟันแผ่กระจาย กลิน


่ อาย
กลางอากาศก็หนาวเย็นไปบ้างเพราะรังสีฆ่าฟันนั ้น สายตาคมกริบของชาย
วัยกลางคนจ้องมองเฟิ่ งจิว
่ ตรงหน้า น้ำเสียงทุ้มต่ำมีจิตสังหารที่เย็นเยือก
“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ไม่ต้องดิน
้ รนอย่างอาจหาญนั กหรอก”

“อย่างนั ้นหรือ?” เฟิ่ งจิว


่ ยกริมฝีปากขึ้นยิม
้ ร่างแฉลบผ่านไปในพริบตา เมื่อ
ยื่นมือออกไป จิตสังหารเหลือล้นแผ่ซ่าน!

ชายวัยกลางคนแค่นเสียงฮึหนั กๆ ราวกับกำลังเย้ยหยันความไม่เจียมตัว
ของเด็กหนุ่ม พลังเร้นลับที่พรัง่ พรู ไหลเข้าสู่กระบี่ในมือ กระบี่คมกริบปะทะ
ออกไปในชัว่ ขณะนั ้น

แกร๊ง!

กริชและกระบีก
่ ระทบกัน เกิดเป็นเสียงชนดังแกร๊งจนมีประกายไฟออกมา
แทบจะทันทีที่ปะทะกัน อาวุธในมือทัง้ สองคนก็วกกลับมาโจมตีกันอีกครา
ผ่านไปหลายกระบวนท่า ก็เห็นเพียงกระบีย
่ าวโจมตีไปทางเฟิ่ งจิว
่ ด้วยกำลัง
ที่ดุดันรุ นแรง ด้วยความแข็งแกร่งรวดเร็วของพลังกระบี่ หลบได้ไม่งา่ ยๆ
แน่ !

หลิงโม่หานบนต้นไม้ไม่ไกลออกไปมองเห็นเหตุการณ์ นี้ คิว


้ เขาขมวดเล็ก
น้ อย ช่วงเวลาต่อมาเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของเฟิ่ งจิว
่ แววตากลับสัน
่ ไหว
ดูคาดไม่ถึงอยูเ่ ล็กน้ อย…
ตอนที่ 20 สยบความแข็งกร้าวด้วยความนุ่มนวล!

ดวงตาเห็นอยูว
่ า่ นางไม่มีทางหลบกระบีน
่ ั ้นได้ แต่กลายเป็นว่าเมื่อปลาย
กระบีจ
่ ะแทงเข้าที่อก ร่างกายนางก็เอนไปด้านหลังทันที ก่อนใช้กำลังจาก
ช่วงเอวหมุนตัวกลับไป ไม่เพียงแต่หลบกระบี่ที่คิดปลิดชีวต
ิ ได้ กริชในมือก็
ยังแทงเข้าหาชายวัยกลางคนด้วยความเร็วที่ป้องกันไม่ทัน

เมื่อเห็นเฟิ่ งจิว
่ หลบกระบีน
่ ั ้นด้วยกำลังจากช่วงเอว ชายวัยกลางคนตื่นตกใจ
อยูน
่ ้ อยๆ ครัน
้ เห็นรังสีฆ่าฟันที่พุง่ ตรงมาเบื้องหน้า ยามนี้ ไม่มีเวลาจะโจมตี
กลับอีกแล้ว เขาจึงทำได้เพียงถอยหลังอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยงั ช้าไปครึง่
จังหวะ

“เฮือก!”

เขาสูดหายใจเข้า จ้องร่างตรงหน้าด้วยแววตาดุรา้ ยและน่าขนลุก

แม้เขาจะหลบจุดอันตรายได้ แต่แขนเขากลับถูกกริชฟันเป็นแผลลึกเห็น
กระดูก เลือดสีแดงเข้มไหลออกมา ไม่ทันไรก็ซึมผ่านแขนเสื้อ เพราะความ
เจ็บปวดรุ นแรงจากบาดแผล แขนของเขาจึงลู่ลงอย่างหมดแรง สัน
่ เทิม

อย่างควบคุมไม่ได้

“ท่านอารอง!”

สาวน้ อยร้องตกใจ แล้วเร่งเท้าวิง่ เข้ามา


“ฆ่ามันซะ!” ชายวัยกลางคนตะโกนด้วยเสียงเข้ม เหล่าองครักษ์ ขานรับ แต่
กลับถูกชายหนุ่มยกมือขึ้นปราม

“เจ้าขอทานนี่ ให้ขา้ จัดการเอง!” กลิน


่ อายบนร่างชายหนุ่มชัว่ ร้าย มีกลิน
่ อาย
กระหายเลือดอยูห
่ นาแน่ น สายตาที่มองเฟิ่ งจิว
่ ยิง่ ดูราวดวงตาของงูพษ

พอเห็นเด็กสาวพยุงชายวัยกลางคนไปข้างๆ แล้ว แววตาที่สัน


่ ไหวอยูเ่ ล็ก
น้ อยของเฟิ่ งจิว
่ ก็เหลียวมองชายหนุ่มผูม
้ ีกลิน
่ อายโหดเหีย
้ มแผ่ออกจากร่าง
ก่อนเชิดคางขึ้นเบาๆ แล้วกล่าวคำเย้ยหยัน “เจ้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า
หรอก”

แม้กลิน
่ อายของชายหนุ่มจะหนั กแน่ นนั ก แต่ไม่ใช่ระดับเดียวกับชายวัย
กลางคน ชายวัยกลางคนผูน
้ ั ้นต่อให้เธออยากฆ่าเขา ก็ยงั ไม่อาจปลิดชีวต
ิ ได้
ภายในไม่กี่กระบวนท่า ทว่าชายหนุ่มผูน
้ ี้ ไม่เหมือนกัน หากเธอจะปลิดชีพเขา
ก็งา่ ยดัง่ พลิกฝ่ามือ

บนต้นไม้ไม่ไกล เมื่อเห็นนางเชิดคางอย่างจองหองและพูดจาเหยียดหยาม
หลิงโม่หานแอบส่ายหน้ากับตัวเอง เป็นอย่างที่คิดไว้ อย่างไรก็เป็นเพียงเด็ก
ผูห
้ ญิง

แต่หากดูจากการต่อสู้ของนางกับชายวัยกลางคนเมื่อครู ่ เขารู ว้ า่ หากนาง


ต่อกรกับคนกลุ่มนี้ คนเดียวก็ไม่มีปัญหา ด้วยความสามารถของนาง ขอแค่
ระมัดระวังยามอยูป
่ ่าชัน
้ ในนี้ ก็น่าจะไม่มีเหตุรา้ ยอะไรแล้ว
พอคิดถึงตรงนี้ เขามองไปที่รา่ งนั ้นอย่างลึกล้ำ แล้วเรียกพลังจากไปอย่าง
เงียบเชียบ…

“ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า? ฮึ! เช่นนั ้นเจ้าลองลิม


้ รสความร้ายกาจของข้าให้ดี!”
ชายหนุ่มแค่นเสียงหนั กๆ พลังเร้นลับบนร่างเอ่อล้น กลิน
่ อายพลังเร้นลับสี
ส้มกระจายออกมาทันใด เขากำสองหมัด ตะโกนเสียงหนั กแน่ น แล้วก้าว
ออกไปซัดหมัดโจมตีเฟิ่ งจิว

“เอ๋?” เมื่อเห็นกลิน
่ อายพลังเร้นลับสีส้ม เฟิ่ งจิว
่ เลิกคิว
้ เมื่อครู พ
่ ลังกระบีข
่ อง
ชายวัยกลางคนก็มีกลิน
่ อายสีส้มแผ่ออกมารางๆ ไม่นึกเลยว่าวรยุทธ์พลัง
เร้นลับของชายหนุ่มจะไม่ต่างกับชายวัยกลางคนนั ก?

“หมัดห้าชัน
้ !”

เฟิ่ งจิว
่ เห็นหมัดนั ้นก็ถอยหลังในทันที ยามที่หมัดชายหนุ่มชกต้นไม้ใหญ่หลัง
จากเธอหลบไป และเห็นรอยหมัดที่ปรากฏบนนั ้น เธอแอบอุทานกับตัวเอง

พลังสังหารของวรยุทธ์พลังเร้นลับประกอบกับวิชาหมัดช่างน่าตื่นตะลึงโดย
แท้ ฝ่ายตรงข้ามใช้หมัดโจมตี ทุกท่วงท่าทัง้ แข็งแกร่งและดุดัน ด้วยกำลัง
ของเธอ หากใช้ความรุ นแรงปะทะความรุ นแรงไม่ได้ผลแน่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้
ก็สยบความแข็งกร้าวด้วยความนุ่มนวลซะ!

ดวงตาเธอเป็นประกาย ขณะที่ถอยหลังอย่างรวดเร็วก็เก็บกริชในมือไป
หลังจากสาวน้ อยช่วยท่านอารองของนางพันแผลไว้ดีแล้ว ก็เห็นเฟิ่ งจิว
่ เก็บ
กริช จึงอดเยาะเย้ยไม่ได้ “ท่านอารองเจ้าคะ ขอทานน้ อยคนนั ้นคงกลัวเสีย
แล้วกระมัง? นึ กไม่ถึงเลยว่าขนาดกริชในมือก็ยงั เก็บไป? เขาคิดว่าแค่มือ
เปล่าก็จะเอาชนะพีข
่ า้ ได้ร?ึ ”

ชายวัยกลางคนกลับมองเฟิ่ งจิว
่ ด้วยท่าทางเคร่งขรึม สายตาเพ่งมองน้ อยๆ
รู ส
้ ึกเพียงว่าในใจมีความไม่สงบอยูร่ างๆ…
ตอนที่ 21 ขวัญหนี ดีฝ่อ!

จนกระทัง่ เขาเห็นภาพต่อมา ในที่สุดก็รูว้ า่ ความไม่สงบในใจนั ้นมาจากที่


ใด…

เขาเห็นเพียงขอทานน้ อยผูน
้ ั ้นแยกเท้าข้างหนึ่ งออกแล้วงอเข่าลงเล็กน้ อย
พลังทัง้ ร่างเหมือนกระจายออกไป สองมือที่เคยแนบอยูข
่ า้ งลำตัวอย่างอ่อน
เปลี้ยเพลียแรงค่อยๆ ยกขึ้น ขณะที่หลานชายเขาออกหมัดโจมตี ฝ่ายนั ้นก็
ดึงขากลับพร้อมหันตัวไปทางซ้ายเพื่อรับหมัดไว้ มืออ่อนนุ่มที่ดูไร้เรีย
่ วแรง
จับง่ามระหว่างนิว
้ หัวแม่มือกับนิว
้ ชีไ้ ว้อย่างแม่นยำ

พละกำลังถูกส่งออกไป เฟิ่ งจิว


่ ใช้แรงจากการเก็บเท้าหักล้างพลังของหมัด
นั ้น แล้วหันตัวหักแขนของเขา ได้ยน
ิ เสียงดังกร๊อบ เสียงกรีดร้องดังขึ้นมา

“อ๊าก!”

ชายหนุ่มร้องลัน
่ ความเจ็บรุ นแรงที่แขนทำให้สีหน้าเขาสีซีดเผือด แต่นี่ยงั
ไม่เท่าไหร่ แขนที่ถูกหักเขาไม่มีทางดึงกลับได้ และไม่สามารถถอยออกไปได้
ด้วย หลังจากแขนข้างนี้ ถูกบิดหัก แขนอีกข้างที่เหวีย
่ งออกไปก็กลับถูกดึงไว้
หลบไปได้ยากเช่นกัน

กร๊อบ!

“อ๊าก…”
“ท่านพี!่ ”

“คุณชาย!”

เหล่าองครักษ์ และเด็กสาวต่างส่งเสียงร้องตกใจด้วยใบหน้าถอดสี เพราะ


ความหวาดกลัวเสียงจึงสัน
่ อยูเ่ ล็กน้ อย สิง่ ที่ทำให้พวกเขายิง่ หวาดผวากว่า
เดิมคือหลังจากสองแขนถูกบิด ครัง้ นี้ สองมือที่ดูเหมือนไม่มีพลังทำลาย
อะไรกลับคว้าลำคอเขาไว้

“ไม่ อย่านะ…” เวลานี้ ในที่สุดชายหนุ่มก็เผยสีหน้าตื่นตระหนก กลิน


่ อาย
แห่งความตายห้อมล้อมเขาไว้ ทำให้ทัง้ ร่างเขาสัน
่ เทิม
้ ขึ้นมาอย่างไม่อาจ
หยุดได้

“อย่า อย่าฆ่า เขา!”

สีหน้าชายวัยกลางคนเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาเอ่ยปากห้ามปราม ทว่ายังพูด


ไม่ทันจบก็ได้ยน
ิ เสียงกร๊อบ คอหลานชายหักพับลง โอกาสรอดชีวต
ิ พลันถูก
ลิดรอน จนกระทัง่ ตาย ดวงตาเขาก็ยงั คงเบิกกว้างอยูอ
่ ย่างไม่ยอมแพ้และ
น่าหวาดกลัว…

“ท่านพี!่ ท่านพี…
่ ”

เด็กสาวร่ำไห้เสียงแหลมอย่างโศกเศร้า นางอยากจะพุง่ ตัวไป แต่ถูกชายวัย


กลางคนฉุ ดรัง้ ไว้ไม่ให้ออกไป
“คุณ คุณชาย…”

เหล่าองครักษ์ ต่างก็ตกใจกับภาพตรงหน้า พวกเขาไม่กล้าเชื่อว่าคุณชายผู้


เป็นถึงบุตรชายคนแรกของตระกูลจะถูกขอทานคนหนึ่ งฆ่าตายอย่างไม่คาด
คิด หากหัวหน้าตระกูลรู เ้ ข้าจะต้องโกรธกริว้ มากขนาดไหน?

“ฆ่ามันซะ แก้แค้นให้คุณชาย!”

คนหลายสิบคนพุง่ ไปด้านหน้าอย่างกระเหีย
้ นกระหือรือ กระบีใ่ นมือตวัด
ฟาดฟัน พลังกระบีร่ ุ นแรงตามไฟโกรธที่ลุกโหม ราวกับมีเพียงเลือดสดๆ
ของเฟิ่ งจิว
่ ที่สามารถคลายความเศร้าโศกและความขุน
่ เคืองในใจพวกเขาได้

สาวน้ อยทรุ ดลงนั ่งบนพื้นอย่างอ่อนแรง มองพีช


่ ายที่สิน
้ ใจล้มอยูบ
่ นพื้นด้วย
สายตาตะลึงงัน ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่ยงั มีชว
ี ต
ิ อยูเ่ มื่อครู ่ กลับตายไปแล้ว
ในตอนนี้ …

“ท่านอารอง นี่ มันไม่จริงใช่หรือไม่? ท่านพีเ่ ก่งกาจขนาดนั ้น จะถูกขอทาน


คนหนึ่ งฆ่าตายได้อย่างไร? ท่านอารอง ท่านบอกข้าทีวา่ ไม่จริง นี่ ไม่ใช่เรือ
่ ง
จริงใช่ไหมเจ้าคะ?”

นางดึงแขนชายวัยกลางคนพลางคร่ำครวญถาม นางไม่อยากเชื่อว่าภาพอัน
โหดร้ายตรงหน้าเป็นเรือ
่ งจริง

พีช
่ ายนางคือบุตรชายคนโปรดของตระกูล และเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด จะถูก
ขอทานคนหนึ่ งสังหารได้อย่างไร?
ทว่าเวลานี้ ชายวัยกลางคนกลับไม่มีเวลามาเสียใจและโกรธแค้น เพราะเขา
เห็นว่าองครักษ์ สิบกว่านายที่ล้อมโจมตีขอทานคนนั ้นล้มลงไปทีละคน คน
ฝ่ายพวกเขากำลังลดลง พอมองย้อนกลับไปที่รา่ งขอทานคนนั ้นกลับไม่มี
แม้แต่บาดแผล

“ลุกขึ้นมา! พวกเราต้องรีบไปแล้ว!” เขาพูดอย่างตัดสินใจเด็ดขาด ก่อนจะ


ใช้แขนข้างที่ไม่บาดเจ็บบังคับดึงหลานสาวที่นั่งพับบนพื้นขึ้นมา

“ข้าจะต้องแก้แค้นให้ท่านพี!่ ข้าจะฆ่ามัน! ข้าจะฆ่ามัน!” เด็กสาวตะโกน


ร่ำไห้ พยายามจะดิน
้ ให้หลุดจากมือของเขาแล้วกระโจนตัวออกไป

“มีสติหน่ อย! เจ้าฆ่าเขาไม่ได้หรอก!”

ชายวัยกลางคนตะคอกเสียงดัง “รีบไป! หากไม่ไปก็ไม่ทันกาลแน่ แล้ว!” เขา


ฝืนลากนางไป พอสบกับดวงตาที่เหมือนยิม
้ แต่ไม่ยม
ิ้ นั ้นคู่นั้นเข้าโดยไม่
ตัง้ ใจ เขารู ส
้ ึกเพียงอกสัน
่ ขวัญแขวนเท่านั ้น
ตอนที่ 22 ภารกิจตามล่า!

จิตสังหารในดวงตาคนผูน
้ ั ้นน่ากลัวเกินไปแล้ว…

เพียงมองใจเขาก็ถึงกับสิน
้ เรีย
่ วแรง ขนาดสองขายังอ่อนเปลี้ยไปบ้าง
สายตาและรังสีฆ่าฟันเช่นนั ้น แม้แต่บนร่างของพีใ่ หญ่เขาก็ยงั ไม่เคยเห็น…
น่าหวาดผวาเกินไปแล้ว!

ใครเล่าจะเชื่อ ระดับปรมาจารย์นักรบเช่นเขากลัวเด็กเหลือขอที่ไร้พลังเร้น
ลับคนหนึ่ งจนต้องหนี หว
ั ซุกหัวซุน?

แต่กลายเป็นว่าเขาก็หนี มาแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงชัดเจนดี หากไม่หนี พวกตน


คงไม่ได้มีชว
ี ต
ิ อยูต
่ ่อไปแน่ !

เมื่อเห็นชายวัยกลางคนฝืนลากเด็กสาวหนี ไป เฟิ่ งจิว


่ แปลกใจเล็กน้ อย ไหน
บอกว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาไง? ทำไมหนี ไปเสียแล้วเล่า? เธอยังคิดอยูเ่ ลย
ว่าหลังจากจัดการองครักษ์ พวกนี้ แล้วจะไปสู้กับเขาน่ ะ!

กริชในมือตวัดฟันลำคอองครักษ์ คนสุดท้าย เห็นเพียงเลือดสาดกระเซ็น


แล้วคนผูน
้ ั ้นก็ล้มตามไป

ยามมองสิบกว่าศพบนพื้น สีหน้าท่าทางของเธอเฉยเมยไม่เห็นแม้ความ
เวทนา
แต่ไหนแต่ไรเธอสืบทอดคำสอนบรรพบุรุษที่วา่ ใครไม่ทำร้ายเธอเธอก็ไม่ทำ
ตอบ แต่สำหรับคนที่อยากเอาชีวต
ิ กัน เธอก็จะไม่ใจอ่อนออมมือให้

เธอดึงถุงฟ้าดินจากเอวชายหนุ่มที่ตนหักคอมา แต่กลับพบว่าตัวเองเปิดไม่
ได้ พอคิดอย่างละเอียดจึงนึ กออก ของวิเศษชิน
้ นี้ ต้องมีพลังเร้นลับถึงจะ
สามารถเปิดได้ ทว่าตอนนี้ บนร่างเธอไม่มีพลังเร้นลับเลยสักนิ ด เปิดถุงใบนี้
ไม่ออกก็เป็นเรือ
่ งธรรมดา

ทว่าเธอเจอกระบอกจุดไฟหลายอันบนร่างเหล่าองครักษ์ จึงนำกระบอกจุด
ไฟกับถุงฟ้าดินใส่ไว้ในอกเสื้อ จากนั ้นค่อยนึ กถึงคนที่เธอลืมไปโดยไม่ระวัง

“ท่านอาล่ะ? คงไม่ได้จากไปอีกแล้วหรอกนะ?” เธอมองไปรอบๆ ก่อนจะ


ตะโกน “ท่านอา? ท่านอา?” เธอเดินไปด้านหน้า ก็เห็นเพียงร่างสัตว์รา้ ย
เกลื่อนพื้น

“เนื้ อ…” ดวงตาเธอเป็นประกายน้ อยๆ เมื่อเห็นร่างของเหล่าสัตว์รา้ ย สิง่ ที่


เธอนึ กถึงกลับเป็นเนื้ อย่างที่ยา่ งเสียจนส่งกลิน
่ หอมกรุ น

เฟิ่ งจิว
่ ลูบท้องกลืนน้ำลาย ดึงกริชออกมาตัดเนื้ อขาหลังชิน
้ หนึ่ งมา ถึงค่อย
ถือขาหลังสัตว์รา้ ยชิน
้ นั ้นเดินไปด้านหน้าเพื่อหาสถานที่ยา่ งเนื้ อกินสักมื้อ

ประมาณหนึ่ งชัว่ ยามให้หลัง ชายวัยกลางคนกับเด็กน้ อยที่เดิมจากไปแล้วก็


กลับมาอีกครัง้

“ท่านพี!่ ”
สาวน้ อยกระโจนเข้าไปกอดศพของพีช
่ ายไว้พลางร่ำไห้ไม่หยุด “กลับไปข้าจะ
บอกกับท่านพ่ออย่างไรว่าท่านตายแล้ว? ท่านพี่ ทำไมท่านถึงมาตายเช่นนี้
ได้… ฮือๆ…”

ครัน
้ เห็นองครักษ์ สิบแปดนายของตระกูลที่คัดสรรมาอย่างดีล้มหายตาย
จากไม่มีเหลือรอด แม้แต่หลานชายตัวเองก็จบชีวต
ิ ที่นี่ ดวงตาชายวัยกลาง
คนเต็มไปด้วยความเศร้าสลด มือหนึ่ งกำหมัดแน่ น แต่อก
ี ข้าง แขนที่ได้รบ

บาดเจ็บกลับลู่ลงราวกับไร้ความรู ส
้ ึกและหมดเรีย
่ วหมดแรง

“อิง้ โหรว แบกศพพีช


่ ายเจ้ากลับไปทำพิธฝ
ี ังดีๆ ซะ แค้นในวันนี้ พวกเราต้อง
ชำระแน่ !”

สาวน้ อยเช็ดน้ำตาพลางพูดว่า “ท่านอารอง ขอทานนั ่นอยูใ่ นป่าเก้าหมอบ


หากพวกเราไปแล้วจะแก้แค้นอย่างไร? เมื่อออกจากป่าเก้าหมอบ เราจะไป
ตามแก้แค้นเขาได้ที่ใดก็ยงั ไม่รูเ้ ลย”

“ไม่ พวกเราไม่ต้องลงมือ กลับไปอาจะป่าวประกาศภารกิจตามล่าไว้ที่


สมาคมทหารรับจ้าง จะมีคนไปเอาหัวมันมาแทนพวกเราเอง!”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง สายตาหลุบลงมองแขนตัวเองที่ลู่ลงอย่างไร้
เรีย
่ วแรง ในใจมีจิตสังหารที่ยากจะเลือนหาย นึ กไม่ถึงว่าเขาจะไม่ใช่คู่มือ
ของขอทานนั ่น!
หลังได้ฟังคำพูดนั ้น สาวน้ อยก็เช็ดน้ำตาแล้วแบกร่างของพีช
่ ายขึ้นมา ตอน
นี้ ถึงจะพบว่าถุงฟ้าดินที่ขา้ งเอวของพีช
่ ายหายไป นางจึงพูดว่า “ท่านอารอง
เขาเอาถุงฟ้าดินของท่านพีไ่ ปแล้ว”

“เช่นนี้ ก็ยงิ่ ดี! พวกเรามีวธ


ิ ต
ี ามหามันแล้ว!”

เขามองลึกไปด้านในป่าด้วยสายตาหนั กอึ้ง แม้การเดินทางครัง้ นี้ จะมาเพื่อ


สัตว์เทวะ แต่ชด
ั เจนมากว่าตอนนี้ พวกเขาไม่เหมาะที่จะเข้าไปอีกแล้ว

ส่วนเจ้าเด็กเหลือขอนั ่น เขาสาบานว่ามันจะต้องอยูอ
่ ย่างตายทัง้ เป็น!
ตอนที่ 23 ดึงพลังเข้าสู่รา่ ง!

ส่วนอีกด้าน เฟิ่ งจิว


่ ที่หาที่ยา่ งเนื้ อสัตว์รา้ ยกินกลับไม่เดินไปด้านในอีก

เธอนั ่งไตร่ตรองอยูเ่ งียบๆ ใต้ต้นไม้ แม้พษ


ิ ในร่างจะถอนไปแล้ว ถือว่ารักษา
ชีวต
ิ นี้ ไว้ได้ แต่หากจากป่าเก้าหมอบกลับไปบ้านตระกูลเฟิ่ งทัง้ แบบนี้ เดาว่า
คงยากนั กที่จะทำให้คนตระกูลเฟิ่ งเชื่อว่าเธอคือเฟิ่ งชิงเกอ

ถึงแม้เธอจะเป็นเฟิ่ งชิงเกอ ทว่านอกจากเธอกับซูรวั ่ อวิ ๋น ใครเล่าจะเชื่อว่า


เธอคือเฟิ่ งชิงเกอจริงๆ? ถึงอย่างไร เมื่อเทียบกับคนที่ใบหน้าเสียโฉมคน
หนึ่ ง เฟิ่ งชิงเกอแห่งตระกูลเฟิ่ งที่มีรูปโฉมงดงามเพริศพริง้ ต่างหากถึงจะ
เป็นตัวจริงในสายตาของผูค
้ น

เธอพอคาดการณ์ ได้วา่ หากอาจหาญเดินไปหน้าประตูตระกูลเฟิ่ งเพื่อบอก


ว่าตนคือเฟิ่ งชิงเกอ ส่วนซูรวั ่ อวิ ๋นนั ้นคือตัวปลอม เดาว่าแม้แต่ประตูบา้ น
ตระกูลเฟิ่ งเธอคงไม่ได้เข้า และก็ต้องถูกรุ มตีตายอยูน
่ อกประตู

และอีกอย่าง ซูรวั ่ อวิ ๋นผูน


้ ั ้นก็รบ
ั มือไม่งา่ ย! ถ้าไม่มีกลยุทธ์ที่สมบูรณ์ แบบ
เธอคงไม่อาจกลับไปบ้านตระกูลเฟิ่ งได้

‘เฮ้อ! เรือ
่ งวุน
่ วายของเจ้าของร่างก่อนนี่ ชา่ งเป็นปัญหาจริงๆ’ สองมือเธอ
ประสานไว้หลังหัว ร่างเอนหลังพิงต้นไม้พลางมองท้องฟ้าด้านบน
‘ใช่แล้ว เราต้องอาศัยโอกาสนี้ ถึงจะดึงพลังเข้าร่างได้อก
ี ครัง้ !’ ดวงตาเธอ
เป็นประกาย จากนั ้นนั ่งหลังตรงแล้วกระซิบว่า “แม้เราจะไม่รูว้ า่ ต้องใช้
เคล็ดวิชาอะไรในการดึงพลังเข้าร่าง แต่ความทรงจำในหัวก็ยงั มีอยู!่ ”

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทัง้ ร่างเธอก็กระปรีก


้ ระเปร่าขึ้นมาทันใด โลกนี้ มีการฝึก
บำเพ็ญเซียน แน่ นอนว่าผูฝ
้ ึกฝนพลังเร้นลับนั ้นมีค่อนข้างเยอะ เพราะใน
ร้อยคนจะมีอย่างมากหนึ่ งถึงสองคนที่ฝึกฝนพลังเร้นลับได้ ส่วนพลัง
วิญญาณ พูดได้วา่ มีเพียงหนึ่ งถึงสองคนในหมื่นคนเท่านั ้น

ความแตกต่างระหว่างพลังเร้นลับกับพลังวิญญาณก็คือ พลังเร้นลับเป็นการ
ฝึกฝนร่างกาย ส่วนพลังวิญญาณเป็นการฝึกกายเซียน

เซียนสามารถขีเ่ มฆเคลื่อนหมอกเหาะเหินเดินอากาศ เรียกลมเรียกฝน


ทำได้ทุกอย่าง จะย้ายภูเขาหรือพลิกมหาสมุทรก็ทำได้ในเวลาอันสัน

แต่เพราะมีผูฝ
้ ึกฝนพลังวิญญาณค่อนข้างน้ อย และในแคว้นเล็กๆ ระดับเก้า
อย่างแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั นี้ ก็ไม่มีแผ่นหินวิญญาณสำหรับทดสอบพลังวิญญาณ
ด้วยเหตุนี้ไม่วา่ จะเป็นบุตรของตระกูลใหญ่หรือเชื้อพระวงศ์ ปกติเมื่อผ่าน
การทดสอบพลังเร้นลับก็ล้วนได้เริม
่ ฝึกฝนเพียงพลังเร้นลับ

นอกเสียจากมีพรสวรรค์ดีเลิศ ในอนาคตถึงจะมีโอกาสได้เดินทางออกจาก
แคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ไปทดสอบพลังวิญญาณยังแคว้นเล็กระดับเจ็ดขึ้นไป ตาม
ความทรงจำในหัวเธอ ว่ากันว่าทัว่ แคว้นแสงสุรย
ิ น
ั คนที่ฝึกฝนพลังวิญญาณ
ได้มีแค่สามคน
แต่มีคนกล่าวว่า ผูฝ
้ ึกเซียนพลังวิญญาณทัง้ สามต่างจากแคว้นแสงสุรย
ิ น

ไปหลายปีแล้ว แม้จะเป็นเช่นนั ้น แต่ฐานะวงศ์ตระกูลของพวกเขาในแคว้น
นี้ กลับไม่มีสัน
่ คลอน

เธอทำตามใจตัวเอง หากพูดว่าจะทำก็ทำเลย

ทันใดนั ้น เธอนั ่งขัดสมาธิ หลับตาลงแล้วลองดึงพลังเข้าร่างตามคาถา


ฝึกฝนวิชาในหัว…

ทว่าจินตนาการไว้งดงาม ความจริงกลับโหดร้าย

หลังจากเธอละทิง้ ความคิดฟุ้งซ่าน ปล่อยใจให้วา่ ง พลางท่องคาถาในใจเพื่อ


ลองดึงพลังเข้าร่าง กลับหลับตาอยูโ่ ดยไม่คิดอะไร พอนั ่งไปนานๆ จึงไม่ระวัง
เผลอหลับไปจนได้…

“บรู ว้ !”

เสียงเห่าหอนของสัตว์รา้ ยที่ดังมาจากในป่าลึกทำให้เธอตื่นขึ้น

“หือ?”

เธอลืมตาอย่างง่วงงุน แล้วหาวหวอด ทัง้ ร่างแสดงอาการเกียจคร้านออกมา


เล็กน้ อย พอนึ กว่าตัวเองหลับไปในขณะที่นั่งสมาธิดูดซับพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
เธอจึงส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้ “หลับตาและไม่คิดอะไรโดยไม่ให้
เคลิม
้ หลับนี่ ก็ยากนะ!”
เธอลูบๆ ท้ายทอยแล้วลุกยืนขึ้นมาขยับแขนขา เพราะเพิง่ หลับไปหนึ่ งตื่นจึง
ดูสดชื่นอยูไ่ ม่น้อย จากนั ้นเธอค่อยนั ่งขัดสมาธิใต้ต้นไม้อก
ี ครัง้ พอมีตัวอย่าง
ก่อนหน้า รอบนี้ จึงทำจิตใจให้ต่ ืนตัวและมัน
่ คง ก่อนจะท่องคาถาเหนี่ ยวพลัง
ในใจ

เมื่อเวลาผ่านไปอย่างเงียบเชียบ อีกสองชัว่ ยามให้หลัง รอบกายเธอก็มีกลิน



อายพลังเร้นลับจางๆ ลอยอยูเ่ ลือนราง…
ตอนที่ 24 ใบหน้าในผืนน้ำ

เฟิ่ งจิว
่ ลืมตาช้าๆ มุมปากยกขึ้นน้ อยๆ จนผุดเป็นรอยยิม
้ ขึ้นมา

นั บว่าการดึงพลังเข้าร่างสำเร็จด้วยดี เร็วกว่าที่เธอจินตนาการไว้ เมื่อนึ กถึง


ถุงฟ้าดินใบนั ้น เธอล้วงมันออกมาจากอกเสื้อในทันที หลังจากส่งพลังเร้น
ลับเข้าไปก็เปิดมันออก

“จิๆ
๊ มีของไม่น้อยเลยนะ!”

ที่วา่ งด้านในไม่ได้เยอะมากนั ก แต่ของที่ใส่ไว้กลับมีไม่น้อย พอประมาณด้วย


สายตาเสร็จ เธอก็นำสมุนไพรกับทองคำก้อนในห่อสัมภาระใส่ลงไป แล้ว
ค่อยผูกถุงใบนั ้นไว้ที่เอวอย่างแน่ นหนา

เมื่อเห็นเนื้ อย่างที่ยงั เหลืออยู่ เธอนำเนื้ อย่างชิน


้ นั ้นใส่ลงไปในที่วา่ ง จากนั ้น
เดินเข้าไปในป่า หมายจะลองหาแหล่งน้ำทำความสะอาดบาดแผลบนหน้า
สักหน่ อย

พวกดินโคลนบนหน้าไม่ได้ทามาอย่างลวกๆ แต่เธอใช้น้ำบาดาลกับดินเลน
ผสมกันแล้วพอกลงไป ข้อแรกเพราะความเย็นของน้ำบาดาลสามารถลด
อาการแผลอักเสบ สองคือเพื่อปกปิดรอยแผลบนใบหน้า และเลี่ยงไม่ให้ถูก
คนจำหน้าได้

พอกมาหลายวันแล้ว จะไม่ล้างก็ไม่ได้ ดังนั ้นตอนนี้ สิง่ ที่ต้องรีบทำที่สุดคือ


การหาแหล่งน้ำ
จากความหนาทึบของต้นไม้ในป่า ตัดสินได้วา่ จุดที่มีแหล่งน้ำอยูค
่ ือทิศทางที่
ตรงที่สุด

เธอไม่เดินตรงลึกเข้าไปอีก แต่กลับเดินไปตามทางที่มีใบไม้แน่ นขนั ดและมี


วัชพืชงอกงามอยูบ
่ นพื้น ประมาณสองชัว่ ยามให้หลัง ในที่สุดเธอก็พบแหล่ง
น้ำ

นั ่นคือลำธารสายหนึ่ งที่ไหลเชีย
่ ว อยูใ่ ต้เนิ นเขาที่ค่อนข้างต่ำ ต้นไม้สองฟาก
ฝั่ งล้วนเจริญงอกงามกว่าที่อ่น
ื ๆ

“ฮู!่ หาน้ำในป่านี่ ไม่ใช่เรือ


่ งง่ายๆ เลย”

เธอถอนหายใจเบาๆ แล้วมายังริมธารด้วยฝีเท้าที่วอ
่ งไว นั ่งลงตักน้ำขึ้นมา
ดื่ม ก่อนจะหยิบกระบอกไม้ไผ่ที่ตัดมาระหว่างทางออกจากถุงห่อฟ้าดิน และ
นำมาเติมน้ำให้เต็ม เตรียมไว้ในยามที่ต้องการ

เธอถอดรองเท้าเอาเท้าแช่น้ำ ก็รูส
้ ึกว่าความเมื่อยล้าทัง้ หมดบนร่างกาย
สลายไป เพราะน้ำในลำธารไหลเอื่อย หลังจากแช่เท้าไปสักพักถึงจะล้าง
โคลนบนใบหน้าออกอย่างระมัดระวัง และล้างโคลนที่พอกอยูบ
่ นแผลให้
สะอาดไปทีละน้ อย

จนกระทัง่ ในน้ำมีภาพสะท้อนใบหน้าอันน่าเกลียดที่เต็มไปด้วยบาดแผลรอย
มีด
เธอมองใบหน้าในน้ำนั ้นด้วยสายตาเย็นชาเล็กน้ อย ร่างกายนี้ เหมือนร่าง
ของเธอในศตวรรษที่ 21 ไม่มีผด
ิ เพีย
้ น รู ปลักษณ์ เองก็ไม่เปลี่ยน แต่ตอนนี้
ใบหน้าที่เธอคุ้นเคยมายีส
่ ิบกว่าปีกลับถูกกรีดจนเป็นเช่นนี้ พอคิดๆ ดู มูล
เหตุของความเคร่งขรึมที่ซ่อนอยูใ่ นใจเธอก็เริม
่ ปรากฏขึ้นมาอีกครัง้

“ซูรวั ่ อวิ ๋นเอ๋ยซูรวั ่ อวิ ๋น จงใช้ชว


ี ต
ิ ให้ดีที่สุดล่ะ…”

เธอพึมพำเสียงเบา รอยยิม
้ ที่เบ่งบานอยูบ
่ นริมฝีปากดูชว
ั ่ ร้ายและชวนขนลุก
อยูเ่ ล็กน้ อย

เธอนำสมุนไพรในถุงฟ้าดินที่เก็บมาระหว่างทางมาบดผสมกันหนึ่ งถึงสอง
ต้น จากนั ้นจึงพอกยาที่บดได้ไว้บนหน้า สะเก็ดบาดแผลบนใบหน้าต่างก็
หลุดลอกไปตอนล้างดินเลนออก แต่รอยมีดเหล่านั ้นทำอย่างไรก็ไม่หายไป

รอยมีดทุกรอย พอลอกแผลเป็นออกก็ล้วนกลายเป็นรอยบาดลึกสีชมพู
หากเทียบกับความน่ากลัวตอนที่ยงั ไม่ลอกแผลเป็น ตอนนี้ ดูแล้วดีกว่ามาก
อย่างน้ อยก็ไม่ได้น่ากลัว แต่น่าเกลียด

หลังจากพอกยาเรียบร้อยแล้ว รอจนยาแห้งกำลังดี เธอก็โน้ มตัวลงมองน้ำ


ในลำธาร ภาพที่สะท้อนในน้ำใสสะอาดคือใบหน้าหนึ่ งที่มองรู ปลักษณ์ ได้ไม่
ชัดเจน เพราะมีสีเขียวอยูเ่ ต็ม จึงดูแปลกยิง่ นั ก

ระหว่างที่กำลังมองๆ อยู่ คิว


้ เธอก็พลันเลิกขึ้นน้ อยๆ เพราะไม่รูว้ า่ แหล่งน้ำที่
เดิมทีเคยใสสะอาดย้อมสีแดงเลือดได้อย่างไร
เธอปรายตามองไปตามต้นน้ำ ชะงักไปเล็กน้ อย ก่อนจะสาวเท้าก้าวเดินตาม
ต้นน้ำของลำธารไป

เวลาผ่านไปประมาณครึง่ ก้านธูป ฝีเท้าเธอหยุดลง สายตามองไปยังพุม



หญ้าเบื้องหน้าที่รม
ิ ลำธาร…
ตอนที่ 25 เผชิญหน้าฝูงหมาป่า!

ตรงนั ้นมีชายคนหนึ่ งนอนอยู่

พูดตามจริง ก็ไม่รูว้ า่ แค่หมดสติหรือหมดลมหายใจ ร่างเขานอนแผ่อยูก


่ ลาง
ลำธาร เนื่ องจากนอนคว่ำจึงมองหน้าได้ไม่ชด
ั แต่ดูจากเสื้อผ้าเนื้ อดีสี
น้ำตาลอ่อนบนร่างเขา ชาติตระกูลน่าจะไม่เลวเลย

เสื้อตรงหน้าท้องมีสีแดงเข้ม ที่ศีรษะเองก็มีเลือดไหล ถึงแม้จะนอนอยูใ่ น


ลำธาร แต่เขาช่างโชคดี เพราะตรงที่นอนอยูค
่ รึง่ หนึ่ งมีหน
ิ ก้อนค่อนข้างใหญ่
โผล่ข้น
ึ จากผิวลำธารเล็กน้ อย ส่วนหน้าเขาจึงไม่ได้แช่ในน้ำ ไม่เช่นนั ้นเดาว่า
ต่อให้ไม่มีเลือดออก เขาก็คงจมน้ำตายไปแล้ว

เพราะครึง่ ร่างแช่อยูใ่ นลำธาร เลือดบนศีรษะและเลือดที่ซึมตรงช่วงท้องจึง


ไหลตามลำธารจากจุดต้นน้ำลงไป

เธอเดินเข้าไปพลิกตัวเขาขึ้นมา ก่อนจะยื่นมือไปตรวจลมหายใจที่ปลายจมูก
พบว่ายังมีลมอยู่ เธอจึงลากเขาขึ้นมาบริเวณพื้นหญ้าข้างลำธาร

หลังจากตรวจดูบาดแผลเขาแล้ว ก็หยิบขวดใบเล็กออกจากถุงฟ้าดิน นำยา


ห้ามเลือดมาพรมลงบนบาดแผลที่ศีรษะของเขา แล้วค่อยถอดเสื้อผ้าเพื่อ
โรยยาลงไปบนแผลที่ท้องอีกนิ ดหน่ อย จากนั ้นเธอหยิบเสื้อผ้าชิน
้ หนึ่ งจาก
ด้านในถุงฟ้าดินมาฉี กเป็นเส้นๆ และพันแผลเขาไว้

‘นายนี่ โชคดีจริงๆ ถึงได้มาพบฉั น’


เธอมองคนที่กำลังหมดสติ พลางก็หว
ั เราะขึ้นเบาๆ ก่อนจะเลิกคิว
้ อย่าง
ประหลาดใจเล็กน้ อย แล้วพูดกับตัวเองว่า “นี่ ฉันใจดีขนาดนี้ ตัง้ แต่เมื่อ
ไหร่?”

เพื่อไม่ให้กลิน
่ คาวเลือดดึงดูดพวกสัตว์รา้ ยมา เธอจึงถอดเสื้อผ้าบนร่างชาย
หนุ่มโยนลงน้ำเสีย ให้เสื้อผ้าลอยหายไปตามลำธาร แล้วหยิบเสื้อผ้าอย่าง
ง่ายๆ ชุดหนึ่ งจากในถุงฟ้าดินมาสวมลงบนร่างเขา

เมื่อเห็นท้องฟ้ายังไม่มืด ตรงนี้ ก็มีแหล่งน้ำ ดังนั ้นเธอจึงเก็บกิง่ ไม้รอบๆ มา


ก่อกองไฟ ตัง้ ใจว่าคืนนี้ จะพักอยูท
่ ี่นี่เสียเลย

เดิมทีอยากลองดูใกล้ๆ ลำธารว่ามีปลาหรือไม่ ทว่าเธอนั ่งตรงริมลำธารอยู่


นานโข ก็ไม่เห็นมีปลาว่ายผ่านมาสักตัวเดียว จึงอุทานเบาๆ อย่างอดไม่ได้
“น้ำใสแต่ไม่มีปลา เป็นจริงอย่างที่คิดไว้เลย!”

เธอทำได้เพียงนำเนื้ อย่างมาอุน
่ อีกรอบ แล้วฉี กมากินชิน
้ หนึ่ ง หลังจากเติม
ท้องจนอิม
่ ค่อยนั ่งขัดสมาธิฝึกฝน

ตอนนี้ เธอเพียงแค่ดึงพลังเข้าร่าง ก่อนจะเข้าถึงระดับนั กรบทุกอย่างล้วน


เริม
่ จากศูนย์ แต่เธอรู ส
้ ึกได้วา่ หลังจากฝึกฝนได้พลังเร้นลับ ร่างกายก็มีการ
เปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้ อยๆ เธอรู ถ
้ ึงผลดีนั้น การฝึกฝนวิชาย่อมทำให้มีพลัง
อย่างไม่จำกัดเป็นธรรมดา

การฝึกครัง้ นี้ ใช้เวลาไม่กี่ชว


ั ่ ยาม จนกระทัง่ รู ส
้ ึกว่าพลังเร้นลับในร่างเข้าสู่ขน
ั้
เริม
่ ต้นที่สองของระดับนั กรบ เธอถึงจะถอนหายใจแล้วลืมตาขึ้น
ท้องฟ้ามืดลงแล้ว สายลมยามค่ำคืนในป่านี้ เย็นอยูบ
่ า้ ง ยังดีที่ตรงหน้ามีกอง
ไฟให้ความอบอุน
่ และพลังเร้นลับบนร่างเองก็สามารถหมุนวนขับไล่ความ
หนาวเย็นไปได้

เฟิ่ งจิว
่ หันมองชายหนุ่มข้างกาย เห็นว่าเขาหดตัวน้ อยๆ ราวกับกำลังสัน
่ เทา
จึงยื่นมือไปตรวจดู ที่แท้ก็เป็นไข้จากอาการแผลอักเสบนี่ เอง

เธอคิดแล้วคิดอีกก็พลิกหาของจากในถุงฟ้าดินอีกครัง้ หยิบขวดเล็กๆ ออก


มา เทยาเม็ดหนึ่ งลงบนฝ่ามือแล้วลองดมดู หลังจากแน่ ใจในสรรพคุณกับ
ผลของยา จึงค่อยบีบคางและยัดยาเม็ดนั ้นเข้าไปในปากเขา แล้วกรอกน้ำใส่
ปากตามไปอีกเล็กน้ อยเพื่อให้เขากลืนยาลงไป

เฟิ่ งจิว
่ เติมกิง่ ไม้เข้ากองไฟ จนเปลวเพลิงนั ้นยิง่ โชติชว
่ งขึ้นมาหน่ อย ทว่าใน
เวลานี้ เอง เสียงที่แว่วมาจากในป่าก็ทำให้รา่ งเธอแข็งทื่อ ตึงเครียดและ
เคร่งขรึมขึ้นมาในทันใด

“บรู ว้ !”

“บรู ว้ !”

“บรู ว้ …”

“หมาป่า?”
เธอลุกยืนขึ้นทันที ได้ยน
ิ เสียงหมาป่าเห่าหอนที่น่าสะพรึงกลัวยามค่ำคืนใกล้
เข้ามาทุกที เสียงพวกมันกำลังดังกึกก้องอยูใ่ นป่าแห่งนี้

หมาป่าเป็นสัตว์ที่เดินทางเป็นฝูง หากมันจะปรากฏตัว ก็ต้องมากันเป็นฝูง!


ตอนที่ 26 ต่อกรฝูงหมาป่าเพียงลำพัง

เธอคิดจะใช้โอกาสที่ฝูงหมาป่ายังมาไม่ถึงรีบหนี ไป ทว่าตอนนี้ ในพุม


่ ไม้ไม่
ไกลกลับมีดวงตาประกายแสงสีเขียวหลายคู่โผล่ออกมา…

“ดูท่าว่าจะหนี ไม่ได้แล้วสินะ”

เธอขมวดคิว
้ เบาๆ แล้วกวาดมองฝูงหมาป่าที่เดินมาจากรอบๆ พอชำเลือง
มองชายที่กำลังหมดสติ ก็รูส
้ ึกว่าตัวเองนี่ ชา่ งหาเรือ
่ งใส่ตัวเสียจริง

หากเผชิญหน้ากับฝูงหมาป่า ถ้าแค่ตัวเธอเองก็พอได้อยู่ แต่ด้านหลังมีอก



คนที่ยงั หมดสติ จึงกลายเป็นปัญหาเสียแล้ว

“บรู ว้ !”

เสียงเห่าหอนของหมาป่าดังขึ้น ราวกับกำลังออกคำสัง่ อย่างไรอย่างนั ้น ฝูง


หมาป่าที่เดิมเดินล้อมวงมากันอย่างช้าๆ กระโจนมาตรงหน้าเธอในทันที

เพราะลำธารอยูต
่ รงใต้เนิ นเขา จุดที่เธอพักร่างชายผู้นั้นไว้จึงมีที่ลาดเป็น
เนิ นออกมาพอดี ตอนนี้ ทางลาดเป็นผลดีอย่างมากต่อการป้องกัน ทำให้เธอ
ไม่ต้องคอยพะวงหลังว่าจะมีหมาป่ากระโจนโจมตี และไม่ต้องกังวลว่าจะ
ดูแลเขาไม่ได้จนถูกหมาป่าลากไป
เฟิ่ งจิว
่ ดึงกริชออกมาตัง้ มือกัน
้ ไว้ด้านหน้า รังสีฆ่าฟันทัง้ ร่างพลุ่งพล่านออก
มา ในเมื่อหนี ไม่ได้ เช่นนั ้นก็สู้เถอะ! เธอไม่เชื่อหรอกว่าตัวเองจะฆ่าหมาป่า
สิบกว่าตัวนี้ ไม่ได้หมด!

สายตาเป็นประกายเย็นเยียบฉายแววคมกริบ เธอแอบดึงพลังเร้นลับในร่าง
ขึ้นมา ดวงตาจ้องหมาป่าสิบกว่าตัวที่แยกเขีย
้ วน้ำลายไหลอยูต
่ รงหน้า
ราวกับกำลังเฝ้ารออะไรบางอย่าง

เหล่าหมาป่าส่งเสียงคำรามเบาๆ เหมือนอยากให้เธอเสียขวัญจนหมดกำลัง
ใจสู้แล้วค่อยกระโจนใส่ แต่ถึงอย่างไร เฟิ่ งจิว
่ ก็ไม่ใช่คนธรรมดา เธอคงไม่
ตกใจจนแข้งขาอ่อนหมดแรงต่อสู้แน่

ทว่าเพราะสถานการณ์ ที่เสียเปรียบ เธอไม่อาจจู่โจมได้ มิเช่นนั ้นจะถูกล้อม


โจมตี ดังนั ้นเธอจึงกำลังรอ รอให้หมาป่าพวกนี้ กระโจนเข้ามา

ฝูงหมาป่าสิบกว่าตัวรู ส
้ ึกถึงรังสีฆ่าฟันที่เพิม
่ ขึ้นไม่มีถดถอย พวกมันคำราม
เสียงต่ำ และยามนี้ เอง หมาป่าสีเทาตัวใหญ่ตัวหนึ่ งบนที่สูงก็หอนขึ้นมา

“บรู ว้ !”

พอสิน
้ เสียงเห่าหอน หมาป่าสิบกว่าตัวก็กระโจนเข้ามาทันที ปากที่แยกกว้าง
เผยให้เห็นเขีย
้ วอันแหลมคมทัง้ ยังมีน้ำลายไหลเยิม
้ พากันพุง่ มากัดเฟิ่ งจิว

อย่างดุรา้ ย กรงเล็บหมาป่าที่แหลมคมแวววาวนั ้นยิง่ ส่องแสงเย็นเยียบใน
ยามค่ำคืน
เฟิ่ งจิว
่ เห็นโอกาสเหมาะเจาะ โจมตีออกไปในพริบตา!

ท่าร่างที่แปลกประหลาดยิง่ เพิม
่ ความเร็วขึ้นด้วยการใช้กลิน
่ อายพลังเร้นลับ
กริชในมือแทงเข้าหัวของหมาป่าที่กระโจนมาตัวแรกก่อนจะดึงออก
ท่ามกลางฟ้าราตรี เสียงร้องโหยหวนของมันดังก้องไปทัว่ เธอเห็นแต่เลือด
มันกระเซ็นออกมา เลือดหมาป่าที่ทัง้ อุน
่ ร้อนและมีกลิน
่ คาวคละคลุ้งสาด
กระเซ็นใส่ตัวเธอ ส่วนหมาป่าตัวนั ้นก็ส่งเสียงพลางล้มลง…

หลังจากฆ่าหมาป่าไปตัวหนึ่ ง เฟิ่ งจิว


่ ถอยหลังในทันที กริชในมือตวัดไปทาง
หมาป่าอีกสองตัวที่พุง่ มาทางซ้าย อาจเพราะการตายของเพื่อนร่วมฝูง
หมาป่าเหล่านั ้นจึงระวังตัวขึ้นเล็กน้ อย ความเร็วในการโต้ตอบของพวกมัน
สูงมาก ยามที่เธอตวัดกริชออกไปก็หลบกันได้แล้ว ทว่าตัวอื่นๆ กลับกระโจน
มาจากด้านหน้า

ขณะที่เธอกำลังต่อสู้กับหมาป่าทางด้านซ้ายและด้านหน้า หมาป่าจากด้าน
ขวาก็พุง่ ตัวไปทางชายหนุ่มด้านหลังที่กำลังหมดสติอยูบ
่ นพื้น เธอในตอนนี้
ไม่มีทางแยกร่างได้ จึงทำได้เพียงใช้เท้าข้างหนึ่ งเตะกองไฟในระหว่างที่กวัด
แกว่งกริชแทงไปทางหมาป่า กิง่ ไม้สีแดงเพลิงพร้อมเปลวไฟหลายท่อนลอย
ไปหาหมาป่าด้านขวาตัวนั ้น

หมาป่ากลัวไฟ พอเห็นเปลวไฟลอยมาจึงส่งเสียงร้องพลางถอยร่นอย่างตื่น
ตกใจ และตอนนั ้น มีดโค้งในมือเฟิ่ งจิว
่ ก็ฆ่าหมาป่าไปได้อก
ี สองตัว นั บรวม
เมื่อกี้ตัวหนึ่ ง ตอนนี้ ที่ล้มอยูต
่ รงหน้าจึงมีสามตัวแล้ว
อาจเพราะรังสีสังหารที่แผ่ออกจากร่างเฟิ่ งจิว
่ น่ากลัวเกินไป หรือไม่ก็ต่ ืน
ตระหนกเพราะความกระหายเลือดอันรุ นแรงของเธอ หมาป่าตัวอื่นจึงส่ง
เสียงเห่าหอนเบาๆ แล้วถอยหลังกันไปทีละก้าวโดยไม่กล้าเข้ามาอีก ทว่าก็
ยังไม่ยอมจากไปทัง้ แบบนี้ …
ตอนที่ 27 ศีรษะเจ้ากระทบกระเทือนหรือ?

แสงแดดยามเช้าตรู ค
่ ่อยๆ สาดส่องลงบนผืนดิน ชายที่หมดสติมาทัง้ คืน ใน
ที่สุดก็ฟื้นคืนสติกลับมา

ทว่าขณะเขาลืมตาขึ้น สิง่ ที่เห็นกลับเป็นฉากที่น่าประหลาดใจเป็นที่สุด

ขอทานน้ อยในเสื้อผ้าซอมซ่อนั ่งขัดสมาธิอยูข


่ า้ งๆ บนร่างเปราะเลือดสีแดง
เข้ม แต่ก็แห้งหมดแล้ว เขาเห็นใบหน้าอีกฝ่ายได้ไม่ชด
ั เจนนั ก เพราะมีสิง่ สี
เขียวขุน
่ ที่คล้ายยาบดพอกไว้บนใบหน้า

แต่เมื่อเห็นเด็กหนุ่มถือกริช สายตาจ้องไปเบื้องหน้า เขาจึงมองตามสายตา


นั ้นไป เห็นแวบเดียวดวงตาเขาก็หรีล
่ งน้ อยๆ

นอกจากศพหมาป่าสามตัวที่นอนแข็งทื่ออยูต
่ ่อหน้าขอทานน้ อย ในที่ไกล
ออกไปเกือบหนึ่ งจัง้ ก็มีหมาป่าสีเทาสิบกว่าตัวนั ่งหมอบแยกเขีย
้ วน้ำลายสอ
กำลังจ้องพวกเขาอย่างดุรา้ ยเหมือนเสือ

เฟิ่ งจิว
่ หันหน้าไปมองเล็กน้ อย สบเข้ากับสายตาตกตะลึงที่มีความมึนงงอยู่
บ้างของชายหนุ่มเข้าพอดิบพอดี

“ระวัง!”

ชายหนุ่มพลันร้องอย่างตื่นตกใจ สายตามองหมาป่าสีเทาที่กระโจนใส่
ขอทานน้ อยด้วยความหวาดหวัน
่ เขาร้อนใจอยากจะลุกขึ้นตาม
สัญชาตญาณ แต่พอขยับก็เจ็บตรงบาดแผลที่ท้อง ได้ยน
ิ เพียงเขาร้อง
ครวญครางก่อนจะล้มลงไปอีกครัง้ บริเวณบาดแผลเองก็มีเลือดซึมออกมา
จางๆ

ในตอนที่ชายหนุ่มส่งเสียงร้องตกใจ เฟิ่ งจิว


่ ก็หน
ั ตัวกลับ ลุกพรวดขึ้นมาด้วย
ท่าทางคล่องแคล่ว สายตาคมกริบกวาดมองหมาป่าสีเทาตัวนั ้น และเห็นมัน
กระโจนมาอย่างทันทีทันใด เธอจึงหมอบลงกลิง้ ตัวไปใต้รา่ งหมาป่า แล้วใช้
กริชในมือวาดฟันขึ้นไป

ฉั วะ!

“กรร!”

กริชนั ้นผ่าเปิดใต้ท้องหมาป่าจนเป็นแผลลึกด้วยแรงที่ไร้ปรานี หมาป่าสีเทา


ตัวนั ้นแผดเสียงร้อง จากนั ้นล้มลงตรงหน้าชายหนุ่มอย่างไม่อาจยัง้ ไว้ได้
เพราะแรงที่พุง่ ไปด้านหน้า ดวงตาถลึงมองด้วยความดุรา้ ยของหมาป่าจ้อง
ไปที่เขาไม่วางตา ร่างมันชักกระตุกสักพัก ปากที่อา้ กว้างขยับเบาๆ สุดท้าย
หมดลมหายใจไปทัง้ แบบนั ้น

“บรู ว้ !”

หมาป่าสีเทาที่เหลือแหงนหน้าหอนเสียงยาวอย่างกระวนกระวายเล็กน้ อย
กรงเล็บกำลังขุดดิน ปากก็ส่งเสียงหอนกันเบาๆ ดวงตาหมาป่าอันเหีย
้ มโหด
มองเฟิ่ งจิว
่ อย่างกระหายเลือดไม่ลดละ แต่กลับไม่กล้าผลีผลามเข้ามาอีก
หลังจากเฟิ่ งจิว
่ ฆ่าหมาป่าสีเทาตัวนั ้นก็ผลุงตัวขึ้นยืน พลางมองเหล่าหมาป่า
สีเทาด้วยแววตาดุรา้ ย แล้วยกมุมปากขึ้นราวกับอสุรกายกระหายเลือด “ถ้า
ยังไม่ไปอีก ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทีละตัวซะเลย” สายตาเธอกวาดมอง ก่อนจะจับ
จ้องร่างหมาป่าเทาตัวหัวหน้าที่ยน
ื อยูบ
่ นเนิ นเขาไม่ไกล

ดูเหมือนมันรู ส
้ ึกถึงการขูเ่ ข็ญจากสายตาเธอ ดวงตาเหีย
้ มเกรียมคู่นั้นจ้อง
มองเฟิ่ งจิว
่ อยูส
่ ักพัก ก็เงยหน้าส่งเสียงเห่าหอน ไม่นานนั ก หมาป่าสิบกว่า
ตัวที่หมอบเฝ้าอยูก
่ ็ลุกขึ้นวิง่ ออกไป

ชายหนุ่มคนนั ้นประคองร่างครึง่ หนึ่ งขึ้นมามองอย่างตะลึงงัน ดวงตาเบิก


กว้าง สีหน้าก็มีความเหลือเชื่อ

เฟิ่ งจิว
่ ใช้ขนหมาป่าเช็ดเลือดบนกริชจนสะอาดแล้วเก็บกลับไป พอหันกลับ
มาเห็นท่าทางของชายหนุ่ม เธอยิม
้ อย่างไม่สนใจใยดี “เจ้าตื่นก็ดี หากไม่ต่ ืน
ข้าก็จะไปแล้ว”

เธอเดินไปนั ่งลงข้างๆ หยิบกระบอกไม้ไผ่ออกมาดื่มน้ำอึกหนึ่ ง จ้องตากับ


หมาป่าสิบกว่าตัวมาทัง้ คืน จิตใจตึงเครียด แต่ไม่อาจผ่อนคลายได้เลยสัก
นิ ด ควรรู ไ้ ว้วา่ ในสถานการณ์ แบบนั ้น หากปล่อยใจไม่ระแวดระวัง ก็อาจถูก
หมาป่าพวกนั ้นฉี กเป็นชิน
้ ๆ เมื่อไหร่ก็ได้

“เจ้า เจ้าเป็นใครกัน?” อาจเพราะตกใจกับความป่าเถื่อนก่อนหน้านี้ ของเฟิ่ ง


จิว
่ ตอนนี้ จึงพูดตะกุกตะกักนิ ดหน่ อย

“ข้าเป็นใคร เจ้าสนใจด้วยเรอะ”
“ชะ เช่นนั ้นข้าเป็นใครล่ะ?” พอชายหนุ่มพูดเช่นนั ้น ก็กลับกลายเป็นเฟิ่ งจิว

แปลกใจบ้าง

“หรือศีรษะเจ้ากระทบกระเทือนเสียแล้ว? ขนาดตัวเองก็จำไม่ได้วา่ เป็น


ใคร?”

เธอพูด จากนั ้นเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงยื่นมือไปจับศีรษะของชายหนุ่ม


เป็นตามที่คาด มันยังบวมอยูเ่ ป็นก้อนเลย
ตอนที่ 28 วิกฤตที่ซ่อนเร้น!

ชายหนุ่มนิ่ งไป เห็นขอทานน้ อยผูน


้ ี้ โน้ มตัวลงมาด้วยใบหน้าที่พอกสีเขียวขุน

ผ่านไปนานก็ไม่อาจดึงสติกลับได้ จนกระทัง่ ได้ยน
ิ เสียงเขาดังมา

“ตอนที่เจ้าล้มหัวฟาดก้อนหิน เลือดที่คัง่ ด้านในไปกดทับเส้นประสาท ข้าเดา


ว่าน่าจะเป็นแค่การสูญเสียความทรงจำระยะสัน
้ พอเลือดที่คัง่ หายไป เจ้าจะ
ดีข้น
ึ เอง” หลังจากเธอปัดๆ มือแล้วจึงลุกยืนขึ้น “ดีละ เจ้าฟื้ นแล้ว ข้าก็ควร
ไปเช่นกัน”

ได้ยน
ิ เช่นนั ้น ชายหนุ่มก็รอ
้ นรน เขาฝืนทนความเจ็บตรงแผลที่ท้องไว้พลาง
รีบลุกยืนขึ้นมา ก่อนตามไปข้างกายเฟิ่ งจิว
่ อย่างกังวลและไม่สบายใจเล็ก
น้ อย อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่รูจ
้ ะพูดเช่นไร จึงทำได้เพียงมองอีก
ฝ่ายอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ

หลังจากชายหนุ่มยืนขึ้น เฟิ่ งจิว


่ นิ่ งไป ตอนนี้ เธอเพิง่ สังเกตว่ารู ปร่างเขาสูง
ใหญ่มาก สูงเลยเธอไปเกินครึง่ ศีรษะเต็มๆ หนำซ้ำผิวพรรณสีน้ำผึ้งก็ชา่ ง
ล่ำสัน หากเทียบกับท่านอาผูน
้ ั ้นดูเหมือนยังต้องกำยำขึ้นอีกหน่ อย ยามนี้
เสื้อผ้าชุดที่สวมอยูบ
่ นตัวเขาคับจนแน่ นเล็กน้ อย กล้ามเนื้ อบนแขน
แน่ นขนั ด ดูราวกับจะทำให้เสื้อปริขาดได้ทุกเมื่อ

เธอกวาดตามองชายหนุ่มที่ตามอยูข
่ า้ งกาย ถามว่า “เจ้าทำอะไร?” เธอก็
ช่วยคนไปตามสะดวก แต่ไม่นึกว่าจะมีปัญหาเช่นนี้ ตามมาอีก
“ข้า ข้าตามเจ้าไปได้หรือไม่?” ชายหนุ่มมองเธออย่างกระวนกระวาย “ข้าจำ
อะไรไม่ได้เลย ซ้ำยังรู จ
้ ักแต่เจ้าด้วย”

เส้นแถบสีดำปรากฏขึ้นบนหน้าผากเฟิ่ งจิว
่ คำพูดนี้ ฟังแล้วคุ้นหูนัก…ตอนที่
เธอติดตามท่านอาก็เหมือนจะพูดเช่นนี้ เหมือนกัน

“ข้า ข้าจะไม่สร้างปัญหาให้เจ้าแน่ ”

เฟิ่ งจิว
่ กลอกตา พูดไปอย่างไม่เกรงใจว่า “ตัวเจ้านั ่นแหละคือปัญหา”

เมื่อคืนหากไม่ใช่เพราะเขา ไหนเลยจะต้องเผชิญหน้ากับฝูงหมาป่าตลอดทัง้
คืน? ด้วยฝีมือและความเร็วของเธอ ต่อให้สู้ไม่ไหวก็ยงั หนี ได้พน

เธอไม่ได้ยน
ิ เสียงอะไรอยูน
่ าน จึงชายตาขึ้นชำเลืองมอง ทว่าเมื่อเห็นกลับ
จังงังไปเล็กน้ อย

“ผะ ผูช
้ ายร่างใหญ่เช่นเจ้าจะร้องไห้ไปทำไม?”

หนุ่มร่างยักษ์ ใหญ่กำลังยืนดวงตาแดงก่ำน้ำตาตกอยูต
่ รงนั ้นอย่างคาดไม่ถึง
ช่างคล้ายกับลูกสะใภ้ตัวน้ อยที่ถูกกลัน
่ แกล้ง แล้วจะไม่ให้เธอตะลึงได้
อย่างไร?

“ก็เจ้าไม่ให้ขา้ ตามไปด้วย…”
เขามองมาอย่างน้ อยใจ “ข้าไม่รูว้ า่ ต้องไปที่ไหน และก็ไม่รูว้ า่ ต้องกลับไป
อย่างไร เจ้ายังไม่ให้ขา้ ตามไปด้วยอีก…”

เฟิ่ งจิว
่ เอามือก่ายหน้าผากพลางมองท้องฟ้าอย่างหมดคำพูด เป็นปัญหาที่
พบแล้วไม่อาจสลัดได้อย่างที่คิดเลย…

นี่ ถือว่ากรรมตามสนองสินะ? เธอตามติดคนอื่น คนอื่นจึงมาตามติดเธอ

ขณะที่เธอเตรียมจะก้าวเท้าจากไป กลับพบว่าคนด้านหลังยังคงยืนบื้ออยู่
เขามองเธอด้วยท่าทางอยากตามมาแต่ไม่กล้าตาม เธอจึงร้องไปว่า “ยังยืน
ทำอะไรอยู?่ เดินมาสิ!”

“หา…โอ้!” ชายหนุ่มตะลึงอยูส
่ ักครู ่ ก่อนจะพยักหน้าอย่างปลื้มปริม
่ แล้ว
เดินมาด้วยย่างก้าวอันรวดเร็ว เพียงแต่มือข้างหนึ่ งยังคงกุมแผลที่ท้องและ
ทนความเจ็บไว้

ทัง้ สองเดินขึ้นเนิ นเขาเข้าไปในป่า ตอนนี้ ดวงตาเฟิ่ งจิว


่ ที่เดินอยูช
่ า้ ๆ เป็น
ประกายรางๆ เธอกวาดมองรอบๆ อย่างสงบเยือกเย็น แล้วจึงเดินต่อไป

“คือว่า ขะ ข้าควรเรียกเจ้าอย่างไรดี?” ชายหนุ่มถามขณะที่ตามอยูข


่ า้ งกาย
เฟิ่ งจิว

“แล้วแต่เจ้าเถอะ” เธอตอบรับแบบส่งเดช ไม่ได้สนใจการพูดคุยนี้


พอได้ยน
ิ เช่นนั ้น ชายหนุ่มคิดแล้วคิดอีก จึงค่อยถามพร้อมเสียงหัวเราะร่า
“เจ้าเด็กกว่าข้า เช่นนั ้นข้าเรียกเจ้าน้ องชายดีหรือไม่?”

“อืม”

เฟิ่ งจิว
่ ตอบรับอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่ และก็ไม่ได้ฟังว่าเขาพูดอะไรอยูก
่ ันแน่
แต่หน
ั หน้าเล็กน้ อยไปจ้องมองพุม
่ ไม้ด้านหลัง

เมื่อได้ยน
ิ เสียงตอบรับของเฟิ่ งจิว
่ สุดท้ายใบหน้าเขาก็เผยความยินดี เขา
กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับเห็นหนุ่มน้ อยขอทานมองไปทางด้านซ้าย
ชายหนุ่มมองตามสายตาเขาไป พอได้เห็นก็เปลี่ยนสีหน้า
ตอนที่ 29 หัวเราะอย่างสับปลับ!

“หมาป่าพวกนั ้นยังไม่ไปอีก? พะ พวกมันคิดจะตามไปตลอดเลยรึ?” เขาตก


ตะลึงอยูน
่ ้ อยๆ เดินมาตลอดทาง ไม่ทันสังเกตเลยว่าด้านหลังมีหมาป่าสิบ
กว่าตัวตามมา

เขาไม่กล้าจินตนาการเลยจริงๆ ว่าภายใต้สถานการณ์ ที่ไม่ได้เตรียมตัวไว้นี้


หากหมาป่าพวกนั ้นกระโจนเข้ามาจะมีผลเช่นไร…

“ไม่เป็นไร พวกมันไม่กล้าพุง่ เข้ามาหรอก พวกมันแค่รอโอกาส” เฟิ่ งจิว


่ มอง
แวบหนึ่ ง ถอนสายตากลับแล้วเดินต่อไป

เธอรู ด
้ ีวา่ หลังจากใช้ชน
ั ้ เชิงที่ทัง้ ดุรา้ ยและรุ นแรงสังหารหมาป่าพวกนั ้น ก็
ข่มขวัญพวกมันสำเร็จแล้ว พวกหมาป่าไม่กล้ากระโจนเข้ามาโดยง่าย เพราะ
พวกมันรู ช
้ ด
ั เจนดีวา่ ผลของการพุง่ เข้ามาคือความตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

ทว่าก็ไม่เต็มใจนั กที่จะจากไปเช่นนี้ ดังนั ้นถึงได้ตามติดพวกเขามา และคอย


หาโอกาส

“จะให้พวกมันตามมาเช่นนี้ ร?ึ ” ชายหนุ่มถามอย่างตื่นตระหนก นึ กไม่ถึงว่า


จะเห็นเขาไม่กังวลใจเลยสักนิ ด จึงประหลาดใจอย่างอดไม่ได้

เห็นชัดว่าเขาอายุน้อยกว่าตน แต่ทำไมถึงมีความห้าวหาญและฝีมือเช่นนี้
ได้?
ฝีเท้าเฟิ่ งจิว
่ ชะงักลง เธอชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ ง “งัน
้ เจ้าจะไปไล่ให้หรือ?”

“เอ่อ…ยังไม่ต้องหรอก ให้พวกมันตามไปเถอะ!” เขาเกาหัวยิม


้ ๆ อย่าง
เหนี ยมอาย

เช่นนั ้น หากมีคนอยูใ่ กล้ละแวกนี้ ก็จะเห็นภาพที่แสนแปลกตา

ด้านหน้ามีสองคนกำลังเดินโซซัดโซเซ โดยมีหมาป่าเทาสิบกว่าตัวเดินตาม
อยูห
่ า่ งๆ ประมาณสามจัง้ พลางแยกเขีย
้ วน้ำลายสอ…

“น้ องชาย เจ้าว่าบนหยกประดับนี้ จะเป็นชื่อของข้าหรือไม่?” เขายื่นหยก


ประดับชิน
้ หนึ่ งให้เฟิ่ งจิว
่ พลางถาม “เดิมทีมันแขวนอยูท
่ ี่คอข้าน่ ะ”

เฟิ่ งจิว
่ รับป้ายหยกมาดู บนนั ้นสลักตัวอักษรไว้สามตัวอย่างที่คิดไว้ “กวนสี
หลิน
่ ?”

น้ำเสียงสะดุดไปเล็กน้ อย เธอเหลียวมองเขาแล้วพูดว่า “เจ้าชื่อกวนสี


หลิน
่ ?”

“ข้ารู ส
้ ึกว่าเป็นไปได้”

เธอยื่นป้ายหยกคืนให้เขา กล่าวอย่างยิม
้ ๆ “เดิมข้านึ กว่าเจ้าชื่อเจ้ายักษ์ ท่ึม
เสียอีกน่ ะ!”

กวนสีหลิน
่ มองอีกฝ่ายอย่างหมดคำพูด และไม่ปริปากอะไรอีกอย่างรู จ
้ ังหวะ
ทัง้ สองเดินทางไปอีกสักพัก พวกหมาป่าด้านหลังก็ยงั คงตามอยู่ ไม่มีความ
คิดที่จะจากไปเลย

จนกระทัง่ กวนสีหลิน
่ ทำจมูกฟุดฟิด แล้วฉี กยิม
้ พูดกับเฟิ่ งจิว
่ “น้ องชาย ข้าง
หน้ามีคน พวกเรารีบเดินเถอะ พอถึงด้านหน้าก็แค่ให้คนพวกนั ้นให้พวกเรา
ตามไป เช่นนั ้นหมาป่าที่ตามหลังมาคงไม่กล้าโจมตีเราอีกแน่ ”

“มีคน? เจ้ารู ไ้ ด้ยงั ไง?” เฟิ่ งจิว


่ มองๆ ไปด้านหน้า นอกจากต้นไม้และใบหญ้า
ก็ไม่เห็นร่างใครเลยสักคนเดียว

เขาพยักหน้าแรงๆ “มี ต้องมีแน่ ข้าได้กลิน


่ เนื้ อย่าง”

“กลิน
่ เนื้ อย่าง? ทำไมข้าถึงไม่ได้กลิน
่ ล่ะ?” เธอพึมพำเบาๆ ก่อนจะเดินไปข้าง
หน้าอีกหน่ อย ตามที่คิดไว้ เธอได้กลิน
่ เนื้ อย่าง และยังได้ยน
ิ เสียงคนพูดคุย
กันอยูร่ างๆ จึงอดไม่ได้ที่จะมองกวนสีหลิน
่ ข้างกายอย่างประหลาดใจ

นี่ เขามีจมูกสุนัขรึ?

“เหอะๆ ใช่หรือไม่? ข้าบอกแล้วว่ามีคน!” เขายิม


้ อย่างได้ใจ “พวกเรารีบเดิน
เถอะ พอไปถึงด้านหน้า ขอแค่พวกเขายอมให้เราตามไปด้วย บนเส้นทางนี้
ต่อให้เผชิญกับสัตว์รา้ ยอีกก็ไม่ต้องกลัวแล้ว”

“เจ้าคิดว่าคนเขาจะยอมให้พวกเราตามไปตามใจชอบแน่ หรือ?” เธอถลึงตา


มองเขา “เพราะข้าเพิง่ จะกินอิม
่ หรอก ถึงได้พาเจ้ามาด้วย”
เห็นเขายืนอยูซ
่ ่ ือๆ ด้วยใบหน้าทำอะไรไม่ถูก เฟิ่ งจิว
่ ถลึงตามอง ก่อนจะเอ่ย
ว่า “ที่นี่คือป่าเก้าหมอบ มีสัตว์รา้ ยมากมาย อันตรายรอบด้าน เจ้าบอกซิวา่
หากคนอื่นเห็นพวกเราสองคนเข้าจะเป็นเช่นไร?”

“จะเป็นเช่นไร?” เขาถามอย่างอึ้งๆ ทำหน้าเหมือนไม่รูเ้ หตุผล

“เจ้าโง่! ก็คิดแน่ ล่ะว่าพวกเราเข้าใกล้พวกเขาคงมีเป้าหมายอะไร!”

“เช่นนั ้นจะทำยังไงล่ะ?”

เฟิ่ งจิว
่ กลอกตาเบาๆ ริมฝีปากผลิรอยยิม
้ สับปลับ “ไม่เป็นไร ข้ามีวธ
ิ อ
ี ยู่ เจ้า
รอดูขา้ แล้วกัน”
ตอนที่ 30 จ้องน้ องชายข้าทำไม!

หลังจากนั ้น กวนสีหลิน
่ ตามเฟิ่ งจิว
่ เข้าใกล้คนพวกนั ้นอย่างเงียบๆ คอย
สังเกตุการณ์ อยูห
่ ลังต้นไม้ไกลๆ สักพักหนึ่ งก่อน จากนั ้นค่อยเดินนำเขาไป
ด้านหน้าอย่างวางมาด เดิมทีคิดว่าอีกฝ่ายคงเตรียมการอะไรให้คนพวกนั ้น
พาพวกเขาไปด้วย กลับนึ กไม่ถึง ตลอดทางเขากลับเดินผ่านบริเวณรอบๆ
คนพวกนั ้นไปโดยไม่ส่งเสียง และไม่ปรายตามองไปทางคนกลุ่มนั ้นเลยสัก
นิ ด

แต่คนพวกนั ้นพลันเห็นการปรากฏตัวของทัง้ สองคน จึงระวังตัวกันขึ้นมา


ทันใด หลังจากผูเ้ ป็นหัวหน้าแอบพินิจมอง ถึงจะคลายความระแวดระวังลง
เพราะวรยุทธ์ของทัง้ สองไม่ได้สูงมากนั ก ไม่ได้เป็นภัยคุกคามอะไรสำหรับ
พวกเขา

ทว่าตอนนั ้นเอง ก็ได้ยน


ิ พวกพ้องร้องขึ้นอย่างตื่นตระหนก

“คุณชายสาม นั ่นฝูงหมาป่าขอรับ!”

เพราะเสียงร้องตกใจนี้ ทัง้ สามสี่คนที่เดิมนั ่งพักกันอยูจ


่ ึงเตรียมพร้อมระวัง
อย่างว่องไว และยามนี้ เอง เฟิ่ งจิว
่ ที่เดินไปข้างหน้าแล้วได้ยน
ิ ที่พวกเขาพูด
กันก็อุทานออกมา

“อะไร? ฝูงหมาป่ารึ? ที่ไหนล่ะ? ตรงไหน?” เธอถามอย่างร้อนรนพลางก็ลาก


กวนสีหลิน
่ ถอยไปรอบๆ คนพวกนั ้น
“พวกเจ้าเป็นใคร? หมาป่าฝูงนั ้นเป็นพวกเจ้าลากมาล่ะสิ!” ชายวัยกลางคน
ผูห
้ นึ่ งตะโกนเสียงเข้ม มองพวกเขาอย่างขุน
่ เคืองอยูบ
่ า้ ง

“จะเป็นไปได้อย่างไร?”

เฟิ่ งจิว
่ ถลึงตามอง ก่อนกล่าวว่า “พวกนั ้นเป็นหมาป่านะไม่ใช่ลูกแมว พวก
ข้าจะล่อมันให้ตามมาได้อย่างไรล่ะ? อีกอย่างถ้ารู ว้ า่ มีหมาป่าตามมา พวกข้า
คงรีบวิง่ หนี ไปก่อนแล้ว ไหนเลยจะเดินกันมาช้าๆ เช่นนี้ ?”

“พีห
่ ก อย่าได้หุนหันพลันแล่นไปก่อนเลย ระวังตัวไว้เป็นสิง่ สำคัญที่สุดใน
ตอนนี้ !” ชายวัยกลางคนผูเ้ ป็นหัวหน้าตะโกนเสียงทุ้มต่ำ “พวกนั ้นเป็นสัตว์
ร้ายหมาป่าเทา ความเร็วสูงยิง่ ทุกคนต้องระวังด้วย”

เฟิ่ งจิว
่ เห็นกลุ่มพวกเขาตัง้ วงล้อมป้องกันในบริเวณรอบๆ เฉกเช่นผู้ได้รบ

การฝึกมาเป็นอย่างดี ส่วนเด็กหนุ่มเด็กสาวที่อายุค่อนข้างน้ อยได้รบ
ั การคุ้ม
กันอยูต
่ รงกลาง เธอลากกวนสีหลิน
่ เคลื่อนไปใกล้กองกำลังของพวกเขา
ทว่าก็แค่เฝ้าอยูร่ อบนอก มิได้เข้าไปในวงล้อมป้องกัน แต่ถึงอย่างนั ้นก็แลก
มาด้วยสายตาขุน
่ เคืองของสาวน้ อยคนหนึ่ งในวงล้อมป้องกัน

“ขอทานน้ อย เนื้ อตัวเจ้ามอมแมม ออกไปห่างๆ ข้าหน่ อย!”

“น้ องหญิง อย่าเสียมารยาท” เด็กหนุ่มตะโกนด้วยน้ำเสียงเคร่ง ไม่ค่อย


พอใจกับความจองหองและหยาบคายของเด็กสาว
เขามองเฟิ่ งจิว
่ กับกวนสีหลิน
่ เอ่ยอย่างอบอุน
่ ว่า “ข้าเห็นว่าวรยุทธ์ของพวก
เจ้าสองคนไม่สูง มายืนในวงล้อมป้องกันนี้ เถอะ! ความแข็งแกร่งของท่านอา
พวกเรากับองครักษ์ เป็นถึงอันดับหนึ่ ง แค่หมาป่าไม่กี่สิบตัวไม่เป็นปัญหา
ใหญ่สำหรับพวกเรานั กหรอก”

“ฮ่าๆ ไม่เลว! แค่หมาป่าไม่กี่สิบตัวเท่านั ้นเอง พวกเราจะได้ออกกำลังกระดูก


กระเดี้ยวพอดี” ชายร่างกายกำยำคนหนึ่ งได้ยน
ิ คำพูดของเด็กหนุ่มก็หว
ั เราะ
เสียงดัง พลางกวัดแกว่งขวานใหญ่ในมือ “ข้าใช้แค่ขวานเดียวก็ฆ่ามันได้ตัว
หนึ่ งแล้ว!”

เมื่อได้ยน
ิ คำพูดนั ้น หัวหน้าชายวัยกลางคนส่ายหัวกับตัวเอง “เถี่ยหนิ ว ไม่วา่
เมื่อใดก็อย่าได้ใจจนประมาทศัตรู ระวังตัวไว้ให้ดี หากฝูงหมาป่ากระโจนมา
ค่อยสู้”

“ขอรับๆๆ” ชายผูน
้ ั ้นขานรับยิม
้ ๆ เขาจ้องมองฝูงหมาป่าที่อยูไ่ ม่ไกล พอเห็นก็
หัวเราะเสียงดังขึ้นมาอีก “คุณชายสาม ท่านก็เห็นว่าพวกฝูงหมาอะไรนี่ ไม่
กล้าเข้ามา! ฮ่าๆๆๆ คงกลัวข้ากันแน่ แล้ว”

เฟิ่ งจิว
่ ได้ยน
ิ คำพูดหลงตัวเองนี้ จึงหัวเราะเยาะเย้ยไปอย่างอดใจไม่ได้ ถึง
ค่อยพูดกับเด็กหนุ่มว่า “ขอบคุณคุณชายน้ อยท่านนี้ มาก พวกเรายืนอยูต
่ รง
นี้ ก็ดีแล้ว”

“เจ้าหนู เจ้าหัวเราะอะไร? หรือเจ้าคิดว่าข้าไม่มีฝีมือพอจะทำให้ฝูงหมานั ่น


กลัวจนถอยไป?” ชายผูน
้ ั ้นเลิกคิว
้ ขึ้นดัง่ อสูรร้าย มองเฟิ่ งจิว
่ เขม็งด้วยสีหน้า
ไม่ชอบใจนั ก
เฟิ่ งจิว
่ ยังไม่ทันพูดอะไร กวนสีหลิน
่ ที่อยูข
่ า้ งๆ ก็ดึงเธอไปด้านหลัง

เห็นแต่เขาขวางอยูด
่ ้านหน้า ยืดอกขึ้นแล้วถลึงตามอง “เจ้ามองน้ องชายข้า
ทำไม!”
ตอนที่ 31 ถูกแทงข้างหลัง

เฟิ่ งจิว
่ นิ่ งไปเล็กน้ อย เธอมองร่างสูงใหญ่ที่ขวางอยูเ่ บื้องหน้าตัวเองอย่าง
ตกใจอยูบ
่ า้ ง ชำเลืองมองเขาด้วยความแปลกใจเล็กน้ อย

ชายที่ช่อ
ื เถี่ยหนิ วเห็นชายหนุ่มยืดอกถลึงตามองมา หลังจากนิ่ งไปพักหนึ่ งก็
หัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ! ดีๆๆ เจ้าเด็กนี่ ใจกล้าไม่เบาเลย! ขนาดกับข้าเถี่ย
หนิวยังกล้ามอง อาจหาญดี!”

เขาพูดพลางก็ตบบ่าอีกฝ่ายอย่างตื่นเต้น ฝ่ามือตบลงบนไหล่กวนสีหลิน

มองจนเฟิ่ งจิว
่ ที่อยูด
่ ้านหลังเหยียดริมฝีปากตรง

แรงนั ่นไม่เบาเลยนะ!

“อือ!” กวนสีหลิน
่ โดนตบไปหลายที กระเทือนถึงแผลที่ท้อง เจ็บเสียจนเหงือ

ซึมทันใด

“แรงเจ้าหนั กไปแล้ว ร่างกายเขายังมีแผลอยูน


่ ะ!” เฟิ่ งจิว
่ บอก ก่อนจะเดิน
มาจากด้านหลังแล้วจับมือเขาที่กุมแผลตรงท้องออก ถึงเห็นเลือดซึมออก
มาจากบาดแผลตามคาด

“เอ่อ…” ชายฉกรรจ์ผูน
้ ั ้นดึงมือกลับอย่างเก้อเขิน

“พวกเจ้าดูสิ ฝูงหมาป่าถอยไปแล้ว” มีคนพูดขึ้นอย่างดีใจ เห็นฝูงหมาป่า


หอนเสียงเบาจากนั ้นจึงหันกายจากไป
ไม่ต้องต่อสู้อน
ั ตรายก็คลี่คลายได้ ไม่มีอะไรทำให้ต่ ืนเต้นไปยิง่ กว่านี้ อก
ี แล้ว

ที่แท้จ่าฝูงหมาป่าเห็นพวกเฟิ่ งจิว
่ เข้าไปสมทบกับกองกำลังถึงได้จากไป
อย่างไม่เต็มใจนั ก ถึงอย่างไรแค่สองคนนั ้นพวกมันก็ยงั ต่อกรไม่ไหว ครัน

เพิม
่ มาอีกสามสี่สิบคนก็ยงิ่ เสียเปรียบ ย่อมไม่ทนอยูต
่ ่อกันไม่ยอมจากไปอยู่
แล้ว

เวลานี้ เด็กหนุ่มที่ปริปากไปก่อนหน้ามองเฟิ่ งจิว


่ อย่างอบอุน
่ พูดว่า “แผลมี
เลือดออกแล้ว เจ้ารีบดูอาการพีช
่ ายเจ้าเถอะ!” เขาพูดพลางก็ย่น
ื ขวดยาให้
“ทางข้ามียารักษาแผลภายนอกดีๆ อยูส
่ ่วนหนึ่ ง”

“พีช
่ าย ท่านจะไปยุง่ กับพวกเขาให้มากนั กทำไม?” เด็กสาวกระทืบเท้า ค่อน
ข้างไม่พอใจที่เขาทำดีกับคนแปลกหน้าซึ่งไม่รูว้ า่ โผลมาจากไหนขนาดนั ้น

“ไม่ต้องหรอก ตัวข้าเองก็มียา” เฟิ่ งจิว


่ บอก ก่อนจะพยุงกวนสีหลิน
่ เดินไป
ข้างใต้ต้นไม้ แก้ผา้ พันแผลที่เอวออกให้ แล้วใส่ยาลงไปให้เขาใหม่

“พวกเราไปกันเถอะ!” หลังจากพันแผลใหม่เรียบร้อย เธอกล่าวพลางพยุง


เขาขึ้นมา

กวนสีหลิน
่ นิ่ งไป เขาพยักหน้าอย่างงุนงง “โอ้!” จากนั ้นถึงจะเดินตามอีก
ฝ่ายไปข้างหน้าต่อ

พอเห็นพวกเขาสองคนจากไปโดยไม่พูดไม่จา ชายวัยกลางคนที่เดิมยัง
เตรียมพร้อมอยูจ
่ ึงคลายความระแวดระวังลง แต่กลับไม่รงั ้ พวกเขาไว้เช่น
กัน เพราะเรือ
่ งที่ต้องทำในการเดินทางครัง้ นี้ ไม่เหมาะจะให้มีคนนอกมาอยู่
ด้วยนั ก

กวนสีหลิน
่ ที่เดินมาสักพักงุนงงอยูใ่ นใจ จึงถามว่า “น้ องชาย ไม่ใช่วา่ พวก
เราต้องลองถามพวกเขาว่าจะให้เราตามไปด้วยได้หรือไม่ร?ึ ทำไมไม่ทันถาม
ก็ไปแล้วล่ะ?”

ในปากเฟิ่ งจิว
่ คาบก้านต้นหญ้าหางหมาจิง้ จอก ฝีเท้าเธอทัง้ นวยนาดและ
เอ้อระเหย ในมือกำลังกวัดแกว่งกิง่ ไม้ ตอบอย่างไม่สนใจว่า “ทำไมเราต้อง
ตามพวกเขาไปด้วยล่ะ?”

“แน่ นอนว่าเผื่อเวลามีอน
ั ตราย พวกเขาก็ยงั ช่วยเราได้นะ!”

“ผิดแล้ว”

เธอส่ายหน้า บอกว่า “คนเราต้องพึ่งพาตัวเอง ถ้าคิดแต่พ่งึ คนอื่นก็ตายแน่


แล้ว อีกอย่างที่ไปสมทบกับพวกเขาก็เพื่อกำจัดฝูงหมาป่านั ่น ตอนนี้ ฝูง
หมาป่าไม่ตามพวกเราแล้ว จะตามพวกเขาไปอีกทำไมกัน?”

กวนสีหลิน
่ เกาหัวอย่างมึนงง “ดูเหมือนก็มีเหตุผล” เขาพูดพลางมอง
ขอทานน้ อยด้วยสายตานั บถือ “น้ องชาย เห็นชัดๆ ว่าเจ้าอายุน้อยกว่าข้า แต่
กลับฉลาดเก่งกาจกว่าข้าเยอะเลย”

“ก็ใช่น่ะสิ เจ้านึ กว่าข้าเหมือนเจ้ารึ? ถึงได้ถูกคนใช้มีดแทงข้างหลังน่ ะ”


“ถูกมีดแทงข้างหลังอะไร?” เขาถามอย่างไม่รูเ้ รือ
่ งรู ร้ าว

เฟิ่ งจิว
่ เหลียวมองเขาแวบหนึ่ ง ถึงจะพูดช้าๆ ว่า “แผลของเจ้าโดนแทงจาก
ระยะประชิด ซ้ำยังอาศัยโอกาสที่เจ้าเผลอโจมตีจากด้านหลัง เห็นได้ชด
ั ว่า
เป็นคนที่เจ้ารู จ
้ ักอยากฆ่าเจ้า ดังนั ้นบอกว่าเจ้าโง่ก็ยงั ไม่เชื่ออีก”
ตอนที่ 32 สหายเก่าจากทิศตะวันตก

ได้ยน
ิ คำพูดของเฟิ่ งจิว
่ กวนสีหลิน
่ นิ่ งไปสักพัก เขาไม่พูดไม่จาอยูน
่ าน ทำแค่
ก้มหัวลงน้ อยๆ แล้วเดินไปอย่างเงียบเชียบ

ทัง้ สองคนไม่ได้เดินตรงกันตลอดทาง เพราะเฟิ่ งจิว


่ ต้องหายาในป่า ทางที่
เดินอยูจ
่ ึงค่อนข้างเอียงไปด้านข้าง โดยเฉพาะหลังจากที่สลัดฝูงหมาป่าพวก
นั ้นได้ เธอยิง่ เดินไปยังจุดที่มีต้นไม้และวัชพืชมากมายซึ่งอยูไ่ กลตาออกไป
อีก

ตลอดทางเธอเอาแต่เก็บไปเรือ
่ ย จึงเก็บยาทิพย์ที่มีประโยชน์ มาได้ไม่น้อย
แต่จากระดับของที่นี่กลับรู ไ้ ด้เลยว่ายาทิพย์พวกนี้ เป็นแค่พวกที่เห็นกัน
บ่อยๆ ไม่ได้ล้ำค่าอะไร ถึงอย่างไรในแคว้นเล็กระดับเก้าแห่งนี้ หากอยากจะ
หาของล้ำค่าในบรรดาของชัน
้ ดียอ
่ มเป็นไม่ได้เลย

ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาที่หายามาตลอดทางจึงมาถึงด้านล่างของยอดเขาลูก
หนึ่ ง

ดวงตาคมกริบของเฟิ่ งจิว
่ เห็นว่าใกล้ๆ ยอดเขามียาทิพย์พลิว
้ ไหวรับลมอยู่
สายตาจึงเป็นประกายอย่างอดไม่ได้ “เจ้ารออยูต
่ รงนี้ นะ ข้าจะไปเก็บยาทิพย์
ต้นนั ้นมา” หาอยูต
่ ัง้ นาน เพิง่ จะพบยาทิพย์ที่มีสรรพคุณกำจัดรอยแผลเป็น
เจอ จะไม่ให้เธอตื่นเต้นได้อย่างไร?

“น้ องชาย เจ้า เจ้าคงไม่ได้จะไปแล้วไม่กลับมาอีกใช่ไหม?” กวนสีหลิน


่ มอง
เขาอย่างกระวนกระวายใจเล็กน้ อย
เฟิ่ งจิว
่ ที่เดินไปไม่กี่ก้าวได้ยน
ิ คำพูดนี้ ก็ชะงักฝีเท้า เธอเดินกลับมา แล้วหยิบ
เนื้ อย่างจากถุงฟ้าดินยื่นให้เขา

“ข้าจะไปหายา เดีย
๋ วสักพักก็กลับมา เนื้ อย่างชิน
้ นี้ เจ้าถือไว้กินซะ อืม ถ้าจะ
ให้ดีปีนขึ้นไปบนต้นไม้ซะ แบบนี้ ต่อให้เจอสัตว์รา้ ยก็ไม่ต้องกังวลแล้ว” เธอ
มองไปรอบๆ ก็เห็นว่าที่ไม่ไกลมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ งสูงตระหง่าน จึงชีน
้ ิว
้ พลาง
ถามว่า “ต้นนั ้นเจ้าปีนขึ้นไปได้หรือไม่? ข้าเก็บยาเสร็จแล้วจะกลับมาหาเจ้า
ตรงนี้ เอง”

พอได้ยน
ิ ว่าขอทานน้ อยไม่คิดจะทิง้ เขา กวนสีหลิน
่ ถึงจะผุดยิม
้ ออกมา “ได้สิ!
ข้าจะขึ้นไปนั ่งรอเจ้าบนต้นไม้ เจ้าอย่าลืมกลับมาหาข้านะ”

“ได้สิ” เธอตบบ่าเขา แล้วจึงหันหลังเดินไปที่ยอดเขา

กำแพงภูผาค่อนข้างสูงชัน เธอปีนขึ้นไปมือเปล่าก็ลำบากอยูห
่ น่ อยๆ บางที
ถ้าก้าวเท้าไม่ดีนัก หินดินก็จะร่วงลงไป ด้วยเหตุนี้ทุกก้าวของเธอจึงต้อง
ระวังอย่างมาก

ประมาณหนึ่ งชัว่ ยามจากนั ้น ขณะที่เธอค่อยๆ เข้าใกล้ยาทิพย์ กลับพบว่า


ด้านข้างยาทิพย์มีโพรงเล็กๆ อยู่ ในโพรงนั ้นมีงูพษ
ิ สีเขียวขนาดหนาเท่าหนึ่ ง
นิว
้ มือกำลังนอนพลางแลบลิน
้ ขู่ จ้องมองเธอด้วยดวงตาดุรา้ ยกระหายเลือด

เธอมองอยูส
่ ักพัก นอกจากโพรงเล็กๆ นั ่นแล้ว ด้านข้างยังมีอก
ี หนึ่ งโพรง
เล็ก เห็นได้ชด
ั ว่าเชื่อมถึงกัน
หากอยากจะเก็บยาทิพย์ต้นนั ้นก็ต้องจัดการงูตัวนี้ เสียก่อน เมื่อหมายมัน
่ ปั้ น
มือแล้ว หลังจากเธอกวาดสายตามองไปรอบๆ จึงค่อยขุดหินก้อนใหญ่ขนาด
เท่ากำปั้ นก้อนหนึ่ งบนกำแพงหินดินมา จากนั ้นปีนขึ้นไปใกล้อก
ี นิ ด ขณะที่งู
ตัวนั ้นขยับออกมาสังเกตุการณ์ ด้านนอกเพียงเล็กน้ อย เธอก็ใช้ก้อนหินใน
มือปิดโพรงนั ้นไว้

ในช่วงเวลานั ้นเอง งูตัวนั ้นเลื้อยออกมาส่งเสียงขูฟ


่ ่อจากโพรงเล็กอีกโพรง
อย่างรวดเร็ว พร้อมอ้าปากเผยเขีย
้ วพิษพุง่ มากัดที่ขอ
้ มือของเธอ

จะพูดว่าเร็วก็เร็ว เฟิ่ งจิว


่ ดึงกริชออกมาฟันทันใด หัวงูที่โผล่ออกมาถูกคมมีด
ฟันจนขาด ร่างงูรว่ งตามลงไป ตอนนี้ เธอถึงจะขุดยาทิพย์ออกมาใส่ลงในถุง
ฟ้าดินอย่างระมัดระวัง

“ฮู!่ เหนื่ อยชะมัด!”

เก็บยาแล้วเธอก็ปีนไปถึงด้านบน อยากจะลองดูสภาพแวดล้อมรอบๆ จากที่


สูง แต่กลับเห็นยาทิพย์ที่มีกลิน
่ อายพลังวิญญาณแผ่กระจายอยูร่ างๆ ตรง
ริมขอบเข้าโดยบังเอิญ จึงขุดมันใส่ลงถุงฟ้าดินอย่างดีอกดีใจ

“โชคดีไม่เบาเลย ไม่นึกว่าจะหายาทิพย์เจอตัง้ สองต้นจากตรงนี้ ด้วย” เธอ


พูดยิม
้ ๆ ขณะยืนมองลงไปจากยอดเขา เธอเห็นว่าทางฝั่ งตะวันตกมีกอง
กำลังหนึ่ งกำลังเดินหน้าเข้าไปในป่าลึก

ชายหนุ่มรู ปงามคนที่เป็นหัวหน้าสวมชุดสีขาว เขาคือคู่หมัน


้ ของเจ้าของร่าง
คนก่อน หรือมู่หรงอีเ้ ซวียนท่านอ๋องสามแห่งแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั และสาวน้ อย
คนนั ้นที่ตามอยูข
่ า้ งกายเขา นางสวมชุดกระโปรงสีฟ้าน้ำทะเลสดใส มา
พร้อมใบหน้าที่เฟิ่ งจิว
่ คุ้นเคยเกินจะเปรียบ…
ตอนที่ 33 ความแปลกหน้าและความคุ้นเคย!

“ช่างบังเอิญจริงๆ นะ!” เธอพึมพำเสียงเบา แววตามีความเย็นเยือกไหล


เวียนอยูน
่ ้ อยๆ

เมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ไม่ใกล้กับที่นี่เลย ต่อให้รบ
ี เดินทางก็ต้องใช้เวลาหลายวัน
แล้วนางจะมาถึงที่นี่ได้อย่างไร? หนำซ้ำมู่หรงอีเ้ ซวียนคนนั ้นก็มาด้วย?

สายตาเธอชะงักอยูท
่ ี่รา่ งของมู่หรงอีเ้ ซวียนสักพัก เห็นได้ชด
ั ว่าเขาไม่รูเ้ ลย
ว่าเฟิ่ งชิงเกอคนนั ้นไม่ใช่เฟิ่ งชิงเกอคนก่อนหน้านี้ อก
ี แล้ว เวลานี้ เธอยัง
แปลกใจอยูน
่ ิ ดหน่ อย หรือว่าชายหนุ่มจะจำได้เพียงใบหน้าเดียว?

สายตาเธอไม่ได้หยุดอยูท
่ ี่รา่ งพวกเขานานเกินไป เพราะไม่นานนั กเธอก็พบ
ว่า บริเวณรอบๆ ไม่วา่ จะใกล้หรือไกลล้วนมีกองกำลังไม่น้อยต่างกำลังเดิน
เข้าไปในป่าลึก กองกำลังเหล่านี้ มีทัง้ ที่หา่ งไกลกัน และอยูใ่ กล้กันเพียงไม่กี่
สิบเมตร

เมื่อนึ กถึงสิง่ ที่ต้องพบเจอบนเส้นทางนี้ แววตาเธอสัน


่ ไหวเล็กน้ อย ก่อนจะ
คิดในใจว่า ‘ส่วนลึกของป่าเก้าหมอบนี้ มีของอะไรกันแน่ ? ถึงสามารถทำให้
คนพวกนี้ วงิ่ แจ้นเข้าไปในป่าลึกได้?’

ขณะที่คิดอยู่ ก็พลันรู ส
้ ึกว่ามีดวงตาอันดุรา้ ยกำลังจ้องมองเธอ เธอหันกลับ
ไปทันที พอเห็นก็เลิกคิว
้ อย่างอดไม่ได้ “หมีดำ?”
ตรงที่หา่ งจากเธอไปไม่ถึงห้าเมตรมีหมีสีดำตัวใหญ่สูงประมาณสองสาม
เมตรนอนคว่ำอยู่ มันแยกเขีย
้ วและมองเธออย่างดุรา้ ย ร่างโค้งต่ำลงน้ อยๆ
ราวกับคิดจะแอบเข้าใกล้เธอ แต่ถูกเธอพบเข้าก่อน จากนั ้นได้ยน
ิ เสียงหมี
ดำยักษ์ เงยหน้าขึ้นคำรามแล้วกระโจนเข้ามาในทันที

“กรร!”

หมีดำคำรามอย่างหัวเสีย พื้นดินสะเทือนจนสัน
่ ไหวอยูน
่ ้ อยๆ เสียงร้องของ
มันกระจายมาจากพื้นที่สูง แทบจะกึกก้องไปทัว่ บริเวณโดยรอบในชัว่ ขณะ
ทำให้ทัง้ คนและม้าบนถนนในป่าด้านล่างต่างก็ได้ยน

เมื่อเผชิญหน้ากับหมีดำตัวใหญ่ขนาดนี้ เฟิ่ งจิว


่ ไม่รูส
้ ึกว่าตัวเองมีความเป็น
ไปได้ที่จะสู้ชนะ เธอสบโอกาสขณะที่มันกระโจนมาอย่างกะทันหันก้มตัวลง
แฉลบผ่านไป พอพลังเร้นลับพรัง่ พรู ออกมา ก็ค่อยใช้ฝีเท้าแปลกประหลาด
หนี ลงไปจากเขา

“กรร กรร!”

หมียก
ั ษ์ ดำกระโจนใส่อากาศ มันแหงนหน้าส่งเสียงคำรามสองครัง้ ร่างใหญ่
โตลุกยืน แล้วไล่ตามเฟิ่ งจิว
่ ไปด้วยความเร็วที่วอ
่ งไวเป็นที่สุด

“เวรล่ะ! ยังมีอก
ี ตัว!”
พอเฟิ่ งจิว
่ ที่วงิ่ แฉลบลงเขาไปเห็นหมีสีน้ำตาลวิง่ ออกมาตรงหน้า จึงพลัง้
ปากสบถอย่างไม่อาจทนได้ “โชคอะไรของเราเนี่ ย?” ดวงตาเธอหันมองเพื่อ
หาหนทางหนี …

พอเหล่ากองกำลังที่กำลังเดินเข้ามาจุดลึกที่สุดตรงรอบๆ ยอดเขาได้ยน

เสียงหมีดำคำรามลอยมาจากที่สูง ฝีเท้าก็ชะงักลงอย่างอดไม่ได้ แล้วเงย
หน้ามองขึ้นไป

หมีดำมีพลังต่อสู้ที่น่าสะพรึง และหมีดำในป่าเก้าหมอบก็ไม่ใช่หมีดำทัว่ ไป
แต่เป็นสัตว์รา้ ยขัน
้ สูงระดับสอง

ต่อให้นักรบสิบกว่าคนที่มีพลังเร้นลับขัน
้ ต้นอยากฆ่าหมีดำขัน
้ สูงระดับสอง
สักตัว ก็แทบจะพูดได้เลยว่าไม่อาจทำได้ ด้วยเหตุนี้ ถ้าเป็นคนที่มาด้านใน
ต่างรู ด
้ ี หากพบเห็นหมีดำอยูไ่ กลๆ ก็ต้องหลบเลี่ยง ไม่ควรสู้กันตรงๆ

มู่หรงอีเ้ ซวียนที่อยูใ่ นป่าพลันเป็นกังวล ฝีเท้าเขาชะงักลง แล้วหันมองขึ้นไป


บนยอดเขาในทันที

“พีม
่ ู่หรง เป็นอะไรรึเจ้าคะ?” ใบหน้างามพริง้ ของเฟิ่ งชิงเกอในชุดกระโปรงสี
ฟ้าน้ำทะเลสดใสเผยความแปลกใจ พอเห็นสายตาเขาจับจ้องบนยอดเขาไม่
วางตา นางจึงอดแหงนมองตามสายตาเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่พบเห็นอะไร

“ไม่มีอะไร” เขาส่ายหัวและยิม
้ อย่างอบอุน
่ พอมองคนข้างกาย เขากลับมี
ความรู ส
้ ึกแปลกหน้าที่ยงิ่ ชัดเจนขึ้นเรือ
่ ยๆ
ราวกับว่า…

คนตรงหน้าไม่ใช่เฟิ่ งชิงเกอคนนั ้นที่เขารู จ


้ ัก เพราะจากที่อยูด
่ ้วยกันมาหลาย
วัน เห็นชัดๆ ว่านางอยูต
่ รงหน้า แต่เขากลับไม่รูส
้ ึกถึงความหวัน
่ ไหวเช่นวัน
คืนเก่าๆ

ทว่าสายตาที่พน
ิ ิ จมองเขาอยูเ่ มื่อครู น
่ ั ้น แม้จะไม่รูว้ า่ มาจากใคร แต่กลับ
ทำให้เขาคุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ได้…
ตอนที่ 34 การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ!

สายตาสงบนิ่ งลุ่มลึกที่เขามองมา ทำให้ใจนางกระวนกระวายอยูบ


่ า้ ง มือ
หนึ่ งลูบหน้าเบาๆ พลางถามเสียงอ่อน “พีม
่ ู่หรง ทำไมถึงมองข้าเช่นนั ้นล่ะ
เจ้าคะ? บนหน้าข้ามีอะไรติดอยูห
่ รือ?”

เขาไม่ตอบกลับ แค่ยม
ิ้ อย่างสง่างาม “พวกเราไปเถอะ!” จากนั ้นจึงก้าวเดิน
ไปข้างหน้าต่อ

เฟิ่ งชิงเกอชะงักเล็กน้ อย แล้วจึงเดินเคียงข้างเขาเข้าไปในส่วนลึกของป่า

ระหว่างที่เดิน นางหันหน้ามองเสี้ยวหน้าอันสง่างามและหล่อเหลาของเขา
อยูบ
่ อ
่ ยครัง้ เขาทัง้ สมบูรณ์ แบบและอ่อนโยนเช่นนี้ ทำให้หว
ั ใจดวงนี้ ของ
นางยิง่ ถลำลึก หลงทาง และหวัน
่ ไหวเพราะเขาอย่างควบคุมไม่ได้ เกรงว่า
นางคงต้องแบกใบหน้าผูอ
้ ่น
ื ใช้ชว
ี ต
ิ และนางก็จะไม่เสียใจภายหลังด้วย…

อีกด้าน ตอนนี้ เฟิ่ งจิว


่ กลับอยูใ่ นสถานการณ์ ลำบากนิ ดหน่ อย เพราะหมีดำ
ยักษ์ สองตัวด้านหลังไล่ตามเธอมาติดๆ ชัว่ ยามกว่าแล้ว

เดิมทีนึกว่าสามารถสลัดพวกมันทิง้ ไปได้งา่ ยๆ ใครจะรู ้ การวิง่ ของหมีสอง


ตัวกลับเร็วอย่างคาดไม่ถึง หนำซ้ำการสัน
่ ไหวของพื้นดินในขณะที่วงิ่ กับ
เสียงหมีคำรามที่ดังมาจากด้านหลังไม่หยุดหย่อน ทำให้เธอไม่อาจชะลอ
ความเร็วลงได้เลย
ความเร็วไม่อาจช้าลง แต่จะวิง่ ไปตลอดเช่นนี้ ต่อให้เป็นเทพเซียนก็ยงั รับไม่
ไหวนะ!

“อ๊าก! อย่าตามมาอีกเลย ถ้าทำให้ขา้ โกรธ ฉั นจะสู้กับพวกเจ้าแน่ !” เธอเงย


หน้าตะโกนเสียงดัง ความเร็วไม่ลดลง แต่ลมหายใจกลับหอบน้ อยๆ แล้ว

ก็แค่เก็บยาทิพย์พวกมันมาต้นเดียวเอง ทำให้ต้องวิง่ ไล่เธอติดต่อกันกว่าชัว่


ยามขนาดนี้ เลยหรือ?

“กรร! กรร!”

สิง่ ที่ตอบรับเธอคือเสียงหมีสองตัวคำราม และความเร็วที่ไม่ลดลงจากด้าน


หลัง

พอเห็นว่าตรงหน้ามีต้นไม้ใหญ่แข็งแรงอยู่ เธอหอบหายใจพลางหันกลับไป
มอง แล้วเร่งฝีเท้าวิง่ ไปด้านหน้า ยามเข้าใกล้ต้นไม้ใหญ่ค่อยใช้สองขากระ
โดดสองแขนปีนขึ้นไป อาศัยกิง่ ไม้หนึ่ งปีนขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่นั้น

“ฮู!่ เหนื่ อยแทบตาย”

ไม่วงิ่ แล้ว เธอนั ่งหอบหายใจอยูบ


่ นต้นไม้ เห็นหมีดำยักษ์ สองตัวนั ้นตามมา
ถึงใต้ต้นไม้ในระหว่างที่เธอหายใจไปไม่กี่ครัง้ นึ กไม่ถึงว่าพวกมันคิดจะปีน
ขึ้นมาด้วย ยังดีที่ต้นไม้ที่เธอเลือกนอกจากจะแข็งแรงพอตัว ลำต้นก็ยงั
เกลี้ยงเกลาและลื่นจนไม่อาจปีนขึ้นมาได้งา่ ยๆ
ตึง!

เป็นไปตามคาด ตัวหนึ่ งในนั ้นพอปีนขึ้นมาห่างจากพื้นได้ประมาณเมตรหนึ่ ง


ก็ตกลงไปนอนสี่ขาชีฟ
้ ้า เห็นแล้วเธอหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

“แต่วา่ ยาทิพย์ต้นนี้ ใช้ทำอะไรกัน? ถึงทำให้พวกมันตามมาตลอดไม่ยอม


ปล่อย?” เธอหยิบยาทิพย์ที่เก็บมาก่อนหน้านี้ ออกจากถุงฟ้าดินมาดู เพราะ
ไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนแรกก็ไม่รูว้ า่ มันใช้ทำอะไร

“กรร กรร!”

พอหมีสองตัวใต้ต้นไม้เห็นเธอหยิบยาทิพย์ออกมา ทันใดนั ้นก็คำรามเสียง


ดังขึ้นอีก เมื่อปีนขึ้นไปไม่ได้ หมีทัง้ สองตัวจึงช่วยกันออกแรงผลักต้นไม้
ราวกับอยากจะเขย่าให้เธอร่วงลงมา

ต้นไม้สัน
่ ไหวขึ้นทันใด ทำเอาเฟิ่ งจิว
่ เกือบตกลงไป มือหนึ่ งเธอเกาะต้นไม้ไว้
พลางก็ตะโกนไปด้านล่าง “พวกเจ้าพอได้รย
ึ งั เนี่ ย? อยากจะเอายาทิพย์จาก
ข้าคืนไปเรอะ? พวกเจ้าแค่คิดก็อย่าได้คิดเลย”

“กรร! กรร กรร กรร!”

หมีสองตัวคำรามเสียงดังสนั ่นอย่างขุน
่ เคือง เขย่าจนเฟิ่ งจิว
่ ที่อยูบ
่ นต้นไม้
คิดว่าคงอยูต
่ ่อไม่ได้แล้ว ดังนั ้นหลังจากเก็บยาทิพย์ก็มองไปรอบๆ คิดจะ
กระโดดจากต้นไม้ต้นนี้ ไปต้นอื่น แล้วหาโอกาสหนี
ทว่า ขณะที่เธอยืนขึ้นมา ท้องฟ้าก็พลันมีเสียงดังครืน ประหนึ่ งเสียงฟ้าร้อง
ทุ้มต่ำนั ้นกำลังดังกระจายอยูบ
่ นชัน
้ เมฆ อานุภาพกดดันอันทรงพลังปกคลุม
ลงมาจากชัน
้ เมฆด้านบน กลิน
่ อายของแรงกดดันที่แสนหนั กหน่วงหมุนวน
เป็นลมกระโชก พัดจนต้นไม้ทัง้ หมดในป่าโยกไหว ใบไม้รว่ งเม็ดทรายต่างก็
ม้วนลอยขึ้น

“บรู ว้ …”

“กรร!”

“โฮก!”

เสียงตื่นตกใจของเหล่าสัตว์ดังขึ้นมาโกลาหลวุน
่ วาย ดังระงมสูงต่ำอยู่
ภายในป่า

และตอนนี้ เฟิ่ งจิว


่ เห็นว่าหมียก
ั ษ์ สองตัวใต้ต้นไม้ก็หมอบลงตัวสัน
่ งันงกไม่
หยุด คุดคู้กันอยูบ
่ นพื้น…
ตอนที่ 35 สัตว์เทวะในตำนาน!

เมื่อรู ส
้ ึกถึงแรงกดดันที่ปกคลุมอยูก
่ ลางอากาศ เธอแหงนหน้ามองไปบน
ท้องฟ้าอย่างตื่นตกใจ ตอนนี้ เธอเห็นทัว่ ผืนเมฆบนฟ้าปรากฎสีเปลวไฟเป็น
ประกาย หนำซ้ำเหล่าเมฆสีเพลิงค่อยๆ ก่อตัวเป็นรู ปหงส์ไฟสยายปีกตัวหนึ่ ง
ช่างเจิดจรัสเป็นที่สุด งดงามจนไม่อาจเบนสายตาออกไปได้…

และในเวลาเดียวกันนี้ ทิวทัศน์ ผด
ิ แผกแปลกตาบนท้องฟ้าก็สัน
่ สะเทือนไป
ทุกฟากฝั่ ง แทบทุกแว่นแคว้นโดยรอบแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ล้วนเห็นภาพ
ประหลาดบนผืนฟ้า เหล่าผูแ
้ กร่งกล้ามากมายพากันตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

“ปรากฏการณ์ ฟ้าเปลี่ยน! สัตว์เทวะถือกำเนิ ดแล้ว!”

“เมฆสีเพลิง เป็นรู ปหงส์! สวรรค์! หงส์ไฟ สัตว์เทวะในตำนาน! สัตว์เทวะใน


ตำนาน! เร็วเข้า!”

หลังจากยอดฝีมือในแต่ละพื้นที่ตกตะลึงกันไป พวกเขาก็มุ่งไปยังป่าเก้า
หมอบในแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั กันอย่างตื่นเต้นและอัศจรรย์ใจ บ้างก็ใช้ดาบบิน
ควบสัตว์รา้ ยบินไป หรือใช้ของวิเศษที่บน
ิ ได้ไกลพันลี้ในวันเดียว…

พวกเขามีเป้าหมายเพียงหนึ่ งเดียว นั ่นคือต้องแย่งชิงสัตว์เทวะในตำนานที่


เพิง่ ถือกำเนิ ดนั ้นมาให้จงได้!

ผูบ
้ ำเพ็ญบางส่วนที่แข็งแกร่งไม่พอจะแย่งชิงกับผูแ
้ กร่งกล้าพวกนั ้น พอ
เห็นพวกผูแ
้ กร่งกล้าต่างพากันออกเดินทางไปยังป่าเก้าหมอบแคว้นแสง
สุรย
ิ น
ั ก็อดถอนหายใจน้ อยๆ ไม่ได้ “สัตว์เทวะกลับปรากฏตัวในแคว้นเล็กๆ
ระดับเก้าอย่างแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ช่างนึ กไม่ถึงเลยจริงๆ!”

“ไม่รูเ้ ลยว่าคนแบบไหนกันที่จะได้สัตว์เทวะตนนั ้นไป?”

“เหล่าผูแ
้ กร่งกล้าจากแต่ละทิศต่างก็รบ
ี ไปกัน แสงสุรย
ิ น
ั แคว้นเล็กๆ คงไม่
อาจปกป้องสัตว์เทวะตนนั ้นได้ ข้าเดาว่าคงจะถูกคนของแคว้นอื่นชิงไป”

“เหอะๆ ก็ไม่แน่ หรอก มีใครไม่รูบ


้ า้ งว่าสัตว์เทวะโบราณเป็นโอกาสครัง้ ใหญ่
ข้าว่า เมฆมงคลของสัตว์เทวะปรากฏอยูเ่ หนื อแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ที่นั่นก็ต้องมี
คนที่มีโชคอันยิง่ ใหญ่เป็นแน่ ”

“ก็ใช่ ถึงอย่างไรในปีนั้นที่มังกรเขียวถือกำเนิ ด เหล่าผูแ


้ กร่งกล้าก็ชงิ นำหน้า
เร่งรีบไปกันไม่ใช่ร?ึ สุดท้ายแต่ละคนก็ไม่ได้พบเจอมัน”

“พูดมาก็แปลก มังกรเขียวถือกำเนิ ดมาสิบกว่าปีแล้ว แต่สิบกว่าปีมานี้


นอกจากภาพแปลกตาในปีนั้น ทุกแห่งหนก็ไม่เคยได้ยน
ิ ว่ามีมังกรเขียว
โบราณปรากฏ ไม่รูจ
้ ริงๆ ว่าคนที่กลายเป็นเจ้าของมันคือผูใ้ ดกันแน่ ?”

“พอสัตว์เทวะปรากฏตัว ทุกทิศสะเทือนเลื่อนลัน
่ อนาคตคงได้รูก
้ ันแน่ นอน”

หลายคนมองไปทางแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั แล้วพูดในใจว่า ‘สัตว์เทวะโบราณ
ปรากฏขึ้นอีกตัวแล้ว ดูท่าจะมีเรือ
่ งเกิดขึ้นแน่ …’

และในป่าเก้าหมอบ ผูค
้ นเหล่านั ้นที่มายังป่าลึกก็ประหลาดใจกันอย่างยิง่
“ดูสิ! นั ่นเมฆเพลิง เป็นรู ปหงส์! สัตว์เทวะหงส์ไฟจะถือกำเนิ ด!”

“ได้ยน
ิ ว่าจะมีสัตว์เทวะถือกำเนิ ด กลับไม่นึกว่าจะเป็นสัตว์เทวะโบราณ ดียงิ่
นั ก! พวกเราต้องรีบไปก่อนคนอื่นๆ เพื่อผูกสัญญาสัตว์เทวะในตำนาน!”

ส่วนหลิงโม่หานที่อยูส
่ ่วนลึกสุดของป่าเก้าหมอบ พอเห็นภาพแปลกตาบน
ท้องฟ้า ในดวงตาที่ลึกล้ำก็มีแววประหลาดใจ “หงส์ไฟ สัตว์เทวะใน
ตำนาน?”

แม้จะแปลกใจที่ได้เห็นสัญลักษณ์ ของสัตว์เทวะในตำนานปรากฏขึ้นที่แคว้น
เล็กๆ ระดับเก้าอย่างแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ต์ แต่การเดินทางครัง้ นี้ เขาไม่ได้มา
เพื่อสัตว์เทวะตัวนั ้น เขายังมีเรือ
่ งที่สำคัญกว่าต้องทำ

ดังนั ้นหลังจากดึงสายตากลับ เขาก็เดินไปยังที่จุดหมายต่อ…

ที่ไหนสักแห่งในป่า เฟิ่ งชิงเกอที่เห็นภาพปรากฏการณ์ บนท้องฟ้าดึงร่าง


มู่หรงอีเ้ ซวียนข้างกายด้วยความยินดีที่ยากจะปิดบัง “พีม
่ ู่หรง ท่านดูสิ เป็น
หงส์ไฟ สัตว์เทวะในตำนานเจ้าค่ะ!”

นางตื่นเต้นใจ ในใจตัง้ มัน


่ ว่าสัตว์เทวะหงส์ไฟนี้ ต้องเป็นของตนแน่ !

ครัน
้ มู่หรงอีเ้ ซวียนเห็นรู ปหงส์ไฟ ในดวงตาเขาก็เผยความแปลกใจ “สัตว์
เทวะในตำนานตัวนี้ เป็นถึงราชาแห่งสัตว์เทวะ”
เมื่อพูดออกไป ก็เห็นว่าในเมฆสีเพลิงนั ้นมีเสียงหนึ่ งดังขึ้น ราวกับเสียงร้อง
ของหงส์ที่แว่วมาจากอดีตกาล หลังจากนั ้น แสงสีทองแวววับจับตาก็สาด
ส่องลงมาจากฟากฟ้าประหนึ่ งดาวตกทันใด…
ตอนที่ 36 เก็บไข่สัตว์เทวะมาโดยไม่เสียอะไร!

ทุกคนในป่าเก้าหมอบเพียงได้ยน
ิ เสียงครืนดังสนั ่นไปทัว่ แสงสีทองที่มา
พร้อมกลับกลิน
่ อายแก่กล้าเคลื่อนออกจากจุดที่มันตกลงมา กระแสลมรู ป
ร่างคล้ายลายคลื่นน้ำที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าพุง่ ออกไป พัดพาต้นไม้รอบๆ
จนล้มลงไปด้านเดียวกัน

“เร็วเข้า! สัตว์เทวะถือกำเนิ ดแล้ว! รีบไปที่นั่นเร็ว!”

ผูค
้ นในป่าเก้าหมอบตะโกนกันอย่างตื่นเต้น แล้ววิง่ ห้อตรงไปยังบริเวณที่มี
เสียงดังมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย หากช้าแม้เพียงก้าวเดียวก็จะโดนคน
อื่นตัดโอกาสแรกไป…

แต่ในขณะที่แสงสีทองนั ้นสาดส่องจากบนฟ้าลงมาในป่า ไม่มีใครรู เ้ ลยว่า


มันร่วงลงมาข้างต้นไม้ที่เฟิ่ งจิว
่ อยู่

ทัง้ แรงกดดันมหาศาลและกระแสลมต่างสะเทือนจนต้นไม้ใหญ่ลมไปด้าน
หนึ่ ง ต่อให้คนสองคนโอบเอาไว้ก็ยงั โอบไม่อยู่ แม้แต่รากก็แทบจะถูกถอน
ขึ้นมา แน่ นอนว่าเฟิ่ งจิว
่ ที่อยูบ
่ นต้นไม้ก็ถูกกระแสลมพัดตกลงมาบนพื้นดิน
ก่อนจะกลิง้ ร่วงลงไปในหลุมใหญ่ที่ถูกเสียงดังก้องนั ้นพุง่ ชนจนเป็นหลุม
ใหญ่ยก
ั ษ์

ภายใต้แรงกดดันมหาศาล เธอรู ส
้ ึกหายใจไม่ทันและขาดอากาศ ผิวหน้าถูก
กระแสลมรุ นแรงพัดจนเริม
่ เจ็บ ไม่อาจลืมตาขึ้นมาได้เลย
“อื้ม!”

พอตกลงไปในหลุมใหญ่ ท้องเธอชนเข้ากับของบางอย่างที่นน
ู ขึ้นมาใต้รา่ ง
เจ็บจนเธอต้องร้องครวญคราง และในตอนนี้ เอง แรงกดดันและกระแสลม
รอบข้างก็ค่อยๆ สลายไป

หลังจากความรู ส
้ ึกขาดอากาศหายใจนั ้นจางหาย เธอถึงจะมีแรงลุกยืนขึ้น
มา เห็นว่าของที่นน
ู อยูน
่ ั ้นคือไข่ที่มีแสงสีทองแวววับ!

“เป็นไข่หงส์ตัวนั ้นที่ปรากฏบนท้องฟ้าหรือ?”

สายตาเธอแปลกใจเล็กน้ อย ไม่ได้ต่ ืนตาตื่นใจ มีเพียงความฉงนสงสัย พื้นที่


ทัว่ ป่าเก้าหมอบกว้างใหญ่ขนาดนั ้น ที่อ่น
ื มีไม่ตกแต่กลับมาตกตรงที่เธอ?

“ถ้าหยิบไปเฉยๆ ไม่ได้คงไม่หยิบ ในเมื่อตกมาใต้เท้าเรา มันก็เป็นของเรา


แล้ว”

เธอสงสัยอยูแ
่ ค่ชว
ั ่ ขณะก็อุม
้ ไข่ใบนั ้นขึ้นมาดู เห็นแสงสีทองที่ประกายออก
มา ลวดลายซับซ้อนที่เดิมเคยปรากฎอยูบ
่ นเปลือกไข่ก็หายไปพร้อมกัน
นอกจากแสงสีทองและขนาดของไข่ที่ใหญ่กว่าปกติหลายเท่า ก็มองไม่ออก
จริงๆ ว่ามีอะไรพิเศษ

เธอมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นใครสักคน เธอคิดจะนำไข่ทองในมือใส่ลงในถุงฟ้า


ดิน แต่พอเปิดถุงออกกลับพบว่ายัดไม่เข้า เธอถึงจะนึ กออกว่าถุงฟ้าดินนั ้น
ใส่ได้แค่สิง่ ที่ตายแล้ว ไม่สามารถใส่สิง่ ของที่มีชว
ี ต
ิ ได้
เห็นแบบนี้ เธอจึงนำไข่ทองใส่ไว้ในอกเสื้อ ก่อนจะเร่งกลิน
่ อายพลังเร้นลับขึ้น
มาพลางออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็วด้วยฝีเท้าที่แปลกประหลาด…

คล้อยหลังเธอจากไปประมาณครึง่ ชัว่ ยาม คนกลุ่มแรกที่มาถึงที่นี่ก็เห็น


เพียงหลุมใหญ่ยก
ั ษ์ ตรงนั ้น และต้นไม้ใหญ่ที่แทบจะถูกถอนรากล้มอยูข
่ า้ งๆ
กัน แต่เมื่อมองดูในหลุมนั ้นกลับพบแต่ความว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย

“ทำไมถึงไม่มีล่ะ? หรือว่ามีคนอื่นได้ไปก่อนแล้ว?” ชายวัยกลางคนที่เป็น


หัวหน้าวิง่ มาจนเหงือ
่ ออกเต็มหน้า ยามเห็นหลุมว่างเปล่า ความตื่นเต้นที่
เอ่อล้นในใจก็แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธเคือง

“ใครกัน? ใครที่ยงั เร็วกว่าพวกเราอีก!”

ขณะที่เขาตะโกนอย่างขุน
่ เคือง มู่หรงอีเ้ ซวียน เฟิ่ งชิงเกอ และกองกำลัง
ของพวกเขาก็มาถึงที่นี่อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเห็นว่าในหลุมไม่มีอะไร มู่หรงอี้
เซวียนก็ยงั ดีอยู่ แต่สีหน้าเฟิ่ งชิงเกอกลับเปลี่ยนไป

“ใครกัน?” สายตาที่ดุรา้ ยและคมกริบมองไปยังกองกำลังอีกกลุ่ม แล้วถาม


อย่างร้อนรน “สัตว์เทวะล่ะ?”

นางในตอนนี้ ไม่รูเ้ ลยว่า มู่หรงอีเ้ ซวียนข้างกายกำลังมองนางคล้ายขบคิด


อะไร
เพราะในใจของมู่หรงอีเ้ ซวียน เฟิ่ งชิงเกอเป็นหญิงสาวที่สุภาพและอ่อนโยน
เห็นอกเห็นใจผูอ
้ ่น
ื ทัง้ ยังมีจิตใจงดงาม เขากับนางรู จ
้ ักกันมาตัง้ แต่เด็ก และ
ไม่เคยเห็นนางมีสายตาดุรา้ ยเกรีย
้ วกราดเช่นตอนนี้ มาก่อน

นี่ ทำให้เขาครุ น
่ คิดมากขึ้นมาอย่างอดไม่ได้…
ตอนที่ 37 เหล่าผูแ
้ กร่งกล้าหลั่งไหลเข้ามา!

เฟิ่ งชิงเกอเหมือนรู ส
้ ึกได้ถึงบางอย่าง หันหน้ากลับอย่างรวดเร็ว จึงสบเข้า
กับสายตาครุ น
่ คิดของเขาพอดิบพอดี ใจนางหายวาบ ก่อนจะรีบพูดว่า “พี่
มู่หรง ข้า ข้าแค่รอ
้ นใจ…”

มู่หรงอีเ้ ซวียนยิม
้ สง่างาม ตอบด้วยเสียงอบอุน
่ “การที่สัตว์เทวะในตำนาน
ปรากฏตัวในแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ของพวกเราเป็นเรือ
่ งที่หาได้ยากมาก ยิง่ ไม่
ต้องพูดถึงที่พวกเราได้เห็นแสงแห่งเทพสาดส่องพื้นดินด้วยตาตัวเอง การ
ถือกำเนิ ดของสัตว์เทวะ? ว่ากันตามจริง จะได้หรือไม่ได้ก็ไม่เห็นต้องยึดติด
เกินไป ทัง้ หมดนี้ ล้วนต้องพึ่งโชคชะตา”

“ใช่ พีม
่ ู่หรงพูดถูก ชิงเกอใจร้อนไปเองเจ้าค่ะ” นางกลับมาใจเย็นและอ่อน
โยนตามปกติ มองเขาด้วยสายตารักใคร่

“เป็นใครกันที่ได้สัตว์เทวะไป!”

บนท้องฟ้าพลันมีเสียงตะโกนทุ้มเจืออำนาจกดดันดังมา น้ำเสียงนั ้นแฝง


ด้วยกลิน
่ อายพลังวิญญาณ ดังก้องกังวานไปรอบๆ ป่า

เมื่อรู ส
้ ึกถึงคลื่นกลิน
่ อายพลังวิญญาณที่แตกต่างจากพลังเร้นลับ ผูค
้ นที่ยน

อยูข
่ า้ งหลุมตื่นตกใจ และพากันเงยหน้ามอง จึงเห็นเพียงชายวัยกลางคนผู้
หนึ่ งเหยียบอยูบ
่ นของวิเศษบินได้อยูก
่ ลางอากาศ เขายืนเอามือไพล่หลัง
พลางมองจากลงไปเบื้องล่าง ความน่าเกรงขามของผู้แกร่งกล้ากระจายลง
มาในพริบตา ก่อนจะปกคลุมไปบนร่างผูค
้ น
ฝูงชนเพียงรู ส
้ ึกว่ากลิน
่ อายหนั กอึ้งที่ถาโถมมาราวกับมีเขาไท่ชานกดอยู่
เหนื อศีรษะ หน้าอกก็คล้ายมีหน
ิ ก้อนใหญ่ทับจนหายใจไม่สะดวก ภายใต้แรง
กดดันที่หนั กหน่วงสองขายิง่ อยากจะคุกเข่าลงไปอยูร่ างๆ

และแน่ นอน คนที่มีระดับวรยุทธ์ค่อนข้างต่ำย่อมไม่อาจแบกรับแรงกดดัน


จากเบื้องบนไหว จึงคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง เลือดลมในอกปั่ นป่วน จน
กระอักเลือดออกมา

เฟิ่ งชิงเกอก็มีเหงือ
่ ไหลออกหน้าผากเพราะแรงกดดันมหาศาลนั ้น สีหน้า
นางซีดเซียว สองขาก็ออ
่ นระทวยอยูเ่ ล็กน้ อย กำลังจะทรุ ดลงบนพื้น มู่หรงอี้
เซวียนที่อยูด
่ ้านข้างจึงพยุงไว้ ในขณะเดียวกันก็ใช้พลังเร้นลับประคองชีพจร
นางเพื่อป้องกันเลือดปั่ นป่วน

“ผูอ
้ าวุโส ขอท่านเก็บแรงกดดันไปก่อน แล้วอนุญาตให้ผูน
้ ้ อยอธิบายได้หรือ
ไม่?”

มู่หรงอีเ้ ซวียนมองชายวัยกลางคนที่อยูก
่ ลางอากาศ ตอนนี้ เขาเพิง่ สังเกตได้
ว่าท้องฟ้ารอบๆ ยังมีมาอีกหลายคน พวกเขามีทัง้ ที่ใช้ดาบบิน ควบสัตว์บน

ได้ และเหยียบของวิเศษลอยฟ้าอยู่

“อะไรกัน? ไม่เห็นสัตว์เทวะเลย?” ชายชราข้างๆ กันกวาดตามองด้านล่าง


ก่อนจะขมวดคิว
้ พูดกับชายวัยกลางคนที่กำลังคลายแรงกดดันลง “เก็บแรง
กดดันของเจ้าไปซะ ลองฟังดูสิวา่ เด็กหนุ่มผูน
้ ั ้นจะพูดเช่นไร ใครกันแน่ ที่ได้
สัตว์เทวะไป? พูดมาเร็ว!”
อาจเพราะคำพูดของชายชราผูน
้ ั ้น หรือเพราะท่าทีไม่นอบน้ อบแต่ก็ไม่หยิง่
ยโสของมู่หรงอีเ้ ซวียนด้านล่าง หลังจากชายวัยกลางคนเก็บแรงกดดันไป ก็
พูดเสียงเข้มว่า “พูดสิง่ ที่เจ้ารู ท
้ ัง้ หมดมาซะ!”

พอแรงกดดันสลาย ผูค
้ นเบื้องล่างรู ส
้ ึกว่าหินก้อนใหญ่ที่ทับบนอกถูกยกออก
ไป ในที่สุดก็มีอากาศหายใจ ทัง้ ร่างผ่อนคลายลง

เผชิญหน้ากับผูแ
้ กร่งกล้าเช่นนี้ ฝูงชนเบื้องล่างไม่มีใครกล้าไม่เคารพ

มู่หรงอีเ้ ซวียนประสานมือทำความเคารพไปทางผูค
้ นเบื้องบน ก่อนจะกล่าว
ว่า “ผูอ
้ าวุโสทัง้ หลาย ยามผูน
้ ้ อยมาถึงที่นี่ก็ไม่พบสัตว์เทวะแล้ว และไม่รู ้
ด้วยว่าใครเป็นคนที่ได้สัตว์เทวะไป ที่ผูน
้ ้ อยพูดเป็นความจริง หากท่านไม่
เชื่อ ก็ลองถามหลายท่านด้านนั ้นได้ พวกเขายังมาก่อนพวกผูน
้ ้ อยอยูก
่ ้าว
หนึ่ ง”

สายตาเขามองไปที่คนของอีกกองกำลังหนึ่ ง คนพวกนั ้นต่างเสียขวัญเพราะ


แรงกดดันมหาศาลจากเบื้องบนไปนานแล้ว จึงไม่กล้าปิดบัง “ใช่ ใช่ขอรับๆ
ตอนพวกข้ามาก็ไม่เห็นสัตว์เทวะแล้ว พวกข้าเองก็ไม่รูว้ า่ สัตว์เทวะหายไป
ไหน หากพวกข้าได้สัตว์เทวะไป คงไม่กล้าปิดบังพวกท่านทัง้ หลายแน่ นอน”

ผูฝ
้ ึกเซียน! พวกเขาเป็นผูฝ
้ ึกบำเพ็ญเซียนที่แท้จริง! ต่อให้เขามีความกล้า
เป็นร้อยก็ไม่กล้าปิดบังผูฝ
้ ึกเซียน

และตอนนี้ สายตาของชายวัยกลางคนที่เป็นหนึ่ งในคนเบื้องบนจับจ้องอยูท


่ ี่
ร่างของมู่หรงอีเ้ ซวียน เห็นเขามีราศีไม่ธรรมดา จึงถามไปว่า “เจ้าเป็นใคร?”
ตอนที่ 38 ความสงสัยในคราแรก!

“ผูน
้ ้ อยมู่หรงอีเ้ ซวียน” น้ำเสียงเขาอบอุน
่ พูดอย่างไม่ชา้ และไม่เบาจนเกิน
ไป

“ที่แท้ก็เป็นท่านอ๋องสามแห่งแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั มิน่าถึงได้มีบุคลิกเช่นนี้ ”

ชายวัยกลางคนพยักหน้า ดึงสายตากลับมามองผูค
้ นข้างกาย แล้วพูดยิม
้ ๆ
“ท่านทัง้ หลาย สัตว์เทวะเพิง่ ถือกำเนิ ด เชื่อว่ายังอยูใ่ นป่าเก้าหมอบนี้ เป็นแน่
พวกเราก็ใช้ฝีมือตัวเอง ดูสิวา่ ใครจะหาได้พบก่อนกัน!” ยามเขาพูดก็เงย
หน้าหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะใช้กระบี่บน
ิ ไปหาบริเวณรอบๆ…

คนอื่นๆ เมื่อเห็นเขาจากไป ก็เกิดกลัวว่าตัวเองจะรัง้ ท้าย จึงแยกย้ายกัน


อย่างรวดเร็ว เพื่อเริม
่ ตามหารอบบริเวณนี้

ทุกคนด้านล่างเห็นพวกเขาไปกันแล้ว ทัง้ หมดก็โล่งใจได้อย่างอดไม่ได้

ผูฝ
้ ึกเซียนมาปรากฏตัวกันเจ็ดแปดคน ต้องรู ไ้ ว้วา่ ปกติพวกเขาส่วนใหญ่จะ
ได้ยน
ิ เพียงนามของผูฝ
้ ึกเซียน แต่ไม่มีวาสนาได้พบเจอ พอวันนี้ ได้เห็นกลับ
ตกใจกลัวแทบตาย

เมื่อเห็นเหล่าผูฝ
้ ึกเซียนเจ็ดแปดคนขีก
่ ระบีเ่ หินฟ้าไปด้วยท่วงท่าเช่นเซียน
ในดวงตาเฟิ่ งชิงเกอมีความมุ่งมาดปรารถนา นางมองมู่หรงอีเ้ ซวียนที่ขา้ ง
กาย แล้วพูดเสียงเบา “พีม
่ ู่หรง หากภายหน้ามีโอกาส พวกเราไปกราบเข้า
สำนั กเซียนเพื่อฝึกบำเพ็ญด้วยกันเถอะ!”
“ได้สิ” มู่หรงอีเ้ ซวียนตอบรับเสียงอบอุน
่ ใบหน้าหล่อเหลาประดับรอยยิม

บางๆ

พอได้ยน
ิ เขาพยักหน้ารับปาก ในใจนางก็หวานชื่น ถามเสียงอ่อนว่า “พีม
่ ู่หรง
เช่นนั ้นพวกเราจะยังตามหาสัตว์เทวะอยูห
่ รือไม่เจ้าคะ?”

“มีผูฝ
้ ึกเซียนหลายท่านนั ้นอยู่ พวกเราก็ไม่มีโอกาสแล้ว ต่อให้หาเจอก็เกรง
ว่าจะนำมาซึ่งหายนะแห่งความตาย”

“เช่นนั ้นตอนนี้ พวกเราจะกลับไปหรือ?”

ได้ยน
ิ เช่นนั ้น มู่หรงอีเ้ ซวียนมองนาง แล้วพูดเสียงอบอุน
่ “เจ้ากลับไปก่อน
เถอะ ให้องครักษ์ ตระกูลเฟิ่ งไปส่งเจ้า ข้ายังต้องไปช่วยท่านฉิ นเก็บโคลน
จากบ่อน้ำใจกลางที่ปากภูเขาในส่วนลึกสุดของป่าเก้าหมอบอีก”

“ข้าจะไปกับท่าน”

นางดึงแขนเสื้อเขาพลางเขย่าเบาๆ ก่อนจะพูดเสียงอ่อน “พีม


่ ู่หรง ข้ายังไม่
อยากรีบกลับนั ก ข้าอยากตามท่านไป”

“ส่วนลึกของป่าเก้าหมอบต่างจากที่นี่ อันตรายที่พบเมื่อลึกเข้าไปในทุก
สามสิบจัง้ ล้วนไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะบ่อน้ำใจกลางตรงปากภูเขา ว่ากันว่า
น้ อยคนนั กที่จะไปถึง เพราะที่นั่นมีสัตว์รา้ ยขัน
้ สูงระดับสามเฝ้าอยู่ เจ้าเชื่อ
ฟังข้า แล้วกลับบ้านก่อนเถอะ รอข้ากลับไปจะไปหาเจ้า”
ฟังเขาพูดเช่นนี้ ก็รูว้ า่ คงไม่พานางไปด้วย จึงทำได้เพียงพยักหน้ารับ “ก็ได้
เจ้าค่ะ! ข้าจะกลับบ้านไปก่อน ท่านกลับไปแล้วอย่าลืมว่าต้องมาหาข้านะเจ้า
ค่ะ”

“ได้สิ”

เขายิม
้ เรียบๆ หลังจากมองนางแวบหนึ่ ง ก็เรียกคนสิบคนจากพวกที่ตัวเอง
พามา และออกคำสัง่ ไปว่า “พวกเจ้าจงตามอารักขาคุณหนูเฟิ่ งกลับจวน
หากเกิดเหตุระหว่างทาง ข้าจะไต่สวนพวกเจ้า!”

“ขอรับ!” ทัง้ สิบคนตอบรับอย่างเคารพ แล้วเดินตามหลังองครักษ์ ตระกูล


เฟิ่ งไป

หลังจากเฟิ่ งชิงเกอได้ยน
ิ คำพูดเขา นางก็ช่น
ื อกชื่นใจ ถึงจะบอกลาเขาอย่าง
อาลัยอาวรณ์ และกลับไปก่อนโดยมีองครักษ์ ตระกูลเฟิ่ งคุ้มครอง

จนกระทัง่ เฟิ่ งชิงเกอค่อยๆ เคลื่อนออกไปไกล รอยยิม


้ บนใบหน้ามู่หรงอี้
เซวียนก็ถูกเก็บไป สายตาอันลึกล้ำและสงบนิ่ งมองลึกไปยังเงาร่างที่ไกล
ออกไปแวบหนึ่ ง จากนั ้นจึงเก็บแววตานั ้นลง ปกปิดความคิดและประกายใน
แววตา

อีกด้านหนึ่ ง เฟิ่ งจิว


่ ที่ได้ยน
ิ การเคลื่อนไหวจากด้านหลังพุง่ ทะยาน กลิง้ ไปที่
ตีนเขาแล้วเก็บกลิน
่ อายบนตัว มือหนึ่ งกุมไข่สีทองในอกเสื้อไว้ พลางแนบ
ตัวติดกับกำแพงดินด้านหลัง เธอพยายามใช้พุม
่ หญ้าตรงหน้าพรางตัวเอง
เพื่อเลี่ยงการถูกพบ
ในช่วงหลายลมหายใจนั ้น ผูฝ
้ ึกเซียนคนหนึ่ งเหยียบพาหนะลอยฟ้าบินผ่าน
มาจากกลางอากาศ ดวงตาเขากวาดมองลงมาในป่าด้านล่าง ตามหาสิง่ ที่
ต้องสงสัย

เฟิ่ งจิว
่ แนบตัวติดกำแพงดินไม่ขยับเขยื้อน กลัน
้ ลมหายใจ จนกระทัง่ ร่าง
กลางอากาศนั ้นค่อยๆ ไกลออกไปจนหายลับไปอีกด้านหนึ่ ง เธอถึงจะถอน
หายใจออกมาเบาๆ

“ฮู!่ อันตรายเกินไปแล้ว ไข่นี่เป็นปัญหาจริงๆ!”

เธอขมวดคิว
้ ถลึงมองไข่สีทองในอกเสื้อ พลางคิดว่าจะจัดการกับมันด้วยวิธี
อะไรได้บา้ ง?
ตอนที่ 39 ลึกลงใต้ดิน

พอยื่นมือออกไปเคาะๆ ก็ได้ยน
ิ แค่เสียงก๊อกๆ ดังออกมา

เธอกำลังคิด ไข่ใบนี้ ซ่อนไว้ไม่ได้ หากไปเจอใครเข้าต้องถูกพบตัวแน่ ๆ ตอนนี้


พวกคนที่บน
ิ อยูก
่ ลางอากาศกำลังตามหาไข่ใบนี้ และชัดเจนว่าคงไม่จากกัน
ไปเร็วนั ก หากเธออุม
้ ไข่ใบนี้ ไปหากวนสีหลิน
่ ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอจะเดินไปหา
เขาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ ถึงเดินไปหาเขาได้ ก็เกรงว่าจะทำให้เขาลำบาก
ไปด้วย

‘ทำยังไงดีล่ะ? ของเจ้าปัญหานี่ ’ เธอขมวดคิว


้ แล้วนึ กถึงวิธท
ี ำสัญญาขึ้นมา
ในหัว ดวงตาเธอเป็นประกาย เธอกัดนิว
้ มือตัวเองและหยดเลือดหนึ่ งหยด
ลงบนเปลือกไข่

ทว่าเลือดหยดนั ้นไม่ซึมเข้าไปในเปลือกไข่ ตรงกันข้ามกลับไหลลงไป

ดวงตาเธอถลึงมอง “ใช้หยดเลือดทำสัญญากับสัตว์รา้ ยที่ยงั ไม่เกิดได้ไม่ใช่


หรือ? หลอกกันรึ?” เธอบีบเลือดลงไปอีกสองหยดอย่างไม่ยอมแพ้ ก็ยงั ไม่มี
ปฏิกิรย
ิ าอะไรเหมือนเดิม

สุดท้าย ทำได้เพียงยอมแพ้

‘หืม? เสียงอะไรน่ ะ?’ เธอหูผ่งึ น้ อยๆ แล้วมองไปรอบด้าน ได้ยน


ิ เพียงเสียง
เบาๆ ที่เหมือนแว่วมาจากใต้ดิน
เป็นอย่างที่คิดไว้ พอเธอก้มลงมองรอบตัว ก็เห็นผืนดินราวกับถูกพลิกขึ้นมา
คล้ายว่าใต้ดินนั ้นมีอะไรบางอย่างกำลังขุดเจาะกันอยู่

“หนูดำดิน? คงไม่ใช่หรอกมัง้ ? หนูดำดินก็ตัวไม่ใหญ่ขนาดนั ้นนี่ !”

เธอเก็บไข่สีทองลงในอกเสื้อ กำลังคิดจะวิง่ หนี จากพื้นดินที่แตกออกด้วย


การปีนขึ้นบนต้นไม้ ทว่าเพิง่ จะโผล่หว
ั ก็เห็นว่าไม่ไกลมีชายวัยกลางคน
กำลังขีก
่ ระบีบ
่ น
ิ มาทางนี้ เธอตกใจจนถอยหลังตามสัญชาตญาณ แต่พอ
ถอยไปเท้าก็เหยียบลงบนผืนดินที่คลายตัวอยู่ ทัง้ ร่างจึงตกลงไปในหลุมด้าน
ล่างอย่างเสียสมดุล

“อ๊ะ!”

เธอส่งเสียงร้องตกใจ รู ส
้ ึกเพียงเบื้องหน้ามืดมิด ร่างกายลื่นตกลงมาด้วย
ความรวดเร็วจนไม่อาจโต้ตอบอะไรได้

แต่ด้านบนนั ้น หลังจากเฟิ่ งจิว


่ ลื่นตกไป หนูดำดินสองตัวก็โผล่หว
ั ออกมา
จากผืนดิน ส่งเสียงจี๊ดๆ อยูห
่ ลายครัง้ แล้วมองซ้ายมองขวา ไม่นานนั กพวก
มันก็กลบดินลงไปเติมเต็มปากหลุมที่ปรากฏออกมานั ้น

ชายวัยกลางคนที่ขก
ี่ ระบีบ
่ น
ิ มาตามเสียงมองไปรอบๆ กลับไม่เห็นมีใครอยู่
ตรงนี้ และก็ไม่รูส
้ ึกว่ามีกลิน
่ อายของคนเลย เขาจึงขมวดคิว
้ อย่างอดไม่ได้
“หรือว่าข้าหูฝาดไป?”

เขาใช้พลังจิตกวาดมองอีกหลายครัง้ ก็ไม่พบอะไรจริงๆ ถึงจะขีก


่ ระบีจ
่ ากไป
“อ๊าก…”

ใต้ดิน เสียงร้องของเฟิ่ งจิว


่ ดังกึกก้องอยูใ่ นทางอุโมงค์ ร่างเธอลื่นไถลลงมา
มืดมิดจนมองอะไรไม่เห็น รู เ้ พียงว่าทางอุโมงค์นี้เลี้ยวซ้ายคดขวาลงไป
ระหว่างทางเท้าเธอเหมือนเตะโดนของคล้ายก้อนเนื้ ออะไรบางอย่าง มันร้อง
เสียงดังจี๊ด และก้อนเนื้ ออ้วนๆ นั ้นก็กลิง้ ตามลงไปด้วย

ตึง!

“ซี๊ด! อ๊า!”

เธอร้องอย่างเจ็บปวด เพราะร่างกายลื่นไถลลงมาจึงล้มไปด้านหน้า เธอกลับ


ไม่ได้ล้มลงบนพื้น แต่ล้มลงบนก้อนเนื้ ออวบอั ๋นที่รว่ งลงพื้นไปก่อน

“ซี๊ด! เจ็บชะมัดเลย”

ตลอดทางที่ล่ ืนไถลลงมา เมื่อคิดถึงแรงเสียดสีของร่างกายก็รูไ้ ด้ ทัว่ ร่าง


เจ็บปวดร้อนผ่าวไปหมด แต่ถึงเป็นเช่นนี้ เมื่อเธอเห็นดวงตาหลายคู่เป็น
ประกายแสงสีเขียวสลัวอยูโ่ ดยรอบ ก็ตกใจจนผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

“จี๊ดๆ”

“จี๊ดๆๆๆ”
หนู?

หนั งศีรษะเธอชาวาบ เสียงที่ได้ยน


ิ นั ้นเป็นหนู ทว่าจากขนาดตัวที่เห็นอยู่
รางๆ ท่ามกลางความมืดมิดกลับเหมือนไม่ใช่หนูธรรมดา หนำซ้ำตอนนี้ พวก
มันก็กำลังล้อมเข้ามาหาเธอด้วย

พอนึ กถึงปากหลุมที่มีขนาดพอสำหรับคนหนึ่ งคน และพวกหนูตรงหน้านี้ อก



ร่างกายเธอก็ตึงเครียดขึ้นมา

“เป็นหนูดำดิน!”

มือหนึ่ งลูบลงในอกเสื้อ ไข่สีทองใบนั ้นยังอยูด


่ ีไม่มีแตกหัก อีกมือหนึ่ งจึงยื่น
ไปตรงต้นขา แล้วดึงกริชที่ผูกไว้ตรงนั ้นออกมาถือไว้…
ตอนที่ 40 ร่วงลงรังหนู

“จี๊ดๆๆ!”

รอบๆ นี้ มีหนูดำดินประมาณสี่หา้ สิบตัว หนำซ้ำขนาดของทุกตัวต่างก็น่ากลัว


มาก โดยเฉพาะตอนนี้ ที่เธอโดนล้อมอยู่ แต่ละตัวล้วนจับจ้องเธอพลางส่ง
เสียงร้องจี๊ดๆ ออกมา

ด้วยกำลังของเธอ จะแก้ไขสถานการณ์ คับขันเบื้องหน้านี้ เช่นไร?

หรือจะฆ่าหนูดำดินสี่หา้ สิบตัวนี้ ให้หมดเสียเลย? เห็นชัดๆ ว่าหนูดำดินพวกนี้


กลายพันธุ ์ เกรงว่าหากต่อกรด้วยคงไม่งา่ ยดายขนาดนั ้น

ขณะกำลังคิด ก็รูส
้ ึกว่าลมแรงถาโถมมา หนูดำดินตัวหนึ่ งด้านซ้ายร้องจี๊ด
แล้วพลันกระโจนเข้ามาทันที

เธออดกลัน
้ ความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาบนร่างกาย สายตากวาดมองอย่าง
ดุดัน กริชในมือพลันตวัดออกไป เห็นเพียงกลิน
่ อายพลังเร้นลับสีแดงจางๆ
จู่โจมออกไปกลางอากาศตามความรุ นแรงของกริช และแทงเข้าที่หว
ั หนู
ดำดินตัวนั ้นดังสวบ

ในเวลานี้ เอง หนูดำดินสี่หา้ สิบตัวที่เหลือต่างร้องจี๊ดๆๆ ทุกตัวกระโจนเข้ามา


ในทันที ล้อมวงเธอไว้พลางกัดทึ้ง

“โอ๊ย!”
ความเจ็บทำให้เธอส่งเสียงร้องครวญ หนูสี่หา้ สิบตัวที่ล้อมกัดไม่ได้ทำให้
ความเร็วของกริชในมือเธอช้าลงเลย เวลานี้ เธอแผดเสียงดุเดือดพลางหมุน
ตัวตวัดกริชดัง่ เช่นเทพสังหาร แทงเข้าและดึงออก ในหัวเธอมีเพียงความ
เชื่อมัน
่ เดียว คือต้องมีชว
ี ต
ิ ต่อไป!

“จี๊ด!”

“จี๊ดๆ…”

ศพของหนูดำดินบนพื้นมากขึ้นเรือ
่ ยๆ เหล่าหนูดำดินรอบตัวเธอไม่กล้าเข้า
ใกล้เธออีกแล้ว

เพราะว่าศพรอบข้างกองพะเนิ นกันเป็นภูเขาเล็กๆ กลิน


่ คาวเลือดคละคลุ้ง
ตลบอบอวลอยูท
่ ่ามกลางพื้นที่วา่ งที่มืดสนิ ท

ร่างเธอที่เปียกชื้นมีความอุน
่ อยู่ มันคือเลือดของเธอและเลือดของพวกหนู
ดำดิน…

“มาสิ? ไม่กล้ากระโจนเข้ามาแล้วเรอะ?”

น้ำเสียงเย็นเยียบของเธอมีความชัว่ ร้าย เธอกวาดมองหนูดำดินที่ถอยออก


ไปทีละตัวด้วยแววตาเยือกเย็นและดุรา้ ย รังสีฆ่าฟันและความกระหายเลือด
ทัว่ ร่างทำให้เธอเป็นดัง่ นั กฆ่าผูโ้ หดเหีย
้ ม ลำพังแค่กลิน
่ อายกระหายเลือดที่
น่าสะพรึง ก็ทำให้พวกหนูดำดินที่เหลือไม่กล้าเข้ามาใกล้อก

“ไม่กล้าแล้ว? เฮอะ! ยังฆ่าไม่พอเลย!”

เมื่อน้ำเสียงเย็นชากระหายเลือดนั ้นกล่าว เรือนร่างเธอขยับ กริชที่มีประกาย


แสงเย็นเยียบพร้อมกลิน
่ อายรุ นแรงแทงไปที่หนูดำดินตัวหนึ่ งอีกครัง้ ความ
รวดเร็วนั ้น แน่ นอนว่ามันไม่อาจหลบได้

“จี๊ด!”

เสียงกรีดร้องน่าเศร้าดังขึ้น เลือดอุน
่ ๆ สายหนึ่ งกระเซ็นออกไป และหนู
ดำดินอีกตัวก็ตายอยูใ่ ต้กริชของเธอ

“จี๊ดๆ!”

หนูอก
ี สิบกว่าตัวที่เหลือกรีดร้อง ก่อนจะหนี ไปตามโพรงพวกนั ้นอย่างตื่น
ตระหนก

เธอเม้มริมฝีปากชำเลืองมองโพรงพวกนั ้น ถึงจะสาวเท้าก้าวเดินไปตาม
ทิศทางที่มีสายลมอ่อนพัดเข้ามาทีละก้าว หนึ่ งก้าวหนึ่ งรอยเท้า หนึ่ งก้าว
หนึ่ งหยดเลือด…

เดินไปเกือบครึง่ ชัว่ ยาม เสียงแรกที่ได้ยน


ิ คือเสียงน้ำไหล ลำแสงนั ้นค่อยๆ
สว่างขึ้น เพราะมีน้ำไหลอยู่ กลิน
่ อายในอากาศจึงมีความชื้นอยูม
่ าก ความ
เจ็บทัว่ ร่างตอนนี้ ชา่ งยากเกินทน แต่เธอกลับยังคงกัดฟันไว้พลางเดินไปที
ละก้าว จนมาถึงบริเวณที่มีน้ำไหล
มันคือสระน้ำลึก เธอมองไม่เห็นก้นบึ้ง แต่มันกลับใสยิง่ นั ก น้ำไหลคือน้ำที่มี
ต้นน้ำ เพียงแต่ไม่รูว้ า่ ไหลไปหยุดลงที่ไหน

แต่บริเวณรอบๆ นี้ กลับไม่มีทางเลย ลำแสงนั ้นส่องลงมาจากเหนื อศีรษะ


ราวกับอยูใ่ ต้หุบเขาลึก ระหว่างผาหินมีสายน้ำไหลอยูน
่ ้ อยๆ จึงมีตะไคร่น้ำขึ้น
เต็ม และโดยรอบก็มีพวกเถาวัลย์หอ
้ ยลู่ลงมา

มองแค่แวบหนึ่ งเธอก็ดึงสายตากลับ สิง่ ที่ต้องทำตอนนี้ ไม่ใช่การหาทางออก


จากที่นี่ แต่เป็นบาดแผลบนตัวเธอ

บาดแผลบนตัวที่ถูกหนูดำดินพวกนั ้นกัด หากไม่จัดการเกรงว่ามีแต่จะติด


เชื้อ ยังดีที่ตรงนี้ มีบอ
่ น้ำลึกอยู่

เธอถอดเสื้อผ้าที่ชุม
่ เลือดบนตัวออก นำไข่สีทองวางไว้ขา้ งๆ จากนั ้นลงไป
ลอยตัวอยูใ่ นน้ำ ใช้น้ำเย็นเฉี ยบในบ่อลึกนั ้นทำความสะอาดบาดแผลบน
ร่าง…
ตอนที่ 41 กะเทาะเปลือกออก

เธอหรีต
่ าลงเล็กน้ อย รู ส
้ ึกถึงน้ำเย็นในบ่อที่ซึมเข้ากระดูก และความเจ็บ
แปลบๆ ที่แล่นมาจากบาดแผล ทว่าหลังจากความเจ็บผ่านไปเธอกลับสบาย
ตัวมาก ราวกับมีกระแสธารอุน
่ ชำระผ่านบนเรือนร่าง

กระแสธารอุน
่ ?

เธอลืมตาขึ้นทันที แล้วมองร่างกายที่แช่อยูใ่ นน้ำ ตอนนี้ เธอสังเกตเห็นกลิน



อายพลังจางๆ พรัง่ พรู ออกมาบนผิวน้ำ

ไม่ใช่พลังเร้นลับ แต่เป็นพลังวิญญาณที่บริสุทธิ!์

พอเห็นในบ่อน้ำลึกมีกลิน
่ อายพลังวิญญาณจางๆ กระจายตัวอยู่ เฟิ่ งจิว
่ ก็
นึ กถึงหนูดำดินกลายพันธุพ
์ วกนั ้น เพราะพลังวิญญาณในบ่อน้ำนี้ พวกมัน
ถึงได้ตัวอ้วนพีขนาดนั ้นหรือ?

แต่ทำไมที่นี่ถึงมีกลิน
่ อายพลังวิญญาณที่บริสุทธิเ์ ช่นนี้ ได้?

ขณะกำลังครุ น
่ คิด ไข่สีทองใบนั ้นที่วางอยูด
่ ้านบนก็พลันขยับเล็กน้ อย และ
กลิง้ ลงไปในบ่ออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ตู้ม!
เสียงตกน้ำดังขึ้นมา ไข่สีทองใบนั ้นจมลงในน้ำอย่างรวดเร็ว เธอตกใจ หลัง
จากใช้มือหนึ่ งดึงกริชและถุงฟ้าดินที่วางไว้ด้านบนมาก็ดำน้ำลงไปอย่าง
รวดเร็ว

ขณะลืมตาในน้ำเธอมองเห็นไข่สีทองใบนั ้นกำลังค่อยๆ จมลงไป ทว่ายิง่ ว่าย


ลงไป น้ำในบ่อที่ใสสะอาดก็ยงิ่ มืดสลัว ราวกับเป็นหลุมลึกไร้ก้นบึ้งที่เต็มไป
ด้วยความพิศวง

เฟิ่ งจิว
่ กังวลว่าพอลงไปแล้วจะกลัน
้ หายใจได้ไม่ไหว และกังวลว่าถ้ายิง่ ลึกลง
ไปอีกไม่รูจ
้ ะเจอกับอะไรที่ใต้น้ำนั ้น จึงรีบเร่งดำลงไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่
เห็นว่าเข้าใกล้ข้น
ึ เรือ
่ ยๆ เธอเอื้อมมือออกไปโอบไข่สีทองใบนั ้นมากอดไว้
ทันที

แต่ระหว่างที่เธอกอดไข่ใบนั ้นว่ายขึ้นไป กลับเหลือบเห็นบริเวณส่วนลึกด้าน


ล่างเหมือนจะมีประตูหน
ิ บานหนึ่ งที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำอยู?่

แม้จะฉงนสงสัย แต่ตอนนี้ เธอไม่อยากรู ้ เพราะเธอไม่อาจกลัน


้ หายใจได้ไหว
แล้ว จึงใช้มือหนึ่ งกอดไข่ ส่วนอีกมือตะกายว่ายขึ้นไป ทว่าในตอนนั ้นเอง
บานประตูด้านล่างพลันค่อยๆ เปิดออกเสียงดัง

แรงดูดมหาศาลลอยมาจากด้านในประตู ดูดทัง้ น้ำและเธอเข้าไปในประตู


บานนั ้นราวกับมีกระแสน้ำวนหมุนขึ้นมาจากก้นบ่อ

“หืม!”
ภายใต้แรงดึงดูดอันทรงพลัง เธอที่อยูใ่ นน้ำไม่มีทางหลบเลี่ยงการถูกหมุน
เข้าไปในน้ำวนนั ้นได้ จึงถูกดูดเข้าไปด้านในบานประตู

แต่ภายใต้แรงดันในน้ำและการหมุนวนที่มีแรงดูด เฟิ่ งจิว


่ รู ส
้ ึกเพียงว่าเลือด
ในหัวใจปั่ นป่วน จนกระอักเลือดออกมา เลือดหยดลงบนไข่สีทองที่เธอโอบไว้
แน่ นในอ้อมกอดพอดิบพอดี ทว่าเธอไม่เห็นว่าเลือดที่ตนกระอักออกมาถูก
ไข่สีทองดูดซับไป ภาพเบื้องหน้าก็มืดลง และเธอก็หมดสติไป…

ในตอนนี้ เอง ไข่สีทองมีแสงทองลอยขึ้นมาเลือนราง ลวดลายซับซ้อนบน


เปลือกไข่ที่เคยหายไปก็ปรากฏขึ้นอีกครัง้ พร้อมกับแสงทองที่ค่อยๆ แผ่ออก
มานอกเปลือกไข่

สิง่ ที่ทำให้เหลือเชื่อที่สุดก็คือ ไข่สีทองที่เดิมทีมีขนาดแค่สองกำมือ ตอนนี้


กลับค่อยๆ ใหญ่ข้น
ึ ท่ามกลางแสงสีทอง มันยังคงถูกเฟิ่ งจิว
่ โอบไว้ในอ้อม
กอด แค่ตอนนี้ มีขนาดใหญ่เหมือนแตงโมลูกโต

ตรงหว่างคิว
้ ของเฟิ่ งจิว
่ มีลายรู ปหงส์ไฟสีแดงฉานปรากฏขึ้นมา ขณะที่
ลวดลายนั ้นปรากฏ ทัว่ ทัง้ ร่างเธอถูกห้อมล้อมด้วยประกายแสงสีทอง
บาดแผลบนตัวก็กำลังฟื้ นฟูด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า…

เสียงครืนดังขึ้น ทัง้ ร่างเฟิ่ งจิว


่ ที่ถูกกระแสน้ำวนดูดเข้าไปด้านในกระแทกลง
บนพื้น น้ำที่อยูก
่ ลางกระแสน้ำวนก็ปะทะลงบนร่างเธอ แรงโน้ มถ่วงและ
ความเจ็บแสบที่ถาโถมมาทำให้เธอค่อยๆ ได้สติ ยามลืมตาอย่างช้าๆ กลับ
โดนแสงทองสะท้อนเข้าใส่
แกร๊ก!

เสียงแกร๊กที่ดังชัดเจนทำให้เธอนิ่ งไปเล็กน้ อย เห็นพอดีวา่ ไข่สีทองที่กลิง้


ออกไปจากมือใหญ่เท่าลูกแตงโมแล้ว และบนผิวมันยังมีรอยแตกร้าวเส้น
หนึ่ ง

แกร๊ก!

เสียงแกร๊กดังออกมาอีกครัง้ บนไข่ทองมีรอยแตกเพิม
่ มาอีกเส้น ทว่าหลัง
จากเห็นไข่ใบนั ้นแหวกออกเป็นสองซีก เธอก็ต้องตะลึงงัน…
ตอนที่ 42 สัตว์เทวะน้ อยตัวอ้วนจ้ำม่ำ

หลังจากเปลือกไข่แตก สิง่ ที่ออกมาไม่ใช่หงส์น้อย แต่เป็นเด็กน้ อยที่คว่ำ


พลางเชิดบัน
้ ท้ายเล็กเปลือยเปล่าขึ้นน้ อยๆ

รัศมีสีทองจางๆ ที่แฝงกลิน
่ อายพลังวิญญาณเข้มข้นแผ่อยูบ
่ นร่างเขา และ
ค่อยๆ กระจายไป เด็กน้ อยคล้ายเพิง่ ตื่นนอน ศีรษะเงยขึ้นเล็กน้ อย ดวงตาที่
ใสกระจ่างดัง่ น้ำเปิดขึ้น มองเฟิ่ งจิว
่ ที่เปลือยกายอยูเ่ ช่นกันอย่างสับสนและ
ตกตะลึง

ผ่านไปสักพัก เหมือนเพิง่ จะตอบสนองกลับมา ดวงตาสีดำมันวาวคู่นั้นถลึง


มอง เปลวไฟสีแดงฉานสองดวงลุกไหม้อยูภ
่ ายใน เขากระโดดขึ้นมาทันที
มือข้างหนึ่ งเท้าอยูต
่ รงเอวเล็กเจ้าเนื้ อ อีกมือก็ชเี้ ฟิ่ งจิว
่ ที่ล้มอยูบ
่ นพื้น น้ำ
เสียงอ้อแอ้มีความโมโหโกรธาที่น่าเหลือเชื่อ

“ผูห
้ ญิงคนนี้ ! ข้าเป็นหงส์เทพโบราณ! นึ กไม่ถึงเลยว่าเจ้า เจ้า เจ้าจะ
จินตนาการข้าเป็นเด็กมนุษย์ผูช
้ ายเช่นนี้ !”

ถึงแม้ในอนาคตเมื่อเขาโตขึ้นแล้วจะจำแลงกายเป็นมนุษย์ได้ ทว่าแต่ไหน
แต่ไรเขาก็นึกไม่ถึงว่าพอออกจากเปลือกจะกลายเป็นเด็กมนุษย์ผูช
้ ายตัว
น้ อยไปซะได้! เขาเป็นหงส์ไฟน้ อยนะ! หงส์ไฟน้ อย!

เพราะความสัมพันธ์ของพันธสัญญา จินตนาการภาพที่ผู้ทำสัญญามีต่อเขา
ซึ่งยังไม่ถือกำเนิ ด สามารถตัดสินได้วา่ เขาจะเกิดเป็นร่างสัตว์หรือร่างมนุษย์
หากเกิดเป็นร่างมนุษย์ ก็ต้องรอจนเขาโตเป็นผูใ้ หญ่ถึงจะแปลงกายเป็นร่าง
หงส์ได้

สวรรค์รูด
้ ีวา่ อีกนานแค่ไหนกว่าเขาจะเติบโต? เช่นนั ้นก่อนโต เขาไม่ต้อง
แบกรู ปลักษณ์ เด็กชายตัวน้ อยเช่นนี้ ไปเดินกรีดกรายตามท้องถนนหรอกรึ?

ยิง่ คิดยิง่ ขุน


่ เคือง ยิง่ นึ กยิง่ เจ็บใจ เขาทัง้ อยากร้องไห้และไม่อยากให้นางตลก
จึงทำได้เพียงถลึงตามองตัวต้นเหตุผูน
้ ั ้นอย่างดุรา้ ย

เฟิ่ งจิว
่ ตะลึงงัน ไข่ใบนี้ ฟักออกมาเป็นเด็กชายตัวน้ อยจริงๆ?

ดีล่ะ! อันที่จริงตอนเธอหยิบไข่มาก็จินตนาการไว้นิดหน่ อย หงส์ที่จะฟักออก


มาจากไข่ใบนี้ จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร? หลังจากนั ้นพอไม่ทันระวังจึงนึ กถึง
ท่าทางน่ารักของเด็กชายตัวอ้วนจ้ำม่ำขึ้นมา

ตอนนี้ เมื่อเห็นเด็กชายตัวน้ อยนี้ เอามือหนึ่ งเท้าเอวเจ้าเนื้ อ อีกมือก็ชเี้ ธอ


อย่างโกรธเกรีย
้ ว ร่างเล็กเปลือยเปล่าที่ยน
ื อยู่ และยังมีงวงช้างน้ อยที่ไหวๆ
อยูเ่ บื้องหน้า เธอคันไม้คันมือขึ้นมาชัว่ ขณะ จึงยื่นมือไปหยอกล้อกับช้างน้ อย
นั ่นสักหน่ อย

“อ๊า! เจ้า เจ้าทำอะไรเนี่ ย!”

ในที่สุดหงส์ไฟน้ อยผูห
้ ยิง่ ยโสก็นึกถึงสภาพเปลือยเปล่าในตอนนี้ ข้น
ึ มาได้
ของล้ำค่าอันน้ อยที่ท่อนล่างถูกเย้าแหย่ เขาตกใจจนทัง้ โกรธทัง้ อาย รีบถอย
หลังไปหลายก้าวพลางเอาสองมือก็กุมมันไว้แน่ น
“เจ้า เจ้าผูห
้ ญิงไร้ยางอายนี่ !”

เขาแผดเสียงอย่างขุน
่ ข้องเขินอาย ใบหน้าเล็กที่งามประณี ตขึ้นสีแดงก่ำ น้ำ
เสียงอ้อแอ้ทำให้การตะโกนของเขาไม่มีพลังคุกคามอะไรเลย

ตอนนี้ เขาเหมือนเพิง่ เห็นว่าร่างกายนางก็โป๊เปลือยอยู่ จึงผละมือข้างหนึ่ งที่


กอบกุมของล้ำค่าอันน้ อยไว้ข้น
ึ มาปิดตาแล้วรีบหันตัวไป

“เจ้าไม่ใส่เสื้อผ้า!” รอบนี้ แม้แต่ใบหูก็เริม


่ แดงฉ่ าเพราะเขินอาย

เฟิ่ งจิว
่ ชำเลืองมองเด็กน้ อยที่ตอบสนองเสียใหญ่โต แล้วพูดแกล้งต่อไปว่า
“ข้าเห็นก้นเล็กๆ ด้านหลังเจ้าแล้วนะ”

“อ๊า! ผูห
้ ญิงหน้าไม่อาย! หน้าไม่อาย หน้าไม่อาย!”

เขากระวนกระวายจนต้องกระทืบเท้า แต่กลับไม่ด่าว่าอะไรอย่างอื่นอีก สิง่ ที่


ตะโกนไปตะโกนมาก็มีแต่คำว่า ‘หน้าไม่อาย’

เฟิ่ งจิว
่ มองจนนึ กสนุก หัวเราะออกมาเบาๆ อย่างอดไม่ได้ และตอนนี้ เธอที่
ก้มหน้าลงก็เพิง่ สังเกตุเห็นบาดแผลที่เคยอยูบ
่ นร่างกาย นึ กไม่ถึงเลยว่าจะดี
ขึ้นหมดแล้ว?

ดวงตาลึกล้ำฉายความประหลาดใจพาดผ่าน แววตาสัน
่ ไหวน้ อยๆ ก่อนจะ
มองหงส์ไฟน้ อยที่เปลี่ยนเอาสองมือนั ้นมาจับบัน
้ ท้ายเล็กไว้แทนเสมือน
ครุ น
่ คิดอะไรอยู่
เป็นเพราะเจ้าเด็กน้ อยนี่ หรือ?

เธอหยิบชิน
้ ผ้าในถุงฟ้าดินออกมาพันรัดบริเวณหน้าอก แล้วค่อยนำชุด
เสื้อผ้าผูช
้ ายมาสวม พอรัดเข็มขัดเสร็จก็ดึงเด็กน้ อยที่เปลือยกายอยูผ
่ ู้นั้น
เข้ามากอด

“อ๊าก! เจ้า ผูห


้ ญิงคนนี้ คิดจะทำอะไรน่ ะ!”

เมื่อถูกกอดอย่างกะทันหัน เขาตกใจจนร้องลัน
่ สองมือรีบกุมท่อนล่างไว้
พลางถลึงตามองนางอย่างระแวดระวัง
ตอนที่ 43 จวนลับใต้น้ำ!

ใครจะรู ้ เฟิ่ งจิว


่ ดึงเสื้อผ้าออกจากถุงฟ้าดิน ใช้กริชปรับเปลี่ยนมันเล็กน้ อย
สักพักก็สวมมันลงบนร่างของเด็กน้ อย

“ใช้เท่านี้ ไปก่อน รอออกไปแล้วข้าค่อยซื้อเอีย


๊ มแดงให้เจ้าใส่” เธอพูดพลาง
หรีต
่ ายิม
้ แย้ม ยังไม่ทันเรียบร้อยก็ตบลงบนบัน
้ ท้ายเล็กจ้ำม่ำของเขาไปที
หนึ่ ง

“เรียบร้อย” เธอจับเขาหันมา พอเห็นเด็กชายตัวน้ อยโกรธฟึดฟัดก็คิดว่า


ช่างน่าขบขันเสียนี่ กระไร

“ข้าไม่ใส่ของพวกนั ้นหรอก” เขาพึมพำ มองหญิงสาวที่จับนู่นตบนี่ บนตัวเขา


ไปทัว่ อย่างโกรธเคืองเล็กน้ อย

“ข้ายังคิดว่าพอไข่แตกคงมีหงส์ออกมา นึ กไม่ถึงว่าจะกลับกลายเป็นเด็ก
ผูช
้ ายตัวน้ อย นี่ เช่นนั ้นเจ้าก็แปลงเป็นร่างหงส์ได้ใช่หรือไม่?” เธอถามอย่าง
แปลกใจนิ ดหน่ อย

เธอไม่พูดเสียยังดีกว่า พอพูดขึ้นมาหงส์ไฟน้ อยผูจ


้ องหองก็โมโหขึ้นมาตาม
สมควร

“เจ้ายังพูดได้ไม่อายปาก! ข้ามีฐานะเป็นสัตว์เทวะในตำนาน ไม่นึกเลยว่าจะ


ได้เกิดเป็นร่างมนุษย์ ทัง้ หมดนี้ เป็นเพราะเจ้า!”
เฟิ่ งจิว
่ จับๆ จมูก “ข้าจะรู ไ้ ด้อย่างไรว่าสิง่ ที่จินตนาการไปเรือ
่ ยเปื่ อยจะกลาย
เป็นจริง?”

“หึ!” เขาส่งเสียงหึหนั กๆ สองมือยกขึ้นกอดอกพลางเบือนหน้าออกไปไม่


ยอมมองเธอ

เฟิ่ งจิว
่ หัวเราะอย่างไม่คิดถือสา เธอลุกยืนขึ้นมองบริเวณรอบๆ “ไม่คิดเลย
ว่าใต้บอ
่ น้ำลึกจะมีสถานที่เช่นนี้ อยูจ
่ ริงๆ” พอนึ กถึงแรงดูดเมื่อครู ท
่ ี่หมุนดึง
เธอเข้ามา เฟิ่ งจิว
่ ก็ขมวดคิว
้ น้ อยๆ

“ไม่รูจ
้ ริงๆ ว่าผูห
้ ญิงเช่นนี้ กลายเป็นผูถ
้ ือพันธสัญญาของข้าได้อย่างไร
หน้าตาก็น่าเกลียด พละกำลังก็ออ
่ นด้อย ซ้ำยังชอบจับก้นคนอื่น เป็นหญิง
ลามกคนหนึ่ งแท้ๆ”

ตอนนี้ ในอ้อมแขนหงส์ไฟน้ อยโอบเปลือกไข่พวกนั ้นไว้ กำลังกินมันเสียงดัง


กรอบแกรบ เขากินไปพลางพร่ำบ่น ทัง้ ยังส่งสายตาก่นด่าไปทางเฟิ่ งจิว
่ อยู่
บ่อยครัง้

เฟิ่ งจิว
่ ได้ฟังก็ถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จึงยื่นมือไปเขกหัวเล็กๆ ของเขาที
หนึ่ ง “เจ้าเด็กน้ อย ไม่วา่ เจ้าจะยินยอมหรือไม่ เจ้าก็เป็นคนของข้าแล้ว จาก
นี้ ไปต้องปฏิบต
ั ิตามข้า”

ขณะพูด เธอมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ “ยังมีอก


ี เจ้าหิวมากขนาดนั ้นเลย
หรือไง? ขนาดเปลือกไข่ก็ยงั กินได้ลง?”
หงส์ไฟน้ อยมองค้อนใส่ และไม่หน
ั ไปสนใจเธออีกอย่างหยิง่ ผยอง

เปลือกไข่ของเขาเป็นของดี พอกินแล้วไม่เพียงเสริมสร้างพลังกายแก่เขา
แต่ยงั บำรุ งร่างกายให้แข็งแรงได้ด้วย หญิงคนนั ้นช่างไม่รูอ
้ ะไรเลยจริงๆ ก็
แค่เจ้าโง่คนหนึ่ งเท่านั ้น

“ดีล่ะ พวกเราไปกันเถอะ! ลองดูซิวา่ ที่นี่มีความพิเศษอะไรกันแน่ นึ กไม่


ถึงว่าจะมีแรงดูดแบบนั ้นดึงพวกเราเข้ามาได้” เฟิ่ งจิว
่ พูดพลางก้าวเดินไป
ด้านใน

เห็นได้เลยว่านี่ คือจวนลับที่ถูกทิง้ ร้างมาหลายปี แต่ไม่รูว้ า่ ทัง้ ที่จวนลับแห่งนี้


อยูใ่ ต้บอ
่ น้ำกลับไม่จมน้ำเลยได้อย่างไร?

หงส์ไฟน้ อยกอดเปลือกไข่ไว้ กินมันไปพลางเดินตามหลังเธอ เขาพินิจมอง


เงาร่างเบื้องหน้าอยูไ่ ม่หยุดหย่อน คิดว่าผูห
้ ญิงคนนี้ ชา่ งแปลกนั ก ทัง้ ที่พละ
กำลังอ่อนแอมาก แต่พอมาถึงสถานที่แบบนี้ กลับไม่ต่ ืนตกใจเลย

“ข้ารอมาหลายปีขนาดนี้ ในที่สุดก็มาแล้วคนหนึ่ ง สวรรค์ยงั ไม่ทอดทิง้ ข้า


สวรรค์ยงั ไม่ทอดทิง้ ข้าจริงๆ ฮ่าๆๆๆ…”

ทันใดนั ้น ในจวนลับมีน้ำเสียงซื่อตรงและไม่เกรงอกเกรงใจดังลอยมา ความ


ตื่นเต้นในน้ำเสียงพร้อมอานุภาพกดดันอันแรงกล้าสัน
่ สะเทือนอยูก
่ ลาง
อากาศ
แต่ที่น่าแปลกคือ เธอเห็นแรงกดดันมหาศาลนั ้นกระเพื่อมอยูใ่ นอากาศ
ราวกับลายคลื่นน้ำที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทว่ากลับไม่รูส
้ ึกไม่ดีเลยสักนิ ด

หรือเป็นเพราะการทำสัญญากับหงส์ไฟสัตว์เทวะในตำนาน?

เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็อดเหลือบมองเด็กชายตัวน้ อยด้านหลังซึ่งกำลังกัดกิน


เปลือกไข่ในอ้อมกอดไม่ได้

และแอบคิดว่า ‘ก็ยงั ดูไม่ออกจริงๆ ว่าเจ้าตัวเล็กแต่ไม่น้อยนี่ มีประโยชน์


อะไรขนาดนั ้น!’
ตอนที่ 44 ร่างเทพประทับ

“มองข้าทำไมอีก!” เด็กชายน้ อยถลึงมองเธอแวบหนึ่ ง

เฟิ่ งจิว
่ หัวเราะ ทันใดนั ้นก็หน
ั ตัวยื่นมือไปหยิกแก้มเล็กขาวเนี ยนของเขา “ข้า
ยิง่ ชอบเจ้าขึ้นเรือ
่ ยๆ แล้วสิ ทำยังไงดี?”

เมื่อได้ยน
ิ คำพูดนั ้น หงส์ไฟน้ อยเบิกตาอย่างตื่นตกใจ ใบหน้าเล็กอันงดงาม
ขึ้นสีแดง เขาพยายามทำท่าทางโกรธ แต่กลับดูกระมิดกระเมี้ยนอยูบ
่ า้ ง บน
ใบหน้ามีความเขินอายเจืออยูส
่ ักสามส่วน ความไม่พอใจอีกเจ็ดส่วน

“เจ้า เจ้าอย่าคิดว่าพูดแบบนี้ แล้วข้าจะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อเจ้าเชียวนะ


เจ้ามันก็แค่คนโง่! ข้าถึงได้ไม่ชอบเจ้า ยังมีอก
ี เจ้าอย่าได้จับมัว่ ซัว่ เช่นตาแก่
บ้าตัณหา ช่างไม่เหมือนผูห
้ ญิงเลยสักนิ ด!”

เขาหลับตาพูดอย่างหยิง่ ยโส ไม่มองไปที่เธอ

เฟิ่ งจิว
่ หัวเราะ รู ส
้ ึกเพียงว่าท่าทางเหนี ยมอายและไม่สบอารมณ์ ของเด็ก
ชายช่างน่ารักเสียจริง

“แม่เด็กน้ อย เข้ามาสิ มาให้ขา้ ลองดูเจ้าดีๆ”

น้ำเสียงซื่อๆ ไร้พษ
ิ ภัยดังแว่วมาอีกครัง้ แต่ครัง้ นี้ น้ำเสียงนั ้นเปล่งออกมา
พร้อมกับแรงดูดที่ดึงทัง้ ร่างเฟิ่ งจิว
่ เข้าไปด้านใน
“ผูห
้ ญิงโง่!”

หลังจากกินเปลือกไข่ หงส์ไฟน้ อยที่กำลังเช็ดปัดมือก็เห็นเธอถูกแรงนั ้นดึง


เข้าไปด้านใน เขาร้องลัน
่ ด้วยความกังวลอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะเร่งรีบตามไป

เฟิ่ งจิว
่ รู ส
้ ึกแค่วา่ ร่างกายขยับไม่ได้ แม้แต่เสียงตะโกนยังไม่ออก เกือบชัว่
พริบตาเดียวเธอก็ถูกม้วนมาถึงด้านในตรงเบื้องหน้าโครงกระดูกหัวกะโหลก

เวลาต่อมา มีพลังขุมหนึ่ งลุกล้ำเข้ามาในเส้นเอ็นของเธอ ภายใต้การบุกรุ ก


ของพลังนั ้น เธอรู ส
้ ึกว่าทัง้ ร่างคล้ายถูกเปิดเผยให้โล่งโจ่งอยูท
่ ่ามกลางแสง
อาทิตย์ เปลือยเปล่าเสียจนไม่มีความลับใดให้พูด

หงส์ไฟน้ อยตามเข้ามาก็กลับชนเข้ากับเขตอาคมจนถูกแยกไว้ด้านนอก ไม่มี


ทางเข้าใกล้เฟิ่ งจิว
่ ที่อยูด
่ ้านในได้เลย

พอเห็นทัง้ ร่างเธอยืนอยูเ่ บื้องหน้าโครงกระดูกไม่ขยับเขยื้อน เขาตะโกน


เสียงดังอย่างตื่นกลัวเล็กน้ อย “หญิงโง่! หญิงโง่เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ร่างเทพประทับ? เป็นร่างเทพประทับจริงรึ? ฮ่าๆๆๆ! นึ กไม่ถึงว่าข้าฉู่ ป้า


เทียนจะได้มาพบร่างเทพประทับที่หาได้ยากในรอบพันปี? ฮ่าๆๆ! สวรรค์ยงั
ไม่ทอดทิง้ ข้า สวรรค์ยงั ไม่ทอดทิง้ ข้า! ฮ่าๆๆๆ…”

เฟิ่ งจิว
่ ได้ยน
ิ เพียงน้ำเสียงที่ทัง้ ตื่นเต้นและดีใจกำลังหัวเราะร่า เมื่อพลังที่
พันธนาการเธอไว้ถูกดึงกลับ ทัง้ ร่างก็ทรุ ดลงนั ่งบนพื้นอย่างหมดเรีย
่ วหมด
แรง แล้วสบตากับโครงกระดูกเบื้องหน้าเข้าพอดิบพอดี
เพราะไม่รูส
้ ึกถึงจิตสังหาร และไม่รูส
้ ึกถึงความมุ่งร้าย ที่มีอยูก
่ ็แค่น้ำเสียงที่
ตื่นเต้นดีใจ ด้วยเหตุนี้เฟิ่ งจิว
่ จึงไม่กังวลใจอะไร เธอหันไปพูดกับหงส์ไฟน้ อย
ที่ถูกกันไว้นอกเขตอาคมว่า “ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง”

ถึงอย่างไรทัง้ สองคนก็มีพน
ั ธสัญญาวิญญาณกัน หลังจากหงส์ไฟน้ อยใจ
เย็นลงก็รูส
้ ึกว่าตอนนี้ เธอไม่เป็นอะไรแล้ว เขาจึงส่งเสียงหึข้น
ึ มาทันใด ก่อน
พูดอย่างกระสับกระส่ายเล็กน้ อย “ใครเป็นห่วงเจ้ากัน?” แต่ดวงตากลับยัง
คงมองไปด้านในเขตอาคมอย่างไม่อาจควบคุมได้ เขาอยากจะดูอาการเธอ
สักหน่ อย

ด้วยรู ถ
้ ึงความปากไม่ตรงกับใจของเขา เฟิ่ งจิว
่ ก็ไม่ถือสา แต่มาให้ความ
สนใจกับโครงกระดูกตรงหน้าแทน เธอเรียกหยัง่ เชิงไป “ผูอ
้ าวุโส?”

และตอนนั ้นเอง โครงกระดูกนั ้นเผยภาพหนึ่ งขึ้นมา ชายวัยกลางคนที่สวม


ชุดคลุมสีดำปรากฏตัวอยูก
่ ลางอากาศ เขามองเฟิ่ งจิว
่ ที่ด้านล่างด้วยสายตา
คมกริบที่มีแรงกดดันแฝงอยู่

“เจ้ามีรา่ งเทพประทับ แม่เด็กน้ อย เจ้าไม่ธรรมดาเลย!”

ไม่เพียงแต่มีรา่ งเทพประทับที่หาได้ยากยิง่ ในรอบพันปี ซ้ำยังเป็นผูถ


้ ือพันธ
สัญญาของหงส์ไฟสัตว์เทวะโบราณอีก เด็กสาวเช่นนี้ จะธรรมดาได้อย่างไร?

เป็นเพราะสวรรค์มีตา ก่อนที่หยดเลือดสุดท้ายของเขาจะสลายสิน
้ ยังส่งผูม
้ ี
พรสวรรค์ในการฝึกฝนวิชาเช่นนี้ มา ให้เขาได้ถ่ายทอดสืบต่อไป…
ตอนที่ 45 ผูพ
้ ช
ิ ต
ิ แห่งยุคสมัยหนึ่ ง

“ร่างเทพประทับ?” เฟิ่ งจิว


่ มองร่างนั ้นอย่างแปลกใจ แล้วถามว่า “ร่างเทพ
ประทับที่พบได้น้อยยิง่ ?”

ขออภัยที่เธอมาโลกนี้ ได้ไม่นาน ในเรือ


่ งการฝึกฝนวิชานี้ เธอยังไม่รูอ
้ ะไรมาก
จริงๆ ร่างเทพประทับยิง่ ไม่เคยได้ยน
ิ มาก่อน

“ร่างเทพประทับคือผูม
้ ีพรสวรรค์ในการฝึกฝน ไม่เพียงฝึกฝนพลังเร้นลับ
และพลังวิญญาณได้ หนำซ้ำความเร็วในการฝึกจะยิง่ มากกว่าคนอื่นๆ เป็น
สิบเท่า”

ชายวัยกลางคนมองเธอพลางผุดรอยยิม
้ ก่อนจะพูดต่อ “ในทางกลับกัน คน
อื่นๆ ต้องใช้เวลาสิบปีในการฝึกฝนให้ถึงระดับปรมาจารย์นักรบ หากเป็นเจ้า
อาจใช้แค่ปีเดียวก็สามารถฝึกถึงระดับปรมาจารย์นักรบได้ ความเร็วการฝึก
เช่นนี้ เรียกกันว่าสุดยอดผูม
้ ีพรสวรรค์”

พอได้ฟัง เฟิ่ งจิว


่ ก็นิ่งไปสักพัก พูดว่า “เป็นไปไม่ได้หรอกมัง้ ? ข้าเคยลองฝึก
การดึงพลังเข้าร่าง ก็ไม่รูส
้ ึกว่าร่างกายตัวเองมีอะไรแตกต่าง และยิง่ ไม่มี
เรือ
่ งอย่างที่ท่านผูอ
้ าวุโสกล่าวว่าข้าฝึกฝนได้เร็วเกิดขึ้นเลยด้วย”

ตอนดึงพลังเข้าร่างเธอใช้เวลาไปไม่น้อย และตัง้ แต่เริม


่ ฝึกฝนมาจนถึงตอน
นี้ กลิน
่ อายพลังเร้นลับในร่างก็ยงั ไม่น่าอวดเท่าไหร่
“นั ่นเพราะเส้นลมปราณพลังเร้นลับและพลังวิญญาณในตัวเจ้ายังไม่ถูก
เปิด”

เขาจ้องเธอด้วยแววตาเป็นประกาย “ข้าหวังว่าเจ้าจะกราบข้าเป็นอาจารย์
แบบนี้ แล้ว ข้าจะเปิดเส้นลมปราณเร้นลับและวิญญาณให้แก่เจ้า ช่วยเจ้า
ฝึกฝน”

หากเป็นผูอ
้ ่น
ื เมื่อได้ฟังผูแ
้ กร่งกล้าเช่นนี้ พูดรับตัวเองเป็นศิษย์ เดาว่าคง
ตอบรับอย่างไม่ต้องคิด ทว่าหลังจากเฟิ่ งจิว
่ ได้ยน
ิ คำพูดนั ้นกลับเลิกคิว
้ ขึ้น
น้ อยๆ ดวงตาที่กำลังครุ น
่ คิดก็มองผู้อาวุโสอยูน
่ านโดยไม่ปริปาก

“เจ้าไม่ยน
ิ ยอมรึ?”

เมื่อเห็นเฟิ่ งจิว
่ ไม่มีปฏิกิรย
ิ ายินดีปรีดา เขาก็ขมวดคิว
้ แล้วปล่อยแรงกดดัน
ออกมา กลับพบว่าแรงกดดันของเขาไม่มีผลกระทบอะไรต่อผูท
้ ำสัญญากับ
สัตว์เทวะโบราณเช่นเธอเลย ตอนนี้ ทำอะไรไม่ได้ เขาจึงถอนหายใจ

“เจ้าไม่ต้องกังวลว่าข้าจะมีเป้าหมายอะไร ข้าแค่หวังว่าหลังจากเจ้ากลาย
เป็นลูกศิษย์ขา้ แล้วจะสามารถช่วยข้าทำธุระสักสามเรือ
่ ง”

ได้ยน
ิ เช่นนั ้น เฟิ่ งจิว
่ คิดแล้วคิดอีก ก่อนจะพูดว่า “ผู้อาวุโสโปรดพูดให้ขา้
ลองฟังก่อน ถ้าข้าสามารถทำได้ และไม่ขด
ั ต่อนิ สัยใจคอของข้า ข้าก็รบ
ั ปาก
ได้”
ชายวัยกลางคนได้ยน
ิ คำพูดนั ้นก็หว
ั เราะเสียงดัง “ดี! ข้าเห็นว่าเจ้าเองก็เป็น
คนที่มักทำอะไรตามใจตน เทียบกับนิ สัยของข้าแล้วมีส่วนที่เหมือนกันอยู่
บ้าง”

เฟิ่ งจิว
่ ยิม
้ ๆ ไม่ได้พูดอะไร

“เด็กน้ อย เดิมข้าเป็นเจ้าวังแห่งวังกำเนิ ดสวรรค์ นามว่าฉู่ ป้าเทียน เมื่อครัง้


ยังรุ ง่ โรจน์ ไม่มีใครอาจหาญเป็นศัตรู กับข้า ข้าถือกระบีอ
่ อกท่องทัว่ หล้ามา
ตลอดชีวต
ิ ! ขอแค่เป็นเรือ
่ งที่ขา้ คิดว่าถูกต้อง ก็จะทำอย่างแน่ นอน ในปี
นั ้น…”

เขาเล่าเรือ
่ งชีวต
ิ ที่ผา่ นมาให้เฟิ่ งจิว
่ ฟังอย่างละเอียด เธอเองก็ตัง้ ใจฟัง จาก
คำพูดของเขา เธอรู เ้ ลยว่าเขาเป็นคนที่มักทำอะไรตามอำเภอใจ แต่เพราะ
ประพฤติทำตามใจตัวเองเกินไปจึงถูกสำนั กเซียนมองเป็นมารนอกรีต

เขามีกระบีท
่ ี่ตัดเหล็กได้เหมือนตัดโคลนนามว่าคมพยับ เซียนสายธรรมผู้
หนึ่ งจ้องจะครอบครองกระบีค
่ มพยับของเขา จึงกล่าวหาว่าเขาฆ่าล้างบาง
เหล่าสามัญชนในหมู่บา้ น เป็นเหตุให้เขาโดนผูแ
้ กร่งกล้าจากแต่ละฝั่ งฝ่าย
ตามฆ่า ผูอ
้ าวุโสระดับจักรพรรดินักรบเช่นเขาหาได้หวาดกลัวเหล่าผูฝ
้ ึก
เซียนที่พละกำลังต่ำต้อยกว่าตน

ทว่าเจ้าพวกนั ้นกลับจับคนในตระกูลเขามาข่มขู่ ส่วนเขาที่บาดเจ็บสาหัสก็


ต้องหนี มาที่นี่ สุดท้ายสิน
้ ใจไปเพราะไม่ได้รบ
ั การรักษา ตลอดหลายปีมานี้
เขาเฝ้ารอคนที่มีวาสนาพอจะมาถึงที่นี่ได้เพื่อรับการสืบทอดจากเขา ฟื้ นฟู
วังกำเนิ ดสวรรค์ และบรรลุเจตจำนงของเขา
“เรือ
่ งแรกคือฟื้ นฟูวงั กำเนิ ดสวรรค์ เช่นนั ้นเรือ
่ งที่สองกับสามเล่า?”

“เรือ
่ งที่สอง ต้องเข้าไปหากระบีค
่ มพยับกลับมาจากสุสานหมื่นกระบี่ ส่วน
เรือ
่ งที่สาม…”

น้ำเสียงเขาชะงักลงเล็กน้ อย ก่อนถอนหายใจออกมา “ปีนั้นข้าตามใจตัวเอง


เกินไป จนเป็นภัยต่อครอบครัว โดยเฉพาะตอนนั ้นที่ภรรยาข้ากำลังจะคลอด
ลูกพอดี ผ่านไปหลายปี ไม่รูพ
้ วกเขาเป็นเช่นไรบ้าง? ข้าอยากให้เจ้าช่วยข้า
ตามหาพวกเขา ลองไปดูวา่ พวกเขายังใช้ชว
ี ต
ิ กันสุขสบายดีหรือไม่”
ตอนที่ 46 แหวนพิศวง

ครัน
้ ได้ฟังคำขอที่ไม่เกินตัวนั ก เฟิ่ งจิว
่ ถึงจะพยักหน้า เธอผุดยิม
้ ถามไป “ใน
เมื่อนั บถือท่านเป็นอาจารย์ หรือว่าผูอ
้ าวุโสก็แค่ชว
่ ยข้าเปิดเส้นลมปราณ
พลังเร้นลับพลังวิญญาณ?”

หากไม่มีผลประโยชน์ อ่น
ื ใดจริงๆ การฝากตัวครัง้ นี้ เธอก็เสียเปรียบเกินไป

“ฮ่าๆๆ มีมากกว่านั ้นแน่ นอน” ชายวัยกลางคนหัวเราะเสียงดัง สายตาที่มอง


เฟิ่ งจิว
่ ยิง่ ดูเริงร่าขึ้น

ได้ยน
ิ เช่นนั ้น เธอก็ไม่พูดอะไรมากอีก คุกเข่าลงแล้วคารวะนั บถือเขาเป็น
อาจารย์ “ท่านอาจารย์ผูส
้ ูงส่ง โปรดรับการคารวะจากศิษย์เฟิ่ งจิว
่ ด้วย!” พูด
พลางโค้งหัวคำนั บเขาอย่างเคารพนอบน้ อม

“ดีๆๆ ในที่สุดข้าฉู่ ป้าเทียนมีผูส


้ ืบทอดแล้ว! ฮ่าๆๆๆ…” เขาหัวเราะอย่างตื่น
เต้น และพูดว่า “แม่หนู เจ้าหยิบก้อนอิฐชิน
้ ที่สามจากข้างมือซ้ายโครง
กระดูกออกมาสิ ด้านในนั ้นมีของที่อาจารย์จะมอบให้เจ้าอยู”่

“ได้เจ้าค่ะ” เฟิ่ งจิว


่ ขานรับ มือเธอเคาะๆ ลงบนก้อนอิฐชิน
้ ที่สาม มันกลวงอยู่
จริงๆ เธอใช้กริชแงะเปิดก้อนอิฐชิน
้ นั ้นออก เห็นว่าด้านในมีกล่องไม้เล็กๆ
อยูจ
่ ึงหยิบมันออกมา

“ท่านอาจารย์ ทำไมถึงเปิดไม่ออกล่ะ?” ชัดเจนว่ากล่องไม้เล็กไม่ได้ล็อคไว้


แต่กลับเปิดไม่ออก
“นั ่นเพราะอาจารย์ลงปิดผนึ กไว้ คนธรรมดาเปิดไม่ออกหรอก” ฉู่ ป้าเทียน
พูดยิม
้ ๆ เขาสะบัดมือ มีลำแสงสายหนึ่ งแวบผ่านตัวกล่องไป “ได้แล้ว เจ้า
หยิบของด้านในออกมาสิ”

เฟิ่ งจิว
่ เปิดมันอีกครัง้ อย่างเชื่อครึง่ ไม่เชื่อครึง่ รอบนี้ กลับเปิดออกได้อย่าง
ง่ายดาย ทว่าด้านในก็มีแค่แหวนวงหนึ่ งที่ดูไม่โดดเด่นเท่าไหร่ ซ้ำยังมีสนิ ม
เกาะอยูน
่ ิ ดหน่ อย

เธอทำหน้าเอือมระอา “ท่านอาจารย์ นี่ คือของล้ำค่าที่ท่านว่ารึเจ้าคะ?” เธอ


หยิบมาดูแล้วดูอก
ี มองไม่ออกเลยว่ามันมีอะไรพิเศษ

“เหอะๆ ข้าไม่รูจ
้ ริงๆ ว่าเด็กน้ อยเช่นเจ้าโผล่มาจากที่ใด หรือว่าแม้แต่แหวน
มิติก็ไม่เคยได้ยน
ิ เลยรึ?”

ฉู่ ป้าเทียนส่ายหน้ายิม
้ ๆ “เจ้าอย่าได้ดูถูกแหวนวงนี้ เชียว มันไม่ใช่แหวนมิติ
ธรรมดาๆ นอกจากเก็บสิง่ ของ ด้านในยังมีอก
ี โลกหนึ่ งใบในตัว แม้แต่สิง่ มี
ชีวต
ิ ก็สามารถใส่เข้าไปได้ หนำซ้ำเวลาของอาหารที่ใส่ไปด้านในจะหยุดนิ่ ง
และไม่เน่าเสีย”

“น่าอัศจรรย์ขนาดนี้ เลย? ของมีค่าเช่นนี้ ท่านอาจารย์ได้มาได้อย่างไรกัน?


เทียบกับกระบีค
่ มพยับ สิง่ นี้ คงจะประเมินค่าไม่ได้ยงิ่ กว่าอีกนะ!” มีสิง่ ของ
เช่นนี้ คนอื่นยังจะต้องตากระบีค
่ มพยับเล่มนั ้นของเขาอีกรึ?

“แหวนมิติวงนี้ อาจารย์ได้มาโดยบังเอิญ ปีนั้นอาจารย์ทำเหมือนมันเป็นแค่


ของธรรมดาทัว่ ไป ยังไม่รูว้ า่ เป็นแหวนมิติ ถึงอย่างไรแหวนมิติก็ไม่ใช่สิง่ ที่
พบเห็นได้ในสถานที่นี้ ตอนหลังที่บาดเจ็บหนั กมาถึงที่นี่ ภายใต้โชคชะตา
เลือดของอาจารย์หยดลงไปในแหวน ถึงได้รูว้ า่ นี่ คือแหวนมิติ”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงเขาชะงักลง ก่อนพูดว่า “หลังจากอาจารย์สิน


้ ใจ
พันธสัญญาวิญญาณของแหวนมิติวงนี้ ก็สลายไป เจ้าแค่ใช้หยดเลือดแสดง
ตัวเป็นเจ้าของก็เข้าไปด้านในได้แล้ว ด้านในห้วงมิติมีสมบัติใช้ฝึกวิชาที่ขา้
สัง่ สมมาตลอดชีพ พวกนั ้นล้วนเป็นของขวัญที่อาจารย์เหลือทิง้ ไว้ให้เจ้า”

“แหวนมิติวงนี้ ตัวข้าเองก็เข้าไปได้รเึ จ้าคะ?” สองตาเธอเป็นประกาย


ประหลาดใจเล็กน้ อย แอบคิดว่า ‘หากเป็นเช่นนี้ จริง จากนี้ เวลาที่ถูกคนตาม
ฆ่าจนไม่มีที่ให้หนี ก็เข้าไปซ่อนตัวในมิติได้สิ?’

ฉู่ ป้าเทียนไม่รูค
้ วามคิดเธอ หากรู เ้ ข้าคงกลัดกลุ้มตายแน่ ของล้ำค่าเช่นนี้
นึ กไม่ถึงว่าเธอคิดแค่จะใช้หลบหนี ตอนถูกตามฆ่า ช่างทะเยอทะยานเกินไป
แล้ว

“เจ้าของห้วงมิติสามารถเข้าไปได้ เพียงแต่ด้านในแหวนวงนี้ เหมือนจะยังมี


เขตแดนปิดกัน
้ อยู่ ตอนแรกอาจารย์หมดกำลังใกล้ตายจึงไม่อาจตรวจสอบ
ให้ชด
ั เจน รู แ
้ ค่ด้านในเก็บสิง่ มีชว
ี ต
ิ ได้ ส่วนเรือ
่ งอื่นวันหลังเจ้าก็ค่อยๆ
สำรวจเอาเองเถิด”

ขณะที่พูดเขามองยังเธอ กล่าวว่า “หยดเลือดสุดท้ายของอาจารย์จะหมดสิน



แล้ว เจ้าเดินเข้ามา อาจารย์จะเปิดเส้นเลือดเส้นเอ็นให้เจ้า”
ตอนที่ 47 ส่งไปสุสานกระบี่

เมื่อได้ยน
ิ คำพูดนั ้น เฟิ่ งจิว
่ ปรายตามองเขา เห็นเงาร่างเขาค่อยๆ อ่อนจาง
ลง เธอถึงเดินเข้าไป

เธอรู ว้ า่ ที่เงาร่างเขาลอยตัวอยูก
่ ลางอากาศได้ในตอนนี้ ก็เพราะดวงจิตที่
หลงเหลืออยูใ่ นเลือดหยดสุดท้าย ขอแค่ดวงจิตและหยดเลือดนั ้นสลายไป
เขาก็จะหายจากโลกนี้ ไปตลอดกาล…

“ตัง้ จิตตัง้ ใจ ทำใจให้สงบ ขัน


้ ตอนจะเจ็บหน่ อย แต่เจ้าต้องทนไว้”

ฉู่ ป้าเทียนพูดเสียงเข้ม ก่อนจะใช้พลังเลือดหยดสุดท้ายห้อมล้อมกายเธอไว้


เพียงเห็นว่าลำแสงที่มองได้ด้วยตาเปล่ากำลังพรัง่ พรู อยูบ
่ นเรือนร่าง คืบ
คลานเข้ามาในเส้นเอ็นของเธอเพื่อเปิดขยายมัน…

เจ็บ!

เจ็บจนแทบขาดใจ!

เส้นเอ็นทัว่ ร่างเธอถูกกระแสลมกำลังมหาศาลฝืนเค้นเปิดขยาย จากเล็กให้


ใหญ่ข้น
ึ ขยายซะจนเหมือนจะระเบิดออกตอนไหนก็ได้ ความเจ็บนั ้นทำให้
เธอเหงือ
่ ออกไปทัง้ ร่าง ยากเกินทนยิง่ กว่าถูกใครเอามีดมาฟันบนร่างเสียอีก

แต่เธอก็กัดฟันกรอด ไม่รอ
้ งเลยสักแอะ สองมือกำหมัดแน่ น เล็บมือจึงจิก
แทงเข้าในฝ่ามือจนเลือดไหลซิบๆ
หงส์ไฟน้ อยที่อยูน
่ อกเขตอาคมเห็นใบหน้านางซีดเผือดก็เดินไปเดินมาอย่าง
พะว้าพะวง อยากจะส่งเสียงไปก็กลัวจะรบกวนนาง ทำได้เพียงเบิกตากว้าง
มองนางฝืนรับความทรมานของการขยายเส้นเอ็นอยูด
่ ้านใน

ผ่านไปประมาณครึง่ ชัว่ ยาม ถึงจะเห็นกลิน


่ อายพลังที่หอ
่ หุม
้ ตัวนางสลายไป
ทัง้ ร่างนางทรุ ดลงนั ่งบนพื้นอย่างหมดเรีย
่ วแรง พลางหอบหายใจเฮือกใหญ่

เห็นท่าทางแล้ว หงส์ไฟน้ อยก็กระโดดขึ้นมาเบาๆ รีบร้อนตะโกนไป “หญิง


โง่? เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

เฟิ่ งจิว
่ ฝืนหยัดร่างกายที่ไร้เรีย
่ วแรงลุกยืนขึ้น มองเงาร่างของภาพลวงตา
นั ้นพลางถามว่า “ท่านอาจารย์ ท่านเป็นยังไงบ้าง?”

ฉู่ ป้าเทียนมองเธอ กล่าวเตือนว่า “เด็กน้ อย ตอนที่เจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอจะ


ปกป้องตัวเอง จงจำไว้วา่ ต้องทำตัวให้นอบน้ อม อย่าให้ใครรู ว้ า่ เจ้าคือร่าง
เทพประทับ มิเช่นนั ้นเกรงว่าจะนำมาซึ่งหายนะแห่งความตาย โลกของการ
บำเพ็ญเซียนนั ้นโหดร้าย ต่อให้เจ้าเป็นสุดยอดผูม
้ ีพรสวรรค์ในการฝึกวิชา
แต่กำเนิ ด ก็ต้องเติบใหญ่ข้น
ึ มาให้ได้”

“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ ข้าทราบแล้ว” เธอพยักหน้า ในใจมีกระแสธารอุน


่ วาบ
ผ่าน

“เรือ
่ งการฝึกฝนวิชาอาจารย์ไม่มีทางชีแ
้ นะเจ้าได้ หลังจากเจ้ากลับไปจง
ตัง้ ใจฝึกวิชาในห้วงมิติ อนาคตค่อยให้อาจารย์สักคนมาคอยชีแ
้ นะ แต่เจ้า
ต้องจำไว้ การระวังผูอ
้ ่น
ื นั ้นไม่ควรขาด เรือ
่ งที่รา่ งกายเจ้ามีความล้ำค่าที่หา
ได้ยากยิง่ จะให้ใครอื่นคนรู ไ้ ม่ได้เด็ดขาด”

“เจ้าค่ะ” เธอผุดยิม
้ ออกมา เวลานี้ ในที่สุดเธอก็ยอมรับว่าเขาเป็นอาจารย์
ของเธอแล้ว

“ที่ก้นบึ้งบ่อน้ำแห่งนี้ พวกเจ้าเดินออกไปไม่ได้ สุดท้ายอาจารย์จะส่งพวกเจ้า


ไปที่สุสานหมื่นกระบี่ หลังจากเจ้าหากระบีค
่ มพยับพบก็อย่าให้ใครเห็นได้
ง่ายๆ มิเช่นนั ้น กระบีค
่ มพยับจะชักนำอันตรายมาหาเจ้า” เขากำชับอีกหลาย
ครัง้

“ท่านอาจารย์ หากเข้าไปในสุสานหมื่นกระบีแ
่ ล้วข้าจะหากระบีค
่ มพยับเจอ
ได้อย่างไร?”

“สุสานหมื่นกระบีค
่ ือสถานที่ฝังกระบี่ ทว่าทุกคนที่เข้าไปในสุสานกลับไม่อาจ
หากระบีท
่ ี่เหมาะสมกับตัวเองได้จากที่นั่นกันหมด กระบีม
่ ีจิตวิญญาณ มัน
จะเลือกนายของตัวเอง กระบีค
่ มพยับก็เช่นเดียวกัน”

เสียงเขาชะงักเล็กน้ อย ก่อนจะพูดต่อ “แต่บนร่างเจ้ามีเลือดของข้าอยู่ หยด


เลือดนั ้นสามารถช่วยให้เจ้ารู ส
้ ึกถึงที่อยูข
่ องกระบี่คมพยับได้ ทว่าเจ้าจะได้
รับการยอมรับจากมันหรือไม่ยงั ต้องดูที่ตัวเจ้าเอง หากครัง้ นี้ เจ้าไม่อาจนำ
กระบีค
่ มพยับกลับมา ภายหน้าก็ต้องนำมันออกมาจากสุสานกระบีใ่ ห้จงได้”

“เจ้าค่ะ”
ครัน
้ เธอรับปาก ก็เห็นเขาสะบัดมือ เขตอาคมสลายไป หงส์ไฟน้ อยจึงวิง่ เข้า
มา

ต่อจากนั ้น เธอเห็นในมือเขาปรากฏสิง่ ของที่คล้ายม้วนหนั งสือ เพียงได้ยน



เสียงเขากล่าวว่า ‘ไปซะ!’ จากนั ้นทัง้ สองก็ถูกม้วนหนั งสือนั ้นดูดเข้าไป…
ตอนที่ 48 ตามหากระบีค
่ มพยับ

เมื่อเฟิ่ งจิว
่ ได้สติกลับมาอีกครัง้ เธอกับหงส์ไฟน้ อยก็มาอยูก
่ ลางสุสานกระบี่
แล้ว พอทอดมองออกไปเต็มไปด้วยกระบี่ อีกทัง้ มีพลังกระบี่รุนแรงลอยอยู่
ในอากาศ

เธอก้มหน้ามองเด็กชายตัวน้ อยที่กำลังดึงชายเสื้อตัวเองอยู่ ถึงค่อยคลาย


ฝ่ามือออก ด้านในมีแหวนที่ดูไม่สะดุดตาวงนั ้นอยู่ เธอกัดนิว
้ หยดเลือดลงไป
ก็เห็นเพียงแหวนที่เดิมเคยมีรอยสนิ มส่องแสงวาววับ คืนสภาพเหมือนของ
ใหม่ แค่ยงั คงไม่มีอะไรเตะตาเช่นเดิม

เธอสวมแหวนเข้าที่นิว
้ มือ แหวนนั ้นเปลี่ยนขนาดให้พอดีกับนิว
้ มือเธอด้วย
ตัวมันเอง เธอส่งดวงจิตเข้าไปสำรวจด้านใน เป็นอย่างที่อาจารย์พูดไม่มีผด

ด้านในนั ้นมีหว
้ งมิติที่เก็บของมีค่าและตำราไว้ไม่น้อย ขณะที่เธอจะเข้าไป
สำรวจอีกหน่ อย กลับพบว่ามีพลังงานบางอย่างสกัดกัน
้ เธอออกมา

เธอดึงดวงจิตกลับ ไม่เข้าไปสำรวจด้านในอีก แต่พอมองยังภูเขากระบี่


มากมาย ก็ถอนหายใจออกมา “ไม่คิดเลยว่าต้องมาหากระบีค
่ มพยับจากใน
กองกระบีม
่ ากมายขนาดนี้ ? ดูท่าจะไม่ใช่เรือ
่ งง่ายเสียแล้ว!”

“ต่อให้หากระบีค
่ มพยับไม่เจอ หาเล่มอื่นไปแทนก็ได้ ในสุสานมีกระบีด
่ ีๆ อยู่
ไม่น้อยเลยนะ” หงส์ไฟน้ อยพูดต่อจากเธอตามสัญชาตญาณ ทว่าเมื่อพูดไป
กลับเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงมองเธอเขม็ง พูดอย่างจองหองว่า “เจ้าอย่า
คิดมากล่ะ ข้าไม่ได้จะคิดเผื่อเจ้าเสียหน่ อย”
“ได้ๆๆ”

เฟิ่ งจิว
่ หัวเราะ เธอจูงมือเจ้าเนื้ อที่น่ ม
ุ นิ่ มของเขาขึ้นมา แล้วเดินไปด้านใน
“ไปกันเถอะ! ในเมื่อมาแล้ว ก็ลองวนๆ ดู เวลาสามชัว่ ยาม ถ้าหากระบีท
่ ี่
เหมาะสมไม่เจอก็จะถูกส่งออกไป พวกเราต้องรีบทำเวลาหน่ อย”

พอโดนนางจูงมือ หงส์ไฟน้ อยส่งเสียงหึอย่างอึดอัดนิ ดหน่ อย แต่เขากลับไม่


สะบัดมือนางออก ปล่อยให้นางจูงมือพาเดินไปด้านใน

กระบีร่ อบๆ มีพลังกระบีเ่ ฉี ยบคมแผ่ออกมา แต่ละเล่มล้วนถูกเสียบไว้บนพื้น


มีคมบางเล่มที่ข้น
ึ สนิ มแล้ว เดินไปสักพักก็ไม่รูส
้ ึกถึงที่อยูข
่ องกระบีค
่ มพยับ
เลย ดังนั ้น เธอจึงอยากจะลองดูสักหน่ อยว่ากระบีน
่ ั ้นเลือกเจ้านายเช่นที่
อาจารย์บอกไว้จริงๆ หรือไม่?

เธอเข้าไปจับกระบีเ่ ล่มหนึ่ งแล้วลองดึงมันขึ้นมา ทว่ากระบีเ่ ล่มนั ้นกลับ


เสียบไว้บนพื้นอย่างแน่ นหนา ไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว ขณะที่เธอคิดจะ
ออกแรงลองอีกสักรอบ ก็รูส
้ ึกถึงพลังกระบี่อน
ั เยือกเย็นที่แผ่ออกมาจากตัว
กระบี่ ทำให้ต้องดึงมือกลับในทันที

“จิๆ
๊ น่าอัศจรรย์จริงๆ” เธอกล่าวด้วยความตื่นตาตื่นใจ ประกายแสงแห่ง
ความอยากรู อ
้ ยากลองในดวงตาก็ยงิ่ สว่างขึ้น

“มีอะไรน่าอัศจรรย์นัก? กระบีใ่ นสุสานเป็นเช่นนี้ มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว” หงส์


ไฟน้ อยพูดพลางมุ่ยปาก ศีรษะเล็กๆ เงยมองหญิงโง่ที่เหมือนพวกมือใหม่
ไม่มีผด
ิ เพีย
้ น ขมวดคิว
้ บอกว่า “เจ้าคงไม่ได้คิดจะเดินหาช้าๆ อยูใ่ นนี้ หรอก
นะ?”

เมื่อได้ฟังคำพูดนั ้น เฟิ่ งจิว


่ นิ่ งไป “ถ้าไม่เช่นนั ้นล่ะ?”

หงส์ไฟน้ อยแสดงสีหน้าเหมือนเป็นไปตามคาด มองนางด้วยสายตาที่เต็มไป


ด้วยการดูแคลน “เจ้าโง่มากอย่างที่ขา้ คิดไว้เลย”

พอโดนดูถูกเอาเสียดื้อๆ เฟิ่ งจิว


่ ก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก ใครใช้ให้เธอไม่เข้าใจ
อะไรเลยจริงๆ ล่ะ!

“คนผูน
้ ั ้นไม่ได้ทิง้ พลังเลือดลมไว้ให้เจ้าหรือ? เจ้าหลับตาลงสัมผัสสักหน่ อย
ลองดูวา่ รอบๆ นี้ มีกลิน
่ อายของกระบีค
่ มพยับอยูห
่ รือไม่!”

“แบบนี้ ก็ได้ร?ึ ”

เด็กน้ อยเชิดคางขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “กระบีค


่ มพยับไม่ใช่กระบี่
ธรรมดา ยิง่ ไม่ต้องพูดถึงเรือ
่ งที่บนร่างเจ้ามีพลังเลือดลมของนายคนก่อน
อยูเ่ ลย เจ้าจะรู ส
้ ึกถึงที่อยูข
่ องมันได้อย่างแน่ นอน”

“งัน
้ ข้าจะลองดู”

พูดว่าจะทำก็ทำ ตอนนี้ เฟิ่ งจิว


่ หลับตาลงโดยไม่คิดอะไร แค่สัมผัสถึงพลัง
กระบีใ่ นสุสานนี้ ไปเงียบๆ เวลาประมาณครึง่ ก้านธูป[1] เธอพลันลืมตาขึ้น
ในดวงตาตื่นเต้นยินดี
[1] หนึ่ งก้านธูป เป็นคำเรียกเวลาโดยประมาณของคนจีนโบราณ บางตำรา
ว่าประมาณครึง่ ชัว่ โมง บางตำราว่าหนึ่ งชัว่ โมง

“หาเจอแล้ว! อยูด
่ ้านนั ้น!” พอรู ส
้ ึกถึงกลิน
่ อายของกระบีค
่ มพยับได้จริงๆ ใน
ใจเธอปลื้มปริม
่ อย่างมาก
ตอนที่ 49 คมพยับเลือกนาย

เธอพาหงส์ไฟน้ อยมาถึงสถานที่ที่มีพลังกระบีข
่ องกระบี่คมพยับกระจายอยู่
นั ่นคือยอดเขาเล็กๆ ด้านบนมีกระบี่หลายชนิ ดปักอยูเ่ ต็มไปหมด และกระบี่
คมพยับก็อยูต
่ รงจุดเหนื อสุดของยอดเขา ตอนนี้ ตัวกระบีม
่ ีพลังกระบีอ
่ น

รุ นแรงลอยคุ้ง เสียงร้องเบาๆ ของกระบี่ลอยเข้ามาในดวงจิต ทำให้เธอ
ใจหาย

“นั ่นก็คือกระบีค
่ มพยับสินะ?”

เธอจ้องมองกระบีค
่ มเล่มนั ้นที่กำลังส่องแสงเย็นเยียบอยูบ
่ นยอดเขาเล็กๆ
ด้วยสายตาเป็นประกาย ในใจเธอมีความรู ส
้ ึกดุเดือดเลือดพล่าน ความรู ส
้ ึก
นั ้นช่างน่าพิศวงยิง่ นั ก

หึ่ง!

เสียงร้องกระบีล
่ อยเข้าหู เธอยืนอยูด
่ ้านล่างยอดเขาเล็ก ก็เห็นว่ากระบีค
่ ม
พยับที่บนยอดกำลังสัน
่ ไหว เสียงร้องดังลอยออกมาจากตัวกระบี่ ราวกับมัน
แผดเสียงอย่างตื่นเต้น พลังกระบีบ
่ นตัวมันยิง่ รุ นแรง จนกระทัง่ กระบี่คม
พยับดึงตัวเองขึ้นมาเสียงดังชิง้ ก่อนจะเคลื่อนผ่าตรงมาทางเธอจากยอด
เขา

หงส์ไฟน้ อยเห็นภาพตรงหน้าก็ประหลาดใจเล็กน้ อย วิญญาณกระบีจ


่ ะเลือก
นาย แต่ขนาดยังไม่ข้น
ึ ไปก็ดึงออกมาเองเหมือนเธอเช่นนี้ กลับเห็นได้น้อย
นั ก
เขาพินิจมองเธอด้วยแววตาแปลกๆ ดูไม่ออกเลยว่าเธอมีอะไรพิเศษกันแน่

ฟิ้ ว!

กระบีย
่ าวร่วงลงพื้น ปลายดาบนั ้นเสียบลงกลางพื้นดินตรงข้างขวามือของ
เฟิ่ งจิว
่ พอดิบพอดี

เฟิ่ งจิว
่ ยื่นมือไปคว้ากระบีค
่ มพยับเล่มนั ้น เพียงรู ส
้ ึกถึงการสัน
่ สะเทือน
อันรุ นแรงพร้อมกับเสียงร้องของกระบี่ที่ลอยมาจากตัวมัน ตรงไปถึงจิต
วิญญาณของมัน มือเธอออกแรงดึงกระบีอ
่ อกมาเบาๆ จนมีเสียงดังชิง้ ตัว
มันส่องแสงเย็นเยียบ และกระบีท
่ ี่เคยมีสนิ มขึ้นเครอะก็กลายเป็นดัง่ กระบีท
่ ี่
ถูกหลอมขึ้นใหม่เพียงชัว่ พริบตา

พอเห็นแสงสีดำที่สะท้อนอยูจ
่ างๆ บนตัวกระบี่ อักษรชื่อคมพยับที่สลักบน
ตัวกระบีก
่ ็ประกายแสงเยือกเย็นขึ้นมาอีกชัน
้ เธอเอ่ยชมอย่างอดไม่ได้ “ช่าง
เป็นกระบีท
่ ี่ดีจริงๆ!” เธอหมุนดาบในมือ แล้วร่ายรำไปหนึ่ งกระบวนท่า ก็
เห็นพลังกระบีอ
่ น
ั หนาวยะเยือกตวัดชิง้ ๆ ไปกลางอากาศ มันคมมากทีเดียว

“ท่านอาจารย์นึกไม่ถึงเป็นแน่ ว่ากระบีค
่ มพยับจะเลือกข้าเป็นนายด้วยตัว
เอง” เธอยิม
้ เบาๆ ก่อนจะเก็บกระบีค
่ มพยับไว้ด้านในแหวนห้วงมิติ ถึงจะนึ ก
ขึ้นได้วา่ ยังไม่ถึงสามชัว่ ยาม พวกเขาก็ยงั ออกไปไม่ได้สิ?

“ถึงยังไงตอนนี้ พวกเราก็ออกไปไม่ได้ ไม่สู้หาที่นั่งพักสักหน่ อยเถอะ! ตอนข้า


ลองดูในห้วงมิติ เผอิญเห็นพวกหนั งสืออะไรสักอย่างเข้าพอดีเลย” เธอพูด
พลางก็จูงมือหงส์ไฟน้ อยไปหาสถานที่ที่มีพลังกระบี่ไม่หนั กมากนั ก แล้ว
ค่อยนั ่งลง

ระหว่างที่เธอดึงหนั งสือซึ่งมีกลิน
่ อายซ่อนเร้นออกจากในห้วงมิติมาอ่าน ก็
พลันรู ส
้ ึกถึงสายตาเด็กชายน้ อยที่จับจ้องใบหน้าเธออยูต
่ ลอด จึงเปรยตาขึ้น
มองถามอย่างยิม
้ ๆ “เป็นอะไรเล่า?”

พอถูกจับได้วา่ แอบมอง เขาก็รบ


ี เบนสายตาออกไปอย่างเขินอายน้ อยๆ และ
ไม่กล้าหันไปมองเธออีก

แต่ก็ทนความสงสัยในใจไม่ได้ ดังนั ้น เขาจึงลังเลสักพัก แต่ก็ยงั ถามออกไป


“ทำไมบนหน้าเจ้าถึงมีรอยแผลมากมายขนาดนั ้นเล่า?”

เมื่อเขาพูดถึง เธอก็เพิง่ จะนึ กขึ้นได้ เพราะแช่ตัวอยูใ่ ต้น้ำ ยาบดสมุนไพรบน


หน้าถูกชะล้างจนสะอาดไปนานแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลจึงปรากฏ
ออกมาเป็นธรรมดา

เธอยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้า “มีหญิงชัว่ คนหนึ่ ง เอามีดมากรีดบนใบหน้าข้าที


ละรอยทีละมีด” น้ำเสียงเธอมีความเฉยชาอยูบ
่ างส่วน แต่ความเย็นยะเยือก
ที่ฉายชัดอัดแน่ นในดวงตากลับไม่อาจสังเกตได้งา่ ยๆ

หงส์ไฟน้ อยได้ฟังก็ขมวดคิว
้ “งัน
้ เจ้าไม่สู้กลับล่ะ?”

“ข้าสู้พวกเขาไม่ได้” เธอพูดพลางก็หรีต
่ ายิม
้ แอบคิดไปว่า ‘เธอในตอนแรก
นั ้นยังไม่ใช่เธอ หากเป็นเธอ ก็คงไม่ต้องมาตกอยูใ่ นสภาพเช่นนี้ ’
“ดังนั ้นข้าถึงบอกว่าเจ้าอ่อนแอก็ยงั ไม่เชื่อ แต่ไม่เป็นไร แค่ขา้ แข็งแกร่งก็
พอ จากนี้ ขา้ จะปกป้องเจ้าเอง”

เด็กชายยืดเอวตัง้ ตรง เขาเชิดใบหน้าเล็กที่งดงามขึ้นพลางพูดว่า “เจ้าบอก


ข้ามาว่าใครกรีดรอยบนใบหน้าเจ้า? ข้าจะช่วยเจ้าแก้แค้นเอง!”
ตอนที่ 50 โชคชะตาแห่งการพบเจอครัง้ ที่สาม

พอได้ยน
ิ คำพูดนั ้น แววตาเฟิ่ งจิว
่ ก็มีรอยยิม
้ เธอยกมือขึ้นหยิกแก้มเล็กขาว
เนี ยนของเขา “ไม่ใช่วา่ เจ้ารังเกียจข้ามากหรอกรึ?”

“ข้ารังเกียจเจ้า แต่เจ้าเป็นคนของข้า ข้าแกล้งเจ้าได้ จะให้คนอื่นมาแกล้งได้


ยังไงกัน?” เด็กหนุ่มน้ อยพูดด้วยอารมณ์ ฮก
ึ ห้าวอย่างผึ่งผายทรงพลัง น่า
เสียดายที่น้ำเสียงหน่ อมแน้ มและอ่อนหวานนั ้นไม่ได้มีแรงสะเทือนต่อผูใ้ ด
เลยแม้แต่น้อย

“เจ้าตัวเล็กแค่นี้เองนะ?” เธอเลิกคิว
้ พลางก็ผุดรอยยิม
้ “เดาว่าแค่ผลักก็ล้ม
แล้ว”

เมื่อตัวเองถูกสงสัยในความแข็งแกร่ง เขาจึงลุกยืนขึ้นมาพูดเสียงดังใน
ทันใด “ข้าเป็นถึงหงส์ไฟ สัตว์เทวะในตำนานเลยนะ! แม้จะบอกว่าตอนนี้ ยงั
เด็กนั ก ทว่าข้าก็ได้รบ
ั การสืบทอดมาแต่โบราณ ย่อมมีพละกำลังมากมาย
มหาศาล!”

“ก็ได้ๆๆ งัน
้ เจ้าลองบอกข้าสิ ว่าเจ้าทำอะไรได้บา้ ง?” เธอยิม
้ อ่อนอย่างไม่
ค่อยเห็นด้วยนั ก

ถึงอย่าไรก็เป็นแค่เด็กน้ อยอายุราวๆ สามขวบ จะแข็งแกร่งได้สักแค่ไหนกัน


เชียว?
“เจ้าอย่าเห็นว่าตอนนี้ ขา้ มีท่าทางเช่นเด็ก แต่พละกำลังของข้ายังแข็งแกร่ง
กว่านั กบำเพ็ญผูเ้ ยาว์วย
ั นั ก ก่อนหน้านี้ ที่จวนลับ หากไม่ใช่เพราะดวงจิตของ
คนผูน
้ ั ้นพันธนาการไว้ ชัน
้ อาคมนั ่นก็ขวางข้าไม่ได้หรอก”

คนตัวเล็กเชิดคางขึ้นน้ อยๆ เขามองเฟิ่ งจิว


่ ด้วยท่าทางที่บอกว่าตัวเองแข็ง
แรงมากนะ ทำให้เธอยกมุมปากขึ้นมาน้ อยๆ อย่างอดไม่ได้ ก่อนจะใช้สายตา
เทิดทูนมองเขาอย่างคล้อยตาม

“ที่แท้เจ้าก็เก่งกาจขนาดนี้ นี่เอง?”

“ก็ใช่สิ!” หน้าตาท่าทางเขาช่างโอหังอวดดี

“แต่ถึงจะเก่งกาจ ก็เป็นได้แค่สัตว์พน
ั ธสัญญาของข้า ข้ายังเป็นนายเจ้าอยู่
นะ!”

เธอหรีต
่ ายิม
้ จ้องเตือนเขาถึงขอเท็จจริงที่เขาเองก็จงใจลืม เป็นไปตามคาด
เธอเห็นว่าขณะที่ทัง้ ร่างชะงัก เขาก็ซวนเซลงมา แล้วมองเธออย่างคับข้องใจ

“จริงด้วย เจ้าไม่เข้าไปในห้วงมิติก่อนเล่า! ไม่งน


ั ้ หากเจ้าตามไปปรากฏตัวที่
ป่าเก้าหมอบในร่างเด็กชายน้ อยเช่นนี้ คงได้เป็นที่ดึงดูดสายคนแน่ และถ้า
พวกผูฝ
้ ึกวิชาเซียนรู ว้ า่ เจ้าคือหงส์ไฟน้ อย พวกเราก็จะซวยกันหมดนะ”

เพราะท่านอาจารย์ได้พูดไว้ในตอนที่ส่งพวกเขามา เมื่อพวกเขาออกจาก
สุสานกระบี่ จะยังคงไปโผล่ที่ป่าเก้าหมอบเช่นเดิม ด้วยเหตุวา่ เดิมทีพวกเขา
ก็อยูใ่ ต้ดินในป่าเก้าหมอบ เขาจึงทำได้เพียงส่งพวกเขาออกจากใต้น้ำ แต่
กลับไม่มีทางส่งไปจากป่าเก้าหมอบ

หงส์ไฟน้ อยที่เดิมคิดจะปฏิเสธ หลังจากได้ยน


ิ คำพูดเธอที่ตามหลังมา ถึงจะ
พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่ เพราะกำลังเธออ่อนแอเกินไป และถึงแม้
เขาจะแข็งแกร่งมาก ทว่าหากออกไปจนเป็นที่สนใจของผูค
้ น ก็ยงั เป็น
ปัญหาใหญ่อยู่

“ว่าง่ายดีจริงๆ”

เฟิ่ งจิว
่ ที่เห็นเขาพยักหน้า จึงอุม
้ เขาขึ้นมาหอมแก้ม พอเห็นใบหน้าเล็กของ
เขาขึ้นสีแดงก่ำ รวมถึงท่าทางที่ดูเขินอายน้ อยๆ เธอก็หว
ั เราะขึ้นมาอย่างอด
ไม่ได้

เฟิ่ งจิว
่ ใช้ดวงจิตพาหงส์ไฟน้ อยเข้าไปในมิติ

อีกสามชัว่ ยามให้หลัง ฟากฟ้าเหนื อสุสานกระบีก


่ ็ปรากฏลูกคลื่นระลอกหนึ่ ง
ทัง้ ร่างเธอจึงถูกดูดเข้าไปจนมีเสียงดังฟิ้ ว…

“หืม? นี่ ที่ไหนกัน?”

เมื่อมองสถานที่ที่เธอมาปรากฏตัวอย่างกะทันหัน คล้ายว่ายังอยูใ่ นป่าเก้า


หมอบ แต่รอบๆ ก็ไม่มีใครสักคน แม้แต่สัตว์สักตัวก็ไม่เห็น มันช่างเงียบเสีย
จนน่าหวาดหวัน

มิหนำซ้ำ นี่ ก็ค่ำแล้วด้วย

“ฮู!่ หนาวจัง” เธอลูบๆ หัวไหล่ เดินไปในป่าพลางก็คิดว่า ‘ไม่รูว้ า่ เจ้ายักษ์ โง่


กวนสีหลิน
่ จะยังรออยูท
่ ี่นั่นรึเปล่า?’

หลังจากเดินมาได้สักพัก พลันก็ได้ยน
ิ เสียงเหมือนมีการต่อสู้กัน

ต่อสู้ร?ึ

ในดวงตาเธอฉายแววประหลาดใจ เธอกลัน
้ หายใจขึ้นมาทันที แล้วมองหา
เสียงนั ้นไปอย่างเงียบเชียบ

หลังจากมาถึงต้นไม้ใหญ่ พอมองสำรวจไปด้านหน้า ขณะที่เห็นเงาร่างอัน


แสนคุ้นเคยนั ้น เธอก็กะพริบตาปริบๆ ด้วยความตกตะลึงอย่างอดไม่ได้

ท่านอา? นึ กไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเขาอีกแล้ว?

นั บก่อนหน้านี้ สองครัง้ จนครัง้ นี้ ก็ยงั เจอกันอีก นี่ เป็นการพบกันครัง้ ที่สาม


แล้วนะ! เธอกับเขามีวาสนาต่อกันอย่างที่คิดไว้เลย เวลาสัน
้ ๆ แค่ไม่กี่วน
ั ก็ได้
พบกันตัง้ สามรอบ

แต่วา่ ทำไมดูท่าทางเขาแปลกไปหน่ อย?


ตอนที่ 51 พิษเหมันต์พน
ั ปี!

เธอมองอยูห
่ ลังต้นไม้ ก็สังเกตเห็นกระบีย
่ าวกว้างสามนิว
้ ในมือเขาเข้าโดย
ไม่ตัง้ ใจ กระบีค
่ มมีแรงอาฆาตรุ นแรงอยูเ่ หลือล้น กลิน
่ อายที่มองเห็นได้ด้วย
ตาเปล่ากระจายไปทัว่ ร่าง นั ่นไม่ใช่พลังเร้นลับ แต่เป็นพลังวิญญาณ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาก็เป็นผูฝ
้ ึกเซียนคนหนึ่ ง!

แต่แค่ตอนนี้ เขาดูไม่ปกตินิดหน่ อย แม้เขาจะกำลังพยายามอดทนต่อแรง


กดดันอย่างหนั ก แต่สิง่ ขาวๆ คล้ายน้ำค้างแข็งที่รวมกันอยูบ
่ นขนคิว
้ หนวด
เคราและใบหน้านั ้น ถ้าไม่ใช่น้ำแข็งแล้วมันคืออะไรกัน?

น้ำแข็ง? ทำไมจู่ๆ ร่างกายถึงมีน้ำแข็งเกาะได้ล่ะ?

“อ๊าก!”

เสียงกรีดร้องอย่างรุ นแรงดังขึ้น กระบีย


่ าวซึ่งมีประกายไอเย็นแทงเข้าตรง
บริเวณหน้าอกของชายชุดดำคนสุดท้าย จนร่างนั ้นคุกเข่าลงไป เขากระอัก
เลือด ดวงตาเขาจับจ้องอยูท
่ ี่หลิง่ โมหาน อ้าปากพะงาบๆ อยากจะพูดอะไรก็
พูดไม่ออก สุดท้าย ยังไม่ทันชัว่ อึดใจหนึ่ งเขาก็ล้มลงไปแล้ว

ตอนนี้ รา่ งกายหลิง่ โม่หานสัน


่ เทาน้ อยๆ ราวกับถูกแช่แข็ง เขายืนอยูต
่ รงนั ้น
เงียบๆ เหมือนรู ปสลักน้ำแข็ง ไอเย็นยะเยือกที่กระจายออกมาทัว่ ร่าง ช่าง
คล้ายกับน้ำแข็งพันปี ทำให้เธอที่ซ่อนตัวอยูห
่ า่ งออกไปสิบเมตรยังรู ส
้ ึกได้ถึง
ความเย็นเยียบนั ้น
ตึง!

ทัง้ ตัวเขาล้มเหยียดยาวลงไป ร่างเขาสัน


่ เทิม
้ อยูบ
่ นพื้น จนค่อยๆ ขดตัวม้วน
กลม ไม่เพียงเท่านี้ น้ำแข็งบนใบหน้าเขาก็เหมือนจะยิง่ หนาขึ้นเรือ
่ ยๆ ด้วย

เมื่อเห็นอาการไม่ปกติ เธอจึงรีบปรีเ่ ข้าไป

“ท่านอา? ท่านอา ท่านเป็นยังไงบ้าง?” เธอมาคุกเข่าลงข้างๆ เขา กำลังจะ


พยุงเขาขึ้น แต่ก็เพิง่ สัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็ บเข้ากระดูกดำที่เขารู ส
้ ึกอยู่

“ซี๊ด! เย็น!”

เธอหดมือกลับตามสัญชาตญาณ เฟิ่ งจิว


่ มองคนที่ลืมตาขึ้นมามองเธออย่าง
สับสนเล็กน้ อย ทำไมถึงเย็นขนาดนี้ ? ขืนเป็นแบบนี้ ต่อไป เขาก็คงถูกแช่แข็ง
ตายน่ ะสิ?

เพียงมองเธอแวบเดียว เขาหลับตาลงอีกครัง้ และริมฝีปากเขาก็ค่อยๆ ขึ้นสี


ม่วง

เห็นอาการเขาไม่ดีนัก เธอจึงกัดฟันฝืนทนกับความเย็นยะเยือกเข้ากระดูก
นั ้น เพื่อตรวจชีพจรที่มือ พอได้ตรวจดู เธอก็ประหลาดใจอย่างอดไม่ได้

“นี่ มัน… พิษเหมันต์พน


ั ปี?” ดวงตาเธอเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ปนความ
เหลือเชื่อน้ อยๆ
ในชีพจรเขามีไอเย็นไหลเวียน เป็นไอพลังแสนเย็นเยียบที่กำลังไหลผ่านอยู่
ในร่างเขานี่ เอง ถึงได้ทำให้เขาเป็นเช่นนี้ หนำซ้ำไอพลังเย็นนั ้นก็ชด
ั เจนว่า
เป็นพิษเหมันต์ และไม่ใช่แค่พษ
ิ เหมันต์ธรรมดา แต่เป็นพิษเหมันต์พน
ั ปี!

พลันเธอได้ยน
ิ เสียงเคลื่อนไหวท่ามกลางค่ำคืน รวมถึงแรงอาฆาตที่มุ่งมา
ด้านนี้ ฟังจากการเคลื่อนไหว คงมีไม่ต่ำกว่ายีส
่ ิบสามสิบคน

สายตาเธอชำเลืองมอง ในใจก็กำลังคิดแผน เธอเห็นว่ารอบๆ ไม่มีที่ให้หลบ


ซ่อน ดังนั ้นจึงใช้นิว
้ ที่มีพลังเร้นลับแทรกซึมอยูช
่ ไี้ ปตรงจุดเส้นประสาทที่
ทำให้เขาสลบไป ต่อจากนั ้น ก็ใช้ดวงจิตนำพาเขาเข้าไปในห้วงมิติของเธอ

ในขณะที่ทัง้ สองคนหายไป ชายชุดดำถือกระบีส


่ าบสิบนายก็เข้าล้อมบริเวณ
รอบๆ ไว้ หลังจากหัวหน้าเห็นชายชุดดำหลายสิบนายที่ล้มตายไป เขาก็ขมวด
คิว
้ น้ำเสียงเคร่งครึมนั ้นมีความโกรธเกรีย
้ ว

“เมื่อครู ย
่ งั มีกลิน
่ อายอยูต
่ รงนี้ พิษเหมันต์ในตัวเขาออกฤทธิ์ คงหนี ไปได้ไม่
ไกลแน่ ! ออกไปหาซะ!”

“ขอรับ!” ชายชุดดำขานรับพร้อมๆ กัน พวกเขาแบ่งกลุ่มออกไปตามหา


หลายทิศทางโดยรอบ

และตอนนี้ เอง ที่ในห้วงมิติ หงส์ไฟน้ อยกำลังถลึงมองเฟิ่ งจิว


่ อย่างโมโห
โกรธา เขาไม่นึกเลย ว่าเธอจะพาชายผู้มีไอเย็นเข้ากระดูกกระจายอยูท
่ ัว่ ร่าง
เข้ามาด้วย
เฟิ่ งจิว
่ ในตอนนี้ ไม่มีเวลาจะไปสนใจเขา ทว่าเธอกลับมัวยุง่ อยูก
่ ับการใช้พลัง
เร้นลับประคับประคองชีพจรของหลิง่ โม่หานไว้ หากแม้แต่ชพ
ี จรยังถูกแช่
แข็ง เขาก็อยูไ่ ม่ไกลจากความตายนั ก

หงส์ไฟน้ อยใช้สองมือกอดอก พลางจับจ้องชายแปลกหน้าที่เข้ามาใน


อาณาเขตของเขาอย่างกะทันหัน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาที่มีความ
บูดบึ้งและเฉยเมย “นั ่นคือพิษเหมันต์ ไอที่หนาวเย็นที่สุดในใต้หล้า พลังเร้น
ลับเพียงน้ อยนิ ดของเจ้าประคองชีพจรเขาไม่ไหวหรอก เขาน่ ะ ต้องตายแน่
แล้ว”
ตอนที่ 52 บอกลากันเช่นนี้ !

ตอนนี้ บนใบหน้าเฟิ่ งจิว


่ หาได้มีความแหนงหน่ายเช่นยามปกติไม่ เธอใช้มือ
หนึ่ งกดตรงหัวใจเขา ในดวงตามีความตัง้ มัน
่ เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนั กแน่ น
“เขาเคยช่วยข้าไว้ ข้าจะให้เขาตายไม่ได้”

หงส์ไฟน้ อยถูกสีหน้าของเธอดึงดูดไว้ เขาจึงต้องเอ่ยถามเสียงเบา “เจ้าคิด


จะช่วยเขายังไง? พิษเหมันต์พน
ั ปีนี้ ต่อให้เป็นข้าก็ไม่อาจช่วยเขาได้หรอก
นะ”

“ไม่ เจ้าช่วยเขาได้” เฟิ่ งจิว


่ ส่งรอยยิม
้ ที่ค่อนข้างมีนัยยะให้เขาในทันที

เมื่อได้ยน
ิ เช่นนั ้น หงส์ไฟน้ อยก็กระพริบตาปริบๆ อย่างสงสัยเล็กน้ อย ขณะ
ที่กำลังจะถามว่าเธอหมายถึงอะไร? ก็เห็นเธอแก้เสื้อผ้าของหลิงโม่หานออก
เผยให้เห็นแผงอกเขาที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งสีขาว และสองมือที่มีพลังเร้นลับ
เคลือบแฝงก็กดทับลงตรงจุดเส้นประสาทบนร่างเขา

“มานี่ สิ” เธอพลันหยุดมือลง แล้วมองไปทางหงส์ไฟน้ อย

“หา? ทำอะไรน่ ะ?” แม้จะไม่เข้าใจ แต่หงส์ไฟน้ อยก็ยงั ลุกยืนขึ้นเดินเข้าไป


ตรงข้างๆ เธอ

เฟิ่ งจิว
่ ผุดรอยยิม
้ อ่อนโยนอย่างไม่เข้าท่านั กไปทางหงส์ไฟน้ อย พอเห็นเขา
ขนลุกขนพองขึ้นมา แต่ในเวลาต่อมา เขาก็กลับส่งเสียงร้องคร่ำครวญ
“อ๊า! มือข้า! มือข้าเลือดไหลแล้ว… เจ้า เจ้าผูห
้ ญิงคนนี้ เจ้ากำลังทำอะไรกัน
แน่ !”

เขามองเธอด้วยความขุน
่ เคือง ใจเขารู ส
้ ึกน้ อยเนื้ อต่ำใจอย่างมาก

“ยืมเลือดเจ้ามาลองใช้นิดเดียว แค่แผลเล็กๆ ใช้เลือดไม่เท่าไหร่หรอก” เธอ


ดึงมือเขามาตรงริมฝีปากหลิงโม่หาน แล้วใช้เลือดที่ไหลจากนิว
้ หยดลงใน
ปากเขา

เมื่อเลือดของหงส์ไฟน้ อยเข้าไปในปากเขา ไอเย็นบนร่างก็ค่อยๆ สลายไป


ราวกับถูกกดเอาไว้ ร่างกายเขามีไอร้อนพวยพุง่ และไอร้อนนั ้นก็ทำให้เรือน
ร่างแข็งทื่อได้รบ
ั ความอบอุน
่ ร่างกายที่เดิมทีเคยขดตัวม้วน ในที่สุดก็จะไม่
หดตัวอีกแล้ว

“เลือดข้าได้ผลขนาดนี้ เลยรึ?” ตอนนี้ เขาเพิง่ รู ว้ า่ คำพูดก่อนหน้านี้ ของเธอ


ที่แท้ก็หมายความเช่นนี้

พอเห็นว่าในที่สุดเขาก็อุน
่ ขึ้นแล้ว เฟิ่ งจิว
่ ถึงจะถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อน
จะอธิบายว่า “เจ้าเป็นหงส์ไฟในตำนาน เลือดของหงส์ไฟนั ้นร้อนแรงที่สุด
จึงกดพิษเหมันต์ในร่างเขาได้เป็นธรรมดา”

ระหว่างที่พูด ก็ลูบศีรษะเล็กๆ ของเขา เธอพูดอย่างยิม


้ ๆ “ขอบใจเจ้ามากนะ
ถือว่าเจ้าช่วยข้าตอบแทนคนผูน
้ ี้ ”
“หึ!” หงส์ไฟน้ อยเบือนหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ เท่าไหร่ แต่ในใจกลับเบิกบาน
เพราะคำพูดของเธอ

“เจ้าคิดจะให้เขาอยูท
่ ี่นี่อก
ี นานแค่ไหนกัน? หากเขาตื่นมาจะทำยังไง?”

“ด้านนอกมีคนกำลังตามฆ่าเขา รอสักพักจนคนพวกนั ้นเดินไปไกล ข้าค่อย


พาเขาออกไป ไอเย็นในตัวเขาถูกกดไว้ คงใกล้จะฟื้ นแล้ว ด้วยฝีมือของเขา
ขอแค่ต่ ืนขึ้นมาก็คงไม่มีปัญหาอะไร”

ได้ยน
ิ เช่นนั ้น หงส์ไฟน้ อยถึงจะไม่พูดอะไรอีก

และเฟิ่ งจิว
่ ก็ทำจริงอย่างที่เธอพูด หลังจากผ่านไปครึง่ ชัว่ ยาม เธอก็พาเขา
ออกไปวางไว้บนพื้นหญ้า

“ท่านอา ถือว่าข้าช่วยชีวต
ิ ท่านแล้ว ข้ายังมีธุระ เลยต้องจากลากันเช่นนี้ ”
เห็นขนตาเขาขยับน้ อยๆ ก็รูว้ า่ เขากำลังจะฟื้ นขึ้นมา เธอจึงใช้ฝีเท้าแปลก
ประหลาดวิง่ เข้าไปในป่าทันที…

พอเธอไปได้ไม่นาน หลิง่ โม่หานก็ฟื้น ในหัวเขายังมีเสียงขอทานน้ อยผู้นั้น


สะท้อนอยูเ่ ลือนราง

เขามองร่างกายตัวเองที่ฟื้นคืนดังเดิมอย่างแปลกใจเล็กน้ อย รู ส
้ ึกว่าไอเย็น
จะถูกกดไว้ เขาตกตะลึงอยูใ่ นใจ แต่เมื่อมองไปรอบๆ ก็กลับไม่เห็นเงาของ
ขอทานน้ อยซะแล้ว…
ส่วนเฟิ่ งจิว
่ เพราะกังวลว่าเจ้ายักษ์ โง่อย่างกวนสีหลิน
่ จะยังรอเธออยูท
่ ี่นั่น
ตลอดคืนเธอจึงรีบเร่งกลับไปที่เดิมนั ้น ขณะที่ท้องฟ้าสว่าง ในที่สุดก็มาถึง
ใต้ต้นไม้ใหญ่ เมื่อไม่เห็นเงาร่างเขาอยูท
่ ี่นั่น เธอก็แอบถอนหายใจอย่างอด
ไม่ได้

“ดูเหมือนจะไปแล้วสินะ ก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องคอยพะวง ว่าเขาจะยังโง่รออยูท


่ ี่
นี่ ”

ทว่าพอพูดไปเช่นนั ้น เธอก็ได้ยน
ิ เสียงร้องอันคุ้นเคยดังลอยมาอยูไ่ ม่ไกล
และยังมีเสียงขูค
่ ำรามของสัตว์รา้ ย…
ตอนที่ 53 ปกป้องด้วยชีวต
ิ !

ขณะที่ได้ยน
ิ เสียง สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปน้ อยๆ เธอโผตัวไปตามทิศทางเสียง
ทันที ทว่าเมื่อมาถึงตรงนั ้น พอเห็นภาพตรงหน้า เธอก็กลับนิ่ งอึ้งไป

เธอเห็นเพียงชายหนุ่มผูม
้ ีเลือดท่วมตัวกำลังต่อสู้กับเสือทัง้ มือเปล่า เสื้อบน
ตัวถูกกรงเล็บฉี กจนขาดวิน
่ รอยขีดข่วนแต่ละรอยช่างเป็นภาพที่น่าสยด
สยองยิง่ …

และบริเวณรอบๆ ยังมีศพของหมาป่าสีเทาอีกหลายสิบตัว…

ในขณะที่เธอกำลังตกตะลึง ที่เขาสามารถฆ่าหมาป่าสีเทาสิบกว่าตัวและ
ต่อกรกับเสือได้ด้วยตัวคนเดียว ก็เห็นเขากำหมัดขึ้น กลิน
่ อายพลังเร้นลับ
กระจายตัวขึ้นมาบนหมัดเขา ก่อนจะชกไปที่เสือตัวหนั กนั บห้าสิบกิโลฯอย่าง
แรง จนมันลอยออกไปเสียงดังปัง

“กรร!”

เสือตัวนั ้นร้องคร่ำครวญ มันล้มลงกลิง้ ไปบนพื้นหลายตลบอย่างรุ นแรง ถึง


ขนาดได้ยน
ิ เสียงหัวเสือถูกกระแทกดังแกร๊ก

“น้ องชาย!”
กวนสีหลิน
่ หันกลับมาร้องขึ้นอย่างประหลาดใจ เขายกมือขึ้นเช็ดเลือดบน
ใบหน้า แล้วเช็ดลงบนตัว ก่อนจะวิง่ เข้าไปอย่างตื่นเต้นดีใจ “น้ องชาย ข้านึ ก
ว่าเจ้ามีเรือ
่ ง… ระวัง!”

เขายังพูดไม่ทันจบ สีหน้าก็เปลี่ยนไป ในขณะที่รอ


้ งอย่างตกใจ ทัง้ ร่างเขา
กระโจนเข้ามา สองมือเขาออกเอื้อมใช้แรงผลักเธอไป

ความเร็วอันว่องไว ทำให้เฟิ่ งจิว


่ ที่เดิมทีรูส
้ ึกถึงอันตรายจากด้านหลังจนต้อง
หันกลับไปไม่อาจหลบได้ทัน จึงถูกเขาผลักล้มลงไปบนพื้น

“กรร!”

“อ๊าก!”

เสียงเสือร้ายคำรามอย่างโกรธเกรีย
้ วดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงโอดครวญของ
กวนสีหลิน
่ ที่สูดหายใจ “น้ องชาย รีบ รีบหนี ไป…”

เหตุไม่คาดฝันที่เกิดอย่างกะทันหัน ทำให้ทัง้ ตัวเฟิ่ งจิว


่ ถึงกับป้ำเป๋อ พอเห็น
กวนสีหลิน
่ ถูกเสือตัวนั ้นกัดแขนไว้ครึง่ หนึ่ งจนเลือดไหลอาบโชก ดวงตาเธอ
ก็แดงก่ำ จึงผุดลุกขึ้นดึงมีสัน
่ พุง่ ออกไปในทันที

“เจ้าสัตว์รา้ ยบ้าเอ๊ย!”

เธอเข้าไปดึงขนเสือร้ายไว้ แล้วใช้มีดสัน
้ ในมือแทงตรงบริเวณคอของมัน
อย่างโหดเหีย
้ ม
“กรร!”

เสือร้ายร้องลัน
่ ด้วยความเจ็บปวด แต่คนที่โดนคาบอยูใ่ นปากเสือกลับยังถูก
ลากไว้ไม่ยอมปล่อย จนกระทัง่ มีดสัน
้ ของเฟิ่ งจิว
่ แทงเข้าไปหนั กๆ ตรงคอมัน
อีกครัง้ อย่างดุรา้ ยรุ นแรง เสือตัวนั ้นถึงจะล้มลงนอนโครมบนพื้น พอเห็น
แขนที่โชกเลือดของเขา และยังไหล่ขวาที่ลู่ลงอย่างหมดแรง ใจก็สัน
่ ขึ้นมา
เล็กน้ อย

บาดแผลเช่นนี้ …แขนของเขา…

“น้ อง น้ องชาย เจ้า เจ้าไม่ได้บาด บาดเจ็บรึ?” เขาถามอย่างเป็นห่วง เสียง


เขาอ่อนแรงน้ อยๆ

เมื่อได้ยน
ิ คำพูดเขา หัวใจเธอก็บบ
ี รัดเข้าหากันแน่ นหนา จนเจ็บปวดขึ้นในใจ
เบ้าตาเห่อร้อนนิ ดๆ เธอทำได้เพียงหยิบยาทาแผลสำหรับหยุดเลือดออกมา
โปรยลงบนบาดแผล ก่อนจะว่าเขาเสียงดัง “เจ้าไม่ชอบที่ชว
ี ต
ิ มันยืนยาวเกิน
ไปรึไง? ใครใช้ให้เจ้ามาช่วยข้า? เดิมทีขา้ ก็หลบได้อยูแ
่ ล้ว เจ้าจะผลักข้า
ทำไม?”

แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีใครมาขวางหน้าเธออย่างไม่คิดชีวต
ิ เช่นนี้ ทว่าเขา เจ้า
ยักษ์ โง่เง่าเต่าตุ่นนี่ กลับทำแบบนี้ ซะอย่างงัน

ช่างเป็นคนที่โง่เขลาเสียจริง! โง่จนเหลือทนเลย
นี่ เป็นครัง้ แรกที่หว
ั ใจเฉยชาราวน้ำแข็งของเธอกลับสัน
่ คลอนไปบางส่วน
ความรู ส
้ ึกไม่คุ้นเคยทำให้หว
ั ใจเธอมีรสเปรีย
้ วฝาดๆ ขึ้นมาพักหนึ่ ง รอบ
ดวงตาเห่อร้อนน้ อยๆ เหมือนถูกชัน
้ ไอน้ำทำให้พร่ามัวจนมองหน้าเขาไม่ค่อย
ชัดเจนอยูน
่ ิ ดหน่ อย

“ขอ ขอโทษ ข้า ข้าร้อนรนจน จนลืมตัว”

เขายกรอยยิม
้ ขึ้นอย่างซื่อๆ แต่เพราะบาดแผลบนร่างที่สาหัสเกินไป อีกทัง้
สีหน้าที่ซีดเผือดเกินทน ประกอบกับเลือดที่ท่วมร่าง ทัว่ ทัง้ ตัวเขาจึงดูแล้ว
เหมือนจะขาดใจตายได้ทุกเมื่อ

“น้ อง น้ องชาย เจ้าอย่าร้องไห้ ข้า ข้าไม่เป็นไร ข้า ข้าแค่เหนื่ อยนิ ดหน่ อย


อยาก อยากจะนอนหลับสักพัก…”

น้ำเสียงเขาค่อยๆ อ่อนเปลี้ยลง และตัวเขาก็หมดสติจนสลบไป…


ตอนที่ 54 จากลาป่าเก้าหมอบ!

แสงแดดอันอบอุน
่ สาดลงมาในผืนป่า มันสะท้อนไปบนใบหน้ากวนสีหลิน
่ ที่
หลบอยูใ่ ต้ต้นไม้ เขาขมวดคิว
้ เล็กน้ อยอยูส
่ ักพัก นิว
้ มือข้างซ้ายก็ขยับเบาๆ
ผ่านไปครู ห
่ นึ่ ง เขาถึงลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า แล้วมองแสงแดดน้ อยๆ
เหนื อศีรษะที่ส่องทะลุผา่ นใบไม้ลงมาอย่างงุนงงนิ ดๆ

“ฟื้ นแล้วรึ?”

น้ำเสียงอ่อนโยนดังลอยมา ทำให้กวนสีหลิน
่ ชะงักลงชัว่ ขณะ “น้ องชาย?”
อยากจะลุกขึ้นนั ่ง แต่กลับกระเทือนถึงบาดแผลบนตัว เขาเจ็บซะจนต้องสูด
ลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ ง

“บนตัวเจ้ายังมีแผลอยู่ อย่าเพิง่ ขยับซี้ซัว้ ซิ”

เฟิ่ งจิว
่ กดร่างเขาไว้ เธอมองเขาด้วยแววตาซับซ้อน ก่อนจะถามว่า “เจ้าน่ ะ
ขนาดข้าชื่ออะไรก็ยงั ไม่รู ้ ทำไมถึงปกป้องข้าด้วยชีวต
ิ เช่นนั ้นอีก?”

“น้ อง น้ องชาย เจ้า เจ้าโกรธข้ารึ?” เขามองเธออย่างกระวนกระวายน้ อยๆ

“ตอบข้ามาสิ”

เห็นท่าทางเธอจริงจัง เขาจำต้องพูดว่า “ข้าโตกว่าเจ้า หนำซ้ำเจ้าเป็นน้ อง


ชายข้า หากเจ้ามีอน
ั ตราย แน่ นอนว่าข้าก็ต้องปกป้องเจ้า”
เฟิ่ งจิว
่ อึ้งเล็กน้ อย ไม่นึกว่าจะเป็นเพียงเหตุผลง่ายๆ เช่นนี้

“น้ องชาย…”

“ข้าชื่อเฟิ่ งจิว
่ ” เธอปริปากทันใด สายตาเธอจับจ้องที่ใบหน้าตกตะลึงของเขา
“และอีกอย่าง ข้าเป็นผูห
้ ญิง”

“หา? ผู้ ผู้ ผูห


้ ญิงรึ?”

ครัง้ นี้ เขาตกใจ พูดจาตะกุกตะกัก เพราะเธอดูยงั ไงก็ไม่เหมือนผูห


้ ญิงเลย ผู้
หญิงที่ไหนจะกล้าต่อกรกับหมาป่าเป็นฝูงด้วยตัวคนเดียวเช่นเธอเล่า?

หนำซ้ำ ตลอดมาเขานึ กว่าเธอเป็นผูช


้ าย แต่ไหนแต่ไรมา ก็ไม่เคยนึ กเลยว่า
เธอเป็นผูห
้ ญิง

พอมองเขาที่ทำท่าทางซื่อบื้อ แววตาเธอก็เป็นประกายอยูน
่ ้ อยๆ เธอเอ่ยว่า
“กระดูกไหล่ขวาเจ้าโดนเจ้าสัตว์รา้ ยนั ่นกัดจนหักแล้ว”

“อ้อ” เขามองเธอแวบหนึ่ ง แล้วส่งเสียงตอบรับ

“ความหมายของข้า คือแขนขวาเจ้าพิการแล้ว”

รอบนี้ เขาชะงักลงเล็กน้ อยอยูค


่ รู ห
่ นึ่ ง ก่อนจะหลับตาลง “อืม”

“เสียใจหรือไม่?”
เมื่อได้ฟังเช่นนั ้น กวนสีหลิน
่ มองไปทางเธอ เขาส่ายหน้าพูดอย่างจริงจัง
“ข้าไม่เสียใจ ถ้าไม่ไปขวางไว้ หากเจ้าโดนกัด ก็คงจะไม่รอดแน่ ข้าเป็นผูช
้ าย
ซ้ำยังมีรา่ งกายแข็งแรง แค่เสียแขนไปข้างเดียวเท่านั ้น ไม่เป็นอะไรหรอก
ถึงแขนขวาข้าจับกระบีไ่ ม่ได้ จากนี้ ขา้ ก็ฝึกใช้แขนซ้ายเอา”

พอได้ยน
ิ คำพูดนี้ เฟิ่ งจิว
่ ก็นิ่งไปนานมาก ผ่านไปสักพักถึงจะผุดรอยยิม
้ ออก
มา “เจ้าเป็นคนโง่อย่างที่ขา้ คิดไว้เลย”

“น้ องชาย ไม่ซิ เสี่ยวจิว


่ ข้าไม่ได้โง่ ข้าแค่ออกจะเถรตรง” ปากเขาฉี กยิม

แหะๆ ไม่ได้ท้อแท้เพราะเสียแขนขวาไปเลยแม้แต่น้อย

“คนที่เถรตรงจะพูดว่าตัวเองเถรตรงรึ?” เธอเลิกคิว
้ มองเขา ในใจเธอแอบ
หมายมัน
่ กับตัวเอง ว่าจะต้องรักษาแขนขวาเขาให้หาย

“เสี่ยวจิว
่ เจ้าไปเก็บยามา ได้พบอันตรายใดหรือไม่? ทำไมถึงไปนานนั ก?”

เมื่อนึ กถึงที่เขารออยูต
่ รงนั ้นทัง้ วันทัง้ คืนก็ไม่เห็นเธอกลับมา ยังคิดว่าเธอไป
เจอกับสัตว์รา้ ยอีก ถึงได้ออกวิง่ ตามหาเธอ คิดไม่ถึงว่าจะถูกหมาป่ากับเสือ
ล้อมโจมตี

“มีอุบต
ั ิเหตุนิดหน่ อย เผอิญถูกหมีสองตัวไล่ต้อนจนต้องวิง่ เข้าไปในป่าทึบ
เจ้าหิวรึยงั ล่ะ? ข้าจะไปล่าสัตว์ป่าสักตัวมาย่าง”

เธอพูดอยูส
่ องสามประโยคที่เกี่ยวกับเรือ
่ งที่เธอพบเจอมาตลอดทัง้ วันทัง้ คืน
ไม่ได้คิดจะพูดอะไรมาก
“ข้าหิว แต่เจ้าก็อย่าเดินไปไกลนั กล่ะ” เขาพูดด้วยความกังวลน้ อยๆ

“ข้ารู แ
้ ล้ว” เธอยิม
้ ๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปรอบๆ

อีกไม่กี่วน
ั ให้หลัง ในป่าเก้าหมอบ

ช่วงเวลาที่อยูด
่ ้วยกันนี้ ทำให้ทัง้ สองคนยิง่ สนิ ทกัน พอรู ว้ า่ เฟิ่ งจิว
่ อยูต
่ ัวคน
เดียว กวนสีหลิน
่ จึงลัน
่ วาจารับเธอเป็นน้ องสาว

เฟิ่ งจิง่ ที่เหลือทนกับเขา รู ส


้ ึกว่าการรับเขาเป็นพีช
่ ายก็ไม่เลว ดังนั ้น ทัง้ สอง
จึงจัดพิธส
ี าบานอย่างง่ายๆ ขึ้น เพื่อยืนยันถึงความสัมพันธ์พน
ี่ ้ องต่างสาย
เลือด

“เสียวจิว
่ พวกเราไปหมู่บา้ นป่าหินกันเถอะ!” พอเลือดที่คัง่ อยูห
่ ลังศีรษะ
สลายไป ความทรงจำจึงฟื้ นคืน ทว่าเขาก็ยงั ไม่อยากกลับบ้าน
ตอนที่ 55 ชุดหญิงสาวที่งดงาม!

“อืม ได้สิ แต่ยงั ไงก็ตาม ออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยว่ากัน” สำหรับเธอในตอนนี้


จะไปที่ไหนก็เหมือนๆ กัน

ดังนั ้น เมื่อบอกว่าจะไปก็ไป พอทัง้ สองคนออกจากป่า ก็มุ่งไปยังทิศทางของ


หมู่บา้ นป่าหิน

สองวันต่อมา ที่หมู่บา้ นป่าหิน

เสื้อผ้ารุ ง่ ริง่ บนตัวกวนสีหลิน


่ ยังมีรอยเลือด ใบหน้าที่นับว่าหล่อเหลาดู
กระด่างกระดำ และยังกล้ามเนื้ อแขนที่กำยำอีก ดูแล้วช่างคล้ายคลึงกับ
พวกอันธพาลจริงๆ

ส่วนเสื้อสีขาวบนตัวเฟิ่ งจิว
่ ก็กลายเป็นเสื้อสีเทา ใบหน้าเธอพอกยาไว้ ดูแล้ว
เนื้ อตัวมอมแมม ช่างไม่ต่างอะไรกับขอทานเลย

พวกเขาสองคนเข้ามาในหมู่บา้ นป่าหินทัง้ แบบนี้ จึงเป็นธรรมดาที่จะดึงดูด


สายตารังเกียจเดียดฉั นท์มาได้ไม่น้อย แม้แต่พวกคนที่เดินกระทบไหล่ผา่ น
ไป พอโดนพวกเขาชนเข้า ก็ล้วนพยายามหลบเลี่ยงกันอยูบ
่ า้ ง

“บรรยากาศในหมู่บา้ นช่างแตกต่างเสียจริง!” เฟิ่ งจิว


่ สูดหายใจเข้าลึกๆ ก็ได้
กลิน
่ หอมหวนของพวกขนมต่างๆ กระจายอยูใ่ นอากาศ
“เสียวจิว
่ พวกเราเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนค่อยว่ากันเถอะ ไม่งน
ั ้ พวกโรงเตี๊ยมก็
คงไม่ให้พวกเราเข้าไปหรอก” กวนสีหลิน
่ พูดพลางก็ดึงๆ เสื้อตัวรุ ง่ ริง่ บนร่าง

“อืม งัน
้ ลองหาร้านขายเสื้อผ้าระแวกนี้ ดู” เธอพูดพลางมองไปรอบๆ พลัน
สายตาก็สะดุดกับที่ที่หนึ่ ง เธอจึงลากกวนสีหลิน
่ เดินไปด้านนั ้น “อยูด
่ ้านนั ้น
ตรงนั ้นมีอยูร่ า้ นหนึ่ ง”

“เดีย
๋ วๆๆๆ” เขาเร่งรีบดึงเธอไว้ แล้วถามเสียงเบา “เสียวจิว
่ พวกเรามีเงินรึ?
หากไม่มีเงินจะซื้อเสื้อผ้าเช่นไร?”

ได้ยน
ิ เช่นนั ้น บนหน้าผากเธอก็มีเส้นเลือดสีดำปรากฏ “จะไม่มีเงินได้ยงั ไง
เล่า? วางใจเถอะ ข้ามีอยู”่ ขณะที่พูด เธอก็ยกถุงตรงเอวขึ้น “ไปเถอะน่า! ไม่
ต้องพูดถึงหนึ่ งชุดหรอก ซื้อเป็นสิบชุดก็ไม่มีปัญหา”

หลังจากได้ยน
ิ เธอพูดว่ามีเงิน กวนสีหลิน
่ ก็ฉีกยิม
้ ขึ้นมา ทัง้ สองถึงจะพากัน
เดินไปยังร้านขายเสื้อผ้า

“ท่านพี่ ท่านสวมตัวนี้ สิ! ตัวนี้ เหมาะกับท่านนะ” เธอหยิบเสื้อคลุมสีดำตัว


หนึ่ งขึ้นมา เนื้ อผ้าไม่เลว จึงจะให้เขาไปลองดู

“ได้สิ งัน
้ ก็ตัวนี้ ล่ะ”

เขาไร้ซ่ึงความเห็นโดยสิน
้ เชิง เขารับชุดเดินไปด้านใน ไม่นานนั ก ก็เปลี่ยน
เสื้อผ้าออกมาเรียบร้อย พอเห็นเธอกำลังเลือกเสื้อผ้าผูช
้ าย จึงกล่าวว่า
“เสียวจิว
่ เจ้าจะเลือกเสื้อผ้าผูช
้ ายไปทำไม? ตอนนี้ พวกเรากลับมาหมู่บา้ น
แล้ว เจ้าอย่าได้สวมเสื้อผ้าผูช
้ ายเลย สวมกระโปรงสิ เด็กผูห
้ ญิงควรสวม
กระโปรงถึงจะสวย”

เพราะตอนที่เขาอยูใ่ นตระกูล พวกเด็กผูห


้ ญิงล้วนชอบสวมกระโปรง หนำซ้ำ
ซื้อกันทีหนึ่ งก็หลายสิบชุด ดังนั ้นเขาจึงคิดว่าน้ องสาวเขาก็ควรสวม
กระโปรงด้วย ไม่ควรทำตัวเหมือนขอทานตัวน้ อยๆ

“ก็เสื้อผ้าผูช
้ ายมันสะดวก”

ขณะที่กล่าว เธอกำลังคิดจะเลือกเสื้อผ้าผูช
้ ายยื่นให้เจ้าของร้าน ก็เห็นเขา
ลากเธอไปด้านเสื้อผ้าผูห
้ ญิง หลังจากนั ้นจึงเรียกเจ้าของร้านมา “เจ้ามานี่ สิ
ช่วยข้าหยิบตัวนี้ ตัวนี้ และก็ตัวนั ้นลงมาให้น้องสาวข้าที”

เห็นเช่นนี้ เฟิ่ งจิว


่ ก็กระอักกระอ่วนเล็กน้ อย เพียงลองคิดๆ ไปโดยไม่ทำอะไร
ตอนนี้ อยูใ่ นหมู่บา้ นแล้ว ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าขอทาน งัน
้ เธอก็เปลี่ยน
กลับเป็นเสื้อผ้าผูห
้ ญิงซะ จะเป็นไรไปเล่า?

“หยิบชุดสีแดงชุดนั ้นลงมาให้ขา้ ที!” เธอพูดกับเจ้าของร้านที่อยูข


่ า้ งๆ กัน

“ได้ขอรับๆๆ” เจ้าของร้านทัง้ มองไม่ออกและนึ กไม่ถึงเลยว่าขอทานน้ อยเช่น


นี้ จะเป็นคุณหนูสาว แต่เขาก็ยงั รีบหยิบชุดกระโปรงสีแดงนั ้นลงมา

“ท่านมีผา้ คลุมหน้าหรือไม่? หาผ้าคลุมหน้าสีแดงมาให้ขา้ อีกสักสองสามผืน


นะ” เธอพูดพลางก็ยงั เลือกให้กวนสีหลิน
่ อีกหลายชุด ถึงจะหยิบเงินออกมา
“คิดเงิน”
“เสียวจิว
่ เจ้าไม่เปลี่ยนชุดรึ?”

เธอยิม
้ ๆ แล้วพูดว่า “ท่านได้เปลี่ยนชุดใหม่ก็พอ เสื้อข้าตัวนี้ ไม่ฉีกไม่ขาด แค่
สกปรกนิ ดหน่ อย รอหาโรงเตี๊ยมสักที่อาบน้ำค่อยเปลี่ยน ไม่งน
ั ้ พอสวมชุด
ใหม่คงไม่สบายตัวนั ก”

“อืม นั ่นก็ถูก” เขาพยักหน้า ถึงจะออกไปหาห้องโรงเตี๊ยมที่ใกล้ๆ นี้ กับเธอ

“เสียวจิว
่ เจ้าเข้าไปอาบน้ำก่อนเลย พีเ่ ฝ้าประตูแทนเจ้าเอง” ที่นอกห้องพัก
กวนสีหลิน
่ ก้าวเท้าไป เขากะจะอยูท
่ ี่ด้านนอกอย่างเช่นเทพเฝ้าประตู

พอเห็นท่าทางนั ้นของเขา เฟิ่ งจิว


่ ก็ยม
ิ้ อย่างอดไม่ได้ “ไม่ต้องหรอก ที่นี่เป็น
โรงเตี๊ยมนะ แค่ปิดประตูหอ
้ งไว้ก็พอ ไหนเลยจะต้องให้ท่านมาช่วยข้าเฝ้า
ประตูด้วย ท่านเองก็ไปอาบน้ำเถอะ! ท้องข้ากำลังหิว! เดีย
๋ วพวกเราออกไป
หาอะไรกินนะ” ขณะที่พูด เธอก็ผลักเขาไปที่หอ
้ งข้างๆ

ได้ยน
ิ เธอบอกหิว กวนสีหลิน
่ จึงยอมความอย่างจำใจ “งัน
้ ก็ดี เจ้าอย่าลืมปิด
ประตูดีๆ ข้าอาบน้ำเสร็จแล้ว จะมารอเจ้าตรงนี้ นะ”

“อืม” เธอขานรับ ถึงจะหันตัวเข้าไปห้องข้างๆ เธอปิดประตูลง และเดิน


เข้าไปในห้องที่มีน้ำเตรียมไว้แล้วอย่างดี

อาจเพราะได้เป็นพีค
่ นครัง้ แรก กวนสีหลิน
่ ถึงดูแลปกป้องเฟิ่ งจิว
่ อย่างใกล้
ชิดนั ก โดยเฉพาะเมื่อรู ว้ า่ เธอเป็นผูห
้ ญิง เขาก็ยงิ่ เป็นแบบนี้ หลังจากอาบน้ำ
อย่างเร่งรีบ สวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย เขาก็ออกจากห้องมาเฝ้าอยูท
่ ี่ประตูหอ
้ ง
ข้างๆ มันช่างดึงดูดสายตาพินิจมองแปลกๆ จากแขกผู้เข้าพักที่สัญจรไปมา
ได้ไม่น้อยเลย

เฟิ่ งจิว
่ ใช้เวลาอาบน้ำอยูน
่ านโข เวลาประมาณครึง่ ชัว่ ยามเต็มๆ ประตูหอ
้ งถึง
จะเปิดออกจากด้านใน

ขณะที่กวนสีหลิน
่ ได้ยน
ิ เสียงเปิดประตูจากด้านหลังจึงหันไปมอง สองตาเขา
เบิกกว้างโตอย่างอดไม่ได้ ในดวงตาเขามีความตกตะลึง และมีความเหลือ
เชื่อฉายชัดอยูบ
่ นใบหน้า

“เสียว เสี่ยวจิว
่ ?”

“อืม” เฟิ่ งจิว


่ ขานรับ มุมปากเธอยกขึ้นน้ อยๆ ภายใต้ผา้ คลุมหน้าสีแดง จน
เป็นรอยยิม
้ ที่ผลิบานอยูบ
่ นริมฝีปาก

ถึงแม้ใบหน้าจะเสียโฉม แต่เธอมีรูปร่างดีมาก สัดส่วนโค้งมนปราดเปรียว


อ่อนช้อยกับชุดกระโปรงสีแดงแพรวพราวแพร่งพราย ราวกับแสงอาทิตย์
สุดระยับจับตา งดงามเสียจนไม่อาจมองได้ตรงๆ

และใบหน้าที่ถูกบดบังด้วยผ้าคลุมหน้าสีแดง ช่างเป็นผ้าคลุมหน้าที่ยงิ่ เสริม


เติมชัน
้ ความลึกลับให้แก่เธอ ทำให้ทัง้ ร่างเธอมีความรู ส
้ ึกน่าพิศวงกระจาย
อยู่ ดึงดูดให้ผูค
้ นต่างคันหัวจิตหัวใจ จนอยากจะเชยชมใบหน้างดงาม แต่
กลับไม่อาจเหลือบมองใบหน้าใต้ผา้ คลุมนั ้นได้
ชุดสีแดงสวมอยูบ
่ นร่างเธอ ช่างทรงเสน่ หน
์ ่ามอง และเป็นการโพนทะนาถึง
ความเอาแต่ใจ โดยเฉพาะกลิน
่ อายแสนเย่อหยิง่ ราวกับเหมยแดงกลางหิมะ
ที่กระจายอยูบ
่ นร่างเธอ ไม่บอบบางเหมือนหญิงสาวชาววัง แต่กลับเป็นกลิน

อายอันทรงเกียรติที่มักจะเกิดมาพร้อมผูเ้ หนื อกว่า

เมื่อเห็นสาวงามชุดแดงตรงหน้า กวนสีหลิน
่ ก็พูดอะไรไม่ออกอยูน
่ าน รู ส
้ ึก
แค่วา่ น้ องสาวตัวน้ อยของเขางดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ…

พอเห็นเส้นผมอ่อนนุ่มสีหมึกที่สยายไปด้านหลัง ใช้เพียงสายริบบิน
้ สีแดงผูก
ไว้หลวมๆ บริเวณข้างแก้มมีเส้นผมสองเส้นลู่ลงมา ยิง่ เสริมให้เธอสวยงาม
ชวนมอง ตอนนี้ ดวงตาคู่นั้นที่ปรากฏอยูเ่ บื้องนอกผ้าคลุมหน้าสีแดงกำลัง
หรีล
่ งยิม
้ ครึง่ หนึ่ ง หว่างคิว
้ เธอมีความมัน
่ ใจและเปิดเผยกระจายออกมา…

ตัวเธอแบบนี้ ทำให้เขายากที่จะคิดจริงๆ ว่าเธอกับขอทานน้ อยเนื้ อตัว


สกปรกคนก่อนหน้าเป็นคนคนเดียวกัน

“เสี่ยวจิว
่ เจ้างดงามมาก เทพธิดายังงามไม่เท่าเจ้าเลย เหอะๆๆ…”

ปากเขาฉี กยิม
้ ซื่อ พอคิดว่าสาวน้ อยที่หน้าตางดงามเช่นนี้ เป็นน้ องสาวเขา
ทันใดนั ้นในใจเขาก็มีความรู ส
้ ึกภูมิใจอย่างไม่มีอะไรเทียบได้ผุดขึ้นมา

“ไปกันเถอะ!” เธอยิม
้ อยูเ่ บาๆ พอเปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าผูห
้ ญิง เธอก็อารมณ์
ดีไม่เลวเลย ก่อนจะขยับก้าวเดินลงไปด้านล่างตึก

“อ้อ ได้ๆ”
เขารีบตามไป เหมือนคิดอะไรขึ้นได้จึงมองไปรอบๆ เป็นอย่างที่คาดไว้ เขา
เห็นเหล่าผูช
้ ายทัง้ บนตึกล่างตึกต่างจ้องมองน้ องสาวเขาอย่างตะลึงในความ
งาม

เห็นเช่นนี้ ขณะที่ในใจกำลังภาคภูมิ เขาก็แอบตัง้ มัน


่ ว่าต้องช่วยเสียวจิว

กำจัดรอยแผลบนใบหน้าให้จงได้

จนกระทัง่ ทัง้ สองออกจากโรงเตี๊ยม คนในโรงเตี๊ยมถึงจะได้สติกลับมา

“งามมาก… คุณหนูผูน
้ ั ้นเป็นใครกัน? ในหมู่บา้ นพวกเรามีสาวงามเช่นนี้
ตัง้ แต่เมื่อไหร่?”

และในร้านอาหารตรงข้ามโรงเตี๊ยม พอมู่หรงอีเ้ ซวียนที่ยน


ื อยูร่ ม
ิ หน้าต่าง
เห็นเงาร่างสีแดงนั ้น ในตาเขาก็มีแววของความกังขา

ทำไมแผ่นหลังนั ้นช่างคุ้นตาเช่นนี้ ?
ตอนที่ 56 นางผูน
้ ั้ นคือใคร?

เพราะความสงสัยในใจ เขาจึงก้าวลงจากตึก และมองหาตามเงาร่างสีแดง


นั ้นไป…

ส่วนอีกด้านหนึ่ ง เฟิ่ งจิว


่ กับกวนสีหลิน
่ ทัง้ สองคนออกหาร้านอาหาร จอง
ห้องอาหารส่วนตัวไว้หนึ่ งห้อง พวกเขาสัง่ อาหารมาหลายสิบอย่างกับเหล้า
อีกสองไห หลังจากประตูปิด พวกเขาก็เริม
่ กิน

เฟิ่ งจิว
่ ที่วางผ้าคลุมหน้าไว้อก
ี ด้าน เธอรินเหล้าไป พลางก็พูดว่า “ท่านพี่
พวกเราพักอยูท
่ ี่นี่สักระยะเถอะ! รอหาเช่าเรือนที่สงบเงียบสักหน่ อย ต้อง
สะดวกดีกว่าพักโรงเตี๊ยมแน่ ”

“ดี เดีย
๋ วพวกเราไปหากัน” เกี่ยวกับเรือ
่ งนี้ กวนสีหลิน
่ ไร้ซ่ึงความแปลกใจ
โดยสิน
้ เชิง

“เสียวจิว
่ เจ้าอย่าเพิง่ ดื่มเหล้าจนหมด ดื่มน้ำซุปตุ๋นก่อนสิ” เขาตักซุปให้เธอ
ชามหนึ่ ง แล้วยังช่วยเธอใช้ชอ
้ นตักเนื้ อผัดไข่ให้ “ลองชิมสิวา่ อร่อยหรือไม่”

“ท่านกินเถอะ! ข้าจัดการเองก็พอแล้ว”

ขณะที่พูด ก็เห็นเขาลองใช้มือขวาได้ไม่ค่อยชินนั ก ตะเกียบก็จับไม่ถนั ด เธอ


จึงคีบอาหารแต่ละจานลงในชามเขาไปบ้าง พลางพูดว่า “รอให้ผา่ นไปสักพัก
จนข้าพัฒนาวรยุทธ์สูงขึ้น ค่อยรวบรวมยามาช่วยท่านรักษาแขนขวานะ”
พอได้ยน
ิ เช่นนี้ เขาก็นิ่งไปเล็กน้ อย “ยังรักษาได้ร?ึ ”

“อืม แค่ของที่ต้องการไม่ได้หาเจอง่ายนั ก” เธอซดน้ำซุปในชาม แล้วคีบ


อาหารขึ้นมากินบ้าง “แต่ไม่มีปัญหาหรอก ข้ามีความมัน
่ ใจเต็มร้อย ว่าจะ
สามารถทำให้แขนเจ้าฟื้ นคืนเหมือนเดิมได้”

ด้วยฝีมือการรักษาของเธอ ขอแค่รวบรวมยาครบหมด ก็ไม่มีโรคใดที่รก


ั ษา
ไม่ได้

ไม่ต้องพูดถึงแค่เส้นเอ็นหัวไหล่ที่โดนกัดขาด ทัว่ ทัง้ แขนที่โดนกัด เธอก็


ทำให้กลับมาอีกครัง้ ได้

แม้เขาจะไม่เศร้าใจที่เสียแขน แต่พอได้ยน
ิ เธอบอกว่ารักษาได้ ในใจเขาก็ยงั
คงระรืน
่ อยูบ
่ า้ ง “เสียวจิว
่ หากรักษาแขนข้าให้หายดีได้ อีกหน่ อยข้าจะขยัน
ฝึกฝนวิชาไว้ปกป้องเจ้า”

“ก็ดี”

เธอพยักหน้ายิม
้ ๆ รู ด
้ ีวา่ พละกำลังเขาไม่ได้ด้อยเลย เขาสามารถต่อกรกับ
หมาป่าทัง้ ฝูงกับเสือด้วยกำลังตัวเองคนเดียว แต่พอคิดดูถึงรู ้ ว่าภายใต้
สถานการณ์ จนตรอกเช่นนี้ พลังปะทุของเขาจะแข็งแกร่งมาก

และเธอก็เชื่อว่าอนาคตเขาจะแข็งแกร่งยิง่ ขึ้นแน่ !
พอลงจากตึก มู่หรงอีเ้ ซวียนก็นั่งดื่มเหล้าอยูท
่ ี่โต๊ะชัน
้ หนึ่ ง ดวงตาที่หลับลงมี
ความครุ น
่ คิด

เขาไม่รูว้ า่ ทำไมตัวเองถึงตามเข้ามาได้ และยิง่ ไม่เข้าใจว่าตัวเองมองสาว


น้ อยชุดแดงผูน
้ ั ้นเป็นชิงเกอไปได้อย่างไร? แต่ก่อนหน้านี้ ที่เหลือบมองอยูช
่ น
ั้
หนึ่ ง แผ่นหลังนางช่างคล้ายคลึงมากจริงๆ

แต่เขาที่ตามนางมาตลอดทาง ตอนนี้ กลับไม่ค่อยมัน


่ ใจเท่าไหร่นัก เพราะ
นิ สัยท่าทางของทัง้ สองไม่เหมือนกัน

ชิงเกอสุภาพอ่อนโยน ทว่าสาวน้ อยชุดแดงเปิดเผยเอาแต่ใจ เรือนร่างของ


นางที่สวมชุดสีแดงแวววาวเช่นนั ้น แม้ชงิ เกอของเขาจะโดดเด่นมากเช่นกัน
แต่เดิมทีนางไม่ใช่คนแบบนั ้น หนำซ้ำไม่เคยสวมชุดแดงด้วย

เขาสงสัยว่าชิงเกอผูน
้ ั ้นที่กลับไปแล้วเป็นคนอื่นปลอมแปลงมาได้อย่างไร
กัน? ในทุกการเคลื่อนไหวและทุกรอยยิม
้ ที่คุ้นเคย เห็นชัดๆ เลยว่าเป็นนาง!

ทว่าในใจเขากลับมีเสียงหนึ่ งกำลังตัง้ คำถาม ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้

เนิ่ นนานนั ก ขณะที่ประตูหอ


้ งอาหารชัน
้ บนเปิดออก เงาร่างสีแดงนั ้นปรากฏ
ตัวขึ้นอีกครัง้ สายตาแต่ละคู่ของเหล่าลูกค้าทัว่ ทัง้ ร้านที่ต่างตกตะลึงใน
ความงามก็จับจ้องที่นางอีกครัง้ อย่างอดไม่ได้ ผ้าคลุมหน้าที่พลิว
้ ไหวไปตาม
ย่างก้าวของนาง ทำให้พวกเขาอดใจรอพายุลมแรงให้พด
ั พาผ้าคลุมหน้าเปิด
ออกแทบไม่ไหว
มู่หรงอีเ้ ซวียนเปรยตามองไป เพียงเห็นสาวน้ อยชุดแดงผูม
้ ีท่าทางโดดเด่น
เป็นที่สุดเดินก้าวนวยนาดลงมา ทุกย่างก้าวของนางล้วนเนิ บนาบและสง่า
งาม ชุดแดงดัง่ เปลวเพลิง ราวกับแสงแดดร้อนแรง แต่กลายเป็นว่าบนร่าง
นางกลับมีกลิน
่ อายเย็นชาที่ผูใ้ ดก็ไม่อาจเข้าใกล้กระจายอยู่ ระหว่างที่นาง
ยกมือขยับเท้า กลิน
่ อายสูงศักดิข
์ องผูเ้ หนื อกว่าก็กระจายออกมาอย่างเป็น
ธรรมชาติ

เมื่อรู ส
้ ึกถึงสายตาคู่หนึ่ งที่กำลังสำรวจมองเธออยู่ เฟิ่ งจิว
่ ก็ชายตามองไป
ตามสัญชาตญาณ ขณะที่ดวงตาสองคู่ประสานกัน ประกายแสงในดวงตา
นั ้นไม่อาจมีผูใ้ ดเข้าใจได้เลย…
ตอนที่ 57 มองยิ้มกลับ!

เมื่อเห็นมู่หรงอีเ้ ซวียน เฟิ่ งจิว


่ ก็นึกไม่ถึงเล็กน้ อย ที่บงั เอิญมาพบเขาที่นี่

อันที่จริง ก่อนหน้านี้ ที่มีคนตามหลังพวกเขามา เธอก็รูส


้ ึกได้ เพียงแต่ไม่
สัมผัสถึงจิตมุ่งร้าย ด้วยเหตุนี้เธอจึงไม่ใส่ใจอะไร พอคิดดูแล้วคนที่สะกด
รอยตามก็คือเขาสินะ

แต่วา่ เขาอยูข
่ า้ งกายเฟิ่ งชิงเกอตัวปลอมไม่ใช่ร?ึ ทำไมมาโผล่ที่นี่ได้?

ยังมีแววตาพินิจมองของเขาอีก มันหมายความว่าอะไร?

ภายใต้ผา้ คลุมหน้า เธอผุดรอยยิม


้ ขีเ้ ล่นออกมา แล้วดึงสายตากลับเบาๆ
ก่อนจะขยับก้าวเดินไปด้านนอก ทว่าแค่เดินไม่กี่ก้าว เขาที่เดิมเคยนั ่งอยูก
่ ็
กลับลุกมาขวางอยูต
่ รงหน้าเธอ

เธอไม่พูดอะไร แค่ลองเปรยตามองเขา

มู่หรงอีเ้ ซวียนเองก็ไม่ปริปาก เขายืนอยูเ่ บื้องหน้า และมองสองดวงตานาง


ไปอย่างเงียบๆ เช่นนั ้น ราวกับอยากจะค้นหาซึ่งความคุ้นเคยเช่นวันวานจาก
ดวงตาของนาง

แม้ดวงตาคู่นั้นจะคล้ายเธอมาก แต่แววตาดื้อดึงอย่างเปิดเผยกลับไม่ใช่สิง่
ที่เธอมี
ดวงตาคู่นี้งดงามเช่นนั ้น เหมือนกับคนในดวงใจเขา แต่แววตาชิงเกอของ
เขามีความอ่อนโยน ทว่าดวงตาตรงหน้าคู่นี้กลับมีความดุรา้ ยแอบซ่อนไว้
เป็นสองกลิน
่ อายที่แตกต่างกันโดยสิน
้ เชิง ทำให้เขาไม่รูจ
้ ะพูดอะไรไปชัว่
ขณะ

“หมอนี่ เจ้าทำอะไรน่ ะ?”

กวนสีหลิน
่ เห็นว่าสถานการณ์ ไม่ค่อยถูกต้องนั ก จึงเหยียบก้าวเท้าออกไป
ร่างกายล่ำสันขวางอยูต
่ รงกลางระหว่างสองคนทัง้ แบบนั ้น ขัดจังหวะการ
ประจันหน้าของพวกเขา

มู่หรงอีเ้ ซวียนได้สติกลับมา เขามองที่ชายหนุ่มผูม


้ ีรา่ งกายสูงใหญ่ตรงหน้า
ก่อนจะผุดรอยยิม
้ สง่างาม “พีช
่ ายท่านนี้ ข้าแค่เห็นว่าคุณหนูดูคล้ายๆ เพื่อน
ข้าคนหนึ่ ง จึงอยากจะเอ่ยปากทักทาย”

อาจเพราะกลิน
่ อายความมีชาติตระกูลบนร่างและความสุภาพของเขาทำให้
กวนสีหลิน
่ คิดว่าเขาไม่เหมือนคนไม่ดี ด้วยเหตุนี้ เขาที่สงสัยอยูน
่ ้ อยๆ จึงหัน
กลับไปมองคนด้านหลัง

“คุณหนู ดอกท้อในอารามสวนท้อจะบานในเดือนสาม”

เขามองเธออย่างนิ่ งเงียบ สายตาเขาอ่อนละมุนน่าลุ่มหลงจนเหมือนจะจม


อยูใ่ นน้ำได้ และคำพูดแปลกๆ ก็ทำให้กวนสีหลิน
่ ไม่ค่อยเข้าใจอยูน
่ ิ ดหน่ อย
และไม่รูว้ า่ หมายถึงอะไร
มีเพียงเฟิ่ งจิว
่ ที่ใจสัน
่ น้ อยๆ ในความทรงจำเธอมีภาพอันอบอุน
่ เช่นนั ้นอยู…

‘พีม
่ ู่หรง ได้ยน
ิ มาว่าดอกท้อในอารามสวนท้อนั ้นสวยงามที่สุด สีแดงขาว
สลับตัดสะท้อนกัน ดาษดาทัง้ ทัว่ เนิ นเขาท้องทุ่ง จริงหรือไม่เจ้าคะ?’ ใต้ต้น
ดอกท้อ สาวน้ อยรู ปโฉมงดงามเงยศีรษะขึ้นน้ อยๆ เธอมองชายหนุ่มชุดขาว
ข้างกายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู ส
้ ึกอันลึกซึ้ง

ในดวงตาชายหนุ่มชุดขาวคือความอ่อนโยนที่ทำให้คนหลงใหล เขายกมือขึ้น
โอบสาวน้ อยข้างกาย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอบอุน
่ “อืม ดอกท้อในอารามสวน
ท้อมองไปไร้ที่สิน
้ สุด เพียงลมพานพัด กลีบดอกชมพูล้วนปลิวว่อนทัว่
ท้องฟ้าดัง่ สายฝนดอกไม้ รอเดือนสามปีนี้ ดอกท้อบาสะพรัง่ พีจ
่ ะพาเจ้าไป
ดู”

รอเดือนสามปีนี้ ดอกท้อบานสะพรัง่ พีจ


่ ะพาเจ้าไปดู…

ดวงตาเธอที่หรีล
่ งครึง่ หนึ่ งฉายแววหวาดผวา พลันในใจทัง้ เศร้าโศกและ
เจ็บปวด เธอรู ้ ว่านั ่นคือความรักใคร่คิดถึงของเฟิ่ งชิงเกอคนเดิมที่มีต่อมู่
หรงอีเ้ ซวียน

คนก็อยูต
่ รงหน้า คำพูดราวกับเพิง่ ได้ยน
ิ เมื่อวาน แต่เธอคนนั ้นกลับจางหาย
ไปจากโลกนี้ แล้ว…

มู่หรงอีเ้ ซวียนกังวลใจเล็กน้ อย สายตาอันลึกซึ้งจับจ้องดวงตาที่หรีล


่ งครึง่
หนึ่ งของเธอ อยากจะมองให้ออกถึงท่าทีที่แปลกไป
“ดอกท้อในอารามสวนท้อบานเดือนสาม ข้าจะพาน้ องสาวข้าไปดูเอง ไหน
เลยต้องให้เจ้ามาเตือน?”

กวนสีหลิน
่ ที่ไม่รูค
้ วามหมายของคำพูดนั ้นกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ เขาจูง
มือเฟิ่ งจิว
่ เดินก้าวเท้ายาวออกไปด้านนอก พลางเตือนสติวา่ “น้ องหญิง
พวกเราอย่าไปสนใจเจ้าหน้าอ่อนนั ่นเลย หมอนั ่นแค่มองดูก็รูว้ า่ เป็นคุณชาย
นั กรัก ยังมีดอกท้อบานเดือนสามอีก ข้าว่าเขาคิดจะเกี้ยวพาเจ้าแน่ ๆ”

“ฮะๆ!”

พอได้ยน
ิ คำพูดเขา เฟิ่ งจิว
่ ก็หว
ั เราะออกมาอย่างกลัน
้ ไว้ไม่อยู่ เธอชำเลือง
มองกลับไปด้วยสายตาที่ยม
ิ้ อยูน
่ ้ อยๆ…
ตอนที่ 58 จวนภูตในห้วงมิติ!

มู่หรงอีเ้ ซวียนเห็นเฟิ่ งชิงเกอเป็นคนที่ผูกพันรักใคร่ ส่วนเฟิ่ งจิว


่ กลับเป็น
เพียงคนแปลกหน้าคนหนึ่ ง…

เรือ
่ งที่เธอต้องทำพึ่งพาได้แค่ตัวเอง เกรงว่าเขาผูน
้ ี้ จะเป็นหนึ่ งในคนที่เฟิ่ ง
ชิงเกอเชื่อใจมาก เธอก็คงไม่บอกกล่าวเขาถึงสถานการณ์ ตอนนี้

ช่วยคนอื่น จนแล้วจนรอดก็ไม่สู้ชว
่ ยตัวเอง

มู่หรงอีเ้ ซวียนมองเงาร่างที่จากไปของทัง้ สองอย่างตกตะลึกเล็กน้ อย

น้ องสาว?

ชายผูน
้ ั ้นบอกว่าเธอคือน้ องสาวเขา? งัน
้ เธอก็ไม่ใช่ชงิ เกอ?

พลันหัวใจเขาเหมือนจะว่างเปล่า หดหูน
่ ้ อยๆ และยินดีอยูบ
่ า้ ง ทัง้ หมดนี้ อาจ
เป็นเพียงเพราะเขาคิดมากไป…

ถึงอย่างไร ความกังขาของเขาก็น่าเหลือเชื่อ ถ้าเรือ


่ งที่สงสัยอยูเ่ ป็นความ
จริง นั ่นเท่ากับบอกว่าเฟิ่ งชิงเกอที่กลับไปจวนตระกูลเฟิ่ งตอนนี้ เป็นตัว
ปลอมน่ ะสิ? ต่อให้ในใจเขาจะเคลือบแคลงไปบ้าง รู ส
้ ึกว่าเธอไม่ใช่ แต่ท่าน
พ่อท่านปูของเธอ หรือว่าพวกเขาก็ยงั จำผิดคนรึ?

อาจเป็นเพราะ ทัง้ หมดนี้ เขาแค่ระแวงไป


อีกด้านหนึ่ ง กวนสีหลิน
่ กับเฟิ่ งจิว
่ ดูเรือนมาหลายที่ จนสุดท้ายก็ถูกตา
ต้องใจเรือนที่ค่อนข้างเงียบสงบแห่งหนึ่ งเข้า ทำเลออกจะห่างไกล แต่กิน
ขาดเรือ
่ งความสงบ และสภาพแวดล้อมก็ไม่เลว

วันนั ้น พอจัดหาซื้อพวกสิง่ ของที่ต้องใช้ในชีวต


ิ ประจำวันแล้ว ทัง้ สองจึงย้าย
เข้าไปอยู่

หลังจากอธิบายความกับกวนสีหลิน
่ เธอก็เข้าสู่การฝึกวิชาในรู ปแบบการนั ่ง
สมาธิ…

ตลอดสามวันติดต่อกัน ประตูที่ปิดแน่ นล้วนไม่เคยได้เปิดออก

ส่วนกวนสีหลิน
่ ที่เฝ้ายามอยูใ่ นเรือนก็ฝึกฝนการใช้ดาบด้วยมือซ้ายมาตลอด
ในเวลาสามวันนี้

ความสามารถเดิมของเขาไม่เลวเลย พลังปะทุเขาก็แข็งแกร่ง จากมือซ้ายที่


เดิมทีฝีมือตกไม่ได้เรือ
่ งได้ราว จนตอนนี้ ก็เป็นรู ปเป็นร่างแล้ว แม้จะไม่
กระฉั บกระเฉงเท่ามือขวา แต่ความแข็งแรงก็ค่อยๆ ใช้ได้ข้น
ึ มาบ้าง

ส่วนในห้อง เฟิ่ งจิว


่ ที่นั่งขัดสมาธิอยูบ
่ นเตียง สองมือเธอวางนิ่ งอยูบ
่ นเข่า
สองข้าง รอบกายมีพลังเร้นลับสีแดงที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากระจายอยู่
พลังเร้นลับบนร่างเธอหมุนวนเร็วมากทีเดียว แทบพูดได้เลยว่าพลังเร้นลับ
กำลังเข้าสู่จุดรวมพลังตรงกลางหว่างคิว
้ อย่างรวดเร็ว และมันก็ค่อยๆ รวม
กลุ่มเข้าด้วยกัน
ผูฝ
้ ึกวิชาขัน
้ ต้น จะก้าวเข้าระดับนั กรบ ต้องฝึกฝนกันหลายปีถึงจะมีความ
เป็นไปได้ที่จะบรรลุไปถึงพลังเร้นลับขัน
้ เริม
่ ต้นของระดับนั กรบ

สำหรับเฟิ่ งชิงเกอคนเดิม พละกำลังเก่าก่อนก็แค่วรยุทธ์ระดับนั กรบขัน


้ สอง
แต่ตอนนี้ เธอใช้เวลาสัน
้ ๆ ไม่ถึงสามวัน จุดรวมพลังก็บรรลุไปบ้างแล้ว ซ้ำยัง
เข้าถึงพลังเร้นลับขัน
้ เริม
่ ต้นได้อย่างมัน
่ คง พละกำลังเองก็พฒ
ั นาขึ้น

ต้องรู ไ้ ว้ ว่าพลังเร้นลับระดับนั กรบ แม้จะเล็กน้ อยก็มีความแข็งแกร่ง


สำหรับคนเช่นชายวัยกลางคนระดับปรมาจารย์นักรบที่เธอเคยพบในป่าเก้า
หมอบก่อนหน้านี้ พละกำลังเขานั ้นเทียบเท่ากับเสาหลักประจำตระกูล

ยิง่ ไปกว่านั ้น อีกฝ่ายก็เป็นแค่ปรมาจารย์นักรบผูม


้ ีพลังเร้นลับขัน
้ กลาง

วันนั ้น เขาที่มีพลังเร้นลับขัน
้ กลางของระดับปรมาจารย์นักรบก็ยงั ไม่ใช่คู่
ต่อสู้ของเธอ ยิง่ ไม่ต้องพูดถึงจุดรวมพลังของเธอที่ฝึกฝนออกมาในวันนี้ ซ้ำ
ยังเข้าถึงระดับนั กรบที่มีพลังเร้นลับขัน
้ เริม
่ ต้นที่สองแล้วซะด้วย

ขณะที่เธอถอนหายใจเบาๆ และลืมตาขึ้นช้าๆ ในหัวเธอก็มีเสียงประหลาดใจ


ของหงส์ไฟน้ อยดังลอยมา

“เจ้าผูห
้ ญิงโง่ ข้าทำลายชัน
้ อาคมด้านในห้วงมิตินี้แล้ว เจ้าเข้ามาลองดูเร็ว!”

ในดวงตาฉายแววแปลกใจ เธอใช้ดวงจิตแวบตัวเข้าไปในห้วงมิติ พอเข้ามา


เธอก็ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้
“นี่ คือ…”

“เป็นอย่างไรล่ะ? ข้าเคยบอกไว้ไง ว่าพละกำลังของข้านั ้นร้ายกาจมาก? เขต


อาคมที่ตาแก่นั่นไม่ได้ทำลาย ข้าจัดการให้แล้ว”

หงส์ไฟน้ อยมองเธออย่างได้ใจ ก่อนจะพูดอีกว่า “ก็ไม่รูว้ า่ เจ้ามีโชคดีอะไรนั ก


ถึงได้มาพบกับโลกในห้วงมิติที่หาเจอได้น้อยยิง่ เช่นนี้ มาฝึกวิชาในนี้ สิ หนึ่ ง
วันด้านนอกเทียบเท่ากับเวลาสามวันของด้านในนี้ เลยนะ”

พอได้ยน
ิ เช่นนั ้น เธอก็รูส
้ ึกว่ามันช่างน่าเหลือเชื่อ เพราะตัง้ แต่เข้ามา
เธอก็สังเกตุเห็นแล้ว ว่าหลังจากชัน
้ อาคมที่เคยขวางกัน
้ ไว้ถูกทำลาย พลัง
วิญญาณด้านในนี้ ก็คละคลุ้งอย่างมาก
ตอนที่ 59 ปลอกดาบเจ็ดดารา!

เธอเดินนวยนาดไปด้านใน เห็นฟ้าครามเมฆขาวเหมือนเป็นโลกเล็กๆ อีกใบ


เดิมทีตอนที่เขตอาคมในห้วงมิติยงั ไม่ถูกแก้ก็ทำได้เพียงเห็นด้านในนี้ กลับ
ไม่อาจเหยียบเข้าไป แต่ตอนนี้ กลับไม่เหมือนกันเลย

เธอมองจวนภูตในห้วงมิติ อารมณ์ เธอฮึกเหิมขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ นี่ เป็น


สมบัติล้ำค่าจริงๆ ด้วย

“ดูสิ ที่นี่ยงั มีน้ำพุวญ


ิ ญาณ ข้าเคยเห็นแล้ว น้ำของน้ำพุวญ
ิ ญาณนี้ เพราะได้
รับการหล่อเลี้ยงจากพลังวิญญาณในมิติ ต้นน้ำจึงล้วนมีแต่พลังวิญญาณ”

หงส์ไฟน้ อยชอบใจอย่างมาก เมื่อเช้าหลังจากแก้ชน


ั ้ อาคม เขาก็กระโดดโลด
เต้นด้วยความดีใจอยูด
่ ้านในนี้ ไปนานพักหนึ่ ง สำหรับที่แห่งนี้ เขาชื่นชอบมัน
จากก้นบึ้งหัวใจ ไม่งน
ั ้ เขาคงไม่อยูท
่ ี่นี่ได้นานแรมปี โดยไม่โวยวายอยากออก
ไปหรอก ต้องรู ไ้ ว้ หากเขาฝึกฝนวิชาอยูด
่ ้านในนี้ พลังเขาคงพัฒนาขึ้นได้เร็ว
มากแน่ ๆ

เธอยิม
้ ๆ แล้วลูบหัวหงส์ไฟน้ อย “งัน
้ เจ้าเป็นเด็กดีฝึกฝนวิชาอยูท
่ ี่นี่นะ ข้าจะ
ออกไปก่อน หากได้ฝึกวิชาในภายหน้า ข้าจะเข้ามาฝึกในนี้ เชื่อว่าพลังข้า
คงจะพัฒนาได้เร็วมากเลย”

“รู แ
้ ล้ว” หงส์ไฟน้ อยมุ่ยปาก ก่อนจะเดินไปเล่นน้ำข้างน้ำพุวญ
ิ ญาณ

เฟิ่ งจิว
่ เห็นท่าทางนั ้นก็ยม
ิ้ เธอใช้ดวงจิต ถึงจะแวบตัวออกมาด้านนอก
พอประตูหอ
้ งเปิดออก ก็เห็นกวนสีหลิน
่ ที่ฝึกกระบีอ
่ ยูใ่ นเรือน เห็นมือซ้ายเขา
ตวัดดาบได้แข็งทื่ออยูบ
่ า้ ง ไม่ได้คล่องแคล่วมาก ในใจเธอก็สัน
่ ไหวน้ อยๆ
เธอเรียกเขา “ท่านพี”่

“เสี่ยวจิว
่ เจ้าออกมาแล้วสิ? เจ้านี่ จริงๆ เลย ทำไมถึงได้ฝึกวิชาขึ้นมาอย่าง
ไม่คิดชีวต
ิ เช่นนี้ ? นี่ เจ้าขังตัวเองอยูด
่ ้านในมาสามวันเต็มๆ เลยนะ”

เขาเก็บกระบีเ่ ดินมาหาเธอ เขากล่าวอย่างจริงจังว่า “เสียวจิว


่ ฝึกวิชาไม่ใช่
จะฝึกได้ในเวลาอันสัน
้ อยากจะบรรลุได้เพียงชัว่ ครู ช
่ ว
ั ่ ยาม มันเป็นไปไม่ได้
หรอก ต้องค่อยเป็นค่อยไปสิ”

เฟิ่ งจิว
่ ได้ยน
ิ ก็ยม
ิ้ ขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ได้ๆๆ”

แม้เธอจะฝึกถึงพลังเร้นลับขัน
้ เริม
่ ต้นของระดับนั กรบแล้ว แต่พละกำลังยัง
คงถึงระดับนั กรบขัน
้ สอง คนธรรมดาก็มองไม่ออกหรอก ว่าวรยุทธ์จริงๆ
ของเธอนั ้นมีมากเท่าใด

ที่มีความเร็วในการก้าวหน้าเช่นนี้ ได้ในเวลาเพียงสัน
้ ๆ แน่ นอนว่าเป็นเพราะ
ร่างเทพประทับ และยังมีชพ
ี จรของพลังเร้นลับและพลังวิญญาณที่ถูกท่าน
อาจารย์เธอเปิดขยาย ราวกับว่าเส้นเอ็นเดิมที่เคยเป็นเช่นสายธารเล็ก
ละเอียด ตอนนี้ กลับกลายเป็นดัง่ แม่น้ำฮวงโหที่ไหลเชีย
่ ว ความเร็วในการฝึก
วิชาเช่นนี้ ไม่อาจสาธยายได้ในวันเดียวเป็นธรรมดา

“จริงด้วยท่านพี่ ข้าอยากไปซื้อชุดเข็มเงิน ท่านไปด้วยกันกับข้าเถอะ!”


“ได้สิ งัน
้ ก็ไปกันตอนนี้ เลย” หลังจากล้างหน้า เขาก็แบกกระบี่ข้น
ึ หลัง แล้ว
เดินออกประตูไปพร้อมกับเธอ

เมื่อเดินเข้ามายังหอสมบัติ เฟิ่ งจิว


่ ก็รบ
ั รู ไ้ ด้วา่ พวกเขาถูกคนจ้องมอง

การซ่อนเร้นกลิน
่ อายของอีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก ถึงขนาดกวนสีหลิน
่ คนข้าง
กายยังสัมผัสไม่ถึง หากไม่ใช่เพราะเดิมทีเธอก็เชีย
่ วชาญด้านนั ้น เดาว่าคง
ไม่ทันสังเกตว่าถูกคนจับตามอง

“นายห้าง พวกท่านมีเข็มเงินครบชุดหรือไม่?”

“มีขอรับ ไม่ทราบว่าคุณหนูต้องการระดับไหน? ตอนนี้ พวกเรามีสามแบบ


แบ่งเป็นสูง กลาง ต่ำรวมสามระดับ ราคาไม่เหมือนกัน คุณภาพก็แตกต่าง”
เจ้าของร้านยิม
้ พลางก็แนะนำไป เขาหยิบเข็มเงินสามชุดออกมาวางไว้เบื้อง
หน้าเฟิ่ งจิว

“เอาแบบนี้ ละกัน!” เธอเลือกชุดที่แพงที่สุด เพราะชุดนั ้นมีทัง้ สัน


้ ทัง้ ยาว
ค่อนข้างครบครัน ซ้ำคุณภาพก็ดีจริงๆ เสียด้วย

สายตาเธอจับจ้องไปบนปลอกดาบที่แขวนอยูบ
่ นผนั ง ดวงตาเป็นประกาย
เธอถามว่า “ปลอกดาบนั ้นขายหรือไม่?”

เจ้าของร้านมองตามไป เขายิม
้ ๆ “คุณหนูสายตาดีมาก นี่ คือปลอกดาบที่มี
เพียงหนึ่ งเดียวของหอสมบัติเรา พูดได้เลยว่า ต่อให้มองกว้างไปทัว่ ทัง้ แคว้น
แสงสุรย
ิ น
ั ก็ไม่อาจหาแบบที่เหมือนกันนี้ ได้”
เขานำปลอกดาบบนผนั งลงมา แล้วพูดต่อ “อัญมณี หลักๆ ทัง้ เจ็ดเม็ดที่มีสี
แตกต่างกันด้านบนนี้ ล้วนแต่เป็นเพชรพลอยหายาก ลวดลายแกะสลักบน
ปลอกดาบก็ยงิ่ ประณี ต สีสันอันงดงามและความหรู หรา แทนที่จะพูดว่าเป็น
ปลอกดาบ ไม่สู้เรียกว่าเป็นของประดับที่ดูสุขใจสบายตายังดีกว่า”
ตอนที่ 60 ราตรีมืดมนสายลมโหมแรง!

เฟิ่ งจิว
่ รับปลอกดาบนั ้นมาลองดู แล้วพูดว่า “คิดเงิน”

พอเจ้าของร้านได้ยน
ิ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิม
้ เขาเชิญเธอไปทางด้านโต๊ะ
พูดยิม
้ ๆ ว่า “คุณหนูขอรับ ปลอกดาบเจ็ดดาราหนึ่ งล้านสองแสน ชุดเข็มเงิน
นั ้นสามหมื่นห้า ของสองชิน
้ นี้ ขา้ น้ อยให้คุณหนูแค่หนึ่ งล้านสองแสนสาม
หมื่นพอ เศษท้ายห้าพันข้าน้ อยลดให้คุณหนู หวังว่าคุณหนูจะกลับมาอีกนะ
ขอรับ”

หลังจากเฟิ่ งจิว
่ จ่ายเงินอย่างสุขใจ เธอนำปลอกดาบเจ็ดดาราและเข็มเงิน
เก็บลงในถุงห่อฟ้าดิน ก่อนจะจากไปพร้อมกับกวนสีหลิน

เจ้าของร้านที่เห็นเธอใช้ถุงห่อฟ้าดิน ในดวงตาเขามีความแปลกใจ ถุงห่อฟ้า


ดิน? ดูท่า ชาติตระกูลของคุณหนูผูน
้ ั ้นจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว! หนำซ้ำ ไม่งน
ั้
เธอจะซื้อปลอกดาบเจ็ดดาราราคาเป็นล้านโดยไม่คิดต่อราคาเลยสักนิ ดได้
ยังไงล่ะ!

ทัง้ สองซื้อของอยูด
่ ้านนอกมาไม่น้อยเลย หลังจากเดินเล่นทัง้ วันถึงจะกลับ
ไป ส่วนคนที่จับตามองพวกเขา หลังจากเห็นพวกเขาเดินเข้าเรือนที่อยู่
บริเวณห่างไกล ถึงจะจากไปเพื่อกลับไปรายงาน

ในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ ง ชายวัยกลางคนกำลังนั ่งสมาธิฝึกวิชา เมื่อได้ยน


ิ เสียง
เรียกเบาๆ ดังลอยมาจากด้านนอก เขาถึงจะพูดว่า “เข้ามา”
ชายผูห
้ นึ่ งรีบก้าวเดินเข้ามา หลังจากคารวะอย่างนอบน้ อมก็เอ่ยขึ้นว่า
“คุณชายรอง ข้าน้ อยตามสองคนนั ้นมาตลอดหนึ่ งวัน เห็นพวกเขาเดินเข้า
เรือนที่ค่อนข้างห่างไกลไป ข้าน้ อยได้ยน
ิ จากคนรอบๆ จึงรู ว้ า่ พวกเขาเพิง่
ย้ายเข้ามาเมื่อสามวันก่อน อ้างว่าเป็นพีน
่ ้ องกัน ยังมีวน
ั นี้ ตอนที่อยูห
่ อ
สมบัติ ถุงห่อฟ้าดินที่สาวน้ อยชุดแดงหยิบออกมาก็เป็นของนายน้ อยขอรับ”

ในดวงตาชายวัยกลางคนมีความคิดจิตสังหารฉายชัดอยู่ เขาพูดด้วยน้ำ
เสียงเคร่งขรึม “พีน
่ ้ องคู่หนึ่ งงัน
้ รึ? เจ้าลองอธิบายรู ปร่างท่าทางพวกมันให้
ข้าฟังอย่างละเอียดสิ”

“ขอรับ” เขาพรรณนาถึงลักษณะท่าทางของทัง้ สองคนไปสักพัก สุดท้ายก็ยงั


กล่าวอีกว่า “แต่หญิงชุดแดงใช้ผา้ คลุมปิดหน้าไว้ จึงไม่อาจเห็นหน้าได้ชด

ขอรับ”

ชายวัยกลางคนมีแววตามืดขรึม แขนข้างหนึ่ งที่ลู่ลงวางอยูข


่ า้ งลำตัว ส่วน
มืออีกข้างกลับกำขึ้นมาแน่ น เส้นเอ็นสีเขียวปรากฎขึ้น จนเป็นเสียงดัง
แกร๊ก

“วาดรู ปหญิงชุดแดงนั ่นส่งไปป่าวประกาศภารกิจที่ตลาดมืดของพวกทหาร


รับจ้าง แล้วถือโอกาสบอกที่ปักหลักของพวกมันกับคนที่ตลาดมืด บอกพวก
เขา ว่าเช้าตรู ว่ น
ั รุ ง่ ขึ้นข้าต้องเห็นหัวของผูห
้ ญิงคนนั ้น!”

“ขอรับ!” ชายผูน
้ ั ้นตอบรับด้วยความเคารพ ก่อนจะถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
ในคืนนั ้น ท้องฟ้ายามค่ำคืนล้วนดำมืด ราวกับถูกปกคลุมด้วยผืนเมฆสีดำ
ไม่เห็นดาวเลยสักดวง

เฟิ่ งจิว
่ ที่สวมชุดสีแดงนอนแหงนหน้าอยูบ
่ นหลังคา มือข้างหนึ่ งหนุนศีรษะไว้
พลางก็มองดูถุงห่อฟ้าดินในมืออีกข้าง เธอพึมพำเสียงเบา “เดิมทีด้านในนี้
มีตราประทับวิญญาณอยู่ มิน่าล่ะ ข้าเปลี่ยนจากเสื้อผ้าขอทานมาเป็นเสื้อผ้า
ผูห
้ ญิงแล้ว นึ กไม่ถึงเลยว่าจะยังถูกเพ่งเล็กอีก”

เธอเก็บถุงฟ้าดิน แล้วมองท้องฟ้ายามวิกาลที่มืดมน เธออุทานเบาๆ ว่า


“ความรู ส
้ ึกนี้ … ทำไมถึงดีขนาดนี้ นะ! คืนมืดลมแรง ราตรีมืดมนสายลมโหม
แรง ช่างเป็นค่ำคืนของการเข่นฆ่า!”

น้ำเสียงพูดอย่างลอยๆ นั ้นมีความเกียจคร้านอยูบ
่ างส่วน และยังมี… การ
เฝ้ารอ… ที่ไม่อาจสังเกตุได้งา่ ยๆ

ค่ำคืนค่อยๆ มืดลง เฟิ่ งจิว


่ ที่อยูบ
่ นหลังคารอไปพลางก็หาวหวอด เธอเซื่อง
ซึมจนอยากนอนอยูเ่ ล็กน้ อย

จนกระทัง่ เวลากลางดึก ดึงจันทร์เจ้าโผล่ออกมาจากหลังเมฆดำ เฉกเช่น


สาวน้ อยผูเ้ หนี ยมอาย นำพาแสงจันทร์สว่างไสวสาดส่องลงบนแผ่นดิน…

เงาร่างสีดำสี่เงา มือถือกระบีย
่ าวที่มีแรงอาฆาตและความเยือกเย็น ต่าง
ก้าวไวกันเข้ามา พวกเขาเร่งรีบมาถึงหน้าประตู ก่อนจะใช้พลังกระโดดขึ้นมา
ขณะที่กระโดดลงในเรือน ก็กลับตกใจเพราะเสียงเสียงหนึ่ ง
“ข้ารอพวกเจ้าอยูน
่ านแล้ว”

พอน้ำเสียงเฉื่ อยชาที่มีความอยากนอนปนอยูบ
่ างส่วนดังลอยมา ทหาร
รับจ้างชุดดำทัง้ สี่นายก็หน
ั มองไปตามเสียงตามสัญชาตญาณ

เพียงเห็นว่าบนหลังคานั ้น มีหญิงชุดแดงเธอหนึ่ งพลิกตัวลุกขึ้นนั ่ง ชุดสีแดง


พลิว
้ ไหวตามสายลม ผมสีหมึกสยายไปด้านหลัง ภายใต้แสงจันทร์ที่อาบร่าง
มันมีความซุกซน เปิดเผย เป็นเสน่ หท
์ ี่ชว
ั ่ ร้ายและดูแหนงหน่าย…
ตอนที่ 61 ค่ำคืนแห่งการเข่นฆ่า!

หลังจากตะลึงงันกันไปเช่นนั ้นชัว่ ขณะ ทหารรับจ้างชุดดำทัง้ สี่นายก็เผยแวว


ตาหื่นกาม

“เป็นเธอ นึ กไม่ถึงเลยว่าตัวจริงจะงดงามพราวเสน่ หก
์ ว่ารู ปวาดเสียอีก”

“ไม่เลวเลย จะฆ่าทัง้ แบบนี้ ก็น่าเสียดายแย่ ไม่สู้…”

อีกคนหนึ่ งลูบคางพลางหัวเราะเหอะๆ แววตาดุรา้ ยพินิจมองเรือนร่างอรชร


สีแดงฉานอย่างเปิดเผย

แม้จะรู ส
้ ึกว่าหญิงชุดแดงช่างงามเลิศภายใต้แสงจันทร์ และถึงแม้อก
ี สอง
คนจะคันหัวจิตหัวใจ แต่กลับยังต้องระวังตัวให้มากกว่าสองคนนั ้น โดย
เฉพาะเมื่อเห็นท่าทางผ่าเผยใจเย็นโดยไม่ต่ ืนตระหนกตกใจของเธอ ก็ยงิ่
รู ส
้ ึกแปลกใจ

ทหารรับจ้างนายหนึ่ งผูม
้ ีรอยแผลฉกรรจ์บนใบหน้า กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียง
ทุ้มเข้ม “หญิงผูน
้ ี้ ท่าทีแปลกๆ อย่าได้นิ่งนอนใจไป นี่ ยงั เป็นภารกิจที่ต้องฆ่า
ให้ได้อยูน
่ ะ”

“แค่สาวน้ อยคนเดียว พีส


่ าม ท่านก็ให้ค่าเธอเกินไป” ทหารรับจ้างนายหนึ่ ง
ในพวกนั ้นพูดอย่างดูถูก และไม่เห็นด้วยอย่างยิง่
เมื่อเห็นสาวน้ อยอ้อนแอ้นลอยละล่องอยูก
่ ลางสายลมในค่ำคืน เขาก็หว
ั เราะ
เหอะๆ ขึ้นมา “ก็แค่สาวน้ อยคนหนึ่ ง ข้าคนเดียวก็กำราบเธอได้น่า”

ปลายเท้าเขาเหยียบไปบนกระเบื้องหลังคา และใช้พลังกระโดดขึ้นไปเผชิญ
หน้ากับเธอ

“จะฆ่าทิง้ ก็น่าเสียดายนั ก มาเล่นกับข้าซะดีๆ ก่อนเถอะ!” เขายิม


้ อย่างชัว่
ร้าย ก่อนจะโน้ มตัวยื่นมือออกไปจะจับตรงเสื้อบริเวณหน้าอกของเฟิ่ งจิว
่ ที่
กำลังนั ่งอยูบ
่ นหลังคาอย่างเกียจคร้าน

และในช่วงเวลานั ้นเอง เฟิ่ งจิว


่ ที่หรีด
่ วงตาหงส์งามลงครึง่ หนึ่ งก็มีแววเย็น
เยียบฉายอยูใ่ นดวงตา พลันเอื้อมมือออกไปคว้าข้อมือของอีกฝ่ายที่ย่น
ื มา
แล้วใช้แรงที่มือหักมันลง

แกร๊ก!

“อ๊าก!”

เสียงกระดูกแตกหักตัดผ่านท้องฟ้ายามราตรีไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องอัน
รุ นแรง มันทำลายซึ่งความเงียบสงัดในยามวิกาล…

แทบจะในเวลาเดียวกัน เฟิ่ งจิว


่ ที่เดิมทีเคยนั ่งอยูอ
่ าศัยแรงลุกยืนขึ้นมา เธอ
ยกเท้าขึ้นเตะด้วยความโหดเหีย
้ ม จนปลายเท้าที่ใช้พลังเร้นลับเคลือบแฝง
เตะโดนตรงเป้ากางเกงของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ
“อื้ม!”

เขาร้องไม่ออก มีเพียงเสียงอูอ
้ ใี้ นลำคอเพราะหายใจไม่สะดวกนั ก รวมถึง
ร่างกายที่เจ็บปวดจนต้องคดโก่งตัวขึ้นมาอย่างยากเกินทน สองขาที่สัน
่ ไหว
ทรุ ดลงไปเป็นเสียงดังตุบ

“มีกำลังแค่นี้ร?ึ ” เฟิ่ งจิว


่ ส่งเสียงหึอย่างเย็นชา เธอคลายมือที่จับข้อมือเขาไว้
ออก แล้วสับเปลี่ยนมาบีบที่ลำคอเขาแทน พอเสียงดังแกร๊ก คอเขาก็ถูกบิด
หัก ก่อนจะผ่อนมือปล่อยร่างเขาร่วงลงไปในเรือน

“พีส
่ อง!”

เสียงอุทานหลายเสียงดังลอยออกมา สามคนนั ้นมองเฟิ่ งจิว


่ อย่าง
โกรธเคือง ต่างตื่นตระหนกในฝีมืออันร้ายกาจของเธอ การเคลื่อนไหว
ที่วอ
่ งไว ความเร็วเช่นนั ้น ทำให้พวกเขาถึงกับไม่มีแม้แต่เวลาจะตอบโต้
จึงทำได้เพียงเบิกตามองเธอฆ่าพีส
่ องจนตาย!

“ฆ่านางซะ!”

น้ำเสียงอันชัว่ ร้ายของชายที่ค่อนข้างสูงอายุชา่ งมีความดุดันโหดเหีย


้ ม พอ
พูดไปเช่นนั ้น ก็ดึงพลังขึ้นมา เขากระโดดขึ้นไปประจันหน้าบนหลังคา กระบี่
ยาวในมือมีกลิน
่ อายพลังเร้นลับพวยพุง่ ออกมาอย่างรุ นแรง

“ระดับนั กรบพลังเร้นลับขัน
้ กลาง?” คิว
้ เธอเลิกขึ้นน้ อยๆ เธอดูถูกพละกำลัง
ของพวกเขาไปบ้างจริงๆ
พอขยับมือ มีดสัน
้ ที่แหลมคมก็สะท้อนแสงกระหายเลือดที่เย็นเยียบอยู่
ท่ามกลางค่ำคืน เธอหยัดตัวขึ้นทันใด เมื่อปลายดาบอยูห
่ า่ งออกไปสามนิว

เธอก็เอีย
้ วตัวออกด้านข้าง แล้วสะบัดมีดสัน
้ ในมือไป ได้ยน
ิ เพียงเสียงอูอ
้ ด
ี้ ัง
ออกมา ดวงตาคู่นั้นของทหารรับจ้างที่อยูข
่ า้ งกายเบิกโพลง ทัง้ ร่างเขาแข็ง
ทื่อ ก่อนจะล้มตัวตรงลงไปด้านในเรือน

ฆ่าพีใ่ หญ่ของพวกเขาได้ในหนึ่ งกระบวนท่า?

สีหน้าเคร่งขรึมของอีกสองคนที่เหลือ มีความหวาดหวัน
่ ท่วมท้นบนใบหน้า

แรงอาฆาตที่เอ่อล้นบนร่างหญิงสาว คละคลุ้งมายิง่ กว่าทหารรับจ้างจาก


ตลาดมืดเช่นพวกเขาอีก ทำให้พวกเขาต่างขวัญหนี ดีฝ่อกันอย่างไม่อาจ
ควบคุม…

“รีบไปเร็ว!”

คนเช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะฆ่าได้ หากยังไม่ไปอีก เกรงว่า


ชีวต
ิ เล็กๆ ของพวกเขาก็ต้องจบเห่ลงที่นี่…
ตอนที่ 62 ทำลายร่างมลายสิ้น!

เมื่อเห็นเงาร่างนั ้นวิง่ หนี กลับไป เฟิ่ งจิว


่ ก็ยกริมฝีปากขึ้นยิม
้ อย่างชัว่ ร้าย

“ในเมื่อมาแล้ว ก็อย่าได้คิดจะมีชว
ี ต
ิ กลับไปเลย!”

สิน
้ คำพูดนั ้น เงาร่างสีแดงก็โผตัวออก เธอพุง่ ไปหาทัง้ สองคนนั ้นราวกับ
ภูตผีในยามวิกาล กริชที่ถือไว้ในมือสะท้อนแสงเย็นเยียบที่มีความกระหาย
เลือดอยูท
่ ่ามกลางค่ำคืน เวลาต่อมา ก็เห็นร่างเธอแฉลบผ่านร่างทัง้ สองคน
ไป สิง่ สีเลือดกระเซ็นออก เงาร่างที่เผ่นหนี ของสองคนนั ้นแข็งทื่อขึ้นมาชัว่
ขณะ ก่อนจะล้มตัวตรงลงไปด้านในลานบ้าน

ฟุบ ฟุบ!

ไร้รอ
่ งรอยการต่อสู้ และไม่รบกวนผู้ใด ทหารรับจ้างจากตลาดมืดทัง้ สี่นาย
จบชีวต
ิ อยูใ่ นเงือ
้ มมือเธออย่างเงียบเชียบทัง้ แบบนี้ …

เฟิ่ งจิว
่ ที่ยน
ื รับลมอยูก
่ ำลังหรีต
่ าลง เธอมองร่างทัง้ สี่ศพบนลานกว้างของ
เรือน แววตาเธอสัน
่ ไหวอยูน
่ ้ อยๆ

ผูม
้ ีพลังเร้นลับ นอกจากฝึกฝนพลังเร้นลับแล้ว ก็ยงั ต้องฝึกศิลปะการต่อสู้
ด้วย การผสมผสานของทัง้ สองสิง่ ถึงจะสามารถสำแดงพละกำลังของนั กรบ
ผูม
้ ีพลังเร้นลับออกมาได้ ส่วนเธอ ด้วยพลังเร้นลับที่บรรลุถึงระดับนั กรบที่มี
พลังเร้นลับขัน
้ เริม
่ ต้น ควบคู่กับทักษะการลอบสังหารและการต่อสู้ที่เธอ
ชำนาญมาแต่เดิม การต่อกรกับพวกนั กรบพลังเร้นลับของหมู่บา้ นเล็กๆ เช่น
นี้ จึงไม่ใช่ปัญหาเลย

แต่หากจากลาหมู่บา้ นนี้ ไป พลังเพียงน้ อยนิ ดของเธอก็ยงั ต้องพัฒนาขึ้นอีก


มิเช่นนั ้น ถ้าวันหนึ่ งได้พบกับคนที่มีกำลังแกร่งกว่า เธอก็ทำได้เพียงอยูเ่ ฉยๆ
ให้คนอื่นเฉื อดฆ่า

พอกระโดนลงมาในลานบ้าน เธอก็เดินไปที่ขา้ งศพพวกนั ้นเพื่อรือ


้ ค้น บน
ร่างพวกเขาเธอค้นเจอเพียงแผ่นป้ายสีดำชิน
้ หนึ่ งที่เหมือนๆ กัน บนนั ้น
เขียนไว้วา่ ‘ทหารรับจ้างตลาดมืด’

“ตลาดมืด?”

เธอพึมพำเสียงเบา แล้วค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตลาดมืดในหัว

ทว่าเฟิ่ งชิงเกอคนก่อนคลุกคลีกับเรือ
่ งทำนองนี้ ไม่บอ
่ ยนั กอย่างเห็นได้ชด

ในหัวเธอจึงมีขอ
้ มูลที่เกี่ยวข้องกับตลาดมืดอยูเ่ พียงน้ อยนิ ดมาก

“ดูท่า ข้าจำเป็นจะต้องไปลองดูที่ตลาดมืดซะแล้ว” ริมฝีปากเธอยกยิม


้ เธอ
หยิบน้ำยาที่ปรุ งไว้หลังจากกลับมาเมื่อตอนบ่ายออกจากห้วงมิติ มาสาดลง
บนร่างทัง้ สี่ศพนั ้น

ได้ยน
ิ เพียงเสียงซ่าๆ ดังขึ้น ทัง้ สี่ศพมีฟองเล็กๆ สีขาวและควันไฟพวยพุง่
ออกมา ก่อนจะกลายเป็นเลือดนองกองหนึ่ งอย่างรวดเร็ว เหลือแค่เสื้อผ้าสี
ดำหลายตัวกำลังยับยูย
่ อ
ี่ ยูต
่ รงนั ้น…
วันรุ ง่ ขึ้น

กวนสีหลิน
่ เดินนวดๆ คอออกมา เมื่อคืนนี้ มันแปลกๆ อยูน
่ ิ ดหน่ อย ทำไมตัว
เองถึงหลับลึกได้ขนาดนั ้นนะ?

เมื่อปรายตามองไป เขาเห็นเฟิ่ งจิว


่ กำลังฝึกวิชาหมัดที่ชา่ งอ่อนพลิว
้ อยูใ่ น
ลานบ้าน จึงฉี กยิม
้ ขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “เสี่ยวจิว
่ หมัดนี้ ไม่ได้ชกแบบนี้ ”

เขาพูดพลางก็เดินมาข้างๆ เธอ ก้าวย่อขาลงอย่างมันคง กล่าวว่า “ดูไว้ การ


จะชกหมัด รากฐานต้องมัน
่ คง กำหมัดให้แน่ น ออกหมัดต้องมีแรง และต้อง
แผดเสียงออกไป เรีย
่ วแรงทัว่ ร่างจะขึ้นมาที่หมัด หมัดที่ชกออกแบบนี้ ถึงจะ
แข็งแรง หากทำเหมือนเจ้าเช่นนั ้น พอโดนคนชกมาเจ้าก็ล้มแล้ว”

เขาในตอนนี้ เหมือนจะลืมความไม่เกรงกลัวของเธอยามเมื่อเผชิญหน้ากับ
ฝูงหมาป่าตัวคนเดียวในวันนั ้น และลืมความดุรา้ ยราวปีศาจของเธอในยาม
ที่ได้คร่าชีวต

เขาจำได้เพียงว่าเธอเป็นเด็กสาว เป็นแค่เด็กสาวอายุสิบห้าคนหนึ่ ง แม้เธอ


จะมีมุมที่บา้ คลัง่ และโหดร้าย แต่ในใจเขา เธอเป็นเพียงน้ องสาวที่ต้องให้เขา
คอยปกป้อง

เฟิ่ งจิว
่ ที่ได้ยน
ิ คำพูดเขา จึงยิม
้ ขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ท่านพี่ วิชาหมัดของ
ท่านเป็นแบบที่ผูช
้ ายเขาฝึกกัน ต้องใช้ความแข็งแกร่ง วิชาหมัดของข้า ต้อง
อาศัยพลังโจมตี แบบสี่ตำลึงปาดพันชัง่ ”
ขณะที่พูด ก็เหมือนนึ กอะไรขึ้นมาได้ เธอจึงถามว่า “ท่านพี่ ข้าจำได้ ท่าน
บอกว่าที่ท่านฝึกฝน คือวิชาพลังภายในของบ้านตระกูลกวนสินะ?”

“ใช่แล้ว เป็นวิชาพลังภายในของตระกูลกวน ศิลปะการต่อสู้ก็ด้วย เสี่ยวจิว



เจ้าอยากเรียนหรือไม่? พีจ
่ ะสอนเจ้าเอง”

เธอส่ายหน้ายิม
้ ๆ “เปล่าหรอก ข้ามีวช
ิ าพลังภายในม้วนหนึ่ งที่เหมาะจะให้
ท่านฝึกมากๆ เลย” เธอนำถุงห่อฟ้าดินที่กำจัดตราประทับวิญญาณไปแล้ว
ยื่นให้เขา

“อยูด
่ ้านในนี้ แหละ ช่วงนี้ ท่านตัง้ ใจอ่านด้วย หมัดก็ไม่ต้องฝึกแล้ว มาฝึก
วิชาพลังภายในม้วนนี้ ก่อนเถอะ”
ตอนที่ 63 ตลาดมืดที่ซ่อนเร้น!

“เสียวจิว
่ เจ้าจะยกทัง้ ถุงฟ้าดินนี้ ให้ขา้ รึ? แล้วตัวเจ้าเองเล่าจะทำเช่นไร?”

หลังจากกวนสีหลิน
่ เปิดถุงฟ้าดิน เห็นด้านในนอกจากจะมีม้วนตำราวิชา
พลังภายในที่เขียนไว้วา่ ‘มังกรเพลิงพยัคฆ์ไฟ’ ก็ยงั มีทรัพย์สินสิง่ ของอีกไม่
น้ อย และพวกขวดอีกหลายใบ เขาถามด้วยความสงสัยอย่างอดไม่ได้ “เจ้า
จะให้สิง่ ของตัง้ มากมายขนาดนี้ กับข้าทำไมกัน?”

เขาหยิบม้วนตำราพลังภายในออกมาดู ดวงตาเขาเบิกกว้างอย่างอดไม่ได้
“พลัง พลังภายในระดับทวยเทพ? ข้า ข้าไม่ได้อา่ นผิดใช่หรือไม่?” วิชาพลัง
ภายในเช่นนี้ ต่อให้เป็นเชื้อพระวงศ์ของแสงสุรย
ิ น
ั ก็ไม่อาจหาได้สักม้วน
เดียว!

ต้องรู ไ้ ว้ ว่าตำราพลังภายในระดับทวยเทพนั ้นเป็นของล้ำค่าท่ามกลาง


ขุมทรัพย์ ในแคว้นเล็กๆ ระดับเก้าอย่างแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ไม่มีทางหาได้พบ
เช่นนั ้นเธอไปได้มาจากไหนกัน?

ในชัว่ ขณะนั ้น มือเขาที่ถือตำราไว้สัน


่ อยูเ่ ล็กน้ อย มันคือความตื่นเต้น และ
ความรู ส
้ ึกร้อนจนลวกมือ

เขานึ กไม่ถึงว่าจะมีบุญได้เห็นตำราพลังภายในระดับทวยเทพ! นี่ มันเหลือ


เชื่อเกินไปแล้ว!
“ถูกต้อง นี่ คือตำราพลังภายในระดับทวยเทพ ตำราชุดนี้ ก็ใช้ฝึกพลังเหมือน
กัน เหมาะสมกับท่านพอดิบพอดีเลย” เธอยิม
้ ๆ กล่าวอีกว่า “มือท่านในตอน
นี้ ไม่อาจฝึกหมัดซ้อมกระบี่ ก็อย่าเพิง่ ฝึกไปก่อน อาศัยช่วงเวลานี้ ท่องจำ
ตำราให้เคยชิน เมื่อถึงเวลา ข้าค่อยให้ม้วนตำราศิลปะการต่อสู้ระดับทวย
เทพให้ท่านอีกนะ”

ตำราพลังภายในนี้ แน่ นอนว่าเธอหามาจากในหมู่สิง่ ของที่ท่านอาจารย์เธอ


มอบให้ เมื่อคืนวานคิดว่าตำรานี้ เหมาะกับเขาดี ถึงได้หยิบมันออกมา

“ข้าฝึกได้จริงๆ รึ?” เขามองเธอด้วยดวงตาเป็นประกาย

“แน่ นอน” เธอพยักหน้า “ถ้าไม่เข้าใจตรงไหน ท่านถามข้าได้”

“ดีเลย งัน
้ ตอนนี้ ขา้ จะกลับเข้าห้องไปฝึกคาถาพลังภายในนะ” เขาที่ถือตำรา
ไว้อม
ิ่ เอมใจอยูน
่ ้ อยๆ เขากลับห้องไปฝึกฝนวิชาอย่างอดใจรอไม่ไหว

พอเห็นเช่นนั ้นเฟิ่ งจิว


่ ก็ยม
ิ้ ๆ เธอรำไทเก๊กออกกำลังกายกระดูกและกล้าม
เนื้ อไปอีกสักพัก ถึงจะกลับไปฝึกวิชาที่หอ
้ งบ้าง

ในค่ำคืนอีกหลายวันหลังจากนั ้น ก็มีทหารรับจ้างจากตลาดมืดมาเยีย
่ ม
เยือนเรือนเล็กๆ ของพวกเขาแทบทุกคืน แต่ทหารรับจ้างทุกคนที่มาล้วนไม่
เคยได้กลับไป…

และทัง้ หมดนี้ กวนสีหลิน


่ ไม่รูเ้ รือ
่ งอะไรเลย
เพราะทุกๆ คืน เฟิ่ งจิว
่ จะใช้เข็มเงินบริหารเส้นเอ็นแขนขวาให้เขา และ
สุดท้ายเธอจะจี้จุดเส้นประสาทที่ทำให้สลบ จนเขานอนหลับยาวถึงวันรุ ง่
ขึ้น…

อีกหลายวันให้หลัง เฟิ่ งจิว


่ วางวงกตล่องหนไว้ในสวน หลังจากอธิบายความ
กับกวนสีหลิน
่ เธอถึงจะออกเดินทางไปยังตลาดมืด

และในขณะเดียวกัน ชายวัยกลางคนที่รออยูโ่ รงเตี๊ยมหลายวันโดยไม่มีขา่ ว


คราว ใบหน้าเขาเคร่งขรึม เขาลุกขึ้นไปที่ตลาดมืด พลางด่าว่าอย่างขุน
่ เคือง
“มีแต่พวกไม่ได้เรือ
่ งไร้ประโยชน์ ! แค่ผูห
้ ญิงคนเดียวก็ยงั จัดการไม่ได้!”

ขณะที่ด่าทอออกไปเช่นนั ้น มันช่างชัดเจน ว่าเขาได้หลงลืมความจริงที่วา่ ตัว


เองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฟิ่ งจิว
่ เช่นกัน

ตลาดมืด เป็นสถานที่ทำการค้าลับ ในตลาดมืดไม่เพียงแต่มียาสมุนไพร


ล้ำค่าที่พบเห็นได้ยาก แต่ยงั มีสิง่ ของทัง้ หมดที่ผูฝ
้ ึกฝนวิชาต่างก็ต้องการ
เช่นยาอายุวฒ
ั นะและอาวุธต่างๆ

ในตลาดมืดมีลานประลอง ที่ต้องใช้ศิลปะการต่อสู้ในการประลองฝีมือ เป็น


ลานประลองที่ใช้กำลังความสามารถเพื่อหาเงินและสร้างชื่อเสียง

ส่วนทหารรับจ้างที่กระจายตัวอยู่ ก็เป็นพวกเดนตายที่ป่าเถื่อนโหดร้าย พวก


เขาไม่ได้รบ
ั การยอมรับจากสมาคมทหารรับจ้างตามมาตรฐาน ในตลาดมืด
นี้ พวกเขามีทัง้ ที่เดินทางโดดเดี่ยว และเกาะกันเป็นกลุ่ม ภารกิจที่รบ
ั ก็มีแต่
พวกภารกิจลอบสังหารที่ทหารรับจ้างปกติไม่ทำ
อยูท
่ ี่นี่ พวกเขารู จ
้ ักเพียงเงิน ก็แค่ขายชีวต
ิ เพื่อเงินทอง

ขณะที่ชายหนุ่มสวมชุดแดงแพรวพราวเดินเข้ามาในตลาดมืด สายตาของ
ผูค
้ นไม่น้อยต่างมีประกายตื่นตะลึงในความงามอย่างไม่อาจปิดบัง

ชายหนุ่มผูน
้ ั ้นร่างกายสูงเพรียว กลิน
่ อายของเสน่ หอ
์ น
ั ชัว่ ร้ายกระจายอยูท
่ ัว่
ร่าง บนหน้ากากสีทองแสนประณี ตมีดอกลำโพงสีแดงงดงามกำลังเบ่งบาน
ทัง้ ที่มองไม่เห็นใบหน้าเขา แต่กลับมีความรู ส
้ ึกลึกลับอยูจ
่ างๆ

ทว่าที่สำคัญกว่าก็คือ ไม่มีใครสามารถมองเห็นถึงวรยุทธ์ของเขา

อาจหาญเดินกรีดกรายเข้ามาในตลาดมืดเช่นนี้ จะเป็นคนธรรมดาที่ไม่มี
วรยุทธ์ได้อย่างไร? ในเมื่อไม่ใช่คนธรรมดา งัน
้ ก็เหลือแค่ความเป็นไปได้
เดียว

พละกำลังของอีกฝ่ายอาจลึกซึ้งเกินคาดเดา…
ตอนที่ 64 น้ำยาเร่งรวมพลัง

ท่ามกลางสายตาสำรวจคาดเดาของฝูงชน ก็มีชายชราสวมชุดสีเทาท่าน
หนึ่ งเดินเข้ามาพร้อมใบหน้าประดับรอยยิม
้ เขาโค้งคำนั บคารวะ “คารวะ
ใต้เท้า กระผมแซ่จู เป็นรองหัวหน้าผูด
้ ูแลที่นี่ ไม่ทราบว่าใต้เท้ามีอะไรให้กระ
ผมช่วยรึขอรับ?”

เฟิ่ งจิว
่ ที่มองไปรอบๆ ดึงสายตากลับมามองผูด
้ ูแลตรงหน้า เธอกล่าวว่า “หา
ห้องส่วนตัวที่สามารถชมการต่อสู้บนลานประลองให้ขา้ สักห้องสิ”

ได้ยน
ิ เช่นนั ้น รองหัวหน้าผูด
้ ูแลก็ยม
ิ้ ๆ เขากล่าว “เชิญใต้เท้าตามกระผมมา
ลานประลองอยูด
่ ้านหน้าขอรับ” เขานำทางอยูเ่ บื้องหน้า พาเฟิ่ งจิว
่ ไปยังห้อง
ส่วนตัวที่ชน
ั ้ สองของลานประลอง

“เชิญใต้เท้าลองดู ท่านพอใจหรือไม่ขอรับ” หลังจากเปิดหน้าต่างให้ เขาก็


ถอยมาอยูข
่ า้ งๆ

เฟิ่ งจิว
่ เดินไปด้านหน้า เห็นเพียงลานกว้างทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าด้านล่าง
บริเวณรอบๆ นอกจากที่นั่งแต่ละแถวตรงชัน
้ หนึ่ ง ชัน
้ สองทัง้ หมดก็เป็นห้อง
ส่วนตัว ทัง้ บนล่างรวมสองชัน
้ รับรองคนได้เกือบพัน

และตอนนี้ บนลานประลองมีนักรบสองท่านกำลังต่อสู้กัน ฉากเบื้องหน้า


ช่างเข้มข้นอย่างมาก เสียงกู่รอ
้ งของผู้ชมรอบๆ ต่างแซ่ซ้องกันล้นหลาม
“ที่พวกเราอยูต
่ รงนี้ เป็นตลาดย่อย มีแค่ลานประลอง ด้วยเหตุนี้ ที่นี่จึงมีป้าย
รายชื่อสีเหลืองอยูเ่ พียงป้ายเดียว หากวันใดใต้เท้าไปถึงเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ก็
ลองไปดูที่ตลาดหลักของพวกเราได้ มีเพียงทางด้านนั ้นถึงจะมีป้ายรายชื่อผู้
มีพลังเร้นลับในใต้หล้าทัง้ สามป้ายใหญ่ตัง้ อยูข
่ อรับ”

เห็นเฟิ่ งจิว
่ กำลังมองโดยไม่พูดไม่จา ผูด
้ ูแลจึงพูดอย่างยิม
้ ๆ อีกว่า “หาก
ใต้เท้าสนใจ ท่านสามารถวางเดิมพันเพื่อซื้อตัวนั กรบผูช
้ นะที่ท่านถูกตา
ต้องใจได้ อัตราการต่อรองอยูท
่ ี่หนึ่ งต่อสิบขอรับ”

เพียงมองอยูส
่ ักพัก เฟิ่ งจิว
่ ก็ดึงสายตากลับอย่างไม่สนใจนั ก เธอมองไปทาง
ผูด
้ ูแล แล้วถามว่า “ที่นี่พวกท่านมีนักวิเคราะห์หรือไม่?”

ผูด
้ ูแลนิ่ งไปสักพัก ก่อนจะพยักหน้า “มีขอรับ ไม่ทราบว่าใต้เท้าอยาก
วิเคราะห์สิง่ ใด?”

“พวกยาน่ ะ”

ได้ยน
ิ คำพูดนั ้น บนใบหน้าผูด
้ ูแลก็มีความจริงจังอยูบ
่ างส่วน “ใต้เท้าโปรด
รอสักครู ่ เดีย
๋ วกระผมจะไปเชิญนั กวิเคราะห์มาขอรับ” ขณะที่พูด เขาโค้งตัว
คารวะ ถึงจะถอยออกไป

ในเวลานั ้นที่ประตูปิดลง ผูด


้ ูแลหันมองกลับไปที่หอ
้ งแวบหนึ่ งอย่างมีความ
นั ย จากนั ้นจึงเร่งฝีเท้าจากไป
เวลาประมาณครึง่ ก้านธูป ผูด
้ ูแลจูก็พาชายชราสองท่านกลับมา พอเข้า
ประตู เขาแนะนำอย่างยิม
้ แย้มกับเฟิ่ งจิว
่ ว่า “เรียกใต้เท้า ท่านผูน
้ ี้ แซ่ต่ง เป็น
หัวหน้าผูด
้ ูแลตลาดมืดของพวกเรา ส่วนท่านนี้ เติง้ เหล่า เป็นนั กวิเคราะห์ยา
ของพวกเราขอรับ”

ทัง้ สองท่านที่เข้ามา พินิจมองคนในห้องอย่างสงบนิ่ ง

เห็นเขาในชุดแดงนั ่งเอียงตัวไปทางหน้าต่าง มือหนึ่ งเท้าคางมองการแข่งขัน


บนลานประลองด้านล่าง บนหน้ากากสีทองมีดอกลำโพงแห่งแดนนรกที่งาม
ตาผลิบานอยู่ ทัว่ ทัง้ ร่างเต็มไปด้วยกลิน
่ อายมนต์เสน่ หแ
์ สนร้ายกาจ ทว่าใน
กลิน
่ อายนี้ กลับยังมีความสูงศักดิท
์ ี่สูงส่งเกินอาจเอื้อม ทำให้ผูค
้ นหวัน
่ เกรง
ขึ้นในใจอย่างไม่อาจควบคุม

ขณะที่เขาได้ยน
ิ เสียงจนหันกลับมามอง แววตานั ้นลึกล้ำราวกับบ่อน้ำที่ไม่
อาจมองเห็นก้นบึ้ง มันมีความเอื่อยเฉื่ อยอยูส
่ ามส่วน กับความหลักแหลม
อีกเจ็ดส่วน

เพียงพินิจมองภาพตรงหน้า ทัง้ สองก็รู ้ ว่าชายหนุ่มชุดแดงผู้นี้ต้องไม่


ธรรมดาอย่างแน่ นอน

“ข้าน้ อยแซ่ต่ง ขอคารวะใต้เท้า ไม่ทราบว่าใต้เท้าต้องการวิเคราะห์ยาแบบ


ไหนขอรับ?”

ยา คือสิง่ ที่ต้องฝึกฝนการเป็นนั กปรุ งยาถึงจะผสมออกมาได้ ไม่ต้องพูดถึง


หมู่บา้ นเล็กๆ ของพวกเขาเลย ต่อให้เป็นเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ก็เกรงว่าจะพบได้
น้ อยยิง่ นั ก ด้วยเหตุนี้ ตอนที่ได้ยน
ิ ว่ามีคนต้องการวิเคราะห์ยา เขาจึงเร่งรีบ
มา

เฟิ่ งจิว
่ มองพวกเขา จากนั ้นจึงหยิบขวดใบหนึ่ งออกมาจากแขนเสื้อส่งให้ผู้
ดูแลจูที่อยูข
่ า้ งๆ น้ำเสียงเฉื่ อยชาดังลอยมาอย่างไม่รบ
ี ไม่รอ
้ น

“ขวดนี้ คือน้ำยาเร่งรวมพลัง มันทำให้คนที่พลังเร้นลับอ่อนแรงสามารถ


ระเบิดพลังออกมาได้เป็นสามเท่าจากปกติในเพียงชัว่ ครู ่ และจะคงอยูเ่ ป็น
เวลาครึง่ ชัว่ ยาม”

“อะไรนะ?” ทัง้ สามคนในห้องอุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ


ตอนที่ 65 ลานประลอง!

“นี่ นี่ ทำให้คนที่พลังเร้นลับอ่อนแอกลับฟื้ นคืนระเบิดพลังออกมาเป็นสาม


เท่าในชัว่ ขณะจริงรึขอรับ?”

ขนาดน้ำเสียงนั กวิเคราะห์ยาอย่างเติง้ เหล่ายังสัน


่ เทา เขาออกหน้ารับยามา
ในใจมีความตื่นเต้นที่เหลือเชื่อ

เฟิ่ งจิว
่ ไม่พูดอะไร เพราะหางตาเธอชำเลืองเห็นเงาร่างที่ไม่นับว่าแปลกหน้า
เดินอยูด
่ ้านล่าง คนคนนั ้น ไม่ใช่คนที่เธอกำลังตามหาอยูร่ ?ึ

มุมปากยกขึ้นน้ อยๆ ในดวงตาฉายแววยิม


้ เยาะมีเลศนั ยแปลกๆ เธอเห็นเขา
นั ่งลงตรงแถวหน้า เรียกคนของตลาดมืดผูห
้ นึ่ งมา ไม่รูว้ า่ กำลังพูดอะไรกัน

ตอนนี้ ความสนใจของทัง้ สามคนในห้องล้วนอยูท


่ ี่ขวดยานั ้น ผูด
้ ูแลสองท่าน
มองเติง้ เหล่าเปิดดมกลิน
่ ยาน้ำในขวด ผ่านไปสักพัก กลับเห็นท่าทางเขาไม่
ได้ทำอะไรต่อ ผูด
้ ูแลต่งจึงอดไม่ได้ที่จะเรียก “เติง้ เหล่า?”

เติง้ เหล่ายิม
้ ขมขื่น เขามองทัง้ สองคนและเฟิ่ งจิว
่ ที่พงิ อยูข
่ า้ งหน้าต่าง กล่าว
ว่า “น่าละอายใจจริงๆ แม้กระผมจะเป็นนั กวิเคราะห์ยา กลับไม่เคยวิเคราะห์
ยาเช่นนี้ มาก่อน”

ความหมายของคำพูดนั ้นก็คือ เขาไม่อาจตรวจสอบได้เลยว่าที่เฟิ่ งจิว


่ กล่าว
มาเป็นความจริงหรือไม่
ได้ยน
ิ เช่นนั ้น ผูด
้ ูแลทัง้ สองท่านก็ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ สถานการณ์ เช่นนี้
พวกเขายังไม่เคยเจอจริงๆ

“พวกท่านคิดว่าสตรีกับบุรุษสองคนนั ้น สุดท้ายใครจะชนะ?” จู่ๆ เสียงเฟิ่ ง


จิว
่ ก็ดังลอยมา ทำให้สามท่านในห้องต่างนิ่ งงัน

พอพวกเขาได้ยน
ิ จึงเดินไปข้างหน้าและมองไปที่ลานประลองชัน
้ หนึ่ ง เห็น
สาวน้ อยอายุราวสิบหกสิบเจ็ดกำลังต่อสู้กับบุรุษอีกนาย แต่นางหาใช่คู่ต่อสู้
ของบุรุษผูน
้ ั ้นไม่ ตอนนี้ จึงถูกซ้อมเสียจนปางตาย กลับยังอยากจะยืนขึ้น
อย่างดื้อรัน

ผูด
้ ูแลจูมองด้านล่าง ก็พูดว่า “นางแค่ระดับนั กรบวรยุทธ์ขน
ั ้ หก คู่ต่อสู้ของ
นางกลับเป็นระดับนั กรบวรยุทธ์พลังเร้นลับขัน
้ เริม
่ ต้นที่สอง บุรุษผู้นั้นชนะ
แน่ นอน หนำซ้ำ เห็นๆ อยูว
่ า่ เหนื่ อยล้าหมดเรีย
่ วสิน
้ แรงก็ยงั จะสู้อก
ี ”

เฟิ่ งจิว
่ ยกริมฝีปากขึ้นยิม
้ แล้วส่ายหน้า “ไม่ นางจะชนะ”

สายตาเธอจับจ้องไปบนร่างสาวน้ อยที่ฮด
ึ สู้ไม่ถอยอยูด
่ ้านล่าง เอ่ยว่า “ท่าน
ถือยาน้ำขวดนั ้นไปให้เธอดื่มเสีย เช่นนี้ ผลลัพธ์ของการวิเคราะห์ก็จะเผย
ออกมาแน่ นอน”

สามคนในห้องดวงตาเป็นประกาย จริงด้วย! วิธน


ี ี้ ทัง้ ง่ายดายและเถรตรง
เป็นเช่นนี้ พวกเขาก็สามารถรู ไ้ ด้ ว่ายาน้ำขวดนี้ จะวิเศษอย่างที่เขาบอกจริงๆ
หรือไม่ หนำซ้ำให้สาวน้ อยผูห
้ มดแรงสู้ด่ ืมน้ำยานี้ ที่ลานประลอง หากชนะ
จริง ก็จะเป็นป้ายประกาศโฆษณาที่มีชว
ี ต

“กระผมจะนำลงไป” ผูด
้ ูแลจูบอก ถึงจะหยิบยาขวดนั ้นเร่งรีบลงไปที่ลาน
ประลองชัน
้ หนึ่ ง

ที่ลานประลอง

“ฮ่าๆๆๆ สาวน้ อย เจ้ารีบยอมแพ้เสียก่อนเถอะ! ต่อให้เจ้าฝึกฝนอีกเป็นสิบปี


ก็ยงั ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” พอคิดว่าพวกทรัพย์สินเงินทองที่มาซื้อตัวเองตอน
ได้ชย
ั ชนะจะกลายเป็นสิบเท่า เขาก็หว
ั เราะร่าขึ้นมาด้วยความดีใจจนลืมตัว
อย่างอดไม่ได้

สาวน้ อยถ่มเลือดออกมา ร่างกายราวกับถูกรถม้าวิง่ ทับ เจ็บเสียจนไร้ความ


รู ส
้ ึก ซ้ำยังดึงพลังขึ้นมาไม่ได้เลย

ทว่านางยังไม่ยอม ทัง้ ไม่เต็มใจและไม่ยน


ิ ยอมจะแพ้เช่นนี้ !

นางกัดฟันพลางฝืนหยัดลุกขึ้นมา แต่กลับทรุ ดลงไปอีก ทำให้ผูค


้ นที่ชมอยู่
ในลานต่างหัวเราะดังฮ่าๆ ขึ้นมา

“รีบยอมแพ้ซะ! รอบต่อไปๆ! อย่ามาทำพวกเราเสียเวลา!” มีคนตะโกนมา


อย่างทนไม่ไหว

และในตอนนั ้นเอง ผูด


้ ูแลจูก็ถือน้ำยามาข้างกายสาวน้ อย ไม่รูว้ า่ พูดอะไรกับ
นาง สาวน้ อยถึงรับขวดใบนั ้นมาดื่มของด้านในอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ในระหว่างที่ทุกคนต่างแปลกใจกับท่าทางเช่นนี้ ของผูด
้ ูแลจู กลับเห็นบนร่าง
สาวน้ อยผูน
้ ั ้นมีกลิน
่ อายพลังเร้นลับสีแดงคละคลุ้งพรัง่ พรู อยูจ
่ างๆ

“ชิ! เป็นไปได้อย่างไร!”
ตอนที่ 66 ช่างน่าเหลือเชื่อ!

ผูช
้ มทัว่ ทัง้ ลานประลองเปล่งเสียงอุทานอย่างยากที่จะเชื่อ มีคนไม่น้อยผุด
ลุกยืนขึ้นเพราะความตกใจ และมองสาวน้ อยผูม
้ ีกลิน
่ อายพลังเร้นลับพรัง่
พรู ทัว่ ร่างด้วยความเหลือเชื่อ

กลิน
่ อายพลังเร้นลับที่เห็นได้ด้วยตาเปล่านั ้นไม่ใช่ของปลอม!

พลังที่กระจายออกมาทัว่ ร่างยิง่ เป็นของจริง!

แต่ชว
่ งก่อนหน้านี้ เห็นชัดๆ ว่าขนาดยืนยังไม่อาจลุกไหว เวลาต่อมานางกลับ
มีกลิน
่ อายพลังเร้นลับที่คละคลุ้งกว่าตอนแรกพวยพุง่ ไปทัว่ ร่าง หากไม่เห็น
ด้วยตาตัวเอง พวกเขาก็ไม่มีทางเชื่อเลยจริงๆ…

ตอนนี้ บนลานประลอง ในดวงตาสาวน้ อยผูน


้ ั ้นมีทัง้ ความแปลกใจ
ประหลาดใจ และความตื่นเต้น

สองมือนางกำหมัดแน่ น ขณะที่รูส
้ ึกถึงกลิน
่ อายพลังเร้นลับที่แนบแฝงอยูใ่ น
หมัด ทันใดนั ้น ก็เปรยตามองไปทางบุรุษผูก
้ ำลังตะลึงงัน “แพ้ชนะยังไม่
ตัดสิน!” พอสิน
้ เสียง ทัง้ ร่างก็ระเบิดพลังชกหมัดที่รวดเร็วกว่าปกติถึงสาม
เท่าออกไป

บนหมัดของนาง กลิน
่ อายพลังเร้นลับที่พุง่ พล่านก่อตัวเป็นคลื่นพลังส่งเสียง
หึ่งๆ ในสายตายากจะเชื่อของบุรุษผู้นั้น เขาถูกหมัดโจมตีออกไปไกลถึงสิบ
เมตร แรงมหาศาล ท่าทางโหดเหีย
้ ม ทำให้ผูช
้ มในลานต่างพากันสูดหายใจ
เฮือก

บรรยากาศถูกแช่แข็งไปชัว่ ขณะ ราวกับไม่อาจคืนสติมาอย่างช้าๆ จนกระทัง่


หลังจากผ่านไปสักพัก ผูช
้ มพันกว่าท่านทัว่ ทัง้ ลานประลองก็ลุกยืนขึ้นมา
เสียงปรบมือดัง่ ฟ้าร้อง เสียงแซ่ซ้องโห่รอ
้ งกันกึกก้อง…

เทียบกับผูค
้ นในลาน ในใจผูด
้ ูแลจูยงั ตื่นเต้นยิง่ กว่า เขามองเวทีประลองที่
ตัดสินแพ้ชนะแวบหนึ่ ง จากนั ้นจึงเร่งฝีเท้าเดินกลับไป

ส่วนในลานประลอง ไม่วา่ ผูช


้ มชัน
้ หนึ่ ง หรือแขกผูม
้ ีเกียรติชน
ั ้ สอง หลังจาก
เห็นผูด
้ ูแลจูรบ
ี เดินจากไป ล้วนเผยสีหน้าที่มีความนั ย แต่ละคนต่างเรียกข้า
ทาสบริวาร ให้พวกเขาไปไต่ถามเสียหน่ อย ว่าในขวดเมื่อครู น
่ ั ้นคืออะไรกัน
แน่ ?

เทียบกับความตื่นเต้นคึกคักที่ชน
ั ้ ล่าง เฟิ่ งจิว
่ ในห้องปีกด้านบนสงบนิ่ งมาก
อย่างเห็นได้ชด
ั เพราะผลลัพธ์อยูใ่ นการคาดเดา เธอจึงไม่รูส
้ ึกประหลาดใจ

ด้วยความฮึดสู้ไม่ยอ
่ ท้อที่ไม่ยอมรับความรับพ่ายแพ้ของสาวน้ อย หากได้ยา
ช่วยแล้วยังไม่มีทางชนะ นั ่นก็คงแปลกพิลึก

เทียบกับความใจเย็นของเธอ เติง้ เหล่ากับผูด


้ ูแลต่งกลับระทึกใจเสียจนหน้า
แดงก่ำ สายตาพวกเขาที่มองเฟิ่ งจิว
่ ฉายแววประกายหวาดหวัน
่ ราบกับได้
พบขุมทรัพย์ก้อนโต มันทัง้ ตื่นตาตื่นใจและมีความลิงโลด
“ท่านที่เคารพ ยานั ้นยังมีอยูอ
่ ก
ี เท่าไหร่? และไม่ทราบว่าท่านคิดจะทำการค้า
กับพวกเราเช่นไรขอรับ?”

หลังจากผูด
้ ูแลต่งได้สติกลับมา คำเรียกล้วนเปลี่ยนไป ท่าทีก็ยงิ่ ดีข้น
ึ ด้วย
ต้องรู ไ้ ว้ หากน้ำยาวิเศษเช่นนี้ ไปถึงตลาดมืดทางด้านเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ก็คง
เป็นที่ฮอ
ื ฮากันแน่ ! ถึงอย่างไร ในแคว้นเล็กๆ ระดับเก้าของพวกเขา แต่ไหน
แต่ไรก็ไม่เคยพบเห็นยาแบบนี้

ถ้ามียานี้ ไว้สักขวดหนึ่ ง นั ่นเท่ากับเป็นการเพิม


่ ยันต์คุ้มภัยติดตัว ต่อให้พบคู่
ปรับที่ไม่อาจสู้ ก็สามารถใช้หนี เอาตัวรอด จะไม่ทำให้คนใจเต้นได้เช่นไรเล่า?

“ยานี้ ท่านฝึกปรุ งเองรึขอรับ? หรือว่าท่านเป็นผูฝ


้ ึกฝนวิชานั กปรุ งยา?” เติง้
เหล่ามองเฟิ่ งจิว
่ ด้วยดวงตาเป็นประกาย ในสายตาคือความนั บถือและความ
เร่าร้อน

ได้ยน
ิ เช่นนั ้น เฟิ่ งจิว
่ เหลียวมองเขาแวบหนึ่ ง น้ำเสียงมีความเอื่อยเฉื่ อยและ
เย็นชาอยูบ
่ างส่วน “ข้าเป็นใคร เหมือนจะไม่จำเป็นต้องบอกท่านกระมัง?”

เมื่อรู ว้ า่ ตัวเองล่วงเกิน เติง้ เหล่าจึงรีบร้อนก้มหัวเคารพ “ขอท่านที่เคารพ


อย่าได้ถือสา กระผมแค่ต่ ืนเต้นไปชัว่ ครู ่ ถึงได้เลอะเลือน”

ใช่สิ! จะไม่ต่ ืนเต้นได้ร?ึ คนตรงหน้ามีความเป็นได้อย่างยิง่ ว่าจะเป็นนั กปรุ ง


ยา ต้องรู ไ้ ว้ ว่าแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ของพวกเขาจนถึงตอนนี้ ก็ยงั ไม่มีนักปรุ งยา
โผล่มาสักคน
ตอนที่ 67 ฐานะสูงศักดิ์!

หลังจากกวาดตามองทัง้ สองคน เธอถึงจะเอ่ยว่า “ตรงนี้ ขา้ ยังมียาอีกสอง


ขวด แต่วา่ ข้าคิดจะขายด้วยราคาประมูล และยังข้อมูลเกี่ยวกับข้า พวกท่าน
อย่าได้เปิดเผยไปแม้แต่น้อย”

เมื่อได้ยน
ิ ว่ามีอก
ี สองขวด ผูด
้ ูแลต่งดวงตาเป็นประกาย กล่าวยิม
้ ๆ ว่า “แม้ที่
นี่ เป็นตลาดมืด แต่ถ้าท่านไม่อนุญาต พวกเราก็จะไม่แพร่งพรายข้อมูลส่วน
ตัวของท่าน ขอท่านโปรดวางใจ”

เฟิ่ งจิว
่ พยักหน้า บอกว่า “นอกจากนี้ ข้ายังต้องการให้พวกท่านช่วยข้าหายา
ทิพย์จิตวิญญาณอีกสองสามอย่าง”

น้ำเสียงเธอชะงักเล็กน้ อย พูดอีกว่า “ถึงเวลา ข้าจะให้น้ำยาเร่งรวมพลังเป็น


ของตอบแทน แน่ นอนว่าราคายาทิพย์จิตวิญญาณจะคิดแยกต่างหาก ข้าไม่
เอาเปรียบพวกท่านแน่ ”

พอสองท่านฟังดวงตาก็ลุกวาว รีบถามว่าเป็นยาทิพย์จิตวิญญาณอะไร?

สุดท้าย เฟิ่ งจิว


่ ให้พวกเขาหยิบกระดาษกับพูก
่ ันมา หลังจากเขียนรายการยา
ทิพย์จิตวิญญาณที่ต้องการ ก็ย่น
ื ให้พวกเขา

“นายท่าน หากเขาหายาทิพย์พบ พวกเราจะเรียนบอกท่านเช่นไรขอรับ?” ผู้


ดูแลต่งเอ่ยถาม
เฟิ่ งจิว
่ เหลือบมองเขาแวบหนึ่ ง “อีกหลายวันข้าค่อยกลับมา เรือ
่ งนี้ พวกท่าน
ไม่ต้องกังวล” เธอปัดๆ ชุดแดงแล้วลุกยืนขึ้น ทิง้ ยาสองขวดไว้ ก่อนจะสาว
เท้าเดินออกไป

“ช้าก่อนท่าน” ผูด
้ ูแลต่งเรียก และรีบร้อนมายังข้างกายเขาเพื่อยื่นป้ายคำ
สัง่ ชิน
้ หนึ่ งให้ “นี่ คือป้ายคำสัง่ มืดของตลาดมืดเรา เป็นตัวแทนแขกชัน
้ สูง
ขอท่านโปรดเก็บไว้”

ได้ยน
ิ คำพูดนั ้น เฟิ่ งจิว
่ จึงยื่นมือรับเก็บมันเข้าแขนเสื้อ ถึงจะก้าวเท้าเดิน
จากไป

เห็นเช่นนี้ หลังจากสองท่านเก็บยาขึ้นมา ก็เร่งรีบส่งแขก พอออกไปด้าน


นอก ถึงได้เห็นผูด
้ ูแลจูเดินกลับมาหน้าตายิม
้ แย้มพอดิบพอดี

“คารวะนายท่าน” ผูด
้ ูแลจูรบ
ี ทำความเคารพ กำลังจะพูดด้วยท่าทีต่ ืนเต้น ก็
ถูกยกมือขึ้นปราม

“พวกท่านไม่ต้องไปส่ง ข้าเดินวนดูรอบๆ เองก็พอ” เธอปฏิเสธไม่ให้พวกเขา


ไปส่ง แล้วสาวเท้าเดินไปด้านหน้า

พอทัง้ สามคนเห็นเงาร่างสีแดงนั ้นเลี้ยวหายไป ถึงจะดึงสายตากลับมาส่ง


สัญญาณสักพัก เพื่อกลับเข้าห้องปีกกันอีกครัง้

“เมื่อครู ม
่ ีคนมาถามข้าไม่น้อยเลย ว่าในขวดนั ้นใส่อะไรไว้?”
ผูด
้ ูแลจูกล่าวด้วยท่าทีต่ ืนเต้น “แม้พวกเขาไม่รูเ้ รือ
่ งแน่ ชด
ั แต่คงคาดเดา
กันว่าเป็นยา ถึงอย่างไร ก็มีแค่ยาถึงจะสามารถได้ผลอัศจรรย์ขนาดนี้ ”

“อย่าได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับท่านผูน
้ ั ้นออกไป รายงานเบื้องบนอย่างลับๆ
ก็พอ” ผูด
้ ูแลต่งพูดเสียงเคร่งขรึม

“งัน
้ ไม่ต้องส่งคนตามไปรึ?”

“ไม่ต้อง”

ผูด
้ ูแลต่งส่ายหน้า “พวกเรายังไม่รูต
้ ้ ืนลึกหนาบาง แต่คนเช่นนี้ ก็ไม่ควรไป
ขัดใจ หากส่งคนตาม เกรงว่าจะยิง่ ยุให้เขาไม่ชอบใจ ถึงเวลานั ้นคงได้ไม่คุ้ม
เสีย”

และตอนนี้ เติง้ เหล่าที่ไม่พูดไม่จามาตลอด จู่ๆ กลับปริปากว่า “กลัวว่ายา


ทิพย์จิตวิญญาณบนนี้ จะหาไม่งา่ ยนั ก”

“หืม? ทำไมพูดเช่นนั ้น?” ผูด


้ ูแลต่งมองเขา เพราะเขาไม่ได้คุ้นเคยกับยานั ก
จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่รูว้ า่ ยาทิพย์จิตวิญญาณในรายการนั ้นใช้ทำอะไรบ้าง

“พวกนี้ เห็นได้น้อยยิง่ นั กในแคว้นแสงสุรย


ิ น
ั เรา เกรงว่าต้องรวบรวมจาก
แคว้นอื่น” เขามองพวกเขาอีกสองท่าน ในแววตามีชว
ี ต
ิ ชีวา “ข้าสรุ ปได้เลย
ท่านนี้ ต้องเป็นนั กปรุ งยาแน่ ! ถึงขัน
้ ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นนั กเล่น
แร่แปรธาตุ!”
“อะไรนะ?”

สองท่านอุทาน “นั กเล่นแร่แปรธาตุ? ตำแหน่ งสูงศักดิเ์ ช่นนั ้น เป็นไปได้ร?ึ


ประเมิณจากน้ำเสียงเขา คงยังอายุน้อยมาก จะเป็นนั กเล่นแร่แปรธาตุได้
อย่างไร?”

ต้องรู ไ้ ว้ ว่านั กเล่นแร่แปรธาตุคือตำแหน่ งที่เหนื อชัน


้ กว่านั กปรุ งยา ไม่ต้อง
พูดถึงแคว้นเล็กๆ ระดับเก้าของพวกเขาหรอก ต่อให้เป็นแคว้นขัน
้ กลาง
ระดับหกก็เกรงว่ายังยากมากที่จะหาได้สักคน

และตอนนี้ คนที่พวกเขาพูดถึงกำลังยืนอยูห
่ น้ารายชื่อสำหรับทหารรับจ้าง
ตลาดมืด พอเห็นรางวัลนำจับด้านบน มุมปากเธอก็ยกขึ้นผุดรอยยิม
้ น้ อยๆ
ตอนที่ 68 ผูแ
้ ข็งแกร่งทั้งสองท่าน

นึ กไม่ถึงเลยว่าเงินรางวัลของเธอจะอยูส
่ ามอันดับแรก จิๆ
๊ ช่างน่าประหลาด
ใจเสียจริง!

ขณะกำลังคิด พลันได้ยน
ิ เสียงพูดคุยลอยมาข้างหู

“ทำไมรู ปเหมือนสาวคนนั ้นขึ้นมาอยูส


่ ามอันอับแรกได้เล่า? ไม่คิดเลยว่าเงิน
รางวัลจะถึงห้าแสนเลยรึ?”

“เจ้าเพิง่ กลับมายังไม่รูห
้ รอก ตอนนี้ ไม่มีทหารรับจ้างคนไหนกล้ารับภารกิจ
ตามล่านี้ แล้ว”

“เพราะเหตุใดรึ?”

“เพราะทหารทุกคนที่รบ
ั ภารกิจนี้ ออกไป ไม่เคยมีชว
ี ต
ิ รอดกลับมา ในเวลา
สัน
้ ๆ ไม่ถึงครึง่ เดือนก็มีทหารรับจ้างไม่น้อยที่พา่ ยแพ้แก่นาง”

ระหว่างที่ทัง้ สองคนกำลังสนทนากัน เห็นชายหนุ่มชุดแดงยืนอยูห


่ น้าป้าย
รายชื่อ ก็แปลกใจอยูเ่ ล็กน้ อย หนึ่ งในนั ้นจึงถามว่า “ใต้เท้าต้องการลงภาร
กิจไว้รข
ึ อรับ?” ถึงอย่างไร คนที่รบ
ั ภารกิจบนนี้ มีเพียงทหารรับจ้างตลาดมืด
เช่นพวกเขาที่รบ
ั ได้

เฟิ่ งจิว
่ ดึงสายตากลับมามองสองคนนั ้นแวบหนึ่ ง เธอส่ายหน้ายิม
้ ๆ หางตา
ชำเลืองเห็นชายวัยกลางคนเดินออกไปด้านนอก จึงสาวเท้าก้าวตาม
รอจนนางจากไป ทหารรับจ้างตลาดมืดในตำแหน่ งสามก็อดไม่ได้ที่จะพูด
เสียงเบา “ดูเหมือนคนผูน
้ ั ้นจะมาเป็นครัง้ แรก กลิน
่ อายบนร่างช่างน่าดึงดูด
นั ก ไม่รูว้ า่ มาจากที่ใดกัน?”

“อย่าสนใจเลยว่าเขาจะมาจากที่ใด ไปเถอะ ข้าเลี้ยงเหล้าเจ้าเอง” อีกคน


หนึ่ งอ้าแขนกว้างโอบไหล่พาเดินไปด้านนอก

ชายวัยกลางคนที่เดินไปโรงเตี๊ยมพลันชะงักย่างก้าวลงเล็กน้ อย มองไปด้าน
หลัง และขมวดคิว
้ เบาๆ อย่างอดไม่ได้ เขาเร่งฝีเท้าเลี้ยวเข้าตรอกแล้วหยุด
ก้าวลง ตะโกนไปเสียงเข้ม

“ใครน่ ะ! ออกมานะ!”

เงาร่างสีแดงสาวเท้าก้าวนวยนาดออกมาอย่างผ่าเผย ยังคงเป็นชุดสีแดง
แพรวพราว เส้นผมสีดำใช้เพียงริบบิน
้ แดงผูกไว้ จะแตกต่างก็แค่ ที่สวมบน
ใบหน้าคือหน้ากากสีทองที่มีดองลำโพงแห่งแดนนรกเบ่งบานอยู่

เมื่อเห็นผูน
้ ั ้นเดินกรีดกรายออกมา แววตาเขาหรีล
่ ง ในหัวก็คาดเดาขึ้นมา
แวบหนึ่ ง แต่กลับปฏิเสธอย่างทันควัน

ไม่ คงไม่ใช่สาวน้ อยคนนั ้น ชายหนุ่มชุดแดงเบื้องหน้าสูงกว่าสาวน้ อยอยูบ


่ า้ ง
คงไม่ใช่นางหรอก

“ไม่ได้เจอกันนานมากจริงๆ”
น้ำเสียงเฟิ่ งจิว
่ ช่างเอื่อยเฉื่ อย มันมีทัง้ ความหยอกล้อ เย็นชา และแรง
อาฆาต

“เป็นเจ้า!”

หลังจากได้ยน
ิ เสียงอันคุ้นเคย สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้ อย น้ำเสียงล้วนสัน

เทา ความหวาดกลัวตามสัญชาตญาณทำให้เขาถอยไปสองเก้าในคราแรก
ร่างกายเตรียมป้องกันตัวอย่างตึงเครียด ยังไม่ทันลงไม้ลงมือ ก็กลับเหงือ

ออกซกเสียแล้ว

ไม่แปลกใจที่ปรมาจารย์นักรบผูท
้ รงเกียรติเช่นเขาจะเกรงกลัวนั กรบอย่าง
นาง เพราะเขาเคยประมือกับนาง จึงรู ซ
้ ้ึงถึงความร้ายกาจ เมื่อนึ กถึงครัง้
ก่อนที่เกือบตายในเงือ
้ มมือนาง และนึ กถึงแขนที่เสียไป ในใจก็เกิดความ
ขลาดกลัวขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม

นี่ คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไปลงภารกิจตามล่าไว้ที่ตลาดมืด แต่กลับไม่กล้าสู้


กับนางตรงๆ

พอเห็นปฏิกิรย
ิ าเขา เฟิ่ งจิว
่ จึงหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างอดไม่ได้ “ในเมื่อ
ท่านกลัวข้าเสียขนาดนี้ ทำไมถึงยังลงภารกิจตามล่าไว้เพื่อฆ่าข้าด้วยเล่า?”

เธอเดินเยื้องย่างออกหน้าเข้าใกล้ไปทีละก้าวๆ “เดิมทีขา้ เกือบลืมว่ายังมีคน


เช่นท่านนี้ อยู่ ใครจะรู ้ ว่าท่านยังวิง่ มาตรงหน้าข้าด้วยตัวเอง”
สิน
้ เสียงนั ้น ก็ได้ยน
ิ การเคลื่อนไหวด้านหลัง เธอเลิกคิว
้ น้ อยๆ แล้วดึงสายตา
มองไป

จึงเห็นชายวัยกลางคนกับชายแก่ที่ไม่รูว้ า่ มาปรากฏตัวกันด้านหลังนี้ ตัง้ แต่


เมื่อไหร่ ทัง้ สองท่านกลิน
่ อายแรงกล้า แววตาเผยคมเฉี ยบแหลม แรงกดดัน
มหาศาลแผ่ซ่านออกมาจากร่างสองท่าน แรงอาฆาตที่กำลังเอ่อล้น ท่วมท้น
อยูใ่ นตรอกเล็กแห่งนี้

“ฮ่าๆๆ! อยากฆ่าข้ารึ? งัน


้ จะดูวา่ เจ้ามีปัญญาหรือไม่!” ชายวัยกลางคน
แปรผันความตื่นตระหนกและหวาดกลัวก่อนหน้า มามองสองท่านนั ้นด้วย
สายตาที่มีความลิงโลดใจ

“ท่านผูอ
้ าวุโสใหญ่ และผูอ
้ าวุโสสี่ เป็นเจ้านี่ คือนั งคนที่ฆ่าเผิงเอ๋อร์!”
ตอนที่ 69 กระบีค
่ มพยับออกโรง!

ผูอ
้ าวุโสรึ?

แววตาเธอสัน
่ ไหว ใช้ดวงจิตตรวจสอบดู สองท่านนี้ เป็นปรมาจารย์นักรบขัน

สมบูรณ์ แบบ จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะปรากฏตัวด้านหลังเธอได้อย่าง
เงียบเชียบไร้เสียง

ช่างแตกต่างกับความมัน
่ ใจในชัยชนะที่ชายวัยกลางคนกุมไว้ ผูอ
้ าวุโสใหญ่
กับผูอ
้ าวุโสสี่ต่างพินิจมองเฟิ่ งจิว
่ ผูส
้ วมชุดแดงงดงามร้ายกาจ

หากไม่มีคนคอยชีช
้ ด
ั พวกเขาก็ดูไม่ออกเลยว่าเด็กหนุ่มที่แต่งชุดชายชาตรี
ตรงหน้าจะเป็นเด็กสาวคนหนึ่ ง

แม้สองท่านจะผ่านโลกมาไม่น้อยก็ไม่อาจไม่ยอมรับได้ ว่าบนร่างคนคนนี้ มี
กลิน
่ อายที่จำแนกชายหญิงไม่ออกอยู่

หนำซ้ำ…ยังลึกซึ้งเกินคาดเดา

ด้วยพลังของพวกเขา นึ กไม่ถึงว่าจะมองวรยุทธ์นางไม่ออก? หากไม่ใช่ยาก


เกินคาดเดาจะเรียกว่าอะไรได้?

ตัง้ แต่พวกเขาโผล่มา ไม่เห็นนางมีท่าทีต่ ืนตกใจ ริมฝีปากที่ปรากฏอยูน


่ อก
หน้ากากยังอมยิม
้ ชัว่ ร้าย ทำให้ในใจพวกเขายิง่ ระวังตัวมากขึ้นบ้างอย่างอด
ไม่ได้
“ใต้เท้าเป็นใครกันแน่ ? ไยต้องมาเป็นศัตรู กับตระกูลสวีเ่ ราด้วย?”

ท่านผูอ
้ าวุโสใหญ่เค้นเสียงถาม แววตาแหลมคมเพ่งมองร่างสีแดงตรงหน้า

เฟิ่ งจิว
่ ชำเลืองมองผูอ
้ าวุโสใหญ่แวบหนึ่ ง น้ำเสียงมีความแปลกใจอยูบ
่ าง
ส่วน “เป็นศัตรู กับพวกท่านรึ? ไม่ถูกกระมัง? ตลอดมานี้ คือพวกท่านที่เป็น
ศัตรู กับข้า ไยข้าต้องหาเรือ
่ งใส่ตัวก่อน?”

น้ำเสียงชะงักลง เธอเหลือบมองชายวัยกลางคนตรงหน้าแวบหนึ่ งด้วย


ท่าทางเหมือนยิม
้ แต่ไม่ยม
ิ้ “หากไม่ใช่เพราะคุณชายรองตระกูลท่านวิง่ แจ้น
ไปตัง้ รางวัลค่าหัวข้าที่ตลาดมืด ข้าจะหาเขาพบได้เช่นไรเล่า?”

“แม้จะเป็นเช่นนั ้น เรือ
่ งที่ฆ่านายน้ อยตระกูลสวี่ และทำลายแขนข้างหนึ่ ง
ของคุณชายรอง เจ้าล้วนไม่อาจปฏิเสธได้”

“อ้อ? พูดขนาดนี้ หากพวกท่านต้องการฆ่าข้า ข้าก็ทำได้เพียงยื่นคอให้พวก


ท่านเชือดงัน
้ สิ?” เธอเลิกคิว
้ รอยยิม
้ ที่รม
ิ ฝีปากยังคงอยู่ เพียงในแววตานั ้น
เย็นเยียบน้ อยๆ

สีหน้าผูอ
้ าวุโสใหญ่มืดลงไปบ้าง พลางยิม
้ เย็น “พูดได้เพียงว่าเจ้าดันไป
ยุแหย่คนที่ไม่ควรยุง่ ! ตระกูลสวีอ
่ น
ั มีเกียรติของข้าสืบเชื้อสายกันมาเป็น
ร้อยปี เจ้าจะมาดูหมิน
่ ได้เยีย
่ งไร? ในเมื่อรู แ
้ ล้ว ทางที่ดีก็ยอมให้จับโดย
ละม่อม มิเช่นนั ้น…”

“มิเช่นนั ้น?”
มุมปากเธอยกขึ้นส่งเสียงหัวเราะอย่างป่าเถื่อน กล่าวถามด้วยความรู ส
้ ึกสน
ใจหน่ อยๆ “มิเช่นนั ้นจะยังไง? จะฆ่าข้ารึ?”

“มิเช่นนั ้น ข้าจะยกหัวเจ้ากลับไปรายงานเสีย!” สิน


้ น้ำเสียงเยือกเย็นของ
ท่านผูอ
้ าวุโสใหญ่ นิว
้ มือจับกลายเป็นกรงเล็บ เพียงออกท่วงท่าก็รูว้ า่ ฝึก
เคล็ดวิชาจับจุดมาอย่างทะลุปรุ โปร่ง

“งัน
้ ข้าจะสนองพวกท่านอย่างดี!” เธอยิม
้ เย็น พลันขยับร่างปะทะออกไปซึ่งๆ
หน้า

มือหนึ่ งของผูอ
้ าวุโสใหญ่ที่แฝงไปด้วยพลังเร้นลับอันแกร่งกล้าเข้าจับข้อมือ
นางบิดไปด้านหลัง แต่ใครจะรู ว้ า่ นางดิน
้ หลุดได้ทันทีราวกับงูผี ข้อมือกลับ
ถูกนางจับดึงไปด้านหน้า ฐานล่างโดนโจมตี เพียงรู ส
้ ึกถึงพลังที่กระจายออก
มาจากในมือนั ้น ทัว่ ทัง้ ร่างก็ถูกนางยกเหวีย
่ งออกไป

เขาถ่ายพลังเข้าปรับสมดุลร่างกายกลิง้ ตัวลงบนพื้น สีหน้าหมองลงเล็กน้ อย


“ถือว่ามีฝีมือจริงๆ น่าเสียดาย ที่วน
ั นี้ เจ้าต้องตายที่นี่!”

“ช่างน่าเสียดายเหลือเกินนะ” เธอพยักหน้าเห็นด้วย มองเขาอย่างเวทนา


และเห็นใจ ราวกับคนที่มัน
่ ใจว่าต้องตายจะเป็นท่านอาวุโสใหญ่อย่าง
แน่ นอน

แววตาเสียดายและเห็นอกเห็นใจทำให้ท่านผูอ
้ าวุโสใหญ่โกรธเคือง จึงดึง
กระบีย
่ าวออกมาชีต
้ รงไปที่นาง แผดเสียงร้องเกรีย
้ วกราด “เจ้าเด็กโอหัง!
เจ้าจะต้องชดใช้ความจองหองพองขนของเจ้าด้วยความทุกข์ทรมาน! หัว
ของเจ้า! ข้าจะจัดการเอง!”

ปลายดาบชีต
้ รง พลังเร้นลับแข็งแกร่งพรัง่ พรู ออกจากร่างราวกับน้ำไหล
ทะลัก มาบรรจบกันบนคมกระบี่ ทันใดนั ้น พลังดาบอันรุ นแรงที่เต็มไปด้วย
แรงอาฆาตเยือกเย็นก็พลุ่งพล่านออกมา! เขาพลันเคลื่อนตัวไปด้านหน้า
แรงอาฆาตน่าหวาดหวัน
่ ถาโถมเข้าหาเงาร่างสีแดงด้วยความเร็วดัง่ สายฟ้า
แลบ

ชิง้ !

กระบีย
่ าวฉายแสงสีดำขวางกัน
้ อยูเ่ บื้องหน้า สองกระบี่กระทบกัน พลังกระบี่
อันรุ นแรงไม่มีใครยอมใคร และในเวลาเดียวกันนี้ ก็มีเสียงสูดหายใจและ
เสียงร้องอุทานดังขึ้น

“กระ กระบีค
่ มพยับ!”
ตอนที่ 70 คมพยับลิ้มรสเลือด

แกร๊ง!

ชิง้ !

เสียงแตกหักดังแกร๊งลอยมา ผูอ
้ าวุโสใหญ่เบิกสองตากว้างอย่างตื่นตกใจ
เห็นกระบีค
่ มทอแสงสีดำในมือนาง และยังรอยตำหนิ แตกร้าวบนกระบีใ่ นมือ
ตัวเอง หัวใจก็หนั กอึ้งตึกตัก

เวลาต่อมา กระบีย
่ าวในมือสัน
่ สะเทือนเพราะพลังกระบีอ
่ ก
ี ฝ่ายอย่างแข็ง
กระด้าง เสียงร่วงหล่นลงพื้นดังชิง้ ตัวเขาถึงกับถูกพลังกระบีท
่ ี่น่าหวาดกลัว
นั ้นสะเทือนออกไปโดยไม่อาจถอยหนี ได้ทันท่วงที

“ซี๊ด!”

“อ๊าก!”

ร่างกายเขาถอยหลังไปอย่างเสียหลัก โชคดีที่ผูอ
้ าวุโสสี่ด้านหลังประคองเขา
ไว้ เลี่ยงไม่ให้เขาล้มลงไปบนพื้นด้วยความอับอาย

“เป็นไปได้อย่างไร? จะเป็นคมพยับได้อย่างไรเล่า?”

เขามองกระบีท
่ ี่กำลังประกายแสงสีดำในมือนางอย่างยากจะเชื่อ รัศมีสีดำ
บนคมกระบีช
่ า่ งแพรวพราววาววับ หากเปิดตามองทัว่ ใต้หล้า ก็มีแค่กระบี่
คมพยับที่มีแสงสีดำในตัวเอง!

ไม่เพียงแต่เขา ตอนนี้ บนใบหน้าผูอ


้ าวุโสสี่และคุณชายรองตระกูลสวีต
่ ่างก็
ตกใจกันอย่างมาก ทว่าพวกเขานอกจากความตะลึงที่มากล้น ก็ยงั มีความ
ละโมบ เป็นความละโมบที่มีต่อกระบี่เล่มนั ้น

กระบีค
่ มพยับ เป็นสิง่ ล้ำค่าท่ามกลางเหล่ากระบี!่

กระบีค
่ มพยับที่หายสาบสูญไปหลายปีนึกไม่ถึงว่าจะมีวน
ั ได้เห็นเดือนเห็น
ตะวันอีกครัง้ หนำซ้ำพวกเขายังได้มาพบมัน จะไม่ต่ ืนเต้นได้เช่นไร? และจะ
ไม่ให้ใจเกิดความละโมบอยากครอบครองมันเป็นของตนเองได้อย่างไรเล่า?

คมพยับเฉี ยงชีไ้ ปบนพื้น รัศมีสีดำลอยอยูจ


่ างๆ ชุดสีแดงบินพลิว
้ ไหว กลิน

อายกระหายเลือดกระจายออกมาจากร่างนาง

เธอมองสามท่านนั ้นที่ทัง้ ตกตะลึงและมีความโลภ แนวโค้งที่มุมปากยกขึ้น


น้ อยๆ ปรากฏรอยยิม
้ ดุรา้ ยเยือกเย็น “คนที่เห็นกระบี่ขา้ เล่มนี้ ล้วนต้อง
ตาย!”

พอสิน
้ สุดเสียง เงาร่างสีแดงก็พุง่ ออกไปราวกับภูตผี ทว่า เธอกลับไม่ไปทาง
ผูอ
้ าวุโสใหญ่กับผูอ
้ าวุโสสี่ แต่หมุนกลับหลัง กวัดแกว่งคมพยับในมือ พลัง
กระบีอ
่ น
ั รุ นแรงตวัดผ่านกลางอากาศดังฟิ้ ว

“ซี๊ด!”
คุณชายรองตระกูลสวีผ
่ ูน
้ ั ้นถูกกระบีป
่ าดคอโดยไม่ได้ป้องกันตัวเลยแม้แต่
น้ อย!

เพราะไม่ทันตัง้ ตัว และ… หลบได้ไม่ทัน!

จนเขาตาย สองตาก็เบิกกว้างอย่างไม่มีทางเชื่อ ถึงตาย แม้แต่ลมหายใจ


สุดท้ายก็ไม่อาจได้สูดเข้าไป เพราะใจยังไม่ยอม…

“คุณชายรอง!”

ผูอ
้ าวุโสใหญ่และผูอ
้ าวุโสสี่อุทานอย่างตกใจ เห็นเงาร่างนั ้นแข็งทื่อล้มลงไป
เพียงชัว่ พริบตา ชีวต
ิ หนึ่ งก็สูญสลายไปต่อหน้า

เพราะกระบีน
่ างเร็วเกินไป เลือดสดบริเวณคอถึงกับไม่ไหลออกมาในตอน
แรก จนกระทัง่ เมื่อเขาล้มลง กระเทือนถึงบาดแผลบริเวณลำคอที่ทำให้
ถึงแก่ชว
ี ต
ิ เลือดสีแดงสดถึงจะพุง่ ตรงออกมาราวกับน้ำพุโลหิต ย้อมพื้นดิน
เสียแดงฉาน…

นั ่นคือน้ องชายที่ผูน
้ ำตระกูลให้ความสำคัญที่สุด ตอนนี้ ก็ตายไปเสียแล้ว…
พวกเขาไม่อาจจินตนาการได้เลย ว่าหลังจากกลับไป ท่านเจ้าบ้านจะโกรธ
เกรีย
้ วสักเพียงใด?

เมื่อเห็นท่าทางบนใบหน้าสองท่าน เฟิ่ งจิว


่ ก็ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ “พวกท่าน
คิดว่า จะยังมีชว
ี ต
ิ รอดกลับไปได้ร?ึ ”
ตัง้ แต่เธอดึงดาบคมพยับออกมา ก็ไม่คิดให้พวกเขาทัง้ สามคนได้มีชว
ี ต
ิ รอด
ออกไปอีก

ในตรอกเล็กๆ นี้ จะเป็นที่จบชีวต


ิ ของพวกเขา!

ดวงตาที่หรีล
่ งครึง่ หนึ่ งฉายแววเยือกเย็น แรงอาฆาตพวยพุง่ เงาร่างสีแดง
โผตามสองท่านไป คมพยับในมือขยับเล็กน้ อย และพลังกระบี่อน
ั เย็นเยียบก็
กลายเป็นคมกระบีท
่ ี่จู่โจมออกไปทีละเล่มๆ!

“ฆ่านางซะ!”

สองท่านแผดเสียงเกรีย
้ วกราด ผูอ
้ าวุโสใหญ่ตวัดกระบีห
่ ก
ั ขึ้นรับหน้า ส่วนผู้
อาวุโสสี่ก็ดึงกระบีค
่ มออกเข้าล้อมโจมตี สองท่านร่วมมือกัน ทันใดนนั ้น แรง
กดดันและกลิน
่ อายของปรมาจารย์นักรบขัน
้ สมบูรณ์ ก็กระจายอยูใ่ นตรอก
เล็กนี้ ทำให้กลิน
่ อายในอากาศยิง่ เยือกแข็งและกดดัน

แกร๊ง! ฟิ้ ว! ฟิ้ วๆ!

ระหว่างที่คมกระบีป
่ ะทะกัน กระแสลมและเสียงแกร๊งอันรุ นแรงดังไม่หยุด
ไม่หย่อน แต่ที่ทำให้สองท่านประหลาดใจคือแรงอาฆาตกระหายเลือด รวม
ถึงการโจมตีหมายเอาชีวต
ิ มากร้อยเล่หเ์ หลี่ยม ที่ทำให้พวกเขามีความรู ส
้ ึก
เสียขวัญจนเกินรับมืออยูบ
่ า้ ง

“ไม่!”
ตอนที่ 71 ไม่เหลือพยานปากใด

เมื่อเสียงอุทานดัง ผูอ
้ าวุโสสี่ที่ล่าถอยถึงกับปรามไว้ไม่ทัน จึงเบิกตามอง
กระบีห
่ ก
ั ของผูอ
้ าวุโสใหญ่ใหญ่ถูกโจมตีลอยไป ก่อนที่กระบีค
่ มพยับทอแสง
สีดำจะแทงเข้าที่หน้าอกเขา…

เขาถึงกับยังเห็นแววตาที่ยากจะเชื่อของผูอ
้ าวุโสใหญ่ในเวลานั ้นได้

เขาทัง้ ไม่ยอมแพ้ และตกตะลึงอยูเ่ ช่นนั ้น ราวกับไม่กล้าเชื่อ ว่าตัวเองจะ


ตายอยูใ่ นเงือ
้ มมือของคนที่ถูกเขาดูถูกดูแคลนไว้

เมื่อมองดูรา่ งท่านผูอ
้ าวุโสใหญ่กระตุกล้มลง และดวงตาที่ตายตาไม่หลับ
หัวใจเขาก็สัน
่ สะท้าน พอมองไปทางสาวน้ อยชุดแดงพลิว
้ ไหว เห็นนางกำลัง
ดึงดาบมองมาหาเขา ในช่วงเวลานั ้น เขาแทบอยากจะวิง่ หนี ไปตามสัญชาติ
ญาณ!

ใช่แล้ว ต้องหนี !

ในหัวมีเพียงความคิดนี้ ส่วนร่างกายก็โต้ตอบทำท่าจะถอยหนี ตาม


สัญชาตญาณ แต่ทว่า พอฝีเท้าเพิง่ จะขยับ น้ำเสียงราวกับภูตผีก็ลอยเข้ามา
ในหู

“ข้าพูดไว้แล้ว คนที่เคยเห็นกระบีค
่ มพยับ ล้วนต้องตาย!”
สิน
้ สุดน้ำเสียงเยือกเย็นกระหายเลือด ชุดแดงแวววามขวางอยูเ่ บื้องหน้าผู้
อาวุโสสี่ เธอมองคนที่มีสีหน้าซีดเซียวกับดวงตาหวาดผวา

“เจ้าคิดจะหนี ไปไหนรึ?”

“อ๊าก!”

เขาแผดเสียงดัง กระบีย
่ าวในมือยกขึ้น หลังจากซึมซับกลิน
่ อายพลังเร้นลับ
ก็จู่โจมเข้าหานางอย่างดุรา้ ย

เขาที่หมดทางหนี ทำได้เพียงสู้จนตัวตาย! ถึงแม้ ตอนที่ประมือกับนางก่อน


หน้านี้ จะตกใจกับฝีมือแปลกๆ นั ้น แต่เวลานี้ ไม่มีทางเลือก เพื่อจะมีชว
ี ต
ิ ต่อ
ไป เขาระเบิดพลังเร้นลับทัว่ ร่างออกมา เมื่อกลิน
่ อายของปรมาจารย์นักรบ
ขัน
้ สมบูรณ์ ได้พรัง่ พรู ฝุ่นทรายบนพื้นต่างก็หมุนตลบขึ้นมา

“ข้าไม่เชื่อ ว่าปรมาจารย์นักรบขัน
้ สมบูรณ์ ผูท
้ รงเกียรติเช่นข้าจะแพ้ให้กับนั ง
เด็กเหลือขอคนเดียวอย่างเจ้า!”

เขาตวาดอย่างดุดัน กลิน
่ อายพลังเร้นลับที่พวยพุง่ ทัว่ ร่างทำให้ความเร็วเพิม

ขึ้นถึงขีดสุด ขณะที่พุง่ ออกไป เงาร่างนั ้นทัง้ ว่องไวดัง่ ลมกรดและดุรา้ ยดัง่
เสือคลัง่

เห็นเช่นนี้ เฟิ่ งจิว


่ เองก็ปล่อยพลังเร้นลับทัว่ ร่างขึ้น ทว่าความได้เปรียบกลับ
ไม่ใช่พลังเร้นลับ แต่เป็นกระบีค
่ มพยับในมือ และการโจมตีจุดตายที่ซ่อน
เล่หเ์ หลี่ยม!
เธอไม่คิดจะทุ่มพลังเร้นลับยิง่ กว่าเขา ที่ต้องทำก็แค่ฆ่าอีกฝ่ายให้ตายภายใน
เวลาที่สัน
้ ที่สุด มิเช่นนั ้น การเคลื่อนไหวตรงนี้ อีกไม่นานคงเรียกพวกเซียน
มา ถึงเวลานั ้นคิดจะถอนตัวก็ยากแล้ว

เงาร่างสีแดงพุง่ ออกไป อาศัยความป่าเถื่อนของคมพยับ ทุกหนึ่ งกระบี่ล้วน


เป็นกระบวนท่าที่หมายเอาชีวต
ิ ท่วงท่าว่องไวดุรา้ ย แม้ผูอ
้ าวุโสสี่จะระวังตัว
ก็ขวางการฟาดฟันของกระบีค
่ มพยับและการโจมตีจุดตายของนางไว้ไม่อยู่

“มันจบแล้ว!”

สองมือเธอจับกระบี่ ในชัว่ ขณะที่เขาล่าถอย ก็ปล่อยพลังเร้นลับซึมเข้าใน


กระบีค
่ มพยับ ก่อนจะฟาดไปทางเขาอย่างโหดเหีย
้ มด้วยความรวดเร็ว
ร้ายกาจ

ผูอ
้ าวุโสสี่ใช้กระบีค
่ มในมือไปขวางไว้ตามสัญชาตญาณ ทว่า…

ชิง้ !

“เฮือก!”

เสียงสูดหายใจกรีดร้องลัน
่ ตัดผ่านท้องฟ้า กระบี่ในมือผูอ
้ าวุโสสี่ถูกเฟิ่ งจิว

ฟันหักไปเสียดื้อๆ แม้แต่รา่ งก็ถูกฟันขาดครึง่ ออกเป็นสองส่วนและล้มไปบน
พื้นเช่นกัน
หลังจากสายตาเฟิ่ งจิว
่ เหลียวมองบนร่างศพทัง้ สาม ก็ใช้กระบี่คมพยับในมือ
เก็บถุงห่อฟ้าดินตรงเอวพวกเขาขึ้น แล้วดึงพลังกระโดดหนี ขา้ มตรอกเล็กๆ
นี้ ตีจากไปอย่างรวดเร็ว…

ขณะที่นางเพิง่ ล้ำหน้าออกไปก่อน ในตรอกเล็กก็มีพวกเซียนเร่งฝีเท้าพุง่


ตามหลังกันเข้ามาไม่น้อย พวกเขามาเพราะได้ยน
ิ การเคลื่อนไหว ทว่าเมื่อ
เข้าตรอกเล็กมาเห็นภาพนองเลือดด้านใน สีหน้ากลับเปลี่ยนไปยกใหญ่ บาง
คนก็อาเจียนขึ้นมาในจุดเกิดเหตุอย่างอดไม่ได้

ฆ่าคนแค่เล็งที่หว
ั แต่ภาพด้านในกลับนองเลือดเกินไป ทำให้พวกเขาเห็น
แล้วต่างก็รบ
ั ไม่ได้อยูน
่ ิ ดหน่ อย

“สามท่านที่ตายไปล้วนเป็นปรมาจารย์นักรบ!”

ท่านเซียนสูงอายุผูห
้ าญกล้าสำรวจมองทัง้ สามท่านที่สิน
้ ใจไป หลังจากได้รู ้
ถึงระดับพลังพวกเขา ก็ต่ ืนตกใจอย่างมาก

สามารถฆ่าปรมาจารย์นักรบทัง้ สามคนได้ พละกำลังของคนผูน


้ ั ้นต้องแกร่ง
สักเพียงใด?
ตอนที่ 72 น้ อยอกน้ อยใจ!

ทางด้านนี้ ปรมาจารย์นักรบที่ตายไปทัง้ สามท่านไม่เพียงเป็นที่ต่ ืนตาสำหรับ


เหล่าเซียนรอบๆ และยังเป็นที่ตกใจแก่ถิงจัง่ ในหมู่บา้ นเล็ก

ทว่าปกติ ถิงจัง่ แค่รก


ั ษาความสงบเรียบร้อยของราษฎรในหมู่บา้ น สำหรับ
เรือ
่ งผูฝ
้ ึกเซียนเช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรพวกเขาไม่อาจยื่นมือเข้าแทรก ยิง่ ไปกว่า
นั ้น พวกที่ตายไปยังเป็นผูฝ
้ ึกวิชาเซียนระดับปรมาจารย์นักรบ ยิง่ ทำให้พวก
เขาคิดว่าเป็นปัญหาที่ยากเกินแก้

ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงทำได้เพียงคิดหาวิธต
ี รวจสอบฐานะปรมาจารย์นักรบ
ทัง้ สามก่อน จากนั ้นค่อยแจ้งกับตระกูลพวกเขา

แต่ไม่นานนั กข่าวนี้ ก็แพร่สะพัดไปในหมู่บา้ น ถึงอย่างไรทันทีที่ปรมาจารย์


สามท่านสิน
้ ใจ นี่ ก็ไม่ใช่เรือ
่ งเล็กๆ ในหมู่บา้ นอีกแล้ว

ทว่าเรือ
่ งพวกนี้ เฟิ่ งจิว
่ กลับไม่สนใจ หลังจากเธอกลับเรือนก็เข้าไปฝึกวิชาใน
ห้วงมิติ

ทหารรับจ้างตลาดมืดในหมู่บา้ นเล็กๆ เหมือนแทบจะหลีกเลี่ยงภารกิจตาม


ล่าเธอกันไปเอง อีกหลายวันหลังจากนั ้นจึงผ่านไปอย่างสงบสุขยิง่ ทัง้ สอง
คนต่างยุง่ อยูก
่ ับการฝึกวิชา จนกระทัง่ ไม่กี่วน
ั ต่อมา กวนสีหลิน
่ ที่ออกไปซื้อ
อาหารกลับมา เดินเข้าเรือนอย่างจิตใจไม่อยูก
่ ับเนื้ อกับตัว
“ท่านพี?่ ” เฟิ่ งจิว
่ ที่กำลังรำไทเก๊กอยูใ่ นลานบ้านเห็นเขาท่าทางผิดปกติเล็ก
น้ อย พอเรียกไปก็ไม่ตอบ

“ท่านพี?่ ” เธอเรียกอีกรอบ ถึงจะเห็นเขาพลันได้สติกลับมา

“อ๊ะ? เสียวจิว
่ เจ้าเรียกข้ารึ?” เขาจัดการอารมณ์ ตัวเองแล้วมองนาง ถึงจะ
เผยรอยยิม
้ ออกมา แต่เขากลับไม่รูเ้ ลยว่ารอยยิม
้ นั ้นดูฝืนใจมากอย่างเห็นได้
ชัด

“ท่านเป็นอะไรไป? เกิดเรือ
่ งอะไรขึ้นรึเปล่า?” เธอเดินเข้าไปถามเขา

กวนสีหลิน
่ เงียบพลางก้มหัวน้ อยๆ ไม่ยอมพูดจา

“ไม่อยากบอกข้ารึ? งัน
้ ข้าไม่ถามแล้วก็ได้”

เมื่อได้ยน
ิ เช่นนี้ เขาก็รบ
ี ร้อนเงยหน้าขึ้น “ไม่ใช่นะ เสียวจิว
่ ก็แค่ แค่…”

เขามองนางอยูน
่ าน น้ำเสียงไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นัก “ตอนออกไปซื้อของ
ข้าได้ยน
ิ ข่าวในตระกูลมาว่าญาติผู้พข
ี่ า้ จะแต่งงานแล้ว”

รู จ
้ ักกันมาเนิ่ นนานขนาดนี้ เธอไม่เคยถามทัง้ ภูมิหลังและชาติตระกูลเขา
เช่นเดียวกัน เขาก็ไม่เคยถามเรือ
่ งวงศ์ตระกูลเธอ แต่ครัง้ นี้ เป็นครัง้ แรกที่
เธอได้ยน
ิ เขาพูดถึงเรือ
่ งในตระกูล

“ท่านอยากกลับไปร่วมงานแต่งเขารึ?”
มือเขาลูบบนบาดแผลตรงช่วงเอวที่หายดีแล้วโดยไม่รูต
้ ัว กล่าวด้วยน้ำเสียง
หดหูน
่ ้ อยๆ “เสียวจิว
่ เจ้ารู ห
้ รือไม่? ตัง้ แต่ขา้ อายุหกขวบก็ถูกเลี้ยงอยูใ่ ต้
อาณั ติท่านลุง ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้รว่ มกับพีช
่ าย แม้ไม่ได้เกิดจากท้องแม่
คนเดียวกัน แต่ขา้ ก็เคารพนั บถือเขาเสมอ เห็นเขาเป็นเช่นพีช
่ ายแท้ๆ ทว่า
ข้าไม่นึกเลยว่าจู่ๆ เขาจะลงมือสังหารฆ่าจากด้านหลัง”

“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าช่วยข้าไว้ คิดว่าตอนนี้ ขา้ อาจตายไปแล้ว เดิมทีขา้ คิดมา


ตลอดก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาต้องฆ่าข้า แต่พอได้ยน
ิ ว่าเขาจะแต่งงาน ถึงได้รู ้
ว่าที่แท้ก็เพื่อนาง”

“นาง?” เธองงงันเล็กน้ อย

“อืม ผูห
้ ญิงคนนั ้นที่เขาแต่งงานด้วย คือคุณหนูที่สามแห่งบ้านตระกูลเคอ
นามว่าเคอซินหย่า นางเป็นคู่หมัน
้ ที่ท่านพ่อหมายปองให้ขา้ ในปีนั้น”

ได้ยน
ิ เช่นนั ้น เฟิ่ งจิว
่ ก็ถลึงดวงตาด้วยความตกตะลึงอยูบ
่ า้ ง นี่ มันเรือ
่ งอะไร
กันแน่ ? ถูกพีช
่ ายคนญาติลอบฆ่า ซ้ำยังโดนแย่งตัวคู่หมัน
้ อีก? เธอมองเขา
ด้วยความเห็นใจน้ อยๆ รู ส
้ ึกว่าพีช
่ ายคนใกล้ตัวผูน
้ ี้ ชา่ งน่าสงสารอย่างไม่
ธรรมดาเลยจริงๆ

เห็นเขาท่าทางอ้างว้าง เธอจึงถามอย่างสงสัยน้ อยๆ “ท่านพี่ ท่านชอบผูห


้ ญิง
คนนั ้นรึ?”
กวนสีหลิน
่ ส่ายหัว “พูดไม่ได้วา่ ชอบ ทว่าตัง้ แต่เล็กก็รูว้ า่ นางจะโตมาเป็นผู้
หญิงของข้า นึ กไม่ถึงเลย พอตอนนี้ ได้ยน
ิ ว่านางจะแต่งงานกับคนอื่น
หนำซ้ำคนผูน
้ ั ้นยังเป็นพีช
่ ายข้า ข้าก็ไม่สบายใจและรู ส
้ ึกน้ อยใจ”

“ฮะๆ!”

เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เมื่อเห็นแววตาเขาถลึงมองมาด้วยความ
อับอายและขุน
่ เคือง เธอก็รบ
ี กลัน
้ ไว้ “ก็ได้ๆๆ ข้าไม่หว
ั เราะ ไม่หว
ั เราะแล้ว”
แต่มุมปากที่ยม
ิ้ กว้างกลับมีความยิม
้ เยาะเอ่อล้นอย่างไม่อาจหักห้ามได้
ตอนที่ 73 ถึงคราต้องลาจาก

“เสี่ยวจิว
่ ข้ากำลังไม่สบายใจนะ! เจ้าไม่ปลอบใจข้าก็แล้ว ยังจะหัวเราะเยาะ
ข้าอีก” เขาถลึงมองนางอย่างขัดเขินขุน
่ เคืองน้ อยๆ แต่ความรู ส
้ ึกอึดอัดในใจ
กลับเลือนหายไปไม่น้อยเพราะเสียงหัวเราะนั ้น

“ไม่ใช่นะ ข้าเคยเห็นมุมแบบนี้ ของท่านเสียเมื่อไหร่เล่า? ถึงได้รูส


้ ึกแปลกใหม่
มากเลย เหอะๆ”

มันช่างแปลกใหม่จริงๆ คุณคิดดู ถึงแม้เขาจะหน้าตาหล่อเหลา แต่รา่ งกาย


แข็งแรงกำยำเสียจนแทบกล่าวขึ้นมาพร้อมกันได้วา่ เอวหนาเท่าหมี หลัง
กว้างเท่าเสือ ตอนนี้ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เช่นนี้ กลับมีสีหน้าน้ อยอกน้ อยใจ
ทุกข์ระทมราวกับหญิงสาวที่ถูกชายรักทอดทิง้ ก็ไม่ปาน แล้วจะไม่ให้เธอ
หัวเราะได้อย่างไร?

“แต่วา่ พ่อแม่ท่านเล่า? ในเมื่อเป็นการแต่งงานที่พอ


่ ท่านช่วยหมายหมัน
้ งัน

ก็คงคัดค้านเรือ
่ งนี้ สิ?” เธอสงสัยนิ ดหน่ อย เขาเกิดเรือ
่ งมานานแค่ไหนกัน?
คนพวกนั ้นถึงคิดว่าเขาตายไปแล้วจริงๆ?

ได้ยน
ิ เช่นนี้ ความขุน
่ ข้องใจบนใบหน้ากวนสีหลิน
่ ก็จางหายไป กลายเป็น
ความเศร้าใจน้ อยๆ “ตัง้ แต่ขา้ เกิดมาก็ไม่เคยเห็นหน้าท่านแม่ ตอนอายุหก
ขวบ ท่านพ่อสอบถามได้ขา่ วคราวของท่านแม่จึงออกไปตามหา แต่ตลอดมา
ก็ไม่เคยได้กลับ และไม่มีขา่ วคราวส่งมาถึงบ้านตระกูลกวนเลย คนในบ้านจึง
ต่างพูดว่าท่านตายแล้ว”
เขาเดินไปข้างโต๊ะหินเพื่อวางของลง “แต่ขา้ ไม่เชื่อหรอก พรสวรรค์ท่านพ่อ
เป็นเลิศที่สุดในประวัติศาสตร์ตระกูลกวน ข้าไม่เชื่อว่าท่านตาย ดังนั ้นตอนที่
ยังเด็กมาก ข้าตัง้ มัน
่ ปณิ ธานไว้วา่ ต้องสร้างชื่อเสียงเลื่องลือไปทัว่ ยุทธภพให้
จงได้! เช่นนี้ แล้ว ขอแค่ท่านพ่อท่านแม่ยงั มีชว
ี ต
ิ อยู่ จะต้องรู เ้ รือ
่ งข้า
แน่ นอน”

เห็นเขาท่าทางขึงขังเอาจริงเอาจัง เฟิ่ งจิว


่ ก็แอบพยักหน้ากับตัวเอง ไม่แปลก
ใจเลย ถึงแม้วรยุทธ์พลังเร้นลับเขาจะไม่สูงนั ก แต่พลังระเบิดกลับ
แข็งแกร่งมาก กล้ามเนื้ อแขนขาก็กำยำล่ำสัน คิดๆ แล้ว ยามปกติต้องฝึก
หนั กมาไม่น้อย

“ท่านพี่ ข้าเชื่อว่าท่านทำได้แน่ !” เธอตบไหล่ให้กำลังใจเขา “ตัง้ ใจฝึกฝนนะ


พรสวรรค์ท่านก็ไม่ได้ด้อยเลย ภายภาคหน้าจะเหนื อกว่าพ่อท่านแน่ นอน”

พอสิน
้ สุดเสียง แววตาเธอฉายแววเป็นประกาย กล่าวอย่างยิม
้ แย้มว่า “แต่
ท่านพี่ ในเมื่อพีช
่ ายท่านจะแต่งงาน ยังไงท่านต้องกลับไปอวยพรเสียหน่ อย!
ไม่งน
ั ้ ก็ไร้เหตุผลเกินไป”

“หา?” เขามองนางอย่างไม่เข้าใจอยูเ่ ล็กน้ อย

“อืม งัน
้ ตามนี้ แหละ! ข้าจะไปกับท่านด้วย”

ยังไงซะก็อยูท
่ ี่นี่ต่อไปไม่ได้ ไม่งน
ั ้ เดีย
๋ วคนตระกูลสวีไ่ ด้รบ
ั ข่าวจะมาหาเรือ
่ ง
เอา เธอในตอนนี้ ยงั ไม่มีพลังพอจะต่อกรกับคนทัง้ ตระกูลหนึ่ ง จึงเป็น
ธรรมดาที่ต้องเก็บซ่อนพรสวรรค์ และรู จ
้ ักหลบเลี่ยงคมหอกคมดาบ
หนำซ้ำ เธอก็อยากลองกลับไปที่เมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ดู

“สักพักท่านก็ไปซื้อรถม้าสักคัน ข้าจะออกไปสักครู ่ เดีย


๋ วกลับมา” เธอกลับ
เข้าห้องเพื่อเปลี่ยนใส่ชุดผูช
้ าย หลังจากสวมหน้ากาก ก็เดินออกไปด้านนอก

กวนสีหลิน
่ เห็นนางเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวออกไป เพียงแปลกใจสักพัก แต่
กลับไม่ถามอะไร หลังจากทานอาหารพวกนั ้น ก็ออกไปซื้อรถม้ามาใช้เดิน
ทางแทนการเดินเท้า

ขณะเฟิ่ งจิว
่ มาถึงตลาดมืด ก็พบสาวน้ อยชุดดำคนหนึ่ งนั ่งคุกเข่าเอวตัง้ ตรง
อยูบ
่ ริเวณทางเข้า

เธอชำเลืองมองแวบหนึ่ ง เห็นเพียงใบหน้าดำคล้ำ และดวงตาที่หลุบลง


น้ อยๆ พอสาวเท้าเดินเข้าไป ก็ไม่สนใจสาวน้ อยชุดดำผูน
้ ั ้นอีก

ทว่าสาวน้ อยชุดดำกลับเปรยตาขึ้นมองในตอนที่นางเดินผ่านข้างกาย
ดวงตาคู่นั้นที่เคยหดหูโ่ ดดเดี่ยวปรากฏแสงแวววาวขึ้นทันใด นางจับจ้องเงา
ร่างสีแดงที่เดินเข้าไปด้านในราวกับเห็นดวงดาวแพรวพราวยามเที่ยงคืน

“ท่านจะไปแล้วรึขอรับ?”

ในห้องปีก ผูด
้ ูแลต่งสีหน้าร้อนรน “แต่พวกเรายังรวบรวมยาทิพย์จิต
วิญญาณพวกนั ้นได้ไม่ครบนะขอรับ”
“ที่เมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ก็มีตลาดมืดของพวกท่านไม่ใช่หรือ? เมื่อถึงเวลา พวก
ท่านก็นำยาทิพย์ส่งไปที่นั่นก็พอ” บัตรอัญมณี แผ่นบางที่เธอเล่นอยูใ่ นมือ
ด้านในนี้ คือเงินที่ได้รบ
ั จากการประมูลยาทัง้ สองขวด
ตอนที่ 74 คำพูดที่น่าประหลาดใจ!

คาดไม่ถึงเลย ว่าสุดท้ายทักษะการรักษาของเธอก็มีประโยชน์ ที่สุด แต่วา่


ของพวกนี้ เป็นเพียงยาที่ปรุ งออกมา หากเป็นนั กเล่นแร่แปรธาตุของโลกนี้
ล่ะก็…

พอนึ กถึงเรือ
่ งนี้ ในดวงตาที่หรีล
่ งฉายแววเป็นประกาย ความคิดในใจก็
ค่อยๆ เป็นรู ปเป็นร่าง

เธอเปรยตาขึ้นมองใบหน้าผูด
้ ูแลต่ง เอ่ยถาม “ข้าเห็นสาวน้ อยชุดดำคุกเข่า
อยูด
่ ้านนอก คล้ายว่าจะเป็นคนที่ด่ ืมยาไปเมื่อวันนั ้นสินะ?”

“ใช่ขอรับ เป็นนาง นางคุกเข่าอยูต


่ รงนั ้นสองวันแล้ว ที่จริงก็เพื่อพบหน้าท่าน
ขอรับ”

“พบข้ารึ?” เธอเลิกคิว
้ แปลกใจเล็กน้ อย

“ขอรับ นางเป็นนั กรบของลานประลองตลาดมืดที่พอมีช่อ


ื เสียงอยูบ
่ า้ ง กล่าว
กันว่ายังมีน้องชายอีกคน แต่รา่ งกายไม่ค่อยแข็งแรง เงินที่นางชนะการ
ประลองที่นี่ล้วนนำไปรักษาน้ อง ทว่าหมอหลายท่านที่เคยไปตรวจดูต่างบอก
ว่าน้ องชายนางมีชว
ี ต
ิ อยูไ่ ด้อก
ี ไม่นาน”

ขณะที่ผูด
้ ูแลต่งพูด เห็นเฟิ่ งจิว
่ ค่อนข้างสนอกสนใจ จึงกล่าวอีกว่า “สองวัน
ก่อนได้ยน
ิ ว่าน้ องชายนางหมดสติไม่รูส
้ ึกตัว หมอในหมู่บา้ นล้วนหมดหนทาง
ก็ไม่รูว้ า่ เกิดอะไรขึ้น นางถึงเหยียบเข้ามาที่นี่ พูดร้องขอพบท่าน พวกเรา
รับปากว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ ของท่าน แน่ นอนว่าเราจึงไม่ตอบรับนาง
ดังนั ้น นางจึงคุกเข่าอยูเ่ ช่นนั ้นมาตลอด ไล่ก็ไล่ไม่ไป”

เฟิ่ งจิว
่ พยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรมากมาย ผ่านไปสักพัก หลังจากอธิบายเรือ
่ ง
ยาทิพย์จิตวิญญาณกับเขาอีกหน่ อย เธอก็ลุกขึ้นจากไป

ขณะที่ก้าวเดินออกประตูตลาดมืด พอผ่านข้างกายสาวน้ อยชุดดำ ก็สังเกต


เห็นแววตานาง เฟิ่ งจิว
่ จึงชะงักเท้าลง เหลียวมองนางแวบหนึ่ ง ก่อนจะสาว
เท้าก้าวจากไป

สาวน้ อยชุดดำหันตัวมองตามเงาร่างที่จากไป แววตาเป็นประกาย ก่อนจะ


ลุกขึ้นตามไปทันที

หลังจากเฟิ่ งจิว
่ เดินอยูน
่ านสักพัก ฝีเท้าพลันหยุดลง น้ำเสียงหยอกล้อก็ดัง
ลอยตามมา

“ตามมานานขนาดนี้ หรือเจ้าคิดจะปล้นข้า?” ระหว่างที่พูด เธอก็หน


ั ตัวกลับ
ไป

เงาร่างสีดำเดินออกมาจากด้านหลัง เป็นสาวน้ อยหน้าคล้ำผูน


้ ั ้นเอง นาง
มองร่างสีแดงเบื้องหน้า ริมฝีปากที่เคยเม้มอยูป
่ ริปากเอ่ยว่า “บนตัวท่านมี
กลิน
่ ยา ท่านเป็นนั กปรุ งยาที่ทำยานั ้น”

เฟิ่ งจิว
่ ยิม
้ ๆ สองมือกอดอกมองนาง มุมปากที่ยกขึ้นน้ อยๆ มีความดุรา้ ยอยู่
บางส่วน “แล้วยังไงต่อรึ?”
สาวน้ อยชุดดำมองเฟิ่ งจิว
่ เงียบไปอยูน
่ านโข ก็โน้ มคุกเข่าลง แล้วก้มหัว “ขอ
ท่านช่วยน้ องชายข้าด้วยเจ้าค่ะ”

น้ำเสียงนางหนั กแน่ นและเย็นเยียบ ถึงแม้จะคุกเข่าลง แต่ชว


่ งเอวกลับตัง้
ตรง เห็นได้ชด
ั ว่าเป็นคนที่ออ
้ นวอนใครไม่เป็น

รอยยิม
้ บนริมฝีปากยิง่ ลึกขึ้น เฟิ่ งจิว
่ กลับส่ายหน้า “ข้าไม่ชว
่ ย”

พอสิน
้ น้ำเสียง เธอก็หน
ั ตัวก้าวเท้าเดินไปด้านหน้า

ทว่าครัง้ นี้ ร่างที่เคยคุกเข่าอยูก


่ ลับโผล่มาคุกเข่าอยูเ่ บื้องหน้าเธอในระยะ
ห่างสามก้าว

“ขอท่านช่วยน้ องชายข้าด้วยเจ้าค่ะ”

ยังคงเป็นน้ำเสียงที่หนั กแน่ น และลำตัวที่ตัง้ ตรงเช่นเดิม

เฟิ่ งจิว
่ เห็นแล้วนึ กถึงนางตอนที่อยูบ
่ นลานประลองในวันนั ้น แววตาดัง่ สัตว์
ร้ายตัวน้ อย ทัง้ ดื้อรัน
้ และแน่วแน่

“ไหนเจ้าลองบอกสิ เหตุใดข้าต้องช่วยน้ องชายเจ้าด้วย?”

“ข้าช่วยท่านฆ่าคนได้เจ้าค่ะ”

เฟิ่ งจิว
่ ส่ายหน้า “เรือ
่ งฆ่าคนก็มีนักฆ่าตลาดมือที่ทำงานนี้ โดยเฉพาะแล้ว”
“ชีวต
ิ ข้าก็ให้ท่านได้เจ้าค่ะ”

เธอส่ายหน้าอีกครา “ได้ชว
ี ต
ิ เจ้าไปก็ไม่มีประโยชน์ อยูด
่ ี”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ นางจึงเงยหน้าขึ้นใช้สายตามองคนเบื้องหน้าไปตรงๆ “งัน
้ ท่าน
ต้องการอะไรเจ้าคะ?”

พอสายตาเฟิ่ งจิว
่ พินิจมองเรือนร่างนางจากบนลงล่าง ก็ส่ายหน้า และยิม

อย่างชัว่ ร้าย ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก

เมื่อเห็นเงาร่างที่ค่อยๆ เดินห่างออกไป สาวน้ อยชุดดำก็ลุกยืนขึ้น ตะโกน


บอกว่า “ข้ามอบค่ำคืนอันอบอุน
่ ให้ท่านได้นะเจ้าค่ะ!”

เฟิ่ งจิว
่ ได้ยน
ิ คำพูดด้านหลัง ขาก็ซวนเซเสียจนแทบจะล้มลงบนพื้น
ตอนที่ 75 เพิ่มเติมอีกสองคน!

เธอหันกลับไปมองสาวน้ อยชุดดำอย่างตกตะลึงน้ อยๆ กล่าวถามด้วยความ


ไม่แน่ ใจนั ก “เจ้าว่าอะไรนะ?”

สาวน้ อยเม้มริมฝีปาก ดวงตามองจับนิ่ งที่เงาร่างสีแดง “ข้ามอบค่ำคืนอัน


อบอุน
่ ให้ท่านได้เจ้าค่ะ?”

เฟิ่ งจิว
่ ได้ยน
ิ คำพูดนี้ ก็อดกลัน
้ ความรู ส
้ ึกชัว่ วูบที่อยากจะเงยหน้าหัวเราะร่า
ไว้ แล้วเอ่ยอย่างล้อเล่น “ข้าชอบสาวงามมากกว่า ต้องให้แม่หนูน้อยหน้า
หมองคล้ำเช่นเจ้ามามอบค่ำคืนอันอบอุน
่ ให้ด้วยรึ?”

ฟังความเช่นนี้ สาวน้ อยชุดดำจึงยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดๆ หน้า เผยให้เห็นรู ป


โฉมดังเดิม

“ข้าไม่ได้อป
ั ลักษณ์ นะเจ้าคะ” นางพูดพลางมองเฟิ่ งจิว

จริงเสียด้วย สาวน้ อยไม่เพียงไม่หน้าตาขีร้ วิ้ ขีเ้ หร่ ซ้ำยังงดงามน่าตะลึงอย่าง


มาก รู ปโฉมพริง้ เพรามาแต่กำเนิ ด เมื่ออวัยวะทัง้ ห้าที่ประณี ตมาจับคู่กับ
ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ ช่างเป็นสาวน้ อยงามเลิศที่สวยงามจับใจ

ทว่าบนกายสาวน้ อยกลับไม่มีท่าทางเหนี ยมอายเช่นหญิงสาว มีเพียงความ


เย็นชาและเฉยเมย แต่กลิน
่ อายเย็นเยียบบนร่างก็แสดงถึงความรู ส
้ ึกของ
สาวงามผูเ้ ย็นชา
นอกจากใบหน้ามอมแมมที่โดดเด่น เรียวคิว
้ และดวงตาก็ยงั ถูกเติมแต่ง
ด้วยเหตุนี้ เดิมทีจึงดูไม่น่าดึงดูดสักเท่าไหร่

ไม่ต้องมอง ก็เดาได้แน่ นอนว่าช่วงอกที่แบนราบนั ้นก็รด


ั ผ้าเอาไว้

โชคดีที่นางเฉลียวฉลาด รู จ
้ ักเก็บซ่อนรู ปโฉมแสนสะดุดตา ไม่เช่นนั ้น
ใบหน้าเกลี้ยงเกลานี้ ก็มากพอจะเรียกปัญหามาได้ไม่น้อยเลย

เธอก้าวยาวเดินกลับไปข้างกายสาวน้ อยชุดดำ มองนางด้วยแววตาที่เผย


ความซุกซน “จะมอบค่ำคืนอบอุน
่ ให้ขา้ จริงรึ?”

“ขอแค่ท่านช่วยชีวต
ิ น้ องชายข้า ชีวต
ิ นี้ ล้วนเป็นของท่าน จึงไม่ต้องพูดถึง
เรือนร่างกายนี้ เลยเจ้าค่ะ”

นางแสดงท่าทีเมินเฉยอย่างมาก ราวกับไม่สนใจอะไรเลย แต่เพราะการเข้า


ใกล้ของเฟิ่ งจิว
่ ทำให้รา่ งกายตึงเกร็ง รวมถึงมือที่กำขึ้นเบาๆ กลับบอกเฟิ่ งจิว

ว่านางไม่ได้ไม่ถือสาอย่างที่แสดงออกมา

ก็ใช่สิ เด็กสาวคนไหนจะให้ค่ำคืนอันอบอุน
่ กับคนอื่นตามอำเภอใจโดยไม่
ถือสาบ้าง? ซ้ำยังมอบชีวต
ิ ตัวเองให้ตามใจชอบอีก?

เธอมองลึกไปที่นางแวบหนึ่ ง มุมปากยกขึ้นน้ อยๆ “นำทางซิ!”

“เจ้าค่ะ”
ดวงตาสาวน้ อยหลุบลงขานรับ ถึงจะนำพาเธอไปยังสถานที่พก
ั อาศัยของตน

ครึง่ ชัว่ ยามให้หลัง

เฟิ่ งจิว
่ มองบ้านตรงหน้าที่ซอมซ่อเสียจนลมพัดก็แทบจะล้ม ก่อนจะมองสาว
น้ อยชุดดำที่เปิดประตูเร่งฝีเท้าเดินเข้าไป แล้วค่อยสาวเท้าเดินตาม พอเข้า
ด้านในก็เห็นเด็กหนุ่มนอนอยูบ
่ นเตียงไม้

สาวน้ อยชุดดำนำผ้าล้างน้ำให้เขาเช็ดหน้าผากและฝ่ามือ จากนั ้นจึงมองที่


เฟิ่ งจิว
่ “เขาคือน้ องชายข้า สองวันก่อนหลังทานยาก็กระอักเลือดหมดสติไป
เจ้าค่ะ”

เฟิ่ งจิว
่ เดินไปข้างหน้า เห็นเด็กหนุ่มซูบผอมเสียจนปลายคางคมชัด สีหน้า
ซีดเผือดไร้สีเลือด มองเพียงแวบเดียว ก็ย่น
ื มือไปจับข้อมือเรียวเล็กเพื่อคลำ
ชีพจร

ดึงมือกลับ แล้วสัง่ การว่า “ถอดเสื้อท่อนบนเขาซะ” ระหว่างที่พูดก็หยิบเข็ม


เงินออกมา

สาวน้ อยชุดดำถอดเสื้อท่อนบนของน้ องชายออกตามคำสัง่ เห็นนางหยิบ


เข็มเงินจิม
้ เข้าไปตามหลายจุดเส้นประสาทบนร่างกายเขาราวกับทำไปอย่าง
สุ่มๆ ก็หวัน
่ ใจอยูน
่ ้ อยๆ ฝืนทนไม่ให้ผลีผลามออกไปห้ามปราม แววตายิง่ จับ
จ้องน้ องชายไว้นิ่ง เพียงกลัวว่าจะมีเรือ
่ งอะไรเกิดขึ้น
ผ่านไปสักพัก เฟิ่ งจิว
่ เก็บเข็มเงินกลับแล้วลุกยืนขึ้น “แบกเขาเดินตามข้า
มา” ขณะที่พูด ก็หน
ั ตัวเดินออกไปด้านนอก

สาวน้ อยชุดดำเห็นท่า จึงเร่งรีบแบกน้ องชายผูห


้ มดสติข้น
ึ หลัง ก่อนจะตาม
หลังนางไปติดๆ

เมื่อเฟิ่ งจิว
่ มาถึงลานบ้าน ก็เห็นกวนสีหลิน
่ กำลังย้ายเตียงไม้น่ ม
ุ ขึ้นรถม้า
พอเห็นนางกลับมา จึงเรียกด้วยท่าทางระรืน
่ “เสียวจิว
่ เจ้าว่ารถม้าคันนี้ เป็น
ยังไง? ข้าตัง้ ใจซื้อที่ใหญ่ที่สุด แบบนี้ ระหว่างทาง หากเจ้าอยากพักผ่อนก็
สามารถนอนหลับด้านในได้เลย จะสะดวกกว่านะ”

พอสายตาเห็นสองคนนั ้นที่ตามหลังนางมา ก็แปลกใจนิ ดหน่ อย จึงเอ่ยถาม


“พวกเขามาทำอะไรกัน?”

เฟิ่ งจิว
่ ยิม
้ เจ้าเล่ห์ “ค่ำคืนอันอบอุน
่ ยังไงล่ะ”
ตอนที่ 76 ความโกรธเกรีย
้ วของตระกูลสวี!่

กวนสีหลิน
่ ฟังแล้วนิ่ งงันไปด้วยความประหลาดใจน้ อยๆ ทำไมถึงพาสองคน
นี้ กลับมานะ?

“ขึ้นรถเถอะ!” เฟิ่ งจิว


่ ส่งสัญญาณ ให้สาวน้ อยแบกน้ องชายขึ้นรถมาก่อน

“เจ้าค่ะ” นางขานรับ ถึงจะเดินไปที่รถม้า

กวนสีหลิน
่ ลางนางไปอีกด้าน เอ่ยถามเสียงเบาว่า “เสี่ยวจิว
่ เจ้าคิดจะพา
สองคนนี้ ไปด้วยกันรึ? หนุ่มน้ อยนั ่นดูเหมือนร่างกายไม่ค่อยสู้ดีเอาเสียเลย!
แบบนี้ จะเดินทางได้ร?ึ จะเกิดเรือ
่ งอะไรระหว่างทางหรือไม่?”

“วางใจเถอะ ไม่เกิดเรือ
่ งหรอก พวกเราไปกันเถอะ!” ขณะที่พูด เธอไม่เห็น
คนขับรถม้า จึงถามว่า “ท่านพี่ ท่านคงไม่ได้คิดจะขับม้าเองใช่หรือไม่?”

“อืม ข้าขับม้าให้ก็พอแล้ว วางใจเถอะ แค่แขนข้างเดียวข้าก็ขบ


ั ได้” เขาฉี ก
ยิม
้ กว้าง เป็นสัญญาณให้นางรีบขึ้นรถ

ได้ยน
ิ เขาพูดเสียขนาดนี้ เธอก็ไม่พูดอะไรอีก ถึงจะโดดขึ้นรถม้า แล้วเข้าไป
ด้านใน

หลังจากพวกเขาขึ้นรถม้า กวนสีหลิน
่ ก็ข้น
ึ ไปนั ่งบ้าง หนึ่ งแขนควบรถม้า
เคลื่อนออกไปนอกประตูหมู่บา้ น มุ่งหน้ากลับบ้านที่เมืองอวิ ๋นเยวีย
่ …
ทางอีกด้านหนึ่ ง ที่เมืองอวิ ๋นเยวีย
่ บ้านตระกูลสวี่

ปัง!

ชายวัยกลางคนผูน
้ ำสูงสุดใช้มือหนึ่ งตบลงบนหน้าโต๊ะอย่างแรง พลันลุกยืน
ขึ้นด้วยความเหลือเชื่อ มองคาดโทษองครักษ์ ที่คุกเข่าอยูด
่ ้านล่าง น้ำเสียง
ทัง้ ตกใจและเยือกเย็น

“อะไร? เจ้าว่าอะไรนะ? พูดให้ขา้ ฟังอีกรอบซิ!”

ท่าทางเช่นผูเ้ หนื อกว่า รวมถึงกลิน


่ อายผูแ
้ กร่งกล้าทำให้องครักษ์ ที่คุกเข่า
อยูม
่ ีสีหน้าซีดเซียว เหงือ
่ ไหลออกโซก ขณะที่ใจประหวัน
่ พรัน
่ พรึง กลับจะไม่
ปริปากพูดก็ไม่ได้

“เรียน เรียนท่าน ท่านเจ้าบ้าน ถิงจัง่ ของหมู่บา้ นป่าหินส่งคนมาบอก บอกว่า


พบศพ ศพท่านปรมาจารย์นักรบทัง้ สาม สงสัย สงสัยว่าจะเป็นคนของ
ตระกูล ตระกูลสวีเ่ ราขอรับ”

ปัง!

ทัง้ ร่างเขาทรุ ดกลับไปนั ่งลงอย่างสิน


้ เสียสติ เอ่ยด้วยความไม่อยากเชื่อว่า
“เป็นไปได้ยงั ไง? เป็นไปได้ยงั ไงกัน? ด้วยกำลังของผูอ
้ าวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสี่
สถานที่เช่นหมู่บา้ นป่าหินจะมีคนฆ่าพวกเขาได้เช่นไรเล่า?”

องครักษ์ ที่หมอบคุกเข่าอยูไ่ ม่กล้าเอ่ยปาก แต่รา่ งก็สัน


่ เทิม
้ อยูต
่ ลอด
“เป็นใคร? ใครฆ่าพวกเขา?” เขาจ้องมององครักษ์ เบื้องล่างด้วยแววตา
กระหายเลือด “องครักษ์ สองนายที่มาด้วยกันเล่า? พวกเขายังไม่กลับมารึ?”

องครักษ์ ที่คุกเข่ากล่าวเสียงสัน
่ “ไม่ ไม่ทราบว่าใครฆ่าขอรับ องครักษ์ สอง
นายที่ติดตามกลัวโดนท่านเจ้าบ้านลงโทษ จึงหนี ไปแล้วขอรับ”

ผูอ
้ าวุโสใหญ่กับผูอ
้ าวุโสสี่ รวมถึงคุณชายรองล้วนถูกฆ่า หากพวกเขาสอง
คนกลับมา ความพิโรธของท่านเจ้าบ้านหาใช่ที่น่าสบายใจนั ก จึงสบโอกาสที่
อยูด
่ ้านนอกหนี ไปเป็นธรรมดา

“ดี! ดีมาก!”

มือเขากำหมัดแน่ น น้ำเสียงทุ้มเข้มทัง้ เย็นเยียบและกระหายเลือด “ไปสืบ


มาให้ขา้ ! สืบมาให้ดีๆ ล่ะ!”

ตระกูลสวีเ่ ดิมเป็นวงศ์ตระกูลระดับกลางของเมืองอวิ ๋นเยวีย


่ ถึงแม้พละ
กำลังอำนาจจะด้อยกว่าแปดตระกูลใหญ่ที่ทรงอำนาจ แต่ทางด้านนี้ ก็มีช่อ

เสียงอยูบ
่ า้ ง ตอนนี้ ในเวลาสัน
้ ๆ ไม่ถึงหนึ่ งเดือน ทัง้ ลูกชาย น้ องชาย แม้
กระทัง่ ผูอ
้ าวุโสใหญ่กับผูอ
้ าวุโสสี่ต่างก็ถูกฆ่า!

หากไม่สืบหาคนร้าย เขาจะกล้ำกลืนฝืนทนต่อไปได้อย่างไร!
ที่ลานบ้านสักแห่งในเมืองอวิ ๋นเยวีย

เหลิง่ ซวงในชุดสีดำรู ปโฉมโดดเด่นเห็นร่างสวมเสื้อซับในสีขาวกำลังร่าย


กระบวนหมัดพลิว
้ ไหวอยูใ่ นลานบ้าน แววตาก็สับสนเล็กน้ อย

วันนั ้นน้ องชายนางฟื้ นขึ้นมา ในคืนวันเดียวกัน นางจึงนอนเปลือยกายอยู่


บนเตียงเขาตามสัญญา เวลานี้ นางยังจำได้วา่ ตอนที่เขาเปิดผ้าห่มมาเห็น
เรือนร่างเปลือยเปล่า ท่าทางนั ้นทัง้ ตกตะลึงและกระอักกระอ่วน

ครานั ้นเองนางถึงได้รูว้ า่ แท้จริงเขาเป็นผูห


้ ญิง

ในเมื่อไม่ต้องการค่ำคืนอันอบอุน
่ และไม่ได้ถูกใจในความงาม ไยนางถึงยอม
ช่วยกันเล่า?

แต่ไม่วา่ เพราะเหตุใด เริม


่ ตัง้ แต่ที่มอบชีวต
ิ ให้ นางก็เป็นเช่นเจ้านาย เรือ
่ งนี้
ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

“เหลิง่ ซวง ท่านพีข


่ า้ กลับมาหรือยัง?”
ตอนที่ 77 เยีย
่ มเยือนถึงบ้าน

เฟิ่ งจิว
่ ดึงหมัดกลับ แล้วมองไปทางสาวน้ อยคนงามที่ยน
ื อยูบ
่ นพื้นต่างระดับ
ยิง่ มอง ก็ยงิ่ รู ส
้ ึกเบิกบานหัวใจ

เหลิง่ ซวงได้สติกลับมา จึงเดินไปหานาง ก้มหัวลงน้ อยๆ และเอ่ยอย่าง


นอบน้ อม “นายท่าน คุณชายยังไม่กลับมาเจ้าค่ะ”

“เขาออกไปตัง้ แต่รุง่ สาง จนตอนนี้ ก็ยงั ไม่กลับมารึ?” เธอพูดด้วยความ


แปลกใจ กล่าวถามอีกว่า “งานแต่งของตระกูลกวนกับตระกูลเคอไม่ใช่อก

สามวันจากนี้ ร?ึ ”

“อีกสามวันจากนี้ เจ้าค่ะ”

เหลิง่ ซวงตอบ น้ำเสียงชะงักลง ก่อนจะกล่าวอีกว่า “แต่ตอนที่ออกไป


คุณชายบอกไว้ ว่าท่านอยากกลับไปก่อนล่วงหน้า ไม่อยากให้นายท่านตามไป
ท่านว่าเรือ
่ งนี้ จะจัดการเองเจ้าค่ะ”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ เฟิ่ งจิว
่ ก็ยม
ิ้ ๆ คิดว่าเขากังวล ว่าหากเธอไปอยูใ่ นเหตุการณ์ จะ
จัดการอะไรได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก หนำซ้ำ ในใจคงยังไม่เชื่อว่าตระกูลกวนจะโหด
ร้ายกับเขาขนาดนี้ และยิง่ ไม่เชื่อว่าพีน
่ ้ องร่วมสกุลจะละเลยเขาในยามที่ผล
ประโยชน์ อยูเ่ บื้องหน้า

แบบนี้ ก็ดี ให้ไปจัดการเสียเอง เขาถึงจะรู ้ ว่าบางคนเมื่อผลประโยชน์ มากอง


อยูต
่ รงหน้า แม้จะเป็นพีน
่ ้ องร่วมสกุลก็ยงั ใจจืดใจดำกันได้ลงคอ
เรือ
่ งวงศ์ตระกูลของเขานั ้น เธอไม่ได้รูส
้ ึกดีกับพวกเขาเลยสักนิ ดเดียว

แต่กับตระกูลเฟิ่ ง…

เมื่อคิดถึงเรือ
่ งที่ได้รูเ้ กี่ยวกับตระกูลเฟิ่ งหลังจากกลับมาถึงเมืองอวิ ๋นเยวีย

ความสับสนก็แวบเข้ามาในหัวใจเธอ

คนตระกูลเฟิ่ งช่างรักใคร่เอ็นดูเฟิ่ งชิงเกอจริงๆ ทว่าพวกเขาไม่รูเ้ ลย ว่าตอน


นี้ เฟิ่ งชิงเกอที่พวกเขาโอบอุม
้ ไว้ในมือกลับทำให้ลูกสาวพวกเขาต้องตาย

เหลิง่ ซวงที่อยูข
่ า้ งๆ มองรอยแผลที่ยุง่ เหยิงอยูเ่ ล็กน้ อยบนใบหน้าเฟิ่ งจิว

แววตาเป็นประกายน้ อยๆ อย่างอดไม่ได้

รอยมีดแต่ละรอยปาดแนวขวางอยูบ
่ นใบหน้านายท่านอย่างสะเปะสะปะ
รอยแผลนั บไม่ถ้วนบดบังรู ปโฉมดัง้ เดิม พอมองดูแล้ว มันช่างเป็นรอยแผล
ที่ทำให้คนหวัน
่ ใจอยูบ
่ า้ ง

นางไม่อาจจิตนาการได้เลยจริงๆ ว่าใครกันแน่ ที่ทำลายใบหน้าของสาวน้ อย


คนหนึ่ งได้หนั กหนาถึงเพียงนี้ ? และต้องเกลียดชังกันขนาดไหนถึงลงมือกัน
ได้ขนาดนี้ ?

เมื่อนึ กถึงเจ้านายที่ยงั ไม่มีพลังปกป้องตัวเอง นางจึงแอบๆ ตัง้ มัน


่ ในใจ ว่า
จากนี้ ไปจะต้องปกป้องนางอย่างใกล้ชด
ิ ให้จงได้
เหลิง่ ซวงในตอนนี้ ยังไม่รูถ
้ ึงฝีมือและพละกำลังของเฟิ่ งจิว
่ เพราะตัง้ แต่ที่
ติดตามนางมา ก็เห็นเพียงวิชาหมัดอันพลิว
้ ไหวไร้พลังทำลายที่นางร่ายรำใน
ลานบ้านอยูท
่ ุกเช้าตรู ่

ประกอบกับที่ตัวนางเป็นนั กปรุ งยา ด้วยเหตุนี้ความคิดแรกเริม


่ ที่เชื่อก็ทำให้
เข้าใจว่านางชำนาญเพียงด้านยา แต่กลับอ่อนด้อยด้านวรยุทธ์

เฟิ่ งจิว
่ ที่กำลังคิดเรือ
่ งอื่นอยูส
่ ังเหตเห็นสายตาเหลิง่ ซวง จึงหันหน้าไปมอง
นาง เอ่ยถามว่า “เป็นอะไรรึ?”

เหลิง่ ซวงส่ายหน้า แล้วก้มหัวลงเล็กน้ อย

เห็นเช่นนี้ เฟิ่ งจิว


่ เหมือนนึ กอะไรบางอย่างได้ ก็จับใบหน้าตัวเอง พลางยิม

เบาๆ “สงสัยว่าทำไมใบหน้าข้าเสียโฉมเช่นนี้ ร?ึ ”

น้ำเสียงเธอชะงักน้ อยๆ ก่อนจะกล่าวต่ออย่างไม่สนใจอะไรนั ก “อันที่จริง


ตอนนี้ ที่เห็นก็ดีข้น
ึ มากแล้ว ตอนช่วงเริม
่ แรก ขนาดตัวข้าเองยังทนมอง
ตรงๆ ไม่ได้เลย”

เธอกลับไม่กังวลใจกับบาดแผลบนใบหน้าเท่าไหร่ ถึงอย่างไร ขอแค่รวบรวม


ยาทิพย์จิตวิญญาณครบ ไม่ต้องใช้เวลาถึงหนึ่ งเดือนก็สามารถทำให้ใบหน้า
กลับมาเหมือนเดิมได้ ตอนนี้ ที่น่ากังวลมากกว่า คือแขนของพีช
่ ายคนข้าง
กายผูน
้ ั ้น
มีขา่ วคราวมาจากด้านตลาดมืด บอกว่ายาทิพย์ที่เธอต้องการช่างหาได้ยาก
ยิง่ จนถึงตอนนี้ ก็ยงั หาไม่ครบ

หนึ่ งวันที่ยายังไม่ครบ เท่ากับหนึ่ งวันที่แขนเขายังไม่มีทางหาย และเป็นอีก


หนึ่ งวันที่เธอเองก็ไม่อาจโล่งใจ หากหายาทิพย์จิตวิญญาณไม่ครบจริงๆ ก็
ทำได้เพียงใช้วธ
ิ ก
ี ารแลกเปลี่ยนมาทำการค้าขายกับคนพวกนั ้นที่ถือครอง
ยาทิพย์จิตวิญญาณ

ในตอนนี้ เอง ที่บา้ นตระกูลเคอ

ใบหน้าหล่อเหลาของกวนสีหลิน
่ ในชุดคลุมสีน้ำเงินมืดลงเล็กน้ อย กำลังมอง
หญิงสาวที่รูปโฉมพริง้ พรายตรงหน้า เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง
“เจ้าจะแต่งงานกับพีช
่ ายข้าจริงรึ? เจ้ายอมรับด้วยตัวเอง? หรือคนที่บา้ นบีบ
บังคับ?”
ตอนที่ 78 หนึ่ งความคิดที่ยด
ึ มั่น

เคอซินหย่าตกใจกับกวนสีหลิน
่ ที่ผลีผลามเข้ามาอย่างกะทันหัน

พวกเขาต่างบอกว่าเขาตาย นางเองก็คิดเช่นนั ้น ดังนั ้นเมื่อจู่ๆ เห็นเขามา


ปรากฏตัวต่อหน้าในเวลานี้ มันไม่ใช่ความยินดี แต่เป็นความประหลาดใจ

“เจ้า เจ้าตายไปแล้วไม่ใช่หรือ?” สีหน้านางขาวซีดเล็กน้ อย ขณะที่มองเขา


น้ำเสียงก็สัน
่ เทาอยูบ
่ า้ ง

กวนสีหลิน
่ มองนางด้วยแววตาสับสน ตัวเองก็ไม่รูว้ า่ เหตุใดถึงวิง่ แจ้นมาที่นี่
อาจเป็นความไม่ยน
ิ ยอมในใจ เพราะคิดว่านางเป็นผูห
้ ญิงของเขามาโดย
ตลอด

เฟิ่ งจิว
่ เคยถามว่าเขาชอบเคอซินหย่าหรือไม่? เขาบอกนางว่าพูดไม่ได้วา่
ชอบ ทว่าในใจยังมีความชอบพออยูน
่ ิ ดหน่ อย ถึงอย่างไร ตัง้ แต่เด็กก็รูว้ า่
นางจะโตมาเป็นผูห
้ ญิงของเขา ทัง้ แววตาที่มองและความคิดที่ปฏิบต
ั ิต่อ
นาง จึงแตกต่างจากคนอื่นๆ เป็นธรรมดา

แต่คนที่คิดไว้เสมอว่าจะกลายเป็นผูห
้ ญิงของเขา ตอนนี้ กลับจะแต่งงานเสีย
แล้ว ซ้ำยังแต่งกับพีช
่ ายเขา เหตุบงั เอิญนี้ ทำให้เขาไม่สบายใจเอามากๆ

ทว่าเวลานี้ เขาเพียงอยากรู ้ ว่านางยินยอมด้วยตัวเองหรือไม่?


ขณะที่นายท่านกับฮูหยินเคอที่ได้ยน
ิ ข่าวคราวจึงรีบมา เห็นเงาร่างสูงโปร่ง
ของลูกสาวในลานบ้าน เสียงหัวใจก็ดังตึกตัก สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้ อย

“สีหลิน
่ ?”

กวนสีหลิน
่ หันกลับไปเห็นสองผูอ
้ าวุโสแห่งจวนตระกูลเคอ จึงเอ่ยด้วย
ใบหน้าที่ยงิ่ มืดลง “ที่ขา้ มาต้องการแค่ประโยคเดียว” ระหว่างที่พูด ก็ไม่หน

มองพวกเขา ซ้ำยังจับจ้องเคอซินหย่าตรงหน้า

เห็นลูกสาวสีหน้าซีดน้ อยๆ ซ้ำสายตายังหลบเลี่ยงไม่กล้ามองเขา ฮูหยินเคอ


จึงออกหน้าโอบป้องนางไว้ในอ้อมแขนอย่างกระวนกระวาย พลางถลึงตา
มองกวนสีหลิน
่ ด้วยความไม่พอใจอยูบ
่ า้ ง

“เจ้าจะทำอะไร? เรือ
่ งหมัน
้ หมายของเจ้ากับเสียวหย่าถูกยกเลิกไปแล้ว เสียว
หย่าจะแต่งงานกับใคร มันเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?”

“สีหลิน
่ เอ๋ย! การหมัน
้ หมายของพวกเจ้า หลังจากตระกูลกวนกับตระกูลเคอ
หารือกันถึงได้ยกเลิก ส่วนงานแต่งของเสียวหย่ากับพีช
่ ายเจ้าก็เป็นผูใ้ หญ่
ตระกูลกวนที่ล้วนเห็นชอบ” นายท่านเคอมองกวนสีหลิน
่ พลางถอนใจเล็ก
น้ อย

กล้าอ่อนถือเป็นต้นกล้าดี แต่น่าเสียดายที่เขาไร้พอ
่ ขาดแม่ ในตระกูลกวน
อย่างไรก็ไม่อาจทัดเทียมกับฐานะของพีช
่ ายเขาได้
“เจ้าเองก็เห็นด้วยใช่หรือไม่?” เขามองไปที่เคอซินหย่า ตัง้ มัน
่ อยากจะถาม
ให้ชด
ั เจน

ทว่าเมื่อเห็นเขาไต่ถามลูกสาวนางอีกครัง้ ฮูหยินเคอก็โกรธกริว้

“เสียวหย่าเห็นด้วยแล้วยังไง? แต่งงานกับกวนสีหร่วนจะย่ำแย่ไม่เท่าแต่ง
กับเจ้าหรือ? เจ้าไม่ลองดูตัวเองเล่าว่ามีอะไรบ้าง? ทัง้ พ่อแม่ล้วนไม่มี ฐานะ
ในตระกูลกวนไหนเลยจะเทียบกับสีหร่วนได้?”

คำพูดนางกลับกลอกปลิน
้ ปล้อน มีความเยาะเย้ยถากถาง ยังกล่าวต่ออีกว่า
“บอกเจ้าไปก็ไม่เป็นไร ทำเจ้าถอดใจได้ยงิ่ ดี ผูใ้ หญ่ตระกูลกวนพูดไว้แล้ว อีก
สามเดือนให้หลังจะมีการชิงตำแหน่ งนายน้ อยของเหล่าลูกหลานตระกูล
กวน ถึงเวลานั ้นกวนสีหร่วนจะชนะและกลายเป็นนายน้ อยอย่างแน่ นอน
หากเป็นเช่นนี้ เสียวหย่าของข้าก็จะเป็นฮูหยินของนายน้ อย ภายหน้าพอ
สีหร่วนเป็นเจ้าบ้าน นางก็เป็นฮูหยินของเจ้าบ้านตระกูลกวน หากแต่งกับ
เจ้าจะมีอะไรได้บา้ งเล่า?”

ได้ฟังคำพูดนาง กวนสีหลิน
่ ก็ไม่ปริปาก เพียงแต่จ้องมองเคอซินหย่าที่ถูก
นางกันไว้ขา้ งกายด้วยแววตาลึกล้ำอยูน
่ านนั ก ก่อนจะสาวเท้าก้าวจากไป
โดยไม่พูดอะไรอีก

นายท่านเคอเห็นแขนเขาแนบอยูข
่ า้ งกายอย่างไร้เรีย
่ วแรง ก็ประหลาดใจ
เล็กน้ อย “ไยแขนขวาเขาถึงคล้ายว่าพิการไปเสียแล้ว?”
ฮูหยินเคอเอ่ยอย่างไม่สนใจใยดี “จะสนใจเขาขนาดนั ้นไปทำไม อย่างไรซะ
อีกหน่ อยเขากับเสียวหย่าของเราก็ไม่เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”

“ข้ากลับห้องก่อนนะเจ้าค่ะ”

เคอซินหย่ากล่าว ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง ปิดประตูและเดินไปนั ่งที่ด้าน


หน้าโต๊ะเครือ
่ งแป้ง มองๆ ดูปิ่นไม้ชน
ิ้ หนึ่ งในกล่องเครือ
่ งประดับ หลังจาก
หยิบมันขึ้นมา ก็โยนทิง้ ลงในตะกร้ามุมกำแพง

“ทางเลือกของข้าหาไม่ผด
ิ พลาด ข้าจะไม่เสียใจ จะไม่เสียใจแน่ !”

นางละทิง้ ความอึดอัดในจิตใจ แววตาหนั กแน่ น เพราะรู ด


้ ีวา่ ถึงแม้กวนสี
หลิน
่ จะดีกับนาง แต่ยงั ไม่อาจให้สิง่ ที่นางต้องการได้
ตอนที่ 79 ฉายาภูตหมอ!

“ข้ากลับมาแล้ว”

เฟิ่ งจิว
่ ในลานบ้านเปรยตาขึ้นมองไป เห็นเขากลับมาอย่างหัวเสีย จึงยิม
้ ถาม
อย่างอดไม่ได้ “เป็นอย่างไร? ใครแกล้งท่านรึ?”

“ข้าไปบ้านตระกูลเคอมา” เขาเดินไปนั ่งลงตรงโต๊ะ แล้วรินน้ำใส่แก้ว

“ไปบ้านตระกูลเคอ?” เธอมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ “ข้านึ กว่าท่าน


กลับไปบ้านตระกูลกวนเสียอีก!”

“ข้าไม่กลับไปบ้านตระกูลกวนหรอก รอสามเดือนให้หลังค่อยกลับไป! สาม


เดือนนี้ ขา้ จะเก็บตัวฝึกฝนวิชา!”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ เธอกะพริบตาอย่างตกใจน้ อยๆ “ไฉนพอออกไปก็มีความ
กระตือรือร้นมากถึงเพียงนี้ เล่า?”

เขานำคำพูดของคนตระกูลเคอมาบอกกล่าวกับนาง สุดท้ายก็เอ่ยว่า “ดังนั ้น


ข้าตัดสินใจแล้ว ในเมื่อพวกเขาอย่างแต่งงานนั ก ก็ให้สมใจเสียให้พอ! ยังไง
ซะ รอถึงงานคัดเลือกของตระกูลในอีกสามเดือนให้หลัง ข้าจะโค่นล้มกวน
สีหร่วนลงได้แน่ ! ให้พวกเขาได้รู ้ ว่าข้ากวนสีหลิน
่ ไม่ใช่คนที่จะรังแกกันได้
ง่ายๆ!”
จะต้องทำให้พวกเขาเสียใจ ไม่เพียงแต่ตระกูลเคอ ยังมีพวกผูใ้ หญ่แห่งบ้าน
ตระกูลกวน พวกเขาแต่ละคนล้วนคิดว่าเขาไม่อาจทัดเทียมกวนสีหร่วน ทว่า
เขาจะพิสูจน์ ให้เห็นแน่ นอน ว่ากวนสีหร่วนต่างหากที่สู้เขาไม่ได้!

เฟิ่ งจิว
่ พยักหน้า “อืม ข้าเห็นด้วย ข้ากำลังจะให้เหลิง่ ซวงไปตลาดมืด ในเวลา
สามเดือน ข้าจะทำให้แขนท่านฟื้ นคืนกลับมาดังเดิม”

เขาอบอุน
่ ขึ้นในใจ จึงพูดอย่างเผยรอยยิม
้ ออกมา “เสียวจิว
่ ขอบคุณนะ”

“ท่านเป็นพีช
่ ายข้า ยังต้องขอบคุณอะไรอีกเล่า? ดีล่ะ ท่านกลับห้องไปฝึก
วิชาเถอะ! ในขณะที่แขนยังไม่หาย ฝึกวิชาพลังภายในให้ดีเสียก่อน พอถึง
เวลาก็จะเสียแรงน้ อยแต่ได้ผลมากยิง่ ”

“ได้สิ งัน
้ ข้ากลับห้องก่อนนะ” เขาลุกยืนขึ้น ถึงจะเดินเข้าไปในห้อง

วันต่อมา ทัง้ สงบเงียบและวุน


่ วาย กวนสีหลิน
่ ยุง่ อยูก
่ ับการฝึกฝนพลังภายใน
ส่วนเฟิ่ งจิว
่ ก็วน
ุ ่ อยูก
่ ับการฝึกวิชา ปรับปรุ งตัวยา เพราะวันคืนที่ยุง่ ยาก เวลา
จึงผ่านไปเพียงชัว่ พริบตา

ระหว่างที่ไม่ทันรู ต
้ ัว พวกเขาก็อยูเ่ มืองอวิ ๋นเยวีย
่ มาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว

หนำซ้ำ ด้วยวิธก
ี ารแลกเปลี่ยนซื้อขาย ไม่ต้องใช้เวลาถึงหนึ่ งเดือนยาที่
ต้องการก็รวบรวมมาครบ ใช้เวลาอีกหนึ่ งเดือนครึง่ เธอจึงรักษาแขนพีช
่ าย
จนหายดี
เวลาสองเดือนนี้ ทำให้ช่อ
ื เสียงของเธอในเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ค่อยๆ แพร่สะพัดไป
โดยไม่มีเหตุผลแน่ ชด
ั เพราะต่อให้เป็นคนที่ไม่เคยไปตลาดมืดก็ยงั รู ้ ว่าใน
เมืองอวิ ๋นเยวีย
่ มีภูตหมออยูท
่ ่านหนึ่ ง ไม่เพียงมีฝีมือการรักษาที่ยอดเยีย
่ ม
ซ้ำยังชำนาญเรือ
่ งการยา

เป็นดัง่ เทพมังกรที่เห็นหัวไม่เห็นหาง ได้ยน


ิ เพียงชื่อเสียงภูตหมอ แต่กลับไม่
เคยเห็นหน้าค่าตา

ทัว่ ทัง้ เมืองอวิ ๋นเยวีย


่ หากจะมีคนที่รูว้ า่ ท่านภูตหมอคือใคร? ไม่ต้องสงสัย
เลยว่าเป็นผูด
้ ูแลตลาดมืด ทว่า ตลาดมืดก็มีอำนาจที่ไม่ธรรมดาอยู่ อิทธิพล
ของตลาดมืดแพร่กระจายไปหลายแว่นแคว้น ต่อให้เป็นเจ้าผู้ครองแคว้น
แสงสุรย
ิ น
ั ก็ไม่มีอาจง้างปากคนที่ตลาดมืดให้บอกตัวตนของภูตหมอได้

กองกำลังไม่น้อยต่างมาขอเข้าพบด้วยความเลื่อมใส น่าเสียดาย…ที่ถูก
ปฏิเสธ ขนาดเจ้าผูค
้ รองแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั มาด้วยตัวเอง ก็ยงั ไม่อาจได้พบ
หน้าภูตหมอ

เพราะแบบนี้ เอง ตัวตนของภูตหมอจึงยิง่ ลึกลับ และยิง่ ทำให้ผูค


้ นอยากรู ้
อยากเห็น

เช้าตรู ใ่ นลานบ้าน

เฟิ่ งจิว
่ กำลังสอนเหลิง่ หวาน้ องชายเหลิง่ ซวงรำไทเก๊ก ก็ได้ยน
ิ เสียงที่มีความ
ระรืน
่ อยูบ
่ างส่วนของกวนสีหลิน
่ ดังลอยมาแต่ไกล
“เสียวจิว
่ ดอกท้อในอารามสวนท้อบานแล้ว เจ้าบอกว่าอยากไปชมไม่ใช่
หรือ? วันนี้ ขา้ จะไปเป็นเพื่อนเจ้าเอง!”

เฟิ่ งจิว
่ ค่อยๆ ดึงหมัดกลับ ถอนหายใจออกเบาๆ แล้วบอกกับเหลิง่ หวาว่า
“เจ้าฝึกต่อไปนะ”

ถึงจะหันมองกวนสีหลิน
่ กล่าวว่า “ท่านพี่ ข้าให้เหลิง่ ซวงไปเตรียมตัว
ประเดีย
๋ วก็ไปแล้ว แต่วา่ เหอะๆ ท่านไม่ต้องไปหรอก”

พอได้ยน
ิ ว่าไม่ให้เขาไป ก็รอ
้ นรนเล็กน้ อย “ทำไมข้าจะไปไม่ได้? จะให้เจ้ากับ
เหลิง่ ซวงไปกันสองคนได้อย่างไร? หากเจอปัญหาอะไรเข้า จะทำเช่นไรเล่า?”
ตอนที่ 80 ดอกท้อบานเดือนสาม!

เฟิ่ งจิว
่ ยิม
้ ๆ บอกว่า “ทำไมล่ะ? ฝีมือเหลิง่ ซวง ท่านก็ไม่ใช่วา่ ไม่รู ้ นอกจากนี้
อย่าลืมสิ ว่าอีกหนึ่ งเดือนให้หลังท่านต้องโค่นกวนสีหร่วนต่อหน้าฝูงชน
ตระกูลกวน หากไม่ฝึกให้มากๆ จะทำได้เช่นไรเล่า?”

น้ำเสียงเธอชะงักน้ อยๆ กล่าวอีกว่า “ยิง่ ไปกว่านั ้น ได้ยน


ิ มาว่าทิวทัศน์ ของ
อารามสวนท้อนั ้นไม่เลวเลย ข้ากะจะพักอยูท
่ ี่นั่นสักสองสามวันแล้วค่อย
กลับมานะ!”

“พักอยูส
่ องสามวัน?”

เขานิ่ งงันไป เอ่ยว่า “ทว่าที่อารามสวนท้อไม่ให้คนพักค้างแรมมาแต่ไหนแต่


ไรแล้วนี่ !”

เฟิ่ งจิว
่ ยิม
้ เจ้าเล่ห์ “ไม่ให้คนพักค้างแรม แต่วา่ … ท่านดูสิวา่ นี่ คืออะไร?” เธอ
หยิบของจากในห้วงมิติมาชูอยูเ่ บื้องหน้าเขา

พอกวนสีหลิน
่ รับมาดู ก็อุทานพลางเบิกตากว้างอย่างอดไม่ได้ “โฉนดที่ดิน?
โฉนดที่ดินของอารามสวนท้อรึ? เจ้า เจ้าได้มาได้ยงั ไงกัน?”

“เมื่อเดือนก่อนมีคนมาขอพบข้าที่ตลาดมืด เดิมทีขา้ ไม่อยากสนใจ แต่พอ


เห็นว่าค่าตอบแทนคืออารามสวนท้อจึงรับมา ดังนั ้น จากนี้ ไปที่แห่งนี้ ล้วน
เป็นของพวกเราแล้ว”
เธอยิม
้ ก่อนจะเก็บโฉนดที่ดินไป กล่าวอีกว่า “อาศัยที่ชว
่ งนี้ มีเวลาว่างพอดี
ข้าเลยจะไปดูเสียหน่ อย หนึ่ งเพื่อชมดอกท้อ สองเพื่อลองดูสถานที่ หากรู ส
้ ึก
ว่ามันใช้ได้จริงๆ อีกหน่ อยก็ค่อยใช้เป็นที่ปักหลักของภูตหมอ”

กวนสีหลิน
่ ดวงตาเป็นประกาย เอ่ยว่า “ดอกท้อของอารามสวนท้อเป็นผืน
กว้างใหญ่ รอบนอกล้วนปลูกล้อมด้วยดอกท้อหลากสี แต่ช่อ
ื ของมัน ถึงจะ
เรียกว่าอารามสวนท้อ ทว่าที่จริงกลับไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัดวาอารามเลย
ก่อนหน้านี้ ขา้ เคยมองจากที่ไกลๆ อยูค
่ รัง้ หนึ่ ง เห็นศาลาด้านในงดงามยิง่ นั ก
หนำซ้ำได้ยน
ิ มาว่า ส่วนด้านในที่ไม่ให้คนเข้าไปนั ้นเป็นเหล่าดอกท้อที่ยา้ ยมา
ปลูกจากต่างถิน
่ เบ่งบานตลอดทัง้ ปี สวยงามเกินบรรยาย”

ได้ฟังเช่นนี้ เฟิ่ งจิง่ จึงชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ ง พูดอย่างหยอกล้อว่า “ท่านพี่


ท่านช่างรู ด
้ ีเสียจริง!”

กวนสีหลิน
่ เกาศีรษะ ยิม
้ อย่างเขินอาย “เมื่อก่อนข้าเคยไปกับพวกเพื่อนฝูง
มาครัง้ หนึ่ ง ดังนั ้นจึงรู เ้ รือ
่ งอยูบ
่ า้ ง”

ขณะที่พูด ก็เห็นว่านางยังยิม
้ จ้องเขาอยู่ จึงโบกมือรัวอย่างอดไม่ได้ “พวก
เจ้าไปเถอะ! ข้าไม่ตามไปแล้ว รอคราหน้าข้าค่อยไปด้วย”

“อืม รอจัดการด้านนั ้นเรียบร้อย ท่านกับเหลิง่ หวาค่อยไปก็ยงั ไม่สาย” เธอ


พยักหน้า แล้วมองไปยังเหลิง่ หวาที่ฝึกรำไทเก๊กอยูด
่ ้านหลัง บอกว่า “เจ้ามา
นี่ สิ”
หลังจากเหลิง่ หวาเก็บมือกลับ ก็ถอนหายใจออกเบาๆ ถึงจะเร่งฝีเท้าก้าวมา
ข้างกายนาง

“ขอรับ นายท่าน”

ตัง้ แต่ฟื้นมา ร่างกายก็ดีข้น


ึ ทุกวันๆ เขาที่เมื่อก่อนแค่เดินไม่กี่ก้าวยังรู ส
้ ึก
ลำบาก ตอนนี้ ยงั มาฝึกรำไทเก๊กกับนายท่านได้

ถึงแม้จะคิดว่าการรำไทเก๊กที่ออ
่ นพลิว
้ นี้ หาได้มีประโยชน์ อะไร แต่ในเมื่อ
นายท่านบอกว่ามันเป็นผลดีต่อร่างกาย ดังนั ้น จึงยอมฝึกฝนตาม

พอเห็นหนุ่มน้ อยที่ชุบเลี้ยงมาสองเดือนอ้วนขึ้นบ้าง เฟิ่ งจิว


่ ก็ยม
ิ้ ๆ สัง่ ว่า “ข้า
จะไปอารามสวนท้อกับพีส
่ าวเจ้า เจ้าอยูด
่ ูแลรักษาตัวให้ดีต่อไป ยังมีอก

จับตาดูพช
ี่ ายข้าด้วย ดูวา่ เขาจะเกียจคร้านหรือไม่”

เหลิง่ หวามองไปทางกวนสีหลิน
่ ที่ขา้ งกาย ก่อนจะพยักหน้ากล่าวอย่าง
จริงจัง “ขอรับ ข้าจะจับตาดูคุณชายไว้”

“ไหนเลยต้องให้เขามาจับตาดูขา้ ? เจ้าเด็กคนนี้ แค่ดูแลตัวเองได้ก็ไม่เลว


แล้ว” กวนสีหลิน
่ กระซิบเสียงเบา

เฟิ่ งจิว
่ ไม่สนใจ เอ่ยต่อไปอีกว่า “อีกอย่างนะ รำไทเก๊กต้องฝึกทัง้ เช้าเย็น”

“ได้ขอรับ” เขาขานรับอีกครัง้
เวลานี้ เหลิง่ ซวงในชุดแนบเนื้ อสีดำเดินเข้ามา เห็นพวกเขาต่างอยูใ่ นลาน
บ้าน ก็มาที่ขา้ งกายเฟิ่ งจิว
่ บอกว่า “นายท่าน เตรียมรถม้าไว้เรียบร้อยแล้ว
เจ้าค่ะ”

“อืม ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนค่อยไป” เธอพูดพลางเดินไปที่หอ


้ ง

เหลิง่ ซวงถึงจะมองน้ องชายด้วยแววตาอ่อนโยนอยูบ


่ า้ ง กำชับด้วยเสียง
อบอุน
่ ว่า “ข้าจะตามนายท่านออกไปข้างนอก เจ้าอยูบ
่ า้ นดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ”

เหลิง่ หวาพยักหน้า กล่าวอย่างไม่วางใจนั ก “ท่านพี่ ท่านก็ต้องอารักขานาย


ท่านให้ดี อย่าให้คนอื่นมารังแกได้”
ตอนที่ 81 ชิงเกอแห่งจวนตระกูลเฟิ่ ง!

กวนสีหลิน
่ ที่ได้ยน
ิ คำพูดนั ้นก็พยักหน้า กล่าวย้ำอีกว่า “อืม ไม่เลว จำต้อง
ดูแลให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิง่ ต้องไม่ให้พวกบ้ากามเข้าใกล้เสียวจิว
่ ”

กล่าวอย่างยิง่ คิดก็ยงิ่ ไม่วางใจ “อันที่จริงข้าควรตามไปด้วยถึงจะถูก” น่า


เสียดาย เสียวจิว
่ ไม่ให้ตามไป หนำซ้ำเขาต้องอยูฝ
่ ึกวิชาที่บา้ น

เหลิง่ ซวงเห็นท่าทางเขากังวลไม่มีสิน
้ สุด จึงบอกว่า “คุณชายไม่ต้องกังวล
ข้าจะคอยอารักขานายท่านเองเจ้าค่ะ” ระหว่างที่พูด ก็กำชับกับเหลิง่ หวาอีก
ไม่กี่ประโยค ถึงจะเดินไปรอเฟิ่ งจิว
่ ออกมาที่ประตู

ไม่นานนั ก เฟิ่ งจิว


่ ที่เปลี่ยนสวมชุดแดงก็สาวก้าวเดินออกมา แล้วเดินไปด้าน
นอกกับเหลิง่ ซวง หลังจากขึ้นนั ่งบนรถม้า เธอก็เอ่ยกับทัง้ สองคนที่มาส่งถึง
ประตู “เราจะไปกันแล้ว พวกเจ้ากลับไปเถอะ!”

“เดินทางระวังตัวด้วย”

กวนสีหลิน
่ บอก จริงๆ แล้ว จากที่นี่ไปถึงอารามสวนท้อ นั ่งรถม้าไปก็ใช้เวลา
ประมาณสองชัว่ ยาม เขากลับพูดเหมือนพวกนางจะไปกันไกลมาก ถึงได้
กำชับซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับเป็นแม่เฒ่าแก่ๆ

เฟิ่ งจิว
่ ปล่อยม่านรถลง เหลิง่ ซวงที่นั่งอยูด
่ ้านนอกถึงจะสัง่ ให้คนควบม้า
เคลื่อนรถออกไปยังอารามสวนท้อ
และในขณะเดียวกันนี้ ที่จวนตระกูลเฟิ่ ง เรือนสาวจันทรา

“เกอเอ๋อร์ เจ้าเรียบร้อยหรือยัง? อีเ้ ซวียนรอเจ้าอยูด


่ ้านนอกนานแล้ว”

ท่านแม่ทัพใหญ่เฟิ่ งผูม
้ ีรา่ งกายกำยำสวมชุดสีดำกำลังเดินกระทืบเท้าไปมา
อยูด
่ ้านนอก หันมองไปทางประตูหอ
้ งที่ปิดสนิ ทอยูบ
่ อ
่ ยครัง้ เมื่อเห็นประตู
เปิดออก ขณะที่ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเดินออกมา จึงรีบร้อนเดินเข้าไป

“จะให้พอ
่ พูดอย่างไรกับเจ้าดีเล่า? ตัง้ แต่รวั ่ อวิ ๋นจากไป ข้างกายเจ้าแม้แต่
สาวใช้สักคนก็ไม่มี ไม่วา่ เรือ
่ งไหนๆ ก็ทำเองจนเหมือนอะไรไปเสียแล้ว? เจ้า
เป็นลูกสาวข้าเฟิ่ งเซียว จะต้องมีขา้ รับใช้คอยปรนนิ บต
ั ิเจ้าตามที่ถูกที่ควร
โดยที่เจ้าไม่ต้องทำอะไร เจ้าฟังพ่อนะ วันหลังค่อยหาสาวใช้สักคนมาคอย
ติดตาม หากไม่ได้จริงๆ พ่อจะคัดจากในพวกองครักษ์ ออกมาให้เจ้าสักคน”

แววตาเฟิ่ งชิงเกอเต็มไปด้วยรอยยิม
้ ใบหน้าอันงามเลิศมีความตำหนิ ติเตียน
ก่อนจะยื่นมือไปกุมมือเขาไว้

“ท่านพ่อ ท่านอย่าได้กังวลเลย นี่ เป็นเรือ


่ งเล็กน้ อย ข้าจัดการเองได้เจ้าค่ะ
นอกจากนี้ ข้าเป็นถึงลูกสาวของท่านแม่ทัพผูเ้ กรียงไกร หากจะให้คนข้าง
กายคอยลงแรงดูแลเสียทุกเรือ
่ ง คนจะไม่พูดว่าข้าอ่อนแออ้อนแอ้นไม่
เหมาะสมรึเจ้าคะ?”

พอเฟิ่ งเซียวได้ยน
ิ คิว
้ ดาบหนาก็เลิกขึ้นมาทันใด ดวงตาพยัคฆ์จับจ้อง เอ่ย
ว่า “ใครกล้าพูด? หากมีใครกล้าพูด พ่อจะต้องสัง่ สอนมันเสียหน่ อย!”
น้ำเสียงชะงักลง เขากล่าวอีกว่า “เดิมทีลูกสาวต้องได้รบ
ั การเอาอกเอาใจ ยิง่
ไปกว่านั ้น พ่อก็มีลูกสาวสุดที่รก
ั เช่นเจ้าเพียงคนเดียว หากไม่รก
ั ไม่หลงเจ้า
แล้วจะให้ไปรักไปหลงใครเล่า?”

“เอาล่ะๆ! เรือ
่ งนี้ ค่อยว่ากันทีหลัง ไปห้องรับรองกันเถอะเจ้าค่ะ อย่าให้พม
ี่ ู่
หรงต้องรอนาน” นางดึงเขาเดินไปที่หอ
้ งรับรอง

“เจ้ารู น
้ ี่ วา่ ทำให้เขารอนาน? งัน
้ วันหลังก็รบ
ี ๆ หาสาวใช้ซะ เรือ
่ งพวกนี้ หากมี
คนคอยช่วยเจ้าทำ จะประหยัดเวลาได้ไม่น้อยเลย”

เขาตักเตือนไปพลางๆ ถึงแม้คำพูดหยาบกระด้างและใบหน้าขึงขัง แต่แวว


ตากลับตามใจไปเสียหมด

“ก็ได้ๆๆ ข้าจะเชื่อฟังท่าน วันหลังค่อยหา จะหามาแน่ ๆ เจ้าค่ะ” นางตอบรับ


รัวๆ

เฟิ่ งเซียวถึงจะพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วผุดรอยยิม


้ ออกมา “เช่นนี้ ก็ยงั ดี”

ในห้องรับรอง มู่หรงอีเ้ ซวียนที่ถือถ้วยชาอยูก


่ ำลังมองน้ำชาในถ้วยอย่าง
เหม่อลอยเล็กน้ อย ช่วงนี้ ในหัวมักจะนึ กถึงสาวน้ อยชุดแดงที่พบกันใน
หมู่บา้ นป่าหินครัง้ นั ้น

หาใช่เหตุอ่น
ื ใดไม่ เป็นเพียงเพราะความรู ส
้ ึกคุ้นเคยที่อธิบายไม่ได้
พอเขาสงสัยว่าชิงเกอจะถูกคนสลับตัว กลับพบว่าบางเรือ
่ งที่พวกเขารู ก
้ ัน
แค่สองคน นางก็ล้วนรู เ้ รือ
่ งดี

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็หมายความว่าช่วงนี้ เขาคิดมากไปเองรึ?


ตอนที่ 82 ปิดเขาสามวัน!

ขณะที่กำลังคิด ก็ได้ยน
ิ เสียงพูดคุยหัวเราะดังลอยมาจากด้านนอก เขาเปรย
ตามองไป จึงเห็นนางจูงเฟิ่ งเซียวเดินมา

ความสนิ ทสนมระหว่างพ่อลูกคือเรือ
่ งปกติ ทัง้ ท่าทางและความใกล้ชด
ิ ก็หา
ได้แปลกปลอม ยิง่ ไปกว่านั ้น หากเป็นตัวปลอมจริง เฟิ่ งเซียวที่เป็นถึงพ่อ
กับคนที่รก
ั ที่สุด จะมองไม่ออกได้อย่างไรเล่า?

อันที่จริงเขาก็ไม่รู ้ สำหรับเฟิ่ งเซียว เฟิ่ งชิงเกอคือลูกสาวของเขา เป็นคนที่


เขารักมากที่สุด ต่อให้จะสงสัยใคร ก็คงไม่ไปสงสัยลูกสาวตัวเองแน่

แม้รูส
้ ึกว่านางแตกต่างจากก่อนหน้านี้ นิดหน่ อย ก็คงคิดไม่ถึงว่าลูกสาวตัว
เองจะถูกคนสวมรอยแทนที่ เพราะเรือ
่ งเช่นนั ้น มันเหลือเชื่อเกินไป

อีกอย่าง ลูกสาวเขา มองยังไงก็ดีไปเสียหมด ไม่วา่ นางจะทำอะไร จะเปลี่ยน


ไปเช่นไร ในสายตาและหัวใจ ก็เป็นลูกสาวเขา ซ้ำยิง่ ไม่ควรถูกเคลือบแคลง

“ท่านพีม
่ ู่หรงเจ้าคะ!”

เฟิ่ งชิงเกอผละมือที่จูงเฟิ่ งเซียวไว้ออก วิง่ เบาๆ มาที่ขา้ งกายเขา แล้วมอง


ด้วยแววตาอิม
่ เอมที่มีความรักใคร่ “ท่านพีร่ อนานไหมเจ้าคะ?”

เขาสลัดความคิดฟุ้งซ่านในใจ วางถ้วยชาในมือลง ก่อนจะลุกยืนขึ้น เผยรอย


ยิม
้ จางๆ ที่สง่างามออกมา “ไม่หรอก พีเ่ พิง่ มาได้ไม่นาน”
เขามองเฟิ่ งเซียวที่เดินเข้ามา จึงโค้งคารวะและเรียกท่าน “ท่านอาเซียว”

ในบ้านตระกูลเฟิ่ ง เขาหาใช่ท่านอ๋องสามไม่ แต่เป็นว่าที่ลูกเขยในอนาคต


ของตระกูลเฟิ่ ง เป็นมู่หรงอีเ้ ซวียนที่พวกเขาเห็นกันมาแต่เล็กจนเติบใหญ่
ด้วยเหตุนี้ ที่ถูกต้องคือผูน
้ ้ อยต้องให้การคารวะ

“ฮ่าๆ อีเ้ ซวียนเอ้ย! ยากนั กที่เจ้าจะมีเวลาพาแม่หนูนี่ออกไป มีเจ้าอยูเ่ ป็น


เพื่อนนาง ข้าก็วางใจลงบ้าง”

เฟิ่ งเซียวหัวเราะร่า เอ่ยว่า “อารามสวนท้อห่างจากที่นี่ต้องเดินทางสองชัว่


ยาม แม่หนูนี่เสียเวลาไปนานขนาดนี้ ก็สายเสียแล้ว พวกเจ้ารีบออกเดินทาง
หน่ อยเถอะ! อย่าไปถึงที่นั่นตอนเที่ยงเลย”

“ท่านพ่อ ท่านไม่ไปด้วยกันจริงๆ รึเจ้าคะ? ยังไงซะท่านก็อยูบ


่ า้ นว่างๆ ออก
ไปด้วยกันดีกว่านะเจ้าคะ! ข้าจะได้ชมดอกท้อและทิวทัศน์ ของอารามสวน
ท้อกับท่านด้วยพอดี!” นางกอดแขนเฟิ่ งเซียวเขย่าเบาๆ พลางพูดด้วยน้ำ
เสียงออดอ้อน

ได้ยน
ิ เช่นนี้ เฟิ่ งเซียวก็หว
ั เราะลัน
่ “ฮะๆๆ ไม่ได้ๆ มีอเี้ ซวียนไปกับเจ้า พ่อไปก็
เกะกะเปล่าๆ พวกเจ้าสองคนไปเที่ยวเล่นกันดีๆ ไม่ต้องรีบกลับมาล่ะ”

เขามองที่มู่หรงอีเ้ ซวียน กล่าวว่า “อีเ้ ซวียน แม่หนูคนนี้ รบกวนเจ้าดูแลให้


ดีๆ นะ”
กับว่าที่ลูกเขยคนนี้ เขายิง่ มองก็ยงิ่ พอใจ สองคนนี้ รูจ
้ ักกันมาแต่เด็ก ต่างรัก
ใคร่ใจตรงกัน ตอนนี้ แค่รอเลือกฤกษ์ งามยามดีเพื่อจัดการเรือ
่ งแต่งงานเสีย

“ท่านอาเซียวโปรดวางใจ ข้าจะดูแลชิงเกออย่างดีขอรับ”

เขามองเฟิ่ งชิงเกอที่ใบหน้าเหนี ยมอาย บนริมฝีปากผุดรอยยิม


้ ออกมา และ
เก็บซ่อนความแปลกประหลาดในใจไป

เฟิ่ งเซียวส่งทัง้ สองขึ้นรถม้า หลังจากเห็นรถม้าเคลื่อนออกไปไกล ถึงจะเดิน


เข้าไปด้านในจวนตระกูลเฟิ่ ง

อีกด้านหนึ่ ง ที่อารามสวนท้อ

เฟิ่ งจิว
่ ที่เดินตามถนนเส้นเล็กมาถึงด้านในอารามสวนท้อ ยิง่ มอง
ทัศนี ยภาพด้านในนี้ ก็ยงิ่ พอใจนั ก หากใช้สถานที่เช่นนี้ มาเป็นที่พำนั ก
ถือว่าดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เพียงเหมาะกับการฝึกฝนวิชา ซ้ำยัง
เหมาะกับการขัดเกลาจิตใจ

อารามสวนท้อตัง้ อยูใ่ นป่าเขาทางทิศใต้ของเมืองอวิ ๋นเยวีย


่ ทัว่ ผืนป่าเขา
ล้วนเต็มไปด้วยดอกท้อหลากสี ที่ไม่อาจมองเห็นปลายทาง

ซ้ำอารามสวนท้อก็อยูใ่ นส่วนลึกของป่าต้นท้อ เป็นสถานที่งดงามราวสรวง


สวรรค์ แต่ไม่อนุญาตให้คนนอกเหยียบย่างเข้ามา
ถึงอย่างงัน
้ เวลาเดือนสามของทุกปีที่ดอกท้อเบ่งบาน ก็ยงั คงดึงดูดนั กท่อง
เที่ยวมาชมดอกไม้ที่ภูเขาท้อได้ไม่น้อย ยิง่ กว่านั ้นยังอยากลักลอบเข้ามาที่
อารามสวนท้อในส่วนลึกของป่าต้นท้ออีก และตอนนี้ อารามสวนท้อก็ตกอยู่
ในมือเธอแล้ว

หลังจากเดินชมรอบๆ เธอก็หยุดฝีเท้าลง “เหลิง่ ซวง เหยียนเหล่าที่ตลาดมือ


ไม่ได้คัดกององครักษ์ ตลาดมืดมารึ? เจ้าออกคำสัง่ ไป ให้พวกเขาเฝ้าอยูต
่ รง
ตีนเขา แล้วปิดเขาไว้สามวัน”
ตอนที่ 83 ความกังวลในใจ!

“เจ้าค่ะ”

ไม่มีคำถาม และไม่คิดสงสัย หลังจากเหลิง่ ซวงขานรับอย่างนอบน้ อม ถึงจะ


เดินกลับไป เพื่อนำข่าวคราวไปส่งให้กององครักษ์ ตลาดมืด

หลังจากกององครักษ์ ได้รบ
ั คำสัง่ ก็ดำเนิ นการในทันที เพราะเป็นคำสัง่ ของ
เหยียนเหล่า ว่าต้องเชื่อฟังคำสัง่ ของคนผูน
้ ั ้นโดยไม่มีขอ
้ แม้ จะไม่เคารพก็ไม่
ได้

เมื่อออกคำสัง่ ปิดภูเขาไป พวกนั กท่องเที่ยวบนเขาที่มาชมดอกไม้ก็ต้องถูก


ขับไล่กันออกไปเป็นปกติ อันที่จริงอารามสวนท้อเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ผู้เป็น
เจ้าของต้องยินยอมให้พวกเขาเข้าไปชมดอกไม้ในป่าต้นท้อเท่านั ้น หากไม่
ยอม พวกเขาก็ทำได้เพียงจากไป

เพราะเวลายังเช้าอยู่ ในป่าต้นท้อมีคนไม่มาก ดังนั ้น จึงใช้เวลาไม่ถึงครึง่ ชัว่


ยาม ก็ไล่พวกนั กท่องเที่ยวออกจากอาณาเขตอารามสวนท้อได้หมด

และเวลานี้ เอง เฟิ่ งจิว


่ ที่อยูใ่ นอารามสวนท้อก็เดินมาถึงศาลา เห็นชายชรา
ชุดเทากำลังกวาดพื้นอยูใ่ นลานบ้าน เธอหยุดฝีเท้าลง ถามว่า “ข้ารับใช้ที่นี่
ต่างไปกันหมดแล้ว ทำไมท่านยังอยูอ
่ ก
ี เล่า?”
ชายชราชุดเทาจับไม้กวาดหันตัวกลับมา มองเงาร่างสีแดงที่ยน
ื เอามือไพล่
หลังอยูใ่ ต้ต้นดอกท้อในสวน กล่าวว่า “กวาดพื้นอยูท
่ ี่นี่มาสิบกว่าปี จึงไม่
อยากตัดใจจากไปเสียแล้ว”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ เฟิ่ งจิว
่ ก็ผุดรอยยิม
้ ออกมา สายตาจับจ้องบนร่างชายชราชุดเทา
ดวงตาเป็นประกายที่มีความนั ยไม่ชด
ั เจน “ในเมื่อไม่อาจตัดใจลาจาก งัน
้ ก็
อยูต
่ ่อไปเถอะ!”

ชายชราชุดเทานิ่ งงัน มองนางแวบหนึ่ ง ก่อนจะกวาดพื้นต่อไป โดยไม่


ปริปากอีก

เฟิ่ งจิว
่ หันตัวจากไปอย่างไม่สนใจนั ก และหลังจากนางจากไป ชายชราชุด
เทาก็หยุดมือลง หันมองตามทิศทางที่นางจากไปแวบหนึ่ ง แล้วดึงสายตา
กลับมากวาดพื้นต่อ

ขณะที่มู่หรงอีเ้ ซวียนมาถึงอารามสวนท้อพร้อมกับเฟิ่ งชิงเกอ ถึงรู ว้ า่ เจ้าของ


ใหม่ของอารามสวนท้อได้สัง่ ปิดภูเขาไว้สามวัน

เห็นเช่นนี้ เขาจึงมองที่เฟิ่ งชิงเกอข้างกาย เอ่ยว่า “พวกเรามาไม่ถูกเวลา


ภูเขาถูกปิดสามวัน ทำได้เพียงมาอีกครัง้ ในอีกสามวันให้หลัง”

เพราะภูเขาปิด นางจึงไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไหร่ “อีกสามวันให้หลังท่านพี่


ยังจะมากับข้าหรือไม่เจ้าคะ? หากถึงเวลานั ้นแล้วท่านบอกว่าไม่วา่ งจะทำ
เช่นไร?”
ได้ฟังนางพูดเช่นนี้ เขาก็ยม
ิ้ น้ อยๆ เอ่ยเสียงนุ่มนวลว่า “ไม่หรอก ในเมื่อพี่
รับปากเจ้า ก็ต้องทำให้ได้”

“ไม่ได้นะ ไหนๆ มาแล้ว แม้จะเข้าไปที่ภูเขาไม่ได้ งัน


้ พวกเราก็เดินวนรอบๆ ดี
ไหมเจ้าคะ?” ระหว่างพูด นางก็กอดแขนเขาไว้ กล่าวว่า “ท่านพีม
่ ู่หรง ท่าน
ลองไปเดินกับข้าเถอะเจ้าค่ะ!”

“ก็ได้” เขาพยักหน้า ถึงจะตอบรับไป

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ เฟิ่ งชิงเกอช่างเปรมปรีดิย
์ งิ่ นั ก จึงพูดอย่างชอบใจว่า “ท่านพี่
มู่หรง ท่านช่างดีเสียจริง!”

มู่หรงอีเ้ ซวียนยิม
้ ๆ ไม่พูดอะไรมาก เพียงเดินก้าวช้าๆ ไปกับนาง เพื่อเชยชม
ทิวทัศน์ ภูเขา

อาจเพราะรู ส
้ ึกถึงความเย็นชาของเขา เฟิ่ งชิงเกอจึงกังวลใจน้ อยๆ ฝีเท้า
พลันหยุดลง แล้วมองคนข้างกาย กัดริมฝีปากลงเบาๆ ก่อนจะถามด้วยน้ำ
เสียงน้ อยใจ “ท่านพีม
่ ู่หรง ท่านพีไ่ ม่ชอบข้าแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

มู่หรงอีเ้ ซวียนประหลาดใจเล็กน้ อย “ไยจึงพูดเช่นนี้ เล่า?”

“ช่วงนี้ ขา้ รู ส
้ ึกว่าท่านคล้ายจะเมินเฉยข้า และไม่ชอบอยูด
่ ้วยกันกับข้านั ก”
นางมองเขาแวบหนึ่ ง ก็หลุบตาลงน้ อยๆ “เมื่อก่อน ท่านไม่เคยเป็นเช่นนี้
ท่านไม่ชอบข้าแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”
“เจ้าเด็กโง่ จะเป็นไปได้อย่างไร” เขายิม
้ พลางลูบศีรษะนาง “ข้าแค่กังวลใจ
เท่านั ้นเอง”

“หา?” นางเงยหน้ามองเขาอย่างสงสัย

มู่หรงอีเ้ ซวียนยิม
้ กล่าวว่า “สัตว์เทวะในตำนานปรากฏตัว ทว่าถึงเวลานี้ ก็
ยังไม่ได้ขา่ วว่าใครเป็นผูค
้ รอบครอง ตอนนั ้นยังนำพาผูแ
้ กร่งกล้าจากต่าง
แคว้นมา เรือ
่ งนี้ สำหรับเชื้อพระวงศ์ถือเป็นเรือ
่ งใหญ่ ช่วงนี้ ขา้ จึงกังวลใจ
นั ก อารมณ์ ก็ตึงเครียดไปบ้าง ถึงได้ทำเจ้าคิดฟุ้งซ่าน”
ตอนที่ 84 เวิง
้ สวนท้อ!

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ เฟิ่ งชิงเกอถึงจะวางใจลงได้ รอยยิม
้ อ่อนโยนปรากฏบนใบหน้า
อีกครัง้ “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ท่านก็อย่าคิดเรือ
่ งอื่นเลยเจ้าค่ะ ทิวทัศน์ ภูเขา
ท้อสวยงามขนาดนี้ จะได้ผอ
่ นคลายกันพอดี”

“อืม” เขายิม
้ ขานรับ แล้วเดินไปตามทางเส้นเล็กในภูเขากับนาง

เวลาสามวัน ก็เพียงพอให้เฟิ่ งจิว


่ ปรับปรุ งอารามสวนท้อไปได้บา้ ง

เธอเปลี่ยนจาก ‘อารามสวนท้อ’ มาเป็น ‘เวิง้ สวนท้อ’ ส่วนด้านในเวิง้ สวนท้อ


ก็วางค่ายกลกระบีท
่ ี่ร ่ำเรียนมาไว้ เพื่อแยกด้านในกับด้านนอกออกจากกัน
เช่นนี้ แล้ว ก็ไม่ต้องกังวลว่าคนนอกจะหลงเข้ามาในเวิง้ สวนท้อ และมารบ
กวนความสงบ

ป่าต้นท้อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมกันได้ แต่เธอกำหนดไว้ขอ
้ หนึ่ ง ว่า
ถ้าจะเข้าป่าต้นท้อต้องเสียเงิน

ด้านในเวิง้ สวนท้อไม่มีใครอื่น นอกจากเฟิ่ งจิว


่ กับเหลิง่ ซวง ก็มีแค่ชายชราที่
กวาดพื้นท่านนั ้น บริเวณรอบๆ ภูเขาท้อถูกล้อมเข้ามา เหลือเพียงทางเข้า
ออกเดียว ที่คอยเฝ้าเก็บเงินอยูต
่ รงปากภูเขาก็เป็นองครักษ์ ที่คัดมาจาก
ตลาดมืด

สามวันให้หลัง ขณะที่นักท่องเที่ยวไม่น้อยมาเยือนภูเขาท้อกันอีกครัง้ นึ กไม่


ถึงว่าเข้าไปป่าต้นท้อต้องเสียเงิน คนมากมายจึงมีสีหน้าตกตะลึง
“เข้าภูเขาไปชมดอกไม้ยงั ต้องเสียเงินรึ? นี่ มันกฎอะไรกัน?”

“จริงด้วย แต่ก่อนพวกเรามาก็ไม่ต้องเสีย ป่าต้นท้อผืนใหญ่โตขนาดนี้ ไม่ได้


เปิดไว้หรอกรึ? ไยต้องเสียเงินด้วยเล่า?”

บางคนก็จ้ององครักษ์ สองสามนายที่เฝ้าอยูท
่ างเข้าออกกันตาเขม็งด้วย
ความไม่พอใจ คิดว่าที่พวกเขาเรียกเก็บเงินช่างเป็นการกระทำที่ไร้เหตุผล
สิน
้ ดี และไม่อาจจะรับได้

บางคนก็แสดงท่าทีเข้าใจ ที่จริงป่าต้นท้อเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล พวกเขาจะ


เข้าไปเที่ยวเล่นในพื้นที่ส่วนบุคคล ต้องจ่ายเงินก็สมเหตุสมผลดี ใช้ใจแลก
ใจ หากที่นี่เป็นบ้านของพวกเขา คงไม่ให้คนที่อยากเข้ามาเที่ยวหรือชม
ทิวทัศน์ เข้ามาได้โดยไม่มีเหตุผลหรอก

องครักษ์ ก็คงไม่ใจดีอธิบายเหตุผลให้ทุกคนฟัง หนึ่ งในองครักษ์ กวาดตามอง


ผูค
้ นที่กำลังโห่รอ
้ ง กล่าวด้วยเสียงทุ้มเข้มว่า “อยากเข้าไปต้องจ่ายเงิน ถ้า
ไม่ยอมจ่ายก็ไปอยูข
่ า้ งๆ ซะ!”

คนพวกนั ้นถูกพูดเสียขนาดนี้ จะไม่ยอมรับว่าตัวเองไม่ยอมเสียเงินเป็น


ธรรมดา เช่นนั ้น จึงล้วงเงินออกมาทัง้ ใบหน้าแดงก่ำ ถึงจะเข้าป่าต้นท้อไป
อย่างขุน
่ เคือง

เฟิ่ งชิงเกอที่อยูไ่ ม่ไกลจูงมือมู่หรงอีเ้ ซวียนไว้ พอเห็นภาพตรงหน้านั ้น ก็พูด


ด้วยความสงสัยเล็กน้ อย “อารามสวนท้อเปลี่ยนเจ้าของเสียแล้วรึ? ไหน
บอกว่าที่นี่เป็นที่ส่วนบุคคล จึงไม่ขายไม่ใช่หรือ? ผูใ้ ดมีความสามารถขนาด
นั ้น ถึงสามารถซื้อที่นี่ได้?”

ทว่าสายตามู่หรงอีเ้ ซวียนกลับจับจ้องไปบนอักษรที่ดูโอหังเอาแต่ใจ เขียนไว้


ว่า ‘เวิง้ สวนท้อ’ ดวงตาเป็นประกายน้ อยๆ ก่อนจะเอ่ยชมอย่างอดไม่ได้
“เขียนได้ดี!”

ตัวอักษรปราดเปรียวเรียบง่าย มีพลังที่ชา่ งรุ นแรงเอาแต่ใจ ลำพังเห็นแค่ตัว


อักษร ก็รูไ้ ด้วา่ คนผูน
้ ั ้นต้องเป็นคนที่เอาแต่ใจและรักอิสระ พอคิดดู คนที่
เขียนคำเวิง้ สวนท้อนี้ คือเจ้าของคนใหม่ของเวิง้ สวนท้อนี้ เป็นแน่

หนำซ้ำ ตามข่าวเหมือนจะบอกว่า เจ้าของคนใหม่ของเวิง้ สวนท้อเป็นภูต


หมอผูล
้ ึกลับที่ชว
่ งนี้ ได้ยน
ิ กันเพียงชื่อเสียงแต่กลับไม่มีใครเคยเห็น

ได้ฟังคำชมที่จริงใจ เฟิ่ งชิงเกอก็มองตามสายตาเขาไป จึงเห็นว่าอักษรเวิง้


สวนท้อนั ้นช่างมีชว
ี ต
ิ ชีวา โอหัง และเอาแต่ใจเสียจริง แม้นางจะไม่ชำนาญ
ด้านอักษรก็ไม่อาจไม่ยอมรับ ว่าอักษรเหล่านั ้นเขียนได้ดีมาก

“พวกเราไปกันเถอะ!”

มู่หรงอีเ้ ซวียนยิม
้ น้ อยๆ พลางพูดกับเฟิ่ งชิงเกอข้างกาย เดิมทีในใจไม่ได้รูส
้ ึก
อะไรกับการชมดอกไม้ แต่เวลานี้ กลับยิง่ เพิม
่ ความสนใจขึ้นมาบ้าง

“อืม” เฟิ่ งชิงเกอขานรับ แล้วเดินหน้าตามไปข้างกาย


ที่เรือนเล็กๆ ด้านในเวิง้ สวนท้อ เฟิ่ งจิว
่ กำลังนั ่งชงชาชมดอกไม้อยูใ่ ต้ต้นดอก
ท้อต้นหนึ่ ง ส่วนเหลิง่ ซวงก็ยน
ื เฝ้าอยูไ่ ม่ไกล

เมื่อสายลมแผ่วพัดมา กลีบดอกไม้สีแดงขาวก็รว่ งโรย…


ตอนที่ 85 ใจเต้นโครมคราม!

“เหลิง่ ซวง”

“เจ้าคะ นายท่าน” เหลิง่ ซวงที่ด้านหลังเดินเข้ามา

“เจ้ากลับไป บอกพีช
่ ายข้า รอเมื่อเขากลับไปงานคัดเลือกที่ตระกูลกวน ข้า
ค่อยกลับไป ให้เขาอย่าได้ฟุ้งซ่าน ตัง้ ใจฝึกฝนวิชา เหลิง่ หวาก็อยูเ่ ป็นเพื่อน
เขาที่นั่นก่อน ถึงเวลาค่อยมาพร้อมๆ กัน!”

“เจ้าค่ะ”

นางขานรับแล้ว แต่กลับยังไม่ก้าวไป ลังเลอยูส


่ ักพัก จึงเอ่ยถาม “นายท่าน
หากข้ากลับไป ข้างกายท่านก็ไม่มีคนคอยอารักขาสิเจ้าคะ?”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ เฟิ่ งจิว
่ ก็ยม
ิ้ เบาๆ อย่างอดไม่ได้ เลิกคิว
้ มองนางอย่างหยอกล้อ
“นี่ เจ้าเห็นนายเจ้าเป็นคนอ่อนแอผอมบางเสียจนต้องมีคนคอยอารักขา
อย่างใกล้ชด
ิ เลยรึ?”

ไม่รอให้นางตอบ เธอก็โบกมือ พร้อมพูดเป็นสัญญาณว่า “ไปเถอะ! ที่นี่เจ้า


ไม่ต้องกังวลหรอก”

อยูท
่ ี่นี่มาสามวัน เธอเข้าไปฝึกวิชาในห้วงมิติทุกคืน พละกำลังจึงก้าวหน้า
อย่างรวดเร็ว เพียงแต่เก็บซ่อนวรยุทธ์ในตัวไว้ ทำให้ผูค
้ นไม่อาจสัมผัสถึง
อันที่จริง ตัวตนนั กปรุ งยาภูตหมอก็ชา่ งดีเด่นยิง่ นั ก หากมีคนรู ว้ า่ พลังเธอ
ก้าวหน้ารวดเร็วชัว่ ข้ามคืน จำต้องทำให้คนพวกนั ้นรู ส
้ ึกโดนคุกคาม ยิง่ ไป
กว่านั ้น ในห้วงมิติยงั มีสัตว์เทวะในตำนาน แม้ตอนนี้ ยงั เป็นแค่วย
ั เด็กน้ อย
ก็ให้ใครเห็นไม่ได้

พอเหลิง่ ซวงออกไป เฟิ่ งจิว


่ ก็รา่ งกายเหนื่ อยหน่ายขึ้นนิ ดหน่ อย เหยียบย่าง
ฝีเท้าเบาหวิวเดินออกจากเรือนเล็กในสวนท้อ

เธอที่สวมชุดแดงไม่ได้แต่งกายชุดชายชาตรี เส้นผมที่ปล่อยสยายใช้รบ
ิ บิน

แดงผูกไว้หลวมๆ ไม่สวมรองเท้า กระโปรงแดงพลิว
้ ไหวจึงไม่อาจบดบังเท้า
เล็กขาวราวหิมะเนี ยนประณี ตคู่นั้นได้

เธอเหยียบไปเบาๆ บนเส้นทางหินเรียบราบที่คดเคี้ยวทีละก้าวๆ นิว


้ เท้า
ละเอียดอ่อนที่ทาน้ำมันทาเล็บสีแดงน่าเย้ายวนโผล่พน
้ ออกมาจากกระโปรง
แดงทีละน้ อย ขณะที่ไม่รูเ้ นื้ อรู ต
้ ัวก็เดินมาไกลแล้ว ได้ยน
ิ เสียงพิณหวานหูที่
ดังลอยมาจากด้านนอกอยูแ
่ ว่วๆ

“หืม?”

สายตาเธอหันไปน้ อยๆ ในดวงตาฉายแววแปลกใจ จากนั ้นจึงหยิบผ้าคลุม


หน้าในแขนเสื้อออกมาปิดใบหน้าไว้ ปลายเท้าแตะเบาๆ ก่อนจะพุง่ ตัวไปอยู่
กลางเหล่าดอกท้อราวกับภูตพรายท่ามกลางดอกไม้ ไม่ทันไรก็ออกจากค่าย
วงกตไป
เงาร่างสีแดงกระโดดขึ้นนั ่งอยูบ
่ นกิง่ ต้นท้อที่กำลังผลิบานงดงาม สองขา
ขาวเนี ยนประณี ตลู่หอ
้ ยลงกลางอากาศพลางกวัดแกว่งไปมา ท่าทางสบาย
ตัวมากอย่างเห็นได้ชด

เธอเอนพิงกิง่ ท้อด้านหลังอย่างเกียจคร้าน แล้วยื่นมือไปหักกิง่ ต้นท้อลงมา


เล่น ฟังเสียงพิณเอื้อยแอ้วที่ดังลอยมาไม่ไกล มุมปากใต้ผา้ คลุมก็ยกขึ้นเล็ก
น้ อยอย่างอดไม่ได้

หนึ่ งเพลงทำนองธิดาลัว่ เฉิ น เงียบสงบสง่างาม ราวไข่มุกร่วงลงจานหยก


เอื้อยแอ้วใสแจ๋ว ซ้ำคล้ายสายธารกลางภูเขา ยามรีบยามช้า ต่างค่อยไหล
ยาวไป…

เพลงกู่เจิงเลื่องชื่อเช่นนี้ เธอไม่คิดเลยว่าโลกเทพเซียนที่น่าอัศจรรย์นี้จะมี
ด้วย

“ซูรวั ่ อวิ ๋นเอ๋ย ซูรวั ่ อวิ ๋น เจ้าว่าข้ายังไม่ทันไปหาเจ้า แล้วไฉนจึงวิง่ แจ้นมา


เบื้องหน้าข้าหลายครัง้ หลายครานั กเล่า?”

เธอพึมพำเสียงเบา ดวงตางดงามที่หรีล
่ งครึง่ หนึ่ งเป็นประกาย ภายในฉาย
แววยิม
้ เยาะแปลกๆ ขณะที่กำลังคิดจะผุดลุกลอยตัวไปเบื้องหน้า พลันรู ส
้ ึก
ถึงสายตาคู่หนึ่ งที่ไม่อาจเพิกเฉยจับจ้องมาบนร่าง

เธอเอียงศีรษะเล็กน้ อย แล้วเสมองออกไปยังดอกท้อ เมื่อเห็นเช่นนี้ ในแวว


ตาจึงมีแววยิม
้ อ่อนโยนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ขณะที่แสงแวววาวไหลเวียน
รอยยิม
้ ลอยชายออกไปน้ อยๆ ราวกับดวงดาวอันแพรวพราว ทำให้คนหลง
มองไปโดยไม่รูต
้ ัว…

เป็นนาง!

มู่หรงอีเ้ ซวียนมองนางอย่างนิ่ งงัน ในดวงตามีประกายความประหม่าและ


ประหลาดใจที่ตัวเองต่างไม่เคยรู ส
้ ึก

เขามองเงาร่างสีแดงนั ้นที่นั่งอยูก
่ ลางหมู่มวลดอกท้อราวกับภูตพราย เห็น
ขาเล็กขาวเนี ยนละเอียดอ่อนกวัดแกว่งอยูก
่ ลางอากาศอย่างซุกซน และ
ศีรษะที่โผล่พน
้ จากหลังต้นท้อ รวมถึงรอยยิม
้ น้ อยๆ น่าดึงดูดที่แฝงอยูใ่ น
ดวงตาที่ดูเหมือนพูดได้คู่นั้น…

เขาเพียงรู ส
้ ึกถึงหัวใจที่เต้นแรงตึกตัก ความรู ส
้ ึกแปลกประหลาดใจพร้อม
ทัง้ ใจเต้นโครมครามเอ่อล้นอยูก
่ ลางอก มันค่อยๆ ล่องลอยออกไป หลงใหล
มันเสียจนไม่อาจหักห้ามได้…
ตอนที่ 86 ยัว
่ ผึ้งหยอกผีเสื้อ!

“พีม
่ ู่หรง? ท่านมาทำอะไรตรงนี้ เจ้าคะ?”

เมื่อได้ยน
ิ น้ำเสียงด้านหลัง เขาก็ได้สติกลับมา และหันมองไปทางต้นเสียง
ตามสัญชาตญาณ “ชิงเกอ? เจ้ามาได้ยงั ไงกัน?”

สิน
้ สุดเสียง ราวกับนึ กอะไรขึ้นได้ จึงหันมองไปที่ต้นดอกท้อต้นนั ้น

ไม่เห็นสาวน้ อยภูตพรายผูน
้ ั ้นเสียแล้ว ราวกับก่อนหน้านี้ เป็นเพียง
ภาพลวงตา เห็นกลีบดอกไม้โดนสายลมอ่อนพัดร่วงโรยราเช่นฝนดอกไม้
ชวนมอง ทว่าในใจกลับมีความอ้างว้างที่ไม่อาจอธิบายได้อยูเ่ ลือนราง…

“ท่านยังมีหน้ามาพูดอีก! เดิมข้าอยากดีดพิณให้ท่านฟัง ใครจะรู ว้ า่ ท่านกลับ


วิง่ มาชมดอกไม้ตรงนี้ เสียแล้ว” นางมองตามสายตาเขาไป ก็เห็นเพียงกลีบ
ดอกไม้ที่รว่ งหล่นตามสายลมโปรยปรายลงพื้น

“ดอกท้อตรงนี้ แดงขาวตัดสลับกันน่ามองยิง่ นั ก ไม่ทันรู ต


้ ัวก็มองจนเคลิม

เสียแล้ว” เขากล่าวอย่างอบอุน
่ บนใบหน้ามีรอยยิม
้ จางๆ ดูใจลอยเล็กน้ อย
อย่างเห็นได้ชด

เฟิ่ งชิงเกอที่กำลังจะพูดว่าดอกท้อโดยรอบนี้ ล้วนเหมือนๆ กัน พลันขยับ


ทำท่าทาง เอ่ยถาม “ท่านพีม
่ ู่หรง ท่านได้กลิน
่ หอมอะไรหรือไม่เจ้าคะ?”

“กลิน
่ หอมรึ? ในอากาศล้วนมีแต่กลิน
่ หอมดอกท้อ”
“ไม่ใช่นะเจ้าคะ” นางส่ายหัว “เหมือนยังมีอก
ี กลิน
่ หนึ่ งเจ้าค่ะ”

ขณะกำลังพูด พลันได้ยน
ิ เสียงหึ่งๆ ดังลอยมา นางหันมองไปตามเสียง เห็น
เพียงฝูงผึ้งผืนใหญ่ดำตะคุ่มๆ อยูไ่ ม่ไกลกำลังบินมาด้านนี้ สีหน้าเปลี่ยนไป
ทันใด จึงส่งเสียงอุทานอย่างอดไว้ไม่ได้

“ผึ้ง!”

ขณะที่มู่หรงอีเ้ ซวียนเห็นผึ้งฝูงใหญ่นั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปน้ อยๆ ไม่นานนั กจึง


ดึงมือนางวิง่ หนี ผึ้งนั บพันนั บหมื่นตัวพุง่ เข้ามา และไม่ใช่วา่ แขนสองคู่ของ
พวกเขาจะไล่พวกมันออกไปได้

ทว่า ถึงแม้ที่นี่จะมีผ้งึ มารวมกันเก็บน้ำหวาน เพียงครู เ่ ดียวก็ไม่ควรมีผ้งึ โผล่


พุง่ มาหาพวกเขาตัง้ มากมายขนาดนี้ !

“กรีด
๊ !”

เฟิ่ งชิงเกอกรีดร้องเจ็บปวด เพียงรู ส


้ ึกว่ามือถูกต่อยไปทีหนึ่ ง ต่อจากนั ้น ผึ้ง
สิบกว่าตัวก็ถาโถมเข้าหาร่าง นางตกใจเสียจนต้องตบลงบนร่างตัวเองใน
ทันที

“ไปให้พน
้ นะ! รีบไปให้พน
้ ๆ!”

คาดไม่ถึงว่าจะเห็นพวกผึ้งที่ล้อมเข้ามารุ มต่อยนางเพียงคนเดียว มู่หรงอี้


เซวียนนิ่ งไปพักหนึ่ ง ก่อนจะเร่งรีบถอดเสื้อคลุมมาห่อตัวนาง แต่ไม่ทันได้
แตะตัว ก็ได้ยน
ิ เสียงกรีดร้อง พลันนางตบลงบนร่างตัวเอง แล้ววิง่ ออกไป
หลายก้าวเพื่อหลบหนี ผ้งึ พวกนั ้นที่ไล่ตามมา

“พีม
่ ู่หรง! ท่านพีม
่ ู่หรงมีผ้งึ หลายตัวต่อยข้าเจ้าค่ะ กรีด
๊ !”

นางตะโกนพลางวิง่ ส่วนผึ้งพวกนั ้นก็ตามหลังไปติดๆ โดยเฉพาะเมื่อวิง่


พรวดผ่านตรงด้านหน้าที่มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ นั กท่องเที่ยวต่างตื่น
ตกใจ กุมหัวลงหมอบส่งเสียงกรีดร้อง กลับพบว่าผึ้งพวกนั ้นไล่ตามแค่เฟิ่ ง
ชิงเกอคนเดียว

“นางไปโดนของอะไรเข้าหรือไม่? ไยจึงดึงดูดผึ้งมามากมายขนาดนี้ ได้?”

“เมื่อครู ท
่ ี่นางวิง่ ผ่านมาตรงนี้ บนตัวมีกลิน
่ หอม อาจจะประโคมผงหอมมาก
เกินไปกระมัง”

“ถูกผึ้งตอมมากมายขนาดนั ้น เดาว่าใบหน้าคงได้บวมเหมือนหัวหมูแน่ ”

นั กท่องเที่ยวรอบๆ ไม่วา่ ชายหรือหญิงต่างนิ่ งดูดายมองเฟิ่ งชิงเกอวิง่ ไปทัว่


ป่าต้นท้อ ผูห
้ ญิงบางพวกยังมองนางด้วยสายตาที่ขำขันในความโชคร้ายนี้

ผูค
้ นมองฝูงผึ้งด้านหลังที่ไล่ตามอยูไ่ ม่ลดละ พวกมันบินไปต่อยหน้าอย่าง
รวดเร็วในชัว่ ขณะ นำมาซึ่งเสียงกรีดร้องของนาง เมื่อนึ กถึงความรู ส
้ ึกเจ็บ
ปวดบนร่างตัวเอง ร่างกายก็ตึงเกร็งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

“กรีด
๊ ! พีม
่ ู่หรง…พีม
่ ู่หรงช่วยข้าด้วย…”
ทว่ามู่หรงอีเ้ ซวียนในตอนนี้ ก็ตกตะลึงเล็กน้ อยเพราะเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น
อย่างไม่คาดคิด ในตอนแรกจึงยังทำอะไรไม่ถูก

พอนึ กขึ้นได้วา่ ผึ้งกลัวไฟ ระหว่างที่เร่งรีบหยิบกระบอกจุดไฟออกมากะจะใช้


ไฟไล่ กลับเห็นนางกรีดร้องพลางวิง่ ออกไปไกลร้อยเมตร ก่อนจะโดดตู้มลง
ในสระน้ำที่ไว้สาดรดต้นท้อ…
ตอนที่ 87 ทำลายความสงบ!

ซี๊ด!

ผูค
้ นต่างสูดหายใจเข้า มองภาพตรงหน้าด้วยความเหลือเชื่อเล็กน้ อย

มู่หรงอีเ้ ซวียนได้สติกลับมา หลังจากเห็นผึ้งพวกนั ้นบินวนหึ่งๆ อยูด


่ ้านบน
สักพัก ในที่สุดก็จากไป ถึงจะเร่งรีบเดินไปด้านหน้า ดึงนางขึ้นจากน้ำ แล้วใช้
เสื้อนอกตัวเองคลุมนางไว้

“ชิงเกอ เจ้าเป็นยังไงบ้าง?” มู่หรงอีเ้ ซวียนตื่นตกใจอยูบ


่ า้ ง เห็นทัง้ บนมือบน
หน้านางล้วนบวมเป่งขึ้นมา ก็ทุกข์ใจและรู ส
้ ึกผิดอย่างอดไม่ได้

ตอนก่อนออกมายังรับปากท่านอาเซียวว่าจะปกป้องนางให้ดี แต่ตอนนี้ กลับ


ปล่อยให้ถูกผึ้งไล่ต่อย ซ้ำยังกระโดดลงสระน้ำไปอย่างหมดหนทางหนี ทำให้
ต้องอับอาย

เฟิ่ งชิงเกอไม่พูดจา เพียงก้มหัวลงน้ อยๆ ร่างกายสัน


่ เทิม
้ อยูบ
่ า้ ง

มีคนเพ่งเล็งนาง!

เป็นกลิน
่ หอมนั ่น! ใครกัน? ใครจงใจทำร้ายนาง?

นึ กถึงที่ตัวเองวิง่ ไปทัว่ ป่าต้นท้อเพราะถูกผึ้งไล่ตามอย่างน่าอับอาย และยัง


โดดลงไปหลบผึ้งพวกนั ้นในน้ำ ก็โกรธเสียจนสัน
่ เทาไปทัว่ ทัง้ ร่างแล้ว
มู่หรงอีเ้ ซวียนนึ กว่าตัวนางเปียกปอนสัน
่ เทิม
้ เพราะความหนาว จึงรีบอุม
้ นาง
ขึ้น แล้วพาไปยังทิศทางรถม้าอย่างรวดเร็ว

เห็นมู่หรงอีเ้ ซวียนอุม
้ เฟิ่ งชิงเกอจากไป นั กท่องเที่ยวที่ชมดอกไม้อยูร่ อบๆ ก็
กระซิบกระซาบกันขึ้นมาเสียงเบา

ไม่มีใครสังเหตุเห็น ว่าบนต้นดอกท้อไม่ไกล มีเงาร่างสีแดงกำลังนอนยิม



อ่อนอยูบ
่ นกิง่ ไม้…

เวลาต่อมา เงาร่างนางแวบไป โผผ่านกลางป่าต้นท้อราวกับนางฟ้า


ท่ามกลางดอกไม้ ก่อนจะหายตัวไปในป่าต้นท้อทันที

กลับมาถึงรอบใน นางเก็บผ้าคลุมหน้าลงพลางฮัมเพลงด้วยอารมณ์ เปรม


ปรีดิ์ กระโดดเหยียบเบาๆ ไปบนหินปูทางที่ใต้เท้า เมื่อมาถึงด้านใน พบชาย
ชราท่านนั ้นยังกวาดพื้นอยู่ จึงหยุดลงมองเขาแวบหนึ่ ง แล้วเดินเหยียบหิน
เข้าไปด้านในต่อ

รอเงาร่างสีแดงนั ้นเดินไปด้านใน ชายชราที่กวาดพื้นอยูถ


่ ึงเงยหน้าขึ้น มอง
ไปทางนางแวบหนึ่ ง แววตาสัน
่ ไหวน้ อยๆ ทว่าท่าทางกลับยังคงไม่
เปลี่ยนแปลง ก่อนจะก้มหน้ากวาดพื้นต่อไป

ในตอนเที่ยงเหลิง่ ซวงก็กลับมาแล้ว ราวกับไม่วางใจที่ปล่อยนางอยูใ่ นเวิง้


สวนท้อตัวคนเดียว ด้วยเหตุนี้ หลังจากส่งข่าวจึงรีบกลับมาแทบจะทันที
เฟิ่ งจิว
่ ทิง้ เพลงกระบีใ่ ห้นางไว้เล่มหนึ่ ง ให้นางหมัน
่ เพียรฝึกฝนวิชา ส่วนตัว
เองก็ยา้ ยพวกยาเข้าห้องแล้วปิดประตู บางคราพอปิดประตูทีหนึ่ ง ก็ปิดไป
เลยทัง้ วัน แม้แต่ขา้ วยังไม่ยอมออกมากิน

ชีวต
ิ ในเวิง้ สวนท้อผ่านไปอย่างเงียบสงบสบายใจ บางเวลาเฟิ่ งจิว
่ ก็บดผสม
ยา บางเวลาก็ฝึกฝนวิชา วันคืนจึงผ่านไปอย่างวุน
่ วายและมัง่ คัง่

ไม่มีใครรู ว้ า่ ตัง้ แต่นางมาถึงเวิง้ สวนท้อ ในเวลาไม่ถึงหนึ่ งเดือนวรยุทธ์ก็


ก้าวหน้าถึงระดับปรมาจารย์นักรบพลังเร้นลับขัน
้ กลางแล้ว

คนอื่นๆ ต้องเสียเวลากันเป็นสิบปีหรือมากกว่านั ้น ถึงจะได้ระดับที่ฝึกฝน


เธอแค่ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่ งเดือน ก็ก้าวหน้าขึ้นหลายขัน
้ ติดต่อกัน

ทว่าเธอในตอนนี้ กลับไม่รู ้ ว่าในเรือนที่กวนสีหลิน


่ กับเหลิง่ หวาอยู่ มีฉากการ
สังหารเข้ามาทำลายซึ่งความสงบที่รก
ั ษากันไว้…

“พวกเจ้าเป็นใครกัน? ไยจึงบุกมาเรือนข้า!”

กวนสีหลิน
่ ที่สวมเพียงชุดซับในสีขาว ในมือถือกระบีไ่ ว้ พลางมองชายชุดดำ
สิบกว่านายที่บุกรุ กเข้าเรือนมา ค่ายอาคมในเรือนถูกคนพวกนี้ ทำลายสิน

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกเขาที่นอนอยูต
่ ่างตื่นตกใจ

เหลิง่ หวาเร่งรีบสวมเสื้อผ้าออกมา เมื่อเห็นชายชุดดำสิบกว่านายที่ถือกระบี่


ยาวอยูด
่ ้านนอก ก็ตกใจสะดุ้งโหยง ที่จริงแล้ว เขาไม่เคยเผชิญหน้ากับ
สถานการณ์ เช่นนี้ ตอนนี้ พอเห็นคนชุดดำพวกนั ้นล้อมพวกเขาไว้ ประจัน
หน้ากับกระบีย
่ าวกระหายเลือด จึงหวาดกลัวไม่สิน
้ สุด

เรือนร่างสวมชุดคลุมสีดำมือไพล่หลังเดินออกมาจากด้านหลัง แววตาดุรา้ ย
ถลึงมองกวนสีหลิน
่ พลางยิม
้ เย็นเยือกน่าสะพรึง

“ฆ่าคนของตระกูลสวีข
่ า้ พวกเจ้าคิดว่าจะซ่อนตัวได้อก
ี รึ?”

ชายชราชุดเทาที่ติดตามอยูข
่ า้ งกายเขากวาดตามองกวนสีหลิน
่ กับเหลิง่ หวา
แวบหนึ่ ง ก่อนจะขมวดคิว
้ แล้วถามด้วยเสียงทุ้มเข้ม “ใครกันที่วางค่ายกล
กระบีน
่ ั ่น?”
ตอนที่ 88 มีแต่พวกเศษสวะ!

“ที่แท้ก็เป็นท่านผูน
้ ำตระกูลสวี”่

ได้ฟังคำพูดของชายวัยกลางคนชุดดำ กวนสีหลิน
่ ถึงจะนึ กออกว่าเขาเป็น
ใคร ตระกูลสวีก
่ ็เหมือนกับตระกูลกวน ในเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ เป็นได้แค่วงศ์
ตระกูลขัน
้ กลาง แต่ตระกูลสวีก
่ ับตระกูลกวนไม่ได้ไปมาหาสู่อะไรกัน ก่อน
หน้านี้ เขาจึงไม่เคยพบท่านผูน
้ ำตระกูลสวี่ ทว่าตระกูลสวีแ
่ ห่งเมืองอวิ ๋นเยวีย

จัดอยูใ่ นอันดับต้นๆ และมีเพียงตระกูลเดียว

“ท่านผูน
้ ำตระกูลสวีบ
่ อกว่าข้าฆ่าคนของพวกท่านอะไรกัน? หรือว่าเรือ
่ งนี้ จะ
เข้าใจผิดอะไรไปหรือไม่?”

ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ ในใจกลับหวนคิดอย่างรวดเร็ว เดาว่าเรือ


่ งนี้ จะไม่
เกี่ยวข้องกับเสี่ยวจิว
่ ไปไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ กลับไม่อาจยอมรับ

ส่วนชายชราชุดเทาก็น่าแปลกยิง่ นั ก กวนสีหลิน
่ ไม่เคยเห็นคนผู้นั้น แต่เขา
กลับทำลายค่ายกลกระบีข
่ องเสี่ยวจิว
่ ได้ พอคิดดูแล้ว คงไม่ธรรมดาเช่นกัน

นึ กถึงตรงนี้ เขาก็ขยับเข้าใกล้เหลิง่ หวาด้านหลัง พูดกดเสียงเบาว่า “เจ้าหา


โอกาสหนี ไปซะ! อย่าให้พวกเขาจับได้”

แม้ในใจเหลิง่ หวาจะตื่นตระหนกอยูบ
่ า้ ง ทว่าตอนนี้ ก็สงบลงมาแล้ว
ช่วงนี้ สุขภาพเขาได้รบ
ั การฟื้ นฟู ร่างกายก็ดีข้น
ึ แต่ยงั ไม่เคยฝึกฝนวิชา จึง
ไม่อาจต่อกรกับคนพวกนี้ ได้แน่ หากเขายังอยูต
่ ่อ เกรงว่าจะทำให้คุณชาย
ว้าวุน
่ ใจ ไม่สู้หนี ออกไป แล้วค่อยคิดหาวิธรี ายงานนายท่านกับท่านพีย
่ งั ดี
กว่า

นึ กถึงตรงนี้ เขาก็ถอยหลังไปน้ อยๆ

“เข้าใจผิดรึ? ฮะๆๆๆ! ช่างเป็นเรือ


่ งเข้าใจผิดจริงๆ!”

ท่านผูน
้ ำตระกูลสวีห
่ ว
ั เราะดังลัน
่ ทันใดนั ้นเสียงหัวเราะก็หยุดลง ก่อนจะ
ถลึงตามองเขาด้วยแววตาเคร่งขรึมกระหายเลือด “ลูกชายข้า น้ องชายคน
รองข้า แม้กระทัง่ ท่านผูอ
้ าวุโสทัง้ สองท่าของตระกูลสวีข
่ า้ ล้วนตายในเงือ
้ ง
มือนั งเด็กเหลือขอนั ่น เจ้าคิดว่าแค่บอกเข้าใจผิดแล้วจะจบเรือ
่ งได้ร?ึ จะใส
ซื่อเกินไปหน่ อยกระมัง!”

กะแล้วเชียว!

หัวใจกวนสีหลิน
่ ดังตึกตัก เป็นเสี่ยวจิว
่ ที่ฆ่าคนของตระกูลสวีอ
่ ย่างที่คิดไว้
เลย แต่วา่ นี่ มันเรือ
่ งตัง้ แต่เมื่อใดกัน? ไยเขาจึงไม่รูเ้ รือ
่ ง?

“นั งเด็กเหลือขอนั ่นเล่า? รีบเรียกนางออกมารับความตายซะ!” ท่านผูน


้ ำ
ตระกูลสวีต
่ ะเบ็งเสียงทุ้มเข้ม สายตากวาดมองไปรอบๆ กลับเห็นว่า ที่
เคลื่อนไหวกันอึกทึกขนาดนี้ ในเรือนนอกจากกวนสีหลิน
่ ก็มีเพียงเด็กหนุ่ม
ที่ไร้วรยุทธ์อก
ี คนหนึ่ งเท่านั ้น
“ท่านผูน
้ ำตระกูลสวี่ พวกเราตกลงกันแล้ว หากจับตัวได้อย่าเพิง่ ฆ่า กระผม
ยังต้องลองถาม ว่าค่ายกลกระบีข
่ องนางไปเรียนมาจากที่ใด!” น้ำเสียงชาย
ชราชุดเทาทุ้มหนั ก ราวกับเป็นคนที่ตีฝ่าค่ายกลกระบีข
่ องเฟิ่ งจิว
่ ออกมา

“เรือ
่ งที่รบ
ั ปากใต้เท้า ข้าจะต้องทำได้แน่ แต่ตอนนี้ ต้องรีบถามถึงที่อยูข
่ อง
นั งเด็กเหลือขอนั ่นเสียก่อน” สิน
้ สุดน้ำเสียง เขาก็ให้สัญญาณ “จับพวกมัน
มาให้ขา้ !”

“หนี เร็ว!” กวนสีหลิน


่ ตะโกน แล้วผลักเหลิง่ หวาไปด้านหลัง ส่วนตัวเองก็ขด

ขวางการโจมตีเพื่อเขา

แกร๊ง!

ฟิ้ ว!

เสียงคมกระบีก
่ ระทบกันดังกังวานขึ้นในยามค่ำคืน กลิน
่ อายอันรุ นแรงตวัด
ฟิ้ วๆ ผ่านไป มือกวนสีหลิน
่ จับกระบีย
่ าวขึ้นขัดการโจมตีของชายชุดดำพวก
นั ้น เพื่อยื้อเวลาเพิม
่ ให้เหลิง่ หวามีโอกาสหนี เอาชีวต
ิ รอด

แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ใช่เฟิ่ งจิว
่ ถึงแม้กำลังต่อสู้จะก้าวหน้าขึ้น ทว่าเมื่อเทียบ
กับคนที่ท่านผูน
้ ำตระกูลสวีค
่ ัดเลือกมาอย่างถี่ถ้วน ก็เห็นได้ชด
ั ว่าสู้ไม่ได้อยู่
บ้าง ยิง่ ไม่ต้องพูดถึง ที่ต้องสู้คนเป็นสิบด้วยตัวคนเดียว เพียงไม่นานนั ก ชุด
ซับในสีขาวบนร่างก็มีรอยเลือดแต่งแต้ม
แต่ชายชุดดำพวกนั ้นจะต้องจับเขาโดยห้ามคร่าชีวต
ิ เขา ช่างลำบากอยูเ่ ล็ก
น้ อยอย่างเห็นได้ชด
ั ดังนั ้น ท่านผูน
้ ำตระกูลสวีท
่ ี่มองมาสักพักจึงตวาดเสียง
เข้ม

“มีแต่พวกเศษสวะทัง้ นั ้น!”

เขาลอยตัวออกไป และฝ่ามือที่แฝงด้วยกลิน
่ อายพลังเร้นลับคละคลุ้งก็เข้า
โจมตี

ปัง!

พุง่ !

กวนสีหลิน
่ ถูกฝ่ามือเขาโจมตีกระเด็น ขณะที่รา่ งลอยไปก็กระอักเลือดสดๆ
ออกมา ก่อนจะล้มลงบนพื้น ยังไม่ทันได้ลุกยืนขึ้น กระบีย
่ าวเกือบสิบเล่มก็จี้
อยูต
่ รงลำคอ ทำให้เขาไม่อาจขยับตัวแม้แต่เสี้ยววิ
ตอนที่ 89 ไทเก๊กช่วยชีวต
ิ !

ตอนนี้ องครักษ์ ชุดดำก็รบ


ี เดินปรีม
่ าข้างกายเขา “ท่านผูน
้ ำตระกูล ค้นทัง้
ด้านนอกด้านในแล้ว ไม่พบใครอื่นเลย มีเพียงเด็กหนุ่มคนนั ้นที่หนี ไปด้าน
หลัง แต่พวกเรามีพน
ี่ ้ องสองนายไล่ตามไปแล้วขอรับ”

และในเวลานี้ เหลิง่ หวาที่หนี ไปจากประตูด้านหลังก็ถูกองครักษ์ ชุดดำสอง


นายขวางไว้ เมื่อทัง้ สองเห็นว่าเหลิง่ หวาเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่มีวรยุทธ์ จึง
ไม่เห็นเขาอยูใ่ นสายตานั ก

“เจ้าหนี ไม่พน
้ แล้ว! ยอมให้จับโดยละม่อมเสียเถอะ!”

ระหว่างที่พูด ชายชุดดำคนหนึ่ งโน้ มตัวออกไปคว้าที่ขอ


้ มือ คิดจะบิดดึงเขา
หันกลับมา แต่ใครจะรู ้ ว่ามือที่กะจะคว้าเด็กหนุ่มกลับถูกเด็กหนุ่มพลิกมือ
จับไว้ โดยไม่ทันสังเกต ทัง้ ร่างก็ถูกดึงและผลักไปชนชายชุดดำอีกคน

“ซี๊ด! เจ้าทำบ้าอะไรเนี่ ย!”

อีกคนพอถูกชนเข้าที่หว
ั ก็ก่นด่าด้วยความขุน
่ เคืองอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะ
ผลักคนผูน
้ ั ้นออก เห็นเด็กหนุ่มสบโอกาสวิง่ หนี ไปด้านนอก จึงโกรธขึ้นมา
ตวัดกระบีย
่ าวในมือ แล้วพลังดาบก็ลอยโจมตีออกไป

“รนหาที่ตาย!”

“อ๊าก!”
เหลิง่ หวากรีดร้องเจ็บปวด ฝีเท้าซวนเซลง เพียงรู ส
้ ึกถึงความเจ็บปวดร้อน
ผ่าวที่แผ่นหลัง สิง่ เหลวอุน
่ ๆ ไหลลงจากหลัง ทำให้สีหน้าเขาล้วนซีดเซียวขึ้น
มา

แต่ฝีเท้ากลับไม่หยุดลง มันยังคงวิง่ ไปด้านหน้าเช่นเดิม แต่กระนั ้น ก็มีเงา


ร่างสีดำผุดลุกขึ้นมาแซงนำและขวางอยูเ่ บื้องหน้าอย่างง่ายดาย

“วิง่ สิ? ทำไมไม่วงิ่ แล้วเล่า? หากแม้แต่เจ้าก็ยงั จับไว้ไม่ได้ กลับไปจะไม่ถูก


พวกเขาหัวเราะเยาะเอารึ?”

องครักษ์ ชุดดำยิม
้ เยือกเย็น จับกระบีโ่ จมตีออกไปอีกครัง้ เป้าหมายเพื่อแทง
ที่ขาซ้ายเขา แต่ใครจะรู ้ เงาร่างเด็กหนุ่มที่เดิมทียงั อยูด
่ ้านหน้ากลับแวบ
หลบการโจมตี แม้จะอยูภ
่ ายใต้สถานการณ์ ที่เขาไม่อาจโต้ตอบ มือที่จับ
กระบีก
่ ็ถูกสองมือเขาจับหักฟันไปที่ลำคอ

“ซี๊ด!”

“อ๊าก!”

องครักษ์ ชุดดำผูน
้ ั ้นมาทันแค่ส่งเสียงสูดหายใจอย่างเหลือเชื่อ เห็นกระบีท
่ ี่
จับไว้ในมือถูกเขาตวัดฟันไปที่ลำคออย่างปุบปับ ความเร็วนั ้น ทำให้อก
ี คน
หนึ่ งเข้ามาห้ามไว้ไม่ทัน

“ปัง!”
พอมีเสียงล้มหนั กๆ ทัง้ ร่างองครักษ์ ชุดดำก็ล้มลงไป สองดวงตาที่มีความไม่
ยอมเบิกอ้ากว้าง บริเวณลำคอ บาดแผลที่ถูกฟันมีเลือดพวยพุง่ ราวกับน้ำพุ
เลือด มันย้อมพื้นเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว

เหลิง่ หวาเหมือนจะตกใจกับการโต้กลับตามสัญชาตญาณของตัวเอง เขาไม่


เคยฝึกฝนวิชา มีแค่ไทเก๊กที่ร ่ำเรียนกับนายท่าน เวลาช่วงนี้ ก็ร ำไทเก๊กทุก
เช้าเย็น จนกระบวนท่ามือซึมเข้ากระดูกดำ ในยามเผชิญหน้าอันตราย จึง
แทบจะใช้ไทเก๊กมาป้องกันตัวจากสัญชาตญาณ

เขารู ว้ า่ หากไม่ฆ่าชายชุดดำอีกคนเสีย ก็หนี ไปไม่พน


้ แน่ ดังนั ้น เขาจึงยอม
แพ้ที่จะวิง่ หนี และหันมององครักษ์ ชุดดำที่สีหน้าตื่นตะลึง ค่อยๆ โน้ มตัวลง
ยกสองมือขึ้นน้ อยๆ และแอบท่องคาถาไทเก๊กไว้ในใจ

ผ่อนสองไหล่โน้ มตัวเหยียดคอตามแนวสันหลัง ยืดอกออกปล่อยลมลงหยัด


ประคองส่วนกลาง…

“ช่างพิลึกพิลัน
่ เสียจริง!”

องครักษ์ ชุดดำผูน
้ ั ้นเห็นคู่หถ
ู ูกฆ่า และนึ กไม่ถึงว่าเด็กนั ่นจะไม่หนี อก
ี ซ้ำยัง
ร่ายรำเพลงหมัดที่พลิว
้ ไหวขึ้นมา จึงถือดาบโจมตีออกไปในทันที…

ส่วนที่ด้านหน้านั ้น

“บอกมา! นั งเด็กเหลือขอนั ่นไปซ่อนตัวที่ไหนแล้ว?”


เขาใช้เท้าข้างหนึ่ งเหยียบตรงหน้าอกกวนสีหลิน
่ ทันใดนั ้นในปากก็มีเลือด
เอ่อล้นออกมาอีกครัง้ ร้องอูอ
้ ใี้ นลำคอ ไม่ยอมปริปาก เพียงใช้ดวงตาถลึง
มองเขาอย่างเกรีย
้ วกราด

“พาเขากลับไป! ข้าไม่เชื่อหรอก ว่าจะง้างปากเขาไม่ได้!”

ท่านผูน
้ ำตระกูลสวีเ่ อ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้ม เห็นองค์รก
ั ษ์ สองนายที่ไล่ตาม
เด็กหนุ่มไปยังไม่กลับมา ก็ขมวดคิว
้ อย่างอดไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้น? แค่คน
ธรรมดาไร้วรยุทธ์คนเดียวก็ยงั จับไม่ได้ร?ึ จับไม่ได้ก็ฆ่าทิง้ ซะ! ไม่ต้องรักษา
ชีวต
ิ มัน!”
ตอนที่ 90 หนี เอาตัวรอด!

เวลานี้ มีองครักษ์ ชุดดำนายหนึ่ งเร่งรีบวิง่ มา “ท่านผูน


้ ำตระกูลขอรับ พีน
่ ้ อง
สองนายของพวกเราถูกฆ่า เด็กหนุ่มคนนั ้นหนี ไปแล้วขอรับ!”

“อะไรนะ? ถูกคนที่ไม่วรยุทธ์ฆ่ารึ?”

น้ำเสียงยกสูงขึ้นเล็กน้ อย มีความโมโหโกรธา เขาก้าวยาวเดินไปประตูหลัง


เป็นตามคาดคิด เห็นองครักษ์ สองนายล้มนอนแน่ นิ่งอยูบ
่ นพื้น คนหนึ่ งถูก
ฟันคอ ส่วนอีกคนถูกกระบีแ
่ ทงเข้ากลางอก

เห็นเช่นนี้ สีหน้าเขามืดลงน้ อยๆ กำหมัดขึ้นแน่ น “ดีมาก! ไม่นึกเลยว่าแค่


เด็กไร้วรยุทธ์คนเดียว จะมีฝีมือมากถึงขนาดฆ่าคนของข้าได้!”

ชายชราที่ตามหลังมาลูบเคราครุ น
่ คิด ‘เห็นชัดๆ ว่าไม่มีวรยุทธ์ กลับสามารถ
สังหารผูม
้ ีวรยุทธ์ได้ หนำซ้ำ นึ กไม่ถึงว่าที่แห่งนี้ จะมีปรมาจารย์ด้านค่ายกล
กระบีด
่ ้วย ดูท่า บนกายสาวน้ อยผูน
้ ั ้นยังมีความลับอยู!่ ’

เมื่อคิดถึงจุดนี้ ดวงตาที่หรีล
่ งน้ อยๆ ก็ฉายแววประกายอย่างรวดเร็ว

“ชายที่ถูกจับกับสาวน้ อยผูน
้ ั ้นมีความสัมพันธ์กันเช่นไร?” ชายชรามองถาม
ท่านผูน
้ ำตระกูลสวี่

พอได้ฟังคำถาม ผูน
้ ำตระกูลสวีจ
่ ึงหันหน้ากลับมา กล่าวว่า “ชายผูน
้ ั ้นเป็น
ลูกชายของตระกูลกวน วงศ์ตระกูลขัน
้ กลางแห่งเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ แต่ชว
่ งก่อน
หน้า เล่ากันว่าตายในป่าเก้าหมอบ ข้าเดาว่าสาวน้ อยผูน
้ ั ้นคงช่วยเขาไว้
ความสัมพันธ์สองคนนี้ ไม่เลวเลย เหมือนจะเรียกกันเป็นพีเ่ ป็นน้ อง”

“พูดเสียขนาดนี้ หากนางรู ว้ า่ ชายผูน


้ ี้ ถูกจับ คงจะโผล่หว
ั มาแน่ ล่ะสิ?”

“อืม” ผูน
้ ำตระกูลสวีพ
่ ยักหน้า ตอนนี้ สีหน้าถึงจะผ่อนคลาย “ปล่อยให้เด็ก
หนุ่มนั ่นหนี ก็ดี ที่เขาหนี ก็คงไปหาสาวน้ อยนั ่นเพื่อบอกว่าเขาถูกจับ ข้าไม่
เชื่อหรอก ว่ากวนสีหลิน
่ อยูใ่ นมือข้าแล้วนางจะไม่มา!”

ชายชราขมวดคิว
้ น้ อยๆ เอ่ยถามเสียงเคร่งขรึม “หากตระกูลกวนรู ว้ า่ เขาอยู่
ในมือท่าน จะไม่เคลื่อนไหวอะไรเลยรึ?”

“เหอะ จะเป็นไปได้เช่นไรเล่า? เจ้ากวนสีหลิน


่ นี่ เป็นเด็กที่ถูกทิง้ จากบ้าน
ตระกูลกวน คู่หมัน
้ ก็ถูกพีช
่ ายแย่งไป แค่คนคนหนึ่ งที่ถูกตระกูลปล่อยปะ
ละเลย ใครจะไปสนใจว่าเขาเป็นหรือตาย?”

“งัน
้ ก็ดี ตราบใดที่ยงั ไม่ล่อสาวน้ อยนั ่นออกมา เขายังตายไม่ได้ และไม่ควร
เกิดปัญหาอะไรขึ้นด้วย” ชายชรากำชับเสียงเข้ม

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ ผูน
้ ำตระกูลสวีก
่ ็ไหวใจน้ อยๆ จึงมองชายชราด้วยความสงสัย
อยูบ
่ า้ ง “ท่านผูอ
้ าวุโส ท่านเป็นยอดฝีมือด้านค่ายกลกระบี่ ไยจึงสนใจค่าย
กลกระบีอ
่ น
ั เปราะบางของแม่หนูน้อยนี่ เล่า?”
ชายชราชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ ง สีหน้ามืดขรึมเล็กน้ อย “เรือ
่ งของกระผม
ท่านผูน
้ ำตระกูลสวีอ
่ ย่าได้สงสัย และอย่าได้ยุง่ นั กจะดีกว่า จงรู ไ้ ว้เถิด คนยิง่
รู ม
้ ากเท่าไหร่ ยิง่ ตายเร็วเท่านั ้น!”

ถูกพูดขนาดนี้ ผูน
้ ำตระกูลสวีจ
่ ึงไม่กล้าถามให้มากความอีก อันที่จริงฐานะ
ของชายชราก็ไม่ใช่ที่เขาจะขัดใจได้

ส่วนอีกด้านหนึ่ ง

เหลิง่ หวาที่หนี ออกมาหลบหอบหายใจอยูใ่ นตรอก บนตัวเต็มไปด้วยเลือด ที่


มีทัง้ ของเขา และขององครักษ์ ที่ถูกฆ่าตาย

เป็นครัง้ แรกที่ฆ่าคน กับเหตุการณ์ อน


ั ตรายก่อนหน้าเขาไม่คิดมากนั ก ทว่า
เวลานี้ รา่ งกายกลับสัน
่ เทิม
้ อยูน
่ ้ อยๆ มีความนึ กกลัวในภายหลัง อารมณ์ ก็
ยากที่จะสงบลงได้

ซ่อนตัวอยูใ่ นตรอกสักพัก เห็นรอบด้านไม่มีการเคลื่อนไหว คนพวกนั ้นก็ไม่


ตามมา เขาถึงจะกัดฟันหยัดกำแพงลุกยืนขึ้นมา อาศัยค่ำคืนมืดมิดเดินทาง
ไปยังเวิง้ สวนท้อ

เขารู ว้ า่ อีกตัวตนหนึ่ งของนายท่านคือภูตหมอ มีความเกี่ยวพันกับตลาดมืด


แต่ตอนนี้ กลับไม่อาจไปที่ตลาดมืดได้ เพราะที่ผา่ นมาล้วนเป็นพีส
่ าวเขาที่ไป
ตลาดมืด ยิง่ ไม่ต้องพูดถึงที่คนพวกนั ้นไม่รูจ
้ ักเขา ต่อให้เขาเข้าไปได้จริงๆ ก็
เกรงว่าจะทำให้กลายเป็นเรือ
่ งใหญ่ และเปิดเผยถึงตัวตนนายท่าน
บาดแผลบนหลังมีเลือดไหลอย่างไม่อาจพันแผลไว้ได้ ความเปียกแฉะชโลม
อยูบ
่ นร่าง ทุกก้าวที่เดินล้วนดึงบาดแผลให้เจ็บ ทำให้เขาที่รา่ งกายอ่อนแอ
เป็นทุนเดิม ยิง่ มีสีหน้าซีดเผือด ถึงเป็นเช่นนี้ ก็ยงั คงกัดฟันเดินไป…
ตอนที่ 91 ขอความช่วยเหลือกลางดึก!

ยามที่ท้องฟ้าใกล้สว่าง ผืนฟ้ายังมีสีเทาหม่นๆ องครักษ์ ตลาดมืดที่เฝ้าป่า


ต่างลาดตระเวนภูเขาพลางพูดคุยกัน เมื่อมาถึงด้านหน้า ขณะที่เห็นเงาร่าง
หนึ่ งล้มลุกคลุกคลานมาทางด้านนี้ พวกเขาต่างมองกันเป็นตาเดียว แล้วรีบ
ก้าวเดินไปด้านหน้า ตะโกนเสียงดัง

“ใครน่ ะ!”

เหลิง่ หวาฝืนหยัดร่างอันหนั กอึ้งเดินไปด้านหน้าทีละก้าวๆ ร่างกายเซล้มลง


เล็กน้ อย ก่อนจะตะเกียดตะกายลุกขึ้นมาอีก แผลที่หลังเหมือนเลือดถูกแช่
แข็งไว้ ไร้ซ่ึงความรู ส
้ ึก เท้าก็หนั กมาก ทุกก้าวที่เดินล้วนยากลำบากนั ก ภาพ
ตรงหน้าก็ค่อยๆ พร่ามัว

เมื่อเห็นคนที่คอยลาดตระเวนยามดึก ขาก็สัน
่ ล้มลงไปอีกครัง้ เขายื่นมือ
ปริปากด้วยคอแห้งผาก “พาข้า พาข้าไปพบเหลิง่ เหลิง่ ซวง นาง นางเป็นพี่
สาวข้า”

น้ำเสียงเขาช่างอ่อนรวยริน แต่องครักษ์ ตลาดมืดยังคงได้ยน


ิ ชัดเจน

น้ องชายเหลิง่ ซวงรึ?

ในดวงตาพวกเขาฉายแววแปลกใจ คนหนึ่ งออกหน้าตรวจดูบาดแผล อีกคน


ก็พรวดพราดไปด้านในอย่างรวดเร็ว ไม่วา่ จะจริงหรือเท็จ ก็ต้องรายงาน
เหลิง่ ซวงก่อนค่อยว่ากัน
“เจ้าว่าใครนะ? น้ องชายข้ารึ?”

เหลิง่ หวาที่ได้ยน
ิ เสียงสัน
่ กระดิง่ จึงออกจากค่ายกลกระบี่มาตรวจดู หลังจาก
ฟังคำพูดของหัวหน้ากององครักษ์ ตลาดมืด หัวใจก็เต้นแรง “ตอนนี้ คนเล่า?
อยูท
่ ี่ไหน? พาข้าไปดูเร็ว!”

อาหวาควรจะอยูใ่ นเรือนกับคุณชาย จะมาที่นี่ได้อย่างไร? หรือว่าเกิดเรือ


่ ง
อะไรขึ้น?

ขณะที่เหลิง่ ซวงรีบร้อนมา เมื่อเห็นเหลิง่ หวาที่ทัว่ ตัวเต็มไปด้วยเลือด สีหน้า


ก็เปลี่ยนไปยกใหญ่ เสื้อผ้าสีฟ้าอ่อนบนตัวถูกย้อมเป็นชุดสีเลือด เห็นแล้วใจ
สัน
่ สะท้านไปชัว่ ขณะ

“อาหวา!”

นางเรียกเสียงสัน
่ อยากเข้าไปพยุงเขาไว้ แต่กลับไม่รูต
้ ้องเริม
่ ยังไงดี จึง
ทำได้เพียงตะโกนเสียงร้อนรน “เร็วเข้า! รีบพาเขาเข้ามา!”

หัวหน้าองครักษ์ กับองครักษ์ อก
ี คนที่ประคองเหลิง่ หวาไว้เดินตามอยูด
่ ้าน
หลังเหลิง่ ซวง เมื่อมาถึงหน้าต้นท้อค่ายอาคม ทัง้ สองก็คิดว่ารอบนี้ อาจจะได้
ลองเข้าไปดูด้านใน ใครก็คาดไม่ถึง ว่าเหลิง่ ซวงด้านหน้ากลับหยุดฝีเท้าลง

“ส่งเขามาให้ขา้ ”
นางเดินหน้าเข้าไปพยุงรับเหลิง่ หวาจากในมือขององครักษ์ ทัง้ สองนายอย่าง
ระมัดระวัง ก่อนจะเดินเข้าต้นท้อค่ายอาคมไปทีละก้าวๆ ไม่นานนั ก เงาร่าง
ทัง้ สองก็หายลับไปในค่ายอาคม

“ด้านในนั ้นมีความลับอะไรกันแน่ ? พวกเราเฝ้าอยูต


่ รงนี้ ใกล้จะหนึ่ งเดือน
แล้ว แม้แต่ด้านในกลับไม่เคยเข้าไป พอลองทบทวนดู ก็ไม่ชอบใจเลยจริงๆ”

องครักษ์ ตลาดมืดพึมพำเสียงเบา ในใจแสนจะอยากรู เ้ รือ


่ งด้านในนั ้น โดย
เฉพาะคนที่พำนั กอยู่

หัวหน้ากององครักษ์ ตลาดมืดมองไปด้านในอย่างมีความนั ย แล้วดึงสายตา


กลับมามององครักษ์ ผูน
้ ั ้น เอ่ยเสียงเข้มว่า “เจ้าเป็นองครักษ์ ตลาดมืดมาก็
ไม่ใช่แค่วน
ั สองวัน ต้องรู ก
้ ฎระเบียบของพวกเราอยู่ ที่ไม่ควรรู ก
้ ็ไม่ต้องถาม
ให้มากความ อย่าได้อยากรู อ
้ ยากเห็น มิเช่นนั ้น มันไม่เป็นผลดีกับเจ้าแน่ ”

“ขอรับ” ถูกหัวหน้าสัง่ สองซึ่งๆ หน้า องครักษ์ ผูน


้ ั ้นจึงรีบร้อนก้มหัวขานรับ

ส่วนด้านใน เหลิง่ ซวงพาเหลิง่ หวาที่หมดสติเข้าไปในห้อง ตรวจดูบาดแผล


เสียก่อน ค่อยพันแผลไปอย่างง่ายๆ ถึงจะรีบปรีม
่ ายังหน้าห้องเฟิ่ งจิว
่ ก่อน
จะเคาะที่ประตู

“นายท่าน นายท่านเจ้าคะ” น้ำเสียงนางทัง้ ร้อนรนและตื่นตระหนกอยูน


่ ิด
หน่ อย
หลังจากได้ยน
ิ เสียง เฟิ่ งจิว
่ ที่หลับสนิ ทอยูใ่ นห้องก็ลืมตาขึ้น สวมเสื้อคลุม
แล้วเปิดประตู “อะไรรึ?”

น้ำเสียงเธอมีความงัวเงียอยูบ
่ างส่วน แต่แววตากลับไม่งว่ งเลยสักนิ ด
เพราะเธอรู ้ ถ้าไม่เกิดเรือ
่ งด่วนอะไรขึ้น เหลิง่ ซวงคงไม่มาเคาะประตูตัง้ แต่
ฟ้ายังไม่สาง

“นายท่านเจ้าคะ อาหวามา บนตัวมีเลือดเต็มไปหมด คนก็หมดสติไปแล้ว


เกรงว่าทางคุณชายด้านนั ้นจะเกิดเรือ
่ งแล้วเจ้าค่ะ”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ หัวใจเฟิ่ งจิว
่ ก็แทบร่วง “เขาอยูไ่ หน? พาข้าไปดูสิ”
ตอนที่ 92 ขัดขวางการเข้าสู่ขน
ั้ สูง!

เหลิง่ ซวงนำเขามาไว้ในห้องตัวเอง เมื่อเข้าประตู เฟิ่ งจิว


่ ก็ได้กลิน
่ คาวเลือด
คละคลุ้งอยูใ่ นอากาศ มาถึงข้างเตียง เห็นว่าเสื้อท่อนบนของเหลิง่ หวาถูก
ถอดไปแล้ว และกำลังนอนฟุบอยู่ ใบหน้าขาวซีดหันไปด้านนอกน้ อยๆ

พอมองรอยกระบีล
่ ากยาวบนหลังเขา แววตาเฟิ่ งจิว
่ ก็มืดลงเล็กน้ อย ก่อนจะ
ยื่นมือคลำชีพจร

เหลิง่ ซวงที่ติดตามอยูข
่ า้ งกาย ในดวงตามีแววความกระวนกระวายที่ยากจะ
ปิดบัง เอ่ยว่า “แผลบนหลังอาหวาค่อนข้างหนั ก แผลหลายรอยด้านหน้า
เป็นแค่รอยขีดข่วนบนผิว ตอนที่ขา้ ประคองเขาเข้ามา เลือดบนปากแผลก็
แข็งตัวแล้ว เรียกยังไงก็ไม่ฟื้นเลยเจ้าค่ะ”

หลังจากเฟิ่ งจิว
่ คลำชีพจร สายตาก็จับจ้องบนเท้าเขา เห็นรองเท้ายังไม่ถอด
ออก แต่บริเวณนิว
้ เท้ากลับมีเลือดไหลอยู่ ซ้ำยังหลุดลุ่ยเป็นรู เล็กๆ หลายรู

มือเธอยื่นเข้าไปในแขนเสื้อ สองนิว
้ คีบเม็ดยาสีน้ำตาลยัดใส่ปากเหลิง่ หวา
แล้วยื่นยาขวดหนึ่ งให้เหลิง่ ซวง กล่าวว่า “ถอดรองเท้าที ทำความสะอาด
แผลที่เท้าเขาเสียหน่ อย”

“เจ้าค่ะ”
เหลิง่ ซวงรีบรับยาที่นางยื่นมา แล้วค่อยถอดรองเท้าของเหลิง่ หวาออกด้วย
ความระมัดระวัง ขณะที่เห็นสองเท้าผิวหนั งหลุดลุ่ยเลือดไหลซิบ เพียงรู ส
้ ึก
รอบดวงตาร้อนผ่าว และน้ำตาก็รว่ งลงมาอย่างไม่อาจหักห้ามได้

เห็นเช่นนี้ เฟิ่ งจิว


่ จึงเอ่ยเสียงเนิ บว่า “บาดแผลบนหลังเขาไม่ใช่แค่ถากๆ ยัง
ดีที่เลือดแข็งอยูต
่ รงปากแผล ไม่งน
ั ้ จากที่นั่นมาถึงที่นี่เกือบสี่ชว
ั ่ ยามเลือดก็
แห้งไปนานแล้ว ส่วนแผลที่เท้าเป็นแค่แผลภายนอก ทายาผ่านไปสองวันก็
หาย คงไม่มีอน
ั ตรายอะไรหรอก”

ตอนนี้ เธอพะวงพีช
่ ายคนข้างกายผูน
้ ั ้นมากกว่า เหลิง่ หวาหมดสติ จึงไม่รูว้ า่
เกิดเรือ
่ งอะไรขึ้นกันแน่ ?

หลังจากได้ยน
ิ คำพูดนาง ใจที่กำลังเป็นกังวลของเหลิง่ ซวงถึงจะวางใจลงได้

พอช่วยน้ องชายพันแผลเรียบร้อยแล้ว ถึงจะสังเกตว่านายท่านไม่ได้อยูใ่ น


ห้อง จึงลุกขึ้นเดินออกไป เห็นนางยืนอยูใ่ นลานบ้าน ก็ถามว่า “นายท่าน จะ
ให้ขา้ กลับไปไถ่ถามข่าวคราวสักหน่ อยไหมเจ้าคะ?”

เฟิ่ งจิว
่ สายหัว “ไม่ต้องหรอก รอเหลิง่ หวาฟื้ นขึ้นมาก่อน เรือ
่ งที่เกิดขึ้นเมื่อ
คืนไม่มีใครรู ด
้ ียงิ่ กว่าเขาแล้ว”

“นายท่านอย่าได้เป็นกังวล คุณชายต้องไม่เป็นอะไรแน่ เจ้าค่ะ”

“อืม” เธอพยักหน้า เอ่ยว่า “เหลิง่ หวาตื่นแล้วค่อยมาบอกข้า” ถึงจะสาวเท้า


ก้าวกลับห้อง
เมื่อเข้าห้องมา เธอแวบตัวเข้าไปในห้วงมิติ เพียงพลิกมือ ยาเม็ดหนึ่ งก็
ปรากฏบนฝ่ามือ

นี่ คือเม็ดยาที่ชว
่ ยเธอยกระดับวรยุทธ์พลังเร้นลับได้ แต่อน
ั ที่จริง นี่ เป็นครัง้
แรกที่ปรับปรุ งยา จึงไม่รูว้ า่ ฤทธิย
์ านี้ แรงแค่ไหน? จะมีผลข้างเคียงอื่นๆ หรือ
ไม่? ด้วยเหตุนี้ แม้เธอจะพัฒนายาออกมา แต่กลับไม่เคยทานมาโดยตลอด

หงส์ไฟน้ อยในห้วงมิติเห็นนางจ้องยาเม็ดนั ้นในมือ ไม่รูว้ า่ กำลังคิดอะไร จึง


ก้าวขาสัน
้ เล็กๆ เดินเข้าไป เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่มีความสงสัย “เป็น
เช่นไรเล่า?”

“ข้าอยากจะรีบรุ ดให้ถึงระดับปรมาจารย์นักรบพลังเร้นลับขัน
้ สูงสุด” เธอกุม
เม็ดยาในมือ พลางกล่าวด้วยเสียงทุ้มน้ อยๆ

พอหงส์ไฟน้ อยได้ยน
ิ ทันใดนั ้น ก็ถลึงตาเบิกกว้างและพูดเจื้อยแจ้วอยูค
่ รู ่
หนึ่ ง

“เจ้าบ้าไปแล้ว! ตอนนี้ เพิง่ จะถึงระดับปรมาจารย์นักรบพลังเร้นลับขัน


้ กลาง
ที่สาม วรยุทธ์ยงิ่ สูงขึ้นก็ยงิ่ สามารถเข้าถึงระดับได้ เจ้าอยากเข้าสู่ขน
ั ้ สูงสุด
แม้จะมีจวนภูตในห้วงมิติ เจ้าก็ต้องใช้เวลากว่าครึง่ ปีถึงจะทำได้ จะรีบรุ ดขึ้น
ขัน
้ สูง หากเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรเข้า สูญเสียวรยุทธ์ในตัวก็เรือ
่ งหนึ่ ง ที่รา้ ย
แรงคือแม้แต่ชว
ี ต
ิ ก็ไม่อาจรักษาไว้ เจ้ารู บ
้ า้ งหรือไม่!”

เห็นนางไม่ตอบโต้อะไรเลยสักนิ ด จึงจ้องมองเม็ดยาในมือ รีบร้อนกล่าวอีก


ว่า “ยังมีอก
ี นะ! พลังเร้นลับกับศิลปะการต่อสู้ไม่อาจขาดกัน พลังเร้นลับ
แข็งแกร่งขึ้นหนึ่ งขัน
้ หากศิลปะการต่อสู้ไม่อาจเข้าถึงแก่นแท้ ถึงมีเพียง
วรยุทธ์พลังเร้นลับก็ไม่มีประโยชน์ เจ้ารู ห
้ รือไม่เล่า?”

“กวนสีหลิน
่ มีอน
ั ตราย”

เธอหลับตาลง “เขาเป็นพีช
่ ายข้า จะไม่แยแสเขาไม่ได้”
ตอนที่ 93 ที่แท้กร็ า้ ยกาจยิ่งนั ก!

“งัน
้ เจ้าก็ไม่ควรเอาชีวต
ิ มาเดิมพัน!”

หงส์ไฟน้ อยถลึงตามอง ใบหน้าเล็กอ้วนท้วมเป่าแก้มป่อง “หากเจ้าเข้าขัน


้ สูง
แล้วเกิดอุบต
ั ิเหตุอะไรเข้า ใครจะไปช่วยเขา?”

“แม้วรยุทธ์ขา้ ในตอนนี้ จะสามารถจัดการกับผูฝ


้ ึกเซียนระดับปรมาจารย์ขน
ั้
สูงสุดได้ แต่ขา้ กังวลว่าเมื่อถึงเวลา หากพละกำลังอีกฝ่ายเหนื อกว่านี้ จำ
ต้องเกิดสถานการณ์ ที่ไม่อาจถอยกลับได้แน่ ”

น้ำเสียงเธอชะงักเล็กน้ อย ครุ น
่ คิดนิ ดๆ ว่า “หนำซ้ำ ข้าวางค่ายกลกระบี่ไว้ใน
เรือน หากไม่ใช่นักวางค่ายกลก็ไม่มีทางแก้ออกได้แน่ ดังนั ้น ถึงเหลิง่ หวาจะ
ยังไม่ฟื้นขึ้นมาบอกเรือ
่ งทัง้ หมด ข้าก็รูว้ า่ เรือ
่ งครัง้ นี้ นั้นแตกต่างออกไป ศัตรู
ที่ขา้ จะเผชิญต้องแข็งแกร่งมาก”

“ก็ได้ๆ เจ้าอย่ากินยานั ่นเลย ถึงเวลาหากเจ้าสู้ไม่ไหวจริงๆ จะให้ดีก็ให้ขา้ ช่วย


เจ้าเป็นพอ”

เมื่อฟังคำพูดนี้ สายตาเฟิ่ งจิว


่ ก็จับจ้องบนเรือนร่างเล็กๆ นั ่นด้วยความสงสัย
ต่อคำพูดเขาที่ไม่อาจปิดบัง

“เจ้าเด็กน้ อย ถึงเจ้าเป็นสัตว์เทวะในตำนาน แต่อน


ั ที่จริงตอนนี้ ก็เป็นเพียง
วัยเด็ก ซ้ำยังรู ปลักษณ์ เช่นมนุษย์เด็กน้ อยสามขวบ หากเป็นคนที่แม้แต่ขา้ ก็
ยังสู้ไม่ไหว เจ้าจะทำอะไรได้เล่า?”
เอาเถอะ! แต่ไหนแต่ไรเธอก็คิดว่าเด็กน้ อยแขนขาสัน
้ ตัวอ้วนจ้ำม่ำราวกับ
ตุ๊กตานำโชคนี้ ไม่เห็นมีกำลังต่อสู้อะไร ที่จริงแล้ว เขายังไม่โตเลยไม่ใช่หรือ?

ถ้าเจอกับผูแ
้ ข็งแกร่งที่แม้แต่เธอยังสู้ไม่ไหวเข้าจริงๆ ก็ไม่เชื่อหรอกว่าเขามี
ฝีมือพอจะช่วยได้

ทว่าหงส์ไฟน้ อยพอฟังคำพูดนี้ ก็ไม่ชอบใจนั ก สองแขนเล็กๆ ยกขึ้นกอดอก


บัน
้ ท้ายหย่อนลงนั ่งบนพื้น แล้วถลึงมองนางด้วยแววตาขุน
่ เคือง “เจ้าดูถูก
กันให้น้อยๆ หน่ อย! ข้าไม่ไร้ประโยชน์ เหมือนเด็กทารกมนุษย์อายุสามขวบ
ของพวกเจ้า ข้าแข็งแกร่งมากนะ!”

เขาเน้ นย้ำอีกครัง้ แม้เฟิ่ งจิว


่ จะไม่คิดว่าคำพูดเขาเป็นความจริงก็ตาม

“นายท่าน อาหวาฟื้ นแล้วเจ้าค่ะ”

ด้านนอกมีเสียงเหลิง่ ซวงดังลอยมา

พอเฟิ่ งจิว
่ ในห้วงมิติได้ยน
ิ ก็มองเม็ดยาในมือแวบหนึ่ ง คิดแล้วคิดอีก จึงเก็บ
มันขึ้นมา ก่อนจะกำชับว่า “เจ้าอยูฝ
่ ึกฝนวิชาด้านในนี้ อย่างว่าง่ายไปเถิด”
ขณะที่พูด ถึงจะแวบตัวออกจากห้วงมิติ

เมื่อเปิดประตูหอ
้ งออก ก็เห็นใบหน้าระรืน
่ ของเหลิง่ ซวง

“นายท่าน อาหวาฟื้ นแล้วเจ้าค่ะ”


“อืม” เธอพยักหน้า ถึงจะสาวเท้าก้าวเดินไปยังห้องของเหลิง่ ซวง

มาถึงในห้อง เห็นเหลิง่ หวาบนเตียงลืมตาขึ้นมาแล้ว พอเห็นเธอมาจึงคิดจะ


ลุกขึ้น แต่ก็โดนเธอกดไว้ “บนตัวเจ้ามีแผล นอนไปดีกว่านะ”

“นายท่านขอรับ คุณชายถูกจับไปแล้ว” น้ำเสียงเขาอ่อนรวยรินนั ก แต่ดีข้น



กว่าก่อนหน้านี้ มาก

“รู ร้ วึ า่ คนพวกนั ้นเป็นใคร?” เธอแอบเดา แค่ถูกจับก็ยงั ดี ไม่ถูกฆ่าเป็นพอ

“ชายวัยกลางคนนั ่นบอกว่าเป็นคนตระกูลสวี่ หาว่านายท่านฆ่าลูกชาย น้ อง


ชายคนรอง และยังมีผูอ
้ าวุโสอีกสองท่านของเขา จึงจะมาคิดบัญชีกับ
นายท่านขอรับ”

พอได้ยน
ิ คำพูดนี้ เหลิง่ ซวงก็แปลกใจน้ อยๆ นายท่านฆ่าคนรึ? จะเป็นไปได้
ยังไง? พละกำลังของนายท่านอย่างมากก็ได้เพียงทำทีเป็นเก่งกาจแต่ไร้
ความสามารถ จะฆ่าคนระดับอาวุโสของตระกูลได้อย่างไรเล่า?

ทว่าเฟิ่ งจิว
่ ที่ฟังอยู่ แววตากลับเป็นประกายน้ อยๆ ในใจนึ กขึ้นได้ทันใด ที่แท้
ก็เป็นตระกูลสวี่

คุณชายรองตระกูลสวีแ
่ ละคนพวกนั ้นล้วนถูกเธอสังหาร พวกเขารู ไ้ ด้ยงั ไง
ว่าเธอเป็นคนฆ่า? หรือว่าเจอรู ปวาดภาพเหมือนจากรางวัลนำจับในตลาด
มืดนั ้น จึงคาดเดาได้?
“พวกเขาพาคนที่ชำนาญค่ายกลกระบีไ่ ปด้วยหรือไม่? แล้วเจ้าหนี ออกมาได้
อย่างไร? เล่าให้ขา้ ฟังโดยละเอียดทีสิ”

“ผูน
้ ำตระกูลสวีผ
่ ูน
้ ั ้นพาชายชราชุดเทาไปด้วยขอรับ เขาเป็นคนทำลายค่าย
กล ส่วนข้า…”

น้ำเสียงเขาชะงักน้ อยๆ เมื่อคิดถึงสถานการณ์ ในตอนนั ้น ก็ยงั คงรู ส


้ ึกเหลือ
เชื่ออยูบ
่ า้ ง “นายท่าน ที่แท้หมัดไทเก๊กอันพลิว
้ ไหวนั ่นช่างร้ายกาจยิง่ นั ก
ขอรับ!”
ตอนที่ 94 ถูกทรมาน!

“ตอนนั ้นข้าแทบจะโต้กลับไปตามสัญชาตญาณ หากไม่ใช่เพราะหมัดไทเก๊ก


ที่นายท่านสอนสัง่ เดาว่าคงตายอยูใ่ ต้คมกระบี่ของสองคนนั ้นแล้วขอรับ”

นึ กถึงตรงนี้ ในใจเขายังคงมีความหวาดกลัวในภายหลัง อันที่จริง ชีวต


ิ ก่อน
หน้านี้ ก็มีพส
ี่ าวคอยปกป้องมาตลอด ร่างกายยังอ่อนแอ ป่วยติดเตียงมา
ตลอดปี เรือ
่ งอย่างเช่นในคืนนั ้น ที่ผา่ นมาก็ไม่กล้านึ กฝัน

ทว่า หลังจากผ่านคืนนั ้นมา ความคิดอันเดือดพล่านกลับเป็นรู ปเป็นร่างอยู่


ในหัวใจ

เขาต้องฝึกฝนวิชาบ้าง! แม้จะไม่อาจเทียบกับพีส
่ าว ก็ยงั ต้องฝึกฝน! เมื่อ
เป็นเช่นนี้ จะไม่ต้องให้คนอื่นคอยปกป้อง หนำซ้ำ หากเกิดเรือ
่ งอะไรขึ้นจริงๆ
ก็สามารถปกป้องพวกเขาได้

เมื่อฟังคำพูดเขาเรียบร้อย เหลิง่ ซวงก็หน


ั มองนายท่านอย่างอดไม่ได้ ในใจ
รู ส
้ ึกเหลือเชื่อเล็กน้ อย

หมัดที่นายท่านฝึกฝนใช้โต้ตอบศัตรู ได้ด้วยรึ?

ตลอดมานางคิดว่านายท่านนั ้นฝึกฝนเพื่อออกกำลังแขนขา นึ กไม่ถึงว่ารอบ


นี้ จะเป็นหมัดไทเก๊กนั ่นที่ชว
่ ยอาหวาไว้
หลังจากฟังคำพูดเขาจบ เธอก็พยักหน้ากำชับว่า “เจ้ารักษาแผลดีๆ ไม่ต้อง
คิดเรือ
่ งอื่น” ก่อนจะหันตัวเดินออกไปด้านนอก

เหลิง่ ซวงตามออกมา เห็นนางยืนอยูใ่ นลานบ้าน จึงเอ่ยถาม “นายท่าน จาก


นี้ ไปพวกเราจะทำเช่นไรเจ้าคะ?”

“ข้าจะกลับไปเสียหน่ อย เจ้าอยูด
่ ูแลที่นี่ดีๆ ก็พอ”

“นายท่านคิดจะไปช่วยคุณชายคนเดียวรึเจ้าคะ?”

นางตกตะลึงเล็กน้ อย จากนั ้นจึงพูดอย่างกังวลใจ “กำลังของคนพวกนั ้น


แม้แต่คุณชายก็ยงั ไม่ใช่คู่ต่อสู้ หากนายท่านไปคงจะไม่…”

โยนตัวเองลงตาข่าย? ประโยคนี้ ไม่ได้พูดออกมา ในสายตานาง แม้นายท่าน


จะฝึกฝนหมัดไทเก๊กเสียจนคล่องแคล่ว ก็ยงั ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผูน
้ ำตระกูล
อย่างแน่ นอน ยิง่ กว่านั ้น นางแค่ตัวคนเดียว แต่อก
ี ฝ่ายกลับมีมาทัง้ วงศ์
ตระกูล

ไม่ต้องพูดถึงความต่างด้านพละกำลัง จำนวนคนก็แตกต่างกันมากเกินไป
นางจะปล่อยให้นายท่านไปตายได้อย่างไรเล่า?

“เรือ
่ งพวกนั ้นเจ้าไม่ต้องกังวล ทำเรือ
่ งที่ขา้ กำชับไว้ให้ดีก็พอ”

เธอหันตัวกลับห้อง เปลี่ยนสวมชุดผูช
้ าย สวมหน้ากากสีทองลายดอกลำโพง
กลิน
่ อายทัว่ ร่างก็เหมือนจะเปลี่ยนตามไปด้วย
เป็นกลิน
่ อายที่รุนแรง เฉื่ อยชา และมีความลึกลับ อันตรายราวกับท่านชาย
แห่งรัตติกาล สัดส่วนบนร่างถูกผูกรัดไว้เสมอ ท่าทางที่เก็บซ่อนไว้ ก็เปิด
เผยออกมาในช่วงเวลานี้ ทำให้ผูค
้ นยากที่จะละสายตา

เธอออกจากเรือนพุง่ ไปยังด้านนอกป่า พลังเร้นลับพรัง่ พรู ย่างก้าวแปร


ปรวนแปลกๆ ทำให้เธอรวดเร็วราวกับภูตผีที่ไปมาอย่างไร้รอ
่ งรอย…

ในคุกใต้ดินบ้านตระกูลสวี่

ฟิ้ ว! ผัวะ!

“อื้ม!”

เสียงตวัดกวัดแกว่งแส้มีเสียงลมดังฟิ้ วๆ เมื่อแส้ตีไปแต่ละครัง้ ก็ตามมา


ด้วยเสียงร้องคร่ำครวญดังขึ้นระงม กลิน
่ คาวเลือดที่ปะปนกันหนาแน่ นฟุ้ง
กระจายอยูใ่ นคุกใต้ดินอันมืดสลัวและชื้นแฉะ

กวนสีหลิน
่ ที่มีแผลทัว่ ร่างถูกผูกตรึงไว้บนเสาไม้รูปกางเขน รอยแส้บนตัว
ต่างทับซ้อนกันไป เลือดสดไหลลงมาพร้อมหยาดเหงือ
่ ทำให้เสื้อเปราะเลือด
ตัวรุ ง่ ริง่ บนร่างเปียกชื้น

ตัง้ แต่ถูกจับตัวกลับมา แส้ก็หวดไม่เคยหยุดอยูเ่ ช่นนี้ เขาแสนเหนื่ อยล้า


แม้แต่เสียงตะโกนยังร้องไม่ออก ทัว่ ทัง้ ร่างกายเหมือนไม่ใช่เขา เจ็บเสียจน
ไร้ความรู ส
้ ึก ไม่อาจเงยศีรษะขึ้นได้แล้ว แต่คนที่หวดแส้กลับไม่ผอ
่ นมือลง
เลย ยังคงก่นด่าพลางตวัดแส้ไป
“สำหรับพวกเจ้าที่ฆ่าลูกชายข้า!”

“สำหรับพวกเจ้าที่ฆ่าน้ องรองข้า!”

“สำหรับพวกเจ้าที่สังหารผูอ
้ าวุโสทัง้ สอง!”

“และสำหรับพวกเจ้าที่เป็นศัตรู กับตระกูลสวีข
่ า้ !”

องครักษ์ ขา้ งๆ เห็นว่ากวนสีหลิน


่ ห้อยหัวก้มลงหมดสติไปด้วยลมหายใจเฮือก
สุดท้าย จึงอดไม่ได้ที่จะปริปากอย่างระแวดระวัง “ท่านผูน
้ ำตระกูล เขาสลบ
ไปแล้วขอรับ”

“หยิบเอาเหล็กร้อนเผาไฟมา! ลนมันให้ต่ ืนทัง้ สดๆ เลย!”


ตอนที่ 95 เยือนจวนตระกูลสวีย
่ ามวิกาล

องครักษ์ ฟังแล้วหัวใจสัน
่ ไหว กลับยังคงรีบร้อนขานรับ ก่อนจะเดินไปหยิบ
เหล็กเผาไฟร้อนจากด้านหลังมายื่นให้ท่านผู้นำตระกูลอย่างระวัง

“ข้าอยากลองดูนัก ว่ากระดูกเจ้าจะทนทานสักเพียงใด!”

ผูน
้ ำตระกูลสวีเ่ อ่ยเสียงทุ้มเข้ม เหล็กร้อนในมือกำลังจะลนลงไปบนร่างกวน
สีหลิน
่ เหล็กที่เผาไฟร้อนนั ้นยังมีไอร้อนซ่าๆ แผ่ออกมา แม้แต่องครักษ์ ด้าน
ข้างก็ไม่กล้าหันไปมอง

“หยุดนะ!”

น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยแรงกดดันดังลอยมา ทำให้ท่านผูน
้ ำตระกูลสวีท
่ ี่กำลัง
จะนาบเหล็กร้อนลงไปต้องหยุดมือไว้ทัง้ อย่างงัน
้ ขมวดคิว
้ น้ อยๆ พลางหัน
มองไป

ชายชราชุดเทาย่างก้าวเดินเข้ามา พอได้กลิน
่ คาวเลือดในคุกใต้ดินนี้ และยัง
มีกวนสีหลิน
่ ที่หมดสติไป ก็ขมวดคิว
้ ขึ้นพร้อมใบหน้ามืดลง ถลึงมองท่าน
ผูน
้ ำตระกูลสวีด
่ ้วยสีหน้าไม่ชอบใจนั ก

“คนยังมีประโยชน์ อยู่ หากท่านทำเขาตาย สาวน้ อยผูน


้ ั ้นไม่มา กระผมจะไป
หาใครได้?”
ฟังคำพูดนี้ ผูน
้ ำตระกูลสวีก
่ ็ไม่พูดอะไรอีก เพียงยื่นเหล็กร้อนส่งให้องครักษ์
ข้างๆ “ท่านผูอ
้ าวุโสไม่ต้องกังวลไป นั งเด็กเหลือขอนั ่นจะมาแน่ นอน!”

ต่อให้ไม่มา เขาก็จะพลิกหาทัง้ เมืองอวิ ๋นเยวีย


่ ให้นางโผล่หว
ั ออกมาให้ได้!

เมื่อรัตติกาลมาเยือน ในจวนตระกูลสวีย
่ งั คงมีแสงโคมสว่างราวกลางวัน
ทัง้ ด้านในด้านนอกล้วนมีองครักษ์ แต่ละกองลาดตระเวนสอดส่องอยู่ แหฟ้า
ตาข่ายดินที่วางไว้ แค่สำหรับเหยื่อที่อาจมาเยือนในค่ำคืนนี้

เฟิ่ งจิว
่ ซ่อนตัวสังเกตการณ์ อยูใ่ นมุมมืดเพียงเพื่อรอถึงพลบค่ำ จู่ๆ ก็เห็นเงา
ร่างสีดำที่แสนคุ้นตา จึงขมวดคิว
้ ขึ้น ร่างสีแดงแวบพุง่ ไปยังเงาร่างนั ้น

เหลิง่ ซวงกำลังจะกระโดดขึ้นกำแพงทางเข้าจวนตระกูลสวี่ ทันใดนั ้น มีมือ


หนึ่ งคว้าเข้าที่ไหล่ ส่วนอีกข้างปิดปากไว้และลากนางไปยังมุมมืด พอจะสู้
ตอบ ก็ได้ยน
ิ น้ำเสียงอันคุ้นเคยดังลอยมาเบาๆ

“ข้าเอง”

ในขณะที่ปริปาก เฟิ่ งจิว


่ ก็ปล่อยมือออก แล้วขมวดคิว
้ น้ อยๆ พลางมองนางที่
หมุนหันตัวมา “ข้าให้เจ้าคอยดูแลเวิง้ สวนท้อไม่ใช่หรือ? ไยจึงมาอยูน
่ ี่ ?”

“นายท่าน?”
ดวงตาเหลิง่ ซวงเป็นประกายน้ อยๆ “ข้าเป็นห่วงท่าน ดังนั ้นจึงตามมา
เจ้าค่ะ” ปล่อยนางมาช่วยคนเสียเอง จึงยังคงไม่วางใจอยูบ
่ า้ ง ดังนั ้น หลัง
จากกำชับอาหวาให้ดูแลตัวเองดีๆ ก็ตามมาเลย

“หาเรือ
่ งใส่ตัว!”

น้ำเสียงเธอเข้มขึ้นน้ อยๆ “หากข้าไม่รงั ้ เจ้าไว้ คืนนี้ คงทำข้าเสียเรือ


่ งเป็นแน่ ”

ฟังคำพูดนี้ เหลิง่ ซวงก็ก้มหน้าลงอย่างอดไม่ได้ “ขอโทษเจ้าค่ะ นายท่าน”

“กลับไปเดีย
๋ วนี้ !”

เมื่อได้ยน
ิ เช่นนั ้น นางจึงเงยหน้าขึ้นมาทันใด แล้วส่ายหน้าอย่างดื้อรัน
้ “ข้า
ไม่กลับเจ้าค่ะ! ข้าอยากช่วยนายท่านช่วยคุณชาย!”

“หากเข้าไปแล้ว เจ้าอาจตายได้นะ!”

นางมองนายท่านด้วยแววตายืนหยัดหนั กแน่ น “ชีวต


ิ เหลิง่ ซวงเป็นของนาย
ท่าน ต่อให้ตาย เหลิง่ ซวงก็ไม่อาจให้นายท่านไปเสี่ยงอันตรายตัวคนเดียว
เจ้าค่ะ!”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ เฟิ่ งจิว
่ ก็มองนางอย่างลึกซึ้งอยูน
่ านนั ก ถึงจะละสายตาออกไป
“ในเมื่อไม่กลัวตาย ก็ตามมา!”

“เจ้าค่ะ!” นางระรืน
่ อยูใ่ นใจ ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา
เฟิ่ งจิว
่ พานางกระโดดขึ้นไปหลังกำแพงอย่างเงียบเชียบ แอบในมุมมืด
เพียงเห็นก็มองออกว่าสถานที่รอบนอกจวนตระกูลสวีท
่ ี่ไม่มีองครักษ์ ลาด
ตระเวนล้วนมีค่ายกลกระบีว
่ างไว้ หากอยากจะเข้าไป จำต้องผ่านค่ายกลนั ้น

“ด้านในมีค่ายกลกระบี่ ตามติดข้ามา ห้ามเดินผิดแม้แต่ก้าวเดียว” สิน


้ สุด
คำพูด ก็โดดลงด้านล่าง พาเหลิง่ ซวงเดินเข้าไปในค่ายกล

และที่ด้านในจวนตระกูลสวี่ บริเวณลานบ้าน

ผูน
้ ำตระกูลสวีก
่ ำลังจิบชาอยู่ เอ่ยถามอย่างไม่วางใจเล็กน้ อย “ท่านผูอ
้ าวุโส
ค่ายกลกระบีน
่ ั ้นจะดักจับคนได้จริงๆ รึ? หากนางมาแล้วพวกเราจะไม่รูห
้ รือ
ไม่?”

“ไม่มีทางหรอก”

ชายชราส่ายหัว กล่าวอย่างมัน
่ อกมัน
่ ใจ “ค่ายกลกระบีข
่ องกระผม ในแคว้น
แสงสุรย
ิ น
ั นี้ ไม่มีผูใ้ ดแก้ได้มาแต่ไหนแต่ไร ขอเพียงนางกล้าเข้ามา พวกเราก็
ไม่ต้องลงมือ นางจำต้องถูกดักจับอยูใ่ นค่ายกลโดยไม่มีทางออกมาได้แน่ !”
ตอนที่ 96 ไฟไหม้จวนตระกูลสวี!่

ทว่า ทัง้ สองท่านในเวลานี้ กลับไม่รู ้ ว่าคนที่กล่าวถึงกันอยู่ ได้เดินออกจาก


ค่ายกลนั ้นอย่างปลอดภัยไร้อุปสรรค…

เมื่อออกจากค่ายกลกระบี่ พวกนางก็พบกับองครักษ์ ลาดตระเวนกะดึกกอง


หนึ่ งที่เดินมา ขณะที่เหลิง่ ซวงยังไม่ทันได้หลบ ก็ถูกเฟิ่ งจิว
่ ลากพามาอีกด้าน
หนึ่ ง เงาร่างแวบผ่านรวดเร็วดัง่ สายฟ้าแลบ ทำให้คนที่ลาดตระเวนกะดึกไม่
ได้สังเกตเลยสักนิ ด

ยืนรออยูน
่ ิ่ ง เหลิง่ ซวงตกใจน้ อยๆ ก่อนจะมองนายท่านข้างกายด้วยแววตาที่
มีความเหลือเชื่อ ท่วงท่าเช่นนั ้น เดาว่าต่อให้นางฝึกฝนวิชาอีกสิบปีก็ยงั
เทียบได้ไม่ติด

“ไป!”

เฟิ่ งจิว
่ บอกเสียงเบา แล้วพานางเดินไปอีกด้าน ตลอดเส้นทาง ถึงแม้จะพบ
เจอองครักษ์ ลาดตระเวนกะดึกของตระกูลสวีอ
่ ยูเ่ รือ
่ ยๆ แต่ก็ล้วนถูกทัง้ สอง
หลบเลี่ยง จึงไม่ทำให้พวกเขาไหวตัวทัน

ในที่สุดเหลิง่ ซวงก็รูถ
้ ึงความหมายคำพูดก่อนหน้าของนายท่าน

รอบนอกด้านในนี้ เป็นค่ายกลกระบี่ ภายในกลับเห็นองครักษ์ ลาดตระเวนกะ


ดึกอยูท
่ ุกหนแห่ง หากนางเข้ามาเสียเอง เดาว่าคงถูกพบตัวนานแล้ว
“รออยูต
่ รงนี้ นะ”

หลังจากเฟิ่ งจิว
่ ทิง้ คำพูดไว้ ก็พุง่ ตัวออกไปอย่างเงียบงัน ล็อคตัวปิดปาก
องครักษ์ นายหนึ่ งที่อยูท
่ ิง้ ท้ายหลังสุดลากไปยังมุมมืด รอกององครักษ์ นั้น
เดินไปไกล ค่อยเอ่ยถามกดเสียงเบา “กวนสีหลิน
่ อยูท
่ ี่ไหน?”

องครักษ์ ผูน
้ ั ้นเบิกดวงตาอย่างตื่นตระหนก ในแววตาร้องขอความเมตตา
ก่อนจะยื่นมือชีไ้ ปยังทิศทางหนึ่ ง ถีบขาคิดจะดิน
้ รนหนี ไป เห็นเช่นนี้ แววตา
เฟิ่ งจิว
่ เย็นเยียบ ใช้มือหนึ่ งจับหักคอเขา แล้วลากไปทิง้ ไว้ยงั มุมมืด

ทัง้ สองออกมาอีกครัง้ มองหาไปตามทิศทางนั ้น พอพบองครักษ์ ลาดตระเวน


กะดึกก็หลบเลี่ยง จนกระทัง่ เมื่อมาถึงด้านในบริเวณข้างภูเขาจำลอง เฟิ่ ง
จิว
่ ถึงจะหยุดฝีเท้าลง

เหลิง่ ซวงใช้สายตามองเป็นคำถาม ไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงหยุดลงอย่าง


กะทันหัน

และทุกที่ด้านหน้าที่สายตาเฟิ่ งจิว
่ หันแฉลบมองไป เห็นที่ไกลๆ ตรงด้านข้าง
ภูเขาจำลองมีองครักษ์ สี่นายเฝ้าอยู่ นอกจากนี้ มุมมืดบริเวณรอบๆ ยังมีคน
ซ่อนตัวอยูอ
่ ก
ี ไม่น้อย

แววตาเธอครุ น
่ คิด รู ด
้ ีวา่ ตัวเองไม่มีทางจัดการทัง้ คนในที่แจ้งและที่ลับได้
เพียงชัว่ อึดใจ เช่นนั ้นก็เหลือแค่ใช้ยาแล้ว
พอพลิกฝ่ามือ ก็หยิบขวดยาออกมาจากในห้วงมิติ แอบขึ้นไปเหนื อลมอย่าง
เงียบสงัด อาศัยสายลมยามวิกาลสลัดน้ำยาในมือออกไป จากนั ้นค่อยรออยู่
นิ่ งๆ จนกระทัง่ คนทัง้ ในที่ลับที่แจ้งต่างล้มกันลงไป ถึงจะส่งสัญญาณให้
เหลิง่ ซวงออกมา

“เจ้าเฝ้าไว้ ข้าจะลองเข้าไปดู” สิน


้ สุดน้ำเสียง ก็งด
ั เปิดประตูหน
ิ เดินเข้าไป

พอเข้ามาด้านใน กลิน
่ ที่มืดสลัวและชื้นแฉะก็ปะทะโดนใบหน้า กลิน
่ คาว
เลือดฉุ นกึกทำให้เธอขมวดคิว
้ แน่ นขึ้น โดยเฉพาะ เมื่อเห็นคนที่เนื้ อ
เหวอะหวะช้ำเลือดช้ำหนองถูกผูกตรึงไว้บนเสาไม้ ใจยิง่ ร้อนรน ไอกระหาย
เลือดเอ่อล้นไปทัว่ ร่าง

“ท่านพี!่ ”

เธอเรียกเสียงเบา แต่เขาหมดสติไป จึงไม่รูส


้ ึกตัวแล้ว

เห็นเช่นนี้ จึงยัดเม็ดยาใส่ในปากเขาอย่างรวดเร็ว ตัดเชือกปล่อยคนลงมา


และพาออกไป

“ข้าจะล่อคนไป เจ้าหาโอกาสพาเขาออกไปก่อนนะ”

เหลิง่ ซวงที่ประคองกวนสีหลิน
่ อยูพ
่ ยักหน้า กล่าวเตือนอย่างไม่วางใจ “นาย
ท่าน ระวังตัวหน่ อยนะเจ้าคะ”

“อืม รีบไปซะ”
เธอรับปาก พอเห็นพวกเขาเดินไปอีกด้าน ถึงจะเบนสายตามาจับจ้องที่เรือน
หลักในส่วนที่พำนั ก แววตามีจิตสังหารอันกระหายเลือดเยือกเย็น และน้ำ
เสียงทุ้มต่ำก็ดังออกมาจากปาก

“ข้าจะทำให้พวกเจ้ารู ้ ว่าคนแบบไหนไม่ควรยุแหย่!”

“ไฟไหม้! ไฟไหม้แล้ว! รีบดับไฟเร็ว!”

ท่านผูน
้ ำตระกูลสวีก
่ ับชายชราที่พูดคุยกันอยูใ่ นลานบ้าน เมื่อได้ยน
ิ เสียง
เรียกดับไฟดังลอยมาจากด้านนอก ก็พลันลุกยืน “เกิดอะไรขึ้น?”

องครักษ์ นายหนึ่ งท่าทางรีบร้อนเข้ามา “ท่านผู้นำตระกูล แย่แล้วขอรับ ด้าน


ในจวนเกิดเพลิงไหม้ข้น
ึ หลายแห่ง ไฟโหมรุ นแรงมาก ใกล้จะลามมาถึงด้าน
นี้ แล้วขอรับ!”

พอสองท่านได้ยน
ิ สีหน้าก็เปลี่ยนไปยกใหญ่ ก่อนจะพุง่ ไปด้านนอกอย่าง
รวดเร็ว…
ตอนที่ 97 คำสั่งสังหาร!

แต่ขณะที่พวกเขามาถึงด้านนอก เมื่อท่านผูน
้ ำตระกูลสวีเ่ ห็นเหตุการณ์
กลับแทบจะเป็นลมล้มไป

จวนตระกูลสวีอ
่ น
ั ใหญ่โตโอ่อา่ มีองครักษ์ อยูอ
่ ย่างต่ำร้อยกว่าคน ทว่าตอนนี้
คนพวกนี้ แต่ละคนต่างล้มอยูบ
่ นพื้น ไม่รูว้ า่ เป็นหรือตาย เหลือเพียงผูอ
้ าวุโส
สองท่านและหัวหน้ากองระดับปรมาจารย์นักรบในจวนตระกูลสวีอ
่ ก
ี สี่ท่าน

และบนกำแพงประตูนั้น เงาร่างสีแดงมองลงมาเบื้องล่างจากบนที่สูง ชุดสี


แดงทรงเสน่ หร์ าวเปลวไฟโหมพลิว
้ ไหวอยูท
่ ่ามกลางสายลมยามค่ำคืน
หน้ากากลายดอกลำโพงสีทองยิง่ ดูลึกลับและแปลกตาภายใต้เปลวเพลิง
ส่องสว่างไสว

ทว่า เมื่อเห็นหน้ากากสีทองลายดอกลำโพงบนใบหน้านาง รวมถึงชุดสีแดง


บนร่าง ท่านผูน
้ ำตระกูลสวีก
่ ลับมีสีหน้าซีดเผือดเล็กน้ อย “เจ้า เจ้าคือภูต
หมอ!”

ภูตหมอ!

บุคคลลึกลับที่ทุกคนต่างยำเกรง ไม่มีผู้ใดรู ว้ า่ เขาเป็นชายหรือหญิง กลับรู ว้ า่


เขามักจะสวมชุดสีแดงดูเปิดเผยร้ายกาจ อีกทัง้ ยังสวมหน้ากากสีทองที่มี
ดอกลำโพงเบ่งบานอยู!่
คนของตระกูลใหญ่ทัง้ หลายในเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ต้องการจะขอพบเขา ก็ถูก
ปฏิเสธ!

เจ้าเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ อยากพบเขา ก็ถูกปฏิเสธมาเช่นกัน!

กองกำลังตลาดมืดที่กระจายอยูต
่ ามแต่ละแว่นแคว้นต่างให้ความเคารพยิง่
นั ก จึงมองเขาเป็นเช่นแขกผูส
้ ูงศักดิ!์

เล่าลือกันว่าเขามีฝีมือการรักษาที่ฟื้นชีวต
ิ คนตายได้!

ลือกันว่ายาขวดหนึ่ งของเขาทำให้พละกำลังของนั กรบท่านหนึ่ งเพิม


่ ขึ้นมาได้
ชัว่ ขณะ!

ลือกันว่า…

ลือกันไปมากมาย แต่วา่ คนที่อยูเ่ พียงในคำเล่าขานสำหรับพวกเขา วันนี้


กลับมาเยือนถึงบ้านตระกูลสวี่ ซ้ำยังมาปรากฎตัวที่นี่ด้วยวิธก
ี ารเช่นนี้ อก

จะไม่ทำให้เขาหวัน
่ ใจไปพักหนึ่ งได้เช่นไร…

เขาเป็นผูท
้ ี่กองกำลังตลาดมืดต่างต้องคอยปกป้อง หากกองกำลังนั ้นรู เ้ ข้า
ตระกูลสวีก
่ ็ไม่มีที่ตัง้ หลักปักฐานในเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ แน่ แล้ว!

ทว่า ขณะที่ความสัน
่ เครือแวบผ่านในหัวใจ ความคิดอันบ้าคลัง่ ก็ท่วมท้นขึ้น
ตามมา
ฆ่านางซะ! ขอแค่นางตาย คนของกองกำลังตลาดมืดก็จะไม่รูว้ า่ เขาเคยทำ
อะไรนาง! ขอเพียงนางตาย ตระกูลสวีก
่ ็ไม่ต้องกังวลใจว่าจะถูกกองกำลัง
ตลาดมืดตามแก้แค้น!

“ฆ่านางซะ! ฆ่านางให้ขา้ เสีย!”

ทันทีที่เขาคืนสติ ก็ตะโกนร้องลัน
่ นิว
้ มือชีไ้ ปยังเงาร่างสีแดงที่ยน
ื อยูบ
่ นที่สูง
น้ำเสียงทัง้ ดุรา้ ยและเต็มไปด้วยความอาฆาตที่บา้ ระห่ำ

“จะให้นางมีชว
ี ต
ิ รอดออกจากที่นี่ไปไม่ได้แน่ !”

ชายชราชุดเทาข้างกายขมวดคิว
้ กวาดมองท่านผูน
้ ำตระกูลสวี่ จากนั ้นจึงละ
สายตาออก ขณะที่จับจ้องไปบนเงาร่างสีแดงนั ้น ในแววตาก็มีประกาย
ความตื่นเต้นและเฝ้ารอโลดแล่นอยู่

“ไม่ได้! กระผมต้องการนางแบบเป็นๆ!”

ผูอ
้ าวุโสสองท่านเร่งฝีเท้ามาข้างกายท่านผูน
้ ำตระกูล เสื้อคลุมบนตัวพวก
เขาถูกไฟเผาไปบ้าง เพราะหนี ออกมาจากกองเพลิง เส้นผมยุง่ เหยิง ใบหน้า
เปรอะเปื้ อน เวลานี้ ทัว่ ทัง้ ตัวดูแล้วน่าขายหน้าอยูเ่ ล็กน้ อย

“ท่านผูน
้ ำตระกูล ในเปลวเพลิงมียาหลงพราย! คนด้านในจวนที่ระดับต่ำ
กว่าปรมาจารย์นักรบล้วนหมดสติไปแล้วขอรับ!”

“ฆ่า นาง ซะ!”


ท่านผูน
้ ำตระกูลสวีก
่ ล่าวทีละคำๆ ด้วยน้ำเสียงหมนหมอง ตะโกนสัง่ ให้
ปรมาจารย์นักรบทัง้ สี่ท่านร่วมกันสังหารเงาร่างสีแดงนั ้น ขณะเดียวกันแวว
ตาก็กวาดมองที่ชายชราชุดเทาข้างกาย ก่อนจะตัง้ คำถามด้วยความโมโห
โกรธาและเสียสติเล็กน้ อย

“ท่านบอกว่านางไม่อาจก้าวออกจากค่ายกลกระบี่ได้ไม่ใช่หรือ?”

“ท่านบอกว่าพอนางเข้ามาจะต้องรับรู ไ้ ด้ไม่ใช่หรือ?”

“นางวางเพลิงทำลายจวนตระกูลสวีข
่ า้ ที่ลงรากปักฐานกันมาเป็นร้อยปี! วัน
นี้ หากไม่เด็ดหัวนางร่วงพื้นและใช้เลือดล้างจวนตระกูลสวี่ ข้าสาบานว่าจะไม่
หยุด! อัก
่ !”

เมื่อสิน
้ สุดคำพูด เขาก็กระอักเลือดออกมาทันใด ทัง้ ร่างถูกหมัดโจมตี
กระเด็นออกไปชนเข้ามุมกำแพงอย่างรุ นแรง กลิง้ ร่วงลงพื้นหล่นลงในกอง
เพลิง ถึงกับไม่ทันได้กู่รอ
้ ง ก็ได้ยน
ิ เสียงครืนดังลัน
่ ทัง้ ผืนกำแพงล่มทลายลง
กลบฝังท่านผูน
้ ำตระกูลสวีไ่ ว้ด้านใน

“ท่านผูน
้ ำตระกูล!”
ตอนที่ 98 รัตติกาลสีเลือด!

ผูอ
้ าวุโสสองท่านกู่รอ
้ งเสียงหลง หัวหน้าระดับปรมาจารย์นักรบทัง้ สี่ก็
เปลี่ยนสีหน้ายกใหญ่ สายตาหวาดกลัวมองไปยังชายชราชุดเทาผูน
้ ั ้นที่ลงมือ
อย่างกะทันหัน

ทว่าชายชรากลับหรีส
่ ายตาลงน้ อยๆ กลิน
่ อายกระหายเลือดดุรา้ ยเอ่อล้นอยู่
ทัว่ ร่าง น้ำเสียงปรามาสเยือกเย็นดังออกมาจากปากอย่างเนิ บๆ

“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? ถึงกล้ามาย้อนถามข้า?”

แววตาอำมหิตกราดมอง ทำให้ผูอ
้ าวุโสสองท่านข้างกายใจสัน
่ สะท้านขึ้นมา
ทันใด ก่อนจะเผลอถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่รูต
้ ัว

หมัดเดียว!

หมัดเดียวก็สังหารท่านผูน
้ ำตระกูลที่มีพละกำลังระดับปรมาจารย์ขน
ั ้ สูงสุด
ได้แล้วรึ? เพียงหมัดเดียวก็ทำให้ผูน
้ ำตระกูลพวกเขาต้องจบชีวต
ิ ลงในเงือ
้ ม
มืออย่างไม่มีแม้แต่โอกาสจะยืนขึ้นมาด้วยซ้ำ!

ในกองเพลิงโหมกระหน่ำ ใต้กองหินผุพงั นั ้น ท่านผู้นำแห่งบ้านตระกูลสวีท


่ ี่
ก่อตัง้ มาเป็นร้อยปี ก็หมดลมหายใจไปอย่างสิน
้ ท่าและคาดไม่ถึงเช่นนี้ …

เฟิ่ งจิว
่ ที่ยน
ื อยูบ
่ นที่สูง เรียวคิว
้ ภายใต้หน้ากากยกขึ้นน้ อยๆ นั ยน์ ตาฉายแวว
ประหลาดใจ
สองคนนี้ เป็นพวกเดียวกันไม่ใช่หรือ? นึ กไม่ถึงว่าจะลงมือฆ่าท่านผูน
้ ำตระ
กูลสวีไ่ ปเสียแล้ว?

สังหารในหมัดเดียว…

สายตาเธอจับจ้องไปบนร่างชายชราชุดเทา เห็นกลิน
่ อายพลังเร้นลับที่มอง
เห็นได้ด้วยตาเปล่าผสานกันอยูบ
่ นฝ่ามือ

มหาปรมาจารย์นักรบ!

พละกำลังของชายชราชุดเทาผูน
้ ี้ อยูใ่ นระดับมหาปรมาจารย์นักรบที่เหนื อชัน

กว่าระดับปรมาจารย์นักรบทัว่ ไปเสียอีก! ซ้ำยังกำราบปรมาจารย์นักรบขัน

สูงสุดได้ในหมัดเดียว พลังแท้จริงจึงสูงกว่าผูน
้ ำตระกูลสวีอ
่ ยูม
่ ากเป็น
ธรรมดา

แต่วา่ มหาปรมาจารย์นักรบ…

เธอในตอนนี้ จะจัดการคนระดับเช่นผูน
้ ำตระกูลสวีท
่ ่านนั ้นก็ไม่มีปัญหา แต่
การต่อกรกับมหาปรมาจารย์นักรบ หนำซ้ำเหมือนจะเป็นมหาปรมาจารย์
นั กรบที่มีพละกำลังมากกว่าพลังเร้นลับขัน
้ เริม
่ ต้น เห็นได้ชด
ั ว่าต่อให้เธอมี
สองคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายอยูด
่ ี

“ไปซะ จับนางมาให้ขา้ จำไว้ ว่าข้าต้องการแบบเป็นๆ”


ชายชราชุดเทายืนนิ่ งไม่ไหวติง สองมือประสานเก็บไว้ในแขนเสื้อ ยืนอยูด
่ ้าน
ล่างเงียบๆ เช่นนั ้น พลางมองเงาร่างสีแดงแพรวพราวร้ายกาจด้วยแววตาที่
มีความตื่นเต้นและเฝ้ารอ แววตานั ้น น่าแปลกเสียจนรู ส
้ ึกขนพองสยอง
เกล้า

“ขอรับ ขอรับ”

ไม่วา่ จะเป็นท่านผูอ
้ าวุโสทัง้ สอง หรือหัวหน้ากองระดับปรมาจารย์ แม้จะเห็น
ท่านผูน
้ ำตระกูลถูกเขาฆ่าตาย ก็ไม่กล้าทวงแค้น เพราะรู ด
้ ีอยูล
่ ึกๆ ว่าพลัง
แท้จริงของอีกฝ่ายเหนื อชัน
้ ไปไกลนั ก หากไม่เชื่อฟัง ที่ต้องตายเป็นรายต่อ
ไปก็คือพวกเขา!

เมื่อเห็นพวกเขาที่ล้อมโจมตีมาหาเธอ ดวงตาก็เป็นประกายน้ อยๆ ดึงมีดสัน



ออกมาพลิกจับไว้ในมือ เรียกพลังขึ้นกระโดดลงบนหลังคาบริเวณไม่ไกล

คนพวกนั ้นเร่งตามกันมา ไร้อาวุธในมือ คล้ายว่าเพราะเกรงกลัวชายชรา


ท่านนั ้น จึงไม่กล้าใช้อาวุธกับเธอ แต่กลับไม่รูเ้ ลย ว่านี่ เป็นโอกาสให้เธอปลิด
ชีวต
ิ พวกเขาได้งา่ ยดายยิง่ ขึ้น

“จะหนี ไปไหน!”

ผูอ
้ าวุโสท่านหนึ่ งตะคอกมา ยื่นมือคว้าไปที่หว
ั ไหล่เฟิ่ งจิว
่ กลิน
่ อายพลังเร้น
ลับที่พรัง่ พรู และแรงกดดันของปรมาจารย์นักรบต่างจู่โจมออกมาพร้อมๆ
กันในเวลานี้ เดิมคิดว่าหลังจากทำให้นางตกตะลึง จะลงมือจับกุมได้งา่ ยขึ้น
นึ กไม่ถึงว่ามือกลับถูกพลิกจับหักบิดไปด้านหลัง ท่วงท่ากายราวกับภูตผี อีก
ทัง้ ท่ามือแปลกตาพิกล ทำให้เขาตกอยูใ่ นเงือ
้ มมือนางอย่างไม่อาจหลบเลี่ยง

ในสถานการณ์ ที่ยงั ไม่ทันได้ถอยออก มีดสัน


้ เย็นเยียบก็จี้อยูบ
่ นลำคอเขา
อย่างง่ายดาย

เมื่อคนอื่นๆ เห็น หัวใจก็หยุดนิ่ งลงเล็กน้ อยด้วยความตกใจและเหลือเชื่อ


พวกเขาต่างรู ถ
้ ึงพลังแท้จริงของผู้อาวุโสสาม ทว่าตอนนี้ กลับถูกนางพลิก
จับไว้อย่างง่ายดายเสียแล้ว? ซ้ำยังตกอยูใ่ นเงือ
้ งมือนาง จะเป็นหรือตายอยู่
ที่นางตัดสิน?

“อย่า อย่าฆ่าข้าเลย…”

ผูอ
้ าวุโสสามเสียขวัญอยูบ
่ า้ ง ไม่กล้าเชื่อว่าเพียงในชัว่ พริบตา ภาพเช่นนี้ ที่
อยูใ่ นจินตนาการก็เกิดขึ้น แต่คนที่ถูกจับกุมไว้เป็นเบีย
้ ล่างกลับกลายเป็น
เขา

“สายไปแล้ว”

เฟิ่ งจิว
่ เอ่ยเสียงเย็น พอดึงลากมีดสัน
้ ในมือ ก็เห็นเลือดสดทะลักออกมาจาก
ปากแผลปาดลึกบริเวณลำคอ
ตอนที่ 99 คิดไม่ซ่ ือ!

“พีส
่ าม!”

ผูอ
้ าวุโสสองอุทานเสียงสัน
่ เห็นผูอ
้ าวุโสสามที่สนิ ทกันเช่นพีน
่ ้ องถูกปาดคอ
ในมีดเดียว เลือดสดที่พวยพุง่ ช่างทิม
่ แทงหัวใจ และแผดเผาดวงตา

สองมือกำหมัดขึ้นแน่ น ส่งเสียงข้อต่อดังกรอบแกรบ ความขุน


่ ข้องในหัวใจ
เดือดสุมอยูก
่ ลางอก ราวกับลาวาร้อนระอุคล้ายจะทะลักออกมา

ผูน
้ ำตระกูลสิน
้ แล้ว ผูอ
้ าวุโสทัง้ สี่เหลือเพียงเขาผูเ้ ดียว บ้านตระกูลสวีก
่ ็ลุก
ไหม้อยูใ่ นกองไฟ สุดท้ายคงกลายเป็นเพียงซากปรักหักพักอย่างไม่ต้อง
แปลกใจ ตระกูลสวี่ สูญสิน
้ แล้ว…

และทัง้ หมด ล้วนเกิดจากคนตรงหน้านี้ !

เขาต้องฆ่านางซะ! เพียงแค่ฆ่านาง ก็จะสามารถระบายไฟโทสะอันล้นเหลือ


นี้ ! แค่ฆ่านาง ก็จะเป็นอนุสรณ์ แก่คนในจวนตระกูลสวีท
่ ัง้ หนึ่ งร้อยสามสิบสี่
คนนี้ ได้!

ชิง้ !

ลำแสงเยือกเย็นแวบผ่าน กระบีย
่ าวประกายออกมาจากในแขนเสื้อ ปลาย
กระบีแ
่ หลมคมเฉี ยงชีล
้ งผิวพื้น แววตาหม่นหมองที่แฝงด้วยจิตสังหารจับ
จ้องถลึงมองเงาร่างสีแดงนั ้น กลิน
่ อายพลังเร้นลับทัว่ ร่างกระจายออกมา
บรรจบกับไอสังหาร นั ่นคือการปลุกระดมพลังทัง้ หมดของตัวเองออกมา
เพียงเพื่อยืนหยัดสู้จนตัวตาย!

ในขณะนั ้นที่เห็นผูอ
้ าวุโสสามถูกฆ่า หัวหน้ากองพลระดับปรมาจารย์นักรบ
ทัง้ สี่ต่างเกร็งไปทัง้ ตัว คิดหนี ตามสัญชาตญาณ ทว่า เมื่อเพิง่ จะถลาตัวออก
วิง่ เข็มเงินมากมายก็พุง่ โจมตีเข้าที่ต้นคอ ทัง้ สี่เพียงส่งเสียงร้องในลำคอ
ร่างกายแข็งทื่อ แล้วร่างคนก็รว่ งลงด้านล่างอย่างไร้เรีย
่ วแรง และกลิง้ หล่น
เข้ากองไฟ

“อ๊าก! อ๊า…”

เสียงกรีดร้องดังออกมาจากเปลวไฟ สี่คนนั ้นเกลือกกลิง้ อยูใ่ นเพลิงไหม้


ดิน
้ รนอยากจะลุกขึ้นหนี จาก แต่สุดท้าย กลับยังคงถูกกองเพลิงกลืนกิน
อย่างไม่ปราณี …

“ข้าขอสาบานด้วยนามของผูอ
้ าวุโสตระกูลสวี!่ ต่อให้ตาย ก็จะลากเจ้าตาม
ไปด้วย!”

น้ำเสียงดุรา้ ยเยือกเย็นของผูอ
้ าวุโสสองดังลอยมา พลังเร้นลับพรัง่ พรู ปลาย
กระบีม
่ ีพลังกระบีน
่ ่าสะพรึงกระจายออก พลังกระบี่ที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
ราวกับงูพษ
ิ โจมตีมาหานางด้วยท่วงท่ารวดเร็วดัง่ สายฟ้าฟาด ความเร็ว
ว่องไว กระบวนดาบโหดเหีย
้ ม มาพร้อมกับใจแน่วแน่ บา้ คลัง่ ที่หมายมัน
่ ให้
นางตาย!
เห็นเช่นนี้ เฟิ่ งจิว
่ ไม่อาจเลินเล่อ ปล่อยพลังเร้นลับลงมีดสัน
้ ในมือเพื่อหัก
ล้าง ขณะที่มีดกับกระบีต
่ ้องกระทบกัน เสียงแกร๊งก็ดังไม่หยุดหย่อน กระแส
พลังอันรุ นแรงกระจายออกมาระหว่างทัง้ สองคนดังอยูฮ
่ ม
ึ ๆ

ส่วนด้านล่าง เมื่อเห็นว่ากระบวนท่าที่ผูอ
้ าวุโสสองใช้โจมตีคนผูน
้ ั ้นทัง้ บ้า
คลัง่ และหมายเอาชีวต
ิ แววตาชายชราชุดเทาก็มืดลงอย่างอดไม่ได้ พลาง
จ้องมองสองคนด้านบนด้วยใบหน้าไม่ยน
ิ ดีนัก

สำหรับเขา สาวน้ อยผูน


้ ั ้นยังมีประโยชน์ มากนั ก จะให้ถูกฆ่าตายไม่ได้

แต่วา่ หลังจากเห็นสาวน้ อยสามารถผ่านกระบวนท่ามากมายภายใต้เงือ


้ ง
มือผูอ
้ าวุโสสองได้โดยไม่มีบาดแผลสักนิ ด แววตาที่มองก็คาดไม่ถึงเล็กน้ อย
อย่างอดไม่ได้ อันที่จริง ในสายตาเขา ในเมื่อนางมีส่วนเกี่ยวข้องกับทัง้ ค่าย
กลกระบีแ
่ ละวิชาการยา ในด้านวรยุทธ์การต่อสู้จำต้องไม่อาจใส่ใจ กลับไม่
คิดเลย ว่าจะทำให้เขาแปลกใจครัง้ แล้วครัง้ เล่า

ไม่เลว ช่างน่าประหลาดนั ก

เขาหลงนึ กว่านางไม่มีทางตีฝ่าค่ายกลกระบี่ที่วางไว้ได้ ขอแค่เข้ามาในค่าย


กล จำจะต้องติดกับดัก แต่นางกลับเดินลอยชายออกมาได้ ซ้ำยังไม่ทำให้เขา
ที่วางค่ายกลได้ไหวตัว แค่คิดก็รูแ
้ ล้ว ว่าวรยุทธ์ค่ายกลกระบี่ยงั ลึกซึ้งกว่าที่
จินตนาการไว้

หนำซ้ำ ก็ยงิ่ แน่ ใจว่าบนตัวนางต้องมีพวกตำราค่ายกลกระบี่โบราณที่เขาไม่


เคยร่ำเคยเรียนอยูแ
่ น่ ๆ!
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ดวงตาเขาก็เป็นประกายขึ้นมาทันใด ตำราค่ายกลกระบี่
โบราณ!

นึ กไม่ถึงว่าจะพบของดีๆ เช่นนั ้นที่แคว้นเล็กกระจ้อยร่อยระดับเก้านี้ ในเมื่อ


เจอแล้ว เขาจะไม่ปล่อยไปอย่างแน่ นอน!

รวมถึงสาวน้ อยผูน
้ ี้ เขาก็ต้องการด้วย!

แววตาบอกเป็นนั ยถึงความตื่นเต้นจับจ้องอยูบ
่ นเรือนร่างที่น่าหลงใหลยิง่
เดาว่าภายใต้หน้ากากนั ้นคงเป็นใบหน้าที่งามเพริศพริง้ ในใจแอบวางแผน
ไว้ ว่าหลังจากได้ตำราค่ายกลกระบี่โบราณมา สาวน้ อยที่ทัง้ ซุกซนและ
แพรวพราวผูน
้ ี้ ต้องตกเป็นเครือ
่ งมือฝึกฝนวิชาของเขาแน่ !
ตอนที่ 100 ปั่นป่วนทั่วสารทิศ!

“อ๊าก!”

เสียงร้องเจ็บปวดคร่ำครวญดังลอยมา เห็นเพียงกระบี่ยาวในมือผูอ
้ าวุโส
สองบนหลังคาถูกเตะกระเด็นตัดผ่านกลางอากาศร่วงหล่นลงสู่กองเพลิง
เบื้องล่าง

เพราะถูกเตะไปทีหนึ่ ง ง่ามระหว่างนิว
้ โป้งกับนิว
้ ชีจ
้ ึงเจ็บปวดด้านชา เหมือน
ว่ากระดูกข้อมือก็ถูกถีบหัก เจ็บเสียจนไม่อาจยกขึ้น ทำได้เพียงห้อยลู่ลง
อย่างหมดเรีย
่ วแรง สัน
่ เทาเล็กน้ อย ก่อนจะมองเงาร่างสีแดงตรงหน้าด้วย
ใบหน้าขาวซีด

เงาร่างนั ้นยิง่ ดูแวววับจับตาอยูภ


่ ายใต้เปลวไฟด้านล่างที่ชว
่ ยเสริมให้โดด
เด่น เส้นผมสีหมึกดำถูกสายลมกลางคืนพัดสยายขึ้น ราวกับมีมือคู่หนึ่ ง
กำลังยกเส้นผมขึ้นพลิว
้ ไหวเบาๆ อยูก
่ ลางค่ำคืน หน้ากากสีทองมีดอก
ลำโพงพราวเสน่ หผ
์ ลิบานอยู่ ทำให้นางดูชา่ งลึกลับแปลกตา

บนร่างนางมีกลิน
่ อายสังหารกระหายเลือดกระจายอยูเ่ ข้มข้นนั ก ถึงขัน
้ ทำให้
เขารู ส
้ ึกอกสัน
่ ขวัญแขวน

เช่นเดียวกัน หากอีกฝ่ายเป็นคนอื่นทัว่ ไป พวกเขาเหล่าผูอ


้ าวุโสคงไม่… แพ้
พ่ายอยูใ่ นเงือ
้ มมือนาง แม้แต่ท่านผูน
้ ำตระกูลต้องชดใช้ด้วยทัง้ บ้านตระกูล
สวีก
่ ็เพราะนาง…
เมื่อนึ กถึงตรงนี้ ก็กัดฟันกรอด เขาดึงพลังเร้นลับในร่างปะทุข้น
ึ มาถึงจุด
เลือดลมใต้สะดือ เพียงชัว่ พริบตา ทัว่ ทัง้ ร่างก็คล้ายลูกหนั งอัดลมที่โป่งพอง
ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แม้แต่ชุดคลุมบนร่างก็ปริแตกเพราะเหตุนี้ จึงเผยให้
เห็นร่างกายที่ผองแห้งมาแต่ดัง้ เดิม

ทว่าเรือนร่างที่ซูบผอมตอนนี้ กลับพองขยายด้วยความรวดเร็ว การโป่งพอง


ของกระแสลม ทำให้เส้นเอ็นทัง้ หมดใต้ผว
ิ หนั งปูดขึ้นอย่างเห็นได้ชด
ั เจน
กลับดูเหมือนจะระเบิดเมื่อไหร่ก็ได้

“ข้าบอกแล้วไง ต่อให้ตาย ก็จะลากเจ้าตามไปด้วย!”

ผูอ
้ าวุโสสองแผดเสียงตะโกนด้วยความบ้าคลัง่ เส้นผมสีเทาขาวลอยขึ้น
ยุง่ เหยิงท่ามกลางกระแสลมที่หมุนเวียนอยูท
่ ัว่ ร่าง สองแขนอ้ากางออก
ก่อนจะพุง่ ไปทางเฟิ่ งจิว
่ ตรงหน้าอย่างบ้าระห่ำ ความเร็วนั ้นไวกว่าตอนที่ประ
มือกันก่อนหน้านี้ สองเท่า

ขณะที่ชายชราชุดเทาด้านล่างเห็นว่าผู้อาวุโสสองคิดจะระเบิดตัวเองตายไป
พร้อมกับหญิงสาวผูน
้ ั ้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปยกใหญ่ ตะโกนอย่างลนลานว่า
“เจ้าบ้าเอ๊ย! ข้าบอกแล้วไงว่าต้องการแบบมีชว
ี ต
ิ ! แบบเป็นๆ น่ ะ!”

พอก้าวเท้าไปบนพื้น เงาร่างสีเทาก็พลันยกขึ้น ความเร็วนั ้นไวกว่าผูอ


้ าวุโส
สองที่ปล่อยพลังเร้นลับทัง้ หมดเพื่อจะระเบิดตัวเองอยูห
่ ลายเท่านั ก

เฟิ่ งจิว
่ เริม
่ ตัง้ ท่าป้องกันตัง้ แต่ที่ผูอ
้ าวุโสสองเผยสีหน้าอันบ้าคลัง่ ด้วยเหตุนี้
เมื่อเห็นเขากะจะระเบิดพลังเร้นลับเพื่อตายไปพร้อมกับเธอ แววตาก็เผย
ความประหลาดใจ นึ กไม่ถึงว่าจะทำถึงขัน
้ นี้ เพียงเพื่อตระกูลสวี่

ทันใดนั ้น เธอถอยหลังอย่างว่องไว แต่ละก้าวที่โยกย้ายเพื่อจะหลบหลีกโดย


เร็วที่สุด อันที่จริง การระเบิดตัวของระดับปรมาจารย์นักรบขัน
้ สูงสุดก็ไม่ใช่
เรือ
่ งเล่นๆ เลย จึงไม่คิดประมาทเสียจนต้องชดใช้ด้วยชีวต
ิ ตัวเอง

แต่วา่ ในระหว่างที่ถอยหลัง เงาร่างสีเทากลับพุง่ มารวดเร็วปานภูตผี เธอถึง


กับมองเงาร่างเขาได้ไม่ชด
ั เจนนั ก ก่อนจะเห็นผูอ
้ าวุโสสองที่กระโจนมาถูก
เงาร่างชุดเทาถีบกระเด็นลอยไปบนท้องฟ้า

“อ๊าก! ข้าไม่ยอมแพ้หรอก…”

ปัง! ครืน!

เสียงขับข้องใจด้วยความไม่ยอมของผูอ
้ าวุโสสองดังกึกก้องอยูท
่ ่ามกลาง
ท้องฟ้ายามวิกาล ยังไม่ทันสิน
้ สุดน้ำเสียง ก็ได้ยน
ิ เสียงระเบิดดังปัง ร่างกาย
ระเบิดออกกลางอากาศ ส่งเสียงครืนดังลัน
่ แสงไฟที่พุง่ ทะยานไปบนฟาก
ฟ้า รวมถึงเสียงที่ดังกระหึ่ม ทำลายซึ่งความสงบกลางดึก แทบจะทำให้ผูค
้ น
ทัว่ ทัง้ เมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ล้วนแตกตื่นขึ้นมาในทันใด

ในยามที่ผูฝ
้ ึกฝนวิชาจากแต่ละที่ในเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ต่างพากันพุง่ มายังสถาน
ที่แห่งนี้ บนหลังคานั ้น ชายชราชุดเทาเผชิญหน้ากับเฟิ่ งจิว
่ เผยรอยยิม
้ ที่
จริงใจ แต่ดวงตาคู่นั้นกลับจ้องนางราวกับมองเหยื่อด้วยประกายตื่นเต้น
แปลกตาที่โลดแล่นอยู่
ตอนที่ 101 ด้วยเลือดของข้า!

“อย่ากลัวไปเลย ข้าจะดีกับเจ้า”

เมื่อเฟิ่ งจิว
่ ได้ยน
ิ คำพูดนี้ จากปากของชายชราชุดเทา เพียงรู ส
้ ึกหนาวเย็นขึ้น
ชัว่ ขณะ เสียจนขนลุกซู่ออกมา แม้แต่มุมปากยังกระตุกอย่างอดไม่ได้

โดยเฉพาะ ที่ตาเฒ่านี่ จ้องมองเธอด้วยสายตาปลื้มปริม


่ แปลกๆ ความรู ส
้ ึก
รังเกียจนั ้น แค่คิดก็รูส
้ ึกได้แล้ว

เธอมองค้อนเขาแวบหนึ่ ง สองมือลูบๆ แขนที่กำลังขนลุกชูชน


ั ก่อนจะเอ่ย
อย่างไม่เกรงใจ “ตาเฒ่า เวลาพูดคุยกัน เจ้าไม่หยิบกระจกสักบานมาส่องใบ
หน้าย่นๆ ราวผลส้มที่แห้งเหีย
่ วของตัวเองเสียบ้างเล่า ขาเหยียบลงโลงไป
ข้างหนึ่ งแล้ว นึ กไม่ถึงว่าจะยังไร้ยางอายเช่นนี้ ”

คำพูดเยาะเย้ยถากถางทำให้แววตาชายชราชุดเทาหมองลง แม้แต่รอยยิม
้ ที่
ปรากฏบนใบหน้าก็ถูกเก็บไป แผ่กลิน
่ อายดุรา้ ยกระจายทัว่ ร่างพลางถลึง
มองนาง

“ข้าจะเก็บเจ้าไว้เป็นเครือ
่ งมือช่วยฝึกฝนวิชา นั ่นถึงคู่ควรกับเจ้า!”

“เครือ
่ งมือฝึกฝนวิชารึ?”
เฟิ่ งจิว
่ ส่งเสียงร้องแปลกๆ แล้วพินิจมองจากล่างขึ้นบนอย่างหยาบคาย
กล่าวแดกดันว่า “ดูไม่ออกเลยว่าตาเฒ่าเช่นเจ้ายังจะเป็นคนบ้ากามอีกรึ?
แต่วา่ อายุมากปูนนี้ แล้ว ของพรรค์นั้นยังใช้ได้อยูร่ ?ึ ”

“บังอาจนั ก!”

เขาตวาดรุ นแรงอย่างอับอายจนกลายเป็นขุน
่ เคือง หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง
เพราะโมโหจัด สองตาเบิกกว้าง พลางมองนางด้วยความโกรธ เวลาต่อมา
เงาร่างสีเทาก็พุง่ ออกตัวรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ ฝ่ามือผอมกะหร่องทำท่า
เป็นกรงเล็บเข้าตระครุ บไปทางเฟิ่ งจิว

เฟิ่ งจิว
่ เปลี่ยนท่าทางทันควัน ไอพลังรุ นแรงพลันปะทุออก เธอไม่คิดหลบ
แต่กลับออกหน้ารับ ดวงตาที่หรีล
่ งมีกลิน
่ อายกระหายเลือดโหดเหีย
้ ม ท่า
เท้าแปลกตาพาให้รา่ งเคลื่อนขยับ ตวัดมีดสัน
้ ในมือ และแทงไปยังชายชรา
ชุดเทาพร้อมกับกระแสพลังเร้นลับ

“ฝีมืออ่อนด้อยนั ก!”

ชายชราชุดเทายิม
้ เยาะ เพียงสะบัดมือก็หลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย
ขณะที่มือหนึ่ งกันมีดสัน
้ ออกไป อีกมือหนึ่ งค่อยคว้าไปที่นาง

มือถูกชายชราชุดเทาจับไว้ เฟิ่ งจิว


่ อาศัยแรงโน้ มตัวลงสลัดออกไปในทันที
เมื่อหลุดจากนิว
้ มือทัง้ ห้าของชายชราที่จับไว้แน่ น ก็ยกขาขึ้นขวางสกัด เพียง
ได้ยน
ิ เสียงกำลังขาที่มาพร้อมกลิน
่ อายพลังเร้นลับ มีกระแสพลังรุ นแรงดัง
ฮึมๆ ในยามที่ตวัดขวางผ่านกลางอากาศ ชายชราไม่ได้สังเกต กระดูกขา
เล็กๆ จึงถูกเตะไปทีหนึ่ ง ข้อเข่างอลง ขณะที่ยอ
่ ลงไป กลับกระโดดไปด้าน
หลังอย่างรวดเร็ว และถอยห่างจากข้างกายเธอครู ห
่ นึ่ ง

เฟิ่ งจิว
่ โจมตีอก
ี ครัง้ อย่างไม่คิดหยุด รู อ
้ ยูล
่ ึกๆ ว่าการที่รา่ งผู้อาวุโสสอง
ระเบิดกลางอากาศ ทำให้กองกำลังแต่ละฝ่ายในเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ต่างสัน

คลอน คนพวกนั ้นจะรีบมาที่นี่แน่ ที่ต้องทำตอนนี้ คือจัดการตาเฒ่านี่ ก่อนที่
คนพวกนั ้นจะมาถึง!

“อ๊าก!”

ร่างกายชายชราเพิง่ จะยืนหยัดปรับสมดุล ก็เห็นมีดสัน


้ ประกายแสงเย็น
เยียบมุ่งตรงตวัดมายังลำคอ จึงโน้ มตัวไปด้านหลังและยกเท้าขึ้นเตะอย่าง
ตกใจ แต่นึกไม่ถึงว่าสาวน้ อยจะถอยหลังกะทันหัน มีดสัน
้ ใบแหลมที่เดิมที
ตวัดมาตรงลำคอ ก็หมุนตวัดแทงเข้าน่ องขาที่เตะขึ้นอย่างโหดเหีย
้ ม

แรงที่แทงลงไปอย่างไม่ปราณี รวมถึงกำลังที่เขายกเท้าเตะขึ้นแทบจะชน
เข้าหากัน จึงแทงทะลุผา่ นขาไปทัง้ อย่างนั ้น เพียงได้ยน
ิ เสียงใบมีดคมแทง
เข้าเนื้ อและกระดูกดังสวบลอยมา ความเจ็บแทบขาดใจ ทำให้พลังทัว่ ร่าง
เขาระเบิดออกมา

“อ๊าก!”

กลิน
่ อายระดับบรรพชนนั กรบอันแข็งแกร่งปะทุออกมาจากภายในร่างเขา
พลังเร้นลับเข้มข้นที่พรัง่ พรู โจมตีเฟิ่ งจิว
่ กระเด็นออกไปอย่างโหดร้าย
“อัก
่ !”

เฟิ่ งจิว
่ ที่ลอยไปไกลหลายเมตรเจ็บหน้าอกรุ นแรง เสียจนกระอักเลือดออก
มา ชีพจรเสียหาย ทำให้กลิน
่ อายทัว่ ร่างอ่อนแอลงทันใด

เห็นชายชราผูน
้ ั ้นดึงมีดสัน
้ โยนทิง้ ลงกองเพลิง เดินมาหาทีละก้าวๆ แววตา
เธอหรีล
่ งเล็กน้ อย ฝืนกลัน
้ ความเจ็บรุ นแรงตรงหัวใจ แล้วลุกขึ้นมายืนรับ
ลมอย่างไม่ต่ ืนตระหนก

ยกมือขึ้นแตะเลือดตรงมุมปากมาวาดเป็นเครือ
่ งหมายเก่าแก่ซับซ้อน น้ำ
เสียงเฉยชาพร่ำกระซิบอยูใ่ นเวลานี้ ราวกับดังลอยมาแต่บรรพกาล ทัง้
ไพเราะและลึกลับ…

“ด้วยเลือดของข้า จงทำลายพันธนาการของเจ้า!”

“ในนามแห่งข้า ขอสัง่ เจ้าเผยร่างจริง!”


ตอนที่ 102 ขอสั่งให้เจ้าปรากฏตัว!

เมื่อสิน
้ สุดเสียง ก็ตามมาด้วยประกายแสงหนึ่ งปรากฏขึ้นระหว่างสองมือ
จากตราสัญลักษณ์ ที่วาดไว้ แสงสีแดงดัง่ สีเลือดพุง่ ตรงขึ้นท้องฟ้าชัว่ ขณะ
ทันใดนั ้น เปลวไฟสีแดงฉานวาววับจับตาก็ทะยานขึ้นสว่างไสวไปทัว่ ท้องฟ้า
ยามค่ำคืน!

“หวีด
๊ !”

เสียงหงส์รอ
้ งดังขึ้นกลางค่ำคืน ราวกับดังลอยมาจากบรรพกาล พลันแรง
กดดันรุ นแรงในน้ำเสียงก่อตัวเป็นกระแสพลังที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
แกว่งออกไปด้านนอก แรงกดดันมหาศาลและการปลดปล่อยกระแสพลัง
ทำให้พ้น
ื ดินทัว่ ทัง้ เมืองอวิ ๋นเยวีย
่ สัน
่ ไหวเล็กน้ อยอยูภ
่ ายใต้การขยับเคลื่อน
เลื่อนลัน
่ ของน้ำเสียง คล้ายมังกรพลิกตัวสะเทือนแผ่นดิน เสียจนผูค
้ นตื่น
ตกใจไม่สิน
้ สุด

ขณะที่เหล่าฝูงชนที่กำลังรีบรุ ดมายังจุดเพลิงไหม้พลันได้ยน
ิ เสียงหงส์รอ
้ ง
ลัน
่ สะเทือนหู ฝีเท้าแต่ละคนก็หยุดลงด้วยความตกตะลึง มองเงาร่างสีแดง
ฉานที่พุง่ ขึ้นฟ้า ลุกไหม้อยูก
่ ลางเวหาพร้อมกับเปลวไฟโหมกระหน่ำ สว่าง
ไสวไปทัว่ ท้องนภายามค่ำคืนอย่างยากที่จะเชื่อ

ความตกตะลึกจากสิง่ ที่เห็นพุง่ ตรงเข้าสู่จิตวิญญาณ ก่อเกิดเป็นพายุโหม


คลื่นซัดอยูใ่ นหัวใจพวกเขา เนิ่ นนานไม่อาจสงบลง…

“นั ่น นั ่นหงส์นี่! หงส์ไฟสัตว์เทวะในตำนาน!”


“สัตว์เทวะในตำนานมาปรากฏตัวที่นี่ร?ึ เป็นใครกัน? ใครที่ครอบครองสัตว์
เทวะในตำนาน?”

ผูค
้ นอุทานอย่างเหลือเชื่อ ทัง้ ในห้วงทะเลความคิดและในสายตา ล้วนเป็น
เงาร่างหงส์ไฟแพรวพราวอยูก
่ ลางอากาศ

ช่วงก่อนหน้านี้ พวกเขาได้ยน
ิ ว่ามีสัตว์เทวะถือกำเนิ ดในป่าเก้าหมอบ กลับ
เห็นเพียงเงามันสยายกลางเวหา ไม่เห็นร่างแท้จริง ตอนนั ้นยังดึงดูดพวก
เซียนจากต่างแคว้นมาร่วมแย่งชิง นึ กไม่ถึงว่าสุดท้าย หงส์ไฟสัตว์เทวะใน
ตำนานจะมาอยูใ่ นแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ของพวกเขา!

เมื่อเห็นหงส์ไฟกางสองแขนสะบัดปีกอยูก
่ ลางอากาศและมีเปลวไฟลุกไหม้
ท่วมตัว พวกเขาแค่รูส
้ ึกดุเดือดเลือดพล่านในหัวใจ

นั ่นคือร่างแท้จริงของหงส์ไฟในตำนาน! ในแคว้นเล็กๆ ระดับเก้าของพวก


เขานี้ นึ กไม่ถึงว่าจะมีวน
ั ได้พบเห็นสัตว์เทวะในตำนาน จะไม่ต่ ืนตาตื่นใจได้
อย่างไรเล่า?

ท่ามกลางฝูงชน มู่หรงอีเ้ ซวียนที่กำลังเร่งรีบมายังจุดเพลิงไหม้ก็มองร่าง


เปลวไฟเหนื อท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างตกตะลึง สัตว์เทวะในตำนาน พญา
หงส์แห่งหมู่มวลวิหค ร่างแท้จริงย่อมงดงามแวววับจับตาอยูเ่ ช่นนั ้น ช่างน่า
เหลือเชื่อเสียจริง!

แม้ในใจกำลังตื่นเต้นพลุ่งพล่าน เขากลับไม่ได้หยุดนิ่ งนานเกินไปนั ก แต่รบ



ดึงสติและมุ่งไปทางจุดเพลิงไหม้นั้นอย่างรวดเร็ว
ส่วนภายในจวนตระกูลสวี่ บนหลังคานั ้น ภายใต้แรงกดดันอันฮึกเหิม
มหาศาลของสัตว์เทวะในตำนาน ชายชราชุดเทาแม้แต่ยน
ื ก็ยงั ยืนขึ้นมาไม่
ไหว สองขาสัน
่ เทาอ่อนเปลี้ยทรุ ดนั ่งลงไป ก่อนจะมองหงส์ไฟที่สยายปีกบิน
อยูก
่ ลางเวหาอย่างยากที่จะเชื่อ ดวงตาแดงก่ำ ทัง้ ไม่พอใจและไม่ยอมเชื่อ

“ไม่!”

“นี่ ไม่ใช่เรือ
่ งจริง!”

“เจ้าจะมีหงส์ไฟสัตว์เทวะในตำนานได้เช่นไร!”

“เป็นไปได้ยงั ไง!”

ภายใต้การปกคลุมของแรงกดดันอันแกร่งกล้า แม้แต่ปริปากพูด ก็ควรจะ


ทำไม่ได้ แต่เขายังแข็งขืนตีฝ่าแรงบีบคัน
้ สัน
่ สะเทือนจากแรงกดดันสัตว์
เทวะในตำนาน เพียงเอ่ยปาก ชีพจรก็เสียหาย เลือดสดเอ่อล้นจากในปาก
กลับยังคงไม่ยอมเชื่อในความจริงอันโหดร้ายนี้ อย่างบ้าคลัง่

เห็นอยูก
่ ับตาว่าเป็นเหยื่อเช่นหมูในอวย จู่ๆ ก็บน
ิ ไปเสียแล้ว ซ้ำยังสร้าง
ความตื่นตะลึงที่ทัง้ หนั กหนาและไม่อาจยอมรับ แล้วจะให้เขายอมรับได้
อย่างไรเล่า?

เฟิ่ งจิว
่ ที่ยน
ื รับสายลมก้มลงมองชายชราที่ทรุ ดนั ่งอย่างจนตรอกด้วยแววตา
เยือกเย็น น้ำเสียงเย็นเยียบค่อยๆ เปล่งออกมา “ได้ตายในเงือ
้ มมือหงส์ไฟ
เจ้าก็ไม่ต้องเจ็บช้ำน้ำใจแล้วล่ะ”
เมื่อสิน
้ สุดน้ำเสียงนาง หงส์ไฟบนฟากฟ้าก็โน้ มพุง่ ลงไปพร้อมกับเปลวเพลิง
โหมกระหน่ำดังฟิ้ ว ปีกไฟโชติชว
่ งที่กางออกห่อหุม
้ ตัวชายชราไว้ แล้วค่อยบิน
ทะยานขึ้นท้องฟ้าอีกครัง้

“ไม่!”

น้ำเสียงรุ นแรงที่มีความไม่ยอมแพ้ดังลอยมาจากเปลวไฟ เฟิ่ งจิว


่ เห็นเพียง
ประกายไฟเล็กๆ โปรยปรายอยูบ
่ นท้องฟ้ายามค่ำคืน และหงส์ไฟก็สยายปีก
บินวนรอบอยูเ่ หนื อศีรษะ…
ตอนที่ 103 คืนที่หลับไม่ลง!

เมื่อมู่หรงอีเ้ ซวียนกระโดดข้ามไปบนหลังคา มาถึงบริเวณหลังคาที่หา่ งไม่


ไกลจากบ้านตระกูลสวี่ ก็เห็นภาพที่น่าขนลุกนั ้น ทัว่ ทัง้ ร่างเสียขวัญเหม่อ
ลอยโดยไม่รูต
้ ัว พลางมองเหตุการณ์ น่าตกใจที่แสนงดงามนั ้นอย่างตะลึงใน
ความงาม…

เหนื อหลังคาบ้านตระกูลสวี่ เงาร่างสีแดงยืนรับสายลม ชุดสีแดงที่


แพรวพราวเปิดเผยดูชา่ งชัว่ ร้ายเอาแต่ใจอยูใ่ นเปลวไฟนั ้น เส้นผมสีหมึกดำ
ลอยพลิว
้ เปลวเพลิงลุกไหม้โหมแรง รวมถึงหงส์ไฟตัวมหึมาที่วนเวียนอยู่
กลางอากาศเหนื อหัวเขา ทัง้ หมดทัง้ มวลล้วนดูชา่ งลึกลับ และงดงามราวกับ
ไม่ใช่ของจริง…

อาจเพราะรู ส
้ ึกถึงสายตาของเขา คนผูน
้ ั ้นจึงหันหน้ากลับมา หน้ากากลาย
ดอกลำโพงสีทองสะท้อนสู่สายตาอย่างชัดเจนท่ามกลางเปลวไฟสว่างไสว
ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะมีแรงดลใจให้คิดอยากเปิดหน้ากากออกเพื่อลอบมอง
โฉมหน้าแท้จริง

แต่วา่ ไม่รอให้เขาได้สติ ก็เห็นหงส์ไฟบนท้องฟ้าส่งเสียงเบาๆ ระหว่างที่โน้ ม


ตัวโฉบลงกลายเป็นลำแสงเข้าไปในตัวของบุคคลลึกลับที่ยน
ื รับลมอยูผ
่ ูน
้ ั ้น
หายวับไปกับตา

แทบจะในเวลาเดียวกัน คนผูน
้ ั ้นดึงสายตากลับมาจับจ้องบนร่างเขา ก่อนจะ
เรียกพลังขึ้นกระโดดลงแนวดิง่ เงาร่างแวบผ่านไปราวกับภูตผี หายวับไป
กลางค่ำคืนอย่างรวดเร็ว…
เขาสาวเท้าก้าวออกโดยไม่รูต
้ ัว แล้วยื่นมือไปด้านหน้าอยากจะเรียกคนผู้นั้น
ไว้ แต่สุดท้ายก็ดึงมือกลับ และไม่ได้ตะโกนออกไป

คนคนนั ้นเป็นใครกัน?

เขาคิดไป ในใจก็เดาออกได้อยูล
่ างๆ

ชุดสีแดงลือเลื่องแพรวพราว กลิน
่ อายลึกลับชัว่ ร้าย ท่าทางเปิดเผยเอาแต่
ใจ รวมถึงหน้ากากลายดอกลำโพงสีทอง หากไม่ใช่ภูตหมอผูล
้ ึกลับ แล้วจะ
เป็นใครได้อก
ี เล่า?

เมื่อเหล่าผูน
้ ำแต่ละตระกูลที่รบ
ี ร้อนมากัน เห็นบ้านตระกูลสวีถ
่ ูกไฟโหม
กระหน่ำห้อมล้อม ต่างสูดหายใจเข้าอย่างอดไม่ได้ น่าเหลือเชื่ออยูเ่ ล็กน้ อย
และหนึ่ งตระกูลขัน
้ กลางก็จบสิน
้ ลงเช่นนี้ …

“ซี๊ด!”

“นี่ นี่ คือบ้านตระกูลสวีร่ ?ึ ”

“สวรรค์! ตระกูลสวีถ
่ ูกฆ่าล้างบางเสียแล้วรึ?”

“ตระกูลสวีไ่ ปยุแหย่อะไรเจ้าของสัตว์เทวะในตำนานเข้ารึ? ถึงได้รบ


ั จุดจบน่า
เวทนาด้วยการถูกฆ่าล้างตระกูล…”
ผูค
้ นต่างพูดคุยกัน เห็นทัว่ ทัง้ บ้านตระกูลสวีก
่ ำลังลุกไหม้ ทัง้ ด้านในด้าน
นอกถูกเปลวไฟล้อมรอบปะทุดังเพล้งพล้าง สะอึกสะอื้นกันไม่สิน
้ สุด

สำหรับตระกูลหนึ่ งก็สูญสิน
้ ลงเช่นนี้ สาบสูญไปจากเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ในใจ
พวกเขาล้วนมีความสับสนที่พูดไม่ออก

นี่ คือโลกที่ผูแ
้ ข็งแกร่งได้เป็นใหญ่ เป็นความจริงของโลกนี้ ที่ไม่อาจเปลี่ยน
แปลง!

แม้ตระกูลท่านมีเป็นร้อยบ้าน เมื่อยุยงบุคคลที่น่าหวาดกลัวเข้า ฆ่าท่านใช้


เพียงเสี้ยวนาที หากจะล้างบางก็ภายในคืนเดียว…

ผูน
้ ำตระกูลท่านหนึ่ งเห็นมู่หรงอีเ้ ซวียนที่มาถึงที่นี่ก่อนกำลังเหม่อมองไปยัง
ทิศทางหนึ่ ง แววตาก็เป็นประกายเล็กน้ อยอย่างอดไม่ได้ จึงออกหน้าเอ่ย
ถาม “ท่านอ๋องสาม ท่านมาถึงที่นี่คนแรก มองเห็นใครหรือไม่?”

ฟังคำพูดนี้ เหล่าผูน
้ ำตระกูลท่านอื่นที่กำลังเสวนากันก็มองไปทางมู่หรงอี้
เซวียน ใช่แล้ว! คนที่ฆ่าล้างบางตระกูลสวีเ่ ป็นใครกัน? และคนที่ครอบครอง
หงส์ไฟสัตว์เทวะในตำนานล่ะเป็นใคร?

มู่หรงอีเ้ ซวียนดึงสติกลับมา เห็นสายตาพวกเขาจับจ้องมาเป็นคำถาม จึง


ครุ น
่ คิดเล็กน้ อย กล่าวว่า “ข้าเห็นเพียงเงาร่างสีแดง ส่วนที่วา่ เป็นใคร ไม่
อาจมองเห็นได้ชด
ั ”

“เงาร่างสีแดงรึ?”
หัวใจผูค
้ นเสียงดังตึกตัก ในหัวก็นึกถึงคนๆ หนึ่ งขึ้นมาโดยไม่รูต
้ ัว

ภูตหมอ!

จะเป็นเขาหรือไม่? บุคคลที่ลึกลับที่สุดในเมืองอวิ ๋นเยวีย


่ เวลานี้ และเป็น
บุคคลที่ผูค
้ นต่างร้องขอเข้าพบแต่กลับไม่อาจได้พบ แม้จะไม่เคยเห็นหน้า
ค่าตาภูตหมอ กลับได้ยน
ิ ว่าเขาชอบสวมชุดสีแดงแพรวพราวเอาแต่ใจ
ใบหน้าสวมหน้ากากลายดอกลำโพงสีทอง กลิน
่ อายชัว่ ร้ายราวกับปีศาจ
น่าพิศวงยิง่ นั ก
ตอนที่ 104 ชีพจรเสียหาย!

อีกสองวันให้หลัง ในเวิง้ สวนท้อ

เฟิ่ งจิว
่ ที่สวมเพียงชุดลำลองสีขาวเดินออกมาจากประตูหอ
้ ง ก็เห็นเหลิง่ ซวง
เข้ามารับ

“นายท่านเจ้าคะ” เหลิง่ ซวงมองนางด้วยความกังวลใจน้ อยๆ ตัง้ แต่กลับมา


วันนั ้น สีหน้านายท่านก็ขาวซีดมาตลอด

“พีช
่ ายข้ายังไม่ฟื้นรึ?” เธอมองเหลิง่ ซวงพลางเอ่ยถาม น้ำเสียงยังคง
อ่อนแอนั ก

คืนนั ้นเธอบาดเจ็บถึงชีพจร หากตัวเองไม่ชำนาญด้านการรักษา เวลาสอง


วันนี้ คงลงจากเตียงไม่ได้แน่ แต่วา่ แม้อาการบาดเจ็บจะดีข้น
ึ กลับยังไม่ฟื้น
ตัวอย่างสมบูรณ์ ถึงขนาดเมื่อพูดเสียงดังหรือกระแอมไอก็ยงั เจ็บอยูร่ างๆ

“คุณชายฟื้ นแล้วเจ้าค่ะ”

“อืม ข้าจะลองไปดู” ระหว่างที่พูด ก็ขยับก้าวเดินออกไปด้านนอก

เรือนของกวนสีหลิน
่ อยูถ
่ ัดจากนางใกล้ๆ กันเดินไปมาสะดวก ด้วยเหตุนี้ พอ
ออกจากประตูเรือนไปไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว
เมื่อเข้าเรือน ยังไม่ทันผลักประตูเปิดเดินเข้าไป ก็ได้ยน
ิ เสียงไอดังมาจาก
ด้านใน เธอหยุดฝีเท้าลง มองไปที่เหลิง่ ซวง “เขาดื่มยาหรือยัง?”

“ตอนที่เพิง่ ตื่นมาก็ด่ ืมแล้วเจ้าค่ะ”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ เฟิ่ งจิว
่ ถึงจะเดินเข้าไป มาถึงด้านใน ก็เห็นเขาที่นอนแผ่อยูบ
่ น
เตียงกำลังคิดจะลุกขึ้นมานั ่ง จึงรีบเดินไปด้านหน้าทันที “บนตัวยังมีแผล!
รีบนอนลงไปซะ”

“เสี่ยวจิว
่ ?” กวนสีหลิน
่ เห็นว่าเป็นนาง จึงผุดยิม
้ ออกมา แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่
ซีดเซียว ก็ตกใจอย่างอดไม่ได้ “เสี่ยวจิว
่ ทำไมสีหน้าเจ้าย่ำแย่เพียงนี้ เล่า?”

เพิง่ ตื่นขึ้นมา ไม่ทันได้ถามพวกนางเลยว่าเขามาอยูท


่ ี่นี่ได้ยงั ไง?

“บาดเจ็บถึงชีพจร รักษาอีกสักพักก็หาย”

เธอนั ่งลงข้างเตียง ยื่นมือไปคลำชีพจรเขา พลางพูดว่า “แม้บนตัวท่านมี


บาดแผลมากมาย แต่หลายจุดเป็นแค่แผลภายนอก ยังดีที่ไม่บาดเจ็บถึง
กระดูก ไม่เช่นนั ้น อย่างน้ อยก็ต้องพักสักสิบวันถึงครึง่ เดือน”

เห็นสีหน้านางซีดเซียว ค่อยนึ กถึงที่เขาถูกช่วยออกมาตอนนี้ ถึงหัวทึบก็รูแ


้ น่
ว่านางไปช่วยเขา ดวงตาจึงร้อนผ่าวเล็กน้ อยอย่างอดไม่ได้ “เสี่ยวจิว
่ พีช
่ า่ ง
ไร้ประโยชน์ จริงๆ สร้างปัญหาให้เจ้าอยูเ่ รือ
่ ย”

“พูดอะไรของท่านน่ ะ?”
เธอดึงผ้าขึ้นห่มให้เขาสูงขีน
้ กล่าวว่า “ร่างกายท่าน รักษาอีกสองวันก็ลุก
จากเตียงไปเดินได้แล้ว แต่งานคัดเลือกตระกูลกวนจะจัดในอีกสามวันให้
หลัง เวลากระชัน
้ ชิดอยูบ
่ า้ ง ข้ากังวลว่าร่างกายท่านจะไม่ไหวเอา”

“ไม่เป็นไร ข้ายังไหว งานคัดเลือกตระกูลกวนข้าต้องกลับไปแน่ ”

“เช่นนั ้นสองวันนี้ ท่านก็รก


ั ษาตัวให้ดี ข้าจะจัดยาให้ท่าน บาดแผลท่านจะฟื้ น
ตัวโดยเร็วที่สุด” เธอลุกยืนขึ้น เอ่ยว่า “ข้ากลับห้องก่อน หากมีเรือ
่ งอะไร
ท่านบอกเหลิง่ ซวงไว้ก็พอ”

“ได้ ร่างกายเจ้าไม่สู้ดี ต้องพักผ่อนมากๆ ไม่ต้องมาดูขา้ บ่อยๆ หรอก”

เฟิ่ งจิว
่ ยิม
้ พลางพยักหน้า มองไปที่เหลิง่ ซวงกำชับเรือ
่ งเปลี่ยนยา สุดท้ายถึง
จะกลับห้อง และแวบตัวเข้าจวนภูตในห้วงมิติ

คืนนั ้น เธอไม่เพียงชีพจรเสียหาย แม้แต่หงส์ไฟก็หลับปุ๋ยไปเพราะเหตุนี้ด้วย

หงส์ไฟที่ปรากฏตัวด้วยรู ปร่างมนุษย์เด็กน้ อยเตาะแตะ จะเผยร่างจริงก็ขอ


แค่รอเป็นผูใ้ หญ่ ทว่าเมื่อคืน เธอกลับใช้ตราสัญลักษณ์ เก่าแก่จากเลือด
ทำลายซึ่งพันธนาการนั ้น ทำให้เขาเผยร่างจริงเพื่อสังหารศัตรู

กำลังต่อสู้ยามที่เขาเผยร่างจริงแทบจะไปถึงขัน
้ สูงสุดของสัตว์เทวะใน
ตำนานที่เติบโต ต่อกรกับระดับบรรพชนนั กรบแค่คนเดียว ย่อมจัดการได้
ง่ายดายเป็นธรรมดา แต่ราคาที่ต้องแลกก็มากโข นั ่นคือเขาหมดสติไป
หนำซ้ำ ยังไม่รูด
้ ้วยว่าจะตื่นขึ้นมาเมื่อใด
เธอมองหงส์ไฟน้ อยที่ถูกห่อหุม
้ อยูใ่ นลูกไฟเล็กๆ ภายในห้วงมิติ ยังคงมี
ท่าทางเช่นมนุษย์เด็กน้ อยอายุสามขวบ คล้ายว่าง่วงนอนจึงหลับสนิ ทอยู่
ด้านใน

เธอดึงสายตากลับมา ลงนั ่งขัดสมาธิใช้ลมปราณเพื่อฟื้ นฟูบาดแผลภายใน


ร่าง พร้อมทัง้ ปล่อยพลังวิญญาณและพลังเร้นลับออกมา ทัว่ ร่างถูกสอง
กลิน
่ อายนั ้นห้อมล้อมไว้ เพียงรู ส
้ ึกว่ากระแสไออุน
่ กำลังไหลเวียนอยูใ่ นเส้น
เอ็น…
ตอนที่ 105 พบกันบนถนน!

สามวันต่อมา

รถม้าธรรมดาคันหนึ่ งเคลื่อนไปบนทางถนนอย่างเชื่องช้า รถม้าไม่ได้สะดุด


ตานั ก ที่โดดเด่นชัดเจนคือสาวน้ อยชุดดำงดงามเย็นชาที่ควบรถม้าอยู่

ใบหน้าละเอียดอ่อนงามเพริศพริง้ เรือนร่างที่หอ
่ หุม
้ ด้วยชุดสีดำช่างร้อนแรง
น่าดึงดูดอย่างยิง่ หากบนหน้านั ้นแต่งเติมรอยยิม
้ เสียหน่ อย ต้องเป็นที่ตก
ตะลึงให้ชายหนุ่มเคลิบเคลิม
้ หลงใหล แต่กลายเป็นว่า ทัว่ ร่างสาวน้ อยชุดดำ
กลับมีกลิน
่ อายเยือกเย็นกระจายออกมา และกลิน
่ อายเย็นเยียบก็ทำให้ผูค
้ น
ไม่กล้าเข้าใกล้เช่นนั ้น

ด้านในรถม้า กวนสีหลิน
่ มองเสี่ยวจิว
่ ที่กำลังเอนพิงตัวอ่านหนั งสือ เอ่ยถาม
อย่างฉงนสงสัย “เสี่ยวจิว
่ ฝีมือรักษาเจ้าดีเด่นเพียงนั ้น ไยจึงไม่กำจัดรอย
แผลเป็นบนใบหน้าไปเสียก่อนเล่า?”

ผ่านไปเนิ่ นนานถึงเพียงนี้ แล้ว แผลเป็นทัง้ หลายบนใบหน้านางก็ไม่เห็นจาง


ไป ทุกครัง้ ยามเมื่อมองเห็นแผลเป็นเหล่านั ้นบนใบหน้า เขาแสนร้อนใจแทน
แต่กลับกลายเป็นตัวนางเองเหมือนเห็นเสียจนชินตา จึงไม่สนใจเลยสักนิ ด

ไหนว่าพวกผูห
้ ญิงล้วนไม่ยอมให้ใบหน้าตัวเองเสียโฉมไม่ใช่หรือ? ทำไมเขา
เห็นนางไม่รอ
้ นใจและไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยเล่า?
“ข้าไม่รบ
ี ยาทาแผลเป็นที่ขา้ ปรุ งยังขาดยาอีกตัวหนึ่ ง” เธอกล่าวอย่างไม่
ใส่ใจนั ก พลางพลิกผ่านอ่านหน้าต่อไป

นี่ คือตำราฝีเท้าทะยานเมฆ หาเจอจากของที่ท่านอาจารย์เก็บไว้ในห้วงมิติ


อ่านไปสักพัก ท่าฝีเท้าด้านในยอดเยีย
่ มกว่าฝีเท้าต้นฉบับของเธอยิง่ นั ก จึง
อ่านตัง้ แต่ออกจากเวิง้ สวนท้อมาจนถึงตอนนี้ ก็ยงั ตัดใจวางได้ไม่ลงเลย

จนกระทัง่ เมื่อได้กลิน
่ หอมหวน ถึงจะเงยหน้าขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

“ท่านพี่ ท่านได้กลิน
่ อะไรหรือไม่?” เธอมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย
น้ อยๆ ได้กลิน
่ หอมหวน จึงกลืนน้ำลายโดยไม่รูเ้ นื้ อรู ต
้ ัว

เห็นท่าทางเช่นแมวตะกละของนาง กวนสีหลิน
่ ก็หว
ั เราะลัน
่ อย่างอดไม่ได้
ก่อนจะยื่นมือไปเขกลงเบาๆ บนหัวนาง “จมูกเจ้านี่ ดีแต่เรือ
่ งกินจริงๆ ถึงมี
ผ้าม่านกัน
้ ไว้ เจ้าก็ยงั ได้กลิน
่ หอมของชงโหยวปิ่ งอีกรึ?”

“ใช่ๆ เป็นชงโหยวปิ่ ง” เธอกอดแขนเขาเขย่าทัง้ ใบหน้าอมยิม


้ “ท่านพี่ ท่าน
ช่วยไปซื้อให้ขา้ ทีสิ ข้าเอาสองชิน
้ นะ” แล้วยกมือชูสองนิว
้ ส่ายไปมา

“ได้ๆ ข้าจะไปซื้อให้” เขาส่ายหน้ายิม


้ ๆ อย่างช่วยไม่ได้

และตอนนี้ เหลิง่ ซวงที่ควบรถม้าได้ยน


ิ บทสนทนาด้านใน จึงชะลอความเร็ว
รถลง
กวนสีหลิน
่ แหวกผ้าม่านออกลงจากรถม้า เอ่ยกับเหลิง่ ซวงว่า “เจ้าเอารถม้า
ไปจอดไว้นะ ข้าไปซื้อขนม จะรีบกลับมา” ระหว่างที่พูด คนก็เดินไปยังแผง
ขายของที่อยูไ่ ม่ไกล

เหลิง่ ซวงนำรถม้าไปจอดรอไว้อก
ี ด้านหนึ่ ง ก่อนจะเดินไปดูแผงขายของ
ข้างๆ กัน

“ท่านอา เอาชงโหยวปิ่ งมาสี่ชน


ิ้ นะ” กวนสีหลิน
่ ล้วงเงินออกมาพลางตะโกน
บอก

“คุณชาย เอาซุปถัว่ เขียวอีกสองชามไหม? กินชงโหยวปิ่ งคู่กับซุปถัว่ เขียว


รสชาติจะดีที่สุดเลยขอรับ” ชายชราห่อขนมที่รอ
้ นกรุ น
่ พลางเอ่ยถาม

“ก็ดี งัน
้ เอามาสองชาม ไม่สิ สามชามนะ ท่านช่วยห่อให้ขา้ อย่างดีนะ จะได้
ถือไปสะดวกๆ”

“ได้ๆๆ” ชายชราหยีตายิม
้ แล้วเร่งรีบห่อซุปถัว่ เขียวอีกสามชามให้เขา

บริเวณไม่ไกล มู่หรงอีเ้ ซวียนที่ออกมาจากศาลาซุ้มหยกพร้อมกับเฟิ่ งชิงเกอ


เหลือบมองไปโดยไม่ตัง้ ใจ ขณะที่เห็นชายหนุ่มกำลังซื้อของอยูห
่ น้าแผง ก็
ตกใจอย่างอดไม่ได้ ในดวงตาฉายแววระรืน

เป็นเขา? พีช
่ ายของสาวน้ อยชุดแดงผูน
้ ั ้น?
เขาอยูท
่ ี่นี่ งัน
้ สาวน้ อยชุดแดงก็อยูท
่ ี่นี่ด้วยสินะ? นึ กถึงตรงนี้ ใจเขาเต้นแรง
ขึ้นมาโดยไม่รูต
้ ัว ความรู ส
้ ึกที่ทัง้ กังวลและเฝ้ารอแผ่ซ่านอยูใ่ นหัวใจ

“ท่านพีม
่ ู่หรง? เป็นอะไรรึเจ้าคะ?”

เฟิ่ งชิงเกอที่เกาะเขาอยู่ เอ่ยถามอย่างแคลงใจ เห็นเขายืนนิ่ งไม่ไหวติง จึง


หันมองตามสายตาไป เห็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่ งที่สวมเสื้อผ้าธรรมดาและ
กำลังซื้อชงโหยวปิ่ งอยู่

“ท่านพีม
่ ู่หรงรู จ
้ ักเขารึเจ้าคะ?”
ตอนที่ 106 นางอยูต
่ รงนั้ น?

“อืม เป็นเพื่อนคนหนึ่ ง ข้าจะเข้าไปทักทายเสียหน่ อย เจ้ารอข้าอยูต


่ รงนี้ สัก
ครู น
่ ะ” เขากำชับบอกอย่างลนลาน เห็นคนผูน
้ ั ้นจะจากไป จึงรีบเร่งฝีเท้า
เดินเข้าไปหา

เมื่อเฟิ่ งชิงเกอเห็น ก็แปลกใจเล็กน้ อย สายตาจับจ้องพินิจมองบนร่างชาย


หนุ่มผูน
้ ั ้น ดูไม่ออกเลยว่ามีตรงไหนที่โดดเด่น

ขณะที่กวนสีหลิน
่ ซื้อของเรียบร้อยและกำลังจะเตรียมตัวกลับ ก็ได้ยน
ิ เสียง
หนึ่ งดังลอยมาข้างหู

“คุณชายท่านนี้ ”

มู่หรงอีเ้ ซวียนเรียกไว้ มาถึงเบื้องหน้าเขา ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามผุดรอย


ยิม
้ อ่อนโยน “วันนั ้นจากกันที่หมู่บา้ นป่าหิน นึ กไม่ถึงว่าจะพบคุณชายอีกครัง้
ที่เมืองอวิ ๋นเยวีย
่ แห่งนี้ ”

กวนสีหลิน
่ มองเขาอย่างไม่ค่อยเข้าใจนิ ดหน่ อย “ท่านคือ?” จำคนคนนี้ ไม่ได้
โดยสิน
้ เชิง

เห็นเขานึ กไม่ออก มู่หรงอีเ้ ซวียนยิม


้ เจื่อนน้ อยๆ แต่ยงั กลับมาเป็นปกติได้ใน
ทันที กล่าวว่า “ข้าแซ่มู่หรง ชื่ออีเ้ ซวียน”

“มู่หรงอีเ้ ซวียน?”
กวนสีหลิน
่ ตะลึงเล็กน้ อย จากนั ้นค่อยมองเขาอย่างประหลาดและตื่นเต้นใจ
แม้แต่น้ำเสียงก็ยงั ยกสูงขึ้นน้ อยๆ บางส่วน

“ท่านคือมู่หรงอีเ้ ซวียน? ท่านอ๋องสามแห่งแคว้นแสงสุรย


ิ น
ั ? อัจฉริยะใน
การฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ผูน
้ ั ้นรึ?”

มู่หรงอีเ้ ซวียน ชื่อนี้ ในฐานะคนของตระกูลกวนแห่งเมืองอวิ ๋นเยวีย


่ เช่นเขา
ย่อมเคยได้ยน
ิ มาเป็นธรรมดา แต่กลับไม่เคยพบเจอกันมาก่อน รู เ้ พียงว่า
คนผูน
้ ี้ ไม่เพียงเล่าลือว่าเก่งกาจยิง่ นั ก หนำซ้ำยังเป็นอัจฉริยะในการฝึกฝน
วิชาในหมู่คนรุ น
่ หลัง ผูม
้ ีพรสวรรค์ดัง่ ฟ้าประทาน นึ กไม่ถึงว่าวันนี้ จะได้พบ
เจอ

เมื่อนึ กถึงตรงนี้ เขาก็ต่ ืนเต้นอยูใ่ นใจ “ท่านอ๋องสาม ข้าอยากพบท่านมา


นานแล้ว นึ กไม่ถึงว่าครัง้ นี้ จะเจอท่านบนถนนอย่างไม่คาดคิด ช่างมีวาสนา
จริงๆ!”

ไม่รอให้เขาปริปาก ก็เอ่ยอีกว่า “ท่านรู ห


้ รือไม่? ท่านเป็นเป้าหมายของข้ามา
โดยตลอด เมื่อก่อนข้าคิดหมัน
่ เพียรฝึกฝนวิชา เพื่อโค่นล้มท่านในภายหลัง”

ตอนที่ฟังประโยคก่อนหน้านี้ รอยยิม
้ มู่หรงอีเ้ ซวียนก็ยงิ่ ลึกขึ้น กำลังจะเอ่ย
ปากถามว่าน้ องสาวท่านมาด้วยหรือไม่? แต่หลังจากได้ยน
ิ ประโยคที่ตาม
ท้ายมา รอยยิม
้ บนใบหน้ากลับแข็งทื่อน้ อยๆ แอบคิดว่า ‘คนผูน
้ ี้ พูดจาไม่
เกรงใจกันเลยจริงๆ’
แต่วา่ เขากลับไม่ถือสาหาความอะไร กล่าวยิม
้ ๆ ว่า “ข้ายังไม่ถามชื่อเสียง
เรียงนามคุณชายเลย?”

“ข้าชื่อกวนสีหลิน
่ ” เขารายงานชื่อตัวเองอย่างสุขใจนั ก

“ที่แท้ก็เป็นคุณชายกวน ไม่ทราบว่าน้ องสาวท่านมาด้วยกันกับคุณชายหรือ


ไม่?” ตอนที่เดินเข้ามา ก็สังเกตเห็นว่าขนมที่เขาถือไว้ในมือมีหลายชุด หรือ
ว่าจะซื้อให้น้องสาวคนนั ้น? นางชอบกินของพวกนี้ ร?ึ

“หืม?”

ได้ยน
ิ เขาเอ่ยถึงน้ องสาวสุดที่รก
ั กวนสีหลิน
่ จึงเก็บรอยยิม
้ บนใบหน้าลง ถลึง
มองเขาด้วยความระแวดระวัง “ท่านถามถึงน้ องสาวข้าทำไมรึ? ท่านกับนาง
หาได้รูจ
้ ักกันไม่”

“เป็นเช่นนี้ ครัง้ ก่อนที่หมู่บา้ นป่าหิน ข้าล่วงเกินน้ องสาวท่านโดยไม่ตัง้ ใจ


อยากหาโอกาสขอโทษนางมาโดยตลอด แต่ก็ไม่เคยได้เจอกันเลย” เจอกัน
แล้ว ครัง้ นั ้นในเวิง้ สวนท้อเห็นนางรางๆ ราวภูตพรายดอกไม้ หลังจากเขา
กลับมา ก็จิตใจเหม่อลอยตลอด หัวใจยิง่ ดำดิง่ โดยไม่รูเ้ นื้ อรู ต
้ ัว

ถึงขัน
้ ว่า เวลาช่วงนี้ ก็เอาแต่นึกถึงความรู ส
้ ึกระหว่างเขากับชิงเกอ และคิด
จะหาโอกาสเหมาะสมเพื่อบอกกล่าวคำพูดนี้ กับนาง ทว่าก็หาโอกาสดีๆ ไม่
ได้มาโดยตลอด
มือที่ถือชงโหยวปิ่ งส่ายไปมา “ไม่ต้องหรอก น้ องหญิงข้าใจกว้างมาก นางคง
ไม่ใส่ใจที่ท่านล่วงเกินอะไรไป” ไม่สนใจ นั ่นเพราะท่านยังไม่ทันยุให้โกรธ
หากทำให้โกรธแล้ว นางถึงจะไม่สนใจเรือ
่ งใจกว้างใจแคบอะไรอีก

“อ๊ะ! นางยังรอชงโหยวปิ่ งของข้าอยู!่ อยูค


่ ุยไม่ได้แล้ว ข้าไปก่อนนะ”

พอนึ กถึงเรือ
่ งของน้ องสาวเขา เรือ
่ งนอกเหนื อจากนั ้นถือเป็นเรือ
่ งเล็กน้ อย
ตอนนี้ จะทักทายเขาก็ไม่มีอารมณ์ แล้ว ก่อนจะเร่งรีบวิง่ ไปที่รถม้า ด้วยกลัว
ว่านางจะรอนาน

“คุณชายกวน…”

สายตามู่หรงอีเ้ ซวียนมองตามทิศทางที่เขาวิง่ ไป จับจ้องไปบนรถม้าที่จอด


พักอยูอ
่ ก
ี ด้าน หัวใจก็สัน
่ ไหว

นางอยูด
่ ้านในรึ?
ตอนที่ 107 หลงหัวปักหัวปำ!

นึ กถึงตรงนี้ ฝีเท้าเขาก็เดินตามไปอย่างไม่รูต
้ ัว

เฟิ่ งชิงเกอด้านหลังเห็นท่าทางเขา ก็ขมวดคิว


้ น้ อยๆ สายตามองไปยังรถม้า
ธรรมดาๆ คันนั ้นแวบหนึ่ ง แล้วเคลื่อนก้าวเดินหน้าตามไปด้วย

ด้านนั ้น กวนสีหลิน
่ มาถึงข้างรถม้า ยื่นชงโหยวปิ่ งชิน
้ หนึ่ งให้เหลิง่ ซวง “ข้าให้
เจ้า มีซุปถัว่ เขียวด้วย เจ้าไม่กินตอนยังร้อนๆ เสียก่อนเล่า แล้วพวกเราค่อย
เดินทาง”

เหลิง่ ซวงมองเขาแวบหนึ่ ง ยื่นมือรับไว้ เอ่ยปากขอบคุณ

ขาข้างหนึ่ งก้าวขึ้นรถม้า มือหนึ่ งแหวกผ้าม่านออกจะเข้าไป พลางเอ่ยว่า


“เสี่ยวจิว
่ ชงโหยวปิ่ งยังอุน
่ ๆ ท่านลุงบอกว่าทานกับซุปถัว่ เขียวจะรสชาติดี
มาก ดังนั ้นข้าเลยเอากลับมาให้พวกเจ้าคนละชุด”

เฟิ่ งจิว
่ ด้านในรถม้ายื่นมือรับชงโหยวปิ่ งกับซุปถัว่ เขียวมา กล่าวทัง้ อมยิม

กริม
่ ว่า “ซุปถัว่ เขียวนี่ ! ข้าไม่ได้กินมาตัง้ นานแล้ว พอดีเลย ท่านพี่ ขอบคุณ
นะ”

“เหอะๆ ขอบคุณอะไรกัน เจ้าชอบก็ดีแล้ว ทีหลังพวกเราค่อยซื้อตัวสาวใช้


กลับไปสักสองสามคน ให้พวกนางปรนนิ บต
ั ิเจ้า คอยทำอาหารดีๆ ให้” อยู่
ด้วยกันมานานเพียงนี้ จึงรู ว้ า่ นางชอบอาหารอร่อยๆ เป็นที่สุด
“ได้สิ”

เธอยิม
้ รับ เห็นเขากลับมานั ่งในรถม้า ก็ถอดผ้าคลุมหน้าออก ขณะที่กำลัง
เตรียมจะกัดชงโหยวปิ่ งสักคำ พลันได้ยน
ิ เสียงหนึ่ งที่ไม่นับว่าไม่คุ้นหูดังมา
จากด้านนอกรถม้า

“คุณหนูกวน ข้าน้ อยมู่หรงอีเ้ ซวียน”

คุณหนูกวน? เรียกใครน่ ะ?

เฟิ่ งจิว
่ ด้านในรถม้างุนงงเล็กน้ อย หันมองไปทางพีช
่ ายคนข้างกายที่ตก
ตะลึงเช่นกัน ไต่ถามอย่างไร้เสียงว่า ‘เกิดอะไรขึ้น?’

กวนสีหลิน
่ กัดชงโหยวปิ่ งไปคำหนึ่ ง บอกว่า “เจอกันตอนที่เพิง่ ซื้อของน่ ะ ชื่อ
มู่หรงอีเ้ ซวียน บอกว่าครัง้ ก่อนเคยล่วงเกินเจ้าที่หมู่บา้ นป่าหินอะไรนี่ แหละ
จึงอยากพูดขอโทษเจ้า”

พูดถึงตรงนี้ เขาก็ร ำคาญนิ ดหน่ อย กล่าวว่า “เมื่อครู ข


่ า้ บอกเขาแล้วว่าไม่
ต้อง เขายังตามมาอีก ไม่รูจ
้ ริงๆ ว่าคิดอะไรอยู!่ ”

“ข้าลองลงไปดูเสียหน่ อยดีกว่า!” เขาวางชงโหยวปิ่ งในมือลง ขณะที่กำลัง


เตรียมจะแหวกผ้าม่านเพื่อกระโดดลงรถ ก็หน
ั กลับไปทันควัน บอกกับเฟิ่ ง
จิว
่ ว่า “เสี่ยวจิว
่ เจ้าผูกผ้าคลุมหน้าไว้นะ”
แผลเป็นบนใบหน้าเสี่ยวจิว
่ ยังไม่หาย พอออกมาด้านนอก ก็มักจะผูกผ้า
คลุมหน้าไว้เสมอ เขาไม่หวังให้คนอื่นมองนางด้วยสายตาที่มีอคติ หลังจาก
เห็นใบหน้าที่โดนกรีดรอยนั ้น

“อืม” เฟิ่ งจิว


่ ยิม
้ พลางผูกผ้าคลุมหน้าขึ้น สงสัยนิ ดหน่ อย ว่ามู่หรงอีเ้ ซวียนผู้
นี้ คิดจะทำอะไร?

เวลานี้ มู่หรงอีเ้ ซวียนที่รออยูน


่ อกรถม้าใจร้อนรนอยูเ่ ล็กน้ อย ฝ่ามือล้วนมี
เหงือ
่ ผุดไหลออกมาบ้าง ก่อนจะมองไปที่รถม้าอย่างตัง้ ตารอคอย ‘นางจะ
เปิดม่านไหมนะ? นางจะจำการพบกันทัง้ สองครัง้ สองคราได้หรือไม่?’

เมื่อเหลิง่ ซวงที่นั่งคุมรถม้าอยูด
่ ้านนอกเห็นท่าทางบนใบหน้าของมู่หรงอี้
เซวียนมีความเฝ้ารอ ก็ยูค
่ ิว
้ เล็กน้ อยอย่างอดไม่ได้ และมองเขาด้วยความ
สงสัยอยูบ
่ า้ ง

มู่หรงอีเ้ ซวียนผูน
้ ี้ คิดจะทำอะไร? ตามที่นางรู ม
้ า เขาหมายหมัน
้ กับคุณหนู
เฟิ่ งชิงเกอแห่งจวนตระกูลเฟิ่ งแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงมองรถม้าด้วยท่าทาง
ร้อนรนและเฝ้ารออยูอ
่ ก
ี เล่า?

ม่านรถม้าถูกเลื่อนเปิดออก กวนสีหลิน
่ เดินลงมา ปล่อยมือผ่อนผ้าม่านปิด
ลง แล้วมองมู่หรงอีเ้ ซวียนที่ยน
ื อยูห
่ น้ารถม้า “ข้าบอกท่านว่าไม่ต้องขอโทษ
อะไรไม่ใช่หรือ? ทำไมยังตามข้ามาอีกเล่า?”
แต่มู่หรงอีเ้ ซวียนตอนนี้ กลับมองไปที่รถม้าอย่างลุ่มหลง นึ กถึงที่เปิดม่าน
ออกเมื่อครู ่ ท่าทางของสาวน้ อยบนรถม้าที่สะท้อนสู่สายตา ทำให้หว
ั ใจเต้น
ตึกตักขึ้นมา

วันนี้ นางไม่ได้สวมชุดสีแดง แต่สวมชุดกระโปรงสีขาว บนใบหน้าผูกผ้าคลุม


สีเดียวกันไว้ และนั ่งพิงอยูต
่ รงนั ้นอย่างนิ่ งเงียบ ทัว่ กายมีกลิน
่ อายประณี ต
งดงาม ดูชา่ งเงียบสงบ สง่างาม

แต่นางที่สวมชุดสีแดง กลับแพรวพราวทรงเสน่ หร์ าวแสงอาทิตย์ ขณะที่


ยกมือยกเท้าเต็มไปด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่ อยมีเสน่ ห์ เหมือนทุกครัง้ ที่พบเจอ
ล้วนสร้างความตกตะลึงใจที่แตกต่างกัน และทุกๆ ครัง้ ก็ทำให้เขาหลงใหล
นางโดยไม่รูต
้ ัว…
ตอนที่ 108 ตบหน้ากลางถนน!

กวนสีหลิน
่ ที่รอเขาตอบบทสนทนา เห็นเขามองจับจ้องไปที่รถม้าด้านหลัง
อย่างลุ่มหลง สีหน้าก็มืดลงมาทันใด ก่อนจะก้าวเคลื่อนไปทางซ้าย และทัง้
ร่างใหญ่โตก็ขวางอยูเ่ บื้องหน้าเช่นนั ้น

“ข้าพูดอยู่ เจ้ากำลังมองอะไร?”

“ท่านพีม
่ ู่หรง ท่านรู จ
้ ักคนด้านในรถม้ารึเจ้าคะ?”

เฟิ่ งชิงเกอก้าวนวยนาดเดินเข้ามา เอ่ยถามเสียงเบา สายตาก็จับจ้องไปตาม


รถม้าคันนั ้น จากนั ้นค่อยเบนสายตาออกมามองที่กวนสีหลิน
่ ผุดรอยยิม
้ ขึ้น
จางๆ “คุณชายท่านนี้ ในเมื่อเป็นเพื่อนของพีม
่ ู่หรง ก็เป็นเพื่อนของเฟิ่ งชิง
เกอด้วย คนด้านในรถม้าเป็นอะไรกับคุณชาย? เชิญออกมาพบหน้ากันเสีย
หน่ อย ไม่ดีกว่ารึ?”

มองอยูด
่ ้านข้างมาสักพักแล้ว น่าสงสัยจริงๆ ท่าทางหลงใหลบนใบหน้ามู่
หรงอีเ้ ซวียนทำให้นางรู ส
้ ึกไม่ปลอดภัยเป็นครัง้ แรก หลังจากสวมรอยตัวตน
ของเฟิ่ งชิงเกอมา แววตาเช่นนั ้น ช่างคุ้นเคยยิง่ และทำให้ใจสัน
่ เหลือเกิน

แต่ก่อน นางก็เหมือนเมื่อครู ท
่ ี่คอยดูอยูข
่ า้ งๆ ไปอย่างเงียบเชียบ เห็นเขาใช้
สายตาอันอบอุน
่ ลึกซึ้งมองเฟิ่ งชิงเกอด้วยความลุ่มหลง ทว่า ตัง้ แต่เริม

สวมรอยตัวตนนี้ ก็รูส
้ ึกว่าความอ่อนโยนลึกซึ้งที่เขามีต่อเฟิ่ งชิงเกอในอดีต
กลับมักจะน้ อยลง
แม้วา่ ยามที่เขามองมา จะพูดด้วยถ้อยคำอ่อนโยน และเอาใจใส่มากยิง่ ขึ้น
แต่คนที่ไวต่อความรู ส
้ ึกเช่นนาง ก็ยงั รู ส
้ ึกถึงได้

มันทำให้นางไม่สงบใจ แต่กลับไม่กล้าขุดคุ้ยความจริง ด้วยกลัวว่าผลลัพธ์


สุดท้ายจะเป็นสิง่ ที่ไม่อาจรับได้ นางเพิกเฉยมาตลอด บอกตัวเองมาตลอด
ว่าแค่คิดมากไป

ทว่าเมื่อครู ่ นางยืนอยูด
่ ้านนั ้น เห็นเขาในขณะที่ชายหนุ่มเปิดผ้าม่านก้าวลง
มา แววตาเช่นนั ้นที่เขามองไปด้านในรถม้า แทบจะทำให้นางแตกสลาย

ไม่ต้องเห็น สัญชาตญาณของหญิงสาวก็รู ้ ว่าคนในรถม้าต้องเป็นผูห


้ ญิง
แน่ ๆ ทว่า เป็นผูห
้ ญิงแบบไหนกันแน่ นะ? ถึงทำให้เขาลืมตัวเช่นนี้ ได้?

กวนสีหลิน
่ มองนางราวกับมองเห็นคนโง่เง่า “ข้าสนิ ทกับพวกท่านรึ? หรือ
น้ องสาวข้าสนิ ทกับพวกท่าน? หากพวกท่านอยากพบ นางก็ต้องออกมาให้
พวกท่านเห็นรึ?”

เฟิ่ งชิงเกอฟังคำพูดนี้ สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก กลับไม่แสดงอาการ แต่หน



หน้ามองไปยังรถม้า แล้วเอ่ยเสียงเบา “คุณหนู การพบกันนั บเป็นวาสนา
ออกมาพบหน้ากันเสียหน่ อยไม่ดีกว่ารึ?”

เฟิ่ งจิว
่ ด้านในรถม้ากำลังเล่นเส้นผมที่ลู่ลงมาตรงหน้าอก สองตาหรีล
่ ง
น้ อยๆ มุมปากใต้ผา้ คลุมหน้าอมยิม
้ ซุกซนชัว่ ร้าย น้ำเสียงดังออกไปอย่างไม่
เร็วไม่ชา้ มีความเอื่อยเฉื่ อยอยูส
่ ามส่วน กับความไม่ใส่ใจอีกเจ็ดส่วน
“ข้ารู จ
้ ักท่านรึ? ทำไมต้องออกไปพบด้วย?”

ฟังน้ำเสียงที่ดังออกมาจากในรถม้า เฟิ่ งชิงเกอผงะเล็กน้ อย เหมือนจะคุ้นหู


อยูน
่ ิ ดหน่ อย

และไม่ใช่นางคนเดียวที่รูส
้ ึกเช่นนี้ แม้แต่มู่หรงอีเ้ ซวียนก็ตกตะลึงน้ อยๆ
น้ำเสียงนั ้น คล้ายคลึงกับเฟิ่ งชิงเกออยูบ
่ า้ ง แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่เหมือนกัน
เพราะในน้ำเสียงนั ้นมีความเฉื่ อยชาเลื่อนลอย ช่างน่าเย้ายวนนั ก

อาจเพราะน้ำเสียงที่คุ้นชินน้ อยๆ ทำให้ในใจนางไม่สงบ จึงข้ามผ่านกวนสี


หลิน
่ เบื้องหน้า มาถึงข้างรถม้าเพื่อจะไปแหวกเปิดผ้าม่านนั ้น ทว่า มือที่ย่น

ออกไปยังไม่ทันแตะผ้าม่าน ก็ถูกสองมือใหญ่คว้าไว้

“เจ้าทำอะไรน่ ะ!”

กวนสีหลิน
่ ถลึงดวงตา สีหน้าหมองมืด จ้องมองสาวน้ อยรู ปโฉมงามเลิศด้วย
ความไม่พอใจอย่างมาก คิดว่าสมองนางคงใช้กับความงามบนใบหน้าไป
หมดแล้ว จึงฟังภาษาคนไม่รูเ้ รือ
่ ง

“ปล่อยข้า!”

เฟิ่ งชิงเกอพูดด่า พลางขมวดคิว


้ มองมือนั ้นที่จับข้อมือนางไว้
หลังจากกวนสีหลิน
่ ลากนางถอยหลังออกไปสองก้าว ถึงจะปล่อยมือ ใบหน้า
มองเขม่น “หากไม่ใช่เพราะเจ้าคิดเปิดม่านรถ เจ้านึ กว่าข้าอยากจับมือเจ้า
นั กรึ?”

เพีย
๊ ะ!

“ชิงเกอ!” สีหน้ามู่หรงอีเ้ ซวียนเปลี่ยนไปเล็กน้ อย ก่อนจะรีบร้อนออกหน้า

กวนสีหลิน
่ ปิดหน้า ถลึงมองเฟิ่ งชิงเกอด้วยสีหน้ายากจะเชื่อ “เจ้า เจ้าตบข้า
รึ?”
ตอนที่ 109 เปิดผ้าคลุมหน้านาง!

เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่ อย? ผูห


้ ญิงคนนี้ จะตบเขาทำไมกัน? เขาโตมาตัง้
ขนาดนี้ แล้ว ยังไม่เคยถูกใครตบเลยนะ!

ในใจรู ส
้ ึกขุน
่ เคือง ทว่า กลับไม่ได้ลงมือ เขาเป็นชายชาตรี จะตบผูห
้ ญิงกลาง
ถนนไม่ได้หรอกมัง้ ?

เหลิง่ ซวงที่จูงเชือกม้าอยู่ แววตาเย็นเยียบน้ อยๆ ขณะที่กำลังเตรียมจะลง


จากรถ ก็เห็นผ้าม่านรถม้าถูกสองมือขาวเนี ยนละเอียดเลื่อนเปิดออก

“คุณหนู” นางเรียก ก่อนจะรีบร้อนเลื่อนเปิดผ้าม่านให้นางออกมา

เฟิ่ งจิว
่ โน้ มเอวเดินออกมาจากด้านในรถม้า โดยมีเหลิง่ ซวงประคองไว้ พลาง
ยกกระโปรงพลิว
้ เบาๆ เพื่อก้าวลงรถม้า มองพีช
่ ายคนข้างกายมีสีหน้าโกรธ
เกรีย
้ วสองมือกำหมัดขึ้นแน่ น และเห็นรอยประทับฝ่ามือที่ปรากฏบนใบหน้า
ดวงตาก็หรีล
่ งน้ อยๆ หันมองไปทางสองคนนั ้น แล้วเดินก้าวนวยนาดออก
หน้า

เมื่อมู่หรงอีเ้ ซวียนเห็นสาวน้ อยชุดขาวที่ลงมาจากด้านในรถม้า ดวงตาเป็น


ประกายทันใด ระหว่างมองนางเดินมาหาด้วยท่วงท่าสง่างาม เชื่องช้า และ
ใจเย็น ก็ประหม่าใจอย่างอดไม่ได้ ซ้ำยังมีความเฝ้ารออยูจ
่ างๆ

ส่วนเฟิ่ งชิงเกอเมื่อเห็นสาวน้ อยชุดขาวลงมาจากบนรถม้า ทัว่ ทัง้ ร่างก็นิ่งงง


ไป
รู ปร่างและท่าทางนั ้น ช่างคุ้นตาเหลือเกิน… คล้าย คล้ายกับ…

เพีย
๊ ะ!เพีย
๊ ะ!

เสียงตบสองครัง้ ดังก้องขึ้น ทำให้ทัง้ สองคนตกใจตื่นเอาดื้อๆ คนรอบข้างที่


มองมาทางนี้ ต่างตะลึงงัน

เพราะรู ปลักษณ์ ที่โดดเด่น ซ้ำยังอยูก


่ ันกลางถนน ผูค
้ นรอบๆ จึงสนอกสนใจ
พวกเขาด้านนี้ มาตัง้ แต่แรก แล้วอันที่จริง มู่หรงอีเ้ ซวียนกับเฟิ่ งชิงเกอก็เป็น
บุคคลที่มีช่อ
ื เสียงในเมืองอวิ ๋นเยวีย

แต่ที่ทำให้พวกเขานึ กไม่ถึง คือเฟิ่ งชิงเกอที่จู่ๆ ก็ยกมือขึ้นตบผูช


้ ายคนนั ้น
และที่ยงิ่ คาดไม่ถึงไปกว่า คือหลังจากสาวน้ อยชุดขาวที่คลุมผ้าคลุมหน้าลง
มาจากด้านในรถม้า ก้าวเนิ บๆ เดินมาทางพวกเขา จะยกมือขึ้นตบเฟิ่ งชิง
เกอถึงสองครัง้ ทำให้พวกเขาพูดอะไรไม่ออก

ภาพเช่นนี้ ช่างบ้าคลัง่ เกินไปแล้ว

เฟิ่ งชิงเกอปกปิดใบหน้าที่รอ
้ นฉ่ าอย่างยากจะเชื่อ พลางถลึงมองสาวน้ อยชุด
ขาวที่กำลังสะบัดมือด้วยสองตาที่แทบลุกเป็นไฟ “เจ้า เจ้ากล้าตบข้ารึ!”

เฟิ่ งจิว
่ สะบัดมือที่ตบไปเสียจนเจ็บอย่างไม่สนใจใยดี ก่อนจะพร่ำสัง่ สอนกับ
กวนสีหลิน
่ ที่มีสีหน้าอ้ำอึ้งโดยไม่หน
ั มองนางแม้แต่นิดเดียว “ท่านพี่ เห็น
หรือไม่ มีคนตบท่านทีหนึ่ ง ท่านก็ต้องคืนกลับไปสองที นี่ เป็นมารยาทที่ต้อง
ปฏิบต
ั ิกับผูอ
้ ่น
ื เช่นที่เขาทำกับเรา พวกเราจะเสียมารยาทไม่ได้นะ”
สองตากวนสีหลิน
่ เป็นประกาย มองนางอย่างยกย่องนั บถือ จึงพยักหน้า
หนั กๆ ไป “อื้ม! พีจ
่ ะจำไว้! หากมีครัง้ ต่อไป ถึงจะไม่สนว่านางเป็นชายหรือ
หญิง ตบก่อนค่อยว่ากัน!”

“อืม แบบนี้ แหละถูกต้องแล้ว” เธอพยักหน้ารับทัง้ นั ยน์ ตายิม


้ กริม
่ กล่าวอีก
ว่า “เวลาก็สายแล้ว พวกเราอย่าให้คนนอกมาทำเสียเวลาเลย รีบไปกัน
เถอะ!”

“ก็ดี”

ใบหน้ากวนสีหลิน
่ เอ่อล้นไปด้วยรอยยิม
้ เปรมปรีดิ์ คร้านจะสนใจสองคนนั ้น
ในสายตาเขา หนึ่ งฝ่ามือที่เขาได้รบ
ั น้ องสาวสุดที่รก
ั ก็ชว
่ ยสนองกลับไปเป็น
สองเท่าแล้ว จึงเป็นปกติของชายชาตรีอกสามศอกที่จะไม่ไปหาเรือ
่ งกับผู้
หญิงคนนั ้นอีก

คนนอก…

มู่หรงอีเ้ ซวียนมองแผ่นหลังนางที่หน
ั ตัวจากไปด้วยความตกใจ ในห้วงทะเล
แห่งความคิดมีคำพูดประโยคนั ้นดังกึกก้องอยู่

ใช่สิ! เขาไม่ใช่คนนอกรึไง? ซ้ำยังไม่ได้เป็นอะไรกับนาง เพียงอยากพบก็จะ


พบได้เช่นไรเล่า? แต่วา่ ทำไมหลังจากได้ยน
ิ คำพูดประโยคนั ้น หลังจากเห็น
นางหันตัวจากไปโดยไม่คิดจะสบตาเขาแม้แต่แวบเดียวมาตัง้ แต่ต้นจนจบ
จึงรู ส
้ ึกใจหายเช่นนี้ เล่า?
“เจ้าหยุดเดีย
๋ วนี้ นะ!”

เฟิ่ งชิงเกอสาวก้าวไปด้านหน้า ขวางอยูเ่ บื้องหน้าเฟิ่ งจิว


่ ด้วยใบหน้าขุน
่ เคือง
“ตบข้าแล้วคิดจะไปเลยรึ? ไม่งา่ ยขนาดนั ้นกระมัง!”

ระหว่างที่พูด นางก็ยกมือขึ้นดึงไปที่ผา้ คลุมหน้าบนใบหน้าเฟิ่ งจิว


่ อยากจะ
เห็นใบหน้านางชัดๆ
ตอนที่ 110 จากไปอย่างอับอาย!

เฟิ่ งจิว
่ ตัง้ รับนางไว้ก่อนแล้ว!

เห็นนางยื่นมือมาดึงผ้าคลุมหน้าเธอ จึงหลบไปด้านหลังกวนสีหลิน
่ เองตาม
ธรรมชาติ สองมือกำเสื้อด้านหลังไว้แน่ น ดวงตาคู่งามกะพริบปริบๆ เอ่ย
ด้วยน้ำเสียงน้ อยเนื้ อน้ อยใจว่า “ท่านพี่ นางกลัน
่ แกล้งข้า”

มู่หรงอีเ้ ซวียนข้างๆ ตื่นตะลึงเล็กน้ อย นึ กไม่ถึงว่าสาวน้ อยสง่างามสงบนิ่ ง


เมื่อครู ่ จู่ๆ จะหลบอยูห
่ ลังพีช
่ าย และเผยแววตาหมองเศร้าใจเสาะเช่นนี้ ซ้ำ
ยังใช้คำพูดนุ่มนวลที่มีความกล่าวฟ้องอย่างคับข้องใจ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะ
อยากปกป้องอยูเ่ บื้องหน้า เพื่อเป็นที่พ่งึ ให้นางบ้าง

พอเห็นน้ องสาวสุดที่รก
ั มาหลบอยูด
่ ้านหลังเขา แล้วใช้น้ำเสียงน้ อยใจกล่าว
ฟ้องถึงการกระทำไร้มารยาทของหญิงผูน
้ ั ้น กวนสีหลิน
่ จึงถลึงตามองแรง
ยืดผายแผ่นอก สองมือยกขึ้นเท้าสะเอว

“เจ้าคิดจะทำอะไร? ไยจึงหยาบคายเช่นนี้ ? ไหนว่าเป็นลูกสาวแม่ทัพเฟิ่ ง?


แม่ทัพเฟิ่ งชื่อเสียงเกรียงไกร จะสัง่ สอนลูกสาวที่ไร้มารยาทเช่นเจ้าได้เยีย
่ ง
ไร? ข้าว่าเจ้าเป็นของปลอมแน่ แล้ว!”

เสียงเขาดังมาก ในความหยาบกระด้างยังมีความอาจหาญ พอสิน


้ สุดน้ำ
เสียง ก็ไม่รอให้เฟิ่ งชิงเกอตอบโต้ เห็นคนรอบด้านมามุงดูกันไม่น้อย จึงเอ่ย
เสียงดังลัน
่ “ท่านทัง้ หลาย พวกท่านลองมาคิดดู ผูห
้ ญิงคนนี้ ไร้มารยาทใช่
หรือไม่? พวกเรากับนางหาได้รูจ
้ ักกัน นางเข้ามาก็ตบข้าทีหนึ่ ง ซ้ำยังจะดึง
ผ้าคลุมหน้าของน้ องสาวข้าอีก พวกท่านคิดว่านางระรานเกินไปหรือไม่
เล่า?”

เพราะเขาผายอกขึ้นขวาง เฟิ่ งชิงเกอจึงไม่ถอยไม่ได้ แต่พอฟังคำพูดนั ้น ใน


ใจก็ยงิ่ โกรธเคืองอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเห็นผูค
้ นรอบข้านมากมายต่างชี้
มือชีไ้ ม้มาที่นาง ส่วนมู่หรงอีเ้ ซวียนที่นางนึ กถึงอยูต
่ ลอด เวลานี้ กลับกำลัง
มองสาวน้ อยชุดขาวที่หลบอยูห
่ ลังพีช
่ ายด้วยท่าทีหลงใหล ขณะที่ไม่ออกมา
ยืนพูดให้นางสักประโยค ก็ยงิ่ รู ส
้ ึกอับอายขายหน้า

นางมองเขาแวบหนึ่ งด้วยความน้ อยใจและเจ็บใจ เบ้าตาแดงน้ อยๆ ก่อนจะ


ปิดหน้าเร่งฝีเท้าวิง่ ออกไป

“อ้าว สาวงามของท่านวิง่ ร้องไห้ไปเสียแล้ว”

เฟิ่ งจิว
่ พูดด้วยแววตายิม
้ กริม
่ เห็นมู่หรงอีเ้ ซวียนยังคงใช้สายตาจับจ้องมาที่
เธอ จึงคิดว่า พวกผูช
้ ายล้วนมีนิสัยน่ารังเกียจ กินของในชามอยู่ ยังคิดจะ
มองของในจานอีก

มู่หรงอีเ้ ซวียนมองนางอย่างสับสน กลับไม่พูดอะไรอีก แค่ประสานมือคารวะ


นาง จากนั ้นถึงจะสาวเท้าจากไป

“ท่านพี่ พวกเราไปกันเถอะ! อยูท


่ ี่นี่ก็เสียเวลาไปไม่น้อยแล้ว” เธอตบๆ บ่า
เขา เพื่อส่งสัญญาณให้ข้น
ึ รถม้า

“ก็ได้”
กวนสีหลิน
่ ฉี กยิม
้ กว้างขานรับ มองเฟิ่ งจิว
่ ที่กำลังขึ้นรถม้า พลันหยุดฝีเท้า
ลง เอ่ยอย่างสงสัยว่า “เสี่ยวจิว
่ ทำไมข้ารู ส
้ ึกว่าหญิงคนเมื่อครู เ่ หมือนจะ
คล้ายคลึงกับเจ้าอยูน
่ ิ ดหน่ อยนะ?”

เมื่อเฟิ่ งจิว
่ ที่แหวกเปิดผ้าม่านและกำลังจะเข้ารถม้าได้ยน
ิ คำพูดนี้ ในแวว
ตาก็ฉายแววแปลกใจ หันกลับไปยิม
้ “เหมือนกันตรงไหนรึ?” นึ กไม่ถึงว่าพี่
ชายคนข้างกายที่ดูเหมือนไม่สนใจอะไร จริงๆ ก็ละเอียดถี่ถ้วนดีนี่นา!

กวนสีหลิน
่ เกาหัวคิดๆ ดู “ก็รูปร่างท่าทางคล้ายกัน อารมณ์ แตกต่าง แต่
โครงหน้ากับดวงตาเหมือนว่าจะคล้ายกันอยูบ
่ างส่วนนะ”

เธอยิม
้ พลางเข้าไปนั ่งในรถม้า แล้วกวักมือเรียกเขา “รีบขึ้นมาสิ”

“โอ้” เขาถึงจะก้าวยาวเหยียบขึ้นรถม้า เลื่อนเปิดผ้าม่านเข้าไปนั ่งด้านใน

หลังจากเหลิง่ ซวงด้านนอกรอพวกเขานั ่งลง ถึงจะควบรถม้าไปยังบ้าน


ตระกูลกวนต่อ

เฟิ่ งจิว
่ ในรถม้าเก็บผ้าคลุมหน้าลง เอ่ยพลางมองเขาด้วยแววตาแย้มยิม

“ท่านพี่ สายตาท่านยังหลักแหลมกว่าบางคนนั ก”

“ห๊า?” เขาตะลึงอยูบ
่ า้ ง ไม่เข้าใจคำพูดที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยนี้ เอามากๆ

“อีกหน่ อยท่านก็รูเ้ อง”


เธอขยิบตาให้เขา ส่งยิม
้ โดยไม่พูดอะไร และไม่คิดจะบอกเรือ
่ งราวทัง้ หมดให้
เขารู ใ้ นตอนนี้
ตอนที่ 111 เยือนตระกูลกวนอีกครัง้ !

บ้านตระกูลกวนวันนี้ แขกเหรือ
่ คึกคัก นอกจวนมีรถม้าจอดพักอยูไ่ ม่น้อย นั ่น
คือแขกที่ได้รบ
ั เชิญให้มาชมการประลองคัดเลือกนายน้ อยของเหล่าคนรุ น

หลัง คนที่มาวันนี้ ล้วนเป็นมิตรสหาย รวมถึงผู้นำตระกูลและลูกชายของ
ตระกูลระดับเดียวกันที่มีพลังแท้จริงเกือบเทียบเท่ากัน

เมื่อเหลิง่ ซวงควบรถม้ามาถึงประตูใหญ่จวนตระกูลกวน ก็ได้ยน


ิ เสียงแซ่
ซ้องเริม
่ ต้นการประลองด้านในอยูร่ างๆ นางหยุดรถม้าลง แล้วบอกกับสอง
ท่านด้านในรถม้าว่า “คุณชาย คุณหนู มาถึงแล้วเจ้าค่ะ”

ม่านรถเลื่อนเปิด กวนสีหลิน
่ โดดลงรถม้าก่อน จากนั ้นค่อยยื่นมือ “เสี่ยวจิว

มาสิ ข้าประคองเจ้าเอง”

เมื่อองครักษ์ สองนายที่เฝ้าประตูใหญ่เห็นกวนสีหลิน
่ ดวงตาเบิกกว้างขึ้น
ทันใด “นั ่น นั ่นไม่ใช่คุณชายสีหลิน
่ รึ? เขา เขาตายแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมยังมี
ชีวต
ิ อยูเ่ ล่า?”

องครักษ์ สองนายสีหน้าเปลี่ยนไปยกใหญ่ ยังมีหนึ่ งในนั ้นที่ได้สติกลับมา จึง


รีบร้อนวิง่ ไปรายงานด้านใน

เฟิ่ งจิว
่ จับประคองมือเขาลงรถม้า เห็นรถม้าพวกนั ้นที่จอดอยูด
่ ้านนอกบ้าน
ตระกูลกวน เอ่ยอย่างอมยิม
้ ว่า “ท่านพี่ เหมือนวันนี้ จะคึกคักยิง่ นั ก”

“อืม ตระกูลระดับเดียวกันต่างเข้ามาชมการประลอง”
สายตาเขาจับจ้องบนแผ่นป้ายเหนื อประตูใหญ่ จวนตระกูลกวน ที่นี่คือบ้าน
ของเขา กลับทำให้เขารู ส
้ ึกแปลกหน้า และเหน็ บหนาวเช่นนั ้น

“คุณชาย คุณชายสีหลิน
่ ” องครักษ์ นายนั ้นที่เฝ้าประตูเร่งรีบออกหน้ามา
ทำความเคารพ มองเขาด้วยสายตาแปลกใจอยูไ่ ม่นิ่ง ซ้ำยังแอบๆ พินิจมอง
สาวน้ อยชุดขาวข้างกายที่ท่วงท่าโดดเด่นเป็นที่สุด

ทุกคนในจวนต่างบอกว่าเขาตายแล้ว แต่ทำไมยังมีชว
ี ต
ิ กลับมาได้เล่า?

“การประลองเริม
่ แล้วรึ?”

กวนสีหลิน
่ มองเขาพลางถามเสียงเข้ม เวลานี้ ทัว่ กายมีกลิน
่ อายสงบเงียบที่
หยาบกร้านเด็ดเดี่ยวกระจายอยู่ ลำพังแค่กลิน
่ อายบนร่างที่เปลี่ยนไป ก็
เทียบไม่ได้กับตัวเขาเมื่อหลายเดือนก่อน

“ระ เริม
่ เริม
่ แล้วขอรับ” ภายใต้ความรู ส
้ ึกกดดันที่แผ่ออกจากร่าง องครักษ์
นายนั ้นก็มีเหงือ
่ ไหลออกมากลางหน้าผากอย่างอดไม่ได้

ได้ยน
ิ เช่นนี้ กวนสีหลิน
่ จึงสาวเท้าก้าวเดินไปด้านใน เฟิ่ งจิว
่ ด้านหลังเคลื่อน
ก้าวเดินตามเข้าไปเบาๆ ส่วนเหลิง่ ซวงก็เฝ้าอยูข
่ า้ งกาย

หลังจากรอพวกเขาเข้าไป องครักษ์ นายนั ้นก็อดไม่ได้ที่จะปาดเหงือ


่ พึมพำ
เสียงเบาว่า “ทำไมเพิง่ หายไปไม่กี่เดือน กลิน
่ อายบนตัวคุณชายสีหลิน
่ ถึง
เปลี่ยนไปเสียจนน่าสะพรึงเช่นนั ้น?”
นึ กถึงเคอซินหย่าที่แต่งงานกับคุณชายหร่วน ในใจองครักษ์ ก็สงสัยอยูเ่ ล็ก
น้ อย คุณชายสีหลิน
่ กลับมาแล้ว หากรู ว้ า่ คู่หมัน
้ กลายเป็นภรรยาคุณชาย
หร่วน จะเป็นเช่นไรกัน?

น่าเสียดายที่ต้องเฝ้าอยูต
่ รงประตู ไม่อาจลองเข้าไปดูสถานการณ์ ได้ ไม่เช่น
นั ้น เขาล่ะ อยากลองตามเข้าไปดูเสียจริงเชียว

ส่วนที่ด้านใน ล่างเวทีการประลอง ที่นั่งอยูแ


่ ถวหน้าล้วนเป็นบุคคลสำคัญ
ของตระกูลกวน รวมถึงท่านผูน
้ ำตระกูลทัง้ หลาย แถวหลังคือเหล่าคนรุ น

หลัง และลูกสาวที่ผูน
้ ำตระกูลแต่ละท่านพามาด้วย

พวกเขาพูดคุยกันไม่หยุดหย่อน พลางมองการประลองบนเวที เห็นกวนสี


หร่วนลูกชายผูน
้ ำตระกูลกวนชนะติดต่อกันแปดเก้ารอบแล้ว เมื่อไม่มีใครใน
ตระกูลเป็นคู่ต่อสู้เขาได้ น้ำเสียงชมเชยของเหล่าท่านผูน
้ ำตระกูลก็มีมาไม่
ขาดสาย

“คุณชายใหญ่ตระกูลกวนช่างเป็นหนุ่มน้ อยที่เก่งกาจเสียจริง มีท่วงท่าลีลา


เช่นผูน
้ ำตระกูล! อายุยงั น้ อยก็มีพละกำลังเช่นนี้ แล้ว ภายภาคหน้าต้องไร้
เทียมทานเป็นแน่ ”

ผูน
้ ำตระกูลกวนฟังแล้ว ใบหน้าก็ภูมิใจยิง่ นั ก กลับยังคงยิม
้ พลางเอ่ยเจียม
ตัว “เพราะทุกท่านคอยสนั บสนุน เหล่าคุณชายของผูน
้ ำตระกูลทุกท่าน มี
คนไหนไม่ใช่มังกรหลบกลางมวลมนุษย์บา้ งเล่า? ข้ามักกำชับอยูบ
่ อ
่ ยๆ หาก
เขามีเวลา ต้องตัง้ ใจเล่าเรียนตามคุณชายทุกท่านให้มากๆ”
ผูเ้ ฒ่ากวนยิม
้ พลางลูบเคราพยักหน้า กำลังจะปริปากเอ่ย ก็เห็นข้ารับใช้รอ
้ น
ลนปรีเ่ ข้ามาด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไปน้ อยๆ
ตอนที่ 112 การเลี้ยงดูที่แตกต่าง!

เป็นธรรมดาที่เหล่าท่านผูน
้ ำตระกูลที่แถวแรกจะมองเห็นคนรับใช้ผูน
้ ั ้นเข้า
มาด้วยท่าทางรีบร้อน หลังจากเห็นคนรับใช้บอกกล่าวแนบชิดที่ขา้ งหูผูเ้ ฒ่า
กวนไปไม่กี่ประโยค ก็ลุกยืนขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้ อย

“ทุกท่าน กระผมขอตัวก่อนสักครู ”่ หลังจากพูดเช่นนั ้น ไม่รอให้เหล่าท่าน


ตอบรับ เขาก็เดินตามคนรับใช้ไปด้านนอก

“เหอะๆ พวกเราชมกันต่อเถิด ท่านพ่อคงนึ กขึ้นได้วา่ มีเรือ


่ งอะไรที่ยงั ไม่
จัดการ” ผูน
้ ำตระกูลกวนยิม
้ พลางเอ่ยกับเหล่าท่านผู้นำตระกูล ในใจกลับยัง
เคลือบแคลง ว่าเรือ
่ งอะไรที่ทำให้ท่านพ่อสีหน้าเปลี่ยนไปเช่นนั ้น?

เคอซินหย่าที่นั่งอยูก
่ ับสมาชิกครอบครัวหญิงคนอื่นๆ ตอนนี้ เป็นนายหญิง
ใหญ่ของตระกูลกวน จึงเป็นปกติที่จะอยูช
่ มการประลองบนเวทีที่นี่ ก่อนหน้า
นี้ เห็นคนที่ตนแต่งงานด้วยท่าทางสง่าน่าเกรงขามอยูบ
่ นเวที ล้วนไม่มีใคร
เป็นคู่ต่อสู้เขาได้ หัวใจก็ลอยล่องตามขึ้นมา

แอบคิดว่า ‘สายตาและการเลือกของนางนั บว่าไม่เลวเลย’

ทว่า เมื่อเห็นคนรับใช้ปรีม
่ าด้วยท่าทางลนลาน แม้แต่ท่านผูเ้ ฒ่ายังออกไป
ด้วยกัน ความรู ส
้ ึกที่เดิมทีเคยปลื้มปริม
่ กลับเป็นกังวลอย่างอดไม่ได้ สองมือ
ขยำกำชายเสื้อแน่ นโดยไม่รูต
้ ัว สีหน้าก็ซีดเผือดน้ อยๆ
เพราะ ขณะที่ท่านผูเ้ ฒ่าออกไปกับคนรับใช้เมื่อครู ่ ท่าทางที่ชำเลืองมองมา
แวบหนึ่ งอย่างไม่ตัง้ ใจ ทำให้นึกถึงกวนสีหลิน
่ ขึ้นมา

หรือ หรือว่าเขาจะมาจริงๆ? เขายังกล้ามาจริงๆ รึ?

กวนสีหลิน
่ กับเฟิ่ งจิว
่ ที่ผา่ นประตูใหญ่บา้ นตระกูลกวนยังไม่ทันเหยียบเข้า
สถานที่จัดการประลอง ก็ถูกน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและแก่งอมเรียกไว้

“สีหลิน
่ ? เป็นเจ้าจริงๆ รึ?”

ท่านผูเ้ ฒ่ากวนค้ำไม้เท้าในมือก้าวยาวเข้ามา เมื่อเห็นเรือนร่างสูงใหญ่ที่เดิน


มุ่งหน้ามา ก็ยงั ผงะลงเล็กน้ อยจริงๆ แววตามีความสับสนและฉงนอยูบ
่ า้ ง
กลับไม่เห็นเพียงความประหลาดใจอย่างเดียว

กวนสีหลิน
่ ที่เห็นท่าทีเขากับตา หัวใจเย็นเยียบเล็กน้ อย มุมปากกระตุกด้วย
ท่าทางเฉยเมยอยูบ
่ า้ ง ส่งเสียงเรียก “ท่านปู่”

“เจ้า…”

เดิมทีท่านผูเ้ ฒ่ากวนคิดจะถาม ว่าเขากลับมาได้อย่างไร? ทว่า พอคำพูดถึง


ปากกลับนึ กขึ้นได้ จึงเอ่ยว่า “กลับมาแล้วก็ดี เจ้ากลับเรือนไปพักก่อนเถอะ!
ค่ำๆ ค่อยมาที่หอ
้ งหนั งสือ ข้าจะคุยกับเจ้าเสียหน่ อย”

“คนตระกูลเคอคงบอกท่านปู่แล้ว ถึงเรือ
่ งที่ขา้ ยังมีชว
ี ต
ิ อยู!่ ”
เขามองท่านผูเ้ ฒ่ากวน ฝีเท้ากลับไม่ขยับเขยื้อน “ท่านปู่ไม่สงสัยรึ? ทำไม
ท่านพีบ
่ อกว่าข้าตายแล้ว หรือท่านไม่ควรบอกข้า ว่าเหตุไฉนคู่หมัน
้ ข้าถึง
กลายเป็นภรรยาท่านพีไ่ ด้?”

ในฐานะที่เป็นผูใ้ หญ่ ถูกผูน


้ ้ อยตัง้ คำถามเช่นนี้ สีหน้าท่านผูเ้ ฒ่ากวนจึง
หมองลงมาชัว่ ขณะ คิว
้ ขมวดกันน้ อยๆ ตัง้ หน้าตรงมองกวนสีหลิน
่ พลาง
ต่อว่าเสียงแข็งอย่างไม่พอใจ

“พูดอะไรของเจ้า? พอกลับมาก็ตัง้ คำถามกับปู่เจ้าแบบนี้ ร?ึ หรือไม่ได้ยน


ิ ที่
ข้าบอกให้เจ้ามาห้องหนั งสือตอนค่ำ? ไม่กลับมาหลายเดือน กลายเป็นยิง่ ไร้
มารยาทเสียจริง! แม้แต่ธรรมเนี ยมก็ลืมไปแล้วรึ?”

“ท่านปู่ไม่ดีใจที่ขา้ มีชว
ี ต
ิ กลับมาเลยสักนิ ดเดียว”

ผูเ้ ฒ่ากวนเงียบไปครู ห
่ นึ่ ง ใบหน้าชราภาพฉายแววกระวนกระวาย

กวนสีหลิน
่ มองเขาแวบหนึ่ งอย่างเฉยชา และไม่สนใจการตอกกลับของเขา
ก่อนจะสาวก้าวเดินไปข้างหน้า

“หยุดก่อน!”

ท่านผูเ้ ฒ่ากวนเคลื่อนก้าวมาขวางเบื้องหน้าเขา ขมวดคิว


้ พลางเอ่ยถาม
อย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าจะไปไหน?”

“วันนี้ เป็นงานประลองของตระกูลไม่ใช่ร?ึ หรือข้าไม่ต้องเข้าร่วม?”


“วันนี้ เป็นงานประลองคัดเลือกนายน้ อย เจ้าหาใช่คู่ต่อสู้ของสีหร่วนไม่ ไม่
เข้าร่วมก็ไม่เป็นไรหรอก!”

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้ม สายตาจับจ้องบนใบหน้ากวนสีหลิน
่ เอ่ยอีกว่า
“ในเมื่อกลับมาแล้ว ก็กลับเรือนไปพักผ่อนเสีย อย่าได้ไปทำข้าขายหน้าที่
ด้านหน้าเชียว!”

ฟังคำพูดนี้ กวนสีหลิน
่ ก็ยม
ิ้
ตอนที่ 113 อุทานอย่างเสียสติ!

เขามองไปที่ท่านปู่ รอยยิม
้ บนใบหน้าค่อยๆ ถูกเก็บขึ้นมา กลิน
่ อายน่าดึงดูด
บนร่างที่แสนเด็ดเดี่ยวกระจายออกมาพร้อมๆ กัน น้ำเสียงหยาบกระด้างมี
ท่วงทำนองหนั กแน่ นดังลอยออกมาจากปาก

“ไม่! วันนี้ ขา้ กลับมาเพื่อเข้ารวมการประลอง ท่านปู่วางใจเถอะ ข้าไม่สนใจ


ตำแหน่ งนายน้ อยตระกูลกวนหรอก เพียงอยากให้ท่านพีช
่ ว
่ ยชีแ
้ นะ”

สิน
้ สุดคำพูด เขาก้าวยาวเดินไปด้านหน้า แทบจะไม่มีโอกาสหยุดเขาได้อก

ส่วนผูเ้ ฒ่ากวนก็ตกตะลึงไปเล็กน้ อยในชัว่ ขณะนั ้น มองกลิน


่ อายน่าดึงดูดที่
ผันเปลี่ยนทัว่ ร่างอย่างประหลาดใจอยูบ
่ า้ ง ท่าทางที่แข็งกร้าวเฉยชาและ
แข็งแกร่งเช่นนั ้น ราวกับเห็นเงาของพ่อเขาสะท้อนอยูบ
่ นร่างนั ้น จึงนิ่ งงัน
เหม่อลอยไปครู ห
่ นึ่ ง…

เฟิ่ งจิว
่ ที่มองอยูข
่ า้ งๆ มาตลอด ยกมุมปากใต้ผา้ คลุมหน้าขึ้นเล็กน้ อย เธอ
มองผูเ้ ฒ่ากวนที่นิ่งผงะจิตหลุดไปแวบหนึ่ ง แล้วเคลื่อนฝีเท้าเดินหน้าตาม
ไป

เหลิง่ ซวงในชุดสีดำเฝ้าอยูด
่ ้านหลังตามปกติ คอยอารักขานางอย่าง
เงียบเชียบ
เมื่อกวนสีหลิน
่ ที่รา่ งกายสูงใหญ่กำยำเดินเข้ามาด้วยย่างก้าวสงบเงียบ กวน
สีหร่วนที่ได้ชย
ั ชนะบนเวทีอก
ี คราและกำลังผุดเผยรอยยิม
้ พลันจ้องมองเขา
ราวกับเห็นผี ก่อนจะอุทานอย่างยัง้ สติไม่อยู่ “เจ้า เจ้ายังมีชว
ี ต
ิ อยูไ่ ด้เช่นไร?”

สีหน้าเขาแวบเปลี่ยนเป็นขาวซีด ยากจะเชื่อและตื่นตระหนกตกใจอยูเ่ ล็ก


น้ อย ซ้ำยังมีความรู ส
้ ึกผิดอยูบ
่ างส่วน

นึ กว่าเขาตายแล้ว! ในสถานที่เช่นป่าเก้าหมอบ เขาที่บาดเจ็บหนั กไม่อาจมี


ชีวต
ิ ต่อไปได้แน่ แต่ทำไมยังไม่ตายเล่า? ทำไมไม่มีใครบอกเขาว่ากวนสีหลิน

ยังมีชว
ี ต
ิ อยู?่

ยังมีอก
ี คนหนึ่ งที่เสียสติไปเช่นกัน ก็คือเคอซินหย่า

แทบจะในเวลานั ้นที่เห็นกวนสีหลิน
่ ทัง้ ตัวนางก็ลุกยืนขึ้นตามสัญชาตญาณ
มีทัง้ ความตกใจ ความขุน
่ เคือง และยังมีใจที่หยิง่ ทระนง

นางนึ กว่ากวนสีหลิน
่ มาร่วมการประลองตระกูลกวนเพราะตัวเอง เพราะ
ตัดใจไม่ได้ เพราะในใจยังคิดถึงกัน จึงยิง่ ปรนเปรอหัวใจหยิง่ ยโสนี้ อย่างมาก
ล้น

ขณะเดียวกันก็โกรธเคือง คิดว่าเขามาเพื่อทำให้นางอับอาย เดิมทีนางเป็นคู่


หมัน
้ เขา แต่ตอนนี้ กลับกลายเป็นภรรยาพีช
่ ายเขาเสียแล้ว

สองชายหนุ่มทัง้ บนและล่างเวที นางเกรงว่าตัวเองจะไม่อาจยอมรับสายตา


คนอื่นที่มองมาราวกับชมการแสดงปาหีไ่ ด้
เพราะคำอุทานของกวนสีหร่วนบนเวที และอาการเสียสติของเคอซินหย่า
ผูค
้ นล่างเวทีจึงแปลกใจกันเล็กน้ อย ก่อนจะหันมองไปตามสายตา

พอเห็นก็ทัง้ ประหลาดใจและตะลึงในความงามอยูบ
่ า้ ง ความรู ส
้ ึกแรกเป็น
เพราะชายหนุ่มอกสามศอกที่สูงใหญ่กำยำ ส่วนอย่างหลังเป็นเพราะสาว
น้ อยชุดขาวที่ผูกผ้าคลุมหน้าและเดินตามอยูด
่ ้านหลังชายหนุ่ม

เหล่าผูน
้ ำตระกูลก็เงียบงันไปชัว่ ขนณะ มีเพียงพวกลูกชายที่นั่งอยูแ
่ ถวหลัง
พวกเขา หลังจากพินิจมองกวนสีหลิน
่ สายตาที่ต่ ืนตาในความงามต่างก็จับ
จ้องบนร่างสาวน้ อยชุดขาว ทุกคนล้วนไม่อาจปิดบังซึ่งความสงสัยและสนใจ
ที่มีต่อนางได้เลย

อันที่จริง พวกเขาล้วนเป็นชายชาตรี ความคิดต่างก็เหมือนๆ กัน เห็นสาว


น้ อยเรือนร่างอ้อนแอ้นอรชร ท่าทีสุภาพเรียบร้อย จึงหันมองหลายคราอย่าง
สนอกสนใจเป็นธรรมดา

โดยเฉพาะ ที่บนใบหน้าสาวน้ อยมีผา้ คลุมหน้าผูกไว้ แม้จะมองรู ปลักษณ์ ไม่


ชัดเจน แต่ท่วงท่าอ่อนช้อย รวมถึงดวงตางดงามที่ปรากฎอยูน
่ อกผ้าคลุม
ก็พอบอกชัดได้ ว่าภายใต้ผา้ คลุมต้องเป็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่งามตาจับใจ
อย่างแน่ นอน

ชื่นชอบสิง่ สวยงามเป็นธรรมชาติของมนุษย์ พวกเขาจึงไม่รูส


้ ึก ว่าการจ้อง
มองหญิงสาวจะมีอะไรไม่เหมาะสม
ด้วยเหตุนี้ ขณะที่เหล่าท่านผูน
้ ำตระกูลแถวหน้ากำลังมองพิเคราะห์กวนสีห
ลิน
่ เหล่าชายหนุ่มอ่อนวัยด้านหลังก็พน
ิ ิ จมองสาวน้ อยชุดขาวผูล
้ ึกลับ ด้วย
ความอยากรู อ
้ ยากเห็นถึงตัวตนนาง และ… รู ปโฉมใต้ผา้ คลุมนั ้น
ตอนที่ 114 คนไม่เข้าตา!

สุดท้าย ก็เป็นผูน
้ ำตระกูลกวนที่ดึงสติกลับมาได้ก่อน เขาลุกขึ้นยืนหัวเราะร่า
พลางเดินไปหากวนสีหลิน
่ เอ่ยอย่างประหลาดใจและตื่นเต้น “สีหลิน
่ เจ้า
กลับมาแล้ว! หลายวันนี้ ทุกคนในบ้านล้วนเป็นห่วงเจ้านั ก นี่ เจ้าไปไหนมารึ?
ไฉนแม้แต่ขา่ วคราวก็ไม่ส่งกลับมาเล่า?”

สีหลิน
่ ? กวนสีหลิน
่ รึ?

ฝูงชนต่างมองหน้ากันไปมา ไหนบอกว่าเขาตามคนของตระกูลไปที่ป่าเก้า
หมอบ เพราะไม่ฟังคำสัง่ หัวหน้ากอง กลับฟึดฟัดจากไป สุดท้ายก็ตายอยูใ่ ต้
เงือ
้ มมือสัตว์รา้ ย ไม่เหลือแม้แต่เถ้ากระดูกไม่ใช่หรือ? ไฉนยังมีชว
ี ต
ิ กลับมา
ได้ทัง้ เป็นๆ อีกเล่า?

พวกเขาล้วนได้ยน
ิ ว่า ภรรยาคนปัจจุบน
ั ของกวนสีหร่วนเดิมทีเป็นคู่หมัน
้ คู่
หมายของกวนสีหลิน
่ ครานี้ เขากลับมาแล้ว คู่หมัน
้ กลับกลายเป็นผูห
้ ญิงของ
พีช
่ าย

แม้ใบหน้าจะไม่แสดงท่าทีอะไร แต่ในใจผูค
้ นยังคงคิดอยากชมละครปาหีน
่ ี้
อยู่ จึงไม่พูดไม่จา เพียงใช้สายตาจับจ้องไปบนร่างคนพวกนั ้น

กวนสีหลิน
่ มองเขาโดยไม่พูดอะไร สีหน้ามืดลงน้ อยๆ พูดได้เลยว่าแม้แต่รอย
ยิม
้ ก็ยงั ไม่มี
เห็นใบหน้าเขาไร้อารมณ์ ท่าทีบนใบหน้าผู้นำตระกูลกวนก็ถูกเก็บไป เอ่ย
ถามเสียงเข้มเล็กน้ อย “เป็นอะไรไป? ลุงถามเจ้าอยู่ ไฉนจึงไม่ตอบเล่า?”

สายตากวนสีหลิน
่ มองตรงไปยังร่างพีช
่ ายบนเวทีที่พยายามเก็บกดความ
หวาดหวัน
่ และรู ส
้ ึกผิด น้ำเสียงมีความเย็นเยียบ “ข้ากลับมาเข้าร่วมการ
ประลอง” ระหว่างที่พูด ก็สาวก้าวเดินไปด้านหน้า

ผูน
้ ำตระกูลกวนสะดุ้งเล็กน้ อย มองเขาหน้านิว
่ คิว
้ ขมวด เดิมคิดจะห้ามปราม
แต่กลับพูดไม่ออก ในสายตาเขา กวนสีหลิน
่ หาใช่คู่ต่อสู้ของลูกชายไม่ ขึ้นไป
ก็แค่หาเรือ
่ งใส่ตัว

กวนสีหร่วนบนเวทีมองเขาเดินมาทีละก้าวๆ ความรู ส
้ ึกตื่นตกใจกลับสงบลง
มาอย่างช้าๆ

ตัง้ แต่กวนสีหลิน
่ ปรากฎตัวมาจนถึงตอนนี้ ก็ไม่พูดว่าตอนนั ้นกวนสีหร่วน
เป็นคนลงมือแทงเขาจากด้านหลัง คงเพราะไม่คิดจะพูดที่นี่ สุดท้ายแล้ว นี่
ถือเป็นเรือ
่ งน่าอัปยศนั ก ยังไงก็ต้องคำนึ งถึงชื่อเสียงของตระกูลกวนก่อน

นึ กถึงตรงนี้ ท่าทางเขาผ่อนคลายลง ใจที่ตึงเครียดอยูก


่ ็หย่อนลงมา ใบหน้า
ผุดรอยยิม
้ ออก “สีหลิน
่ เจ้าไม่เป็นไรกลับมาก็ดีแล้ว”

กวนสีหลิน
่ เดินขึ้นเวที แล้วมองเขาด้วยสีหน้าขรึมเล็กน้ อย “นึ กว่าเจ้าไม่
อยากให้ขา้ กลับมาเสียอีก”
ฟังคำพูดนี้ รอยยิม
้ ที่ใบหน้ากวนสีหร่วนบนเวทีก็แข็งทื่อ กล่าวทัง้ หน้าเหยเก
ว่า “ได้ยงั ไงเล่า? สีหลิน
่ เจ้ากำลังตัดพ้อที่ขา้ แต่งงานกับซินหย่าใช่หรือไม่?
จริงๆ แล้ว ที่ขา้ แต่งกับซินหย่าเป็นการตัดสินใจของผูใ้ หญ่สองฝ่าย ตอนนั ้น
พวกเราต่างคิดว่าเจ้าตายที่ป่าเก้าหมอบ ดังนั ้นถึงได้…”

ผูค
้ นด้านล่างฟังคำพูดนี้ ก็แอบๆ พยักหน้า อืม กวนสีหลิน
่ ดูสีหน้าไม่สู้ดีเท่า
ไหร่ คงเพราะโกรธที่คู่หมัน
้ กลายเป็นผูห
้ ญิงของพีช
่ ายกระมัง! ไม่เช่นนั ้น ก็
คงไม่ทำหน้าเสียอารมณ์ ใส่ท่านผู้นำตระกูลหรอก

หลังจากเคอซินหย่าข้างๆ สมาชิกครอบครัวหญิงได้ยน
ิ คำพูดบนเวที ใบหน้า
ก็เผยท่าทีโทษตัวเอง จึงเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน “สีหลิน
่ ข้าถอนหมัน
้ เพราะ
ผูใ้ หญ่สองฝ่ายจัดการ ค่อยแต่งงานกับสีหร่วน ข้าหวังว่าเจ้าอย่าได้มีขอ

กังขากับคนในครอบครัวเพราะข้าเลย จะโทษ ก็โทษได้แค่ที่เราสองคนไร้
วาสนาต่อกัน”

ทว่า หลังจากได้ยน
ิ คำพูดต่อมาของกวนสีหลิน
่ ทัว่ ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยสี
เลือดฝาด ก็ซีดเผือดและอับอาย

กวนสีหลิน
่ ชำเลืองมองนางแวบหนึ่ ง สองมือกอดอก กล่าวน้ำเสียงดูถูก
“เจ้าอาจหลงตัวเองเกินไปเสียหน่ อย แค่ผูห
้ ญิงโลเลกลับกลอกและหยิง่
ทระนงคนนึ ง ข้ากวนสีหลิน
่ แสนจะรังเกียจจริงๆ”

“กวนสีหลิน
่ เจ้าปลิน
้ ปล้อนเกินไปแล้ว!” นายท่านเคอตบโต๊ะลุกยืนขึ้นมา
ฟังลูกสาวตัวเองถูกดูแคลนต่อหน้าฝูงชนเช่นนี้ ใบหน้าจึงโกรธเกรีย
้ วเป็น
ที่สุด
กวนสีหลิน
่ ยิม
้ เยือกเย็น เหลือบมองนายท่านเคอแวบหนึ่ ง “หรือท่านจะบอก
ว่าไม่ใช่เรือ
่ งจริง? นางหาได้โลเลกลับกลอกและหยิง่ ทระนงหรอกรึ?”
ตอนที่ 115 พ่ายแพ้ทุกกระบวนท่า!

นายท่านเคอสะอึกไป มองเขาอย่างโกรธเกรีย
้ ว “เรือ
่ งนาง ผูใ้ หญ่สองฝ่าย
เป็นคนจัดการให้ มีเหตุผลเชื่อถือได้ ไหนเลยต้องพูดจาน่าเหลืออดเช่นนั ้น
เล่า!”

“น่าเหลืออดหรือไม่ ทุกคนรู ด
้ ีอยูแ
่ ก่ใจ!” กวนสีหลิน
่ แค่นเสียงเย็น ไม่สนใจ
พวกเขาอีก แต่มองไปยังกวนสีหร่วนที่อยูต
่ รงข้าม ก่อนจะแสดงความ
คารวะ

“ขอท่านพีโ่ ปรดชีแ
้ นะ!”

ตรงข้างๆ ด้านล่างเวที เฟิ่ งจิว


่ ยืนอยูไ่ ม่ไกล พลางมองเหตุการณ์ นั้นบนเวที
กลับเห็นชายหนุ่มผูห
้ นึ่ งเดินเข้ามา

“คุณหนู ด้านนั ้นยังมีทีวา่ ง นั ่งชมด้วยกันไม่ดีกว่ารึ?” บุรุษชุดประดับดิน


้ เงิน
ดิน
้ ทองมายังเบื้องหน้าเฟิ่ งจิว
่ ขวางสายตาไว้ กลับยังแสดงท่าทางเชื้อเชิญ

เฟิ่ งจิว
่ ขมวดคิว
้ สายตาจับจ้องบนร่างคนตรงหน้า “ไม่จำเป็นหรอก” ฝีเท้า
เคลื่อนไปทางซ้าย แล้วสายตาก็มองยังด้านบนเวทีอก
ี ครัง้

พวกผูน
้ ำตระกูลด้านนั ้นต่างกำลังสนใจการเคลื่อนไหวบนเวที แต่เหล่าชาย
หนุ่มอ่อนวัยแถวหลัง กลับมองสังเกตมาด้านนี้ อยูเ่ ป็นครัง้ คราว เห็นคุณหนู
ไม่แม้แต่จะสนใจบุรุษผูน
้ ั ้น แต่ละคนจึงส่งเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้
แม้สาวน้ อยจะงดงาม แต่สุดท้ายก็อยูใ่ นบ้านผูอ
้ ่น
ื พวกเขาจึงไม่อาจออก
หน้าพูดเกี้ยวตีสนิ ท อีกอย่าง ท่านพ่อพวกเขาอยูท
่ ี่นี่ด้วย ทุกการเคลื่อนไหว
ล้วนต้องหักห้ามใจ ไม่อาจล้ำเส้น

“คุณ…”

บุรุษเพิง่ เอ่ยคำพูด ฝีเท้าคิดเคลื่อนขยับตาม ก็เห็นเงาร่างสีดำเดินเข้ามา


ยื่นมือขวางไว้เบื้องหน้า แล้วเอ่ยปากกล่าวเตือน “ออกไปห่างๆ คุณหนูขา้
นะ!”

ชายผูน
้ ั ้นขมวดคิว
้ กำลังจะปริปาก ได้ยน
ิ เสียงร้องลัน
่ ลอยมาจากบนเวที จึง
หันกลับไปมองอย่างอดไม่ได้ พอเห็นก็ตกตะลึงน้ อยๆ

สองคนบนเวทีเริม
่ สู้กันขึ้นมา ก็คือกวนสีหลิน
่ กับกวนสีหร่วน แต่วา่ ท่วงท่า
บนตัวกวนสีหลิน
่ ไยจึงแข็งแกร่งเช่นนั ้น? แม้แต่พวกเขาที่อยูล
่ ่างเวทีนี้ยงั
รู ส
้ ึกถึงกลิน
่ อายน่าดึงดูดบนร่างได้

ไม่น่าแปลก ที่กวนสีหร่วนผูน
้ ั ้นจะถูกชกเข้าดวงตาเสียจนถอยกลับไปร้อง
โอดครวญด้วยความอับอาย ก่อนจะมองไปยังท่านพ่อและเหล่าท่านผูน
้ ำ
ตระกูลแถวหน้า เป็นไปตามคาด เห็นบนใบหน้าพวกเขาแต่ละคนต่างมี
ความประหลาดใจที่ยากจะเก็บซ่อน

ปังๆๆ!
ขณะที่กวนสีหร่วนกุมดวงตาส่งเสียงคร่ำครวญถอยหลังไป กวนสีหลิน
่ กลับ
ไม่หยุดโจมตี แต่สาวก้าวยาวเข้า ย่อช่วงล่างลงเล็กน้ อย แล้วชกออกไป
พร้อมกันรวดเดียวสามหมัด กำปั้ นที่แฝงกลิน
่ อายพลังเร้นลับชกเข้าบริเวณ
ท้องอย่างรุ นแรง ทำให้เขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะสวนกลับ ถึงกับมีเลือดไหล
ออกมุมปากเพราะเหตุนี้

สีหน้าผูน
้ ำตระกูลกวนล่างเวทีหมองหม่นเคร่งขรึม แววตาเฉี ยบแหลมจ้อง
มองกวนสีหลิน
่ บนเวทีที่ยา่ งก้าวมัน
่ คงและออกหมัดอย่างมีพลังซ่อนเร้น น่า
แปลกอยูบ
่ า้ งที่เขาสามารถพัฒนาพละกำลังได้อย่างรวดเร็วภายในเวลา
สัน
้ ๆ เพียงไม่กี่เดือน

หนำซ้ำ กลิน
่ อายพลังเร้นลับบนร่างที่ปะทุออกมาระหว่างการต่อสู้ กลิน
่ อาย
เช่นนั ้น ชัดเจนว่าเป็นระดับนั กรบขัน
้ สมบูรณ์ !

หรือว่า หลายเดือนนี้ ที่เขาอยูด


่ ้านนอก จะไปพบโชคอะไรเข้า? มิเช่นนั ้น
กำลังจะก้าวหน้ารวดเร็วเพียงนี้ ได้เช่นไร?

เห็นลูกชายบนเวทีถอยหลังไปทีละก้าวๆ การโจมตีทุกกระบวนท่า ทำให้


กระอักเลือดออกมา มือที่วางบนตักแอบๆ กำแน่ น ขืนเป็นเช่นนี้ ต่อไป
สีหร่วนต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!

“ซี๊ด! ไยพีส
่ ีหลิน
่ ถึงร้ายกาจขึ้นเช่นนี้ เล่า? เดิมทีเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้พส
ี่ ีหร่วน
หายไปไม่กี่เดือน พอกลับมาพละกำลังก็ก้าวหน้ามากขึ้นถึงเพียงนั ้นได้เช่น
ไร?”
“จริงด้วย! ครัง้ ล่าสุดเมื่อปีก่อนๆ เขายังถูกพีส
่ ีหร่วนซ้อมเสียจนต้องนอนบน
เตียงไปสามวันเลยนะ!”

เด็กๆ ตระกูลกวนล่างเวทีกำลังพูดคุยกันเสียงเบา มองกวนสีหลิน


่ บนเวที
ด้วยนั ยน์ ตามีความประหลาดใจ และน้ำเสียงที่ใช้พูดคุยก็พลันเงียบลง
เพราะภาพต่อจากนั ้น

“กวนสีหลิน
่ !”

กวนสีหร่วนที่ถูกซ้อมเสียจนดัง้ ช้ำหน้าบวมแผดเสียงอย่างขุน
่ เคือง ความ
รู ส
้ ึกขายหน้าที่พา่ ยแพ้ทุกกระบวนท่าทำให้เขาเสียสติ จึงตวัดดาบยาวที่ไม่รู ้
ว่าดึงออกมาจากตรงไหน โจมตีไปทางกวนสีหลิน
่ พร้อมไอสังหาร
ตอนที่ 116 ย้ายร่างสลับเงา!

เมื่อฝูงชนล่างเวทีเห็นภาพเช่นนี้ ท่าทางก็แตกต่างไป

ว่ากันตามปกติ การประลองของตระกูลคือการประชันกันด้วยพลังเร้นลับกับ
ศิลปะการต่อสู้ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ค่อยใช้มีดและกระบีบ
่ อ
่ ยนั ก คล้ายว่ากวนสี
หร่วนสู้ด้วยมือเปล่าไม่ได้ จึงดึงอาวุธออกมา เมื่อมีอาวุธเช่นนี้ ท่าทีก็ไม่
เหมือนเดิมแล้ว

หนำซ้ำ เพราะเขาหยิบอาวุธออกมา ต่อให้ชนะก็ไม่น่ายกย่องเท่าไหร่นัก ยิง่


ไปกว่านั ้น ในสายตาพวกเขา ด้วยพละกำลังกวนสีหร่วนแทบจะไม่ใช่คู่ต่อสู้
ของกวนสีหลิน
่ ด้วยซ้ำ

ในฐานะผูน
้ ำตระกูล หากไม่มีแม้แต่วจ
ิ ารณญาณที่จะตัดสินเรือ
่ งแค่นี้ พวก
เขาคงครองตำแหน่ งผูน
้ ำตระกูลได้ไม่มัน
่ คงนั ก

เห็นลูกชายตัวเองดึงกระบีอ
่ อกมา สีหน้าผูน
้ ำตระกูลกวนด้านล่างก็ดูไม่ได้
อย่างยิง่ กลับไม่เอ่ยปากห้ามปราม แต่ปล่อยให้สถานการณ์ ดำเนิ นต่อไป

วันนี้ เป็นการคัดเลือกนายน้ อย ลูกชายเขาจะต้องชนะ!

ส่วนกวนสีหลิน
่ เมื่อเห็นกวนสีหร่วนหยิบกระบีข
่ ้น
ึ มา ท่าทางไม่ไหวติง สอง
มือกำหมัดแน่ น บริเวณข้อต่อนิว
้ มือส่งเสียงดังกรอบแกรบ ทันในนั ้นทัว่ ร่าง
ก็มีกลิน
่ อายพลังเร้นลับที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าพรัง่ พรู ออกมา
“ซี๊ด! ช่างเป็นกลิน
่ อายพลังเร้นลับที่เหลือล้นนั ก!”

เหล่าผูน
้ ำตระกูลด้านล่างต่างอุทานเพราะเห็นกลิน
่ อายพลังเร้นลับที่พรัง่ พรู
บนร่างเขา มีหนึ่ งถึงสองคนถึงกับลุกยืนขึ้นมาโดยไม่รูต
้ ัว ในดวงตามีความ
ตะลึงพรึงเพริด

ด้วยอายุอย่างกวนสีหลิน
่ สามารถมีกลิน
่ อายพลังเร้นลับที่เกือบจะเทียบเท่า
พวกเขาได้ นี่ หมายความเช่นไร? ถึงไม่ต้องพูดก็เห็นชัดเจน

เด็กคนนี้ ช่างมีความทะเยอทะยานเสียจริง!

นายท่านเคอก็เป็นคนที่มีวจ
ิ ารณญาณ เวลานี้ เมื่อเห็นกลิน
่ อายที่พวยพุง่
และท่วงท่าน่าดึงดูดที่แผ่ซ่านออกมาบนร่างกวนสีหลิน
่ ทัง้ ร่างก็ขวัญ
กระเจิง พึมพำเสียงเบาอย่างอดไม่ได้ “มองผิดเสียแล้ว… มองผิดไปแล้ว
จริงๆ…”

ตอนนี้ เคอซินหย่ามองกวนสีหลิน
่ บนเวทีด้วยความตกใจ ร่างกายสัน
่ เทิม
้ เล็ก
น้ อย และไม่กล้าเชื่อภาพที่เห็นตรงหน้าอยูบ
่ า้ ง

เขาแข็งแกร่งขนาดนั ้นได้เช่นไร? ไยจึงมีกำลังมากขึ้นถึงเพียงนั ้น?

ที่ขา้ งๆ ด้านล่างเวที เมื่อผูเ้ ฒ่ากวนที่ตามเข้ามาเห็นกวนสีหลิน


่ บนเวทีกล้า
หาญองอาจท่าทางเยือกเย็น เหมือนจะนึ กถึงลูกชายที่เก่งกาจที่สุดผู้นั้นขึ้น
มา สองดวงตาชราภาพตื่นตะลึงเป็นที่สุด จึงมองเรือนร่างกำยำน่าดึงดูดบน
เวทีนั้น ด้วยความสับสันอย่างมากในชัว่ ขณะหนึ่ ง
และในเวลานี้ เอง ร่างกวนสีหลิน
่ ก็โจมตีออกไปทันที ความรวดเร็วนั ้น สร้าง
ภาพลวงตาออกมาหลายเงาร่างอยูบ
่ นเวที

ร่างเขาพลันพุง่ ไปด้านหน้า ระหว่างที่โน้ มตัวออกไป มือหนึ่ งก็คว้าข้อมือกวน


สีหร่วนที่ถือกระบีไ่ ว้ ออกแรงหักลง ขณะที่เสียงกร๊อบดังขึ้น ได้ยน
ิ เพียง
เสียงกรีดร้องดังลอยตามมา

“อ๊าก!”

แกร๊ง!

กระบีใ่ นมือกวนสีหร่วนร่วงหล่นลงบนเวที ส่งเสียงดังก้องกังวาน

ผูค
้ นด้านล่างก็ลุกยืนขึ้นมาอย่างตะลึงงัน มองกวนสีหลิน
่ ด้านบน ในดวงตา
มีความเหลือเชื่อเป็นที่สุด

“ย้ายร่างสลับเงา!”

“เขาได้ฝึกฝนวิชาย้ายร่างสลับเงาแล้วรึ!”

ในใจเหล่าผูน
้ ำตระกูลทัง้ ตะลึงและประหลาดใจ ไม่มีใครสนใจที่เขาบิดหักข้อ
มือกวนสีหร่วน ที่สนใจก็คือ กระบวนท่าย้ายร่างสลับเงาที่เขาได้ฝึกฝนมา
อย่างคาดไม่ถึง! ท่วงท่าเช่นนั ้น แม้แต่พวกเขาก็ยงั ไม่อาจได้ฝึกฝน ทว่า
เขา…
เด็กหนุ่มอ่อนวัยอายุราวยีส
่ ิบห้ากลับฝึนฝนออกมาได้!

ชัว่ ขณะนั ้น สายตาเหล่าผูน


้ ำตระกูลที่มองเขาก็รอ
้ นแรงขึ้นอย่างมาก ราวกับ
ฝูงผีเฒ่าบ้ากามที่มองเห็นสาวงามกำลังเปลือยกาย อดรนทนรอไม่ไหวที่จะ
รีบเร่งดึงเอาพลังและวิชาเหล่านั ้นจากเขามาเป็นของตน

เวลานี้ แม้แต่ในดวงตาผูเ้ ฒ่ากวนก็มีประกายแห่งความเร่าร้อนปะทุอยู่


ร่างกายสัน
่ เทาน้ อยๆ เพราะความดีอกดีใจ ไม้เท้าในมือออกแรงค้ำไปบนพื้น
หัวเราะร่าอย่างตื่นเต้น

“ฮะๆๆๆ! ดีๆๆ! หลานชายตระกูลกวนมีอนาคต! หลานชายตระกูลกวนข้า


ช่างมีอนาคตยิง่ นั ก!”
ตอนที่ 117 เหตุการณ์ วน
ุ่ วาย!

ผูค
้ นทัง้ ตะลึงและประหลาดใจอย่างมาก มีเพียงผูน
้ ำตระกูลกวนที่ใบหน้าดำ
มืดราวกับหม้อต้ม และมีความหมองหม่นเอ่อล้นทะลักออกมา

สองมือเขากำหมัดแน่ น มองกวนสีหลิน
่ บนเวทีด้วยแววตามัวหมองนั ก ใน
ดวงตาฉายแววจิตสังหารอันเยียบเย็น

ส่วนกวนสีหร่วนในเวลานี้ มือข้างหนึ่ งถูกหัก มืออีกข้างถูกบิดกดไว้บนเวที


ร่างกายไม่อาจขยับเขยื้อนได้แม้สักนิ ด เพราะใบหน้าแนบติดชิดพื้น ถึงกับ
ส่งเสียงร้องไม่ออกด้วยเหตุนี้

กวนสีหลิน
่ จ้องมองพีช
่ ายที่พา่ ยแพ้ในเงือ
้ มมือด้วยแววตาซับซ้อน เดิมคิด
จะทำลายแขนเขาเสีย ทว่าในหัวกลับนึ กถึงภาพที่เคยฝึกฝนวิชาด้วยกัน
ตอนเด็กๆ จึงอดไม่ได้ที่จะใจอ่อน

“ท่านแพ้แล้ว”

เขาดึงมือกลับ ละสายตาออกมองไปล่างเวที หนึ่ งมีดนั ้นที่ด้านหลังในป่าเก้า


หมอบตัดขาดสิน
้ ซึ่งสัมพันธ์พน
ี่ ้ องระหว่างพวกเขาไปนานแล้ว วันนี้ ที่
เอาชนะพีช
่ ายได้ เป็นการพิสูจน์ ตัวเอง เพื่อบอกพวกเขา ว่ากวนสีหลิน
่ ไม่ได้
ด้อยไปกว่าใคร!
“ช่างเป็นหนุ่มน้ อยยอดวีรบุรุษโดยแท้ ท่านผูเ้ ฒ่ากวน หลานท่านทำให้ขา้
ตะลึงมากจริงๆ! แสดงความยินดีกับท่านผูเ้ ฒ่ากวน เด็กๆ ในตระกูลโดด
เด่นเช่นนี้ อนาคตต้องไร้เทียมทานแน่ !”

เหล่าท่านผูน
้ ำตระกูลเห็นการตัดสินแพ้ชนะ ต่างพากันเอ่ยแสดงความยินดี
กับท่านผูเ้ ฒ่ากวนข้างๆ ในวงศ์ตระกูลมีเด็กหนุ่มมากพรสวรรค์เช่นนี้ คง
รุ ง่ โรจน์ ข้น
ึ จริงๆ ในไม่ชา้ !

“เหอะๆๆ ขอบคุณมากๆ”

ผูเ้ ฒ่ากวนยิม
้ แย้มอยูไ่ ม่หยุดปาก เมื่อสายตาที่มีรอยยิม
้ และความพึงพอใจ
มองขึ้นไปบนเวที สีหน้ากลับพลันผันเปลี่ยนยกใหญ่ เปล่งเสียงอุทานตะโกน
ลัน

“หยุดนะ!”

ผูค
้ นตื่นตกใจ มองไปตามสายตา พอเห็นก็ตะลึงงันกันอย่างมาก

เห็นเพียงกวนสีหร่วนที่ตะเกียดตะกายตัวขึ้นมาจากเวที ดึงมีดสัน
้ ที่ซ่อนไว้
ในรองเท้าออกมา แทงไปยังกวนสีหลิน
่ ที่กำลังหันหลังให้ด้วยแววตาดุดันบ้า
คลัง่

แต่กวนสีหลิน
่ ที่หน
ั หลังอยูก
่ ลับหมุนตัวเตะสวนทันทีท่ามกลางเสียงอุทาน
ของฝูงชนโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไป กวนสีหร่วนที่จับมีดสัน
้ แทงเข้ามา
พลันกรีดร้อง ทัง้ ร่างกระเด็นกลิง้ ร่วงลงล่างเวทีออกไปไกลหลายเมตร
“อัก
่ !”

กวนสีหร่วนที่รว่ งลงด้านล่างกระอักเลือดออก ทัง้ ตัวนอนแผ่บนพื้นด้วยลม


หายใจรวยริน แม้แต่แรงจะลุกยืนขึ้นมาก็ยงั ไม่มี

“สีหร่วน!”

ผูน
้ ำตระกูลกวนอุทาน เร่งฝีเท้าวิง่ เข้าไปประคองคนขึ้น

“ท่านพ่อ ฆ่า ฆ่าเขาซะ!”

สองมือกำขยำแขนเสื้อท่านพ่อไว้แนน เอ่ยคำพูดประโยคนี้ ออกมาอย่างยาก


ลำบากเพราะมีเลือดเอ่อล้นอยูใ่ นปาก

เคอซินหย่านิ่ งอึ้ง มองสิง่ ที่เกิดขึ้นนี้ ทีละภาพๆ อย่างตกตะลึงไปทัว่ ร่าง เพียง


รู ส
้ ึกว่าทัง้ ผืนฟ้าล้วนล่มทลายลงมา การจู่โจมอันทรงพลังทำให้ความคิด
อ่านไม่อาจใจเย็นขึ้นมาได้ เลือดลมหมุนตลบขึ้นไปบริเวณลำคอเสียจนมีรส
ฝาด

“อัก
่ !”

นางกระอักเลือดออกมา ภาพตรงหน้าดับมืด และทัง้ ร่างก็เป็นลมล้มไป

“ซิน ซินหย่า!”
นายท่านเคอกับฮูหยินเคออุทานเสียงสัน
่ เครือ รีบร้อนรับตัวคนไว้

เห็นเหตุการณ์ ที่สับสนอลหม่าน ผูค


้ นล้วนมีสีหน้างุนงง ตระกูลกวนนี้ จะ
วุน
่ วายเกินไปแล้วกระมัง?

ลูกชายผูน
้ ำตระกูลกวนชวดตำแหน่ งนายน้ อยในการคัดเลือก แล้วยังจะถือ
มีดมาฆ่าคนอีกรึ? ตอนนี้ ยงั ดี กำลังตัวเองสู้ไม่ไหวจึงถูกเตะกระเด็นออกไป
ด้วยแรงเท้าของกวนสีหลิน
่ แค่พวกเขามองยังสะพรึง เดาว่าไม่สิบวันก็ครึง่
เดือนเขาคงลงจากเตียงไม่ไหว

แต่วา่ เมื่อเทียบกับเขาที่เคลื่อนไหวตามจิตคิดสังสาร ลูกเตะนั ้นของกวนสี


หลิน
่ ยังถือว่าเมตตานั ก มิเช่นนั ้น ด้วยพละกำลังเท่านี้ หากอยากจะฆ่าเขา
ระหว่างที่หน
ั ตัวกลับ เดิมทีก็เป็นเรือ
่ งที่จัดการได้อย่างง่ายดาย

เฟิ่ งจิว
่ ด้านล่างหรีต
่ ายิม
้ พลางมองเหตุการณ์ วน
ุ ่ วายนี้ เหมือนกลัวว่าใต้หล้า
จะไม่อลหม่าน เอ่ยอย่างยิม
้ กริม
่ ว่า “ท่านพี่ ท่านยังมีเรือ
่ งต้องพูดไม่ใช่หรือ?
รีบหน่ อย พอพูดเสร็จพวกเราต้องเดินทาง ที่นี่วน
ุ ่ วายเกินไปแล้ว”
ตอนที่ 118 ถอนตัวออกจากตระกูล!

ทุกคนฟังนางเรียกท่านพี่ ต่างชะงักไปพักหนึ่ ง แต่ไม่เคยได้ยน


ิ ว่ากวนสีหลิน

มีน้องสาวด้วย? หรือว่า คุณหนูท่านนี้ จะเป็นญาติหา่ งๆ ของตระกูลกวน?

“คุณหนูเป็นคนตระกูลกวนรึ?”

บุรุษนายนั ้นที่ยน
ื อยูด
่ ้านข้างเฟิ่ งจิว
่ เอ่ยถามอย่างสงสัย แอบคิดว่า ‘หากเป็น
คนตระกูลกวน หลังกลับไปเขาจะให้ท่านพ่อมาสู่ขอที่บา้ นแน่ นอน ไม่เพียง
ได้สานสัมพันธ์อน
ั ดีกับตระกูลกวน ซ้ำยังได้อุม
้ สาวงามกลับบ้าน ไยจะไม่
ยินดีเล่า?’

“ไยข้าจึงจำไม่ได้ ว่าตระกูลกวนมีคนเช่นเจ้าอยูด
่ ้วย?” ท่านผูเ้ ฒ่าจ้องมอง
เฟิ่ งจิว
่ แวบหนึ่ ง น้ำเสียงชราภาพทุ้มเล็กน้ อย

เฟิ่ งจิว
่ กะพริบตาลง กล่าวอย่างแปลกใจ “อย่าได้สำคัญตัวเองผิดไป ข้าบอก
ตอนไหนว่าเป็นคนของของตระกูลกวนท่าน?”

“บังอาจนั ก!”

“อย่ารังแกน้ องสาวข้า!”

สิน
้ สุดเสียงตะโกนของท่านผูเ้ ฒ่ากวน กวนสีหลิน
่ บนเวทีก็แผดเสียงดังลัง่
ตามมาติดๆ ท่าทางขึงขังไม่ด้อยไปกว่าท่านปู่ ทำให้ทุกคนต่างขวัญหนี ดีฝ่อ
ไม่แม้แต่จะส่งเสียงดังตอบโต้กลับมา
เขาบ้าไปแล้วรึ? ท่านผูเ้ ฒ่ากวนเป็นปู่แท้ๆ ของเขา นึ กไม่ถึงเลยว่าจะขึ้น
เสียงดังกับท่านขนาดนั ้น?

แม้แต่ผูเ้ ฒ่ากวนก็ยงั มีสีหน้าแดงก่ำ ไม่รูว้ า่ อับอายหรือโกรธเคือง ร่างกาย


สัน
่ เทาอยูเ่ ล็กน้ อย ไม้เท้าที่ถือค้ำไว้ในมือเคาะลงไปบนพื้นอย่างรุ นแรง เอ่ย
ปากด่าทอเสียงดัง “เจ้ามันนอกคอก! คิดนอกคอกกันไปหมดแล้วรึ? แต่ละ
คนกลายเป็นพวกนอกคอกกันไปแล้วกระมัง? ยังมีระเบียบกันอยูอ
่ ก
ี รึ?”

กวนสีหลิน
่ ด้านบนนิ่ งรับสายตาขุน
่ เคืองโดยไม่คิดถอยหนี ผึ่งผายแผงอก
มองลึกไปที่ท่านปู่ด้วยสายตาที่มีความเฉี ยบขาด ความแข็งขืนที่แอบแฝงใน
แววตา ทำให้ท่านผูเ้ ฒ่ากวนที่เดิมยังโกรธเกรีย
้ วไม่สิน
้ สุด ตื่นตระหนกขึ้น
มาในหัวใจชัว่ ขณะ

เมื่อกำลังจะเอ่ยปากให้ทุกคนออกไปก่อน ก็ได้ยน
ิ น้ำเสียงทรงพลังที่มีกลิน

อายพลังเร้นลับดังลอยมาจากปาก เข้าสู่หูของทุกคนเบื้องล่างอย่างชัดเจน

“ข้า กวนสีหลิน
่ ขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ ว่าจะถอนตัวจากตระกูล! ตัง้ แต่วน
ั นี้ ไป
ทัง้ คนและเรือ
่ งในตระกูลกวนนี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับข้าอีก!”

น้ำเสียงชายหนุ่มเปล่งออกมาดังสนั ่นและทรงพลัง ราวกับสายฟ้าผ่าลงใน


หัวใจผูค
้ นทีละถ้อยทีละคำ ระหว่างที่พวกเขาต่างสูดหายใจเข้ากันด้วยความ
ตกใจ ก็รูส
้ ึกเหลือเชื่อ

ถอนตัวจากตระกูล? เขาบ้าไปแล้วรึ?
การมีวงศ์ตระกูลคอยคุ้มหัวกับไม่มีนั้นช่างแตกต่างกันนั ก เด็กหนุ่มที่มี
ความสามารถโดดเด่นเช่นนี้ การถอนตัวออกจากตระกูลจะหมายความว่า
อะไร? นั ่นหมายถึงการตัดขาดซึ่งหนทางการฝึกฝนวิชา พอไม่มีตระกูลคอย
เป็นโล่กำบังให้ ก็กลายเป็นหัวเดียวกระเทียมลีบ!

ผูน
้ ำตระกูลกวนที่ให้องครักษ์ ประคองลูกชายตนเองกลับเข้าเรือนมองกวน
สีหลิน
่ ด้านบนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แววตาเป็นประกายน้ อยๆ ไม่พูดไม่จา

ทว่าท่านผูเ้ ฒ่ากวนกลับโมโหเสียจนสัน
่ เทิม
้ ไปทัง้ ร่าง ชีไ้ ปที่เขา “เจ้า แน่ จริง
เจ้าลองพูดอีกรอบสิ!”

แววตากวนสีหลิน
่ ลึกล้ำ กล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง “พูดอีกร้อยครัง้ ก็ยงั
เหมือนเดิม ข้ากวนสีหลิน
่ ขอถอนตัวจากตระกูล!”

“กวนสีหลิน
่ เจ้าชนะการคัดเลือก เป็นนายน้ อยตระกูลกวน จะถอนตัวจาก
ตระกูลได้เช่นไรเล่า!” ด้านล่างเวที เด็กหนุ่มคนหนึ่ งตะคอกเสียงดังใส่กวน
สีหลิน
่ บนเวทีด้วยท่าทางกังวลใจ “เจ้ารีบๆ ยอมรับผิดซะ ท่านปู่จะได้ไม่เอา
เรือ
่ งเจ้า”

“ไม่วา่ พวกเจ้าจะยินยอมหรือไม่ วันนี้ คำพูดของข้ามีเพียงเท่านี้ นี่ เป็น


เหตุผลที่ขา้ กลับมาในวันนี้ ข้าจะไม่อยูใ่ นตระกูลกวนอีกต่อไป”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ ผูเ้ ฒ่ากวนก็โวยวายด่าว่าเสียงดังอย่างเกรีย
้ วกราด “ตระกูล
กวนใจร้ายกับเจ้าหรืออย่างไร? เจ้าถึงอยากถอนตัว? วันนี้ หากเจ้าไม่บอก
เหตุผลมา ก็อย่าคิดว่าจะถอนตัวจากตระกูลได้ ข้ายังต้องเชิญกฎระเบียบ
ประจำตระกูลออกมาสัง่ สอนหลานชายไร้ยางอายเช่นเจ้าดีๆ อีก!”
ตอนที่ 119 ขายหน้าเป็นที่สุด!

กวนสีหลิน
่ สู้หน้ากับสายตาเขาอย่างไม่ยำเกรง “ใจร้ายกับข้าหรือไม่ หรือใน
ใจพวกท่านยังไม่รูแ
้ จ้งอีกเล่า? ในตระกูลกวนนี้ ข้าไร้พอ
่ ขาดแม่ พวกท่านไม่
รู จ
้ ริงๆ รึ ว่าได้ใจร้ายกับข้ารึเปล่า?”

ฟังเขาถามตอกกลับทีละประโยค ริมฝีปากผูเ้ ฒ่ากวนก็สัน


่ เครือน้ อยๆ กลับ
พูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว

แม้จะเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ทว่าที่จริง ปกติพวกเขาก็ไม่ค่อยเชื่อมัน


่ ในตัวเขา
สักเท่าไหร่ พอได้ยน
ิ ว่าเขาตาย ก็จัดการงานศพให้โดยไม่เศร้าเสียใจแม้แต่
น้ อย ยกเลิกการหมัน
้ หมาย ให้สีหร่วนแต่งงานกับคู่หมัน
้ เขา เมื่อรู ว้ า่ เขายัง
ไม่ตาย ก็หวังให้เขาอยูด
่ ้านนอกไม่ต้องกลับมา พอกลับถึงบ้านตระกูลกวน
ยังปรีเ่ ข้าไปห้ามปราม ไม่อยากให้เขาเข้าร่วมการประลองอีก…

“ตระกูลกวนชุบเลี้ยงเจ้าเติบโตถึงเพียงนี้ ยังมีหน้ามาแข็งข้อกับท่านปู่ ซ้ำ


ยังเอ่ยถอนตัวจากตระกูลอะไรนั ่นอีก ข้าว่าจิตสำนึ กเจ้าคงโยนให้สุนัขกินไป
เสียแล้วกระมัง!” ผูน
้ ำตระกูลกวนแผดเสียงกร้าว ความมีหลักการเยือกเย็น
บนใบหน้าแบกรับไว้ซ่ึงท่าทีของผูน
้ ำวงศ์ตระกูล

“ฮะๆๆๆ!”

กวนสีหลิน
่ เงยหน้าหัวเราะลัน
่ พลันเมื่อเสียงหัวเราะหยุดลง ก็ดึงผ้าคาดเอว
เปิดเสื้อคลุมออก เผยให้เห็นบาดแผลฉกรรจ์ตรงช่วงท้อง
“รู ห
้ รือไม่วา่ แผลเป็นนี้ ขา้ ได้มาอย่างไร?” เขาเดินลงจากบนเวที มายังเบื้อง
หน้าผูน
้ ำตระกูลกวน เข้าใกล้ทีละก้าวๆ พลางซักไซ้ไถ่ถาม “รู ห
้ รือไม่วา่ แผล
เป็นนี้ ขา้ ได้มาอย่างไร? ข้าจะบอกท่าน ว่าเป็นลูกชายท่าน ญาติผูพ
้ ี่ของข้า
ใช้มีดแทงเข้ามาทิง้ รอยไว้จากด้านหลัง!”

เมื่อคำพูดนี้ หลุดออกมา ผูค


้ นต่างสูดหายใจด้วยสายตาเหลือเชื่อ นิ่ งเงียบ
กันถ้วนหน้า ทัง้ หมดล้วนกลัน
้ หายใจขึ้นมา เงียบงันเสียจนได้ยน
ิ เสียงเข็ม
ตกลงพื้น

“เจ้าพูดเหลวไหล!”

ผูน
้ ำตระกูลกวนร้องตะโกนลัน
่ โกรธเคืองเสียจนร่างกายสัน
่ เทา ทว่าในใจ
กลับมีเสียงหนึ่ งกำลังบอก ว่านี่ เป็นเรือ
่ งจริง ไม่เช่นนั ้น เขาไม่กล้าพูดออก
มาต่อหน้าคนตัง้ มากมายเช่นนี้

ผูเ้ ฒ่ากวนดวงตาหม่นหมอง แทบจะเป็นลมล้มไปเพราะเรือ


่ งนี้ พีน
่ ้ องเข่น
ฆ่ากัน อัปยศ น่าอัปยศยิง่ นั ก!

“ข้าพูดเหลวไหลรึ?”

กวนสีหลิน
่ ผูกผ้าคาดเอว เอ่ยว่า “เมื่อครู เ่ ขาก็มีดสัน
้ มาจะฆ่าข้าจากด้าน
หลังไม่ใช่ร?ึ หรือท่านจะทำเหมือนทุกคนตาบอดกันหมด? ตระกูลกวนเช่นนี้
ท่านคิดว่าข้ายังอยูต
่ ่อได้อก
ี หรือ? หากอยูต
่ ่อ จะหมายหัวให้ถูกฆ่าวันไหนก็ยงั
ไม่รูเ้ ลย”
เขามองไปที่ผูเ้ ฒ่ากวน “วันนี้ ที่ขา้ ขอถอนตัวจากตระกูลก็แค่มาบอกกล่าวไว้
ไม่ใช่จะให้พวกท่านอนุญาต กฎระเบียบของตระกูลกวนอะไรนั ่น ตัง้ แต่เวลา
นี้ ไปจะใช้กับข้าไม่ได้แล้ว! เชิญพวกท่านอยูส
่ ัง่ สอนเด็กๆ ในตระกูลกันให้ดีๆ
เถิด!”

เดินก้าวยาวไปหาเฟิ่ งจิว
่ กล่าวว่า “น้ องหญิง พวกเราไปกันเถอะ!”

ผูค
้ นมองหน้ากันไปมา ต่างนึ กไม่ถึงโดยสิน
้ เชิง ว่างานประลองคัดเลือก
ตระกูลกวนจะกลายเป็นเช่นนี้ ช่างเป็นการชมละครปาหีน
่ ้ำดีเสียจริงเชียว!

ตอนแรก กวนสีหลิน
่ ที่อายุยงั น้ อยนั กสามารถสำแดงวิชาย้ายร่างสลับเงาได้
จากนั ้นคุณชายใหญ่ตระกูลกวนก็ลอบโจมตีจากด้านหลัง ตามมาด้วยการ
ขอถอนตัวออกจากตระกูล สุดท้ายยังเปิดโปงเบื้องหลังข่าวลือการตายในป่า
เก้าหมอบอีก

แต่ละเรือ
่ งแต่ละราวนี้ พวกเขาถูกกระเทือนเสียจนตื่นตระหนกตกใจกัน
อย่างมาก ยิง่ ไม่ต้องพูดถึงคนพวกนั ้นของตระกูลกวนหรอก

เวลานี้ เห็นสามคนนั ้นสาวก้าวเดินจากไป ทุกคนในตระกูลกวนไม่มีใคร


ปริปากรัง้ ไว้อก
ี เหมือนจะยังไม่ได้สติกลับมา พวกเขาเองก็ออกหน้าคำนั บ
อำลาจากไปตามกันติดๆ

เดิมนึ กว่าวงศ์ตระกูลจะมีผูม
้ ีพรสวรรค์ แต่ใครจะรู ว้ า่ กลับขอถอนตัวออก
จากตระกูล ซ้ำยังพัวพันถึงเรือ
่ งอื้อฉาวที่พน
ี่ ้ องฆ่าฟันกันเอง นึ กถึงตรงนี้
ผูเ้ ฒ่ากวนก็มีเลือดลมปั่ นป่วนอยูก
่ ลางอก ไม่อาจหายใจขึ้นมาได้ ทัง้ ร่างจึง
เป็นลมล้มไป

“ท่านผูเ้ ฒ่า! ท่านผูเ้ ฒ่าเป็นลมไปแล้ว! เร็ว รีบไปตามท่านหมอ…”

ฟังเสียงอึกทึกครึกโครมที่ลอยมาด้านหลัง เหล่าผูน
้ ำตระกูลที่เดินออกไป
ต่างลอบส่ายหน้ากับตัวเอง ‘วันนี้ นับว่าตระกูลกวนสูญสิน
้ ทัง้ ชื่อเสียงหน้าตา
ใดๆ ไปเสียหมดแล้ว…’
ตอนที่ 120 ท่านปู่ของเธอ!

เมื่อเหล่าผูน
้ ำตระกูลมาถึงด้านนอก เห็นรถม้าคันที่ไม่สะดุดตาเท่าไหร่นัก
แล่นผ่านหน้าไป มองรถม้าคันนั ้นค่อยๆ ไกลห่าง หลังจากพวกเขาพากัน
คำนั บกล่าวลาก็ข้น
ึ รถม้า จากนั ้นถึงจะออกคำสัง่ จับตามองการเคลื่อนไหว
จากนี้ ไปของกวนสีหลิน
่ ให้มากขึ้น

ล้วนคิดว่า ในเมื่อเขาถอนตัวจากตระกูล งัน


้ พวกเขาจะลองดึงตัวเข้ามาใน
ตระกูลตัวเองก็ยอ
่ มได้ ที่จริงแล้ว จากการต่อสู้บนเวทีวน
ั นี้ ต่างก็ดูออกว่า
เด็กคนนี้ ในอนาคตจะต้องไม่ธรรมดาแน่ นอน!

กวนสีหลิน
่ บนรถม้าที่ไม่สนใจเรือ
่ งวุน
่ วายตระกูลกวนและไม่ใส่ใจสายตาคน
รอบข้าง นั ่งอยูเ่ งียบๆ ไม่พูดไม่จา ไม่รูว้ า่ กำลังคิดอะไรอยู่

เห็นเช่นนี้ เฟิ่ งจิว


่ จึงถาม “ท่านพี่ ท่านเสียใจรึ?”

“ไม่มีทางหรอก” เขามองที่นาง ส่ายหน้าพูดว่า “ข้าไม่เสียใจที่ถอนตัวออก


จากตระกูล”

“งัน
้ ท่านกำลังคิดอะไรรึ?”

เขาเงียบไปพักหนึ่ ง ถึงจะเอ่ยว่า “วันนี้ ขา้ ตัดขาดกับตระกูลกวน ถอนตัวจาก


ตระกูล แต่ขา้ อยากก่อร่างสร้างตัว ตัง้ สำนั กตัวเองในเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ มีวงศ์
ตระกูลที่ไม่ด้อยไปกว่าพวกเขา”
“ได้สิ! ความคิดนี้ ดีมาก”

เธออมยิม
้ พยักหน้าชมเชย “ท่านอยากซื้อบ้านที่ไหนล่ะ? พวกเราจะรีบซื้อไว้
เลยก็ได้นะ”

กวนสีหลิน
่ ส่ายหน้า “เสี่ยวจิว
่ ข้าไม่อยากใช้เงินเจ้า ข้าคิดจะหาเงินและใช้น้ำ
พักน้ำแรงของตัวเองมาจัดการเรือ
่ งนี้ ”

เมื่อฟังคำพูดนี้ เดิมเธอจะบอกว่าไม่ต้องลำบากขนาดนั ้น แต่เห็นเขามองมา


ด้วยสีหน้าจริงจัง ในดวงตาฉายแววแน่วแน่ ถึงจะยิม
้ ตอบรับ “ได้เลย ข้าจะ
ไม่ชว
่ ยท่าน แต่วา่ ท่านคิดจะปักหลักตัง้ บ้านที่ใดรึ? ข้าสันทัดพอจะช่วยท่าน
ดูทำเลได้นะ”

เห็นนางไม่ขน
ื ยืนกรานอีก กวนสีหลิน
่ ถึงจะผุดเผยรอยยิม
้ “ขอบใจเจ้านะ
เสี่ยวจิว
่ เรือ
่ งนี้ ถึงไม่บอกข้าก็ต้องถามเจ้าแน่ นอน สายตาเจ้ายังดีกว่าข้า
มากนั ก”

“นั ่นก็จริง”

ใบหน้าเล็กเชิดขึ้นพยักหน้าด้วยความภาคภูมิใจ สายตาจับจ้องบริเวณ
หน้าต่างรถที่ถูกลมพัดเลิกขึ้นเบาๆ โดยไม่ตัง้ ใจ บังเอิญเหลือบเห็นเงาร่าง
หนึ่ ง จึงทำท่าทีสะดุ้งเล็กน้ อยอย่างอดไม่ได้

“หยุดรถ”
เหลิง่ ซวงด้านนอกดึงเชือกม้าไว้เพื่อหยุดรถ

“มีอะไรรึ?” กวนสีหลิน
่ มองนางที่ผูกผ้าคลุมหน้าลุกยืนขึ้นอย่างแปลกใจ
น้ อยๆ

“ท่านพี่ ท่านกับเหลิง่ ซวงซื้อตัวคนรับใช้กลับไปก่อน ข้ามีธุระนิ ดหน่ อย ค่ำๆ


จะกลับไปเอง” บอกพลางเลื่อนผ้าม่านเดินลงไป

กวนสีหลิน
่ นิ่ งอึ้ง รีบร้อนตามออกมา “เสี่ยวจิว
่ ให้เหลิง่ ซวงตามเจ้าไปเถอะ
ข้าควบรถม้าไปเองก็ได้”

เหลิง่ ซวงกำลังเตรียมตัวลงจากม้า กลับได้ยน


ิ เสียงนางลอยมา

“ไม่ต้องหรอก พวกท่านไปเถอะ! ข้าไปเองได้”

เห็นเช่นนี้ เหลิง่ ซวงก็ไม่ตามไปอีก แต่มองไปทางกวนสีหลิน


กวนสีหลิน
่ นิ่ งเงียบสักพัก ก็ไม่ดึงดันอะไรอีก แค่บอกว่า “ในเมื่อนางไม่อยาก
ให้ใครตาม งัน
้ พวกเราก็ไปกันเถอะ! นางไม่เป็นไรหรอก”

“อืม” เหลิง่ ซวงขานรับ มองไปทางนายท่านที่เดินไปข้างๆ แวบหนึ่ ง ถึงจะ


ควบรถม้าเดินหน้าต่อไป
เฟิ่ งจิว
่ เดินกลับไปด้านหน้า มาถึงหน้าร้านเหล้าแห่งหนึ่ ง เห็นชายชราที่กอด
น้ำเต้าเหล้านั ่งอยูห
่ น้าประตูรา้ นไม่ยอมไปไหน รอบดวงตาร้อนผ่าวเล็กน้ อย
ชัว่ ขณะหนึ่ ง ในใจมีความหดหูท
่ ี่ยากเกินเอ่ย

นั ่นคือท่านปู่ของเธอ ถ้าพูดให้ถูก ต้องเป็นท่านปู่ของเจ้าของร่างเดิม ตาม


เหตุผลแล้วเธอควรจะไม่รูส
้ ึกอะไรสิถึงจะถูก แต่กลับกลายเป็นว่า เมื่อเห็น
เขา ความรู ส
้ ึกในใจก็ล้วนเอ่อล้นออกมา

ความรักที่ท่านปู่มีต่อเธอ คำสอนสัง่ แต่ละฉากต่างย้อนความอยูใ่ นห้วง


ทะเลแห่งความคิด ภาพเหล่านั ้นเหมือนเพิง่ เกิดขึ้นเมื่อวาน ราวกับรับรู ม
้ ัน
ด้วยตัวเอง

หลังจากเห็นเขาดื่มเหล้าในน้ำเต้า ก็สำลักแค่กๆ ออกมา ก่อนจะนำเหล้าเท


ทิง้ อย่างรังเกียจ ริมฝีปากจึงยกรอยยิม
้ ขึ้นเบาๆ อย่างอดไม่ได้
ตอนที่ 121 ข้าจ่ายค่าเหล้าให้!

“ตาแก่นี่เป็นอะไรไป? ก็เอาเหล้าให้เจ้าแล้วไม่ใช่หรือ? ไยจึงเททิง้ เสียเล่า?”

เจ้าของร้านถลึงดวงตา แม้แต่น้ำเสียงยังตรงไปตรงมา สวรรค์รูด


้ ีวา่ ตาแก่นี่
ที่ไม่รูโ้ ผล่มาจากไหนมานั ่งตรงประตูรา้ นเขา ไม่ให้เหล้าก็ไม่ยอมไป พอเอา
เหล้าให้ กลับเททิง้ อีก ทำเขาร้อนใจแทบตายเลยจริงๆ!

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งมุ่ยปาก เอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ใครใช้ให้เจ้าไม่เอาเหล้าดีๆ


มาให้ขา้ เล่า? เหล้าพวกนี้ จางราวกับน้ำเปล่า เจ้าอาจดื่มลง แต่ขา้ ดื่มไม่ลง
หรอก!”

เจ้าของร้านโกรธเสียจนชีน
้ ิว
้ ตะคอกเขาเสียงดัง “เจ้า เจ้าตาแก่นี่! เป็นคน
บ้านใดกันแน่ ? ไยจึงไร้เหตุผลเช่นนี้ ? เจ้าไม่จ่ายเงินยังอยากดื่มเหล้าดีๆ
อีกรึ? เจ้าควรดีใจที่ขา้ ยกเหล้าพวกนั ้นให้ ก็ยงั ไม่รูจ
้ ักพอ! ข้าขอเตือนเจ้าไว้
หากยังไม่ไป ข้าจะไม่เกรงใจเจ้าแน่ !”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งถือน้ำเต้าเหล้าเหวีย


่ งเคาะไปบนหัวเจ้าของร้านทีหนึ่ ง สัง่ สอน
ด้วยน้ำเสียงเข้มงวด “หยาบคายยิง่ นั ก หรือพ่อแม่เจ้าไม่เคยสัง่ สอนว่าไม่ให้
ชีน
้ ิว
้ ใส่ผูใ้ หญ่? ช่างเหิมเกริมเสียจริง บังอาจเกินไปแล้ว”

ผูค
้ นรอบด้านที่มองกันคึกคักฟังคำพูดนี้ ก็ส่งเสียงหัวเราะพรวดออกมา
อย่างอดไม่ได้
เจ้าของร้านสีหน้าแดงก่ำ มีแม้แต่ใจจะร้องไห้คร่ำครวญ “ท่านผูเ้ ฒ่า ข้า
ขอร้องท่านยังไม่พออีกรึ? ท่านทำตัวดีๆ แล้วรีบไปเสียเถิด! รีบกลับบ้านไป
ซะ อย่าได้ขวางข้าทำมาหากินเลย ธุรกิจข้าเล็กๆ เพียงนี้ ท่านมานั ่งตรง
ประตู จะทำงานได้เช่นไรเล่า?”

“กลับบ้านรึ?” ชายชรากอดน้ำเต้าเอียงศีรษะเล็กน้ อย ขมวดคิว


้ คิดๆ ดู เอ่ย
ว่า “ข้าอยูบ
่ า้ นไหน? เหมือนจะลืมสิน
้ เสียแล้ว”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ เจ้าของร้านก็คุกเข่าลงทันใด

เขาโผเข้าไปกอดขาท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งพลางร้องไห้ออ


้ นวอน “ท่านผูเ้ ฒ่า ข้า
ขอร้องท่าน อย่าได้อยูถ
่ ่วงแข้งถ่วงขาตรงนี้ เลย ขอขมาท่านด้วย ข้าไม่ควร
ขึ้นเสียงและหยาบคายกับท่าน ผูใ้ หญ่อย่างท่านอย่าเอาเรือ
่ งข้าน้ อยเลยนะ
รีบกลับบ้านไปเสียเถิด!”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งสีหน้าดื้อรัน


้ กล่าวอย่างไม่ชอบใจ “น่าสมเพชจริงๆ! เรือ
่ งเล็ก
แค่นี้ก็คุกเข่า? ซ้ำยังร้องไห้อก
ี ? เจ้าไม่รูจ
้ ักคำว่าชายชาตรีหลัง่ เลือดไม่หลัง่
น้ำตารึ? ดูสิ เจ้ากลายเป็นอะไรไปแล้ว? ช่างดูไม่ได้เอาเสียเลย ข้าไม่มีหน้า
จะมองเจ้าหรอก”

ระหว่างที่พูดก็ไม่ลืมตาขึ้นจริงๆ ไม่หน
ั ไปมองเขา แค่โยนน้ำเต้าเหล้าใส่ออ
้ ม
แขนเจ้าของร้าน “ไปซะ ชงเหล้าดีๆ มาให้ขา้ สักครึง่ ขวด ต้องเป็นเหล้าชัน
้ ดี
ต่ำกว่านั ้นข้าไม่ด่ ืม”
ผูค
้ นรอบๆ ต่างมองเจ้าของร้านอย่างเห็นใจอยูบ
่ า้ ง จึงมีคนตะโกนว่า “ข้าว่า
เจ้ารินเหล้าดีๆ ให้ท่านผูเ้ ฒ่าไปเถอะ! เห็นเสื้อผ้าที่สวมบนตัวแล้ว คงไม่ใช่ผู้
อาวุโสธรรมดาๆ เป็นแน่ ยังกลัวเขาจะเบีย
้ วค่าเหล้าเพียงเล็กน้ อยนั ่นอีกรึ”

“ก็ใช่ๆ ไม่เบีย
้ วค่าเหล้าเจ้าหรอก” ท่านผู้เฒ่าเฟิ่ งหรีต
่ ายิม
้ พยักหน้า พลาง
เร่งเร้า “เร็วหน่ อย ข้าอยากเหล้าแทบคลัง่ แล้ว”

เจ้าของร้านลังเลสักพัก ถึงจะถือน้ำเต้าเหล้าเข้าไปชงเหล้าด้านใน ด้วยกลัว


ว่าเขาจะเททิง้ อีก ดังนั ้นรอบนี้ จึงเป็นเหล้าดีชน
ั ้ หนึ่ งจริงๆ ขณะที่เติมเหล้าไป
อย่างเจ็บใจ พลางคิดว่าสุดท้ายผูเ้ ฒ่าท่านนั ้นจะจ่ายเงินไหวหรือไม่? และ
เป็นคนบ้านไหนกันแน่ ?

พอเติมเหล้าเสร็จออกมา เจ้าของร้านก็ย่น
ื น้ำเต้าเหล้าให้เขาอย่างลังเล
พลางเอ่ยถาม “ท่านผูเ้ ฒ่า ท่านเป็นคนบ้านไหนกันแน่ น่ะ?”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งฉวยน้ำเต้าเหล้ามา ยังไม่หน


ั มองเขาแม้แต่แวบเดียว “เมื่อครู ่
เพิง่ บอกไม่ใช่หรือ? ว่าอยูบ
่ า้ นไหนข้าก็ลืมไปแล้ว แต่วางใจเถอะ ข้าไม่เบีย
้ ว
ค่าเหล้าเจ้าหรอก”

ขณะที่พูดก็ลุกยืนขึ้นมา ปลดถอดเสื้อผ้าพลางเอ่ยว่า “เสื้อผ้านี้ มีราคา ข้าให้


เจ้าเป็นค่าเหล้าแล้วกัน”

เจ้าของร้านร้องไห้หน้าบูดบึ้ง “ข้าเอาเสื้อผ้าท่านไปก็เปล่าประโยชน์ !”

“ข้าจ่ายค่าเหล้าเขาเอง”
ตอนที่ 122 ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ ง!

เสียงสาวน้ อยลอยเข้าหูเจ้าของร้านอย่างกะทันหัน ราวกับได้ยน


ิ เสียงจาก
สวรรค์ จึงมองไปทางต้นเสียงด้วยดวงตาลุกวาว

ผูค
้ นรอบด้านมองสาวน้ อยที่เดินนวยนาดมาอย่างแปลกใจ เมื่อสายตาจับ
จ้องบนร่างนาง ดวงตาก็พากันเปล่งประกาย และแอบชื่นชมอยูใ่ นใจ

ช่างเป็นสาวน้ อยที่ท่าทางโดดเด่นยิง่ นั ก

แม้จะผูกผ้าคลุมหน้าไว้ทำให้มองไม่เห็นรู ปโฉม แต่ท่วงท่าผ่องแผ้วสง่างาม


กลับทำให้ภาพเบื้องหน้าแสนสว่างไสว จึงต่างพากันเคลื่อนขยับตัวเปิดทาง
ให้นางเดินมาด้านหน้า

“คุณหนู? ที่คุณหนูเพิง่ พูดเป็นเรือ


่ งจริงหรือขอรับ? ท่านรู จ
้ ักผู้เฒ่านั ่นรึ? ดี
เหลือเกิน! รบกวนท่านรีบพาเขาไปโดยเร็วเถิด ข้าปล่อยเขาทำเสียเวลา
หากินมาทัง้ วันแล้ว” เจ้าของร้านเหมือนเห็นขอนไม้ลอยมาช่วยชีวต
ิ จึงออก
หน้าพูดพร่ำเสียยืดยาว

เฟิ่ งจิว
่ โยนก้อนเงินออกไป “นี่ ค่าเหล้า” ถึงจะหันมองท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ ง

ผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งที่ยน


ื อยูต
่ รงประตู ตัง้ แต่เฟิ่ งจิว
่ เดินออกมา สองตาก็กลอกมอง
บนตัวนาง เวลานี้ เห็นนางมองมา จึงคลี่ยม
ิ้ ออกอย่างอดไม่ได้ มุ่ยปากด้วย
อารมณ์ ที่มีความซุกซน สีหน้าเบื่อหน่าย ก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัยมากๆ
“เสี่ยวเฟิ่ งเอ๋อร์ ทำไมหลานหาปู่เจออีกแล้วล่ะ?”
เสี่ยวเฟิ่ งเอ๋อร์ ทำไมหลานหาปู่เจออีกแล้วล่ะ…

เฟิ่ งจิว
่ ตกใจเล็กน้ อย ยืนอยูใ่ นนั ้นมองท่าทางเขาที่มุ่ยปากหมดสนุกอย่างตก
ตะลึง เห็นบนใบหน้ามีความเบื่อหน่ายที่ถูกหาตัวเจอ แต่ในดวงตากลับยังมี
ความสุขสนุกสนานที่ไม่อาจปิดบังได้เอ่อล้นอยู่

คำพูดประโยคนี้ อยูใ่ นหัวเพราะเขา หวนนึ กถึงวัยเด็กของสองคนปู่หลานที่


มักจะเล่นซ่อนหากันบ่อยๆ

ทุกครัง้ ที่โดนเจอตัว เขาจะเอ่ยถามอย่างสงสัยและหมดสนุกเช่นนี้ ‘เสี่ยว


เฟิ่ งเอ๋อร์ ทำไมหลานหาปู่เจออีกแล้วล่ะ?’

หัวใจหดหูน
่ ้ อยๆ รอบตาร้อนผ่าวหน่ อยๆ ชัน
้ ละอองน้ำที่ไม่อาจควบคุมได้เอ่อ
ล้นขึ้นดวงตา สายตาเธอจึงพร่ามัว

เพราะเขาดูออกในแวบเดียว ซ้ำยังเรียกเธอว่าเสี่ยวเฟิ่ งเอ๋อร์ มันช่างมีผล


กระทบต่อหัวใจโดยไม่รูต
้ ัว

ปู่เธอขีห
้ ลงขีล
้ ืมเป็นบางครัง้ คราว

จะลืมว่าบ้านอยูท
่ ี่ไหน? ลืมว่าตัวเองเป็นใคร? และลืมว่าลูกชายชื่ออะไร? แต่
กลับไม่เคยลืมเธอแค่คนเดียว
เขามักบอกว่าเธอเป็นหงส์น้อยของบ้านตระกูลเฟิ่ ง เป็นสมบัติล้ำค่าในมือ
พวกเขาทัง้ รัก เอ็นดู และห่วงใยเธอ ล้วนนำสิง่ ของที่ดีที่สุดมาให้ เพื่อจะได้
เห็นท่าทางร่าเริงเบิกบานของเธอ

เห็นรอบตานางมีน้ำตาคลอ ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งก็ตกใจ จึงรีบเร่งออกหน้า “เสี่ยว


เฟิ่ งเอ๋อร์? หลานเป็นอะไรรึ? มีใครแกล้งหลานใช่หรือไม่? บอกปู่มา ปู่จะช่วย
หลานกำราบมัน!” เพื่อแสดงออกว่าเขาจะลงแรงช่วย จึงกำหมัดขึ้นกวัด
แกว่ง

เธอส่ายหน้า แล้วจูงมือพาเขาเดินออกจากฝูงชน ไปยังทิศทางจวนตระกูล


เฟิ่ ง

ระหว่างที่เดินอยูช
่ า้ ๆ นางไม่พูดไม่จา ส่วนผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งข้างกายก็ปล่อยให้จูงมือ
และเดินตามอย่างว่าง่าย หันมองอย่างระมัดระวังเป็นครัง้ คราว ไม่รูว้ า่ ทำไม
นางถึงร้องไห้?

“เสี่ยวเฟิ่ งเอ๋อร์ หลานยังมีเงินอยูห


่ รือไม่?” เขาเอ่ยถามอย่างคุมเชิง

เฟิ่ งจิว
่ หยุดฝีเท้าลง มองไปหาเขา จากนั ้นค่อยล้วงเงินก้อนหนึ่ งให้

ผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งรับไปอย่างระรืน


่ คลี่ปากแย้มยิม
้ “หลานรอปู่ตรงนี้ สักครู น
่ ะ อย่า
วิง่ ซนล่ะ” พูดพลางวิง่ เตาะแตะออกไป
ไม่นานนั ก เขาก็วงิ่ กลับมา นำสิง่ ของในมือยื่นให้นางราวกับเป็นสมบัติ “นี่ ปู่
ซื้อให้หลานนะ เป็นเม็ดบัวหวานที่หลานชอบกินที่สุด พอกินเม็ดบัวหวาน
หลานก็ไม่ต้องร้องไห้อก
ี แล้วนะ”

เมื่อฟังคำพูดเขา และมองถุงเม็ดบัวหวานในมือ เธอก็ต้ ืนตันขึ้นเล็กน้ อยใน


ลำคอ หัวใจเหมือนถูกเติมเต็มด้วยอะไรบางอย่างที่อบอุน
่ แต่กลับมีความ
เศร้าหมอง อยากจะเรียกท่านปู่ ทว่ากลับไม่กล้าเอ่ยปาก
ตอนที่ 123 จวนตระกูลเฟิ่ งตามหาคน!

“หลานปิดหน้าไว้นะ! ท่านรู ว้ า่ เป็นเสี่ยวเฟิ่ งเอ๋อร์ของท่านได้อย่างไรเจ้าคะ?”


เธอบีบถุงเม็ดบัวหวานในมือ เอ่ยถามถึงความเคลือบแคลงในใจ

อันที่จริง ขนาดมู่หรงอีเ้ ซวียนกับซูรวั ่ อวิ ๋นเห็นเธอก็ยงั ดูกันไม่ออกในแวบ


เดียว แล้วเขาดูออกได้อย่างไรกันเล่า?

ใครจะรู ้ ว่าคำพูดนี้ ของเธอจะแลกมาด้วยสายตาชิงชังของท่านผูเ้ ฒ่า

“ปู่เห็นหลานมาตัง้ แต่เด็กๆ แค่ปิดหน้าไว้ ปู่จะมองไม่ออกเลยหรือ? ยิง่ ไป


กว่านั ้น ปู่เก็บตัวฝึกฝนวิชามาเหมือนเพิง่ จะเป็นเวลาไม่กี่เดือน จะมอง
หลานไม่ออกได้อย่างไรเล่า?”

ได้ยน
ิ คำพูดเขา เฟิ่ งจิว
่ ถึงจะนึ กขึ้นได้ ก่อนเกิดเรือ
่ ง ท่านผูเ้ ฒ่ากำลังอยูใ่ น
ช่วงเก็บตัวฝึกฝนวิชา คิดๆ ดูแล้ว คงเพิง่ ฝึกเข้าขัน
้ จึงวิง่ แจ้นออกมาหา
เหล้ากิน คาดว่ายังไม่เห็นเฟิ่ งชิงเกอตัวปลอมคนนั ้นในจวนตระกูลเฟิ่ ง

“งัน
้ ท่านนึ กออกแล้วรึเจ้าคะ ว่าอยูบ
่ า้ นไหน?”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งมองนางพลางส่ายหน้า ถอนใจกล่าวว่า “เสี่ยวเฟิ่ งเอ๋อร์ ปู่เพิง่


เก็บตัวออกมาไม่กี่เดือน ไยจึงรู ส
้ ึกว่าเจ้าคล้ายจะโง่เขลาขึ้นเสียแล้ว? เจ้า
เป็นหลานสาวปู่ หลานอยูบ
่ า้ นไหน แน่ นอนว่าปู่ก็อยูบ
่ า้ นนั ้นด้วย ยังต้อง
ถามอีกรึ?”
เฟิ่ งจิว
่ กระตุกมุมปาก แม้เขาจะไม่ได้พูดอะไรผิด แต่วา่ ทำไมฟังแล้วแปลกๆ
ชอบกล? หนำซ้ำ ยังเห็นอยูช
่ ด
ั ๆ ว่าเขานึ กไม่ออกด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร!

ทัง้ สองคนเดินบนถนนอยูน
่ านนั ก เมื่อใกล้ถึงประตูจวนตระกูลเฟิ่ ง เธอก็
หยุดฝีเท้าลง “ท่านกลับไปเถิด! ออกมาครัง้ หน้าอย่าทิง้ พวกองครักษ์ ตระกูล
เฟิ่ งล่ะ ไม่งน
ั ้ ท่านจะลืมทางกลับอีกนะเจ้าค่ะ”

ผูเ้ ฒ่าตระกูลเฟิ่ งฟังแล้วรู ส


้ ึกแปลกใจ มองประตูจวนตรงหน้า ก่อนจะมอง
นางที่หน
ั ตัวกำลังจะไป เอ่ยถามอย่างแคลงใจ “เสี่ยวเฟิ่ งเอ๋อร์ หลานไม่กลับ
บ้านกับปู่ร?ึ ยังจะไปไหนอีก?”

ขณะที่พูด ก็เร่งตามไปข้างกายนาง พลางสัง่ สอนว่า “หลานคิดว่าผู้หญิงตัว


คนเดียวจะออกไปโดยไม่ให้คนคอยติดตามได้อย่างไร? หากพบอันตราย ถูก
คนลักพาตัวเข้าจะทำเช่นไร? ในบ้านเราเจ้าเป็นสมบัติอน
ั ล้ำค่าเพียงนี้ ถ้า
ถูกลักพาตัว จะให้พวกปู่ไปตามหาที่ใดเล่า?”

“ท่านไม่กลับไปรึเจ้าคะ?” เธอมองเขาด้วยสายตาผิดแปลก ในใจมีความ


กังวลเล็กน้ อย เอาล่ะครัง้ นี้ จะทำเช่นไรกับเขาดี?

ผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งหรีด


่ วงตาลงยิม
้ กล่าวอย่างเอาอกเอาใจ “หลานจะไปเดินเล่นไม่
ใช่ร?ึ ปู่ไปเป็นเพื่อนเอง คอยปกป้องหลานได้ หนำซ้ำ ปู่เพิง่ จะเก็บตัวออกมา
ไม่กี่เดือน ยังไม่อยากรีบกลับเข้าบ้านขนาดนั ้น”

เขาตบๆ น้ำเต้าเหล้าตรงช่วงเอว บอกว่า “เหล้านี่ ก็ยงั ดื่มไม่หมดด้วย!”


มองประตูจวนตระกูลเฟิ่ งที่อยูเ่ บื้องหน้าไม่ไกล แล้วมองท่านผูเ้ ฒ่าข้างกาย
เธอถอนหายใจอย่างไร้เสียง ถึงจะพาคนออกไป

ในจวนตระกูลเฟิ่ ง

เมื่อเฟิ่ งเซียวที่กำลังสนทนาอยูก
่ ับมู่หรงอีเ้ ซวียน ได้ยน
ิ รายงานของคนรับใช้
ก็ลุกยืนขึ้นมาทันที ตะคอกเสียงเข้มว่า “อะไรนะ? ท่านผู้เฒ่าออกจากการ
เก็บตัวโดยที่พวกเจ้าไม่รู?้ ตอนนี้ ทัง้ นอกจวนในจวนก็หาคนไม่เจอรึ?”

คนรับใช้ก้มหัวเล็กน้ อย ดวงตาไม่กล้ามองเขาตรงๆ อยูบ


่ า้ ง “ใช่ ใช่ขอรับ ข้า
น้ อยส่งองครักษ์ ในจวนออกไปตามหา แต่ตอนนี้ ยงั ไม่มีขา่ วคราวเลยขอรับ”

“แอบหนี ออกไปหาเหล้ากินแน่ ๆ!”

เฟิ่ งเซียวพูดอย่างกังวลน้ อยๆ มองไปที่มู่หรงอีเ้ ซวียน “ท่านผูเ้ ฒ่าหายไป อา


ต้องไปตามหา ก่อนหน้านี้ ชงิ เกอกลับมาก็หลบอยูใ่ นห้อง ต้องรบกวนเจ้าช่วย
ข้าเข้าไปดูนางทีนะ”

“ท่านอาเซียว ให้ขา้ ส่งคนไปช่วยหาด้วยไหมขอรับ?” มู่หรงอีเ้ ซวียนลุกยืนขึ้น


เอ่ยถาม

“ไม่ต้องหรอก กำลังคนในจวนมีพอนั ก หนำซ้ำอาเดาว่าคงจะอยูใ่ นสถานที่


จำพวกร้านเหล้าในเมือง พวกอาไปตามหาก็พอแล้ว”
ระหว่างที่พูด ก็ไม่รอให้เขาเอ่ยอะไรมากนั ก ก่อนจะเดินก้าวยาวออกไป
ตะเบ็งเสียงทุ้ม “ไปตามองครักษ์ ตระกูลเฟิ่ งที่อารักขาท่านผูเ้ ฒ่ามาให้ขา้ !”
ตอนที่ 124 ขอถอนหมั้น!

เห็นเขาก้าวยาวพาคนจากไป มู่หรงอีเ้ ซวียนก็ชะงักลงพักหนึ่ ง ถึงจะเดินไป


ยังเรือนด้านหลัง มาถึงเรือนของเฟิ่ งชิงเกอ

พอสาวใช้สองคนที่คอยอยูใ่ นลานบ้านเห็นเขา ก็รอ


้ นลนลงคุกเข่าคำนั บ ขาน
เรียก “คารวะท่านอ๋องสามเจ้าค่ะ”

“พวกเจ้าถอยไปเถอะ!” เขายืนตรงลานบ้าน ส่งสัญญาณให้สาวใช้ทัง้ สอง


ถอยไป

ทัง้ สองมองหน้ากันแวบหนึ่ ง ขานตอนรับ แล้วถึงจะเดินออกไป

เฟิ่ งชิงเกอในห้องได้ยน
ิ เสียงมู่หรงอีเ้ ซวียนด้านนอก ในใจยิง่ คิดยิง่ น้ อยอก
น้ อยใจ

“ชิงเกอ ข้ามีเรือ
่ งอยากพูดกับเจ้า” เขายืนอยูน
่ อกประตู ไม่ได้เข้าไป

ประตูหอ
้ งเปิดแกร๊กออก เฟิ่ งชิงเกอที่สีหน้าโกรธเคืองยืนข้างประตู “ท่านจะ
พูดอะไรรึเจ้าคะ? จะบอกว่าท่านไม่ได้ตัง้ ใจนิ่ งมองข้าโดนคนตบ? หรือจะ
บอกว่าพอเห็นสาวน้ อยงดงามที่ปิดผ้าคลุมหน้านั ่นท่านก็หวัน
่ ไหวแล้ว?”

มู่หรงอีเ้ ซวียนมองนางด้วยท่าทางซับซ้อน ฟังคำพูดแล้ว ก็เงียบไปพักหนึ่ ง


ก่อนจะเอ่ย “ข้าขอโทษ”
ได้ยน
ิ เขาพูดขอโทษ ใจนางเต้นตึกตักชัว่ ขณะ มีความตกใจเล็กน้ อย “ท่าน
พีม
่ ู่หรง หลายเดือนมานี้ ขา้ มักจะรู ส
้ ึกว่าท่านห่างเหินข้าไปไกลนั ก ท่านไม่
ชอบข้าจริงๆ แล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

“ชิงเกอ เจ้าเป็นคนดีมาก ดีมากจริงๆ”

เขาหลับตาลง ในหัวคิดถึงสาวน้ อยที่ปิดผ้าคลุมหน้าผูน


้ ั ้น กล่าวว่า “พูดได้วา่
พวกเราเป็นเพื่อนเล่นวัยเด็กที่มีความรู ส
้ ึกดีๆ ต่อกัน ตลอดมาข้านึ กว่าเรา
จะเดินเคียงกันไปชัว่ นิ รน
ั ดร์ ถึงกับเตรียมการไว้เมื่อหลายเดือนก่อน ว่าจะ
ทูลขอเสด็จพ่อ ให้พวกเราได้แต่งงานกัน”

“ท่านพีม
่ ู่หรง ท่าน…”

“เจ้าฟังข้าพูดให้จบก่อน” เขามองที่นาง แล้วพูดต่อ “แต่ชว


่ งไม่กี่เดือนนี้ ที่
เจ้ากำลังรู ส
้ ึกเช่นนั ้น ข้าเองก็รูส
้ ึก ว่าระยะห่างของเราสองยิง่ ไกลกันเรือ
่ ยๆ
ความรู ส
้ ึกหวัน
่ ไหวยามที่อยูด
่ ้วยกันเช่นวันวาน ข้าก็ไม่รูว้ า่ มันจางหายไป
ตัง้ แต่เมื่อใด ข้ารู ว้ า่ นี่ มันโหดร้ายสำหรับเจ้ามาก แต่ขา้ ไม่อยากหลอกลวง
เจ้า”

เห็นนางหลัง่ น้ำตาอย่างเงียบเชียบ เขาก็ไม่อยากลืมตามอง “เดิมทีเมื่อครู ข


่ า้
อยากบอกพ่อเจ้าว่าจะยกเลิกงานแต่งของพวกเรา แต่หลังท่านปู่ออกจาก
เก็บตัว ไม่รูว้ งิ่ หายไปไหน เขาก็พาคนไปตามหา เรือ
่ งนี้ ผา่ นไปอีกสองสามวัน
ข้าจะบอกเขาเอง”
นางโผเข้ากอดเขาไว้แน่ น ฟูมฟายด้วยความตื่นตระหนก “ไม่! ข้าไม่
ต้องการ! ท่านพีม
่ ู่หรง ข้าไม่อยากถอนหมัน
้ ข้าชอบท่าน ชอบท่านมานาน
แสนนานแล้ว ท่านรู บ
้ า้ งหรือไม่?”

เขาปล่อยให้นางโอบกอด ดวงตาที่หลับลงมีความรู ส
้ ึกผิด “ชิงเกอ เจ้าอย่า
เป็นเช่นนี้ เลย จากนี้ ไปข้าจะปฏิบต
ั ิต่อเจ้าเช่นน้ องสาว ไม่ดีกว่าหรือ?”

“ไม่! ข้าไม่อยากเป็นน้ องสาวท่าน ข้าไม่ต้องการ! ท่านพีม


่ ู่หรง ท่านบอกสิ
ข้ายังทำดีไม่พอใช่หรือไม่? ข้าผิดตรงไหนใช่หรือไม่? ท่านบอกมาเถิด ข้าจะ
แก้ไข จะปรับปรุ งตัวได้แน่ นอนเจ้าค่ะ” นางเงยหน้าร้องไห้พลางมองเขา
อย่างเศร้าใจ ไม่ยอมเชื่อในสิง่ ที่ตัวเองได้ยน

นางทัง้ ชอบและรักเขามากจริงๆ จึงเรียนรู ท


้ ุกการเคลื่อนไหว คำพูด และท่า
ทางของเฟิ่ งชิงเกอเพื่อเขา ถึงกับยอมใช้ตัวตนเฟิ่ งชิงเกอไปตลอดชีวต
ิ ก็เพื่อ
เขา ใช้ใบหน้านางมาเผชิญหน้า ทว่าตอนนี้ … ทว่าตอนนี้ กลับนึ กไม่ถึง ว่าเขา
จะเอ่ยปากขอถอนหมัน
้ ?

เขาดึงแขนนางที่กอดเอวตนไว้แน่ นออก มองนางอย่างรู ส


้ ึกผิด “ชิงเกอ นี่
ไม่ใช่อารมณ์ ชว
ั ่ วูบ ความคิดนี้ อยูใ่ นใจข้ามาระยะหนึ่ งแล้ว จนกระทัง่ วันนี้ ถึง
จะพูดออกมา ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจได้ สิง่ ของเช่นความรู ส
้ ึกไม่อาจกล้ำกลืน
ฝืนทน ข้าเสียใจยิง่ นั กที่ทำร้ายเจ้า”

สิน
้ สุดน้ำเสียง เขาก็ไม่มองนางอีก แต่หน
ั ตัวก้าวยาวเดินออกไป
ทัว่ ทัง้ ร่างเฟิ่ งชิงเกอทรุ ดลงนั ่งบนพื้นอย่างสิน
้ เสียสติ มองเงาร่างเขาที่หน

ตัวตีจากโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยอย่างตะลึงงัน จนนิว
้ มือแทงลึกลงฝ่ามือ
ตอนที่ 125 ดึงผ้าคลุมลง!

เนิ่ นนานกว่านางจะเช็ดน้ำตาที่หางตาไป ในดวงตาค่อยๆ กลับคืนมีชว


ี ต
ิ ชีวา
แต่สายตากลับมีแววเกลียดชังและดุรา้ ยฉายตามมา

“มู่หรงอีเ้ ซวียน เพื่อเจ้า ข้าถึงทำอะไรมากมายขนาดนี้ เพียงบอกจะทำร้าย


ก็ทำร้ายข้าได้อย่างงัน
้ รึ? ข้าจะไม่ให้เจ้าสมใจ พรหมลิขต
ิ ของเจ้าต้องเป็นข้า
เท่านั ้น!”

แตกต่างกับตระกูลเฟิ่ งด้านนี้ อีกด้านหนึ่ ง ภายในเรือนเฟิ่ งจิว


่ ท่านผูเ้ ฒ่า
เฟิ่ งที่ถูกพาตัวกลับมามองเรือนแห่งนี้ อย่างแปลกใหม่ราวกับเด็กน้ อยเดิน
เล่นในเรือนใหญ่ เอ่ยถามด้วยความสงสัย “เสี่ยวเฟิ่ งเอ๋อร์ เรือนนี่ เป็นของ
ใครกัน? ยังมีหลานอีก ไยจึงคลุมผ้าปิดหน้าไว้ตลอดเล่า?”

แม้เขาจะขีล
้ ืมไปบ้าง แต่กลับไม่ได้โง่เขลา ถนนเส้นนี้ ที่เดินมาดูรางๆ แล้ว
แตกต่างจากปกติอยูเ่ ล็กน้ อย โดยเฉพาะหลานสาวตัวเอง พอถึงด้านใน
เรือนก็ยงั ผูกผ้าคลุมหน้าไว้ตลอด ช่างไม่ชอบมาพากลเอาซะเลย

ดังนั ้น แววตาจึงฉายแววเป็นประกาย ใบหน้าผุดรอยยิม


้ ออก พลันเอีย
้ วตัว
ยกมือขึ้นดึงผ้าคลุมหน้านางลง

“เรือนแห่งนี้ …”

เฟิ่ งจิว
่ ตกตะลึง ยังพูดไม่ทันจบ ผ้าคลุมบนหน้าก็ถูกดึงลงมา เผยให้ใบหน้า
ที่ถูกทำลายเสียจนเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น
“ซี๊ด! นี่ นี่ มันเกิดอะไรขึ้น?”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งสูดลมหายใจ เอ่ยถามด้วยความโกรธเกรีย


้ ว

เดิมเขาแค่คิดจะหยอกหลานสาวเล่น จึงดึงผ้าคลุมหน้า อยากเห็นว่านางผูก


ผ้าคลุมไว้ตลอดเพื่ออะไร? แต่นึกไม่ถึงว่าภายใต้ผา้ คลุมกลับเป็นใบหน้าที่
เสียโฉมเช่นนี้

“ใครกัน? บอกปู่มา ใครทำร้ายใบหน้าหลานจนเป็นเช่นนี้ ?”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งรอบตาแดงก่ำน้ อยๆ เพราะความเจ็บใจ แม้แต่เสียงพูดยัง


สะอื้นขึ้นมา เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยแผลมีดกรีดแต่ละรอย ไม่อาจ
จินตนาการได้เลยจริงๆ ความเจ็บปวดเช่นนั ้น นางทนรับไหวได้อย่างไรกัน?

เป็นใครกัน? ที่โหดร้ายเลือดเย็นขนาดทำให้ใบหน้าสาวน้ อยคนหนึ่ งเสียโฉม


เช่นนี้ ?

หัวใจเฟิ่ งจิว
่ สัน
่ ไหวน้ อยๆ เห็นท่านผูเ้ ฒ่ารอบตาแดงๆ น้ำเสียงสะอึกสะอื้น ก็
หลับตาลง ถามว่า “เช่นนี้ ยังคิดว่าข้าเป็นหลานสาวท่านอยูห
่ รือไม่เจ้าคะ?
แบบนี้ แล้ว ท่านยังมองออกหรือไม่เจ้าคะ ว่าข้าเป็นหลานสาวท่าน?”

ฟังคำพูดนี้ ในที่สุดท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งก็หลัง่ น้ำตาออกอย่างกลัน


้ ไว้ไม่อยู่ ออก
หน้ากอดเฟิ่ งจิว
่ ไว้ ใช้มือหนึ่ งลูบศีรษะเบาๆ พลางปลอบโยนอย่างสะอื้นไห้
“แม่หนูเฟิ่ ง ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัวนะ! ปู่มองออกสิ ไม่วา่ หลานจะเปลี่ยนไป
เช่นไร ปู่ก็มองออกหมดแหละ”
“ท่านปู่”

สุดท้ายเฟิ่ งจิว
่ ก็รอ
้ งเรียกออกมาอย่างทนไม่ไหว หนึ่ งคำเรียกท่านปู่นี้ เปล่ง
มาจากหัวใจ มันมีทัง้ ความรู ส
้ ึกของเฟิ่ งชิงเกอ และความรู ส
้ ึกของเฟิ่ งจิว

แฝงอยูภ
่ ายใน

อาจเพราะ ยามที่เขามองเธอออกในแวบเดียว หัวใจก็ตอบรับ ว่าเขาเป็นคุณ


ปู่ของเฟิ่ งจิว

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งถอยออกก้าวหนึ่ ง สองมือจับไหล่นางไว้ กล่าวว่า “แม่หนูเฟิ่ ง


หลานบอกปูสิ ช่วงที่ปู่เก็บตัวอยูเ่ กิดเรือ
่ งอะไรขึ้นใช่หรือไม่? ใครกันที่ทำหน้า
หลานเสียโฉม?”

เฟิ่ งจิว
่ เงียบลงเนิ่ นนาน เอ่ยว่า “ในบ้านตระกูลเฟิ่ งมีเฟิ่ งชิงเกออีกคนหนึ่ ง
เจ้าค่ะ”

“อะไรนะ?”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งชะงัก “เจ้าจะบอกว่า ในบ้านมีตัวปลอมอยูร่ ?ึ นี่ นี่ เป็นไปไม่ได้


กระมัง? พ่อหลาน ลูกชายปู่ไม่ใช่คนโง่เขลา จะมองลูกสาวตัวเองไม่ออกได้
อย่างไรเล่า?”

เห็นนางมองมาทางเขา ผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งจึงร้อนรนโบกบ่ายมือ บอกว่า “ไม่ใช่วา่ ปู่


ไม่เชื่อหลาน แต่รูส
้ ึกเหลือเชื่อนิ ดหน่ อย เจ้าตัวปลอมนี่ คนอื่นมองไม่ออกไม่
เท่าไหร่ แม้แต่คนในบ้านก็ยงั ดูไม่ออกเลยเลยรึ?”
ตอนที่ 126 โกรธเกรีย
้ วและทุกข์ใจ!

เธอไม่พูดอะไรมาก แค่บอกว่า “ท่านปู่ ท่านลองกลับไปดูที่บา้ นได้ แต่วา่


เรือ
่ งที่หลานอยูน
่ ี่ หวังว่าท่านจะไม่เอ่ยถึงนะเจ้าคะ”

ผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งได้ยน


ิ คำพูดนี้ ก็ชะงัก “หลานไม่คิดจะกลับไปกับปู่ร?ึ หลานกังวลว่า
พ่อจะไม่เชื่อ? หรือไม่เชื่อใจปู่?”

เธอส่ายหน้า “หากหลังจากท่านเห็นเฟิ่ งชิงเกอคนนั ้นในบ้านตระกูลเฟิ่ ง


และยังคงคิดว่าข้าเป็นหลานสาวท่าน ข้าก็จะกลับไปกับท่านเจ้าค่ะ”

เห็นเช่นนี้ ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งก็ลูบเครา นิ่ งเงียบอยูน


่ าน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ปู่จะ
ลองกลับไปดูก่อน ว่านี่ มันเรือ
่ งอะไรกันแน่ หลานวางใจเถอะ ปู่จะมาแน่ ”

ใบหน้าเขาเวลานี้ เคร่งขรึมเป็นที่สุด บนร่างมีท่าทางเช่นผูน


้ ำตระกูล แอบคิด
ในใจว่า ‘ถ้าในบ้านมีเฟิ่ งชิงเกอตัวปลอมอยูจ
่ ริง งัน
้ ใครคนนั ้นต้องเป็นผู้ที่
ทำลายใบหน้าหลานสาวเขาแน่ ๆ!’

หากเป็นเช่นนี้ เขาจะไม่ปล่อยคนผูน
้ ั ้นไปแน่ นอน!

ในดวงตาเฉี ยบแหลมฉายแววดุเดือด เมื่อมองไปทางเฟิ่ งจิว


่ ก็ผุดเผยรอย
ยิม
้ อ่อนโยน “แม่หนูเฟิ่ ง หลานอย่าได้หวัน
่ ใจ รออยูท
่ ี่นี่นะ ปู่จะลองกลับไปดู
ที่บา้ นก่อน ไม่ต้องกังวล ปู่จะรีบมารับหลานโดยเร็ว”
ได้ยน
ิ เช่นนี้ เธอก็อบอุน
่ ใจ จึงเผยรอยยิม
้ อิม
่ เอมพร้อมทัง้ พยักหน้า “อื้ม”
แม้เดิมทีเธอไม่คิดจะรีบกลับไปเพียงนั ้น แต่ในเมื่อเขารู เ้ รือ
่ งหมดแล้ว งัน
้ ก็
ลองดูก่อนเถอะ!

หลังท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งเอ่ยกำชับ ก็ออกจากเรือนไปยังบ้านตระกูลเฟิ่ ง ระหว่าง


ทางกลับจวน พบเฟิ่ งเซียวที่กำลังพาคนออกตามหา เมื่อเห็นเขา ก็รอ
้ นรน
ก้าวเข้ามาด้วยท่าทางเป็นกังวล

“ท่านพ่อ! ท่านไปไหนมาขอรับ? จะออกมาทำไมไม่คนพาไปด้วย? ข้าออกหา


ตามร้านเหล้าละแวกนี้ รอบหนึ่ งแล้วก็ยงั ไม่พบท่านเลย”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งเอามือไพล่หลังกวาดมองเขาแวบหนึ่ ง ส่งเสียงหึหนั กๆ สีหน้า


หมองคล้ำ กำลังเก็บกดความโกรธเคืองอยูอ
่ ย่างเห็นได้ชด
ั กล่าวว่า “เจ้า
ต้องตัง้ สติได้แล้ว! กลับไปข้าค่อยจัดการเจ้า!”

เฟิ่ งเซียวสีหน้างุนงง ไม่รูท


้ ่านพ่อโมโหจากไหนมา กำลังจะเอ่ยถาม กลับ
เห็นเขาก้าวยาวเดินเข้าจวนไป จึงเร่งออกคำสัง่ ว่า “ไปซะ เรียกทุกคนกลับ
ไป บอกว่าหาท่านผูเ้ ฒ่าเจอแล้ว”

“ขอรับ” องครักษ์ ด้านหลังขานรับ ก่อนจะหันตัวจากไปอย่างรวดเร็ว

เฟิ่ งเซียวก้าวยาวตามเข้าไป พลางเอ่ยถาม “ท่านพ่อ ท่านเป็นอะไรไป? ใครยุ


ให้ท่านโกรธรึขอรับ?”
ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งไม่ตอบเขา เพียงก้าวยาวเดินไปด้วยสีหน้ามืดมน สายตา
เคร่งขรึมและกลิน
่ อายทัว่ ร่างช่างกดดันเสียจนน่าสะพรึงเล็กน้ อย ทำให้เฟิ่ ง
เซียวที่ตามอยูข
่ า้ งกายอกสัน
่ ขวัญแขวนอย่างอดไม่ได้ ไม่รูว้ า่ เกิดเรือ
่ งอะไร
ขึ้นกันแน่

พอเข้าจวนมา ผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งก็นั่งลงบนตำแหน่ งที่อาวุโส มือหนึ่ งตบหน้าโต๊ะ


รุ นแรง น้ำเสียงแหบแห้งกลับโกรธเกรีย
้ วเต็มประดา ตะคอกออกมาด้วย
ความขุน
่ เคือง “ไปตามคนมาให้ขา้ !”

เฟิ่ งเซียวที่ตามหลังเข้ามารีบร้อนออกหน้า กล่าวถามอย่างไม่เข้าใจ “ท่าน


พ่อ ให้เรียกใครมารึขอรับ?”

“แน่ นอนว่าต้องเป็นหลานสาวคนโปรดของข้า!” เขากัดฟันพูดไม่กี่ประโยค


นั ้นอย่างหนั กหน่วง แววตาแหลมคมราวใบมีด ราวกับกำลังพยายามข่มไฟ
โกรธไว้

“ชิงเกอรึขอรับ?”

เฟิ่ งเซียวประหลาดใจ เห็นท่านผูเ้ ฒ่าสีหน้าเดือดดาล จึงเอ่ยถามอย่างระ


แวดระวัง “ท่านพ่อ ท่านถามหาชิงเกอทำไมรึ? หรือนางทำให้ท่านโกรธ? คง
ไม่ใช่แน่ ! ท่านเก็บตัวออกมาก็วงิ่ ไปข้างนอก นางไม่พบท่านหลายเดือน ไม่
น่าจะทำให้ท่านโกรธได้หรอก!”

ปัง!
ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งใช้มือหนึ่ งตบลงบนหน้าโต๊ะรุ นแรงเสียงดังลัน
่ สนั ่น ทัง้ ร่างยืน
ขึ้นมาด้วยความโมโหโกรธา แล้วมองเขาอย่างเกรีย
้ วกราด “ข้าบอกว่าไป
ตามคนมาให้ขา้ !”
ตอนที่ 127 ใครจริงใครปลอม?

เฟิ่ งเซียวถูกท่านพ่อที่บน
ั ดาลโทสะตะโกนใส่เสียจนสองขาสะดุ้งร่างกาย
สะเทือน สวรรค์รูว้ า่ เขาไม่เคยเห็นท่านพ่อโมโหเช่นนี้ มานานหลายปีแล้ว
ตอนนี้ จึงไม่กล้าถามอะไรอีก เพียงขานรับ “ได้ขอรับๆๆ ท่านอย่าเพิง่ โกรธ
ข้าจะรีบไปตามคนให้”

ขณะที่พูด ก็เร่งรีบออกไปสัง่ คนรับใช้ให้ไปตามลูกสาวมาจากเรือนด้านหลัง

และในเวลาเดียวกัน ในลานเรือนเฟิ่ งชิงเกอ ชายวัยกลางคนปรากฏตัวนอก


ห้องอย่างเงียบเชียบไร้เสียง ขานเรียกคนด้านในห้อง “นายหญิงขอรับ”

เมื่อเฟิ่ งชิงเกอในห้องได้ยน
ิ เสียงด้านนอกก็แปลกใจเล็กน้ อย เอ่ยปากทันใด
“เข้ามา”

ชายวัยกลางคนหลบเข้าห้องไป เห็นนางนั ่งอยูข


่ า้ งโต๊ะ ก็ออกหน้ากล่าวเสียง
เบา “พบท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งแล้วขอรับ แต่พอกลับมาท่านก็รอ
้ งเรียกขอพบนาย
หญิงอย่างโมโหโกรธา ประเดีย
๋ วคนรับใช้กำลังมาทางนี้ ข้าน้ อยเห็น
สถานการณ์ ไม่ชอบมาพากลอยูบ
่ า้ ง จึงมาเพื่อรายงานโดยเฉพาะขอรับ”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ แววตานางขรึมลงน้ อยๆ เงียบไปพักหนึ่ ง เอ่ยว่า “ข้ารู แ
้ ล้ว เจ้า
ออกไปก่อน อย่าให้ใครเห็นเข้า”

“ขอรับ” ชายวัยกลางคนขานรับ ถึงจะปลีกตัวออกไป


นางครุ น
่ คิดไประหว่างที่นั่งนิ่ งอยูใ่ นห้อง ไม่นานนั ก ก็ได้ยน
ิ เสียงคนรับใช้
ลอยมาจากด้านนอก

“คุณหนู นายท่านเชิญไปที่หอ
้ งโถงขอรับ”

นางที่อยูใ่ นห้องลุกขึ้นเปิดประตูเดินออกมา เห็นคนรับใช้ในเรือน จึงหันหน้า


รับเอ่ยถาม “ลุงเฉิ ง หาท่านปู่เจอแล้วรึ?”

“พบท่านผูเ้ ฒ่าแล้วขอรับ คุณหนูไม่ต้องกังวล” คนรับใช้พูดยิม


้ ๆ กล่าวว่า
“ท่านผูเ้ ฒ่ากับนายท่านรอคุณหนูอยูห
่ อ
้ งโถงด้านหน้า คุณหนูรบ
ี ไปเถอะ
ขอรับ!”

“ได้สิ” นางพยักหน้าลง ถึงจะเดินไปยังเรือนด้านหน้า

ในห้องโถงด้านหน้า

เฟิ่ งเซียวรับน้ำชาที่สาวใช้ยกเข้ามาให้ ก่อนจะวางไว้ขา้ งๆ มือท่านพ่อ เอ่ยว่า


“ท่านพ่อ ท่านดื่มน้ำชาอุน
่ ๆ ก่อนเถิดขอรับ”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งไม่ปริปาก สายตาเพียงมองตรงทางเข้าห้องโถง คล้ายกำลัง


รอการมาถึงของเฟิ่ งชิงเกอ

เกิดเรือ
่ งอะไรขึ้นกันแน่ นะ?
ในใจเฟิ่ งเซียวนึ กฉงน ไม่สบายใจเล็กน้ อย แต่กลับไม่เอ่ยปากถามไถ่ ท่าน
พ่อเหมือนไม่คิดจะบอก หนำซ้ำ เรือ
่ งนี้ ยงั เกี่ยวข้องกับชิงเกอ?

ขณะที่เขากำลังกระวนกระวายใจ ในสถานการณ์ ที่บรรยากาศห้องโถงยิง่ กด


ดันอึมขรึม ในที่สุดก็ได้ยน
ิ เสียงคนรับใช้ลอยมาจากด้านนอก

“ท่านผูเ้ ฒ่า นายท่าน คุณหนูมาแล้วขอรับ”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ เฟิ่ งเซียวกำลังคิดจะลุกขึ้นเดินออกไปเตือนนางเสียหน่ อย ใคร
จะรู ว้ า่ พอบัน
้ ท้ายเพิง่ พ้นเก้าอี้ ก็ได้ยน
ิ เสียงตะคอกพร้อมทัง้ ตบโต๊ะดังลอย
มา

“นั ่งลงซะ!”

เขาตกใจเสียจนต้องทรุ ดนั ่งกลับไปด้วยสองขาสัน


่ ไหวหัวใจเต้นรัว ขณะที่นั่ง
อย่างเป็นระเบียบ ก็มองท่านพ่อที่ยงั โมโหโกรธาด้วยความตกอกตกใจ กลับ
นึ กไม่ถึงว่าจะสบเข้ากับแววตาทรงอำนาจที่เฉี ยบแหลมและแฝงด้วยความ
ขุน
่ ข้องใจ

จำใจยกยิม
้ ขึ้น เอ่ยด้วยหน้าเหยเก “ท่านพ่อ ท่านไม่เห็นต้องเกรีย
้ วกราด
เพียงนี้ เลย อย่าทำชิงเกอเสียขวัญสิขอรับ”

สำหรับอำนาจของท่านพ่อ เขานั ้นรู ล


้ ึกถึงกระดูกดำ เพียงเสียงตะคอกและ
แววตา ก็แทบจะทำให้แม่ทัพผูย
้ งิ่ ใหญ่เกรียงไกรอย่างเขากลายเป็นเช่นลูก
เต่า อ้อ ไม่สิ ต้องขลาดกลัวในทันที
ท่าทางพาลเหลิงอำนาจแค่กับคนนอก ส่วนกับคนในบ้าน ก็ไม่เคยจะแสดง
ท่าทีมีอำนาจออกมาเลยสักนิ ด

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งไม่พูดอะไร แต่ใช้สายตาหลักแหลมเฉี ยบคมจับจ้องไปบน


เรือนร่างที่เดินเข้ามาจากด้านนอก เมื่อเห็นใบหน้าอันคุ้นเคย ก็หรีต
่ าลงเล็ก
น้ อย

มีหลานสาวอยูส
่ องคนจริงๆ ด้วย

คนหนึ่ งใบหน้าเสียโฉม อีกคนใบหน้ากลับยังสมบูรณ์ ดังเดิม

เขาเหล่ตาพินิจมองอย่างละเอียดตัง้ แต่หว
ั จรดเท้า

ตอนที่เดินเข้ามา เฟิ่ งชิงเกอรู ส


้ ึกถึงสายตาแหลมคมของท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งที่
จับจ้องสำรวจมาบนร่าง จึงหวัน
่ ใจเล็กน้ อยอย่างอดไม่ได้ แอบแปลกใจกับ
ตัวเองว่า ‘ทำไมถึงมองนางเช่นนี้ ? หรือเขามองออกรึ ว่านางมีตรงไหนไม่
เหมือนเฟิ่ งชิงเกอ?’
ตอนที่ 128 ปานรูปหงส์!

“ท่านปู่ ท่านพ่อ”

นางเอ่ยเรียก พยายามจะเมินเฉยบรรยากาศในห้องโถงที่ทำให้คนหายใจไม่
ออก มายังข้างกายท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งและใช้สองมือกอดแขนเขา เผยรอยยิม

อ่อนโยน “ท่านปู่ แม่หนูเฟิ่ งคิดถึงท่านมากเจ้าค่ะ ท่านเก็บตัวฝึกวิชาอยู่
หลายเดือน หลานไม่เจอท่านปู่มาตัง้ หลายเดือนเลยนะเจ้าคะ!”

ไม่มีเสียงหัวเราะที่คาดไว้ ตรงกันข้าม ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งหรีส


่ องตาถลึงมองนาง
ไม่วางตา ดวงตาเฉี ยบแหลมเหมือนจะมองอะไรบางอย่างออก ทำนาง
ใจหายแวบทันใด

“ท่านปู่ เป็นอะไรรึเจ้าคะ?” มือที่เดิมกอดแขนเขาไว้ผละออกอย่างช่วยไม่ได้


ถอยก้าวออกน้ อยๆ แล้วมองนางด้วยท่าทางที่มีความกระวนกระวายไม่สงบ
ใจ

เฟิ่ งเซียวข้างๆ เห็นท่าที จึงรีบร้อนออกหน้า “ท่านพ่อ ชิงเกอเรียกท่านน่ ะ!”

“ข้าจำได้วา่ ที่แขนเจ้ามีปานรู ปหงส์ ถอดเสื้อนอกซะ เปิดออกมาให้ขา้ ลองดู”


ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งถลึงมองนางด้วยแววตาแหลมคม น้ำเสียงทรงอำนาจ ละเลย
ซึ่งท่าทางเล็กๆ น้ อยๆ บนใบหน้านางไป
ได้ยน
ิ เช่นนี้ ไม่เพียงเฟิ่ งชิงเกอที่เบิกตากว้างอย่างตกตะลึง แม้แต่เฟิ่ งเซียว
ยังขมวดคิว
้ ขึ้นมา “ท่านพ่อ คำพูดท่านหมายความเช่นไร? ทำไมจู่ๆ จึงอยาก
เห็นปานของชิงเกอเล่า? ท่านสงสัยอะไรรึขอรับ?”

“ท่านปู่ ท่านสงสัยว่าข้าไม่ใช่หลานสาวท่านใช่หรือไม่เจ้าคะ?” ในดวงตามี


น้ำตาแห่งความน้ อยใจคลออยู่ สีหน้าเจ็บปวดใจ

เฟิ่ งเซียวเห็นแล้วลำบากใจอย่างอดไม่ได้ จึงรีบร้อนปลอบโยน “ชิงเกอ ปู่เจ้า


หาได้หมายความเช่นนั ้น ลูกอย่าคิดไปเองเลย”

ทว่า ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งกลับส่งเสียงหึหนั กๆ กวาดตามองเฟิ่ งเซียวแวบหนึ่ ง


ก่อนจะมองที่เฟิ่ งชิงเกอ ขมวดคิว
้ ขึ้น น้ำเสียงแข็งกร้าวอย่างมาก “เปิดปาน
รู ปหงส์ออกมาให้ขา้ ดู”

“ท่านพ่อ!”

“หุบปาก!” ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งแผดเสียง ดวงตาถลึงอย่างเดือดดาล ทันใดนั ้น ก็


ทำให้เฟิ่ งเซียวไม่กล้าพูดแม้แต่ครึง่ ประโยค

เฟิ่ งชิงเกอกัดริมฝีปากเบาๆ ในดวงตามีน้ำตาตก “ท่านปู่อย่าโมโหเลย ท่าน


ปู่อยากดูปานรู ปหงส์ หลานจะให้ท่านปู่ดูก็ได้เจ้าค่ะ” ขณะที่พูด นางถึงจะ
ปลดผ้าผูกเอวออกครึง่ หนึ่ ง ดึงเสื้อนอกลง เผยให้เห็นปานรู ปหงส์สีแดงบน
แขนขาวราวหิมะ
“ท่านพ่อ ดูสิ ปานรู ปหงส์ของชิงเกอก็อยูต
่ รงนั ้นไม่ใช่หรือ?” เขาไม่เข้าใจ
ท่านผูเ้ ฒ่าเลยจริงๆ ออกไปเพิง่ กลับมา ทำไมถึงอยากดูปานของชิงเกอล่ะ?
หรือจะสงสัยว่าลูกสาวเขาถูกคนสับเปลี่ยนตัว?

ต้องรู ไ้ ว้ ทุกวันเขาเห็นนางเดินไปมาในสายตาเขาตลอด การเคลื่อนไหว


ท่าทาง ยังมีใบหน้าอีก จะเป็นตัวปลอมได้อย่างไรกัน?

พอเห็นปานรู ปหงส์นั้น ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งก็ขมวดคิว


้ กล่าวอีกว่า “เข้ามา”

“ท่านพ่อ!”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งไม่สนใจเขา แววตาจับจ้องเฟิ่ งชิงเกอ “เข้ามาสิ!” ครัง้ นี้ น้ำ


เสียงหยาบกระด้างขึ้นบางส่วน ซ้ำยังมีความน่าเกรงขามที่ยากจะปฏิเสธ

เฟิ่ งชิงเกอกัดริมฝีปากเบาๆ มองเขาแวบหนึ่ ง จากนั ้นค่อยก้าวนวยนาดเดิน


ไปด้านหน้า มาถึงเบื้องหน้าก็หลุบตาลงน้ อยๆ

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งเหลือบมองนาง จุ่มนิว


้ มือลงในน้ำชา ก่อนจะถูลงไปบนปาน
รู ปหงส์สีแดงนั ่น มองอีกที ปานรู ปหงส์สีแดงก็ยงั อยู่ ไม่ได้จางลง และไม่ถูก
เขาเช็ดออก จึงยิง่ ขมวดคิว
้ ลึกขึ้นอย่างอดไม่ได้

“ท่านปู่ หลานดึงเสื้อนอกขึ้นมาได้รย
ึ งั เจ้าคะ?” นางเอ่ยถามเสียงสะอื้น
น้ อยๆ พลางมองท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งด้วยสีหน้าทุกข์ระทม
ไม่รอท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งปริปาก เฟิ่ งเซียวก็รบ
ี กล่าวว่า “ชิงเกอ ดึงเสื้อนอกขึ้น
เร็ว ลูกกลับห้องไปก่อนนะ พ่อต้องคุยกับปู่เจ้า”

“อืม” ดวงตานางมีน้ำตาไหลออกมา หลังจากดึงเสื้อขึ้นก็วงิ่ ออกไปเบาๆ

รอเห็นนางจากไป เฟิ่ งเซียวจึงขมวดคิว


้ ขึ้นอย่างอดไม่ได้ เอ่ยถามเสียงเข้ม
“ท่านพ่อ นี่ ท่านทำอะไรอยู?่ ท่านกำลังสงสัยหลานสาวตัวเองรึขอรับ?”
ตอนที่ 129 เกิดเรือ
่ งแล้ว!

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งมองไปที่เขา แววตาหมองหม่น กล่าวว่า “ไม่ผด


ิ ข้าสงสัยว่า
นางไม่ใช่แม่หนูเฟิ่ งของข้า”

“จะเป็นไปได้ยงั ไง! ท่านพ่อ ท่านออกไปด้านนอกแล้วเกิดเรือ


่ งอะไรขึ้นกัน
แน่ ? มีคนพูดเรือ
่ งเหลวไหลอะไรกับท่านใช่หรือไม่? ท่านจะคิดเช่นนี้ ได้
อย่างไรกัน?” เฟิ่ งเซียวรับไม่ได้นิดหน่ อยที่พอ
่ ตัวเองเคลือบแคลงในตัว
ลูกสาว นี่ มันเรือ
่ งอะไรกัน?

เมื่อมองเฟิ่ งเซียว ผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งก็ส่ายหน้า แม้แต่พอ


่ ตัวเองยังแยกไม่ออกว่า
ลูกสาวตัวจริงหรือปลอม มิน่าล่ะแม่หนูเฟิ่ งถึงไม่กล้ากลับมา

เขาลุกยืนขึ้นมา เอามือไพล่หลังสูดหายใจเข้าลึกๆ เอ่ยว่า “บางครัง้ ดวงตา


คนเราก็มืดบอด มีอก
ี มากมายหลายเรือ
่ งที่ต้องใช้หว
ั ใจถึงจะรู ส
้ ึก และมอง
เห็น พ่อเจ้าใช้ชว
ี ต
ิ มาหลายปีดีดักเพียงนี้ เกลือที่กินยังมากกว่าข้าวที่เจ้ากิน
นั ก”

เขามองเฟิ่ งเซียวแวบหนึ่ ง กล่าวต่อว่า “แม้นางจะแบกใบหน้าของแม่หนู


เฟิ่ ง มีปานรู ปหงส์เหมือนกัน ก็ไม่แน่ วา่ จะเป็นแม่หนูเฟิ่ ง ต้องรู ไ้ ว้ ความรู ส
้ ึก
น่ ะ หลอกคนไม่ได้หรอกนะ”

เห็นเขาพูดจบท่าทางทัว่ ร่างก็เปลี่ยน ก่อนจะก้าวยาวเดินออกไป เฟิ่ งเซียว


ตกใจรีบรัง้ เขาไว้ เอ่ยถามว่า “ท่านพ่อ ท่านคิดจะทำอะไรรึขอรับ?”
ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งมองเขาแวบหนึ่ ง กล่าวว่า “นางไม่ใช่แม่หนูเฟิ่ งของข้า ข้าจะ
จับนางมากระชากหน้ากากเสีย!”

เฟิ่ งเซียวฟังคำพูดนี้ ก็ตะลึงขึ้นมาทันใด แม้แต่น้ำเสียงก็ยงั หนั กแน่ นขึ้นโดย


ไม่รูต
้ ัว “ท่านพ่อ ท่านบ้าไปแล้ว! นางคือชิงเกอ เป็นหลานสาวท่าน แม่หนู
เฟิ่ งของท่านน่ ะ!” เขาคิดว่าท่านพ่อถูกผีเข้า ไม่งน
ั ้ คงไม่พูดจาเช่นนี้ ออกมา
แน่

“หึ! ข้าว่าเจ้าแหละบ้า! แม้แต่ลูกสาวตัวเองก็แยกแยะไม่ออก ยังมีหน้ามา


บอกว่าเป็นพ่อของแม่หนูเฟิ่ งอีกรึ? เจ้ารู ห
้ รือไม่วา่ แม่หนูเฟิ่ งได้รบ
ั เคราะห์
เช่นไร? เจ้ารู ไ้ หม!”

เมื่อนึ กถึงใบหน้าหลานสาวสุดที่รก
ั ที่เสียโฉม เขาก็จุกขึ้นมาในลำคอทันใด
ก่อนจะถลึงมองเฟิ่ งเซียวด้วยดวงตาที่เปียกปอนน้ อยๆ

“เจ้าเคยคิดหรือไม่ หากเฟิ่ งชิงเกอในจวนผู้นี้เป็นตัวปลอม แล้วแม่หนูเฟิ่ ง


ตัวจริงอยูท
่ ี่ใดเล่า? จะรับเคราะห์อยูห
่ รือไม่? จะทุกข์ทรมานอย่างไม่คาดคิด
รึเปล่า? เจ้าไม่เคยคิด ถึงกับไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่ามีความเป็นไปได้นั้นเกิด
ขึ้น ขนาดข้าบอกเจ้า ก็ยงั ไม่ยอมเชื่อ เจ้าบอกสิ มีพอ
่ เช่นเจ้านี้ แม่หนูเฟิ่ ง
ของข้าจะกล้ากลับบ้านมาได้อย่างไร?”

“ท่านพ่อ สิง่ เหล่านั ้นที่ท่านบอกเดิมทีก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ ข้ารู แ


้ จ้งลูกสาวตัว
เองดี นางอยูข
่ า้ งกายข้าเสมอมา ก็ไม่มีตรงไหนที่ไม่ชอบมาพากล ท่านคิดว่า
เรือ
่ งพวกนั ้นที่กล่าวมาจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? ท่านพ่อ ท่านเหนื่ อยเกินไปรึ
เปล่า? หรือว่าดื่มเหล้าเสียจนเมามาย? ให้ขา้ ประคองท่านกลับไปพักในเรือน
ไม่ดีกว่ารึ?”

เฟิ่ งเซียวออกหน้าจะเข้าประคอง กลับนึ กไม่ถึงว่าเขาจะสะบัดแขนเสื้อ แรง


ที่สะบัดมาผลักเขาถอยออกไปไกลหลายเมตรเสียดื้อๆ

“เจ้าคนไร้ยางอาย! รอก่อนเถิด รอข้าจัดการนั งแพศยาตัวปลอมนั ่น หลัง


จากรับแม่หนูเฟิ่ งกลับมา ค่อยจัดการกับเจ้า!”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งด่าทออย่างเกรีย


้ วกราด แล้วเรียกพลังกระโดดขึ้นไปยังด้าน
ในเรือนของเฟิ่ งชิงเกอ

“ท่านพ่อ!”

เฟิ่ งเซียวตื่นตระหนก หลังจากอุทานก็รบ


ี ร้อนตามขึ้นไป แต่สุดท้ายกำลังเขา
สู้ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งไม่ได้ ความเร็วยังห่างไกลไม่เท่าเขา แค่เพียงชัว่ พริบตา
เดียว จึงไม่เห็นเงาร่างแล้ว

เห็นเช่นนี้ เขาก็ตะโกนลัน
่ “ท่านพ่อ! ท่านอย่าทำอะไรงีเ่ ง่าน่า!”

เพราะการเคลื่อนไหวของสองพ่อลูกเสียงดังมาก คนในจวนจึงแทบจะถูก
รบกวนกันหมด ต่างพากันโผล่หว
ั ออกมาพูดคุยเสียงเบา

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ นะ?”
“ข้าคล้ายจะได้ยน
ิ ว่าท่านผูเ้ ฒ่าหาว่าคุณหนูเป็นตัวปลอม”

“จะเป็นไปได้อย่างไร! ท่านผูเ้ ฒ่าดื่มเหล้าเมาแล้วกระมัง! คุณหนูจะเป็นตัว


ปลอมได้เช่นไร?”

“กรีด
๊ !”

เสียงกรีดร้องดังลอยมา ทำให้พวกคนรับใช้ที่กำลังพูดคุยกันต่างพากันตกใจ

“ไม่ดีล่ะ เกิดเรือ
่ งแล้ว รีบไปดูเร็ว!”
ตอนที่ 130 ผีเข้าแล้ว!

เมื่อเฟิ่ งเซียวมาถึงเรือนลูกสาว ก็ถูกภาพตรงหน้าทำให้ต่ ืนตระหนกเสียจน


หัวใจแทบเต้นกระโจนออกมา

เพียงเห็นว่า ท่านผูเ้ ฒ่าดึงกระบีย


่ าวออกมาจากไหนไม่รู ้ สองมือจับกระบีใ่ ช้
กลิน
่ อายพลังเร้นลับกำลังตวัดฟันสะเปะสะปะอยูใ่ นเรือน ส่วนลูกสาวเขาก็
ร้องไห้ตกใจหลบอยูข
่ า้ งๆ

“ท่านพ่อ! นี่ ท่านทำอะไรน่ ะ!”

เขาอุทาน รีบร้อนพุง่ เข้าไปจะยึดกระบีใ่ นมือเขา เพื่อเลี่ยงไม่ทำให้ใครบาด


เจ็บ แต่ใครจะรู ้ ท่านผูเ้ ฒ่าเองก็หมุนตัวหลบ ก่อนจะออกแรงผลักเขาออก
ไป “ไสหัวไป! ข้าจะฆ่านาง! ต้องฆ่านางซะ!”

ใบหน้าเฟิ่ งเซียวไร้สีเลือดฝาด พุง่ เข้าไปอีกครัง้ กอดอยูด


่ ้านหลังเขาไว้แน่ น
“ท่านพ่อ! ท่านมีสติหน่ อยเถิด! นั ่นชิงเกอ! เป็นหลานสาวท่านนะ!”

“นางไม่ใช่! นางไม่ใช่! นางทำร้ายแม่หนูเฟิ่ งของข้า! นางทำร้ายแม่หนูเฟิ่ ง!


อ๊าก! ปล่อยข้า! ข้าจะฆ่านางซะ!”

สองตาท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งเต็มไปด้วยเส้นเลือด ตะโกนลัน


่ ทัง้ ท่าทางบ้าคลัง่
ดิน
้ รนขัดขืนอยากจะกระโจนไปด้านหน้า
ไม่มีใครเห็น ว่าเฟิ่ งชิงเกอที่หลบอยูด
่ ้านข้างทัง้ น้ำตานองหน้าด้วยความ
ตกใจขวัญหนี เป็นที่สุด สายตาที่มองไปทางท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งมีทัง้ ความชัว่ ร้าย
และตื่นเต้น ประกายเหล่านั ้นฉายแวบผ่านไป รวดเร็วไม่มีใครทันสักเกต

นางร่ำไห้อย่างเสียขวัญ ตะโกนว่า “ท่านพ่อ ท่านพ่อช่วยลูกด้วยเจ้าค่ะ ท่าน


ปู่จะฆ่าข้า ฮือๆ…”

เฟิ่ งเซียวฟังเสียงร้องคร่ำครวญของลูกรักที่ตกใจทำอะไรไม่ถูก แล้วมอง


ท่าทางท่านผูเ้ ฒ่าที่แทบจะสิน
้ เสียสติ ทำเช่นไรก็หยุดไว้ไม่อยู่ สุดท้ายจึงไม่
สนใจเรือ
่ งเสียมารยาทอะไรอีก ใช้มือเหยียดตรงดัง่ มีดเคาะตัดลงไปทำให้
เขาสลบ

เคร้ง!

ร่างกายท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งอ่อนยวบลงไป กระบี่ในมือร่วงหล่นลงพื้น ในที่สุดทัว่


ทัง้ เรือนก็เงียบสงัดลงเพราะเขาหมดสติ

“เจ้าไปเชิญหลินเหล่ามาตรวจดูท่านพ่อเสียหน่ อย” เฟิ่ งเซียวประคองท่านผู้


เฒ่าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะออกคำสัง่ กับคนรับใช้ด้านนอกเรือน

“ขอรับๆ” คนรับใช้รบ
ี ร้อนขานรับ ผูค
้ นที่อก
ึ ทึกครึกโครมต่างปรีก
่ ลับกันไป
ถึงจะไปเชิญท่านหมอในจวนอย่างรวดเร็ว

เฟิ่ งชิงเกอถึงจะเดินเข้ามา สีหน้ายังคงหวาดกลัว “ท่านพ่อ ท่านปู่เป็นอะไร


ไปเจ้าคะ?”
“เจ้าบาดเจ็บหรือไม่?” เขามองไป เห็นนางน้ำตานองหน้า จึงปลอบประโลม
“ไม่ต้องกลัวนะ มีพอ
่ อยูจ
่ ะไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้ เจ้ากลับห้องไปก่อนเถอะ
พ่อจะส่งปู่เจ้ากลับเรือนเอง” ขณะที่พูด ก็ประคองท่านผูเ้ ฒ่าที่หมดสติเดิน
ออกไป

“ท่านพ่อ ลูกตามไปดูด้วยนะเจ้าคะ!” นางวิง่ ตามมาต้อยๆ เอ่ยว่า “ลูกเป็น


ห่วงท่านปู่เจ้าค่ะ”

“ได้สิ!” เฟิ่ งเซียวพยักหน้า แล้วปล่อยให้นางตามมา

พอวางท่านผูเ้ ฒ่าลงบนเตียงได้ไม่นาน คนรับใช้ก็พาชายชราท่านหนึ่ งเดิน


เข้ามา

“นายท่าน” ชายชราหันไปคำนั บให้เฟิ่ งเซียว

“หลินเหล่า เจ้ารีบเข้ามาตรวจท่านพ่อข้าเร็ว ลองดูทีวา่ เขาไม่สบายตรง


ไหน” เฟิ่ งเซียวกล่าวอย่างร้อนรน ให้สัญญาณเขาเข้ามา

“ขอรับ” หลินเหล่าขานรับ มองไปทางเฟิ่ งชิงเกอที่ขา้ งเตียงแวบหนึ่ งด้วย


ท่าทางสงบเยือกเย็น ถึงจะเดินเข้าไปช่วยตรวจดูอาการท่านผู้เฒ่าที่ขา้ ง
เตียง ผ่านไปสักพัก ก็ดึงมือกลับ เอ่ยถาม “นายท่าน ไม่ทราบว่าหลังจาก
ท่านผูเ้ ฒ่ากลับมา มีตรงไหนผิดปกติไปหรือไม่ขอรับ?”

ในดวงตาเฟิ่ งเซียวเต็มไปด้วยความกังวลใจ ถอนหายใจ แล้วบอกว่า “หลัง


จากท่านพ่อเก็บตัวออกมาก็หนี ไปข้างนอก ข้านึ กว่าเขาออกไปร้านเหล้า นึ ก
ไม่ถึงว่าจะเจอกันบนถนน ตอนนั ้นเห็นสีหน้าไม่สู้ดีอยูต
่ ลอด พอกลับมาก็
โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ซ้ำยังพูดว่าชิงเกอไม่ใช่หลานสาวเขาอะไรอีก จากนั ้นจึง
เข้าไปในเรือนชิงเกอ ตอนที่ขา้ ปรีม
่ าถึง ก็เห็นเขาถือกระบีต
่ วัดฟาดวุน
่ วาย
น่าตกใจเสียจนหัวใจข้าแทบระเบิดออกมาแล้ว”

น้ำเสียงเขาชะงัก ครุ น
่ คิดเล็กน้ อย “หนำซ้ำ ตอนนั ้นข้าเห็นท่าทีเขาไม่ชอบ
มาพากลนิ ดหน่ อย”
ตอนที่ 131 ประสาทฟั่นเฟือน!

หลินเหล่าพยักหน้า กล่าวว่า “นั ่นก็ถูกขอรับ หลินเหล่าว่าท่านผูเ้ ฒ่าคงเกิด


ปัญหาอะไรตอนฝึกวิชา ทำให้จิตวิกลจริตไปเล็กน้ อย”

“อะไรนะ?”

เฟิ่ งเซียวส่งเสียงอุทาน “เจ้าคิดว่าเขามีปัญหาระหว่างฝึกฝน ทำให้จิต


วิกลจริตเล็กน้ อยรึ? จะเป็นไปได้ยงั ไง! หากเกิดปัญหาตอนฝึกวิชา เดาว่าคง
เพียรฝึกฝนเสียจนจิตวิปลาส แต่ขา้ ดูท่าทีแล้ว พลังเร้นลับทัง้ หมดในร่าง
ล้วนปกติดี ไม่น่าจะเกิดเรือ
่ งอย่างที่เจ้าว่า เจ้าวินิจฉั ยผิดรึเปล่า?”

ฟังคำพูดนี้ ชายชราขมวดคิว
้ น้ อยๆ “หากนายท่านไม่เชื่อ เชิญคนอื่นมา
ตรวจรักษาท่านผูเ้ ฒ่าได้ แต่ขา้ แค่อยากบอก ไม่วา่ จะเรียกใครมาก็เหมือนๆ
กัน หนำซ้ำ อย่างดีที่สุดตอนนี้ ต้องขังท่านผู้เฒ่าไว้ มิเช่นนั ้นรอเขาฟื้ นขึ้นมา
ไม่รูว้ า่ จะเป็นเหมือนเช่นก่อนหน้านี้ หรือไม่ เวลานี้ เขาอันตรายยิง่ นั ก ทำเรือ
่ ง
อะไรลงไปแม้แต่ตัวเองก็ยงั ไม่รบ
ั รู ด
้ ้วยซ้ำ”

“ท่าน ท่านจะบอกว่า หากท่านปู่ฟื้นขึ้นมา ก็อาจจะถือกระบีม


่ าฆ่าข้าอีกรึ?”
เฟิ่ งชิงเกอเอ่ยถามน้ำเสียงสัน
่ เครือน้ อยๆ สีหน้าซีดเผือดอยูบ
่ า้ ง

หลิน
่ เหล่าพยักหน้า “อืม เป็นไปได้มากขอรับ”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ สีหน้าเฟิ่ งเซียวผึ่งผายขึ้นมา มองลูกสาวที่กำลังพยายามข่ม
ความหวาดกลัวไว้ แล้วมองท่านพ่อที่หมดสติอยูบ
่ นเตียง ก็ถอนหายใจอย่าง
ช่วยไม่ได้ “ตามหมอหลายๆ ท่านมาตรวจดูก่อนค่อยว่ากัน ชิงเกอ เจ้ากลับ
เรือนไปก่อน ที่นี่มีพอ
่ อยูก
่ ็พอแล้ว”

“อืม”

นางหลับตาลงพยักหน้า ในใจนึ กไม่ถึงว่าเขาจะไม่จับท่านผู้เฒ่าขังอย่าง


ง่ายดายเช่นนั ้น อันที่จริง ความรู ส
้ ึกพ่อลูกระหว่างเขากับท่านผู้เฒ่าก็ดียงิ่
เสมอมา คงไม่ตัดสินว่าท่านผูเ้ ฒ่าสติฟั่นเฟือนเพียงเพราะคำพูดของหมอ
ท่านหนึ่ ง และยิง่ จะไม่กักขังตัวท่านผูเ้ ฒ่าขึ้นมาโดยง่าย

ทว่า ต่อให้เชิญใครมาก็เหมือนๆ กัน นางจะทำให้เขาเชื่อ ว่าท่านผูเ้ ฒ่าเสีย


สติไปแล้ว

ส่วนอีกด้านหนึ่ ง เฟิ่ งจิว


่ นั ่งเอามือหนึ่ งเท้าคางอยูใ่ นเรือน ไม่รูว้ า่ กำลังคิด
อะไรอยู่ ขนาดเหลิง่ ซวงกลับมา ก็ยงั ไม่ทันสังเกต

“นายท่านเจ้าคะ?”

“หืม?” เธอดึงสติกลับมา เห็นนางยืนอยูข


่ า้ งกาย จึงเอ่ยถาม “พวกเจ้ากลับ
มาแล้วรึ? เลือกคนมาได้รเึ ปล่า?”

“ได้เจ้าค่ะ คุณชายซื้อตัวกลับมาห้าคน จึงอยากเชิญนายท่านออกไปนอก


เรือนเจ้าค่ะ”

“อืม” เธอผูกผ้าคลุมหน้า ก้าวนวยนาดมาถึงด้านนอกเรือน


กวนสีหลิน
่ เห็นนางเข้า จึงรีบร้อนเข้าไปรับหน้า “เสี่ยวจิว
่ เจ้ามาแล้ว ลองดูสิ
ข้าซื้อตัวกลับมาห้าคน หนึ่ งในนั ้นเป็นแม่ครัวด้วยนะ” ไม่ทันไร ก็กล่าวกับ
คนเหล่านั ้นว่า “พวกเจ้าเงยหน้าขึ้นมาให้น้องสาวข้าดูสิ”

“เจ้าค่ะ”

ทุกคนตอบรับ ถึงจะเงยหน้าขึ้นมาด้วยท่าทางกระวนกระวาย เมื่อเห็นสาว


น้ อยที่ทัว่ ร่างล้วนดูสง่างามยืนอยูเ่ บื้องหน้า ในดวงตาพวกเขาต่างฉายแวว
ตื่นตาตื่นใจ กลับไม่กล้าพินิจมองอย่างเหิมเกริมเกินไปนั ก แต่มองแค่แวบ
เดียวก็รบ
ี ก้มหน้าลง

สายตาเฟิ่ งจิว
่ เหลียวมองผ่านพวกเขา หลังจากพินิจมองรอบหนึ่ ง ก็เอ่ยถาม
“พวกเจ้าชื่ออะไรกันบ้าง?”

“เชิญคุณหนูตัง้ ชื่อให้พวกข้าน้ อยได้เลยเจ้าค่ะ” แม่ครัวที่อายุค่อนข้างมาก


ปริปากบอก เพราะพวกนางล้วนถูกซื้อตัวมา หลังจากนี้ ก็จะเป็นคนของบ้าน
นี้ แล้ว จึงไม่สามารถใช้ช่อ
ื แซ่ก่อนหน้าได้เป็นธรรมดา

“งัน
้ ใช้คำว่า ชิง นำหน้า ผิง อัน หรู อี้ สี่คำนี้ พวกเจ้าเลือกคนละหนึ่ ง ส่วนแม่
ครัว ก็ช่อ
ื ชิงเหนี ยง ละกัน!”

“ขอบคุณคุณหนูที่ตัง้ ชื่อให้เจ้าค่ะ” พวกเขาคุกเข่าคำนั บ


เธอพยักหน้า บอกกับกวนสีหลิน
่ ข้างๆ ว่า “ท่านพี่ ให้เหลิง่ ซวงจัดการที่พก

ให้พวกนาง บอกกฎระเบียบเสียหน่ อย วันนี้ ออกไปข้างนอกมาทัง้ วันข้าจึง
เหนื่ อยๆ อยูบ
่ า้ ง ขอกลับห้องไปพักผ่อนก่อนนะ”

“ได้สิ เจ้าไปเถอะ!” เขาพยักหน้า หลังจากมองส่งนางออกไป ถึงจะกำชับ


เหลิง่ ซวงให้จัดที่พก
ั ให้พวกนาง แล้วค่อยเดินตามไป

“ตามข้ามา!” เหลิง่ ซวงบอก พาพวกนางไปยังด้านในเรือน


ตอนที่ 132 ตั้งเป้าหมายแรก!

ผ่านไปสองสามวัน ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งก็ไม่มาอีกเลย เดิมทีเฟิ่ งจิว


่ คิดว่า หลังจาก
เห็นเฟิ่ งชิงเกอคนในจวนตระกูลเฟิ่ ง เขาอาจนึ กว่าเธอเป็นตัวปลอม แต่สอง
วันมานี้ ยิง่ คิดก็ยงิ่ ไม่ถูกต้อง

ว่ากันตามท่าทางและน้ำเสียงของท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งในตอนนั ้น ต่อให้นึกว่าเป็น


ตัวปลอม ก็ต้องมาหาเธออีกแน่ ๆ แต่รอมาสองสามวันแล้ว ก็ไม่เห็นมาเลย
นี่ แหละที่น่าสงสัย

ดังนั ้น พอเธอออกประตูหอ
้ งมา จึงสัง่ กับเหลิง่ ซวงที่กำลังนั ่งขัดสมาธิฝึก
วิชาอยูใ่ นลานบ้าน “เหลิง่ ซวง เจ้าไปไถ่ถามเสียหน่ อย ว่าสองวันมานี้ ที่จวน
ตระกูลเฟิ่ งเกิดเรือ
่ งอะไรขึ้นหรือไม่”

“เจ้าค่ะ” แม้ในใจเหลิง่ ซวงคิดสงสัย กลับลุกขึ้นจากไปโดยไม่ถามอะไรมาก

เธอมานั ่งในลานบ้าน เฝ้ารอคำตอบที่เหลิง่ ซวงไปสอบถามกลับมาอยูเ่ งียบๆ


หากไม่จัดการเรือ
่ งนี้ ให้ดี ก็ไม่อาจมีกะใจมาฝึกฝนวิชาได้ตลอด เดิมไม่ได้คิด
จะรีบกลับบ้านตระกูลเฟิ่ งถึงเพียงนั ้น ทว่า สถานการณ์ ตอนนี้ …

“เสี่ยวจิว
่ ชิงเหนี ยงต้มซุปหวาน ข้าเลยยกมาให้เจ้าถ้วยหนึ่ ง ลองชิมสิ
รสชาติไม่เลวเลยนะ” กวนสีหลิน
่ ยิม
้ พลางเดินเข้ามา บนถาดในมือยังมีซุป
หวานอยูถ
่ ้วยหนึ่ ง

“ขอบคุณท่านพี”่ เธอเผยรอยยิม
้ อ่อนโยน ก่อนจะลุกขึ้นรับไว้
กวนสีหลิน
่ นั ่งลงข้างโต๊ะหิน พูดว่า “เสี่ยวจิว
่ ที่ขา้ มา ยังมีเรือ
่ งต้องคุยกับ
เจ้า”

“หืม? เรือ
่ งอะไรรึ?” เธอซดซุปหวาน พลางเอ่ยถาม

เขาลังเลสักพัก ถึงจะบอกว่า “ข้าอยากไปประลองที่ตลาดมืด”

ฟังคำพูดแล้ว เธอก็ขมวดคิว
้ ขึ้น “ท่านคิดจะใช้วธ
ิ น
ี ั ้นมาหาเงินรึ? ของพรรค์
นั ้นเดิมทีก็หาเงินได้ไม่เท่าไหร่ หนำซ้ำ หากเจอคู่ต่อสู้ที่แกร่งกว่าเขาคงไม่
ปราณี ท่าน แม้แต่โอกาสจะยอมแพ้ยงั ไม่มีเลย”

“ข้าคิดว่า ในสถานที่เช่นนั ้นนอกจากหาเงิน ยังสามารถพัฒนากำลังต่อสู้ได้


ด้วย ตอนนี้ สำหรับข้า ข้อด้อยที่สุดก็คือประสบการณ์ จริง ดังนั ้นข้าจึงอยาก
สัง่ สมประสบการณ์ ก่อน จากนั ้นค่อยเข้าร่วมงานประลองคัดเลือกของ
แคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ที่จะจัดขึ้นทุกสามปี กลายเป็นสิบอันดับแรกของรายชื่อนั ก
สู้ผูโ้ ด่ดเด่น เช่นนี้ ถึงจะมีโอกาสเข้าไปฝึกฝนวิชาในสำนั กดาวประดับเมฆา”

“สำนั กดาวประดับเมฆารึ?”

เธอค้นหาในห้วงความทรงจำสักพัก กล่าวว่า “สำนั กฝึกวิชาที่จัดอยูใ่ นระดับ


เจ็ดดาวน่ ะรึ? ข้าจำได้วา่ การคัดสรรของที่นั่นเข้มงวดยิง่ นั ก ซ้ำยังคัดเลือก
ทุกสามปี ในแคว้นเล็กๆ ระดับเก้าอย่างแสงสุรย
ิ น
ั นี้ เหมือนว่าจะไม่มีใครสัก
คนได้เข้าไปในสำนั กดาวประดับเมฆามาหลายปีแล้วนะ!”
“อืม สำนั กดาวประดับเมฆาเกณฑ์ผูฝ
้ ึกได้เคร่งครัดมาก หนำซ้ำในแคว้น
เหินเวหาที่เป็นถึงแคว้นขนาดกลางระดับหก ก็ยงั ต้องอยูใ่ นสิบอันดับผู้แกร่ง
กล้าของแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ถึงจะมีโอกาสได้ลองไปที่นั่นสักครัง้ แม้จะรู ว้ า่ ยาก
นั ก แต่ขา้ ยังอยากลองดู อีกอย่าง เพียงออกจากแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ในอนาคต
ข้าอาจจะหาท่านพ่อพบก็ได้”

ฟังคำพูดเขา เธอก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาพูดได้ไม่เลวเลยจริงๆ หากจะ


ออกจากแคว้นเล็กๆ ระดับเก้าไปยังแคว้นอื่นที่ระดับสูงกว่านี้ ต้องมีพละ
กำลังเป็นที่ยอมรับถึงจะเข้าไปได้ มิเช่นนั ้น ต่อให้เป็นท่านอ๋องแคว้นหนึ่ ง
เมื่อไปถึงที่นั่นก็ทำได้แค่ถูกปฏิเสธอยูน
่ อกประตูเมือง

พูดถึงมู่หรงอีเ้ ซวียน เขาเป็นท่านอ๋องของแคว้นแสงสุรย


ิ น
ั และเป็นผู้มี
พรสวรรค์ดัง่ ฟ้าประทานเช่นกัน เดิมทีมีโอกาสมากที่จะเข้าไปฝึกวิชาใน
สำนั กดาวประดับเมฆา ทว่าสามปีก่อนเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ทำให้เขาพลาด
โอกาสไป กระทบไหล่ผา่ นสำนั ก หากอยากจะเข้าไปอีก ก็ทำได้เพียงร่วมงาน
ประลองที่จัดขึ้นทุกสามปี

“ในเมื่อท่านตัง้ เป้าหมายไว้แล้ว ก็ทำไปเถอะ! แต่จงจำไว้ให้มัน


่ สู้กับคนอื่น
จำต้องระวัง หากเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งยิง่ ต้องยอมแพ้ทันที ควรรู ไ้ ว้ แพ้
ประลองหนึ่ งรอบไม่เสียหน้า หากสิน
้ ชีพก็สายเกินจะเสียใจภายหลัง”

“อืม ข้ารู ด
้ ี”

เขาคลี่ปากแย้มยิม
้ ก็เห็นเหลิง่ ซวงเดินเข้ามา
ตอนที่ 133 เปิดเผยตัวตน!

“นายท่าน”

เหลิง่ ซวงขานเรียก ก่อนจะก้มหัวไปทางกวนสีหลิน


่ “คุณชาย”

“ว่ายังไงบ้าง?” เฟิ่ งจิว


่ หันมองนางพลางเอ่ยถาม

“สองวันนี้ ที่บา้ นตระกูลเฟิ่ งเกิดเรือ


่ งบางอย่างขึ้นจริงๆ ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งถูกจับ
ขังเจ้าค่ะ”

“ถูกจับขังรึ?” เธอย่นคิว
้ น้ อยๆ น้ำเสียงยกสูงขึ้นโดยไม่รูต
้ ัว

“เจ้าค่ะ เพราะเป็นเรือ
่ งในจวนตระกูลเฟิ่ ง คนภายนอกจึงไม่ค่อยรู เ้ รือ
่ ง รู แ
้ ค่
ว่าสองวันนี้ ท่านแม่ทัพเฟิ่ งเชิญหมอหลายท่านมาที่จวน ทุกการวินิจฉั ยล้วน
บอกว่าท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งอาการคลุ้มคลัง่ มีอน
ั ตรายที่อาจทำร้ายคนอื่นๆ ดังนั ้น
จึงถูกจับขังไว้เจ้าค่ะ”

หลังจากฟังคำพูดนี้ เฟิ่ งจิว


่ หน้าหมองลงไม่ปริปากแม้ครึง่ เสียง ทำให้กวน
สีหลิน
่ ข้างๆ สงสัยยิง่ นั ก มองเหลิง่ ซวงแวบหนึ่ ง แล้วมองเฟิ่ งจิว
่ อีกแวบหนึ่ ง
สุดท้ายก็ถามไปอย่างอดใจไม่ไหว “เสี่ยวจิว
่ เจ้าถามหาเรือ
่ งตระกูลเฟิ่ งทำไม
รึ?”
ได้ยน
ิ เช่นนั ้น เธอก็หน
ั มองเขา เห็นสีหน้าเคลือบแคลงใจ แม้แต่เหลิง่ ซวงยัง
มองมาที่เธอด้วย นิ่ งอยูส
่ ักพัก ถึงจะกล่าวว่า “เรือ
่ งนี้ อาจควรบอกพวกเจ้า
ได้แล้ว”

ทัง้ สองคนหวัน
่ ใจเล็กน้ อย สายตาจับจ้องบนร่างตาไม่กะพริบ ต่างรู ว้ า่ บนตัว
มีความลับมาตลอด แต่นางไม่บอก พวกเขาจึงไม่ถาม

“ข้ายังมีอก
ี ตัวตนหนึ่ ง นั ่นคือลูกสาวของเฟิ่ งเซียว นามว่า เฟิ่ งชิงเกอ”

“อะไรนะ!”

ฟังสิง่ ที่นางพูดออกมา ราวกับฟ้าคะนองที่ก่อพายุข้น


ึ ในหัวใจพวกเขาชัว่
ขณะ

“เจ้าคือเฟิ่ งชิงเกอรึ? ละ แล้วเฟิ่ งชิงเกอที่พวกเราพบวันนั ้นเล่า? นางเป็น


ใคร?” กวนสีหลิน
่ เบิกตาออกกว้างอย่างงงงัน สีหน้าตกตะลึง

ทว่า พอคิดว่าเสี่ยวจิว
่ ไม่น่าจะหลอกเขา ก็นึกถึงวันนั ้นที่เขามักจะรู ส
้ ึกว่าเฟิ่ ง
ชิงเกอกับเสี่ยวจิว
่ คล้ายกันอยูน
่ ิ ดหน่ อย เวลานี้ ได้ยน
ิ คำพูดเช่นนี้ อก
ี เพียง
รู ส
้ ึกว่ามันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

แม้แต่เหลิง่ ซวงที่เย็นชาเสมอ ตอนนี้ ยงั มีสีหน้าตกใจ


หากนายท่านเป็นเฟิ่ งชิงเกอ งัน
้ ก็อธิบายได้วา่ ทำไมนางถึงสนใจเรือ
่ งตระกูล
เฟิ่ งเพียงนั ้น แต่วา่ หากนายท่านคือคุณหนูเฟิ่ งชิงเกอแห่งจวนตระกูลเฟิ่ ง
เช่นนั ้น เฟิ่ งชิงเกอตัวปลอมก็เป็นคนที่ทำลายใบหน้านายท่านน่ ะสิ?

“นางชื่อซูรวั ่ อวิ ๋น ตอนอายุไม่กี่ขวบถูกข้าเก็บกลับมาจากข้างถนน ติดตาม


อยูข
่ า้ งกายข้าเสมอ ทว่าใจคนยากแท้หยัง่ ถึง นางสวมรอยตัวตนข้า กรีด
รอยบนใบหน้า แล้วให้คนส่งข้าไปขายยังหอนางโลม ซ้ำยังป้อนยาพิษให้ด้วย
กลัวว่าข้าจะไม่ตาย”

น้ำเสียงเธอนิ่ งสงบ เหมือนกำลังเล่าเรือ


่ งราวของคนอื่น แต่กวนสีหลิน
่ กับ
เหลิง่ ซวงฟังแล้ว กลับกำหมัดขึ้นมาไว้แน่ น ขณะที่ทุกข์ใจ ก็อดใจรอให้ได้
ลงมือกำจัดหญิงสาวใจยักษ์ นามซูรวั ่ อวิ ๋นนั ่นด้วยตัวเองแทบไม่ไหว!

เฟิ่ งจิว
่ ซดซุปหวานที่เย็นชืดขึ้นนิ ดหน่ อย ผุดเผยรอยยิม
้ อ่อนโยน เอ่ยว่า
“แต่วา่ ถึงนางคิดแผนไว้แยบยล ก็คงคาดไม่ถึงว่าข้าจะยังมีชว
ี ต
ิ อยู่ และยิง่
นึ กไม่ถึงว่าข้าจะกลับมา”

“เสี่ยวจิว
่ ที่เจ้าไม่กลับไปบ้านตระกูลเฟิ่ ง เพราะกลัวว่าทัง้ พ่อและปู่เจ้าจะ
มองใบหน้าเสียโฉมนี้ ไม่ออกใช่หรือไม่เล่า?” กวนสีหลิน
่ มองนางอย่างเจ็บ
ปวด หัวใจก็บบ
ี รัดจนกลายเป็นก้อนกลม

ตอนแรกที่พบกันในป่าเก้าหมอบ นางต่อกรกับฝูงหม่าป่าตัวคนเดียว ความ


ฮึดสู้และบ้าระห่ำนั ้น ยังคงตราตรึงมาถึงตอนนี้ ตลอดมาเขาไม่เคยนึ กออก
ว่าวงศ์ตระกูลใดกันแน่ ที่สอนสัง่ สาวน้ อยเช่นนางออกมาได้ แต่ในเวลานี้
เขาเข้าใจอย่างท่องแท้แล้ว
ไม่ใช่เพราะนางอยากแข็งแกร่ง แต่ถูกบังคับให้ต้องแข็งแกร่ง หากไม่โหด
เหีย
้ ม ก็มีชว
ี ต
ิ ต่อไปไม่ได้แน่

“แม้ใบหน้าเสียโฉม ทว่าหลายวันก่อนที่พบท่านปู่บนถนน เขากลับมองข้า


ออกในแวบเดียว” เมื่อนึ กถึงท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งที่ติดเหล้าเท่าชีวต
ิ เธอก็ผุดรอย
ยิม
้ ออกมาอย่างอดไม่ได้

พอเก็บรอยยิม
้ ในใจก็มีความกังวลอยูเ่ ลือนรางน้ อยๆ ตอนนี้ เขาถูกขังไว้
ไม่รูว้ า่ สถานนการณ์ เป็นเช่นไรบ้าง?
ตอนที่ 134 สำรวจจวนตระกูลเฟิ่ งยามวิกาล!

“หรือจะบอกว่า ครัง้ นี้ ที่ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งมีอาการคลุ้มคลัง่ ก็เป็นฝีมือซูรวั ่ อวิ ๋น


รึ?”

กวนสีหลิน
่ เบิกดวงตาโตเล็กน้ อย เพียงรู ส
้ ึกว่าสาวน้ อยผู้นั่นช่างน่ากลัวเกิน
ไปแล้ว ในเมื่อยึดตัวตนเสี่ยวจิว
่ ไป กลับทำเหมือนญาติพน
ี่ ้ องนางหาใช่ของ
ตนไม่ ซ้ำยังวางแผนทำร้ายพวกเขาอีก ผูห
้ ญิงเช่นนี้ ต้องลงโทษจับหัน
่ เป็น
ชิน
้ ๆ สถานเดียว!

เธอครุ น
่ คิดเล็กน้ อย ก่อนจะพยักหน้า “หลังจากกลับไป ท่านปู่ไม่น่าจะจู่ๆ
ก็เป็นเช่นนั ้น ข้าคิดว่าต้องเป็นฝีมือนางแน่ นอน รอพลบค่ำข้าลองเข้าไปดู
แล้วค่อยว่ากัน”

“เจ้าคิดจะแอบเข้าไปในจวนรึ? แต่สถานที่เช่นจวนตระกูลเฟิ่ ง ต้องคุ้มกันไว้


แน่ นหนามากเป็นแน่ เกรงว่าจะเข้าไปไม่งา่ ยดายนั ก” เขาพูดอย่างกังวลอยู่
บ้าง กล่าวอีกว่า “อีกอย่าง หากถูกจับได้ นึ กว่าเจ้าเป็นนั กฆ่าแล้วฆ่าทิง้ จะ
ทำเช่นไร?”

“เรือ
่ งนี้ ไม่ต้องเป็นห่วง ด้วยกำลังของข้าตอนนี้ จะแอบเข้าจวนตระกูลเฟิ่ งก็
ไม่ใช่ปัญหา” ในคำพูดเธอมีความมัน
่ ใจ สายตาจับจ้องบนตัวเขา กล่าวว่า
“เรือ
่ งนี้ ขา้ จัดการเองได้ ท่านไม่ต้องกังวลใจ ทัง้ หมดรอหลังจากข้าสำรวจ
จวนตระกูลเฟิ่ งคืนนี้ ค่อยว่ากัน”

“อืม งัน
้ เจ้าจำต้องระวังหน่ อยนะ” กวนสีหลิน
่ กำชับอย่างไม่วางใจ
“นายท่าน ให้ขา้ ตามไปด้วยไหมเจ้าคะ? หรือจะให้คอยหนุนอยูด
่ ้านนอก?”
เหลิง่ ซวงเอ่ยปากถาม

“ไม่ต้องหรอก”

เธอลุกยืนขึ้นมา เอ่ยกับทัง้ สองว่า “พวกเจ้าคอยอยูใ่ นบ้านเถิด! ข้าจะกลับไป


ฝึกวิชาในห้องก่อน มื้อเย็นไม่ต้องตามข้านะ” หลังจากกำชับแล้ว พอจะหัน
ตัวเข้าห้อง ก็หยุดฝีเท้าลง มองไปที่เหลิง่ ซวง

“พีช
่ ายข้าจะไปลานประลองตลาดมืด สักพักเจ้าเข้าไปกำชับพวกเขาที ให้
คอยดูแลเขามากๆ หน่ อย”

“เจ้าค่ะ” เหลิง่ ซวงขานรับ หลังจากเห็นนางเข้าห้องไป ถึงจะมองที่กวนสี


หลิน
่ ข้างๆ “คุณชาย ท่านจะไปลานประลองรึเจ้าคะ?”

“ถูกต้อง ข้าอยากไปลองเชิงฝีมือที่นั่นน่ ะ”

น้ำเสียงเขามีความกระตือรือร้นอยากลองอยูบ
่ างส่วน กล่าวด้วยสายตาที่มี
จิตวิญญาณโลดแล่น “และข้าอยากจะเข้าสำนั กดาวประดับเมฆา ดังนั ้นใน
การประลองที่จัดทุกสามปี ข้าต้องมีช่อ
ื อยูใ่ นสิบอันดับแรกของแคว้นแสง
สุรย
ิ น
ั ”

“สำนั กดาวประดับเมฆาคัดเลือกผูฝ
้ ึกทุกสามปี ตอนนี้ ยงั มีเวลาเตรียมตัวอีก
หนึ่ งปี” ขณะที่พูด เธอก็มองเขา เอ่ยว่า “แต่วา่ ที่นั่นเคร่งครัดมาก รวมรวบ
ยอดฝีมือจากแต่ละที่มาไว้ในที่เดียว เวลาหนึ่ งปีท่านมัน
่ ใจว่าจะเข้าสำนั ก
ดาวประดับเดือนได้รเึ จ้าคะ?”

“ข้าจะเข้าไปได้แน่ นอน!” คำพูดเขาหนั กแน่ น ตรงหว่างคิว


้ ก็มีความมัน
่ ใจ
เป็นที่สุด

เฟิ่ งจิว
่ ที่กลับมาในห้องเข้าไปฝึกวิชาในห้วงมิติ ภายในห้วงมิติ กลิน
่ อายพลัง
เร้นลับทัว่ ร่างหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว ยิง่ หมุนยิง่ คละคลุ้ง หลังจากฝึกฝน
กลิน
่ อายพลังเร้นลับ ก็ยงั ฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้อก
ี จนกระทัง่ เวลาตกดึกถึง
จะออกมา

เธอที่เปลี่ยนใส่ชุดสีดำปิดบังใบหน้าไว้ กระดกปลายเท้าออกจากลานบ้าน ไป
ยังจวนตระกูลเฟิ่ ง…

และตอนนี้ ในห้องโถงจวนตระกูลเฟิ่ ง โคมไฟสว่างราวกับกลางวัน

เฟิ่ งจิว
่ ที่แอบเข้าจวนมาเงียบๆ อยูเ่ หนื อหลังคาห้องโถง ร่างกายกึ่งนอนคว่ำ
พลางแง้มเปิดแผ่นกระเบื้องออกน้ อยๆ ก่อนจะมองทะลุผา่ นช่องลงไป

เพียงเห็นว่าบนตำแหน่ งที่อาวุโส หลังจากเฟิ่ งเซียวที่นั่งอยูฟ


่ ังมู่หรงอีเ้ ซวียน
ทางด้านล่างซ้ายอธิบายที่มาที่ไป สีหน้าก็ซีดเผือด ฝ่ามือตบโต๊ะรุ นแรง
อย่างโกรธเคืองไม่สิน
้ สุด ตะคอกเสียงดังด้วยความโมโห “เจ้าพูดให้ขา้ ฟัง
อีกทีซิ!”
ใบหน้าหล่อเหลาของมู่หรงอีเ้ ซวียนมีความรู ส
้ ึกผิดและขออภัย ลุกยืนขึ้นมา
กล่าวอย่างจริงจังว่า “ท่านอาเซียว ข้ารู ว้ า่ ยากนั กที่ท่านจะยอมรับ แต่นี่ขา้
คิดทบทวนมาอย่างดีถึงได้ตัดสินใจ และเรือ
่ งนี้ ขา้ ก็เคยพูดกับชิงเกอแล้ว
ด้วย”

เห็นเขาเดือดดาล จึงกล่าวอย่างรู ส
้ ึกผิด “ดังนั ้นข้าจึงหวังให้ตระกูลเฟิ่ งเป็น
ฝ่ายเอ่ยปากเสนอเรือ
่ งถอนหมัน
้ เช่นนี้ แล้วจะทำร้ายจิตใจชิงเกอได้น้อย
ที่สุด”
ตอนที่ 135 ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งทุกข์ใจ!

“ทำร้ายนางน้ อยลงรึ? ที่เจ้าขอถอนหมัน


้ ก็ทำนางชอกช้ำใจแล้ว รู บ
้ า้ งหรือ
ไม่?”

เฟิ่ งเซียวมองเขาอย่างขุน
่ เคือง ลุกยืนขึ้นมากล่าวว่าหาความ “พวกเจ้าสอง
คนถือเป็นเพื่อนเล่นวัยเด็กที่เติบโตมา มีใจให้กันตัง้ แต่เล็ก เดิมทีขา้ นึ กว่า
พวกเจ้าแต่งงานกันในปีนี้ แต่นึกไม่ถึงว่าตอนนี้ เจ้าจะเอ่ยปากขอถอนหมัน

เจ้าคิดว่านี่ จะทำให้ชงิ เกอผิดหวังหรือไม่เล่า?”

เฟิ่ งจิว
่ บนหลังคามองไปยังเฟิ่ งเซียวที่โกรธจัด นี่ คือท่านพ่อของเธอ พ่อที่รก

ลูกสาวเท่าชีวต
ิ แต่เพราะการเอาใจที่มากเกิน ถึงไม่เคลือบแคลงว่าลูกสาว
ตัวเองมีบางอย่างเปลี่ยนไป ในสายตาเขา ไม่วา่ ลูกสาวจะทำอะไรยังไง ล้วน
ก็ดีที่สุด

สำหรับเขา เธอพูดไม่ออกจริงๆ ว่ารู ส


้ ึกเช่นไร ผิดหวังรึ? ก็ไม่ใช่ อันที่จริง เขา
ไม่รูด
้ ้วยซ้ำว่าเธอถูกสับเปลี่ยนตัว ไม่ใช่หรือ? ไม่วา่ จะพูดจากด้านไหนๆ เขา
ล้วนเป็นพ่อที่ดี และยังเป็นพ่อที่แสนรักใคร่ลูกสาว

พอมองเขาอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ ง ก็เบนสายตาไปจับจ้องบนร่างมู่หรงอีเ้ ซวียน


นึ กไม่ถึงว่าเขาจะมาขอถอนหมัน
้ แต่วา่ ตอนนี้ เรือ
่ งพวกนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับ
เธอ ต้องมองหาว่าท่านปู่ถูกขังไว้ที่ไหนเสียก่อน

เธอขยับกระเบื้องกลับที่เดิมด้วยความระมัดระวัง ดึงพลังขึ้นกระโดด จากลา


อย่างเงียบเชียบ และมุ่งไปยังเรือนด้านหลัง…
อาศัยความทรงจำในหัว นางคุ้นเคยกับจวนตระกูลเฟิ่ งเช่นเดิม จึงมาถึง
เรือนท่านปู่อย่างง่ายดาย ในสายตานาง แม้ท่านผูเ้ ฒ่าจะถูกวินิจฉั ยว่าจิต
วิปลาสเสียจนโดนจับขังไว้ ก็น่าจะถูกขังในเรือนตัวเอง สุดท้ายแล้ว ด้วย
ความกตัญญูที่ท่านพ่อมีต่อท่านปู่ จึงไม่น่าจะรุ นแรงกับเขานั ก

“ปล่อยข้าออกไป! ปล่อยข้าออกไปนะ! ข้าจะฆ่าเจ้าซะ! เจ้าผูห


้ ญิงต่ำทราม!
นั งหญิงเดนนรก!”

ยังไม่ทันเข้าใกล้ ก็ได้ยน
ิ เสียงร้องโวยวายของท่านผูเ้ ฒ่าลอยมาจากด้านใน
ห้อง ไม่นานนั ก ซูรวั ่ อวิ ๋นในชุดกระโปรงสีฟ้าน้ำทะเลก็เดินออกมา ขณะที่
ประตูหอ
้ งปิดลง ยังเอ่ยกับองครักษ์ ที่เฝ้าประตูอย่างเสแสร้งว่า “สุขภาพ
ท่านปู่ไม่ค่อยดี พวกเจาจำต้องดูแลอย่างระมัดระวังล่ะ”

“คุณหนูวางใจเถอะ ข้าน้ อยจะดูแลท่านผูเ้ ฒ่าอย่างดีขอรับ” องครักษ์ สอง


นายเอ่ยเสียงเข้ม

“อืม พรุ ง่ นี้ ขา้ จะมาอีกนะ” นางพยักหน้า ก่อนจะเคลื่อนก้าวย่างจากไปเบาๆ

เห็นเธอจากไป สององครักษ์ เห็นรอบๆ ไม่มีคน จึงพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “เจ้า


ว่าทำไมท่านผูเ้ ฒ่าถึงเอาแต่ด่าทอคุณหนู? ซ้ำยังบอกว่านางเป็นตัวปลอม
อีก?”

“ไหนบอกว่าเชิญหมอหลายท่านมา สุดท้ายผลวินิจฉั ยก็เหมือนๆ กันไม่ใช่


หรือ? ต่างพูดว่าท่านผูเ้ ฒ่ามีอาการคลุ้มคลัง่ เจ้าว่า หากไม่เป็นเช่นนี้ อยูด
่ ีๆ
จะหยิบกระบีม
่ าฆ่าคุณหนูได้อย่างไรเล่า?”
องครักษ์ ผูน
้ ั ้นเกาหัว เอ่ยอย่างไม่เข้าใจ “แต่นี่มันแปลกมากนะ! เห็นชัดๆ ว่า
ก่อนหน้านี้ ท่านผูเ้ ฒ่ายังดีๆ อยูเ่ ลย จู่ๆ กลายเป็นแบบนี้ ได้ยงั ไงกัน? ข้ามัก
จะรู ส
้ ึกแปลกใจนิ ดหน่ อย แต่พูดไม่ออกว่าแปลกตรงไหน”

“อย่าสนใจมากนั กเลย เฝ้าท่านผูเ้ ฒ่าดีๆ อย่าให้เกิดเรือ


่ งก็พอ อื้ม!”

เพิง่ จะสิน
้ สุดน้ำเสียงองครักษ์ ตระกูลเฟิ่ ง ทัง้ สองก็ส่งเสียงอูอ
้ ใี้ นลำคอ
ร่างกายสลบล้มลงไปบนพื้น

เฟิ่ งจิว
่ ในชุดดำโดดลงมาในเรือน หลังจากมองไปยังบริเวณรอบๆ ก็ผลักเปิด
ประตูเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว

ทว่า เมื่อเธอเห็นท่านผูเ้ ฒ่าด้านใน รอบตากลับแดงก่ำน้ อยๆ อย่างอดไม่ได้


เร่งฝีเท้าวิง่ เข้าไป เรียกเสียงสะอึกสะอื้น “ท่านปู่!”

ท่านผูเ้ ฒ่าถูกขังอยูใ่ นห้องจริงๆ แต่ที่นางนึ กไม่ถึงคือการที่เขาถูกสยายผม


ล่ามตรึงไว้บนเตียง มือเท้าถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนเหล็กสีดำ สองตาปรากฏ
เส้นเลือดอย่างผิดปกติ ใต้เปลือกตามีรอยช้ำดำเขียวอยูจ
่ างๆ หายไปแค่ไม่กี่
วัน ทัง้ ตัวกลับผอมลงไปเยอะเลย
ตอนที่ 136 ถูกพบตัว!

“ฆ่าเจ้าซะ! ฆ่าเจ้าซะ! อ๊าก! ปล่อยข้าออกไป! ปล่อยข้าออกไป!”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งร้องโวยวายบ้าคลัง่ อย่างเสียสติโดยสิน


้ เชิง พลังเร้นลับทัว่ ร่าง
กำลังพลุ่งพล่าน ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้ขา้ งกายเขาเกินไปนั ก

“ท่านปู่ เป็นข้า นี่ ขา้ เอง! ข้าแม่หนูเฟิ่ งไง”

เห็นชายแก่ต้องมารับเคราะห์เช่นนี้ เพราะเธอ น้ำตาก็ไหลลงมาโดยไม่รูต


้ ัว
หัวใจคับแน่ นเจ็บปวด เวลานี้ ล่ะอยากจะยกซูรวั ่ อวิ ๋นขึ้นแขวนแล้วเฉื อนเนื้ อ
รีดเลือดเสียจริง! เพื่อระบายซึ่งความเกลียดชังในใจ

“ฆ่าเจ้าซะ! อ๊าก!”

เห็นเขาสิน
้ เสียสติโดยสมบูรณ์ เธอจึงทำได้เพียงอดกลัน
้ ความเจ็บปวดในใจ
ดึงเข็มเงินออกมาปล่อยกลิน
่ อายพลังเร้นลับเข้าทิม
่ ไปที่เขา

“ฆ่า…”

น้ำเสียงท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งอ่อนลง ทัง้ ร่างเป็นลมตามไป พร้อมกลิน


่ อายพลังเร้น
ลับบนร่างก็เหือดหาย

เธอเร่งฝีเท้าเดินออกหน้ามาจับชีพจรเขาถึงข้างเตียง พอตรวจไปก็หม่นใจ
เล็กน้ อย ก่อนจะหยิบเหล็กเส้นหนึ่ งออกจากห้วงมิติมาสะเดาะล็อคตรงมือ
และเท้า หลังจากกดจุดเส้นประสาทที่ทำให้เขาสลบไว้ ก็ส่งตัวเข้าห้วงมิติ ถึง
จะออกไปด้วยความรวดเร็ว กลับไม่นึกว่า เมื่อออกประตูไป จะพบกับคนรับ
ใช้ที่กำลังเดินเข้ามาในเรือนพอดี

“ใครน่ ะ!”

คนรับใช้ตะโกนลัน
่ เห็นสององครักษ์ ล้มอยูบ
่ นพื้นไม่รูเ้ ป็นหรือตาย คนชุดดำ
นั ่นเข้าไปในห้องท่านผูเ้ ฒ่า ด้วยความตกใจ จึงแผดลัน
่ เสียงออกไปทันที
“มานี่ สิ! มาเร็วๆ เข้า! มีคนร้าย!”

ขณะสิน
้ สุดน้ำเสียง ก็เดินก้าวไปด้านหน้า ทัง้ ตัวคนกระโจนออกไป อยากจะ
จับกุมตัวคนชุดดำนั ่นไว้

บ้าจริง!

เฟิ่ งจิว
่ แอบสบถอยูใ่ นใจ ไม่นึกว่าเวลานี้ จะมีคนเข้ามา ตอนนี้ เห็นคนรับใช้
กระโจนมาหา จึงเรียกพลังกระโดดขึ้นทันที ขาอาศัยแรงเหยียบไปบนไหล่
คนรับใช้นิดหนึ่ ง แล้วพุง่ ไปบนหลังคา เมื่อเตรียมตัวจะออกจากจวนอย่าง
รวดเร็ว กลับไม่คิดว่าเสียงร้องอุทานของคนรับใช้จะทำให้ผูค
้ นในจวนแตก
ตื่น โดยเฉพาะเฟิ่ งเซียวกับมู่หรงอีเ้ ซวียนในห้องโถงเรือนด้านหน้า

“เจ้าหัวขโมยจะหนี ไปไหน!”
น้ำเสียงที่ทัง้ ทุ้มเข้มและแฝงไปด้วยพลังเร้นลับคละคลุ้งดังลอยมาราวกับ
เสือคำราม กลิน
่ อายพลังเร้นลับอันแกร่งกล้าสัน
่ สะเทือนเป็นกระแสลม
กลางอากาศที่สัน
่ ไหวอยูน
่ ้ อยๆ

เฟิ่ งจิว
่ หันกลับไปมอง เห็นท่านพ่อเรียกพลังลอยถลาเข้ามา หมัดพยัคฆ์
โจมตีมาพร้อมทัง้ พลังมืดอันแข็งแกร่ง ใบมีดลมที่เกิดขึ้นจากความแรง
หมัดตวัดผ่านกลางอากาศ ส่งเสียงดังฟิ้ วออกมา

ตามปกติเธอไม่อาจลงมือกับเขาได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะสู้ได้หรือไม่ แค่ทำเขา


บาดเจ็บโดยไม่ระวังก็ไม่ดีแล้วล่ะ!

ตอนนี้ เธอหมุนกลับตัว ระหว่างหมุนก็หลบหมัดที่โจมตีมารุ นแรงอย่าง


รวดเร็ว ไม่ประมือกับเขาซึ่งๆ หน้า แต่เลือกที่จะเร่งรีบถอยห่างแล้วเรียก
พลังกระโดดออกไปนอกจวน

“จับหัวขโมยนั ่นไว้!”

เฟิ่ งเซียวแผดเสียงลัน
่ เห็นมู่หรงอีเ้ ซวียนขวางอยูเ่ บื้องหน้าคนชุดดำ จึงรีบ
ร้อนกลับตัวเดินเข้าไปในห้อง เมื่อเห็นตัวท่านพ่อไม่อยูใ่ นห้อง ใจก็หมองมัว
“ท่านผูเ้ ฒ่าล่ะ?”

คนรับใช้ลนลานตามมา เห็นในห้องไม่มีคน จึงตกใจอย่างอดไม่ได้ รีบเอ่ยว่า


“เมื่อกี้ขา้ น้ อยเข้ามาในเรือน เห็นแค่คนชุดดำนั ่นออกมาจากห้อง ไม่เห็น
ท่านผูเ้ ฒ่าเลยขอรับ”
“ไปหาสิ! รีบไปตามหาเร็ว!”

เขาตะคอกเสียงดัง สายตามองไปยังทัง้ สองคนที่กำลังต่อสู้กันบนหลังคา


“ต้องจับหัวขโมยนั ่นให้ได้!”

เธอไม่กล้าลงมือกับท่านพ่อ แต่ไม่เกรงใจมู่หรงอีเ้ ซวียนเลย ยิง่ ไม่ต้องพูดถึง


มู่หรงอีเ้ ซวียนที่รูจ
้ ักกันในนามอัจฉริยะอันดับหนึ่ งแห่งแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั เธอ
อยากประชันฝีมือด้วยสักครัง้ มาตัง้ นานแล้ว ด้วยเหตุนี้ จึงลงมือดุรา้ ยในทุก
กระบวนท่า และหาโอกาสฆ่าอยูท
่ ุกท่วงที

ฟิ้ ว! ผัวะๆ!

เห็นฝีมือคนชุดดำนั ่นไม่ด้อยไปกว่ามู่หรงอีเ้ ซวียน เฟิ่ งเซียวก็แอบตกตะลึง


กับตัวเอง

ที่เมืองอวิ ๋นเยวีย
่ มียอดฝีมือเช่นนี้ มาตัง้ แต่เมื่อไหร่? ต้องรู ไ้ ว้ กำลังวรยุทธ์ขอ
งมู่หรงอีเ้ ซวียนไม่ใช่ที่คนธรรมดาจะรับมือได้ไหว เมื่อครู ไ่ ม่อาจมองอย่าง
ละเอียด ตอนนี้ พอดูดีๆ ทำไมถึงรู ส
้ ึกว่าเงาร่างสีดำนั ้นช่างคุ้นตาอยูน
่ ิด
หน่ อยกันนะ?
ตอนที่ 137 นั กวางยามือฉกาจ!

เคลือบแคลงอยูใ่ นใจ พอกำลังครุ น


่ คิด ก็ถูกน้ำเสียงหนึ่ งขัดจังหวะ

“ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ?”

เฟิ่ งชิงเกอเร่งฝีเท้ามาถึงข้างกายเขา เห็นเงาร่างทัง้ สองที่ต่อสู้กันอยูเ่ หนื อ


หลังคา จึงเบิกดวงตาออกกว้างอย่างอดไม่ได้ “นึ กไม่ถึงว่าจะมีคนร้ายเข้ามา
ในบ้านเราด้วย? เขามาทำอะไรรึเจ้าคะ? ท่านปู่ล่ะ? ท่านปู่ไม่เป็นไรใช่ไหมเจ้า
คะ?”

“ปู่เจ้าหายไปแล้ว” เฟิ่ งเซียวย่นคิว


้ น้ อยๆ ในดวงตามีความกังวลที่ไม่อาจ
ซ่อนเร้น ร่างกายท่านพ่อเป็นเช่นนั ้น นึ กไม่ถึงว่าตอนนี้ จะหายไป ถูกใคร
ลักพาตัวไปรึ? แล้วคนผูน
้ ั ้นมีเป้าหมายอะไรกัน?

“อะไรนะ? ท่านปู่หายไปรึเจ้าคะ?”

นางประหลาดใจ ในใจมีความสงสัยอยูบ
่ า้ ง ท่านผูเ้ ฒ่าจะหายไปได้เช่นไร?
หรืออาจถูกใครลักพาตัว? แต่ลักพาตัวเขาไปจะทำอะไรได้? หนำซ้ำ ยัง
สามารถลักพาคนในจวนได้ราวกับไม่มีคนอยู่ ฝีมือคนผูน
้ ั ้นช่างน่าแปลกเกิน
ไปแล้วกระมัง?

ฟิ้ ว! ผัวะๆ!
หมัดเท้าโจมตีกัน เกิดเป็นเสียงกระแสลมดังกระหึ่ม บนสองเงาร่างหนึ่ งขาว
หนึ่ งดำต่างมีกลิน
่ อายพลังเร้นลับหนาคลุ้งกระจายอยู่ โจมตีไร้ความปราณี
ทุกกระบวนท่าอันดุรา้ ยทำให้ผูค
้ นเบื้องล่างมองแล้วอกสัน
่ ขวัญแขวนอย่าง
อดไม่ได้

ขณะที่แอบตกตะลึงกับฝีมือเก่งกาจของคนชุดดำ ก็เห็นคนชุดดำผูน
้ ั ้นหมุน
ตัวหันเตะ บริเวณขาที่เหยียดกวาดผ่านถึงกับยังมีกระแสลมรุ นแรงที่มอง
เห็นได้ด้วยตาเปล่ารวมตัวกันอยู่ มันเตะไปทางมู่หรงอีเ้ ซวียนด้วยความเร็ว
ดัง่ สายฟ้าฟาด

“อื้ม!”

มู่หรงอีเ้ ซียวร้องอูอ
้ ใี้ นลำคอ ร่างกายตกจากหลังคาลงไปบนพื้นอย่างเสีย
สมดุล เร่งรีบปรับตัว เรียกพลังขึ้นทรงตัวร่อนลงพื้น แต่เพราะความเร็วและ
ความแรงในการตกที่สัมพันธ์กัน จึงยังคงถอยหลังไปหลายก้าวถึงจะ
สามารถยืดหยัดมัน
่ ได้อย่างไม่อาจควบคุม

หลังจากรอให้ยน
ื คงตัวเขาค่อยมองขึ้นไป เพียงเห็นเงาร่างสีดำบนหลังคาโผ
เข้ามา แววตานั ้น ทำให้รูส
้ ึกคุ้นเคยเล็กน้ อย จึงเหม่อลอยไปชัว่ ขณะเพราะ
ความตื่นตะลึง

“รีบไล่ตามไป!”

เฟิ่ งเซียวเห็นเงาร่างชุดดำพุง่ ลอยหนี จาก และหายตัวไปในยามค่ำคืนอย่าง


ว่องไว จึงออกคำสัง่ ให้องครักษ์ ไล่ตามไปทันที
ด้วยความเร็วขององครักษ์ จวนตระกูลเฟิ่ ง จะไล่ตามเฟิ่ งจิว
่ ทันได้อย่างไร?
หลังออกจากจวนก็ถลาแล่นไปอย่างไม่หยุดพัก พอสลัดคนด้านหลังออกไป
ไกล เมื่อกลับมายังละแวกนอกเรือน ถึงจะพาท่านผู้เฒ่าในห้วงมิติออกมา
ประคองเขาโดดเข้าไปในบ้าน มาถึงภายในเรือน

“เสี่ยวจิว
่ เป็นอย่างไรบ้าง? ราบรืน
่ ดีหรือไม่?” กวนสีหลิน
่ กับเหลิง่ ซวงรออยู่
ในลานบ้าน พอเห็นนางกลับมาก็เร่งรีบเข้าไปรับคนไว้

“ยังได้อยู”่ เธอส่งคนให้เขา เอ่ยว่า “พยุงเข้าไปในห้องก่อน เหลิง่ ซวง เจ้าเฝ้า


อยูต
่ รงลานบ้านนะ”

“เจ้าค่ะ” เหลิง่ ซวงขานรับ คอยเฝ้าอยูใ่ นลานบ้าน

พอเข้าห้อง กวนสีหลิน
่ ก็วางท่านผูเ้ ฒ่าลงบนเตียง มองท่านผู้เฒ่าเฟิ่ งที่หมด
สติสูบผอม จึงหันหน้าไปหาเฟิ่ งจิว
่ อย่างอดไม่ได้ “เสี่ยวจิว
่ ปู่เจ้าเป็นอะไรไป?
ไยทัง้ ตัวถึงผอมแห้งเช่นนี้ เล่า?”

เฟิ่ งจิว
่ เดินออกมาจากหลังฉากกัน
้ เปลี่ยนสวมเสื้อผ้าสบายๆ เช็ดหลังมือ
เดินเข้ามา กล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านหาน้ำสะอาดมาให้ขา้ ก่อนเถิด”

ระหว่างที่พูด เธอนั ่งลงข้างเตียง ตรวจดูรา่ งกายท่านปู่ใหม่อก


ี รอบหนึ่ ง จาก
นั ้นค่อยหยิบเข็มเงินมาวางไว้ขา้ งๆ
กวนสีหลิน
่ จัดแจงหาน้ำสะอาดมาวางไว้ขา้ งกาย จากนั ้นจึงเฝ้าดูอยูข
่ า้ ง
เตียงและไม่รบกวนอะไรอีก เห็นนางหยิบเข็มเงินมาแทงนิว
้ มือทัง้ สิบของ
ท่านปู่ ต่อมาค่อยวางลงในน้ำพลางบีบเลือดออก

เมื่อเห็นน้ำในอ่างถูกย้อมด้วยเลือดสีแดงที่มีสีดำเขียวปนอยูน
่ ้ อยๆ เขาจึง
สูดหายใจเข้าอย่างอดไม่ได้

“นั งหญิงชัว่ ร้ายนั ่น นึ กไม่ถึงว่าจะวางยากับปู่เจ้าจริงๆ!”

แววตาเฟิ่ งจิว
่ มืดมัวเล็กน้ อย เอ่ยว่า “นางเป็นนั กวางยามือฉกาจ ไม่เช่นนั ้น
หมอหลายท่านคงไม่มีทางดูไม่ออกหรอก”
ตอนที่ 138 ท่านปู่ฟื้นแล้ว!

“ไปเปลี่ยนน้ำมาอีกอ่าง”

“ได้สิ”

กวนสีหลิน
่ ไปยกน้ำสะอาดเข้ามาอีกรอบ หลังจากเปลี่ยนน้ำปนเลือดอ่านนั ้น
ครัง้ นี้ เห็นเลือดที่ไหล่ออกมาค่อยๆ กลับคืนเป็นสีเลือดแดงสด จึงเอ่ยถาม
“พิษนี้ แก้ได้แล้วรึ?”

“มีพษ
ิ ตกค้างที่ยงั ไม่ล้างอยู”่ เธอเห็นว่าพอใช้ได้แล้ว ถึงจะส่งสัญญาณให้
ขยับอ่างออกไป เช็ดมือที่เปื้ อนน้ำปนเลือดเสียจนสะอาด หลังจากห่มผ้าขึ้น
ให้เขา ก็เดินไปข้างโต๊ะ

“ท่านพี่ พอรุ ง่ สางท่านไปเอายามาตามในรายการแผ่นนี้ แบ่งไปเอามาจาก


หลายๆ ที่นะ” เธอเขียนใบสัง่ ยายื่นให้เขา

พอกวนสีหลิน
่ รับมาก็อา่ นรอบหนึ่ ง พยักหน้า “ได้เลย พอฟ้าสางข้าจะไปเอา
ยามาให้”

และในเวลาเดียวกันนี้ ที่บา้ นตระกูลเฟิ่ งกลับโกลาหลวุน


่ วาย

เฟิ่ งเซียวพาคนออกไปตามหาท่านผูเ้ ฒ่า มู่หรงอีเ้ ซวียนก็รว่ มช่วยด้วย


ค่ำคืนนี้ พูดได้วา่ ทำให้ใจคนตื่นตระหนก และเพราะพวกเขาเคลื่อนไหวเสียง
ดัง จึงมีคนไม่น้อยต่างรู ว้ า่ ท่านผูเ้ ฒ่าแห่งจวนตระกูลเฟิ่ งถูกคนลักพาตัว
แต่วา่ ผูค
้ นล้วนแปลกใจ หากบอกว่าเฟิ่ งชิงเกอถูกลักพาตัวก็พอฟังขึ้นอยู่
บ้าง อันที่จริง นางเป็นไข่มุกล้ำค่าในมือของจวนตระกูลเฟิ่ ง ซ้ำยังเป็นสาว
งามโดดเด่น ทว่าไม่สนสาวงามแสนสวย กลับลักพาตาเฒ่าคนหนึ่ ง หนำซ้ำ
ช่วงนี้ ยงั ถูกวินิจฉั ยว่าจิตวิปลาส เจ้าว่าแปลกหรือไม่เล่า?

ด้วยเหตุนี้ จึงพูดคุยกันมากมาย คิดว่า จะเป็นศัตรู คนใดของตระกูลเฟิ่ งรึ


เปล่า? หรือเป็นฝีมือศัตรู ของท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ ง?

ส่วนที่จวนตระกูลเฟิ่ ง ในลานบ้านเรือนเฟิ่ งชิงเกอ ชายวัยกลางคนผู้หนึ่ งเข้า


มาในห้องนางอีกครัง้

“นายหญิง ตรวจสอบตัวตนสองพีน
่ ้ องนั ่นชัดแจ้งแล้วขอรับ”

“ว่ามา”

“ผูช
้ ายมีนามว่ากวนสีหลิน
่ เป็นลูกภรรยารองของตระกูลกวนแห่งเมืองอวิ ๋น
เยวีย
่ แต่ชว
่ งก่อนหน้านี้ มีปัญหากับทางบ้าน จึงขอถอนตัวจากตระกูลออก
มาก่อร่างสร้างตัวเอง ตอนนี้ อาศัยอยูใ่ นบ้านทางใต้ของเมือง ส่วนสาวน้ อย
ผูน
้ ั ้นตรวจสองไม่รูท
้ ี่มาที่ไป รู เ้ พียงว่าเป็นน้ องสาวร่วมสาบานของกวนสี
หลิน
่ ไม่มีใครเคยเห็นรู ปลักษณ์ นาง เพราะใช้ผา้ คลุมปิดหน้าไว้ตลอด”

ฟังเช่นนี้ ในดวงตาซูรวั ่ อวิ ๋นก็ฉายแววไอสังหารที่ชว


ั ่ ร้าย นั งจิง้ จอกไร้ที่มา
คนเดียวก็สามารถทำให้มู่หรงอีเ้ ซวียนว้าวุน
่ ใจได้ ช่างมีฝีมือดีเสียจริง!
“ส่งพวกคนจากสำนั กพิษโอสถไปฆ่าเจ้าคนแซ่กวนนั ่นซะ ส่วนผูห
้ ญิงคนนั ้น
ให้จับกลับมา ข้าอยากเห็นว่าใต้ผา้ คลุมหน้านั ้นจะมีรูปโฉมเช่นไร!” น้ำเสียง
นางที่เปล่งออกมามีความโหดร้าย ในค่ำคืนอันสงบเงียบนี้ มันช่างน่าสะพรึง
เป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชด

“ขอรับ!” ชายวัยกลางคนตอบรับด้วยความเคารพ

“นอกจากนี้ ไปสืบมาหน่ อยว่าท่านผูเ้ ฒ่าถูกผูม


้ ีอำนาจท่านใดลักพาไป หาก
หาพบตัว ก็จัดการที่ด้านนอกนั ้นทันที!”

แค่ตาเฒ่าที่เกะกะขวางหูขวางตาคนหนึ่ ง หากนางฉลาดพอก็จะไม่ฆ่าเขา
แต่ตรงกันข้าม คนก็แก่เสียขนาดนั ้น ยังจะมีดวงตาที่ปราดเปรือ
่ งเสียจน
ทำให้คนแสนรังเกียจอีก

ในเมื่อเข้ามาขวางทาง ก็อย่าโทษว่านางไม่นึกถึงความรักเล็กๆ น้ อยๆ นั ่นละ


กัน!

“ขอรับ!” ชายวัยกลางคนขานรับอีกครา หลังจากเห็นนางโบกมือส่ง


สัญญาณให้เขาล่าถอย ถึงจะหันตัวออกไป

เช้าตรู ว่ น
ั ต่อมา

เมื่อท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งค่อยๆ ฟื้ นขึ้นมา ก็เห็นคนคนหนึ่ งนอนคว่ำอยูข


่ า้ งเตียง
พอเห็นศีรษะหันข้างน้ อยๆ ใบหน้าอันเสียโฉมนั ่นก็สะท้อนสู่ดวงตา นึ กถึงคำ
พูดของหญิงสาวผูน
้ ั ้น ในใจก็ชอกช้ำชัว่ ขณะ น้ำตาเปียกหมอนอย่างช่วยไม่
ได้

พอเห็นใบหน้าที่เสียโฉมทำให้เขาปวดใจรู ส
้ ึกผิดไม่สิน
้ สุด แต่ตอนนั ้น เมื่อ
ได้ยน
ิ นางบอกว่าใช้มีดกรีดใบหน้าแม่หนูเฟิ่ งทีละมีดๆ ความทุกข์ใจนั ้นยิง่
ทำให้เขาสามารถยับยัง้ ไม่ให้มันผันเปลี่ยนเป็นความโกรธเกรีย
้ วและรวด
ร้าวได้

แม่หนูเฟิ่ งเอ๋ย! เด็กน้ อยผูว


้ า่ นอนสอนง่าย กลับรับทุกขเวทนามากมายเพียง
นั ้น จะให้ตาเฒ่าเช่นเขายอมรับได้เช่นไร…
ตอนที่ 139 จวนตระกูลเฟิ่ งตามหาคน!

มือผอมแห้งยื่นออกไปอย่างสัน
่ เทาน้ อยๆ อยากจะลูบเบาๆ บนแผลเป็น
เหล่านั ้นที่ใบหน้านาง กลับนึ กไม่ถึง ยังไม่ทันแตะโดน ก็ต่ ืนขึ้นมาเสียแล้ว

เฟิ่ งจิว
่ พลันตกใจตื่น ไหวตัวลุกขึ้นมานั ่ง เมื่อเห็นท่านผูเ้ ฒ่าที่ต่ ืนขึ้นและ
กำลังจะยื่นมืออันสัน
่ เทาเล็กน้ อยมา ถึงจะผ่อนคลายลง เห็นท่านผู้เฒ่า
กำลังร้องไห้ไร้เสียง ก็ตะลึงไปบ้างอย่างอดไม่ได้

“ท่านปู่ ท่านร้องไห้ทำไมรึเจ้าคะ?”

เธอยกมือขึ้นไปเช็ดน้ำตาเขา เอ่ยถาม “ไม่สบายตัวใช่หรือไม่? มา ข้าจะพยุง


ท่านลุกขึ้นนั ่งนะเจ้าคะ”

ท่าทางตื่นตัวนั ้นช่างบีบรัดหัวใจท่านผูเ้ ฒ่า นางต้องประสบพบทุกขเวทนา


มานานเพียงใด ถึงจะโต้ตอบอย่างระแวดระวังเช่นนี้ ? นางกลัวว่าจะมี
อันตรายจึงไม่กล้าหลับสนิ ทใข่หรือไม่?

“แม่หนูเฟิ่ ง… ปู่ ปู่ขอโทษด้วยนะ!”

น้ำตานองเต็มหน้า ทัง้ เสียใจและเจ็บใจ หากรู ว้ า่ เก็บตัวแค่ไม่กี่เดินแล้วจะ


เกิดเรือ
่ งเช่นนี้ ข้น
ึ ไม่วา่ ยังไงเขาก็จะไม่เก็บตัวฝึกวิชาเด็ดขาด

ได้ยน
ิ เช่นนี้ เธอก็ผุดรอยยิม
้ ออกมา ประคองเขาขึ้นมานั ่งพิงหัวเตียง เอ่ย
เสียงอ่อน “ท่านปู่ ท่านอย่าเป็นเช่นนี้ เลย ตอนนี้ ขา้ ดีมากแล้ว ดีมากจริงๆ”
เพื่อเบีย
่ งเบนความสนใจ ไม่ให้เขาโทษตัวเองต่อไปอีก เธอจึงถามว่า “ท่านปู่
หลังจากท่านกลับไป มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าคะ? ท่านสูดยาที่มีฤทธิท
์ ำให้
ตื่นตัวเข้าไป ซ้ำร่างกายยังถูกวางยาอีก”

“ฤทธิท
์ ำให้ต่ ืนตัวรึ?”

ท่านผูเ้ ฒ่าเช็ดน้ำตาออกไปคิดๆ ดู กล่าวด้วยคำพูดเกลียดชัง “เป็นผูห


้ ญิง
คนนั ้น ตอนนั ้นปู่ไปในเรือนเพื่อจะจับนางมา แต่นางอาศัยที่ปู่ไม่ทันสังเกต
ประโคมพวกผงยาทำให้ปู่เผลอเลินเล่อสูดเข้าไป ซ้ำยังบอกว่า…”

พูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงเขาชะงักลง ลังเลอยูพ


่ ก
ั หนึ่ ง

“บอกว่าใบหน้าหลานถูกนางกรีดทำลายรึเจ้าคะ? ท่านปู่จึงเคืองแค้นเรือ
่ งที่
ถูกนางทรมาน?” การคาดเดาที่เธอคิดได้ก็คือเรือ
่ งนี้ ไม่เช่นนั ้นท่านผู้เฒ่า
คงไม่หลงกลอย่างง่ายดาย

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งพยักหน้า “ไม่ผด


ิ ตอนนั ้นปู่ได้ยน
ิ ก็โกรธมาก เพียงรู ส
้ ึกมีไฟ
ปะทุซู่ข้น
ึ มาในหัว ควบคุมสติไม่ได้นิดหน่ อย”

ขณะที่พูด คล้ายจะนึ กอะไรออก จึงเอ่ยถามอย่างแปลกใจเล็กน้ อย “จริง


ด้วย ปู่มาอยูท
่ ี่นี่ได้อย่างไร? ไม่ใช่วา่ ถูกขังไว้หรอกรึ?”

แม้ตอนนั ้นสติจะเสียการควบคุม แต่การรับรู ย


้ งั ชัดเจนอยูบ
่ างส่วน ทว่าเขา
มาถึงที่นี่ได้เช่นไร กลับไม่รูเ้ รือ
่ งเลย
ฟังคำพูดนี้ เธอก็ยม
ิ้ อ่อนโยน ในดวงตาอันหลักแหลมฉายแววท่าทางเจ้า
เล่ห์ “แน่ นอนว่าหลานพาท่านปู่ออกมาเองเจ้าค่ะ!”

“แต่วา่ …”

เห็นเขายังคิดจะถาม เธอจึงตัดบทคำพูด เอ่ยยิม


้ ๆ ว่า “เอาล่ะท่านปู่ ท่าน
ออกมาก็คิดมากถึงเพียงนี้ ร่างกายยังมีพษ
ิ ตกค้างที่ยงั ไม่ล้าง รักษาตัวอยูท
่ ี่
นี่ ให้ดีก่อนค่อยว่ากัน ข้าจะไปยกข้าวต้มมาให้ท่านปู่ทานนะเจ้าคะ”

เห็นนางหันตัสเดินออกไป ท่านผู้เฒ่าเฟิ่ งก็ผงะเล็กน้ อย พาเขาออกมาจาก


จวนตระกูลเฟิ่ งรึ? นี่ คงเป็นไปไม่ค่อยได้กระมัง? ในจวนคุ้มกันกันเช่นไร ไม่มี
ใครรู ด
้ ีไปกว่าเขาอีกแล้ว

เหลิง่ ซวงในลานบ้านเห็นนางออกมา จึงออกไปรับหน้า “นายท่าน”

“เหลิง่ ซวง เจ้าไปห้องครัวดูวา่ ชิงเหนี ยงต้มข้าวเรียบร้อยหรือยัง? ยกเข้ามา


หน่ อย”

“เจ้าค่ะ” นางขานรับ ไปยังห้องครัว

หลังจากเหลิง่ ซวงเดินออกไป กวนสิหลิน


่ ก็เดินเข้ามา พลางพูดว่า “เสี่ยวจิว

ข้าซื้อยากลับมาแล้ว กำชับชิงเหนี ยงให้ต้มอยู่ จริงด้วย เมื่อเช้านี้ ขา้ ออกไป
ซื้อยา เห็นคนของจวนตระกูลเฟิ่ งตามหาคนอยูท
่ ุกหนแห่ง! เจ้าว่าพวกเขา
จะตามมาถึงที่นี่หรือไม่?”
“วางใจเถอะ ต่อให้มาถึงที่นี่ก็ไม่มีปัญหา แต่ชว
่ งนี้ คอยจับตาดูการ
เคลื่อนไหวของพวกเขาให้มากเสียหน่ อยก็พอ”

“อืม เจ้าวางใจได้ เรือ


่ งนี้ ขา้ รู ด
้ ี” เขาพยักหน้า มองไปที่หอ
้ ง เอ่ยถาม “ท่านปู่
เจ้าฟื้ นหรือยัง?”
ตอนที่ 140 ถูกจับตามอง!

“ฟื้ นแล้ว”

ระหว่างที่นางพูด ก็หน
ั กลับไปมองแวบหนึ่ ง กล่าวว่า “เขารู ส
้ ึกผิดโทษตัวเอง
อยูต
่ ลอด บอกว่าปกป้องข้าไม่ดี” ถอนหายใจเบาๆ พูดอีกว่า “ไปเถอะ! ลอง
เข้าไปหาเขาสิ ข้าแนะนำตัวท่านไปคร่าวๆ บ้างแล้ว”

“ได้สิ” กวนสีหลิน
่ พยักหน้า ตามนางเดินเข้าไปในห้อง

พอเข้าห้อง ก็เห็นท่านผูเ้ ฒ่านั ่งพิงหัวเตียงไม่รูว้ า่ คิดอะไรอยู่ เห็นเช่นนี้ เฟิ่ ง


จิว
่ จึงขานเรียก “ท่านปู่”

ท่านผูเ้ ฒ่าได้สติกลับมา มองทัง้ สองที่เดินเข้ามา สายตาจับจ้องบนร่างกวน


สีหลิน
่ อย่างเป็นธรรมชาติ แอบพินิจมอง “แม่หนูเฟิ่ ง เขาคือ…”

“ข้าน้ อยกวนสีหลิน
่ คารวะท่านปู่เฟิ่ ง” กวนสีหลิน
่ คำนั บไปด้านหน้า เผยรอย
ยิม
้ ขึงขังจริงใจ

“ท่านปู่ เขาเป็นพีช
่ ายต่างแซ่ที่หลานรู จ
้ ัก ปกติหลานเรียกเขาว่าพีช
่ าย
เจ้าค่ะ” เธอออกหน้าดึงแขนท่านปู่ กล่าวว่า “เขาช่วยหลานไว้ไม่น้อย เป็น
คนดีมากเจ้าค่ะ”

ท่านผูเ้ ฒ่าพยักหน้า เอ่ยกับกวนสีหลิน


่ ว่า “ขอบคุณเจ้าที่ดูแลแม่หนูเฟิ่ งนะ”
“ท่านปู่เฟิ่ งจริงจังไปแล้วขอรับ” กวนสีหลิน
่ เกรงใจอยูบ
่ า้ ง เขาเคยช่วยเสี่ยว
จิว
่ เสียที่ไหนกัน? ล้วนเป็นเฟิ่ งจิว
่ ที่ชว
่ ยเหลือเขามากกว่า

“นายท่าน” เหลิง่ ซวงด้านนอกเอ่ยเรียก

“เข้ามา” เฟิ่ งจิว


่ ในห้องขานบอก

ท่านผูเ้ ฒ่ามองไปตามเสียง เห็นสาวน้ อยชุดดำยกของในมือเดินเข้ามา จึง


พินิจมองรอบหนึ่ ง ไม่รอให้คิดถี่ถ้วน ก็ได้ยน
ิ แม่หนูเฟิ่ งข้างกายบอกว่า

“ท่านปู่ นางชื่อเหลิง่ ซวง เป็นผูต


้ ิดตามของหลานเจ้าค่ะ”

ในใจท่านผูเ้ ฒ่าตะลึงน้ อยๆ ผูต


้ ิดตามรึ? กลิน
่ อายทัว่ ร่างสาวน้ อยชุดดำนี้
ช่างนิ่ งสงบมาก อายุไม่มากแต่วรยุทธ์กลับนั บว่าโดดเด่นในหมู่คนรุ น

เดียวกัน ยังมีกวนสีหลิน
่ นั ่นอีก แม่หนูเฟิ่ งไปรู จ
้ ักสองคนนี้ จากไหนกัน?

แม้ในใจคิดเคลือบแคลง กลับไม่รบ
ี ออกปากถาม แต่สังเกตพวกเขาอยู่

เฟิ่ งจิว
่ ยกข้าวต้มเดินไปด้านหน้า เอ่ยว่า “ท่านปู่ ร่างกายท่านถูกวางยากำลัง
อ่อนแอ ไม่อาจกินของดีๆ นั กได้ ดังนั ้น จึงให้คนต้มข้าวต้มเปล่ามา ท่าน
ทานเสียหน่ อยเถิด!”

“ได้สิ” ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งพยักหน้า ยกรับชามมา “ให้ปู่ทานเองก็พอ”


เห็นท่าทาง กวนสีหลิน
่ กล่าวว่า “เสี่ยวจิว
่ พวกเราออกไปก่อนเถอะ ข้าจะไป
ดูที่หอ
้ งครัวว่าชิงเหนี ยงต้มยาเสร็จหรือยัง จะได้ยกมาให้ท่านปู่เฟิ่ ง” สิน
้ สุด
คำพูด ก็เดินออกไปพร้อมกับเหลิง่ ซวง ก่อนจะปิดประตูหอ
้ ง

รอพวกเขาออกไป ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งถึงจะเอ่ยถาม “แม่หนูเฟิ่ ง หลานรู จ


้ ักพวก
เขาได้อย่างไรเล่า?”

“เรือ
่ งมันยาวนั ก หลานจะเลือกประเด็นสำคัญมาเล่าให้ท่านปู่ฟังนะเจ้าคะ!”
เธอยิม
้ ๆ มองเขาทานข้าวต้ม พลางเล่าเรือ
่ งราวที่ได้รูจ
้ ักกับพวกเขาให้ฟัง
เสียหน่ อย แต่วา่ ที่แตกต่างคือเธอนำเรือ
่ งที่ต่อกรกับฝูงหมาป่าตัวคนเดียว
เพื่อช่วยกวนสีหลิน
่ มากลับกันซะ

พอเล่าเรือ
่ งจบ ก็เห็นเขาพยักหน้า บอกว่ารอร่างกายฟื้ นตัวจะต้องไป
ขอบคุณเขาดีๆ อย่างแน่ นอน เธอจึงยิม
้ บอกว่าเป็นคนกันเองไม่ต้อง
ขอบคุณถึงจะยอมเลิกรา

สุดท้าย ก็ให้เขานอนหลับสักพักหลังดื่มยา แต่ เพราะสารพิษตกค้างใน


ร่างกายที่ล้างไม่หมด ประกอบกับยาที่มีฤทธิท
์ ำให้ต่ ืนตัวยังปะปนในเลือดอยู่
บ้าง หลังจากนอนลงไปจึงไม่ค่อยสงบใจเท่าไหร่นัก เธอจำต้องใช้เข็มเงิน
แทงตรงเส้นประสาทที่ทำให้หลับ เขาถึงจะนอนหลับลงดีๆ ได้

ช่วงเย็น กวนสีหลิน
่ มาในลานบ้าน

“เสี่ยวจิว
่ ท่านปู่เจ้าตื่นหรือยัง?”
“หลังดื่มยาก็หลับไปแล้ว ทำไมรึ?” เธอมองกวนสีหลิน
่ ที่มีความเคร่งขรึมอยู่
บนใบหน้าบางส่วน สงสัยเล็กน้ อย

“มีคนจับตามองพวกเรา” เขาขมวดคิว
้ น้ อยๆ “แต่ยงั ไม่รูว้ า่ เป็นใคร”

“หืม? ว่ายังไงนะ?”

เธอเลิกคิว
้ แปลกใจอยูบ
่ า้ ง เหมือนว่าช่วงนี้ พวกเขาก็ไม่ได้ไปยุแหย่ใครเข้า
นะ!
ตอนที่ 141 ซ้อนแผนซ่อนกล!

กวนสีหลิน
่ เอ่ยเสียงเข้ม “นอกจวนมีคนคอยดูลาดเลา หนำซ้ำข้าออกไป
สังเกตเห็นว่ามีคนแอบจับตาดูอยูใ่ นมุมมืดด้วย”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ เธอชะงักเล็กน้ อยไปพักหนึ่ ง กำชับว่า “ท่านกับเหลิง่ ซวง
ทำตัวตามปกติเป็นพอ ที่ควรออกก็ออกไป นอกจากนี้ พอฟ้ามืดก็ให้ชงิ
เหนี ยงกับพวกสาวใช้เรือนหน้ากลับไปอยูท
่ ี่หอ
้ งซะ ไม่วา่ ได้ยน
ิ เสียงอะไรก็
ห้ามออกมา”

“อืม ข้าจะเข้าไปกำชับพวกเขาตอนนี้ เลย เจ้าอยูต


่ รงนี้ ระวังตัวหน่ อยนะ” เขา
กล่าวเตือนอย่างไม่วางใจ

“ข้ารู แ
้ ล้วล่ะ”

เธอยิม
้ พยักหน้า อยากรู น
้ ิ ดหน่ อยว่าใครกันแน่ ที่จับตาดูพวกเขา? อันที่จริง
ตัง้ แต่จวนตระกูลสวีถ
่ ูกฆ่าล้างตระกูล ทุกกองกำลังฝั่ งฝ่ายในเมืองอวิ ๋น
เยวีย
่ ต่างก็ปฏิบต
ั ิตัวอย่างสงบเสงีย
่ มเจียมตัว ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาโดย
ง่าย

แม้ไม่รูว้ า่ เป็นใคร? แต่เธอเชื่อว่าอีกไม่นานก็จะรู ไ้ ด้แน่

ตกกลางคืน ในที่พำนั กช่างเงียบเชียบ เหล่าสาวใช้เรือนหน้าล้วนล็อคประตู


หน้าต่างไว้ตัง้ แต่เนิ่ นๆ และหลับไปกันแล้ว
ส่วนในเรือนด้านหลัง หลังเฟิ่ งจิว
่ จี้จุดเส้นประสาทหลับของท่านปู่ ก็มานั ่ง
เล่นหมากรุ กกับกวนสีหลิน
่ ในสวน แต่เหลิง่ ซวงกลับเฝ้าอยูใ่ นห้องไม่ได้ออก
มา

อาจเพราะคิดว่าพวกคนในที่พก
ั หาได้มีอะไรน่ากลัวไม่ ด้วยเหตุนี้ หลังจาก
เงาร่างสีดำทัง้ แปดแอบเข้ามาเงียบๆ ก็มุ่งไปยังเรือนเจ้าของด้านหลัง เมื่อ
เข้าเรือนกระโดดขึ้นกำแพง เห็นทัง้ สองคนในสวนกำลังนั ่งเดินหมากกัน

“ฆ่าผูช
้ ายทิง้ ซะ ผูห
้ ญิงจับกลับไป!”

ชายชุดดำคนหัวหน้าสัง่ การเสียงทุ้มเข้ม สิน


้ สุดน้ำเสียง เงาร่างทัง้ หลายจึง
โผล่ออกมาจากมุมมืด เผยกระบีใ่ นมือ โจมตีไปหาทัง้ สองคนในสวน

หลังจากได้ยน
ิ คำพูดชายชุดดำ กวนสีหลิน
่ กับเฟิ่ งจิว
่ จึงลอบมองหน้ากันแวบ
หนึ่ งอย่างไร้รอ
่ งรอย ใต้ผา้ คลุมหน้า เธอเอ่ยเบาๆ ประโยคหนึ่ ง ก่อนจะลุก
ขึ้นมาด้วยความตื่นตกใจในทันที

“อ๊ะ! พีส
่ ีหลิน
่ !”

เธอร้องอุทาน หลบไปด้านหลังกวนสีหลิน

“น้ องข้าอย่าได้กลัว ข้าจะปกป้องเจ้าเอง!”

“ฮ่า!”
กวนสีหลิน
่ แผดเสียง สองหมัดโจมตีออกไปหาชายชุดดำสองนายที่โผเข้ามา
พร้อมแรงกำลังทัง้ หมด ได้ยน
ิ เพียงสองเสียงปังดังขึ้นตามด้วยเสียงกระดูก
หักดังลอยมา ตัวชายชุดดำสองนายกระเด็นลอยออกไป หลังจากชนเข้ามุม
กำแพงก็สิน
้ ใจโดยไม่มีแม้แต่เสียงกรีดร้อง

เห็นเขารับมือชายชุดดำสองนายได้ในหมัดเดียว มุมปากเฟิ่ งจิว


่ ที่ผูกผ้าคลุม
หน้าไว้ก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้น

บอกไว้ชด
ั ๆ ว่าให้ออมแรงบ้าง เขากลับใช้กำลังไปเต็มร้อย ด้วยแรงหมัดเขา
ตอนนี้ หนึ่ งหมัดที่ออกแรงเสียเต็มที่ไม่ใช่วา่ ใครๆ ก็รบ
ั ไหวหรอกนะ

กวนสีหลิน
่ ตะโกนเสียงเข้ม คุ้มกันอยูด
่ ้านหน้าเฟิ่ งจิว
่ คอยต่อกรกับชายชุด
ดำ ทว่ายังไม่ลืมแผนการของทัง้ สอง เมื่อเห็นชายชุดดำนายหนึ่ งมือถือกระบี่
คมโจมตีมา ก็ผลักเฟิ่ งจิว
่ ไปข้างๆ ทิง้ ตัวกระโจนแวบไปด้านหลังทัง้ สองทันที
สองพีน
่ ้ องโจมตีด้วยสองหมัด รอบนี้ จึงทำให้กระดูกคอสองชายชุดดำแตก
เป็นเสี่ยงๆ เอาเสียดื้อๆ

“อ๊าก!”

เสียงกรีดร้องดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงสองชายชุดดำล้มลงบนพื้น

เมื่อเห็นภาพตรงหน้านี้ สีหน้าคนหัวหน้าก็ดูไม่ได้ข้น
ึ มา แววตาหมองหม่นจับ
จ้องเฟิ่ งจิว
่ ไม่วางตา เวลาต่อมา ร่างเขากระโดดขึ้น ข้ามผ่านกวนสีหลิน

เข้าไปจับนาง
ในสายตาเขา กำลังชายหนุ่มแกร่งเกินไป ไม่เหมาะจะสู้ตัวต่อตัวด้วยจริงๆ
แต่สาวน้ อยผูน
้ ี้ ไม่เหมือนกัน บนร่างนางไม่มีพลังเร้นลับไหลเวียน ที่แท้ก็
เป็นคนธรรมดา ในเมื่อนายหญิงสัง่ ว่าต้องการนาง งัน
้ ก็จะจับคนกลับไป
รายงานซะเลย!

“อ๊ะ! พี่ ช่วยข้าด้วย!”

เฟิ่ งจิว
่ อุทาน เพียงรู ส
้ ึกว่าสองแขนยึดคอเธอไว้แน่ นหนา เวลาถัดมาทัง้ ตัว
จึงถูกยกพากระโจนออกไป

และเพราะชายชุดดำผูน
้ ั ้นอยูด
่ ้านหลัง ด้วยเหตุนี้ จึงไม่เห็นว่าในแววตาเธอ
แวบฉายแววยิม
้ เยาะอย่างบรรลุเป้าหมาย…
ตอนที่ 142 อ่อนแอจนถูกล่อลวง?

“น้ องข้า!”

กวนสีหลิน
่ อุทาน เพราะถูกคนที่เหลือล้อมไว้จึงไม่อาจตามไปได้ สีหน้าวิตก
แผดเสียงร้องว่า “ปล่อยนางซะ!”

ชายชุดดำหลายคนรัง้ ตัวเขาไว้ เห็นผู้เป็นหัวหน้าจับกุมนางหายลับตา ความ


กังวลบนใบหน้ากวนสีหลิน
่ ก็มลายตามไปด้วย แววตาเฉี ยบแหลมกวาดมอง
เหล่าชายชุดดำ พลางหัวเราะเยอะ “เพราะพวกเจ้าคิดจะรัง้ ข้าไว้? ถึงไม่
สำเหนี ยกว่าตัวเองมีกำลังแค่ไหน”

สิน
้ สุดน้ำเสียง ทันใดนั ้นร่างก็โจมตีออกไปราวกับภูตผี กลิน
่ อายพลังเร้นลับ
ที่ทัง้ แข็งแกร่งและคละคลุ้งพรัง่ พรู ข้น
ึ มาทัว่ ร่าง ทำให้บนตัวเขามีพลังอันน่า
สะพรึงไหลเวียนอยูจ
่ างๆ บริเวณที่หมัดพุง่ ออกไป ก่อตัวเป็นกระแสลม
รุ นแรง เหล่าชายชุดดำจึงตกใจเสียจนหน้าเปลี่ยนสี

“แย่ละ!”

พวกเขาคิดจะล่าถอย ทว่าความเร็วยังไม่ทันกวนสีหลิน
่ เห็นเพียงสองคน
ตรงหน้า คนหนึ่ งถูกหมัดโจมตีเข้าตรงกลางอก พลันเกิดเสียงกระดูกแตก
ดังแกร๊ก คนก็กระเด็นออกไปล้มลงชักดิน
้ บนพื้นสักพักก่อนจะหมดลม
หายใจ
ส่วนอีกคนถูกเขาจับคอไว้ ทัง้ ร่างถูกยกขึ้นเหนื อพื้นทุรนทุราย เพียงได้ยน

เสียงแกร๊ก คนผูน
้ ั ้นก็ถึงกับร้องอะไรไม่ออก และถูกบีบคอหักตายไป

“ถอย! ถอยเร็ว!”

คนหนึ่ งตะโกนขึ้น สีหน้าเปลี่ยนไปยกใหญ่ ถึงกับไม่กล้าสู้ด้วยอีก จึงหันตัว


คิดจะหนี

“ในเมื่อมาแล้ว พวกเจ้าคิดว่ายังหนี ได้อก


ี รึ?”

กวนสีหลิน
่ แค่นเสียงหยัน จัดการพวกเขาลงได้อย่างรวดเร็ว เห็นซากศพทัง้
หลายในสวน จึงหันกลับไปพูดกับเหลิง่ ซวงในห้องที่คอยเฝ้าท่านผูเ้ ฒ่าอยู่
“เหลิง่ ซวง ที่นี่ให้เจ้าจัดการที ข้าจะตามไปดูเสียหน่ อย”

“เจ้าค่ะ” เหลิง่ ซวงเปิดประตูออก เห็นลานบ้านที่ฉาบไปด้วยสีเลือด แม้แต่


ดวงตาก็ยงั หลับไม่ลง

ส่วนอีกด้านหนึ่ ง คนที่เป็นหัวหน้าพาเฟิ่ งจิว


่ มาถึงบ้านหลังหนึ่ ง พอเข้าบ้านก็
มีชายชุดดำเจ็ดแปดนายเดินออกมารับหน้า หนึ่ งในนั ้นเห็นเขากลับมาคน
เดียว จึงอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ

“ไยจึงเหลือแค่เจ้า? คนอื่นๆ ล่ะ?”


“พละกำลังเจ้ากวนสีหลิน
่ นั ่นยังแข็งแกร่งกว่าที่ขา้ จินตนาการไว้มากนั ก คน
อื่นๆ เดาว่าคงถูกเขาฆ่าตายหมดแล้ว แต่ยงั ดีที่ขา้ จับสาวน้ อยนี่ กลับมาได้”
ชายชุดดำที่จับเฟิ่ งจิว
่ ไว้ผลักนางไปด้านหน้า เห็นนางซวนเซล้มลงบนพื้น

“พวกเจ้า พวกเจ้าเป็นใครกัน? ทำไมต้องจับข้ามา?” น้ำเสียงเธอสัน


่ เครือ
น้ อยๆ มองคนรอบข้างด้วยดวงตาที่มีความหวาดกลัวและตื่นตระหนก

“เสียพีน
่ ้ องไปมากมายถึงจะจับสาวน้ อยเช่นนี้ มาได้ ไม่รูจ
้ ริงๆ ว่ามีอะไร
พิเศษนั ก” ชายชุดดำนายหนึ่ งถลึงมองเฟิ่ งจิว
่ บนพื้นพลางพินิจดู

ชายชุดดำอีกคนจึงเผยรอยยิม
้ แปลกๆ เอ่ยว่า “ดึงผ้าคลุมหน้าลง ขอลองดู
ใบหน้าค่าตาแท้จริงทีซิ สาวน้ อยนี่ ถึงตอนนี้ ยงั ไม่มีใครเคยเห็นหน้าจริงนาง
เลย! อยากรู จ
้ ริงๆ ว่าหน้าตาจะงดงามเพียงใดกันแน่ ”

กำลังคิดจะลงมือ ก็เห็นชายวัยกลางคนเดินออกมาจากด้านใน เมื่อเห็นเขา


พวกชายชุดดำในสวนก็นอบน้ อมกันขึ้นมาทันใด

“คารวะท่านผูป
้ กปักษ์ จัว่ ”

เฟิ่ งจิว
่ ปรายตาขึ้นมองไปทางผูม
้ าใหม่ด้วยความตื่นตกใจ หลังจากเห็นชาย
วัยกลางคน ก็รบ
ี ร้อนก้มหน้าลง ดวงตาที่หรีล
่ งครึง่ หนึ่ งฉายแววไอสังหาร
อันเยือกเย็น มุมปากใต้ผา้ คลุมหน้าเชิดโค้งขึ้นเล็กน้ อย

คนคุ้นเคยเก่านี่ นา!
แม้ตอนแรกใบหน้านี้ ถูกซูรวั ่ อวิ ๋นทำลาย ทว่าจะขาดความช่วยเหลือจากชาย
วัยกลางคนผูน
้ ี้ ไปไม่ได้ นึ กไม่ถึงว่าจะมาพบกันวันนี้ เรียกว่าควานหาแทบ
พลิกแผ่นดิน แต่กลับมาให้เจออย่างคาดไม่ถึงเสียจริงๆ

แววตาชายวัยกลางคนจับจ้องพินิจมองบนร่างเฟิ่ งจิว
่ ที่ก้มหัวลงเล็กน้ อยอยู่
บนพื้น พอสังเกตดูก็รูส
้ ึกคุ้นเคยนิ ดหน่ อย คิว
้ ขมวดขึ้นน้ อยๆ ก่อนจะกล่าว
เสียงเข้ม “ดึงผ้าคลุมหน้านางลงมาให้ขา้ สิ!”
ตอนที่ 143 เจ้ายังไม่ตาย?

“ขอรับ!”

ชายชุดดำขานรับ คิดจะดึงผ้าคลุมหน้าลงเพื่อดูหน้าจริงนางตัง้ นานแล้ว


ตอนนี้ ในที่สุดก็มีโอกาส

เห็นชายชุดดำเดินก้าวยาวมา มือเฟิ่ งจิว


่ แอบแนบลงบริเวณต้นขาอย่างไร้
ร่องรอย มองไปทางชายวัยกลางคน สายตาจับจ้องเขา แววตาเหลียวลงเล็ก
น้ อย ราวกับกำลังแย้มยิม
้ กริม

เห็นภาพเช่นนี้ ชายวัยกลางคนยิง่ ขมวดคิว


้ ลึกขึ้น คิดว่าสาวน้ อยผูน
้ ี้ ชา่ ง
ประหลาดนั ก กำลังจะเอ่ยปากเตือน กลับเห็นสาวน้ อยที่เดิมทรุ ดนั ่งบนพื้น
ผุดลุกขึ้น ตวัดมีดที่ประกายแสงเย็นเยียบในมือ เวลาต่อมาใบมีดแหลมคม
ที่มีไอสังหารเยือกเย็นก็โจมตีไปทางชายชุดดำตรงหน้า

“ระวัง!”

เสียงตะโกนลอยไป เหล่าชายชุดดำรอบๆ พลันโต้ตอบมา กลับทำได้เพียง


มองชายชุดดำที่โน้ มตัวลงไปดึงผ้าคลุมหน้าสาวน้ อยแข็งทื่อไปทัง้ ร่าง ก่อน
จะส่งเสียงอูอ
้ ท
ี้ รุ ดลงไป

ผัวะ!

“เจ้า เจ้า!”
ชายชุดดำที่จับนางมาก่อนหน้านี้ เบิกดวงตากว้างอย่างตกตะลึง มองสาว
น้ อยที่กลิน
่ อายทัว่ ร่างเปลี่ยนไปด้วยความเหลือเชื่ออยูบ
่ า้ ง

ความอ่อนแอก่อนหน้าตอนนี้ ถูกความบ้าคลัง่ เข้าแทนที่ เดิมทีบนร่างไม่มี


กลิน
่ อายพลังเร้นลับแม้แต่น้อย ทว่าเวลานี้ นางกลับยืนอยูต
่ รงนั ้น บนร่างมี
พลังเร้นลับแกร่งกล้าที่เห็นได้ด้วยตาเปล่ากำลังพลุ่งพล่าน กลิน
่ อายพลัง
เร้นลับเช่นนั ้นถึงกับหลัง่ ไหลออกมามากกว่าใครๆ ในหมู่พวกเขาเสียอีก!

สองดวงตาที่เดิมเคยมีความตื่นตกใจกลัว ตอนนี้ หรีล


่ งเล็กน้ อย ที่ประกาย
อยูใ่ นดวงตาคือกลิน
่ อายที่ผ่งึ ผายชัว่ ร้าย ถ้าไม่เห็นกับตา เขาถึงกับไม่กล้า
เชื่อว่าสาวน้ อยตรงหน้ากับคนที่ปวกเปียกเมื่อครู จ
่ ะเป็นคนเดียวกัน!

เฟิ่ งจิว
่ ยืนอยูต
่ รงนั ้น ในมือเล่นมีดที่ทัง้ ประณี ตและแหลมคม ดวงตาที่หรีล
่ ง
เหลียวมองผ่านเหล่าชายชุดดำ จากนั ้นค่อยจับจ้องบนร่างชายวัยกลางคน

“ไม่นึกเลยจริงๆ ว่าจะได้พบคนคุ้นเคย ช่างบังเอิญเสียจริง!”

ฟังคำพูดนี้ ชายวัยกลางคนเสียงเข้มไปบ้าง ในดวงมีประแสงแวบผ่าน “คน


คุ้นเคยรึ? ในเมื่อเป็นคนคุ้นเคย ใต้เท้ายังจะผูกผ้าคลุมหน้าไม่กล้าให้ใคร
เห็นไปทำไมเล่า?”

“หึๆ…”

เธอหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะดัง่ กระดิง่ เงินกังวานหวานหู ชัดเจนใสแจ๋ว


อย่างมากในค่ำคืนเงียบสงบ
เมื่อเสียงหัวเราะหยุดลง น้ำเสียงก็มีความชะล่าใจเจ็ดส่วนรวมถึงความหยิง่
ยโสอีกสามส่วน “ไม่ใช่ไม่กล้าให้ใครเห็น แต่พวกเจ้ายังไม่มีค่าพอจะเห็น
ใบหน้าข้า”

แววตาเธอกวาดมองในลานบ้านแวบหนึ่ ง เอ่ยว่า “ที่นี่คงไม่ใช่แหล่งกบดาน


ของพวกเจ้ากระมัง? ข้าสงสัยนั ก ว่าซูรวั ่ อวิ ๋นมีกองกำลังลับอยูเ่ ท่าไหร่กัน
แน่ ”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ แววตาชายวัยกลางคนก็หรีล
่ ง ตื่นตระหนกเสียจนเกิดพายุ
โหมขึ้นในหัวใจ ก้าวย่างถอยหลังไปก้าวหนึ่ ง สายตาที่ปราดเปรียวชัว่ ร้าย
ถลึงมองนางไม่วางตา เหมือนอยากจะมองใบหน้าใต้ผา้ คลุมนั ้นให้ออก

“เป็นเจ้า? เจ้ายังไม่ตาย?”

คนที่รูเ้ รือ
่ งนั ้นมีไม่กี่คน สาวน้ อยนี่ เป็นเฟิ่ งชิงเกอคนนั ้นรึ? ก็วา่ ไม่แปลกใจ
ที่พอเขามองรู ปร่างคิว
้ ตานางแล้วจะคุ้นเคยอยูบ
่ า้ ง ที่แท้ก็เป็นสาวน้ อยที่
พวกเขาต่างคิดว่าตายไปแล้วนี่ เอง!

แต่เวลาสัน
้ ๆ ไม่กี่เดือน นางจะเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้ ได้เช่นไร?

กลิน
่ อายชัว่ ร้ายทัว่ ร่างที่ดุเดือดกระหายเลือด ยังมีความมัน
่ ใจซุกซนที่
กระจายออกมาบนร่าง หากนางไม่เอ่ยประโยคนั ้น เขาก็เดาไม่ออกว่าที่จริง
นางเป็นใครกันแน่ ? และยิง่ มองไม่ออกว่าสาวน้ อยคนนี้ จะเป็นเฟิ่ งชิงเกอ…

“หากตายแล้วจะมาแก้แค้นพวกเจ้าได้อย่างไรกัน?”
ภายใต้ผา้ คลุมหน้า มุมปากเธอยกขึ้นมาบ้าง สายตาจับจ้องเขา เดินเข้าไป
ใกล้ทีละก้าวๆ “บางที เจ้าลองดูก็ได้วา่ วันนี้ จะหนี จากเงือ
้ มมือข้าไปได้หรือ
ไม่?”
ตอนที่ 144 ต้องยังมีชว
ี ต
ิ !

ฟังคำพูดนี้ ชายวัยกลางคนก็แหงนหน้าหัวเราะร่า “ฮ่าๆๆๆ! ช่างน่าขันเสีย


จริง! เพราะเจ้าอยากเก็บข้าไว้ร?ึ จะใสซื่อเกินไปหน่ อยกระมัง!”

แววตาดัง่ นกล่าเหยื่อถลึงมองนาง ใบหน้าเผยท่าทางชัว่ ร้าย มือหนึ่ งดึง


กระบีอ
่ อกมาจากข้างเอว กล่าวอย่างมืดมนว่า “หนี ร?ึ ลำพังเจ้าคนเดียวยัง
ทำข้าตกใจหนี เตลิดไม่ได้เลย! ตรงข้ามกัน ครัง้ นี้ เจ้าจะไม่โชคดีขนาดนั ้น
หรอก!”

“น้ องข้า! ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว!”

กวนสีหลิน
่ ที่ไล่ตามสัญลักษณ์ ที่เฟิ่ งจิว
่ ทิง้ ไว้กระโดดขึ้นกำแพงบ้านมา ยืน
มองผูค
้ นในลานบ้านอยูด
่ ้านบน หลังจากพินิจมองรอบหนึ่ ง ก็พูดว่า “เจ้า
จัดการตาเฒ่านั ่น คนอื่นข้าจัดการเอง”

สิน
้ สุดน้ำเสียง ก็โผตัวกระโจนไป กระบี่คมในมือกวัดแกว่ง พลังกระบีเ่ ย็น
เยียบพลันโจมตีเข้าหาชายชุดดำในลานบ้าน

เห็นเขาตามมาได้ มุมปากใต้ผา้ คลุมหน้าก็ยกขึ้นน้ อยๆ ไม่ลืมกำชับว่า “พี่


ชาย รอบนี้ ไว้ชว
ี ต
ิ เหลือให้ขา้ สักสองสามคน อย่าฆ่าทิง้ เสียหมดล่ะ”

“ไม่มีปัญหา!”
เขาขานรับเสียงดัง น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ มีจิตวิญญาณฮึดสู้อน
ั เยือก
เย็น เดิมทีกระบีค
่ มในมือมุ่งไปยังลำคอของชายชุดดำผูน
้ ั ้น ทว่าหลังจาก
ได้ยน
ิ คำพูดนางปลายกระบีก
่ ็หมุนเปลี่ยนทิศทางดังฟิ้ ว โจมตีไปที่รา่ งกาย
อีกฝ่ายแทน

“ยังกล้าตามมาที่นี่อก
ี รึ? พีน
่ ้ องทัง้ หลาย ฆ่ามันซะ!”

ชายชุดดำนายนั ้นเห็นมือเขาถือดาบพุง่ เข้าหา จึงตะโกนลัน


่ ทันใด ผูค
้ น
รอบๆ ขานรับเสียงเข้ม คนแปดคนเข้าล้อมเขาไว้ตรงกลางอย่างรวดเร็ว
แล้วปลายกระบีท
่ ัง้ แปดเล่มก็เล็งแทงไปหาเขา

บนร่างทุกคนมีไอพลังเร้นลับพรัง่ พรู จิตสังหารกระหายเลือด และยังมีพลัง


กระบีร่ ุ นแรงที่เอ่อล้นจากปลายกระบีก
่ รีดร้องลัน
่ อยูใ่ นลานนี้ สู้กันแปดต่อ
หนึ่ ง จะมองเช่นไรทัง้ แปดคนก็ชนะ ด้วยเหตุนี้ หลังจากชายวัยกลางคน
เพียงกวาดตามองแวบหนึ่ ง ก็ไม่สนใจพวกเขาอีก แต่สายตาดัง่ นกล่าเหยื่อ
กลับจับจ้องบนร่างสาวน้ อยตรงหน้า

เฟิ่ งจิว
่ มองทางด้านกวนสีหลิน
่ แวบหนึ่ งค่อยดึงสายตากลับ ไม่ได้กังวลว่า
เขาจะถูกชายชุดดำพวกนั ้นฆ่าทิง้ อันที่จริง ช่วงนี้ ที่เขาฝึกฝนวิชาก็ไม่ใช่วา่
จะเปล่าประโยชน์

สายตาเธอจับจ้องบนร่างชายวัยกลางคน ขณะเดียวกันกลิน
่ อายพลังเร้นลับ
ในร่างก็ลุกโหม แทรกซึมเข้าสู่มีดสัน
้ ในมือ เวลาต่อมา เงาร่างพลันแวบพุง่
ไปยังเป้าหมายตรงหน้า พลังมีดที่ออกมาจากคมมีดในมือก่อตัวเป็นกระแส
ลมอันดุดัน ตวัดตัดฟิ้ วไปกลางอากาศ ชนเข้าหากันกับกระบีย
่ าวของอีกฝ่าย
แกร๊ง!

ชายวัยกลางคนยกกระบีท
่ ี่ถือในมือขึ้นขวางการโจมตีนางไว้ ยิม
้ เย็นเยียบ
“จะสู้กับข้ารึ? เจ้ายังอ่อนหัดนั ก!” ออกแรงผลัก กระบีย
่ าวในมือหมุนลอย
ตัดไปหานาง

ฟิ้ ว! สวบ!

ขณะที่เฟิ่ งจิว
้ เบีย
่ งตัวหลบก็ก้าวพุง่ ไปด้านหน้า มีดสัน
้ ในมือตวัดดังฟิ้ วตัด
แขนเสื้อเขาแทงเข้าเนื้ อหนั ง และกลิน
่ คาวเลือดก็ลอยตามมา

เพียงได้ยน
ิ เขาส่งเสียงอูอ
้ พ
ี้ ร้อมใช้กระบีย
่ าวโจมตีมา เธอก็รบ
ี ใช้กระบีย
่ าว
ขึ้นขวางไว้ทันที ขายกขึ้นถีบ ขณะสายตาเขาตื่นตระหนกตกใจลูกเตะที่
เคลือบแฝงด้วยพลังเร้นลับก็ถีบมาบริเวณหน้าอก ทำให้เขาโดนเตะกระเด็น
ออกไปทันที

“อืม!”

เมื่อเขาร้องในลำคอพลางร่างกายล่าถอย รู ส
้ ึกเพียงเส้นเลือดในอกหมุน
ตลบ เลือดสดพุง่ ขึ้นมาที่ลำคอ ก่อนจะกระอักออกจากปาก

“อึก!”
เขาประคองฝีเท้าไว้มัน
่ ขณะที่ชายตามองไป ดวงตาที่มีความตกตะลึงยาก
เกินเชื่อก็มองสาวน้ อยตรงหน้าที่ลงมืออย่างดุรา้ ย เอ่ยถามด้วยความไม่
แน่ ใจอยูบ
่ า้ ง “เจ้าเป็นเฟิ่ งชิงเกอจริงๆ รึ?”

หากเป็นเฟิ่ งชิงเกอ จะมีฝีมือถึงเพียงนี้ ภายในระยะเวลาสัน


้ ๆ ไม่กี่เดือนได้
อย่างไร? หากไม่ใช่เฟิ่ งชิงเกอ ไยรู ปร่างท่าทางกลับเหมือนกันเช่นนั ้นเล่า?
หรือว่าหลายเดือนมานี้ นางไปพบโชคอะไรดีๆ เข้า?

คิดถึงตรงนี้ ในดวงตาเขาเป็นประกาย

โชคดี!

ในเมื่อนางพบโชค บนตัวต้องมีความลับอะไรอยูแ
่ น่ ๆ!
ตอนที่ 145 ร้องขอเพื่อบอกข้า!

พอเห็นประกายแสงที่ฉายเด่นในดวงตาเขา เฟิ่ งจิว


่ ก็ยม
ิ้ เย็น “เดีย
๋ วเจ้าก็รูว้ า่
ข้าใช่หรือไม่”

สิน
้ สุดน้ำเสียง ท่าร่างเธอว่องไว พุง่ ออกไปราวกับลำแสง ความเร็วนั ้นยังเร็ว
กว่าก่อนหน้านี้ หลายเท่า ทำให้ชายวัยกลางคนที่เดิมทีต่ ืนตกใจอยูไ่ ม่ทัน
ตอบโต้ในคราแรก รอเมื่อได้สติกลับมา เพียงรู ส
้ ึกถึงความเจ็บแปลบและ
เย็นเยียบข้างลำคอ

“ยังไงเล่า? ข้าบอกแล้วว่าเจ้าหนี ไม่พน


้ หรอก?”

น้ำเสียงเนิ บนาบดังขึ้นเบื้องหลังด้วยความเย็นชา ทัง้ ร่างเขาแข็งทื่อ สองตา


เบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก ใบหน้าเหลือเชื่อเป็นที่สุด “เป็นไปได้ เป็นไปได้
ยังไง…”

เขาเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ขน
ั ้ สูงสุด จะถูกนางจับได้ในทันทีได้เช่น
ไร?

แต่วา่ ความเจ็บที่แล่นมาบริเวณคอ รวมถึงกลิน


่ คาวเลือดจางๆ กลับทำให้
เขาไม่มีทางจะไม่เชื่อ เขาพ่ายแพ้แล้วจริงๆ พ่ายอยูใ่ นเงือ
้ มมือสาวน้ อยที่เขา
ไม่เคยเห็นอยูใ่ นสายตา หนำซ้ำ สาวน้ อยผูน
้ ี้ ยงั เป็นเฟิ่ งชิงเกอ!

“จิๆ
๊ ข้านึ กว่าพอถูกจับแล้วเจ้าจะกินยาฆ่าตัวตายเสียอีก นึ กไม่ถึงว่าจะ
หวงแหนชีวต
ิ ตัวเองกว่าที่คิดเอาไว้”
ได้ยน
ิ เสียงเยาะเย้ยนางลอยมา ชายวัยกลางคนก็ทำตัวแข็งขืนพร้อมทัง้
หลับตาลง “เจ้าคิดจะทำอะไร?”

ไม่ผด
ิ เลย เขาไม่อยากตาย ด้วยระดับยอดปรมาจารย์ขน
ั ้ สูงสุดเช่นเขา จะ
คิดสัน
้ ฆ่าตัวตายได้อย่างไร? แม้รูว้ า่ เมื่อตกอยูใ่ นเงือ
้ มมือนางจุดจบคงไม่ดี
นั ก แต่เขาจะฆ่าตัวตายไม่ได้

“อ๊าก…”

เสียงกรีดร้องหลายเสียงลอยมาจากด้านนั ้น เขาลืมตามองไป ก็เห็นเหล่า


ชายชุดดำทัง้ หมดล้วนถูกซ้อมสลบลงบนพื้น ปากเผยอเล็กน้ อยปิดไม่ลง
เห็นได้ชด
ั ว่าถูกชายหนุ่มเสยคาง

เห็นเช่นนี้ แววตาเขาหม่นลงน้ อยๆ หัวใจก็ตกไปอยูต


่ าตุ่ม

พวกเขาประมาทศัตรู เกินไป เดิมนึ กว่าจะรับมือทัง้ สองคนได้อย่างง่ายดาย


กลับทำให้พวกเขาสิบกว่าคนต้องจบเห่ลงที่นี่ แล้วจะแจ้งสถานการณ์ ตอนนี้
ให้นายหญิงรู ไ้ ด้เช่นไร?

“บอกว่าหมัดพวกเจ้าไม่แกร่งไปกว่าข้าก็ไม่เชื่อ!”

กวนสีหลิน
่ ยกเท้าขึ้นถีบคนบนพื้นทีหนึ่ ง ถึงจะเดินไปหาเฟิ่ งจิว
่ คลี่ปากแย้ม
ยิม
้ “เสี่ยวจิว
่ คนพวกนี้ ถูกข้าชกเสยคางจนสลบไปหมดแล้ว”
เฟิ่ งจิว
่ กวาดตามองคนเหล่านั ้นแวบหนึ่ ง เอ่ยว่า “ชำระล้างวรยุทธ์พวกเขา
ซะ”

“ได้เลย!”

หันตัวกลับโดยไม่พูดไม่จา ล้างวรยุทธ์ของคนพวกนั ้นไปจนหมด ทันใดนั ้น


เมื่อวรยุทธ์สลายไป พวกเขาที่เดิมต่างสลบกันอยูก
่ ็ฟื้นคืนสติเพราะความ
เจ็บรุ นแรง ทว่าคางถูกเสยไม่อาจส่งเสียงร้อง จึงทำเพียงดิน
้ ชักร่างอย่าง
กระเสาะกระแสะ

เห็นวรยุทธ์คนพวกนั ้นถูกล้างไปในชัว่ พริบตา สุดท้ายใบหน้าชายวัยกลางคน


ก็เปลี่ยนสีซีดไร้สีเลือด ในดวงตาฉายแววตื่นตกใจ

วรยุทธ์ตัง้ หลายสิบปี เขาจะยอมถูกชำระล้างได้อย่างไร?

“บอกสิง่ ที่ขา้ อยากรู ม


้ า บางที ข้าอาจให้เจ้าได้ตายอย่างสบายๆ หน่ อย”

ฟังเสียงที่ลอยมาจากด้านหลัง แววตาชายวัยกลางคนแน่วแน่ กัดฟันกรอด


“อยากฆ่าก็ฆ่า! เจ้าอย่าได้คิดเลยว่าจะได้ขอ
้ มูลอะไรจากปากข้า!”

“จริงรึ?”

มุมปากเฟิ่ งจิว
่ ยกขึ้นหน่ อยๆ พลันใช้ขาหนึ่ งออกแรงเตะ เขาจึงงอขาทรุ ดลง
คุกเข่าไป มือหนึ่ งใช้กลิน
่ อายพลังเร้นลับปิดผนึ กวรยุทธ์ไว้ ขณะเดียวกันก็
ฝืนยัดยาเม็ดหนึ่ งเข้าปาก
“หึ! ไยต้องกรอกยาพิษข้าด้วย? อยากฆ่าก็ฆ่า ข้าจะไม่รอ
้ งขอความเมตตา
หรอก!”

ชายวัยกลางคนแค่นเสียงหยัน ยาเม็ดนั ้นที่เข้าปากมาอย่างกะทันหัน ไม่


ต้องเดาก็รูว้ า่ เป็นยาพิษเจาะลำไส้ เขาไม่กล้าพอจะฆ่าตัวตาย แม้จะไม่
เต็มใจตายในเงือ
้ งมือนาง แต่จะไม่ขลาดกลัวแม้แต่สักนิ ด!

หลังจากปิดผนึ กวรยุทธ์เขาไว้ เธอก็เดินออกมาจากด้านหลัง เล่นมีดสัน


้ ใน
มือ รอยยิม
้ อิม
่ เอมในดวงตาดูแปลกๆ อยูบ
่ า้ ง

“ไม่หรอก เจ้าพูดแน่ ซ้ำยังจะอ้อนวอนเพื่อบอกข้า”


ตอนที่ 146 ยาชัน
้ ดี!

เห็นประกายแปลกๆ ในดวงตานาง ใจชายวัยกลางคนพลันสัน


่ ไหว และไม่
สงบอยูเ่ ล็กน้ อย

“พีช
่ าย ท่านลองไปดูทีวา่ ที่นี่มีของจำพวกคุกใต้ดินอยูห
่ รือไม่” เฟิ่ งจิว
่ หรีส
่ อง
ตาลงยิม
้ ในดวงตาฉายประกายแสนตื่นเต้นใจ

“ได้สิ” แม้กวนสีหลิน
่ ไม่รูว้ า่ นางคิดจะทำอะไร แต่ยงั รีบไปทำตามคำพูดนั ้น
ค้นหาทัง้ ด้านนอกด้านในที่พำนั กแห่งนี้ ที่ก็ไม่นับว่าใหญ่โตอะไรสักรอบหนึ่ ง
อย่างรวดเร็ว

“เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ ?”

“เดีย
๋ วเจ้าก็รูเ้ อง” เฟิ่ งจิว
่ หัวเราะเบาๆ ไม่นานนั ก ก็เห็นกวนสีหลิน
่ กลับมา

“เสี่ยวจิว
่ ที่นี่ไม่มีคุกใต้ดิน แต่มีกรงเหล็กอยู่ คล้ายจะไว้ใช้ขงั คน”

“งัน
้ เอาพวกเขาไปโยนไว้ในห้องกรงให้หมด” เธอส่งสัญญาณ ให้เขาพาชาย
วัยกลางคนเข้าไปก่อน แล้วกรอกยาให้พวกคนที่เหลือ ถึงจะลากคนไปด้าน
หลัง

นำพวกเขามาขังไว้ในกรงเหล็ก หลังจากล็อคกรง เฟิ่ งจิว


่ ก็ยา้ ยเก้าอีม
้ ากะจะ
หาที่นั่งชมการแสดง จากนั ้น เหมือนนึ กอะไรขึ้นมาได้ จึงมองไปทางพี่ชายผู้
แสนซื่อข้างกาย กะพริบตาปริบๆ “พีช
่ าย ท่านก็อยากดูร?ึ ”
“ดูอะไร?”

กวนสีหลิน
่ ทำสีหน้าไม่รูเ้ รือ
่ งรู ร้ าว แค่เห็นนางนำคนพวกนั ้นมาขังไว้ในกรง
หมดแล้ว ยังจะย้ายเก้าอีม
้ านั ่งดูตรงนี้ อก
ี กลับไม่รูว้ า่ กำลังดูอะไรกันแน่

ฟังคำพูดนี้ เฟิ่ งจิว


่ ก็ยม
ิ้ หน้าเหยเกน้ อยๆ “ไม่มีอะไร พีช
่ าย ท่านไปเฝ้าอยู่
นอกเรือนเถอะ ระวังจะมีคนของพวกเขาเข้ามานะ” ไล่เขาออกไปก่อนดีกว่า
ไม่เช่นนั ้น มันก็โสมมเกินไปสำหรับจิตใจอันบริสุทธิข
์ องเขา

“ก็ได้ อยูท
่ ี่นี่เจ้าก็ระวังหน่ อย หากเกิดอะไรขึ้นค่อยเรียกข้านะ” เขาพยักหน้า
เดินออกไปอย่างไม่คิดสงสัยอื่นใด เพื่อมาเฝ้าอยูน
่ อกเรือน

เห็นเช่นนี้ เธอถึงจะหันรอยยิม
้ ปลื้มปริม
่ กลับมามองที่ชายวัยกลางคนใน
กรงขัง กล่าวว่า “เจ้าบอกตอนนี้ ก็ยงั ทันนะ ข้าบอกแล้วไง ว่าจะยอมให้เจ้า
ตายง่ายๆ หน่ อยก็ยงั ได้”

สิน
้ สุดคำพูด สายตาก็เหลือบมองเหล่าชายชุดดำที่งวั เงียตื่นขึ้นมา เพราะ
คางถูกเสย ปากจึงปิดไม่สนิ ท พอผ่านไปสักพักกำลังในร่างถึงกลับมา แต่
สุดท้ายวรยุทธ์ก็ถูกชำระล้าง ตอนนี้ จึงเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั ้น

ความร้อนรุ ม
่ ฉั บพลันในร่างกายทำให้เขาตกใจตื่น โดยเฉพาะเมื่อเห็นเหล่า
ชายชุดดำต่างฉี กเสื้อตัวเองด้วยแววตาพร่ำเพ้อ สีหน้าก็ยงิ่ เปลี่ยนไป
ยกใหญ่ แทบจะกู่รอ
้ งอย่างไร้เสียง

“เจ้า เจ้าใช้ยานั ่นกับพวกเรา…!”


ไม่ได้สงสัย แต่มัน
่ ใจแน่ นอน ร่างกายเร่าร้อนผิดมนุษย์ ปฏิกิรย
ิ าท่าทางของ
คนพวกนั ้นยิง่ ไม่ใช่ของปลอม แต่อย่างไรก็นึกไม่ถึงว่านางจะคิดวิธเี ช่นนี้
ออกมาได้

ต้องรู ไ้ ว้ด้วยว่าพวกเขาล้วนเป็นชายชาตรีกันทัง้ นั ้น!

“ปล่อยข้าออกไป! รีบปล่อยข้าออกไปเร็ว!”

เมื่อเห็นคนพวกนั ้นต่างดึงเสื้อผ้ากันและกัน ซ้ำหนึ่ งในนั ้นยังกอดขาเขาไว้


พลางดึงกางเกง สีหน้าพลันซีดเผือดไร้สีเลือด ท่าทางตื่นตระหนกก็ปรากฏ
อยูบ
่ นใบหน้าอย่างไม่อาจปกปิด

“วางใจเถอะ ปริมาณยาที่ขา้ ใช้กับเจ้ายังน้ อยนั ก ที่พวกเขากินต่างหากถึงจะ


หนั กกว่า”

นั ยน์ ตาฉายประกายความสนุกที่เป็นภัยร้าย เอ่ยอย่างไม่แยแสว่า “อยาก


ออกมามีแค่วธ
ิ เี ดียว บอกสิง่ ที่ขา้ อยากรู อ
้ อกมาเสียดีๆ เช่นนั ้น เจ้าก็ไม่ต้อง
โดนคนพวกนั ้นรุ มโทรมแล้ว ไม่งน
ั ้ ล่ะก็ หึๆ…”

“อ๊าก! ออกไปให้พน
้ !”

บุรุษผูห
้ นึ่ งกระโจนไปหา เขาตกใจเสียจนหวีดร้อง ก่อนจะยกขาถีบคนออก
ไป สองมือจับเขย่าประตูกรงเหล็กไว้แน่ น พร้อมแผดเสียงอย่างเสียขวัญ
“ปล่อยข้าออกไป! ข้าจะพูด! ข้าจะบอกทุกอย่างที่เจ้าอยากรู !้ ”
ตอนที่ 147 ถิ่นใต้อารักษ์ สำนั กพิษโอสถ!

ฟังคำพูดแล้ว เธอก็ยกมุมปากขึ้นน้ อยๆ ยิม


้ ยืนขึ้นมาเดินเข้าใกล้กรงเหล็ก
“พูดมา! นางมีกองกำลังเช่นไรอยูใ่ นมือรึ? บอกสิง่ ที่เจ้ารู ม
้ าให้หมด อย่าคิด
ตุกติก มิเช่นนั ้น ผลลัพธ์จะยิง่ แน่ นัก”

“เจ้าปล่อยข้าออกไปก่อนซิ! ไม่งน
ั ้ ก็ฆ่าคนพวกนั ้นก่อนค่อยว่ากัน!” เขาถีบ
คนที่กอดน่ องขาอยูอ
่ อกไป ก่อนจะถอยมาทางด้านลูกกรง

สองมือเฟิ่ งจิว
่ กอดอก คิว
้ เลิกขึ้นเบาๆ แล้วเอ่ยด้วยสายตาหยอกล้อ “กว่า
ฤทธิย
์ าพวกเขาจะปลุกเร้าขึ้นมายังต้องผ่านไปอีกสักพัก หากเจ้าคิดจะ
ประวิงเวลา ข้าก็ไม่ถือสาที่จะได้ชมการแสดงดีๆ หรอกนะ”

นั งบ้า!

เขาด่าทออยูใ่ นใจ กลับไม่กล้ายื้อยุดอะไรอีก จึงทำได้เพียงบอกทุกเรือ


่ งที่เขา
รู อ
้ อกมา…

“สำนั กพิษโอสถรึ?”

เธอพึมพำเสียงเบา ในดวงตาที่หลุบลงครึง่ หนึ่ งฉายแววเป็นประกาย มุม


ปากใต้ผา้ คลุมหน้ายกมุมโค้งขีเ้ ล่นขึ้นเล็กน้ อย

“รีบปล่อยข้าออกไป! เร็วเข้า… อื้ม!”


เขาแผดเสียงลัน
่ ด้วยความตื่นตระหนก ทว่าน้ำเสียงกลับหยุดลงกะทันหัน
ทัง้ ร่างล้มลงไปอย่างไร้เรีย
่ วแรง บุรุษคนอื่นๆ นอกนั ้นเห็นท่าทางก็รบ
ี ร้อน
กระโจนเข้าไป คนหนึ่ งดึงกางเกง อีกคนหนึ่ งฉี กทึ้งเสื้อผ้า…

นั ยน์ ตาเฟิ่ งจิว


่ ฉายแววเฉยชา เหลือบไปทางกรงเหล็กนั ้นแวบหนึ่ ง น้ำเสียง
ที่ไม่แยแสมีความเย็นเยียบ “ข้าไม่ใจอ่อนกับศัตรู มาแต่ไหนแต่ไร ในเมื่อเจ้า
ไม่กล้าฆ่าตัวตาย งัน
้ ข้าก็จะช่วยเจ้า ทำให้เจ้าไม่มีแรงขัดขืน อยูเ่ ล่นกับพวก
เขาไปเสียดีๆ เถิด!”

สิน
้ สุดน้ำเสียง เธอหมุนตัวเดินออกไป ทว่าขณะที่หน
ั ตัว ด้านหลังก็มีเสียง
หอบหายใจดังมาทีละน้ อย…

เมื่อกวนสีหลิน
่ ที่เฝ้าอยูน
่ อกเรือนได้ยน
ิ เสียงหอบหายใจดังมาจากด้านใน ก็
นิ่ งงันลงน้ อยๆ ดวงตาเผยความสงสัย กำลังจะลองเข้าไปดู กลับเห็นเฟิ่ งจิว

เดินออกมา จึงออกไปรับหน้าทันที

“เสี่ยวจิว
่ จัดการคนพวกนั ้นแล้วรึ?”

“อืม จัดการแล้ว พวกเราไปกันเถอะ!” เธอหรีด


่ วงตายิม
้ พลางพยักหน้าตอบ
รับ

“แต่ทำไมข้าได้ยน
ิ พวกเขายังมีชว
ี ต
ิ หนำซ้ำยังหอบหายใจอยูด
่ ้วยเล่า?” เขา
ฉงนอยูบ
่ า้ ง อยากลองเข้าไปดูเสียหน่ อย กลับถูกนางลากเดินออกไป
“ไม่ต้องสนใจคนพวกนั ้นหรอก ข้ากรอกยาพิษให้พวกเขาแล้ว มีชว
ี ต
ิ อยูไ่ ม่
ถึงพรุ ง่ นี้ แน่ ท่านอยากมีประสบการณ์ ต่อสู้จริงมากๆ หน่ อยไม่ใช่หรือ? ไป
เถิด ข้าจะพาท่านไปที่ที่หนึ่ ง” เธอทัง้ ลากทัง้ ดันเพื่อดึงเขาออกไปด้านนอก

กวนสีหลิน
่ ที่ฟังคำพูดนางดวงตาเป็นประกาย รีบถามว่า “เป็นที่กบดานพวก
เขารึ? เจ้าเค้นถามมาได้แล้วหรือ?”

“ถูกต้อง เป็นที่กบดานพวกเขา พวกเราไปปิดฉากที่แห่งนั ้นภายในคืนนี้


เถอะ!” กองกำลังที่ซูรวั ่ อวิ ๋นบ่มเพาะขึ้นมา เวลาคืนเดียว เธอต้องทำลายมัน
ให้สิน
้ ซาก!

กองกำลังสำนั กพิษโอสถเพิง่ ก่อตัง้ ขึ้นในปี่ ที่ผา่ นมา ใช้ยาพิษเป็นหลัก หนึ่ ง


ในนั ้นยังรวมถึงการรับภารกิจลอบสังหาร คนของสำนั กพิษโอสถไม่มีใคร
กล้ายุแหย่เป็นปกติ เพราะต่อให้มีกำลังแข็งแกร่ง จะต่อกรกับพวกที่ชอบใช้
ยาพิษ ในเวลาที่พวกเขายังไม่ทันรู ต
้ ัวก็มักจะถูกวางยาจนสิน
้ ใจกันไป

ดังนั ้น ต่อให้มีคนรู ว้ า่ ตำแหน่ งที่ตัง้ ของสำนั กพิษโอสถอยูท


่ ี่ไหน ก็ไม่มีใคร
คิดจะเข้าไปทำลายที่แห่งนั ้น แต่กลับกลายเป็นว่า ครัง้ นี้ พวกเขามายุแหย่
เฟิ่ งจิว
่ หนำซ้ำ หัวหน้าสำนั กยังเป็นซูรวั ่ อวิ ๋นที่มีความแค้นกับเธอ โอกาสแก้
แค้นเช่นนี้ มากองอยูต
่ รงหน้า คงไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ แน่

ในค่ำคืนอันมืดมิดสองเงาร่างพุง่ ไปมาอยูใ่ นป่า ภายใต้รต


ั ติกาล ยังเห็นได้
ชัดเจนว่าสองคนนั ้นก็คือเฟิ่ งจิว
่ และกวนสีหลิน

ทันใดนั ้น กวนสีหลิน
่ ก็ย่น
ื มือไปรัง้ เฟิ่ งจิว
่ ไว้ กล่าวด้วยน้ำเสียงกดเบาลงว่า
“เสี่ยวจิว
่ เจ้าดูนี่สิ” พลางชีท
้ ี่บริเวณป้ายหินท่ามกลางต้นหญ้า

“ถิน
่ ใต้อารักษ์ สำนั กพิษโอสถ ผูบ
้ ุรุกต้องถึงฆาต?”

เฟิ่ งจิว
่ อ่านออกเสียงเบาๆ มุมปากยกขึ้นอย่างนึ กสนุก แววตาก็หรีล
่ งครึง่
หนึ่ ง
ตอนที่ 148 เพลิงไหม้ยอดเขา!

“เสี่ยวจิว
่ สำนั กพิษโอสถนี่ เป็นที่กบดานของหญิงคนนั ้นรึ?”

กวนสีหลิน
่ กดเสียงเบาลงพลางเอ่ยถาม มีความเหลือเชื่อเล็กน้ อย ต้องรู ไ้ ว้
ว่าสำนั กพิษโอสถนี้ เป็นกองกำลังที่เทียบเท่ากับวงศ์ตระกูลระดับกลางใน
เมืองอวิ ๋นเยวีย
่ ตลอดมาไม่มีใครรู ว้ า่ นายท่านที่อยูเ่ บื้องหลังคือใคร กลับนึ ก
ไม่ถึง ว่าจะเป็นซูรวั ่ อวิ ๋นผูท
้ ี่ชกฉวยตัวตนเสี่ยวจิว
่ ไป

“ถูกต้องแล้ว” เธอขานรับ หยิบขวดใบหนึ่ งขึ้นเทยาออกมาสองเม็ด “กินซะ


นี่ เป็นยาต้านพิษ”

ฟันเช่นนี้ กวนสีหลิน
่ จึงหยิบมันขึ้นมากิน พลางเอ่ยถามอย่างกังวลน้ อยๆ
“งัน
้ พวกเราจะทำลายสำนั กนี้ เช่นไร? ข้าได้ยน
ิ ว่าคนของสำนั กพิษโอสถมีไม่
น้ อยเลย หนำซ้ำพวกเขายังชำนาญใช้ยาพิษ แค่พวกเราสองคนจะไหว
หรือ?”

เฟิ่ งจิว
่ กลืนเม็ดยาลงตาม จากนั ้นก็เอ่ยว่า “ไม่ต้องลงมือเองหรอก พวกเรา
จะเอาวิธพ
ี ษ
ิ สู้พษ
ิ มาใช้กับพวกเขา ไปเถอะ”

ค่ำคืนนี้ เป็นวาระแห่งค่ำคืนที่หลับไม่ลง…

ภายในจวนตระกูลเฟิ่ ง ซูรวั ่ อวิ ๋นยังคงเฝ้ารอข่าวดีที่จะมาถึงหลังฟ้าสางวัน


รุ ง่ ขึ้น หลังจากนั ้น เมื่อรอถึงรุ ง่ เช้ากลับไม่เห็นมีใครมารายงาน เหมือนก้อน
หินจมลงมหาสมุทร ที่ไม่มีแม้แต่เสียงลมพลิว
้ ไหว
ตัง้ แต่เช้าตรู ถ
่ ึงเที่ยงวันก็ยงั ไม่มีขา่ วคราว สุดท้ายนางที่รอต่อไปไม่ไหวจึงหา
ข้ออ้างออกมา เพื่อมุ่งไปยังที่พำนั กทางใต้ของเมือง

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูสองครัง้ ดังขึ้น ซูรวั ่ อวิ ๋นที่ยน


ื อยูด
่ ้านนอกมองซ้ายแลขวา รอ
อยูส
่ ักพักก็ไม่มีใครมาเปิดประตู ลางสังหรณ์ ไม่ดีในใจยิง่ ทวีความรุ นแรง
นางจึงข้ามกำแพงเข้าไปทันที

ตอนไม่เข้ามาก็ยงั ดี แต่พอเข้ามาแล้ว เมื่อเห็นภาพในห้องกรงที่เรือนด้าน


หลัง นางจึงสูดหายใจเข้าอย่างอดไม่ได้

“ซี๊ด!”

ภาพตรงหน้าที่ไม่น่ามองนั กทำให้สีหน้านางดูไม่ได้เป็นที่สุด โดยเฉพาะ เมื่อ


ชายวัยกลางคนในลูกกรงนั ้นก็อยูด
่ ้วย ยิง่ ทำให้นางตกใจ

พละกำลังเขาเทียบเท่ากับเสาหลักของตระกูลระดับกลาง คอยติดตามอยู่
ข้างกายนางและอำนวยความสะดวกแก่ไพร่พล กำลังของปรมาจารย์ขน
ั้
สูงสุด ไม่ใช่วา่ ใครๆ จะคร่าชีวต
ิ ได้ตามใจชอบ ทว่าตอนนี้ กลับสิน
้ ใจไปอย่าง
อัปยศเช่นนี้ ช่างทำให้นางทัง้ ตกใจและขุน
่ เคืองเสียจริง!

“หรือว่าเป็นสองพีน
่ ้ องกวนสีหลิน
่ ? แต่ตามที่ตรวจสอบมา เจ้ากวนสีหลิน

นั ่นถึงกับยังไม่ใช่แม้ระดับปรมาจารย์ แล้วจะจับองครักษ์ จัว่ ที่เป็นถึงระดับ
ปรมาจารย์มาขังในกรงเหล็กได้อย่างไรกัน?”
นางพึมพำกับตัวเอง เพียงรู ส
้ ึกว่าหลังจากเห็นภาพตรงหน้านี้ หัวใจก็ไม่อาจ
สงบลง จึงคิดจะติดต่อกับคนของสำนั กพิษโอสถสักหน่ อยเพื่อไถ่ถาม
สถานการณ์

ดังนั ้น พอหมุนตัวจากไป นางก็วางเพลิงเผาเรือนที่พำนั กแห่งนี้

ออกมาด้านนอก เดินไปบนถนนใหญ่ เมื่อนึ กถึงภาพไม่น่ามองเมื่อครู ่ ก็ยงั มี


ความสะอิดสะเอียนอยูบ
่ า้ ง ฆ่าคนแค่เล็งที่หว
ั แม้แต่นางยังคิดวิธล
ี งโทษที่
โหดร้ายและทำให้ขนลุกขนพองเช่นนั ้นไม่ได้เลย

“พวกเจ้าได้ยน
ิ รึยงั ? เมื่อคืนสำนั กพิษโอสถนั ่นถูกคนวางเพลิง กล่าวกันว่า
เพลิงไหม้สว่างไสวไปทัว่ ทัง้ ยอดเขา ถึงเมื่อเช้านี้ ไฟยังลุกอยูเ่ ลย มีคนไม่น้อย
ไปดู บอกว่าถูกไฟไหม้กลายเป็นขีเ้ ถ้าไปหมดแล้ว”

“ซี๊ด! ไม่ใช่กระมัง? ใครกันที่ทำ? กองกำลังสำนั กพิษโอสถเทียบเท่าวงศ์


ตระกูลระดับกลาง หนำซ้ำยังเพิง่ ก่อตัง้ มาไม่กี่ปี จู่ๆ จะถูกวางเพลิงในชัว่
ข้ามคืนได้อย่างไร?

ฟังเสียงกระซิบที่ดังมาข้างหู ซูรวั ่ อวิ ๋นก็หวัน


่ ใจ หันกลับไปมองยังพวกคน
ตรงร้านชาข้างทาง ก้าวยาวเดินไปด้านหน้า คว้าไหล่คนหนึ่ งในหมู่พวกเขา
ก่อนจะตะคอกด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นที่มีไอสังหาร

“เมื่อครู พ
่ วกเจ้าว่าอะไรนะ? พูดอีกรอบสิ!”
“ซี๊ด! ไหล่ขา้ …” ชายวัยกลางคนที่ถูกนิว
้ นางทัง้ ห้าจับไว้สีหน้าขาวซีดเพราะ
ความเจ็บรุ นแรง เหงือ
่ ออกโทรมกาย

ทัง้ สองคนข้างๆ กันเห็นท่าทางจึงรีบเอ่ยว่า “แม่นางเจ้ารีบปล่อยมือเถอะ


พวกเราจะบอกเจ้าก็ได้ สำนั กพิษโอสถถูกวางเพลิง เพลิงไหม้ทัง้ ยอดเขา
ไม่มีเหลือรอด เรือ
่ งนี้ แพร่กระจายอยูใ่ นเมือง เจ้าไปถามใครต่อใครต่างก็รู ้
กันทัง้ นั ้น”
ตอนที่ 149 สำนั กพิษโอสถถูกวางเพลิง!

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ ซูรวั ่ อวิ ๋นเหมือนร่างกายอยูใ่ นโรงน้ำแข็ง เย็นเยียบไปทัว่ ร่าง
ฝีเท้านางซวนเซถอยไปไม่กี่ก้าว ยากเกินจะยอมรับว่าข่าวเช่นนี้ เป็นเรือ
่ งจริง

“ไม่ นี่ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้…”

ชายวัยกลางคนผูน
้ ั ้นถอนหายใจ ปัดลงบนไหล่ที่ถูกบีบเสียจนเจ็บ กล่าว
อย่างไม่สบอารมณ์ นัก “อะไรที่เป็นไปไม่ได้? เมื่อเช้านี้ ขา้ ไปดูมาแล้ว ทัง้ ยอด
เขาล้วนเผาไหม้ ไม่มีเหลือรอดเลยสักคน”

“จริงด้วย ข่าวเพิง่ แพร่ออกไปเมื่อเช้านี้ เอง หลายตระกูลในเมืองต่างส่งคน


เข้าไปดู แต่คล้ายว่าตอนนี้ จะยังบอกไม่ได้วา่ กองกำลังใดเป็นคนวางเพลิง
กันแน่ ”

“เป็นไปไม่ได้! ข้าไม่เชื่อหรอก!”

ซูรวั ่ อวิ ๋นตะโกนลัน


่ แววตาเย็นเยียบกวาดมองคนเหล่านั ้นแวบหนึ่ ง แล้ว
ก้าวยาววิง่ ออกไปทันที

ต้องลองไปดู! ต้องลองไปดูให้ได้! นางไม่เชื่อแน่ วา่ ที่ทุ่มเทกำลังมาหลายปีจะ


มอดไหม้หมดสิน
้ เช่นนี้ !

“ผูห
้ ญิงคนนั ้นบ้าไปแล้วรึ? คนในสำนั กพิษโอสถก็ไม่ได้มีอะไรดี ตายซะได้ก็
ดี นางกำลังกระวนกระวายอะไรกัน?”
“ไม่ต้องไปสนใจหรอก แค่หญิงบ้าคนหนึ่ ง บีบไหล่ขา้ เจ็บแทบตายเลย”

ชายวัยกลางคนลูบๆ ไหล่พลางพูด ก่อนจะเอ่ยอีกว่า “แต่ที่สามารถทำลาย


กองกำลังหนึ่ งลงได้ในชัว่ ข้ามคืน นี่ ก็น่าเหลือเชื่อเกิน พวกเจ้าว่า เรือ
่ งนี้ ภูต
หมอจะเป็นคนทำหรือไม่?” เมื่อพูดถึงครึง่ ประโยคหลัง น้ำเสียงเขามีความ
ระแวดระวังอยูบ
่ า้ ง และกดเสียงเบาลงอย่างชัดเจน

“เจ้าพูดเช่นนี้ ได้อย่างไร? ภูตหมอจะทำลายสำนั กพิษโอสถโดยไม่มีเหตุผล


ได้เช่นไรเล่า?”

“หมอยาพิษถือเป็นศัตรู ไม่ใช่หรือ? ทำลายสำนั กพิษโอสถจะแปลกอะไรนั ก?


อีกอย่าง เจ้าว่าหากไม่ใช่ฝีมือภูตหมอแล้วใครเล่าจะกล้าทำเช่นนี้ ? ก็ภูตหมอ
นั ่นมีฝีมือพอจะทำลายหนึ่ งตระกูลหรือหนึ่ งกองกำลังได้ภายในคืนเดียวไม่
ใช่ร?ึ ”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ น้ำเสียงคนอื่นๆ ที่เหลือก็ลดเบาลงมาบ้าง “เจ้าหมายความ
ว่าที่ตระกูลสวีถ
่ ูกฆ่าล้างเป็นฝีมือภูตหมอ ทำลายสำนั กพิษโอสถก็เป็นฝีมือ
ภูตหมอด้วยรึ? ข้าบอกกับเจ้าแล้วไง เรือ
่ งนี้ อย่าพูดซี้ซัว้ นั กจะดีที่สุด ระวัง
ปากจะพาภัย สุดท้านแล้วก็ไม่มีใครรู เ้ ห็นไม่ใช่หรือ?”

หลังจากได้ยน
ิ คำพูดว่าปากจะพาภัย พวกเขามองหน้ากันแวบหนึ่ ง และไม่
เอ่ยถึงเรือ
่ งนี้ อก
ี แต่หลังจากดื่มชาไม่กี่ถ้วยก็กลับบ้านของแต่ละคน
เมื่อซูรวั ่ อวิ ๋นมาถึงยอดเขาที่ไฟไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน คนพวกนั ้นที่เข้ามาดู
กันคึกคักต่างแยกย้าย มองยอดเขาที่โล่งเตียนด้วยสองตาแดงก่ำ กระอัก
เลือดออกมาอย่างโมโหแทบขาดใจ แล้วทัง้ ร่างก็ทรุ ดนั ่งลงไป

“เป็นไปได้ยงั ไง… เป็นไปได้ยงั ไง…”

นางพึมพำเสียงเบา ร่างกายราวกับสูญสิน
้ วิญญาณ นี่ เป็นสถานที่ที่นาง
ทุ่มเทกำลังทัง้ หมด เป็นกองกำลังที่นางวางแผนจะขยายตัว ทว่าตอนนี้
กลับถูกทำลายเพียงชัว่ ข้ามคืน…

เลือดลมที่หมุนตลบทำให้หว
ั ใจคับแน่ นเจ็บปวด นางนั ่งอยูบ
่ นพื้นนานนั กถึง
จะยืนขึ้นมา สองดวงตาที่เหม่อลอยมีประกายดำมืดชัว่ ร้ายขึ้นมาอีกครัง้
สองมือกำหมัดแน่ น

“ข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่ ! ไม่มีทางแน่ นอน!”

ขบกัดฟันแน่ น นางหมุนตัวจากไปอย่างเด็ดขาด ไม่มีสำนั กพิษโอสถแล้ว งัน



นางจะยึดครองกององครักษ์ ตระกูลเฟิ่ งมา! กำลังพลองครักษ์ ตระกูลเฟิ่ ง
เป็นกำลังหลักของจวน และเป็นกองกำลังหนึ่ งที่แม้แต่เจ้าแคว้นแสงสุรย
ิ น

ยังต้องเกรงกลัว!

ขอแค่ยด
ึ กององครักษ์ ตระกูลเฟิ่ งกลายเป็นผู้นำตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
สองพีน
่ ้ องคู่นั้น ต่อให้อยากทำลายตระกูลระดับกลางสักตระกูลก็แค่ออก
คำสัง่ !
เดิมทีคิดจะรอเวลาอีกสักพัก อันที่จริงเฟิ่ งชิงเกอคนก่อนก็คลุกคลีกับกอง
องครักษ์ น้อยนั ก ที่พวกนางพบปะด้วยเป็นแค่องครักษ์ นายสองนายที่ถูกส่ง
มาอารักขา ส่วนคนอื่นๆ แม้แต่หน้าก็ยงั ไม่เคยเจอมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

แต่ตอนนี้ นางต้องกลายเป็นผูน
้ ำตระกูลเฟิ่ ง! และต้องได้กองกำลังนั ้นมาให้
จงได้!
ตอนที่ 150 อาจารย์ผูเ้ ก่งกาจ!

สองวันต่อมา

เฟิ่ งจิว
่ ประคองท่านผูเ้ ฒ่าเดินอยูใ่ นสวน พลางเอ่ยถาม “ท่านปู่ ท่านรู ส
้ ึกว่า
ร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง? ไม่สบายบ้างหรือไม่เจ้าคะ?”

“เหอะๆ ดีข้น
ึ แล้ว หากยอมให้ปู่ด่ ืมเหล้าสักหน่ อย เดาว่าหลานไม่ต้องพยุง ปู่
คงเดินได้คล่องเหมือนบินเลย” ท่านผูเ้ ฒ่าหรีต
่ ายิม
้ หลังจากรักษาตัวอยูท
่ ี่นี่
สองวันพละกำลังก็กลับมา

แต่วา่ ไม่ได้ด่ ืมเหล้าหลายวัน พอร่างกายฟื้ นฟู ก็อยากดื่มอยูน


่ ิ ดหน่ อยจริงๆ

“ตอนนี้ ยงั ไม่ได้เจ้าค่ะ รอผ่านไปอีกสองสามวันท่านจะดื่มเท่าไหร่ค่อยดื่มนะ


เจ้าคะ” เธอประคองเขามานั ่งที่ขา้ งโต๊ะหินในสวน ก่อนจะรินน้ำให้

“แม่หนูเฟิ่ ง พวกเราจะกลับบ้านเมื่อไหร่ร?ึ พักอยูด


่ ้านนอกนี้ ไปก็ทำอะไรไม่
ได้ ซ้ำยังไม่ได้จัดการเจ้าซูรวั ่ อวิ ๋นในบ้านนั ่น พ่อผูฟ
้ ั่ นเฟือนของหลานยังถูก
หลอกปั่ นหัวโดยไม่รูต
้ ัวอีก!”

เขาพูดพลางส่ายหน้า ถอนหายใจอีกครา กล่าวว่า “พูดถึงพ่อหลานก็น่า


สงสารนั ก ที่ไม่รูเ้ รือ
่ งอะไรเลย”

เธอบอกเรือ
่ งที่ผา่ นมาในไม่กี่วน
ั นี้ แก่เขา โชคดีที่เธอยังรอดชีวต
ิ โชคดีที่ได้
พบกันบนถนน และยังจำเธอได้ แต่ยงั ไงก็นึกไม่ถึง ว่าหญิงสาวใจมารใน
จวนนั ่นจะเป็นซูรวั ่ อวิ ๋นที่ติดตามอยูข
่ า้ งกายแม่หนูเฟิ่ งอย่างเชื่อฟังเสมอมา
ซ้ำยังสนิ ทสนมดัง่ พีน
่ ้ อง

ใจคนยากแท้หยัง่ ถึง ช่างรู ห


้ น้าไม่รูใ้ จเสียจริง!

“ร่างกายท่านปู่ดีข้น
ึ บ้างแล้ว พวกเราจะกลับไปเวลาไหนก็ได้เจ้าค่ะ” เธอยิม

เบาๆ คิดว่าถึงเวลากลับบ้านตระกูลเฟิ่ งแล้ว

ท่านผูเ้ ฒ่าได้ยน
ิ ก็ดีใจอย่างมาก จึงตบมือนางพลางพูดติดกันสามครัง้ ว่า
“ดีๆๆ”

“เสี่ยวจิว
่ ”

กวนสีหลิน
่ เร่งฝีเท้าเดินเข้ามาจากด้านนอก ท่าทางลนลาน เมื่อเห็นท่านผู้
เฒ่าจึงขานเรียก “ท่านปู่”

เพราะความสัมพันธ์กับเฟิ่ งจิว
่ หลังจากท่านผู้เฒ่ารู เ้ รือ
่ งที่ขอถอนตัวจาก
ตระกูล จึงให้เขาเรียกตนว่าท่านปู่ บอกว่าถึงเวลากลับจวน จะให้คารวะเฟิ่ ง
เซียวเป็นพ่อบุญธรรม

เห็นท่าทางร้อนใจมีความเป็นกังวล เฟิ่ งจิว


่ จึงเอ่ยปากถาม “พีช
่ าย เกิดอะไร
ขึ้นรึ?”

“ท่านปู่ เสี่ยวจิว
่ พวกท่านรีบกลับบ้านเถิด ตระกูลเฟิ่ งเกิดเรือ
่ งแล้วขอรับ!”
พอท่านผูเ้ ฒ่าฟัง ก็รบ
ี ร้อนถามว่า “เกิดเรือ
่ งอะไรรึ?”

“ข้าเพิง่ กลับมาจากด้านนอก ได้ยน


ิ ว่าพ่อบุญธรรมล้มป่วยเพราะกังวลที่
ท่านปู่หายตัวไป เหมือนต้องยกกององครักษ์ ตระกูลเฟิ่ งให้ซูรวั ่ อวิ ๋นมาดูแล
ทำให้นางตามหาที่อยูท
่ ่านได้เต็มกำลัง คนจากหลายตระกูลในเมืองต่างถูก
เชิญตัวไป เพื่อพิธป
ี ระกาศตัวเที่ยงวันนี้ บอกทุกคนว่า ลูกสาวเขาจะเป็น
นายหญิงของกององครักษ์ ตระกูลเฟิ่ ง แต่ปัญหาคือพ่อบุญธรรมไม่รูว้ า่ เฟิ่ ง
ชิงเกอในจวนเป็นตัวปลอม! หากยกกององครักษ์ ให้นาง จะเป็นปัญหาใหญ่
นะขอรับ!”

แม้เขาไม่ใช่คนตระกูลเฟิ่ ง แต่ก็รูว้ า่ กำลังกององครักษ์ ตระกูลเฟิ่ งแม้แต่เชื้อ


พระวงศ์ยงั ต้องยำเกรง กองกำลังเช่นนี้ หากหญิงอสรพิษนั ่นได้ไป จะปล่อย
ไปได้ร?ึ

“เจ้าซูรวั ่ อวิ ๋นนี่ ! ก็แค่หมาป่าขีข


้ ลาด!”

ท่านผูเ้ ฒ่าด่ากราดอย่างโกรธจัด “สุขภาพพ่อหลานมักจะแข็งแรงอย่างกับ


วัว พอปู่หายไปจะร้อนใจจนล้มป่วยได้อย่างไรเล่า? เป็นเพราะหมาป่าตาขาว
นั ่นใช้ยาพิษทำร้ายแน่ ๆ!”

เฟิ่ งจิว
่ ฟังคำพูดนี้ ก็กระตุกมุมปากอย่างอดไม่ได้ แข็งแรงราวกับวัวรึ? ท่านปู่
เปรียบเทียบได้เหมาะเสียจริงเชียว
“แต่ท่านปู่ ทำไมกององครักษ์ ตระกูลเราแม้แต่เชื้อพระวงศ์ยงั ต้องยำเกรง?
คืนนั ้นที่หลานไปพาท่านออกมา รู ส
้ ึกว่ากำลังองครักษ์ พวกนั ้นที่เฝ้าอยูห
่ น้า
ประตูก็ไม่เท่าไหร่เลยนะเจ้าคะ!”

“นั ่นเป็นเพราะ หลานยังไม่เคยพบอาจารย์ผู้เก่งกาจในหมู่องครักษ์ ของเรา


น่ ะสิ”

ท่านผูเ้ ฒ่ายืนขึ้นมา มือหนึ่ งไพล่หลังไว้ อีกมือก็ลูบเครา “กององครักษ์


ตระกูลเฟิ่ งเราแบ่งแยกกันตามระดับ กองของอาจารย์ผูเ้ ก่งกาจนั ้นสิ ถึงจะ
เป็นไพ่ตายของตระกูลเฟิ่ ง”
ตอนที่ 151 ความลับของกององครักษ์ ตระกูลเฟิ่ ง!

“แต่เหมือนหลานจะไม่เคยเจอกององครักษ์ ของตระกูลเรานะเจ้าคะ” คล้าย


ว่าในความทรงจำก็ไม่เคยเจอกององครักษ์ ตระกูลเฟิ่ ง แต่ในจวนกลับมีพวก
องครักษ์ คอยตามอารักขาอยูข
่ า้ งกายท่านปู่ท่านพ่อ

“อีกหน่ อยหลานจะรู จ
้ ักกององครักษ์ แน่ นอน ตอนนี้ พวกเราต้องกลับไปบ้าน
ก่อน มิเช่นนั ้น หากเรือ
่ งนี้ แพร่งพรายไป เกรงว่าจะจัดการไม่ได้” ท่านผู้เฒ่า
เอ่ยเสียงเข้ม มองไปทางกวนสีหลิน
่ ข้างๆ บอกว่า “สีหลิน
่ เจ้ารีบไปเตรียมรถ
ม้า ตอนนี้ หา่ งเที่ยงวันไม่กี่ชว
ั ่ ยาม ต้องเร่งกลับไปขัดขวางแล้ว”

“ขอรับ” กวนสีหลิน
่ ขานรับ และเดินออกไปทันที

เหลิง่ ซวงในมือยกขนมเข้ามา กล่าวว่า “ท่านผูเ้ ฒ่า คุณหนู ทานขนมเสีย


หน่ อยเถอะเจ้าค่ะ! พวกนี้ ชงิ เหนี ยงเพิง่ ทำมา”

เฟิ่ งจิว
่ ยิม
้ ๆ เอ่ยว่า “พวกเราจะกลับไปตระกูลเฟิ่ ง เอาขนมขึ้นไปกินบนรถม้า
ด้วยก็ได้” สำหรับสถานการณ์ ของตระกูลเฟิ่ งตอนนี้ เธอหาได้กังวลใจเท่า
ท่านผูเ้ ฒ่า ลำพังแค่ซูรวั ่ อวิ ๋นคนเดียว ก็ก่อปัญหาอะไรไม่ได้มาแต่ไหนแต่ไร

ส่วนในบ้านตระกูลเฟิ่ ง เพราะข่าวที่แพร่ออกไป ผูน


้ ำตระกูลในเมืองจึงมายัง
จวนอย่างไม่ขาดสาย นั ่งพูดคุยด้วยกันเสียงเบา ในสายตาพวกเขา เฟิ่ งชิง
เกอนั ้นยังอายุน้อยนั ก เกรงว่าจะบังคับบัญชากององครักษ์ ตระกูลเฟิ่ งได้ไม่
ไหว และไม่อาจเป็นผูน
้ ำตระกูลได้
แต่ใครก็นึกไม่ถึง ช่วงนี้ ตระกูลเฟิ่ งเกิดเรือ
่ งขึ้นมากมายเพียงนี้ ก่อนหน้านี้
ท่านผูเ้ ฒ่าเป็นโรควิกลจริต ซ้ำยังถูกลักพาตัวไปที่ไหนก็ไม่รู ้ เวลาสัน
้ ๆ แค่
สองวันแม้แต่แม่ทัพเฟิ่ งยังล้มป่วย เวลานี้ ในจวนตระกูลเฟิ่ ง ที่พอเป็นผู้นำ
ได้ก็มีแค่เฟิ่ งชิงเกอ แต่ด้วยพละกำลังนาง ทุกคนกลับไม่เห็นด้วย

แม้เฟิ่ งชิงเกอเป็นไข่มุกล้ำค่าในมือเฟิ่ งเซียว แต่เมื่อเทียบกับความสามารถ


และพละกำลัง รู ปโฉมอันงามเลิศกลับเป็นสิง่ ที่ผูค
้ นพูดถึงกันยิง่ กว่า
สุดท้ายแล้ว หากเป็นคนเมืองอวิ ๋ยเยวีย
่ ด้วยกัน ก็เป็นธรรมดาที่จะรู ด
้ ีวา่
กำลังวรยุทธ์นางเป็นเช่นไร?

อันที่จริงด้วยกำลังวรยุทธ์เฟิ่ งชิงเกอ ยังเทียบไม่ได้แม้แต่กับพวกลูกสาว


ตระกูลระดับกลาง แต่ชนะที่นางได้ผู้มีพรสวรรค์ดัง่ ฟ้าประทานมาเป็นคู่
หมัน
้ ซ้ำยังมีแรงสนั บสนุนทรงอำนาจจากจวนตระกูลเฟิ่ ง ด้วยเหตุนี้ กำลัง
เป็นเช่นไร ก็ไม่ใช่เรือ
่ งที่ผูค
้ นจะใส่ใจ

ใต้ศาลาแห่งหนึ่ งในเรือนหลัง บุรุษสวมชุดผ้าแพรแปดนายมีทัง้ นั ่ง ยืน และ


ใช้สองมือกอดอกพิงศาลา กำลังพูดคุยกันอยู่

“พวกเจ้าว่าวันนี้ ท่านผูเ้ ฒ่าจะกลับมาหรือไม่?”

คนที่พูดคือชายหนุ่มอ่อนวัยที่สวมชุดคลุมสีฟ้า กำลังนั ่งอยูข


่ า้ งโต๊ะ มือหนึ่ ง
เท้าคางพลางเอ่ยถามคนอื่นๆ

บุรุษชุดดำใบหน้าเคร่งขรึมยกน้ำชาขึ้นจิบ ก่อนจะกล่าวเสียงทุ้ม “ข่าวล้วน


แพร่ออกไปหมดแล้ว เขาจะกลับมาแน่ นอน”
“วันนี้ เหมือนคนจะมากันไม่น้อยเลย ข้าได้ยน
ิ คนข้างล่างรายงาน คล้ายว่า
แม้แต่ฝ่าบาทก็มาด้วย” บุรุษที่ยน
ื พิงศาลา พลางสองมือกอดอกไว้เอ่ยอย่าง
เอ้อระเหย

ชายหนุ่มที่สวมชุดขาวในมือถือพัดพับหันไปถามว่า “แต่ที่พวกเราไม่
รายงานทัง้ ที่รูเ้ รือ
่ งเช่นนี้ จะดีจริงๆ รึ? จะเกินไปหรือไม่?”

“ทำไมเล่า? ท่านผูน
้ ำตระกูลไม่ได้ให้เราไปตรวจสอบ พวกเราไปสืบเองถึงรู ้
ไม่ถือว่ารู เ้ รือ
่ งแต่ไม่รายงานหรอก” บุรุษที่พูดอยูเ่ ลิกคิว
้ ขึ้น น้ำเสียงนั ้นมี
ความสมเหตุสมผลอยูบ
่ างส่วน

อีกคนหนึ่ งฟังแล้วก็ยม
ิ้ ขึ้นอย่างอดไม่ได้ เอ่ยว่า “โชคดีที่ตาเฒ่าพวกนั ้นไป
เก็บตัวฝึกตน ไม่เช่นนั ้น หากรู ว้ า่ พวกเรายืนนิ่ งดูดายไม่จัดการปัญหา เดา
ว่าคงไม่พน
้ ได้ฝึกร่างกายกันอีกยกแน่ ”

“จะว่าไปแล้ว แม่นางคนนั ้นที่อยูก


่ ับท่านผูเ้ ฒ่าเป็นใครกันแน่ ? ตัวตนนาง
นึ กไม่ถึงว่าแม้แต่พวกเรายังตรวจสอบไม่ได้? ช่างน่าแปลกเหลือเกิน”
ตอนที่ 152 ปรมาจารย์ขน
ั้ สูงสุด!

ฟังคำพูดนี้ พวกเขาต่างเงียบเชียบลง แปดคนนี้ หาใช่ใครอื่น เป็นหัวหน้าทัง้


แปดกองย่อยของกองอาจารย์ผูเ้ ก่งกาจในหมู่องครักษ์ ตระกูลเฟิ่ ง

สำหรับพวกเขาที่เข้ารับการฝึกฝนอย่างลับๆ เรือ
่ งจวนตระกูลเฟิ่ งหากไม่มี
องครักษ์ มารายงาน ก็ไม่มีทางรู ห
้ รอก ทว่าหลังจากรู เ้ รือ
่ งที่เกิดขึ้นในจวน
ช่วงนี้ จึงลงมือตรวจสอบ

โดยเฉพาะเรือ
่ งที่ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งเป็นโรควิกลจริตและถูกลักพาตัว แต่นึกไม่
ถึง ว่าคนที่ท่านผูน
้ ำตระกูลพาองครักษ์ ทัง้ นอกในจวนไปตามยังหาไม่เจอ
กลับถูกสาวน้ อยนางหนึ่ งพาไปรักษาตัวที่ในเรือนแห่งหนึ่ ง

พวกเขาลองเข้าไปสังเกตการณ์ ใกล้ๆ ทว่าเพิง่ จะเข้าใกล้ก็โดนไหวตัวทัน ไม่


รู จ
้ ริงๆ ว่าเป็นเพราะสาวน้ อยนั ่นรู ส
้ ึกไวเกินไป หรือทักษะการซ่อนกลิน
่ อาย
ยังอ่อนด้อย

เดิมทีพวกเขาคิดจะพาท่านผูเ้ ฒ่ากลับมา แต่เห็นเขาพูดคุยหัวเราะกับสาว


น้ อยผูน
้ ั ้น หนำซ้ำนางยังประคองท่านผูเ้ ฒ่ามาเดินในสวนอยูท
่ ุกวัน เห็นเขา
ไม่เหมือนคนวิกลจริตเลยสักนิ ด จึงละทิง้ ความคิดไป

แม้ไม่รูว้ า่ สาวน้ อยเป็นใคร แต่ความเอาใจใส่นั้นกลับไม่ใช่การเสแสร้ง ใน


เมื่อไม่คิดร้ายกับท่านผูเ้ ฒ่า พวกเขาก็ไม่ใส่ใจ
“เฮ้ พวกเจ้าว่าใบหน้าแม่นางถูกทำลายกลายเป็นเช่นนั ้น ไยจึงทำเหมือนไม่
สนใจเท่าไหร่เลยเล่า?” บุรุษชุดฟ้าเอ่ยถามอย่างสงสัยอยูบ
่ า้ ง คราแรกที่เห็น
ใบหน้าเสียโฉมนั ่น เขาก็ตกใจสะดุ้งเสียดื้อๆ

อันที่จริง นั ่นก็เป็นสาวน้ อยคนหนึ่ ง นึ กไม่ถึงว่าใบหน้าจะถูกทำลายเสียจนดู


ไม่ได้โดยสิน
้ เชิง แค่เขามองยังรู ส
้ ึกสงสารเลย

“บนตัวแม่นางไม่มีกลิน
่ อายพลังเร้นลับ เดาว่าเป็นแค่คนธรรมดา กลิน
่ อาย
คนชื่อกวนสีหลิน
่ นั ่นกลับสงบเงียบ เป็นผู้มีความสามารถ”

บุรุษชุดดำกล่าวเสียงเข้ม ชะงักลงพักหนึ่ ง ก่อนจะหลับตาลง เอ่ยว่า “วันนี้


พวกเจ้าต่างเห็นลูกสาวท่านผูน
้ ำตระกูลแล้วล่ะสิ? คิดเห็นเช่นไรกันบ้าง?”

“ก็ไม่เท่าไหร่ คุณสมบัติไม่พอจะมาเป็นผูน
้ ำกององครักษ์ เราเลยจริงๆ”

“อืม พละกำลังไม่โดดเด่นก็จริง แต่หน้าตากลับงามเป็นเลิศ”

“เห็นเป็นสาวน้ อยอ่อนโยนสง่างาม จะให้มาเป็นผูน


้ ำกององครักษ์ เรางัน
้ รึ?
จิ๊ จริงๆ ข้าก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่”

“เฮ้อ! เห็นครัง้ แรก ก็รูส


้ ึกผิดหวังยิง่ นั ก”

“ข้าก็ไม่เห็นด้วย”

“นางกำราบพวกเราไม่ได้หรอก”
“ไม่มีทาง ใครให้ท่านผูน
้ ำตระกูลมีลูกสาวเช่นนั ้นคนเดียวเล่า!”

ฟังพวกเขาพูดจบคนละหนึ่ งประโยค บุรุษชุดดำก็ยน


ื ขึ้นมา บอกว่า “ไม่ นาง
ไม่ธรรมดา”

“หืม? ทำไมล่ะ?” ทัง้ เจ็ดคนถามขึ้นพร้อมกันโดยไม่นัดหมาย ประหลาดใจ


นิ ดหน่ อยที่เขาพูดประโยคนี้ ออกมา เฟิ่ งชิงเกอผูน
้ ั ้น พวกเขาดูแล้วก็ไม่
เห็นจะมีอะไรพิเศษ

“สัญชาตญาณน่ ะ”

“หึ!”

พวกเขาหลุดหัวเราะ “ไม่รูส
้ ึกเลยสักนิ ด”

สายตาทุกคนล้วนหันเหลียวมองไปยังบริเวณเดียวกัน หนึ่ งในพวกเขาพูด


ยิม
้ ๆ ว่า “ล้วนกล่าวกันว่า กลางวันอย่าพูดถึงคน กลางคืนอย่าเอ่ยถึงผี พวก
เจ้าดูสิ เพิง่ พูดถึงไป คนก็มาเสียแล้ว”

บริเวณไม่ไกล เรือนรางในชุดกระโปรงสีสดใสพลิว
้ ไหวกำลังเดินมาทางด้าน
นี้ ด้านหลังนางมีสาวใช้ตามมาสองคน เมื่อเห็นเหล่าชายหนุ่มอ่อนวัย
หน้าตาโดดเด่น ท่าทางไม่ธรรมดาบ้างนั ่งบ้างยืนกันอยูใ่ นศาลา นั ยน์ ตาก็
ฉายแววเป็นประกาย
แปดคนนี้ คือหัวหน้ากองย่อยทัง้ แปดนายของกองอาจารย์ผูเ้ ก่งกาจในหมู่
องครักษ์ ตระกูลเฟิ่ ง พละกำลังพวกเขาต่างบรรลุถึงระดับปรมาจารย์ขน
ั้
สูงสุด

ต้องรู ไ้ ว้ ว่าท่านผูเ้ ฒ่าบำเพ็ญตนมาตลอดชีวต


ิ ก็เพิง่ เป็นแค่ผู้แกร่งกล้า
ระดับบรรพชนนั กรบพลังเร้นลับขัน
้ เริม
่ ต้นช่วงที่แปด

แม้แต่เฟิ่ งเซียว เมื่อไม่กี่ปี่ก่อนก็เพิง่ บรรลุถึงระดับบรรพชนนั กรบ ตอนนี้


เป็นแค่ผูแ
้ กร่งกล้าพลังเร้นลับขัน
้ เริม
่ ต้นช่วงที่สอง

ภายในเวลาที่กำหนด แปดคนนี้ จำจะต้องก้าวขึ้นเป็นบรรพชนนั กรบ เมื่อถึง


ตอนนั ้น…
ตอนที่ 153 เฟิ่ งจิ่วกลับบ้าน!

ชายหนุ่มชุดฟ้าเห็นนางมองพวกเขาอยูน
่ อกศาลา ก็ไม่พูดอะไร เลิกคิว
้ ขึ้น
อย่างอดไม่ได้ ถามว่า “คุณหนูใหญ่มีธุระรึขอรับ?”

ซูรวั ่ อวิ ๋นดึงสติกลับมา สายตามองผ่านใบหน้าทัง้ แปดคนไป เอ่ยถามน้ำ


เสียงอ่อนโยน “พวกท่านชื่ออะไรกันบ้างล่ะ?”

“ชื่อรึ?”

เขาเดินยิม
้ เข้ามา พิงเสาศาลาพลางพูดว่า “เหล่าผู้เฒ่าที่คอยสัง่ การพวก
เรากำชับไว้ ชื่อแซ่จะบอกให้นายท่านฟังได้เท่านั ้น ดังนั ้น ขณะที่คุณหนูใหญ่
ยังไม่ได้เป็นนายหญิง พวกเราก็ไม่ถือสาที่คุณหนูจะใช้ตัวเลขเรียกพวกเรา
โดยจัดตัวเลขให้แทนชื่อขอรับ”

ชายหนุ่มนายหนึ่ งที่เดินมาจากด้านหลังสองแขนกอดอกชำเลืองมองคนข้าง
กายแวบหนึ่ ง ก่อนจะมองไปยังคนด้านนอกศาลา ท่าทางบนใบหน้ามีความ
เอ้อระเหยอยูบ
่ างส่วน กล่าวว่า “นางยังไม่ใช่นายหญิงพวกเรานะ! ซ้ำยังออก
คำสัง่ กับพวกเราไม่ได้ ต่อให้จัดตัวเลขแทนชื่อก็ไม่มีทางบังคับบัญชาเราได้
อยูด
่ ี”

“คุณหนูใหญ่ แม้เป็นองครักษ์ ตระกูลเฟิ่ ง แต่พวกเรายังไม่ยอมรับท่าน จะ


ทำให้ยอมรับได้หรือไม่ ก็ต้องดูที่ความสามารถท่านแล้ว” อีกคนหนึ่ งเดินเข้า
มา น้ำเสียงไม่เกรงใจอย่างมาก
อันที่จริง แม้เป็นองครักษ์ ตระกูลเฟิ่ ง กับคนที่ไม่ใช่นายพวกเขา ก็ไม่จำเป็น
ต้องไว้หน้ากันมากนั ก

ได้ยน
ิ เช่นนี้ ซูรวั ่ อวิ ๋นกลับไม่โกรธ เผยรอยยิม
้ มองพวกเขาแวบหนึ่ ง เอ่ยด้วย
คำพูดมีความมัน
่ ใจ “พวกเจ้าจะมาสวามิภักดิก
์ ับข้าแน่ ” สิน
้ สุดน้ำเสียง ก็
หมุนตัวเดินไปยังเรือนหน้า

ในความคิดนาง เมื่อเฟิ่ งชิงเกอตายไปแล้วจริงๆ ไม่ชา้ ก็เร็วกององครักษ์ นี้


ต้องมาอยูใ่ นมือ ไม่เชื่อหรอก ว่าด้วยความสามารถนางจะไม่มีทางทำให้พวก
เขายอมจำนนได้!

รอนางเดินเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มชุดดำก็เดินเข้ามา กวาดมองสองคนข้างๆ


เอ่ยว่า “พวกเจ้าอย่าได้ทำเกินไปนั ก สุดท้ายนางก็เป็นลูกสาวท่านผูน
้ ำ
ตระกูล เป็นนายหญิงที่เราต้องจงรักภักดี”

“แน่ ล่ะ! เพราะเจ้ารู ว้ า่ นางมีความสามารถที่ทำให้พวกเรายินยอมพร้อมใจ


เรียกนางว่านายหญิงรึ?” ชายหนุ่มท่าทางลอยชายพูดอย่างไม่เห็นด้วยนั ก
ชัดเจนว่าไม่เห็นนางอยูใ่ นสายตา

“งัน
้ ก็อย่าลืมที่พวกตาเฒ่ากำชับเราไว้เสมอล่ะ”

ฟังคำพูดนี้ พวกเขาต่างเงียบเชียบ ไม่มีใครปริปากพูดอะไรให้มากความอีก

ผ่านไปสักพัก ชายหนุ่มชุดดำจึงเอ่ยว่า “จวนจะได้เวลาแล้ว พวกเราลองไป


ดูด้านหน้ากันเถอะ!”
“ก็ดี” พวกเขาขานรับ แล้วไปยังเรือนหน้าพร้อมๆ กัน

และในเวลานี้ ทิศทางที่ไปยังจวนตระกูลเฟิ่ ง เพราะฮ่องเต้เสด็จประพาส


ทำให้ชาวบ้านบนถนนใหญ่พากันติดสอยห้อยตามพลางเฝ้าชม ต่างมอง
กองทัพท่าทางองอาจมุ่งไปยังจวนตระกูลเฟิ่ ง และท่านเจ้าแคว้นสวมเสื้อ
คลุมมังกรเหลืองอร่ามนั ่งตัวตัง้ ตรงอย่างสง่าผ่าเผยอยูบ
่ นราชรถมังกร หัน
มองไปด้านข้าง มู่หรงอีเ้ ซวียนที่สวมเสื้อคลุมสีม่วงทัว่ ร่างมีกลิน
่ อายสูงศักดิ์
กระจายอยูก
่ ำลังขีม
่ ้าตามไป

เหล่าผูน
้ ำตระกูลในจวนได้ยน
ิ ว่าแม้แต่เจ้าแคว้นยังมาด้วย ก็แปลกใจอยู่
บ้าง เรือ
่ งที่จวนตระกูลเฟิ่ งจะประกาศให้เฟิ่ งชิงเกอเป็นผูน
้ ำ ปกติไม่ต้องให้
ท่านเจ้าแคว้นมาด้วยตัวเอง ทว่าตอนนี้ กลับมาเยือน ความหมายที่แฝงอยูน
่ ี้
ช่างน่าสนใจยิง่ นั ก

แม้เป็นเช่นนี้ ทุกคนยังมารับเสด็จนอกจวน สุดท้าย อีกฝ่ายก็เป็นเจ้าแคว้น


แสงสุรย
ิ น
ั ซ้ำยังเป็นผูแ
้ กร่งกล้าที่มีพละกำลังมหาศาล พวกเขาจึงไม่กล้าดู
หมิน
่ เป็นธรรมดา

ในฐานะที่ตอนนี้ เป็นผูด
้ ูแลจวนตระกูลเฟิ่ ง ซูรวั ่ อวิ ๋นเดินออกมาจากฝูงชน
ทำความเคารพแก่ราชรถมังกร “หม่อมฉั นเฟิ่ งชิงเกอ คารวะท่านเจ้าแคว้น”

“คารวะท่านเจ้าแคว้น” เหล่าผูน
้ ำตระกูลเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียง และ
ทำความเคารพเล็กน้ อย
“อืม” น้ำเสียงทุ้มต่ำลอยมาจากบนราชรถมังกร เจ้าแคว้นสวมเสื้อคลุม
มังกรเหลืองอร่ามเดินลงมา หลังจากใช้สายตาเฉี ยบแหลมที่เคลือบแฝง
ด้วยท่าทางสง่างามกวาดมองผูค
้ น ถึงจะก้าวย่างเดินไปด้านใน

หลังจากเขาเข้าไป ทุกคนล้วนถอนหายใจเบาๆ พร้อมกันโดยไม่นัดหมาย


มองหน้ากันแวบหนึ่ ง เมื่อกำลังจะเดินตามเข้าไปด้านใน กลับเห็นรถม้าคัน
หนึ่ งค่อยๆ หยุดลงตรงหน้าประตูจวน…
ตอนที่ 154 ท่านผูเ้ ฒ่ากลับมาแล้ว!

ล้วนมากันหมดแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมยังมีคนมาอีก?

ทุกคนต่างสงสัยอยูใ่ นใจ ฝีเท้าที่เดินไปด้านในชะงักลงน้ อยๆ พินิจมองรถม้า


ธรรมดาๆ คันนั ้นที่จอดอยูห
่ น้าประตู

หลังจากมู่หรงอีเ้ ซวียนที่เดิมทีเตรียมจะเดินเข้าไปเห็นรถม้าคันนั ้นก็หยุด


ฝีเท้าลง ไม่เพียงคุ้นตานิ ดหน่ อยกับรถม้า ยังรู ส
้ ึกคุ้นเคยอยูบ
่ า้ งกับสาวน้ อย
ชุดดำที่ควบม้ามา คล้ายว่าเป็นคนข้างกายแม่นางท่านนั ้นเมื่อครัง้ ก่อน…

“เสี่ยวจิว
่ ข้าประคองเจ้าเอง” กวนสีหลิน
่ ในชุดสีดำโดดลงมาจากบนรถม้า
ก่อนจะยื่นมือไปประคองคนที่ออกมาด้านหลังไว้อก
ี รอบ

เสียงเรียกเสี่ยวจิว
่ นั ้น ทำให้มู่หรงอีเ้ ซวียนใจเต้นขึ้นมา ในดวงตาฉายแวว
ประหลาดใจ ขยับฝีเท้าไม่ได้ จึงมองตรงไปยังคนที่เดินออกมาจากรถม้าอยู่
เช่นนั ้น

ซูรวั ่ อวิ ๋นเวลานี้ ไม่ทันมองคนที่เดินลงมาจากรถม้า เพราะท่านเจ้าแคว้นเข้า


จวน จึงคอยรับรองอยูด
่ ้านหน้า ด้วยเหตุนี้ นางไม่เพียงไม่เห็นว่ากวนสีหลิน

กับเฟิ่ งจิว
่ มา แม้แต่คนสุดท้ายที่เดินลงมาจากรถม้า ก็ไม่ได้เหลียวมอง มิ
เช่นนั ้น ต้องตกใจเสียจนสีหน้าซีดเผือดเป็นแน่

“ซี๊ด! นั ่น นั ่นท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งไม่ใช่หรือ?”


เมื่อเหล่าท่านผูน
้ ำตระกูลเห็นชายชราที่สองชายหญิงประคองลงมาจากรถ
ม้า ถึงจะเห็นชัดเจน ว่าชายชราผูน
้ ั ้นคือท่านผูเ้ ฒ่าแห่งจวนตระกูลเฟิ่ งที่
หายตัวไป!

หนำซ้ำ เห็นท่าทางนั ้นเหมือนคนวิกลจริตตรงไหนกัน? ตอนนี้ ทุกคนจึงล้วน


มองล้อมมาทางเขา

“ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ ง ท่านกลับมาแล้ว!”

“ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ ง ช่วงนี้ ท่านไม่อยูใ่ นจวน ท่านแม่ทัพเฟิ่ งกังวลใจเสียจนล้ม


ป่วย”

“ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ ง ช่วงนี้ ท่านไปไหนมารึ?”

ผูค
้ นต่างแย่งกันถามไถ่ น้ำเสียงมีความเป็นห่วง เพราะที่มาวันนี้ ล้วนเป็น
เพียงวงศ์ตระกูลใหญ่ชน
ั ้ สูงในเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ คนของตระกูลระดับกลางกลับ
ไม่เหลียวมองแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้ สำหรับพวกเขา กวนสีหลิน
่ กับเฟิ่ งจิว
่ จึง
เป็นแค่คนแปลกหน้า ไม่มีใครรู จ
้ ัก

“เหอะๆ ทำให้ทุกท่านกังวลเสียแล้ว ข้าไม่เป็นอะไรหรอก” ท่านผูเ้ ฒ่าพูด


อย่างหัวเราะเหอะๆ พลางส่งสัญญาณพยักหน้าให้กับทุกคน

“ท่านปู่เฟิ่ ง” มู่หรงอีเ้ ซวียนเดินเข้ามา เห็นอาการเขาฟื้ นตัวได้ไม่เลว ใจก็อด


สงสัยไม่ได้ เขามาด้วยกันกับสองพีน
่ ้ องกวนสีหลิน
่ ได้อย่างไร?
สายตาหันมองจับจ้องสำรวจบนร่างเฟิ่ งจิว

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งเห็นเขา กล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร “ที่แท้เป็นอีเ้ ซวียนนี่ เอง!


วันนี้ เจ้าก็มารึ? ข้าได้ยน
ิ ว่าท่านเจ้าแคว้นก็มาด้วย?” เห็นเขากำลังมองแม่
หนูเฟิ่ ง รอยยิม
้ บนใบหน้ายิง่ ลึกขึ้นบางส่วน

สองคนนี้ มองเช่นไรก็เป็นคู่ที่เหมาะสมกันยิง่ นั ก น่าเสียดาย ที่ใบหน้าแม่หนู


เฟิ่ ง…

เมื่อองครักษ์ จวนตระกูลเฟิ่ งเห็นว่าคนที่ลงมาจากรถม้าคือท่านผูเ้ ฒ่า ก็วงิ่


ปรีเ่ ข้าไปด้านใน พลางตะโกนลัน
่ ว่า “เป็นท่านผูเ้ ฒ่า! ท่านผูเ้ ฒ่ากลับมา
แล้ว! ท่านผูเ้ ฒ่ากลับมาแล้ว…”

“ท่านปู่ พวกเราเข้าไปกันเถอะ!”

เฟิ่ งจิว
่ ไม่มองมู่หรงอีเ้ ซวียน แต่ประคองท่านผู้เฒ่าเดินไปด้านใน กวนสีหลิน

ตามอยูข
่ า้ งขวาท่านผูเ้ ฒ่า ส่วนเหลิง่ ซวงก็ตามอยูด
่ ้านหลังเธอ

“อะ อะไร? เจ้าว่าอะไรนะ?”

หลังจากซูรวั ่ อวิ ๋นที่กำลังรับรองท่านเจ้าแคว้นไปนั ่งยังตำแหน่ งที่อาวุโสใน


เรือนได้ยน
ิ คำพูดองครักษ์ ผูน
้ ั ้น ก็ใบหน้าขาวซีดด้วยความตกใจ ร่างกายสัน

เทาโดยไม่รูต
้ ัว “เจ้าบอกว่าใครกลับมา? ใคร?”
“เป็นท่านผูเ้ ฒ่า ท่านผูเ้ ฒ่ากลับมาแล้วขอรับ!” องครักษ์ บอกอย่าง
ประหลาดใจ

ส่วนท่านเจ้าแคว้นที่นั่งดื่มชาอยูก
่ ็สังเกตเห็นท่าทางนางผิดปกติ จึงเลิกคิว

ขึ้นเล็กน้ อย แปลกใจนิ ดหน่ อยกับปฏิกิรย
ิ านางเวลานี้ ที่ต่ ืนตกใจและมีความ
ตื่นตระหนก

ปู่ตัวเองกลับมา นางควรดีใจไม่ใช่หรือ? ไยจึงโต้ตอบเช่นนี้ เล่า?


ตอนที่ 155 เจ้าเป็นใคร?

“ท่านผูเ้ ฒ่ากลับมาแล้วรึ? อยูท


่ ี่ไหนล่ะ?”

ได้ยน
ิ น้ำเสียง ท่านเจ้าแคว้นจึงมองไปตามทิศทางเสียง เมื่อเห็น ใบหน้าก็
เผยความแปลกใจ แค่ไม่กี่วน
ั นึ กไม่ถึงว่าเฟิ่ งเซียวจะอ่อนแอลงเช่นนี้ เลยรึ?
แม้แต่เดินยังไม่ไหว ซ้ำต้องให้คนประคองอีก?

“ท่านผูน
้ ำตระกูล นั ่งลงตรงนี้ ก่อนเถิด ท่านผูเ้ ฒ่ามาถึงประตูแล้ว เดีย
๋ วก็
เข้ามา” บุรุษสวมชุดขาวในมือถือพัดพับเอ่ยอย่างอ่อนโยน หลังจากประคอง
เขานั ่งลง สายตาก็มองไปที่ลานด้านนอก

เจ้าแคว้นมู่หรงป๋อมองเหล่าชายหนุ่มผูโ้ ดดเด่นข้างกายเฟิ่ งเซียว ในดวงตา


อันแหลมคมฉายแววครุ น
่ คิด หลังจากพินิจมองพวกเขาแวบหนึ่ งอย่างไร้
ร่องรอย ก็เบนสายตาออกไป

เมื่อซูรวั ่ อวิ ๋นเห็นองครักษ์ พวกนั ้นที่เฝ้าอยูข


่ า้ งกายเฟิ่ งเซียว ก็กัดฟันกรอด
เจ้าพวกนี้ ไม่เพียงไม่เห็นนางในสายตา ยังถือวิสาสะพาเฟิ่ งเซียวเข้ามาอีก
สมควรตายจริงๆ! เดิมนางเพียงคิดจะให้เฟิ่ งเซียวออกมาเดีย
๋ วเดียวก็กลับ
ไป เพื่อเลี่ยงให้คนมองออกถึงความระแคะระคาย ทว่าตอนนี้ …

ในเวลานี้ เอง เฟิ่ งจิว


่ ประคองท่านผู้เฒ่าเดินเข้ามา ด้านหลังมีคนกลุ่มหนึ่ ง
ตามมา
เมื่อเห็นเฟิ่ งจิว
่ ข้างกายท่านผูเ้ ฒ่า ซูรวั ่ อวิ ๋นก็สูดหายใจเข้า “ทำไมถึงเป็น
เจ้า! เจ้ามาอยูท
่ ี่นี่ได้เช่นไร?”

ผูห
้ ญิงคนนี้ ! นางไม่เคยลืมพิษสงที่ทำให้นางต้องอับอาย! ผูห
้ ญิงคนนี้ ที่มา
ลึกลับแปกลประหลาด ตอนนี้ ยังกล้ามาปรากฏตัวในจวนตระกูลเฟิ่ ง มา
โผล่อยูเ่ บื้องหน้า คิดว่าซูรวั ่ อวิ ๋นจะไม่ทำอะไรนางเลยจริงๆ รึ?

“เรียกคนเข้ามา! จับตัวนางให้ขา้ เสีย!” นางแผดเสียงลัน


่ ต้องการให้
องครักษ์ มาจับตัวเฟิ่ งจิว
่ ที่ด้านในนี้

ทว่าทุกคนไม่มีใครทำ เพราะไม่กล้าพอ ต่อให้เป็นคนโง่ก็ยงั เห็นว่าแม่นางที่


ผูกผ้าคลุมหน้านั ้นกำลังประคองท่านผูเ้ ฒ่าของพวกเขาอยู!่ ให้เข้าไปจับตัว
รึ? พวกเขาไม่คิดสัน
้ ถึงเพียงนั ้นหรอก

เฟิ่ งจิว
่ ไม่พูดไม่จา แค่มองนางด้วยสายตาแฝงรอยยิม
้ จางๆ

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งเห็น จึงส่งเสียงหึหนั กๆ พูดตะคอกว่า “องครักษ์ อยูไ่ หน!”

ชายหนุ่มแปดนายที่ยน
ื อยูข
่ า้ งกายเฟิ่ งเซียวราวกับคุณชายผูส
้ ูงศักดิก
์ ้าว
ออกหน้ามาพร้อมกันโดยไม่นัดหมาย ฝีเท้ามัน
่ คงท่าทางขึงขัง พวกเขาเข้า
แถวเรียงหนึ่ ง ประสานมือทำความเคารพด้วยท่าทางเหมือนๆ กัน น้ำเสียง
กังวานทรงพลังที่มีกลิน
่ อายพลังเร้นลับคละคลุ้งแฝงอยูด
่ ังออกมาอย่าง
เคารพยำเกรง

“ข้าน้ อยขอคารวะท่านผูเ้ ฒ่าขอรับ!”


ประโยคสัน
้ ๆ ไม่กี่คำกลับทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างตกอกตกใจ หลังจากทัง้ แปด
คนทำความเคารพ ก็ยน
ื ท่าตรงเรียบร้อย ท่าทีเอ้อระเหยไร้วน
ิ ั ยที่เดิมทีเคย
ปรากฏอยูบ
่ นร่างพวกเขาล้วนไม่เห็นแม้แต่น้อยในช่วงเวลานี้

ใบหน้าเคร่งขรึมมีไอสังหารที่รุนแรงน่าสะพรึง ท่วงท่าบนร่างแข็งแกร่ง
ดุรา้ ย ราวกับนั กรบกล้าตายที่เดินออกมาจากสนามรบ ย่างก้าวเป็น
แบบแผนเดียวกัน รวมถึงท่าทีแข็งแรงมีพลัง ล้วนทำให้เบื้องหน้าสว่างวาบ
และน่าตกตะลึงใจ

นี่ คือองครักษ์ ตระกูลเฟิ่ ง! เป็นกองอาจารย์ผูเ้ ก่งกาจที่ทำให้กองทัพแคว้น


ข้างเคียงต่างขวัญหนี ดีฝ่อ! กองทัพนั ้น ที่ทุกคนล้วนเป็นชายแกร่งใจกล้า
และยังเป็นเด็กหนุ่มที่โดดเด่นเช่นนี้ !

“จับตัวนางให้ขา้ !”

นิว
้ มือท่านผูเ้ ฒ่าชีไ้ ปยังซูรวั ่ อวิ ๋นที่สีหน้าขาวซีด หากแววตาที่เฉี ยบคมและ
คับแค้นใจสามารถฆ่าคนได้ นางคงตายไปไม่ต่ำกว่าร้อยรอบแล้ว

“ท่านพ่อ!”

ซูรวั ่ อวิ ๋นดึงสติกลับมาในขณะที่ตกใจ ปฏิกิรย


ิ าแรกคือมองหาที่พก
ั พิงอย่าง
เฟิ่ งเซียว เพราะกับท่านผูเ้ ฒ่า มีเพียงเฟิ่ งเซียวที่ปกป้องนางได้

แต่นางถูกลิขต
ิ ให้ต้องผิดหวัง
เพราะเวลานี้ เฟิ่ งเซียวกำลังมองสาวน้ อยผู้สง่างามที่สวมชุดกระโปรงสีขาว
ผูกผ้าคลุมหน้า และประคองท่านผูเ้ ฒ่าอยูด
่ ้วยความตะลึง ความคิดหนึ่ งผุด
ขึ้นในหัว ก่อนจะปริปากอย่างสัน
่ เครือ

“เจ้า เจ้าเป็นใครกัน?”
ตอนที่ 156 เปิดโปงตัวตน!

หลังทัง้ แปดคนตอบรับเสียงเข้ม สองคนในนั ้นก็สาวก้าวออกหน้า จับพลิก


แขนซูรวั ่ อวิ ๋นไว้ด้านหลัง แล้วคุมตัวนางมาตรงหน้าท่านผูเ้ ฒ่า

คราแรกทุกคนต่างตะลึงกับท่านผูเ้ ฒ่าที่สัง่ องครักษ์ จับตัวหลานสาว จาก


นั ้นค่อยมาฉงนกับการโต้ตอบของเฟิ่ งเซียวเวลานี้ ดังนั ้น พวกเขาจึงใช้
สายตาสำรวจจับจ้องบนร่างสาวน้ อยชุดขาวผู้นั้น และคาดเดาถึงตัวตนนาง

มู่หรงอีเ้ ซวียนเห็นเฟิ่ งชิงเกอที่ถูกจับพลิกแขนคุมตัวมาเบื้องหน้าท่านผูเ้ ฒ่า


ก็ขมวดคิว
้ เล็กน้ อยอย่างอดไม่ได้ คิดจะปริปาก กลับได้ยน
ิ คำพูดนั ้นที่เฟิ่ ง
เซียวถามออกมา เช่นนั ้น จึงทิง้ สายตาไว้บนร่างสาวน้ อยชุดขาว

เขาก็อยากรู ้ ว่านางเป็นใครกันแน่ ?

เฟิ่ งจิว
่ มองเฟิ่ งเซียวที่ท่าทางตื่นเต้นใจและรอบตาแดงน้ อยๆ เธอถอนใจ
เบาๆ ในใจ เอ่ยว่า “ท่านเดาออกแล้ว ไม่ใช่รเึ จ้าคะ?”

เขาไม่ใช่คนโง่เง่า ช่วงนี้ จวนตระกูลเฟิ่ งเกิดเรือ


่ งมากมายเพียงนี้ อีกทัง้ ตอน
นี้ ท่านผูเ้ ฒ่าก็กลับมา ซ้ำยังมีนางโผล่มาด้วย หากตอนนี้ ยงั ไม่ตอบโต้อะไร
เขาก็ไม่ใช่ท่านแม่ทัพใหญ่เฟิ่ งผูม
้ ีช่อ
ื เสียงเกรียงไกรแล้ว

“เจ้าคือชิงเกอลูกสาวข้า!”
น้ำเสียงเขาสะอึกสะอื้น ยื่นมือไปกุมมือเฟิ่ งจิว
่ ไว้ “ขอโทษ ขอโทษ พ่อไม่รู ้
เลยว่าคนข้างกายเป็นตัวปลอม…” นึ กถึงคำพูดที่ท่านผูเ้ ฒ่าบอกในวันนั ้น
ความโมโหโกรธาในตอนนั ้น และยังใบหน้านางที่ผูกผ้าคลุมหน้าไว้ตอนนี้
หัวใจก็บบ
ี รัดเจ็บปวดชัว่ ขณะ จึงร้องไห้โฮลัน
่ ขึ้นมาอย่างกลัน
้ ไว้ไม่อยู่

“ขอโทษ… พ่อไม่ดี พ่อไม่ดีเอง…”

ท่านแม่ทัพใหญ่ผูม
้ ีช่อ
ื เสียงโด่งดังทัว่ สารทิศ นึ กไม่ถึงว่าจะร้องไห้ราวกับ
เด็กน้ อย ท่าทีหลัง่ น้ำตาราวฝนพรำทำให้คนมองทัง้ ตะลึงและสะเทือนใจ

เมื่อครู เ่ ขาว่าอะไรนะ? สาวน้ อยที่ผูกผ้าคลุมหน้าเป็นชิงเกอลูกสาวเขารึ? งัน



คนที่ถูกจับกุมตัวไว้เป็นผูใ้ ดเล่า?

“ท่านลุงเซียว ท่านบอกว่านางเป็นใครนะขอรับ?”

น้ำเสียงมู่หรงอีเ้ ซวียนมีความสัน
่ เครือที่ไม่อาจกลัน
้ ไว้ เขามองสาวน้ อยชุด
ขาวที่ผูกผ้าคลุมหน้าด้วยความตื่นตกใจ ยากจะเชื่ออยูบ
่ า้ ง ซ้ำยังมีความตื่น
เต้นและปลื้มปิติ หัวใจพลันเต้นตึกตัก ความรู ส
้ ึกเช่นนั ้น ไม่อาจเอ่ยออกมา
ได้

“ฮือๆ… ลูกสาวข้า… ลูกข้า…”

เฟิ่ งเซียวร้องไห้คร่ำครวญด้วยความรู ส
้ ึกผิดที่บบ
ี รัดหัวใจ แต่เพราะร่างกาย
อ่อนแอ รับเรือ
่ งเช่นนี้ ไม่ไหว จึงร้องห่มร้องไห้เสียจนเป็นลมไป
“พวกเจ้าสองคน พาท่านพ่อข้าส่งกลับห้องไป” เฟิ่ งจิว
่ มองไปยังองครักษ์
สองสามนายที่มองด้วยดวงตาเบิกโพลงอยูข
่ า้ งๆ ก่อนจะสัง่ การเสียงเข้ม

“ขอรับ”

หลังจากขานเสียงรับตามสัญชาตญาณ จู่ๆ พวกเขาก็ผงะ มองหน้ากันแวบ


หนึ่ ง รู ส
้ ึกแปลกๆ นิ ดหน่ อย แต่ยงั คงเดินออกไปสองคน เพื่อส่งตัวเฟิ่ งเซียว
กลับไป

เวลานี้ เสียงแหบแห้งของท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งกลับดังขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไป


ด้วยอารมณ์ และมีกลิน
่ อายพลังเร้นลับเคลือบแฝง “ต่อหน้าทุกท่านทัง้
หลาย ณ ที่แห่งนี้ ข้าจะเล่าเรือ
่ งนี้ ให้ฟังเสียหน่ อย”

น้ำเสียงเขาชะงัก ชีท
้ ี่ซูรวั ่ อวิ ๋นพลางพูดว่า “นาง ไม่ใช่เฟิ่ งชิงเกอหลานสาวข้า
มาแต่ไหนแต่ไร! นางเป็นแค่เด็กสาวกำพร้าซูรวั ่ อวิ ๋นที่หลานสาวข้าเก็บกลับ
มาจากข้างถนนตอนเด็กๆ! หลานสาวข้าปฏิบต
ั ิกับนางสนิ ทสนมราวพีน
่ ้ อง
นางกลับวางแผนปลิดชีวต
ิ หลานข้า สวมรอยตัวตน แย่งชิงทุกสิง่ อย่าง!
และนี่ หลังถูกข้าจับได้ยงั ใช้ยาพิษทำร้ายข้า ผูห
้ ญิงคนนี้ ชัว่ ร้ายเลวทราม
แล้งน้ำใจไร้คุณธรรม!”

หลังฟังคำพูดนี้ ผูค
้ นต่างเอะอะอึกทึก พากันสูดลมหายใจ คิดว่าเรือ
่ งนี้ ชา่ ง
น่าเหลือเชื่อและน่าสะพรึงเหลือเกิน แม้แต่ตัวตนยังสวมรอย หากไม่มีใครรู ้
เห็น จวนตระกูลเฟิ่ งที่ใหญ่โตนี้ สุดท้ายจะไม่ตกอยูใ่ นเงือ
้ มมือนางได้เช่นไร?
“ฮะๆๆๆๆ… ฮะๆๆๆๆ!”

การหัวเราะร่าอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนล้วนตกใจ ก่อนจะมองไปยังหญิง


สาวท่าทางฟั่ นเฟือนผูน
้ ั ้น
ตอนที่ 157 ไร้ที่หลบซ่อน!

ถึงเวลานี้ เรือ
่ งไม่อาจหันหลังกลับ นางก็ไม่ต้องปิดบังอะไรอีก

ถึงเวลานี้ แล้ว สุดท้ายนางก็รู ้ ว่าทำไมครัง้ นั ้นที่พบกันบนถนน ถึงรู ส


้ ึกขัดตา
ขัดใจนางยิง่ นั ก

ในที่สุดก็รู ้ ว่าทำไมคนที่ส่งไปฆ่านาง ไม่เพียงพลาดท่า แม้แต่กองกำลังที่


นางลำบากตรากตรำบ่มเพาะมายังถูกทำลายไปด้วย

ที่แท้เป็นนาง! ที่แท้ตลอดมานางยังไม่ตาย!

เฟิ่ งชิงเกอเป็นเช่นไรนางก็รูด
้ ี ด้วยความสามารถนาง ไม่น่ามีฝีมือพอจะ
ทำลายสำนั กพิษโอสถได้ในคืนเดียว และยิง่ ไม่อาจมาช่วยท่านผูเ้ ฒ่าออกไป
จากจวน สิง่ เดียวที่มัน
่ ใจได้ คือนางมีคนคอยหนุนหลัง!

“ดึงผ้าคลุมหน้าเจ้าลงซิ? เจ้าเป็นเฟิ่ งชิงเกอไม่ใช่หรือ? ก็ดึงผ้าคลุมหน้าลง


มาสิ?”

นางมองเฟิ่ งจิว
่ อย่างปลุกปั่ น สายตานั ้นทัง้ บ้าคลัง่ และชัว่ ร้าย “ให้ทุกคนได้
เห็น ว่าสุดท้ายใบหน้าใต้ผา้ คลุมนั ้นใช่เฟิ่ งชิงเกอหรือไม่!”

เฟิ่ งจิว
่ มองนาง ดวงตาฉายประกายเย็นเยียบ ไม่สนใจคำพูดนั ้น แต่กล่าว
กับท่านผูเ้ ฒ่าว่า “ท่านปู่ ร่างกายท่านเพิง่ ดีข้น
ึ ไม่สามารถรับแรงกระตุ้น
มากเกินไปนั ก ท่านกลับเรือนก่อนเถอะเจ้าค่ะ! ที่นี่ยกให้ขา้ จัดการก็พอ”
“แม่หนูเฟิ่ ง…” ท่านผูเ้ ฒ่าไม่วางใจนิ ดหน่ อย กลัวนางรับมือไม่ไหว

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ที่นี่ขา้ จัดการได้” นางยิม


้ อ่อน ส่งสัญญาณให้เขาอย่าได้
กังวลใจ จากนั ้นค่อยเรียกคนรับใช้มาประคองท่านผูเ้ ฒ่ากลับไป

ทุกคนเห็นเช่นนี้ ต่างอยากรู อ
้ ยากเห็น ว่านางจะทำอะไร? ถึงไม่อาจให้ท่านผู้
เฒ่าอยูใ่ นเหตุการณ์ ได้?

มู่หรงอีเ้ ซวียนมองนาง ในใจสับสนอย่างมาก ตลอดเวลาก็หาโอกาสพูดไม่ได้


เลย

วันนี้ ท่านเจ้าแคว้นมู่หรงป๋อปล่อยให้ทุกคนเมินเฉยเสียเต็มที่ ช่วยไม่ได้ ใคร


ใช้ให้ความสนใจของทุกคนล้วนอยูก
่ ับเฟิ่ งชิงเกอตัวปลอมและตัวจริงเล่า?

“พวกเจ้าสองคน พานางออกไปนอกประตูจวน” แววตาเฟิ่ งจิว


่ มองผ่านร่าง
องครักษ์ สองนายที่จับซูรวั ่ อวิ ๋นอยู่ จากนั ้นค่อยหันตัวเคลื่อนก้าวเดินออกไป

ทัง้ สองเห็นท่าทาง ก็มองหน้ากันแวบหนึ่ ง ก่อนจะคุมตัวคนตามออกไป

หน้าประตูจวนตระกูลเฟิ่ ง เฟิ่ งจิว


่ นั ่งลงบนเก้าอีท
้ ี่องครักษ์ ยกมา ผูน
้ ำตระกูล
แต่ละท่านรอบๆ ต่างล้อมวงเข้ามาชมกันแน่ นขนั ด รวมถึงพวกองครักษ์ ที่
เดิมคอยอยูน
่ อกประตู แม้แต่มู่หรงป๋อยังตามมาอย่างรู ส
้ ึกแปลกใหม่ไปด้วย
นั ่งลงบนเก้าอีท
้ ี่คนรับใช้ยกมา มองเฟิ่ งจิว
่ ที่สงบเงียบสง่างามนั ้นด้วยแวว
ตาที่มีความสนอกสนใจ
“แบกใบหน้าข้ามานานเพียงนี้ เจ้าไม่เบื่อหน่ายบ้างรึ?”

มือหนึ่ งเท้าคาง สองขาซ้อนกันนั ่งไขว่หา้ ง ชัดเจนว่าท่าทางไม่ค่อยสละ


สลวยนั ก กลับทำให้คนรู ส
้ ึกถึงความเอาแต่ใจและเป็นธรรมชาติ

“ข้าเบื่อตัง้ นานแล้ว ใบหน้านี้ ทุกวันที่ขา้ เห็นล้วนรู ส


้ ึกสะอิดสะเอียนแทบ
ตาย!” ซูรวั ่ อวิ ๋นกล่าวอย่างมืดมน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรังเกียจ พลาง
ขัดขืน “ปล่อยข้านะ!”

องครักษ์ สองนายที่คุมตัวไว้ ไม่อาจปล่อยนางดิน


้ รนออกไปได้เป็นธรรมดา

“ปล่อยนางซะ นางหนี ไม่ได้แล้ว” เฟิ่ งจิว


่ ให้สัญญาณ ให้ทัง้ สองคนปล่อย
ตัวนาง

พอได้รบ
ั อิสระ ซูรวั ่ อวิ ๋นก็ฉีกหน้ากากบนใบหน้าลงมา แล้วโยนมันทิง้ ลงบน
พื้นอย่างแรง เผยให้เห็นใบหน้าดัง้ เดิม… เป็นหญิงงามอ้อนแอ้นคนหนึ่ ง

น่าเสียดาย แม้ใบหน้าบอบบางน่ารัก แต่หว


ั ใจกลับเป็นเช่นงูพษ

ผูน
้ ำตระกูลท่านหนึ่ งที่มุงดูอยูอ
่ ุทานว่า “เป็นการปลอมตัวที่ชาญฉลาดนั ก!
หน้ากากนั ่นติดถึงตรงลำคอและหลังใบหู มิน่าคนอื่นถึงมองไม่ออก”

มู่หรงอีเ้ ซวียนมองซูรวั ่ อวิ ๋นด้วยแววตาตกตะลึงเล็กน้ อย นึ กไม่ถึงว่าจะเป็น


นางจริงๆ…
อาจเพราะรู ส
้ ึกถึงสายตามู่หรงอีเ้ ซวียน ครัง้ แรกซูรวั ่ อวิ ๋นจึงรู ส
้ ึกอับอายและ
อดสู ถึงกับไม่กล้าแม้แต่จะมองไปทางเขา ด้วยกลัวจะเห็นแววตาที่ทำให้
นางรับไม่ได้

เฟิ่ งจิว
่ เห็นภาพเช่นนี้ ก็ยกมุมปากขึ้นน้ อยๆ ริมฝีปากสีชาดใต้ผา้ คลุมเปิด
ออกเบาๆ…
ตอนที่ 158 ตวัดกระบีต
่ ัดลิ้น!

“เจ้าว่า ข้าควรตอบแทนเจ้าเช่นไรดี?”

“หึ! คนที่ไร้สิน
้ กลิน
่ อายพลังเร้นลับและใบหน้าเสียโฉม ต่อให้เจ้ายังมีชว
ี ต
ิ อยู่
แล้วยังไงเล่า? ไม่สู้ตายไปซะยังดีกว่า!” นางแผดเสียงเย็นอย่างหยัง่ เชิง
แววตายินดียน
ิ ร้ายมองใบหน้าที่ผูกผ้าคลุมไว้ ก่อนจะมองยังมู่หรงอีเ้ ซวียน
ด้วยนั ยน์ ตาชัว่ ร้ายเหลือล้น

“เจ้ายังไม่รูอ
้ ก
ี รึ? เส้นเอ็นนางถูกข้าวางยาทำลายไปแล้ว ใบหน้าก็ถูกกรีด
รอย ใบหน้าโชกเลือดนั ้นถูกเฉื อนเปิดเนื้ อหนั งทีละรอยๆ น่าสยดสยองยิง่
กว่านางแม่มด หนำซ้ำ… เหอะๆๆๆ…”

นางหัวเราะเสียงเบาอย่างแปลกๆ สายตามีความบ้าคลัง่ “หนำซ้ำ ตอนแรก


ข้าให้คนนำนางไปขายยังหอนางโลม ไม่รูว้ า่ มีผูช
้ ายกี่คนมาเล่นด้วย… อ๊ะ!”

ยังไม่ทันสิน
้ สุดน้ำเสียง เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น ที่แท้ เฟิ่ งจิว
่ ที่เดิมทีนั่งอยูด
่ ึง
กระบีย
่ าวออกจากเอวเหลิง่ ซวง เดินไปตรงหน้านางไม่กี่ก้าว ปลายกระบีก
่ ็
กวัดแกว่งตัดลงที่ลิน
้ นาง

“ปากคนชัว่ ไม่อาจพูดดี ลิน


้ ไม่ต้องการก็ทิง้ เสีย”

ทุกคนลอบสูดหายใจ สำหรับคำพูดที่ซูรวั ่ อวิ ๋นเอ่ยมา เพราะเฟิ่ งจิว


่ ลงมือ
อย่างกะทันหัน พวกเขาถึงกับไม่สังเกตว่านางลงมือเช่นไร แค่เห็นลิน
้ อาบ
เลือดร่วงหล่นลงพื้น แล้วซูรวั ่ อวิ ๋นก็ปิดปากที่มีเลือดไหลไม่หยุดไว้
ส่วนองครักษ์ แปดนายที่เห็นภาพนี้ กลับมีดวงตาเป็นประกาย

พวกเขามองนางยืนถือกระบีย
่ าวในมือชีล
้ งพื้น ปลายกระบีม
่ ีเลือดหยด ชุด
ขาวสยายขึ้นเบาๆ ท่ามกลางสายลม กลิน
่ อายเยือกเย็นและเกียจคร้านบน
ร่าง ในสายตาพวกเขามันช่างน่าชื่นตาสบายใจอยูเ่ ช่นนั ้น โดยเฉพาะการ
ลงมือที่ทัง้ เถรตรงและหมดจด ยิง่ ทำให้ต่ ืนเต้นใจไม่สิน
้ สุด

ต้องยอมรับ ว่าแม้ใบหน้านางเสียโฉม แต่ท่าทางนั ้น ช่างเทียบกับคนทัว่ ไป


ไม่ได้เลยจริงๆ

หากคนเช่นนี้ เป็นนายหญิงพวกเขา ก็ไม่ใช่วา่ ยอมรับไม่ได้หรอกนะ

มู่หรงอีเ้ ซวียนเบิกดวงตากว้างด้วยความตกตะลึง เห็นสาวน้ อยชุดขาวลงมือ


อย่างโหดเหีย
้ ม ก็สะดุ้งตกใจ

นาง นางคือชิงเกอจริงรึ? เป็นสาวน้ อยผูอ


้ อ
่ นโยนนุ่มนวลที่จะอิงแอบอยูข
่ า้ ง
กายเขาจริงๆ รึ?

“อ๊า!”

ซูรวั ่ อวิ ๋นไม่มีลิน


้ แล้ว ในปากมีเลือดเอ่อล้น แม้แต่พูดยังไม่ชด
ั ทำได้เพียงส่ง
เสียงร้องอูอ
้ โี้ หยหวน

นางกระโจนมาหาเฟิ่ งจิว
่ ตรงหน้าคล้ายคนเสียสติ แต่ยงั ไม่ทันเข้าใกล้ เห็น
สายตานางหรีล
่ ง ในดวงตาฉายแววแปลกๆ เวลาต่อมาจึงเห็นกระบี่ยาวใน
มือโจมตีมา เพียงรู ส
้ ึกถึงพลังกระบีส
่ ะบัดผ่านเบื้องหน้า แล้วเสียงเสื้อผ้า
ขาดวิน
่ ก็ดังลอยตามมา

“อ๊า… อ๊าอ๊า…”

นางกรีดร้อง เสื้อผ้ากระจายลงพื้นเป็นชิน
้ ๆ ทัว่ ร่างหนาวเย็น สองแขนกอด
ร่างกายไว้หนาแน่ น คิดจะปกปิดเนิ นอกที่เผยออกมา ฟังเสียงสูดหายใจที่
ลอยมาข้างหูและเสียงหอบที่หยาบช้าเล็กน้ อย นางอับอายเสียจนอยากหา
หลุมลงไปหลบ

เหล่าผูน
้ ำตระกูลรอบๆ ล้วนเป็นพวกเข้าวัยกลางคน แม้ในบ้านมีภรรยาดี
สนมงาม แต่เมื่อเห็นเรือนร่างสตรีที่เปลือยเปล่าปรากฏอยูต
่ รงหน้า ต่อให้รู ้
ว่าฐานะพวกเขาไม่ควรมอง แต่กลับยังไม่ละสายตาออกไป

บ้างก็กระแอมไอโดยไม่รูต
้ ัว ใบหน้าชราภาพแดงขึ้นเล็กน้ อย กลับยังคง
เหลือบมองไปทางร่างอ้อนแอ้นขาวราวหิมะ ในเวลานี้ สุดท้ายก็รู ้ ว่าทำไม
เฟิ่ งชิงเกอถึงให้ท่านปู่นางกลับเรือนไปก่อน ที่แท้เป็นเพราะได้เตรียมภาพ
อันหอมหวานเร้าใจเช่นนี้ รอพวกเขาไว้อยู่

ไม่พูดไม่ได้วา่ วิธก
ี ารนี้ ชา่ งไร้ปราณี เสียจริง จะฆ่าคนแค่เล็งที่หว
ั แต่เห็นได้
ชัดว่านางรู ว้ ธ
ิ ท
ี รมานคน และการทรมานคนที่ชาญฉลาดที่สุดก็คือการ
ทรมานจิตใจ วิธน
ี ี้ นางแสดงลวดลาดได้งดงามยิง่ นั ก ทำให้ซูรวั ่ อวิ ๋นตายทัง้
เป็นยิง่ กว่าฆ่ากันตรงๆ เสียอีก
ท้ายที่สุด ภายใต้แสงแดด การเหยียดหยามที่ต้องทนรับสายตาเหล่าบุรุษทัง้
ร่างกายเปลือยเปล่า การทำร้ายจิตใจเช่นนี้ เป็นสิง่ ที่สตรีล้วนไม่อาจรับได้
ตอนที่ 159 น่าเศร้าสงสาร!

เฟิ่ งจิว
่ หมุนหันกระบีย
่ าวพลิกจับหลังมือ ยืนอยูเ่ บื้องหน้า เห็นซูรวั ่ อวิ ๋นสีหน้า
ขาวซีดร่างกายสัน
่ เทา ก็เอ่ยถามอย่างเฉื่ อยชา “เจ้าไม่สนหน้าตาแล้วไม่ใช่
รึ? ข้าว่าถ้าเจ้าไม่สวมอะไรเลยน่าจะดีวา่ ไม่ใช่หรือ?”

เห็นภาพนี้ ชายหนุ่มท่าทางลอยชายนายนั ้นในหมู่แปดองครักษ์ ก็น้ำลายสอ


อย่างอดไม่ได้ สองตาเป็นประกาย เอ่ยชมว่า “จิ!๊ คุณหนูใหญ่ กระบวนท่านี้
ช่างงดงามเหลือเกิน ยอดมากขอรับ! จิๆ
๊ รู ปร่างไม่ธรรมดาจริงๆ ผิวพรรณ
ขาวเนี ยนนั ก หากจะฆ่าเลยก็เสียดายแย่”

ได้ยน
ิ เช่นนั ้น เฟิ่ งจิว
่ ก็ยม
ิ้ อย่างอดไม่ได้ เหลือบมองไปทางคนผูน
้ ั ้น “เจ้าชอบ
รึ? งัน
้ ข้ายกนางให้เจ้าเป็นรางวัล?”

ฟังคำพูดนี้ ชายหนุ่มผูน
้ ั ้นก็ตกใจ บ่ายมือรัวๆ “ไม่ต้องขอรับ ไม่ต้อง ข้าต้อง
รักษาตัวไว้ให้บริสุทธิด
์ ัง่ หยกเพื่อเจ้าสาวในอนาคตขอรับ”

มู่หรงอีเ้ ซวียนมองซูรวั ่ อวิ ๋นที่ขดตัวสัน


่ เทาอยูบ
่ นพื้นแวบหนึ่ ง ก่อนจะมอง
เฟิ่ งจิว
่ อย่างทนไม่ได้นิดหน่ อย

“พอแล้ว ชิงเกอ”

เฟิ่ งจิว
่ หันมอง ดวงตาใสวาววับมีรอยยิม
้ “พอแล้วรึ? นี่ ขา้ ยังไม่ได้ทำอะไร
นางเลย! จะให้พอได้อย่างไรเล่า?” ระหว่างที่กำลังพูด ก็หมุนกระบีค
่ มในมือ
โจมตีหาซูรวั ่ อวิ ๋นที่ขดตัวอยู่ ฟันลงบนร่างจนเป็นรอยเลือด
“อ๊ะ…”

“ชิงเกอ…”

“หุบปาก!” เธอแผดเสียงเย็น พลางมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “นี่ เป็นเรือ


่ ง
ในจวนตระกูลเฟิ่ งข้า หวังว่าท่านอ๋องสามจะไม่ก้าวก่าย”

สิน
้ สุดน้ำเสียง กระบีค
่ มในมือก็แทงลงไปบริเวณต้นขา เพียงได้ยน
ิ เสียงสวบ
ขณะที่เสียงกรีดร้อนดังระงม เลือดก็กระเซ็นลงพื้น

“พวกนี้ ล้วนคืนแก่เจ้า!”

เหล่านี้ ล้วนเป็นสิง่ ที่เธอทวงแค้นคืนแทนเฟิ่ งชิงเกอ! เธอรับปากว่าจะต้อง


ให้นางคืนกลับมาเป็นเท่าตัว!

หลังจากซูรวั ่ อวิ ๋นที่ขดตัวอยูไ่ ด้ยน


ิ คำพูดของมู่หรงอีเ้ ซวียน ดวงตาก็สัน
่ ไหว
น้ อยๆ ก่อนจะเผยรอยยิม
้ ที่ดูไม่ได้ยงิ่ กว่าร้องไห้ออกมา ก้มหัวลง ยื่นมือ
เข้าไปในผม ดวงตาฉายแววชัว่ ร้าย

“อ๊ะ!”

ซูรวั ่ อวิ ๋นเก็บกลัน


้ ความเจ็บรุ นแรงบนขา พลันยืนขึ้นกระโจนหาเฟิ่ งจิว
่ ปิ่ น
ปักผมสีดำม่วงในมือแทงออกไปอย่างดุรา้ ย ราวกับโอบกอดไว้ซ่ึงความคิดที่
จะสิน
้ ใจไปพร้อมๆ กัน
“ระวัง!”

มู่หรงอีเ้ ซวียนพลันได้สติมาคุ้มกันอยูเ่ บื้องหน้าเฟิ่ งจิว


่ ขณะเดียวกันก็สะบัด
ฝ่ามือกระแทกซูรวั ่ อวิ ๋นกระเด็นออกไปตามสัญชาตญาณ

“อัก
่ !”

ผัวะ!

นางกระอักเลือดออกมา ทัง้ ร่างล้มลงบนพื้นอย่างน่าอับอาย มองมู่หรง


อีเ้ ซวียนด้วยลมหายใจรวยริน นั ยน์ ตามีรอยยิม
้ โล่งอก เพื่อผูช
้ ายคนนี้
สุดท้ายก็จบได้ไม่สวยนั ก แต่เขากลับไม่เคยมีนางอยูใ่ นหัวใจ

นางยกมือขึ้นตบลงบนกะโหลกศีรษะตัวเองดังผัวะท่ามกลางสายตาตก
ตะลึงของเขา เพื่อจบชีวต
ิ ที่น่าเศร้านี้ …

เฟิ่ งจิว
่ เหลือบมองมู่หรงอีเ้ ซวียนที่ขวางอยูด
่ ้านหลังตัวเองแวบหนึ่ ง ก่อนจะ
หันมององครักษ์ ทัง้ แปดนาย เอ่ยว่า “จัดการศพนางซะ” ต้องยกประโยชน์
ให้นางจริงๆ เธอยังเล่นไม่หนำใจก็ตายเสียแล้ว

เธอถึงจะมองยังเหล่าท่านผูน
้ ำตระกูล และเจ้าแคว้นมู่หรงป๋อที่นั่งชมการ
แสดงอยู่ เอ่ยเสียงดังว่า “วันนี้ ละเลยทุกท่านไป ขอท่านทัง้ หลายอย่าได้ถือ
โทษ วันหน้าท่านพ่อข้าร่างกายดีข้น
ึ จะเชิญทุกท่านมาเพื่อไถ่โทษอย่าง
แน่ นอน”
“เหอะๆ คุณหนูเฟิ่ งกล่าวเกินไปแล้ว วันนี้ จวนตระกูลเฟิ่ งเกินเรือ
่ งเช่นนี้
พวกเราทุกคนก็รูแ
้ จ้งดี ดังนั ้น จะละเลยหรือไม่ก็ไม่เป็นไรหรอก”

“ถูกต้อง คุณหนูเฟิ่ ง ในเมื่อลงโทษหญิงชัว่ แล้ว ก็รบ


ี เข้าไปดูท่านพ่อเถิด
พวกเราต้องขอตัวก่อน วันหลังจะมาเยีย
่ มเยียนอีก”

พวกเขาว่า… ก่อนจะประสานมือบอกลาจากไปกันทีละท่านๆ

มู่หรงอีเ้ ซวียนมองเฟิ่ งจิว


่ กำลังจะพูด ก็เห็นนางขยับก้าวเดินเข้าไปในจวน…
ตอนที่ 160 ตัวตนภูตหมอ!

เขากำลังจะตามไป ก็เห็นเหลิง่ ซวงมาขวางอยูต


่ รงหน้า

“ท่านอ๋องสาม วันนี้ จวนตระกูลเฟิ่ งยังมีเรือ


่ งมากมายต้องจัดการ ไม่สะดวก
รับแขก เชิญท่านกลับไปเถิด!”

หลังจากมองเขาแวบหนึ่ ง เหลิง่ ซวงก็ตามหลังเฟิ่ งจิว


่ เดินเข้าไปด้านใน ไม่
สนใจมู่หรงอีเ้ ซวียนที่นิ่งงันอยูท
่ ี่เดิมโดยสิน
้ เชิง

องครักษ์ ตระกูลเฟิ่ งข้างๆ ทัง้ แปดนายกลับมองด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความ


สนใจ ตามที่พวกเขารู ม
้ า มู่หรงอีเ้ ซวียนผูน
้ ี้ เป็นคู่หมัน
้ ของคุณหนูใหญ่ แต่ดู
สถานการณ์ เดาว่าอีกไม่นานคงไม่ใช่อก
ี แล้ว

“พวกเจ้าเข้ามา จัดการศพนี้ เสีย!” องครักษ์ นายหนึ่ งเรียกทหารอารักขา


มาสองสามคน ให้พวกเขาจัดการสถานที่ ส่วนตัวเองก็ก้าวยาวเดินไปด้าน
ใน

“อีเ้ ซวียน” มู่หรงป๋อที่นั่งบนราชรถเรียกขึ้น

“ขอรับเสด็จพ่อ” เขามายังเบื้องหน้ามู่หรงป๋อ ขานเรียกทัง้ หลุบตาลงน้ อยๆ

“กลับวังกันเถอะ พ่อมีเรือ
่ งจะพูดกับเจ้า” มู่หรงป๋อมองลูกชายผู้แสนโดด
เด่นเป็นที่สุด รู ว้ า่ วรยุทธ์เขาในอนาคตจะสูงกว่าตนแน่ นอน ด้วยเหตุนี้
ตัง้ แต่เล็กจึงตัง้ ตารอคอยเขาที่สุด
“ขอรับ” มู่หรงอีเ้ ซวียนขานรับ พลิตตัวขึ้นม้า มองที่จวนตระกูลเฟิ่ งแวบหนึ่ ง
ถึงจะลาจากตามไป

ในจวนตระกูลเฟิ่ ง

ท่านผูเ้ ฒ่า เฟิ่ งจิว


่ และกวนสีหลิน
่ ล้วนอยูใ่ นห้องเฟิ่ งเซียว เวลานี้ หลังจาก
ท่านหมอวัยกลางคนจับชีพจร ก็ส่ายหน้าถอนใจ “ท่านผูเ้ ฒ่า คุณหนูใหญ่
ร่างกายท่านผูน
้ ำตระกูลทรุ ดโทรมร้ายแรงยิง่ นั ก ทักษะข้าไม่ชำนาญ จึงไม่
สามารถพอ”

ท่านผูเ้ ฒ่าฟังก็ขมวดคิว
้ แน่ น สีหน้าหม่นหมอง ความกังวลในดวงตากลับไม่
อาจปกปิด

“เจ้าออกไปก่อนเถอะ!” เฟิ่ งจิว


่ ให้สัญญาณ ให้ท่านหมอออกไปก่อน

“ท่านปู่ไม่ต้องกังวล ท่านพ่อจะไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าค่ะ” เธอมาปลอบโยน


อยูข
่ า้ งกายท่านผูเ้ ฒ่า จากนั ้นค่อยนั ่งลงข้างเตียง แล้วใช้มือหนึ่ งจับชีพจร
เขา

“แม่หนูเฟิ่ ง หลาน…”

ท่านผูเ้ ฒ่าเห็นท่าจับชีพจรด้วยความชำนาญของนาง จึงอดไม่ได้ที่จะตะลึง


ไปพักหนึ่ ง นึ กถึงหลายวันนี้ ที่นางคอยตรวจร่างกายเขา ความเคลือบแคลง
ก็ผุดขึ้นมาในใจอีกครัง้ อย่างช่วยไม่ได้
หลังจับชีพจร เธอก็หยิบเข็มเงินมากางออก จากนั ้นค่อยมองที่ท่านผูเ้ ฒ่า
แล้วเผยรอยยิม
้ ออกมา “ท่านปู่คงจะเคยได้ยน
ิ ชื่อภูตหมอนะเจ้าคะ?”

“เคยได้ยน
ิ สิ เล่ากันว่าต่อให้เป็นคนที่เหยียบเข้าวังยมบาล เขาก็สามารถ
ช่วยกลับมาได้…”

น้ำเสียงเขาชะงักลง เหมือนนึ กอะไรออก จึงเบิกดวงตากว้างโพลงอย่างตื่น


ตะลึง “แม่หนูเฟิ่ ง หลาน หลานหมายความว่า…”

“อืม เป็นอย่างที่ท่านปู่คิด” เธอขยิบตาไปทางเขา “เก็บเป็นความลับด้วยนะ


เจ้าค่ะ”

ท่านผูเ้ ฒ่าเบิกตาโตด้วยความตกใจ ทัง้ อึ้งทัง้ ยินดี รู ส


้ ึกเหลือเชื่อ และยากจะ
เป็นไปได้…

ภูตหมอ?

หลานสาวเขาเป็นภูตหมอ? นี่ นี่ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? เป็นเรือ


่ งจริงรึ?

“สีหลิน
่ ที่นางพูดเป็นเรือ
่ งจริงรึ?” ท่านผูเ้ ฒ่ามายังข้างกายกวนสีหลิน
่ จับ
แขนเขาพลางถามด้วยความตื่นเต้น

“แหะๆ ท่านปู่ เป็นเรือ


่ งจริงขอรับ มาเถอะ ข้าจะประคองท่านไปนั ่งด้านนั ้น
แล้วเล่าเรือ
่ งราวให้ท่านฟังเองขอรับ” กวนสีหลิน
่ ฉี กยิม
้ พยุงท่านผูเ้ ฒ่ามา
นั ่งลงข้างโต๊ะนอกห้อง ก่อนจะบอกเรือ
่ งราวกับเขา
ส่วนในห้อง เฟิ่ งจิว
่ เริม
่ ใช้เข็มเงินรักษาท่านพ่อ ประมาณสิบห้านาทีต่อมา
ถึงจะเก็บของเดินออกมา ก็เห็นท่านผูเ้ ฒ่ามองเธอด้วยสองตาเป็นประกาย
แววตานั ้น ราวกับกำลังจับจ้องทรัพย์สมบัติทอแสงอร่าม มองเสียจนเธอ
ขนลุกตัง้ ขึ้นมา

“ท่านปู่ ท่านไม่เป็นอะไรนะเจ้าคะ?”

“แม่หนูเฟิ่ ง หลานปิดบังเสียจนทำให้ปู่ทุกข์ใจนั ก!”

“เหอะๆ หลานไม่มีโอกาสบอกไม่ใช่หรือเจ้าคะ?” เธอยิม


้ หน้าเหยเก รู ส
้ ึกผิด
อยูบ
่ า้ ง เพราะเดิมทีก็ไม่คิดจะบอกพวกเขาหรอก
ตอนที่ 161 ส่งมอบป้ายประจำตระกูลเฟิ่ ง!

ท่านผูเ้ ฒ่าจัดแจงท่าทาง กล่าวอย่างจริงจังว่า “หลานวางใจเถอะ ปู่จะเก็บ


ความลับนี้ ไว้”

เขาเข้าใจดี ว่าหากตัวตนภูตหมอของนางแพร่งพรายออกไปจะทำให้
ครึกโครมเพียงใด ตอนนี้ สำหรับคนด้านนอก คนส่วนใหญ่ต่างคาดเดาว่าภูต
หมอเป็นคนแคว้นอื่น หากรู ว้ า่ ภูตหมอคือคุณหนูใหญ่จวนตระกูลเฟิ่ ง จะมี
เหตุรา้ ยตามมาเป็นธรรมดา

“หลานกับอีเ้ ซวียนทัง้ สองคน…”

ถึงเขาจะแก่ แต่ก็ไม่เลอะเลือน จึงมองออกถึงความเฉยชาที่นางมีต่อ


อีเ้ ซวียนหลังจากกลับมาครัง้ นี้ ได้เป็นปกติ เมื่อก่อนแม่หนูติดเขามาก แต่
ตอนนี้ … เฮ้อ!

ฟังคำพูดนี้ ดวงตาเธอฉายแววเล็กน้ อย เอ่ยว่า “เรือ


่ งแต่งงานก็หาเวลา
ยกเลิกเสียเถอะเจ้าค่ะ!”

“ยกเลิก? หลานพูดจริงรึ?”

ท่านผูเ้ ฒ่าเฟิ่ งนิ่ งไปน้ อยๆ “อีเ้ ซวียน เด็กคนนั ้นแม้เป็นท่านอ๋อง แต่พวกเรา
เห็นเขาเติบโตมาแต่เล็ก ไม่วา่ จะพูดถึงด้านไหนๆ ในแคว้นแสงสุรย
ิ น
ั นี้ ล้วน
ไม่มีใครเทียบเทียม หลานต้องการยกเลิกงานแต่งนี้ จริงรึ?”
“อืม จะยกเลิกเจ้าค่ะ” เธอบอกอีกครัง้ น้ำเสียงแน่วแน่ อย่างมาก

ฟังเช่นนี้ ท่านผูเ้ ฒ่าก็ทำอะไรไม่ได้ จะไม่บงั คับนาง จึงบอกว่า “ในเมื่อหลาน


ยืนกรานยกเลิก งัน
้ วันหลังปู่จะเข้าวังไปหารือกับท่านเจ้าแคว้นเสียหน่ อย”

“เจ้าค่ะ” เธอพยักหน้ารับ

และในเวลานี้ เหลิง่ ซวงที่เฝ้าอยูน


่ อกประตูก็พูดเข้ามาว่า “นายท่าน
องครักษ์ แปดคนนั ้นคอยอยูน
่ อกเรือน บอกว่าอยากพบท่านผูเ้ ฒ่ากับท่าน
เจ้าค่ะ”

ทุกคนในห้องมองหน้ากันแวบหนึ่ ง ถึงจะเดินออกไป

ประตูหอ
้ งเปิดออก เห็นทัง้ แปดคนที่บา้ งนั ่งบ้างยืนอยูใ่ นสวนรวมตัวจัดแถว
เรียงหนึ่ งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะคารวะด้วยความนอบน้ อม “ข้าน้ อยคาราวะ
ท่านผูเ้ ฒ่า คุณหนูใหญ่!”

“มีเรือ
่ งอะไรรึ?” ท่านผูเ้ ฒ่าถาม สายตามองผ่านบนร่างพวกเขาทัง้ แปดคน

“ข้าน้ อยแค่อยากถาม ว่าท่านผูเ้ ฒ่าจะจัดการกับพวกเราเช่นไร? ให้พวกเรา


อยูต
่ ่อ หรือกลับไปก่อนขอรับ?” ชายหนุ่มชุดดำเอ่ยถาม สายตามองที่ท่านผู้
เฒ่า

ท่านผูเ้ ฒ่ามองเฟิ่ งจิว


่ แวบหนึ่ ง ชะงักไปสักพัก ก็บอกกับพวกเขาว่า “พวก
เจ้าอยูก
่ ่อนเถอะ!”
“ขอรับ” พวกเขาขานรับ มองไปยังเฟิ่ งจิว
่ ดวงตาทัง้ สำรวจและพินิจมอง
นางอย่างไม่ปกปิดแม้แต่น้อย

เฟิ่ งจิว
่ ชำเลืองมองพวกเขา จากนั ้นจึงกล่าวกับท่านผู้เฒ่า “ท่านปู่ หลานจะ
ไปหาคนรับใช้คุยธุระนิ ดหน่ อย ตรงนี้ ท่านพ่อมีพช
ี่ ายคอยเฝ้าคงไม่มีปัญหา
ท่านก็กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะเจ้าค่ะ!”

“ได้ ไปเถอะ!” ท่านผูเ้ ฒ่าบอก เห็นนางสาวก้าวออกไป พลันนึ กอะไรขึ้นได้


จึงรีบร้อนเรียกนางไว้ “แม่หนูเฟิ่ ง รอก่อน”

เฟิ่ งจิว
่ ที่เดินออกไปสองก้าวหันตัวกลับมามอง ก็เห็นเขาหยิบแผ่นป้ายชิน

หนึ่ งยื่นมา

“นี่ คือป้ายประจำตระกูลเฟิ่ ง เห็นป้ายเหมือนเห็นผูน


้ ำ ไม่เพียงสามารถ
บัญชาการองครักษ์ ยังสามารถสัง่ การกองทัพตระกูลเฟิ่ งเราได้ด้วย จากนี้
ไปป้ายนี้ ส่งต่อให้หลานแล้ว ใช้มันดีๆ ล่ะ”

เห็นภาพเช่นนี้ ท่าทางแปดคนนั ้นก็แปลกไป นึ กไม่ถึงว่าท่านผู้เฒ่าจะส่ง


ป้ายประจำตระกูลให้เช่นนี้ และวางใจที่จะยกทัง้ ตระกูลเฟิ่ งไว้ในมือคุณหนู
ใหญ่?

เฟิ่ งจิว
่ ก็แปลกใจอยูบ
่ า้ ง เอ่ยถามว่า “ของชิน
้ นี้ มาอยูก
่ ับท่านปู่ได้เช่นไร? ไม่
ได้อยูก
่ ับท่านพ่อทางนั ้นรึเจ้าคะ?”
“เหอะๆ พ่อเจ้านั ้นเป็นลูก ส่วนปู่นี้เป็นพ่อ เจ้านี่ ถึงจะมีประโยชน์ มากกว่า”
ท่านผูเ้ ฒ่าลูบเคราพลางเอ่ยอย่างภูมิใจ

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ มุมปากเฟิ่ งจิว
่ ก็ยกขึ้น “มีของเช่นนี้ อยูใ่ นมือ ท่านปู่ยงั กังวล
ว่าองครักษ์ จะตกอยูใ่ นมือซูรวั ่ อวิ ๋นอีกรึเจ้าคะ?”

“เหอะๆ หลานก็เป็นสมบัติ แน่ นอนว่าจะตกอยูใ่ นมือผู้อ่น


ื ไม่ได้ ยิง่ ไปกว่านั ้น
ถึงป้ายนี้ จะสามารถบัญชาการองครักษ์ ได้ แต่ที่ยงิ่ สำคัญกว่าคือการยอมรับ
จากพวกองครักษ์ ” เขามองทัง้ แปดคนนั ้นอย่างมีความนั ยชีแ
้ นะ ดวงตาเผย
รอยยิม
้ ชาญฉลาด

เขาเชื่อ ว่าด้วยฝีมือแม่หนูเฟิ่ ง จะต้องทำให้พวกเขาแต่ละคนต่างยินยอม


พร้อมใจสวามิภักดิต
์ ่อนางแน่ นอน!
ตอนที่ 162 ข้าจะถอนหมั้น!

เฟิ่ งจิว
่ ยิม
้ อย่างอดไม่ได้ สายตากวาดมองแปดคนนั ้นที่มองมา แล้วเอ่ยว่า
“หลานจะเก็บป้ายไว้ ส่วนพวกเขา รอหลานว่างๆ ค่อยว่ากัน” สิน
้ สุดน้ำเสียง
ก็เคลื่อนก้าวเดินออกไป

เธอที่กลับมาถึงจวนตระกูลเฟิ่ งลงมือสะสางคนที่ซูรวั ่ อวิ ๋งทิง้ ไว้ เวลาสัน


้ ๆ
แค่สามวัน ก็จัดระเบียบภายในจวนทัง้ หมดใหม่ และในเวลาสามวันนี้ ร่าง
กายเฟิ่ งเซียวก็ค่อยๆ ฟื้ นตัวขึ้นมา

เช้าตรู ว่ น
ั นี้ เฟิ่ งจิว
่ รำไทเก๊กอยูใ่ นสวน เห็นเหลิง่ ซวงเดินเข้ามา “นายท่าน
ท่านอ๋องสามมาหา บอกว่าอยากพบท่าน ท่านผู้เฒ่าจึงให้ท่านไปพบเจ้าค่ะ!”

เธอเก็บมือลงถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะบอกว่า “รู แ


้ ล้ว ข้าเปลี่ยน
เสื้อผ้าค่อยออกไป” ระหว่างพูดก็เดินเข้าไปในห้อง ฝีเท้ากลับชะงัดลง ถาม
ว่า “จริงด้วย หลายวันนี้ พช
ี่ ายข้าอยูต
่ ลาดมืดเป็นเช่นไรบ้าง?”

“คุณชายสบายดีเจ้าค่ะ นายท่านไม่ต้องกังวล ทางตลาดมืดด้านนั ้นข้ากำชับ


ไปแล้วเจ้าค่ะ”

“อืม งัน
้ ก็ดี” นางถึงจะพยักหน้า หลังจากเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดก็เดินออกมา
พาเหลิง่ ซวงไปยังห้องโถงด้านหน้า
ในห้องโถงด้านหน้า

“อีเ้ ซวียนเอ๊ย! ข้ารู ว้ า่ เจ้าเก่งกาจนั ก และข้าก็พอใจเจ้ามาก แต่แม่หนูเฟิ่ ง


พูดถึงเพียงนี้ ข้าเป็นแค่ปู่ ปกติก็พูดอะไรไม่ได้มาก ดังนั ้น วันนี้ ขา้ จึงบอกเจ้า
ไว้ก่อนเสียหน่ อย วันหน้าข้าจะเข้าวังไปกราบเรียนกับท่านเจ้าแคว้นว่าจะ
ยกเลิกการแต่งงานของพวกเจ้า”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ มู่หรงอีเ้ ซวียนก็มองเขา กล่าวว่า “ท่านปู่เฟิ่ งขอรับ ท่านอย่าเพิง่
เข้าวังไปก่อน รอข้าคุยกับชิงเกอแล้วค่อยว่ากันนะขอรับ!”

วันนั ้นเป็นเขาที่อยากยกเลิกงานแต่ง ตอนนี้ กลับเป็นนางที่อยากยกเลิก


เพราะเขาจำนางไม่ได้ จึงโกรธเคืองเขารึ?

“ท่านปู่”

เสียงหนึ่ งลอยเข้ามาจากด้านนอก มู่หรงอีเ้ ซวียนหันกลับไปมอง พอเห็น


สายตาก็หรีล
่ งเล็กน้ อย

สาวน้ อยชุดขาวเดินย้อนแสงเข้ามา ท่วงท่าสละสลวย กลิน


่ อายประกายสง่า
งามทำให้ทัว่ ร่างดูงดงามราวนางฟ้า แต่เมื่อเห็นใบหน้านั ้น ความตื่นตาก่อน
หน้านี้ กลับสูญสลายตามไปอย่างไร้รอ
่ งรอย

นั ่นคือใบหน้าที่เต็มไปด้วยแผลเป็น มองไม่รูปลักษณ์ เดิมไม่ออก ผิวหนั งบน


ใบหน้าแทบจะถูกทำลายสิน
้ น่าสยดสยองยิง่ นั ก ขนาดเขาเห็น หัวใจยังห่อ
เหีย
่ วอย่างอดไม่ได้
มีทัง้ ความเจ็บปวด ความสงสาร ความตกใจและความตกตะลึง

เขาไม่เคยรู ้ ว่าใบหน้านางจะเสียโฉมไปหมดเช่นนี้ …

“แม่หนูเฟิ่ ง เจ้ามาแล้วรึ?”

ท่านผูเ้ ฒ่ามองนาง ดวงตาหรีล


่ ง เผยรอยยิม
้ ออกมา เขายืนตัวขึ้นมองไปที่
มู่หรงอีเ้ ซวียน เอ่ยว่า “พวกเจ้าสองคนลองคุยกันดีๆ เถิด!” ระหว่างที่พูด
ก็เดินออกไปก่อน

“ชิงเกอ พวกเราแต่งงานกันเถอะ!” เขามองนาง พลางบอกเจตนารมณ์ ออก


มา

ฟังเช่นนี้ เฟิ่ งจิว


่ ก็เหลือบมองเขาแวบหนึ่ ง กล่าวว่า “หรือท่านปู่ยงั ไม่ได้บอก
ท่าน ว่าข้าต้องการถอนหมัน
้ ?” เธอเดินมานั ่งลงตรงตำแหน่ งที่นั่งอาวุโส
แล้วคนรับใช้ก็ยกน้ำชามาให้

“ข้าไม่สนใจที่ใบหน้าเจ้าเสียโฉม” เขานึ กว่า เพราะใบหน้านางเสียโฉมถึง


อยากถอนหมัน
้ อันที่จริง เมื่อก่อนนางเชื่อใจเขา ความรู ส
้ ึกเช่นนั ้น แค่บอก
จะตัดใจก็ตัดเลยได้อย่างไรเล่า?

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ เฟิ่ งจิว
่ ก็ยม
ิ้ “ข้าว่าท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้จะถอนหมัน

เพราะใบหน้าเสียโฉม แต่เพราะข้าเพิง่ รู ต
้ ัวว่าไม่ได้รก
ั ท่าน ดังนั ้นจึงอยาก
ถอนหมัน
้ ”
น้ำเสียงเธอเฉยเมย ท่าทางมีความสง่างามและเฉื่ อยชา ไม่มีความ
กระวนกระวายและน้ อยเนื้ อต่ำใจที่ต้องเผยใบหน้าเสียโฉมต่อหน้าเขาเลย
สักนิ ด

“ข้าไม่เชื่อ”

แววตาเขามองมัน
่ ที่นาง “ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าไม่รก
ั ข้า ความรู ส
้ ึกตัง้ หลายปีนั้น
ของพวกเรา แค่บอกว่าไม่รก
ั ก็จะไม่รก
ั กันได้อย่างไรเล่า?”

เฟิ่ งจิว
่ มองเขาแปลกๆ บอกว่า “เดิมทีท่านก็คิดจะถอนหมัน
้ ไม่ใช่ร?ึ แล้วมัน
มีอะไรต่างกันรึ?”
ตอนที่ 163 รับมือกับหมัด!

“นั ่นไม่เหมือนกัน” แววตาที่เคลือบแฝงด้วยความรู ส


้ ึกลึกซึ้งมองนิ่ งที่นาง
“เพราะนั ่นเป็นซูรวั ่ อวิ ๋น ไม่ใช่เจ้า”

“หึ!”

เธอหลุดหัวเราะออกมา กระตุกปากพูดว่า “ผูช


้ ายคนไหนไม่รก
ั ความ
สวยงามเล่า? อย่าได้บอกข้า ว่าตอนที่เห็นข้าในป่าต้นท้อท่านไม่ตะลึง? ตอน
ที่พบข้าบนถนนท่านไม่ประหลาดใจ? หากคำพูดบุรุษน่าเชื่อถือ แม่หมูก็ปีน
ต้นไม้ได้”

“ชิงเกอ…”

หลังจากเธอดื่มน้ำชาก็ยน
ื ขึ้น เดินมาตรงหน้าเขา เอ่ยว่า “เรือ
่ งแต่งงานข้า
ยกเลิกแน่ นอน ไม่ใช่เพื่อปรึกษา แต่เพื่อบอกกล่าว ให้ท่านได้เตรียมใจ” สิน

สุดน้ำเสียง เธอก็เรียกขึ้น “คนรับใช้ ส่งแขก!”

คนรับใช้ด้านนอกเดินเข้ามา บอกกับมู่หรงอีเ้ ซวียนว่า “ท่านอ๋องสาม เชิญ


ขอรับ!”

มู่หรงอีเ้ ซวียบเงียบไป หลังจากมองลึกที่นาง ก็เอ่ยว่า “ข้าจะข้าจะตามหายา


มารักษาแผลเป็นเพื่อเจ้า ข้าจะทำให้เจ้ารู ้ ว่าหัวใจที่ขา้ มีให้เจ้าไม่เคย
เปลี่ยนแปลง” พูดจบ ถึงจะสาวก้าวเดินออกไป
เฟิ่ งจิว
่ ส่ายหน้า ถอนใจเบาๆ อยูใ่ นใจ ‘น่าเสียดาย เฟิ่ งชิงเกอที่รก
ั เขาคนนั ้น
ตายไปแล้ว ต่อให้เขาทำอะไรมากมายไปก็เปล่าประโยชน์ …’

จากนั ้นเธอก็เดินออกจากห้องโถงหน้า ไปยังเรือนด้านหลัง มาถึงลานเรือน


เฟิ่ งเซียว เห็นท่านผูเ้ ฒ่ากับท่านพ่อกำลังจิบชาพูดคุยกัน จึงขานเรียก “ท่าน
ปู่ ท่านพ่อ”

“ชิงเกอ ได้ยน
ิ ว่าอีเ้ ซวียนมา พวกเจ้าสองคนคุยกันเป็นเช่นไรบ้าง?” เฟิ่ ง
เซียวถามอย่างเป็นห่วง เห็นใบหน้าลูกสาวถูกทำลาย หัวใจก็หดหูเ่ จ็บปวด

ลูกสาวเขา ใบหน้านั ้นเสียโฉมเช่นนี้ …

ล้วนเป็นการละเลยหน้าที่ของเขาในฐานะพ่อ ที่ไม่ได้ปกป้องลูกสาวให้ดี ถึง


ทำให้นางลำบากมากมายเพียงนั ้น

“ไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านปู่ ท่านหาเวลาไปบอกกับท่านเจ้าแคว้นเสียหน่ อย จาก


นั ้นค่อยยกเลิกงานแต่งนี้ ” เธอเดินมานั ่งลงข้างโต๊ะ มองที่เฟิ่ งเซียว “ท่าน
พ่อ ร่างกายท่านยังไม่สบายอยูห
่ รือไม่เจ้าคะ?”

“ไม่เลย พ่อสบายดี ร่างกายฟื้ นตัวเร็วมาก” เฟิ่ งเซียวเผยรอยยิม


้ พูดขึ้น ไม่
ให้เธอต้องกังวล

“อืม ยาพวกนั ้นยังต่อดื่มต่อนะเจ้าคะ” เธอบอกยิม


้ ๆ อยูพ
่ ูดคุย หยอกล้อเป็น
เพื่อนสองท่านในสวน สักพักถึงจะกลับเรือนไป
กลับถึงเรือนไม่นาน เหลิง่ ซวงก็เดินเข้ามา

“นายท่าน…” กำลังจะปริปาก เหลิง่ ซวงก็เห็นชายหนุ่มชุดฟ้าเดินไปมาอยู่


นอกเรือน จึงหยุดคำพูดลงชัว่ คราว

เฟิ่ งจิว
่ ในเรือนมองตามสายตานางไป เห็นชายหนุ่มชุดฟ้าชะโงกหัวด้อมๆ
มองๆ อยูต
่ รงนั ้น เห็นเช่นนี้ ก็เลิกคิว
้ ขึ้น “เจ้าทำอะไรอยูต
่ รงนั ้นน่ ะ?”

“แหะๆ แค่เดินเล่นว่างๆ ไม่มีอะไร” เขาคลี่รม


ิ ฝีปากยิม
้ สายตาจ้องมองตรง
ยังใบหน้านางที่ไม่มีอะไรปกปิด แปลกใจนิ ดหน่ อย

ได้ยน
ิ ว่าหลังคุณหนูใหญ่กลับมา ก็ปลดผ้าคลุมบนหน้าลงมา เผยให้เห็น
ใบหน้าเสียโฉม เดินไปมาอยูใ่ นเรือนทัง้ วัน เดิมทียงั ไม่เชื่อ นึ กไม่ถึงว่าเป็น
เรือ
่ งจริง

“ว่างไม่มีอะไรทำ?”

มุมปากเธอยกขึ้นน้ อยๆ มองเขาเหมือนยิม


้ แต่ไม่ยม
ิ้ “จะว่าไปแล้ว พวกเจ้า
ยังไม่ยอมรับข้าสินะ!”

“คุณหนูใหญ่หวังให้พวกเรายอมรับท่านเป็นผูน
้ ำรึ? แหะๆ เดาว่าคงยากอยู่
นิ ดหน่ อย” เขาพูดตรงไปตรงมายิง่ นั ก ไม่ไว้หน้าสักนิ ด

“นายท่าน” เหลิง่ ซวงพูดเสียงเบาใกล้ๆ ข้างหูนางไม่กี่ประโยค จากนั ้นจึง


ถอยออก
หลังฟังคำพูดเหลิง่ ซวง ในดวงตาเฟิ่ งจิว
่ ก็ฉายแววเป็นประกาย สายตาจับ
จ้องบนร่างชายหนุ่มชุดฟ้า ทว่าคำพูดกลับเอ่ยกับเหลิง่ ซวง “อืม เจ้ากลับไป
เถอะ บอกว่าข้าตกลง”

“เจ้าค่ะ” หลังเหลิง่ ซวงขานรับก็เดินจากไป

เฟิ่ งจิว
่ สาวก้าวเดินไปด้านหน้า มาถึงเบื้องหน้าชายหนุ่มชุดฟ้า ก่อนจะชก
หมัดออกไปอย่างไม่มีการเตือนล่วงหน้า…
ตอนที่ 164 นายหญิงอย่าชกข้า!

“อ๊าก!”

ถูกนางชกมาหนึ่ งหมัดอย่างทันทีทันใด ชกตรงเข้าดวงตา เจ็บเสียจนต้อง


กู่รอ
้ ง มือหนึ่ งปิดตาถอยหลังด้วยความรวดเร็ว

“คุณหนูใหญ่ ท่านชกข้าทำไมเนี่ ย?”

เฟิ่ งจิว
่ ยิม
้ ชัว่ ร้าย “พวกเจ้าต้องรับมือด้วยหมัดไม่ใช่หรือ? ในเมื่อเจ้าส่งตัว
เองมาถึงหน้าประตู ข้ากำลังคันไม้คันมือพอดี งัน
้ ก็ใช้เจ้าฝึกปรือฝีมือเสีย
เลย” สิน
้ สุดน้ำเสียง ร่างก็แวบพุง่ เข้าไปอีกครัง้

เห็นเช่นนี้ ชายหนุ่มชุดฟ้าจึงปล่อยมือออก และกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้


คุณหนูใหญ่อย่าโทษว่าข้าไม่เกรงใจละกัน” รอบนี้ เขาไม่หลบ แต่ออกหน้ารับ
แล้วหมัดก็ชกโจมตีออกไปหานางอย่างรุ นแรง

นึ กไม่ถึงว่ามือที่โจมตีออกไปกลับถูกนางคว้าไว้มือหนึ่ ง อีกมือหนึ่ งจึงออก


กระบวนท่ากับนาง เสียงสองหมัดชนกันดังผัวะๆ ลอยมา ระหว่างนั ้นก็ตาม
มาด้วยเสียงกรีดร้องเขาที่ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน โดยไม่ทันสังเกต เขาเพียง
รู ส
้ ึกว่าทัง้ ร่างพลันถูกยกขึ้น ก่อนจะร่วงหล่นล้มลงบนพื้นอย่างแรง

ผัวะ!

“อื้ม!”
เสียงล้มลงหนั กๆ ดังขึ้นตามด้วยเสียงร้องอูอ
้ ี้ ร่างเขาถูกกดอยูบ
่ นพื้น ไม่รูว้ า่
แขนถูกนางบิดไปถึงตรงไหน ถึงได้ถูกจับไว้เสียจนเมื่อยล้าไร้เรีย
่ วแรง ยัง
ไม่ทันหอบหายใจสักเฮือก ก็เห็นหมัดมุ่งหน้าชกมาทางเขา จึงตกใจตะโกน
ลัน
่ “อย่าชกหน้าสิ!”

ผัวะๆๆๆ!

“อ๊าก! ทำไมท่านชกแค่ที่หน้าล่ะ? อย่าชกหน้าสิ! อย่าชกหน้า! อ๊าก…”

ทหารอารักขาที่ได้ยน
ิ การเคลื่อนไหวนึ กว่าเกิดเรือ
่ งอะไรขึ้น จึงร้อนรนเข้ามา
ดู ใครจะรู ว้ า่ กลับเห็นองครักษ์ นายนั ้นถูกคุณหนูใหญ่กดไว้บนพื้นพลางซ้อม
อย่างรุ นแรง ชัว่ ครู ห
่ นึ่ ง แต่ละคนต่างเบิกดวงตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ
อยูน
่ ิ ดหน่ อย

คุณหนูใหญ่ซ้อมองครักษ์ ได้เช่นไรกัน? องครักษ์ คงยอมนางกระมัง?

“อื้ม! ท้องข้า! อ๊าก! อย่า อย่าทำข้า นายหญิง นายหญิง นายหญิงอย่าทำข้า


เลยขอรับ ข้ายอมแล้ว…”

สิน
้ สุดน้ำเสียง ในที่สุดก็เห็นเข่านางที่กดไว้ตรงท้องเขายกขึ้น เวลานี้ ถึงจะ
ถอนหายใจ ร่างกายผ่อนคลายลง แต่ขณะที่กำลังโล่งใจและไม่ทันระวัง
หมัดหนึ่ งก็ชกตรงท้องซ้ำอย่างโหดร้าย ทำให้รา่ งโค้งงอขึ้นมาราวกับกุ้ง
ต้มสุก หายใจลำบากพลางหน้าแดงก่ำ

“ข้า ก็ เรียก นายหญิงแล้ว… ทำไมยัง ชกข้า…”


เฟิ่ งจิว
่ ยืนขึ้น ปัดๆ เสื้อผ้า มองชายหนุ่มที่หน้าบวมจมูกช้ำขดตัวอยูบ
่ นพื้น
ด้วยดวงตาหรีย
่ ม
ิ้ เอ่ยว่า “หมัดสุดท้ายนี้ เป็นการสัง่ สอนจากข้า เมื่อเหตุ
อันตรายยังไม่บรรเทา ก็อย่าได้คลายการระวังตัว รู ว้ า่ เจ็บ ถึงจะจำบทเรียน
ครัง้ นี้ ไว้ได้”

เห็นเงาร่างที่ปัดป่ายมือเดินเข้าห้องไป เขาก็รอ
้ งซี๊ด กัดฟันทนความเจ็บลุก
ยืนขึ้น และเดินกะโผลกกะเผลกกลับไป

เมื่อชายหนุ่มคนอื่นที่เหลือเห็นเขาเดินกะเผลกเข้ามา ในดวงตาแต่ละคน
ล้วนฉายแววตกตะลึง คนหนึ่ งในพวกนั ้นล้อมเข้ามา เอ่ยถามอย่างแปลก
ใหม่ “เกิดอะไรขึ้น? เจ้าแค่ออกไปเดินเล่น ทำไมถึงดัง้ ช้ำหน้าบวมกลับมา
เล่า?”

“ใครซ้อมมารึ? ในจวนนี้ นอกจากท่านผูเ้ ฒ่ากับผู้นำตระกูล ยังมีใครซ้อมเจ้า


จนเป็นเช่นนี้ ได้อก
ี ?”

“ซี๊ด! พวกเจ้าอย่าเพิง่ ถามก่อนได้หรือไม่? ไม่เห็นแผลบนตัวข้ารึ? เร็ว รีบ


ประคองข้านั ่งลง ข้าเจ็บแทบตายแล้ว”

เขาเกาะแขนชายหนุ่มข้างกายไว้ ปล่อยแรงทัง้ หมดบนร่างพิงไปหาเขา


พลางพูดว่า “วันนี้ ขา้ เสียสละไปมากนั ก แต่ก็คุ้มค่า”

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?”
พวกเขาต่างล้อมมองมาข้างกายเขา เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ปกติเขาจะใส่ใจ
มากที่สุดถูกซ้อมกลายเป็นหัวหมู บางคนจึงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

“คนผูน
้ ี้ ลงมือได้โหดเหีย
้ มนั ก หนำซ้ำยังเลือกชกแค่หน้าเจ้า จิๆ
๊ แผลเช่นนี้
ไม่หายภายในสามถึงห้าวันหรอก”
ตอนที่ 165 จะร่ำลา!

“ก็แน่ สิ! ข้าบอกว่าอย่าชกหน้า แต่นางยังเลือกชกเฉพาะหน้าข้า โหดร้าย


เกินไปแล้ว”

ชายหนุ่มชุดฟ้าร้อนรน คลึงขยับแผลบนใบหน้า ก่อนจะสูดหายใจร้องซี๊ดอีก


ที “ข้าเดินกะโผลกกะเผลกกลับมา พวกสาวใช้ในจวนเห็นก็พากันปิดปาก
แอบหัวเราะ ทำให้ขา้ ต้องใช้แขนเสื้อบังไว้ ไม่มีหน้าจะไปพบใครแล้วจริงๆ”

“แผลนี้ หรือว่าเป็นฝีมือกวนสีหลิน
่ ? คงไม่ใช่กระมัง กำลังเขายังไม่ใช่คู่ต่อสู้
เจ้า งัน
้ เป็นท่านผูเ้ ฒ่ารึ?” คนหนึ่ งกำลังคาดเดาด้วยความอยากรู อ
้ ยากเห็น
อย่างมาก

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ ชายหนุ่มชุดฟ้าก็ยกมุมปาก เผยรอยยิม
้ อวดดี “ข้ารู ว้ า่ พวก
เจ้าเดาไม่ถูกหรอก เพราะข้าเองก็เดาไม่ออก ดังนั ้นถึงได้ลงทุนเจ็บตัวแทน
เช่นนี้ ซี๊ด เจ็บชะมัด”

เขาดึงๆ ชายหนุ่มชุดขาว กล่าวว่า “ฟ่านหลิน รีบหยิบยามาทาให้ขา้ หน่ อยสิ


ข้าเจ็บจะตายอยูแ
่ ล้ว”

“บอกให้ชด
ั เจนก่อน ไม่งน
ั ้ เจ้าก็ไปทายาเองเถอะ” ชายหนุ่มชุดขาวฟ่านหลิน
นั ่งลงข้างๆ กัน ไม่ขยับเขยื้อน

เห็นเช่นนี้ ชายหนุ่มชุดฟ้าถึงจะบอกว่า “เป็นฝีมือคุณหนูใหญ่ ลงมือได้


ทารุ ณ หนำซ้ำ ข้าจะบอกพวกเจ้าว่า…”
น้ำเสียงเขากดเบาลงบางส่วน “พละกำลังนางแข็งแกร่งมาก ทักษะก็แปลก
ประหลาดนั ก เหนื อกว่าข้ากับเจ้าแน่ นอน”

ขณะพูด ก็ชๆ
ี้ บาดแผลบนใบหน้าตัวเอง “เห็นหรือยัง? หากข้ามีแรงต่อต้าน
สักนิ ด คงไม่ปล่อยให้ใบหน้าหลอเหลาที่หว่านเสน่ หห
์ ญิงสาวได้เป็นหมื่นเป็น
พันนี้ ถูกชกเป็นหัวหมูแน่ ”

ทุกคนฟังแล้วก็ตะลึงอยูบ
่ า้ ง “คุณหนูใหญ่? นางซ้อมเจ้าจนเป็นเช่นนี้ ร?ึ ”

“ไม่งน
ั ้ พวกเจ้าคิดว่าในจวนยังมีใครที่มีฝีมือเช่นนี้ อก
ี ?” เขาเบะปาก เอ่ยว่า
“ข้าบอกแล้ว! คุณหนูใหญ่ผูน
้ ี้ ไม่ธรรมดา พวกเจ้าก็ไม่เชื่อ จริงด้วย เมื่อครู ่
ข้าเรียกนางว่านายหญิงแล้ว ขาดแค่สาบานตน”

“เจ้ายอมรับนางเป็นนายแล้วรึ?” พวกเขาแปลกใจเล็กน้ อย แค่ออกไปแวบ


เดียว นึ กไม่ถึงว่าเขาจะยอมรับนางแล้ว?

“ใช่ ยอมรับแล้ว ข้ายอมรับนาง ซี๊ด รีบหยิบยามาทาให้ขา้ สิ!”

ฟ่านหลินลุกยืนขึ้น มองพวกเขาที่กำลังครุ น
่ คิดแวบหนึ่ ง ถึงจะเดินเข้าห้อง
ไป หยิบกล่องยาออกมาจัดการแผลให้เขา

กลางคืนวันนั ้น เฟิ่ งจิว


่ มาที่หอ
้ งท่านปู่

“แม่หนูเฟิ่ ง เมื่อเย็นเหลิง่ ซวงบอกว่าหลานมีเรือ


่ งจะคุยด้วย เรือ
่ งอะไรรึ?”
ท่านผูเ้ ฒ่านั ่งอยูข
่ า้ งโต๊ะ มองหน้าเฟิ่ งจิว
่ พลางถาม
เฟิ่ งจิว
่ หยิบกาน้ำชาบนโต๊ะขึ้นรินชาสองถ้วย ถึงจะบอกว่า “ท่านปู่ ด้าน
ตลาดมืดนั ้นเชิญหลานไปช่วยงาน เรือบินที่ส่งมารับหลานเดาว่าพรุ ง่ นี้ คงมา
ถึง ออกไปครัง้ นี้ อย่างน้ อยก็สองสามเดือน ดังนั ้นเรือ
่ งในจวนยังต้องให้ท่าน
คอยดูอก
ี หน่ อยนะเจ้าคะ”

“ส่งเรือบินมารับหลานรึ?”

ท่านผูเ้ ฒ่าท่าทางตื่นเต้น “พาหนะบินได้น่ะรึ? นั ่นไม่ใช่ของที่แคว้นธรรม


ดาๆ จะมีไว้ หรือว่าแคว้นที่เดินทางไปครัง้ นี้ สูงกว่าระดับหกอีกรึ?”

เธอส่ายหน้า “เรือ
่ งนี้ หลานยังไม่ถาม จึงไม่ค่อยรู ช
้ ด
ั หลานกำลังคิดอยู่ ว่าจะ
บอกตัวตนภูตหมอให้ท่านพ่อรู ส
้ ักหน่ อยดีหรือไม่? เพื่อเลี่ยงให้เขาเป็นกังวล
ที่ขา้ ออกบ้านไปหลายเดือน”

“ไม่ต้องๆ พ่อหลานคนนั ้นมักเอาทุกอย่างมาไว้เบื้องหน้า หากบอกไปคงเก็บ


คำพูดไว้ไม่ได้แน่ ถ้าวันไหนไปกินเหล้ากับใคร พออารมณ์ ดีก็พูดออกมาแล้ว
เดาว่าทัว่ ทัง้ เมืองอวิ ๋นเยวีย
่ คงรู ก
้ ันหมด”

ฟังเช่นนี้ เธอก็ยม
ิ้ เยาะอย่างอดไม่ได้ “ท่านปู่ แน่ ใจนะเจ้าคะว่าไม่ได้พูดถึง
ตัวเองอยู?่ ”

“เหอะๆ จะเป็นไปได้ยงั ไงเล่า? ดื่มเป็นพันจอกปู่ก็ไม่เมาหรอก แต่บางครัง้


มักจะสับสน เกรงว่าถึงเวลาก็ลืมเรือ
่ งพวกนี้ หมดแล้ว” พูดถึงเรือ
่ งนี้ เขาก็
ทำอะไรไม่ถูกนิ ดหน่ อย
ตอนที่ 166 ปรีแ
่ ย่งเป็นคนแรก!

เฟิ่ งจิว
่ หัวเราะเบาๆ เอ่ยว่า “เรือ
่ งนี้ ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ ท่านปู่ ท่านดูสิ”
เธอหยิบยาออกมาสามขวดวางไว้บนโต๊ะ

“นี่ คืออะไรรึ?” ท่านผูเ้ ฒ่าหยิบขึ้นมาดมๆ แค่รูว้ า่ เป็นยา กลับไม่รูว้ า่ มี


สรรพคุณอะไร

“นี่ เป็นยาบำรุ งประสาทที่หลานปรุ งให้ท่านปู่เจ้าค่ะ ขอแค่ทานไปช่วงหนึ่ ง


โรคความจำเสื่อมของท่านปู่ก็จะดีข้น
ึ เจ้าค่ะ”

“นี่ นี่ ยงั ดีข้น


ึ ได้ร?ึ ” ท่านผูเ้ ฒ่ามองนางอย่างตกตะลึงไปบ้าง

“อืม อาการท่านปู่ไม่ได้รา้ ยแรงมาก ทานพวกนี้ หมด ก็พอได้แล้ว” เธอยิม


้ ๆ
หลังจากกำชับเรือ
่ งบางอย่างกับเขา นั ่งไปอีกสักพักถึงจะกลับเรือนไป

วันรุ ง่ ขึ้นตอนที่ฟ้ายังไม่สว่าง เฟิ่ งจิว


่ ก็พาเหลิง่ ซวงออกไปเงียบๆ ไปยังตลาด
มืด…

และเมื่อถึงเช้าตรู ่ ขณะที่องครักษ์ ทัง้ แปดมาหาเฟิ่ งจิว


่ ในเรือน ก็หาคนของ
นางไม่เจอแล้ว พวกเขาที่เดิมทีนึกว่าแค่ออกไปข้างนอกจึงไม่คิดอะไรมาก
ใครจะรู ้ ว่าที่พลาดครัง้ นี้ ต้องรอนานอีกหลายเดือน
เมื่อเรือบินลำหรู หราลอยมาเหนื อน่านฟ้าเมืองอวิ ๋นเยวีย
่ แทบทัง้ เมืองต่างก็
อึกทึกครึกโครม แม้แต่เจ้าแคว้นมู่หรงป๋อในพระราชวัง ยังรีบส่งคนไป
สอบถาม ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?

ต้องรู ไ้ ว้ ว่าแม้แต่แคว้นแสงสุรย
ิ น
ั ของพวกเขาก็ไม่อาจมีเรือบินสักลำ และ
แคว้นที่มีได้ อย่างน้ อยต้องเป็นแคว้นระดับหกขึ้นไป หรือเป็นกองกำลังที่
แข็งแกร่งถึงจะครอบครองพาหนะบินเช่นนั ้นได้

หลังจากได้ยน
ิ ข่าวคราว ทหารอารักขาพระราชวังก็ลนลานมารายงาน
“เรียนท่านเจ้าแคว้น เรือบินลำนั ้นหยุดอยูห
่ น้าประตูตลาดมืด บอกกันว่ามา
รับภูตหมอออกไปขอรับ”

“รับภูตหมอรึ?”

มู่หรงป๋อตกใจ ตัวลุกยืนขึ้นมา ก้าวยาวเดินออกไปทันใด ขณะเดียวกันก็


ตะโกนว่า “รีบไปเตรียมม้าซะ!” เขายังไม่ทันได้ขอยาจากภูตหมอ จะยอมให้
เขาไปได้อย่างไรเล่า? ยิง่ ไปกว่านั ้น เขาไปครัง้ นี้ จะมาอีกเมื่อไหร่?

หลังมู่หรงอีเ้ ซวียนรู ข
้ า่ ว ก็ต่ ืนตระหนก ‘ภูตหมอ? ชายหนุ่มชุดแดงที่เปิดเผย
ชัว่ ร้ายในคืนนั ้นรึ?’ ทันใดนั ้น เขาพลันคืนสติก้าวยาวออกไป

เขาต้องไปขอยา! ไปขอพวกยาทิพย์จิตวิญญาณที่รก
ั ษาบาดแผลบนใบหน้า
ได้กับเขา!
จวนตระกูลเฟิ่ ง

เฟิ่ งเซียวออกไปอย่างลุกลี้ลุกลน คนรับใช้เห็นจึงรีบออกหน้าขวางไว้พลาง


ถาม “ท่านผูน
้ ำตระกูล ร่างกายท่านยังไม่คล่องแคล่วดี! นี่ จะไปไหนรึ
ขอรับ?”

“หรือว่าเจ้าไม่เห็นเรือบินเมื่อครู ร่ ?ึ บอกกันว่ามันส่งมารับภูตหมอ ข้าต้องรีบ


เข้าไปที่ตลาดมืด ก่อนที่เขาจะจากไป ต้องขอพวกยาทิพย์จิตวิญญาณที่
รักษาแผลเป็นได้จากเขามาให้ชงิ เกอ!”

เขาผลักคนใช้เดินออกไป แล้วกำชับโดยไม่หน
ั หน้ากลับมา “หากท่านผูเ้ ฒ่า
ถาม เจ้าก็บอกว่าข้าจะรีบกลับมา”

“ท่านผูน
้ ำ! ท่านผูน
้ ำตระกูล! เฮ้ พวกเจ้า รีบตามท่านผูน
้ ำตระกูลไปหน่ อย
ข้าจะไปแจ้งท่านผูเ้ ฒ่า!” คนรับใช้รบ
ี ร้อนเรียกทหารอารักขาให้ตามไป ส่วน
ตัวเองก็เร่งฝีเท้าวิง่ ไปเรือนหลัง

“อะไรนะ? เขาวิง่ ไปขอยากับภูตหมอรึ?” ท่านผูเ้ ฒ่าเบิกดวงตากว้าง สีหน้า


ตกตะลึง

“ขอรับ! ร่างกายท่านผูน
้ ำยังไม่คล่องแคล่วดีเลย! วิง่ ออกไปแบบนี้ กระผมก็
รัง้ เขาไว้ไม่อยู”่ คนรับใช้บอกอย่างกังวลใจ
“เร็ว ไปพาเขากลับมาให้ขา้ !” ท่านผูเ้ ฒ่าตะโกน กลับคิดว่าให้พวกเขาไปเดา
ว่าคงเรียกกลับมาไม่ได้ ดังนั ้น ตัวเองจึงสาวก้าวเดินออกไป “ไปเตรียมรถ
เร็วหน่ อย!”

เมื่อแต่ละคนต่างรีบไปตลาดมืด ที่หอ
้ งส่วนตัวในตลาดมืด มีสองสามคน
กำลังนั ่งอยู่ พินิจมองกันและกัน

“นึ กไม่ถึงว่าภูตหมอจะเป็นคุณชายอายุน้อยที่สง่างามหาที่เปรียบไม่ได้เช่นนี้
เรียกว่าได้ยน
ิ ชื่อเสียงไม่สู้ได้พบหน้าจริงๆ”

ชายวัยกลางคนที่มารับคนกล่าวด้วยเสียงทุ้มเข้ม ใบหน้าประดับรอยยิม
้ มอง
เฟิ่ งจิว
่ ที่เอนตัวอยู่ คาดไม่ถึงเล็กน้ อยกับความโดดเด่นของคนตรงหน้า
ตอนที่ 167 เสี่ยงหน้าอกโผล่!

มุมปากเฟิ่ งจิว
่ ยกขึ้นเล็กน้ อย ยิม
้ อยูจ
่ างๆ “ต้องให้ยอดปรมาจารย์พลัง
วิญญาณทัง้ สองและผูฝ
้ ึกตนขัน
้ สร้างรากฐานอีกท่านมารับ ข้าก็ได้รบ
ั ความ
กรุ ณาอย่างไม่คาดฝันเช่นกัน”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ นั ยน์ ตาทุกคนในห้องก็ฉายแววแปลกใจ นึ กไม่ถึงว่าภูตหมอ
จะมองวรยุทธ์พวกเขาออก ทว่าบนร่างเขา กลับไม่รูส
้ ึกถึงวรยุทธ์พลังเร้นลับ
หรือพลังวิญญาณใดๆ เลย เช่นนั ้น เขามองออกได้อย่างไรกัน?

“เหอะๆ นี่ เพื่อแสดงให้เห็นว่าตลาดมืดเราให้ความสำคัญกับใต้เท้าขอรับ ต่อ


ให้ต้องออกหน้ามาต้อนรับ ก็ไม่อาจละเลยได้เป็นธรรมดา” ชายวัยกลางคน
พูดยิม
้ ๆ ประสานมือกล่าวว่า “เวลาก็สายแล้ว เรือบินคอยอยูด
่ ้านนอก เชิญ
ขอรับ”

เขาทำท่าทางเชื้อเชิญ ให้ภูตหมอเดินไปก่อน

“อืม” เฟิ่ งจิว


่ ตอบรับ ก่อนจะลุกยืนขึ้นปัดๆ ชุดแดงบนร่าง แล้วสาวก้าวเดิน
ออกไป

เวลานี้ เหลิง่ ซวงที่เฝ้าอยูน


่ อกประตูหอ
้ งแต่งตัวเป็นชายชาตรีในชุดสีดำ ผม
สีหมึกเกล้าขึ้น สวมหน้ากากไว้บนใบหน้า หลังจากเห็นเฟิ่ งจิว
่ ออกมาก็ตาม
ไปข้างกาย เดินลงไปพร้อมๆ กัน
ด้านนอกตลาดมืดเวลานี้ มีคนล้อมเต็มไปหมด สำหรับชื่อภูตหมอ พวกเขา
ต่างเคยได้ยน
ิ กลับไม่เคยเห็นว่าเป็นคนแบบไหนกันแน่ ? ด้วยเหตุนี้ เมื่อเงา
ร่างสีแดงที่สง่างามหาที่เปรียบไม่ได้เดินออกมาจากด้านใน หลังจากตก
ตะลึง ผูค
้ นก็ตะโกนเสียงสูง

“ภูตหมอ! ภูตหมอ! เป็นภูตหมอ!”

ทุกคนแก่งแย่งเบียดเสียดผลักกัน อยากจะไปข้างหน้า แต่รอบๆ เรือบินถูก


ทหารอารักขาตลาดมืดล้อมเป็นวงกำแพงคุ้มกันคน พวกเขาจึงเข้ามาไม่ได้
โดยสิน
้ เชิง

กวนสีหลิน
่ ยืนอยูบ
่ นตึกตลาดมืดมองส่งนางจากไป ไม่ได้เข้าใกล้ เพราะหาก
เดินใกล้นางเกินไป ตัวตนนางจะถูกคนรู เ้ ข้า

“เชิญขอรับ” ชายวัยกลางคนทำท่าเชื้อเชิญ ให้ภูตหมอขึ้นเรือ

“อืม” เฟิ่ งจิว


่ ขานรับ สาวก้าวเดินขึ้นเรือบิน เหลิง่ ซวงก็ตามขึ้นไป

หลังจากทุกคนขึ้นมา เรือบินก็เคลื่อนลอยขึ้นห่างจากพื้นดินไปยังกลาง
อากาศ…

เมื่อมู่หรงป๋อ มู่หรงอีเ้ ซวียน และเฟิ่ งเซียวรีบมา ก็ทำได้เพียงมองเรือบิน


ค่อยๆ เคลื่อนห่าง เวลาไม่นานนั ก ก็หายลับเข้ากลีบเมฆ…
สามวันต่อมา ค่ำคืน ณ แคว้นเหินเวหา ที่บอ
่ น้ำพุรอ
้ นตลาดมืดหลังเขา

เฟิ่ งจิว
่ ปลดเปลื้องเสื้อผ้า ถอดหน้ากาก เปลือยเท้าเดินลงน้ำไปทีละก้าวๆ ผิว
กายก็แช่อยูใ่ นน้ำไปตามท่ากึ่งหมอบ แล้วหาที่เหมาะๆ นั ่งลงในบ่อน้ำพุรอ
้ น
สองแขนวางราบไว้บนขอบหิน แหงนหน้าขึ้นน้ อยๆ พลางหรีต
่ าลงอย่าง
สบายๆ

ความเหน็ ดเหนื่ อยสามวันนี้ ได้มาผ่อนคลายในบ่อน้ำพุรอ


้ น ช่างสบายตัว
เสียจนทำให้เธอง่วงหงาวหาวนอนอยูน
่ ิ ดหน่ อย

ส่วนด้านนอกเธอวางค่ายกลกระบีไ่ ว้ก่อนแล้ว ซ้ำยังมีเหลิง่ ซวงคอยเฝ้าอยู่


ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนพรวดพราดเข้ามา

ถึงแม้สบายตัว แต่เธอก็รูว้ า่ จะแช่อยูใ่ นบ่อน้ำพุรอ


้ นนานเกินไปไม่ได้ ด้วย
เหตุนี้ หลังจากแช่ไปประมาณครึง่ ชัว่ ยาม เธอก็เตรียมจะลุก ทว่าขณะที่
กำลังจะยืนขึ้น ละอองน้ำที่กระจายออกมาเพราะความร้อนของน้ำพุ ใน
หมอกนั ้นเห็นเงาร่างสีดำแวบเข้ามาราวกับกำลังหลบเลี่ยงอะไรบางอย่างอยู่

นี่ ทำให้รา่ งกายที่เดิมทีกำลังจะลุกยืนขึ้นต้องลดลงไปในน้ำ อาศัยละอองน้ำ


ปกปิดหน้าอกไว้

“ใต้เท้าซ่อนตัวอยูร่ ?ึ ”
น้ำเสียงที่เกียจคร้านและมีความแหบแห้งบางส่วนไม่ได้ใส่ใจอย่างเห็นได้ชด

ทัง้ มีความสงบนิ่ งเนิ บนาบ เหมือนการพรวดเข้ามากะทันหันของคนแปลก
หน้าหาได้ทำให้เธอตกใจไม่ และน้ำเสียงที่จู่ๆ ก็ดังมาจากด้านหลัง กลับ
ทำให้เงาร่างสีดำที่กำลังแนบกำแพงหินสังเกตการณ์ ด้านนอกผงะไป พลัน
ไหวตัวหันกลับไปมองบริเวณต้นเสียง

เห็นเช่นนี้ คิว
้ คู่งามก็ขมวดขึ้นมาเล็กน้ อยทันที
ตอนที่ 168 กางเกงในสีแดง!

มองทะลุผา่ นละอองน้ำไป เพียงเห็นเงาร่างหนึ่ งนั ่งพิงอยูใ่ นน้ำท่ามกลาง


ม่านหมอก เห็นไหล่คู่กลมมนที่โผล่พน
้ น้ำอยูล
่ างๆ และลำคอขาวงดงามน่า
หลงใหล แต่เพราะม่านหมอกละอองน้ำนั ้นจึงไม่อาจเห็นใบหน้าชัดเจน

ทว่าประเมินจากท่าทางใจเย็นสงบนิ่ งและน้ำเสียงเอื่อยเฉื่ อยที่มีความแหบ


พร่าบางส่วน อีกฝ่ายต้องเป็นบุรุษอย่างแน่ นอน อันที่จริง หากสตรีพบ
สถานการณ์ เช่นนี้ คงตกใจส่งเสียงกรีดร้องไปนานแล้ว

“ขออภัยที่รบกวนคุณชาย”

เมื่อเขาเปล่งเสียง เฟิ่ งจิว


่ ในน้ำถลึงดวงตาอย่างตกตะลึงอยูบ
่ า้ ง แทบจะ
อุทานว่า ‘ท่านอา?’

เธอกับเขาไม่มีที่ไหนที่ไม่ได้พบหน้ากันเลยจริงๆ? ถึงจะมายังแคว้นเหินเวหา
ก็ยงั ได้เจอเขาอีกอย่างไม่คาดฝัน แต่เห็นได้ชด
ั ว่าเขาจำเธอไม่ได้

นึ กถึงจุดนี้ ตัวเธอก็ผอ
่ นคลายลง เอนกายอยูใ่ นบ่อน้ำพุรอ
้ น มองเงาร่างตัง้
ตรงที่ยน
ื ตรงขอบ มุมปากยกขึ้น เผยรอยยิม
้ หยอกล้อ

“ตกใจหมดเลย เดิมนึ กว่าคนของตลาดมืดส่งสาวงามมาให้ขา้ นึ กไม่ถึงว่าที่


เข้ามากลับเป็นผูช
้ าย”
ได้ยน
ิ คำพูดนี้ หลิงโม่หานก็ขมวดคิว
้ ลึกยิง่ ขึ้น แววตาลึกซึ้งมองทะลุละออง
น้ำอยากจะเห็นคนให้ชด
ั ๆ ทว่าคำพูดต่อมา กลับทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะ
กระตุกมุมปาก ใบหน้าก็มืดลงมาทันใด

“โปรดรู ไ้ ว้วา่ ตอนนี้ ขา้ ล่อนจ้อนอยูใ่ นน้ำ จ้องข้าด้วยตาเปล่าเช่นนี้ หรือว่า


ใต้เท้าชอบผูช
้ ายด้วยกัน?”

“คุณชายคิดมากไปแล้ว”

น้ำเสียงเขาแข็งกร้าวนิ ดหน่ อย แต่น้ำเสียงน่าดึงดูดที่เต็มไปด้วยเสน่ หช


์ าย
ชาตรีกลับยังคงฟังเสนาะหูอยูเ่ ช่นนั ้น

กำลังคิดจะไปจากที่นี่ กลับได้ยน
ิ เสียงการค้นหาดังมาจากด้านนอก ย่างก้าว
ที่จะสาวเดินออกไปจึงชะงักลง หันกลับไปมองที่ในน้ำนั ้นทันที

เธอที่กำลังคิดว่าจะลุกขึ้นยังไงดีพลันเห็นสายตาเขาจ้องมา ผงะไปอย่างอด
ไม่ได้ ทันใดนั ้น เหมือนนึ กอะไรออก แต่ไม่รอให้ปริปาก ก็เห็นเขาก้าวยาว
เดินมาทางนี้

“เจ้าหยุดนะ!”

เธอแผดเสียงเย็น ละอองน้ำไม่อาจบดบังสายตาได้ในระยะใกล้ ตอนนี้


ร่างกายเปลือยเปล่า เขาเดินมาใกล้อก
ี หน่ อยก็ไม่มีที่ให้ซ่อนแล้ว
เท้าหลิงโม่หานที่ลงก้าวเดินยังไม่หยุดชะงัก ยังคงก้าวยาวเดินไปด้านนั ้น
อย่างใจเย็น น้ำเสียงทุ่มต่ำที่มีแรงดึงดูดก็เปล่งตามออกมาจากปาก “เท่าที่
ข้ารู ้ ค่ายกลกระบีน
่ ี้ คงยังมีอก
ี ทางออกหนึ่ ง ซึ่งอยูด
่ ้านหลังคุณชาย”

ไร้สาระ! ข้ารู แ
้ น่ นอน!

เฟิ่ งจิว
่ ถลึงตามองเงาร่างที่เดินมาด้านนี้ กัดฟันกรอด แล้วมือที่ดึงกลิน
่ อาย
พลังเร้นลับไว้ก็ตะกุยบนผิวน้ำ หยดน้ำจึงจู่โจมไปทางเขาอย่างรุ นแรง

ในเวลาเดียวกัน เธอสะบัดมือลงบนผิวน้ำอีกครัง้ ระหว่างที่สาดม่านน้ำขึ้น


มา ตัวก็ม้วนขึ้นจากน้ำ หยิบชุดสีแดงออกจากห้วงมิติ อาศัยช่วงที่ม่านน้ำ
บดบังอยูส
่ วมชุดไว้บนร่างอย่างรวดเร็ว

แต่เมื่อม่านน้ำร่วงกลับลงบ่อน้ำพุรอ
้ น บนตัวเธอเพิง่ สวมชุดแดงเรียบร้อย
เมื่อร่างคืนสู่ผน
ื ดิน เท้าเปลือยกลับลื่นไถลไปบนขอบหิน พุง่ ไปด้านหน้า
อย่างไม่อาจยืนให้มัน
่ ได้

“อ๊ะ!”

ร่างกายโผไปด้านหน้าอย่างเสียสมดุล เธอคว้าสิง่ ของที่พอยึดหยัดร่างกาย


ได้ไว้ตามสัญชาตญาณ แต่ใครจะรู ้ เพียงได้ยน
ิ เสียงผ้าขาดดังแควกลอยมา
จึงมองไปด้วยความตกตะลึง พอเห็นก็อ้งึ ทึ่งไปชัว่ ขณะ

กางเกงท่านอาถูกเธอฉี กขาดดึงลงมาจากด้านหลังเสียดื้อๆ เผยให้เห็น…


กางเกงชัน
้ ด้านในตัวนั ้นที่โดดเด่นทรงเสน่ ห์
ทว่า ที่ทำให้เธอนึ กไม่ถึง คือท่านอาผูเ้ ป็นชายที่ภายนอกเย็นชาแต่จิตใจ
อบอุน
่ ด้านในกลับสวมกางเกงชัน
้ ในสีแดงตัวหนึ่ ง…
ตอนที่ 169 ตลาดมืดแคว้นเหินเวหา!

หลิงโม่หานหันกลับไปทัง้ ใบหน้าดำมืด พอมองก็เห็นชายหนุ่มที่ใบหน้าเสีย


โฉมปล่อยผมสยายกำลังถลึงตาจ้องมองกางเกงชัน
้ ในเขาด้วยสีหน้าตก
ตะลึง ช่างคล้ายว่าได้รบ
ั แรงกระตุ้นบางอย่าง ปากอ้าออกกว้าง ในมือยังจับ
กางเกงที่ถูกเขาฉี กขาดไว้

เห็นเช่นนี้ เขาจึงยกเท้าขึ้นเตะไป “ปล่อย!”

ตูม!

เธอที่นิ่งอึ้งอยูถ
่ ูกเตะลงในบ่อน้ำพุรอ
้ น ดื่มน้ำในบ่อไปสองสามอึก พอพุง่ โผล่
หัวขึ้นมาจากน้ำ กลับเห็นว่าบุรุษที่ยงั ยืนอยูต
่ รงนั ้นเมื่อครู ห
่ ายไปเสียแล้ว

“ซี๊ด! เตะข้าอีกแล้ว! รอข้าก่อนเถอะ!”

เธอตีน้ำด้วยความโมโห เดินขึ้นมาจากน้ำ หลังจากได้ยน


ิ การเคลื่อนไหว
ด้านนอก ก็เปลี่ยนสวมเสื้อคลุมตัวแห้งใหม่อย่างรวดเร็ว ลูบๆ หัวไหล่ที่ถูก
เตะเสียจนเจ็บ แล้วสวมหน้ากากไว้บนหน้า ถึงจะเดินไปด้านนอก

“เอะอะอะไรกัน!”

น้ำเสียงเธอเย็นเยียบเล็กน้ อย ตะโกนไปอย่างหัวเสีย

“นายท่าน”
เหลิง่ ซวงมายังข้างกายนาง เอ่ยว่า “พวกเขาบอกว่ามีคนเข้าหอสมบัติตลาด
มืดไปขโมยยาทิพย์จิตวิญญาณสองสามอย่าง ไล่ตามคนผูน
้ ั ้นมาถึงที่นี่ จึง
ยืนกรานจะลองเข้าไปดูในบ่อน้ำพุรอ
้ นขอรับ”

เฟิ่ งจิว
่ ใช้แววตาเยือกเย็นถลึงมองเหล่าทหารอารักขาตลาดมืดตรงหน้า
สายตาจับจ้องบนร่างชายวัยกลางคนผู้เป็นหัวหน้า แล้วยกขาขึ้นถีบไป

ผัวะ!

ชายวัยกลางคนไม่ทันไหวตัวจึงถูกเตะเข้าที่ท้อง ร่างกลิง้ ออกไปไกลหลาย


ก้าว สูดหายใจเข้า ตะคอกอย่างโกรธเคือง “เจ้าทำอะไรเนี่ ย!”

เฟิ่ งจิว
่ สาวก้าวเดินออกหน้า แววตาเย็นชาเดือดดาลที่มีแรงกดดันน่าสะ
พรึงมองตรงไปที่เขา “ใครให้เจ้าหาญกล้ามาเหิมเกริมต่อหน้าข้า? หรือผู้
ติดตามข้าไม่ได้บอกเจ้ารึ ว่าข้ากำลังอาบน้ำอยูด
่ ้านใน?”

“เจ้า!” ชายวัยกลางคนมองอย่างขุน
่ เคือง กลับไม่กล้าทำอะไรเขา

“ยังจ้องข้าอีก? เจ้าไม่ต้องการดวงตาคู่นี้แล้วสินะ?”

น้ำเสียงเธอเย็นเยียบ สายตาเยือกเย็นน่ากลัว และคำพูดนั ้น ยิง่ ทำให้ชาย


วัยกลางคนตื่นตระหนก จึงก้มหน้าลงทันทีไม่กล้าจ้องเธออีก

“หึ!”
เธอแค่นเสียงเย็น สะบัดแขนเสื้อ ถึงจะสาวก้าวเดินไปยังด้านในเรือน

รอทัง้ สองคนออกไป ชายวัยกลางคนถึงจะเงยหน้าขึ้นมาอย่างน่าหวาดกลัว


กำหมัดขึ้นแน่ นในแขนเสื้อ กล่าวด้วยคำพูดดูถูกดูแคลน “แค่คนที่มาจาก
แคว้นเล็กระดับเก้า คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญจริงๆ รึ? หากพรุ ง่ นี้ ทำขาย
หน้า ดูสิวา่ เจ้าจะยังทำท่าบ้าบิน
่ อะไรอีก!”

กลับมาในห้อง เหลิง่ ซวงเห็นนางยังโกรธปึงปัง นึ กถึงการเคลื่อนไหวที่ได้ยน



ก่อนหน้านี้ จึงอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลงอย่างโทษตัวเอง “ข้าน้ อยบกพร่องใน
หน้าที่ ขอนายท่านลงโทษด้วยเจ้าค่ะ!”

เฟิ่ งจิว
่ นั ่งลงข้างโต๊ะ รินน้ำใส่แก้วแล้วดื่มลงไป โบกมือให้สัญญาณบอกว่า
“ลุกขึ้นเถอะ! เรือ
่ งไม่เกี่ยวกับเจ้า”

นางก้มหน้าลง กล่าวว่า “ไม่เจ้าค่ะ ข้าน้ อยไม่เฝ้าให้ดี ถึงมีคนแอบเข้าไป


รบกวนนายท่าน”

“คนผูน
้ ั ้นต่อให้เป็นข้าก็ยงั ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา ไม่ต้องพูดถึงเจ้าหรอก”

เธอเอ่ยอย่างไม่ถือสา “ยิง่ ไปกว่านั ้น ข้าก็ไม่ได้เสียประโยชน์ อะไร ตรงกัน


ข้าม แหะ ข้าดึงกางเกงเขาไปแล้วด้วย”

ฟังถึงตรงนี้ บนใบหน้าเธอก็เผยท่าทางแปลกประหลาดใจนิ ดหน่ อย นึ กถึง


กางเกงชัน
้ ในสีแดงตัวนั ้น มุมปากก็กระตุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
พอเหลิง่ ซวงที่คุกเข่าอยูบ
่ นพื้นได้ยน
ิ ก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมาอย่างงุนงง

“เอาล่ะ คืนนี้ พก
ั ผ่อนดีๆ เถอะ!” เธอส่งสัญญาณให้นางกลับไปพักผ่อน ส่วน
ตัวเองก็รน
ิ น้ำดื่มอีกสองสามแก้ว พลางคิดเรือ
่ งไป

เห็นเช่นนี้ เหลิง่ ซวงก็ขานรับ ถึงจะถอยออกไป

วันต่อมา

ชายวัยกลางคนที่ไปรับตัวเฟิ่ งจิว
่ ที่แคว้นแสงสุรย
ิ น
ั มาถึงในเรือน เห็นเงา
ร่างสีแดงกำลังทานอาหารเช้า จึงยิม
้ เดินเข้าไปคารวะ กล่าวว่า “ใต้เท้าภูต
หมอ นายท่านข้าอยากพบท่านหน่ อยขอรับ”
ตอนที่ 170 โปรดถอดหน้ากาก!

เฟิ่ งจิว
่ ตอบรับ เห็นว่าอิม
่ พอสมควรแล้ว จึงวางตะเกียบลงเช็ดมุมปาก ถึงจะ
เดินไปหาเขา “ไปกันเถอะ!”

“เชิญขอรับ” ชายวัยกลางคนท่าทางมีสัมมาคารวะ เพราะรู ว้ า่ คนตรงหน้า


ต้องไม่ธรรมดาแน่ นอน จึงไม่อาจละลาบละล้วงได้เป็นปกติ

หากบอกว่าเขาเป็นคนจากแคว้นเล็กระดับเก้า แต่ ครัง้ แรกที่เห็นเรือบิน


กลับไม่มีแม้แต่ความสงสัยและแปลกใจเลยสักนิ ด เหมือนเคยเห็นพาหนะ
บินเช่นนี้ มาก่อน จึงไม่อาจทำให้เขาประหลาดใจมาแต่ไหนแต่ไร

หนำซ้ำ หลังจากมาถึงแคว้นเหินเวหานี้ ท่าทางสง่างามสงบนิ่ งที่เขา


แสดงออก ทำให้คนไม่กล้าดูหมิน
่ และละเลยโดยสิน
้ เชิง

ชายวัยกลางคนพาเฟิ่ งจิว
่ มาถึงห้องรับรองด้านหน้า หลังจากไปรายงานด้าน
ใน ก็บอกกับเฟิ่ งจิว
่ ว่า “ใต้เท้าภูตหมอ เชิญขอรับ”

เฟิ่ งจิว
่ สาวก้าวเดินเข้าไป แต่เหลิง่ ซวงกลับถูกขวางอยูด
่ ้านนอก

ทุกคนในห้องรับรองใช้สายตาพินิจมองจับจ้องบนเรือนร่างสีแดงชัว่ ร้ายที่
เดินเข้ามาอย่างไม่ปิดบัง นั ยน์ ตาพวกเขามีทัง้ ความดูถูกเหยียดหยาม และ
การสำรวจตรวจสอบ
ขณะที่พวกเขาพินิจมองมา สายตาเฟิ่ งจิว
่ ก็มองผ่านทุกคนในห้องรับรอง
สายมองตรงไปบนร่างคนผูน
้ ั ้นบนตำแหน่ งที่นั่งอาวุโส

นั ่นเป็นชายวัยกลางคนท่านหนึ่ ง สวมชุดผ้าแพรสีดำนั ่งตัวตรงตัง้ สองขา


มัน
่ คง ทัว่ ร่างมีกลิน
่ อายของผูเ้ หนื อกว่ากระจายอยู่ และเวลานี้ สายตาที่
เฉี ยบแหลมคู่นั้นก็กำลังพินิจมองจ้องเธอ

“ใต้เท้าเชิญนั ่ง” ชายวัยกลางคนตรงตำแหน่ งที่นั่งอาวุโสเอ่ยเสียงเข้ม ผาย


มือเป็นสัญญาณ ชีไ้ ปยังที่นั่งแรกที่วา่ งอยูท
่ างด้านซ้าย

เฟิ่ งจิว
่ ยกริมฝีปากขึ้นยิม
้ เดินไปด้านหน้าอย่างไม่เกรงใจ มาถึงที่นั่งแรก
ด้านซ้ายมือนั ้น หมุนตัวกำลังจะนั ่งลง ก็มีแรงหนึ่ งผลักเก้าอีอ
้ อก

เห็นเช่นนี้ เธอเหลือบมองชายวัยกลางคนที่ด้านซ้ายล่างแวบหนึ่ ง เห็นอีก


ฝ่ายเผยแววตายียวน ก็อดไม่ได้ที่จะผุดเผยรอยยิม
้ ฝ่ามือปล่อยพลังเร้นลับ
ออกมา เก้าอีท
้ ี่เดิมถูกผลักไปด้านหลัง จึงกลับมาตรงตำแหน่ งเดิมในเวลา
ต่อมา และเธอก็นั่งลงอย่างใจเย็น

พรึบ!

เสียงเก้าอีเ้ สียดสีพ้น
ื ดังขึ้น ก็เห็นเก้าอีช
้ ายวัยกลางคนด้านซ้ายล่างเคลื่อน
ตามมา ตัวเขาทรุ ดนั ่งลงบนพื้น พร้อมทัง้ ร้องอุทาน

“อ๊ะ!”
คนอื่นๆ เห็นท่าทาง ก็หลุดยิม
้ ออกมาอย่างกลัน
้ ไว้ไม่อยู่ และไม่ลืมตาน้ อยๆ

ชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั ้น สีหน้าแดงก่ำ พอลุกขึ้นมาก็ปรีไ่ ปหาเรือ


่ งเฟิ่ งจิว

ด้วยความอับอายเสียจนโกรธเคือง “เจ้ารู ห
้ รือไม่วา่ ข้าเป็นใคร? ช่าง
อาจหาญนั ก! ถึงกล้ามาล้อเล่นกับข้า!”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ เฟิ่ งจิว
่ ที่นั่งเอนตัวอย่างเกียจคร้านก็เหลือบมองเขาแวบหนึ่ ง
“แม้ไม่รูว้ า่ ท่านเป็นใคร แต่ก็เดาว่าเป็นคนของตลาดมืด บอกว่าแขกเข้ามา
แล้วต้องทำยังไง? หรือนี่ คือกิรย
ิ าท่าทางที่พวกท่านใช้ปฏิบต
ั ิต่อแขก?”

“เจ้า!”

“นั กปรุ งยาหลิน ที่ใต้เท้าภูตหมอพูดก็ถูก แขกเข้ามา จะเสียมารยาทไม่ได้”

ชายวัยกลางคนตรงที่นั่งอาวุโสเอ่ยขึ้น น้ำเสียงทุ้มต่ำช่างมีอำนาจ ทำให้นัก


ปรุ งยาหลินที่สีหน้าขุน
่ ข้องใจไม่กล้าปริปากอีก

เวลานี้ คนที่เหลือกลับเอ่ยปากว่า “ท่านประมุข เห็นเขายังสวมหน้ากากอยู่


ท่าทางไม่กล้าให้ใครเห็น ซ้ำก็ไม่รูท
้ ี่มาอะไรเลย พวกเราจะเชื่อคนเช่นนี้ ได้
อย่างไรขอรับ?”

“จริงด้วยท่านประมุข ไม่วา่ ยังไง ก็ไม่อาจฝากชื่อเสียงทัง้ หมดของตลาดมืด


แคว้นเหินเวหาปีนี้ไว้กับตัวคนผูน
้ ี้ ได้ ท่านดูท่าทางเฉื่ อยชาของเขาสิขอรับ
หนำซ้ำเดาว่าอายุคงยังไม่มาก คนเช่นนี้ จะรับผิดชอบงานใหญ่ได้เช่นไร?”
ชายวัยกลางคนตรงที่นั่งอาวุโสมองไปยังเฟิ่ งจิว
่ สายตาจับจ้องบนหน้ากาก
ที่มีดอกลำโพงเบ่งบานอยูน
่ ั ้น เอ่ยถามว่า “ไม่ทราบว่าใต้เท้าภูตหมอจะถอด
หน้ากากออกมาเพื่อเผยใบหน้าแท้จริงแก่ทุกคนได้หรือไม่?”
ตอนที่ 171 ตัวตนของเขา?

“ข้าจำได้วา่ เหมือนพวกท่านจะเชิญข้ามาช่วยงาน?”

เฟิ่ งจิว
่ มองพวกเขาเหมือนยิม
้ แต่ไม่ยม
ิ้ “ไยต้องทำคล้ายว่าข้าจะไม่อยาก
ช่วยพวกท่านเองบ้างไม่ได้เล่า?”

เธอดึงๆ เสื้อคลุมลุกยืนขึ้น กล่าวว่า “ในเมื่อเชื่อถือข้าไม่ได้ งัน


้ พวกท่านไป
เชิญยอดฝีมือผูอ
้ ่น
ื เถอะ! ว่าตามตรง สำหรับเรือ
่ งนี้ จริงๆ ข้าก็ไม่สนใจสัก
เท่าไหร่”

สิน
้ สุดน้ำเสียง ไม่รอให้พวกเขาพูดอะไรมาก ก็สาวก้าวเดินออกไป

“ขอใต้เท้าภูตหมออยูก
่ ่อน”

คนตรงที่นั่งอาวุโสเอ่ยปาก หทารอารักขาด้านนอกห้องรับรองรีบขวางคนไว้
ทันที แต่พอจะขวางไว้ กลับถูกเฟิ่ งจิว
่ สะบัดแขนเสื้อโจมตีกระเด็นออกไป

“ไสหัวไป!”

เสียงตะโกนชัดเจนเยือกเย็นเปล่งออกมา ทหารอารักขาสองนายลอยออกไป
ล้มลงบนพื้นส่งเสียงอูอ
้ ี้
ส่วนคนอื่นๆ ในห้องรับรองพลันลุกยืนขึ้นเพราะการลงมืออย่างกะทันหัน
ของนาง มีคนตะคอกอย่างโมโห ชีไ้ ปที่นาง “ตามคนมา! จับเจ้าเด็กอวดดีนี่
ไว้!”

“ทุกคนหยุด!”

ชายวัยกลางคนตรงที่นั่งอาวุโสแผดเสียงเข้ม พวกทหารอารักขาที่ล้อมเข้า
มาต่างพากันเก็บมือ และหันมองเขา แม้แต่ทุกคนในห้องรับรองยังมองไป
เหมือนๆ กัน

“ออกไปให้หมด!”

ชายวัยกลางคนเดินเข้ามา ตะโกนใส่ทหารอารักขาพวกนั ้น ถึงจะมองไปหา


เฟิ่ งจิว
่ กล่าวอย่างขออภัยว่า “ใต้เท้าภูตหมอ ท่านอย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้
หมายความเช่นนั ้น”

“แต่การทดสอบครัง้ นี้ เป็นเรือ


่ งสำคัญยิง่ ตลาดมืดแคว้นเหินเวหาเราแพ้
ติดต่อกันมาสามปีแล้ว จะปล่อยท่านผูน
้ ี้ ไปอีกไม่ได้จริงๆ หนำซ้ำ เบื้องบนมี
คำสัง่ ลงมา หากปีนี้แพ้อก
ี ตำแหน่ งประมุขนี้ ต้องหมดวาระ ดังนั ้น…” เขา
บอกด้วยรอยยิม
้ ขมขื่น

“ท่านประมุขเคอ”
เฟิ่ งจิว
่ มองไปที่เขา เอ่ยว่า “เดิมทีขา้ เข้ามาช่วยงาน เพราะเห็นว่าเป็นชื่อ
เสียงของตลาดมืด แต่พอมาถึงที่นี่ ท่านประมุขเคอกลับทำให้ขา้ ไม่พอใจนั ก
หากยังอยากให้ขา้ ช่วย เช่นนั ้น พวกเราก็ต้องคุยกันเรือ
่ งค่าตอบแทน”

ประมุขเคอนิ่ งไปพักหนึ่ ง จากนั ้นจึงพยักหน้า “เรือ


่ งนี้ แน่ นอน ขอแค่ชนะ
การทดสอบครัง้ นี้ ได้ ข้าจะไม่เอาเปรียบใต้เท้าภูตหมอแน่ นอน”

ฟังเช่นนี้ เฟิ่ งจิว


่ ถึงจะเผยรอยยิม
้ อย่างพอใจ “งานแข่งปรุ งยาทิพย์จะจัดขึ้น
เมื่อไหรรึ?”

“อีกสามวันให้หลังขอรับ”

เฟิ่ งจิว
่ เดินเข้าไปอีกครัง้ กล่าวว่า “งัน
้ ก็เล่าเรือ
่ งราวให้ขา้ ฟังอย่างชัดเจน
เถอะ! ข้าจะได้เข้าใจเสียหน่ อย”

“ได้ขอรับๆๆ” ประมุขเคอเห็นคำพูดเขามัน
่ ใจ ก็สงบใจลง ก่อนจะนำเรือ
่ งการ
แข่งปรุ งยาทิพย์มาเล่าให้เขาฟังอย่างละเอียด

สามวันต่อมา

วันนี้ เป็นการแข่งขันของนั กปรุ งยาจากแต่ละถิน


่ ในแคว้นเหินเวหาที่จัดขึ้นปี
ละครัง้ เพราะนั กปรุ งยาที่ตลาดมืดแคว้นเหินเวหาส่งมาแพ้ติดต่อกันสามปี
ด้วยเหตุนี้ จึงให้ความสำคัญกับการแข่งปรุ งยาทิพย์ปีนี้อย่างมาก
เมื่อเฟิ่ งจิว
่ นั ่งรถที่ลากด้วยสัตว์บน
ิ ได้มาถึงสถานที่แข่งขัน… บริเวณยอด
เขาเวหาใต้ ก็เห็นได้วา่ ทัว่ ภูเขาล้วนเต็มไปด้วยผูค
้ น

เพราะมาเข้าร่วมการแข่ง จึงตรงมายังยอดเขาถึงจะลงไป เพื่อหลบเลี่ยงคน


ด้านล่างที่กรู กันแน่ นขนั ด

เฟิ่ งจิว
่ เดินลงจากรถ ดวงตาหลักแหลมเห็นเงาร่างคุ้นเคยกำลังนั ่งอยูใ่ น
ตำแหน่ งที่เด่นชัดบนเวที เห็นเช่นนี้ นั ยน์ ตาก็ฉายแววประหลาดใจอย่างอด
ไม่ได้ ใช้คางส่งสัญญาณ เอ่ยถามกับท่านประมุขเคอข้างกาย

“ท่านอาเคราดกนั ่นเป็นใครรึ?”

“ท่านอา… เคราดก?”

ประมุขเคอผงะ หันมองไปตามสายตาเฟิ่ งจิว


่ สายตาจับจ้องบนร่างชายผูน
้ ั ้น
ที่รา่ งกายสูงโปร่งและเก็บซ่อนกลิน
่ อายไว้ พอเห็นก็เผยรอยยิม
้ อย่างอดไม่
ได้ ส่ายหน้า “ใต้เท้าภูตหมอเพิง่ มาแคว้นเหินเวหาครัง้ แรก จึงไม่รูว้ า่ ตัวตน
ท่านผูน
้ ั ้นไม่ธรรมดา”

“โอ้? ว่ายังไงนะ?” เธออยากรู อ


้ ยากเห็นนิ ดหน่ อย
ตอนที่ 172 ท่านอาหลิง!

“เขาแซ่หลิง ชื่อโม่หาน เป็นอาจารย์ของสำนั กศึกษาหมอกดาราผูม


้ ีช่อ
ื เสียง
ที่สุดในแคว้นเหินเวหา ที่มาลึกลับ เป็นผู้ฝึกเซียน หนำซ้ำระดับวรยุทธ์พลัง
วิญญาณยังบรรลุถึงขัน
้ หลอมแก่นพลัง ที่สำคัญยิง่ กว่า คือเขาอายุยส
ี่ ิบห้า
ดังนั ้น ท่านสามารถเรียกเขาว่าท่านที่เคารพ หรือผู้อาวุโส แต่ท่านอานี่
เหอะๆ… เดาว่าน้ อยคนนั กจะเรียกกัน!”

“เพิง่ อายุยส
ี่ ิบห้ารึ?”

สีหน้าเธอประหลาดใจ กล่าวว่า “อายุยส


ี่ ิบห้าจะไว้เคราดกไปทำไมกัน? ข้า
นึ กว่าอย่างน้ อยเขาต้องอายุสักสามสิบห้าแล้วกระมัง!”

“เหอะๆ ดังนั ้นถึงบอกว่าที่มาลึกลับ เพราะไม่มีใครเคยเห็นหน้าจริงเขา”

เขาพูดยิม
้ ๆ สายตาจับจ้องบนร่างหลิงโม่หาน “นึ กไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาจะมาที่
นี่ รอประเดีย
๋ ว ข้าจะเข้าไปคารวะเสียหน่ อย ใต้เท้าภูตหมอไปด้วยกันหรือไม่
ขอรับ?”

“อาจารย์สำนั กศึกษาหมอกดาราผู้ลึกลับรึ?”

เธอพยักหน้าในทันที ไม่รูว้ า่ คิดอะไรอยู่ พอได้ยน


ิ เขาบอกว่าจะไปคารวะ ก็
พลันยิม
้ ขึ้น “แน่ นอน ได้รูจ
้ ักผูแ
้ ข็งแกร่งเช่นนี้ ถือว่าดียงิ่ นั กเป็นธรรมดา”

ดังนั ้น ประมุขเคอจึงพาเธอเดินไปหาหลิงโม่หานทางด้านนั ้น
และเมื่อพวกเขาปรากฏตัว หลิงโม่หานสังเกตเห็นชายหนุ่มชัว่ ร้ายในชุดแดง
แพรวพราว คุ้นเคยกับชุดสีแดงและหน้ากากลายดอกลำโพงนั ่น เพราะคืน
นั ้นในบ่อน้ำพุรอ
้ น สองสิง่ นี้ ก็วางอยูข
่ า้ งๆ กัน

นึ กถึงตรงนี้ แววตาเฉี ยบคมก็จับจ้องบนร่างชายหนุ่มอย่างพิเคราะห์

คืนนั ้นเพราะละอองน้ำในบ่อน้ำพุรอ
้ นจึงไม่สามารถเห็นได้ชด
ั เจน ทว่า
ใบหน้าที่ถูกทำลายกลับสะท้อนสู่ดวงตาเขาอย่างแจ่มชัด และตอนนี้ จะไม่
ยอมรับไม่ได้ ว่าคุณชายชุดแดงแวววาวราวกับแสงแดดบนท้องฟ้า ท่าทาง
สูงศักดิร์ า้ ยกาจ โดยเฉพาะดวงตาสงบนิ่ งที่มีรอยยิม
้ นั ่น ทำให้คนเห็นไม่อาจ
ลืม…

แต่พอมองดวงตาคู่นั้น ทำไมถึงรู ส
้ ึกคุ้นเคยอยูน
่ ิ ดหน่ อยนะ?

“ท่านอาจารย์หลิง ไม่ได้พบกันเสียนาน นึ กไม่ถึงว่าจะได้พบท่านที่นี่ ช่างโชค


ดี โชคดีจริงๆ ขอรับ” ประมุขเคอรีบร้อนออกหน้าประสานมือคารวะ พลาง
เอ่ยทักทายด้วยรอยยิม

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ เฟิ่ งจิว
่ ก็อดไม่ได้ที่จะยิม
้ หากท่านประมุขเคอรู ว้ า่ คนที่ขโมยยา
ทิพย์จิตวิญญาณอันล้ำค่าไปคือท่านอาหนวดเคราเฟิ้ มตรงหน้านี้ เดาว่าคง
ไม่รอ
้ งโชคดีอยูต
่ รงนั ้นแน่

“ที่แท้ก็เป็นท่านประมุขเคอ” เขายืนขึ้นมาประสานมือทำความเคารพ
สายตาจับจ้องไปบนร่างเฟิ่ งจิว
่ เอ่ยถาม “ท่านนี้ คือ?”
“เหอะๆ เขาคือนั กปรุ งยาที่ตลาดมืดเราเชิญมาเข้าร่วมงานแข่งปรุ งยาทิพย์
ขอรับ นี่ … อืม เขาคือภูตหมอขอรับ” เขากล่าวด้วยหน้าเหยเก เพราะเขาก็
ไม่รูว้ า่ ภูตหมอผูน
้ ี้ ช่อ
ื อะไรกันแน่ จึงไม่รูว้ า่ จะแนะนำตัวเช่นไรไปชัว่ ขณะ

“ท่านอาหลิง”

เฟิ่ งจิว
่ ขานเรียกเสียงใส ดวงตานั ้นฉายประกายเจ้าเล่หแ
์ วววาว มุมปาก
อมยิม
้ ยียวน กล่าวอย่างเป็นกันเอง “ท่านอาหลิงหากคิดว่าภูตหมอเรียกยาก
งัน
้ เรียกข้าภูตน้ อยก็ได้นะขอรับ”

ฟังคำเรียกท่านอาหลิง หลิงโม่หานก็ลูบเคราใต้คางขึ้นโดยไม่รูต
้ ัว มอง
คุณชายชุดแดงตรงหน้าอย่างมีความนั ย สีหน้ามีความเคลือบแคลงและ
แปลกใจอยูบ
่ างส่วน

“ท่านอารึ?”

เขาไว้เครามาก็ไม่ใช่แค่วน
ั สองวัน แต่คนอื่นๆ ก็ไม่เคยมีคำเรียกเช่นนี้ แต่
แม่สาวน้ อยร้อยเล่หผ
์ ูน
้ ั ้นที่พบกันในป่าเก้าหมอบคำแรกก็เรียกเขาว่าท่าน
อา คุณชายชุดแดงผูน
้ ี้ พอปริปากก็เรียกท่านอา หรือว่าเขาดูแก่มากจริงๆ?

แววตาเธอหรีล
่ ง คลี่รม
ิ ฝีปากยิม
้ “จริงด้วย! ปีนี้ขา้ เพิง่ สิบห้า ได้ยน
ิ ว่าท่าน
อาอายุยส
ี่ ิบห้า งัน
้ ก็โตกว่าข้าสิบปี หากไม่ใช่ท่านอาจะเป็นอะไรได้อก
ี เล่า?”

“สิบ สิบห้ารึ?” ท่านประมุขเคอข้างๆ เบิกดวงตา สีหน้าตกใจ


ตอนที่ 173 เจ้าทำอะไร!

พินิจมองภูตหมอที่สวมหน้ากากอยูต
่ รงหน้าตัง้ แต่หว
ั จรดปลายอย่างอดไม่
ได้ เพราะเห็นใบหน้าได้ไม่ชด
ั เจน ดังนั ้นจากคำพูดท่าทาง เดายังไงก็อายุ
ยีส
่ ิบห้าได้! แต่ใครจะรู ้ เขาเพิง่ บอกว่าตัวเองอายุสิบ สิบห้ารึ?

เวลานี้ เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัย ถูกต้องแล้วจริงๆ หรือที่จะฝากชื่อเสียงของ


ตลาดมืดปีนี้ไว้กับตัวเขา?

ขณะที่ประมุขเคอกำลังเช็ดปาดเหงือ
่ ที่ไหลบนหน้าผาก หลิงโม่หานก็มองลึก
ไปที่เฟิ่ งจิว
่ เพราะรู ว้ า่ อีกฝ่ายจำเขาได้ และรู ว้ า่ เขาคือคนชุดดำที่บุกเข้า
บ่อน้ำพุรอ
้ นในคืนนั ้น

ชายวัยกลางคนท่านหนึ่ งสาวก้าวย่างเดินเข้ามา สายตากวาดมองเฟิ่ งจิว


่ ใน
ชุดสีแดงอย่างดูถูก จากนั ้น ค่อยมองไปทางประมุขเคอพร้อมยกยิม
้ “สิบห้า
รึ?”

“เหอะๆ ท่านประมุขเคอ ท่านไปหาเจ้าเด็กไม่สิน


้ กลิน
่ น้ำนมนี่ มาจากที่ใดรึ?
หรือว่าตลาดมืดพวกท่านไม่มีคนแล้ว? ถึงได้เชิญเด็กน้ อยเช่นนี้ มาเข้าร่วม
งานแข่งปรุ งยาทิพย์? ไม่กลัวว่าถึงเวลาจะทำเสียหน้าตลาดมืดรึ?”

ประมุขเคอฟังคำพูดนี้ แววตาแหลมคมที่มีอำนาจก็กวาดมองไปทางชายวัย
กลางคนผูน
้ ั ้น เอ่ยอย่างไม่ไว้หน้าว่า “เรือ
่ งของตลาดมือเรา เหมือนจะยังให้
ใต้เท้ามาวิพากษ์ วจ
ิ ารณ์ ไม่ได้กระมัง!”
“เหอะๆ ตลาดมืดพวกท่านแพ้ติดต่อกันสามปีแล้ว อารมณ์ ท่านประมุขเคอ
ข้าเข้าใจได้”

ชายวัยกลางคนมองยุแหย่เขา จากนั ้นค่อยดึงตัวชายหนุ่มอายุราวสิบแปด


สิบเก้าทางด้านหลังมา พลางยิม
้ ให้หลิงโม่หานอย่างเอาใจ กล่าวว่า “ท่าน
อาจารย์หลิง นี่ คือลูกชาย…”

คำเขายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกตัดบทเสียแล้ว

หลิงโม่หานเห็นแล้วก็ไม่มองพ่อลูกคู่นั้น เพียงวางสายตาไว้บนร่างเฟิ่ งจิว



เอ่ยว่า “น้ องชาย งานแข่งปรุ งยาทิพย์ยงั ไม่เริม
่ ไม่สู้เดินเป็นเพื่อนข้าหน่ อย
ไม่ดีกว่ารึ?”

“ได้ขอรับ” เธอยกมุมปากขึ้นยิม
้ บอกกับประมูขเคอว่า “ประเดีย
๋ วการแข่ง
เริม
่ ข้าจะกลับมา”

ประมุขเคอมองหลิงโม่หานอย่างประหลาดใจ แล้วมองๆ เฟิ่ งจิว


่ ถึงจะตอบ
รับ “ได้ขอรับๆๆ พวกท่านไปกันเถิด!”

มองพวกเขาสองคนหนึ่ งแดงหนึ่ งดำเดินไปทางภูเขาด้านนั ้น ก็สงสัยในใจ


หรือว่าสองคนนี้ รูจ
้ ักกัน?

“เจ้ากับตลาดมืดมีความสัมพันธ์อะไรกันรึ?”
หลิงโม่หานถาม มองหนุ่มน้ อยชุดแดงที่เตี้ยกว่าเขาท่อนหนึ่ ง ขมวดคิว
้ มิน่า
ถึงได้เรียกเขาท่านอา พอยืนอยูด
่ ้วยกัน ช่างคล้ายเด็กน้ อยที่ยงั ไม่โตจริงๆ
ด้วย

“ก็อย่างที่ท่านเห็น พวกเขาเชิญข้ามาช่วยงาน เพื่อช่วยพวกเขาชิงที่หนึ่ ง


กลับมาขอรับ” เธอกล่าวอย่างไม่สนใจใยดี แล้วหาหินก้อนหนึ่ งนั ่งลง

แววตาลึกล้ำราวบ่อน้ำเก่าแก่จ้องสำรวจมองเฟิ่ งจิว
่ ถามว่า “ข้าเคยพบเจ้า
มาก่อนหรือไม่?”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ เฟิ่ งจิว
่ ก็มองไปทางเขา แววตาอมยิม
้ กริม
่ มีความเย้าหยอก
บางส่วน “ท่านอาขอรับ ตอนนี้ ท่านยังสวมกางเกงชัน
้ ในสีแดงอยูห
่ รือไม่
เล่า?”

สิน
้ สุดน้ำเสียง สองตาฉายประกายราวหมาป่าจ้องมองเขาอย่างแปลกๆ
กล่าวยิม
้ ๆ ว่า “อันที่จริงข้าก็ชอบสีแดง ท่านดูสิ ทัง้ ตัวข้าล้วนเป็นสีแดงนะ
ขอรับ”

ฟังคำพูดนี้ หลิงโม่หานเพียงรู ส
้ ึกหนาวเย็น โดยเฉพาะที่อก
ี ฝ่ายใช้สายตา
เปล่าราวหมาป่าจ้องมองเขา ยิง่ ทำให้กระวนกระวายไปทัง้ ร่าง

ในใจแอบคิดว่า ‘เด็กหนุ่มผูน
้ ี้ คงไม่มีความชอบแปลกๆ ทำนองนั ้นหรอก
กระมัง?’

“ท่านอาหลิง? เป็นอะไรไปขอรับ?”
เฟิ่ งจิว
่ ที่ลุกขึ้นมาเมื่อไหร่ไม่รูโ้ น้ มตัวมาตรงหน้า แทบจะแนบไปกับแผ่นอก
เขาพลางเอ่ยถาม

“เจ้าทำอะไรน่ ะ!”

หลิงโม่หานสีหน้าเยือกเย็นลง พลันถอยออกไปหลายก้าว

“ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะขอรับ!” เธอพูดอย่างบริสุทธิใ์ จยิง่ นั ก

เขาดึงหน้าจ้องมองเฟิ่ งจิว
่ สอนสัง่ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีความเย็นชา “บุรุษ
ก็ควรมีท่าทางเช่นชายชาตรี เหมือนเจ้าเช่นนี้ จะเรียกว่าอะไรได้!”
ตอนที่ 174 งานแข่งปรุงยาทิพย์!

เห็นเขาสะบัดแขนเสื้อจากไป เฟิ่ งจิว


่ ก็หว
ั เราะเบาๆ ฝีเท้าเร่งตามไปรวดเร็ว
ยังไม่ทันเดินไปใกล้ ก็ถูกประมุขเคอที่เข้ามารับหน้าขวางไว้

“น้ องชายภูตหมอ การแข่งใกล้จะเริม


่ แล้ว เจ้ารีบมาทางนี้ เถิด พวกเราจะ
บอกสถานกาณ์ อก
ี ฝ่ายกับท่านเสียหน่ อย” เขาให้สัญญาณ เชิญเฟิ่ งจิว
่ เดิน
ไปยังบริเวณอีกด้านที่มีนักปรุ งยาท่านอื่นๆ ของตลาดมืดอยู่

เห็นเช่นนี้ เฟิ่ งจิว


่ ก็เก็บความคิดนึ กสนุกไว้ ก่อนจะตามประมุขเคอมายัง
บริเวณนั กปรุ งยาเหล่านั ้น ฟังเขาแนะนำระดับนั กปรุ งยาฝ่ายตรงข้ามและ
สิง่ ที่เชีย
่ วชาญพลางชีค
้ นพวกหนึ่ งที่อยูไ่ ม่ไกล

ประมาณครึง่ ชัว่ ยามให้หลัง ในระหว่างที่ทุกคนเตรียมตัว ผูต


้ ัดสินของ
สมาคมนั กปรุ งยาทัง้ แปดท่านก็ประกาศเริม
่ การแข่งปรุ งยาทิพย์อย่างเป็น
ทางการ

ด่านแรกคือการแข่งแบบคัดออก นั กปรุ งยาไม่ต้องเข้าไปแข่งขัน แค่เทียบ


กันด้วยประเภทและระดับของพวกยาที่นักปรุ งยาแต่ละท่านนำเสนอ หลัง
จากทัง้ แปดท่านประเมินยาทุกชนิ ดตามลำดับ ก็จะบอกผลว่าผ่านหรือไม่
ผ่านเกณฑ์ จากนั ้นค่อยดำเนิ นการคัดออก

“ร้านยาสุขสม ยาคลายความเจ็บ ธรรมดาเกินไป ไม่ผา่ น!”


“ตระกูลหร่วนแห่งเมืองใต้ น้ำยาแปรลมปราณ ปรุ งได้ไม่สมดุล กลิน
่ แรงไป
ไม่ผา่ น”

“สมาคมโอสถปราย ยาหยุดเลือด ไม่ดีได้ผลช้า ไม่ผา่ น”

ได้ยน
ิ นั กปรุ งยาทัง้ แปดของสมาคมบอกไม่ผา่ นอยูเ่ รือ
่ ยๆ ทุกคนด้านล่างก็
ยิง่ ตึงเครียดขึ้นมา อันที่จริง ที่พวกเขาหยิบออกมาแข่ง ล้วนเป็นยาที่คิดว่า
ใช้ได้ แต่พออยูใ่ นมือพวกนั กปรุ งยาที่มีมาตรฐานของสมาคม กลับคิดอย่าง
พิถีพถ
ิ ันว่าทุกอย่างไม่ผา่ นเกณฑ์ ความเข้มงวดทำให้พวกเขาหวัน
่ ใจขึ้นมา
เพียงกลัวที่จะได้ยน
ิ ว่ายาตัวเองไม่ผา่ นเกณฑ์

พอผ่านไป นั กปรุ งยาหลายร้อยท่านที่ปรีม


่ าจากแต่ละถิน
่ ก็เหลือเพียง
สามสิบคนที่ได้เข้าไปด่านสอง ที่ผา่ นด่านล้วนเป็นพวกวงศ์ตระกูลและกอง
กำลังที่ค่อนข้างมีช่อ
ื เสียงในแต่ละถิน
่ หนึ่ งในนั ้น ยังมีอาจารย์นักปรุ งยา
จากสำนั กศึกษาหมอกดารา

“น้ องชายภูตหมอ สำหรับยาของเจ้า คนที่ประชันกับเจ้าได้อย่างแท้จริง ก็มี


แค่อาจารย์นักปรุ งยาของสำนั กศึกษาหมอกดารา และผูอ
้ าวุโสท่านนั ้นจาก
สมาคมสมุนไพร”

เขาให้สัญญาณ กล่าวต่อไปว่า “ปีก่อนๆ อาจารย์นักปรุ งยาสำนั กศึกษา


หมอกดาราล้วนไม่เคยมาร่วมงานแข่งปรุ งยาทิพย์ ไม่รูว้ า่ ปีนี้มาได้ยงั ไง ส่วน
ผูอ
้ าวุโสจากสมาคมสมุนไพร ได้ที่หนึ่ งติดต่อกันสามปีแล้ว เขาเป็นนั กปรุ ง
ยาที่สมาคมเทิดทูน หนำซ้ำยังเป็นนั กปรุ งยาระดับเจ็ดด้วย”
“งัน
้ นั กปรุ งยาสำนั กศึกษาหมอกดาราเล่า? ระดับเท่าไหร่หรือ?” ดวงตาเธอ
ฉายแววน้ อยๆ หนึ่ งความคิดในหัวเริม
่ เป็นรู ปเป็นร่าง

ต่างพูดว่าสำนั กศึกษาหมอกดาราเข้าได้ยากเย็นเพียงนั ้น ทว่าหากนางใช้ตัว


ตนนั กปรุ งยาเข้าไปเป็นอาจารย์ งัน
้ ก็อา่ นตำราในหอหนั งสือหมอกดาราได้
อิสระยิง่ ขึ้นไม่ใช่ร?ึ

“เครือ
่ งหมายนั กปรุ งยาที่เขาสวมตรงหน้าอกเป็นยอดนั กปรุ งยาระดับสาม
ความแกร่งด้านยายิง่ เหนื อกว่าผูอ
้ าวุโสท่านนั ้น” ว่าถึงตรงนี้ ประมุขเคอก็
ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ คิดว่าที่อยากจะชนะปีนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว

หากมีแค่นักปรุ งยาระดับเจ็ดนั ่นยังดีกว่าหน่ อย แต่กลับกลายเป็นว่า ปีนี้


แม้แต่อาจารย์นักปรุ งยาสำนั กศึกษาหมอกดารายังมาด้วย ทางข้างหน้าถูก
ปิดตาย ดูท่า ตำแหน่ งประมุขก็ต้องหมดวาระ

“น้ องชายภูตหมอทำให้ดีที่สุดเถิด หากพบกับยอดนั กปรุ งยาระดับสามของ


สำนั กศึกษาหมอกดารา ถึงแพ้ก็ไม่เสียหน้าหรอก”

เฟิ่ งจิว
่ ได้ยน
ิ ก็ยกมุมปากเล็กน้ อย เผยรอยยิม
้ จางๆ “ยังไม่ทันแข่งเลย! จะรู ้
ว่าแพ้ได้อย่างไร?”

“ลำดับต่อมา เข้าสู่การประเมินด่านที่สอง เชิญนั กปรุ งยาทัง้ สามสิบท่านที่ได้


รับเลือกขึ้นมาบนเวทีได้!”
คำพูดที่ดังจากบนเวทีทำให้ผูค
้ นโดยรอบเงียบลง เห็นเพียงบนโต๊ะยาวบน
เวทีมียากองหนึ่ งวางไว้ระเกะระกะ และนั กปรุ งยาทัง้ สามสิบท่านก็เดินออก
มาจากฝูงชนขึ้นไปบนเวที

เฟิ่ งจิว
่ ที่กำลังเดินขึ้นเวทีพลันรู ส
้ ึกถึงแรงหนึ่ งที่ผลักมาจากด้านหลัง ตัวจึง
โน้ มลงไปล่างเวที…
ตอนที่ 175 ไม่ได้เรือ
่ ง!

เสื้อคลุมสีแดงสะบัดขึ้น ทุกคนเห็นเพียงเงาสีแดงแวบผ่าน เงาร่างหนึ่ งร้อง


อุทานล้มลงล่างเวที

“อ๊ะ!”

นั กปรุ งยาท่านหนึ่ งล้มไปบนพื้นอย่างน่าอับอาย ถูกก้อนหินปลายแหลมครู ด


เสียจนบาดเจ็บ และเพราะลงพื้นผิดท่า พอล้มลงก็ยน
ื ขึ้นมาไม่ไหว

ส่วนบนเวทีนั้น คุณชายผูอ
้ อ
่ นวัยในชุดสีแดงยืนอยูท
่ ัง้ ชุดคลุมพลิว
้ ขึ้นเบาๆ
หน้ากากที่มีดอกลำโพงผลิบานสะท้อนแสงวาววับจับตาอยูท
่ ่ามกลางแสง
อาทิตย์ ผูค
้ นเห็นเพียงริมฝีปากอมรอยยิม
้ ที่เหมือนยิม
้ แต่ไม่ยม
ิ้ ทัว่ ร่างมี
กลิน
่ อายชัว่ ร้ายเย็นเยียบกระจายอยู่ สายตาเหลือบมองเหยียดนั กปรุ งยา
วัยกลางคนที่ทรุ ดนั ่งอยูล
่ ่างเวทีอย่างเสียหน้า

หลิงโม่หานที่นั่งอยูบ
่ นเวทีเห็นภาพนี้ เข้า ดวงตาดำอันลึกล้ำที่เป็นประกาย
จ้องมองเงาร่างอันร้ายกาจเยือกเย็น ก็เห็นว่าร่างนั ้นหันตัวมาทันใด ก่อนจะ
สบกับดวงตาเขาที่แฝงด้วยความดุรา้ ยโดยไม่ทันระวัง

ในช่วงเวลานั ้นเอง ประกายในดวงตาเขาสลายไป นั ่งอยูเ่ งียบๆ ใบหน้าแข็ง


ทื่อ ท่าทางมัน
่ คง
เฟิ่ งจิว
่ มองเขาอย่างแปลกใจ คิดว่าท่านอาผูน
้ ี้ ชา่ งเป็นคนที่เก็บซ่อนตัวได้
ลึกล้ำยิง่ นั ก แม้เคยพบปะกันหลายครัง้ แต่คล้ายว่าทุกครัง้ จะได้พบเห็นเขา
แตกต่างกันไป ตัวตนแท้จริงจะเป็นคนเช่นไรกันแน่ นะ?

ผูค
้ นบนเวทีแค่มองนั กปรุ งยาท่านนั ้นที่ล้มลงไปแวบหนึ่ ง ก็มายืนบนเวทีกัน
เรียบร้อยอย่างไม่สนใจ ชายวัยกลางคนแอบผลักคุณชายชุดแดง มีคนเห็น
ไม่น้อยเลย ด้วยเหตุนี้ เขาจึงโดนถีบลงไป และไม่มีอะไรน่าตื่นตกใจ

ส่วนผูน
้ ำตระกูลของนั กปรุ งยาวัยกลางคนผูน
้ ั ้นก็ใบหน้าหมองลง โบกมือ
เป็นสัญญาณ “ส่งคนลงเขาไปซะ!”

แววตาดำมืดจ้องมองเงาร่างสีแดง เพราะรู ว้ า่ อีกฝ่ายเป็นคนของตลาดมืด


พวกเขาจึงไม่กล้าตามอีกฝ่ายไปอย่างโจ่งแจ้งได้

ชายวัยกลางคนบนเวทีขา้ งกองสมุนไพรส่งใบสัง่ ยาแผ่นหนึ่ งให้ทุกคน ก่อน


จะพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “เก็บสมุนไพรในรายการมา สิบคนแรกสุดที่เก็บ
ครบเดินออกมาเข้ารอบต่อไป คนอื่นๆ ตกรอบ เริม
่ ได้!”

สิน
้ สุดน้ำเสียง พวกนั กปรุ งยาบนเวทีก็เก็บยาตามรายการในมือ พลาง
กอบโกยยาบนโต๊ะ เมื่ออาจารย์สำนั กศึกษาหมอกดาราเก็บยาเดินออกมา
เรียบร้อย สายตาเหลือบมองไปข้างกายอย่างอดไม่ได้ กวาดมองคุณชาย
ชุดแดงที่ในมือถือตะกร้ายา ขมวดคิว
้ เบาๆ
เฟิ่ งจิว
่ หันหน้าไปเล็กน้ อย ผุดรอยยิม
้ ส่งให้อก
ี ฝ่าย เวลาไม่นาน หลังจากชนะ
สิบคน ที่เหลือตกรอบ ไม่ทันไรก็เข้าสู่การทดสอบรอบสุดท้าย ต้องปรุ งยาบน
เวที ระดับยิง่ สูงประเภทยิง่ หายากถึงจะชนะ

เห็นสมุนไพรหลายสิบชนิ ดที่จัดวางไว้บนโต๊ะ เฟิ่ งจิว


่ ก็ลงมือปรุ งยา วิธก
ี าร
ปรุ งของเธอไม่เหมือนใคร ต่อให้คนอื่นเห็น ก็เรียนไปไม่ได้

เพราะมันคล้ายกับการทดลองสมัยใหม่ ผ่านการจัดการและสกัดไปแต่ละ
ขัน
้ ตอน สุดท้ายถึงจะปรุ งได้เป็นรู ปเป็นร่าง หลังจากเธอปรุ งน้ำยาสีเขียว
ขวดหนึ่ งออกมา ก็เดินมายังเบื้องหน้าผูต
้ ัดสินของสมาคมนั กปรุ งยาทัง้ แปด
ท่าน แล้วนำยาวางไว้ตรงหน้า

“เชิญตรวจสอบได้”

“นี่ คือยารึ? สีสันสวยงามนั ก” หนึ่ งในนั ้นผูต


้ ัดสินหญิงอายุราวสามสิบกว่า
มองน้ำยาครึง่ ขวดโปร่งใสนั ้นอย่างตกตะลึง และเหลือเชื่อนิ ดหน่ อย

“พีส
่ าวผูส
้ วยสง่างาม นี่ คือยาแน่ นอน ด้วยความสัตย์จริงไม่มีเท็จ”

เฟิ่ งจิว
่ ขยิบตาให้นาง รอยยิม
้ ชัว่ ร้ายและดวงตาสดใสพร้อมรอยยิม
้ ทำให้นัก
ปรุ งยาหญิงอายุสามสิบกว่าสีหน้าแดงน้ อยๆ ความอึดอัดใจเผยอยูบ
่ น
ใบหน้า

เห็นภาพเช่นนี้ หลิงโม่หานก็ขมวดคิว
้ แอบคิดว่า ‘เด็กคนนี้ ไม่ได้เรือ
่ งเลย
จริงๆ!’
ตอนที่ 176 ทำให้สลบแล้วแบกไป!

เวลานี้ เฟิ่ งจิว


่ หันข้างเล็กน้ อย มองถามหลิงโม่หานยิม
้ ๆ “ท่านอาหลิง ไย
ท่านถึงเอาแต่จ้องข้าล่ะขอรับ?”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ รอยยิม
้ บนใบหน้านั กปรุ งยาหญิงก็เอ่อล้นออกมาอย่างกลัน
้ ไว้
ไม่อยู่ สายตาที่มองเฟิ่ งจิว
่ มีความอ่อนโยนอยูบ
่ างส่วน “เจ้าหนุ่มน้ อย บอก
หน่ อยสิ ว่ายาขวดนี้ มีสรรพคุณอะไร?”

“ยาขวดนี้ คือน้ำยาเร่งความเร็วขัน
้ สาม ขอแค่ด่ ืมมันเข้าไป ในยามที่ต้องหนี
เอาตัวรอด ก็จะสามารถเพิม
่ ความเร็วได้เป็นสิบเท่า ต่อให้ผูฝ
้ ึกฝนพลัง
วิญญาณถูกปรมาจารย์พลังวิญญาณตามฆ่า แค่ด่ ืมยาขวดนี้ ก็สามารถมี
ความเร็วในการหนี ที่มากพอขอรับ”

ฟังคำพูดนี้ ผูค
้ นทัง้ บนล่างเวทีต่างสูดหายใจ ดวงตาแต่ละคู่ล้วนจ้องมองยา
สีเขียวขวดนั ้นอย่างมีประกายละโมบ หากเป็นอย่างที่เขาบอก นี่ ก็ไม่ใช่ยา
ธรรมดา แต่เป็นน้ำยาทิพย์ที่ชว
่ ยชีวต
ิ ได้ในเวลาคับขัน!

“หึ! ไร้สาระ!”

อาจารย์นักปรุ งยาสำนั กศึกษาหมอกดาราเดินเข้ามา นำยาวางบนโต๊ะ


เหลียวมองเฟิ่ งจิว
่ แวบหนึ่ ง กล่าวว่า “ช่างน่าขันเสียจริง! ข้าคลุกคลีกับยา
มาหลายปีเพียงนี้ ยังไม่เคยได้ยน
ิ ว่ามียาเร่งความเร็วอะไรนี่ พูดจาเหลวไหล
สิน
้ ดี!”
“นั ่นเพราะท่านอายุมากเพียงนี้ ก็ยงั เป็นแค่ยอดนั กปรุ งยาระดับสาม จึงรู แ
้ ค่
ว่าระดับการกลัน
่ ยานั ้นมีขด
ี จำกัด”

คำพูดลอยชายกลับทำให้ผูอ
้ าวุโสท่านนั ้นโกรธเสียจนสีหน้าแดงฉาน ชีเ้ ฟิ่ ง
จิว
่ ด้วยความโมโห “เจ้า เจ้าเด็กสามหาวนี่ ! ช่างหยิง่ ผยองจริงๆ! ไม่รูค
้ วาม
เอาเสียเลย!”

“เอาล่ะ พวกท่านไม่ต้องเถียงกันแล้ว ยาขวดนี้ เป็นยาระดับสูงขัน


้ สามจริงๆ”

ผูอ
้ าวุโสท่านหนึ่ งที่อยูต
่ รงกลางเอ่ยปาก คนอื่นๆ ล้วนเงียบไป แม้แต่
อาจารย์สำนั กศึกษาหมอกดารายังเบิกสองตาขึ้น “ท่านประมุขอวี ๋ ท่านดูผด

หรือไม่? เด็กนี่ จะกลัน
่ ปรุ งยาระดับสูงขัน
้ สามออกมาได้รข
ึ อรับ?”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ ประมุขอวีผู
๋ น้ ั ้นก็ไม่พอใจ “เฉิ นเหล่า เจ้าตัง้ คำถามกับความ
สามารถในการวินิจฉั ยของข้ารึ?”

เห็นหน้าเขาไม่สบอารมณ์ อาจารย์นักปรุ งยาสำนั กศึกษาหมอกดาราถึงจะ


รีบร้อนจัดการอารมณ์ กล่าวด้วยความเคารพ “ไม่กล้าขอรับ ท่านประมุขอวี ๋
คือประมุขของสมาคมนั กปรุ งยา ผูม
้ ีอำนาจในแวดวงการยา ย่อมมี
ประสบการณ์ และความรู ก
้ ว้างขวางเป็นธรรมดา ข้าเสียสติไปเอง ขอท่าน
ประมุขอวีอย่
๋ าได้ถือโทษ”

ขณะพูด เขามองไปที่เฟิ่ งจิว


่ ข้างๆ แววตาสับสน ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะแพ้
พ่ายแก่เด็กหนุ่มคนหนึ่ ง
แววตาหลิงโม่หานสัน
่ ไหวน้ อยๆ หลังจากสายตาจับจ้องบนร่างหนุ่มน้ อยชุด
แดง ก็หรีด
่ วงตาลงเล็กน้ อย

ประมุขตลาดมืดล่างเวทีฟังคำพูดประมุขอวี ๋ ก็ต่ ืนเต้นเสียจนแทบจะร้องไห้


ออกมา “เป็นน้ำยาทิพย์ขน
ั ้ สาม! เป็นยาทิพย์ขน
ั ้ สาม!” เดิมที่คิดว่าไม่มีหวัง
แล้ว แต่ใครจะรู ้ ว่าสุดท้ายจะมีเรือ
่ งน่าอัศจรรย์ใจเช่นนี้ จะไม่ให้เขาตื่นเต้น
ได้อย่างไรเล่า?

ทว่าในเวลานี้ เอง จู่ๆ คนชุดดำสิบหกคนก็โผล่พรวดออกมา สิบคนในนั ้นมี


วรยุทธ์ระดับสร้างรากฐานขัน
้ สูงสุด หกคนที่เหลือเป็นระดับหลอมแก่นพลัง
พอพวกเขาปรากฏตัว แรงกดดันมหาศาลกระจายออกมาทันใด และ
ปกคลุมทัว่ ทัง้ ภูเขานี้ ไว้

“ซี๊ด! คนของตำหนั กยมราช!”

“อะไรนะ! คนของตำหนั กยมราชรึ? หนี เร็ว!”

“อ๊ะ! หนี เร็วเข้า! คนตำหนั กยมราชมาแล้ว!”

ชัว่ ขณะหนึ่ ง ฝูงชนแตกตื่นวิง่ หนี กันโกลาหล เสียงอุทานและกรีดร้อง


กึกก้องอยูบ
่ นภูเขาไม่ขาดสาย เห็นสถานการณ์ ไม่สู้ดี แรงกดดันอีกฝ่าย
แกร่งเกินไป วินาทีแรกเฟิ่ งจิว
่ จึงพุง่ ลงไปล่างเวที พลางตะโกนว่า “เหลิง่ ซวง
รีบหนี ลงเขาไป!”
เพิง่ สิน
้ สุดคำว่าไป แรงกดดันทรงพลังก็โจมตีมา ทำทัง้ ร่างเธอแข็งทื่อ เวลา
ต่อมา เพียงรู ส
้ ึกเจ็บหลังต้นคอ ร่างกายหมดสติล้มลงไป

“นายท่าน!”

เหลิง่ ซวงเห็นนางถูกทำให้สลบแล้วแบกไป ตกใจเสียจนพุง่ ตัวไปด้านหน้า


ทว่าสุดท้ายพละกำลังมีขด
ี จำกัด กระแสลมแข็งแกร่งโจมตีมา จึงถูก
กระแทกออกไปเสียดื้อๆ พอมองไปอีกครัง้ ก็ไม่เห็นเงาร่างนายท่านและสิบ
หกคนนั ้นแล้ว…
ตอนที่ 177 นายแห่งตำหนั กยมราช!

หลิงโม่หายออกไปไล่ตาม แต่ไม่นานนั กก็กลับมา กล่าวกับทุกคนอย่าง


ขออภัย “อีกฝ่ายมากันว่องไว ไปก็รวดเร็ว ไม่เห็นร่องรอยแล้ว”

คนของสมาคมนั กปรุ งยาได้ยน


ิ แต่ละคนก็ส่ายหน้า ประมุขอวีถอนใจเอ่
๋ ยว่า
“ไม่โทษท่านหรอก คนของตำหนั กยมราชลึกลับซับซ้อนมาแต่ไหนแต่ไร
หนำซ้ำกำลังยังแข็งแกร่ง หนุ่มน้ อยนั ่นถูกพวกเขาเพ่งเล็ง เกรงว่าเป็น
เพราะพรสวรรค์การปรุ งยา”

“ตำหนั กยมราชเป็นกองกำลังใดกันแน่ ? นายท่านข้าจะมีอน


ั ตรายหรือไม่?”
เหลิง่ ซวงมายังเบื้องหน้าพวกเขาพลางเอ่ยถามเสียงร้อนรน

ประมุขตลาดมืดเดินเข้ามา กล่าวว่า “กองกำลังตำหนั กยมราชยังแกร่งกว่า


ตลาดมืดนั ก เป็นกองกำลังหนึ่ งที่ไม่วา่ สำนั กศึกษาหมอกดาราหรือวงศ์
ตระกูลแต่ละถิน
่ ไม่อาจตอแย นายท่านเหยียนยิง่ เป็นผูแ
้ กร่งกล้าดัง่ เทพ
มังกรที่เห็นหัวไม่เห็นหาง ไม่มีใครรู ว้ า่ ที่มัน
่ ตำหนั กยมราชอยูท
่ ี่ใด น้ องชาย
ภูตหมอตกอยูใ่ นมือพวกเขาแล้ว เกรงว่าจะร้ายมากกว่าดี…”

“เป็นไปไม่ได้! นายท่านข้าจะไม่เป็นไร!” นางตะคอกเสียงดัง มองประมุข


ตลาดมืดด้วยแววตาเย็นเยียบ “พวกท่านตลาดมืดต้องช่วยข้าตามหานาย
ท่าน!”

“เจ้าวางใจเถอะ พวกเราจะไถ่ถามเบาะแสของนายท่านเจ้าแน่ ” ข้อนี้ ประมุข


เคอไม่ปฏิเสธ
“เจ้าสบายใจได้ ตามที่ขา้ รู ้ ช่วงนี้ ตำหนั กยมราชจับตัวนั กปรุ งยาและนั กเล่น
แร่แปรธาตุไปไม่น้อย ไม่แน่ นายท่านเจ้าคงไม่มีอน
ั ตรายหรอก” ประมุข
สมาคมนั กปรุ งยาบอก ถอนหายใจ งานแข่งปรุ งยาทิพย์ที่ดีๆ เดิมจะคัด
เลือกผูม
้ ีพรสวรรค์ แต่ใครรู ว้ า่ จะถูกคนตำหนั กยมราชทำให้กลายเป็นเช่นนี้

เรือ
่ งแพร่ออกไปราวกับขนนกในสายลม ทำเอาผูค
้ นถอนใจไม่สิน
้ สุด ต่าง
กำลังคาดเดาว่าคุณชายชุดแดงผูน
้ ั ้นจะเป็นหรือตาย?

ทว่าตลอดจนค่ำคืนมาเยือน เงาร่างสีดำกระโดดไม่กี่ทีก็มาถึงบริเวณใน
เรือนอย่างเงียบเชียบไร้เสียง

“คารวะนายท่านเหยียน!”

ผูฝ
้ ึกตนชุดดำสิบหกนายในลานบ้านคำนั บหนึ่ งเข่าด้วยความเคารพ

“ลุกขึ้นเถอะ!”

น้ำเสียงทุ้มต่ำเยือกเย็นแฝงด้วยแรงกดดันทรงพลังดังขึ้น เสื้อคลุมเขา
สะบัดขึ้น นั ่งลงข้างโต๊ะหินในสวน พอหมุนตัวนั ่งลง ใบหน้าก็เผยออกตามมา

นั ่นเป็นใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้คนตกตะลึงยิง่ อวัยวะทัง้ ห้าราวกับสวรรค์


แกะสลักสรรสร้างมาอย่างวิจิตร โครงหน้าคมชัดดัง่ ใบมีด เฉยชาแต่กลับไม่
สูญเสียความงดงาม ใต้คิว
้ ทรงดาบ ดวงตาคู่นั้นทัง้ ลึกล้ำและแฝงด้วย
ประกายลึกลับ ภายในเก็บไว้ซ่ึงคมมีดดุรา้ ยน่าสะพรึง แค่แวบเดียว ก็ทำให้
คนก้มหน้าลงโดยไม่รูต
้ ัว ไม่กล้าสบรับกับนั ยน์ ตาดำน่ากลัวที่แฝงด้วยแรง
กดดันแกร่งกล้าและคมมีด

และใต้จมูกสูงโด่ง คือริมฝีปากบางน่าหลงใหล ตอนนี้ มันเหยียดอยูน


่ ้ อยๆ
กลิน
่ อายเยือกเย็นน่าหวาดหวัน
่ ทัว่ ร่าง สูงส่งเช่นเทพสวรรค์ และดุดัน
รุ นแรงราวกับราชันย์แห่งใต้หล้า!

หากตอนนี้ เฟิ่ งจิว


่ เห็นเข้า ต้องอุทานเรียกว่า ‘ท่านอาหลิง!’ แน่

ถูกต้อง นายท่านเหยียนผูน
้ ำตำหนั กยมราช ก็คือหลิงโม่หานที่เฟิ่ งจิว
่ คุ้นเคย
แต่หลิงโม่หานเป็นแค่ตัวตนปลอมที่เข้าสำนั กศึกษาหมอกดาราไปเป็น
อาจารย์ในโลกภายนอก หนวดเคราหนาเตอะที่ปกติอยูบ
่ นใบหน้า ก็ผา่ นการ
จัดการอย่างประณี ตก่อนจะติดขึ้นไป จึงสมจริงมากพอ

“คนเป็นยังไงบ้าง?” นายท่านเหยียนเอ่ยถามเสียงเข้ม น้ำเสียงทุ้มต่ำมี


ความเกียจคร้าน และท่าทางของผูเ้ หนื อกว่า

“เรียนนายท่านเหยียน เด็กที่จับมาสลบอยู่ ยังไม่ฟื้นขอรับ” ผู้ฝึกตนชุดดำ


นายหนึ่ งพูดอย่างยำเกรง

“ดูคนให้ดีๆ พรุ ง่ นี้ พากลับตำหนั กยมราชไปพร้อมข้า”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ ผูฝ
้ ึกตนชุดดำสิบหกนายต่างระรืน
่ “นายท่านจะกลับตำหนั ก
ยมราชแล้วรึขอรับ?”
สิน
้ สุดน้ำเสียง พลันได้ยน
ิ ทหารอารักขาด้านหลังกู่รอ
้ ง “แย่แล้ว! เจ้าเด็กนั ่น
จะหนี ไปแล้ว!”
ตอนที่ 178 แม้ติดปีกก็ยากจะบินหนี !

ทัง้ สิบหกคนได้ยน
ิ ก็โผพุง่ ตัวออกไปด้านหลังทันที

เห็นเช่นนี้ นายท่านเหยียนลุกยืนขึ้น ขณะกำลังจะเดินไปด้านหลัง ฝีเท้าก็


ชะงักลง ลูบๆ คาง จากนั ้นค่อยหยิบหน้ากากครึง่ หน้าสีเงินจากในห้วงมิติข้น

มาสวม ถึงจะสาวก้าวเดินไปด้านหลัง

เมื่อเขามาถึงด้านหลัง เห็นเพียงเงาร่างสีแดงบนหลังคากำลังรับมือกับลูก
น้ องเขาราวกับภูตผี ความเร็วที่พุง่ ขยับถอยหลบ และการโจมตีอน
ั ร้อนแรง
ทำให้ดวงตาเขาสัน
่ ไหวเล็กน้ อย

ตอนแรกบนยอดเขา อาศัยที่ภูตหมอไม่ทันระวังทำให้สลบจากด้านหลัง ทว่า


ตอนนี้ อยูใ่ นท่าเตรียมพร้อม ลูกน้ องผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานก็ไม่มีทาง
จับตัวไว้ได้ ไม่พูดไม่ได้ ว่ามันทำให้เขาต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่อก
ี ครัง้

น่าเสียดาย เมื่อตกอยูใ่ นมือเขา คิดจะหนี ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว

“ซี๊ด!”

คนชุดดำวรยุทธ์ระดับสร้างรากฐานถูกเฟิ่ งจิว
่ เตะเข้าทีหนึ่ ง ร่างกายถอย
หลังไปป้องกันอยูห
่ ลายก้าว กุมหน้าอกที่ถูกถีบจนเจ็บแล้วลูบๆ ก่อนจะสบถ
ด่าเสียงเบา

“บ้าเอ้ย! เจ้าเด็กนี่ กินอะไรโตมาเนี่ ย? แรงเท้าหนั กขนาดนั ้นเลยรึ?”


เฟิ่ งจิว
่ เก็บเท้าชกหมัดโจมตีออกไปหาคนชุดดำระดับสร้างรากฐานอีกคนที่
เข้ามาใกล้ ยิม
้ เยือกเย็น “แน่ นอนว่าต้องกินนมแม่โตมาน่ ะสิ!”

ฟังคำพูดนี้ นายท่านเหยียนที่ยน
ื มือไพล่หลังอยูด
่ ้านล่างก็ยกมุมปากขึ้นมุม
โค้งที่ยากจะสังเกตเห็น ดวงตาลึกล้ำจับจ้องบนร่างชุดแดง สัง่ การว่า “จับ
คนลงมา”

“ขอรับ!”

ผูฝ
้ ึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่มองอยูข
่ า้ งๆ ขานรับทันที สองคนในนั ้นโผ
ตัวออกไป แรงกดดันทรงพลังปกคลุมไว้ พอลงมือ ก็จับตัวเฟิ่ งจิว
่ ไว้ได้

“เจ้าพวกบ้า! ไม่เพียงหมาหมู่ ยังจะใช้กำลังรังแกคนอ่อนแออีก! ซี๊ด! อย่า


บิดซิ! แขนข้า!”

เธอร้องอย่างเจ็บปวด เบิกดวงตาขึ้นด้วยความโกรธ นี่ คือความแตกต่าง


ของพละกำลัง ในโลกที่ผูแ
้ ข็งแกร่งเป็นใหญ่

ต่อให้พละกำลังเธอเรียกได้วา่ เป็นที่หนึ่ งไม่เป็นสองรองใครในแคว้นเล็ก


ระดับเก้าอย่างแสงสุรย
ิ น
ั แต่พอมาถึงแคว้นกลางระดับหก เผชิญหน้ากับ
เหล่าเซียนผูแ
้ ข็งแกร่ง ก็ยงั อ่อนแอโดยสิน
้ เชิง

ผจญกับศัตรู เก่งกาจเช่นนี้ เดิมทีเธอก็รูว้ า่ หนี ไม่พน


้ แต่ยงั คิดจะลองดู เป็น
ไปตามคาด ผลลัพธ์ที่ได้ลองคือสองแขนถูกพลิกบิดไว้
ซี๊ด! ทุกทีที่บด
ิ แขนคนอื่นก็ไม่คิดว่าจะเจ็บ ทำไมพอตัวเองถูกคนพลิกบิดไว้
ถึงรู ส
้ ึกเหมือนกระดูกจวนจะแยกจากกันเสียแล้วเล่า?

“นายท่าน จับคนกลับมาแล้วขอรับ” ผูฝ


้ ึกตนระดับหลอมแก่นพลังสองนาย
จับคนคุมตัวมาด้านหน้านายท่านเหยียน

เฟิ่ งจิว
่ เงยหน้า ถึงจะเห็นชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีดำลายเมฆหลบยืนมือไพล่
หลังอยูต
่ รงหน้า ถึงแม้อก
ี ฝ่ายจะใช้หน้ากากสีเงินครึง่ หน้าปกปิดใบหน้าไว้
เผยให้เห็นเพียงริมฝีปากบางน่ามองใต้จมูกและคางเฉยชารู ปทรงคมชัด แต่
เรือนร่างสูงโปร่งกำยำ รู ปร่างตัง้ ตรงแข็งแรง รวมถึงท่าทางบนร่าง ยังคง
ทำให้ดวงตาเธอเป็นประกาย

ทันใดนั ้น จึงผิวปากออกมาราวกับคุณชายผูล
้ ากมากดี เอ่ยชมว่า “ช่างเป็น
หนุ่มรู ปงามที่ทรงเสน่ หน
์ ่าเย้ายวนจริงๆ!”

เห็นเขาพบหน้านายท่านก็ทำตัวลามปามขึ้นมาต่อหน้าทุกคนด้วยความ
หยอกล้อ ผูฝ
้ ึกตนชุดดำทัง้ สิบหกคนก็ผงะไป เหลือบมองนายท่านอย่าง
รวดเร็ว แล้วเร่งรีบก้มหน้าลงปกปิดรอยยิม
้ ที่เอ่อล้นตรงมุมปากอย่างกลัน
้ ไว้
ไม่อยู่

หนุ่มรู ปงามทรงเสน่ หน
์ ่าเย้ายวน? พูดถึงนายท่านพวกเขารึ?

เด็กน้ อยนี่ คงไม่อยากมีชว


ี ต
ิ อยูแ
่ ล้วกระมัง

เมื่อนายท่านเหยียนได้ยน
ิ คำพูดเฟิ่ งจิว
่ ก็เลิกคิว
้ ขึ้น มุมปากยกโค้งชัว่ ร้าย
“ทรงเสน่ ห?์ น่าเย้ายวนรึ? อาจจะใช่ ข้าถือว่านี่ เป็นคำชมก็ได้”

แต่น้ำเสียงเอื่อยเฉื่ อยที่ทุ้มต่ำและมีแรงดึงดูดนั ้น ไม่วา่ ฟังเช่นไร ล้วนคล้าย


จะเคลือบแฝงด้วยอันตรายถึงชีวต

คำ คำชมรึ?

คนชุดดำสิบหกนายมองหน้ากันแวบหนึ่ ง ผิวหนั งตึงตัว ยิง่ ก้มหัวต่ำลงอีก


ตอนที่ 179 ความเข้าขาที่แปลกประหลาด!

และตอนนี้ เฟิ่ งจิว


่ กลับตกใจน้ อยๆ ถลึงมองชายหนุ่มตรงหน้า แอบคิดในใจ
ว่า ‘น้ำเสียงนี้ ทำไมฟังแล้วคุ้นหูนิดหน่ อย? หรือว่าเธอเคยพบคนผูน
้ ี้ ที่ไหนมา
ก่อน?’

เป็นไปไม่ได้น่า! ผูช
้ ายคนนี้ ท่าทางโดดเด่นเช่นนั ้น หากเธอเคยเห็น คงจะไม่
ลืมแน่ นอน

ขณะกำลังคิด พลันเห็นชายหนุ่มตรงหน้าปล่อยกระแสลมออกมา ตัวเธอ


รู ส
้ ึกว่าทัว่ ร่างไร้เรีย
่ วแรง ทรุ ดนั ่งลงไปบนพื้น

“เอาคนไปขังไว้ หากปล่อยให้เขาหนี ไป ข้าจะสอบสวนพวกเจ้า!” นายท่าน


เหยียนกำชับเสียงเข้ม สะบัดแขนเสื้อ หันตัวจากไป

“ขอรับ!” ผูฝ
้ ึกตนชุดดำสิบหกนายขานรับด้วยความเคารพ ดึงหนุ่มน้ อยที่
ทรุ ดนั ่งอยูบ
่ นพื้นขึ้นมา

หลังจากร่างกายหมดเรีย
่ วแรง เพียงรู ส
้ ึกว่ากลิน
่ อายพลังวิญญาณในร่างถูก
เขาปิดผนึ กไว้

เฟิ่ งจิว
่ หวัน
่ ใจเล็กน้ อย เอ่ยว่า “พลังเร้นลับข้าถูกนายท่านพวกเจ้าปิดผนึ กไว้
ไม่ต้องลากข้าแล้ว ข้าเดินเองก็ได้ อีกอย่าง มีพวกเจ้าเฝ้าอยู่ ข้าจะหนี พน
้ ได้
รึ?”
“เหอะ ข้าแนะนำเจ้าทางที่ดีอย่าคิดหนี หากหนี อก
ี ระวังขาเจ้าจะถูกตัด!” ผู้
ฝึกตนนายหนึ่ งในนั ้นพูดข่มขู่ ปล่อยมือที่จับนางไว้ออก บอกว่า “ไปเถอะ!”

เฟิ่ งจิว
่ ที่โดนขังอยูใ่ นห้องอีกครัง้ รู ว้ า่ หนี ไม่พน
้ แล้ว จึงไม่นึกถึงมันอีก แต่มี
เพียงตัวเองที่รู ้ ว่าชายหนุ่มปิดผนึ กแค่พลังเร้นลับ กลับไม่รูว้ า่ ในร่างยังมี
กลิน
่ อายพลังวิญญาณอยู่ เป็นเช่นนี้ ขอแค่หาโอกาส ก็ยงั หนี ออกไปได้

แต่วา่ ก่อนหน้านั ้น เธอยังอยากเข้าใจ ว่าคนพวกนี้ จับเธอมาทำไมกันแน่ ?

ตำหนั กยมราชรึ? เธอจำไม่เห็นได้เลยว่าตัวเองไประรานกองกำลังเช่นนี้


ด้วย!

เช้าวันต่อมา เฟิ่ งจิว


่ ถูกพวกเขาพาขึ้นเรือบินลำหนึ่ ง เมื่อเรือบินลอยห่างพื้น
ขึ้นไปบนท้องฟ้า เฟิ่ งจิว
่ ที่เดิมนั ่งอยูด
่ ้านในก็เดินออกมา เห็นชายหนุ่มนั ่งดื่ม
เหล้าอยูห
่ ว
ั เรือ สาวก้าวย่างจะเดินเข้าไป กลับโดนขวางไว้

“ปล่อยเขาเข้ามา” นายท่านเหยียนสัง่ โดยไม่หน


ั หน้าไป

หลังเฟิ่ งจิว
่ เดินเข้าไปก็นั่งลงอย่างไม่เกรงใจ ยกเหยือกเหล้าขึ้นรินเหล้าเอง
จิบไปคำหนึ่ ง ก่อนจะถามว่า “พวกท่านจับข้ามาจะให้ชว
่ ยชีวต
ิ ใครรึ? หรือว่า
ต้องการทักษะการปรุ งยาของข้า?”

คนพวกนี้ แม้บนร่างจะมีไอสังหารกระหายเลือดรุ นแรงนั ก แต่กลับไม่มี


ความคิดจะฆ่าเธอ ไม่เช่นนั ้น คงไม่มีชว
ี ต
ิ มาถึงตอนนี้ แต่คาดว่าสิง่ เดียวที่
สามารถทำให้คนต้องตาได้ มีเพียงทักษะการรักษาและการปรุ งยา
เห็นท่าทีลอยชายตามใจชอบ และท่าทางไม่ตกใจตื่นกลัว กลับทำให้ใน
ดวงตานายท่านเหยียนเผยแววชื่นชม “ไม่กลัวข้าจะฆ่าเจ้ารึ?”

“อยากฆ่าคงฆ่าไปนานแล้ว ไยต้องรอถึงตอนนี้ ”

เธอลูบๆ ท้อง หันไปถามทหารอารักขาข้างๆ “เฮ้ ไม่มีของกินรึ? เอามาให้ขา้


หน่ อยสิ ตัง้ แต่เมื่อวานถึงตอนนี้ ขา้ ยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ”

ทหารอารักขาผูน
้ ั ้นมองนายท่านเหยียนแวบหนึ่ ง หลังได้รบ
ั สัญญาณ ถึงจะ
เดินเข้าไปในเรือบิน ไม่นานนั ก ก็หยิบขนมอบออกมาวางลงบนโต๊ะเล็กสอง
สามจาน

มองหน้ากากบนหน้าเขาก็ไม่สวม เผยให้เห็นใบหน้าที่ถูกทำลาย เวลานี้ ยงิ่


กินอย่างไม่รก
ั ษาภาพพจน์ แม้แต่น้อย ดวงตานายท่านเหยียนฉายแววเล็ก
น้ อย ปริปากบอกว่า “กินช้าๆ หน่ อย ไม่พอยังมีอก
ี ”

“แค่กๆๆๆ”

เขายังพูดไม่จบดี พอเอ่ยไป ทันใดนั ้นก็ทำให้เฟิ่ งจิว


่ ตกใจสำลัก ขนมอบ
สำลักอยูต
่ รงคอขึ้นมาไม่ไหว ลงไปก็ไม่ได้ ใบหน้าเสียโฉมขึ้นสีแดงก่ำเพราะ
เหตุนี้
เห็นเช่นนี้ นายท่านเหยียนก็ขมวดคิว
้ มองเฟิ่ งจิว
่ ตบกลางอกพลางรินน้ำดื่ม
ไปแก้วหนึ่ ง หลังถอนหายใจอย่างโล่งออกก็ถลึงมองมาทางเขา

“ทำอะไรน่ ะ?” เด็กคนนี้ ช่างแปลกประหลาดเสียจริง


ตอนที่ 180 เขาจะถอดเสื้อผ้าข้า!

นั ยน์ ตาดำหันไปเห็นลูกน้ องผูฝ


้ ึกตนระดับหลอมแก่นพลังมองมาอย่างตื่น
ตะลึง เขาขมวดคิว
้ กวาดสายตามองพวกเขา “นิ่ งอยูต
่ รงนั ้นทำไมเล่า? ไม่มี
อะไรทำกันรึไง? ถอยไปซะ!”

“ขอรับ!”

ผูฝ
้ ึกตนหลอมแก่นพลังเหล่านั ้นรีบร้อนขานรับ ขณะที่ถอยไป ก็มองเด็ก
หนุ่มชุดแดงผูน
้ ั ้นอีกครัง้ ดูไม่ออกจริงๆ ว่าหนุ่มน้ อยนี่ มีอะไรพิเศษกันแน่ ?
ถึงสามารถทำให้นายท่านใช้ท่าทางคำพูดอ่อนโยนได้เช่นนี้ ?

หลังจากเฟิ่ งจิว
่ มองเขาแวบหนึ่ ง ก็ดูแลตัวเองทานขนมอบโดยไม่สนใจเขา
รอบนี้ ทานค่อนข้างช้า หนำซ้ำ ในดวงตาที่หรีล
่ งครึง่ หนึ่ งฉายแววเคลือบ
แคลง ‘ทำไมน้ำเสียงนั ้นยิง่ ฟังแล้วยิง่ คุ้นเคยนั กนะ?’

เธอเคยได้ยน
ิ เสียงคนคนนี้ ที่ไหนกันแน่ นะ?

ถึงเวลาตอนเย็น เรือบินหยุดลงบนพื้นราบ หลังจากนายท่านเหยียนเดินลง


มา เธอก็เร่งเดินตามลงไป แต่ไม่ทันไร ดวงตาก็ถูกคนใช้ผา้ สีดำอะไรบาง
อย่างปิดเอาไว้

พวกเขาพาเดินมาตลอดทาง รู เ้ พียงว่าหลังจากเดินไปบนช่วงหาทางแสน
ยาวไกลอย่างเลี้ยวลดคดเคี้ยว ข้างหูก็ได้ยน
ิ หลายคนขานต้อนรับนายท่าน
เหยียนกลับหอด้วยความเคารพ
“พาเขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วส่งเขาไปหอโอสถ”

หลังน้ำเสียงนายท่านเหยียนลอยมาข้างหู เธอก็ถูกคนพาไป มาถึงห้องห้อง


หนึ่ ง ผูฝ
้ ึกตนท่านหนึ่ งแก้ผา้ สีดำที่ปิดตาไว้ออก ขณะเดียวกันก็โยนชุดคลุม
สีเทาชุดหนึ่ งเข้ามา

“รีบๆ เปลี่ยนแล้วตามข้ามา!”

เห็นผูฝ
้ ึกตนยืนจ้องเธออยูใ่ นห้องเช่นนั ้น ก็ถลึงดวงตา “เจ้าออกไปสิ! มัว
จ้องอยูข
่ า้ จะเปลี่ยนชุดได้เช่นไร?”

“เป็นผูช
้ ายกันทัง้ นั ้นมีอะไรที่ดูไม่ได้เล่า? เร็วเข้า พิรพ
ี้ ไิ รให้มันน้ อยๆ
หน่ อย!” นั ่นคือผูฝ
้ ึกตนวรยุทธ์ระดับหลอมแก่นพลัง เป็นชายอายุยส
ี่ ิบกว่า
และเป็นหนึ่ งในสิบหกคนที่ตามกลับมาด้วยกันครัง้ นี้ นามว่า ฮุยหลาง

“ข้าไม่ชน
ิ กับการถูกคนจ้อง” เธอขมวดคิว
้ บอก

“เจ้าเด็กนี่ ปัญหาเยอะเสียจริง! หากไม่เปลี่ยนอีกข้าจะช่วยเจ้าเปลี่ยน?”


ขณะพูด เขาก็ก้าวยาวเดินเข้าไปใกล้จริงๆ ก่อนทำท่าทางจะถอดเสื้อผ้าเฟิ่ ง
จิว

ทว่า ไม่รอให้เขาเข้าใกล้ เฟิ่ งจิว


่ ก็ยด
ื คอขึ้นตะโกนลัน
่ “อ๊า! อนาจาร!”
ประตูหอ
้ งพลันถูกผลักเปิด ผูฝ
้ ึกตนสองสามนายด้านนอกล้วนเคลื่อนกาย
เข้ามา เห็นสถานการณ์ ในห้อง ก็เบิกดวงตาอย่างอดไม่ได้ “ใครอนาจารใคร
รึ?”

หลังจากหนึ่ งคนในพวกนั ้นจ้องมองทัง้ สองคนในห้อง ก็ยม


ิ้ แปลกๆ จ้องผู้ฝึก
ตนระดับหลอมแก่นพลังผูน
้ ั ้นพลางเอ่ยว่า “ฮุยหลาง นึ กไม่ถึงว่าเจ้าจะยังมี
รสนิ ยมเช่นนี้ อยูอ
่ ก
ี นะ!”

“ไสหัวออกไปซะ!”

สีหน้าผูฝ
้ ึกตนระดับหลอมแก่นพลังหมองมืดลง ถลึงมองเฟิ่ งจิว
่ สัง่ ว่า “เจ้า
สองคนมานี่ ! ถอดเสื้อผ้าเจ้าเด็กนี่ ให้ขา้ ที!”

ฟังคำพูดนี้ แววตาเฟิ่ งจิว


่ ก็หรีล
่ ง ในดวงตาฉายประกายเย็นเยียบ ริมฝีปาก
คลี่ออกยิม
้ “ถอดเสื้อผ้าข้ารึ? เจ้าก็ลองเข้ามาสิ”

“เจ้าเด็กนี่ คิดว่าข้าไม่กล้ารึ?” ฮุยหลางก้าวย่างออกหน้า ยื่นมือจะไปดึงเสื้อ


ผ้าเฟิ่ งจิว

เธอไม่เกรงใจ เห็นเขาก้าวเข้ามา ลงมือทำเขาล้มออกไปด้วยการอาศัยแรง


อีกฝ่ายโต้ตอบ ขณะเดียวกันนิว
้ มือก็ขยับ เข็มเงินประกายเยือกเย็นจึงแทง
เข้าจุดชีพจรตรงระหว่างเอวกับหน้าท้อง

“ซี๊ด!”
โดนเฟิ่ งจิว
่ ทำให้ล้มลงบนพื้นอย่างกะทันหัน ฮุยหลางจึงเดือดดาลขึ้นมา มือ
หนึ่ งกำหมัดกำลังจะใช้กลิน
่ อายพลังวิญญาณ ก็ได้ยน
ิ เสียงเย็นเยียบดังลอย
มา

“หยุด!”

“นายท่าน!”

ทุกคนเห็นว่าเป็นนายท่านเหยียน จึงต่างพากันก้มหัวคำนั บ

นายท่านเหยียนขมวดคิว
้ เดินเข้ามา สายตาเย็นชากวาดมองทัง้ สองคนแวบ
หนึ่ ง เอ่ยถามเสียงทุ้ม “เกิดอะไรขึ้น?”

“ข้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่เขาไม่ออกไป ต้องคอยจ้องมองข้า ซ้ำยังจะถอด


เสื้อผ้าข้าอีก!”

นางพูดถึงเพียงนี้ ทุกคนจึงคิดเอนเอียงตามเป็นปกติ แต่ละคนต่างจ้อง


ฮุยหลางที่สีหน้าแดงก่ำ เผยท่าทางว่า ‘ที่แท้ก็แบบนี้ เอง’
ตอนที่ 181 หอโอสถตำหนั กยมราช!

“นายท่าน เรือ
่ งไม่ใช่แบบนั ้นขอรับ” ฮุยหลางรีบร้อนบอก

“งัน
้ เป็นแบบไหนเล่า?”

สองแขนเฟิ่ งจิว
่ กอดอก ชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ ง “เจ้ากล้าพูดรึวา่ ไม่ได้จะ
มองข้าเปลี่ยนเสื้อผ้า? เจ้ากล้าพูดรึวา่ ไม่ได้จะถอดเสื้อผ้าข้า?”

“เจ้า!”

“เจ้าอะไรอีก? แม้ใบหน้าข้าจะเสียโฉม แต่สายตาจับผิดเก่งนั ก ร่างกายเจ้า


อย่างกับกระดานซักผ้า ซ้ำยังมีท่าทางราวไก่ออ
่ น ช่างไม่เข้าตาขาเลยจริงๆ”

ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม พูดจาเบาหวิว แต่คำที่กล่าวออกมา


กลับทำให้ทุกคนในห้องพลันเงียบลง แต่ละคนจ้องเธอเหมือนมองสัตว์
ประหลาด แม้แต่ฮุยหลางยังเบิกดวงตากว้าง สีหน้าตกตะลึง

มุมปากนายท่านเหยียนกระตุกเล็กน้ อยอย่างไม่อาจสังเกตเห็น เขามอง


ท่าทางมัน
่ อกมัน
่ ใจไร้ยางอายของเด็กหนุ่ม อดไม่ได้ที่จะหลับตาลง ก่อนจะ
หมุนตัวเดินออกไป

“เจ้ารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้าสิ!” หลังจากฮุยหลางทิง้ คำพูดไว้อย่างโหดร้าย


ก็หน
ั ตัวจากไปด้วยความรวดเร็ว
คนอื่นเห็นแล้ว แต่ละคนต่างพินิจมองเฟิ่ งจิว
่ ด้วยความแปลกใหม่
ประหลาดใจอย่างมาก มองไม่ออกเลยจริงๆ ว่าหนุ่มน้ อยนี่ เป็นพวกชอบเพศ
เดียวกันด้วย?

เห็นพวกเขาออกไปทีละคนๆ เฟิ่ งจิว


่ ออกหน้าไปปิดประตูหอ
้ ง ถึงจะเผยรอย
ยิม
้ ออกมาอย่างกลัน
้ ไว้ไม่อยู่ มองๆ ชุดสีเทาในมือ หลังจากหยิบมันไป
เปลี่ยนที่ด้านในด้วยความรวดเร็วก็เดินออกมา

“ตามมา!” ฮุยหลางมองเฟิ่ งจิว


่ อย่างรังเกียจ แล้วเดินนำทางอยูด
่ ้านหน้า

เฟิ่ งจิว
่ กวาดมองด้านนอก เหลือเพียงผูฝ
้ ึกตนสองสามคนอยูต
่ รงนั ้น ส่วน
นายท่านเหยียนก็หายไปไร้รอ
่ งรอย

สายตาเธอจับจ้องบนร่างฮุยหลางด้านหน้า นั ยน์ ตาแวบประกายไปเร็วนั ก


ยกมุมปากขึ้น เดินตามหลังไปอย่างสบายๆ จนกระทัง่ มาถึงหน้าหอสูงเจ็ด
ชัน

กลิน
่ ยาคละคลุ้งฉุ นจมูกเจือปนไปด้วยกลิน
่ ยาหลายชนิ ด ภายในเรือนอัน
โอ่อา่ มีคนอยูน
่ ้ อยกำลังยุง่ วุน
่ วาย บ้างก็ผ่งึ ตากยา ศึกษายา แยกประเภทยา
การแบ่งงานของทุกคนล้วนแตกต่างกัน

หนำซ้ำ คนพวกนี้ คล้ายว่าเคยชินกับการที่จะมีคนใหม่เข้ามาในบางช่วงเวลา


ด้วยเหตุนี้ สำหรับหนุ่มน้ อยใบหน้าเสียโฉมที่มาถึง หลายคนแค่เงยหน้ามอง
ในระหว่างที่ยุง่ อยูแ
่ วบหนึ่ งก็ทำงานตัวเองต่อไป ยิง่ บางคนก็ไม่แม้แต่จะมอง
มาทางนี้
“หลินเหล่า เด็กคนนี้ ยกให้ท่านแล้ว” ฮุยหลางตะโกน ทิง้ คนไว้แล้วก็จากไป
โดยไม่มองเฟิ่ งจิว
่ เลยสักนิ ด

ตอนนี้ เอง ผูอ


้ าวุโสชุดดำท่านหนึ่ งก็เดินออกจากหอ มายังเบื้องหน้าเฟิ่ งจิว

พินิจมองหัวจรดเท้า ถามว่า “เจ้าชื่ออะไรรึ?”

เฟิ่ งจิว
่ ฉี กยิม
้ กล่าวเสียงดัง “ภูตน้ อยขอรับ”

“ภูตน้ อยรึ?” ผูอ


้ าวุโสนิ่ งไปพักหนึ่ ง ขมวดคิว
้ เอ่ยว่า “เจ้าทำอะไรเป็นบ้าง?
บอกหน่ อยสิ ข้าจะได้จัดแจงงานให้เจ้าดีๆ”

เฟิ่ งจิว
่ ไม่ตอบคำถามเขา แต่ถามว่า “ที่นี่ที่ไหนหรือขอรับ? พวกเรามาทำ
อะไรกันที่นี่?”

“อะไรไม่ควรถามก็ไม่ต้องถาม มิเช่นนั ้น จะตายเร็วนั กนะ!”

ฟังเช่นนี้ เธอก็เลิกคิว
้ คิดๆ ว่า “งัน
้ จัดพวกงานจิปาถะให้ขา้ ก็ได้ขอรับ ลอง
ช่วยๆ ไปเดีย
๋ วก็ทำเป็นเอง” ระหว่างที่พูด สายตาก็มองไปในหอ เห็นด้านใน
เหมือนจะมีคนอยูไ่ ม่น้อย

“ด้านในนั ้นไว้ปรุ งยา คนมาใหม่ล้วนต้องทำงานจิปาถะอยูน


่ อกเรือน เจ้าก็ไป
แยกประเภทสมุนไพรตรงนั ้นก่อนเถอะ!” ผูอ
้ าวุโสให้สัญญาณ ก็หน
ั ตัวกลับ
เข้าหอ
หลังเฟิ่ งจิว
่ มองไปด้านในแวบหนึ่ ง ก็เดินมาตรงสมุนไพรด้านนั ้น คอย
จำแนกประเภทสมุนไพร พลางพินิจมองบริเวณรอบๆ

“เฮ้ เจ้าเข้ามาได้ยงั ไงเนี่ ย?” หนุ่มน้ อยข้างกายเอ่ยถามกดเสียงเบา


ตอนที่ 182 เหลี่ยมจัดเกินไป!

เฟิ่ งจิว
่ มองเขาแวบหนึ่ ง มือก็จำแนกสมุนไปลวกๆ เอ่ยว่า “ถูกจับเข้ามา”

“จับเข้ามารึ? หรือว่าเจ้าเป็นนั กปรุ งยา?” เด็กหนุ่มถามอย่างแปลกใจนิ ด


หน่ อย

“ทำไมพูดเช่นนั ้นเล่า?” เฟิ่ งจิว


่ เลิกคิว

เด็กหนุ่มมองด้านในแวบหนึ่ ง กล่าวเสียงเบาลง “ทุกทีจะมีคนถูกจับเข้ามา


แต่พวกที่ถูกจับเข้ามาล้วนเป็นนั กปรุ งยา โน่ น ทัง้ หมดอยูใ่ นหอ พวกเราด้าน
นอกอย่างมากสุดก็นับเป็นเพียงลูกมือการยา คอยทำงานจิปาถะ”

“หากอยูด
่ ้านในกันหมดเจ้ารู ไ้ ด้เช่นไรว่าอีกฝ่ายล้วนเป็นนั กปรุ งยา?”

“นั ่นเพราะครัง้ ก่อนมีชายคนหนึ่ งเอะอะโวยวายตลอดทาง พวกเราถึงได้รูน


้ ่ะ
สิ”

“อ้อ” เธอพยักหน้า ไม่ถามอะไรอีก ในใจกำลังครุ น


่ คิด นายท่านเหยียนสร้าง
หอโอสถไว้ที่นี่เช่นนี้ ซ้ำยังจับพวกนั กปรุ งยากลับมาถึงเพียงนั ้น คิดจะศึกษา
อะไรกันแน่ นะ?
อีกด้านหนึ่ ง ที่หอ
้ งหนั งสือเรือนหลัก

“นายท่าน คนอื่นๆ คอยอยูห


่ อ
้ งรับรองแล้วขอรับ” ฮุยหลางรายงานด้วย
ความยำเกรง

นายท่านเหยียนที่นั่งจัดการงานอยูห
่ น้าโต๊ะหนั งสือมองฮุยหลาง ถามว่า
“จัดการเขาเรียบร้อยแล้วรึ?”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ ฮุยหลางเงยหน้ามองไปที่เขาอย่างอดไม่ได้ เมื่อสบกับแววตา
เยือกเย็นทรงอำนาจ ก็รบ
ี เร่งก้มหน้าลงขานรับ “ขอรับ ข้าน้ อยพาเด็กคนนั ้น
ไปส่งให้หลินเหล่าที่หอโอสถแล้ว”

นายท่านเหยียนหยุดพูก
่ ันในมือลง แรงกดดันอันแข็งแกร่งกระจายออกมา
กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีความเย็นเยียบ “ทักษะปรุ งยาเขาไม่ได้ด้อยเลย
ยาพวกนั ้นของตลาดมืดในช่วงไม่กี่เดือนล้วนมาจากมือเขา ขอนี้ ขา้ เหมือน
จะเคยบอกกับพวกเจ้าแล้ว”

รู ส
้ ึกว่าแรงกดดันบนร่างเขาโจมตีมา กลิน
่ อายทัว่ ห้องจึงเย็นขึ้นบางส่วน
ฮุยหลางตระหนกในใจ ลงไปคุกเข่าข้างเดียว “นายท่านอย่าเพิง่ โมโห ข้า
น้ อย ข้าน้ อยแค่อยากให้เจ้าเด็กนั ่นลำบากบ้าง ข้าน้ อยจะรีบย้ายเขาเข้าไป
ในหอขอรับ”

เดิมทีคิดว่านายท่านแค่บอกให้พาไปหอโอสถ ไม่ได้บอกชัดว่าให้เข้าไปด้าน
ใน ดังนั ้นเขาจึงใช้ชอ
่ งโหว่นี้สยบความฮึกห้าวของเจ้าเด็กนั ่น แต่ไม่เคยคิด
ว่านายท่านจะถามถึง
“เจ้าติดตามอยูข
่ า้ งกายข้ามาหลายปี คงเข้าใจดีวา่ ข้าไม่ชอบคนที่ใช้อุบาย
เป็นที่สุด หากมีครัง้ หน้าอีก เจ้าก็กลับไปฝึกฝนที่คุกมืดซะ!”

ได้ยน
ิ น้ำเสียงเยือกเย็นน่าสะพรึงลอยมา ฮุยหลางก็ตกใจเสียจนเหงือ
่ ออก
ซก “ขอรับ! ข้าน้ อยจะจำไว้ไม่ทำผิดอีกแน่ ขอรับ!” คุกมืด นั ่นช่างเป็นนรก
จริงๆ เขาไม่อยากกลับไปที่นั่นอีก

นายท่านเหยียนเก็บแรงกดดันกลับ ร่างพิงไปด้านหลัง ดวงตาลึกล้ำกวาด


มองฮุยหลางที่คุกเข่าบนพื้น ชะงักลงพักหนึ่ ง ถึงจะบอกว่า “หนุ่มน้ อยนั ่น
จริงๆ ก็มีเล่หเ์ หลี่ยมอยูบ
่ า้ ง เรือ
่ งเข้าหอโอสถชะลอไปอีกสองสามวันแล้ว
กัน!”

“ขอรับ!” ฮุยหลางตอบรับ ไม่กล้าหายใจแม้แต่สักเฮือก

คอยจนค่ำคืนมาเยือน เมื่อเฟิ่ งจิว


่ ตามพวกเขามาถึงเรือนที่พก
ั เห็นเตียง
ใหญ่แถวยาวก็งุนงงอย่างอดไม่ได้

“นี่ คืนนี้ นอนนี่ ร?ึ ”

สวรรค์! คงไม่ใช่กระมัง? ให้เธอนอนด้วยกันกับพวกผูช


้ ายกลุ่มใหญ่เนี่ ยนะ?
เดาว่าท่านพ่อท่านปู่รูจ
้ ะต้องร้อนใจเสียจนวิง่ เต้นแน่ !

“ไม่งน
ั ้ เจ้าคิดว่าจะมีหอ
้ งส่วนตัวให้รไึ ง?”
บุรุษนายหนึ่ งข้างๆ เหลือบมองเขา ถอดเสื้อผ้าพลางพูดว่า “มีที่ให้เจ้านอน
ได้ก็ไม่เลวแล้ว”

เห็นท่าทางคนสิบยีส
่ ิบคนในห้องบ้างถอดเสื้อผ้า ถอดรองเท้า เปลือยกาย
ล่อนจ้อนล้มหัวลงนอน เฟิ่ งจิว
่ ก็ขมวดคิว
้ หันตัวเดินออกไป

ตลกเถอะ! ให้ซุกหัวนอนที่นี่ร?ึ เธอไม่นอนหรอก!

ออกจากห้องที่เตียงเรียกรายติดกัน เธอมองในสวน เห็นนอกเรือนมีทหาร


อารักขาคอยเฝ้า ออกไปไม่ได้ ดังนั ้น สายตาจึงหันไปจับจ้องบนต้นไม้ใหญ่ใน
สวน ดวงตาเป็นประกาย

“ได้ล่ะ!”
ตอนที่ 183 นึ กถึงนายท่านเหยียน!

ทหารอารักขาชุดดำที่คอยเฝ้าเรือนได้ยน
ิ การเคลื่อนไหวด้านหลัง หันกลับไป
มอง ก็เห็นหนุ่มน้ อยกำลังใช้ทัง้ มือและเท้าปีนขึ้นไปบนต้นไม้ หนึ่ งในนั ้นจึง
ตะโกนว่า “เจ้าทำอะไรน่ ะ? ลงมาซะ!”

เฟิ่ งจิว
่ เหลือบมองทัง้ สองคน บอกว่า “พวกเจ้ายืนเฝ้าของพวกเจ้าไป ไม่ต้อง
ยุง่ เรือ
่ งข้า”

“เจ้า!” ทหารอารักขาชุดดำนายนั ้นกำลังจะออกหน้า ก็ถูกคนข้างๆ ดึงไว้

“เจ้าเด็กนั ่นร้ายกาจยิง่ นั ก เจ้าอย่าไปยุง่ เลย ถึงอย่างไรก็ไม่ได้ออกไปวิง่ ซน


ปล่อยไปเถอะ”

ทหารอารักขานายนั ้นเห็นเฟิ่ งจิว


่ หาตำแหน่ งนอนพิงบนต้นไม้ อดไม่ได้ที่จะ
ด่าว่า “วางเตียงดีๆ ให้ไม่นอนวิง่ ขึ้นไปนอนบนต้นไม้ ข้าว่าเด็กนี่ บา้ ไปแล้ว
กระมัง!”

เฟิ่ งจิว
่ คร้านจะสนใจพวกเขา ถูกพามาถึงที่นี่ก็ไม่เคยได้พก
ั ผ่อนดีๆ แม้ด้าน
นอกจะหนาวนิ ดหน่ อย ก็ดีกว่านอนรวมกับคนสิบยีส
่ ิบคนด้านใน

ใช้เวลาสองวันอยูใ่ นเรือน ก็พอจะรู ก


้ ฎของหอโอสถบ้างแล้ว มีเพียงนั กปรุ ง
ยาที่สามารถเข้าไป และนั กปรุ งยาระดับสูง ยิง่ สามารถปรุ งยาที่มีมูลค่าได้
ฐานะการปฏิบต
ั ิในตำหนั กยมราชก็จะยิง่ ดี
หนำซ้ำ แม้คนไม่น้อยจะถูกจับตัวมา แต่เพราะความสัมพันธ์ในเชิงปฏิบต
ั ิ
พวกเขาจึงล้มเลิกความคิดที่จะจากไป และอยูใ่ นหอโอสถนี้ บอกกันว่า อยู่
ที่นี่ขอแค่ปรุ งยาที่ค่อนข้างมีมูลค่าออกมาได้ นอกจากรางวัลที่พงึ มี ยังได้
เพลิดเพลินสำราญใจกับสาวงามในหอนารีวไิ ลหนึ่ งคืน หากยอมสวามิภักดิ์
ต่อตำหนั กยมราชด้วยใจจริง ก็จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ทุกเมื่อ

ส่วนหอนารีวไิ ลนี้ ว่ากันว่าเป็นเครือข่ายข้อมูลที่ตำหนั กยมราชหล่อเลี้ยงขึ้น


มา ในแต่ละที่ล้วนมีหอนารีวไิ ล คล้ายกับหอนางโลม สาวงามในหอนารีวไิ ล
รวบรวมมาจากหลายที่ ทุกคนต่างมีรูปร่างประณี ตทรงเสน่ ห์ รู ปโฉมงดงาม
น่าหลงใหล

แม้แต่พวกนั กปรุ งยาแก่ๆ คร่ำครึเข้าไปสักรอบ ก็จะลุ่มหลงในความ


หอมหวนอ่อนโยนของสาวงามอย่างไม่อาจถอนตัว

เธอรู ส
้ ึกสงสัยนายท่านของตำหนั กยมราชนี้ ตัง้ แต่ครัง้ แรกแล้ว นายท่าน
เหยียนผูน
้ ั ้นเป็นคนเช่นไรกันแน่ นะ?

“คิดอะไรอยูร่ ?ึ ”

น้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีแรงดึงดูดพลันดังขึ้นมาข้างหู ทำให้เธอที่อยูใ่ นสภาพ


ใจลอยตอบกลับอย่างไม่ทันคิด “กำลังคิดว่านายท่านเหยียนเป็นผูช
้ ายแบบ
ไหนกันแน่ น่ะสิ?”
พอคำพูดเธอหลุดออกไป องครักษ์ ที่เฝ้าหอโอสถอยูใ่ นมุมมืดก็กระตุกมุม
ปาก ‘เจ้าเด็กใจกล้านี่ เพ้อถึงนายท่านพวกเขากลางวันแสกๆ เลยรึ? ช่างมี
ความกล้ามากพอจริงๆ!’

น้ำเสียงวุน
่ วายในเรือนเงียบลงทันใด ต่างมองเฟิ่ งจิว
่ ด้วยความแปลกใจ เมื่อ
สายตาจับจ้องบนร่างชายหนุ่มข้างๆ ทุกคนก็รบ
ี ร้อนดึงสายตากลับมา แล้ว
ทำธุระตัวเองต่อไป

“หืม?”

เฟิ่ งจิว
่ ได้สติกลับมา เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยน
ื อยูข
่ า้ งกาย ดวงตาเป็นประกาย
ฉี กยิม
้ ขึ้นมาทัง้ หน้าเหยเก “แหะๆๆ ที่แท้ก็นายท่านเหยียนนี่ เอง! ไม่เจอกัน
หลายวัน เหมือนท่านจะหล่อขึ้นไม่น้อยเลยนะ”

ดวงตาลึกล้ำของนายท่านเหยียนจับจ้องบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยแผลเป็น
มองรอยยิม
้ ที่เฟิ่ งจิว
่ ยกขึ้นอย่างไม่คิดอะไรมาก แววตาก็ฉายแววเล็กน้ อย
เอ่ยเสียงเข้ม “ตามข้าเข้ามา!” จากนั ้น ค่อยเอามือไพล่หลังสาวก้าวเดินเข้า
หอไป

เห็นท่าทาง เฟิ่ งจิว


่ จึงเร่งฝีเท้าตามไป เมื่อสาวก้าวออก หางตาก็เหลือบเห็น
ฮุยหลางด้านหลังท่าทางอับเฉา อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นคลี่ยม
ิ้ อย่างสุขใจ

ทว่าฮุยหลางด้านหลังเหมือนไม่ได้ยน
ิ คำพูดเฟิ่ งจิว
่ ท่าทางเขาเหม่อลอยนิ ด
หน่ อย ในดวงตาเก็บซ่อนความวิตก ใต้ตาดำคล้ำ สีหน้าดูไม่ได้อยูบ
่ า้ ง
เห็นนายท่านเดินเข้าหอ ฮุยหลางจึงตามเข้าไป คิดอยูว
่ า่ ถึงแม้ยากเกินเอ่ย
ก็ต้องหาโอกาสมาพบท่านหมอที่หอโอสถเพื่อถามว่าอาการเขามันเกิดอะไร
ขึ้นกันแน่ ?
ตอนที่ 184 ไม่ขน
ั นั บเป็นโรค!

“ด้านในนี้ เป็นสถานที่ปรุ งยาของนั กปรุ งยา หอที่สองยังมีอก


ี หนึ่ งชัน
้ ส่วนหอ
ที่สามเป็นพวกตำราด้านยา หอที่สี่ที่หา้ เป็นที่เก็บสมุนไพร หอที่หกกับหอที่
เจ็ดเป็นพวกยาที่สำเร็จแล้ว”

นายท่านเหยียนเดินไป พลางน้ำเสียงทุ้มต่ำก็เปล่งออกมา เขาพาเฟิ่ งจิว


่ มา
ในห้องหนึ่ งด้านใน กล่าวว่า “ข้าให้คนพาเจ้ามา เพื่อจะอาศัยพรสวรรค์การ
ปรุ งยาของเจ้า มาศึกษายาระงับพิษเหมันต์ ขอแค่เจ้าปรุ งออกมาได้ ข้ารับ
ประกันได้วา่ เจ้าจะกลับบ้านอย่างปลอดภัย”

“พิษเหมันต์ร?ึ ”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ เธอแปลกใจนิ ดหน่ อย ในห้วงทะเลแห่งความคิดก็นึกถึงพิษ
เหมันต์พน
ั ปีบนร่างท่านอาหลิง แล้วทำไมนายท่านเหยียนถึงต้องการยา
รักษาพิษเหมันต์กันเล่า?

“ถูกต้อง นั กปรุ งยาที่นี่นอกจากจะกำลังคิดค้นยาแก้พษ


ิ เหมันต์ ก็ยงั มีพวก
ที่ชว
่ ยตำหนั กยมราชเรากลัน
่ ปรุ งยา ขอแค่ตัง้ ใจทำงาน ข้าจะไม่ปฏิบต
ั ิไม่ดี
ต่อใคร แต่หากมาสร้างปัญหาที่นี่ ข้าจะไม่ปราณี แน่ !”

หลังเฟิ่ งจิว
่ มองเขาแวบหนึ่ ง ก็บอกว่า “มันไม่ใช่ยาที่คิดค้นปรุ งกันได้งา่ ย
ขนาดนั ้นนะ พิษเหมันต์มีตัง้ หลายชนิ ด หนำซ้ำอาการก็ไม่เหมือนกัน หากไม่
เคยจับชีพจรหรือตรวจดูสภาพร่างกาย นั กปรุ งยาคนไหนจะกล้าปรุ งยา
ส่งเดชเล่า?”
สองแขนเธอกางออก ส่ายหน้านั ่งลงข้างโต๊ะ “ไม่จับชีพจร ไม่เห็นคน ข้าก็
ปรุ งไม่ได้หรอก”

นายท่านเหยียนถลึงมองเฟิ่ งจิว
่ อยูค
่ รู ห
่ นึ่ ง นิ่ งเงียบไป ไม่รูว้ า่ กำลังคิดอะไร
ลุกยืนขึ้นมาพูดว่า “งัน
้ เจ้าก็คุ้นเคยกับที่นี่ไปเสียก่อนเถอะ รอเจ้าระดับยา
เจ้าสูงเท่านั กปรุ งยาหอโอสถค่อยว่าเรือ
่ งนี้ กัน!”

เห็นเขาจะไป เฟิ่ งจิว


่ จึงเร่งรีบยื่นมือออกไปคว้าดึงแขนเสื้อเขาไว้พลาง
ตะโกนว่า “เดีย
๋ วก่อน!”

นายท่านเหยียนขมวดคิว
้ หันกลับมา สายตาจับจ้องบนมือเล็กขาวเนี ยนที่จับ
แขนเสื้อเขาอยู่ แววตาฉายแววเล็กน้ อย ตะคอกเสียงเย็น “ปล่อย!” สะบัด
แขนเสื้อสลัดมือเขาออก แล้วดึงเสื้อกลับมา

เฟิ่ งจิว
่ ไม่ใส่ใจ กล่าวว่า “นายท่านเหยียน พวกท่านจับข้ามา กลับไม่เตรียม
ให้ขา้ แม้แต่ที่ซุกหัวนอน ให้ขา้ อยูร่ วมกับคนอื่นๆ บนเตียงใหญ่ พวกท่านไม่
เกรงใจกันเลยรึ? ยังมีอก
ี ! พลังเร้นลับข้าถูกท่านปิดผนึ กไว้ พวกท่านคุ้มกัน
ที่นี่เข้มงวมถึงเพียงนี้ ยังกลัวว่าข้าจะหนี ไปได้อก
ี รึ? ไม่ต้องใช้เวลาทัง้ วันข้าก็
ยังออกไปไม่ได้แม้แต่ประตูเรือนเลยกระมัง?”

เธอเหลือบมอง เห็นเขาไม่สะบัดแขนเสื้อจากไป จึงพูดต่อว่า “พวกท่านเชิญ


ข้ามา ในเมื่ออยากให้ขา้ ปรุ งยา ก็ควรจะต้อนรับกันอย่างมีเกียรติสิ ท่านลอง
ไปสอบถามดู พวกคนตลาดมืดปฏิบต
ั ิกับข้าราวคุณชาย ท่านว่าเปรียบเทียบ
กับพวกเขาแล้ว วิธรี บ
ั แขกเช่นนี้ ไม่แย่เกินไปหน่ อยรึ?”
เห็นเฟิ่ งจิว
่ พูดถึงวิธรี บ
ั แขกอะไรนั ่นกับนายท่านเหยียนอย่างไม่กลัวตาย
หลินเหล่ากับฮุยหลางข้างๆ ล้วนอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมอง คิดว่าเขาเพ้อฝัน
เกินไปแล้ว อันที่จริงตัวเป็นนั กโทษ จะมาพูดเรือ
่ งวิธรี บ
ั แขกอะไรอีก!

แต่วา่ ที่ทำให้พวกเขานึ กไม่ถึงที่สุดก็คือ ความอดทนนายท่านเหยียนที่มีต่อ


เจ้าเด็กนี่ จะเกินความคาดหมายของพวกเขาไปในทุกๆ ครัง้

นายท่านเหยียนกวาดมองใบหน้าเด็กหนุ่มที่โกรธบูดบึ้ง สัง่ การว่า “ฮุยหลาง


กลับไปจัดเตรียมเรือนส่วนตัว ให้เขาไปมาได้อส
ิ ระ”

“ขอรับ” ฮุยหลางมองเฟิ่ งจิว


่ ไม่เข้าใจว่าทำไมนายท่านต้องทำดีกับเขาเช่นนี้

เห็นนายท่านเดินออกไป ฮุยหลางก็เรียก เอ่ยเสียงเบาว่า “นายท่าน ท่าน


กลับไปก่อนเถิด ข้าน้ อยไม่สบายตัว จะขอพบท่านหมอในหอเสียหน่ อย”

นายท่านเหยียนหันกลับไปกวาดมองเขา ตอบรับว่า “อืม”

“ฮึ!”

เฟิ่ งจิว
่ หัวเราะออกมาอย่างกลัน
้ ไว้ไม่อยู่ มองฮุยหลางที่ท่าทางกังวล แล้ว
ส่ายหัวชำเลืองมองเขาอย่างหยอกล้อ

“ผูช
้ ายนกเขาไม่ขน
ั ถือเป็นโรค ต้องรักษา”
ตอนที่ 185 ยาทิพย์เท่าทองพันชัง
่ !

พอคำพูดนี้ เปล่งออกมา ฝีเท้านายท่านเหยียนที่เดินออกไปตรงหน้าก็ชะงัก


ลง หันกลับมากวาดมองฮุยหลางที่เบิกดวงตากว้างราวกับจะฆ่าคน แววตา
ลึกล้ำเหลียวมอง สบเข้าพอดีกับแววตายิม
้ เจ้าเล่หข
์ องเด็กหนุ่ม

“นกเขาไม่ขน
ั รึ?”

น้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีแรงดึงดูดกระทบลงบนร่างฮุยหลางอีกครัง้ สายตากวาด
มองลงจากใบหน้าที่โมโหเสียจนอับอายนั ้น และหยุดลงตรงบริเวณใต้เอว
มุมปากยกขึ้นยิม
้ น้ อยๆ อย่างไม่อาจสังเกตุเห็น

ไม่ต้องคิด ก็รูว้ า่ เป็นผลงานชิน


้ โบแดงของเด็กหนุ่มแน่ ๆ

ที่แท้ก็นกเขาไม่ขน
ั มิน่าล่ะ สองวันนี้ ฮุยหลางถึงอับเฉาและวิตกเช่นนั ้น

“เป็นเจ้า! เป็นเจ้าเด็กนี้ ใช่หรือไม่?”

ฮุยหลางถลึงมองเฟิ่ งจิว
่ ฝ่ามือกำหมัดแน่ นขึ้นมา ไอสังหารทัว่ ร่างโจมตี
ออกไป แต่น่าเสียดาย ที่เฟิ่ งจิว
่ ไม่เกรงกลัวสายตาอาฆาตของเขาเลย กลับ
เชิดคางขึ้นชำเลืองมองเขาแทน

“เป็นข้าอะไรกัน? เจ้านกเขาไม่ขน
ั เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย? อย่าลืมล่ะ ข้าเป็น
ภูตหมอผูม
้ ีช่อ
ื เสียง หากข้อผิดปกติแค่นี้ยงั ดูไม่ออกก็เสียชื่อภูตหมออย่าง
ข้าเกินไปแล้ว”
ฟังเช่นนี้ ฮุยหลางกลัน
้ ไฟโกรธในท้องไว้ เห็นสายตาแปลกๆ ของผูค
้ นรอบ
ด้านที่มองมา เพียงรู ส
้ ึกเสียหน้า แต่กลับกลายเป็นว่าเขายังไม่อาจทำอะไร
คนคนนั ้นได้!

“อะแฮ่ม!”

นายท่านเหยียนกระแอมไอ เอ่ยว่า “ในเมื่อนกเขาไม่ขน


ั ก็ต้องรักษา ท่าน
หมอนั กปรุ งยาในหอมีไม่น้อย ลองไปพบพวกเขาเถอะ” พูดจบ ก็สาวก้าว
เดินออกไปด้านนอก

เฟิ่ งจิว
่ มองฮุยหลางอย่างอมยิม
้ กริม
่ เดินตามออกไป มาถึงด้านนอก กลับ
เห็นนายท่านเหยียนยืนอยูน
่ อกเรือน เช่นนั ้น เธอจึงเดินเข้าไป ถามยิม
้ ๆ ว่า
“นายท่านเหยียน ท่านคงจะไม่ได้รอข้าอยูก
่ ระมัง?”

เขาหันตัวมา มองเด็กหนุ่มที่สูงถึงแค่หน้าอก กล่าวเสียงเข้ม “ที่นี่เป็น


ตำหนั กยมราช เจ้าอย่าได้ลืมฐานะตัวเอง ไม่วา่ เรือ
่ งอะไรก็อย่าให้มันเกินไป
นั ก มิเช่นนั ้น ข้าจะจัดการแทนเอง!”

เห็นเขาทิง้ คำพูดตักเตือนไว้ก่อนจะจากไป เฟิ่ งจิว


่ ก็เบะปาก สุดท้ายมันคือ
การบอกตรงๆ ว่าเขาคอยให้ท้ายอีกไม่ได้แล้วสินะ?

แต่เธอก็รูส
้ ึกแปลกๆ มองยังไงนายท่านเหยียนก็ไม่ใช่คนที่เจ้าอารมณ์ และ
สนิ ทด้วยได้งา่ ยเลย แต่ทำไมถึงยอมอ่อนข้อให้ตลอด? ซ้ำยังปล่อยให้เธอ
สร้างปัญหาอีก?
จริงๆ แล้ว ที่เธอไม่รูก
้ ็คือ เพราะนายท่านเหยียนใช้ตัวตนท่านอาหลิงมา
คลุกคลีกับเธอ ในสายตาเขา เฟิ่ งจิว
่ จึงเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่กลับกลอก
พิลึกพิลัน
่ แต่กลายเป็นว่าหนุ่มน้ อยผูน
้ ี้ กลับคุ้นเคยกับเขาอยูบ
่ า้ ง เสียงเรียก
ท่านอาหลิงแต่ละเสียงนั ้น ถึงแม้จะเรียกเสียจนสงสัยว่าตัวเองแก่เกินไป
หรือไม่? แต่ไม่ยอมรับไม่ได้ ว่าเขาไม่อาจมีเจตนาร้ายกับหนุ่มน้ อยได้เลย

เมื่อมีคำสัง่ นายท่านเหยียน เฟิ่ งจิว


่ ขอเพียงไม่ใช่ที่ต้องห้ามในตำหนั กยมราช
สถานที่อ่น
ื ๆ ล้วนเดินไปมาได้อย่างอิสระ ด้วยเหตุนี้ ไม่ต้องใช้เวลาถึงครึง่ วัน
เธอก็สำรวจทัง้ ด้านในด้านนอกเสียจนหมดจด

หนึ่ งในนั ้น ยังมีอก


ี หลายที่ที่วางค่ายกลกระบีไ่ ว้ เธอก็ไม่ได้เข้าไปยุง่ เกี่ยว แต่
ว่า มันทำให้เธอค้นพบสถานที่ดีๆ ที่หนึ่ ง บ่อน้ำพุรอ
้ นตรงหลังเขานั ้น ว่ากัน
ว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวของนายท่านเหยียน ไม่ให้คนอื่นเข้าไป จึงได้แต่มองอยู่
ด้านนอกสักพักก็จากไป เพราะที่นั่นไม่ได้วางค่ายกลกระบี่ไว้

หลังจากเดินวนรอบหนึ่ ง เธอกลับมาที่หอโอสถอีกครัง้ เดินวนๆ ตรงที่เก็บ


รวมรวมสมุนไพรหอที่สามกับที่สี่ ก็ก้าวเท้าไม่ออกไปชัว่ ขณะ

ยาทิพย์จิตวิญญาณที่เธอให้ตลาดมืดช่วยหายังไงก็ไม่อาจหาครบ กลับไม่นึก
ว่า ในหอโอสถนี้ กลับมีอะไรๆ ไปเสียหมด ตอนนี้ เธอจึงเก็บยาทิพย์ด้วย
ความตื่นเต้นคิดจะนำพวกมันไปปรุ งเป็นยาทาแผลเป็น
หลินเหล่าที่ตามเฟิ่ งจิว
่ เข้ามาเห็นเขาเก็บยาทิพย์จิตวิญญาณสิบกว่าอย่าง
ลงในกล่องเตรียมจะนำมันลงไป จึงเอ่ยปากถามอย่างอดไม่ได้ “เจ้าจะหยิบ
พวกมันไปทำอะไร? ของพวกนั ้นเป็นยาทิพย์ล้ำค่า ทุกอย่างล้วนมีราคาเท่า
ทองพันชัง่ ”
ตอนที่ 186 ความยังไม่แตก!

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ เฟิ่ งจิว
่ ทำสีหน้าจริงจัง มองหลินเหล่าพลางพูดว่า “แน่ นอนว่า
นี่ เอาไว้ใช้ทำยา นายท่านเหยียนบอกให้ปรุ งยาแก้พษ
ิ เหมันต์ ข้าจึงต้องนำ
ยาพวกนี้ กลับไปลองศึกษาดูขอรับ”

ฟังเช่นนี้ หลินเหล่าก็สงสัยนิ ดหน่ อย “แต่สรรพคุณยาพวกนี้ ไม่เหมาะเป็น


ยาแก้พษ
ิ เหมันต์หรอกนะ!”

“หลินเหล่า นี่ ท่านก็ไม่รูเ้ รือ


่ งรึขอรับ? ยาทัง้ หมดล้วนมีสรรพคุณเชื่อมโยง
ถึงกัน แม้ตอนนี้ ขา้ ยังปรุ งออกมาไม่ได้ แต่ขา้ นำกลับไปศึกษาก็ไม่ผด
ิ อะไร”
เธอบอกอย่างจริงจัง จบด้วยท่าทางเคร่งขรึมมีเหตุผล หลอกเสียจนหลิน
เหล่าตะลึงงัน

“งัน
้ ยังต้องการของอื่นๆ อีกหรือไม่? ในหอโอสถมีของจำพวกอุปกรณ์ ทำยา
อยู่ หากเจ้าต้องการก็มาหาข้าแล้วกัน”

ฟังคำพูดนี้ เธอก็หรีด
่ วงตาที่ฉายประกายแสงคู่นั้นลง “หลินเหล่า ท่านช่าง
เป็นคนดีจริงๆ วางใจเถอะ หากยาไม่พอข้าจะมาอีก อุปกรณ์ ยาอะไรพวกนั ้น
ปกติขาดไม่ได้ต้องไปหาท่านแน่ ไปเถอะๆ! ท่านพาข้าไปเลือกกลับไปอีก
หน่ อยนะขอรับ”

เธอตบๆ ไหล่หลินเหล่าด้วยท่าทางสนิ ทสนม แล้วลงไปพร้อมๆ กัน

คืนนั ้น เฟิ่ งจิว


่ ก็ปรุ งยาทารักษาแผลเป็นอยูใ่ นเรือนเล็กส่วนตัว
ส่วนทางอีกด้านหนึ่ ง ที่เรือนหลักด้านนั ้น

หลินเหล่ากำลังนำเรือ
่ งสมุนไพรพวกนั ้นที่เฟิ่ งจิว
่ เอาไปจากหอโอสถมา
รายงานกับนายท่านเหยียน ไม่ทันจบ ก็พูดอีกว่า “แต่ขา้ น้ อยรู ส
้ ึกแปลกๆ
สรรพคุณยาพวกนั ้นไม่น่าใช้รก
ั ษาพิษเหมันต์ได้ แต่ภูตน้ อยผูน
้ ั ้นกลับบอก
ว่ายาพวกนั ้นใช้ได้”

“ภูตน้ อยรึ?” นายท่านเหยียนชำเลืองมองหลินเหล่า หางเสียงยกขึ้นเล็ก


น้ อย

หลินเหล่านิ่ งไปสักพัก แอบคิดว่า ‘ทำไมนายท่านคล้ายจะพลาดจุดสำคัญ


ไป? เขากำลังรายงานว่าสมุนไพรล้ำค่าพวกนั ้นถูกเด็กหนุ่มฉวยไป นายท่าน
ฟังแล้วก็ไม่พูดอะไรสักคำ กลับโต้ตอบหลังจากได้ยน
ิ ชื่อเด็กหนุ่ม’

ตอนนี้ ไม่กล้าคิดอะไรอีก เพียงต้องกล่าวด้วยความเคารพ “ใช่ขอรับ หนุ่ม


น้ อยนั ่นบอกให้เรียกเขาว่า ภูตน้ อย ก็พอ”

“ออกไปเถอะ!” นายท่านเหยียนสะบัดมือ ให้สัญญาณเขาถอยไป

“นายท่าน ยาพวกนั ้น…”

“เขาต้องการก็ให้ไป”

“ขอรับ” ได้ยน
ิ คำพูดนี้ หลินเหล่าไม่พูดอะไรอีก หลังจากคำนั บก็ถอยออกไป
หลังนั ่งอยูส
่ ักพัก ดื่มเหล้าไปสองจอก ก็ลุกยืนขึ้น สาวก้าวเดินออกไป เห็นไฟ
ในห้องนั ้นยังสว่าง เงาร่างที่สะท้อนบนกระดาษหน้าต่างกำลังเดินไปเดินมา
ด้วยความตัง้ ใจชัว่ ขณะ เขาจึงสาวก้าวเดินเข้าไป

เฟิ่ งจิว
่ ในห้องกำลังฮัมเพลงอย่างอารมณ์ ดี พลางมองกระจกและนำยาทาที่
เพิง่ ปรุ งออกมาผอกลงบนหน้า นึ กถึงใบหน้าที่อก
ี ไม่นานนั กก็จะคืนสภาพได้
แล้ว อารมณ์ หดหูท
่ ี่ถูกจับมาที่นี่ก็ได้ผอ
่ นคลายลงในที่สุด

“ฉวยยาข้ามา เพื่อทำของประหลาดนี่ ร?ึ ”

“หวา!”

น้ำเสียงที่ดังมาจากด้านหลังอย่างกะทันหันทำให้เธอตกใจสะดุ้ง กระโดดขึ้น
หันตัวมาตามสัญชาตญาณ ก็เห็นนายท่านเหยียนที่ไม่รูว้ า่ เข้ามาตอนไหน
ยืนเอามือไพล่หลังอยูต
่ รงนั ้นพลางมองเธอด้วยความสนใจยิง่ นั ก

“แค่นี้ก็ทำให้ตกใจได้ ชัดเจนนั กว่ามีความผิดติดตัวมากเกินไป” เขาเลิกคิว



ขึ้น มองเด็กหนุ่มที่พอกยาสีเขียวดำอยูบ
่ นหน้า

เฟิ่ งจิว
่ เห็นว่าเป็นเขา จึงถอนหายใจเบาๆ มือหนึ่ งตบกลางอก กล่าวอย่างไม่
สบอารมณ์ “ข้าว่านายท่านเหยียนผูย
้ งิ่ ใหญ่ ดึกดื่นมืดค่ำไม่ยอมหลับยอม
นอน วิง่ มาหาข้าที่นี่ทำไมรึ? ท่านจะมาก็วงิ่ มาสิ! ลอยเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง
ราวผีสางจะก่อกวนอะไรอีก? อยากทำให้คนกลัวถึงได้มาแบบนี้ ไม่ใช่หรือ?”
เห็นสายตาเขาจ้องมองนิ่ งๆ เธอจึงก้มหัวมองบนร่างตามจิตใต้สำนึ ก ‘แม้จะ
สวมชุดซับในสีขาว แต่ด้านในยังรัดหน้าอกไว้ ตรงอกแบนราบ ความยังไม่
แตกหรอกน่า!’
ตอนที่ 187 ที่แท้เป็นนาง!

“มีอะไรรึ? ทำไมจ้องข้าเช่นนั ้น?” เธอถามอย่างไม่รูเ้ หตุผล

และในเวลานี้ หัวใจนายท่านเหยียนสัน
่ ไหวเล็กน้ อย มองใบหน้าที่ฉาบเต็มไป
ด้วยยาทาสีเขียวปนดำ รวมถึงดวงตาที่เจ้าเล่หป
์ ราดเปรือ
่ ง ในใจฉุ กคิด

ที่แท้เป็นนาง!

คือแม่หนูน้อยผูน
้ ั ้นในป่าเก้าหมอบ เป็นแม่หนูน้อยที่กอดขาเขาเรียกพีเ่ ขย
ขานท่านอา…

หนำซ้ำ ครัง้ นั ้นที่พษ


ิ เหมันต์เขาออกฤทธิแ
์ ละถูกคนตามฆ่า เธอก็ชว
่ ยเขาไว้

นึ กถึงตรงนี้ ในดวงตาเขาฉายแววสับสน นึ กไม่ถึงว่าจะวนไปวนมาพบนาง


ซ้ำยังแต่งตัวเป็นชายมาหลอกเขาอีก หากไม่เห็นใบหน้าที่พอกยาทาสีเขียว
ปนดำกับดวงตาคู่นั้น ก็ยงั จำนางไม่ได้จริงๆ

เฟิ่ งจิว
่ ที่ถูกสายตาเขามองเสียจนไม่สบายเนื้ อสบายตัวขมวดคิว
้ ขึ้น เอ่ยว่า
“ข้าว่านายท่านเหยียน กลางค่ำกลางคืนเช่นนี้ ท่านไม่กลับไปนอนเสียเล่า?
คิดจะจ้องข้าอยูต
่ รงนี้ ร?ึ ”

ดวงตาลึกล้ำของนายท่านเหยียนมองผ่านหน้าอกที่สวมเพียงชุดซับใน เห็น
มันแบนราบ ไม่เห็นส่วนโค้งเว้าเลยสักนิ ด ทว่าในห้วงทะเลแห่งความคิด
กลับนึ กถึงสัมผัสอ่อนนุ่มวันนั ้นในป่าเก้าหมอบที่เขาไปชนเข้าโดยไม่ระวัง
อย่างอธิบายไม่ได้ ชัว่ ขณะหนึ่ ง ใบหูก็แดงก่ำน้ อยๆ หันตัวก้าวยาวเดินออก
ไปทันที

“แปลกประหลาดจริง”

เฟิ่ งจิว
่ เห็นเขาจากไปโดยไม่พูดไม่จา เพียงรู ส
้ ึกว่าอารมณ์ โกรธนายท่าน
เหยียนผูน
้ ี้ ชา่ งแปลกเสียจริง ตามไปด้านหน้า หลังจากล็อคประตูก็กลับมา
หน้ากระจกผอกยาทาอีกชัน
้ หนึ่ ง จากนั ้นค่อยแบกหน้าที่พอกยาไว้เต็มไป
นอนทัง้ แบบนั ้น

วันต่อมา เมื่อเฟิ่ งจิว


่ มายังหอโอสถทัง้ ใบหน้าที่พอกยาทาไว้ หลินเหล่าเห็นก็
อดไม่ได้ที่จะออกมารับหน้าอย่างตกตะลึง “ภูตน้ อย บนหน้าเจ้าเปื้ อนอะไรรึ?
ทำไมไม่ล้างหน้าก่อนค่อยออกมาเล่า?”

“เป็นยาทาขอรับ ล้างไม่ได้” เธอฉี กยิม


้ กล่าวว่า “หลินเหล่า ข้าต้องไปเลือก
ยาที่หอที่สี่ ท่านจะไปด้วยกันกับข้าหรือไม่ขอรับ?”

“เลือกยาอีกรึ? แล้วพวกนั ้นที่เจ้าหยิบไปเมื่อวาน…”

“พวกนั ้นเมื่อวานข้าปรุ งแล้วล้มเหลว นี่ ท่านดูสิ เพื่อไม่ให้สิน


้ เปลือง ข้าจึง
เอามาผอกบนหน้าขอรับ” เธอชีๆ
้ ยาทาบนหน้าตัวเองพูดพลางหรีส
่ องตาลง
ยิม

“นี่ …” หลินเหล่าหมดคำพูด ไม่รูจ


้ ริงๆ ว่าจะพูดยังไงกับเขาดี
แต่นึกถึงท่าทีที่นายท่านเหยียนมีต่อเฟิ่ งจิว
่ และสิง่ ที่เขากำชับไว้ ก็ถอนใจ
อย่างอดไม่ได้ บอกว่า “เจ้าจะไปหยิบยาก็ไปเองเถอะ กลับไปข้าค่อยบันทึกไว้
สักหน่ อยก็พอ ข้ายังมีเรือ
่ งต้องทำ ตามเจ้าไปไม่ได้หรอก”

ดวงตาเฟิ่ งจิว
่ เป็นประกาย “หลินเหล่า มองไม่ออกเลยว่าท่านไว้ใจข้าเช่นนี้
ไม่กลัวว่าข้าจะทำลายสมุนไพรเท่าทองพันชัง่ หายากพวกนั ้นรึขอรับ?”

หลินเหล่าแอบพูดในใจ ‘ข้าไม่ได้เชื่อใจเจ้า แต่นายท่านเหยียนสัง่ ว่าให้ปล่อย


เจ้าหยิบไป เพราะนายท่านเหยียนหรอกนะถึงทำให้เจ้าสุรุย
่ สุรา่ ยได้เช่นนี้ ’

สายตาจับจ้องบนใบหน้าเขา คิดว่ายาทิพย์ล้ำค่าพวกนั ้นที่หยิบไปเมื่อวาน


ล้วนกลายเป็นยาทาบนหน้าเขา ทันใดนั ้นก็เจ็บเข้าเนื้ อไปชัว่ ขณะ “ฟุ่มเฟือย
นั ก! ฟุ่มเฟือยจริงๆ…” ส่ายหน้า ก่อนจะทำงานของตัวเองไป

ดังนั ้น เฟิ่ งจิว


่ จึงขึ้นหอไปหยิบยาทิพย์จิตวิญญาณกลับไปไม่น้อย เก็บตัวบด
ตำยาไม่หยุดอยูใ่ นห้อง จนกระทัง่ ตอนเย็น ฮุยหลางที่ใบหน้าดูไม่ได้ก็มาหา
ถึงประตู

ทางอีกด้านหนึ่ ง ที่เรือนหลักด้านนั ้น นายท่านเหยียนในมือถือถ้วยชา คงอยู่


ในท่าทางนี้ ตลอดไม่ขยับเขยื้อน ไม่รูว้ า่ กำลังคิดอะไร บางทีก็ขมวดคิว
้ บาง
ครัง้ ก็ยกมุมปากขึ้นผุดรอยยิม
้ เล็กๆ ที่ไม่อาจสังเกตเห็น ท่าทางแปลกๆ นั ้น
ผูฝ
้ ึกตนชุดดำที่คอยอยูข
่ า้ งๆ มองเสียจนอกสัน
่ ขวัญแขวนชัว่ ขณะ

จิบชาคำหนึ่ ง ถึงจะรู ส
้ ึกว่าชาเย็นแล้ว เขาจึงวางถ้วยชาในลง ถามว่า “อิง่ อี
ฮุยหลางไปไหนรึ?”
“เรียนนายท่าน ฮุยหลางไปพบภูตหมอ…”

ยังไม่ทันสิน
้ สุดน้ำเสียง ก็เห็นนายท่านที่เดิมทีนั่งอยูก
่ ำลังเตรียมจะรินชา
สีหน้าเปลี่ยนไป หลังจากสวมหน้ากากก็พุง่ ออกไปรวดเร็วราวลมกรด เขา
มองเสียจนตะลึงชัว่ ขณะ
ตอนที่ 188 อมตะชัว
่ นิ รน
ั ดร์

อีกด้านหนึ่ ง เฟิ่ งจิว


่ มองฮุยหลางสีหน้าหมดสภาพยืนอยูต
่ รงประตู เลิกคิว
้ ขึ้น
อย่างอดไม่ได้ สองแขนกอดอกเชิดคางขึ้นถาม “มาหาข้ามีอะไรรึ?”

“ข้ามารักษาโรค” เขาฝืนกลัน
้ แรงกระตุ้นที่อยากจะฆ่าคนไว้ แล้วพยายาม
พูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ ง

แต่วา่ น้ำเสียงแข็งกระด้าง รวมถึงจิตมุ่งร้ายนั ้น ยังคงเผยถึงความรู ส


้ ึก
ที่แท้จริงที่สุดในใจเขา

“แม้ขา้ เป็นภูตหมอ ก็ไม่ใช่วา่ จะรักษาโรคของใครๆ ได้หมดหรอกนะ” เธอ


เอ่ยอย่างสบายๆ บนใบหน้ายิม
้ เยาะยียวน “ยิง่ ไปกว่านั ้น เจ้าร้ายกาจนั กไม่
ใช่ร?ึ ไหนเลยต้องให้ขา้ มารักษาโรคให้ด้วย!”

ฮุยหลางขบเขีย
้ วเคี้ยวฟัน จ้องมองหนุ่มน้ อยแสนกวนประสาทตรงหน้า
กล่าวว่า “หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าจะกลายเป็นเช่นนี้ ได้อย่างไรเล่า!”

“เฮ้! หยุดก่อนๆ!”

เธอชำเลืองมองเขา บอกว่า “เจ้าอย่าพูดมัว่ ซัว่ นะ! เจ้าอยากเป็นชายขายน้ำ


เอง ยังมาโทษว่าเป็นความผิดข้าอีก? ช่างไร้เหตุผลเสียจริง”

ขณะพูด มุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้ อย พินิจมองเขาหัวจรดเท้า ยิม


้ ชัว่ ร้าย “ที่จริง
ข้าว่าตอนนี้ เจ้าก็สบายดีนี่! ถึงอย่างไรเจ้าก็ชอบแบบนี้ ตอนนี้ แข็งขึ้นไม่ได้
งัน
้ เป็นเบีย
้ งล่างไปอย่างเชื่องๆ ซะก็สิน
้ เรือ
่ ง? ยังต้องพยายามอะไรหรือ
รักษาอะไรอีกเล่า!”

“เจ้า!”

ฮุยหลางถูกคำกล่าวออกนอกหน้านั ้นพูดเสียจนอับอายอย่างมาก กลับไม่รู ้


ว่าจะทำเช่นไรกับเขาดี ทำได้เพียงกัดฟัน เอ่ยถามว่า “ต้องทำยังไงกันแน่
เจ้าถึงจะช่วยข้า!”

เห็นฮุยหลางตาแดงด้วยความร้อนรน สีหน้าเธอชัว่ ร้าย บอกว่า “ผูช


้ ายน่ ะ
ไม่ต้องแข็งได้เสมอหรอก อ่อนโยนบ้างถึงจะแข็งแรง เจ้าไม่รูร้ ?ึ ”

เห็นเขากลัน
้ ใจเสียจนหน้าแดงก่ำ เธอก็ลูบๆ คาง สีหน้าฉุ กคิด “ข้ารู แ
้ ล้วน่า!
ไม่มีปัญหา! โรคเจ้าให้ขา้ จัดการเอง ข้ารับรองว่าเจ้าจะพอใจ แต่วา่ เราต้อง
พูดถึงค่าตอบแทนการรักษาก่อนไม่ใช่ร?ึ ”

เห็นเขาไม่ดึงดัน ฮุยหลางก็แอบโล่งอก ถามว่า “เจ้าต้องการอะไร?”

“ข้าได้ยน
ิ หลินเหล่าบอกว่า มีครัง้ หนึ่ งเจ้าได้รบ
ั ไข่มุกชัน
้ เลิศเม็ดใหญ่เท่า
ไข่ไก่มาสองเม็ดใช่หรือไม่?”

“นั ่นเป็นของที่นายท่านมอบให้ขา้ นะ!” เขาเบิกดวงตาขึ้นมา นั ่นเป็นสมบัติ


ของเขา!
ฟังเช่นนี้ เธอก็เลิกคิว
้ ขึ้น “พูดถึงเพียงนี้ เจ้ายังคิดจะเป็นอมตะชัว่ นิ รน
ั ดร์อยู่
อีกรึ?”

พอคำพูดนี้ เปล่งออกมา ฮุยหลางก็ท้อแท้ทันใด ถลึงมองหนุ่มน้ อยผูน


้ ่า
รังเกียจตรงหน้าอย่างร้ายกาจ ก่อนจะหยิบไข่มุกชัน
้ เลิศขนาดเท่าไข่ไก่สอง
เม็ดออกจากแหวนมิติบนนิว
้ มือมายื่นให้เขา

“รับไปสิ!”

ชัง่ น้ำหนั กไข่มุกชัน


้ เลิศทัง้ สองเม็ดในมือ เธอก็หรีส
่ องตาลงยิม
้ หันตัวเดินไป
ด้านใน พลางบอกว่า “เข้ามาสิ! ถอดเสื้อแล้วไปนั ่งบนเก้าอีซ
้ ะ”

ฮุยหลางกลับไม่เอะอะโวยวาย หลังเข้าไปก็ถอดเสื้อนอกออก จากนั ้นค่อยนั ่ง


ลงบนเก้าอี้

“จิๆ
๊ มองไม่เห็นออก รู ปร่างไม่เลวเลย” สายตาเธอมองผ่านกล้ามเนื้ อที่แบ่ง
สรรอย่างชัดเจนบนเรือนร่าง มาถึงด้านหลังเขา แล้วหยิบเข็มเงินทิม
่ ลงจุด
ชีพจรตรงเอวไปสองสามเข็ม

“หายแล้วล่ะ”

“นี่ นี่ ขา้ หายแล้วรึ?” เขางุนงงนิ ดหน่ อย เพิง่ โดนทิม


่ ไปสองทีก็หายแล้วรึ?

“ทำไม? ไม่เชื่อรึ?”
เธอเหลือบมองเขาแวบหนึ่ ง ฉี กปากแย้มยิม
้ “แหะๆ ไม่ต้องร้อนใจ เจ้ากลับ
ไปเถอะ! ตื่นมาพรุ ง่ นี้ เช้ารับประกันว่าเจ้าจะเห็นผลลัพธ์เอง”

ฮุยหลางเวลานี้ มองไม่เห็นรอยยิม
้ เจ้าเล่หช
์ ว
ั ่ ร้ายบนใบหน้าเธอ มิเช่นนั ้น คง
ไม่เชื่อคำพูดเธอง่ายดายเช่นนี้

ขณะที่ฮุยหลางสวมเสื้อกลับและผูกผ้าคาดเอวอย่างเชื่อครึง่ ไม่เชื่อครึง่ จู่ๆ


เงาร่างหนึ่ งก็เดินเข้ามา แววตาดุเดือดน่าสะพรึงนั ้นจับจ้องมาบนร่างราวกับ
น้ำแข็งเย็นเฉี ยบ ทำให้ตัวเขาเหมือนถูกปักหลัก ไม่กล้าขยับสักเสี้ยววิ
แม้แต่เสียงยังมีความสัน
่ ไหวตื่นตระหนกเพราะแรงกดดันน่าหวาดกลัวอัน
เย็นเยียบของอีกฝ่าย

“นาย นายท่าน?”
ตอนที่ 189 ไฟโกรธไร้เหตุ!

แววตาดุดันเยือกเย็นของนายท่านเหยียนจับจ้องบนมือฮุยหลางที่ผูกผ้า
คาดเอวอยู่ สายตานั ้น ราวกับคมมีดเย็นเยียบน่ากลัวแต่ละเล่มๆ ทำให้ใจคน
เหน็ บหนาวเสียดื้อๆ

“เจ้าช่วยรักษาเขาแล้วรึ?” นั ยน์ ตาดำล้ำลึกมองบนร่างเฟิ่ งจิว


่ ข้างๆ อย่าง
มองอารมณ์ ไม่ออก น้ำเสียงนั ้นทุ้มต่ำและมัน
่ คง ทำให้คนเดาความคิดในใจ
ไม่ออก

เฟิ่ งจิว
่ กะพริบตาปริบๆ พยักหน้า “รักษาแล้ว” มองเขาอย่างแปลกใจอยูบ
่ า้ ง
คิดว่าสองคนนี้ … เหมือนจะประสาทกันนิ ดหน่ อย

“ถอดเสื้อผ้าแล้ว?”

สายตาเขากลับมาหยุดลงบนร่างฮุยหลางที่แข็งทื่อไปทัง้ ตัว น้ำเสียงนั ้น มี


กลิน
่ อันตรายอยูบ
่ า้ งเลือนลาง

“อืม ถอดแล้ว”

เฟิ่ งจิว
่ พยักหน้าอีกครัง้ อย่างสัตย์จริงนั ก ไม่ถอดเสื้อผ้าจะฝังเข็มยังไงเล่า?
แน่ นอนว่าต้องถอดน่ ะสิ!

“พูดถึงเพียงนี้ เห็นแล้วรึ?”
น้ำเสียงราวกับโรงน้ำแข็ง เย็นเฉี ยบเสียจนทำให้ฮุยหลางเหงือ
่ ออกซก แอบ
คิดว่า ‘เขาทำเรือ
่ งอะไรที่ยุแหย่ให้นายท่านไม่พอใจรึ? หรือฝ่าฝืนข้อห้าม
อะไรเข้า?’

“แน่ นอนสิ ไม่เห็นจะฝังเข็มยังไงเล่า?”

เธอรู ส
้ ึกประหลาดยากจะเข้าใจนิ ดหน่ อย โดยเฉพาะเมื่อรู ส
้ ึกว่าอุณหภูมิทัว่
ห้องเย็นลงมา ข้างกายคล้ายจะมีลมหนาวโหยหวน ช่างน่าแปลกยิง่ นั ก

เห็นนางทำหน้าไม่รูเ้ รือ
่ งรู ร้ าว ในใจนายท่านเหยียนจึงมีไฟโกรธไร้สาเหตุ
ลุกโชนขึ้น มองลึกที่นาง สะบัดเสื้อคลุม แล้วหันตัวก้าวยาวเดินไปด้านนอก
ขณะเดียวกันน้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีกลิน
่ อายอันตรายเย็นเยียบก็เปล่งออกมา
อย่างมีน้ำโห

“อิง่ อี พาฮุยหลางไปทิง้ ไว้หอสายลมหนาวซะ!”

เมื่ออิง่ อีที่ไล่ตามเข้ามาได้ยน
ิ คำพูดนี้ ร่างกายก็นิ่งงัน ‘หอ หอสายลมหนาว
รึ?’

สายตามองไปด้านใน เห็นฮุยหลางที่ชะงักไปเหมือนกันยืนตัวแข็งทื่ออยูต
่ รง
นั ้น สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

เฟิ่ งจิว
่ อึ้งอยูส
่ ักพัก มองพวกเขา เห็นบนหน้าทัง้ สองล้วนมีท่าทียากจะเชื่อ
จึงกะพริบตาปริบๆ อย่างอดไม่ได้ ถามด้วยความอยากรู อ
้ ยากเห็น “หอ
สายลมหนาวคือที่ใดรึ?”
ใครจะรู ้ นางไม่ถามซะยังดีกว่า พอนางถามเช่นนี้ ตัวฮุยหลางก็พุง่ ออกไปทัง้
ใจสลาย

“นายท่าน! นายท่านข้าน้ อยไม่อยากไปหอสายลมหนาวนะขอรับ… นาย


ท่าน…”

เห็นฮุยหลางพุง่ ออกไป อิง่ อีก็ได้สติกลับมา รีบเร่งตามออกไป หากไม่ทำตาม


คำสัง่ นายท่าน เกรงว่าไม่เพียงฮุยหลางจะถูกโยนไปหอสายลมหนาว เขาก็
อาจจะโดนเหมารวมไปด้วย

ดังนั ้น ตายหนึ่ งดีกว่าสอง เขาทำได้เพียงขอโทษต่อฮุยหลาง

เฟิ่ งจิว
่ ยืนอยูต
่ รงประตู ได้ยน
ิ เสียงฮุยหลางร้องโหยหวนดัง่ ผีร ่ำไห้หมาป่า
หอนดังลอยมา อดไม่ได้ที่จะขมวดคิว
้ แอบคิดว่า ‘หอสายลมหนาวเป็นที่ใด
กัน? ถึงทำให้ฮุยหลางได้แล้วหน้าเปลี่ยนสี’

“แต่วา่ นายท่านเหยียนนั ่นมาทำอะไรกันแน่ ? แล้วทำไมถึงโกรธปึงปังไปเสีย


แล้วเล่า?”

เธอพึมพำเสียงเบา คิดไม่ออก ก็ไม่ต้องคิดซะเลย กลับมาในห้องปิดล็อค


ประตู แล้วทำธุระที่ยงั ไม่เสร็จต่อไป

วันต่อมา เมื่อเธอนำยาขัน
้ สี่ที่ปรุ งออกมาส่งให้หลินเหล่า เห็นท่าทางเขาตื่น
เต้นประหลาดใจ พูดทัง้ ยิม
้ น้ อยๆ อย่างอดไม่ได้ “หลินเหล่า ข้ามีเรือ
่ งจะถาม
ท่านขอรับ!”
“เหอะๆๆ เรือ
่ งอะไรรึ? พูดมาเถอะๆ!” หลินเหล่าเก็บยานั ้นขึ้นมาราวกับ
สมบัติล้ำค่า กะว่าเดีย
๋ วจะหยิบไปให้นายท่านดู

“หอสายลมหนาวเป็นสถานที่แบบไหนรึ?” เธอถือวิสาสะหยิบขนมอบชิน

หนึ่ งบนโต๊ะเขามาทาน

“หอสายลมหนาวเป็นโรงค้าเด็กหนุ่ม เจ้าถามเรือ
่ งนี้ ทำไมรึ?” เมื่อวานเขา
อยูใ่ นหอโอสถทัง้ วัน ด้วยเหตุนี้ จึงไม่รูว้ า่ ฮุยหลางถูกนายท่านเหยียนสัง่ โยน
ไปหอสายลมหนาวแล้ว

เธอเบิกดวงตากว้างด้วยความตกใจ จากนั ้น ก็หว


ั เราะลัน
่ ออกมาอย่างกลัน

ไว้ไม่อยู่ “ฮ่าๆๆๆ! ที่แท้เป็นโรงค้าเด็กหนุ่มนี่ เอง!”
ตอนที่ 190 ม้าคึกยากล้ม!

เห็นเฟิ่ งจิว
่ หัวเราะระรืน
่ อยูต
่ รงนั ้น หลินเหล่าก็ส่ายหัว บอกว่า “เจ้าต้องการ
ยาอะไรก็ข้น
ึ หอไปหยิบเองเถอะ ข้าต้องนำยาไปให้นายท่านก่อน” พูดจบ ก็
สาวก้าวเดินไปด้านนอก ทิง้ ให้เฟิ่ งจิว
่ หน้าชื่นตาบานอยูต
่ รงนั ้นคนเดียว

หลินเหล่ามายังเรือนหลัก ไม่เห็นเงาฮุยหลางที่มักจะติดตามอยูข
่ า้ งกายนาย
ท่านเสมอ กลับเป็นอิง่ อีที่คอยเฝ้าในเรือนนายท่าน จึงถามว่า “อิง่ อี ทำไมวัน
นี้ ไม่เห็นฮุยหลางเล่า?”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ อิง่ อีกระตุกมุมปาก มองไปด้านในแวบหนึ่ ง แล้วพูดเสียงกด
เบาลง “ฮุยหลางไปรับแขกในหอสายลมหนาวขอรับ!”

“อะไรนะ?” หลินเหล่าตะลึง ร้องอย่างแปลกใจ “รับ รับแขกที่หอสายลม


หนาวรึ?” เขาไม่ได้ฟังผิดกระมัง?

อิง่ อีทำท่าทางเงียบๆ ไว้ ชีต


้ รงด้านใน ไม่ให้เขาเสียงดังเกินไปนั ก

หลินเหล่าปาดเหงือ
่ กล่าวว่า “ข้ามีธุระกับนายท่าน เข้าไปก่อนนะ”

หน้าโต๊ะหนั งสือ นายท่านเหยียนนั ่งตรวจดูขา่ วคราวที่แต่ละถิน


่ เสนอเข้ามา
เวลานี้ ประตูมีเสียงดังก๊อกๆ ขึ้นสองครัง้ น้ำเสียงหลินเหล่าลอยมาจากด้าน
นอก

“นายท่าน ข้าน้ อยมีเรือ


่ งมารายงานขอรับ”
“เข้ามา”

หลินเหล่าหายใจเข้าลึกๆ ถึงจะเดินเข้าไป เห็นเงาร่างสีดำกำลังวุน


่ อยูห
่ น้า
โต๊ะหนั กสือ จึงเดินไปด้านหน้า คำนั บด้วยความเคารพ แล้วนำยาเสนอให้

“นายท่าน นี่ เป็นยาที่ภูตน้ อยปรุ งออกมาใหม่ ข้าน้ อยดูแล้ว เป็นยาขัน


้ สี่
ขอรับ”

ฟังคำพูดนี้ นายท่านเหยียนก็วางเอกสารในมือลง เงยหน้าขึ้นมา “นาง[1]


ปรุ งยาขัน
้ สี่ออกมารึ?”

[1] ในภาษาจีนเขาและเธอออกเสียงเหมือนกัน เพียงแต่เขียนต่างกัน


เท่านั ้น

“ขอรับ หนำซ้ำยังเป็นยาขัน
้ สี่ชน
ั ้ ดี ในหมู่ยาของหอโอสถเรา ยังไม่เคยเห็นยา
ขัน
้ สี่ชน
ั ้ ดีเลยนะขอรับ” พูดตรงนี้ หลินเหล่าปลาบปลื้มนิ ดหน่ อย นึ กไม่ถึงว่า
เด็กหนุ่มหน้าตาน่าเกลียดอย่างภูตน้ อยจะมีความสามารถอยูบ
่ า้ งจริงๆ ไม่
แปลกใจที่นายท่านจะคอยประคบประหงมเขา

นายท่านเหยียนครุ น
่ คิดสักพัก ก็เอ่ยว่า “กลับไปเจ้าให้นางประทับตรา
สัญลักษณ์ ของตัวเองลงบนตัวขวด จากนั ้นค่อยนำยาส่งไปกองประมูล ให้
พวกเขาประมูลยาออกไปในชื่อภูตหมอ”
ฟังเช่นนี้ หลินเหล่าตกใจเล็กน้ อย “นายท่านจะให้เปิดตัวด้วยชื่อภูตหมอรึ
ขอรับ?” หากให้คนของตำหนั กยมราชพวกเขาจัดการ ไม่ต้องใช้เวลาถึงสาม
เดือน ชื่อภูตหมอจำต้องกระฉ่ อนไปทัว่ แคว้นเหินเวหาแน่ !

“ไปจัดการเถอะ!” เขาไม่พูดอะไรมาก แค่โบกมือให้สัญญาณเขาถอยไป

“ขอรับ” หลินเหล่าถอยออกไปหลังคำนั บลา

ส่วนอีกด้านหนึ่ ง ในหอสายลมหนาว

ฮุยหลางหลบอยูใ่ นห้องเหลือบมองร่างกายตัวเอง ด่าทอทัง้ กัดฟันกรอด


“เจ้าเด็กนี่ ! ก็รูอ
้ ยูว
่ า่ เขาคงไม่ชว
่ ยรักษาข้าง่ายดายเพียงนั ้น กะแล้วเชียวว่า
ต้องมีเจตนาไม่ดี!”

เวลานี้ ประตูหอ
้ งถูกผลักออก บุรุษรู ปโฉมขาวเนี ยนบอบบางเดินเข้ามา
ชำเลืองบริเวณนั ้นที่ตัง้ ตรงขึ้นของฮุยหลาง ก่อนจะเผยรอยยิม
้ ซุกซนอย่าง
อดไม่ได้

“ฮุยหลาง ข้าว่าเจ้าไปทำเรือ
่ งวุน
่ วายอะไรเข้าเนี่ ย? คนอื่นอยากคึกเป็นม้า
ยากล้มช่างยากเย็น เจ้ากลับไม่เหมือนกัน ดูสิ นานแค่ไหนแล้วนะ? ยังแข็ง
แรงถึงเพียงนี้ ความทรหดช่างห่างไกลจากระดับข้าเสียจริง!”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ ฮุยหลางก็ถลึงมองเขา บอกว่า “เจ้ายังมาหัวเราะอีก? ไม่ชว
่ ยข้า
ลองคิดหาทางแก้เล่า เป็นพีน
่ ้ องกันไม่ใช่ร!ึ ”
“ทางแก้ไม่ใช่วา่ ไม่มี”

บุรุษผูน
้ ั ้นเดินเข้ามา เอ่ยว่า “ที่นี่เป็นสถานที่เช่นไรเจ้าก็รู ้ สิง่ ที่ไม่ขาดแคลน
ที่สุดก็คือเด็กหนุ่ม ถ้างัน
้ ข้าจะหาใครสักสองคนมาให้เจ้าระบาย?”

“เจ้าอย่าสร้างปัญหานั กเลย ข้าร้อนใจแทบตายแล้วนะ!” เขาพูดอย่างไม่สบ


อารมณ์

“งัน
้ ก็เอาเถอะ!” บุรุษผูน
้ ั ้นตบมือ ต่อจากนั ้น เด็กรับใช้สองสามคนก็ยกผ้า
ไหมสีแดงที่แทบบางโปร่งใสกับแป้งปัดแก้มแดงเข้ามา

เห็นภาพเช่นนี้ ฮุยหลางก็กระโดดขึ้นมาอย่างไหวตัวทัน “เจ้าจะทำอะไรน่ ะ?”


ตอนที่ 191 ไสหัวออกไป!

บุรุษผูน
้ ั ้นยิม
้ ด้วยเจตนาร้าย “แน่ นอนว่าต้องทำตามคำสัง่ นายท่าน! เจ้าคง
ไม่คิดว่า ข้าจะปล่อยให้เจ้าหลบอยูใ่ นห้องตลอดโดยไม่ออกไปได้งน
ั ้ สิ?”

“เฮ้ยๆ! เริน
่ เสียง เจ้าอย่าทำเกินไปนั กนะ!”

“ข้าแค่ทำตามคำสัง่ นายท่าน คงทำไม่เกินไป เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะดูแลเจ้า


หน่ อย ไม่ให้เสียตัวหรอกน่า” เขายิม
้ ๆ โบกมือให้สัญญาณเด็กรับใช้เข้ามา
เปลี่ยนเสื้อผ้าเขา

“ข้าจะเปลี่ยนเอง! พวกเจ้าไม่ต้อง!” ฮุยหลางตะโกนลัน


่ แต่เมื่อหยิบชุดสี
แดงตัวนั ้นที่บางราวปีกแมลงโปร่งใส สีหน้ากลับดำมืดเสียจนเหมือนก้น
หมอ “จะ จะให้ขา้ สวมเจ้านี่ ร?ึ นี่ นี่ มันบางโปร่งเห็นชัดเลยนะ!”

เริน
่ เสียงเหลือบมองเขา กล่าวยิม
้ ๆ “เจ้าจะเลือกเปลือยกายออกไปก็ได้นะ
ข้าเชื่อว่าหากมีเจ้าเป็นไพ่ตาย สองสามวันนี้ ธุรกิจเราจะต้องเป็นที่นิยมมาก
แน่ ””

เช่นนี้ ฮุยหลางจึงถูกพวกเขาบังคับเปลี่ยนสวมชุดสีแดงโปรงแสงนั ่น ซ้ำยัง


แต่งหน้าทาปากส่งขึ้นเวที…

ส่วนอีกด้านหนึ่ ง เฟิ่ งจิว


่ ที่ได้ขา่ วว่านายท่านเหยียนออกไปข้างนอก คืนนี้ จึง
เข้าไปแช่น้ำที่บอ
่ น้ำพุรอ
้ นหลังเขา
สำหรับเธอแล้ว บ่อน้ำพุรอ
้ นหลังเขานี้ ยงั ปลอดภัยกว่าเรือนเธอนั ก ที่เรือน
คนพวกนั ้นคิดจะเข้ามาก็เข้า หนำซ้ำยังเข้าห้องไม่เคาะประตู ทำให้เธออาบ
น้ำอย่างอกสัน
่ ขวัญแขวน มักจะลนลานอาบน้ำแล้วก็จบ ไหนเลยจะเทียบได้
กับความสะดวกสบายที่นี่และไม่มีใครกล้าบุกเข้ามากันเล่า?

พอแช่น้ำไปครึง่ ชัว่ ยาม เธอสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยก็หยิบยาทาจากห้วงมิติมา


ผอกลงบนหน้าชัน
้ หนึ่ ง ช่วงนี้ บนหน้าไม่วา่ กลางวันหรือกลางคืนล้วนต้อง
ผอกยาไว้ เธอเคยดูแล้ว ว่าแผลเป็นบนหน้าจางลงไม่น้อย เดาว่าผ่านไปอีก
สักพักก็จะหายเป็นปลิดทิง้

หลังผอกยาเรียบร้อย ก็ออกจากบ่อน้ำพุรอ
้ นหลังเขาอย่างเงียบเชียบ ไปยัง
เรือนตัวเอง กลับมาในห้อง ล็อคประตูหน้าหน้าต่างทัง้ ด้านในด้านนอก ก่อน
จะดับไฟมืดสนิ ทแล้วเข้าไปฝึกฝนกลิน
่ อายพลังเร้นลับในห้วงมิติ

ช่วงนี้ อยูท
่ ี่นี่ไม่มีโอกาสได้ฝึกวิชาเลย สุดท้าย หากไม่ระมัดระวัง ก็มีความ
เป็นไปได้ที่สมบัติในห้วงมิติบนตัวกับพลังวิญญาณบนร่างจะถูกพบเข้า

พอเข้าห้วงมิติมา เธอมองหงส์ไฟที่หลับใหล เห็นเขายังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ก็


นั ่งลงขัดสมาธิท่องคาถารวมพลังเพื่อฝึกตน…

จนกระทัง่ เวลากลางดึก การเคลื่อนไหวด้านนอกทำให้เธอในห้วงมิติตกใจ


ตื่น รีบร้อนแวบตัวออกจากห้วงมิติมาโผล่บนเตียง ก็ได้ยน
ิ เสียงประตูหอ
้ ง
ถูกผลักออกอย่างกะทันหัน
“ภูตน้ อย! รีบ รีบตามข้ามาเร็วเข้า!” หลินเหล่าเข้ามาลากคนไปด้วยท่าทาง
วิตกกังวล

“หลินเหล่า?”

เฟิ่ งจิว
่ มองเขาอย่างตื่นตกใจ ถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? ดึกดื่นมืดค่ำจะไปไหน
ขอรับ?”

“นายท่านเหยียนไปขโมยบัวเพลิงแก่นสวรรค์ที่หุบเขาพิษ ได้รบ
ั บาดเจ็บ เจ้า
รีบตามข้าไปดูหน่ อย!” เพราะรู ว้ า่ ทักษะการรักษาเขาไม่ธรรมดา ดังนั ้นเมื่อรู ้
ว่านายท่านได้รบ
ั บาดเจ็บ วินาทีแรกเขาจึงรีบมาลากเขาไปด้วยกันก่อน

ได้ยน
ิ เช่นนี้ เฟิ่ งจิว
่ สีหน้าแปลกใจ “วรยุทธ์เขาแข็งแกร่งมากไม่ใช่หรือ?
ทำไมถึงบาดเจ็บได้ขอรับ?” แม้จะพูดอยู่ แต่ยงั หยิบเสื้อคลุมที่หว
ั เตียงมา
สวม แล้วเดินตามหลินเหล่าออกไป “ไหนเลยเจ้าจะรู ว้ า่ หุบเขาพิษเป็น
สถานที่เช่นไร? ที่นั่นเต็มไปด้วยสิง่ มีพษ
ิ หนำซ้ำ นายของหุบเขาพิษยังเป็น
ผูแ
้ ข็งแกร่งระดับกำเนิ ดวิญญาณ เซียนผู้แกร่งกล้ารวมกับพิษที่ชำนาญ
ต่อให้นายท่านเก่งกาจก็ยากจะเลี่ยงการบาดเจ็บ”

เฟิ่ งจิว
่ รีบร้อนตามหลินเหล่ามายังเรือนหลัก เรือนของนายท่านเหยียน และ
นี่ ยงั เป็นครัง้ แรกที่เธอเข้ามา

หลินเหล่าพาเฟิ่ งจิว
่ เร่งฝีเท้าเดินเข้าห้อง พลางถามด้วยความกังวลใจ “อิง่
อี? นายท่านเป็นยังไงบ้าง? เจ็บตรงไหน? ร้ายแรงหรือไม่?”
นายท่านเหยียนที่นอนอยูบ
่ นเตียงและกำลังเปลือยกายให้องิ่ อีจัดการ
บาดแผลหันมาด้านข้าง เหลือบเห็นเงาร่างนั ้นตามหลินเหล่าเข้ามา จึงดึง
ผ้าห่มขึ้นไปปิดท่อนล่างไว้ทันที ขณะเดียวกันน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำเยือกเย็นก็
แผดเสียงลัน
่ ด้วยความเหนี ยมอายที่ยากจะสังเกต

“ไสหัวออกไปซะ!”
ตอนที่ 192 อยูเ่ ฝ้าค้างคืน!

เฟิ่ งจิว
่ ยังไม่ทันเห็นชัดว่าด้านในเกิดเรือ
่ งอะไรขึ้นกันแน่ ก็เห็นสายลมโบก
พัดโจมตีมาเสียดื้อๆ ผลักตัวเธอออกไป

ไม่ต้องพูดถึงที่เธอตะลึงงัน แม้แต่องิ่ อีที่ชว


่ ยเขาจัดการบาดแผลและหลิน
เหล่าที่รบ
ี ปรีม
่ ายังชะงัก

“นาย นายท่าน?”

“ให้นางออกไปซะ!” นายท่านเหยียนพูดเสียงเข้ม

อิง่ อีเห็นท่าทาง ถึงจะรีบร้อนเดินออกมา บอกกับเฟิ่ งจิว


่ ที่อ้งึ ๆ อยูว
่ า่ “เจ้า
ออกไปก่อนเถอะ”

เฟิ่ งจิว
่ หันไปสำรวจเล็กน้ อย กำลังจะมองเข้าไปด้านใน เพื่อลองดูวา่
สถานการณ์ เป็นเช่นไร ก็ได้ยน
ิ เสียงเขาดังมาอีกครัง้

“อิง่ อี โยนนางออกไปซะ!”

เห็นเช่นนี้ เฟิ่ งจิง่ จึงหนี ออกไปทันที พลางกระซิบกระซาบด้วยความไม่พอใจ


“ไม่ใช่วา่ ข้าอยากมาเสียหน่ อย ตะโกนอะไรของเขา? ช่างเข้าใจยากจริงๆ!”

หลินเหล่าเร่งรีบเดินไปด้านใน พลางถามว่า “นายท่านบาดเจ็บตรงไหนรึ


ขอรับ?”
“หลังต้นขาถูกงูพษ
ิ กัด ข้าช่วยนายท่านจัดการบาดแผล รีดพิษออกมา และ
ให้นายท่านทานยาล้างพิษแล้ว คงไม่มีอะไรร้ายแรง แต่ตรงแขนถูกฟัน เดา
ว่าสองสามวันนี้ คงขยับมากนั กไม่ได้”

อิง่ อีพูดจบ ก็มองไปที่นายท่านเหยียน เอ่ยว่า “นายท่าน บาดแผลยังไม่ได้


ทายานะขอรับ”

ฟังเช่นนี้ นายท่านเหยียนถึงจะเปิดผ้าห่มออก เผยให้เห็นบาดแผลตรงหลัง


ต้นขาใกล้ๆ บัน
้ ท้าย

เพราะโดนงูพษ
ิ กัด อิง่ อีจึงกรีดรู ปกากบาทเล็กๆ ไว้ตรงแผล แล้วให้เขาเกร็ง
กำลังรีดพิษออก เมื่อครู ก
่ ำลังจะทายา ก็เห็นพวกเขาพรวดเข้ามา

แต่วา่ เป็นผูช
้ ายด้วยกันทัง้ นั ้น ทำไมนายท่านถึงไล่ภูตหมอออกไปเล่า?

ในใจนึ กสงสัย กลับไม่กล้าเอ่ยถาม เขาถอยมาข้างๆ ให้หลินเหล่ารับช่วงต่อ


หลังจากทายาก็พน
ั บาดแผล ถึงจะนำกางเกงมาสวม ผูกผ้าคาดเอว แล้ว
ค่อยจัดการบาดแผลตรงแขน

นอกเรือน เฟิ่ งจิว


่ นั ่งมองดาวอยูใ่ นสวนอย่างเบื่อหน่าย ไม่รูว้ า่ ตอนนี้ เหลิง่
ซวงจะเป็นยังไงบ้าง? ไม่มีเบาะแสเธอ กลัวว่าจะกังวลใจแทบตายเลย
กระมัง?

นึ กถึงตรงนี้ เธอคิดว่าตัวเองจวนใกล้เวลาที่ควรจะแอบหนี ออกไป


แต่วา่ มาที่นี่ตัง้ หลายวัน ตลอดมากลับยังไม่รูช
้ ด
ั แจ้งว่านายท่านเหยียนผูน
้ ี้
เป็นใครกันแน่ ?

บัวเพลิงแก่นสวรรค์ที่เขาไปขโมยยังหุบเขาพิษเป็นยาทิพย์จิตวิญญาณ
ล้ำค่าที่จะขาดไม่ได้ในการรักษาพิษเหมันต์พน
ั ปี พิษเหมันต์พน
ั ปี? นายแห่ง
ตำหนั กยมราช? ยังมีท่านอาหนวดเฟิ้ มนั ่นอีก ระหว่างสามคนนี้ จะมีอะไร
เกี่ยวข้องกันรึเปล่านะ?

ขณะกำลังครุ น
่ คิด ก็ได้ยน
ิ เสียงหลินเหล่าดังขึ้นมาข้างหู

“ภูตน้ อย เจ้ายังอยูน
่ ี่ อก
ี รึ? รีบกลับไปนอนเถอะ! นายท่านไม่เป็นอะไรแล้ว”
เขากล่าวอย่างขอโทษนิ ดหน่ อย เดิมนึ กว่าบาดแผลร้ายแรงมาก ดังนั ้นตอน
ที่กำลังมาถึงได้ลากเขามาด้วยกัน นึ กไม่ถึงว่าเขาจะถูกนายท่านไล่ออกมา

“หลินเหล่า บัวเพลิงแก่นสวรรค์คือยาทิพย์ที่จำเป็นสำหรับพิษเหมันต์พน
ั ปี
นายท่านเหยียนพยายามถึงเพียงนั ้นเพื่อไปขโมยมันจากหุบเขาพิษ คนที่ถูก
พิษเหมันต์พน
ั ปี เป็นอะไรกับนายท่านเหยียนกันแน่ ?”

“เรือ
่ งนี้ … เหอะๆ อีกหน่ อยเจ้าจะรู เ้ อง”

หลินเหล่าหัวเราะเหอะๆ บอกว่า “ค่ำคืนดึกดื่น เจ้าไม่กลับไปนอน ข้ายังต้อง


กลับไปนอนอีกสักพัก ข้าแก่แล้ว เทียบไม่ได้กับหนุ่มๆ อย่างพวกเจ้าหรอก
นะ” พูดจบ ก็โบกบ่ายมือ ก่อนจะเดินออกไป
เห็นเช่นนี้ เฟิ่ งจิว
่ ก็ลุกขึ้นยืน เตรียมจะกลับเรือนไปนอนสักหน่ อย ใครจะรู ้
ว่าเสียงอิง่ อีจะลอยมาจากด้านหลัง

“ภูตหมอ นายท่านให้เจ้าอยูเ่ ฝ้าค้างคืน”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ เธอจึงหันกลับไปอย่างตกใจ “เฝ้าค้างคืน? เพื่ออะไรกัน?”

อิง่ อีมองเขาแวบหนึ่ ง บอกว่า “คำสัง่ นายท่าน ไหนเลยต้องมีเหตุผล


มากมายเพียงนั ้น? แขนขานายท่านใช้การไม่สะดวก เขาให้เจ้าทำอะไรก็ทำ
ไปเถอะ”

เห็นอิง่ อีทิง้ คำพูดไว้ก็เดินไป เฟิ่ งจิว


่ จึงเบิกดวงตา
ตอนที่ 193 เจ้าทำอะไรน่ ะ!

“เข้ามา!”

ได้ยน
ิ เสียงที่ดังมาจากในห้อง เธอกัดฟันกรอด แล้วสาวก้าวเดินเข้าไป มา
ถึงในห้อง เห็นนายท่านเหยียนผูน
้ ั ้นกำลังกึ่งนอนอยูบ
่ นเตียง จึงถามว่า “มี
เรือ
่ งอะไรรึ?”

นายท่านเหยียนชำเลืองมองนาง ไม่รูว้ า่ กำลังคิดอะไร สักพักก็พูดว่า “ช่วย


ข้าเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสะอาดที”

“ไยเมื่อครู ถ
่ ึงไม่ให้องิ่ อีชว
่ ยท่านเปลี่ยนเล่า?”

พูดออกไปตามสัญชาตญาณ ก็สบเข้ากับสายตาเย็นเยียบนั ้น เห็นเช่นนี้ เธอ


ขลาดกลัวอย่างไม่คิดหยิง่ ในศักดิศ
์ รี เอ่ยถามว่า “เสื้อผ้าอยูไ่ หนล่ะ?”

“ในตู้เสื้อผ้า”

สายตาเขาจับจ้องบนตัวนาง มองเธอเปิดตู้ค้นเสื้อผ้าด้านในเสียจนยุง่ เหยิง


ถึงจะหยิบชุดซับในสีขาวกับเสื้อคลุมสีดำออกมาจากด้านใน

มายังข้างเตียง เฟิ่ งจิว


่ ถลึงมองคนบนเตียง ยิม
้ ออกทันใด “ต้องให้ขา้ ช่วย
ท่านถอดเสื้อผ้าไหม?”

“ถอดสิ”
เขาถลึงมองนาง จากใบหน้านั ้นมองไม่เห็นความเขินอายของสาวน้ อยเลย
สักนิ ด ทว่าเขาก็ผด
ิ หวัง เพียงเห็นดวงตานางเป็นประกายขึ้นมาเพราะคำ
พูดนั ้น พลางจ้องมองร่างกายเขาราวกับหมาป่า แววตานั ้น ช่างคล้ายคลึง
กับหญิงบ้าผูช
้ ายนั ก

เห็นนางเป็นเช่นนี้ เขานึ กไม่ออกจริงๆ ว่าตระกูลแบบไหนกันแน่ ที่ชุบเลี้ยง


สาวน้ อยพิลึกพิลัน
่ เช่นนี้ ออกมา?

มีอก
ี ข้อหนึ่ งทำให้เขารู ส
้ ึกแปลกใจยิง่ นั ก สำหรับสัมผัสของนาง ไม่รูเ้ มื่อไหร่
ที่เขาเคยชิน ถึงไม่มีความรู ส
้ ึกรังเกียจเหมือนที่หญิงคนอื่นๆ แตะต้องเขา

ความรู ส
้ ึกแปลกๆ เช่นนี้ เป็นข้อสรุ ปที่ทำให้เข้าใจผิดว่านางเป็นเด็กหนุ่มมา
ตลอด ดังนั ้นถึงได้ยอมรับนางจากก้นบึ้งหัวใจ!

ได้ยน
ิ คำพูดเขา เฟิ่ งจิว
่ ก็ต่ ืนเต้นอยูบ
่ า้ ง เธอฉี กยิม
้ กว้าง นำเสื้อผ้าวางไว้หว

เตียง ยื่นมือออกไปทัง้ น้ำลายสอ บอกด้วยความปลาบปลื้มเล็กน้ อย “งัน
้ ข้า
ถอดแล้วนะ?”

“ช่วยข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าทำให้เจ้าตื่นเต้นได้เพียงนี้ เชียวรึ? เจ้าตื่นเต้นอะไรกัน


แน่ ?” เขาถามติดตลกนิ ดหน่ อย เพียงรู ส
้ ึกว่าความคิดนางช่างแปลก
ประหลาดมากเสียจริง

“แหะๆ ข้าเคยบอกแล้วไม่ใช่ร?ึ ว่าข้าชื่นชอบหนุ่มรู ปงามเป็นที่สุด โดย


เฉพาะคนอย่างนายท่านเหยียน ยากนั กที่จะมีโอกาสช่วยนายท่านเหยียน
เปลี่ยนเสื้อผ้า ข้าจะไม่ต่ ืนเต้นได้ร?ึ ” เธอหรีส
่ องตาลงยิม
้ สองมือแก้เสื้อ
ท่อนบน เสื้อคลุมเปิดออกครึง่ หนึ่ ง เผยให้เห็นกล้ามเนื้ อทรงเสน่ หส
์ ีแทน
เธอมองเสียจนน้ำลายไหล

บ้าจริง! เรือนร่างนี้ ยงั ทำให้คนมีชว


ี ต
ิ ได้อยูอ
่ ก
ี รึ?

หนุ่มรู ปงามเสื้อคลุมเปิดครึง่ เอนกายอยูบ


่ นเตียง กล้ามเนื้ อสีแทนปรากฏ
ปิดครึง่ เปิดครึง่ อยูต
่ รงหน้าเธอ เพราะหน้ากากครึง่ หน้าที่สวมอยูจ
่ ึงเห็น
ใบหน้าไม่ชด
ั แต่ดวงตาลึกล้ำและลึกซึ้งคู่นั้นยังยัว่ ยวนใจราวปีศาจร้าย ริม
ฝีปากบางน่าเย้ายวนไม่รูเ้ พราะเรือ
่ งอะไรถึงยกขึ้นเบาๆ ด้วยความสุขสมใจ
มุมปากยกขึ้นมุมโค้งรางๆ เสน่ หค
์ วามเป็นชายทัว่ ร่างทำให้เธอเห็นแล้วแทบ
จะพุง่ ออกไปอย่างไม่อาจต้านทาน

ช่างเป็นร่างเปลือยเปล่าที่น่าดึงดูดเสียจริง! หากไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายพละ
กำลังแกร่งนั ก จิๆ
๊ เธอล่ะอยากจะตะครุ บเขาไว้จริงๆ!

และเวลานี้ เพราะคำพูดนั ้นของนางที่วา่ ‘ชอบหนุ่มรู ปงามเป็นที่สุด โดย


เฉพาะคนอย่างนายท่านเหยียน’ อารมณ์ เขาจึงสัน
่ ไหว

ความรู ส
้ ึกแปลกๆ ในหัวใจ พูดได้วา่ สิง่ ที่ผุดขึ้นมาครัง้ แรก คือความระรืน

และสุขใจเล็กน้ อย แม้แต่มุมปากยังยกมุมโค้งขึ้นโดยไม่รูต
้ ัวเพราะความสุข

เห็นเฟิ่ งจิว
่ ตรงหน้าน้ำลายไหลเพราะเรือนร่างเขา ดวงตาก็เปล่งประกาย
เขารู ส
้ ึกภูมิอกภูมิใจแปลกๆ นึ กถึงความรู ส
้ ึกประหลาดที่ผด
ิ ปกติของตัวเอง
ในดวงตาจึงฉายแววอึดอัดใจ กระแอมไอเบาๆ ทำน้ำเสียงเข้ม เอ่ยอย่าง
หยาบกระด้าง “อย่าชักช้า เร่งมือหน่ อย!”
“ก็ได้ๆๆ”

เธอหรีต
่ ายิม
้ ถอดเสื้อท่อนบนเขาออกอย่างคล่องแคล่วว่องไว มือเพิง่ แตะ
ตรงผ้าคาดเอว ก็ถูกเขาคว้าไว้

“เจ้าทำอะไรน่ ะ?”
ตอนที่ 194 ชอบผูช
้ ายด้วยกัน?

“ท่านไม่เปลี่ยนกางเกงรึ?” เธอเลิกคิว
้ มองเขา

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ เห็นท่าทางนางดวงตาเป็นประกาย สีหน้าก็มืดลง “เปลี่ยนแค่
เสื้อก็พอ”

“โอ้” เธอตอบรับอย่างเสียดายนิ ดหน่ อย ชำเลืองมองผ้าคาดเอว แค่เกือบ


เกือบแล้วเชียว…

เห็นท่าทางบนใบหน้านาง นายท่านเหยียนก็กระตุกมุมปาก ทนมองต่อไปไม่


ได้จริงๆ หลับตาลง ก่อนจะมองไปอีกทางหนึ่ ง

หลังจากเปลี่ยนเสื้อที่เปื้ อนเลือด นายท่านเหยียนถึงจะนอนลงพักผ่อน สัง่


อีกว่า “เจ้าไปนอนนอกห้อง ถ้ามีเรือ
่ งอะไรข้าจะเรียกเจ้าเอง”

หลังเฟิ่ งจิว
่ มองเขาแวบหนึ่ ง ก็ถามว่า “ท่านไม่ถอดหน้ากากรึ?”

เหมือนคนผูน
้ ี้ จะสวมหน้ากากไว้ตลอด แม้จะนอนก็ยงั สวม คล้ายจะไม่อยาก
ให้เธอจำเขาได้ หรือจะเป็นคนที่นางรู จ
้ ัก?

“ออกไป” นายท่านเหยียนเหลือบมองนาง น้ำเสียงเย็นชา


เห็นเช่นนี้ เฟิ่ งจิว
่ ยักไหล่ ไม่พูดอะไรมาก เดินมานอนลงบนม้านั ่งตัวยาว
นอกห้อง ปิดตาลงแต่ยงั นอนไม่หลับ ในใจกำลังครุ น
่ คิด ‘จะหนี ออกไปยังไง
ดี? ก่อนหนี ควรหอบยาทิพย์จิตวิญญาณไปหน่ อยหรือไม่?’

เช้าตรู ว่ น
ั ถัดไป นายท่านเหยียนที่ต่ ืนขึ้นมาเดินออกไปนอกห้อง เห็นเงาร่าง
นั ้นคดตัวอยูบ
่ นม้านั ่งตัวยาว ยาทาสีเขียวปนดำที่ผอกไว้บนหน้าผ่านไปหนึ่ ง
คืนก็เหมือนจะแห้งแล้ว พื้นผิวจึงแตกออกเล็กน้ อย แต่คนกลับยังหลับใหล
นอนกรนราวกับหมู

เขายกขาขึ้นถีบขานาง กลับเห็นนางหดขาขึ้น พลางกระซิบว่า “ไปเล่นด้าน


โน้ นไป อย่ามารบกวนข้า”

เขาเลิกคิว
้ ขึ้น แววตาลึกล้ำฉายประกาย มองลึกที่นาง ก่อนจะยกเท้าเดิน
ออกไป มาถึงนอกเรือน ก็สัง่ ให้หทารอารักขายกน้ำมาให้เขาล้างหน้าบ้วน
ปาก

รอถึงเวลาอาหารเช้า เฟิ่ งจิว


่ พลิกตัว กลับลืมว่าที่ตัวเองนอนอยูเ่ ป็นม้านั ่งตัว
ยาว พอพลิกตัว ร่างก็ตกลงไปบนพื้นดังตุบ ความดังของเสียง ทำให้นาย
ท่านเหยียนที่กำลังทานอาหารเช้าอยูด
่ ้านนอกได้ยน
ิ เข้า

“ซี๊ด!”

เธอสูดหายใจน้ อยๆ ลูบแขนที่ตกลงมาเจ็บแล้วลุกขึ้นยืน ร่างกายตื่นตัวขึ้น


มา พอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นอิง่ อียน
ื อยูต
่ รงประตูกำลังจ้องมองเธอด้วยสีหน้า
แปลกใหม่ จึงถลึงมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ ทันที
“มองอะไรของเจ้า? ไม่เคยเห็นคนล้มบนพื้นรึไง?”

“หึ!”

อิง่ อีหลุดหัวเราะ พยักหน้าบอกว่า “ยังไม่เคยเห็นใครแม้แต่นอนยังตกเตียง


เลยจริงๆ เจ้าหลับลึกแค่ไหนกันแน่ เนี่ ย?”

เฟิ่ งจิว
่ ไม่สนใจเขา แต่คลำยาทาบนใบหน้า มันแห้งหมดแล้ว จึงพูดทันทีวา่
“ข้าไปก่อนนะ” ไม่รอให้เขาพูดอะไรอีก ก็เร่งฝีเท้าเดินออกไป

เมื่อมาถึงนอกเรือน เห็นนายท่านเหยียนกำลังทานอาหารเช้า ย่างก้าวที่


เดิมทีก้าวออกไปจึงหยุดชะงักลงเพราะเห็นอาหารหรู หราพวกนั ้นบนโต๊ะ จึง
ตะโกนใส่ทหารอารักขาด้านนอก “หยิบชามกับตะเกียบมาให้ขา้ สิ!”

จากนั ้นค่อยไปด้านหลัง กลัว้ คอเสร็จก็มานั ่งลงข้างโต๊ะ

“ข้าว่าท่านคงไม่ถือสาที่ขา้ กินข้าวด้วยนะ” เธอรับชามกับตะเกียบที่ทหาร


อารักขายื่นให้ แล้วคีบเกี๊ยวสีเขียวขึ้นมากัดคำหนึ่ งอย่างไม่เกรงใจ

ดวงตาเธอเป็นประกาย พูดอย่างไม่ใส่ใจ “หืม! ห่อไส้แกงเนื้ อด้วย หอมมาก


เลย!”

เห็นท่าทางแมวตะกละของนาง คล้ายเห็นของที่ไม่เคยกินมาหลายร้อยปี
นายท่านเหยียนชะลอความเร็วในการกินลง สัง่ ว่า “ให้คนยกมาเพิม
่ อีกชุด
หนึ่ ง”
น้ำเสียงเฉยเมยนั ้นกลับทำให้องิ่ อีได้ยน
ิ แล้วถึงกับเงยหน้าขึ้นด้วยความ
ตกใจ เห็นนายท่านไม่รงั เกียจที่หนุ่มน้ อยแบกใบหน้าที่rอกเต็มไปด้วยยาทา
มานั ่งกินตรงข้ามกัน ซ้ำยังให้เขายกมาอีกชุด ในใจจึงครุ น
่ คิดขึ้นอย่างอดไม่
ได้

นายท่านรังเกียจผูห
้ ญิงนั ก กลับดูแลหนุ่มน้ อยผู้นี้เป็นพิเศษ คงจะไม่ได้…
ชอบผูช
้ ายด้วยกันจริงๆ กระมัง?
ตอนที่ 195 ท่าจะไม่ดีแล้ว!

“ยังนิ่ งอยูท
่ ำไมเล่า?”

ได้ยน
ิ น้ำเสียงนายท่านที่มีความไม่พอใจอยูร่ างๆ ดังขึ้น เขาก็เร่งดึงสติกลับ
มา ชำเลืองมองหนุ่มน้ อยที่กำลังกินอย่างมีความสุข รีบขานรับ

“ขอรับ”

เดินออกไป กำชับทหารอารักขาด้านนอกให้สัง่ ห้องครัวส่งเข้ามาเพิม


่ อีกชุด

เห็นของว่างและอาหารร้อนกรุ น
่ สองสามจานที่วางบนโต๊ะ ดวงตาก็เป็น
ประกาย รีบกุลีกุจอช่วยนายท่านเหยียนคีบของกินพวกนั ้น เอาอกเอาใจยิง่
นั ก

“นายท่านเหยียน ท่านกินสิ กินนี่ นะ” จากนั ้นไม่วา่ เขากินหรือไม่ หลังจาก


ช่วยเขาคีบอาหารด้วยตะเกียบ ก็เริม
่ ทานของตัวเอง

เห็นเขาช่วยนายท่านคีบอาหาร อิง่ อีที่คอยอยูข


่ า้ งๆ ก็ถลึงดวงตา “เจ้ากิน
ของตัวเองไปก็พอ จะช่วยนายท่านคีบอาหารอะไรอีก? นายท่านเขาไม่กิน…”

อาหารที่คนอื่นคีบ ประโยคนี้ ยงั ไม่ทันพูดออกมา เห็นนายท่านผูเ้ ป็นใหญ่


และสูงศักดิจ
์ ้องอาหารในชามสักพัก ก็คีบขึ้นมากิน ทำให้เขากลัน
้ ลมหายใจ
ไว้ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ลำบากใจยิง่ นั ก
ทว่าเฟิ่ งจิว
่ เห็นเขากิน ก็หรีด
่ วงตาลงยิม
้ ยกตัวเองเป็นเจ้าบ้านโดยสมบูรณ์
ไม่ลืมว่าใครกินข้าวอยูใ่ นเรือนใคร หลังจากคีบอาหารเองอีกนิ ด ก็ชว
่ ยเขา
คีบอีกหน่ อย

“นายท่านเหยียน ท่านลองชิมนี่ สิ นี่ ท่านยังไม่ได้กินเลยนะ!”

เธอคีบของว่างชิน
้ สุดท้ายในจานเล็กให้เขา ของว่างในทุกจานเล็กล้วนมีอยูส
่ ี่
ชิน
้ แต่กลับกลายเป็นว่า หลังกินเองสามชิน
้ ถึงจะคีบชิน
้ สุดท้ายนั ้นให้ การ
เอาใจเช่นนี้ นายท่านเหยียนมองเสียจนต้องเลิกคิว
้ ขึ้น

อิง่ อีขา้ งๆ มองเสียจนจะร้องไห้ อยากตะโกนออกไปมาก ‘นายท่าน ท่าน


สงวนท่าทีสักนิ ดไม่ได้ร?ึ ทำไมถึงไม่ปฏิเสธ? เด็กหนุ่มนั ่นคีบอะไรก็อน
ั นั ้น?
อีกฝ่ายเป็นผูช
้ ายนะ ศีลธรรมของท่านเล่า?’

อาหารเช้าหนึ่ งมื้อ เฟิ่ งจิว


่ กินเสียจนหัวใจชื่นบานไปชัว่ ขณะ ลูบๆ ท้องเล็กที่
บวมป่อง ลุกยืนขึ้นเรอออกมา “ข้าต้องกลับแล้ว ฮุ! อิม
่ เหลือเกิน”

เห็นเด็กหนุ่มทานอาหารเช้าเสร็จก็สะบัดก้นจากไป นายท่านเหยียนกวาด
มองจานบนโต๊ะที่ไม่เหลืออะไรเลยสักนิ ด ถามว่า “ปกติอาหารนางไม่พอรึ?”

อิง่ อีก้มหัวขานรับ “พอขอรับ แต่ของคนอื่นจะไม่ดีไปกว่าของนายท่าน”


อาหารการกินของนายท่านพ่อครัวชัน
้ หนึ่ งจะทำด้วยตัวเอง ทุกจานล้วน
สวยงามเลิศรส จึงเทียบไม่ได้กับอาหารของคนอื่นๆ เป็นธรรมดา
ได้ยน
ิ เช่นนี้ นายท่านเหยียนก็พยักหน้าลุกยืนขึ้นเดินออกไป

อิง่ อีเห็นท่าทางจึงตามออกจากเรือน สัง่ กับทหารอารักขาที่เฝ้าอยูด


่ ้านนอก
ว่า “ให้คนมาเก็บกวาดโต๊ะซะ” ก่อนจะรีบเร่งตามนายท่านด้านหน้าไป

หลังจากเฟิ่ งจิว
่ ที่กลับถึงเรือนล้างยาทาที่แห้งกรังบนหน้าให้สะอาด เห็น
แผลเป็นบนหน้าจางลงทุกวันๆ ก็ยม
ิ้ เริงร่าอย่างอดไม่ได้ “ข้อดีที่สุดของการ
มาที่นี่ก็คือสิง่ นี้ แหละ”

เธอผอกยาลงไปอีกหน่ อย แบกหน้าที่ฉาบยาไว้เดินออกไป กะจะเดินเล่น


ย่อยอาหาร กลับไม่นึกว่าเมื่อมาถึงข้างภูเขาจำลองจะเห็นเงาร่างสีดำยืนมือ
ไพล่หลังอยูร่ ม
ิ สระน้ำ

เห็นเงาร่างสีดำยืนมือไพล่หลัง ใบหน้าด้านข้างที่หน
ั อยูเ่ ล็กน้ อยทัง้ หล่อเหลา
และแข็งแกร่ง หน้ากากครึง่ หน้าสีเงินนั ้นฉายแสงแพรวพราวอยูภ
่ ายใต้
แสงแดด เธอแอบส่ายหน้า ด่าทอว่า ‘เจ้าปีศาจร้าย’

เดิมคิดจะหมุนตัวเดินจากไป ไม่นึกถึงเมื่อเช้าที่ทานอาหารกับเขาที่นั่น คิด


สักพักก็เดินเข้าไป

“นายท่านเหยียน ท่าน… อ๊ะ!”

คำเพิง่ เปล่งออกไป ตัวเธอก็โผเข้าไปด้านหน้าเพราะเท้าก้าวลื่น


อิง่ อีที่ยน
ื อยูไ่ ม่ไกลเห็นเขาลื่นล้ม ร่างถลาไปเบื้องหน้าอย่างเสียจุดศูนย์ถ่วง
ดวงตาเห็นว่าจะตกลงไปในสระน้ำ กำลังแอบยิม
้ ว่า ‘เจ้าเด็กนี้ สมน้ำหน้า!’

ทว่า เมื่อเห็นภาพถัดมา ตัวเขาก็ท่าไม่ดีเสียแล้ว


ตอนที่ 196 ความรูส
้ ึกหวัน
่ ไหว!

หลังจากนายท่านเหยียนได้ยน
ิ เสียงนาง ก็หน
ั กลับมามอง เมื่อเห็นนางก้าว
เท้าลื่นก้อนหิน ตัวพุง่ ไปข้างสระน้ำ จึงปรีเ่ ข้าไปรับนางไว้ตามสัญชาตญาณ
แทบจะทันที

แต่พอคนเข้าสู่ออ
้ มกอด เขาก็ผงะไป

เรือนร่างสาวน้ อยอ้อนแอ้นชนเข้ามาในอ้อมแขนเขา ร่างกายอ่อนนุ่มแนบ


ไปกับแผงอกแกร่งกำยำ กลิน
่ หอมยาจางๆ บนร่างนางที่มีเอกลักษณ์ ลอย
ปนอยูใ่ นลมหายใจ ทำให้ความหวัน
่ ไหวผุดขึ้นในหัวใจ…

สองมือขาวเนี ยนกำคอเสื้อบนตัวเขาไว้แน่ นหนา ใบหน้าเล็กซุกอยูก


่ ลางอก
เห็นเพียงเส้นผมสีหมึกที่เงางามนุ่มสลวย คนในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นด้วย
ความตกใจ สบเข้ากับดวงตาลึกล้ำที่หลุบมองลง ระยะใกล้เช่นนี้ ดวงตาสอง
คู่ประสานกัน ความรู ส
้ ึกที่ไม่รูช
้ ่อ
ื ก็แผ่นซ่านอยูใ่ นหัวใจอย่างเงียบเฉี ยบ

แต่เมื่อสถานการณ์ ของพวกเขาสองคนตกสู่สายตาอิง่ อีที่อยูไ่ ม่ไกล กลับ


กลายเป็นทัง้ สองมองหน้ากันด้วยความรักใคร่เสน่ หา มองเสียจนเขาคิด
เตลิดเปิดเปิงอยูท
่ ่ามกลางสายลม

ไม่ใช่กระมัง? นั ่นเป็นสองชายชาตรีนะ! ต่อให้หนุ่มน้ อยนั ่นอ้อนแอ้นไป


หน่ อย แต่ก็ยากละเลยความจริงที่วา่ เขาเป็นผูช
้ าย ทว่าตอนนี้ นึ กไม่ถึงว่า
นายท่าน นายท่านจะโอบเอวหนุ่มน้ อยนั ่นไม่วางมือ ซ้ำทัง้ สองยังสบตากัน
อย่างแนบชิดใกล้เพียงนั ้นอีก
ภาพตรงหน้านั ้น ทำให้เขาแทบจะมองรอบๆ ไปตามสัญชาตญาณ คิดว่า จะ
ให้คนอื่นเห็นภาพเช่นนี้ ไม่ได้ มิเช่นนั ้น ชื่อเสียงนายท่านได้พงั ทลายลงหมด
แน่ !

เฟิ่ งจิว
่ มองนายท่านเหยียนที่โอบเอวเธอไว้อย่างตื่นตระหนก ในห้วงทะเล
แห่งความคิดไม่มีความรู ส
้ ึกไม่ทราบชื่อที่สับสนวุน
่ วายพวกนั ้น แค่คิดว่า
‘ตอนนี้ เธอเป็นผูช
้ าย เขาโอบกอดชายหนุ่มเช่นนี้ จะเหมาะสมจริงๆ รึ?’

ถูกแววตาล้ำลึกจ้องมองเช่นนั ้น เธอก็หนาวสัน
่ อย่างอดไม่ได้ ขนลุกชูชน
ั ขึ้น
ทัว่ ร่าง ก่อนจะรีบร้อนถอยออกไป

“ขอโทษด้วยๆ เท้ามันลื่นน่ ะ”

เธอพูดพลางถอยห่าง ยิม
้ หน้าเหยเก “ข้าแค่เข้ามาทักทาย ท่านก็ทำอะไรต่อ
ไปเถอะๆ”

เห็นสาวน้ อยวิง่ ออกไปราวกับหนี เอาชีวต


ิ รอด นายท่านเหยียนก้มหน้ามอง
มือตัวเอง คล้ายกำลังหวนนึ กถึงอะไรบางอย่าง มองเสียจนในที่สุดอิง่ อีขา้ งๆ
ก็พูดขึ้นอย่างอดไม่ไหว

“นายท่าน ที่ หอนารีวไิ ลนั ่นสองวันนี้ มีหญิงรู ปโฉมงดงามยิง่ มาอีกสองสาม


คน”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ นายท่านเหยียนก็มองที่เขา “แล้วยังไงรึ?”
“แล้ว แล้วข้าน้ อยคิดว่า นายท่านต้องการให้พวกนางเข้ามาปรนนิ บต
ั ิคืนนี้
หรือไม่ขอรับ?”

พูดประโยคนี้ จบ อิง่ อีเพียงเห็นสายตาเย็นเยียบที่นายท่านกวาดมองมาทาง


เขา มองเสียจนหนั กศีรษะเขาด้านชา แทบจะทรุ ดลงไปอย่างขืนไว้ไม่อยู่

ส่วนอีกด้านหนึ่ ง เฟิ่ งจิว


่ เดินไปพลางเช็ดถูแขน พูดพึมพำว่า “นายท่าน
เหยียนผูน
้ ี้ คงไม่ได้ชอบผูช
้ ายจริงๆ กระมัง? ต่อให้ชอบผูช
้ ายก็คงไม่ชอบข้า?
อีกอย่าง ถึงยังไงใบหน้าข้าก็เสียโฉม แบกหน้าที่ฉาบยาสีเขียวปนดำถึงเพียง
นี้ เขาจะชอบข้าได้ร?ึ ”

“คงเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้หรอก ข้าต้องคิดมากไปเองแน่ ๆ”

เธอถอนหายใจเบาๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ เห็นหอโอสถอยูเ่ บื้องหน้า จึงก้าว


ยาวเดินเข้าไป พลางทักทายหลินเหล่าที่ตรวจดูสมุนไพรอยูใ่ นสวน “หลิน
เหล่า นี่ ภูตน้ อยเอง!”

หลินเหล่าหันกลับไปมองเขา พลันมองซ้ายมองขวาสักพัก แล้วมายังข้าง


กายนาง ถามว่า “ได้ยน
ิ ว่า เมื่อคืนนายท่านให้เจ้าอยูเ่ ฝ้าค้างคืนรึ?”

“อืม” เธอพยักหน้า

“นายท่านให้เจ้าเฝ้าค้างคืนได้อย่างไรกัน? แล้วให้เจ้าทำอะไรบ้าง?” หลิน


เหล่าน้ำเสียงแปลกใจ สายตาที่มองเขามีความเคลือบแคลงใจ
ได้ยน
ิ คำพูดนี้ ค่อยมองท่าทางซุบซิบนิ นทาของหลินเหล่า มุมปากเฟิ่ งจิว
่ ก็
กระตุกน้ อยๆ…
ตอนที่ 197 จิตไม่อยูก
่ ับเนื้ อกับตัว!

“ไม่ได้ทำอะไรขอรับ แค่ชว
่ ยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั ้นก็เข้านอน”

เธอพูดอย่างทำอะไรไม่ถูกเล็กน้ อย ตอนนี้ เธอเป็นผูช


้ ายไม่ใช่ร?ึ โดนมอง
ด้วยสายตา ซ้ำยังถามเช่นนี้ คิดว่าระหว่างเธอกับนายท่านพวกเขามีเรือ
่ ง
อะไรที่บอกใครไม่ได้จริงๆ รึไงกัน?

“นอน นอนรึ?”

หลินเหล่าอุทานอย่างตะลึง น้ำเสียงนั ้นสูงขึ้นเพราะตกใจ พอเสียงเปล่งออก


มา ทุกคนในสวนก็มองมาทางพวกเขาแทบจะทันที

“ท่านเอะอะเสียงดังทำไมเนี่ ย? ต่างคนต่างนอนขอรับ” เธอกรอกตาขึ้น


อย่างหมดคำพูด

“ฮู!่ ทำข้าตกใจแทบตาย”

หลินเหล่าตบๆ กลางอก ถอนหายใจเบาๆ “จริงด้วย สองวันนี้ เจ้าปรุ งยาออก


มาอีกหลายๆ ขวดเถอะ! ขัน
้ สามก็ได้ ขัน
้ สี่อย่างดีที่สุดทำมาอีกสองสามขวด
แบบนั ้นครัง้ ก่อนก็ได้”

ได้ยน
ิ เช่นนี้ สายตาเธอหันมอง บอกว่า “ได้ขอรับ ข้าขึ้นหอไปหยิบยา” พูดจบ
ก็เข้าไปในหอด้วยตัวเอง
ตามท่าทีที่นายท่านมีต่อเขา จะหยิบยาอะไรก็ปล่อยให้หยิบไป จากนั ้นเขาแค่
ลงบันทึกไว้หน่ อยก็พอ ด้วยเหตุนี้ หลินเหล่าจึงไม่ได้ตามไป

สองวันต่อมา ในเรือนหลัก

ข้างโต๊ะหินในสวน นายท่านเหยียนมือหนึ่ งเท้าศีรษะ อีกมือกำลังถือหนั งสือ


อ่านอยูไ่ ม่วางตา ท่าทางนั ้น จะมองยังไงก็เป็นท่าทีที่เคลิบเคลิม
้ เพลิดพลิน
แต่วา่ …

มุมปากอิง่ อีกระตุกเล็กน้ อย มองท้องฟ้าอย่างหมดคำพูด

เขายืนว้าวุน
่ อยูต
่ รงนี้ เกือบหนึ่ งชัว่ ยาม กำลังคิดอยูต
่ ลอด จะเตือนนายท่าน
ดีหรือไม่ ว่าเขาถือหนั งสือกลับหัว?

แต่เห็นท่าทางนายท่านผ่านไปสักพักก็พลิกหน้าต่อไป เขาจึงคิดอีกว่า หรือ


หนั งสือเล่มนั ้นเดิมทีต้องกลับหัวอ่าน?

“อิง่ อี”

ได้ยน
ิ นายท่านเรียก อิง่ อีก็ดึงสติกลับมาทันใด ก้าวไปด้านหน้า ขานรับเสียง
ดัง “ข้าน้ อยอยูข
่ อรับ!”

สายตานายท่านเหยียนเงยขึ้นมาจากหนั งสือ มองอิง่ อีที่ยน


ื อกผายตัวตรง
ด้วยท่าทางองอาจทรงอำนาจและอารมณ์ ฮก
ึ เหิม ถามว่า “เจ้าทำอะไร?”
“ข้าน้ อยรอฟังคำสัง่ นายท่านขอรับ!”

ดวงตานายท่านเหยียนพินิจมองเขาหัวจรดเท้า จากนั ้นค่อยครุ น


่ คิดสักพัก
ถามว่า “เจ้าว่า หากคนหนึ่ งมักจะนึ กถึงใครอีกคนโดยไม่รูต
้ ัว เป็นเพราะ
อะไรรึ?”

“อยากฆ่าเขาขอรับ!”

อิง่ อีตอบไปอย่างไม่แม้แต่จะคิด เพราะเมื่อเขานึ กถึงใครคนหนึ่ งบ่อยๆ นั ่น


ต้องเป็นคนที่เขาอยากฆ่าที่สุดแน่ นอน

ฟังเช่นนี้ สายตานายท่านเหยียนก็กวาดมองเขาอย่างประหลาดใจ “หากไม่


อยากฆ่านาง แต่อยาก…” คำพูดชะงักลง เพราะยากจะอธิบาย

“ไม่อยากฆ่าเขารึขอรับ?”

อิง่ อีมองเขา ทันใดนั ้น เหมือนคิดอะไรได้ ลังเลสักพัก แล้วบอกว่า “นายท่าน


หากชายหนุ่มคิดถึงหญิงสาว คงเพราะมีใจให้หญิงสาวผูน
้ ั ้น แต่วา่ …”

“แต่วา่ อะไรรึ?”

“แต่วา่ หากชายหนุ่มคิดถึงชายหนุ่มด้วยกัน นั ้นก็ ก็เกรงว่า จะชอบผูช


้ าย
ด้วยกัน”

เขาพูดอย่างระมัดระวัง พลางสังเกตสีหน้านายท่าน
“มีใจให้หญิงสาวรึ?”

นายท่านเหยียนพูดพึมพำ รู ส
้ ึกเหลือเชื่ออยูบ
่ า้ ง เพราะเดิมตัวเขารังเกียจ
ผูห
้ ญิงที่สุด จะมีใจให้ผูห
้ ญิงได้เช่นไร?

แต่วา่ สองวันนี้ ในหัวมักจะมีเงาร่างของคนคนนั ้นกับดวงตาเจ้าเล่หท


์ ี่มีรอย
ยิม
้ ผุดขึ้นมาโดยไม่รูเ้ นื้ อรู ต
้ ัว ยังมีความรู ส
้ ึกแปลกๆ ในใจ เขาจึงคิดว่า ต้อง
ทำให้มันชัดเจน

“คืนนี้ เจ้าไปพาผูห
้ ญิงสองคนจากหอนารีวไิ ลเข้ามา”

คำสัง่ ที่กะทันหัน ทำให้องิ่ อีตกใจอึ้ง เขาทัง้ รู ส


้ ึกประหลาดใจและดีใจ แทบจะ
ร้องไห้ออกมา เอ่ยถามด้วยความไม่แน่ ใจเท่าไหร่นัก “นายท่าน ท่าน เมื่อครู ่
ท่านว่าอะไรนะขอรับ? คืนนี้ ให้ขา้ น้ อยส่งหญิงสาวสองคนเข้ามาปรนนิ บต
ั ิร ึ
ขอรับ?”
ตอนที่ 198 หนึ่ งมังกรสองหงส์งาม!

นายท่านเหยียนกวาดตามอง เอ่ยเสียงทุ้ม “ให้เจ้าไปก็ไปเสีย จะพูดจาไร้


สาระมากเพียงนั ้นไปไย?”

“ขอรับๆๆ ข้าน้ อยจะไปสัง่ การเดีย


๋ วนี้ เลย” อิง่ อีขานรับอย่างประหลาดใจ
ก่อนจะเร่งรีบออกไป

สวรรค์ชา่ งมีตา ในที่สุดนายท่านก็สนใจผูห


้ ญิงแล้ว! สองวันนี้ เขากังวลใจ
แทบตาย กลัวว่านายท่านจะชอบผูช
้ ายด้วยกันจริงๆ

ฮุยหลางที่อยูห
่ อสายลมหนาวหลายวันกำลังกลับมา เมื่อเห็นอิง่ อีฉีกยิม

ระรืน
่ ก็แปลกใจนิ ดหน่ อย ขวางเขาไว้แล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? เรือ
่ งอะไร
ถึงดีใจเพียงนั ้น?”

“เอ๊? เจ้ากลับมาแล้วรึ? หอสายลมหนาวอยูส


่ บายดีหรือไม่เล่า?” อิง่ อียม
ิ้ ถาม
อย่างหยอกล้อ

พอได้ยน
ิ เขาพูดถึงเรือ
่ งนี้ สีหน้าฮุยหลางก็มืดลง “อย่ามาพูดถึงหอสายลม
หนาวกับข้านะ” พูดจบ ชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ ง ถามว่า “เจ้ายังไม่บอกข้า
เลย เรือ
่ งอะไรทำให้เจ้าดีใจเช่นนี้ กัน?”

“แหะๆ ข้าจะบอกเจ้า นายท่านให้ขา้ ไปจัดเตรียมหญิงงามสองคนจากหอ


นารีวไิ ลส่งเข้ามาคืนนี้ ” เขาโน้ มตัวไปข้างหน้าพลางพูดยิม
้ ๆ สีหน้าดีอกดีใจ
“ผู้ ผูห
้ ญิงรึ?” ฮุยหลางมองเขาอย่างตกตะลึง “นายท่านให้เจ้าจัดเตรียมผู้
หญิงสองคนเข้าไปปรนนิ บต
ั ิ? ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่หรือไม่?”

“จริงๆ นะ ข้าว่านายท่านจะได้เปิดหูเปิดตาแล้วล่ะ”

ฮุยหลางสีหน้าไม่เชื่อ ถามว่า “หลายวันนี้ ที่ขา้ ไม่อยู่ มีเรือ


่ งอะไรพิเศษเกิดขึ้น
รึ? นายท่าน ได้แรงกระตุ้นอะไรมา…ใช่หรือไม่?”

ต้องรู ไ้ ว้ ปกตินายท่านพวกเขาแค่ผูห
้ ญิงเข้าใกล้ยงั รับไม่ได้เลย จะให้องิ่ อีจัด
เตรียมผูห
้ ญิงสองคนเข้าไปได้เช่นไร? หรือว่าโรคเกลียดผูห
้ ญิงของเขาดีข้น

แล้ว?

“เรือ
่ งนี้ กลับไปค่อยว่ากัน ข้าต้องไปสัง่ การทางหอนารีวไิ ลนั ่นเสียก่อน” เขา
ตบๆ บ่าฮุยหลาง ก้าวยาวเดินไปยังหอนารีวไิ ล

ในสายตาเขา การเลือกหญิงงามสองคนมาปรนนิ บต
ั ินายท่านคืนนี้ ถือเป็น
เรือ
่ งใหญ่ จะสะเพร่าไม่ได้

ตอนกลางคืน หลังเฟิ่ งจิว


่ ทานข้าวก็ออกมาเดินเล่นย่อยอาหาร เมื่อมาถึง
บริเวณศาลา เห็นอิง่ อีพาผูห
้ ญิงหน้าตาสะสวยรู ปร่างชวนมองสองคนเดิน
มาทางภูเขาจำลอง ด้วยความอยากรู อ
้ ยากเห็นชัว่ ขณะ จึงตะโกนไป

“อิง่ อี”
อิง่ อีได้ยน
ิ เสียงก็มองไป เห็นเด็กหนุ่มที่สวมชุดแดง จึงฉี กยิม
้ ขึ้นมาอย่างอด
ไม่ได้ “ที่แท้ก็เป็นภูตหมอ! ช่างบังเอิญนั ก”

เฟิ่ งจิว
่ เดินเข้าไป สายตามองๆ บนร่างหญิงสาวงามเลิศทัง้ สองด้านหลังเขา
ถามว่า “ไยจึงมีสองสาวงามเพริศพริง้ เช่นนี้ อยูด
่ ้วยเล่า? คงไม่ใช่สาวงามใน
หอนารีวไิ ลกระมัง?”

ตามที่เธอรู ้ ในตำหนั กยมราชมีแค่หอนารีวไิ ลที่มีสาวงาม สถานที่อ่น


ื ๆ ต่อให้
เป็นที่พำนั กเรือนหลักนายท่านเหยียน ล้วนมีแต่เงาพวกทหารอารักขาคอย
ปรนนิ บต
ั ิ น้ อยนั กที่จะเห็นหญิงสาวเช่นนี้ เดินไปมา

“แหะๆ ช่างสมเป็นภูตหมอจริงๆ แค่เดาก็ถูกแล้ว”

อิง่ อีเหมือนจงใจพูดให้ชด
ั เจน หลังมองหญิงสาวรู ปโฉมงดงามทัง้ สองนาง
ด้านหลังแวบหนึ่ ง ก็พูดกับเฟิ่ งจิว
่ ว่า “พวกนางสองคนเป็นสาวงามหอนารี
วิไลที่มาใหม่ นายท่านสัง่ ให้ขา้ พาเข้าไปปรนนิ บต
ั ิ”

“ปรน ปรนนิ บต
ั ิร?ึ ”

เฟิ่ งจิว
่ เบิกตาโตด้วยความตื่นตะลึง กล่าวด้วยสีหน้าแปลกใจ “ทีเดียวสอง
คนเลย? นายท่านเจ้าจะกินหมดรึ?”

ได้ยน
ิ คำพูดนี้ อิง่ อีก็ไม่ชอบใจ สีหน้าหมองลง “กินหมดไม่หมดอะไร? นาย
ท่านข้าร่างกายแข็งแรงกำยำ หรือเจ้าคิดว่าเขาเป็นชายที่งามเพียงรู ปแต่ไร้
น้ำยารึ?”
ได้ยน
ิ เช่นนี้ มุมปากเฟิ่ งจิว
่ ก็กระตุกสักพัก พูดไม่ออกชัว่ ขณะ

“ข้าไม่รบกวนการเดินเล่นของภูตหมอแล้ว” อิง่ อีกล่าวจบ ก็พาคนไปยัง


เรือนหลัก

เห็นเช่นนี้ ดวงตาเฟิ่ งจิว


่ เป็นประกายน้ อยๆ มุมปากยกขึ้นยิม
้ ชัว่ ร้ายออกมา
ก่อนจะตามไปทันที

หนึ่ งมังกรเล่นกับสองหงส์งาม เธอจะไม่ไปชมเสียหน่ อยได้อย่างไรเล่า?


ตอนที่ 199 ตกลงไป!

ในเรือนหลัก นายท่านเหยียนที่เพิง่ อาบน้ำเสร็จเดินออกมา ปลายผมยังมี


หยดน้ำเกาะ มานั ่งลงที่ขา้ งโต๊ะ รินน้ำดื่ม ก็ได้ยน
ิ เสียงอิง่ อีลอยมาจากด้าน
นอก

“นายท่าน”

“เข้ามา” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่น่าดึงดูดดังมาจากด้านใน

อิง่ อีได้ยน
ิ เสียงก็เดินเข้าไป เห็นเขาที่นั่งอยูข
่ า้ งโต๊ะ จึงออกหน้าเอ่ยถาม
“นายท่าน ข้าน้ อยพาคนมาแล้ว จะให้พวกนางเข้ามาตอนนี้ เลยหรือไม่
ขอรับ?”

“ให้พวกนางเข้ามาเถอะ!”

“ขอรับ!” น้ำเสียงอิง่ อีมีความตื่นเต้นดีใจบางส่วน เดินออกไปพาคนเข้ามา


ทันที

นายท่านเหยียนมองเขาอย่างแปลกใจนิ ดหน่ อย ไม่รูจ


้ ริงๆ ว่าเขากำลังมี
ความสุขกับอะไรกันแน่ ?

และที่เขายิง่ ไม่รู ้ คือเจ้าตัวจ้อยผู้อยูไ่ ม่นิ่งกำลังปีนขึ้นหลังคาจากบนต้นไม้ไป


ยังหลังคาเรือนหลักอย่างเงียบเชียบ
เพราะที่พำนั กเรือนหลักนายท่านเหยียนนอกจากทหารอารักขาสองนายที่
เฝ้าสวน ตามมุมมืดก็ไม่มีคนเฝ้าอยู่ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีใครสังเกตเห็นเงาร่าง
สีแดงนั ้นบนหลังคา

หลังจากอิง่ อีพาหญิงสาวทัง้ สองเข้ามาก็ถอยออกไป พร้อมทัง้ ปิดประตูหอ


้ ง
เรียบร้อย ฉี กยิม
้ เฝ้าอยูน
่ อกเรือน

ในห้อง นายท่านเหยียนมองหญิงสาวรู ปโฉมงามเลิศทัง้ สอง ในห้วงทะเล


แห่งความคิดกลับนึ กถึงใบหน้าเสียโฉมของแม่หนูนั่น ดวงตาฉายแววเล็ก
น้ อย ใจลอยไปบ้าง

“นายท่าน ข้าน้ อยจะเช็ดผมให้นายท่านนะเจ้าค่ะ!” หญิงสาวนางหนึ่ งในนั ้น


พูดขึ้นเสียงเบา เห็นชายหนุ่มรู ปงามราวเทพบุตร นั ยน์ ตาก็เต็มไปด้วยความ
หลงใหลและปลาบปลื้ม

นายท่านเหยียนคืนสติ เมื่อเห็นหญิงสาวนั ้นสวมชุดกระโปรงสีแดง คิว


้ ก็
ขมวดขึ้นมา กล่าวอย่างไม่ชอบใจ “ใครอนุญาตให้เจ้าสวมชุดสีแดง?”

แรงกดดันบนร่างและท่าทางของผูเ้ หนื อกว่าปลดปล่อยออกมาอย่างเป็น


ธรรมชาติ หญิงสาวทัง้ สองตกใจเสียจนสองขาอ่อนระทวยทรุ ดลงไป

“ขอ ขออภัยนายท่านเจ้าค่ะ”
และตอนนี้ เฟิ่ งจิว
่ ที่มาถึงบนหลังคาเก็บซ่อนกลิน
่ อาย เปิดกระเบื้องแผ่น
หนึ่ งออกมองไปด้านในอย่างเงียบๆ เห็นหญิงสาวทัง้ สองคุกเข่าตัวสัน
่ งันงก
อยูเ่ บื้องหน้านายท่านเหยียน

ในใจเธอแอบคิด ‘ช่างไม่รูจ
้ ักอ่อนโยนกับสตรีเลยจริงๆ’

“ลุกขึ้นมา เช็ดผมให้แห้งซะ” สีหน้าอึมครึม พยายามเก็บแรงกดดันบนร่าง


ไว้

“เจ้าค่ะๆ” หญิงสาวที่สวมชุดแดงรีบร้อนขานรับ ลุกขึ้นมาตรงฉากกัน


้ หยิบ
ผ้าขนหนูไปด้านหน้า ช่วยเขาเช็ดหยดน้ำบนปลายผมให้แห้งอย่าง
ระมัดระวัง

นายท่านเหยียนจ้องหญิงสาวงดงามที่ยน
ื ก้มหน้าน้ อยๆ อยูต
่ รงหน้า คิว

ขมวดเบาๆ เอ่ยว่า “เจ้า เข้ามาสิ”

“เจ้าค่ะ”

หญิงสาวผูน
้ ั ้นขานรับ เงยหน้าขึ้นมองนายท่านเหยียนด้วยความเขินอายปน
ขลาดกลัว เคลื่อนฝีเท้าก้าวบัวงามมาเบื้องหน้าเขาเบาๆ

นายท่านเหยียนจ้องมองเอวบางตรงหน้า ก่อนจะยกแขนขึ้นเข้าไปโอบ แต่


พอเข้ามาสู่ออ
้ มแขน กลับรู ส
้ ึกไม่ถูกต้อง ชัดเจนว่าเป็นผูห
้ ญิงเหมือนกัน
เอวก็เหมือนๆ กัน ทำไมเมื่อเขาโอบไว้ถึงรู ส
้ ึกแตกต่าง?
หญิงสาวผูน
้ ั ้นเห็นนายท่านเหยียนโอบเอวบ้างแน่ นบ้างคลาย ก็ระรืน
่ ใจชัว่
ขณะ ร่างกายแอบอิงเข้าหา เรียกขานอย่างนุ่มนวล “นายท่าน…”

เสียงเพิง่ เปล่งไป ตัวก็ถูกผลักออกอย่างโหดร้าย ล้มหมอบลงบนพื้นพร้อม


ความอับอาย

“อ๊ะ!” หญิงสาวอุทาน ล้มลงบนพื้นสองตาน้ำตาพรัง่ พรู มองชายหนุ่มที่


เปลี่ยนสีหน้าฉั บพลันด้วยท่าทางขลาดกลัวอ่อนแอน่าสงสาร

อิง่ อีได้ยน
ิ เสียงอุทานในห้องจึงเร่งรีบเปิดผลักประตูปรีเ่ ข้ามา “เกิดอะไรขึ้น
ขอรับ?”

ทว่า เมื่อเห็นภาพในห้อง ก็งุนงงเล็กน้ อย

“ใครอนุญาตให้เจ้ามาพิงตัวข้า?”

นายท่านเหยียนลุกยืนขึ้น แรงกดดันทัว่ ร่างและกลิน


่ อายเยือกเย็นแผ่
กระจาย น่าหวาดกลัวยิง่ นั ก หญิงสาวทัง้ สองในห้องตกใจเสียจนคุกเข่า
ตัวสัน
่ เทา ไม่กล้าเงยหน้า

ทันใดนั ้น เสียงเล็กๆ เล็ดลอดมาจากหลังคา แววตานายท่านเหยียนเย็น


เยียบ ตะโกนเสียงเข้ม “ใครนะ?” ฝ่ามือรวมรวมกระแสลมโจมตีไปนหลังคา
“อ๊ะ!”

เฟิ่ งจิว
่ อุทาน ร่างกายตกลงไปอย่างไม่ทันได้ไหวตัว
ตอนที่ 200 กอดไม่ปล่อย!

เมื่อนายท่านเหยียนเห็นเงาร่างสีแดงที่คุ้นเคย สายตาหรีล
่ ง รีบร้อนลอยตัว
พุง่ เข้าไปรับคนไว้

เฟิ่ งจิว
่ กอดคอเขาไว้ตามสัญชาตญาณ ซุกหน้าอยูข
่ า้ งศีรษะ จนกระทัง่ รู ส
้ ึก
ปลอดภัย ถึงจะเงยหน้าขึ้นมา เมื่อเห็นสีหน้าดำมืด ก็ยม
ิ้ หน้าเหยเก

“นายท่านเหยียน นั ่น คงไม่ได้รบกวนท่านกระมัง?”

สิน
้ สุดน้ำเสียง สายตาจับจ้องบนใบหน้าไร้หน้ากาก พลันรู ส
้ ึกเหมือนจะคุ้น
ตากับใบหน้านี้ อยูบ
่ า้ ง

อิง่ อีเห็นเขาก็ยกมือขึ้นปิดหน้าอย่างอดไม่ได้ ‘ทำไมถึงมีเขาอยูท


่ ุกที่เลยนะ?
พิลึกจริงๆ!’

หนำซ้ำพอเห็นเขาตกลงมา นึ กไม่ถึงว่าวินาทีแรกนายท่านก็เข้าไปรับ ราวกับ


กลัวเขาบาดเจ็บ ท่าทีกังวลใจเพียงชัว่ ครู ่ อิง่ อีมองเสียจนสีหน้าซีดขาว

แย่ล่ะ! นายท่านถูกใจเจ้าเด็กนี่ แล้วจริงๆ!

นายท่านเหยียนอุม
้ คนในอ้อมแขนไว้ สีหน้าหมองหม่น เอ่ยถามด้วยน้ำเสียง
ขุน
่ เคือง “ปีนขึ้นไปทำอะไรบนหลังคา? หากไม่ระวังเจ้าอาจถูกฆ่าเพราะ
เข้าใจผิดว่าเป็นนั กฆ่าได้ ไม่รูบ
้ า้ งรึ?”
แย่จริงๆ เลย! ผูห
้ ญิงคนนี้ ทำไมถึงน่าเป็นกังวลเพียงนี้ ?

หากเมื่อครู ไ่ ม่ใช่เพราะเขาเห็นชัดว่าเป็นนางถึงไม่โจมตีอก
ี มิเช่นนั ้น เวลานี้
ชีวต
ิ นางคงไม่รอดแล้ว!

“เหอะๆๆ ข้าแค่ปีนหลังคาขึ้นไป ไป… ชมจันทร์! ใช่แล้ว ชมพระจันทร์!”

เธอยิม
้ หน้าเหยเก เห็นตัวเองถูกเขาอุม
้ ไว้ในอ้อมกอด จึงเร่งรีบบอกว่า “นาย
ท่านเหยียน ท่านวางข้าลงได้แล้วล่ะ”

ทว่าตอนนี้ สายตานายท่านเหยียนกลับจับจ้องบนแขนเฟิ่ งจิว


่ ชุดแดงถูก
ครู ดขาด แขนขาวเนี ยนโดนบาดเป็นรอยเลือด

เห็นสายตาเขาจ้องมองตรงแขน เฟิ่ งจิว


่ มองไป พอเห็นก็พูดยิม
้ ๆ “คงโดน
กระเบื้องบาดเข้าตอนที่ตกลงมา ไม่เป็นอะไรหรอก ข้ากลับไปพันแผลเสีย
หน่ อยก็พอ”

พูดจบ เธอก็ดิน
้ รนอยากจะลงจากอ้อมแขนเขา แต่ใครจะรู ว้ า่ เขากลับกอด
เธอไว้ไม่ปล่อย ซ้ำยังใช้แววตาดุดันที่แฝงไปด้วยความโกรธเคืองมองมา
เหมือนข่มขู่ ทำให้ตัวเธอแข็งทื่อไม่กล้าขยับ

คนคนนี้ เป็นอะไรกันแน่ ? มีสาวงามหยาดเยิม


้ อยูส
่ องคนกลับไม่สนใจ ทำไม
ต้องมากอด ‘ผูช
้ าย’ อย่างเธอไว้ไม่วางมือ?
“นายท่านเหยียน ท่าน…”

“หุบปาก!”

เขาตะคอกเสียงเข้ม อุม
้ เธอเดินไปข้างโต๊ะ เห็นหญิงสาวสองนางยังคุกเข้า
อยูต
่ รงนั ้น อดไม่ได้ที่จะขมวดคิว
้ ขึ้น “อิง่ อี ส่งพวกนางกลับไปซะ!”

“นายท่าน…”

“อย่านะ!”

เฟิ่ งจิว
่ ตะโกน มองนายท่านเหยียนที่อุม
้ เธอไว้ไม่ปล่อย บอกว่า “พวกนาง
มาปรนนิ บต
ั ิท่านไม่ใช่ร?ึ ทำไมถึงไล่ไปเสียเล่า? ท่านดูสาวงามสองนางนี้ สิ
ท่าทางอ้อนแอ้นอรชร หน้าตางดงาม ซ้ำรู ปร่างยังน่าเย้ายวนถึงเพียงนี้ ส่ง
กลับไปก็น่าเสียดายแย่!”

อิง่ อีมองเฟิ่ งจิว


่ อย่างยากจะเห็นด้วย คิดว่าคำพูดนี้ ชา่ งกล่าวตรงกับความใน
ใจเขา

ไม่งา่ ยเลยที่นายท่านจะเอ่ยปากให้ส่งหญิงงามทัง้ สองเข้ามาปรนนิ บต


ั ิ ตอน
นี้ กลับต้องส่งกลับไป ไม่ใช่วา่ เขาวุน
่ วายไปสูญเปล่ารึ?

เขายุง่ วุน
่ วายไปเปล่าๆ ยังไม่เท่าไหร่ แต่ปัญหาก็คือ หากทางที่นายท่านเลือก
ถูกพาให้โอนเอียงไปจริงๆ นั ่นจะดีได้อย่างไรเล่า?
“ปรนนิ บต
ั ิ?”

นายท่านเหยียนมองเฟิ่ งจิว
่ แวบหนึ่ ง “ใครบอกเจ้าว่าพวกนางมาปรนนิ บต
ั ิ
ข้า?”

“อิง่ อีไง!” เธอพูดโดยไม่แม้แต่จะคิด

ได้ยน
ิ เช่นนี้ นายท่านเหยียนก็กวาดมองอิง่ อีอย่างเย็นชา จากนั ้น ค่อยก้ม
หน้ามองสาวน้ อยที่อุม
้ ไว้ ถามว่า “ดังนั ้น เจ้าถึงแอบปีนไปบนหลังคา?”

“แหะๆ ไม่ใช่เพราะข้าไม่เคยเห็นหนึ่ งมังกรสองหงส์งามนัวเนี ยกันหรอก


นะ…” พอพูดออกไปถึงรู ต
้ ัวว่าไม่ถูกต้องนั ก จึงรีบร้อนปิดปากไว้

อิง่ อีขา้ งๆ ไม่อาจทนมองต่อ ยังหยัดอยูก


่ ับความเป็นไปได้ที่ถูกปัดลอยลิว
่ ไป
เอ่ยปากแนะนำว่า “นายท่าน นี่ ท่าน…จะไม่ปล่อยภูตหมอลงมาก่อนรึ
ขอรับ?”

You might also like