You are on page 1of 2008

ตอนที่ 1 นางมารน้ อยไทเฮา

อกใหญ่ เอวบาง ขายาว ตู๋กูซิงหลันไทเฮาเป็ นนางมารน้อยที่งามล่มบ้านล่มเมือง ตอนนี้ ถึงขนาดปี นเตียงของ


ฮ่องเต้องค์ใหม่หวังจะครอบครองแต่เพียงผูเ้ ดียวเสี ยแล้ว!! ทั้งราชครู องค์หญิงใหญ่ แม่ทพั ที่ปรึ กษาแล้วยังมีเหล่าท่าน
อ๋ องอีกมากมายต่างก็เห็นกับตา

จุ๊ๆๆ เรื่ องนี้ทาให้ใบหน้าที่งดงามของฝ่ าบาทส่ องประกายสี เขียวจางจางก็ยงั จะไม่เขียวได้อีกหรื อ? เพียงขึ้น


ครองราชย์วนั แรก บัลลังก์มงั กรนัง่ ยังไม่ทนั ร้อนก็ถูกพระมารดาน้อยปี นเตียงเสี ยแล้ว กลายเป็ นเรื่ องน่าขันของคนทั้ง
เมือง

.............................................................................................

ตู๋กูซิงหลันปวดหัวตึ๊บ นางนัง่ แกว่งขา เด็ดใบหญ้าหางแมวอยู่ริมกาแพงของตาหนักเย็น เฝ้ามองแสงสี แดงของ


พระอาทิตย์ที่กาลังลับขอบฟ้าไป นางต้องใช้เวลากว่าหนึ่ งเดือน กว่าจะสามารถยอมรับฐานะใหม่ของตนเองได้ ใครจะ
ไปคิดว่าปรมาจารย์นกั พรตคนนึงจะข้ามภพกลับมาเป็ นไทเฮาน้อยตัวร้ายอันดับหนึ่ งของต้าโจว

เดิมทีร่างนี้นบั ได้วา่ โชคดีเหลือล้ า เพราะมีรูปโฉมงดงาม จึงถูกอดีตฮ่องเต้เลือกให้เป็ นฮองเฮาองค์ที่สอง แต่ใครจะ


คาดคิดว่าเพราะความงามเกินไปนี่เอง ในวันเฉลิมยศฮองเฮา อดีตฮ่องเต้ถูกความงามที่มากเกินไปนี้ทาให้ตกพระทัยจน
ลืมหายพระทัย ขาดใจตายขึ้นสวรรค์ไปเลย ทีนี่ก็ดีเลย จากฮองเฮาน้อยอายุเพียงสิ บห้าปี กลับกลายมาเป็ นพระมารดา
น้อย เป็ นไทเฮาที่อายุนอ้ ยที่สุดในประวัติศาสตร์ของต้าโจว

ไทเฮาเชียวนะ สตรี ที่มีฐานะสู งส่ งที่สุดในวังหลัง งานใหญ่แล้วละทีน้ ี นอกจากจะต้องกลายมาเป็ นแม่ม่ายตั้งแต่


อายุยงั น้อยแล้ว ชีวิตหลังจากนี้ ก็คงมีกินมีใช้ไม่หมดไม่สิ้น กลายเป็ นหนูตกถังข้าวสารในวังหลวง แม้ฮ่องเต้จะมีสนม
เป็ นโขลงแล้วยังไง ไม่วา่ ใครพบเจอนางยังคงต้องถวายบังคมในพระเกียรติอนั สู งสุ ด

แต่นางกลับต้องมาชะตาตกขนาดนี้ ก็ไม่รู้เพราะเหตุอะไร ในวันเถลิงราชสมบัติของฮ่องเต้ เจ้าของร่ างนี้กลับถึง


ขนาดปี นขึ้นเตียงพระบรรทม ประทานโทษ นี่คิดอะไรไม่ตกก็บอกมา จะปี นก็ปีนเถอะใยไม่ไปปี นในห้องพระบรรทม
กลับมาปี นในห้องพระอักษร ฮ้าย ยังจะบังเอิญได้อีก ถูกจับได้ต่อหน้าพระพักตร์ และบรรดาอ๋ องทั้งหลาย จะมีอะไรน่า
อับอายได้มากกว่านี้อีกไหม
พระพันปี น้อยพระทัยสลาย ตัดสิ นพระทัยปลงพระชนม์ตนเองต่อหน้าพยานทั้งหลาย พอดีกบั ที่วิญญาณที่ไม่รู้อิ
โหน่อิเหน่ของนางก็เข้ามาแทนที่โดยทันที ภาพของนางที่เหม่อมองพระพักตร์อนั หล่อเหลาของฮ่องเต้อย่างงงๆ สายตา
ผูอ้ ื่นกลับเสมือนนางไปมองยัว่ ฮ่องเต้ เรื่ องก็เลยยิง่ บานปลายเข้าไปใหญ่ ฮ่องเต้ทรงพิโรธจัด แต่เพราะตระกูลไทเฮาน้อย
มีเบื้องหลังใหญ่โต ฮ่องเต้จึงทรงตัดสิ นให้ส่งพระนางเข้าสู่ ตาหนักเย็น นี่ก็ผา่ นมาเกือบเดือนแล้วนางยังถูกประณามและ
ถากถางไม่จบไม่สิ้น คงไม่มีพระมารดาใดจะน่าสมเพชเท่านางอีกแล้ว

ดึกดื่นค่าคืนแสงดาวทอประกาย เงาของนางทอดลงบนกาแพงวังดูอ่อนหวานนุ่ มนวลยิง่ นัก ตู๋กูซิงหลัน ชมดูจน


เหม่อลอย "ไทเฮาน้อยนี่สวยสะเด็ดไปเลย แม้แต่เงายังน่าหลงใหล จุ๊ๆๆ เหมือนกับเราในชาติก่อนไม่มีผิด นี่ มนั นางมาร
ตัวเป็ นๆ"

"นางมารรึ ขอทีเถอะ" เสี ยงเบาล่องลอยมากระซิบที่ขา้ งหู ศีรษะใหญ่โตดาทมิฬของถวนจื่อผุดขึ้นจากรอยเงาของ


นาง เงาดานั้นอวดเขี้ยวกางเล็บโอบล้อมนางเอาไว้" นังเด็กสมควรตาย ตายเองไม่วา่ ยังพาข้ามาลาบากด้วย เจ้ายังดีมีร่าง
เนื้อ ข้าสิ น่าสงสาร มีแต่วิญญาณเท่านั้น"

ตู๋กูซิงหลันได้แต่ขยุม้ หัวตัวเอง "เฮือก เจ้าเป็ นภูติผี ถูกกาหนดผูกติดกับเจ้านายทุกชาติภพ ไม่มีทางเลือก นี่เป็ น


ชะตาลิขิต"

เงาดานั้นกอดขานางเอาไว้ติดหนึบ "อ๊ากๆๆๆ ข้าจะกัดเจ้าให้ตาย"

ถ้าไม่ใช่เพราะนางเด็กหลงตัวเองคนนี้ มันคงไม่ถูกจอมมารมหาโหดเล่นงานด้วย แล้วนางยังทาหยกสรรพชีวิต


หายอีก

หยกสรรพชีวิต นี่เป็ นสุ ดยอดปรารถนาของเหล่านักพรตทั้งหลาย มีหยกสรรพชีวิตก็ครองโลกวิญญาณได้ แม้แต่


เหล่าผูน้ าภพภูมิท้ งั หลายต่างก็แย่งชิงกัน นางหนูนี่ดีมาก มีสมบัติอยูใ่ นมือกลับทาหล่นหายไปเฉยๆ วิญญาณอย่างมัน
อยากจะกัดนางให้เนื้ อหลุด

ที่น่าอนาถคือมันเป็ นถึงลูกพี่ของเหล่าผีท้ งั หลายกลับเป็ นวิญญาณไม่ครบองค์ ต้องติดตามอยูแ่ ต่ในเงาของนาง


เรื่ อยไป

ตู๋กูซิงหลันอาศัยเท้าเดียวก็ถีบมันกระเด็นไปไกลสิ บเมตร "เด็กดี อย่างอแงน่า"


เงาดาถวนจื่อก็สลดอยูแ่ ทบเท้า "เจ้ากลับกล้ารังแกข้า!! "

' ใครกันนะที่สัญญาว่าจะดูแลข้าเป็ นอย่างดี คนโกหก สตรี ท้ งั หลายล้วนแต่ปลิ้นปล้อนหลอกลวง'

" นายหญิง ท่านกาลังพูดกับใครเจ้าคะ" นางกานัลตัวน้อยเดินเข้ามาใกล้ นางเป็ นคนธรรมดา แน่นอนว่าย่อมมอง


ไม่เห็น ฟังไม่ได้ยนิ อะไร

เห็นนายหญิงของตัวเองดูสติสตางค์ไม่สมประกอบนางก็ได้แต่ปวดใจ ตั้งแต่วนั นั้นที่นายหญิงปี นเตียงมังกรแล้ว


ยังคิดฆ่าตัวตายก็ไม่สาเร็ จ ถูกจับพลัดจับผลูส่งเข้าตาหนักเย็นมาแบบนี้ หนึ่งเดือนมานี้ นายหญิงเอาแต่ถอนใจกับกาแพง
คุยกับตัวเอง ท่าทางไม่คิดมีชีวิตอยูอ่ ีก

ตู๋กูซิงหลันได้แต่ถอนใจไม่ตอบคา

"นายหญิงเจ้าคะ อย่างไรท่านก็ยงั เป็ นถึงไทเฮา พอฝ่ าบาทหายพิโรธแล้วย่อมต้องปล่อยท่านออกไปแน่เจ้าค่ะ"


นางกานัลตัวน้อยเห็นนางอารมณ์ไม่ดี จึงปลอบใจเสี ยหน่อย

เงาดาไร้อารมณ์จะสนใจก็กลับมาอยูใ่ นเงาของตู๋กูซิงหลัน ส่ งเสี ยงทอดถอน " ปล่อยตัวรึ ปล่อยให้ตายสิ ไม่วา่ " ตู๋กู
ซิงหลันใช้เท้าเดียวเหยียบไปบนมันให้จมพื้น แล้วหันมาตอบสาวใช้ตวั น้อย " ก็อย่างที่เจ้าว่าข้าเป็ นถึงไทเฮา ปี นเตียง
มังกรแล้วอย่างไร ล้อเล่นนิดหน่อยเขาก็ส่งข้าเข้าตาหนักเย็นเสี ยแล้ว ไอ้ฮ่องเต้ใจแคบ! "

นี่ก็เป็ นจุดที่นางคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจฮ่องเต้ เป็ นเพราะเหตุผลนี้จึงส่ งนางมาเข้าตาหนักเย็นจริ งหรื อ

เงาดาถวนจื่อถูกนางกดดันจนต้องปิ ดปาก มันกล้าพนันว่า ถ้ายังขืนพูดอีกสักคาต้องถูกผูห้ ญิงคนนี้กระทาจน


วิญญาณแตกสลายแน่

" นายหญิงท่านอย่าพูดจาเหลวไหลนะเจ้าคะ! " นางกานัลตัวน้อยเกือบจะกระโดดมาตะปบปากของตู๋กูซิงหลัน


คาพูดนี้หากใครได้ฟัง เกรงว่าแม้แต่ชีวิตก็คงไม่อาจเหลือไว้ ไทเฮาปี นเตียงมังกรแล้วยังกล้าด่าว่าฮ่องเต้ ไม่วา่ เรื่ องไหน
คงทาให้บรรพบุรุษทั้งสิ บแปดรุ่ นของฝ่ าบาทโกรธจนแทบบ้า แถมยังมีผรู ้ ู ้เห็นมากมาย ฝ่ าบาทยังไม่พิโรธได้หรื อ?

"นายหญิง ท่านต้องอดทนอดกลั้นเข้าไว้ จะอย่างไรยังมีความหวังอยู่นะเจ้าคะ" นางกานัลตัวน้อยพูดไปก็ลว้ งเอา


เผือกร้อนๆ สองหัวออกมาจากอกเสื้ อ "ท่านหิ วมาทั้งวันแล้ว บ่าวพึ่งไปแอบเอามาจากห้องครัว ท่านโปรดกินรองท้องดู
สักหน่อย" นางพูดไปก็กลืนน้ าลายไป
ถึงตอนนี้ต๋ ูกูซิงหลันเพิ่งจะหันกลับมามองดูนางกานัลตัวน้อยที่จมูกเขียวหน้าบวม นางขมวดคิ้ว เชียนเชียนเป็ น
นางกานัลประจาพระองค์ ของไทเฮา แม้อายุเพียงสิ บสี่ ปี กลับจงรักภักดียิ่ง ยอมตกระกาลาบากด้วยกัน ยามนี้เพื่อเผือก
สองหัวก็ยอมถูกตบตีแล้ว

ตู๋กูซิงหลันรู ้ดีวา่ ภายในวังหลวงนี้ ผูส้ ู งส่ งเหยียบย่าผูอ้ ่อนแอ ตลอดเดือนมานี้ถึงจะต้องลาบากขนาดกินผักกินหญ้า


แต่ฐานะของนางยังคงอยู่ เชียนเชียนเป็ นนางกานัลประจาพระองค์ ถึงไม่มีใครเคารพแต่ก็ไม่อาจถูกตี ได้ ตลอดเดือนมานี้
เพราะนางไม่ตอบโต้ กลับมีคนยิง่ มายิง่ ได้ใจ

"เชียนเชียน ใครกล้าตบเจ้า" ตู๋กูซิงหลันยืนขึ้น เสี ยงก็เปลี่ยนเป็ นเยือกเย็นลง เชียนเชียนก้มหน้าลงไม่กล้าสบตา


นาง อ้ าๆ อึ้งๆ ตอบว่า "บ่าวเดินสะดุดเองเจ้าค่ะไม่มีเรื่ องอันใด" ไทเฮากาลังอยูใ่ นสถานการณ์ลาบากมากแล้ว นางไม่
อาจเพิ่มภาระเข้าไปอีก
ตอนที่ 2 โฉมงาม สมองกลวง

"เจ้าเป็ นคนของข้า หากข้าไม่ปกป้องเจ้า ไม่ออกหน้าให้เจ้าแล้วใครล่ะจะทา? " ตู๋กูซิงหลันดวงตาทอประกาย


ซับซ้อน แต่ไหนแต่ไรนางก็ไม่ใช่พวกต้นอ้อลู่ตามลมพายุ นางรู ้ชดั เจนหากยังทนเช่นนี้ต่อไป เกรงว่า พวกนั้นจะยิง่ ลง
มือหนักขึ้น

"นายหญิง~~" เชียนเชียน ตื่นตะลึง หัวใจอบอุ่นขึ้นอีกส่ วนนึง ดวงตาของนางแดงก่า เฝ้ามอง ตู๋กูซิงหลันอย่าง


ไม่เชื่อสายตาตัวเอง

นายหญิงยามอยูใ่ นจวนตระกูลเป็ นคุณหนูในห้องหอ ถูกเลี้ยงดูอย่างประคบประหงม แม้จะได้รับแต่งตั้งเป็ นไท


เฮา แต่ก็นุ่มนิ่มอ่อนแอดัง่ ซาลาเปาลูกหนึ่ง ตลอดเดือนมานี้ นางกลัวแต่วา่ นายหญิงจะรับการเบียดเบียนรังแกไม่ไหวจน
ตัดสิ นใจคิดสั้นอีกครั้ง

คิดไม่ถึง นายหญิง ยังคิดจะออกหน้าเรื่ องนี้ให้กบั นาง

"นายหญิง บ่าวเพียงหวังให้ท่านเริ่ มต้นใหม่อีกครั้ง ขอเพียงท่านมีชีวิตอยูอ่ ย่างดี บ่าวก็พอใจแล้ว" เชียนเชียนเช็ด


น้ าตา นางไหนจะไปคิดให้นายหญิงออกหน้าแก้แค้น ก็เพียงแต่ถูกตีเท่านั้นบาดเจ็บเพียงผิวกายไม่เป็ นไร

ตู๋กูซิงหลันวางมือลงบนบ่าของนาง ตบลงไปเบาๆ " นับจากวันนี้ไป ชีวิตข้าจะต้องดีข้ นึ เรื่ อยๆ และไม่ให้ใครมา


รังแกเจ้าได้อีก"

ในเมื่อไม่มีโอกาสกลับไปโลกปัจจุบนั ถ้าเช่นนั้นก็ตอ้ งใช้ชีวิตเป็ นไทเฮาน้อยให้ดี

ตู๋กูซิงหลัน พูดจบก็ได้ยนิ เสี ยงดังมาจากประตูหน้าตาหนักเย็น

" อ้า ไทเฮาเพคะ ครั้งนี้ช่างบังเอิญพอดีเชียว"

นางมองไปตามเสี ยง ภายใต้แสงดาวส่ องพราวสาวน้อยอวบอัน๋ งดงามนางหนึ่งเดินมาอย่างชดช้อย ด้านหลังยังมีห


มัวมัว่ คนนึ งและสองนางกานัลติดตาม หมัวมัว่ ถือของใช้ประจาวัน นางกานัลถือกล่องอาหาร คนทั้งกลุ่มจ้องมองตู๋กูซิง
หลันอย่างไม่วางตา เห็นชัดว่า ปราศจากความยาเกรงต่อไทเฮา

" เหลียนไฉเหริ น ท่านมาที่นี่ดว้ ยกิจธุระอันใด" เชียนเชียนเปลี่ยนเป็ นใช้น้ าเสี ยงเยือกเย็นเข้าข่ม เอาตัวเข้าบดบัง


ปกป้อง ตู๋กูซิงหลันไว้

นายหญิงจิตใจอ่อนแอบอบบางราวกระจกแผ่นนึง นางไม่อาจปล่อยให้คนอื่นมารังแกนายหญิงได้

" ข้าย่อมต้องมาเยีย่ มเยียน พระพันปี อยูแ่ ล้ว" เหลียนไฉเหริ นยกคิว้ น้อยๆ ค่อยคลี่ยมิ้ อ่อนหวาน
เมื่อมองไปรอบด้านที่รกร้างว่างเปล่า ก็เจาะจงพูดกับตู๋กูซิงหลันว่า "ที่จริ งแล้ว ข้าควรจะเรี ยกไทเฮาว่าญาติผพู ้ ี่นะ
เป็ นน้องสาวก็ตอ้ งกังวลสนใจพี่สาวเป็ นเรื่ องธรรมดาไม่ใช่หรื อ"

พูดจบนางก็เสมองเล็บมือที่ทามาใหม่พลางโบกมือเบาๆ หมัวมัว่ และนางกานัลอีกสองคนก็เดินมาด้านหน้าตู๋กู


ซิงหลัน เอาของใช้และอาหารในมือวางลงบนพื้น

เหลียงไฉเหริ นยิ้มบางเบา " ญาติผพู ้ ี่ ท่านอยูใ่ นตาหนักเย็นลาบากแล้ว นี่เป็ นของเล็กน้อยที่ขา้ ตระเตรี ยมมาให้ท่าน
กินและใช้สอย"

พูดจบก็เหยียดยิม้ มองหัวเผือกในมือ ตู๋กูซิงหลัน " ก่อนหน้านี้ ท่านอาศัยอยูใ่ นจวนตระกูลจะกินจะใช้ลว้ นแต่เป็ น


ของสู งค่าหายาก นึกไม่ถึงว่ากลายเป็ นไทเฮาแล้ว แม้แต่เผือกร้อนสักหัวยังไม่มีจะกิน ช่างน่าสมเพชนัก"

นางพูดพลางถอนใจพลางแต่ดวงตากลับเปื้ อนยิ้ม ดูอย่างไรก็ปิดบังความยินดีปรี ดาไม่ได้

ก่อนนี้ท่านปู่ ให้ความสาคัญกับนางนี่นกั ประคองไว้ราวกับเป็ น ดวงแก้วล้ าค่า ความลาบากแม้แต่นอ้ ยนิดไม่เคย


ได้รับ ตอนนี้ นางต้องตกที่นงั่ ลาบาก เหลียนไฉเหริ นย่อมสะใจไม่น้อย

ตู๋กูซิงหลันเหลือบมองข้าวของ เครื่ องใช้ เหล่านั้น

ผ้าห่มเก่าถูกซักจนขาว

อาหารที่เอามาก็ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์

เชียนเชียนโกรธจนลมออกหู "เหลียนไฉเหริ นของเช่นนี้ยงั กล้านามาถวายอีกหรื อ"

ปากเรี ยกพี่เรี ยกน้องอบอุ่น แท้จริ งแล้วก็มาทาเคาะกะลาเรี ยกหมา

"ยังคิดว่าตัวเองเป็ นไทเฮาผูย้ งิ่ ใหญ่อีกหรื อยังไง พระสนมของพวกเรา เห็นแก่ความเป็ นพี่นอ้ ง นาสิ่ งของมามอบ
ให้นาง นี่ ถือเป็ นพระกรุ ณาแล้ว" หมัวมัว่ ประจาตัวเหลียงไฉเหริ นคนเก่าขมวดคิ้ว

" นัน่ น่ะสิ หน้าด้านปี นเตียงมังกรทาเรื่ องไร้ยางอายขนาดนั้น ยังคิดจะนัง่ สง่าเป็ นไทเฮาได้อีกหรื อ ไม่กลัวผูค้ นทั้ง
เมืองพากันถ่มน้ าลายรดหน้าหรื ออย่างไร! "

" หน้าไม่อาย"

" หุบปาก! พูดอะไรกัน" หลังปล่อยให้นางกานัลทั้งหลาย พูดจนจบ เหลียนไฉเหริ นถึงได้ออกปากห้ามปราม

" พระพันปี ใช่ผทู ้ ี่พวกเจ้าจะมาวิพากษ์วิจารณ์ได้หรื อไร? "


พูดพลางก็ส่งยิ้มให้ต๋ ูกูซิงหลัน " พี่สาวแต่ไหนแต่ไรท่านเป็ นผูใ้ หญ่ใจกว้าง คงไม่ถือสาคาพูดพวกนี้"

" ข้าย่อมใจกว้าง" ตู๋กซู้ ิงหลัน ส่ งยิม้ ราวกับมารดาที่อบอุ่น "คาพูด สุ นขั รับใช้ ของน้องสาว ระวังอย่าไปพูดกับ
เจ้านายคนอื่น ข้าเกรงว่าเจ้าจะถูกลงทัณฑ์แน่"

เหลียนไฉเหริ น "??? "

ทาไมนางถึงรู ้สึกว่าคาว่า 'สุ นขั รับใช้ของน้องสาว' ราวกับเป็ นคา... ประเดี๋ยวก่อนตู๋กูซิงหลันดูไม่คล้ายโกรธเคือง


ทาไมยังจะยิม้ อยูไ่ ด้อีก ราวกับไม่มีเรื่ องร้ายอันใด หรื อว่าแม้แต่ตวั นางก็ถูกล่อลวงไปด้วย

เมื่อเห็นใบหน้านาง เหลียงไฉเหริ นก็เริ่ มขุ่นเคือง ต่างก็เป็ นบุตรสาวตระกูลตู๋กูเหมือนกัน แต่เพราะอดีตฮ่องเต้ได้


เห็นรู ปวาดของตู๋กูซิงหลันก็ถูกพระทัย แต่งตั้งนางให้เป็ นฮองเฮา

ฟ้าดินย่อมรู ้วา่ นางเป็ นที่ริษยาเพียงไร!

แต่แล้วอย่างไร ในพิธีเฉลิมพระยศอดีตฮ่องเต้กบั ตายเพราะความงามของนาง ทาให้ฮองเฮาขึ้นเป็ นไทเฮา นาง


เกลียดชังจนแทบคุม้ คลัง่ ยังดี! หากไม่ใช่ฟ้าดินมีเมตตา ตัวซวยนี้คงต้องเอาหัวเข้าแลกแล้ว! เพราะความโง่เขลาของนาง
คิดปี นเตียงมังกร ฝ่ าบาทจึงเกลียดชังนางเข้ากระดูก จงรอความตายอยูใ่ นตาหนักเย็นนี้เถอะ

ไม่รอให้เหลียนไฉเหริ นทันได้ตอบโต้อะไร ตู๋กูซิงหลันพลันคว้าเอามือของนาง พูดอย่างสนิทสนมว่า "น้องสาว


ด้านนอกลมแรงนัก อย่ายืนอยูอ่ ย่างนี้เลย ข้าไม่ได้พบเจ้านานแล้ว คิดถึงเจ้าที่สุด มาๆ พวกเราเข้าไปด้านในพูดคุยเรื่ อง
เก่าๆ กันเถอะ"

เหลียนไฉเหริ น "??? " ข้าไม่ได้คิดจะไปสักหน่อย

แต่เพราะตัวกูซิงหลันออกแรงแข็งขันทาให้นางไม่มีทางปฏิเสธ หมัวมัว่ และเหล่าผูต้ ิดตามคิดจะเข้าไปรั้งคนไว้


กลับถูกสายตาของตู๋กูซิงหลันกดดัน " ทาไมอายเจียกับน้องสาวจะพูดคุยกันหรื อยังต้องได้รับอนุญาตจากพวกสุ นขั รับ
ใช้อย่างพวกเจ้า? "

เหล่าสุ นขั รับใช้ "??? "

ไม่รู้เพราะเหตุใดคาพูดนั้นมีแรงกดดันราวกับตู๋กูซิงหลันเป็ นไทเฮาที่แท้จริ ง สายพระเนตรของพระนาง ถึงกับบีบ


คั้นผูค้ นได้

ขณะที่พวกนางมัวแต่ลงั เลเพียงแว๊บเดียว เหลียงไฉเหริ นก็ถูกตู๋กูซิงหลันลากเข้าไปในเรื อนเสี ยแล้ว


" เชียนเชียน เอาของกินของใช้ ที่นอ้ งสาวนามา เข้ามาด้วย พวกเราไม่มีของรับแขก ก็ถือเสี ยว่ายืมดอกไม้ไหว้
พระแล้วกัน"

เหลียนไฉเหริ น "???!! " ไม่ นางไม่ตอ้ งการ นางคิดปฏิเสธ เจ้ าพวกสุนัขรั บใช้ รีบมาช่ วยข้ าเร็ ว!

สวรรค์ช่วยด้วย ตู๋กูซิงหลันไม่มีสมองก็จริ ง แต่แรงมหาศาล ข้ าอาจเสียท่ าให้ กับนางก็ได้ !

เชียนเชียนพอได้ยนิ ก็ไม่รีรอ คว้าข้าวของตามเข้าไปในเรื อน นายหญิงวันนี้เป็ นอะไรไป ไม่เจอกันนานต้องดีใจ


ขนาดนี้เลยหรื อ แต่ก่อนตอนที่ยงั อยูใ่ นจวนนางไม่ชอบหน้าตู๋กูเหลียนมาโดยตลอดนี่น่า

พวกนางกานัลคิดติดตามมาช่วยเหลือ แต่เชียนเชียนมือเท้าว่องไว ปิ ดประตูก้ นั พวกนางไว้ภายนอก


ตอนที่ 3 เด็กดี กินนี่สิจ๊ะ

เข้ากลางฤดูร้อนแล้วแต่บรรยากาศในตาหนักเย็นยังคงทึมทึบ

กาแพงทั้งสี่ ดา้ น มีรอยรั่ว สายลมทะลุผา่ นพัดพาเอาอากาศชื้นชื้นเข้ามาทาให้คนรู ้สึกไม่สบายตัว

เหลียนไฉเหริ นถูกตู๋กูซิงหลัน จับนัง่ บนตัง่ เก่าๆ ตัวหนึ่ง นางพึ่งจะนัง่ ลง ตู๋กูซิงหลันก็โยนวิญญาณประจาตัวเกาะ


ลงบนบ่าของนาง วิญญาณตนนี้ยามนี้เป็ นเพียงดวงจิต นอกจากตู๋กูซิงหลันคนอื่นไม่อาจมองเห็น

" เจ้า "

พอมันคิดจะพูด ก็ถูกตู๋กูซิงหลันยิม้ หวานปรายตาห้ามไว้ 'เจ้าต้องเชื่อฟังข้าให้ดี' ไม่ งั้นข้ าจะเหยียบให้ จมมิดแน่ !

มันเป็ นวิญญาณที่มีสัญญาจิตผูกพันกับตู๋กูซิงหลัน ย่อมสามารถสื่ อสารผ่านทางจิตได้ ช่างเถอะช่างเถอะตอนนี้


ย่อมต้องอดทนไปก่อนใครใช้ให้มนั เป็ นเพียงแค่ดวงจิตดวงนึ ง สู ้สตรี คนเดียวก็ไม่ได้ ต้องทาตามที่นางต้องการเท่านั้น
เสี่ ยวถวนจื่อไม่กล้ามีโทสะจึงได้แต่กดั ไหล่เหลียงไฉเหริ นลงไปคานึง เหลียงไฉเหริ นพลันรู ้สึกบ่าไหล่เย็นวูบ ร่ างกาย
เปลี่ยนเป็ นหนักอึ้งโดยไร้สาเหตุราวกับถูกภูเขาลูกหนึ่ งทับไว้

"เชียนเชียน เอาผ้าคลุมนัน่ มาให้ญาติผนู ้ อ้ งใช้เถอะ อย่าปล่อยให้ผอู ้ ื่นตัวเย็นถึงเพียงนี้" ตู๋กูซิงหลันพูดพรางคลี่ยมิ้

เชียนเชียนเผยสี หน้าถูกบังคับแต่ยงั คงทาตามรับสั่ง อากาศร้อนถึงเพียงนี้ ยังจะให้ผอู ้ ื่นห่มผ้าเพิ่มอีกหรื อ?

" อย่าแตะต้องข้า" เหลียนไฉเหริ นร้องเสี ยงดัง" ตู๋กูซิงหลัน เจ้าคิดจะทาอะไร ข้าเป็ นถึงพระสนมของฝ่ าบาท ข้ามี
เมตตา มาดูแลเจ้า เจ้าคิดจะลงมือกับข้า ฝ่ าบาทรู ้เข้าต้องไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่"

นางจะอย่างไรก็คาดไม่ถึง ตู๋กูซิงหลันจะกล้าถือดีถึงเพียงนี้ คิดลงมือกับนาง

ตู๋กูซิงหลันกลับไม่มีโทสะ นางค่อยๆ เปิ ดกล่องอาหารที่เหลียงไฉเหริ นนามา ข้างในนั้น มีซุปกระดูกไก่ เศษผัก


เศษเนื้อที่เน่าแล้ว นางนาชามแตกมาใบนึง ตักอาหารใส่ จนเต็มนามาตั้งไว้ขา้ งหน้าเหลียงไฉเหริ น
" น้องสาว เจ้ามาเยีย่ มเยียนข้า ข้าทราบซึ้งยิง่ นัก" ตู๋กูซิงหลันเอ่ยด้วยน้ าเสี ยงจริ งใจ "ถึงแม้ฝ่าบาทจะมีพระสนม
มากมาย มีแต่เจ้า น้องสาวเจ้าเป็ น' ลูกสะใภ้'ที่กตัญญูที่สุด ข้าจะไม่รักเอ็นดูได้อย่างไร จะไปทาอะไรเจ้าได้? "

" เจ้าดูอาหารที่เจ้านามาข้าสุ ดแสนเสี ยดายไม่กล้าเก็บไว้กินเอง คิดถึงเจ้าเพียงไหน"

เหลียงไฉเหริ น "??? " มีแต่เจ้าที่เข้าใจคาว่า'รักเอ็นดู' ผิดไปหรื อเปล่า

ตู๋กูซิงหลันพินิจดูเหลียงไฉเหริ น" แหม ดูไปก็สวยงามอ้อนแอ้นถึงเพียงนี้ ข้าเห็นแล้วยังถูกใจ หากฝ่ าบาทได้เห็น


สักหน่อยเกรงว่าจิตใจคงถูกล่อลวงไปแน่"

เหลียงไฉเหริ นใจหายวาบ นังตัวร้ ายนีก้ าลังชื่ นชมข้ า?

"อ้ายยะ น่าเสี ยดายฝ่ าบาทมีพระสนมมากมาย ด้วยรู ปโฉมธรรมดาสามัญอย่างเจ้า คงได้แต่ดูเองชมเองเท่านั้น"

เหลียงไฉเหริ น ชะงักไป ตู๋กูซิงหลันพูดไม่ผิด ฮ่องเต้เพิ่งขึ้นครองราชย์ ก็แต่งตั้งไฉเหริ นสามสิ บคน เหม่ยเหริ น


ยีส่ ิ บคน พระสนมขั้นผินแปดคน ขั้นเฟยสี่ คน ยังมีกยุ้ เฟยอีกสองคน ในวังหลัง นางไม่ใช่คนที่โดดเด่นที่สุด เช่นนี้จะ
ดึงดูดความสนใจของฝ่ าบาทได้อย่างไร

เมื่อคิดถึงพระรู ปโฉมที่งดงามราวเทพสวรรค์ของฝ่ าบาท หัวใจของเหลียงไฉเหริ นร้อนรุ่ มขึ้นมา นางมีโชคทุก


วันนี้เพราะอดีตฮ่องเต้ไม่ได้เลือกนางไว้ ตอนนี้จึงได้กลายเป็ นไฉเหริ นของฮ่องเต้องค์ใหม่

ตู๋กูซิงหลันจับจูงมือของเหลียงไฉเหริ นไว้ พูดอย่างหนักแน่น " เจ้าและข้าต่างก็เป็ นบุตรสาวตระตู๋กู ข้ายอมหวังให้


เจ้าได้ดี"

เหลียงไฉเหริ นรู ้สึกเหมือนถูกผีหลอก นังตัวร้ ายนีย้ งั หวังให้ ข้าได้ ดีอีกหรื อ?

เมื่อเห็นรอยยิม้ ที่งดงามของตู๋กูซิงหลัน เหลียงไฉเหริ นยิ่งรู ้สึกเคว้งคว้าง " เจ้า เจ้า ต้องการอะไรกันแน่"

ตู๋กูซิงหลันยิ่งมายิง่ แสดงทีท่าอ่อนโยน ปล่อยมือของนางลง ตักซุปขึ้นมาช้อนนึงด้วยตัวเอง ส่ งถึงมุมปากเหลียงไฉ


เหริ น
"เด็กดี กินของดีนี่เสี ยสิ จากนั้นค่อยป่ วยใหญ่สักครั้งหนึ่ง แล้วปล่อยข่าวออกไป บอกว่าเพราะมาเข้าเฝ้าข้า ถึงได้
ป่ วยไข้ ฝ่ าบาทเกลียดชังข้า รู ้วา่ เจ้ามีน้ าใจถึงเพียงนี้ ยังไม่ปวดใจได้หรื อ? "

เหลียงไฉเหริ นคิดตาม "......." นี่ฟังดูคล้ายมีเหตุผลอยูบ่ า้ ง แต่ทาไมข้าถึงต้องกินน้ าเน่านี้ดว้ ย ไปตากฝนสักครั้งให้


ป่ วยไข้ ก็เรี ยกความกังวล สนใจจากฝ่ าบาทได้เหมือนกันไม่ใช่หรื อ?

นางกาลังคิดจะปฏิเสธ ตู๋กูซิงหลันก็ส่งยิม้ พลางยัดเยียดซุปช้อนนั้นเข้าปาก" วังหลังแย่งชิงความโปรดปราน ฝี มือ


ล้วนไม่ธรรมดา เจ้าเป็ นน้องสาวของข้าที่ไร้เดียงสาที่สุด ข้าย่อมต้องช่วยเหลือเจ้าอีกแรง"

ด้านเชียนเชียนนั้น "...." ไร้เดียงสาหรื อ? นายหญิงใช่กาลังพูดถึงตัวเองหรื อเปล่า

ตู๋กูซิงหลัน พูดไปก็ยดั เยียดซุปเน่าให้เหลียงไฉเหริ นไป กลิ่นเน่าสะอิดสะเอียน คละคลุง้ ไปทัว่ จมูกปากเมื่อกลืน


ลงท้องไปเหลียงไฉเหริ นยากจะทนไหว แทบจะอ้วกออกมาเสี ยตรงนั้น

วิญญาณทมิฬถวนจื่อนัง่ อยูบ่ นบ่าของนาง ก็ใช้มือสั้นๆ ของมัน แคะจมูกล้วงเอาขี้มูกใส่ ลงไปในชามด้วย มัน


ตอนนี้แม้จะเป็ นแค่ดวงจิตดวงหนึ่ง แต่ก็เป็ นวิญญาณที่มีอิทธิ ฤทธิ์สูง คิดจะสะกดคนสักผูน้ ึ งให้สติเลื่อนลอยยังไม่ใช่
เรื่ องง่ายอีกหรื อ

เหลียงไฉเหริ น ไม่รู้วา่ ทาไมร่ างกายยิง่ ทียงิ่ หนักขึ้น บ่าไหล่เย็นเยียบ อยากขยับตัวยังทาไม่ได้ แม้แต่จะรักษาสติไว้


ยังรู ้สึกว่ายากเย็น นางเบิกตากว้างได้แต่ยอมให้ต๋ กู ูซิงหลันป้อนไปสองชามใหญ่

เรี ยบร้อยแล้วตู๋กูซิงหลันยังมีน้ าใจใช้มือช่วยเช็ดปากให้เหลียงไฉเหริ น " น้องสาว ข้าทาทั้งหมดนี้ก็เพื่อเจ้า เจ้าต้อง


รี บกลับไปไขว่คว้าโอกาสนี้ให้เป็ นที่โปรดปรานของฝ่ าบาทให้ได้ อยากได้ทาให้ขา้ ต้องผิดหวังเสี ยแรงเปล่า"

"อืมมม" เหลียงไฉเหริ นตอนนี้ พะอืดพะอมจนอยากจะอ้วกออกมา ตู๋กูซิงหลันพูดอะไรนางก็ฟังไม่รู้เรื่ อง คนอยู่


ในสภาพมึนงงก็ถูกส่ งออกมานอกตาหนัก หมัวมัว่ และนางกานัน ไม่รู้เรื่ องรู ้ราวก็พากันถอยออกไปจากตาหนักเย็น

ไฉเหริ นไม่ใช่วา่ จะมาหาเรื่ องนางตัวร้ายนัน่ หรื อ ทาไมกลายเป็ นว่า ตอนหลังนางตัวร้ายนั้นออกมาส่ งยิ้มให้?

แล้วดูไฉเหริ น ปากแก้มมีแต่กลิ่นเน่าน่าสะอิดสะเอียนกลับไม่มีทีท่าโกรธเคืองเลยแม้แต่นอ้ ย เรื่ องนี้......เป็ นมา


อย่างไรกันแน่?
รอจนกระทัง่ เงาหลังของพวกนางจากไป เชียนเชียนถึงได้ห่อปากพ่นลมออกมาได้ เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทาไม
เหลียงไฉเหริ น ที่ร้ายกาจถึงได้เปลี่ยนเป็ น เชื่องเชื่อยอมกินซุปเน่าไปได้ กินทีถึงสองชามใหญ่ทีเดียว ย้อนคิดถึง
เหตุการณ์เมื่อครู่ น้ ี เชียนเชียน ก็รู้สึกว่า เหลียงไฉเหริ นเป็ นบ้าใบ้ไปเสี ยแล้ว

สายลมในตาหนักเย็นพัดหวีดหวิว หน้าร้อนแท้ๆ กลับทาให้นางรู ้สึกเย็นยะเยือก

" นายหญิง นี่ชดั เจนว่านางคิดมหาเรื่ องท่านโดยแท้ ทาไมท่านยังไปคิดวางแผนช่วงชิงความโปรดปรานให้นาง


อีก"

เชียนเชียนคิดได้ก็รู้สึกไม่ยนิ ยอมอยูบ่ า้ ง ถึงแม้จะสะใจที่เห็นเหลียงไฉเหริ นกินซุปเน่าไปสองชามใหญ่แล้วก็ตาม

ตู๋กูซิงหลันเพ่ง มองชามเปล่าเหล่านั้นก็เผยรอยยิม้ ลี้ลบั สองมือม้วนปอยผมเล่นพูดอย่างสนุกสนานกล่าวว่า " ล้วน


เป็ นคนบ้านเดียวกัน ข้าย่อมต้องช่วยนางอยูแ่ ล้ว"

เชียนเชียน??? นายหญิงทาไมไร้เดียงสาถึงขนาดนี้ คนแบบนั้นยังจะไปช่วยอีก

" เด็กดี อย่ามัวแต่ทาหน้าเจ้าคิดเจ้าแค้น กินเผือกนี้แล้วไปนอนเสี ย พรุ่ งนี้ตื่นขึ้นมาทุกอย่างก็จะดีข้ นึ " ตู๋กูซิงหลัน


ยกเผือกให้เชียนเชียน เห็นนางจมูกเขียวหน้าบวมแดงเช่นนี้ สายตาก็เป็ นประกายมุ่งมัน่ กว่าเดิม

เชียนเชียน อุม้ เผือกเอาไว้ในมือ กับรู ้สึกร้อนลวกอย่างไร้ที่เปรี ยบ เด็ก.... เด็กดีหรื อ? นายหญิงเป็ นอะไรไปแล้ว


หรื อสติหลุดไปอีกคน ฟังว่าในตาหนักเย็นนี้มีพระสนมตายไปไม่นอ้ ยคงไม่ใช่วา่ มีผีอาละวาดนะ เชียนเชียนเพิ่งจะคิด
ได้วิญญาณภูติก็เป่ าลมเย็นๆ เข้าไปในหูของนาง จนนางสะท้านหนาวขนหัวลุกทีเดียว
ตอนที่ 4 เป็ นพวกตามตื๊อข้าหรื อ?

ตู๋กูซิงหลัน เขม่นตาใส่ อากาศที่วา่ งเปล่า ส่ งเสี ยงในใจว่า " เจ้าผี อย่าก่อเรื่ อง"

"ฮึ เจ้ามันเป็ นสตรี ไม่มีหวั ใจ ตะกี้น้ ีหากไม่ได้ขา้ ช่วยเหลือเจ้า ควบคุมนางอ้วนนัน่ ไว้ นางจะยอมเชื่อฟัง กินซุป
เน่านัน่ หรื อ? "

ตู๋กูซิงหลัน " ช่วยเหลือนายเป็ นหน้าที่หลักของวิญญาณภูติอย่างเจ้า "

วิญญาณทมิฬถวนจื่อคร่ าครวญ " อ๊ากกกกก" อยากจะสับๆ นางให้แหลก

กลางดึกคืนนั้นตู่กูซิงหลันสวมชุดดา ใช้ผา้ ดาปิ ดหน้า ลอบออกจากตาหนักเย็น หลบหลีกเหล่าองครักษ์ภายใน


ตาหนัก แล้วลอบปี นกาแพงออกไป

อ้ ายยะ นางหิ วแล้ ว อดทน กินแต่ หัวเผือกหั วมันมานานนับเดือน อยากกินของอร่ อยเป็ นที่สุด ยิ่งคิดก็ยิ่ง.... หรื อจะ
แอบเข้ าไปในตาหนักของเหลียนไฉเหริ นดูเรื่ องสนุกๆ ดี

นอกกาแพงวังเย็นเป็ นพุ่มไม้รกชักเต็มไปด้วยต้นหญ้าสารพัด เห็นชัดว่าขาดคนเอาใจใส่ ดูแลมานานแล้ว ทาให้


บรรยากาศยิง่ ดูวงั เวง

ตู๋กูซิงหลัน เพิ่งจะกระโดดลงจากกาแพงก็ได้ยินเสี ยงโป๊ กก! ตามด้วยเสี ยงร้องเจ็บปวดของชายผูห้ นึ่ง นางพึ่งจะ


รู ้สึกตัวว่าใต้ฝ่าเท้ามีอะไรนุ่มนิ่ ม พอมองลงไปถึงรู ้วา่ ตัวเองเหยียบคนผูห้ นึ่งเอาไว้

เวรกรรม ผู้ชายหรื อนี่??

มืดเสี ยจนมองไม่เห็นว่าหน้าตาเป็ นอย่างไร แต่แน่ใจได้วา่ เขาไม่ใช่องครักษ์ประจาตาหนักเย็น นางคงไม่โชคร้าย


ปานนี้ป่ะ ข้ามกาแพงมาไม่ทนั ไรก็เหยียบทับคนเสี ยแล้ว คนอะไรจะอ่อนแอบอบบางเพียงนี้

นางเป็ นถึงยอดนักพรตคนหนึ่ ง จะถึงขนาดแยกแยะคนเป็ นไม่ออกได้อย่างไร หรื อว่าจะโดนเหยียบตายไปแล้ว!!


ตู๋กูซิงหลัน ตกตะลึงพรึ งเพริ ด ถึงจะรู ้แต่แรกว่าร่ างนี้ไม่แข็งแรงสู ้ร่างเดิมของนางไม่ได้ แต่ไม่คิดว่าจะใช้การไม่ได้
ถึงขนาดนี้

วิญญาณทมิฬถวนจื่อกรอกตามองบน "เฮ่อ ตัวขยะแท้ๆ "

ตู๋กูซิงหลัน ไม่สนใจมันและไม่คิดเสี ยเวลาแม้แต่นอ้ ย ยกเท้าออกได้ก็เตรี ยมจะจากไป ใครจะคิดว่า ชายที่อยูใ่ ต้ฝ่า


เท้า กลับคว้าจับขาของเธอตรึ งเอาไว้กบั ที่ในทันใด

น้ องชาย เป็ นพวกรี ดไถหรื อ ไม่ เอาน่ าข้ าจนจะตาย

ยามตู๋กูซิงหลันคิดวุ่นวายก็ได้ยินเสี ยงชายผูน้ ้ นั พูดว่า

" หลันเอ๋ อร์ อย่าได้วิ่งวุ่นวาย"

หื ้อ

หลันเอ๋ อร์?

ตู๋กูซิงหลันชะงักไปชัว่ ขณะ ชายหนุ่มผูน้ ้ นั ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ทั้งยังสู งกว่านางถึงหนึ่งช่วงศีรษะ ภายใต้แสงดาว


อ่อนบาง เขาหันมามองนาง สายลมพัดมา เส้นผมของชายหนุ่ม ปลิวผ่านใบหน้าของนาง ยามตู๋กูซิงหลันเงยหน้ามอง
ใบหน้าของหนุ่มคนนั้น แสงดาวส่ องกระทบเป็ นประกาย ช่างเป็ นใจเหลือเกิน นางอดที่จะน้ าลายไหลไม่ได้

" คนงาม ท่านคือใคร? "

พระเจ้าช่วย นางพบเจอคนหล่อมามาก แต่หนุ่มน้อยเบื้องหน้าคนนี้ หล่อเหลาบาดหัวใจจริ งๆ

เทียบกับฮ่องเต้แล้วเป็ นคนละแบบกัน

เส้นผมยาวดุจน้ าตก ปากแดงดุจผลเชอร์รี่ ที่สาคัญที่สุดมีดวงตาที่ลึกล้ าคู่หนึ่ งราวกับดวงดาวในท้องทะเล เพียงได้


พบเห็นก็ทาให้คนหลงใหลอย่างถอนตัวไม่ข้ ึน
สุ ดหล่อคนนั้นนิ่งอยูค่ รู่ หนึ่งเผยใบหน้าครุ่ นคิด สองมือจับบ่าของตู๋กูซิ่งหลัน "หลันเอ๋ อร์ นี่เจ้าจาข้าไม่ได้แล้ว
หรื อ"

เมื่อสักครู่ แม้แต่ต๋ ูกูเหลียน นางยังจดจาได้แล้วทาไมจะจาเขาไม่ได้ล่ะ?

ตู๋กูซิงหลันงงงัน"....??? " เพราะฉะนั้นนางสมควรต้องรู ้จกั เขาสิ นะ น่าเสี ยดายตั้งแต่ยอ้ นอดีตมา นางไม่ได้ใส่ ใจ


กับความทรงจาของไทเฮาน้อยเท่าไหร่ นกั เรื่ องที่เกิดขึ้น กับร่ างเดิมรวมทั้งคนที่เกี่ยวข้องต้องไปถามเอาจากเชียนเชียน
ถึงจะรู ้

" ขอโทษทีเจ้าคงเป็ นหนึ่งในคนที่หลงใหลข้าสิ นะ" ตู๋กูซิงหลันแสร้งทาสี หน้าเยือกเย็น "ข้ารู ้ คนงามก็ตอ้ งคู่กบั


คนงาม แต่วา่ เจ้าล้มเลิกความตั้งใจเสี ยเถอะ ตอนนี้ขา้ เป็ นไทเฮา ชีวิตนี้ตอ้ งอยูเ่ ป็ นหม้าย ไม่อาจไปกับเจ้าได้หรอก"

จีเย่วก์ ลืนคาพูดที่ติดอยูใ่ นคอลงไป มือที่จบั บ่าของตู๋กูซิงหลันเพิ่มแรงบีบขึ้น ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่ ถึงได้ทอดถอน


หายใจ " เป็ นไปไม่ได้แล้วหรื อ......."

ข้ ามาถูกทางแล้ ว!

ตู๋กูซิงหลันไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะเดาถูกทางแล้ว จริ งด้วย! คนสวยเช่นนางถึงแม้จะกลายเป็ นหม้ายก็ยงั มีคน


หล่อคิดถึงอยูใ่ ช่ไหมล่ะ

ไม่รอให้ต๋ ูกูซิงหลันมีปฏิกิริยาตอบกลับ คนผูน้ ้ นั ก็เอานางไปกอดไว้ในอ้อมแขน พูดอย่างสะเทือนใจว่า "ขอเพียง


.... ขอเพียงเจ้ายินยอม ข้าจะพาเจ้าจากไป สุ ดหล้าฟ้าเขียวที่ใดก็ได้ ชีวิตนี้ชาติน้ ีพวกเราจะไม่แยกจากกันอีก"

ตู๋กูซิงหลัน "......" ตู๋กูซิงหลันชะงักไป นางรู ้สึกเหมือนหัวจะระเบิด พอออกจากอ้อมแขนได้ ตัวนางก็ถอยออกไป


ไกลถึงสามเมตร

" คนงาม ถึงเจ้าจะหน้าตาดีแค่ไหน แต่ไม่ควรหาความลาบากมาให้ขา้ !! พาไทเฮาหนี ตามกันนี่ พ่อแม่ของเจ้ารู ้


เรื่ องหรื อไม่ แล้วบรรพบุรุษสิ บแปดรุ่ นของเจ้าเห็นด้วยหรื อเปล่า"

จีเย่ว์ "..ข้า...."
" ต่อให้พวกเขาเห็นด้วยแต่ขา้ ก็ไม่เอาด้วย ฮ่องเต้ของข้านั้นไม่ใช่คนพูดง่าย" คิดถึง ฮ่องเต้ที่เป็ น'พระโอรส'แล้วตู๋
กูซิงหลันก็รู้สึกเหงื่อเย็นทัว่ ตัว เขาคนนั้น คนอะไรเหมือนกับภูเขาน้ าแข็งดีๆ นี่เอง แล้วยังเป็ นภูเขาที่ระเบิดได้ ถ้านาง
หนีตามไปกับสุ ดหล่อคนนี้คิดว่าขาทั้งสองข้างคงโดนฮ่องเต้หกั ทิ้งแน่

จีเย่ว์ สายตาหม่นหมอง ท่าทางของเขาดูเป็ นทุกข์อย่างหนัก "ต้องโทษข้า..... เป็ นความผิดของข้า....." เขาราพึงกับ


ตัวเอง "หากไม่ใช่เพื่อข้า เจ้าคงไม่ตอ้ งมากลายเป็ นเช่นทุกวันนี้" เขาพูดไปก็หนั มามองตู๋กูซิงหลันไป สายตามีแต่ความ
เจ็บปวด พวกเขาเดิมทีควรเป็ นคู่รักชัว่ ฟ้าดินสลายคู่นึง มาถึงวันนี้ กลับกลายเป็ น......

ตู๋กูซิงหลันมึนงง".........." โทษเขา?? ไทเฮาน้อยต้องมาตกยากทุกวันนี้ เป็ นเพราะเขามีส่วนเกี่ยวข้องหรื อ? ดูท่า


สุ ดหล่อคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับไทเฮาน้อยเสี ยแล้ว

เชียนเชียน....น่าจะมีเรื่ องบางอย่างที่ยงั ไม่ได้บอกนาง

ถึงแม้นางจะสงสัยในฐานะของเขา แต่ต๋ กู ูซิงหลันก็ไม่ได้ถามออกไป นี่ไม่ใช่เวลาจะมาซักไซ้ความจริ งกัน " คน


งาม เจ้าอย่าได้โทษตัวเองเลย ทุกเรื่ องปล่อยให้เป็ นไปตามสถานการณ์ เราควรจะมองไปข้างหน้า"

สี หน้าของนางสงบนิ่ ง "แต่หากเจ้ายังขัดข้องใจ........ "

พูดถึงตอนนี้ นางเห็นเขานิ่งอึ้งไปแล้ว จึงแบมือออกไป "ก็เอาเงินมาให้ขา้ ใช้มากหน่อย ถือเสี ยว่าแบ่งๆ กันใช้"

นางตอนนี้ขาดแคลนทุนทรัพย์มากแล้วจริ งๆ

จากลักษณะของสุ ดหล่อแล้วต้องเป็ นคนมีสตางค์แน่ ดึกดื่นค่าคืนลอบเข้ามาในกาแพงตาหนักเย็น คงจะต้องเป็ น


คนที่'เคยมีความผูกพัน'กับไทเฮาน้อย แต่วา่ ทุกเรื่ องก็ผา่ นพ้นไปแล้ว นางในตอนนี้เป็ นตู๋กูซิงหลันคนใหม่ ไม่มี
ความสัมพันธ์กบั บุรุษคนไหนทั้งสิ้ น

สายตาของจีเย่วแ์ ฝงไว้ดว้ ยความเจ็บปวด หัวคิ้วขมวดไม่คลาย "พวกเขาต่างพูดกันว่าเจ้าเสี ยสติไปแล้ว ข้ารู ้... เป็ น


เพราะเจ้าเจ็บปวดใจกับเรื่ องนั้น เจ้าคงโทษข้าที่ไม่ออกมาปกป้องเจ้า แต่หลันเอ๋ อร์ขา้ .... มีความจาเป็ น ที่ขา้ เคยพูดกับเจ้า
คาสัญญาเหล่านั้นทั้งหมดเป็ นความจริ งใจ"

เขาเคยพูดไว้วนั ใดได้เป็ นฮ่องเต้ นางก็คือ พระมารดาแห่งแผ่นดิน


ตู๋กูซิงหลันหน้าเมื่อยอยากได้ตงั ค์ทาไมถึงยากขนาดนี้" ช่างเถอะช่างเถอะ " พูดพลางสะบัดมือไปมา" ข้ายังมีเรื่ อง
ต้องทาอีกมาก เจ้าไม่ให้ก็ไม่เป็ นไร" ตู๋กูซิงหลันไม่มีกะใจจะพูดคาหวานกับเขาอีกก็หนั หลังเดินจากไป

เดินไปได้สองก้าวนางก็หันหน้ากลับมา อดไม่ได้จะพูดเตือนว่า " คนงาม ฟังพี่สาวสักคา หนทางรักมีมากมายแต่


ชีวิตมีเพียงชีวิตเดียว มีรักสักครั้งซึ้งใจ แต่ท้ งั ครอบครัวอาจตกในเภทภัย" ว่าแล้วก็แกล้งทาท่าไม่ยหี่ ระใดๆ พูดออกไป
อย่างมัน่ ใจ

" ชีวิตแสนสาคัญ อยูใ่ ห้ห่างจากไทเฮา ข้าเป็ นเพียงแม่หม้าย ไม่ใช่คนที่เจ้าควรจะนึ กถึง"


ตอนที่ 5 เจ้ าเป็ นหนอนในท้ องของเราหรื อไร

"แหวะๆ หน้าไม่อาย เป็ นแม่ม่าย!! ไม่อาจไขว่คว้าได้อะไรกัน" แม้แต่ภูติผีอย่างถวนจื่อยังทนคาพูดนี้ไม่ไหว ยัย


หนูนี่ตายไปแล้วครั้งหนึ่งยังเอาความมัน่ อกมัน่ ใจมาจากไหน

ซีเย่เหม่อลอยไปครู่ หนึ่ งถึงแม้ไม่อาจเข้าใจคาพูดทั้งหมดของนาง แต่ก็รู้สึกว่าในถ้อยคานั้นแฝงความห่วงใยตนเอง


เอาไว้

เขาก็ยงิ่ รู ้สึกเจ็บปวดใจมากขึ้น

"หลันเอ๋ อร์ ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไป" เขาจ้องมองนางอย่างลึกล้ าด้วยดวงตาเป็ นประกาย ตาคู่น้ นั ราวกับท้องทะเล


ทาให้นางแทบจมลงไป

ตู๋กูซิงหลัน รี บหันหลังกลับไป รู ้สึกขนลุกขนพองคันยุบยิบทั้งร่ าง ต้องโทษที่ไทเฮาน้อยกับนางสวยเกินไป ใคร


ได้เห็นเป็ นต้องลุ่มหลง นางได้แต่ส่ายศีรษะไม่คิดจะพูดคุยกับซีเย่อีก พอชักเท้าออกไปได้ขา้ งนึงก็ถูกดึงมือกลับมา

หยกอุ่นชิ้นนึ งก็อยูใ่ นมือ " วันนี้ขา้ รี บร้อนออกมาไม่ได้พกพาสิ่ งของมีค่าหรื อเงินทอง หยกชิ้นนี้ เจ้าเก็บเอาไว้ อีก
สองวัน ข้าจะหาทางมาพบเจ้าใหม่"

แม่จ๋า!! หยกอย่างดี!!

ตู๋กูซิงหลันไม่ปฏิเสธ รับไว้แล้วก็เดินจากไปหายไปในหมู่พุ่มไม้

ซีเย่ มองเงาหลังของนางหายลับไป ดวงตาก็หมดแสงลง

ก่อนหน้านี้ หลันเอ๋ อร์ไม่เคยเฉยชากับเขาขนาดนี้

.............................
" นังหนู ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อน ตอนนี้เจ้าเป็ นไทเฮาที่ถูกทิ้งอยู่ในตาหนักเย็นแล้ว ถ้ายังคิดทาตัวเป็ นแมงมุมชักใย
ระวังจะถูก ฮ่องเต้ภูเขาน้ าแข็งนัน่ ถลกหนังออก" ภูติทมิฬบ่นพึมพาไม่หยุดตลอดทาง

" ข้ารู ้อยูแ่ ล้ว เมื่อสักครู่ ถึงได้ย้าฐานะแม่หม้ายของตนเอง ตอนบอกเลิกกับคนงาม ข้าก็ตดั ใจเด็ดขาด เจ้าไม่ตอ้ งมา
ตอกย้าแผลของข้าอีก" พูดได้อย่างหน้าไม่อายตู๋กูซิงหลันก็เดินเข้าไปในครัวหลวง

วิญญาณทมิฬ "....!!! " พูดเสี ยอย่างกับว่า ไอ้หนุ่มนัน่ เป็ นคนรักของตนเองปวดใจตรงไหนกัน แถมนังหนูนนั่ คาก็
ข้าสองคาก็ขา้ ได้เป็ นไทเฮาไม่กี่วนั ก็ติดลมเสี ยแล้ว?

ยามเที่ยงคืนภายในห้องครัวไม่มีคนอีก นางกินไก่ไปหลายน่องแล้วจึงคว้าเอาขาแพะย่าง กับขาหมูน้ าแดง หนัก


เกือบห้าสิ บจิน ห่อกลับ ถึงได้จากไปอย่างพอใจ

ซีเย่ แอบตามนางมาเงียบๆ ตลอดทาง เห็นนางมาที่หอ้ งเครื่ องเพื่อลักของกิน กินเสร็ จยังลอบเอาของกลับไป ก็ตก


ตะลึงจนตาค้าง ก่อนหน้านี้ ทุกสิ่ งที่หลันเอ๋ อร์ กินใช้ลว้ นแต่เป็ นของล้ าเลิศ วันนี้เห็นนางกลับต้องมาตกระกาลาบากใช้
ชีวิตอยูอ่ ย่างแร้งแค้นในตาหนักเย็น เขาเจ็บปวดจนกระทัง่ ต้องกาหมัดเอาไว้

..............................

ตู๋กูซิงหลันเพิ่งก้าวออกจากครัวหลวง ภายในวังก็มีความเคลื่อนไหวคึกคัก ห้องเครื่ องอยูใ่ กล้กบั ตาหนักอวี้เฉวียน


ซึ่งเป็ นที่พกั ของเหลียนไฉเหริ น คืนนี้ช่างไม่เงียบสงบ ตั้งแต่ครึ่ งชัว่ ยามก่อนเหลียนไฉเหริ นก็เริ่ มอาเจียนและถ่ายท้อง
ไม่หยุด

มีเสี ยงกระซิบเล่าลือว่านางคิดจะไปด่าว่าไทเฮาในตาหนักเย็นเพื่อระบายโทสะให้กบั ฝ่ าบาท ผลคือเกือบตาย


กลับมา หมอหลวงหลายคนมาดูแล อาการก็ไม่ดีข้ นึ ครั้งนี้ กลับดีแล้ว เพราะเมื่อชัว่ ขณะก่อน ฝ่ าบาทก็เสด็จมายัง
ตาหนักอวี้เฉวียน ด้วยพระองค์เอง นี่ถือเป็ นเรื่ องใหญ่ของวังหลัง

ทุกคนต่างรู ้ดีวา่ ก่อนครองราชย์น้ นั ฝ่ าบาทไม่มีนางในปรนนิ บตั ิแม้แต่ผเู ้ ดียว เมื่อขึ้นครองราชย์ กลับแต่งตั้งสนม


เกือบร้อยคน พระสนมมากมาย แต่ฝ่าบาทแทบไม่เสด็จไปยังตาหนักของผูใ้ ด
ตลอดทั้งวัน ประทับอยูแ่ ต่กบั ท่านราชครู ในวังล้วนแต่มีคาเล่าลือว่า ว่าฮ่องเต้ทรงโปรดบุรุษ...........น่าจะพอ
พระทัยในตัวท่านราชครู ใครจะคิดว่า คืนนี้กลับเสด็จมายังตาหนักอวี้เฉวียนเพื่อเยีย่ มไข้เหลียนไฉเหริ นโดยเฉพาะ

อาจเพราะเหลียนไฉเหริ นเป็ นคนตระกูลตู๋กู จะอย่างไรพระองค์ยอ่ มต้องเห็นแก่พระพักตร์ของพระบิดาอยูบ่ า้ ง

ตาหนักอวี้เฉวียน

ด้วยศักดิ์ฐานะของนาง ฉี ผินย่อมประทับอยูใ่ นเรื อนหลัก เหลียนไฉเหริ นอยูเ่ รื อนปี กข้าง เดิมทีนางไม่ตอ้ งสนใจ
เหลียนไฉเหริ น แต่ฝ่าบาทกับเสด็จมาด้วยพระองค์เอง นี่เป็ นโอกาสดีที่จะได้ใกล้ชิดกับฮ่องเต้ นางไม่อาจปล่อยให้พลาด
ไปได้

ยามนี้เรื อนของเหลียนไฉเหริ นจึงอัดแน่นไปด้วยคนกลุ่มนึง

ฮ่องเต้ประทับในตาแหน่งสู ง ตลอดพระองค์ สวมฉลองพระองค์มงั กรสี ดาทอง สี พระพักตร์กลับเรี ยบเฉยนับแต่


เสด็จมาก็ไม่ออกพระโอษฐ์แม้แต่คาเดียว ภายในตาหนักเงียบเสี ยจนได้ยนิ เสี ยงเข็มหล่น

" ฝ่ าบาท ~~” เหลียงไฉเหริ นที่'จะเป็ นจะตาย'เสี ยให้ได้ค่อยๆ ประคองตัวขึ้นมา

เมื่อนางหันหน้ามาเห็นพระพักตร์ ที่งดงามราวกับเทพเซียน ของฮ่องเต้ คนก็สติเลื่อนลอยไป เพราะนับตั้งแต่ที่ได้


เฝ้าชมพระบารมีเป็ นครั้งแรกนางก็รู้วา่ ตนเองถูกฮ่องเต้องค์น้ ี ทาให้หลงใหลเสี ยแล้ว

ขอเพียงแค่ได้เป็ นสตรี ของเขานางยอมทิ้งศักดิ์ศรี ท้ งั มวล นางยิง่ คิดไม่ถึงว่าคืนนี้ฝาบาทจะเสด็จมาเยีย่ มนาง


โดยเฉพาะ

เหลียนไฉเหริ น น้ าตาคลอแทบจะริ นไหล มองฝ่ าบาทด้วยใบหน้าขาวซีดอย่างน่าสงสาร

" หม่อมชั้นมีความผิด..... หม่อมฉันทาให้ฝาบาทเป็ นกังวลแล้ว"


นับจากกลับจาก ตาหนักของไทเฮา นางก็ท้ งั อาเจียนและถ่ายไม่หยุด หมอหลวงจ่ายยาหลายขนานก็แทบไม่เป็ นผล
เกือบจะเอาชีวิตนางไปแล้วครึ่ งนึง ถึงตอนนี้ก็เพิ่งจะดีข้ นึ พอจะมีกาลังกราบทูลได้

ฝ่ าบาทกลับทอดพระเนตรมองนางด้วยสายตาเยือกเย็นอยูเ่ ป็ นนานโดยไม่เอ่ยคาพูดแม้แต่คาเดียว เหลียนไฉเหริ น


รู ้สึกราวกับตนเองตกอยูใ่ นฤดูหนาวเหน็บที่ไม่รู้ที่มา นางได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า ฝ่ าบาทเสด็จมาเยีย่ มแสดงว่าทรง
ห่วงใยในตัวนางกระมัง?

" น้องสาว เจ้าไปที่ตาหนักเย็นก็เพราะอยากจะทวงถามความยุติธรรมให้กบั ฝ่ าบาท เช่นนี้ฝ่าบาทจะไม่ทรงปวด


พระทัยเพราะเจ้าได้หรื อ" ฉี ผินพูดไปยิม้ ไปอยูด่ า้ นข้าง

เหลียนไฉเหริ นนึก อยากจะผลักนางออกไปนัก นางสละชีวิตออกไปครึ่ งนึงถึงทาให้ฝ่าบาทเสด็จมาหาได้ ฉี ผินก


ลับสบายนัก ตอนนางจะเป็ นจะตายไม่มาดูแล ยามนี้ฮ่องเต้เสด็จมาก็รีบมาประจบสอพลอ ชัดเจนว่าคิดจะอาศัยโอกาสนี้
เข้าใกล้ฝ่าบาท ฉี ผินยังคิดจะพูดอะไรอีกแต่ได้ยนิ ฝ่ าบาทตรัสด้วยพระสุ ระเสี ยงเยือกเย็นว่า "เจ้าเป็ นหนอนในท้องเรา
หรื อไร? "

"หา? " ฉี ผิน ตะลึงไปแล้ว

"ฉี ผินเหนียงเนียง ท่านก็สงบคาไว้เถอะ พระดาริ ของฝ่ าบาทใช่เรื่ องที่ท่านจะมาคาดเดาหรื อ? " หลี่กงกงที่


ปรนนิบตั ิขา้ งกายฮ่องเต้ เตือนด้วยสี หน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เพื่อแย่งชิงความโปรดปรานเหลียนไฉเหริ นทุ่มเทจนแทบต้องทิ้งชีวิตไป ตอนนี้กลับมีฉีผินกระโดดออกมาอีก


คนนึง คนนี้ วา่ แย่แล้วอีกคนนึงยิง่ น่ารังเกียจยิ่งกว่า

ฉี ผิน ตระหนกจนหน้าเขียว ถลาลงไปคุกเข่าก้มหน้ารับผิด

" หม่อมฉันมีความผิด"

หลี่กงกงเป็ นคนโปรดข้างกายของฝ่ าบาท นางไม่กล้าเอาผิดเขา

ฮ่องเต้ไม่สนใจนางแม้แต่นอ้ ย กับทอดมองเหลียนไฉเหริ นด้วยสายพระเนตรคมปลาบ " ตาหนักเย็นเป็ นเช่นใด?


"
" หม่อมฉันเพียงคิดทวงความยุติธรรมแทนฝ่ าบาทถึงได้...... ไปที่ตาหนักเย็น... ญาติผพู ้ ี่ไม่สมควรทาเรื่ องเช่นนั้น
ขึ้นมา ฝ่ าบาทขังนางไว้ในตาหนักถือเป็ นพระกรุ ณาแล้ว" นางพบว่า ตัวเองพูดกับฮ่องเต้ดว้ ยน้ าเสี ยงสั่นเทา นางเติบใหญ่
พบเห็นเรื่ องราวมาไม่น้อย แต่เมื่อต้องใกล้ชิดกับฮ่องเต้ กลับรู ้สึกว่าตัวเอง ประหม่าเสี ยจนไร้กาลังกราบทูล

ขณะเดียวกันตู๋กูซิงหลัน ก็ลอบปี นมาบนหลังคาของตาหนักอวี้เฉวียน ร่ างกายของไทเฮาน้อยในตอนนี้แตกต่างกับ


ร่ างในชาติก่อนของนางมากเพียงแค่ปีนหลังคาก็กินแรงจนแทบจะไม่ไหว

ตู๋กูซิงหลันค่อยๆ ถอดกระเบื้องหลังคาออกมาแผ่นนึงลอบมองเข้าไป ดูดา้ นใน นางต้องประหลาดใจเพราะคิดไม่


ถึงว่าฮ่องเต้ 'ลูกชาย' จะเสด็จมาจริ งๆ
ตอนที่ 6 ฮ่ องเต้ ลกู แม่

จากมุมที่นางอยูไ่ ม่อาจมองเห็นพระพักตร์ของฮ่องเต้จึงไม่รู้วา่ ตอนนี้เขาทาสี หน้าเช่นไร น่าเสี ยดายนัก ถ้าได้มุม


ดีๆ เสี ยหน่อยนางยังได้ชื่นชมพระพักตร์อนั งดงามของลูกชายบ้าง

ยัยตู๋กูเหลียงนี่ ก็ไม่น่ารักแม้แต่นอ้ ย นางอุตส่ าห์ช่วยคิดแผนช่วงชิงความโปรดปรานให้ ต่อหน้าพระพักตร์ไม่


กล่าวถึงนางในแง่ดีก็แล้วไป กลับคิดแทงหลังกันอีกดาบนึ ง ช่างเป็ นน้องสาวที่ไร้น้ าใจโดยแท้

เห็นฝ่ าบาทไม่รับสั่ง เหลียนไฉเหริ นก็ยงิ่ รู ้สึกหายใจลาบาก หากไม่ใช่เพราะนางคิดออกหน้าแทนฮ่องเต้ มีหรื อจะ


ถูกตู๋กูซิงหลันเล่นงานขนาดนี้ รอจนนางพูดเสี ยจนปากแห้งลิ้นแข็ง จึงได้ยนิ ฮ่องเต้ ตอบรับด้วยเสี ยงเยือกเย็นคานึ ง
"อืม"

"เหลียนไฉเหริ น ฝ่ าบาทมีรับสั่งแต่แรกห้ามมิให้ผใู ้ ด เข้าเยีย่ มท่านผูท้ ี่พานักอยูต่ าหนักเย็น ตัวท่านแม้มีเจตนาดี


แต่นี่ก็ไม่ใช่การขัดขืนพระบัญชาหรื อ " หลี่กงกงพูดด้วยสี หน้าไม่สู้ดี ฉี ผินลอบตาโตด้วยความยินดีในคราวเคราะห์ของ
ผูอ้ ื่น ขณะที่เหลียนไฉเหริ นถึงกับตัวสั่นระริ ก

"หม่อมฉัน... หม่อมฉันเพียงคิดจะ ระบายโทสะแทนฝ่ าบาท"

พูดแล้วตัวนางก็แทบจะร่ วงหล่นลงจากเตียง มากองต่อหน้าพระพักตร์ สองมือกอดพระบาทไว้มนั่

ฮ่องเต้กลับทั้งเย็นเยียบทั้งเฉยชา ทั้งที่ไม่ได้ทาพระเนตรถมึงทึง แต่กลับทาให้เหลียนไฉเหริ นหวัน่ เกรงเสี ยจนต้อง


ถอยมือออกมา

นางรู ้สึกราวกับว่า ในสายพระเนตรของฝ่ าบาทนางเป็ นเพียงแค่ฝนละอองไร้


ุ่ ค่า นางตกตะลึงจนลุกไม่ข้ ึน นิ่งอยูค่ รู่
ใหญ่น้ าตาก็ไหลออกเป็ นสาย "ฝ่ าบาท... พระองค์ทรงเป็ นดัง่ เทพของหม่อมฉัน เป็ นบุรุษที่หม่อมฉันรักมากที่สุด หม่อม
ฉันไม่อาจทนให้ผใู ้ ดก็ตามมาหยามพระเกียรติแม้แต่นอ้ ย ที่ทาไปหม่อมฉันไม่เสี ยใจ คนเช่นตู๋กูซิงหลัน แม้แต่ตาหนัก
เย็นก็ไม่สมควรจะได้รับ"
ฉี ผิน"....!!! " สตรี ตระกูลตู๋กู แต่ละคนต่างไม่ธรรมดาจริ งๆ คาพูดน่าละอายเหล่านี้กลับพูดออกมาได้

บนหลังคาตู๋กูชิงหลันหัวเราะเบาๆ เมื่อมองจากด้านหลังพระเศียรของฮ่องเต้ลูกชาย ทาให้คิดถึงตอนที่นางพึ่งย้อน


อดีตกลับมา ก็ถูกฮ่องเต้พระองค์น้ ีถีบลงจากเตียง หากว่า สามารถใช้วิธีกอดขาแล้วได้ผล นางคงทาแต่แรกไปร้อยรอบ
พันรอบแล้วยังต้องรอให้ถึงมือของตู๋กูเหลียงอีกหรื อ?

ฮ่องเต้สุนขั องค์น้ ีราวกับภูเขาน้ าแข็งที่หล่อขึ้นจากเหล็ก อิสตรี ไม่มีผลต่อเขาแม้แต่น้อย!

ตู๋กูซิงหลันชมดูอย่างสนุกสนานอยูบ่ นหลังคา จนเผลอเรอเขย่าขา ทันใดนั้นใต้ร่างนางก็เกิดเสี ยงดังเปรี๊ ยะ นาง


ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี !

" หม่อมฉัน..." เหลียนไฉเหริ น น้ าตาคลอเต็มดวงหน้า นางยังไม่ยอมถอดใจ คิดจะกล่าวแก้ แต่คาพูดยังไม่ทนั


ออกจากปากทันใดนั้นก็รู้สึกถึงสายลมวูบเหนือศีรษะ เห็นเงาดาของคนผูห้ นึ่งร่ วงลงมาพร้อมกับแผ่นมุงหลังคา พอดิบ
พอดีเหยียบลงบนท้องของนาง ผูค้ นไม่ทนั มีปฏิกิริยาก็ได้ยนิ เสี ยง

"ปุ๊ ด~ปุ๊ ดดดดดดดด~~~~" ดังชุดใหญ่อย่างชัดเจน

กลิ่นเหม็นหึ่ งจากตัวเหลียนไฉเหริ นโชยตลบอบอวลไปทั้งตาหนัก เหลียนไฉเหริ นแทบคิดจะกระอักเลือดออกมา


นางไม่คิดไม่ฝัน ว่า ตัวเองจะทาเรื่ องอับอาย ถึงขนาดผายลมต่อเบื้องพระพักตร์ ของฝ่ าบาทที่นางเคารพบูชา
ที่น่าอนาถยิง่ ขึ้นไปอีกก็คือ ท้องของนางราวกับท้องทะเลที่ถูกพลิกคว่า ธาตุภายในร่ างกายสับสนอลหม่านไม่อาจ
กลั้นได้อีก เมื่อผายลมออกมาติดๆ กัน ทุกอย่างที่เคยหยุดไว้ก็ราวกับประตูเขื่อนที่พลันแตกทะลักครื ดคราดไม่ยอมหยุด
นางคิดอยากจะตกตายไปเสี ยตอนนี้

พระพักตร์ที่เดิมทีไร้อารมณ์ของฝ่ าบาทกลายเป็ นดามืด ดวงพระเนตรดาขลับยามนี้วาวโรจน์จบั จ้องอยูบ่ นร่ างของ


คนชุดดาที่เหยียบเอาเหลียนไฉเหริ นลงไปเต็มๆ

ผูค้ นในตาหนักต่างตื่นตะลึงกับเสี ยงผายลมอันน่าตกใจของเหลียนไฉเหริ น จนต่างตกอยูใ่ นภวังค์ไม่ทนั มีปฏิกิริยา


ใดๆ ยังคงเป็ นหลี่กงกงที่ ได้สติก่อนใครรี บโก่งคอร้องราวกับเป็ ดตัวผู ้

" มีคนร้ายยยยยย! จับคนร้ายเร็ว จับบบบคนร้ายยยย โอ๊ยยยยยย .... เหม็นแทบตายแล้ว "

ตู๋กูซิงหลัน "...." ขออภัยนางไม่ควรมาชมดูความคึกครื้ น ยิง่ ไม่ควรชมดูไปอวดเก่งไปด้วย อวดเก่งก็แล้วไป ยังจะ


เขย่าขาหาสวรรค์วิมานอะไร ชาติก่อนเป็ นเจ๊ใหญ่เสี ยจนเคยชินลืมไปว่า ร่ างนี้เป็ นมือใหม่ขนาดไหนช่วงเวลาไม่นานยัง
ไม่สามารถปรับตัวได้ เผลอคิดไปว่าตัวเองยังเป็ นปรมจารย์นกั พรตมีวิชาตัวเบาเหาะเหิ นเดินอากาศได้

นางรี บลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ วมองตรงไปยังใบหน้าดาทะมึนของฮ่องเต้ ฉี กยิ้มหวาน

"ฝ่ าบาทลูกแม่..."

คนทั้งหลายถึงได้มองชัดว่าไม่ใช่คนร้ายที่ไหน แต่เป็ นไทเฮาน้อยที่ถูกสั่งขังอยูใ่ นตาหนักเย็นต่างหาก ชัว่ ขณะนั้น


ทุกคนต่างก็คิดถึงคาเรี ยกหา เมื่อครู่ 'ฝ่ าบาทลูกแม่ '
ไทเฮาน้อย อายุเพียงสิ บห้าปี ฝ่ าบาทปี นี้มีพระชันษายีส่ ิ บสามแล้ว มากกว่านางถึงแปดปี นางเอาความกล้าหาญจาก
ที่ไหนมาเรี ยกเช่นนั้น ทุกคนต่างเห็นชัดเจน สองพระเนตรของฮ่องเต้ สาดแสงเกรี้ ยวกราด

"คุม้ ครองฝ่ าบาท" ทันใดนั้นราชองครักษ์ต่างบุกเข้ามาทางหนึ่ ง คุม้ ครองฮ่องเต้ผสู ้ ู งศักดิ์ ทางหนึ่ง ล้อมตัว ตู๋กูซิงห
ลันไว้

อี๋! คนร้ายคิดใช้พิษโจมตีหรื อไร นี่มนั เหม็นขนาดรมคนให้ตายได้

ตู๋กูซิงหลันถอยหลังไปก้าวหนึ่ ง กลั้นลมหายใจ แล้วค่อยกล่าวแก้ตวั คลายความอึดอัดให้ตนเอง " ทาไมกัน ข้าเป็ น


ห่วงญาติผนู ้ ้องไม่อาจวางใจ มาเยีย่ มดูนางเสี ยหน่อย คิดไม่ถึงว่าแม้แต่ฮ่องเต้ลูกก็..... " พูดถึงตอนนี้ นางรู ้สึกถึง
บรรยากาศเย็นเยือกราวกับจะแช่แข็งคนภายในตาหนัก ก็รีบเปลี่ยนคาพูดใหม่ "คิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้ บังเอิญเสด็จมา ไม่พบ
กันเดือนนึ ง ข้าคิดถึงยิง่ นัก "

คิดถึง? ยัยตัวปัญหานี่ยงั ไม่ยอม ล้มเลิกความคิดที่จะล่อลวงฝ่ าบาท พวกเขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ทาไมนางถึง


ได้เปิ ดเผยชัดเจน จนไม่รักษาหน้าขนาดนี้ เหลียวดูพระพักตร์ฮ่องเต้ มืดครึ้ มเสี ยจนราวกับพายุจะเข้า ทุกคนต่าง คุกเข่า
ราบลงไม่กล้าส่ งเสี ยงแม้แต่น้อย

เหลียนไฉเหริ นถึงกับสมองขาวโพลน นังตู๋กูซิงหลัน! มันมาแล้ว!

นางรี บกลับลากราบทูลว่า "ฝ่ าบาท ตู๋กูซิงหลัน เสี ยสติไปแล้ว ตอนอยูต่ าหนักเย็นนางบังคับให้หม่อมฉันดื่มน้ าเน่า
แล้วยัง บังอาจด่า ว่าท่านอกตัญญู ตอนนี้ ยังรี บมาที่นี่ หวังทาให้หม่อมฉันอับอายต่อหน้าผูอ้ ื่น คิดจะให้ฝ่าบาททอดทิง้
หม่อนฉัน" พูดจบก็ทนไม่ไหว ปล่อยเสี ยงปรู ดปราดออกมาอีกสองสามครั้ง

ตู๋กูซิงหลันขมวดคิ้วสี หน้าราว กับไม่ได้รับความเป็ นธรรม


" เหลียงเอ๋ อร์ นัน่ คาพูดหรื อปล่อยตด? "

เรี ยกนางว่าเหลียงเอ๋ อร์แบบนั้นแทบทาให้เหลียนไฉเหริ นแข็งเป็ นหิ น แล้วยังเรื่ องตดอีกยิง่ ทาให้นางอับอายหน้า


แดงจนถึงใบหู นางหมดกาลังไร้เรี่ ยวแรง แก๊สที่มีมวลอยูใ่ นกระเพาะก็กลั้นไม่อยูน่ ี่ ไม่กลายเป็ นพูดไปตดไปหรื อ ยังไม่
ทันได้พูดอะไร ก็เห็นตู๋กูซิงหลันน้ าตาคลอ แทบหยาดหยด โศกเศร้าเกินระงับ

" เจ้าเป็ นน้องสาวที่ขา้ รักมากที่สุด ข้ามีแต่จะหวังให้ฝ่าบาทอายุยนื หมื่นปี แต่งตั้งเจ้าเป็ นฮองเฮา ครองรักกันชัว่ ฟ้า
ดินสลาย ไหนเลยจะ..."

นางไม่ทนั พูดจบ ก็ทาท่ากล้ ากลืนความเจ็บปวดใจอย่างน่าสงสาร ดูแล้วยิง่ อ่อนแอเปราะบางยิง่ กว่าเหลียนไฉเห


ริ นเสี ยอีก

เพียงพูดออกมาคนทั้งหลายก็หน้าเปลี่ยนสี เหลียนไฉเหริ นถึงกับขวัญกล้าบังอาจวาดหวังถึงตาแหน่งฮองเฮา

" เจ้า "

เหลียนไฉเหริ นโกรธจนแทบกระอักเลือด นางย่อมคิดจะเป็ นฮองเฮา ในวังหลังนี้มีสตรี คนใดบ้างไม่คิดจะเป็ น


ฮองเฮา? แต่เมื่อนังตัวปัญหานี้ พูดออกมา กลับกลายเป็ นตัวนางเหลียนไฉเหริ นไม่เคารพเบื้องสู ง อีกทั้งตู๋กูซิงหลันไม่ให้
โอกาสนางแก้ตวั แม้แต่นอ้ ย ทุกคนต่างเห็นนางเปล่งเสี ยงได้คาเดียว ก็หมดแรงล้มลงกับพื้นแทบเท้าของฮ่องเต้
ตอนที่ 7 ข้ าภูมิใจที่ข้าความจาเสื่ อม

“แท้จริ งแล้วเจ้ากับไร้น้ าใจถึงเพียงนี้ ใส่ ร้ายข้าไม่หยุดไม่หย่อน ข้า.... ข้าปวดใจราวกับถูกมีดบาด หากก่อนหน้านี้


ไม่เคยรักเอ็นดูเจ้าก็คงดี "

ตู๋กูเหลียง "..." สุ ดยอด! ทาไมนางตัวร้ายนี่ถึงได้เสแสร้งได้เก่งกว่าข้าเสี ยอีก สมจริ งเสี ยจนข้าไม่เหลือทางเดิน

คนทั้งหลาย "........ "

ตู๋กูซิงหลันไม่สนใจเหลียนไฉเหริ นอีก นางเงยหน้ามองฮ่องเต้ที่ประทับนิ่งอยูเ่ บื่องหน้า สองตาน้ าตาคลอหน่อย


แทบริ นไหล นางเอื้อมมือออกไปยังพระพักตร์ที่หมดจดงดงามราวเทพปั้นของฮ่องเต้ กล่าวอย่างจริ งใจว่า"ฝ่ าบาท ข้ารู ้
ว่าท่านยังเข้าใจในตัวข้าผิดไป ข้าสาบานได้ ที่ผา่ นมาข้ารักท่านราวกับลูกแท้ๆ ไม่เคยคิดนอกลู่นอกทางแม้แต่นอ้ ย
เหตุการณ์ในวันนั้นทั้งหมดเป็ นความเข้าใจผิด ข้าคิดมาตลอด หากอดีตฮ่องเต้ยงั อยู่ และหากข้าและพระองค์สามารถมี
บุตรงดงาม องอาจกล้าหาญเช่นเดียวกับท่าน แม้ตายก็ไม่เสี ยดายแล้ว! "

คนทั้งหลาย "...... " ว่าไปถึงมีลูกเลยรึ นี่มนั ประจบจนทุกคนอยากจะเค้นคอนาง

ฮ่องเต้กลับรับฟั งจนขมวดคิว้ สาดพระเนตรเย็นวาบออกมา

" เจ้ายังคิดจะมีลูกอีก หื้ อ? "

ตู๋กูซิงหลันปวดตับ "..... " เจ้าฮ่องเต้ภูเขาน้ าแข็งลูกสุ นขั นี่จบั ประเด็นผิดไปแล้ว ต้องโทษที่นางปากดี พูดมาก
ทาไม" ฝ่ าบาททรงพระเมตตา ข้าไม่มีเจตนาพูดเช่นนั้น"

ตู๋กูซิงหลันปฏิกิริยาว่องไว น้ าตาหยดไหลเป็ นสาย แล้วทอดถอนใจ " ข้าเฝ้าย้าเตือนตนเองตลอดเวลาว่า เป็ นเพียง


แม่หม้าย เฮ่อ ทาไม ทาไมท่านไม่เข้าใจจิตใจของข้านะ" ท่าทางผิดหวังประกอบกับใบหน้าที่งดงามหม่นหมองยิง่ ทาให้
ผูค้ นสงสาร อย่างว่าสาวงามขนาดนี้พูดอะไรก็ดูเป็ นจริ งไปเสี ยหมด ว่าตามจริ ง นางอายุน้อยเพียงแค่น้ ีตอ้ งมาโดดเดี่ยว
ลาพังตลอดชีวิต นับว่าเป็ นเรื่ องน่าสงสาร

ฮ่องเต้เพ่งมองนางอยูค่ รู่ หนึ่ง มองเสี ยจนตู๋กูซิงหลันใจสั่นขนลุก เขาจึงได้ออกปาก " ออกไปซะ"


เพียงแค่สามคาแต่ราวกับดาบน้ าแข็งเสี ยดแทงผูค้ น ราชองครักษ์ ทั้งหลายก็เขยิบเข้าหาตู๋กูซิงหลัน

เหลียนไฉเหริ นลืมตากว้างในทันใด ยังดี ฝ่ าบาททรงพระปรี ชาไม่ถูกนางมารนี้ ล่อลวง

สายตาของตู๋กูซิงหลันหยุดอยูบ่ นร่ างของฮ่องเต้ แต่ในใจทางหนึ่ง ก็ภาวนาถึงบรรพบุรุษทั้งสิ บแปดรุ่ นของเขา


ทางนึงก็ลงั เลจะขัดขืนดีหรื อ ถอดใจดี ดูเหมือนว่าลงจากเวทีแบบนี้จะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

ขณะที่เหล่าราชองครักษ์กาลังจะลงมือเข้าใกล้ต๋ กู ูซิงหลัน

ฮ่องเต้ก็ส่งสายพระเนตรแหลมคมราวกับเข็ม " เราสั่งให้พวกเจ้าพานางออกไป! " ฮ่องเต้ตรัสด้วยเสี ยงที่เย็นขึ้นอีก


หลายระดับ สายพระเนตรก็ไปตกลงบนร่ างของเหลียนไฉเหริ น

" ข้าหรื อ? " เหลียนไฉเหริ น ถึงกับงงจนโง่ไปแล้ว

ฮ่องเต้ขมวดคิ้วแน่นขึ้น " เรารังเกียจคนที่ผายลมที่สุด"

เหลียนไฉเหริ น"....." นางเพียงแค่ตดต่อเนื่อง ไม่กี่ครั้ง หรื อความผิดยังมากกว่านางตู๋กูซิงหลันตัวร้ายนัน่ อีก

ตู๋กูซิงหลันครุ่ นคิดอยูใ่ นใจ คนกินอาหารหลากหลายใครบ้างจะไม่ตด หรื อจะต้องให้คนกลั้นตดเอาไว้ตลอด?

ฉี ผินรี บจดจาเอาไว้ในใจ อีกหน่อยไม่อาจผายลมที่หน้าพระพักตร์เด็ดขาด แม้แต่ปล่อยลมเบาๆ ก็ไม่ได้

" นิ่งกันอยูท่ าไม? ยังไม่รีบลากออกไปอีก! ให้ฝ่าบาทต้องมาทนกลิ่นเหม็นถึงเพียงนี้ พวกเจ้าสมควรตาย" หลี่กง


กงตะโกนร้องสั่งเสี ยงแหลมราวเป็ ดตัวผู ้

น่าสงสารเหลียนไฉเหริ นถูกหิ้ วออกไปราวกับลูกเจี๊ยบตัวนึ ง ตลอดทางได้แต่ตะโกนร้องเรี ยกฮ่องเต้ดว้ ยหัวใจที่


แตกสลาย ฮ่องเต้กลับไม่ได้ยนิ แม้แต่น้อย สายตาเพียงหันมามองตู๋กูซิงหลัน ตู๋กูซิงหลันถูกมองจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น
เจ้าภูเขาน้ าแข็งก้อนใหญ่น้ ี สายตาพิฆาตราวกลับมีดดาบ สามารถเชือดเฉื อนหัวใจคนได้ นางอดไม่ได้ตอ้ งกลืนน้ าลาย
ลงไปอึกนึ ง ขณะจะเปิ ดปากพูด ฮ่องเต้กลับชิงพูดขึ้นมาเสี ยก่อน " เจ้าอยูน่ ี่ คนอื่นถอยออกไปให้หมด"

" ฝ่ าบาท" ฉี ผินหน้าเปลี่ยนสี ฝ่ าบาทกับตู๋กูซิงหลัน ชายหญิงอยูเ่ พียงลาพังในห้องรโหฐาน หากว่ายัยตัวร้ายนี่ใช้


เล่ห์มารยากับฝ่ าบาทอีก อาศัยความงามของนาง....... ผลที่เกิดขึ้นใครจะกล้านึ ก

" หนวกหู" ฮ่องเต้กบั เพียงครั้งเดียว ฉี ผินก็ตกใจจนแทบฉี่ ราดรี บร้อนจากไป

เพียงชัว่ ครู่ ท้ งั ตาหนักก็ตกอยูใ่ นความเงียบ มีเพียงกลิ่นผายลมที่ยงั เหม็นอยูจ่ างๆ

ตู๋กูซิงหลันอยูท่ ี่ขา้ งกายเขา นาทีน้ ียนื ก็ไม่ได้คุกเข่าก็ไม่ดี เพียงแค่ภูเขาน้ าแข็งนั้นมองนางแค่แว๊บเดียว นางก็รู้สึก


ไม่สบายทั้งตัว

เงียบอยูพ่ กั ใหญ่ฝ่าบาทจึงได้ตรัสเรี ยกชื่อนางด้วยน้ าเสี ยงเย็นเยียบ "ตู๋กูซิงหลัน"

"เพคะ" ตู๋กูซิงหลันรี บขานรับราวกับนักเรี ยนที่ถูกครู เรี ยกชื่อ หากว่าสามารถกระดิกหางเข้าไปประจบสอพลอได้


ก็คงจะดี ศักดิ์ศรี คืออะไร เทียบกับชีวิตแล้วไม่สาคัญแม้แต่นอ้ ย

" เจ้าไม่กลัวตายจริ งๆ แม้แต่ตอนนี้ยงั คิดจะล่อลวงเรา " ฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ าเสี ยงนุ่มนวล แต่สายพระเนตรโหดเ**


้้ยมเข้มข้น

ตู๋กูซิงหลันแทบจะกระอักเลือดใส่ หน้าเขา ในโลกนี้ ยังจะมีใครมัน่ ใจในตัวเองไปกว่านางอีก

เจ๊งามเลิศเลอเป็ นนางฟ้า รู ปร่ างรึ ก็ราวกับเทพปั้น ยังจะต้องมาอ่อยเจ้าอีกหรื อ? เอาเถอะ! ถึงแม้เจ้าฮ่องเต้ลูกหมา


น้อยตัวนี้จะหน้าตามีดีอยูบ่ า้ ง แต่พูดตามจริ ง ยังคงเป็ นแตงแก่เถาเก่าขอโทษที ไม่ถูกปาก เจ๊แม้แต่นอ้ ย

ตู๋กูซิงหลัน อ้าปากจะพูด ก็ถูกฝ่ าบาทชิงพูดปิ ดปากเสี ยก่อน " ปี นั้น เราเคยให้โอกาสเจ้าแล้ว เจ้าไม่รู้จกั รักถนอม
ตอนนี้ มาทาเช่นนี้ ทาให้เรารู ้สึกรังเกียจเจ้านัก" เสี ยงของเขาเยือกเย็น เสี ยบแทงเข้าไปในกระดูก
ตู๋กูซิงหลันอดยูป่ ากไม่ได้ ตอนนี้นางเริ่ มปวดหัวแล้ว ถามหน่อย 'ปี นั้นเราเคยให้ โอกาสเจ้ าแล้ ว' นะตอนไหน เจ้า
ลูกหมา ช่วยอธิบายให้ชดั เจนหน่อยได้ไหม โปรดกรุ ณาเห็นใจคนความจาเสื่ อมด้วย ผ่านไปอีกพักใหญ่นางถึงได้ยิ้ม
ออกมาราวกับจะร้องไห้

" ฮ่องเต้ พูดไปท่านอาจไม่เชื่อ นับตั้งแต่ขา้ คิดสั้นฆ่าตัวตายคราวนั้น ก็ความจาเสื่ อมไปแล้ว ฉะนั้นปี นั้นเกิดเรื่ อง


อะไร ก็จาไม่ได้เลย"

นางทาท่าภาคภูมิใจใน' ข้าความจาเสื่ อม' ของตนเอง

พอนางพูดออกไปเช่นนี้ก็เห็นฮ่องเต้ยงิ่ หน้าดาเรากับก้นหม้อใบหนึ่ ง เขาไม่พูดอะไรอยูเ่ ป็ นนานกลับเอาแต่จอ้ ง


มองนางเขม็ง จ้องเสี ยจนตู๋กูซิงหลันแทบจะสารภาพเรื่ องที่นางย้อนอดีตกลับมา นางกลืนน้ าลายลงไปอึกใหญ่ ทาหน้า
หนาหน้าทนเข้าไว้ " ไม่ง้ นั ก็ ~ ท่านช่วยมีน้ าใจสักหน่อย ปี นั้นข้าทาอะไรไม่ดีเป็ นการรังแกท่าน อีกหน่อยจะเป็ นวัว
เป็ นม้าชดใช้ให้ก็แล้วกัน"

คิดคิดดู ไทเฮาน้อยเป็ นคุณหนูนอ้ ยที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างเอาใจในจวน แต่ฮ่องเต้ลูกหมาน้อย ถึงจะเป็ นพระโอรส


เพียงองค์เดียวที่เกิดจากฮองเฮา แต่กลับไม่ได้รับความโปรดปราน หากเจ้าของร่ างเดิมเคยรังแกเขาอยูบ่ า้ ง ก็คงจะเป็ นไป
ได้ม้ งั ~

ไม่ถูกสิ ! เจ้าของร่ างนี้อ่อนแอเปราะบางราวกับลูกแก้ว อย่างมากก็แค่โต้เถียงกับเหล่าพี่สาวน้องสาวในจวน ที่ปีน


เตียงมังกรได้ก็นบั ว่ากล้าหาญสุ ดแล้ว ไหนเลยจะมีความกล้ามารังแกฮ่องเต้สุนขั น้อยได้อีก

ฮ่องเต้ "......" พระพักตร์ดาอึมครึ ม

พระเจ้าช่วย!! ตู๋กูซิงหลันคิดว่านางไม่รอดแน่แล้ว เจ้าลูกหมานี่ทาไมถึงไม่เอาดาบแทงนางให้จบๆ ไป

ผ่านไปอีกนาน นานจนนางคิดว่าเขาตายไปแล้ว ฮ่องเต้ถึงได้ส่งเสี ยงเยือกเย็นออกมาคานึง " ฮึ"

เช็ด!! นายจ๋ า ร้องเป็ นแต่คาว่า 'ฮึ' รึ ไงจ๊ะ!!


ตอนที่ 8 แต่โบราณยอดบุรุษล้วนยึดมั่นในรัก

ตู๋กูซิงหลัน ได้แต่ฉีกยิม้ ประจบประแจง แทบจะเข้าไปทุบขาให้เขา

" ฝ่ าบาท ช่างสมกับเป็ นบุตรมังกร แม้แต่เสี ยง 'ฮึ ฮะ' ยังน่าฟัง"

ลูกผูห้ ญิงยืดได้หดได้ นางต้องอดทนๆ

จีเฉวียนหรี่ พระเนตรลง พูดกดเสี ยงต่าว่า "ตู๋กูซิงหลัน เจิ้นประเมินความหน้าหนาของเจ้าต่าไปแล้ว"

แม่โว้ย ทนไม่ไหวแล้ว!

'เจ้ าผี สิ งมันเลย จัดเลย' ตู๋กูซิงหลัน ตะโกนอยูภ่ ายในใจ

วิญญาณทมิฬอยากจะแกล้งตายนัก มันเป็ นเพียงจิตวิญญาณดวงหนึ ง เบื้องหน้าคือ โอรสสวรรค์ ไอมังกรคุม้ ครอง


กาย มารร้ายไม่อาจกล้ ากราย หากว่าเข้าสิ งเขาได้ก็แปลกแล้ว

นังเด็กน่าตายไม่รู้จกั เห็นใจมันแม้แต่น้อย!

ดังนั้นวิญญาณทมิฬถวนจื่อได้แต่แสดงความสามารถแกล้งตายอย่างเหนือชั้นของมันโดยการสลายตัวเป็ นควันหนี
ไปกบดาน ไม่สนใจเสี ยงเรี ยกของตู๋กูซิงหลัน

ตู๋กูซิงหลันใช้คาถาไม่สาเร็ จได้แต่ยมิ้ แห้งๆ

จีเฉวียนเห็นท่าทางของนางก็รู้สึกว่าสตรี ผนู ้ ้ ีรู้จกั เสแสร้งยิง่ นัก เขานัง่ อยูบ่ นเก้าอี้แสดงท่าทีกดดันใส่ ต๋ ูกูซิงหลัน


ตรัสไปทีละคาว่า " ไม่วา่ เจ้าจะใช้เล่ห์กลมารยาใด ชาติน้ ีอย่าคิดว่าจะทาให้เราหลงไหลได้อีก และอย่าได้คิดหนีออกจาก
ตาหนักเย็น หากครั้งหน้ายังลอบออกมาอีกเราจะตัดขาเจ้าทิ้งเสี ย"

ทั้งถ้อยคา และน้ าเสี ยงของเขาเห็นชัดว่าไม่ได้มองนางเป็ นพระมารดาแม้แต่นอ้ ย


ตู๋กูซิงหลันราวกับเห็นผี นางกับเจ้าหมาน้อยนี่มีแค้นฝังลึกอะไรกันหรื อเปล่า?

" ฝ่ าบาท พวกเราอย่างไรก็เป็ นครอบครัวเดียวกัน " เมื่อจวนตัวนางก็เปลี่ยนเอาความสัมพันธ์มาใช้ เรี ยกความเห็น


ใจ

" เฮ่อ ขอเพียงท่านสบายใจ จะให้ขา้ อยูใ่ นตาหนักเย็นตลอดชีวิตก็ไม่เป็ นไร"

เมื่อคิดให้ดีตาหนักเย็นก็ไม่มีอะไรไม่ดี ก็แค่กกั บริ เวณ ใครบ้างไม่เคยโดน

"ดี" จีเฉวียน ยิม้ เย็น สตรี ผนู ้ ้ ีไม่ธรรมดาจริ ง ก่อนนี้ล่อลวงอดีตฮ่องเต้ ต่อมาก็แกล้งความจาเสื่ อม ช่างรู ้จกั แสดงนัก
อายุนอ้ ยเพียงแค่น้ ีจิตใจกับลึกล้ า ตาแก่ในตระกูลตู๋กูช่างรู ้จกั เลี้ยงดูลูกหลานนัก

" ตามแต่ใจเจ้า"

จีเฉวียนพระพักตร์เรี ยบเฉย กระจ่างราวดวงอาทิตย์หลังก้อนเมฆไม่เปิ ดเผยความนึ กคิดแม้แต่นอ้ ย

หากไม่ใช่เพราะตู๋กูถิงนากองทัพครึ่ งหนึ่งมาแลก สตรี ผนู ้ ้ ีคงตายไปแล้วร้อยรอบพันรอบแล้ว

" ขอบพระทัยในพระเมตตา"

สายพระเนตรจีเฉวียนราวกับเพิ่มหมอกดาอาพราง เขาพลันพบว่าสตรี ผนู ้ ้ ีเสแสร้งแกล้งทาเป็ นเสี ยสติได้สมจริ งยิง่


นัก จนรู ้สึกเสี ยดาย หรื อจะไม่สมควรฆ่านาง

" ฝ่ าบาท หม่อมฉันขอพระเมตตา เข้าเฝ้า" ทันใดนั้นเสี ยงนุ่มนวลของบุรุษผูห้ นึ่ง ก็ดงั มาจากหน้าประตู


"ทูลอี้อ๋อง ฝ่ าบาททรงสะสางราชกิจอยูภ่ ายใน เกรงว่าจะไม่สะดวกให้ท่านเข้าเฝ้า" หลี่กงกงเข้าขวางคนไว้ที่หน้า
ประตู

" หม่อมฉันมีเรื่ องสาคัญ จาเป็ นต้องเข้าเฝ้าฝ่ าบาท" อี้อ๋องรออยูท่ ี่หน้าประตู " หากฝ่ าบาทไม่สะดวก หม่อมฉัน
ยินดีรออยูด่ า้ นนอก จนกว่า ฝ่ าบาทจะให้เข้าเฝ้า"

ภายในตาหนัก จีเฉวียนใช้สายตาราวเมฆดาปกคลุมจ้องมองตู๋กูซิงหลัน "เจิ้นประเมินความสามารถในการล่อลวง


บุรุษของเจ้าต่าไปแล้ว"

ตู๋กูซิงหลัน "??? " นางอยูข่ องนางดีๆ จะไปล่อลวงใครได้ แม่จ๋า เจ้าลูกสุ นขั นี่ พูดจาอย่าได้อมพะนากันได้ไหม
นางคือไทเฮา คือพระมารดาของเขานะ อย่างน้อยๆ ควรจะให้ความเคารพกันบ้าง

ด้านนอกตาหนัก

ขณะที่หลี่กงกงกาลังร้อนใจดังไฟเผา ประตูตาหนักก็เปิ ดออก

เห็นเพียง พระพักตร์เคร่ งขรึ มของฮ่องเต้ สายพระเนตรก็เย็นเฉี ยบราวธารน้ าแข็งเพ่งมองไปยังบุรุษด้านหน้า " ดึก


ดื่นค่าคืน เข้ามายังตาหนักในของเรา อี้อ๋องมีธุระอันใด"

" วันนี้เป็ นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระมารดา

หม่อมฉันจึงไม่ได้รีบร้อนกลับตาหนัก พอดีได้ยนิ ว่าไทเฮาเสด็จมา ก็นึกขึ้นมาได้เรื่ องหนึ่ ง จึงคิดรี บมากราบทูลฝ่ า


บาท"
ตู๋กูซิงหลันมีความทรงจาดีมาก อี้อ๋องคนนี้ คือพ่อสุ ดหล่อคนที่มอบหยกให้นาง!! ซวยละ อี้อ๋องก็คือ น้องชายต่าง
มารดาของฮ่องเต้หรื อ?

งามหน้าล่ะทีน้ ี ไทเฮาน้อยหางานให้นางแล้ว ทั้งที่มีความสัมพันธ์กบั อี้อ๋อง แล้วทาไมถึงไปแต่งให้กบั คนพ่อ?


แต่งให้กบั พ่อก็แล้วไป แต่ยงั ไปปี นเตียงของพี่ชายอีก?

อ้า! ความสัมพันธ์ยงุ่ เหยิงจนนางปวดหัวไปหมด

เมื่อเห็นประกายตาของตู๋กูซิงหลัน จีเฉวียนชะงักร่ างไปชัว่ ครู่ ค่อยเบี่ยงพระองค์บดบังสายตาของนางไว้แล้วจึง


หันไปตรัสตอบจีเย่ว์ " อี้อ๋อง เรา แต่ไหนแต่ไรไม่ชอบอ้อมค้อม"

" ยามนี้ชายแดนวุน่ วาย ฝ่ าบาทพึ่งขึ้นครองราชย์ หม่อมฉันยินดีถวายพื้นที่เขตเหนือ เติมเต็มท้องพระคลัง เพียงขอ


ฝ่ าบาททรงละเว้นหนทางให้ไทเฮา" จีเย่วพ์ ูดจบก็นาตราประทับของตนสองมือทูลเกล้าฯ ถวายแด่ฮ่องเต้

" นี่จะ....." หลี่กงกงที่ดา้ นข้างสู ดลมหายใจเข้าไปอย่างเหน็บหนาว

ทุกคนต่างรู ้วา่ หัวเมืองเขตเหนื อของอี้อ๋อง เป็ นแห่งเดียวในต้าโจวที่เทียบเคียงกับนครหลวงได้ ไม่รู้วา่ เป็ นที่อิจฉา


ริ ษยาของเหล่าเชื้อพระวงศ์กี่มากน้อย บัดนี้บอกว่ามอบให้ก็มอบให้?

" นี่เป็ นเรื่ องเร่ งร้อนที่ดึกดื่นค่าคืนอี้อ๋องเข้ามายังตาหนักในของเรารึ ? "

สายพระเนตรของจีเฉวียนไม่ขยับแม้แต่น้อย " หัวเมืองเหนือคือพื้นที่ศกั ดินาที่พระราชบิดา ครั้นยังมีพระชนม์อยู่


ทรงพระราชทานให้เจ้า เพื่อสตรี ผหู ้ นึ่งเจ้ายินดีสละ สมบัติที่พระบิดาทรงมอบไว้ให้ คุม้ ค่าหรื อ"

" หม่อมฉันทาเพื่อประเทศชาติ ย่อมคุม้ ค่าแล้ว เพียงแต่ไม่อาจทนเห็น ไทเฮาได้รับความยากลาบากในตาหนักเย็น


จึงได้ทูลขอฝ่ าบาททรงเมตตานาง อย่าให้ได้รับความอดอยาก หม่อมฉันและไทเฮาเติบโตด้วยกันตั้งแต่เล็ก ผูกพัน
เสมือนหนึ่ งพี่นอ้ ง ไม่อาจทนเห็นนางได้รับความยากลาบาก " เขากราบทูลน้ าเสี ยงไม่อ่อนไม่แข็ง
ตู๋กูซิงหลันอยูภ่ ายในตาหนัก กลับได้ยนิ พวกเขาพูดคุยกันอย่างชัดเจน ก็กระทบใจอย่างแรง ที่แท้ก็เพราะว่ารู ้จกั
คุน้ เคยกันมาแต่เด็ก ไม่น่าล่ะถึงได้ ปี นกาแพงตาหนักเย็นเข้ามาหา เพียงแต่สุดหล่อคนนี้ มีน้ าใจผูกพันกับไทเฮาลึกซึ้ง
เกินไปแล้ว เพื่อให้นางได้กินอิ่มสักมื้อถึงกับขนาดส่ งมอบเมืองให้ท้ งั เมือง

แล้วยังมาพูดจาอ้อมค้อมนับพี่นบั น้องอันใด หากว่าเป็ นเพียงพี่นอ้ งจริ ง นางยินดีจบั เจ้าผีนนั่ กลืนลงไปทั้งเป็ น

วิญญาณทมิฬ "..." อัว๊ ทาอะไรผิด ลื้อจะต้องมาจับอัว๊ กินทั้งเป็ น?

นับตั้งแต่แผ่นดินต้าโจวก่อร่ างสร้างเมืองก็ได้กาหนดกฏเกณฑ์แบบแผนไว้ เชื้อพระวงศ์สูงศักดิ์และขุนนางมี


คุณูปการ ล้วนมีสิทธิ์ได้รับศักดินาครอบครองพื้นที่ของตนเอง ยิง่ เป็ นเหล่าพระราชโอรสเมื่อเจริ ญวัยฮ่องเต้จะทรงเลือก
พื้นที่พระราชทานให้ดว้ ยพระองค์เอง

หากจะเปรี ยบเทียบเมืองหลวงนี้กบั ปั กกิ่ง เช่นนั้นหัวเมืองเหนือก็เปรี ยบได้กบั เซี่ยงไฮ้ดีๆ นี่ เอง หนึ่ งเมืองแลกข้าว
หนึ่งมื้อ? การค้าแบบนี้ไม่คมุ ้ ไปแล้วมั้ง?

" ขอฝ่ าบาททรงพระเมตตา" ที่ดา้ นนอกตาหนักจีเย่วก์ ลับถวายบังคมจีเฉวียนอย่างเต็มพิธีการ

ประกายพระเนตรของฮ่องเต้ยงิ่ มืดครึ้ มลง เขายังไม่ได้ทนั เอ่ยปากก็ได้ยนิ เสี ยงสาวน้อยในตาหนัก ตรัสว่า " ข้าไม่
เห็นด้วย! "

คนงาม นี่ไม่คุม้ เลย หากท่านจะมอบเมืองนั้นให้กบั ฮ่องเต้สุนขั มิสู้มอบให้ขา้ ดีกว่า

เพียงครู่ เดียวตู๋กูซิงหลัน ก็มาถึงปากประตู นางคว้ามือของจีเย่วผ์ ลักตราประทับนั้นคืนกลับไป


" ข้าอยูใ่ นตาหนักเย็นมีกินมีใช้ ไม่รบกวนให้ อี้อ๋องต้องกังวล" สายตานางสงบนิ่ง " อี้อ๋อง ก็อย่าได้จดจา เรื่ อง
สมัยเด็กอีกต่อไป ข้ายามนี้เป็ นไทเฮา ถึงแม้ไม่ระมัดระวังก่อเรื่ องสร้างความเข้าใจผิดไปบ้าง แต่ขา้ เชื่อมัน่ ในความ
บริ สุทธิ์ของตนเอง สักวันหนึ่ งความจริ งจะต้องปรากฏ"

ว่าแล้วนางก็ยกอ้างเหตุผล " ดังนั้น อี้อ๋องก็อย่าได้หาความลาบากให้ขา้ เป็ นที่ครหาอีก พระเกียรติของราชวงศ์ไม่


อาจด่างพร้อยได้"

จีเย่วถ์ ึงกับตื่นตะลึงไปแล้ว หลันเอ๋ อร์คิดจะตัดขาดกับเขาจริ งๆ!!??


ตอนที่ 9 สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าอดีตคนรัก

ฝ่ ามือของเขายังรู ้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากสัมผัสที่นิ้วมือของนางเมื่อครู่ เหมือนในอดีต เพียงแต่ครั้งนี้....... ไม่มี


โอกาสจะสัมผัสนางอย่างเปิ ดเผยอีกแล้ว

" หลัน...." เขากล่าวได้เพียงคาเดียว ก็รีบเปลี่ยนคาพูด " ไทเฮาพะยะค่ะ.... ท่าน..." พูดได้เพียงคาเดียวเขาก็เห็น


ประกายตาของตู๋กูซิงหลันมีแต่ความเฉยชา หัวใจของเขาก็พลอยเย็นเยียบไปด้วย

ดูท่าทางนางต้องการตัดขาดทุกความสัมพันธ์กบั เขาจริ งๆ เป็ นเขาเองที่หุนหันพลันแล่น สถานการณ์แบบนี้กลับ


คิดทูลขอพระเมตตาให้กบั นาง ด้วยพระอุปนิสัยของฮ่องเต้ นี่ย่อมเสมือนการเติมเชื้อเพลิงบนกองไฟ

เดิมทีคืนนี้เขาไม่ควรปรากฏกายแต่เพราะจิตใจสับสนวุ่นวาย ไม่อาจยับยั้งชัง่ ใจได้

จีเย่วเ์ งยหน้าขึ้นอีกครั้ง เพ่งมองตู๋กูซิงหลันอยูค่ รู่ หนึ่ ง " ไทเฮาพะยะคะ เป็ นหม่อนฉันบังอาจล่วงเกินพระองค์


แล้ว"

ตู๋กูซิงหลันไม่ได้หันไปมองเขาอีก สองตาเพียงจับจ้องอยูบ่ นร่ างของจีเฉวียน นางเผยรอยยิม้ งดงามล่มบ้านล่ม


เมือง " ฝ่ าบาททรงองอาจกล้าหาญ พระปรี ชาสู งส่ งหาใดเทียบ ก่อนที่ความจริ งจะเปิ ดเผยคิดว่าคงไม่ทาให้หม่อมชั้น
ต้องลาบากใจ "

นางตอนนี้ตอ้ งหาทางเอาตัวรอดอยูใ่ นวังเย็น ดังนั้นต้องประจบเอาใจฮ่องเต้ตา้ โจวองค์น้ ีให้ดี ไม่วา่ ไทเฮาน้อยและ


อี้อ๋องจะเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอันใดในอดีต ยามนี้ตอ้ งตัดให้ขาดสะบั้น มีแต่ครองตนให้บริ สุทธิ์ผดุ ผ่อง ตู๋กูซิงหลัน
ถึงจะมีชีวิตอยูต่ ่อไปได้!

โดยเฉพาะเมื่ออยูต่ ่อหน้าเจ้าลูกหมานี่ ไม่อาจแสดงอะไรที่ผิดต่อ'อดีตฮ่องเต้' แม้แต่นอ้ ย

จีเฉวียนหรี่ พระเนตรมอง ราวกับว่าอยากจะจับนางมาพลิกดูให้แน่ใจ สตรี นางนี้เปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนเป็ นลื่นไหล


ถึงเพียงนี้ ช่างขวัญกล้าบังอาจนะ!
ที่เคยเปราะบางนุ่มนวล. ทั้งหมดนัน่ เป็ นการแสดงใช่ไหม? ฮึ!

" ฝ่ าบาท~ ท่านเงียบงันไม่พูดจา ทาให้ขา้ กังวลใจตึกๆ ตักๆ เป็ นเพราะหม่อมชั้น พูดอะไรผิดอีกหรื อ" ตู๋กูซิงห
ลันพูดไปทาตาใสซื่อ ท่าทางน่าสงสาร

" ฮึ" จีเฉวียน ยิม้ เย็น ไม่คิดตรัสตอบนางแม้แต่น้อยพลางหันพักตร์กลับไปหาจีเย่ว์ " เจ้าก็เห็นแล้วนางเป็ นสตรี ไร้
ยางอายถึงเพียงนี้ เจ้าก็กลับไปเป็ นอี้อ๋องของเจ้าให้ดี เรื่ องที่ไม่ควรคิดก็อย่าได้คิด"

ทาเป็ นยอกย้อนสตรี นางหนึ่ งต่อหน้าอดีตคนรักของนาง คิดว่าเท่ห์นกั หรื อไง

ตู๋กูซิงหลัน "!!! " แม่เจ้าโว้ย อ้าย ๆๆๆ อยากจับเจ้าลูกเต่านี่ตบคว่านัก

วิญญาณทมิฬ " ที่เขาพูดก็ไม่ผิด เจ้าเคยรู ้จกั เหนียมอายที่ไหนกัน? "

ตู๋กูซิงหลัน "...... " ตกลงว่าเจ้าเป็ นภูติผีของใครกันแน่?

จีเย่วไ์ ด้แต่กาหมัดแน่น ไม่ระเบิดอารมณ์ออกมา เพียงตอบด้วยน้ าเสี ยงหนักแน่น " แต่ไหนแต่ไร หม่อมฉัน ไม่เคย
คิดในสิ่ งที่ไม่ควรคิด ฝ่ าบาททรงเข้าพระทัยผิดแล้ว ไทเฮาทรงพระเกียรติสูงส่ ง...." เขาพูดไม่ทนั จบคาก็หันไปถวาย
คานับ จีเฉวียนอีกครั้ง " หม่อมฉันพูดมากเกินไปแล้ว " จีเฉวียนเพียงแต่ทอดพระเนตรอย่างเยือกเย็น เขาโบกมือช้าๆ "
เรื่ องในคืนนี้ เจิน้ จะถือว่า เจ้าดื่มมากไป พูดพร่ าเพรื่ อ เก็บตราประทับของเจ้าไว้ ไปเถอะ! "

" อี้อ๋อง เชิญเสด็จ" หลี่กงกงที่ดา้ นข้างรี บมาเชิญคนออกไป ฝ่ าบาทแต่ไรก็ไม่โปรดน้องชายคนนี้ เกรงว่าหากอี้


อ๋ องยังอยูต่ ่อ คืนนี้คงมีเรื่ องใหญ่แน่ๆ

จีเย่ว์ กาตราประทับเอาไว้ในมือ ก้มหน้าลงไป สายตาก็เหลือบไปทาง ตู๋กูซิงหลัน เห็นตู๋กูซิงหลันไม่มองตนเอง


แม้แต่น้อยหัวใจก็เจ็บปวด " หม่อมฉันทูลลา "

อี้อ๋องออกมาฉากหนึ่ง บรรยากาศยิง่ มายิง่ น่าอึดอัดกว่าเดิม


ตู๋กูซิงหลันใช้สายตาส่ งเขาจากไป พลันรู ้สึกเจ็บปวดอยู่ในใจ นี่คงเป็ นความรู ้สึกของเจ้าของร่ างเดิม จริ งๆ เลย ตาย
ไปแล้วยังจะรักอยูอ่ ีก นางไม่ทนั ได้สติกลับมา สองหู พลันได้ยินเสี ยงเย็นเยียบเป็ นน้ าแข็ง

" เสี ยดายหรื อ? "

อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ นางแกล้งทาร้ายจิตใจอี้อ๋อง ที่จริ งยังอาลัยคนรักเก่า กลัวว่าเขาจะนาหัวเมืองเหนื อมาแลกจริ งๆ

ในไม่ชา้ เขาต้องรวบอานาจให้เบ็ดเสร็ จจัดการแผ่นดินให้เป็ นหนึ่งเดียว หัวเมืองเหนือ จะช้าเร็ วย่อมต้องตกเป็ น


ของเขา ไฉนจะต้องให้อ้ ีอ๋องมาทาเป็ นยกถวาย?

สิ่ งที่ตวั เขาจีเฉวียนต้องการ ล้วนได้มาพึ่งพาตนเองเท่านั้น

" เสี ยดงเสี ยดายอะไร? " ตู๋กูซิงหลันทาหน้าซื่อตาใส

จีเฉวียน" ฮึ "

เจ้าลูกหมานี่รู้สึกจักแต่ทาเสี ยงฮึ ฮึ เป็ นอย่างเดียวหรื อไง

" ตู๋กูซิงหลัน เจ้าทางที่ดีรู้จกั เก็บเนื้อเจียมตัวเสี ยบ้างจะได้มีชีวิตยืนยาวอีกหน่อย"

จีเฉวียนสาดสายตาเย็นเยือกใส่ สตรี ผนู ้ ้ ี ทิ้งไว้ก็มีแต่จะเป็ นภัย ยิง่ ไปกว่านั้น เขารังเกียจ นางยิ่งนัก วันนี้ไม่ฆ่า ก็จะ
ให้นางอยูไ่ ม่สู้ตาย สักวันหนึ่งเขาจะจัดการนางด้วยตนเอง

ตู๋กูซิงหลัน รู ้สึกถึงสายตาพยาบาทของเขาได้อย่างชัดเจน เจ้าหมอนี่คิดจะฆ่านางจริ ง?

จีเฉวียนหันหลังให้นางออกคาสั่งเยือกเย็น " โยนนางกลับไปตาหนักเย็น "

ราชองครักษ์ที่อยูเ่ ฝ้าอยูข่ า้ งนอกรี บเข้ามาจับคน

ตู๋กูซิงหลันร้อนใจรี บตะโกนว่า "ฝ่ าบาททรงมีเมตตา ขาแพะ ขาหมูยา่ ง ของหม่อมชั้นขอนากลับไปด้วยได้ไหม๊?


"
จีเฉวียน"..."

ตู๋กูซิงหลันถูกแบกหัวยกหางกลับมาตาหนักเย็นในที่สุด ขาแพะ ขาหมู ทั้งหลายก็ถูกขนกลับมาด้วย

เพียงแต่เจ้าฮ่องเต้สุนขั ที่น่าตายนัน่ ยังสั่งให้นางกินให้หมดในหนึ่งวัน หากเหลือเนื้ออยูเ่ ท่าไหร่ ก็ให้เฉื อนเนื้อนาง


ออกมาเท่านั้น

ฟังสิ ๆ! นี่ยงั ใช่คาพูดของคนอีกหรื อ?

ยังดีที่นางมีวิญญาณทมิฬตะกละกิน เนื้อห้าสิ บชัง่ ยังไม่พอยาขี้ฟันเสี ยด้วยซ้ า

ถวนจื่อ " แม่เจ้าโว้ย! ทีน้ ีรู้จกั คิดถึงข้าขึ้นมาแล้วสิ นะ หอมจริ งๆ "

ตู๋กูซิงหลัน " ข้าก็เอ็นดูเจ้ามาโดยตลอดมิใช่รึ? "

ถวนจื่อ " ไปซะ" เลีย้ วซ้ ายออกนอกประตูไปเลย ไม่ ส่งละนะ

................

" นายหญิง เชียนเชียนผิดต่อท่าน แงๆๆ "

พอพวกองค์รักษ์จากไปเชียนเชียนก็คุกเข่าลงตรงหน้าตู๋กูซิงหลันร้องไห้ราวกับเป็ นมนุษย์น้ าตาคนนึง

ล้วนเป็ นเพราะนางใช้ไม่ได้ นายหญิงถึงได้แอบไปโขมยของกินที่หอ้ งเครื่ อง ถึงได้ทาให้ฝ่าบาททรงพิโรธ


" ยังดีที่ท่านไม่เป็ นไร ไม่ง้ นั เชียนเชียนไม่คิดอยูอ่ ีกแล้ว จะแขวนคอตายตามท่านลงแม่น้ าเหลืองไปเลย ฮื้อฮือๆ
แงๆ "

ตู๋กูซิงหลันเงียบงันสี หน้าเคร่ งครึ ม " เด็กน้อย ดูท่าเจ้ามีบางเรื่ องผิดต่อข้าอยูจ่ ริ งๆ "

" เอ๋ ? " เชียนเชียนกอดขานางพลาง ทาตาโต กระพริ บตาไล่น้ าตาที่เอ่อท้น

ตู๋กูซิงหลันนาหยกชิ้นนั้นออกมาจากเอวแกว่งไปมาต่อหน้าเชียนเชียน " เจ้ารู ้วา่ ข้าสู ญเสี ยความทรงจา แล้วทาไม


ไม่บอกกันว่าข้าเคยมีบุรุษรู ้ใจ? "

" บุรุษรู ้ใจ? " ตอนแรกสายตาของเชียนเชียนมีเพียงความว่างเปล่าแต่พอเหลือบเห็นอักษร'เย่' บนป้ายหยกถึงได้


คิดออก ใบหน้าของนางขาวสลับแดงอย่างรวดเร็ ว

" นายหญิง ท่าน ท่านไยจดจาเย่อ๋องได้! หากไม่ใช่เพราะเขา ท่านย่อมไม่แต่งให้กบั อดีตฮ่องเต้ ไม่แต่งกับอดีต


ฮ่องเต้ ก็ไม่ตอ้ งมาตกระกาลาบากอย่างทุกวันนี้ ! "

พูดถึงจุดนี้เชียนเชียนก็อดแสดงความไม่พอใจไม่ได้ ตอนนั้นเพราะกังวลว่าเหนียงเนียงจะเสี ยใจ นางจึงไม่ได้เอ่ย


ถึงคนผูน้ ้ ี

" เรื่ องที่ผา่ นมาข้าลืมไปหมดแล้ว เจ้าเล่ามาให้ขา้ อย่างละเอียดเถอะ " ตู๋กูซิงหลันลากนางเข้าไปในห้อง แล้วปิ ด


ประตูเสี ย

เชียนเชียนยังลังเลใจอยูพ่ กั ใหญ่ ที่จริ งเหนียงเนียงความจาเสื่ อมก็ดีแล้ว จะได้ไม่ตอ้ งมาเสี ยใจอีก......

" พูดมาเถอะ ข้าอยากอยูอ่ ย่างคนรู ้เรื่ อง เจ้าไม่ตอ้ งกลัวข้าจะโศกเศร้า"


ตอนที่ 10 แม่ เจ้ า นี่มันละครน้าเน่ าเรื่ องใหญ่

หลังจากนิ่ งไปอยูน่ านสองนานเชียนเชียนถึงได้เริ่ มพูดขึ้นมา " นายหญิง อดีตฮ่องเต้มีพระโอรสเจ็ดองค์ อี้อ๋องจี


เย่วอ์ ยูล่ าดับที่หา้ เป็ นน้องชายต่างมารดาของฝ่ าบาท"

" อืม" เรื่ องนี้นางรู ้ ตอนอยูต่ าหนักอวี้เฉวียน ก็รู้ถึงฐานะที่แท้จริ งของเขาแล้ว

" อี้อ๋องจีเย่วเ์ กิดจากพระสนมเสี ยนเฟยพระสนมคนโปรดของอดีตฮ่องเต้ ดังนั้นอดีตฮ่องเต้จึงให้ความสาคัญกับ


เขาเป็ นพิเศษ อี้อ๋องตั้งแต่เล็กก็กราบนายผูเ้ ฒ่า หรื อท่านปู่ ของท่านเป็ นพระอาจารย์ ดังนั้นจึงมักไปๆ มาๆ ในจวนของ
ตระกูลตู๋กูเราอยูเ่ สมอ" พูดถึงตอนนี้ ก็หยุดมองตู๋กูซิงหลันอยูพ่ กั นึง

ตู๋กูซิงหลันกาลังสนใจ จึงบอกให้นางเล่าต่อไป

" นายผูเ้ ฒ่ารักท่านที่สุด นอกจากยามไปรบ ไม่วา่ ที่ไหนล้วนพาท่านไปด้วย ดังนั้นท่านและอี้อ๋องจึงมีโอกาสได้


พบกันอยูเ่ สมอ นับว่าเติบโตมาด้วยกัน นานเข้าก็เกิดความผูกพันธ์ ท่านเป็ นธิดาล้ าค่าของจวนเรา เขาเป็ นพระโอรสองค์
โปรด บุรุษเลิศล้ าสตรี งดงามเดิมทีก็เป็ นคู่สร้างคู่สมกันที่สุด..... "

" ต่อมาละ? ข้าเปลี่ยนใจไปชอบพ่อของเขาแทน? " ตู๋กูซิงหลันตาเป็ นประกายราวดวงดาว เขย่าสองขาอย่างนึก


สนุก แทบจะอยากหาเม็ดแตงมาแทะเล่น

ทอดทิ้งบุรุษรู ้ใจคนงาม ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลนะ!

เชียนเชียนทาปากคว่า" นายหญิง ท่านรักอี้อ๋องจะเป็ นจะตาย จะไปเที่ยวปันใจให้ผอู ้ ื่นได้อย่างไร? "

" พูดไปพูดมาก็เป็ นการแก่งแย่งตาแหน่งในหมู่องค์ชายสิ นะ"

" เสี ยนเฟยแม้จะได้รับความโปรดปรานแต่ก็เป็ นเพียงแค่พระสนม อี้อ๋องแม้จะสู งศักดิ์ อย่างไรก็เป็ นเพียงโอรส


รอง ไหนเลยจะเปรี ยบเทียบได้กบั โอรสสายหลักอย่างองค์ชายสี่ ฮ่องเต้ตา้ โจวแต่งตั้งรัชทายาทดูที่ศกั ดิ์ฐานะ ไม่ได้อยู่
ที่วา่ ใครเกิดก่อน แม้วา่ องค์ชายสี่ จะไม่ได้รับความโปรดปราน แต่ก็ถือว่าเป็ นผูม้ ีสิทธิ์ในราชบัลลังก์อนั ดับแรก หาก
ไม่ใช่เพราะฉางซุนฮองเฮา พระมารดาของพระองค์สวรรคตไปนานแล้ว ผูอ้ ื่นคงไม่หาญกล้าคิดแย่งชิง "
ตู๋กูซิงหลันผงกศีรษะ " อ๋ อๆ ดูท่าจะเป็ นเรื่ องต้องการแผ่นดินไม่อาจไม่ทอดทิ้งหญิงงาม กระมัง "

" ก็ยงั จะไม่ใช่อีกหรื อ" เชียนเชียนน้ าเสี ยงขุ่นเคือง " อี้อ๋อง หมายปองบัลลังก์ เพื่อให้อดีตฮ่องเต้สามารถแต่งตั้ง
เขาเป็ น รัชทายาท ท่านถึงได้เต็มใจแต่งให้กบั อดีตฮ่องเต้ กลายเป็ นฮองเฮาที่สองของอดีตฮ่องเต้ เดิมทีคิดว่า จะรับเขาไว้
เป็ นบุตรบุญธรรมของตนเอง ทาให้เขาเป็ นราชโอรสสายตรงโดยสมบูรณ์ ใครจะไปนึกว่า ในวันพระราชพิธีแต่งตั้งท่าน
ฝ่ าบาทกับเสด็จสวรรคต! "

ฟังถึงตอนนี้ ตู๋กูซิงหลันก็ได้แต่ขมวดคิ้ว" นี่ก็แปลกแล้วในเมื่อ ฉางซุนฮองเฮาสวรรคตไปนานแล้ว เสี ยนเฟยก็เป็ น


ที่โปรดปรานขนาดนี้ ทาไมอดีตฮ่องเต้ไม่แต่งตั้งนางเป็ นฮองเฮา ข้าอย่างมากเป็ นคุณหนูสูงศักดิ์คนหนึ่ง แล้วมี
คุณสมบัติพิเศษอันใดถึงสามารถเป็ นฮองเฮาได้"

อย่ามาบอกนางว่าอดีตฮ่องเต้เป็ นพวกหลงใหลในความงามจนขาดสติ เพียงแค่เห็นรู ปวาดของนางครั้งเดียว ก็เลือก


นางเป็ นฮองเฮาแล้ว

แม้วา่ นางจะงดงามเลอโฉมจนคนต้องตกตะลึงจริ งๆ

" เสี ยนเฟย ชาติกาเนิดต่าต้อย ตอนนั้นนางเป็ นเพียงหญิงรับใช้ ที่ติดตามยามฉางซุนฮองเฮาแต่งเข้ามาเท่านั้น ด้วย


ฐานะเพียงแค่น้ ี ย่อมไม่อาจแต่งตั้งเป็ นฮองเฮาได้ ถึงแม้อดีตฮ่องเต้จะเต็มพระทัย แต่วา่ ตระกูลฉางซุนคงไม่ยนิ ยอมแน่
...."

ตู๋กูซิงหลัน " ชิบ......นี่มนั ละครน้ าเน่าชัดๆ "

" เหตุที่อดีตฮ่องเต้แต่งตั้งท่านเป็ นฮองเฮา นัน่ ต้องเป็ นเพราะ นายหญิงท่านงดงามที่สุดแน่ๆ ท่านยิง่ มีชาติกาเนิด


สู งศักดิ์ ในต้าโจวนี้มีสตรี กี่คนที่จะเปรี ยบเทียบกับท่านได้ เชียนเชียนพูดไปก็ภาคภูมิใจไม่น้อย แน่นอนว่านางก็เชื่อ
เช่นนั้นตลอดมา

ตู๋กูซิงหลันส่ ายหัว รู ้สึกว่าความจริ งไม่เป็ นเช่นนั้นแน่ แต่ดูท่าทาง เชียนเชียนแล้ว คงไม่รู้ ตื้นลึกหนาบางอะไร


" สรุ ปว่า เป็ นอี้อ๋องที่ผิดต่อท่าน" เชียนเชียน เกลียดจนแทบทนไม่ไหวอยากเขวี้ยงหยกชิ้นนั้นทิ้ง " ท่านเจ็บปวด
เพราะรักเขา เขาเพื่อบัลลังก์แล้วยินยอมโยนท่านลงไปในกองไฟ เรื่ องมาถึงวันนี้ ยังคิดจะมาวอแวท่านอีก คนเช่นนี้ ต้อง
อยูใ่ ห้ห่างไกลจากเขาให้มากที่สุด"

ตู๋กูซิงหลัน ได้ฟังที่มาของเรื่ องราว ก็พอจะเข้าใจอยูบ่ า้ ง เห็นเชียนเชียนจะเขวี้ยงหยกทิ้ง ก็รีบเข้าไปเอามาเก็บไว้ "


อย่าเขวี้ยงนะ นี่มนั หลายตังค์อยู่ "

" นายหญิง ท่านยังจะมา อาลัยอาวรณ์อยูอ่ ีก" เชียนเชียนกังวลเรื่ องจะไม่จบเท่านี้

" แตกแล้วก็ไม่เหลือค่าอะไร พวกเรายากจนถึงเพียงนี้อย่างน้อย นาไปขายแลกเงิน มาใช้จ่าย ในชีวิตประจาวันได้


ก็ยงั ดี"

------

元后、元嫡 หยวนโฮ่ว , หยวนตี้ = ภรรยาคนแรก หรื อ ภรรยาคู่บุญของฮ่องเต้ที่แต่งกันมาตั้งแต่ก่อนครองราชย์


จนได้รับแต่งตั้งเป็ นฮองเฮา เช่น ฉางซุนฮองเฮา มารดาของจีเฉวียน

继后 จี้โฮ่ว = ภรรยาของฮ่องเต้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็ นฮองเฮาองค์ที่สอง หลังจากคนที่หนึ่งเสี ยชีวิต หรื อพ้นตาแหน่งไป


แน่นอนว่าศักดิ์ศรี จะด้อยกว่าคนแรกเล็กน้อย เช่น ตู๋กูซิงหลัน
ตอนที่ 11 ฮวงจุ้ยชั้นเลิศในวังหลวง

จีเฉวียนทรงประทับอยู่บนโต๊ะทรงพระอักษร สายพระเนตรจดจ้องอยูบ่ นฎีกาเล่มหนึ่ ง นานพักใหญ่ถึงเงยพระ


พักตร์ข้ นึ สายพระเนตรมีแววอาฆาต หลี่กงกงตระหนกจนเข่าอ่อน ไม่ทนั ไรก็รีบคุกเข่าลง " ฝ่ าบาท ขออย่าได้ทรง
พิโรธ ไทเฮาในตาหนักเย็นผูน้ ้ นั ไม่รู้ความ พวกเราทาไมต้องอารมณ์ข่นุ เพราะนาง

" หึ " จีเฉวียนส่ งเสี ยงเย็นออกมาคานึง สายพระเนตรเย็นชากว่าเดิม " ใช่สิ ช่างไม่รู้อะไรนัก "

น้ าเสี ยงนั้น ราวกับว่า อีกเดี๋ยวจะออกไปฆ่าใครสักคน คราวนี้แม้แต่หลี่กงกงยังกลัวเสี ยจนหน้าซีด

" คงเป็ นเพราะถูกตระกูลตู๋กูตามใจมากไป ถึงได้ไม่รู้จกั กลัวฟ้ากลัวดินถึงเพียงนี้" หลี่กงกงตอบอย่างมีไหวพริ บ "


ตอนนี้ นางตกอยูใ่ นพระหัตถ์ของฝ่ าบาท คิดว่า ต่อไปคงไม่กล้าเล่นลูกไม้อะไรแล้ว"

หลี่กงกงพูดจบ พลันรู ้สึกร่ างกายหนาวเย็นขึ้นมากระทันหัน บรรยากาศราวกับแช่แข็งคนได้ ใจก็กระตุกไปวูบนึง


ฮ่องเต้ทรงเกลียดพวกสอดรู ้คาดเดาความในพระทัยที่สุด

เขารี บน้ าพระสุ ธารสร้อนมาถวาย กล่าวประจบประแจงว่า" ฝ่ าบาท พรุ่ งนี้พระองค์ตอ้ งเสด็จไปยังทะเลสาบหยูจ่ ื่อ
ถานถือศีลกินเจ สวดพระคาภีร์แทนอดีตฮองเฮา เวลานี้ก็ดึกมากแล้ว......."

พอฟังแล้วไอเย็นรอบพระองค์ก็เบาบางลงเล็กน้อย หลี่กงกงลอบผ่อนลมหายใจ หากเขาไม่ยกอดีตฮองเฮามาอ้าง


ฝ่ าบาทคงไม่ละเว้นเขาแน่

สาหรับฝ่ าบาทแล้ว พระองค์ทรงมอบความรักทั้งหมดในโลกนี้ให้กบั พระมารดา---ฉางซุนฮองเฮาผูล้ ่วงลับไปแล้ว

อาจเป็ นเพราะไม่กี่วนั ก่อนข่าวลือที่วา่ 'ไทเฮาแอบเสด็จออกนอกตาหนักเย็น ทาให้ เหลียนไฉเหริ นถูกถอดยศ


กลายเป็ นเหม่ ยเหริ น และทรงประทับอยู่กับฝ่ าบาทแต่ เพียงลาพังในที่รโหฐาน' กระพือไปทัว่ ทุกตาหนัก แม้แต่ในหมู่
เชื้อพระวงศ์ก็ยงั เชื่อไม่มีเว้น

ดังนั้นจึงไม่เป็ นที่แปลกใจของคนทั้งหลาย ถึงความกล้า หน้าไม่อายของพระนางอีก น่าสงสารเหลียนไฉเหริ น


กลายเป็ นเพียงหิ นรองเท้าให้ผอู ้ ื่นเหยียบ โชคยังดีที่ฝ่าบาทยังไม่ทรงอนุญาตให้ตวั ปัญหานัน่ ออกมา กลัวแต่วา่ เกิดวัน
ไหนฝ่ าบาททรงต้านทานเสน่ห์ของนางไม่ไหว เกิดพระทัยร้อนขึ้นมาแต่งนางเป็ นหวางเฟย
ถึงแม้วา่ ไทเฮาในตาหนักเย็นจะได้ชื่อว่าเป็ นพระมารดาเลี้ยงของพระองค์ แต่แคว้นต้าโจววัฒนธรรมเปิ ดกว้าง แม่
เลี้ยงแต่งให้ลูกชาย ปู่ แต่งกับลูกสะใภ้ น้องชายแต่งพี่สะใภ้ม่าย เรื่ องเหล่านี้ลว้ นมีไม่น้อย

.................................

ตาหนักอวี้เฉวียน

เหลียนไฉเหริ นนอนเอนอยูบ่ นเตียง สี หน้าเ**้่ยวเฉายิง่ กว่าดอกไม้จีนเสี ยอีก นางกาหมัดแน่น โกรธเคืองราวกับ


ปลาปักเป้าตัวหนึ่ง

" น่าตายนัก ทั้งหมดเป็ นเพราะนังตู๋กูซิงหลันนัน่ คนเดียว! อ๊ายยยยย! "

หากไม่ใช้เพราะมัน นางคงไม่ทาเรื่ องเสื่ อมเสี ยต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท ยิง่ ไม่มีทางถูกถอดยศกลายเป็ นเหม่ยเห


ริ น เหม่ยเหริ น!! นี่ มนั ยศต่าสุ ดของเหล่าสนมเลยนะ!

ถึงแม้นางจะเป็ นลูกเมียรอง แต่อย่างไรก็เป็ นบุตรสาวตระกูลตู๋กูไม่ใช่หรื อ เดิมที่เข้าวังมาก็สมควรได้รับการ


แต่งตั้งเป็ นพระสนมขั้นเฟยแล้ว แต่เพราะนังตู๋กูซิงหลันบังอาจไปลอบปี นเตียงมังกร ทาให้นางพลอยได้รับยศแค่ไฉเห
ริ น ตอนนี้ ถูกไล่มาเป็ นเหม่ยเหริ น คนทั้งวังต่างก็หัวเราะเยาะนาง จะให้นางข่มอารมณ์อยูไ่ ด้อย่างไร?

ตู๋กูเหลียนมองดูตวั เองในกระจกเงิน ใบหน้างดงามหมดจด รู ปร่ างอวบอิ่มเล็กน้อย ภายใต้ผา้ โปร่ งผืนบางดูเย้ายวน


น่าประทับใจ

ผ้าโปร่ งบางเบา หากว่าโดนละอองน้ าแม้เพียงเล็กน้อยก็แทบจะโปร่ งแสง ถึงตอนนั้นต่อให้เป็ นฝ่ าบาทก็จะต้องอด


รนทนไม่ไหวกระมัง?

อย่าว่าแต่....... นางยังมียาที่คนผูน้ ้ นั ให้ไว้อีก


คิดถึงตรงนี้ นางก็อดหน้าแดงไม่ได้ รอยยิม้ ยิง่ มายิง่ มาก คราวนี้นางต้องไม่พลาด ฝ่ าบาทสมควรเป็ นของนางแต่ผู ้
เดียว!!

.............

เดือนแปด อากาศร้อนแผดเผา อย่าว่าแต่ต๋ กู ูซิงหลันอยูใ่ นตาหนักเย็นที่แสนจะอบอ้าว คนถึงกับร้อนจนเหงื่อท่วม


แล้ว ยามเที่ยงนางจึงเปลี่ยนเป็ นเสื้ อผ้าของเชียนเชียนลอบออกไปจากตาหนัก

ที่จริ งก็ไม่ใช่วา่ ตู๋กูซิงหลันอยากออกไป แต่เป็ นเพราะเจ้าวิญญาณตัวปัญหา วันนั้นมันใช้พลังจานวนมากควบคุม


เหลียนไฉเหริ น ตอนนี้ จึงอ่อนแอลงมาก ไม่อาจทนต่ออากาศที่ร้อนจัดหรื อเย็นจัด นางจึงจาเป็ นต้องลอบออกมาจาก
ตาหนัก

หากว่ายังมีหยกสรรพชีวิตอยู่ นางกับเจ้าถวนจื่อคงไม่ตอ้ งมาลาบากขนาดนี้

วันนั้นที่นางต่อสู ้ฟาดฟันกับจอมมาร หยกสรรพชีวิตยังอยูใ่ นมือแท้ๆ แต่พอข้ามมิติมาเท่านั้นละ หยกกลับหายไป


อย่างไร้ร่องรอย คิดแล้วยังรู ้สึกปวดตับไม่หาย

วิญญาณทมิฬ " นี่ ขอบใจเจ้ามากนะ ที่ดูแลข้าอย่างดี ฮิฮิฮิ "

ตู๋กูซิงหลัน " ครอบครัวเดียวกัน อย่าได้เกรงใจ"

วิญญาณทมิฬ "........"

เวรยามที่เฝ้าล้อมตาหนักเย็นเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว คิดจะเล็ดรอดออกไปค่อนข้างยากอยูบ่ า้ ง ยามนางลอบออกไปจึงไม่


กล้าหันกลับมามองแม้แต่นอ้ ย รวดเดียวก็วิ่งไปไกลหลายลี้ จนถึงชายป่ าที่ดูซบั ซ้อนแห่งนึงถึงได้หยุดพัก

ร่ มเงาของหมู่ไม้ช่วยคลายความอบอ้าวในฤดูร้อน อากาศเย็นสบายทาให้คนรู ้สึกสดชื่น ในสายลมมีกลิ่นหอมของ


ดอกกุย้ อบอวล ทาให้ต๋ กู ูซิงหลันรู ้สึกอารมณ์ดีข้ นึ มาเลย
ถึงอย่างไรชาติก่อนนางก็เป็ นถึงยอดนักพรต แม้วา่ ร่ างนี้จะถือว่าเป็ นมือใหม่ แต่วา่ วิชาแมวสามขาก็ยงั สามารถใช้
ออกได้ แค่หลบหลีกหนีเหล่าองครักษ์ ถือว่าสบายมาก

" อยูใ่ นวังแท้ๆ กลับมีสถานที่ปลีกวิเวกเช่นนี้ ช่างน่าประทับใจโดยแท้"

ตู๋กูซิงหลัน กวาดตาดูบริ เวณโดยรอบ ไม่เห็นเงาคนแม้แต่นอ้ ย แต่กลับพบว่ามีประกายสี ทองระยิบระยับอยูใ่ น


อากาศ นางก็ เบิกตาโตด้วยความยินดี " คิดไม่ถึงที่นี่คือสถานที่ ที่ฮวงจุย้ ดีที่สุดในวังหลวง" นางเดินพลางก็ทอดถอนใจ
ไปพลาง เมื่อเข้าสู่ ดา้ นในประกายสี ทองในอากาศก็ยิ่งเข้มข้น

ไอบริ สุทธิ์เหล่านี้ มีอยูใ่ นธรรมชาติ สามารถช่วยให้มนุษย์ฝึกปรื อวิชาเซียนและช่วยให้บรรดาพืชสัตว์ สิ่ งมีชีวิต


จาแลงร่ างกายได้ แน่นอนว่า สายตาของคนธรรมดาย่อมมองไม่เห็นไอบริ สุทธิ์เหล่านี้

ตู๋กูซิงหลัน ไม่รู้วา่ ในโลกของมิติน้ ี ยังมีผฝู ้ ึ กวิชาเซียนอยูห่ รื อไม่ แต่ในโลกที่นางจากมา ผูฝ้ ึ กวิชาเซียนนั้นสามารถ


พบเห็นได้ทวั่ ไป โดยเฉพาะตัวนางที่เป็ นถึงปรมจารย์นกั พรต ยังมีไอบริ สุทธิ์แบบไหนที่ไม่เคยพบเห็นมาบ้าง

" เจ้ามีโชคแล้ว" ตู๋กูซิงหลัน ตบบ่า ของเงาสี ดาอย่างดีใจ " อีกหน่อยข้าจะพาเจ้ามาเดินเล่นที่นี่บ่อยๆ เจ้าต้อง


พยายามให้มาก รี บกลับมามีร่างจริ งให้ได้ "

" นี่ยงั ต้องให้เจ้าพูดอีกหรื อ ข้ายังใจร้อนมากกว่าเจ้าเสี ยอีก" วิญญาณทมิฬ เหลือบตามองบน แล้วก็เริ่ ม ดูดกลืน


เอาไอบริ สุทธิ์เข้าไป วังหลวงช่างไม่เหมือนกับที่ใด ไม่เพียงแต่มีไอบริ สุทธิ์ ยังมีไอมังกรของจักรพรรดิ เมื่อมีท้ งั สองสิ่ ง
นี้ ผ่านไปอีกสักแปดปี สิ บปี มันต้องจาแลงร่ างใหม่ได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

ตู๋กูซิงหลันเดินเล่นอยูน่ านสองนาน จนกระทัง่ ถึงบริ เวณที่เริ่ มมีหมอกลง ทันใดนั้นสายตานางก็เหลือบไปเห็นบาง


สิ่ งที่ชวนให้น่าตื่นตากว่าเดิม

ทิวทัศน์เบื้องหน้าพลันปรากฏผืนน้ าใสกระจ่างราวแผ่นกระจก เหนือผืนน้ ามีภูเขาจาลองลูกหนึ่ง สู งราวตึกสาม


ชั้น ทั้งยังมีธารน้ าริ นไหล ราวกับน้ าตกน้อยอยูส่ ายหนึ่ ง
รอบทะเลสาบนี้เป็ นหิ นเขียวราวกับหิ นหยก บนน้ าเต็มไปด้วยดอกบัวสี ชมพูบานสะพรั่ง เหนื อผิวน้ ามีไอบริ สุทธิ์
หมุนวนราวกับมังกรขด เกิดเป็ นทิวทัศน์ที่วิจิตรงดงามราวกับภาพวาดที่มีชีวิต

แน่นอนว่าไอทิพย์เช่นนี้คนธรรมดาย่อมมองไม่เห็น

ตู๋กูซิงหลันอดไม่ได้ตอ้ งสู ดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด " ข้านึกไม่ถึงจริ งๆ ว่าในวังหลวงยังมีสถานที่งดงามแบบนี้


อยู่ "

ไม่ใช่เพราะ วันนี้บงั เอิญจับพลัดจับผลูเดินมาถึงที่นี่ นางคงไม่มีโอกาสได้พบเจอ ฮวงจุย้ ดีๆ แบบนี้ได้โดยง่าย นาง


ตื่นตะลึงอยูค่ รู่ นึง ค่อยเสาะหาต้นไม้ใหญ่ตน้ หนึ่ ง พลิกตัวปี นขึ้นไปนัง่ อยูบ่ นกิ่งลาที่อวบหนา

ตรงนี้มุมมองเปิ ดโล่ง สะดวกต่อการสังเกตุการโดยรอบ หากว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล นางก็สามารถหลบหนี


โดยง่าย
ตอนที่ 12 ยามเสด็จแม่ ยงั ทรงพระชนม์อยู่ ทรงโปรดที่นี่มากทีส่ ุ ด

นางพิงหลังกับลาต้นของต้นไม้ สายลมพัดเย็นนุ่มนวลประหนึ่ งสายน้ า ไม่ทนั ไรก็รู้สึกง่วงอยู่บา้ ง จนเผลอหลับไป


ตื่นหนึ่ ง

เป็ นเสี ยงร่ าร้องของสตรี ผหู ้ นึ่งปลุกนางให้ตื่นขึ้นมา

" ฝ่ าบาท~~เมื่อวานนี้เป็ นหม่อมฉันเองที่ผิด หม่อมฉันวิตกจนจิตใจสับสน วันนี้หม่อมฉันตั้งใจจะมาขอพระ


ทานอภัยฝ่ าบาทโดยเฉพาะ ขอทรงอภัยให้หม่อมฉันได้หรื อไม่เพคะ? "

ตู๋กูซิงหลันหรี่ ตาดูเห็น เห็นบรรยากาศในทะเลสาบก็ตกใจแทบกระโดดขึ้นทั้งตัว รี บเรี ยกสติของตนเองกลับมา

เห็นสตรี ผหู ้ นึ่งอยูใ่ นน้ า กาลังฉุ ดรั้งร่ างของบุรุษผูน้ ึงอย่างจริ งจัง

" หม่อมฉันน้อมรอเฝ้าอยูท่ ี่นี่นานแล้ว วันนี้หากได้ถวายรับใช้ฝ่าบาท แม้ตอ้ งตายก็ไม่เสี ยดายแล้ว " สตรี ผนู ้ ้ นั จีบ
ปากจีบคอกล่าวอย่างไหลลื่น น้ าเสี ยงอ่อนหวานจนระทดระทวย ขนาดตู๋กูซิงหลันได้ฟังยังอดรู ้สึกขนลุกขนพองไม่ได้

" อัว๊ ยังเป็ นเด็กอยูน่ ะ หากแอบดูเรื่ องพวกนี้มีหวังถูกทิ่มลูกกะตาแน่! " แม้แต่ถวนจื่อยังอดร้องออกมาไม่ได้


ใบหน้าดาๆ ทั้งสองข้างของมันกลับมีรอยแดงอยู่จางๆ

หากไม่ใช่เพราะดวงตากลมโตทั้งสองข้างของมันเป็ นประกายแวววาว ตู๋กูซิงหลันคงคิดว่ามันอายมากแล้วจริ งๆๆ

นางรี บมาบังตาคู่น้ นั ไว้ เตะขาอวบสั้นของมันกลับเข้าไปในเงา และกดมันไว้อีกครั้ง

" ไร้มารยาท ห้ามดู ห้ามฟังอะไรทั้งนั้น ......." พูดไปตัวเองก็ตาโตคิดจะไปสารวจดูให้ละเอียดเสี ยหน่อย

จากทางนี้พอดีสามารถมองเห็นพระพักตร์ที่แข็งทื่อราวคนขายโลงของจีเฉวียน แม้จะมีละอองน้ าโปรยปรายบางๆ


แต่สายพระเนตรเฉี ยบคมราวแท่งน้ าแข็งเหมือนจะมองมาทางนี้
ตู๋กูซิงหลันรี บหดหัว ชู่วๆ์ ปากเก็บความอยากรู ้อยากเห็นอย่างรวดเร็ ว นางใจสั่นแทบกระโดออกมานอกอก ราว
กับตัวเองเผลอทาเรื่ องผิดศีลธรรมไม่อาจสู ้หน้าผูค้ น

" เจ้าจะชู่วไ์ ปทาไม ก็ไม่ใช่วา่ กลางวันแสกๆ เจ้าทาเรื่ องอย่างว่าเสี ยหน่อย" เจ้าวิญญาณยิง่ ทียงิ่ รู ้สึกนางหนูนี่ไม่ได้
เรื่ อง ตั้งแต่กลับมาเข้าร่ างนี้ก็ไม่มีความกล้าเสี ยเลย

ตู๋กูซิงหลันเหยียบขยี้ลงไปบนเท้าเล็กๆ ของมัน อยากจะจับมันโยนทิ้งนัก

เป็ นคนอื่นก็แล้วไปเถอะ แต่เบื้องหน้านี้คือ บุตรชายสุ นขั ภูเขาน้ าแข็งของนาง คนเป็ นแม่มาพบเจอลูกชายใน


สถานการณ์เช่นนี้ ย่อมดูไม่ถูกไม่ควรไม่ใช่หรื อ?

เมื่อสักครู่ ....... นางคงไม่ถูก เจ้าเด็กนัน่ พบเห็นใช่หรื อไม่? ซวยแล้วงานนี้! เจ้าลูกสุ นขั นี่เป็ นเงาตามตัวหรื อไร ไม่
ว่าไปที่ไหนเป็ นต้องพบเจอ!

ขณะที่ต๋ กู ูซิงหลันมัวแต่ตกตลึง อยูน่ ้ นั ก็ได้ยนิ เสี ยงของสตรี ในทะเลสาบรบเร้า " ฝ่ าบาท~~ ให้หม่อมฉันได้
ปรนนิบตั ิพระองค์เถอะนะเพคะ~"

ตู๋กูซิงหลัน "!!! "

คิดไม่ถึงคิดไม่ถึงเลยว่า ญาติผนู ้ อ้ งของนางจะกล้าหาญชาญชัยขนาดนี้!

ตามหลักเหตุผลนางควรจะหันหน้าไปจากงิ้วฉากนี้ แต่ร่างกายกลับหยุดอยูก่ บั ที่ สองตามองผ่านใบไม้กิ่งไม้


ติดตามเหตุการณ์ เบื้องหน้า
เฮอะๆ เจ้าฮ่องเต้ลูกสุ นขั ปกติแกล้งทาเย็นชาเป็ นภูเขาน้ าแข็งไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ตอนนี้ กลับ......

แต่ก็นะ มีคนงามอยูใ่ นอ้อมกอดไหนเลยจะต้องหาเหตุผลมาปฏิเสธ? ยิง่ ไปกว่านั้นเดิมทีนี่ก็เป็ นสตรี ของเขา

..........

ในทะเลสาบหยู่จื่อถาน สายตาของจีเฉวียนราวกับภูเขาน้ าแข็งพันปี ที่ไม่มีวนั ละลายก้อนหนึ่ง

วันนี้เป็ นวันคล้ายวันเกิดของพระมารดาผูล้ ่วงลับ วันนี้ของทุกปี เขาจะต้องมาที่นี่เพื่อชาระกายสวดมนต์ถือศีล


หลายปี มานี้ไม่เคยถูกใครกล้ามารบกวนมาก่อน

คิดไม่ถึงตอนนี้ กลับมีคนไม่รักชีวิตเอาตัวมาลองดาบ

เขาหรี่ ตาอย่างครุ่ นคิด บนร่ างกายของสตรี ผนู ้ ้ ีมีกลิ่นหอมประหลาด

" ฝ่ าบาท" ตู๋กูเหลียนเว้าวอนไม่หยุด

คนผูน้ ้ นั บอกนางว่า วันนี้ฝ่าบาทจะมาชาระกายที่นี่ ขอเพียงแค่นางปรนนิบตั ิฝ่าบาทให้ดี อีกหน่อยจะต้องได้รับ


ความโปรดปรานเพิม่ พูนไม่สิ้นสุ ด ดังนั้น นางไม่สนใจว่าจะต้องเสี่ ยงสักแค่ไหน ก็ตดั สิ นใจใช้กลิ่นหอมที่เขาให้มา
เพียงหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้

ดูสิตอนนี้ นาง ไม่ใช่วา่ เข้าใกล้ฝ่าบาทได้แล้วหรื อ? ขาดอีก เพียงก้าวเดียว นางก็จะได้ตวั ฝ่ าบาทมาแล้ว

" ฝ่ าบาท ขอร้องละเพคะ" นางทาเสี ยงออดอ้อนวอนขออย่างน่าสงสาร

จีเฉวียนขมวดคิว่ พยายามระงับอารมณ์ที่คุกรุ่ นอย่างเต็มที่ แต่พอมือของตู๋กูเหลียนทาท่าจะรุ่ มร่ ามบนตัวเขา ฝ่ ามือ


เดียวก็ซดั เปรี้ ยงออกไปจนคนกระเด็นไปไกลกว่าสิ บเมตร
แบบที่เรี ยกว่า เร็ ว! แม่น! เ**้้ยม! และปราศจากความลังเลแม้แต่นอ้ ย!

พละกาลังที่ใช้ออกรุ นแรงเสี ยจนเกิดละอองน้ ากระจายไปทัว่

ตู๋กูซิงหลันซ่ อนตัวอยูบ่ นต้นไม้ "..........." นางมาที่นี่เพราะคิดแค่อยากจะชื่นชม ดื่มด่าบรรยากาศเขียวขจีตลอดปี


ตลอดชาติ ไม่ได้คิดจะมาดูเรื่ องหลังบ้านของใคร

ถวนจื่อ "โอ้แม่เจ้า ต้องรุ นแรงเบอร์นี่เลยหรอ! เสี่ ยวหลันเอ๋ ยยย ต่อไปพวกเราต้องอยูใ่ ห้ห่างลูกชายของเจ้าหน่อย


นะ หนูกบัวนะ "

อยูใ่ นน้ าแท้ๆ แต่แค่ฝ่ามือเดียวก็สามารถทาให้คนกระเด็นไปไกลนับสิ บเมตร นัน่ เป็ นกาลังภายในและความ


เกลียดชังระดับไหนกันนะ!

ตู๋กูซิงหลัน " เจ้าคิดว่าข้าไม่กลัวหรื อไง "

ถวนจื่อ "....."

ผ่านไปอีกพักใหญ่ต๋ กู ูเหลียนที่โดนซัดจนสมองเบลอถึงค่อยๆ ได้สติข้ นึ มา เมื่อครู่ นางกลืนน้ าในทะเลสาบเข้าไป


เต็มท้อง พออ้าปากหายใจได้ก็กระอักเลือดออกมาไม่นอ้ ย แม้ใบหน้าครึ่ งหนึ่งบวมเป็ นคางหมูยงั อดจะมองไปยังจี
เฉวียนไม่ได้ " ฝ่ าาา.....บาท? "

ตบเดียวของฮ่องเต้ทาเอานางสมองเบลอไปหมด

นี่มนั เกิดอะไรขึ้น ผิดพลาดที่ตรงไหน ฝ่ าบาท....ฝ่ าบาทควรจะโปรดนางซิ ทาไมถึงได้ตบนาง

จีเฉวียนทอดเนตรมองตู๋กูเหลียนที่เลือดกลบปากจนค่อยๆ หยดลงไปในน้ าของทะเลสาบหยู่จื่อถาน โทสะที่จบั ตัว


เป็ นไอเย็นก็ยงิ่ เพิ่มพูนราวกับจะทาให้น้ ากลายเป็ นน้ าแข็ง

ผ่านไปครู่ ใหญ่จึงตรัสด้วยน้ าเสี ยงเย็นยะเยียบ " ยามเสด็จแม่ทรงพระชนม์อยู่ ทรงโปรดที่นี่"


ตู๋กูเหลียนงงงันไปชัว่ ครู่ ถึงได้ตระหนักว่าหิ นหยกแต่ละก้อนล้วนสลักคาในพระไตรปิ ฎกไว้ ในเกสรของดอกบัว
ทุกดอกมีลูกปัดสวดมนต์อยู่ ฟังว่ายามฉางซุนฮองเฮายังอยูท่ รงนับถือพระพุทธศาสนา และฝ่ าบาทก็ทรงกตัญญูต่อพระ
มารดาเป็ นอย่างยิง่

ตู๋กูเหลียนจะอย่างไรก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า นางจะมาทอดสะพานใส่ ฮ่องเต้ในวันที่พระองค์เสด็จมาทรงศีล


ถวายพระมารดา ต้องเป็ นเพราะนางถูกตู๋กูซิงหลันยัว่ ยุให้โกรธจนขาดสติ ถึงได้ทาเรื่ องบ้าบอเช่นนี้ไปได้ นางยังไม่ทนั
ได้เรี ยกสติกลับมาก็ได้ยนิ เสี ยงจีเฉวียนตรัสว่า " เจ้าทาให้ที่นี่แปดเปื้ อน "

สายลมโชยมาทาให้บวั ในสระไหวเอนเบาๆ เกศาของฝ่ าบาทถูกลมโชยยิง่ ส่ งเสริ มให้ทรงสง่างามสู งส่ งดุจเทพ


เซียน
ตอนที่ 13 ตกลงเจ้ าเป็ นภูติผี หรือมายา

แม้แต่ต๋ กู ูซิงหลันยังชะงักไป เจ้าหนุ่มนี่ราวกับบัวหิ มะจากสรวงสวรรค์ ผูอ้ ื่นได้แต่เฝ้ามองไม่อาจสัมผัสให้หมอง


มัว

"ฝ่ าบาม หม่อม...หม่อมฉันรู ้ตวั ว่าผิดไปแล้ว " เมื่อเห็นแววพิโรธในสายพระเนตรของฝ่ าบาท ตู๋กูเหลียนถึงได้


หวาดกลัวขึ้นมาจริ งๆ

ตายแน่ ครั้งนี้ฝ่าบาททรงพิโรธจริ งๆ เกล็ดมังกรไม่อาจย้อน แต่นางกลับทาเรื่ องที่ไม่สมควรทาที่สุดลงไป

ฉางซุนฮองเฮาทรงเป็ นปมในใจของฝ่ าบาท

ตอนนี้ นอกจากการอ้อนวอนขออภัยโทษ นางก็ไม่รู้จริ งๆ ว่าควรทายังไง

" ฝ่ าบาท ขอทรงพระเมตตาเห็นแก่ตระกูลตู๋กูที่จงรักภักดี อภัยให้หม่อมฉันเถอะเพคะ หม่อมฉันไม่กล้าอีกแล้ว "


นางไม่สนใจร่ างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตะเกียกตะกายปี นขึ้นจากทะเลสาบหยูจื่อถาน นางกลัวว่าขืนยังช้าอยู่ ฝ่ าบาท
จะสั่งให้คนมาลากไปเชือดทิ้ง

" ฮึ " ฮ่องเต้ยมิ้ เย็น "ตระกูลตู๋กู ทุกคนล้วนแต่จงรักภักดีรึ! ลูกสาวแต่ละคนๆ เลี้ยงออกมาล้วนร้ายกาจทั้งนั้น"

ตู๋กูซิงหลัน "..." เจ้ าลูกหมา ด่ ามั่วแบบนีข้ ้ าโกรธแล้ วนะ

"ฝ่ าบาทเป็ นเพราะหม่อมฉันปั กใจในพระองค์มากไป ถึงได้ทาเรื่ องเบาปัญญาแบบนี้ ขอทรงเห็นแก่หวั ใจที่มีรัก


เมตตาสงสารหม่อมฉันด้วย"

ตู๋กูเหลียนอ้อนวอนอย่างยากลาบาก ฮ่องเต้ทรงเงียบขรึ มราวกับเพชฆาตที่ไม่รู้สึกรู ้สา ไม่มีเมตตาแม้แต่นอ้ ย

ฮ่องเต้เสด็จขึ้นจากน้ า หยดน้ าราวกับหยกใสไหลผ่านบ่าไหล่ และแผงอกที่แข็งแกร่ งงดงาม เกศาที่เปี ยกน้ าดาราว


หมึกย้อมโอบล้อมเบื้องหลังของพระองค์ไว้

สายหมอกในไอน้ าทาให้คนไม่อาจเพ่งมองฮ่องเต้ผสู ้ ู งส่ งได้ชดั เจน


แต่วา่ รังสี พิฆาตที่ส่งออกมาจากพระองค์รุนแรงราวกับพายุฝนที่กระหน่าทัว่ สิ บทิศจนต้นหญ้าทั้งหลายล้วน
แหลกราน แม้แต่ต๋ กู ูซิงหลันยังไม่กล้าเผชิญกับพายุลูกนี้ เจ้าหนุ่มนี่ น่ากลัวจริ งๆ!

จนเมื่อฮ่องเต้เสด็จขึ้นไปบนฝั่ง ก็มีคนผูห้ นึ่งนาเสื้ อตัวในสี ม่วงเข้มมาถวาย รังสี พิฆาตของฝ่ าบาทถึงได้จางลง


น้ าเสี ยงของบุรุษผูน้ ้ นั นุ่มนวลราวสายน้ าอันอบอุ่น " ฝ่ าบาท วันนี้เป็ นวันคล้ายวันเกิดของอดีตฮองเฮา ไม่ควรหลัง่ เลือด
ไม่อาจพรากชีวิต"

เพียงแค่ได้ยนิ เสี ยงก็รู้วา่ นี่เป็ นสุ ดยอดบุรุษโฉมงาม

ตู๋กูซิงหลันมองไปตามเสี ยง กลับถูกหมอกบดบังไว้ เห็นเพียงเงารางๆ

ผ่านไปอีกนานครึ่ งวันถึงจะได้ยนิ เสี ยงฮ่องเต้รับสั่งเรี ยกคานึ ง "ซิ่ว"

ตู๋กูซิงหลัน "...." ฮือ เจ้าพูดใหม่ซิ ตกลงกาลังเรี ยกผี หรื อเรี ยกคน

ไม่ๆๆ นั้นไม่ใช่สาระสาคัญ

ประเด็นมันอยู่ที่วา่ ตกลงเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี้พูดเสี ยงอ่อนโยนก็เป็ นด้วย

ตู๋กูซิงหลันแสนประหลาดใจ ยิง่ เกิดความสนใจในตัวบุรุษชุดม่วงผูน้ ้ นั ขึ้นไปอีก ท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้นาง


สัมผัสได้ถึงอารมณ์อ่อนไหวชนิดหนึ่ ง

" ฝ่ าบาท หม่อมฉันขออภัยโทษแทนเหลียนเหม่ยเหริ น โปรดทรงละเว้นชีวิตด้วย" ฉางซุนซิ่ วถวายคานับไปทางจี


เฉวียน

ตู๋กูเหลียนจะอย่างไรก็เป็ นบุตรสาวตระกูลตู๋กู ฝ่ าบาทพึ่งจะขึ้นครองราชย์ก็สั่งขังไทเฮาในวังเย็น หากยังฆ่าตู๋กู


เหลียนอีก ตระกูลตู๋กูคงไม่อาจนิ่งเฉยได้

แต่เหตุผลนี้ต่อให้เขาไม่พูด ฝ่ าบาทก็ทรงทราบดี
"ท่าน........ท่านราชครู ! " ตู๋กูเหลียนนั้นตกตะลึงไปแล้ว นางเพ่งมองไปยังบุรุษในสายหมอก สายตามีแต่ความ
ตระหนกใจ นางนึ กไม่ถึงว่าจะได้พบราชครู ในที่แห่งนี้

ที่จริ งแล้ว นางเพียงแต่เคยแอบเห็นท่านราชครู ในพระราชพิธีที่ฝ่าบาททรงขึ้นครองราชย์เท่านั้น นึกไม่ถึงว่าวันนี้


ท่านราชครู จะช่วยชีวิตนางไว้

" ที่แท้ก็เป็ นท่านราชครู หรื อ? ไม่น่าละถึงได้............." ตู๋กูซิงหลันยืดคอมองอยูบ่ นต้นไม้ ข่าวลือที่วา่ ท่านราชครู


เป็ นคู่ขาของฝ่ าบาท แม้แต่นางยังเคยได้ยนิ มา

ตอนที่นางข้ามภพมาใหม่ๆ ก็เคยเห็นท่านราชครู อยูแ่ วบนึง เพียงแต่สถานการณ์ตอนนั้นค่อนข้างวุน่ ว่ายสับสน จึง


ไม่ได้ทนั สังเกตรู ปร่ างหน้าตาให้ชดั เจน

เมื่อลมแรงพัดมาก็พาเอาหมอกจางหายไปบางส่ วน รู ปโฉมของท่านราชครู จึงได้ปรากฎชัดเจนมากขึ้น

ตู๋กูซิงหลันถึงกับตื่นตะลึงต่อภาพตรงหน้า ในสายตามีแต่คนชุดม่วงผูน้ ้ นั

นัน่ เป็ นรู ปโฉมที่งดงาม ดวงหน้ากระจ่างดัง่ หยกเนื้อดี ทั้งยังมีดวงตาที่สุกสกาว สดใส โดยเฉพาะไฝเม็ดเล็กที่หาง


ตายิง่ ทาให้เครื่ องหน้าโดดเด่น รวมกันสมกับคาว่าบุรุษหน้าหยกอย่างแท้จริ ง

หมอกยังหนาตา จึงทาให้มองเห็นแต่เพียงวงหน้าของท่านราชครู เท่านั้น แต่วา่ เมื่อมองเฉพาะแค่ใบหน้านี้ กลับดู


ทั้งบริ สุทธิ์และยัว่ ยวนอยูใ่ นคนๆ เดียวกัน ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกข้องใจอยูม่ าก ทาไมทั้งสองลักษณะนี้ถึงรวมอยูใ่ นคนๆ
เดียวกันได้นะ

ตู๋กูซิงหลันอดคิดไม่ได้วา่ มาตรฐานของบุรุษในต้าโจวจะสู งส่ งขนาดนี้เหมือนกันหมดไหม หากนี่ไม่ใช่โลกยุค


โบราณละก็ ตู๋กูซิงหลันคิดว่า สองคนนี้คงเป็ นพวกที่โตมากับเครื่ องศัลยกรรมความงามแน่

" นังหนู เจ้ามองเสี ยจนตาจะบอดแล้ว! มีอะไรน่าดูขนาดนั้นรึ " วิญญาณทมิฬกระโดดไปมาอยูเ่ บื้องหน้า พยายาม


จะดึงความสนใจของนางกลับมา

นังหนูน่าตายนี่เพี้ยนไปแล้ว ชอบแต่คนสวยๆ งามๆ ไม่วา่ ชายหรื อหญิงก็เอาหมด กลับมาเกิดใหม่ในโลกนี้ท้ งั ที


แต่นิสัยเจ้าปัญหาแบบนี้ กลับแก้ไม่หาย
ตู๋กูซิงหลันโบกมือไล่ ตาก็เฝ้ามองสองบุรุษอยูต่ ลอด สายตาเป็ นประกายขึ้นมา จิ๊จิ๊ อย่าได้หาว่าสายตาข้ามีปัญหา
คนคู่น้ ียนื อยูเ่ คียงข้างกัน ดูราวกับเป็ นคู่สวรรค์สร้างจริ งๆ แบบนี้.....แบบนี้ก็เท่ากับว่าข้าได้บุตรเขยน่าเอ็นดูมาอีกคนสิ "

คิดได้ดงั นี้ ตู๋กูซิงหลันก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ นางทาท่าทาทางคิกคักราวกับป้าแก่ๆ ที่ลูกหลานแต่งออกได้


เสี ยที

วิญญาณทมิฬ "......" มันพูดอะไรไม่ออก แต่ก็อยากจะตบกะโหลกตู๋กูซิงหลันสักสองที หากเจ้าฮ่องเต้ลูกหมานัน่ รู ้


ว่านางคิดอะไร มีหวังให้คนมาลากคอไปเชือดทิ้งแน่

บุตรเขยที่ไหนกัน ชัดเจนเลยว่ าเป็ นลูกสะใภ้ ต่างหาก!

ต่อให้เป็ นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน ดูก็รู้เลยว่าเจ้าฮ่องเต้นนั่ เป็ นฝ่ ายรุ ก ส่ วนราชครู ก็เป็ นฝ่ ายรับ ดูลีลาท่าทางแบบนี้
เจ้าฮ่องเต้นนั่ คงเป็ นพวกรับได้เหมาหมดทุกรสชาติสินะ

ตู๋กูซิงหลันบอกกับตัวเองว่า อีกหน่อยคงต้องหาโอกาสออกมาให้บ่อยๆ ไม่ง้ นั ชีวิตนี้คงพลาดอะไรดีๆ ขาดสี สันที่


ควรมีไปเยอะเลย

"ฝ่ าบาท....." เมื่อมีผชู ้ ่วยขอชีวิตอย่างท่านราชครู แล้ว ตู๋กูเหลียนก็มีความกล้าขึ้นอีกหลายส่ วน พยายามจะทูลขอ


พระเมตตาจากฝ่ าบาท

แต่สายพระเนตรของฮ่องเต้ยงั คงเย็นชาอย่างใครเห็นต้องเจ็บแปลบ ซ้ าตรัสเพียงสามคาอย่างไร้น้ าใจว่า " เจ้า


สมควรตาย"

ตู๋กูเหลียนรู ้สึกราวกับร่ างกายถูกสู บเอาพลังงานออกไปหมด แทบจะล้มลงไปกองกับพื้น นางไม่สนใจว่าตนเองจะ


ดูอเนจอนาถขนาดไหน เพียงคิดจะเข้าไปกอดขาฮ่องเต้ขอความเมตตา แต่แค่ขยับตัวไม่ทนั ลงมือ ก็เห็นสายพระเนตร
เขม้นมองมาจนนางต้องผวาไปหมด

"เห็นแก่วนั นี้ราลึกถึงพระมารดา ทั้งราชครู ก็ขอร้อง เราจะละเว้นชีวิตเจ้า ให้ขงั คุกไว้ รอวันตัดสิ น " จัดการเช่นนี้
นี่ถือว่าเป็ นเมตตาอย่างที่สุดของจีเฉวียนแล้ว

" ฝ่ า......" ตู๋กูเหลียงยังคิดดึงดันขอร้อง แต่ไม่รู้วา่ มีเงาดามาจากไหน เข้ามาคร่ ากุมตัวนางออกไปอย่างรวดเร็ ว


ตู๋กูซิงหลันชมดูดว้ ยความตื่นตระหนกจนหัวใจแทบกระดอนออกมา ยังดีที่นางไม่ได้เผลอแสดงตัวออกไป ไม่ง้ นั
ล่ะก็ภูเขาน้ าแข็งนัน่ อาจเอานางถึงตายก็ได้

พอนางพึ่งผ่อนลมหายใจออกจากปาก ก็รู้สึกถึงรังสี อามหิ ตทะลวงผ่านหมอกมาถึงตัว กระแทกเข้าสู่ หวั ใจ

" เจ้าจะลงมาเอง หรื อจะให้เรา 'เชิญ' ลงมา"


ตอนที่ 14 โรคหลงตัวเองขอฝ่ าบาท ไร้ ยารักษา

ตู๋กูซิงหลัน "!!! " นี่ คงไม่ได้กาลังเรี ยกนางใช่ไหม

วิญญาณทมิฬ " พนันเอารางวัลใหญ่เลย เขาเรี ยกเจ้า เจ้าจบเห่แล้ว"

ตู๋กูซิงหลัน " ไม่แส่ ซกั เรื่ องจะตายไหม "

วิญญาณทมิฬ " ตาย "

ตู๋กูซิงหลัน "....."

ขณะที่นางกาลังลังเลอยู่นนั่ ราชองครักษ์ลบั ชุดดาก็ออกมาจับตัวคนไว้ แล้วลากนางออกมาทิ้งไว้เบื้องหน้าพระ


พักตร์ราวกับนักโทษคนนึง

ตู๋กูเหลียนเงยหน้าขึ้นมาก็พอดีเห็นตู๋กูซิงหลันที่ถูกคุมตัวมาถึง

นางโกรธแค้นลึกล้ าราวกับจะมีเขี้ยวงอกเงยจากปาก เป็ นนังนี่ อีกแล้ว! ต้องเป็ นเพราะมันทาเสี ยแผนแน่ ฝ่ าบาทถึง


ได้ชิงชังนางขนาดนี้ นี่มนั มาทาอะไรที่นี่ คิดจะมารับความโปรดปรานหรอ

ฝ่ าบาทโดนเครื่ องหอมของนางไปแล้ว ยามนี้ยอ่ มต้องการคนมาช่วยถอนพิษ นังงูพิษ นังงูพิษนัน่ คิดจะปล้นชิง


ตามไฟ

ตู๋กูซิงหลัน เจ้ าค่ อยก่ อนเถอะ! ข้ าจะไม่ ปล่ อยเจ้ าไปแน่ จะไม่ ปล่ อยเจ้ าไป.........
ส่ วนทางด้านนี้ต๋ กู ูซิงหลันกลับไม่ได้สนใจตู๋กูเหลียนแม้แต่นอ้ ย ตอนนี้นางยืนอยูเ่ บื้องหน้าจีเฉวียนและราชครู แม้
ในใจหวาดหวัน่ ก็ตอ้ งแสร้งยิ้มแย้มออกมา สองมือคานับน้อยๆ "ช่างบังเอิญจริ งๆ ฮ่องเต้ลูก......ฝ่ าบาท พวกเราช่างสม
เป็ นครอบครัวเดียวกัน ไปไหนมาไหนเป็ นต้องพบเจอ"

จีเฉวียน "....."

ราชครู "....."

" พูดไปแล้วฝ่ าบาทอาจไม่ทรงเชื่อ หม่อมฉันออกมาเดินเล่นคลายร้อน เมื่อครู่ ยงั เผลอหลับอยู่บนต้นไม้ ไม่รู้ไม่


เห็น ไม่ได้ยนิ อะไรทั้งนั้น"

ตู๋กูซิงหลันพูดไปหน้าไม่แดง ใจไม่เต้นแรง พลางค่อยๆ เงยหน้าขึ้น สายตาไม่ลอกแลกแม้แต่นอ้ ย

จุ๊ จุ๊ จุ๊ ดูฮ่องเต้ของพวกเราสิ ตลอดทั้งองค์มีเพียงเสื้ อคลุมตัวในสี ม่วง เผยผิวที่มีหยดน้ าเกาะพราวและเส้นสาย


กล้ามเนื้ อบนอก แล้วยังมีใบหน้างดงามปราศจากตาหนิ ใดๆ นัน่ อีก

คิ้วโกงดังคันศร ตาหงส์ท้ งั โหดเ**้้ยมและเย็นชา แล้วยังมีจมูกโด่งเป็ นสันและริ มฝี ปากบางและแดงดุจผลเชอรี่


ลาคอนัน่ และกระดูกไหปลาร้าถูกเส้นผมที่งดงามนุ่มนวลพัวพันไว้ ทั้งหมดนี้เชิญชวนให้คนอยากทาผิดโดยแท้!

นางลอบกลืนน้ าลายลงไปอึกนึ ง ค่อยหันสายตาไปดูท่านราชครู โดยไม่เปลี่ยนสี หน้า และไม่ให้ใจเต้น

ดูใบหน้านั้นงดงามราวกับฤดูใบไม่ผลิ สดใสราวดอกท้อผลิบาน ทั้งอ่อนหวานทั้งเย้ายวน ยังงามกว่าเหล่าสตรี อยู่


หลายส่ วน

เมื่อดูรูปร่ างของเขา ชะ...........

ต้องเป็ นเพราะนางกินยาผิดแน่! เอาใหม่ซิ!

นัน่ แขนคนหรื อขาม้า ขาคนหรื อขาช้าง เอวหรื อโอ่งน้ า! รู ปร่ างเช่นนี้แทบจะทาให้ผา้ คลุมสี ม่วงผืนนั้นระเบิดฉี ก
แล้ว
ขอถามสักนิดรู ปร่ างเป็ นหมูสามชั้นนัน่ คือพ่อคนงามจริ งๆ หรื อ

ไม่ ไม่ ไม่ นี่ล้อกันเล่ นใช่ ไหม

ใบหน้าที่ล่อลวงผูค้ นทั้งหลายได้ขนาดนี้ จะมาอยูบ่ นร่ างกายแบบนั้นได้ยงั ไง

ตู๋กูซิงหลันอดไม่ได้ที่จะขยี้ตาตัวเอง กลัวว่าตัวเองจะเห็นภาพหลอน ลูกตาแทบจะถลนออกมา พอมองดูท่าน


ราชครู อีกครั้ง อืม ยังคงเป็ นใบหน้าคนงาม รู ปร่ างตุ่มสามโคก!

อ้ าย! ทาไมมันถึงได้ ผิดผีผิดที่ทางขนาดนี ้ หนูอยากร้ องไห้ ซิ่ วเอ๋ อร์ เอ๋ ย ซิ่ วเอ๋ อร์ เจ้ าไปโดนของที่ไหนมา

อ้ ายๆๆๆๆๆ ตอนแรกนางคิดจะเชิญทางอาเภอมาเป็ นพยาน จัดการตบแต่งพวกเขาให้เรี ยบร้อย แต่วา่ ท่านราชครู


กลับมีรูปร่ างเช่นนี้ ทาให้นางใบ้กิน ต้องยอมล้มเลิกความคิดนี้แต่โดยดี ดูท่าคงต้องมองหาเป้าหมายใหม่ให้ไอ้ลูกชาย
เสี ยแล้ว

ชัว่ ขณะนั้นตู๋กูซิงหลันไม่ทนั ได้สนใจฮ่องเต้ผมู ้ ีพระพิโรธดุจฟ้าถล่มดินทลายเลยแม้แต่นอ้ ย เขาดูเยือกเย็นราวกับมี


น้ าแข็งชั้นหนึ่ งฉาบไว้ พอเห็นนางยังคงสนใจมองดูฉางซุนซิ่ ว พระหัตถ์ขา้ งนึงก็บีบคางของนางเอาไว้

ด้วยพละกาลังที่มากมาย แทบจะทาให้กระดูกคางของนางแทบจะแหลกเป็ นผุยผง

"เจ็บๆ ๆ ๆ ๆ "

ตู๋กูซิงหลันรี บยึดพระหัตถ์ไว้ นางคิดจะผลักพระองค์ออกไป ที่ไหนจะรู ้วา่ พระองค์มีพละกาลังมากขนาดนี้ สาย


พระเนตรเปี่ ยมด้วยแววอามหิ ต กดดันตู๋กูซิงหลันทุกถ้อยคา "เราเคยพูดว่า หากเจ้ายังกล้าออกมาจากตาหนักเย็นอีก จะ
ตัดขาสุ นขั ไม่รักดีของเจ้าทิง้ เสี ย"

ทุกถ้อยคาราวกับคมมีดในป่ าอันหนาวเหน็บกรี ดลงในใจของนาง

ตู๋กูซิงหลับถูกบีบจนน้ าตาแทบริ นไหลออกมา ใครจะไปคิดว่าเขายังจะจาได้อีก ทาไมต้องเป็ นอริ กบั สองขาของ


นางด้วย เอะอะก็จะตัดให้ดว้ น
เมื่อสู ้ไม่ได้ นางก็จะไม่สู้ แถมยังปล่อยให้น้ าตาริ นไหลเป็ นสายน้ า หยดแหมะๆ ลงบนหลังมือของเขา ทั้งยังแสดง
สี หน้าเจ็บปวดโศกเศร้า

" ฮือๆ ฝ่ าบาทเพคะ หม่อมฉันพึ่งจะสู ญเสี ยสามีไป เป็ นเพียงสตรี ม่ายตัวน้อยที่อ่อนแอน่าสงสารไร้กาลังคนนึง


ย่อมมีบางครั้งที่จะโศกเศร้าจนเสี ยกริ ยา ความทรงจาก็ถดถอย ขอทรงเห็นแก่พระพักตร์ของอดีตฮ่องเต้ ปล่อยพระ
มารดาน้อยของท่านไปเถอะนะ "

พอน้ าตาของนางหยดลงมา จีเฉวียนกลับรู ้สึกว่าหลังมือโดนน้ าร้อนหยดใส่ มองดูสตรี ผนู ้ ี่ทาท่าสิ้ นหวังและน่า


สงสาร เขาก็เริ่ มขมวดคิ้วขึ้นเรื่ อยๆ

อยูต่ าหนักเย็นได้ไม่นาน นางชักรู ้จกั เสแสร้งแสดงเก่งนัก

ผ่านไปครู่ นึง เขาค่อยยิม้ เย็นออกมาได้ น้ าเสี ยงเย็นเยียบเหน็บหนาวอย่างที่สุด " เก็บลูกเล่นของเจ้าไปซะ คิดว่าเรา


โง่เขลาหรื ออย่างไร"

ตู๋กูซิงหลัน "........" ท่านแต่ไหนแต่ไรเคยเสี ยโง่ที่ไหนกัน

"ตระกูลตู๋กูมีคนอย่างเจ้า แล้วยังส่ งอีกคนมาล่อลวงเรา เฮอะ ช่างคิดวางแผนได้รัดกุมดีแท้ " จีเฉวียนกุมนางไว้ไม่


ปล่อยแม้แต่นอ้ ย สายตาราวกับมีดดาบ แทบจะเฉื อนเนื้ อของนางออกมา "เจ้าเฒ่าตู๋กูถิงนั้นช่างดื้อดึงไม่ยอมแพ้นกั "

ตู๋กูซิงหลันไร้คาพูดจะกล่าว นางเจ็บเสี ยจนปากจะเบี้ยวแล้ว ไม่วา่ จีเฉวียนจะพูดอะไรก็ฟังไม่ค่อยถนัด

เมื่อเช้านี้แอบกินยาสาหร่ ายในครัวหลวงไปชามนึง ตอนนี้รู้สึกน้ าลายหนืดๆ มากสักหน่อย

เพียงครู่ เดียวก็รู้สึกน้ าลายท่วมปากท่วมคอ "ฝ่ าบาท หม่อมฉันวิงวอนทรงปล่อยมือเถอะ ไม่เช่นนั้นจะต้องทรง


เสี ยใจ"

คาพูดนี้อ้ือๆ อ้าอยูใ่ นคอ จีเฉวียนไม่ทนั ได้ทรงฟั งชัด

ไม่รอให้เขาคลายมือ นางก็คล้ายไม่ทนั ระวัง ถ่มน้ าลายพรวดลงบนหลังมือของเขา


จีเฉวียน "........"

ท่านราชครู ".!!! ."

ตู๋กูซิงหลัน " เอ่อ......." นัน่ เออ ท่านฟังข้าอธิบายก่อน นี่เป็ นเรื่ องสุ ดวิสัยจริ งๆ ใครใช้ให้ท่านเอาแต่บีบคางข้าอยู่
นัน่ ละ....

" ฝ่ าบาท เช็ดพระหัตถ์ก่อน " หลังจากตะลึงไปชัว่ ครู่ ฉางซุนซิ่วก็ส่งผ้าเช็ดหน้าให้จีเฉวียนผืนหนึ่ ง

ฮ่องเต้ทรงขมวดคิว้ แนบแน่ มือข้างนั้นรี บคลายออกจากปลายคางของตู๋กูซิงหลัน สายพระเนตรยิง่ อาฆาตอย่างลึก


ล้ า ยิง่ ใช้ผา้ เช็ดหน้าเช็ดมือข้างนั้นกลับยิง่ รู ้สึกขยะแขยง จนต้องล้างมือลงในทะเลสาบ ล้างแล้วก็ลา้ งอีก

ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกว่าเขาใช้เวลาล้างมือยาวนานยิ่งกว่าตอนนางทาธุระหนักเสี ยอีก

ตอนที่นางเช็ดมุมปากของตัวเอง ก็แอบกล้าตายค่อนขอดเบาๆ ประโยคนึง "ก็ไม่มีพิษสักหน่อย...."

จีเฉวียนยามนี้ยงิ่ รู ้สึกอยากจะฆ่านางทิง้ อยูท่ ุกวินาที

เขาอดกลั้นเก็บงาความโกรธเกรี้ ยว ลุกขึ้นมา เหลือบมองมือที่ลา้ งจนแทบจะปอกผิว อยากจะลอกเอาหนังทิ้ง


ออกไปจริ งๆ

ไม่รู้ทาไม ตอนที่น้ าลายนัน่ กระเด็นใส่ มือ อุณหภูมิที่ร้อนระอุน้ นั เหมือนจะซึมเข้าสู่ ผิวหนัง ทาให้เขารู ้อยากตาย
ขึ้นมาจริ งๆ

เขาสู ดกลิ่นเครื่ องหอมแฝงยาเสน่ห์บนตัวของตู๋กูเหลียนเข้าไป ก่อนหน้านี้ ใช้กาลังภายในกดไว้ ตอนนี้ กลับถูกตู๋กู


ซิงหลันกระตุน้ ออกมา สตรี ผนู ้ ้ ีตกลงกาลังทาอะไรกันแน่
ตอนที่ 15 สุ ดแสนจะประทับใจเลยใช่ ไหม!

ตู๋กูซิงหลันเผอิญเหลือบไปเห็นมือที่ถลอกของฝ่ าบาท คนอดที่จะเสี ยความรู ้สึกไม่ได้ เจ้าลูกสุ นขั นี้ถา้ ไม่ใช่จิ้งจอก


เฒ่าในภูเขาน้ าแข็ง ก็ตอ้ งเป็ นพวกรักสะอาดจนป่ วยทางจิต

" ฝ่ าบาท ทรงหลัง่ พระโลหิ ตแล้ว " ท่านราชครู พอได้เห็น ก็ไม่รู้วา่ สรรหาผ้าอีกผืนมาจากไหนมาพันแผลถวาย

จีเฉวียนกลับไม่ปฎิเสธ ปล่อยให้เขาพันพระหัตถ์ให้ ฉางซุนซิ่ วน้อมศรี ษะลง เส้นผมไล้ผา่ นท่อนพระกรของเขา


เบาๆ ปลายนิ้วสัมผัสผ่านอุม้ พระหัตถ์ของฝ่ าบาท ผ้าไหมเบาบางก็พนั อยูโ่ ดยรอบ

บรรยากาศแบบนี้มนั เหอ เฮ้ออออออ...

ตู๋กูซิงหลันพลันกวาดตาผ่านไปเห็นอาการของฮ่องเต้ดูไม่เป็ นปกติอย่างที่เคย

โว้!!! แม่เจ้าโว้ย!!!

หนุ่มๆ คู่น้ ี ไม่สนรสนิยมทัว่ ไปก็แล้วไปเถอะ แต่คงไม่ถึงกับต้องเชือดคนอื่นทิ้งนะ! หงิงๆๆ แม่ม่ายโสดสนิท


อย่างนางทาผิดอะไร

นางได้แต่ตาโตมองดูภาพด้านหน้า คิดๆ ดูเมื่อกี้ต๋ ูกูเหลียนทอดเสน่ห์ใส่ ฝ่าบาท เขากลับไม่มีปฎิกิริยาแม้แต่นอ้ ย


ตอนนี้แค่ท่านราชครู ช่วยพันแผลให้หน่อยเดียว เขาก็......

อย่างว่านะ นางก็มาจากโลกต่างมิติยอ่ มไม่เข้าใจนี่น่า

ไอ้หนุ่มนี่ชอบอะไรไม่ธรรมดาเลยจริ งๆ

ภาพบรรยากาศเบื้องหน้าสุ ดแสนงดงาม ตู๋กูซิงหลันได้แต่เฝ้ามองอย่างดื่มด่าต่อไป

กระทัง่ จีเฉวียนใช้สายตาราวมีดดาบทิ่มแทงอีกครั้ง นางถึงได้รู้สึกเจ็บตาอยูบ่ า้ ง ทั้งยังบาดเนื้ อตัวอยูไ่ ม่นอ้ ย


เมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้ นางก็ถอยออกไปทีละก้าว เจ้าลูกสุ นขั นี้ ไม่ชอบหน้านางมานานแล้ว ตอนนี้ นางยังมาอยูเ่ ป็ น
ก้างขวางระหว่างเขาและท่านราชครู เขาคงไม่ถึงขนาดฆ่าคนปิ ดปากใช่ไหม

ตู๋กูซิงหลันดูไป สมองก็ครุ่ นคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากสถาณการณ์น้ ีไปด้วย

ด้านฉางซุนซิ่วตั้งแต่ตน้ จนถึงตอนนี้เหมือนจะแค่จบั ตามองอยู่ดา้ นข้างเท่านั้น เขาไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามาช่วยนางแม้


แต้นอ้ ย สายตาของเขามีแต่ความสงบนิ่ง ดูไม่ออกว่าดีใจหรื อโกรธเกรี้ ยว ถึงแม้จะเป็ นเจ้าอ้วนใหญ่ แต่ใบหน้านั้นก็ยงั
งดงามน่าดู น่าดูเสี ยจนคนต่างมองข้ามร่ างกายเจ้าเนื้อสามชั้นของเขาไป

"ตู๋กูซิงหลัน " ตอนนี้ จีเฉวียนห่างจากนางแค่เพียงสามก้าวเท่านั้น

วันนี้เป็ นวันราลึกถึงวันเกิดของพระมารดา หากไม่ถึงที่สุดเขาก็ไม่คิดจะให้เกิดการหลัง่ เลือดขึ้น แต่สตรี ผนู ้ ้ ีชวน


ให้รู้สึกขัดหูขดั ตาอย่างยิง่

เพลิงปรารถนาของเขายังไม่ทนั จางหาย พอเห็นนางกลับไม่รู้สมควรทาเช่นไรดี ยิง่ เห็นนางทาสายตาเว้าวอนอย่าง


น่าสงสาร ยิง่ รู ้สึกเหมือนไฟกองนั้นยิ่งลุกโชน

สมควรตาย! สตรี ผนู ้ ้ ีทาอะไรกันแน่ หากไม่ใช่เพราะนางลงมือเล่นลวดลาย เขาคงไม่เป็ นแบบนี้

สายตาของฝ่ าบาทยามนี้ทวีความโกรธเกรี้ ยว ราวกับพยาราชสีห์ที่พร้อมจะระเบิดอารมณ์ทุกเมื่อ ขอเพียงตู๋กูซิงห


ลันพูดอะไรผิดหูเพียงนิดเดียว เขาก็พร้อมจะสับนางเป็ นชิ้นๆ

" เจ้าอยากจะกลายเป็ นสตรี ของเรามากใช่ไหม " คราวนี้ฝ่าบาทไม่ได้จบั คางของนางเอาไว้แล้ว แต่ประโยคนี้เขา


กัดฟันพูดมันออกมาทีละคา

ตู๋กูซิงหลัน "??? " ขอโทษนะสมองของท่านขาดอะไรไปหรื อเปล่า


" ฮึ อย่างคิดนะว่าเจ้าทาท่าว่าไม่รู้เรื่ อง แล้วเราจะคิดว่าเจ้าเป็ นผูบ้ ริ สุทธิ์" ฮ่องเต้ยมิ้ เย็น " ในเมื่อเจ้าขาดแคลนบุรุษ
นัก เราก็จะสนองความปรารถนาของเจ้าให้ ไทเฮาก่อความวุ่นวายในวังหลัง คิดว่าเจ้าปู่ แก่ๆ ของเจ้าก็คงช่วยอะไรเจ้า
ไม่ได้หรอก"

ตู๋กูซิงหลันถึงกับหน้าถอดสี

ด้วยอุปนิสัยประหลาดและร้ายกาจของฮ่องเต้ แน่นอนว่าพระองค์สามารถทาเรื่ องร้ายๆ ออกมาได้แน่ คิดถึงตรงนี้


นางก็รีบใช้ไหวพริ บ สั่งน้ าตาให้ไหลโฮกราวกับของแถม ชูสองมือขึ้น ร่ าไห้เสี ยงดัง "ฝ่ าบาท หม่อมชั้นถูกใส่ ความ!
ฮื้อๆ ฮือๆ "

ท่วงท่านี้ราวกับโต่ วเอ๋ อร์ คืนชีพมาเล่นเอง

ในใจกลับร้อนรนรี บสั่งการวิญญาณทมิฬ " รี บจัดการเจ้ าลูกเต่ านี่เร็ วเข้ า! เดี๋ยวนี!้ ด่ วนจี๋! "

วิญญาณทมิฬ "......" ถึงแม้มนั จะดูดเอาไอทิพย์เข้าไปมาก ไม่เพียงแต่ฟ้ื นฟูแล้ว แม้แต่ดวงจิตก็แข็งแกร่ งขึ้น แต่จะ


ให้ควบคุมฮ่องเต้องค์หนึ่ง มันยังไม่มีความมัน่ ใจเพียงพอ

แต่หากไม่ลงมือ เกรงว่านังหนูนี่คงรอดไม่พน้ วันนี้แน่

หลังลังเลอยูช่ วั่ แวบ มันก็ทาใจดีสู้เสื อ กระโดดคราเดียวสู งสามวาเข้าถึงข้างพระองค์ฮ่องเต้ แยกเขี้ยวกางเล็บด้วย


มือสั้นๆ และขาอวบๆ ของมัน อ้าปากกัดกร้วมเข้าที่เท้าของฮ่องเต้

" ย๊ากกกก......" เสี ยงแหลมสุ ดเสี ยง

ชัว่ พริ บตานั้นตู๋กูซิงหลันเบือนหน้าหนี ทั้งปิ ดตาไม่กล้าดู

คนทัว่ ไปถูกมันกัดเข้าคาหนึ่งอย่างน้อยๆ ต้องสลบไสลสามวันห้าวัน หรื ออาจมากถึงสิ บวันครึ่ งเดือน พอตื่นมาก็


จิตใจสับสน จดจาสิ่ งใดไม่ได้ เขี้ยวนี้กดั ลงไป เจ้าลูกหมานัน่ ไม่รอดแน่

คิดถึงตรงนี้ได้ ตู๋กูซิงหลันก็กระหยิม่ ใจอยู่ลึกๆ แม้แต่มุมปากก็ยกยิม้ ขึ้นมา


ครั้งก่อนเจ้าวิญญาณไม่อาจเข้าใกล้เจ้าลูกสุ นขั นี้ได้เพราะเขาเป็ นถึงฮ่องเต้ มีไอมังกรคุม้ ครอง และเพราะมันยัง
อ่อนแอ วันนี้ มนั ได้รับไอทิพย์จากสถานที่น้ ีเข้าไปมากมาย กัดเขาสักคาคงพอได้น่า

เพียงแต่ครู่ ถดั มา นางต้องหัวเราะไม่ออกแล้ว

"อะจ๊าก............นะนะนี่นินินิ....ลูกชายเจ้ากินหิ นเข้าไปหรื อไง ถึงได้โตมาแข็งแบบนี้! " เสี่ ยวถวนใช้มือสั้นๆ ของ


ตัวเองกุมปากเอาไว้ คุดคูเ้ ป็ นก้อนกลมอยู่บนพื้น ข้างตัวมันยังมีฟันดาๆ ตกอยูซ่ ี่ นึงและเลือดอีกคาโต

ตู๋กูซิงหลัน "....."

ใบหน้านางเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง คมเขี้ยวของเจ้าวิญญาณทมิฬแข็งแกร่ งมาก แม้แต่แท่งเหล็กยังสามารถเคี้ยว


กลืนได้ แล้วนี่ ทาไมถึงได้.......

ฮ่องเต้คล้ายรู ้สึกถึงอะไรบ้างอย่าง จึงก้มพระเศียรลงทอดพระเนตรปลายพระบาท ขยับด้วยอาการเจ็บๆ คันๆ


เล็กน้อย เท้านี้พอดีขยับไปเหยียบลงบนตัวเจ้าเสี่ ยวถวน

" ช่วยข้าด้วยยยย! " เจ้าวิญญาณทมิฬกรี ดร้องหานาง หากฝ่ าเท้านี้ของฮ่องเต้เหยียบลงมา มันไม่แคล้วต้องสาหัส


แน่นอน

เรี ยกไม่ทนั ขาดคา ตู๋กูซิงหลันก็ถลาเข้าไปยังเบื้องหน้าของเขา สองมือกอดพระบาทข้างนั้นเอาไว้ มองดูฝ่าเท้ายาว


ได้รูปงดงาม ทั้งสะอาดสะอ้าน! ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา มีความชุ่มชื้น หลังเท้านูนสวยราวแกะสลักจากไม้ช้ นั ดี

ตู๋กูซิงหลันสองมือประคองเท้าที่งดงามของฮ่องเต้ไว้ อดไม่ได้ตอ้ งก้มหน้าแอบสู ดดมเข้าไปคราหนึ่ง

"ฟื ดดดดด...." กลิ่นนี้มนั แทบจะส่ งนางลอยขึ้นสวรรค์ไปเลย!

จีเฉวียนไม่นึกไม่ฝันว่านางจะหน้าด้านไร้ยางอายถึงเพียงนี้ เขาอยากฆ่าคน จับนางห้าม้าแยกร่ าง สับเป็ นแปดท่อน


แล่เนื้อพันชิ้นเสี ยเดี๋ยวนี้ !

แต่ไออุ่นแปลกประหลากจากฝ่ าเท้ากลับกระตุน้ ให้เกิดเพลิงขุมหนึ่ งในหน้าท้อง ทั้งยังแล่นเข้าสู่ เส้นหัวใจ จาก


หัวใจก็กระจายสี่ ทิศแปดทางไปทัว่ ทั้งร่ าง ยีส่ ิ บกว่าปี มานี้เขาไม่เคยรู ้สึกอย่างนี้ มาก่อน
ตอนที่ 16 ฝ่ าบาททรงเป็ นพระโพธิสัตว์ลงมาเกิด

" นี่เป็ นฝ่ าเท้าที่สวยงามและหอมที่สุดที่หม่อมฉันเคยพบเจอมา! "

ตู๋กูซิงหลันไม่ยอมเสี ยเวลาแม้แต่นอ้ ย สองมือตระกองกอดฝ่ าเท้าข้างนั้นเอาไว้ เงยหน้าขึ้นมองพระพักตร์ที่


กระจ่างราวอาทิตย์ไร้เมฆของฮ่องเต้

" ฝ่ าบาทที่สุดแสนเคารพสุ ดบูชาของหม่อมฉัน โปรดทรงอภัยในความอุกอาจไร้มารยาทนี้ดว้ ย ความภักดีของ


หม่อมฉันเป็ นดังแม่น้ าฮวงโหที่ไม่เคยเปลี่ยนสี หม่อมฉันยินดีจะเฝ้าอยูแ่ ทบพระบาทอย่างนี้ ดังหมาน้อยตัวหนึ่ ง
แฮ่กๆๆ "

พูดจบนางก็เดินหน้ากล้าตาย ถึงขนาดก้มลงจุมพิตแผ่วเบาราวแมลงปอแตะผิวน้ าบนหลังเท้าของฝ่ าบาท ชัว่


ขณะนั้นทาให้ฮ่องเต้ตวั ชาวาบราวกับถูกกระแสไฟดูด และระเบิดออกทันที ดีที่ฉลองพระองค์ผา้ คลุมสี ม่วงคลุม
พระองค์ไว้ทวั่ องค์ ตู๋กูซิงหลันจึงไม่ทนั ได้สังเกตเห็นความผิดปกติ

ใบหูของเขาขึ้นเป็ นสี แดง สองคิ้วขมวดแน่น ปลายเท้าเตะเบาๆ ใส่ นางครานึง ตู๋กูซิงหลันกลับจงใจรับไว้ ทั้งยัง


แกล้งทาเป็ นกระเด็นไปกองกับพื้น พอดีรักษาชีวิตของวิญญาณทมิฬเอาไว้ได้ นางคร่ าครวญว่า

" ขอเพียงฝ่ าบาทคลายโทสะ ต่อให้หม่อมฉันต้องถูกถีบอีกครั้งก็ยนิ ดี หงิงๆ หงิงๆ ...."

จีเฉวียน "....." คนอย่างนาง! เขาต้องหาทางจัดการฆ่าทิ้งโดยเร็ ว

เจ้าวิญญาณถูกช่วยกลับมา ก็รีบคลานเข้ามาอยูใ่ ต้เงาของนาง ปากที่ไม่มีฟันแล้วก็พร่ าราพัน "คิดไม่ถึงเลยว่า เพื่อ


ช่วยเหลืออัว๊ เจ้าจะมองเป็ นหมูเป็ นหมาขนาดนี้ ลาบากเจ้าแล้ว รอให้อวั๊ แข็งแรงดีเมื่อไหร่ จะต้องเอามันคืนแน่ "

ตู๋กูซิงหลัน "......" ไม่ ต้องแล้ ว พอเหอะ! ขอบคุณนะพี่

ตู๋กูซิงหลันเล่นทุ่มสุ ดตัวขนาดนี้ แม้แต่ฉางซุนซิ่วยังพูดไม่ออก ผ่านไปครึ่ งค่อนวันเขาถึงได้มีปฏิกิริยา เขาตรงเข้า


ไปคิดจะทัดทานฮ่องเต้ "ฝ่ าบาท...."
จีเฉวียนกลับไม่เหลือบมองเขาแม้แต่น้อย สองตาจับจ้องตู๋กูซิงหลัน ราวกับว่าจะสามารถล้วงเอาความจริ งใดๆ
ออกมาได้

" เจ้าไสหัวกลับไปตาหนักเย็นเดี๋ยวนี้ " ฮ่องเต้ขบพระทนต์จนแทบปริ แตก หากไม่ใช่เพราะตระกูลตู๋กูยงั มี


ประโยชน์ให้ใช้สอย เขาอยากจะจัดการเชือดนางทิ้งไปเสี ยเดี๋ยวนี้

" ได้เลยเพคะ " ตู๋กูซิงหลันรี บลุกขึ้นโดยทันที ตบก้นปัดฝุ่ นแล้วเดินออกไปโดยไม่ลงั เลแม้แต่นอ้ ย เพียงแต่เดิน


ออกไปได้สองก้าว นางก็อดหันกลับมาไม่ได้

"ฝ่ าบาท ท่านเป็ นดังพระโพธิ สัตว์กลับชาติมาเกิดจริ งๆ หม่อมฉันขอบพระทัยในพระเมตตาเป็ นล้นพ้น "

เจ้าลูกสุ นขั ถึงกลับปล่อยนางไปง่ายๆ แบบนี้ ช่างนอกเหนื อความคาดหมายของนางนัก

จีเฉวียน " ไปซะ "

ตู๋กูซิงหลัน " ได้เพคะ "

เมื่อเห็นเงาหลังของนางจากไปอย่างยินดี ฮ่องเต้อดที่จะปวดพระเศียรไม่ได้ สมควรตาย! หากนางปรากฎตัวต่อ


หน้าเขาอีกครั้ง เขาอาจถูกยัว่ โทสะจนบ้าตายได้

" ฝ่ าบาท ดูท่าในสายตาของพระองค์ ไทเฮาทรงเป็ นคนพิเศษ" ฉางซุนซิ่วรอจนเงาหลังของตู๋กูซิงหลันจางหายไป


ถึงได้กล่าวออกมา เขาหรี่ ตามองอย่างพินิจพิเคราะห์ ทั้งแววตายังแฝงความว้าวุน่ อยูห่ ลายส่ วน

ฝ่ าบาททรงเฉยชาต่ออิสตรี ถึงขนาดที่ทรงกลายเป็ นภูเขาน้ าแข็งก้อนหนึ่ ง พระองค์ไม่เคยเผยอารมณ์ใดๆ เรี ยกว่า


ต่อให้ฟ้าถล่มลงมา ฝ่ าบาทก็ไม่ทรงขมวดคิว้ แม้แต่นอ้ ย

แต่กบั ตู๋กูซิงหลันแล้ว ทุกสิ่ งกลับไม่เหมือนกัน ไม่วา่ นางจะขยับไปทางไหนล้วนอยูใ่ นความสนใจของฝ่ าบาท


นางที่โอหังบังอาจ นางที่ด้ือรั้นต่อต้าน ฝ่ าบาทกลับไร้หนทางจะจัดการกับนางได้ แม้วา่ จะทรงแสดงออกว่าพระองค์
ชิงชังนางอย่างลึกล้ า

แต่วา่ นอกจากฉางซุนฮองเฮาแล้ว ก็มีแต่นางนี่ ละ......ที่ทาให้ทรงแสดงพระอารมณ์ออกมา


หรื อเพราะนางคือหลานสาวของตู๋กูถิงกันนะ

จีเฉวียนหันมาทอดพระเนตรมองเขาครานึง "เจ้าอยูข่ า้ งกายเรามานานหลายปี ยังไม่รู้จกั เราดีอีกรึ เราให้ความพิเศษ


กับนาง เพราะเราอยากให้นางตายมากเป็ นพิเศษ"

ฉางซุนซิ่วก้มหน้าซ่อนรอยยิม้ หลายปี มานี้ คงมีแต่ต๋ กู ูซิงหลันนี่ละที่ทาให้ฝ่าบาททรงอึดอัดขุ่นข้องได้เพียงนี้

................................................................

เมื่อออกจากป่ าได้ระยะหนึ่งตู๋กูซิงหลันถึงได้กล้าผ่อนลมหายใจ

" พระโพธิสัตว์คมุ ้ ครอง ขอให้ขา้ อย่าได้เจอเจ้าลูกหมานัน่ อีกเลย " นางตบอกเบาๆ

" นี่วิญญาณทมิฬ เมื่อกี้มนั อะไรกัน กัดคนไม่เข้า กลับจะถูกเขาฆ่าตายรึ " พอถึงตอนนี้ นางค่อยมีอารมณ์มาซักไซ้


ไต่ถาม

"รู ้กบั ผีน่ะสิ บุตรของเจ้าหล่อจากเหล็กหรื อยังไง แค่กดั ครั้งเดียวกลับทาข้าฟันร่ วงหมดปาก เจ้าบอกมาซิ เขาเป็ น
ปี ศาจใช่ไหม "

วิญญาณทมิฬกระโดดขึ้นมาเกาะบนบ่านางอีกครั้ง พอคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ ในใจต้องอดหนาวขึ้นมาไม่ได้ ที่


สาคัญที่สุดคือ ในร่ างกายของฝ่ าบาทมีธาตุหยินไหลวนอยู่ ความหนาวเหน็บที่ล่องลอยออกมาจากภายในนัน่ ราวกับจอม
ปี ศาจจากขุมนรก

นั่นจะเป็ นไปได้ อย่ างไร! ประหลาดเหลือเกิน ก็เขาเป็ นมนุษย์นี่?

ตู๋กูซิงหลัน "...." ใครว่าไม่ใช่ตวั ประหลาดละ ประหลาดจะตาย!


" ช่างเถอะ พวกเรายังคงทาตามที่เด็กน้อยคนดีวา่ ไว้ อยูใ่ ห้ห่างจากเจ้าลูกสุ นขั นัน่ หน่อย " ตู๋กูซิงหลันลูบหัวถ
วนจื่อเบาๆ แทนการปลอบโยน

วันนี้ นางสามารถเก็บชีวิตกลับมาได้ ถือว่าไม่ใช่เรื่ องง่ายเลย

เมื่อเดินผ่านมุมหนึ่งในสวนดอกไม้ นางเห็นพระสนมกลุ่มหนึ่ งชุมนุมกันอยูอ่ ย่างครึ กครื้ น ในกลุ่มมีคนที่สวมชุด


แดงกุหลาบแบบชาววัง คือฉี ผินที่เคบพบกันในตาหนักอวี้เฉวียน

คนที่ถูกเหล่าสนมล้อมอยูต่ รงกลางคือพระสนมขั้นเฟยที่สวมชุดเรี ยบหรู ผหู ้ นึ่ง ในมือของนางมีดอกกุหลาบขาว


คนก็สวมชุดขาว รู ปโฉมงดงามเย็นชา ใบหน้ารู ปไข่ คิ้วโก่งงาม แต่งหน้าอ่อนบางแต่กลับไม่สามารถลดทอนความงาม
ของนางแม้แต่นอ้ ย ตู๋กูซิงหลันมองจนเผลอไผลไปชัว่ ขณะ เป็ นโฉมสะคราญที่น่าชื่นชมจริ งๆ แม้จะจืดชืดไปนิดหน่อย

เจ้าฮ่องเต้ลูกชายช่างรู ้จกั เสพสุ ขจริ งๆ มีท้ งั รสจัดจ้านอย่างท่านราชครู วังหลังยังมีพระสนมที่โดดเด่นงดงาม


ชัว่ ขณะหนึ่งนางอดที่จะรู ้สึกอิจฉาไม่ได้

พอรู ้สึกตัวนางก็พบว่าเบื้องหน้ามีเงาคนผูห้ นึ่งขวางทางไว้ ผูม้ าสวมใส่ ชุดกระโปรงเขียวใบไผ่ดูสุขมุ สง่างาม


ใบหน้ามีรอยยิม้ แฝงความเคารพ "หม่อมฉันคือชิงผิง ถวายพระพรไทเฮา นายของหม่อมฉันอยากทูลเชิญท่าน "

ตู๋กูซิงหลันเหลือบมองนางแว๊บหนึ่ง คนอายุราวยีส่ ิ บปี ดูจากการแต่งตัวคงเป็ นข้าหลวงในตาหนักใดตาหนักหนึ่ง

ตู๋กูซิงหลันตั้งใจหลบหลีกฝูงชนแต่แรก แต่นางกลับสามารถมาดักรอได้อย่างเหมาะเจาะ ดูท่าคงมีฝีมือไม่น้อย

" นายหญิงรอพบท่านอยูน่ านแล้ว ขอไทเฮาทรงพระกรุ ณาเสด็จเถอะเพคะ " ชิงผิงถวายคานับนาง ชัดเจนว่า


ต้องการยกย่องให้เกียรติ

" เช่นนั้นข้าขอถามสักหน่อย นายของเจ้าคือผูใ้ ด" ตู๋กูซิงหลันก็ไม่อยากฉี กหน้าผูอ้ ื่น เพียงแต่ในรั้วในวังอันกว้าง


ใหญ่น้ ี ไม่อาจประมาทละความระแวดระวังได้

ชิงผิงก็ไม่ข่นุ เคืองแม้แต่น้อย แย้มยิม้ ตอบอย่างเคารพนพนอบ " เสี ยนไท่เฟย แห่งพระตาหนักฉางเล่อเพคะ "

เสี ยนไท่เฟย........
ตู๋กูซิงหลันพลันนึกถึงคนผูห้ นึ่ ง อี้อ๋องจีเย่ว!์

ในเมื่ออดีตฮ่องเต้สวรรคตไปแล้ว เสี ยนเฟยย่อมกลายเป็ นเสี ยนไท่เฟย นางเป็ นมารดาผูใ้ ห้กาเนิดจีเย่ว์ แต่วา่ ทาไม
ต้องส่ งคนมาเชิญนางไปที่พระตาหนักฉางเล่อด้วย?

" ไทเฮาเพคะ หากยังทรงรี รออยู่ เกรงว่าเหล่าสนมที่มาร่ วมยินดีในวันเกิดของพระสนมเต๋ อเฟยคงจะสังเกตเห็น


พระองค์เข้า ท่าน...หากว่าปล่อยให้พวกนางมาเข้าเฝ้าในสภาพเช่นนี้ คงทาให้เกิดเรื่ องที่เกินจาเป็ นขึ้นมาแน่ " ชิงผิงเอ่ย
เตือนอย่างหวังดี

ที่แท้สาวงามในชุดกระโปรงเรี ยบหรู ก็คือ เต๋ อเฟย......แถมยังเกิดวันเดียวกันกับฉางซุนฮองเฮา

ตู๋กูซิงหลันอดที่จะมองอีกสักนิ ดไม่ได้

ขณะเดียวกัน ดวงตางดงามราวลูกแก้วของเต๋ อเฟยก็กวาดตาผ่านมา รอยยิม้ งดงามราวดอกไม้ผลิบาน ไม่มีใครรู ้วา่


นางกาลังมองมาที่ใดอยู่

" ไทเฮาเพคะ โปรดเสด็จมากับหม่อมชั้นเถอะ "


ตอนที่ 17 เสียนไท่ เฟย

ชิงผิงยังคงนอบน้อมเชื้อเชิญ ดูท่านางตั้งมัน่ ว่าต้อง 'เชิญ' ตู๋กูซิงหลันไปให้ได้

ตู๋กูซิงหลันลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง ค่อยติดตามนางไป เรื่ องเกี่ยวกับเสี ยนไท่เฟยนั้น นางมีความสงสัยไม่นอ้ ย หากได้พบ


หน้าสักครั้งคงพอมีผลลัพธ์อยู่บา้ ง

...........................

พระตาหนักฉางเล่อ (ตาหนักสุ ขนิรันดร์)

กาแพงตึกแดงกระเบื้องเขียว หยกงามแกะสลัก ทั้งงดงามและหรู หรา แม้ไม่อาจสู งส่ งเกินหน้า แต่สิ่งละอันพันละ


น้อยก็บ่งบอกฐานะของผูเ้ ป็ นเจ้าของ หากเปรี ยบเทียบกับตาหนักเย็นที่ผๆุ พังๆ ของนางแล้ว ที่นี่ก็งดงามดังวิมานบน
สวรรค์ทีเดียว

ตู๋กูซิงหลันหยุดรออยูด่ า้ นหน้าตาหนักชัว่ ครู่ จิตใจกับเหม่อลอยอยูบ่ า้ ง ทุกคนต่างก็เป็ นสตรี ในวังหลังเหมือนกัน


แต่บางคนอยูห่ รู หราสุ ขสบาย บางคนกลับอดอยากยากแค้น ความแตกต่างนี้ราวกับก้อนเมฆบนท้องฟ้าและพื้นดิน

นางได้แต่อาศัยน้ าลูบท้องอยูใ่ นตาหนักเย็น ใช้ชีวิตราวกับหนูตามถนนไร้เดือนไร้ตะวัน ตู๋กูซิงหลันรู ้วา่ นางไม่อาจ


ปล่อยให้ตนเองต้องตกในสภาพนี้ต่อไป ที่จริ งหลายวันนี้ นางไม่ได้ปล่อยให้มนั ผ่านไปเฉยๆ ไทเฮาน้อยต่อให้โง่เขลา
ราวสุ กร ก็ไม่มีทางคิดไปปี นเตียงลูกชายหลังสามีตายไม่ทนั ไรด้วยตนเอง

ยิง่ ไปกว่านั้น จากที่เชียนเชียนเล่ามา นางพอจะคาดเดาได้บางส่ วน หลายวันก่อนเกิดเรื่ อง เจ้าของร่ างนี้จิตใจไม่อยู่


กับเนื้ อกับตัว ทั้งสับสนร้อนรน พูดบ่นพึมพากับตนเองตลอดเวลา
ดังนั้นเรื่ องปี นเตียงนี้ จะต้องมีเงื่อนงาไม่ธรรมดาแน่

ชิงผิงพานางเดินผ่านสวนดอกไม้ อ้อมไปอ้อมมาอยูเ่ จ็ดแปดรอบค่อยหยุดลงที่ตาหนักหลังหนึ่ ง ประตูใหญ่เปิ ด


ออก ไอเย็นสายหนึ่งกระจายออกมาจากด้านใน พาลให้คนรู ้สึกหนาวจนขนลุกในฤดูร้อน ตู๋กูซิงหลันไม่ชอบบรรยากาศ
แบบนี้เลย ราวกับว่าตาหนักนี้เป็ นดังสุ สานหลังหนึ่ งก็ไม่ปาน

" ไทเฮาเพคะ เชิญเสด็จ~ " ชิงผิงเชื้อเชิญนางเข้าไปด้านใน

ตู๋กูซิงหลันเพียงก้าวเท้าเข้าไปได้กา้ วหนึ่ ง ประตูใหญ่บานนั้นก็ส่งเสี ยงปิ ดลงในทันที กลิ่นเครื่ องหอมเข้มข้นลอย


มาเข้าจมูก หน้าต่างทุกบานล้วนปิ ดสนิท มีเพียงเทียนไม่กี่เล่มถูกจุดไว้ แสงสว่างเล็กน้อยทาให้เห็นเพียงแค่เงาร่ างของ
สตรี ที่แต่งงานแล้วผูห้ นึ่ง

นางสวมกระโปรงยาวโปร่ งบางแช่มช้อย บนศรี ษะม้วนผมทรงเมฆไหล ปั กปิ่ นงดงาม ท่ามกลางกลิ่นเครื่ องหอมมี


กลิ่นม้วนหนังสื อปะปน ยามนี้ นางกาลังเขียนอักษรอยู่

รออยูค่ รู่ ใหญ่ เสี ยนเฟยถึงได้วางพู่กนั ในมือลง ส่ งยิม้ ให้นาง เอ่ยเสี ยงอบอุ่นกันเอง " หลันเอ๋ อร์ เจ้ามาแล้ว~ "

ยามนางเงยหน้าขึ้น ตู๋กูซิงหลันถึงได้เห็นรู ปโฉมที่รักษาไว้เป็ นอย่างดีของนางได้ชดั เจน คนเพียงดูคล้ายสตรี งาม


ในวัยสามสิ บกว่าเท่านั้น ผิวพรรณขาวใสผุดผาด ดวงตางดงามลึกล้ า ดูคล้ายคลึงกับจีเย่วถ์ ึงห้าหกส่ วน เสี ยนไท่เฟยไม่
นับเป็ นโฉมงามเลิศล้ าล่มบ้านล่มเมือง แต่กลับมีบุคลิกโดดเด่น อ่อนหวานจริ งใจ และดูสูงศักดิ์
ไม่น่าละ ถึงแม้นางจะมีชาติกาเนิดต่าต้อย แต่ยงั ได้รับความโปรดปรานจากอดีตฮ่องเต้

" เสี ยนไท่เฟยเพคะ " ตู๋กูซิงหลันค้อมศรี ษะให้นางแต่ไกล

" เมื่อครู่ ขา้ กาลังคัดลอกพระไตรปิ ฎกถวายฉางซุนฮองเฮา ไม่ทนั สังเกตเห็นเจ้า เจ้าอย่าได้ข่นุ เคือง "

" มิได้เพคะ " ตู๋กูซิงหลันหลุบตาลงแต่ไกล เห็นที่พระนางคัดลอกคือพระสู ตรเล่มหนึ่ ง ใช้โลหิ ตผสมหมึกคัดลอก

" หลันเอ๋ อร์ แม้ยามนี้เจ้าจะเป็ นไทเฮา แต่ขา้ เห็นเจ้าเติบโตมาแต่นอ้ ย เจ้าไม่จาเป็ นต้องกริ่ งเกรงขนาดนั้น " รอยยิม้
ของเสี ยนไท่เฟยอบอุ่นแต่แฝงความอ้างว้าง " เดิมที ..... เจ้าควรจะกลายเป็ นลูกสะใภ้ของข้า ......... ข้าเองก็เอ็นดูเจ้าราว
บุตรสาวแท้ๆ มาโดยตลอด "

ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกปวดฟั นอยูไ่ ม่น้อย สตรี ผแู ้ สนสง่างามผูน้ ้ ีเดิมทีควรจะเป็ นแม่สามีของไทเฮาน้อย กลับกลายมาเป็ น
ว่าทั้งสองคือผูใ้ หญ่รุ่นเดียวกัน พบกันซึ่ งหน้าย่อมรู ้สึกกระอักกระอ่วนอยูบ่ า้ ง

" เจ้าคงมิได้กาลังกล่าวโทษข้าอยูก่ ระมัง? " เสี ยนไท่เฟยลุกขึ้นยืน เดินมาที่ขา้ งตัวนาง ในดวงตาที่งดงามลึกล้ า


นั้นมีร่องรอยของความจนใจอยู่ " ไม่ใช่วา่ ข้าไม่อยากไปเยีย่ มเจ้าที่ตาหนักเย็น แต่ต้ งั แต่อดีตฮ่องเต้เสด็จจากไป ข้าก็
โศกเศร้าเสี ยใจอย่างมาก จนล้มเจ็บลง สองวันนี้สุขภาพค่อยดีข้ นึ เล็กน้อย คิดถึงเจ้านัก ถึงได้บอกให้ชิงผิงเชิญเจ้ามา
อย่างเงียบๆ "
" เด็กน้อย พักนี้เจ้าคงได้รับความลาบากไม่น้อยสิ นะ เฮ่อ~ " เสี ยนไท่เฟยพูดพลางถอนใจ พลางยกมือขึ้นมาคิด
จะช่วยจัดแจงเสื้ อผ้าที่ดูยงุ่ เหยิงของนาง

ตู๋กูซิงหลันถอยหลังไปก้าวหนึ่ ง รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างนางเอาไว้ " เรื่ องราวที่ผา่ นมา หม่อมฉันล้วน


จดจาไม่ได้แล้ว ขอเสี ยนไท่เฟยอย่าได้กงั วลอีกเลย "

กลิ่นเครื่ องหอมบนตัวเสี ยนไท่เฟยก็หอมดีอยูห่ รอก แต่ฉุนมากไป ฉุนราวกับถูกรมควันแล้ว ทาให้นางรู ้สึกไม่


สบายตัวเลย

" จดจาไม่ได้แล้วหรื อ? " เสี ยนไท่เฟยขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ จึงสักถามเพิ่มอีกเล็กน้อย " จาไม่ได้จริ งๆ


หรื อ? "

" ใช่เพคะ...."

เสี ยนไท่เฟยพินิจพิจารณานางอยูค่ รึ่ งค่อนวัน ถึงได้แน่ใจว่านางไม่ได้กาลังปิ ดบังอาพรางตนเอง แล้วทอดถอนใจ


อีกหลายครั้ง " เฮ่อ..... เด็กน้อยที่น่าสงสาร "

นางยืน่ มือมากุมมือตู๋กูซิงหลันอีกครั้ง

ตู๋กูซิงหลันปฎิเสธไม่ได้ จายอมให้นางดึงตัวเข้าไปใกล้
" ข้ายังอยูใ่ นวังนี้ ไว้ทุกข์ให้กบั อดีตฮ่องเต้อีกหนึ่ งปี จากนั้นค่อยติดตามเย่เอ๋ อร์ไปยังชายแดน เจ้าวางใจ ตราบใด
ที่ขา้ ยังอยูใ่ นวัง จะต้องปกป้องคุม้ ครองเจ้าให้ปลอดภัย

เมื่อได้สัมผัสตัวกัน ตู๋กูซิงหลันถึงได้รู้สึกว่า พระหัตถ์ของไท่เฟยนั้นเย็นมาก แม้จะเป็ นฤดูร้อนกลับเย็นราวแช่


น้ าแข็งมา

" ไท่เฟยทรงดีมีเมตตาเหลือเกิน " ตู๋กูซิงหลันพูดไปทาง ใจก็คิดไปอีกทาง ยิม้ แย้มตอบคา " พระองค์ไม่ตอ้ งทรง
เป็ นกังวล หม่อมฉันรู ้จกั ดูแลตัวเอง "

คราวนี้คนที่ถูกยกป้ายว่าแสนดีอย่างเสี ยนไท่เฟยพลันรู ้สึกว่ามองนางไม่ออก ก่อนนี้ต๋ ูกูซิงหลันเคารพนางมาก เชื่อ


ฟังนางมาตลอด บิดามารดาของตู๋กูซิงหลันล้วนจากไปนานแล้ว ยืดถือนางเป็ นดัง่ มารดามาโดยตลอด มาวันนี้ ชัดเจนว่า
ไม่ตอ้ งการเกี่ยวพันอะไรกับนางอีก

นางไปรู้ เห็นอะไรมา?

" ตระกูลตู๋กูของเจ้ามีบุญคุณต่อข้า ข้าก็รักเอ็นดูเจ้ามาตลอด แน่นอนว่าจะไม่ปล่อยให้ผใู ้ ดมารั กแกเจ้าโดยไม่


สนใจเด็ดขาด" ว่าแล้วเสี ยนไม่เฟยก็ตบไหล่นางเบาๆ " ข้าเชิญเจ้ามาในวันนี้ ก็เพราะเย่เอ๋ อร์ออ้ นวอนขอร้องอยู่หลาย
ครั้ง เขาคิดถึงเจ้ามาก คงมีคาพูดบางอย่างอยากจะกล่าวกับเจ้า พวกเจ้าก็พูดคุยกันดีๆ เถอะ "
ตรัสจบก็ไม่รอฟังว่าตู๋กูซิงหลันยินยอมหรื อไม่ พระนางนาพระสู ตรที่คดั ลอกแล้วเสด็จจากไป ในตาหนักหลัง
ใหญ่เพียงเหลือนางแต่ผเู ้ ดียว

เมื่อเสี ยนไท่เฟยเสด็จจากไป บุรุษผูห้ นึ่งก็เยื้องย่างออกมาจากฉากกันลมลายนกยูง เขาย่อมเป็ นจี้ยผ่ งู ้ ดงาม เมื่อครู่


เขาแอบอยูห่ ลังฉากเฝ้ามองดูสตรี ที่คิดคะนึงหามาตลอดทั้งวันและคืน เพื่อให้ได้พบนางสักครั้ง นี่เป็ นครั้งแรกที่เขา
ขอร้องพระมารดา ยามนี้ดวงตาของเขาเป็ นประกายสดใส ทั้งยังเก็บซ่อนความเศร้าหมองเอาไว้อย่างลึกล้ า เขาอยากโบย
บินไปอยูข่ า้ งกายนาง โอบประคองนางไว้ในอ้อมแขน แต่เหตุและผลกลับทาให้ตอ้ งหยุดยั้งเอาไว้ ผ่านไปครู่ ใหญ่เขาถึง
ได้กล่าวออกมา " หลันเอ๋ อร์ เจ้าผอมลงไปอีกแล้ว "

และเพราะเหตุน้ ี จึงยั้งใจไม่ไหว เดินเข้าไปถึงข้างกายนาง ใช้มือช่วยปัดฝุ่ นบนตัวนางออก " ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน


อยากพบเจ้าอยูต่ ลอดเวลา แต่กลับไม่อาจไปพบเจ้าที่ตาหนักเย็น เกรงว่าจะทาให้เจ้าเป็ นที่ครหา ดังนั้นจึงได้ขอร้องพระ
มารดา...."

ตู๋กูซิงหลันเหลือบมองเขาคราหนึ่ง ก็ตดั สิ นใจก้าวถอยหลัง ท่านอ๋ องผูน้ ้ ีช่างกล้าแสดงอารมณ์ออกอย่างชัดเจน


เหลือเกิน... หากนางจาไม่ผิด ครั้งก่อนที่พบกันในตาหนักอวี้เฉวียนนางได้บอกกล่าวอย่างชัดเจนไปแล้ว เขาใยไม่รู้จกั
ตัดอกตัดใจอีก?
ตอนที่ 18 ยอมเป็ นต๋ าจี่ ค่อยทาลายตัวเขาและแผ่นดินไปพร้ อมกัน

การแสดงออกเพียงเล็กน้อยของนาง กลับทิ่มแทงจิตใจของจีเย่ว์

ดวงตาของเขาพลันอ้างว้างอย่างที่สุด " เจ้าวางใจ นอกจากพระมารดา ไม่มีผใู ้ ดรู ้วา่ วันนี้พวกเราได้พบกัน "

" ครั้งก่อนเจ้าบอกว่าไม่มีเงินไว้ใช้สอย ข้าจึงนาตัว๋ เงินและทองแท่งมาให้เจ้าเป็ นพิเศษ " เพราะกลัวว่านางจะ


ปฏิเสธตนเองอีก จีเย่วจ์ ึงอดกลั้นความต้องการที่จะใกล้ชิดนางของหัวใจตนเอง ล้วงเอาถุงหนาหนักใบหนึ่ งจากอกเสื้ อ
ส่ งให้นาง

ทุกถ้อยคาของนาง เขาล้วนจดจาใส่ ใจ แน่นอนว่าสิ่ งที่นางต้องการ เขาย่อมต้องคิดหาหนทางส่ งให้นางถึงมือ

ตู๋กูซิงหลัน " เอ่อ...." เขายังจาเรื่ องพวกนี้ได้หรื อ

นางจดจ้องถุงทองใบนั้นอย่างจริ งจัง ค่อยกล่าวเน้นย้าว่า " อี้อ๋องเพคะ ค่าแยกทางของเรา พระองค์ทรงจ่ายมาแล้ว


เพียงหยกชิ้นนั้นก็เพียงพอแล้ว เรื่ องราวระหว่างท่านและข้าถือเป็ นสิ้ นสุ ด ต่อไปอย่าได้พบกันอีกจะดีกว่า "

แม่ จ๋า..... ทองจ๋ า! ตั๋วเงินจ๋ า! หนูอยากได้ จังเลยยยยย!

มือ! อดทนไว้ ๆๆ! ตาก็อย่ าไปมอง แม่ งเอ๋ ย! อย่ ามองดิ!

" ข้ารู ้วา่ เจ้าแค้นข้า แต่ความผูกพันหลายต่อหลายปี ของพวกเรา ต่อให้เจ้าหักใจได้ ข้ากลับตัดไม่ขาด " จีเย่วก์ ็
บังคับเอาถุงทองนั้นใส่ ในอ้อมแขนนาง " เห็นเจ้าต้องอยูอ่ ย่างอยากลาบาก ข้าปวดใจมากกว่าผูใ้ ดทั้งหมด เจ้าจะไม่
ยอมรับความปรารถนาดีของข้าแม้แต่น้อยเชียวหรื อ หลันเอ๋ อร์ เจ้าคิดจะทาให้ขา้ อึดอัดใจตายใช่ไหม? "

" ดังนั้นทาไมข้าจึงเกลียดท่าน? เกลียดที่ท่านทาให้ขา้ ต้องแต่งกับอดีตฮ่องเต้? " ตู๋กูซิงหลันได้แต่คิดไปคิดมา


ตกลงนางควรรับทองถุงนี้ไว้ดีไหม?
แต่ประโยคนั้นของนางกลับทาให้จีเย่วต์ ะลึงไปแล้ว " ข้าให้เจ้าแต่งกับอดีตฮ่องเต้? ข้าเฝ้าฝันที่จะแต่งเจ้าให้เร็ ว
ที่สุดมาโดยตลอด จะยอมให้เจ้าแต่งกับเสด็จพ่อได้อย่างไร! "

เขารู ้สึกราวกับโดนทาร้ายจนบาดเจ็บหนัก แม้แต่ดวงตาทั้งสองก็มืดครึ้ มอึมครึ ม สองมือกระชับบ่าไหล่ของตู๋กู


ซิงหลัน พยายามอย่างยิง่ ที่จะเก็บอารมณ์ของตนเอง แม้แต่น้ าเสี ยงก็สั่นสะท้าน " หากว่าความรักที่ขา้ มีต่อเจ้าเป็ นเรื่ อง
หลอกลวงไร้ค่า ข้าก็ขอให้ฟ้าผ่า ไม่ตายดี! "

เห็นเขาสาบานอย่างหนักแน่นถึงเพียงนี้ ตู๋กูซิงหลันเกือบจะปั กใจเชื่อแล้ว

" อย่าว่าแต่เจ้าสู ญเสี ยความทรงจา จดจาเรื่ องราวที่ผา่ นมาไม่ได้ แล้วใยจึงด่วนสรุ ปว่าเป็ นข้าที่ให้เจ้าแต่ง กับอดีต
ฮ่องเต้? "

ถูกเข้าใจผิดเช่นนี้ จีเย่วส์ ุ ดแสนเจ็บปวดรวดร้าว เขาอยากจะควักหัวใจตนเองออกมาให้นางดูเหลือเกิน " หลันเอ๋ อร์


ไม่วา่ จะเมื่อก่อน ตอนนี้ หรื อต่อๆ ไป ข้าไม่เคยโกหกหลอกลวงเจ้าเลย ขอร้องเจ้าอย่าได้สงสัยข้า ตัดสิ นข้าโดยง่ายได้
ไหม?

ตู๋กูซิงหลันครุ่ นคิดอยูใ่ นใจ หากว่าเจ้าของร่ างเดิมยังมีชีวิตอยู่ ได้ฟังถ้อยคาเช่นนี้ คงต้องทราบซึ้ง เจ็บปวดจนน้ าตา


ริ นไหล

เพราะตอนนี้นางก็รู้สึกได้ถึงความปวดใจแล้ว นี่เป็ นความรู ้สึกที่เจ้าของร่ างได้ทิ้งเอาไว้

" ได้ เช่นนั้นขอบังอาจถามท่านอ๋ อง ตอนนั้นหม่อมฉันรักใคร่ ท่านหนักหนา ทาไมถึงได้ยอมแต่งให้กบั อดีต


ฮ่องเต้? " ตู๋กูซิงหลันต้องการคาอธิบาย คาอธิบายที่ติดค้างเจ้าของร่ างเดิมอยู่

เชียนเชียนเคยเล่าจุดประสงค์ที่แต่งให้กบั อดีตฮ่องเต้ แต่นางไม่เชื่อว่าเจ้าของร่ างเดิมจะโง่เขลาถึงเพียงนั้น เพื่อให้จี


เย่วไ์ ด้มีสิทธ์ในบัลลังก์ จึงยอมแต่งให้บิดาของเขา

" นั้นเป็ นเพราะ....." จีเย่วแ์ ทบจะตะโกนออกมา แต่กลับหยุดคาพูดเอาไว้


" บอกไม่ได้หรื อ? " ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกผิดหวังแทนเจ้าของร่ าง " ที่สุดแล้วก็เพราะเจ้าก็มีส่วนเกี่ยวของอยูด่ ว้ ย..."

ครั้งนี้จีเย่วก์ ลับไม่กล้าปฎิเสธ เขากาหมัดไว้แน่น ราวกับต้องต่อสู ้กบั ความเสี ยดายและความเจ็บปวด ผ่านไปครู่


ใหญ่เขาถึงได้ผอ่ นคลายลงเล็กน้อย " หลันเอ๋ อร์ ขอให้เจ้าจดจาไว้ ข้ารักเจ้า และรักนี้จะไม่มีวนั แปรเปลี่ยน "

ได้ฟังแล้ว ตู๋กูซิงหลันก็ยมิ้ อ่อนจาง " อี้อ๋องเพคะ ท่านรู ้หรื อไม่วา่ สิ่ งที่ไร้ค่าที่สุดในโลกนี้คืออะไร "

อี้อ๋องชะงักไปแล้ว

ตู๋กูซิงหลันกลับยิม้ เย็นอีกครั้งอย่างเย้ยหยัน " คือรักเพียงลมปาก "

แสงเทียนส่ องกระทบลงบนร่ างของนาง ชัว่ ขณะนั้นราวกับนางถูกอาบไล้ดว้ ยแสงสี ส้ม เงาของนางดูโดดเดี่ยวและ


อ้าวว้างถึงเพียงนั้น

บนโลกใบนี้ นางโดดเดี่ยวไร้ที่พ่ งึ พา นับตั้งแต่ขา้ มมิติมาจนถึงตอนนี้ นอกจากเชียนเชียนและเจ้าวิญญาณแล้ว นาง


ก็ไม่คิดเชื่อใครโดยง่าย

ดังนั้นความรักของจีเย่ว์ สาหรับนางแล้วนับเป็ นอะไรได้ อย่าว่าแต่เพราะความรักนี้ ถึงทาให้ไทเฮาน้อยต้องตกลง


ไปในหุ บเหวของความแค้นที่ไร้ทางออก ตอนนี้เขาจะยังมีสิทธ์อะไรมา พูดว่ารัก 'นาง' หรื อ?

นางยิม้ เย็นกล่าวว่า " ท่านพูดอยูต่ ลอดว่ารักข้า แต่กลับไม่ยนิ ยอมบอกความจริ งที่รู้อยูใ่ ห้กบั ข้า ท่านอ๋ อง ตู๋กูซิงห
ลันนั้นได้ตายไปแล้ว หม่อมฉันในวันนี้คือ ไทเฮาของแคว้นต้าโจว ความผูกพันที่ไม่สาคัญอะไรนั้น ท่านก็ตดั ให้จบไป
เสี ยเถอะ "

พูดจบนางก็สะบัดมือของจีเย่วท์ ี่กุมไหล่ไว้ เดินออกไปเบื้องนอก ก่อนออกไปยังไม่ลืมทิง้ ทองถุงนั้นใส่ ออ้ มแขน


ของเขา " คืนให้ท่าน แต่น้ ีสองฝ่ ายไม่ติดค้าง ไม่ผกู โยงชัว่ ชีวิต "

เมื่อเปิ ดประตูออกไป แสงอาทิตย์ก็สาดส่ องเข้ามา ตกต้องลงบนร่ างของจีเย่ว์ เขากลับรู ้สึกเหน็บหนาว ราวกับทั้ง


ร่ างถูกแช่ลงในก้อนน้ าแข็ง

ในสมองมีแต่ถอ้ ยคาซ้ าไปมา " แต่ นสี ้ องฝ่ ายไม่ ติดค้ าง ไม่ ผูกโยงชั่วชีวิต "
กระทัง่ เงาหลังของนางหายลับไปจากสายตา จีเย่วถ์ ึงได้พร่ าพูดว่า " หลันเอ๋ อร์... เจ้าไร้ใจยิง่ นัก "

......................

" ข้าคิดว่า บุรุษนั้นเราไม่ตอ้ งการ แต่วา่ เงินทองสามารถรับไว้ " ตลอดทางกลับวังเย็นเจ้าวิญญาณทมิฬบ่นอุบอิบ


ไม่หยุด

" ตอนเจ้าสลัดตัดความสัมพันธ์น้ นั ดูองอาจไม่นอ้ ย "

" นังหนู เจ้าคงไม่ได้ใจสั่นเพราะอ๋ องนัน่ จริ งๆ ใช่ไหม? ตลอดทางไม่สนใจข้าแม่แต่นอ้ ย นายท่านอย่างข้าได้รับ


บาดเจ็บหนัก เจ้าต้องใส่ ใจกันบ้างสิ ! "

ตู๋กูซิงหลัน "......."

นางกาลังคิดถึงเรื่ องนี้ เดิมทีไม่คิดจะถามไถ่เรื่ องราวเก่าก่อนของไทเฮาน้อยให้มากความ แต่ดูเหมือนว่าจาก


สถานการณ์ตอนนี้ นางได้แต่ตอ้ งเผชิญหน้ากับมันแล้ว

หากนางอยากมีชีวิตอยูใ่ นวังหลังให้ดี มีแต่ตอ้ งล้างมลทินเรื่ องปี นเตียงนั้นให้จบไป

" ไม่ง้ นั เจ้าก็ไปยัว่ ฮ่องเต้ลูกชายนัน่ เถอะ " วิญญาณรู ้สึกถึงความคิดของนาง รี บให้คาแนะนาอย่างยินดี

" ขอเพียงเจ้าได้ตวั ได้ใจของเขามา อย่าว่าแต่ลา้ งให้สะอาด ภายในวังนี้ ไม่สิ ทัว่ ทั้งแคว้นต้าโจว เจ้าอยากจะขึ้นฟ้า
ไปกระทบไหล่ดวงอาทิตย์ก็ไม่ใช่ปัญหา "
"เจ้าดูใบหน้าล่มชาติลา้ งเมืองของเจ้า แล้วยังรู ปร่ างขนาดนี้ ขอแค่กวักมือสักหน่อย ผิวปากสักนิด เจ้าฮ่องเต้ต่อให้
หล่อจากทอง ตีจากเหล็กก็ตอ้ งยอมให้เจ้าหลอมจนเหลวอยูแ่ ล้ว " เจ้าวิญญาณกลัวว่านางจะไม่เชื่อ ก็ให้กาลังใจนาง
เพิม่ ขึ้นไปอีก " หากว่าสาเร็ จแล้ว เจ้าอยากเอาคืนเขา ก็ไปเป็ นต้ าจี ของเขาเสี ย ทาลายทั้งคน ทาลายทั้งเมืองให้พินาศไป
เลย "

ตู๋กูซิงหลัน " อัว๋ แม้ตอ้ งตายก็ไม่ขายเสน่ห์! "

วิญญาณทมิฬ "......"

ไยมันจาได้วา่ เมื่อเช้านี้ มีคนยอมเป็ นหมาประจบสอพลออยู?่ ที่พูดนี่ไม่รู้สึกเจ็บหน้าเลยใช่ไหม?

..............................................................

พระตาหนักตี้หวั

จีเฉวียนพระทับอยูบ่ นโต๊ะทรงพระอักษร บนโต๊ะมีกระถางลงกายานลงรกปิ ดทองที่แกะจากหยกม่วง ระเหยควัญ


หอมออกมาเบาๆ พระพักตร์งดงามของฮ่องเต้อยู่หลังสายควันบางๆ ชั้นหนึ่งยิง่ ดูเย็นชา

ยามนี้บุรุษชุดดาผูห้ นึ่งคุกเข่าอยูเ่ บื้องหน้าเขา ด้วยความเคารพนอบน้อม " สถาณะการณ์ในพระตาหนักฉางเล่อก็


เป็ นเช่นนี้ ไทเฮาหลังออกจากพระตาหนักฉางเล่อ ก็ตรงกลับตาหนักเย็น ตลอดทางไม่ได้พบพูดจากับใคร "

ฮ่องเต้กาพระหานุดว้ ยพระหัตถ์ขา้ งหนึ่ง เส้นพระเกศาเลื่อนไหลลงมา ในพระหัตถ์อีกข้างมีสารการรบฉบับล่าสุ ด


จากชายแดดเหนือ เป็ นข่าวดี

------
ต๋ าจี่ (妲己; Dájǐ) พระสนมคนโปรดของฮ่องเต้โจวหวัง ฮ่องเต้องค์สุดท้ายแห่งราชวงค์ซาง ปลายสมัยถัง ว่ากัน
ว่า นางงดงามราวปี ศาจจิง้ จอกจาแลง ทาให้ฮ่องเต้ลุ่มหลงในสุ รา นารี ทิง้ งานในราชสานัก ฆ่าขุนนางดี ปล่อยปะขุนนาง
ชัว่ จนบ้านเมืองล่มจมในที่สุด
ตอนที่ 19 ท่ านย่า?

ดาบล้ าค่าของตู๋กูถิงยังคมกริ บอยู่ เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็กวาดเอาเผ่าอาปู้ที่ตอแยยากที่สุดลงมาได้ ทั้งยังได้ชนเผ่า


อาปู้ท่าลา (อัฟกานิสถานเดิม) เป็ นเชลย

ข่าวดีน้ ีเป็ นตู๋กูถิงเขียนด้วยตนเอง ใช้มา้ เร็ วแปดร้อยลี้ส่งมาถึงมือของเขา เพียงแต่บรรทัดสุ ดท้ายของอักษรสี แดง


เหล่านั้นกลับสะดุดตาเป็ นพิเศษ " ขอทรงพระเมตตาซิงหลัน "

เจ้าเฒ่านัน่ กังวลว่าเขาจะบัน่ คอตู๋กูซิงหลันทิ้ง ทาคุณความดีครั้งใหญ่ไม่ขอรางวัลใดๆ เพียงขอปกป้ องชีวิตน้อยๆ


ของตู๋กูซิงหลันเท่านั้น

น่าเสี ยดาย หลานสาวคนนี้ของเขาไม่รู้จกั สถานการณ์ ไปก่อเรื่ องขัดมือขัดขาเขาที่ทะเลสาบหยูจ่ ื่อถานก็แล้วไป


ลับหลังยังแอบกระทาการลับๆ ล่ออีก

" จับตาดูตาหนักเย็น เราไม่ตอ้ งการเห็นนางเล็ดลอดออกมาอีก "

" พะยะค่ะ "

เช้าวันถัดมาพระตาหนักตี้หวั กงก็มีการเคลื่อนไหว " ฝ่ าบาท นางเจียงซื่อ (หญิงที่แต่งงานแล้วแซ่เจียง) จากตระกูล


ตู๋กูขอเข้าเฝ้า...."

.............

ในวังมีคนโง่งมกลุ่มใหญ่
เหลียนเหม่ยเหริ นจบเห่เสี ยแล้ว นางโดนถอดยศเหม่ยเหริ น ถูกส่ งไปลานซักล้าง

แต่กลับไม่มีใครรู ้ตน้ สายปลายเหตุ ทุกคนได้แต่งุนงงเป็ นไก่ตาแตก ตู๋กูเหลียนถึงจะไม่ใช่บุตรสาวสายตรง แต่


อย่างไรก็มาจากตระกูลตู๋กู ไม้น้ ีของฝ่ าบาทนับว่าตีได้เจ็บปวดจริ งๆ จากนางสนมคนหนึ่ งกลายเป็ นข้าทาสไปเสี ย

ฟังว่าตู๋กูเหลียนย้ายไปลสนซักล้างแล้ว ทั้งวันเอาแต่ด่าว่า สาบแช่งไทเฮาในตาหนักเย็น เช่นนี้ เหล่าพระสนมที่


งงงวยอยูก่ ็พอจะคาดเดาเรื่ องราวได้

ไทเฮาในตาหนักเย็นองค์น้ นั ฝี มือไม่ธรรมดาเลย คนอยูใ่ นตาหนักเย็นยังสามารถจับญาติผนู ้ ้องของตนเองส่ งไป


ลานซักล้างได้ นี่ยงั ไม่ชดั เจนอีกหรื อ นางคงกระโดดเกาะขาฝ่ าบาทได้แล้ว

ไม่เช่นนั้นด้วยเบื้องหลังของตู๋กูเหลียน นางไม่มีทางตกต่าถึงขั้นนี้ได้

ฟังว่า....ไทเฮาในตาหนักเย็นแอบหนีไปยังทะเลสาบหยูจ่ ื่อถานเพื่อยัว่ ยวนฝ่ าบาท ซ้ ายังเป็ นตอนที่พระองค์กาลัง


ทรงศีลถวายฉางซุนฮองเฮาพระมารดา แต่ฝ่าบาทกลับไม่ทรงจัดการนาง!

นี่มนั แปลว่าอะไร? แปลว่านังนี่น่ะมันเป็ นนังจิ้งจอกน่ะสิ แบบพวกล่มบ้านล้างเมืองแบบนั้น!

ยามเที่ยงวันถัดมา ตู๋กูซิงหลันถูกเสี ยงดังเอิกเกริ กปลุก

ในสวนมีเสี ยงโหวกเหวกโวยวายจนน่าปวดหัว

"ฮูหยิน ไทเฮาทรงประชวรเพราะต้องลมหนาว ไม่สามารถเสด็จมาพบท่านได้ " เชียนเชียนพยายามรั้งคนไว้

" ช่างบังเอิญเหลือเกินนะ เหลียนเอ๋ อร์เกิดเรื่ อง นางก็มาเจ็บป่ วย " เสี ยงของสตรี ชราราวกับจะตะโกนเข้ามาให้


ทะลุถึงหูต๋ กู ูซิงหลันให้ได้ "ยายแก่อย่างข้าจะรออยูท่ ี่นี่ ดูสิวา่ นางจะหายป่ วยเมื่อไหร่ ดูสิวา่ นางจะออกมาพบท่านย่า
อย่างข้าหรื อไม่ "
" ท่านย่าหรอ? " ตู๋กูซิงหลันในตาหนักกาลังมึนงงในสมอง

เชียนเชียนเคยไล่เรี ยงความสัมพันธ์ของผูค้ นในตระกูลตู๋กูให้นางฟัง เท่าที่นางจาได้ไม่มีท่านย่าสักหน่อย.....เจียงเย่


วท่านย่าแท้ๆ ของร่ างเดิมนี้สิ้นชีวิตไปนานแล้ว

อ๋ อ แต่ก็มีแบบที่ไม่นบั ว่าเป็ นย่าอยูค่ น อนุของท่านปู่ เจียงเหม่ยหยู่

ตู๋กูซิงหลันไม่เข้าใจจริ งๆ เดี๋ยวนี้เป็ นอนุก็สามารถยืดอกเบ่งได้ขนาดนี้เลย? วังหลังและตาหนักเย็นนึ กจะมาก็มา


ได้? ไม่รู้วา่ พวกองครักษ์ดา้ นนอกทาอะไรอยู่

แน่นอนว่าถึงแม้เจียงเหม่ยหยูจ่ ะเป็ นเพียงอนุ แต่ก็มีที่มาไม่เล็ก

" เจียงฮูหยิน ท่านอย่าได้ทาให้ขา้ ต้องลาบากใจเลย " เชียนเชียนยังคิดจะไล่คนกลับไป เมื่อวานนายหญิงกลับมาสี


หน้าไม่สู้ดี นางอยากให้นายหญิงได้พกั ผ่อนมากๆ หน่อย คิดไม่ถึงว่านางเจียงซื่อจะบุกมา

เชียนเชียนพึ่งจะพูดจบ ไม้เท้าของเจียงซื่ อก็ตบลงบนกะโหลกของนาง เชียนเชียนหลบไม่ทนั ร้องโอ๊ยคาหนึ่ง


ศีรษะก็ปูดขึ้นมาเป็ นซาลาเปาลูกหนึ่ ง เจียงซื่อขมวดคิว้ ขึงขัง โกรธกริ้ วเป็ นการใหญ่ " นังทาสเลว เจ้ากล้าขัดข้าหรื อ ตู๋กู
ซิงหลันช่างไร้การอบรม แม้แต่คนรับใช้ก็ยงั สัง่ สอนไม่ได้ดี "

เชียนเชียนได้แต่กุมหัวไว้ เจ็บปวดจนต้องกัดฟัน

นางเองก็โกรธเหมือนกัน นางเฒ่านี่ด่านางก็แล้วไป กลับลากเอานายหญิงมาด่าด้วย ช่างเหลืออดนัก

เจียงซื่อเห็นนางไม่จายอม ก็ยกไม้เท้าในมือขึ้นอีก กะจะตีให้กลางแสกหน้า

ไม้เท้านี้ยงั ไม่ทนั พาดลงมา ก็ถูกตู๋กูซิงหลันที่พลันเข้ามาสกัดไว้ มือเดียวของนางหยุดยั้งไม้เท้าของนางเจียงซื่อจน


สองมือของนางสั่นสะท้าน

ที่จริ งไม้เท้านี้แรงไม่เบาเลย ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกชาไปทั้งแขนและไหล่ เพียงแต่นางไม่แสดงออกทางสี หน้าแม้แต่นอ้ ย


ดวงตาดาขลับของนางจดจ้องเจียงเหม่ยหยู่ ทั้งยังวาววับด้วยความโกรธ
เจียงซื่อชะงักไปแล้ว ที่จริ งนางคิดจะดึงไม้เท้าของตนเองกลับมา แต่ต๋ กู ูซิงหลันกลับจับไม่ปล่อย เจียงซื่อเลยต้อง
งัดข้อกับนางแล้ว

นางประหลาดใจเหลือเกิน นังคนนอกคอกกลายเป็ นมีเรี่ ยวแรงขนาดนี้ต้ งั แต่เมื่อไหร่ ? ก่อนหน้านี้ตอนอยูใ่ นจวน


กริ ยาอ้อนแอ้นบอบบางพวกนั้นล้วนเป็ นการเสแสร้งหรื อ?

ผ่านไปครู่ หนึ่งตู๋กูซิงหลันถึงได้คลายมือออก เจียงซื่อก็หมดแรง ถอยไปหลายก้าว ฝี เท้าซวนเซจนล้มลงก้น


กระแทกพื้น สาวใช้ใหญ่ที่ติดตามรับนางไว้ไม่ทนั ไม้เท้านั้นก็บงั เอิญกระแทกใส่ หวั นางพอดี นางเจ็บปวดจนเห็น
ดวงดาวเต็มไปหมด

เจียงซื่อล้มคลุกฝุ่ นไปเจ็บไปทั้งตัว สมองก็มึนงงไปหมด

ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่นางถึงได้สติกลับมา เห็นตู๋กูซิงหลันไม่ยหี่ ระแม้แต่นอ้ ย ก็โกรธราวไฟไหม้บา้ น " ตู๋กูซิงหลัน


นังเด็กอกตัญญู ไม่เคารพท่านย่าอย่างข้า แล้วยังกล้ามาทาร้ายข้าอีก! "

" คุณหนูหลัน ท่านเสี ยสติไปแล้วหรื อเปล่า นายหญิงของพวกเราคือภรรยารองของนายท่านผูเ้ ฒ่า เป็ นน้องสาว


ของท่านย่าแท้ๆ ของท่าน ท่านกลับร้ายกาจเพียงนี้ หากว่าเรื่ องนี้ลือออกไปไม่กลัวผูค้ นทั้งหลายด่าว่าหรื อไร? " บ่าว
อาวุโสของเจียงซื่อพยุงนางขึ้นมาได้ก็จิกกัดตู๋กูซิงหลันไม่ปล่อย

นางบังอาจถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าไม่ได้เห็นตู๋กูซิงหลันเป็ นไทเฮาแม้แต่นอ้ ย

" ข้าไม่เคยรู ้มาก่อนเลยว่าท่านปู่ มีภรรยารองตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างมากก็แค่อนุคนหนึ่ง เป็ นอนุไม่อยูเ่ ฝ้าจวนให้ดี


กลับวิ่งพล่านวุน่ วาย ทั้งยังวิ่งมาถึงในวังได้เสี ยด้วย? " ตู๋กูซิงหลันทาเสี ยงขึ้นจมูก " ข้าไม่เชื่อหรอกว่า อนุคนหนึ่งจะมี
ความสามารถขนาดนี้ เจ้าต้องเป็ นตัวปลอมแน่ๆ "

เจียงซื่อ "!!! " โกรธจนหลอดเลือดในสมองแทบแตก อยากจะตบกกหู นงั นี่ดว้ ยมือตัวเองนัก ทาไมมันถึงได้


ปากร้ายขนาดนี้!

" ฝ่ าบาททรงประทานอนุญาตให้ขา้ ผูเ้ ฒ่าเข้าวังด้วยพระองค์เอง เจ้าหาว่าข้าแปลกปลอม ไม่ใช่วา่ ฝ่ าบาทสายพระ


เนตรมืดบอดหรื อไร? " เจียงซื่อขุ่นเคืองอย่างหนัก รี บล้วงเอาเทียบเชิญเข้าวังออกมา แทบอยากจะขว้างใส่ หน้าตู๋กูซิงห
ลัน
นังนอกคอกคนนี้ ถูกขังในตาหนักเย็นไม่เท่าไหร่ ชกั จะมีฤทธิ์ ขึ้นมาแล้ว ถึงกล้าต่อปากต่อคากับนางขนาดนี้

ตู๋กูซิงหลันเหลือบมองเทียบเชิญเข้าวังแวบหนึ่ง ป้ายทองอักษรแดง ทั้งยังมีตราประทับ เป็ นของจริ ง


ตอนที่ 20 เจ้ าอยากตายหรือไง! ห๊ า?

ตู๋กูซิงหลันกระพริ บตาถี่ๆ ไม่น่าละ นางก็วา่ อนุคนหนึ่งจะเข้ามาในตาหนักเย็นได้อย่างไร ที่แท้ก็เป็ นเพราะเจ้า


จิ้งจอกจีเฉวียน ชัดเจนว่าให้เจียงซื่อมาจัดการนาง

เห็นนางไม่ตอบคา เจียงซื่อก็คิกว่านางกาลังกลัว ก็เลยมีแรงฮึดขึ้นมา แม้แต่เอวก็ต้ งั ตรงแล้ว "หลี่มาม่า เอาเทียบ


เชิญให้นางดูให้ดี กลัวแต่วา่ คนอาจไม่เคยเห็นของสู งส่ งเช่นนี้ ก็จะมาใส่ ความว่าเราปลอมแปลงอีก "

หลี่มาม่ารี บถือเทียบเชิญเดินไปถึงหน้าตู๋กูซิงหลัน แทบจะเอาป้ายนั้นกระแทกใส่ หน้านาง " ดูให้ชดั ๆ สิ "

ตู๋กูซิงหลันชะงักไปครู่ หนึ่ ง ดูคล้ายยอมอ่อนน้อมลงอยูบ่ า้ ง เพียงแต่ยงั พูดจามะนาวไม่มีน้ าอยู่บา้ ง " เอาออกมาให้


ดูแต่แรกก็สิ้นเรื่ องไปแล้ว ไม่รู้หรื อไง ข้าด่าคนมากก็คอแห้ง หากว่าข้าเจ็บคอตายพวกเจ้าชดใช้ไหมหรื อ? "

เจียงซื่อ "....." นางอยากจะเลาะฟันของนังเด็กนอกคอกนี่เหลือเกินนนน

" อ๋ อ เจ้าไม้รู้หรื อไงว่า ข้าเสี ยความทรงจาไปแล้ว? " ตู๋กูซิงหลันไม่แม้แต่จะเชิญคนเข้าไปในตาหนัก ตัวเองกลับ


นัง่ ลงในลานหิ นของสวนด้านนอก ทุบขาสองข้างเบาๆ อย่างไม่จริ งจังอะไร " ผูไ้ ม่รู้ยอ่ มไม่ผิด ข้าเคยคิดว่าผูเ้ ป็ นอนุใน
เรื อนใหญ่อย่างน้อยๆ ต้องรู ้จกั กิริยามารยาท เลยเข้าใจผิดว่าเจ้าเป็ นหมาบ้าไปชัว่ ขณะ เรื่ องแบบนี้น่าจะอภัยให้กนั ได้นะ
ใช่ไหม? "

ใช่กบั ผีสิ!
เจียงซื่อโกรธจนมือสั่นกาหมัด นางหายใจเข้าออกอยูห่ ลายครั้งถึงได้ข่มอารมณ์ลงไปได้

" ข้าผูเ้ ฒ่ามาพบเจ้าในวันนี้ ไม่ใช่จะมาต่อปากต่อคากับเจ้า " เจียงซื่อใช้ไม่เท้าพยุงไว้ ทรวงอกขยับขึ้นลง " เจ้าไม่


ไร้มารยาท ไม่รู้ระเบียบ ข้าผูเ้ ฒ่าก็จะไม่ถือสาเอาความเจ้าที่เป็ นผูน้ อ้ ย หลากเรื่ องวันนี้ ลือออกไป คนอื่นก็ตดั สิ นได้เอง "

ตู๋กูซิงหลันกระพริ บตาถี่ๆ ครานึ่ง เห็นเชียนเชียนมีสีหน้าเป็ นกังวล นางรู ้วา่ เชื่ อเสี ยงของนายหญิงตกต่ามากแล้ว
หากเรื่ องในวันนี้ถูกแพร่ กระจายออกไป ไม่รู้วา่ ผูค้ นที่ภายนอกจะสาดโคลนใส่ ท่านอย่างไรอีก

นายหญิงไม่เคยได้ฟังคาพูดที่คนภายนอกพวกนั้นพูดถึงนาง ว่าเป็ นนางเป็ นนังจิ้งจอกล่อลวงผูค้ น จิตใจลึกซึ้งร้าย


กาจ นางแพศยาที่อาศัยรู ปร่ างหน้าตาปี นป่ ายให้ได้ดี เชียนเชียนได้ฟังแล้วยังโกรธจนสั่นสะท้าน หากนายหญิงได้ฟัง
แล้ว เกิดทนรับไม่ไหวคิดสั้นขึ้นมาอีกละจะทายังไง?

เพราะฉะนัน่ เชียนเชียนอดคิดไม่ได้วา่ ควรเขาไปเอาเก้าอี้สักตัวออกมา เชิญเจียงซื้อนัง่ ลงให้ดีจะได้คล้ายความ


โกรธลง

วิธีการนี้ยงั ไม่ทนั ได้ใช้ออก ก็ถูกตู๋กูซิงหลันขัดขึ้นเสี ยก่อน ทาให้นางได้แต่ยืนพักอยูด่ า้ นข้าง

" พูดมา มาหาข้ามีธุระอะไร? " ตู๋กูซิงหลันมองเจียงซื่อเขม็ง ยิม้ เ**ยมเกรี ยม

เจียงซื่อไม่ได้รู้สึกรู ้สาอะไรกับรอยยิม้ เยือกเย็นของนางเลย ยังคิดว่าตู๋กูซิงหลันคงหวาดกลัวเข้าแล้ว นางเชยคาง


ขึ้นอย่างหยิง่ ผยอง นังเด็กนอกคอกนี่ยงั คงเป็ นพวกอ่อนด้อยไม่หน้ากลัวสักน้อย ดูสิคราวนี้ยอมฟังดีๆ แล้วใช่ไหม?

นางทาสง่าทอดตาลงมองตู๋กูซิงหลัน ใช้น้ าเสี ยงออกคาสั่งว่า " เจ้าทาให้เหลียนเออร์ถูกขับไปอยูล่ า้ งซักล้าง เจ้าก็


ต้องได้รับผลกรรมนั้น "
ตู๋กูซิงหลัน " หื ม? "

เชียนเชียนงุดหงิดใหญ่แล้ว ตู๋กูเหลียนนัน่ หาเรื่ องไปตายเอง เกี่ยวอะไรกับนายของนางด้วย?

เจียงซื่อยังแสดงท่าฮูหยินรองของนางต่อไป " ขอเพียงเจ้ายินยอมร้องขอถอดยศไทเฮาด้วยตนเอง ฝ่ าบาทไม่เพียง


อภัยให้เหลียนเออร์ ทั้งยังจะแต่งตั้งนางเป็ นพระสนม อาศัยความงามและเฉลียวฉลาดของเหลียนเออร์ของพวกเรา
อนาคตต้องสามารถกุมตาแหน่งฮองเฮาเอาไว้ได้ คนที่ใช้การไม่ได้อย่างเจ้า ก็ถือว่าได้ช่วยส่ งเสริ มตระกูลตู๋กูเราอีกแรง
หนึ่ง"

ตู๋กูซิงหลัน " ? " อ๋ อ เพราะเหตุน้ ีสินะ

" เจ้าวางใจ ข้าผูเ้ ฒ่าย่อมคิดถึงความดีของเจ้า เจ้าถูกขับออกจากวังแล้ว ข้าจะช่วยหาคู่ดีๆ ให้ ก่อนนี้ หลายชายสาย


นอกของใต้เท้าฉี พอใจเจ้ามาก เมื่อถึงเวลานั้นข้าย่อมมีเมตตากรุ ณา ให้เจ้าได้เป็ นอนุของเขา ถือว่าไม่เสี ยเกียรติของเจ้า
แล้ว "

เจียงซื่อทาราวกับว่า 'ข้ามาเพื่อจะบอกให้เจ้าฟัง'

" เจ้าพูดจาหมาหมาอะไรกัน หลานชายของใต้เท้าฉี น้ นั เป็ นคนเหลวไหลเละเทะถึงเพียงไหน จะให้มาถือรองเท้า


ให้นายหญิงยังนับว่าไม่สมควร เจ้าคิดว่าจะให้นายหญิงไปเป็ นอนุของเขาอีก! " เชียนเชียนทนฟังไม่ไหวโกรธจนแทบ
เต้นแล้ว

หากไม่ใช่เพราะตู๋กูซิงหลันรั้งนางไว้ นางคงบุกเข้าไปสู ้กบั เจียงซื่อแล้ว


เห็นตู๋กูซิงหลันไปได้ปฎิเสธ แม้แต่หลี่มาม่าก็กล้ารังแกคนขึ้นมา มองเพียงปลายจมูกตู๋กูซิงหลัน ตะโกนว่า " นาง
เป็ นเสี ยแบบนี้ คนอื่นยังยอมรับนางไว้ นางยังมีอะไรกล้าไม่พอใจอีก? ฮูหญิงผูเ่ ฒ่าของพวกเราอุส่าห์เป็ นธุระให้ "

อารมณ์ของตู๋กูซิงหลันนับว่าหงุดหงิดขุ่นข้องอย่างที่สุด วันนี้ นางถึงได้รู้วา่ อะไรเรี ยกว่าหน้าด้านหน้าทน

เจียงซื่ออวดกล้าโอหังถึงเพียงนี้ ล้วนเป็ นเจ้าฮ่องเต้ลูกหมานัน่ ให้ทา้ ย ข้ออ้าง 'ร้ องขอถอดยศไทเฮาด้ วยตนเอง'

เจียงซื่ออวดกล้าโอหังถึงเพียงนี้ ล้วนเป็ นเจ้าฮ่องเต้ลูกหมานัน่ ให้ทา้ ย ข้ออ้าง ' ร้ องขอถอดยศไทเฮาด้ วยตนเอง'

คงเป็ นจีเฉวียนเสนอขึ้นมา นางเจียงซื่อก็แค่เสื อกระดาษ คิดจะมาบีบนางให้ตายด้วยมือเปล่า ถูกคนหลอกใช้แล้ว


ยังไม่รู้ตวั อีก

ผ่านไปครู่ หนึ่ง นางถึงได่ค่อยๆ ใช่มือลูบผมขึ้นทัดหู ยิม้ เยาะไปยังนางเจียงซื่อ "หากข้าฟังไม่ผิด วันนี้เจ้ามาขอร้อง


ข้าสิ นะ? "

คาพูดนี้ของนางยัว่ โทสะเจียงซื่ ออีกครั้ง เจียงซื่อใช้ไม้เท้ากระแทกพื้นอยูห่ ลายครั้ง " เจ้าฟังภาษาคนไม่รู้เรื่ องหรื อ


ไง? ข้าผูเ้ ฒ่าพูดชัดเจนแล้ว ตอนนี้เจ้าจงไปเข้าเฝ้าขอถอดยศด้วยตนเอง! นี่เป็ นเรื่ องเดียวที่เจ้าจะทาเพื่อตระกูลเราได้ ใน
ฐานะที่เป็ นบุตรสาวตระกูลตู๋กู เจ้าต้องถือเอาสกุลเป็ นที่ต้ งั ! "

ตู๋กูซิงหลันเลือดขึ้นหน้าแล้ว หู ก็แดง ดวงตาทั้งสองก็วาวโรจน์ข้ นึ มา!


ตอนที่ 21 ฝ่ าบาทเพคะ~....ช่ วยชีวิตหม่ อมฉันด้วย

" ปากเจ้าเป็ นส้วมหลุมหรื อไง ถึงได้เหม็นขนาดนี้? " ตู๋กูซิงหลันขยับเท้าเตะใส่ หลังต้นขาของนางเจียงซื่ อ จน


นางล้มคะมาลงไปกองกับพื้น ค่อยฉวยเอาไม้มาตบปากนางไปหลายที "แก่แล้วไม่รู้จกั เจียม ไม่ใช่วา่ อยากเห็นข้าอยูไ่ ม่สู้
ตายหรื อ มาๆๆ ข้าจะให้เจ้าได้ลองลิ้มรสดูสักหน่อย"

นางเจียงซื่อถูกตบจนปากแตก ฟันก็หักไปหลายซี่ กระอักเลือดออกมาไม่นอ้ ย อารมณ์โกรธของนางพุ่งสู งปรี๊ ด

" เจ้าเดรัจฉาน เจ้าต้องถูกฟ้าฝ่ าตาย! "

" เจ้ารี บเรี ยกมาเลย หากสั่งให้ฟ้าผ่าข้าตายได้ ถือว่าข้าแพ้! " ตู๋กูซิงหลันไม่หยุดมือแม้แต่นอ้ ย อยูใ่ นวังนี้นางเก็บ
กดมานานแล้ว ยัยแก่นี่ส่งตัวเองเข้าประตูมาถึงที่ นางจะปล่อยไปเฉยๆ ได้อย่างไร

ที่ดา้ นนอกของตาหนักเย็น พอดีมีพระสนมกลุ่มหนึ่ งเดินผ่านมา ได้ยนิ เสี ยงเอะอะจากในตาหนักแต่ไกล เพียงแต่


บริ เวณโดยรอบตาหนักเย็นนั้น ทุกคนต่างไม่อยากเข้าใกล้ ดังนั้นจึงไม่มีใครรู ้ชดั ว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น

"เต๋ อเฟยเพคะ ท่าทางจะเกิดเรื่ องใหญ่เข้าแล้ว " ฉี ผินที่สวมชุดแดงกุหลาบเผยสี หน้าหวาดวิตก " ในตาหนักเย็น


กลับมีเสี ยงกรี ดร้องโหยหวนถึงเพียงนี้ หากปล่อยทิ้งไว้เกรงว่าคงมีคนตายแน่แท้ "

ฟังเสี ยงที่ร่ าร้องอยู่ แน่ชดั ว่าไม่ใช่ของตู๋กูซิงหลัน ตั้งแต่เช้านางก็ได้ข่าวมาแล้วว่า นางเฒ่าเจียงจากตระกูลตู๋กูเข้าวัง


มา นี่ยงั ไม่ควรลากเต๋ อเฟยมาชมดูความครึ กครื้ นอีกหรื อ

พอดีเลย มาถึงก็มีงิ้วใหญ่ให้ชม

นังคนนี้ ถึงขนาดล่อลวงฝ่ าบาทไปแล้วหลายรอบ ดูท่าคงมีผลสาเร็ จไปแล้ว!

ต่อไปภายหน้า การที่นางจะออกจากตาหนักเย็นคงเป็ นเรื่ องของเวลาช้าหรื อเร็ วเท่านั้น ถึงเวลานั้นด้วยฝี มือมารยา


สาไถของนาง ไม่แน่วา่ แค่ออกจากตาหนักเย็นก็กลายเป็ นพระสนมคนโปรดของฝ่ าบาทไปเลย

หากถึงเวลานั้นจริ ง เหล่าสนมเช่นพวกนางจะมีวนั คืนเช่นไร?


ไม่เห็นหรื อว่าแม้แต่ญาติผนู ้ อ้ งของนางแท้ๆ ยังถูดจัดการจนกลายเป็ นขี้ขา้ ไปแล้วหรื อ?

ทุกวันนี้ในวังหลัง ยังมีสตรี คนใดไม่จงเกลียดจงชังตู๋กูซิงหลันบ้าง? ต่างก็อยากให้นางเกิดเรื่ องด้วยกันทั้งนั้น ทุก


คนต่างรู็ วา่ นางเฒ่าตระกูลตู๋กูนนั่ ไม่ใช่คนดีมีเมตตาอะไร......

หัวคิ้วงามของเต๋ อเฟยขมวดขึ้นน้อยๆ นางหันหลับมามองฉี ผินครานึง "เรื่ องของตาหนักเย็นนอกจากฝ่ าบาทแล้ว


เจ้าและข้ายังจะก้าวก่ายได้หรื อ? "

ฉี ผินมีไหวพริ บดี จึงรี บกระซิบเสี ยงเบาที่ขา้ งหูของนาง " พระสนมเพคะ หม่อมฉันได้ส่งคนไปแจ้งฝ่ าบาทแล้ว
คิดว่าฝ่ าบาทคงจะรี บเสด็จมา ทันได้เห็นฉากสนุกๆ นี้แน่"

พอฟังแล้ว เต๋ อเฟยก็ไม่กล่าวอะไร เพียงแต่เฝ้าสังเกตไปทางตาหนักเย็น รู ้จกั รักษาระยะปลอดภัยอย่างฉลาด ไม่เข้า


ใกล้แม้แต่น้อย "

วันที่ฉลองวันเกิดในสวนนั้น ที่จริ งนางมองเห็นตู๋กูซิงหลันแล้ว เสื้ อผ้าไม่เรี ยบร้อย ผมเผ้าหลุดลุ่ย ตัวเปี ยกมะลอก


มะแลก คิดว่าข่าวลือคงเป็ นจริ งแน่ นางคงจะแอบไปทอดเสน่ห์ยวั่ ฝ่ าบาทที่ทะเลสาบหยูจ่ ื่อถาน

สตรี ผนู ้ ้ ีทาไมถึงได้มีใจละโมบถึงขนาดนี้?

ภายในตาหนักเย็น

ตู๋กูซิงหลันตบตีอย่างกระหน่า ทาให้นางเจียงซื่อที่เคยเชิดหยิง่ ต้องขวัญผวา หากว่านางยังกล้าด่าต่อไป คงถูกตีจน


ตายแล้ว
แต่ในใจนางกลับไม่ยอมแพ้ เห็นชัดว่าแม้แต่ฝ่าบาทยังต้องให้เกียรตินางอยูส่ ามส่ วน ........ทาไมเจ้าเดรัจฉานนี้ถึง
ได้กล้าต่อต้าน?

เชียนเชียนตอนนี้ดูมวยอย่างเมามัน เห็นนางเจียงซื่อทั้งเลือดอาบทั้งฉี่ ราด ก็รู้สึกสะใจไม่นอ้ ย แต่ผา่ นไปสักพักนาง


ก็กลัวว่านางเจียงซื่อจะถูกตีตาย จึงรี บเข้าไปหยุดขาของตู๋กูซิงหลันไว้ " หากตีต่อไปคงไม่แคล้วตายแน่ ถึงตอนนั้นก็แก้
ตัวกันลาบากแล้ว "

ตู๋กูซิงหลันได้นางเตือนสติ ก็ยกมือขึ้นมานวดคลึงหัวที่ปูดบวมของสาวใช้ตวั น้อย " ไม่ตอ้ งกลัว ฟ้าถล่มลงมายังมี


ข้ารับไว้ ข้าเคยบอกแล้ว จะไม่ยอมให้ใครมารังแกพวกเราโดยง่ายอีก "

เชียนเชียนมองนางอย่างตกตะลึง สายตาพร่ าไปราวกับเห็นประกายแสงทองส่ องออกมาจากตัวตู๋กูซิงหลัน ขอเพียง


ยังมีนางอยู่ ไม่วา่ เรื่ องใดก็ไม่เป็ นปัญหา

นางพยักหน้าอย่างหนักแน่น ฉับพลันเห็นตู๋กูซิงหลันสับมือลงมาที่หลังคอนาง สาวใช้ตวั น้อยก็หมดสติลม้ ลงกับที่


ตู๋กูซิงหลันยังจัดการรื้ อผมเผ้าของนางจนกระเซิงเป็ นรังนก แล้วเอาเลือดบนตัวนางเจียงซื่อมาป้ายลงบนใบหน้าเล็กๆ
นั้น

นางเจียงซื่อถึงตอนนี้ ก็มึนงงจนหลงทิศไปแล้ว นังตัวร้ายนี่คิดจะทาอะไร?

ตู๋กูซิงหลันกลับไม่ตีแล้ว นางปลดปิ่ นที่มีอยูเ่ พียงชิ้นเดียวลงมา สยายผมที่หนานุ่มราวเส้นไหม แต้มคราบดาๆ


เขียวๆ ลงบนกระโปรงตัวเองอยูห่ ลายแห่ง ทั้งสองมือสองเท้าก็ไม่เว้น

นางยังหักใจเ**้้ยมใช้ไม้เท้าที่แตกหักกรี ดลงไปบนท่อนแขนและหลังเท้าจนเป็ นแผลใหญ่สองแห่ ง เลือดสดๆ


ไหลเป็ นทาง

แม้แต่วิญญาณทมิฬยามนี้ตอ้ งสู ดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ พูดตามความจริ งบางครั้งมันอดที่จะนับถือสตรี


ผูน้ ้ ีไม่ได้ ถึงขนาดลงมือกับตนเองอย่างเ**้้ยมโหด หากว่าเป็ นคนอื่นเล่า?

นางเจียงซื่อ "!!! " รู ้สึกไม่ดีข้ นึ มาแล้ว

.......................................
" ฝ่ าบาทเพคะ พระองค์ตอ้ งทรงช่วยฮูหยินเจียงผูเ้ ฒ่านะเพคะ หม่อมฉันฟั งจากตรงนี้ นางถูกตีจนใกล้จะตายแล้ว
" ฝ่ าบาทพึ่งเสด็จมาถึง ฉี ผินก็รีบทูลฟ้องในทันที ทั้งยังกระตือรื อร้นนาทาง

บิดาของนางเป็ นขุนนางใต้บญั ชาของบิดาเต๋ อเฟย นางรู ้วา่ เต๋ อเฟยก็ไม่ได้ชื่นชอบตู๋กูซิงหลัน

ตอนนี้เป็ นโอกาสดีของนาง ของเพียงครั้งนี้ทาให้ต๋ กู ูซิงหลันพบเคราะห์ได้ เต๋ อเฟยต้องจดจาความดีของนางไว้ ถึง


เวลาอาจกล่าวถ้อยคาดีกบั บิดาสักหลายประโยค

จีเฉวียนหน้าดาเคร่ งเครี ยด ไม่ได้เหลือบมองนางแม้แต่นอ้ ย ก็ตรงไปยังตาหนักเย็น

เต๋ อเฟยติดตามพระองค์อยูด่ า้ นหลังโดยไม่กล่าวอะไร เมื่อครู่ นางเองก็ได้ยนิ เสี ยงร้องของนางเจียงซื่อแล้ว ตอนนี้


ฝ่ าบาทเสด็จมาถึง วันนี้ดูท่าตู๋กูซิงหลันคงต้องลาบากแน่

ยามเมื่อจีเฉวียนปรากฎตัวที่ตาหนักเย็น ภาพที่ประสบพบเห็นก็เป็ นเช่นนี้ ---- เจียงซื่อนอนแผ่ปางตายอยูก่ บั พื้น


ส่ วนตู๋กูซิงหลันผมเผ้ากระเซอะกระเซิง กระชับปิ่ นในมือด้วยสี หน้าตระหนกตกใจ

หลี่มาม่าตัวแข็งเป็ นไก่ไม้ แม้แต่เชียนเชียนก็สลบไปแล้ว

ทันทีที่เห็นจีเฉวียน ตู๋กูซิงหลันก็ราวกับมองเห็นดาวช่วยชีวิต โถมเข้ามาร่ าไห้สะอึกสะอื้น แม้แต่น้ าเสี ยงก็แหบ


พร่ าราวกับคนวิ่งบนเขามาสิ บแปดโค้ง " ฝ่ าบาท~ ช่วยด้วยเพคะ~"

จีเฉวียน " ......."


เขามองเห็นสตรี ที่เสื้ อผ้าหน้าผมหลุดรุ่ ยโถมเข้ามาหาเขาอย่างชัดเจน ดูบอบบางอ่อนแอจนแทบจะทรุ ดลงใส่ ตวั
เขา

จีเฉวียนย่นหัวคิว้ ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง คิดจะไปให้พน้ จากนาง

แต่เพราะมองเห็นท่อนแขนและปลายเท้าที่เลือดไหล ผิวพรรณที่ขาวสะอาดกลับถูกย้อมด้วยเลือดจนแดงชาด ราว


กับดอกเหมยมากมายที่ผลิบานบนหิ มะ กระทบตากระทบใจ

ขณะที่เขากาลังชะงักไปครู่ นนั่ ตู๋กูซิงหลันก็เข้ามาในอ้อมแขนของเขาราวกับกวางน้อยที่ได้รับความตระหนกมุ่ง


แสวงหาที่หลบอันปลอดภัย "ฝ่ าบาท มีคนร้าย มีคนร้ายคิดจะเอาชีวิตน้อยๆ ของหม่อมฉัน หม่อมฉันกลัวเหลือเกิน น่า
กลัวเหลือเกิน"

ได้ฟัง'ชีวิตน้อยๆ ' สองสามคานั้น จีเฉวียนพลันรู ้สึกว่านางน่าสงสาร ทั้งร่ างนางสั่นสะท้าน สองมือก็กอดแขน


ของเขาเอาไว้แน่น ราวกับว่าทั้งโลกนี้มีแต่เขาที่จะช่วยนางได้

เลือดสดที่อุ่นร้อนของนางไหลจากท้องแขนหยดลงบนชุดมังกรของเขา หยดชุ่มเสี ยจนซึมผ้าเนื้อผ้าหนืดเหนียว


และร้อนลวกผิวกาย เขาหรี่ ตาลงอย่างเ**้้ยมโหด ราวกับต่อให้ฟ้าถล่มก็ไม่ยอมให้ใครมาพรากนางไป
ตอนที่ 22 ข้ าอ่อนแอ ไม่อาจปกป้องตนเอง

คราวนี้ท้ งั เต๋ อเฟยและฉี ผินต่างก็นิ่งค้างไปแล้ว นี่คือ 'งิ้วสนุกๆ 'ที่พวกนางรอดูอยูห่ รื อ?

" ไทเฮา ท่านเลอะเลือนไปแล้ว มีคนร้ายที่ไหนกัน " ฉี ผินกวาดตามองไปทัว่ สุ ดท้ายค่อยเห็นนางเจียงซื่อที่อยู่บน


พื้นก็ ร้องออกมาอย่างตระหนก " นี่เป็ นเจียงฮูหยินผูเ้ ฒ่าของสกุลตู๋กูนี่! ทาไมถึงได้รับบาดเจ็บขนาดนี้? "

พูดจบก็รีบส่ งสายตาให้เหล่านางกานัล นางกานัลหลายคนก็รีบเข้าไปประคองนางเจียงซื่อขึ้นมา

เจียงซื่อเห็นคนเข้ามาคราเดียวมากมาย จากเมื่อครู่ ที่ถูกตีจนยับ ตอนนี้ ก็มีแรงฮึดขึ้นมา เพียงแต่ตอนนี้ปากแตก


เจ็บปวดเหลือเกิน จึงได้แต่ใช้สายตาอาฆาตมองไปยังตู๋กูซิงหลัน

ยังไม่ทนั ได้ออกปาก ก็เห็นนังคนชัว่ นัน่ ทาท่าจะเป็ นจะตาย อยูใ่ นอ้อมแขนของฝ่ าบาท ทั้งโซซบทั้งร่ าไห้ " ฝ่ า
บาท หม่อมชั้นกลัว เป็ นนางนี่ แหละเพคะ! " ตอนแรกก็ตีเชียนเชียนจนสลบ แล้วก็เอาไม้เท้านี่มาไล่ทุบตีหม่อมฉัน
ไม่ใช่คนร้ายแล้วยังจะเป็ นอะไรได้อีก? หม่อมฉันอยูใ่ นตาหนักเย็น ร้องเรี ยกฟ้า ฟ้าไม่ตอบ ร้องเรี ยกดิน ดินไม่ขานรับ
แล้ว..."

บนร่ างของนางมีกลิ่นหอมของดอกฮว๋ ายอ่อนๆ และกลิ่นเลือดจางๆ ครึ่ งตัวของนางแนบชิดอยูใ่ นอ้อมอก ทั้ง


อบอุ่นทั้งนุ่มนวล

จีเฉวียนไม่ทนั ได้สังเกตว่า ตัวพระองค์ไม่ได้รังเกียจกลิ่นหอมและความอบอุ่นนี้แม้แต่นอ้ ย

" ไทเฮาเพคะ ท่านดูให้ดี นี่ไม่ใช่คนร้าย แต่เป็ นท่านย่าของท่านฮูหยินเจียง ยิง่ ไปกว่านั้นคนที่ได้รับบาดเจ็บหนัก


คือฮูหยินเจียงต่างหาก " ฉี ผินทนดูไม่ไหว ดู๊ดูสิ ไปกระโดดกอดอย่างนั้น ใครจะไม่รังเกียจบ้าง

" มีท่านย่าแบบไหนเอาแต่จะตีจะฆ่าหลานสาว ฮือๆๆ ฝ่ าบาท พระองค์ก็ทรงรู ้ หม่อมฉันความจาเสื่ อมไปแล้ว


หากว่าท่านย่าแท้ๆ ของหม่อมฉันยังอยู่ ต้องมีแต่จะเมตตาสงสารหม่อมฉัน สตรี ใจโหดคนนี้ใช่ท่านย่าที่ไหนกัน...." ตู๋กู
ซิงหลันน้ าตาดุจดอกสาลี่ตอ้ งสายฝน ใบหน้าเล็กๆ นัน่ แสดงความหวาดกลัวและไม่ได้รับความเป็ นธรรม ทาให้คนปวด
ใจไม่นอ้ ย
" นางยังพูดว่า จะขายข้าให้ไปเป็ นอนุของหลานชายสายนอกของใต้เท้าฉี จัดการให้รับตัวไปแล้วค่อยฆ่าทิ้งแบบ
นั้น ฮือๆๆ ข้าทั้งโกรธทั้งหวาดกลัว ตอนที่กาลังวุ่นวาย ไม่ทนั ระวังผลักนางล้มลงกับพื้น โชคดีที่พระองค์เสด็จมาแล้ว
ทุกคนต่างก็รู้ดีขา้ เป็ นเพียงสตรี นอ้ ยที่เปราะบางไม่อาจปกป้องตัวเองได้ผหู ้ นึ่ง จะไปทาร้ายใครได้ละ...."

จีเฉวียนอดที่จะมองนางอีกสักรอบไม่ได้ 'เปราะบางไม่ อาจปกป้องตัวเอง' งั้นหรื อ?

หากไม่ใช่เพราะบาดแผลที่กาลังเลือดไหลพาให้สะดุดตาจนน่าสงสาร เขาคงไม่มีทางจับสตรี ผนู ้ ้ ีมาเข้าคู่กบั คาว่า


เปราะบางอ่อนแอได้เด็ดขาด

แต่เพราะนางใช้ดวงตาสุ กสกาวที่ไร้เดียงสานั้นมองมายังเขา ราวกับว่าหากเขายังไม่มาปกป้ องนางละก็ อีกเพียงครู่


เดียวนางคงถูกฝูงสัตว์ป่ารุ มทาร้ายแน่

จีเฉวียนหรี่ ตามอง สตรี ผนู ้ ้ ี จงใจเป็ นแน่

พอมองเห็นนังตัวร้ายนัน่ พูดจาเหลวไหลเลื่อนเปื้ อน อีกทั้งฮ่องเต้กลับไม่ทรงลงโทษนางโดยเร็ ว นางเจียงซื่อก็


โมโหจนเลือดลมสับสน นางกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ยกมือที่สั่นเทาชี้ใส่ ต๋ กู ูซิงหลัน กล่าวทั้งร่ างสั่นสะท้านว่า " เจ้า
จะมากลับดาเป็ นขาวหรื อไง เทียบเชิญเข้าวัง เจ้าก็เห็นอย่างชัดเจน พอตอนนี้ กลับปฎิเสธไม่รู้เรื่ อง ช่างอกตัญญูถึงเพียงนี้
สกุลตู๋กูของข้าทาไมถึงมีตวั มารอย่างเจ้าขึ้นมาได้ ฟ้าช่างไม่เมตตาปกป้อง ตัวซวย ตัวซวยแท้ๆ "

นางเจียงซื่อพูดแล้วก็ไอดังๆ หลายครั้ง บาดแผลบนปากยิง่ มีเลือดออก เลือดไหลเป็ นทาง

" ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเจียง ท่านต้องถนอมสุ ขภาพไว้ " เต๋ อเฟยอดใจทนดูไม่ไหว สั่งให้นางกานัลประจาตัวนาผ้าเช็ดหน้า


ไปช่วยนางเช็ดแผล ห้ามเลือด

" ขอบพระทัยเพคะ พระสนม " เจียงซื่อหันมาขอบคุณเต๋ อเฟยด้วยสายตาซาบซึ้ง

เต๋ อเฟยเพียงพยักหน้ารับ ไม่ตอบคาราวกับนางแค่ตอ้ งการแสดงน้ าใจการุ ณเท่านั้น


" ฮูหยินเจ้าคะ " หลี่มาม่าที่ตกอกตกใจจนขวัญหาย ยามนี้ค่อยได้สติ นางฝื นทนเจ็บขยับเข้าหานางเจียงซื่อ

ฝ่ าบาทเสด็จมาแล้ว จะต้องทรงให้ความยุติธรรมกับพวกนางแน่!

นางถลึงตาโหดใส่ ต๋ กู ูซิงหลัน " คุณหนูหลัน ท่านตีท่านย่าของตัวเองเกือบตาย แล้วยังคิดจะสาดโคลนอีกหรอ? ฮู


หยินดีกบั ท่านมาตลอด ท่านกลับเป็ นเสี ยยังงี้ จะมีคุณสมบัติเป็ นไทเฮาของต้าโจวได้อย่างไร? ต่อให้นายผูเ้ ฒ่ากลับมาก็
ต้องไม่อภัยการกระทาของท่านในวันนี้"

"ไทเฮาเพคะ ท่านกระทากับฮูหยินผูเ้ ฒ่าเสี ยขนาดนี้ ไม่สมควรโดยแท้ แคว้นต้าโจวของเรายึดถือความกตัญญูเป็ น


สิ่ งแรก ท่านเป็ นไทเฮายิง่ ต้องเป็ นแบบอย่างที่ดีงาม แต่นี่...." ฉี ผินรี บเป่ าลมเติมไฟ ด้วยกลัวว่าฝ่ าบาทจะยังไม่เห็นธาตุ
แท้ของนาง งามแต่ภายนอกจิตใจดังอสรพิษ

นางมัน่ ใจว่า หากฝ่ าบาททรงเห็นโฉมหน้าที่แท้จริ งของตู๋กูซิงหลัน ต้องยิง่ ชิงชังรังเกียจแน่

เต๋ อเฟยขมวดคิ้วมุ่น แต่ไม่กล่าววาจา

ตู๋กูซิงหลันไม่ได้ต่อปากต่อคากับพวกนางแม้แต่นอ้ ย นางกอดแขนของจีเฉวียนไว้อย่างแนบแน่น ทั้งร่ างสั่น


สะท้าน ราวกับหวาดกลัวอย่างที่สุด สองตาเหลือบมองเจียงซื่ อแวบหนึ่งก็มองแต่จีเฉวียน "ฝ่ าบาท ในวังนี้ท่านคือญาติ
ใกล้ชิดเพียงคนเดียวของข้า ท่านต้องเชื่อข้านะ..."

จีเฉวียนอยากจะปัดสิ บเล็บที่จิกอยูบ่ นท่อนแขนของเขาออกไป แต่สตรี ผนู ้ ้ ีทาราวกับพระองค์คือฟางช่วยชีวิตเส้น


สุ ดท้าย หากสลัดนางทิ้งพระหัตถ์คงโชกเลือกแน่

แล้วยังคาว่า 'ญาติใกล้ ชิดเพียงคนเดียว' คานั้น สมควรตายจริ งๆ เขากลับรู ้สึกว่านางน่าสงสารเหลือเกิน

เห็นฮ่องเต้ไม่รับสั่งอะไรอยูน่ าน นางเจียงซื่อก็ร้อนรนขึ้นมา นางรี บตะกุกตะกักว่า " ฝ่ าบาท ทรงรับสั่งให้หม่อม


ฉัน..."

คาพูดไม่ทนั ออกจากปาก ก็ถูกสายพระเนตรคมกริ บนัน่ สาดแรงกดดันใส่ " เราต้องการให้เจ้าทาอะไร? "


นางเจียงซื่อหวาดผวาจนคาพูดที่คา้ งไว้ถูกกลืนลงท้องไป นางมัน่ ใจว่าตนเองจาไม่ผิด ตอนนางขอเข้าเฝ้าฝ่ าบาท
เขาพูดอย่างชัดเจนว่า .....ขอเพียงนางสามารถทาให้ต๋ ูกูซิงหลันยอมถอดยศด้วยตนเองได้ ก็จะรับตัวเหลียนเอ๋ อร์ออกมา
จากลานซักล้าง ทั้งยังจะแต่งตั้งนางเป็ นพระสนมขั้นเฟย

เหลียนเอ๋ อร์ของนางแสนจะโดดเด่น ตอนเข้าวังเดิมที่ก็ควรจะได้เป็ นพระสนมขั้นเฟยอยูแ่ ล้ว ....แต่เป็ นเพราะ


ผลกระทบจากตู๋กูซิงหลันคนเดียว ตอนนี้ นงั เดรัจฉานนัน่ กลับทาร้ายจนเหลียนเอ๋ อร์ตอ้ งตกต่าขนาดนี้

แต่ยามนี้ คาพูดเหล่านั้นนางจะพูดออกไปได้อย่างไร.....

" เรามีเมตตาอนุญาตให้เจ้าเข้าวังมาเยีย่ มเยือนไทเฮา เจ้ากลับก่อความวุ่นวายสร้างเรื่ องให้เป็ นที่ขบขันขึ้นได้? "


สายพระเนตรของจีเฉวียนน่ากลัวจนถึงขั้นอันตรายแล้ว แม้แต่น้ าเสี ยงก็ราวกับฉาบด้วยเกล็ดน้ าแข็ง " เราเห็นแก่ที่เจ้า
เป็ นสตรี ของตู๋กูผเู ้ ฒ่า ให้เกียรติเจ้าส่ วนหนึ่ง กลับก่อเรื่ องอะไรขึ้นมา? "

นางเจียงซื่อตกตะลึงอย่างที่สุด นางตอนนี้ชกั ระแวงว่าฮ่องเต้ที่อยูเ่ บื้องหน้านี้คือตัวปลอม

ทาไมเขาต้องออกหน้าปกป้องนังตู๋กูซิงหลันขนาดนี้? เพียงเพราะใบหน้าที่งดงามหาใดเทียบของนางเท่านั้นหรื อ?

ก็คงใช่.... ก็เพราะเหตุน้ ี อดีตฮ่องเต้ถึงได้รับนางเป็ นฮองเฮาที่สองไม่ใช่หรื อ?

สตรี งามเป็ นต้นเหตุของเภทภัย เหมือนกับย่าของนาง ล้วนไม่ใช้ตวั ดีอะไร!

" ฝ่ าบาท ไทเฮานางทาร้ายฮูหยินผูเ้ ฒ่าเจียงจนแทบจะไม่เป็ นผูเ้ ป็ นคน พระองค์ไม่อาจลาเอียงนะเพคะ..." ฉี ผินเอง


ก็วิตกแล้ว นี่ นางประเมินความสามารถของนังตู๋กูซิงหลันนัน่ ต่าไปหรื อเปล่า?

ฮ่องเต้ไม่ทรงเปิ ดโอกาสให้นางพูดอีก " หากชอบแส่ นกั เจ้าคงคิดอยากอยูย่ าวในตาหนักเย็นแล้ว? "


------

槐花 ดอกฮว๋ าย Sophora japonica : ไม้ยนื ต้นขนาดใหญ่ ดอกไม้ที่มีสรรคุณทางยา นามาผัดกิน


สรรพคุณลดความดันเลือด ออกดอกเป็ นช่อสี ขาวทั้งต้น

ตอนที่ 23 ไม่ใช่ ฮ่องเต้ บ้าอานาจ ก็เป็ นยอดบัณฑิตงาประกาย


ชัว่ ขณะนั้นฉี ผินรู ้สึกว่าเลือดทั้งตัวถูกแช่แข็ง ทุกคนต่างรู ้วา่ ฝ่ าบาทตรัสคาไหนไม่มีทางเป็ นอื่นมาตลอด เมื่อตรัส
ออกมาแล้ว ก็แสดงว่าพระองค์จะส่ งนางเข้าตาหนักเย็นไปจริ งๆ

นางสัน่ สะท้านไปทั้งร่ าง จะดีจะร้ายอย่างไร บิดานางก็เป็ นถึงแม่ทพั ขั้นสี่ ฝ่ าบาทจะทากับนางได้หรื อ?

" ฝ่ าบาท ฉี ผินเพียงแต่สงสารเจียงฮูหยินผูเ้ ฒ่า ขอพระองค์ทรงโปรด...." เต๋ อเฟยเองก็ทนดูต่อไปไม่ไหว นางถวาย


คานับอย่างเต็มพิธีการให้กบั จีเฉวียน ดวงตาที่งดงามราวกับลูกแก้วนั้นแฝงประกายตัดพ้ออย่างไม่เป็ นธรรม

ฉี ผินในยามนี้ซาบซึ้งอย่างเป็ นที่สุด นางรู ้วา่ เต๋ อเฟยไม่คิดยุง่ เกี่ยวกันเรื่ องนี้ นึกไม่ถึงว่าเต๋ อเฟยกลับยินยอมละทิ้ง
ข้อห้ามของตนเองช่วยขอร้องอภัยโทษให้นาง บุญคุณยิง่ ใหญ่น้ ีนางรับไว้แล้ว

จีเฉวียนมองเต๋ อเฟยอยูแ่ วบหนี่ ง สักพักก็ใช้มืออีกข้างหนึ่งรั้งนางให้ลุกขึ้นยืน

เมื่อเห็นภาพนี้กบั ตา หัวใจของฉี ผินก็แทบแตกสลาย นางเข้าวังมาตั้งนานแล้ว ไม่เคยเห็นฝ่ าบาทสัมผัสแตะต้อง


สตรี คนใด แต่สตรี ผนู ้ ้ ีคือ เต๋ อเฟย เช่นนั้นก็แล้วไปเถอะ หากเต๋ อเฟยได้รับความโปรดปรานก็เป็ นเรื่ องดีกบั ตัวนาง

ฮึ ตู๋กูซิงหลัน เจ้าดูให้ดีเถอะ ต่อหน้าเต๋ อเฟย เจ้ามันไม่มีค่าอะไรเลย ทุกคนในวังต่างรู ้ ดี ฝ่ าบาทปฎิบตั ิต่อเต๋ อเฟย


ไม่เหมือนผูอ้ ื่น

ใจของฉี ผินพลันคล้ายรู ้สึกได้รับชัยชนะอย่างไม่มีที่มา

แม้แต่นางเจียงซื่อที่เฝ้าดูอยู่ก็ถอนใจออกมาได้ครั้งหนึ่ ง เต๋ อเฟยมีเมตตาและใจกว้าง ตู๋กูซิงหลันนัน่ จะเอาที่ไหนมา


เทียบได้? ขอเพียงเต๋ อเฟยช่วยพูดจาให้นางซักหลายคา ตู๋กูซิงหลันนัน่ คงไม่แคล้วต้องจบอนาคตแน่

นางคนนอกคอก คิดว่าอาศัยใบหน้างดงามนัน่ นางก็สามารถได้มาทุกอย่างหรื อ?


เมื่อถูกฮ่องเต้พยุงขึ้นมาด้วยพระองค์ เต๋ อเฟยถึงกับชะงักไปชัว่ ครู่ สองปรางค์ของนางแดงระเรื่ อ ก้มหน้าลงอย่าง
ขวยเขิน ขนตางงอนงามราวปี กผีเสื้ อขยับบิน นางมีน้ าหนักในพระทัยของฝ่ าบาท

นางพลิกมือคว่า คิดจะกุมพระหัตถ์ฮ่องเต้ไว้ ไหนเลยจะรู ้แค่ครู่ เดียวฝ่ าบาทกลับทรงวางพระหัตถ์จากนาง พระสุ


รเสี ยงปราศจากความอบอุ่นแม้แต่นอ้ ย " อ้ายเฟย เราไม่อยากเห็นเจ้าถูกเอาใจจนเสี ยคน "

เต๋ อเฟยราวกับถูกน้ าเย็นราดรดตั้งแต่ศรี ษะจนถึงปลายเท้า นางเงยหน้าขึ้น เห็นตู๋กูซิงหลันตั้งนานแล้วยังเอาแต่


เกาะแขนฮ่องเต้ไม่ปล่อย แถมฝ่ าบาทก็ไม่ได้แสดงอาการอยากจะสะบัดนางออกแม้แต่นอ้ ย

เมื่อสักครู่ ตอนที่ฮ่องเต้พยุงเต๋ อเฟยขึ้นมา ก็เพียงแต่ทรงจับที่ชายแขนเสื้ อเพื่อดึงนางขึ้นเท่านั้น ทั้งสองไม่ได้สัมผัส


ร่ างกายของกันและกันแม้แต่น้อย

ไม่รู้วา่ ทาไม คาว่า 'อ้ายเฟย' นั้น ฟังแล้วช่างดูกีดกันแบ่งแยก

นานอยูพ่ กั นึง เต๋ อเฟยถึงได้ตอบรับเสี ยงเบา " เพคะ "

และตอนนี้ยามที่ดวงตางดงามราวลูกแก้วมองผ่านตู๋กูซิงหลันนั้น ก็ฉายแววเย็นเฉี ยบชนิดหนึ่ ง

ตู๋กูซิงหลันคนนี้ เจ้ามันนังแพศยา! หากไม่ใช่เพราะนาง ฝ่ าบาทไหนเลยจะหักหน้าข้า?

ตู๋กูซิงหลันกลับทาเป็ นไม่รู้เรื่ องอะไรกับใครเขา นางเพียงแต่ต้ งั ท่าจะกอดพ่อลูกชายเอาไว้ ไม่กล้าปล่อยมือ ไงจ๊ะ?


เจ๊ถามหน่อย โกรธกันไหมน้า? ตอนที่เจ๊ได้แสดงเป็ นดอกบัวดาโด่งดังค้ าฟ้านะ พวกหนูๆ ยังอยูใ่ นท้องแม่อยูเ่ ลยนะจ๊ะ

คราวนี้ ทั้งฉี ผินและนางเจียงซื่ อต่างก็ไม่กล้าอ้าปากกันแล้ว พวกนางนึกว่าจะได้เห็นฉากงิ้วสนุกๆ ภูติผีถึงจะรู ้วา่


ทาไมเต๋ อเฟยถึงได้ถูกละเลย แสดงออกอย่างเย็นชาขนาดนั้น
พอดูต๋ กู ูซิงหลันอีกรอบ ทาท่าน่าสงสารราวกับลูกสะใภ้เล็กที่ถูกรุ มรังแกยังไงอย่างงั้น เจ็บใจนัก! ยิง่ เห็นนางที่ไร
ยิง่ พาให้โกรธมากเท่านั้น อ๊ากๆๆ!

ที่สุดแล้ว นางเจียงซื่อก็ถูกพาออกนอกตาหนักไป ก่อนออกนอกวัง หลี่กงกงได้พูดอยูป่ ระโยคหนึ่งกับนางเป็ น


พิเศษ " ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเจียง บ่าวขอเตือนท่านสักประโยค คาพูดบางคาหากไม่ควรพูด ก็ควรปล่อยให้มนั เน่าสลายอยูใ่ น
ท้องเป็ นดีที่สุด ท่านก็มิใช่คนโง่ ย่อมรู ้วา่ อะไรควรทาไม่ควรทา "

ตอนแรกเจียงซื่อคิดว่าตนเองเจ็บปวดจนหลังใกล้จะหักแล้ว แต่พอฟังคาของหลี่กงกง ความโกรธทั้งหลายทั้งปวง


ก็วูบดับไป นางไม่กล้าไปหาเรื่ องกับฮ่องเต้พระองค์ใหม่

เพียงแต่ตนเองได้รับความเจ็บช้ าซ้ ายังต้องเก็บงาราวคนใบ้ ในใจไม่ยนิ ยอมแม้แต่น้อย นางจะต้องหาทางช่วยเหลือ


เหลียนเอ๋ อร์ออกมาให้ได้

............................................................

ภายในตาหนักเย็นลมอ้าวในฤดูร้อนพัดมาตามรอยหน้าต่างที่แตกหัก

ด้านหนึ่งเชียนเชียนยังคงสลบไสลไม่ได้สติอยู่ ตู๋กูซิงหลันได้แต่ใช้ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บยกชามาถวาย

" ฝ่ าบาท ตาหนักเย็นอัปมงคล ไยไม่ทรงเสด็จจากไปก่อนละเพคะ? ตู๋กูซิงหลันได้แต่ลองไต่ถามดู นางเจอะเจอ


ผูค้ นมามาก แต่คนเช่นเจ้าลูกสุ นขั น้อยเนี่ย นางกลับดูไม่ออก

เดิมทีคิดว่าละครฉากเมื่อครู่ คงต้องเล่นอย่างยากลาบากเสี ยหน่อย แต่ไม่รู้ทาไมพระองค์จึงทรงแสดงทีท่าปกป้อง


นางตั้งแต่แรก
พอฉี ผินและเต๋ อเฟยถูกไล่กลับไปแล้ว เขากลับกลายเป็ นแขกผูท้ รงศักดิ์ในตาหนักของนาง ไม่รู้วา่ เจ้าลูกสุ นขั นี่คิด
อะไรอยูก่ นั แน่

คนทั้งสองอยูก่ นั เพียงลาพัง ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไหร่

" ใช้งานเราจบแล้ว ก็คิดจะถีบส่ งเราเลย? ตู๋กูซิงหลัน ใครให้ทา้ ยเจ้าจนขวัญกล้าบังอาจขนาดนี้? " อ่องเต้


ทอดพระเนตรมองนางอย่างไม่สบพระอารมณ์นกั สายตานั้นถึงกับร้อนแรงยิง่ กว่าแสงอาทิตย์ในฤดูร้อนเสี ยอีก

" ฝ่ าบาท ไยพระองค์จึงทรงมองหม่อมฉันในแง่ลบอยูต่ ลอด? หม่อมฉันเป็ นเพียงสตรี อ่อนแอ ต่อให้ขวัญกล้า


บังอาจเพียงไหนก็ไม่กล้าหลอกใช้พระองค์" ตู๋กูชิงหลันถวายน้ าชาที่เย็นแล้วให้ฝ่าบาทด้วยตนเอง

เจ้าฮ่องเต้สุนขั น้อย เห็นชัดอยูแ่ ล้วว่าเป็ นท่านที่หลอกใช้เจียงซื่ อมาเล่นงานนางก่อน หากไม่ใช่เพราะนาง


แข็งแกร่ งเพียงพอทั้งยังรู ้จดั เสแสร้งแกล้งแสดงอยูบ่ า้ ง ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้จะถูกรังแกถึงเพียงไหน

เจ้าจิ้งจอกเฒ่า คงเป็ นเพราะนางไปพบเห็นเรื่ องของเขากับทาราชครู เข้า ถึงได้รีบร้อนคิดจะเอาคืนนาง

เจ้าเล่ห์กลิ้งกลอก เจ้าคิดเจ้าแค้น ทั้งยังเย็นชาไร้น้ าใจ หากเขาไม่ใช่ฮ่องเต้บา้ อานาจ ก็เป็ นยอดบัณทิตงาประกาย


แล้ว

จีเฉวียนกวาดพระเนตรมองถ้วยชาที่ปากบิ่นแล้ว ด้านนอกของถ้วยชาที่เก่าเหลืองยังมีคราบเลือดจางๆ จากปาก


แผลของนาง

เขาอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

" มานี่ " พระองค์ไม่คิดจะเสวยชาห่วยๆ นัน่ ปลายพระดัชนีเคาะลงบนโต๊ะ พระเกศาปล่อยสยาย ความงดงาม


ขนาดนี้แม่แต่ต๋ ูกูซิงหลันยังคิดชื่นชมให้นานสักหน่อย
" มานี่ อย่าให้เราต้องเรี ยกถึงสามครั้ง " เห็นนางยังเหม่อลอยอยู่ ฮ่องเต้ก็ชกั เสี ยงเย็นเข้าใส่

ตู๋กูซิงหลันถึงได้รีบมาเบื้องหน้าเขา ไม่ทนั รอให้นางอ้าปาก พระองค์ก็ยนื่ พระหัตถ์ออกมา คว้าแขนของนางไว้ ทา


ให้บาดแผลที่พ่ ึงจะสมานตัวฉี กออกอีก โลหิ ตสดริ นไหล

นางสู ดปากเสี ยงดัง ตกใจร้องติดๆ กัน " เจ็บๆๆ ....."

พอตอนจีเฉวียนเงยพระพัตร์มองนาง ถึงได้เห็นนางน้ าตาไหลเป็ นทาง ท่าทางโกรธเพราะถูกรังแก แต่ไม่กล้าพูด


แม้แต่น้อย

" เจ้ารู ้จกั เจ็บกับเขาด้วย? " จีเฉวียนเสี ยงเย็นเข้าใส่ ค่อยจับนางนัง่ ลงบนเก้าอี้ขา้ งตัว เห็นบาดแผลลึกถึงเนื้อใน
ของนาง ก็ยงิ่ ขมวดคิ้วแน่นเข้าไปอีก

ตู๋กูซิงหลันน้ าตาหยดแหมะๆ " หม่อมฉันเป็ นคนเป็ นๆ บาดเจ็บเลือดไหลย่อมต้องเจ็บ...."

" คนเป็ นๆ กลับเ**้้ยมพอจะลงมือทาร้ายตัวเองได้ เจ้ามันเก่งนักนะ " จีเฉวียนพระสรวลเย็นใส่

ตู๋กูซิงหลัน "!!! " นี่เขามีกล้องจับผิดติดอยูใ่ นตาหนักของนางหรื อยังไง?

" หลี่ตา้ ชิง เอายามา " จีเฉวียนก็ไม่สนใจจะพูดกับนางอีก "

ครู่ เดียวหลี่กงกงก็นายากล่องเล็กๆ เข้ามาถวาย ค่อยเสี่ ยงตายกราบทูลถาม " ฝ่ าบาท จะให้เชิญหมอหลวงมาดีไหม


พะยะค่ะ หรื อว่าจะทรง.......ทายาให้ไทเฮาด้วยพระองค์เอง? "

ตู๋กูซิงหลันพลอยสะดุง้ ไปด้วย เขาคง....ไม่คิดจะทายาให้นางเองจริ งๆ ใช่ไหม?

ตอนที่ 24 เตรียมจะฆ่าคนปิ ดปากแล้ว?

ก่อนหน้านี้รังเกียจนางไม่ใช่หรื อ? ทาไมอยูด่ ีๆ ถึงเปลี่ยนใจแล้วล่ะ?


ฮ่องเต้ทรงถลึงตามองเขา ฉวยเอาขวดยามาถือไว้ครู่ หนึ่งแล้วก็วางลง หันมาเล่นงานตู๋กูซิงหลัน " เจ้าเฝ้ารออะไร
อยู!่ เฮอะ"

ตู๋กูซิงหลัน เฮ่อ! ข้าเฝ้ารออะไร ทาไม ท่านไม่รู้จริ งๆ?

สักพักหนึ่งฝ่ าบาทก็หนั ไปทางหลี่กงกง " เจ้ามาจัดการ"

หลี่กงกง "??? "

ตัวเขามือเท้าแสนจะหยาบกระด้าง หากว่าทาให้ไทเฮาได้รับบาดเจ็บเพิม่ ขึ้นมา....เกิดอีกหน่อยนายผูเ้ ฒ่าตู๋กูรู้เข้าละ


ก็ จะไม่มาถลกหนังบ่าวออกสักชั้นหรื อไง?

" หม่อมฉันจัดการเองดีกว่า" ตู๋กูซิงหลันน้ าตาตกใน ยิม้ แหยออกมา " ฝ่ าบาททรงเป็ นคนดีเหลือเกิน ขอบพระทัย
เพคะ "

จีเฉวียน "......." คาพูดนี้ทาไมฟังแล้วไม่ค่อยถูกหู

ตู๋กูซิงหลันถือขวดไว้ลงั เลอยูช่ วั่ ครู่ จากอุปนิสัยของเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่อาจจะวางยาพิษใส่ ในยาก็ได้ นางควรจะระวัง


ไว้บา้ งดีกว่า

หลี่กงกงเห็นท่าแล้ว ก็รีบถอยออกไป เรื่ องระหว่างฝ่ าบาทและไทเฮา เขาไม่อยากมีส่วนยุ่งเกี่ยวแม้แต่นอ้ ย หลบ


ออกจากสมรภูมิได้เป็ นดีที่สุด

ครู่ เดียวก็เหลือเพียงทั้งสองอยูภ่ ายในห้อง

ฮ่องเต้ไม่ได้ทรงเข้ามาช่วยนางทายาก็จริ ง เพียงทอดพระเนตรมองตู๋กูซิงหลันทาท่ากัดฟันบ้าง ยูป่ ากบ้างอยูต่ ลอด


ฉับพลันเขาก็ตรัสขึ้นมา " หากรู ้วา่ จะมีวนั นี้ ต้ งั แต่แรก ปี นั้นเจ้าจะเสี ยใจหรื อไม่? "

ตู๋กูซิงหลัน " ห๊า? "

จีเฉวียน " ช่างเถอะ "


ตู๋กูซิงหลัน "........."

" ฝ่ าบาท เรื่ องราวในปี นั้น หม่อมฉันลืมไปหมดแล้ว .....หากจะทรงมีเมตตา โปรดทรงบอกหม่อมฉันบ้างได้ไหม


ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? " ตู๋กูซิงหลันร้อนรนอยูใ่ นใจ นางเกลียดนักคนที่พูดอะไรครึ่ งๆ กลางๆ! น่าหงุดหงิดเป็ นที่สุด

" เป็ นเจ้าที่เลือกเอง ไม่วา่ เจ้าจะจาหรื อลืมไปแล้ว เจ้าเพียงต้องจดจาไว้วา่ นี่เป็ นหนทางที่เจ้าเลือกเอง ความลาบาก
ในวันนี้คือเคราะห์กรรมที่เจ้าก่อขึ้น"

" หากว่าสามารถเลือกได้อีกครั้ง หม่อมฉันจะต้องละจากความมืดเข้าสู่ แสงสว่าง เป็ นลูกหมาขี้ออ้ นให้ดี"

จีเฉวียน "...." ลูกหมาขี้ออ้ นคืออะไร ที่มาเกาะแข้งเกาะขาแบบนั้นนะหรื อ?

พอคิดถึงตรงนี้ จีเฉวียนก็อดจะรู ้สึกแปลกๆ คันๆ ขึ้นมาทัว่ ตัวอย่างไม่มีสาเหตุ

"ฝ่ าบาท ทรงพิโรธอีกแล้วหรื อ? " เห็นเขาไม่พูดจา ตู๋กูซิงหลันก็ขยับเข้าไปใกล้อีกนิดนึ ง กลิ่นยาจากปากแผล


และกลิ่นหอมราวดอกดอกฮว๋ ายจากตัวนางลอยเข้านาสิ กของเขา

ทาให้เขายิง่ รู ้สึกคันยุบยิบมากขึ้นกว่าเดิม

เขานัง่ อยูบ่ นเก้าอี้มา้ นัง่ ตัวน้อย เส้นผมดาสยายยาว ฉลองพระองค์ชุดมังกรสี ทองกระทบแสงจากหน้าต่างส่ องเป็ น


ประกาย แม้แต่ดวงเนตรหงส์น้ นั ก็งดงามราวกับแสงทองอาบไล้

ชัว่ ขณะนั้นเอง ตู๋กูซิงหลันอดคล้อยตามความคิดของเจ้าวิญญาณทมิฬไม่ได้ ล่อลวงเจ้าภูเขาน้ าแข็งนี่ซะ สิ นค้า


คุณภาพชั้นเลิศเช่นนี้ หากปล่อยผ่านไปช่างเสี ยชื่อลูกค้าเจ้าสาราญระดับผูน้ ากลุ่มVIPบัตรทองฝังเพชรของนางหมด

เมื่อเห็นสายตาที่ชกั จะเร่ าร้อนของนาง ใบหน้าของจีเฉวียนก็เริ่ มมืดครึ้ ม ส่ งเสี ยงเข้มงวด " เจ้ามองเราเช่นนี้ คิดจะ
ทาอะไร "

นัยตาดาขลับเป็ นประกาย ราวกับดื่มด่าและวาดหวัง สตรี ผนู ้ ้ ี จะต้องมีความละโมบอย่างร้ายกาจ

" ก็ฝ่าบาทน่าดู " ตู๋กูซิงหลันหัวเราะอย่างร่ าเริ ง " ทรงเป็ นบุรุษที่หน้าตาดีที่สุดที่หม่อมฉันเคยเห็นมา "


จีเฉวียน "......" หึ

" เราน่าดูแค่ไหน เรารู ้อยูแ่ ก่ใจ ไม่ตอ้ งให้เจ้ามาคอยย้าเตือน "

ตู๋กูซิงหลันถึงกับไร้คาพูด เจ้าหนุ่มนี่ นอกจากหน้าตาดีอย่างเดียวแล้ว ตลอดทั้งตัวบนล่างก็มีแต่ขอ้ บกพร่ อง ยิง่


ตอนนี้ มาเพิ่มความหยิ่งผยองไร้ที่เปรี ยบไปอีกข้อ อย่าได้คว้ามาเด็ดขาดๆ

" ใช่ๆๆ ต่อไปหม่อมฉันจะไม่พูดแล้ว " ตู๋กูซิงหลันตอบรับระรัว ขณะเดียวกับก็ขวัญกล้าบังอาจกระตุกแขนเสื้ อ


ของเขาไม่หยุด พูดอย่างจริ งจังว่า " ถ้างั้นฮ่องเต้ที่สง่างามที่สุดในแผ่นดิน จะทรงเมตตาสตรี ที่อ่อนแออย่างหม่อมฉัน
คืนความบริ สุทธิ์ให้หรื อไม่เพคะ? วันนั้นหม่อมฉันยอมตายเพื่อพิสูจน์ความบริ สุทธิ์ใจไปแล้ว ก็แสดงว่าหม่อมฉันถูก
ปรักปรานะเพคะ "

ขณะที่นางกาลังพูด จีเฉวียนก็ทอดพระเนตรมองนางอย่างเงียบงัน ที่จริ งทรงมองไปยังข้อมือที่บอบบางของนาง

นางผ่ายผอมลงไปมาก ผอมถึงขนาดที่เขาคิดว่าหากใช้แรงมากสักหน่อยลงทาให้กระดูกนางหักไปได้

ชายแขนเสื้ อที่ร่นขึ้นมาเผยให้เห็นรอบข้อมือสะอาดขาวและบอบบางนั้น มีรอยแผลเป็ นที่แสนสะดุดตาคนอยู่


เป็ นวงสี น้ าตาลเข้มล้อมรอบข้อมือ ราวกับตะขาบใหญ่ตวั หนึ่ ง

เขายังจาได้ดี วันที่เกิดเรื่ องนั้น นางร่ าไห้สุดชีวิตจะอย่างไรก็ไม่ยอมรับผิด ที่จริ งไม่เพียงเป็ นริ้ วรอยที่ขอ้ มือ แต่
ปากแผลลึกถึงกระดูก นี่ไม่ใช่มารยาเสแสร้งแกล้งทา แต่เป็ นการยอมตายแล้ว

ตู๋กูซิงหลันในความทรงจาของเขา ถึงแม้จะบอบบางนุ่มนวลแต่ก็มีจิตใจที่เด็ดเดี่ยว

เป็ นเพราะเขาชิงชังนาง ชิงชังตระกูลตู๋กู ดังนั้นตั้งนานขนาดนี้ แล้วจึงไม่เคยให้โอกาสนางได้อธิบายแม้แต่นอ้ ย


เพียงตัดสิ นอย่างฉับพลันว่าเหตุการณ์ท้ งั หมดเป็ นฝี มือของนาง

"พระองค์ก็ทรงได้ทอดพระเนตรแล้ว ทุกวันนี้แม้แต่อนุภรรยาของท่านปู่ ก็กล้าบุกมารังแกหม่อมฉันแล้ว อีก


หน่อยไม่รู้วา่ จะมีเจ้าเหมียวเจ้าตูบที่ไหนกระโดดขึ้นหัวของหม่อมฉันบ้าง หม่อมฉันจะอย่างไรก็เป็ นถึงไทเฮาของต้า
โจว กลับถูกคนลบหลู่ถึงเพียงนี้ เรื่ องกระพือออกไปเป็ นที่เสื่ อมเสี ยของชาติบา้ นเมือง ยิง่ ไปกว่านั้นพวกเราเป็ น
ครอบครัวที่รักใคร่ กลมเกลียวกันต่างหาก"
จีเฉวียนถึงกับมุมปากกระตุก "ดูเหมือนว่าเป็ นนางเจียงซื่ อถูกตีเกือบตาย โดนเสี ยจนหมดสภาพ " ใครคิดจะเป็ น
ครอบครั วที่รักใคร่ กลมเกลียวกับเจ้ ากัน?

แหะๆๆ เขาเป็ นฝ่ ายค้านกลับชาติมาเกิดหรื อไงนะ

ตู๋กูซิงหลันได้แต่แสดงท่าได้รับความเจ็บช้ าน้ าใจ " พระองค์ไม่ทรงเชื่อหม่อมฉันเลย..."

" ผูบ้ ริ สุทธิ์ยอ่ มบริ สุทธิ์ใจ เจ้ากังวลอะไร? " จีเฉวียนหันมามองที่ชายแขนฉลองพระองค์ใช้สายพระเนตรที่แสน


จะเมตตากดดันนาง

เขาไม่มีทางยอมให้นางหลอกลวงได้เด็ดขาด

" หม่อมฉันถูกใส่ ร้ายนี่ น่า ....ความรู ้สึกของคนที่ถูกผูอ้ ื่นเข้าใจผิดและถูกรังแก มันยากจะทนได้ " ตู๋กูซิงหลัน
พึมพาเสี ยงเบา

จีเฉวียนมองนางด้วยสายพระเนตรลึกล้ าคราหนึ่ง มุมปากยกยิ้มขึ้นมา ก็รีบแสดงท่าเย็นชา " เจ้าจะไปรู ้ดีอะไร "

ท่าทางยิม้ เยาะของพระองค์แบบนั้น ราวกับว่าเรื่ องที่นางโดนรุ มรังแกในตอนนี้ ในสายพระเนตรของพระองค์ไม่


ถือว่าเป็ นเรื่ องใหญ่แม้แต่นอ้ ย

ตู๋กูซิงหลันรู ้กาลเทศะจึงปิ ดปากเงียบ มองตามสายพระเนตรของพระองค์ไป จีเฉวียนทรงลุกขึ้นเตรี ยมจะเสด็จจาก


ไป

เสด็จไปสองก้าวก็ร้ ังพระบาทไว้ ค่อยหันพระพักตร์มามองดูนางเล็กน้อย " เจ้าคิดไปจากตาหนักเย็นหรื อไม่ "

" ตอนนี้ยงั ไม่คิด " ตู๋กูซิงหลันตอบอย่างหนักแน่น

" หื ม? " ฮ่องเต้คล้ายประหลาดพระทัยอยูบ่ า้ ง สตรี ผนู ้ ้ ีไม่อาจใช่เหตุผลธรรมดามาคาดเดาได้ เป็ นเพราะนางคิด


จะดึงดูดความสนใจของพระองค์หรื อไม่?

" ฝ่ าบาท จะช้าเร็ วอย่างไรหม่อมฉันย่อมไปจากตาหนักเย็นแน่ ออกไปอย่างผูบ้ ริ สุทธิ์ "


สายตาของนางเป็ นประกายเฉี ยบคม จีเฉวียนทรงพระสรวลอย่างไร้ที่มา รอยยิม้ นี้คล้ายไม่สาคัญอะไร แต่ฉบั พลัน
กลับทาให้แสงอาทิตย์สดใสภายนอกดูหมองลงไป โลกทั้งใบแลดูจืดชืด มีเพียงแต่สีสันจากบุรุษโฉมงามผูห้ นึ่ งเท่านั้น

ยิง่ สุ ดท้ายแล้วบุรุษโฉมงามน่าตายผูน้ ้ นั ไม่กล่าวอันใดก็จากไป ทิ้งให้สมองของตู๋กูซิงหลันมีแต่ภาพรอยยิม้ นั้นวน


ไปมา

เขายิม้ แล้ ว! ไม่ใช่ยมิ้ เย็นแบบนั้น! เจ้าลูกชายนัน่ คิดอะไรอยูก่ นั แน่? เตรี ยมจะฆ่าคนปิ ดปากหรื อไง?

ตอนที่ 25 พระตาหนักเฟิ่ งหมิง

++! เรื่ องที่ไทเฮาน้อยปี นเตียง คงไม่ใช่เขาคิดวางแผนไว้ก่อนหรอกนะ?


เรื่ องนี้คิดๆ ดูก็มีความเป็ นไปได้ เขาโกรธเกลียดนาง จนกลายเป็ นการวางแผนร้ายกาจ ให้นางต้องพ่ายแพ้ชื่อเสี ยง
ย่อยยับ และให้ตระกูลตู๋กูตอ้ งพลอยเจ็บหนัก......จากนั้นก็ขงั นางไว้ในตาหนักเย็น ใช้เป็ นตัวประกันข่มขู่ท่านปู่ และ
เหล่าพี่ชาย.....

คิดถึงตรงนี้ รอยแย้มสรวลที่ติดตา วนไปมาอยูใ่ นสมองก็กลายเป็ นภาพปี ศาจที่น่ากลัว เจ้าหนุ่มนัน่ มันจอมมาร


ชัด!

เฮ่อ......ต้องไปญาติดีเกี่ยวโยงกับจอมมารที่น่ากลัวแบบนั้น ไม่รู้วา่ จะต้องสิ้ นเปลืองมันสมองอีกสักเท่าไหร่

" นังหนูเอ๋ ย หากไม่มีกาลังมหาชนสนับสนุน เจ้าไม่มีทางเป็ นคู่มือของเขาได้ ยังคงออมเรี่ ยวออมแรงเอาไว้ดีกว่า "

ยามนี้เจ้าวิญญาณที่แอบแกล้งตายอยูน่ านค่อยกล้าโผล่ออกมา มันฟั นร่ วงไปเกือบหมดปาก พูดจาฟังอูอ้ ้ ีกว่าเดิม


"ตอนนี้ มาคิดๆ ดู เจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ แข็งแกร่ งขนาดนั้น แม้แต่อวั๊ ก็กดั ไม่เข้า จะต้องไม่ใช่คนดีอะไร"

" ข้ารู ้ " ตู๋กูซิงหลันนัง่ อยูข่ า้ งโต๊ะใช้มือค้ าศีรษะเอาไว้ หรื อจะเป็ นเพราะเมื่อครู่ ใหญ่นางเสี ยเลือดมากไป ตอนนี้ถึง
ได้รู้สึกมึนงงไปไหม เปลือกตาก็หนักแทบจะลืมไม่ข้ นึ

ตอนที่รู้สึกตัวขึ้นมาได้ก็กลายเป็ นวันที่สองเข้าไปแล้ว เห็นเชียนเชียนเฝ้ามองนางด้วยความวิตก รี บวุน่ วายยกน้ า


ยกชามาปรนนิบตั ิ "นายหญิง ท่านรู ้สึกตัวแล้ว "

ตู๋กูซิงหลันเห็นนางแม้วิตกกังวล แต่ยงั คงเก็บงาความยินดีไม่มิด จึงถามว่า "ว่าไงล่ะ มีเรื่ องน่ายินดีอะไรอีก ? เก็บ


ทองได้หรื อยังไง"

" นายหญิง คุณชายใหญ่ใกล้จะกลับมาแล้วเจ้าค่ะ! " เชียนเชียนยินดีอย่างยิง่ รี บมารายงานถึงข้างหูนาง "นายผูเ้ ฒ่า


และคุณชายใหญ่ชนะศึกที่เป่ ยเจียง (ตอนเหนื อของซิ นเจียง) คุณชายใหญ่ยงั เป็ นผูค้ ุมตัวเชลยผูน้ าอาปู้ไซ้เจียงกลับเมือง
หลวง ฟังมาว่าฝ่ าบาทจะเสด็จออกไปต้อนรับคุณชายด้วยตนเอง ตอนนี้เป็ นที่รู้กนั ทัว่ วังแล้วเจ้าค่ะ "

" พี่ชายน่ะหรื อ? " ตู๋กูซิงหลันแปลกใจไม่น้อย พลันคิดถึงปฎิกิริยาที่เปลี่ยนไปของจีเฉวียน ไม่น่าละ .....ที่แท้ก็


เป็ นเพราะท่านปู่ และพี่ใหญ่มีความชอบ เจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ ถึงได้ออกมาเล่นงิ้ว
" ใช่เจ้าค่ะๆ! " เชียนเชียนพยักหน้าอย่างแข็งขัน " หลายวันมานี้ท่านได้รับความลาบากไม่น้อย ตอนนี้นบั ว่าเรื่ อง
ร้ายผ่านพ้น เรื่ องมงคลพึงมาถึงแล้วนะเจ้าคะ "

เชียนเชียนพึ่งจะพูดจบ ก็เห็นว่าหลี่กงกงพาคนกลุ่มใหญ่มาถึง หลี่กงกงใบหน้ายิม้ แย้ม รอคอยอยูห่ น้าประตู " ทูล


ไทเฮา บ่าวรับพระบัญชามาซ่อมแซมตาหนักเย็น จึงขอทูลเชิญไทเฮาเสด็จไปประทับที่พระตาหนักเฟิ่ งหมิงเป็ นการ
ชัว่ คราว รอจนตาหนักเย็นซ่ อมแซมเสร็ จแล้วค่อยย้ายกลับมาพะยะค่ะ "

ตู๋กูซิงหลันยังไม่ทนั มีปฎิกิริยาใดๆ เชียนเชียนก็ตระหนกขึ้นมา "อะไรนะ พระตาหนักเฟิ่ งหมิง? "

" ทาไมหรื อ? " ตู๋กูซิงหลันไม่รู้เรื่ องชัดเจนนัก นางรู ้แต่วา่ จีเฉวียนคิดจัดฉากให้พี่ใหญ่ดู ท่านปู่ และพวกพี่ชาย
ออกศึกเอาชีวิตเข้าแลกอยูภ่ ายนอก เขาจึงไม่อยากให้เห็นว่าเขาปฎิบตั ิต่อนางที่เป็ นบุตรสาวสายตรงของตระกูลตู๋กู
อย่างไรบ้าง

แต่วา่ พระตาหนักเฟิ่ งหมิง (หงสากู่ร้อง) นี้ ชื่อเพราะไม่นอ้ ย

" ไทเฮาเพคะ ท่านยังไม่ทราบ พระตาหนักเฟิ่ งหมิงหลังนี้ปฐมฮ่องเต้ทรงสร้างให้กบั สตรี ผเู ้ ป็ นที่รัก แต่สร้างเสร็ จ


แล้วกลับไม่เคยให้พระสนมผูน้ ้ นั ไปประทับ แม้แต่ปฐมฮองเฮาก็ไม่เคยเสด็จไปประทับที่นนั่ ...." เชียนเชียนกล่าวเสี ยง
เบา "ต่อมาอีกนาน อดีตฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งฮองเฮาแล้ว จึงประทานให้ฉางซุนฮองเฮาประทับที่นนั่ ดังนั้นเหล่าพระสนม
ทั้งหลายจึงถือเอาตาหนักเฟิ่ งหมิงเป็ นเอก ดูท่าคราวนี้ฝ่าบาททรงประสงค์ให้ท่านออกจากตาหนักเย็นเสี ยแปดเก้าส่ วน "

"มีเรื่ องเช่นนี้ดว้ ยหรื อ? " ตู๋กูซิงหลันประหลาดใจแล้ว ปฐมกษัตริ ยก์ ็คือเสด็จปู่ ของจีเฉวียน ....นับๆ ดูพระชันษา
คงต่างกับท่านปู่ ของไทเฮาน้อยไม่มาก

คนบ้านนางแต่ละคนล้วนมีฝีมือระดับพระกาฬ อาศัยนางเป็ นเครื่ องมือ ต่อให้ฮ่องเต้นอนดูก็เอาชนะข้าศึกได้

จีเฉวียนพึ่งขึ้นครองราชย์ ต่อให้เขาชิงชังรังเกียจตระกูลตู๋กูอย่างที่สุดเพียงไร แต่เขายังคงต้องการให้ตระกูลตู๋กู


ออกหน้าสร้างความสงบสุ ขของแผ่นดิน

เจ้ าจิ ง้ จอกเฒ่ า เจ้ าเล่ ห์นัก!

" ไทเฮาพะยะค่ะ~" หลี่กงกงยังคงรออยูภ่ ายนอก หากตู๋กูซิงหลันไม่เอ่ยคา เขาก็ไม่กล้าเร่ งรัด


เขารู ้ต้ งั แต่แรกแล้วว่า ไม่อาจก่อนกวนโทสะไทเฮาพระองค์น้ ีเป็ นอันขาด เพราะนางมีท่านปู่ และพี่ชายที่พร้อมจะ
เอาอกเอาใจอย่างไร้ขอ้ แม้ ต่อให้นางจับฮ่องเต้ปล้ าแล้วจริ ง เกรงว่าตระกูลตู๋กูก็ยงั สามารถเกลี่ยเรื่ องให้จบเพื่อนางได้

"ข้ากลับรู ้สึกว่าตาหนักเย็นตอนนี้ ก็ดีมากแล้ว ไม่จาเป็ นต้องซ่ อมแซมอะไรหรอกมั้ง? " ตู๋กูซิงหลันเปิ ดประตู


ออกมา พลางหัวเราะน้อยๆ

พวกนายช่างที่รออยูใ่ นสวนเดิมทีต่างก้มหน้าลง พอได้ยนิ เสี ยงที่ไพเราะเพราะพริ้ งของนาง ก็อดที่จะเงยหน้าแอบ


ดูสักหน่อยไม่ได้ แต่แวบเดียวนี้พวกเขากลับแทบต้องประเคนหัวใจตนเองออกไปให้กบั คนผูน้ ้ นั แล้ว

พวกเขาได้ยนิ มาตั้งแต่แรกแล้วว่าไทเฮาน้อยทรงเป็ นยอดสตรี ที่งดงาม แต่วา่ เคยฟังก็คือเคยฟั ง คาเล่าลือทั้งหลาย


ไม่อาจเชื่อได้หมด ตอนนี้ได้พบเจอตัวจริ ง พวกเขาถึงได้รู้วา่ ....คาเล่าลือเหล่านั้น ไม่อาจเทียบได้กบั ความงามของไทเฮา
แม้หนึ่งในสิ บส่ วน

โดยเฉพาะดวงตาที่ราวกับดอกท้อฉ่ าน้ า นัยตาดาขลับราวน้ าหมึก เพียงมองแค่แวบเดียวก็ไม่อาจถอนตัวขึ้นมาได้

น่าเสี ยดาย น่าเสี ยดายเหลือเกิน...สตรี ที่งดงามเป็ นเอกในแคว้นเช่นนี้ กลับต้องมากลายเป็ นม่าย หากว่าพวกเขาคือ


ฮ่องเต้ละก็....ต่อให้ตอ้ งถูกคนทั้งหลายเย้ยหยันก็ตอ้ งรับเอาคนงามไปไว้ในวังหลังให้ได้

" ไทเฮาเพคะ พระตาหนักเฟิ่ งหมิงนั้น ขอเพียงทรงเสด็จไปประทับ ต่อไปก็ไม่มีผใู ้ ดกล้ารังแกพระองค์อีก" เชียน


เชียนชักใจร้อนขึ้นมา อย่าว่าแต่พระตาหนักเฟิ่ งหมิงเลย ต่อให้สุ่มเลือกตาหนักไหนมาก็ได้สักหลังหนึ่งก็ดีกว่าตาหนัก
เย็นหลังนี้ท้ งั นั้น!

"......"

สาวใช้ตวั น้อยช่างไร้เดียงสายิง่ นัก กลับดูเล่ห์เหลี่ยมของจีเฉวียนไม่ออกแม้แต่น้อย

หากว่านางเข้าไปอยูใ่ นตาหนักเฟิ่ งหมิง ไม่ใช่วา่ จะยิง่ กลายเป็ นศูนย์รวมความเกลียดชังกว่าเดิมหรื อ?

ยิง่ ไปกว่านั้น ไม่ได้ยนิ ที่หลี่กงกงพูดหรื อ นี่เป็ นแค่การย้ายไปชัว่ คราว ต่อไปยังต้องกลับมาที่ตาหนักเย็นนี้อีก ถึง


ตอนนั้นไม่รู้วา่ จะมีเหล่าน้องสาวมากมายแค่ไหนคอยดูเรื่ องตลกของนาง
" ไทเฮาเพคะ~" เชียนเชียนกลัวว่านางไม่ยอมรับปาก ก็รีบมาเขย่าแขนเสื้ อนางไม่ยอมหยุด ใบหน้ากลมๆ
น้อยๆ นัน่ ดวงตากลมโตงดงามช่างดูน่ารักหนักหนา

"เอ่อ ...."ตู๋กูซิงหลันกลับรู ้สึกว่าเพียงวูบเดียวพลังชีวิตจากหลักหมื่นลดวูบลงมาแทบติดลบ

ภูติผีต่างรู ้ดีวา่ นางไม่มีกาลังปฎิเสธสาวใช้ตวั น้อยที่น่ารักนี้แม้แต่นอ้ ย

ช่างเถอะๆ ต่อให้นางยืนหยัดแข็งข้อ คิดว่าหลี่กงกงคงสรรหาวิธีมาบังคับให้นางตกลงจนได้

" เอาเถอะ " นางพยักหน้าในที่สุด ลูบไล้ศีรษะที่นุ่มนวลของเชียนเชียนอย่างอ่อนใจ

สายตาของเชียนเชียนและหลี่กงกงต่างเป็ นประกายแทบพร้อมกัน

" ดียงิ่ นัก บ่าวของพระทัยไทเฮาที่ทรงเมตตา "

หลี่กงกงคานับนางอย่างเต็มพิธีการครั้งหนึ่ง รี บสั่งให้คนยกเกี้ยวอ่อนเข้ามา " เมื่อวานไทเฮาทรงได้รับบาดเจ็บ จะ


อย่างไรให้พวกบ่าวหามท่านไปดีกว่า "

เมื่อมองดูเกี้ยวอ่อนประดับเครื่ องประดับทองจนแสบตาพวกนั้น มุมปากของตู๋กูซิงหลันก็ค่อยๆ ยกยิม้ ขึ้นมา เจ้า


ลูกหมาจีเฉวียนนั้นกลัวคนไม่รู้วา่ นางจะย้ายไปอยูต่ าหนักเฟิ่ งหมิงหรื อไงนะ

" ข้าเดินไปเองก็ดีอยูแ่ ล้ว " ตู๋กูซิงหลันพลันรู ้สึกว่าทุกสิ่ งที่จีเฉวียนให้ลว้ นเป็ นหลุมพราง ไม่ควรปล่อยให้เขาได้
ใจ

"ไทเฮาพะยะค่ะ! " หลี่กงกงคุกเข่าลงไปเสี ยงดังตุ๊บ "ฝ่ าบาทรับสั่งไว้ หากพระองค์ไม่เสด็จโดยเกี้ยวอ่อน ก็ให้ตดั


ขาของบ่าวทิ้งไป บ่าวเบื้องบนมีคนชราและเบื้องล่างมีเด็กเล็กต้องดูแล ขอทรงเมตตาด้วยพะยะค่ะ! "
ตอนที่ 26 ตกลงว่ารักนางขนาดไหนกัน

ตู๋กูซิงหลันเหลือบมองเขาอยูส่ องรอบ เบื้องบนยังมีคนชรานั้นพอเข้าใจได้ แต่วา่ เบื้องล่างมีเด็กเล็กนี่มาจากไหน


กัน?

ภาษิตนี้ดูท่าจะนามาใช้ได้เกินจริ งไปสักหน่อยแล้ว!
" ไทเฮาเพคะ ท่านนัง่ เกี้ยวอ่อนเถอะ ร่ างกายท่านได้รับบาดเจ็บ เชียนเชียนเห็นแล้วเจ็บปวดแทน"เชียนเชียนใช้
สองตาที่ราวกับดวงดาวเว้าวอน ขอเพียงนายหญิงได้อยูด่ ีมีสุข ต่อให้นางต้องเอาชีวิตเข้าแลก นางก็ยินดีสู้

หลี่กงกงส่ งสายตาขอบคุณให้เชียนเชียน ต่อไปหากว่าคราใดขอร้องไทเฮาแล้วไม่เป็ นผล คงต้องยืมมือสาวใช้ตวั


น้อยคนนี้เสี ยแล้ว

" จ้าๆๆ คนดีของข้า เจ้าว่าอย่างไรก็ตามนั้น " ตู๋กูซิงหลันตามใจนางอย่างยิง่ พอจะขึ้นเกี้ยวอ่อนก็ลากนางขึ้นไป


ด้วย

หลี่กงกงตาค้างไป แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรขึ้นมา เพียงคิดอยูว่ า่ ความสัมพันธ์ระหว่างไทเฮาและสาวใช้ตวั น้อย ใช่จะ


เป็ นเรื่ องสัมพันธ์ในหมู่สตรี ที่ไม่อาจให้ใครรู ้หรื อไม่นะ เช่นนี้ ก็เป็ นปั ญหาแล้ว เขาควรจะกราบทูลฝ่ าบาทดีหรื อไม่?

ฝ่ าบาทเคยตรัสไว้วา่ ทุกการกระทา ทุกคาพูดของไทเฮาล้วนต้องรายงานให้พระองค์ทราบ

ดังนั้นตลอดทางจากตาหนักเย็นจนถึงพระตาหนักเฟิ่ งหมิง หลี่กงกงได้แต่ครุ่ นคิดว่าจะกราบทูลหรื อไม่กราบทูลดี

เกี้ยวทองแปดคนหามช่างสะดุดตาเกินไปแล้ว แถมเส้นทางยังผ่านไปยังบริ เวณที่มีคนอยูม่ าก........ยิง่ มีหลี่กงกงทา


หน้าที่นาทางยิง่ พาให้คนคิดกันไกลไปใหญ่

ตู๋กูเหลียนติดตามนางกานัลอาวุโสผูร้ ับผิดชอบดูแลโรงซักล้างและนางกานัลทั้งหลายมาส่ งเสื้ อผ้าที่ซกั สะอาดแล้ว


ก็พอดีได้เห็นเกี้ยวทองแปดคนหามหลังนี้

" พระสนมในเกี้ยวคือผูใ้ ดกันนะ ช่างสู งส่ งจริ งๆ ~" เหล่านางกานัลรี บคุกเข่าลงกับพื้น ไม่กล้าเสี ยมารยาท
แม้แต่น้อย

" เป็ นพระสนมแล้วอย่างไร วันนี้โปรดปราน พรุ่ งนี้ ก็อาจถูกไล่มาเป็ นบ่าวรับใช้ เจ้าดูสิ โรงซักล้างของพวกเราก็มี
พระสนมอยูค่ นหนึ่งไม่ใช่หรื อ? "

"คริ ๆๆๆๆ ..."


ตู๋กูเหลียนโกรธแทบตายแล้ว! นางค้อนใส่ นางกานัลผูน้ ้ นั คราหนึ่ง ค่อยใช้สายตาอามหิ ตมองเกี้ยวทองหลังนั้น ตก
ลงเป็ นนางแพศยาคนไหนกันแน่ที่บงั เอิญได้รับความสนใจเป็ นพิเศษจากฝ่ าบาท.....

เดิมที คนที่สมควรจะได้นงั่ ในเกี้ยวหลังนั้นก็คือนาง คนที่ฝ่าบาทโปรดปรานสมควรนางถึงจะถูก

ปกติท่านย่ามีสารพันวิธีการ ทาไมเข้าวังคราวนี้ถึงไม่อาจช่วยนางออกไปได้นะ? หากว่านางออกไปได้ ไหนจะมี


โอกาสให้นางแพศยาพวกนี้ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้กนั !

ตอนที่เกี้ยวเคลื่อนผ่านนางไป พอดีมีลมพัดมาวูบหนึ่ ง ชายผ้าม่านพัดปลิวเผยให้เห็นใบหน้าที่นางเกลียดชังจน


อยากจะทาลายทิ้ง

ทาไมถึงเป็ นนาง! ตู๋กูซิงหลัน นังแพศยา นางเอายาอะไรให้ฝ่าบาทเสวยกันแน่ ถึงได้ทาให้ฝ่าบาททรงหลงใหล


แม้แต่เกี้ยวที่หรู หราปานนี้ก็ให้นางใช้!

ตู๋กูเหลียนโกรธจนกาหมัด ปลายเล็บจิกเข้าไปในฝ่ ามือ สองตาเคียดแค้นจนแดงก่า เลือดแทบริ นไหล ต่อให้สตรี


คนใดในวังหลวงได้รับความโปรดปราน นางก็ไม่ได้รู้สึกไม่ยินยอมพร้อมใจถึงเพียงนี้

ต้องเป็ นเพราะวันนั้นที่ทะเลสาบหยูจ่ ื่อถานแน่ เพราะฝ่ าบาททรงต้องการถอนพิษราคะ ถึงได้รับตัวนางแพศยานัน่


ไว้ มันถึงได้ใช้โอกาสนี้ปีนป่ ายขึ้นไป ต้องเป็ นเพราะเหตุน้ ีแน่!

นางคิดย้อนเหตุการณ์กลับไป นี่กลายเป็ นการตัดเสื้ อวิวาห์ให้ผอู ้ ื่นสวมใส่ แล้วจะไม่ให้นางโกรธเคืองแทบบ้าได้


อย่างไร?

ตู๋กูซิงหลัน ยามอยูใ่ นจวนเจ้าก็ชอบแก่งแย่งกับข้า ทั้งเสื้ อผ้าที่สวยงาม แพรพรรณชั้นดี ความเอ็นดูของท่านปู่ มี


อะไรที่เจ้าไม่มาแย่งไปบ้าง ตอนนี้แม้แต่สามีของข้าเจ้าก็คิดจะชิงเอาไป นางอสรพิษที่ชวั่ ร้าย จะต้องไม่ได้ตายดี

ภายในเกี้ยว ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกว่าตนเองถูกผลักไปติดอยูบ่ นปลายยอดคลื่น ฝี มือของฮ่องเต้สุนขั นัน่ ยิง่ มายิง่ ร้ายกาจ


" นายหญิง ข้าเป็ นเพียงบ่าวคนหนึ่ง จะมานัง่ บนเกี้ยวกับท่านได้อย่างไร " เชียนเชียนนัง่ อยูข่ า้ งนาง ตอนนี้ยงั รู ้สึก
ตื่นตัวไม่หยุด หากไม่ใช่เพราะถูกคุณหนูลากเข้ามาในเกี้ยว ต่อให้นางมีความกล้ามากแค่ไหนก็ไม่บงั อาจ

"เจ้าเป็ นสมบัติล้ าค่าของข้า ทาไมจะไม่ได้ละ? " ตู๋กูซิงหลันตอบช้า "อย่าว่าแต่ยงิ่ เจ้าโผล่หน้าออกไป ก็ยงิ่ เพิม่
ความเกลียดชังเข้าไปอีก "

พวกสตรี ในวังหลังจะพากันคิดว่านาง 'ได้รับความโปรดปราน' แล้ว ยังตั้งใจจะโอ้อวด แต่ละคนคงจะอดใจไม่


ไหว แทบจะลุกขึ้นมาฉี กนางเป็ นชิ้นๆ

สาวใช้ตวั น้อยผงกศีรษะหงึกๆ ค่อยหัวเราะคิกคัก "ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เชียนเชียนได้เป็ นสมบัติล้ าค่าของ


ท่าน ชีวิตนี้ก็คมุ ้ แล้ว "

ตู๋กูซิงหลันหัวเราะน้อยๆ ลูบนางเบาๆ เอ่ยเสี ยงเอาใจคาหนึ่ง " เจ้าตัวยุง่ "

เกี้ยวแปดคนหามวกไปวนมาอยูใ่ นวังหลัง ในที่สุดก็มาถึงพระตาหนักเฟิ่ งหมิงที่กล่าวถึงกัน

ยังไม่ทนั เข้าไปด้านใน ตู๋กูซิงหลันก็ได้กลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆ ลอยมา ดอกไฮ่ถางที่แท้ก็ผลิบานในฤดูน้ ี ช่อดอกสี


แดงสดใสรายล้อมอยูโ่ ดยรอบ ราวกับดวงไฟน้อยๆ กระจายอยูท่ วั่ ตาหนัก

หอสลักตั้งอยูท่ ่ามกลางทะเลดอกไฮ่ถาง ทั้งหมดมีสามอาคาร ล้วนใช้ไม้สาลี่สร้างขึ้นมา จากหอสู งตรงกลางมี


ระเบียงทางเดินเชื่อมต่อไปด้านข้าง หอน้อยซ้ายขวาสู งประมาณแปดเมตร หอสู งตรงกลางสู งสิ บเมตร สร้างเป็ นทรง
แปดเหลี่ยม บนยอดบนสุ ดมีกระดิ่งลมหยกสลักประดับทองขนาดใหญ่ส่งเสี ยงกรุ๊ งกริ๊ งดังสดใส กึ่งกลางอาคารหลักมี
ป้ายประดับงดงามอลังการ บนป้ายแกะด้วยอักษรสี ทองสามตัว 'เฟิ่ งหมิงกง ' (ตาหนักเฟิ่ งหมิง)

แม้แต่คนที่ได้พบเจอสิ่ งต่างๆ มามากอย่างตู๋กูซิงหลัน ยังอดที่จะตื่นตะลึงในความสวยงามของสิ่ งก่อสร้างที่งดงาม


ปราณี ตนี้ไม่ได้
ตกลงว่าปฐมกษัตริ ยท์ รงรักอิสตรี ผนู ้ ้ นั ขนาดไหนกันแน่ ถึงได้สร้างตาหนักที่งดงามขนาดนี้เพียงเพื่อนาง
โดยเฉพาะ?

นี่ทาให้นางคิดถึงกษัตรย์จีนในยุคโบราณผูห้ นึ่งขึ้นมา กษัตริ ยโ์ จวหวังตี้ซิน เพื่อเอาใจสนมรักต๋ าจี่ ยอมสิ้ นเปลือง


แรงงานกาลังคนและทรัพย์สินเพื่อสร้างหอลู่ไถ พระตาหนักเฟิ่ งหมิงนี้เทียบกับหอลู่ไถแล้วคงห่างชั้นกันไม่เท่าไหร่

เชียนเชียนชมดูจนตาค้างไปแล้ว "ปกติได้แค่มองเห็นอยูแ่ ต่ไกล คิดไม่ถึงว่าจะมีสักวันได้เข้ามาในนี้ ช่างงดงาม


เหลือเกิน "

ตู๋กูซิงหลันลงจากเกี้ยว หลี่กงกงก็รีบเข้ามาแนะนา " ไทเฮาพะยะค่ะ เชิญเสด็จทางนี้ "

พูดจบกลับไม่ได้นาพวกนางไปทางอาคารทั้งสามนั้น แต่กลับพาไปทางมุมหนึ่ งของสวนดอกไฮ่ถางที่ไม่สะดุดตา


นัก

ภายในบริ เวณพระตาหนักเฟิ่ งหมิง นอกจากอาคารทั้งสามหลัง แน่นอนว่ายังมีหอ้ งหับเล็กอยู่หลายหลัง หลี่กงกง


นาพวกนางมาถึงยังอาคารไม้เล็กๆ หลังหนึ่ งก็หยุดเท้าลง ใบหน้ามีความละอายไม่นอ้ ย ได้แต่ถวายคานับให้ต๋ กู ูซิงหลัน
" ขอไทเฮาทรงประทานอภัย อาคารหลักของตาหนักเฟิ่ งหมิงนับตั้งแต่ฉางซุนฮองเฮาเสด็จจากไปก็ถูกปิ ดตาย หากไม่มี
กุญแจของอดีตฮ่องเต้ก็เปิ ดไม่ออก ดังนั้นได้แต่ให้พระองค์ตอ้ งทรงลาบากอดทนพานักในเรื อนน้อยหลังนี้ "

อาคารไม้หลังนี้ มีสองชั้น ตั้งอยู่ภายใต้ร่มเงาของต้นไฮ่ถาง ถึงแม้ไม่อาจเปรี ยบเทียบได้กบั อาคารหลักของ


ตาหนักเฟิ่ งหมิง แต่อย่างไรก็นบั ว่าดีกว่าตาหนักเย็นอยู่มาก

"หลี่กงกง นี่ชดั เจนอยูว่ า่ ฝ่ าบาททรงต้องการหลบหลู่ไทเฮาใช่หรื อไม่? " คราวนี้ถึงสาวใช้ตวั น้อยอย่างเชียนเชียน


จะไร้เดียงสาเพียงไร ก็รู้ได้วา่ ฮ่องเต้ไม่ได้ทรงมีพระประสงค์ดีแม้แต่น้อย

อะไรคือหากไม่มีกุญแจของอดีตฮ่องเต้ก็เปิ ดประตูอาคารไม่ได้......ชัดเจนเลยว่านี่คือข้ออ้าง
หลี่กงกงเองก็ลาบากใจ ดูสิ! รับสั่งแต่ละอย่างของฝ่ าบาทเป็ นงานที่คนอยากทาที่ไหนกัน

ตอนแรกให้ส่งเกี้ยวแปดคนหามมารับนางไปแห่รอบวังอย่างเอิกเกริ ก แทบจะประกาศให้ทุกคนรู ้วา่ ไทเฮาน้อย


เป็ นที่โปรดปราน และจะย้ายไปยังพระตาหนักเฟิ่ งหมิง

แต่พอพาคนมายังพระตาหนักแล้ว กลับให้พกั อยูใ่ นที่พกั ที่ดอ้ ยที่สุด......อย่างเรื อนไม้หลังนี้ ยามฉางซุนฮองเฮายัง


ทรงพระชนม์อยูเ่ คยใช้เป็ นที่อยู่ของสุ นขั ทรงเลี้ยง ......หากว่าไทเฮาน้อยทรงรู ้เข้าละก็ เป็ นที่แน่นอนว่าคงโกรธแทบตาย
แล้ว

ยังดี ที่เขาให้คนมาทาความสะอาดเอาไว้ก่อน

------

海棠 海棠 (Hai Tang, ไฮ่ ถาง)

ไฮ่ถาง หนึ่ งในดอกไม้ยอดนิยมของจีน มีหลายสายพันธุ์ หลายสี ต้ งั แต่ ขาว เหลือง ชมพู จนถึงแดง มีกลิ่นหอมอ่อนจาง
บางชนิดไม่มีกลิ่น ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงต้นเดือนพฤษภา เป็ นดอกไม้ในตระกูลเดียวกับแอปเปิ้ ล

(อิงฮวา, ซากุระ ที่คนไทยรู ้จกั กันดี จะเป็ นดอกไม้ในตระกูลสาลี่ จึงมีความคล้ายคลึงกันมาก)

ภาษิตจีน 为他人做嫁衣 (wei ta ren zuo jia yi) ปักชุดวิวาห์ ให้ ผ้ อู ื่น

สมัยก่อนสตรี จีนที่มีฐานะปานกลางหรื อยากจน ไม่สามารถว่าจ้างคนตัดชุดแต่งงานให้ได้ จาต้องอาศัยเวลานานนับปี


สะสมด้ายทอง ผ้าแพร เพื่อปักเสื้ อแต่งงานด้วยตนเอง ภาษิตนี้จึงหมายถึง ตนเองลาบากมาแทบตาย สุ ดท้ายกลับต้องยก
ผลประโยชน์ให้คนอื่นไปเสี ยเฉยๆ

ตอนที่ 27 อย่าได้ตระหนีค่ วามป๋าของตนเอง


ตู๋กูซิงหลันถึงกับหนังตากระตุกไปพักหนึ่ ง นางรู ้แต่แรกว่าจีเฉวียนไม่มีทางหวังดีเด็ดขาด คิดไม่ถึงว่าเขาจะวาง
หมากเอาไว้เช่นนี้ เจ้าหนุ่มนัน่ ภายนอกแสดงออกเต็มที่วา่ สนับสนุนยกย่องนาง เบื้องหลังกลับทาทุกอย่างให้นางอยูด่ ี
ไม่ได้

น่าเสี ยดายเมื่อวานนางยังคิดว่าเจ้าลูกสุ นขั นั้นมีความเป็ นคนอยูบ่ า้ ง ที่สุดแล้วคือนางประเมินฮ่องเต้สุนขั ต่าเกินไป


แล้ว

ยามนี้ หลี่กงกงอยากจะมุดดินลงไปซ่อนตัวนัก เขาไม่รู้จริ งๆ ว่าหากไทเฮาน้อยอาละวาดขึ้นมาละก็ ตนควรจะ


รับมืออย่างไรดี

ยังดีวา่ ตู๋กูซิงหลันยกยิม้ มุมปากคราหนึ่งก็สงบอารมณ์ลง นางผลักประตูเข้าไปภายใน เชียนเชียนและหลี่กงกงก็รีบ


ติดตามเข้าไป

เรื อนน้อยหลังนี้ไม้ได้ใช้งานมานานแล้ว ถึงแม้ผา่ นการทาความสะอาดแล้วก็ยงั คงมีกลิ่นอับอยู่ ยังดีวา่ ไม่มีรอย


แตกหรื อรู รั่ว ภายในทุกสิ่ งเรี ยบง่ายใช้งานได้

" กงกงต้องกราบทูลขอบพระทัยในพระเมตตาแทนข้าแล้ว " ครู่ หนึ่ง ตู๋กูซิงหลันค่อยหัวเราะเบาๆ ดูเผินๆ คล้าย


ไม่มีความขุ่นเคืองใดๆ

หลี่กงกงที่เตรี ยมตัวรับพายุอารมณ์ลูกใหญ่เอาไว้แต่แรก เจอนางแสดงออกอย่างเรี ยบเฉยเช่นนี้ ต้องชะงักค้างไป


ชัว่ ขณะค่อยได้สติพยักหน้าตอบรับ " พะยะค่ะ บ่าวจะต้องกราบทูลแน่นอน "

เขาพูดไปก็จบั ตามองตู๋กูซิงหลันไป ถึงแม้ที่ผา่ นมามีโอกาสรับใช้ไทเฮาน้อยไม่มาก แต่เขารู ้ดี แม่นางน้อยผูน้ ้ ี ยาม


อยูใ่ นจวนตระกูลตู๋กูถูกกล่อมเกลี้ยเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมเพียงใด เรี ยกว่าแทบไม่ต่างจากเหล่าพระธิดาในวังแม้แต่นอ้ ย
ไม่วา่ ของกินของใช้อะไรล้วนเป็ นข้าวของสาหรับอิสตรี ที่ดีที่สุดในต้าโจว ตอนนี้นางกลับยินยอมเข้าตาหนักเฟิ่ งหมิงมา
ก็อาศัยอยูใ่ น 'รังสุ นขั ' แห่งนี้?

หรื อว่า ..... คืนวันในพระตาหนักเย็นแห่งนี่ ได้รักษาโรคเจ้าหญิงของนางหายแล้ว?

ยามที่หลี่กงกงจากไปแล้ว เชียนเชียนก็กอดชายแขนเสื้ อของตู๋กูซิงหลันเอาไว้ ใบหน้าปรากฎคาว่าเสี ยดายและ


โทษตัวเองตัวใหญ่ " หากไม่ใช่เพราะข้าดึงดันให้คุณหนูมาที่นี่ ท่านคงไม่ตอ้ งถูกลบหลู่ถึงเพียงนี้..."
นางไม่กล้าคิดเลยว่า หากถูกบรรดาพระสนมในวังรู ้เข้า นายหญิงที่ถูกเชิญมาพระตาหนักเฟิ่ งหมิงอย่างยิง่ ใหญ่
กลับต้องมาอาศัยอยูใ่ นที่แบบนี้ ......ก็ไม่รู้วา่ พวกนางจะพากันหัวเราะนายหญิงถึงเพียงไหน

" ที่นี่ดีมาก ดีกว่าตาหนักเย็น พวกเราอยูน่ ี่สงบใจรอคอยพี่ใหญ่กลับมาก็พอ " ตู๋กูซิงหลันปฏิบตั ิต่อเชียนเชียนอ


ย่างเอาใจใส่ และอ่อนโยน ในสายตาของนาง เชียนเชียนคือน้องสาวตัวน้อย ไม่ใช่สาวใช้

ถึงนางจะเป็ นพวกคลัง่ ความงามแถมยังอวดเก่ง แต่กบั คนใกล้ตวั แล้วจะปกป้ องคุม้ ครองอย่างที่สุด เหล่าสมุนใน


ชาติก่อนแต่ละคนล้วนถูกนางโอ๋ จนติดลมบนทั้งนั้น ดังนั้นกับเชียนเชียนที่เป็ นเพียงสาวใช้ตวั น้อย ตู๋กูซิงหลันจึงไม่คิด
จะตระหนี่ความป๋ าของตนเองแม้แต่นอ้ ย

เชียนเชียนเองก็ถูกนายหญิงเอาใจใส่ จนถึงขั้นซาบซึ้งอยูท่ ุกวี่วนั หากว่านายหญิงเป็ นบุรุษละก็ นางจะคุกเข่าร่ าไห้


ขอแต่งให้กบั นายหญิง ต่อให้เป็ นแค่อนุก็ยนิ ดี

สาเหตุที่ต๋ กู ูซิงหลันยอมอยูท่ ี่นี่ ประเด็นหลักๆ ก็คือ ตาหนักเฟิ่ งหมิงเปี่ ยมด้วยไอทิพย์ แม้จะถือว่าน้อยกว่า


ทะเลสาบหยูจ่ ื่อถานอยูบ่ า้ ง แต่หากพานักอยูส่ ักระยะหนึ่งยอมดีต่อตัวนางและวิญญาณทมิฬไม่นอ้ ยเลย

ดังนั้นจะอยูท่ ี่ไหนในตาหนักเฟิ่ งหมิง สาหรับนางแล้วไม่มีขอ้ แตกต่างแม้แต่น้อย สิ่ งสาคัญที่สุดคือได้รับไอทิพย์


นัน่ จึงเป็ นเรื่ องน่ายินดีจริ งๆ

เมื่อใช้สายตากวาดดูภายในรอบหนึ่ ง สิ่ งที่ควรมีลว้ นครบครัน แม้กระทัง่ เสื้ อผ้าที่ไว้ใช้ผลัดเปลี่ยนก็เตรี ยมไว้


พร้อม แถมมีหลายตัวที่เป็ นกระโปรงผ้าไหมเสี ยด้วย ไม่ใช่เสื้ อผ้าเนื้อหยาบแม้แต่นอ้ ย

.............................................

พระตาหนักหนิงเต๋ อ
ยามนี้เต๋ อเฟยพึ่งดื่มยาเสร็ จ ผิวพรรณที่ขาวสะอาดราวหิ มะของนางถึงได้ซบั สี เลือดขึ้นมาบ้าง คนก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้น
ไม่นอ้ ย

ฉี ผินนัง่ อยูบ่ นเก้าอี้รับแขก ในดวงตาของนางแฝงความริ ษยาไม่นอ้ ย "ฝ่ าบาททรงดีกบั ท่านจริ งๆ โสมหิ มะเทียน
ซานอายุร้อยปี ข้าเคยเห็นแค่ตน้ อ่อนเล็กๆ เท่านั้น แต่พระสนมกลับดื่มได้ทุกวัน เห็นชัดว่าฝ่ าบาททรงมีท่านอยูใ่ น
พระทัยจริ งๆ

เต๋ อเฟยใช้ผา้ เช็ดหน้าซับที่มุมปาก ตอบคาอย่างแช่มช้อย "ยามข้าอยูใ่ นครรภ์มารดาได้รับธาตุธรรมชาติไม่เพียงพอ


จึงต้องอาศัยโสมหิ มะพวกนี้บารุ ง ฝ่ าบาทเมตตาใส่ พระทัยที่ขา้ ร่ างกายอ่อนแอ จึงได้ประทานโสมหิ มะในวังให้ขา้ ข้า
เองก็ซาบซึ้งใจในพระกรุ ณายิง่ นัก

ฉี ผินยิม้ อย่างไร้เดียงสา "พระสนมและฝ่ าบาทผูกพันลึกซึ้ง ทาให้หม่อมฉันอิจฉายิง่ นัก ภายในวังหลังแห่งนี้ยากจะ


เห็นว่าฝ่ าบาททรงใส่ พระทัยในพระสนมตาหนักใดเป็ นพิเศษ"

คาพูดนี้หากเป็ นเมื่อก่อน เต๋ ยเฟยย่อมเชื่อ

แต่วา่ ตอนนี้............

นางขมวดคิ้วแน่น " อย่างไรก็ยงั คงเป็ น 'เห็นคนใหม่ แย้ มยิม้ ใจก็เป็ นสุข' ......ข้าที่ท้ งั ขี้โรคทั้งเป็ นของเดิมจะไป
เทียบกับโฉมงามอันดับหนึ่ งของต้าโจวได้อย่างไร"

"พระสนมกล่าวเช่นนี้ ก็เท่ากับลดเกียรติตนเองไปแล้ว! " ฉี ผินขุ่นเคืองจนเกือบจะลุกจากเก้าอี้ นางสะบัดมือร้อง


ด่าเสี ยงดัง " นังตู๋กูซิงหลันนัน่ เป็ นตัวอะไร คิดจะเป็ นโฉมงามอันดับหนึ่งของต้าโจว? ถุย! เป็ นนังจิ้งจอกหน้าไม่อาย
แท้ๆ ถนัดแต่ล่อลวงบุรุษ พระสนมท่านเป็ นดัง่ เทพธิดาลงมาจากสวรรค์ นังนัน่ จะมาเทียบชั้นได้อย่างไร? ท่านอย่าได้ดู
ถูกความสามารถของตนเองเกินไป..."

เต๋ อเฟยผงกศีรษะรับ นางวางมือข้างหนึ่งไว้บนอก คิ้วทั้งสองขมวดมุ่นกิริยาราวกับได้รับความเจ็บปวดใจยาก


ทนทาน " เจ้าก็ได้ยนิ แล้วนี่ ตอนนี้ฝ่าบาทโปรดให้นางพานักอยูใ่ นพระตาหนักเฟิ่ งหมิงแล้ว เกรงว่าอีกไม่นาน นางคง
ได้มาแก่งแย่งกับพวกเราพี่นอ้ งเป็ นแน่ "
ฉี ผินตอนนี้ระเบิดลงแล้ว "นังแพศยานั้น คู่ควรหรื อ? "

ด้านนอกตาหนัก ตู๋กูเหลียนที่ผ่านมาส่ งเสื้ อผ้าก็ได้ยนิ เข้าพอดี นางรู ้ดีวา่ ในวังหลังนี้ สตรี ที่เกลียดชังตู๋กูซิงหลัน
ไม่ได้มีแค่เพียงนางเท่านั้น

น่าเสี ยดายนังนัน่ เกิดมาหน้าตาสะสวยเกิดไป อาวุธที่ดีที่สุดของสตรี คืออะไร? ก็คือความงามไม่ใช่หรื อ?

ตอนนี้ นางติดอยูใ่ นโรงซักล้างไม่อาจทาอะไรมันได้ แต่วา่ นางสามารถหาพรรคพวกได้ ดูสิ ไม่ใช่วา่ ฉี ผินและเต๋ อ


เฟยก็พร้อมจะลงมือหรอกหรื อ?

ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่ตาหนักหยู่เฉี ยน ถึงแม้ฉีผินจะน่ารังเกียจ แต่ถา้ เปรี ยบเทียบกับตู๋กูซิงหลันแล้ว ฉี ผินนับว่าไม่


เท่าไหร่

ขอเพียงสามารถกาจัดหนามตาตาอย่างตู๋กูซิงหลันออกไปได้ สตรี อื่นก็ลว้ นง่ายดาย

คิดได้แล้ว ตู๋กูเหลียนก็บุกเข้าไปภายใน หมอบลงเบื้องหน้าเต๋ อเฟย กล่าวอย่างเป็ นจริ งเป็ นจังว่า " ใช่เพคะ เต๋ อเฟย
นังสารเลวตู๋กูซิงหลันนัน่ เอาที่ไหนมาคู่ควร? "

เต๋ อเฟยชะงักไปชัว่ ครู่ ถึงได้จดจานางได้

" เหลียนไฉเหริ น นี่เจ้า? " เต๋ อเฟยทางหนึ่ งพูดทางหนึ่งก็ส่งสายตาให้นางกานัลประจาตัว นางกานัลก็เข้ามาพยุง


นางขึ้น

ตู๋กูเหลียนทอดถอดหายใจ กล่าวอย่างเศร้าสร้อยว่า "เต๋ อเฟยทรงมีน้ าพระทัยงามไปแล้ว ตอนนี้บ่าวเป็ นแค่นาง


กานัลซักผ้าในโรงซักล้างเท่านั้น ไม่ใช่ไฉเหริ นที่ไหนอีก"

เต๋ อเฟยเผยสี หน้ามากเมตตาสงสาร "ตอนนั้นฝ่ าบาทกาลังทรงพิโรธ เจ้าอย่างไรก็เป็ นถึงบุตรี ตระกูลตู๋กู รอจนทรง


หายแล้วก็คงปล่อยเจ้าออกมาเอง"
ฉี ผินทาปากยื่นอยูด่ า้ นข้าง " ต่างก็เป็ นบุตรสาวตระกูลตู๋กูเหมือนกัน แต่ดูสิวา่ ฝ่ าบาททรงปฎิบตั ิต่อคนในตาหนัก
เย็นนัน่ เยีย่ งไร แล้วปฎิบตั ต่อน้องเหลียนอย่างไร? ช่างน่าสงสารเหลือเกิน สตรี ที่งดงามหยดย้อยเช่นนี้ กับต้องตกระกา
ลาบากทางานหนักในโรงซักล้าง"

พูดถึงเพียงนี้ ฉี ผินยังกล่าวเพิ่มอีกว่า "เฮ่อ น่าเสี ยดาย ท่านย่าของเจ้าเข้าวังมาทูลขอความเมตตาด้วยตนเอง กลับถูก


คนในตาหนักเย็นนัน่ ทาเสี ยเรื่ อง เจ้าคงยังไม่รู้สินะ นางตีท่านย่าของเจ้าเสี ยปางตาย ...... โถๆๆ น่าสงสารจริ งๆ ..........
หากไม่ใช่เพราะนางขัดขวาง ไม่แน่วา่ ฝ่ าบาทอาจจะทรงอภัยเจ้าแล้วก็ได้

ตู๋กูเหลียนได้ฟัง ก็เกิดไฟสุ มในอก นางว่าแล้ว......ว่าทาไมถึงไม่ได้พบท่านย่าแม้แต่เงา ที่แท้ก็เป็ นเพราะอุบายชัว่


ของนังตู๋กูซิงหลันนัน่ !

นางกาหมัดแล้วกาอีก สาบานอยูใ่ นใจจะต้องกาจัดนังแพศยานัน่ ด้วยมือตนเองถึงจะสะใจ

" เหลียนไฉเหริ น เจ้าอย่าได้กงั วลใจไป ทางด้านท่านย่าของเจ้าข้าจะให้คนไปเยีย่ มเยือนเอง " เต๋ อเฟยกล่าว


ขณะเดียวกันก็ให้นางกานัลมอบเงินให้ถุงหนึ่ ง "เจ้าอยูท่ ี่โรงซักล้างต้องลาบากไม่นอ้ ย รับนี่ไปเถอะ อย่างไรพวกเรา
นับว่าเคยเป็ นพี่เป็ นน้องกัน ข้าไม่อาจทนเห็นเจ้าได้รับความยากลาบาก"

ตู๋กูเหลียนกอดเงินนั้นไว้ในอ้อมแขน ในใจขมปร่ าอย่างบอกไม่ถูก " ขอบพระทัยพระสนมที่ทรงเมตตา "

เต๋ อเฟยพยักหน้าให้นาง ครู่ หนึ่ งก็กล่าวอีกว่า " แม่ทพั น้อยตู๋กูจุนใกล้จะกลับถึงเมืองหลวงแล้ว ไทเฮาย่อมถือว่ามีที่


พึ่งพิง คิดดูแล้วพวกเราไม่ไประรานนาง ทุกฝ่ ายก็สามารถอยูร่ ่ วมกันอย่างสันติ"

" อยูร่ ่ วมกันอย่างสันติหรื อ? " ฉี ผินถึงกับขาขัน "ด้วยอุปนิ สัยของนาง ต่อให้พวกเราไม่ได้เป็ นฝ่ ายสร้างปัญหา
นางก็ก่อเรื่ องได้อยูด่ ี เต๋ อเฟยเพคะ ท่านมีเมตตามากเกินไป"

คาพูดนี้ต๋ กู ูเหลียนเองก็เห็นด้วย นางเน้นย้าอย่างหนักแน่นว่า "ตู๋กูซิงหลันเจ้าเล่ห์มากมารยา ก่อความวุน่ วายในวัง


หลัง ไม่ควรปล่อยให้นางก่อเรื่ องสร้างปัญหาใดๆ ได้อีกนะเพคะ"

พูดไปดวงตาของนางก็ทอประกายอามหิ ต " หากว่าใบหน้านั้นเสี ยโฉมแล้วละก็........ฝ่ าบาทจะยังทรงสนใจนาง


อีกหรื อ? เกรงว่าแม้แต่ตระกูลตู๋กูเองก็คงละทิ้งนางเช่นกัน......"
จริ งสิ ที่พวกคนสายหลักในตระกูลต่างเห็นตู๋กูซิงหลันเป็ นสมบัติล้ าค่า ก็เป็ นเพราะนางมีใบหน้าเช่นนั้นอยู่ หากว่า
นางกลายเป็ นตัวอัปลักษณ์ เกรงว่าแม้แต่ท่านปู่ ก็คงไม่เหลียวแลนางแม้แต่นอ้ ย

เพียงแต่เรื่ องนี้เมื่อจะทาก็ตอ้ งทาอย่างระวังชนิดที่ผืนฟ้าไร้ตะเข็บ ไม่อาจให้คนจับสายสนกลนัยได้

คิดถึงตรงนี้ สมองของเหลียนไฉเหริ นก็คิดถึงคนผูห้ นึ่ งขึ้นมาได้ รี บกล่าวว่า " หม่อมฉันเคยได้ยนิ มาว่า พระสนม
หยวนเฟยทรงเลี้ยงดูตวั ประหลาดไว้~"

พอนางกล่าวออกมา เต๋ อเฟยและฉี ผินต่างมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป

------

雪参 (xue cun) โสมหิมะ พืชตระกูลหญ้าโสม พบในพื้นที่สูง หิ นผา ป่ าเขา ของจีน เช่น มณฑลกานซู่ ชิงไห่
หยุนหนาน ซีเจียงเป็ นต้น เก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงหรื อฤดูหนาว ดอกมีต้ งั แต่สีแดงไปจนถึงม่วง ส่ วนที่ใช้ทายาคือราก
(เหง้า) ที่ผา่ นการตากแห้ง มีสรรพคุณ บารุ งกาลัง บารุ งเลือด เสริ มความอยากอาหาร โดยนามาต้มควบคู่กบั ตัวยาอื่น ยา
มีสีน้ าตาลอมทอง มีกลิ่นหอมและแฝงรสหวาน

ตอนที่ 28 มีสิ่งอัปมงคลไม่ น้อย

พระตาหนักเฟิ่ งหมิง
ยามดึกสงัดภายใต้แสงจันทร์นวลกระจ่าง สี แดงสดของดอกไฮ่ถางดูเป็ นประกายราวฉาบไล้ดว้ ยแสงเงินเรื องรอง

ตู๋กูซิงหลันนัง่ เอนอยูบ่ นกิ่งของต้นไฮ่ถางที่สูงที่สุดในตาหนัก วิญญาณทมิฬก็หลับกรนอยูบ่ นไหล่ของนาง

นางคลี่กลีบของดอกไฮ่ถางเล่น หลายวันนี้ นางหมกตัวอยูใ่ นพระตาหนักเฟิ่ งหมิง กลับต้องประหลาดใจที่ไม่มีใคร


บุกเข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้ นอกจากหลี่กงกงที่ใช้คนมาส่ งของกินของใช้แล้ว พระตาหนักเฟิ่ งหมิงแห่ งนี้ ก็สงบ
เงียบยิง่ นัก

คืนวันที่เรี ยบเรื่ อยช่างหาได้ยากนัก ตู๋กูซิงหลันกลับไม่เบื่อหน่ายแม้แต่น้อย นางวาดยันต์ปราบปี ศาจเอาไว้หลายใบ


สร้างกริ ชเวทย์เอาไว้เล่มหนึ่งสาหรับใช้ป้องกันตัว

ที่จริ งในตาหนักเย็นของนางมีสิ่งอัปมงคลอยูไ่ ม่นอ้ ย ตอนที่นางข้ามมิติมาถึงก็ได้ทาการชาระล้างไปครั้งหนึ่ง


ภายในวังหลวงแห่งนี้ ถึงแม้จะมีธาตุสวรรค์ไอมังกรคุม้ ครองปกป้อง แต่อย่างไรก็ยงั มุมมืดอยู่

ดังนั้นตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน นางพลันรู ้สึกได้ถึงบางสิ่ งกาลังจดจ้องเฝ้ามองตนเองอยู่

ตู๋กูซิงหลันย่อมทาเป็ นไม่รับรู ้ คืนนี้ เจ้าสิ่ งนั้นก็มาอีกแล้ว.........

นางจึงขึ้นมาบนต้นไม้ แสร้งทาเป็ นหลับไหลไป

เพียงสักพักเดียว ก็มีกลิ่นหอมประหลาดลอยมาในอากาศ ครู่ เดียวกระดิ่งลมที่นางผูกไว้บนต้นไฮ่ถางก็ส่งเสี ยง


ดังกรุ๊ งกริ๊ ง เสี ยงกระดิ่งดังกริ๊ งๆ ในสายลมนั้นฟังดูผิดเพี้ยนประหลาดอยูบ่ า้ ง

ตู๋กูซิงหลันกระพริ บตาคราหนึ่งก็ลืมตาขึ้นมา เห็นผึ้งพิษขนาดเท่ากาปั้นตัวหนึ่งปรากฎขึ้นตรงหน้าอย่าง


กระทันหัน

ผึ้งพิษกระพือปี กอย่างรวดเร็ ว เหล็กไนที่แหลมคมก็พุ่งเข้าใส่ ใบหน้าของนาง

ตู๋กูซิงหลันพลันใช้ปฏิภาณเอียงศีรษะหลบ พลิกตัวคราหนึ่งก็กระโดดวูบลงจากต้นไม้
ผึ้งพิษนัน่ ก็กลับตัวไล่ตามมา คิดจะพุ่งเข้าใส่ นางอย่างเต็มที่ ตู๋กูซิงหลันหัวคิ้วขมวดมุ่น ผึ้งพิษปลดปล่อยหมอกดา
ออกมาตลอดร่ าง ดูไปร้ายกาจไม่เบามิเช่นนั้นคงไม่อาจเล็ดลอดเข้ามาในเขตอาคมของนางได้

เขตอาคมนี้ ขอเพียงมีศตั รู เล็ดลอดเข้ามาก็จะเกิดเสี ยงเตือนภัย กักขังศัตรู ไว้ภายใน เป็ นอาคมที่นางในโลกก่อนใช้


บ่อยที่สุด

เพียงแต่ความสามารถของนางในตอนนี้ไม่อาจเทียบได้กบั ในโลกเก่า อาคมนี้ จึงทาได้เพียงส่ งเสี ยงเตือนภัย ไม่อาจ


กักขังศัตรู เอาไว้ได้

เจ้าผึ้งพิษรวดเร็ วว่องไว เพียงชัว่ แวบเดียวก็พุ่งเข้าต่อยนาง ตู๋กูซิงหลันพลันล้วงเอากริ ชของตนเองออกมา พลิกมือ


สะกัดใส่ คราหนึ่ง

พละกาลังรุ นแรงอย่างยิง่ ทาเอาหัวไหล่ของนางถึงกับสะท้าน

ปลายแหลมของเหล็กไนหักไปเล็กน้อย มันชะงักไปชัว่ ครู่ ไม่ทนั ได้ไตร่ ตรองอะไรก็พุ่งเข้าหาตู๋กูซิงหลันอีกครั้ง

ตู๋กูซิงหลันกลับไม่ขบคิดให้มากความ สะกิดปลายเท้าลงบนพื้น ส่ งร่ างลอยถอยไปด้านหลัง พร้อมกันนั้นก็ลว้ งเอา


ยันต์โลหิ ตแผ่นหนึ่งออกมา สะบัดคราเดียวก็บินเข้ากลางแสกหน้าของผึ้งพิษ

" เวิงงง! " เกิดเสี ยงดังคราหนึ่งผึ้งพิษก็ระเบิดกระจายออก กลายเป็ นผึ้งขนาดเล็กนับร้อยนับพันต่อหน้าต่อตานาง


แต่ละตัวต่างปลดปล่อยหมอกดาออกมา

สถานการณ์เบื้องหน้าราวกับว่านางหลุดเข้าไปในหลุมโคลนของรังผึ้ง

ตู๋กูซิงหลันขมวดคิว้ น้อยๆ ก่อนที่พวกผึ้งจะบุกเข้ามาถึง ก็ยนื่ มือมาคว้าเอาวิญญาณทมิฬบนหัวไหล่เขวี้ยงออกไป

เจ้าวิญญาณนั้นพึ่งจะตื่นขึ้นมา เห็นเหตุการณ์เบี้องหน้าก็อา้ ปากกว้าง "ควับ!! "

จากนั้นมันก็เริ่ มคลุม้ คลัง่ ปากแดงดังเลือดอ้ากว้างแยกเขี้ยวเขมือบลงไปคาหนึ่ง เพียงคาเดียวก็กลืนกินฝูงผึ้งพิษลง


ไปครึ่ งหนึ่ง
คิดไม่ถึงจริ งๆ ตื่นขึ้นมารอบหนึ่งก็มีของกินมื้อใหญ่รออยู่!

ในโลกก่อนอาหารหลักของมันคือจิตมารวิญญาณร้ายทั้งหลาย พอมาถึงโลกนี้แล้ว กลับหาวิญญาณร้ายพวกนั้นได้


น้อยมาก ได้แต่ตอ้ งพึ่งตนเองสะสมไอทิพย์อย่างยากลาบาก....

คราวนี้ละดีเลย มีเจ้ามารผึ้งตัวอ้วนส่ งมาถึงหน้าประตู จะไม่กินได้อย่างไร

" อย่าได้กินจนหมด ข้ามีคาพูดจะถามมัน" ตู๋กูซิงหลันเรี ยกไว้

เจ้าวิญญาณทมิฬกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย ร่ างอวบอ้วนของมันไล่กวดราวกับหมาบ้า

เพียงไม่กี่คาก็เขมือบผึ้งพิษเกินครึ่ งลงไป ไม่ขบเคี้ยวแม้แต่นอ้ ย กินลงท้องไปทั้งอย่างนั้น

ผึ้งพิษที่เหลือถึงกับปากอ้าตาค้างไปแล้ว พอเจ้าวิญญาณทมิฬไล่กวดเข้ามา จึงรวมร่ างกันกลายเป็ นผึ้งพิษใหญ่เท่า


ไข่ไก่ฟองหนึ่ง แล้วหักเลี้ยวบินหนีไป

ตู๋กูซิงหลันย่อมไม่ปล่อยมันไปง่ายๆ ใต้ฝ่าเท้าของนางเกิดสายลมหอบหนึ่ง คนก็คว้าเอาเจ้าวิญญาณทมิฬไล่ตาม


ไป

ภายใต้การหล่อเลี้ยงของไอทิพย์มาหลายวัน ร่ างของนางก็เบาขึ้นมาก ถึงจะไล่กวดมาตลอดทางกลับไม่ชา้ กว่าผึ้ง


พิษเท่าไหร่

ผึ้งพิษ "......"

มันเพียงแต่รับคาสั่งให้มาต่อยใส่ หน้านางสักครั้ง สตรี นางนี้กบั สัตว์เลี้ยงของนางกลับคิดจะเอาชีวิตมัน! ถึงกับไล่


ตามอย่างบ้าคลัง่ สองขานัน่ กลับวิ่งได้เร็ วกว่าปี กยาวๆ ของมันเสี ยอีก นางเป็ นคนจริ งหรื อเปล่า?

ตอนที่ 29 หากเราไม่ตาย ก็จะสับเจ้ าเป็ นแปดชิ้น!


พระตาหนักตี้หวั แสงไฟไม่เคยหลับไหลมาก่อน

ฮ่องเต้ผทู ้ รงปรี ชาสามารถพึ่งจะทรงตรวจฎีกาเสร็ จ ก็รับฟังหลี่กงกงถวายรายงานเรื่ องความเคลี่อนไหวตลอดทั้ง


วันของตู๋กูซิงหลัน

โดยมากเป็ นเรื่ องกินอิ่มนอนหลับ ใช้ชีวิตราวกับหมูนอ้ ย

ยามนี้ฮ่องเต้ทรงรู ้สึกพึงพอใจอย่างไร้ที่มาอยูบ่ า้ ง

"ฝ่ าบาท แคว้นเยีย่ นส่ งเครื่ องบรรณาการมาเป็ นที่เขียนคิว้ และชาดชั้นดี พระสนมในแต่ละตาหนักต่างก็ได้รับแล้ว


ทางด้านไทเฮานั้นทรงเห็นว่าอย่างไรพะยะค่ะ? " ฉวยโอกาสที่ฝ่าบาทกาลังอารมณ์ดี หลี่กงกงก็ทูลถามขึ้นอย่าง
ระมัดระวัง

ครั้งก่อนส่ งคนไปอยู่ 'รังสุ นขั ' ในพระตาหนักเฟิ่ งหมิง ....ทาเอาเขารู ้สึกผิดต่อไทเฮาอยูไ่ ม่น้อย

" ส่ งไป นางเกิดมาน่าเกลียด ต้องแต่งหน้าแต่งตาให้มากหน่อย " ฮ่องเต้ตรัสโดยไม่เปลี่ยนสี หน้าแม้แต่นอ้ ย " คน


ตระกูลตู๋กูเห็นนางเข้า จะได้วางใจได้สักหน่อย"

หลี่กงกง "??? " น่าเกลียดหรอ? ขอโทษทีนี่เขาหูหนวกหรื อว่าฟังผิดไป? ฝ่ าบาทรสนิยมเรื่ องความงามของ


ท่านถูกผีเข้าหรื อเปล่า?

หากสตรี โฉมงามล้ าเลิศเช่นไทเฮายังเรี ยกว่าน่าเกลียด เขาที่หน้าตากระดากระด่างยังสมควรมีชีวิตอยูอ่ ีกหรื อ?

หลี่กงกงได้แต่แอบค่อนแคะอยู่ในใจ เอาเถอะหากฝ่ าบาททรงว่าน่าเกลียด เขาก็จะพยายามคิดว่าไทเฮาน่าเกลียด

" เราจาได้วา่ แคว้นเยีย่ นยังส่ งผ้าไหมเมฆามาเป็ นบรรณาการด้วย ส่ งไปตัดเสื้ อผ้าให้นางสักสองชุด " ครู่ หนึ่ง
ฮ่องเต้ก็ทรงตรัสเพิ่มว่า " เดี๋ยวตระกูลตู๋กูจะหาว่าเราไม่ใส่ ใจดูแล"

ใช่แล้ว ที่ตอนนี้เขายัง 'ทาดี' กับนางล้วนเพราะเห็นแก่ตระกูลตู๋กูที่ยงั มีประโยชน์อยู่

ไม่เช่นนั้น ด้วยความรังเกียจที่เขามีต่อนาง ย่อมให้เอากระสอบมาสวมใส่ แล้ว


" บอกให้ฝ่ายซ่างกงนาเครื่ องประดับไปให้นางด้วย"

หลี่กงกง "........." พระทัยของฝ่ าบาทช่างซับซ้อนเหลือเกิน

ต่อมา ฝ่ าบาทค่อยแสดงท่าเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า "แช่น้ าแล้วจะพักผ่อนเสี ยหน่อย หากไม่มีคาสั่งจากเรา ไม่ตอ้ งให้


ใครเข้ามารบกวน"

............

อีกด้านหนึ่ง ตู๋กูซิงหลันวิ่งไล่ตามผึ้งพิษมาตลอดทาง เจ้าตัวแสบนี่ลูกเล่นมากนัก ทาเอานางมึนหัวอยูเ่ หมือนกัน

วังหลวงใหญ่โตกว้างขวางสุ ดลูกหูลูกตา

ยังดีที่นางมีกาลังขาไม่เลว สามารถไล่ตามได้ทนั ทาเอาเจ้าผึ้งเหนื่อยจนหอบแฮ่ก มันหนี หวั ซุกหัวซุนโดยไม่สนใจ


ว่าเป็ นที่ใด พอเห็นด้านหน้ามีตาหนักหลังหนึ่งก็หันหัวพุ่งเข้าไปทันที

ไฟถูกดับจนมืดมิด ตู๋กูซิงหลันไล่ตามจนอารมณ์เสี ยอยูบ่ า้ ง เห็นชัดๆ ว่ามีคนส่ งเจ้าตัวร้ายนัน่ มา นางจะปล่อยมัน


ไปง่ายๆ ได้อย่างไร

ไม่แน่วา่ เจ้าผึ้งพิษนัน่ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่ องที่ไทเฮาน้อยปี นเตียงมังกรด้วยก็ได้!

คิดอย่างนี้แล้ว นางยิง่ ต้องบุกตามไป

ภายในพระตาหนัก ฮ่องเต้พ่ ึงจะสรงน้ า เปลี่ยนพระภูษาเสร็ จ พระเกศายาวยังเปี ยกชื้น ราวกับเกลียวสาหร่ ายพัน


แนบพระองค์ไว้
กล้ามเนื้ อที่แข็งแกร่ งถูกคลุมอยูภ่ ายใต้เสื้ อตัวในบางๆ ที่ขาวราวหิ มะ ผิวพรรณที่ชุ่มชื้นบนร่ างกาจายกลิ่นอ่อนๆ
ของไอมังกร ทาให้เสน่ห์ของพระองค์ยงิ่ เข้มข้นมากขึ้น

ทันใดนั้นกลับมีเสี ยงหึ่ งๆ ดังมา น่าราคาญนัก

ผึ้งพิษถูกไล่กวดมาตลอดทางไกล พลันเจอเข้ากับไอมังกรที่ล่อลวงให้ผคู ้ นต้องหลงใหล มันคิดแค่เพียงอยากจะไป


ตักตวงเอามาเพิ่มพลังสักเล็กน้อย จึงพุ่งเข้าไปอย่างผลุนผลัน

โดยไม่ดูตาม้าตาเรื อ มันต่อยใส่ ริมพระโอษฐ์บางของฮ่องเต้

เหล็กไนยังไม่ทนั จะสัมผัสลงไป ก็ได้ยนิ เสี ยงเพี้ยะดังก้อง.....

" ไม่..ม่ายยย....นะะะะะ" ใบหน้าที่ร้องด้วยความตระหนกของตู๋กูซิงหลันกลับห้ามไม่ทนั เสี ยแล้ว ภายใต้แสง


เทียนสลัว เห็นเพียงซากของผึ้งพิษแปะติดอยูบ่ นใบหน้าที่เกลี้ยงเกลางดงามของฝ่ าบาท

โลหิ ตแตกกระจาย เลือดเนื้อแหลกเหลว ช่างน่าอนาถแท้!

ตายใต้ฝ่าพระหัตถ์ของฮ่องเต้
ในตอนนั้นพระโอษฐ์บางของฝ่ าบาทถูกย้อมจนแดงฉ่ า กลิ่นคาวคละคลุง้ ทาให้ทรงหายใจลาบากจนพระขนง
ขมวดมุ่น

ยิง่ เมื่อทอดพระเนตรเห็นตู๋กูซิงหลันแล้ว ตลอดพระองค์ก็กาจายกลิ่นอายที่เยือกเย็นออกมา

ราชองครักษ์รายล้อมพระตาหนักตี้หวั นางคิดจะเข้ามาก็มาได้หรื อ?

ไม่เพียงแค่น้ นั ยังเอา..........แมลงตัวใหญ่มาต่อยใส่ เขา

นางคิดจะลอบปลงพระชนม์หรื อไง?

ตู๋กูซิงหลันในตอนนี้ไม่มีเรี่ ยวแรงจะอธิบายอะไรให้เขาฟังแม้แต่นอ้ ย เห็นนางล้วงเอายันต์สีเหลืองออกมาใบหนึ่ง


สะบัดผ่านพระพักตร์ของฮ่องเต้ ยันต์น้ นั ก็ซบั เอาเลือดของผึ้งพิษบนพระพักตร์ออกมา ขณะเดียวกันก็ดูดเอาวิญญาณ
ดวงหนึ่งมาด้วย

เป็ นวิญญาณเจ้าผึ้งพิษนัน่ เอง

เมื่อจัดการจนเรี ยบร้อยเสร็ จสรรพ ตู๋กูซิงหลันถึงได้ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง แต่พอนางได้สติกลับมา ก็คิด


อยากจะไปตายเสี ยให้ได้

ไอ้ผ้ งึ สมควรตาย ตายดีๆ ไม่ชอบ จะต้องมาตายตรงฮ่องเต้สุนขั นี่หรื อไง? กลายเป็ นว่านางหอบเอาศีรษะตัวเองมา


ส่ งให้ถึงที่

"ตู๋กูซิงหลัน! " ทันใดนั้น ฮ่องเต้ทรงยืน่ พระหัตถ์มาคว้าคอเสื้ อด้านหลังของนาง ดวงตาหงส์ที่สุดอันตรายนั้นฉาด


ฉายแรงอาฆาต

"ฝ่ าบาท~" ตู๋กูซิงหลันรี บคลี่ยมิ้ อ่อนหวาน "ดึกดื่นขนาดนี้ ยังไม่ทรงบรรทมอีก คนหนุ่มๆ ไม่ควรนอนดึก


นะ~"

"หากเจ้ายังกล้ากล่าวเหลวไหล เราจะถลกหนังเจ้าทิ้ง " ฮ่องเต้ทรงพิโรธแล้วจริ งๆ เพราะตอนนี้ในพระโอษฐ์ทรง


สัมผัสได้ถึงรสเลือดของไอ้แมลงยักษ์นนั่
ชัว่ ขณะนั้นพลันรู ้สึกชาหนึ บไปตลอดทั้งพระองค์ และเริ่ มเวียนพระเศียรขึ้นมาแล้ว

นางคิดจะลอบทาร้ายพระองค์จริ งๆ!

" ฝ่ าบาท ไม่ทรงเป็ นอะไรใช่ไหม? " พอรู ้สึกถึงความผิดปกติจากฮ่องเต้ ตู๋กูซิงหลันก็สอบถามเบาๆ อย่าง


ระมัดระวัง

จีเฉวียนจ้องนางเขม็ง แต่ท้ งั ร่ างกลับอ่อนแรงลง พอคลายพระหัตถ์ก็ทรุ ดลงข้างตัวนาง

ตู๋กูซิงหลันตกใจราวกับถูกผีหลอกกระโดดถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

"ปั๊ก! " เสี ยงดังชัดเจน ฮ่องเต้ทรงล้มลงพังพาบกับพื้น หน้ากระแทกเต็มๆ

ตู๋กูซิงหลัน "......." เอาไงดี นางไม่ต้ งั ใจจริ งๆ นะ

เจ้าหนุ่มนี่คงไม่ทนั ระวังตัว ไปสัมผัสกับเลือดของผิง้ พิษถึงได้โดนพิษเข้าไป.....

"ตู๋กูซิงหลัน หากเราไม่ตาย จะต้องสับเจ้าเป็ นแปดชิ้น! "

บนพื้น ฮ่องเต้ที่เกือบจะดั้งหักไปแล้วโกรธราวกับไฟลุกท่วมฟ้าสามจั้ง พยายามรักษาพระสติไว้ ตัวเขาจีเฉวียน


เป็ นฝ่ ายวางแผนมาชัว่ ชีวิต จะมายอมตกตายอยูใ่ นเงื้อมือสตรี ง่ายๆ ได้อย่างไร?

นี่เป็ นความผิดพลาดที่สุดในชีวิตของเขา ที่ไม่ได้ฆ่านางทิ้งตั้งแต่แรก

ตู๋กูซิงหลัน "....." งั้นเจ้าก็ตายๆ ไปเสี ยเถอะ


นางหยิบเอายันต์ที่ผนึ กวิญญาณผึ้งพิษไว้ข้ นึ มา สายตาก็เพ่งมองฮ่องเต้ที่ทาหน้าเป็ นหมากินอึไม่กระพริ บ ใครจะ
ไปนึก ยามปกติวางท่าสู งส่ งเหนือคนทั้งแผ่นดิน ตอนนี้กลายเป็ นเจ้าเต่าหงายท้องอยูบ่ นพื้น ขยับตัวไม่ได้แม้แต่นอ้ ย

ภาพนี้มนั ช่างสะใจผูค้ นจริ งๆ

คิดไปคิดมาหากไอ้หนุ่มนี้ ตายไปจริ งๆ นางคงหนีไม่พน้ โทษปลงพระชนม์ ตัวเองซวยยังไม่เท่าไหร่ แต่จะพลอย


ทาให้ครอบครัวใหญ่โตของเจ้าของร่ างนี้ตอ้ งรับเคราะห์ไปด้วย

ถึงนางจะไม่ใช่คนดีที่ไหน แต่ก็ยงั ไม่ใช่คนไร้คุณธรรม

นางคุกเข่าลงไป คิดจะพยุงเขาขึ้นมา

แต่พอเห็นพระพักตร์ที่เรี ยบนิ่งราวกับคนขายโลงของฝ่ าบาท ความกล้าของนางก็หดหาย

มือที่ยนื่ ออกไปกลางอากาศจึงค่อยๆ หดกลับมาช้าๆ นางยกยิม้ มุมปาก หัวเราะแหยๆ ออกมา

"ฝ่ าบาท เจ้าผึ้งพิษนัน่ ดึกดื่นค่อนคืนบุกไปโจมตีหม่อมฉันถึงตาหนักเฟิ่ งหมิง ยังดีที่หม่อมฉันมีวิชาจับผึ้งของ


บรรพชน คิดไม่ถึงมันกลับหลบหนี มาจนถึงพระตาหนักของฝ่ าบาท หม่อมฉันมีคาถามที่คิดไม่ตกข้อหนึ่ง ทาไมมันไม่
ไปที่อื่น แต่กลับหนี มาหาฝ่ าบาทล่ะ? "

จีเฉวียนหันหลังให้นาง จึงมองไม่เห็นสี หน้าที่อวดดีจนหน้าตบ เพียงแต่คาพูดของนางทาให้ อารมณ์ของเขาลุก


ไหม้แรงขึ้นกว่าเดิม

บรรพชนของนางมีแต่เป็ นทหารชาตินกั รบ จะเอาวิชาจับผึ้งมาจากไหน?

------

螺子黛 Luo Zi Dai หมึกเขียนคิ้ว ทาจากขี้ผ้ งึ ผสมผงถ่าน ผงหมึกและน้ าหอม

胭脂 Yan Zi ชาดทาแก้มและปากทาจากขี้ผ้ งึ น้ ามันหอมดอกไม้ และผงกุหลาบ


ตอนที่ 30 เขารังเกียจการถูกผู้อื่นสัมผัสตัวที่สุด

สามารถโกหกได้โดยไม่กระพริ บตา นางช่างทาได้สมบูรณ์แบบยิง่ นัก

"เจ้าขวัญกล้าบ้าบิ่นลอบฆ่าไม่สาเร็ จ ตอนนี้ยงั แว้งกัดเราคาหนึ่ง! หากเราจะฆ่าเจ้ามีวิธีถมไป ไยต้องใช้ลูกเล่น


เช่นนี้? จีเฉวียนกัดฟันกรอด เขาไม่เคยมีโทสะถึงเพียงนี้ ที่ผา่ นมาเกิดเหตุพลิกผลันเช่นไร เขาล้วนสามารถรับมือได้
หมด

ตู๋กูซิงหลันกรอกตามองบน "ไม่ใช่ท่านก็แล้วไปเถอะ มาทาเป็ นโกรธทาไม? พอถูกเข้าใจผิดบ้าง รู ้สึกรับไม่ได้ง้ นั


สิ ? "

จีเฉวียน "....." ทาไมเขาถึงไม่ตดั ลิ้นนางทิ้งไปซะ!

" ฝ่ าบาท ตอนหม่อมฉันถูกปรักปรา ได้รับความอยุติธรรมหนักกว่าท่านตั้งเยอะ " ตู๋กูซิงหลันตัดสิ นใจทาดีมี


เมตตา ยืน่ มือออกไปพยุงเอวของเขา

หากปล่อยให้ลม้ คว่าต่อไป พระพักตร์ที่งดงามดุจเทพเซียนนั้นอาจจะเละได้ ถ้าจะเละก็ขอให้เป็ นตัวเถอะ อย่าเป็ น


หน้าเลย สวรรค์โปรดเถอะ

"เจ้าทาอะไร " จีเฉวียนถลึงตาใส่ นางอย่างอามหิ ต ต่อให้นางไม่คิดจะปลงพระชนม์ แต่นางคงไม่ได้หวังดีแน่

ตู๋กูซิงหลันอยากจะมอบฝ่ าเท้าให้เขาสักหลายๆ ครั้ง

"หรื อว่าท่านคิดจะนอนคว่าอยู่บนพื้นแบบนี้ต่อไป"

"ไปเรี ยกหมอหลวงมาให้ขา้ "


"พอเถอะ~ ถึงอย่างไรหมอหลวงก็รักษาท่านไม่หาย " ตู๋กูซิงหลันมองบนเสี ยจนสายตาจะติดขอบฟ้าแล้ว ไม่
สนใจว่าเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี้จะเกลียดนางเพียงไหน สองมือเข้าประคอง ออกเสี ยง 'ฮึบบบบ' อยูห่ ลายครั้ง สองแก้มแดง
เปล่งปลัง่ ถึงได้อมุ ้ เขาขึ้นมาได้

เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ตวั หนักมาก กินก้อนหิ นแทนข้าวจนโตมาหรื อไง?

จีเฉวียนรู ้สึกภาพเบื้องหน้าลายตาวูบหนึ่ง ทันใดนั้นตัวก็เบาราวไร้น้ าหนัก ดวงตาหงส์ปรื อลงครึ่ งหนึ่ง ในสายตา


เห็นเพียงใบหน้างดงามเปล่งปลัง่ ที่แดงเรื่ อของตู๋กูซิงหลัน

ดูเผินๆ เป็ นสตรี ที่อ่อนแอไร้เรี่ ยวแรงคนหนึ่ง แต่กลับสามารถอุม้ เขาขึ้นมาได้!

แรงเยอะไม่มีหอบด้วย!

นางเอาเรี่ ยวแรงมาจากไหนกันแน่ ?

คาถามนี้ไม่จาเป็ นต้องถามตู๋กูซิงหลันเลย ชาติก่อนนางมีเรี่ ยวแรงมหาศาล ลักษณะพิเศษนี้ได้ติดตัวนางมาด้วย


บางทีนี่อาจเป็ นความพิเศษที่เหล่าตัวเอกทั้งหลายพึงมีก็ได้?

ชัว่ ขณะนั้น ฮ่องเต้กลับรู ้สึกว่านี่เป็ นครั้งแรกในรอบยีส่ ิ บสามปี ที่เขาถูกหยามถึงเพียงนี้!

เขารังเกียจการถูกผูอ้ ื่นสัมผัสตัวที่สุด! ตอนนี้กลับถูกสตรี ผหู ้ นึ่ง...........


ตู๋กูซิงหลันไม่ได้สนใจจะรับรู ้ความคิดที่อยากจะกินคนของฮ่องเต้เลยแม้แต่นอ้ ย จับเขาอุม้ ในท่าเจ้าหญิงได้ก็กวาด
ตามองรอบหนึ่ง มุ่งตรงไปยังตัง่ เตียง พลันคลายมือออกโยนเขาลงไป

ได้ยนิ เสี ยงดังปั๊ ก ฮ่องเต้ทรงรู ้สึกว่ากระดูกทั้งร่ างหักไปหลายท่อน

น่าเสี ยดายที่ตลอดพระองค์กลับชาหนึบ แม้แต่นิ้วก้อยก็ยากจะขยับได้

แสงจันทร์ลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาภายใน พอดีสาดส่ องลงบนหัวเตียง ตู๋กูซิงหลันหรี่ ตาที่งดงามดัง่ ดอกท้อ


พินิจดูเจ้าฮ่องเต้สุนขั บนตัง่ เฮ้? ข้าตั้งใจโยนเจ้าลงไป ไม่โกรธหรอ?

"ฝ่ าบาท พระองค์ตวั หนักมาก หม่อมฉันเป็ นเพียงสตรี บอบบาง ไม่ได้ต้ งั ใจโยนพระองค์แม้แต่นอ้ ย อย่าได้ทรงถือ
โทษโกรธหม่อมฉันเลย"

จีเฉวียน "........." ดูยงั ไงก็รู้วา่ เจ้าตั้งใจชัดๆ!

เขาคิดจะเปิ ดปากพูด กลับได้ยนิ เสี ยงนางจิ๊ๆ จ๊ะๆ ว่า " ไอ๊หยาาาาา! "

"เกิดอะไรอีกหรื อ" เขายังไม่ได้ตายเสี ยหน่อย!

"ฝ่ าบาท พระโอษฐ์ของพระองค์...." ตู๋กูซิงหลันเอามือตะปบปากไว้ ท่าทางตระหนกอย่างยิง่ แต่ที่จริ งนางพยายาม


อดกลั้นที่จะไม่ขาก๊ากออกมา

"ปากของเราเป็ นอะไร? " จีเฉวียนทรงเริ่ มรู ้สึกว่าพระโอษฐ์ชาๆ แม้แต่จะตรัสก็ยากลาบาก

จะเป็ นอะไรได้ จากที่เห็นด้วยสายตาที่มนั บวมเป็ นกุนเชี ยงแล้วไง โอ๊ะโอ๋ เขาคงจะได้เป็ น.......ฮ่องเต้ปากกุนเชียง


คนแรกในประวัติศาสตร์ละมั้ง?
ว่ ะฮ่ าฮ่ าฮ่ าาาาาา!

"ไม่มีอะไรเพคะ แค่เปลี่ยนเป็ นเซ็กซี่มากขึ้นหน่อยเท่านั้น" ตู๋กูซิงหลันพยายามกลั้นขาสุ ดกาลัง กล่าวจริ งจังว่า


"หากท่านราชครู และเหล่าพระสนมของท่านได้เห็นเข้า คงยิง่ หลงใหลฝ่ าบาทเป็ นแน่"

อยากจะให้ คนทั้งแผ่ นได้ ชื่นชมในพระบารมีของพระองค์ จริ งจริ๊ ง

"เซ็กซี่ คืออะไร? " พลังสติของจีเฉวียนนับว่ายอดเยีย่ มจนแม้แต่เจ้าผึ้งพิษยังประหลาดใจ โดนเลือดพิษของมัน


แล้วยังพูดได้มากมายขนาดนี้!

คนทัว่ ไปหากว่าสัมผัสโดนเลือดของมันเข้า ต่อให้ไม่ตายก็ตอ้ งลอกหนังออกมาชั้นหนึ่ง เจ้าฮ่องเต้องค์น้ ีเป็ นตัว


อะไรกันแน่?

ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกได้วา่ จิตวิญญาณของเจ้าผึ้งพิษพยายามจะดิ้นรน นางจึงใช้ฝ่ามือกดลงไปยังอักขระบนแผ่นยันต์


ครั้งหนึ่ง เจ้าตัวป่ วนก็สงบลงบ้าง

"เซ็กซี่ก็คือ...........คนประเภทหนึ่งที่" ตู๋กูซิงหลันตอบแบบไม่ต้ งั ใจแม้แต่นอ้ ย นางเดินเข้ามายกขาพาดขึ้นไปบน


หัวเตียง มือข้างหนึ่งเท้าสะเอว มืออีกข้างเท้าลงไปข้างศีรษะของจีเฉวียน คร่ อมร่ างเขาไว้ สองตาจ้องมองเขาไม่กระพริ บ
"น่าร้าก เย้ายวน"

ปกติไอ้หนุ่มเอาแต่กลัน่ แกล้งนาง ฉวยโอกาสยามนี้ที่เขาขยับตัวไม่ได้ นางก็จะหยอกล้อเขาสักหน่อย คงไม่ถึงตาย


หรอกใช่ไหม?

จีเฉวียน "........." สตรี ผนู ้ ้ ี! อย่าได้คิดว่าจะมีชีวิตอยูเ่ ห็นพระอาทิตย์ข้ นึ วันพรุ่ งนี้อีก!

"ฝ่ าบาท หม่อมฉันขอแนะนาว่าพระองค์ไม่ควรมีโทสะให้มาก หากยิง่ หงุดหงิด เลือดพิษจะยิง่ ออกฤทธิ์เร็ วขึ้น


หากพระองค์ไม่อยากจะดูเซ็กซี่ ไปทั้งตัว ดีที่สุดคือลดความหงุดหงิดลงให้มากที่สุด" ตู๋กูซิงหลันเอือมระอาเขามาก
เกลียดข้ านักไม่ ใช่ หรอ ? เฮ่ อ ข้ าจะจัดการเจ้ าต่ อหน้ า ไม่ พอใจ? มีความสามารถก็ลุกขึน้ มาต่ อยกันสิ มาดิมา~

ว่าแล้วนางก็ยงิ่ ขยับเข้าไปใกล้เขา ใกล้ขนาดที่วา่ จมูกของคงทั้งสองแทบจะสัมผัสกัน

จีเฉวียนรู ้สึกขยะแขยงอย่างยิง่ เขาพยายามจะหันหน้าหนี สตรี ผนู ้ ้ ี คิดจะฉวยโอกาสลงมือกับเขา คิดช่วงชิงความ


บริ สุทธิ์ของเขา!

หากว่านางกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นอ้ ย เขาจะให้ตระกูลตู๋กูท้ งั หมดต้องลงนรก!

" ฝ่ าบาท ท่านไม่ตอ้ งเกร็ งขนาดนี้ก็ได้ ข้าแค่อยากจะช่วยท่านเฉยๆ ท่านคงไม่อยากให้คนทั้งแผ่นดินเอาแต่คิดว่า


ท่านน่าเย้ายวนขนาดไหน ใช่ไหม? " ตู๋กูซิงหลันจดจ้องเขาด้วยสองตา

อืม ริ มฝี ปากกลายเป็ นสี ม่วง เริ่ มบวม ปลายลิ้นเปลี่ยนเป็ นสี ดา ดวงตามีเส้นเลือดแดงขึ้น

สถานการณ์ ไม่ ค่อยดี

แต่วา่ เจ้าหนุ่มนี้ ทาไมถึงได้รูปร่ างดีนกั นะ? ชุดคลุมสี ขาวราวหิ มะหลุดรุ่ ย ดูมดั กล้ามนัน่ สิ แล้วยังลายเส้นที่ทอ้ ง
หากว่าไม่ได้เข้าฟิ ตเนสมาแปดปี สิ บปี จะมีรูปร่ างที่สมบูรณ์แบบอย่างนี้ได้อย่างไร?

ถึงจะโดนพิษอยู่ แต่ก็นบั ว่าได้รสชาติไปอีกแบบ.......


จีเฉวียน " เก็บสายตาหื่ นกระหายน่ารังเกียจของเจ้าไปซะ เราไม่ใช่บุรุษที่เจ้าจะคิดฝันได้"

พูดออกไปอย่างนั้นแล้ว แต่ความใกล้ชิดขนาดนี้ เขาพบว่าสตรี นางนี้ก็ไม่ได้อปั ลักษณ์นกั ...ภายใต้แสงจันทร์


กระจ่างผิวนางดูละเอียดนุ่มนวลดุจหยกโบราณ ลมหายใจอ่อนคล้ายกลิ่นดอกฮว๋ ายที่ทาให้ผคู ้ นจิตใจผ่อนคลาย ทาให้
คนยอมลดความระมัดระวังลงอย่างง่ายดาย

ตู๋กูซิงหลัน "......" ไอ้ตวั ขี้ยวั่ เอาตาข้างไหนมองหาว่าข้าหื่ นกระหาย อย่าได้หลงลาพองไป?

"หากว่าพระองค์เต็มใจจะปล่อยให้ฟ้าสว่างแล้ว ตัวเองก็ยงั เซ็กซี่แบบนี้ไปประชุมขุนนางเช้า หม่อมฉันก็ไม่มี


ความเห็นอื่น "

ตู๋กูซิงหลันไม่มีใจจะหยอกล้อเขาเล่นอีก คิดๆ ดูแล้วนางค่อนข้างมัน่ ใจว่าเขาไม่ใช่คนที่ส่งผึ้งพิษนัน่ มา อย่าว่าแต่


วิญญาณผึ้งก็ถูกนางจับไว้แล้ว ด้วยความสามารถของนางย่อมสอบสวนความจริ งบางอย่างออกมาได้

พูดจบ ตู๋กูซิงหลันก็พลันลุกขึ้น ถอยห่างจากเขา ถวายคานับให้เขาครั้งหนึ่ง "ฝ่ าบาท พระองค์ทรงพักผ่อนเถอะ


หม่อมฉันก็จะไสหัวกลับตาหนักเฟิ่ งหมิงแล้ว"

พูดจบแล้วนางก็ขยับเท้าเดินจากไป เจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ ไม่ตอ้ งการนาง นางไยต้องเอาหน้ามาประจบประแจงคน


เลือดเย็นเช่นเขาด้วย?
ตอนที่ 31 เป็ นปี ศาจน้ อยของเจ้ าให้ ดี จะร้ องไห้ หาอะไร!

ดูท่าทางของเขาแล้ว คงไม่ตายไปได้ อย่างมากก็แค่ 'เซ็กซี่'ไปทั้งตัวก็เท่านั้น......

ใครจะไปรู ้วา่ แค่นางก้าวเท้าจากไปก้าวเดียว ก็ได้ยืนเสี ยงเรี ยกอย่างเย็นเยือกของฮ่องเต้ "ไสหัวกลับมา"

ตู๋กูซิงหลัน "....." เฮ้ ย.....พูดให้ มันดีดีหน่ อยดิ?

"อืม ทรงมีพระประสงค์จะต้องการสิ่ งใดเพิ่มหรื อเพคะ? " ตู๋กูซิงหลันยิ้มหวานหยาดเยิม้ ใส่ เขา

"ถอนพิษให้เราเสี ย" จีเฉวียนรับสัง่ ความรู ้สึกวิงเวียนศีรษะและไม่สามารถขยับร่ างกายตนเองได้แม้แต่นอ้ ยช่าง


สร้างความทุกข์ทรมานใจนัก

"ฝ่ าบาท เจ้าผึ้งพิษนี่ไม่รู้วา่ ใครเป็ นคนเลี้ยง หม่อมฉันเองก็ไม่ทราบว่าจะไปหายาถอนพิษมาจากไหน จาเป็ นต้อง


หาตัวคนเลี้ยงออกมาให้ได้ ถึงจะรู ้วิธีถอนพิษ" ตู๋กูซิงหลันตอบคา "ไม่อย่างงั้นก็ทรงออกราชโองการสักฉบับ ค้นหาสัก
รอบ? "

จะถอนพิษผึ้งได้อย่างไร นางย่อมมีวิธีจดั การอยู่ แต่ถา้ สามารถยืมมือเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี้ได้ละก็ ทาไมจะไม่เอาล่ะ?

วิญญาณผึ้งในกระดาษยันต์ "......." นางเป็ นนางมารหรื อไงนะ?

จีเฉวียนสายตาเป็ นประกายวูบหนึ่ง ราวกับคิดอะไรบางอย่างได้ น้ าเสี ยงเย็นเยียบลงอีกหลายส่ วน "ไม่ตอ้ งแล้ว"

ดวงตาดอกท้อของตู๋กูซิงหลันหรี่ ลง "เอ๋ ? เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ปิดบังอะไรอยู่? "

"ถ้าเป็ นเช่นนั้น ฝ่ าบาทก็ทรงอดทนเอาหน่อยเถอะนะเพคะ บางทียาถอนพิษอาจจะถูกส่ งเข้าประตูมาเองก็ได้นะ"


ตู๋กูซิงหลันคลี่ยิ้มราวดอกไม้ผลิบาน "ท่านวางใจเถอะ ความสง่างามของพระองค์ไม่มีทางลดทอนไปได้หรอกเพคะ"

คนผูน้ ้ นั ชัดเจนว่าวางแผนจะจัดการนาง หากรู ้วา่ ที่สุดแล้วคนที่ถูกพิษเป็ นฮ่องเต้ละก็ คงจะอดใจไม่ไหวรี บมาเข้า


เฝ้าขอถวายยาถอนพิษเพื่อรับรางวัลแน่
จีเฉวียนขมวดพระขนงแน่น พระองค์รู้สึกว่านางตั้งใจจะกลัน่ แกล้งพระองค์ ทรงตัดสิ นใจแน่วแน่ที่จะไม่ปล่อย
นางไปง่ายๆ

"ถ้าเช่นนั้น ฮ่องเต้ที่รักและเคารพ หม่อมฉันขอทูลลาแล้วนะเพคะ"

"เจ้าลองเดินไปอีกก้าวดูสิ"

ตู๋กูซิงหลัน ".........."

ไอ้ หนุ่มนีต้ กลงคิดอะไรอยู่แน่ ?

"ไสหัวมานี่" ฮ่องเต้ทรงออกคาสั่ง ถึงแม้ร่างกายจะโดนพิษ แต่ราศีความเป็ นฮ่องเต้เจ้าชีวิตของเขาไม่ได้ลดลงไป


แม้แต่น้อย

ตู๋กูซิงหลันกาหมัดแล้วกาหมัดอีก พยายามข่มความคิดหุนหันของตนเองที่จะเข้าไปตบฮ่องเต้ให้บวมเป็ นหัวหมู


สุ ดท้ายก็ค่อยๆ เดินมาถึงข้างเตียงของเขา

ที่ไหนจะรู ้วา่ พอเดินถึงเขากลับออกคาสั่งว่า "ดูดออกไปซะ"

ตู๋กูซิงหลัน "ห๊า? "

" ดูดเลือดพิษออกไปซะ เราจะไว้ชีวิตสุ นขั ของเจ้า " เขายังคงทาตัวสู งส่ งจองหอง ราวกับว่าที่ให้โอกาสนางได้ดูด
พิษออกให้ตนเอง ถือเป็ นบุญกุศลที่นางสะสมมาแล้วแปดชาติ

ตู๋กูซิงหลัน "....." ชีวิตน้อยๆ ของนางตกลงไม่มีค่าเลยหรื อไง นาทีน้ ี รอยยิม้ ของนางถึงกับแข็งค้างไปแล้ว ดวงตา


ดอกท้อกลับทอแสงเงินเย็นวาบออกมาจางๆ

"ฝ่ าบาท จะดูดเลือดพิษให้ท่าน มันค่อยข้างเสี่ ยงอยูบ่ า้ ง หากว่าหม่อมฉันเกิดซี้ ม่องเท่งไปละ? "

" นัน่ คือเจ้าช่วยชีวิตเรามีความชอบ เราจะให้คนไปที่ป้ายวิญญาณเจ้าเผากระดาษเงินกระดาษทองส่ งไปทุกๆ ปี "


ตู๋กูซิงหลัน "...." เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ ทาไมถึงได้น่ารังเกียจขนาดนี้ ให้มนั ไปตายซะตอนนี้เลยได้ไหม? เพียงแค่ชวั่ ครู่
สายตานางก็ยงิ่ ทวีความเหน็บหนาวมากขึ้นอย่างรวดเร็ ว ต่อหน้าเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ ชีวิตคนเป็ นเพียงแค่วชั พืชงั้นสิ

ฮ่องเต้ที่ถูกพิษกระจายทัว่ ทั้งพระองค์ไม่ได้ทรงรู ้สึกถึงอารมณ์ของตู๋กูซิงหลันแม้แต่นอ้ ย เพราะโดนพิษแล้ว ดวง


เนตรของพระองค์หรี่ ลงแทบจะปิ ด ยิง่ ภายใต้แสงเทียนสลัว ไม่วา่ ตู๋กูซิงหลันจะแสดงสี หน้าอย่างไร พระองค์ก็แทบจะ
มองไม่เห็นแล้ว

กระทัง่ ลมวูบหนึ่งกระแทกเข้าใส่

"หุบปากซะ เจ้าฮ่องเต้สุนขั ! " รอบนี้ต๋ กู ูซิงหลันไม่พูดพร่ าทาเพลง ถอดรองเท้าได้ก็ฟาดลงไปบนคอของเขา กาลัง


ของนางมาก เสี ยงลมดังวูบใหญ่ รองเท้าข้างหนึ่งก็ฟาดลงไป สมองของฮ่องเต้มีเพียงดังพลัก๊ ทุกอย่างรอบตัวกลายเป็ น
ภาพขาว

" โอ๊ะโอ้ ช่างอึดถึกดีแท้ " ตู๋กูซิงหลัน ยกรองเท้าฟาดลงไปอีก เสี ยงตุบตับๆ กระหน่าไม่หยุด แม้แต่ตรงใบหน้าที่
งดงานดุจเทพเซียนก็ไม่ละเว้น จนกระทัง่ มัน่ ใจว่าฮ่องเต้สลบเหมือบไปแล้วถึงได้หยุดมือ

วะฮู้ สะใจน้ องมาก! เกือบจะหยุดไม่อยูแ่ ล้วเนี่ย! นางอยากจะจัดรองเท้าถวายใส่ หน้าฝ่ าบาทมานานแล้ว!

ออกแรงไปรอบหนึ่งแม้แต่ตวั เองก็ยงั เหนื่ อยหอบ! พอมองดูพระพักตร์ของฮ่องเต้ที่สลบไสลอยูบ่ นตัง่ เต็มไปด้วย


รอยแดงมากมายจากรองเท้า ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกว่าความหงุดหงิดและอัดอั้นทั้งหลายพลันหายไปหมดสิ้ น แม้แต่ในใจก็ยงั
รู ้สึกอิ่มเอมขึ้นมา

น่าเสี ยดายรองเท้าคู่น้ ีกลับพังเสี ยแล้ว .........นางตอนนี้ก็จนแทบตายเสี ยด้วย

ทั้งวิญญาณทมิฬและวิญญาณผึ้งเห็นนางจัดการอย่างโหดร้ายเฉี ยบขาด พวกมันก็ได้แต่ตะลึงค้างไป

วิญญาณทมิฬได้สติกลับมาก่อนใครเพื่อน " เยีย่ ม! นังหนู รี บตีเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี้ให้ตายไปเสี ย ไม่ง้ นั มันตื่นขึ้นมาได้


ก็กลายเป็ นพวกเราที่ตอ้ งตายแล้ว! "

วิญญาณผึ้ง "??? " สตรี ผนู ้ ้ ีกบั สัตว์เลี้ยงของนางถึงกับโหดเ**้้ยมเพียงนี้ ทาไมถึงต้องให้มนั มารับงานที่เสี่ ยง


ขนาดนี้ดว้ ย? ตอนแรกที่คุยกันบอกให้มาต่อยสตรี อ่อนแอที่ไม่มีแม้แต่แรงเชือดไก่นี่?
ความจริ งคนละเรื่ องเลย นี่นางถึงขนาดจะฆ่าฮ่องเต้สุนขั ทิ้ง

" ท่านอาจารย์เคยมีคาสัง่ สามข้อห้ามฆ่า ชีวิตผูบ้ ริ สุทธิ์ไม่ฆ่า ภูติผีดีมีคุณธรรมไม่ฆ่า ผูไ้ ด้รับบัญชาจากสวรรรค์ไม่


ฆ่า " ตู๋กูซิงหลันขมวดคิว้ "เจ้าฮ่องเต้สุนขั มีไอมังกรคุม้ ครองร่ าง เป็ นผูท้ ี่สวรรค์เลือก ข้าฆ่าเขาไม่ได้"

วิญญาณทมิฬ "....." กฎบ้าบออะไรของสานักอาจารย์ อาจารย์เจ้าตอนนี้ไม่รู้วา่ ไปร้องเล่นเต้นราอยูท่ ี่ไหน ยังจะมา


นัง่ จาคาสั่งอาจารย์ไว้อีก นี่ มนั ช่างลาบากเสี ยจริ ง

วิญญาณผึ้งในแผ่นยันต์สบช่องรี บหาทางรอด "ข้าข้าข้า ข้าเป็ นภูติดีมีคุณธรรม เจ้าต้องเชื่อฟังคาสั่งอาจารย์อย่าฆ่า


ข้า"

ตู๋กูซิงหลันล้วงเอาแผ่นยันต์สีเหลืองออกมา สะบัดมือคราหนึ่ งก็ปรากฎวิญญาณภูติผ้ งึ เป็ นกลุ่มควันสี ดาลอย


ออกมาจากผ้ายันต์ มันคิดจะหนี แต่กลับถูกเส้นด้ายสี แดงวาววับกักขังไว้

"อย่างเจ้าเรี ยกมีจิตใจดี? " ตู๋กูซิงหลันยกมือขึ้นกระชากผ้าห่มมาคลุมร่ างฮ่องเต้ไว้ แล้ววค่อยนัง่ ลงบนที่วา่ งข้าง


เตียง ยกขาสองข้างขึ้นมาเขย่า " อย่าได้วนุ่ วาย ยันต์โลหิ ตของข้า ผีนอ้ ยอย่างเจ้าย่องหนีออกไปได้ที่ไหน?

วิญญาณผึ้งไม่ยอมเชื่อ มันดิ้นรนอยูพ่ กั หนึ่ง แต่แสงสี แดงนัน่ ราวกับขดมังกร มันยิง่ ดิ้น ขดมังกรยิง่ รัดแน่น ภายใต้
การบีบเค้นนี้ทาให้มนั แทบแตกสลาย

มันยอมแพ้แล้ว แม้มีใจแต่ไร้กาลัง ได้แต่เพ่งมองตู่กูซิงหลัน "เจ้าเป็ นใครกันแน่? "

"เจ้ารับคาสั่งเจ้านายมาทารายข้า ยังมีหน้ามาถามว่าข้าคือใคร? " ตู๋กูซิงหลันไม่เพียงไม่มีโทสะ กลับหัวเราะ


ออกมา ล้วงเอากริ ชออกมาจากอกเสื้ อ เริ่ มลับเล็บมือไปเรื่ อยๆ

" ก็ไม่มีใครรู ้สักหน่อยว่าเจ้ารู ้ไสยเวทย์ ........." วิญญาณผึ้งลู่ปีกลง เห็นวิธีการที่นางลับเล็บก็หวาดกลัวขึ้นมาอย่าง


ไร้สาเหตุ

ร่ างเนื้อของมันตายไปแล้ว หากว่าดวงจิตถูกขยี้ดบั ทีน้ ีนบั ว่าวิญญาณสลายจริ งๆ


"พูดมา นายของเจ้าเป็ นใคร" ตู๋กูซิงหลันช้อนตาขึ้นจ้องมองมัน "ข้ามีความอดทนจากัด หากเจ้าพูดผิดไปคาหนึ่ง
ข้าจะตัดขาในดวงจิตของเจ้าทิ้งข้างหนึ่ง คิดให้ดีละ"

วิญญาณผึ้ง "..........."

" ดูท่าจะมีน้ าใจผูกพันกันมากสิ นะ" ผ่านไปแล้วครู่ หนึ่ง ตู๋กูซิงหลันไม่มีใจจะเสี ยเวลาอีก ที่นี่คือพระตาหนักของ


ฮ่องเต้ นางไม่คิดจะรั้งอยูน่ าน พูดจบกริ ชในมือก็บินออกไป กระแทกใส่ เงาร่ างในยันต์โลหิ ต ตัดขามันออกมาข้างหนึ่ง

"อ๊ากกกกกกกก......" วิญญาณผึ้งกรี ดร้องเสี ยงหลง มันนึ กว่าหญิงงามนางนี้พูดเล่น ไม่คิดว่านางจะเป็ นนางมารตัว


จริ ง!

" เป็ นปี ศาจน้อยของเจ้าให้ดี จะร้องไห้หาอะไร! " ตู๋กูซิงหลันเก็บกริ ชกลับมา เริ่ มลับเล็บใหม่
ตอนที่ 32 เป็ นลูกที่น่ารักเชื่ อฟัง

" ฮือๆๆๆๆ ขาของข้า" วิญญาณผึ้งอยากร้องก็ไม่กล้าร้อง ได้แต่กล้ ากลืนเสี ยงครวญครางไว้

ไม่รอให้มนั ได้เก็บเอาขาตนเองกลับมา ก็เห็นตู๋กูซิงหลันตวัดสายตาคมมีดเข้าใส่ " จะหมดเวลาแล้ว ยังจะไม่พูดใช่


ไหม? "

เห็นกริ ชของนางจะถูกเขวี้ยงออกมาอีก เจ้าผึ้งตัวสั่นเทารี บขดเป็ นก้อนกลม "เมิ่งเมิ่ง นายของข้าคือเมิ่งเมิ่ง"

ตู๋กูซิงหลันขมวดคิ้ว "เมิ่งเมิ่ง" อยูใ่ นวังมาตั้งนาน นางไม่เคยได้ยนิ ชื่อนี้มาก่อน

"เมิ่งเมิ่งไหนล่ะ? "

"เมิ่งเมิ่งก็คือ เมิ่งเมิ่ง ไง" วิญญาณผึ้งตอบอย่างอ่อนล้า "เซียนชุดดานัน่ บอกว่า เจ้าเป็ นภัยต่อเมิ่งเมิ่งของพวกเรา


ดังนั้นต้องทาให้เจ้าเสี ยโฉม ขอเพียงเจ้าเสี ยโฉม เมิ่งเมิ่งก็จะปลอดภัย"

ตู๋กูซิงหลันถูกมันพูดวกวนไปมาจนมึนงง เดี๋ยวก็เมิ่งเมิ่งเดี๋ยวก็เซียนชุดดา ตกลงอะไรกันแน่

นางหยิบกริ ชออกมาควงช้าๆ สายตาก็จบั จ้องมันไม่กระพริ บ "อย่ามาทาเป็ นงี่เง่าต่อหน้าข้า อย่างแรกใครคือ เมิ่ง


เมิ่ง? อย่างที่สอง เซียนชุดดานัน่ เป็ นตัวอะไร บอกเจ๊มาให้ชดั เจน"

"หงิงๆๆ เมิ่งเมิ่งของพวกเราก็คือหยวนเฟยผูส้ ุ ดแสนจะสวยงามน่ารักง่ะ เจ้าอยูใ่ นวังไม่เคยได้ยนิ มาบ้างหรื อไง?


" วิญญาณผึ้งตอบกลับ

ตู๋กูซิงหลัน "......" หยวนเฟย? คล้ายกับจะชื่อ หยวนเมิ่ง ละมั้ง แล้วนางไปผิดใจกับแม่พระสนมคนนี้ต้ งั แต่


เมื่อไร?

เหล่าพระสนมที่เคยเจอะเจอมาก็มีแต่ ตู๋กูเหลียน ฉี ผิน และก็เต๋ อเฟยสามคนเท่านั้น

คนที่ไม่เคยพบหน้ากันอย่างหยวนเฟยเกี่ยวอะไรกับนางด้วย เกลียดถึงขนาดอยากทาลายโฉมนาง?
"แล้วเซียนชุดดานัน่ ละ เป็ นอะไรกับหยวนเฟย? "

"ท่านเซียนบอกว่านางเป็ นสหายของเมิ่งเมิ่ง มาเพื่อช่วยเมิ่งเมิ่ง" วิญญาณผึ้งนึกย้อนกลับไป สุ ดท้ายก็ตะคอกใส่ ต๋ กู ู


ซิงหลัน "สรุ ปว่าเจ้าคือสตรี ชวั่ ใบหน้าของเจ้าจะช่วงชิงสิ่ งดีๆ ที่ฮ่องเต้จะมอบให้แก่เมิ่งเมิ่งไปหมด! "

วิญญาณผึ้งยิง่ พูดยิง่ มีโมโห หมอกดาบนตัวยิ่งกาจายออกมา

ตู๋กูซิงหลันพลันตาโต มือคว้าเอายันต์เหลืองอีกแผ่นออกมา

ยันต์เหลืองโบยบินเข้าไปในแสงสี แดง กดครอบจิตวิญญาณผึ้งไว้ แต่ครู่ หนึ่งก็ได้ยนิ เสี ยงซี่ ซี่ดงั ถี่ๆ เจ้าผึ้งตะโกน
ร้องขอความช่วยเหลืออย่างโหยหวน ยิง่ ดิ้นรนอย่างทุรนทุราย ผ่านไปพักใหญ่ ค่อยเห็นหมอกดาบนร่ างของมันถูกยันต์
เหลืองดูดกลืนเข้าไป

ฉับพลันแผ่นยันต์สีเหลืองกลับกลายเป็ นสี ดาสนิททั้งผืน

ตู๋กูซิงหลันเก็บยันต์กลับมา เห็นแผ่นยันต์ฉีกขาด แม้แต่อกั ขระก็กลายเป็ นควันดา คิ้วของนางยิง่ ขมวดแน่น "คาถา


สาปปี ศาจชั้นต่า"

นี่เป็ นเวทย์ที่สามารถการาบภูติผีได้ สามารถใช้บงการความนึกคิดของปี ศาจชั้นต่า เจ้าผึ้งพิษที่อ่อนไหวตัวนี้ ยิง่ ถูก


ชักนาโดยง่าย

"มันเป็ นเพียงปี ศาจน้อย ยังไม่รู้จกั โกหก" วิญญาณทมิฬพึมพาอยูใ่ กล้ๆ ดวงตาดามืดของมันเปล่งประกาย ตอนนี้


มันอยากจับเจ้าตัวน้อยนัน่ กลืนกินให้หมดจด แบบนี้ฟันที่หกั ไปแล้วของมันถึงจะงอกขึ้นมาใหม่ได้

หากไม่ใช่วา่ ตู๋กูซิงหลันสัง่ ให้เหลือรากเหง้าของมันไว้ เจ้าผึ้งนัน่ คงจิตสลายเป็ นหมอกควันไปแต่แรกแล้ว

วิญญาณผึ้งที่ถูกถอนคาสาปออกไปค่อยๆ ได้สติชา้ ๆ มันโอบอุม้ ขาที่ขาดไปอย่างอ่อนแอน่าสงสาร แต่ยงั มีใจฮึดสู ้


ใส่ ต๋ กู ูซิงหลัน "เจ้าบอกมา เจ้าคิดทาร้ายเมิ่งเมิ่งใช่หรื อไม่ สตรี ชวั่ ร้าย ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าได้ใจเด็ดขาด"

ตู๋กูซิงหลัน "ข้าไม่สนใจเจ้านายของเจ้า ท่านเซียนนัน่ หน้าตาท่าทางเป็ นอย่างไรเจ้าเห็นชัดหรื อไม่?


ในวังนี้ถึงกับมีคนสายเดียวกันอยูด่ ว้ ย ช่างไม่ธรรมดาเลย

"ไม่เห็น" วิญญาณผึ้งส่ ายหน้า

"รู ้ไหมว่าเป็ นชายหรื อหญิง? "

"ไม่รู้" วิญญาณผึ้งคิดย้อนไปอยูค่ รู่ หนึ่ง "น้ าเสี ยงแปร่ งๆ แยกแยะไม่ออก"

ตู๋กูซิงหลัน "......"

น่าสนุกนัก เพื่อจะทาลายโฉมนางถึงกับลงทุนวางแผนซับซ้อน สมกับเป็ นวังหลวง แต่ละคนล้วนไม่ธรรมดา

หากว่าใบหน้าที่งามล้ าเลิศในโลกหล้าของเจ๊ถูกพวกเจ้าทาลายไปได้ง่ายๆ ละก็ จะกินขรี้ ออกอากาศให้ดูเลย เอา


ไหม?

" แขะๆ ...." ทันใด ฮ่องเต้ที่อยู่ดา้ นข้างก็ขยับเคลื่อนไหว

ตู๋กูซิงหลันชะงักไปทันที พอหันหน้าไปดูเห็นฮ่องเต้ที่หมดสติไปขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวด ศีรษะบวม ร้อนรุ่ มไป


หมด ใบหน้าที่ถูกรองเท้าของนางสร้างริ้ วรอยไว้เปลี่ยนเป็ นดูไม่ได้

"ยาถอนพิษล่ะ? " ตู๋กูซิงหลันหันไปมองเจ้าผึ้ง

"ยาถอนพิษคือน้ าหวานที่ขา้ เก็บเอง อยูท่ ี่เมิ่งเมิ่ง เจ้าส่ งข้ากลับไป ข้าก็จะมอบมันให้เจ้า ต่อให้ตอ้ งตายข้าจะไม่จาก
เมิ่งเมิ่งไปไหน"

"อยูต่ ่อหน้าข้ายังกล้ามีขอ้ แม้? " ตู๋กูซิงหลันพลิกฝ่ ามือวิญญาณผึ้งก็ถูกผนึกกลับเข้าไปในยันต์ ในเมื่อขี้เกียจจะ


ต่อรองกับมัน นางก็ตอ้ งลงมือเอง

แต่ก่อนที่จะผละจากไปนางก็หันกลับมามองจีเฉวียนอีกครั้ง เห็นเขาเจ็บปวดจนใบหน้าเหยเก ทุกข์ทรมานราวกับ


ตกในฝันร้าย ตลอดร่ างสัน่ สะท้าน
"ไม่นะ........อย่าเข้ามา......" เขาร่ าร้องอยูใ่ นความฝัน เหงื่อเม็ดใหญ่ผดุ ท่วมศีรษะ

ตู๋กูซิงหลันที่พ่ งึ ชักเท้าจากไปพลันถอยกลับมา

นางหรี่ ตาดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยรองเท้า ไอ้หนุ่มนี่ไปเจอเรื่ องอะไรมา ถึงได้กลายเป็ นปมมืดในใจขนาดนี้?

" นังหนู เจ้าคงไม่ได้เห็นใจเขาหรอกนะ? " วิญญาณทมิฬขย่มอยูบ่ นร่ างของเขา มันอยากจะถอนเอาฟั นของเขา


ออกมาสักซี่ แก้แค้นที่ตอ้ งฟั นร่ วงไปซี่หนึ่ง

ตู๋กูซิงหลันกรอกตาบนใส่ มนั

นางขี้เกียจจะไปยุ่งกับเจ้าฮ่องเต้นี่! ยังไงซะ ตอนนี้คงไม่ตายไปได้หรอก ให้นางไปเห็นใจหรื อ? ประหลาดแล้ว

นางออกเดินก้าวหนึ่ ง ก็ได้ยนิ เขาส่ งเสี ยงเรี ยกออกมาจากความฝัน "ท่านแม่.......อย่าไป......อย่า...ไป...."

ตู๋กูซิงหลันก็หันกลับมาอีก เห็นหางตาของเขาเปี ยกชุ่ม น้ าตาริ นไหล

ฝันถึง..........ฉางซุนฮองเฮาหรื อ?

"ท่านแม่....." เขาส่ งเสี ยงเรี ยกอีกครั้ง น้ าเสี ยงเจือสะอื้น ความรู ้สึกที่ไม่อาจพรากจาก โศกเศร้า อาดูร ทั้งหลายทั้ง
ปวงแฝงอยูใ่ นถ้อยคานั้น

ราวกับเด็กน้อยที่สูญเสี ยมารดาผูใ้ ห้กาเนิด น่ าสงสารแท้

ช่างแตกต่างกับฮ่องเต้จิ้งจอกที่ยามปกติทาตัวสู งส่ งเย็นชาเป็ นภูเขาน้ าแข็งองค์น้ นั พันเท่าหมื่นเท่า

ตู๋กูซิงหลันลังเลอยูช่ วั่ ครู่ ก็ถอยกลับมาดู กุมมือที่สวยงามของเขาไว้ เอ่ยเสี ยงเบาว่า "ลูกคนดี แม่อยูน่ ี่แล้ว"

ไม่นาน ฮ่องเต้ก็คล้ายกับได้รับการปลอบโยน ค่อยๆ สงบลงทีละน้อย


วิญญาณทมิฬ "!!! " แม่เอ๊ยยยย มันตาฝาดหรื อเปล่า?

ลูกคนดีผีขั้นเทพละเว้ ยเฮ้ ย!

" ข้าเป็ นไทเฮา เขาเป็ นเป็ นฮ่องเต้ ก็คือแม่ลูกกันแต่แรกแล้ว" นางจดจ้องไปที่เขา "ถึงแม้จะเป็ นลูกดื้อ แต่ขา้ ก็
เกลียดไม่ลง"

วิญญาณทมิฬ "......" มันไม่ฟัง มันไม่อยากฟัง เห็นชัดๆ ว่านังหนูนี่ถูกใจเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่แล้ว ใช่แน่นอน! ฮื้อ สตรี
จอมเจ้าชูท้ ี่ลืมง่าย!

ภายใต้แสงจันทร์สุกสกาว สายลมโบกแผ่วเบา พัดผ่านไรผมของนาง ดวงตางดงามราวดอกท้อนั้นแฝงไว้ดว้ ย


ประกายตาการุ ณ เฝ้ามองฮ่องเต้ที่หลับอย่างไม่ได้สติ ลูบไล้หลังมือของเขาอย่างอ่อนโยน ตั้งใจกล่าวล้างสมองเขาอย่าง
จริ งจัง "เด็กดื้อ นับจากวันนี้ไปเจ้าต้องกลับตัวกลับใจ เป็ นเด็กดีเชื่อฟัง เป็ นฮ่องเต้ที่ดี กตัญญูต่อแม่อย่างข้า สร้างความ
สงบสุ ขแก่ปวงประชา"

ในฝันร้าย ร่ างที่จมดิ่งในความมืดเหน็บหนาวของจีเฉวียน คล้ายกับรู ้สึกได้ถึงแสงสว่างอันอบอุ่นอ่อนโยน


ท่ามกลางแสงที่ส่องประกายนั้นมีมือข้างหนึ่ งยืน่ มาถึง.......
ตอนที่ 33 เจ้ าฮ่ องเต้ สุนัขนั่น คืองูพษิ ตัวหนึ่ง

เขาพยายามอย่างสุ ดกาลังและความคิดที่จะคว้ามือนั้นไว้ แม้จะเป็ นแค่ปลายนิ้ว อย่างไรก็ยงั สามารถพาเขาออกไป


จากนรกที่ไร้ความหวังนี้ได้

เขาเฝ้าติดตามมาอย่างไม่ลดละ ไม่รู้วา่ ผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดก็สัมผัสถึงความอบอุ่นนั้นได้แล้ว เขายิง่ ยึดกุม


มือนั้นไว้แนบแน่นไม่ยอมปล่อยแม้แต่นอ้ ย

เมื่อเห็นลมหายใจของเขาสงบลงแล้ว หัวคิ้วที่ขมวดแน่นของตู๋กูซิงหลันก็ผอ่ นคลายออก พอคิดจะดึงมือกลับมา


มือใหญ่หนาของฮ่องเต้ก็ราวกับแม่กุญแจเหล็กจับนางไว้อย่างแน่นหนา ต่อให้นางเรี่ ยวแรงมากมายแค่ไหนก็คลายไม่
ออก

ตู๋กูซิงหลัน "ชิบ...." ตัดมือทิ้งเลยดีไหม?

วิญญาณทมิฬ "ตัดเลย! อะไรๆ อัว๊ ก็เคยเล่นเคยลองมาหมด ขาดแต่องุ ้ มือฮ่องเต้นี่ละ บอกมา จะตุ๋นน้ าแดงหรื อว่า
นึ่งขิง? อัว๊ ว่ากินสดๆ ก็รสชาติไม่เลว"

พูดพลาง ดวงตากลมๆ ของมันก็เปล่งประกาย แม้แต่น้ าลายในปากก็ไหลหยดติ๋งๆ

ตู๋กูซิงหลันหลัง่ เหงื่อเย็นออกมา เจ้าวิญญาณปี ศาจนี่เป็ นเชื้อสายของเทาเที้ย ก่อนจะเคยทาสัญญากับนาง มันชอบ


กินเนื้อมนุษย์เป็ นประจา

ตู๋กูซิงหลันกวาดตามองมันครั้งหนึ่ง กริ ชในมือก็ปรากฎขึ้น กรี ดลงไปบนก้นของมันรอยหนึ่ง หยดเลือดดาของ


วิญญาณทมิฬพลันซึมออกมา

มันรี บเอามือสั้นๆ ของตนเองมาปิ ดก้น กระโดดหนีข้ นึ ไปสามชุ่น โอดครวญว่า " โอ๋ วๆๆ แม่ดอกเก็กฮวยของอัว๊
นังหนู นี่เจ้าทาอะไรฮ้า?

ตู๋กูซิงหลันไม่สนใจมันแม้แต่น้อย เอาเลือดของมันที่ติดอยูบ่ นกริ ชหยดลงในปากของจีเฉวียน


" เจ้า เจ้า เจ้า เจ้ากลับเอาเลือดศักดิ์สิทธิ์ จากตูดของข้าไปรักษาเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่! วิญญาณทมิฬโกรธจนตาแดง ปิ ด
ตูดไปร่ าร้องไปว่า "เพื่อเขาแล้ว เจ้ากลับทากับข้าเช่นนี้ !

"อย่าโวยวายไปเลยน่า ขอเลือดเจ้าไม่กี่หยด ไม่ตายหรอก" ตู๋กูซิงหลันทาตาถมึงทึงเข้าใส่ วิญญาณทมิฬถึงจะมี


เพียงดวงจิต แต่ในโลกก่อนเลือดของมันสามารถขจัดพิษนับร้อยชนิดได้ ถึงแม้วา่ ตอนนี้จะไม่อาจถอนพิษได้ท้ งั หมด
แต่คงทาให้ฮ่องเต้รู้สึกดีข้ นึ ไม่นอ้ ย

จัดการเรี ยบร้อยแล้ว ก็เห็นสี หน้าของฮ่องเต้ค่อยๆ ดีข้ นึ รอยดาบนริ มฝี ปากค่อยๆ เปลี่ยนเป็ นสี แดงเหมือนตอน
แรก เพียงแต่ยงั บวมอยูด่ งั เดิม

ครู่ ถดั มา ฝ่ ามือที่กุมมือของนางไว้แน่นก็ค่อยๆ คลายออก

ตู๋กูซิงหลันถอนใจใหญ่ออกมารอบหนึ่ ง ไม่คิดอะไรอีก ก็คว้าเอาเจ้าวิญญาณทมิฬที่ยงั กระทืบเท้าอยู่ รี บออกไป


จากสถานการณ์ตรงหน้า

วิญญาณทมิฬโอดโอยเจ็บปวดรวดร้าวมาตลอดทาง เจ็บขนาดที่มนั ร่ าร้องเสี ยงดัง "เจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ คืองูพิษตัว


หนึ่ง ส่ วนเจ้าก็เป็ นชาวนาปัญญาอ่อน รอให้เขาตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ ดูซิวา่ เจ้าจะรับหน้าเขายังไง! "

ตู๋กูซิงหลันนวดขมับ นางถูกมันก่อกวนเสี ยจนปวดหัวไปหมด

นางช่วยเขาไว้ก็จริ ง แต่ก็เพื่อให้ตวั มีทางถอยมากกว่า

..................................................

อาจเป็ นเพราะใช้พละกาลังมากเกินไป ตู๋กูซิงหลันกลับมาถึงแล้วก็หลับสนิทตลอดคืน กระทัง่ พระอาทิตย์ส่องก้น


ถึงได้ลุกขึ้นมา
นางบิดเอวอย่างขี้เกียจ ใช้น้ าเย็นล้างหน้า คว้าเอาปิ่ นไม้อนั หนึ่ งขมุ่นผมไว้ เสื้ อผ้าก็ใช้กระโปรงผ้าป่ านสี เขียวดา
แต่งตัวอย่างเรี ยบง่าย ไหนเลยมีลกั ษณะของไทเฮา

อาจเพราะเมื่อคืนวานได้ตบตีเจ้าฮ่องเต้สุนขั ไปรอบหนึ่ ง ตอนนี้นางจึงอารมณ์ดีไม่นอ้ ย

วันนี้ นางเตรี ยมตัวจะไปพบปะพระสนมหยวนเฟยนางนั้นสักหน่อย

เจ้าฮ่องเต้นนั่ ให้นางพักอยูใ่ นตาหนักเฟิ่ งหมิง แต่ดา้ นนอกตาหนักกลับไม่มีเวรยามแม้แต่นอ้ ย นี่ก็เท่ากับว่าไม่ได้


กักบริ เวณนางสิ นะ

ฉวยโอกาสที่ฮ่องเต้ยงั ไม่สร่ างพิษ ไม่มีเวลามาไล่เรี ยงความจริ ง นางจาเป็ นจะต้องตรวจสอบอะไรบางอย่าง

ตู๋กูซิงหลันนาวิญญาณผึ้งพิษไปด้วย เชียนเชียนไม่วางใจนาง ก็จะไปด้วยกันให้ได้ ตู๋กูซิงหลันขัดนางไม่ได้ ก็


จาต้องยอมตามนั้น

ก่อนจะออกไป นางก็คิดเรื่ องหนึ่งขึ้นมาได้ ตัดผ้าป่ านมาชิ้นหนึ่งบังไว้ครึ่ งหน้า เหลือเพียงดวงตางดงามดุจดอกท้อ


และคิ้วโก่งเรี ยวยาวดัง่ ไต้หยู่

เชียนเชียนที่ไม่รู้เรื่ องอะไรก็ติดตามมาเบื้องหลัง ในใจก็ครุ่ นคิดไปว่า สงสัยไทเฮาจะเกรงว่ารู ปโฉมที่งดงาม


เกินไปของนางจะทาร้ายดวงตาของหยวนเฟยละมั้ง?

คนทั้งสองพึ่งเดินถึงปากประตูตาหนักเฟิ่ งหมิง ก็เห็นริ มกาแพงมีเต๋ อเฟยในชุดขาวเรี ยบหรู ยนื อยู่

ดอกไฮ่ถางในพระตาหนักเฟิ่ งหมิงผลิบานล้ าออกนอกกาแพง เต๋ อเฟยก็ยนื อยูข่ า้ งกาแพงสี แดงนัน่ ทั้งเส้นผมหรื อ


เครื่ องประดับก็มีกลีบดอกไม้หล่นติดอยู่ ใบหน้างดงามรู ปไข่เพียงแต่งแต้มอย่างอ่อนบาง ทัว่ ทั้งตัวคนมองดูบอบบางน่า
ถนอมปานจะปลิวลม

ไม่ไกลจากตรงนั้นมีกลุ่มของพระสนมและเหล่าสตรี สูงศักดิ์ แม้แต่ฉีผินก็รวมอยูด่ ว้ ย

พอตู๋กูซิงหลันและเชียนเชียนออกมา ก็ยงิ่ ดึงดูดความสนใจของพวกนาง เต๋ อเฟยที่มองเห็นก่อนใครก็เดินเข้ามาหา


จดจ้องมองใบหน้าที่ถูกปิ ดบังไว้ของตู๋กูซิงหลัน นางดูไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย
คนพอเดินมาถึงก็ถวายคานับเล็กน้อยให้นาง "ไทเฮาเพคะ หม่อมฉันชื่นชอบดอกไฮ่ถางมาโดยตลอด ในวังมีแต่ง
รอบตาหนักเฟิ่ งหมิงจึงจะมี วันนี้จึงเชิญพวกพี่สาวน้องสาวและภรรยาขุนนางทั้งหลายมาชมดอกไม้ที่ริมกาแพง ขอ
ไทเฮาอย่าได้ถือโทษเลยเพคะ"

คาพูดนี้กล่าวอย่างไม่อ่อนไม่แข็ง หากว่าตู๋กูซิงหลันอยากจะเอาเรื่ อง ก็กลายเป็ นนางเองที่ไม่ถูกต้อง

เช่นนี้ ตู๋กูซิงหลันยังไม่ทนั ได้เอ่ยอะไร ก็เห็นฉี ผินรี บร้อนวิ่งเข้ามา ฉี ผินคนนี้โหนกแก้มสู งเด่น รู ปโฉมงดงามแต่ก็


ดูร้ายกาจ เพียงเห็นก็รู้วา่ ไม่อาจคบหาโดยง่าย

"ย่าห์ เต๋ อเฟยเพคะพูดเช่นนี้ ราวกับว่านางเป็ นเจ้าของตาหนักเฟิ่ งหมิงเสี ยอย่างนั้น " ฉี ผินจ้องมองใบหน้าของตู๋กู


ซิงหลันอย่างไม่วางตา สายตาไม่ปิดบังความชิงชังแม้แต่นอ้ ย

" ดอกไฮ่ถางพวกนี้พวกเราเด็ดไม่ได้ หรื อว่าแม้แต่ดูก็ยงั ไม่ได้ดว้ ย? อีกหน่อย คนที่ได้รับบัญชาให้พานักในพระ


ตาหนักเฟิ่ งหมิงจะเป็ นใครก็ยงั ไม่รู้สิ"

ครั้งก่อนตอนอยูใ่ นเรื อนของตู๋กูเหลียน ฝ่ าบาททรงไล่นางออกไป แต่กลับอยูเ่ พียงลาพังสองคนกับนังนี่ เดิมที่ควร


จะเป็ นนางต่างหากที่จะได้ปรนนิบตั ิใกล้ชิดเพียงลาพังกับฝ่ าบาท

ยังมีอีกครั้งตอนที่อยูใ่ นตาหนักเย็น ฝ่ าบาทถึงกับตวาดใส่ นางเพราะนังนี่ ทาให้นางเกือบต้องเข้าไปอยูใ่ นตาหนัก


เย็น

ตอนนี้ ล่ะดีเลย นังแพศยานี่เสี ยโฉมไปแล้ว ปราศจากอาวุธที่ทรงพลังอีกต่อไป นางจะดูสิวา่ ฝ่ าบาทจะยังทรง


ปกป้องมันอีกหรื อไม่

พอนางตะโกนเสี ยงดังออกไป ก็ดึงดูดความสนใจของเหล่าสนมและฮูหยินชั้นสู งที่'ชมดอกไม้' อยูอ่ ีกด้านให้เข้า


มาร่ วมด้วยได้สาเร็ จ

ฮูหยินสู งศักดิ์ผหู ้ นึ่งพอได้เห็นตู๋กูซิงหลันก็ร้องดังอย่างตกใจ "อ๋ ายโยว สวรรค์ช่วย นัน่ คือบุตรสาวสายหลักของ


ตระกูลตู๋กูนี่ ไม่ใช่วา่ ถูกจับขังในตาหนักเย็นไปแล้วหรอกหรื อ? ทาไมถึงออกมาได้? "
คาพูดนี้ดงั ออกไป ฮูหยินสู งศักดิ์อีกท่านก็รับทันที "ฮูหยินเสนาบดี ท่านยังไม่รู้อีกหรื อ นางกับฝ่ าบาทกลับมาคืนดี
กันแล้ว ฝ่ าบาทถึงกับประทานตาหนักเฟิ่ งหมิงให้นางอยู่ ท่านก็ระมัดระวังคาพูดหน่อย หากว่าล่วงเกินไทเฮาก็
เปรี ยบเสมือนล่วงเกินฝ่ าบาทด้วย"

"อ๋ า สตรี ที่อาศัยความงามป่ ายปี นขึ้นไป ฮูหยินอย่างข้าคงทาไม่ได้ละมั้ง? " ฮูหยินเสนาบดีขมวดคิ้วอย่างเย็นชา


"จิ๊ๆ ได้เข้าตาหนักเฟิ่ งหมิงแล้วเป็ นอย่างไร คงไม่ได้อยูถ่ าวรละมั้ง? แล้วดูนนั่ สิ นางแต่งตัวอย่างไร? ในแคว้นต้าโจว
ของเรา ขนาดขอทานยังไม่สวมเสื้ อป่ านเลยด้วยซ้ ามั้ง? พวกเจ้าคิดว่าฝ่ าบาทจะทรงโปรดปรานนางสักเท่าไหร่ กนั
เชียว? "

ฮูหยินเสนาบดีพูดเช่นนี้ คนทั้งหลายก็พลันรู ้สึกว่ามีเหตุผล

หากตู๋กูซิงหลันได้รับความโปรดปรานจริ งๆ จะไม่มีแม้แต่เสื้ อผ้าชั้นดีสักชุดได้อย่างไร?

เห็นตู๋กูซิงหลันไม่แสดงกิริยาปฎิเสธ ฮูหยินเสนาบดีผนู ้ ้ นั ก็ยงิ่ เอาใหญ่ นางได้ยนิ มานานแล้วว่าไทเฮาเป็ นเพียงลูก


พลับนิ่ ม ใครก็ต่างจัดการได้ ดูสิ วันนี้ถูกนางด่าเสี ยจนเสี ยหมาถึงเพียงนี้ ดูท่า'ไทเฮา'องค์น้ ี คงไม่สู้คนแม้แต่นอ้ ยสิ นะ?

------

เทาเที้ย : บุตรมังกรคนที่หา้ ผูล้ ะโมภ ในลาภยศ สมบัติ เงินทองและอาหาร เมื่อตื่นขึ้นมาสามารถบริ โภคได้อย่างไร้


ขีดจากัด กระหายเลือดอยูเ่ ป็ นนิจ จึงถูกเจ้ามังกรสะกดให้หลับไหลเกือบจะตลอดเวลา

คิว้ งามอย่ างไต้ หยู่ : (หลินไต้หยู)่ สาวงามบอบบางผูอ้ ่อนแอ นางเอกใน ความฝันในหอแดง


ตอนที่ 34 เจ้ าสุ นัขไร้ มารยาท

เชียนเชียนโกรธจนกาหมัดแน่น นายหญิงของนางยังต้องกังวลว่าจะไม่มีเสื้ อผ้าใส่ อีกหรื อ เสื้ อผ้าที่หลี่กงกงส่ งมา


ล้วนแต่สวยงาม หากนาออกมาคงทาให้พวกนางอิจฉาจนตาบอดได้!

สตรี พวกนี้ ลว้ นน่าเบื่อตั้งแต่เช้ายันเย็นไม่มีอะไรทา รู ้จกั แต่เล่นลิน้

ตู๋กูซิงหลันเดิมที่ไม่คิดจะสนใจพวกนาง ตอนนี้ กลับถูกคนทั้งกลุ่มมารังควาญถึงหน้าประตู ต่างคนต่างทาหน้าทา


ตาดูถูกเหยียดหยาม ข้ามหัวนางอย่างเต็มที่ เท้าที่กา้ วออกไปแล้วของนางพลันชักกลับมา

นางกวาดตามองฮูหยินเสนาบดีครั้งหนึ่ง "ข้ารู ้วา่ ตนเองงดงามเลิศล้ า ยายแก่หน้าเหลืองอย่างเจ้าชาติน้ ีท้ งั ชาติคงสู ้


ไม่ได้หรอก"

ว่าแล้วก็กม้ ลงมองดูตนเอง "ตอนนี้ยงั ไม่ผา่ นช่วงไว้ทุกข์ถวายอดีตฮ่องเต้ หรื อจะให้ขา้ ทาเหมือนพวกเจ้าสวมใส่


ผ้าดอกลายพร้อย ทาไม อดีตฮ้องเต้สิ้นไปพวกเจ้ายินดีกนั มากสิ นะ? "

ฮูหยินเสนาบดีโกรธเสี ยจนหน้าสั่น เพียงแต่ชวั่ ขณะไม่อาจหาถ้อยคามาต่อปากต่อคากับนางได้

นางลืมไปเสี ยแล้ว...........อดีตฮ่องเต้สวรรคตไปยังไม่ทนั ครบสามเดือน เมื่อสิ้ นเจ้าแผ่นดิน พสกนิ กรต้องไว้ทุกข์


หนึ่งปี ว่ากันตามกฎ ในช่วงนี้คนทั้งหลายต้องสวมใส่ เสื้ อผ้าเนื้ อหยาบ

หากว่ามีการไล่เรี ยงขึ้นมา พวกนางต้องมีความผิดฐานไม่เคารพเบื้องสู ง

ครู่ หนึ่ง ตู๋กูซิงหลันค่อยถอนหายใจออกมาเบาๆ "ไม่รู้วา่ หากอดีตฮ่องเต้ในสวรรค์ได้ทรงรับรู ้ จะทรงคิดอย่างไร


......."

ผูค้ นทั้งหลายในใจล้วนไม่ยนิ ยอม กฎระเบียบนั้นมีอยูแ่ ล้วจะอย่างไร ในเมื่อคนทั้งหลายไม่ใส่ ใจให้ความเคารพ มี


กฎแต่เอาผิดไม่ได้เป็ นที่มีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ยิง่ ไปกว่านั้น อดีตฮ่องเต้จะทรงกลับออกมาจากสุ สานเพื่อช่วยนางตัวร้ายนี่หรื อไง?


ดูนางสิ ก็แค่เกิดมาหน้าตาดีหน่อยเท่านั้น กลายเป็ นว่าบุรุษทั้งหลายต่างคิดจะเฮโลไปทางนางกันหมด แม้แต่อดีต
ฮ่องเต้สิ้นไปแล้วก็ยงั ไม่เว้น ช่างร่ านนัก!

" ตู๋กูซิงหลัน เจ้าอย่าได้ข่มขู่ผอู ้ ื่นให้มากนัก ยังจะกล้าเรี ยกตนเองเป็ นไทเฮาอีก " ทันใดนั้นฉี ผินก็ยมิ้ เย็นเข้ามาใกล้

นางเดินเข้ามาถึงเบื้องหน้าตู๋กูซิงหลัน สองตาจับจ้องอยูบ่ นใบหน้าของนาง "แค่ได้เข้าไปอยูใ่ นตาหนักเฟิ่ งหมิง


ไม่กี่วนั ดูๆ แลๆ สักหน่อยก็ตอ้ งย้ายออกมา ช้าหรื อเร็ วก็คงได้กลับเข้าไปในตาหนักเย็นหลังนั้นอีก อย่าได้ลืมฐานะของ
ตนเองเสี ยล่ะ"

พูดแล้ว นางก็หวั เราะคิกคักออกมา "แต่วา่ ใบหน้านี้ของเจ้ายังนับว่าพอดูได้ ในเมื่อมัน่ ใจในตัวเองขนาดนี้ จะ


ปิ ดบังไว้ทาไม? เปิ ดออกมาให้ทุกคนได้ชื่นชมกันหน่อย ดูสิว่าเจ้าตอนนี้น่าลุ่มหลงเพียงไหน"

นังแพศยานัน่ คิดว่าตนเองปิ ดบังได้คนอื่นก็จะยังเกรงกลัวนางอีกหรื อ? เมื่อไม่มีใบหน้าที่ลวงชาติล่มเมืองนัน่ แล้ว


นางก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น!

แม้แต่จะเรี ยกชื่อของมัน นางยังรู ้สึกขยะแขยง

พูดจบฉี ผินก็พลันยืน่ มือออกมาดึงผ้าปิ ดหน้าของนาง ลงมือไปก็หวั เราะเยาะไป "ทุกคนต้องลืมตาให้กว้าง ดูให้


ชัดๆ นี่คือ'ไทเฮา'ผูท้ รงสิ ริโฉมเลิศล้ าในใต้หล้า! "

บิดาของฉี ผินเป็ นขุนนางบู๊ นางย่อมรู ้จกั ออกหมัดเตะเท้าอยูบ่ า้ ง ฝี มือนี้ใช้ออกอย่างรวดเร็ ว วูบเดียวก็คว้าเอาผ้าปิ ด


หน้าของตู๋กูซิงหลันเอาไว้ได้

นางเผยสี หน้ายิม้ แย้มสมใจ ออกแรงดึงทันที เห็นชัดว่าสามารถกระตุกผ้าผืนนั้นออกมาได้แน่

ผูค้ นมากมายถึงเพียงนี้ ทุกคนจะได้เห็นอย่างชัดเจน ว่านังแพศยานี่อปั ลักษณ์แค่ไหน!

เต๋ อเฟยที่เก็บปากเก็บคาอยูถ่ ึงกับหรี่ ตาดู กระทัง่ ลาคอยังเหยียดตรงแล้ว

ด้านเชียนเชียนที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ นางรู ้สึกหวาดกลัวฉี ผินไม่นอ้ ย ก่อนหน้านี้ตอนที่ไปร้องขอเผือกมันจากห้อง


เครื่ อง เป็ นฉี ผินที่ตบนางจนหน้าบวมจมูกเขียว ฉี ผินมีวรยุทธ์ นางกลัวว่านายหญิงจะเป็ นฝ่ ายเพลี่ยงพล้ า
ตู๋กูซิงหลันเห็นฝ่ ามือนี้พุ่งมา ในใจก็เพิ่มความกระจ่างขึ้นหลายส่ วน นางหันหน้าหนี พลิกตัวหลบ ร่ างก็ถอยไป
ด้านหลังก้าวหนึ่ง พอหมุนตัวกลับมาผ้าผืนนั้นก็ถูกบังหน้าไว้อีกครั้ง

ฝี มือรวดเร็ วอย่างยิง่ ไม่มีใครทันมองได้ชดั ว่านางลงมืออย่างไร

ฉี ผินเองก็ชะงักค้างไปแล้ว เมื่อครู่ .....นางคว้าผ้าผืนนั้นได้แล้วแน่ๆ

แต่วา่ นางแพศยานัน่ ระแวดระวังถึงเพียงนี้ แสดงว่านางต้องเสี ยโฉมไปแล้วแน่ ที่รีบร้อนออกมาจากตาหนักเฟิ่ ง


หมิงก็คงเพราะจะไปหาหมอมารักษา ใช่ ต้องใช่แน่ๆ

นางยังไม่ทนั ได้สติกลับมา ก็ได้ยนิ เสี ยง'เพี้ยะ'ดังสนัน่ ฉี ผินรู ้สึกว่าใบหน้าเจ็บปวดแสบร้อนอย่างที่สุด ยามนั้นทัว่


ทั้งพระตาหนักเฟิ่ งหมิงกลับเงียบกริ บ

"เจ้าสุ นขั ที่ไร้มารยาท " เป็ นตู๋กูซิงหลันที่น้ าเสี ยงเกรี้ ยวกราวตวาดใส่ พร้อมกับฝ่ ามือนั้น

นางคิดจะตบฉี ผินมานานแล้ว ความแค้นของเชียนเชียนน้อยที่แสนดียงั ไม่ได้รับการสะสางมานานแล้ว

ผูค้ นทั้งหลาย "!!! " เมื่อกีม้ ันอะไรกัน?

ฉี ผินถูกตบจนหน้าหัน ซ้ ายังถูกด่าเป็ นสุ นขั ?

ฉี ผินกุมใบหน้าครึ่ งที่ถูกตบจนบวมเป่ งนั้นไว้ นานเป็ นครึ่ งค่อนวันก็ยงั ไม่ได้สติกลับมา นาง..............ถูกนังนัน่ ทั้ง


ตบทั้งด่า?

ต้องเป็ นเพราะว่านังแพศยานัน่ กลัวว่าความอัปลักษณ์จะถูกเปิ ดเผย ถึงได้แสร้งเป็ นมีโทสะ ไม่อย่างนั้นมันจะทา


เพื่ออะไร?

"ตู๋กูซิงหลัน นี่เจ้า! " คิดแล้ว ฉี ผินคิดจะเปิ ดโปงนาง จึงทั้งโกรธทั้งรี บร้อน พลิกมือออกจะตบตู๋กูซิงหลันคืน

แต่ฝ่ามือนี้ของนางยังไม่ทนั ได้สะบัดออกไป ตู๋กูซิงหลันกลับว่องไวกว่าก้าวหนึ่ง เหยียดเท้าถีบเข้าใส่ ทอ้ งนาง ฉี ผิ


นกระเด็นหงายลงบนพื้น กระอักน้ าย่อยเปรี้ ยวๆ ในกระเพาะออกมา
คราวนี้ผคู ้ นทั้งหมดล้วนตกตะลึงไปจริ งๆ ก่อนหน้านี้ที่พวกนางได้ยนิ มาว่า ตู๋กูซิงหลันตบฮูหยินเฒ่าเจียงเสี ยปาง
ตาย ยังคิดกันว่า เป็ นข่าวลวงที่ในวังกุข้ นึ ตอนนี้เห็นฤทธิ์ นางที่ตบฉี ผินแล้ว เกรงว่าเรื่ องของฮูหยินเฒ่าคงจะเป็ นจริ งกว่า
ครึ่ ง

เชียนเชียนตกตะลึงในตัวนายหญิงของตนเองอีกครั้ง ครั้งก่อนตบนางเจียงซื่ อ ก็ทาให้นางคิดว่านายหญิงเก่งกาจ


มากแล้ว ครั้งนี้ นายหญิงยังเอาชนะฉี ผินได้อีกหรื อเนี่ย?

นายหญิงของข้ากลายเป็ นผูท้ ี่ฮึกเหิ มเปี่ ยมด้วยวรยุทธิ์ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

หรื อจะไปแอบเรี ยนวิชาเสริ มกับท่านอ๋ องโดยไม่ให้นางรู ้?

ฉี ผินถูกตบต่อหน้าผูค้ นทั้งหลาย ไหนเลยจะกล้ ากลืนความโกรธลงไปได้ นางเป็ นสตรี มีวรยุทธ์ จะจัดการลูกพลับ


นิ่มอย่างตู๋กูซิงหลันไม่ได้ได้อย่างไร?

แต่พอนางพึ่งจะขยับตัว

ตู๋กูซิงหลันก็กวาดตาคมกริ บราวใบมีดเข้าใส่ นางกระแทกหมัดต่อยใส่ ฝ่ามือ แต่เสี ยงกระแทกเปรี้ ยงนัน่ ดังสนัน่


ชัดเจนอย่างยิง่

พอเห็นแล้วฉี ผินถึงกับตกใจจนหวาดกลัว ในสมองของนางเห็นภาพที่นางเจียงซื่ อถูกตบตีจนร่ อแร่ ปางตาย

"แต่ละคน ยิง่ มายิง่ กล้านัก ไร้มารยาทขาดการอบรม เป็ นแค่สนมขั้นผินกลับกล้ามาเหยียบหัวข้าได้ "

ตู๋กูซิงหลันกาหมัดบดเข้ากับฝ่ ามือช้าๆ สายตาทอประกายเย็นเฉี ยบ

คนทั้งหลาย "......" ขออภัยเพคะ แต่ ว่าตอนนีค้ นที่ถูกรั งแกคือฉี ผินนะเพคะ!

ตู๋กูซิงหลันจ้องฉี ผินอยู่นาน "เจ้าจดจาเอาไว้ให้ดี ตราบใดยศของข้ายังอยู่ ตราบนั้นข้าก็คือไทเฮาของแคว้นต้าโจว


พบเจอข้า ก็รีบควักเอามารยาทของเจ้าออกมา หากว่าเจ้าไม่เข้าใจ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสั่งสอนเจ้าด้วยตัวเอง! "
พูดแล้ว ตู๋กูซิงหลันก็กวาดตามองผูค้ นโดยรอบคราหนึ่ง "ข้าเป็ นคนอารมณ์ร้ายนิสัยไม่ดีมาแต่กาเนิด เจ้าให้ความ
เคารพข้าหนึ่งฉื่ อ ข้าก็จะให้ความเกรงใจเจ้าหนึ่งจั้ง เจ้ากล้ารังแกข้าหนึ่งส่ วน ข้าก็จะคืนให้ร้อยเท่า! "

นางไม่ได้เสี ยงดัง แต่พลังในน้ าเสี ยงกลับเต็มเปี่ ยม รู ปร่ างที่บอบบางยืนเหยียดตรง เส้นผมยาวสยาย ตลอดทั้งร่ าง


ไม่มีกลิ่นอายโทสะแม้แต่นอ้ ย แต่กลับน่าเกรงขามยิง่ นัก ชัว่ ขณะนั้น ผูค้ นที่พากันชะงักอยูต่ ่างถูกสะกดไว้จนหมดสิ้ น

นี่คือ...........ตู๋กูซิงหลันจริ งหรื อ?

นางไม่ใช่ลูกพลับนิ่มเหมือนดังแต่ก่อน .....คนที่เคยเอาแต่เงียบไม่กล่าวพูดเสี ยงดังแม้แต่นอ้ ยนะ หรื อ? ทาไมถึง


ได้.......เปลี่ยนไปเป็ นคนละคน?

ฮูหยินเสนาบดีถูกนางปรายตามองเสี ยจนขนคอลุกชัน ไหนจะยังมีเรี่ ยวแรงพูดจาเหมือนเมื่อสักครู่ อีก

ภูติผีต่างก็รู้ดีตวั เลวร้ายของตระกูลตู๋กูคนนี้เป็ นหญิงบ้า ทาร้ายคนได้!


ตอนที่ 35 ยังดีที่....ศีรษะยังอยู่ครบ

ฉี ผินที่ขวัญเสี ยนานถึงค่อยๆ คืนสติกลับมาช้าๆ นางยอมรับว่าเมื่อครู่ ถูกตู๋กูซิงหลันสะกดจนตระหนกไปจริ งๆ

พอรู ้วา่ ดวงตาทั้งสองที่ดาขลับดุจน้ าหมึกของนางมองมาที่ตวั เอง ราวกับหลุมดาที่ดึงดูดนางให้จมลงไปในความดา


มืดไร้กน้ บึ้ง นางรู ้สึกตัวสัน่ หวาดกลัวจนถึงกระดูกอย่างไร้ที่มา

แต่นนั่ ก็เป็ นเพียงแค่ชวั่ วูบเดียวเท่านั้น พอคิดได้ นางก็หวั ร้อนขึ้นมาอีก เชิดคางขึ้นเผชิญตู๋กูซิงหลัน "ช่างโอ้อวด


ยิง่ นัก หากไม่รู้มาก่อน ใครๆ คงคิดว่าเจ้าเป็ นมารดาของฝ่ าบาทจริ งๆ ตู๋กูซิงหลัน เจ้าคิดว่าตนเองคือคนสาคัญหรื อไง?
"

นางถูกยัว่ โมโหจนประสาทเสี ยแล้ว นังคนเลวนี่คิดว่าตัวข้าฉี ม่านเป็ นคนที่ใครก็รังแกได้ง่ายๆ หรื อ?

วันนี่ มนั กล้าตบนาง นางไม่เชื่อเด็ดขาดว่า มันจะเอาตัวรอดไปได้ง่ายๆ

ฉี ผินพูดจบ ก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา แต่พอนางขยับตัวได้หน่อย เท้านั้นของตู๋กูซิงหลันก็เตะออก ตรงเข้าใส่ เข่า


ของนาง ทาให้นางคุกเข่ากระแทกพื้นลงไปอีก "ดูถา้ ที่ขา้ พูดไปเมื่อครู่ เจ้าจะฟังไม่เข้าใจสิ นะ"

น้ าเสี ยงนางเยือกเย็นสุ ดขีด เวลาที่พูดราวกับว่ารอบตัวนางมีวิญญาณรายล้อมอยู่ ทั้งๆ ที่มีแสงแดดจากดวงอาทิตย์


สว่างจ้าส่ องลงมา คนทั้งหลายกลับรู ้สึกว่าตนเองตกอยู่ในเหมันต์ที่หนาวเหน็บ ความรู ้สึกนี้ราวกับว่านังตัวร้ายนี่คือร่ าง
ทรงของฮ่องเต้ก็ไม่ปาน

คราวนี้ ในบรรดาคนทั้งหลายไม่มีใครกล้าออกหน้าช่วยฉี ผินอีก

ตู๋กูซิงหลันหรี่ ตามอง สายตาของนางแหลมคมราวเข็มเล่มหนึ่ ง ร่ างกายของนางในตอนนี้ ถึงจะเป็ นแค่วิชาหมัด


มวยแบบแมวสามขา แต่กระบวนท่าที่เคยใช้ในโลกก่อนก็ไม่ได้ลืมหาย ยิง่ ไปกว่านัน่ ช่วงนี้ นางยังอดทนฝึ กฝนร่ างกาย
มาโดยตลอด ดังนั้นหากจะต้องสู ้กบั ฉี ผินก็ไม่นบั ว่าเป็ นปั ญหาอะไร"

ด้วยฐานะของนางทาให้นางมีแต่เรื่ องพุ่งเข้ามาหา ในเมื่อเป็ นเช่นนี้ก็ยงิ่ ต้องจัดการเชือดไก่ให้ลิงดู


ยิง่ ไปกว่านั้น ฉี ผินคนนี้......จะต้องมีเอี่ยวกับเรื่ องผึ้งพิษไม่นอ้ ยแน่

ผูค้ นที่อยูใ่ นเหตุการณ์ต่างตกตะลึงจนปากค้าง คงมีแต่เต๋ อเฟยที่ยงั รักษาความสงบนิ่งเอาไว้ได้ นางจ้องมองตู๋กูซิง


หลันอยูต่ ลอดเวลา ราวกับจะต้องการมองให้ทะลุ

"ตู๋กูซิงหลัน! " ใจฉี ผินยังไม่ยอมสยบ ก็ถูกลูกเตะของตู๋กูซิงหลันเล่นซ้ าจนขยับไม่ไหว

นางต้องมาเสี ยหน้าครั้งใหญ่ต่อหน้าเหล่าพระสนมและฮูหยินมากมาย ต่อไปจะอยูใ่ นวังหลังนี้ได้อย่างไร?

ฉี ผินรู ้สึกว่านางโกรธเสี ยจนแทบจะกระอักเลือดออกมาเป็ นลิตร

ตัวนางเองมีวิชาหมัดมวยท่าเท้าอยูบ่ า้ ง แต่ทาไมพออยูต่ ่อหน้านังคนชัว่ นี้กลับใช้ไม่ได้เสี ยแล้ว มันไปเอาเรี่ ยวแรง


มาจากไหน?

"หื ม ยังไม่ยอมหรื อ? " ตู๋กูซิงหลันเห็นท่าทางของนางที่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก็สะบัดผมเข้าใส่ "ไม่ยอมก็เข้ามาตบข้า


สิ ! "

ฉี ผิน "!!! " แม่ เจ้ า ทาไมโลกนีถ้ ึงได้ มีคนชั่วที่อวดดีขนาดนี!้

"สู ้ไม่ไหวก็จดจาเอาไว้ให้ดี วันหลังหากพบเจอข้า ก็จงอ้อมหลบไป หรื อไม่ก็ไสหัวเข้ามาคุกเข่าคานับข้าซะ! "

เลือดที่ฉีผินพยายามสกัดไว้ในลาคอพลันกระอักออกมาทันที นางถึงกับ.......สู ้หญิงชัว่ นัน่ ไม่ไหวจริ งๆ

นี่มันเรื่ องอะไรก้ านนนนนนน! ทาไมมันถึงได้อยูด่ ีๆ ก็กลายเป็ นร้ายกาจขนาดนี้!


ฉี ผินถูกการาบไปแล้ว ตู๋กูซิงหลันก็หนั กลับมามองผูค้ นที่ตะลึงพรึ งเพริ ดอยู่ สายตาที่เย็นเฉี ยบก็เปลี่ยนเป็ นรอยยิม้
บางๆ มีเมตตา "เพราะฉะนั้นพวกเจ้าอย่าได้มายัว่ โทสะข้า ยามข้าไม่มีโทสะก็เป็ นมิตร ยินดีตอ้ นรับพวกเจ้ามาพูดคุย
แลกเปลี่ยนความคิดความฝันได้ทุกเวลา จะมาชวนข้าดูจนั ทร์นบั ดาวบ้างก็ได้"

พูดจบนางก็เปลี่ยนสี หน้า เป็ นอามหิ ตอย่างไร้ที่เปรี ยบ "แต่หากว่ามาสร้างปัญหาให้ละก็......"

นางพูดไปก็กระแทกสองหมัดเข้าหากันดังเปรี้ ยง "ข้าไม่เสี ยดายที่จะเด็ดศีรษะพวกเจ้าทิง้ ! "

ทุกคนต่างรู ้สึกหนาวจนขนหัวลุก ต่างก็จะอดลูบคลาไม่ได้ ยังดีที่....ศีรษะยังอยูค่ รบ

นังตัวร้ายนี้ตอนอยูใ่ นตาหนักเย็นคงได้รับความตระหนกมากไป ถึงได้เปลี่ยนแปลงไปเสี ยขนาดนี้

หรื อไม่ก็........พี่ชายของนางใกล้จะกลับมาเมืองหลวงแล้ว นางมีกาลังใจหนุน จึงได้โอหังขนาดนี้

ช่างสมกับเป็ นหลานสาวที่ต๋ กู ูถิงเลี้ยงดูมากับมือ ยามปกติแกล้งทาตัวเป็ นลูกแกะน้อย

เชียนเชียนที่ประหลาดใจอย่างที่สุด ตอนนี้ยืนอยูข่ า้ งๆ ตู๋กูซิงหลัน ตอนนี้ นางอยากกระโดดปรบมือให้นายหญิง


ของตนเอง หากว่านายผูเ้ ฒ่าได้มาเห็นเรื่ องเช่นนี่ จะต้องพึงพอใจอย่างที่สุด

นายหญิงไม่ใช่ลูกพลับนิ่ มอีกต่อไปแล้ว ดูพวกนางสิ แม้แต่ลมตดยังไม่กล้าปล่อย

"ไทเฮาเพคะ น้องสาวฉี ผินเพียงแต่ไม่รู้ความไปชัว่ ขณะ ล่วงเกินพระองค์ พระองค์ก็ทรงลงโทษไปแล้ว ทรงอภัย


ให้นางเถอะเพคะ" ยามนั้น เต๋ อเฟยที่เงียบมาตลอดค่อยเอ่ยปากขึ้น "หากว่ายังทรงพิโรธอยูล่ ่ะก็ โปรดทรงมาลงที่หม่อม
ฉันเถอะเพคะ"

นางเดินเข้ามาฉุดดึงฉี ผินขึ้นด้วยตัวเอง
ฉี ผินรู ้สึกอบอุ่นถึงก้นบึ้งหัวใจ ซาบซึ้งไม่อาจบรรยาย ช่วงเวลานี้เต๋ อเฟยยังคิดช่วยเหลือนาง เห็นได้ชดั ว่านางเป็ น
คนดีที่สูงส่ งขนาดไหน

ตู๋กูซิงหลันกวาดตามองนางครั้งหนึ่ ง กลับเห็นแต่เพียงใบหน้าที่ซีดขาวราวกับได้รับความตระหนกของเต๋ อเฟย

นางจึงเปลี่ยนเป็ นยิม้ แย้มหัวเราะน้อยๆ เอื้อมมือไปดึงมือเต๋ อเฟยมากุมไว้เบาๆ "เต๋ อเฟยคนงาม ทาเจ้าตระหนก


แล้ว? "

ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมลูบผมข้างหูเต๋ อเฟยทัดไปที่หลังหู

นางชื่นชมคนงามมาตลอด ถึงแม้เต๋ อเฟยนางนี้จะไม่ประสงค์ดีกบั นางสักเท่าไหร่ แต่วา่ เมื่อมีโอกาสลูบคลาแต๊ะอัง๋


คนงามได้ไยนางจะไม่เอา

ดูมือคู่น้ ีสิ ช่างขาวนวลราวหยกมันแพะ ทั้งนุ่มทั้งลื่น จับแล้วไม่อยากจะปล่อยเลย

ทุกคนต่างชะงักค้างกันไปหมด ไม่มีใครรู ้วา่ นางคิดจะทาอะไรกับเต๋ อเฟย

เต๋ อเฟยเองก็ตกใจไม่นอ้ ย นางคิดจะดึงมือกลับมา แต่กลับถูกตู๋กูซิงหลันจับเอาไว้แน่น นางทางหนึ่งใช้นิ้วโป้งลูบ


ไล้หลังมือเต๋ อเฟย ทางหนึ่ งก็ทอดถอนหายใจ "เด็กน้อย เจ้าช่างรู ้ความ หน้าตาช่างงดงาม น้ าเสี ยงก็น่าฟัง ข้าย่อมชื่นชม
เอ็นดูเจ้า"

เต๋ อเฟย " ??? "

คนทั้งหลายก็ยงิ่ ตกตะลึงจนตาค้างไปแล้ว พวกนางขบคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจจริ งๆ ตู๋กูซิงหลันกาลังจะทาอะไร

"แต่วา่ ข้าต้องตาหนิเจ้าสักหน่อย มีเมตตามากไปก็จะกลายเป็ นโง่เขลา ถาดอาจมที่ผอู ้ ื่นแย่งชิงกัน เจ้าไยต้องยื่นมือ


เข้าไปด้วย? "
ตู๋กูซิงหลันคลี่ยิ้มน้อยๆ น้ าเสี ยงจริ งใจอย่างยิง่ "เจ้าดูสิ คนที่ไม่รู้กาละเทศะเช่นฉี ผิน วันนี้ขา้ สั่งสอนนางก็เพื่อตัว
นางเอง อยูใ่ นวังหลังแห่งนี้ คงไม่ใช่วา่ นางก่อเรื่ องคราใด ก็ตอ้ งให้เจ้าออกหน้าช่วยเหลือทุกครั้งใช่ไหม? "

ว่าแล้วนางยังไม่ลืมสาทับไปอีกประโยค " หากว่าต่อไปนางล่วงเกินฝ่ าบาท เจ้ายังคิดจะเข้าไปขวางอีกหรื อ? "

เต๋ อเฟยนิ่งค้างไปแล้ว ได้แต่รับฟังตู๋กูซิงหลันต่อไป "เจ้าเป็ นลูกสะใภ้ที่ขา้ ให้ความสาคัญ ข้าย่อมต้องคิดแทนเจ้า"

คนทั้งหมด "!!! "

คาพูดจริ งใจเช่นนี้ น่าขนลุกไปแล้ว! เต๋ อเฟยอายุมากกว่านางสามปี นังตัวร้ายนี่เอาความหน้าหนามาจากไหน?


ถึงกับเรี ยกผูอ้ ื่นเป็ นลูกสะใภ้

เต๋ อเฟยถูกนางลูบไล้จนขนอ่อนลุกชัน นางกาลังครุ่ นคิดหาเหตุผล ไยตู๋กูซิงหลันสั่งสอนฉี ผินแล้วต้องมากล่าว


เตือนใจนางเช่นนี้?

หรื อนี่คือ.......แผนยุแยงให้ แตกแยก?

ทาให้นางและฉี ผินสะบัดหน้ากลายเป็ นศัตรู กนั นางจะได้ฉวยโอกาสหาปลาตอนน้ าขุ่น?

ไทเฮาที่ยอดเยีย่ ม ตู๋กูซิงหลันที่ยอดเยีย่ ม!

ฉี ผินหน้าตาดูไม่ได้ นางรู ้ตวั ดีว่าไม่อาจเทียบกับเต๋ อเฟยได้ แต่ตอนนี้ ถูกตู๋กูซินหลันนาขึ้นมาเปรี ยบเทียบชี้ความ


แตกต่าง ในใจขมปร่ าเกินบรรยาย

"พระสนมเพคะ......" ยามนั้น นางกานัลผูห้ นึ่ งเดินเข้ามากระซิบเสี ยงเบาที่ขา้ งหูเต๋ อเฟย


ตอนที่ 36 ยื่นเนื้อให้ หมาจิง้ จอก

พระสนมเพคะ......" ยามนั้น นางกานัลผูห้ นึ่ งเดินเข้ามากระซิบเสี ยงเบาที่ขา้ งหูเต๋ อเฟย

สี หน้าของเต๋ อเฟยเปลี่ยนเป็ นไม่น่าดูในทันที

"อะไรนะ? " นางร้องอย่างตระหนกออกมาเบาๆ

เพียงเท่านั้นประกายตาของทุกคนก็พุ่งตรงมาที่นาง เต๋ อเฟยวางตัวสุ ขมุ มาโดยตลอด หากไม่เกิดเรื่ องใหญ่ นางไม่มี


ทางเสี ยกิริยาเช่นนี้

"พี่สาวเต๋ อเฟย เกิดอะไรขึ้น? " ฉี ผินไม่ห่วงความเจ็บปวดของตน เช็ดเลือดที่มุมปากก็รีบเงยหน้าขึ้นถาม

เต๋ อเฟยมุ่นคิ้ว นิ่ งอยูค่ รู่ หนึ่ งถึงได้ตอบ "ฝ่ าบาททรงประชวร แม้แต่การประชุมเช้านี้ยงั ถูกงดไป"

"หา? " ฉี ผินตกใจจนแทบสะดุง้ "นับตั้งแต่ฝ่าบาทขึ้นครองราชย์ ทรงพากเพียรในกิจการงานเมืองมาตลอด ไม่


เคยมีการงดเว้นประชุมเช้าเลยสักครั้ง ดูท่าฝ่ าบาทจะทรงประชวรมาก พี่สาวเต๋ อเฟย พวกเรารี บไปเข้าเฝ้าฝ่ าบาทกันเถอะ
เพคะ"

พระสนมคนอื่นต่างก็วุ่นวายใจ คิดจะรี บไปเข้าเฝ้า

ผ่านไปครู่ ใหญ่ ถึงได้ยนิ เสี ยงเต๋ อเฟยถอนหายใจ "เอาเถอะ หากข้าไม่ให้พวกเจ้าไปดูสักหน่อย คิดว่าพี่สาว


น้องสาวทั้งหลายคงกินไม่ได้นอนไม่หลับ ติดตามข้าไปเข้าเฝ้าพร้อมกันแล้วกัน~"

เหล่าพระสนมต่างถวายคานับนาง ฝ่ าบาทประชวร พวกนางย่อมอยากไปเยีย่ ม แต่พวกนางฐานะไม่อาจเทียบเต๋ อ


เฟยได้ พระตาหนักตี้หวั ก็ไม่ใช่สถานที่ๆ พวกนางคิดจะไปก็ไปได้

ครั้งนี้เป็ นเต๋ อเฟยที่ให้โอกาสพวกนาง พวกนางถึงจะมีโอกาสใกล้ชิดฝ่ าบาท

คราวนี้ เต๋ อเฟยก็หนั มามองตู๋กูซิงหลันครั้งหนึ่ ง "ไทเฮาเพคะ ที่ผา่ นมาพระองค์ทรงห่วงใยฝ่ าบาท ที่สุด เสด็จไป
พร้อมกับพวกหม่อมฉันเถอะเพคะ"
พูดแล้ว นางก็กวาดตามองตู๋กูซิงหลัน วันนี้นางอุตส่ าห์สร้างเรื่ องที่ดา้ นนอกตาหนักเฟิ่ งหมิงได้ จะปล่อยให้จบๆ
ไปอย่างนี้ได้อย่างไร?

"ข้ายังคงไม่ไปจะดีกว่าไหม? " ตู๋กูซิงหลันท่าทางดูลงั เลอย่างยิง่ นางคอยเอามือจับผ้าปิ ดหน้าเอาไว้ ราวกับ


ต้องการยึดมันให้แน่น

เต๋ อเฟยย่อมไม่พลาดที่จะเก็บเอากิริยาเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ไว้ในสายตาของนาง

นางค่อยเอ่ยตอบคา "ไทเฮาเพคะ หรื อทรงเกรงว่าฝ่ าบาทจะทรงตาหนิท่าน? "

พอเต๋ อเฟยเอ๋ ยคานี้ออกไป ทุกคนต่างก็มีปฎิกิริยาเปลี่ยนไป

จริ งด้วย ตู๋กูซิงหลันพึ่งจะทาเรื่ องโอหังบังอาจไปเมื่อครู่ หากว่าไปอยูเ่ บื้องพระพักตร์ฝ่าบาทแล้ว นางจะยังกล้า


อวดดีอีกหรื อ?

ยิง่ ไปกว่านั้น หากฝ่ าบาททรงทราบว่านางตบตีฉีผิน จะทรงปล่อยนางไปง่ายๆ หรื อ?

ตู๋กูซิงหลันราวกับถูกพูดคาพูดนี้เผยความในใจ นางรี บยืดอกขึ้นมา ราวกับจะต้องการแสดงว่าตนรับไหว "ข้า


ไม่ได้ทาสิ่ งใดผิด ไยต้องเกรงกลัวฝ่ าบาทตาหนิ ไปก็ไป ในเมื่อลูกชายประชวร ข้าที่เป็ นมารดาย่อมต้องไปดูแล"

พูดจบนางก็ทาท่าทางถลันเดินนาออกไป

เชียนเชียนติดตามไปด้วยสี หน้าเป็ นกังวลอย่างยิง่ นายหญิงไปเข้าเฝ้าฝ่ าบาทแบบนี้จะดีแน่หรื อ? หากว่าพวกฉี ผิน


ชิงกราบทูลเรื่ องแย่ๆ ของนายหญิงก่อน งั้นนายหญิง.......

ยิง่ คิดยิง่ เป็ นกังวลว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น เชียนเชียนก็ยงิ่ ร้อนใจขึ้นมา

" ฮึ โง่เง่ายิง่ นัก" ฉี ผินด่ากระทบเสี ยงเบา ถือว่ามีวิชามีกาลังอยูห่ น่อยแล้วไง จะอย่างไรไม่อาจสู ้กลยุทธ์อุบายใน


วาจาของเต๋ อเฟยไปได้หรอก
ไปเลย พอถึงเบื้องพระพักตร์ฝ่าบาท นางจะฉี กหน้าที่แท้จริ งของมันออกมา ให้ฝ่าบาทได้ทรงเห็นโฉมหน้าที่
อัปลักษณ์ของมัน

ยิง่ คิดว่าอีกเดี๋ยวตู๋กูซิงหลันจะต้องถูกฝ่ าบาทกริ้ วหนัก ตายอย่างอนาถ หมอกควันในใจฉี ผินก็พลันจางหายไป

...................................

พระตาหนักตี้หวั

จีเฉวียนทรงเอนพระองค์อยูบ่ นแท่นพระบรรทม บนพื้นมีหมอหลวงคุกเข่าอยู่

ฮ่องเต้ทรงฉลองพระองค์มงั กรสี ทองอร่ ามที่สูงส่ ง พระเกศายาวดุจน้ าตก หรี่ พระเนตรมอง พระหัตถ์ขา้ งหนึ่งเท้า
คางไว้ วรกายงดงามดุจภาพวาด แต่พระพักตร์ปรากฎรอยดายิง่ กว่าก้นหม้อจากรอยรองเท้านัน่ ทัว่ ใบหน้า

หมอหลวงทั้งหลายต่างตัวสั่นเทา นับตั้งแต่แคว้นต้าโจวก่อตั้งมา ฝ่ าบาททรงนับเป็ นฮ่องเต้ที่พระรู ปโฉมงดงาม


ที่สุด เพียงแต่วา่ ตอนนี้......สวรรค์โปรด ดูพระพักตร์นนั่ สิ ใครกันนะที่ช่างบังอาจถึงเพียงนี้

พวกเขาแต่ละคนได้แต่กม้ หน้า ไม่กล้ามองมาก เกรงจะเป็ นเหตุให้ฝ่าบาทออกพระโอษฐ์ฆ่าคนปิ ดปาก

เพราะว่า หาเรื่ องด่างพร้อยเหล่านี้เลื่องลือออกไป ย่อมกระเทือนถึงพระบารมีของพระองค์

มีแต่ภูติผีที่รู้วา่ ฝ่ าบาททรงได้รับพิษจากอะไร .........หมอหลวงอย่างพวกเขาล้วนไม่อาจสันนิ ษฐานออกมาได้

"ฝ่ าบาท พระสนมเต๋ อเฟยนาเหล่าสนมทั้งหลายมาขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ ทรงเห็นว่า.....ให้พบหรื อว่า......" ยามนี้ หลี่


กงกงเดินเข้ามา กราบทูลเสี ยงเบาอยูด่ า้ นข้าง

"ไม่พบ" ฮ่องเต้ตรัสเสี ยงเย็นอย่างยิง่ น้ าเสี ยงแฝงความหงุดหงิดแทบจะระเบิดออก ตอนนี้เขาคิดแต่จะจับตัวตู๋กูซิง


หลันมาลงโทษ!
หลี่กงกงลังเลอยูช่ วั่ ครู่ ค่อยตัดสิ นใจอย่างเด็ดเดี่ยว "เอ่อ....ไทเฮาเองก็เสด็จมาด้วย ฝ่ าบาทจะไม่ทรงให้เฝ้าหรื อพะ
ยะค่ะ? "

"ตู๋กูซิงหลันรึ ! "

พอฟังว่าเป็ นนาง ฮ่องเต้ก็ระเบิดไอพิฆาตออกรอบพระองค์ ดวงเนตรที่มีขนตายาวทอประกายเย็นเยียบขึ้นมา

ผูค้ นทั้งหมดต่างตกอยูภ่ ายใต้ความเหน็บหนาวราวพายุหิมะ หากว่านี้ไม่ใช่เขตพระราชฐาน พวกเขาต่างคิดว่า


ฮ่องเต้จะทรงไปออกศึกกับศัตรู

ครู่ หนึ่งถึงได้ยนิ ฮ่องเต้รับสั่งอย่างหนาวเหน็บว่า "ให้นางเข้ามา"

"งั้นพระสนมอื่นๆ ......" หลี่กงกงถามไถ่รายละเอียด

ฮ่องเต้หรี่ พระเนตร สายพระเนตรทอประกายโหดเ**้้ยม "เข้ามาให้หมด"

หลี่กงกงแปลกใจอยูบ่ า้ ง ได้แต่พยักหน้ารับ ต่อมาค่อยเดินออกไปที่ประตูตาหนักถ่ายทอดรับสั่ง

พระสนมกลุ่มหนึ่งยืนยืดคอรออยูอ่ ย่างร้อนใจ พอได้ยินว่าฝ่ าบาทอนุญาตให้เข้าเฝ้าก็ยนิ ดีกนั ใหญ่

"เห็นไหมว่าเต๋ อเฟยทรงเป็ นผูท้ ี่ฝ่าบาทใส่ พระทัยที่สุดจริ งๆ วันนี้พวกเราพี่นอ้ งต่างก็ได้พ่ ึงพาวาสนาของท่าน ถึง


ได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้า"

"จริ งด้วยๆ เต๋ อเฟยใจกว้างมีเมตตา ไม่ใช่วา่ ใครก็อาจเทียบได้"

ต้องรู ้วา่ ถึงแม้พวกนางจะเป็ นพระสนม แต่ยามปกติคิดจะได้พบพระพักตร์ฝ่าบาทสักครั้งแสนยากลาบาก หาก


ไม่ใช่เพราะพลอยได้พ่ งึ วาสนาของนาง เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะมาเหยียบพระตาหนักตี้หวั ยังไม่มีเลย

เพียงครู่ เดียวบรรดาพระสนมก็ผลัดกันยกย่องเต๋ อเฟยไม่ได้ขาด ในขณะเดียวแต่ละคนก็คล้ายกับจะตั้งใจลืมตู๋กู


ซิงหลันเอาไว้ในมุมนึง
ตู๋กูซิงหลันไม่คิดจะไปแย่งเอาหน้ากับพวกนาง นางเพียงแต่ค่อยจับผ้าปิ ดหน้าเอาไว้ ดวงตาที่เผยอยูม่ ีแววกังวลไม่
สงบนิ่ง กิริยาราวกับว่าหวาดกลัวที่จะต้องเข้าเฝ้าฝ่ าบาท

ท่าทางของนางแน่นอนว่าล้วนอยูใ่ นสายตาเต๋ อเฟยและฉี ผินอยูต่ ลอด

อารมณ์ของฉี ผินปลอดโปร่ งขึ้นมาก รอไปอีกสักครู่ เถอะ นังตัวร้ายตู๋กูซิงหลันก็จะต้องจบเห่ต่อหน้าฝ่ าบาท

เมื่อครู่ ไม่ใช่วา่ โอหังนักหรื อ? ข้าจะดูสิ หลังจากนี้ นางจะยังกล้าโอ้อวดดีอีกไหม

"นายหญิงเจ้าค่ะ~” เชียนเชียนอดไม่ไหวต้องดึงแขนเสื้ อตู๋กูซิงหลัน เอ่ยเสี ยงเบาๆ ว่า "หรื อว่าพวกเราจะ


กลับกันดีกว่า~”

ไม่รู้เพราะอะไร นางรู ้สึกงุ่นง่านอย่างยิง่ คล้ายกับว่าจะมีเรื่ องไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้น

"มาก็มาแล้ว จะปอดแหกไม่ได้" ตู๋กูซิงหลันลูบหัวนางเบาๆ อย่างปลอบโยน "จะไม่อยากอย่างไร ข้าก็จาเป็ นต้อง


มา......"

น้ าเสี ยงนางฟังดูก็รู้วา่ เหมือนเป็ ดที่ถูกจับไปขึ้นโต๊ะเสริ ฟ

พอฉี ผินได้ยินก็ยงิ่ เพิ่มความมัน่ ใจแล้ว

"ไปกันเถอะ ไทเฮาเชิญเสด็จนาเถอะเพคะ~" เต๋ อเฟยเข้ามา'เชิญ'นางอย่างนอบน้อม ด้วยกิริยานุ่มนวล


อ่อนโยน

ในบรรดาเหล่าพระสนมมีอยูไ่ ม่นอ้ ยที่ดูอย่างไม่ค่อยพอใจ คนน่ารังเกียจเช่นตู๋กูซิงหลันมีคุณสมบัติอะไรที่จะไป


เดินล้ าหน้าเต๋ อเฟยได้?

"ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานเจ้า ก็ควรให้เจ้าเดินเข้าไปก่อน วันนี้ขา้ เพียงแต่อาศัยวาสนาของลูกสะใภ้เช่นเต๋ อเฟย


เท่านั้น " ตู๋กูซิงหลันแย้มยิม้ อ่อยๆ น้ าเสี ยงก็คล้ายจะอ่อนแรงไปด้วย
ตอนที่ 37 คนน่ ารังเกียจ

ผูค้ นทั้งหลายต่างเผยยิม้ เย็นออกมา คนที่น่ารังเกียจ ช่างรู ้จกั ดูทิศทางลมนัก รู ้ดีวา่ ฝ่ าบาทโปรดเต๋ อเฟย พอเมื่อครู่
เล่นงานฉี ผินไปแล้ว ตอนนี้ ก็เลยมาทาปากหวานกับเต๋ อเฟยบ้าง

" พี่สาวเต๋ อเฟยเพคะ ยามนี้คนที่ฝ่าบาทอยากพบมากที่สุดก็คือท่าน ท่านก็อย่าได้มวั แต่ถ่อมตัวหลีกทางให้ผอู ้ ื่นเลย


" ฉี ผินก้าวออกมายืนข้างกายเต๋ อเฟย

เต๋ อเฟยก็ไม่กล้าปฎิเสธอีก จึงเดินนาเข้าไปในตาหนักตี้หวั อย่างสง่างามภายใต้การสนับสนุนของคนทั้งกลุ่ม

พระตาหนักตี้หวั โอ่อ่ากว้างขวาง แม้จะเป็ นยามฤดูร้อนกลับไม่อบอ้าวแม้แต่น้อย

ที่จริ งแล้วเมื่อเดินลึกเข้าไปภายใน กลับรู ้สึกหนาวๆ ขึ้นมาทีเดียว

วันนี้ไม่เหมือนยามปกติ หน้าต่างในตาหนักทั้งหมดถูกปิ ดไว้ แสงอาทิตย์ท้ งั หมดจึงถูกกั้นไว้ภายนอก ทัว่ ทั้งพระ


ตาหนักมืดสลัว แม้แต่แสงเทียนที่จุดไว้ก็มีอยูเ่ พียงไม่กี่เล่ม

ภายใต้การนาทางของหลี่กงกงคนทั้งกลุ่มก็มาถึงตาหนักหลักของฝ่ าบาท

ภายในตาหนักใช้ไข่มุกร้อยเป็ นม่านกั้นแบ่งแยกชั้นในชั้นนอก เหล่าพระสนมไม่อาจเข้าไปยังที่ประทับชั้นใน จึง


ได้แต่เฝ้ามองอยูไ่ กลๆ เท่านั้น

"หม่อมฉันถวายบังคมฝ่ าบาท " เต๋ อเฟยนาถวายบังคม พระสนมอื่นๆ ก็คุกเข่าลงทาตาม

ตู๋กูซิงหลันหลบอยูใ่ นมุมหนึ่ง พยายามลดความรู ้สึกถึงการคงอยูข่ องตนเองให้มากที่สุด เมื่อมีเหล่าพระสนมที่


สวมใส่ ชุดอย่างงดงามอยูเ่ บื้องหน้า การแต่งกายของนางจึงดูเหมือนหญิงสาวชนบทคนหนึ่ ง

นางไม่ได้ถวายความเคารพ หากพูดกันตามฐานะแล้ว นางคือมารดาของฮ่องเต้ มีอย่างที่ไหนให้แม่มาคานับลูก

หลี่กงกงที่อยูด่ า้ นข้างดูอย่างร้อนใจ พยายามส่ งสายตาให้ต๋ กู ูซิงหลันอยูต่ ลอด


ไทเฮาไม่ทรงทราบว่าเมื่อครู่ ตอนที่ฝ่าบาทได้ยนิ ว่านางมาแล้วนั้น ทรงทาท่าราวกับจะฆ่าคนเลยทีเดียว

ไม่รู้วา่ ไทเฮาไปทาอะไรให้ฝ่าบาททรงกริ้ ว

"เอ่อ หลี่กงกง ดวงตาของท่าน เจ็บป่ วยอะไรหรื อเปล่า? " ตู๋กูซิงหลันเห็นแแล้วก็ลอบถามเสี ยงเบา

หลี่กงกง........ชู่~

ไทเฮาน้อยพระองค์น้ ี ช่างเป็ นเด็กโง่ที่ไม่รู้เรื่ องอะไรเลยแม้แต่นอ้ ย

น่าเสี ยดาย เสี ยงทักเบาๆ ของนางกลับถูกฝ่ าบาทได้ยนิ "เจ้าไม่สนใจข้า กลับไปสนใจคนข้างตัวข้าแทนหรื อ? "

เสี ยงของจีเฉวียนเย็นเยือก เพียงแต่ขณะนี้คล้ายแฝงความอ่อนเพลียอยูด่ ว้ ย

พวกเต๋ อเฟยยังพากันคุกเข่าอยู่บนพื้น พระสนมทั้งหลายพากันเหลือบตาดูต๋ กู ูซิงหลัน สตรี ที่น่ารังเกียจผูน้ ้ ีชอบทา


ตัวให้ใครๆ รู ้ถึงการคงอยูข่ องนางไปทุกที่ทุกเวลา

พวกนางพากันมาอย่างอึกทึกครึ กโครม ประโยคแรกของฝ่ าบาทกลับตรัสต่อสตรี ที่น่ารังเกียจผูน้ ้ ี!

ตู๋กูซิงหลันยกยิม้ มุมปาก ค่อยเปลี่ยนเป็ นหัวเราะน้อยๆ "ฝ่ าบาทเพคะ~ หม่อมฉันย่อมห่วงใยพระองค์ที่สุดอยู่


แล้วเพคะ ไม่อย่างนั้น ทาไมพอได้ยนิ ว่าทรงประชวรถึงได้รีบร้อนมาเฝ้าละเพคะ~ พระองค์ก็ทรงทราบดี หม่อมฉัน
และฝ่ าบาทผูกพันฉันแม่ลูกอย่างลึกซึ้ง ไหนเลยจะอยากปล่อยให้ทรงทุกข์ทรมานได้"

สายตาของนางเปี่ ยมไปด้วยความห่ วงใย กล่าวต่อไปว่า "ฝ่ าบาท พระองค์ทรงเป็ นอะไรไปเพคะ หม่อมฉันกังวล


แทบตายแล้ว"

จีเฉวียน "........" หากไม่ใช่วา่ เขาจาได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อคืนนี้เป็ นนางที่เอารองเท้าตบตีเขา เขาคงถูกท่าทางของ


นางที่'ข้าไม่รู้เรื่ องจริ งๆ ' หลอกลวงเข้าให้แล้ว

"ดูท่าเจ้าจะความจาไม่ดี บังเอิญจริ งหัวหน้าแพทย์ประจาสานักแพทย์หลวงอยู่ที่นี่พอดี" จีเฉวียนตรัสพลาง สาย


พระเนตรก็กวาดไปยังหัวหน้าแพทย์ที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้น " หมอหลวงซุน เจ้าไปฝังเข็มให้ไทเฮาสักสองเล่ม"
ตรัสแล้ว ก็ไม่ลืมเน้นย้าอีกประโยค "ไทเฮาพระชนม์มากแล้ว เจ้าปักให้ลึกหน่อย ไม่อย่างนั้นความจาของนางจะ
ไม่ฟ้ื นฟู"

ตู๋กูซิงหลัน "!!! " เชี่ย เจ้ าหมาจิ ง้ จองจอมอาฆาต! นางไม่ควรช่วยเขาไว้เลย!

ประเด็นที่สาคัญคือ นางพึ่งจะอายุสิบห้าปี ไม่ใช่หรอ? เอาที่ไหนมาพูดว่าสู งวัย?

เหล่าพระสนมทั้งหลาย "??? " ทาไมตั้งแต่เข้ามาในนี้พวกนางก็เสมือนไม่มีตวั ตนเลย.......... ความสนพระทัย


ทั้งหมดของฝ่ าบาทมีแต่นงั คนน่ารังเกียจนัน่

หมอหลวงซุนถึงกับเหงื่อออกท่วมหัว คนเป็ นหมอหลวงอย่างพวกเขา เกิดเรื่ องอะไรขึ้นก็เป็ นต้องถูกฝ่ าบาทเรี ยก


ให้ถือหัวตัวเองมาเข้าเฝ้า สั่งประหารเก้าชัว่ โคตร........พูดไปแล้วช่างน่าปวดร้าวใจยิง่ นัก

สงสัยชาติก่อนเคยเป็ นคนฆ่าหมู ชาติน้ ีเลยต้องมาชดใช้กรรมด้วยชีวิต

ยามนี้ก็จะให้เอาเข็มไปปั กไทเฮา? คิดว่าเขาไม่อยากรักษาหัวตัวเองแล้วหรื อไง? เห็นอยูช่ ดั ๆ ว่าคุณชายใหญ่ต๋ กู ู


ใกล้จะกลับถึงเมืองหลวงแล้ว .....หากว่าเขาไปทาร้ายไทเฮา คุณชายใหญ่คงชักเอาดาบวิเศษมาปาดคอเขาแน่ เชื่อไหม?

"ยังไม่รีบไปอีก! หรื อจะให้เราลงมือเอง? "

"พะยะค่ะๆๆ! " หมอหลวงซุนรี บร้อนถอยออกไป ล้มลุกคลุกคลานไปที่เบื้องหน้าตู๋กูซิงหลัน น้อมคานับนาง


"ไทเฮาพะยะค่ะ โปรดทรงอนุญาตให้กระหม่อมจับชีพจรถวาย......"

"จับชีพจรอะไร ปักลงไป! " ฝ่ าบาททรงพิโรธแล้ว

เหล่าพระสนมต่างก็เฝ้าดูอยู่ คิดอยูแ่ ล้วว่าสตรี น่ารังเกียจนี้คงจะไปทาอะไรให้ฝ่าบาทพิโรธเข้า ฮิฮิๆ ไม่น่าละ นาง


ถึงได้ทาท่ากระบิดกระบวยยามที่จะมาเข้าเฝ้า ที่แท้ฝ่าบาททรงเตรี ยมจะลงโทษนางอยูแ่ ล้ว

วันนีค้ งมีงิว้ สนุกๆ ให้ ดูแน่ ๆ

ฉี ผินและเต๋ อเฟยต่างก็สะกดใจดูอยู่
"อ๋ ายโยว ฝ่ าบาทของหม่อมฉัน พระองค์กาลังประชวรอยู่ อย่าได้ทรงมีโทสะสิ เพคะ ก็แค่ฝังเข็มเท่านั้นเองไม่ใช่
หรอ ไม่ตอ้ งให้หมอหลวงซุนลงมือ หม่อมฉันจัดการเองได้ " ตู๋กูซิงหลันพูดแล้วก็ไปคว้าเอาเข็มมาจากหมอหลวงซุน

ท่ามกลางสายตาของคนทั้งหลาย นางไม่พูดพร่ าทาเพลงก็เอาเข็มปักลงไปบนแขนของตัวเอง เข็มเล่มยาวถูกปั กลง


ไปครึ่ งหนึ่ง ดูอย่างไรก็ตอ้ งเจ็บปวด

หมอหลวงซุน "!!! " แม่ จ๋า! ขอบพระทัยไทเฮาที่ทรงช่ วยชีวิต

ตู๋กูซิงหลันขมวดคิ้วแน่น เจ็บจริ งโว้ ย

หากจะรอให้หมอหลวงซุนเอาเข็มมาปักนาง ก็ให้นางลงมือซะเองดีกว่า ภูติผีถึงจะรู ้วา่ หมอหลวงซุนนัน่ อาจจะ


ลอบลงมืออามหิ ตก็ได้ ลงมือเองก็คงไม่บาดเจ็บไปถึงไหนหรอก

ครั้นแล้วนางก็ฝืนยิ้มส่ งไปยังจีเฉวียนที่ประทับอยูห่ ลังม่าน "ฝ่ าบาท ทอดพระเนตรดูลึกพอไหมเพคะ หากไม่ลึก


พอ หม่อมฉันยังสามารถแสดงกลกลืนดาบวิเศษอะไรพวกนั้นได้อีก...."

ฮ่องเต้ผทู ้ รงมีโทสะอยูต่ ลอด ตอนนี้แม้แต่หมัดในมือก็กาเสี ยแน่นขึ้นไปอีก

เขาพบว่าตู๋กูซิงหลันผูน้ ้ ี มีพรสวรรค์ในการยัว่ โมโหผูค้ นอย่างที่สุด!

"ดี เราอยูม่ ายีส่ ิ บกว่าปี ยังไม่เคยได้ยนิ คาขอที่ฟังแล้วน่าสบายใจเช่นนี้ มาก่อน " ครู่ หนึ่ง เขาก็ยกยิม้ เย็น คลาย
กาปั้นออก "ให้ตามที่เจ้าขอ เราจะสนับสนุนเจ้า ใครก็ได้ ไปเอาดาบวิเศษ...."

ตู๋กูซิงหลันอยากจะกัดลิน้ ตนเองนัก ทาไมนางถึงได้ ปากไวอย่ างนีเ้ หอ?

จีเฉวียนยังตรัสไม่จบ นางก็รีบร้อนพูดแทรกขึ้นมา "ฝ่ าบาท! เหล่าพระสนมยังคุกเข่าอยูเ่ ลย! พระองค์จะพระทัย


ร้ายปล่อยให้สตรี งดงามปานบุปผาเหล่านี้ตอ้ งลาบากได้อย่างไร! หม่อมฉันดูจนปวดใจแล้ว"

" โดยเฉพาะเต๋ อเฟยน้อยของข้า! ช่วงขาที่เรี ยวยาวงามเช่นนี้ หากว่าคุกเข่าจนเจ็บป่ วยไป ฝ่ าบาท จะไม่ทรงปวดใจ


หรื อเพคะ? "
เต๋ อเฟย "........" ใช่อยูน่ างคุกเข่าจนหัวเข่าปวดร้าว แต่วา่ ตู๋กูซิงหลันอาศัยฐานะอะไรมาขอร้องแทนนาง?

หากไม่ใช่เพราะมีตวั น่ารังเกียจอย่างมันอยู่ ฝ่ าบาทไหนเลยจะละเลยนางเช่นนี้?

"ฝ่ าบาท ไทเฮาของพวกเราทรงมีความสามารถมากนัก ไม่เพียงเล่นกลปั กเข็มกลืนดาบ เมื่อพักก่อนที่ตาหนักเฟิ่ ง


หนิง หม่อมฉันก็ถูกพระองค์ตบตีทาร้าย" ฉี ผินประคองมุมปาก กิริยาประหนึ่งจะตายจากไปเดี๋ยวนี้แล้ว

จีเฉวียนหรี่ พระเนตรลง กวาดตาไปยังตู๋กูซิงหลันที่อยูน่ อกม่าน สตรี ผนู ้ ้ นั แม้แต่กบั ตัวเขายังกล้าลงมือ นางเป็ นแค่
สนมผินคนหนึ่งนับเป็ นอะไรได้

"ในวังแห่งนี้ เจ้าถึงกลับไม่เกรงกลัวฟ้าดินไม่มีระเบียบใดๆ เลยรึ ! " จีเฉวียนเสี ยงเข้ม แล้วทรงหันไปทางพระ


สนมทั้งหลายตรัสว่า "ทั้งหมดลุกขึ้นได้"

"ขอบพระทัยฝ่ าบาท" พระสนมทั้งหลายค่อยลุกขึ้นยืน ต่างค้อนควักใส่ ต๋ กู ูซิงหลัน หากไม่ใช่เพราะคนที่น่า


รังเกียจนี้ พวกนางจะต้องมาคุกเข่านานขนาดนี้เลยหรอ

คอยดูเถอะ สิ่ งใดที่นางทาไว้ยอ่ มต้องออกผล ก่อเรื่ องยัว่ ยุโทสะฝ่ าบาทไว้ คราวนี้ นางต้องตายแน่!
ตอนที่ 38 ลูกชายเป็ นคนโมโหร้ าย

"ฝ่ าบาท ร่ างกายของพระองค์เป็ นเช่นไรเพคะ? หม่อมฉันกังวลเหลือเกิน " เวลานั้นเต๋ อเฟยพลันถามขึ้นเบาๆ

เต๋ อเฟยพึ่งพูดจบ ก็พลันได้ยินเสี ยงฮ่องเต้รับสั่งจากด้านในว่า "เจ้าเข้ามา"

พระสนมทั้งหลายต่างก็มองเต๋ อเฟยด้วยสายตาอิจฉา สมแล้ว เต๋ อเฟยแตกต่างจากผูอ้ ื่นจริ งๆ เพียงกล่าวประโยค


เดียวก็ทาให้ฝ่าบาทเรี ยกนางเข้าไปหา ช่างเป็ นเกียรติอะไรเช่นนี้

หากพวกนางคอยติดตามเต๋ อเฟยไว้ จะต้องไม่ผิดแน่ เกรงว่าหลังจากวันนี้ไป เต๋ อเฟยคงจะกลายเป็ นสตรี คนแรก


ของวังหลังที่ได้ถวายตัวเป็ นแน่

แล้วดูต๋ กู ูซิงหลันสิ ได้พูดคุยกับฝ่ าบาทตั้งมากมายแล้วอย่างไร? เกรงว่าฝ่ าบาทไม่ทรงอยากพบนางแม้แต่นอ้ ย หึ หึ


ยังกล้าหน้าด้านยืนอยูต่ รงนี้อีก หากว่าพวกนางเป็ นนางละก็ ตอนนี้เกรงว่าคงอยากจะเอาผ้าผูกคอตายไปแล้ว

เต๋ อเฟยหน้าแดงระเรื่ อ ค่อยๆ ขยับเดินไปทางด้านหลังม่าน ถึงแม้ฝ่าบาทจะไม่เคยสัมผัสตัวนางมาก่อน แต่นางรู ้ดี


ว่า ในพระทัยของฝ่ าบาทมีนางอยูแ่ น่นอน

นางงดงามกว่าผูใ้ ด อุปนิสัยอ่อนโยน ช่างเอาอกเอาใจ แต่ไหนแต่ไรไม่ชมชอบแก่งแย่ง ยิง่ มีชาติตระกูลดีงาม ฝ่ า


บาทไหนเลยจะไม่ชื่นชอบนาง

อาศัยช่วงเวลาที่ร่างกายฝ่ าบาทต้องการพักฟื้ น คอยดูแลพระองค์ให้ดี ฝ่ าบาทก็จะยิง่ รู ้จกั นางดีข้ นึ อีกหน่อย....ก็จะ


สามารถยึดครองพระทัยของพระองค์ได้

พอนางยืน่ มือออกไปจะเปิ ดม่านไข่มุกเหล่านั้น

สายพระเนตรของจีเฉวียนก็กวาดมาที่นาง เต็มไปด้วยความเย็นชาสุ ดแสน "เต๋ อเฟย เราเรี ยกเจ้า ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? "

มือของเต๋ อเฟยที่เปิ ดม่านไปครึ่ งหนึ่ งก็แข็งค้างไปแล้ว นางหยุดยืนด้วยความอับอาย

ฝ่ าบาท.....ไม่ได้เรี ยกนางหรื อ?
ทุกคนต่างชะงักค้างไปแล้ว

ไม่รอให้พวกนางได้สติกลับมา ก็ได้ยนิ ฝ่ าบาทรับสัง่ ว่า "ตู๋กูซิงหลัน เจ้าไม่ได้ยินคาพูดของเราหรื อไง"

ตู๋กูซิงหลัน " หื ม? เรี ยกข้าอยูห่ รอ? "

เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ชอบทาให้คนเข้าใจผิดอยูเ่ รื่ อย เมื่อครู่ เรี ยกเต๋ อเฟยให้เข้าไปหาอยูช่ ดั ๆ ไม่ใช่รึ?

"ไม่เรี ยกเจ้าแล้วจะเรี ยกหมาที่ไหน? " จีเฉวียนทรงหงุดหงิดยิง่ นัก ตอนนี้เขาอยากจะเรี ยกนางเข้ามาเตะหนักๆ


สักครั้ง

ประโยคนี้ ราวกับแทงเข้าไปในหู ตบลงไปบนหน้าของเต๋ อเฟย ฝ่ าบาททรงด่าว่านางเป็ นสุ นขั หรื อ?

เพื่อตู๋กูซิงหลันแล้ว ถึงกับด่าว่านางเป็ นสุ นขั ตัวหนึ่ง!

ยามนี้นางคิดจะยกมือขึ้นก็ไม่ได้ เอามือลงก็ไม่กล้า

"ยังไม่มาอีก? " ฝ่ าบาททรงคารามดัง่ ราชสี ห์โมโหร้าย ขอเพียงตู๋กูซิงหลันทาสิ่ งใดผิดพลาดแม้เพียงน้อยนิด มีอนั


ต้องโดนเขมือบแน่

คนทั้วหมดต่างก้มศีรษะให้ต่าลงไปอีก ระมัดระวังจนแม้ลมหายใจก็ไม่กล้าผ่อนออก

ตู๋กูซิงหลันได้แต่จาใจรุ ดหน้าขึ้นไป เดินจนถึงข้างกายเต๋ อเฟย นางจงใจลูบคลามือของเต๋ อเฟอ "ลูกสะใภ้เต๋ อเฟย


เจ้าอย่าได้คิดมาก ลูกชายข้าก็เป็ นคนโมโหร้ายแบบนี้"

แม้ยามปกติเต๋ อเฟยจะสงบนิ่งอยูเ่ สมอ แต่ตอนนี้กลับมีไฟโทสะขุมหนึ่งพวยพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่ก่อนยามที่ต่างก็เป็ น


คุณหนูสูงศักดิ์ในหอห้อง ตู๋กูซิงหลันก็น่ารังเกียจมากพออยูแ่ ล้ว ยามนี้นางเข้าวังมา ยิง่ ทาให้ผคู ้ นอยากจะอาเจียน!

มารยาสาไถ! น่ าขยะแขยงที่สุด!

เต๋ อเฟยข่มอารมณ์โกรธลงไป ค่อยยิม้ ออกมาบางๆ "ไทเฮา เพคะ เชิญ........"


พูดแล้ว นางก็ถอยไปด้านข้างก้าวหนึ่ง พลางส่ งสายตาให้ฉีผิน

ชัว่ ขณะที่ต๋ กู ูซิงหลันกาลังจะหมุนตัวนั้นเอง ก็เห็นฉี ผินผลุนผลันเข้ามา กวาดมือขึ้นกระตุกผ้าคลุมหน้าของนางทิง้


ทั้งยังกระแทกฝ่ ามือใส่ แผ่นหลังของตู๋กูซิงหลันอีกหนึ่งฝ่ ามือ เพียงฝ่ ามือเดียวก็ผลักตู๋กูซิงหลันเข้าไป

ตู๋กูซิงหลัน'หยุดไม่อยู'่ ร้องอย่างตกใจคาหนึ่ ง ถูกแรงนั้นลอยถลาเข้าสู่ ภายใน

เห็นเบื้องหลังของนางที่เสี ยท่าอย่างน่าอนาถ มุมปากของฉี ผินก็ยกยิม้ อย่างสะใจ ส่ งเสี ยงราวประหลาดใจว่า "ย่าห์


ไทเฮาเพคะ อย่าทรงรี บร้อนเพคะ...."

เฮอะๆ นังคนทุเรศ เจ้าเผยโฉมสุ ดอัปลักษณ์น่ารังเกียจต่อหน้าฝ่ าบาท ทาให้ทรงตกพระทัย คราวนี้วนั ดีๆ ที่


เหลืออยูข่ องเจ้าก็หมดลงแล้ว!

มุมปากของเต๋ อเฟยเองก็ยกขึ้นคราหนึ่ง แล้วค่อยจางหายอย่างรวดเร็ ว

ฉี ผินจะอย่างไรนับว่าเป็ นคนเคยเรี ยนวรยุทธ์มา ฝ่ ามือนี้ดูไม่คล้ายใช้กาลังอันใด แต่พลังแฝงกลับไม่เบา ตู๋กูซิงห


ลันรั้งไว้ไม่อยู่ กลับถูกแรงนั้นส่ งไปกองที่เตียงบรรทมของฝ่ าบาท

ศีรษะของนางกระแทกใส่ พระอุระของฝ่ าบาทอย่างรุ นแรง เดิมทีจีเฉวียนเองก็ทรงอ่อนแอเพราะถูกพิษ ครั้นถูก


กระแทกลงมาอย่างหนัก ก็อดไม่ไหวร้องอย่างจุกเจ็บคาหนึ่ ง

"ฝ่ าบาท! " เต๋ อเฟยและฉี ผินได้ยนิ ก็เปิ ดม่านผลุบเข้าไป

พระสนมอื่นๆ ก็รีบมาดูถึงหน้าม่าน ด้วยความอยากรู ้วา่ เกิดอะไรขึ้น

แต่สิ่งที่ปรากฎสู่ สายตากลับเป็ นพระพักตร์ที่มีบาดแผลฟกช้ าเต็มไปหมด แถมยังดาคล้ า!

"อ้า......ไงจึงเป็ นเช่นนี้ คนที่เสี ยโฉมสมควรจะเป็ น......." ฉี ผินไม่ทนั หายใจ ก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ

ดีที่เต๋ อเฟยปฎิกิริยาว่องไว คว้าท่อนแขนของนางไว้ ฉี ผินหลัง่ เหงื่อเย็นท่วมตัว รี บปิ ดตาเอาไว้


แต่อย่างไรนางยังคงถูกภาพเบื้องหน้าทาให้ตระหนกแล้ว พระพักตร์ของฝ่ าบาท.....ทาไมถึง?

ขณะที่นางกาลังตกอกตกใจอย่างที่สุดนั้น ก็เหลือบเห็นตู๋กูซิงหลันที่เดิมหันหลังให้ หันหน้ากลับมาคลี่ยมิ้ งดงาม


ล่มบ้านล้างเมือง "หื ม? ฉะนั้นคนที่สมควรจะเสี ยโฉมคือใครหรื อ? "

ฉี ผินตอนนี้ บา้ ใบ้ไปแล้ว .......นางอดไม่ไหวสองมือกาหมัดแนบแน่น ยามนี้ จึงจะเข้าใจ ที่แท้แล้วตั้งแต่แรกนั้น นัง


คนน่ารังเกียจนี่เล่นละครมาโดยตลอด!

มันตั้งใจปิ ดบังโฉมหน้ า เพื่อให้ พวกนางเข้ าใจผิดไปว่ ามันเสี ยโฉม!

ที่แท้ก็เป็ นเช่นนี้ นังคนน่ารังเกียจ .........มันขุดหลุมพรางเอาไว้แต่แรก รอให้พวกนางกระโดลงไป

"เป็ นเจ้า? " ทันใดนั้น ฮ่องเต้ที่พระพักตร์ดาเป็ นก้นหม้อพลันตรัสออกมา สายพระเนตรที่เย็นเยียบราวกับดาบ


เหมันต์เล่มหนึ่ งแทงทะลุฉีผินออกไป

ฉี ผินตระหนกจนคุกเข่าลงไปกระแทกพื้นเสี ยงดัง "ฝ่ าบาท หม่อมฉันไม่รู้เรื่ องอะไรจริ งๆ เพคะ เพียงแต่วนั นี้เห็น


ไทเฮาปิ ดบังโฉมหน้ามาตลอด เลยคิดว่าใบหน้านางเป็ นอะไรไป....หม่อมฉันกังวลใจจึงว้าวุน่ หม่อมฉันถูกปรักปรา"

ฉี ผินน้ าตาไหลพราก ทาท่าจะคลานเข่าเข้ามาหาจีเฉวียน

"ข้าเพียงแต่ถูกเกสรดอกไฮ่ถางทาให้ระคายเคืองเล็กน้อย ก็เลยปิ ดปากและจมูกไว้ กลับเป็ นเจ้าฉี ผิน พยายาม


กระชากผ้าปิ ดหน้าของข้าอยูห่ ลายครั้ง เพราะอยากเห็นว่าใบหน้าของข้าเน่าเละเทะถึงเพียงใด"

"ไทเฮาทรงตรัสเรื่ องอะไร หม่อมฉันฟังไม่เข้าใจ" ฉี ผินยังนับว่ามีปฎิกิริยาว่องไว ถึงแม้เวลาคับขันนางจะตกใจ


จนสะดุง้ ไปทั้งร่ าง แต่ยงั สามารถกลับมาสงบนิ่ งลงได้

ตู๋กูซิงหลันยิ้มเย็น ยามนี้ดวงตาดอกท้อของนางคมกริ บเกินใดเปรี ยบ ราวกับคว้านลงไปบนตัวฉี ผินรู หนึ่ง หันไป


กล่าวกับจีเฉวียนว่า "ดูท่าแล้ว ฉี ผินเองก็อายุมากแล้ว สมองไม่ดีเท่าไหร่ อย่างไรฝ่ าบาททรงเรี ยกหมอหลวงซุนมาฝังเข็ม
ให้นางสักหลายเล่ม บางทีนางอาจเข้าใจขึ้นบ้าง"
จีเฉวียนทอดพระเนตรมองสตรี ที่ยงั หมอบอยูบ่ นข้างเตียงบรรทม ตอนนี้เขาพยายามหักห้ามความคิดที่จะสับนาง
เป็ นหมื่นชิ้นอย่างที่สุด สตรี ที่สมควรตาย ช่างเจ้าเล่ห์เพทุบายที่สุด!

รอให้เรื่ องนี้ผา่ นไปก่อนเถอะ เขาจะต้องทาให้นางได้เห็นดีแน่!

เขาไม่สนใจตู๋กูซิงหลันแม้แต่น้อย สายพระเนตรหงส์คู่น้ นั จับจ้องฉี ผินอย่างเลือดเย็น "ถึงกับกล้าโกหกต่อหน้าเรา


เจ้ารู ้ผลลัพธ์ดีวา่ เป็ นเช่นไร? "

น้ าเสี ยงของฝ่ าบาทไม่ได้รุนแรง แต่กลับทาให้ฉีผินสะท้านอย่างเหน็บหนาว หรื อว่าฝ่ าบาททรงดูนางออกตั้งแต่


แรก ขอเพียงนางกล้าโกหกแม้สักครึ่ งคา ก็จะให้นางไม่ตายดี

"หม่อมฉัน....หม่อมฉัน...." นางหวาดกลัวแล้ว แม้แต่เสี ยงที่พูดออกมายังสั่นสะท้าน ได้แต่โกรธตัวเองที่โง่เขลา


เกินไป เมื่อครู่ ถึงได้หลงกลของตู๋กูซิงหลันไม่ทนั ทาอะไรก็สารภาพออกมาเอง ยามนี้ไม่รู้วา่ ควรจะเอาตัวรอดอย่างไร
ตอนที่ 39 ความแตกต่ างของหิงห้ อยและแสงจันทร์

คราวนี้ แม้แต่เต๋ อเฟยเองยังไม่กล้าออกตัวช่วยเหลือฉี ผิน

ฝ่ าบาททรงพระปรี ชาเกินคน ขอเพียงนางแสดงออกแม้เพียงเล็กน้อย เกรงว่าฝ่ าบาทก็คงจับสังเกตได้ทนั ที

นางได้แต่ซ่อนมืออยู่ใต้แขนเสื้ อ กาหมัดทั้งสองจนแนบแน่น ไม่กล้าเปล่งเสี ยงแม้แต่นอ้ ย

"เต๋ อเฟยเพคะ ท่านเองก็ทราบดี หม่อมฉันเป็ นคนดีมีน้ าใจมาโดยตลอด ไม่มีทางทาเรื่ องชัว่ ร้ายได้เด็ดขาด ท่าน
โปรดช่วยขอร้องฝ่ าบาทแทนหม่อมฉันด้วยเพคะ~" ฉี ผินไม่รู้จะแก้ตวั ต่อฮ่องเต้อย่างไรดี ได้แต่หนั มาขอร้องต่อเต๋ อ
เฟย

เต๋ อเฟยยืนห่างจากนางไม่มาก มือที่อยู่ใต้แขนเสื้ อกาหมัดแล้วกาอีก ในใจก่นด่าฉี ผินที่โง่เง่า แต่ตนเองไม่อาจไม่


พูดอะไร "ฝ่ าบาท ถึงแม้วา่ หม่อมฉันไม่ทราบว่าที่จริ งเกิดเรื่ องอันใดขึ้น แต่วา่ ตลอดมาน้องสาวฉี ผินเรี ยบร้อยรู ้จกั เชื่อฟัง
บางทีอาจมีเรื่ องเข้าใจผิดอันใดก็ได้? "

"เฮอะ " จีเฉวียนทรงพระสรวลเสี ยงเย็นออกมา หันไปทอดเนตรมองเต๋ อเฟยเล็กน้อย " ดูท่าพูดแล้ว เรื่ องนี้สนมรัก
ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย? "

ถึงแม้ต๋ ูกูซิงหลันจะน่ารังเกียจอย่างที่สุด แต่วา่ ตามจริ งแล้ว ที่พระองค์ตอ้ งกลายเป็ นปากเจ่อหน้าเละ ต้นเหตุลว้ น


มาจากเจ้ายุงพิษตัวใหญ่นนั่

พระองค์พ่ งึ ขึ้นครองราชย์ วังหลังก็เละเทะวุน่ วายขนาดนี้เสี ยแล้ว หากไม่จดั การสะสางให้เรี ยบร้อยสักครั้ง


บ้านเมืองจะยังมีกฎระเบียบอยู่อีกหรื อ?

พอเขาตรัสออกไป ดวงตางดงามดัง่ ลูกแก้วของเต๋ อเฟยก็มีน้ าตาคลอหน่วย นางคุกเข่าลงเสี ยงดังที่เบื้องพระพักตร์


"ฝ่ าบาท หม่อมฉันถือศีลกินเจมาตั้งแต่เล็ก แม้แต่มดตัวหนึ่งยังไม่กล้าเหยียบ นับตั้งแต่ตนเองเข้าวังมา เคยมีใจคิดอกุศล
ที่ไหนกัน? ฝ่ าบาทเข้าใจหม่อมฉันผิดไปเช่นนี้ หม่อมฉันสุ ดที่จะ.....ที่จะ..."

พูดแล้ว น้ าตาของนางก็รินไหลหยาดหยดเป็ นสาย ท่าทางที่ชอกช้ าเพราะถูกปรักปราช่างน่าเห็นใจยิง่ นัก


จีเฉวียนขมวดคิ้วขึ้นมา เขายังไม่ทนั จะตรัส ก็เห็นตู๋กูซิงหลันลุกขึ้นเดินเข้าไปอยูข่ า้ งๆ เต๋ อเฟย ขณะเดียวกัน
วิญญาณทมิฬที่แฝงอยูใ่ นเงาของนาง ก็กระโดดไปเกาะฉี ผินอย่างเงียบเชียบ

ความสนใจของผูค้ นทั้งหมดพุ่งไปยังตัวตู๋กูซิงหลันและเต๋ อเฟย จึงไม่มีใครสังเกตเห็นแววตาของฉี ผินที่


เปลี่ยนเป็ นว่างเปล่าไปแล้ว

ตู่กูซิงหลันคว้ามือของเต๋ อเฟยไว้เอ่ยอย่างปวดใจว่า "คนงามเอ๋ ย เจ้าอย่าได้ร้องไห้อีกเลย ใจของข้าจะสลายอยูแ่ ล้ว"

เต๋ อเฟย "....."

"หากเจ้ายังร้องไห้อีก ข้าก็คงต้องร้องตามไปด้วย " ตู๋กูซิงหลันพูดไป ดวงตาก็เริ่ มเปี ยกชื้นขึ้นมา

ถึงแม้เต๋ อเฟยจะมีรูปโฉมงดงาม แต่เมื่อเปรี ยบเทียบกับตู๋กูซิงหลันแล้ว ก็เป็ นได้แค่หิ่งห้อยกับแสงจันทร์เท่านั้น

หากจะเทียบความน่าสงสาร น้ าตาหยดเดียวของตู๋กูซิงหลันก็เหนือกว่านางร้อยพันเท่า

ยิง่ เทียบกันเรื่ องการแสดงแล้ว ....ตู๋กูซิงหลันในโลกก่อน เบื้องหลังคือสุ ดยอดปรมจารย์นกั พรต เบื้องหน้าคือดารา


จอเงินอันดับหนึ่ งของแผ่นดินใหญ่ เต๋ อเฟยจะเอาที่ไหนมาสู ้กบั นางได้?

บนแท่นบรรทม พระพักตร์ของจีเฉวียนยิง่ ทียิ่งมืดคล้ า ทรงทอดพระเนตรเห็นตู๋กูซิงหลันกุมมือเต๋ อเฟยอย่างแนบ


แน่น ก็อดคิดถึงตอนอยูท่ ี่ทะเลสาบหยูจ่ ื่อถานไม่ได้ มือคู่น้ นั ก็เกาะกุมพระบาทของพระองค์เอาไว้แบบนี้

สตรี ผนู ้ ้ ี! ถึงกับเอามือที่เคยกุมเท้าของเขาไว้ ไปสนิทสนมใกล้ชิดกับพระสนมของเขา!

ล่อลวงเขาแล้วยังไม่เพียงพอ ตอนนี้แม้แต่พระสนมของเขาก็ไม่มีเว้น มือคู่น้ นั สมควรตัดทิ้งส่ งไปเลี้ยงสุ นขั ดูสิวา่


นางจะไปทาเจ้าชูก้ บั ใครได้อีก

โทสะของฮ่องเต้วนเวียนอยูใ่ นพระเศียร ข่มไม่ลงระบายไม่ออก ได้แต่วนอยูท่ ี่นาง

ตู๋กูซิงหลันกลับไม่รู้ตวั แม้แต่น้อย ยังคอยลูบไล้มือเต๋ อเฟยปลอบประโลมไม่ ห่าง "คนที่งดงามน่าดูเช่นเจ้า แน่นอน


ว่าไม่มีทางปล่อยยุงมากัดฝ่ าบาทหรอก"
พอพูดออกไป ก็ได้ยนิ ฉี ผินที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้นเถียงกลับขึ้นมาทันที "เห็นชัดๆ ว่ามันคือ ผึ้งพิษ...."

คาพูดนี้พอหลุดออกไป ในสมองนางก็มีเสี ยงวิง้ คราหนึ่งแววตาที่วา่ งเปล่าหายไปในทันที สมองก็เปลี่ยนเป็ น


ปลอดโปร่ งขึ้นมา

เพียงแต่ยามนี้นางอยากจะกัดลิ้นหรื อไม่ก็แขวนคอตัวเองนัก เกิดอะไรขึ้น? ทาไม่นางถึงได้โง่งมอย่างนี้....ถึงกับ


เผยพิรุธออกไปเองอีกครั้ง

เมื่อครู่ .....เมื่อครู่ เกิดอะไรขึ้นกับนาง?

"เอ๋ ? ที่แท้เป็ นผึ้งหรอกหรอ น่ากลัวจังเลยอะ...." คราวนี้ ตู๋กูซิงหลันยกยิม้ เย็น จ้องมองฉี ผินอย่างลึกซึ้ง

วิญญาณทมิฬแคะหูอย่างสบายอารมณ์ ค่อยกระโดดผลุบกลับเข้ามาในเงาของนาง

นังหนูนี่ช่างหาเรื่ องให้ยงุ่ ได้ตลอดจริ งๆ ต้องให้จอมภูติอย่างอัว๋ ลงมืออยูเ่ รื่ อย! ดีที่แม่สนมฉี ผินนั้นพึ่งถูกเจ้าฮ่องเต้


สุ นขั ตะคอกใส่ จนขวัญบินสติกระเจิง มันจึงสามารถเข้าไปคุมจิตของนางได้อย่างง่ายดาย

หึ กลับไปจะต้องให้นงั หนูต๋ กู ูซิงหลันเลี้ยงดูปูเสื่ อมันอย่างดีเสี ยหน่อย

ฉี ผินราวกับคนที่โดนสวรรค์ลงทัณฑ์ นางทรุ ดลงกับพื้นอยูพ่ กั ใหญ่ก็ยงั ไม่รู้สึกตัว

รอจนนางเริ่ มคิดได้ สายพระเนตรน้ าแข็งของฝ่ าบาทก็แช่แข็งนางไปแล้ว

"ไม่ใช่ขา้ ไม่ใช่ขา้ นะ......ฝ่ าบาท โปรดฟังหม่อมฉันอธิ บาย...." ฉี ผินละล่าละลัก นางไม่กล้าสบพระเนตร จึงหัน


มาหาเต๋ อเฟยแทน

คิ้วทั้งคู่ของเต๋ อเฟยแทบผูกติดกันเป็ นโบว์ นางคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะมีพรรคพวกเป็ นคนโง่เช่นนี้!

นางน้ าตาคลอมองฉี เฟยด้วยสายตาที่เย็นเฉี ยบ ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้นยังแฝงไว้ดว้ ยกลิ่นไอพิฆาต


ฉี ผินชะงักไปแล้ว คนทรุ ดไปกองกับพื้นทั้งตัว พูดพลางน้ าตาไหล "ฝ่ าบาท พระองค์ก็ทรงรู ้ แม้แต่สุนขั หม่อมฉัน
ยังไม่เคยเลี้ยง แล้วจะเลี้ยงผึ้งพิษไว้ได้อย่างไรกัน......ในวังหลังนี้ คนที่ชอบเลี้ยงงู หนู แมลงพิษคือใคร หรื อพระองค์ไม่
ทรงทราบ? "

ฉี ผินพูดออกไป พระสนมทั้งหลายพลันคิดถึงคนผูห้ นึ่ งขึ้นมา....หยวนเฟย

หยวนเฟยไม่เพียงเลี้ยงดูสัตว์พิษมากมาย พวกมันยังเชื่อฟั งคาพูดนางอีกด้วย

ฮ่องเต้หรี่ พระเนตรมอง แต่กลับไม่ตรัสสักคา

"ใช่แล้ว จะต้องเป็ นผึ้งพิษที่นางเลี้ยงไว้แน่....เมื่อวานหม่อมฉันบังเอิญเดินผ่านตาหนักเฟิ่ งหนิง เห็นผึ้งพิษตัวใหญ่


บินเข้าไป......." ฉี ผินรี บปิ ดปาก "หม่อมฉันยอมรับว่าตนเองไม่ชอบหน้าองค์ไทเฮา ดังนั้นจึงไม่ได้บอกแต่แรก.....หม่อม
ฉันมีความผิด...แต่หม่อมฉันอย่างมากสุ ดก็แค่นิ่งเฉยไม่สนใจ ไม่กล้าคิดมุ่งร้ายแม้แต่นอ้ ยเพคะ"

ฉี ผินก็ไม่ได้โง่เสี ยทีเดียว ถึงแม้วา่ เริ่ มแรกจะเป็ นตู๋กูเหลียนที่ออกความคิด แต่ตอนนี้นางกลับไม่กล้าลากตู๋กูเหลียน


ลงมาเปิ ดโปงด้วย หากตู๋กูเหลียนถูกบีบจนไร้หนทางขึ้นมา มีหวังอาจเปิ ดเผยเรื่ องไปถึงตัวนางและเต๋ อเฟยด้วย

เต๋ อเฟย.....ที่จริ งก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่ องนี้โดยตรง แต่ก็ปิดตาข้างลืมตาข้างมาโดยตลอด

สุ ดท้ายแล้วคนที่ตอ้ งดับอนาถก็คือตัวนางฉี ม่าน?

ยิง่ ไปกว่านั้น บิดาของนางก็ทางานอยูใ่ ต้บงั คับบัญชาของเต๋ อเฟย..........นางจะอย่างไรต้องคิดเผื่อคนในครอบครัว


ด้วย

เจ้าผึ้งพิษนั้น....เดิมทีก็เป็ นหยวนเฟยเลี้ยงเอาไว้ แผนสาดน้ าครานี้ ไม่เพียงนางจะรักษาตัวรอดปลอดภัย ยัง


สามารถลากหยวนเฟยมาลงน้ าได้ดว้ ย นับว่ายอดเยีย่ มยิง่

"ฮึ เจ้าช่างบังเอิญได้ดีเหลือเกิน" ตู๋กูซิงหลันยิม้ เย็น กุมมือเต๋ อเฟยไว้ไม่ปล่อยแม้แต่นอ้ ย


"ฝ่ าบาท เรื่ องนี้นบั ว่าแปลกประหลาดนัก บางทีอาจเป็ นความบังเอิญที่ผ้ ึงตัวหนึ่งบินเข้ามาในวัง สัตว์ป่าพวกนี้ไม่
มีจิตสานึ ก คนเราไหนเลยจะสามารถควบคุมบังคับได้? เต๋ อเฟยเอ่ยด้วยน้ าเสี ยงใสซื่อบริ สุทธิ์ ฉี ผินนับว่าไม่โง่จนเกิน
เยียวยา

โดยเฉพาะตัวการลงมือเป็ นเพียงผึ้งตัวหนึ่ง ต่อให้ฉีผินโง่งมจนยอมรับสารภาพ ก็ยงั ไม่มีหลักฐานประกอบอยูด่ ี

"ยิง่ ไปกว่านั้น น้องสาวหยวนเฟยบริ สุทธิ์ไร้เดียงสา หม่อมฉันเชื่อว่า นางไม่มีทางทาเรื่ องให้ร้ายผูอ้ ื่นเด็ดขาด"


เต๋ อเฟยพูดขึ้นอีก

เหล่าพระสนมทั้งหลายต่างมองนางด้วยสายตาเคารพยกย่อง พระสนมเต๋ อเฟยช่างมีเมตตาน้ าใจเอื้อเฟื้ อ เรื่ องถึง


ขนาดนี้แล้วยังหาทางออกให้ฉีผิน
ตอนที่ 40 พระสนมหยวนเฟย

เช่นนี้หยวนเฟยคือผูใ้ ดกัน? ดูท่าทัว่ ทั้งวังหลังไม่มีผใู ้ ดชื่นชอบนาง?

ตู๋กูซิงหลันอดใจไม่ไหวต้องมองเต๋ อเฟยให้นานขึ้นอีกนิด โฉมงามผูน้ ้ ีเพียงมีผิวหนังที่น่าดูอยู่ช้ นั หนึ่ง ก็คิดตั้งตน


เป็ น'คนดี' เช่นนี้ฉีผินผูโ้ ง่งมถูกขีดไว้ภายนอกก็กลายเป็ นไม่ใช่คนไปแล้ว

"ขอฝ่ าบาททรงพิจารณาด้วยเพคะ อย่าได้ปล่อยให้เกิดการปรักปราผูใ้ ด " เต๋ อเฟยกล่าวแล้วก็ถวายคานับจีเฉวียน


อีกครั้งหนึ่ง ดวงตาแวววาวราวลูกแก้วนั้นจริ งอกจริ งใจอย่างที่สุด

เหล่าพระสนมเห็นดังนั้น ก็รีบคุกเข่าลงไป ต่างกราบทูลว่า "ขอฝ่ าบาททรงพิจารณาด้วยเพคะ"

พวกนางต่างก็คุกเข่าอยูท่ ี่หน้าม่าน จึงมองไม่ชดั ว่าสี พระพักตร์ ของฝ่ าบาทเป็ นเช่นไร แต่เต๋ อเฟยมีน้ าหนักใน
พระทัยของฝ่ าบาทมาโดยตลอด ของเพียงทาตามเต๋ อเฟยไว้ ย่อมไม่มีทางผิดพลาดแน่

บนแท่นพระบรรทม จีเฉวียนทรงยิม้ เย็นอย่างไร้ที่มา

"เราไม่รู้เลยว่า เดี๋ยวนี้สนมรักอยูใ่ นวังหลังมีผคู ้ นสนับสนุนมากมายเพียงนี้"

ตรัสเพียงประโยคเดียวก็ทาให้เต๋ อเฟยหวาดหวัน่ ได้ทนั ที นางคุกเข่าหมอบราบ ศีรษะก้มต่าติดพื้นแล้ว "ฝ่ าบาท


ทรงเข้าพระทัยในตัวหม่อมฉันผิดไปแล้วจริ งๆ ....."

นางรู ้ดีวา่ ฝ่ าบาทไม่โปรดให้ให้วงั หลังแบ่งฝักฝ่ าย ลอบยุแยงก่อเรื่ อง

เต๋ อเฟยพูดจบ ก็มีเสี ยงเหยียดหยามของสตรี ผหู ้ นึ่งดังมาจากภายนอกตาหนักตี้หวั "ฝ่ าบาททรงปรักปราเจ้าหรื อไม่


ก็ไม่รู้ แต่ที่พวกเจ้าก่อเรื่ องใส่ ไคล้ขา้ จะว่าอย่างไร? "

ทุกคนต่างหันหน้ากลับไปมอง ถึงแม้ยงั ไม่เห็นตัวคน แต่ฟังจากน้ าเสี ยงก็รู้ดีวา่ ผูม้ าไม่ใช่บุคคลที่ใครก็จะผิดใจได้


โดยง่าย

ตู๋กูซิงหลันเองก็หนั ไปรอดู เมื่อมองผ่านม่านไข่มุกอยูค่ รู่ หนึ่งก็เห็นสตรี วยั เยาว์ในชุดชมพูเดินเขามาอย่างรี บร้อน


นางมีผิวสี น้ าตาลอ่อน แม้จะดูเข้มไปสักหน่อย แต่รูปโฉมก็งดงามนัก นัยตาแฝงประกายสี ม่วงเข้มอยูล่ ึกๆ ริ มฝี
ปาดแดงดุจชาด เป็ นนางมารน้องที่ขบถต่อธรรมเนียมตัวจริ งเลยทีเดียว

บนท่อนแขนที่เล็กบาง มีงูเขียวขนาดข้อนิ้วโป้งตัวหนึ่ งพันรอบอยู่ ยามนี้มนั กาลังยื่นหัวออกมาส่ งเสี ยง'ซี่ๆๆ '

พอสาวน้อยผูน้ ้ ีปรากฎตัวขึ้น สายตาของตู๋กูซิงหลันก็เกาะติดอยูบ่ นตัวนางแล้ว นางมารน้อยที่ราวกับเดินออกมา


จากภาพวาดคนนี้ เป็ นแบบที่นางชื่นชอบยิง่ นัก

ชาติก่อนเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี้คงทาบุญด้วยการช่วยโลกเอาไว้ ดูสตรี ในวังหลังของเขาสิ แต่ละคนนับเป็ นที่สุดของ


ที่สุด!

ตู๋กูซิงหลันได้แต่เกลียดที่ตนเองไม่ใช่บุรุษ ไม่เช่นนั้นนางจะต้องหาทางวางแผนกบฎล้มล้างเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี้เสี ย


จะได้โอบกอดหญิงงามทั้งหมดไว้ในอ้อมแขน

"เอ-ยะ พระสนมหยวนเฟย โปรดอย่าได้เสด็จเข้าไปเลย....." หลี่กงกงเหงื่ออกท่วมศีรษะ คิดรั้งแม่นางน้อยเอาไว้


แต่ขณะเดียวกันก็เกรงกลัวงูเขียวบนแขนของนาง ได้แต่ยนื ร้อนรนอยูด่ า้ นข้าง

หยวนเฟยไม่สนใจเขาสักนิด จัดแจงแง้มม่านไข่มุกเดินผ่านเข้าไป

เมื่ออ้อมผ่านเต๋ อเฟยและฉี ผิน นางจงใจเหล่ตามองพวกนาง ส่ งเสี ยง'ฮึ'อย่างไม่พอใจครั้งหนึ่ ง

ดวงตาเต๋ อเฟยมีเงาดาวาววับพาดผ่าน ใบหน้าที่ดูอ่อนแอเปราะบางกลับสะท้อนภาพเศร้าสร้อยไม่ได้รับความเป็ น


ธรรม

ฉี ผินเองก็กาหมัดขึ้นแน่น นังหยวนเฟยนัน่ .....ก็เป็ นตัวน่ารังเกียจอีกคน ดูดูนางแต่งกายเข้าสิ ช่างไม่มียางอายแม้


แต้นอ้ ย

ไยฝ่ าบาทจึงต้องเก็บนางไว้ดว้ ยนะ?


ครู่ ต่อมาหยวนเฟยถึงได้หันมาทางจีเฉวียนถวายคานับน้อยๆ "หม่อมฉันได้ยนิ ว่าฝ่ าบาททรงประชวร จึงมาเยีย่ ม
เยือนเป็ นพิเศษ คิดไม่ถึงกลับได้ยนิ ว่ามีคนสาดหมึกใส่ ความข้า หม่อมฉันจิตใจไม่สบาย ไม่รู้มารยาทบุกเข้ามา ขอฝ่ า
บาทอย่าได้ตาหนิ"

จีเฉวียนขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก สุ ดท้ายค่อยโบกมือขึ้นมา "ลุกขึ้นพูดเถอะ"

น้ าเสี ยงที่ตรัสคล้ายเกรงพระทัยอยูบ่ า้ ง

"ขอบพระทัยฝ่ าบาท" หยวนเฟยลุกขึ้น เดินขึ้นหน้าไปสองก้าว ถึงเบื้องหน้าตู๋กูซิงหลัน ยกข้อมือที่มีงูเขียวพันอยู่


ไปตรงหน้านาง พูดอย่างไม่เกรงใจว่า "ช่วยหลบไปหน่อย"

ตู๋กูซิงหลันชะงักไปเล็กน้อย มองดูดวงตาอาฆาตของงูเขียวที่น่ากลัว ก็หนั กลับมามองหยวนเฟยอีกครั้ง ค่อยยิม้ ขึ้น


อย่างไร้เรื่ องราว "น่ารักจริ ง"

หยวนเฟยไม่คิดมาก่อนว่านางจะมีปฎิกิริยาตอบกลับเช่นนี้ นางขมวดคิ้วนิ่ ง "เจ้าอย่าได้เสแสร้งแกล้งทาอยูเ่ ลย ต่อ


ให้เจ้าชมข้าจนลอยขึ้นฟ้า ข้าก็ยงั คงเกลียดเจ้าเหมือนเดิม"

พูดแล้วนางก็ยกมือขึ้น ต่างก็เห็นงูเขียวในมือของนางอ้าปากกว้างไปทางตู๋กูซิงหลัน เกือบจะฉกกัดนางอยูแ่ ล้ว

ก่อนที่งูตวั นั้นจะงับลงมา ตู๋กูซิงหลันพลันหมุนตัวถอยออกไปด้านหลัง หลบพ้นอย่างสวยงาม ค่อยพูดเสริ มขึ้นมา


ประโยคหนึ่ง "ข้าเพียงแต่บอกว่า เจ้าเขียวน้อยน่ารักมาก ไม่ได้ชมเจ้าสักหน่อย หยวนเฟยน้อย เจ้าคิดมากไปแล้ว"

พูดแล้วนางก็ยกนิ้วขึ้นมาลูบไล้ส่วนหัวของเจ้างูตวั เขียว อืม ผิวเย็นฉ่ า ลื่นมือดี ให้ความรู ้สึกไม่เลวเลย

เจ้างูเขียว "......" อื๋อ มันถูกลูบหั ว! อี๋ๆๆๆ สมควรตาย! เพียงแต่ความรู ้สึกแสนสบายเมื่อครู่ มนั คืออะไร?

หยวนเฟยขมวดคิ้วแน่น จนหน้าผากย่นเป็ นรอยสามเส้น สตรี ผนู ้ ้ ี........ไม่กลัวจริ งๆ หรื อ?

"เจ้ามาตั้งชื่อมัว่ ๆ ให้หวังไฉของข้าได้ยงั ไง ...." นางหงุดหงิดเล็กน้อย เดินไปยังตาแหน่งที่ต๋ ูกูซิงหลันยืนอยูเ่ มื่อครู่


ตู๋กูซิงหลันมองไปยังเจ้างูเขียว รู ้สึกเห็นใจมันอยูบ่ า้ ง หวังไฉเอ๋ ย..... (ชื่อหวังไฉ ก็ประมาณ สมหวัง บ้านเรา ^-
^)

หยวนเฟยไม่คิดจะยุง่ เกี่ยวกับตู๋กูซิงหลันมากเกินไป นางมองตรงไปยังจีเฉวียน ชะงักไปครู่ หนึ่งถึงได้ร้องออกมา


อย่างตกใจว่า "ย่าห์ ฝ่ าบาท ทาไมพระองค์ถึงกลายเป็ นน่าเกลียดขนาดนี้ได้? "

จีเฉวียน "......." แค่ต๋ กู ูซิงหลันคนเดียวก็ทาให้เขาโมโหจนจะบ้าแล้ว นี่ยงั จะเพิ่มมาอีกคน!

ทุกคนตกอยูใ่ นความอึดอัดใจ ต่างก็รู้ดีวา่ พระพักตร์ของฝ่ าบาท.......แต่วา่ กลับไม่มีใครกล้าพูดมันออกมา หยวนเฟ


ยช่างสมเป็ นบุตรสาวคนเถื่อน ผ่านมาก็ต้ งั หลายปี แล้วยังไม่รู้มารยาทแม้แต่นอ้ ย

เห็นอยูช่ ดั ๆ ว่าโทสะของฝ่ าบาทใกล้จะระเบิดออกมาเต็มที หยวนเฟยถึงได้เบาเสี ยงลง "ฝ่ าบาท เมื่อครู่ ฟังฉี ผิน
กับเต๋ อเฟยพูด เป็ นเพราะผึ้งพิษของหม่อมฉันต่อยพระองค์จริ งหรื อเพคะ? "

ครู่ หนึ่งฮ่องเต้ก็ประทับลุกขึ้นนัง่ ตรัสเสี ยงเย็นใส่ นางว่า "อยูใ่ ห้ห่างเราหน่อย"

พระองค์ไม่โปรดให้ใครมาอยูใ่ กล้เกินไป

หยวนเฟยเบ้ปาก "ทีเมื่อกี้ต๋ ูกูซิงหลันยังอยูใ่ กล้ท่านได้เลย"

พูดออกไปอย่างงั้นแต่นางก็ถอยออกมาหลายก้าวอย่างเชื่อฟัง เพียงหันไปมองตู๋กูซิงหลันด้วยสายตาไม่เป็ นมิตร


แม้แต่น้อย

ตู๋กูซิงหลันทาคล้ายมองไม่เห็น เหล่าพระสนมในวังหลังต่างไม่ชอบนาง เรื่ องนี้ นางย่อมรู ้ตวั ดีอยูแ่ ล้ว

"เจ้าหุบปากเสี ย" ฮ่องเต้ทรงนวดขมับของพระองค์ หางคิ้วแฝงความขุ่นเคือง

หยวนเฟยได้แต่เหลือบตามองบนเงียบๆ ครู่ หนึ่ งค่อยกราบทูลว่า "ฝ่ าบาท เฟิ่ งเฟิ่ งน้อยของหม่อมฉันหายไปตั้งแต่


เมื่อวาน ยามนี้ หม่อมฉันร้อนใจมาก"
คนทั้งหมดอดมองดูนางคราวหนึ่งไม่ได้ ดูท่าทางหยวนเฟยน่าจะมีปัญหา ตอนนี้ที่นางควรจะกังวลสนใจมากที่สุด
คือฝ่ าบาทไม่ใช่หรื อ?

ทาไมประเด็นสาคัญถึงไปอยู่ที่ผ้ งึ ตัวหนึ่งได้?

"ที่แท้ เป็ นผึ้งของหยวนเฟยต่อยใส่ ฝ่าบาทนี่เอง....." ขณะที่หยวนเฟยกาลังกราบทูล ฉี ผินก็พูดทะลุกลางปล้อง


ขึ้นมา

ทั้งนางยังทาสี หน้าสับสนไม่เห็นด้วย แล้วหันไปทูลฟ้องร้องไห้กบั จีเฉวียน "ฝ่ าบาทเพคะ หม่อมฉันไม่ได้


หลอกลวงพระองค์เลยนะเพคะ .... ก็ไม่รู้วา่ หยวนเฟยวางแผนอะไรไว้ในใจกันแน่ หม่อมฉันถูกปรักปรานะเพคะ"

พอนางพูดจบคา หยวนเฟยก็ตวัดสายตามาที่นางทันที "ฉี ผิน เจ้าไม่ไปเล่นงิ้วช่างเป็ นเรื่ องที่น่าเสี ยดายนัก"


ตอนที่ 41 รับประกันว่า ท่านไม่ สวรรคตแน่

"พระสนมหยวนเฟย.........เรื่ องนี้เป็ นท่านที่ก่อเหตุ คนที่ถูกปรักปราคือหม่อมฉัน ท่านลองคิดกลับกันมาเป็ น


หม่อมฉันบ้างสิ "

ฉี ผินร่ าร้องโวยวาย ดีเยีย่ ม หยวนเฟยผูน้ ้ ีโตแต่ตวั กลับไร้สมอง ออกตัวยอมรับก่อนว่าผึ้งพิษนัน่ เป็ นของนาง ดูสิวา่
เรื่ องถึงขนาดนี้ แล้ว ฝ่ าบาทจะลาเอียงเข้าข้างหยวนเฟยได้อีก?

หยวนเฟยก็เป็ นแค่สตรี ต่างเผ่า ไม่รู้จกั มารยาทการวางตัว หากไม่ใช่เพราะปี นั้นบิดาของนางเสี ยสละชีวิตช่วยเหลือ


ฝ่ าบาท อาศัยฐานะสตรี เลือดคนเถื่อนเช่นนาง มีคุณสมบัติอะไรมาเป็ นพระสนมของฝ่ าบาท?

คิดดูแล้วฝ่ าบาท.....ก็ไม่ได้โปรดปรานอะไรนาง

แต่ไหนแต่ไร ไม่เคยเห็นฝ่ าบาทเสด็จไปหาหยวนเฟยที่ตาหนัก และไม่เคยดีกบั นางเป็ นพิเศษ

คราวนี้เต๋ อเฟยก็ลุกยืนบ้าง นางจ้องมองมาที่หยวนเฟย "น้องสาวหยวนเฟย เรื่ องอื่นปล่อยเอาไว้ก่อนเถอะ ผึ้งพิษ


นัน่ เจ้าเป็ นคนเลี้ยง เจ้ารี บถอนพิษให้ฝ่าบาทก่อน ....ฝ่ าบาททรงเป็ นเช่นนี้ หม่อมฉันเห็นแล้ว.....เจ็บปวด เจ็บปวดแทบ
ขาดใจ

เต๋ อเฟยทูลพลางน้ าตาไหล ท่าทางทุกข์ใจเกินใดเทียบ

ฝ่ าบาทยังทอดพระเนตรไม่ชดั เจนอีกหรื อ ........ท่ามกลางคนทั้งหมดมีแต่นางที่ห่วงใยสุ ขภาพของเขา


"ใช่เพคะ พระสนมหยวนเฟย ท่านไม่ห่วงใยฝ่ าบาทแม้แต่นอ้ ยเลยหรื อ? " สนมอื่นๆ ต่างพากันขานรับ

หยวนเฟยเหลือบตามองพวกนางครั้งหนึ่ง ช่างน่าปวดหัวนัก หากไม่ใช่เพราะเฟิ่ งน้อยหายตัวไป นางไหนเลยจะ


ตามหามาถึงที่นี่ ไหนเลยจะรู ้ว่ามีงิว้ โรงใหญ่รอคอยนางอยู่

ยามปกตินางก็ไม่ใคร่ ชอบสุ งสิ งกับเหล่าสนมทั้งหลาย แต่ละคนราวกับนักแสดงงิ้วตัวจริ ง ดูแล้วช่างน่าปวดหัว

ตู๋กูซิงหลันยืนหลบอยูด่ า้ นข้าง วิญญาณผึ้งในแผ่นยันต์ลุกลี้ลุกลนอยูต่ ลอดเวลา "ฮืมมมมม เมิ่งเมิ่ง สตรี ชวั่ ร้าย


เหล่านี้กาลังรังแกเมิ่งเมิ่ง"

"พอแล้ว อย่าได้ดุ๊กดิ๊ก ข้าอยูต่ รงนี้ นางไม่มีทางถูกรังแกแน่" ตู๋กูซิงหลันเอ่ยตอบเบาๆ

วิญญาณผึ้งน้ าตาไหล มันไม่เชื่อคาพูดของนางมารร้ายหรอก

"ฝ่ าบาท เฟิ่ งน้อยของหม่อมฉันเป็ นเด็กดีเชื่อฟังมาโดยตลอด และยิง่ ไม่ใช่สุนขั บ้า จะไปวิ่งพล่านไล่กดั คนได้
อย่างไร? ก็ไม่รู้วา่ เป็ นไอ้หมาตัวไหนคิดชัว่ ใส่ ความป้ายสี ขา้ " หยวนเฟยเองก็ไม่ใช่พวกใจดียอมถูกรังแก นางล้วงเอา
ขวดใบน้อยออกมาจากสายคาดเอวยืน่ ให้จีเฉวียน "นี่เป็ นน้ าผึ้ง ทรงเสวยเสี ยก่อน"

หมอหลวงซุนรับเอาขวดยาแทนฮ่องเต้ ใช้เข็มเงินตรวจดูอย่างละเอียด เพียงครู่ เดียวก็เห็นเข็มเงินเปลี่ยนเป็ นสี ดา


สนิท หมอหลวงซุนเหงื่ออกท่วมศีรษะ "น้ าผึ้งนี่...มีพิษ"

หยวนเฟยเขม่นมองเขาครู่ หนึ่ง "ไอ้แก่ที่ไม่รู้จกั โลกภายนอก น้ าผึ้งจากผึ้งพิษที่บา้ นเจ้าไม่มีพิษได้หรอ? ไม่รู้หรื อ


ว่าอะไรเรี ยกพิษข่มพิษ? "

ไอ้แก่หมอหลวงซุนถึงกับถูกด่าจนพูดไม่ออก
หยวนเฟยหันกลับมามองจีเฉวียน ทูลอย่างเชื่อมัน่ เต็มเปี่ ยมว่า "ฝ่ าบาท หม่อมฉันไม่วางยาพิษทาร้ายพระองค์
หรอก"

"หึ นัน่ ก็ไม่แน่หรอกมั้ง? " ฉี ผินยิม้ เย็น "พระสนมหยวนเฟยกล้าปล่อยผึ้งมาต่อยฝ่ าบาท ยังจะไม่กล้าวางยาพิษ


หรื อ? "

ใบหน้าของเต๋ อเฟยมีแต่ความกังวล "น้องสาวหยวนเฟย ฝ่ าบาททรงดีกบั เจ้าไม่น้อย เจ้าทาไมถึงได้ใจร้ายเช่นนี้? "

หยวนเฟย "......"

ตั้งแต่ตน้ จนจบฮ่องเต้กลับไม่ทรงแสดงอารมณ์แม้แต่นอ้ ย เพียงให้หมอหลวงซุนนายามาถวายเขา ตรัสเพียงสอง


คา "ไม่เป็ นไร"

ทุกคนตื่นตะลึงแล้ว พวกเขาต่างคิดไม่ออกเลย นี่ฝ่าบาททรงเชื่อพระทัยในตัวหยวนเฟยถึงเพียงไหน เห็นชัดว่า


สตรี เถื่อนผูน้ ้ ี ต้ งั ใจวางแผนทาร้ายฝ่ าบาทนะ

จีเฉวียนไม่ทรงสนพระทัยพวกนาง รับขวดยามา ขณะเตรี ยมจะเสวยลงไป ก็กลับคิดอะไรได้บางอย่าง กวาดพระ


เนตรไปหยุดอยูท่ ี่ต๋ ูกูซิงหลัน กวักพระหัตถ์เรี ยกนาง "เจ้าเข้ามา ชิมสักคา"

ตู๋กูซิงหลัน "....." ไอ้หนุ่มนี่ จะรักชีวิตตัวเองอะไรขนาดนั้น? นางเองไม่ได้ถูกพิษสักหน่อย ถ้าดื่มเอาน้ าผึ้งที่มีพิษ


เข้าไป มีหวังต้องเกิดปัญหาบ้างสิ นะ?

เห็นนางยังลังเล ฉี ผินก็เย้ยหยันออกมาว่า "ยามปกติไทเฮาไม่ใช่วา่ ตรัสถึงความสัมพันธ์แม่ลูกอยูต่ ลอดไม่ใช่หรื อ?


ทาไมตอนนี้กลับขี้ขลาดขึ้นมาแล้ว? ที่แท้แล้ว'ความผูกพันลึกซึ้ง'ก็แค่ลมปากเท่านั้นสิ "

"ก็แค่ทดลองยาแทนฝ่ าบาทเท่านั้น นางยังไม่เต็มใจแล้ว" สนมบางคนพูดรับ


เต๋ อเฟยเองก็ลุกขึ้นมาบ้าง เพียงแต่ทาเป็ นก้าวออกมาก้าวเล็กๆ มองไปยังจีเฉวียนทูลว่า "ฝ่ าบาท องค์ไทเฮาทรง
สู งส่ งดังทองหยก หากว่าเกิดเรื่ องผิดพลาดอะไรขึ้นมา เกรงว่าไม่อาจชดใช้ให้ตระกูลตู๋กูได้ หม่อมฉันยินดีทดลองยา
แทนฝ่ าบาท"

ท่าทางของนางจริ งใจยิง่ นัก ผูค้ นทั้งหลายที่เห็นต่างก็ซาบซึ้งประทับใจขึ้นมา

จะอย่างไรน้ าผึ้งนัน่ มีพิษอยู่จริ ง หากไม่ใช่เพราะมีรักแท้ ใครจะอยากเอาชีวิตตนเองมาเสี่ ยงกันละ? ความรู ้สึกของ


เต๋ อเฟยที่มีต่อฝ่ าบาทช่างลึกล้ าสะท้านฟ้าสะเทือนดินทีเดียว

ตู๋กูซิงหลันมองตรงไปยังจีเฉวียนคลี่ยมิ้ อ่อนหวานให้เขา "พูดกันเสี ยขนาดนี้ ข้าก็ขอยอมตายถวายชีพแล้ว ฝ่ าบาท


ไม่จาเป็ นต้องชดใช้อะไรให้กบั ตระกูลของข้าหรอก สิ่ งสาคัญคือเต๋ อเฟยน้อยมีน้ าใจจริ งยากเสาะหา พระองค์ก็ทาให้
นางสมปรารถนาเถอะ"

เต๋ อเฟย "....." คนๆ นี้ ทาไมถึงได้ทาอะไรนอกลู่นอกทางอยูต่ ลอดนะ?

จีเฉวียนพระพักตร์คว่า "เต๋ อเฟยเป็ นสนมรักของเรา นางสุ ขภาพไม่ดีมาตลอด เราไม่อาจหักใจได้ ไทเฮาอายุเยาว์


แข็งแรงอึดถึก ดื่มสักอึกคงไม่ตายหรอก"

ตรัสเช่นนี้ เต๋ อเฟยก็เสมือนได้รับการปลอบประโลมใจแล้ว ที่สุดแล้วฝ่ าบาทยังคงเห็นแก่นางมากกว่า

พระสนมอื่นๆ ต่างพากันริ ษยายิง่ นัก ดูสิ ฝ่ าบาททรงปกป้องเต๋ อเฟยถึงเพียงไหน เกรงว่าภายภาคหน้าหนทางในวัง


หลังของพระสนมเต๋ อเฟยคงสบายแน่แล้ว

ใ นใจของตู๋กูซิงหลันก่นด่าเจ้าฮ่องเต้สุนขั ไปแล้วร้อยรอบ
ขณะที่พูดกันอยูจ่ ีเฉวียนยกขวดยาชี้มาทางนางแล้ว "หื ม? "

ตู๋กูซิงหลันได้แต่แอบมองบนอยูใ่ นใจ เจ้าฮ่องเต้สุนัขนี่ไม่มีอะไรให้น่าชื่นชมแม้แต่นอ้ ย

นางคิดจะขยับเดิน กลับถูกหยวนเฟยขวางไว้ นางยกคางเชิด ท่าทางหยิง่ ผยองยิง่ นัก "เจ้าไม่ได้ถูกพิษ หากกินน้ าผึ้ง


นี่เข้าไปคงจบไม่สวยแน่ ข้าขอเตือนเจ้าให้รู้จกั ดูตวั เองเสี ยหน่อย ถอยไปยืนอยูด่ า้ นข้างซะ"

"หยวนเฟยน้อย เจ้ากาลังเป็ นห่ วงข้าหรื อ? "

หยวนเฟยพูดไม่ออก ฝ่ ามือเดียวก็ผลักตู๋กูซิงหลันไปทางเบื้องหน้าจีเฉวียน "เจ้าไปตายซะ"

แรงผลักของฝ่ ามือนี้ยงั มากกว่าของฉี ผินเสี ยอีก ศีรษะของตู๋กูซิงหลันกระแทกปักเข้าใส่ จีเฉวียน เพียงแต่คราวนี้


นางพลิกกลับข้างกลายเป็ นกระแทกใส่ พระพักตร์ของฝ่ าบาท

จากนั้นสายตาของคนทั้งหลายก็เห็น ปากชนปาก ฟันที่ขาวสะอาดของนางกลับกระแทกจนริ มพระโอษฐ์กุนเชียง


ของฝ่ าบาทหลัง่ โลหิ ตแล้ว

ฮ่องเต้ที่ทรงอ่อนพระกาลังถูกกระแทกเสี ยจนสมองมึนงงส่ งเสี ยงวิง้ งงงง ในขณะเดียวกันก็ทอดพระเนตรเห็นตู๋กู


ซิงหลันที่ขวัญกล้าไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดินกาลังเลียชิมกลีบปากที่แตกของพระองค์เบาๆ พระโลหิ ตที่ซึมออกมาจากรอย
แตกถูกเลียจนหมดจด

ทุกคนต่าง "!!! " พวกนางประเมินความกล้าหน้าด้านของตู๋กูซิงหลันต่าไปแล้ว!

ตู๋กูซิงหลันเลียโลหิ ตบนริ มพระโอษฐ์แล้ว ก็ผละออกจากพระองค์โดยทันที เปิ ดขวดยาดื่มน้ าผึ้งลงไปอึกใหญ่

ครู่ ตอ่ มาก็เช็ดมุมปาก มองมาทางฮ่องเต้กล่าวว่า "หวานดีจริ ง ไม่มีปัญหา ฝ่ าบาทดื่มได้อย่างสบายพระทัย รับรอง


ว่าท่านไม่สวรรคตแน่"

คิดดูสิ ตัวนางช่างมีปฎิพานไหวพริ บดีจริ งๆ

เริ่ มจากไปเอาโลหิ ตพิษของฮ่องเต้มาเสี ยหน่อย ค่อยดื่มน้ าผึ้งตามหลัง แค่น้ ี ก็ไม่มีปัญหาแล้ว


เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ เห็นชัดเจนว่าคิดจะเล่นงานนาง แต่ต่อให้เจ้าวางแผนลึกล้ าเพียงไหน ข้าก็ยงั สู งส่ งกว่าเจ้าอยูอ่ ีก
ชั้นหนึ่ง ไงละ มีโกรธกันไหม?

เจอแผนนี้เข้าไปฉี ผินและเต๋ อเฟยต่างก็แข็งเป็ นหิ นไปแล้ว แม้แต่หยวนเฟยเองก็ตกใจจนตาโต ตู๋กูซิงหลันคนนี้ .....


เป็ นบ้าไปแล้วจริ งๆ!

หากเป็ นนางคงไม่กล้าสุ่ มสี่ สุ่มห้าไปสัมผัสร่ างกายของฝ่ าบาท

นางยังบังคับจูบพระองค์อีกด้วย..........นี่ไม่ใช่แส่ หาเรื่ องตายหรอกหรอ?


ตอนที่ 42 ต้ าหลาง ดื่มยาเถอะ

ฮ่องเต้ทรงกาหมัดแน่น แล้วกลับคลายออก แล้วก็บีบมือจนแน่นอีกนานพักใหญ่ถึงได้วางพระหัตถ์ลง แต่สุดท้าย


ไม่อาจทรงกลั้นเสี ยงไอเบาๆ ได้ กระอักโลหิ ตดาออกมาคาหนึ่ง

ตู๋กูซิงหลันรี บนาน้ าผึ้งมาถวาย ทั้งยังช่วยลูบหลังระบายลมหายใจ "ฝ่ าบาท หม่อมฉันรู ้วา่ ทรง ซาบซึ้งพระทัย แต่
ไม่ตอ้ งตื่นเต้นขนาดนั้นหรอกเพคะ ต้าหลาง [1] ดื่มยาเถอะ"

จีเฉวียนยามนี้ทรงตะหนักพระทัยแล้วว่า หากสตรี ผนู ้ ้ ียงั ไม่ตาย ต้องมีสักวันหนึ่งที่พระองค์เองจะทรงระเบิดโทสะ


จนสิ้ นพระชนม์ไป

ต้ าหลาง........เขาเป็ นลาดับที่สี่ชดั ๆ จะเรี ยกก็ตอ้ งเรี ยก ซื่ อหลาง สิ

ภายใต้การคะยั้นคะยอของตู๋กูซิงหลัน สุ ดท้ายแล้วเขาก็ได้แต่ยอมดื่มลงไปแต่โดยดี

รสชาติหวานหอมสัมผัสในปากซึมซาบสู่ ใจ ฉับพลันกระดูกทัว่ ตัวราวกับได้รับการชาระล้าง ทัว่ ทั้งร่ างเบาสบาย


แม้แต่กาลังวังชาก็กลับคืนมา

ริ มฝี ปากปานกุนเชียงนั้นก็ยบุ ลงไปทันตา บนริ มฝี ปากล่างมีรอยแผลแตกเล็กๆ มีเลือดซึ มออกมาเพียงเล็กน้อย

"ตู๋ กู ซิง หลัน! " เขาขบเขี้ยวเรี ยกชื่อนางออกมาทีละคา

"ขอฝ่ าบาทโปรดรับสั่งเพคะ" ตู๋กูซิงหลันก้มศีรษะรับอย่างรวดเร็ ว รู ้ดีวา่ ตนเองไม่ควรหาเรื่ องอีก เจ้าจิ้งจอกเฒ่าตัว


นี้ที่จริ งถูกยัว่ โทสะจนถึงขีดสุ ดแล้ว
"เจ้ารั้งอยู่ คนอื่นถอยไป" สองพระเนตรของจีเฉวียนราวกับมีลูกไฟลุกอยู่ ตอนนี้ในพระทัยคิดแต่จะบีบนางให้
ละเอียดเป็ นผง

"ฝ่ าบาทเพคะ เรื่ องที่หยวนเฟยปล่อยผึ้งพิษมาทาร้ายพระองค์ จะปล่อยผ่านไปเช่นนี้หรื อเพคะ? " ฉี ผินไม่ยนิ ยอม


ฝ่ าบาททรงลาเอียงมากไปแล้ว เห็นชัดว่าเป็ นหยวนเฟยก่อเหตุ ไยตอนนี้กลับไม่กล่าวถึงสักคา?

เต๋ อเฟยเขม่นตาใส่ นาง ฉี ผินที่โง่เขลา คิดต่อยหมัดใส่ หน้าตนเองหรื อไง? นี่คือแส่ หาความตายโดยแท้"

"หึ เจ้านับว่าช่วยเตือนสติเราแล้ว" จีเฉวียนทรงลูบฉลองพระองค์บนร่ าง ค่อยประทับยืนขึ้นจากพระบรรทมใน


ที่สุด

พระเกศาดายาวงดงาม ริ มฝี ปากกุนเชียงก็ยบุ คืนแล้ว ถึงแม้บนพระพักตร์ยงั มีรอยดาๆ จากรองเท้านั้นอยูบ่ า้ ง แต่ก็


แทบจะไม่มีผลต่อความงดงามและพระลักษณะยิง่ ใหญ่น่ายาเกรงของฮ่องเต้เจ้าชีวิต

เหล่าสนมต่างเฝ้ามองจนตาค้าง จริ งแท้ คนผูน้ ้ ีช่างหล่อเหลาอย่างที่สุด แม้วา่ ใบหน้าจะเลอะฝุ่ นก็ยงั ดูดี

ฉี ผินเองก็ลืมตัวไปแล้ว ดูสิ ฝ่ าบาททรงตอบคานางแล้ว นี่ชดั เจนเลยว่าพระองค์จะต้องใส่ ใจนางอยูน่ ิดนึง

คราวนี้ต่อให้หยวนเฟยไม่ตายก็ตอ้ งถูกลอกหนังออกสักชั้น โทษฐานวางยาพิษฮ่องเต้คงไม่มีทางเบาไปได้ รอให้


หยวนเฟยรอดชีวิตออกมาได้ ก็คงเกลียดตู๋กูซิงหลันอย่างที่สุด เพราะหากไม่มีต๋ กู ูซิงหลัน นางคงไม่ตอ้ งมารับโทษ

ถึงตอนนั้นพวกมันสองคนคงต้องสู ้กนั จนตายไปข้างหนึ่ง ส่ วนนางก็นงั่ ดูงิ้วให้สนุกก็พอแล้ว

คิดถึงตรงนี้ มุมปากของฉี ผินก็ยกยิม้ ขึ้นมา

"ใครอยูข่ า้ งนอก จับฉี ผินไปขังไว้ สั่งให้ฝ่ายสอบสวนไต่สวนโดยละเอียด" ฝ่ าบาททอดพระเนตรสตรี ที่คุกเข่าอยู่


บนพื้นอย่างเย็นชา ในหว่างคิ้วไม่มีความสงสารแม้แต่นอ้ ย

ฉี ผินนิ่ งอึ้งไปแล้ว .......ทาไมกัน ทาไมถึงเป็ นนางที่โดนจับขัง?

นางเป็ นถึงสนมขั้นผิงของฝ่ าบาท!


" ฝ่ าบาท หม่อมฉันทาสิ่ งใดผิดหรื อเพคะ? " ฉี ผินไม่คิดถอดใจ คลานเข่าไปที่เบื้องหน้าเขา คิดจะกอดพระบาท
ไว้ ถามไถ่ให้ชดั เจน

แต่สายพระเนตรเฉยชาที่กวาดมองมานั้นทาให้นางไม่กล้าแม้แต่จะยืน่ มือออกไป

"หึ เห็นเราเป็ นคนโง่ เจ้าพูดสิ ผิดที่ใด? " ฮ่องเต้ไม่ทรงทอดพระเนตรนางอีก ปล่อยให้คนลากนางออกไป

เขาเป็ นถึงฮ่องเต้ของแผ่นดิน จะยอมถูกสตรี ผหู ้ นึ่งหลอกลวงได้หรื อ?

ผูค้ นทั้งหลายต่างประหลาดใจนัก คนที่หลอกฝ่ าบาท ดูอย่างไรก็เป็ นตู๋กูซิงหลันต่างหากไม่ใช่หรื อ?

แล้วก็ยงั มีหยวนเฟยอีกคน........ทาไมฝ่ าบาทถึงไม่ได้ให้นางต้องรับผิดชอบอะไรเลย?

ฉี ผินช่างน่าสงสารเหลือเกิน

ครั้งนี้เต๋ อเฟยถึงขนาดไม่ทนั ได้ขอร้องแทนฉี ผินเลย คนก็ถูกลากออกไปจากพระตาหนักตี้หวั เสี ย แล้ว สภาพที่เห็น


ดูแล้วยังน่าอนาถกว่าคราวที่ต๋ กู ูซิงหลันถูกบังคับพาออกไปเสี ยอีก

จีเฉวียนทรงเสด็จไปเบื้องหน้าก้าวหนึ่ งโดยพระบาทเปล่า "นับแต่วนั นี้เป็ นต้นไป เราไม่ตอ้ งการให้ในวังหลังมี


เรื่ องวุน่ วายอีก ในแคว้นต้าโจวของเราไม่ตอ้ งการคนที่สร้างเรื่ องลวงโลกทั้งหลาย"

เดิมทีทุกคนก็กม้ ศรี ษะอยูแ่ ล้ว คราวนี้ต่างก็อดที่จะเหลือบมองตู๋กูซิงหลันคราหนึ่งไม่ได้ คนที่ชอบ'สร้างเรื่ อง'


ไม่ใช่วา่ ยืนอยูข่ า้ งฝ่ าบาทหรอกหรื อ?

ฝ่ าบาท ขอพระองค์ทรงล้างพระเนตรให้กระจ่าง แล้วจัดการเจ้าตัวซวยหมายเลขหนึ่งนัน่ ได้ไหมเพคะ?

แม้ในใจจะคิดอย่างหนึ่ง แต่ต่อหน้าเบื้องพระพักตร์ฝ่าบาทใครบ้างจะกล้าพูดออกมา ก็แม้แต่หยวนเฟยยังทาเพียง


ยืนดูอยูด่ า้ นข้าง ไม่ทูลเรื่ องนี้แม้นสักน้อย
เต๋ อเฟยขบริ มฝี ปาก ไม่ส่งเสี ยง เพียงมองตู๋กูซิงหลันด้วยสองตา ทั้งหมดเป็ นเพราะนางประเมินตัวซวยนัน่ ต่าไป
ครั้งนี้ถึงได้จาต้องพ่ายแพ้

นังตัวซวย.........ไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

เพียงไม่กี่ลมหายใจ แม้แต่หมอหลวงก็ถอยออกไปจนหมด มีเพียงตู๋กูซิงหลันและหยวนเฟยที่ร้ ังอยู่

ตู๋กูซิงหลันอยากจะไป ส่ วนหยวนเฟยรั้นจะอยู่

" เจ้ายังอยูน่ ี่ทาไมอีก? " ฮ่องเต้ใช้สายพระเนตรเย็นชามองหยวนเฟยรอบหนึ่ง

" ฝ่ าบาท พระองค์ยงั ไม่ได้ทรงบอกหม่อมฉัน เฟิ่ งเฟิ่ งน้อยตอนนี้อยูท่ ี่ไหน? " หยวนเฟยดูหน้าสงสารนัก
"หม่อมฉันจะอย่างไรก้ช่วยถอนพิษให้พระองค์แล้ว จะไม่ทรงขอบใจหม่อมฉันสักหน่อยหรื อ? "

จีเฉวียน "ไอ้ยงุ นัน่ ตบตายไปแล้ว"

หยวนเฟย "!!! "

หยวนเฟยที่เบื้องหน้าพลันหน้าแดงเถือก ตู๋กูซิงหลันรี บเข้าไปพูดกับนาง "นัน่ เอ่อ หยวนเฟยน้อย อย่าได้ตระหนก


เกินไป"

"เจ้ายุง่ อะไรด้วย? " หยวนเฟยมีโทสะไม่นอ้ ย หันมาผลักตู๋กูซิงหลันซ้ าอีกรอบ "เจ้าอย่ามาทาเสแสร้ง ไม่ใช่เฟิ่ ง


เฟิ่ งน้อยของเจ้าที่ถูกตีตาย เจ้าย่อมไม่สะเทือนใจ"

"เจ้านี่อารมณ์ร้ายกว่าข้าเสี ยอีก" ตู๋กูซิงหลันถูกผลักจนเซล้ม ยังดีที่คว้าเอาพระสนับเพลา ของฮ่องเต้ที่ยืนอยู่


ด้านข้างเอาไว้ได้ เสี ยงดังแคว๊ก! พระสนับเพลาครึ่ งหนึ่ งของฝ่ าบาทก็ขาดออกทันที
ปลีขาที่สวยงามของฝ่ าบาทก็ปรากฎสู่ สายตา

จีเฉวียน ".........." หึ ม หึ ม ฮืม อย่าได้มีโทสะ ตัวเขาคือกษัตริ ยแ์ ห่งต้าโจว สมควรมีเมตตาทัว่ ทั้งแผ่นดิน กรุ ณาชาว
ประชาโดยทัว่ กัน ไม่โกรธ เราไม่ได้โกรธแม้แต่น้อย

"ฝ่ าบาท พระองค์เสวยเนื้อวัวมากไปหรื อเปล่า ขนขาดกเชียว........." ประเด็นสาคัญกลับถูกตู๋กูซิงหลันปัดทิ้งไป


แล้ว

จีเฉวียน "หลี่ตา้ ชิง ไปเอาแส้ของเรามา" วันนี้หากไม่ตีนางให้ตายเขาไม่ขอใช้แซ่จีอีก!

ตู๋กูซิงหลันรี บถอยฉากออกมาอย่างไกล ทั้งยังให้หลี่กงกงที่นาแส้มาถวายรั้งอยูภ่ ายนอก "อย่าทรงพิโรธเลยเพคะ


หม่อมฉันเพียงแต่ชื่นชมฝ่ าบาทเท่านั้น บุรุษหากไม่มีขนขา นัน่ ยังจะเรี ยกว่าบุรุษอีกหรื อ? ทรงดูสิเพคะ ขนขาของ
พระองค์เซ็กซี่จะตาย สมชาติชายแท้"

ว่าแล้ว ยังไม่ลืมลากเอาหยวนเฟยที่ยนื งงอยูม่ าเอี่ยวด้วย "หยวนเฟยน้อย เจ้าว่าใช่หรื อไม่? "

หยวนเฟยถูกนางลากมามองขนหน้าแข้งฝ่ าบาทอยูแ่ วบหนึ่ง "ขนยาวขนเยอะจริ งๆ แต่ที่หนานเจียงของพวกเรา


บุรุษมีขนที่อกถึงจะเรี ยกว่าชั้นยอด ฝ่ าบาทไม่มีขนที่อก ยังไม่นบั ว่าเป็ นชั้น......"

พูดยังไม่ทนั จบ นางพลันรู ้สึกว่าอุณหภูมิทวั่ ทั้งพระตาหนักตี้หัวหล่นวูบลงไปแล้ว ยิง่ พอเห็นพระ พักตร์ที่มืดครึ้ ม


ของฝ่ าบาท นางถึงได้รีบหุ บปากลง

นางหันกลับมาค้อนใส่ ต๋ ูกูซิงหลันรอบหนึ่ง ต้องโทษนาง จะมาประกวดประชันความงามอะไรกันตรงนี้ ทาให้


นางเองก็เผลอไผลไปด้วย

เดิมทีนางกาลังจมดิ่งอยูก่ บั ความโศกเศร้าที่เฟิ่ งเฟิ่ งน้อยถูกตีตายไป


" ฝ่ าบาท อย่างไรขอทรงเห็นแก่หม่อมฉันที่ช่วยถอนพิษให้พระองค์ โปรดประทานร่ างของเฟิ่ งเฟิ่ งน้อยคืนให้
หม่อมฉันเถอะเพคะ มันติดตามหม่อมฉันมาจากหนานเจียง เมื่อตายแล้วหม่อมฉันก็คิดจะทาการฝังศพให้แก่มนั " หยวน
เฟยได้แต่ยอมจบเรื่ องเพียงเท่านี้

------

[1] ต้าหลาง = คาที่พ่อแม่ใช้เรี ยกลูกชายคนโต


ตอนที่ 43 ไม่เคยเห็นนางจริงจังถึงเพียงนีม้ าก่อน

ตอนนี้ นางโศกเศร้าเหลือเกิน ฆาตกรที่ฆ่าเฟิ่ งเฟิ่ งน้อยกลับเป็ นฮ่องเต้ นางไม่สามารถแก้แค้นแทนมันได้..........

"ตบจนเละไปแล้ว จะยังมีศพอะไรอีก" ฮ่องเต้ทรงตอบอย่างเย็นชา "เจ้าต้องดูแลสัตว์พิษที่เลี้ยงไว้ให้ดี เราละเว้น


เจ้าได้ครั้งหนึ่ง แต่จะไม่มีครั้งที่สอง"

หยวนเฟย "!!! " ในหัวของนางตอนนี้ มีแต่เสี ยง'เปรี๊ ยะๆๆๆๆ '

ด้านตู๋กูซิงหลันเองก็สีหน้าไม่สู้ดี เจ้าฮ่องเต้สุนขั หากไม่ใช่เพราะเขามีฐานะเป็ นฮ่องเต้ บุรุษที่มีแต่ความแข็งทื่อ


แบบนี้ แน่นอนว่าต้องอยูเ่ ป็ นโสดสิ้ นไร้เมล็ดพันธุ์แน่

ดูสิ ทาสาวน้อยโกรธจนจะร้องไห้อยูแ่ ล้ว

"หยวนเฟยน้อย เจ้าอย่างน้อยใจ ชะตาของเฟิ่ งน้อยกับเจ้ายังผูกพันไม่สิ้นสุ ด ถึงตายแล้วก็ยงั คิดถึงเจ้า ละทิ้งเจ้าไม่


ลง " ตู๋กูซิงหลันปลอบประโลม

หยวนเฟยฟังแล้ว ก็คิดว่าเฟิ่ งเฟิ่ งน้อยตายตาไม่หลับ ตายแล้วก็ไม่ได้รับการกลบฝัง ได้แต่กลายเป็ นวิญญาณเร่ ร่อน


ใจนางก็ยงิ่ โศกเศร้าเป็ นทุกข์

"ตู๋กูซิงหลัน เจ้ามันคนที่ใครๆ ก็รังเกียจ! " หยวนเฟยเสี ยใจหนักจนกระทืบเท้า

"ฝ่ าบาท พระองค์ตามใจสตรี ผนู ้ ้ ีมากเกินไปแล้ว! ว่าแล้ว นางก็ไม่ลืมตะโกนอย่างเจ็บแสบใส่ พระกรรณของจี


เฉวียน "หรื อจะเป็ นอย่างที่ในวังร่ าลือกัน อีกไม่นานนางจะไม่ใช่ไทเฮาอีกต่อไป แต่เป็ นพระสนมของพระองค์? "

"หุบปาก! " จีเฉวียนทรงโขกพระหัตถ์ลงบนศีรษะของนาง แรงจนนางตาพร่ าเห็นดาว

ต่อให้สตรี ท้ งั โลกต่างก็ตายจนหมดแล้ว เขาก็ไม่มีทางรับนางไว้เป็ นสนมแน่นอน!


"พระองค์จะทาเป็ นมีโทสะไปทาไม ...." หยวนเฟยนวดขมับโอดครวญเสี ยงเบา "ปี นั้นทรงรับปากข้า จะให้เสพ
สุ ข มีเกียรติสูงส่ งชัว่ ชีวิต ดูสิ แม้แต่นงั คนไร้สาระอย่างฉี ผินยังมารังแกข้า สัจจะแห่ งพระเกียรติของฮ่องเต้อะไร ก็เป็ น
แค่ผายลมเท่านั้น ใครจะเชื่อว่าต่อไปอีกหน่อยท่านจะไม่แต่งนางเข้า......."

"ถ้าท่านแต่งนางมาแล้ว จะยังดีกบั ข้าอีกหรื อ? ยศฐาบรรดาศักดิ์ที่เคยรับปากจะยังให้อีกไหม? "

ตู๋กูซิงหลันชักจะได้เรี ยนรู ้แล้วว่า ในวังหลังแห่งนี้ หยวนเฟยเป็ นดัง่ โคลนถล่มของจริ ง

เล่นถามเสี ยแบบนี้ แต่ฝ่าบาทกลับปฎิบตั ิต่อนางอย่างไม่ธรรมดาเลย นี่ใช่เพราะรักหรื อเปล่า?

แต่ทาไมดูพวกเขาแล้วช่างไม่คล้ายว่าเป็ นความรักเลย

ฮ่องเต้ที่ทรงเตรี ยมจะระเบิดลงยังไม่ทนั เปิ ดพระโอษฐ์ ก็เห็นตู๋กูซิงหลันชิงปลอบโยนหยวนเฟยอีก "หยวนเฟย


น้อย เจ้าวางใจเถอะ ต่อให้บุรุษทั้งโลกล้วนตายหมดแล้ว ข้าก็จะยังเป็ นม่ายสาวอันดับหนึ่ งอยู่ในวังหลัง"

หยวนเฟยทาตาถมึงทึงใส่ นาง ชักมือกลับอย่างว่องไว "หากเจ้ากล้าโกหก ข้าจะให้หวังไฉไปกัดเจ้าให้ตาย! "

พอนางพูดจบเจ้างูเขียวบนแขนก็แลบวิน้ ออกมาแผลบๆ

"เจ้าไสหัวกลับไปฉางซินกงให้เราเดี๋ยวนี้" ฮ่องเต่ทรงอดกลั้นพระอามรณ์ที่จะจัดการคนเอาไว้ สายพระเนตรลุก


เป็ นไฟสู งสามจั้ง

หยวนเฟยรู ้วา่ คราวนี้นางไปจุดระเบิดของฝ่ าบาทเข้าจริ งๆ แล้ว ย่อมไม่กล้ารั้งอยูน่ าน ฮึดฮัดอยูค่ รู่ หนึ่งก็เดินจาก


ไป แต่เดินไปก็คอยแต่จะหันกลับมาดูอยูห่ ลายรอบ "ฝ่ าบาท ท่านแน่ใจหรื อว่าจะไม่ให้ต๋ ูกูซิงหลันไปพร้อมข้า ? "

จีเฉวียน " ไปซะ"

หยวนเฟยตระหนกจนสะดุง้ ไปทัว่ ตัว คราวนี้รีบไสหัวไปอย่างรวดเร็ ว รอจนออกจากตาหนักตี้หวั ได้นางถึงได้เชิด


หน้าขึ้น มองดูงูเขียวครานึง " เจ้าก็รู้สึกว่า สตรี ผนู ้ ้ นั มีปัญหาใช่หรื อไม่"

งูเขียวส่ งเสี ยงซี่ๆ สองครั้ง ประหนึ่งตอบคาถามแล้ว


หยวนเฟยขมวดคิ้ว หันกลับไปมองพระตาหนักตี้หัว ในดวงตามีประกาย

.................................

ภายในพระตาหนักตี้หวั เบื้องพระพักตร์ฮ่องเต้ผทู ้ รงเคร่ งขรึ มดุดนั ตู๋กูซิงหลันถึงกับซึมจ๋ อยเป็ นสุ นขั น้อยไปแล้ว

"ฝ่ าบาท ทรงฟังหม่อมฉันอธิบายก่อน เมื่อวานนี้ที่ตบพระพักตร์ท้ งั หมดนั้นเพื่อช่วยถอนพิษให้พระองค์


ไม่เช่นนั้นเกรงว่าพระองค์คงเสด็จไปสวรรค์ไปตั้งนานแล้ว" ตู๋กูซิงหลันชิงบอกก่อนอย่างกระตือรื อร้น รี บไขว้สองนิ้ว
กล่าวสาบานต่อฟ้า "ที่หม่อมฉันพูดมาทั้งหมดเป็ นความจริ งนะเพคะ วิชาตบหน้าถอนพิษเป็ นท่านปู่ ถ่ายทอดให้ดว้ ย
ตัวเอง เป็ นวิชาลับของตระกูลตู๋กู วิธีการตบหน้านี้ การให้น้ าหนักมือต้องละเอียดรอบคอบ ขาดเกินไม่ได้เด็ดขาด

"ดังนั้นพระองค์ดูสิเพคะ รอบประทับบนพระพักตร์มีเอกลักษณ์เฉพาะ....."

จีเฉวียนทอดพระเนตรมองนางอย่างจริ งจัง สตรี ผนู ้ ้ ี ถึงกับเกิดมามีลิ้นที่สามารถกลับดาเป็ นขาวได้ขนาดนี้ ทั้งยัง


หน้าหนาเสี ยยิง่ กว่ากาแพงเมือง

"หากว่าตอนนั้นหม่อมฉันไม่ทาเช่นนี้ แควนต้าโจวเราคงต้องเปลี่ยนตัวฮ่องเต้แล้ว " ตู๋กูซิงหลันเกรงว่าเขาจะไม่


เชื่อ จึงกล่าวอีกว่า "หากไม่ทรงเชื่อสามารถเรี ยกหยวนเฟยน้อยมาไต่ถามดูก็ได้วา่ หากข้าไม่ช่วยไว้ จะทรงถึงตาย
หรื อไม่ ตอนนี้นางน่าจะยังไปไม่ไกล...."

" งั้นรึ เจ้าอยากให้ใครครองบัลลังก์ละ? อี้อ๋อง หรื อว่าตระกูลตู๋กูของเจ้า? " จีเฉวียนทรงพระทับยืนอยูต่ ่อหน้า


นาง โครงร่ างที่สูงใหญ่บดบังตัวตู๋กูซิงหลันเอาไว้ท้ งั ตัว

จะอย่างไรตู๋กูซิงหลันก็อายุเพียงสิ บห้าปี เท่านั้น ถือว่ายังเยาว์วยั อย่างยิง่ ยามนี้ยงั สู งไม่ถึงหัวไหล่ของเขาด้วยซ้ า

ความสู งที่แตกต่างกันถึงเพียงนี้ ก่อให้เกิดแรงกดดันชนิดหนึ่ง แทบทาให้นางหายใจไม่ออก

"ฝ่ าบาท พระองค์ตรัสเช่นนนี้ทาเอาใจของหม่อมฉันเหน็บหนาวยิง่ ........" ตู๋กูซิงหลันใช้ชายแขนเสื้ อซับหางตา "


พวกท่านปู่ และพี่ชายต่างกาลังถวายชีวิตเพื่อพระองค์ เพียงขอให้แคว้นต้าโจวและฝ่ าบาททรงปลอดภัย ไหนเลยมี
ความคิดชัว่ ร้ายได้? อี้อ๋องจะพูดไปแล้วก็ทรงงามสง่าอยูห่ รอก แต่ไหนเลยจะเปรี ยบเทียบกับพระองค์ได้ พระองค์จึงจะ
เป็ นผูท้ ี่สวรรค์เลือกสรร คือฮ่องเต้ที่ไม่อาจสั่นคลอนได้ของต้าโจว

" ยิง่ ไปกว่านั้น ......หากว่าหม่อมฉันมีใจเป็ นอื่น เมื่อคืนนี้ควรฉวยโอกาสที่พระองค์โดนพิษลอบปลงพระชนม์ไป


แล้ว เรื่ องอะไรจะโง่เขลาขนาดทุบตีพระองค์รอบหนึ่ง ค่อยพาตัวเองมาให้ฝ่าบาทข่มเหงน้ าใจอีก? หากว่าเป็ นเช่นนั้น
จริ ง หม่อมฉันไม่กลายเป็ นคนที่โง่ที่สุดในต้าโจวหรื อ? "

น้ าเสี ยงของนางทั้งน่าสงสารและจริ งใจอย่างที่สุด ทุกถ้อยคาที่กราบทูลต่อจีเฉวียนล้วนเป็ นจริ งเป็ นจัง เรี ยงร้อย


ด้วยเหตุและผล ปราศจากช่องโหว่หรื อรู รั่วใดๆ

ตู๋กูซิงหลันพูดจบแล้ว ยังคุกเข่าลงไปโครมใหญ่ โขกศีรษะเสี ยงดังฟังชัดต่อหน้าจีเฉวียน ครู่ หนึ่งค่อยเงยหน้า


ขึ้นมา ดวงตาดอกท้อคู่น้ นั ทอประกายแน่วแน่ "ฝ่ าบาททรงปรี ชากล้าหาญ ในราชสานักสามารถบริ หารราชกิจ สยบขุน
นางทั้งหลาย ในศึกสงครามสามารถการาบอริ ราชศัตรู ไหนเลยจะมีที่ให้สตรี ตวั เล็กๆ อย่างหม่อมฉันก่อการใดในวัง
หลังได้ ยิง่ ไปกว่านั้นหม่อมฉันเองก็มีแต่ความจริ งใจต่อฝ่ าบาท "

จีเฉวียนทอดพระเนตรมองนาง ชัว่ ขณะหนึ่งเขาพลันรู ้สึกว่าไม่รู้จกั นางเลยแม้แต่นอ้ ย ที่เขาเคยพบคือตู๋กูซิงหลัน


คนหน้าไม่อาย ไม่เคยเห็นนางจริ งจังถึงเพียงนี้มาก่อน

คาพูดเช่นนี้ ไหนเลยจะออกจากปากของสตรี อายุเยาว์ที่ไร้ประสบการณ์มาได้?

ตู๋กูซิงหลันกราบทูลแล้ว ก็โขกศีรษะคานับเขาอีกครั้ง "แคว้นต้าโจวก่อตั้งเพียงสามรัชกาล แผ่นดินยังไม่สงบ ใน


ชีวิตนี้ซิงหลันเพียงหวังว่า พระองค์จะทรงเป็ นฮ่องเต้ที่ดี รักษาความสงบสุ ขของแผ่นดิน ให้ปวงประชาร่ มเย็นเป็ นสุ ข "

คาพูดประโยคนี้ กระทบพระทัยของจีเฉวียนอย่างแรง ไม่วา่ จะเป็ นพายุฝนโลหิ ตแย่งชิงบันลังก์ หรื อเล่ห์กล


สลับซับซ้อนหลังครองราชย์ ต่างก็ทาให้พระองค์มิเคยได้ผอ่ นคลายเลยแม้แต่นอ้ ย

ทุกคนต่างห่ วงแต่แก่งแย่งช่วงชิงเพื่อตนเอง วุน่ วายกับการยึดตาแหน่งแห่งที่ คิดแต่จะฟื้ นฟูอานาจ แต่ไหนแต่ไร


กลับไม่มีใครบอกกับเขา ว่าต้องการให้เขาเป็ นฮ่องเต้ที่ดี
นานพักใหญ่เขาถึงได้สติกลับมา สายพระเนตรพิฆาตของฝ่ าบาทก็ลดทอนความรุ นแรงลงไปหลายส่ วน ทรงไขว้
พระหัตถ์ขา้ งหนึ่งไปเบื้องพระขนอง (แผ่นหลัง) "เราเป็ นผูน้ าที่ฉลาดเฉลียว ไม่ตอ้ งให้เจ้ามาคอยชี้นา"

ตู๋กูซิงหลันคลี่ยมิ้ สดใส "เช่นนี้ ก็ดียงิ่ แล้ว ตระกูลตู๋กูของหม่อมฉันจะต้องยิง่ จงรักภักดีต่อฝ่ าบาทตลอดไป "

เมื่อได้ฟังคารับรองเช่นนี้ จีเฉวียนพลันรู ้สึกว่า ที่อยูต่ ่อหน้าเขาไม่ใช่สาวน้อยที่รู้จกั เพียงต่อปากต่อคา แต่เป็ นแม่


ทัพหญิงที่สามารถออกศึกเข่นฆ่าปราบศัตรู นบั พันนับหมื่นได้

ที่ผา่ นมา เขามองนางผิดไปแล้วจริ งๆ หรื อ?


ตอนที่ 44 นี่ไม่ นับว่าโปรดปรานหรื อ?

ย้อนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ท่ามกลางความเจ็บปวดทรมานอย่างที่สุดนั้น มือที่เอื้อมออกมาจากแสงสว่างข้างนั้น


......ก็คือนาง ตู๋กูซิงหลัน

เพราะฉะนั้นสตรี ผนู ้ ้ ี ยังไม่นบั ว่าชัว่ ร้ายเกินไป

พระดาริ น้ ีพ่ งึ เกิดขึ้น ฮ่องเต้ก็ทรงขมวดพระขนงมุ่น ดูเอาเถอะ พอเขาคลายความระวังก็เกือบจะตกลงไปใน


หลุมพรางของนาง

นี่จะต้องเป็ นเล่ห์กลบางอย่างของนางแน่! ถึงทาให้เขารู ้สึกว่านางเป็ นผูเ้ ป็ นคนกับเขาบ้าง

" ฝ่ าบาท~ " ตู๋กูซิงหลันยังคิดจะโปรยคาหวานวาดสายรุ ้งอีกสักหน่อย

ก็เห็นฮ่องเต้สะบัดชายแขนฉลองพระองค์อย่างไม่สบพระอารมณ์นกั " ไปๆ ไสหัวไป เราไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก"

น่าตายนัก ตอนนี้ยงั ไม่อาจจับนางมาตีให้สะพระทัยได้ ถึงพิษบนร่ างจะถูกขจัดจนหมดแล้ว แต่พระองค์ยงั รู ้สึก


อ่อนเพลียอยูบ่ า้ ง พอเห็นนางเปิ ดปากพูดก็ปวดพระเศียรขึ้นมา

ตู๋กูซิงหลันรี บถวายคานับลงในทันที "ขอบพระทัยฝ่ าบาทเพคะ หม่อมฉันจะไสหัวไปเดี๋ยวนี้ "

ไปชนิดด่วนจี๋ ผมปลิวไปตลอดทาง

จีเฉวียน "........."

........................................................
ตู๋กูซิงหลันออกจากพระตาหนักตี้หวั ออกมาได้ ฟ้าก็มืดค่าแล้ว

เชียนเชียนที่เฝ้ารออยูจ่ นกังวลรุ่ มร้อน พระสนมคนอื่นๆ ต่างก็กลับออกไปนานแล้ว เหลือเพียงแต่นายหญิงของ


นางที่หายเงียบไร้ซุ่มเสี ยง นางหลงคิดว่านายหญิงจะถูกฝ่ าบาทจับทาโน่นทานี่ไปเสี ยแล้ว

เห็นนางออกมาอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน เชียนเชียนก็ถอนใจอย่างโล่งอก

แต่วา่ ฝ่ าบาททรงยอมปล่อยนายหญิงออกมาแบบนี้ ช่างเป็ นเรื่ องที่คาดไม่ถึงเลยจริ งๆ

ตู๋กูซิงหลันไม่พูดอะไรแม้แต่น้อย จูงมือเชียนเชียนได้ก็เดินจากไป เพียงแต่ออ้ มผ่านไปทางตาหนักฉางซิ่นของ


หยวนเฟยรอบหนึ่ง

ด้านนอกของตาหนักฉางซิ่ นปลูกต้นซิ่ งไว้เป็ นทิวแถว ฤดูน้ ีดอกซิ่งร่ วงหมดแล้ว บนต้นเต็มไปด้วยผลไม้สีเหลือง


เต็มต้น ส่ งกลิ่นหอมเปรี้ ยวๆ หวานๆ ยัว่ ยวนใจผูค้ น

(ดอกซิ่ง = แอปริ คอท)

อาศัยแสงยามค่าคืน ตู๋กูซิงหลันล้วงเอาแผ่นยันต์สีเหลืองที่มีวิญญาณผึ้งผนึกอยูอ่ อกมาฝังไว้ใต้ตน้ ซิ่งต้นใหญ่ที่สุด


ต้นหนึ่ ง นางยังไม่ลืมกล่าวย้ากับมันว่า "ต้นซิ่งต้นนี้อายุไม่น้อยแล้ว เจ้าอยูท่ ี่นี่บาเพ็ญเพียรให้ดี ผ่านไปสักแปดปี สิ บปี ไม่
แน่วา่ อาจมีสักวันหนึ่ งอาจสามารถจาแลงร่ างอยูเ่ ป็ นเพื่อนนางได้อีกครั้ง"

วิญญาณผึ้งตกตะลึงไปครู่ หนึ่ ง มันประหลาดใจอย่างที่สุด "เจ้าไม่ฆ่าข้าหรื อ? "

หากดูตามนิสัยมารร้ายของนางแล้ว สมควรจัดการมันจนวิญญาณสลาย ดวงจิตดับสู ญต่างหาก

"ฆ่าเจ้า? " ตู๋กูซิงหลันค้อนมันคราหนึ่ง "สิ้ นเปลืองเรี่ ยวแรงข้าเปล่าๆ "

วิญญาณผึ้ง "........" ว่ าแล้ ว มันไม่ ควรจะไปขบคิดว่ าสตรี ผ้ นู จี ้ ะมีความดีขึน้ มาได้

เชียนเชียนไม่รู้วา่ นายหญิงของตนเองกาลังทาอะไรอยู.่ ...ดูๆ แล้ว หรื อว่ากาลังฝังของสาปแช่งพระสนมหยวนเฟย


....นายหญิงเกลียดนางมากขนาดนั้นเลยหรื อ?
นางอดไม่ได้ตอ้ งสอดส่ ายสายตาโดยรอบ เกรงว่าพฤติกรรมของนายหญิงจะถูกใครพบเห็นเข้า โดยเฉพาะเมื่ออยู่
ในวังกล้าทาพิธีคุณไสย์ถือว่ามีโทษมหันต์ หากว่าถูกจับได้ละก็ ผลลัพธ์ไม่อาจคาดเดาเลยทีเดียว

...........................................

พระตาหนักหนิงเต๋ อ

เต๋ อเฟยนวดศีรษะช้าๆ อยูน่ าน ถึงได้รู้สึกคลายความเจ็บปวดลง

ทุกสิ่ งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทาให้แม้แต่ตอนนี้ นางก็ยงั ตั้งสติได้ไม่ดีนกั นางกานัลคนสนิทช่วยนวดกดจุดบนขมับและ


ใบหน้าให้อยูน่ าน ค่อยประคองโสมหิ มะมาส่ งให้

"พระสนมเพคะ เมื่อครู่ ใหญ่ฝ่าบาทรับสัง่ ให้หลี่กงกงส่ งโสมหิ มะมาถวาย ในพระทัยฝ่ าบาททรงมีพระสนมอยู่


อย่างแน่นอนเลยเพคะ"

เต๋ อเฟยฟังแล้วยิ่งขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม นางปัดชามโสมหิ มะพลิกคว่าในทันที ยาร้อนๆ ลวกหลังมือนางกานัลจน


พุพองเป็ นตุ่มน้ า

นางกานัลตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้น ตัวสั่นเทาไม่หยุด

"ข้าเพียงแต่ได้รับยาที่เขาสองตาไม่เคยแลเห็นคุณค่าสักน้อยนิ ด นี่ก็นบั เป็ นความคะนึ งหาแล้วหรื อ ตอนนี้เขาคง


เอาแต่คิดถึงผูท้ ี่อยูใ่ นตาหนักเฟิ่ งหนิ งคนนั้นต่างหาก"

เต๋ อเฟยหัวเราะเสี ยงเย็น ใบหน้าอมโรคที่เคยงดงามเปลี่ยนเป็ นน่าเกลียดน่ากลัว ไหนเลยจะยังมีความอบอุ่น


อ่อนโยนเช่นเคยอีก

นางกานัลอดกลั้นความเจ็บปวด รี บเก็บเอาเศษถ้วยชามที่บิ่นแตกออกไป
ครู่ หนึ่ง ถึงได้เห็นนางกานัลซิ่วเหอของเต๋ อเฟอกลับมาจากภายนอก เมื่อไล่นางกานัลคนนั้นออกไปแล้ว ซิ่วเหอถึง
ได้เกลี้ยกล่อมเต๋ อเฟย "พระสนมเพคะ ท่านมีวนั เกิดวันเดียวกับฉางซุนฮองเฮา ในวัยเด็กก็เคยถูกฉางซุนฮองเฮาเรี ยกมา
เข้าเฝ้า บิดาของท่านก็มีตาแหน่งสู งเป็ นถึงท่านรองราชครู ในพระทัยของฝ่ าบาทท่านแตกต่างจากพระสนมอื่นๆ
ทั้งหมด ตู๋กูซิงหลันนัน่ เป็ นตัวชัว่ ร้ายที่ถนัดล่อลวงผูค้ น พระสนมไยต้องไปโกรธเกลียดแย่งชิงกับนางด้วยละเพคะ? "

เต๋ อเฟยบิดผ้าเช็ดหน้าในมือ ประกายไฟในดวงตายังไม่มอดดับโดยง่าย

"พระสนมเพคะ ท่านก็ทราบดี ก่อนที่ฝ่าบาทจะขึ้นครองราชย์ ตระกูลตู๋กูสร้างความลาบากให้พระองค์ไว้มาก ตู๋กู


ซิงหลันนัน่ ก็เป็ นแค่ตวั หมากที่ฝ่าบาทเอาไว้ใช้กดดันตระกูลตู๋กูเท่านั้น ต่อให้นางมีความสามารถสู งส่ งเพียงได้ ก็ไม่
สามารถสาแดงสิ่ งใดออกมาได้ ในภายภาคหน้าหากวันใดตระกูลตู๋กูลม้ ลง ในแคว้นต้าโจวจะยังมีที่ใดให้นางได้ซุกหัว
นอนอีกละเพคะ? " ซิ่วเหอพูดไปก็นวดบ่าให้นางไปด้วย

"พระสนม ท่านสุ ขมุ รอบคอบมาโดยตลอด อย่าได้ไปหลงกลนังตัวร้ายนัน่ ตอนนี้ ก็เพียงแค่ต๋ ูกูจุนใกล้จะกลับ


มาแล้ว ฝ่ าบาทจึงต้องแสดงให้ดูวา่ ทรงดีกบั แม่ตวั ร้ายนัน่ ก็เท่านั้นเอง"

เต๋ อเฟยฟังอยูน่ าน แต่ก็ยงั ไม่ยนิ ยอม "เท่าที่ขา้ ดู กลับไม่ง่ายถึงเพียงนั้น ....เจ้ายังไม่เห็นแววพระเนตรของฝ่ าบาทที่


ทรงจ้องมองนาง....."

คิดๆ ดูแล้ว ที่ผา่ นมาฝ่ าบาทไม่เคยทรงแสดงความโกรธหรื อโปรดปรานใดๆ แต่ต๋ กู ูซิงหลันคนนั้นกลับก่อก่วน


พระอารมณ์ได้อย่างง่ายดาย พระองค์ทรงกริ้ วง่าย แต่ที่สุดแล้วกลับไม่ได้ทาร้ายนางแม้สักรู ขุมขนหนึ่ง นี่ยงั ไม่นบั ว่า
โปรดปรานหรื อ?

"ในวังหลังเต็มไปด้วยเหล่าสนม มีคนมากมายที่รังเกียจนาง นางจะช้าเร็ วก็จะกลายเป็ นหนอนชักใยพันตัวเอง


พระสนมใยต้องทาตัวเป็ นนกรู ้ยนื่ หน้าออกไปก่อน เช่นนี้ผอู ้ ื่นก็สบายไปแล้วสิ ? ทุกวันนี้ทางด้านกุย้ เฟยทั้งสองยังไม่มี
ความเคลื่อนไหวเลยนะเพคะ~"

เต๋ อเฟยพิงหมอนอิง มีซิ่วเหอคอยนวดขาให้นาง นานครู่ ใหญ่ถึงได้ถอนหายใจออกมา " ซิ่วเหอ ยังคงเป็ นเจ้าคิด


การณ์รอบคอบ เป็ นข้าที่ร้อนใจจนเสี ยเรื่ องเอง"

" ข้ายังมีเรื่ องกังวลใจอีกเรื่ องหนึ่ง ฉี ผิน........" เต๋ อเฟยราพึง ดึงมือซิ่วเหอเข้ามาถาม "ตัวโง่งมนัน่ จะลากข้าลงน้ า
ไปด้วยหรื อไม่? "
"ทุกวันนี้ ฉีผินถูกขังในคุกหลวง บิดานางทางานภายใต้บงั คับบัญชาของนายท่าน เมื่อต้องคิดถึงอนาคตของวงค์
ตระกูล นางคงไม่กล้าพูดอะไรมาก" ซิ่วเหอไตร่ ตรองอยูค่ รู่ หนึ่งค่อยตอบอีกว่า "เกรงแต่ทางฝ่ าบาทจะทรงลงมือ
บางอย่าง โดยเฉพาะชิงจิ่งหยูแห่งฝ่ ายสื บสวนเองก็ไม่ใช่ตะเกียงไร้น้ ามัน

เต๋ อเฟยฟังแล้วก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

"พระสนมไม่จาเป็ นต้องกังวลมากเกินไป พวกเรายังมีเวลา จัดการไม่ให้ฉีผินพูดจากเหลวไหล.........บ่าวดูแล้ว ฉี


ผินถูกขังไว้สภาพไม่ดีเท่าไหร่ ท่านว่า หากนางตายในคุกเสี ย......ใครจะกลายเป็ นผูท้ ี่น่าสงสัยที่สุดละเพคะ? "

เต๋ อเฟยสองมือกุมกันภายใต้แขนเสื้ อ ไม่นานใจนางก็ค่อยๆ สงบลงทีละน้อย

ตอนที่พ่ ึงจะเข้าวังมาใหม่ๆ บิดาสั่งให้ซิ่วเหอติดตามเข้ามาด้วย เพื่อช่วยเหลือนางวางแผนการ ช่วงเวลาสาคัญ


เช่นนี้จึงได้อาศัยใช้งานได้

"ทางด้านตู๋กูเหลียนนัน่ ........." ครู่ เดียว นางก็กงั วลถึงอีกคนหนึ่งขึ้นมา

"ตู๋กูเหลียนนัน่ ยังเป็ นตัวโง่งมกว่าฉี ผินอีก ไม่จาเป็ นต้องให้พระสนมกังวลสนใจด้วยซ้ า ขอเพียงนางกล้าพูดจา


เหลวไหลสักคา ก็จะไม่ได้เห็นอาทิตย์ของวันถัดไป"

คราวนี้ เต๋ อเฟยก็สามารถคลี่ยมิ้ อบอุ่นนุ่มนวลออกมาได้ในที่สุด

..................................................
ภายในคุกหลวง ฉี ผินผมเผ้าพะรุ งพะรังซุกตัวอยูใ่ นมุมๆ หนึ่ ง ภายในคุกไร้แสงตะวันอากาศอับชื้น หญ้าที่เปี ยกชื้น
เน่าเหม็นยังมีหนูตวั ใหญ่ ปิ่ นมุกและหยกประดับที่เคยมีลว้ นถูกริ บเก็บไปจนหมดสิ้ น แม้แต่ชุดสี แดงที่นางชมชอบสวม
ใส่ ที่สุดก็ยงั ถูกถอดไป เหลือเพียงเสื้ อคลุมตัวในบางๆ

คดียงั ไม่ทนั ถูกพิจารณาแท้ๆ นางยังไม่ทนั ถูกถอดยศ กลับตกต่าจนไม่เหลืออะไรถึงเพียงนี้ แทบจะไม่เป็ นผูเ้ ป็ น


คนแล้ว
ตอนที่ 45 พาดกระบี่เหนืออาชาหมื่นอริสิ้น การาบทัว่ เทพไท้หมู่มาร

นางคือฉี ผินที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งด้วยพระองค์เองเชียวนะ! ไม่เพียงแค่น้ นั บิดายังเป็ นถึงแม่ทพั ขั้นสี่ ........

ทั้งหมดนี้ลว้ นถูกนังคนชัว่ ตู๋กูซิงหลันทาลายสิ้ น! หากว่านางสามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ จะกาจัดนังสารเลวนัน่


ด้วยมือตนเอง!

ฉี ผินโกรธจนแทบจะขบฟั นแตก พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเงาดาของคนผูห้ นึ่ ง

คนผูน้ ้ นั สวมชุดดาคลุมตัว ปิ ดบังใบหน้า ยืนอยูท่ ี่ประตูคุกราววิญญาณมืดตนหนึ่ ง

คุกนี้จะอย่างไรก็อยูใ่ นพื้นที่ของวังหลวง คนที่สามารถลอบเข้ามาอย่างไร้สุ่มเสี ยงนี้ ยังจะมาดีได้อีกหรื อ?

"เจ้า....เจ้าเป็ นใครกัน...." ฉี ผินชักเริ่ มหวาดกลัวขึ้นมา ตัดสิ นใจถอยหลังไปอีก

คนชุดดานัน่ ไม่ได้กล่าวอันใดกับนาง เพียงแต่ยนื สงบนิ่ งอยูก่ บั ที่ เพียงครู่ หนึ่งก็มีเงาดาก้อนหนึ่งผุดขึ้นจากรอยเงา


ของคนผูน้ ้ นั

ฉี ผินพลันรู ้สึกไหล่บ่าหนักอึ้ง ทัว่ ร่ างหนาวสัน่ ความคิดอึดอัดขัดข้อง สุ ดท้ายสายตากลายเป็ นว่างเปล่าไปทันที

"เรื่ องผึ้งพิษครั้งนี้ ยังมีผใู ้ ดเกี่ยวข้องอีกบ้าง? " คนชุดดาเปิ ดปากก็ถามอย่างเข้าประเด็นในทันที

" ข้า ตู๋กูเหลียน แล้วก็เต๋ อเฟย....." ฉี ผินพึมพาตอบคา

คนชุดดาเงียบไปครู่ หนึ่ง คาตอบเท่านี้อยูภ่ ายใต้การคาดเดาของนางอยูแ่ ล้ว

"แล้วใครเป็ นผูค้ วบคุมผึ้งพิษ? "

ฉี ผินอ้าปากคล้ายจะพูด แต่กลับไม่มีเสี ยงใดออกมา สายตาของนางเปี่ ยมไปด้วยความหวาดหวัน่ อย่างที่สุด ยกมือ


ตะครุ บศีรษะเอาไว้กรี ดร้องว่า "ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้.........ไม่รู้เลย...."
ภายใต้ผา้ คลุมสี ดา ตู๋กูซิงหลันขมวดคิ้วขึ้นมา สภาวะจิตของฉี ผินตอนนี้ กาลังฟุ้งซ่านสับสน เป็ นช่วงที่จิตใจ
อ่อนแออย่างที่สุด

วิญญาณทมิฬสามารถเข้าควบคุมนางได้อย่างง่ายดาย ซึ่งยามปกติจะไม่อาจทาได้

"ที่แท้มีคนทาคุณไสยสาปแช่งนางไว้! " อีกด้านวิญญาณทมิฬกระโดดออกมาจากนาง มุมปากของมันยังมีรอย


เลือดอยูเ่ ล็กน้อย

เมื่อครู่ น้ ีมนั ฝื นบังคับให้ฉีผินเปิ ดปากพูด ไม่ทนั ระวังเป็ นเหตุให้คุณไสยนัน่ ย้อนเข้าใส่ จนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

"ไม่เป็ นไรนะ? " ตู๋กูซิงหลันอุม้ มันขึ้นมา ในดวงตาสะท้อนความห่วงใยออกมาจางๆ

วิญญาณทมิฬพยักหน้าติดๆ กัน หมัดน้อยๆ ทุบเข้าใส่ อกของนาง "นับว่านังหนูเจ้ายังมีน้ าใจอยูบ่ า้ ง! "

ว่าแล้วก็กล่าวตอบว่า "มีคนไม่ตอ้ งการให้นางพูดอะไร บังคับไปก็ไม่ได้เรื่ องหรอก"

ตู๋กูซิงหลันหรี่ ตาลง มองดูฉีผินที่ตวั สัน่ สะท้าน ตอนนี้เพียงแต่สามารถรู ้วา่ คนโง่อย่างฉี ผินไม่ใช่ผบู ้ งการ แน่นอน
ว่านางถูกคนขายทิ้งแล้วยังจะช่วยนับตังค์ส่งให้อีก

นี่นางยังถือว่าประมาท มองข้ามคนอย่างตู๋กูเหลียงไป คนที่ถูกส่ งไปอยูล่ านซักล้างกลับมีส่วนพัวพันเรื่ องนี้ดว้ ย


ช่างยอดเยีย่ มจริ งๆ

" วันหน้าหากยังอยากมีชีวิตรอด หาคนไปขอร้องไทเฮาซะ"

ฉี ผินทรุ ดลงกับพื้น ในสมองมีแต่ความเจ็บปวด แต่ยงั ได้ยนิ ประโยคนั้นอย่างชัดเจน

ไปหาตู๋กูซิงหลันหรอ? นางเกลียดมันจะตาย จะไปร่ าร้องขอความเมตตาจากมันได้อย่างไร?

ระหว่างทางกลับไป วิญญาณทมิฬอดใจไม่ไหวต้องถามขึ้นมา "เจ้าคิดจะทาตัวเป็ นพระโพธิสัตว์ ช่วยเหลือคนที่ทา


ร้ายตัวเองจริ งหรื อ? นังหนูที่โหดเ**้้ยมอามหิ ตเช่นเจ้าเปลี่ยนเป็ นมีเมตตาตั้งแต่เมื่อไหร่ ? "
" เจ้ารู ้หรื อไม่มนุษย์มีคาพูดอยูว่ า่ 'ล่องูออกจากถ้ า'? " ตู๋กูซิงหลันเหลือบมองเจ้าถวนจื่อน้อยแวบหนึ่ ง "ศัตรู อยู่
ในที่ลบั ข้าอยูใ่ นที่แจ้ง พวกนางรู ้จกั วางแผนชัว่ ข้าก็รู้จกั ขุดหลุมฝังคน"

วิญญาณทมิฬฟังแล้วยิง่ สับสน มันแกว่งขาสั้นๆ ไปมา "ฟังไม่ค่อยเข้าใจ......"

"ซื่อบื้อ" ตู๋กูซิงหลันเคาะหัวมันครั้งหนึ่ ง มองออกไปท่ามกลางคืนที่มืดมิด สายลมโหมแรงหอบเอาไอฝนมา เกรง


ว่า วังหลังแห่งนี้ใกล้จะมีเรื่ องสนุกอีกแล้ว

...........................................

ครึ่ งเดือนต่อมา เข้าสู่ ปลายเดือนเก้าแล้ว อากาศเย็นขึ้นไม่น้อย

แม่ทพั ตู๋กูจุนกลับถึงเมืองหลวงแล้ว

ตู๋กูซิงหลันนับวันรอคอยในที่สุดก็สมหวังแล้ว หลายวันมานี้ นางได้ยนิ เรื่ องราวของพี่ชายมาไม่นอ้ ย อายุสิบสามก็


ออกศึกปราบศัตรู สามารถตัดศีรษะข้าศึกนับพัน สร้างผลงานมีความสาเร็ จจากการรบทัพจับศึกมาตลอดสิ บปี กลายเป็ น
แม่ทพั หนุ่มผูพ้ ิชิตของต้าโจว

ในหมู่ชาวบ้านถึงกับมีคาพูดว่า “พาดกระบี่เหนืออาชาหมื่นอริ สิ้น การาบทั่วเทพไท้ หมู่มาร”

พูดกันถึงขนาดที่วา่ แม่ทพั ผูย้ งิ่ ใหญ่ต๋ กู ูจุนยังโหดเ**้้ยมน่ากลัวกว่าปี ศาจมารร้ายเสี ยอีก

แม้แต่ต๋ กู ูซิงหลันยังอดไม่ได้ที่จะปลาบปลื้มภาคภูมิใจอยูบ่ า้ ง ผูน้ ้ ีคือพี่ชายแท้ๆ จากบิดามารดาเดียวกับเจ้าของร่ าง


เดิม ตอนนี้ นางยอมรับฐานะใหม่ของตนเองแล้ว ย่อมต้องยอมรับครอบครัวของร่ างเดิมด้วย

ตู๋กูจุน คือพี่ชายใหญ่ของนาง
คืนวันที่สามสิ บเดือนเก้า ฮ่องเต้แห่งต้าโจวทรงพระราชทานงานเลี้ยงรับรองที่พระตาหนักจิ่นซิ่ว ผูเ้ ข้าร่ วมงาน
เลี้ยงล้วนเป็ นพระญาติ เชื้อพระวงค์ช้ นั สู ง และเหล่าขุนนางสาคัญในราชสานัก

นับตั้งแต่ฝ่าบาททรงขึ้นครองราชย์ นี้นบั เป็ นงานเลี้ยงพระราชทานที่ยงิ่ ใหญ่และงดงามที่สุด

เพราะครั้งนี้นายท่านผูเ้ ฒ่าตู๋กูและท่านแม่ทพั จับตัวอาปู้ไซ้เผ่าเป่ ยเจียง ศัตรู ที่ทาให้ตา้ โจวปวดหัวมานานปี ได้


สาเร็ จ และยังมีชนชั้นผูน้ าอีกหลายคนด้วย นี่เท่ากับสามารถเปิ ดประตูเจาะช่องเข้าไปในเขตเป่ ยเจียงได้แล้ว

สาหรับแคว้นต้าโจว เรื่ องนี้ ถือว่าเป็ นข่าวดีอนั ยิง่ ใหญ่เลยทีเดียว

แคว้นต้าโจวก่อตั้งมาสามรัชกาล เป็ นเสมือนไข่แดงของพื้นที่ที่ยงั ไม่อาจรวมเป็ นหนึ่ ง ยังมีอีกสองแคว้นใหญ่และ


เจ็ดแคว้นเล็กเป็ นเสื อหมอบคอยจดจ้องอยู่ แคว้นต้าโจวเป็ นหนึ่งในสามแคว้นใหญ่ ฮ่องเต้สองพระองค์ก่อนหน้าไม่เคย
ล้มเลิกพระดาริ ที่จะรวบรวมแผ่นดินให้เป็ นหนึ่ งเลยแม้สักชัว่ ขณะเดียว

เมื่อถึงรัชสมัยของฮ่องเต้พระองค์ใหม่ แน่นอนว่าจะต้องไม่หยุดเพียงเท่านี้เช่นกัน

ทุกคนต่างรู ้ดีวา่ ความทะยานอยากในพระทัยของฝ่ าบาทมิได้นอ้ ยกว่าอดีตฮ่องเต้ท้ งั สองพระองค์เลย

ดังนั้นอย่าว่าแต่ตอนก่อนขึ้นครองราชย์ตระกูลตู๋กูจะแสดงความกระด้างกระเดื่องเพียงไร ยามนี้เป็ นเวลาต้องใช้


คน ฝ่ าบาทจะอย่างไรก็ตอ้ งให้เกียรติตระกูลตู๋กูอยูห่ ลายส่ วน

อย่างเช่น........งานเลี้ยงในค่าคืนนี้ ก็เป็ นตัวอย่างอันดี

ไทเฮาน้อยที่ถูกสั่งขังในตาหนักเย็นเมื่อไม่กี่เดือนก่อน คืนนี้ปรากฎพระองค์แล้ว

ภายใต้แสงสว่างเรื องของโคมไฟ นางสวมชุดกระโปรงสี ดาอมเขียว แขนกว้าง เอวคอด คอปาด เปิ ดไหล่แบบชาว


วัง กระโปรงผ้าปักลายด้วยเส้นไหม เสื้ อคลุมเป็ นผ้าโปร่ งบาง บนผ้าสี ดาอมเขียวปักดอกหมู่ตานด้วยดิ้นทอง

บนลาคอของนางมีสังวาลย์ลูกปัดอาเกตสี มรกต ทรงผมไม่ได้ปล่อยสยายเช่นยามปกติ แต่เกล้าทรงหงสา บนมุม


ผมแต่ละช่อแซมดอกไฮ่ถาง เมื่อเปรี ยบเทียบกับบรรดาพระสนมที่ประโคมเครื่ องแต่งตัวลงไปแล้ว ตู๋กูซิงหลันกลับดู
คล้ายสาวน้อยเยาว์วยั มากกว่า
เพียงแต่ใบหน้าที่งดงามล่มบ้านล่มเมืองของนาง กลับทาให้เสื้ อผ้าที่ดูธรรมดาไม่เข้าตานี้กลายเป็ นสู งส่ งงดงาม
ขึ้นมาอีกหลายเท่า เมื่ออยูท่ ่ามกลางเหล่าพระสนมที่แข่งขันประชันกันเช่นนี้ ไทเฮาน้อยเช่นนางยังคงเป็ นที่สุดของความ
เริ ดหรู สง่างามและทรงศักดิ์ อายุเพียงแค่สิบห้าปี แต่กลับมีสง่าราศีของพระแม่แห่งแผ่นดิน

หลี่กงกงนั้นเหงื่อตกท่วมหัวท่วมหูอยูแ่ ต่แรกแล้ว เพื่องานเลี้ยงในคืนนี้ ฝ่ าบาทมีรับสัง่ ตั้งแต่แรกให้กอง


พระราชสานักตระเตรี ยมฉลองพระองค์สาหรับไทเฮาเอาไว้หลายชุด กระทัง่ เครื่ องประดับก็มีพร้อม แต่ไทเฮา
ทอดพระเนตรอยูน่ านกลับไม่ตอ้ งพระทัยแม้สักชิ้นเดียว แถมยังรับสั่งทานองว่าพระองค์ตอ้ งทรงไว้ทุกข์ถวายอดีต
ฮ่องเต้ ไม่สมควรสวมใส่ สิ่งที่มีสีสันและลวดลายมากไป

ดูสิดู เหล่าพระสนมในวังหลังแห่งนี้ นอกจากเต๋ อเฟยที่นิยมชุดขาวตลอดเวลาแล้ว คนไหนไม่สวมใส่ สีสันลาย


พร้อยบ้าง?

ยังดีที่.....ฝ่ าบาทมิได้ทรงไม่พอพระทัย และไม่ได้ทรงกริ้ ว

ภายในพระตาหนักจิ่นซิ่ว นอกจากท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตตู๋กูจุนแล้ว ทุกคนต่างก็มากันอย่างพร้อมเพรี ยง ฮ่องเต้ทรง


ประทับในตาแหน่งประธาน ด้านหลังที่ประทับประดับประดาด้วยดอกฝูหรงอย่างวิจิตรงดงาม ภายใต้แสงอบอุ่นงดงาม
ของเปลวเทียวและโคมมังกรยิ่งขับเน้นให้ได้เห็นถึงพระรู ปโฉมที่งดงามอย่างไร้ที่เปรี ยบของฮ่องเต้

เหล่าพระสนมที่นงั่ อยูต่ ่างเฝ้ามองด้วยสายตาที่หลงใหล ทั้งๆ ที่พวกนางต่างก็เป็ นสตรี ของฝ่ าบาท แต่กลับไม่มี


ผูใ้ ดที่ครอบครองพระองค์มาก่อน.....คนผูน้ ี่เป็ นสามีของพวกนาง เดิมสมควรจะเป็ นคนที่ใกล้ชิดกันมากที่สุด แต่เขา
กลับเป็ นดังดวงตะวัน ห่างไกลจนไม่อาจไขว่คว้า

ตอนที่ 46 บุรุษผู้นรี้ ังสีอามหิตรุนแรง

ดูๆ ไปแล้วผูท้ ี่ยนื เคียงข้างฝ่ าบาทมาโดยตลอดก็คือ ท่านราชครู


เมื่อสามปี ก่อน ท่านราชครู ยงั คงเป็ นบุรุษหนุ่มรู ปงามสะโอดสะอง แต่วนั หนึ่งไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาปรากฎ
ตัวขึ้นก็........กลายเป็ นคนอ้วนเสี ยแล้ว อ้วนถึงขนาดที่ไม่อาจรับได้

แต่แล้วอย่างไร ฝ่ าบาททรงดีกบั เขาดุจเดิม ฮือ หรื อว่าพวกนางแต่ละคนต้องเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็ นบุรุษไปถึง


จะสามารถดึงดูดจิตปฎิพทั ธ์ของฝ่ าบาทได้?

หากจะพูดว่าฝ่ าบาททรงพอพระทัยแต่บุรุษแล้วละก็ ตู๋กูซิงหลันนัน่ กลับกลายเป็ นข้อยกเว้น

ดูสิ ที่นงั่ ของนางกลับเทียบเท่ากับท่านราชครู อยูด่ า้ นข้างของฝ่ าบาท หนึ่งซ้ายหนึ่งขวา ไร้ขอ้ แตกต่าง นี่ไม่ใช่
ชัดเจนอย่างที่สุดว่าฝ่ าบาททรงดีกบั นางอย่างไม่ธรรมดาหรื อ?

ยังดีที่กยุ้ เฟยทั้งสองไม่อาจมาร่ วมงานเลี้ยงนี้ได้ มิเช่นนั้นไม่รู้วา่ หากต้องพบเห็นบรรยากาศเช่นนี้พวกนางจะรู ้สึก


อย่างไร

ที่จริ งแล้ว พระสนมเต๋ อเฟยก็อยูใ่ นงานนี้ดว้ ย จะอย่างไรก็ไม่ควรถึงรอบของตู๋กูซิงหลันได้อยู่เคียงข้างฝ่ าบาท


เช่นนี้สิ?

นางคือปี ศาจสาวที่ล่มบ้านล้างเมืองเป็ นแน่!

อี้อ๋องจีเย่วเ์ องก็เสด็จมาด้วย ทรงประทับอยูบ่ ริ เวณที่เหล่าอ๋ องทั้งหลายประทับอยู่ นับตั้งแต่เริ่ มงานจนถึงตอนนี้


ดวงตาของเขาประทับอยูแ่ ต่บนร่ างของตู๋กูซิงหลันเท่านั้น ไม่ได้ละสายตาไปทางอื่นใดแม้แต่นอ้ ย

หลันเอ๋ อร์ของเขาช่างโดดเด่นยิง่ นัก คือดวงจันทราที่เห็นเพียงแวบแรกก็รู้วา่ อยูเ่ หนือผูค้ นนับพันนับหมื่น

น่าเสี ยดาย.......ในพระตาหนักจิ่นซิ่ววันนี้ นางกลับไม่ได้มองมาที่เขาเลยสักครั้ง ราวกับว่าเขาคือฝุ่ นผงท่ามกลางฝูง


ชน ไม่มีความหมายใดในสายตาของนาง

จีเย่วไ์ ม่อาจระงับความเศร้าโศก จึงได้แต่อาศัยสุ ราราดรดแต่เพียงลาพัง

"อี้อ๋องเพคะ สุ ราเป็ นพิษต่อร่ างกาย ยังคงดื่มให้นอ้ ยจะดีกว่านะเพคะ" ในที่สุดเต๋ อเฟยที่นงั่ อยูด่ า้ นข้างก็เอ่ยปาก
ขึ้นมา
ที่นงั่ ของเหล่าสนมและท่านอ๋ องทั้งหลายอยูต่ ิดกัน เต๋ อเฟยและอี้อ๋องก็เผอิญนังอยูข่ า้ งกันพอดี เสี ยงเตือนแต่เพียง
เบาๆ นี้ยอ่ มไม่มีผใู ้ ดได้ยนิ

คราวนี้จีเย่วถ์ ึงได้เหลือบมองนางแวบหนึ่ ง เต๋ อเฟยสวมชุดขาวตลอดมา บนผมทรงเมฆาเคลื่อนปักไว้ดว้ ยดอกหมู่


ตานขาวดอกหนึ่ ง ใบหน้าที่งดงามประทินโฉมแต่เพียงเบาบาง ทาให้คนชมดูแล้วสบายตาสบายใจ

"รบกวนให้พระสนมเต๋ อเฟยเป็ นกังวลใจแล้ว " จีเฉวียนยกจอกสุ ราคมาวะนาง เงยหน้าดื่มหมดจอก และไม่สนใจ


เอ่ยคาใดกับนางอีก

เต๋ อเฟยเห็นใบหน้าที่โศกเศร้าของเขา พาลให้ยอ้ นคิดไปถึงบุรุษหนุ่มที่งดงามโดดเด่นในอดีต จนอดใจลอยไม่ได้


หากไม่ใช่เพราะตู๋กูซิงหลัน บางทีนางอาจ....

ขณะที่นางกาลังใจลอยอยู่น้ นั ก็เห็นซิ่ วเหอนาลิ้นจี่ที่ปอกเปลือกเรี ยบร้อย เนื้อใสส่ องประกายงดงามราวลูกแก้ว


ใส่ จานมาหลายลูก ส่ งถึงเบื้องหน้านาง "พระสนมเพคะ นี่คือลิ้นจี่ที่พ่ งึ ถูกส่ งมาเป็ นบรรณาการ ท่านลองชิมดูสิเพคะ"

เต๋ อเฟยเรี ยกสติกลับมา กระพริ บตาถี่ๆ หลายครั้ง ลิ้นจี่ลูกหนึ่งก็ถูกส่ งเข้าสู่ ปาก ทั้งๆ ที่ได้รสหวานเข้มข้น แต่ใน
ใจกลับขมปร่ า

เมื่อเห็นเต๋ อเฟยจิตใจไม่อยูก่ บั เนื้อกับตัว ซิ่วเหอจึงคุกเข่าอยูท่ ี่ขา้ งกายนาง บดบังการมองเห็นระหว่างนางและอี้


อ๋ องเอาไว้ "พระสนมเพคะ เรื่ องที่ผา่ นไปแล้วไม่อาจย้อนคืน ท่านต้องตระหนักถึงฐานะของตนเอง แล้วมองไป
ข้างหน้า"

เต๋ อเฟยกระพริ บตาอยูห่ ลายครั้งค่อยถอนหายใจยาว หันไปมองฮ่องเต้บนตาแหน่งประธานของงานด้วยสายตา


จริ งจังอีกครั้ง ที่ผา่ นมาเป็ นดัง่ ความฝันตื่นหนึ่ ง เรื่ องที่ไม่ควรจดจา คนที่ไม่ควรนึกถึงยังคงลืมให้สิ้นไปเสี ยดีกว่า

คิดได้ดงั นี้นางก็หยิบลิ้นจี่มาอีกลูกหนึ่งป้ อนเข้าปาก แน่นอน......หวานล้ า

เมื่อมองไปก็เห็นเงาร่ างสี ม่วงสายหนึ่งเดินผ่านนางไป จะเป็ นใครเสี ยอีกหากไม่ใช่หยวนเฟย?


หยวนเฟยเองก็หันมามองนางพอดี นางกรอกตามองบน สะบัดกาไลเงินบนข้อมือและข้อเท้าจนส่ งเสี ยงกรุ๊ งกริ๊ ง
ค่อยพางูเขียวหวังไฉนัง่ ลงบนที่นงั่ ข้างเต๋ อเฟย พอนัง่ ลงได้ก็ถอนใจด้วยความหงุดหงิด "ไม่รู้วา่ เป็ นบ่าวโง่ที่ไหนจัดที่นงั่
กัน"

นางไม่ชอบหน้าเต๋ อเฟย ก็เหมือนกับที่นางไม่ชอบตู๋กูซิงหลัน ไม่อยากจะนัง่ ติดกัน

เต๋ อเฟยทาเสมือนไม่ได้ยนิ อะไร กับสตรี เผ่าคนเถื่อนเช่นหยวนเฟย นางไม่อยากจะเปลืองน้ าลายด้วย อยูใ่ นวังหลัง


นี้ จะช้าเร็ วนางก็คงขุดหลุมฝังตัวเองไปเอง

"หยวนเฟย ขอให้ซุนเอ๋ อร์ของข้าลองจับงูเขียวของเจ้าดูหน่อยได้หรื อไม่? "

หยวนเฟยพึ่งจะนัง่ ลงก็ได้ยนิ สตรี ที่อยูเ่ บื้องหน้าหันมา จ้องมองงูเขียวบนข้อมือของนาง

สตรี ผนู ้ ้ ีมองไปดูเหมือนเพียงยีส่ ิ บห้ายีส่ ิ บหกปี คิ้วโค้งโก่งงาม เครื่ องหน้าพอเหมาะพอเจาะ สวมใส่ ชุดชาววังสี
เหลืองนวล ม้วนผมทรงดอกสาลี่ ทั้งสง่างามและอ่อนโยน

ขณะที่นางกาลังชะงักอยู่น้ นั ก็เห็นเด็กหญิงวัยห้าขวบคนหนึ่ง เด็กน้อยใบหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มหน้าตาหน้าเอ็นดู


กาลังจ้องมองมาทางนาง

หยวนเฟยชะงักไปครู่ ใหญ่ค่อยโอบอุม้ งูเขียวน้อยเข้าไปในอกเสื้ ออย่างทะนุถนอม "องค์หญิงใหญ่เพคะ หวังไฉ


ของหม่อมฉันไม่ใช่สุนขั หากว่าทาให้ท่านหญิงน้อยได้รับความตระหนกจะเป็ นเช่นไร? "

องค์หญิงใหญ่แย้มยิม้ อ่อนโยน "งูเขียวของเจ้าสวยงามจริ งๆ ซุนเอ๋ อร์ชื่นชอบมันมาก เอาแต่ออดอ้อนข้าอยากลอง


ลูบดู ข้าได้แต่ขอร้องเจ้าแทนนางแล้ว "

นางตรัสแล้ว ยิง่ ได้ยนิ เสี ยงออดอ้อนของเด็กน้อยถามว่า "หยวนเฟยเพคะ ซุนเอ๋ อร์สามารถลองจับได้หรื อไม่? ซุน
เอ๋ อร์สัญญาจะจับนิดเดียว ไม่ทามันเจ็บ"

เมื่อเห็นดวงตาที่รอคอยอย่างคาดหวังของเด็กหญิงน้อย แม้แต่หยวนเฟยก็ยากที่จะหักใจปฎิเสธแล้ว

นางค่อยๆ นางูเขียวน้อยออกมาจากอกเสื้ อ ส่ งปลายหางของมันให้เด็กน้อย "งั้น ให้เจ้าจับดูสักหน่อยแล้วกัน"


ซุนเอ๋ อร์น้อยแย้มยิม้ สดใส มืออวบๆ ยืน่ ออกมาลูบดูอยูส่ องครั้ง ก็แย้มยิม้ ดัง่ ดอกไม้บาน หันกลับไปกล่าวกับองค์
หญิงใหญ่วา่ "ท่านแม่ เจ้างูน่ารักมาก"

องค์หญิงใหญ่สรวลอย่างอ่อนโยน ลูบศีรษะนางเบาๆ ค่อยหันไปยิม้ ให้หยวนเฟยอีกครั้ง "ข้าขอบใจเจ้าแทนนาง


มากนะ"

"หยวนเฟยเพคะ ขอบพระทัยเพคะ~" ซุนเอ๋ อร์นอ้ ยกุมมือเล็กๆ คานับมาทางนาง

หยวนเฟยยิม้ บางๆ ส่ ายศีรษะน้อยๆ ตอบเบาๆ ว่า "อืม ไม่ตอ้ งขอบคุณ"

นางพึ่งกล่าวจบ ก็มีเสี ยงป่ าวร้องในตาหนักจิ่นซิ่วดังขึ้น "แม่ทพั ผูพ้ ิชิตมาถึง......."

ชัว่ ขณะนั้นผูค้ นทั้งหมดหันเหความสนใจไปที่ดา้ นนอกประตู

ประตูตาหนักเปิ ดออก แสงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า แม้ยงั ไม่อาจมองเห็นท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิต แต่ผคู ้ นต่างรู ้สึกถึง
สายลมแฝงรังสี อามหิ ตหอบหนึ่งผ่านเข้ามา

ครู่ หนึ่งค่อยเห็นภายใต้แสงดาวเรื องรองเรื อนร่ างกายาสู งตระหง่านเดินตรงเข้ามาสู่ ภายในงาน

แสงเทียนและแสงดาวหนุนนาซึ่งกันและกันส่ องทาบลงบนร่ างของเขา เกราะเงินที่ขาวแวววาวส่ องประกายเย็น


เยียบ เส้นผมยาวถูกรวบไว้สูงปลิวตามลม พลิ้วผ่านปลายดาบจนสะท้อนแรงพิฆาตยิง่ กว่าเดิม

รอยเคราบนปลายคางยิง่ ส่ งเสริ มภาพลักษณ์ผผู ้ า่ นสงครามให้เข้มข้นขึ้น

ตู๋กูจุนมองตรงไป เดินถึงเบื้องพระพักตร์ ค่อยคุกเข่าลงข้างหนึ่งคานับ "กระหม่อมตู๋กูจุน ถวายพระพรฝ่ าบาท


ถวายพระพรไทเฮา"

น้ าเสี ยงของเขาหนักแน่น อย่างบุรุษแท้


บรรดาสาวน้อยสู งศักดิ์ในที่น้ นั ต่างก็อดที่จะหน้าแดงไม่ได้ ก่อนที่ฝ่าบาทจะทรงขึ้นครองราชย์ แม่ทพั ผูพ้ ิชิตคือ
วีรบุรุษในดวงใจของเหล่าคุณหนูในห้องหอทั้งหลาย ถึงแม้ตระกูลตู๋กูในยามนี้ไม่เหมือนดังแต่ก่อน แต่เมื่อได้เห็นท่าน
แม่ทพั ผูพ้ ิชิตด้วยตาตนเอง ก็ไม่อาจห้ามหัวใจไม่ให้สั่นไหวได้

ยอดบุรุษเช่นนี้ ให้ความรู ้สึกปลอดภัยพึ่งพิงได้ หากว่าได้ตบแต่งเป็ นภรรยาของเขา ไม่รู้วา่ จะเป็ นความสุ ขถึงเพียง


ไหน

"ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตเชิญลุกขึ้น " จีเฉวียนที่ประทับอยูด่ า้ นบนโบกพระหัตถ์

ตู๋กูจุนค่อยลุกขึ้นยืน สายตาของเขาจับจ้องอยูบ่ นร่ างของน้องสาวตนเอง


ตอนที่ 47 ข้ าปลาบปลื้มอยู่ทกุ วัน

เมื่อได้เห็นหน้านางคิ้วคมขมวดแน่น เสื้ อผ้าอาภรณ์ของน้องสาวแต่ไหนแต่ไรล้วนเป็ นเนื้ อผ้าชั้นดีที่สุด


เครื่ องประดับล้วนสั่งทาโดยเฉพาะ เครื่ องแป้งแต้มชาดที่ใช้ลว้ นเป็ นเรื อนบุปผชาติบรรจงทาขึ้นเฉพาะตน

ดูสิ ตอนนี้แต่งตัวเช่นไร ต่างกับถุงกระสอบผ้าที่ตรงไหน! นัน่ ปักอะไรอยูบ่ นหัว? ดอกไม้ดอกไร่ ขา้ งทางก็


เหมาะสมคู่ควรกับนางแล้วหรื อ?

เวลาสั้นๆ ไม่กี่เดือน น้องสาวสุ ดที่รักของเขาทาไมถึงกลายเป็ นขอทานไปได้?

เจ้าฮ่องเต้สุนขั ที่สมควรสับเป็ นพันชิ้น จับน้องเล็กขังในตาหนักเย็นก็แล้วไปเถอะ กลับกลัน่ แกล้งรังแกนางถึง


เพียงนี้!

หากว่าตระกูลตู๋กูของพวกเขาไม่คดั ค้านก็ถือว่าผิดต่อนางแล้ว!

ตู๋กูซิงหลันก็มองมาที่เขา ความคิดในสมองหมุนวนอยูห่ ลายรอบ คิดไม่ถึงว่าพี่ชายของตนเองจะสมบูรณ์แบบ


ขนาดนี้ ถึงขนาดยอดเยีย่ มกว่าพวกบุรุษเชื้อพระวงค์ที่ถูกเลี้ยงในวังเสี ยอีก พี่ใหญ่ถึงจะเป็ นยอดบุรุษที่แท้จริ ง

ดูสิ ถึงแม้สายลมและฝุ่ นทรายในสนามรบจะทาให้ผิวพรรณดูหยาบกร้านราวกระดาษทรายเนื้อหยาบ แต่มองดู


อย่างไรก็เป็ นยอดบุรุษรู ปงาม เชื้อสายของตระกูลตู๋กูช่างยอดเยีย่ มยิง่ นัก

อาจเป็ นเพราะสายเลือดผูกพันเข้มข้น เมื่อตู๋กูซิงหลันได้พบกับเขาก็รู้สึกปลื้มใจอย่างแท้จริ ง

นางชี้มาทางที่นงั่ ด้านใน กล่าวย้าคาที่ฮ่องเต้รับสั่ง "ท่านแม่ทพั เชิญนัง่ "

พูดไปแล้ว พี่ชายแท้ๆ ฝ่ าลมฝนกลับมา ย่อมต้องเชื้อเชิญให้กินดื่มอย่างอิ่มหนา มีที่ไหนให้ผอู ้ ื่นได้แต่ยนื พูด?

ตู๋กูจุนกาหมัดคานับตอบ "ขอบพระทัยไทเฮา"
พูดแล้วก็เดินฉับๆ เข้ามานัง่ ประจาที่ พึ่งจะนัง่ ลงก็ได้ยินเสี ยงใต้เท้าเสนาบดีซ่งหงเลี่ยงยิม้ เย็นกล่าวเสี ยงก้องว่า
"แม่ทพั ผูพ้ ิชิตช่างสมเป็ นผูพ้ ิชิต ฝ่ าบาทยังไม่ทนั ได้ทรงประทานอนุญาตให้นงั่ เลย ดูท่าในสายตาของท่านคงมีแต่ไทเฮา
ไม่มีฝ่าบาทแม้แต่นอ้ ย"

"ไทเฮาทรงแสดงพระอานาจจนเป็ นเรื่ องธรรมดา อยากจะตบตีพระสนมในวังหลังก็ตบ แม่ทพั ผูพ้ ิชิตไม่ฟังนางยัง


จะฟังผูใ้ ดได้อีก? "

ฮูหยินของท่านเสนาบดีก็ต่อคาประสานรับ ครั้งก่อนตอนอยูน่ อกตาหนักเฟิ่ งหนิ ง นังตัวร้ายตู๋กูซิงหลันด่าว่านาง


เป็ นยายแก่หน้าเหลือง นางยังจาได้จนถึงวันนี้

ได้ฟังแล้ว ตู๋กูจุนก็เทเหล้าด้วยตนเองสามจอก ลุกขึ้นมาคานับฝ่ าบาท "กระหม่อมเป็ นคนหยาบคาย ไม่ได้พบน้อง


เล็กมานาน จึงลืมตัวชัว่ ขณะ ไร้มารยาทไปบ้าง กระหม่อมของปรับตนเองดื่มสามจอก เพียงแต่ไม่รู้วา่ พวกขุนนางบุ๋
นบางคนถูกเลี้ยงดูอย่างไรถึงได้หน้าหนาปานสุ นขั บังอาจกระโดดออกมาเบื้องพระพักตร์ไล่เห่าไปทัว่ หนวกหูยงิ่ นัก
สมควรจับไปฝึ กในสนามรบดูบา้ ง"

พูดแล้ว ตู๋กูจุนก็ดื่มลงไปสามจอกติดกัน รังสี อามหิ ตจากดวงตาสาดทะลุร่างใต้เท้าเสนาบดี

"เกี่ยวกับน้องเล็กของกระหม่อม....ถูกเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมมาแต่นอ้ ย ไร้เดียงสามีเมตตาอย่างที่สุด ยุงตายไปตัว


ยังร่ าไห้อยูค่ รึ่ งค่อนวัน จะไปตบตีผคู ้ นได้อย่างไร? "

บรรดาเหล่าสนมที่อยูใ่ นงาน "......" ท่านแน่ใจหรื อว่ากาลังพูดถึงตู๋กูซิงหลันอยู่? นางในตอนนี้ตบคนไม่มี


กระพริ บตาเลยด้วยซ้ า!

ตู๋กูจุนกวาดตาไปทางฮูหยินเสนาบดีผนู ้ ้ นั คราหนึ่ ง ประกายในดวงตานั้น.....ช่างคล้ายคลึงกับตู๋กูซิงหลันตอนที่อยู่


นอกตาหนักเฟิ่ งหนิงเหลือเกิน

นางพลันรู ้สึกเหน็บหนาวอย่างไร้ที่มา รี บคว้ากอดแขนของซ่งซูเลี่ยงเอาไว้

" กล่าวย้อนไป ต่อให้น้องเล็กของข้าตบคน นัน่ ต้องเป็ นเพราะฝ่ ายตรงข้ามกระทาน่ารังเกียจเกินไป! บุรุษตระกูลตู๋


กูของข้าหลัง่ เลือดร้อนระอุปานสุ ราในสงคราม ก็เพื่อให้นางได้อยูอ่ ย่างสู งศักดิ์สุขสบาย คิดไม่ถึงว่าในวังหลังจะมีเหล่า
สนมที่ไม่รู้จกั มารยาท พวกสุ นขั ไม่มีตาดู ไปทาให้นางโกรธได้! "
ผูค้ นทั้งหลาย "........." สามารถสร้างเหตุผลอย่างไร้ที่มาและยัว่ โทสะคนจนโมโหตายเหล่านี้ คนตระกูลตู๋กูไม่เคย
พลาดแม้แต่น้อย

ฉี ต๋าบิดาของฉี ผินคิดจะเปิ ดปากพูด กลับเห็นท่านรองมหาเสนาบดีตวัดสายตามาที่เขารอบหนึ่ง ฉี ต๋าจึงได้แต่ปิด


ปากลงไป เพราะสาเหตุจากตู๋กูซิงหลัน บุตรสาวของเขาป่ านนี้ ยงั ถูกขังอยูใ่ นคุกหลวง ตู๋กูจุนช่างดีนกั ไม่ได้มีความ
ละอายแทนนังตัวร้ายนัน่ เลย กลับยังมาด่าบุตรสาวของเขาแทน ด่าบุตรสาวของเขาเป็ นสุ นขั !

หากตระกูลตู๋กูไม่ดบั สิ้ น ฟ้าดินก็ไร้ความยุติธรรมเกินไปแล้ว!

แต่ประโยคนี้ของตู๋กูจุน ทาเอาสาวน้อยทั้งหลายในงานเลี้ยงต่างเสี ยดายที่ไม่ได้เกิดมาเป็ นน้องสาวของเขา

มีพี่ชายที่คอยปกป้องคุม้ ครองเช่นนี้ ต่อให้แต่งไม่ออกก็ไม่เป็ นไร

ตู๋กูซิงหลันยิ่งประทับใจจนซาบซึ้งแล้ว ต้องหน้าเจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ นี่เป็ นครั้งแรกที่มีคนลุกขึ้นมาปกป้องนางอย่าง


โอหังขวัญกล้า ตอนนี้ในใจนางถูกเติมเต็มไปด้วยความอบอุ่น

ทาไมเจ้าของร่ างเดิมถึงได้คิดไม่ตก เพื่อความรักของหนุ่มสาวกลับยอมละทิ้งครอบครัวที่รักนางปานนี้ มาเข้าวัง


หรื อ?

"ก็แค่ไทเฮาที่อยูใ่ นตาหนักเย็น...." ยังมีคนไม่ยนิ ยอม เห็นชัดว่าตระกูลตู๋กูไม่เป็ นที่โปรดปรานของฮ่องเต้พระองค์


ใหม่ ทาไมถึงได้ขวัญกล้าอวดอานาจถึงเพียงนี้

" ไทเฮาจะอย่างไรก็คือไทเฮา ไม่ใช่เรื่ องที่ผใู ้ ดจะวิจารณ์ได้ " คราวนี้ จีเย่วก์ ลับลุกขึ้นมาบ้าง เขาหันไปทางตู๋กูจุน
พยักหน้าด้วยความเคารพครั้งหนึ่ง "คืนนี้ฝ่าบาททรงจัดงานเลี้ยงเพื่อท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิต มิใช่เวทีโต้เถียง ทุกท่านโปรดรู ้
กาลเทศะด้วย"

ชัว่ ขณะหนึ่งทุกคนต่างครุ่ นคิด ยามที่อดีตฮ่องเต้ยงั ทรงพระชนม์อยู่ อี้อ๋องคือราชโอรสที่ทรงโปรดปรานมากที่สุด

ตระกูลตู๋กูและอี้อ๋องเองก็ใกล้ชิดสนิทสนมกันมาโดยตลอด ตอนนั้นยังเกือบจะใช้อานาจที่มีผลักดันอี้อ๋องครอง
บัลลังก์ได้สาเร็ จ หากอี้อ๋องและตระกูลตู๋กูร่วมมือกันขึ้นมา เกรงว่าใครก็ไม่อาจต้านทานกาลังนี้ได้
หากว่าวันใด.....บัลลังก์น้ ีถูกเปลี่ยนเจ้าของขึ้นมาละก็?

บนที่ประทับ จีเฉวียนทรงหรี่ พระเนตรหงส์อย่างพินิจ ขณะที่ทุกคนกาลังล้อมบีบตู๋กูจุนอยู่น้ นั เขาไม่ได้ตรัสสิ่ งใด


แม้สักคา เจ้าบุรุษหนุ่มตระกูลตู๋กูผนู ้ ้ ี จะอย่างไรมักมีทีท่าเย้ยฟ้าท้าดินอยูเ่ สมอ

หากว่ายินยอมถวายชีวิตรับใช้เขา เขาจะต้องตอบแทนด้วยใจจริ ง ให้คนผูน้ ้ ีได้เป็ นแขนซ้ายแขนขวาของตน

น่าเสี ยดาย......จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยงั ร่ วมร้องบรรเลงเพลงไปกับอี้อ๋อง

"ไทเฮาอยูใ่ นวังทรงพรั่งพร้อมด้วยทุกสิ่ ง ท่านแม่ทพั มิตอ้ งกังวลใจไป" ถึงตอนนี้เขาค่อยตรัสออกมา สุ รเสี ยงยัง


แฝงความเย็นชาไว้

ตรัสแล้วก็ทรงหันไปทางตู๋กูซิงหลันที่อยูท่ างด้านซ้าย "ไทเฮา เจ้าว่าใช่หรื อไม่? "

ตู๋กูซิงหลันถูกเรี ยกขึ้นมาอย่างกระทันหัน ก็ยมิ้ ตอบเขาอย่างแช่มช้อยงดงาม "ใช่เพคะ ฝ่ าบาททรงกตัญญูต่อหม่อม


ฉันอย่างยิง่ หม่อมฉันซาบซึ้งอย่างที่สุดอยูท่ ุกวี่วนั "

ใช่สิ ถึงขั้นไม่กล้าขยับเลย.........

ว่าแล้วตู๋กูซิงหลันก็หนั มาตอบตู๋กูจุนว่า "ตัวข้าสบายดี ท่านแม่ทพั โปรดวางใจ"

ตู๋กูจุนมองดูนอ้ งสาวของตนเอง เห็นหว่างคิ้วนางปราศจากร่ องรอยบีบบังคับ รอยยิม้ อบอุ่นงดงามบริ สุทธิ์สดใส


เพียงครู่ เดียวใจก็หลอมละลายเป็ นน้ า ขอเพียงน้องเล็กอยูด่ ีมีสุข พวกเขาจะเป็ นอย่างไรล้วนได้ท้ งั นั้น

ตู๋กูจุนพึ่งจะนัง่ ลง ก็ได้ยนิ ขุนนางใหญ่ผหู ้ นึ่งสอบถาม "ฟังว่าท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิต นาสมบัติของเผ่าอาปู้ไซแห่งเป่


ยเจียงกลับมาด้วย ไม่ทราบว่าวันนี้จะสามารถให้ขา้ ได้เปิ ดหูเปิ ดตาหรื อไม่? "

"นี่เป็ นบรรณาการที่เผ่าอาปู้ไซแห่งเป่ ยเจียงน้อมถวายฝ่ าบาทด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่วา่ ข้าแม่ทพั นามา " ตู๋กูจุน


กล่าวแล้วก็กาหมัดถวายคานับมาทางจีเฉวียน "ไม่ทราบว่าฝ่ าบาทจะทรงโปรดให้เรี ยกตัวท่านผูน้ าอาปู้ถาลามาเข้าเฝ้า
หรื อไม่ คนผูน้ ้ ี นอ้ มรออยูน่ อกตาหนักแล้วพะยะค่ะ"
พึ่งพูดจบ ผูค้ นทั้งหลายก็กระซิบกระซาบต่อกัน ทุกคนต่างรู ้ดีวา่ อาปู้ถาลาผูน้ ้ ีคือเชลย ที่ถูกตู๋กูจุนกุมตัวกลับมา
จากเผ่าอาปู้ไซแห่งเป่ ยเจียง ดูเขาทาเข้าสิ กลับให้เชลยผูห้ นึ่งรอคอยอยูน่ อกพระตาหนักจิ่นซิ่ ว เชลยผูห้ นึ่งสมควรได้รับ
การดูแลดีถึงเพียงนี้?

" ให้เข้ามา " จีเฉวียนทรงประทับนัง่ อยูด่ า้ นบน แววพระเนตรเปล่งประกาย พระสุ รเสี ยงเย็นเยือกถึงขีดสุ ด

ทันทีที่ตรัสจบ ก็เห็นบุรุษหนุ่มที่คมสันผูห้ นึ่งเดินเข้ามา ชายหนุ่มดูองอาจสามารถ ทั้งยังไว้เคราอยูเ่ ล็กน้อย สวม


เสื้ อผ้าสี สันสดใสอย่างชาวหู เพียงดูก็รู้วา่ มาจากทุ่งหญ้านอกด่าน

แต่จากตัวเขาไม่อาจมองเห็นความคับแค้นที่ถูกบังคับแม้แต่น้อย กลับเป็ นความองอาจภาคภูมิของชาวทุ่งหญ้านอก


ด่าน
ตอนที่ 48 ใครกล้าแตะต้อง พีช่ ายก็จะสับมันทิง้ !

เมื่อเขามาถึงเบื้องพระพักตร์ มือข้างหนึ่งวางไว้แนบอก ถวายความเคารพจีเฉวียนตามธรรมเนียมของทุ่งหญ้า


"อาปู้ถาลา ถวายพระพรฮ่องเต้แห่งต้าโจวพะยะค่ะ"

จีเฉวียนทรงโบกพระหัตถ์ตอบอย่างเกรงพระทัย "เชิญนัง่ "

"เผ่าอาปู้ไซแห่งเป่ ยเจียงของข้าพ่ายแพ้ต่อต้าโจว วันนี้เป็ นเพียงเชลยสงคราม มิบงั อาจรับความเมตตาจากฝ่ าบาท "


อาปู้ถาลาใช้ภาษาต้าโจวที่ยงั ไม่ชดั นักทูลตอบ

สายตาดุจประกายไฟของเขาจดจ้องอยูท่ ี่จีเฉวียน "ยังดีที่แท่ทพั ตู๋กูไม่ทาร้ายผูบ้ ริ สุทธิ์ ไม่กวาดล้างเผ่าของข้า ด้วย


ความซาบซึ้งในพระเมตตาของฝ่ าบาท ขอบังอาจถวายสมบัติประจาเผ่าของข้า"

พูดแล้วก็ลว้ งเอาไข่มุกขนาดเท่าไข่ไก่ออกมาสามลูก วางไข่มุกบนฝ่ ามืออย่างระมัดระวัง "เผ่าของข้าตั้งรกรากอยูท่ ี่


เป่ ยเจียงมากว่าพันปี แล้ว ได้รับความเมตตาจากพระแม่ธรณี คมุ ้ ครองจนถึงทุกวันนี้ บนผืนแผ่นดินของเผ่าอาปู้ไซ พวก
เราเชื่อฟังเคารพพระแม่ธรณี ในบรรดาไข่มุกทั้งสาม มีเม็ดหนึ่งที่พระนางได้ทรงประทานให้กบั เผ่าของข้าเพื่อคุม้ ครอง
ผูค้ น”

ขณะที่เขากล่าววาจา ผูค้ นต่างจ้องมองไข่มุกบนฝ่ ามือเหล่านั้นไม่วางตา ไข่มุกทั้งสามมีขนาดใหญ่เท่ากัน กลม


เกลี้ยงเหมือนกัน

ลูกหนึ่งขาวสะอาดไร้ตาหนิ ถึงกับแวววาวใสยิง่ กว่าหยกมันแพะ ทัว่ ทั้งลูกส่ องประกายแสงสี ขาวกระจ่าง งดงาม


ดัง่ ไข่มุกราตรี

ลูกหนึ่งสี เขียวสดใส เปล่งประกายยิง่ กว่ามกรตน้ าดี ขนาดมองตาเปล่าก็เห็นว่าภายในมีลวดลายประหลาดงดงาม

ลูกหนึ่งสี ดาสนิท ไร้สีอื่นเจือปน นอกจากรู ปทรงที่กลมเกลี้ยงแล้ว ดูไปไม่มีสิ่งใดพิเศษเลย

"ถึงแม้เผ่าของข้าพ่ายแพ้ต่อแคว้นต้าโจว แต่หากพระแม่ธรณี ไม่ทรงยอมรับแคว้นต้าโจว เผ่าของข้าต่อให้ตอ้ ง


ต่อสู ้จนถึงคนสุ ดท้าย ก็จะไม่ยอมศิโรราบ " อาปู้ถาลาพูดพลางก็เงยหน้าขึ้นด้วยลักษณะหยิง่ ผยอง
ทุกคนต่างเงียบงันไร้วาจา แค่เชลยผูห้ นึ่งยังกล้าหยิง่ ผยองได้ถึงเพียงนี้เชียว ดูท่าจะมีชีวิตมานานเกินไปแล้ว!

พระแม่ธรณี แห่งเป่ ยเจียงมีที่ไหนกัน ก็แค่เพียงคาพูดแอบอ้างของเขาเท่านั้น เป็ นแค่เผ่าอาปู้ไซเล็กๆ ในเป่ ยเจียง


บังอาจกระโดดออกมาท้ารบกับแคว้นต้าโจว!

"ฝ่ าบาทพะยะค่ะ คนผูน้ ้ ีช่างไร้มารยาทยิง่ นัก! ยังคงจับมันไปขังคุกปล่อยให้ตายไปเสี ยดีกว่า! ขุนนางผูห้ นึ่งผุดขึ้น


กราบทูล

"จริ งด้วยพะยะค่ะ นี่ก็ไม่รู้วา่ ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตคิดเห็นอย่างไร ถึงได้นาตัวเชลยผูน้ ้ ี มาหยามเกียรติของแคว้นเรา ตก


ลงในใจคิดสิ่ งใดอยูก่ นั แน่? " เสนาบดีซ่งกล่าวรับเสี ยงดังกังวาน

ที่ดา้ นข้างที่ประทับ ตู๋กูซิงหลันมองเหล่าผูก้ ล่าวหาใส่ ความด้วยสายตาที่เย็นเฉี ยบ ขณะที่ฝ่าบาทยังไม่ทนั เปิ ดพระ


โอษฐ์ตรัส นางก็พลันยกชายแขนเสื้ อบังครึ่ งหน้า ส่ งเสี ยงร่ าไห้ต่อหน้าผูค้ น

"เจ้าเป็ นอะไรไปอีก? " จีเฉวียนทอดพระเนตรมองนางที่น้ าตาไหลพรากเป็ นสายราวกับไม่ตอ้ งจ่ายเงินสักอีแปะ


ในพระทัยเกิดลางสังหรณ์บางประการ นางคิดจะทาสิ่ งใดอีกเป็ นแน่

"ฝ่ าบาทเพคะ~ ทรงฟังสิ เพคะ ที่เขาพูดกันนัน่ ใช่วาจาผูค้ นอีกหรื อ? แต่ละคนต่างเป็ นขุนนางมากความสามารถ


ของแว่นแคว้น ล้วนเป็ นผูร้ อบรู ้ในหมู่ปัญญาชน แต่แค่ไข่มุกลูกเดียวยังไม่กล้าแยกแยะ? จิตใจคับแคบ ความสามารถต่า
ต้อย ทาให้หม่อมฉันเห็นแล้วปวดใจยิง่ นัก " ตู๋กูซิงหลันหลัง่ น้ าตายิง่ กว่าเดิม "ฝ่ าบาทมีขนุ นางเช่นนี้ จะถือเป็ นโชค
วาสนาของแคว้นต้าโจวได้อย่างไร! "

เหล่าขุนนางทั้งหลาย "!!! " นังคนปากเสีย! พูดอะไรเหลวไหลเลอะเทอ! ที่นางพูดมานัน่ แหละไม่ใช่ภาษาคน! ทั้ง


บ้านเจ้ามันไม่ใช่คน!

อาปู้ถาลาชะงักไปแล้ว พลันหัวเราะเสี ยงดัง "ฮ่าฮาๆๆๆๆ ช่างน่าสนุกจริ งๆ คิดไม่ถึงว่าเหล่าบุรุษในแคว้นต้าโจว


ทั้งวิสัยทัศน์และจิตใจจะไม่อาจเทียบกับสาวน้อยนางหนึ่ งได้ "

ว่าแล้วเขาก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ ง หันไปทางจีเฉวียนทูลว่า "ทูลฮ่องเต้ ข้าอาปู้ถาลาไม่ขอผิดคาพูด ขอเพียงมีผใู ้ ดในต้า


โจวสามารถแยกแยะไข่มุกของพระแม่ธรณี ได้ เป่ าอาปู้ไซของข้าก็จะยอมศิโรราบต่อแคว้นต้าโจวอย่างเต็มใจ
"ฮึ แคว้นต้าโจวของพวกเรายังต้องเสี ยดายเผ่าอาปู้ไซของเจ้าหรื อ? " ซ่งหงเลี่ยงทาเสี ยงไม่พอใจ

สิ้ นเสี ยงของเขา ก็พลันเห็นว่าฝ่ าบาททรงกวาดพระเนตรมาทางเขาแวบหนึ่ ง สายพระเนตรเช่นนี้ทาเขาตกใจจน


แทบสิ้ นสติ สายพระเนตรของฝ่ าบาทราวกับลาแสงจากปลายกระบี่ที่ทะลวงเขาจนแตกกระจายเป็ นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ที่จริ งแล้วพวกเขาต่างรู ้ดีวา่ เผ่าอาปู้ไซคือพื้นที่สาคัญในการเปิ ดประตูสู่เป่ ยเจียง ขอเพียงเผ่าอาปู้ไซยอมศิโรราบ


ต่อแคว้นต้าโจวเช่นนั้นคืนวันที่ตา้ โจวจะได้ครอบครองเขตเป่ ยเจียงก็จะมาถึงในไม่ชา้ สิ่ งนี้ แคว้นต้าโจวแสวงหามาโดย
ตลอด

เพียงแต่ ไม่มีใครอยากเห็นตระกูลตู๋กูได้หน้าไปโดยง่าย

หากไม่ใช่พ่ งึ พากองทัพของต้าโจวที่ส่วนใหญ่อยูใ่ นมือของตระกูลตู๋กู พวกเขาจะไม่อาจจัดการกับเผ่าเล็กๆ เช่นนี้


ได้จริ งหรื อ?

คาพูดของซ่งหงเลี่ยงพึ่งขาดเสี ยง ต่างก็เห็นตู๋กูซิงหลันก็ตบอกตนเอง มองฮ่องเต้ดว้ ยสี หน้าคล้ายยากจะเอ่ยวาจา "


ฝ่ าบาทเพคะ~หม่อมฉันไม่รู้มากก่อนเลยว่าแคว้นต้าโจวเดี๋ยวนี้กลายเป็ นสมบัติของตระกูลเสนาบดีซ่งแล้ว? นี่
กลายเป็ นว่าเรื่ องอะไรก็ตอ้ งให้เขาเป็ นผูต้ ดั สิ นใจหรื อ? เรื่ องจาเป็ นต้องมีเผ่าอาปู้ไซหรื อไม่ ไม่ใช่วา่ ควรเป็ นพระองค์
ตรัสสิ นพระทัยหรอกหรื อ? "

ท่าทางของนางที่ราวกับพวกสนมรักที่ล่อลวงฮ่องเต้ให้หลงใหลทาเอาซ่งหงเลี่ยงเกลียดชังจนอยากจะฆ่านางทิ้งไป
เสี ยเดี๋ยวนี้

"อ๋ ายหยา เขาจ้องข้าด้วย ข้ากลัวเหลือเกิน ข้าเป็ นเพียงแค่อิสตรี อ่อนแอเท่านั้น นี่เขาคิดจะฆ่าข้าหรื อไม่~" ตู๋กู
ซิงหลันเขยิบเข้าไปหาจีเฉวียน ทีท่าราวกับจะต้องลาตายไปเสี ยตอนนี้

ผูค้ นทั้งหลาย "!!! " เจ้ าเนี่ยนะอ่ อนแอ? ถ้างั้นนังตัวร้ายที่ออกอาละวาดบ้าอานาจอยูท่ ุกวี่วนั คงเป็ นผีสินะ?

จีเฉวียนทรงรู ้ดีวา่ สตรี ผนู ้ ้ ีถนัดเล่นละคร ยามปกติอยูใ่ นวังหลังทาเรื่ องบ้าบอก็แล้วไปเถอะ ตอนนี้ กลับออกมาเล่น
ถึงราชสานักฝ่ ายหน้าแล้ว แต่ว่าท่าท่างจะเป็ นจะตายของนางกลับทาให้เขาโกรธไม่ลง
" น้องเล็กไม่ตอ้ งกลัว พี่ใหญ่อยูน่ ี่แล้ว ใครกล้าแตะต้องเจ้า พี่จะสับมันทิ้ง! " ตู๋กูจุนดื่มเหล้าไปหลายจอก ก็ชกั จะ
มึนเมาขึ้นมา ทาท่าจะลุกไปหาดาบใหญ่ประจาตัว

ผูค้ นทั้งหลายต่างไร้คาพูดจะกล่าว ดูเอาเถอะ นี่ขนาดอยูใ่ นพระราชวังแท้ๆ คนตระกูลตู๋กูอยู่ๆ ก็คิดจะตัดหัวผูค้ น!


นี่ไม่มีใครสามารถหยุดพวกตู๋กูได้แล้วหรื อ?

"ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิต เจ้าดื่มมากไปแล้ว" ฝ่ าบาททรงขมวดพระขนงน้อยๆ ทัว่ ทั้งพระตาหนักจิ่นซิ่วต่างเงียบงันลง

ที่แท้ ฝ่ าบาทก็ทรงหมดความอดทนต่อมันแล้วใช่ไหม? ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของพวกเขาไม่ใช่กษัตริ ยท์ ี่มีพระ


อารมณ์ดีสักเท่าไหร่ นี่ไม่ใช่วา่ ตู๋กูจุนแส่ หาเรื่ องไปตายเองหรอกหรื อ?

ตู๋กูซิงหลันชะงักไป ใช้สายตาที่หงอยเหงาน่าสงสารมองไปที่เขา กล่าวเสี ยงอ่อนๆ ว่า "ฝ่ าบาท~"

ใบหน้าที่งดงามโดนเด่นนัน่ มีแต่ความคับข้องใจ ดวงตาดอกท้อราวกับสามารถเอ่ยคาพูดได้ ทุกอย่างที่ได้เห็น


แทรกซึมเข้าสู่ จิตใจของเขา

จีเฉวียนหันหน้าไปอย่างช้าๆ ไม่สนใจนางอีก สตรี ผนู ้ ้ ียามคิดจะตกเบ็ดเขาก็ไม่เคยดูเวลาสถานที่บา้ งเลย ที่ไหน


เมื่อไหนก็จะทาช่างทาให้เขานึกรังเกียจแท้ๆ

เหล่าสนมทั้งหลายต่างอดที่จะดีใจไม่ได้ นังคนน่ารังเกียจนัน่ คิดว่าตนสาคัญนักหรื อไร? คิดหรื อว่าฝ่ าบาทจะทรง


เชื่อฟังนางจริ งๆ?

เต๋ อเฟยหัวเราะเสี ยงเย็น หยิบลิ้นจี่อีกลูกเข้าปาก ลิน้ จี่พวกนี้ยงิ่ ทียงิ่ หวานหอมจริ ง

หยวนเฟยใช้มือข้างหนึ่ งเท้าคาง มืออีกข้างเล่นกับเจ้างูเขียวน้อย คอยลอบมองตู๋กูซิงหลันอยู่บ่อยๆ ยิง่ ดูยงิ่ รู ้สึกว่า


นางดูไม่เป็ นที่ชื่นชอบของผูค้ น ก็ดูเรื่ องที่นางเคยก่อไว้คราวนั้นสิ อย่าคิดนะว่านางจะเปลี่ยนความเห็นที่มีต่อตู๋กูซิงหลัน
ไปง่ายๆ

ดวงตาขององค์หญิงใหญ่ที่ประทับอยูข่ า้ งหน้าปรากฎร่ องรอยสับสน มองดูต๋ กู ูจุนครั้งหนึ่งก็ตอ้ งหันมาดูต๋ กู ูซิงห


ลันครั้งหนึ่ง สุ ดท้ายค่อยปิ ดตาเลิกดู หันไปมอบลูกเกดแก่บุตรสาวตัวน้อยในอ้อมกอด"
ขณะที่ทุกสิ่ งตกอยู่ในความเงียบนั้น ก็ได้ยินจีเฉวียนตรัสว่า " หลี่ตา้ ชิง ไปต้มน้ าแกงสร่ างเมามาให้ท่านแม่ทพั ชาม
หนึ่ง "

พวกตระกูลตู๋กูเป็ นชาติทหารควบคุมการดื่มสุ ราเมรัยอย่างเข้มงวด ฉะนั้นความสามารถในเชิงสุ ราของตู๋กูจุนจึงไม่


มากเท่าไหร่ จุดนี้จีเฉวียนทรงทราบดี สาหรับเขาแล้วการปรับดื่มสุ ราสามจอกนั้น ถือว่าฝ่ าฝื นกฎของตระกูลตู๋กูแล้ว
ตอนที่ 49 วังหลวงต้ าโจวของเขา มีผ้าไม่ พอใช้ หรื อไง?

เหล่าขุนนางของเขา แต่ละคนมีอุปนิสัยเช่นไร มีขอ้ เด่นข้อบกพร่ องตรงไหน เขารู ้อย่างกระจ่างแจ้งดี อย่าว่าแต่ต๋ กู ู


จุนเองก็เป็ นขุนนางคนสาคัญของเขา

คนทั้งหลาย "เอ๋ ? " นี่คือจะให้เขาสร่ างเมาก่อนค่อยเพิม่ โทษให้หนักใช่ไหม?

หลี่กงกงรี บไปจัดการ ครั้นแล้วก็เห็นฮ่องเต้ทรงหันไปทอดพระเนตรตัวร้ายที่อยูข่ า้ งพระองค์ "อยูข่ า้ งๆ เรา ยังมี


ใครจะกล้าเอาชีวิตไร้ค่าของเจ้าอีก? อย่าได้ตกอกตกใจก็คิดวุ่นวาย"

ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกประหลาดใจอยูไ่ ม่นอ้ ย พอได้สติก็รีบประจบทันที "ใช่ๆๆ เพคะ ฝ่ าบาททรงดีที่สุดแล้ว~"

เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่คิดจะเล่นแง่อะไรกับนางอีกหรื อเปล่าเนี่ย? ตู๋กูซิงหลันอดไม่ได้ ต้องลอบมองเขาอยูอ่ ีกหลายครั้ง

แอบดูหลายรอบยังไม่นบั ว่าเป็ นอะไร แต่กลับทาให้ฝ่าบาทชักไม่สาราญพระทัยขึ้นมา "เสื้ อผ้านะ ดึงขึ้นมาหน่อย


เปิ ดไหล่ไปครึ่ งหนึ่งแล้ว เช่นนี้ ใช้ได้ที่ไหนกัน! "

กองพระราชสานักจัดเตรี ยมเสื้ อผ้าอะไรออกมา! วังหลวงต้าโจวของเขา มีผา้ ไม่พอใช้หรื อไง?

ตู๋กูซิงหลัน "เอ๋ ? "

ที่จริ งวันนี้ดูแล้วถือว่า ในบรรดาเหล่าสตรี วงั หลังทั้งหลาย นางแต่งกายได้เรี ยบร้อยรัดกุมที่สุดแล้วนะ ท่านลองดู


หยวนเฟยน้อยสิ นางสวมใส่ โปร่ งบางขนาดไหน ทาไมระเบิดมาลงที่นางได้?

ผูค้ นทั้งหลาย "......" นังตัวร้ายนัน่ ถึงขนาดกล้ายัว่ ยวนฝ่ าบาทต่อหน้าต่อตาผูค้ นทั้งหลาย!

ฝ่ าบาททรงลืมพระเนตรให้กว้างสักทีเถอะ นังมารนี่ไม่ใช่ตวั ดีที่ไหน! หรื อว่าทรงลืมไปแล้วว่าพระบิดาของ


พระองค์สิ้นไปอย่างไร? ถูกนางทาให้หลงจนตายไง!

นางผูน้ ้ ีก็คือศัตรู ที่ฆ่าบิดานะ! หรื อว่าพระองค์ก็ทรงอยากจะหลงนางจนสิ้ นไปด้วยอีกองค์?


แม้แต่ต๋ กู ูจุนเองก็ตกตะลึงไปแล้ว ....เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ ถึงกับกล้าพูดว่าชีวิตของน้องเล็กนั้นไร้ค่าหรื อ? น้องเล็กคือ
องค์หญิงน้อย คือเทพธิดานะ!

หึ ชุดนัน่ มันย้วยไปหน่อยจริ งๆ สมควรจะดึงขึ้นมาหน่อย จุดนี้ เจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ พูดไม่ผิด เขาเห็นด้วย

"ยังไม่ดึงขึ้นอีก? " จีเฉวียนทรงไม่พอพระทัยแล้ว

"ดึงๆๆ " ตู๋กูซิงหลันพูดอย่างอื่นไม่ออกแล้ว ใช้มือดึงเสื้ อขึ้นปกปิ ด กระทัง่ ห่อตนเองเสี ยจนมิดชิดแนบแน่น เจ้า


ฮ่องเต้สุนขั ช่างเจ้าระเบียบนัก!

เจ๊ผอมถึงขนาดกระดูกไหปลาร้าโผล่ชดั จนจะเป็ นอ่างเลี้ยงปลาทองได้แล้ว ใจคอยังจะมาหาว่าอุจาดลูกตาอะไร


อีก!

ใช่สิ เขาจะต้องเห็นว่ามันบาดลูกตา ไม่น่าดูถึงได้เรี ยกนางให้ดึงเสื้ อขึ้น

ในที่สุดฝ่ าบาทค่อยดูพอพระทัยขึ้นมาบ้าง นางผอมเสี ยขนาดนี้ ไหปลาร้าที่น่าเกลียดขนาดนั้นยังจะกล้าเปิ ดให้


ผูอ้ ื่นดูอีก ไม่กลัวว่าดวงตาเหล่าขุนนางของเขาจะถูกทาร้ายหรื อไร สมควรปิ ดเอาไว้ให้มิดชิด อย่าได้เล็ดลอดออกมา
แม้แต่น้อย!

ครู่ หนึ่งเขาค่อยคิดขึ้นมาได้วา่ ในตาหนักยังมีอาปู้ถาลารออยู่ จึงตรัสว่า "แคว้นต้าโจวของเราเปี่ ยมไปด้วยผูม้ ี


ความสามารถ ไม่วา่ จะมองทางใดก็มีท้ งั นั้น ขุนนางที่รักทั้งหลาย ผูใ้ ดจะอาสา? "

ฮ่องเต้ตรัสเช่นนี้ เป็ นที่ชดั เจนว่ามีพระประสงค์จะการาบความผยองของอาปู้ถาลาให้ได้

ชัว่ ขณะนั้นทุกคนต่างกาลังใคร่ ครวญ หากว่าสามารถจัดการเรื่ องนี้ได้ถือว่าสร้างผลงานใหญ่ หากว่าทาเสี ยเรื่ อง


......ผลลัพธ์ไม่อาจคาดคิด เมื่อคิดถึงพระอุปนิสัยของฝ่ าบาทแล้วพวกเขายังจะรักษาชีวิตน้อยๆ ไว้ได้อีกหรื อ

"ฝ่ าบาท กระหม่อมไร้สามารถ ยินดีพยายามดูสักครั้ง" หลังความเงียบงันครู่ ใหญ่ ที่สุดก็ได้ยินรองมหาเสนาบดี


เอ่ยคา
เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างมองมาที่เขาด้วยความเคารพ รองมหาเสนาบดีไป๋ ไม่เพียงเลี้ยงดูบุตรสาวที่โดดเด่นเช่น
พระสนมเต๋ อเฟย ในสถานการณ์เช่นนี้ก็ยนิ ดีกา้ วออกมาเป็ นคนแรก ช่างสมกับเป็ นแบบอย่างของขุนนางทั้งหลาย

เต๋ อเฟยเองก็มองไปที่บิดาของตนเอง ท่านพ่อเป็ นผูม้ ีประสบการณ์ผา่ นโลกมามาก สมบัติล้ าค่าในบ้านก็มีนบั ไม่


ถ้วน มีหรื อจะแยกแยะไข่มุกของอาปู้ถาลาไม่ได้?

ยิง่ ไปกว่านั้น........เมื่อเทียบกับสิ่ งที่นางเคยเห็นมาแล้ว ไข่มุกสามเม็ดนัน่ ดูไปยังธรรมดาสามัญมาก ไม่นบั ว่าพิเศษ


ที่ตรงใด

อาปู้ถาลามองดูเขาแวบหนึ่ง "ใต้เท้าท่านนี้โปรดพิจารณาให้ดี โอกาสมีเพียงครั้งเดียว หากว่าท่านผิดพลาดไปแล้ว


ก็เท่ากับว่าพระแม่ธรณี ของเผ่าเราไม่ตอบรับแคว้นต้าโจว เผ่าอาปู้ไซแห่งเป่ ยเจียงของข้าแม้ตอ้ งยืนหยัดจนคนสุ ดท้าย ก็
จะไม่ขอยอมศิโรราบต่อต้าโจว"

น้ าเสี ยงของเขามีพลังสะท้อนไปทัว่ ทั้งพระตาหนักจิ่นซิ่ว ผูท้ ี่มีสถานะเพียงเชลยถูกกุมตัวอยู่ภายในพระราชวัง


ของต้าโจวแท้ๆ แต่กลับไม่มีทีท่าน่าสมเพศแม้แต่นอ้ ย ช่างเป็ นพวกกระดูกแข็งโดยแท้

"สามารถเลือกได้เพียงครั้งเดียว? " รองมหาเสนาบดีน้ าเสี ยงไม่ค่อยพึงใจ "มีแต่เจ้าที่บอกได้วา่ ไข่มุกนัน่ จะใช่


ของวิเศษหรื อไม่ ถึงแม้ขา้ ผูเ้ ฒ่าเลือกได้ถูกแล้ว หากเจ้าปากแข็งปฎิเสธ ไยจะไม่ใช่เหนื่ อยเปล่า? "

ฟังแล้ว อาปู้ถาลาก็หวั เราะออกมา "ใต้เท้า แม้ท่านไร้ความเชื่อใจในตนเอง แต่อย่าได้สาดน้ าสกปรกใส่ เผ่าของข้า


เผ่าอาปู้ไซของข้าแม้เป็ นเพียงเผ่าหนึ่งในเป่ ยเจียง แต่ทุกคนล้วนแต่เป็ นผูก้ ล้าเ**้้ยมหาญ บุรุษองอาจสตรี เก่งกล้า
แม้แต่เด็กเล็กสามขวบยังไงก็ไม่มุสา ดังนั้นจึงไม่มีทางใช้แผนลอบกัด "

ที่เขาพูดมากลับเป็ นจริ ง อย่าได้เห็นว่าเป็ นเพียงเผ่าเล็กๆ เผ่าหนึ่ง แคว้นต้าโจวเองยังเพียรพยามทาศึกมาตลอดสิ บ


ปี คนเผ่านี้คล้ายกลับว่าไม่กลัวตายแม้แต่นอ้ ย กระทัง่ ตระกูลตู๋กูท้ งั บ้านถูกส่ งไปหมด ถึงได้การาบได้ในที่สุด

หากว่าคนในเผ่าไม่ใช่นกั รบผูก้ ล้า แคว้นต้าโจวไยจะต้องสิ้ นเปลืองกาลังและเวลาถึงเพียงนี้


ว่าแล้ว อาปู้ถาลาก็แจกแจงเพิ่มเติมว่า "ข้อเพียงท่านเลือกไข่มุกของพระแม่ธรณี ได้ถูกต้อง มันย่อมสาแดงความ
มหัศจรรย์ข้ นึ แน่นอน "

พูดจบเขาก็จดั เรี ยงไข่มุกทั้งสามลูกบนโต๊ะเตี้ยตัวหนึ่ง "ข้าขอใช้ชีวิตเป็ นหลักประกัน หนึ่ งในสามนี้คือสมบัติ


วิเศษแน่นอน"

รองมหาเสนาบดีทาสี หน้าบูดบึ้ง เขาสะบัดชายแขนเสื้ อ ค่อยเดินถึงเบื้องหน้าโต๊ะเตี้ย ตรวจสอบไข่มุกทั้งสามอย่าง


ละเอียด

ล้วนมีขนาดเล็กใหญ่เท่ากัน กลมเกลี้ยงเสมอกัน สี ขาวนั้นสุ กสกาวกระจ่างตาที่สุด สี เขียวก็สดใสราวกับมีชีวิต


ส่ วนสี ดานั้น.......ดาด้านสนิท

ไข่มุกราตรี ที่เขาเคยเห็นมายังแวววาวกว่าไข่มุกขาวลูกนี้ .....มรกตที่เขาเคยพบมาก็เปล่งประกายกว่าไข่มุกสี เขียว


ลูกนี้

แต่วา่ ไข่มุกสี ดาลูกนั้น.......มองอย่างไรก็หาความพิเศษไม่ได้เลยสักนิด

นี่จะต้องเป็ นหลุมพราง....ใช่อาศัยสี ดาที่ดูเรี ยบด้านไม่สะดุดตาของไข่มุกเปรี ยบกับไข่มุกอื่นอีกสองลูก ก็คิดเอาว่า


พวกเขาคงจะไม่เลือกเอาไข่มุกดานี้แน่?

มุกขาวและมุกเขียวจะต้องเป็ นเพียงระเบิดควัน เอามาใช้ลวงพวกเขา

เขามีลางสังหรณ์ที่แน่ชดั มุกดาลูกนั้นจึงจะเป็ นของจริ ง

คิดได้แล้วรองมหาเสนาบดีก็ยื่นมือออกไปหยิบเอาไข่มุกทั้งสามลูกมาลูบคลาดูรอบหนึ่ง มุกขาวเรี ยบลื่นละมุมละ


ไม เมื่อสัมผัสดูให้ความรู ้สึกดัง่ ไข่มุกชั้นเลิศของแท้ มุกเขียวเรี ยบลื่นเย็นฉ่ า จะต้องเป็ นหยกมรกตล้ าค่า มุกดา....สัมผัส
ในมือนี้ช่างแปลกประหลาดนัก

จะว่าหยกไม่ใช่หยก จะว่าศิลาก็ไม่ใช่ศิลา ยิง่ ลูบไปนานเข้ากลับรู ้สึกร้อนมือขึ้นมาบ้าง


เมื่อคิดให้ดีดูให้ละเอียด มุกดาคล้ายจะมีแตะแต้มสี แดงแฝงอยูเ่ ล็กน้อย คล้ายกับสี ของโลหิ ต เพียงสามารถ
สังเกตเห็นได้จากบางมุมเท่านั้น

เมื่อนามารองใต้จมูกสู ดดม ก็คล้ายจะได้กลิ่นที่อธิ บายไม่ได้

ว่ าแล้ ว.......เขารู้ อยู่แล้ วว่ ามุกดาลูกนีจ้ ะต้ องไม่ ธรรมดาแน่

หากไม่ใช่เขาได้พบเห็นของล้ าค้ ามามากเป็ นภูเขา คงไม่อาจแยกแยะได้แน่

ในที่สุดท่านรองมหาเสนาบดีก็ได้ขอ้ สรุ ปในสมอง เขาส่ งสายตามองไปยังเต๋ อเฟยที่อยูห่ ่างออกไปให้นางวางใจ

เต๋ อเฟยเดิมทียงั มีสีหน้าเคร่ งเครี ยด ในที่สุดก็สามารถผ่อนคลายลงได้ บิดาทาสิ่ งใดล้วนละเอียดถี่ถว้ น ไข่มุกที่ท่าน


เลือกจะต้องไม่มีผิดพลาดแน่นอน

" พระสนมวางพระทัยเถอะเพคะ อีกสักครู่ ฝ่าบาทจะต้องทรงประทานรางวัลให้นายท่านแน่ๆ " ซิ่วเหอที่อยู่


ด้านข้างกระซิบกระซาบ

หยวนเฟยได้ยนิ แล้วอดไม่ไหว ต้องกรอกตามองบนรอบหนึ่ง "พูดราวกับว่าพวกเจ้าเลือกได้ถูกแล้ว"

"พระสนมหยวนเฟยเพคะ คนที่ไร้บิดามารดาเช่นท่าน ไม่มีโอกาสเข้าใจความรู ้สึกภาคภูมิใจของคนที่ได้ทาเพื่อ


บุตรธิดาได้หรอก ยังคงห้ามจิตริ ษยาเอาไว้บา้ ง หันไปเอาอกเอาใจฝ่ าบาทให้มากเถอะเพคะ "

"นังบ่าวปากสุ นขั ! " หยวนเฟยโกรธจัดจนแทบจะปล่อยหวังไฉไปกัดนาง

ปี นั้นบิดาของนาง.......หากไม่เพราะไปช่วยชีวิตฝ่ าบาทก็คงไม่ตอ้ งจบชีวิตลง นางก็คงไม่ตอ้ งกลายเป็ นกาพร้า นัง


บ่าวปากสุ นขั บังอาจเอาเรื่ องนี้ มากระทบกระเทียบนาง!
ตอนที่ 50 อยากจะหาอิฐสักก้อน มาปานางให้ ตดิ กาแพง

" พระสนมหยวนเฟยเพคะ ที่นี่คือพระตาหนักจิ่นซิ่ว ท่านจะพูดจากจะทาสิ่ งได้พ่ งึ ระมัดระวังสักหน่อย " ซิ่วเหอ


ยิม้ หยัน ครั้งก่อนที่พระตาหนักตี้หวั นายหญิงถูกหยวนเฟยยัว่ โมโห นางย่อมต้องเอาคืนให้นายหญิง

นางไม่กลัวว่าหยวนเฟยจะหุ นหันลงมือ กลัวแต่จะไม่ลงมือเท่านั้น หากว่าก่อเรื่ องบานปลายได้ก็ยงิ่ ดี นายท่าน


กาลังจะได้รับพระราชทานรางวัลจากฝ่ าบาท หากทรงพบว่าหยวนเฟยก่อเรื่ องก่อราวขึ้นตอนนี้ จะทรงลงพระอาญาถึง
เพียงไหน

หยวนเฟยกาหมัดแน่น ด้วยเกรงว่าตนเองจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่ลงมือตอบโต้ไป นางสู ดลมหายใจเข้าออกหลายครั้ง


จึงค่อยสงบลงได้

ต้องยอมถอยก้าวหนึ่ งเช่นนี้ ยิง่ คิดยิง่ แค้นนัก

นางขมวดคิ้วแน่น อยากปล่อยงูไปกัดคนอย่างสุ ดใจ

ช่วงเวลานั้นเอง ท่านรองมหาเสนาบดีก็หยิบเอาไข่มุกดาขึ้นมาให้ผคู ้ นทั้งหลายได้รับทราบการตัดสิ นใจของเขา

ฉับพลันก็ได้ยินเสี ยงสาวน้อยนางหนึ่งกล่าวอย่างงุง้ งิ้งขึ้นมาว่า "ฝ่ าบาทเพคะ ไข่มุกขาวเม็ดนั้นน่าดูยงิ่ ข้าอยากได้


จัง~"

ผูค้ นทั้งหลายต่างหันไปตามเสี ยง กลับเห็นเพียงตู๋กูซิงหลันกาลังพะเน้าพะนอออเซาะฮ่องเต้ อีกนิดเดียวก็จะ


กลายเป็ นกระโดดจากที่นงั่ ของตนเองไปเกาะขาฝ่ าบาทอยูแ่ ล้ว

พวกเขาต่างไร้คาพูดจะกล่าวแล้ว ไยนังตัวร้ายนี่ ถึงได้หน้าหนาเพียงนี้?

ตู๋กูซิงหลันสบตาหยวนเฟยแวบหนึ่ ง ก็เก็บสายตากลับมาจดจ่ออยูท่ ี่จีเฉวียน "ฝ่ าบาทเพคะ ทรงทอดพระเนตรสิ เพ


คะ ไข่มุกขาวนัน่ ช่างแวววาววิบวับเหลือเกิน หากว่านามาทาเครื่ องประดับ คงระยิบระยับจนตาบอดแน่"

ว่าแล้ว นางก็ทอดถอนใจเสี ยงดังเป็ นพิเศษ "ข้าไม่เคยวอนขอสิ่ งใดจากฝ่ าบาทมาก่อน พระองค์ทรงประทานไข่มุก


นัน่ ให้หม่อมฉันได้หรื อไม่เพคะ? "
จีเฉวียนทรงหันมาทอดพระเนตรมองกริ ยาและน้ าเสี ยงง๊องแง๊งของนาง ก็รู้สึกขนลุกซู่ทวั่ พระองค์ คล้ายไม่สบาย
อย่างยิง่

หยวนเฟยทรุ ดตัวลงนัง่ หากไม่ใช่เพราะเมื่อครู่ ต๋ กู ูซิงหลันไม่ได้ออกมาสกัดนางเอาไว้ ด้วยความหุนหันของนาง


เมื่อครู่ จะต้องก่อเรื่ องขึ้นแน่นอน "

"ฝ่ าบาท ยามนี้ไม่ใช่เวลาที่จะปล่อยให้นางก่อเรื่ องได้นะพะยะค่ะ " รองเสนาบดีอยากจะหาอิฐสักก้อน มาปาหัว


นางให้ติดกาแพงนัก หากนางไม่ใช่คนโง่ ก็คงเป็ นไส้ศึกที่อาปู้ถาลาส่ งมาใช่หรื อไม่? " ไข่มุกสี ขาวนัน่ เลือกได้ที่ไหน
กัน? ถึงจะวาววับอยูส่ ักหน่อย แต่อย่างมากสุ ดก็คงแค่ของชั้นดีที่สูงค่ากว่าไข่มุกราตรี อยูห่ น่อยก็แค่น้ นั ละ

ทุกผูต้ ่างก็ใช้สายตาไม่พอใจจับจ้องมาที่นาง นังตัวร้ายเนี่ยปัญญาอ่อนหรื อไง"

เมื่อเห็นคนทั้งหลายไม่เอ่ยสิ่ งใดก่อน ตู๋กูซิงหลันจึงตัดสิ นใจ กล่าวอย่างเป็ นกันเองว่า "สตรี ก็ยอ่ มต้องชอบสิ่ งของ
ระยิบระยับสวยงาม นี่ผิดตรงไหนกัน? "

เพียงแค่ไม่นานผูค้ นในตาหนักต่างใช้สายตาดูถูกเหยียดหยามมองนางมากขึ้นกว่าเดิม ตู๋กูซิ่งหลันยังกล้าพูดว่านาง


ถูกเลี้ยงดูมาสู งศักดิ์ล้ าค่าดังทองหยกอีก แม้แต่ไข่มุกราตรี ก็ไม่เคยเห็นหรื อไร? ถึงกับกล้าทูลขอไข่มุกลูกหนึ่งจากฝ่ า
บาทต่อหน้าผูค้ นทั้งหลาย

ช่างโง่เขลาและไม่รู้ความอะไรเลย นี่มนั ถุงกระสอบใส่ หญ้าชัดๆ!

นางคงมีแต่ใบหน้าที่ดูดีเท่านั้นสิ นะ? หากไม่ใช่วา่ เกิดมาหน้าตาสะสวย ฝ่ าบาทยังเก็บนางไว้ก็ประหลาดแล้ว

ครู่ ต่อมาต่างก็เห็นเต๋ อเฟยลุกขึ้นยืน ถวายคานับช้าๆ ไปทางตู๋กูซิงหลัน "ไทเฮาเพคะ ยามที่หม่อมฉันเข้าวังมา ฝ่ า


บาททรงประทานไข่มุกกระจ่างจากทะเลตงไห่ให้เม็ดหนึ่ง หากทรงโปรดละก็ หม่อมฉันยินดีนาไข่มุกกระจ่างเม็ดนั้น
มาถวาย ยามนี้เป็ นเรื่ องราวสาคัญ ขออย่าได้ทรงเอาแต่พระทัยปรารถนาในมุกขาวของอาปู้ถาลาเลยเพคะ"

ผูค้ นทั้งหลายได้ฟังแล้วก็ยงิ่ ประหลาดใจกับตาแหน่งในวังหลังของเต๋ อเฟยขึ้นไปอีก ไข่มุกกระจ่างจากทะเลตงไห่


คือสมบัติล้ าค่าหายาก ฝ่ าบาททรงดีกบั เต๋ อเฟยอย่างแท้จริ ง
แต่เพื่อการณ์สาคัญ เต๋ อเฟยกลับยินยอมมอบของพระราชทานแก่ตวั เลวร้ายนัน่ สติปัญญาเช่นนี้ช่างเป็ น
คุณลักษณะของพระแม่แห่งแผ่นดินโดนแท้

เมื่อหันกลับมามองนังตัวร้ายตู๋กูซิงหลัน......จิ๊ๆๆ ช่างเทียบกับเต๋ อเฟยไม่ได้เอาเสี ยเลย

ทูลจบแล้ว เต๋ อเฟยก็สั่งให้ซิ่วเหอไปนาไข่มุกกระจ่างจากตงไห่มา

"ข้าไม่เอา เราต้องการแต่เพียงไข่มุกของพวกเขาเท่านั้น! " ตู๋กูซิงหลันลุกขึ้นมาบ้าง เดินไปถึงกึ่งกลางพระตาหนัก


ที่มีไข่มุกทั้งสามลูกบนโต๊ะเตี้ย เอื้อมมือไปฉวยไข่มุกสี ขาวลูกนั้นค่อยโยนไปมาในมือ ราวกับชื่นชอบสมบัติชิ้นนี้เป็ น
อันมาก จะอย่างไรก็ไม่ยอมวางมือ

" แม้มีเงินทองสักเท่าไหรไม่อาจซื้อหา ข้าชอบยิง่ นัก ไข่มุกกระจ่างของตงไห่ มีอะไรดีกนั ก็แค่ไข่หินก้อนหนึ่ง


ไม่ใช่หรื อ? "

ผูค้ นทั้งหลาย "....." นังกระสอบใส่ หญ้าที่ไม่รู้จกั อะไร! แค่ไข่หินอะไรกัน? ไข่มุกกระจ่างจากตงไห่เพียงเม็ดเดียว


สามารถแลกมุกขาวเช่นนี้ได้นบั พันเม็ด นางไม่ตอ้ งการของดี กลับจะเอาแต่ของเลวเช่นนี้?

ตู๋กูซิงหลันไม่สนใจใยดีพวกเขา นางตัดสิ นใจเลือกไข่มุกขาวด้วยตนเอง ชูไปทางที่ประทับด้านบนของฮ่องเต้


พลางโบกไปมา "ฝ่ าบาทเพคะ ทรงทอดพระเนตรสิ ไข่มุกขาวนี่สวยจริ งๆ! อ๋ ายหยา เรายิง่ มองยิง่ ชอบมันมากเลย! "

จีเฉวียนทรงนัง่ อย่างสุ ขมุ เงียบงันอยูบ่ นที่ประทับด้านบน ดวงเนตรหงส์นนั่ ปรากฎรังสี เย็นเยียบขึ้นแวบหนึ่ง

ท่านรองเสนาบดีโกรธจนอวัยวะทั้งหมดแทบลุกเป็ นไฟ เขาคุกเข่าลงตรงนั้นกราบทูลจีเฉวียนว่า "ฝ่ าบาทพะยะค่ะ


กระหม่อมเลือกไข่มุกพระแม่ธรณี ได้แล้ว ก็คือไข่มุกดาเม็ดนี้ กระหม่อมขอใช้หมวกขุนนางเป็ นหลักประกัน! ขอฝ่ า
บาทอย่าได้ทรงปล่อยให้ผโู ้ ง่เขลามาทาเสี ยเรื่ องเลยพะยะค่ะ "

พูดแล้วเขาก็ค่อนใส่ ต๋ ูกูซิงหลันครั้งหนึ่ง นังถุงกระสอบไร้สมองที่รู้จกั แต่รักสนุก ก่อนหน้านี้ ยงั บังอาจมากลัน่


แกล้งโย่วหนิ งบุตรสาวของข้า มันต้องเจอดีแน่

ตู๋กูจุนที่พ่ งึ จะดื่มน้ าแกงสร่ างเมาลงคอไปอึกหนึ่ งก็ย้งั มือไว้ เปล่งเสี ยงต่าที่เปี่ ยมไปด้วยราศีสังหารอย่างชัดเจน


"เจ้าว่าใครโง่นะ? "
ไม่วา่ ผูใ้ ดในโลกนี้ ก็ไม่อาจด่าว่าน้องเล็กแม้เพียงครึ่ งคา! น้องเล็กที่บอบบางจะทนรับการรังแกเช่นนี้ได้อย่างไร?

ภาพที่นอ้ งเล็กกรี ดข้อมือฆ่าตัวตายนั้น แม้แต่ในตอนนี้เขาก็ยงั จดจาได้ดี คนทั้งบ้านตระหนกจนสติหลุดวิญญาณ


หาย หลังจากนั้นพวกเขาต่างสัตย์สาบานชัว่ ชีวิตนี้จะไม่ให้นางต้องบาดเจ็บอีกแม้ปลายเส้นผม!

หากนางต้องการอะไร พี่ชายเช่นเขาต่อให้ตอ้ งเสี ยหัวตัวเองไปก็จะต้องส่ งมันให้ถึงมือ!

ดูสิ ตอนนี้น้องเล็กเพียงแต่ถูกตาต้องใจไข่มุกขาวๆ ลูกหนึ่ง กลับถูกผูอ้ ื่นรังแกถึงเพียงนี้.......เพียงครู่ เดียวใจของ


เขาก็เกิดความรู ้สึกจะลุกฮือขึ้นต่อต้านขึ้นมาแล้ว

" ใครโง่ก็ด่าคนนั้นแหละ " ท่านรองเสนาบดีจอ้ งตาตอบเขาครั้งหนึ่ง ว่าแล้วก็ลุกขึ้นมาสะบัดมือข้างหนึ่ งไว้


เบื้องหลัง ท่าทางยืนหยัดไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน

ก่อนที่ต๋ กู ูจุนจะลงมือ ตู๋กูซิงหลันพลันโต้ตอบกลับไปว่า "หึ เจ้านะสิ ที่โง่"

ตู๋กูจุนตกตะลึงไปแล้ว น้องเล็ก....ถูกรังแกกลับไม่ร้องไห้ ช่างน่าประหลาดเหลือเกิน

ตู๋กูซิงหลันว่าจบก็หนั ไปมองไข่มุกดาในมือของท่านรองมหาเสนาบดีอีกครั้ง "ไข่มุกพระแม่ธรณี เชียวนะ ในมือ


ของเจ้ามันก็แค่หินธรรมดาก้อนหนึ่ งไม่ใช่หรื อ? ดาก็ดาไม่มีประกายอะไรสักน้อยนิด ต้องมีประกายวิบวับสิ ถึงจะเป็ น
ไข่มุกของพระแม่ธรณี ได้ "

" เจ้าจะไปรู ้อะไร! " ท่านรองมหาเสนาบดียามนี้แสนปวดขมอง เขาไม่เข้าใจเลย ไยฝ่ าบาทถึงได้ทรงปล่อยให้


เด็กหญิงขนอ่อนเช่นนี้ มากระทาตนไร้มารยาทต่อขุนนางผูใ้ หญ่เช่นเขาได้

ยิง่ ไปกว่านั้น เรื่ องนี้เกี่ยวพันถึงเรื่ องสาคัญของบ้านเมือง ฝ่ าบาทกลับปล่อยให้นงั ตัวร้ายที่ไร้สมองผูน้ ้ ีออกมา


วุน่ วาย

"ฝ่ าบาท ข้าจะแยกแยะให้ท่านฟังนะ พระแม่ธรณี เป็ นสตรี ใช่ไหม เป็ นสตรี ใครบ้างไม่ชอบของแวววาว
ระยิบระยับละ เพราะฉะนั้น แน่นอนเลยว่าไข่มุกขาวเม็ดนี้ จะต้องเป็ นของพระแม่ธรณี อย่างแน่นอน " ตู๋กูซิงหลันกล่าว
ด้วยสี หน้าเป็ นจริ งเป็ นจัง
ผูค้ นทั้งหลายต่างพูดไม่ออกไปแล้ว คนโง่งมผูน้ ้ ีเห็นชัดว่าต้องการไข่มุกเม็ดนั้นอยูช่ ดั ๆ ถึงกลับหาเหตุผลไร้สาระ
อะไรมาได้

" ช่างตื้นเขินนัก! " ท่านรองมหาเสนาบดีแทบจะสะบัดชายแขนเสื้ อใส่ หน้านาง "เจ้ารู ้จกั มองดูแต่ภายนอก สิ่ งลึก
ล้ าภายในอีกชั้นหนึ่งเจ้ากลับไม่รู้แม้แต่นอ้ ย"

ผูค้ นทั้งหลายยิง่ เชื่อมัน่ ในตัวท่านรองเสนาบดีมากขึ้นกว่าเดิม เดิมทีที่อาปู้ถาลานาไข่มุกดานั้นออกมาก็ดูไม่


สอดคล้องอยูแ่ ล้ว ยิง่ ไปกว่านั้นทั้งความรู ้และประสบการณ์ที่ท่านรองมหาเสนาบดีมีมาย่อมสู งส่ งกว่านังตัวร้ายนัน่
มากมายหลายขุม การที่เขาเลือกเช่นนี้ยอ่ มมีเหตุผลของเขา

"ฝ่ าบาท ขอทรงโปรดเชื่อมัน่ ในกระหม่อม สิ่ งล้ าค่าย่อมต้องเป็ นไข่มุกดาแน่นอน! หากว่ากระหม่อมเลือกผิดแล้ว


ละก็ ตาแหน่งรองมหาเสนาบดีน้ ีเป็ นไปก็ไร้ประโยชน์ ไม่ตอ้ งเอาเสี ยก็ได้! " เขากล่าวอย่างใช้อารมณ์โกรธจนหัวฟัดหัว
เหวี่ยง
ตอนที่ 51 พลิกฟ้ามาครองแผ่นดินต้ าโจว

"ขอฝ่ าบาททรงฟังคาท่านรองมหาเสนาฯ " ผูค้ นทั้งหลายต่างร่ วมกันอ้อนวอน

ท่านอ๋ องจีเย่วก์ า้ วออกมาเพียงลาพังเขายืนเคียงข้างตู๋กูซิงหลันถวายคานับให้ฝ่าบาทอย่างนอบน้อมจริ งใจ "ฝ่ าบาท


ไทเฮามิได้ทรงเจตตนาสร้างความวุน่ วาย กระหม่อมเชื่อมัน่ ว่านางเลือกได้ถูกต้อง"

ไข่มุกขาวนัน่ ในเมื่อหลันเอ๋ อร์ ตอ้ งการมัน ไยต้องสนใจว่าใช่ไข่มุกพระแม่ธรณี หรื อไม่ เขาจะต้องชิงมันมาให้นาง

อี้อ๋องทูลจบแล้ว ขุนนางอีกหลายคนที่ติดตามเขาก็ลุกขึ้นมา "พวกกระหม่อมเองก็สนับสนุนไทเฮาพะยะค่ะ "

พวกเขาเป็ นขุนนางเก่าฝ่ ายอี้อ๋อง แม้ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของท่านอ๋ อง แต่อย่างไรไทเฮาทรงเป็ นคนตระกูลตู๋กู อี้


อ๋ องทรงจาเป็ นต้องใช้กาลังของตระกูลตู๋กู ตอนนี้ ถือเสี ยว่าซื้อน้ าใจพวกตระกูลตู๋กูแล้วกัน

"อี้อ๋องพะยะค่ะ ท่านยังถูกความงามมอมเมาไม่พออีกหรื อ? " รองมหาเสนาฯ มองจีเย่วอ์ ย่างคับข้องใจ เขาได้ยนิ


มานานหลายปี แล้วว่าอี้อ๋องและตู๋กูซิงหลันมีความสนิทสนมกันแนบแน่ ดูท่าจริ งแท้ ไม่หลอกลวง

"ท่านรองมหาเสนาฯ ระวังวาจาด้วย " จีเย่วส์ ายตาทอประกายเย็นยะเยือก "เราเพียงไม่ชอบเห็นคนแก่เช่นท่าน


รังแกสาวน้อยนางหนึ่ง"

ท่านรองมหาเสนาฯ โกรธจนเกือบจะกระอักโลหิ ตชราออกมา นังตัวร้ายนัน่ หรื อถูกรังแก เขาอาศัยตาข้างไหนดู


กัน?

"เฮอะๆ สาวน้อยหรื อ อี้อ๋องช่างเรี ยกได้อย่างสนิทสนมโดยแท้ " ท่านรองมหาเสนาฯ พยายามสกัดกั้นเลือดที่กาลัง


ตีกลับในสมองไว้ ขมวดคิ้วกล่าวเสี ยงเย็น "ผูอ้ ื่นยามนี้เป็ นถึงไทเฮา ท่านอ๋ องสมควรตระหนักถึงฐานะตนเองเอาไว้เถอะ
"

จีเย่วข์ มวดคิว้ หน้านิ่ว คาพูดของรองมหาเสนาฯ ทิ่มแทงเขาจนเจ็บปวด ใครเลยจะเข้าใจได้ ความเจ็บปวดที่คนรัก


อยูต่ รงหน้าแต่ไม่อาจหาเหตุผลเพื่อพูดคุยกับนางแม้สักคาได้ ด้วยฐานะที่แตกต่างนี้ ราวกับถูกกีดกั้นคนละฟากฟ้า

นอกจากว่าเขาจะ...........พลิกฟ้ามาครองแผ่นดินฟ้าโจว
"ทูลฝ่ าบาท โอกาสในการเลือกไข่มุกนี้มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น พระองค์จะประทานให้ใต้เท้าผูน้ ้ ี หรื อว่าประทาน
ให้แม่นางน้อยผูน้ ้ นั กัน? " อาปู้ถาลาเพียงรู ้สึกว่าราชสานักต้าโจวช่างวุน่ วายจนเขาพลอยปวดหัวไปหมด แค่จะเลือก
ไข่มุกสักลูกก็ยงั ต้องพิร้ ี พิไรอยูค่ รึ่ งวัน

ก่อนนี้เขาคิดว่าขุนนางบุ๋นของต้าโจวจะดุดนั เด็ดขาดเช่นเดียวกับพวกตระกูลตู๋กู ดูท่าเขาจะตั้งความคาดหวังสู ง


เกินไปแล้ว

หากยังมีขนุ นางที่ผลัดกันยื้อยุดฉุดกระชากเช่นนี้ ต้าโจวคิดหรื อว่าจะสามารถรวมแผ่นดินเป็ นหนึ่ งเดียวได้? ฝัน


ไปเถอะ!

เพียงแต่วา่ แม่นางน้อยผูน้ ้ นั .......ตอนแรกเขาคิดว่าเป็ นสนมสักคนของฮ่องเต้เสี ยอีก คิดไม่ถึงว่าจะเป็ นองค์ไทเฮา


ของแคว้นต้าโจว ไยสาวน้อยงดงามเยาว์วยั คนหนึ่ งถึงต้องโดนกักขังไว้ในกรงมังกร ช่างน่าสงสารเหลือเกิน

"ท่านพ่อ หากไทเฮาทรงปรารถนาในไข่มุกเม็ดนั้น ท่านไยต้องขัดขวางความสาราญของพระนางด้วยเล่า? " ยาม


นั้นเอง เต๋ อเฟยก็เดินเข้ามา นางดึงชายแขนเสื้ อของท่ารองมหาเสนาฯ เบาๆ พยักหน้าน้อยๆ ท่าทีคล้ายกับพยายามร้อง
ขออย่างอ่อนโยน

พอก้มหน้าก็ลดเสี ยงลงแผ่วเบา กล่าวกับเขาให้ได้ยินกันแต่เพียงสองคนเท่านั้น "ท่านพ่อ นี่เป็ นนางหาเรื่ องไปตาย


เอง ท่านไยต้องไปห้ามไว้? "

รอให้ผลลัพธ์สาแดงออกมาเชื้อพระวงศ์และขุนนางมากมายต่างก็เห็นอยู่ ฝ่ าบาทไยจะทรงเว้นโทษนังตัวร้ายนัน่
ได้

ยิง่ ไปกว่านั้น หากว่าฝ่ าบาทไม่ได้ทรงสนพระทัยไยดีกว่าไข่มุกนัน่ จะผิดหรื อถูก ไยพวกเขาจะต้องร้อนรนไปด้วย


ละ?

บิดาอุตส่ าห์มุ่งมัน่ ทุ่มเทถึงเพียงนี้ ฝ่ าบาทกลับไม่ทรงเห็นน้ าใจ จะมีประโยชน์อะไร?

เพียงประโยคเดียวของเต๋ อเฟย ก็ทาให้ท่านรองมหาเสนาฯ สงบลงได้ เขาถูกนังตัวร้ายนัน่ ยัว่ ยุโทสะจนหัวหมุน


จริ งๆ
บุตรสาวพูดถูกแล้ว........ไยเขาจะต้องไปยื้อแย้งโอกาสกับนังตัวร้ายนัน่ ด้วย? สมควรรอดูนางถูกตบหน้าก็พอแล้ว

"ทูลฝ่ าบาท กระหม่อมยินดีมอบโอกาสในการเลือกนี้ถวายไทเฮาพะยะค่ะ " สิ้ นคาสุ ดท้ายนัน่ เขาแทบจะกัดฟัน


พูดออกมา

"ตาเฒ่าฟู่ [1] เราขอบใจเจ้ามากนะจ๊ะ~" ตู๋กูซิงหลันหันไปแย้มยิม้ ให้กบั เขา นาไข่มุกขาวลูกนั้นไปถวายให้จี


เฉวียนชมดูอย่างยินดีปรี ดา

ท่านรองมหาเสนาฯ "......." ตาเฒ่าฟู่ ........ฟู่ หรื อ .......เขาใช้แซ่โหยวชัดๆ นังตัวร้ายนี่!

สมควรตาย ตอนที่นางคลอดออกมาจากท้องแม่ หรื อว่าทางบ้านเก็บแต่รกไว้แล้วโยนเด็กทิ้งไปใช่ไหม?

ทาตัวง๊องแง๊งไม่มีสาระเช่นนี้กลัวคนไม่รู้วา่ โง่หรื อไร

ดูเอาเถอะ.....อีกสักครู่ แคว้นต้าโจวของพวกเขาจะต้องมาเสี ยหน้าเพราะสตรี ที่เป็ นดังถุงกระสอบใบนี้

ยามนี้ต๋ กู ูซิงหลันกาลังอวดไข่มุกให้จีเฉวียนชมดูอยู่ "ฝ่ าบาท ทรงอยากจะลองลูบไล้ไข่มุกน้อยของข้าดูบา้ งไหม?


"

ดวงตาของจีเฉวียนแทบถูกตู๋กูซิงหลันทาร้ายจมมืดบอดแล้ว ภายใต้ประกายแวววาวของไข่มุก ผิวพรรณของนาง


ยิง่ ขาวนวลเนียนกระจ่างใส ดวงตาดอกท้อทั้งสองข้างก็ยงิ่ สุ กสกาวงดงามกว่าเดิม

นี่เป็ นครั้งแรกที่จีเฉวียนพบว่า ยามนางยิม้ แย้มนั้น สองข้างแก้มมีรอยบุ๋มทั้งสองข้าง ช่างหวานยิง่ นัก

แน่นอน ปัญญาอ่อนยิง่ กว่า!

"เจ้าแน่ใจนะว่าต้องการไข่มุกนี่ ? " ผ่านไปพักใหญ่ในที่สุดเขาก็ค่อยตรัสออกมาบ้าง

"อืม! " ตู๋กูซิงหลันพยักหน้าอย่างหนักแน่น ราวกับเด็กน้อยที่ได้ของขวัญที่ถูกใจที่สุด


"ฮ่องเต้แห่งแผ่นดินต้าโจว จะทรงตอบรับการเลือกของไทเฮาใช่หรื อไม่พะยะค่ะ? " อาปู้ถาลาทูลถาม ใบหน้า
ปรากฎร่ องรอยของความเสี ยดายอยูไ่ ม่นอ้ ย

อารมณ์ที่แสดงออกทุกคนต่างก็เห็นกันทัว่ ดูเอาเถอะ.......รู ้เลยว่านังตัวร้ายนัน่ เลือกผิดแน่นอน

แต่ฝ่าบาทกลับสายพระเนตรมืดบอดไปเสี ยแล้ว แม้แต่การแสดงออกที่ชดั แจ้งของอาปู้ถาลาขนาดนี้ก็ยงั มองไม่


เห็น กลับทรงมีพระดาริ เห็นด้วยกับนาง

แม้แต่ท่านราชครู ก็แกล้งทาเป็ นตาบอด ไม่เอ่ยวาจาทักท้วงฝ่ าบาทสักคา

ฮ่องเต้เพียงตรัสเสี ยงเยือกเย็นว่า "เราอนุญาต" ก็ทาให้พวกเขาพากันชะงักทั้งร่ างไปแล้ว ไม่รู้วา่ ช่วงไม่กี่เดือนมานี้


วังหลังเกิดเรื่ องอะไรขึ้นกันแน่ ถึงได้ทาให้ฝ่าบาททรงยอมนังตัวร้ายนัน่ ไปเสี ยหมดขนาดนี้?

"ไทเฮาพะยะค่ะ ทรงเลือกได้แน่แล้ว ไม่เปลี่ยนอีกใช่หรื อไม่? " อาปู้ถาลาคล้ายจะตรวจสอบว่าฝ่ าบาทจะทรงไม่


เสี ยดายแน่หรื อ จะเปลี่ยนพระทัยขัดขวางตู๋กูซิงหลันในขั้นสุ ดท้ายหรื อไม่

"ไม่เปลี่ยนหรอก "ตู๋กูซิงหลักประคองไข่มุกขาวไว้ในมือ "เราพอใจมุกขาวน้อยนี่ มาก"

"ดีพะยะค่ะ" อาปู้ถาลาพยักหน้ารับ

ขณะที่เขากาลังจะกล่าวอะไร ก็ได้ยนิ ตู๋กูซิงหลันเอ่ยว่า "แต่วา่ ตาเฒ่าฟู่ ท่าทางจะชอบมุกดานัน่ มาก อย่างไรท่าน


ช่วยเปิ ดเผยที่มาของไข่มุกดานัน่ ได้หรื อไม่? "

ท่านรองมหาเสนาฯ และเต๋ อเฟยต่างก็ตกตะลึงไปทั้งคู่ นังตัวร้ายนัน่ หมายความว่าอะไร? นางอยากหาเรื่ องให้


ตนเองต้องอับอายจนตายหรื อไง?

ทุกคนต่างแปลกใจกันไปหมด จะอย่างไรทุกคนต่างก็คิดว่าท่านรองมหาเสนาฯ เลือกได้ถูกต้อง แต่วา่ ผลลัพธ์ยงั


ไม่ปรากฎ ก็ไม่อาจรับรองได้ท้ งั หมด
ต่างก็เกรงว่าจะเกิดเหตุนอกเหนือความคาดหมาย

อาปู้ถาลาชะงักไปชัว่ ครู่ ท่าทางลังเลอยูไ่ ม่นอ้ ย "ไม่ดีเท่าไหร่ ม้ งั ไทเฮาทรงแน่พระทัยหรื อพะยะค่ะ ว่าต้องการดู


มุกดาก่อน? "

"ผูท้ ี่มีเมตตาเช่นเราย่อมอยากช่วยเหลือตาเฒ่าฟู่ ให้สาเร็ จความตั้งใจอย่างยิง่ ~" ตู๋กูซิงหลันกล่าวอย่างนุ่มนวล


อ่อนโยนทุกถ้อยคา

ท่านรองมหาเสนาฯ "......." ไม่ตอ้ งมาพูดย้าเตือนเขาอยูบ่ ่อยว่าเขาเป็ นเพียงรองฯ เท่านั้น!

อาปู้ถาลาก็ไม่ได้ปฎิเสธดึงดันนางอีก "ในเมื่อเป็ นคาขอร้องของไทเฮา อาปู้ยอ่ มต้องทาตามพระประสงค์ "

พูดแล้ว เขาก็ประสานมือคานับไปทางจีเฉวียนอีกครั้ง "ขอฝ่ าบาทประทานอนุญาตให้คนเปิ ดประตูหน้าต่าง


ทั้งหมด"

จีเฉวียนทรงโบกพระหัตถ์ หลี่กงกงก็รีบสั่งให้คนไปปฎิบตั ิโดยเร็ ว

หลังจากนั้นอาปู้ถาลาก็ร้องขอเชื้อไฟชุดหนึ่ง กระถางไฟ และยังมีน้ าอ่างหนึ่งจากหลี่กงกง เมื่อเตรี ยมทุกอย่าง


พร้อมแล้วเขาก็วางไข่มุกดาเม็ดนั้นลงไปในอ่างไฟ ใช้เชื้อไฟจุดขึ้น

"นี่กาลังจะบอกพวกเราว่า ไข่มุกนี่ น้ าไฟไม่อาจกล้ ากรายหรื อ" มีคนกล่าวออกมา

"จะต้องใช่แน่นอน ในเมื่อเป็ นของล้ าค้าย่อมสามารถทดสอบได้"

ในยามนี้ ทุกคนต่างเพิ่มความมัน่ ใจในการเลือกของท่านรองมหาเสนาฯ กว่าเดิม

------
[1] (副丞相 ฟู่ เฉิ งเซี่ยง เป็ นตาแหน่งรองมหาเสนาดี ผูม้ ีหน้าที่ถวายคาแนะนาแก่ฮ่องเต้ แต่ซิงหลันกลับเอา
ตาแหน่งท่านรองฯ ของเขามาเรี ยกเป็ นชื่อเล่น 'ตาเฒ่าฟู่ ')

ตอนที่ 52 ฝ่ าบาททรงมีพระนาสิกไวยิ่งกว่าสุ นัข


ตู๋กูซิงหลันนัง่ อยูข่ า้ งที่ประทับของฮ่องเต้ สี หน้าคล้ายจะ'หมองไหม้'อยูเ่ ล็กน้อย

"ดูสิ นังตัวร้ายนัน่ ร้อนใจแล้ว ฮาๆๆๆๆ ดูสิวา่ วันนี้ นางจะเอาตัวรอดยังไง! "

"เสนอตัวออกไปเป็ นถุงกระสอบใส่ หญ้าแท้ๆ ท่านรองมหาเสนาฯ และพระสนมเต๋ อเฟยรั้งอย่างไรก็ร้ ังไม่อยู่ นี่ จะ


ทาอย่างไรได้ล่ะ? "

ขณะที่ทุกคนกาลังวิจารณ์อย่างสนุกสนานต่อเนื่ องนั้น พลันได้ยนิ เสี ยง'บึม' แสงไฟจากอ่างไฟก็ลุกโชนขึ้นอีกเท่า


หนึ่ง ส่ องสว่างเรื องรองเป็ นแสงสี ทองมากกว่าเดิม แสงสว่างสะท้อนไปทัว่ ทั้งพระตาหนักจิ่นซิ่ว อุณหภูมิภายในห้องก็
พลอยเพิ่มสู งขึ้นด้วย

ทุกสิ่ งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ ว ผูค้ นต่างตกอยูใ่ นความตื่นตะลึง เมื่อคิดขึ้นได้วา่ อาปู้ถาลากล่าวไว้ประโยคหนึ่งว่า 'หาก


เลือกไข่มุกพระแม่ธรณี ได้ถูกต้อง ย่อมสาแดงความเปลี่ยนแปลงที่มหัศจรรย์'

ตอนนี้ ของล้ าค่านัน่ กาลังแสดงความเปลี่ยนแปลงที่มหัศจรรย์อยูล่ ่ะมั้ง?

ช่างสมแล้วที่เป็ นท่านรองมหาเสนาฯ สายตาเหนือชั้นกว่าคนทัว่ ไป

ชัว่ ขณะนั้น แต่ละคนในตาหนักต่างคอยืดคอยาวขึ้นมา ด้วยความอยากรู ้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงสุ ดท้าย


ของสมบัติวิเศษ

สี หน้าของตู๋กูซิงหลันยามนี้ยงิ่ 'ดูไม่ได้'เสี ยแล้ว ท่าทางของนางสานึกเสี ยใจแทบตาย แม้กระทัง่ ไข่มุกขาวที่นางรัก


นักรักหนายังแทบจะโยนทิ้งไปด้วย

จิ๊ๆๆ เสี ยใจแล้วล่ะสิ ? ช่างไม่มีใจฮึดสู ้แม้แต่น้อย

จีเย่วม์ องนางที่อยูด่ า้ นข้างที่ประทับ ก่อนนี้เคยสัญญาจะให้นางมีเกียรติยศสู งส่ งเหนื อผูใ้ ด แต่เขากลับทาไม่สาเร็ จ


จึงทาให้นางต้องถูกผูค้ นเหยียดหยามรังแกเช่นนี้

หากว่าเขาคือผูค้ รองแคว้นต้าโจว มีหรื อจะยอมให้นางต้องรับความอับอายแม้สักน้อยนิด ?


ยามนี้เขาอยากไปยืนเคียงข้างนางเหลือเกิน กุมมือนางไว้บอกกับนางว่า 'อย่ากลัวเลย ไม่วา่ เรื่ องใดล้วนมีขา้ อยู่'

ตู๋กูจุนเองก็ตระเตรี ยมดาบใหญ่ของเขาไว้แล้ว หากว่าวันนี้ มีใครกล้าแตะต้องน้องเล็กของเขา เขาก็จะเชือดมันทิง้


ทั้งบ้าน

หยวนเฟยลูบปลายหางงูนอ้ ยในมือ สายตาเป็ นประกายคมกล้า ถึงแม้นางไม่ชอบหน้าตู๋กูซิงหลัน แต่อย่างไรก็ทน


มองเห็นคนทั้งหลายรุ มกันจัดการนางเพียงคนเดียวไม่ได้

"หยวนเฟย ทางที่ดีเจ้าสงบเสงี่ยมให้มากไว้ สถานการณ์วนั นี้ ไม่ใช้เรื่ องที่เจ้าจะเข้าไปเกี่ยวข้องได้" ยามนั้น องค์


หญิงใหญ่ที่นงั่ อยูด่ า้ นหน้าหันกลับมากล่าวเตือนนางประโยคหนึ่งเสี ยงเบา

หยวนเฟยดวงตาเป็ นประกาย คิดจะพูดอะไรก็ได้แต่อ้ าอึ้งเอาไว้ ในวังหลังแห่งนี้ นางจะเอ่ยความในใจกับใครได้?


แม้แต่องค์หญิงใหญ่ที่ดูอ่อนโยน ก็ไม่ควรเผยความในใจออกไป

ก่อนบิดาตายจากไปได้ตกั เตือนนาง อย่าได้เชื่อใจผูใ้ ดในวังหลวงของต้าโจวโดยง่าย หลายปี มานี้นางราลึกอยู่


ตลอดเวลา

นางผุดลุกขึ้นมา แล้วก็นงั่ ลงไปอีก ช่างเถอะ วันนี้ หากตู๋กูซิงหลันจะตายก็ตายไปเสี ย เกี่ยวข้องอะไรกับนางด้วย?


ไยจึงจะต้องเข้าไปช่วยนางกัน?

แต่ตอนที่นางกาลังจะลงมือตอบโต้นางกานัลประจาตัวของเต๋ อเฟย ตู๋กูซิงหลันกลับแทรกตัวเข้ามาดึงความสนใจ


ออกไปพอดี บางทีเหตุที่นางเลือกไข่มุกขาวลูกนั้น อาจเป็ นเพราะตัวนางหยวนเฟยน่ะเอง?

ช่างสมควรตาย ไยจึงไม่อาจทาใจดากับสตรี เช่นนี้ได้?

ขณะที่หยวนเฟยกาลังสับสนวุ่นวายใจ ทางด้านเต๋ อเฟยก็ชิงลุกขึ้นมาคุกเข่าของร้องฮ่องเต้แล้ว "ฝ่ าบาท ถึงแม้ท่าน


พ่อจะเลือกไข่มุกของพระแม่ธรณี ได้ถูกต้อง แต่ไทเฮายังทรงเยาว์วยั ไม่รู้ความ ของทรงอภัยโทษให้นางเถอะเพคะ"

ผูค้ นทั้งหลายต่างไม่อาจอดใจชมดูเต๋ อเฟย สตรี ผนู ้ ้ ีมากเมตตา ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยงั คิดช่วยเหลือ ออกหน้า


ของร้องแทนนังตัวร้ายนัน่
หากว่าภายหน้านางได้เป็ นฮองเฮา ก็ถือเป็ นวาสนาของแคว้นต้าโจวเราแล้ว

"ฝ่ าบาทพะยะค่ะ พระสนมเต๋ อเฟยกล่าวถูกต้องแล้ว ไทเฮาเพียงแต่ขาดประสบการณ์ ไม่รู้จกั ความสาคัญหนักเบา


ครั้งนี้นางจะต้องจดจาไปอีกนาน รู ้วา่ อะไรคือประเทศต้องมาก่อน ไม่ใช่เอาแต่ใจตนเองลืมฐานะที่พึงมี " ท่านรองมหา
เสนาฯ เองก็วา่ ตาม

ทั้งสองคนหนึ่ งร้องหนึ่งรับ ดูคล้ายอ้อนวอนแทนตู๋กูซิงหลัน ที่จริ งกลับผลักนางเข้าสู่ กองไฟ

เหล่าเชื้อพระวงค์ ขุนนางและสนมทั้งหลายทั้งหมดล้วนไม่ใช่คนโง่ ย่อมมีคนดูออก เพียงแต่ไม่มีใครยินดีพูด


ออกมา

ไม่เห็นหรื อว่าท่านรองมหาเสนาฯ พึ่งจะเลือกไข่มุกพระแม่ธรณี ได้ถูกต้อง นี่ถือเป็ นการช่วงชิงเกียรติภูมิแห่ ง


แคว้นได้สาเร็ จ พวกเขาหรื อจะกล้าไปผิดใจกับเขาในเวลาเช่นนี้

หลังจากวันนี้ไปพวกเขายังต้องไล่ตามไปประจบสอพลอท่านรองมหาเสนาฯ และเต๋ อเฟยอีกเยอะเลยด้วยซ้ า

ตู๋กูซิงหลันกวาดตามองไป นางดูห่อเ**้่ยวเป็ นมะเขือตากแห้ง ไม่เหลือทีท่าร่ าเริ งอย่างเมื่อครู่ อีก

ผูค้ นทั้งหลายคิดจะนินทานางต่อ พลันได้ยนิ เสี ยงไข่มุกดาในอ่างไฟส่ งเสี ยงเปรี๊ ยงๆ ออกมา ทันใดนั้นมีคนรี บปิ ด
จมูกไว้ ร่ าร้องว่า "อี๋....นี่มนั กลิ่นอะไรนะ! "

คราวนี้คนอื่นๆ ก็ร้องตามกันใหญ่ แต่ละคนตาโตรี บปิ ดปากปิ ดจมูก แทบจะกระโดดออกนอกหน้าต่างไป

กลิ่นนี่มนั ........เหม็นแหวะ!

คล้ายอึหมักในถังนานปี ผสมกับเศษซากเต้าหูเ้ หม็น สองอย่างผสมกัน กลิ่นรุ นแรงแทงเข้าจมูก ทาให้คนทั้งหมด


น้ าหูน้ าตาไหล

ผีหลอกแล้ว! สมบัติล้ าค่าของเผ่าอาปู้ไซทาจากซากศพมนุษย์หรื อยังไง?

กลิ่นเหม็นรุ นแรงนัน่ ลอยไปทางที่ประทับ


ใบหน้าที่งดงามของฝ่ าบาทถึงกับถูกรมไปด้วยควันเหม็นที่หนาแน่น

ท่านราชครู ฉางซุนซิ่วรี บเข้าไปอยูข่ วางหน้าฝ่ าบาทตั้งแต่แรก ใช้ร่างกายที่อวบอ้วนของตนเองบังกลิ่นเหม็นสุ ด


ทนทานนัน่ ไว้ ตู๋กูซิงหลันเองก็รีบฉี กชายแขนเสื้ อของตนเองข้างหนึ่งมาปิ ดปากและจมูกของฝ่ าบาทไว้

ทางหนึ่งปิ ดทางหนึ่งพูดว่า "ลูกชายจ๋ าอย่ากลัว แม่มาช่วยเจ้าแล้ว! "

ไอ้ลูกชายแค่ลมตดของตู๋กูเหลียนยังรับไม่ได้ กลิ่นเหม็นในพระตาหนักนี้ยงั รุ นแรงกว่าที่ตาหนักอวี้เฉวียนนับพัน


เท่า พระพิโรธของฝ่ าบาทในตอนนี้เกรงว่าอาจถึงขั้นทาลายล้างเผ่าอาปู้ไซทั้งหมดให้ราบคาบก็เป็ นได้

เดิมทีจีเฉวียนทรงกลั้นพระปัสสาสะ (ลมหายใจเข้า) เอาไว้ แต่พอตู๋กูซิงหลันเข้ามาวุน่ วายจึงทรงพลั้งเผลอผ่อน


พระกาลัง กลิ่นเน่าอึกหนึ่ งถูกสู ดเข้าไปในพระวรกาย คนก็เกิดอาการเวียนศีรษะขึ้นทันที เกือบจะตาเหลือกขึ้นสวรรค์
ไปแล้ว

ยังดีที่บนเสื้ อผ้าของนางมีกลิ่นหอมของดอกฮวายอ่อนๆ ข่มกลิ่นเหม็นสุ ดทนทานนัน่ ลงได้บา้ ง ไม่เช่นนั้นหาก


เลื่องลือกันออกไปว่า ฮ่องเต้ตา้ โจวสู ดกลิ่นเหม็นจนสิ้ นพระสติไป คงกลายเป็ นที่ขบขันกันนับพันปี

"ไทเฮาพะยะคะ ฝ่ าบาททรงมีพระนาสิ กที่ไวกว่าคนทัว่ ไป สามารถกลั้นพระปัสสาสะได้นานยิง่ ขอพระองค์


อย่าได้ทรงกอดรัดฝ่ าบาท ........ฝ่ าบาทได้ทรงกลั้นลมหายพระทัยเองได้" ฉางซุนซิ่วปิ ดปากไว้ หันหน้ากลับมากราบทูล

ตู๋กูซิงหลันได้แต่พยักหน้ารับ นางไม่อาจเปิ ดปากพูดได้อีก เพราะกลิ่นนัน่ เหม็นแทบเอาชีวิตคนเลยทีเดียว

ไม่น่าละ........เจ้าฮ่องเต้นี่ถึงได้รังเกียจคนที่ผายลม ที่แท้ก็มีจมูกดีเหมือนสุ นขั

"ฝ่ าบาทพะยะค่ะ จะเสด็จหลบออกไปก่อนดีไหมพะยะค่ะ? " ฉางซุนซิ่วอดทนต่อกลิ่นไว้ กลั้นใจถาม

จีเฉวียนไม่แสดงอารมณ์อนั ใดเพียงสายพระพักตร์ปฎิเสธ ตอนนี้เขาเวียนศีรษะอึดอัดอย่างยิ่ง หากลุกขึ้นจะยิง่ ต้อง


สู ดดมกลิ่นเหม็นเข้าไป อาจถึงกับอาเจียนออกมาได้

ดวงตาหงส์ที่ท้ งั งดงามทั้งเย็นชาคู่น้ นั ถึงกลับมีน้ าตาคลอออกมา แต่ยงั คงยืนหยัดรักษาความเย็นเยือกเอาไว้อย่าง


ที่สุด
ตู๋กูซิงหลันเดิมทีคิดจะพยุงเขาออกไป พอเห็นสายพระเนตรของฮ่องเต้เข้าก็ลม้ เลิกความตั้งใจ

นางหันไปมองรอบทิศทาง ก็เห็นหลี่กงกงกาลังอ๊วกแตกเพราะกลิ่นเหม็นอยูใ่ นมุมหนึ่ง จึงรี บเข้าไปหา ปิ ดปากปิ ด


จมูกกล่าวว่า "หลี่กงกง ท่านรี บสัง่ ให้คนไปนาถ่านชั้นดีเข้ามาเร็ วๆ เข้า"

หลี่กงกงไม่รู้วา่ นางต้องการทาเช่นนี้เพื่ออะไร แต่ยงั รี บนาขันทีนอ้ ยสองคนออกไปนอกพระตาหนักเพื่อขนถ่าน

พวกเขาเคลื่อนไหวคล่องแคล่วว่องไว เพียงชัว่ เวลาสั้นๆ ก็ขนถ่านเข้ามาจานวนหลายตระกร้า ตู๋กูซิงหลันสั่งให้


นาไปให้พี่ใหญ่ตระกร้าหนึ่ ง ให้หยวนเฟยน้อยและองค์หญิงใหญ่อีกตระกร้าหนึ่ง ที่เหลือล้วนนามาวางไว้รอบองค์
ฮ่องเต้ท้ งั หมด

ตอนที่ 53 เรื่องนีเ้ ขาสามารถโม้ ได้ชั่วชีวิต

ตู๋กูซิงหลันโยนถ่านพวกนั้นไว้รอบๆ พระองค์จีเฉวียน แล้วหยิบถ่านก้อนใหญ่เท่าฝ่ ามือมารองไว้ที่ใต้พระนาสิ ก


ของฝ่ าบาท "ลูกจ๋ า ถ่านสามารถดูดกลิ่นเหม็น และกรองอากาศให้สะอาดขึ้นได้ เจ้าถือเอาไว้จะได้ดีข้ นึ บ้าง"
เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ถึงแม้จะร้ายกาจไปบ้าง......แต่เมื่อคิดว่าครั้งก่อนนางตบตีเขาไปหลายครั้งอยู่ไม่นอ้ ย สุ ดท้ายแล้ว
เขาก็ไม่ได้ลงโทษหรื อหมิ่นเกียรตินาง นางจึงสมควรใจดีมีเมตตาช่วยเหลือเขาสักหน่อย

ยิง่ ไปกว่านั้นใครใช้ให้นางเป็ นมารดาน้อยของเขากันละ ลูกดื้อร้ายกาจก็เรื่ องหนึ่ง แต่เป็ นแม่คนอย่างไรสมควรมี


ความรับผิดชอบ

ได้ยนิ เสี ยงเรี ยก 'ลูกจ๋ าๆ ' อยูท่ ุกคา จีเฉวียนนึกอยากจะตัดลิ้นของนางนัก แต่วา่ เขาเห็นนางวุ่นวายวิ่งเข้าวิ่งออก
เขาก็ได้แต่นิ่งอึ้งไปกล่าวอันใดไม่ออก

ชัว่ ขณะนั้นเขาเกิดความรู ้สึกขึ้นมาว่าบางทีนางอาจกระทาไปด้วยความจริ งใจ

ใช้ถ่านดูดกลิ่น.......สามารถลดกลิ่นเหม็นลงไปได้มาก ทาให้เขารู ้สึกปลอดโปร่ งขึ้นไม่นอ้ ย

ตู๋กูซิงหลันส่ งให้ฉางซุนซิ่วก้อนหนึ่ ง แล้วก็ตวั เองอีกก้อน จากนั้นก็นงั่ ลงที่ขา้ งกายจีเฉวียนอย่างเรี ยบร้อย

เมื่อมองลงไป ภายในพระตาหนักจิ่นซิ่วกลับดูคึกคักน่าสนุกสนานไม่นอ้ ย

เหล่าเชื้อพระวงค์ ขุนนางใหญ่ เหล่าพระสนมและชาววังทั้งหลาย มีไม่นอ้ ยที่ทนไม่ไหวถึงขั้นอาเจียนออกมา และ


เพราะยังไม่ได้รับพระบรมราชานุญาตจึงไม่มีผใู ้ ดกล้าหลบออกจากพระตาหนักจิ่นซิ่ว

อากาศภายในยังอบอวลไปด้วยควันสี เขียวๆ เหลืองๆ พาให้คนแสบตายิง่ นัก!

เต๋ อเฟยและท่านรองมหาเสนาฯ ถูกควันรมจนไออยูต่ ลอดเวลา ทั้งสองคนยังพูดไม่ไหวจึงเอาแต่จอ้ งไปทางอาปู้ถา


ลา ก็เห็นว่าอาปู้ถาลามีการเตรี ยมตัวอยู่ก่อน มีผา้ ลายพร้อยผืนหนึ่งผูกปิ ดใบหน้าและยังถือผ้าดาผืนหนึ่งเอาไว้ดว้ ย

"นี่มนั เรื่ องอะไรกัน? ไข่มุกล้ าค่าของเจ้าคือแบบนี้หรื อ? " เต๋ อเฟยเกือบจะอ้วกเอาอาหารค่าเมื่อวานออกมาด้วย


หากไม่ใช่วา่ ได้เหอซิ่ วคอยพยุงไว้ ตอนนี้ นางคงลงไปกองกับพื้นแล้ว

อาปู้ถาลาสี หน้าเรี ยบเฉย ตอนนี้เขาค่อยเอาอ่างน้ าที่ได้เตรี ยมไว้สาดดับไข่มุกดาที่ยงั เผาไหม้ไม่หมด


"ซี่ซซซ ซี่ๆๆ ..." ได้ยนิ เสี ยงเบาๆ คราวนี้ควันสี แดงกลุ่มหนึ่งลอยออกมาจากอ่างไฟ

เต๋ อเฟยถูกรมจนต้องถอยออกมา ทุกสิ่ งในกระเพาะพลิกตลบราวทะเลคลัง่

เหล่าขันทีน้อยต่างถือพัดไว้ในมือระดมกาลังพัดควันลอยออกไปนอกพระตาหนัก ผ่านไปครู่ ใหญ่กลิ่นเหม็นเน่า


ถึงได้จางลงไป

"อาปู้ถาลา! นี่มนั ไข่มุกล้ าค่าที่ไหน เห็นชัดอยูว่ า่ เจ้าจงใจควานหาของเล่นนัน่ มาทาร้ายเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินของต้า


โจว " ท่านรองมหาเสนาฯ พาลรี บฟ้องร้องกลับ

ผูค้ นทั้งหลายต่างก็มีโทสะ ความทรมานที่ได้รับแทบจะทาให้พวกเขาตายขึ้นสวรรค์ยกรังเลยทีเดียว!

หากอาปู้ถาลาไม่ตายคงยากจะดับความแค้นของคนทั้งหลายลงได้

"ใต้เท้าฟู่ ข้าบอกเมื่อไหร่ กนั ว่านัน่ เป็ นไข่มุกล้ าค่า? " อาปู้ถาลาตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน "ข้าจะไปรู ้ได้อย่างไร
ว่าท่านจะไม่พิจารณาให้ดี จะเลือกเอาขี้กอ้ นหนึ่งให้ได้? "

รองมหาเสนาบดี "!!! "

เต๋ อเฟยเองก็เบิ่งตาโตด้วยความตกใจ นางนึกว่าตนเองฟั งผิดไป

"ขี้กอ้ นหนึ่ง? ไข่มุกนัน่ มีไออุ่น ในสี ดายังแฝงลายสี แดง เจ้ากลับบอกว่ามันเป็ นขี้กอ้ นหนึ่ ง?!! " ท่านรองมหา
เสนาฯ เปี่ ยมไปด้วยโทสะ เขาอยูม่ าหลายสิ บปี ฉลาดรอบรู ้มาโดยตลอดกลับถูกลบหลู่ดูหมิ่นอย่างรุ นแรงถึงเพียงนี้

"ที่ขา้ ให้ไปคือมูลของราชาหมาป่ าไซบีเรี ยน จะเทียบกับอึทวั่ ไปได้อย่างไรกัน? " อาปู้ถาลาตอบคา "หมาป่ าไซบี


เรี ยนกินซากสัตว์เป็ นอาหาร ดื่มน้ าคราได้ มูลที่ถ่ายออกมาย่อมเหม็นคลุง้ อยูแ่ ล้ว ยิง่ เป็ นราชาจ่าฝูงย่อมต้องเหนือชั้นเป็ น
พิเศษ"

ว่าแล้วอาปู้ถาลาก็ไม่ลืมจะอธิ บายเพิ่มเติมว่า "พวกเราชาวทุ่งหญ้าไม่ได้มีทรัพยากรมาเผาไฟมากมายเช่นพวก


ท่านต้าโจว ยามปกติก็ใช้มูลวัวควายต่างๆ มาเป็ นเชื้อเพลิง สุ นขั ป่ าไซบีเรี ยนเป็ นหมาป่ าเลี้ยงของเผ่าข้า ถือเป็ นเจ้าแห่ง
กลิ่นเหม็นไร้ที่เปรี ยบในหมู่หมาป่ า
เผ่าเราใช้สาหรับทาร้ายศัตรู ภายนอกใช้ข้ ผี ้ งึ ดาชนิดพิเศษเก็บกักกลิ่นเหม็นไว้ ค่อยปั้นเป็ นก้อนกลมเพื่อความ
สะดวกในการพกพา สามารถรมกลิ่นเหม็นได้ถึงสามวันสามคืน

อาปู้ถาลาอดไม่ได้ที่จะคิดย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ ว่ากันตามจริ งในใจของเขาเองก็ยงั ตื่นตะลึงไม่หาย หาก


พูดออกไปแม้แต่ตวั เองก็ยงั ไม่อยากจะเชื่อ ว่าวันหนึ่ งเขาจะได้มาเผาอึอยูใ่ นงานเลี้ยงพระราชทานของวังหลวง!

ทั้งยังทามันระเบิดด้วย! เกือบจะทาให้ฮ่องเต้แห่งต้าโจว เชื้อพระวงค์ ขุนนางทั้งบูบ้ ๋ ุนและชาววังหลังทั้งหลายต้อง


ถูกรมตายขึ้นสวรรค์ไป

เรื่ องราวเช่นนี้สมควรต้องถูกขุนนางฝ่ ายประวัติศาสตร์ของพวกเขาจดบันทึกไว้ เช่นนี้ตวั เขาอาปู้ถาลาก็สามารถ


ทิ้งรอยหมึกไว้ในประวัติศาสตร์ของต้าโจวได้ใช่ไหม?

เขาพลันรู ้สึกว่าเรื่ องนี้เขาสามารถโม้ได้ชวั่ ชีวิตเลยทีเดียว!

ท่านรองมหาเสนาฯ โกรธเสี ยจนหน้าแก่ๆ ของเขาเ**้่ยวย่นจนอัปลักษณ์แล้ว ก่อนหน้านี้ยงั ยึดถือว่าไข่มุกดานัน่


เป็ นสมบัติล้ าค่าอยูเ่ ลย ตอนนี้ไอ้ของไร้ค่านัน่ ถูกเปิ ดเผยต่อหน้าผูค้ น ว่ามันเป็ นเพียงขี้กอ้ นหนึ่ง!

รองมหาเสนาบดีแห่งต้าโจวเช่นเขากลับยึดเอาขี้กอ้ นหนึ่งเป็ นสมบัติวิเศษ?

ใบหน้าของเต๋ อเฟยเองก็ดูไม่ได้อย่างที่สุด นางไม่อาจทนรับความคลื่นไส้จนกระเพาะแทบพลิกกลับเช่นนี้ บิดารับ


ราชการมานานปี ไม่เคยได้รับความอัปยศเช่นนี้ มาก่อน

ท่านรองมหาเสนาบดีโกรธจนตาปูดเคราชี้ แทบอยากจะจับอาปู้ถาลานัน่ กลืนทั้งเป็ น "นี่มนั ชัดเจนเลยว่าเจ้า


วางแผนเล่นเล่ห์! หมาป่ าบ้านไหนจะสามารถปล่อยมูลเช่นนี้ได้กนั ? แม้แต่ตอนที่ขา้ จับนั้นยังมีไออุ่นทั้งยังมีลวดลายสี
แดงอยูภ่ ายใน! "

คราวนี้อาปู้ถาลาเองกลับพูดไม่ออกแล้ว "ท่านคงไม่เคยรู ้วา่ ......อากาศของเป่ ยเจียงหนาวเหน็บอย่างมาก ขี้ผ้ งึ ดา


เมื่อถูกนวดจะร้อนขึ้นมา เป็ นสิ่ งที่พวกเราเอาไว้ใช้ป้องกันความเย็นกัดแทะ"

พูดแล้วเขาก็ลงั เลอยูเ่ ล็กน้อย "ส่ วนสี แดงนัน่ ....พักก่อนราชาหมาป่ าป่ วยเป็ นริ ดสี ดวง เลือดออกง่าย.....ข้าว่าไม่ใช่
เรื่ องพิศดารอะไร ไม่มีใครบีบบังคับให้ท่านเลือกมุกดานัน่ ซะหน่อย"
มุกดาจากราชาหมาป่ านัน่ ....ก็แค่จะเอามาเพิ่มจานวนตัวเลือกเสี ยหน่อย ใครจะไปรู ้วา่ ผูท้ ี่พบเห็นรอบรู ้มามากอย่าง
ท่านรองมหาเสนาบดีจะเจาะจงเลือกมันเข้า

พอพูดจบ ก็เห็นท่านรองมหาเสนาฯ สี หน้าดุจกลืนแมลงวันลงไป แรงฮึดด้วยโทสะทั้งหมดแตกสลาย

ในสมองของเขามีแต่คาว่า'ริ ดสี ดวงงงงงงง' ในโลกนี้มีหมาป่ าที่ป่วยเป็ นริ ดสี ดวงที่ไหนกัน!

เต๋ อเฟยเองก็อดกลั้นต่อไม่ไหวแล้ว นางอาเจียนออกมาอย่างหมดสภาพ ก่อนหน้านี้นางรักษาภาพลักษณ์กุลสตรี ผู ้


สง่างามตามขนบธรรมเนียมมาโดยตลอด วันนี้ กลับถูกเลือดริ ดสี ดวงของหมาป่ าที่เผาไหม้ทาร้ายจนแปดเปื้ อน!

ผูค้ นทั้งหลายก็พลอยตกตะลึง เมื่อครู่ พ่ งึ จะอ้วกเอาอาหารเย็นออกไป ตอนนี้ยงิ่ ทนไม่ไหวพากันอ้วกตามเต๋ อเฟย


จนหมดไส้หมดพุง

ดูสิ ตู๋กูจุนเอาของเล่นบ้าๆ อะไรกลับมาด้วย นี่คือหากพวกเขาไม่ตายไปเสี ยก่อนก็จะไม่จบไม่สิ้นใช่ไหม?

ตู๋กูจุนถือถ่านไว้กอ้ นหนึ่งรองไว้ใต้จมูกสู ดดมจนคิ้วเหยียดตรง ท่าทางราวจะบอกว่า 'พวกเจ้าไม่ตอ้ งมามองข้าแม่


ทัพ ข้าเองก็เป็ นผูร้ ับเคราะห์! หากยังมองข้าแม่ทพั อีก เชื่อไหมว่าข้าจะเอาดาบมาสังหารพวกเจ้าเสี ย'

ตอนนี้ มาคิดๆ ดูแล้ว กองทัพใหญ่ตระกูลตู๋กูของพวกเขานับว่าโชคดี ไม่ได้ถูกเผ่าอาปู้ไซใช้ 'กลิ่นพิษ' ทาร้ายจน


อ้วกแตก

"เฮอะๆๆๆ ท่านรองมหาเสนาบดีช่างลึกล้ าเหลือเกิน อึหมายังกล้านับเป็ นสมบัติล้ าค่า วันนี้ นบั ว่าข้าได้เปิ ดหูเปิ ด
ตาแล้ว"

ขณะที่ทุกคนกาลังส่ งเสี ยงอาเจียนกันระงม ก็เห็นหยวนเฟยเดินยิม้ กริ่ มออกมาอย่างไม่บุบสลายแม้แต่นอ้ ย "เมื่อครู่


นางกานัลของเต๋ อเฟยบอกกับข้าอย่างมัน่ ใจเต็มเปี่ ยมว่า นายผูเ้ ฒ่าของพวกเขาจะต้องได้รับรางวัล ไม่รู้วา่ ครั้งนี้ฝ่าบาทจะ
ทรงประทานรางวัลอันใดให้ดี? ไม่อย่างงั้นก็ ตาแหน่งท่านรองมหาเสนาฯ เช่นนี้อย่าได้เป็ นมันต่อไปเลย ไปเป็ น
พนักงานกาจัดปฎิกูลเสี ยเถอะ เจ้าดูมูลก้อนนั้นสิ ทั้งกลมทั้งดา ในดาแฝงเส้นสี แดงด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ "

หยวนเฟยเป็ นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ปากก็ร้าย หากสบโอกาสเป็ นต้องทิ่มแทงคนจนตาย


ท่านรองมหาเสนาฯ และเต๋ อเฟยต่างก็เขม่นมองไปที่นาง บุตรี ชาวแมนจูผหู ้ นึ่ง กลับกล้าออกมาดูหมิ่นพวกเขา!

ตอนที่ 54 ปากร้ ายพาลให้ คนโมโหตายได้

"ทูลฝ่ าบาท แคว้นต้าโจวของเรา นับตั้งแต่ก่อร่ างสร้างประเทศมาสื บทอดขนบธรรมเนียมอันดีงาม ไหนเลยจะรู ้


ได้วา่ พวกคนเถื่อนหยาบคายพวกนี้ จะมีสิ่งของสกปรกน่ารังเกียจเช่นนี้"

ท่านรองมหาเสนาฯ ไม่ได้ไปต่อปากต่อคากับหยวนเฟย เขาหันไปคุกเข่ากราบทูลฮ่องเต้ผทู ้ รงประทับอยูด่ า้ นบน


ชายชราน้ าตานองหน้า "กระหม่อมสายตาพร่ าเลือน ถึงได้หลงกลของพวกเขา! พวกเขาถึงกับเหยียดหยามต้าโจว หมิ่น
พระเกียรติฝ่าบาท ต่อให้สับเป็ นพันเป็ นหมื่นดาบก็ไม่นบั ว่าเกินไปพะยะค่ะ"
"ฝ่ าบาท อาปู้ถาลาบังอาจกระทาการลบหลู่แคว้นต้าโจว ถือว่ามีโทษสถานหนักนะเพคะ" เต๋ อเฟยอาศัยซิ่วเหอพยุง
ตัวเอาไว้ ใบหน้าน้อยๆ ขาวซีด ดูหมดกาลังไร้เรี่ ยวแรงประหนึ่งจะลงหลุมในไม่ชา้ นี้ "ขอฝ่ าบาททรงมีราชโองการเถอะ
เพคะ! "

ขณะที่ฝ่าบาทยังทรงรู ้สึกถึงกลิ่นเหม็นไม่คลายจึงไม่คิดจะออกพระโอษฐ์

ก็ทรงเห็นไทเฮาน้อยที่ประทับอยูข่ า้ งพระองค์ผดุ ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ ว นางถือถ่านเอาไว้ ค่อยๆ ขยับนัง่ ลงที่ขา้ งโต๊ะ


ประทับ กล่าวกับรองมหาเสนาฯ โดยตรงว่า "เฒ่าฟู่ เราไม่อาจละเว้นการตาหนิ ท่านได้ อายุก็มากขนาดนี้ยงั เจ้าคิดเจ้า
แค้น ทาไมแพ้ไม่เป็ นหรื อไร? "

"เมื่อครู่ เป็ นใครกันที่กล่าวอย่างเชื่อมัน่ ว่าสมบัติล้ าค่าก็คือไข่มุกดาลูกนั้น? หรื อว่าเป็ นอาปู้ถาลาเอามีดมาพาดคอ


เจ้าไว้บงั คับให้พูดกัน? "

ขณะที่นางพูดอยูน่ ้ นั อาปู้ถาลาอดไม่ได้ที่ใช้สายตาขอบคุณมองไปยังนาง เขาถูกใส่ ร้ายหนักเกินไปแล้ว ดูเอาเถอะ


ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ของต้าโจวกลับมีเหตุมีผลสู ้สาวน้อยคนหนึ่งยังไม่ได้

ตู๋กูซิงหลันทาท่าโกรธกริ้ วใส่ ท่านรองมหาเสนาฯ อย่างไม่อาจระงับ "เราบอกตั้งแต่แรกแล้ว ว่ามุกดานัน่ ไม่ใช่ของ


ดีอะไร เจ้าก็ไม่ฟัง เราอุตส่ าห์ใจดียอมเป็ นผูถ้ ูกตาหนิ แล้วอย่างไร สนุกจนพอหรื อยัง? สนุกจนเสี ยเรื่ องแล้วยังคิดฆ่า
ผูอ้ ื่น ใจเจ้ามีแต่ความเป็ นอริ เหลือเกิน! คนแก่แล้วสมควรมีจิตเมตตาปราณี ให้มากไว้ ไม่เช่นนั้นทาชัว่ มากไป ตายไป
แล้วก็ลงนรกนะ"

"ข้า....." ท่านรองมหาเสนาฯ คิดอยากจะปิ ดปากนังตัวร้ายนัน่ อย่างที่สุด ช่างถนัดกระแนะกระแหนนัก

"เฒ่าฟู่ เอ๋ ย ท่านเนี่ยอะไรก็ดีไปหมด เว้นแต่ลาพองเอาแต่ใจตนเองมากไป เป็ นคนนั้นสมควรจะถ่อมตนถ่อมใจฟั ง


ความคิดเห็นผูอ้ ื่นบ้าง ท่านเป็ นถึงรองมหาเสนบดีของต้าโจว เป็ นแบบอย่างของขุนนางทั้งหลาย ดูเอาเถอะ คนระดับ
ท่านสมควรเปิ ดกว้างให้มากเข้าไว้ ไม่เช่นนั้นหากขุนนางทั้งหลายต่างเลียนแบบท่าน เช่นนี้แคว้นต้าโจวของเราจะเจริ ญ
ได้อย่างไร? "

ท่านรองมหาเสนาฯ "เจ้า....."
"เราพูดอยู่ เจ้าอย่าได้สอดคา! " ตู๋กูซิงหลันสาดสายตาอามหิ ตใส่ เขา "ตั้งใจฟังคาผูอ้ ื่นพูดให้จบมันอยากนักหรื อ
ไง? "

ท่านรองมหาเสนาฯ ยามนี้ทรวงอกสั่นกระเพื่อม แทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทาไมบุตรี ที่แสนดีและเก่งกาจของตนถึงได้ถูกนังตัวร้ายนี่รังแกเอาได้!

เพียงอาศัยแค่ปากของนาง ก็สามารถทาให้คนตายได้!

เขาพยายามอดกลั้นโทสะและเลือดลมที่ใกล้กระอักออกมา จ้องกลับไปที่นางกล่าวว่า "ไม่ทราบว่าไทเฮายังมีคาสัง่


สอนใดอีก? "

ตู๋กูซิงหลัน "เราพูดจบแล้ว"

ท่านรองมหาเสนาฯ "!!! " อ๊ากกก! ตระกูลตู๋กูที่แท้ให้กาเนิดตัวอะไรออกมากันแน่! นี่ มนั คือนังปี ศาจ คือมะเร็ ง
ร้าย!

ผูค้ นทั้งหลายได้แต่มองท่านรองมหาเสนาฯ อย่างเห็นใจอยู่บา้ ง.....ท่านรองมหาเสนาฯ จะอย่างไรก็มีอายุเกือบหก


สิ บปี แล้ว ที่ผา่ นมาถือได้วา่ มีเกียรติสูงส่ ง คิดไม่ถึงว่าวันนี้ จะพลาดเข้าอย่างจัง ทั้งยังถูกสาวน้อยผูห้ นึ่งอบรมสั่งสอน
หากเปลี่ยนเป็ นพวกเขาไม่วา่ คนใดก็คงจะทนไม่ได้เช่นกัน

แต่กลับเป็ นว่าที่นงั มารน้อยนี้สั่งสอนมาล้วนเปี่ ยมไปด้วยเหตุผล แต่ละคาๆ ล้วนอาจว่าเพื่อแคว้นต้าโจว ทั้งหมด


ที่วา่ ไปล้วนเพื่อประเทศชาติท้ งั นั้น ผูใ้ ดก็ไม่อาจกล่าวได้วา่ นางผิด

ยิง่ ไปกว่านั้น.......นางเองก็พูดได้ถูกต้อง

ก็ตอนนั้นนางได้พยายามเตือนท่านรองมหาเสนาฯ แต่ท่านรองมหาเสนาฯ ไม่ฟังแม้แต่นอ้ ย ซ้ ายังหาเรื่ องนางไม่


หยุด
"ท่านพ่อ....."เต๋ อเฟยทรุ ดลงไปนัง่ ราวคนป่ วยใกล้ตายมีแต่ความตื่นตระหนก นางกลัวว่าบิดาจะมีโทสะจนโมโห
ตายไปเสี ยก่อน ความร้ายกาจของตู๋กูซิงหลันนั้นนางเองก็เคยโดนมาแล้ว เพียงแต่คิดไม่ถึงว่านังตัวร้ายนี่ยงั พ่นพิษได้
มากกว่าที่คาดไว้เสี ยอีก

นางพยายามส่ ายศีรษะสื่ อความหมายให้ท่านรองมหาเสนาฯ ซ้ ายังให้ซิ่วเหอเข้าไปลูบหลังให้บิดา

ท่านรองมหาเสนาฯ สู ดลมหายใจเข้าออกอยู่หลายครั้ง ถึงได้ฟ้ื นฟูกาลังขึ้นมาบ้าง เขาต้องสงบใจไว้ สงบไว้


อย่าได้มีโทสะเพราะนังตัวร้ายนัน่ จนเป็ นลมล้มไป

ครู่ ต่อมา เขาก็ได้แต่ใช้หน้าแก่ชรานัน่ เค้นรอยยิม้ ที่ไม่น่าดูแม้แต่นอ้ ยออกมา "ไทเฮาทรงสั่งสอนได้ถูกต้องแล้ว


กระหม่อมมีตาแต่ไร้แวว มัน่ ใจในตนเองมากไป กระหม่อมสานึกผิดแล้วพะยะค่ะ"

"ผูเ้ ยาว์ที่สั่งสอนได้ เจ้าช่างน่าเอ็นดู " ตู๋กูซิงหลันมองเขาด้วยสายตายอมรับนับถือ

ผูค้ นทั้งหลาย "......" จะทาอย่างไรดี อยากจะลากนังตัวร้ายนัน่ ลงมาตบสักรอบ นังเด็กขนอ่อนนัน่ พูดจาแต่ละคาทา


ให้คนต้องอ้าปากค้าง

พวกเขากลัวว่าจะมีสักวันหนึ่งนังตัวร้ายนี้จะพูดกับเขาว่า ' เฒ่า... เจ้าช่างน่าเอ็นดู' คิดดูแล้วน่าขนลุกไปทั้งตัว

ไม่รู้ทาไมใยฝ่ าบาทถึงทาตัวเป็ นดัง่ บุตรแสนว่าง่ายนัง่ อยูต่ รงนั้นโดยไม่กล่าวอะไรเลยได้?

ยิง่ ไปกว่านั้น....ดวงพระเนตรของฝ่ าบาทยังมีน้ าตาคลอ ราวกับว่าถูกรังแก แต่ก็เหมือนจะซาบซึ้งไปในคราว


เดียวกัน

นังตัวร้ายนัน่ ฉวยโอกาสที่พวกเขาไม่ทนั ได้ระวัง ทาอะไรกับฝ่ าบาทกันแน่?

จีเฉวียนเพียงหรี่ ตามอง รอยน้ าตาที่คลออยูใ่ นเนตรหงส์ยงั ไม่หมดไป สายพระเนตรเย็นเยียบนัน่ เหลือบมองท่าน


รองมหาเสนาฯ อยูค่ รู่ หนึ่ ง ในพระทัยผุดคาพูดขึ้นมาว่า "เจ้าแก่นี่ไม่มีความน่าเอ็นดูแม้แต่น้อย"

กลิ่นเหม็นในพระตาหนักยังไม่หมดสิ้ นไป เขาไม่อยากจะเปิ ดปากพูดแม้ครึ่ งคา


จีเย่วท์ รงจับตาดูต๋ กู ูซิงหลันอย่างเงียบๆ หลันเอ๋ อร์ในตอนนี้ ให้ความรู ้สึกเหมือนกับคนที่เขาไม่เคยได้รู้จกั มาก่อน
เดิมที่นางเป็ นคนอ่อนโยนที่สุด และแทบไม่มีความกล้าใดๆ เจอคนพลุกพล่านก็แทบจะไม่กล้าส่ งเสี ยงดัง แต่วา่ วันนี้
นางกลับพลิกเป็ นฝ่ ายตอบโต้

นางที่เป็ นเช่นนี้ ยิง่ งดงามเหนือล้ ากว่าแต่ก่อนขึ้นไปอีก

แต่น่าเสี ยดายสองตาของนางกลับไม่มีเขาอยูแ่ ม้แต่น้อย กับหยวนเฟยและองค์หญิงใหญ่ที่แทบจะไม่เคยเจอหน้า


กันนางยังให้ความใส่ ใจ ให้คนส่ งถ่านมาให้พวกนาง แต่กบั เขาตั้งแต่ตน้ จนจบกลับไม่เหลือบแลแม้แต่นอ้ ย นี่
หมายความว่านางไม่ตอ้ งการเขาแล้วจริ งๆ ใช่ไหม?

จีเย่วท์ ุกข์ใจยิง่ นัก เมื่อมองดูนางที่อยูห่ ่างไกลบนที่ประทับเขาก็ยงั คงปลาบปลี้มใจขึ้นมาเล็กน้อย หลันเอ๋ อร์ของ


เขานางเติบโตขึ้นแล้ว

เขาชะงักไปเล็กน้อย กระพริ บตาอยูค่ รู่ หนึ่งถึงได้ลดสายตาลง นางในตอนนี้ไม่ใช่ของเขาอีกแล้ว..........

ตู๋กูจุนเองก็จอ้ งมองน้องสาวตนเองอย่างไม่วางตา ที่เป่ ยเจียงมีนกั พรตหญิงมีชื่อเสี ยงเลื่องลือในความศักดิ์สิทธฺ ์ วัน


แรกที่พวกเขาไปถึงเป่ ยเจียง ท่านปู่ ได้ไปกราบไหว้ที่อาราม กล่าวว่าเพื่อขอพรให้น้องเล็ก ให้นางมีจิตใตเข็มแข็งอายุยนื
ยาวเป็ นใหญ่เป็ นโต

เมื่อกองทัพหยุดพักท่านปู่ จะต้องสวดมนต์ไหว้พระอยูเ่ สมอ ทั้งหมดก็เพื่อน้องเล็ก ตัวเขายังเคยแอบหัวเราะว่าท่าน


ปู่ แก่จนงมงายมากไปแล้ว

ยามนี้ได้เห็นน้องเล็กที่เปลี่ยนแปลงไป เขาพลันรู ้สึกว่า ....วิธีการของท่านปู่ ได้ผลไม่เลวเลย

น้องเล็กที่ปากร้ายพาลให้คนโมโหตายได้เช่นนี้ เขาฟังแล้วกลับรู ้สึกสบายอกสบายใจไปหมด เผื่อว่าอย่างไรหากมี


ศึกสงครามอีกในอนาคต ลองพานางไปด้วยคงจะดีให้นางด่าพวกทัพศัตรู จนมันตายไปเลย

เขามองดูนางที่กาลังมีโทสะ ยิง่ รู ้สึกว่าความคิดนี้เข้าทีอยูม่ าก


ท่านรองมหาเสนาฯ หักห้ามความคิดที่จะไปงัดข้อกับนางอย่างผลุนผลันอีก รอยยิม้ ของเขายิง่ ทียงิ่ แข็งกระด้าง เขา
ยกมือขึ้นคานับ หันไปทางจีเฉวียน "ฝ่ าบาท ก่อนหน้านี้ไทเฮาเองก็ทรงมัน่ พระทัยอย่างยิง่ ไยไม่ให้ทุกคนได้ชมดูพร้อม
กันว่าตกลงแล้วมุกขาวเม็ดนั้นที่สุดแล้วคืออะไรกันแน่"

ตอนนั้นที่นงั ตัวร้ายนี่เลือกไข่มุกขาว พวกเขาเห็นอย่างชัดเจนเลยว่าอาปู้ถาลามีสีหน้าผิดหวัง

เผ่าของพวกเขาพ่ายแพ้แก่ตา้ โจวแต่แรก ทางออกที่ดีที่สุดก็คือยอมศิโรราบต่อต้าโจว หากยอมอยูใ่ ต้อาณัติของต้า


โจว เผ่าอาปู้ไซจึงจะสามารถรุ่ งเรื องอยูต่ ่อไปได้ หากว่าดื้อด้านขัดขืน พวกเขามีแต่จะต้องจบชีวิตสิ้ นเผ่าพันธุ์ไปเท่านั้น

ตอนที่ 55 ไทเฮาผู้ว่าราชการหลังม่ าน
คนอย่างอาปู้ถาลาต้องคาดหวังให้พวกเขาเลือกไข่มุกได้ถูกต้องอย่างแน่นอน

แต่เพราะตู๋กูซิงหลันเลือกไม่ถูก เขาถึงได้แสดงสี หน้าผิดหวังออกมา

ดูเอาเถอะ ขนาดท่านรองมหาเสนาฯ ของพวกเขาเลือกมายังได้มูลสัตว์มาก้อนหนึ่ ง เช่นนั้นที่นงั ตัวร้ายนี้เลือก


เอาไว้จะดีไปไหนได้กนั ?

ไม่แน่วา่ ข้างในมุกขาวนัน่ อาจเป็ นปัสสาวะก็ได้?

เผ่าคนเถื่อนที่สามารถพกพาเอามูลสัตว์ติดตัวไปไหนมาไหน ช่างประหลาดเกินไปแล้ว ยังจะมีเรื่ องแปลก


ประหลาดขนาดไหนที่พวกเขาทาไม่ได้อีก?

ได้ยนิ แล้ว ตู๋กูซิงหลันก็แสดงอาการลังเลออกมาเล็กน้อย นางค่อยๆ นาไข่มุกขาวออกมาประคองไว้ ท่าทางที่


องอาจเมื่อครู่ หายไปหมด ดวงตาดอกท้อยามนี้ กลับแฝงความหวาดหวัน่ อยูบ่ า้ ง

ผูค้ นทั้งหลายได้เห็นแล้ว ก็อดพิเคราะห์แยกแยะอยูใ่ นใจไม่ได้

จริ งแน่แล้ว.....นังตัวร้ายนัน่ เมื่อครู่ เพียงแต่เห็นไข่มุกขาวสวยงามน่าดู นางไม่ได้รู้เลยว่านัน่ คือมุกของพระแม่ธรณี


หรื อไม่

พวกเขายิง่ ต้องหันกลับไปมองไข่มุกสี เขียวที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างโดดเดี่ยวเม็ดนั้น เมื่อมองไปก็สามารถเห็น


ลวดลายที่ดูซบั ซ้อนนัน่ ส่ องประกายลึกลับบางอย่างที่สามารถเห็นแต่ไม่อาจบอกได้ออกมา

แสงสี เขียวที่ส่องประกายออกมาทาให้คนที่ได้เห็นแม้เพียงแวบเดียวรู ้สึกสุ ขสบายไปทั้งร่ าง

พระแม่ธรณี ....มิใช่สมควรมีพลังแห่ งชีวิตอย่างไม่หมดสิ้ นหรอกหรื อ? เช่นเดียวกับสี เขียวหมดจดนัน่ จะต้องใช่


อย่างแน่นอน!

ทาไมในพวกเขาไม่มีผใู ้ ดคิดถึงจุดนี้มาก่อนนะ?
เมื่อเห็นตู๋กูซิงหลันมีท่าทีลงั เลหวาดกลัว ท่านรองมหาเสนาฯ ก็ยกยิม้ เย็นขึ้นมา "ไทเฮาพะยะค่ะ ทรงเป็ นอะไร
ไป? ไข่มุกขาวนัน่ พระองค์ทรงเลือกเอง จะอย่างไรสมควรให้ทุกคนได้ชมเสี ยหน่อยว่าเป็ นสมบัติล้ าค่าเช่นไรกันแน่?
"

"เฒ่าฟู่ เอ๋ ย ไม่ขอปิ ดบังท่านหรอกนะ เมื่อครู่ ตอนที่ท่านคลายผนึกมูลสัตว์ลูกนั้น ทาให้จิตใจของเราตื่นตระหนก


หวาดกลัวอย่างที่สุด ตอนนี้เราชักจะเกรงอยูบ่ า้ งแล้ว หากว่าไข่มุกขาวน้อยของเราเกิดสร้างเรื่ องสนุกอะไรขึ้นมาทาให้
ทุกคนต้องหวาดหวัน่ ขวัญผวาอีกละก็......."

พูดถึงตอนนี้ นางก็ชะงักไปครู่ หนึ่ง คนก็ขยับถอยไปด้านหลังทั้งตัว ค่อยกล่าวต่อว่า "ชื่อเสี ยงเกียรติยศจะมีหรื อไม่


เราไม่คิดใส่ ใจแล้ว เกรงแต่วา่ จะเป็ นการทาร้ายทุกท่านที่อยูน่ ะที่น้ ี"

เสี ยงนั้นยิง่ ทียงิ่ เบา ขนาดที่วา่ ความกล้าหาญสักน้อยนิดก็ไม่มี

ผูค้ นทั้งหลายต่างเหลือทนกับนาง เป็ นถึงองค์ไทเฮาแท้ๆ ไยจึงไม่รักหน้าตาถึงเพียงนี้

ไม่คิดต้องการชื่อเสี ยงอะไร? มีแต่ผีสางถึงจะเชื่อนาง!

พูดจบแล้วตู๋กูซิงหลันก็หนั ไปทางอาปู้ถาลา ลังเลไปมาอยูค่ รู่ หนึ่งค่อยเอ่ยปากกับเขาว่า "อาปู้ถาลา เราเห็นว่ามุก


เขียวนัน่ ดูท่าจะปลอดภัยกว่า อย่างไรให้โอกาสอีกสักครั้ง เราขอเปลี่ยนเป็ นลูกสี เขียวนัน่ ได้ไหม? "

ผูค้ นทั้งหลาย "....." ฮ่าฮาๆ! กอหญ้าบนกาแพงแท้ๆ! หากว่าเจ้าแน่จริ งก็กอดไข่มุกขาวนัน่ เอาไว้สิ!

อาปู้ถาลาชักมีสีหน้าไม่พอใจแล้ว เขายังไม่ทนั ได้กล่าวอะไรสักคา ท่านรองมหาเสนาฯ ก็ยมิ้ ไม่เชิงยิม้ ชิงกล่าวขึ้น


ก่อนว่า "ไทเฮาพะยะค่ะ พระองค์มีสายพระเนตรสู งส่ ง จะต้องเลือกได้ถูกต้องแน่นอน"

"ยิง่ ไปกว่านั้น กฎก็ถูกระบุเอาไว้ชดั เจนแต่แรกแล้ว สามารถเลือกได้เพียงหนึ่ งครั้งเท่านั้น พระองค์ทรงเป็ นถึงไท


เฮา พระเกียรติสูงส่ ง ตรัสว่าหนึ่งก็ไม่อาจเป็ นสองไปได้ ย่อมไม่อาจกลับคาต่อหน้าผูค้ นทั้งหลายมิใช่หรื อ? "

คอยดูเถอะ ขอเพียงที่มาของไข่มุกขาวนัน่ ถูกเปิ ดเผยเมื่อไหร่ นังตัวร้ายนี่ตอ้ งเดือดร้อนหนักแน่!

ต่อให้ต๋ ูกูจุนยกดาบออกมาปกป้องนางก็ไม่มีประโยชน์
ตู๋กูซิงหลันไม่ได้สนใจเขาแม้แต่นอ้ ย เพียงทาตาน่าสงสารมองไปยังอาปู้ถาลา "เราอยากจะเปลี่ยนไข่มุกเพราะเกรง
จะทาให้แขกเหรื่ อที่น่ารักทั้งหลายต้องบาดเจ็บ"

ผูค้ นทั้งหลายต่างไร้คาพูดจะกล่าว เจ้าว่าใครเป็ นตัวน่ารักนะ? เจ้าน่ะสิ น่ารักกับผี น่ารักมันทั้งบ้านเจ้าเลย!

"ไทเฮาพะยะค่ะ โปรดทรงอภัยที่อาปู้ถาลาไม่อาจทาตามพระบัญชา " หลังจากไต่ตรองดูแล้วครู่ หนึ่งอาปู้ถาลาหัน


มาถวายคานับนาง "หากว่าอาปู้ถาลายอมให้พระองค์เลือกได้ใหม่ ก็จะเป็ นการไม่เคารพต่อพระแม่ธรณี จะทาให้เกิด
เภทภัยได้พะยะค่ะ"

ตู๋กูซิงหลันฟั งแล้วได้แต่ถอนหายใจยาว ในดวงตามีแต่ความผิดหวัง "ไม่ได้จริ งๆ น่ะหรื อ? "

อาปู้ถาลาพยักหน้าติดๆ กัน "กฎนั้นมีอยูแ่ ต่แรก ของไทเฮาทรงโปรดเข้าพระทัย"

เมื่อเห็นว่าไม่มีโอกาสแล้วจริ งๆ ตู๋กูซิงหลันก็ได้แต่คอ้ มศีรษะ "เอาเถอะ เมื่อเป็ นเช่นนี้ เราก็ได้แต่ยอมรับแล้ว "

ผูค้ นทั้งหลายเห็นท่าทางของนางแล้วก็ยิ่งรอคอยจะได้เห็นนางต้องอับอายขายหน้า

จีเฉวียนทรงเหลือบพระเนตรมองนางคราหนึ่ง สี หน้าและการแสดงออกของสตรี ผนู ้ ้ ี ลว้ นทาได้แนบเนียบยิ่ง แนบ


เนียบถึงขนาดไร้พิรุธใดๆ

หากว่าเขาไม่ได้รู้มาแต่แรกว่านางเชี่ยวชาญการเสแสร้งถึงเพียงนี้ เขาเองก็คงต้องถูกหลอกลวงไปด้วยเช่นกัน

นางคือตัวเลวร้าย! ตั้งแต่เช้ายันค่าไม่เคยมีใจคิดกระทาเรื่ องดีเลยสักนิด ช่างน่ารังเกียจนัก!

เขาประทับนัง่ อยูเ่ บื้องบน ดวงเนตรหงส์หรี่ ลง ราวกับเป็ นฮ่องเต้มีชีวิตผูน้ ่าสงสารที่ถูกไทเฮาชักเชิดว่าราชการอยู่


หลังม่าน

"อาปู้ถาลา เจ้าอย่าได้ชกั ช้าอยูเ่ ลย พวกข้าล้วนรอเปิ ดหูเปิ ดตาอยู่ ดูสิวา่ ไข่มุกขาวที่ไทเฮาทรงเลือกแท้จริ งแล้วเป็ น


สมบัติล้ าค่าเยีย่ งไรกันแน่ " ท่านรองมหาเสนาฯ เร่ งรัดขึ้นมา

นานอีกครู่ ใหญ่ ตู๋กูซิงหลันถึงได้นาไข่มุกขาวออกมาส่ งให้อาปู้ถาลาอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่ นกั


ครั้งนี้อาปู้ถาลาทูลขอฮ่องเต้ให้คนทั้งหลายปิ ดประตูหน้าต่างของพระตาหนักจิ่นซิ่วลงให้หมด

ว่ากันตามจริ งแล้ว ฮ่องเต้ทรงคิดจะปฎิเสธ กลิ่นเหม็นในพระตาหนักจิ่นซิ่วยังไม่หมดไป ทาให้พระองค์รู้สึกไม่


ค่อยสบายพระองค์เท่าไหร่

แต่วา่ นานครั้งเขาจะมีอารมณ์ดีอยูบ่ า้ ง จึงให้หลี่ตา้ ชิงรับคาสั่งไปปฎิบตั ิ

เมื่อประตูหน้าต่างถูกปิ ดลงแล้ว ผูค้ นได้แต่อยูอ่ ย่างอึดอัด พาลให้รู้สึกไม่พอใจอยูบ่ า้ ง.......

จากนั้นอาปู้ถาลาก็ทูลขอฝ่ าบาทให้อนุญาตดับโคมไฟทั้งหมดลง

ทันทีที่สิ้นแสงโคม ก็พลันเห็นว่าแสงจากไข่มุกขาวยิง่ สุ กสะกาวยิง่ กว่าเดิม เมื่อถูกอาปู้ถาลายกลอยสู งขึ้นก็ดุจ


พระจันทร์ดวงน้อยกลางเวหา

"งดงามยิง่ นัก" ไทเฮาน้อยปรบพระหัตถ์ชื่นชม

ผูค้ นทั้งหลายต่างก็เหลือบตามองบน ยิง่ คิดว่านางช่างไร้ประสบการณ์เหลือจะกล่าว ก็แค่ไข่มุกราตรี ลูกหนึ่ง


เท่านั้นไม่ใช้หรื อ? ไข่มุกราตรี บา้ นไหนบ้างจะไม่เรื องแสง?

ตัวเลวร้ายนี่ก็เพียงแต่พยายามให้กาลังใจตนเองอยู่ก็เท่านั้น

"ช่างเป็ นไข่มุกชั้นดี แต่เมื่อเปรี ยบเทียบกับไข่มุกจากทะเลตงไห่ที่ฝ่าบาทเคยประทานให้เรานั้นก็ไม่อาจเทียบเคียง


ได้" หลังเงียบอยูเ่ พียงไม่นานเต๋ อเฟยก็กล่าวออกมา "สิ่ งของเช่นนี้ แคว้นต้าโจวของเราต้องการเท่าไหร่ ก็มีเท่านั้น ไทเฮา
ทรงไม่เคยทอดพระเนตรหรื อเพคะ? "

ตู๋กูซิงหลันพยักหน้า "เรายากจนอย่างยิง่ ไม่เคยเห็นมาก่อน...."

ผูค้ นทั้งหลาย "........" เจ้าช่างกล้าพูดได้ดีนกั คาพูดที่ไทเฮาตรัสออกไปไม่เพียงแต่ทาให้ตวั นางต้องขายหน้า แต่ยงั


ทาให้แคว้นต้าโจวทั้งหมดต้องเสี ยหน้าไปด้วยรู ้หรื อไม่?

นางยากจน นัน่ ไยไม่เท่ากับว่าแคว้นต้าโจวของพวกเขายากจน?


"ขอไทเฮาทรงระมัดระวังถ้อยรับสั่ง " เต๋ อเฟยขมวดคิ้วนิ่วหน้า ตอนนี้นางยิง่ ทียงิ่ รังเกียจตัวเลวร้ายนี่มากขึ้นแล้ว

พอนางกล่าวจบ พลันเห็นว่าแสงจากไข่มุกวูบดับลง ครู่ ต่อมาก็ปรากฎลวดลายสี ดาบนผิวนอก เพราะมีแสงสี ดา


สะท้อนออกมาจากภายใน

ผูค้ นทั้งหลายต่างก็พากันรี บปิ ดปากปิ ดจมูกไว้ ด้วยกลัวว่าจะมีกลิ่นน่ารังเกียจอะไรออกมาอีก ยามนี้พวกเขาต่างก็


ฝังใจระแวงต่อสิ่ งที่มีสีดาไปหมด

"ดูท่า คุณภาพของไข่มุกขาวนี่ คงจะไม่เท่าไหร่ สว่างอยูเ่ พียงครู่ เดียวก็ดบั ไปเสี ยแล้วหรื อ? " ท่านรองมหาเสนาฯ
ที่อยูด่ า้ นข้างกล่าวอย่างประหลาดใจ แม้แต่ดวงตาก็มีประกายขบขัน

"เฒ่าฟู่ เต๋ อเฟยน้อยพึ่งจะบอกเองว่านี่เป็ นไข่มุกชั้นดีลูกหนึ่ ง นี่เจ้าจะหาเรื่ องขัดแย้งกับบุตรสาวตนเองหรื อไร? "


ตู๋กูซิงหลันตาหนิเขาในทันที

ท่านรองมหาเสนาฯ "........." นี่ไม่มีใครจะสามารถปิ ดปากเน่าๆ ของนางได้เลยหรื อไร?

โอ้อวดไปเถอะ ความจริ งย่อมปรากฎที่ตรงหน้า ไข่มุกขาวลูกนี้ก็เป็ นแค่ของเล่นผุพงั ชิ้นหนึ่ งเท่านั้น!

ผูค้ นทั้งหลายต่างก็พลอยรู ้สึกว่าตู๋กูซิงหลันพยายามยื้อยึดอย่างที่สุดเท่านั้นเอง อย่าบอกนะว่าตัวเลวร้ายอย่างนาง


จะสามารถพลิกสถานะคืนชีพได้ ความตายกรายถึงศีรษะแล้วยังจะเล่นลิ้นเพื่ออะไรอีก

อีกเพียงเดี๋ยวเดียวนางก็คงพูดไม่ออกแล้วจริ งๆ

แต่วา่ ในทันใดนั้น ก็ได้ยนิ เสี ยงคนเอ่ยอย่างประหลาดใจว่า "รี บดูเร็ ว! นัน่ ! นัน่ คืออะไร!? "
ตอนที่ 56 แล้วลูก.....ฮ่ องเต้ ชอบหรือไม่ ?

เมื่อมองไปยังเพดานของพระตาหนักจิ่นซิ่ว ก็ปรากฎลวดลายจากแสงดาขาวที่ตดั กันกลายเป็ น.....แผนที่ของอะไร


บางอย่าง!

บนผิวนอกของไข่มุกขาวมีรอยแตกสี ดาประหลาดอยูโ่ ดยรอบ เมื่อรอยแตกนั้นสะท้อนไปบนเพดานตาหนักก็


ปรากฎเป็ นภาพทิวเขาลูกแล้วลูกเล่า.......และแม่น้ า.........

"นี่คือ....นี่คือแผนที่ของเขตเป่ ยเจียง! "

ในหมู่ผคู ้ นย่อมมีอดีตแม่ทพั นายกองที่เคยไปรบในดินแดนเป่ ยเจียงอยู่ เมื่อได้เห็นแผนที่เช่นนี้ก็อดที่จะกล่าว


ออกมาอย่างตื่นเต้นไม่ได้

"ภูเขาที่อยูต่ รงกลางลูกนั้นข้าเคยเห็น นัน่ คือภูเขาเทียนซาน แม่น้ าด้านล่างนัน่ คือแม่น้ าเว่ยเหอ

แดนเป่ ยเจียงเป็ นพื้นที่สูง อุดมไปด้วยทุ่งหญ้า ภูเขาหิ มะ ภูมิทศั น์หลากหลาย ยากจะบรรยายโดยง่าย หลายปี มานี้
แคว้นต้าโจวของพวกเขายังไม่เคยมีแผนที่ฉบับสมบูรณ์มาก่อน

ยามครั้งความเปลี่ยนแปลงของไข่มุกยังไม่สิ้นสุ ด สี ดาบนไข่มุกถูกบรรจงเพิ่มเติมลงไปบนแผนที่ โดดเด่นอยูบ่ น


ขุนเขาแต่ละลูก ทุกแม่น้ าและทุกส่ วนของพื้นที่!

ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่จุดดาบนไข่มุกค่อยปรากฎขึ้นจนครบทัว่ ทั้งแผนที่

ทุกคนต่างไม่เคยคาดฝันมาก่อน ความพิศดารที่ไข่มุกขาวลูกนี้ซุกซ่อนไว้ถึงกับเป็ นแผนที่ท้ งั หมดของเขตแดนเป่


ยเจียง!

สิ่ งนี้สาหรับแคว้นต้าโจวของพวกเขาแล้ว ก็คือประตูที่เปิ ดไปสู่ แดนเป่ ยเจียง!

แม้แต่ดวงพระเนตรของจีเฉวียนเองก็ทอประกายสุ ขใส เขาเป็ นฮ่องเต้ที่มีปณิ ธานยิง่ ใหญ่ สาหรับเขาแล้วแผนที่


เช่นนี้จึงนับเป็ นสมบัติล้ าค่า!
ท่านรองมหาเสนาฯ และเต๋ อเฟยถึงกับปากอ้าตาค้าง พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง อยากจะให้ทุกสิ่ งที่เห็น
เป็ นเพียงภาพลวงตา

ไยจึงมีคนนาแผ่นที่มาซ่อนเอาไว้ในไข่มุกได้? นี่เป็ นเหตุเป็ นผลอันใดกัน?

ตู๋กูจุนเองก็ตกตะลึงแล้ว จากนั้นจึงวางใจลงได้ น้องเล็กของเขาช่างยอดเยีย่ ม! สามารถเลือกได้ถูกต้อง! น้องเล็กไร้


เทียมทาน!

ดวงเนตรของจีเย่วเ์ องก็แสนประหลาดใจ แต่ขณะเดียวกันก็ทอประกายซับซ้อน ทางหนึ่งก็ดีใจแทนหลันเอ๋ อร์ที่


เลือกไข่มุกได้ถูกต้อง อีกทางหนึ่งก็ไม่อยากให้จีเฉวียนได้สมบัติล้ าค่าไป

จากนั้นไม่ทนั ให้ผคู ้ นทั้งหมดหายตื่นตะลึง ก็เห็นจุดสี ดาในแผนที่พากันกระพริ บ จุดดามีท้ งั ใหญ่และเล็กส่ วนมาก


ระจุกรวมและกระจายอยูบ่ ริ เวณภูเขา แม่น้ า และทุ่งหญ้าอย่างไร้แบบแผน

"อ้ายยาห์ จุดดาที่แสนน่ารักนัน่ คืออะไรหรื อ? " ตู๋กูซิงหลันนัง่ อยูข่ า้ งโต๊ะเตี้ย มือข้างหนึ่ งเท้าคางไว้ หนุนศีรษะ
พลางถามอย่างสงสัยใคร่ รู้

และอาจเพราะเกรงว่าเวลาเรี ยกสิ่ งนัน่ จะดูไม่ดี จึงได้จงใจเติมคาว่า'น่ารัก'ลงไป

"ทูลไทเฮา นัน่ คือจุดบ่งชี้เหมืองแร่ ทองคาดาของเป่ ยเจียง " อาปู้ถาลาทูลอย่างไม่ปิดบัง เขารู ้สึกดีกบั ไทเฮาน้อย
พระองค์น้ ี สิ่ งที่นางถามเขาย่อมต้องตอบ

ตู๋กูซิงหลันครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็หนั ไปมองด้านข้าง สอบถามฮ่องเต้ดว้ ยท่าทางคล้ายไม่รู้อนั ใดเลยว่า "ลูก.....ฮ่องเต้
เหมืองทองคาดาคืออะไรหรื อ? เป็ นทองใช่ไหม? มีค่าหรอ? เอามาทาเครื่ องประดับได้ไหม? อยากได้แบบที่มนั มี
ประกายระยิบระยับน่ะ

ผูค้ นทั้งหลาย "!!! " อ๊ากๆๆๆๆๆ นังถุงกระสอบที่รู้จกั แต่ทาลายล้างไปทุกหย่อมหญ้า!

นางได้ไข่มุกที่มีแหล่งขุมทรัพย์ล้ าค่าอยูม่ ากมาย แต่กลับไม่รู้วา่ เหมืองทองคาดาคือสิ่ งใด!

รู ้หรื อไม่วา่ เผ่าอาปู้ไซนอกจากจะเป็ นชาวเผ่าที่กล้าหาญแล้ว ที่สาคัญสุ ดคือถือครองสิ่ งใด?


นัน่ ก็คือพวกเขามีเหมืองทองคาดาอยูอ่ ย่างมากมาย! เรี ยกว่าสามารถนามาใช้ทาอาวุธได้อย่างไม่หมดสิ้ น! เหมือง
แร่ เหล็กในต้าโจวของพวกเขาไม่อาจเทียบเคียงได้กบั เหมืองแร่ ทองคาดาของเป่ ยเจียง

คิดไม่ถึงว่า ไข่มุกที่ตวั เลวร้ายนัน่ เลือกไว้ ภายในจะซ่อนแผนที่ท้ งั หมดของเป่ ยเจียงและยังมีเหมืองแร่ ทองคาดา


ของเป่ ยเจียงอีกด้วย!

หากว่าต้าโจวไม่อาจปราบเผ่าอาปู้ไซแห่งเป่ ยเจียงได้ เกรงว่าเผ่าอาปู้ไซที่ครอบครองไข่มุกลูกนี้ไว้ สักวันจะต้อง


กลายเป็ นผูย้ งิ่ ใหญ่แห่งเป่ ยเจียงเป็ นแน่ หากว่าพวกเขาเติบโตขึ้นมาได้ บางทีแม้แต่แคว้นต้าโจวเองก็ไม่อาจทาอะไรพวก
เขาได้

ที่แท้ นี่จึงจะเป็ นขุมทรัพย์ที่พระแม่ธรณี ประทานให้

บนที่ประทับ จีเฉวียนทอดพระเนตรมองไทเฮาน้อยผูไ้ ร้เดียงสา ดวงตาหงส์คู่น้ นั คล้ายจะมีรอยยิม้ แฝงอยู่ ตอบนาง


ว่า "มีค่ามาก"

ตู๋กูซิงหลันคลี่ยิ้มราวดอกไม้ผลิบาน "งั้นลูก......ฮ่องเต้ ชอบหรื อไม่? "

ยามที่นางถามออกไป ดวงตาดอกท้อของนางส่ องประกายสดใส แม้จะอยูใ่ ต้แสงไข่มุกเรื องรอง ก็ยงั โดดเด่นจับตา

จีเฉวียนชะงักไปครู่ หนึ่ ง ไม่ตอบนาง เพียงแต่หันพระพักตร์กลับไปจ้องไข่มุกขาว "อาปู้ถาลา เจ้าสามารถเก็บ


ไข่มุกสมบัตินนั่ ได้แล้ว"

เขาแสดงออกอย่างชัดเจนเลยว่าไม่ตอ้ งการให้เหมืองทองคาดาและแผนที่ในไข่มุกถูกแพร่ งพรายมากเกินไป

ผูค้ นล้วนกลับมาจดจ้องที่ประเด็นสาคัญ ฝ่ าบาททรงตรัสเรี ยกว่า'ไข่มุกสมบัติ'ด้วยพระองค์เองแล้ว ยังจะมี


แปลกปลอมไปได้อีกหรื อ?

เมื่ออาปู้ถาลาเก็บไข่มุกกลับมา หลี่กงกงก็ให้คนจุดโคมไฟขึ้นใหม่ ทั้งเปิ ดประตูหน้าต่างโดยรอบ ทั้งยังขนเอา


ดอกไม้สดเข้ามาไม่นอ้ ย เพื่อใช้กลบกลิ่นเหม็นที่ไข่มุกดาเมื่อครู่ ระเบิดออกมา
ยามนี้ฮ่องเต้ค่อยสบายพระองค์ข้ นึ มาก ทรงวางก้อนถ่านในพระหัตถ์ลง ฉางซุนซิ่วก็รีบส่ งผ้าผืนหนึ่ งให้เช็ดมือ
คอยมองดูฝ่าบาทอยูค่ รู่ หนึ่ งยืนขึ้นมา

"ฝ่ าบาท ไข่มุกนัน่ แม้ลึกล้ าพิศดาร แต่ไม่แน่วา่ จะเป็ นไข่มุกของพระแม่ธรณี ยังมีไข่มุกสี เขียวที่ยงั ไม่ได้ดูอีก นะ
พะยะค่ะ" ท่านรองมหาเสนาฯ รี บคุกเข่าลงไปกราบทูล ตอนนี้ เขาเหงื่อออกท่วมศีรษะ ใครจะรู ้วา่ นังตัวเลวร้ายนัน่ จะ
โชคดีขนาดนี้กนั

แค่เลือกไปมัว่ ๆ ก็เป็ นไข่มุกพิศดารนัน่

ดูๆ นังตัวร้ายนัน่ สิ จนถึงตอนนี้นางยังโง่เขลางมโข่งอย่างที่สุด ดูท่าทางซื่อบื้อของนางก็รู้เลยว่าเป็ นเพียงแมวตา


บอดวิ่งชนหนูตาย กระสอบใส่ หญ้าเช่นนางจะมีปัญญาสามารถเลือกได้ถูกต้องได้อย่างไร?

"ทรงทอดพระเนตรไข่มุกเขียวนัน่ ภายในส่ องประกายตลอดเวลา เกรงว่าจะต้องมีความลี้ลบั อื่นใดอีก? ไข่มุกขาว


นั้นก็ดี แต่ยงั เป็ นเพียงสมบัติทวั่ ไป ไหนเลยจะเหมาะสมกับคาว่าไข่มุกของพระแม่ธรณี ได้ " ท่านรองมหาเสนาฯ ยื้อยุด
อย่างไม่ยอมแพ้ เขาไม่เชื่อหรอกว่าสวรรค์จะมีตาแต่ไร้แวว เลือกเข้าข้างนังตัวร้ายนัน่

ผูค้ นทั้งหลายต่างก็เข้าใจดีวา่ ไข่มุกเขียวนั้นต่อให้ดีอย่างไร แต่ในสายพระเนตรของฝ่ าบาทเกรงว่าไม่อาจเทียบกับ


ไข่มุกขาวได้....เนื่องเพราะไข่มกุ ขาวสามารถช่วยให้เขารวบรวมแผ่นดินเป็ นหนึ่ งได้ในอนาคต สิ่ งนี้สาหรับฝ่ าบาทแล้ว
ย่อมต้องถือว่าเป็ นขุมทรัพย์

ขณะที่เขากราบทูล สายพระเนตรของจีเฉวียนพลันสาดประกายเย็นวาบออกมา "สมบัติทวั่ ไป? รองมหาเสนาฯ


เจ้าหมายความว่า เราเหมือนกับปุถุชนทัว่ ไป? "

ท่านรองมหาเสนาฯ เย็นวาบจับขั้วหัวใจ รี บโขกศีรษะลงไป "ฝ่ าบาท กระหม่อมไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น! "

"ฝ่ าบาทเพคะ ท่านพ่อเพียงแต่รีบร้อนจะกราบทูล ด้วยเกรงว่าอาจจะมีสิ่งล้ าค่ายิง่ กว่านี้ยงั ไม่ได้ทูลถวาย ไข่มุกสี


เขียวนัน่ ดูไปไม่ธรรมดา ฝ่ าบาทยังไม่ได้ทรงทอดพระเนตรเลยนะเพคะ " เต๋ อเฟยรี บคุกเข่าลงไปกราบทูล นางมัน่ ใจเต็ม
เปี่ ยมว่าในไข่มุกเขียวนัน่ จะต้องมีสิ่งล้ าค่ายิง่ กว่าไข่มุกขาว

ทันทีที่เต๋ อเฟยทูลจบก็ได้ยินเสี ยง 'เพล้ง' ดังสนัน่ นัน่ เพราะอาปู้ถาทาคว้าเอาไข่มุกเขียวลูกนั้นเขวี้ยงลงพื้นอย่าง


แรงจนแตกกระจายต่อหน้าผูค้ นทั้งหมด
ไข่มุกเขียวแตกละเอียดเป็ นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เศษที่คมกริ บกระเด็นไปไกล ชิ้นหนึ่ งบาดถูกหลังมือเต๋ อเฟยจน
เลือดออก

นางส่ งเสี ยงร้องอย่างเจ็บปวดคราหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ได้ยินอาปู้ถาลากล่าวเสี ยงดังว่า "ใต้เท้าฟู่ พระสนมทั้งหลาย


เกรงว่าคงได้แต่ทาให้พวกท่านต้องผิดหวังแล้ว ไข่มุกสี เขียวนี่ คือลูกแก้วมรกตของดินแดนซี ปัน [1] ใช้มรกตและแก้ว
หลอมรวมกันขึ้นมา ใช้เป็ นเพียงของตกแต่งชิ้นหนึ่ง เหล่าขุนนางและพระสนมของต้าโจวที่ยงิ่ ใหญ่กลับแยกแยะไม่ออก
หรื อไง? "

คราวนี้สีหน้าของท่านรองมหาเสนาฯ และเต๋ อเฟยต่างก็ไม่น่าดูยงิ่ กว่าเดิม

เผ่าอาปู้ไซนี้ไม่ธรรมดายิง่ ! ไข่มุกขาวนัน่ ตอนแรกก็ดูเหมือนมุกราตรี ธรรมดาทัว่ ไป แต่ภายในกลับเก็บซ่อนแผน


ที่และเหมืองทองคาดาเอาไว้ไม่ใช่หรื อ?

------

[1] ดินแดนซีปัน = ศรี พนั ดอน อยูท่ างตอนใต้ของลาว


ตอนที่ 57 ไทเฮาผู้สร้ างเกียรติภูมติ ่ อแผ่นดิน

เผ่าอาปู้ไซช่างไม่ธรรมดา! ไข่มุกขาวนัน่ ตอนแรกก็ดูเหมือนมุกราตรี ธรรมดาทัว่ ไป แต่ภายในกลับเก็บซ่อนแผนที่


และเหมืองทองคาดาเอาไว้ไม่ใช่หรื อ?

แล้วทาไมไข่มุกเขียวถึงเป็ นแค่เพียงลูกแก้วมรกตเล่า?

แต่เศษแก้วกระจกมากมายที่แตกอยูเ่ บื้องหน้าทาให้พวกเขาไม่อาจหาเหตุผลใดมาโต้เถียงได้

ใบหน้าของทั้งสองยามนี้ท้ งั แดงทั้งม่วง พาลให้รู้สึกแสบร้อนไปหมด

ท่านรองมหาเสนาฯ ยังไม่ยนิ ยอมถอดใจ สองตาแดงก่าไปด้วยเส้นเลือดปูดโปน ส่ งเสี ยงข่มขู่อาปู้ถาลา "ไข่มุกขาว


นัน่ แค่เจ้าบอกว่าเป็ นแผนที่ดินแดนเป่ ยเจียงก็คือว่าใช่แน่แล้วหรื อ? เจ้าบอกว่าจุดสี ดาเหล่านั้นคือเหมืองแร่ ทองคาดา
เป็ นจริ งหรื อเปล่า? หากว่าเจ้าโป้ปดละ? "

"ข้าบอกอยูต่ ้ งั แต่แรก เผ่าเราไม่มุสา แผนที่จะจริ งหรื อเท็จ ฝ่ าบาทจะไม่ทรงทราบหรอกหรื อ? เหมืองทองคาดามี


หรื อไม่ ขอเพีงส่ งคนไปตรวจสอบดูก็จะรู ้ ใต้เท้าฟู่ ถึงท่านจะแพ้ไม่เป็ นแต่อย่าได้คิดดูหมิ่นข้า " อาปู้ถาลาเหยียดหลังตั้ง
ไหล่ตรง

ท่านรองมหาเสนาฯ เห็นท่าทางของเขาเช่นนี้ก็โกรธขบฟัน น่าเสี ยดายที่ฝ่าบาทมิได้ทรงตรัสเรื่ องเหมืองนี้ วา่ จริ ง


หรื อเท็จอย่างแน่ชดั

หากเขายังซักถามต่อไป ไม่เท่ากับว่าหักพระพักตร์ขอฝ่ าบาทหรอกหรื อ?

"รองมหาเสนาฯ แค่จะยอมรับว่าผูอ้ ื่นโดดเด่นเก่งกล้ามันยากนักหรื อไง? " ยามนี้ ตู๋กูจุนก็เขยิบเข้ามาร่ วมวงด้วย


แล้ว "พวกเจ้าสู ้น้องเล็กของข้าไม่ได้ก็คือสู ้ไม่ได้ ยังจะมาทาหน้าด้านหน้าทนเถียงอยูไ่ ด้ ทาไม อยากให้นอ้ งเล็กเลือกผิด
นักหรื อไง อยากให้ตา้ โจวต้องสู ญเสี ยเผ่าอาปู้ไซที่แสนสาคัญในเป่ ยเจียงหรื อยังไง? "

นังตัวเลวร้ายนัน่ เก่งกล้ากับผีนะสิ !
ท่านรองมหาเสนาฯ มองดูต๋ ูกูจุนที่มีท่าทางโอหังบังอาจ ทันใดนั้นก็คิดอันใดออกมาได้ สายตาของเขาพลันทอ
ประกายโหดเ**้้ยม "ดีนกั ตู๋กูจุน จะต้องเป็ นเจ้าที่นดั แนะกับอาปู้ถาลาเอาไว้ แล้วลอบบอกเรื่ องไข่มุกนี้กบั น้องของเจ้า
ไว้ก่อน ใช่หรื อไม่ ไม่เช่นนั้นอาศัยคนอย่างนางจะแยกแยะออกได้อย่างไร? "

ตอนที่ต๋ ูกูซิงหลันเลือกเอาไข่มุกสี ขาวนั้น อาปู้ถาลาทาสี หน้าผิดหวังเสี ยดายออกมา นัน่ จะต้องเป็ นความตั้งใจที่จะ


แสร้งแสดงให้พวกเขาเห็นแน่!

หากเจ้าคนเถื่อนนัน่ กับพวกตระกูลตู๋กูไม่ได้ตกลงกันไว้ก่อน เชลยเช่นมันจะมาถึงต้าโจวได้โดยไม่บุบสลายแม้แต่


น้อยได้อย่างไร?

เขาถูกโทสะของตนเองครอบงาเสี ยแล้ว คาพูดเช่นนี้ หากเป็ นยามปกติท่านรองมหาเสนาฯ ไม่มีทางกล่าวออกมา


ได้เด็ดขาด

แต่เพราะวันนี้เขาต้องเสี ยหน้าอับอายอย่างที่สุด ขณะที่นงั ตัวร้ายนัน่ กลับได้ผลงานไปอย่างง่ายดาย ทาให้จิตใจ


ของเขากระทบกระเทือนอย่างหนัก ไม่วา่ อย่างไรเขาก็ไม่อาจยอมรับผลของมันได้

ผูค้ นทั้งหลายได้ฟังแล้ว ก็รู้สึกว่าเรื่ องแบบนี้ บางทีอาจเป็ นไปได้ เพราะจะอย่างไรอาปู้ถาลาก็ถูกตระกูลตู๋กูจบั มา


พวกเขาอาจจะมีการติดต่อกันมาแล้วชัว่ ระยะหนึ่ง

"รองมหาเสนาฯ นี่เจ้าแก่จนเลอะเลือนแล้วหรื อไร? ไม่เห็นหรื อว่าข้าแม่ทพั พึ่งเดินทางพันลี้มาถึง เมื่อถึงก็ตรง


มายังพระตาหนักจิ่นซิ่วเลย ก่อนหน้านี้ยงั จะเอาเวลาที่ไหนไปพบหน้าน้องเล็กอีก? ตัวข้าแม่ทพั เองยังไม่รู้เลยว่าอาปู้ถา
ลาตระเตรี ยมจะถวายสิ่ งใด แล้วจะไปบอกน้องเล็กได้ยงั ไง? "

ท่านรองมหาเสนาฯ ยิม้ เย็น กัดต่อไม่ยอมปล่อย "เจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเชลยนัน่ เตรี ยมจะถวายของล้ าค่าอะไร?


หลอกเด็กสามขวบยังไม่เชื่อเลย! ยิง่ ไปกว่านั้นตระกูลตู๋กูของเจ้าก็มีความสามารถล้นเหลือ ลักลอบส่ งข่าวกันก่อนไม่
เป็ นเรื่ องง่ายหรอกหรื อ? "

"เฒ่าฟู่ เอ๋ ย เจ้าทาไมถึงได้เป็ นบ้าไล่กดั คนไปทัว่ ? " ก่อนที่พี่ชายจะตัดคอคน ตู๋กูซิงหลันก็ชิงพูดขึ้นมาเสี ยก่อน


ดวงตาดอกท้อมีประกายน้ าตาคลอ ท่าทางชอกช้ าเพราะได้รับความอยุติธรรมอย่างหนักหน่วง "เจ้าลืมแล้วหรื อ ตอนนั้น
เราต้องการเปลี่ยนเป็ นไข่มุกสี เขียวต่างหาก แต่เพราะเจ้ากดดัน'สนับสนุน'เรา บอกว่าเราสายตาดี จะต้องเลือกได้
ถูกต้องอย่างแน่นอน เรายินดีรับฟังความคิดเห็นของผูอ้ ื่นมาตลอด ......เดิมทียงั คิดจะขอบคุณบรรพบุรุษของเจ้าทั้งสิ บ
แปดรุ่ น เจ้านี่มนั ......เฮ่อ ทาให้เราเสี ยใจเหลือเกิน"

พูดแล้ว ตู๋กูซิงหลันก็เอามือกดลงไปบนทรวงอกท่าทางเสมือนเจ็บปวดและผิดหวังอย่างที่สุด

ท่านรองมหาเสนาฯ "!!! " บรรพบุรุษทั้งสิ บแปดรุ่ นของข้าต้องการให้เจ้ามาขอบคุณที่ไหนกัน!

"คาพูดนี่ไม่ผิด ข้าก็ได้ยนิ อย่างชัดเจน เป็ นเจ้าเองที่ไม่ยอมให้ไทเฮาทรงเปลี่ยนไข่มุก" หยวนเฟยเองก็ลุกขึ้นยืน


กล่าวแทนไทเฮา

นางไม่ได้คิดจะช่วยตัวเลวร้ายนัน่ เพียงแต่ไม่อาจทนรองมหาเสนาฯ พ่อลูกคู่น้ นั ได้จริ งๆ หน้าหนาดุจยาพอก ทั้ง


เหนียวทั้งเหม็น

"ข้าเองก็ได้ยนิ อย่างชัดเจน รองมหาเสนาฯ เจ้าอย่าได้เอาแต่สาดน้ าคราใส่ ไทเฮาและท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิต ชาติบุรุษ


กล้ากระทาย่อมกล้ารับ ยิง่ ไปกว่านั้นเจ้ายังเป็ นถึงรองมหาเสนาบดีของแคว้นหนึ่ง เลื่องลือออกไปน่าอับอายนัก" จีเย่ว์
ตรัสขึ้นบ้าง

คราวนี้ผคู ้ นทั้งหลายไม่มีผใู ้ ดเห็นด้วยกับเขาอีก ถูกต้อง หากไม่ใช่เพราะเขาบีบคั้นจนไทเฮาไม่อาจเปลี่ยนไปเลือก


ไข่มุกเขียว ไม่แน่วา่ นังตัวร้ายนัน่ อาจไม่ได้หน้าถึงเพียงนี้

ท่านรองมหาเสนาฯ อ้าปากคิดจะกล่าวอะไร พลันได้ยินฮ่องเต้ทรงตรัสอย่างมีโทสะด้วยพระสุ รเสี ยงเย็นเยียบว่า


"พอแล้ว"

เพียงเสี ยงที่เย็นเยียบแค่คาเดียว กลับทาให้ภายในพระตาหนักจิ่นซิ่วทั้งหมดเงียบลงในทันทีขนาดที่แม้เข็มตกสัก


เล่นยังได้ยิน

ผูค้ นทั้งหมดต่างหันไปมองฮ่องเต้ที่ประทับนัง่ อยูเ่ บื้องบน ค่าคืนนี้ฝ่าบาททรงรับสัง่ น้อยมาก แต่ทุกคาที่รับสัง่ ไม่มี


ผูใ้ ดไม่เคารพ

ถึงแม้เขาจะเป็ นฮ่องเต้ที่พ่ งึ ขึ้นครองราชย์ แต่เหล่าเชื้อพระวงค์และขุนนางทั้งหลายไม่มีผใู ้ ดกล้ายกมือวาดเท้า


กระทาตามอาเภอใจ
ปากของท่านรองมหาเสนาฯ อ้ าๆ อึ้งๆ อยูค่ รู่ นึงก็ได้แต่กลืนคาพูดลงไป

เห็นเพียงฝ่ าบาททรงไขว้พระหัตถ์ไว้เบื้องหลัง แม้กระทัง่ ผ้าที่ใช้ปิดพระโอษฐ์และพระนาสิ กก็ยงั คงเป็ นชายแขน


ฉลองพระองค์ของไทเฮา

ดวงเนตรหงส์ส่องประกาย จับจ้องไปยังรองมหาเสนาฯ จนเขาขนหัวลุก "ต้าโจวของเรามีศกั ดิ์ศรี ยกขึ้นวางลงได้


สามารถเอาชนะได้และพ่ายแพ้เป็ น! รองมหาเสนาฯ วันนี้ผทู ้ ี่ทาให้ตา้ โจวขายหน้าก็คือท่าน ผูท้ ี่สร้างเกียรติต่อแผ่นดิน
คือไทเฮา ระวังคาพูดของเจ้าไว้! "

พระดารัสเช่นนี้ไม่เพียงทาให้ผคู ้ นทั้งหมดหนาวเหน็บไปถึงหัวใจ พวกเขาต่างก็เคยได้ยนิ คาเล่าลื่อถึงเรื่ องราวใน


วังหลัง เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า ความหลงใหลที่ฝ่าบาทมีต่อนังมารน้อยไทเฮาจะถึงขั้นหมดจิตหมดใจขนาดนี้

ทั้งที่นางเพียงแค่โชคดีเลือกไข่มุกได้ถูกลูก แต่เมื่อออกจากพระโอษฐ์ของฝ่ าบาทกลับเป็ นสร้างเกียรติต่อแผ่นดิน


ไปได้?

อย่างนางจะไปสร้างเกียรติอะไรได้ ? ไม่เห็นหรื อว่านางเอาแต่คิดถึงสิ่ งที่ 'วิบๆ วับๆ มาทาเครื่ องประดับ' อยู่


ตลอดเวลา?

คิดอะไรง่ายๆ เป็ นเด็กน้อย.....ฝ่ าบาทยังไม่ทรงประจักษ์ชดั แจ้งอีกหรื อ?

ทาไมนางมารน้อยเช่นนางถึงสามารถสะกดข่มรองมหาเสนาบดีคนหนึ่งได้

เม็ดเหงื่อบนใบหน้าและศีรษะของท่านรองมหาเสนาบดีไหลลงไปถึงใต้ลาคอแล้ว เขาได้แต่ใช้ชายแขนเสื้ อซับ


เม็ดเหงื่อ เมื่อหันหลังไปดู ก็พบว่าเหล่าขุนนางน้อยใหญ่ที่ปกติคอยสนับสนุนร่ วมร้องร่ วมรับกับเขานั้นเอาแต่กม้ หน้า
มองพื้น ไม่กล้าพูดจ้าช่วยเหลือเขาแม้สักครึ่ งคา

มีแต่บุตรสาวของเขาเต๋ อเฟยที่คิดกราบทูลขออภัยแทน แต่เขากลับรี บส่ ายหน้าให้นาง ให้นางเงียบไว้

ตอนนี้ผลลัพธ์ของเรื่ องราวออกมาแล้ว หากนางยังพูดอะไรอีกจะยิง่ ทาให้ฝ่าบาททรงรังเกียจมากขึ้น


วันนี้เขาอย่างมากที่สุดก็แค่ขายหน้า แต่ไม่ได้กระทาสิ่ งใดผิดมากมาย อย่างมากก็ถูกฝ่ าบาทตาหนิวา่ ประมาท
เล็กน้อยทาให้เสี ยเรื่ องใหญ่ เพราะอย่างไรเขาก็เป็ นถึงรองมหาเสนาฯ

ขณะที่เขาคิดจะเดินออกไปรับผิดขอความเมตตาอยูน่ ้ นั พลันได้ยนิ เสี ยงเล็กเสี ยงน้อยของนางมารไทเฮาน้อย "ฝ่ า


บาทเพคะ~"

ท่านรองมหาเสนาฯ ชะงักงันไปทั้งร่ าง ศีรษะเริ่ มปวดขึ้นมาอีกครั้ง นี่ตอ้ งเป็ นเรื่ องไม่ดีแน่

"หื อ? " จีเฉวียนทรงหันพระพักตร์มา ทอดพระเนตรมองดูนางมารน้อย ไม่รู้วา่ ทาไม เมื่อได้เห็นประกายใน


ดวงตาดอกท้อของนาง เขามักมีความสงสัยว่าก้าวต่อไปนางคิดจะทาสิ่ งใดกันแน่

"ฝ่ าบาทเพคะ~ ครั้งนี้หม่อมฉันเลือกไข่มุกได้ถูกใช่ไหม? "

ฮ่องเต้ "เลือกถูกแล้ว"

งั้น หม่อมฉันขอประทานรางวัลได้ไหม? " นางมารน้อยคลี่ยิ้มได้งามกว่ามวลบุปผาเสี ยอีก

ท่าทางที่อยากจะได้รางวัลใจจะขาดนั้น แต่ยงั ระมัดระวังราวกับมาขอผ่อนผันต่อเจ้าหนี้ ทั้งนอบน้อมทั้งถ่อมตน

ฮ่องเต้ทรงขมวดพระขนง "เจ้าต้องการอะไร? " หากว่าไม่พน้ เรื่ องเงินๆ ทองๆ ละก็ เขาพอจะพิจารณาได้ จะ


อย่างไรนางก็คือไทเฮา สมควรเป็ นแบบอย่างของวังหลัง

"อยากได้เงิน" ตู๋กูซิงหลันตาโตขึ้นมา "ท่านให้ไหม? "

ผูค้ นทั้งหลาย "............" โลภ! โลภจนเกินจะรับไหว!

พอเห็นฝ่ าบาทยิง่ ทียงิ่ ทรงขนวดพระขนงแน่น ตู๋กูซิงหลันก็ทาท่าฮึดฮัดขัดใจ........


ตอนที่ 58 แม่ ลกู ช่ วยกันขุดหลุม

ผูค้ นทั้งหลายเห็นเพียงริ มฝี ปากแดงฉ่ าของนางยกยิม้ ก็เกิดความคิดผุดขึ้นในใจ ต่างคนต่างคาดเดาเอาว่านางอาจ


ใช้สายตาทูลขอรางวัลที่ยงิ่ ใหญ่สักอย่างจากฝ่ าบาทเช่นว่า "ขอฝ่ าบาทโปรดทรงเห็นแก่ที่หม่อมฉันสร้างความชอบใน
วันนี้ ประทานอนุญาตให้หม่อมฉันออกจากตาหนักเย็นเถอะเพคะ"

หรื อว่าจะเป็ น "ของประทานอย่างเดียวที่หม่อมฉันปรารถนา คือให้ตา้ โจวสงบสุ ขร่ มเย็น เจริ ญรุ่ งเรื องตลอดไป"

นังตัวร้ายนี่ไม่ใช่วา่ ชอบเสแสร้งแกล้งทาเป็ นคนดีเสี ยสละเพื่อชาติบา้ นเมืองหรอกหรื อ? "

แต่ใครจะไปรู ้วา่ คราวนี้สมองของตัวเลวร้ายนี่ไปถูกลาเตะมารึ ไง ถึงได้กล้าอ้าปากขอเงิน "ฝ่ าบาทเพคะ~หม่อม


ฉันยากจนมากจริ งๆ นะ! ขอร้องเถอะเพคะประทานเงินสักเล็กน้อย! "

ขอร้องเถอะลูกชาย แม่ของเจ้าจนแทบตายแล้ว!

ไทเฮาที่ทูลของเงินจากฮ่องเต้ต่อหน้าธารกานัลดูท่านางจะเป็ นคนแรกในประวัติศาสตร์!

ตู๋กูจุนมองดูนอ้ งเล็กที่ออ้ นวอนขอเงินอย่างต่าต้อย ก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งใจ รู ้หรื อไม่วา่ ธิดาของตระกูลตู๋กู


ไม่เคยขาดแคลนสิ่ งใด?

นัน่ คือเงิน!

เงินเดือนของท่านปู่ เงินเดือนของเขา เงินเดือนของน้องรอง แล้วยังรายได้จากที่ดินของตระกูลตู๋กูอีกครึ่ งหนึ่ง


ทั้งหมดล้วนโถมลงไปบนตัวนาง น้องเล็กในอดีต เงินทองของมีค่าหล่นตกบนพื้นยังไม่เคยเหลียวมองดูเลยสักครั้ง ยาม
นี้กลับต้องมาตกต่าถึงขั้นร้องขออย่างต่าต้อยเพื่อให้มีเงินไว้ประทังชีวิต

คราวนี้ สายตาของตู๋กูจุนเริ่ มสาดประกายอามหิ ตขึ้นมาแล้ว

หัวใจของจีเย่วเ์ องก็เจ็บปวด เขาได้แต่เฝ้ามองสาวน้อยนางนั้น ดวงตาที่สดใสของนางเป็ นเสมือนใบมีดที่คมกริ บ


ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของเขา
ทาไมกัน? อ๋ องอย่างเขามอบเงินให้นางกลับไม่เอา แต่ยนิ ยอมเป็ นขอทานไปวอนขอจากจีเฉวียน?

นี่มนั ตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั ที่ในสายตาของนางมีแต่จีเฉวียนเท่านั้น?

ท่านรองมหาเสนาฯ เองก็ตกตะลึงไปแล้ว เดิมทีเขาคิดว่านางจะต้องเล่นเล่ห์กบั เขา จัดการจนเขาต้องดับอนาจ คิด


ไม่ถึงว่าเพียงแค่แวบเดียวสมองที่แปลกประหลาดของนางจะพลิกเปลี่ยนเรื่ องไปอย่างรวดเร็ ว

ขอสิ่ งใดจากฮ่องเต้ตา้ โจวไม่ขอ? กลับไปขอเงิน?

เจ้าคงไม่รู้สินะว่า ยามที่ฝ่าบาทยังทรงเป็ นเพียงองค์ชายสี่ น้ นั ในบรรดาองค์ชายทั้งหลาย เขาได้ชื่อว่าเป็ นพ่อไก่ขน


เหล็ก เงินสักเม็ดไม่มีกระเด็น!

ดังนั้นตอนที่ฝ่าบาททรงประทานไข่มุกจากทะเลตงไห่ให้กบั บุตรสาวของเขาเต๋ อเฟยนั้น จึงไม่รู้เลยว่าเป็ นที่อิจฉา


ริ ษยาของผูค้ นสักเท่าไหร่ กนั เพราะการจะได้เป็ นที่โปรดปรานของพ่อไก่ขนเหล็กจึงเป็ นเรื่ องที่ยากเย็นนัก

แต่กลับมีนงั ตัวเลวร้ายที่ไม่รู้จกั ดูทิศดูทาง กล้าขอโดยไม่ออ้ มค้อมแม้แต่นอ้ ย "หม่อมฉันไม่ตอ้ งการมาก สักพัน


สองพันตาลึงทองก็ถือว่าพอแล้ว"

ผูค้ นทั้งหลายอดคิดไม่ได้ที่จะไปช่วยจุดเทียนให้ความสว่างกับนางสักหน่อย

จีเฉวียนกวาดพระเนตรมองนางครั้งหนึ่ ง คราวนี้ในสายพระเนตรกลับไม่มีไอเย็น ทรงแย้มสรวลแล้ว ช่าง


อ่อนหวาน ช่างนุ่มนวลอย่างที่สุด

สาหรับตู๋กูซิงหลันในสายพระเนตรนั้นราวกับจะมีอกั ษรเขียนว่า 'ตู๋กูซิงหลัน เจ้าว่าหากเราจับเจ้าไปขาย จะได้เงิน


ถึงพันสองร้อยตาลึงทองหรื อไม่? '

แต่คนทั้งหลายกลับดูไม่ออก นี่ ไม่เหมือนกับที่พวกเขาคิดเอาไว้หรื อ?

นับตั้งแต่ฝ่าบาทขึ้นครองราชย์เป็ นต้นมา พวกเขาต่างก็ไม่เคยเห็นฝ่ าบาททรงแย้มสรวลเลยสักครั้ง ฝ่ าบาททรง


พระโฉมเลิศล้ า สู งส่ งดังทวยเทพในชั้นฟ้า จึงสมควรที่จะสงบนิ่งเยือกเย็นอยูเ่ สมอ ไหนเลยจะยิม้ ได้
แต่ดูสิ ตอนนี้ กลับทรงแย้มสรวลให้กบั ไทเฮาอย่างร้อนแรงเพียงไหน

คล้ายกับ.........จะมีความเอาอกเอาใจอยูด่ ว้ ยหลายส่ วน?

เกรงว่าขอเพียงนางเอ่ยปากขอ ต่อให้เป็ นแผ่นดินต้าโจว พระองค์ก็จะทรงประคองมอบให้

ที่จริ งแล้ว....ฝ่ าบาทไม่เคยทรงแย้มสรวลให้กบั สตรี คนใดมาก่อนเลย

ตู๋กูซิงหลันเองก็ไม่ได้หลบหลีกสายตา มีแต่จะจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา มุมปากแย้มยิม้ อ่อนหวาน ราว


กับเทพธิดาที่กาลังตกอยูใ่ นความหลงใหล "ฝ่ าบาท~"

ท่าทางที่ยวั่ ยวนชวนลุ่มหลงนัน่ แทบจะทาให้เหล่าสนมทั้งหลายแขวนคอตัวเองตายไปเลย!

ไม่น่าล่ะนังตัวร้ายนัน่ ถึงได้เป็ นดังปลาได้น้ าพลิกตัวได้ ดูท่าทางที่ไร้ยางอายของนางนัน่ สิ แล้วดูสิวา่ พวกนางแต่


ละคนมัวแต่ระวังรักษากิริยากันจนกลายเป็ นตัวอะไรไปแล้ว?

ยามนี้พวกนางคล้ายจะพอเรี ยนรู ้เข้าใจศาสตร์ที่จะทาให้เข้าใกล้ฝ่าบาทได้มากขึ้น ที่แท้..ฮ่องเต้ทรงโปรด........สตรี


แอ๊บแบ๊ว!

ดวงตาของเต๋ อเฟยอึมครึ ม ปลายเล็บจิกลึกลงไปในเนื้อ คราก่อนไม่ได้ทาลายโฉมหน้าของนังตัวเลวร้ายนี้ ถือเป็ น


ความผิดพลาดครั้งใหญ่!

"พระองค์ก็ทรงทราบว่า แม่น้ าจินเหอเอ่อท่วมไม่ได้ขาด ดังนั้นแม้แต่สินเจ้าสาวที่เคยมีอยู่ หม่อมฉันก็ได้นาไป


บริ จาคช่วยเหลือประชาชนต้าโจวจนหมดแล้ว ยังจะไม่ยากจนได้อีกหรื อ? "

ตู๋กูซิงหลันงัดเอาวิธีจริ งจังมากล่าว ทางหนึ่งพูดไปทางหนึ่งก็มองหน้าฮ่องเต้ไป

ไอ้ลูกชายสุ นขั นี่โง่จริ งๆ! มีแต่หน้าสวยไม่มีสมองเลย! ใจคอจะสื่ อถึงเข้าใจกันสักนิดก็ไม่มี ยังจะมาเป็ นแม่ลูกกับ


นางได้อีก

มีลูกโง่ขนาดนี้ไม่เอาก็ได้เถอะ!
ส่ วนเหล่าขุนนางทั้งหลายเชื่อคานางที่ไหนกัน! อย่างนางน่ะรึ จะเอาสิ นเดิมไปช่วยคนยากคนจน เชื่อกับผีน่ะสิ !
ตอนนี้พวกเขาต่างก็มีลางสังหรณ์วา่ ภายใต้ท่าทางสดใสร่ าเริ งของนางนั้น แท้จริ งกาลังลอบเล่นหูเล่นตาใส่ ฝ่าบาท
ต่างหาก

เมื่อต้องเผชิญกับโฉมหน้าประหนึ่งเทพธิดานี้ ฝ่ าบาทไม่เพียงไม่ทรงกริ้ ว กลับแย้มสรวลอย่างงดงาม ขณะที่ทุกผู ้


ทุกคนกาลังหายใจเข้าออกอย่างเหน็บหนาว พระองค์ก็ทรงทอดพระเนตรไปทางท่านรองมหาเสนาฯ

"หากว่าเราจาได้ไม่ผิด ท่านรองมหาเสนาฯ กล่าวไว้วา่ หากเลือกไข่มุกผิด ผืนดินท้องไร่ ทอ้ งนาที่ถือครองไว้


กิจการร้านค้าที่มีอยูม่ ากมาย ยังมีสมบัติอีกนับไม่ถว้ น รวมถึงจวนอีกหลายหลัง ไม่มีเสี ยก็ช่างเถอะ? "

ฮ่องเต้ทรงจดจ้องไปยังเขา แย้มสรวลอย่างน่าดู

ใบหน้าของท่านรองมหาเสนาฯ ซีดเหลืองดังทาอึไว้ ....ที่เขาพูดเอาไว้ชดั เจน คือตาแหน่ งขุนนางรองมหาเสนาบดี


นี ้ เขาไม่ เป็ นแล้ วก็ช่างเถอะต่างหาก!

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ความสามารถโกหกโดยไม่กระพริ บตาของฝ่ าบาทยังสู งส่ งกว่านังตัวร้ายนัน่ หลายเท่านัก!

แต่เขาสามารถบอกได้หรื อว่าฝ่ าบาททรงจาผิดแล้ว? กล้าพูดหรื อ? ใครใช้ให้เขาปากบอนเอาหมวกขุนนางบน


ศีรษะไปท้าพนัน.......

"ฝ่ าบาททรงมีความจาเป็ นเลิศ หม่อมฉันเองก็จาได้ เหล่าฟู่ พูดเช่นนัน่ เพคะ " ตู๋กูซิงหลันว่าตามลูกชายอย่าง


สนับสนุนเต็มที่

"หากไม่ใช่เพราะไทเฮาทรงยากจนไปสักหน่อยแล้ว เราคงจดจาคาสัญญาของท่านรองมหาเสนาฯ ไม่ได้


เหมือนกัน " ฝ่ าบาททรงลูบไล้หน้าผากเบาๆ "ในเมื่อท่านรองมหาเสนาฯ มีความตั้งใจถึงเพียงนี้ เราย่อมสนับสนุน หลัง
งานเลี้ยงเลิกราแล้ว ก็ให้หลี่กงกงไปรวบรวมมาซะ"

ผูค้ นทั้งหลาย "........"

ถึงพวกเขาจะโง่เขลาแค่ไหน ยามนี้ก็พอจะรู ้แล้วว่า ฝ่ าบาทและไทเฮากาลังช่วยกันร้องช่วยกันรับ สองแม่ลูก


ร่ วมมือกันขุดหลุมพราง
ท่านรองมหาเสนาฯ รับราชการมานานหลายปี ฝ่ าบาทย่อมไม่อาจปลดหมวกขุนนางของเขาทิ้งได้ง่ายๆ เพราะ
เบื้องหลังของเขายังมีขุนนางอีกหลายฝ่ ายเกี่ยวโยงสับสนวุน่ วาย หากว่าริ ดรอนอานาจของท่านรองมหาเสนาฯ ก็เสมือน
ว่ารื้ อถอนฐานรากของราชสานักไปด้วย

ดังนั้นจึงใช้วิธีริบเอาสมบัติท้ งั หมดของตระกูลเขาไป เพื่อตัดเส้นทางของทรัพย์สินที่หล่อเลี้ยงพรรคพวกของท่าน


รองมหาเสนาฯ เมื่อไม่มีเงินทองแล้วจะยังดิ้นรนต่อไปได้อย่างไร?

เช่นเดียวกับต้นไม้ใหญ่ที่ถูกเฉื อนตัดตรงโคน เมื่อเวลาผ่านไปอีกไม่เท่าไหร่ ก็ตอ้ งล้มตายไปเอง

ฝี มือนี้ของฝ่ าบาทนับว่าเ**้้ยมโหดและไร้ยางอายยิง่ ถึงกับทาให้ท่านรองมหาเสนาฯ หมดทางปฎิเสธ

หากไม่ทิ้งเงินไว้ ก็ตอ้ งทิ้งอานาจไป เขาจาต้องเลือกหนึ่ งในสองอย่างนี้เท่านั้น

วันนี้ของท่านรองมหาเสนาฯ ช่างหนักหน่วงเกินจะรับไหวเสี ยจริ ง ยามนี้คล้ายกับถูกฝ่ าบาทจัดการมากกว่าครึ่ ง


ชีวิตแล้ว เลือดที่คงั่ อยูไ่ หนสมองคล้ายจะระงับไว้ไม่อยู่ กระอักเลือดออกมาคาหนึ่ง เลือดสดสาดกระเด็นไปไกลสายตา
กลายเป็ นดามืด ล้มลงบนพื้นเบื้องหน้าที่ประทับ ก็ยงั ไม่วายกระตุกชักอีกหลายครั้ง

"ท่านพ่อ! " ใบหน้าน้อยๆ ของเต๋ อเฟยกลายเป็ นซีดขาวในทันที นางรี บถลาเข้าไปพยุงเขา

แต่ฝ่าบาทกลับทรงไม่มีน้ าพระทัยแม้สักน้อยนิด เขาหุบยิม้ บนใบหน้า สั่งให้หลี่กงกงพาตัวท่านรองมหาเสนาฯ


ออกไป

ครั้นแล้วพระองค์ก็ทรงทอดพระเนตรมองเต๋ อเฟยด้วยสายพระเนตรเย็นชา "ไข่มุกจากทะเลตงไห่เม็ดนั้น ก่อน


หน้านี้เจ้าบอกว่ายินดีถวายแด่ไทเฮา เราจะรับเอาไว้แทนนางเอง เพราะไทเฮาทรงยากจน ไม่เคยทรงมีของเล่นเช่นนี้ มา
ก่อน"

เต๋ อเฟยหันไปมองพระองค์ดว้ ยความตื่นตระหนก นางคิดไม่ถึงเลยว่า ฝ่ าบาทริ บทรัพย์สินของบิดาไปหมดแล้วยัง


ไม่พอพระทัย คราวนี้แม้แต่ไข่มุกตงไห่ที่เคยประทานให้นางก็ยงั ไม่เว้น

ไข่มุกนั้น หากนางเป็ นผูถ้ วายก็เรื่ องหนึ่ ง ฝ่ าบาททรงยึดคืนไปก็เป็ นอีกเรื่ องหนึ่ งแล้ว


------

铁公鸡 (tie gong ji) “พ่อไก่ขนเหล็ก” ใช้เรี ยกคนที่งกประมาณทะเลเรี ยกพี่ เสมือนพ่อไก่ที่มีขนเป็ นเหล็ก
จะขอถอนสักเส้นก็ไม่ได้ เจ้าค่ะ
ตอนที่ 59 ฮ่ องเต้ สุนัข! ไอ้ลูกชายสุ นัข! ไอ้ผ้ชู ายเฮงซวย!น

างกัดริ มผีปากล่างไว้ น้ าตาแห่งความชอกช้ าพรั่งพรู เป็ นสาย

แต่ฝ่าบาทกลับไม่สนใจจะหันมาทอดพระเนตรเลยแม้แต่นิดเดียว สั่งให้คนตรงไปยังตาหนักของนางค้นหาไข่มุก

ตู๋กูซิงหลันเหลือบตามองเขาแวบหนึ่ ง ในสายตาของไอ้ลูกชายเคยมีความเมตตารักบุปผาถนอมหยกที่ ไหนกัน?

เห็นชัดอยูแ่ ล้วว่า บุรุษในราชวงค์คือพวกที่ไร้หัวใจที่สุด ก่อนหน้านี้ยงั เรี ยกผูอ้ ื่นว่า 'สนมรักๆ ' อยูเ่ ลย ตอนนี้ดูทา
หน้าเข้าสิ นี่มนั ตัวพ่อในหมู่ผชู ้ ายเฮงซวย

ยามนี้ต๋ กู ูซิงหลันได้แต่แอบสาบานเงียบๆ อยูใ่ นใจ หากว่าจะหาผูช้ ายสักคนในอนาคตละก็ บุรุษแบบไอ้ลูกชายเนี่ย


ต้องคัดทิ้งเป็ นอย่างแรก ต่อให้เขาหน้าตาดีเพียงไหนก็ไม่เอา

ยามนี้เต๋ อเฟยรู ้สึกเหมือนใจจะขาดเสี ยให้ได้ แต่เพราะบิดาของตนเองยังล้มนอนลงอยูบ่ นพื้น แล้วนางจะทา


อย่างไรได้?

ซิ่วเหอได้แต่ประคองนางไว้ กลัวว่านางจะไม่ไหวไปอีกคน ซิ่วเหอเองก็คาดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะมาลงเอยเช่นนี้


วันนี้ ท้ งั นายท่านและนายหญิงต่างได้รับความชอกช้ าอย่างหนักเพราะตู๋กูซิงหลันเป็ นต้นเหตุ

ดวงตาของนางผุดประกายอามหิ ตขึ้นมา

ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า ในงานเลี้ยงรับรองท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิต สุ ดท้ายแล้วผูท้ ี่ได้รับชัยชนะจะกลายเป็ นตู๋กูซิงห


ลัน คนที่ยากจนข้นแค้นขนาดต้องกินแต่หัวเผือกหัวมันเช่นนาง พอพลิกสถานะการณ์ได้ก็กลายเป็ นเศรษฐินีในวังหลัง

ส่ วนไข่มุกทะเลตงไห่ที่บรรดาเหล่าสนมทั้งหลายต่างเฝ้าฝันถึง สุ ดท้ายมันกลับถูกฝ่ าบาทเรี ยกกลับคืน ประทาน


ให้แก่นางไป

ว่าแล้วฝ่ าบาทยังทรงไม่ลืมตรัสต่อหน้าผูค้ นทั้งหลายอีกว่า "ไข่มุกฯ นี้ช่างเหมาะกับไทเฮาจริ งๆ "


ภายใต้แสงเรื องรองของไข่มุก ดวงเนตรของไทเฮาก็ยงิ่ เป็ นประกาย พาให้คนทั้งหลายอิจฉาริ ษยาไม่หยุด

ตู๋กูซิงหลันประคองเผือกร้อนนี้ เอาไว้ในมือ "......."

เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ จะต้องให้ความริ ษยาของผูค้ นทั้งหมดตกอยู่ที่นางถึงจะพอใจใช่หรื อไม่?

พอคิดถึงทรัพย์สินของท่านรองมหาเสนาฯ แล้ว นางก็ทาแก้มพองจ้องไปที่จีเฉวียน กล่าวเสี ยงเบาว่า "ฝ่ าบาท นี่


เอ่อ...โปรดอย่าลืมแบ่งสมบัติของเฒ่าฟู่ ให้หม่อมฉันสักครึ่ งนึงนะเพคะ ขอบพระทัย"

จะอย่างไรนี่ก็เป็ นงานชิ้นใหญ่ นางทุ่มเทแรงกายแรงใจไปตั้งเยอะนะ นางสมควรจะได้สมบัติของรองมหาเสนาฯ


นัน่ มาสักครึ่ งหนึ่ งสิ !

อีกครึ่ งหนึ่งก็ยอมมอบให้ท่านแล้ว ซาบซึ้งใจไหมล่ะ ตัวสั่นเลยล่ะสิ เจ้าฮ่องเต้สุนขั !

ฮ่องเต้ "เจ้าพูดอะไรนะ? ลมแรงไปแล้ว เราได้ยนิ ไม่ชดั "

ตู๋กูซิงหลัน "!!! "

"หม่อมฉันจะทูลว่า...."

"ไม่ชอบไข่มุกฯ หรื อ? จะมอบคืนให้เรา? "

โว้ย! เจ้าฮ่องเต้สุนขั ข้ามแม่น้ าได้ก็ชกั สะพานทิง้ !

"หม่อมฉันชอบมันมาก " เดี๋ยวจะให้เชียนเชียนเอาไปขายทิ้ง! คอยดู!

แต่เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่คล้ายกับรู ้จกั นางจนทะลุปรุ โปร่ ง เขาจับจ้องนางพร้อมกับรอยยิ้มเย็นเยียบ "ไข่มุกฯ นี้เป็ นสิ่ ง


พิเศษ หากไม่มีคาอนุญาตจากเรา ไม่อาจส่ งมอบให้ผใู ้ ด และไม่อาจสู ญหายได้"

ตู๋กูซิงหลัน "........"
ตอนนี้ นางกลายเป็ นแพรี่ ด๊อกเสี ยงแหลมไปแล้ว! อ๊ากกกก! ไอ้ฮ่องเต้สุนขั แม่งเอ๊ย!

วุน่ วายกันไปครึ่ งวันสุ ดท้ายเขากลับเป็ นคนที่ชุบมือเปิ บไปหมดสิ้ น ตัก๊ แตกจับจัก๊ จัน่ นกกระจิบตามหลัง นางคือ
ตัก๊ แตน ส่ วนฮ่องเต้สุนขั คือนกกระจิบ!

น่าตายนัก! เรื่ องหน้าด้านไร้ยางอายเนี่ย เจ้าฮ่องเต้สุนขั นับว่าทาได้สูสีคู่คี่กบั นางเลยทีเดียว!

ผูค้ นทั้งหลายไม่อาจได้ยนิ ว่าพวกเขากาลังคุยอะไรกัน เพียงเห็นว่าฝ่ าบาทและไทเฮาเอาแต่กระซิบกระซาบต่อกัน


ท่าทางแสนสนิทสนม

มันคือนังตัวร้าย! นางมาร! ดูมนั ล่อลวงฝ่ าบาทสิ แม้แต่ภาพลักษณ์ของเชื้อพระวงค์ก็ไม่คิดจะรักษาแม้แต่นอ้ ย!

ตู๋กูจุนที่จริ งลับดาบไว้รอจีเฉวียนแล้ว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เพื่อจะอยูร่ อดปลอดภัยในวังหลังได้ น้องเล็กถึงขนาด


ต้องยอมอดทนก้มศีรษะให้ฮ่องเต้สุนขั นั้นอย่างไม่เสี ยดายศักดิ์ศรี ขนาดนี้.........

"ท่านแม่ทพั สามารถเขยิบมาพูดกันได้หรื อไม่? " ทันใดนั้นจีเย่วก์ ็เข้ามาอยูข่ า้ งๆ เขา

ตู๋กูจุนมองไปที่เขา ยักคิ้วเป็ นเชิงถาม หากไม่ใช่เป็ นเพราะไอ้หนุ่มนี่ น้องเล็กจะต้องกลายมาเป็ นอย่างวันนี้ หรื อ?

คนตระกูลจีหาดีไม่ได้เลย! สมควรถูกศัตรู ฆ่าไปเสี ยให้หมด! ยกเว้น.....

ขณะที่เขากาลังหมุนตัวไป ในสายตาพลันเหลือบเห็นคนที่ไม่เคยได้สังเกตเห็นมาก่อนอย่างองค์หญิงใหญ่

ครั้งนี้พอมองไป กลับพอดีสบตาเข้ากับประกายตาขององค์หญิงใหญ่ เขาพลันสะดุง้ ประหนึ่ งโดนของร้อนลวก จึง


รี บหันหน้าหนีไปมองทางอื่น

เมื่อมองดูต๋ กู ูจุน สายพระเนตรขององค์หญิงใหญ่เองก็ยงิ่ เข้มข้น สายพระเนตรเพิ่มพูนความเหน็บหนาว

สายพระเนตรที่เย็นเฉี ยบเยีย่ งนี้ ยงั คมกริ บกว่าดาบวิเศษเสี ยอีก ตู๋กูจุนชะงันไปแล้ว ที่แท้นางยังคงโกรธโทษเขา


"ท่านแม่ทพั มีเรื่ องบางอย่างที่ขา้ สามารถอธิบายได้" จีเย่วพ์ ยายามดึงความสนใจของตู๋กูจุนกลับไป พลางมองไป
ทางตู๋กูซิงหลัน "ท่านเองก็ไม่ตอ้ งการให้วนั ต่อๆ ไปของหลันเอ๋ อร์ตอ้ งมารับความเจ็บช้ าเช่นนี้ใช่ไหม? "

.............................

ตาหนักเฟิ่ งหมิง

รุ่ งสางของวันใหม่ ขณะที่เชียนเชียนช่วยตู๋กูซิงหลันสางผม ก็เห็นนางถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ไปด้วย

"นายหญิง ท่านถอนหายใจมาทั้งคืนแล้ว ฝ่ าบาททรงประทานไข่มุกงดงามมาให้แท้ๆ ไยท่านจึงไม่ดีใจแม่แต่นอ้ ย


ละเจ้าคะ? "

ตู๋กูซิงหลันมองค้อนใส่ นางไปรอบหนึ่ ง โกรธจนอึดอัดคับข้อง ได้แต่กอดเชียนเชียนไว้ ร่ าร้องจนน้ าตาไหลพราก


คราหนึ่ง "อ๊ากๆๆๆๆๆ! ไอ้ฮ่องเต้สุนขั ที่สมควรสับเป็ นพันชิ้น! ได้สมบัติของรองมหาเสนาฯ ทั้งหมดไว้ในมือ กลับไม่
ยอมแบ่งข้าสักส่ วนเดียว ในงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ก็กลับเอาไข่มุกฯ มามอบให้ขา้ ต่อหน้าคนมากมาย! เจ้าดูคนเลวเช่นเขาจับ
เสื อมือเปล่าสิ ! ให้ขา้ ต้องกลายเป็ นผูร้ ้าย ตัวเขาเองกลับเก็บกวาดของมีค่าไปจนหมด!

ตู๋กูซิงหลันแม้คราวนี้จะทนได้แต่ยงิ่ คิดก็ยงิ่ โกรธเกรี้ ยว ยอมถอยมาก้าวหนึ่งแต่ยงิ่ ดูยิ่งรู ้สึกขาดทุน

นางขุดหลุมพรางมากมาย แต่คิดไม่ถึงว่าเพียงไม่ทนั ระวังแค่เล็กน้อยกลับลอดลงท่อระบายน้ าไปได้

เชียนเชียนเห็นนางหญิงท่าทางเป็ นทุกข์จนหลัง่ น้ าตา ใจของนางก็พลอยเจ็บปวดไปด้วย ได้แต่ปลอบโยนนางว่า "


นายหญิง อย่าร้องไห้สิเจ้าคะ หากเป็ นเช่นนี้ อีกหน่อยพวกเราก็ไม่ตอ้ งไปเล่นกับฝ่ าบาทแล้วละกัน"

ฝ่ าบาทเองก็เกินไปแล้ว ผูค้ นต่างก็พูดไปกันทัว่ ทั้งวังแล้วว่า ฝ่ าบาททรงยกสมบัติของท่านรองมหาเสนาฯ ทั้งหมด


ให้นายหญิงไปแล้ว.....
แต่วา่ นายหญิงนอกจากไข่มุกฯ ลูกนี้แล้ว กลับไม่ได้อะไรมาสักเส้นขนหนึ่ง เมื่อวานนี้ผทู ้ ี่ได้ชยั ชนะมากที่สุดก็คือ
ฝ่ าบาท ได้รับสมบัติบรรณาการมากมาย แล้วยังสามารถริ ดรอนอานาจท่านรองมหาเสนาฯ ที่เขาคิดกาจัดมาตลอดไป
ครึ่ งชีวิต

ที่สาคัญที่สุดก็คือ เขายังได้รับไข่มุกที่จะทาให้เขาได้ครอบครองดินแดนเป่ ยเจียง

แต่กลับตระหนี่ถี่เหนียวเสี ยจนแม้แต่เงินสักเล็กน้อยก็ไม่ยอมมอบให้กบั ไทเฮาที่มีผลงานมากที่ สุด

"หากว่าเรายังไปเล่นกับเขาอีก ก็เท่ากับว่าเราเป็ นหมา! " ตู๋กูซิงหลันปาดน้ าตาทิ้ง พอคิดถึงว่าเนื้อติดมันชิ้นใหญ่


อย่างเฒ่าฟู่ ตกไปอยูก่ บั ฮ่องเต้ที่กินคนไม่คายกระดูกนัน่ แล้ว ก็อดปวดใจจนหัวใจแทบหลัง่ เลือดไม่ได้

นางพึ่งจะพูดจบสิ้ นเสี ยงไป ก็ได้ยนิ เสี ยงเย็นชาดังมาจากภายนอกเรื อนว่า "เจ้านี่ช่างมิรู้จกั ประมาณตนดีแท้ เรื อน
แห่งนี้เมื่อก่อนใช้ขงั เลี้ยงสุ นขั คราวนี้ไม่เลวเลย เอาไว้เลี้ยงเจ้าก็ดี" ใต้ตน้ ดอกไห่ถาง

ยามนี้มีฮ่องเต้ในฉลองพระองค์สีทองประทับไขว้พระหัตถ์ไว้เบื้องพระขนอง และเพราะได้ไข่มุกพระแม่ธรณี และ


สมบัติพสั ถานของรองมหาเสนาฯ มามากมาย ทาให้เขาอดยกยิม้ มุมปากไม่ได้

มองดูไปอารมณ์ดีไม่นอ้ ย

มีแต่หลี่กงกงที่กม้ ศีรษะติดตามอยูไ่ ม่ห่าง

เชียนเชียนถึงกับเหงื่ออกขนอ่อนลุกชัน เมื่อครู่ ตอนที่นายหญิงเรี ยก'ไอ้ฮ่องเต้สุนขั ' ฝ่ าบาทคงไม่ได้ประทับอยู่


ตรงนี้หรอกใช่ไหม?

เลี้ยงสุ นขั รึ ?

ที่แท้ในสายตาของเขานางเป็ นแค่สุนขั ตัวหนึ่ ง? เจ้านะสิ สุนขั ! ไอ้ฮ่องเต้สุนขั ! ไอ้ลูกชายสุ นขั ! ไอ้ผชู ้ ายเฮงซวย!

"หื ม ตอนนี้ทาไมไม่พูดไม่จาแล้วล่ะ? เมื่อครู่ ยงั โหวกเหวกโวยวายอยูเ่ ลยนี่ ? " จีเฉวียนทรงขยับย่างพระบาท


ไม่กี่กา้ วก็เสด็จเข้ามาใกล้ หาเบาะนุ่มที่พอจะสะอาดสักใบได้ก็ประทับนัง่ ลง สายพระเนตรจดจ้องอยูบ่ นตัวตู๋กูซิงหลัน
ขอบตาของนางมีรอยคล้ าสี เข้ม เห็นได้อย่างเด่นชัด สตรี ผนู ้ ้ ีโกรธเกรี้ ยวอยูท่ ้ งั คืนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน

มองดูไป ผมเผ้ารุ่ ยร่ าย ขนตายังมีน้ าตาเกาะเป็ นเม็ด แน่ชดั เลยว่านางโกรธจนแยกเขี้ยวกางเล็บ แต่เมื่ออยูต่ ่อหน้า
เขาก็ได้แต่เก็บเสี ยงข่มอารมณ์ไว้ ได้เห็นนางในวันนี้ที่ถูกยัว่ โมโหจนแทบโกรธตาย ฮ่องเต้ก็ทรงรู ้สึกพระอารมณ์ดีข้ นึ
ไปอีกอย่างบอกไม่ถูก

เขาเอนพระองค์พิงเบาะอ่อน ตรัสด้วยกิริยาสู งส่ ง "มะรื นนี้เป็ นวันรารึ กถึงฮูหยินเฒ่าตู๋กูที่จากไป ตู๋กูจุนมาขอร้อง


เราให้ปล่อยเจ้ากลับไปทาความเคารพท่านย่า"
ตอนที่ 60 เขาจับถังปุ๋ยนี่ได้สาเร็จ!

เรื่ องครบรอบวันราลึกถึงท่ายย่านี้ ตู๋กูซิงหลันเองย่อมรู ้ดี พี่ใหญ่เร่ งร้อนกลับจนม้าตายไปหลายตัวก็เพื่อกลับมาให้


ทันวันนี้

นางพยายามข่มอารมณ์เอาไว้อย่างที่สุด เพราะอยากจะดูให้รู้วา่ เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ ตอ้ งการอะไรกันแน่

ครู่ หนึ่งถึงได้ยนิ เขาตรัสต่อว่า "เราจะปล่อยเจ้ากลับไป"

ใจดีขนาดนั้นเชียว? ตู๋กูซิงหลันอดไม่ได้ตอ้ งขยับตัวลุกขึ้น หากว่านางจาได้ไม่ผิดละก็ นางในตอนนี้ยงั คงเป็ น


'ไทเฮาตาหนักเย็น' ไม่ใช่หรื อ? เขาถึงขนาดยอมให้นางออกนอกวัง?

"เห็นแก่ที่เมื่อคืนเจ้าแสดงออกได้ดี เราจะให้โอกาสนี้แก่เจ้า"

เขาไม่ปฎิเสธ ในงานเลี้ยงเมื่อคืน นางกระทาได้เหนือความคาดหมายของเขามาก ไข่มุกพระแม่ธรณี นนั่ เป็ นเพราะ


นางหยิบผิดหยิบถูกจนได้มาจริ งหรื อ?

เรื่ องนี่กลับไม่แน่นกั

ฝี มือที่จดั การรองมหาเสนาฯ นัน่ เป็ นนางคิดได้ในตอนนั้น หรื อว่าขุดบ่อวางหลุมพรางเอาไว้แต่แรกกัน?

เขาพลันพบว่าตู๋กูซิงหลันเป็ นความลึกลับอย่างหนึ่ง และเขาก็ชกั สนใจในความลึกลับนี้เข้าแล้ว

ในตัวของสตรี ผนู ้ ้ ี ยังมีความสามารถอันใดที่เขาไม่รู้อีกบ้างนะ?

ใช่แล้ว บุตรสาวที่ตระกูลตู๋กูเลี้ยงดูมา จะกลายเป็ นเพียงลูกพลับนิ่มได้อย่างไร?

นางเจ้าเล่ห์กลิ้งกลอก รู ้จกั วางค่ายกลทีละก้าว ทั้งเสแสร้งแสดงละคร แม้แต่เหล่าขุนนางของเขายังถูกนางหมุนเล่น


อยูบ่ นฝ่ ามือ

ที่เห็นก่อนหน้านี้ คงเป็ นการอาพรางสิ นะ


ยามนี้นางค่อยๆ ออกจากม่านอาพรางมาทีละน้อย......เขาอยากจะรู ้จริ งๆ ว่า ตู๋กูซิงหลันที่ปราศจากการอาพราง ที่
จริ งแล้วเป็ นคนเช่นไร

"ไทเฮาพะยะค่ะ รี บขอบพระทัยเร็ วเข้าพะยะค่ะ" หลี่กงกงที่อยูด่ า้ นข้างรี บกล่าวเตือนไทเฮาน้อยที่ไม่รู้ความ

ที่จริ งเรื่ องนี้เป็ นเพียงเรื่ องเล็กน้อยเท่านั้น แค่ฝ่าบาททรงให้เขามาทูลไทเฮาก็ได้แล้ว ไม่จาเป็ นที่จะต้องเสด็จมาที่


พระตาหนักเฟิ่ งหมิงด้วยพระองค์เองแม้แต่นอ้ ย

แต่วา่ ฝ่ าบาทกลับทรงเสด็จมาด้วยพระองค์เอง รับสั่งว่าอยากจะเห็นทีท่าไทเฮาที่ซาบซึ้งในพระมหากรุ ณาธิคุณ

โถฝ่ าบาทละก็.........แต่ก่อนนี้เคยทรงเป็ นเช่นนี้ ที่ไหนกัน

ตู๋กูซิงหลันกรอกลูกตาไปมา ปาดน้ าตาจนแห้ง ไม่อาจไม่กล่าวออกมาเบาๆ ว่า "อืม ขอบคุณ"

"แค่เนี่ยน่ะหรื อ? " จีเฉวียนใช้พระหัตถ์ขา้ งหนึ่งเท้าพระเศียรไว้ เส้นพระเกศาที่ขา้ งพระกรรณรุ่ ยลงมา "ทั้งที่เจ้า


เป็ นคนมีความผิดติดตัว เรากลับปล่อยเจ้าออกนอกวัง ถือเป็ นพระคุณยิง่ ใหญ่เพียงไหน"

จีเฉวียนทรงเคยชินกับการที่นางคอยยกยอปอปั้นพระองค์เสี ยแล้ว ครั้นพอถูกนางเฉยชาเข้าใส่ ก็กลับรู ้สึกไม่


คุน้ เคย

สตรี นางนี้ กาลังเล่นแผนจับได้แสร้งปล่อยอยู่หรื อไง?

"เช่นนั้นฝ่ าบาททรงโปรดให้หม่อมฉันขอบพระทัยเช่นไร? " ตู๋กูซิงหลันไม่ยอมมองหน้าเขาแม้แต่นอ้ ย ตอนนี้


นางกาลังโกรธ แม้แต่คาพูดสักคาก็ยงั ไม่อยากจะพูดด้วย

เจ้าคนเลวนี่ไม่รู้จกั ดูตวั เองบ้างหรื อไง? มาแย่งเอาเงินของนางไป ก็เท่ากับโดนฟาดใส่ อย่างหนักไม้หนึ่ ง พอตอนนี้


ทามาเป็ นยืน่ ขนมหวานให้ คิดว่านางจะขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจเรอะ?

ฝันไปเถอะ!

ตอนนี้ นางอยากจะปล่อยถวนจื่อไปกัดเขาอย่างที่สุด! หรื อไม่ก็ให้หวังไฉ่ของหยวนเฟยฉกเขาสักทีสองที


วิญญาณทมิฬ "อัว๊ ไม่ไป ฟันของอัว๊ ยังไม่ข้ นึ มาเลย ตีให้ตายก็ไม่ไป! อยากกัดเจ้าไปกัดเองสิ ! "

ตู๋กูซิงหลัน ".........."

เชียนเชียนยืนอยูด่ า้ นหนึ่ง ได้แต่อดั อั้นตันใจ เกรงว่านายหญิงจะทาอะไรให้ฝ่าบาททรงกริ้ วอีก

แต่ในพระดาริ ของจีเฉวียน สตรี ที่รู้จกั แสดงผูน้ ้ ี สมควรจะซาบซึ้งน้ าตาไหลอาบท่วมใบหน้า จากนั้นก็กอดพระ


บาททูลว่า "ฝ่ าบาทเพคะ หม่อมฉันรู ้อยูแ่ ล้วว่าพระองค์ทรงดีที่สุดเลย พระองค์ทรงเป็ นฮ่องเต้ที่ดีที่สุดในแผ่นดิน ~"

แต่ตอนนี้นางกลับเย็นชาราวน้ าแข็งแท่งหนึ่ง นี่คือตู๋กูซิงหลันแน่หรื อ?

ตั้งแต่เขาเข้ามาจนถึงตอนนี้ สตรี ผนู ้ ้ ีกลับขวัญกล้าเทียมฟ้า แม้แต่ชาสักถ้วยยังไม่นามาถวาย!

ครั้งก่อนที่ไปตาหนักเย็นของนางอย่างน้อยยังมีชาปากแตกให้เขาสักถ้วย!

ฮ่องเต้ทรงสรุ ปความอยูใ่ นพระทัย ได้แต่ทรงโทษพระองค์เองที่เมตตาต่อสตรี ผนู ้ ้ ี มากไป ใจดีเกินไป ถึงได้ให้ทา้ ย


นางจนไม่รู้ฟ้าสู งแผ่นดินต่าเพียงนี้!

สตรี น้ นั อย่าได้ตามใจให้มาก!

ฮ่องเต้ทรงเก็บรอยแย้มสรวลที่มีแต่แรกคืน จากนั้นล้วงลงไปในชายแขนฉลองพระองค์หยินเอาถุงทองใบหนึ่ ง
ออกมา ทิ้งหนักๆ ลงไปบนโต๊ะเตี้ย "เดิมที่เราคิดว่า จะเอาทองคาที่งามที่สุดของจวนรองมหาเสนาฯ มาแบ่งให้เจ้าส่ วน
หนึ่ง .......ดูท่าแล้วไทเฮาคงจะไม่ตอ้ งการแล้ว"

ปากถุงที่รวบไว้อย่างหลวมๆ เผยให้เห็นประกายแสงทองคาที่เหลืองอร่ าม แถมดูแล้วเหมือนจะยังมีไข่มุกลูกใหญ่


อีกหลายลูกด้วย!

ตู๋กูซิงหลันลอบจ้องดูดว้ ยสายตาวาววับ หงิงๆๆ รู ้หรื อไม่วา่ สี สันที่งดงามที่ สุดในโลกนี้คืออะไร? ก็คือแสงสี ทอง


ที่ส่องประกายระยิบระยับนัน่ ไง! ฟื ดๆๆ กลิ่นทองคาที่ฟ้งุ กระจายนี้ ช่างทาให้รู้สึกสุ ขสบายเคลิบเคลิ้มเหลือเกิน
ฮ่องเต้ทรงหยิบเอาทองคาก้อนใหญ่กอ้ นหนึ่งมาถือเล่นไว้บนพระหัตถ์ พระองค์ไม่ได้ทรงตรัสอะไร เพียงแต่นา
ของที่ส่องประกายนั้นโฉบไปมาด้านหน้านาง

ตู๋กูซิงหลันได้แต่หนั หน้าหนี ไอ้ลูกชายสุ นขั เอาเงินทองมาหลอกล่อนาง คิดหรื อว่านางจะยอมตกหลุม?

เนิ่นนานฮ่องเต้ไม่ทรงเอ่ยคาใด กลับค่อยๆ หยิบเอาของชิ้นที่สองออกมาช้าๆ ทองก้อนน้ าหนักเต็ม สี เหลืองทอง


อร่ าม ภายใต้แสงแดดที่ส่องผ่านกรอบหน้าต่างฉลุ ยิง่ เพิ่มความดึงดูดสายตา ฝ่ าบาททรงถือเล่นอยูช่ วั่ ครู่ ค่อยตรัสวิจารณ์
ว่า "ทองคาและอัญมณี ของรองมหาเสนาฯ ช่างเป็ นของดีช้ นั เลิศ........"

ตู๋กูซิงหลันกลืนน้ าลายลงไปอึกหนึ่ง แอบมองเขาอย่างเงียบๆ เล็กน้อย

หลี่กงกงและเชียนเชียนที่เฝ้าดูทีท่าฮ่องเต้และไทเฮา ได้แต่แอบสบตากันเอง

นี่มนั ราวกับว่าฝ่ าบาททรงกาลังวางกับดักล่อแมวอย่างไรอย่างนั้น....แถมไทเฮาเองก็ทาท่าจะติดบ่วงเสี ยด้วยสิ ?

จีเฉวียนทรงทาคล้ายกับทอดพระเนตรไม่เห็น แต่มุมพระโอษฐ์กลับยกขึ้นน้อยๆ แล้ว คราวนี้ทรงล้วงเอาก้อน


ทองคาอีกเจ็ดแปดชิ้นออกมาจากถุงใบนั้น จัดเรี ยงไว้ดว้ ยกัน แล้วยังวางไข่มุกเม็ดใหญ่อีกหลายลูกไว้ดา้ นหน้าทองคา
เหล่านั้น นิ่งอยูค่ รู่ หนึ่ งก็ทรงรวบเก็บขึ้น " ในเมื่อไทเฮาทรงเห็นทองคาเหล่านี้เป็ นเพียงกรวดทราย....."

ตรัสยังไม่ทนั จบ ก็ทรงเห็นตู๋กูซิงหลันกระโดดเข้ามาตะครุ บไว้ กวาดเอาทองคาและไข่มุกทั้งหมดลงไปในถุงเงิน


ของตนเอง "ฝ่ าบาทเพคะ ตั้งแต่เด็กแล้ว หม่อมฉันมีฉายาอยูช่ ื่อหนึ่ ง เรี ยกว่า ถังปุ๋ ย มาเถอะ ก็ให้เงินทองกองทรายพวกนี้
ไปเปื่ อยยุย่ อยูใ่ นนี้แล้วกัน! "

ศักดิ์ศรี คืออะไร? ขายได้เงินไหม? ในเมื่อทาไปไม่ได้เงินจะทาเพื่ออะไร?

จีเฉวียนทรงทอดพระเนตรทองคาและไข่มุกที่ถูกกวาดไปจนเกลี้ยงเกลาและยังสายตาละโมบโลภมาก ท่าทางดีใจ
จนมือสั่นของนาง ก็เกิดความรู ้สึกขึ้นอย่างหนึ่ง

เขาจับเจ้าถังปุ๋ ยนี่ได้สาเร็ จแล้ว! เพ้ย เขาจับเจ้าแมวป่ านี่ได้สาเร็ จแล้ว!

ต่อให้นางเจ้าเล่ห์แค่ไหน จะอย่างไรอายุยงั น้อย คิดจะชนกับเขาน่ ะหรื อ? ยังอ่อนหัดนัก


"รอบนี้เอามาเพียงเท่านี้ก่อน หากว่าเจ้ารู ้จกั เชื่อฟังละก็ เราจะลองคิดดูครั้งหน้าเพิ่มให้เจ้าอีกสองส่ วน " ฮ่องเต้ผู ้
ทรงแสนจะมัธยัสถ์หยิบเอาถุงเปล่าที่ใส่ ทองคาเมื่อครู่ กลับไป

หลี่กงกงที่อยูด่ า้ นข้างตกตะลึงจนขากรรไกรค้างไปแล้ว....เมื่อครู่ ฝ่าบาททรงล่อลวงไทเฮาน้อยใช่หรื อไม่?

เขาติดตามรับใช้อยูข่ า้ งกายฝ่ าบาทมานาน กลับไม่เคยเห็นฝ่ าบาททรงอ่อนโยนต่อผูใ้ ดมาก่อน และยิง่ ไม่เคยเห็นฝ่ า


บาททรงประทานทองคาอัญมณี ให้ใครมากมายเช่นนี้เลย!

คราวนี้ ถึงกับบอกให้ก็ให้เลย?

ไม่น่าเล่าฝ่ าบาทจึงต้องทรงเสด็จมาที่พระตาหนักเฟิ่ งหมิงด้วยพระองค์เอง ก็เพื่อจะเอาเงินทองมาหลอกล่อนี่เอง

ฝ่ าบาท ก็ไม่ได้ทรงรังเกียจไทเฮาน้อยสักหน่อยนิ

"ฝ่ าบาท พระองค์ทรงดีมากเลยง่ะ~" ตู๋กูซิงหลันที่มีทองอยูใ่ นอ้อมกอด ในที่สุดก็กวาดเมฆหมอกในใจทิ้งไป ดี


ใจจน 'ยิม้ 'ได้

เพียงแต่ไม่มีใครทันสังเกตเห็นสายตาอาฆาตมาดร้ายน้อยๆ ตอนที่นางหลุบตาลงเท่านั้น

"เรารู ้วา่ ตนเองนั้นดีแค่ไหน ไม่ตอ้ งให้เจ้ามายกย่อง" ฝ่ าบาททรงเชิดพระชานุข้ นึ ซ้ ายังตรัสออกมาคาหนึ่ง "ไม่ได้


เรื่ อง! "

ตู๋กูซิงหลันกรอกตามองบน เออก็มีแต่ท่านแหละที่ได้เรื่ อง แย่งเงินสาวน้อยนางหนึ่งได้ ทาเอาท่านอวดเบ่งได้อีก


นานเลยเน๊อะ

.....................................
ยามที่จีเฉวียนเสด็จกลับมายังพระตาหนักตี้หวั หลี่กงกงก็เข้ามากราบทูลว่า ทรัพย์สมบัติต่างๆ ของจวนท่านรอง
มหาเสนาฯ ถูกส่ งเข้าไปเก็บในท้องพระคลังหลวงแล้ว

"ฝ่ าบาทจะทรงเสด็จไปทอดพระเนตรไหมพะยะค่ะ? " หลี่กงกงสอบถาม


ตอนที่ 61 โฉมงามกับเจ้ าอสู ร
ฮ่องเต้ผไู ้ ม่มีสิ่งใดจะทำ มิทรงสนพระทัยแม้แต่นอ้ ย ถึงแม้พระองค์
จะทรงพระงกอยูบ่ ำ้ ง แต่ดว้ ยฐำนะเจ้ำฟ้ำเจ้ำแผ่นดินมีสมบัติใดบ้ำง
ที่ไม่เคยเห็น และยังจะต้องไปทอดพระเนตรด้วยพระองค์เองอีก
หรื อ?
หลี่กงกงเองก็ปำกมำก จึงตอบรับสัง่ ว่ำ “ทูลฝ่ ำบำท ทรัพย์สมบัติ
กองโตนั้นนับว่ำ วิบ ๆ วับ ๆ จนแสบตำเลยทีเดียวพะยะค่ะ”
“แสบตำมำกหรื อ? ” จีเฉวียนถือถุงทองที่วำ่ งเปล่ำเอำไว้ในพระ
หัตถ์
“วิบ ๆ วับ ๆ เป็ นพิเศษเลยพะยะค่ะ” หลี่กงกงทำไม้ทำมือประกอบ
“ก็ระยิบระยับมำกประมำณ…..”
ฮ่องเต้ทรงจดจำได้อย่ำงชัดเจนว่ำนอกจำกทองคำแล้ว ตู๋กูซิงหลันยัง
ชื่นชอบอัญมณี แวววำววิบ ๆ วับ ๆ
หลังจำกไปตำหนักเฟิ่ งหมิงมำรอบหนึ่ง เขำก็ยงิ่ ค้นพบเรื่ องน่ำสนใจ
เกี่ยวกับนำงอีกเรื่ อง
โดยเฉพำะตอนแรกที่นำงโกรธจนปอดตับจะระเบิด แต่พอตอนหลัง
ได้ทองไปก็ดีใจจนกระโดดโลดเต้นได้ เขำพึ่งจะรู ้วำ่ ที่แท้อิสตรี ก็
สำมำรถเอำใจได้ง่ำย ๆ เช่นนี้
คิดดูแล้ว หำกว่ำนำงได้รับอัญมณี แวววำวระยิบระยับละก็ จะยิม้ จน
เป็ นบ้ำไปเลยไหม?
เมื่อมีพระดำริ ถึงตรงนี้ พระโอษฐ์ของฮ่องเต้ก็ยงิ่ ยกมุมสู งขึ้นอีก
หลี่กงกง “??? ” สมบัติของท่ำนรองมหำเสนำระยิบระยับแล้ว ทำให้
ฝ่ ำบำททรงดีพระทัยถึงเพียงนั้นเชียวหรื อ?
ขณะที่เขำยังมัวแต่ครุ่ นคิดอยู่ ก็เห็นฝ่ ำบำทสะบัดชำยแขนฉลอง
พระองค์เสด็จไปยังท้องพระคลังหลวงแล้ว
ฝ่ ำบำททรงกระทำพระองค์แปลกไปจริ ง ๆ หรื อทรงคิดจะไปนำ
สมบัติพวกนั้นมำกอดเข้ำพระบรรทม?
………………………
พอเริ่ มตกบ่ำยคล้อย รถม้ำของตระกูลตู๋กูกเ็ ข้ำวังมำ ตู๋กซู ิงหลันเก็บ
ข้ำวของอย่ำงเรี ยบง่ำย หอบเอำทองก้อนและไข่มุกของตนเอง
รวมถึงเชียนเชียนติดตำมกลับจวนตระกูลตู๋กู
นี่เป็ นครั้งแรกนับตั้งแต่ขำ้ มมิติมำในโลกนี้ที่นำงได้ออกจำกวัง
เมื่อหลวงของต้ำโจวถูกสร้ำงขึ้นตั้งแต่สมัยของรัชกำลก่อน ทุกวันนี้
ยิง่ เติบโตขยับขยำยไปอีกมำก นี่ทำให้ต๋ ูกซู ิงหลันคิดไปถึงยุคสมัย
ของรำชวงค์ถงั ในแผ่นดินจีนของโลกปั จจุบนั
แคว้นต้ำโจวของโลกนี้กเ็ ทียบได้กบั เมืองหลวงฉำงอันในรำชวงค์ถงั
ท้องฟ้ำยำมเย็นยิง่ เสริ มให้แสงโคมสว่ำงไสว สี สนั ที่ได้เห็นงดงำม
ดุจภำพวำด
ท้องถนนที่กว้ำงขวำง สิ่ งก่อสร้ำงล้วนแต่งดงำม ร้ำนค้ำมำกมำย
ผูค้ น รถม้ำไปมำคึกคัก ทุกสิ่ งทุกอย่ำงทำให้นำงรู ้สึกได้ถึงควำม
เจริ ญรุ่ งเรื่ องของต้ำโจว
เมื่อใกล้จะถึงจวนตระกูลตู๋กู ท้องฟ้ำก็มืดครึ้ มลง
พอเริ่ มเลี้ยวเข้ำสู่ ตรอกแรกของถนนตะวันตกซึ่งเป็ นที่ต้ งั ของจวน
ตระกูลตู๋กู ก็เห็นว่ำทั้งถนนลำดปูดว้ ยพรมแดง สองข้ำงทำงขนำบ
ด้วยขบวนทหำรในชุดเกรำะสี เงินยวง
ทันทีที่ขบวนรถของตู๋กซู ิงหลันเลี้ยวเข้ำมำ ก็เห็นหอกยำวในมือของ
พวกเขำกระทุง้ พื้นเสี ยงดังเป็ นจังหวะ ตะโกนเสี ยงดังฟังชัดว่ำ
“คุณหนูงดงำม หนึ่งในต้ำโจว!
คุณหนูยอดเยีย่ ม หนึ่งในต้ำโจว!
คุณหนู ๆ ไร้เทียมทำน
กองทัพตู๋กู ยินดีตอ้ นรับคุณหนูกลับบ้ำน! “
ว่ำแล้วก็มีเสี ยงกระแอม ‘อะเฮอะ’ ‘อะเฮอะ’ ‘อะเฮอะ’ตำมมำสอง
สำมครั้ง
เสี ยงนี้ดงั กึกก้องสะท้ำนไปทัว่ ทั้งตรอกเลยทีเดียว
ตู๋กซู ิงหลันแง้มม่ำนหน้ำต่ำงออกครึ่ งหนึ่ง มองดูเหล่ำทหำรหำญ
ที่มำตั้งแถวต้อนรับ ทำให้ลกั ยิม้ ของนำงบุ๋มลึกลงไปอีก
คนพวกนี้กำลังทำอะไรกัน?
“คุณหนูคือจันทรำบนนภำกำศ
คุณหนูคือเทพธิดำกลำงสำยน้ ำ
คุณหนู ๆ ยอดเยีย่ มที่สุด
ยินดีตอ้ นรับคุณหนูกลับบ้ำน! “
พอเห็นนำงเผยโฉมหน้ำออกมำครึ่ งหนึ่ง เหล่ำพลทหำรทั้งหลำยก็ยงิ่
ร่ ำร้องเสี ยงดังมำกขึ้น
พวงแก้มตู๋กซู ิงหลันซับสี ระเรื่ อ ค่อยเอำชำยม่ำนปิ ดลงดังเดิม ก่อนนี้
นำงเคยคิดว่ำตนเองหน้ำหนำอย่ำงที่สุด แต่ยำมนี้ยงั อดที่จะหน้ำแดง
ไม่ได้
แม่เจ้ำ นี่มนั แฟนคลับระดับไหน….รบกวนพวกเจ้ำช่วยเพลำ ๆ
หน่อยจะได้ไหม?
เล่นเสี ยระดับนี้…….เจ๊กต็ ้ งั ตัวไม่ทนั เลยนะ
แต่เชียนเชียนกลับทำหน้ำเหมือนไม่เห็นเป็ นที่แปลกประหลำดอัน
ใด “นำยหญิง แต่ก่อนนี้ไม่วำ่ ท่ำนจะไปไหนล้วนต้องมีคนล้อมหน้ำ
ล้อมหลัง นำยท่ำนแทบอยำกจะส่ งกองพลหนึ่งมำพิทกั ษ์ท่ำนด้วยซ้ ำ
ที่เห็นนี่นบั ว่ำยังน้อยนัก”
ตู๋กูซิงหลัน “!!! ? “
อะไรมันจะปำนนั้น? แล้วทำไมเจ้ำของร่ ำงเดิมถึงได้จิตใจเปรำะบำง
เป็ นกระจก ทำตัวเป็ นลูกพลับนิ่มไปได้? ดูตำมเหตุผลแล้ว นำงน่ำจะ
เป็ นอันธพำลน้อยที่เอำแต่ใจเสี ยด้วยซ้ ำ หรื อจะเป็ นเพรำะว่ำถูก
ปกป้องไว้มำกเกินไป?
ขณะที่ในสมองของตู๋กซู ิงหลันนั้นเต็มไปด้วยคำถำม รถม้ำก็มำถึง
จวนตระกูลตู๋กูแล้ว
และเพรำะเสี ยงต้อนรับที่ได้ยนิ มำตลอดทำงกลับบ้ำน ทำให้จิตใจ
ของนำงอบอุ่นขึ้นมำอย่ำงบอกไม่ถูก กลับบ้ำน…สำหรับนำงแล้ว
ที่นี่กค็ ือ บ้ำน แล้วจริ ง ๆ
พอรถม้ำพึ่งจะมำถึง ก็เห็นพี่ใหญ่ถือดำบทลำยภูผำรออยูท่ ี่หน้ำ
ประตูใหญ่นำนแล้ว
เขำไม่ได้ถอดเกรำะออก คนยืนอยูร่ ะหว่ำงสิ งโตคู่แต่กลับดูหน้ำเกรง
ขำมยิง่ กว่ำสิ งโตพวกนั้นอยูห่ ลำยส่ วน
ตู๋กซู ิงหันเห็นแล้วถึงกับน้ ำตำคลอ ดำบเหล็กดำด้ำมนี้เมื่อรวมกับ
ด้ำมดำบยังมีควำมยำวกว่ำสองเมตร สันดำบยังมีห่วงร้อยถึงเก้ำวง
ดำบเช่นนี้อย่ำงน้อยต้องหนักถึงสองร้อยจิน แต่พี่ใหญ่กลับถือไว้
อย่ำงไม่กินแรงแม้แต่นอ้ ย
ก่อนหน้ำนี้ตอนที่อยูใ่ นพระตำหนักจิ่นซิ่วนำงยังคิดว่ำพีใ่ หญ่องอำจ
ไร้เทียมทำน วันนี้เมื่อเพิ่มดำบใหญ่อีกเล่มหนึ่ง ตู๋กซู ิงหลันยิง่ รู ้สึกว่ำ
นี่จึงจะเป็ นพี่ใหญ่ที่แท้จริ ง หนึ่งดำบกำรำบปฐพี ผูใ้ ดรำวีประหำร
สิ้ น
เมื่อคนขับรถม้ำเปิ ดประตูออก เท้ำของตู๋กูซิงหลันพึ่งจะยืน่ ออกมำ
ได้เพียงก้ำวเดียว ฝ่ ำมือใหญ่โตของตู๋กจู ุนก็ยนื่ มำถึง ใต้เท้ำของตู๋กู
ซิงหลันพลันว่ำงเปล่ำ นำงรู ้สึกวิงเวียนอยูว่ บู หนึ่ง
ที่แท้เป็ นพี่ชำยเข้ำมำรับนำงไว้ท่ำมกลำงสำยตำของผูค้ นทั้งหลำย ตู๋
กูจุนใช้แขนเพียงข้ำงเดียวอุม้ นำงขึ้นมำ ให้นำงนัง่ บนบ่ำของเขำ
แม้ต๋ ูกซู ิงหลันจะผอมบำง แต่อย่ำงไรคนก็ยงั คงหนักเจ็ดสิ บกว่ำจิน
ทว่ำน้ ำหนักเพียงเท่ำนี้สำหรับตู๋กจู ุนแล้วไม่ถือว่ำต้องเป็ นกังวล
อย่ำงไรแม้แต่นอ้ ย
มือข้ำงหนึ่งของเขำโอบอุม้ น้องสำวสุ ดล้ ำค่ำไว้บนบ่ำ มืออีกข้ำง
หนึ่งกุมดำบแสนรักไว้ คนก็เดินตรงเข้ำไปในจวนตระกูลตู๋กู
โดยไม่เปิ ดโอกำสให้ต๋ ูกซู ิงหลันได้ปฎิเสธแม้แต่นอ้ ย
ภำพเช่นนี้ดูไปคล้ำยกับโฉมงำมกับเจ้ำอสู ร เพียงแต่โฉมหน้ำเจ้ำอสู ร
ตนนี้กลับน่ำดูอย่ำงที่สุด เมื่อทั้งสองอยูด่ ว้ ยกันก็ยงิ่ ดึงดูดทุกสำยตำ
ไว้
เชียนเชียนที่เดินตำมหลังมำก็ท่ำทีคล้ำยไม่มีเรื่ องใดต้องประหลำด
ใจ
ตอนที่คุณหนูยงั ไม่เข้ำวังนั้น ทุกครั้งยำมออกไปเบื้องนอกฝ่ ำเท้ำ
แทบไม่เคยสัมผัสพื้นดิน ถ้ำไม่เป็ นพี่ใหญ่อุม้ ก็เป็ นพี่รองแบกไว้บน
หลัง ยิง่ ยำมเป็ นเด็กนำงยังเคยขี่คอนำยท่ำนผูเ้ ฒ่ำด้วยซ้ ำ…..ดังนั้น
ตอนนี้เมื่ออยูบ่ นบ่ำของพี่ชำยตนเอง ย่อมเป็ นเรื่ องธรรมดำอย่ำงยิง่
ถึงแม้นำยท่ำนตู๋กูผเู ้ ฒ่ำจะมีพ้นื เพเป็ นชำวยุทธ์มำแต่เดิม แต่จวนหลัง
นี้กลับก่อสร้ำงอย่ำงวิจิตรงดงำม พฤกษำพรรณไม้ดอกดำษดื่น
หลำกหลำย แม้แต่หอสลักวิจิตรงดงำมก็ยงั มี ทั้งหมดถ่ำยทอด
ลักษณะของสวนดอกไม้แบบเจียงหนำน
ตู๋กซู ิงหลันนัง่ อย่ำงมัน่ คงบนบ่ำของพี่ชำยก็ยงิ่ สำมำรถมองไปได้
ไกล
สิ่ งที่นำงคำดไม่ถึงมำกที่สุดก็คือ ภำยในจวนตระกูลตู๋กเู องก็ปลูก
ดอกไฮ่ถำงเอำไว้มำกมำย ดอกสี ชมพูแดงงดงำมผลิบำนไปทัว่ ทุกที่
แทบจะล้นออกนอกกำแพงไป
ควำมงดงำมของดอกไฮ่ถำงในจวนตู๋กถู ือว่ำเปรี ยบไปก็ไม่เป็ นรอง
กับตำหนังเฟิ่ งหมิงแต่อย่ำงใด เพียงได้เห็นก็ชวนให้ประทับใจจนไม่
อำจละสำยตำได้
ตลอดทำงที่เข้ำมำ บ่ำวรับใช้คนใดที่ได้พบพวกนำงต่ำงก็คลี่ยมิ้ ให้
ทั้งยังไม่ลืมกล่ำวว่ำ “คุณหนูกลับมำแล้ว~”
ตู๋กซู ิงหลันอยูใ่ นวังที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบมำเนิ่นนำน พอกลับ
มำถึงจวนตระกูลตู๋กกู ร็ ู ้สึกว่ำยังไม่คุน้ เคยอยูบ่ ำ้ ง
นัน่ เพรำะนำงก็คือผูท้ ี่ใคร ๆ พำกันเรี ยกขำนว่ำตัวเลวร้ำย ยำมปกติ
ใครก็อยำกให้นำงล้มหำยตำยจำกไปทั้งนั้น ไหนเลยจะมีคนเห็นนำง
แล้วชื่นชมยินดีแบบนี้ได้?
ตู๋กจู ุนพำนำงตรงไปยังจวนหลัก ดอกไฮ่ถำงในจวนหลักยิง่ ผลิบำน
งดงำมมำกเป็ นพิเศษ แม้วำ่ จะเข้ำสู่ เดือนเก้ำแล้วกลับยังไม่มีวี่แววว่ำ
จะร่ วงโรย
พี่ใหญ่เหยียบย่ำงเข้ำมำในโถงกลำงแล้วถึงได้ค่อย ๆ วำงนำงลง
อย่ำงระมัดระวัง
ภำนในห้องโถงจัดเตรี ยมเก้ำอี้กยุ้ เฟยเอำไว้แต่แรก บนเก้ำอี้ปูไว้ดว้ ย
หมอนอิงชั้นดีหลำยใบ ตู๋กจู ุนไม่พดู พร่ ำทำเพลงก็วำงนำงไว้บน
เก้ำอี้กยุ้ เฟย จำกนั้นจึงค่อยวำงดำบใหญ่ของตนลง
ถัดมำคนก็ร่ำยคำถำมมำเป็ นชุด “น้องเล็ก เหนื่อยหรื อไม่? กระหำย
หรื อไม่? หิวหรื อยัง? เวียนศีรษะบ้ำงไหม? เบำะรองในรถทำให้เจ็บ
ก้นหรื อเปล่ำ? “
——

贵妃椅 Gui Feu Yi เก้ำอี้กยุ้ เฟย เก้ำอี้ก่ ึงนัง่ กึ่งนอน สำหรับ


พักผ่อน มีท้ งั แบบเดี่ยวและแบบคู่

大砍刀 (Da kan dao) ดำบMachete หรื อดำบใหญ่ มีหลำย


รู ปแบบ แต่ลกั ษณะเด่นคือคมดำบกว้ำงและน้ ำหนักมำก ทำให้เกิน
ควำมเสี ยหำยต่อศัตรู ได้สูง
ตอนที่ 62 ตัดศีรษะเจ้ าสุ นัขจีเฉวียน
ว่ำแล้วเขำยกเอำถำดองุ่นจำกสเปน ลิ้นจี่จำกหนำนหยำง แตงหวำน
จำกเป่ ยเจียงส่ งมำให้นำง
องุ่นถูกปอกเปลือกเอำไว้แล้ว ใช้น้ ำแข็งรองไว้ในถ้วย แม้แต่เมล็ด
องุ่นยังถูกคว้ำนออกไป
ลิ้นจี่พวกนี้ ยังสดใหม่ยงิ่ กว่ำลิ้นจี่ได้เห็นในงำนเลี้ยงเมื่อคืนเสี ยอีก
แตงหวำนถูกหัน่ เป็ นชิ้นเล็ก ๆ ใช้ไม้จิ้มที่ทำจำกทองคำเสี ยบไว้ บน
ผิวแตงยังโรยน้ ำตำลสี แดงเอำไว้ช้ นั หนึ่ง มองดูแล้วน่ำรับประทำน
อย่ำงยิง่
ตู๋กซู ิงหลันได้แต่แอบลูบคลำก้อนทองในอ้อมอก …….พลันเกิด
ควำมรู ้สึกว่ำ ตนเองนั้นยำกจนเสี ยจนไม่สมกับเป็ นคนตระกูลตู๋กู
เลย
ไม้จิ้มผลไม้นี่…..ประเดี๋ยวต้องเอำกลับไปด้วย
เพรำะได้รับกำรดูแลประหนึ่งฮ่องเต้เสด็จประพำสเช่นนี้ ตู๋กซู ิงหลัน
ซำบซึ้งจนอยำกจะร้องไห้
ยิง่ เมื่อคิดถึงวันเวลำที่อยูใ่ นตำหนักเย็นที่ตอ้ งอดทนกินแต่หวั เผือก
หัวมันแล้ว ยิง่ ไม่อำจหักห้ำมควำมโศกเศร้ำเอำไว้ได้
ตู๋กจู ุนเห็นในดวงตำของนำงมีน้ ำตำคลอ ก็พลันรู ้สึกเจ็บปวดใจยิง่
“น้องเล็ก เจ้ำไม่ชอบใช่หรื อไม่? เจ้ำอยำกกินอะไร พี่ใหญ่จะรี บไป
เตรี ยมมำให้เดี๋ยวนี้ “
ต่อให้นำงอยำกจะกินเนื้อมังกร เขำก็จะคว้ำดำบไปเฉื อนเอำเนื้อของ
จีเฉวียนมำสักสองชิ้นให้ได้!
ในงำนเลื้ยงเมื่อคืนนี้ เขำไม่มีโอกำสได้พดู คุยกับนำงสักหลำย
ประโยค ยำมนี้ได้พบหน้ำน้องเล็กแล้ว แทบจะบูชำนำงดังเป็ นบรรพ
ชนคนหนึ่ง
เมื่อครู่ เขำกะประมำณดู น้องเล็กถึงกับผ่ำยผอมกว่ำตอนก่อนเข้ำวัง
ไปห้ำจิน! ทั้งหมดนี้ตอ้ งโทษไอ้ฮ่องเต้สุนขั นัน่ !
แม่งโว้ย! น้องเล็กกลับมำครั้งนี้ เขำจะไม่ยอมให้นำงต้องเข้ำวังไป
ถูกรังแกอีกเด็ดขำด!
“พี่ใหญ่ ข้ำชอบมำกเจ้ำค่ะ ” ตู๋กซู ิงหลันหยิบเอำองุ่นลูกหนึ่งส่ งเข้ำ
ปำก พลำงส่ งยิม้ ให้เขำ
เพียงแค่นำงยิม้ ไม่นบั ว่ำเป็ นอะไร แต่ดวงใจของตู๋กจู ุนกลับหลอม
ละลำยแล้ว เขำคุกเข่ำอยูข่ ำ้ ง ๆ ตู๋กซู ิงหลัน วูบเดียวก็ฉกเอำตัว
น้องสำวมำไว้ในอ้อมกอด ทั้งไม่ลืมที่จะถูไถหน้ำตนเองกับใบหน้ำ
ของนำง
เพียงแต่เครำของเขำแข็งกระด้ำง ผิวหน้ำก็หนำหยำบดุจกระดำษ
ทรำย ผิวพรรณของตู๋กซู ิงหลันนุ่มนวลเพียงไร ใบหน้ำขำวกระจ่ำง
นุ่มนิ่มของนำงกลับถูกเขำขัดถูเสี ยแล้ว
วิญญำณทมิฬแคะจมูกตัวเองอยูบ่ นบ่ำของนำงแคะไปก็ทำตำปะ
หลักปะเหลือกรังเกียจไปด้วย “พี่ชำยของเจ้ำน่ำหยักแหยงมำกง่ะ! “
หำกว่ำนี่ไม่ใช่พี่ชำยแท้ ๆ ของเจ้ำของร่ ำงเดิม คนอย่ำงนังหนูต๋ ูกู
ซิงหลันนี่จะต้องเด็ดหัวเขำลงมำแล้ว
ขณะที่ผวิ ของนำงใกล้จะถูกพี่ชำยปอกออกมำนั้น ตู๋กจู ุนก็ยอมปล่อย
นำงในที่สุด

อ๊ำ~น้องเล็กที่หอมหวลนุ่มนิ่มกอดแล้วยังคงรู ้สึกดีเหมือนเดิมเลย
สำยตำของเขำมีแต่ควำมหลงใหล ครั้นมองไปก็เห็นใบหน้ำน้อย ๆ
ของตู๋กซู ิงหลันถูกถูไถเสี ยจนแดงก่ำ แต่กลับอดทนไม่พดู ออกมำ

ตู๋กจู ุนเห็นแล้วสำนึกผิดเสี ยใจแทบตำย เพรำะต้องไปอยูท่ ี่เป่ ยเจียง


นำนหลำยเดือน ตำกแดดตำกลมที่นนั่ เสี ยจนหน้ำหนำหยำบกร้ำน
แทบดูไม่ได้ น้องเล็กบอบบำงดุจดอกไม้ ไยเขำจึงไม่ระวังไปถูไถ
นำงเฉกเช่นแต่ก่อนได้?
เขำคุกเข่ำนิ่งอยูข่ ำ้ งนำงเนิ่นนำน แทบไม่กล้ำเงยหน้ำขึ้นมำ “น้อง
เล็ก พี่ใหญ่ไม่ได้พบเจ้ำมำตั้งนำนแล้ว…..ก็เลยทนไม่ไหว…..”
ตู๋กูซิงหลันเห็นใบหน้ำหยำบ ๆ ของเขำแดงก่ำไปหมด ในใจก็
ครุ่ นคิดถึงปัญหำหนึ่งขึ้นมำ จะต้องหำเวลำสักวันไปหำหมอหลวง
ซุนให้จดั เตรี ยมครี มพอกหน้ำสักหน่อย….บุรุษที่สง่ำงำมเช่นพี่ใหญ่
นี้จะปล่อยให้มีผวิ หน้ำหยำบกระด้ำงได้อย่ำงไร?
“ข้ำก็คิดถึงพี่ใหญ่ พี่รองและก็ท่ำนปู่ เจ้ำค่ะ ” นำงเอนตัวอยูบ่ นเก้ำอี้
กุย้ เฟย หยิบเอำไม้จิ้มทองคำที่เสี ยบแตงหวำนไว้ข้ ึนมำกัดกิน
กินแล้วก็เก็บไม้เสี ยบเอำไว้กบั ตัว……
ตู๋กจู ุน “……..” น้องเล็กคงถูกเจ้ำฮ่องเต้สุนขั นัน่ รังแกเสี ยจนแทบ
เสี ยสติไปแล้ว ถึงได้จะเอำแม้กระทัง่ ไม้เสี ยบผลไม้อนั หนึ่ง
ระหว่ำงทำงที่มำนี่ เชียนเชียนยังเล่ำว่ำ สมบัติของรองมหำเสนำฯ ที่
สมควรเป็ นของน้องเล็ก กลับถูกจีเฉวียนริ บเอำไปหมด
“น้องเล็ก เจ้ำอย่ำได้ทุกข์ใจไป บ้ำนเรำไม่เคยขำดแคลนเงินทอง ” ตู๋
กูจุนลูบไล้ศีรษะนำงเบำ ๆ “รอพี่ใหญ่จดั กำรเรื่ องรำวให้เรี ยบร้อย
จะให้เงินเจ้ำมำกกว่ำสมบัติของไอ้เฒ่ำโย่วหยูนนั่ เสี ยอีก
ที่แท้โย่วหยู……ก็ชื่อแซ่ของรองมหำเสนำฯ
เขำบอกแต่แรกแล้วว่ำ ขอเพียงเป็ นสิ่ งที่นอ้ งเล็กต้องกำร ต่อให้ตอ้ ง
เสี ยหัวไปก็ตอ้ งส่ งให้ถึงมือนำงให้ได้!
ก่อนหน้ำนี่เจ้ำฮ่องเต้สุนขั นัน่ สัง่ ให้พวกเขำต้องไปจำกเมืองหลวง
ทั้งยังขังนำงเอำไว้ในวังหลัง ทำให้พวกเขำไม่มีโอกำสได้ดูแลนำง
ตอนนี้เขำกลับมำแล้ว…..ทุกอย่ำงย่อมไม่เหมือนเดิม
ตู๋กูซิงหลันพ่นแตงหวำนคำนั้นใส่ หน้ำเขำในทันใด “จัดกำรเรื่ อง
เสร็ จ? พี่ใหญ่ ท่ำนจะไปตัดหัวใครหรื อเจ้ำคะ? “
เมื่อมองดูดำบทลำยภูผำเล่มใหญ่ที่พิงอยูบ่ นกำแพง คมดำบนั้นไม่รู้
ว่ำดื่มเลือดผูค้ นมำแล้วเท่ำไหร่ ต่อเท่ำไหร่ ตู๋กซู ิงหลันแทบจะได้ยนิ
เสี ยงวิญญำณที่ตำยภำยใต้คมดำบกรี ดร้องออกมำเลยทีเดียว
แต่กไ็ ม่รู้วำ่ ทำไม สมองของนำงพลันเกิดภำพของจีเฉวียนถูกตัด
ศีรษะกระเด็นจนเลือดพุง่ สูงขึ้นไปเกือบสำมเมตร
หืม……..รู ้สึกสะใจดีไม่หยอกนะว่ำไหม?
ตู๋กจู ุนเช็ดเศษแตงหวำนบนใบหน้ำออกไปอย่ำงสงบนิ่ง ค่อยส่ ง
สำยตำแทนควำมหมำยที่ไม่อำจพูดออกไปได้กบั นำง
“น้องเล็ก เจ้ำยังเยำว์วยั เรื่ องของผูใ้ หญ่ไม่จำเป็ นต้องให้เจ้ำมำกังวล
ใจ เจ้ำกินอิ่มนอนหลับได้กพ็ อแล้ว”
ตู๋กซู ิงหลันมองไปรอบทิศทำงรอบหนึ่ง พอแน่ใจว่ำไม่มีใครแอบฟัง
อยู่ ค่อยยืน่ หน้ำออกไปกระซิบข้ำง ๆ หูของเขำด้วยเสี ยงแผ่วเบำ “พี่
ใหญ่เจ้ำคะ ท่ำนคงไม่ได้คิดจะก่อกบฎใช่ไหม? “
ตู๋กจู ุนเหลือบมองนำงครำหนึ่ง น้องเล็กถูกบีบคั้นจนถึงขนำดเกิด
ควำมคิดก่อกบฎขึ้นมำ!
ดูท่ำเรื่ องก่อกบฎฆ่ำเจ้ำฮ่องเต้สุนขั นัน่ ทิ้งเสี ย ……คงจะต้องเอำมำ
ปรึ กษำกันในเร็ ว ๆ นี้เสี ยแล้ว
พอเห็นเขำคล้ำยลังเลใจ ตู๋กูซิงหลันก็เขยิบเข้ำไปใกล้เขำอีกนิด พูดที่
ริ มหูของเขำด้วยสำยตำเป็ นประกำยว่ำ “ท่ำนพี่เจ้ำค่ะ ด้วยเงื่อนไขที่
มีอยูข่ องพวกเรำตอนนี้ สำมำรถมีโอกำสก่อกบฎสำเร็ จสักกี่ส่วน? “
สิ่ งที่สำคัญที่สุดคือนำงจะได้ไม่ตอ้ งถูกเจ้ำฮ่องเต้สุนขั นัน่ รังแกอีก
ต่อไป!
วิญญำณทมิฬ “………” มันคล้ำยจะจำได้วำ่ มีอยูว่ นั ในค่ำคืนที่มืด
มิด สตรี บำงคนที่ถูกกักตัวเอำไว้ในตำหนักตี้หวั และได้แสดงออก
ถึงควำมจงรักภักดีอย่ำงหนักแน่นต่อหน้ำเจ้ำฮ่องเต้สุนขั นัน่
คำพูดเดิมว่ำไว้อย่ำงไรนะ เอ่อ คิดออกแล้ว ก็คือ ‘ตระกูลตู๋กขู องข้ำ
จะต้องจงรักภักดีต่อฝ่ ำบำทตลอดไปทุกชำติภพ’
แล้วดูท่ำทำงตอนนี้ที่อยำกจะรี บร้อนก่อกบฎตั้งตัวเป็ นฮ่องเต้หญิง
ของนำงสิ …….ที่แท้ ลมปำกของสตรี ก็คือว่ำจำผีสำง! โดยเฉพำะตัว
มำรร้ำยอย่ำงตู๋กซู ิงหลันยิง่ แล้วใหญ่ คำพูดที่ออกจำกปำกของนำง
เชื่อถือไม่ได้แม้สกั ครึ่ งคำ
คำพูดของนำงทำให้ต๋ ูกจู ุนต้องครุ่ นคิดอย่ำงจริ งจังสักรอบหนึ่ง หำก
ว่ำเป็ นก่อนที่เจ้ำฮ่องเต้สุนขั นี่จะขึ้นครองรำชย์……โอกำสที่จะก่อ
กบฎได้ควำมสำเร็ จมีมำกถึงแปดส่ วน
แต่เพรำะตอนนั้นน้องเล็กยังอยูใ่ นวัง พวกเขำไม่อำจให้เกิดควำม
เสี่ ยงได้โดยง่ำย ต่อมำเพื่อรักษำชีวิตของน้องเล็กเอำไว้ ท่ำนปู่ ถึงได้
ยินยอมส่ งมอบกำลังทหำรของตระกูลตู๋กอู อกไปครึ่ งหนึ่ง
โอกำสสำเร็ จย่อมลดลงไปมำก อีกทั้งเจ้ำฮ่องเต้สุนขั เนี่ยเมื่อขึ้นครอง
รำชย์แล้ว รับเอำบุตรี และหลำนสำวของเหล่ำขุนนำงมำกมำยเข้ำวัง
ไปเป็ นพระสนม เสริ มฐำนอำนำจตนได้มำก
ตอนนี้ เขำยังได้รับไข่มุกพระแม่ธรณี ไปอีก หำกว่ำอีกหน่อย
ครอบครองแดนเป่ ยเจียงได้ละก็ คงจัดกำรได้ยำกแล้ว
สิ่ งที่สำคัญที่สุดคือ จีเฉวียนผูน้ ้ ี……นับตั้งแต่สมัยที่เป็ นเพียงองค์
ชำยสี่ ก็ลอบสร้ำงฐำนกำลังเอำไว้ไม่นอ้ ย
นัน่ เป็ นฐำนกำลังลับของเขำ แม้แต่ตระกูลตู๋กเู องยังสื บไม่ออกว่ำ
ฐำนกำลังกลุ่มนี้ ลึกล้ ำมำกมำยเพียงไหน รู ้แต่วำ่ ไม่อำจประมำทได้
มิเช่นนนั้น……….ด้วยฐำนะของเขำซึ่งไม่เป็ นที่โปรดปรำณของ
อดีตฮ่องเต้ จะสำมำรถขึ้นครองรำชย์ได้หรื อ?
สรุ ปแล้ว จีเฉวียนผูน้ ้ ีคือตัวอันตรำย เป็ นคนมำกฝี มือผูห้ นึ่ง
มีฮ่องเต้เช่นนี้ ก็ยงิ่ เพิ่มควำมยำกในกำรก่อกบฎของพวกเขำ
หลังครุ่ นคิดอยูค่ รึ่ งค่อนวัน ตู๋กจู ุนค่อยกระซิบตอบที่ขำ้ งหูนำง
ว่ำ…..
ตอนที่ 63 เขาภาคภูมิใจแทบตายแล้ ว!
“คิดคำนวนดูแล้ว โอกำสสำเร็ จมีอยูป่ ระมำณสำมส่ วน”
” เจ๋ งงงง ร้ำยกำจขนำดนั้นเชียว? ” ตู๋กซู ิงหลันประหลำดใจอย่ำงยิง่
นำงหลงคิดว่ำตนเองต้องมีชีวิตอย่ำงทุกข์ยำกอยูใ่ นวังหลัง จะต้อง
เป็ นเพรำะทำงบ้ำนถูกบีบคั้นอย่ำงหนัก คิดไม่ถึงด้วยกำลังของทำง
บ้ำนในขณะนี้ยงั สำมำรถมีโอกำสก่อกบฎสำเร็ จถึงสำมในสิ บส่ วน
นี่ละที่เขำว่ำ อูฐผ่ำยผอมตำยยังใหญ่กว่ำม้ำ!
เดิมทีนำงคิดว่ำโอกำสที่ทำงบ้ำนจะก่อกบฏสำเร็ จมีเพียงไม่กี่หน่วย
ในร้อยส่ วนเท่ำนั้น
ตู๋กจู ุนมองดูท่ำทำงของนำง ทันใดนั้นพลันคิดอะไรขึ้นมำได้ เขำจด
จ้องนำงเขม็งแล้วซักถำมว่ำ “น้องเล็ก เจ้ำบอกพี่ใหญ่มำตำมตรง เจ้ำ
ยังคงอำลัยอำวรณ์เจ้ำคนไม่ได้เรื่ องจีเย่วน์ นั่ หรื อไม่? ยังคิดจะช่วยเขำ
ชิงบัลลังก์อีกไหม? “
“อ๋ ำ? ตู๋กูซิงหลันงงงันไปเล็กน้อย ผ่ำนไปพักใหญ่ถึงได้คิดออกว่ำ
เจ้ำของร่ ำงเดิมเคยมีคนรักเก่ำเป็ นบุรุษหนุ่มโฉมงำมจีเย่ว์
“เจ้ำเป็ นองค์หญิงที่ล้ ำค่ำของตระกูลตู๋กเู รำ เป็ นเจ้ำสุ นขั จีเย่วน์ ้ นั ที่ทำ
ผิดต่อเจ้ำ นับตั้งแต่ที่เขำเห็นบัลลังก์สำคัญมำกกว่ำเจ้ำ ยอมให้เจ้ำ
ต้องกลำยเป็ นฮองเฮำองค์ที่สองเป็ นต้นมำ เขำก็ไม่คู่ควรกับเจ้ำอีก
ต่อให้เจ้ำรักเขำมำกมำยจนจะเป็ นจะตำย พี่ใหญ่กไ็ ม่เห็นด้วยที่จะให้
พวกเจ้ำอยูด่ ว้ ยกันแล้ว ” ฝ่ ำมือใหญ่โตของตู๋กูจุนจับกระชับหัวไหล่
ของนำงไว้ อยำกจะมองดูตำของนำงให้รู้แน่ชดั
หำกว่ำก่อนนั้น ตระกูลตู๋กูของพวกเขำก่อกบฏละก็ ย่อมต้องยกอี้
อ๋ องขึ้นเถลิงรำชสมบัติ เพรำะองค์หญิงน้อยของพวกเขำและอี้อ๋องมี
ใจผูกพันกันตั้งแต่เล็ก มองแต่เขำเท่ำนั้น ให้อ้ ีอ๋องได้ข้ ึนครองรำชย์
เป็ นควำมปรำรถนำของน้องเล็กมำโดยตลอด
แต่วำ่ ตอนนี้ หำกตระกูลตู๋กขู องพวกเขำคิดจะก่อกบฏ จำเป็ นจะต้อง
ล้มล้ำงตระกูลจีซะ แล้วขึ้นครองบัลลังก์เสี ยเอง ต่อให้ตอ้ งให้นอ้ ง
เล็กไปเป็ นฮ่องเต้หญิง ก็จะไม่ยอมให้จีเย่วน์ นั่ ได้สบำย
จีเย่วร์ ังแกน้องเล็กถึงเพียงนั้น แม้จะให้ไปตำยสักพันครั้งก็ไม่นบั ว่ำ
เกินไป นับจำกวันนี้ไปเขำอย่ำได้คิดว่ำจะมีโอกำสทำร้ำยนำงแม้สกั
เล็กน้อย
ตู๋กซู ิงหลันเห็นท่ำทำงของพี่ชำยเปลี่ยนเป็ นจริ งจังขนำดนั้น ก็อดที่
จะใจเต้นตึกตักไม่ได้
“พี่ชำยเจ้ำคะ ข้ำจะไม่ยอมโง่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในโลกนี้จะยังมี
บุรุษใดมำเปรี ยบเทียบกับท่ำน พี่รองและท่ำนปู่ ได้อีก”
จริ งสิ มีครอบครัวเช่นนี้แล้ว นำงจะยังต้องกำรควำมรักฉันหนุ่มสำว
อีกหรื อ มีชำยคนรักไปทำไม?
อยูบ่ ำ้ นเป็ นองค์หญิงน้อยไปชัว่ ชีวิตไม่ดีตรงไหน? จำเป็ นต้อง
ออกไปให้เหนื่อยกำยเหนื่อยใจด้วยหรื อ? ยังไงซะไม่มีรักก็ไม่ถึงกับ
ต้องตำยเสี ยหน่อย
พอนำงพูดจบลง บุรุษร่ ำงใหญ่โตเช่นตู๋กจู ุนถึงกับตกตะลึงไปแล้ว
จำกนั้นน้ ำตำของเขำก็รินไหลดุจสำยน้ ำ
พวกเจ้ำฟังสิ น้องเล็กบอกว่ำอะไรนะ?
บุรุษที่ไหนอะไรก็สู้พวกเขำไม่ได้!
นี่เป็ นคำพูดของน้องเล็กจริ ง ๆ หรื อ? ก่อนหน้ำนี้ แม้แต่ท่ำนปู่ ยังไม่
อำจด่ำว่ำจีเย่วส์ กั ครึ่ งคำ องค์หญิงน้อยที่พวกเขำทะนุถนอมไว้กลำง
ฝ่ ำมือมำตลอด กลับเอำแต่เทิดทูนจีเย่วไ์ ว้ในหัวใจ เขำไม่คำดคิดมำ
ก่อนเลยว่ำ สักวันหนึ่งจะสำมำรถได้ยนิ น้องเล็กพูดคำเหล่ำนี้
ออกมำ!
เขำภำคภูมิใจแทบตำยแล้ว!
“พี่ใหญ่เจ้ำคะ ท่ำนไม่เป็ นไรใช่ไหม? ” ตู๋กูซิงหลันเองก็ตกใจ
เช่นกัน เพรำะปฎิกิริยำที่บุรุษผูอ้ งอำจตรงหน้ำนี้มีข้ ึนดูท่ำจะรุ นแรง
ไปแล้ว
ตู๋กจู ุนได้แต่ปำดเช็ดน้ ำตำ แม้แต่เสี ยงที่กล่ำวออกมำก็แหบพร่ ำ “พี่
ใหญ่ไม่เป็ นไร พี่ใหญ่เพียงแต่ซำบซึ้งใจแล้ว “
เดิมทีเขำตระเตรี ยมไว้วำ่ จะหว่ำนล้อมเชิงบีบบังคับนำง คิดไม่ถึงว่ำ
น้องเล็กกลับปล่อยวำงได้นำนแล้ว ท่ำทำงที่รู้ควำมเช่นนี้ไม่รู้วำ่
จะต้องผ่ำนควำมเจ็บปวดเพียงใดถึงกลำยเป็ นเช่นนี้ได้
ดูแล้วพำลให้ผคู ้ นต้องปวดใจนัก เขำลูบไล้ศีรษะนำงแผ่วเบำ “องค์
หญิงน้อยที่น่ำสงสำรขอพี~
่ ท่ำนปู่ และพี่ ๆ จะอยูเ่ คียงข้ำงเจ้ำ
ตลอดไปเอง”
เรื่ องที่พวกเขำคำนวนผิดพลำดมำกที่สุดในชีวิตนี้ ก็คือกำรที่ปล่อย
ให้นำงต้องเจ็บช้ ำใจเพรำะควำมรักนัน่ เอง ทำให้นำงต้องตกอยูใ่ น
กองเพลิงของวังหลวง
ต่อไปหำกว่ำมีบุรุษใดคิดเข้ำใกล้นอ้ งเล็กล่ะก็ จะต้องผ่ำนดำบทลำย
ภูผำของเขำเสี ยก่อน! ต่อให้นอ้ งเล็กเองจะเป็ นฝ่ ำยชมชอบก็ไม่เว้น!
ว่ำแล้ว เขำพลันคิดถึงเรื่ องหนึ่งขึ้นมำได้ เขำปำดน้ ำตำทิ้งไป สองคิ้ว
ขมวดขึ้น จดจ้องนำงพลำงถำมว่ำ “น้องเล็ก ที่เจ้ำยอมถอดใจจำกจี
เย่ว์ คงไม่ใช่เพรำะเปลี่ยนไปชอบพอเจ้ำสุ นขั จีเฉวียนนัน่ หรอกนะ?

ควำมคิดนี้ทำให้แม้แต่ตวั เขำเองก็ยงั ตกใจไม่นอ้ ย เพรำะว่ำในงำน
เลี้ยงเมื่อคืนนั้น ท่ำทีของน้องเล็กและฮ่องเต้ดูไปคล้ำยจะมีลบั ลมคม
ในอยูไ่ ม่นอ้ ย ไม่เพียงแค่น้ นั น้องเล็กยังช่วยเจ้ำฮ่องเต้สุนขั นัน่
จัดกำรกับรองมหำเสนำฯ อีกด้วย เช่นนี้ยงั ไม่นบั ว่ำใกล้ชิดสนิท
สนมกันอีกหรื อ?
เจ้ำฮ่องเต้สุนขั จีเฉวียน ยังน่ำรังเกียจกว่ำเจ้ำจีเย่วน์ นั่ อีก!
“นัน่ นัน่ จะเป็ นไปได้อย่ำงไรเล่ำเจ้ำคะ พี่ใหญ่ ท่ำนเห็นข้ำเป็ นพวก
จิตวิปริ ตชอบควำมรุ นแรงหรื อไง? ” ตู๋กซู ิงหลันโอดครวญ ดูท่ำท่ำง
พี่ใหญ่จะมีจินตนำกำรมำกไปแล้ว
“หำกว่ำข้ำชอบเขำ ไหนเลยจะยังคิดกบฏได้อีก? “
นำงตอบแล้วเสริ มว่ำ “มำ ๆ ๆ ๆ พวกเรำมำปรึ กษำหำรื อเรื่ องก่อ
กบฏกันเถอะ~ ไม่รู้วำ่ ไข่มุกของพระแม่ธรณี นนั่ จะมีประโยชน์
อะไรกับเรำบ้ำงหรื อไม่ จะช่วยให้โอกำสกบฏได้สำเร็ จเพิ่มขึ้นมำก
หรื อไม่? “
เพรำะว่ำนี่คือแผนที่ฉบับสมบูรณ์ของเขตแดนเป่ ยเจียง ที่สำคัญที่สุด
คือมีแผนที่เหมืองทองคำดำอยูใ่ นนั้น หำกว่ำสำมำรถยึดเอำเหมือง
ทองคำดำมำได้ละก็ เรื่ องกำรสร้ำงอำวุธก็คงจะไม่ใช่ปัญหำอีก
ต่อไป
มือของตู๋กจู ุนยังลูบไล้อยูบ่ นศีรษะของนำง เมื่อเห็นประกำยตำที่
สดใสของนำง เขำถึงได้วำงใจลงได้ ไม่ได้ชอบไอ้จีเฉวียนนัน่ ก็ดี
ครั้นแล้วเขำถึงค่อยยิม้ ออกมำได้ “นี่มนั เป็ นเรื่ องของเหล่ำบุรุษ เจ้ำ
ไม่จำเป็ นต้องกังวลใจ น้องเล็ก ออกมำนอกวังครั้งนี้ พวกเรำก็อย่ำ
กลับไปอีกเลย”
เห็นน้องเล็กของตนเองมีควำมมุ่งมัน่ ตั้งใจแล้ว เขำก็รู้สึกว่ำช่ำงเป็ น
เรื่ องดีเหลือเกิน ได้เห็นว่ำนำงมิได้อ่อนแอดังแต่ก่อน ตู๋กจู ุนก็ดีใจยิง่
นัก
ตู๋กซู ิงหลันครุ่ นคิดอยูส่ กั พัก ” ไม่ได้หรอกนะเจ้ำคะ พี่ใหญ่ ตอนนี้
โอกำสทำสำเร็ จของพวกเรำมีแค่เพียงสำมส่ วนเท่ำนั้น หำกว่ำข้ำไม่
กลับไป นัน่ ไม่เท่ำกับกระตุน้ ควำมสงสัยของฮ่องเต้สุนขั นัน่ หรื อไง?
คนผูน้ ้ นั เป็ นคนคิดมำก อำรมณ์ร้ำยกำจ ทั้งยังโหดร้ำยอย่ำงยิง่
ในขณะที่เรำยังไม่มีควำมมัน่ ใจเต็มร้อยละก็ จำต้องระมัดระวังให้
มำกไว้”
ตู๋กจู ุนแสนประหลำดใจหรื อเป็ นเพรำะว่ำนำงอยูใ่ นตำหนักเย็นนำน
เกินไป น้องเล็กที่เคยเอำแต่เล่นไปวัน ๆ ก็กลำยเป็ นคนที่เฉลียว
ฉลำดรู ้ควำมแล้ว
หำกว่ำท่ำนปู่ และน้องสองได้กลับมำเห็นล่ะก็ จะต้องยินดีชนิดที่ยมิ้
ไม่หุบเลยทีเดียว ดูสินอ้ งเล็กของพวกเขำในยำมนี้เก่งกำจเพียงไร!
รู ้จกั คำดคำนวนจิตใจผูค้ นแล้ว
“เพรำะฉะนั้นนะเจ้ำคะ งำนของพี่ใหญ่ชิ้นนี้กอ็ ย่ำได้รีบร้อน พวกเรำ
ยังมีเวลำอีกมำก ในนอกร่ วมประสำน…..” ตู๋กซู ิงหลันพูดไป สมอง
ก็เริ่ มครุ่ นคิดวำงแผนกำรกบฏแล้ว
ตู๋กจู ุนรู ้สึกว่ำน้องเล็กจะเข้ำใจสิ่ งใดผิดไปแล้ว งำนชิ้นนี้ของเขำ
ไม่ใช่เรื่ องก่อกบฏ แต่ตอ้ งไป…….
วิญญำณทมิฬที่ได้ยนิ เรื่ องก่อกบฏมำตั้งแต่ตน้ “…..” พวกเจ้ำปรึ กษำ
เรื่ องก่อกบฏกันอย่ำงเปิ ดเผยเช่นนี้มนั จะดีหรื อ? ทำไงดีนำ้ มันชัก
รู ้สึกสงสำรเจ้ำฮ่องเต้สุนขั นัน่ แล้วสิ
หลังจำกมัวแต่สนทนำกันเรื่ องกบฏจนวุน่ วำย ตู๋กจู ุนพลันคิดเรื่ อง
สำคัญเรื่ องหนึ่งขึ้นมำได้ “ใช่แล้วน้องเล็ก ก่อนกลับมำเมืองหลวง
ครั้งนี้ ท่ำนปู่ สัง่ ให้ขำ้ มอบอะไรให้เจ้ำอย่ำงหนึ่ง”
เรื่ องนี้ท่ำนปู่ เน้นย้ำกับเขำอย่ำงหนักแน่น จำเป็ นต้องส่ งให้ถึงมือ
น้องเล็กให้ได้
เพรำะมัวแต่คุยกับนำงเรื่ องกบฏ จนเกือบจะทำให้ลืมเรื่ องสำคัญไป
เสี ยแล้ว
“หืม? ” ตู่กซู ิงหลันแสนจะประหลำดใจ
พูดไม่ทนั ขำดคำก็เห็นตู๋กจู ุนถอดรองเท้ำของเขำออกมำ แล้วก็ลว้ ง
เอำอะไรสี ดำ ๆ ก้อนหนึ่งออกมำจำกถุงเท้ำ
เขำไม่แม้แต่จะทำควำมสะอำดมันสักเล็กน้อย ก็หยิบมำวำงไว้บนฝ่ ำ
มือของนำง “พี่ใหญ่เกรงว่ำจะทำหำย เมื่อคืนจึงไม่ได้ถอดรองเท้ำ
เลย เห็นไหมว่ำเก็บรักษำไว้อย่ำงรอบคอบถึงเพียงไหน มำ เจ้ำเก็บ
เอำไว้ให้ดี”
ของสี ดำชิ้นนั้นยังคงระอุอุ่นอยู่ มีไอร้อนกำจำยออกมำ…..และกลิ่น
ที่แสบจมูก
ตู๋กซู ิงหลัน “………” พี่ใหญ่ ท่ำนจะมำกจะน้อยก็เป็ นถึงแม่ทพั ผู ้
พิชิต ไยจึงได้มกั ง่ำยเช่นนี้?
ผ่ำนไปอีกพักใหญ่นำงถึงได้ใช้ปลำยนิ้วดุจกล้อยไม้คีบสิ่ งนั้นขึ้นมำ
ผ้ำสี ดำที่ห่อหุม้ ไว้กห็ ลุดออก เผยให้เห็นภำยในที่…..

——
คำคมวันนี้:

“瘦死的骆驼比马大” อูฐผ่ำยผอมตำยยังใหญ่กว่ำม้ำ!
= สุ ภำษิตจำกเรื่ อง ‘ควำมฝันในหอแดง ‘ หมำยถึงชำติตระกูลที่
ยิง่ ใหญ่ถึงจะล้มลงไป แต่อย่ำงไรยังมีดำ้ นที่แข็งแกร่ งหลงเหลืออยู่
ตอนที่ 64 ไม่ พอใจข้ า แต่ กท็ าอะไรข้ าไม่ ได้
หืม? นี่มนั คือแป้งขำวนึ่งขนำดเท่ำไข่ไก่ลูกหนึ่ง?!
รู ้ละ อำหำรพี้นเมืองของเป่ ยเจียงหรื อไง ท่ำนปู่ อยำกจะส่ งมำจำก
แดนไกลให้นำงได้ชิม?
ตู๋กจู ุน “…..” หำกรู ้ต้ งั แต่แรกว่ำมันเป็ นของกินละก็ เขำคงไม่ใส่ ไว้
ในถุงเท้ำหรอก…..ท่ำนปู่ คงไม่ได้หยอกเขำเล่นใช่หรื อไม่? เดินทำง
รี บร้อนจนสองเท้ำมีแต่แผลพุพอง ก็เพื่อให้เอำของเล่นชิ้นนี้กลับมำ
หรื อไง?
ใครไหนเลยจะรู ้ ยำมที่ท่ำนปู่ มอบให้เขำนั้น กลับใช้ผำ้ สี ดำห่อเอำไว้
อย่ำงแน่นหนำ ทั้งกำชับกำชำไม่ให้เขำแอบดูแม้แต่นอ้ ย
เขำยังนึกว่ำเป็ นสมบัติล้ ำค่ำอันใดเสี ยอีก ก็แค่กอ้ นแป้งก้อนหนึ่ง
ไหงไม่บอกกันเล่ำ ไอ้ของพรรณเนี้ยขอเพียงน้องเล็กชอบกิน เขำจะ
หอบเอำมันมำให้หมดเป่ ยเจียง
“น้องเล็ก ทิ้งมันไปเถอะ กินไม่ได้แล้วล่ะ” ตู๋กจู ุนสี หน้ำไม่น่ำดู ด้วย
กลัวว่ำจะทำให้องค์หญิงน้อยของบ้ำนขุ่นเคือง
ตู๋กูซิงหลันถือแป้งแข็ง ๆ ก้อนนั้นเอำไว้ในมือ นำงไม่ทนั จะทิ้งไป
ก็เห็นเจ้ำวิญญำณทมิฬนัน่ กระโดดดึ๋ง ๆ เข้ำมำในอ้อมอกของนำง
ร้องออกมำคำหนึ่งก็งบั ลงไป “ข้ำไม่ไหวแล้ว อุแ๊ หวะ! “
ตู๋กซู ิงหลัน “……….” อ้ำวไม่ไหว แล้วเจ้ำกินมันไปได้ยงั ไง?
“เจ้ำคงไม่เชื่อข้ำหรอก ไอ้กอ้ นแป้งกลม ๆ เนี่ยมีอะไรบำงอย่ำงที่
ดึงดูดใจอัว๊ สุ ดชีวติ แต่อวั๊ เองก็ไม่รู้วำ่ มันคืออะไร ….” เจ้ำวิญญำณ
ทมิฬแหวะไปก็พดู ไปพลำง ดวงตำกลมโตยังไม่วำยจ้องมองส่ วนที่
เหลืออยู่
ตกลงว่ำเป็ นอะไรกันแน่ที่ดึงดูดมันถึงเพียงนี้? ไอ้กลิ่นที่เหม็นคำว
เหมือนกับปลำนัน่ นะหรื อ?
จำกมุมมองของตู๋กจู ุนนั้น คล้ำยกับว่ำไอ้กอ้ นแป้งนั้นจะหำยไปมุม
หนึ่ง ครำวนี้เขำยิง่ รู ้สึกไม่ดีข้ ึนไปใหญ่ “น้องเล็ก ฟังพี่เถอะนะ มัน
กินไม่ได้แล้ว”
เขำได้ฟังเชียนเชียนเล่ำว่ำ ตอนที่อยูใ่ นตำหนักเย็นนั้น น้องสำวเคย
กินแม้กระทั้งเศษเผือกที่คดั ทิ้ง…………..
คงจะไม่ใช่วำ่ ไปติดใจรสชำติแบบนั้นหรอกนะ?
ตู๋กซู ิงหลันไม่พดู ไม่จำ เพียงแต่เพ่งมองก้อนแป้งบนมือนัน่ เมื่อถูก
เจ้ำวิญญำณกัดไปมุมหนึ่ง ก็ทำให้เห็นว่ำข้ำงในมีอะไรอยู่
นำงใช้ปลำยนิ้วมือฉีกออก ถึงได้พบว่ำก้อนขำว ๆ นัน่ ทำจำกแป้ง
ุ แจทองแดงอยูด่ อกหนึ่ง
ข้ำวเหนียว ภำยในแป้งนัน่ มีกญ
เมื่อได้เห็นกุญแจทองแดง ก็พลักรู ้สึกได้ถึงธำตุหยินที่เข้มข้น
กระจำยออกมำ จนบรรยำกำศทัว่ ทั้งห้องเปลี่ยนเป็ นอึมครึ มขึ้นมำ
ทันที รำวกับว่ำเพียงครู่ เดียวในห้องก็เต็มไปด้วยดวงวิญญำณผีสำง
หลอกหลอนมำกมำย
มิน่ำละ…….ท่ำนปู่ ถึงได้ซ่อนมันไว้ในก้อนแป้งนึ่ง แป้งข้ำวเหนียว
สำมำรถปิ ดกั้นธำตุหยินได้ คงเป็ นเพรำะเขำเกรงว่ำตู๋กจู ุนพกพำสิ่ งนี้
ไว้กบั ตัวจะดึงดูดสิ่ งอัปมงคลให้เข้ำมำหำ ถึงได้ตอ้ งทำเช่นนี้
ลูกกุญแจนี่ดูเก่ำแก่ำโบรำณอย่ำงมำก ตัวกุญแจสลักไว้ดว้ ยลวดลำย
ที่ซบั ซ้อน ตู๋กซู ิงหลันมองดูมนั อย่ำงละเอียด ทันใดนั้นสี หน้ำนำงก็
พลันเปลี่ยนไป
แม้แต่เจ้ำวิญญำณทมิฬเองก็ทำตำโตขึ้นมำ มันแทบจะไม่อยำกเชื่อ
สำยตำตัวเอง
และเพรำะอยำกจะมองดูให้ชดั เจน มันแทบจะเอำหน้ำเข้ำไปปะติด
อยูบ่ นกุญแจทองแดงดอกนั้น “ลวดลำยพวกนี่….ไม่ใช่วำ่ เป็ น…
หยกสรรพชีวิตหรื อ?
หยกสรรพชีวิตต่อให้เป็ นของในโลกโน้นก็ยงั ถือว่ำเป็ นสมบัติที่ทุก
คนต่ำงจดจ้องรอตะครุ บกันทั้งนั้น
หยกสรรพชีวิตถึงกับปรำกฎขึ้นในโลกมิติน้ ีได้ ไม่น่ำเล่ำเมื่อครู่ มนั
ถึงได้รู้สึกถึงแรงดึงดูดใจจำกไอ้กอ้ นแป้งกลม ๆ นัน่ กุญแจดอกนี้มี
น้ ำหนักมำกพอสมควร ถึงแม้ถูกซ่อนอยูใ่ นรองเท้ำของตู๋กจู ุนอยู่
นำน เมื่อวำงไว้บนฝ่ ำมือกลับให้ควำมรู ้สึกเย็นซ่ำนไปจนถึงกระดูก
แผ่กระจำยธำตุหยินอย่ำงรุ นแรง
ตู๋กซู ิงหลันวำงกุญแจไว้กลำงฝ่ ำมือ หลับตำลงครู่ หนึ่ง เพียงชัว่ ครู่
เดียวก็ถูกกระแสธำตุหยินนัน่ โอบล้อมเอำไว้ทวั่ ทั้งร่ ำง เส้นผม
ทั้งหมดปลิวกระจำยขึ้นมำโดนปรำศจำกสำยลมเกื้อหนุน กระแส
ควำมเย็นขุมหนึ่งแทรกซึมเข้ำสู่ หวั ใจ
กุญแจทองแดงดอกนี้ไม่ใช่หยกสรรพชีวิต แต่วำ่ เป็ นสิ่ งที่เกี่ยวพัน
กับหยกสรรพชีวิตอย่ำงแน่นอน
ทันใดนั้นนำงพลันลืมตำขึ้นมำ ดวงตำดอกท้อแฝงกระกำยเหน็บ
หนำวอย่ำงไม่อำจซ้อนเร้น ควำมเหน็บหนำวนี้คล้ำยมีอยูจ่ ริ งจน
สำมำรถสัมผัสถึงได้ และสร้ำงควำมเจ็บปวดต่อร่ ำงกำย
แม้แต่ต๋ ูกูจุนที่ผำ่ นสงครำมมำอย่ำงโชกโชนยังอดจะรู ้สึกสัน่ สะท้ำน
ไม่ได้ รอบตัวของน้องเล็กรำวกับมีขมุ พลังอย่ำงโอบล้อมไปทัว่ ทั้ง
ร่ ำง
“ผูเ้ ฒ่ำนัน่ ใช้ได้เลยทีเดียว ถึงกับมีสิ่งของเช่นนี้ อัว๊ คิด ๆ ดูแล้ว โลก
มิติน้ ีกค็ งจะไม่ธรรมดำ” ดวงตำกลมโตของมันส่ องประกำย มันเช็ด
มืออวบอ้วนไปมำ “หลันหลัน พวกเรำหำเวลำสักวันเอำกุญแจนี้ไป
จับปี ศำจมำรร้ำยกันเถอะ ผูย้ งิ่ ใหญ่อย่ำงข้ำหิ วจนท้องกิ่วเป็ น
แผ่นกระดำษแล้ว…”
ตู๋กซู ิงหลัน “…..” ถึงจะมีแต่วิญญำณ แต่อย่ำงเจ้ำมันก็วิญญำณอ้วน
กลมจนกลิ้งเป็ นลูกบอลได้แล้ว ผอมเป็ นแผ่นกระดำษอะไรนัน่ ดู
ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้ำเลยในชำติน้ ี เข้ำใจนะ
แต่วำ่ ท่ำนปู่ มอบกุญแจทองแดงที่แกะสลักลำยหยกสรรพชีวิตเอำไว้
ให้นำงนี่มนั หมำยควำมว่ำอะไร? แล้วเขำไปได้กุญแจนี่มำจำกที่ใด
กัน?
ครู่ ต่อมำนำงค่อยหันไปมองดูพี่ชำยที่มีทีท่ำกังวลไม่วำย พลำงถำม
ว่ำ “พี่ใหญ่เจ้ำคะ ท่ำนปู่ ยังฝำกคำพูดใดไว้ให้ท่ำนบอกข้ำอีก
หรื อไม่? “
ตู๋กจู ุนครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง “ท่ำนผูเ้ ฒ่ำบอกว่ำนี่เป็ นสิ่ งของที่ท่ำนย่ำ
เหลือไว้ให้เจ้ำ ให้เจ้ำรักษำไว้ให้ดี “
“ท่ำนย่ำหรื อเจ้ำคะ? ” ตู๋กซู ิ งหลันรู ้สึกประหลำดใจอยูไ่ ม่นอ้ ย ท่ำน
ย่ำของร่ ำงเดิมนี้กค็ ือ เจียงเย่ว ซึ่งจำกโลกนี้ไปนับสิ บปี แล้ว ………
นำงเกี่ยวข้องอะไรกับหยกสรรพชีวิตด้วย?
ตอนที่ท่ำนย่ำจำกโลกนี้ไปนั้น เจ้ำยังเล็กอยูม่ ำก คงจะจดจำอะไร
ไม่ได้แล้วละมั้ง ” ตู๋กจู ุนส่ ำยหน้ำน้อย ๆ “ยำมที่ท่ำนย่ำยังมีชีวิตอยู่
ก็รักใคร่ เอ็นดูพวกเรำมำก ในเมื่อเป็ นสิ่ งที่ท่ำนย่ำลงเหลือเอำไว้ให้
เจ้ำ จะต้องไม่ทำร้ำยเจ้ำอย่ำงแน่นอน”
“อืม ข้ำจะรักษำเอำไว้ให้ดีเจ้ำค่ะ ” ตู๋กซู ิงหลันพยักหน้ำรับ พรุ่ งนี้ก็
จะเป็ นวันครบรอบกำรจำกไปของท่ำนย่ำเป็ นปี ที่สิบ บำงที หำกนำง
นำกุญแจดอกนี้ติดไปด้วย ก็อำจจะได้รับประโยชน์อะไรบำงอย่ำงก็
ได้?
พอตู๋กจู ุนไม่ทนั สังเกต นำงก็ลอบหยิบเอำยันต์เหลืองแผ่นหนึ่งมำ
ห่อกุญแจไว้ ของสิ่ งนี้มีพลังธำตุหยินมำก อำจชักนำสิ่ งอัปมงคลเข้ำ
มำได้ง่ำย ๆ
พอนำงพึ่งจะเก็บของไป ก็ได้ยนิ เสี ยงแม่นมหลี่ส่งเสี ยงร้องเชิญดัง
มำจำกภำยนอก “คุณชำยใหญ่เจ้ำคะ สำรับอำหำรเย็นจัดเตรี ยมไว้
เรี ยบร้อยแล้ว นำยหญิงผูเ้ ฒ่ำให้มำเชิญท่ำนและไทเฮำ ไปยังหอชุ่ย
หลิวเกอ”
เชียนเชียนที่เฝ้ำอยูน่ อกประตูฟังแล้วก็ขมวดคิว้ ก่อนใครเพื่อน แม่
นมหลี่คนนี้เป็ นสำวใช้ใหญ่คนสนิทของนำงเจียงซื่อหรื อเจียงเหม่ย
หยู่
ครั้งก่อนที่ติดตำมเจียงเหม่ยหยูเ่ ข้ำวังไปรังแกนำยหญิงก็คือนำง
ครำวนี้ยงั มีหน้ำมำนี่อีก?
“ข้ำไม่สน แม่ทพั เช่นข้ำไม่ได้ขำดแคลนอำหำร” ตู๋กจู ุนสี หน้ำเย็นชำ
“ฝ่ ำบำททรงประทำนอำหำรทะเลล้ ำค่ำมำโต๊ะหนึ่งเจ้ำค่ะ ให้หลี่กง
กงนำมำด้วยตนเอง รับสัง่ ว่ำไทเฮำอยูใ่ นวังเสวยจนเคยชินแล้ว ทรง
เกรงว่ำพึ่งกลับมำบ้ำนจะไม่คุย้ เคยอยูบ่ ำ้ ง คุณชำยใหญ่เจ้ำคะ ในเมื่อ
เป็ นรับสัง่ ก็ไม่ควรที่จะปฎิเสธนะเจ้ำคะ? ” แม่นมหลี่ที่อยูด่ ำ้ นนอก
ทำสี หน้ำลำบำกใจ
ตู๋กซู ิงหลัน “……” ตอนนำงอยูใ่ นวังเคยได้กินอำหำรทะเลของหำ
ยำกอะไรที่ไหนกัน? เจ้ำฮ่องเต้สุนขั ต้องมำคิดจะทำเรื่ องเอำหน้ำ
ขนำดนี้ จะปวดใจบ้ำงไหมนะ?
ว่ำแล้วแม่นมหลี่กก็ ล่ำวเพิ่มอีกว่ำ “อีกอย่ำงหนึ่ง พรุ่ งนี้กจ็ ะเป็ นวัน
รำลึกถึงนำยหญิงผูเ้ ฒ่ำแล้ว ฮูหยินผูเ้ ฒ่ำอยำกจะปรึ กษำท่ำนเกี่ยวกับ
พิธีกำรในงำนรำลึก จึงขอเชิญท่ำนแม่ทพั และไทเฮำไปสักหน่อย”
ตอนนี้นำงรู ้จกั ระมัดระวังกิริยำมำรยำท ไม่เหมือนกับวันนั้นที่
ติดตำมเจียงเหม่ยหยูไ่ ปอำละวำดในตำหนักเย็นแม้แต่นอ้ ย
ตู๋กซู ิงหลันหรี่ ตำดู ก่อนที่พี่ใหญ่จะปฎิเสธออกมำ ก็เปิ ดประตู
ออกไป แย้มยิม้ หัวเรำะ “เจ้ำกลับไปบอกอนุเจียงซื่อ เรำกับพี่ชำยอีก
สักครู่ จะไป”
คำ’อนุเจียงซื่อ’นั้น แม่นมหลี่ได้ฟังก็ร้อนหูข้ ึนมำทันที
แต่นำงไม่อำจพูดอะไรได้ จึงเพียงแต่ขยับตัวคำนับ “น้อมรอคุณชำย
ใหญ่และไทเฮำเสด็จไปเพคะ”
รอจนแม่นมหลี่ไปแล้ว คิ้วที่ขมวดของตู๋กจู ุนก็ยงั คงไม่คลำยออก
เขำเดินมำหยุดอยูท่ ี่ขำ้ งกำยตู๋กซู ิงหลันถำมว่ำ “น้องเล็ก ไม่ใช่วำ่ แต่
ไหนแต่ไรเจ้ำไม่ชอบอนุเจียงซื่อหรอกหรื อ? “
“แต่ขำ้ ชอบที่ นำงไม่พอใจข้ำ แต่กท็ ำอะไรข้ำไม่ได้มำกกว่ำนิเจ้ำคะ
” ตู๋กูซิงหลันเผยรอยยิม้ ให้เขำ พลำงหัวเรำะเบำ ๆ “พี่ใหญ่เจ้ำคะ ไป
กันเถอะ”
ตอนที่ 65 ฝ่ าบาททรงปฎิเสธ
ปี กตะวันตกของศาลาชุ่ยหลิวเก๋ อ
สระน้ าใสสะท้อนภาพหอสูง ในสระน้ าปลูกบัวไว้จานวนมาก ฤดูน้ ี
ดอกบัวโรยราไปหมดแล้ว คงเหลือไว้แต่ใบสี เขียวสดมากมาย
บนศาลาชุ่ยหลิวเก๋ อ ตกแต่งด้วยผ้าโปรงบางปลิวไสวเล่นลม เจียง
เหม่ยหยูร่ อคอยอยูน่ านแล้ว นางสวมชุดกระโปรงสี น้ าเงินปักลาย
งดงาม เก็บงาอารมณ์ภายในเอาไว้อย่างมิดชิด ยามนี้นงั่ พักอยูบ่ นที่
นัง่ ริ มราวระเบียงของชุ่ยหลิวเก๋ อ ใบหน้าชราเปี่ ยมไปด้วยความยินดี
ที่ดา้ นข้างของนางมีสตรี เยาว์วยั สองคนนัง่ อยูด่ ว้ ย หนึ่งในนั้นก็คือ ตู๋
กูเหลียน
ยามที่ต๋ ูกูซิงหลันมองเห็นตู๋กูเหลียนนั้น ก็ถึงกับประหลาดใจอยูเ่ งียบ
ๆ นางผ่ายผอมกว่าแต่ก่อนไปมาก จนมองเห็นโหนกแก้มบน
ใบหน้าได้ชดั เจน
แต่กิริยาท่าทางยังคงหยิง่ ผยองพาให้นางเห็นแล้วไม่สบอารมณ์อยู่
เหมือนเดิม
หลี่กงกงที่ยนื รออยูด่ า้ นข้างรี บเข้ามาหานางกล่าวว่า “ไทเฮาพะยะค่ะ
ฝ่ าบาททรงมีพระเมตตา อนุญาตให้เหลียนไฉเหริ นกลับมาทาความ
เคารพเย่วฮูหยินพร้อมกัน”
“เหลียนไฉเหริ น เอ๋ ? ” ตู๋กซู ิงหลันเก็บสายตากลับมา หันไปหันไป
ยิม้ บาง ๆ กับหลี่กงกง
“ตระกูลตู๋กกู าหราบเผ่าอาปู้ไซได้สาเร็ จ ไทเฮาเองก็ทรงเลือกไข่มุก
พระแม่ธรณี ได้ถูกต้อง สร้างคุณูปการอันยิง่ ใหญ่ ฝ่ าบาททรงเห็นแก่
ความเหนื่อยยาก จึงพระราชทานอนุญาตให้เหลียงไฉเหริ นออกจาก
ลานซักล้าง คืนสถานะให้ดงั เดิม ทั้งยังอนุญาตให้นางกลับบ้านมา
ร่ วมงานราลึก ” หลี่กงกงพูดไปเหงื่อมากมายก็ไหลท่วมศีรษะ
ว่ากันตามจริ งเรื่ องปล่อยเหลียนไฉเหริ นออกมา ที่จริ งแล้วเป็ นความ
ประสงค์ของท่านราชครู
เมื่อยามเที่ยงวันนี้ ท่านราชครู มายังพระตาหนักตี้หวั ด้วยตนเอง
กราบทูลถวายคาปรึ กษากับฝ่ าบาทอยูน่ าน จนฝ่ าบาททรงรับปากใน
ที่สุด
เนื่องเพราะเป็ นวันครบรอบปี ที่สิบของเย่วฮูหยิน นายท่านผูเ้ ฒ่าตู๋กู
ยังรับศึกอยูท่ ี่เป่ ยเจียงไม่อาจปลีกตัวกลับมาได้ คุณชายรองตู๋กกู ็ตอ้ ง
ไปควบคุมเรื่ องน้ าท่วมแต่เพียงลาพัง ลูกหลานตระกูลตู๋กทู ี่เหลือจึง
ยิง่ สมควรกลับมาประจาตาแหน่งแห่งที่ เพื่อเป็ นการแสดงความ
เคารพต่อฮูหยินผูเ้ ฒ่า
และจุดที่สาคัญที่สุดก็คือ ยามที่อดีตฮ่องเต้ยงั ทรงพระชนม์อยู่ ได้ให้
ความเคารพเย่วฮูหยินเป็ นอย่างมาก ทั้งยังเคยมีรับสัง่ ให้บรรดาองค์
ชายทั้งหลาย ไม่วา่ เมื่อไหร่ พึงต้องให้ความเคารพเยว่ฮูหยิน
ดังนั้นถึงแม้ฝ่าบาทจะไม่โปรดตระกูลตู๋กเู พียงใด แต่ในช่วงวันราลึก
ถึงเยว่ฮูหยิน ก็ไม่อาจกระทาอันใดที่รุนแรงเกินไปกับตระกูลตู๋กไู ด้
แต่วา่ เรื่ องการปล่อยเหลียนไฉเหริ นผูน้ ้ ีออกมา เขาพอจะดูออกว่า ฝ่ า
บาททรงปฎิเสธ ฝ่ าบาททรงรังเกียจเหลียนไฉเหริ นผูน้ ้ ีอย่างมาก
หากไม่ใช่เพราะท่านราชครู เพียรพยายามกราบทูลอยูห่ ลายรอบ เกรง
ว่าชัว่ ชีวิตนี้ของนางมีแต่ตอ้ งจมอยูใ่ นลานซักล้างแล้ว
แต่วา่ เหลียนไฉเหริ นผูน้ ้ ีกบั อนุเจียงซื่อกลับไม่รู้จกั ดูตวั เอง
หลี่กงกงพึ่งกล่าวจบไป เจียงเหม่ยหยูแ่ ย้มยิม้ ทัว่ ใบหน้ากล่าวว่า “ฝ่ า
บาททรงพระปรี ชา หม่อมฉันและเหลียนเอ๋ อร์ซาบซึ้งยิง่ นัก”
พูดแล้วนางก็ลุกขึ้น หันมาทางตู๋กซู ิ งหลันและตู๋กจู ุนกล่าวว่า “ซิงห
ลัน จุนเอ๋ อร์ ต้องลาบากพวกเจ้าแล้ว เหลียนเอ๋ อร์ถึงได้สามารถออก
จากทะเลทุกข์ได้”
ว่าแล้วนางก็หนั ไปลากชายแขนเสื้ อของตู๋กเู หลียน ครู่ หนึ่ง ตู๋กู
เหลียนค่อยลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจนัก หันมายิม้ ให้แต่เพียงผิวหน้า
“พี่สาว พีช่ าย ครั้งนี้ขอบคุณพวกท่านมากเจ้าค่ะ เหลียนเอ๋ อร์จะต้อง
จดจาความดีของพวกท่านเอาไว้ อีกหน่อยอยูใ่ นวังก็จะคอยหนุน
พี่สาวอย่างเต็มที่ “
ใช่แล้ว ความทุกข์ยากและถูกดูแคลนที่ได้รับตอนอยูใ่ นลานซักล้าง
นัน่ ชาติน้ ีท้ งั ชาตินางไม่มีทางลืมได้อย่างแน่นอน
นังตัวร้ายตู๋กซู ิงหลัน ช่างมีโชคยิง่ นัก ครั้งก่อนรอดไปได้ไม่เสี ยโฉม
ทั้งยังจับฉีผนิ เข้าคุกไปด้วย กระทัง่ ตอนนี้ยงั ถูกขังอยูใ่ นคุกอยูเ่ ลย
หากไม่กาจัดนังตัวร้ายนี่ ตัวนางตู๋กเู หลียนคงไม่มีวนั เงยหน้าขึ้นได้
ไม่เห็นหรื อว่าตอนนี้ฮ่องเต้ทรงยิง่ ทียงิ่ ให้ความสนใจนังตัวร้ายนี่ข้ ึน
มาแล้ว?
คิด ๆ ดูแล้ว แม้แต่เต๋ อเฟยที่เย่อหยิง่ ยังต้องหน้าหงายเพราะนาง จะ
เก็บนางคนเลวนี่เอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด
ครั้งเห็นตู๋กซู ิงหลันไม่กล่าวอะไร เจียงเหม่ยหยูก่ เ็ สริ มขึ้นอีกว่า
“หลันเอ๋ อร์ พวกเราจะอย่างไรก็เป็ นคนบ้านเดียวกัน ก่อนหน้านี้เป็ น
ย่าเองที่ใจร้อน ทาผิดต่อเจ้า เมื่อกลับมาบ้านแล้วย่าเองก็ได้ไตร่ ตรอง
เสี ยใหม่ ตอนนี้จุนเอ๋ อร์กก็ ลับมาแล้ว พวกเราครอบครัวเดียวกันก็
ต้องรักใคร่ กลมเกลียวกันให้มาก ดีไหม? “
การแสดงออกของเจียงเหม่ยหยูใ่ นตอนนี้มีแต่ความเมตตาปราณี
เสมือนดังเป็ นฮูหยินผูเ้ ฒ่าโดยแท้ ไหนเลยจะมีกิริยาร้ายกาจ
วางอานาจเหมือนตอนที่ไปตาหนักเย็นคราวนั้น หากไม่ใช่เพราะตู๋กู
ซิงหลันเคยเห็นนางแยกเขี้ยวกางเล็บมาแล้ว ก็คงจะต้องถูกท่าทาง
เช่นนี้ของนางหลอกเอาแน่ ๆ
ตู๋กซู ิงหลันพาลไม่สนใจตอบคา นางยกกระโปรงขึ้น เดินไปนัง่ ลงที่
เก้าอี้หลักของโต๊ะ พอนัง่ ลงแล้วก็ไม่ลืมเรี ยกพี่ชายตัวเองไปนัง่ ข้าง

สี หน้าของเจียงเหม่ยหยูเ่ ย็นชาไปในทันที ฝ่ าบาทประทานอาหาร
เลิศรสมาให้ ยังไม่ใช่เพื่อปลอบประโลมจิตใจของเหลียนเอ๋ อร์หรอก
หรื อ คาพูดที่นางให้แม่นมหลี่พดู ไป ก็แค่ทาไปอย่างนั้นเอง นังตัว
ร้ายนี่ดีนกั คิดหรื อว่าฝ่ าบาททรงประทานมาให้นางจริ ง ๆ ?
นางที่เป็ นท่านย่าใหญ่ยงั ไม่ทนั นัง่ ลง ตัวบัดซบนัน่ ก็นงั่ ลงไปแล้ว
ทั้งยังนัง่ ในตาแหน่งหลักของโต๊ะ?!
เจียงเหม่ยหยูไ่ ด้แต่กล้ ากลืนความโกรธนี้ลงไปในท้อง นางยืดตัวขึ้น
เดินออกไปนัง่ ลงที่ขา้ งกายตู๋กซู ิงหลัน ยกมือขึ้นคีบอาหารส่ งให้นาง
“หลันเอ๋ อร์ คงหิ วมากแล้วละสิ มา ๆ ทานให้มากหน่อย ย่าอยูก่ บั
บ้าน เฝ้ารอเจ้ากลับมาทุกวันเลยนะ~”
พอตะเกียบยกกลับไป ตู๋กซู ิงหลันก็หนั หน้าไปจดจ้องนาง “ท่านย่า
ของเราขึ้นสวรรค์สุขสบายไปสิ บปี แล้ว เจ้าว่าหากนางยังอยู่ แล้วได้
ฟังเจ้าเรี ยกตัวเองเป็ นย่าใหญ่อยูท่ ุกถ้อยทุกคา จะต้องไล่เจ้าออกจาก
จวนตระกูลตู๋กใู นทันทีหรื อไม่? “
ขณะที่ต๋ ูกูซิงหลันพูดออกไป ตู๋กจู ุนก็ลูบไล้ดาบทลายภูผาของเขา
นางเจียงซื่อหน้าถอดสี ในดวงตาพลันมีความเกรี้ ยวกราดขึ้นมา ตัว
เลวร้ายทั้งสองนี้ ผูอ้ ื่นให้หน้าแล้วยังจะไม่รับไว้!
ตู๋กเู หลียนเองก็ชกั หงุดหงินจนทนไม่ไหว ดูนงั ตัวร้ายนัน่ ทาท่าอวด
ั้
ผยองซิ! นังเฒ่าเจียงเย่วนัน่ ตายไปก็ตงนานหลายปี แล้ว มันยังจะยก
มากล่าวอ้างถึงอีก!
จะอย่างไรท่านย่าก็เป็ นอนุของท่านปู่ นางเฒ่าเจียงเย่วตายก็ตายไป
แล้ว หลายปี มานี้กไ็ ม่เห็นท่านปู่ รับอนุคนใดเพิ่มอีก ถึงฐานะของ
ท่านย่าจะไม่ได้รับการเลื่อนขึ้นมา แต่อย่างไรนางก็คือสตรี เพียงคน
เดียวของท่านปู่ ย่อมต้องถือเป็ นประมุขฝ่ ายหญิงของจวนตระกูลตู๋
กู!
ผูเ้ ยาว์เช่นตู๋กซู ิงหลัน มีตาแต่กลับไม่รู้จกั เคารพผูอ้ าวุโสแม้แต่นอ้ ย!
เจียงเหม่ยหยูส่ ู ดหายใจเข้าไปลึก ๆ ค่อยฝื นยิม้ ออกมา “ข้าเองก็เป็ น
บุตรสาวตระกูลเจียง เป็ นน้องสาวของท่านย่าเจ้า เรี ยกตนเองเป็ นย่า
สักคา ย่อมไม่ถือว่าเกินไปจริ งไหม? ยิง่ ไปกว่านั้น หากว่าพี่สาวยัง
อยูล่ ะก็ ย่อมต้องอยากเห็นพวกเราย่าหลานกลมเกลียวกันไม่ใช่หรื อ?

ตู๋กซู ิงหลันหัวเราะเสี ยงเย็น “เด็กกาพร้าที่ตระกูลเจียงรับมา จะถือว่า
เป็ นน้องสาวที่ไหนกัน? นัน่ เป็ นเพราะท่านย่าของข้าใจกว้างมีเมตตา
รับเจ้าไว้ แต่เจ้ากลับดีนกั ไม่เพียงไม่รู้จกั สานึกบุญคุณ กลับกล้า
ล่อลวงสามีผมู ้ ีพระคุณของตนเอง ด้านได้ไม่อดตายเป็ นอนุอยูน่ ี่
ทาไม ตอนนี้คิดว่าตนเองกลายเป็ นท่านย่าใหญ่แล้วหรื อยังไง? “
เรื่ องประวัติความเป็ นมาเป็ นไปของตระกูลตู๋กู ตู๋กูซิงหลันได้ทา
การบ้านเอาไว้อย่างดี ท่านปู่ นั้นอะไร ๆ ก็ดีหมด มีเพียงเรื่ องรับอนุ
นี้เพียงเรื่ องเดียว ที่ทาให้ต๋ ูกูซิงหลันต้องปวดหัว
คาพูดเหล่านี้นบั ว่าเสี ยดแทงเจียงเหม่ยหยูจ่ นเจ็บปวดแล้ว ใช่แล้ว
นางเป็ นแค่เพียงลูกบุญธรรมของตระกูลเจียง เพราะตอนนั้นใช้
มารยาล่อลวงจนได้เป็ นอนุของตู๋กถู ิง หลายปี มานี้ถึงแม้ต๋ ูกถู ิงจะดี
กับนางไม่นอ้ ย แต่วา่ ไม่เคยมอบความรักให้นาง
ดังนั้นถึงแม้วา่ นังเจียงเย่วตายไปนานหลายปี แล้ว ตู๋กถู ิงก็ไม่เคยคิด
จะยกให้นางเป็ นฮูหยินออกหน้าออกตามาก่อน
นางได้แต่อดทนใช้ชีวิตเฉกเช่นอนุมานานหลายปี ถึงแม้ผคู ้ นจะรู ้
ฐานะของนาง แต่กไ็ ม่มีผใู ้ ดกล้าพูดออกมา มีแต่นงั เด็กเลวนี่เพียงคน
เดียวที่สาดเกลือใส่ แผลในใจนาง!
“พี่สาว ท่านพูดกับท่านย่าเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ หลายปี มานี้ เพื่อ
ตระกูลของพวกเรา ท่านย่าต้องเหน็ดเหนื่อย ต้องอดทนลาบากมาก
เพียงไร ท่านรู ้หรื อไม่? ” ตู๋กเู หลียนเปลี่ยนวิธีการจากปากกล้าด่า
กราดที่นางเคยใช้ มาเป็ นอ่อนแอเปราะบางแทน
ตอนที่ 66 คืนร่ างเดิมเร็วขนาดนีเ้ ลย?
“จวนที่ใหญ่โตขนาดนี้ การดูแลรักษายุง่ ยากขนาดไหนเจ้ารู ้ไหม?
พอท่านปู่ และพวกพี่ชายจากไปแล้ว ทุกคนต่างก็พ่ งึ พาท่านย่าพยุง
ครอบครัวเอาไว้ ไม่ง้ นั เจ้าคิดหรื อว่าตระกูลตู๋กจู ะยังอยูด่ ีได้เพียงนี้?

“อ่อ ความหมายของเจ้าก็คืออนุเจียงซื่อต้องลาบากมากแล้วงั้นสิ นะ?
” ตู๋กซู ิงหลันยกยิม้ เย็นที่มุมปาก
“ต้องลาบากมากอยูแ่ ล้ว ลาบากอย่างที่เจ้าคิดไม่ถึงเชียวละ” ตู๋กู
เหลียนตอบคา
นางเจียงซื่อก็ทากิริยาเสมือนน้อยเนื้อต่าใจ
“ในเมื่อทั้งลาบากทั้งถูกหมิ่นหยาม งั้นเจ้าก็พกั ซะเถอะ สมุดบัญชี
ประจาบ้าน และพวกกุญแจคลังสมบัติในเมืองหลวงทั้งหลายก็ส่งมา
ให้เราทั้งหมด จะอย่างไรเราว่างไม่มีเรื่ องต้องทา ไม่รู้สึกลาบาก
อะไร”
วาจาประโยคเดียวของตู๋กูซิงหลัน แทบจะทาให้นางเจียงซื่อระเบิด
ตัวเองแล้ว!
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ? ” นางตาโต แทบจะเก็บอารมณ์เกรี้ ยวกราดของ
ตนเองไว้ไม่อยู่
คลังสมบัติของตระกูลตู๋กูในเมืองหลวง เป็ นสิ่ งที่นางใช้ท้ งั ไม้อ่อน
ไม้แข็งรบเร้าเอาจากนายท่านผูเ้ ฒ่ามาตั้งเจ็ดแปดปี ถึงจะได้มาใน
ที่สุด บัญชีของจวนนั้น เป็ นตอนที่นายท่านและเหล่าสายตรง
ทั้งหมดต้องออกไปรบ ถึงได้ตกมาอยูใ่ นมือของนาง
จะให้นางคืนให้รึ? ไม่มีทาง!
นางยังต้องการเงินอีกมากไว้ให้บุตรชาย บุตรสาว และหลานชาย
หลายสาวเอาไว้ใช้!
พวกลูกหลานสายตรงเชิดหน้าชูตาได้ทุกวันนี้ ยังไม่ใช่เพราะนาย
ท่านใช้เงินปูออกไปหรอกหรื อ!
หลาน ๆ ของนางเองก็โดดเด่น แต่เป็ นเพราะนายท่านลาเอียง ถึงได้
ไม่มีโอกาสไปเจริ ญรุ่ งเรื อง
“เฮอะ ฉี กหน้าคืนร่ างเร็ วจริ งนะ? ” รอยยิม้ ของตู๋กซู ิงหลันยิง่ ทียงิ่
เยือกเย็น
นางจดจ้องไปยังใบหน้าชราของนางเจียงซื่อ “อนุเจียงซื่อ เจ้านับว่ามี
ความสามารถมาก ในใจเกลียดเราแทบตาย ยังต้องมาแสดงท่าทางว่า
รักเราหนักหนา ไม่เหนื่อยบ้างหรื อไง? “
เจียงซื่อ “………” หากไม่ใช่เพราะตู๋กจู ุนแบกดาบกลับมา นาง
จะต้องยอมทนต่อไปอย่างนี้หรื อ?
“ตอนนั้นที่อยูใ่ นตาหนักเย็นก็ฉีกหน้าให้เห็นกันไปแล้ว มาตอนนี้จะ
เสแสร้งไปทาไม? ” ตู๋กซู ิงหลันยังว่าต่อ “ในเมื่อฉีกหน้าออกมาแล้ว
ต่อไปยามเจอกับเราต่อหน้า ก็อย่าได้มาพูดจาซี้ซ้ วั นัน่ นี้อะไรอีก เรา
เกรงว่าสมองที่เดิมก็ไม่ดีอยูแ่ ล้วของเจ้า จะโกรธจนต้องพิการไป”
เจียงซื่อ “!!! “
นังตัวเสนียดที่สมควรตาย!
“อ้อ ใช้สิ ชื่อของเราก็ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะเรี ยกได้ อนุเจียงซื่อ จดจา
ฐานะของเจ้าเอาไว้ให้ดี เอามารยาทที่ควรมีออกมา เราเป็ นคนนิสัย
ไม่ดี หากว่าโกรธเคืองขึ้นมา ผลลัพธ์ที่ได้เจ้าคงจะแบกเอาไว้ไม่
ไหว”
นางเจียงซื่อโกรธจนกัดฟันกรอด นางอยากจะอาละวาด กลับเห็นตู๋กู
จุนหยิบเอาหินลับมีดจากที่ใดก็ไม่รู้ข้ ึนมา ลงมือลับดาบของเขาต่อ
หน้านางอย่างช้า ๆ
เสี ยงกรี ดแหลมที่กระทบแก้วหูนนั่ ราวกับแท่งเหล็กที่กรี ดลงไปบน
แผ่นน้ าแข็งในแม่น้ า หลังคอของนางก็พลันขนลุกวาบขึ้นมา
“อนุเจียงซื่อ คาพูดของน้องข้าเจ้าจงฟังเอาไว้ให้ดี ปฎิบตั ิตามให้ครบ
อย่าได้มาทาท่าเป็ นมารดาผูย้ งิ่ ใหญ่อนั ใดอีก นายหญิงตระกูลตู๋กู
ของข้า ก่อนหน้านี้คือท่านย่าเจียงเย่วของพวกรา ต่อไปก็คือน้องสาว
ของข้าซิงหลัน ข้อนี้เจ้าจงจาไว้ให้ดี”
ตู๋กจู ุนหันไปลับคมดาบ หลายปี มานี้พอท่านปู่ ดีกบั นางเจียงซื่อนัน่
หน่อย นางก็ผยองได้เสี ยขนาดนี้ ไม่รู้จกั เลยว่าตนเองที่จริ งไร้
น้ าหนักเพียงใด
ลมหายใจของนางเจียงซื่ออึดอัดคับข้องอยูภ่ ายใน ตอนนี้ทาอย่างไร
ก็ระบายไม่ออก
ยิง่ คิดถึงภาพเมื่อตอนที่ถูกตู๋กูซิงหลันตบตีในตาหนักเย็น โทสะของ
นางก็ยงิ่ พุง่ พล่านจนกดไว้ไม่อยู่
ตอนนี้ยงั จะมีต๋ ูกจู ุนเพิม่ ขึ้นมาอีก!
จะให้นางต้องอกแตกตายหรื อยังไง?
“พวกเราก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้จกั เหตุผล หลายเดือนมานี้เจ้าดูแลบ้านช่อง
ก็ถือว่ามีความดี ก็จะจ่ายเงินเดือนตามฐานะพ่อบ้านให้กบั เจ้า สิ่ งที่
สมควรคืนมานัน่ อีกเดี๋ยวข้าจะไปรับด้วยตัวเอง “
ตู๋กจู ุนลับดาบเสร็ จแล้ว กวาดดาบลงไปส่ งเสี ยงดังฉัวะครั้งหนึ่งก็วาง
ดาบไว้ที่เก้าอี้ดา้ นข้าง เก้าอี้แกะสลักไม้สาลี่กถ็ ูกตัดออกไปมุมหนึ่ง
มองดูเศษไม้ที่ถูกเฉือนออกไปทาให้ต๋ ูกูเหลียนต้องหุบปากให้สนิท
กว่าเดิม ทั้งย่าหลานสองคนรู ้สึกคล้ายเกือบจะต้องเสี ยหัวตนเองไป
จนไม่กล้าพูดอะไรออกมา
เจียงซื่อสู ดลมหายใจเข้าไปอย่าเจ็บปวด เงียบอยูน่ านถึงได้ตอบกลับ
ว่า “หากนายท่านกลับมาทราบว่าพวกเจ้ากระทาต่อข้าเช่นนี้…..”
คาพูดไม่ทนั จบลง ก็เห็นตู๋กูจุนขยับดาบทลายภูผาในมือ ห่วงร้อยบน
ตัวดาบส่ งเย็นเยือกเสี ยงดัง ‘กริ๊ ก’
“เจ้าคิดว่าในสายตาของท่านปู่ แล้ว เจ้าเทียบได้กบั เส้นผมสักเส้น
ของน้องเล็กไหม? “
คาพูดนี้ทาให้วาจาที่ยงั กล่าวไม่จบนางเจียงซื่อต้องหยุดชะงักไป…..
นายท่านเอ็นดูรักใคร่ นางตู๋กซู ิงหลันจนเกินไป เรื่ องนี้นางก็
่ ……
รู ้อยู…
นางได้แต่กลืนน้ าลายลงไปอีกอึก ค่อยตอบว่า “บัญชีนนั่ วุน่ วาย
จาเป็ นจะต้องใช้เวลาสะสางสักพัก พวกเจ้าไม่ได้ดูแลบ้าน รี บร้อน
เอากลับไปก็มือเท้าปั่นป่ วนวุน่ วายไปหมด จะอย่างไรข้าก็มี
ประสบการณ์อยู่ ยิง่ ไปกว่านั้นพรุ่ งนี้กเ็ ป็ นวันราลึกถึงพี่สาว ยังมี
หลายสิ่ งที่ขา้ ต้องดูแล พวกเจ้าอายุยงั น้อย มีหลายเรื่ องที่ไม่เข้าใจ”
“วาจาไร้สาระจะมัวพูดมากไปทาไม? ” ตู๋กจู ุนพลันส่ งสายตาคมกริ บ
ราวกระบี่เล่มหนึ่ง ประหนึ่งมหาโจรที่ฆ่าคนไม่กระพริ บตา
นางเจียงซื่อรับแรงกดดันนี้ไม่ได้จาต้องถอยหลังไปทั้งโกรธจนจะ
กระอักออกมาเป็ นเลือดทั้งอยากจะระเบิดอารมณ์ออกมา แล้วไป
เถอะ อดกลั้นสักครั้งสงบเอาไว้ก่อน
ถึงอย่างไร พวกมันก็ลาพองไปได้ไม่กี่น้ าหรอก
พรุ่ งนี้…….จะต้องมีเรื่ องสนุกให้ได้ดูกนั แน่
ตู๋กูเหลียนเข้ามาพยุงนางเจียงซื่อไว้ ในดวงตาเปี่ ยมไปด้วยความ
เกลียดชังรุ นแรง ตั้งแต่เล็กแต่นอ้ ยนางก็ได้แต่ใช้ชีวิตภายใต้แรง
กดดันของพวกสายตรง ดูเอาเถอะ ขนาดตอนนี้นางได้เป็ นไฉเหริ น
ของฮ่องเต้ยงั ต้องถูกรังแก!
นางขอสาบาน สักวันจะต้องกลายเป็ นสตรี ที่สูงศักดิ์ที่สุดในวังหลัง
แล้วเหยียบพวกมันเอาไว้ใต้ฝ่าเท้า ให้ต๋ ูกจู ุน ตู๋กเู จวี๋ย แล้วก็ต๋ ูกซู ิงห
ลันคุกเข่าร้องขอให้นางไว้ชีวิต!
แต่วา่ อีกเพียงเดี๋ยวเดียว นางก็จะมีโอกาสแล้ว
คราวนี้ต๋ ูกซู ิงหลันเพียงคอยดูอยูด่ า้ นข้างเท่านั้น หากเป็ นยามปกติ
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ นางจะต้องใช้สงครามน้ าลาย
ก่อน ค่อยออกแรงลงมือซ้ า คิดไม่ถึงเลยว่า พอมีพี่ใหญ่มาเป็ นผูช้ ่วย
คนหนึ่ง แม้แต่สงครามน้ าลายก็ไม่จาเป็ นแล้ว
เมื่อคีบอาหารกินไปได้หลายคา นางค่อยนึกขึ้นได้วา่ ที่ดา้ นข้างยังมีห
ลี่กงกงยืนเฝ้าอยู่ จึงค่อยกล่าวว่า “หลี่กงกง เมื่อกลับเข้าวังจงอย่าลืม
ขอบพระทัยลูก….ฮ่องเต้แทนเราด้วย ความกตัญญูของเขาเรารับรู ้
แล้ว”
หลี่กงกงตอนนี้อยากจะหลัง่ น้ าตาเหลือเกิน อีกหน่อยงานใดที่
เกี่ยวข้องกับไทเฮาน้อย ฝ่ าบาทจะทรงส่ งผูอ้ ื่นมาบ้างได้ไหม?
ลองดูสถานการณ์ภายในครอบครัวของตระกูลตู๋กตู อนนี้สิ ….จะ
ปล่อยให้ขนั ทีเฒ่าอย่างข้าชมดูไปด้วยมันจะดีหรื อ? หรื อว่าพอยกเท้า
ออกนอกประตูไปก็อาจถูกพวกตระกูลตู๋กูเชือดปิ ดปาก?
ครั้นเหลือบไปเห็นดาบใหญ่ของตู๋กจู ุนที่แวววาวเล่มนั้น เขาพลัน
รู ้สึกเจ็บคอขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
พอตู๋กซู ิงหลันพึ่งจะพูดจบ ก็ได้ยนิ ตู๋กจู ุนเปิ ดปากพูดขึ้นมาบ้าง “หลี่
กงกง เจ้าถูกบรรยากาศอบอุ่นกลมเกลียวในครอบครัวข้ากล่อมจน
ซึ้งขึ้นมาบ้างหรื อ? ถึงได้ไม่พดู ไม่จา? “
หลี่กงกงเช็ดเหงื่อเย็น ๆ บนใบหน้า “บ่าวเฒ่าซาบซึ้งไปด้วยจริ ง ๆ
บ้านท่านแม่ทพั สนิทสนมกลมเกลียวกันเช่นนี้ นับเป็ นบุญของจวนตู๋
กูโดยแท้ เหล่าตระกูลสู งศักดิ์ในต้าโจวสมควรยึดเอาเป็ น
แบบอย่าง”
ตู๋กจู ุนหัวเราะออกมาเสี ยงดังอย่างพอใจ หยิบเอาไม้เสี ยบแตงหวาน
ที่ทาจากทองตบรางวัลให้เขา “กงกงมีสายตาดี ข้าแม่ทพั พอใจ”
หลี่กงกงประคองไม้เสี ยบผลไม้ทองคานั้นไว้ ในใจก็สั่นไหวตึกตัก
ๆ แม่ทพั ผูพ้ ิชิตกาลังเตือนเขา หากพูดมากปากสว่าง จะจับเขาหัน่
เสี ยบไม้ เสมือนเสี ยบแตงหวานเช่นนี้
ตู๋กูซิงหลันมองไปที่ไม้เสี ยบด้ามนั้นสายตาเป็ นกังวลอยูบ่ า้ ง……..
พี่ชาย ฟุ่ มเฟื อยใหญ่แล้ว!
…………………………………………
ดึกดื่นค่าคืน ณ มุมตะวันตก เรื อนของตู๋กซู ิงหลันก่อนเข้าวัง
ตอนที่ 67 คา่ คืน ลับ ๆ ล่อ ๆ
ตู๋กูจุนทาเหมือนตอนที่นางยังเป็ นเด็กน้อย จะต้องเล่านิทานก่อน
นอนให้นางฟังก่อน จึงจะยอมให้นางเข้านอนได้
เพียงแต่นิทานของเขานั้นแสนสยดสยอง อะไรนิดอะไรหน่อยก็ฆ่า
คนวางเพลิง ชนิดที่วา่ ฟังแล้วตู๋กซู ิงหลันปราศจากความง่วงเหงา
หาวนอนแม้แต่นอ้ ย ในสมองเต็มไปด้วยภาพซากศพเกลื่อนภูเขาล้น
ทะเล
เมื่อหัวค่าลูกน้องใต้บงั คับบัญชาของเขานาสมุดบัญชีและกุญแจคลัง
สมบัติในเมืองหลวงทั้งหมดมาส่ ง
ฟังว่าเพราะเรื่ องนี้นางเจียงซื่อถึงขนาดกระอักเป็ นเลือด โกรธแทบ
เป็ นแทบตายแล้ว
ตู๋กจู ุนเอาสิ่ งของทั้งหมดนัน่ มอบให้ต๋ ูกซู ิงหลัน ค่อยถามนางว่า
“น้องเล็ก พี่ใหญ่จาได้วา่ ก่อนเจ้าเข้าวัง บ้านเราจัดเตรี ยมสิ นเดิมให้
เจ้าไปไม่นอ้ ย ทาไมเจ้าถึงกลายเป็ นยากจนขนาดนี้ไปได้? “
“หืม? ” ตู๋กซู ิงหลันงงงันไปเล็กน้อย……..นางไม่เคยรู ้เรื่ องมาก่อน
เลยว่าตนเองเคยมีสินเดิมอีกกองใหญ่
เชียนเชียนเองก็ไม่เคยพูดถึง
“ไม่ใช่วา่ แอบเอาไปให้ไอ้คนไม่ได้เรื่ องจีเย่วน์ นั่ แล้ว? ” ตู๋กูจุนจ้อง
มองนางเขม็ง “หรื อว่าถูกเจ้าฮ่องเต้สุนขั จีเฉวียนนัน่ ยึดเอาไว้? “
ตู๋กูซิงหลันนวดศีรษะ ในอ้อมอกมีสมุดบัญชีและกุญแจคลังสมบัติที่
ได้คืนมาจากนางเจียงซื่ออยู่ “วันหน้าข้าจะลองนึก ๆ ดู….”
หึ ผูท้ ี่กล้าริ บสิ นเดิมของข้า ประหารก่อน ค่อยสอบถามทีหลัง!
ตู๋กูจุนตาเป็ นประกายวูบหนึ่ง เขารู ้เรื่ องที่นอ้ งเล็กเสี ยความทรงจา
แต่นึกไม่ถึงว่าแม้แต่เรื่ องสิ นเดิมของตนเองนางก็ลืมไปด้วย
หากให้นางได้รู้วา่ สิ นเดิมของตนเองยังมากมายก่ายกองกว่าสมบัติ
พัสถานทั้งหมดของบ้านของโหยวหยู…… เกรงว่านางคงโกรธกริ้ ว
จนนอนไม่หลับทั้งคืนแน่

…………………………………………………………….
ยามดึกคืนนั้น ตู๋กูซิงหลันที่หลับสนิทอยูพ่ ลันได้กลิ่นคาวโลหิ ตจน
รู ้สึกตัวตื่นขึ้นมา
สายลมภายนอกพัดโหม ส่ งเสี ยงหวีดหวิว กลางคืนมืดมิด มีเพียง
แสงดาวกระพริ บเล็กน้อย ต้นไฮ่ถางไหวเอน เงาไม้ทอดลงบนกรอบ
หน้าต่าง กิ่งไม้ที่เสี ยดสี กบั ขอบหน้าต่างส่ งเสี ยงครื ด ๆ
ตู๋กซู ิงหลันหันหน้ามองไปโดยรอบ ก็เห็นแต่เพียงเชียนเชียนที่นอน
อยูบ่ นเตียงด้านข้างหลับสนิทไปแล้ว สาวน้อยนี่หลับลึกยิง่ นัก ต่อ
ให้ฟ้าผ่าลงมายังไม่รู้สึกตัว
ผ่านไปอีกครู่ กลิ่นคาวโลหิตยิง่ ทียงิ่ เข้มข้น
นางตัดสิ นใจกลั้นลมหายใจเอาไว้ เท้าข้างหนึ่งก็เขี่ยปลุกเจ้าวิญญาณ
ทมิฬที่อยูข่ า้ ง ๆ ขึ้นมา มือข้างหนึ่งก็ลว้ งเอายันต์สีเหลืองออกมา
แผ่นหนึ่ง
เจ้าวิญญาณทมิฬกรอกตาด้วยความง่วงงุน ครั้นรู ้สึกได้ถึงธาตุหยินที่
เข้มข้นก็ได้สติคึกคักขึ้นมา
” ฮัดช่า มีไอ้ตวั แสบที่ไหนมารึ ? วะ ฮ่ะ ฮ่า อาหารของอัว๊ มาแล้ว! ”
มันส่ งเสี ยงไม่ทนั ขาดคา ตัวอ้วนกลมก็ทาท่าจะกระโดดดึ๋งออกไป
แล้ว
ยังไม่ทนั จะได้ออกไป ก็ได้ยนิ เสี ยงเอี๊ยดเบา ๆ จากปากประตู เงาดา
ขุมหนึ่งย่างกรายเข้ามาด้วยมือเท้าที่เงียบเฉียบ มุ่งตรงมาที่นาง
ตู๋กซู ิงหลันแกล้งทาเป็ นหลับใหล เพียงครู่ เดียวก็รู้สึกถึงกระแส
ธาตุหยินที่ไหลบ่าเข้ามา
และเพราะทั้งธาตุหยินและกลิ่นคาวคละคลุง้ ปนกัน ยิง่ ทาให้ได้กลิ่น
แล้วยิง่ รู ้สึกอึดอัดไม่สบายตัวมากขึ้น
เงาดานัน่ เดินมาถึงข้างเตียงของนาง ภายใต้ผา้ คลุมหน้าเผยให้เห็น
รอยยิม้ แสยะที่โหดเ**้้ยม คนผูน้ ้ นั ยืน่ มือออกมาจากผ้าคลุม ในมือ
มีกระดิ่งอยูอ่ นั หนึ่ง ยามที่คนผูน้ ้ นั กาลังจะสัน่ กระดิ่งตู๋กซู ิงหลัน
พลันลืมตาขึ้นมา
เงาดาผูน้ ้ นั ชะงักไปเล็กน้อย ปฎิกิริยาตอบกลับแรกยังคงพยายามจะ
สัน่ กระดิ่งอีกครั้ง แต่พลันพบว่าตนถูกตู๋กซู ิงหลันคว้ามือเอาไว้ ชิง
เอากระดิ่งไป ทั้งยังยิม้ ให้บาง ๆ “น้องสาว เจ้าวิ่งมาหาเราทั้งยามดึก
เพราะคิดจะเอาของขวัญมาให้หรื อ? “
“ให้ของขวัญก็ให้ของขวัญสิ เจ้าจะต้องทาตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ไปเพื่อ? ”
ตู๋กซู ิงหลันกุมกระดิ่งนัน่ ไว้ในมือ สายตาก็จดจ้องไปยังตู๋กเู หลียน
ตู๋กเู หลียนในยามนี้ ดวงตาเปี่ ยมไปด้วยเส้นเลือด ด้านหลังของนาง
ยังมีเงาผีสีแดงที่ผอมยาวตนหนึ่ง ผีนนั่ เกาะอยูบ่ นหลังของนาง นิ้ว
มือที่ยาวเฟื้ อยเกาะกุมอยูร่ อบคอของนาง แสยะยิม้ หัวเราะออกมา ทั้ง
ยังใช้ดวงตาโลหิ ตคู่น้ นั จ้องมองตู๋กซู ิงหลัน ในดวงตามีความ
ตะกละตะกลามเล็ดลอดออกมา
ตู๋กซู ิงหลันกลับรู ้สึกประหลาดใจอยูบ่ า้ ง เมื่อมาถึงโลกมิติน้ ี นาง
อย่างมากก็ได้เจอแต่ผโี ดดเดี่ยวในตาหนักเย็น ต่อมาก็เผชิญกับผึ้ง
พิษของหยวนเฟย สิ่ งที่เผชิญอยูเ่ บื้องหน้านี้กลับเป็ นครั้งแรก

วิญญาณชุดแดงนัน่ เป็ นวิญญาณผีตายโหง มีพลังมากกว่าวิญญาณ


ทัว่ ไป
เมื่อตายแล้วจิตวิญญาณไม่สลายแต่รวมตัวกับความแค้นและธาตุห
ยินจนเป็ นร่ างเดียว อาศัยความแค้นเสาะหาและสิ งสู่ ร่างใหม่ และ
ดูดกลืนพลังชีวิตของร่ างสถิตตลอดเวลา กระทัง่ ร่ างสถิตอ่อนล้าจน
ตาย แม้ตายแล้วจิตก็ยงั ต้องถูกวิญญาณตายโหงเหล่านี้ดูดกลืนกินลง
ไป ไม่อาจไปผุดไปเกิดใหม่ได้ตลอดชาติ
วิญญาณพวกนี้ยามกลางวันหลบซ่อนในร่ างสถิต ยามค่าคืนจึงค่อย
ออกมา แต่การเข้ามาสิ งสถิตเช่นนี้ปกติยอ่ มต้องได้รับความยินยอม
จากเจ้าของร่ างเดิมจึงจะเกิดขึ้นได้
ตู๋กูเหลียนจะต้องมีความเคียดแค้นถึงเพียงไหนถึงได้ยนิ ยอมขาย
ตนเองทิ้งแบบนี้? “
ไม่น่าละเมื่อกลางวันนี้นางถึงได้รู้สึกว่าตู๋กเู หลียนมีท่าทีไม่ถูกต้อง
เจ้าวิญญาณทมิฬกลับน้ าลายไหลขึ้นมาแล้ว หากไม่ใช่วา่ ตู๋กูซิง
หลันยังรั้งมันไว้ ตอนนี้มนั คงปรี่ เข้าไปจัดการแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันทาเสมือนว่ามองไม่เห็นวิญญาณตายโหงนั้น นางลุก
ขึ้นมานัง่ สางผมที่ขา้ งหู ” ข้าเดาว่าเจ้ามาเพื่อแสดงความขอบคุณ
สิ นะใช่ไหม? เพราะว่า ครั้งนี้ที่เจ้าสามารถออกจากลานซักล้างได้ ก็
เป็ นเพราะผลงานของเราและพี่ใหญ่อย่างไม่ตอ้ งสงสัย”
ตู๋กเู หลียน “…..” นังคนชัว่ นี่ช่างหน้าหนานัก!
“เราเข้าใจแล้ว นิสยั เจ้าหยิง่ ทนง อยูต่ ่อหน้าผูค้ นย่อมไม่อาจยอมลง
ให้เราได้ ถึงได้ตอ้ งมาขอบคุณเอายามดึกดื่นเช่นนี้” ตู๋กซู ิงหลันพูด
จบก็ยนื่ มือมาลูบศีรษะตู๋กูเหลียนแผ่วเบา ธาตุหยินซึมอยูเ่ พียงแค่ผวิ
กาย ผีตายโหงนัน่ พึ่งเข้าสิ งได้ไม่นาน
หากว่าตู๋กเู หลียนยอมกลับใจ ก็ยงั สามารถช่วยเหลือได้
สานักอาจารย์มีกฎบัญญัติอยู่ ร่ างสถิตที่ถูกผีเข้า หากช่วยได้ตอ้ งช่วย
หากช่วยไม่ได้ยงั ถือว่าถูกขอร้อง
ตู๋กเู หลียนขมวดคิ้วนิ่ง ยามตู๋กูซิงหลันสัมผัสนาง ทาให้นางรู ้สึก
รังเกียจเกินทน
ถือเสี ยว่าทาเพื่อสานักอาจารย์กแ็ ล้วกัน ตู๋กซู ิงหลันกล่าวช้า ๆ ด้วย
ความจริ งใจ “พวกเราต่างก็เป็ นคนตระกูลตู๋กเู หมือนกัน มีบรรพชน
เดียวกันสมควรร่ วมเป็ นร่ วมตาย หากอยูร่ ่ วมรังเดียวกันแต่โจมตี
กันเองย่อมมีแต่สองฝ่ ายสู ญเสี ย เจ้าเป็ นเด็กฉลาด สมควรรู ้วา่ อยูฝ่ ่ าย
เดียวกับเราจึงจะเป็ นทางที่ดีที่สุด”
” มา ๆ บอกเรามาสิ เจ้าลาบากขัดข้องตรงไหน เราจะช่วยเจ้าเอง”
ตู๋กเู หลียนอยากจะหัวเราะนัก ดูนงั ตัวร้ายนี่ร้อนรนเข้าสิ ไม่รู้เลยว่า
มันเอาความมัน่ อกมัน่ ใจมาจากไหนกัน”
นางเกลียดชังมันเข้ากระดูกดา มีหรื อจะยอมศิโรราบต่อมัน?
มันคิดหรื อว่า แค่มีหน้าตาดีสกั หน่อย พูดจาหวานหูสกั หน่อยคนอื่น
ก็จะพากันหลงเชื่อมันแล้ว?
ดูท่าทางของของนังตัวร้ายนี่สิ ทึกทักเอาเองว่านางจะต้องยอมอยู่
ข้างมัน มอบใจกายทุกอย่างให้มนั อย่างซื่อสัตย์
นางยิม้ เย็น ค่อยแสร้งทาสี หน้าหดหู่น่าสงสารออกมา กล่าวกับตู๋กซู ิง
หลันว่า “พี่สาว ข้าไม่เคยคิดเลยว่าท่านจะเป็ นคนดีขนาดนี้ ท่านพูด
ถูกแล้วเจ้าค่ะ พวกเราเป็ นครอบครัวเดียวกัน ต้องช่วยเหลือซึ่งกัน
และกัน”
ตู๋กซู ิงหลันพลันมีสีหน้า ‘ปลาบปลื้มใจ’ ตั้งใจฟังตู๋กเู หลียนพูดต่อ
“ข้ามีความลับบางอย่างจะบอกท่านเจ้าค่ะ”
“หืม? ” ตู๋กซู ิงหลันใช้ดวงตาเปล่งประกายยินดีจอ้ งมองนาง “ว่ามา
เลยสิ ”
” ครั้งก่อนที่ท่านเกือบจะต้องเสี ยโฉม เป็ นเพราะเต๋ อเฟยบงการให้ฉี
ผินลงมือทาเจ้าค่ะ น่าเสี ยดายช่างปากแข็งนัก ทั้งที่ผา่ นมาก็หลายวัน
แล้ว แต่กรมราชฑัณฑ์กลับสื บไม่ได้อะไรเลย”
ตู๋กูเหลียนพูดไป ๆ ก็กม้ หน้าลง ท่าทางสานึกผิดอย่างที่สุด “ที่จริ ง
วันนั้นเต๋ อเฟยมาหาข้า แต่ตวั ข้าถูกกักอยูใ่ นล้างซักล้างอย่างไรก็ทา
อะไรไม่ได้ ดังนั้นจึงได้ปฎิเสธไป และเพราะก่อนหน้านี้ขา้ โกรธ
แค้นท่านอย่างมาก จึงไม่ได้บอกท่านก่อน ท่านไม่โกรธข้าใช่ไหม
เจ้าคะ? “
ตอนที่ 68 คืนนี้ มันจะกินให้ อมิ่ เลย
ตู๋กซู ิงหลันคลี่ยมิ้ บาง ๆ ในดวงตาสะท้อนความเย็นชาวูบหนึ่ง “ไม่
เป็ นไร ก่อนหน้านี้เราก็เคยเกลียดเจ้า ย่อมไม่ถือโทษเจ้าเช่นกัน”
ตู๋กูเหลียน “…….”
ดู๊ดูนงั สวะนี่สิ มีโอกาสเมื่อไหร่ เป็ นต้องเสแสร้งทาตนเป็ นคนดีที่
สู งส่ ง น่ารังเกียจนัก!
น่าเสี ยดายที่กระดิ่งของนางถูกมันยึดไปเสี ยแล้ว นางก็ไม่กล้าบังคับ
ขอคืน จาต้องอดทนฝื นตอบไปว่า “ขอเพียงพวกเราเกลี้ยกล่อมฉี ผิน
ได้ ให้นางสารภาพว่าเป็ นเต๋ อเฟยที่บงการ ตัวอันตรายเช่นเต๋ อเฟยก็
ต้องถูกกาจัดแน่ไม่ใช่หรื อเจ้าคะ? “
ตู๋กซู ิงหลันครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ใช่สายตากระจ่างใสปานท้องฟ้า
สอบถามนาง “ไยจึงต้องทาเรื่ องยุง่ ยากถึงเพียงนั้น ในเมื่อตอนนี้เจ้าก็
อยูฝ่ ่ ายเดียวกับเราแล้ว แค่เจ้ากราบทูลฝ่ าบาท ก็เพียงพอแล้วละมั้ง?

“พี่สาว ท่านนี่โง่ไปแล้วหรื อ? พวกเราต่างก็เป็ นคนตระกูลตู๋กู
เหมือนกัน เอาคาพูดปากเปล่าไร้หลักฐานของข้าไปชี้ตวั เต๋ อเฟย?
ท่านคิดว่าฮ่องเต้จะทรงเชื่อหรื อเจ้าคะ? “
ตู๋กเู หลียนแทบอยากจะบ้าตายเพราะความโง่เง่าของนางแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันงงงันไปชัว่ ขณะ ค่อยได้สติกลับมา นางนวดขมับแรง ๆ
หลายครั้ง “เจ้าพูดถูกแล้ว เป็ นข้าที่คิดง่ายเกินไป”
พอนางออกปากเช่นนี้ดวงตาของตู๋กเู หลียนก็ส่องประกายของความ
สมใจขึ้นมาวูบหนึ่ง นางบอกแต่แรกแล้ว ว่านางคนไม่ได้เรื่ องเนี่ย
เอาสมองไปแลกกับหน้าตามา ดูสิ แค่พดู เพียงไม่กี่คาก็ทาให้นาง
คล้อยตามได้แล้วไม่ใช่หรื อ?
“โชคดีที่พี่สาวท่านออกจากวังมาช่วงนี้พอดี คราวนี้พวกเราจะได้มี
โอกาสไปที่กรมราชทัณฑ์ ขอเพียงท่านไปรับปากกับฉี ผนิ จะช่วย
รักษาชีวิตนางด้วยตัวเอง ปกป้องครอบครัวนางให้ปลอดภัย ข้าเชื่อ
ว่าฉีผนิ จะต้องยอมชี้ตวั เต๋ อเฟยแน่” ตู่กเู หลียนชักชวนอย่างมุ่งมัน่
พูดจบแล้ว นางก็ลว้ งเอาจดหมายลับฉบับหนึ่งออกมาจากอกเสื้ อ
“อย่าว่าแต่…….ฉีผนิ เองก็เคยขอร้องข้า ให้ขา้ นาจดหมายนี้มาให้
ท่านเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ขา้ เกลียดชังท่าน ไม่คิดจะมอบมันให้ แต่
ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว….”
พูดแล้วนางก็มอบจดหมายให้ต๋ ูกูซิงหลัน
ตู๋กูซิงหลันเปิ ดออกดู เห็นเพียงบนกระดาษมีอกั ษรหวัด ๆ ว่า “ไท
เฮา โปรดช่วยชีวิตหม่อมฉัน”
“ข้าคิดว่านางคงจะคิดได้แล้ว รู ้ดีวา่ มีแต่พี่สาวถึงจะช่วยชีวิตนางได้
ถึงได้รีบออกตัวขอร้อง ” ตู๋กเู หลียนว่าต่อ “ในเมื่อฉี ผนิ เองก็มีใจคิด
ขอร้อง เช่นนี้พี่สาวก็ยงิ่ สามารถเกลี้ยมกล่อมนางได้ง่ายขึ้นไม่ใช่
หรื อเจ้าคะ? “
คาพูดของนางเปี่ ยมไปด้วยเหตุผล นางไม่เชื่อหรอกว่าตู๋กซู ิงหลันจะ
ไม่หลงเชื่อ
ว่าแล้วไง เพียงแค่ได้เห็นจดหมายสี หน้าของตู๋กซู ิงหลันก็พลัน
เปลี่ยนไป หางตาหัวคิ้วของนางเผยความคิดว่าเชื่ออย่างสนิทใจ
ออกมา “ฉีผนิ คนนี้กเ็ ป็ นคนที่รู้คิด ขอเพียงนางยอมรับแต่โดยดี เรา
ย่อมต้องช่วยนาง”
“อ้ายหยา งั้นพี่สาวท่านยังรออะไรอยูอ่ ีกละเจ้าคะ? ฉวยโอกาสที่ฟ้า
ยังมืดค่า ผูค้ นบางตา พวกเรารี บไปที่กรมราชทัณฑ์ หากรอจนฟ้า
สว่างก็คงไม่ทนั แล้ว ” ตู๋กเู หลียนดึงแขนเสื้ อนางอย่างร้อนรน
กรมราชทัณฑ์อยูน่ อกวัง ห่างจากจวนตระกูลตู๋กไู ปไม่ไกล เพียงแค่
ถนนข้าง ๆ เท่านั้น
ตู๋กูซิงหลันก็ทาท่าพึ่งจะคิดได้ในตอนนั้นเอง “ใช่ ๆ ๆ รอช้าไม่ได้
พวกเรารี บไปกัน”
ว่าแล้ว นางก็รีบลงจากเตียง คว้าเอาเสื้ อคลุมได้ตวั หนึ่งออกไปอย่าง
รี บร้อน
เดินพลางเร่ งตู๋กเู หลียนไปตลอดทาง “น้องสาว เจ้าเร็ วหน่อย”
ตู๋กูเหลียนมองตามเงาหลังของนางที่ออกไปอย่างผลุนผลัน มุมปากก็
ค่อย ๆ ยกยิม้ ขึ้นมา นังโง่เอ๋ ย …..ออกไปตายด้วยสภาพแบบนี้ช่าง
น่าดูแท้ ๆ
วิญญาณผีตายโหงบนหลังของนางก็แสยะยิม้ สยดสยอง
คืนนี้ มันจะกินให้อิ่มเลย

………………………………………

ค่าคืนนี้คล้ายจะหนาวเย็นเป็ นพิเศษ ยามที่ต๋ ูกูซิงหลันออกไปนั้น


แม้แต่ดวงดาวก็ดูจะถูกก้อนเมฆบดบังเอาไว้
ประตูใหญ่ของกรมราชทัณฑ์ปิดสนิท ด้านหน้าประตูแขวนโคม
ใหญ่สีขาวซีดจางเอาไว้สองดวง โคมถูกลมพัดจนแกว่งไปมาทั้งซ้าย
และขวา ลมหนาวพัดผ่านซอกคอเข้าไปข้างในตัว พาลให้คนรู ้สึก
เจ็บแสบไปทั้งผิวกาย
ตู๋กเู หลียนท่าทางคุน้ เคยกับที่นี่เป็ นพิเศษ พาตู๋กูซิงหลันเข้าไปทาง
ประตูเล็ก ๆ บานหนึ่ง พูดไปก็ช่างประหลาดนัก กรมราชทัณฑ์ที่
ยิง่ ใหญ่แท้ ๆ กลับมีเวรยามเพียงน้อยนิด ต่อให้บงั เอิญพบเจอ แต่ละ
คนก็ง่วงเหงาหาวนอนดุจหมาเฝ้าหลับ
กระทัง่ พวกนางเข้าไปจนถึงคุกจองจาภายใน ได้เจอฉี ผนิ แล้ว ก็ยงั
ไม่มีใครพบเห็นพวกนาง
“พี่สาว พวกเราช่างโชคดีนกั เจ้าค่ะ “
“จริ งด้วย เพราะเจ้าช่วยแท้ ๆ ” ตู๋กูซิงหลันหันมายิม้ ให้
นางหันหลังให้ต๋ ูกเู หลียน มองตรงไปยังฉี ผนิ ที่ถูกขังอยูใ่ นคุก
ครั้งก่อนตอนที่เจอฉีผนิ ในคุกของวังหลวงนั้น นางเพียงแต่เปลือย
หน้าปลดเครื่ องประดับ จะอย่างไรยังดูเป็ นผูเ้ ป็ นคนอยูบ่ า้ ง
คิดไม่ถึงว่าพอถูกย้ายมาที่กรมราชทัณฑ์น้ ีแล้ว จะถูกทรมานจน
เหลือแต่หนังหุม้ กระดูกเช่นนี้ ผมเผ้ารุ งรังทัว่ ใบหน้า ดวงตาแทบปูด
โปนออกมา ไหนเลยจะมีเค้าความงามหลงเหลืออยู่
“ฉีผนิ ” ตู๋กซู ิงหลันส่ งเสี ยงเรี ยกนางครั้งหนึ่ง
ฉี ผนิ ที่คุดคูอ้ ยูม่ ุมหนึ่งก็ขยับคอขึ้นมา ค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างช้า ๆ เดิน
กระปกกระเปรี้ ยเข้ามาหานาง ยืน่ สองมือที่ผอมแห้งออกมานอก
ลูกกรง บนเล็บดายาวสกปรกมีกระทัง่ ตัวหนอนเกาะอยู่
ดวงตาที่ปูดโปนนัน่ จดจ้องมาที่ตวั ของตู๋กูซิงหลัน
ถูกขังอยูใ่ นคุกได้รับความทุกทรมานมากมาย ในที่สุดก็รอคอย
จนนังตัวร้ายนั้นมาตายแล้ว
เพื่อวงศ์ตระกูลแล้ว นางกัดฟันไม่แพร่ งพรายสิ่ งใดออกไปแม้สัก
ครึ่ งคา แต่อย่างไรก็ไม่อาจทนรับความทรมานขนาดนี้ได้ ยิง่ เมื่อ
คิดถึงเรื่ องที่คนชุดดานัน่ บอกให้ตอนที่อยูใ่ นคุกของวังหลวง คนชุด
ดานัน่ บอกไว้วา่ หากอยากรอดชีวิต ให้ไปหาไทเฮา
อ่า……..ตู๋กเู หลียนเป็ นเพียงแค่ไทเฮาในตาหนักเย็นเท่านั้น จะช่วย
นางสาเร็ จได้อย่างไร?
คนเดียวที่จะช่วยเหลือนางได้ ก็คือเต๋ อเฟยเท่านั้น
เพราะเช่นนี้นางจึงติดต่อกับซิ่วเหอคนสนิทข้างกายของเต๋ อเฟย บอก
เล่าเรื่ องราวของคนชุดดาให้ฟัง
ซิ่วเหอผูน้ ้ นั เป็ นคนเฉลียวฉลาด บอกให้นางวางแผนซ้อนแผน หาก
ว่านางสามารถล่อลวงตู๋กซู ิงหลันออกมาได้ละก็ พระสนมเต๋ อเฟยจะ
ช่วยเหลือนางออกไปโดยไม่เสี ยดายกับการต้องแลกสิ่ งใด ทั้งยังจะ
ปกป้องครอบครัวของนางทั้งหมดให้ปลอดภัย
ตอนแรกนางคิดว่า ตู๋กซู ิงหลันจะจิตใจดีและโง่เขลาถึงขนาดไหน
กัน? จึงจะยอมมาช่วยเหลือนาง”
แต่นงั นี่กบั โง่เง่าถึงที่สุด ถึงกับมาที่นี่จริ ง ๆ
ทุกวันนี้ที่นางต้องตกต่าจนเป็ นเช่นนี้ ล้วนเป็ นความผิดของนังคน
ชัว่ นัน่ ! มันถึงจะเป็ นคนที่สมควรจะต้องถูกจับขังทรมาณอยูใ่ นคุกที่
มืดมิดและเน่าเหม็น!
ตู๋กูซิงหลันมองเห็นสายตาที่ทอประกายอามหิตอย่างรุ นแรงของนาง
ก็กล่าวอย่างเรี ยบ ๆ ว่า “เรามาเพื่อช่วยเจ้า”
“ใช่แล้วพี่สาวฉีผนิ พี่สาวของข้าสงสารเจ้า พอได้รับจดหมายของ
เจ้าก็รีบร้อนมาโดยทันทีเลย ” ตู๋กเู หลียนที่อยูข่ า้ ง ๆ รี บพูดพลาง
ฉวยจดหมายฉบับนั้นออกมาให้ดู
ฉีผินหันไปมองนางวูบหนึ่ ง ท่าทางที่น่ากลัวประหนึ่งภูติผีของนาง
ดูแล้วคุกคามผูค้ นยิง่ กว่านางเสี ยอีก
ในเมื่อจดหมายนั้นส่ งถึงมือนางได้ แสดงว่าตู๋กเู หลียนกับเต๋ อเฟยคง
ร่ วมมือกันแน่
ฉีผนิ จึงตอบว่า “สถานที่แบบนี้ขา้ ไม่อยากอยูต่ ่อไปแม้เพียงครู่ เดียว
ขอไทเฮาทรงช่วยข้าออกไปโดยเร็ ว ท่านอยากรู ้อะไรข้าจะบอกท่าน
ทั้งหมด”
พอนางพูดจบตู๋กเู หลียนที่ฟังอยูก่ ห็ วั เราะออกมา “พี่สาวฉี ผนิ ท่าน
จะรี บไปไหนกัน พี่สาวของข้าเป็ นถึงไทเฮา ย่อมมีความสามารถที่
จะช่วยเหลือท่านได้แน่”
นางพูดไปก็ลูบบ่าไหล่ของของตู๋กซู ิงหลันไปด้วย “พี่สาว ท่านว่าใช่
หรื อไม่เจ้าคะ? “
ขณะที่นางพูดอยูน่ ้ นั ผีตายโหงในชุดแดงด้านหลังก็อาศัยมือของ
นางคืบคลานตามออกไปเสมือนกิ่งไม้ที่เหยียดยาวทอดไปยังตัวตู๋กู
ซิงหลัน
ตู๋กซู ิงหลันที่ยนื อยูก่ บั ที่ เพียงรู ้สึกว่าทัว่ ทั้งร่ างเกิดความหนาวเย็น
ความเย็นสะท้านขุมหนึ่งกดทับลงมา ยามนี้กว่าครึ่ งร่ างของผีตาย
โหงนัน่ ปี นมาอยูบ่ นตัวของนางแล้ว
ตอนที่ 69 พวกเจ้ ายังเป็ นคนอยู่อกี หรื อ?
ฉวยโอกาสที่มีช่องว่างนี้เกิดขึ้น ตู๋กเู หลียนก็แย่งเอากระดิ่งนั้น
กลับมาไว้ในมือของนาง เขย่าเบา ๆ ครั้งหนึ่ง

“กริ้ ง~” เสี ยงสะท้อนที่เยือกเย็นและกังวานใสดังขึ้น ทาให้ผตี าย


โหงนัน่ ไปเกาะอยูบ่ นหลังของนางอย่างเหนียวแน่น
สายตาของตู๋กซู ิงหลันเปลี่ยนเป็ น ‘ว่างเปล่า’ ขึ้นมาทันที
นางยืนนิ่งอยูก่ บั ที่ ผีตายโหงชุดแดงนัน่ ก็ยนื่ สองมือออกมาโอบ
ล้อมรอบคอของนางไว้
ผีนนั่ มองนางอย่างตะกละตะกลาม เล็บยาวสี แดงเลือดแทบจะจิกลึก
ลงไปในลาคอของนาง
ซี๊ดด…..ช่างยัว่ ยวนชวนน้ าสายสอนัก
ตู๋กเู หลียนมองดูท่าทางของนางอย่างพอใจ มือก็คว้าเอาปิ่ นปั กผม
อันหนึ่งบนศีรษะของตู๋กซู ิงหลันลงมา ยัดใส่ มือของตู๋กซู ิงหลันไว้
หัวเราะฮา ๆ บอกกับนางว่า “พี่สาว ท่านดูฉีผนิ ต้องมีชีวิตอยูอ่ ย่าง
ลาบากถึงเพียงไหน ท่านก็สงเคราะห์นางหน่อยแล้วกัน~”
พูดจบนางก็พลักหลังตู๋กซู ิงหลันออกไปครั้งหนึ่ง ผมของตู๋กซู ิงหลัน
สยายยาวลงมา คนก็ขยับไปตามแรงส่ งนั้นราวกับตุ๊กตาที่ไร้ชีวติ ตัว
หนึ่งเขยิบเข้าหาฉีผนิ ทีละก้าว
ฉีผินตาโตด้วยความตื่นตระหนก รี บหันไปทางตู๋กูเหลียน “นี่เจ้าจะ
ทาอะไรน่ะ? “
ต่อให้สายตาของนางจะยา่ แย่เพียงไหน ก็พอจะดูออกว่าตู๋กซู ิงหลัน
กาลังไม่ปกติ
“ฮา ๆ พี่สาวฉีผนิ ท่านถูกขังในนี้มานานแล้ว แม้แต่หวั สมองก็ไม่มี
แล้วหรื อไง? ” ตู๋กูเหลียนปิ ดปากหัวเราะเสี ยงเย็น ฉับพลันสายตา
ของนางก็เปลี่ยนเป็ นอามหิตโหดเ**้้ยมขึ้นมา “เจ้าเชื่อจริ ง ๆ หรื อ
ว่าเต๋ อเฟยที่เจ้าเฝ้าครุ่ นคิดถึงจะช่วยเหลือเจ้า? “
ฉีผนิ ถึงกับชะงักไปครู่ หนึ่ง พอเห็นตู๋กซู ิงหลันที่กาลังขยับเข้ามาใกล้
นางก็รีบถอยกรู ดไปข้างหลัง ตะโกนใส่ ต๋ ูกเู หลียนว่า “เต๋ อเฟยคิดจะ
ฆ่าข้าปิ ดปากเรอะ? “
“เจ้าคิดว่าไงละ? “
“แต่วา่ นางรับปากข้าแล้วชัด ๆ ขอเพียงข้าสามารถล่อตู๋กซู ิงหลันอ
อกมาได้ จะช่วยข้า และปกป้องทุกคนในครอบครัวของข้า ” ฉีผินอ
ย่างไรก็ยงั ไม่อยากจะเชื่อ เพราะตลอดเวลาที่นางอยูใ่ นคุกแห่งนี้ แม้
ต้องรับทัณฑ์ทรมานอย่างไรนางก็ไม่ยอมแพร่ งพรายชื่อเต๋ อเฟยแม้
สักครึ่ งคา แล้ใยเต๋ อเฟยจึงยังจะคิดฆ่านาง?
” พี่สาวฉีผิน ท่านหลงคิดว่าตนเองเป็ นคนพิเศษนักหรื อ ในสายของ
เต๋ อเฟย ท่านสาคัญนักหรื อไง? “
ตู๋กเู หลียนมองนางอย่างรังเกียจ “หลังจากคืนนี้ไป ทุกคนก็จะรู ้วา่
ไทเฮาในตาหนักเย็น ฉวยโอกาสที่กลับบ้านมาเซ่นไหว้ท่านย่าของ
ตนเอง ฆ่าสนมฉีผนิ ในคุกของกรมราชทัณฑ์ เจ้าน่ะ ตายอย่างคุม้ ค่า
แล้ว เป็ นไง มียอดพธูอนั ดับหนึ่งของแคว้นต้าโจวเป็ นเพื่อนเจ้าไป
ยังแม่น้ าเหลือง ก็ถือว่าเจ้าได้รับเกียรติยงิ่ ใหญ่แล้วนะ”
ต่อให้ฝ่าบาททรงโปรดนังสวะนี้สกั แค่ไหน แต่หากมันกลายเป็ น
ฆาตกรฆ่านักโทษ พระองค์จะทรงคุม้ ครองได้อีกหรื อ?
ฉีผินตาโตเบิกกว้าง มองดูต๋ ูกูเหลียนที่หวั เราะอย่างกับคนผีเข้า ต่อ
ให้นางคาดคิดอย่างไรก็ยงั คิดไม่ถึงว่า เต๋ อเฟยจะใช้ชีวิตของนางมา
กาจัดตู๋กูซิงหลัน!
เต๋ อเฟยที่ยามปกติแสนใจดีมีเมตตา ที่แท้กแ็ ล้วกลับซ่อนพิษร้าย?
ก่อนนี้นางดูไม่ออกเลย!
เพราะฉะนั้นยามนี้จึงถูกผูอ้ ื่นขายทิ้ง ทั้งยังช่วยนับเงินส่ งให้เขา!
“เจ้าวางใจเถอะ พอเจ้าตายไปแล้ว เต๋ อเฟยจะยังคงเมตตาต่อ
ครอบครัวของเจ้าต่อไป อ๋ อใช่สิ เจ้ายังมีนอ้ งสาวอยูอ่ ีกคนนี่ใช่ไหม?
เต๋ อเฟยถูกใจนางเข้าแล้ว จะให้นางเข้าวังมาคอยปรนิบตั ิรับใช้ ” ตู๋กู
เหลียนมองดูเล็บที่พ่ งึ ทาสี มาใหม่ของตนเอง ในดวงตาทอแววอึมค
รึ ม
ในคุกที่มืดมิด มีเพียงแสงสว่างราง ๆ จากตะเกียงน้ ามันสองดวงบน
กาแพงที่อบั ชื้น
ใต้แสงตะเกียงนั้น ดวงหน้าซีดขาวของตู๋กเู หลียนยิง่ ดูน่าเกลียดน่า
กลัว
“น้องสาวของข้าพึ่งจะอายุได้สิบขวบเท่านั้น พวกเจ้ายังเป็ นคนอยู่
อีกหรื อ? ” ฉีผนิ เกรี้ ยวกราด เต๋ อเฟยจิตใจซับซ้อนชัว่ ร้าย จะทาเช่น
ไรกับน้องสาวของนางกัน
“คนหรอ? ฮ่า ๆ ๆ ๆ ….” ตู๋กูเหลียนพลันหัวเราะเสี ยงดังออกมา
“เจ้าคิดว่าในวังหลังเนี่ย ยังจะมีใครเหมือนคนกันละ”
เพื่อความโปรดปราน เพื่อเกียรติยศความรุ่ งเรื อง เจ้าหลอกข้า ข้าลวง
เจ้า จะมีใครที่มือสะอาดได้อีกล่ะ?
พูดจบแล้ว นางก็เขย่ากระดิ่งในมืออีกครึ้ งหนึ่ง คราวนี้เจาะจงพูด
กับตู๋กซู ิงหลันโดยเฉพาะ “เจ้ามัวทาอะไรอยู?่ ไยไม่ไปฆ่ามันเสี ย? “
กระดิ่งดังกริ๊ งกรั๊ง เส้นผมของผีตายโหงในชุดแดงกลายเป็ นเชือกสี
ดาหลายเส้นพันลงไปบนมือและเท้าของตู๋กูซิงหลัน ภายใต้การ
ควบคุมของผีร้าย สาวน้อยที่งดงามกลายเป็ นตุ๊กตาหุ่นชักในทันที
ทาเอาฉีผนิ หวาดผวาจนล้มลงไปก้นกระแทกพื้น
นางคว้าเอาคอของฉีผนิ เอาไว้ ปิ่ นปักผมในมือถูกชูข้ ึนสู ง เห็นอยูว่ า่
กาลังจะปักลงไปบนลาคอของฉีผนิ
ตู๋กเู หลียนในตอนนี้กห็ วั เราะออกมาเสี ยงจนกรามค้าง “เดี๋ยวพอนัง
สวะนี่ฆ่าฉีผนิ แล้ว ดวงจิตของมันก็จะตกเป็ นของเจ้าทั้งหมด คืนนี้
เจ้าจะได้เสพกินอย่างอิ่มหนาแน่นอน “
ผีปีศาจมักจะดูดกลืนดวงจิตของมนุษย์และสัตว์เป็ นอาหาร ผูท้ ี่ถูก
ดูดกลืนดวงจิตจนหมดสิ้ นก็จะกลายเป็ นคนบ้าเสี ยสติ กลายเป็ น
เพียงขยะที่ไร้ประโยชน์
ผีตายโหงได้ยนิ ที่นางกล่าวมา ก็แสยะยิม้ หัวเราะออกมา เสี ยง
หัวเราะนี้พาให้แสงตะเกียงที่อ่อนจางบนฝาผนังลุกโชนขึ้นมา
ฉีผนิ มองไม่เห็นสิ่ งผิดปกติเหล่านี้ แต่วา่ นางกลับรู ้สึกได้ถึงความ
เหน็บหนาวเข้าแก่นกระดูกที่แนบอยูบ่ นร่ าง แม้กระทัง่ หนังศีรษะยัง
เย็นวาบจนเหน็บชา
ในตอนนั้นเอง ปิ่ นปักผมของตู๋กซู ิงหลันก็ทิ่มเข้าใส่ ลาคอของฉี ผิน
กาลังจะแทงทะลุเข้าไปในตัวนาง
ฉีผนิ มองเห็นใบหน้าที่งดงามอย่างไร้ที่เปรี ยบของนาง มองดูสายตา
ที่วา่ งเปล่าของดวงตาดอกท้อคู่น้ นั นางสานึกผิดเสี ยดายขึ้นมาแล้ว
……..หากว่านางเลือกที่จะเชื่อไทเฮา วันนี้กอ็ าจจะไม่ตอ้ งตายใช่
หรื อไม่?
เพราะตอนนั้น…..ไทเฮายังสามารถส่ งคนชุดดาเข้ามาในคุกหลวงได้
แสดงว่าจะต้องมีความสามารถอยูไ่ ม่นอ้ ยใช่ไหม?
แต่วา่ สานึกได้ตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร?
นางปิ ดตาลงอย่างสิ้ นหวัง
ปิ่ นปักผมแทงเข้ามาในผิว เลือดสี แดงริ นไหลซึมออกมา สร้างความ
เจ็บปวดจนฉีผนิ ต้องลืมตาได้ข้ ึน นางคิดว่าตนเองจะต้องจบชีวิตไป
ในทันทีทนั ใดแล้ว แต่วา่ ปิ่ นนัน่ เพียงขูดข่วนผิวหนัง แล้วก็หยุดลง
ในทันใด
นางลืมตาขึ้นดู สบตากับดวงตาดาขลับนั้นอย่างไม่ทนั ตั้งตัว “เรา
บอกแล้วไม่ใช่หรื อว่า จะมาช่วยเจ้า ไยต้องสิ้ นหวังถึงเพียงนี้? “
ฉีผนิ ชะงักไปแล้ว เมื่อครู่ น้ ี….เมื่อครู่ น้ ีท่าทางของตู๋กซู ิงหลันเหมือน
ถูกคนควบคุมอยูช่ ดั ๆ แล้วทาไม?
นางตื่นตะลึงไปในทันที ฉับพลันก็มีปฎิกิริยาขึ้นมา คุกเข่าลง
กระแทกพื้นอย่างแรง กอดขาตู๋กซู ิงหลันร้องไห้เสี ยงดังว่า “ไทเฮาเพ
คะ หม่อมฉันสานึกผิดแล้ว โปรดทรงช่วยหม่อมฉันด้วยเพคะ ต่อไป
หม่อมฉันจะเชื่อฟังพระองค์ผเู ้ ดียว จริ ง ๆ นะเพคะ! “
ตู๋กซู ิงหลันเหลือบตามองนางอยูแ่ วบหนึ่ง ฉี ผนิ ที่ร้องไห้ฟูมฟาย
เช่นนี้ ช่างน่าเกลียดจริ ง ๆ
อีกด้านหนึ่ง ตู๋กเู หลียนเองก็ตื่นตะลึงไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่เจ้าผีตายโหง
นั้นควบคุมนางสวะนี้อยูช่ ดั ๆ ทาไมมันถึงได้คืนสติข้ ึนมาได้กนั ?
พอนางเริ่ มคิดได้กเ็ ขย่ากระดิ่งนัน่ อีกครั้ง นางไม่สามารถควบคุมผี
ร้ายนัน่ ได้ เพียงแต่อาศัยกระดิ่งนี้มากระตุน้ ผีตายโหงนัน่ เท่านั้น
พอกระดิ่งขยับดังกริ๊ ง ก็เห็นตู๋กซู ิงหลันยกมือขึ้นมา ปิ่ นในมือตู๋กู
ซิงหลันตวัดบินออกไป กระแทรกกระดิ่งในมือนางเป็ นเศษเล็กเศษ
น้อย
พลังที่รุนแรงนั้น กระท้อนสะท้านจนมือของตู๋กเู หลียนเจ็บชา
ทันทีที่กระดิ่งแตกเป็ นเศษเล็กเศษน้อย ก็ได้ยนิ เสี ยงกรี ดร้อง
โหยหวนราวดวงใจแตกสลายจากผีตวั นั้น วิญญาณทมิฬที่รออยูน่ าน
แล้วอ้าปากสี แดงโลหิตออกกว้าง กัดขยุม้ ลงบนหัวของมัน
สิ้ นเสี ยงกัดกร๊ วมลงไป หัวส่ วนหนึ่งของมันก็ถูกกระชากขาดออกมา
เลือดสี ดาหยาดหยดไหลนอง
ตู๋กเู หลียนตกตะลึงจนขยับไม่ออกไปแล้ว นางหันไปเขม้นมองตู๋กู
ซิงหลัน ก็เห็นคนค่อย ๆ หมุนตัวกลับมา เชิดคางขึ้นช้า ๆ แย้มยิม้
ให้นางอย่างลึกลับ
ที่ดา้ นหลังของนาง ผีตายโหงในชุดแดงนัน่ กาลังเจ็บปวดรวดร้าว
อย่างที่สุด หัวของมันหายไปแล้วครึ่ งหนึ่ง แขนขาปัดป่ ายวุน่ วาย
พยายามจะคลานหนีออกจากร่ างของตู๋กซู ิงหลัน แต่ไม่รู้วา่ เพราะ
เหตุใดกลับถูกกดเอาไว้จนไม่อาจขยับได้
เส้นผมที่เคยโอบรัดแขนขาของตู๋กซู ิงหลันก็พลันฉี กขาดออกเป็ น
เศษเสี้ ยวกระจัดกระจาย
ตอนที่ 70 ยาเกรงราวกับลูกหลานคนหนึ่ง
” เกิดอะไรขึ้น? เจ้าทาอะไรลงไป?! ” ตู๋กูเหลียนตระหนกสุ ดขีด ผี
ตายโหงนัน่ เป็ นนางใช้ดวงจิตและโลหิ ตสดของตนเองหล่อเลี้ยง คน
ผูน้ ้ นั บอกเอาไว้วา่ มันมีอิทธิฤทธิ์สูงส่ ง ไยตู๋กซู ิงหลันจึงสลัดหลุด
จากการควบคุมของมันได้?
“ก็อย่างที่เจ้าเห็น ว่าเราเหนือล้ าเกินบรรยาย ” ตู๋กูซิงหลันสางผมที่
ข้างหูชา้ ๆ ดวงตาทั้งสองทอประกายสุ กใส
นางใช้มือเพียงข้างเดียวบีบคอผีตายโหงนั้นไว้ลากคอมันออกมายืด
ยาวเสมือนยีราฟต่อหน้าต่อตาตู๋กเู หลียน
ศีรษะของผีตายโหงกาลังจะถูกฉีกทิ้ง แต่เจ้าถวนจื่อตัวดาบนบ่ากลับ
ทาท่าราวสิ งโตขู่กรรโชกออกมา มันทาฮึดฮัดวุน่ วาย แม้แต่ศีรษะที่
เหลืออยูอ่ ีกเพียงครึ่ งเดียวของผีน้ นั เจ้าถวนจื่อก็ยงั อยากจะกลืนกิน
ลงไปให้ได้
นี่มนั คือตัวอะไรกันแน่? กลืนกินได้แม้กระทัง่ ผีสาง! ไยก่อนหน้านี้
จึงไม่เคยเห็นเคยเจอตัวเช่นนี้มาก่อน?
แล้วหญิงผูน้ ้ ีคือตัวอะไรกันแน่? ไยจึงสามารถใช้มือเปล่าฉีกทึ้งมัน
ได้? พละกาลังที่เหลือเฟื อนัน่ แทบจะฉี กมันเป็ นชิ้น ๆ แล้ว
ตู๋กูซิงหลันลากผีตายโหงลงมาจากหลังโยนลงไปด้วยสี หน้าไร้
ความรู ้สึก ยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นจากพื้น เหยียบลงบนครึ่ งหน้าที่
เหลืออยู่ บดขยี้ลงไปช้า ๆ พลางหันไปจ้องมองตู๋กูเหลียนด้วย
สายตาอึมครึ ม “อธิบายมาซิ ใครสอนให้เจ้าเลี้ยงมันไว้? “
เจ้าผีร้ายนัน่ พยายามจะพลิกตัว บิดตัวไปมาวุน่ วาย เส้นผมของมัน
งอกออกมาพันมือเท้าของตู๋กซู ิงหลันอีกครั้ง พยายามที่จะควบคุม
บังคับร่ างกายของนาง
ตู๋กซู ิงหลันหรี่ ตามองอยูห่ ลายครั้ง ยกหมัดขึ้นมากาประหนึ่งหัวฆ้อน
หมัดนี้กระแทกลงไป อวัยวะบนใบหน้าครึ่ งนั้นก็จมลงไปประหนึ่ง
โดนทุบจนแบน ผีตายโหงนัน่ กระอักดวงจิตออกมาคาโต แทบจะ
ดวงจิตแตกสลายไปเสี ยเดี๋ยวนี้
“เอ๋ ๆ ๆ เจ้าลงมือเบาหน่อยได้ไหม หากทุบจนเละแล้วมันจะไม่
อร่ อย! ” วิญญาณทมิฬที่อยูด่ า้ นข้างรี บพูดขึ้นอย่างเร่ งร้อน
นังหนูนี่เวลาจับภูตผีทีไรทาไมถึงได้ใช้แต่กาลัง เหมือนตอนอยูโ่ ลก
ก่อนไม่มีผดิ
กว่าจะหาผีตายโหงแบบนี้ได้ ไม่ใช่ง่าย ๆ พวกเราอ่อนโยนสัก
หน่อยดีไหมหืม?
ผีตายโหง “!!! ” ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ทุบข้าให้เละเถอะ ถึงจะถูกทุบจน
วิญญาณต้องแตกสลายก็ยงั ดีกว่าถูกเจ้าถวนจื่อนี่กลืนกิน
ตู๋กเู หลียนได้แต่ซีดจนหน้าเขียวเป็ นผัก ท่าทางของนางเสมือนได้
เจอตู๋กซู ิงหลันเป็ นครั้งแรก “เจ้าไม่ใช่ต๋ ูกซู ิงหลัน เจ้าเป็ นใครกันแน่?

ตู๋กูซิงหลันเป็ นเพียงหญิงสาวสู งศักดิ์ที่อ่อนโยนผูห้ นึ่งเท่านั้น ไหน
เลยจะสามารถจับผีดว้ ยมือเปล่าได้กนั ?
ตู๋กซู ิงหลันคลี่ยมิ้ บาง ๆ พริ บตาเดียวก็หิ้วผีตายโหงที่สภาพร่ อแร่ ไป
ที่เบื้องหน้าตู๋กเู หลียน ใช้มือข้างหนึ่งเชยคางนางขึ้นมา จ้องเข้าไปใน
ดวงตาของตู๋กเู หลียน “ที่เราถามเจ้า เจ้ายังไม่ได้ตอบ มัวพร่ ามอะไร
อยู?่ “
ตู๋กเู หลียนไม่รู้วิธีควบคุมภูติผแี ม้แต่นอ้ ย เป็ นใครกันที่มี
ความสามารถขนาดทาให้นางชุบเลี้ยงผีตายโหงชุดแดงได้?
เต๋ อเฟยรึ ? อาจไม่แน่วา่ ใช่
“ไม่พดู หรื อไง? ” ตู๋กซู ิงหลันเห็นนางปิ ดปากไม่วา่ กล่าวก็ไม่โกรธ
เคือง
นางปล่อยมือจากตู๋กเู หลียน กาหมัดขึ้นมาอีกครั้ง ต่อยออกหมัดหนึ่ง
กระแทกลงบนอกบริ เวณหัวใจของผีตายโหงนัน่ ดวงจิตของผีร้าย
สัน่ สะท้าน แทบจะแตกสลายกับคืนสู่ ธรรมชาติ
วิญญาณทมิฬปวดใจเหลือเกิน หากว่าอาหารของมันถูกทุบจนแหลก
เละ รสสัมผัสก็จะไม่ดีเท่าไหร่ ทั้งยังมีผลต่อคุณภาพอาหารด้วย
มันขยับตัวดุ๊กดิ๊ก ขยามือเล็ก ๆ ไปมา อย่าจะเข้าไปห้ามแต่กไ็ ม่กล้า
เพราะตู๋กซู ิงหลันไม่เหลือบแลมันแม้แต่นอ้ ย
ตู๋กเู หลียนเองก็เจ็บปวดบริ เวณหัวใจจนกระตุกขึ้นมาเช่นกัน นางทา
สัญญาผูกพันกับผีร้ายนัน่ ไปแล้ว หากว่าผีร้ายนัน่ ตาย ตัวนางแม้ไม่
ตายก็เท่ากับเหลือชีวิตเพียงครึ่ งเดียว แต่ต๋ ูกซู ิงหลันกลับไม่หยุดมือ
นางล้วงเอายัตน์เหลืองแผ่นหนึ่งออกมาไว้ในมือ จากนั้นก็ต่อย
กระหน่าลงไปแบบไม่ย้งั ทุกหมัดที่กระแทกลงไป ผีร้ายเป็ นต้องร่ า
ร้องอย่างโหยหวน หลังจากห้าหกหมัดที่กระหน่าลงไปติด ๆ กัน
มันก็ทนทานไม่ไหวอีกต่อไป ใช้ปากที่เหลืออยูเ่ พียงครึ่ งเดียวนั้นพูด
ว่า “พอแล้ว ๆ อย่าตีขา้ อีกเลย หากยังตีต่อไปคงไม่เหลือชีวิตผีอีก
แล้ววววว…..”
ตู๋กซู ิงหลันยกยิม้ มุมปาก กวาดตามองมันราวกับจอมมารตนหนึ่ง
“อ๋ อ ที่แท้เจ้าก็พดู จาได้นิ? “
ผีตายโหง “……” ต่อให้ขา้ พูดไม่ได้ยามนี้กต็ อ้ งถูกบังคับให้พดู ออก
มาแล้ว
ตู๋กเู หลียนที่เจ็บปวดจนมึนไปหมดก็ยงั ตระหนกจนไม่ได้สติ นางคิด
มาตลอดว่าผีตายโหงตัวนี้เป็ นใบ้ รู ้จกั แต่ดื่มเลือดกลืนกินดวงจิต
“เดิมข้าเป็ นเพียงนางกานัลในวังที่ถูกโยนทิ้งลงบ่อน้ าให้ตายอย่าง
อนาถ เมื่อตายแล้วก็มีแรงพยาบาทเข้มข้น โชคดีบงั เอิญได้พบกับผู ้
บาเพ็ญเซียนผูห้ นึ่งช่วยให้ขา้ ได้กลายเป็ นภูตผี ท่านเซียนมีบุญคุณ
ต่อข้า ครั้งนี้เพียงแต่ต่อการให้ขา้ ตอบแทนบุญคุณ เท่านั้น ให้ขา้ ทา
ความต้องการของหญิงผูน้ ้ ีให้สาเร็ จ ” ผีตายโหยพูดอย่างอ่อนแรง ตู๋
กูเหลียนเองก็เจ็บปวดจนสลบไสลไปแล้ว
จากนั้นก็ได้ยนิ มันกล่าวต่อว่า “ผีอย่างพวกเราก็ตอ้ งมีคุณธรรมใช่
ไหม ได้รับบุญคุณมาแม้เล็กน้อยย่อมต้องตอบแทน ท่านดูเถอะ ข้า
เป็ นผีที่ดีขนาดไหน ท่านเซียนผูย้ งิ่ ใหญ่ท่านได้โปรดปราณี มีเมตตา
ปล่อยข้าไปได้ไหม? “
ตู๋กซู ิงหลันจ้องเขม็งไปที่มนั “ดังนั้นท่านเซียนนัน่ คือใครกันแน่? “
ใช่วา่ เป็ นคนเดียวกันกับผูท้ ี่บงการผึ้งพิษของหยวนเฟยหรื อไม่?
ผีตายโหงส่ ายศีรษะไปมา “เซียนผูน้ ้ นั เป็ นผูส้ ู งศักดิ์ ฐานะของท่าน ผี
น้อยอย่างข้าจะไปรู ้ได้อย่างไร? “
ตู๋กซู ิงหลัน “เจ้าผี กินมันไปเถอะ ไอ้นี่มนั ไร้ประโยชน์แล้ว”
วิญญาณทมิฬที่รอคอยอยูด่ า้ นข้างนานแล้วก็กระโดดเข้าใส่ เมื่อครู่
มันกลืนผีร้ายนัน่ ไปครึ่ งหัว ฟันทั้งหมดของมันก็งอกคืนมาครบแล้ว
ดวงจิตก็แข็งแกร่ งขึ้นอีกเล็กน้อย หากว่าได้กินลงไปทั้งหมดล่ะก็
ร่ างจิตของมันก็จะแข็งแกร่ งขึ้นอย่างรวดเร็ ว! นี่ช่างเป็ นโชคดีจริ ง ๆ
!
พอเห็นถวนจื่อตัวดาอ้าปากสี แดงเลือดขึ้นมา ผีตายโหงก็หวาดผวา
จนเข้าไปกอดขาตู๋กซู ิงหลันไว้ “ท่านเซียนผูย้ งิ่ ใหญ่ ๆ เซียนผูน้ ้ นั ก็
เหมือนกับท่าน รู ้จกั วิชาไสย์เวทย์! สามารถเสกยันต์ได้….แต่วา่
อ่อนโยนกว่าท่านมาก ข้าน้อยรู ้แต่เพียงเท่านี้จริ ง ๆ ข้าไม่รู้จริ ง ๆ
ว่าเซียนผูน้ ้ นั หน้าตาเป็ นอย่างไร ขอท่านโปรดปล่อยข้าไปเถอะ”
ผีตายโหงร่ าไห้แล้ว น้ าตาเป็ นสายเลือด ขดตัวเป็ นก้อนกลม ยาเกรง
ประหนึ่งเป็ นเพียงลูกหลานคนหนึ่ง
“ยังมีอีกอย่าง น้ าเสี ยงของท่านเสี ยงน่าฟังมาก แต่ไม่รู้วา่ เป็ นชาย
หรื อหญิงกันแน่ ” ผีตายโหงที่กลัวว่าจะต้องตายอีกครั้งได้แต่บอก
ทุกสิ่ งที่ตนรู ้
จริ ง ๆ นะ สตรี ตรงหน้านี้ยงั น่ากลัวกว่าจอมมารเสี ยอีก!
ครั้งหน้าหากได้พบเจอ มันจะต้องอ้อมหลบไป อย่าได้ไปมีส่วน
เกี่ยวข้องอันใดกับสตรี ผนู ้ ้ ีมีแม้แต่นอ้ ย
ตู๋กซู ิงหลันทอดถอนใจอยูค่ รู่ หนึ่ง ค่อยถามต่อว่า “หากว่าเจ้าได้เจอ
เซียนผูน้ ้ นั อีก จะจดจาได้ไหม? “
ผีตายโหงสัน่ ศีรษะหลายครั้ง แล้วค่อยพยักหน้าติด ๆ กัน “ข้า ข้า ข้า
ก็ไม่แน่ใจ ……….ท่านเซียนมีแสงสว่างสาดส่ องอยูต่ ลอดเวลา…”
“หลัน หลัน เจ้าจะมัวพูดมากไร้สาระไปทาไม อัว๊ หิ วจะตายอยูแ่ ล้ว
ตกลงจะให้กินได้หรื อยัง ” วิญญาณทมิฬรี บร้อนเสี ยจนจะไฟลุกอยู่
แล้ว
ตู๋กซู ิงหลันไม่สนใจมัน นางใช้มือข้างเดียวหิ้วผีร่อแร่ หมดสภาพนั้น
ขึ้นมา หยิบยันต์แผ่นหนึ่งผนึกเข้าไปในร่ างของมัน จากนั้นก็โยน
มันลงไปบนร่ างของตู๋กเู หลียนใหม่อีกครั้ง
ตู๋กเู หลียนสาลักอากาศออกมาครั้งหนึ่ง ค่อย ๆ ได้สติข้ ึนมา
ที่แท้เมื่อครู่ เจ้าผีตายโหงนัน่ คืบคลานช้า ๆ เข้าไปในตัวตู๋กูเหลียน
หลังจากนางชะงักไปชัว่ ครู่ แววตาก็พลันเปลี่ยนไป
นางลุกขึ้นยืน หันมาตอบตู๋กซู ิงหลันว่า “ขอบคุณท่านเซียนผูย้ งิ่ ใหญ่
ที่เมตตาไว้ชีวิต! “
นางจอมมารผูน้ ้ ี ไม่เพียงไม่ฆ่ามัน ทั้งยังยอมให้มนั ยึดร่ างของตู๋กู
เหลียน!
ได้อยูใ่ นร่ างที่อบอุ่นมีชีวิต ทาเอาผีตายโหงน้ าตาไหล ……
ความรู ้สึกที่ได้กลับมาเป็ นคนมีชีวิต ช่างดีเหลือเกิน
ตอนที่ 71 นั่นคือ........จีเฉวียน?
ตู๋กซู ิงหลันมองมันด้วยสายตาเยือกเย็น กล่าวว่า “ถึงเวลาที่เจ้าจะต้อง
ตอบแทนบุญคุณไว้ชีวิตของเราแล้ว”
ผีตายโหง “……” มันกล้าไม่ตอบแทนด้วยหรื อ? สตรี ผนู ้ ้ ีผนึกยันต์
สยบวิญญาณเอาไว้ในดวงจิตของมัน หากเมื่อไรที่มนั ไม่เชื่อฟังก็
อาจดวงจิตแตกซ่าน วิญญาณสลายไปได้ทุกขณะ!
วิญญาณทมิฬ “……” ปัดโถ่เว้ย เนื้ออยูใ่ นปากแท้ ๆ ทาไมยังบิน
หนีไปได้อีกหือ?
ไม่! อัว๊ จะไม่ทิ้งมันไป! ไม่ยอมถอดใจเด็ดขาด! ใครจะรู ้วา่ กว่าจะได้
เหยือ่ ดี ๆ สักตัวต้องรอนานถึงเพียงไหน!
รอให้เจ้าเนื้อก้อนนี้ทางานเสร็ จเมื่อไหร่ จะต้องจับมันกินให้เกลี้ยง!
ไม่ให้เหลือแม้แต่ขอ้ นิ้วเลยทีเดียว!
‘เนื้อติดมัน’มองดูเจ้าถวนจื่อตัวดาที่อยูด่ า้ นข้าง ก็พลันรู ้สึกหนาว ๆ
เย็น ๆ ขึ้นมา
………………………………………

เช้าวันรุ่ งขึ้น ณ สุ สานประจาตระกูลตู๋กู บนเขาที่สูงที่สุด


ทัว่ ทั้งภูเขาเต็มไปด้วยดอกชมจันทราสี ขาว ผลิบานอย่างงดงามที่สุด
ภายในเขตเมืองหลวงที่รุ่งเรื อง คงมีแต่สถานที่แห่งนี้ที่ยงั เงียบสงบ
เต็มไปด้วยบุปผาผลิบานวิหคขับขาน สายหมอกม้วนตัว กาเนิดเป็ น
ทัศนียภาพที่งดงามเกินจะบรรยาย
สุ สานของเย่วฮูหยินซ่อนตัวอยูท่ ่ามกลางหมู่ดอกชมจันทราเหล่านี้
นี่เอง
บนป้ายสุ สานมีรูปสลักจากหินที่งดงามปราณี ต แกะสลักเป็ นรู ปสาว
น้อยที่บอบบางงามสง่าผูห้ นึ่ง หากมองให้ละเอียดละก็ สตรี ผนู ้ ้ ี
และตู๋กูซิงหลันมีความคล้ายคลึงกันอยูส่ ามส่ วน
ด้านข้างของหิน สลักอักษรตัวโตคาว่า ‘ ภรรยาสุ ดที่รัก ตู๋กซู ื่อเจียง
เย่ว ‘ ลงนาม ‘ สามี ตู๋กูถิง’
สุ สานของเย่วฮูหยินมีขนาดไม่เล็กนัก ฟังว่าตอนที่กลบฝังนั้น ตู๋กถู ิ
งบรรจุสมบัติล้ าค่าคณานับใส่ ลงไปด้วย ตัวสุ สานเองก็ก่อสร้างอย่าง
ปราณี ต การตกแต่งแม้ไม่อาจเทียบได้กบั เหล่าราชนิกลู สายใน แต่
อย่างใดก็ไม่ดอ้ ยไปกว่าเชื้อพระวงค์สูงศักดิ์เด็ดขาด
ผูค้ นทั้งหลายต่างทราบดีวา่ ท่านผูเ้ ฒ่าตู๋กรู ักใคร่ ภรรยาเอกเจียงเย่
วมากเพียงใด ตลอดชีวิตเพียงรับอนุไว้แค่คนเดียว และอนุผนู ้ นั่ ก็
เป็ นน้องสาวของเย่วฮูหยิน
หลังจากที่เย่วฮูหยินจากโลกนี้ไปแล้ว นายท่านผูเ้ ฒ่าก็ไม่ได้ยกย่อง
อนุผนู ้ ้ นั ขึ้นมาเป็ นภรรยา นี่เห็นได้ชดั เจนเลยว่าจิตใจที่นายท่านผู ้
เฒ่ามีต่อเย่วฮูหยินนั้นมัง่ คงเพียงไร
ที่จริ งแล้ว สาหรับเหล่าบุรุษในแคว้นต้าโจว การมีสามภรรยาสี่ อนุก็
ถือเป็ นเรื่ องธรรมดา แต่วา่ ตลอดชีวิตมีเพียงหนึ่งภรรยาหนึ่งอนุ
เรี ยกว่าน้อยเสี ยจนแค่หยิบมือ อย่าว่าแต่วา่ เป็ นผูย้ งิ่ ใหญ่เช่นตู๋กถู ิง
เลย
อีกทั้งเย่วฮูหยินยังเป็ นผูท้ ี่คนทั้งหลายกล่าวขวัญกันว่า อดีตฮ่องเต้ท้ งั
สองพระองค์ของต้าโจวต่างให้ความเคารพอย่างที่สุด
ทั้งยังเล่าลือกันว่า ปฐมกษัตริ ยท์ รงบัญญัติขอ้ กาหนดไว้วา่ ลูกหลาน
ตระกูลจีท้ งั หมดพึงให้ความเคารพเย่วฮูหยิน
ดังนั้นที่ผา่ นมายามอดีตฮ่องเต้ยงั ทรงพระชนม์อยู่ ทุกปี ยามถึงวัน
ราลึกถึงเย่วฮูหยินก็จะต้องเสด็จมาด้วยพระองค์เอง
ก่อนหน้านี้ยามตระกูลตู๋กยู งั รุ่ งเรื องอยู่ พวกผูส้ ู งศักดิ์ที่ชอบ
ประจบประแจงทั้งหลายต่างก็แย่งชิงกันจะมาช่วยเฝ้าสุ สานเย่วฮู
หยิน ยามถึงวันราลึกก็รีบมาแสดงความกตัญญู
เรี ยกว่าในช่วงวันราลึกถึงเย่วฮูหยินนั้น สุ สานแห่งนี้ได้กลายเป็ นที่
จัดงานสาคัญไปแล้ว
วันนี้ตระกูลตู๋กไู ม่อาจทัดเทียมเหมือนเมื่อก่อน ผูม้ าเยือนก็พลอย
บางตาไปด้วย
ทุกคนต่างทราบแก่ใจดีวา่ ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ทรงเกลียดชังตระกูล
ตู๋กู จึงเกรงว่าจะทาให้ฝ่าบาททรงไม่พอพระทัย พวกเขาจึงไม่กล้าจะ
ผูกสัมพันธ์กบั ตระกูลตู๋กมู ากนัก
ผูค้ นที่มาในงานราลึกปี นี้ น้อยนิดจนนับนิ้วได้
มีเพียงอี้อ๋องผูไ้ ม่เคยขาดหาย ทั้งยังนาอดีตพระสนมเสี ยนไท่เฟยที่
น้อยครั้งจะออกนอกวังมาด้วย
ทั้งสองแต่งกายสุ ภาพราบเรี ยบ สี หน้าเปี่ ยมไปด้วยความเคารพ
ภายใต้แสงอาทิตย์ที่สว่างสดใส เสี ยนไท่เฟยทรงกางร่ มกระดาษสี
ขาว สวมชุดกระโปรงชาววังสี ดาสนิท ดวงตาและหว่างคิ้วของนาง
เผยสี หน้ามีเมตตาเห็นอกเห็นใจผูท้ ุกข์ยากอยูห่ ลายส่ วน ในมืออีก
ข้างก็ประคองพระไตรปิ ฎกที่คดั ด้วยตนเองเอาไว้ ให้ชิงผินนาง
กานัลประจาตัวนาไปเผาที่ดา้ นหน้าสุ สานเย่วฮูหยิน
แม่ลูกอี้อ๋องราลึกถึงความผูกพันแต่หนหลัง ผูค้ นทั้งหลายต่างทราบ
ดีวา่ หลายปี ก่อนนั้นตระกูลตู๋กมู ีบุญคุณต่อแม่ลูกอี้อ๋องเพียงไร
หากว่าตอนนี้ผทู ้ ี่สืบทอดบัลลังก์คืออี้อ๋องละก็ ตระกูลตู๋กกู ค็ งจะยิง่
รุ่ งเรื องขึ้นไปอีกแน่แล้ว
น่าเสี ยดาย……….ศึกในการช่วงชิงบัลลังก์น้ นั อี้อ๋องกลับพ่ายแพ้
จีเย่วข์ ้ ึนไปจุดธูปไหว้เย่วฮูหยินด้วยตนเอง สายตาของเขาทอดมอง
ไปในหมู่ผคู ้ น เจียงเหม่ยหยูน่ าผูค้ นยืนอยูด่ า้ นหนึ่ง สมาชิกใน
ตระกูลตู๋กสู ่ วนใหญ่ต่างมากันแล้ว แต่กลับไม่เจอหลันเอ๋ อร์ และไม่
เห็นตู๋กูจุนด้วยเช่นกัน
เขากวาดมองไกลออกไปก็ยงั ไม่พบตู๋กซู ิงหลัน แต่กลับเห็นคนชุดดา
กลุ่มหนึ่งกาลังใกล้เข้ามา
นัน่ คือ……..จีเฉวียนหรื อ?
ผูค้ นต่างก็หนั ไปมอง กระทัง่ คนกลุ่มนั้นเดินเข้ามาใกล้ จึงพบว่าเป็ น
ฮ่องเต้จริ ง ๆ !
ไม่ใช่วา่ ฝ่ าบาททรง……..เกลียดชังตระกูลตู๋กูหรอกหรื อ? ไยจึงมา
ที่นี่ได้กนั ?
และที่ยงิ่ ทาให้พวกเขาคาดไม่ถึงไปอีกก็คือ พระสนมเต๋ อเฟยที่มา
พร้อมกับฝ่ าบาท
วันนี้พระสนมเต๋ อเฟยสวมชุดที่เรี ยบยิง่ กว่าเดิม บนศีรษะเพียงปั ก
ดอกไม้ขาวดอกหนึ่ง ดูไปราวกับหลานสาวที่ยงั มีชีวิตอยูข่ องเย่วฮู
หยินเสี ยเอง
ตลอดทั้งตัวของนางดูบริ สุทธิ์สะอาด ยิง่ เมื่ออยูท่ ่ามกลางดอกชม
จันทราด้วยแล้ว ราวกับเซียนในชุดขาวที่ไม่ขอ้ งแวะทางโลก ทาให้ผู ้
ที่ได้เห็นต่างเกิดความประทับใจด้วยกันทั้งนั้น
นี่เป็ นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นฝ่ าบาททรงนาพระสนมสักคนออก
นอกวัง
ผลจากการการเลือกไข่มุกในครั้งก่อน ท่านรองมหาเสนาฯ ถูกฝ่ า
บาทสัง่ ริ บสมบัติท้ งั หมดในบ้าน แม้กระทัง่ ไข่มุกจากทะเลตงไห่ที่
เคยพระราชทานให้เต๋ อเฟยก็ยงั เรี ยกคืนไป พวกเขานึกว่าเต๋ อเฟย
จะต้องตกต่าไม่เป็ นที่โปรดปรานอีกต่อไป
ดูเอาสิ ……เพียงไม่กี่วนั นางก็ได้มายืนเคียงข้างฝ่ าบาทอีกครั้ง
สาหรับผูท้ ี่มีน้ าใจเย็นชาเช่นฝ่ าบาทแล้ว หากว่าไม่มีน้ าพระทัยต่อ
เต๋ อเฟยแม้แต่นอ้ ย ยังจะยินยอมให้นางอยูข่ า้ งกายอีกหรื อ?
เจียงเหม่ยหยูเ่ ห็นแล้วก็รีบเข้ามาคานับ นาพาคนตระกูลตู๋กทู ้ งั หลาย
มาคุกเข่าอยูเ่ บื้องหน้าฮ่องเต้และเต๋ อเฟย “หม่อมฉันถวายพระพรฝ่ า
บาท ถวายพระพรเต๋ อเฟยเพคะ! “
ครั้งนี้นางเองก็คาดไม่ถึงว่า ฝ่ าบาทจะทรงเสด็จมาด้วยพระองค์เอง
ยามนี้นางเองก็ไม่รู้วา่ สมควรจะดีใจหรื อโกรธเคืองดีกนั แน่
ที่ดีใจก็เพราะว่านางสามารถรายงานต่อหน้านายท่านได้วา่ ขณะที่
นางดูแลบ้านอยูน่ ้ ี แม้แต่ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ยงั ทรงเสด็จมาร่ วม
กราบไหว้เจียงเย่ว
แต่ที่โกรธเคืองก็คือ นังหญิงชัว่ นัน่ ตายไปแล้ว แต่ผคู ้ นทั้งหลาย
ยังคงระลึกถึงอยู่ แม้แต่ฮ่องเต้พระองค์ใหม่กย็ งั ทรงราลึกถึง และให้
ความเคารพ
สี หน้าของนางจึงแสดงออกอย่างสับสนวุน่ วาย
จีเฉวียนทรงเหลือบพระเนตรมองนางอย่างเย็นชาวูบหนึ่ง ทั้งยังแล
ไปยังเหล่าสมาชิกในตระกูลตู๋กทู ี่อยูด่ า้ นหลังนาง เมื่อไม่ทรงพบตู๋กู
ซิงหลันก็ขมวดพระขนงขึ้น
สตรี ผนู ้ ้ ีใช่วา่ ยังมีน้ าใจอยูบ่ า้ งหรื อไม่? ครบรอบสิ บปี ของวันราลึก
ท่านย่าตนเองแท้ ๆ ยังจะมาไม่ตรงเวลาอีก?
หลี่กงกงที่ตามเสด็จมาก็ชกั จะเหงื่อตกขึ้นมาแล้ว ตอนแรกนั้น ฝ่ า
บาทมิได้ทรงมีพระประสงค์จะเสด็จมาแม้แต่นอ้ ย แต่หลังจากที่เต๋ อ
เฟยขอเข้าเฝ้าแล้ว ก็กลายเป็ นจะเสด็จมาเสี ยอย่างงั้น
ในพระทัยของฝ่ าบาทพระสนมเต๋ อเฟยมีน้ าหนักถึงเพียงนั้นจริ ง
หรื อ?
แต่วา่ ทาไม ตั้งแต่แรกจนถึงบัดนี้ สายพระเนตรของฝ่ าบาทถึงไม่ได้
มองมาที่เต๋ อเฟยแม้แต่นอ้ ย ดูไปคล้ายว่ามีแต่จะทรงมองหา…..ไท
เฮา?
หรื อว่าเขาบังอาจก้าวล่วงคาดเดาพระดาริ ของฝ่ าบาทเกินไปแล้ว?
ฝ่ าบาทยังไม่มีรับสัง่ พวกเจียงเหม่ยหยูก่ ไ็ ม่กล้าลุกขึ้น
ยังคงเป็ นพระสนมเต๋ อเฟยผูม้ ีเมตตาพยุงนางขึ้นมาด้วยตัวเอง “ฮู
หยินผูเ้ ฒ่า ท่านรี บลุกขึ้น ในบรรดาผูท้ ี่ตอ้ งเหน็ดเหนื่อยจัดงานราลึก
ถึงเย่วฮูหยินนั้น ท่านนับว่าเหนื่อยยากที่สุดแล้ว “
เต๋ อเฟยกล่าวด้วยน้ าเสี ยงแผ่วเบานุ่มนวล ฟังแล้วช่างแสนอบอุ่น
ช่างเป็ นที่ประทับใจของผูค้ น
“ขอบพระทัยพระสนมเต๋ อเฟยเพคะ ” หัวเข่าของนางเจียงซื่อเหน็บ
ชาไปหมด เมื่อได้รับการพยุงจากเต๋ อเฟยด้วยตนเองจึงซาบซึ้งจากใจ
จริ ง
ต่างก็เป็ นคุณหนูผสู ้ ู งศักดิ์เหมือนกันแท้ ๆ แต่วา่ เต๋ อเฟยกับนังเด็ก
ชัว่ ร้ายตู๋กซู ิงหลันนัน่ กลับไม่เหมือนกันเลย
“ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเกรงใจไปแล้ว ” เต๋ อเฟยตอบอย่างอ่อนโยน “ท่านย่า
ของข้ากับเย่วฮูหยินเคยมีไมตรี ต่อกัน วันราลึกสิ บปี ของเย่วฮูหยิน
ข้าย่อมต้องมากราบไหว้อยูแ่ ล้ว”
พูดแล้ว นางก็หนั ไปพยักหน้าให้ซิ่วเหอ เห็นซิ่วเหอประคองกล่อง
ไม้ที่งดงามใบหนึ่งเข้ามา “ด้านในคือยันต์เสริ มวาสนาในภพหน้าที่
พระสนมของพวกเราไปขอมาเพื่อเย่วฮูหยินโดยเฉพาะเจ้าค่ะ “
เพียงพูดจบ ผูค้ นก็พากันตื่นตะลึง ยันต์เสริ มวาสนาในภพหน้า เพียง
ชื่อก็บอกแล้วว่า เป็ นยันต์ที่ใช้ขอพรให้ผทู ้ ี่จากไปได้อยูด่ ีมีบุญบารมี
มีวาสนา ถึงแม้ไม่รู้วา่ จะมีประโยชน์หรื อไม่ แต่วา่ ก็สามารถทาให้
ญาติมิตรที่ยงั มีชีวิตอยูส่ ุ ขใจ
ยิง่ ไปกว่านั้น ฟังว่ายันต์ผนื นี้มีแต่ตอ้ งไปขอมาจากอารามเทียนเก๋ อก
วนมาเท่านั้น อารามเทียนเก๋ อกวนนัน่ คือที่ใดกัน?
ตอนที่ 72 ทั้งสองร่าสุ ราครวญเพลงกันจนดึกดื่นค่ อนคืน
นับตั้งแต่รัชกาลก่อน อารามเทียนเก๋ อกวนก็เป็ นที่เชื่อถือในความ
ศักดิ์สิทธิ์และความลึกลับในหมู่เชื้อพระวงค์ เล่าลือกันว่านักพรตปี้
จูอ๋ ูเลี่ยงผูก้ ่อตั้งอารามสุ ดท้ายสาเร็ จวิชาเป็ นเซียนไปแล้ว
ในอารามล้วนแต่เต็มไปด้วยผูม้ ีความสามารถ ได้รับความเมตตาจาก
ฟ้า เป็ นที่บูชาของผูค้ น แม้แต่ในยามที่ปฐมกษัตริ ยแ์ คว้นต้าโจวเข้า
ยึดครองเมืองหลวงแห่งนี้ ยังมิได้แตะต้องอารามเทียนเก่อเจี้ยนแม้
สักขุมขน
พระสนมเต๋ อเฟยเพียรวอนขอยันต์เสริ มวาสนาในภพหน้าให้กบั เย่ว
ฟูเหริ นเห็นชัดว่ามีน้ าใจมากถึงเพียงไหน
“นับตั้งแต่ครึ่ งปี ก่อนพระสนมก็ทรงเริ่ มขอยันต์น้ ีแล้ว ในที่สุดความ
ตั้งใจของนางสร้างความประทับใจให้กบั ท่านอาจารย์อเู ้ จิ้นใน
อาราม……” ซิ่วเหออธิบายพลาง ดวงตาของนางก็สะท้อนแววชอก
ช้ า
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็แปลกใจไม่นอ้ ย ท่านอาจารย์อูเ้ จิ้นผูน้ ้ นั เป็ นหนึ่ง
ในสุ ดยอดผูส้ ู งส่ งของอารามผูห้ นึ่ง ที่ผา่ นมาใจแข็งยิง่ นัก คิดไม่ถึง
ว่าเต๋ อเฟยจะสามารถทาให้เขาหวัน่ ไหวได้ นี้แสดงว่านางจะต้องเป็ น
ผูท้ ี่มีเมตตาสู งส่ งอย่างยิง่
ทั้งที่ต๋ ูกซู ิงหลันทาเช่นนั้นกับนาง แต่เต๋ อเฟยกลับใช้คุณธรรมตอบ
แทนความชัว่ วอนขอสิ่ งที่ล้ าค่าหาอยากเช่นนี้มาให้ เห็นชัดว่าเป็ นผู ้
ที่มีจิตใจสู งส่ งน่าเคารพชื่นชมถึงเพียงไหน
“สิ่ งนี้ไม่นบั ว่าเป็ นอะไรได้หรอก” เต๋ อเฟยก้าวขึ้นมาหลายก้าว ยืน
อยูด่ า้ นข้างจีเฉวียนกล่าวเสี ยงเบา ๆ ว่า “ฝ่ าบาท หม่อมฉันยังขอ
ยันต์มาถวายฉางซุนฮองเฮาอีกชุดหนึ่ง เพียงแต่ที่ผา่ นมาไม่กล้านามา
ถวายพระองค์….”
จีเฉวียนกวาดตามองนางครั้งหนึ่ง “เจ้ามีน้ าใจแล้ว”
“หม่อฉันสมควรทาเช่นนี้อยูแ่ ล้ว” เต๋ อเฟยหลุบตาลงตอบเสี ยงเบา
แล้วจึงค่อยเงยหน้าขึ้นกวาดตาดูรอบด้าน พอพบเห็นอี้อ๋องและเสี ยน
ไท่เฟยก็ผงกศีรษะให้เล็กน้อย ค่อยหันเหสายตาไปทางอื่น

ครู่ หนึ่งจึงค่อยถามขึ้นอย่างประหลาดใจว่า “เอ๋ ? ยามนี้กเ็ ป็ นเวลาไม่


เช้าแล้ว ไยจึงยังไม่เห็นไทเฮาและท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตอีก? “
“ทูลพระสนมเต๋ อเฟย ไทเฮาและท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตเป็ นผูม้ ีผลงาน
ความสาเร็ จอันยิง่ ใหญ่ เมื่อคืนทั้งสองยังร่ าสุ ราครวญเพลงกันจนดึก
ดื่นค่อนคืน คาดว่าคงลืมวันราลึกของท่านย่าใหญ่ไปตั้งแต่แรกแล้ว
” คนที่ตอบคาก็คือตู๋กอู ้ ี หลานชายของเจียงเหมยหยู่
พอได้ฟังแล้วพระพักตร์ที่เดิมทีไม่แสดงพระอารมณ์ใด ๆ ของฝ่ า
บาทก็เริ่ มจะมืดครึ้ มลง เพราะประเด็นหลักที่ทรงสดับไว้กค็ ือ ‘ทั้ง
สองร่ าสุ ราครวญเพลงจนดึกดื่น’
ตู๋กซู ิงหลันมิใช่สาวน้อยแล้ว ถึงแม้จะเป็ นพี่นอ้ งท้องเดียวกัน แต่
อย่างไรเสี ยชายหนุ่มหญิงสาวอยูก่ นั เพียงลาพัง เหมาะสมที่ไหน
กัน?
หลี่กงกงที่ยนื ด้านข้างของฝ่ าบาทชักจะเริ่ มตัวสัน่ สะท้านขึ้นมา เขามี
ความรู ้สึกว่า ฝ่ าบาททรงเสด็จมาวันนี้กเ็ พื่อจะมาพบไทเฮา
ผูค้ นทั้งหลายเห็นฝ่ าบาทพระพักตร์เคร่ งขรึ มลง ก็เข้าใจชัดเจนไปว่า
ฝ่ าบาททรงไม่พอพระทัยในตัวตู๋กจู ุนและตู๋ซิงหลัน
ก็คงใช่อยู่ จะอย่างไรตู๋กซู ิงหลันยังไม่ถือว่าได้ออกจากตาหนักเย็น
อย่างถูกต้อง เพียงแต่ฝ่าบาททรงมีพระเมตตาปล่อยนางกลับมาทา
ความเคารพบรรพชน นางกลับถือดีนกั กล้าคิดเองทาเองขึ้นมา ราน
น้ าพระทัยอันดีของฝ่ าบาท
” จะพูดไปก็เป็ นเรื่ องไม่ดีภายในบ้าน แม้แต่คนนอกเช่นพระสนม
เต๋ อเฟยยังสามารถทาเพื่อพี่สาวขนาดนี้ หลานชายหลานสาวของข้า
นั้น…..เฮ่อ….” นางเจียงเหม่ยหยูก่ พ็ ลอยทอดถอนใจไปด้วย
“ต้องโทษว่าข้าผูเ้ ฒ่าไม่ดี ไม่อาจสัง่ สอนพวกเขาได้”
เมื่อคืนนางโกรธไม่นอ้ ย สี หน้าจึงไม่น่าดูอย่างยิง่ ตอนนี้กย็ งิ่ ทาท่า
ทาทางอึดอัดคับข้องใจว่าไม่อาจทาสิ่ งใดได้
ผูค้ นทั้งหลายพอได้ฟังคาของนาง ประกอบกับยิง่ เห็นท่าทีของนาง
เจียงซื่อก็รู้ดีวา่ ยามปกตินางคงถูกข่มเหงไม่นอ้ ย ก็คงเป็ นเช่นนี้ละ
สองพี่นอ้ งตู๋กจู ุนที่แม้แต่ท่านย่าแท้ ๆ ของตนเองยังไม่ให้ความ
เคารพเช่นนี้ จะไปคาดหวังให้พวกเขามีน้ าใจต่อนางเจียงซื่อได้
อย่างไร?
นางเจียงซื่อผูน้ ้ ีแม้วา่ จะเป็ นแค่อนุของนายท่านผูเ้ ฒ่า แต่กถ็ ือว่าเป็ น
อนุภรรยาผูม้ ีศกั ดิ์ฐานะ เป็ นน้องสาวของเย่วฮูหยิน ไม่สมควรจะถูก
หมิ่นหยาม
ท่ามกลางสายตาเห็นอกเห็นใจของผูค้ นทั้งหลาย เจียงเหม่ยหยูก่ ็
ทาท่าน้ าตาซึมออกมา
ช่วงเวลาเช่นนี้แน่นอนว่า เต๋ อเฟยย่อมต้องก้าวออกมาวางท่าเป็ นคน
ดี “ฝ่ าบาทเพคะ ขอพระองค์อย่าได้ทรงตาหนิไทเฮาและท่านแม่ทพั
ผูพ้ ิชิตเลยนะเพคะ พวกเขาพี่นอ้ งพึ่งจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง
จะต้องมีเรื่ องพูดคุยกันมากมาย หรื ออาจบางทีหลับจนเลยเวลาไป
แค่ส่งคนไปเรี ยกก็พอแล้ว”
จากนั้นนางก็ไม่ลืมหันไปปลอบใจเจียงเหม่ยหยู่ “ฮูหยินผูเ้ ฒ่า ท่าน
วางใจเถอะ ไทเฮาและท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตต่างก็เป็ นผูท้ ี่รู้จกั เหตุผล คา
สอนของท่านพวกเขาจะต้องรับฟังแน่นอน”
แม้วา่ เต๋ อเฟยจะกล่าวเช่นนั้น แต่สายตาของนางกลับแฝงความเย็นชา
อยูล่ ึก ๆ เช้าวันนี้ พวกนางได้รับข่าวสารจากตู๋กูเหลียนแล้วว่า ฉีผิน
นัน่ ตายแล้ว ถูกตู๋กูซิงหลันฆ่าตายกับมือ
ดังนั้นนางจึงได้หาวิธีการชักนาให้ฝ่าบาททรงพานางมาทาความ
เคารพเจียงเย่วที่สุสานก่อน เพื่อที่นางจะได้เห็นท่าทางของตู๋กซู ิง
หลันยามที่ชื่อเสี ยงย่อยยับด้วยตนเอง
ในเมื่อนางกลายเป็ นฆาตกรฆ่านักโทษ ต่อหน้าผูค้ นมากมายเช่นนี้
แม้ฝ่าบาทจะมีพระทัยอยากปกป้องช่วยเหลือนางพระองค์กไ็ ม่อาจ
ทาได้
ไม่รู้วา่ หากทุกคนได้ทราบเรื่ องไทเฮาฆ่าคนแล้วละก็ จะแสดงออก
เช่นไร?
คิดถึงตรงนี้ นางก็จอ้ งไปยังตู๋กเู หลียนที่เอาแต่ยนื อยูข่ า้ งเจียงเหม่ย
หยู่ ไม่ยอมพูดยอมจามาโดยตลอด
วันนี้เหลียนไฉเหริ นคล้ายกับยังไม่ได้พดู อะไรสักคาเดียว คาดว่า
น่าจะเป็ นเพราะเมื่อคืนเหน็ดเหนื่อยมากไป เห็นหน้าผากหมองคล้ า
ดวงตาก็ช้ า ดูท่าแล้วเรื่ องเมื่อคืนคงจัดการได้ไม่ง่ายนัก
เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของเต๋ อเฟย ‘ตู๋กเู หลียน’ถึงได้เงยหน้าขึ้นมา
สงสายตาบอกใบ้วา่ ‘วางใจเถอะ ทุกอย่างเรี ยบร้อยแล้ว’
คราวนี้เต๋ อเฟยถึงได้วางใจ ตู๋กเู หลียนเกลียดชังตู๋กซู ิงหลันถึงเพียง
ไหน แล้วมีหรื อจะยอมปล่อยนางไป?
เมื่อพวกนางร่ วมมือกันเช่นนี้ นางสวะนัน่ จะต้องตายอย่างไร้ทาง
รอด
ผูค้ นทั้งหลายต่างมองเต๋ อเฟยด้วยสายตาที่เคารพ ต่างรู ้สึกว่านางช่าง
เปี่ ยมไปด้วยความเมตตาปราณี ไยตู๋กซู ิงหลันถึงได้กระทากับนางถึง
เพียงนี้? อยากจะรี บกาจัดกันให้จบสิ้ นเลยหรื อไร?
เพราะสาหรับวังหลังแล้ว เต๋ อเฟยก็คือหินรองเท้าที่นงั หญิงร้ายนี่จะ
ใช้เหยียบย่างขึ้นไป
แต่เต๋ อเฟยกระทัง่ ยามนี้กย็ งั คงพูดจาออกหน้าเพื่อพวกเขาพี่นอ้ งอยู่
เลย!
จีเย่วม์ องดูเต๋ อเฟย เขาก็คิดจะกล่าวอะไรออกมา แต่กลับถูกเสี ยนไท่
เฟยรั้งเอาไว้ นางตวัดสายตาแฝงความเยือกเย็นชนิดหนึ่ง ส่ ายศีรษะ
เบา ๆ “เย่เอ๋ อร์ อย่าได้ก่อเรื่ องแล้ว”
วันนี้ พวกเขามาเพื่อกราบไหว้เย่วฮูหยินเท่านั้น
จีเย่วถ์ อดทอนหายใจ เขาจะทนเห็นหลันเอ๋ อร์ตอ้ งถูกหมิ่นเกียรติได้
อย่างไร
“มีท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตอยูด่ ว้ ย นางย่อมไม่มีทางเกิดเรื่ องได้เด็ดขาด ”
เสี ยนไท่เฟยตบไหล่เขาเบา ๆ ขยับร่ มมาบังแดดให้จีเย่วไ์ ว้ “เจ้าต้อง
เยือกเย็นเข้าไว้”
ตั้งแต่ฝ่าบาทปรากฎพระองค์ จีเย่วก์ ็ไม่อาจรักษาความสุ ขมุ ไว้ได้
พูดแล้ว เสี ยนไท่เฟยก็หนั ไปมองจีเฉวียน
ดวงพระเนตรหงส์ของฮ่องเต้หรี่ ลงเล็กน้อย ๆ ฝ่ าบาททรงฉลอง
พระองค์ดาประทับอยูท่ ่ามกลางดอกชมจันทรา สายลมพริ้ วพัดพา
ชายฉลองพระองค์ให้ไหวเบา ๆ หางคิ้วยาวขมวดขึ้น แฝงรอยขุ่น
เคือง
ยามที่เสี ยนไท่เฟยทอดพระเนตรมานั้น ก็พอดีกบั ที่จีเฉวียนทรง
กวาดพระเนตรไปทางนาง สายพระเนตรของพระองค์เปี่ ยมไปด้วย
ความเย็นชาที่แทรกเข้าไปในกระดูก
ครู่ หนึ่งจีเฉวียนถึงได้เก็บสายพระเนตรกลับมา กล่าวกับหลี่กงกงว่า
“ไปเชิญเสด็จไทเฮา”
เต๋ อเฟยซ่อนยิม้ เย็นอยูใ่ นใจ นังสวะนัน่ วันนี้ไม่มีทางมาได้แล้ว
อีกสักครู่ กจ็ ะมีข่าวสารมาถึง ว่าตู๋กซู ิงหลันฆ่าฉี ผนิ ตาย ฮึ ๆ งิ้วที่น่า
สนุกกาลังจะเริ่ มขึ้นแล้ว
เจียงเหม่ยหยูเ่ องก็ลอบยิม้ บาง ๆ ตั้งแต่ตอนที่เหลียนเออร์กลับมา
จากในวังก็ได้บอกกับนางไว้แล้ว ว่าในวันราลึกนี้ ช่วงเวลาที่เคยดี
งามของตู๋กซู ิงหลันจะจุดสิ้ นสุ ดไป เมื่อเห็นเหลียนเออร์มีความ
มัน่ ใจถึงเพียงนั้น นางก็เฝ้ารอคอยไปด้วยเช่นกัน
ครู่ หนึ่ง ‘ตู๋กเู หลียน’ ก็ขยับเข้ามาใกล้นาง หยอดยาหอมให้นาง
วางใจว่า “ท่านย่า วางใจเถอะเจ้าค่ะ นางตายแน่แล้ว”
คราวนี้ เจียงเหม่ยหยูค่ ่อยวางใจลงได้เช่นกัน
หลี่กงกงเช็ดเหงื่อเย็นบนใบหน้า ขณะที่ตระเตรี ยมจะใช้คนไปเชิญ
เสด็จไทเฮา เท้ายังไม่ทนั จะก้าวออกไป ก็เห็นวางที่เชิงเขาด้านล่างมี
ความเคลื่อนไหว
เสี ยงฝี เท้าม้า และเสี ยงคนเดินเท้า สร้างผงฝุ่ นปลิวคลุง้ ขึ้นมาจาก
พื้นดิน
ผูค้ นทั้งหลายต่างมองลงไป ก็เห็นฝุ่ นคลุง้ พัดมาจนถึงบริ เวณที่มีดอก
ชมจันทรางอกงาม ค่อยหยุดลง ผูค้ นสิ บกว่าคนปรากฎตัวขึ้นมา
ครู่ หนึ่งค่อยมองเห็นว่า ที่แท้กค็ ือ…….
ตอนที่ 73 เกิดมางดงามก็ได้ ทุกอย่ างไป
ครู่ ต่อมาสิ่ งที่กระทบสู่ สายตาของพวกเขาก็คือ ประกายแวววาวของ
คมดาบใหญ่! และยังมีเกราะเหล็กสี เงินยวง!
ภายใต้แสงอาทิตย์แรงกล้าสาดส่ อง ดาบใหญ่และเสื้ อเกราะเงินยิง่
สะท้อนประกายแสงสว่าง พาให้คนทั้งหลายต้องปิ ดตามอง ด้วย
เกรงว่าแสงนี้จะทาร้ายดวงตาจนมืดบอด
เพียงปิ ดตาไปไม่กี่ลมหายใจเข้าออก ก็พบว่าทหารของตระกูลตู๋กู
หลายสิ บคนเดินขึ้นเขามาแล้ว พวกเขาทุกคนพกดาบ ปล่อยผมยาว
คึกคักประหนึ่งกาลังจะไปออกศึกสังหารศัตรู
อีกทั้งใหหมู่พวกเขา มีมา้ ขาวปลอดราวหิ มะตัวหนึ่ง และท่านแม่ทพั
ผูพ้ ิชิตที่องอาจ ถือดาบทลายภูผานาทางม้าตัวนั้นขึ้นมา คนก้าวเดิน
อย่างขึงขังไม่มองใครทั้งซ้ายขวา
แม่นางน้อยที่อยูบ่ นหลังม้า งดงามประหนึ่งภาพวาด เส้นผมยาวของ
นางพลิ้วไหว เมื่ออยูใ่ ต้ประกายของคมดาบที่แวววาวและดอกชม
จันทรา ก็ยงิ่ สร้างความตื่นตะลึงอันน่าประทับใจ!
ชัว่ ขณะนั้นสายตาของผูค้ นทั้งหลายต่างจับจ้องอยูบ่ นร่ างของนาง
จนไม่อาจละสายตาได้
หากจะเว้นวรรคอุปนิสยั ใจคอของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ก่อน รู ปโฉม
ของนางจัดว่างามล้ าเลิศจริ ง ๆ งามเสี ยจนพาลให้สายตาพร่ ามัว
ดึงดูดจิตวิญญาณ เพียงได้พบหน้าสักครั้งก็ไม่อาจลืมเลือนได้เลย
ความงามที่สามารถทาให้อดีตฮ่องเต้ทรงสดุดพระทัยจนถึงขั้น
สิ้ นพระชนม์ ย่อมจะต้องไม่ธรรมดาอยูแ่ ล้ว
แม้จะสวมชุดขาวเหมือนกัน แต่นางงดงามจนโลกต้องตื่นตะลึงดุจ
เทพธิดาที่จุติลงมา ความงามของเต๋ อเฟยดูบอบบางปานจะปลิวลม
แต่กเ็ ป็ นเพียงหยกงามในบ้าน เมื่อเปรี ยบเทียบกันแล้ว เต๋ อเฟยย่อมสู ้
ไม่ได้แม้แต่นอ้ ย
จีเฉวียนเองก็จอ้ งมองนาง พระองค์ทรงคุน้ เคยกับตู๋กซู ิ งหลันที่สวม
ชุดกระโปรงผ้าป่ านดาอมเขียว คุน้ เคยกับท่าทีหยาบกระด้างไร้สกุล
รุ นชาติของนาง
ทั้งยังเคยเห็นนางทากิริยาหยาบคายได้อย่างไม่อายผูค้ น
แต่วา่ ยังไม่เคยเห็นนางยามสง่างามดุจเทพธิดามาก่อน
นางขี่มา้ มาท่ามกลางดอกชมจันทราที่รายล้อม ไหนเลยจะเป็ นเพียง
สาวน้อยบอบบางได้ กลับมีความอาจหาญที่บรรยายไม่ถูกอยูห่ ลาย
ส่ วน
คงจะเป็ นเพราะได้รับอิทธิพลจากแม่ทพั ตู๋กจู ุนมาเป็ นแน่
จีเย่วเ์ องก็เหม่อลอยไปเสี ยแล้ว เขากับหลันเอ๋ อร์เติบโตมาด้วยกันแต่
เล็ก ตอนที่นางยังไม่ได้เข้าวัง กององครักษ์ที่ติดตามยามออกไปข้าง
นอกยังมากมายกว่านี้ไม่รู้เท่าไหร่ แต่วา่ ไม่มีสกั ครั้งที่จะดูเปล่ง
ประกายหาญกล้าเช่นยามนี้
นางเติบโตกลายเป็ นสุ ขมุ สง่างามเช่นนี้ต้ งั แต่เมื่อไหร่ กนั ?
รอจนกระทัง่ ขบวนเข้ามาใกล้ ผูค้ นค่อยเห็นว่าบนหลังม้าด้านหน้า
ของสาวน้อย มัดเอาไว้ดว้ ยบุรุษชุดเขียวผูห้ นึ่ง
ใบหน้าของบุรุษนั้นคว่าอยูบ่ นหลังมา ผูค้ นจึงไม่อาจมองเห็นเขาได้
อย่างชัดเจน ดูไปก็คงจะไม่ใช่คนสาคัญอะไร ก็ผมู ้ ีตาแหน่งที่ไหน
จะสวมใส่ เสื้ อผ้าแบบชาวบ้านธรรมดาเช่นนี้?
เมื่อเข้ามาใกล้ ตู๋กจู ุนก็จูงม้า นาขบวนทหารติดตามมาจนถึงเบื้อง
พระพักตร์ฮ่องเต้
“โยววว ทุกท่านยังรี บร้อนมาก่อนเราอีกนะเนี่ย ช่างทาให้เราปลาบ
ปลื้มยิง่ นัก ” ตรัสแล้ว นางก็หย่อนสายบังเ**ยน เตรี ยมพลิกตัวลง
จากหลังม้า
ผูค้ นทั้งหลาย “…..” ความสามารถของนังตัวร้ายนี่แค่กระพริ บตาก็
เสกถ้อยคาร้ายกาจออกมาได้เสมอ นี่มนั เกือบจะยามเที่ยงแล้ว เจ้ายัง
เรี ยกว่ารี บร้อนมา?
ตู๋กซู ิงหลันยังไม่ทนั ได้ขยับตัว ก็เห็นพี่ชายตนเองขยับเข้ามาใกล้ถึง
ข้างตัวนาง ยืนมืออกมายกตัวนางไว้ “มา พี่ใหญ่อุม้ ”
ในใจของตู๋กซู ิงหลันคิดจะบ่ายเบี่ยง แต่ไม่อยากจะปฎิเสธความ
จริ งใจของพี่ชาย ตู๋กจู ุนใช้แขนเดียวโอบรอบใต้แขนนาง ยกทั้งตัว
ขึ้นอย่างสบาย ๆ โอบอุม้ เอาไว้ในอ้อมอกของเขา จากนั้นค่อย ๆ
วางนางลงอย่างระมัดระวัง
จากนั้นยังไม่ลืมช่วยนางจัดแต่งเสื้ อผ้าและทรงผมให้เรี ยบร้อย น้อง
น้อยออกมาปรากฎตัว ไม่วา่ ที่ใดตรงไหนจะต้องดูแลให้สวยงาม
ฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรดูภาพเบื้องหน้า เมฆหมอกในสายพระ
เนตรก็เปลี่ยนเป็ นสายฟ้าลัน่ เปรี้ ยงปร้างพายุฝนกระหน่าครึ้ มมาแล้ว
สตรี ที่สมควรตายผูน้ ้ ี! ทาไมถึงปล่อยให้บุรุษมากอดนาง อุม้ นาง
ได้?
นางจดจาฐานะของตนเองไม่ได้หรื อยังไง? นางเป็ นสตรี ม่าย สมควร
อยูใ่ ห้ห่างไกลจากบุรุษ!
ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกเขินอายเล็กน้อย มีชีวิตมาสองชาติภพนี่กลับเป็ นครั้ง
แรกที่ได้รับการดูแลดัง่ เด็กน้อย แถมยังเป็ นต่อหน้าผูค้ นมากมาย จึง
รู ้สึกว่าทาเกินหน้าเกินตาไปสักหน่อย
เต๋ อเฟยยืนอยูข่ า้ งกายจีเฉวียน พอเห็นนังหญิงร้ายนัน่ ปรากฎตัวขึ้น
เดิมก็ตกตะลึงมากแล้ว พอยิง่ เห็นสายพระเนตรขุ่นมัวของฝ่ าบาท
ความประหลาดใจของนางก็แปรเปลี่ยนเป็ นโกรธเกรี้ ยวรุ นแรง
ดู๋ดูฝ่าบาทสิ …….พระอารมณ์ของพระองค์ท้ งั หมดเป็ นเพราะนังสวะ
นัน่ !
นางหันกลับไปจ้องตาตู๋กูเหลียน ใช้ประกายตาที่แหลมคมประหนึ่ง
ปลายดาบสอบถามนาง
ตู๋กเู หลียนเองก็แสดงท่า ‘ตกตะลึง’ ออกมา ค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้
นาง กล่าวเสี ยงเบาที่ขา้ งหูนางว่า “เต๋ อเฟยเพคะ หม่อมฉันเห็นนาง
ลงมือฆ่าฉีผนิ ด้วยตาตนเอง นี่จะต้องเป็ นอุบายผีหลอกของตู๋กูจุน
ช่วยเหลือนางออกมาแน่”
เต๋ อเฟยขมวดคิว้ มุ่น นางมองเข้าไปในดวงตาของตู๋กเู หลียนด้วย
ความสงสัยอยูห่ ลายส่ วน
ตู๋กเู หลียนกับตู๋กซู ิงหลันที่สุดแล้วยังคงเป็ นลูกพี่ลูกน้องกัน หากไม่
ระวังปล่อยให้ท้ งั สองคนร่ วมมือกันอาจหันมาทาร้ายนางเอาได้ ใน
วังหลังนี้ ไม่วา่ ผูใ้ ดก็เชื่อถือไม่ได้ท้ งั นั้น
ต่อหน้าผูค้ นมากมายนางย่อมไม่สมควรพูดคุยสนิทสนมตู๋กเู หลียน
มากไป ได้แต่ใช้สายตาข่มขู่ หากว่านังนี่มนั กล้าทาเรื่ องเช่นนั้น
ขึ้นมาจริ ง ๆ ละก็ ต่อให้นางต้องตายก็จะไม่ยอมให้มนั ได้อยูร่ อด
ปลอดภัยอย่างเด็ดขาด
ดวงตาดอกท้อนั้นจ้องมองมาทางเต๋ อเฟยอย่างประหลาดใจ “ย่าห์
เต๋ อเฟยน้อยก็มาด้วยแล้ว ร่ างกายดีข้ ึนแล้วหรื อ? กระโดดโลดเต้นได้
หรื อไม่? หากว่ายังกระโดดโลดเต้นไม่ได้ ก็รีบกลับวังไปพักผ่อน
เสี ยเถอะนะ เราเกรงว่าร่ างกายเจ้าจะทนไม่ไหว เกิดเป็ นลมเป็ นแล้ง
ไป เราคงปวดใจแย่? “
เต๋ อเฟย “………..” นังตัวร้ายนี่ช่วยปิ ดปากเสี ยบ้างได้ไหม? ฝี ปาก
ดัง่ อีกาค่อยแต่จะสาปแช่งนางหรื อไง?
ด้านฮ่องเต้ผทู ้ รงไม่ได้รับความสนใจใด ๆ ทั้งสิ้ น “……..” เขาเป็ น
ถึงฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าโจว แต่ในสายตาของสตรี นางนี้กลับสู ้พระ
สนมคนหนึ่งไม่ได้หรื อไร?
เต๋ อเฟยงามกว่าเขาหรื อไง? มีเงินทองมีอานาจมากกว่าเขาหรื อไง?
ไยจึงเอาแต่สนใจเต๋ อเฟยเท่านั้น?
ฮ่องเต้ทรงขบพระทนต์ อดกลั้นโทสะในพระทัย ทรงดาริ วา่ หาก
กลับเข้าวังเมื่อไหร่ จะต้องให้นางได้รู้สานึก
นางจะต้องได้รู้วา่ ในแคว้นต้าโจวนี้ ตัวเขาจีเฉวียนคือผูท้ ี่สูงศักดิ์
ที่สุด ใครก็ไม่อาจมีความสาคัญในสายตาของนางเกินเขาทั้งสิ้ น!
ฮืม!
“ไทเฮาเพคะ พระสนมเต๋ อเฟยทรงเสด็จมาตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่เพียงแต่
มา แต่ยงั นายันต์เสริ มวาสนาในภพหน้าจากท่านนักพรตอู๋เจินแห่ง
อารามเทียนเก๋ อกวนมาด้วย น้ าใจเช่นนี้ แม้แต่ลูกหลานในตระกูลตู๋กู
ของบ้านเราคงไม่อาจเทียบได้”
ทันใดนั้น เจียงเหม่ยหยูก่ า้ วออกมา พูดพลางนากล่องใส่ ยนั ต์ออกมา
อวด “น่าสงสารพีส่ าวตอนยังมีชีวิตอยูร่ ักเอ็นดูพวกเจ้านัก พอตาย
ไปแล้วลูกหลานพวกนี้ แม้แต่แค่มาร่ วมงานก็ยงั มาสาย ช่างใจ
ดา……”
ผูค้ นทั้งหลานต่างเห็นพ้องด้วยแล้ว เจ้าดูสตรี เลวร้ายผูน้ ้ ีสิ นางมา
สายก็แย่แล้ว แต่นี่สายโด่งขนาดนี้!
สายโด่งยังไม่พอ ยังจะต้องมากระแนะกระแหนเต๋ อเฟยอีก หรื อว่า
เกิดมาสวยก็ไม่ตอ้ งมีความกตัญญูแล้วหรื อ? อยากจะทาอะไรก็ได้
ทุกอย่างหรื อไง?
หากว่าเย่วฮูหยินยังมีชีวิตอยูล่ ะก็ คงอยากจะไล่ลูกหลานเช่นนี้
ออกไป แล้วรับเอาพระสนมเต๋ อเฟยไว้เป็ นหลานแทนแน่นอน
ตู๋กซู ิงหลันเหลือบมองกล่องนัน่ แวบหนึ่ง ค่อยตอบอย่างแปลกใจว่า
“ย่าห์ นี่ช่างล้ าค่ายิง่ นัก”
นางพูดอย่างจริ งใจ แต่วา่ ผูค้ นทั้งหลายกลับรู ้สึกว่านางแกล้งทา
แปลกใจ เพื่องัดข้อกับเต๋ อเฟย
เจียงเหม่ยหยูอ่ ดจะสะใจไม่ได้ นางค่อย ๆ ถอนหายใจเบา ๆ “ทุก
สิ่ งในวันงานราลึกพี่สาวนี้ ข้าล้วนแต่จดั การด้วยมือตนเอง ไทเฮา
และท่านแม่ทพั ไม่อยากเหน็ดเหนื่อยก็แล้วไปเถอะ แต่วนั นี้คงไม่
ได้มามือเปล่าใช่ไหม? “
ตามธรรมเนียมแคว้นต้าโจวแล้ว ในวันราลึกลูกหลานจะต้อง
จัดเตรี ยมสิ่ งของสาหรบเซ่นไหว้ ดูสิวา่ นังตัวร้ายนี้นอกจากหอบ
ผูค้ นมาด้วยแล้ว ยังจะมีสิ่งใดอีกหรื อไม่?
ตอนที่ 74 เราเป็ นฮ่ องเต้ ผ้ ูประเสริฐ
เป็ นถึงไทเฮาแท้ ๆ แต่ธรรมเนียมเล็กน้อยยังไม่รู้จกั กระทาหรื อ? น่า
อับอายขายหน้านัก!
แต่วา่ หากถอยอออกมาพิจารณาดูห่าง ๆ ต่อให้วนั นี้นางและตู๋กูจุน
นาสิ่ งของมากราบไหว้กต็ าม ยังจะเปรี ยบเทียบกับเต๋ อเฟยได้อีก
หรื อ?
นัน่ เป็ นยันต์เสริ มดวงในภพหน้าที่ใช้เวลาตั้งแต่ครึ่ งปี อ้อนวอนขอ
มาด้วยความยากลาบาก!
แล้วยังได้ออ้ นวอนขอมาจากท่านนักพรตอู๋เจินเชียวนะ! ท่าน
นักพรตอู๋เจินเนี่ย! ผูค้ นมากมายตั้งเท่าไหร่ ที่ท้งั ไปคานับไปกราบ
ไหว้อยูห่ ลายครั้งก็ยงั ไม่ได้เข้าพบ!

วันนี้ต่อให้ต๋ ูกซู ิงหลันนาไข่มุกลูกเท่าศีรษะมาเซ่นไหว้กย็ งั เทียบ


ไม่ได้อยูด่ ี
นอกจากว่า……..นางจะสามารถหายันต์ที่สุดยอดมากกว่านี้มาได้
แต่วา่ เจียงเหม่ยหยูข่ บคิดจนสมองระเบิดก็ยงั คิดไม่ออก ว่าในโลกนี้
จะยังมียนั ต์ใดที่เหนือล้ ากว่ายันต์เสริ มดวงในภพหน้าเช่นนี้อีก นาง
ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจริ ง ๆ

“จริ งด้วย ไทเฮาเพคะ ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิต ด้วยฐานะของท่านทั้งสอง


คงไม่ถึงขนาดที่วา่ แม้แต่ของเซ่นไหว้สกั ชิ้นก็ยงั ไม่มีหรอกใช่ไหม?
” มีบางคนเริ่ มพูดตามขึ้นมา
ผูค้ นที่มากันในวันนี้ ก็ใช่วา่ จะมีแต่มิตรสหายในอดีตของตระกูลตู๋กู
เท่านั้น ยังมีพวกคิดจะมาจับปลาตอนน้ าขุ่นอยูไ่ ม่นอ้ ย เมื่อเห็นว่ามี
เรื่ องสนุกก็ยอ่ มไม่พลาดที่จะขยายความให้เป็ นเรื่ องใหญ่
อย่าว่าแต่ฮ่องเต้กย็ งั ทรงประทับอยูท่ ี่นี่ดว้ ย ทุกคนต่างก็รู้กนั ดีวา่ ฝ่ า
บาทไม่โปรดตระกูลตู๋กู ถึงแม้วา่ วันนี้จะมาเพื่อกราบไหว้สุสานของ
เย่วฮูหยินก็เถอะ แต่วา่ น้ าหนักน่าจะไปทางเสด็จมาชมเรื่ องน่า
หัวเราะเยาะเสี ยมากกว่าละมั้ง?
ดังนั้นหากว่าใครสามารถสร้างเรื่ องมาหยามหยันสองพี่นอ้ งตู๋กูจุน
ได้สกั หน่อย ก็อาจจะเรี ยกความสนพระทัยจากฝ่ าบาทได้

ฮ่องเต้ทรงประทับยืนอยูท่ ่ามกลางหมู่บุปผา ไม่ได้ทรงตรัสสิ่ งใด


พระองค์กาลังดาริ วา่ เมื่อเอาตัวตู๋กซู ิ งหลันกลับวังไปแล้วจะทรงให้
แขวนเอาไว้แล้วเฆี่ยน หรื อว่ามัดเอาไว้แล้วทุบ หรื อว่าเอาแก้วแหวน
สมบัติแวววาวทั้งหลายมาวางหราต่อหน้านางให้นางดูจนตาบอดดี
ดวงตาคู่น้ นั แม้แต่ฮ่องเต้ผอู ้ งอาจเปี่ ยมบุญบารมีเช่นพระองค์ยงั ทา
เป็ นมองไม่เห็น มีเอาไว้กไ็ ร้ประโยชน์เสี ยเปล่า ๆ
หลี่กงกงที่ยนื อยูข่ า้ งพระองค์เหงื่อไหลโทรมไม่หยุด ทั้งไม่ลืมที่จะ
หาช่องสบตาตู๋กซู ิงหลันให้ได้ ไทเฮาของบ่าวเอ๋ ย วอนท่านตรัสกับ
ฝ่ าบาทสักคาเถอะ!
ต่อให้เป็ นแค่เสี ยง ‘ไง’ ก็ได้พะยะค่ะ
แต่วา่ ตู๋กซู ิงหลันกลับทาเสมือนตาบอด แม้แต่หลี่กงกงก็ยงั มองไม่
เห็นเสี ยแล้ว
ตอนนี้นางไม่อยากมองหน้าจีเฉวียน พอมองหน้าจีเฉวียนในสมอง
เป็ นต้องเห็นภาพศีรษะของเขาถูกตัดขาด เลือกกระเด็นพุง่ สู งขึ้นไป
สามเมตร
และยิง่ สมองแล่นนางยิง่ รู ้สึกตื่นเต้นสะใจ……
นางกลัวว่าหากมองมากไป ตัวเองจะอดใจไม่ไหว ไปคว้าเอาดาบ
ของพี่ใหญ่มาตัดหัวเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ดว้ ยตนเอง
อีกด้านหนึ่ง ตู๋กูจุนมองดูพวกชอบกระพือไฟสร้างเรื่ องพวกนั้น เขา
อยากจะตวัดดาบออกไปปาดลิ้นพวกมันให้หมด แต่ละตัวจิ๊ ๆ จ๊ะ ๆ
ช่างน่าหนวกหูแทบตายแล้ว
หากไม่ใช่เพราะเขารับปากน้องเล็กเอาไว้ต้ งั แต่แรก ว่าไม่อาจลงมือ
โดยพลการ พวกมันจะอวดกล้าถึงเพียงนี้หรื อ?
กองทหารของตระกูลตู๋กเู องก็ยนื ประจาอยูด่ า้ นหลังของพวกเขา
คุณหนูถูกคนรังแกทั้งที่อยูต่ ่อหน้าต่อตาพวกเขาเช่นนี้นะหรื อ?
ไม่เห็นหรื อไง? ดาบใหญ่ของพวกเขากาลังกระหายจนยากจะระงับ
ไว้แล้ว
ท่ามกลางเสี ยงพูดคุยพึมพาของผูค้ น เต๋ อเฟยค่อยออกปากกล่าวอย่าง
อ่อนโยนแผ่วเบาว่า “ทุกท่านอย่าได้มวั แต่พดู กันอยูเ่ ลย ทุกสิ่ งที่ขา้
ทาไม่ถือว่ามีค่าอะไร ไทเฮาและท่านแม่ทพั ต่างก็เป็ นหลายชาย
หลานสาวสายตรงของเย่วฮูหยิน ขอเพียงพวกเขามาก็ถือว่าเป็ นการ
ให้ความเคารพเย่วฮูหยินอย่างที่สุดแล้ว”
ฟังสิ ฟัง! ระหว่างคนกับคนทาไมถึงได้ผดิ แผกแตกต่างกันจนถึง
ขนาดนี้นะ?
แค่มาก็ถือว่าให้ความเคารพอย่างที่สุดแล้ว แบบนี้มนั มีที่ไหนกัน
ลูกหลานที่อกตัญญูเช่นนี้ จะมีหรื อไม่มีกถ็ ือว่าช่างเถอะ!
“พระสนมเต๋ อเฟยเพคะ ท่านช่างงดงามและมีเมตตา แคว้นต้าโจวมี
พระสนมเช่นท่านถือเป็ นบุญยิง่ นัก” เจียงเหม่ยหยูร่ ี บกล่าว
จากนั้นนางก็ไม่ลืมหันไปมองสองเดรัจฉานสายตรงนัน่ ด้วยสายตา
ตาหนิ ทาไมนะทาไมฝ่ าบาทถึงไม่ทรงขังนังเด็กร้ายกาจนัน่ เอาไว้ใน
ตาหนักเย็นจนตายไปเลยนะ?
ปล่อยมันออกมาง่าย ๆ ให้เป็ นปี ศาจเช่นนี้น่ะหรื อ?
แล้วก็เจ้าตู๋กจู ุนนัน่ ให้มนั อยูท่ ี่ชายแดนดินแดนเป่ ยเจียงนัน่ ไป
อย่าได้กลับมาตลอดไปเลยก็ดี!
พอพวกเขาชื่นชมเต๋ อเฟยกันเสร็ จแล้ว ก็เริ่ มหันปลายหอกมาทางตู๋กู
จุนพี่ชายน้องสาว
ก็ผา่ นมาตั้งครู่ ใหญ่แล้ว ฝ่ าบาทยังไม่ทรงตรัสสิ่ งใดสักคา แสดงว่า
ทรงพอพระทัยกับการแสดงออกของพวกเขาแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันโก่งคิ้วงามดัง่ คิ้วไต้หยูข่ ้ ึน ใช้มือตีหน้าผากตนเองเบา ๆ
ดวงหน้าของนางแดงเล็กน้อย คล้ายกับละอายจนอยากจะมุดพื้นลง
ไปอยูร่ อมร่ อ
เห็นท่าทางของนางเช่นนั้น ผูค้ นก็ยงิ่ เปิ ดประเด็นสร้างข้อหาขึ้นมา
อีก
“ไทเฮา พะยะค่ะ ท่านแม่ทพั ขอรับ เหตุใดพวกท่านจึงไม่กล่าววาจา
เสี ยบ้าง คงจะไม่ใช่เพราะว่าไม่ได้เตรี ยมอะไรมาจริ ง ๆ ใช่ไหม? “
ในยามนี้จีเย่วป์ วดใจขึ้นมาจริ ง ๆ แล้ว ไม่วา่ เสี ยนไท่เฟยจะรั้งเอาไว้
อย่างไรเขาก็ตอ้ งการจะไปยืนอยูเ่ คียงข้างตูกซู ิ งหลัน
เขาก้าวออกไปด้านหน้าหลายก้าวใหญ่ ยืนขวางอยูด่ า้ นหน้าของตู๋กู
ซิงหลันเอาไว้ สายตาเปี่ ยมไปด้วยแววเย็นชา กวาดมองผูค้ น
ทั้งหลาย “ที่พวกเจ้าพากันมาในวันนี้ ก็เพื่อจะมากราบไหว้เย่วฮูหยิน
หรื อว่ามาหาเรื่ องกัน? “
ผูค้ นทั้งหลายต่างตกตะลึงไป แทบจะไม่มีใครคิดมาก่อนว่าอี้อ๋องจะ
กล้าพูดคลี่คลายสถานการณ์ให้กบั ตู๋กซู ิงหลัน
“ไทเฮาพระชนม์มายุยงั เยาว์ ถูกกักอยูใ่ นตาหนักเย็นมาตั้งนาน
แม้แต่อาหารยังกินไม่อิ่มท้อง พวกเจ้าจะหวังให้นางเอาสิ่ งใดมา
กราบไหว้กนั ? “
เขาเคยเห็นกับตาตนเอง นางหิวโหยเสี ยจนต้องลอบเข้าไปห้อง
เครื่ องเพื่อขโมยของกิน
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็รู้กนั ดีวา่ อี้อ๋องเป็ นบุรุษที่สุภาพอ่อนโยนมาโดย
ตลอด แต่วา่ มาคราวนี้ น้ าเสี ยงของเขากลับเหน็บหนาวและเย็นชา
ราวกระบี่เล่มหนึ่ง
ดาบทะลายภูผาของพี่ใหญ่เบื่อหน่ายจนทนไม่ไหวแล้ว นี่มนั เรื่ อง
ตลกอันใด? ตอนที่นอ้ งเล็กอยูใ่ นตาหนักเย็นแม้แต่ขา้ วก็ได้กินไม่พอ
อิ่มท้องหรื อ?
จีเฉวียนไอ้ฮ่องเต้สุนขั มันทาเช่นนั้นจริ ง ๆ เรอะ!
เขาหันไปมองจีเฉวียน แต่จีเฉวียนกลับทอดพระเนตรไปยังจีเย่ว์
กับตู๋กูซิงหลัน
ดาบทะลายภูผาเล่มใหญ่ยงั ไม่ทนั ได้ขยับ ก็เห็นฮ่องเต้ทรงสบัดชาย
แขนฉลองพระองค์ เสด็จมาทางด้านข้างของตู๋กูซิงหลัน
สายลมพัดโชยฉลองพระองค์สีดาของพระองค์ กระทัง่ พระเกศาดก
ดายาวก็พลอยเริ งราบาขยับปลิว สายพระเนตรเปล่งประกายเย็นยะ
เยือกราวกับแสงสะท้อนจากภูเขาน้ าแข็ง
ชัว่ ขณะนั้นราวกับว่ามีไอเย็นกาจายรายล้อมออกมาจากรอบ
พระองค์
พระองค์มิได้ทรงทอดพระเนตรมองอี้อ๋องแม้แต่นอ้ ย แต่กลับดึงตู๋กู
ซิงหลันมาที่ดา้ นข้างพระองค์ ฝ่ ามือใหญ่โตนัน่ เกาะกุมข้อมือของ
นางไว้อย่างแม่นมัน่ สายพระเนตรคมกล้าและเย็นชา
ตู๋กซู ิงหลันยั้งตัวไม่ทนั ก็กระแทกเข้ากับพระอุระ ศีรษะของนางแทบ
จะปูดบวมเป็ นก้อนซาลาเปาขึ้นในทันที
วิญญาณทมิฬบอกไว้แล้วไม่ผดิ เจ้าสุ นขั นี่มนั กินหิ นเข้าไปถึงได้โต
ขึ้นมาได้!
ขณะเดียวกัน ตู๋กจู ุนและผูต้ ิดตามของเขาก็พากันชักดาบออกมา
จีเย่วเ์ องก็ยนื่ หัตถ์ออกมา คิดจะดึงเอวตู๋กซู ิงหลันกลับไป
จุ๋ ๆ ๆ สถานะการณ์ตอนนี้ พาให้ผคู ้ นใจเต้นตื่นตะลึงด้วยกัน
ทั้งนั้น!
ดูเอาสิ ฝ่ าบาททรงพิโรธเข้าแล้วจริ ง ๆ แน่นอนว่าจะต้องเป็ นเพราะ
อี้อ๋องและตู๋กูซิงหลันแอบลอบกลับมาสานสัมพันธ์กนั ทั้งยังมุ่ง
หมายในพระราชบัลลังก์
ขณะที่ผคู ้ นต่างก็คิดว่าพระองค์ทรงพิโรธขึ้นมาแล้ว ดาริ จะประหาร
ผูค้ นขึ้นมานั้น ก็เห็นฝ่ าบาททรงเค้นรอยยิม้ ออกมาจากพระพักตร์
จดจ้องไปยังตู๋กซู ิงหลันตรัสว่า “ไทเฮาทรงลืมนาสิ่ งของออกจากวัง
มาด้วยแล้ว “
ตู๋กซู ิงหลันชะงักไปจนถูกพระองค์แย้มสรวลเยือกเย็นเข้าใส่ คนอด
รู ้สึกหนาววูบขึ้นมาทั้งตัวไม่ได้
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็ คอยืดคอยาวกันขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ ตก
ลงว่านางลืมนาสิ่ งใดมาด้วยนะ!
เพียงครู่ เดียว ก็เห็นฝ่ าบาททรงมีดาบจากที่ใดก็ไม่อาจทราบได้กาอยู่
ในพระหัตถ์ ตัดพระเกศาริ มพระกันต์ออกมาอย่างเบามือ แล้ววางลง
ในใจกลางฝ่ ามือของตู๋กูซิงหลัน
ผูค้ นทั้งหมดต่างตกตะลึงไปแล้ว ร่ างกาย ผิวหนังและเส้นผม ล้วน
เป็ นสิ่ งที่ได้รับจากบิดามารดา ไม่อาจทาลายได้!
ตู๋กซู ิงหลันเองก็กล่าวสิ่ งใดไม่ออก ได้แต่มองดูปอยผมที่สามารถนับ
ได้ดว้ ยตาเปล่าในมือตนเอง เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ทาอะไร?
จีเฉวียนทรงกุมมือของนางไว้ พันปลายผมทบเข้าในฝ่ ามือของนาง
ค่อยตรัสด้วยพระพักตร์เฉยชาว่า “เจ้าไม่ใช่วา่ พยายามอ้อนวอน
ขอร้องเรา ว่าต้องการหนวดมังกรจากเรา เพื่อนากลิ่นอายของโอรส
สวรรค์มาเซ่นไหว้ท่านย่าหรอกหรื อ? ทาไมเรื่ องสาคัญเช่นนี้ถึงได้
ลืมไปได้เล่า?
ฮึ สตรี เอ๋ ย ขอบพระทัยเราสิ ! ดูสิวา่ เราทาให้เจ้ามีหน้ามีตามาก
เพียงไร!
เราเป็ นฮ่องเต้ผปู ้ ระเสริ ฐที่แท้จริ ง!
ตู๋กูซิงหลัน “!!! “
นางลืมตากลมโตใส่ บุรุษที่อยูต่ รงหน้า จดจ้องไปบนนิลเม็ดใหญ่ที่
ประดับที่อยูบ่ นรัดเกล้าด้วยสี หน้าเจ็บปวด ไอ้ฮ่องเต้สุนขั สุ ดตระหนี่
ขี้งก! เอาผมมาให้ไม่กี่เส้นมาทาเหลวไหลกับผูอ้ ื่น!
หากว่ามีความสามารถจริ ง ก็เอานิลเม็ดนั้นลงมาเป็ นของเซ่นไหว้สิ
ขอบใจ!
ตอนที่ 75 ไยเราจะต้ องไปหาเรื่ องกับสมบัติเงินทองด้ วย
ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นท่าทางที่ตื่นตะลึงจนพูดไม่ออกของนาง
ในพระทัยก็เกิดความพอพระทัยขึ้นมาบ้าง
เห็นไหม นางซาบซึ้งใหญ่แล้ว
แต่พอพระองค์ทรงทอดพระเนตรไปเรื่ อย ๆ ก็ชกั จะทรงรู ้สึก
พระองค์วา่ บางสิ่ งไม่ถูกต้อง ทาไมนางถึงได้เอาแต่มองไปยังรัดเกล้า
ของพระองค์?
หรื อว่าพระองค์จะทรงงามสู ้รัดเกล้าอันนี้ไม่ได้กนั ?
ไม่ถูกสิ …..สายตาของนางเป็ นประกายวูบวาบด้วยความโลภหลง
จดจ้องอยูท่ ี่นิลน้ างามบนพระเศียร
ฮ่องเต้ “……..”
ช่างสมควรตาย เขาไม่ควรช่วยเหลือสตรี ผนู ้ ้ ีเพราะความใจร้อน!
เจ้าตัวไม่รู้จกั ความกตัญญู! พระเกศาของฮ่องเต้ถือเป็ นของสู งค่า
เปี่ ยมด้วยพระบารมีของกษัตริ ย ์ แต่ในสายตาของนางกลับเทียบ
ไม่ได้กบั นิลเม็ดหนึ่ง?
ฮ่องเต้ทรงอยากจะกระชากเอารัดเกล้าบนพระเศียรมากระทืบให้เป็ น
ผุยผง แต่พอทรงดาริ ยอ้ นไปมาว่ารัดเกล้านี้ทาจากทองคาบริ สุทธ์
นิลเม็ดนี้กม็ ีค่าควรเมือง ครู่ หนึ่งก็สงบพระทัยลงได้
เส้นผมตัดไปแล้วยังงอกยาวใหม่ได้ แต่นิลน้ างามหากแตกร้าวก็
หมดคุณค่า
ช่างเถอะ ไยเราจะต้องไปหาเรื่ องกับสมบัติเงินทองด้วย
ไม่มีผใู ้ ดเข้าใจน้ าพระทัยอันซับซ้อนของฝ่ าบาท เพราะถูกดวงพระ
พักตร์หล่อเหลางดงามนั้นสะกดอยู่ เสมือนหนึ่งจ้องมองบุปผชาติ
บนชะง่อนผาที่ไม่อาจได้มาเชยชม
ฉะนั้นผูค้ นทั้งหลายจึงได้แต่ตื่นตะลึงจนลูกตาแทบหลุดออกมา ที่ฝ่า
บาทถึงขนาด….ประทานเส้นพระเกศาให้กบั นังตัวร้ายนัน่ ไปเป็ น
ของกราบไหว้เลยหรื อ?
ทัว่ ทั้งแคว้นต้าโจวนี้ ถึงแม้เป็ นชาวบ้านธรรมดาทั้งหลายก็ไม่มีผใู ้ ด
ยอมตัดผมโดยง่าย!
พระเกศาของกษัตริ ย ์ นัน่ ยิง่ เป็ นที่เคารพอย่างสู งสุ ด!
ชัว่ ขณะนั้นพวกเขาแต่ละคนต่างก็รู้สึกเหน็บหนาวไปทั้งตัวขึ้นมา
เดิมทีพวกเขาคิดว่า….ฝ่ าบาททรงเกลียดชังตระกูลตู๋กเู สี ยอีก
แต่วา่ ตอนนี้ ฝ่ าบาทกลับทรงตัดพระเกศาให้กบั เย่วฮูหยินที่จากไป
นานถึงสิ บปี แล้ว!
ยันต์ภพหน้าของพระสนมเต๋ อเฟยถึงแม้ล้ าค่าหายาก แต่วา่ เมื่อ
เปรี ยบเทียบกับเส้นพระเกศาของฝ่ าบาทแล้ว…..ไม่สิ นี่มนั
เปรี ยบเทียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ า?
มีไอมังกรของโอรสสวรรค์เป็ นสิ่ งราลึก เกิดใหม่ชาติหน้ายังจะมิใช่
ผูส้ ู งศักดิ์มากบารมีอีกหรื อ?
ตู๋กจู ุนที่ตอนแรกกุมดาบกระชับมัน่ ไว้กอ็ ดจะคลายมือลงไม่ได้
ตอนนี้แม้แต่ตวั เขาเองก็มองจีเฉวียนไม่ออกแล้ว ทาเช่นนี้เพื่ออะไร?
อยากจะผูกมิตรกับครอบครัวของเขาหรื อ?
คิดไปก็น่าจะใช่อยู่ ถึงแม้ฮ่องเต้สุนขั องค์น้ ีจะเกลียดชังพวกเขาเพียง
ไหน แต่อย่างไรก็จาเป็ นต้องให้พวกเขาช่วยเหลือขยายดินแดน ออก
ศึกปราบศัตรู ฉะนั้นแล้วการแสดงออกครั้งนี้ของเขานับว่ากระทาได้
ยอดเยีย่ มนัก
เช่นเดียวกับท่าทีที่เขาปฎิบตั ิต่อน้องเล็ก ต่อหน้านับว่าพอจะให้
เกียรตินางอยูบ่ า้ ง แต่ลบั หลังกลับปล่อยให้นางต้องกินไม่อิ่นนอนไม่
อุ่น ทั้งยังริ บเงินทองของนางไว้
ฉะนั้นว่าไปแล้ว ไม่วา่ เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่จะกระทาสิ่ งใด เขาย่อมทาไป
อย่างมีจุดประสงค์แน่
ไม่อาจหลงเชื่อเขาง่าย ๆ ได้อีกต่อไปแล้ว
จีเย่วย์ นื อยูท่ ี่ดา้ นข้างของพวกเขา มองดูจีเฉวียนที่กุมมือของตู๋กูซิงห
ลันเอาไว้แนบแน่น เนตรของเขาก็ทอประกายเย็นวาบ
ดวงใจเจ็บปวดราวถูกมีดแทง ทั้งเกิดโทสะรุ นแรงและสานึกเสี ยดาย
ยากจะทนทาน
ด้วยสานึกของบุรุษด้วยกัน เขารู็ สึกได้วา่ จีเฉวียนกาลังคิดไม่ซื่อกับห
ลันเอ๋ อร์ ราวกับอสู รร้ายที่คิดครอบครองเหยือ่ ล้ าค่า
หลันเอ๋ อร์ของเขาโดดเด่น งดงามเป็ นเอก จะมีบุรุษใดในโลกหล้าที่
ไม่หวัน่ ไหวได้กนั ?
ต่อให้เป็ นจีเฉวียนที่ชมชอบบุรุษด้วยกัน แต่เมื่อมีสตรี เช่นหลันเอ๋ อร์
ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้า เขาจะยังนิ่งเฉยอยูไ่ ด้หรื อ?
เพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่เดือน เขาก็มีปฎิกิริยาถึงเพียงนี้แล้ว?
หากว่าตอนนั้นตัวเขาแต่งหลันเอ๋ อร์มาเป็ นภรรยาเสี ยก่อน ก็คงไม่
ต้องมามีเรื่ องทรมานใจเช่นนี้แล้ว!
อีกด้านหนึ่งเสี ยนไท่เฟยทรงกางร่ มเสด็จเข้ามาใกล้ ก็คว้าชายแขน
ฉลองพระองค์ของจีเย่วเ์ อาไว้มนั่
“เย่เอ๋ อร์ อย่าได้หุนหันเช่นนี้” พระนางกระซิบเสี ยงเบาข้างหูของเขา
ทั้งยังไม่ยอมคลายหัตถ์ออก ดวงเนตรล้ าลึกคู่น้ นั มองไปที่ต๋ ูกซู ิงห
ลันและจีเฉวียนพลันสะท้อนแววแห่งความว้าวุน่ สับสนออกมา
นางประมาทพลังในการดึงดูดของตู๋กซู ิงหลันไปเสี ยแล้ว คิดไม่ถึงว่า
จีเฉวียนจะบังเกิดความรู ้สึกดี ๆ ต่อนางขึ้นมา
ตู๋กซู ิงหลันเองก็มิใช่คนโง่ เมื่อเห็นปฎิกิริยาของผูค้ นทั้งหลาย ก็รู้สึก
ขึ้นมาว่าพระเกศาของเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี้ชกั จะไม่ธรรมดาเสี ยแล้ว
เพราะว่าตามประวัติศาตร์ของจีนแผ่นดินใหญ่ในโลกโน้น หาก
กษัตริ ยต์ ดั พระเกศาก็เสมือนกับเป็ นลางว่าประเทศชาติจะเผชิญ
เภทภัยจนล่มจม
ถึงแม้ในโลกมิติน้ ีแคว้นต้าโจวจะไม่ได้มีธรรมเนียมเช่นนั้น แต่วา่ ดู
ท่าทางแล้วจะเป็ นเรื่ องใหญ่ไม่นอ้ ยกว่ากันเลย
ใจของนางวูบไป มองดูพระพักตร์ของฮ่องเต้ พอเห็นดวงพระเนตร
ที่แวววาวราวกับมีประกายน้ าแข็งคู่น้ นั ก็รู้แล้วว่าเขากาลังเขม่นนาง
นี่ไม่ใช่กลายเป็ นว่าดึงดูดเอาความเกลียดชังมาเข้าตัวทั้งเป็ น ทาให้
นางกลายเป็ นศัตรู ของผูค้ นทั้งหลายหรื อ?
ก็เหมือนกับตอนที่เขาประทานพระตาหนักเฟิ่ งหมิงให้นางอยู่ ทาให้
นางดึงดูดเอาความเกลียดชังของเหล่าพระสนมทั้งหลายเข้ามา
หลังจากวันนี้ไป เกรงว่าชื่อเสี ยงของสตรี ชวั่ ร้ายเช่นนางคงจะถูก
ยกระดับขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
โว้ย! เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ไม่เพียงงดงามน่าดึงดูดระดับเทพเจ้า แต่จิตใจ
ยังลึกซึ้งชัว่ ร้ายอย่างที่สุดด้วย
นางกาเส้นผมเหล่านั้นเอาไว้ในมือ คิดจะผลักมันคืนกลับไปให้เขา
แล้วก็ตดั หัวสุ นขั ของเขาลงมา! พี่ใหญ่ ดาบล่ะ?
ในตอนนี้ เต๋ อเฟยจากที่ตื่นตะลึงได้กลายเป็ นสงบเงียบลงแล้ว นาง
ไม่ได้ถลึงตาโต แต่ในดวงตาของนางกลับปรากฎเส้นเลือดขึ้นมา
ทาไมกัน…..ตั้งแต่อ้ ีอ๋องไปจนกระทัง่ ฝ่ าบาท แต่ละคนต่างต้องการ
ปกป้องนังหญิงสวะนัน่ ?
นางรู ้อยูว่ า่ ตอนนี้ฝ่าบาททรงถูกนังแพศยานัน่ ครอบงาแล้ว แต่คิดไม่
ถึงว่า ฝ่ าบาทจะทรงถูกครอบงาอย่างไม่ลืมหูลืมตาเช่นนี้!
ยามที่ท่านแม่ของนางจากโลกนี้ไป นางเคยทูลขอไข่มุกประดับพระ
มาลาเม็ดหนึ่ง เพื่อเป็ นสมบัติร่วมกลบฝังของมารดา แต่ฝ่าบาทไม่
แม้แต่ทรงรับไว้พจิ ารณาก็ปฎิเสธเสี ยแล้ว
ยามนี้…..พระองค์กลับทรงตัดพระเกศาด้วยพระองค์เองเพื่อท่านย่า
ที่จากไปแล้วหลายปี ของตู๋กูซิงหลัน?!
ดวงใจของเต๋ อเฟยมีแต่ความเจ็บปวด ทั้งความเกลียดชัง ทั้งความ
โกรธแค้น ความขุ่นข้องทั้งหลายทั้งมวลรวมกันอยูภ่ ายใต้การแสดง
ที่มกั จะสงบนิ่ง อ่อนแอ บอบบางของนาง
นางไม่สามารถวางสี หน้าสงบเสงี่ยมต่อหน้าตู๋กซู ิงหลันได้อีกต่อไป
แล้ว ยามที่นางมองไปมีแต่ประกายแปลบปลาบของความอาฆาต
แค้น
นางปี ศาจที่ล่มชาติลา้ งเมือง! ก่อนหน้านี้กย็ ดึ ครองอี้อ๋องเอาไว้!
ตอนนี้กย็ งั จะมายัว่ ยวนฝ่ าบาท นางเป็ นแม่ม่ายแท้ ๆ กลับไม่รู้จกั ใช้
ชีวิตสารวมเลยแม้แต่นอ้ ย!

“พระสนมเพคะ~ ” ยังคงเป็ นซิ่วเหอที่เข้ามาเตือน นางพยุงเต๋ อเฟย


เอาไว้ กลัวว่าพระสนมจะกระทาพิรุธใดออกไป กลายเป็ น
ข้อผิดพลาดให้จบั ได้
เมื่อเต๋ อเฟยหันกลับมา ประกายอาฆาตพยาบาทในดวงตาถึงได้ค่อย
ๆ เลือนหายไป นางกุมหัวใจไว้ ขมวดคิ้วแน่น ท่าทางเสมือนหนึ่ง
จะเป็ นลมล้มลง
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็มองนางด้วยความเห็นใจจนเจ็บปวด ดูพระสนม
เต๋ อเฟยสิ นางทุ่มเทแรงกายแรงใจไปเท่าไหร่ เพือ่ วอนขอยันต์ภพ
หน้า แต่ไหนเลยจะเทียบได้กบั ตู๋กซู ิงหลันที่ใช้มารยาสาไถ
หลอกลวงฮ่องเต้ได้
นางไม่ได้ใช้ความพยายามใด ๆ เลยด้วยซ้ า
แต่กไ็ ม่มีผใู ้ ดกล้ากล่าวออกมาว่าฮ่องเต้ทรงกาลังลุ่มหลงในความ
งามเสี ยจนหัวทิ่ม
เจียงเหม่ยหยูต่ กตะลึงจนสมองชาไปเสี ยแล้ว นี่คือ ‘วันดี ๆ ของนัง
ตัวร้ายนัน่ กาลังจะจบลง’ ที่เหลียนเอ๋ อร์พูดถึงนะหรื อ?
ทาไมนางถึงได้รู้สึกว่าวันดี ๆ ของนางเดรัจฉานนัน่ กาลังจะเริ่ มขึ้น
ต่างหากละ?
นางอ้าปากค้าง คิดจะด่านังเดรัจฉานนัน่ สักหลายคา แต่คาพูดมาถึง
ริ มฝี ปากแล้วกลับไม่อาจเปล่งออกมาได้ พอพึ่งจะกลืนคาเหล่านั้น
ลงท้องไป ก็ได้ยนิ เสี ยง’ตู๋กเู หลียน’ กล่าวออกมาดัง ๆ ว่า “ไทเฮาเพ
คะ วันราลึกถึงท่านย่าของตัวท่านเองแท้ ๆ แต่กลับเอาพระเกศาของ
ฝ่ าบาทมาเป็ นสิ่ งเซ่นไหว้แสดงความกตัญญูแทนท่าน เช่นนี้จะใช้ได้
อย่างไร? “
หากว่านางไม่แสดงออกว่าเกลียดชังตู๋กซู ิงหลันอย่างสุ ดแสนละก็
เต๋ อเฟยไม่สงสัยในตัวนางก็แปลกแล้ว
พอมีคนนาเช่นนี้แล้ว เหล่าผูค้ นทั้งหลายที่มีความไม่พอใจอยูต่ ่างก็
ฮึกเหิมขึ้นมาแล้ว
“จริ งด้วย เห็นชัดเจนเลยว่า ต้องเป็ นพระสนมเต๋ อเฟยต่างหากที่ทุม
เทแรงใจมากที่สุด! “
นางตัวร้ายนี่คิดหรื อว่ามีฝ่าบาทคอยช่วยเหลืออยูเ่ ช่นนี้ แล้วพวกเขา
จะต้องยอมศิโรราบต่อนาง? แล้วนางจะไม่กลายเป็ นลูกหลาน
อกตัญญู!
เต๋ อเฟยเองก็ไม่ได้กล่าวสิ่ งใดแล้ว เพียงแสดงสี หน้าเปราะบาง
อ่อนแอออกมาเท่านั้น
ไร้เสี ยงก็คือมีเสี ยง ยิง่ สามารถเรี ยกความเห็นใจจากคนทั้งหมด
พอ’ตู๋กเู หลียน’ พูดออกมาเช่นนี้ ตู๋กซู ิงหลันถึงได้คิดถึงคนผูห้ นึ่ง
ขึ้นมาได้
ท่ามกลางเสี ยงอื้ออึงของผูค้ น กลับมีเสี ยงของบุรุษผูห้ นึ่งแทรก
ขึ้นมา
” ถ้าเช่นนัน่ ………..ขอให้ขา้ นักพรตขัดจังหวะเสี ยหน่อยแล้วกัน”
ผูค้ นทั้งหลายต่างหันไปมอง ก็พบเห็น…………..
ตอนที่ 76 จอมมารสองชาติภพ
ม้าขาวย่างก้าวเข้ามา บุรุษชุดเขียวที่เดิมถูกจับคว่าไว้บนหลังม้า ถูก
เจ้าม้าขาวพาวิ่งโขยกเขยกเข้ามาใกล้
ขณะที่มา้ เดินไป เขาก็อว้ กโอ้กอ้ากไปด้วย ทุกสิ่ งที่สารอกออกมาก็
กระจายอยูบ่ นดอกชมจันทรา หยดเป็ นทางยาวระยะหนึ่ง ‘รอยเท้า’
เลยทีเดียว
ผูค้ นทั้งหลาย “………..”
นี่มนั อะไรกัน?
แม้แต่ตวั ตู๋กจู ุนเองยังอดที่จะขมวดคิว้ ไม่ได้ ดอกชมจันทราของท่าน
ย่า……….ท่านปู่ ทนุถนอมนัก
ม้าขาวตัวนั้นเยื้องย่างมาจนถึงเบื้องหน้าตู๋กจู ุน ยกเท้าขึ้นตะกุย
อากาศครั้งหนึ่ง ก็สะบัดก้นเสี ยอีกทีหนึ่ง คนที่แบกมาก็ถูกเททิ้งลง
บนพื้น
บุรุษผูน้ ้ นั ยังไม่ทนั ยืนได้มงั่ คง ก็หงายท้องก้นจ้ าเบ้ากับพื้นอีก เขา
เองก็ไม่ได้รีบร้อนลุกขึ้นมา แต่หนั ไปอาเจียนโอ้กอ้ากอีกชุดใหญ่
ค่อยยืน่ มือออกไปหาตู๋กจู ุน “ท่านแม่ทพั รบกวนดึงข้านักพรตขึ้น
หน่อย “
ที่จริ งตู๋กจู ุนรู ้สึกรังเกียจอย่างมาก!
ติดตรงที่วา่ เจ้าคนนี้เป็ นน้องเล็กจับมาด้วยตนเอง จาต้องอดกลั้น
ความไม่พอใจนั้นไว้ ดึงเขาขึ้นมาในครั้งเดียว
คราวนี้ผคู ้ นทั้งหลายถึงสามารถมองเขาได้อย่างชัดเจน บุรุษที่หนวด
เครารุ งรัง หน้าตามันเยิม้ ผูน้ ้ ี ดูไปมีอายุประมาณสามสิ บปี สวมชุด
เขียวสามัญทัว่ ไป ผมเผ้าหน้าตาก็ไร้การตกแต่งไม่มีแม้แต่
เครื่ องประดับ บนลาคอเพียงสวมประคาสายหนึ่ง
บุรุษผูน้ ้ นั พอยืนได้มนั่ คง ก็ใช้ชายแขนเสื้ อของตู๋กจู ุนเช็ดถูมุมปากที่
เปื้ อนคราบอาเจียน
ตู๋กจู ุน “!!! ” อย่ามาจับข้า ชักดาบของเจ้าออกมา!
ยังดีที่ต๋ ูกูซิงหลันเดินเข้ามา ขวางอยูร่ ะหว่างพี่ใหญ่กบั บุรุษผูน้ ้ นั นาง
จับแขนเสื้ อของบุรุษผูน้ ้ นั ไว้ พลางแนะนาต่อผูค้ นทั้งหลายว่า
“เกือบจะลืมไปเสี ยแล้ว เราพาของเครื่ องเซ่นไหว้ช้ นั เลิศมาด้วยนิ? “
ผูค้ นทั้งหลาย “??? “
นางจับบุรุษสกปรกซกมกผูห้ นึ่งมาเป็ นของเซ่นไหว้มีชีวิตหรื อ?
ทาไมกัน หรื อเห็นว่าท่านย่าของเจ้าโดดเดี่ยวอ้าวว้างอยูใ่ นยมโลก
เลยต้องการจะเผาบุรุษสักคนส่ งไปให้หรื อ?
ถ้าเช่นนั้นไยจึงไม่เลือกเอาบุรุษที่หน้าตาดีกว่านี้สกั หน่อยละ!
เจ้าดูคนผูน้ ้ ีสิ เป็ นบุรุษที่ไม่มีความโดดเด่นในที่ใดเลย ดวงตาข้าง
ซ้ายก็มีรอยแผลเป็ นจากคมดาบเสี ยด้วยซ้ า!
ด้วยหน้าตาท่าทางเช่นนี้ แม้แต่ไปเป็ นบ่าวรับใช้ในบ้านยังไม่เป็ นที่
ต้องการเลยด้วยซ้ ามั้ง?
ตู๋กซู ิงหลันคงต้องการล้อเล่นเป็ นแน่ ตัวตลกเช่นนี้ยงั จะกล้านามาโอ้
อวดอีก ฮ่า ๆ ๆ
“โอ๊ยเง็กเซียนบนสวรรค์! ไทเฮาพะยะค่ะ เครื่ องไหว้สกั การะล้วน
ต้องเป็ นสิ่ งของ ข้านักพรตเป็ นมนุษย์ผหู ้ นึ่ง ย่อมไม่อาจใช่แทน
เครื่ องเซ่นสรวงได้ ” บุรุษผูน้ ้ นั รี บยกสองมือไขว้กนั ไว้ ไม่ทนั ไรก็
อดทนไม่ไหว อาเจียนโอ้กอ้ากออกมาอีกสองคา
” นี่เป็ นที่ขบขันต่อทุกท่านแล้ว ข้านักพรตเมาม้า เมื่อครู่ พ่ งึ จะได้สติ
ขึ้นมาหน่อย ” เขาพูดจบแล้ว ก็คิดจะไปคว้าเอาชายแขนเสื้ อของตู๋กู
จุนมาเช็ดปากอีกสักรอบ
ตู๋กจู ุนใช้สายตาอามหิตจดจ้องเขาครั้งหนึ่ง บุรุษผูน้ ้ นั จึงค่อย ๆ เก็บ
สายตากลับไป
นางเจียงเหม่ยหยูก่ ค็ ิดว่าโอกาสดีมาถึงแล้ว นางขมวดหัวคิ้ว ทาเสี ยง
พิลึกกล่าวว่า “ไทเฮา และท่านแม่ทพั ที่นี่คือสุ สานของพี่สาว ไม่ใช่
ที่ใครที่ไหนหรื ออะไรนึกจะมาก็มาได้ เจ้าทั้งสองนาตัวตลกอะไรมา
กัน คิดจะพามาลบหลู่พี่สาวหรื อไงฮึ? “
” ยังจะไม่ใช่อีกหรื อ เจ้าไม่รู้จกั กตัญญู! ” ผีตายโหงในตัว ‘ตู๋กู
เหลียน’ ชักสี หน้า
“ฮูหยินผูเ้ ฒ่าผูน้ ้ ี ท่านไงจึงได้พดู เช่นนั้นเล่า? ” นักพรตผูน้ ้ นั สบัด
แขนเสื้ อเหยียดหลังตั้งตรงประหนึ่งพูก่ นั ด้ามหนึ่ง “ท่านรู ้หรื อไม่วา่
ไทเฮาและท่านแม่ทพั ได้เพียรพยายามมากเพียงไร ถึงได้สามารถ
เชิญข้านักพรตมาประกอบพิธีสวดมนต์ให้กบั เย่วฮูหยินได้ “
จะไม่พยายามอย่างยิง่ ได้หรื อ?
ตอนแรกเขายังปิ ดวาจากักตนอยูใ่ นตึกผานหยุน (เมฆาเคลื่อนคล้อย)
ของอารามเทียนเก๋ อกวนแท้ ๆ ตลอดหนึ่งเดือนที่ผา่ นมาไม่ได้
อาบน้ าตัดแต่งหนวดเคราเลยสักครั้ง ก็ถูกโจรลักพาตัวเอาดาบพาด
คอลากตัวออกมาทั้งอย่างนั้น
ที่จริ งแล้วไอ้ตวั หัวหน้าโจรนัน่ ใช่เลย ก็คือเจ้าตู๋กจู ุนนัน่ ! มัน
โหดเ**้้ยมมาก! พูดไม่ถูกใจแม้สกั คา เอะอะก็จะตัดคอท่าเดียว!
โอ้ยเง็กเซียนของข้า เจ้าพวกนี้มนั พวกชัว่ ร้าย ชัว่ ร้ายจริ ง ๆ
จากนั้นไทเฮาน้อยชื่อเสี ยงเหม็นกระฉ่อนนั้น ก็จบั เขาขึ้นม้าเร่ งรี บมา
ตลอดทางจากอารามเทียนเก๋ อกวนจนถึงที่นี่
ระหว่างทางที่มานั้น ไทเฮาน้อยนัน่ ยังใช้ดาบสั้นเจ็ดนิ้วมาคอย
กระตุน้ สติของเขาอยูต่ ลอด สร้างความหวาดผวาไม่รู้จกั จบจักสิ้ นอยู่
ในสมองของเขา นางช่างรู ้จกั วิธีการมากมายนัก!
ทั้งยังโหดอามหิ ตยิง่ เสี ยกว่าตู๋กจู ุนเสี ยอีก ข่มขู่เสี ยงจนเขาไม่อาจไม่
ยินยอม ไม่กล้าจะขัดขืนนาง
แน่นอน ประเด็นสาคัญนัน่ ก็เพราะว่า ไทเฮาน้อยนาง…..
น่าเสี ยดายเป็ นเพราะเมาม้ามากไป ตลอดทางเมาจนแทบไม่ได้สติ
พอตื่นมาก็พบเห็นผูค้ นมากมาย เขาย่อมรู ้สึกละอายมากแล้ว
เจียงเหม่ยหยูอ่ ยากจะหัวเราะให้ฟันโยกแล้ว เจ้าคนซกมกเช่นนี้ยงั
ต้องไปเชิญมาอีกหรื อ?
” เจ้าพวกลวงโลกตัวสกปรกนี้มาจากที่ใดกัน? เด็ก ๆ จับมันโยน
ออกไปให้ขา้ ! ทันใดนัน่ นางก็ร้องขึ้นมาอย่างเกรี้ ยวกราด
นางรู ้ดีวา่ ฝ่ าบาททรงรังเกียจสิ่ งสกปรกเลอะเทอะ ก่อนหน้านี่
เหลียนเอ๋ อร์เพียงแต่ผายลมต่อหน้าเขาไปไม่กี่ที เขาก็สงั่ ลดขั้น
จากไฉเหริ นกลายเป็ นเหม่ยเหริ น
เช่นนี้หากนางจะไล่เจ้าคนสกปรกนี่ออกไป ฝ่ าบาทย่อมไม่ทรง
ตาหนิแน่
พวกเจ้าดูสิ พระขนงของฝ่ าบาทขมวดมุ่นจนแทบจะชนกันอยูแ่ ล้ว
แสดงว่าไม่ทรงสบพระทัยอยูเ่ ป็ นแน่
ใช่แล้ว ฮ่องเต้ไม่ทรงสบพระทัยอย่างยิง่ จริ ง ๆ เห็นหรื อไม่วา่ เมื่อ
ครู่ ต๋ ูกซู ิงหลันกระทาสิ่ งใดลงไป?
นางจับจูงชายแขนเสื้ อของบุรุษตัวสกปรกผูน้ ้ นั !
เป็ นถึงไทเฮาแท้ ๆ ต่อหน้าผูค้ นทั้งหลายยังจะกล้าใกล้ชิดบุรุษอื่น
ได้อีกหรื อ? และยังจะเป็ นคนที่สกปรกซกมกขนาดนั้น!
ยิง่ ไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้บุรุษนัน่ กับนางยังขี่มา้ ตัวเดียวมาด้วยกัน!
หากว่าอดีตฮ่องเต้ทรงมองดูอยู่ คงจะทรงกริ้ วจนกระโดดออกมาจาก
พระสุ สานแล้ว!
ฮ่องเต้ทรงครุ่ นคิดอย่างหมกมุ่น ยิง่ เขาได้เจอะเจอตู๋กซู ิ งหลัน
บ่อยครั้งมากเท่าไร เขายิง่ พบว่าสตรี ผนู ้ ้ ียงิ่ ทียงิ่ ไม่เคารพกฎเกณท์
มากเท่านั้น
รอให้กลับถึงวังเมื่อไหร่ เขาจะให้หวั หน้านางกานัลที่มี
ประสบการณ์ดูแลสัง่ สอนเข้มข้นที่สุดมาอบรมนางให้จงหนัก อะไร
คือมารยาทของเชื้อพระวงค์! อะไรคือพระเกียรติยศของไทเฮา!
บุรุษผูน้ ้ นั ก็คล้ายกับว่าจะรู ้สึกได้ถึงแรงอาฆาตที่ส่งออกมา เขาถึงได้
รี บถอยออกให้ห่างจากจีเฉวียนสักหน่อย หันไปตอบเจียงเหม่ยหยูว่ า่
“ฮูหยินผูเ้ ฒ่า ท่านช่างไร้เหตุผลยิง่ นัก ข้านักพรตคือนักพรตอู๋เจิน
จากอารามเทียนเก๋ อกวน มาที่นี่เพื่อทาพิธีสวดมนต์ให้กบั เย่วฮูหยิน
เป็ นพิเศษ จะใช่คนหลอกลวงที่ไหนกันละ? “
“ท่านนักพรตอู๋เจินคือนักพรตผูส้ ู งส่ ง ฟังว่ารู ปลักษณ์สง่าราศีไม่
ธรรมดา แล้วจะเหมือนเจ้าที่ดูไปคล้ายกับขอทานได้อย่างไรกัน? ”
ในหมู่ผคู ้ นเองก็มีผทู ้ ี่นบั ถือเหล่านักพรต
พวกเขาย่อยเกิดความรู ้สึกว่าภูมิปัญญาของตนเองนั้นกาลังถูกดูหมิ่น
อย่างรุ นแรง
ตู๋กซู ิงหลันและตู๋กูจุนช่างชอบก่อเรื่ องก่อราวดีนกั ไม่รู้ไปสรรหา
ใครจากไหนมาปลอมตัวเป็ นนักพรตอู๋เจิน
“โอ้ยข้าแต่เง็กเซียนบนสวรรค์ นี่ไม่ใช่วา่ ไทเฮาและท่านแม่ทพั
สามารถเป็ นพยานยืนยันให้ได้หรอกหรื อ? ” นักพรตอู๋เจินรู ้สึกหมด
ปัญญาอยูบ่ า้ ง ได้แต่ใช้สองมือนวดขมับพลางทอดถอนหายใจ
ยามปกติเขามักจะให้ความสาคัญกับรู ปลักษณ์ สู งส่ งเยือกเย็น ไม่
ยินยอมพบกับใครโดยง่าย ไม่สนใจไปเจอะเจอผูใ้ ด……และมักจะ
ไม่ให้ความช่วยเหลือใครด้วยซ้ า
และไม่ใช่เพราะคราวนี้ไม่ทนั ได้ต้ งั ตัวไปเสี ยหน่อยถึงได้ถูกจอม
มารสองชาติภพนี่จบั ตัวมาหรอกหรื อ?
พวกเจ้าก็ลองมาไม่อาบน้ าสักเดือนดูบา้ งสิ หากว่ายังดูหล่อเหลาสง่า
งามเหนือธรรมดาอยูไ่ ด้ละก็ เขายินดีตดั หัวตนเองมาทาเก้าอี้นงั่ เลย
“เฮอะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ตลกจริ ง ๆ ? เจ้าเป็ นคนที่ไทเฮาและท่านแม่ทพั
นามา พวกเขาจะนับเป็ นพยานได้อย่างไร? ” เจียงเหม่ยหยูห่ วั เราะ
ร่ วนเสี ยจนฟันจะหลุดออกมา เจ้าเดรัจฉานสองตัวนัน่ ชอบโอ้อวดก็
นับว่าแย่แล้ว นี่จะยังโง่เขลาอีกหรื อ?
จะโง่เองก็ช่างเถอะ แต่น้ ียงั อุตส่ าห์เอาคนที่โง่ยงิ่ กว่ามาด้วย
นักพรตอู๋เจิน “………”
พอยิง่ เห็นเขาไม่ปริ ปากพูดจา เจียงเหม่ยหยูก่ ย็ งิ่ คิดขึ้นมาได้ นางหัน
ไปมองทางเต๋ อเฟย กล่าวว่า “พระสนมเต๋ อเฟยเพคะ ท่านวอนขอ
ยันต์เสริ มวาสนาภพหน้ามาจากท่านนักพรตอู๋เจิน ท่านต้องเคยพบ
กับเขามาแล้ว รบกวนท่านช่วยพิจารณาดูสกั หน่อย ว่านี่ใช่ท่าน
นักพรตอู๋เจินหรื อไม่? “
“จริ งด้วย เต๋ อเฟยพะยะค่ะ ขอท่านจงได้โปรดเปิ ดโปงเจ้าคนลวง
โลกผูน้ ้ ีต่อหน้าผูค้ นทั้งหลาย! ไทเฮาและท่านแม่ทพั ถูกหลอกไป
แล้ว! แต่วา่ พวกเราไม่มีทางโง่งมเสี ยจนถูกหลอกได้เช่นนั้น!
ที่น่าโกรธแค้นก็คือว่า พวกเขาเกรงว่าพระสนมจะหวาดกลัวไทเฮา
และท่านแม่ทพั เสี ยจนไม่กล้าพูดความจริ ง
เพราะว่าดูไปแล้ว บุรุษผูน้ ้ ีจะอย่างไรก็ดูคล้ายกับพวกหากิน
หลอกลวงไปทัว่ แผ่นดิน
เจ้าสองพี่นอ้ งชายหญิงตัวเลวร้ายนี่ ไม่ใช่วา่ กาลังพยายามโกหกทั้ง
ๆ ที่ลืมตามองอยูห่ รื อไง?
ตอนที่ 77 แอบไปสมัครคณะละครมา
สี หน้าของเต๋ อเฟยเดิมทีกค็ ่อนไปทางยา่ แย่อยูแ่ ล้ว คราวนี้เมื่อถูก
ผูค้ นผลักขึ้นมาจนถึงปลายยอดคลื่น ใบหน้าน้อย ๆ นัน่ กลับยิง่ ทียงิ่
ซีดขาวเสี ยแล้ว
นางกุมอกเอาไว้กระแอมไออยูส่ องสามที ดวงตาทั้งสองมองไปทาง
บุรุษสกปรกซกมกผูน้ ้ นั
ผูค้ นทั้งหมดพากันจดจ้องมาที่นาง ดูจากท่าทีที่ลงั เลของพระสนม
เต๋ อเฟยแล้ว คงจะไม่รู้จกั คนผูน้ ้ นั แน่แล้ว
ครู่ ต่อมา ก็เห็นเต๋ อเฟยหันไปมองดูต๋ ูกซู ิงหลัน แล้วก็หนั ไปมองดูฝ่า
บาทอีก สุ ดท้ายค่อยหันกลับมามองดูนกั พรตผูน้ ้ นั อีกครั้ง
ท่าทางของนางคล้ายกับถูกบังคับ ไม่กล้าพูดความจริ งใด ๆ ออกมา
ที่จริ งแล้ว ไม่จาเป็ นต้องให้นางพูดอะไร ทุกคนต่างก็เข้าใจแล้ว บุรุษ
เนื้อตัวมอมแมมผูน้ ้ ีเป็ นคนหลอกลวง
นักพรตอู๋เจินเองก็มองดูนางเช่นกัน เห็นนางสวมชุดขาวตลอดทั้งตัว
ก็ตื่นตะลึงไป ตอนนี้เขาเป็ นโรคหวาดกลัวสตรี ชุดขาวเข้าเสี ยแล้ว
คงมีแต่ฟ้าดินที่รู้วา่ เขาถูกไทเฮาน้อยชุดขาวผูน้ ้ นั ข่มขู่อย่างทรมาน
ขนาดไหน
ผูค้ นทั้งหลายเห็นสี หน้าของเขาทั้งตื่นตะลึงทั้งหวาดกลัว ต่างก็พา
กันหัวเราะขึ้นมา
สงสัยว่าก่อนที่ต๋ ูกูซิงหลันจะพาเจ้าตัวตลกนี่มา นางคงจะไม่ได้รู้ละ
สิ ว่าเต๋ อเฟยได้ทาการวอนขอยันต์ภพหน้ามาก่อนแล้ว ถึงได้ไปหา
ใครก็ได้มาปลอมตัวเป็ นผูม้ ีวิชาสู งส่ ง
คราวนี้จะไม่ถูกเปิ ดโปงจนหมดเปลือกหรอกหรื อ?
วันนี้ได้มีงิ้วสนุกต่อเนื่องแน่ ๆ
แน่นอนว่า คนอย่างเต๋ อเฟยย่อมไม่พลาดที่จะมองเห็นความ
ตระหนกของนักพรตอู๋เจิน ฉับพลันนั้นนางก็ตดั สิ นใจได้ ส่ งเสี ยง
ออกมาเบา ๆ ว่า “ข้าาา….น่าจะไม่เคย..พบเห็นคนผูน้ ้ ีมาก่อน”
ยันต์แผ่นนี้นางขอมาจากอารามเทียนเก๋ อกวนก็จริ ง แต่วา่ ผูท้ ี่วาด
ยันต์ที่จริ ง ๆ แล้วไม่ใช่นกั พรตอู๋เจิน นางเองก็คิดไม่ถึงว่าตู๋กซู ิงห
ลันจะพาคนเช่นนี้มาด้วย ดังนั้นจึงไม่กล้าชี้ชดั ไปว่า คนผูน้ ้ ีใช่ตวั จริ ง
หรื อไม่
ยามนี้เห็นคนผูน้ ้ นั แสดงท่าทีหวาดกลัวนางออกมา ถึงได้มนั่ ใจว่า
เขาจะต้องเป็ นตัวปลอม
ทันทีที่นางพูดออกไป ผูค้ นทั้งหลายก็เอ็ดอึงขึ้นมา
“คนผูน้ ้ ีเป็ นพวกหลอกลวง! ” ผีตายโหงตู๋กเู หลียนตะโกนนาผูค้ น
ด้วยเสี ยงอันดัง นางชักจะรู ้สึกว่างานรับหน้าที่กวนน้ าให้ข่นุ เช่นนี้ก็
สนุกสนานดีเหมือนกัน
เต๋ อเฟยเหลือบมองดูนางพริ บตาหนึ่ง คราวนี้พระสนมจึงค่อยรู ้สึกว่า
ความหวาดระแวงที่มีอยูล่ ะลายหายไป เรื่ องของฉี ผนิ นั้น ตู๋กเู หลียน
อาจทาได้ไม่สาเร็ จ แต่วา่ นังคนนี้จะอย่างไรก็ยงั อยูฝ่ ั่งเดียวกับนาง
เก็บมันไว้กย็ งั ถือว่ามีประโยชน์อยูบ่ า้ ง
พอได้ยนิ คาพูดของ’ตู๋กเู หลียน’ เจียงเหม่ยหยูก่ ก็ ระโดดออกมาเต้น
เร่ า ๆ “ไทเฮา! ท่านแม่ทพั ! พวกเจ้าทาเกินไปแล้วนะ ลูกหลาน
ตระกูลตู๋กูของบ้านเราทาไมถึงได้กลายเป็ นพวกต้มตุ๋นหลอกลวง
เช่นนี้ได้? ต่อให้พวกเจ้าหาของดี ๆ มาไม่ได้ ก็ไม่สมควรจะลบหลู่
พี่สาวเช่นนี้! แล้วนี่จะให้วิญญาณของนางในปรภพสงบสุ ขได้
อย่างไรกัน? “
เจียงเหม่ยหยูพ่ ดู ไป น้ าตาก็ไหลเป็ นสาย ประหนึ่งว่านางรักเคารพ
เจียงเย่วเสี ยเหลือเกิน
“พวกเจ้ายังจาได้บา้ งไหม ยามที่พี่สาวยังมีชีวติ อยู่ นางรักเอ็นดูพวก
เจ้ามากมายขนาดไหน …….หากว่านายท่านผูเ้ ฒ่ากลับมาเห็นเข้า
เช่นนี้ จิตใจคงจะปวดร้าวอย่างยิง่ แล้ว….” ใบหน้าชราของเจียงเหม่ย
หยูม่ ีน้ าตาริ นไหลอาบ รอบนี้แม้แต่ต๋ ูกซู ิงหลัยยังรู ้สึกว่านางช่างทา
ได้สมบทบาทยิง่ นัก
ตู๋กูจุนเหลือบมองน้องสาวของตนเองคราหนึ่ง เห็นนางกัดริ มฝี ปาก
ล่าง สองคิ้วขมวดแน่น ท่าทางของนางประหนึ่ง ‘แผนที่วางไว้ ถูก
เปิ ดโปงเสี ยจนไม่รู้จะแก้ตวั ว่าอย่างไร’
คราวนี้เขาถึงกับพูดไม่ออกเสี ยแล้ว …..หรื อว่าน้องเล็กแอบไป
สมัครเรี ยนวิชากับคณะละครโดยที่เขาไม่รู้กนั นะ?
เจ้านักพรตอู๋เจินนัน่ พวกเขาลงมือจับมันมาด้วยตัวเองแท้ ๆ ไหน
เลยจะมีตวั ปลอมได้อีก?
“นัน่ เอ่อ…….” ผ่านไปนานสองนานแล้วท่านนักพรตอู๋เจินนัน่ ถึงได้
สติข้ ึนมาจากความผวาสตรี ชุดขาว เขาถูมือไปมา คิดจะหาช่องทาง
อธิบาย
“นี่ เจ้าคนสกปรกโสโครกยังไม่รีบปิ ดปากของเจ้าลงอีก ที่นี่ไหนเลย
จะมีที่ทางให้เจ้าได้พูด! ” เจียงเหม่ยหยูต่ ะคอกใส่ อยากจะเรี ยกคน
มาลากตัวเขาออกไปนัก
นักพรตอู๋เจินเองก็คร้านจะอธิบายให้เจียงเหม่ยหยูฟ่ ังอีก เขาก้าว
ออกไป สะบัดชายเสื้ อขึ้นครั้งหนึ่ง กล่องใส่ ยนั ต์ภพหน้าในมือเจียง
เหม่ยหยูก่ ล็ อยวูบมาอยูใ่ นมือของตน
จากนั้นเพียงเห็นเขาใช่ฝ่ามือกระแทกเพียงครั้งเดียว กล่องใบนั้นก็
แตกออกเป็ นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขาหยิบยันต์ข้ ึนมามอง สองคิ้วขมวด
แนบแน่น สี หน้าปรากฎร่ องรอยแห่งความแปลกใจอยูห่ ลายส่ วน
“โอ้ สวรรค์ได้โปรดเถอะ นี่มนั ยันต์อะไรกัน!?
“หึ ตัวปลอมอย่างเจ้ายังจะปากกล้าอะไรอีก! ” เจียงเหม่ยหยูโ่ กรธ
เสี ยจนตาโปน นางกาไม้เท้าเอาไว้แน่น แทบจะบุกเข้าไปตีหวั เจ้าตัว
ปลอมนี้ให้หวั ร้างข้างแตกเสี ยให้ได้
“นี่คือยันต์ภพหน้าที่ท่านนักพรตอู๋เจินวาดด้วยตนเอง ตัวปลอมอย่าง
เจ้ายังจะกล้ามาทาให้เปรอะเปื้ อนอีก! ” ตู๋กอู ้ ีหลานชายของเจียง
เหม่ยหยูต่ ะโกนด่าไปก็ทาท่าจะเข้าไปแย่งเอายันต์คืนมา
นักพรตอู๋เจินถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “ขออย่างได้ใส่ ร้ายป้ายสี ขา้
นักพรต ยันต์เช่นนี้ขา้ นักพรตไม่มีทางวาดออกมาได้เด็ดขาด”
ผูค้ นทั้งหลายต่างหัวเราะเสี ยงเย็น ย่อมต้องไม่ผดิ หากว่าตัวปลอม
อย่างเจ้ายังสามารถวาดยันต์ภพหน้าออกมาได้ เช่นนั้นท่านนักพรตอู๋
เจินตัวจริ งจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
แต่แล้ว ก็เห็นเขานายันต์แผ่นนั้นเดินเข้าไปหาเต๋ อเฟย
เต๋ อเฟย ‘หวาดกลัว’ จนถอยหลังไปหลายก้าว พอถอยไปถึงข้างกาย
จีเฉวียนก็กล่าวอย่างไร้เรี่ ยวแรงว่า “ฝ่ าบาท หม่อมฉันกลัวเหลือเกิน
เพคะ…~”
จีเฉวียนหันมามองนางคราหนึ่ง เขาไม่แม้แต่จะเสี ยเวลาคิดก็ขยับไป
ด้านข้าง เข้าใกล้ต๋ ูกซู ิงหลันไปอีกนิด “ไทเฮาอ่อนเยาว์กว่าเจ้ายังไม่
เห็นกลัว เจ้าจะกลัวอะไร? “
เต๋ อเฟย “! “
ผูค้ นทั้งหลาย “??? “
ตู๋กูซิงหลัน “…….”
ฝ่ าบาทพระองค์ทรงพลาดอะไรไปหรื อไม่ เจ้าคนสกปรกนัน่ เป็ น
ไทเฮาทรงนามา นางจะไปกลัวหรื อ?
ขอพระองค์โปรดทรงปกป้องพระสนมเต๋ อเฟยที่น่าสงสารสักนิด
เถอะ นางเป็ นเพียงสาวน้อยผูอ้ ่อนแอบอบบางเท่านั้น
แต่น่าเสี ยดายดวงพักตร์ของฮ่องเต้กลับไม่แสดงพระอารมณ์ใด ๆ
ทรงทาประหนึ่งว่าเรื่ องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพระองค์แม้แต่นอ้ ย
นี่มนั บุรุษมากรัก ที่รู้จกั แต่ลอยชายตัวพ่อ
สายพระเนตรของพระองค์เอาแต่จบั จ้องอยูท่ ี่ต๋ ูกซู ิงหลันเท่านั้น
ดูเจ้าตัวแสบน้อยจอมหลอกลวงนี่สิ นางทาท่าเสมือนว่าตนก่อเรื่ อง
ใหญ่โตจะเป็ นจะตายแล้ว มารยา!
ในหัวและในตัวนางมีแต่เล่ห์เหลี่ยมแผนร้าย ช่างรู ้จกั วางแผนจัดการ
ผูอ้ ื่นนัก
ฮ่องเต้กลับทรงรู ้สึกว่า เฝ้าดูเจ้าตัวแสบนี่เล่นละคร ก็สนุกดีอยู่
เหมือนกัน
ตู๋กซู ิงหลันไม่กล้าเอ่ยวาจาใด ๆ แม้สกั คา ราวกับว่านางกลัวผูค้ นจะ
หันมากลุม้ รุ มนางเสี ยอย่างนั้น
ผูค้ นต่างก็ปวดใจสงสารเต๋ อเฟยอย่างที่สุด ยังจะไม่ใช่เพราะตู๋กซู ิงห
ลันหรื อ? หากไม่ใช่เพราะนางล่อลวงจิตใจของฝ่ าบาทไปจนหมด มี
หรื อฝ่ าบาทจะทรงโหดร้ายกับเต๋ อเฟยถึงเพียงนี้?
นักพรตอู๋เจินยืนอยูเ่ บื้องหน้าเต๋ อเฟย กระพริ บตาปริ บ ๆ ไปที่นาง
ผ่านไปครู่ ใหญ่เขาค่อยกล่าวออกมาว่า “เจ้ากลัวข้าทาไม ข้านักพรต
เป็ นผูบ้ าเพ็ญเพียร กินเจ เจ้าเป็ นของคาว ข้านักพรตไม่กินเจ้า
หรอก”
พูดแล้ว ท่านนักพรตอู๋เจินก็ได้แต่กมุ กระเพาะอ้วกโอ้กอ้ากออกมา
อีกรอบ ผูค้ นต่างเห็นชัดเจนเลยว่า ในบรรดาเศษอาหารที่เขาสารอก
ออกมายังมีเศษเนื้อม้วนที่ยงั ย่อยไม่หมด…..
“อะ ขอโทษที ข้ายังเมาม้าอยูไ่ ม่หาย…” ท่านนักพรตอู๋เจินโบกมือ
ไปมาอย่างขออภัย
เต๋ อเฟยพูดไม่ออกเสี ยแล้ว ตอนนี้นางรู ้สึกว่าใบหน้าร้อนผะผ่าว ดูสิ
ว่าตอนนี้ฝ่าบาทกับตู๋กซู ิงหลันอยูต่ ิดชิดกันถึงเพียงไหน ส่ วนนาง…
ราวกับถูกลืมอยูใ่ นซอกหลืบของวังอย่างน่ารังเกียจ ไม่เป็ นที่โปรด
ปรานของฝ่ าบาทแม้สักน้อย
ฝ่ าบาททรงทาเกินไปแล้ว ถึงกลับปล่อยให้เจ้าตัวตลกนี่เข้ามาใกล้
นางได้
ทั้ง ๆ ที่ก่อนที่ต๋ ูกซู ิงหลันจะปรากฎตัวขึ้นมานั้น ไม่ใช่อย่างนี้สกั
หน่อย…
เจียงเหม่ยหยูท่ นดูต่อไปไม่ไหว นาเหล่าองครักษ์ของตระกูลตู๋กูเข้า
มาล้อมตัวนักพรตอู๋เจินเอาไว้ กล่าวเสี ยงเข้มเด็ดขาดว่า “จับเจ้าคน
ไร้มารยาทจอมหลอกลวงนี้ลงเขาไปให้ขา้ ไล่มนั ออกนอกเมืองไป
หากไม่ได้รับอนุญาต อย่าให้มนั ได้เหยียบเมืองหลวงแม้สกั ครึ่ งก้าว!

ว่ากันตามจริ งแล้ว ที่นี่เป็ นที่กลบฝังเหล่าบรรพชนตระกูลตู๋กูของ
พวกนาง ตอนนี้นางคือประมุขหญิงของตระกูล แน่นอนว่าย่อมมี
สิ ทธ์ขบั ไล่คนออกไป
ต่อให้เป็ นฝ่ าบาท ก็ไม่อาจยืน่ พระหัตถ์สอดแทรกได้ใช่ไหม?
เพราะอย่างไร นี่กค็ ือเรื่ องของตระกูลตู๋กเู อง
ขณะที่พวกเขากาลังจะเข้าไปจับคน ก็พลันได้ยนิ เสี ยงม้าของทหาร
ตระกูลตู๋กูที่เชิงเขาส่ งเสี ยงร้องอย่างผิดปกติข้ ึนมา เพียงครู่ เดียวก็
รู ้สึกได้ถึงสายลมหอบหนึ่งพัดโหมมาถึง เมื่อหรี่ ตามองไปก็เห็นคน
สิ บกว่าคนในชุดนักพรตสี เขียวสดใสต่างถือแซ่ปัดเอาไว้ในมือลอย
ลมลงมา
ที่จริ งเหล่าผูบ้ าเพ็ญเพียรทั้งหลาย จะมากจะน้อยต่างก็มีวิชาเหาะเหิน
เดินอากาศกันทุกคน แต่วา่ ยามท่านนักพรตเหล่านี้ปรากฎกายขึ้น แต่
ละท่านบุคลิกประดุจเทพเซียนผูล้ ึกล้ าในชั้นฟ้าจุติลงมาบนพิภพ
เมื่อรวมกับทิวทัศน์ของดอกชมจันทราที่ผลิบานอยูท่ วั่ ภูเขาเข้า
ด้วยกัน ย่อมสร้างความประทับใจอันน่าตื่นตะลึงแก่ผคู ้ น
ท่านนักพรตทั้งหลายต่างรักษาความเคร่ งขรึ ม หลังกวาดตามองไป
ในหมู่ผคู ้ นรอบหนึ่ง ก็รีบรุ ดเดินมาถึงเบื้องหน้านักพรตอู๋เจิน ตวัด
แส้ปัดลง กล่าวอย่างเคารพนพนอบว่า “ท่านผูอ้ าวุโสอู๋เจิน พวกศิษย์
มาช้าเกินไป ขอโปรดอภัย”

——

拂尘 (Fu Chen) แส้ปัด

酱肘子 (jiang zhou ji) เนื้อม้วนหมักซอสจิ้มน้ าจิ้มเปรี้ ยว


ตอนที่ 78 นางจะรับไหวหรื อไม่
ท่านนักพรตอู๋เจินโบกมือหัวเราะฮะ ๆ แล้วอนุญาตให้พวกเขายืน
ตรงได้ “ไม่ชา้ ๆ เด็ก ๆ ทั้งหลายลาบากพวกเจ้าแล้ว”
ชัว่ ขณะนั้น ทัว่ ทั้งนอกและในสุ สานล้วนตกอยูใ่ นความเงียบสงัด
ดวงตาของพวกเขาได้แต่ประทับอยูบ่ นร่ างของเหล่านักพรตผูส้ ง่า
งามประดุจเทพเซียนเหล่านั้น และจดจาคาที่ดงั เข้าหูมาว่า ‘ท่านผู ้
อาวุโสอู๋เจิน’
ท่านผูอ้ าวุโสอู๋เจิน……..ก็คือบุรุษที่อยูต่ รงหน้านี้?
นี่จะเป็ นไปได้อย่างไรกัน?
ผูค้ นที่โห่ไล่อยูเ่ มื่อครู่ ต่างก็ตาโตด้วยความตกตะลึง รู ้สึกเหมือนทัว่
ทั้งร่ างกายถูกกระหน่าโจมตี เจ้าพี่นอ้ งตัวร้ายถึงแม้จะรู ้จกั ปลอม
แปลงแกล้งแสดงอย่างไร ก็คงไม่อาจทาได้จนถึงขั้นสมบูรณ์พร้อม
เช่นนี้หรอกใช่ไหม?
ลองมองดูนกั พรตพวกนัน่ สิ บนหน้าผากของพวกเขามีรอยประทับสี
ขาวจาง ๆ อยูร่ อยหนึ่ง นัน่ น่ะเป็ นสัญญลักษณ์เฉพาะของเหล่า
นักพรตแห่งอารามเทียนเก๋ อกวน
สิ่ งนี้ไม่วา่ อย่างไรก็ไม่อาจปลอมแปลงได้!
เจียงเหม่ยหยูเ่ องก็ถึงขนาดตัวแข็งเป็ นก้อนหิ นไปเสี ยแล้ว ตอนนี้
นางรู ้สึกแย่ยงิ่ กว่าต้องกลืนแมลงวันร้อยตัวเข้าไปเสี ยอีก
บรรดาองครักษ์ตระกูลตู๋กูไหนเลยจะยังกล้าล้อมคนเอาไว้ ต่างก็ได้
แต่ถอยไปรวมกันอยูอ่ ีกด้านหนึ่งแล้ว
อารามเทียนเก๋ อกวน เป็ นสถานที่ที่แม้แต่เหล่าเชื้อพระวงค์ยงั พึงให้
ความเคารพอยูส่ ามส่ วน ……พวกเขาไหนเลยจะกล้าล่วงเกิน
เต๋ อเฟยเองก็รู้สึกว่าฟ้าพลิกแผ่นดินตลบคว่าลงมา หากไม่ใช่
เพราะว่าซิ่วเหอคอยประคองนางไว้ เกรงว่านางในตอนนี้ตอ้ งลงไป
กองกับพื้นเสี ยแล้ว
บุรุษผูท้ ี่ดูเอน็จอนาถตัวมันเยิม้ คนนั้น…..ไยจึงกลายเป็ นนักพรตอู๋
เจินไปได้?
งั้นก่อนหน้านี้ ตอนที่เขามองนาง แล้วแสดงอาการหวาดกลัวออกมา
นัน่ คืออะไรกัน?
ก็ไม่ใช่วา่ เป็ นเพราะว่าเขาหวาดกลัวว่านางจะเปิ ดโปงว่าเขาเป็ นตัว
ปลอมหรอกหรื อ?

“พระสนมเพคะ~ ท่านอย่าได้ใจร้อน ” ซิ่วเหอรี บกระตุน้ เตือน


เพราะนางรู ้สึกว่าฝ่ ามือของนางหญิงเย็นเหลือเกิน
คราวนี้พวกนางคงตกหลุมพรางแน่แล้ว!
นังตู๋กซู ิงหลันนัน่ คงจะแอบล่อลวงนักพรตอู๋เจินได้สาเร็ จ ถึงได้ให้
เขาร่ วมมือกันมาแสดงละครฉากหนึ่ง จุดประสงค์ยอ่ มต้องเป็ นการ
ทาให้พระสนมเสี ยหน้า
แต่วา่ ปัญหานั้นอยูท่ ี่วา่ ไยมันจึงรู ้ได้วา่ วันนี้พระสนมจะนายันต์มา
ด้วย?
พอคิดถึงตรงนี้ ซิ่วเหอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังตู๋กเู หลียนอีกครั้ง
ท่าทางของ’ตู๋กเู หลียน’คล้ายกับว่านางไม่รู้เรื่ องใด ๆ จริ ง ๆ ทั้งยัง
ถูกเข้าใจผิดอย่างไม่ยตุ ิธรรม
เจ้าไม่รู้หรอกว่าไทเฮาน้อยปี ศาจผูน้ ้ ีร้ายกาจขนาดไหน ตวัดมือก็เสก
ยันต์ออกมาใบหนึ่ง ทั้งยังมีเจ้าตัวกลม ๆ ดา ๆ ขมุกขมัวที่คอยจ้อง
แต่จะกินมันอีกตัว เช่นนี้มนั ไหนเลยจะไม่กล้าว่าง่ายกัน?
มันเป็ นผีตายโหง สามารถรับรู ้สิ่งต่าง ๆ ได้ดว้ ยดวงจิต เมื่อได้ทา
สัญญาผูกพันกับตู๋กเู หลียนไปแล้ว ย่อมรู ้กระจ่างในทุก ๆ เรื่ องที่ต๋ ูกู
เหลียนรู ้ รวมถึงเรื่ องที่นางและเต๋ อเฟยร่ วมมือกันอย่างลับ ๆ นี่ดว้ ย
ตู๋กซู ิงหลันก็ทราบเรื่ องนี้จากมัน วันนี้จึงได้วางกับดักเอาไว้ และเต๋ อ
เฟยก็กระโดดลงไปอย่างยินดี
……………………………..
ยามนี้จิตใจของผูค้ นทั้งหลายต่างสับสนวุน่ วายใจอย่างที่สุด ต่างก็พา
กันหันไปมองดูฮ่องเต้ รี รอให้ฝ่าบาทแสดงทีท่าออกมา
แต่ไหนแต่ไรฮ่องเต้มกั ไม่ทรงตรัสมากความ แต่ละถ้อยคาของ
พระองค์น้ นั เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างคาดเดากันอยูค่ รึ่ งค่อนวัน
วันนี้เมื่ออยูต่ ่อหน้าสุ สานของเย่วฮูหยิน พระองค์ยงิ่ ทรงเขร่ งขรึ ม
กว่าเดิม แม้แต่ยามที่พบเห็นเหล่านักพรตจากอารามเทียนเก๋ อกวน ก็
ยังไม่แสดงสี พระพักตร์ใด ๆ ออกมา
ยามนี้ เหล่านักพรตทั้งหลายจึงค่อยหันมาทางจีเฉวียนและตู๋กูซิงห
ลัน น้อมคานับพวกเขาด้วยความเคารพนอบน้อม “ถวายพระพรฝ่ า
บาท ถวายพระพรไทเฮา พวกข้าทั้งหลายเป็ นศิษย์ของอารามเทียนเก๋
อกวน วันนี้มีโจรผูร้ ้ายกลุ่มหนึ่งบุกรุ กเข้าไปในอาราม ลักพาตัวท่าน
ผูอ้ าวุโสอู๋เจินที่กาลังกักตนบาเพ็ญเพียรออกมา พวกข้าไล่กวด
ติดตามมาตลอดทาง จึงได้สร้างความตระหนกให้กบั ขบวนเสด็จ ขอ
ฝ่ าบาททรงประทานอภัย”
แต่ไม่วา่ จะดูอย่างไร คนกลุ่มนั้นกับพวกของไทเฮาและท่านแม่ทพั ก็
ดูคล้ายคลึงกันมากเหลือเกิน
จีเฉวียนทอดพระเนตรดูเหล่านักพรตที่แต่ละคนล้วนมีหน้าตาบริ
สุ ทธฺ ์จริ งใจ แล้วก็หนั ไปทอดพระเนตรดูนกั พรตอู๋เจินที่สกปรก
มอมแมม ก็ได้แต่กรอกพระเนตรรอบหนึ่ง ตรัสว่า “ไม่เป็ นไร”
ทันทีที่เขาตรัสออกไปเช่นนั้น ก็เห็นตู๋กซู ิงหลันที่แสร้งทาหงอยไม่สู้
มาตลอด เบิกตาโตกระโดดโลดเต้นออกมาในทันที
จากนั้นก็หนั ไปทางเจียงเหม่ยหยูแ่ ละเจ้าพวกคนใจคดทั้งหลาย “เรา
บอกแล้วไม่ใช่หรื อ ว่าคนผูน้ ้ ีคือนักพรตอู๋เจิน พวกเจ้ากลับไม่ยอม
เชื่อ ว่าไงละ เห็นคาพูดของข้าเป็ นเพียงแค่ผายลมหรื อไง? “
“เพราะฉะนั้นนะ อีกหน่อยอย่าดื้อ ก็รู้จกั ฟังคาพูดของเราให้ดี ดูสิ
เห็นไหม พอพวกเจ้าไม่ฟังคาเรา ถึงได้ตอ้ งขาดทุนเช่นนี้ใช่ไหม? “
“ที่ผา่ นมาทุกวันทุกคืน เราล้วนเป็ นคนกตัญญูผหู ้ นึ่ง มีหรื อจะเอา
ใครที่ไหนก็ได้มาทาร้ายท่านย่าของตนเอง? พวกเจ้านี่มนั สมองหมู
กันหมดหรื อยังไง? “
“ทุกท่านที่อยูท่ ี่นี่ รู ้หรื อไม่วา่ คาแทนตัวว่า อายเจีย (คาที่ไทเฮาแทน
ตัวเอง) นี้ ก็หมายความว่า อดีตฮ่องเต้สวรรคตแล้ว ข้านั้นเศร้าเสี ยใจ
อย่างที่สุด ด้วยเรื่ องโศกเศร้าที่ลึกล้ านี้ ข้าจึงกลายเป็ นสตรี ที่สูงศักดิ์
ที่สุดในแคว้นต้าโจว”
” นี่คือท่าทีให้ความเคารพสตรี ที่สูงศักดิ์ที่สุดในต้าโจวของพวกเจ้า
แต่ละคนหรื อ? หืม? “
“นี่เป็ นเพราะฮ่องเต้บุตรชายของเราสู ญสิ้ นพระเกียรติแล้ว หรื อเป็ น
เพราะท่านแม่ทพั พี่ชายของเรายกดาบไม่ไหวแล้ว? “
ถ้อยคาที่ต๋ ูกซู ิงหลันจิกกัดแต่ละคา ล้วนสร้างความปวดหัวให้กบั
ผูค้ นทั้งหลาย แต่ละคาของนางนี้แทบคร่ าชีวิตของพวกเขาเลย
ทีเดียว! ขอร้องเถอะเจ้าหุบปากซะ!
ทันใดนั้นตู๋กจู ุนก็กุมดาบทะลายภูผาขึ้นมากระชับไว้ “น้องเล็ก ดาบ
เล่มนี้ พี่ใหญ่สามารถถือมันปกป้องเจ้าได้จนชัว่ ชีวิต! “
ผูค้ นทั้งหลาย “…….”
จีเย่วเ์ องก็เหม่อมองตู๋กซู ิงหลันจนกล่าวสิ่ งใดไม่ออกไปแล้ว ที่แท้….
ความสามารถในการพูดจาของหลันเอ๋ อร์กลับสู งส่ งถึงเพียงนี้ ไย
ตอนที่อยูร่ ่ วมกันก่อนหน้านี้เขาจึงไม่เคยรู ้มาก่อน?
เดิมทีนกั พรตอู๋เจินก็อุดหูตนเองเอาไว้แต่แรกแล้ว…….ตอนนี้มาได้
ยินนางเปิ ดปากเจรจาเขาก็ปวดสมองอย่างหนัก
นัน่ เพราะถ้อยคาจิ๊ ๆ จ๊ะ ๆ สุ ดเชือดเฉือนของนางสามารถแผดเผา
ทาร้ายจิตบาเพ็ญเพียรของเขาจนเสี ยหายอย่างรุ นแรง
ใครก็ตามที่ทาให้นางไม่พอใจล้วนไม่อาจได้รับการกลบฝังอย่าง
ปกติสุข
นางเป็ นไทเฮานัน่ ไม่ผดิ แต่นางลืมไปแล้วหรื อว่า นางเป็ นไทเฮาที่
ถูกกักอยูใ่ นตาหนักเย็น!
ตาหนักเย็นนะ! มันหมายความว่าอะไร สตรี ใดที่หลุดเข้าไปชีวิตที่
เหลืออยูท่ ้ งั ชาติน้ ีอย่าหวังจะได้พลิกฟื้ นอีกเลย!
ฝ่ าบาทเพียงแค่ทรงเห็นแก่ครบรอบวันราลึกปี ที่สิบของเย่วฮูหยินถึง
ได้ปล่อยนางออกมาเท่านั้น นางจะมาทาอวดอ้างอะไรกัน?
ก่อเรื่ องสร้างความผิดยิง่ ใหญ่ไว้ถึงเพียงนั้น กลับเข้าวังไปแล้วก็ยงั
ต้องไปอยูใ่ นตาหนักเย็นอยูด่ ี!
หากถอยออกมาดูให้ดี ต่อให้อีกหน่อยนางสามารถออกมาจาก
ตาหนักเย็นได้กเ็ ถอะ นางอายุนอ้ ยถึงเพียงนี้ ฝ่ าบาทจะทรงประทาน
อานาจให้นางด้วยหรื อ?
มีอนั ใดต้องเกรงกลัวด้วย?
ที่น่าขาที่สุดก็คือ ยังจะกล้าเรี ยกฝ่ าบาทเป็ นบุตรชาย นางเคยมีบุตร
เป็ นองค์ชายที่ไหนกัน?
พอคิดได้ถึงตรงนี้ ผูค้ นทั้งหลายก็พากันเมินหน้าไปอย่างเงียบ ๆ
ต่างก็หนั ไปดูแต่ฮ่องเต้เท่านั้น
แต่ถา้ พูดกันแบบแบ่งแยกชัดเจนละก็……ฮ่องเต้ผทู ้ รงมีพระชนม์
มากกว่าไทเฮาน้อยถึงแปดปี องค์น้ ีกน็ บั ว่าเป็ นบุตรของนางอยู่
เหมือนกัน
ยามนี้ ‘ลูกชายฮ่องเต้’กาลังทอดพระเนตรมองนางด้วยความเคร่ ง
ขรึ ม หืม? ถึงกับกล้าเรี ยกเขาเป็ นลูกแล้ว?
รอให้กลับถึงวังเมื่อไหร่ จะให้นางได้รู้วา่ มีลูกชายฮ่องเต้ตวั โตเช่น
เขาเยีย่ งนี้ นางจะรับไหวหรื อไม่!
เจียงเหม่ยหยูม่ ึนงงอยูข่ ้ ึนค่อยวันถึงได้ทอดถอดลมหายใจออกมาคา
หนึ่ง นางพึ่งจะจับประเด็นสาคัญได้เรื่ องหนึ่ง ‘เจ้าโจร ลักพาตัว ‘ ที่
พวกนักพรตทั้งหลายพูดถึงก็คือพวกทหารของตู๋กจู ุนมิใช่หรื อ?
ที่แท้นกั พรตอู๋เจินกาลังกักตนบาเพ็ญเพียรอยูก่ ถ็ ูกคนลักพาตัว
ออกมาใช่ไหม? มิน่าทั้งเนื้อทั้งตัวถึงสกปรกมอมแมมจนดูน่าอนาถ
เช่นนี้!
“ท่านนักพรตอู๋เจิน เมื่อครู่ น้ ีขา้ ผูเ้ ฒ่าเสี ยมารยาทไปแล้ว ขอท่าน
โปรดอย่าได้ถือสา ” ตอนนี้เจียงเหม่ยหยูไ่ ม่มีท่าทางขู่ตะคอกผูค้ น
อย่างเมื่อครู่
นางหันไปคานับนักพรตอู๋เจิน “ข้าผูเ้ ฒ่าเพียงแต่คิดไม่ถึง ว่าไทเฮา
และท่านแม่ทพั ที่มีฐานะถึงเพียงนี้จะกระทาตนเป็ นผูใ้ ช้กาลังบังคับ
แข็งขืนผูค้ น….”
คาพูดของนางยังไม่ทนั จบ ก็เห็นนักพรตอู๋เจินหน้าเสี ยอย่างรุ นแรง
“ฮูหยินผูเ้ ฒ่า พูดเรื่ องอะไรกัน? ข้านักพรตถูกคนลักพาตัว แต่เพราะ
โชคดีได้พบกับท่านแม่ทพั และไทเฮา ถึงได้รับความช่วยเหลือ จึงได้
ติดตามมาตอบแทนบุณคุณพวกท่านทั้งสองต่างหาก”
“ท่านนี่เป็ นฮูหยินผูเ้ ฒ่าได้ยงั ไงกัน ทาไมจึงเอาแต่หาเรื่ องขัดแย้งกับ
ลูกหลานของตนเองละฮื้อ? คนชราสมควรมีเมตตาเปี่ ยมด้วย
คุณธรรม ไม่เช่นนั้นจะเอาบุญวาสนามาจากที่ไหนกัน”
เจียงเหม่ยหยู่ “………”
ตู๋กซู ิงหลันหันไปมองดูนกั พรตอู๋เจิน นางหรี่ ดวงตาดอกท้อคู่น้ นั ลง
เล็กน้อย พอใช้ได้ไม่เลว สมกับที่ตกั เตือนสร้างจิตสานึกมาตลอด
ทาง นับว่าไม่เสี ยแรงกายแรงใจไปอย่างเปล่าประโยชน์ เจ้าตัวร้ายนี่
นับว่ารู ้จกั พลิกแพลงได้ทนั อยู่
นักพรตอู๋เจินถูกนางมองเสี ยจนขนลุกเย็นวาบขึ้นมา ก็รีบกางยันต์
ภพหน้าในมือออก เปลี่ยนหัวข้อพูดไปว่า “มา ๆ ๆ พวกเรามาดูกนั
หน่อยสิ ไอ้ยนั ต์ชวั่ ร้ายคร่ าชีวิตผืนนี้……”
ตอนที่ 79 น่ ากลัวเหลือเกิน หงิง ๆ ๆ ๆ
ยันต์คร่ าชีวิต?
ผูค้ นทั้งหลายต่างตกใจ!
แม้แต่เต๋ อเฟยเองก็ตาโตขึ้นมาแล้ว!
” ท่านนักพรตอู๋เจินกล่าวผิดไปแล้วมั้ง นัน่ เป็ นยันต์เสริ มวาสนาภพ
หน้า ที่พระสนมเต๋ อเฟยวอนขอมาต่างหาก! ” พูดถึงตรงนี้น้ าเสี ยง
ของเจียงเหม่ยหยูก่ ค็ ่อย ๆ แผ่วลงไป
เต๋ อเฟยบอกแล้วว่า ยันต์แผ่นนั้นเป็ นนางใช่เวลาตั้งแต่ครึ่ งปี ก่อน
หน้าอ้อนวอนขอนักพรตอู๋เจินมาอย่างยากลาบาก แต่วา่ ตอนนี้แม้แต่
โฉมหน้าของนักพรตอู๋เจินนางกลับไม่รู้จกั เช่นนั้นยันต์ผนื นี้……
“ข้านักพรตวาดยันต์มาก็หลายปี คนที่กล้าสงสัยในสายตาของข้า
นักพรต พึ่งจะมีฮูหยินผูเ้ ฒ่าท่านเป็ นคนแรก” นักพรตอู๋เจินเขม่น
มองเจียงเหม่ยหยูค่ ราหนึ่ง เจียงเหม่ยหยูถ่ ึงได้ปิดปากลง
เป็ นเพราะแผลเป็ นจากดาบบนตาข้างซ้ายนัน่ กับแววตาที่หนาวเย็น
ของเขารวมกันพาลให้ผพู ้ บเห็นต้องผวา
ครู่ ต่อมาก็เห็นนักพรตอู๋เจินนายันต์ผนื นั้นขึ้นมา ขมวดคิ้วแน่นพลาง
กล่าวว่า “โอ้เง็กเซียนบนสวรรค์ของข้า~ ข้าวกินมัว่ ยังพอได้ แต่
ยันต์ไม่อาจใช้อย่างสุ่ มสี่ สุ่มห้า ยันต์ผืนนี้หากถูกลูกหลานของเย่วฮู
หยินนามาเผาเซ่นไหว้ต่อหน้าสุ สานละก็ นี่จะกลายเป็ นเคราะห์หนัก
แล้ว บุญบารมีของบรรพบุรุษที่สะสมมาเสื่ อมสลาย ลูกหลายสาย
สกุลทั้งหมดต้องสิ้ นสู ญ นี่จะต้องมีผทู ้ ี่มีแค้นลึกล้ าขนาดไหนทา
ขึ้นมา? ถึงได้ลงมือหนักขนาดนี้ “
แคว้นต้าโจวมีธรรมเนียมในการเซ่นไหว้ผทู ้ ี่จากไป จะต้องให้ผทู ้ ี่มี
สายเลือดใกล้ชิดที่สุดจุดไฟเผาส่ ง
ยังดีที่วนั นี้เขาอยูท่ ี่นี่ ไม่เช่นนั้นหากว่ายันต์ผนื นี้ถูกไทเฮาและท่าน
แม่ทพั สองพี่นอ้ งเผาไปละก็ ผลร้ายที่จะตามมาเขาคงไม่กล้าคาดคิด
พูดไปแล้ว เขาก็พยักหน้าติด ๆ กันหลายครั้ง พลางเหลือบตาไป
ทางตู๋กซู ิงหลัน เห็แม่นางน้อยชุดขาวนัน่ จับตาดูเขาอย่างใกล้ชิด ใจ
ของเขาก็เกิดความหวาดหวัน่ ขึ้นมาอีก
สตรี ที่สามารถทาให้ฮ่องเต้หลงใหลในความงามจนถึงกับ
สิ้ นพระชนม์ไปได้ สตรี ที่ท้ งั ฝี ปากดีเป็ นพิเศษและยังมักจะอารมณ์
รุ นแรง สตรี ที่น่าหวาดกลัวเสี ยยิง่ กว่าผีปีศาจ……จะมีคู่แค้นมาก
หน่อยก็ถือว่าสมควรอยู่
“แต่วา่ ยันต์นนั่ เทียบกับยันต์ภพหน้าแล้วดูคล้ายกันมาก ” ในบรรดา
ผูท้ ี่อยูท่ ี่นี่กม็ ีผทู ้ ี่มากประสบการณ์รวมอยูด่ ว้ ย “ท่านนักพรตอู๋เจิน คง
ไม่ใช่แค่ท่านกล่าวว่ามันเป็ นยันต์แช่ง มันก็ถือว่ามันใช่แล้วหรอก
นะ? “
“อักขระยันต์น้ ีนบั ว่าคล้ายคลึงกับยันต์ภพหน้ามากอยู่ เพียง
เปลี่ยนแปลงไม่กี่ลายภู่กนั เท่านั้น พวกเจ้าไม่ใช่ผบู ้ าเพ็ญเพียรวิชาเต๋ า
จะไปรู ้อะไร? ” นักพรตอู๋เจินขู่ใส่ คนพวกนั้น “ยิง่ ไปกว่านั้น ยันต์
ผืนนี้ใช้เลือดเขียนขึ้นมา เป็ นเลือดจากศพคน พวกเจ้าคิดว่ายันต์ที่ใช้
สิ่ งอัปมงคลเช่นนี้วาดขึ้นมาจะยังเป็ นยันต์ที่ดีได้อีกหรื อ? “
“แต่ไหนแต่ไรผูอ้ าวุโสล้วนไม่เคยมุสา หากทุกท่านข้องใจในตัวผู ้
อาวุโส ก็เท่ากับว่าไม่ให้ความเคารพอารามเทียนเก๋ อกวนเรา”
บรรดาลูกศิษย์ของนักพรตอู๋เจินชักจะเริ่ มไม่พอใจขึ้นมาบ้างแล้ว
คาพูดของนักพรตในอารามเทียนเก๋ อกวน พวกคนธรรมดาสามัญ
เหล่านี้กลับกล้าแสดงความสงสัยออกมาได้ต้ งั แต่เมื่อไหร่ กนั ?
คาพูดพึ่งกล่าวจบไป ในมือของนักพรตอู๋เจินก็เกิดเปลวเพลิงสี น้ า
เงินขึ้นบนกลางฝ่ ามือ เผาทาลายยันต์ผนื นั้น พลันเกิดกลิ่นเหม็นน่า
สะอิดสะเอียนอย่างรุ นแรง ทาให้ผอู ้ ยูใ่ กล้พะอืดพะอม
เป็ นกลิ่นที่เกิดจากเลือดของศพที่ยนั ต์ผนื นี้ใช้วาดขึ้นมา
คราวนี้ ไม่มีผใู ้ ดกล้าสงสัยอีกแล้ว
เมื่อมองเห็นยันต์คาสาปกลายเป็ นเถ้าถ่าน ผูค้ นทั้งหลายก็พากันหัน
ไปมองเต๋ อเฟยแล้ว
พวกเขาล้วนรู ้สึกว่าไม่อยากจะเชื่อเลย พระสนมเต๋ อเฟยที่มีเมตตา
ปราณี หนักหนา จะทาเรื่ องเช่นนี้ข้ ึนมาได้
เรื่ องนี้จะต้อง มีความเข้าใจผิดในที่ใดที่หนึ่งเป็ นแน่ใช่ไหม?
เต๋ อเฟยกุมมือไว้ที่ทรวงอก ดวงตาทั้งคู่ลว้ นมีประกายน้ าตาคลออยู่
แล้ว สะท้อนความตื่นตระหนกอย่างรุ นแรงและความชอกช้ าเพราะ
ความอยุติธรรมที่ได้รับ ยันต์ที่นางขอมาไม่มีทางเกิดปัญหาได้!
ทั้งหมดนี่เป็ นตู๋กซู ิงหลันและนักพรตอู๋เจินนัน่ ร่ วมมือกัน คิดจะผลัก
นางให้ไร้ซ่ ึงหนทางอีกต่อไป!
สองขาของนางอ่อนแรง ทรุ ดตัวคุกเข่าลงตรงหน้าฝ่ าบาท “ฝ่ าบาท
เพคะ หม่อมฉันถูกใส่ ความ หม่อมฉันไม่มีทางกระทาเรื่ องเลวทราม
โหดร้ายเช่นนั้นได้! ขอพระองค์ทรงเชื่อหม่อมฉันเถิดเพคะ~”
ตู๋กซู ิงหลันยืนอยูข่ า้ ง ๆ จีเฉวียน สายตาของนางจดจ้องอยูท่ ี่เต๋ อเฟ
ยอย่างเย็นชาสุ ดขีด
ดูใบหน้าน้อย ๆ นัน่ สิ ทาเป็ นโศกเสี ยจนเสมือนดอกไม้สลด ใคร
เห็นเป็ นต้องเกิดความสงสาร
ปกติเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ตู๋กูซิงหลันจะต้องชิงลงมือก่อน
เต๋ อเฟยก้าวหนึ่ง โผเข้ามาหาฮ่องเต้เรี ยกคะแนนสงสารไม่ใช่หรื อ ฝ่ า
บาทผูท้ รงเตรี ยมพระองค์ไว้อย่างดีวา่ จะถูกนางเข้ามา
กระเง้ากระงอดเพือ่ การณ์น้ ี ถึงกับทาพระองค์ไม่ถูกเพราะไม่เคยชิน
เสี ยแล้ว
นางสมควรจะคว้าฉลองพระองค์ของเขาไว้คร่ าครวญว่า “ฝ่ าบาทเพ
คะ หม่อมฉันกลัว นี่มนั ช่างน่ากลัวเหลือเกินเพคะ หงิง ๆ ๆ ๆ ~

แต่วา่ คราวนี้นางกลับไม่มากระเง้ากระงอดเขาแล้ว เพียงแต่ยนื อย่าง
สงบนิ่งข้าง ๆ เขา ราวกับว่าเรื่ องนี้จะมีเขามาเอี่ยวด้วยหรื อไม่ก็
ไม่ใช่เรื่ องสาคัญอีกแล้ว
ฮ่องเต้ทรงรู ้สึกไม่สบายพระทัยจนรุ่ มร้อนอย่างไร้สาเหตุ เขาถูกตู๋กู
ซิงหลันพะเน้าพะนอมานานจนเคยเสี ยแล้ว หากว่านางกลายเป็ นเฉย
ชาไร้อารมณ์ เขารู ้สึกว่าไม่ดีไม่เหมาะอย่างไรไม่รู้
สี พระพักตร์ของฮ่องเต้เคร่ งขรึ มลง กวาดพระเนตรมองเต๋ อเฟยที่
น้ าตาตกดังสายฝนครั้งหนึ่ง “ตกลงว่าเจ้าขอยันต์มาจากผูใ้ ดกันแน่?

เต๋ อเฟยรี บทูลตอบว่า “หม่อมฉันได้ทาการวอนขอยันต์จากท่าน
นักพรตอู๋เจินจริ ง ๆ เพคะ แต่วา่ ท่านนักพรตไม่เคยยอมออกมาพบ
ต่อมาลูกศิษย์ของท่านนักพรตถูกหม่อมฉันวิงวอนจนหวัน่ ไหว จึง
ได้มอบยันต์ให้สองผืน เขาบอกว่าอักขระยันต์น้ ีเป็ นท่านนักพรตอู๋
เจินเขียนด้วยตนเอง….หม่อมฉันย่อมต้องเชื่อ เพราะว่าสถานที่เช่น
อารามเทียนเก๋ อกวนนั้น คนเช่นหม่อมฉันจะกล้าสงสัยได้
อย่างไร…..”
เต๋ อเฟยร่ าไห้ไม่หยุด ท่าทางของนางราวกับได้รับความอยุติธรรม
อย่างหนักหนา
นางกัดริ มฝี ปากจนแทบจะเลือดออก วันนี้นางต้องเจอเรื่ องใหญ่
ขนาดนี้ มีหรื อจะยอมถอดใจไปได้!
นังตู๋กซู ิงหลันช่างมีพิษสงนัก วางแผนร้ายใส่ นาง! นางจะไม่ยอม
ปล่อยมันไปเด็ดขาด!
“พอดีเชียว ศิษย์ท้ งั หมดขอข้านักพรตล้วนอยูท่ ี่นี่แล้ว พระสนมเต๋ อ
เฟยท่านลองดูสิ ว่าเป็ นคนหนึ่งคนใดในพวกเขาหรื อ? ” นักพรตอู๋
เจินนาศิษย์ท้ งั หมดมาที่เบื้องหน้าของเต๋ อเฟย ให้นางได้ช้ ีตวั คน
เต๋ อเฟยกวาดตามอง แล้วก็ชะงักไป ในบรรดาคนพวกนี้……ไม่มี
ผูใ้ ดเหมือนกับนักพรตผูน้ ้ นั เลย
นางกัดริ มฝี ปากย้าลงไปอีก มองไปที่ต๋ ูกซู ิงหลันด้วยแววตาโกรธ
เกลียด ตอนนี้นางเข้าใจแล้ว ตู๋กซู ิงหลันวางหมากเอาไว้อย่างดีถึง
เพียงนี้!
นางเคยคิดว่าตนเองวางแผนแต่ละก้าวเอาไว้อย่างดี กลับคาดไม่ถึงว่า
ตนเองจะตกลงไปในหลุมพรางของนังตัวร้ายนัน่
ช่างยอดเยีย่ มนัก นังไทเฮาที่ทาตัวเป็ นหมูกินเสื อ!
ยันต์ที่เอาชีวิตนางได้ผนื นั้น จะต้องเป็ ต๋ ูกซู ิงหลันวางแผนให้คน
นามาให้นาง!
นังตัวร้ายนัน่ ไม่พอใจนางอยูต่ ้ งั แต่แรกแล้ว! ย่อมต้องเป็ นเพราะเคย
เห็นนางและอี้อ๋องพุดคุยกัน ถึงได้เกิดความหึงหวง!
และเพราะคราวนี้ นังหญิงชัว่ นัน่ คิดจะเกาะติดฝ่ าบาท คิดจะเปลี่ยน
ตนเองจากไทเฮามาเป็ นพระสนม ไม่สิ อาจจะเป็ นถึงฮองเฮา!
ดังนั้นจึงจาเป็ นต้องหาทางกาจัดผูท้ ี่ฝ่าบาทให้ความสาคัญเช่น
ตนเอง!
หมากตานี้ช่างชัว่ ช้านัก!
หากไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้นางใจไม่เ**้้ยมมือไม้อ่อนเกินไปละก็
มันคงต้องตายไปแล้วไม่รู้ต้งั กี่ครั้ง!
ตอนนั้นยาที่ใส่ ให้มนั ตอนที่ส่งขึ้นเตียงบรรทมของฝ่ าบาท……….
ตัวยาน้อยเกินไปแล้ว!
ตู๋กซู ิงหลันมองดูนางอย่างเงียบ ๆ คาพูดของเต๋ อเฟยนางเชื่อถือเพียง
แค่ครึ่ งเดียว
นางอาจจะไม่รู้จริ ง ๆ ว่ายันต์นนั่ เป็ นยันต์สาปแช่ง เพราะ
จุดประสงค์ที่แท้จริ งของเต๋ อเฟยในวันนี้ คือต้องการให้ ‘ฆาตกรฆ่า
นักโทษ’ เช่นนางพ่ายแพ้ชื่อเสี ยงย่อยยับ ให้ฝ่าบาทจาต้องจัดการ
ลงโทษนางต่อหน้าผูค้ นทั้งหลาย
เมื่อเป็ นเช่นนี้ นางและพี่ใหญ่ยอ่ มไม่มีโอกาสมานัง่ เผายันต์ผนื นั้น
แล้ว
เช่นนี้กม็ ีปัญหาอยูบ่ า้ งแล้ว…..ตกลงว่าเป็ นฝี มือของใครกันแน่ ที่คิด
จะยืมมือของเต๋ อเฟย มาจัดการพวกนางตระกูลตู๋กไู ม่ให้ตายดี?
จีเฉวียนหรื อ?
ตู๋กซู ิงหลันคิดถึงเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่เป็ นคนแรก นางอดไม่ได้ที่จะ
เหลือบมองเขาอยูห่ ลายครั้ง
พอดีกบั ที่ต่างฝ่ ายก็ประสานสายตาหากัน
ดวงเนตรหงส์คู่น้ นั ยังคงเย็นชาเหมือนเช่นเคย แต่วา่ กลับมีแววภูมิใจ
อยูไ่ ม่นอ้ ย
มองมาที่เรา หมายความว่าอยากให้เราหนุนหลังเจ้า
จีเฉวียนยกคางขึ้นเล็กน้อย สงสายตากลับไปว่า ‘ขอร้องเราสิ ’!
ตู๋กซู ิงหลันกลับไม่ได้สนใจการสื่ อสารทางสายตาของเขาสักนิด นาง
ลอบส่ ายศีรษะเบา ๆ
ไม่ใช่เขา….เมื่อสักครู่ กไ็ ด้ยนิ เต๋ อเฟยพูดแล้วว่า นางขอยันต์นนั่ มา
สองผืน อีกผืนหนึ่งเตรี ยมจะถวายฉางซุนไทเฮา
เจ้าฮ่องเต้สุนขั จีเฉวียนผูน้ ้ ี คิดลงมือใครก็ได้อยูแ่ ต่ไม่มีทางทาให้
ตนเองต้องเดือดร้อน
แต่กไ็ ม่แน่วา่ เขาอาจจะจงใจทายันต์สาปแช่งนัน่ ขึ้นมาอีกชุด เพราะ
ถึงอย่างไรจะเผาหรื อไม่เผาก็อยูท่ ี่ตวั เขาเอง
หากว่าเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่เผายันต์นนั่ ต่อหน้าพระสุ สานของฉางซุน
ฮองเฮาละก็……..
ตู๋กซู ิงหลันลูบคางอย่างครุ่ นคิด พลางหันไปมองดูผคู ้ นที่อยูโ่ ดยรอบ
สุ ดท้ายก็หยุดลงที่จีเย่วแ์ ละเสี ยนไท่เฟยที่เสมือนไม่มีตวั ตนมาโดย
ตลอด
ในแผ่นดินต้าโจวนี้ ผูท้ ี่อยากจะให้เจ้าฮ่องเต้สุนขั นั้นตายวันตายพรุ่ ง
นอกจากตัวนางตู๋กซู ิงหลันแล้ว ก็คือสองแม่ลูกอี้อ๋องนี้ละ
ตอบที่ 80 สนมร้ าย
เสี ยนไท่เฟยถือร่ มเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่เห็นว่าเป็ นเพียงร่ มขาวด้ามหนึ่ง แต่
กลับบดบังแสงอาทิตย์ท้ งั หมดเอาไว้ แสงสว่างไม่อาจเล็ดลอดลงมา
ได้
สายตาลึกลับคู่น้ นั จดจ้องอยูท่ ี่ต๋ ูกซู ิงหลัน ทั้งยังแฝงความห่วงใยอยู่
เล็กน้อย
สี หน้าของนางสงบนิ่ง แม้แต่ยามสบตากับตู๋กซู ิงหลัน นางก็ไม่ได้
หลบหลีก ทาให้คนยากจะดูออก
กลับเป็ นจีเย่ว์ ที่พอเขาได้สบตากับตู๋กซู ิงหลันนั้น ใจทั้งดวงก็สนั่
สะท้านเสี ยแล้ว
ในที่สุดนางก็……ยอมมองมาที่เขาแล้วหรื อ?
ขณะที่เต๋ อเฟยยังแต่ร่ าไห้อยูน่ ้ นั นักพรตอู๋เจินก็ถามขึ้นอีกครั้ง “พระ
สนมเต๋ อเฟย ท่านหาพบหรื อยังว่าเป็ นศิษย์คนใดของข้าที่มอบยันต์
ให้ท่านไป? “
หากว่าเต๋ อเฟยผูน้ ้ ีไม่ได้มุสา การที่มียนั ต์สาปแช่งชัว่ ร้ายเช่นนี้ถูก
ส่ งออกไปจากอารามเทียนเก๋ อกวนของพวกเขา ก็ถือว่าเป็ นเรื่ องที่
ร้ายแรงอย่างยิง่
แต่หากว่าเต๋ อเฟยผูน้ ้ ีเป็ นคนมดเท็จหลอกลวง สตรี เช่นนี้กไ็ ม่
เหมาะสมที่จะเป็ นพระสนมในวังหลังของต้าโจว
เพราะว่าจิตใจที่โหดเ**้้ยมร้ายกาจเช่นนี้ หากว่าภายหน้าเกิด
สามารถสร้างความหลงใหลให้กบั ผูค้ รองแคว้น เช่นนั้นก็ถือเป็ น
เภทภัยของบ้านเมืองและปวงประชาแล้ว
เต๋ อเฟยส่ ายศีรษะ “คนผูน้ ้ นั ไม่อยูใ่ นกลุ่ม……ไม่รู้วา่ อารามเทียนเก๋
อกวนดูแลสัง่ สอนกันอย่างไร ถึงได้ปล่อยให้มีคนปลอมแปลง
กระทัง่ ลูกศิษย์ของผูอ้ าวุโสขึ้นมาได้”
พูดออกไปแล้ว นางก็หนั ไปร่ าไห้น้ าตานองกับจีเฉวียน เพียงวาด
หวังว่าเขาจะยังมีเยือ่ ใยอยูบ่ า้ ง เชื่อมัน่ ในตัวนาง
แต่สายพระเนตรของฝ่ าบาทมีแต่ความเย็นชา ดุจแท่งน้ าแข็งของดวง
จันทร์ในฤดูหนาว ทาให้ทวั่ ร่ างของนางกลายเป็ นหนาวเหน็บใน
ทันใด
นางมองไปยังผูค้ น หวังว่าจะมีใครก้าวออกมาพูดแก้ต่างให้กบั
ตนเอง
แต่วา่ เมื่อมองไปแล้ว สายตาของผูค้ นทั้งหลายต่างระแวงคลางแคลง
ใจ
เมื่อครู่ ก่อนคนพวกนี้ยงั สรรเสริ ญนางว่ามีเมตตาปราณี ราวพระ
โพธิสตั ว์อยูเ่ ลย ต่างชมเชยว่านางทั้งงดงามและมีจิตใจบริ สุทธิ์ แทบ
จะโอบอุม้ นางลอยขึ้นฟ้าไป….เฮอะแต่วา่ ตอนนี้ ต่างก็ลงั เลทั้งยังไม่
มีน้ าใจ

“พระสนมเพคะ~” ซิ่วเหอเข้ามาพยุงนาง ก่อนหน้านี้ยามที่พระ


สนมยังเป็ นคุณหนูผสู ้ ู งศักดิ์น้ นั นางมีชื่อเสี ยงเลื่องลือไปทัว่ เมือง
หลวง ผูค้ นที่ส่งเทียบมาสู่ ขอมีมากมายจนประตูจวนใหญ่แทบจะ
พัง
แต่วา่ พระสนมไม่เหลือบแลผูใ้ ด กลับเอาแต่ปักใจต่อผูท้ ี่ไม่สมควร
จะมอบใจให้ผนู ้ ้ นั …..
จวบจนกระทัง่ ฝ่ าบาทขึ้นครองราชย์ เพราะไม่อาจขัดพระบัญชาจึง
จาต้องเข้าวังมาเป็ นพระสนม
แต่วา่ ฝ่ าบาททรงได้สตรี ที่ดีงามเช่นพระสนมไปกลับไม่ใส่
พระทัย…. ไปยอมให้นงั สวะนัน่ ล่อลวง
หยาดน้ าตาของเต๋ อเฟยหยดลงบนพระวรกายของจีเฉวียน แต่จี
เฉวียนกลับสนใจมองดูแต่เพียงตู๋กซู ิงหลัน
เช่นนี้กห็ มายความว่า ในสายพระเนตรของฝ่ าบาท นางไม่มีทางจะ
เปรี ยบได้กบั เส้นผมสักเส้นของตู๋กูซิงหลันเลยหรื อ?
นางกาหมัดแล้วกาหมัดเล่า ภายใต้การพยุงขึ้นของซิ่วเหอ นาง
ตัดสิ นใจแม่นมัน่ มองไปยังจีเฉวียนกล่าวว่า “ฝ่ าบาทเพคะ หม่อม
ฉันมีความผิด แต่อย่างมากก็เป็ นเพียงเพราะถูกนักพรตเลวของ
อารามเทียนเก๋ อกวนนัน่ หลอกลวงเอา ทาให้ทาผิดไปโดยมิได้มี
เจตนา พระองค์ทรงพระปรี ชา จะต้องสามารถช่วยคืนความบริ สุทธิ์
ให้กบั หม่อมฉัน ใช่ไหมเพคะ? “
ยังมีผคู ้ นไม่นอ้ ยที่เห็นใจนางอยู่ พวกเขาต่างไม่อาจเชื่อได้วา่ พระ
สนมเต๋ อเฟยจะทาเรื่ องเลวร้าย
เจียงเหม่ยหยูถ่ ึงกับก้าวออกมาเป็ นคนแรก “ฝ่ าบาทเพคะ พระองค์
สมควรสัง่ ให้มีการสื บสวนอารามเทียนเก๋ อกวน คืนความบริ สุทธิ์
ให้กบั พระสนมเต๋ อ! หม่อมฉันไม่เชื่อว่า พระสนมเต๋ อเฟยที่เป็ นคน
มีเมตตา จะทาเรื่ องร้าย ๆ เช่นนั้น”
จีเฉวียนเพียงแต่สาดพระเนตรเย็นชาออกไป ก็ทาให้เจียงเหม่ยหยูต่ ก
กะใจจนหุบปากลง
หลี่กงกงก็ถลึงตาใส่ นาง “ฝ่ าบาททรงประสงค์จะทาสิ่ งใด ยังจะต้อง
ให้เจ้ามาสัง่ สอนหรื อ? “
เจียงเหม่ยหยูไ่ หนเลยจะกล้าพูดอีก ได้แต่หลัง่ เหงื่อเย็นท่วมศีรษะ
ค่อย ๆ ถอยออกไปยืนอยูอ่ ีกด้านหนึ่ง
เต๋ อเฟยทาท่าจะพูดอยูห่ ลายครั้ง คิดจะอธิบายสิ่ งใดเพิ่มเติม ก็พลัน
ได้ยนิ เสี ยงฝี เท้าม้าและเห็นบุรุษหนุ่มในชุดขุนนางผูห้ นึ่งขี่มา้ มาถึง
ที่ดา้ นหลังของเขายังมีรถม้าขนาดเล็กคันหนึ่งตามมาด้วย
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็ชะงักไป บุรุษผูน้ ้ นั ไม่ใช่วา่ เป็ น……..
ษุรุษผูน้ ้ นั พอมาถึงก็รีบลงจากหลังม้า คุกเข่าลงที่เบื้องหน้าของจี
เฉวียน “กระหม่อม ชิงจิ่งหยูแห่งกรมสื บสวนคดี ถวายพระพรฝ่ า
บาท”
จีเฉวียนโบกพระหัตถ์เบา ๆ “ลุกขึ้นแล้วค่อยพูดเถอะ”
“ทูลฝ่ าบาท พระสนมฉีผินมีเรื่ องสาคัญต้องการจะกราบทูลต่อหน้า
พระพักตร์ กระหม่อมไม่กล้ารอช้า จึงได้นาตัวนางมาเข้าเฝ้าโดย
พละกาล ทาให้เป็ นที่ข่นุ เคืองพระทัยพระองค์แล้ว”
พอได้ยนิ เขากราบทูลออกมาเช่นนี้ ผูค้ นทั้งหลายต่างอดที่จะตกใจ
ไม่ได้ เรื่ องของฉีผนิ ผูน้ ้ นั ได้ยนิ ว่านางวางยาพิษทาร้ายฝ่ าบาท จึงถูก
จับขังอยูท่ ี่กรมสื บสวนมาโดยตลอด แต่กลับสอบไม่ได้ความอันใด
ออกมา ทาไมถึงได้อยูด่ ี ๆ ก็มาขอเข้าเฝ้าฝ่ าบาทกันล่ะ?
ประเด็นสาคัญก็คือ จิ่งหยูถึงกับกล้านานางมาเข้าเฝ้าด้วย? ไม่เกรง
หรื อว่าจะทาให้ฝ่าบาททรงพิโรธ?
ขุนนางกรมสื บสวนกราบทูลจบ ก็เห็นว่าม่านบนรถม้าถูกแง้ม
ออกมา ฉีผนิ ที่ผา่ ยผอมราวหนังหุม้ กระดูกค่อย ๆ ลงมาจากรถม้า
คุกเข่าลงตรงหน้าจีเฉวียนโดยทันที

“ฝ่ าบาทเพคะ~ ขอทรงพระกรุ ณาให้ความเป็ นธรรมกับหม่อมฉัน


ด้วยเพคะ~”
ทันทีที่เห็นฉีผนิ ปรากฎตัว สี หน้าของเต๋ อเฟยก็กลายเป็ นซีดขาวไป
ในทันที ขณะที่นางจดจ้องไปที่ฉีผิน เลือดในตัวทั้งหมดก็จบั ตัวจน
เย็นเฉียบ
ยามที่ฉีผินเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาที่ปูดโปนนัน่ ราวกับผีตายโหง จ้อง
มองนางด้วนความเคียดแค้น
ชัว่ ขณะนั้นความรู ้สึกไม่ดีอย่างรุ นแรงก็ก่อตัวขึ้นจับหัวใจของเต๋ อ
เฟย ทาให้แม้แต่มือของนางยังสัน่ สะท้าน
คราวนี้ แม้แต่ซิ่วเหอเองก็พดู อะไรไม่ออกไปแล้ว ……นางหันไป
มองหาตู๋กูเหลียนจ้องนางด้วยแววตาเย็นยะเยือก ใช้สายตาเย็นวาบ
นัน่ ไต่ถามนางว่านี่มนั เกิดอะไรขึ้นกัน
ฉีผนิ ไม่ได้ถูกตู๋กซู ิ งหลันฆ่าตายก็แล้วไป แต่ทาไมถึงได้เลือกที่จะมา
ขอเข้าเฝ้าฝ่ าบาทในช่วงเวลาเช่นนี้ดว้ ย?
เสี ยดายที่ ‘ตู๋กเู หลียน’ ก็หน้าเสี ยและตื่นตระหนกเช่นกัน ราวกับว่า
นางไม่กล้าที่จะเชื่อในสิ่ งที่ตนเองเห็นอยูด่ ว้ ยซ้ า
เต๋ อเฟยและซิ่วเหอย่อมไม่กล้าไปหาเรื่ องเอาความต่อหน้าผูค้ น
ทั้งหลาย
ซิ่วเหอส่งสายตาเย็นชา พอเห็นฉีผนิ เริ่ มเปิ ดปากพูด นางก็ลว้ งเอา
เข็มพิษออกมา
เพียงแต่นางเองก็ไม่กล้าเขวี้ยงออกไปโดยง่าย ข้างกายของฉี ผนิ มีต๋ ูกู
จุนอยูใ่ กล้ ๆ หากขว้างเข็มนี้ออกไป แล้วเกิดโดนตู๋กจู ุนจับได้ ก็จะ
ยิง่ แก้ตวั ได้ลาบากแล้ว
นางลังเลอยูเ่ ป็ นนาน ถึงได้ยอมล้มเลิกความตั้งใจ
ขณะนั้นเองก็ได้ยนิ ฉีผนิ กราบทูลฝ่ าบาท “ฝ่ าบาทเพคะ! หม่อมฉันมี
ความผิด! ก่อนหน้านี้หม่อมฉันไม่ควรหลงเชื่อเต๋ อเฟย วางแผนลง
มือโหดเ**้้ยมต่อไทเฮา ไหนเลยจะรู ้วา่ เกิดความผิดพลาดจับพลัด
จับผลูกลายเป็ นทาร้ายพระองค์เข้า! และเพราะครอบครัวของหม่อม
ฉันตกอยูภ่ ายใต้อานาจของท่านรองมหาเสนาฯ จึงไม่มีทางเลือก
แม้แต่ยามอยูใ่ นคุกของกรมสื บสวนหม่อมฉันก็ยงั ไม่กล้าจะสารภาพ
ชื่อของเต๋ อเฟยออกมาแม้สักคา! “
ผูค้ นทั้งหลาย “??? “
เต๋ อเฟยมีโทสะขึ้นมาแล้ว “ฉีผนิ ที่ผา่ นมาข้าเอ็นดูเจ้าดุจน้องสาวแท้
ๆ แต่เจ้ากลับมีใจอามหิตโหดร้ายคิดให้ร้ายใส่ ความข้าหรื อ? “
เดิมทีเต๋ อเฟยเองก็ตื่นตระหนกเพราะเรื่ องยันต์สาปแช่งนี้อยูแ่ ล้ว
ตอนนี้กลับเพิ่มเรื่ องของฉีผนิ เข้าไปอีก นางสุ ดที่จะรับมือได้ทนั แล้ว
จริ ง ๆ
ถึงแม้นางจะเคยสงบนิ่งเยือกเย็นถึงเพียงไหน แต่ยามนี้ถึงกลับลืมตน
ไปแล้ว
“เฮอะ พระสนมเต๋ อเฟย ท่านรี บเอาหน้ากากเมตตาจอมปลอมนัน่
เก็บไปเถอะ ” ฉีผินหัวเราะเสี ยงเย็น “ข้ายังไม่ตาย เจ้าประหลาดใจ
มากใช่ไหมเล่า? ใครให้สวรรค์มีตากันล่ะ เจ้าคิดกระทัง่ จะฆ่าข้าปิ ด
ปาก แล้วผลักความผิดไปให้ไทเฮา หรื อยังจะให้ขา้ ต้องทนรับแทน
เจ้าต่อไปอีกหรื อ? ถึงแม้ขา้ จะไม่ได้เกิดมาสู งส่ งเช่นเจ้า แต่กจ็ ะไม่
ยอมให้เจ้าได้เหยียบยา่ ได้อีก! “
ผูค้ นทั้งหลาย “!!! ” หากนี่ไม่ใช่เรื่ องจริ ง แล้วไยฉี ผนิ ถึงได้มีสภาพ
เช่นนี้?
เพราะอย่างไรบิดาของนางก็ยงั ทางานอยูใ่ ต้การบังคับบัญชาของรอง
มหาเสนาบดี ก็เสมือนหนึ่งว่าคนทั้งบ้านตกอยูภ่ ายใต้ฝ่ามือของรอง
มหาเสนาฯ
อย่าว่าแต่ขนุ นางกรมสื บสวนมีชื่อเสี ยงลือลัน่ เรื่ องการสื บเสาะหา
ข่าว ……ฉีผนิ สามารถอดทนการเค้นข่าวของจิ่งหยู ก็แสดงว่านาง
เป็ นคนที่อดทนอย่างยิง่ ปิ ดปากแน่นราวขวดถูกผนึก หากไม่ใช่
เพราะเต๋ อเฟยทาเกินกว่าเหตุไป ฉีผินไหนเลยจะมาสารภาพต่อหน้า
ชี้ตวั นางออกมาได้?
พูดจบแล้ว ฉีผินก็ลว้ งเอาหนังสื อโลหิ ตม้วนหนึ่งออกมาจากอกเสื้ อ
“ฝ่ าบาท เรื่ องราวทั้งหมดหม่อมฉันได้สารภาพไว้ในฏีกาโลหิ ตฉบับ
นี้แล้ว มิวา่ ฝ่ าบาทจะทรงตัดสิ นเช่นไร หม่อมฉันล้วนยอมรับโทษ
หากแต่ขอฝ่ าบาททรงล้างพระเนตรให้กระจ่างใส อย่าได้ถูกสนม
ร้ายข้างพระองค์อาศัยโฉมหน้าเมตตามาหลอกลวงพระองค์อีก
ต่อไป! “
ขณะที่นางพูดถึงสนมร้ายอยูน่ ้ นั ผูค้ นต่างก็ไม่รู้วา่ ทาไมถึงได้พากัน
หันไปดูต๋ ูกูซิงหลันเป็ นตาเดียว
ไม่วา่ จะพิจารณาดูอย่างไร นังตัวร้ายนัน่ ก็ดูคล้ายสนมร้ายมากกว่า
เถอะ
ตอนที่ 81 ลูกเอ๋ย เจ้ าไม่ เจ็บหรื อ
ตู๋กซู ิงหลังยืนอยูข่ า้ งพระองค์ฮ่องเต้ สี หน้าปราศจากความรู ้สึกใด ๆ
นางในตอนนี้สงบเสงี่ยมอย่างยิง่ ไม่พดู มากแม้แต่คาเดียว รู ปโฉมที่
งามพิลาส เพียงได้เห็นก็บอกว่าคือสนมร้ายที่ล่มบ้านล้างเมือง หรื อ
นี่ถือเป็ นความผิดของนางด้วย?
ดูเอาสิ ตั้งแต่ตนจนจบนางยังไม่ได้ทูลฟ้องฝ่ าบาทเรื่ องเต๋ อเฟยแม้สกั
ครึ่ งคาเลยนะ เต๋ อเฟยน้อยนั้นทาตัวเองทั้งนั้น เกี่ยวอะไรกับนาง
ด้วย?
จีเฉวียนทรงรับหนังสื อโลหิตของฉี ผินที่คนส่ งต่อมาให้ เปิ ดออกดู
ทอดพระเนตรคราหนึ่ง ในหนังสื อโลหิ ตนัน่ เพียงกล่าวถึงว่าเต๋ อเฟย
ยุยงนางให้ลงมือ โดยใช้ครอบครัวของนางมาบีบบังคับ สุ ดท้าย
ล่อลวงตู๋กซู ิงหลันมายังกรมสื บสวน คิดจะควบคุมบังคับตู๋กซู ิงหลัน
ให้กาจัดนาง
ยังโชคดีที่ไทเฮาเฉลียวฉลาดมีไหวพริ บแก้ไข จึงทาให้ท้ งั สองหนี
ออกมาได้ นางทราบซึ้งบุญคุณของไทเฮาอย่างยิง่ ยินดีใช้ชีวิตตนเอง
เป็ นประกัน และชี้ตวั เต๋ อเฟยผูบ้ งการ
สี พระพักตร์ของจีเฉวียนยังคงเย็นชาเสมือนตอนแรก เพียงแต่ทรง
หันไปทอดพระเนตรตู๋กูซิงหลันบ้างแล้ว
เขามองนางพลาดไป
เขารู ้มาตลอดว่าตู๋กซู ิงหลันความคิดลึกซึ้ง ช่างวางแผน แต่คาดไม่ถึง
ว่าความสามารถของนางยังเหนือล้ ากว่าที่ตนเองคาดไว้
เต๋ อเฟยคิดจะใช้นกั พรตอู๋เจินส่ งเสริ มชื่อเสี ยงของนาง ทั้งยังหลอก
ใช้ฉีผินจัดการนาง
ตู๋กซู ิงหลันจึงซ้อนแผนกลับใช้นกั พรตอู๋เจินหักหน้านางอย่างแรง
ค่อยให้ฉีผนิ ผลักนางจนจนมุม
ไม่ออกหน้าแต่วา่ ควบคุมหมากทุกตัวไว้ ทั้งยังเปลี่ยนเบี้ยของผูอ้ ื่น
มาเป็ นของตน แต่ละตาแต่ละหลุมทาให้เต๋ อเฟยไม่อาจต่อกรได้ จน
ต้องพังทลายในที่สุด
คนที่ปากร้ายช่างว่าอย่างนาง วันนี้กลับไม่ได้พดู ว่าเต๋ อเฟยเลยแม้สกั
ครึ่ งคา
เพียงแต่จบั ตาดูสถานการณ์ วางแผนแต่ไกล และควบคุมทุกหมากไว้
ในมือ
จีเฉวียนดาริ แล้วยังยากจะทรงเชื่อ ว่าทั้งหมดนี้เป็ นแผนของสาวน้อย
วัยสิ บห้าปี ผูห้ นึ่ง
เขาจ้องมองดูต๋ ูกซู ิงหลันอยูน่ าน ครุ่ นคิดอยูว่ า่ หากนางเป็ นบุรุษละก็
เขาอยากจะให้นางเข้าวังมาเป็ นขุนนางจริ ง ๆ ให้นางได้ใช้ความเจ้า
เล่ห์กลิ้งกลอกนี้จดั การบ้านเมือง
“ฝ่ าบาทเพคะ จะต้องมีผใู ้ ดให้ผลประโยชน์แก่นางเป็ นแน่ ถึงทาให้
นางกล้ามาใส่ ความหม่อมฉันเช่นนี้ พระองค์ตอ้ งเชื่อหม่อมฉันนะเพ
คะ! ” เต๋ อเฟยยังไม่ยอมถอดใจ นางน้ าตาไหลสะอึกสะอื้น ดูไปน่า
สงสารอย่างที่สุด “หม่อมฉันเป็ นคนเช่นไร หรื อว่าพระองค์ไม่ทรง
ทราบหรื อเพคะ? “
จีเฉวียนทรงหันพระพักตร์ไปมอง จดจ้องนางด้วยสายพระเนตรเย็น
ชา เต๋ อเฟยเป็ นคนเช่นไรนะหรื อ แน่นอนว่าเขารู ้แก่ใจดี
คนที่อยูใ่ นวัง จะมีใครที่หน้าตรงกับใจบ้างละ? เพียงแต่วา่ ใครจะ
แสดงได้เก่งกว่ากันก็เท่านั้นเอง
ตอนที่เขาพึ่งขึ้นครองราชย์กร็ ับเหล่าสนมเข้ามามากมาย ก็เพียงเพื่อ
จะรวมอานาจในการปกครองเข้ามาไว้ในมือ พวกสตรี ท้ งั หลายในวัง
หลังขอเพียงฉากหน้ารู ้จกั แสดงออกว่าสามัคคีดีต่อกัน เขาก็ไม่คิดจะ
ไปถามไถ่ให้มากความ
เมื่อเห็นว่าพระองค์ไม่ได้ทรงตรัสสิ่ งใด เต๋ อเฟยก็ยงิ่ ร่ าไห้หนักขึ้น
“หม่อมฉันกับฉางซุนฮองเฮาถึงขนาดมีวนั เกิดตรงกัน ย่อมต้องมี
เมตตาเสมือนกับฉางซุนฮองเฮา ยามเด็กยังเคยได้รับการอบรมสัง่
สอนจากฉางซุนฮองเฮาไม่นอ้ ย พระองค์ทรงทราบดีที่สุด….”
ทันทีที่กล่าวถึงฉางซุนฮองเฮา พระวรกายของจีเฉวียนก็ปลดปล่อย
กระแสเย็นวาบออกมา เขาเขวี้ยงหนังสื อโลหิตฉบับนั้นใส่ หน้านาง
ตะโกนตรัสใส่ เต๋ อเฟยออกมาสองคา “หุบปาก”
พระมารดาของเขา สตรี เช่นเต๋ อเฟยย่อมไม่มีทางที่ทรงจะเอามา
เปรี ยบเทียบได้โดยเด็ดขาด!
ฮ่องเต้ทรงตรัสออกไปเช่นนี้ ผูค้ นทั้งหมดต่างทราบแล้วว่า เต๋ อเฟ
ยคงจะจบสิ้ นแล้ว
จากองค์ชายที่ไม่ได้รับความโปรดปรานมาขึ้นครองบันลังก์ได้เช่น
ฝ่ าบาท จะยังเป็ นคนธรรมดาได้อีกหรื อ?
ถึงแม้วา่ พวกเขาจะรังเกียจตู๋กซู ิงหลัน แต่วา่ เต๋ อเฟยก็ทาเกินไปแล้ว
…..ใครจะไปคาดคิดว่าเต๋ อเฟยที่ภายนอกดูมีเมตตาหาที่ใดเปรี ยบ
จิตใจกลับลึกซึ้งชัว่ ร้ายถึงเพียงนี้?
เต๋ อเฟยมองดูหนังสื อโลหิตฉบับนั้น ยิง่ มองดูพระพักตร์ที่ไร้
ความรู ้สึกของฝ่ าบาท ดวงใจของนางก็เหน็บหนาวอย่างที่สุด
ฝ่ าบาทไม่ทรงเชื่อนาง ทุกอย่างจบแล้ว!
นางก้มหน้าลงในทันใด ในดวงตาเต็มไปด้วยความแค้น เมื่อเงยหน้า
ขึ้นมาอีกครั้งก็หนั ไปทางตู๋กซู ิงหลัน ดวงตาของนางมีแต่เส้นเลือด
จดจ้องไปยังตู๋กซู ิงหลัน และตะคอกออกไปด้วยความคุม้ คลัง่ “เป็ น
เจ้า! เป็ นนางมารเช่นเจ้าใช่ไหม? เจ้าใช้วิธีใดกันแน่ ถึงได้ทาร้ายข้า
จนสาหัสเพียงนี้? “
ท่าทางของนางแยกเขี้ยวเคี้ยวฟันเช่นนี้ ไหนเลยจะมีความอ่อนแอ
เปราะบางเช่นยามปกติเหลืออยูอ่ ีก?
คราวนี้แม้แต่ซิ่วเหอเองก็ร้ ังนางเอาไว้ไม่อยูแ่ ล้ว
เต๋ อเฟยเคยได้รับการสรรเสริ ญจากผูค้ นจนคุน้ เคยมานานแล้ว ตอนนี้
กลับต้องร่ วงหล่นลงไปในหลุมลึกเช่นนี้ จิตใจของนางไหนเลยจะ
ยังรับไหวอยูอ่ ีก?
พอนางด่าออกไป ก็เสมือนกลับว่ากลายเป็ นบ้าไปในทันที โถมตัว
เข้าหาตู๋กูซิงหลัน ตู๋กซู ิงหลันเองก็ไม่ทนั ได้หลบหลีก ถูกเต๋ อเฟย
ผลักกระแทกเข้ากับสุ สานของเย่วฮูหยิน
ข้อมือของนางถูกขูดถลอก เลือดสด ๆ อาบไปบนสุ สานของเย่วฮู
หยิน
เต๋ อเฟยกดนางเอาไว้ใต้ร่างในมือมีปิ่นปักผมที่กระชากออกมาจาก
มวยผม นางในยามนี้สยายผมออกมาจนยุง่ เหยิงดูไปคล้ายผีสาวที่น่า
หวาดกลัวตนหนึ่ง ปิ่ นในมือจี้ลงไปบนลาคอของตู๋กซู ิงหลัน “นัง
มารปี ศาจ! ถึงข้าจะต้องตาย ก็จะเอาเจ้าลงนรกไปด้วย! “
ดูเถิด หลังจากวันนี้ไป ผูค้ นทั้งหลายต่างได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริ ง
ของนางแล้ว ต่อให้ฝ่าบาทไม่ได้ประหารนาง แต่นางจะยังอยูใ่ นวัง
หลังต่อไปได้อย่างไร?
หากต้องทนมีชีวตอยูภ่ ายในสายตาดูถูกของผูค้ น นางขอตายเสี ย
ดีกว่า! และจะเอานางสวะนี้ตายไปด้วยกัน ให้มนั ไปปรโลกอย่างไม่
อาจสงบสุ ขไปตลอดทาง!
เหตุการณ์น้ ีเกิดขึ้นอย่างกระทันหันเกินไป แม้แต่ต๋ ูกจู ุนยังไม่อาจมี
ปฎิกิริยาได้ทนั รอจนเขาคว้าเอาดาบใหญ่ไปถึงเบื้องหน้าของน้อง
เล็กได้ ปิ่ นของเต๋ อเฟยก็กาลังจะแทงเข้าไปบนผิวของนางแล้ว
ตู๋กจู ุนยามนี้แทบขาดสติไปเสี ยแล้ว เพียงคิดแต่จะใช้ดาบฟันเต๋ อเฟย
ให้ตายไป
และในชัว่ ขณะนั้นนัน่ เอง มีมือสองมือยืน่ มาถึงตู๋ซิงหลันอย่างพร้อม
เพรี ยงกัน มือข้างหนึ่งเป็ นของฮ่องเต้ มืออีกข้างก็คืออี้อ๋อง
พระหัตถ์ของฝ่ าบาทคว้าลงบนลาคอของนาง บังปิ่ นของเต๋ อเฟย
เอาไว้ท้ งั หมด แต่หลังหัตถ์ของเขาย่อมถูกปิ่ นของเต๋ อเฟยแทงเข้า
แล้ว โลหิตสดไหลจากปากแผลย้อมลาคอของตู๋กูซิงหลันจนแดง
ชาดไปทั้งหมด
ทั้งยังหยาดเยิม้ จากลาคอของนางไหลริ นลงบนสุ สาน
หัตถ์ของอี้อ๋องคว้าลงบนมือของเต๋ อเฟย แทบจะบีบมือของนางจน
แหลกละเอียด

“โอ้ว เง็กเซียนบนสวรรค์ของข้า~ช่างน่ากลัวเหลือเกิน~ ”
นักพรตอู๋เจินร้องออกมาอย่างตระหนก…….ฝ่ าบาทและท่านอ๋ อง
ทรงรี บร้อนกันเกินไปหรื อเปล่า ไทเฮาน้อยผูน้ ้ นั ….นางแข็งแกร่ งยิง่
กว่าพวกท่านทั้งสองเสี ยอีกนะ!
หากว่านางตายไปได้ง่าย ๆ เขาจะถูกลักพาตัวมาที่นี่ได้อีกหรื อ?
” ยามปกติไม่ใช่วา่ ว่องไวปานกระต่ายเปรี ยวหรอกหรื อ? ทาไมคราว
นี้แม้แต่จะหลบยังหลบไม่พน้ ล่ะ? ” จีเฉวียนมองไปยังสตรี ที่นอน
หมอบอยูข่ า้ งสุ สาน กริ้ วเสี ยจนขบฟัน เมื่อครู่ หากไม่ใช่เพราะเขามี
ปฎิกิริยาว่องไว ตอนนี้นางก็คงกลายเป็ นศพไปแล้ว!
ตู๋กูซิงหลันตอนนี้แดงก่าไปทั้งใบหน้า เพราะถูกมือของเขากดจน
ดวงตาแทบเหลือกขาว
นางไม่ได้ถูกเต๋ อเฟยแทงตาย แต่จะถูกจีเฉวียนบีบคอตายแล้ว เขาเบา
มือหน่อยไม่ได้หรื อไง?
คอของโฉมงามมันหักง่ายนะรู ้ไหม?
นางสาลักไอออกมาหลายครั้งติด ๆ กัน พระหัตถ์ของจีเฉวียนถึงได้
คลายออกจากลาคอของนาง นางหายใจเข้าไปได้เฮือกหนึ่ง ก็รีบ
มองดูฝ่ามือของเขา ถามออกมาคาหนึ่ง “ลูกเอ๋ ย เจ้าไม่เจ็บหรื อ? “
ตู๋กซู ิงหลันไม่เข้าใจเลยว่า ทาไมเขาจะต้องช่วยนางเอาไว้ดว้ ย? ชีวิต
ฮ่องเต้มนั น่าเบื่อเกินไป เลยจะเก็บนางไว้รังแกทุกวัน?
จีเฉวียน “…….”
ลองแทงเจ้าดูบา้ งดูสิจะเจ็บไหม?
เขาหน้าดาคร่ าเครี ยด อยากจะจับนางมาตีแรง ๆ สักรอบ! เจ้าตัวไม่
รู ้จกั รักชีวิต!
เขายกมืออีกข้างขึ้นมา มองดูโลหิตสด ๆ มากมายที่ลาคอของนาง
พลันรู ้สึกกลัวขึ้นมา……..ยังโชคดี ที่นี่เป็ นเลือดของเขาเอง
พระหัตถ์ที่ยกขึ้นสู ง ค่อย ๆ ลดลงทีละน้อย เขายังไม่ทนั ได้ตรัสสิ่ ง
ใดออกไป ใต้ฝ่าเท้าก็เกิดความเคลื่อนไหว
ตอนที่ 82 ฝ่ าบาททรงถูกฝังทั้งเป็ น
ทันใดนั้นพลันปรากฎว่าสุ สานเย่วฮูหยินจมลงไปในพื้นดินชั้นหนึ่ง
พื้นที่โดยรอยแตกออก เกิดกระแสลมพัดขึ้นมา สายลมแรงจนทาให้
ดอกชมจันทราทั้งหมดปลิดปลิวขึ้นไปบนอากาศ บดบังสายตาของ
ผูค้ นทั้งหมด
รอกระทัง่ พวกเขาได้สติข้ ึนมา ก็พบว่าที่เบื้องหน้านอกจากตัวสุ สาน
แล้วนั้น ทั้งฝ่ าบาท ไทเฮา และแม้กระทัง่ อี้อ๋องต่างถูกกลืนหายไป
แล้ว
มีแต่เต๋ อเฟยที่ถูกทิ้งเอาไว้ ราวกับว่าถูกสุ สานนัน่ ผลักออกมา นอน
กองอยูพ่ บพื้นด้านหนึ่ง
“สวรรค์ทรงโปรด ช่วยฝ่ าบาทเร็ ว ๆ ! ” หลี่กงกงรี บตะโกนราวเป็ ด
ตัวผูร้ ่ าร้อง ยามนี้ไม่มีผใู ้ ดสนใจใยดีเต๋ อเฟยอีกแล้ว
ไม่เห็นหรื อว่าฝ่ าบาททรงหล่นลงไปในสุ สานหรื อ?
สุ สานของเย่วฮูหยินเป็ นผูใ้ ดสร้างกัน ทาไมถึงได้เปราะบางเพียงนี้?
จับนิดโดนหน่อยก็กลายเป็ นหลุมลงไปเลยหรื อ?!
ดาบทลายภูผาของตู๋กจู ุนหล่นอยูข่ า้ งกายเต๋ อเฟย เขาไม่คิดไตร่ ตรอง
อะไรก็ทาท่าจะกระโดดลงไปในหลุมของสุ สานเพื่อช่วยคนแล้ว แต่
ยังไม่ทนั ได้ลงไปก็ถูกหลี่กงกงคว้าแขนเสื้ อเอาไว้แน่น “ท่านแม่ทพั
ท่านอย่าได้หุนหัน ตอนนี้เหลือแต่ท่านเท่านั้นที่จะควบคุม
สถานะการณ์ได้ ใครจะรู ้บา้ งว่าใต้สุสานมีอะไรอยูบ่ า้ ง? หากว่าท่าน
ลงไปแล้วเกิดเรื่ องขึ้นอีก บ่าวเฒ่าเช่นข้าก็ไม่รู้วา่ จะทาเช่นไรดี
แล้ว…..”
ตู๋กจู ุนไหนเลยจะกังวลมากมายถึงเพียงนั้น ใต้สุสานนี้ต่อให้เป็ นถ้ า
เสื อวังมังกร เขาก็ตอ้ งลงไปนาตัวน้องเล็กขึ้นมาให้ได้ จีเฉวียนจีเย่ว์
จะตายก็ตายไป น้องเล็กของเขาแสนสาคัญล้ าค่า แม้แต่ผมเส้นเดียวก็
ไม่อาจให้หายไป!
แต่วา่ เจ้าหลี่กงกงผูน้ ้ ีกลับฉุดเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ใต้ฝ่าเท้าของ
พวกเขาทั้งสองก็เกิดความเคลื่อนไหวอีกครั้ง ทาให้ต๋ ูกจู ุนไม่อาจยืน
ได้อย่างมัน่ คง ทันใดสุ สานของเย่วฮูหยินก็เลื่อนกลับขึ้นมาอีกครั้ง!
ครู่ เดียวหลุมใหญ่ที่เปิ ดอยูเ่ มื่อครู่ กค็ ่อย ๆ เลื่อนปิ ดกลับไปต่อหน้า
ต่อตา!
สี หน้าของนักพรตอู๋เจินปรากฎแววตาสงสัย เหล่านักพรตที่อยูข่ า้ ง
กายเขาเองก็ลว้ นแสดงความประหลาดใจออกมา
หลี่กงกงตกใจจนหน้าซีดไปแล้ว คว้าข้อมือของตู๋กจู ุนร้องว่า
“ผีหลอก! ผีหลอก! อ๊าาา ฝ่ าบาท อ๊าาา ฝ่ าบาท ฝ่ าบาททรงถูกฝังทั้ง
เป็ นแล้ว อ๊าาาา!
หลี่กงกงร้องโวยวายเสร็ จก็เป็ นลมล้มพับไป
มาเจอเรื่ องน่ากลัวแบบนี้ยามกลางวันแสก ๆ นับว่ายากทนทานจริ ง

ตู๋กูจุนหันไปโยนหลี่กงกงให้ลูกน้องของตนเองดูแล
ฝังมารดาเจ้าน่ะสิ น้องข้ายังถูกขังอยูข่ า้ งล่าง!
ตู๋กจู ุนทั้งโกรธทั้งร้อนใจ มองมาทางเต๋ อเฟยที่ยงั ทรุ ดกองอยูท่ ี่พ้นื
เขาแทบจะอยากเอาดาบมาสับนางให้ตายเสี ยตรงนี้! หากไม่ใช่เป็ น
เพราะนาง มีหรื อน้องเล็กจะถูกสุ สานกลืนลงไป?
“ใต้เท้าจิ่ง รบกวนท่านนาเต๋ อเฟยและคนสนิทของนางไปขังเอาไว้
ในคุกของกรมสื บสวนก่อน ข้าแม่ทพั จะต้องหาหนทางช่วยเหลือ
ไทเฮาออกมา ” ตู๋กูจุนกวาดดาบผ่านศีรษะของเต๋ อเฟยออกไป ผม
ของนางก็ถูกหัน่ ออกไปครึ่ งหนึ่ง ถือเป็ นการระบายอารมณ์เมื่อครู่
เต๋ อเฟยตกตะลึงพรึ งเพริ ดไป นางทั้งโกรธทั้งหวาดกลัวขึ้นมา ทาให้
ไม่กล้าพูดจาออกไปแม้สกั คาเดียว
ใต้เท้าจิ่งหยูแ่ ห่งกรมสื บสวนก็ไม่มีโลเล รี บนาตัวพวกเต๋ อเฟยทั้ง
สองจนจากไปพร้อมกับลูกน้องของตู๋กจู ุนมุ่งหน้ากลับกรมสื บสวน
เสี ยนไท่เฟยเองก็ถือร่ มขยับเข้ามาอย่างรี บร้อน สายตาของนาง
เปิ ดเผยความกระวนกระวาย “ท่านแม่ทพั สุ สานนี้แปลกประหลาด
เกรงว่ามีแต่เปิ ดสุ สานออกจึงจะสามารถช่วยคนได้ ขอท่านได้โปรด
รี บตัดสิ นใจด้วย”
เจียงเหม่ยหยูไ่ ด้ยนิ ว่าจะขุดสุ สาน ระหว่างคิว้ ก็ปรากฎความยินดีข้ ึน
ในทันที เช่นนี้เจียงเย่วมีหวังได้ตายอย่างไม่สงบละสิ ?
นางรี บหันไปออกคาสัง่ ต่อเหล่าองครักษ์ในจวน “เร็ ว รี บไปขุดเปิ ด
สุ สานขึ้นมา ฝ่ าบาททรงสาคัญที่สุด! “
“ใครกล้าขยับวุน่ วาย? ” ตู๋กูจุนควงดาบขึ้นมา “สุ สานของท่านย่า
ของข้าแม่ทพั ใครกล้าแตะต้อง ข้าแม่ทพั จะฆ่าทิ้งเสี ย! “
น้องเล็กนั้นต้องช่วยแน่ แต่วา่ สุ สานท่านย่าไม่อาจให้ใครแตะต้อง
โดยง่าย!
เจียงเหม่ยหยูค่ ิดจะเข้าไปงัดข้อกับเขา ก็พลันเห็นนักพรตอู๋เจินเดิน
เข้ามา มองดูรอยเลือดที่ติดอยูบ่ นป้ายสุ สาน สี หน้าเปี่ ยมไปด้วย
ความเคารพและยาเกรง
เขารี บยกสองมือขึ้นมาไขว้กนั ไว้ ” อ้ายย่าห์ เง็กเซียนฮ่องเต้บน
สวรรค์ของข้า….สุ สานแห่งนี้ไม่ธรรมดา ไม่อาจแตะต้องได้ ไม่อาจ
แตะต้องได้เด็ดขาด”

…………………….
ในความมืด ที่มืดมิดเสี ยจนมองไม่เห็นนิ้วมือทั้งห้า อากาศภายในนี้
นับว่ายังพออบอุ่นอยูบ่ า้ ง ใต้ร่างก็นบั ว่านุ่มอยูไ่ ม่นอ้ ย
ตู๋กซู ิงหลันถูกกระแทกเสี ยจนมึนงง ในหัวมีแต่เสี ยงโหวงเหวง นาง
ลุกขึ้นมานัง่ ลาคอยังเหนียวเหนอะหนะ เลือดก็ยงั ไม่หยุดไหล ดูท่า
คงจะหมดสติไปได้ไม่นาน
นางมองไปรอบตัวทุกทิศทาง ตั้งสติได้ครู่ หนึ่งก็ค่อยลุกขึ้นมา ก้าว
เท้าออกไปได้กา้ วหนึ่งพลันรู ้สึกว่าเหยียบอะไรอยูใ่ ต้เท้าจนฝ่ าเท้า
นางรู ้สึกเจ็บ ๆ
พอเหยียบลงไปเบา ๆ อีกครั้งก็คล้ายได้ยนิ เสี ยงอะไรแทงทะลุเนื้อลง
ไป
พลันได้ยนิ เสี ยงงึมงาขึ้นว่า “เจ้าคิดปลงประชนม์เราหรื อไง? “
ตู๋กูซิงหลันพลันชะงักไปแล้ว รี บหมอบตัวลง นางคิดอะไรออกแล้ว
นางลูบ ๆ คลาไปทัว่ ตัว ก็ลว้ งเอาไข่มุกลูกหนึ่งออกมาจากใต้เข็มขัด
นี่เป็ นไข่มุกจากทะเลตงไห่ที่เจ้าฮ่องเต้สุนขั ริ บคืนมาจากเต๋ อเฟย
นางพกติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา ตะเตรี ยมจะหาโอกาสแอบขาย
ออกไป
พอสว่างขึ้นราไร ก็พอจะเห็นว่าฮ่องเต้ทรงพระพักตร์คว่าอยูบ่ นพื้น
กุมพระหัตถ์ที่ได้รับบาดเจ็บข้างนั้นไว้อย่างน่าสงสาร
ไอ้เมื่อกี้ที่นุ่ม ๆ อยูใ่ ต้ตวั นาง…….หรื อว่าจะเป็ นเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่?
เดิมทีปิ่นปักผมนัน่ เพียงเสี ยบอยูบ่ นหลังมือของเขาแค่ครึ่ งเดียว แต่
ฝ่ าเท้าของนางที่เหยียบลงไปเมื่อครู่ แทบจะทาให้ฝ่ามือของเขาถูก
แทงทะลุแล้ว อึก…..ดูท่าน่าจะเจ็บมาก
เห็นนางเอาแต่คุกเข่าดูอยูอ่ ย่างนั้น ไม่แสดงท่ากังวลสนใจแม้แต่
น้อย ฮ่องเต้กท็ รงเริ่ มกริ้ วขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
เจ้าตัวไม่มีน้ าใจ!
มันน่าจะให้ปิ่นนัน่ เสี ยบทะลุคอนางนัก ให้นางตายไปเลย!
“พยุงเราขึ้นมา ” เขาหงุดหงิดไม่นอ้ ยแล้ว อาศัยแสงสว่างจากไข่มุก
ที่ตกต้องลงบนตัวของนาง มือเท้าแขนขายังอยูค่ รบ บนร่ างไม่มี
สี สนั ร่ องรอยอะไร ดูท่าลงจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
ไม่บาดเจ็บก็ดีแล้ว ไม่เสี ยทีที่ตอนหล่นลงมานั้นเขาปกป้องนางไว้
ทั้งยังเอาตัวไปเป็ นเขียงเนื้อรองนางอีก
“มัวตะลึงอะไรอยูอ่ ีก? ” เห็นนางตั้งนานยังไม่ขยับตัว จีเฉวียนก็ยนื่
มือของตนเองออกไป “เราบาดเจ็บแล้ว เจ้าต้องมาพยุงสิ ”
หลุมแห่งนี้ลึกมาก ลึกถึงขนาดที่วา่ ตัวเขาเองก็บาดเจ็บแล้ว ข้อเท้า
และบั้นเอวล้วนปวดไปหมด ดูท่าคงจะบาดเจ็บจนถึงกระดูกเข้า
แล้ว
ตู๋กซู ิงหลัน “….” ว่ากันตามจริ งแล้ว จีเฉวียนในสายตาของนางไม่วา่
เมื่อไหร่ กท็ าตัวร้ายเสี ยจนน่าตบ ทุกครั้งที่เห็นหน้าของเขา นางเป็ น
ต้องอยากจะเอาส้นรองเท้าฟาดหน้าสักครั้ง
เพียงแต่ตอนนี้ท่าทางมอมแมมของเขาดูแล้วน่าสงสารยิง่ นัก ไหนจะ
บาดเจ็บที่ฝ่ามืออีก ราวกับสุ นขั ป่ าที่ถูกก้อนหินกระแทกเข้าใส่ อุง้
เท้า
พอคิดถึงว่าจะอย่างไรที่เขาได้รับบาดเจ็บก็เป็ นเพราะตัวนาง แล้วยัง
ทาตัวเป็ นเขียงเนื้อรองรับนางไว้อีก ตู๋กซู ิงหลันจึงไม่ได้กระแทกกับ
ก้นหลุม สองมือของนางก็ยนื่ ออกไปหาเขา
นางเดิมทีกม็ ีเรี่ ยวแรงมากอยูแ่ ล้ว พอเข้าไปประคองพระศอของฝ่ า
บาทขึ้นมา ก็ได้ยนิ เสี ยงกระดูดลัน่ กร๊ อบแกร๊ บ พระพักตร์ของฝ่ า
บาทก็เปลี่ยนเป็ นดาดุจก้นหม้อ
นางก็กล่าวอย่างเกรงใจว่า “ฝ่ าบาท ดูท่าเอวท่านจะไม่ดีเท่าไหร่ แล้ว
คนอายุยงั น้อยแต่กระดูกกลับเหมือนผูช้ ราเช่นนี้ ใช่ไม่ได้หรอกนะ
ท่านต้องรู ้จกั ออกกาลังให้มาก ๆ ….”
จีเฉวียน “…..” เขารู ้สึกอย่างชัดเจนเลยว่ากระดูกของตนเองเคลื่อน
ผิดที่ไป กล้ามเนื้อระบมเจ็บปวดไปหมด
เขาอดกลั้นความเจ็บปวดไว้ สู ดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ หลาย ๆ ครั้ง
ปลอบตนเองอย่าได้มีโทสะ
ครู่ ต่อมาเขากุมมือข้างที่บาดเจ็บไว้ กวาดตามองไปสี่ ทิศรอบด้าน
ค่อยหันมามองตู๋กซู ิงหลันอีกครั้งหนึ่ง “มือของเราเจ็บมาก เท้าก็ปวด
ด้วย เจ้าแบกเราออกไปจากที่นี่แล้วกัน”
ตู๋กูซิงหลัน “……..” นี่นางหูฝาดไปแล้วหรื อ?
“เจ้าฮ่องเต้สุนขั ! ” วิญญาณทมิฬกระโดดออกมา สี หน้าเต็มไปด้วย
ความดูถูก “ตัวก็ใหญ่ถึงขนาดนี้ ช่างไม่รู้จกั อายเสี ยบ้าง จุ๊ ๆ ๆ ๆ “
ตู๋กซู ิงหลัน ไม่สนเจ้าถวนจื่อ นางจ้องไปที่จีเฉวียน มุมปากถึงกับ
กระตุกอยูห่ ลายครั้ง “ฝ่ าบาทเพคะ ท่านดูสิวา่ รู ปร่ างของหม่อมฉัน
ทั้งอ่อนแอและบอบบางขนาดนี้~ จะไปแบกท่านยังไงไหว? “
ตอนที่ 83 ขนหน้ าแข้ งจีเฉวียนเยอะกว่ าจีเย่ ว์
“เราจาได้วา่ มีสตรี บางคนที่มีวิชาตบหน้าขจัดพิษของบรรพบุรุษ
กาลังวังชาดีไม่นอ้ ยไม่ใช่หรื อ? “
จีเฉวียนยกพระหัตถ์ขา้ งที่ไม่ได้บาดเจ็บมาวางลงบนบ่าของนาง
พลันหัวเราะออกมา “ไทเฮา เจ้าไม่ใช่วา่ รักเอ็นดูเราที่สุดหรอกหรื อ?
ตอนนี้เรายังไม่ได้ขอให้เจ้าอุม้ สักหน่อย แค่แบกเราออกไป เกินไป
ตรงไหน? “
ตู๋กซู ิงหลันถูกเขาหัวเราะใส่ เสี ยจนร่ างกายหนาวสะท้าน สถานที่ใต้
ดินแห่งนี้สะสมธาตุหยินเอาไว้มาก แสงสว่างจากไข่มุกราตรี ส่องลง
บนใบหน้าของเขา ดูไปยิง่ เย็นเยือกอย่างไรก็ไม่รู้ พาให้คนเห็นรู ้สึก
ขนอ่อนลุกชัน
เจ้าลูกสุ นขั นี้ยงั จดจาเรื่ องที่เคยถูกนางตบหน้าได้ ยังเป็ นคนเจ้าคิด
เจ้าแค้นนัก!
นางได้แต่แอบกลอกตาบน หากไม่ใช่เพราะที่นี่คือสุ สานของท่านย่า
เจ้าฮ่องเต้สุนขั ตายไปคนตระกูลตู๋กยู ากที่จะหนีความรับผิดชอบล่ะก็
นางละอยากจะฝังเขาให้อยูย่ าวที่นี่ไปเลย
และเพราะไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับเขาให้มากความ นางก็เตรี ยม
จะพยุงเขาขึ้นบ่าไป ทันใดนั้นก็ได้ยนิ เสี ยที่คุน้ เคยดังมาไม่ไกล
“ไทเฮาพะยะค่ะ กระหม่อมเองก็บาดเจ็บสาหัส ต้องการการดูแล”
เพียงแค่ประโยคเดียว ตู๋กซู ิงหลันก็รีบเอาไข่มุกราตรี ส่องไปตาม
เสี ยงที่มุมกาแพงด้านหลัง เห็นจีเย่วน์ งั่ พิงอยูต่ รงนั้น ราวกับดวง
วิญญาณดวงหนึ่งกาลังจับจ้องมาที่พวกเขา
ใบหน้าที่งดงามดุจดอกไม้หยกของเขาถลอกจนมีเลือดออก แขนเสื้ อ
ก็ขาดวิน่ เผยให้เห็นเลือดที่กาลังไหลหยดตรงข้อมือ ดวงเนตรที่ลึก
ล้ าประหนึ่งดวงดาวในท้องทะเล ตอนนี้กลับริ บหรี่ ลงไปมากเสี ย
แล้ว
ตู๋กซู ิงหลันชะงักไปในทันที และไม่รู้ทาไมในใจพลันเจ็บปวดอย่าง
ไร้ที่มา
ทั้ง ๆ ที่ตนเองก็ไม่ได้ทาอะไรแท้ ๆ แต่กลับรู ้สึกว่าตนเองทุ่มแทงทา
ร้ายจีเย่วไ์ ปนับไม่ถว้ น
โอ้ ความรักของร่ างเดิมนี้ช่างลึกซึ้งยิง่ นัก ความรู ้สึกผูกพันธ์ที่เคยมี
แม้แต่ตอนนี้กย็ งั มีเยือ่ ใยหลงเหลืออยู่
อืม….ตอนนี้นางรู ้สึกปวดฟันเสี ยแล้ว
คราวนี้ละเกิดปัญหาขึ้นแล้ว : เมื่อบุรุษที่เคยรักกับเจ้าลูกชายสุ นขั ตก
ลงมาในหลุมและบาดเจ็บขยับไม่ไหวไปครึ่ งร่ างพร้อมกัน นางควร
จะแบกคนไหนดีละ?
จีเฉวียนเองก็ทอดพระเนตรตามไป ตอนแรกเขาคิดว่าจีเย่วจ์ ะตกลง
ไปตามซอกหลืบมุมไหนก็ไม่รู้เสี ยอีก คิดไม่ถึงว่าจะหล่นลงมาใกล้
พวกเขาเสี ยขนาดนี้ ดูผมเผ้าหลุดรุ่ ย ท่าทางหมดสภาพเช่นนี้ ไม่ใช่
ว่าคิดจะเรี ยกคะแนนความสงสารหรอกหรื อ?
ก็แค่ขอ้ มือถลอกปอกเปิ กนิด ๆ หน่อย ๆ เอง จะหนักหนากว่าเขาได้
หรื อไง?
เขาทอดสายตาเย็นชาออกไป ยามนี้คนทั้งคนทิ้งน้ าหนักลงไปบน
ตัวตู๋กูซิงหลัน “ไทเฮา มือของเราเจ็บปวดมากเลย เจ้าดูสิ ถูกแทงเป็ น
แตงเสี ยบไม้แบบนี้ หากไม่ใช่เพราะว่าช่วยเจ้าไว้ เราคงไม่ตอ้ งมา
บาดเจ็บอเนจอนาถขนาดนี้”
ตู๋กซู ิงหลันกลับรู ้สึกว่ามือของเขายามนี้ดูเหมือขาหมูเสี ยบไม้ยา่ ง
มากกว่า…….
“นี่ ยังมีเท้าของเราอีก ดูสิวา่ บวมเป็ นซาลาเปาลูกใหญ่เลยไม่ใช่
หรื อ? ” จีเฉวียนตรัสไป ก็ดึงชายสนับเพลาขึ้นมา สบัดรองเท้าหุม้
ส้นออก เผยให้เห็นข้อเท้าที่บวมเป็ นหมัน่ โถลูกหนึ่ง แล้วยังแกว่งไป
มาต่อหน้านาง
ตู๋กซู ิงหลันหันมาเขม่นตาใส่ เขาครั้งหนึ่ง ทาไมนางถึงได้รู้สึกคล้าย
กับว่าเจ้าตัวปัญหานี่กาลังจงใจโอ้อวดอยูบ่ า้ ง?
เจ้าเท้าบวมเช่นนี้ เจ้าภูมิใจเสี ยเหลือเกินนะ
ตู๋กซู ิงหลันคิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้องเสี ยเท่าไหร่ เจ้าฮ่องเต้
สุ นขั คงไม่ได้รู้ทนั ความคิดของนางที่อยากจะตัดศีรษะของเขา แต่วา่
ตนเองยามนี้ไร้กาลังต่อต้าน จึงได้งดั เอาแผนแสร้งน่าสงสารสร้าง
ความเห็นใจมาปกป้องชีวิตตนเองหรอกนะ? “
หากว่ากันตามอุปนิสยั ของเขาแล้ว มีที่ไหนจะมายอมลงให้นาง
ขนาดนี้กนั ?
ขณะที่นางกาลังครุ่ นคิดอยูน่ ้ นั ก็ได้ยนิ ทางด้านจีเย่วร์ ่ าร้องว่า “ไทเฮา
พะยะค่ะ ขาของกระหม่อมท่าจะหักเสี ยแล้ว เดินไม่ได้เลย ขอไทเฮา
ทรงพระกรุ ณาประคองกระหม่อมด้วย~”
ว่าแล้ว เขาก็ร้ ังชายสนับเพลาขึ้นเช่นกัน เผยให้เห็นบาดแผลที่
ค่อนข้างหนักหนาบนท่อนขา
ตู๋กูซิงหลัน “!!! “
นี่มิใช่หมายความว่ามีแต่นางที่เป็ นหญิงแกร่ งหนังเหนียวกระดูก
เหล็กหรอกรึ นอกจากว่าตกลงมามึนสลบไปครู่ หนึ่ง ที่เหลือก็ไม่มีที่
ใดเสี ยหาย
นางมองดูพระบาทของจีเฉวียน แล้วก็หนั ไปมองดูขาของจีเย่ว์
ทันใดนั้นก็พบเรื่ องสาคัญขึ้นมาเรื่ องหนึ่ง ขนหน้าแข็งจีเฉวียนเยอะ
กว่าจีเย่ว!์
เมื่อต้องเผชิญกับอี้อ๋องที่ยกความอนาถมาสู ้กนั ดวงเนตรหงส์ของจี
เฉวียนก็สาดประกายเย็นยะเยือกออกมา จากนั้นเขาก็งดั เอามาด
ฮ่องเต้ออกมาสู ้บา้ ง “ซี่โครงของเราก็หกั ด้วย! ไทเฮา เจ้าบอกไม่ใช่
หรื อว่าเห็นเราเป็ นดังลูกชายแท้ ๆ ? ลูกแท้ ๆ ก็ยอ่ มจะสาคัญที่สุด
ไม่ใช่หรื อไง? “
ตู๋กูซิงหลัน “……..”
“ฝ่ าบาทพะยะค่ะ กระหม่อมเป็ นน้องชายของพระองค์ ไทเฮาเองก็
ถือว่าเป็ นมารดาในนามของกระหม่อมด้วย กระหม่อมก็ยอ่ มถือว่า
เป็ นบุตรของนางเช่นกัน ไทเฮาย่อมไม่อาจเลือกที่รักมักที่ชงั ได้
หรอกพะยะค่ะ” จีเย่วอ์ าศัยว่าพิงกาแพงพยุงตัวตอกกลับมา ดวงตาคู่
นั้นตั้วแต่ตน้ จนจบก็จดจ้องอยูท่ ี่ต๋ ูกซู ิงหลันเท่านั้น
โอกาสที่จะได้มองดูนางใกล้ ๆ นาน ๆ เช่นตอนนี้มีนอ้ ยเสี ยยิง่ กว่า
น้อยแล้ว ดังนั้นเขาย่อมห่วงแหนเป็ นพิเศษ
ต่อให้ตอ้ งตกลงมาอยูใ่ นสุ สานของเย่วฮูหยินก็ตาม
ตู๋กูซิงหลันคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ว่าลมอะไรพัดมาถึงทาให้สองพี่
น้องคู่น้ ีอยูด่ ี ๆ ก็กลายเป็ นอยากจะมีแม่ข้ ึนมาเสี ยอย่างงั้น
คราวนี้แม้แต่วิญญาณทมิฬยังพูดไม่ออกไปแล้ว มันหมอบอยูบ่ นบ่า
ของตู๋กซู ิงหลัน หน้าตาบูดบึ้ง “ข้าว่านะ ลูกชายของเจ้าสองคนนี้อายุ
รวมกันคงได้แค่สามขวบล่ะมั้ง ถึงได้โยเยขนาดนี้? “
ไม่คิดจะดูสกั หน่อยหรื อว่าพวกเขากาลังอยูท่ ี่ไหนกัน! ใครจะไปคิด
ว่าสุ สานของเย่วฮูหยิน ที่แท้กซ็ ่อนอยูใ่ ต้ภูเขาลูกนี้หรื อ?
สุ สานแห่งนี้มีธาตุหยินเข้มข้น ไม่แน่วา่ อาจจะมีตวั อะไรที่น่ากลัว
ออกมาก็ได้ ครั้งนี้แม้แต่ตวั มันยังไม่กล้าหยามใจ สองตาคอยจดจ้อง
รอบทิศทั้งสี่ ดา้ นตลอดเวลา
สถานที่ที่พวกเขาอยูก่ นั ในตอนนี้ ดูคล้ายกับโพรงถ้ าแห่งหนึ่ง รอบ
ด้านมีแต่กาแพงหินที่ช้ืนแฉะ บนกาแพงหิ นยังเต็มไปด้วยตะไคร่ น้ า
ลื่น ๆ ใต้ตะไคร่ น้ าคล้ายกับจะเป็ นลวดลายอะไรบางอย่าง มองได้ไม่
ชัดเจนเท่าไหร่
ทั้ง ๆ ที่ตกลงมาจากด้านบนชัด ๆ แต่วา่ ตอนนี้เพดานเหนือศีรษะ
กลับมีแต่กาแพงหินที่แข็งแกร่ ง ไม่มีดินโคลนแม้แต่นอ้ ย
ภายใต้แสงสว่างของไข่มุกนี้ อย่างมากก็เป็ นเพียงแค่แสงหิ่ งห้อย
เท่านั้น เบื้องหน้าของพวกเขาทุกสิ่ งยังคงดามืด มองอย่างไรก็ไม่เห็น
ปลายทางสักนิด
ราวกับว่าตกอยูใ่ นปากของสัตว์ประหลาด ยิง่ เดินก็ยงิ่ ถูกกลืนลึกลง
ไปเรื่ อย ๆ
วิญญาณทมิฬพยายามเบิกตาของมันให้กว้างเข้าไว้ ด้วยเกรงว่าหาก
มันพลั้งเผลอเมื่อไหร่ กอ็ าจจะพลาดอะไรไปก็ได้
เจ้าวิญญาณผีตายโหงบนตัวตู๋กเู หลียนนั้น ช่วงนี้คงจะไม่อาจกินมัน
ได้ชวั่ คราว หากว่าบังเอิญสุสานแห่งนี้มีสตั ว์ประหลาด มารร้าย
อะไรต่าง ๆ โผล่มาแล้วล่ะก็ จะได้จบั พวกมันกินแทน ………เฮอะ
ๆ ๆ ๆ ๆ แค่คิดก็หิวเสี ยแล้ว
แน่นอนว่า ประเด็นสาคัญมันอยูท่ ี่จะต้องเป็ นตัวที่สามารถจะจัดการ
ได้
ว่าไปแล้วก็ประหลาดแท้ ๆ เย่วฮูหยินนัน่ คงจะไม่ใช่ตวั ประหลาด
อะไรหรอกนะ แต่ไม่ง้ นั ทาไมพอตายแล้วในสุ สานถึงได้มี
บรรยากาศเช่นนี้?
ิ ญาณทมิฬกาลังครุ่ นคิด อยู่ ๆ มันก็รู้สึกว่าที่ดา้ นหลังมีสาย
ขณะที่วญ
ลมพัดมาเบา ๆ ความเย็นวาบที่กระจายมาถึงนี้ทาให้แม้แต่ตวั มันยัง
รู ้สึกหนาวสะท้าน
มันยืน่ มือสั้น ๆ ของตนเองออกมา เกาะอยูร่ อบ ๆ คอของตู๋กูซิงหลัน
ยกก้นขึ้นกล่าวอย่างตื่นเต้นระคนดีใจว่า ” อ้ายหย๋ า ๆ ๆ ๆ มาแล้ว ๆ
ๆ มาแล้วววว! “
คราวนี้ แม้แต่ฮ่องเต้และอี้อ๋องที่กาลังยื้อแย่งมารดากันอยูก่ ย็ งั รู ้สึกได้
มันราวกับว่าเป็ นแรงสัน่ สะท้านจากลมหลายใจอันหนาวเหน็บยิง่
กว่าความเย็นในฤดูหนาว ลมนัน่ คล้ายกับพัดมาจากทางด้านหลัง
และก็เหมือนกับว่าพัดขึ้นมาจากปลายเท้าด้วย แทรกซึมผ่านผิวหนัง
เข้าไปถึงภานในร่ าง
ทั้งสองคนต่างก็พากันขมวดคิ้วขึ้นมา ไม่มีใครยื้อแย่งชิงดีชิงเด่นกัน
อีก ดวงตาของพวกเขากวาดมองไปรอบทิศทั้งสี่ ดา้ น
สุ สานของเย่วฮูหยินนั้น ฟังมาว่าได้ไปเชิญสุ ดยอดปรมาจารย์ดา้ นฮ
วงจุย้ และด้านกลไกมาร่ วมกันสร้างขึ้น ไม่รู้วา่ พวกเขาบังเอิญไป
แตะต้องโดนกลไกตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงได้หลุดเข้ามาอยูใ่ นนี้ หากว่าอีก
สักพักยังออกไปไม่ได้ แล้วเกิดไม่ระมัดระวังไปดึงดูดอะไรออกมา
พวกเขาที่มีแต่มือเปล่าเกรงว่าคงจะต้องเป็ นฝ่ ายเสี ยเปรี ยบแล้ว
จีเฉวียนใช่มือข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บมากุมข้อมือของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้
อย่างแนบแน่น เขามองไปยังบนกาแพงหิ นที่ดา้ นหลังของจีเย่วท์ ี่เกิด
เสี ยงแปลกประหลาดขึ้น
ครู่ ต่อมากาแพงนัน่ ก็เริ่ มขยับ……..
ตอนที่ 84 เถียงกันไม่ จบไม่ สิ้น
ขณะเดียวกัน ตะไคร่ น้ าบนกาแพงก็เริ่ มร่ วงหล่นลงมา มือขาวซีด
บวมฉึ่ง มากมายผุดออกมาจากกาแพง
แต่ละมือล้วนมีเล็บสี ดายืดยาว ต่างก็พงุ่ เข้าหาเสื้ อผ้าของจีเย่ว์ ราวกับ
ว่าต้องการจะลากตัวเขาเข้าไปในกาแพง กลบฝังอยูใ่ นนั้นไป
ด้วยกัน
พอเห็นเหตุการณ์ดงั นั้น ตู๋กซู ิงหลันก็ไม่ไตร่ ตรองอะไรอีก ล้วงยันต์
ผืนหนึ่งออกมาขว้างออกไป
พอยันต์ผนื นั้นผนึกอยูบ่ นกาแพง ก็ได้ยนิ เสี ยงร้องโหยหวนจากใน
กาแพงดังออกมาไม่หยุด มือที่คว้าจีเฉวียนไว้ต่างก็คลายออก จีเย่วท์ ี่
ขาหักก็ลุกขึ้นพุง่ ตรงมาทางตู๋กซู ิงหลัน
จีเฉวียนน้ าเสี ยงเย็นชา สายพระเนตรเพ่งมองอยูท่ ี่ขาของเขา “อี้อ๋อง
ขนาดขาหักยังวิ่งได้ไวเชียวนะ “
ฮ่องเต้ตรัสยังไม่ทนั ได้ขาดคา ก็เห็นตะไคร่ น้ าบนพื้นผิวโดยรอบ
พวกเขาเริ่ มขยับหลุดลอก มือขาวซีดมากมายผุดขึ้นจากพื้นดิน คราว
นี้แต่ละมือต่างก็ยดื ยาวขึ้นกว่าเดิม กรงเล็บสี ดาน่าขยักแขยงราวกับ
เถาวัลย์ที่เลี้อยพันเข้ามาใกล้
พอเห็นแล้วคราวนี้ ฮ่องเต้กไ็ ม่ตรัสสิ่ งใดอีก คว้าตัวตู๋กซู ิงหลันได้ก็
พุง่ ตัววิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ ว
ความเร็ วขนาดนี้ยงั เหนือกว่าจีเย่วอ์ ยูห่ ลายส่ วน ทั้งยังทอดทิ้งสิ่ ง
ประหลาดเหล่านั้นเอาไว้เบื้องหลัง
จีเย่วค์ ว้ามือข้างซ้ายของตู๋กูซิงหลันเอาไว้ วิ่งติดตามมาด้วย วิ่งไปก็
กล่าวไปว่า “ฝ่ าบาท พระบาทของท่านบวมจนข้อเท้าแทบหักยังวิ่ง
ได้ไวเช่นนี้ กระหม่อมแพ้เสี ยแล้ว “
“อี้อ๋อง เจ้าอายุยงั น้อย” จีเฉวียนตอบเสี ยงเย็นชา ดึงตัวตู๋กซู ิงหลันให้
เข้ามาประชิดมากขึ้น
คนที่อยูต่ รงกลาง ทั้งถูกดึงไปและลากตามกันเช่นตู๋กูซิงหลันนั้น
“??? “
เมื่อครู่ ไม่ใช่วา่ เป็ นง่อยกันหมด แย่งกันจะให้ขา้ แบกหรื อไง?
พวกเจ้าเห็นไอ้ตวั ที่ออกมาจากกาแพงหินพวกนั้นแล้วไม่รู้สึก
ประหลาดใจบ้างหรื อไง?
เรื่ องที่วา่ ใครวิ่งเร็ วกว่ากันมันใช่ประเด็นสาคัญไหม เฮ่อ?
พูดไปแล้ว ช่วยปล่อยข้าก่อนได้ไหม ข้าไม่ได้กลัวเสี ยหน่อย! ข้าจะ
ไปจัดการไอ้ตวั เก่ง ๆ มาป้อนถวนจื่อ!
แต่วา่ คนทั้งสองนี้กลับไม่ให้โอกาสนางเลยแม้แต่นอ้ ย เรี ยกว่าแทบ
จะหอบหิ้วนางวิ่งหนีตะเลิดเปิ ดเปิ ง ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่าด้วยความเร็ ว
ขนาดนี้เท้าของนางแทบจะไม่ติดพื้น ตัวลอยละลิ้วไปตลอดทาง
แล้ว
ก็จะทาไงได้ ใครใช้ให้ขาของพวกเขายาวกว่านางขนาดนี้….
วิ่งตะลุยมาได้พกั ใหญ่ จนรู ้สึกว่าหลบหนีสิ่งประหลาดบนกาแพง
นัน่ ได้สาเร็ จ พวกเขาก็เริ่ มรู ้สึกว่าโพรงถ้ านี้ยงิ่ ทียงิ่ แคบลงเรื่ อย ๆ
อีกทั้งตลอดเส้นทางที่วิ่งผ่านมา ภายในถ้ านี้มีโครงกระดูกอยูไ่ ม่นอ้ ย
ดูไปแต่ละคนแต่ละร่ างท่าทางจะตายอย่างหน้าหวาดผวา พวกเขามัว
แต่รีบวิ่ง ไม่ได้สงั เกตให้ละเอียด
พอมองดูไปเบื้องหน้า ก็เห็นว่าถ้ านี้ยงั ทอดยาวไปอีกไกลจนมองไม่
เห็นปลายทาง หากว่าจะเดินต่อไปอีกละก็มีแต่ตอ้ งเบียดตัวเข้าไปที
ละคน ๆ แล้ว
ภายในอุโมงค์ที่คบั แคบนั้นมีสายลมเย็น ๆ โชยออกมาเบา ๆ พัดผ่าน
ร่ ายกายที่มีแต่เหงื่อร้อนชุ่มของพวกเขาจนรู ้สึกสดชื่นขึ้นไม่นอ้ ย
หากไม่ใช่วา่ อุโมงค์น้ ีคบั แคบมากเกินไป ตู๋กซู ิงหลันก็คิดว่านาง
อยากจะใช่ไหล่ข่างหนึ่งแบกคนรักเก่า ไหล่อีกข้างแบกเจ้าลูกชาย
จะได้มีสองมือว่าง ๆ มาเบิกทางได้
ดูเจ้าสองตัวนี่สิ เมื่อครู่ ตอนวิ่งมายังกระฉับกระเฉงกันน่าดู พอหยุด
ลงเท่านั้นละ แต่ละคน ๆ ก็ทาหน้าเจ็บปวดเสี ยจนเหงื่อโทรมหน้า
ดูท่าแล้วตลอดทางที่วงิ่ มานั้น ทั้งสองคนแทบจะไม่ได้พกั หายใจ
เลย!
หลังจากที่เงียบกันไปอยูพ่ กั ใหญ่ ตู๋กซู ิงหลันก็ตดั สิ นใจกล่าวออกมา
ว่า “ข้าคิดว่า พวกเจ้าสองคนพักผ่อนรออยูท่ ี่นี่ ข้าจะไปสารวจดู
ข้างหน้าให้ก่อนดีกว่า”
“เราไม่อนุญาต ” จีเฉวียนยังไม่แม้แต่จะปล่อยมือนาง เบื้องหน้ามี
อันตรายใดบ้างก็สุดรู ้ ถึงแม้นางจะดวงแข็ง แต่วา่ หากเกิดเรื่ องขึ้น
จริ ง ๆ จะทาอย่างไร?
เขาทาพระพักตร์นิ่งเฉย ตรัสจากใจว่า “มีแต่เจ้าที่ใช้ยนั ต์ได้ หากว่า
เจ้าหนีไปคนเดียวจะทายังไง? “
ตู๋กูซิงหลัน “……..”
” ไทเฮาพะยะค่ะ ที่จริ งกระหม่อมเองก็สงสัยอยูว่ า่ ท่านไปร่ าเรี ยน
วิชาไสยศาสตร์เสกยันต์พวกนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ” จีเย่วจ์ อ้ งดูนาง
ตั้งแต่ตอนที่นางเขวี้ยงยันต์เพื่อช่วยชีวิตเขา เขาก็อยากจะถามมาโดย
ตลอด
หลันเอ๋ อร์ที่เขารู ้จกั เป็ นสตรี สูงศักดิ์ต้ งั แต่หวั จรดปลายเท้า ไม่เคย
ต้องแบกไม่เคยต้องถืออะไร รู ้จกั แต่ชมนกชมไม้ หยอกเย้าเขา
เท่านั้น
นางไม่มีทางใช้ยนั ต์เป็ นแน่!
คราวนี้ต๋ ูกซู ิงหลันปวดหัวเข้าจริ ง ๆ เสี ยแล้ว เจ้าลูกหมีนี่ ทาไมถึงได้
ช่างซักไซร้ถึงขนาดนี้?
นางถอนใจเบา ๆ ตอบว่า “วันนี้ตอนที่ไปเชิญท่านนักพรตอู๋เจิน เขา
กาลังวาดยันต์อยูพ่ อดี บอกว่าใช้สาหรับปราบปี ศาจได้ ข้าอาศัยว่า
หน้าหนาก็เลยขอมา”
ตู๋กูซิงหลันพูดไปก็ลว้ งเอายันต์ออกมาอีกสองใบ แปะเอาไว้บน
หน้าผากพวกคนคนละใบ “อย่าหาว่าข้าตระหนี่เลยนะ ยันต์พวกนี้
เหลือไม่มากแล้ว กัดฟันให้พวกเจ้าสองคนเลยก็แล้วกัน “
จีเฉวียนจ้องมองนางด้วยสายตาคมกล้า ยิง่ ได้อยูร่ ่ วมกับนางมา
เท่าไหร่ เขาก็ยงิ่ พบว่านางยังมีเรื่ องอีกมากมายที่สามารถทาให้เขา
ประหลาดใจได้เท่านั้น
ยันต์ของนักพรตอู๋เจินนัน่ ต่อให้มีพนั ตาลึงทองยังยากจะแลกมาได้
สักแผ่น เขาจะใจกว้างกับนางได้ปานนี้?
คิดว่าคงไม่ใช่แน่แล้ว!
จีเย่วก์ เ็ องก็มองนางอย่างเคร่ งขรึ ม คิดจะดูให้ออกว่านางยังปิ ดบัง
อะไรไว้บา้ ง
ตู๋กซู ิงหลันถูกพวกเขาจ้องมองเสี ยจนหวัน่ ใจ นางไม่รู้จะทาเช่นไรดี
แล้ว
นางไม่สนใจตัววุน่ วายทั้งสองนี้อีก หันหลังกลับไปทางปากอุโมงค์
เท้าก้าวออกไปไม่ทนั ไรก็ถูกพวกเขาทั้งสองคนยึดเอาไว้อีก
จีเฉวียนเอาตัวขวางจีเย่วไ์ ว้ ทั้งยังปัดมือที่จบั ตู๋กซู ิงหลันเอาไว้
ออกไป “อี้อ๋อง เจ้าวิ่งได้เร็ ว เจ้าไปสารวจดูทางก่อน เรากับไทเฮาจะ
รอข่าวดีจากเจ้า”
จีเย่ว์ “……” เมื่อครู่ ไม่ใช่วา่ มีคนวิ่งได้เร็ วยิง่ กว่าเขาอีกหรื อ?
เขากาหมัดแน่นเข้า หากไม่ใช่เพราะเกรงว่าจะทาให้หลันเอ๋ อร์พลอย
ต้องเจ็บไปด้วย เขาไหนเลยจะยอมปล่อยมือโดยง่าย?
“ฝ่ าบาท ในอุโมงค์นนั่ ไม่แน่วา่ อาจมีสิ่งวิเศษอันใด พระองค์เป็ น
โอรสสวรรค์ เชิญเสด็จก่อนเถอะพะยะค่ะ” อี้อ๋องถอยออกไป
ด้านข้าง จากนั้นคานับ ‘เชื้อเชิญ’ ให้อย่างนอบน้อม
จีเฉวียนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา ที่แห่งนี้มีพวกเขาเพียงแค่สามคน
อี้อ๋องที่ยามปกติจายอมอ่อนน้อมกลับไม่ยอมเสแสร้งอีกต่อไปแล้ว
เขายกยิม้ เย็นที่มุมปาก เงยหน้าอย่างรวดเร็ วจนยันต์เหลืองแผ่นนั้น
ปลิวสะบัด สายพระเนตรก็เคร่ งขรึ มอึมครึ มอย่างถึงที่สุด
“ถ้าเป็ นเช่นนั้น ก็อย่าได้วนุ่ วายอีกเลย ไปพร้อมกันทั้งสามคนนี่ละ”
ตู๋กซู ิงหลันแทบจะทนทั้งสองคนนี้ไม่ไหวแล้ว นางมองจีเฉวียนที่กมุ
มือตนเองเอาไว้ไม่ยอมคลาย พลางกล่าวว่า “ข้าจะปี นนาหน้า พวก
เจ้าสองคนตามข้ามา เผือ่ ว่าที่ดา้ นหลังมีตวั อะไรไล่ตามมา พวกเจ้าที่
เป็ นบุรุษตัวโตจะได้ตา้ นทานเอาไว้ก่อน”
“เราจะอยูข่ า้ งหน้า เจ้าเดินตรงกลาง” จีเฉวียนเถียงได้ไม่จบไม่สิ้น
“ไทเฮา ท่านต้องอยูต่ รงกลาง ” จีเย่วเ์ องก็วา่ ตาม “กระหม่อมจะไม่
ยอมให้ท่านได้รับบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย”
ตู๋กูซิงหลัน “…….”
หากว่านางอยูต่ รงกลาง แล้วเกิดไปเจอะเจออะไรกันเข้า มีหวังได้
กลายเป็ นไส้ขนมเปี๊ ยะแน่ เชื่อไหมเล่า?
เมื่อมองดูแผ่นยันต์ที่ติดอยูบ่ นหน้าผากพวกเขาปลิวเบา ๆ อีกทั้ง
ท่าทางที่โง่งมของพวกเขา ตู๋กซู ิงหลันได้แต่กงั วลใจไม่คลาย
สวรรค์ช่างมีอคติกบั นางนัก ถึงได้ส่งเจ้าตัวยุง่ ยากทาสองนี้มาคอย
เกาะติดนาง!
วิญญาณทมิฬก็ปวดหัวจนทนไม่ไหว “หากว่าเอาตามอัว๊ ว่านะ ปล่อย
เจ้าสองตัวนี้ไปตามบุญตามกรรมเสี ยเถอะ พวกเราไปกันเองไม่ได้
หรื อไง? ข้าจะบอกอะไรให้เจ้าฟังนะ รับรองว่าในอุโมงค์นนั่ มีอะไร
ที่ไม่ธรรมดาแน่ ๆ อัว๊ รู ้สึกตึก ๆ ตัก ๆ อยากจะกระดุ๋งกระดิ๋งเป็ นก
ระต่ายแล้ว”
“ที่สาคัญที่สุดนะ สุ สานของเย่วฮูหยินมีสมบัติมีค่าควรเมืองเป็ น
สมบัติร่วมกลบฝัง! “
” มา ๆ ๆ ไปกันได้แล้ว! “
ตอนที่ 85 ทางใต้ ดนิ อันคับแคบ
“นี่เจ้าคิดว่าข้าเป็ นคนอกตัญญูถึงขนาดสมบัติร่วมกลบฝังของท่าน
ย่าตัวเองก็ยงั จะขุดออกมาหรื อ? ” ตู๋กูซิงหลันแทบจะหันไปค้อนตา
ขาวใส่ มนั นางคิดว่าที่จริ งแล้วคนเองเป็ นคนที่มีหลักการและรู ้จกั
ขอบเขตคนหนึ่งนะ
วิญญาณทมิฬพยักหน้าอย่างหนักแน่น “เจ้าเอาแน่! “
ตู๋กซู ิงหลัน “……” ที่จริ งแล้ว สมบัติร่วมกลบฝังของท่านย่า ไปดู ๆ
เสี ยหน่อยก็ได้ ไม่เอามาก็แล้วกัน
เพ้ย! เรื่ องที่สาคัญที่สุดไม่ใช่เรื่ องสมบัติร่วมกลบฝังเสี ยหน่อย แต่
นางมีความรู ้สึกอย่างชัดเจนเลยว่า สุ สานของเย่วฮูหยินเกี่ยวพันกับ
หยกสรรพชีวิต
เพราะตั้งแต่ตอนที่อยูด่ า้ นนอกของสุ สานเย่วฮูหยิน นางก็รู้สึกได้ถึง
ความผิดปกติของกุญแจทองแดงดอกนี้แล้ว
เป็ นไปได้วา่ หยกสรรพชีวติ เองก็ถูกส่ งมายังโลกนี้เหมือนกับนาง
หากสามารถตามหามันกลับมาได้ ไม่แน่วา่ นางอาจมีโอกาสกลับไป
ยังโลกเดิมได้
พอคิดได้ถึงตรงนี้ ตู๋กซู ิงหลันก็ชกั จะตื่นเต้นขึ้นมา
ที่ดา้ นข้างตัววุน่ วายทั้งสองยังเถียงกันไม่หยุดหย่อน นางค้อนควัก
ใส่ พวกเขาคราหนึ่ง ก็ไม่คิดจะเสี ยเวลาอีกต่อไป สลัดมือจีเฉวียน
ออกมุ่งไปด้านหน้า
เรี่ ยวแรงที่สบัดนั้นไม่นอ้ ย ทาเอาฝ่ ามือของจีเฉวียนถึงกับขึ้นสี แดง
ขึ้นมา
เขาชักจะกรุ่ นโกรธขึ้นมาบ้าง สตรี ผนู ้ ้ ียงิ่ ทียงิ่ ขวัญกล้าใหญ่แล้ว หรื อ
คิดว่าอยูใ่ นสุ สานแห่งนี้แล้วเขาจะไม่กล้าสัง่ สอนนางหรื อไง?
แม้จะมีโทสะ แต่วา่ เขากลับไม่ลงั เลที่จะก้าวตามไปแม้แต่นอ้ ย ทาให้
จีเย่วไ์ ด้แต่ติดตามอยูเ่ บื้องหลัง
จีเย่วเ์ องถึงกับหน้าคว่า ไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงไร้สาระกับเขาให้
เสี ยเวลาโดยเปล่าประโยชน์อีก ใครจะไปรู ้วา่ ในสุ สานของเย่วฮูหยิ
นตกลงแล้วยังมีสิ่งใดอยูอ่ ีกแน่ สมควรรี บออกจากที่นี่ไปก่อนจึงจะ
ดีที่สุด
ทางอุโมงค์ที่คบั แคบ เป็ นดังที่ต๋ ูกูซิงหลันคาดการณ์ไว้ ได้แต่ให้แต่
ละคนบีบตัวเองผ่านเข้าไป
ภายในอุโมงค์อบั ชื้น ยังมีกลิ่นเน่าเหม็นจากสิ่ งที่สะสมมานานปี โชย
ออกมาเป็ นระยะ ทาให้ฮ่องเต้ผมู ้ ีประสาทสัมผัสทางกลิ่นที่วอ่ งไว
เป็ นพิเศษต้องหายใจอย่างยากลาบากกว่าเดิม
ยังดีที่ บนตัวของตู๋กซู ิงหลันมีกลิ่นหอมเฉพาะของดอกฮวาย พอลม
เบื้องหน้าพัดโชยมา ก็เจือจางกลิ่นเหม็นอับชื้นเหล่านั้นลง ทาให้เขา
รู ้สึกดีข้ ึนบ้างเล็กน้อย
แต่วา่ จีเฉวียนยังคงรู ้สึกทรมานมากจริ ง ๆ มือซ้ายของเขาบาดเจ็บ
แม้แต่ปิ่นปักผมนัน่ ก็ยงั ไม่ได้ดึงออก ตอนนี้ตอ้ งปี นขึ้นไป
จาเป็ นต้องใช้มือพยุง มุมหินตะปุ่ มตะป่ าเหล่านี้ช่างทาให้ผคู ้ น
ลาบากเหลือเกิน
เขาหันไปมองดูจีเย่ว์ ก็เห็นเขากาลังปี นตามตนมาติด ๆ ขาข้างที่
บาดเจ็บขูดลากไปตามพื้น สร้างความเจ็บปวดจนเขาหน้าตาบูดเบี้ยว
พอเห็นเช่นนี้พระทัยของฮ่องเต้กพ็ อจะสงบลงได้บา้ ง
เขาหรี่ ตามอง มุมปากยกยิม้ ขึ้นมาน้อย ๆ “อี้อ๋อง เจ้ามันใช้การไม่ได้
แล้ว”
อี้อ๋อง “……..” เขาคิดไม่ถึงมาก่อนเลยว่า หัวข้อต้องห้ามของเหล่า
บุรุษ จะออกมาจากปากของจีเฉวียน
“ฝ่ าบาทพะยะค่ะ ขออย่าได้ทรงเป็ นกังวลในตัวกระหม่อมเลย รักษา
พระกาลัง ประคองชีวิตเอาไว้สาคัญกว่า” จีเย่วพ์ ดู แล้ว ก็แตะยันต์
บนหัวให้แน่นเข้า “ยิง่ ไปกว่านั้นกระหม่อมใช้การได้หรื อไม่ ไทเฮา
ทรงทราบแก่พระทัยดี”
แค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ก็สามารถทาให้จีเฉวียนหน้าดาทะมึนได้
สาเร็ จ
เขาจ้องมองจีเย่วด์ ว้ ยสายตาเย็นชาวูบหนึ่ง ก็หนั กลับไปดูต๋ ูกซู ิงหลัน
ที่เอาแต่ส่ายก้นกระดุ๊กกระดิ๊กมุ่งมัน่ ไปข้างหน้า
หรื อว่าเจ้าคนโอหังอวดดีสองคนนี้ จะกล้าทาเรื่ อง?
ตู๋กซู ิงหลันที่อยูด่ า้ นหน้าสุ ดนั้น “??? “
เจ้าลูกสุ นขั สองตัวนี้ทาไมพอพูดอะไรขัดกันคาหนึ่งเป็ นฮึ่ม ๆ
ฮึดฮัดใส่ กนั ด้วยนะ จะฮึดฮัดใส่ กนั ก็ทาไปเถอะแต่อย่าได้ลากนาง
ไปเอี่ยวด้วยจะได้ไหม?
นางตัดขาดกับจีเย่วไ์ ปก็ตอ้ งนานแล้ว แถมยังตัดแบบเด็ดขาดไร้เยือ่
ใยเลยด้วยซ้ าเข้าใจไหม?
ยิง่ ไปกว่านั้น ถึงแม้เจ้าของร่ างเดิมจะรักจีเย่วจ์ ะเป็ นจะตายแค่ไหน
แต่กย็ งั คงรักษาตัวไว้อย่างบริ สุทธิ์ผดุ ผ่อง เพราะฉะนั้นจีเย่วจ์ ะใช้
การได้หรื อไม่ นางจะไปรู ้เรื่ องได้อย่างไร?
อืม แต่ถา้ จะพูดเรื่ องใครใช้การได้หรื อไม่ละก็….ถ้ายกเฉพาะเรื่ อง
ขนหน้าแข้งมาวิเคราะห์กนั นางรู ้สึกว่าเจ้าฮ่องเต้สุนขั คงจะนาหน้า
อยูข่ ้นั หนึ่ง
เพราะว่าถ้าขนดกแสดงว่าไตดี ถ้างั้นเรื่ องนั้นก็คงจะแข็งแรงดีดว้ ย
ก็ดูรูปร่ างของท่านราชครู สิ หากว่าฮ่องเต้ทรงสามารถจับเขามา
จัดการได้ เช่นนี้ยงั จะต้องไปเสริ มกาลังวังชาอะไรกันอีก
แล้วเท่าที่ดูกเ็ ห็นฮ่องเต้มีกาลังวังชากระปี้ กระเป่ าอยูท่ ุกวี่ทุกวัน หุ ๆ
ๆ ……ไม่อยากจะคิดเลย
ไป ๆ มา ๆ ตู๋กซู ิงหลันก็ถูกเจ้าสองคนนี้ชกั นาจนคิดอะไรออกนอก
ลู่นอกทางไปแล้ว คิดไป ๆ ก็พาลรู ้สึกขึ้นมาว่าที่ดา้ นหลังเย็นวูบ
วาบอยูไ่ ม่นอ้ ย นี่ยอ่ มจะต้องเป็ นเพราะสายพระเนตรเย็นวาบทีจบั
จ้องนางอยูแ่ น่นอน
นางพลันรู ้สึกเหน็บหนาวจนทั้งร่ างเย็นสะท้านขึ้นมา พอหันหลัง
กลับไปดู ก็เห็นฮ่องเต้ที่แปะยันต์เอาไว้บนหน้าผาก จ้องมองมาด้วย
สายพระเนตรเย็นยะเยือก ในประกายตานั้นยังสะท้อนแววโทสะอยู่
ด้วยไม่นอ้ ย
“ถ้าทนไม่ไหว ก็ไปคว้าเอาอี้อ๋องไปกอดเถอะ ทาไมเขาจะต้องมา
ชักหน้าโหดใส่ กนั ด้วย เจ้าเองก็ไม่ใช่สะใภ้ของเขาเสี ยหน่อย แล้วที่
จริ งก็ยงั ไม่เคยนอนด้วยกันด้วยซ้ า” วิญญาณทมิฬรู ้สึกว่าตนเองไม่
อาจเข้าใจน้ าพระทัยของฝ่ าบาทได้จริ ง ๆ
ทาไมมันดู ๆ ไปแล้วเหมือนเห็นเขากลัวจะโดนสวมเขากัน
ตู๋กูซิงหลัน “…….” นี่มนั เรื่ องหน้าอายจริ ง ๆ
นางแกล้งทาเป็ นไม่รู้เรื่ องใด ๆ ทั้งสิ้ น เก็บสายตากลับมาก็มุ่งหน้า
ต่อไป และอาจจะเป็ นเพราะต้องคลานปี นไปตลอดทาง ลมตดที่
กลั้นเอาไว้อยูน่ านแล้ว พอมัวแต่เจ็บตรงนั้นอายตรงนี้ ไม่ทนั ระวังก็
เผลอปล่อยออกมา

เสี ยงดัง ‘ปูด~’


แล้วลมที่ปล่อยออกไปนั้น ก็พงุ่ เข้าใสใบหน้าที่ที่งดงามหาที่ใด
เปรี ยบของฮ่องเต้เข้าไปเต็ม ๆ กระทั้งยันต์ที่แปะอยูบ่ นพระพักตร์
ของเขายังปลิวขึ้นมา
วิญญาณทมิฬ “อ้ายย่าห์ เหม็นฉิบ! “
ฟ้าดินได้โปรดเมตตาด้วย นางแค่ผายลมออกไปทีเดียว แต่วา่ ไอ้อุ
โองค์อุบาทนี้กลับสะท้อนเสี ยงลมของนางขึ้นมา เสี ยงนั้นสะท้อน
กลับไปกลับมาอยูห่ ลายรอบจึงค่อยหายไป
คนที่ตดในอุโมงค์กบั ตดในลิฟท์น้ นั มีผลเท่ากัน
ว่ากันตามจริ งแล้ว ขนาดนางที่อยูต่ น้ ลมยังรู ้สึกว่ารับไม่ค่อยจะได้
เลย เช่นนี้แล้วยิง่ ไม่ตอ้ งพูดถึงฮ่องเต้และอี้อ๋องที่อยูใ่ ต้ลมแล้ว
ในสมองของตู๋กูซิงหลันยามนี้ปรากฎภาพของตู๋กเู หลียนที่ถูกลาก
ออกไปคราวนั้น
กรรมตามสนองในโลกมิติน้ ีช่างรวดเร็ วราวกับพายุพดั เสี ยเหลือเกิน
โถ่เอ๋ ย!
ฮ่องเต้ที่อยูด่ า้ นหลังเดิมทีสีพระพักตร์กเ็ ย็นชาเกินจะหาใดเปรี ยบอยู่
แล้ว ตอนนี้ยงิ่ เพิ่มความหนาวเหน็บขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เขาย่นจมูก
สายตาก็จอ้ งไปยังก้นของตู๋กซู ิงหลันที่ปล่อยอาวุธออกมา ราวกับว่า
อยากจะจับนางมาเสี ยบไม้เสี ยนัก
ตู๋กซู ิงหลันไม่มีทางเลือกได้แต่กระดุ๊บกระดิบไปข้างหน้า ใจก็กลัว
ว่าเจ้าฮ่องเต้สุนขั อาจจะล้วงเอาดาบออกมาเสี ยบนางเข้าให้
นางผิดไปแล้ว นางควรจะสกัดกั้นปิ ดประตูเมืองเอาไว้!
หัวใจของนางเต้นเสี ยงดังตึก ๆ ตัก ๆ ผ่านไปครู่ ใหญ่ถึงได้ยนิ
ฮ่องเต้ตรัสว่า “ต่อไปเจ้าต้องกินผักให้มาก กินเนื้อให้นอ้ ย”
ตู๋กูซิงหลัน “??? ” นี่เขาไม่โกรธหรื อ? ไม่ใช่วา่ เขารังเกียจคนที่
ปล่อยตดผายลมที่สุดหรอกหรื อ?
นางยังไม่ทนั ตั้งสติได้ ก็ได้ยนิ อี้อ๋องกล่าวรับอย่างเห็นด้วยกับจี
เฉวียนว่า “ไทเฮา ท่านต้องกินผลไม้ให้มากด้วย”
ตู๋กซู ิงหลัน “…..” คนรักเก่า ขอร้องเจ้าหุบปากเถอะ!
นี่มนั ……….หน้าอายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้ว!
“เนื้อสัตว์กินมากเกินไปไม่ดีต่อร่ างกาย แถมเจ้ายังกินเสี ยมากมายอยู่
ทุกวัน” จีเย่วย์ งั คงไม่ลืมกล่าวต่อไป
พอเขากล่าวออกไป ก็เห็นจีเฉวียนหันมาจ้องเขาดวงสายตาเย็นวาบ
อีกครั้ง แต่ละวันตู๋กซู ิงหลันกินอะไรบ้าง เขาช่างรู ้ดีนกั นะ?
ดูท่า ภายในวังของเขา คงจะมีสายลับของอี้อ๋องอยูไ่ ม่นอ้ ย
พอยิง่ คิดถึงถ้อยคาของเขาเมื่อครู่ จีเฉวียนก็ยงิ่ รู ้สึกเหมือนมีหนาม
ทิ่มตาพระทัย พาลเปลี่ยนเรื่ องหันไปถามตู๋กซู ิ งหลันว่า “ไทเฮา เรา
สงสัยยิง่ นัก ตกลงว่าอี้อ๋องใช้การได้หรื อไม่ เจ้าว่ามาสิ ”
ตู๋กซู ิงหลัน “……..” ปัดโถ่เอ๋ ย สถานการณ์แบบนี้อย่าได้หาเรื่ องทิ่ม
แทงกันจะได้ไหม?
นางในตอนนี้คิดแต่จะออกไปจากอุโมงค์น้ ีให้เร็ วที่สุด จะได้ดูวา่ ตก
ลงแล้วในสุ สานของท่านย่ามีหยกสรรพชีวิตอยูห่ รื อไม่
“หืม ทาไมไม่พดู ? ถ้างั้นก็หมายความว่าไม่ได้เรื่ องละสิ ? ” จีจีเฉวียน
ไม่ปล่อยโอกาสให้นางได้ทนั มีปฎิกิริยา ก็สรุ ปให้ทนั ที “ก็ใช่สิ
น้องชายของเราคนนี้ ตั้งแต่เล็กมาแล้วก็ผา่ ยผอมอ่อนแอ นอกจาก
สมองที่ดีอยูส่ กั หน่อยแล้ว สุขภาพนั้นใช้ไม่ได้เลย”
“เจ้าเองก็ไม่ตอ้ งไปปิ ดบังอะไรให้เขา ใช้การไม่ได้กไ็ ม่ใช่เรื่ องน่า
อับอายอะไร ข้าที่เป็ นพี่ชายใช้การได้กพ็ อแล้ว”
ตอนที่ 86 คู่จนิ้ ที่ฝืนมา จะอย่ างไรก็ไม่ หวาน
ตู๋กซู ิงหลันพูดอะไรไม่ออกแล้ว ได้โปรดเถอะ นางยังไม่ได้พดู อะไร
สักคาเลยนะ
ข้ารู ้แล้วว่าท่านเจ๋ ง จ้ าจี้กบั ท่านราชครู อยูท่ ุกวันทุกคืนทุกที่ทุกเวลา
เลยใช่ไหม?
แล้วเรื่ องนี้มนั จาเป็ นจะต้องประกาศออกมาด้วยหรื อ?
ประเด็นสาคัญคือมาบอกกับนางที่เป็ นพระมารดาเลี้ยงมันเหมาะเสี ย
ที่ไหน?
สี หน้าจีเย่วเ์ ปลี่ยนเป็ นดูไม่ได้ จีเฉวียนทาเช่นนี้ชดั เจนเลยว่ากาลังดู
หมิ่นความสามารถเชิงบุรุษของเขา
เขามองไปยังตู๋กซู ิงหลันที่อยูด่ า้ นหน้า “ไทเฮา กระหม่อมยอดเยีย่ ม
อย่างแน่นอน เพียงแต่ฝ่าบาทไม่ทรงทราบรายละเอียด ขอท่านเชื่อใจ
กระหม่อม”
คาพูดเช่นนี้ หากเป็ นแต่ก่อนตีให้ตายเขาก็ไม่กล้าพูดกับหลันเอ๋ อร์
เพราะว่าตลอดเวลาที่ผา่ นมายามเขาอยูก่ บั หลันเอ๋ อร์ ต่างก็รักษา
มารยาทต่อกัน เรื่ องที่จะไปทาอะไรลับ ๆ ล่อนั้นเป็ นไม่มี
แต่ตอนนี้เป็ นเพราะฮ่องเต้ทรงไร้ยางอายก่อน ถ้าเช่นนั้นเขาไม่ตอ้ ง
รักษาหน้าก็ไม่เป็ นไร!
ปากของตู๋กซู ิงหลันตอนนี้คว่าจนถึงที่สุดแล้ว ทาไมนางถึงได้รู้สึก
ว่าสองคนนี้ทาตัวราวกับ ‘เป็ ดทุ่ง’ ก๊าบ ๆ ๆ ร่ าร้องว่าตัวเองเก่งเจ๋ ง
โคตรอยูน่ นั่ จะมาขอให้นางโปรดปรานหรื อยังไง?
และเพราะเกรงว่าพวกเขาจะยังโอ้อวดแข่งกันอีก นางจึงหันไปยิม้
ให้อย่างอ่อนหวาน “พวกท่านในเมื่อต่างก็เก่งกาจเยีย่ มยอดกันนัก
ถ้าเช่นนั้นก็รักใคร่ กลมเกลียวดูแลกันและกันให้ดีกแ็ ล้วกัน ข้าไม่
รังเกียจที่จะคอยชื่นชมอยูด่ า้ นข้าง”
ไม่เพียงไม่มีรังเกียจ ทั้งยังตื่นเต้นสนใจอยูบ่ า้ งด้วยซ้ า
เจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ ขนาดท่านราชครู ยงั รวบหัวรวบหางไปแล้ว ถ้า
อย่างนั้นจะรวบน้องชายตัวเองบ้างจะเป็ นไรไป?
ไม่แน่วา่ รวบไปรวบมา จีเย่วเ์ องก็อาจจะติดใจ ต่อไปก็ยนิ ยอมพร้อม
ใจเป็ นฝ่ ายในของเขาก็ได้นี่?
แค่น้ ีกค็ ลี่คลายปัญหาระหว่างพี่นอ้ งไปได้ง่าย ๆ ไม่ใช่หรื อ?
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่านางช่างฉลาดจริ ง ๆ !
วิญญาณทมิฬเองก็กาลังครุ่ นคิดอย่างจริ งจัง “อัว๋ ว่านะ ได้มาชมดู
เหตุการณ์สด ๆ ในที่แบบนี้กไ็ ม่เลวเลย”
ขณะที่มนั พูดไปมันก็ลูบคลานวดหัวตัวเองไปด้วย ทันใดนั้นมันก็
รู ้สึกตื่นตัวขึ้นมา ใบหน้าดา ๆ กลม ๆ นัน่ ก็ปรากฎแสงสี แดงสอง
สายขึ้นมาจาง ๆ
พอตู๋กูซิงหลันพูดออกไปอย่างนั้น ทั้งจีเฉวียนและจีเย่วต์ ่างก็หน้าดา
ทะมึน ถึงแม้จะไม่เข้าใจคาพูดของนางทั้งหมด แต่วา่ จากคาที่วา่ รัก
ใคร่ ดูแลกันและกันไม่กี่คานี้ ก็เพียงพอจะทาให้ท้ งั สองรู ้สึกบ่าไหล่
เย็นวูบ
ในอุโมงค์ยงั คงมีกลิ่นตดจาง ๆ ผสมปนเปกับกลิ่นเหม็นอับชื้นบูด
เน่า ทาให้ผคู ้ นยากจะทนทานอยูแ่ ล้ว ฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรเห็น
หน้าของจีเย่วก์ ร็ ู ้สึกพะอืดพะอมขึ้นมา
จีเย่วเ์ องก็รู้สึกว่าทะเลในกระเพาะกาลังพลิกตลบ เขาคลานถอยหลัง
ไปจนไกลห่างจากจีเฉวียน
ต้องมาคุกเขาคลานอยูด่ า้ นหลังของจีเฉวียนตลอดเวลาเช่นนี้ พาลให้
เขารู ้สึกไม่ดีแปลก ๆ จริ ง ๆ
ตู๋กซู ิงหลันหันไปดูสองหนุ่มโฉมงาม ก็ยกมุมปากขึ้นยิม้ ดูท่าแล้ว คู่
จิ้นที่ฝืนบังคับมานี้ คงจะหวานไปกันได้ไม่นานเท่าไหร่
นางพยักหน้าหงึก ๆ ไม่ได้พดู อะไรมากอีก หันหน้าป่ ายปี นขึ้นไป
ปี นขึ้นไปได้ไม่กี่กา้ ว ก็รู้สึกว่าบนศีรษะมีอะไรเปี ยก ๆ หยดแหมะ
ๆ ลงมา พอดีหยดลงบนกลางกระหม่อม
พอเอามือลูบดู ก็เห็นเป็ นเลือดดา ๆ ! ที่ท้ งั คาวทั้งเหม็น!
พอเงยหน้ามอง ก็เห็นว่าบนเพดานมีใบหน้าหนึ่งผุดออกมา!
ใบหน้านั้นราวกับศีรษะถูกตัดออกมาจากคนที่มีชีวิตเป็ น ๆ แต่กลับ
ไม่มีแววตา สี หน้าน่าเกลียดน่ากลัว คล้ายกับพยายามที่จะออกมาจาก
กาแพงหิน
เลือดสี ดาแดงนัน่ ก็ออกมาจากปากและดวงตาของใบหน้านั้นนัน่ เอง
ภาพที่เห็นน่ากลัวเสี ยจนใครได้เห็นเป็ นต้องหายใจไม่ออก
หากว่าเป็ นคนธรรมดามาเห็นเข้าละก็มีหวังอาจกลัวจนช๊อคตายไป
แล้วก็ได้
ตู๋กซู ิงหลันล้วงเอากริ ชพิเศษของตนเองออกมา นางไม่ได้ลนลาน
แต่วา่ เพิ่มความเร็ วในการปี นขึ้นไปอีก
จีเฉวียนและจีเย่วเ์ องก็เลิกก่อความวุน่ วาย ติดตามนางมาอย่าง
กระชั้นชิด
สุ สานนี้ มีผเี ฮี้ยนแล้ว!
ฮ่องเต้ทรงเงยพระพักตร์กวาดพระเนตรดู พลันรู ้สึกว่าใบหน้าของ
คนที่กาลังทะยอยผุดออกมานั้น กาลังยิม้ เยาะให้เขา
เขารู ้สึกหนาวเหน็บไปทัว่ ร่ าง ไม่สบายตัวแม้แต่นอ้ ย
จิตสานึกของเขาหวนกลับไปยังความทรงจาไม่ดีในวัยเยาว์ ทาให้เขา
รี บยืน่ มือออกไปคว้าข้อเท้าของตู๋กูซิงหลันไว้
ปฎิกิริยาเดียวที่เกิดขึ้นในทันทีของตู๋กซู ิงหลันคือถีบเท้ากลับไป
บังเอิญถีบลงไปบนพระพักตร์ของฮ่องเต้กลายเป็ นรอยประทับ
รองเท้าจนหน้าแดงเถือก!
จีเฉวียนโดนนางถีบเข้าไปเท้าหนึ่งเต็มแรงถึงกับมึนงง เดิมทีเขาคิด
ว่า ชาติน้ ีเขาคงโดนคนเอารองเท้าตบหน้าแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น!
แต่วา่ สตรี ที่ไม่รู้จกั รักชีวิตผูน้ ้ ีกลับกระทาซ้ าอีกหน!
“เอ่อ…….” ตู๋กซู ิงหลันพูดไม่ออก นางนึกว่ามีอะไรมาคว้าขาของ
ตนเองเอาไว้ เจ้าสุนขั จีเฉวียนนี่ อยูด่ ี ๆ มาคว้านางทาไม?
นางหันหน้ากลับไปมองเขาครั้งหนึ่ง เห็นเขากาลังจ้องมาที่ตนเอง
มือข้างนั้นเกาะกอดตัวเองเอาไว้แน่น
ตู๋กซู ิงหลัน……..เจ้าหนุ่มนี่ คงจะไม่ได้กลัวผีใช่ไหม?
ก็มีความเป็ นไปได้อยู่ การที่เขาสามารถปี นป่ ายขึ้นมาบนบัลลังก์ได้
มือต้องเปื้ อนเลือดมาไม่รู้วา่ เท่าไหร่ ต่อเท่าไหร่ การที่จะกลัวเรื่ อง
พวกนี้อยูบ่ า้ งก็สมควรอยู่
” ลูกเอ๋ ย ไม่ตอ้ งกลัว แม่อยูน่ ี่แล้ว! ” ตู๋กซู ิงหลันหันไปสบตาให้เขา
อย่างเชื่อมัน่ “ข้างหน้ามีแสงสว่างอยู่ คิดว่าคงใกล้จะถึงปลายทาง
แล้ว พวกเจ้าสองคนอย่ามัวกังวล มีขา้ อยูร่ ับรองว่าไม่ตายไปได้
หรอก”
จีเฉวียน “…….”
จีเย่ว์ “……..”
พวกเขาคนหนึ่งเป็ นฮ่องเต้ อีกคนหนึ่งเป็ นท่านอ๋ อง แต่วา่ พอเกิด
เรื่ องก็ตอ้ งมาให้สาวน้องยนางหนึ่งปกป้องหรื อ?
ตู๋กซู ิงหลันไม่มาสนใจอะไรให้มากความ ใช้ความว่องไวรวดเร็ วมุ่ง
ออกไปทางแสงสว่างนอกอุโมงค์
พอถึงปลายทาง ถึงได้เห็นว่าแสงสว่างที่สะท้อนออกมานั้นมาจาก
ประตูทองแดงบานหนึ่ง
ประตูทองแดงบานนั้นเป็ นเพียงประตูสี่เหลี่ยมบานหนึ่ง ขนาดเพียง
หนึ่งในสามของหน้าต่างปกติ ด้านบนมีลวดลายยันต์ที่สลับซับซ้อน
ตรงกลางมีภาพหยินหยางขนาดเท่าไข่ไก่ใบหนึ่ง
แสงสว่างสะท้อนมาจากดวงตาขอปลาบนรู ปหยินหยางนี้เอง

“กึก ๆ ๆ ๆ ~” ขณะนั้นเอง ที่ดา้ นหลังของพวกเขาพลันเกิด


ความเคลื่อนไหว ใบหน้าที่ผดุ ออกมาจากกาแหงหิ นเหล่านั้นเริ่ มร่ วง
ลงมา มันส่ งเสี ยงที่พาลให้คนฟังแล้วเกิดขนลุกชัน แต่ละใบหน้าราว
กับเศษผ้าขี้ริ้วแต่ละชิ้นที่ผสานรวมตัวเข้าหากันอย่างรวดเร็ ว
กลายเป็ นหน้ามนุษย์ที่อปั ลักษณ์น่าเกลียดไล่ตามมาอย่างรวดเร็ ว
จีเย่วท์ ี่อยูด่ า้ นหลังสุ ด กาลังจะถูกใบหน้ามนุษย์น้ นั พุง่ เข้ามากัดขา
ข้างที่บาดเจ็บอยู่
“มาแล้ว ๆ ! อาหารเรี ยกน้ าย่อย! กาลังเสี ยดายอยูเ่ ลยว่าไม่มีวิธีดึง
พวกมันออกมาจากก้อนหินได้! ” วิญญาณทมิฬนัง่ รอต่อไปไม่ไหว
แล้ว กระโดผลุบจากบ่าของตู๋กซู ิงหลันไปบนตัวของจีเย่ว์
เพียงวูบเดียวก็ขวางอยูเ่ บื้องหน้าของใบหน้านั้น อ้าปากแดงฉาดของ
มันเตรี ยมเขมือบเข้าไปอย่างเต็มที่
ใบหน้าอัปลักษณ์นนั่ ไม่เห็นมันอยูใ่ นสายตาแม้แต่นอ้ ย กลับอ้าปาก
ขยายขึ้นใหญ่กว่ามันเสี ยอีก เ เพียงครั้งเดียวก็เขมือบกลืนถวนจื่อเข้า
ไปทั้งหมด
ถึงจะบอกว่าเขมือบกลืน แต่ที่จริ งแล้วน่าจะพูดว่าใช้ผวิ หน้านั้น
ครอบทับเจ้าวิญญาณทมิฬลงไปเสี ยมากกว่า จากนั้นก็คิดจะบดขยี้
มันอย่างโหดร้าย เรี ยกว่าคิดจะบดเบียดมันให้แตกละเอียด
จีเย่วห์ นั หลังกลับไปดู เมื่อครู่ เขารู ้สึกว่ามีอะไรบางอย่างวูบผ่านตัว
เขาไปยังด้านหลัง จัดการหยุดยั้งใบหน้าประหลาดนัน่ ไว้
เขาพลันตื่นตระหนกขึ้นมาจริ ง ๆ เพราะยามปกติมีแต่พบเจอกับคน
ธรรมดาทัว่ ไป มือสี ขาวที่ผดุ ออกมาจากกาแพงเมื่อครู่ ถือว่าเกินคาด
ไปมากแล้ว ตอนนี้ยงั มีใบหน้าน่าเกลียดน่ากลัวนี่อีก ถึงแม้วา่ จะเคย
มีจิตใจเข้มแข็งสักเท่าไหร่ กไ็ ม่อาจรักษาความสงบเยือกเย็นเอาไว้
ได้
อีกด้านหนึ่ง ตู๋กซู ิงหลันที่ติดอยูด่ า้ นหน้าประตูทองแดงนั้น ก็รีบ
ศึกษาดูอยูค่ รู่ หนึ่ง ในที่สุดก็สามารถทาให้รูปปลาคู่ในภาพหยินห
ยางหมุนขยับได้
จากนั้นก็ขยับจนดวงตาของปลาทั้งสองกลายเป็ นจุดเดียวกัน ทันใด
นั้นกุญแจทองแดงในอ้อมอกของนางก็พลันเกิดความเคลื่อนไหว
ตอนที่ 87 ไก่ป่าจากที่ใดกัน
ตู๋กซู ิงหลันไม่ครุ่ นคิดให้มากความ หยิบกุญแจออกมาได้กเ็ สี ยบเข้า
ไปทันที
พอกุญแจทองแดงลอดเข้าไปในรู ก็ราวกับว่ามันถูกบางสิ่ งดูดกลืน
เข้าไปทั้งดอก ผ่านไปครู่ หนึ่งก็ยงั ไม่มีปฎิกิริยาใด ๆ
คราวนี้ต๋ ูกซู ิงหลันเริ่ มขมวดคิว้ บ้างแล้ว นางจดจ้องไปยังรู กญ
ุ แจนัน่
จนผ่านไปอีกสักพัก นางถึงได้มองเห็นว่าที่ดา้ นหลังรู กญ
ุ แจนัน่ มี
ดวงตาข้างหนึ่งปรากฎขึ้น สี เขียวเรื อง ๆ
นางไม่พดู อะไรก็ใช้กริ ชของตนเองแทงเข้าไปในสัญลักษณ์หยินห
ยาง บนกริ ชนี้มีอกั ขระยันต์ที่นางสลักด้วยตนเอง ทั้งยังเป็ นอักขระที่
ใช้ทองคาดาราคาสู งเทียมฟ้าที่นางได้มาจากการให้เชียนเชียนเอา
หยกประจาตัวของจีเย่วไ์ ปขายมาหลอมเหลวจนสาเร็ จขึ้นมา
แน่นอนว่าต้องร้ายกาจอย่างยิง่
ฮ่องเต้ทรงประทับอยูท่ ี่ดา้ นหลังของนาง เห็นนางที่คุกเข่าอยู่
ด้านหน้าส่ ายสะโพกโยกก้นไปมาไม่มีหยุด คนก็อดที่จะขมวดคิว้
ขึ้นมาไม่ได้
เอวของนางเล็กคอด แทบจะใช้สองมือโอบได้มิด ถึงแม้จะมี
กระโปรงคลุมไว้ แต่เส้นสายที่บอบบางนั้นก็งดงามมากจริ ง ๆ
เขาพลันเกิดความคิดขึ้นมาว่า สะโพกที่งดงามเช่นนี้ต่อให้ผายลม
ออกมา ก็ไม่นบั ว่าเลวร้ายเท่าไหร่
เส้นผมที่ยาวสลวยของนางสยายลงมาถึงข้างลาตัว แทบจะบดบังเงา
ร่ างทั้งหมดไว้ เกิดเป็ นเสน่ห์ที่ใครก็ยากจะอธิบายออกมาได้
นับตั้งแต่อายุได้สิบสองปี เป็ นต้นมา ตู๋กซู ิงหลันก็ได้ชื่อว่าเป็ นกุล
สตรี ที่งดงามที่สุดในแคว้นต้าโจว แต่วา่ ก่อนหน้านี้จีเฉวียนกลับไม่
ทรงเห็นว่านางจะงดงามในที่ใด
ก็แค่ดวงตากลมโตกว่าคนอื่น ขนตายาวกว่าคนทัว่ ไป ผิวขาวกว่า
ใคร ๆ อยูอ่ ีกหน่อย อะไรทานองนั้น
แต่วา่ ในตอนนี้ได้ทอดพระเนตรเห็นเงาหลังของนาง ฮ่องเต้กลับทรง
รู ้สึกขึ้นมาว่า….ก็น่ามองอยูม่ ากทีเดียว
นี่จะต้องเป็ นเพราะว่าในสุ สานมีสิ่งประหลาดลี้ลบั มากเกินไป แล้ว
ยังมีสายตาน่าราคาญของจีเย่วน์ นั่ อีก ฉะนั้นยามที่ได้มองนาง ถึงได้
รู ้สึกว่าสบายตากว่ายามปกติมากทีเดียว
เขามัวแต่จิตใจจดจ่ออยูท่ ี่สตรี นอ้ ยตรงหน้า จนกระทัง่ ลาคอรู ้สึก
แห้งกระหายขึ้นมาอย่างไม่รู้เนื้อรู ้ตวั แทบจะไม่ทนั ได้สงั เกตเห็นว่า
จีเย่วท์ ี่อยูด่ า้ นหลังกาลังจะถูกใบหน้าประหลาดอัปลักษณ์นนั่ คุกคาม
เอาชีวิต
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ยงิ่ ไม่ได้สนใจหันไปมองสถานการณ์ที่ดา้ นหลัง พอ
กริ ชของนางเสี ยบเข้าไปได้ ขยับได้นิด ก็ได้ยนิ เสี ยงกริ๊ กดังจาก
ุ แจเป็ นจุดกึ่งกลางก็สามารถพลัก
ประตูทองแดงบานนั้น เมื่อใช้รูกญ
เปิ ดออกไปได้ท้ งั สองด้านซ้ายขวา
ครู่ หนึ่งก็รู้สึกได้ถึงกระแสของความเย็นพัดผ่านออกมา ทันใดนั้นก็
ปรากฎ……หัวไก่ตวั หนึ่ง?
ตู๋กูซิงหลัน “……..”
นางถูตาอยูห่ ลายรอบถึงได้แน่ใจว่า ที่เบื้องหน้าคือไก่ตวั หนึ่งจริ ง ๆ
!
เส้นขนเป็ นสี ดาหงอนไก่เป็ นสี แดงสด ดวงตาที่สดใสนั้น ข้างหนึ่ง
เป็ นสี เขียว ข้างหนึ่งเป็ นสี เหลืองทอง
ไก่ตวั นัน่ มีขนาดครึ่ งตัวคน ทาท่าเหมือนแม่ไก่นงั่ ยอง ๆ อยูท่ ี่เบื้อง
ุ แจทองแดงที่นางเสี ยบเข้ามาเมื่อครู่ อยู่
หน้านาง ในปากของมันมีกญ
มันกาลังใช้ดวงตาที่แปลกประหลาดคู่น้ นั และศีรษะที่กระดุ๊กกระดิ๊ก
ไปมาจดจ้องดูนาง
หากไม่ใช่เพราะว่าบนร่ างของมันมีกระแสเย็น ๆ ของธาตุหยินอยู่
เต็มเปี่ ยม ตู๋กซู ิงหลันคิดว่ามันก็ดูจะน่ารักดี
ขณะนั้นเอง ที่ดา้ นหลังของนางเกิดเสี ยงโหยหวนดังขึ้น ตู๋กวู ิงหลัน
เหลียวหลังไปดู ก็เห็นว่าใบหน้ามนุษย์ที่พ่ งึ กลืนกินวิญญาณทมิฬลง
ไปนั้น กาลังเกิดความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจน
ครู่ เดียวก็เห็นว่าในดวงตาบนใบหน้ามนุษย์มีมือสั้น ๆ อยูค่ ู่หนึ่ง ผุด
ออกมาจากดวงตาโดยตรง คล้ายกับว่ากาลังฉี กกระชากออกมาจาก
ตรงจุดที่มนั คลุมทับอยู่
ใบหน้ามนุษย์ในอุโมงค์น้ นั ได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสจน
เกิดความคิดหลบหนี แต่น่าเสี ยดายที่เจ้าถวนจื่อตัวดา ๆ นั้น ถึงแม้
ติดจะอวบอ้วน แต่กค็ ล่องแคล่ว พละกาลังก็มาก ด้านหนึ่งฉี กทึ้ง
ด้านหนึ่งก็กดั กิน จนในเวลาสั้น ๆ มันกลายเป็ นเพียงเศษหนังแผ่น
หนึ่ง
เศษเสี้ ยวแผ่นหนังนัน่ ยังคิดที่จะหลบหนี แต่วา่ เจ้าถวนจื่อตัวดา
กระโดดเพียงครั้งเดียวก็ทบั ร่ างของมันเอาไว้อยูห่ มัด อ้าปากกลืนกิน
มันลงไปอย่างไร้ความปราณี
คราวนี้ วิญญาณทมิฬถึงได้นอนแผ่อยูใ่ นอุโมงค์ ใช้มือป้อม ๆ ลูบ
ไล้พุงกลม ๆ จนเรอออกมาเล็กน้อย
วิญญาณทมิฬเป็ นร่ างจิต ฮ่องเต้และอี้อ๋องย่อมมองไม่เห็น พวกเขา
มองเห็นแต่วา่ ใบหน้ามนุษย์ที่น่ากลัวนัน่ กรี ดร้องอย่างเจ็บปวด
ก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
มาถึงโลกมิติน้ ีตอ้ งนานแล้ว วิญญาณทมิฬพึ่งจะรู ้สึกว่าได้กินอาหาร
เรี ยกน้ าย่อยที่เป็ นเรื่ องเป็ นราวเสี ยบ้าง
พอมันเรอเสร็ จเรี ยบร้อย ถึงได้กระโดดดึ๋งดัง๋ มาที่ดา้ นหน้าของตู๋กู
ซิงหลัน จ้องมองไก่โง่ ๆ พลางแยกเขี้ยวจนปวดฟัน
“ไรเนี่ย ทาไมถึงเป็ นไก่ล่ะ? แล้วปี ศาจของอัว๋ ล่ะ? ผีร้ายละ? ตัว
อันตรายทั้งหลายล่ะ? “
ไก่ที่มีแต่ตวั กับขนปุกปุยนัน่ มองไปที่มนั ก็สะบัดหน้าหันไปอีกทาง
หนึ่ง กุญแจทองแดงที่อยูใ่ นปากก็ถูกเขวี้ยงออกไปดังตุ๊บอยูบ่ นพื้น
ตู๋กซู ิงหลันค่อย ๆ เก็บกุญแจทองแดงขึ้นมาจากบนพื้น ใช้แขนเสื้ อ
เช็ดถูจนสะอาด คนก็ค่อย ๆ ลอดผ่านประตูทองแดงบานนั้นเข้าไป
ไก่ตวั นั้นไม่ได้ส่งเสี ยงร้องใส่ นาง เพียงแต่เฝ้ามองดูนางอย่างเงียบ

พอนางเดินไปด้านหน้าก้าวหนึ่ง มันก็ติดตามมาก้าวหนึ่ง ขยับคอ
ผงกหัวไปมา ดมกลิ่นอยูท่ ี่บ้ นั ท้ายของนาง
พอตู๋กซู ิงหลันหันไปมองดูมนั มันก็นงั่ ลงที่ดา้ นหน้าของนางอย่าง
สงบเสงี่ยม หงอนบนหัวขยับไปมา
ดวงตาที่แปลกประหลาดคู่น้ นั ส่ องประกายออกมา มันตีปีกอย่าง
ตื่นเต้นยินดี ทั้งยังส่ ายก้นผายลมออกมาครั้งหนึ่ง ค่อยทาท่าขนลุก
ไปทั้งตัว ก็พงุ่ เข้ามาหานางอย่างต้องการจะผูกมิตร
แต่วา่ มันยังไม่ทนั จะกระทบถูกตู๋กซู ิ งหลัน ก็เห็นว่าฮ่องเต้ที่เสด็จ
ตามมาอย่างกระชั้นชิด ยืน่ พระบาทออกมาข้างหนึ่งกวาดใส่ กน้ น้อย
ๆ ของเจ้าไก่ตวั นั้น ไก่ขนปุกปุยจึงลอยกระเด็นไปไกลอยูห่ ลาย
เมตร กรงเล็บบนเท้าของมันจิกกรี ดลงไปบนแผ่นทองที่เรื องรอง
ระยิบระยับอยูบ่ นพื้นจนเกิดริ้ วรอยอยูห่ ลายเส้น
เสี ยงขูดขีดนัน่ ราวกับกรี ดไปบนแผ่นกระจก บาดหูอย่างที่สุด
“ไก่ป่านี่มาจากที่ใด ถึงกลับบังอาจนัก กล้าวางท่าต่อหน้าเรา! ” จี
เฉวียนประทับยืนอยูด่ า้ นข้างของตู๋กซู ิงหลัน พอครุ่ นคิดว่าเมื่อครู่
บั้นท้ายของนางถูกเจ้าไก่นนั่ มาทาดู ๆ ดม ๆ ก็รู้สึกว่าไอ้ไก่นี่สน
ควรตายยิง่ นัก
อี้อ๋องจีเย่วเ์ องก็พ่ งึ จะผ่านเข้ามาได้ ไก่ตวั นัน่ ก็ถูกเขวี้ยวมาตรงเบื้อง
หน้าของเขา
ก่อนหน้านี้พ่ งึ จะได้เห็นภาพสยดสยองไปอยูห่ ลัด ๆ คราวนี้กลับ
เป็ นไก่เป็ น ๆ ตัวหนึ่ง ทาให้เขาออกจะไม่คุน้ เคยอยูบ่ า้ ง
หรื อใครจะกลัวว่าคนที่ผา่ นเข้ามาจะหิวโหย ถึงได้ตระเตรี ยมอาหาร
เอาไว้กนั ?
ตู๋กซู ิงหลันเห็นแล้วก็ไม่รู้วา่ ควรจะพูดอย่างไรดี จีเฉวียนถึงกับเป็ น
ฮ่องเต้ที่จดั การคนกันเอง ข่มเหงผูอ้ ่อนแอแต่หวาดกลัวผูแ้ ข็งแกร่ ง
ไปแล้ว ก็แค่ไก่ตวั หนึ่ง ไยต้องไปเตะมัน?
นางกวาดตามองไปรอบ ๆ ถึงได้พบว่าทุกสิ่ งในนี้ลว้ นเป็ นประกาย
แวววาว บนพื้นล้วนปูดว้ ยแผ่นทองคา มีไข่มุกอัญมณี มากมายนับไม่
ถ้วนกองรวมอยู่ แม้แต่กาแพงยังใช้หยกดาก่อขึ้นมา!
หยกดาชนิดนี้ ยังสู งค่ากว่าทองคามากมายนัก!
บนกาแพงหยก ยังมีแสงจากตะเกียงโบราณที่ติดไฟลุกอยู่ แสงไฟ
เป็ นสี ฟ้า ทั้งหมดถูกติดตั้งไว้บนมุมทั้งแปด
หินคริ สตัลถูกนามาสกัดจัดเรี ยงเป็ นแท่นสู งขนาดใหญ่ บนแท่น
ปลูกเอาไว้ดว้ นต้นไฮ่ถางขนาดใหญ่ตน้ หนึ่ง
บนต้นไม้ไร้ดอก มีเพียงใบที่เ**่่ยวแห้งไม่กี่ใบ ลาต้นขนาดใหญ่
เอนลงมาจนเกือบจะคว่า แทบจะพิงไปกับกาแพง
แสงสว่างสี ฟ้าย้อมต้นไฮ่ถางจนหม่อหมอง ทั้งสุ สานเป็ นประกายสี
ฟ้าจาง ๆ
“ที่นี่คือที่พกั พิงสุ ดท้ายของเย่วฮูหยินหรื อ? ” แม้แต่จีเย่วย์ งั ถอนใจ
อย่างยากจะเชื่อได้
ผูค้ นต่างทราบว่า ผูเ้ ฒ่าตู๋กูทุ่มเทมากมายเพื่อสร้างสุ สานให้กบั เย่วฮู
หยิน แต่กลับไม่มีใครรู ้วา่ สุ สานแห่งนี้จะวิจิตรพิศดารถึงเพียงนี้
จีเฉวียนเองก็หรี่ ตามองอย่างพิจารณา เจ้าผูเ้ ฒ่าตู๋กถู ิงนัน่ ที่ผา่ นมา
รักษาภาพลักษณ์ซื่อสัตย์สุจริ ต ไม่มีสมบัติใดติดตัว แต่สุสานแห่งนี้
ยังวิจิตรงดงามเสี ยยิง่ กว่าของราชวงค์เสี ยอีก
พระหัตถ์ขา้ งที่ได้รับบาดเจ็บ ยามนี้ปิ่นที่แทงทะลุฝ่ามือยังไม่ได้ถูก
เอาออก พระหัตถ์ขา้ งนี้ปวดบวมจนแทบจะกลายเป็ นกีบเท้าหมูแล้ว
เขายกพระหัตถ์อีกข้างขึ้นมา คิดจะวางลงไปบนหัวไหล่ของตู๋กซู ิงห
ลัน
ก็เห็นเจ้าไก่ขนปุยที่เขาพึ่งเตะกระเด็นไปไกลหลายเมตรนั้นกาลัง
ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา ดวงตาวาววับด้วยความโกรธพุง่ ตรงมายัง
เขา
ตอนที่ 88 ปักดอกไฮ่ ถางในสวนกระดูกขาว
ตู๋กซู ิงหลันเห็นแล้ว ก็ดึงตัวฮ่องเต้มาไว้ที่ดา้ นหลังของตนเอง มืออีก
ข้างยืน่ ออกไปลูบไล้หงอนไก่ตวั นั้นไว้
เจ้าไก่ขนดาตัวฟูกเ็ ปลี่ยนมาเป็ นรี บพุง่ เข้ามาหยุดอยูข่ า้ งหน้านาง ซุก
ไซร้อยูต่ รงหน้าขา ราวกับจะออดอ้อนแม่ไก่ ดวงตาที่แปลก
ประหลาดนั้นสะท้อนแววตาน่าสงสารและได้รับความอยุติธรรม
ยามที่มนั หันไปมองจีเฉวียน สายตาก็เปี่ ยมไปด้วยความแค้น มันยก
กรงเล็บขึ้นมาตะกุย เล็บยาว ๆ นัน่ กรี ดขูดลงไปบนแผ่นทองบนพื้น
อยูห่ ลายครั้ง จนพื้นถูกมันขูดกลายเป็ นร่ องขึ้นมา
ตู๋กซู ิงหลันมองดูอย่างปวดใจ อย่าขูดอีกเลย ขูดลงไปแต่ละทีมนั แพง
มากเลยนะ!
แต่เจ้าไก่ขนดาตัวฟูตวั นั้นยังส่ งเสี ยงกุ๊ก ๆ กิ๊ก ๆ ไม่ยอมหยุด เสี ยง
นัน่ กลับไม่คล้ายไก่ร้อง แต่กลับเหมือนสาปแช่งมากกว่า
ตู๋กซู ิงหลันเคยได้เห็นอะไรมาก็มากมาย แต่วา่ เจ้าไก่นี่คือตัวอะไรกัน
แน่ ตอนนี้นางเองก็อธิบายไม่ถูก
สามารถพิทกั ษ์เฝ้าสุ สาน ทั้งยังมีชีวิตอยูไ่ ด้เช่นนี้ จะต้องไม่ใช่สิ่ง
ธรรมดา
นายท่านผูย้ งิ่ ใหญ่อย่างจีเฉวียนถูกสาวน้อยคนหนึ่งเอาตัวเข้าปกป้อง
ไว้ ตอนแรกเขาก็ชะงักไป เหม่อมองดูกระหม่อมด้านหลังของตู๋กู
ซิงหลัน ในพระทัยก็เกิดความอิ่มเอมขึ้นอย่างไร้ที่มา
สตรี ผนู ้ ้ ียงั นับว่ามีน้ าใจอันดีอยูบ่ า้ ง รู ้จกั ปกป้องเขา ถึงแม้วา่ ที่จริ ง
แล้วเขาจะไม่ตอ้ งการให้นางมาปกป้องก็ตาม
เขาหันไปมองไอ้ไก่ขนดาตัวฟูนนั่ ด้วนแววตาสะใจ อีกเดี๋ยวเถอะจะ
จับมันกลับไปตุ๋นน้ าแกง!
เจ้าไก่ขนดาตัวฟู “…….”
ครู่ ต่อมา เขาก็ไม่ลืมที่จะหันไปกล่าวกับจีเย่วท์ ี่ยนื งงอยูอ่ ีกด้าน
“ไทเฮารักถนอมเราจริ ง ๆ ไม่อยากให้เราได้รับบาดเจ็ยใด ๆ แม้แต่
น้อยเชียว”
น้ าเสี ยงของเขาดังไม่นอ้ ย ราวกับเกรงว่าจีเย่วจ์ ะไม่ได้ยนิ
จีเย่วไ์ ม่โต้ตอบ เขาเดินเข้าไปหยุดที่ดา้ นข้างของตู๋กซู ิงหลัน หันไป
มองที่ดา้ นหน้าของนางกล่าวว่า “ไทเฮาพะยะค่ะ บนต้นไม้น้ ีมีสาย
ลมโชยออกมา คิดว่าด้านบนคงจะต้องมีทางออกเป็ นแน่ ขอเพียง
พวกเราปี นต้นไม้น้ ีข้ ึนไป ไม่แน่วา่ จะสามารถหาทางออกไปได้”
เขานะไม่ใช่คนไร้ประโยชน์เหมือนฮ่องเต้บางองค์หรอกนะ ที่จะ
ต้องการให้สตรี ตวั เล็ก ๆ มาปกป้อง
“นัน่ ไม่จาเป็ นหรอก สุ สานนี้เตรี ยมการจัดสร้างอย่างละเอียดละออ
ไม่แน่วา่ ทางออกจะอยูท่ ี่อื่น” จีเฉวียนยืน่ มือไปเกาะกุมฝ่ ามือของตู๋กู
ซิงหลันเอาไว้ “ยิง่ ไปกว่านั้นที่นี่ยงั มีสมบัติล้ าค่ามากมาย ไทเฮาจะ
อดใจรี บร้อนจากไปได้หรื อ? “
หากว่าตามนิสยั เสี ยของนางแล้ว คิดว่าแม้แต่แผ่นปูพ้นื ยังต้องงัดเอา
ไปด้วยสักหลาย ๆ ชิ้น
คนก็ตายไปแล้ว จะทิ้งสิ่ งของนอกกายเหล่านี้เอาไว้ทาไมกัน? ไม่สู้
เอาไปทานุบา้ นบารุ งเมืองต้าโจวดีกว่า
ฮ่องเต้ทรงหรี่ พระเนตรมอง ลอบคิดคานวนดูสกั หน่อย เฉพาะแค่
ทองคาที่ปูอยูบ่ นพื้นก็มีอยูห่ ลายหมื่นชิ้นแล้ว ยังไม่ตอ้ งพูดถึง
กาแพงหยกดาที่มีมูลค่ามหาศาลเหล่านั้น รวมถึงสมบัติที่วางอยูอ่ ย่าง
มากมายพวกนี้อีก จิ๊ส์……รับรองว่ามูลค่าไม่มีทางน้อยไปกว่า
สมบัติในบ้านของโยวหยูไ่ ปได้หรอก
เขายิง่ รู ้สึกว่า การที่ฮ่องเต้แห่งต้าโจวเช่นเขาตกลงมาครั้งนี้นบั ว่า
พอจะคุม้ ค่าแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันกรอกตาขาว เห็นชัดอยูว่ า่ เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่คิดจะขน
สมบัติเหล่านี้กลับไปเป็ นของตนเอง แต่กลับนับรวมนางเข้าไปด้วย
สิ่ งของในสุ สานแห่งนี้ เขาอย่างได้คิดแตะต้องสักขุมขนหนึ่ง! มอง
มาไปยังถือว่าเป็ นบาปด้วยซ้ า!
นางคร้านจะสนใจเขาอีกต่อไป จึงเดินขึ้นไปบนแท่นที่อยูต่ รงกลาง
นั้น เจ้าไก่ขนดาตัวฟูนนั่ ก็รีบติดตามไปด้วย มันเดินไปก็กางปี กเต้น
ไปด้วย ตัวกลม ๆ ขนฟู ๆ ของมันเดินก้าว กระโดดก้าว ก็ค่อยหัน
กลับมามองดูจีเฉวียนกับจีเย่วส์ กั รอบหนึ่ง
หากว่าเจ้าสองคนนี้ไม่ได้มากับพี่สาวตัวน้อยละก็ ป่ านนี้กต็ ายเรี ยบ
ไปนานแล้ว!
แต่ละก้าวเดินที่ต๋ ูกซู ิงหลันเหยียบย่างขึ้นไปบนแท่นนั้น นางรู ้สึกได้
ว่าความเย็นใต้ฝ่าเท้าเพิ่มขึ้นเรื่ อย ๆ จนกระทัง่ เมื่อนางขึ้นไปยืนที่
ด้านบนสุ ด ทัว่ ทั้งร่ างก็หนาวสัน่ เข้าไปจนถึงกระดูก
เมื่อขึ้นไปจนถึงบนแท่น จึงพบว่าบนนี้มีโลงทองแดงหลังหนึ่งวาง
อยู่ บนโลงสลักไว้ดว้ ยลวยลายที่สลับซับซ้อน มุมทั้งสี ตอกตรึ งด้วย
เหล็กดา
ผูท้ ี่นอนอยูด่ า้ นใน ก็คือท่านย่าของนาง เย่วฮูหยินหรื อ?
ตู๋กซู ิงหลันยืนดูอยูท่ ี่ดา้ นข้างครู่ หนึ่ง ก็เห็นเจ้าไก่ขนดาตัวฟูเอาหัวมา
ซุกไซร้กน้ ของนางอีก คล้ายจะให้นางขยับไปทางโลงใบนั้น
จากนั้นยังใช้ปีกมากระพือใส่ กญ
ุ แจทองแดงในมือของนาง
กุญแจทองแดงดอกนั้นราวกับได้รับสัญญาณเรี ยกอันใดสักอย่าง มัน
ขยับเคลื่อนไหวอย่างเร่ งร้อน เพียงแค่ต๋ ูกซู ิงหลันยืน่ กุญแจมาใกล้ ๆ
กับฝาโลง ตะปูเหล็กดาทั้งสี่ มุมก็หลุดลอยออกมา
ฝาโลงค่อย ๆ เลื่อนออกมาเอง ชัว่ ขณะนั้นกระแสความเย็นไหลบ่า
พวงพุง่ ออกมา ทั้งที่ไม่มีสายลมพัด แต่กลับสร้างความรุ นแรงจน
เปลวไฟบนตะเกียงทั้งสี่ ทิศแทบจะหรี่ ดบั ลง
อาศัยแสงตะเกียงที่ส่องสว่างอย่างไม่ยอมดับ ตู๋กซู ิงหลันถึงได้พอจะ
มองเห็นสิ่ งที่อยูภ่ ายในโลง โครงกระดูกขาวร่ างหนึ่งนอนทอดตัวอยู่
ในชุดกระโปรงปั กลายดอกไฮ่ถาง
เพียงมองดูจากใบหน้าของโครงกระดูกก็สามารถบอกได้วา่ ยามที่ยงั
มีชีวิตอยูจ่ ะต้องเป็ นสตรี ที่งดงามเลื่องลือทัว่ บ้านทัว่ เมืองเป็ นแน่
แต่วา่ เมื่อตายแล้วจะอย่างไรก็เป็ นเพียงแค่กระดูกขาวโพลนกองหนึ่ง
ฝังอยูใ่ ต้พิภพตลอดไปเท่านั้น
ที่มือขวาของโครงกระดูก กากล่องทองแดงขนาดเท่าฝ่ ามือเอาไว้
อย่างแนบแน่น
ทันทีที่ได้เห็นกล่องทองแดงใบนั้น สายตาของตู๋กซู ิงหลัยก็
ิ ญาณทมิฬเองก็พลอยตื่นเต้นอย่างระงับไม่อยู่
เปลี่ยนไป แม้แต่วญ
มันไม่รอช้ากระโจนลงไปในโลงทันที กระโดดตุ๊บตับอยูบ่ นโครง
กระดูก มืออวบสั้นของมันยืน่ ไปดึงกล่องทองแดงใบนั้น
ต่อให้ตายไปเป็ นพันเป็ นหมื่นรอบ มันก็ยงั สามารถจดจาสิ่ งที่ทาให้
ทุกผูค้ นต่างแย่งชิงกันอยูท่ ุกลมหายได้เป็ นอย่างดี!
หยกสรรพชีวิต!
กลิ่นอายมืดมิดที่กาจายออกมาราวกับแดนอนธการที่เหน็บหนาว
กลับเป็ นที่ยวั่ ยวนประหนึ่งน้ าผึ้งหวาน ราวกับดอกฝิ่ นที่สามารถคร่ า
ชีวิต ทาให้มนั ลุ่มหลงอย่างบ้าคลัง่
แต่พอมันพึ่งจะกระโดดลงไป ก็พบว่าโครงกระดูกนั้นขยับขึ้นมา
ทันที!
ทันใดนั้นวิญญาณทมิฬก็ถูกแทงจนร่ างพรุ นประหนึ่งกระชอน เลือด
สี ดามากมายไหลริ นออกจากร่ างของมัน ย้อมกระดูกนั้นจนเปลี่ยนสี
ไป
วิญญาณทมิฬกรี ดร้อนออกมาอย่างโหยหวน นับตั้งแต่มนั มายังโลก
นี้บาดเจ็บหนักอย่างมากที่สุดก็คือ ตอนที่ไปกัดเจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ จน
ฟันแทบหมดปาก
คิดไม่ถึงว่า เมื่อวานถึงที่นี่ จะถูกกระดูกขาวกองหนึ่งแทงละลุร่าง!
ตู๋กูซิงหลันรี บผลุนผลันเข้ามา ลวงเอายันต์เหลืองผนึกลงไปบน
โครงกระดูกจนทัว่ ทั้งร่ าง
โครงกระดูกนัน่ เพียงชะงักไปชัว่ ครู่ แต่กลับไม่ยอมคลายปล่อย
วิญญาณทมิฬ ทั้งยังลุกขึ้นมานัง่ หันศีรษะมาช้า ๆ ประหนึ่งหุ่นยนต์
กลไก ใช้ดวงตาสี ดาที่ลึกกลวงโบ๋ จอ้ งมองมาที่นาง
ความมืดมิดในดวงตาคู่น้ นั ราวกับหุบเหวลึกที่ดูดกลืนนางลงไป
ขณะเดียวกันความเย็นยะเยือกอย่างสุ ดขั้วที่กาจายออกมาก็แทรกซึม
เข้าไปในร่ างของนาง ตู๋กซู ิงหลันชะงักไปครู่ หนึ่ง ไม่ทนั ทีนางจะได้
ขยับตัว โครงกระดูกขาวนัน่ ก็ยกมือซ้ายขึ้นมา ส่ งกล่องทองแดงใบ
ุ แจอยูด่ อกหนึ่ง แม่กญ
นั้นมาตรงหน้าของนาง บนกล่องมีแม่กญ ุ แจ
อยูต่ ่อหน้านางแล้ว
โครงกระดูกขาวนั้นก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนอีก รางกับว่ากาลังรอให้นาง
เปิ ดกล่องอยูเ่ ช่นกัน
นางหรี่ ตามอง ครู่ ต่อมาค่อยใช้ลูกกุญแจทองแดงเปิ ดกล่องออกมา
ลูกกุญแจสอดเข้าไปในรู ล๊อคที่ปิดไว้กห็ ลุดออกอย่างง่ายดาย
ที่แท้แล้ว……ลูกกุญแจดอกนี้ไม่ใช่สาหรับเปิ ดประตูทองแดงบาน
นั้น แต่เอาไว้สาหรับเปิ ดกล่อง
เมื่อครู่ ที่ช่วยเปิ ดประตูให้นางนั้น คงจะเป็ นเจ้าไก่ขนดาตัวฟูที่อยูข่ า้ ง
ตัวนี่เอง
เมื่อเปิ ดออกไอดาภายในก็ฟุ่งกระจายออกมา พร้อมกับเสี ยงทูตผีนบั
พันนับหมื่นร่ าร้องอย่างโหยหวน ท่ามกลายไอสี ดานั้น ตรงกลางมี
เศษหยกสี ดาที่ดายิง่ กว่าน้ าหมึกชิ้นหนึ่งวางอยู่ เศษหยกชิ้นนั้นมี
ขนาดเพียงแค่เหรี ยญเล็ก ๆ เหรี ยญหนึ่ง บนเนื้อหยกมีลวดลาย
สลับซับซ้อนที่ไม่สมบูรณ์อยู่
เพียงแค่ต๋ ูกซู ิงหลันยืน่ มืออกไป เศษหยกดาชิ้นนั้นก็ลอยลงมายังใจ
กลางฝ่ ามือของนาง
ราวกับว่ามันมีความผูกพันกับนางอยูแ่ ล้วโดยธรรมชาติ ทันทีที่
สัมผัสกับฝ่ ามือของนาง ไอสี ดาทมึนนั้นก็สลายตัวเป็ นหมอกควัน
หายไปในทันที แม้แต่ควานเย็นสุ ดขั้วและเสี ยงกรี ดร้องเหล่านั้นก็
พลอยเงียบหายไปด้วย เหลือบเพียงเศษหยกสี ดาที่ดูธรรมดา ๆ วาง
อยูบ่ นฝ่ ามือเท่านั้น
ตอนที่ 89 ฝ่ าบาทกลายเป็ นไก่ก๊ กุ ไปแล้ ว!
แม้แต่ลวดลายซับซ้อนบนเนื้อหยกเองก็จางลงไปมาก หากว่าไม่ได้
มองดูอย่างละเอียดก็แทบจะสังเกตไม่ออก
นี่คือ หยกสรรพชีวิตอย่างแน่นอน
แต่วา่ ไม่ใช่ชิ้นที่สมบูรณ์ เพียงสามารถบอกได้วา่ นี่คือส่ วนหนึ่งของ
หยกสรรพชีวิต และเป็ นเพียงชิ้นส่ วนเล็ก ๆ เท่านั้น
หยกสรรพชีวิตที่สมบูรณ์น้ นั น่าจะมีขนาดใหญ่วา่ นี้สกั สิ บเท่า และ
ร้ายกาจน่ากลัวกว่านี้ร้อยเท่า
ถึงตอนนี้ โครงกระดูกขาวนั้นค่อยขยับปากเล็กน้อย เปล่งเสี ยงที่
อ่อนโยนของสตรี ผหู ้ นึ่งออกมา “….ส่ งต่อให้เจ้าแล้ว…”
สิ้ นเสี ยง โครงกระดูกก็เอนกลับลงไปในโลงใบนั้น มือที่บีบ
วิญญาณทมิฬไว้แน่นค่อย ๆ คลายออก ตู๋กูซิงหลันเข้าไปรับตัวเจ้า
วิญญาณทมิฬไว้ พามันกลับมาไว้บนบ่าของตนเอง
อาการของวิญญาณทมิฬ ถือว่าสาหัส!
” ท่านย่าของเจ้าคนนี้……….ร้ายกาจยิง่ ! วิญญาณทมิฬครางออกมา
ไม่กี่คาก็ตาเหลือก สลบหมดสติไป
ตู๋กซู ิงหลันมองดูโครงกระดูกขาวที่นอนอยูใ่ นโลง ดูท่าเย่วฮูหยิ
นก่อนตายคงมีความในใจหนักหนาที่ไม่อาจสมประสงค์ ถึงได้ผนึก
ความคาดหวังสุ ดท้ายเอาไว้บนร่ าง อาศัยความสามารถขอหยกสรรพ
ชีวิตหล่อเลี้ยงไว้ ถึงผ่านมาหลายปี แล้วก็ยงั ไม่สลายไป
ถึงตอนนี้ความประสงค์สาเร็ จลงแล้ว จึงปลดปล่อยทุกสิ่ งเหลือเพียง
กระดูกกองหนึ่ง
แท้ที่จริ งแล้วนางคือผูใ้ ดกันแน่? ทาไมจึงสามารถครอบครองหยก
สรรพชีวติ และรอคอยที่จะส่ งมอบต่อให้กบั เจ้าของร่ างเดิมในเวลา
นี้?
ถึงแม้วา่ ในหัวของนางจะมีแต่คาถามมากมาย แต่ต๋ ูกซู ิ งหลันก็ยบั
หยิบเอาเส้นผมปอยนั้นของจีเฉวียนออกมาจากในอกเสื้ อ ผูกเป็ น
เงื่อนแล้วจึงวางลงในโลงของนาง
หลังจากครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง นางก็ลว้ งเอายันต์สีเหลืองที่วา่ งเปล่า
ออกมาใบหนึ่ง สะกิดปลายนิ้วออก ใช้โลหิตของตนเองวาดยันต์
เสริ มวาสนาภพหน้าออกมาชุดหนึ่ง ค่อยเผามันต่อหน้าโครงกระดูก
ด้วยตนเอง
“ท่านย่า ขอให้ภพหน้ามีแต่ความสงบสุ ขเจ้าค่ะ”
ยามที่นางกล่าวประโยคนี้ออกไป แม้แต่เจ้าไก่ขนดาตัวฟูที่อยู่
ด้านข้างยังน้ าตาร่ วงไปด้วย มันใช้ปีกของตนเองมาโอบกอดขาของ
นางไว้ น้ ามูกน้ าตาอาบป้ายอยูบ่ นมุมกระโปรงของนาง
ตู๋กซู ิงหลันมองดูโฉมงามกระดูกขาว กล่าวลาคาหนึ่ง ค่อยเลื่อนปิ ด
ฝาโลงด้วยตนเอง
ทันทีที่ฝาโลงเลื่อนปิ ดลง ทัว่ ทั้งสุ สานก็เกิดแรงสัน่ สะเทือนขึ้นมา
แท่นที่ประกอบขึ้นจากหินคริ สตัลเลื่อนออกไปทั้งสองด้าน ที่ใต้เท้า
นางปรากฎทางเดินเล็ก ๆ สายหนึ่ง มีสายลมเย็นสบายพัดโชย
ออกมา
“กุ๊ก ๆ กู๊ก~” ไก่ขนดาตัวฟูค่อยยอมปล่อยขาของนาง ใช้ปีกของ
มันชี้ไปทางทางน้อย สื่ อความหมายว่าต้องการให้ต๋ ูกซู ิงหลันเข้าไป
ตู๋กซู ิงหลันพาเจ้าวิญญาณทมิฬที่สลบเหมือบไปแล้ว ก้าวเท้าลงไป
ก้าวหนึ่ง ค่อยนึกขึ้นมาได้วา่ เจ้าลูกชายสุ นขั และคนรักเก่ายังอยูใ่ น
สุ สาน
พอหันกลับไปมองดู ไม่รู้วา่ เจ้าตัววุน่ วายทั้งสองนี้สลบไปตั้งแต่
เมื่อไหร่
แต่กใ็ ช่อยูน่ ะ ………หยกสรรพชีวติ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะ
ทนทานรับได้
ความเย็นที่กาจายออกมาเมื่อครู่ มากเกินพอที่จะทาให้พวกเขาสลบ
ไสลไป
ยิง่ ไปกว่านั้นพวกเขาทั้งสองได้รับบาดเจ็บตั้งแรกแรก ตลอดทางมา
นี้ตอ้ งเผชิญทั้งไอเย็นและผีปีศาจต่าง ๆ นา ๆ …….
ตู๋กูซิงหลันคิด ๆ ดูแล้ว ต่อให้ตบหน้าลงไปสักรอบสองรอบก็คง
ไม่ใช่ให้ท้ งั สองฟื้ นขึ้นมาได้ มีแต่ตอ้ งแบบพวกเขาไปด้วยเท่านั้น
เจ้าไก่ขนดาตัวฟูติดตามนางมาดู สายตาของมันจดจ้องอยูบ่ นพระ
พักตร์ของจีเฉวียน จากนั้นก็จิกลงไปสองทีอย่างเคียดแค้น สุ ดท้าย
ยังไม่ลืมที่จะจิดเอารัดเกล้าประดับอัญมณี ของเขาออกมา กรงเล็บ
ของมันตะครุ บลงแล้วสะบัดขึ้นไปทีหนึ่ง รัดเกล้านั้นก็คล้องอยูบ่ น
ลาคอของมันอย่างพอดิบพอดี
จากนั้นก็หนั ไปเร่ งตู๋กซู ิงหลันให้รีบออกไปจากที่นี่
ตู๋กซู ิงหลันก็ใช้ไหวพริ บออกมา ตัดเอากิ่งไฮ่ถางที่ท้ งั อ่อนและ
เหนียวออกมาหลายเส้น ใช้กิ่งของมันมัดจีเฉวียนเอาไว้บนหลังของ
ตนเอง แล้วก็อุม้ จีเย่วข์ ้ ึนมา บนศีรษะของนางก็มีวิญญาณทมิฬที่ยงั
สลบเหมือกอยู่ จากนั้นก็เริ่ มออกเดินไป
แต่เดินออกไปได้แค่สองก้าว ใจของนางก็รู้สึกไม่ยนิ ยอม ต้องหัน
กลับไปแงะแผ่นทองออกมาสองแผ่นและงัดหยกดาบนกาแพง
ออกมาอีกชิ้นหนึ่งถึงจะจากไปได้
ท่านย่ามัง่ มีถึงขนาดนั้น นางเอามาแค่นิด ๆ หน่อย ๆ ท่านผูเ้ ฒ่าคง
ไม่ถือโทษโกรธเคืองหรอกมั้ง?
หากไม่ใช่เพราะว่าเจ้าสองตัวนนี้สลบไปแล้วละก็ นางยังคิดจะเอา
มามากกว่านี้อีกสักหน่อย
นางเหลือบมองดูกองมหาสมบัติพวกนั้น……..โอ้ สวยงามแวววาว
เหลือเกิน อยากด๊ายอยากได้ง่ะ
เอาวะ! นางจะต้องขูดรี ดออกมาจากเจ้าสองตัวนี้แทนทั้งหมด!
…………………………….
ที่เชิงเขาใต้สุสาน หลี่กงกงสลบแล้วฟี้ นอยูห่ ลายรอบแล้ว
นับตั้งแต่ฟ้ายังสว่างจนกระทั้งฟ้ามืดค่า เขาเอาแต่เหม่อมองออกไป
มองออกไปจนตัวเองแทบจะแข็งกลายเป็ นหิ นไปแล้วด้วยซ้ า
ฝ่ าบาททรงถูกฝังลงไปทั้งเป็ น ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตไม่ยนิ ยอมให้ขดุ
พลิกสุ สาน แต่กลับเชื่อคาของนักพรตอู๋เจิน ที่ให้ยา้ ยลงมาขุดอุโมงค์
อยูท่ ี่ตีนเขา เพราะบอกว่าสุ สานเช่นนี้ เมื่อตกลงไปจากด้านบนย่อม
ต้องออกมาจากด้านล่าง
ของเพียงแค่ขดุ อุโมงค์ลงไปจากตาแหน่งที่เขาเลือกไว้ให้ลึกได้สาม
จั้งก็พอแล้ว
แต่วา่ อุโมงค์น้ ีขดุ กันมาตั้งนานแล้ว กลับยังไม่มีทีท่าจะเจอะเจอ
อะไรบ้างเลย
แถมเรื่ องที่ฝ่าบาททรงถูกฝังทั้งเป็ นนี้ พวกเขาเองก็ไม่กล้ากระพือ
ข่าวออกไป ได้แต่รีบแจ้งไปยังท่านราชครู และกองราชองครักษ์ให้
นาจอบและเสี ยมมาขุดอุโมงค์ช่วยเหลือฝ่ าบาท
พอมองออกไปเช่นนี้ทอ้ งฟ้ายิง่ ทียงิ่ มืดลงแล้ว แต่กลับไม่มีทีท่าว่าจะ
เจออะไรเลย
สุ ดท้ายแล้วจะสามารถทาให้สุสานแห่งนี้ทลายราบลงได้หรื อไม่ ได้
แต่ตอ้ งพึ่งพาพวกท่านแล้ว!
ยามนี้แม้แต่ต๋ ูกจู ุนเองก็รุ่มร้อนขึ้นมาแล้ว น้องเล็กยังติดอยูข่ า้ งในนั้น
เป็ นไปได้หรื อไม่วา่ นางจะถูกเจ้าสุ นขั สองตัวนัน่ รังแก?
นางเกิดมาก็มีรูปร่ างหน้าตางดงาม ถ้าเกิดว่าเจ้าสุ นขั แซ่จีสองตัวนั้น
ก็เกิดคึกคักอยากจะจ้ าจี้ข้ ึนมา กระทาเรื่ องอย่างว่ากับน้องเล็กเช่นนั้น
จะทาอย่างไรดี?
ยิง่ คิด ๆ ไปตู๋กจู ุนก็ยงิ่ หวาดกลัว!
เจ้าจีเย่วน์ ้ นั คงไม่มีความกล้าจะทาสักเท่าไหร่
กลัวก็แต่เจ้าฮ่องเต้สุนขั จีเฉวียนนัน่ …..พอคิดย้อนไปถึงสายตาของ
จีเฉวียนยามมองมาที่นอ้ งเล็ก เห็นอยูช่ ดั ๆ เลยว่าเป็ นหมาป่ าที่จอ้ ง
จะจัดการลูกแกะน้อย แทบอยากจะจับนางกลืนลงไปทั้งเป็ น!
แล้วหากมีโอกาสดีงามถึงขนาดนี้ เขามีหรื อจะยอมพลาดไปได้?
ตู๋กจู ุนคิดไปไกลจนถึงขนาดเห็นภาพน้องเล็กตั้งครรภ์ จากนั้นทน
ทรมานคลอดลูกของเจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ ออกมาอย่างยากลาบาก!
โอ้ น้องน้อยที่น่าสงสารของพี่! พี่ใหญ่ผดิ ต่อเจ้าแล้ว! พี่ใหญ่จะไป
ตัดหัวเจ้าสุ นขั นัน่ เดี๋ยวนี้!
ตู๋กจู ุนกาดาบใหญ่ของเขาเอาไว้แน่นตลอดเวลา จนข้อนิ้วทั้วหมด
ซีดขาว!
เสี ยนไท่เฟยหุบร่ มลงแล้ว บนพระพักตร์ของนางมีแต่ความกังวลใจ
ท่านราชครู ยนื อยูท่ ี่ปากอุโมงค์ กาชับเหล่าทหาราชองค์รักษ์ให้ขดุ
ลึกลงไปอีกเรื่ อย ๆ
เจียงเหม่ยหยูแ่ ละผูค้ นทั้งหลายที่ มากราบไหว้ที่สุสานทั้งหมดต่างถูก
กักตัวไว้ ต่างก็รอคอยอยูท่ ี่ดา้ นข้างมาทั้งวัน จนตัวสัน่ สะท้านไป
หมดแล้ว
ตอนแรกนางยังกล้าจีบปากจีบคอพูดอยูป่ าก แต่วา่ ตอนนี้แม้แต่ลมก็
ยังไม่กล้าผาย ขุนนางใหญ่มากมายต่างมารวมกันอยูท่ ี่นี่ นางนับเป็ น
อะไรได้?
หากว่าวันนี้ฝ่าบาททรงเป็ นอะไรไป เพื่อปิ ดบังข่าวนี้เอาไว้กอง
องครักษ์ประจาพระองค์อาจจะส่ งพวกนางขึ้นสวรรค์พ่ ื่อปิ ดปาก
ตลอดไป
สี หน้าของท่านนักพรตอู๋เจินสงบนิ่ง เขากาลังสวดประคาในมืออยู่
ริ มฝี ปากสวดมนต์ขมุบขมิบ ด้วยความสามารถของไทเฮาน้อยผูน้ ้ นั
ตอนให้ในสุ สานมีผมี ากมายแค่ไหน ยังจะทาอะไรนางได้?
ที่จริ งแล้วไม่จาเป็ นจะต้องกังวลเลยด้วยซ้ า
แต่วา่ เขาไม่อาจแพร่ งพรายความสามารถอันล้ าเลิศของไทเฮาน้อย
ออกไปได้
บรรดาเหล่านักพรตรู ปงามทั้งหลายต่างก็รวมสวดพระไตรปิ ฎกไป
กับเขาด้วย
อาจบางทีเพราะมนต์ศกั ดิ์สิทธ์ในพระไตรปิ ฎกสาแดงเดช เมื่อ
พระจันทร์ข้ ึนถึงกลางฟ้า ภายในอุโมงค์กเ็ กิดความเคลื่อนไหว
ชัว่ ขณะนั้นทุกคนต่างพากัดกลั้นลมหายใจไว้ ยืดคอยาวมองเข้าไป
ในอุโมงค์
อุโมงค์ที่ขดุ เอาไว้ค่อนข้างกว้าง สามารถได้ยนิ เสี ยงฝี เท้าสะท้อน
ออกมาจากภายใน
“ฝ่ าบาท! จะต้องเป็ นพวกฝ่ าบาทเสด็จออกมาแล้วแน่ ๆ ! หลี่กงกง
ตื่นเต้นจนน้ าตาแห่งความยินดีรินไหล ส่ งเสี ยงราวเป็ ดตัวผูด้ ว้ ย
ความยินดี
แววตาของท่านราชครู กส็ ่ องประกาย
“น้องเล็ก! “
“เย่เอ๋ อร์! “
ทุกคนต่างพลอยถูกเขากระตุน้ ไปด้วย แต่ละคนมุ่งไปทางปาก
อุโมงค์
เพียงครู่ เดียวก็ได้ยนิ เสี ยงฝี เท้าดังเข้ามาใกล้ หัวใจของทุกคนต่างก็
ลิงโลดขึ้นมา หลังจากลาบากมาทั้งวัน ในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึง
แล้ว!

“ฝ่ าบาทททท ฝ่ าบาท~” หลี่กงกงรี บสัง่ ให้ขนั ทีนอ้ ยยกเกี้ยวมา


เตรี ยมไว้นาเสด็จกลับวังหลวง
พอเขาเรี ยกออกไปเช่นนี้ เสี ยงฝี เท้าด้านในกลับหยุดลง
หัวใจของผูค้ นทั้งหมดต่างรอคอยด้วยความระทึก ครู่ เดียวก็ได้ยนิ
เสี ยงตอบรับกลับมาจากด้านใน “กุ๊ก ๆ กรู ้~”
ผูค้ นทั้งหลาย “!!! “
ไม่ทนั รอให้พวกเขาได้มีปฎิกิริยาใด ๆ พวกเขาก็เห็นไก่ขนดาตัวฟู
ตัวหนึ่งขนาดใหญ่เท่าครึ่ งตัวคนตัวหนึ่งขนกระโดดตุ๊บตับออกมา
บนลาคอของมันมีรัดเกล้าของฮ่องเต้สวมอยู่ มันยืนเด่นเป็ นสง่า
ท่วงท่าประหนึ่งผูน้ าของใต้หล้ามองดูผคู ้ นทัง่ หลาย
หลี่กงกงเกือบจะเป็ นลมล้มลงไปอีกครั้ง “ฝ่ า…..ฝ่ าบาท….ฝ่ าบาท
กลายเป็ นไก่ไปแล้วววว! “
ตอนที่ 90 ยอดฝี มือในการขัด (ขวาง)
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็ตื่นตระหนก แต่ละคนจดจ้องไปยังเจ้าไก่ขนดา
ตัวฟูตวั นั้น เมื่อมองดูแววตาของมัน ก็รู้สึกว่ามีความหยิง่ ผยองอยู่
หลายส่ วน
เจ้าไก่ขนดาตัวฟูไม่ได้พบผูค้ นมากว่าสิ บปี แล้ว พอออกมาก็ได้เห็น
ผูค้ นมากมายรายล้อมต้อนรับ ย่อมภาคภูมิใจอย่างที่สุด
สายตาของมันเป็ นประกาย มันขยับปี กครั้งหนึ่ง ท่วงท่าราวเจ้า
แผ่นดินรับการคานับจากขุนนางทั้งหลายว่าไม่ตอ้ งมากมารยาท
ยิง่ ไปกว่านั้นรัดเกล้าของฝ่ าบาทบนลาคอก็โดดเด่นสะดุดตาอย่าง
ที่สุด
หลี่กงกงเปล่งเสี ยงไม่ออกแล้ว เขาย่อตัวลงแทบจะกลายเป็ นคุกเข่า
ลงไปที่ตรงหน้าไก่ขนดาตัวฟู พลางยืน่ มือออกไปคิดจะลูบไล้ไก่ตวั
นั้นแต่กไ็ ม่กล้า ได้แต่น้ าตาริ นไหลสะอื้นเบา ๆ “เวรกาเอ๋ ย ฝ่ าบาท
พระองค์ทรงถูกสิ่ งลึกลับในสุ สานสาปเข้าหรื อ ฝ่ าบาทที่น่าสงสาร
ของกระหม่อม……….”
ไก่ตวั นั้นเหลือบตาค้อนเขาทีหนึ่ง ค่อยเชิดคอเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่
ไยดี
มันเกลียดชายผูท้ ี่เตะมันนัก รวมไปถึงเหล่าพวกที่ทาดีต่อชายผูน้ ้ นั
ด้วย
มันเริ่ มกรี ดกรงเล็บกางออกตะกุยพื้นอีกครั้ง
“ท่านราชครู นี่สมควรจะทาเช่นไรดี? ” หลี่กงกงเงยหน้าขึ้นมอง
ท่านราชครู ที่ยงั คงรักษาสี หน้าสงบนิ่งอยู่
พูดไปแล้ว เขาก็หนั ไปมองทางนักพรตอู๋เจินรอบหนึ่ง เรื่ องแบบนี้
สมควรจะถามเหล่านักพรตอารามเทียนเก๋ อกวนดีกว่าละมั้ง
นักพรตอู๋เจินลูบคลาประคาในมือ สิ บนิ้วประนมเข้าหากัน กล่าว
ออกมาคาหนึ่ง “โอ้ เง็กเซียนบนสวรรค์…..”
ไก่ขนดาตัวฟูตวั นี้ออกมาจากสุ สานที่ยงิ่ ใหญ่ จะพิจารณาอย่างไรก็
เป็ นเรื่ องแปลกประหลาดนัก บนตัวมันยังมีกลิ่นอายธาตุหยินอยูเ่ ต็ม
เปี่ ยม แต่ดูอย่างไรก็ไม่ใช่พวกปี ศาจ
นี่ช่างเป็ นเรื่ องประหลาด
ผูค้ นทั้งหลายเห็นแล้วก็ทาสิ่ งใดไม่ถูก จะให้พวกเขาเชื่อว่าฮ่องเต้
ของต้าโจวกลายเป็ นไก่ตวั หนึ่งหรื อ นี่มนั เหลื่อเชื่อเกินไปหรื อ
เปล่า?
ยังไม่ทนั ให้พวกเขาได้พดู อะไร ไก่ตวั นั้นกลับทาแววตาคล้ายคลึง
กับฮ่องเต้อยูห่ ลายส่ วน
ดังนั้นจึงมีพวกไม่ได้เรื่ องที่สมองมึนงงหลายคนที่ถูกหลี่กงกงพา
หลงจนคุกเข่าตามกันไปด้วย พากันกล่าวตามออกมาว่า “ฝ่ าบาท
ท่านนักพรตอู๋เจินและท่านราชครู จะต้องหาหนทางคืนร่ างให้กบั
พระองค์ได้แน่”
พวกเขาต่างเคยได้ยนิ มาว่าท่านราชครู ยามเยาว์วยั เคยไปฝึ กวิชา
บาเพ็ญตนบนเขาฮัวชิงซาน ทั้งยังเป็ นผูม้ ีวิชาพยากรณ์ดว้ ย เรื่ องของ
ฝ่ าบาท…..ท่านราชครู ยอ่ มต้องมีหนทางเป็ นแน่ใช่หรื อไม่?
ไก่ตวั นั้นต้องใจฟังอย่างจริ งจัง มันขยับปี กที่เอวข้างหนึ่ง ทั้งยังไม่
ลืมกวาดตามองพวกเขาครั้งหนึ่ง ค่อยส่ งเสี ยงตอบคาหนึ่ง “กุ๊ก ๆ
กรู ้~”
ผูค้ นทั้งหลาย “……..”
หลี่กงกง “ฝ่ าบาท? “

ไก่ขนดาตัวฟู “กุ๊กกรู ้~”


ในที่สุดตู๋กจุ ุนดูแล้วก็ทนไม่ไหว ควงดาบใหญ่ในมือชี้ไปทางเจ้าไก่
ขนดาตัวฟูน้ นั “น้องสาวข้าละ? เจ้าเอานางไปไว้ที่ไหน”
หากว่าไอ้ไก่นี่คือฮ่องเต้ละก็ดีเลย จะได้เชือดเสี ยในดาบเดียวโยนลง
หม้อตุ๋นไปเลย ไม่ตอ้ งหาเหตุอะไรมาก่อกบฎมันแล้ว
ฮ่องเต้ที่กลายเป็ นไก่ไปแล้ว จะยังเป็ นฮ่องเต้ที่ดีได้อย่างไร?
ไก่ขนดาตัวฟูค่อยหันมามองเขา ทาหัวกระดุ๊กกระดิ๊กอยูค่ รู่ ใหญ่
หากว่ามันจาได้ไม่ผดิ ละก็ เมื่อสิ บปี ก่อนไอ้หนุ่มนี้ยงั เป็ นแค่หนุ่ม
น้อยคนหนึ่ง แค่พริ บตาเดียวก็เติบใหญ่ถึงเพียงนี้แล้ว
มันขยับปี กน้อย ๆ เป็ นการทักทายเขา
แต่ในสายตาของตู๋กจู ุนนี่เท่ากับเป็ นการท้าทาย ดาบใหญ่ของเขา
ปาดลงมาบนตัวมัน
หลี่กงกงตกใจจนตาตั้ง นัน่ คือฝ่ าบาทนะ……ต่อให้กลายเป็ นเพียง
ไก่จะอย่างไรก็คือฝ่ าบาท …….ทาไมท่านแม่ทพั ถึงได้หุนหันพลัน
แล่นเช่นนี้?
ท่านราชครู เพียงแต่ยนื อย่างสงบนิ่ง ไม่ส่งเสี ยงใด ภายใต้ชุดคลุมสี
ม่วง ดวงตาของเขาราวกับละลอกคลื่น เพียงหันไปมองลึกลงไปใน
อุโมงค์น้ นั
ครู่ ต่อมา ก็ได้ยนิ เสี ยงฝี เท้าดังสะท้อนมาจากในอุโมงค์
ตู๋กจู ุนสบัดดาบอีกครั้งไล้ผา่ นปี กของไก่ขนดาตัวฟูตวั นั้น จนขน
บางส่ วนปลิวออกมา
เจ้าไก่ขนดาตัวฟูผวาจนตัวสัน่ รี บแอบไปหลบที่ดา้ นข้าง เกือบไป
แล้ว ๆ ……..อีกนิดเดียวมันก็จะกลายเป็ นไก่ปีกด้วนแล้ว
ขณะเดียวกัน ตู๋กซู ิงหลันก็อุม้ จีเย่ว์ แบกจีเฉวียนเดินออกออกมาจาก
อุโมงค์ในภูเขา
ถึงนางมีพละกาลังมาก แต่เจ้าสุ นขั ไม่ได้เรื่ องสองตัวนี้รวมกันก็หนัก
สามร้อยกว่าจิน (เกิน 150 กิโล) การจะพาพวกเขาออกมาได้ไม่ใช่
เรื่ องง่ายเลย
ด้วยรู ปร่ างที่เล็กบอบบางของเจ้าของร่ างนี้ทาเอาเอวแทบจะหักแล้ว
นางต้องเหงื่อท่วมหายใจหอบมาตลอดทางเลย
เส้นผมของนางเปี ยกเหงื่อจนชุ่ม ลีบติดใบหน้า
แต่ยามที่เดินออกมาถึงปากอุโมงค์กลับได้เห็นภาพที่ไม่คาดคิดมา
ก่อน…….หลี่กงกงกับขุนนางทั้งหลายกาลังคุกเข่าอยูต่ ่อหน้าเจ้าไก่
ขนดาตัวฟู พี่ใหญ่ ท่านราชครู ไท่เสี ยนเฟย นักพรตอู๋เจินและเหล่า
ศิษย์ท้ งั หลาย ยังมีกองทหารตระกูลตู๋กแู ละเหล่าองครักษ์ของฮ่องเต้
กระทัง่ เจียงเหม่ยหยูแ่ ละคนของนางทั้งหมดต่างรอคอยอยูด่ า้ นนอก
ภายใต้แสงจันทร์สว่างและสายลมหวีดหวิว ตู๋กซู ิงหลันที่เหงื่อท่วม
ตัวถูกลมพัดโชยจนรู ้สึกเย็นสบายขึ้นมาไม่นอ้ ย
“น้องเล็ก! ” ตู๋กจู ุนมองดูนางอย่าไม่อาจเชื่อสายตาตนเอง หากไม่ได้
เห็นว่าใบหน้าเล็ก ๆ นัน่ คือน้องเล็กแล้วละก็ เขาจะต้องคิดว่าเป็ น
สัตว์ประหลาดอะไรสักอย่างลากเจ้าคนแซ่จีท้ งั สองออกมาแน่
เพราะว่าแม้แต่ตวั เขาเอง หากต้องทั้งอุม้ ทั้งแบกบุรุษตัวใหญ่ท้ งั สอง
ออกมาก็คงจะไม่ใช่เรื่ องง่าย
ตู๋กซู ิงหลันยกยิม้ มุมปาก ภายใต้สายตาตื่นตระหนกของผูค้ น
ทั้งหลายย นางยกมือข้างหนึ่งขึ้นเสยผม “โอ้ ความรักของมารดาช่าง
เป็ นสิ่ งแปลกประหลาดที่ยงิ่ ใหญ่เหลือเกิน! เราช่างเป็ นมารดาผู ้
ประเสริ ฐ ทุ่มเทชีวิตชรานี้ช่วยเหลือราชโอรสทั้งสองออกมา”
ผูค้ นทั้งหลาย “……….”
ทาไมพวกเราถึงได้รู้สึกว่าเจ้าเป็ นตัวประหลาดไปแล้ว? กลายเป็ น
พวกมีกาลังมหาศาลอะไรแบบนั้น
“เรามึนศีรษะมาก เราไม่มีแรงแล้ว”
ตู๋กซู ิงหลันพูดแล้วก็โซเซอย่างหมดเรี่ ยวแรงขึ้นทันใด เอวอ่อนจน
แทบล้มลงไปกับพื้น
ตู๋กจู ุนมือเท้าว่องไวรี บเข้ามาพยุงนางไว้ มือก็รีบกระชากกิ่งไม้ที่รัด
รึ งจีเฉวียนบนหลังนางขาดออกไป
เมื่อเห็นว่าจีเฉวียนกาลังจะหล่นลงไปบนพื้น ท่านราชครู กร็ ี บเคลื่อน
ร่ างหมูสามชั้นของเขาเข้ามารองรับตัวจีเฉวียนไว้ โอบอุม้ พระองค์
เข้าไปในอ้อมอก เส้นผมยาวสลวยของเขาสัมผัสพระพักตร์ของฝ่ า
บาท สายตาเปี่ ยมไปด้วยความกังวลใจ

น้ าเสี ยงของเขาอบอุ่นอย่างอยากหาที่ใดเปรี ยบได้ “ฝ่ าบาท~”


ภายใต้แสงจันทร์สาดส่ องสว่าง ภาพของท่านราชครู ที่รูปร่ างอวบ
อ้วน และฝ่ าบาทที่พระพักตร์มีแต่โคลนเลอะเทอะช่างบาดสายตา
ของทุกผูค้ นอย่างชัดเจน
ทุกคนต่างทราบดีวา่ ฮ่องเต้และท่านราชครู ต่างมีความผูกพันทาง
จิตใจอย่างลึกซึ้ง……….
ตู๋กูซิงหลันมองดูพวกเขาคราหนึ่ง ก็อดจะรู ้สึกขนลุกขึ้นมาทั้งตัว
ไม่ได้ ฉากรักที่ดื่มด่าหวานซึ่งตรงหน้าเช่นนี้ ………ใช่คิดถึงใจนาง
ที่เป็ นแม่ม่ายตัวคนเดียวเปล่าเปลี่ยวเอกาบ้างหรื อไม่เล่า?
เสี ยแต่วา่ หลี่กงกงยอดฝี มือในการขัดขวางผูไ้ ม่เคยรู ้สึกรู ้สาอะไร
หรื อสนใจอะไรผูน้ ้ นั ก็รีบร้อนเข้ามาขั้นกลางช่วงเวลาดี ๆ ระหว่าง
คนทั้งสองเอาไว้ “อ้ายย่าห์ ฝ่ าบาท ที่แท้พระองค์ไม่ได้กลายเป็ นไก่
ทาเอาบ่าวเฒ่าตกใจแทบตายแล้ว! “
ผูค้ นทั้งหลาย “………” คนที่โง่เง่าเช่นนี้ทาไม่ถึงยังสามารถรั้งอยู่
รับใช้ขา้ งกายฝ่ าบาทโดยไม่ตายได้นานขนาดนี้?
เหล่าขุนนางที่พากันคุกเข่าอยูเ่ บื้องหน้าเจ้าไก่ขนดาตัวฟูกพ็ ากันยืน
ขึ้นอย่างอับอาย แต่ละคนต่างก็หน้าแดงไปตาม ๆ กัน
พวกเขาโง่งมถึงขนาดไหนกัน ไยจึงไปเชื่อว่าฝ่ าบาทจะกลายร่ างกาย
เป็ นไก่ไปได้?
ถึงตอนนี้ต๋ ูกจู ุนคุกเข่าลงข้างหนึ่งประคองน้องสาวของตนเองเอาไว้
จีเย่วท์ ี่หมดสติอยูใ่ นอ้อมแขนของนางถูกเขาสั่งให้ลูกน้องเอาไป
โยนไว้ใกล้ ๆ เสี ยนไท่เฟยแล้ว
เสี ยนไท่เฟยสัง่ ให้นางกานัลประจาตัวชิงผิงประคองจีเย่วเ์ อาไว้
ส่ วนตัวนางเองกลับเดินเข้ามา ย่อตัวลงอยูข่ า้ ง ๆ ตู๋กูซิงหลัน กุมมือ
ของนางเอาไว้ดว้ ยสี หน้าซาบซึ้งใจอย่างที่สุด “หม่อมฉันขอบ
พระทัยในพระเมตตาอันยิง่ ใหญ่ของไทเฮา ที่ยงั คิดถึงความผูกพัน
เก่าก่อน ถึงได้ทรงช่วยชีวติ เย่เอ๋ อร์ไว้”
ตอนที่ 91 อย่ าได้ ลืมความตั้งใจเดิม
ทันทีที่มือของทั้งสองสัมผัสกัน ความเยือกเย็นที่แหลมคนส่ งผ่านมา
ทางหลังมือ แววตาของตู๋กซู ิงหลันที่มองออกไปก็พลันวูบวาบขึ้น
ภายใต้คิ้วโก่งดัง่ ไต้หยู่ สี หน้าของนางยังสงบราบเรี ยบ ดวงตาดอก
ท้อก็เพิ่มประกายเย็นชา
“ไท่เฟยกล่าวหนักไปแล้ว อี้อ๋องเองก็นบั ว่าเป็ นโอรสของเรา เรา
ย่อมต้องช่วยเหลือเขา”
เสี ยนไท่เฟยชะงักไปชัว่ ขณะ “ไทเฮาทรงมีน้ าพระทัยเช่นนี้ หม่อม
ฉันย่อมจดจาเอาไว้แล้ว”
ว่าแล้ว นางก็มองดูต๋ ูกซู ิงหลันอย่างจดจ้อง “ไม่ทราบว่าตลอดทางที่
อยูใ่ นสุ สาน ไทเฮาทรงพบเจออะไรบ้างหรื อไม่? ถึงได้ทาให้มีสภาพ
ที่ยากลาบากเเช่นนี้”
“เราชักจะไม่รู้แล้วว่า ที่แท้ไท่เฟยทรงกังวลใจในสุ สานของท่านย่า
ยิง่ กว่าตัวอี้อ๋องเสี ยอีก…….” ตู๋กซู ิงหลันขยับริ มฝี ปากแดงฉ่ า “หาก
ว่าเสี ยนไท่เฟยมีความสนใจ ลองเข้าไปสารวจดูดา้ นในด้วยตัวเองก็
จะได้รู้แล้วมิใช่หรื อ? “
เสี ยนไท่เฟยชะงักไปครู่ หนึ่ง นางคิดจะกล่าวอะไร กลับเห็นตู๋กซู ิ ง
หลันกระตุกชายแขนเสื้ อตู๋กจู ุนถี่ ๆ “พี่ใหญ่เจ้าค่ะ ข้าเหนื่อยจัง”
เสี ยนไท่เฟยคิดจะสอบถามอะไรเพิม่ เติม ก็เห็นตู๋กจู ุนมองมาที่นาง
ด้วยสายตาอาฆาต พลันรี บโอ้อุม้ นางขึ้นมา “พี่ใหญ่จะพาเจ้ากลับ
บ้านเดี๋ยวนี้”
“พาเจ้าไก่นนั่ กลับไปด้วย มันดูน่ากินดี” ตู๋กซู ิงหลันไม่ลืมเจ้าไก่ขน
ดาตัวฟูตวั นั้น
เจ้าไก่ขนดาตัวฟูรีบใช้ปีกมาห่อหุม้ ตัวมันเอาไว้ ที่จริ ง มันอยูใ่ น
สุ สานมานานมากเลย กระทัง่ ขนยังขึ้นราหมดแล้ว ไม่น่ากินเลยสัก
นิด
ตู๋กจู ุนเหลือบมองมันคราหนึ่ง ก็รู้สึกว่าเจ้าไก่ตวั นี้อวบอ้วนดีไม่นอ้ ย
หากว่านาไปนึ่งสักครึ่ งตัว ตุ๋นน้ าแดงอีกครึ่ งตัวก็คงจะกาลังดี
ว่าแล้วเขาก็สงั่ ให้คนจับมันกลับไปด้วย
จากนั้นก็สงั่ ให้ทหารตระกูลตู๋กสู ่ วนหนึ่งกลบปิ ดอุโมงค์ใต้ภูเขานัน่
ให้เรี ยบร้อย
ก่อนที่ต๋ ูกูซิงหลันจะจากไป นางยังไม่ลืมกล่าวกับท่านนักพรตอู๋เจิน
ที่ถูกเหล่านักพรตรู ปงามทั้งหลายรายล้อมเอาไว้ “ที่เราสามารถออก
จากสุ สานมาได้อย่างปลอดภัยในวันนี้ เป็ นเพราะยันต์ที่ท่านอุส่าห์
มอบให้ไว้ เราจะต้องหาเวลาไปขอบคุณที่อารามเทียนเก๋ อกวนด้วย
ตนเอง”
ท่านนักพรตอู๋เจินฟังแล้วก็หนาวใจขึ้นมาวาบหนึ่ง พ่อแก้วแม่แก้ว!
ขอท่านได้โปรดอย่าได้มาที่อารามเทียนเก๋ อกวนอีกเถอะ อารามหลัง
น้อยของเราไม่อาจรองรับผูย้ งิ่ ใหญ่เช่นท่านได้หรอก!
ยังมีอีกเรื่ องเขาเคยมอบยันต์ให้แก่นางที่ไหนกัน? นี่มนั ชัดเจนเลยว่า
ไทเฮาน้อยทรงเอาเขาไปเป็ นหนังหน้าไฟแท้ ๆ ……
ยามนี้ต๋ ูกูจุนกลับรู ้สึกได้ถึงเรื่ องแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง ไม่รู้วา่
ทาไม พอน้องเล็กออกจากสุ สานของท่านย่าได้ ถึงได้เปลี่ยนเป็ นตัว
หนักขึ้นมาไม่นอ้ ย
เขาลองกะ ๆ น้ าหนักในอ้อมแขนดู ไม่ทนั ไรก็ได้ยงิ่ เสี ยงตุ๊บ ๆ
ทองแผ่นหนึ่งหล่นลงมาจากตัวตู๋กซู ิ งหลัน ทองคาแผ่นนั้นเกือบจะ
หล่นทับเท้าของเขาอยุแ่ ล้ว ครู่ ต่อมา เขายังไม่ทนั จะอุม้ ให้ดี ก็ตกลง
มาอีกแผ่น
ตู๋กูซิงหลัน “อุย้ ๆ ๆ ๆ เงินของเรา! ” อย่าแตกหักนะ มันปวดใจ
เหลือเกิน!
ผูค้ นทั้งหลาย “……..” ไทเฮาน้อยผูน้ ้ ี แม้แต่สมบัติร่วมกลบฝังของ
ท่านย่าตัวเองก็ยงั จะลักเอามาหรื อ?
ดูสิวา่ ช่างเป็ นลูกหลานที่อกตัญญูขนาดไหน! ที่เย่วฮูหยินไม่ได้โกรธ
จนลุกขึ้นมจากโลงอีกครั้งก็นบั ว่าแปลกแล้ว!
ตู๋กจู ุนปวดใจเพราะเห็นแก่นอ้ งเล็กอย่างที่สุด เขาก้มลงไปเก็บของ
สองแผ่นนั้นขึ้นมาให้นางกอดเอาไว้ แอบสาบานอยูใ่ นใจเงียบ ๆ
เขาจะต้องขนเอาภูเขาเงินภูเขาทองมากองไว้ที่ตรงหน้าน้องเล็กให้
จงได้
ยามที่เขากาลังอุม้ ตู๋กซู ิงหลันหายลับไปจากสายตาผูค้ นนั้น ท่าน
ราชครู จึงค่อยหันมามองทางนี้ ดวงตาที่แสนงดงามน่าดูคู่น้ นั หรี่ ลง
น้อย ๆ ค่อยสาดประกายที่เย็นยะเยือกออกมา
…………………………………….
กว่าที่ฝ่าบาทจะทรงรู ้สึกพระองค์ข้ ึนมานั้น เวลาก็ผา่ นไปสามวัน
แล้ว หากท่านหมอหลวงซุนมิได้ทุ่มเทฝี มือวิชาแพทย์ท้ งั หมดลงไป
คาดว่าฝ่ าบาทคงเสด็จขึ้นสวรรค์ไปนานแล้ว
เพราะยามที่ท่านราชครู นาเสด็จฝ่ าบาทกลับไปนั้น ตลอดพระวรกาย
เยือกเย็นไปหมด…….แทบจะเหมือนศพไปแล้ว แม้แต่ชีพจรก็อ่อน
บางจนแทบจะขาดช่วง
พระหัตถ์ขา้ งซ้ายที่ถูกปิ่ นแทงทะลุน้ นั บวมฉลุราวกับอุง้ มือหมี ถึง
พวกเขาจะถอนออกมาด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุดแล้ว แต่ฝ่า
บาทก็ยงั ทรงเสี ยพระโลหิตมากเกินไปอยูด่ ี
อีกทังยังมีกระดูกเคลื่อนและบาดแผลภายนอกมากมาย ใครไม่รู้เข้า
คงคิดไปว่าฝ่ าบาททรงออกรบที่ใดมา
บาดแผลต่าง ๆ เหล่านี้ หากว่าเป็ นผูอ้ ื่นคาดว่าคงขาดใจตายไปก่อน
แล้ว ยังดีที่พระวรกายของฝ่ าบาทแข็งแรงมาโดยตลอด ถึงได้พอฝื น
ทนมาได้
ไม่มีใครรู ้จริ ง ๆ ว่าฝ่ าบาททรงไปพบเจออะไรในสุ สานเย่ฮูหยินถึง
ได้กลายเป็ นเช่นนี้
ฮ่องเต้ทรงฉลองพระองค์ตวั ในสี ขาวสะอาดบริ สุทธิ์ดุจหิ มะ เอน
พระองค์อิงกับเบาะอ่อน พระเกศาดายาวสยาย พระพักตร์ยงั คงงาม
ล้ าเกินกว่าใครเทียบได้ เพียงแต่ออกจะซีดเซียวไปบ้าง บนพระ
ปรางค์ขวายังมีรอยแผลอยูส่ องรอย
บรรดาผูร้ ับใช้ในพระตาหนักตี้หวั กงต่างถูกไล่ออกไป เหลือเพียงห
ลี่กงกงน้อมเฝ้าอยูท่ ี่หน้าประตู
ตอนนี้ ท่านราชครู นงั่ อยูบ่ นเบาะอ่อนด้านข้าง ในมือของเขากาลัง
ถือตลับยาทาผิวสี ขาวราวหิมะอยู่ ใช้ขนนกทายาลงไปเบา ๆ ให้ฝ่า
บาท
บาดแผลบนพระพักตร์ของฝ่ าบาทสมานตัวแล้ว บาดแผลที่มือติด
เชื้อ ยังคงเป็ นหนอง
“ฝ่ าบาท พระองค์ได้รับบาดเจ็บถึงเพียงนี้ เรื่ องของตระกูลตู๋กนู ้ นั จะ
ปล่อยไปโดยไม่เอาความจริ งหรื อพะยะค่ะ? ” ฉางซุนซิ่วใส่ ยาอย่าง
ระมัดระวังพลางสอบถามไปด้วย
ถึงแม้วา่ ตัวเขาจะอวบอ้วนเป็ นหมูสามชั้น แต่วา่ ใบหน้าและมือ
ไม่ได้อว้ นไปด้วย มือที่ใช่ใส่ ยาถวายนั้นสวยงามหน้าดู ทั้งเรี ยวยาว
ขาวสะอาดและได้รูปกระดูกสวยงามชัดเจน แม้แต่เล็บยังเงางาม
เสมือนแท่งหยก
ดูแล้วแตกต่างกับพระหัตถ์ที่ได้รับบาดเจ็บของฝ่ าบาทเป็ นอย่างมาก
จีเฉวียนทรงพิงพระองค์อยูบ่ นหมอนนุ่ม ในดวงพระเนตรหงส์มี
แววเย็นชาที่เคยอยูเ่ สมออีกครั้ง “เรื่ องนี้เป็ นอุบตั ิเหตุ”
“ทั้ง ๆ ที่ฝ่าบาททรงสามารถอาศัยเรื่ องนี้จดั การตระกูลตู๋กไู ด้แท้ ๆ
” ฉางซุนซิ่วมาดูพระหัตถ์ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็มีแววกังวลอยูไ่ ม่นอ้ ย
“กระหม่อมจาได้วา่ ยามเมื่อฝ่ าบาทพึ่งจะขึ้นครองราชย์น้ นั เคยตรัส
ไว้วา่ หากมิได้พิฆาตตระกูลตู๋กจู ะไม่ขอเลิกรา”
จีเฉวียนขมวดพระขนง สายพระเนตรทอประกายเย็นชากว่าเดิม
“เป็ นเพราะไทเฮาหรื อพะยะค่ะ? ฝ่ าบาททรงมีพระทัยต่อไทเฮา หรื อ
ว่า…..”
พูดถึงตรงนี้ ฉางซุนซิ่วก็ชะงักไปชัว่ ครู่ เขาหยิบเอาผ้าโปรงออกมา
ค่อย ๆ พันรอบพระหัตถ์ “ถึงแม้วา่ อาจทาให้ฝ่าบาทไม่พอพระทัย
แต่อย่างไรกระหม่อมยังขอทูลเตือนสักประโยค ขอพระองค์อย่าได้
ทรงลืมว่าฉางซุนฮองเฮาทรงสิ้ นพระชนม์ไปได้อย่างไร อย่าได้ทรง
ลืมว่าญาติผพู ้ ี่ของกระหม่อมฉางซุนซูตายเพราะอะไร ยิง่ อย่าได้ลืม
ว่า…….”
“เรารู ้ดี ” จีเฉวียนสบพระเนตรเขาครั้งหนึ่ง ก็ยนื่ พระหัตถ์ไปฉวยผ้า
โปร่ งผืนนั้นมาถือพันเอง พระกระแสรับสัง่ ของขาเย็นชาราวกับสาย
ธารน้ าแข็งในคิมหันต์
และเพราะทรงใช้พละกาลังมาก ผ้าโปร่ งจึงทับบาดแผลจนพระ
โลหิตซึมออกมาอีก แต่คล้ายกับว่าไม่ได้ทรงรู ้สึกเจ็บอันใด
ฉางซุนซิ่วมองดูเลือดที่ปากแผล ก็ยนื่ มือออกมาอีกครั้ง “ฝ่ าบาททรง
พันแผลไม่เป็ น ให้กระหม่อมช่วยเถอะ”
สายพระเนตรของจีเฉวียนเข้มข้นขึ้น ยังคงฝื นผูกผ้าด้วยตนเอง
ต่อไป
พระองค์เสด็จลงจากเบาะอ่อนไปยังพระบัญชร ทอดพระเนตรมอง
ดอกกุย้ ฮวาที่กาลังผลิบาน “ราชครู สิ่ งใดควรทา สิ่ งใดไม่ควรทา เรา
ย่อมรู ้กระจ่างดี เจ้าไม่จาเป็ นต้องกล่าวมากความ กังวลให้มากไป”
ฉางซุนซิ่วชะงักงันไปครู่ หนึ่ง มองดูแผ่นหลังที่องอาจสง่างามของ
ฮ่องเต้ เขาก็ได้แต่กลืนคาพูดในปากลงไป สุ ดท้ายจึงเปลี่ยนเป็ น
สอบถามว่า “ฝ่ าบาททรงประสบพบเจอสิ่ งใดในสุ สานของเย่วฮูหยิน
กันแน่? นับแต่เมื่อทรงรู ้สึกพระองค์ข้ ึนมา กระหม่อมรู ้สึกกว่า
พระองค์ทรงไม่เหมือนเดิม”
เปลี่ยนไปแล้ว …….เปลี่ยนเป็ นมีน้ าพระทัยเมตตาแล้ว
น้ าพระทัยเมตตานี้ ทรงมีต่อตระกูลตู๋กู หรื อพูดให้ถูกคือมีต่อตู๋กู
ซิงหลัน นับตั้งแต่ที่พระองค์ทรงช่วยตู๋กซู ิงหลันจากน้ ามือของเต๋ อ
เฟยนั้น พระองค์กม็ ิใช่ฝ่าบาทคนเดิมอีก
“พอเราตกลงไปก็สลบหมดสติ เป็ นไทเฮาที่ช่วยเราไว้ เจ้าก็เห็นแล้ว
ไม่ใช่หรื อ? ” จีเฉวียนทรงหันพระขนองให้เขา ทอดพระเนตรมอง
ออกไปยังทิศทางของพระตาหนักเฟิ่ งหมิง
“อ๋ อ……..แบบนี้เอง” ฉางซุนซิ่วปิ ดตาลง ก็ถวายบังคมลง “ในเมื่อ
ฝ่ าบาทไม่โปรดจะรับสัง่ เช่นนั้นกระหม่อมก็จะไม่ถามอีก เพียงหวัง
ว่า…….ฝ่ าบาทจะไม่ทรงลืมความตั้งพระทัยแต่เดิม”
ตอนที่ 92 ฝ่ าบาททรงวางแผนด้ วยพระองค์ เอง?
เขาลุกขึ้นยืน เดินไปจนถึงประตูหลักในพระตาหนัก มองดูกระถาง
ดอกกุย้ ฮวาที่วางอยูด่ า้ นนอก สู ดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่แทรกซึมสู่
จิตใจคน พานให้ผคู ้ นรู ้สึกทรมานใจขึ้นมา
“ดอกไม้น้ ีช่างผลิบานได้งดงามยิง่ นัก หากว่าท่านป้าได้เห็นละก็
จะต้องชื่นชอบเป็ นแน่ ” เขาไพล่มือไว้ดา้ นหน้า สายลมที่โชยมาพัด
เส้นผมของเขาจนพลิ้วลมไป ใบหน้าที่ดูไปคล้ายกับมารผูบ้ ริ สุทธ์
นั้น ยามนี้ยงิ่ เพิ่มความมืดหม่นขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง
ท่านป้าของเขา ย่อมต้องเป็ นฉางซุนฮองเฮา พระมารดาแท้ ๆ ของ
ฝ่ าบาทที่สิ้นพระชนม์ไปเมื่อสิ บแปดปี ก่อน ในคืนฤดูหนาวที่หิมะ
โปรยปรายทัว่ ฟ้า และกระทัง่ ดอกกุย้ ฮวาเป็ นน้ าแข็ง
หลังจากค่าคืนนั้น ก็มีแต่องค์ชายสี่ ที่มีพระชนม์เพียงห้าชันษา ผูเ้ ป็ น
ราชโอรสที่ไม่ได้รับความโปรดปรานใด ๆ ในวังหลวง
ตระกูลฉางซุนเองก็ตกต่าลงนับแต่บดั นั้น
ส่ วนตัวเขา ก็ถูกส่ งไปยังเขาหัวชิง นับตั้งแต่น้ นั มา ก็มีชีวิตอยูเ่ พื่อฝ่ า
บาทมาโดยตลอด
เขาหันหน้ากลับไปดูพระพักตร์ที่เย็นชาของจีเฉวียน “ฝ่ าบาท
บาดแผลบนร่ างกายอาจรักษาจนหายได้ แต่วา่ บาดแผลในใจกลับไม่
อาจลบเลือน ความเจ็บปวดที่พระองค์และกระหม่อมได้รับมานั้นไม่
อาจลบล้างไปโดยง่าย”
จีเฉวียนพระพักตร์เย็นชา เขาเพียงทอดพระเนตรออกไปด้านนอก
โดยไม่ตรัสสิ่ งใด
“ขอพระองค์โปรดทรงจาไว้ ไม่วา่ จะอย่างไร ในโลกนี้ คนที่จริ งใจ
และยืนอยูเ่ คียงข้างพระองค์เสมอ ก็คือกระหม่อม”
“กระหม่อมยังมีเรื่ องทูลขออีกเรื่ อง ถึงแม้เต๋ อเฟยจะมีโทษมหันต์ แต่
ว่าอานาจของท่านรองมหาเสนาฯ ยังมิได้หมดสิ้ นไป ขอพระองค์
ทรงไว้ชีวิตนาง เพราะหากว่ากาจัดรองมหาเสนาผูน้ ้ ีเร็ วเกินไป
สุ ดท้ายแล้วผูท้ ี่ได้รับผลกระทบอาจเป็ นแคว้นต้าโจวเรา”
สายพระเนตรของจีเฉวียนส่ องประกายขึ้นมา สายลมพัดแรงขึ้น พา
ให้ดอกกุย้ ฮวาปลิวหล่น บุปผาหลุดร่ วงเสมือนหนึ่งหิ มะโปรยปราย
…………………………………………….
เมื่อฮ่องเต้ทรงฟื้ นขึ้นมา ตู๋กูซิงหลันก็ได้รับพระบัญชาให้กลับวัง
หลวง
เป็ นหลี่กงกงนาพระบัญชามาด้วยตนเอง ตลอดทางที่มายังจวน
ตระกูลตู๋กนู ้ นั หลี่กงกงตัวสัน่ สะท้านอยูต่ ลอด
ก็ดูสายตาของท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตสิ แทบจะจับเขากินเข้าไปด้วยซ้ า
เขม้นมองเสี ยจนเขาแทบจะตัวแข็งไปแล้ว
ยังดีที่ไทเฮาน้อยทรงเป็ นผูท้ ี่รู้กาละเทศะเป็ นอย่างดี นางไม่ได้กล่าว
มากอันใด ก็ติดตามเขากลับมาอย่างเรี ยบร้อย
หลี่กงกงทราบซึ้งใจยิง่ นัก แทบจะยินดีไปเป็ นสารถีให้นางด้วย
ตนเอง
ที่จริ งตู๋กซู ิงหลันก็อยากจะอยูบ่ า้ นให้นานกว่านี้อีกสักหน่อย แต่วา่
เจ้าวิญญาณทมิฬได้รับบาดเจ็บหนักจากในสุ สาน จาเป็ นต้องได้รับ
ไอบริ สุทธิ์จึงจะรักษาได้ พระราชวังจึงเป็ นที่ที่เหมาะสมที่สุด
เชียนเชียนติดตามเจ้านายของตนเองขึ้นรถม้าไป มองดูจวนตระกูลตู๋
กูที่ยงิ่ ทียงิ่ ไกลออกไป ก็อดจะเสี ยใจไม่ได้
ออกมาตั้งไกลขนาดนี้แล้ว ยังสามารถมองเห็นคุณชายใหญ่ยนื ถือ
ดาบทลายภูผาน้ าตาไหลส่ งนายหญิงอยูท่ ี่หน้าประตูใหญ่ คิดดูแล้ว
หากว่านายหญิงไม่ตอ้ งการกลับวังละก็ คุณชายใหญ่จะต้องมีหนทาง
จัดการเรื่ องนี้เป็ นแน่
ตู๋กซู ิงหลันหลับตาลงพิงเข้ากับหน้าต่างบนรถม้า เรื่ องที่สมควร
มอบหมายให้พี่ใหญ่นางก็ได้มอบหมายไปหมดแล้ว สมุดบัญชีใน
บ้านและกุญแจคลังสมบัติในเมืองหลวงทั้งหมดก็ทิ้งเอาไว้ให้เขา
ถึงแม้จะรู ้สึกเจ็บปวดอยูบ่ า้ ง………แต่ใครใช้ให้นนั่ คือพี่ชายแท้ ๆ
ของตนเองละ
นางเพียงแต่นากระเบื้องทองสองแผ่นและชิ้นหยกที่ได้จากสุ สาน
ท่านย่าติดตัวมาเท่านั้น อ้อ มีไม้เสี ยบผลไม้ทองคาอีกหลายอันด้วย
ที่ดา้ นข้างของนางยังมีเจ้าไก่ขนดาตัวฟูหมอบอยูด่ ว้ ย จะว่าไปเจ้าไก่
กุ๊กตัวนี้ก็ไม่รู้วา่ มันเป็ นอะไรของมัน หลายวันมานี้เฝ้าแต่ติดตามนาง
ไม่ยอมห่างประหนึ่งสุ นขั ตัวหนึ่ง แม้แต่ยามจะนอนยังต้องหมอบอยู่
ข้างเตียงของนาง
ที่จริ งตู๋กซู ิงหลันอยากจะจับมันมาตุ๋นใส่ หม้ออยูม่ ากเหมือนกัน แต่
พอเห็นท่าทางเฟอะฟะของมันแล้ว ก็ตอ้ งล้มเลิกความคิดนี้ไป เจ้าตัว
เฟอะฟะขนาดนี้หากว่ากินเข้าไปแล้วจะพลอยทาให้นางเฟอะฟะไป
กับมันด้วยหรื อเปล่า…..
ทุกครั้งที่เจ้าไก่ก๊กุ ขนฟูมองเห็นสายตาของตู๋กซู ิงหลันที่ทอดมองมัน
มันเป็ นต้องรู ้สึกว่า พี่สาวตัวน้อยผูม้ ีดวงตางดงามผูน้ ้ ีจะต้องรู ้สึกกับ
มันอย่างไม่ธรรมดาเป็ นแน่
นางจะต้องหลงใหลในความพิเศษของมันเข้าแล้ว
พอคิดถึงตรงนี้มนั ก็อดที่จะภาคภูมิใจขึ้นมาไม่ได้ ก็ใช่อยูน่ ะ ในใต้
หล้านี้จะหาไก่ที่งดงามโดดเด่นเช่นมันได้ที่ไหน
ว่าแล้วมันก็เอนหัวไก่นอ้ ย ๆ ของมันลงมาบนหลังเท้าของตู๋กูซิงห
ลันด้วยสี หน้าพึงพอใจ
ราชรถตรงเข้าสู่ พระราชวังจึงค่อยหยุดลงที่หน้าประตูพระ
ตาหนักเฟิ่ งหมิง ดอกไฮ่ถางเริ่ มทยอยร่ วงจากต้นแล้ว กลีบดอกสี
แดงหล่นกระจายอยูท่ วั่ พื้น
และไม่รู้ทาไม ตู๋กซู ิงหลันก็หวนนึงถึงต้นไฮ่ถางในสุ สานของท่าน
ย่าขึ้นมา
“หลี่กงกง ตาหนักเย็นซ่อมแซมมาก็หลายวันแล้ว ถึงตอนนี้ยงั ซ่อม
ไม่เสร็ จอีกหรื อ? ” ตู๋กซู ิงหลันยังไม่ลงจากรถม้า เพียงแต่แง้มม่าน
ออกไปไต่ถาม
หลี่กงกงหันมาถวายคานับนางอย่างนอบน้อม “ทูลไทเฮา ไย
พระองค์ยงั ทรงระลึกถึงตาหนักเย็นหลังนั้นอีกเล่าพะยะค่ะ? ทั้งท่าน
แม่ทพั ผูพ้ ิชิตและพระองค์ต่างก็เป็ นผูม้ ีผลงานโดดเด่น ฝ่ าบาททรงมี
พระบัญชา นับแต่น้ ีไปให้พระองค์ประทับอยูท่ ี่พระตาหนักเฟิ่ งหมิง
ได้พะยะค่ะ”
เขากราบทูลแล้ว ก็ลว้ งเอากล่องไม้ใบน้อยที่วจิ ิตรงดงามมาทูลถวาย
อย่างนอบน้อม “นี้คือกุญแจประจาตาหนัก ฝ่ าบาทรับสัง่ ให้บ่าว
นามาถวายพระองค์”
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกประหลาดใจอยูน่ ิดหน่อย ที่ผา่ นมาเจ้าฮ่องเต้สุนขั
นัน่ ไม่เคยมีประสงค์ดีมาก่อน เขาคิดจะทาดีกบั นางจริ งหรื อ?
ทาไมนางถึงได้รู้สึกว่าบรรยากาศมันทะมึน ๆ มีกลิ่นอายทะแม่ง ๆ
อยู่
นางหันไปส่ งสายตากับเชียนเชียน เชียนเชียนก็รับกล่องไม้นนั่ ไว้
นับตั้งแต่ที่ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ทรงให้นายหญิงมาอาศัยอยูใ่ นเรื อน
น้อยหลังเล็กในพระตาหนักเฟิ่ งหมิง สาวใช้ตวั น้อยก็กงั วลใจมา
ตลอด อีกทั้งยังโทษตนเองที่เป็ นตัวตั้งตัวตีลากนางมาที่นี่ ถึงได้ทา
ให้นายหญิงถูกผูอ้ ื่นเห็นเป็ นที่น่าขบขันกล่ารังแก
ยังดีที่นายหญิงเก่งกล้าสามารถ ไม่ได้เพลี่ยงพล้ า ไม่เช่นนั้นจิตใจ
ของนางคงยิง่ ละอายมากกว่าเดิม
เมื่อเห็นนางรับกุญแจไป หลี่กงกงก็วางใจไปได้มาก เขารี บกล่าวอีก
ว่า “เต๋ อเฟยทาผิดมหันต์ จึงถูกฝ่ าบาทถอดถอนยศศักดิ์ ส่ งไปยัง
ตาหนักเย็น ขอไทเฮาอย่าได้ทรงกังวลว่านางจะออกฤทธิ์ออกเดช
อะไรได้อีก ต่อไปอนาคตของท่านในวังนี้จะต้องยิง่ ดีข้ ึนเรื่ อย ๆ “
ตู๋กูซิงหลันยกมุมปากขึ้น เต๋ อเฟยรึ ….นางมีบางเรื่ องอยากจะถามอยู่
บ้างเหมือนกัน
……………………………..
พอถึงยามพลบค่า ตู๋กซู ิงหลันก็ไปยังตาหนักเย็นด้วยตนเอง
ก่อนหน้านี้เพราะสาเหตุจากเรื่ องของนาง ทาให้ตาหนักเย็นได้รับ
การซ่อมแซมขึ้นมารอบหนึ่ง ดูไปแล้วดีกว่าช่วงที่นางเคยอยูม่ าก
ทีเดียว
ไม่ได้พบหน้ากันหลายวัน เต๋ อเฟยซูบผอมลงไปไม่นอ้ ย นางยังคง
สวมใส่ เสื้ อผ้าสี อ่อนจาง ดูราวกับบุตรสาวของตระกูลใหญ่
เต๋ อเฟยนัง่ อยูข่ า้ งโต๊ะไม้ตวั หนึ่ง ยามนี่นางพบเห็นตู๋กซู ิ งหลันก็
ไม่ได้แสดงท่าประหลาดใจ และไม่ได้ลุกขึ้นถวายคานับ
“ตู๋กซู ิงหลัน เจ้าดูเอาสิ ฝ่ าบาทยังทรงไม่อาจลืมน้ าพระทัยที่มีให้เรา
ได้ ” นางยังคงว่าท่าต่อไป ใช้สายตาเย็นชามองนาง
“ตาหนักเย็นนี้ถูกบูรณะใหม่เพื่อข้าโดยเฉพาะ ข้าอยูน่ ี่กส็ ุ ขสบายดี”
ตู๋กซู ิงหลัน “งั้นสิ ……”
เต๋ อเฟยเห็นนางอ้ า ๆ อึ้ง ๆ พูดอะไรไม่ออก จิตใจของนางก็พออก
พอใจขึ้นมาอยูห่ ลายส่ วน “ดูเอาสิ นี่ผดิ หวังเสี ยแล้วหรื อ? เจ้าคิด
หรื อว่าฝ่ าบาทจะทรงประหารข้าได้จริ ง ๆ ? “
พูดแล้ว นางก็ลุกขึ้นยืน เดินมาที่ขา้ งตัวตู๋กซู ิ งหลัน กล่าวเสี ยงเย็นที่
ข้างหูนางว่า “บิดาของข้าคือท่านรองมหาเสนาฯ ถึงแม้วา่ สมบัติใน
บ้านจะถูกแผนร้ายของเจ้าทาให้โดนยึดไป แต่ตน้ ไม้ใหญ่จะอย่างไร
มีกิ่งก้านสาขาไม่สิ้นสุ ด หากว่าบ้านของบิดามารดาข้ายังคงอยู่ ตัวข้า
ก็ยงั ไม่นบั ว่าพ่ายแพ้
“ยิง่ ไปกว่านั้น….. ในเมื่อเจ้ายังสามารถออกจากตาหนักเย็นไปได้
แล้วเจ้าคิดหรื อว่า ตัวข้าจะทาไม่ได้? “
พูดถึงตอนนี้ สายตาของนางก็ยงิ่ ทวีความโหดเ**่้ยมขึ้นมา “เจ้าคิด
หรื อว่า แค่เกิดมาหน้าตาดีก็จะสามาถครอบงาฝ่ าบาทเอาไว้ได้? ข้า
จะบอกอะไรให้เจ้าฟัง เรื่ องที่เจ้าปี นเตียงมังกรนั้น เป็ นแผนที่ฝ่าบาท
ทรงวางเอาไว้เอง”
“คิดไม่ถึงล่ะสิ ? ฮาฮ่า ๆ ๆ ๆ ….. ” เต๋ อเฟยหัวเราะอย่างเย็นชา “ฝ่ า
บาททรงเกลียดชังตระกูลตู๋กขู องเจ้านัก ยิง่ ทรงรังเกียจเจ้าเป็ นที่สุด!
เพราะฉะนั้นจึงได้แสดงละครนี้ดว้ ยพระองค์เอง จุดประสงค์ก็
เพื่อให้เจ้าสู ญสิ้ นชื่อเสี ยง ให้ตระกูลตู๋กตู อ้ งโทษ ทาให้เจ้ากลายเป็ น
หมากที่ใช้ควบคุมตระกูลตู๋กู! “
“ยาที่ทาให้เจ้าไปปี นเตียงมังกรด้วยตนเองนั้น ก็เป็ นข้ารับพระ
บัญชา…. นาไปให้เจ้าด้วยตนเองไงละ”
ตอนที่ 93 ตัวร้ ายในตาหนักเย็น
ลองคิด ๆ ดู ตู๋กซู ิงหลันทุ่มเทจิตใจไปมากมายเพื่อล่อลวงฝ่ าบาท
หากได้รู้วา่ คนที่อยากให้นางต้องตายชนิดไร้ที่กลบฝังกลับเป็ นฝ่ า
บาทเอง ใจของนางจะรู ้สึกเช่นไร
นังคนเลวนี้ทาร้ายนางถึงเพียงไหน ตัวนางโหยวหนิงมีหรื อจะปล่อย
มันให้อยูด่ ีมีสุขได้?
จิตใจของตู๋กูซิงหลันกลับเรี ยบเรื่ อยไร้ระรอกใด ๆ ที่จริ งนางยัง
อยากได้เม็ดแตงมาแทะเล่นจะได้ฟังเพลิน ๆ ด้วยซ้ า
ด้วยนิสยั ชัว่ ๆ ของฮ่องเต้สุนขั นั้น จะทาเรื่ องเช่นนี้กไ็ ม่ถือว่า
นอกเหนือความคาดหมาย นางย่อมไม่ประหลาดใจ แต่วา่ การที่เต๋ อ
เฟยสารภาพออกมาว่ามีส่วนร่ วมด้วยตนเอง นาให้นางรู ้สึกว่า
น่าสนใจไม่นอ้ ย
คาพูดของเต๋ อเฟย เชื่อได้อย่างมากก็แค่ครึ่ งเดียว
เต๋ อเฟยมองดูต๋ ูกซู ิงหลันอย่างเย็นชา พอนางกาลังจะพูดอะไรอีก ก็
ได้ยนิ น้ าเสี ยงเย็นเฉียบของบุรุษผูห้ นึ่งดังมาจากภายนอก “เราไม่เคย
รู ้วา่ เคยใช้ให้เจ้าทาเรื่ องเช่นนี้มาก่อนด้วย? “
นางหน้าถอดสี รี บหันไปทางประตูทนั ที ก็ได้เห็นฮ่องเต้ในฉลอง
พระองค์มงั กรสี ทองกาลังจดจ้องมองนางด้วยพระพักตร์เย็นชาอย่าง
ที่สุด
สายพระเนตรนั้นราวกลับจะสามารถสาปสิ่ งใดก็ตามให้เป็ นน้ าแข็ง
ไป ทาให้นางหนาวสะท้านแทบจะตัวแข็งทั้งเป็ น ได้แต่อาศัยกิริยาที่
เคยชินคุกเข่าลงไป “หม่อมฉันไม่ทราบว่าพระองค์จะเสด็จมา จึง
ไม่ได้ไปต้อนรับแต่เนิ่น ๆ “
นางพึ่งจะย้ายมาอยูต่ าหนักเย็น ฝ่ าบาทก็เสด็จมาเยีย่ มนางแล้ว นี่
ชัดเจนเลยว่าในพระทัยของฝ่ าบาท ยังคงคานึงถึงนางอยูใ่ ช่ไหม?
จีเฉวียนไพล่พระหัตถ์ขา้ งหนึ่งไว้ดา้ นหลัง เสด็จเข้ามาใกล้ ประทับ
อยูข่ า้ ง ๆ ตู๋กซู ิงหลัน สายพระเนตรที่เหลือบมองเต๋ อเฟยนั้นเย็นยะ
เยือกดุจน้ าแข็ง “หม่อมฉัน? เจ้าถูกถอดยศกลายเป็ นบ่าว จองจาใน
ตาหนักเย็น ต่อหน่าเรายังจะมีสิทธ์ใดพูดจาแทนตัวเองอีก? “
เต๋ อเฟย “……..” ฝ่ าบาทมายังตาหนักเย็น ไม่ใช่เพราะจะมาหานาง
หรอกหรื อ?
ตู๋กซู ิงหลันหันไปเหลือบมองฮ่องเต้ที่อยูข่ า้ งตัว สามวันก่อนยังพึ่ง
กระดูกหักจะเป็ นจะตายอยูแ่ ท้ ๆ ทาไมถึงได้ออกมากระโดดโลด
เต้นได้ไวปานนี้?
แถมยังทาตัวราวกับผีสาง เดินมาก็ไม่ให้สุ่มให้เสี ยง
หากรู ้ต้ งั แต่แรกว่าร่ างกายของเขาทนทานได้เช่นนี้ ตอนที่อยูใ่ น
สุ สาน นางสมควรจะหักกระดูกเขาอีกสักหลาย ๆ ท่อน
โดยเฉพาะหักขาเสี ย!
“ฝ่ าบาท ข้ารู ้วา่ ครั้งนี้พระองค์ทรงพิโรธจริ ง ๆ แต่วา่ พระองค์ยงั ทรง
คิดถึงข้าใช่หรื อไม่? ไม่เช่นนั้นทาไมถึงได้ซ่อมแซมตาหนักเย็นให้
ข้าละ….” เต๋ อเฟยไม่ยอมแพ้ นางกุมมือไว้ที่อก กล่าวเสี ยงเบา ๆ ต่อ
ให้ตีนางตายก็จะไม่ยอมเรี ยกตนเองเป็ นบ่าวเด็ดขาด
จีเฉวียนขมวดคิ้วเย็นชา “เจ้ากลับคิดไปเองถึงเพียงนี้”
“โหยวหนิงเอ๋ ย ที่ตาหนักเย็นนี้ได้รับการบูรณะ ทั้งหมดล้วนเพือ่ ไท
เฮา เดิมที่ฝ่าบาทมีพระประสงค์จะให้ไทเฮาได้ทรงประทับอย่างสุ ข
สบายขึ้นบ้างต่างหาก~” หลี่กงกงที่พ่ งึ ไล่ตามมาถึง กลับบอก
กล่าวอย่างชัดเจน “แต่วา่ ตอนนี้ไม่จาเป็ นต้องใช้แล้ว ไทเฮาทรง
ประทับอยูใ่ นพระตาหนักเฟิ่ งหมิง ไหนเลยจะต้องกลับมายังสถานที่
แบบนี้อีก”
เขาไม่สนใจนางหรอก ตอนนี้เขากลายเป็ นสาวกรุ่ นที่หนึ่งของไทเฮา
แล้ว! คนเยีย่ งเต๋ อเฟยไหนจะเอามาเปรี ยบเทียบกับไทเฮาของพวก
เขาได้กนั ?
เต๋ อเฟยตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง นางรู ้สึกราวกับว่า
ถูกคนตบหน้าอย่างแรง เจ็บแสบไปทั้งใบหน้า
ตาหนักเย็นนี้….ถูกซ่อมแซมใหม่เพื่อนังสารเลวตู๋กซู ิงหลันหรอก
หรื อ? นี่จะเป็ นไปได้อย่างไร?
แถมฝ่ าบาทยังทรงประทานพระตาหนักเฟิ่ งหมิงนัน่ ให้มนั
ครอบครองด้วย?
นางยังไม่ทนั ได้สติกลับมา ก็เห็นฮ่องเต้สีพระพักตร์เย็นชาเป็ น
น้ าแข็ง พระพิโรธของโอรสสวรรค์รุนแรงประหนึ่งพายุหิมะ กดทับ
นางจนแทบจะหายใจไม่ออก
“เจ้าลองว่ามาสิ เราสัง่ ให้เจ้าชักนาไทเฮาไปปี นเตียงมังกรยังไง? “
เต๋ อเฟยคุกเข่าอยูบ่ นพื้น นางรู ้สึกว่าตนเองกาลังสัน่ ไปทั้งร่ าง
นางเงยหน้าขึ้นมองตู๋กซู ิงหลันอย่างเคียดแค้น จะต้องเป็ นนางสาร
เลวนี้ชกั นาฝ่ าบาทมาแน่ ถึงได้มาลวงให้นางพูดถ้อยคาเหล่านั้น
ออกมาให้ฝ่าบาทได้ยนิ ทาไมนางถึงได้โง่เขลาเช่นนี้ หลงกลนังสาร
เลวเอาง่าย ๆ
“เราถามเจ้า เจ้าทาอะไรกับนาง? ” พระสุ ระเสี ยงของจีเฉวียนยิง่ ทียงิ่
เย็นเฉียบ ” ตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั ที่ในพระราชวังต้าโจวของเรา ถึงกับมี
บ่าวไพร่ ตาหนักเย็นที่กล้าล่วงเกินไทเฮาแล้ว? “
บ่าวไพร่ ตาหนักเย็น!
สี่ คานี้ แหลมคมดุจดาบที่แทงทะลุหวั ใจนางเล่มหนึ่ง นางไม่
อยากจะเชื่อเลยว่า ฝ่ าบาทจะทรงกลายเป็ นผูท้ ี่ไร้น้ าใจเช่นนี้
ตู๋กซู ิงหลันเคยชินกับสันดานแบบนี้ของฮ่องเต้สุนขั แล้ว ใครหนอที่
เคยเรี ยกขานผูอ้ ื่นว่าสนมรัก ช่างเรี ยกได้คล่องปากนัก พริ บตาเดียวก็
กลายเป็ นบ่าวไพร่ ตาหนักเย็นไปเสี ยแล้ว
ตอนนั้นที่นางยังอยูใ่ นตาหนักเย็น ลับหลังนาง เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่คง
จะเรี ยกนางเป็ นตัวร้ายในตาหนักเย็นอยูเ่ หมือนกัน
คิดถึงตรงนี้ นางก็ค่อย ๆ ถอยห่างจากจีเฉวียนออกมาเงียบ ๆ ก้าว
หนึ่ง แต่กา้ วเดียวนี้กลับถูกจีชวนขยับเข้าไปหาจนเหมือนเดิม
คนทั้งสองแทบจะตัวแนบติดกัน จนตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกได้ถึงไอร้อน
จากลมหายใจของจีเฉวียนที่เป่ าผ่านศีรษะของนาง จนนางรู ้สึกจักกะ
จี้
พอนางเงยหน้ามองก็เห็นพระเนตรหงส์ที่งดงามคู่น้ นั กาลังจับจ้อง
นางอยู่ ที่จริ งแล้วแววตาของเขาแบบนี้นางก็ไม่ค่อยได้เห็นอยูบ่ ่อย
นัก “ไทเฮามิใช่บอกอยูเ่ สมอว่าต้องการให้เราคืนความบริ สุทธิ์ให้
หรอกหรื อ? วันนี้เราจะสอบสวนบ่าวโหยวหนิงด้วยตนเอง จะต้อง
ให้ความยุติธรรมแก่เจ้าแน่นอน”
พระองค์มิได้ทรงรอคอนให้นางกล่าววาจาตอบ ก็กวาดพระเนตร
เย็นชาไปยังเต๋ อเฟย “ความอดทนของเรามีจากัด หากเจ้าไม่คิดจะ
เป็ นศพไม่สมบูรณ์ ทั้งตระกูลดับสู ญ ก็รีบ ๆ สารภาพออกมา”
เพียงแค่รับสัง่ ประโยคเดียวก็ทาให้เต๋ อเฟยตัวอ่อนปวกเปี ยกไปหมด
นางรู ้ดีกว่าฮ่องเต้ไม่ได้ทรงตรัสเพื่อข่มขู่นาง
หากทรงรับสัง่ ว่าจะประหารพวกนางทั้งตระกูล นัน่ ก็หมายความ
เช่นนั้นจริ ง
ดวงตาของนางที่งดงามประหนึ่งลูกแก้วทั้งสองนั้นเอ่อล้นไปด้วย
น้ าตา และเมื่อเหลือบเห็นพระหัตถ์ขา้ งที่พนั ผ้าพันแผลไว้ หัวใจของ
นางก็เหมือนถูกแช่แข็งไปครึ่ งหนึ่ง……..
นางลืมไปได้อย่างไร ว่าเขาก็คือฮ่องเต้ที่ไร้หวั ใจที่สุดในต้าโจว แต่
ว่าฮ่องเต้ที่เป็ นเช่นนี้กลับยินยอมรับบาดเจ็บแทนสตรี ผหู ้ นึ่ง……..
เพื่อสตรี ผนู ้ ้ นั พระองค์จะประหารพวกนางทั้งตระกูล!
นางปิ ดตาลง ปล่อยให้น้ าตาไหลริ นร่ วงหล่น “อี้อ๋อง! เป็ นอี้อ๋อง
รับสัง่ ให้ขา้ ทา! “
สิ้ นประโยคนี้ออกไป พระขนงของฮ่องเต้กข็ มวดแน่นขึ้น แม้แต่สาย
พระเนตรที่มองดูต๋ ูกซู ิงหลันก็เปลี่ยนไป
หลี่กงกงนั้นตกกระใจจนขวัญบินออกจากร่ างไปแล้ว
“ฝ่ าบาท พระองค์กไ็ ม่ใช่จะไม่ทรงทราบ ไทเฮาที่อยูข่ า้ งพระวรกาย
นั้น ก่อนจะเข้าวังมาเคยเป็ นคู่รักแต่เยาว์วยั กับอี้อ๋องที่แม้แต่เทพ
เซียนยังต้องอิจฉา ใช่ไหม? ” เต๋ อเฟยหัวเราะเสี ยงเย็น “แต่วา่ น่า
เสี ยดายนัก โชคชะตาทาร้ายผูค้ น นางกลับกลายเป็ นไทเฮาไปซะ”
“ความงดงามเลิศล้ าเช่นนี้ ย่อมมีไว้เพื่อยัว่ ยวนบุรุษผูน้ าทั้งหลาย
สร้างความวุน่ วายในบ้านเมืองอยูแ่ ล้ว”
เต๋ อเฟยยังตอกย้าต่อไป “ยาถ้วยนั้น ก็เพื่อกระตุน้ ให้นางไปปี นเตียง
มังกรของพระองค์ หากว่าเรื่ องสาเร็ จ อาศัยความรักต่ออี้อ๋องที่ชวั่
ชีวิตก็ไม่มีเสื่ อมคลายนี้ มีหรื อนางจะไม่กลายเป็ นตัวหมากที่ดีที่สุด
ของอี้อ๋องในการจะล่อลวงควบคุมพระองค์”
“หากว่าเรื่ องราวล้มเหลว สถานการณ์เบื้องหน้าก็ทาให้ฝ่าบาทและ
ตระกูลตู๋กตู อ้ งฉีกหน้าเป็ นคู่แค้นกัน ยิง่ ฝ่ าบาทและตระกูลตู๋กหู ่าง
กันเท่าไร เช่นนั้นอี้อ๋องและตระกูลตู๋กกู จ็ ะยิง่ ใกล้ชิดกันมากขึ้น
เท่านั้น เขาก็จะยิง่ เข้าใกล้การก่อกบฎชิงบัลลังก์ได้อีกก้าวหนึ่ง ไม่วา่
สาเร็ จหรื อว่าล้มเหลว ผูท้ ี่ได้รับผลลัพธ์มากที่สุดก็คือตัวเขาอี้อ๋อง”
เต๋ อเฟยพูดทั้งหมดออกมาในอึดใจเดียว ทั้งยังไม่ลืมกล่าวอีกว่า
“หากว่าฝ่ าบาทไม่ทรงเชื่อ ก็สามารถเรี ยกตัวอี้อ๋องมาโต้แย้งกับข้า
ได้! “
ท่าทางที่เชื่อมัน่ ขึงขังของนาง ดูไปไม่คล้ายว่าหลอกลวง
อี้อ๋อง บุรุษที่งดงามดุจเทพเซียนผูน้ ้ นั บุรุษที่ทาให้นางหลงใหล
ตั้งแต่แรกเห็น เพื่อเขาแล้ว นางปฎิเสธการสู่ ขอทั้งหมด
เพื่อเขาแล้ว นางยินยอมเข้าวังมา คิดจะสนับสนุนเขาอีกแรงหนึ่ง
แต่วา่ ตั้งแต่ตน้ จนจบนี้ กลับมีแต่นางที่ยนิ ยอมทุ่มเทจิตใจอยูเ่ พียง
ข้างเดียว
อีกทั้งเข้าวังมาได้ไม่เท่าไหร่ นางก็พบว่า ฮ่องเต้เองก็ทรงโดดเด่น
งดงามเกินใครเปรี ยบ
นางคิดจะลืมเลือนอี้อ๋อง กลายเป็ นสตรี ของฝ่ าบาทอย่างเต็มตัว
แต่วา่ เพราะอะไร…..แม้แต่ฝ่าบาทเองก็ทรงมองแต่ต๋ ูกซู ิงหลัน?
นังแพศยานี่ยดึ ครองอี้อ๋องไว้แล้วยังไม่พอ แม้แต่ฝ่าบาทก็ไม่ปล่อย!
กินอยูใ่ นชามแท้ ๆ ตายังมองไปที่ในหม้ออีก ยื้อเอาไว้ท้ งั สองด้าน
ไม่ยอมปล่อย
ทั้ง ๆ ที่นางยอมยกอี้อ๋องให้มนั ไปแล้วแท้ ๆ ………..
ตอนที่ 94 เจ้ างดงามมาก เราไม่ ได้ ตาบอด
ชัว่ ขณะนั้น พระวรกายของจีเฉวียนเย็นจัดเสมือนน้ าแข็งไปทั้ง
พระองค์ แม้แต่ตวั ตู๋กซู ิงหลันยังรู ้สึกได้ถึงกระแสความเย็นที่ไหล
ออกมาจากร่ างของเขา
พระองค์สาดพระเนตรเย็นราวเกล็ดน้ าแข็งไปยังเต๋ อเฟย แล้วก็หนั
พระพักตร์กลับมามองตู๋กูซิงหลัน
เรื่ องชอบพอผูกพันกันแต่เยาว์วยั นั้นเขารู ้
แต่วา่ เรื่ องความรักที่ยงั คงอยูไ่ ม่มีจางหายของพวกเขา?
แม้จะรู ้อยูแ่ ต่แรกว่านางกับอี้อ๋องเคยมีความผูกพันกันมาก่อน แต่เมื่อ
ถูกผูอ้ ื่นชักนาเรื่ องนี้ออกมากล่าว หัวใจของเขาก็พลันโหวงเหวง
อย่างไร้ที่มา ทั้งยังรู ้สึกเหมือนมีหินก้อนหนึ่งกาลังกดทับอยู่ จนรู ้สึก
อึดอัดไปทั้งร่ าง
สตรี ที่น่าตายผูน้ ้ ี นางได้ทาอะไรกับเขากันแน่?
“ฝ่ าบาท……นี่จะต้องเรี ยกอี้อ๋องเข้าวังมาหรื อไม่พะยะค่ะ? ” หลี่กง
กงเสี่ ยงอันตรายที่หวั จะหลุดจากบ่าถามออกไปอย่างระมัดระวัง
เรื่ องนี้จะเป็ นเช่นไร ก็ไม่เกี่ยวกับไทเฮาสักหน่อย
หากว่าไทเฮาทรงมีสิ่งใดอยูใ่ นพระทัยละก็ มีหรื อจะยอมแบกฝ่ าบาท
ออกมาจากสุ สานของเย่วฮูหยิน?
มีหวังต้องฝังพระองค์ท้ งั เป็ นไปตั้งแต่แรกแล้ว! ไหนเลยจะต้องเก็บ
ไว้ให้มากความอีก
จีเฉวียนทรงนิ่งไปอยูค่ รู่ ใหญ่ ถึงได้หนั ไปถามสตรี ตวั น้อยที่อยู่
ด้านข้าง “ไทเฮา ท่านว่า สมควรเรี ยกมาหรื อไม่ตอ้ งเรี ยกมา? “
ยามนี้สีหน้าของตู๋กซู ิงหลันกลับขาวซีด ตอนที่เต๋ อเฟยกล่าววาจา
เหล่านั้น หัวใจของนางพลันเกิดความเจ็บปวดอย่างรุ นแรง
หลอกลวง ทรยศ ไม่อาจเชื่อถือ ทุกอารมณ์และความรู ้สึกที่ระเบิด
ขึ้นพร้อมกันตรงหน้า กดทับจนนางแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว
นี่คือความรู ้สึกทั้งหมดของเจ้าของร่ างเดิม
ช่างน่าตายนัก…..ไทเฮาน้อยกลับมีรักที่ลึกล้ าให้กบั จีเย่วถ์ ึงเพียงนี้?
นางกดลงไปที่บริ เวณหัวใจของตน แม้จะใช้พละกาลังทั้งหมดแล้ว
ยังไม่อาจสงบอารมณ์น้ นั ลงได้
รับสัง่ ของเจ้าฮ่องเต้สุนขั นั้นนางไม่ทนั ได้ฟังให้ชดั เจน ได้แต่ยก
นิ้วโป้งขึ้นมากดลงไปที่จุดเหริ นจงใต้จมูก
จีเฉวียน “………”
“ฮ่อง…..ลูก เจ้ารอเดี๋ยว ขอข้าพักสักครู่ ” นางไม่ลืมที่จะกล่าวกับเขา
ตอนนี้นางรู ้สึกเจ็บปวดไปทัว่ ทั้งร่ าง หากไม่กดจุดเหริ นจงเอาไว้นาง
คงจะต้องหมดสติไปเสี ยเดี๋ยวนี้แน่ ๆ
ผ่านไปชัว่ ครู่ ลมหายใจหนัก ๆ เหล่านั้นค่อย ๆ ถูกนางคลาย
ออกไปช้า ๆ
“หากว่าเจ้าปวดใจจนยากจะทนไหว เราจะเรี ยกหมอหลวงซุนมา
ฝังเข็มให้สกั หน่อย ” เห็นนางพยายามควบคุมตัวเองอยูน่ าน ฮ่องเต้
ก็ทรวรู ้สึกยากจะทนทานขึ้นมา สตรี นางนี้เล่นละครอยูช่ ดั ๆ
“ไม่ตอ้ ง ๆ ๆ อย่าได้สิ้นเปลืองทรัพยากรของชาติบา้ นเมืองเลย” ตู๋กู
ซิงหลันกดจุดเหริ นจงใต้จมูกจนผิวแดงเป็ นปื้ นขึ้นมา ในที่สุดก็
สามารถหายใจได้สะดวกขึ้น
นางแกล้งทาเป็ นไม่เห็นสายพระเนตรเหยีย่ วของเจ้าลูกชาย แต่มอง
ตรงไปยังร่ างของเต๋ อเฟยแทน “ย่าห์ เราคงจะดูถูกความงามของ
ตนเองเกินไปเสี ยแล้ว คิดไม่ถึงว่าในสายตาของพวกเจ้าเราจะงดงาม
จนน่าตื่นตะลึงถึงเพียงนี้…..”
คนพวกนี้ช่างยุง่ ยากเสี ยจริ ง ๆ ทาอะไรสักอย่างเป็ นต้องอ้อมค้อม
วุน่ วาย มาบอกว่าเจ้าของร่ างเดิมนี้ยอมแต่งกับอดีตฮ่องเต้เพื่อจีเย่ว์
หากว่ามีความรักความผูกพันลึกซึ้งถึงเพียงนั้น ขอเพียงจีเย่วอ์ อก
ปาก มีหรื อที่นางจะไม่ช่วยเขาล่องลวงจีเฉวียน ควบคุมจีเฉวียน
เอาไว้ในมือ
ไม่เห็นจาเป็ นจะต้องใส่ ยาให้กินเพื่อปี นเตียงอะไรให้มากความ
เต๋ อเฟย “? ” นางคิดไม่ถึงเลย ว่าทาไมนังแพศยานี้ถึงได้มีท่าที
ตอบสนองเช่นนี้?
ไม่คิดจะรักษาหน้าตาก็แล้วไปเถอะ แต่วา่ นางยังสามารถไร้ยางอาย
ได้ถึงระดับนี้เลยหรื อ?
นางรักอี้อ๋องลึกซึ้งเสี ยขนาดนั้น เมื่อรู ้วา่ ตนเองถูกคนรักวางแผน
หลอกลวง ไม่ใช่วา่ สมควรที่จะโกรธเกลียดด้วยความชอกช้ าหรอก
หรื อ?
แต่พอเห็นว่าใบหน้าของนางซีดขาว เต๋ อเฟยก็คาดเดาได้วา่ นางคงจะ
กาลังเสแสร้งอยูเ่ ป็ นแน่
” งดงามจนน่าตื่นตะลึงแล้วมีประโยชน์เช่นไร? ในเมื่อลูกชายข้า เขา
ตาบอด! ” ตู๋กซู ิงหลันพูดอย่างจริ งจัง “เจ้าดูให้ดีสิ ฮ่องเต้แห่งต้าโจว
ของพวกเรา ใช่วา่ เป็ นคนที่ถูกความงามล่อลวงเอาง่าย ๆ หรอก
หรื อ? ทาไมพวกเจ้าถึงได้ประเมินฝ่ าบาทต่าไปถึงเพียงนี้? “
เจ้าหนุ่มนี่ไม่เพียงตาบอด แต่ยงั เป็ นบุรุษเหนือบุรุษ เป็ นเพชฆาตที่
ทาร้ายเหล่าสตรี เยาว์วยั โดยเฉพาะ
“เจ้าไม่รู้หรื อว่า ในสายตาของฝ่ าบาทแล้ว เราอัปลักษณ์ถึงขนาดไม่
ควรชายตาแลด้วยซ้ า? “
ว่าแล้ว นางก็ไม่ลืมหันไปดึงชายฉลองพระองค์ของจีเฉวียน ทูลถาม
อย่างจริ งจังว่า “ลูก ….ฮ่องเต้ เจ้าว่าจริ งหรื อไม่? “
สตรี ผนู ้ ้ ี ความสามารถในการพูดจาเหลวไหลจนคล้ายเป็ นจริ งเป็ นจัง
ยิง่ ทียงิ่ ทาได้ลื่นไหลหมดจด นางใช้ดวงตาข้างไหนมามองดูวา่ เขาตา
บอดกัน?
ดูดวงตาของเขาให้ดี ๆ ใต้หล้านี้จะมีบุรุษสักกี่คนที่มีดวงตาสุ กใส
เป็ นประกายงดงามกว่าเขาได้อีก?
คนที่กล้าพูดว่า เขาซึ่งเปี่ ยมล้นด้วยพระอัจฉริ ยภาพแห่งกษัตริ ยน์ ้ ีตา
บอด ก็พ่ งึ จะมีนางเป็ นคนแรก
ผ่านไปนานพักใหญ่ ถึงได้เห็นว่าฮ่องเต้ทรงกลืนความโกรธกริ้ วนั้น
ลงไป หันมายิม้ ให้นางอย่างน่าสะพรึ ง “เจ้างดงามมาก เราไม่ได้ตา
บอด”
ตู๋กซู ิงหลัน “……..” เชี่ยย เจ้าหนุ่มนี่ทาไมไม่ทาตามทฤษฎีเล่า!
ก่อนหน้านี้ไม่ใช้เอาแต่ต้ งั แง่รังเกียจนางหรอกหรื อ?
ทาไมจะต้องมาขัดขากันต่อหน้าเต๋ อเฟยด้วย จะสร้างความเกลียจชัง
ไปถึงไหน?
เต๋ อเฟยรู ้สึกหน้าชาไปอย่างบอกไม่ถูก ประเด็นสาคัญในตอนนี้
ไม่ใช่วา่ พวกเขาควรจะรี บเรี ยกตัวอี้อ๋องมาสอบถามหรอกหรื อ?
“ไทเฮา ขออย่างได้คิดเบี่ยงเบนหัวข้อ คาถามของเราเมื่อครู่ เจ้ายัง
ไม่ได้ตอบตามตรง ” จีเฉวียนปล่อยให้นางกุมชายแขนฉลอง
พระองค์ไว้ สองเนตรเพ่งมองนาง “อี้อ๋อง จะเรี ยกมาหรื อไม่? “
สตรี ผนู ้ ้ ี คิดจะเสแสร้งแกล้งทาเป็ นโง่เขลาให้ผา่ นด่านไป
“แล้วแต่พระองค์รับสัง่ เถอะเพคะ พระองค์ทรงเป็ นผูค้ รองแคว้น
เรี ยกหรื อไม่เรี ยกมาก็ตามแต่พระประสงค์ สาหรับหม่อมฉันแล้ว
เรื่ องนี้ไม่สาคัญอีกต่อไป ขอเพียงฝ่ าบาททรงเห็นว่าหม่อมฉัน
บริ สุทธิ์ หม่อมฉันก็พอใจแล้ว
จีเฉวียนยกยิม้ มุมปาก มองดูจุดเหริ นจงที่นางกดจนแดง สตรี ผนู ้ ้ ีท้ งั ที่
ตนเองต้องเจ็บปวดทรมานอย่างหนัก แต่ยงั จะคิดปกป้องจีเย่วอ์ ยูอ่ ีก
นางกล่าวแล้วก็ ถวายบังคมต่อเขาครั้งหนึ่ง “หากว่าไม่มีเรื่ องอื่นอีก
หม่อมฉันขอทูลลาแล้ว”
อาการเจ็บหัวใจจากเจ้าของร่ างเดิมยังไม่ดีข้ ึนสักเท่าไหร่ หากรี รอ
ต่อไปคงไม่ดี นางควรรี บกลับไปจัดการดูแลตนเองเสี ยหน่อย
บางทีนี่อาจเป็ นเพราะว่าในร่ างยังมีดวงจิตของร่ างเดิมหลงเหลืออยู่
ถึงได้ทาให้นางรู ้สึกทรมานถึงเพียงนี้
อย่างไรวันนี้กไ็ ด้พิสูจน์ความบริ สุทธฺ ์ต่อหน้าฮ่องเต้แล้ว ก็ถือว่าที่มา
วันนี้ไม่ได้เสี ยเปล่า
ส่ วนเรื่ องที่เหลือ เจ้าฮ่องเต้สุนขั คงจะไปไล่สืบให้ชดั เจน ในเมื่อนาง
ไม่ได้ชอบจีเย่ว์ ก็ไม่จาเป็ นต้องกังวล
พอนางพึ่งจะหมุนตัว ยังไม่ทนั จะได้กา้ วเท้าออกจากประตูใหญ่
ตาหนักเย็น ก็เห็นจีเย่วท์ ี่งดงามดุจจันทร์กระจ่างซึ่งไม่รู้วา่ อยู่ ๆ มา
จากที่ใดกันยืนอยูท่ ี่นนั่
ใต้แสงจันทร์สกาว สายลมโชยโบกโบยชายเสื้ อ เส้นผมยาวสลวย
ของเขาก็พลิ้วอยูใ่ นสายลม ภาพลักษณ์ประดุจเทพเซียน งดงามจน
ทาให้ผคู ้ นวิญญาณหลุดลอย
ดูท่าทางของเขาคงจะรี บรุ ดมาดุจลมหอบหนึ่ง ตามไรผมชื้นไปด้วย
เหงื่อบาง ๆ ชั้นหนึ่ง ทันทีที่ได้เห็นตู๋กซู ิงหลัน ในทันใดนั้น ใบหน้า
หมดจดดุจดวงจันทร์กค็ ลี่ยมิ้ ออกมา
แต่รอยยิม้ นั้น ทันทีที่เห็นดวงหน้าซีดขาวของตู๋กซู ิงหลันก็พลันแข็ง
ค้างเสี ยแล้ว
เดิมที่ต๋ ูกูซิงหลันพยายามกดอาการเจ็บหัวใจของเจ้าของร่ างเดิมไว้
แต่พอได้เห็นหน้าอี้อ๋องเข้าเท่านั้น ความเจ็บปวดที่พยายามข่มไว้ก็
ปะทุออกมา
ในทรวงอกของนางเจ็บปวดทรมาน ลาคอหวานวูบ นางก็กระอัก
โลหิตออกมาคาโตโดยทันที
เสี ยงกระอักอวกด้วยความเจ็บปวดมากมายดังยาวนาน
ดวงหน้าที่ซีดขาว แดงฉานไปด้วยรอยเลือด
ย่าห์ เจ้าของร่ างเดิมหัวใจสลายจริ ง ๆ ด้วย! เรื่ องอื่นใดก็ไม่
กระทบกระเทือนนางได้ มีแต่เรื่ องของจีเย่วท์ ี่พอแตะถูกก็แตกสลาย
ช่างเป็ นพวกไม่ใช้สมองจริ ง ๆ เต๋ อเฟยพูดอะไรออกมาก็เชื่อถือ
หมดเลยหรื อไง?
ตู๋กซู ิงหลัน “…..” หมอหลวงซุนละ ข้ายังพอจะไหวอยูใ่ ช่ไหม รี บ ๆ
มาฝังเข็มให้ขา้ สักสองจึกด่วน!
” หลัน…..ไทเฮา! ” สี หน้าจีเย่วเ์ ปลี่ยนเป็ นซีดขาว ใช้ขาข้างที่ไม่ได้
บาดเจ็บ รี บวิ่งเข้ามาพยุงนาง
ฝ่ ามือใหญ่น้ นั กอบกุมข้อมือของนางเอาไว้แน่น สี หน้าทั้งกังวลและ
เจ็บปวด เลือดของนางไหลอาบบนหลังมือของเขา สี แดงที่อุ่นร้อน
นัน่ ทาให้หวั ใจของเขาสัน่ สะท้าน
“ท่านเป็ นอะไรไป? อย่ากลัวนะ……ข้าอยูน่ ี่” จีเย่วก์ อดนางไว้
เตรี ยมจะพานางไปสานักแพทย์หลวง
ตอนที่ 95 ความรักพรากชีวติ
จีเย่วเ์ องก็พ่ งึ จะฟื้ นขึ้นมาในตาหนักของพระสนมมารดา พอได้ยนิ
ว่าหลันเอ๋ อร์กลับวังมาแล้ว ก็รีบรุ ดจะมาหานาง
ตู๋กซู ิงหลันจดจ้องเขาเขม็ง นางอยากจะเตะไอ้คนรักเก่าผูน้ ้ ีให้สุด
แรง เอาให้ข้ ึนสวรรค์ไปเลย
นางปัดมือของเขาทิ้งไป ใช้นิ้วโป่ งกดลงบนจุดเหริ นจง
ตายแน่ ๆ ! จะช้าเร็ วมีหวังโดนเจ้าคนรักเก่าผูน้ ้ ีทรมานจนตาย
นางพึ่งจะยกมือขึ้น ก็เห็นจีเฉวียนเสด็จออกมาจากในตาหนัก สาว
พระบาทเพียงไม่กี่กา้ วก็เข้ามาคว้าตัวนางจากอ้อมอกของจีเย่วไ์ ป ใช้
ชุดคลุมมังกรทองของตนเองห่อตัวนางไว้
เขารู ้อยูแ่ ล้ว ว่าตู๋กซู ิงหลันเดิมทีกร็ ักจีเย่วม์ าก แต่คิดไม่ถึงว่า เข้าวัง
มานานถึงเพียงนี้ ความรักของนางยังลึกซึ้งไม่เสื่ อมคลาย
เพียงแค่ได้ยนิ ว่าจีเย่วห์ ลอกใช้นาง ก็เจ็บปวดใจจนกระอักเลือด!
เขาเอาตัวตู๋กูซิงหลันที่คลุมชุดมังกรมาอุม้ ไว้ในอก ทอดพระเนตรดูด
วงหน้าที่ซีดขาวอย่างไร้ที่เปรี ยบของนาง ริ มฝี ปากราวกลีบดอกไม้
นั้นอาบไปด้วยเลือด ก็ทรงกริ้ วจัดแทบอยากจะประทานพระหัตถ์
ตบนางให้ตายไปเสี ย
กฎระเบียบในพระราชสานักต้าโจวถูกนางทาเสี ยเละเทะป่ นปี้
หมดแล้ว เป็ นถึงไทเฮากลับยังเฝ้าคิดถึงแต่ลูกเลี้ยงของตนเอง!
สมควรประหารสักพันหมื่นดาบตั้งแต่แรก! ให้ลงนรกไปขอสานึก
โทษกับอดีตฮ่องเต้เสี ยพร้อม ๆ กับจีเย่ว!์
แต่พอเห็นดวงตาของนางที่น้ าริ นไหลทั้งสองข้าง เขาก็ตดั ใจทาไม่
ลง

“ฝ่ าบาท~ หม่อมฉันเดิมทีกม็ ีโรคหัวใจอยูแ่ ล้ว นี่ไม่ใช่วา่ ถูกโยซื่อ


(尤氏= สตรี แซ่โยที่แต่งงานแล้ว ฐานะเป็ นหญิงชาวบ้าน
ธรรมดา) ยัว่ โทสะเสี ยจนกาเริ บหรอกหรื อ? พระองค์ทรงพระทัยดี
เรี ยกหมอหลวงซุนมารักษาสักหน่อยได้หรื อไม่? ” ตู๋กูซิงหลันอยูใ่ น
อ้อมแขนของเขาไม่กล้าขยับตัววุน่ วาย ดวงตาดอกท้อทั้งสองข้าง
เปี ยกน้ าตาจนชุ่ม แม้แต่ขนตายาวหนาก็มีหยดน้ าตาเกาะรางเม็ด
ไข่มุก
น้ าเสี ยงของนางทั้งเบาทั้งอ่อนล้า ดูไปแล้วน่าสงสารจับใจ
โหยวหนิง “……..” นังสาระเลวนี้ช่างรู ้จดั ปั ดสวะนัก
“ในเมื่อยังมีแรงพูดจา ดูท่ายังไม่ตายไปได้” จีเฉวียนอุม้ ตู๋กูซิงหลัน
เอาไว้ หากเชื่อคาพูดผีสางของนาง เขาก็คงจะโง่เต็มที สตรี ที่
สามารถพาสองบุรุษตัวโตสองคนออกมาจากสุ สานได้ มีโรคหัวใจ
กับผีนะสิ
นางไม่ทาให้โหยวหนิงโกรธจนบ้าตายก็ถือว่าดีมากแล้ว โหยวหนิง
หรื อจะทาให้นางมีโทษะจนกระอักเลือดได้?
โกหกได้โดยไม่ตอ้ งมีบทร่ างเลยนะ!
” หากยังไม่รีบรักษาคงต้องตายจริ งแน่” ตู่กซู ิงหลันดึงแขนฉลอง
พระองค์ไว้ นางพยายามข่มลมหายใจของตนเองให้สงบ วันนี้เดิมที่
นางคิดจะจัดการเรื่ องนี้ให้จบเรี ยบร้อย แต่คิดไม่ถึงกลับถูก
ความรู ้สึกของเจ้าของร่ างที่มีต่อจีเย่วส์ กัดหนทางเสี ยแล้ว
เพียงแค่กระอักเลือดครั้งเดียวก็มึนงงไปหมด หัวใจเจ็บปวดราวถูก
เข็มแทงเข้าไป
อ้อมแขนของจีเย่วว์ า่ งเปล่า หัตถ์ของเขายังเปื้ อนคราบโลหิ ตของตู๋กู
ซิงหลันอยูเ่ ลย หัวใจของเขากาลังสัน่ สะท้าน ยิง่ พอได้ยนิ ว่า ‘จะตาย
แล้ว’จากนาง ก็ยงิ่ ทาให้เลือดในกายทั้งหมดของเขาเย็นวูบ
แต่ขณะนั้นเอง โหยวหนิงก็ติดตามออกมา พอเห็นจีเย่วท์ ี่ดูเหมือน
วิญญาณหลุดลอยไปแล้ว ก็ยกยิม้ ขึ้น “อี้อ๋องเพคะ ช่างพอดิบพอดี
เชียว ตอนนี้นางได้รู้แล้ว ว่าเรื่ องที่นางปี นเตียงมังกรนั้น เป็ น
พระองค์รับสัง่ ให้หม่อมฉันไปทา แล้วพระองค์จะยังต้องเสแสร้งไป
ทาไมอีกละเพคะ? “
“เจ้าพูดอะไร? ” จีเย่วส์ าดสายตาเป็ นประกายไปที่นาง

“อุย้ ~ อย่าทรงทาเช่นนี้สิเพคะ ข้ากลัวนะ” โหยวหนิงทาน้ าเสี ยง


อ่อนแอพลางถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “ฝ่ าบาททรงพระปรี ชา ต่อให้ขา้
ไม่สารภาพออกไป จะช้าหรื อเร็ วก็ตอ้ งทรงสื บทราบจนได้ กระดาษ
ไม่อาจห่อไฟฉันใดก็ฉนั นั้น”
“ไทเฮาทรงกระอักพระโลหิต ก็เพราะถูกพระองค์ทาร้ายจิตใจนะสิ
พระองค์นะ จะอย่างไรก็ไม่สมควรจะไปหลอกใช้จิตใจของสตรี ที่มี
ใจผูกพันพระองค์เช่นนี้
“เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใดกัน! ” จีเย่วท์ รงกริ้ วดุจไฟลุกท่วมฟ้า เขา
เสด็จไม่กี่กา้ วก็เข้ามาใกล้โหยวหนิงอย่างรวดเร็ ว ยืน่ หัตถ์ไปคว้า
สาบเสื้ อของนาง “เป็ นผูใ้ ดใช้ให้เจ้ามาให้ร้ายข้าผูเ้ ป็ นอ๋ องกันแน่? “
“อ๋ อ ให้ร้ายหรื อ? ” โหยวหนิงหัวเราะเสี ยงเย็น ใช้ปลายนิ้วลูบไล้
แหวนหยกขาวในนิ้วโป้งช้า ๆ “หากไม่ใช่ท่านยังจะเป็ นใครไปได้
อีก? แม้แต่ไทเฮายังทรงเชื่อเลย ดูเลือดที่กระอักออกมาสิ ฮิ ๆ ๆ
…….ช่างบาดตาบาดใจนัก”
วันนี้ช่างสมใจนางนัก กระอักเลือดมากมายเช่นนี้ ดูท่านังแพศยาตู๋กู
ซิงหลันนัน่ มีหวังได้รับบาดเจ็บภายในอย่างหนักแน่?
เฮอะ ๆ ……ทาชัว่ ก็ตาย ๆ ไปเสี ย ช่างสมควรแล้ว
จีเย่วม์ องดูแหวนหยกขาวในนิ้วมือของนาง สายตาของเขามีแต่
โทสะคุกรุ่ นขึ้นมา ราวกับมีไอเย็นของน้ าแข็งกาจายออกมา เขากา
หมัดแน่นขึ้นเรื่ อย ๆ เครี ยดขึงอยูเ่ ป็ นนานยังไม่อาจปล่อยวางได้
จีเฉวียนโอบอุม้ ตู๋กซู ิงหลันไว้ สายพระเนตรหงส์น้ นั เหลือบมองไป
ทางเขาอย่างเย็นชา “อี้อ๋อง โยซื่อใส่ ความเจ้าจริ งหรื อไม่? “
ในเมื่อเขารี บรุ ดมาเช่นนี้ เรื่ องนี้กจ็ ะได้ตดั จบไปเสี ย
จีเย่วม์ องมาที่พระองค์ และมองดูต๋ ูกซู ิงหลันในอ้อมพระหัตถ์ ใน
หน้าของนางซีดขาวราวแผ่นกระดาษ ดูอ่อนแอเปราะบางราวกับบุป
ผาหยก หากใช้กาลังเพียงเล็กน้อยก็อาจแตกสลายไปทันที
“กระหม่อมขอร้องฝ่ าบาท โปรดรับสัง่ ให้หมอหลวงรี บมาตรวจ
รักษานางก่อน” เขาปล่อยมือจากโหยวหนิง คุกเข่าลงข้างหนึ่งเบื้อง
พระพักตร์จีเฉวียน
จีเฉวียนสายพระเนตรเย็นชาขึ้นยิง่ กว่าเดิม “เราคิดว่า ไทเฮาจะต้อง
อยากทราบคาตอบแน่ หากว่าเจ้าไม่พดู ให้ชดั เจน บาดแผลของนาง
คงไม่อาจรักษาหาย”
ตู๋กซู ิงหลัน “………” ช่างสมกับเป็ นฮ่องเต้ที่พระทัยดานัก!
จีเย่วก์ าหัตถ์ซ่อนเอาไว้ในแขนฉลองพระองค์ เขาคิดจะชิงเอาตู๋กู
ซิงหลันในอ้อมพระหัตถ์กลับมา พานางไปให้ไกลจากที่นี่ ตามหา
หมอที่ดีที่สุดมารักษานาง
แต่เมื่อสบตากับดวงตาดอกท้อที่เย็นชาดุจน้ าแข็งคู่น้ นั หัวใจของเขา
ก็ราวกับจับตัวเป็ นก้อนน้ าแข็งขึ้นมา
นางแค้นเขา เกลียดเขา แม้แต่…….จะมองเขาอีกนิดก็ยงั ไม่ยนิ ดีแล้ว
เขากัดฟันกรอด หัวใจราวกับถูกคนแทงทะลุเป็ นพันเป็ นร้อยแผล
เขารู ้ดี หลันเอ๋ อร์ยงั คงห่วงใยอาวรตัวเขา ไม่เช่นนั้นคงไม่พาเขาออก
จากสุ สานเย่ฮูหยินมาด้วย
ทั้งยังอุม้ เขาออกมาอีกตังหาก!
และเพราะเขาคิดว่านางยังคงเหลือโอกาสให้เขา เขาคิดว่าพวกเขายัง
สามารถกลับไปเป็ นเหมือนเมื่อก่อนได้ ขอเพียงนางยินนอม เขาก็ไม่
สนใจสิ่ งใดอีก
เพราะฉะนั้น ทันทีที่เขาได้สติข้ ึนมา ก็มาหานางเป็ นอันดับแรก มา
หานางด้วยความยินดีปรี ดาอย่างที่สุด
แต่วา่ ตอนนี้ ………
“อี้อ๋อง เราจะถามเป็ นครั้งสุ ดท้าย เรื่ องนี้เป็ นฝี มือเจ้าหรื อไม่? ” จี
เฉวียนจดจ้องเขาอย่างไร้ความปราณี โอบอุม้ ตู๋กซู ิงหลันเอาไว้แน่น
โดยไม่ยอมผ่อนคลายแม้แต่นอ้ ย
พระหัตถ์ที่พนั ผ้าโปร่ งเอาไว้แน่น เพราะต้องรับน้ าหนักมากเกินไป
บาดแผลจึงปริ แตก พระโลหิตก็ซึมออกมาจนแดงฉาน
จีเย่วค์ ุกเข่าข้างเดียวอยูบ่ นพื้น รู ้สึกว่าเลือดทั้งตัวจับแข็งจนหนาวสัน่
พอมองดูใบหน้าของตู๋กซู ิงหลันที่ยงิ่ ทียงิ่ ซีดขาว เขาก็ตอ้ งปิ ดตาลง
ตอบออกมาเบา ๆ คาหนึ่งว่า “ใช่”
“ไทเฮา เจ้าได้ยนิ ชัดเจนแล้วไหม? ” จีเฉวียนหันมาสอบถามสตรี ใน
อ้อมแขนทันที
ตู๋กซู ิงหลันเบื้อนหน้าหนีไป นางไม่คิดจะเหลือบมองจีเย่วแ์ ม้สกั นิด
เดียว คาตอบว่า “ใช่” คานั้น แทบจะทาให้นางต้องกระอักโลหิ ตสด
ๆ ออกมาอีกครั้ง
นี่เป็ นครั้งแรกที่นางรู ้สึกได้ถึงจิตวิญญาณของเจ้าของร่ างเดิมที่
หลงเหลืออยู่ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับร่ างกายราวกับคาสาปหลอกหลอน
ที่เกือบจะพรากชีวิตนาง
ความรักครั้งนี้มาเพื่อพรากชีวิต!
พวกเขาริ อาจจะมีความรักก็แล้วไปเถอะ แต่ไยต้องพาเอานางตกที่
นัง่ ลาบากไปด้วย
จีเฉวียนทอดพระเนตรดูท่าทางของนางที่อ่อนแอลงกระทัง่ ไม่คิด
แม้แต่จะพูดจา ก็ไม่คิดจะทาให้นางต้องลาบากใจต่อไป โอบอุม้ นาง
ไปทางพระตาหนักตี้หวั
แต่ก่อนที่จะจากไป เขาไม่ลืมจะออกคาสัง่ ว่า “กักบริ เวณอี้อ๋องใน
ปี กตะวันตกของตาหนักเย็น หากไม่มีคาสัง่ จากเราไม่อาจออกไป
ได้”
จีเย่วก์ มุ อกไว้ กัดริ มโอษฐ์จนโลหิตไหล “กระหม่อม …….รับพระ
บัญชา”
รอจนกระทั้งจีเฉวียนทรงนาตู๋กซู ิงหลันเสด็จจากไปไกลแล้ว
โหยวหนิงถึงได้หนั มายิม้ เย็นให้กบั จีเย่วท์ ี่คุกเข่าอยูบ่ นพื้น “อี้อ๋อง
ต้องเลือกระหว่างความกตัญญูและความรัก ช่างทาให้ขา้ ได้เปิ ดหู
เปิ ดต่างเสี ยจริ ง ๆ …..น่าเสี ยดายนะ นางไม่มีวนั ให้อภัยท่านแล้ว
แถมท่าน ยังต้องอยูใ่ นตาหนักเย็นแห่งนี้เป็ นเพื่อนข้า ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ

โหยวหนิงหัวเราะแล้ว นางหัวเราะจนน้ าตาไหลออกมาเป็ นทาง
ตอนที่ 96 เพราะฉะนั้นแล้วประเด็นก็คือ?
ก่อนจะเข้าวังมา นางเคยคิดหาหนทางที่จะได้ใกล้ชิดอี้อ๋องมาเป็ น
ร้อยเป็ นพันครั้ง แต่คิดไม่ถึงว่า จะกลายเป็ นวิธีน้ ี ให้เขากลายเป็ น
นักโทษในตาหนักเย็น
ตาหนักเย็นหลังนี้ช่างยอดเยีย่ มนัก ก่อนนี้สามารถคุมขังไทเฮา
ตอนนี้สามารถจองจาท่านอ๋ อง แม้ตวั นางจะต้องอาศัยอยูใ่ นนี้ก็
นับว่าไม่เสี ยเปรี ยบแล้ว
นี้เป็ นครั้งแรกที่สายพระเนตรของจีเย่วส์ าดไปสังหารออกไป ไอสัง
สารนี้ทาให้หวั ใจของโหยวหนิงกระตุกไปเลยทีเดียว
เขาลุกขึ้นมา เก็บซ่อนสี หน้าที่เจ็บปวดไว้ เหลือเพียงความเย็นชาไร้ที่
เปรี ยบ “กรรมใดใครก่อ โหยวหนิง เจ้าต้องไม่ตายดี ข้าผูเ้ ป็ นอ๋ องจะ
คอยดู”
โหยวหนิงชงักไปครู่ หนึ่ง คาเรี ยก ‘โหยวหนิง’ นี่ออกจากปากของ
เขาช่างน่าฟังเหลือเกิน
นี่เป็ นครั้งแรกที่นางได้ยนิ เขาเรี ยกชื่อตนเอง ฟังแล้วช่างเสี ยดสี ยงิ่
นัก
นางหัวเราฮิ ๆ ฮะ ๆ “ไม่ตายดีหรื อ? เช่นนั้นก่อนตายข้าจะต้องลาก
ใครไปด้วยดีล่ะ”
นางพูดแล้วก็ยกแหวนหยกขาวบนนิ้วขึ้นมา “ท่านยินยอมให้ตนเอง
ต้องรับโทษมหันต์ แต่กต็ อ้ งปกป้องคนผูน้ ้ นั ไว้ให้ได้นิ”
จีเย่วห์ รี่ เนตรมอง ยิง่ มองนางไอสังหารก็ยงิ่ เข้มข้นขึ้น
“อี้อ๋องเพคะ ทางที่ดีท่านสวดภาวนาให้ขา้ อยูร่ อดปลอดภัยจะดีกว่า
มิเช่นนั้นหากว่าวันใดข้าเกิดเรื่ องขึ้น ผูท้ ี่ท่านคิดจะปกป้องคงไม่อาจ
อยูอ่ ย่างสบายได้อีกแล้ว”
โหยวหนิงเดินมาถึงข้างกายเขา พิจารณาดูพกั ตร์ที่งดงามดุจเทพ
เซียนนั้น เห็นบนใบหน้ายังมีรอยแผลที่ไม่จางหายไป ก็รู้สึกปวดใจ
ขึ้นมา นางยกมือขึ้น คิดจะลูบไล้รอยแผลนั้น
“ท่านอ๋ อง จากนี้ไป ขอเพียงท่านยินยอมอยูก่ บั ข้าในตาหนักเย็นนี้ ข้า
รับรอง ชัว่ ชีวิตนี้จะไม่มีทางให้ใครได้รู้ความจริ ง ผูท้ ี่ท่านคิดจะ
ปกป้อง ก็จะปลอดภัยไปชัว่ ชีวิตเช่นกัน”
จีเย่วป์ ัดมือที่ยนื่ มานั้นทิ้งไป ยกหัตถ์ตบหน้านางฉาดหนึ่ง ตบนี้
รุ นแรงถึงขนาดทาให้โหยวหนิงล้มลงไปบนพื้น
สิ่ งที่ทิ้งไว้ให้นางมีเพียงแววเนตรที่เปี่ ยมไปด้วยไอสังหารเท่านั้น
………………………………………………….
ในตาหนักตี้หวั ท่านหมอหลวงซุนที่มีแต่เหงื่อท่วมศีรษะกาลังจับ
ชีพจรให้ไทเฮา การจับชีพจรนี้น้ ียงั ไม่เท่าไหร่ แต่เขากลับพบว่าชีพ
จรหัวใจของนางบาดเจ็ยสาหัส
“ฝ่ าบาท ไทเฮาทรงไปประมือกับยอดยุทธ์ผใู ้ ดเข้า ไยจึงได้รับบาด
เจ็ยถึงเพียงนี้? ” ท่านหมอหวงซุนชักจะอดกลั้นไม่ไหวแล้ว ถึงแม้
ไทเฮาอยูใ่ นวังนี้อย่างไม่ราบรื่ นนัก แต่อย่างไรนางเป็ นเพียงสตรี
เยาว์วยั ผูห้ นึ่ง ผูใ้ ดกันที่ลงมือหนักเช่นนี้
“อารมณ์ไม่ได้ ถูกยัว่ โทสะมา ” จีเฉวียนทรงประทับนัง่ อยูด่ า้ นข้าง
ของตู๋กซู ิงหลัน “อย่าได้พดู ให้มากความ ไม่วา่ จะต้องใช้โอสถเช่น
ไร ก็จงรักษานางให้เรา”
หมอหลวงซุน “………” ในวังนี้ผทู ้ ี่สามารถทาให้ไทเฮาน้อยมี
โทสะได้ ก็น่าจะมีแต่ฝ่าบาทละมั้ง?
เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองดูฝ่าบาทนิดหนึ่ง
เรื่ องผึ้งพิษในครั้งก่อน เขาได้เห็นแล้วว่าฝ่ าบาททรงรังแกสาวน้อย
นางนี้เช่นไร ครั้งนี้ดูท่าจะเกินไปแล้ว!
เป็ นบุรุษตัวโตจะยอมสตรี ตวั น้อยเสี ยหน่อยไม่ได้หรื อ?
แม้ในใจจะขุ่นข้องอยูบ่ า้ ง แต่ความเคลื่อนไหวของเขากลับ
คล่องแคล่วว่องไว ทางหนึ่งเขียนใบยาอย่างรวดเร็ ว จากนั้นก็กล่าว
วาจาอย่างระมัดระวังว่า
“ฝ่ าบาท ไทเฮาทรงได้รับบาดเจ็บภายใน พระอาการค่อนข้างหนัก
หนา แม้จะมีโอสถช่วยเหลือยังคงต้องใช้เวลาสิ บวันครึ่ งเดือนถึงจะ
ดีข้ ึนได้ ในช่วงเวลาเช่นนี้พระนางไม่อาจได้รับความตระหนกตกใจ
ใด ๆ ได้อีก”
ครั้งที่แล้วตอนที่อยูใ่ นตี้หวั นี้ ไทเฮาทรงปั กเข็มใส่ พระองค์เองเป็ น
การช่วยเหลือเขาคราหนึ่ง ครั้งนี้กถ็ ือว่าเขาได้คืนหนี้น้ าใจนี้ให้แก่
นางแล้วกัน
จีเฉวียนไม่ตรัสอันใด พระพักตร์ดาคร่ าเครี ยดประหนึ่งก้นหม้อ
“ฝ่ าบาท….พระอาการบาดเจ็บของพระองค์ยงั ไม่หายดี ไม่สมควรมี
โทสะหรื อขยับพระองค์…” หมอหลวงซุนเปลี่ยนผ้าโปรงที่พนั แผล
บนพระหัตถ์พลางไม่ลืมกาชับอย่างละเอียดอีกครั้ง
“ไม่มีเรื่ องใดเจ้าก็ถอยไปได้แล้วไ ระหว่างที่เปลี่ยนผ้าพันแผล พระ
ขนงของฝ่ าบาทไม่คลายออกแม้แต่นอ้ ย แน่นอนว่าทรงเห็นว่าเขา
พูดพร่ าเพรื่ อไปแล้ว
หมอหลวงซุนปาดเหงื่อบนใบหน้าอยูส่ องสามครั้ง ก็ได้แต่ขยับก้น
ถอยออกไป
ตู๋กซู ิงหลันเหลือบมองดูเงาของหมอหลวงซุนคราหนึ่ง นางก็จดจา
ไว้วา่ ตนเองยังมีเรื่ องต้องไปสอบถามเขาอีกภายหลัง
นางนอนอยูบ่ นเบาะนุ่มเฉพาะองค์ของจีเฉวียน จากมุมของนางนี้
สามารถมองเห็นพระพักตร์ดา้ นข้างของจีเฉวียนที่โดดเด่นเกินใคร
เทียบ ดวงตาหงส์เปล่งประกาย พระเกศายาวดูนุ่มนวล แต่เมื่อทรง
หันกลับมามองนางสายพระเนตรก็เปี่ ยมไปด้วยประกายเหน็บหนาว
หลี่กงกงยังคงรี รออยูค่ รู่ หนึ่ง เขากาลังคิดจะออกปากขอพระกรุ ณา
แทนไทเฮาน้อย แต่กลับถูกสายพระเนตรราวคมดาบของฮ่องเต้สกัด
ไว้จนไม่กล้าขยับตัวแม้แต่นิดเดียว
“ออกไปเสี ย” ฮ่องเต้ตรัสเสี ยงเย็นคาหนึ่ง ทาให้หลี่กงกงแทบจะต้อง
ป่ ายปี นออกไปโดยไว
ก่อนที่จะออกไปเขายังไม่วายหันมาดูไทเฮาน้อยอีกสักครั้งสองครั้ง
ไทเฮาพะยะคะ ขอทรงโปรดรักษาพระองค์ดว้ ย~
แต่เมื่อเขาคิดดูให้ละเอียด นี่นบั เป็ นครั้งแรกที่ฝ่าบาททรงยินยอมให้
สตรี ผหู ้ นึ่งนอนลงบนเตียงมังกรของพระองค์
ฝ่ าบาท…..คงจะไม่ทรงทาให้ไทเฮาต้องทรงลาบากพระทัยมาก
เกินไปละมั้ง?
เมื่อเขาออกไปแล้ว ทัว่ ทั้งพระตาหนักตี้หวั ก็เงียบสงัดลง เงียบเสี ย
จนตู๋กูซิงหลันแทบจะได้ยนิ เสี ยงลมหายใจของจีเฉวียนเอง
เขาประทับอยูด่ า้ นข้างของเบาะอ่อน ทอดพระเนตรมองดูใบหน้า
น้อย ๆ ที่งดงามของนางซึ่งปราศจากสี เลือดใด ๆ พระขนงก็ขึงเป็ น
เส้นตรง แววพระเนตรคุกรุ่ นขึ้นมาราไร
ตู๋กซู ิงหลันงงงันไปชัว่ ขณะ ไอ้หนุ่มนี่ ตกลงกาลังโกรธเรื่ องอะไร
อยู?่
นางในตอนนี้ไม่มีกาลังจะไปงัดข้อกับเขา แต่วา่ เมื่อถอยห่างจากจี
เย่วม์ าได้ ความรู ้สึกที่คงเหลืออยูข่ องร่ างเดิมก็สงบลงไม่นอ้ ย แต่ผล
จากการกระอักโลหิตก็ยงั ทาให้นางรู ้สึกทรมานมากอยูด่ ี
แต่วา่ จีเฉวียนกลับเอาแต่จดจ้องนางไม่วางตา สายพระเนตรที่ราวกับ
จะแผดเผานางทาเอานางไม่กล้าขยับตัวแม้แต่นอ้ ย
ยิง่ นางเขยิบเข้าไปด้านในของเบาะอ่อนเท่าไหร่ เขาก็ยงิ่ เขยิบตามมา
เท่านั้น จนกระทั้งวรองค์กายาของเขาต้อนนางเข้ามุมแล้ว ทั้งยังใช้
สายพระเนตรหงส์น้ นั ไล่ติดตามนางมาอีก
ลมหายใจของเขาเป่ ารดใบหน้านาง จนร้อนระอุข้ ึนมาทั้งยังสร้าง
ความกระอักกระอ่วนแก่นางอีกด้วย
เดิมทีต๋ ูกูซิงหลันคิดจะเบนหน้าหนีไป แต่วา่ ใบหน้าของเขาน่าดู
เกินไปแล้ว
นางไม่เคยได้มองเขาแบบใกล้ ๆ เช่นนี้มาก่อน
จีเฉวียนงดงามยิง่ นัก เป็ นดัง่ เทพเซียนชั้นสู งบนภูผา คิ้ว ดวงตา ริ ม
ฝี ปาก จมูก งามไร้ที่เปรี ยบราวกับเทพเจ้าวาดให้ แม้แต่เส้นคิ้วของ
เขายาวงามเป็ นระเบียบ ทั้งคมชัด จอนผมก็งดงาม อีกทั้งยังมีกลิ่น
องอาจหยิง่ ผยองของกษัตริ ย ์
ตู๋กซู ิงหลันมองอยูเ่ นิ่นนาน ที่สุดค่อยกลืนน้ าลายลงไปอึกหนึ่ง น่า
เสี ยดาย….ในโลกก่อนนางไม่เคยเรี ยนวิชาจาพวกดึงธาตุหยาง
บารุ งหยิน ไม่เช่นนั้นละก็หากว่าสามารถตักตวงธาตุหยางจากเจ้า
ฮ่องเต้สุนขั นี้มาบารุ งร่ างกายตนเองได้กค็ งจะดี
ท่าทางของนางที่ใช้ท่อนแขนเช็ดน้ าลายอยูน่ ้ นั มีแต่จะทาให้จีเฉวียน
เข้าใจว่านางกาลังหวาดกลัว เมื่อทอดประเนตรมองดูดวงตาดอกท้อ
ที่วิบวับของนาง ความกรุ่ นโกรธก็มอดดับลงช้า ๆ ผ่านไปอีกครู่
ใหญ่จึงได้ยนิ เขาตรัสออกมาว่า
“เจ้าเองก็ได้ยนิ ชัดแล้ว อี้อ๋องยอมรับด้วยตนเอง นับจากวันนี้เป็ นต้น
ไป ไม่อนุญาตให้ครุ่ นคิดถึงเขาอีก”
ตู๋กูซิงหลัน “หา? “
“ยังจะแสร้งโง่อีก? ” โทสะของจีเฉวียนที่พ่ งึ จะมอดดับไป ก็ถูกจุด
ขึ้นมาอีกครั้ง เขายืน่ ปลายพระหัตถ์ออกมาสองนิ้วเชยคางของนาง
ขึ้นมา “ตอนที่อยูใ่ นสุ สานของเย่วฮูหยิน เจ้าอุม้ เขา และแบกเราไว้ ก็
เท่ากับแสดงออกชัดเจนเลยว่า ในใจของเจ้าวางเขาเอาไว้ในตาแหน่ง
แรก”
ตู๋กูซิงหลัน “หือ? “
ไม่ใช่นะพี่ชาย….แบกท่านเพราะท่านตัวหนักกว่าจีเย่วต์ ่างหาก!
คนย่อมต้องอุม้ ของเบา แบกของหนักอยูแ่ ล้ว!
เพราะฉะนั้น…..ท่านไยต้องมาตั้งประเด็นเรื่ องนี้ดว้ ย? ประเด็น
สาคัญไม่ใช่วา่ ‘จีเย่วบ์ งการโหยวหนิง’ หรอกหรื อ? นี่ต่างหากที่เป็ น
ปัญหา
“ข้ารู ้แล้ว ครั้งหน้าจะต้องอุม้ ท่าน และแบกเขาแทน” นาน ๆ ทีต๋ ูกู
ซิงหลันจะยอมเชื่อฟังสักครั้ง
นางในตอนนี้กเ็ หมือนปลาบนเขียง แล้วแต่วา่ จีเฉวียนจะเชือดจะ
เฉือน ไม่อาจต่อกรได้แม้สกั น้อย
“ยังจะมีครั้งหน้าอีกหรื อ? ” พระหัตถ์ของจีเฉวียนใช้กาลังขึ้นมาบ้าง
สตรี ผนู ้ ้ ีไม่ได้รู้เลยว่า ประเด็นสาคัญนั้นอยูท่ ี่ใด!
ตอนที่ 97 หากไม่ อยากตาย ก็นอนลงให้ ดี ๆ
แต่เพราะเห็นนางที่ท่าทางจะเป็ นจะตายอยูร่ อมร่ อ เขาก็ไม่อาจหักใจ
ลงมืออามหิตได้
คางของตู๋กซู ิงหลันถูกเขาบีบจนเกือบจะเบี้ยวไปแล้ว นางจับมือของ
เขาเอามือไว้อุทรณ์เอา ๆ ว่า “ขอแค่ฝ่าบาทไม่หล่นไปในสุ สานอีก
ก็ยอ่ มไม่มีครั้งหน้าแล้ว”
พอประโยคนี้เข้าพระกรรณของจีเฉวียน เขาก็รู้วา่ สตรี นางนี้คิดว่าเขา
กาลังอาลัยสมบัติในสุ สานของเย่วฮูหยิน นางกลัวว่าเขาจะหวน
กลับไปขุดสุ สานอีก
ถึงแม้วา่ เขาจะคิดเสี ยดายอยูบ่ า้ งก็จริ ง
เขาไม่ตรัสตอบ ทั้งยังไม่ปล่อยมือ กลับเอาแต่จดจ้องมองนางอยู่
เช่นนั้น มองเสี ยจนตู๋กซู ิงหลันคิดว่าใบหน้านางมีกอ้ นทองงอกเงย
ออกมาหรื อไร
นางถอนใจเบา ๆ ครั้งหนึ่ง ก็เบือนหน้าหนีไป “ตอนนี้……เลยเวลา
เย็นมามากแล้ว หม่อมฉันควรจะกลับไปตาหนักเฟิ งหมิงได้แล้ว”
เพียงแค่นางขยับตัวเล็กน้อย หัตถ์อีกข้างของจีเฉวียนก็ยกขึ้นมาอย่าง
รวดเร็ ว คว้าใบหูของนางเอาไว้ สองพระเนตรข่มขู่นางอย่างเต็มที่
“หากไม่อยากตาย ก็นอนลงให้ดี ๆ “
ถึงขั้นกระอักเลือดออกมาเสี ยอย่างนั้นแล้ว ยังไม่รู้จกั นอนพักผ่อน
ให้สงบเสงี่ยม ทาไม หรื อยังจะคิดออกไปหาจีเย่วอ์ ีก?
ตู๋กซู ิงหลันได้แต่จายอมอย่างเงียบ ๆ ……นางเงยหน้าขึ้นมองจี
เฉวียน ทาไมถึงได้รู้สึกว่าวันนี้เขาดูแปลก ๆ ทั้งจับคางทั้งต้อนเข้า
มุม คิดว่าตัวเองเป็ นตัวเอกละครน้ าเน่าหรื อยังไง?
ชาติก่อนของเจ๊เจอพระเอกละครน้ าเน่ามองยังเยอะกว่าที่เจ้าเคยกิน
เกลือมาชัว่ ชีวิตเสี ยอีก
ประโยคต่อไปคงไม่ใช่วา่ ‘สาวน้อย เจ้าล่อลวงความสนใจของข้าได้
สาเร็ จแล้ว’ หรอกนะ?
พอคิดได้ถึงตรงนี้ นางก็เห็นเขาริ มฝี ปากแดงฉ่ าของเขาเข้ามาใกล้
เขายังไม่ทนั ได้ตรัสออกไป ก็ได้ยนิ ตู๋กซู ิงหลันส่ งเสี ยงดังอย่าง
จริ งจังว่า “ฝ่ าบาท หางตาท่านมีข้ ีตาติดอยู!่ “
จีเฉวียน “…….”
“หม่อมฉันพูดจริ ง ๆ นะ! เป็ นสี เหลือง ๆ เลย ก้อนใหญ่มาก! ช่วงนี้
พระองค์ทรงร้อนในใช่ไหม! ” ตู๋กซู ิงหลันเกรงว่าเขาจะไม่เชื่อ ก็รีบ
ยืน่ มือออกไปจะปัดให้
จีเฉวียนทางหนึ่งปัดมือของนางออกไป เขารี บหันหลังให้นางจัดแจง
ลูบตาตนเอง
สลบไปสามวันเต็ม ตื่นมาก็ลืมล้างหน้าไปเสี ย
ช่างสมควรตาย พอถูตาดูกม็ ีข้ ีตาหลุดออกมาก้อนหนึ่งจริ ง ๆ แถม
ยังแข็งมากด้วย สกปรกสุ ด ๆ !
เขาเสด็จลงจากเบาะอ่อน ทั้ง ๆ ที่ยงั หันหลังให้กบั นาง “เจ้านอนอยู่
นี่ให้เราแต่โดยดี หากว่าก้าววิ่งวุน่ วายแม้แต่กา้ วเดียว เราจะตัดขาเจ้า
ทิ้งเสี ย! “
ตรัสแล้วก็เสด็จออกจากตาหนักไปราวกับสายลมหอบหนึ่ง ทิ้งตู๋กู
ซิงหลันที่มีแต่สีหน้างงงวยเอาไว้
จนกระทัง่ ดึกดื่นมากแล้ว ก็ยงั ไม่เห็นเขากลับมา
ในพระตาหนักเคว้งคว้างว่างเปล่า เทียนก็ดบั ไปเสี ยแล้ว แถมยังไม่มี
ใครมาคอยดูแล
ตู๋กซู ิงหลันนอนพิงเบาะนุ่มอยูเ่ พียงลาพัง ในดวงตามีแววแจ่มใส
นางยืน่ มือออกมา ใจกลางฝ่ ามือมีหมอกดากลุ่มหนึ่ง ใจกลางหมอก
ดานี้คือหยกสรรพชีวิตนัน่ เอง
ในภพก่อนหน้า หยกสรรพชีวิตนี้เป็ นสิ่ งที่มีสญ
ั ญาผูกพันกับนาง
มันสามารถเข้าออกภายในร่ างกายของนางได้อย่างอิสระ คิดไม่ถึงว่า
ในโลกนี้ สัญญานั้นก็ยงั ไม่เสื่ อมลง
นางกาเศษหยกนั้นเอาไว้ ท่องคาถาออกมาหลายคา หมอกดาที่
กระจายอยูก่ ด็ ูดซึมกลับเข้าไปภายใน จากนั้นหมอกดานั้นก็กค็ ่อย ๆ
ไหลออกมาจากร่ างนางอีกครั้ง ก่อตัวเป็ นจิตวิญญาณดวงหนึ่ง
ตู๋กซู ิงหลันมองดูจิตวิญญาณที่เกือบจะโปร่ งใสนั้น ดวงจิตนั้นก็จอ้ ง
มองมาที่นาง ในสายตานั้นมีแววประหลาดใจจนยากจะเชื่ออยูด่ ว้ ย
“ที่แท้กเ็ ป็ นเช่นนี้นะเอง ” ผ่านไปครู่ หนึ่ง ตู๋กซู ิงหลันถึงได้เปิ ดปาก
กล่าวออกมา “เจ้าได้ทิ้งจิตใจส่ วนสุ ดท้ายเอาไว้ในร่ างกาย ทั้งหมด
นัน่ คือความคะนึงหาจีเย่ว”์
เมื่อได้ยนิ ชื่อจีเย่วส์ องคา ดวงจิตนั้นก็เกิดปฎิกิริยาขึ้นมา
นางจดจ้องมองตู๋กซู ิงหลัน ด้วยความเจ็บช้ า “ข้าวางเขาไม่ลง”
“หากว่าดวงจิตของเจ้ายังสามารถทนต่อร่ างนี้ได้ ข้าก็จะคืนร่ างนี้ให้
” ตู๋กซู ิงหลันบอกออกไป “สานักหุบเขาภูติของข้าแต่ไหนแต่ไรไม่
เคยกระทาเรื่ องยึดร่ างผูค้ น มาเป็ นของตนพวกนี้”
เรื่ องที่ขา้ มภพมาเข้าในร่ างนี้ ถือว่าเป็ นอุบตั ิเหตุ เดิมทีคิดว่าร่ างนี้
เพียงแต่ยงั มีความอาวรณ์หลงเหลืออยูเ่ ท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะยังมีเศษ
เสี้ ยวของดวงจิตหลงเหลืออยูด่ ว้ ย
ตอนนี้ชิ้นส่ วนของหยกสรรพชีวิตอยู่ ยิง่ ได้รู้ถึงการคงอยูข่ องนาง
แล้ว สิ่ งที่เป็ นของผูอ้ ื่น ย่อมสมควรคืนไปให้เจ้าของ
นี่คือนิสัยที่แท้จริ งของนาง
“ไม่….” ดวงจิตนั้นส่ ายศีรษะ “หากว่าเจ้าไม่มาที่นี่ละก็ ร่ างของข้าก็
คงจะตายไปแล้ว ดวงจิตของข้าก็คงไม่อาจแฝงอยูไ่ ด้จนถึงวันนี้ ยาม
นี้ เจ้าก็คือตู๋กซู ิงหลัน”
“ต่อให้เจ้าคืนร่ างกายให้ขา้ แต่วา่ ข้าก้ไม่อาจอยูต่ ่อไปได้อีกแล้ว”
“ข้าเพียงแต่………อาวรณ์ไม่อาจพรากจาก เจ้ายังไม่เคยมีรักแท้
ย่อมไม่อาจเข้าใจ”
ตู๋กูซิงหลัน “??? ” ทาไมจะต้องมาลงที่คนโสดเช่นนางด้วย? คนไม่
เคยกินเนื้อหมา ไม่ใช่วา่ จะไม่เคยเห็นหมาวิ่งเสี ยหน่อย ใครว่าข้าไม่
เข้าใจ!
” ข้ากับเขาเดิมทีสมควรเป็ นเนื้อคู่สวรรค์สร้างของกันและกัน น่า
เสี ยดายเพราะเหตุการณ์เปลี่ยนแผ่นดิน ข้ารู ้ดี ความหวังที่ยงิ่ ใหญ่
ที่สุดของเขาก็คือการได้ครองบัลลังก์น้ นั เขาขอร้องข้า ดังนั้นข้าจึง
ยินยอมอภิเษกกับอดีตฮ่องเต้ เพื่อสนับสนุนให้เขาได้สาเร็ จกิจการ
ใหญ่”
ตู๋กซู ิงหลันจับประเด็นสาคัญได้ในทันที ‘จีเย่วเ์ ป็ นคนเอ่ยปาก
ขอร้องเจ้าของร่ างเดิม’ เมื่อเป็ นเช่นนี้ เจ้าขอร่ างเดิมก็ไม่ได้แต่ง
ให้กบั อดีตฮ่องเต้อย่างหุนหันพลันแล่น
ถูกจีเย่วช์ กั จูงหรื อ?
“แต่วา่ ทาไมเขา….ต้องใช้วิธีการส่ งข้าไปขึ้นเตียงของฮ่องเต้องค์
ใหม่เช่นนี้ดว้ ย? “
“เจ้าก็รู้วา่ ใจของข้าไม่อาจสงบได้ ข้ารักเขามากมายขนาดไหน! “
ดวงจิตนี้ยงิ่ กล่าววาจา ก็ยงิ่ เกิดความอารมณ์ นางคุกเข่าลงตรงหน้าตู๋
กูซิงหลัน “ข้าเพียงอยากรู ้ ไยเขาต้องทากับข้าเช่นนี้! ขอท่านได้
โปรดช่วยข้าด้วย หากได้รู้ความจริ งข้าก็จะไม่ตอ้ งอาวรณ์อีก เมื่อ
สลายบ่วงกรรมนี้ได้ ต่อไปก็จะไม่รบกวนเจ้าอีกแล้ว”
ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกปวดฟันมากจริ ง ๆ วัน ๆ ต้องมาเจอเรื่ องเช่นนี้
เจ้าของร่ างเดิมมีรักลึกล้ ายิง่ กว่าชีวิตให้กบั จีเย่ว์ ส่ วนนางที่เป็ น
ส่ วนเกินไม่ได้ทนั ดูตาม้าตาเรื อก็มาเข้าร่ างนี้เข้าพอดี
หากว่าจีเย่วเ์ ป็ นบุรุษชัว่ ร้ายก็แล้วไป อย่างน้อย ๆ ตัวนางเองจะได้
ไม่ตอ้ งมาปวดใจไปด้วย
แต่วา่ ถ้าเกิดจีเย่วเ์ องก็รักเจ้าของร่ างเดิมด้วยความจริ งใจเล่า……นี่ไม่
เท่ากับว่าเป็ นการจับแยกคู่รักนกกระเรี ยนทั้งเป็ นหรอกหรื อ?
เรื่ องเลว ๆ แบบนี้ทาไมจะต้องให้นางมาเป็ นคนทาด้วยนะ?
เมื่อเห็นว่านางไม่ยอมรับปาก ดวงจิตก็เริ่ มโขกศีรษะให้กบั นาง “ข้ารู ้
ว่าท่านเป็ นผูท้ ี่มีความสามารถยิง่ ใหญ่ ขอร้องท่านเถอะ! “
ตู๋กูซิงหลันทอดถอนใจยาวเหยียด นางขยับมือเบา ๆ ไอสี ดาที่ราย
ล้อมก้อนหยกกลุ่มนั้นก็ซึมกลับเข้าไปในร่ างกายอีกครั้ง
นางอยากจะกลายเป็ นปลาตายไปซะจริ ง ๆ อะไร ๆ ก็จะได้ไม่ตอ้ ง
ไปสนใจ
……………………………….
ไทเฮาน้อยที่พ่ งึ เสด็จกลับจากการไหว้บรรพชน พานักในพระ
ตาหนักตี้หวั คืนหนึ่ง
ข่าวนี้สร้างความตระหนกไปทัว่ ทั้งวังหลวง
เหล่าสนมทั้งหลายต่างกระทืบเทาร่ าร้องเป็ นการใหญ่ มีแต่ฟ้าดินที่รู้
ว่า เพื่อจะได้เป็ นสตรี คนแรกที่ได้คา้ งคืนในพระตาหนักตี้หวั พวก
นางแต่ละคนต่างก็ตอ้ งทึ้งหัวตัวเองไปแล้วกี่ครั้ง คิดไม่ถึงว่าสุ ดท้าย
กลับกลายเป็ นหินรองเท้าให้กบั ไทเฮาไป?
ไม่รู้เพราะเหตุใด เต๋ อเฟยกลับถูกส่ งไปยังตาหนักเย็นแล้ว แม้แต่นาง
กานัลคนสนิทของนางเองยังถูกขับไล่ไปแผนกทาความสะอาด
นี่ยงั ไม่จนไม่สิ้น ตอนเช้าตรู่ พระตาหนักตี้หวั ยังถ่ายทอดรับสัง่ ว่า
เรื่ องที่ไทเฮาเคยปี นเตียงมังกรนั้น เป้นเพราะถูกเต๋ อเฟยวางแผนให้
ร้าย บัดนี้ความจริ งปรากฎ ฝ่ าบาทมีพระเมตตา คืนความบริ สุทธื์
ให้กบั ไทเฮา ทั้งยังพระราชทานพระตาหนักเฟิ่ งหมิงให้พานัก
ตลอดไป
พวกนางแต่ละคนช่างตาบอดนัก ถูกเต๋ อเฟยลวงไม่อาจแยกแยะก็
แล้วไป แต่กลับดูถูกเหยียดหยามตู๋กูซิงหลันไว้อย่างสาหัสนี่สิ
ใครจะไปคิดได้วา่ นางจะสามารถอาศัยมือเปล่าวาดลวดลายออกมา
ได้ กลายเป็ นปลาตายพลิกตัวได้สาเร็จ
คราวนี้ เหล่าสนมนางกานัลทั้งหลายต่างอิจฉาตาร้อนกันยกใหญ่
แต่วา่ ตู๋กซู ิงหลันกลับพานักอยูใ่ นพระตาหนักตี้หวั ถึงสามวัน ถึง
ได้รับอนุญาตจากฮ่องเต้ให้กลับตาหนักเฟิ่ งหมิงได้
หลี่กงกงเป็ นผูพ้ ามาส่ งด้วยตนเอง
ทันทีที่เข้ามาในตึกข้างของตาหนัก ก็ถูกสมบัติแก้วแหวนเงินทอง
มากมายทาเอาชะงักจนตาลาย
“นายหญิง หลายวันนี้ที่ท่านไม่อยู่ เหล่าพระสนมในตาหนักต่าง ๆ
พากันแสดงความกตัญญูออกมา ส่ งสิ่ งของมามากมาย บ่าวไม่กล้า
หยิบจับวุน่ วาย” เชียนเชียนที่แทบจะถูกข้าวของต่าง ๆ กองทับไว้
ได้แต่โผล่หน้าออกมาพูดกับนาง
ตอนที่ 98 ไก่ติ๊งต๊ อง ไม่ จาเป็ นต้ องมีชื่อแซ่

“กุ๊ก ๆ กรู ้~” เจ้าไก่ขนดาตัวฟูตวั นั้นยืนอยูบ่ นมุมหนึ่งของกอง


ของขวัญ พอมองเห็นตู๋กซู ิงหลัน มันก็กระพือปี ก ส่ ายหางที่กน้ แล้ว
มุ่งตรงมาหานาง
ไม่พบหน้ากันหลายวันพี่สาวตัวน้อยยิง่ งดงามขึ้นไปอีก
ตู๋กซู ิงหลันหลบฉากไปด้านข้างก้าวหนึ่ง มันจึงได้แต่สมั ผัสกับความ
ว่างเปล่า พอหันหัวกลับไปก็มองเห็นว่าพี่สาวตัวน้อยสายตาเป็ น
ประกายวิบวับ ๆ
จากนั้นใช้ความเร็ วที่เหนือล้ ากว่ามันพุง่ เข้าสู่ ใจกลางของขวัญ
เหล่านั้น

“โอ้ว~นี้ขา้ นอนหลับไปไม่กี่วนั ก็กลายเป็ นยายเฒ่าเศรษฐีนีไป


แล้วหรื อ? ” ตู๋กูซิงหลันโอบอุม้ หยกผักกาดขาวที่มีขนาดใหญ่กว่า
ศีรษะของนางเอาไว้ในอ้อมแขน นางซาบซึ้งจนน้ าตาเกือบจะไหล
ออกมา
“นายหญิง ท่านเอ่อ….” เห็นท่าทางของนางแล้วก็อยากจะร้องไห้
ออกมา ทัว่ ทั้งวังหลวงใครบ้างจะไม่รู้วา่ นายหญิงค้างคืนอยูใ่ น
ตาหนักตี้หวั มาสามราตรี ….ของขวัญเหล่านี้เป็ นเพราะนายหญิงถูก
ฮ่องเต้ ‘ข่มเหงรังแก’จึงได้มา
คนพวกนี้รู้จกั แต่ยกย่อมสู งส่ งเหยียบยา่ อ่อนแอ ยามที่นายหญิงตก
ระกาลาบากล้วนไม่เคยเห็นหน้า แต่พอยามนี้นายหญิงล้างมลทินได้
สาเร็ จ ทั้งยังถูกฮ่องเต้…..พวกนางก็พากันระริ กระรี้ เข้ามาถือรองเท้า
ให้
“เชียนเชียนที่แสนจะล้ าค่าของข้า อย่าลืมส่ งของขวัญตอบแทนให้
บรรดาลูกสะใภ้ที่ส่งของขวัญมาด้วยนะจ๊ะ ข้าไม่ค่อยจะมีเงินทอง
เจ้าไปตัดดอกไฮ่ถางที่ดา้ นนอก ส่ งไปยังแต่ละตาหนัก ตาหนักละ
นิดละหน่อยก็แล้วกัน ” ตู๋กูซิงหลันไถลตัวอยูบ่ นกองสมบัติ ดวงตา
ของนางในยามนี้หยาดเยิม้ ปานพระจันทร์เสี้ ยวไปแล้ว
นิสยั คลัง่ ไคล้ในเงินตรานั้น จากชาติก่อนยันชาติน้ ีกไ็ ม่ได้จางหาย
วิชาอาคมของสานักหุบเขาภูติของพวกนาง สิ้ นเปลืองเงินทองยิง่ นัก
ทั้งกระดาษที่ใช้วาดยันต์ ครั่ง พูก่ นั ชั้นดี เครื่ องมือเครื่ องใช้ ต่างก็
เป็ นของที่พิเศษโดยเฉพาะ
หากไม่มีเงินทอง แม้แต่จะวาดยันต์สกั แผ่นยังทาไม่ได้จริ ง ๆ
อย่าว่าแต่นางยังจะต้องเป็ นยอดโฉมสะคราญผูห้ นึ่ง เงินทองย่อมจะ
ขาดไปไม่ได้
” เจ้าค่ะ” เชียนเชียนพยักหน้า พลางหันไปมองดูดอกไฮ่ถางที่ใกล้จะ
ร่ วงหล่นจนหมดแล้ว พวกนางจนจริ ง ๆ ด้วย
นางพึ่งจะรับคา ก็ได้ยนิ เสี ยงเคลื่อนไหวมาจากด้านนอกของ
ตาหนักเฟิ่ งหมิง
พอหันไปมองดู ก็เห็นเกี้ยวประจาพระองค์ของฮ่องเต้ พระองค์ทรง
ฉลองพระองค์มงั กรสี ทองประทับอยูต่ รงกลาง นัน่ เป็ นฉลอง
พระองค์มงั กรที่ตดั ขึ้นใหม่ แม้แต่ลวดลายมังกรสะบัดตัวก็ใช้ไหม
ทองคาและไหมล้ าค่าห้าสี ปักลงไปทั้งหมด
พระองค์ทรงรัดเกล้าที่เป็ นหยกประดับทองคา พระเกศาที่ยาวสลวย
ไม่มีรุ่ยร่ ายแม้แต่เส้นเดียว
บั้นพระองค์ทรงดาบฝังอัญมณี ดัชนีทรงแหวนล้ าค่า
บนพระศอที่ยงิ่ โดดเด่นด้วยไข่มุกดาทั้งเส้น
ภายใต้การประคองของเหล่าบ่าวรับใช้ในวัง เกี้ยวประจาพระองค์ก็
ถูกยกเข้ามาในพระตาหนักเฟิ่ งหมิง
ตู๋กซู ิงหลันเคยชินแต่กบั ฉลองพระองค์ที่เรี ยบง่ายของเขา แต่คราวนี้
เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่กลับทาเอานางตื่นตะลึ่งไปในทันที วันนี้ไอ้หนุ่มนี้ดู
ร่ ารวยอูฟ้ จริ ู่ ง ๆ !
ถึงแม้วา่ นางจะพานักอยูใ่ นพระตาหนักตี้หวั ถึงสามคืนติดต่อกัน แต่
ว่านอกจากวันที่กระอักเลือดวันนั้นแล้ว ก็ไม่ได้เห็นตัวคนอีกเลย
หลี่กงกงรี บเข้ามานาทาง โค้งเอวลงน้อมเชิญฮ่องเต้เสด็จเข้าไปใน
ตึกข้างของตาหนักเฟิ่ งหมิง
บรรดาพนังงานชาววังทั้งหลายที่ติดตามมาต่างก็นอ้ มรออยูใ่ นสวน
ของตาหนักเฟิ่ งหมิง
นี่มนั ช่างแปลกประหลาดนัก ไยไทเฮาพึ่งจะเสด็จออกจากพระ
ตาหนักตี้หวั ฝ่ าบาทก็สาวพระบาทตามมาในทันที
พอจีเฉวียนเสด็จเข้ามาในด้านในก็ทอดพระเนตรเห็นสมบัติมากมาย
เต็มห้อง ยิง่ พอทอดพระเนตรเห็นสตรี ที่นอนเกลือกกลิ้งอยู่
ท่ามกลางของขวัญเหล่านั้น สายพระเนตรหงส์กย็ งิ่ หรี่ ลงในทันที
ทรงตรัสอย่างทรนงคาหนึ่ง “ไม่ได้เรื่ อง”
ตู๋กซู ิงหลันกลับทาเสมือนไม่ได้ยนิ เสี ยอย่างงั้น นางลุกขึ้นยืน ดวงตา
กลมโตนั้นมองดูจีเฉวียนที่ท่าทางจะมีปัญหาอยูบ่ า้ ง เขาจะต้องตั้งใจ
เช็ดหางตามาโดยเฉพาะ เขาอาบน้ าแต่งตัวเป็ นพิเศษถึงได้มาที่นี่!

“ฝ่ าบาท ดาบของท่านเล่มนี้ช่างงดงามอย่างยิง่ เลย~” ตู๋กูซิงหลัน


ไม่ได้สนใจจะมองพระพักตร์ของเขาแม้แต่นอ้ ย นางเดินไปถึงข้าง
ตัวเขา สายตาจดจ้องอยูท่ ี่ขา้ งบั้นเอว
เจ้าฮ่องเต้สุนขั ถึงแม้จะสู งใหญ่ แต่วา่ รู ปร่ างก็ดีเยีย่ ม นี่มนั ปี ศาจ
ยัว่ ยวนตัวเป็ น ๆ โดยแท้ ส่ วนดาบฝังอัญมณี พวกนี้ เมื่อได้แขวนอยู่
บนเอวของเขา ก็ยงิ่ ดูล้ าค่าขึ้นไปอีก
จากนั้นก็จอ้ งมองดูปลายนิ้วที่เรี ยวยาวของเขา แหวนหยกของท่านก็
สวยงามมาก! “
“จุ๊ ๆ ๆ …….ชุดมังกรตัวนี้กว็ ิจิตรงดงามเหลือเกิน เส้นไหมพวกนี้
หลายตังค์น่าดูละสิ ! “
“อุวา้ ว สายสร้อยไข่มุกนี่! ไร้เทียมทาน ๆ จริ ง ๆ ! “
จีเฉวียน “…….”
“วันนี้ใครเป็ นคนสางผมให้ท่านกัน แม้แต่เส้นผมที่รุ่ยร่ ายสักเส้นก็
ยังไม่มี ช่างเหมาะสมกับรัดเกล้าของพระองค์น้ ีเหลือเกิน ………”
ทาให้นางอดที่จะอยากเอาศีรษะตนเองมาขายให้เขาเสี ยให้ได้
“ฮึ ” จีเฉวียนส่ งเสี ยงเย็นชาคาหนึ่ง คราวนี้สตรี ผนู ้ ้ ีกร็ ู ้จกั ที่จะ
สังเกตเห็นเขาบ้างแล้ว
เขาจดจ้องไปยังนาง จากนั้นก็หนั ไปมองดูของขวัญที่กองอยูร่ อบ
ห้อง
ตู๋กซู ิงหลันพลันรู ้สึกขึ้นมาว่าสายพระเนตรของเขาไม่ค่อยจะถูกต้อง
ก็รีบเอาตัวเข้ามาบังสายตาของเขาเอาไว้
“ฝ่ าบาทเพคะ ของขวัญเหล่านี้ เป็ นพวกลูกสะใภ้ส่งมาแสดงความ
กตัญญูต่อข้า ขอพระองค์อย่าได้ทรงเกิดพระทัยเสี ยดาย”
ครั้งก่อนเจ้าหนุ่มนี่ยงั ยึดเอาสมบัติหมดบ้านของตาเฒ่าฟู่ มาหมด นี่
เป็ นอุปนิสยั ของเจ้าเจ้าไก่โต้งกระดูกเหล็กผูน้ ้ ี ……มีหรื อว่าจะไม่
คิดจะเอาสมบัติของนางอีก”
“เราเป็ นถึงผูค้ รองแคว้นหนึ่ง มีหรื อจะไปอยากได้ของของเจ้า? ” จี
เฉวียนอยากจะจับนางมาตีสกั รอบ ไม่เห็นหรื อไงว่าทุกสิ่ งที่อยูบ่ น
ร่ างกายของเขาตอนนี้ เพียงฉวยขึ้นมาสักชิ้นหนึ่งก็สูงค่ามากกว่า
ของขวัญทั้งหมดกองนี้มากมายหลายเท่า?
อย่างเขาสิ ถึงจะเรี ยกว่าผูม้ ีเงินตัวจริ ง!
หลี่กงกงทนดูไม่ได้อีกต่อไป…ฝ่ าบาทคงจะทรงลืมเรื่ องของท่าน
รองมหาเสนาฯ ไปแล้วสิ นะ….
ตรัสแล้ว ฝ่ าบาทก็หนั ไปทางหลี่กงกง “หลี่ตา้ ชิง ไปตรวจสอบดู
เหล่าพระสนมทั้งหลายได้รับสิ่ งของมีค่าเหล่านี้มาจากที่ใดกัน หาก
ว่าเจอที่มาไม่ถูกไม่ควร ก็จดั การเก็บเข้าท้องพระคลังไปเสี ย ไทเฮา
ทรงมีพระเกียรติสูงส่ ง จะรับของขวัญใดก็พึงรับแต่ที่ถูกทานอง
คลองธรรม ไม่เช่นนั้นหากทิ้งไว้อาจเกิดเภทภัย ได้ไม่คุม้ เสี ย
หลี่กงกง “เอ่อ……..”
ตู๋กูซิงหลัน “!!! “
นางกอดหัวผักกาดขาวหยกนั้นเอาไว้แน่นไม่ยอมคลาย รู ้อยูว่ า่ เจ้า
ฮ่องเต้สุนขั นี่ไม่มีทางมาดี นางได้แต่ขมวดคิ้วแน่น ยังไม่ทนั ได้กล่าว
อะไร ก็เหลือบเห็นเจ้าไก่ขนดาตัวฟูตวั นั้นกระทืบเท้าโผเข้าใส่ จี
เฉวียนแล้ว
มันกระพือปี ก ถลาบินมากลางอากาศ ปากที่แสนจะแหลมคมพุง่ ลง
มาจิกพระพักตร์ของเขา
ปฏิกิริยาของจีเฉวียนเองก็ถือว่าคล่องแคล่วว่องไว กระชากดาบล้ าค่า
ออกมาจากช่วงเอว สะบัดดาบออกไปทางหัวของเจ้าไก่ตวั นั้น
เจ้าไก่ขนดาตัวฟูถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ใช้จงอยปากต้านทานดาบนั้น
เอาไว้ จนเกิดเสี นง ‘ติง’ ขึ้นครั้งหนึ่ง ถึงกับทาให้ดาบของฮ่องเต้เกิด
ริ้ วรอยขึ้นในทันที
มันสะบัดศีรษะวุน่ วาย ใช้สายตาอาฆาตพยาบาทมองจีเฉวียน
จีเฉวียนขมงพระขนงคราหนึ่ง กาดาบล้ าค่าเล่มใหญนั้นไว้ในพระ
หัตถ์ หันไปตรัสกับตู๋กซู ิงหลันว่า “เจ้าเก็บเอาไก่นี่ไว้ขา้ งตัวทาไม?

เขาไม่มีทางลืมหรอกว่าตอนที่อยูใ่ นสุ สานของเย่วฮูหยินนั้น เจ้าไก่
ตัวนี้แอบดมก้นนางไปหลายครั้ง
ตู๋กซู ิงหลันจ้องมองดูดาบล้ าค่าของฝ่ าบาทที่ถูกจิกจนมีริ้วรอยขึ้นมา
รู หนึ่ง หัวใจก็ชะงักไปในทันที เจ้าไก่จากสุ สานตัวนี้ ช่างไม่ธรรมดา
จริ ง ๆ ด้วย
แต่วา่ เจ้าไก่ตวั นี้กลับรี บซ่อนตัวอยูใ่ กล้เท้า พอเขาคิดจะประลองกัน
ในรอบสองอีก ตู๋กซู ิงหลันกลับลงมืออย่างรวดเร็ ว ใช้มือเดียวคว้าคอ
ของมันไว้หิ้วกลับมา แล้วจึงหันกลับไปทูลกับจีเฉวียนว่า “ฝ่ าบาท
มันก็เป็ นแค่ไก่ติ๊งต๊องตัวหนึ่ง เก็บเอาไว้เป็ นอาหารเท่านั้น เผือ่ ว่าวัน
ไหนท่านอารมณ์ไม่ดีข้ ึนมาอีกแล้วจับข้าส่ งไปตาหนักเย็นขึ้นมาก็
เท่านั้นเอง”
จีเฉวียนทอดพระเนตรมองดูนางตะครุ บคอไก่ตวั นั้นไว้ในมือ แวว
พระเนตรบนพระพักตร์งดงามนั้นดูไปไม่ธรรมดา
“เจ้าตั้งชื่อให้มนั ด้วย? “
ตู๋กูซิงหลัน “หา? “
“ติ๊งต๊อง?! ไก่ตวั หนึ่งก็มีค่าพอให้เจ้าตั้งชื่อให้ดว้ ยรึ ? เจ้าชอบมัน
มากมายเพียงไหนกันแน่”
ตู๋กซู ิงหลัน “เอ่อ……….”
ฮ่องเต้ตรัส “หลี่ตา้ ชิง ส่ งเจ้าไก่ตวั นี้ไปที่หอ้ งเครื่ อง ไทเฮาพึ่งทรง
บรรเทาจากอาการประชวรครั้งใหญ่ สมควรบารุ งให้มาก”
——

翡翠白菜
ตอนที่ 99 พิธีแต่ งตั้งท่ านหญิง
หลี่กงกงสองตาตั้ง สาวเท้าถอยหลังไปก้าวหนึ่งในทันที “ฝ่ าบาท….
บ่าวเฒ่าคงจะรบกับเจ้าไก่ตวั นี้ไม่ไหว”
ฮ่องเต้ทรงใช้พระหัตถ์ขา้ งหนึ่งถือดาบล้ าค่าชี้ไปทางเจ้าไก่ขนดาตัว
ฟู พระหัตถ์อีกข้างที่ยงั บาดเจ็บไม่หายก็เท้าสะเอวไว้ “สูไ้ ม่ได้กไ็ ป
เรี ยกองครักษ์มา เจ้าไก่ตวั นี้อวบอ้วนดีนกั หากไทเฮาได้ทรงเสวย
จะต้องฟื้ นฟูกาลังเหมือนดังแต่ก่อนแน่”
หลี่กงกง “…..” เขาอยากจะร้องไห้ เหล่าองครักษ์มีหน้าที่พิทกั ษ์วงั
หลวง ครั้งก่อนถูกเรี ยกไปขุดหลุมเปิ ดอุโมงค์กน็ บั ว่ายอมเสี ยเกียรติ
พอแล้ว ครั้งนี้ยงั จะให้เรี ยกมาจับไก่?
เขาเดาว่าหากตนเองนากระแสรับสัง่ นี้ไปถ่ายทอดละก็ พวกองครักษ์
คงเฉือนเขาออกมาเป็ นเนื้อแผ่นจิ้มซอสเปรี้ ยวแน่
เจ้าไก่ขนดาตัวฟูเองก็ยกเท้าถีบไม่ยอมหยุด หากว่าพี่สาวตัวน้อย
ยอมปล่อยตัวมันลงละก็ มันสามารถไปต่อสู ้กบั เจ้าคนน่ารังเกียจนี่
ได้สามร้อยกระบวนท่า!
แต่วา่ ชื่อติ๊งต๊องนี่กฟ็ ังเพราะดีนะ….มันจะต้องฝึ กฝนบาเพ็ญเพียรให้
มาก จะต้องมีความสาเร็ จให้เหนือกว่ายอดอินทรี ทองให้ได้ (พี่
อินทรี ในเรื่ องเอี้ยก้วย)
พี่สาวตัวน้อยไม่เพียงรักเอ็นดูมนั ที่สุด ทั้งยังมีพรสวรรค์ในการตั้ง
ชื่ออีกด้วย!
“เอาอย่างนี้นะเพคะ ฝ่ าบาท ตอนนี้เจ้าไก่ตวั นี้ออกจะอ้วนไปแล้ว
ไขมันเยอะเกินไป หม่อมฉันชอนทานแบบเนื้อ ๆ รอผ่านไปสักพัก
ให้มนั ผอมลงแล้ว ค่อยกินก็แล้วกัน” ตู๋กซู ิงหลันขวางอยูเ่ บื้องหน้า
ไก่อว้ นตัวนั้น จดจ้องจีเฉวียนที่มีแต่เครื่ องประดับล้ าค่าเต็มตัว นาง
รี บเปลี่ยนหัวข้อสนทนาในทันที “วันนี้ฝ่าบาทเสด็จมายังตาหนักเฟิ่ ง
หมิง ไม่ทราบว่าทรงมีพระประสงค์ใดหรื อเพคะ? “
จะอย่างไรนางก็เป็ นคนที่มาจากโลกปั จจุบนั ห่างกับเจ้าฮ่องเต้สุนขั
นี่หลายร้อยรุ่ น อีกหน่อยคงต้องระมัดระวังคาพูดที่ทาให้คนเข้าใจ
ผิดนี้ให้ดี
“หากไม่มีธุระอันใดเราจะมาไม่ได้หรื อ? ” ดาบล้ าค่าในหัตถ์ของจี
เฉวียนยังถูกกาไว้แน่น เขาหรี่ เนตรมองดูนาง ยิง่ นางอยากจะปกป้อง
เจ้าไก่นนั่ เท่าไหร่ เขายิง่ คิดจะจับมันมาตุ๋นให้ได้เท่านัน่ !
” นัน่ ย่อมได้อยูแ่ ล้ว! ” ตู๋กซู ิงหลันคลี่ยมิ้ อ่อนหวาน “ทัว่ ทั้งแคว้น
ล้วนเป็ นของท่าน ท่านย่อมสามารถไปได้ทุกที่”
พอเห็นว่านางมีท่าทีที่อ่อนน้อมเชื่อฟัง ฮ่องเต้กท็ รงพระอารมณ์ดีข้ ึน
ไม่นอ้ ย
สตรี ผนู ้ ้ ีช่างรู ้จกั สัง่ อาหารตามใจผูอ้ ื่น ยามอยูใ่ นสุ สานเย่วฮูหยินคาด
ว่าคงจะต้องเคยคิดจะจับเขาฝังไว้ท้ งั เป็ นสิ ท่า?
พอยามนี้กลับใช้วิธีเชื่อฟังวาจา ประจบสอพลอได้คล่องนัก
พระองค์เสด็จมาถึงข้างตัวนาง สะบัดเท้าครั้งเดียวก็ส่งเจ้าไก่ก๊กุ นั้น
กระเด็นไปไกลหลายเมตร พระองค์ที่ร่างสู งใหญ่คอ้ มลงมองนาง
“อีกครึ่ งเดือนให้หลัง เราจะจัดพิธีแต่งตั้งท่านหญิงให้กบั ซุ่นเอ๋ อร์
เจ้าเป็ นถึงไทเฮา ย่อมต้องไปร่ วมงานด้วยตนเอง”
ซุ่นเอ๋ อร์……..ชื่อนี้ต๋ ูกซู ิงหลันย่อมเคยได้ยนิ มาบ้าง บุตรสาวที่แสน
น่ารักขององค์หญิงใหญ่ ฉางซุนซุ่นเอ๋ อร์
ในคืนนั้นที่มีงานเลี้ยง นางเองก็ได้พบแล้ว เพียงแต่ไม่ได้พดู คุยกับ
องค์หญิงใหญ่เท่านั้น แต่วา่ ก็จดจาเด็กน้อยที่ดูร่าเริ งสดใสนั้นได้อยู่
บ้าง
ธิดาเพียงคนเดียวขององค์หญิงใหญ่ เพียงเกิดมาก็มีฐานะเป็ นถึงท่าน
หญิง แต่วา่ ทาไมต้องรอให้โตถึงเพียงนี้ถึงได้ค่อยจัดพิธีแต่งตั้งให้?
ตู๋กซู ิงหลันก็ถามโพล่งออกไปด้วยความสงสัย
นาน ๆ ทีจีเฉวียนจะทรงมีน้ าพระทัยอธิบายให้นางฟังสักครั้ง “ซุ่น
เอ๋ อร์เป็ นธิดาเพียงคนเดียวขององค์หญิงใหญ่ ย่อมมิใช่ท่านหญิง
ทัว่ ไป ยิง่ ไปกว่านั้นบิดาของนางสิ้ นไปเพื่อปกป้องชาติบา้ นเมือง
สละชีพอยูท่ ่ามกลางสนามรบ พระราชวงค์ยอ่ มมีเมตตารักใคร่ นาง
มากกว่าเดิม”
“ฐานะของนางสู งล้ า สมควรที่โอรสสวรรค์จะประทานยศนี้ให้ดว้ ย
พระองค์เอง มีบนั ทึกลงในพงศาวดารตามโบราณราชประเพณี ของ
เชื้อพระวงศ์ ยามที่นางอายุครบหกปี จึงจะเข้ารับการแต่งตั้ง”
” อีกครึ่ งเดือนนางก็จะอายุครบหกปี พอดี ยามนั้นไทเฮาก็ไปเยือน
จวนขององค์หญิงใหญ่พร้อมกันกับเรา”
คราวนี้ต๋ ูกซู ิงหลันถึงได้เข้าใจที่มาที่ไป
จีเฉวียนลากนางไปด้วยกัน ก็เพื่อเป็ นการให้เกียรติท่านหญิงน้อย
เพิ่มขึ้นอีกหน่อย
“ไทเฮาสู ญเสี ยความทรงจาไม่อาจฟื้ นฟู ครึ่ งเดือนนี้จงร่ าเรี ยน
มารยาทให้ดี อย่าได้ทาเสี ยกิริยาในงานพิธีแต่งตั้งท่านหญิงได้ พาล
ให้คนหัวเราะเยาะเอา”
ตู๋กูซิงหลันพยักหน้าติด ๆ กัน “ก็ได้ ๆ “
“ครั้งนี้เจ้ากลับรู ้จกั เชื่อฟังนัก” จีเฉวียนทรงเก็บดาบล้ าค่าที่ถูกจิก
เป็ นรู น้ นั กลับเข้าฝัก ทอดพระเนตรมองดูนาง มุมพระโอษฐ์กย็ กยิม้
ขึ้นอย่างไร้ที่มา
จากนั้นก็เห็นเขาถอดแหวนหยกวงใหญ่ในนิ้วแม่โป้งขวาออกมา
ประทานให้นางอย่างไม่มีสญ
ั ญาณบอกกล่าวล่วงหน้า “สิ่ งนี่ให้เจ้า
ไว้ ของของเราจึงจะนับว่าดีที่สุด ของทั้งหมดในห้องนี้ไม่อาจเทียบ
ได้
จากนั้นก็ฉวยโอกาสที่นางกาลังตกตะลึงไม่ทนั ได้มีปฎิกิริยา ยัดเยียด
แหวนหยกที่มีไออุ่นจากหัตถ์ของตนเองนั้นใส่ ในมือของตู๋กซู ิงหลัน
ไป
“ให้ขา้ จริ ง ๆ หรื อ? ” ตู๋กูซิงหลันจ้องมองดูแหวนหยกในมือ ยังคง
นึกว่าตนเองฝันไป
เจ้าฮ่องเต้สุนขั ที่เป็ นดัง่ พ่อไก่ขนเหล็กผูน้ ้ ี ทาดีต่อนางได้ดว้ ยหรื อ?
มีเล่ห์กลใดหรื อไม่?
หลี่กงกงตกตะลึงค้างไปเสี ยแล้ว หากว่าเขาจาได้ไม่ผดิ ละก็ แหวน
หยกวงนั้นเป็ นสิ่ งที่ฝ่าบาททรงสวมติดพระดัชนีมาตั้งแต่ยามที่ทรง
เป็ นองค์ชายสี่
นี่…….บทจะให้ก็ให้เลย?
ก่อนหน้านี้ฝ่าบาททรงเสด็จไปยังท้องพระคลังตรวจดูสมบัติของ
ตระกูลท่านรองมหาเสนาฯ แต่วา่ สุ ดท้ายกลับไม่ได้ทรงเลือกสิ่ งใด
แต่กลับประทานสิ่ งของประจาพระองค์แก่ไทเฮา?
“หากว่าเจ้าไม่ตอ้ งการ เราก็ไม่รังเกียจที่จะรับคืนมา” จีเฉวียน
พระพัตร์เรี ยบเฉยดุจแผ่นเหล็ก ยืน่ พระหัตถ์ออกมา
ตู๋กซู ิงหลันรี บซุกมือเก็บไว้ “นี่เป็ นของที่ทรงประทานให้ดว้ ย
พระองค์เอง ย่อมไม่อาจเรี ยกคืนได้”
แหวนหยกวงนี้ดูกร็ ู ้วา่ ราคาแพงลิบลิ่ว เรื่ องจะไม่เอานั้นไม่มีทาง
……………………………………………..
พระตาหนักเฟิ่ งหมิงที่คึกคักพลุกพล่านอยูห่ ลายวันในที่สุดก็เงียบ
สงบลงแล้ว หลายวันมานี้ต๋ ูกซู ิงหลันมักจะพาวิญญาณทมิฬไปยัง
ทะเลสาบหยูจ่ ือถาน อาศัยพลังไอทิพย์ของที่นนั่ รักษาอาการบาดเจ็บ
ให้มนั
อาการของมันไม่เบา ตู๋กซู ิงหลันไม่มีหนทางอื่นได้แต่จาต้องใช้พลัง
ของหยกสรรพชีวิต ถึงได้สามารถทาให้รากฐานในดวงจิตของมัน
มัน่ คงขึ้นได้
ร่ างกายของนางในตอนนี้ไม่อาจเทียบได้กบั ร่ างเดิมของนางในโลก
ก่อนที่สามารถใช้หยกสรรพชีวิตได้ดงั ใจนึก หากว่าไม่ระวังละก็อาจ
ก่อให้เกิดปัญหาได้
ไม่เพียงแต่วิญญาณทมิฬจะต้องเติบโตขึ้น นางเองก็จะต้องแข็งแกร่ ง
ขึ้นด้วย
เมื่อได้ดูดซับไอทิพย์หลายวันเข้า วิญญาณทมิฬก็ดีข้ ึนมาก
ค่าวันนี้เมื่อนางกลับไป ก็มองเห็นแต่ไกลว่าเสี ยนไท่เฟยและนาง
กานัลประจาตัวของนางชิงผิงยืนรออยูน่ อกตาหนักเฟิ่ งหมิง
เสี ยนไท่เฟยสวมชุดเรี ยบง่าย ตลอดทั้งร่ างยังคงมีกลิ่นอายเครื่ อง
หอมถานเซียงเสมือนที่ผา่ นมา
ภานใต้แสงสว่างยามค่าคืน ดวงเนตรที่ลึกล้ าของนางจดจ้องตู๋กซู ิงห
ลันโดยไม่กระพริ บ เมื่อคานับนางครั้งหนึ่งก็กล่าวว่า “ไทเฮาเพคะ
หม่อมฉันมารบกวนแล้ว”
ตู๋กซู ิงหลันเหลือบตามองดูนางครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้เชิญคนเข้าไป
ภายในตาหนัก นางยืนอยูต่ ่อหน้าเสี ยนไท่เฟย สบตามองนางอย่าง
ตรงไปตรงมา
“เสี ยนไท่เฟยมิตอ้ งมารยาท”
เสี ยนไท่เฟยเงยหน้าขึ้น จดจ้องมองนางเนิ่นนาง ค่อยคลี่ยมิ้ อ่อนโยน
“ไทเฮาได้รับการชาระความบริ สุทธิ์ อีกทั้งยังได้รับความสาคัญจาก
ฝ่ าบาท หม่อมฉันสมควรมาแสดงความยินดีแต่แรก ๆ เพียงแต่ช่วง
นี้ สถานที่ของท่านทุกวันต่างมีเรื่ องคึกคัก หม่อมฉันไม่กล้ารบกวน
ได้แต่รอจนเย็นค่าจึงได้มา”
“ไท่เฟยมีคาพูดใดก็บอกกล่าวตามตรงเถอะ ด้วยความสัมพันธ์ของ
ข้าและท่าน ไม่จาเป็ นจะต้องกล่าวอ้อมค้อม” ตู๋กซู ิงหลันพิงตัวกับลา
ต้นของไฮ่ถาง กอดอกมองนาง
“ยากนักที่ไทเฮาจะยังทรงจดจาความสัมพันธ์เดิมของพวกเราได้ ”
สายตาของเสี ยนไท่เฟยมองดูอย่างอบอุ่น
พูดแล้ว นางก็คุกเข่าลงเสี ยงดังต่อหน้าตู๋กซู ิงหลันในทันที “ชัว่ ชีวิต
ของข้าไม่เคยขอร้องผูใ้ ดมาก่อน แต่ครั้งนี้ ขอไทเฮาได้โปรด
ช่วยเหลือเย่เอ๋ อร์”
“เขาถูกขังอยูใ่ นตาหนักเย็น ข้าสอบถามอยูห่ ลายรอบถึงได้ทราบ
ความ ว่าเขาเป็ นคนบงการให้เต๋ อเฟยทาร้ายท่านจนเกิดเรื่ องปี นเตียง
มังกรของฮ่องเต้องค์ใหม่”
“ต่อให้ไทเฮาทรงสู ญเสี ยความทรงจาไปแล้ว แต่คงไม่ได้ลืมเลือนว่า
เขารักท่านลึกล้ าเพียงไหน เขามีหรื อจะกระทาเรื่ องเช่นนี้ออกมาได้?

เสี ยนไท่เฟยพูดอย่างรวบรัดชัดเจน “พวกเจ้ามีความผูกพันกันแต่ไร้
วาสนา ความรู ้สึกที่มีให้เจ้าตั้งแต่แรกจนถึงบัดนี้ลว้ นไม่เคย
เปลี่ยนแปลง”
ตู๋กซู ิงหลันมองสตรี ที่คุกเข่าอยูเ่ บื้องหน้า ในใจไม่มีความร้อนรน
แม้แต่นอ้ ย “ไม่ใช่เขา งั้นเป็ นใครละ? “
——

焚香 (ถานเสี ยง) ไม้หอมที่ใช้ผสมในเครื่ องหอม กาญาน หรื อธูป


หอม
ตอนที่ 100 ใช้ ร่างกายมาเป็ นสิ่ งตอบแทนเจ้ าเป็ นไง
“เรื่ องนั้น…..ข้าเองก็ไม่รู้ ” เสี ยนไท่เฟยตอบคา “แต่ขา้ รู ้วา่ ผูค้ น
ทั้งหลายในโลกนี้อาจทาร้ายท่านได้ แต่วา่ ไม่ใช่เขา! “
พอได้ฟังประโยคนี้ ตู๋กซู ิงหลันก็หวั เราะออกมาแล้ว “ไท่เฟย
หมายความว่า ในบรรดาใครก็ได้น้ ีรวมถึงตัวท่านด้วยละสิ ? “
เสี ยนไท่เฟยชะงักไปครู่ หนึ่ง ใช้สายตาที่ไม่อาจอธิบายได้มองนาง
“ไท่เฟยเป็ นคนฉลาด คิดว่าคงไม่ตอ้ งให้ขา้ พูดมากความแล้ว ” ตู๋กู
ซิงหลันยิม้ อย่างเสมือนไม่ได้ยมิ้ ไม่วา่ จะเป็ นเรื่ องการแสดงออก
หรื อว่าการควบคุมอารมณ์ เสี ยนไท่เฟยนับว่าเป็ นยอดฝี มือในวัง
หลวงโดยแท้จริ ง
ลูกชายเกิดเรื่ องแล้วตั้งหลายวันถึงได้พ่ งึ จะมาหานาง นับว่ามีความ
อดทนนัก
“หลันเอ๋ อร์………เจ้าไปได้ยนิ ข่าวลืออะไรมาใช่หรื อไม่? อย่างข้า
หรื อจะมีใจคิดร้ายต่อเจ้าได้? ” เสี ยนไท่เฟยยังคงคุกเข่าอยูบ่ นพื้น
“เจ้าสู ญเสี ยบิดามารดาไปตั้งแต่เล็ก ข้าเอ็นดูเจ้าดัง่ เป็ นบุตรสาวแท้ ๆ
มาโดยตลอด อยากให้เจ้าได้เป็ นคนที่มีความสุ ขที่สุดในโลก มีหรื อ
จะทาร้ายเจ้า? “
“ไท่เฟย มนุษย์น้ นั เป็ นสิ่ งที่ซบั ซ้อนยิง่ นัก ข้าอายุยงั น้อย เมื่ออยูใ่ น
วังนาน ๆ เข้า ก็ไม่รู้หรอกว่า คนที่อยูข่ า้ งตนนั้นเป็ นคนหรื อเป็ นผี
กันแน่ คาพูดของท่าน ข้าไม่รู้จริ ง ๆ ว่าเชื่อถือได้หรื อไม่”
ตู๋กซู ิงหลันไม่ได้ดึงนางขึ้นมา “ยิง่ ไปกว่านั้น เรื่ องปองร้ายนี้เป็ นอี้
อ๋ องออกปากยอมรับด้วยตนเอง ต่อให้ขา้ คิดอยากช่วยเขาก็เพียงมีใจ
แต่ไร้กาลัง นอกเสี ยจากว่าเรื่ องราวมีจุดเปลี่ยน เขาปิ ดบังแทนผูใ้ ด
รับเอาไว้แทนใครกัน”
เสี ยนไท่เฟยเงียบงันอยูน่ าน นางเงยหน้ามองดูสาวน้อยตรงหน้า ทั้ง
ๆ ที่รูปโฉมก็เหมือนเดิมทุกอย่าง แต่วา่ แววตากลับไม่ได้ดูโง่เขลา
เหมือนดังแต่ก่อน
เพราะว่าอยูใ่ นวังนาน ๆ เข้า คนก็เลยเปลี่ยนเป็ นฉลาดขึ้นมาบ้าง
หรื อ?
แต่วา่ ตู๋กซู ิงหลันแต่ไหนแต่ไรก็เชื่อฟังวาจาของนางมาโดยตลอด ทั้ง
ยังกตัญญูต่อนางอย่างที่สุด ราวกับบุตรสาวที่กตัญญูต่อมารดา
บังเกิดเกล้าเสมอ
คน ๆ หนึ่งจะสามารถเปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้
มากมายถึงเพียงนี้เลยหรื อ?
“ดังนั้นท่านขอร้องผิดคนแล้ว” ตู๋กซู ิงหลันกล่าวต่อไป “ผูท้ ี่ท่าน
สมควรไปขอร้องก็คือฝ่ าบาทต่างหาก ขอให้เขามีพระมหากรุ ณา
ปล่อยตัวอี้อ๋อง อ๋ อหรื อไม่กข็ อร้องอี้อ๋อง ดูสิวา่ เขาถูกใส่ ร้ายจริ ง
หรื อไม่ อย่างไรเขายังหนุ่มแน่น ช่วงเวลาที่ดีงามเช่นนี้หากต้อง
สู ญเสี ยไปเพื่อผูอ้ ื่นช่างไม่คุม้ ค่าจริ ง ๆ “
“แต่วา่ ที่จริ งนับว่าฝ่ าบาททรงมีพระเมตตาให้หน้าอี้อ๋องมากแล้ว ที่
ไม่ได้ประกาศเรื่ องนี้ออกไป ไม่เช่นนั้นชื่อเสี ยงของเขา คงป่ นปี้
หมดแล้ว”
ตู๋กซู ิงหลันมิใช่คนโง่ วันนั้นที่อ้ ีอ๋องสารภาพเรื่ องของนาง เห็นได้
ชัดเจนว่ามีลบั ลมคมนัย
แต่วา่ เมื่อได้ฟังเจ้าของร่ างเดิมบอกความจริ งที่วา่ เขาเป็ นคนขอร้อง
ให้นางยอมแต่งให้กบั อดีตฮ่องเต้เอง ก็ยงิ่ ทาให้นางงุนงงไปใหญ่
บุรุษผูน้ ้ ี ช่างขัดแย้งยิง่ นัก
แล้วยังมีเรื่ องที่ต๋ ูกซู ิงหลันคิดไม่ถึงก็คือ จีเฉวียนที่ดูเผิน ๆ เหมือน
จะจงเกลียดจงชังจีเย่ว์ กลับไม่ได้ฉวยโอกาสนี้จดั การเขาจนตาย ทั้ง
ยังปิ ดบังเรื่ องนี้เอาไว้ เอาความผิดทั้งหมดโยนใส่ เต๋ อเฟยผูเ้ ดียว
นัน่ เพราะว่าเขายังคานึงถึงความผูกพันฉันพี่นอ้ งหรื อ?
เสี ยนไท่เฟยชะงักไปอยูน่ าน “หลันเอ๋ อร์ ทุกวันนี้ใคร ๆ ต่างก็รู้วา่ ฝ่ า
บาททรงพอพระทัยในตัวเจ้า ขอเพียงเจ้าพูดจากับฝ่ าบาทดี ๆ เขา
ย่อมตั้งเชื่อฟังเจ้าแน่ หรื อว่าเจ้าจะทาใจได้จริ ง ๆ ไม่สนใจเย่เอ๋ อร์
แม้แต่นอ้ ยเลยหรื อ? “
ตู๋กซู ิงหลันหัวเราะแล้ว นางยืน่ มืออกมาคว้าข้อมือเสี ยนไท่เฟยไว้
ค่อยดึงตัวนางขึ้นมา “ไท่เฟย ในโลกนี้ไหนเลยจะมีผทู ้ ี่มีใจรักลึกล้ า
แล้วส่ งคนรักของตนไปขึ้นเตียงผูอ้ ื่น ท่านอย่าได้ทาให้ขา้ ต้องขา
เลย”
“ยิง่ ไปกว่านั้นฮ่องเต้ทรงรังเกียจข้าจะตาย เอาที่ไหนมาว่าชื่นชอบ
กัน ข้ายังคงขอพูดคาเดิม ท่านจงไปขอร้องฝ่ าบาทด้วยตนเอง
หรื อไม่กไ็ ปขอร้องอี้อ๋องเถอะ”
เสี ยนไท่เฟยลุกขึ้นยืน พลิกมือมากุมมือของนางไว้ สองเนตรนั้นจด
จ้องไปยังดวงตาของนาง ชัว่ ขณะนั้นราวกับเกิดหมอกดาขึ้นมาใน
ดวงตาของเสี ยนไท่เฟย ยามที่ต๋ ูกซู ิงหลันสบตากับนางคล้ายกับจะ
ถูกดูดกลืนเข้าไป
“หลันเอ๋ อร์ เจ้าจะต้องช่วยเย่เอ๋ อร์”
เสี ยนไท่เฟยคว้ามือของนางไว้ไม่ยอมปล่อย น้ าเสี ยงทั้งอบอุ่นทั้งน่า
หลงใหล
“เจ้าเองก็รักใคร่ เย่เอ๋ อร์อย่างลึกล้ า เพื่อเขาแล้ว เจ้ายินดีทาทุกสิ่ งทุก
อย่าง แม้วา่ จะต้องตายก็ตาม”
นางพูดพลาง ใจกลางฝ่ ามือก็กาจายความเย็นสุ ดขั้วชนิดหนึ่งออกมา
ตู๋กูซิงหลัน ‘เหม่อลอย’ อยูก่ บั ที่ ในที่สุดไท่เฟยก็พอใจขึ้นมาแล้ว
“วันงานพิธีของท่านหญิงน้อย เจ้าจะประกาศออกไปต่อหน้าผูค้ นว่า
เย่เอ๋ อร์น้ นั ถูกใส่ ความ เป็ นเจ้าที่ล่วงรู ้ทนั แผนการของเต๋ อเฟย ถึงได้
ผลักเรื อตามน้ ายอมขึ้นเตียงมังกรของฮ่องเต้องค์ใหม่ ทั้งหมดล้วน
เป็ น…..”
คาพูดของไท่เฟยยังไม่ทนั จบสิ้ น ก็ได้ยนิ เสี ยงของเจ้าไก่ขนปุยดังมา
ไม่ไกลนัก “ก๊าก ๆ กระต๊าก! ก๊าก ๆ กระต๊าก! กระต๊าก! “
ต่อมาก็มีเงาสี ชมพูสายหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ ว
ตู๋กูซิงหลันพลัน ‘ได้สติ’ คืนมา สะบัดมือออกจากการเกาะกุมของ
ไท่เฟย หันหน้าไปตามเสี ยง
เสี ยนไท่เฟยหรี่ ตาลงมอง หันไปอย่างไม่ยนิ ดีเท่าไรนัก
ก็เห็นหยวนเฟยหิ้วคอของเจ้าไก่ขนดาตัวฟูน้ นั ไว้ สี หน้าไม่สบ
อารมณ์มุ่งตรงมาทางนี้
นางพุง่ ตรงมาถึงหน้าตู๋กซู ิงหลันโดยไม่สนใจใยดีเสี ยนไท่เฟย
เหวี่ยงแขนเขวี้ยงเจ้าไก่ขนดาตัวฟูนนั่ ลงตรงหน้านาง “ไทเฮาทุก
วันนี้ช่างมีความสามารถนัก กอบกูช้ ื่อเสี ยงคืนมาได้ กระทัง่ ลูกน้องที่
เป็ นไก่ตวั หนึ่งก็กล้าวิง่ พล่านออกไปที่ต่าง ๆ แล้วหรื อ? “
ตู๋กซู ิงหลันมองนางด้วยความงุนงงอยูบ่ า้ ง
ต่อมาก็ตอ้ งประหลาดใจอยูบ่ า้ ง เจ่าไก่ขนดาตัวฟูตวั นี้แม่แต่ดาบล้ า
ค่าของจีเฉวียนยังไม่เกรงกลัว แต่กลับถูกหยวนเฟยใช้มือเปล่าหิ้วคอ
มันกลับมา?
สาวงามน้อยต่างเผ่าผูน้ ้ ีช่างมีความสามารถอยูบ่ า้ งจริ ง ๆ
“เจ้าไก่ตวั นี้ไม่อยูใ่ นตาหนักเฟิ่ งหมิงของเจ้าให้ดี ๆ กลับวิง่ มาจนถึง
ตาหนักฉางซินของข้า จับพวกตะขาบที่น่ารักของขากินจนหมด! ”
พูดไปแล้ว หยวนเฟยก็หน้าแดงด้วยความโมโห “เจ้าบอกมา จะ
ชดใช้ให้ขา้ อย่างไร? “
นางพูดพลางก็ยนื่ มือออกมา ทวงคืนการชดเชยจากตู๋กูซิงหลัน
“ตะขาบพวกนั้นข้าเลี้ยงดูมนั อย่างยากลาบาก ข้ายังเสี ยดายไม่กล้า
กินเอง ไก่ของเจ้านี้ช่างดีนกั ไม่เหลือทิ้งไว้ซกั ตัวทาลายของ ๆ ข้า
จนหมดสิ้ น”
“เจ้าไก่ตวั นี้ยงั รู ้จกั ดีดดิ้นนัก ยังจะกล้ามาจิกมือข้าอยูห่ ลายครั้ง หาก
ไม่ใช่เพราะว่าข้าสามารถการาบมันได้ในครั้งเดียว เกรงว่าคงจิกมือ
ของข้าจนกลายเป็ นกระชอนไปแล้ว! “
ตู๋กซู ิงหลันมองดูเจ้าไก่ที่ทาท่าจะเป็ นจะตาย ดูท่าแล้ว หยวนเฟยน้อย
คงจะต้องใช้ยาอะไรบางอย่าง
“เจ้าก็รู้ ว่าข้าน่ะจนขนาดไหน ” ตู๋กูซิงหลันมองดูฝ่ามือที่ยนื่ ออกมา
ของนาง พอมุมปากพึ่งขยับก็คว้ามือนั้นไว้แล้ว “งั้นเอาอย่างนี้ ข้าจะ
ใช้ร่างกายมาเป็ นสิ่ งตอบแทนเจ้าเป็ นไง? “
หยวนเฟย “!!! “
เสี ยนไท่เฟย “……..”
ตู๋กซู ิงหลันไม่รักษาหน้าตาขนาดนี้ต้ งั แต่เมื่อไหร่ กนั ถึงกับกล้าเกี้ยว
พาพระสนมของฝ่ าบาท?
ข้ากาลังพูดเรื่ องจริ งจังกับเจ้า เจ้าอย่าได้เล่นลิ้นกับข้า! ” ใบหน้าของ
หยวนเฟยยิง่ ทียงิ่ แดงขึ้น “เจ้าอย่าได้คิดว่าตอนนี้ตนเองมีฝ่าบาท
ปกป้อง แล้วข้าจะต้องกลัวเจ้า! “
“วันนี้เจ้าจะต้องคืนตะขาบให้ขา้ หรื อไม่กจ็ บั ไก่ตวั นั้นมาตุ๋นน้ าแกง
ให้ขา้ ”

“กะ ๆ กระต๊าก~” เจ้าไก่ขนดาตัวฟูเริ่ มดิ้นรนวุน่ วาย พยายาม


กระพือปี กคิดจะลุกขึ้นมาสู ้รบ
“หัวใจของข้าแทบจะถูกเจ้าทาพังทลายแล้ว ในใจของเจ้า ข้าเทียบ
ไม่ได้แม้แต่ไก่ตวั หนึ่งเลยหรื อ? ” ตู๋กซู ิงหลันคว้ามือของนางไว้ไม่
ยอมปล่อย “เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ ข้าชอบลูกสะใภ้อย่างเจ้ามากที่สุด”
ได้ยนิ นางพูดเช่นนี้ ก็แทบจะขนลุกไปทั้งตัว ในวังหลวงนี้ใครบ้าง
จะไม่รู้วา่ ไม่วา่ อย่างไรไม่อาจไปเป็ นลูกสะใภ้คนโปรดของไทเฮา
ได้อย่างเด็ดขาด
ไม่เห็นหรื อว่า เต๋ อเฟย ลูกสะใภ้ที่นางแสนจะชื่นชอบ ต้องไปตก
ระกาลาบากอยูใ่ นตาหนักเย็นแล้ว?
“เจ้าอย่ามาแช่งข้า! ” หยวนเฟยหน้าเปลี่ยนสี ข้าไม่เคยร่ วมหอร่ วม
ห้องกับฝ่ าบาท ไม่อาจนับเป็ นลูกสะใภ้ของเจ้าได้! “
ตอนที่ 101 ดูแลไก่ ของเจ้ าให้ ดี
ตู๋กซู ิงหลันฟังแล้ว ในใจก็เกิดความเจ็บปวด นางรี บคว้ามือของ
หยวนเฟยเอาไว้ หยวนเฟยน้อยที่สวยงามน่ารักขนาดนี้เขายังไม่ยอม
เข้าหอด้วย แสดงว่าไอ้นนั่ ของเขาจะต้องป่ วยแน่ ๆ ?
หรื อพูดได้อีกอย่าง เจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ เป็ นพวก……. ถึงได้มี
ปฎิกิริยาแต่เฉพาะกับท่านราชครู
แต่แบบนี้กถ็ ือว่าชัว่ ร้ายมาก ในเมื่อทาเรื่ องจ้ าจี้กบั สตรี ไม่ได้ แล้วยัง
แต่งเอาสาวงามมากมายเข้ามาอีก นี่ไม่เท่ากับว่าทาให้แต่ละคนต้อง
กลายเป็ นม่ายทั้งเป็ นหรื อไง?
เพียงเพื่อจะได้ดึงขั้วอานาจต่าง ๆ เข้ามา เสริ มความมัน่ คงของ
ตาแหน่งฮ่องเต้ ช่างน่าสงสารสาวงามเหล่านี้จริ ง ๆ
ตู๋กซู ิงหลันเพียงแสนเสี ยดายที่ตนเองมิใช่บุรุษ ไม่เช่นนั้นละก็มีสาว
งามมากมายขนาดนี้ นางจะต้องไม่พลาดไปโปรดปรานให้ครบเลย
ทีเดียว
พอคิด ๆ ดูแล้ว นางก็พยักหน้าหงึก ๆ ลูบไล้ปอยผมข้างหูของ
หยวนเฟย “หยวนเฟยน้อยที่น่ารักน่าสงสาร เจ้าวางใจเถอะ ถึงฮ่องเต้
จะไม่เอ็นดูเจ้า แต่ขา้ จะคอยรักแลเเอ็นดูเจ้าเอง”
สตรี แบบหยวนเฟยนี้ ถึงแม้จะไม่อาจทาเรื่ องจ้ าจี้กนั เช่นนั้นได้ แต่วา่
หากได้ชมดูใกล้ชิดบ่อย ๆ จับไม้จบั มือลูบไล้ใบหน้าเล็ก ๆ นี้ ก็ถือ
ว่าดีเยีย่ มไปเลย
ทั้งคาพูด และการแสดงออก ทาให้หยวนเฟยถึงกับขนอ่อนลุกชัน
ทั้งตัว
นางดิ้นรนสะบัดมือตู๋กซู ิงหลันสุ ดชีวิต ใบหน้าอึมครึ มดุจท้องฟ้า
ยามจะมีฝน สองใบหูกท็ ้ งั ร้อนทั้งแดงก่า
รี บถอยออกไปให้ห่างจากนาง หัวคิว้ นั้นขมวดมุ่นจนติดกันแล้ว
สตรี ผนู ้ ้ ีจะต้องตั้งใจเป็ นแน่ เพราะไม่คิดจะชดเชยตะขาบของนาง
ถึงได้งดั เอาไม้น้ ีออกมาใช้ ทั้งหลอกลวง ทั้งล่อลวงนางด้วย!
หากว่าได้สมใจแล้ว จะต้องจัดการนางอย่างโหดร้ายเหมือนที่เต๋ อ
เฟยโดนไปแล้วเป็ นแน่!
“ตู๋กูซิงหลัน ให้มนั น้อย ๆ หน่อยเถอะ! ฝ่ าบาททรงมึนเมาไปแล้ว
ถึงได้หลงไปกับมารยาของเจ้า ข้าเป็ นสตรี จริ งแท้แน่นอน จะชอบ
แต่บุรุษที่มีขนบนอกเท่านั้น! ” หยวนเฟยสองมือกอดอกเอาไว้ “ต่อ
ให้เจ้าจะเป็ นคนที่หน้าตาดีขนาดไหน ชัว่ ชีวิตนี้ขา้ ก็ไม่มีทางสนใจ
เจ้าหรอก! “
ไม่เพียงไม่สนใจ ทั้งยังรังเกียจอย่างมากด้วย!
ก็จะไม่ให้รังเกียจได้หรื อ ท่านพ่อทุ่มเทเสี ยสละชีวิตช่วยเหลืออดีต
ฮ่องเต้กลับมา แต่สุดท้ายกลับสิ้ นพระชนม์เพราะความงามของนาง!
ทุกครั้งที่คิดถึงข้อนี้ หยวนเฟยก็อดจะรู ้สึกไม่ได้วา่ บิดาของตนตาย
เปล่า ในใจจึงยิง่ ชิงชังตู๋กูซิงหลัน
เพียงแต่วา่ ยามปกติสตรี ผนู ้ ้ ีกไ็ ม่ได้มาจ้องหาเรื่ องอะไรกับนาง นาง
เองก็ไม่คิดจะเป็ นฝ่ ายก่อเรื่ องยุง่ ยาก คิดไม่ถึงว่าอยู่ ๆ ตู๋กซู ิ่งหลันจะ
บังเกิดความคิดที่ไม่สมควรกับนาง
หยวนเฟยกาหมดในมือแน่น ก้าวถอยหลังไปหลายก้าว และยังจ้อง
มองนางอย่างเคียดแค้น
ตู๋กซุ ิงหลันมึนตึ๊บไปแล้ว นางไม้รู้วา่ หยวนเฟยกาลังชม หรื อว่ากาลัง
ด่านางกันแน่
แต่วา่ หยวนเฟยน้อยจะชอบอะไรล้วนไม่เป็ นปั ญหา แต่กลับชอบ
บุรุษมีขนที่หน้าอก….. บุรุษที่มีขนหน้าอกยาวนะใช้ไม่ได้หรอก
เป็ นพวกอารมณ์รุนแรง ไม่รู้จกั รักบุปผาถนอมหยก
ในสมองของตู๋กซู ิงหลันปรากฎภาพของกอริ ล่า พาลให้นางรู ้สึก
ปวดฟันขึ้นมาตะหงิด ๆ
“ฮึ! ดูแลไก่ของเจ้าให้ดี ๆ ! ข้าเป็ นคนใจกว้าง ครั้งนี้ถือว่าแล้วกันไป
แต่หากครั้งหน้ามันยังกล้ามาที่ตาหนักฉางซินของข้าอีกละก็ ข้าก็จะ
ไม่ไว้หน้าอีกต่อไป จะต้องจับมันมาทาไก่ยา่ งตัวใหญ่อย่างแน่นอน!

ทันทีที่พดู จบ หยวนเฟยก็เสมือนกับกระต่ายตัวหนึ่ง ผลุบ ๆ โผล่อยู่
ไม่กี่ครั้งก็ไม่เห็นเงาของคนอีก
นางวิ่งรวดเดียวกลับมาถึงตาหนักฉางซินของตนเอง ผลซิ่งบนต้น
ข้างประตูตาหนักถูกเด็ดหมดแล้ว นางพิงกับลาต้นอยูค่ รู่ ใหญ่ค่อย
ปรับลมหายใจให้เป็ นปกติ
งูเขียวเลื้อยลงมาจากต้นซิ่ง พันตัวเองบนท่อนแขนของนางอีกครั้ง
แลบลิ้นซี่ ๆ ให้นาง
วันนี้ช่างเป็ นวันที่โชคร้ายจริ ง ๆ เกือบจะถูกเจ้าไก่ตวั นั้นบุกเข้ามา
จับกินเสี ยแล้ว ยังดีที่มนั วิ่งเร็ ว ไม่เช่นนั้นคงจะต้องมีจุดจบ
เช่นเดียวกับตะขาบพวกนั้น
“ช่างเป็ นสตรี ที่สมควรตายนัก! ” เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ หยวน
เฟยก็รู้สึกเหมือนกับว่าตนเองใบหน้าร้อนผะผ่าวขึ้นมา พาลเตะใส่
ต้นซิ่งไปครั้งหนึ่ง
“หวังไฉ เจ้าว่าหากข้าถูกสตรี ผหู ้ นึ่งหมายตาเข้าแล้ว สายเลือด
ตระกูลหยวนจื่อที่เป็ นหัวหน้าเผ่าหนานเจียงจะขาดหายไปหรื อไม่”
งูเขียว “??? “
“คนในราชวงค์แคว้นต้าโจวนี้ช่างน่าหัวเราะนัก ฮ่องเต้โปรดปราน
บุรุษ ไทเฮาโปรดปรานสตรี ข้าดู ๆ แล้วนะ ไม่ชา้ ก็เร็ วจะต้องล่มจม
แน่ ” หยวนเฟยอารมณ์ไม่ดี ก็เตะใส่ ตน้ ซิ่งอยูห่ ลายชุด เตะ
จนกระทัง่ ใบของต้นซิ่งล่วงหล่นลงมา
วิญญาณเจ้าผึ้งน้อยที่แอบจาศีลอยูใ่ ต้ดินก็สนั่ สะท้าน นี่มนั เผอิญได้
ยินเรื่ องที่ไม่สนควรเข้าแล้วหรื อเปล่า?
………………………………
ณ ตาหนักเฟิ่ งหมิง
ตู๋กซู ิงหลันมองดูเงาหลังของหยวนเฟยที่กลืนหายไปกับความมืด
ของยามราตรี นางเลียริ มฝี บากค่อยคลี่ยมิ้ อย่างหยาดเยิม้ ผ่านไปอีก
พักใหญ่ถึงได้นึกขึ้นมาได้วา่ ที่ขา้ งตัวยังมีเสี ยนไท่เฟยอยูด่ ว้ ย จึงหัน
ไปพูดกับนางว่า “ท่านว่าหยวนเฟยน้อยช่างน่ารักหรื อไม่? “
เสี ยนไท่เฟย “…….” หากไม่ใช่วา่ หยวนเฟยผูน้ ้ ีปรากฎตัวขึ้นอย่าง
กระทันหันวิชาสะกดจิตของนางก็คงจะไม่ถูกขัดเสี ยก่อนเช่นนี้
สตรี ที่บุ่มบ่ามเช่นนั้น อยูใ่ นวังไปก็นบั ว่าเป็ นตัวประหลาด ทั้งยังมี
เรื่ องการแต่งตัวเช่นนั้นทาให้ใคร ๆ ต่างก็รู้สึกไม่ดี ยังจะว่าน่ารักได้
หรื อ?
เสี ยนไท่เฟยไม่กล่าววาจา นางเอื้อมมือออกไปข้างหนึ่ง ให้ชิงผิงช่วย
พยุงตัวนางไว้ เมื่อครู่ ฝืนใช้วิชาสะกดจิตออกไป ร่ างกายของนาง
ตอนนี้กถ็ ึงขีดจากัดแล้ว
“จริ งสิ เมื่อครู่ เสี ยนไท่เฟยกาลังพูดเรื่ องอะไรกับข้าอยูห่ รื อ? ” ตู๋กู
ซิงหลันทาเหมือนไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติของตนเองแม้แต่นอ้ ย
นางยิม้ ๆ พลางถามออกไป
“ไม่มีเรื่ องใดแล้ว” ใบหน้าของเสี ยนไท่เฟยซีดขาว “ข้ามาที่นี่กต็ ้ งั
นานแล้ว ไม่ขอรบกวนแล้ว”
นางกล่าวจบก็หนั ไปส่ งสายตากับชิงผิง
ชิงผิงถวายคานับให้ต๋ ูกซู ิงหลันครั้งหนึ่ง ก็ประคองเสี ยนไท่เฟยจาก
ไปโดยเร็ ว
ตู๋กซู ิงหลันเอนตัวพิงกับขอบประตูตาหนัก จดจ้องดูเงาหลังของ
เสี ยนไท่เฟย ดวงตาดอกท้อคู่น้ นั หรี่ ตามมองอย่างเพ่งพินิจ สายตา
ของนางทอประกายเย็นยะเยียบ
“สตรี ผนู ้ ้ ีไม่ธรรมดา ” ครู่ เดียวเจ้าวิญญาณที่ซ่อนอยูใ่ นเงาของนางก็
ออกมา กระโดดไม่กี่ครั้งก็ข้ ึนไปเกาะอยูบ่ นบ่าของนาง “ไท่เฟยผู ้
หนึ่ง กลับรู ้จกั ใช้วิชาสะกดจิต วิชาศาสตร์มืดลี้ลบั เช่นนี้”
“นางย่อมไม่ธรรมดาอยูแ่ ล้ว ” ตู๋กซู ิงหลันยกยิม้ มุมปาก นางยืน่ มือ
ออกมา ใจกลางฝ่ ามือก็ปรากฎกลุ่มก้อนจิตวิญญาณธาตุหยินที่
เข้มข้น ภายในยังรู ้สึกได้ถึงแรงอาฆาตที่แฝงไว้อย่างรุ นแรง
วิญญาณทมิฬมองดูใจกลางฝ่ ามือของนาง ใบหน้าก็พลันเปลี่ยนไป
“สตรี ผนู ้ ้ นั ที่แท้กค็ ือ….”
ใช่แล้ว” ตู๋กซู ิงหลันเก็บฝ่ ามือขึ้นมา รอยยิม้ ที่มุมปากยิง่ ทียงิ่ เข้มข้น
“วังหลวงแห่งนี้ช่างเป็ นที่ซ่อนพยัคย์ถ้ ามังกรจริ ง ๆ “

“กุ๊ก ๆ กรู ้ ~” เจ้าไก่ขนฟูส่งเสี ยงตอบ ราวกับว่ามันเองก็เห็นด้วย


วิญญาณทมิฬเหลือบตามองดูมนั แวบหนึ่ง น้ าลายก็ไหลออกมา
…………………………………..
เหมันต์ฤดูของแคว้นตาโจวมาถึงอย่างรวดเร็ ว เดือนสิ บเอ็ด ในเมือง
หลวงก็หนาวเสี ยจนทาให้คนแทบจะตัวแข็งแล้ว จากฤูดูใบไม้ร่วง
มาฤดูหนาวอุณหภูมิแทบจะมิได้แตกต่างกันสักเท่าไหร่
พิธีแต่งตั้งของท่านหญิงฉางซุนซุ่นเอ๋ อร์ธิดาขององค์หญิงใหญ่ ใกล้
จะมาถึงอยูร่ อมร่ อแล้ว
แม้แต่หิมะแรกของฤดูหนาวนี้เองก็ยงั รี บร้อนมาร่ วมชมความ
ครึ กครื้ นด้วยเลย
ถนนทิศเหนือของเมืองหลวงถูกประดับประดางดงาม
จวนขององค์หญิงใหญ่ที่เคยเงียบสงบก็แขวนโคมแดง ผูกผ้าแดง
โดยรอบ
นับตั้งแต่ท่านราชบุตรเขยจากโลกนี้ไปแล้ว ตลอดหกปี ที่ผา่ นมาใน
จวนแทบจะไม่เคยเห็นสี แดงมงคลเช่นนี้มาก่อน
หลายวันนี้บรรดาข้ารับใช้ในจวนต่างก็กาลังวุน่ วาย ทัว่ ทั้งจวนองค์
หญิงคึกคักขึ้นมาทีเดียว
อีกเพียงสองวัน ก็จะถึงวันงานพิธีแต่งตั้งที่แสนสาคัญของท่านหญิง
แล้ว
แต่วา่ พวกเขากลับไม่อาจรู ้สึกยินดีข้ ึนมาได้ เพราะตั้งแต่หลายวัน
ก่อน ในเมืองหลวงก็เกิดเรื่ องที่เด็ก ๆ พากันหายตัวไป เพียงแค่
ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วนั มีเด็ก ๆ หายตัวไปแล้วถึงสิ บกว่าคน
ที่ยงิ่ น่ากลัวก็คือ ยามที่ศพของเด็กเหล่านั้นถูกค้นพบนั้น ใบหน้าเต็ม
ไปด้วยความหวาดผวา ถูกควักหัวใจออกไป ดูดโลหิตจนหมดตัว
เสี ยชีวิตอย่างน่าสยดสยอง
ทุกวันนี้ผคู ้ นในเมืองหลวงต่างใจคอไม่สู้ดี ไม่วา่ บ้านไหนต่างก็ไม่
กล้าให้บุตรหลานออกมาข้างนอกเพียงลาพัง
และก็ไม่รู้วา่ ใครกันที่เป็ นคนปล่อยข่าว ว่าสิ่ งที่ควักหัวใจ สู บโลหิ ต
นั้น คืบคลานออกมาจากสุ สานของเย่วฮูหยินนัน่ เอง เรื่ องนี้คง
จะต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับไทเฮาเป็ นแน่
ตอนที่ 102 ท่ านลุงประหลาด
ฟังไม่ผดิ แล้ว เนื่องเพราะไทเฮาทรงประสงค์จะรักษาความงดงามไว้
เพื่อล่อลวงฮ่องเต้ ถึงได้กระทาเรื่ องน่าเกลียดน่ากลัวเช่นนั้นขึ้นมา
ไม่เช่นนั้น นางที่ก่อนหน้านี้เข้าไปอยูใ่ นตาหนักเย็นแล้ว แถมยังเป็ น
ที่รังเกียจของฝ่ าบาท ทาไมถึงได้สามารถกลับออกมาโดยไม่บุบ
สลายได้?
ต่อให้นางถูกเต๋ อเฟยใส่ ร้ายจริ ง การที่นางสามารถพลิกคดีน้ ีได้ดว้ ย
ตนเองก็ถือว่ามิใช่เรื่ องธรรมดา
อย่าได้ลืมไปเชียวว่า อดีตฮ่องเต้ทรงถูกความงามของนางล่อลวงจน
หายพระทัยไม่ทนั สิ้ นพระชนม์ไป!
นี่มนั ชัดเจนเลยว่าสตรี ผนู ้ ้ ีคือนางมาร!
เล่าลือกันว่า พักก่อนนางมารผูน้ ้ ียงั ได้ไปค้างคืนอยูใ่ นพระตาหนักตี้
หัวของฝ่ าบาทอยูห่ ลายวัน หึ ๆ ๆ เรื่ องที่ไม่ถูกทานองคลองธรรม
เช่นนี้ สตรี ที่แม้แต่ ‘ลูกชาย’ ของตนเองยังคิดจะยัว่ ยวนอีก มีหรื อจะ
เป็ นคนดีไปได้?
แคว้นต้าโจวกลับมีไทเฮาเช่นนี้ ชาติบา้ นเมืองไหนเลยจะนับว่าโชค
ดีได้อีก!
ไม่รู้วา่ หากอดีตฮ่องเต้ในปรโลกทรงรับรู ้ได้ละก็ จะทรงมีโทสะจน
ลุกขึ้นมาอีกครั้งหรื อไม่!

……………………………

เมืองหลวง ถนนทิศเหนือ เซียวเซียงโหล


เมื่อได้ชื่อว่าเป็ นหอเริ งรมณ์ที่ใหญ่ที่สุดในในเมืองหลวง ที่นี่ยอ่ ม
เป็ นสถานที่ที่รวบรวมหญิงงามเอาไว้มากมาย ลูกค้าก็มาจากทัว่ ทุก
สารทิศ แน่นอนว่าแม้แต่พวกที่เชื่อถือผีสางก็มีอยูด่ ว้ ย
วันนี้ต๋ ูกซู ิงหลันก็ปะปนอยูใ่ นกลุ่มคนเหล่านี้ นางเปลี่ยนเป็ นชุดบุรุษ
นัง่ อยูใ่ นห้องแขกพิเศษของเซียวเซียงโหล ข้างกายมีสาวน้อยที่เผ็ด
ร้อนหลายคนอยูเ่ ป็ นเพื่อน
นางถือพัดเล่มหนึ่งเอาไว้ในมือ มือซ้ายพัดโบกมือขวาโอบกอด
ไหนเลยจะไม่มีความสุ ขได้อีก

“คุณชายน้อย ชิมองุ่นสิ เจ้าคะ อ้าม~” สาวน้อยที่อยูใ่ นอ้อมแขน


ข้างซ้ายส่ งองุ่นที่พ่ งึ ปอกเปลือกออกเดี๋ยวนี้ถึงตรงหน้านาง
“อร่ อย อร่ อยมาก! ” ตู๋กซู ิงหลันกลืนลงไปในคาเดียว ทั้งยังไม่ลืมจับ
มือของคนงามนั้นมาลูบไล้อย่างนุ่มนวลรอบหนึ่ง

“คุณชายเจ้าคะ เชิญมาดื่ม อื้ม~” คนงามด้านขวายกจอกบางใสขึ้น


จรด ทรวงอกที่อวบอิ่มคู่น้ นั บดเบียดแนบชิดกับท่อนแขนของนาง
เพิ่มพูนความสนิทสนม
“รสดี รสดีมาก ๆ ! ” ตู๋กซู ิงหลันปล่อยตัวตามสบาย ยิม้ แย้มดุจ
ดอกไม้บาน
อ้า นี่ช่างเป็ นแดนสวรรค์ในโลกมนุษย์เสี ยจริ ง ๆ ! ดูสาวน้อยแต่ละ
คนในที่น้ ีสิ มีน้ าจิตน้ าใจยิง่ กว่าบรรดาลูกสะใภ้ในวังหลังมากนัก
ครั้งก่อนที่ออกมานอกวัง นางก็สงั เกตเห็นหอเซียวเซียงโหลแห่งนี้
แล้ว ใจมันระริ ก ๆ อยากจะมาให้ได้
เมื่อมาถึงแล้ว ก็ไม่ทาให้นางผิดหวังจริ ง ๆ หออันดับหนึ่งก็คือหอ
อันดับหนึ่ง แม้แต่สาวงามในที่น้ ียงั ไม่ดอ้ ยไปกว่าพระสนมในวัง
หลังเลย
ตู๋กซู ิงหลันที่ท่าทีคล้ายกับเหล่าลูกหลานของผูด้ ีมีเงินที่หลงใหลใน
รู ป รส กลิ่น เสี ยง กาลังเมามายประดุจอยูใ่ นความฝัน
สาวน้อยกลุ่มหนึ่งกาลังบีบนวดทุบหลังให้กบั นาง ช่างสุ ขสบาย
ประหนึ่งเป็ นฮ่องเต้
บุรุษประเภทต่าง ๆ พวกนางล้วนได้พบหน้ามาไม่นอ้ ย แต่วา่ ผูท้ ี่มี
เสน่ห์ น่ารัก แบบคุณชายน้อยท่านนี้ นี่กลับเป็ นครั้งแรก!
ครั้งนี้จะได้เงินมากหรื อน้อยก็ไม่ใช่เรื่ องใหญ่แล้ว เรื่ องสาคัญคือ
สามารถได้ใกล้ชิดกับคุณชายน้อยที่รูปงามดุจเทพเซียนท่านนี้
ต่างหาก
ไม่รู้วา่ ค่าคืนนี้ ผูใ้ ดจะได้ผา่ นราตรี ไปกับคุณชายน้อยกัน
จะทาอย่างไรดี ต่างคนก็ต่างคิดอยากจะมอบตัวมอบใจให้คุณชาย
น้อยเสี ยเดี๋ยวนี้!
วิญญาณตายโหงที่อยูก่ บั ตู๋กเู หลียนก็สวมชุดบุรุษนัง่ อยูต่ รงหน้า
ของตู๋กซู ิงหลันด้วย สี หน้าของนางเองก็ตื่นเต้นกับสถานการณ์
ตอนนี้อยูไ่ ม่นอ้ ย
ในชาติก่อนนางมีโอกาสได้รับใช้เหล่าท่านอ๋ องอยูห่ ลายท่าน แต่วา่
ไม่มีบุรุษคนใดจะทาตัวเจ้าชูก้ รุ่ มกริ่ มได้เท่ากับท่านเซียน!
คนเช่นนี้ทาไมถึงได้สามารถฝึ กฝนจนสาเร็ จวิชาเซียนได้กนั นะ?
ยามนี้นางนึกเสี ยใจนัก
หากรู ้แต่แรกว่าท่านเซียนเจ้าชูข้ นาดนี้ นางน่าจะใช้แผนสาวงามไป
ตั้งแต่แรก!
เพราะจะอย่างไรในชาติก่อนนางก็เป็ นสาวงามในหมู่นางกานัลผู ้
หนึ่ง หากว่าท่านเซียนเจ้าชูไ้ ด้ถึงขนาดนี้ละก็ เพียงเปิ ดเผยเรี ยวขาก็
คงสามารถล่อลวงนางให้หลงใหลไปได้เจ็ดแปดรอบแล้วมั้ง?
จุ๊ ๆ ๆ ช่างน่าเสี ยงดายแทนสองขาที่เรี ยวยาวจริ ง ๆ
เบื้องหน้ามองเห็นตู๋กซู ิงหลันโอบกอดสาวน้อยทั้งหลายอย่างไม่
สารวมถึงเพียงนี้แล้ว นางก็ได้แต่ห่อปาก กล่าวเสี ยงเบาว่า “คุณชาย
พวกเราออกมาหาของขวัญวันเกิดให้คุณหนูนอ้ ยกัน ท่านอย่าได้ลืม
เรื่ องสาคัญไป”
ตู๋กซู ิงหลันดื่มเหล้าไปใบหน้าก็มีสีแดงระเรื่ อขึ้นมา ใช้พดั ในมือ
โบกเบา ๆ ตามสบาย “ไม่รีบ ๆ ข้าจะต้องหาแรงบันดาลใจก่อน คิด
ใคร่ ครวญให้ดี ว่าสมควรส่งมอบสิ่ งใดให้เด็กน้อยนัน่ ”
นางเอาแหวนหยกนิ้วโป้งของจีเฉวียนไปขายแล้ว รอบนี้กไ็ ด้เงินมา
ไม่นอ้ ย! แถมนาน ๆ ทีจะได้หลบออกจากวังมา จะต้องสนุกสนาน
ให้มากหน่อย
อีกสองวันข้างหน้าจะเป็ นพิธีแต่งตั้งท่านหญิงน้อยแล้ว นางที่มี
ฐานะเป็ น ‘ท่านย่า’ ของท่านหญิงน้อย ย่อมสมควรจะมีของขวัญ
ใหญ่ให้สกั ชิ้น
การให้ของขวัญนั้นย่อมต้องตระเตรี ยมให้ดี ไม่อาจเรี ยบง่ายเกินไป
ได้ แต่วา่ เหล่าของขวัญที่บรรดาลูกสะใภ้ท้ งั หลายเคยส่ งมานั้น กลับ
ถูกเจ้าฮ่องเต้สุนขั สัง่ ให้เก็บเข้าท้องพระคลังหลวงไปเสี ยแล้ว ตัวนาง
ในตอนนี้มีแต่เงินที่ได้จากการขายแหวนหยกนัน่ เท่านั้น
คงไม่อาจมอบทองก้อนหนึ่งให้ท่านหญิงได้หรอกมั้ง
วิญญาณตายโหง “แต่วา่ เรื่ องที่สาคัญกว่าก็คือ…..”
เฮ่อ! นางไม่สมควรจะรี บร้อนเป็ นห่วงผูอ้ ื่นเลย!
พอได้ยนิ ว่าในเมืองหลวงกาลังเล่าลือข่าวไม่ดีเกี่ยวกับตัวตู๋กซู ิงหลัน
นางไม่สมควรที่จะรี บร้อนมาบอกข่าวท่านเซียนในทันทีหรอกหรื อ?
ออกมาหาของขวัญให้ท่านหญิงน้อยก็นบั ว่าเป็ นเรื่ องหนึ่ง แต่ที่
สาคัญกว่าก็คือจะต้องสื บคดีเรื่ องเด็กน้อยที่หายตัวไป เพื่อคืน
ความบริ สุทธ์ให้ท่านเซียน
แต่วา่ ท่านเซียนกับดีนกั ทั้งที่นางถูกใส่ ร้ายให้แบกหม้อก้นดากลับ
ไร้แรงกดดันแม้แต่นอ้ ย
ก็ไม่รู้วา่ ฆาตกรชัว่ ร้ายที่ลงมือคือผูใ้ ดที่ไหนกันแน่ แม้แต่เด็กน้อยยัง
ไม่ยอมปล่อย จิตใจที่โหดเ**่้ยมอามหิ ตเช่นนี้แม้แต่ตวั นางที่เป็ น
วิญญาณพยาบาทยังไม่เ**่้ยมเท่า
มันชัดเจนเลยว่าเรื่ องเช่นนี้อาจมิใช่ผลงานของมนุษย์ผหู ้ นึ่ง
พวกขุนนางท้องที่ท้ งั หลายแน่นอนว่าสื บสวนไม่ได้ความอันใด
แม้แต่นอ้ ย
ลองฟังดูสิ ในยามนี้ทวั่ ทั้งหอเซียวเซียงโหล กาลังถกเถียงเรื่ องเด็ก
น้อยที่หายตัวไปและถูกทาร้าย ส่ วนไทเฮาทรงถูกปี ศาจเข้าสิ งจน
กลายเป็ นนางมาร แต่วา่ ตัวจริ งกลับไม่รู้สึกรู ้สาใด ๆ
ิ ญาณตายโหงที่นงั่ หน้าแดงอยูต่ รงนั้น แต่สายตา
ตู๋กซู ิงหลันมองดูวญ
ยังคงมีแววจริ งจังไม่คลาย

“เสี่ ยวเหลียง ” (凉,เหลียง = เย็น, ชืด) คุณชายเช่นข้ามาด้วยตนเอง


แล้ว เจ้าอย่าได้ร้อนใจไป จงเชื่อมัน่ ในตัวข้าไว้เป็ นพอ ” ตู๋กูซิงหลัน
พูดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง
วิญญาณตายโหง “……..” เสี่ ยวเหลียง ชื่อนี้ฟังดูไม่ค่อยเป็ นมงคล
เท่าไหร่ ขอข้าเปลี่ยนได้ไหมงะ?
คืนนี้เป็ นข้างขึ้นหนึ่งค่า แต่กลับไร้ซ่ ึงแสงจันทร์ แผ่นฟ้ากว้างใหญ่ดู
ไปมืดมิด แม้แต่แสงดาวบนฟากฟ้ายังถูกหมู่เมฆบดบังไว้
หิมะตกหนักแล้ว ลมก็โหมแรง พาเอาหิ มะทั้งหลายปลิดปลิวขึ้นไป
บนท้องฟ้า
บนถนนที่ประดับประดาอย่างงดงามเช่นถนนทิศเหนือนี้มีผคู ้ น
สัญจรมากนัก เพียงครู่ เดียวก็ลดลงจนแทบจะไม่เห็นใคร
ทันใดนั้น บนถนนใหญ่กม็ ีรถม้าของราชวงค์คนั หนึ่งแล่นเข้าสู่
สายตา
ภายในรถม้า องค์หญิงใหญ่ประทับนัง่ อยูภ่ ายใน บุตรสาวของนาง
ซุ่นเอ๋ อร์แง้มผ้าม่านแอบลอดศีรษะออกดูดา้ นหลัง
“ท่านแม่ ท่านลุงประหลาดที่ถือดาบเล่มใหญ่ผนู ้ ้ นั ทาไมถึงยัง
ติดตามพวกเรามาอีกเล่าเจ้าคะ? “
ซุ่นเอ๋ อร์กลับเข้าไปซุกอยูใ่ นอ้อมอกองค์หญิงใหญ่ กระตุกชายเสื้ อ
ของนาง “เขาเป็ นคนร้ายหรื อเปล่า? ซุ่นเอ๋ อร์กลัวเขาอยูบ่ า้ ง”
องค์หญิงใหญ่ได้ยนิ แล้ว ก็กอดซุ่นเอ๋ อร์แน่นเข้า สัง่ ให้สารถีหยุดรถ
ม้าลง
เพียงครู่ เดียวบุรุษร่ างใหญ่ที่ถือดาบไว้กไ็ ล่ตามมาทัน รักษาระยะห่าง
จากรถม้าเอาไว้ช่วงหนึ่ง
องค์หญิงใหญ่แง้มผ้าม่านออก ทอดพระเนตรดูบุรุษที่มีหิมะปลิวใส่
ทัว่ ทั้งร่ าง กล่าวด้วยน้ าเสี ยงเย็นชาอย่างที่สุดว่า “ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิต
เจ้าติดตามพวกเรามาตลอดทาง ทาให้ธิดาของเราหวาดกลัวแล้ว”
ตู๋กจู ุนขี่มา้ ขาว มองดูนางที่ทาท่าเย็นชาทั้งยังแฝงเอาไว้ดว้ ยความ
รังเกียจบางส่ วน ก็ไม่ได้ถอยม้าออกไป เขากระชับดาบไว้กล่าวว่า
“ช่วงนี้สถานการณ์ในเมืองหลวงไม่ค่อยสงบนัก ข้าแม่ทพั ไม่อาจ
วางใจในความปลอดภัยของพวกเจ้าแม่ลูก ในเมื่อออกจากวังมา
พร้อม ๆ กัน ย่อมสมควรจะไปส่ งสักรอบหนึ่ง”
“ใช่สิ ไม่ค่อยสงบ ท่านแม่ทพั ไม่รู้หรื อว่าความไม่สงบนี้มีที่มาจากที่
ใด? ” สี พระพักตร์ขององค์หญิงใหญ่ราบเรี ยบ “เจ้ามาคอยติดตาม
เราเช่นนี้ ไม่สู้ไปสื บหาดูให้ดีวา่ ผูร้ ้ายที่คร่ าชีวิตนั้นเป็ นน้องสาว
ของเจ้าหรื อไม่”
ตอนที่ 103 ท่ านเซียนช่ างไร้ น้าใจ
ตู๋กูจุนสี หน้าเปลี่ยนไปในทันที เขาพลิกตัวลงจากหลังม้า ร่ างกายที่
สู งใหญ่ขวางอยูด่ า้ นหน้ารถ ดาบเล่มใหญ่สะบัดออกมาเบื้องหน้า
ชนิดที่ทาให้มา้ ลากรถเกิดความตระหนกขึ้นมาทันที
มือข้างหนึ่งของเขารั้งสายบังเ**ยนไว้ ดวงตาที่คมกริ บคู่น้ นั จดจ้อง
ผูค้ นที่อยูใ่ นรถม้า “ข้าแม่ทพั รู ้วา่ องค์หญิงยังทรงเกลียดชังข้าแม่ทพั
เพราะเรื่ องนั้น เรื่ องที่ขา้ ได้กระทาผิด ข้าขอรับไว้แต่เพียงผูเ้ ดียว องค์
หญิงทรงชิงชังรังเกียจกระหม่อมได้อย่างเต็มที่ ไม่จาเป็ นจะต้องพูด
ไปถึงน้องเล็กของกระหม่อมหรอก”
“น้องเล็กเป็ นคนเช่นไร กระหม่อมรู ้ชดั กว่าผูใ้ ด นางมีเมตตาไร้
เดียงสา ไหนเลยจะกระทาเรื่ องควักหัวใจดูดเลือดได้ เรื่ องนี้ฝ่าบาท
ทรงมีพระบัญชาให้กรมอาญาลงมือสื บสวน ขอพระองค์อย่าได้ทรง
คาดเดาวุน่ วายว่าเป็ นผูน้ ้ นั ผูน้ ้ ี”
พอได้ฟังเช่นนี้องค์หญิงใหญ่กท็ รงแย้มสรวลออกมา นางประทับอยู่
ในรถม้า แย้มผ้าม่านออกมามองดูต๋ ูกจู ุน “เราเพียงกล่าวถึงนางเพียง
ไม่กี่ประโยค เจ้าก็ทนไม่ได้เสี ยแล้ว หากว่าน้องสาวสุ ดที่รักของเจ้า
สิ้ นชีวิตไปต่อหน้า ท่านแม่ทพั คงจะสู ้เอาชีวิตกับเราเลยใช่หรื อไม่?

ดวงตาของตู๋กจู ุนปรากฎแววตาเหน็บหนาวขึ้นมาชัว่ แวบ “พระองค์
ทรงทราบชัดเจนดีวา่ น้องเล็กคือดวงใจของกระหม่อม แล้วใยจะต้อง
ทิ่มแทงกระหม่อมเช่นนี้? “
“ดวงใจรึ ฮ่า ๆ ๆ ….” องค์หญิงใหญ่เปล่งเสี ยหัวเราะออกมา
“ความรักความผูกพันในโลกนี้ มีแต่พวกเจ้าคนตระกูลตู๋กทู ี่มีเลือด
เนื้อมีหวั จิตหัวใจ รู ้จกั ความเจ็บปวด ผูอ้ ื่นล้วนเป็ นซากศพเดินได้ที่
ไร้ความรู ้สึกใช่ไหม? “
“ดวงใจของเจ้าผูอ้ ื่นไม่อาจด่าว่าได้แม้สกั ครึ่ งคา เช่นนั้นดวงใจของ
เราล่ะ? เขานอนอยูใ่ นปรโลกอย่างเดียวดาย ทุกปี ในเทศกาลชิงหมิง
พวกเจ้าตระกูลตู๋กูเคยไปกราบไหว้ที่สุสานหรื อไม่ เคยไปจุดธูปสัก
ดอกหรื อ? “
ตู๋กจู ุนอ้าปากค้าง คาพูดทั้งหลายได้แต่กลืนลงท้องไป
องค์หญิงใหญ่ปิดพระเนตรลง ริ มฝี ปากบิดโค้ง ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่ถึง
ได้ทรงระงับพระอารมณ์ให้สงบลงได้ “ต่อไปท่านแม่ทพั จงอย่าได้
ปรากฎตัวต่อหน้าเราให้มากเป็ นดี คราใดที่เราเห็นเจ้าเป็ นต้องฉุก
คิดถึงความเจ็บปวดนั้นขึ้นมาอีก จนอดไม่ได้ที่จะพลอยชิงชังคนใน
ครอบครัวเจ้าไปด้วย หากพอพูดคุยกก็ยงิ่ ไม่มีอะไรน่าฟัง”
หิมะโปรยปรายอย่างหนัก ทยอยตกลงบนเสื้ อเกราะที่เย็นเฉี ยบของตู๋
กูจุน ทั้งบนศีรษะและไหล่บ่าของเขาล้วนมีหิมะบาง ๆ อยูช่ ้ นั หนึ่ง
ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตที่มีโทสะรุ นแรงเสมอได้แต่ยนื นิ่งอยูท่ ่ามกลาง
หิมะที่ร่วงหล่น ดวงตาของเขาปรากฎอารมณ์ซบั ซ้อนที่ยากจะ
เสาะหาได้
ผ่านไปอีกเนิ่นนาน เขาถึงได้กระชับหมัดคานับองค์หญิงใหญ่ “เรื่ อง
ที่ขา้ แม่ทพั เคยติดค้างพระองค์ หนี้น้ ีจะจะต้องใช้คืนแน่นอน”
องค์หญิงใหญ่กลับไม่ทรงทอดพระเนตรมองเขาแม้แต่นอ้ ย นาง
ปล่อยม่านลงก็หนั ไปสัง่ สารถี “กลับจวนได้”
“ท่านแม่ทพั โปรดคืนบังเ**ยนม้า……” คนขับรถยืน่ มือออกไป
กล่าวอย่างกระอึกกระอัก
สายตาของตู๋กจู ุนทอประกายลึกล้ า ในที่สุดก็คืนบังเ**ยนม้าให้
คนขับไป ยกดาบใหญ่ข้ ึนเปิ ดทาง
เขายังคงยืนอยูท่ ี่เดิม ข้างกายมีเพียงม้าขาวตัวหนึ่ง หิ มะยามดึกสร้าง
ความหนาวเย็นแก่ผคู ้ น สายลมพัดโหมจนเส้นผมของเขาปลิวพันกัน
อย่างยุง่ เหยิง แต่พวกเขาหนึ่งคนหนึ่งม้าก็ยงั คงยืนนิ่งอยูท่ ี่นนั่ เฝ้ามอง
รถม้าขององค์หญิงใหญ่ค่อย ๆ ลับตาไป
ภายในรถม้า ซุ่นเอ๋ อร์ดึงแขนเสื้ อของจีฉุน เมื่อเงยหน้ามองดูมารดาก็
เห็นว่าสองเนตรมีน้ าตาคลอ “ท่านแม่อย่าได้ร้องไห้ ซุ่นเอ๋ อร์จะอยู่
กับท่านเสมอ”

(纯 ฉุน, บริ สุทธฺ ์ , ปราศจากสิ่ งเจือปน)

จีฉุนกระพริ บตาไล่น้ าตากลับไป ยืน่ มือออกไปคว้าตัวซุ่นเอ๋ อร์เข้า


มากอดไว้ ลูบไล้แผ่นหลังของนางอย่างแผ่วเบา “ซุ่นเอ๋ อร์ของพวก
เราช่างรู ้จกั เชื่อฟังนัก”
เด็กหญิงตัวน้อยกอดคอของนางไว้ ใช้ใบหน้ารู ปไข่ที่อุ่น ๆ ของ
ตนเองแนบไปกับแก้มของนาง “ท่านแม่เกลียดชังท่านลุงประหลาด
ผูน้ ้ นั มากหรื อเจ้าคะ? “
จีฉุนเคร่ งขรึ มลง พลางลูบไล้ศีรษะเด็กน้อย “ก็แค่คนที่ไม่ถูกชะตา
กันเท่านั้น แม่ไม่มีแรงจะไปโกรธเกลียดเขาหรอก”
“แต่เขาบอกว่าติดค้างท่านแม่ คนที่ไม่ถูกชะตากันจะติดค้างกันได้
ด้วยหรื อเจ้าคะ? “
จีฉุนถูกนางถามเสี ยจนอ้ าอึ้งไป เนิ่นนานครู่ ใหญ่ยงั ไม่รู้วา่ จะพูด
อย่างไรดี
“ซุ่นเอ๋ อร์ดูออกนะเจ้าคะ ท่านแม่ไม่ชอบท่านลุงผูน้ ้ นั อีกหน่อยหาก
ว่าเขายังกล้ามาหาท่านแม่ ซุ่นเอ๋ อร์จะเอาไม้กวาดไล่เขาไปไกล ๆ
ไม่ให้เขามาทาให้ท่านแม่เสี ยใจได้อีก”
เด็กหญิงตัวน้อยกอดคอนางอย่างปลอบประโลม
คราวนี้ หัวใจของจีฉุนเปี่ ยมไปด้วยความปวดร้าวและสับสน นางได้
แต่กอดบุตรสาวตัวน้อยที่รู้จกั เข้าอกเข้าใจผูค้ นเอาไว้อย่างแนบแน่น
ตอนนี้นางก็เหลือแต่ซุ่นเอ๋ อร์แล้วเท่านั้น นางขอสาบาน จะต้อง
อบรมเลี้ยงดูบุตรสาวให้เติบโตอย่างดี ไม่วา่ ผูใ้ ดในโลกนี้กไ็ ม่อาจมา
ทาร้ายบุตรสาวของนางได้แม้สักน้อยนิด
สาหรับกับคนผูน้ ้ นั ของเพียงเขามิได้เป็ นฝ่ ายบุกรุ กเข้าประตูมาก็พอ
ตัวนางไร้กาลังจะวุน่ วายให้มากความแล้ว
………………………………………….
จวนตระกูลตู๋กู ห้องของตู๋กูซิงหลัน
ตู๋กซู ิงหลันถูกตู๋กจู ุนไล่ตามมากาชับให้อาบน้ าอุ่น เปลี่ยนเป็ นเสื้ อผ้า
ใหม่ที่สะอาดสะอ้าน สองพีน่ อ้ งถึงได้เริ่ มพูดคุยกัน
ภายใต้แสงเทียน ใบหน้าที่องอาจของพี่ชายเปี่ ยมไปด้วยความในใจ
มองดูต๋ ูกซู ิงหลันอย่างร้อนรนกระวนกระวาย
“พี่ใหญ่ ที่ผา่ นมาท่านเป็ นคนชัดเจนเปิ ดเผยผูห้ นึ่ง หิมะตกท่วมฟ้า
กลับเลือกที่จะคุม้ ครองส่ งองค์หญิงใหญ่แม่ลูกด้วยตนเอง นี่มนั
ชัดเจนว่าท่านมีใจต่อผูอ้ ื่น”
เมื่อคิดย้อนไปถึงภาพพี่ใหญ่ที่ยนื นิ่งเป็ นแท่งน้ าแข็งอยูท่ ่ามกลาง
กองหิมะ แม้แต่ต๋ ูกูซิงหลันเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่า ที่แท้พี่ชายบ้าน
เราจะชอบแม่ม่ายสาวมีประสบการณ์
องค์หญิงใหญ่ปีนี้ยสี่ ิ บหกชันษา มากกว่าพี่ใหญ่อยูส่ ามปี สู ญเสี ย
สามีไปตั้งแต่อายุยงั น้อย เลี้ยงดูบุตรสาวจนเติบโตมาอย่างเพียงลาพัง
เดิมทีนางเป็ นผูห้ ญิงที่อบอุ่นอ่อนโยนผูห้ นึ่ง แต่นบั ตั้งแต่ราชบุตร
เขยจากไป อุปนิสยั ก็เปลี่ยนเป็ นเย็นชาขึ้นมา
ความตั้งใจทั้งหมดล้วนทุ่มเทไปให้กบั บุตรสาว ยามปกติกไ็ ม่ค่อยจะ
พบปะกับผูใ้ ด
นี่มนั ช่างยากจะเชื่อ พี่ใหญ่ไปประทับใจองค์หญิงใหญ่ตอนไหน
“องค์หญิงใหญ่สิริโฉมงดงาม เพียงแต่อุปนิสยั ออกจะเย็นชาไปอยู่
บ้าง ท่านที่ขี่มา้ ควงดาบเล่มโต หากคิดจะไล่ตามนางละก็ คงจะ
ค่อนข้างลาบากอยูบ่ า้ ง ” ตู๋กูซิงหลันประเมิณพีช่ ายที่หนวดเครายาว
เฟื้ อยอย่างสนุกสนาน
ในโลกมิติน้ ี บุรุษเช่นพี่ใหญ่หากยังไม่แต่งงามมีบุตรภรรยา ก็ถือว่า
เกินวัยเข้าเกณท์ไปแล้ว นางที่เป็ นเสมือนกับมารดาของบุตรชายวัย
ยีส่ ิ บสามปี ย่อมต้องกังวลห่วงใยในตัวพี่ชาย
” ยิง่ ไปกว่านั้น ข้าเคยเห็นซุ่นเอ๋ อร์ที่น่ารักไร้เดียงสามาแล้ว หากว่า
ท่านสามารถสู่ ขอองค์หญิงใหญ่มาได้ ก็เท่ากับว่าตนเองได้บุตรสาว
ที่น่ารักน่าเอ็นดูมาคนหนึ่ง นี่นบั ว่าเป็ นเรื่ องดี”
นางเป็ นคนที่มาจากโลกปัจจุบนั ความคิดย่อมเปิ ดกว้าง ย่อมไม่
สนใจว่าองค์หญิงใหญ่จะเคยแต่งกับผูอ้ ื่นและมีลูกมาก่อน
หากว่าพี่ใหญ่ชอบองค์หญิงใหญ่จริ ง ๆ และสามารถสู่ ขอนางได้
สาเร็ จ เช่นนั้นนางก็พอใจและมีความสุ ขแล้ว
ตู๋กจู ุนมองดูนอ้ งเล็กที่กระดี๊กระด๊ากระโดดไปมา ก็อดที่ลูบศีรษะ
นางและยิม้ ออกมาไม่ได้ “เจ้าอยูใ่ นวังนานไปแล้ว ดูทาตัวอย่างกับ
ป้าแก่ ๆ คนหนึ่ง”
ตอนที่ 104 เจ้ า.........เป็ น.?
ครู่ หนึ่งเขาก็ตอบกลับว่า “ข้าไหนเลยจะมีความคิดไกลเกินอาจเอื้อม
ต่อองค์หญิงใหญ่ได้ ก็แค่คนที่เคยรู ้จกั กัน เพียงคิดจะดูแลพวกนาง
สองแม่ลูกบ้างเท่านั้นเอง”
“แค่คนที่เคยรู ้จกั กันหรื อ? ” ตู๋กูซิงหลันจับคางตนเอง จดจ้องมองดูต๋ ู
กูจุนที่คล้ายกับมีพิรุธอยูบ่ า้ ง
เขายืน่ นิ้วชี้ออกมาเคาะหน้าผากนางเบา ๆ “พี่ใหญ่กแ็ ค่คนโง่เขลา
หยาบกระด้าง ไม่รู้จกั ความสัมพันธ์ฉนั ชายหญิง ยิง่ ไม่มีใจคิดจะ
ปลูกเรื อนแต่งภรรยา เจ้าก็อย่าได้วนุ่ วายใจเพราะเรื่ องพวกนี้อีก หาก
ไม่มีเรื่ องใดก็อยูห่ ่างจากเจ้าฮ่องเต้สุนขั จีเฉวียนนัน่ ให้มากหน่อย พี่
ใหญ่กลัวจริ ง ๆ ว่าเขาจะเกิดความคิดที่ไม่สมควรขึ้นมา”
“ข้าได้ยนิ มาว่า เจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ บังคับให้เจ้าค้างคืนอยูใ่ นตาหนักตี้
หัวถึงสามคืน เขาไม่ได้ทาอะไรเจ้าใช่ไหม? ” พูดแล้วตู๋กจู ุนก็ทาท่า
เหมือนจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขึ้นมา หากไม่ใช่เพราะหลายวันนั้นเขา
มิได้อยูใ่ นเมืองหลวงละก็ เขาคงจะต้องควงดาบใหญ่เข้าไปฟันเจ้า
ฮ่องเต้สุนขั นัน่ แล้ว
“ไม่มีเรื่ องใด ๆ ” ตู๋กซู ิงหลันรี บส่ ายศีรษะอย่างร้อนรน “เขาที่เป็ น
ชายเหนือชายจะทาอะไรกับข้า……”
“นัน่ ก็ไม่แน่เสมอไป ข้าเคยเห็นสายตาของเขาที่มองดูเจ้า แทบจะ
อยากจับเจ้ากลืนลงไป” ตู๋กจู ุนตอบ “ชายเหนือชายที่ไหนกัน เป็ น
เรื่ องที่คนเขาเล่าลือไปเองต่างหาก”
ตู๋กซู ิงหลันงงงัน อีกทั้งไม่ได้อยากจะถกปั ญหาสื บสานไปจนถึง
ที่สุดกับพี่ชายเสี ยหน่อย นางล้วงเอาขวดยาใบหนึ่งออกมาจาก
กระเป๋ าในตัวเสื้ อส่ งให้เขา “พี่ใหญ่เจ้าคะ จะอย่างไรท่านก็ถือเป็ น
ยอดบุรุษงามสง่าของเมืองหลวงต้าโจว ยามปกติกอ็ ย่าได้ปล่อยตัว
เกินไปนัก ของสิ่ งนี้ขา้ ได้ให้ท่านหมอหลวงซุนปรุ งขึ้นเพื่อท่าน
โดยเฉพาะ ท่านต้องจดจาไว้วา่ จะต้องทาให้ตรงเวลาทุกวัน”
“นี่คืออะไร? ” ตู๋กูจุนเปิ ดขวดออกดู เพียงได้กินหอมของยา
สมุนไพรและดอกไม้ ตัวยานัน่ เป็ นอะไรดา ๆ ข้น ๆ
“ยาบารุ งผิว” ตู๋กซู ิงหลันทางหนึ่งกินแตงหวานทางหนึ่งตอบคา
“ใบหน้าของท่านยามนี้กระด้างดัง่ กระดาษทราย ย่อมสมควรจะต้อง
บารุ งเสี ยบ้าง”
หากใช้ถอ้ ยคาของโลกปัจจุบนั เจ้าสิ่ งนี้กค็ ือโคลนพอกหน้า
ผิวพรรณของพี่ชายนั้นหากไม่ได้บารุ งด้วยวิธีการต่าง ๆ เสี ยบ้าง
ผิวหน้านั้นคงจะกู่ไม่กลับแล้ว
คนที่สุดแสนจะเจ้าชูแ้ ละรักชอบสิ่ งสวยงามเช่นนาง ไหนเลยจะทน
เห็นยอดบุรุษเช่นพี่ชายต้องกลายเป็ นตาแก่ไปได้?
“มีแต่เหล่าพระสนมถึงได้ใช้ของแบบนี้ นายท่านเช่นข้าจะใช้ไป
ทาไม? ” ตู๋กจู ุนทางหนึ่งรังเกียจทางหนึ่งก็รับมาเก็บเอาไว้ในอ้อม
อก
จะไปสนใจไยว่าพระสนมใดใช้หรื อไม่ ขอเพียงเป็ นสิ่ งที่นอ้ งเล็ก
มอบให้ ต่อให้มนั เป็ นกระโปรงลายดอก หากว่าสามารถทาให้นาง
อารมณ์ดีได้ เขาก็พร้อมจะสวมมัน
อย่าว่าแต่เป็ นยาบารุ งผิวเช่นนี้เลย
ตู๋กซู ิงหลันมองดูเขาที่เก็บเอาไว้อย่างทะนุถนอม ในใจก็ยงิ่ เกิด
ความรู ้สึกอบอุ่นขึ้นมา เดิมทีนางยังคิดจะไต่ถามที่มาที่ไปเรื่ ององค์
หญิงใหญ่ แต่เมื่อเห็นเขาไม่เต็มใจพูด ก็ไม่คิดจะถามอีก
ทั้งสองจากกันไม่กี่วนั แต่กลับมีเรื่ องพูดคุยกันมากมาย ไม่วา่ จะเป็ น
เรื่ องที่ให้นางไม่ตอ้ งไปกังวลข่าวลือไร้สาระพวกนั้น ต่อให้มีเรื่ องใด
เกิดขึ้นขอเพียงมีพี่ใหญ่อยู่ แม้ฟ้าถล่มลงมาก็อย่าได้หวังว่าจะทาให้
นางได้รับบาดเจ็บแม้สักน้อยนิด
กว่าจะพูดคุยกันจบก็ดึกดื่นมากแล้ว
เมื่อตู๋กจู ุนเดินจากไป หิมะภายนอกก็ยงิ่ ตกหนักมากขึ้น ต้นไม้นอ้ ย
ในสวนกลายเป็ นสี เงินขาวประดับประดาไปทัว่ ทั้งบริ เวณ
…………………………..
หิมะตกอยูท่ ้ งั วันทั้งคืน
คืนวันถัดมา ในจวนขององค์หญิงใหญ่ พรมสี แดงที่ถูกปูไว้ต้ งั แต่
เมื่อตอนกลางวัน กลับถูกหิ มะสี ขาวกลบทับจนมิด
พอตกค่าเสี ยงผูค้ นก็เบาลง มีเสี ยงขลุ่ยเบา ๆ ดังออกมา แต่เสี ยงนั้น
ทัว่ ทั้งจวนขององค์หญิงใหญ่กลับไม่มีผใู ้ ดได้ยนิ เลย
เพียงครู่ เดียว ก็ได้ยนิ เสี ยงเอียดอาดเปิ ดประตูหอ้ งของท่านหญิงน้อย
ซุ่นเอ๋ อร์สวมชุดเบาบาง ฝ่ าเท้าที่ขาวนวลของเด็กน้อยไม่ได้สวม
รองเท้าเสี ยด้วยซ้ า นางลืมตาอยู่ ดวงตาที่ใสกระจ่าง เป็ นประกายราว
กับองุ่นดา ยามนี้กลับคล้ายมีเส้นสี ดาบาง ๆ ปรากฎขึ้น
นางเดินเหยียบยา่ ลงไปบนหิมะที่หนานุ่ม ใบหน้าเล็ก ๆ แดงก่าด้วย
ความเหน็บหนาว ร่ างเล็ก ๆ ขยับไปข้างหน้าราวกับศพที่เคลื่อนที่
ได้ ติดตามเสี ยงขลุ่ยนั้นออกไปทางด้านนอกจวนองค์หญิงใหญ่
แม่นมของท่านหญิงน้อยซุนหมัวหมัวที่ตื่นขึ้นมาถ่ายเบากลางดึก
กาลังจะกลับไป ก็มองเห็นท่านหญิงน้อยของตนเองสวมชุดนอน
เดินเท้าเปล่าออกไปที่ดา้ นนอก นางก็รีบตามไปหยุดไว้
แต่พอเดินถึงตัวท่านหญิง สตรี ที่ใช้ผา้ ดาปิ ดหน้าผูห้ นึ่งก็ปรากฎตัว
ขึ้น พุง่ เข้ามาอุม้ ตัวท่านหญิงน้อยเอาไว้ในทันที
“เจ้าเป็ นใครกัน? ” แม่นมทั้งตกใจทั้งโกรธ เดินก้าวเท้าติดตามไป
วูบเดียวก็ฉกผ้าคลุมหน้าผืนนั้นออกมา
ทันใดนั้นนางก็ตาโตด้วยความตื่นตะลึง “เจ้า…….เป็ น?! “
สตรี ชุดดาใบหน้าเปลี่ยนสี ก็รีบยืน่ มือดุจคมมีดออกมาหานาง ซุนห
มัวมัวก็สลบไปทั้งแบบนั้น
………………………………..
จวนตระกูลตู๋กู หิ มะตกหนักอย่างยิง่ ประตูทุกบานต่างถูกบิดแน่น
แสงเทียนในห้องของตู๋กซู ิงหลันดับไปแล้ว ทันใดนั้น ควันลึกลับ
สายหนึ่งก็ลอยเข้ามาจากทางหน้าต่าง นางยังคงนอนอยูบ่ นเตียง
ดวงตาปิ ดสนิทเป็ นเส้นตรง
บานหน้าต่างถูกแย้มเป็ นช่องเล็กน้อย เงาดาของคนผูห้ นึ่งยืนอยู่
ภายนอก ใช้ดวงตาที่เยือกเย็นมองดูนางผ่านช่องเล็ก ๆ นั้น มองอยู่
เป็ นเนิ่นนาน
จนกระทัง่ แน่ใจว่านางหลับสนิทแล้ว ริ มฝี ปากของคนผูน้ ้ นั ก็ค่อย ๆ
เผยอออก ปรากฎรอยยิม้ ที่ร้ายกาจขึ้น
มือข้างหนึ่งอุม้ ท่านหญิงน้อยไว้ เมื่อมืออีกข้างยกขี้นก็ปรากฎไอสี ดา
ออกมา ยามที่มือนั้นขยับเล็บที่แหลมยาวนั้นก็กาลังจะเจาะเข้าไปยัง
ตาแหน่งหัวใจของท่านหญิงน้อย
ทันทีที่มือนั้นเริ่ มขยับ ภายในห้องพลันปรากฎเงาสี แดงขึ้น เงานั้น
ล้อมตัวนางไว้ท้ งั ยังเข้าควบคุบตัวนางทาให้นางไม่สามารถขยับตัว
ลงมือ
สตรี ชุดดาเห็นวิญญาณตายโหงสวมชุดแดงที่มีใบหน้าเพียงครึ่ งเดียว
กาลังเกาะอยูบ่ นร่ างของนางก็บงั เกิดความตื่นตระหนกขึ้นมา
ทันทีที่มือของนางคลายออก ท่านหญิงน้อยในอ้อมแขนก็หล่นลงไป
บนพื้น
ทันใดนั้นก็เห็นว่า เงาสี น้ าเงินดาสายหนึ่งพลิกตัวออกมาจากในห้อง
ตะปบมือออกอย่างรวดเร็ วคว้าตัวท่านหญิงน้อยไปไว้ในอ้อมแขน
เมื่อพบว่าเด็กหญิงน้อยในอ้อมอกตัวเย็นประดุจน้ าแข็ง หัวคิ้วของตู๋
กูซิงหลันก็ขมวดแนบแน่นขึ้นมา ดวงตาของนางทอประกาย จับจ้อง
อยูบ่ นร่ างของสตรี ชุดดาผูน้ ้ นั ดวงตาดอกท้อกาลังก่อไอพิฆาตที่
เข้มข้นขึ้นมา
ยามที่สตรี ชุดดานั้นมองเห็นนางเข้า ก็อดที่จะตระหนกขึ้นไม่ได้ นาง
ส่ งเสี ยงแหลมขึ้นคราหนึ่ง ร่ างกายขยับวูบไปด้านหลัง คิดจะฉี กกระ
ฉากวิญญาณตายโหงชุดแดงที่เกาะกุมร่ างตนเองไว้ออกไป เพียงแต่
ว่ายิง่ นางดิ้นรนวุน่ วาย วิญญาณนั้นก็ยงิ่ แข็งแกร่ งขึ้น พลังที่ลึกลับ
และเยือกเย็นสายหนึ่งแทรกซึมเข้าไปอยูใ่ นร่ างของนาง
หลังจากที่ดิ้นรนอยูห่ ลายครั้ง ที่สุดนางก็ไม่อาจต่อต้านวิญญาณตาย
โหงชุดแดงนั้นได้ ถูกวิญญาณชุดแดงนั้นควบคุมทัว่ ทั้งร่ าง ได้แต่
ชะงักค้างอยูท่ ี่เดิม
ตู๋กซู ิงหลันเดินมาจนถึงเบื้องหน้านาง มือข้างหนึ่งอุม้ ซุ่นเอ๋ อร์ไว้ มือ
อีกข้างหนึ่งแกะหน้ากากมนุษย์แผ่นนั้นออกมา
นางถือหน้ากากมนุษย์เอาไว้หมุนมันเล่นอยูบ่ นมือ “วิชาปลอมแปลง
โฉมที่สูงส่ งเช่นนี้ แม้แต่ขา้ ได้เห็นเข้ายังต้องตกตะลึง”
ครู่ หนึ่งนางจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น หางตายังคงจับจ้องหญิงผูน้ ้ นั
ไม่ได้คลาย ประกายตายิง่ ทียงิ่ เข้มข้นขึ้นมา “เพื่อจะใส่ ร้ายข้า พวก
เจ้าถึงกับฆ่าเด็กน้อยที่บริ สุทธิ์ไปมากมาย ความผิดนี้ ไม่อาจให้
อภัย”
ทันทีที่พดู จบนางก็ไม่เปิ ดโอกาสให้หญิงผูน้ ้ นั ร่ าร้องอันใด สัง่ ให้
วิญญาณทมิฬควบคุมสติความทรงจาของหญิงผูน้ ้ นั ไว้ในทันที
จากนั้นจึงค่อยหันมามองวิญญาณผีตายโหงที่ควบคุมร่ างของหญิงผู ้
นั้นไว้ “เจ้าสิ งร่ างนาง กลับไปอยูข่ า้ งกายเจ้านายของนาง ข้าอยากจะ
ดูสิวา่ พวกนางจะเล่นละครใดออกมา! “
ว่าแล้วนางก็สะกิดปลายนิ้วตนเองจนเป็ นแผล และวาดสัญลักษณ์
อย่างหนึ่งขึ้นบนกลางหน้าผากของวิญญาณผีตายโหง อาศัยพลังของ
หยกสรรพชีวิตผนึกวิญญาณผีตายโหงนั้นเข้าไปในร่ างของหญิง
สาว
ตอนที่ 105 ข้ าก็จะหยิกกลับบ้ าง!
ในยามปกติหากว่าวิญญาณผีตายโหงเช่นนางคิดจะสิ งสู่ อยูใ่ นร่ าง
มนุษย์น้ นั จะต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าของร่ างเสี ยก่อน
แต่วา่ วิธีการของตู๋กซู ิงหลันนั้น กลับใช้พลังของหยกสรรพชีวิต เข้า
สะกดข่มให้วิญญาณผีตายโหงผนึกอยูใ่ นร่ างของหญิงสาวผูน้ ้ ี
แน่นอนว่า ช่วงเวลาที่จะสามารถยึดครองได้น้ ียอ่ มมีขีดจากัด อย่าง
มากก็ไม่เกินสามวัน
เมื่อวิญญาณตายโหงสิ งร่ างได้ หยิงสาวชุดดานี้ยงั พยายามต่อสู ้ดิ้น
รนอยูอ่ ีกพักใหญ่ ในที่สุดแววตาของนางถึงได้เปลี่ยนไป หันมา
คานับให้ต๋ ูกซู ิงหลันครั้งหนึ่ง “น้อบรับบัญชา ท่านเซียน”
ว่าแล้ว เงาร่ างของนางก็เลือนหายไปในหิ มะอย่างรวดเร็ ว
ครู่ ต่อมา ตู๋กซู ิงหลันถึงได้พาท่านหญิงน้อยกลับเข้ามาในห้อง เด็ก
น้อยตัวเย็นแข็งตลอดร่ าง เพราะได้รับความเหน็บหนาวอย่างรุ นแรง
ฝ่ ามือของนางดาคล้ า คล้ายกับว่าได้รับพิษอย่างใดอย่างหนึ่ง
ตู๋กซู ิงหลันสบัดเสื้ อผ้าเปี ยกชื้นที่ฉาบด้วยหิ มะของเด็กน้อยทิ้งไป
ค่อยใช้น้ าอุ่นเช็ดตัวให้นาง สุ ดท้ายค่อยห่อตัวไว้ในผ้าห่ม
เจ้าวิญญาณทมิฬถวนจื่อคุดคูอ้ ยูข่ า้ ง ๆ ตัวเด็กน้อย มันมองซ้ายที
ขวาทีไม่หยุด “เจ้าตัวยุง่ น้อยนี้ช่างโชคดีที่ได้พบเจ้า ไม่เช่นนั้นละก็
ป่ านนี้คงถูกควักหัวใจดูดเลือดจนร่ างแห้งไปแล้ว หึ ๆ ๆ ….พวก
นางก็ช่างใจดาอามหิตนัก แม้แต่เด็กน้อยที่เจ็บป่ วยตั้งแต่ยามอยูใ่ น
ครรภ์มารดาก็ไม่ละเว้น “
ตู๋กซู ิงหลันสี หน้าเยือกเย็น ไม่ตอ้ งให้วิญญาณทมิฬบ่งบอกนางเองก็
สามารถดูออกว่า ร่ างกายของท่านหญิงน้อยมีปัญหาใหญ่อยูแ่ ล้ว
นางปิ ดหน้าต่างให้สนิท นัง่ ลงที่ขา้ งเตียง จับมือของนางไว้ถ่ายทอด
ความอบอุ่นออกไป ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่ เด็กหญิงน้อยถึงได้ลืมตาขึ้น
อย่างสะลึมสะลือ
ในห้องมีเพียงแสงเทียนดวงหนึ่ง สว่างอยูท่ ่ามกลางความมืดมิด
ตลอดทั้งร่ างของตู๋กซู ิงหลันปรากฎแสงสว่างจาง ๆ ชั้นหนึ่ง นาง
สยายผมยาวลงมา แม้วา่ ปราศจากการประทิมโฉมแต่งเติมใด แต่
ใบหน้านั้นกลับงดงามสมบูรณ์แบบอย่างไม่อาจปลอมแปลงได้
เด็กหญิงตัวน้อยมองนาง บังเกิดความประหลาดใจจนตะลึงค้างไป
แล้ว
ใบหน้านี้นางรู ้จกั นี่น่า……นี่ไม่ใช่ท่านย่าน้อยในวังหลวงหรอก
หรื อ?
เมื่อรู ้สึกถึงไออุ่นในฝ่ ามือที่ถ่ายทอดมาถึง นางถึงได้ส่งเสี ยงออกมา
เบา ถามตู๋กซู ิงหลันว่า ” ท่านย่าน้อย ซุ่นเอ๋ อร์ทาไม…ทาไมถึงมาอยู่
ที่นี่ได้? “
คาเรี ยกท่านย่าน้อยนี้ ถึงกับทาให้ต๋ ูกูซิงหลันชะงักไปเช่นกัน ครู่
ใหญ่ถึงได้ฉุดคิดได้วา่ ตนเองเป็ นไทเฮา ก็ยอ่ มเป็ นมารดาในนามของ
องค์หญิงใหญ่ ธิดาขององค์หญิงใหญ่กย็ อ่ มเป็ นหลานสาวภายนอก
ของตนเอง
“อ๋ อ เป็ นเสี ยงขลุ่ย ซุ่นเอ๋ อร์ได้ยนิ เสี ยงขลุ่ย ถึงได้เดินตามออกมา
เดินไปเดินไปก็มาจนถึงที่นี่เลย” ฉางซุนซุ่นเอ๋ อร์ถูกห่ออยูใ่ นผ้าห่ม
พอหายมึนงงก็คล้ายกับคิดอะไรขึ้นมาได้ มองดูนางอย่างหวาดกลัว
อยูบ่ า้ ง “ท่ายย่าน้อย ท่านเป็ นปี ศาจกินคนหรื อเปล่า…..ท่านจะกิน
ซุ่นเอ๋ อร์หรื อไม่เจ้าคะ? “
“เอ่อ……ซุ่นเอ๋ อร์ไม่มีเนื้อ กินไม่อร่ อย ท่านย่าน้อยอย่ากินข้าเลยนะ
เจ้าคะ….”
ช่วงนี้คาล่าลือในเมืองหลวงนางเองก็เคยได้ยนิ มาบ้าง ซุนหมัวหมัวก็
กาชับกาชาอยูท่ ุกวี่วนั ว่านางอย่าได้แอบออกไปไหน บอกอยูว่ า่ ใน
เมืองหลวงตอนนี้มีปีศาจกินหัวใจ ดื่มเลือดเด็ก
เหล่าข้ารับใช้กบ็ อกว่าเรื่ องปี ศาจนี้เกี่ยวพันถึงไทเฮาด้วย ยิง่ ได้ฟัง
นางก็ยงิ่ รู ้สึกประหลาดใจ
ตอนนี้ตวั นางเองอยูด่ ี ๆ ก็วิ่งมาถึงที่นี่ ทั้งยังดึกดื่นถึงเพียงนี้แล้ว
เด็กน้อยย่อมรู ้สึกหวาดกลัว
ตู๋กซู ิงหลันหัวเราะออกมาแล้ว นางคีบแก้มกลม ๆ ของเด็กหญิงตัว
น้อยเอาไว้ถามว่า “เจ้าว่าข้าเหมือนปี ศาจไหมเล่า? “
เด็กหญิงมองดูนางอย่างละเอียด ตั้งแต่หวั จรดเท้าก็ไม่ยอมเว้น ผ่าน
ไปอีกครู่ ใหญ่ถึงได้ส่ายศีรษะ “ไม่เหมือนเลย ท่านเหมือนพี่สาว
เซียนหญิง ท่านไม่ใช่ปีศาจ ท่านช่วยซุ่นเอ๋ อร์เอาไว้ใช่ไหมเจ้าคะ? “
ตู๋กูซิงหลันอดใจไม่ไหวต้องลูบศีรษะนางเบา ๆ “เด็กหญิงตัวน้อย
เช่นเจ้า ความสามารถในการร้องขอชีวิตนั้นยอดเยีย่ มนัก
ความสามารถในการประจบประแจงหรื อก็เกือบจะเทียบข้าได้
ทีเดียวเชียว”
เด็กหญิงตัวน้อยหน้างา “ท่านแม่บอกว่า ซุ่นเอ๋ อร์จะต้องเป็ นเด็กที่
ซื่อสัตย์ ห้ามพูดโกหก แน่นอนว่าประจบไม่เป็ นหรอก! “
“ท่านย่าน้อยงดงามดุจเซียนหญิง เพียงแต่อารมณ์ไม่ค่อยดี นิสยั ก็ไม่
ดี! “
ครึ่ งประโยคแรกเป็ นนางพบเห็นด้วยตนเอง ส่ วนอีกครึ่ งประโยค
หลังคือได้ยนิ พวกพระสนมในวังพูดมา”
เด็กหญิงตัวน้อยลุกขึ้นนัง่ ไม่เพียงไม่กลัวนาง ทั้งยังจดจ้องใบหน้า
ของนางอย่างไม่วางตา ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาสได้มองดูท่านย่าน้อย
ใกล้ ๆ ถึงเพียงนี้ ตอนนี้สามารถมองดูใกล้ได้ถึงเพียงนี้ ยิง่ มองดูยงิ่
รู ้สึกว่างดงามมาก
“ท่าเช่นนั้นเจ้าต้องรู ้จกั เชื่อฟังให้ดี ไม่เช่นนั้นหากว่าท่านย่าน้อยเช่น
ข้าอารมณ์ไม่ดี นิสยั ก็แย่แล้วเกิดโมโหขึ้นมา มีหวังทาให้เจ้าต้องตก
กระใจแน่! “
ตู๋กซู ิงหลันพูดแล้ว ก็อดจะบีบแก้มนางแรง ๆ สองที จนเด็กหญิงตัว
น้อยโกรธขึ้นมา ผลักผ้าห่มออกจ้องดูนาง
ทันใดนั้นก็ไม่รอให้ต๋ ูกซู ิงหลันทันมีปฎิกิริยาใด ๆ เด็กหญิงตัวน้อย
ก็ยนื่ มือออกมาจับใบหน้าของนาง บีบลงไปแรง ๆ บนใบหน้ารู ปไข่
นั้นสองที
“ท่านแม่บอกว่า ใครตีขา้ ข้าก็ตอ้ งตีกลับ! ท่านย่าน้อยหยิกข้า ข้าก็จะ
หยิกกลับบ้าง! “
“อ้ายโย่ว ข้าว่านะ เจ้าตัวเล็กนี้ อีกหน่อยจะต้องไม่ธรรมดาแน่! ”
วิญญาณทมิฬกระโดดอยูข่ า้ ง ๆ มันอยูม่ าตั้งนานแล้ว พึ่งจะเคย
เห็นตู๋กซู ิงหลันถูกผูอ้ ื่นหยิกแก้มเอาได้”
ตู๋กซู ิงหลันชะงักไปชัว่ ครู่ กห็ วั เราะออกมา ลูบไล้ศีรษะนางเบา ๆ
ชมว่า “ท่านแม่ของเจ้าสอนได้ดี ข้าจะถามเจ้า หากว่ามีคนทาร้ายเจ้า
เจ้าควรทาอย่างไร? “
เด็กหญิงครุ่ นคิดอย่างจริ งจัง ค่อยตอบดังตะปูเหล็กกลับไปว่า “ถ้า
เช่นนั้นก็ร้ายกลับไป! “
…………………………………
เช้าวันถัดมา หิมะหยุดแล้ว ลมก็หยุดลงด้วย
พอท้องฟ้าสว่างไสว จวนขององค์หญิงใหญ่บนถนนทิศเหนือก็มี
แขกผูส้ ู งศักดิ์กลุ่มหนึ่งมาเยือนแต่เช้า
เชื้อพระวงค์สูงส่ ง ญาติสนิทและเหล่าขุนนางทั้งหลายที่ยนื อยูแ่ ทบ
จะเต็มพื้นที่สวนของจวนองค์หญิงใหญ่ ทั้งยังมีชาวบ้านอีกไม่นอ้ ยที่
ฟ้ายังไม่ทนั สางก็ตื่นมาเข้าแถวคอยดูพิธีในวันแต่งตั้งของท่านหญิง
น้อย
นี่ยอ่ มต้องเข้าใจว่า องค์หญิงใหญ่ทรงเป็ นราชธิดาองค์แรกในอดีต
ฮ่องเต้ พระมารดาแท้ ๆ คือพระสนมหยุนกุย้ เฟยผูส้ ู งศักดิ์ นับตั้งแต่
ทรงพระเยาว์กเ็ ป็ นที่รักใคร่ โปรดปรานของอดีตฮ่องเต้ ทันทีที่
ประสู ติมาก็ได้รับเฉลิมพระยศเป็ นฉางผิง พระราชทานศักดินาเป็ น
พื้นที่เป่ ยเหลียงทั้งหมด
ด้วยความสู งส่ งเช่นนี้ สุ ดที่องค์หญิงอื่น ๆ จะเปรี ยบเทียบได้
หากไม่ใช่เพียงเพราะว่าเมื่อหลายปี ก่อนองค์หญิงใหญ่ทรงสู ญเสี ย
พระสวามี กลายเป็ นเก็บตัวไม่ไต่ถามเรื่ องราวภายนอก จวนองค์
หญิงใหญ่ไหนเลยจะเงียบเหงาถึงเพียงนี้
แต่วา่ ยามนี้ ฮ่องเต้พระองค์ใหม่เสด็จมาเป็ นประธานในพิธีเฉลิมยศ
ธิดาขององค์หญิงใหญ่ ก็เท่ากับเป็ นการบอกกล่าวแก่ผคู ้ นภายนอก
ว่า พระราชวงค์ให้ความสาคัญต่อองค์หญิงใหญ่มาโดยตลอด ไม่อาจ
ให้ผใู ้ ดมาหมิ่นหยามได้
ดังนั้นตั้งแต่เช้าจึงมีผคู ้ นมายืนออกันมากมาย ราวกับฝูงนกกระจอก
นับตั้งแต่แคว้นต้าโจวก่อตั้งขึ้นมา ฉางซุนซุ่นเอ๋ อร์นบั เป็ นท่านหญิง
คนแรกที่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งด้วยพระองค์เอง พวกเขาย่อมจะต้อง
อยากจะชื่นชมดูบรรยากาศ บ้านใดที่มีบุตรชายดีงามก็พากับชมดูวา่
ใช่จะมีโอกาสนับญาติเป็ นทองแผ่นเดียวกันกับองค์หญิงใหญ่ได้
หรื อไม่
ดูเอาเถอะอย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่เสี ยนไท่เฟยในวังหลวงก็ยงั
เสด็จมาด้วย
อีกทั้งยังมี ท่านรองมหาเสนาบดีที่ครั้งก่อนกระอักเลือดนอนป่ วยลุก
ไม่ข้ ึนมาตลอด วันนี้กม็ าด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าเป็ นการให้เกียรติ
องค์หญิงใหญ่ถึงเพียงไหน
เหล่าผูค้ นต่างก็คอยืดคอยาว รอคอยองค์หญิงใหญ่และท่านหญิง
น้อย หลังจากที่รอคอยอยูเ่ นิ่นนานในที่สุดองค์หญิงใหญ่กเ็ สด็จ
ออกมา แต่กลับไม่เห็นเงาของท่านหญิงน้อยเลย
สี พระพักตร์ขององค์หญิงใหญ่ไม่ดีอย่างยิง่ หลังจากกวาดพระเนตร
ดูฝงู ชนรอบหนึ่ง ก็ไม่ตรัสคาใด เสด็จนาผูร้ ับใช้ในบ้านมุ่งหน้าไป
ทางถนนทิศตะวันออกทันที
ผูค้ นทั้งหลายต่างมีสีหน้าประหลาดใจ พากันเกิดความกังวลขึ้นมา
จวนองค์หญิงเกิดเรื่ องอันใดขึ้นแล้ว?
ท่านรองมหาเสนาฯ รั้งตัวข้ารับใช้เก่าแก่ขององค์หญิงเอาไว้ผหู ้ นึ่ง
สอบถามว่า “องค์หญิงรี บร้อนเสด็จไปยังที่ใด? “
“ใต้เท้ารองมหาเสนาฯ ขอรับ ในจวนเกิดเรื่ องใหญ่ข้ ึนแล้ว ท่าน
หญิงน้อยหายไป! ” บ่าวเฒ่าตอบอย่างร้อนใจ “ซุนหมัวหมัวที่รับใช้
อยูข่ า้ งกายท่านหญิงพึ่งจะรู ้สึกตัวขึ้นมา บอกว่านางเห็นกับตาว่า เมื่อ
คืนนี้ไทเฮาเอาตัวท่านหญิงน้อยไป! “
ตอนที่ 106 ไทเฮาไม่ กลับบ้ าน
“อะไรนะ? ” ผูค้ นทั้งหลายต่างพากันตื่นตระหนกขึ้นมา
“นี่เป็ นเรื่ องจริ งหรื อ? ” ท่านรองมหาเสนาฯ รี บก้าวออกมาไต่ถาม
ดวงตาของเขาเป็ นประกายขึ้นมาในทันที
“องค์หญิงใหญ่นาผูค้ นไปยังจวนตระกูลตู๋กแู ล้ว นี่ไหนเลยจะเป็ น
เรื่ องหลอกลวงได้อีกเล่าขอรับ” บ่าวเฒ่าตอบอย่างร้อนใจ ” หาก
ท่านหญิงน้อยไม่เป็ นอะไรก็แล้วไป แต่หากว่าเกิดอะไรกับนาง
ขึ้นมา ฝ่ าบาทของพวกเราจะทรงมีชีวิตอยูไ่ ด้เช่นไร เฮ่อ! “
เขากล่าวจบ ก็รีบติดตามขบวนขององค์หญิงไป
ผูค้ นทั้งหลายพอได้ฟังถึงตรงนี้ ต่างก็พอจะเข้าใจกันขึ้นมาบ้างแล้ว
มิน่าเล่าองค์หญิงใหญ่ถึงได้ไม่มีรับสัง่ ใดทิ้งไว้แม้สกั คา ก็เสด็จจาก
ไปอย่างรี บร้อน
“หลายวันนี้ในเมืองหลวงมีตวั ประหลาดควักหัวใจ ดูดเลือด เสี ยด้วย
ขอฟ้าดินโปรดคุม้ ครอง จะอย่างไรก็ขอให้ท่านหญิงน้อยปลอดภัย
ไร้อนั ตรายด้วยเถอะ! ท่าทางของท่านรองมหาเสนาฯ เต็มไปด้วย
ความวิตกกังวล
ว่าแล้ว เขาก็ไม่ลืมที่จะหันไปทูลเสี ยนไท่เฟยที่อยูท่ ่ามกลางฝูงชนว่า
“ไท่เฟยพะยะค่ะ พวกเราก็สมควรจะติดตามไปดูกนั ดีกว่า”
เสี ยนไท่เฟยสวมชุดกระโปรงสี ดา สองมือสอดอยูใ่ นปลอกนวมปั ก
ลายดอกท้อ มีนางกานัลประจาตัวของนางชิงผิงคอยช่วยกางร่ มให้
ยามนี้คิ้วของนางขมวดเข้าหากัน ท่าทางเปี่ ยมไปด้วยความเป็ นห่วง
ที่ดา้ นหลังของเสี ยนไท่เฟย ยังมีเหล่าพระสนมอีกหลายคน หยวนเฟ
ยเองก็เป็ นหนึ่งในนั้น
พวกนางต่างก็มาเพื่อร่ วมงานพิธีของท่านหญิงน้อย
เหล่าพระสนมปรึ กษากันวุน่ วาย ก็หนั มาทูลเสี ยนไท่เฟยว่า “จริ งด้วย
เพคะไท่เฟย หากว่าท่านหญิงน้อยเกิดเรื่ องขึ้นมาจริ ง ๆ พวกเราก็
อาจจะพอช่วยเหลืออะไรได้บา้ ง”
เด็กหญิงตัวน้อยฉางซุนซุ่นเอ๋ อร์ที่ผอมบางมีแต่กระดูกถูกเอาตัวไป
เช่นนี้ มีหรื อจะไม่เกิดเรื่ องขึ้น?
ลือกันว่า พวกเด็ก ๆ ที่ก่อนหน้านี้ถูกควักหัวใจ ดูดเลือด ก็มีอายุพอ
ๆ กันกับนาง
คราวนี้ละดีแน่แท้ นังตู๋กซู ิงหลันนัน่ พึ่งจะเป็ นปลาตายพลิกตัวได้ไม่
นาน หากว่าก่อเรื่ องเช่นนี้ข้ ึน ทั้งยังถูกแม่นมประจาตัวของท่านหญิง
น้อยพบเห็นเข้า! ก็เท่ากับว่านางชนกาแพงหิ นเข้าแล้ว ต่อให้คิดจะ
หลบหลีกอย่างไรก็หลบไม่พน้
นังหญิงผูน้ ้ นั จะต้องเป็ นนังปี ศาจจริ ง ๆ แน่!
หากว่าไม่ใช่ นางไหนเลยจะสามารถทาให้ฝ่าบาทยอมพลิกคดีแทน
นางได้กนั ?
ในวังหลังที่มีนางอยู่ ถือว่าเป็ นเรื่ องอันตราย!
หากว่าวันนี้สามารถจากัดนางทิ้งไปได้กเ็ ป็ นดีที่สุด ถือเป็ นการกัน
ไม่ให้นางล่อลวงฝ่ าบาทจนกลายเป็ นหนูในถังข้าวสาร ทั้งยังทาให้
เหล่าผูค้ นในวังหลังต้องพากันอกสัน่ ขวัญหาย
ก็ไม่เห็นหรื อ? ก่อนหน้านี้พวกนางพึ่งจะจัดของขวัญส่ งไปให้นางยัง
ไม่ทนั ไร หลี่กงกงก็รีบติดตามมาตรวจสอบที่มาของสิ่ งของเหล่านั้น
พอตรวจขึ้นมาก็งามหน้านัก เรื่ องที่กลบเกลื่อนไว้กถ็ ูกลากออกมา
หมด!
ขนาดพวกนางส่ งของขวัญให้ นังปี ศาจนัน่ ยังต้องทาให้เป็ นเรื่ อง
ขึ้นมา!
เดิมทีนางมีฝ่าบาทปกป้องอยู่ อีกทั้งยังมีเจ้าโคถึกตู๋กจู ุนผูน้ ้ นั เป็ น
เกราะหลัง พวกนางย่อมยากที่จะทาอะไรกับนางได้ แต่คราวนี้
ต่างกันแล้ว นังปี ศาจนี้หากเรื่ องไปตายด้วยตัวเอง
เช่นนั้นวันนี้ พวกนางก็สมควรจะไปชมดูเสี ยหน่อยว่า นางจะต้อง
ตายเช่นไร
สังหารสายเลือดเชื้อพระวงค์ โทษทัณฑ์ที่หนักหนาเช่นนี้ หากว่า
นางยังไม่ตาย พวกนางก็ขอยอมตัดหัวตนเองลงมาเป็ นเก้าอี้ให้นาง
นัง่ แล้ว!
คราวนี้เสี ยนไท่เฟยถึงได้ยอมพยักหน้า นาพากลุ่มพระสนม เชื้อพระ
วงค์ ขุนนางทั้งหลายติดตามไปทางจวนตระกูลตู๋กอู ย่างครึ กครื้ น
………………………………..
จวนตระกูลตู๋กู ภายในสวนปกคลุมไปด้วยกองหิมะ นกเล็ก ๆ หลาย
ตัวกาลังหาอาหารอยูบ่ นพื้น ส่ งเสี ยงจิ๊บ ๆ จับ๊ ๆ
ในห้องส่ วนตัวของตู๋กซู ิงหลัน หน้าต่างของนางเปิ ดออก นาพา
อากาศเย็นสดชื่นเข้ามา ทั้งยังแฝงกลิ่นหอมของดอกเหมยอยูใ่ น
อากาศ
บรรดาสาวใช้ในห้องพึ่งจะหวีผม แต่งตัวให้นางเสร็ จ ก็เห็นท่าน
พ่อบ้านวิง่ มาด้วยความรี บร้อน ไม่ทนั ได้รอให้เขากล่าวอะไรออกมา
ก็เห็นจีเฉวียนในฉลองพระองค์มงั กรทองตลอดร่ างสาวพระบาท
ก้าวใหญ่เข้ามาถึง
ที่ขา้ งกายเขายังมีหลี่กงกง และเหล่าราชองครักษ์ที่ดูไม่สามัญอีก
หลายคน
ท่านพ่อบ้านรี บคุกเข่าลงกับพื้น หันไปทางตู๋กูซิงหลันกราบทูลว่า
“ไทเฮาพะยะค่ะ ฝ่ าบาทเสด็จมาแล้ว”
พวกเขาพึ่งจะเปิ ดประตูใหญ่ ไหนเลยจะรู ้ได้วา่ จะพบเห็นฝ่ าบาท
ประทับยืนอยูท่ ่ามกลางสายลม พระพักตร์น้ นั ดาคล้ าเสี ยยิง่ กว่าก้น
หม้อเสี ยอีก เขาที่ไม่รู้เรื่ องรู ้ราวอันใดได้แต่คิดว่าในบ้านคงเกิดเรื่ อง
ใหญ่ข้ ึนแล้ว ฝ่ าบาทถึงได้เสด็จมาด้วยพระองค์เอง
ยามที่ต๋ ูกูซิงหลันได้เห็นเขา ก็ประหลาดใจค่อนข้างมาก เจ้าฮ่องเต้
สุ นขั วันนี้สวมฉลองพระองค์มงั กร ทั้งยังมีฉลองพระองค์คลุมสี
น้ าตาลดาปักลายมังกรทองทับอีกชั้น สาบเสื้ อประดับด้วยขนมิงค์
ยิง่ ขับให้ผวิ พรรณของเขางามเสมือนเนื้อหยกโบราณ
บนพระเศียรสวมพระมาลาอย่างกษัตริ ย ์ ลูกปั ดที่หอ้ ยระย้าทั้งสิ บ
สองสายทาจากไข่มุกดาสาดประกายแวววาวบาดตา
หากว่ากันตามธรรมเนียมของต้าโจวแล้ว มีแต่ยามที่มีพิธีการสาคัญ
โอรสสวรรค์จึงจะทรงพระมาลาเช่นนี้ในพิธี ดูท่าแล้วเจ้าฮ่องเต้สุนขั
นี่คงจะให้ความสาคัญกับท่านหญิงน้อยจริ ง ๆ
ตู๋กซู ิงหลันมองดูเขาอย่างเปิ ดเผย จากนั้นค่อยฉุดคิดปั ญหาสาคัญ
เรื่ องหนึ่งขึ้นมาได้ ทาหมวกเสี ยใบโตแต่วา่ คนกลับเล็กแค่น้ ี!
เจ้าฮ่องเต้สุนขั จีเฉวียนองค์น้ ีดู ๆ ไปก็เจริ ญตาดีไม่นอ้ ย
จนกระทัง่ เขาเสด็จเข้ามาจนเกือบจะถึงข้างหน้านางแล้ว ตู๋กูซิงหลัน
ถึงค่อยมีสติกลับมา “วันนี้ฝ่าบาทงามสง่าจริ ง ๆ ตลอดพระองค์ท้ งั
บนล่างดูขึงขังบึกบึนมีพลังมาก”
จีเฉวียนยืนอยูต่ รงหน้านาง พระพักตร์เย็นชาเสี ยยิง่ กว่าหิ มะในสวน
อีก
สตรี ผนู ้ ้ ี ใช่วา่ กาลังหลอกด่าทางอ้อมว่าเขาปั ญญาเบาหรื อเปล่า?
ไม่พบกันมาสองวัน นางไม่รู้จกั พูดอะไรที่น่าฟังหน่อยหรื อไง?
พระเนตรหงส์คู่น้ นั จับจ้องอยูที่นาง “เราปล่อยเจ้าออกมาจากตาหนัก
เย็น เจ้าก็ตีปีกเสี ยแล้ว คิดจะบินแล้วหรื อไง? แอบออกจากวัง
กระทัง่ ดึกดื่นยังไม่กลับบ้านอีก? “
“ดึกดื่นไม่กลับบ้าน? ” ตู๋กูซิงหลันส่ ายศีรษะไปมา หันไปมองดู
โดยรอบครั้งหนึ่ง จนแน่ใจว่าที่นี่คือจวนตระกูลตู๋กู ถึงได้ตอบไปว่า
“ข้าก็อยูท่ ี่บา้ นของตัวเองไม่ใช่หรื อ? “
“เจ้าเป็ นไทเฮา ไม่รู้หรื อว่าวังหลวงจึงจะเป็ นบ้านของเจ้า? ” แรง
กดดันจากร่ างที่สูงกว่าของจีเฉวียน ทาเอานางแทบจะต้องถอยกลับ
เข้าไปในห้อง
ตู๋กซู ิงหลัน “……..” สถานที่ดงั่ ถ้ าเสื อวังมังกรเช่นวังหลวงนั้น หาก
จะให้นางถือเอาเป็ นบ้าน ไม่รู้วา่ จะต้องใจใหญ่สกั เท่าใดกัน?
พอเห็นนางทาท่าทางคล้ายดังไม่ค่อยเข้าใจ พระพักตร์ของจีเฉวียนก็
ยิง่ เย็นชา เขาไม่เชื่อหรอกว่าสตรี ผนู ้ ้ ีจะไม่รู้วา่ พักนี้ในเมืองหลวงมี
ข่าวลืออันใดบ้าง
ในช่วงเวลาเช่นนี้นางสมควรจะทาตัวสงบเสงี่ยมเรี ยบร้อยอยูแ่ ต่ใน
วังหลวง ถึงจะนับว่าปลอดภัย
เดิมทีตอนนี้กน็ บั ว่าเป็ นฤดูหนาวอยูแ่ ล้ว เมื่อเพิม่ ตัวเขาที่เย็นชาดุจ
แท่งน้ าแข็งเข้าไปอีก ทาให้ต๋ ูกซู ิงหลันรู ้สึกว่าทัว่ ทุกทิศทางมีแต่
ความเหน็บหนาว ความเยือกเย็นนี้แทรกซึมจากลาคอเข้าสู่ ภายใน
ทาให้นางอดที่จะตัวสัน่ เบา ๆ ไม่ได้
“หนาวแล้วทาไมถึงได้สวมใส่ นอ้ ยเช่นนี้? หากว่าเกิดลมพัดแรง
ขึ้นมา มีหวังพัดเจ้าจนลอยขึ้นฟ้าไป! ” จีเฉวียนตรัสพลางก็ตอ้ นนาง
เสมือนต้อนไก่ตวั หนึ่งกลับเข้าห้องไป “
นี่เป็ นครั้งแรกที่เขาได้เห็นห้องส่ วนตัวของนาง ในห้องมีกลิ่นหอม
อ่อน ๆ ของไม้จนั ทร์ ทาให้กลิ่นกุหลาบบนตัวนางจางลงไป
ห้องมิได้ใหญ่โตแต่กลับอบอุ่นสบาย เพราะในห้องมีกระถางไฟทา
จากเงินแท้ต้ งั อยู่ อากาศจึงอุ่นกว่าภายนอกมาก
เขาปล่อยตัวนางไป ตนเองเลือกที่นงั่ ลงบนเก้าอี้กยุ้ เฟยตัวหนึ่ง แต่
สายตาไม่ได้ห่างจากตัวนางแม้แต่นอ้ ย
ฮ่องเต้ทรงรู ้สึกว่าพักนี้พระองค์เกิดปั ญหาขึ้นบ่อย ๆ ไม่รู้วา่ ทาไมใน
สมองของพระองค์มกั จะเกิดภาพเงาร่ างของนางอยูเ่ สมอ ทุก ๆ วัน
เอาแต่จะเสด็จมาที่ตาหนักเฟิ่ งหมิง
เขาอดที่จะสงสัยไม่ได้ สตรี ผนู ้ ้ ีแอบกระทาสิ่ งใดกับตัวเขาหรื อไม่
อย่างเช่น หนอนคุณไสย
แต่เมื่อสัง่ ให้หมอหลวงซุนตรวจดูร่างกายอย่างละเอียดก็ไม่พบความ
ผิดปกติใด
นี่กลับทาให้เขาว้าวุน่ ใจกว่าเดิม
“ตู๋กูซิงหลัน เรามีคาถามจะถามเจ้า ” ดวงตาหงส์ของเขาจดจ้องนาง
ฮ่องเต้ทรงยืน่ พระหัตถ์ออกมา เพียงวูบเดียวก็ดึงตัวนางมายังข้างกาย
ตู๋กูซิงหลันแม้รู้สึกหนักใจอยูบ่ า้ งหากแต่ไม่แสดงออก กระทัง่ ถูกเขา
ดึงตัวลงไปบนเก้าอี้กยุ้ เฟยด้วยกัน มือของนางตั้งใจจะคว้าอะไรเพื่อ
ยันตัวเอาไว้ แต่เพราะไม่ทนั ระวังจึงไปคว้าเอาตรงนั้นของเขาเข้า
ราวกับว่าพลังทั้งหมดในร่ างกดลงไปที่ตรงนั้น เดิมที่นางก็มี
พละกาลังมากอยูแ่ ล้ว ฝ่ ามือนี้ของนาง เรี ยกว่าแม้แต่ทุเรี ยนยังถูกฉีก
เปลือกออก
อย่าว่าแต่นี่คือ……….
สองหูของนางราวกับได้ยนิ เสี ยงอะไรลัน่ ดังกร๊ อบ
สี พระพักตร์ของฝ่ าบาทที่เดิมเย็นชา ยามนี้ถึงกับซีดขาว
ตู๋กซู ิงหลันเองก็รู้สึกว่าหน้าหนา ๆ ของนางก็จะแดงขึ้นมาแล้ว แถม
เจ้าชีพจรหัวใจที่ไม่รู้จกั เชื่อฟังก็เต้นกระหน่าไปด้วย มุมปากของ
นางกระตุกอย่างไม่อาจควบคุมได้
นางต้องข่มใจอย่างแรงถึงได้กลั้นเสี ยงหัวเราะที่กาลังจะระเบิด
ออกมาลงไว้ได้ ถึงขนาดพาลให้น้ าตาไหลออกมาเลยทีเกียวเชียว
จากนั้นก็จอ้ งมองฝ่ าบาทที่เจ็บปวดจนหน้าเขียวหน้าเหลือง ถาม
ออกไปอย่างระมัดระวังที่สุดว่า “ฝ่ าบาท…..ถ้าเจ็บมากก็ร้องไห้
ออกมาเถอะนะ อ๊าง”
นี่ท่าคงจะหักเสี ยแล้วละมั้ง!
วิญญาณทมิฬเกาะอยูบ่ นบ่าของตู๋กซู ิงหลัน ใช้มือป้อมสั้นของมัน
ลูบคางกลม ๆ มันครุ่ นคิดอย่างจริ งจังจนสรุ ปได้ขอ้ หนึ่ง
ก่อนหน้านี้ตอนที่มนั กัดเจ้าฮ่องเต้สุนขั เป็ นการกัดผิดตาแหน่ง ช่าง
น่าเสี ยดายนัก ฟันร่ วงไปอย่างเปล่าประโยชน์
จีเฉวียนอดทนสกัดกั้นความเจ็บปวดที่รุนแรงเสี ยยิง่ กว่าหมื่นดาบแล่
เนื้อเถือหนังเอาไว้ เพียงส่ งเสี ยงครางออกมาอย่างแผ่วเบา
พอเขาเงยพระพักตร์ข้ ึนมาก็เห็นตู๋กซู ิงหลันกาลังน้ าตาไหล กล่าวกับ
เขาว่า “ท่านอย่าได้ร้อนใจ หมอหลวงซุนมีวิชาแพทย์สูงส่ ง จะต้อง
รักษาได้แน่”
เพลิงโทสะของจีเฉวียนถูกน้ าตาของนางดับจนมอดลง เห็นแก่ที่นาง
ร้อนรนจนน้ าตาร่ วง ก็นบั ว่านางยังมีน้ าใจรู ้สานึกอยูบ่ า้ ง
ตู๋กซู ิงหลันสาบานอยูใ่ นใจ นางไม่ได้ต้ งั ใจจริ ง ๆ !
นี่เป็ นเพราะเจ้าฮ่องเต้สุนขั คิดจะฉุกจะลากก็ไม่บอกกันก่อน ไม่ใช่
ว่านางอยู่ ๆ ก็คิดจะไปหักโดยที่ไม่ให้เขาทันได้ป้องกันเสี ยหน่อยใช่
ไหม?
จีเฉวียนพยายามขยับพระองค์ แต่ความเจ็บปวดกลับทาให้เขาแทบ
จะสิ้ นสติไป ได้แต่กดั พระทนต์และปัดมือของนางออกไป ” เจ้าคิด
จะทาให้เราไร้ผสู ้ ื บทอดหรื อไง? “
“ฟ้าดินโปรดเมตตา ไม่ใช่แน่นอน! ” ตู๋กซู ิงหลันรี บยกสองนิ้วขึ้นมา
สาบานอย่างจริ งจัง “ข้านะชอบเด็ก ๆ ที่สุดแล้ว แน่นอนว่าต้องอยาก
ให้ฝ่าบาททรงมีหลานให้ขา้ สักหลาย ๆ คน”
ตลอดไรผมของจีเฉวียนมีเหงื่อบาง ๆ อยูช่ ้ นั หนึ่ง เขาเอนตัวพิงกับ
เก้าอี้กยุ้ เฟยสู บลมหายใจลึก ๆ
นางช่างมีพิษสงนัก! อยูร่ ่ วมกับนางแต่ละคราเป็ นต้องมีเรื่ อง
ประหลาดแทบคร่ าชีวิตของเขาไปด้วย!
เขาพยายามจะขยับเบา ๆ แต่กลับรู ้สึกเจ็บยิง่ กว่าเดิม พอคิดจะพูด
อะไร ก็ได้ยนิ เสี ยงเคลื่อนไหวดังมาจากด้านนอก
หลี่กงกงยืนอยูบ่ นระเบียงยาว เห็นองค์หญิงใหญ่นาผูค้ นในบ้านมาก
ลุ่มใหญ่ดว้ ยท่าทีถมึงทึง ก็รู้ทนั ทีวา่ มีเรื่ องไม่ดีเกิดขึ้น
เขารี บเดินเข้าไปสกัดคนเอาไว้ แต่วา่ คราวนี้องค์หญิงใหญ่ที่เคย
นุ่มนวลอ่อนโยนกลับกลายร่ างเป็ นมารไปแล้ว ชักดาบออกมาก็
ทาท่าจะฟันคน
เหล่าองครักษ์เกรงว่าจะทาให้นางบาดเจ็บ ต่างก็ไม่รู้วา่ สมควร
ปฎิบตั ิกบั นางเช่นไร เพียงชัว่ เวลาประเดี๋ยวองค์หญิงใหญ่กท็ รง
ทะลวงเข้ามาจนถึงเรื อนของตู๋กูซิงหลัน
ภาพแรกที่เข้าสู่ สายตาของนางคือจีเฉวียนนอนหน้าซีดขาวอยูบ่ น
เก้าอี้กยุ้ เฟย และตู๋กซู ิงหลันที่ยนื หน้าแดงก่าอยูข่ า้ ง ๆ
ภาพเช่นนี้ดูไปแล้ว คล้ายกับว่าฮ่องเต้ทรงถูกปี ศาจสาวจัดการไปเสี ย
แล้ว
พอคิดว่าซุ่นเอ๋ อร์อาจจะตายไปแล้วด้วยฝี มือของนางมารผูน้ ้ ี นางก็
ทั้งหวาดกลัวทั้งมีโทสะ ตวัดดาบไปทางศีรษะตู๋กูซิงหลันในทันที
“จีฉุน เจ้าลองกล้าทาอะไรนางดูสิ! “
ทันใดนั้น จีเฉวียนทรงตรัสเสี ยงเย็นออกมา ทาให้ดาบของจีฉุนได้
แต่ยา้ ยไปที่บ่าของตู๋กซู ิงหลันแทน
นางหันเศียรไป ทอดเนตรดูจีเฉวียนอย่างไม่อาจยอมเชื่อสายตา
ตนเองว่า “ผูค้ นทั้งหลายต่างกล่าวว่าเจ้าถูกนางมารนี้ล่อลวงจนมึน
เมาไปแล้ว เดิมทีขา้ ไม่ยอมเชื่อ แต่วา่ ตอนนี้ดูแล้ว คงจะไม่ใช่เรื่ อง
เท็จอีกต่อไป”
จีเฉวียนได้แต่อดทนต่อความเจ็บปวด เขายังคงขยับตัวอยูบ่ นเก้าอี้กยุ้
เฟย สายพระเนตรเย็นเฉียบ “เราเห็นแก่ที่เจ้าเป็ นพระธิดาองค์โตของ
เสด็จพ่อ ให้ความเคารพเจ้าสามส่ วน ถือว่าให้หน้าเจ้าแล้ว ว่ากันตาม
ธรรมเนียมแล้วเจ้าสมควรเรี ยกไทเฮาว่า เสด็จแม่สกั คา บุกรุ กเข้ามา
ให้หอ้ งของไทเฮา ทั้งยังใช้ดาบใส่ ไทเฮา เจ้าไม่คิดจะมีชีวิตอยูต่ ่อไป
แล้วหรื อไง? “
“เสด็จแม่กบั ผีนะสิ ! ข้ารู ้แต่วา่ นังปี ศาจตนนี้เอาตัวซุ่นเอ๋ อร์ของข้า
ไป! หากว่าเกิดเรื่ องอะไรขึ้นกับซุ่นเอ๋ อร์ละก็ ข้าจีฉุนจะต้องให้นาง
ได้ชดใช้! ” จีฉุนพระเนตรแดงแล้ว หัตถ์กาดาบเอาไว้แนบแน่น หาก
ไม่ใช่เพราะจีเฉวียนรั้งนางไว้ ดาบนี้กค็ งได้ดื่มเลือดไปแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันยืนอยูด่ า้ นหนึ่ง เห็นนางเสี ยสติเช่นนี้ ก็กล่าวว่า ” ขอองค์
หญิงใหญ่อย่าได้ผลีผลาม มีเรื่ องอันใดค่อย ๆ พูดกัน อย่าได้ปล่อย
ให้โทสะทาให้ตดั สิ นใจอย่างผิดพลาด
“เมื่อคืนนี้แม่นมซุนเห็นเจ้าเอาตัวซุ่นเอ๋ อร์ไปด้วยตาของตนเอง หรื อ
ว่าเรื่ องนี้เป็ นเรื่ องเท็จ? ” องค์หญิงใหญ่ตรัสจบแล้วก็เรี ยกแม่นมห
มัวมัวเข้ามาในห้อง
ทันทีที่ซุนหมัวมัวเห็นหน้าตู๋กซู ิงหลัน ก็คุกเข่าลงตรงหน้านางใน
ทันที ตะโกนร้องเสี ยงดังว่า “ไทเฮาเพคะ ท่านหญิงเป็ นเพียงเด็ก
น้อย ขอท่านโปรดยกมือสู งศักดิ์ไว้ ปล่อยนางไปเถิดเจ้าค่ะ”
” เมื่อคืนบ่าวเห็นกับตาว่าท่านพาตัวท่านหญิงน้อยไป”
ซุนหมัวมัวกอดขาของนางไว้ น้ าตาไหลพรากเป็ นสาย น้ าเสี ยงก็
ค่อนข้างดัง พวกของเสี ยนไท่เฟยที่พ่ งึ จะติดตามมาถึงต่างก็ได้ยนิ
ชัดเจนแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันขมวดคิ้วขึ้นมาบ้าง “เมื่อคืนใช่วา่ เจ้ามองผิดไปหรื อไม่”
ซุนหมัวมัวเช็ดน้ ามูกรอบหนึ่ง ตอบว่า “ทัว่ ทั้งแคว้นต้าโจวนั้น สตรี
ที่สวยงามเช่นท่าน ยังสามารถจะหาคนที่สองได้อีกหรื อ? บ่าวจะดู
ผิดไปได้อย่างไร! “
ตอนที่ 107 พวกปี ศาจโฉมงาม
“หึ นี่นางกาลังชมหรื อว่ากาลังด่ากันแน่นะ ” เหล่าพระสนมที่ฟังอยู่
ด้านนอกเรื อนต่างไม่ค่อยสบายใจเท่าใด
เพียงแค่งดงามก็สามารถทาได้ทุกอย่างหรื อ?
ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่นางทาลงไปนั้นเป็ นเรื่ องที่ชวั่ ช้าเลวร้ายขนาดนั้น!
ตู๋กูซิงหลันลูบไล้ปอยปมที่ขา้ งหู นางมองดูซุนหมัวมัวทีหนึ่ง ก็หนั
ไปดูองค์หญิงใหญ่อีกทีหนึ่ง
ดาบในมือขององค์หญิงใหญ่มิได้คลายลง ดวงเนตรของนางมีเพลิง
โทสะลุกโหม นางพยายามระงับความหุนหันพลันแล่นของตนเองที่
คิดจะพุง่ เข้าเข่นฆ่าผูอ้ ื่นอย่างเต็มที่ นางตรัสกับตู๋กซู ิงหลันว่า “เจ้ายัง
มีวาจาใดจะพูดอีกหรื อไม่? “
“องค์หญิงใหญ่พะยะคะ เรื่ องราวกระจ่างอยูเ่ บื้องหน้าแล้ว พระองค์
ใยต้องทรงให้โอกาสนางปี ศาจ หรื อเจรจากับนางอีกพะยะคะ? “
ประตูหอ้ งส่ วนตัวของตู๋กซู ิงหลันยังถูกเปิ ดค้างไว้ บรรยากาศภายใน
ห้องด้านในเป็ นเช่นไร เหล่าผูท้ ี่อยูภ่ ายนอกต่างก็สามารถเห็นได้
เพียงเจ็กแปดส่ วน
มุมที่เป็ นปัญหาก็คือ พวกเราไม่ทนั มองเห็นฮ่องเต้ที่ประทับอยูบ่ น
เก้าอี้กยุ้ เฟย
ท่านรองมหาเสนาฯ สมองแล่นขึ้นมาในทันที เขาหันไปถวายคานับ
องค์หญิงใหญ่ “ท่านหญิงน้อยอยูภ่ ายใต้การดูแลของซุนหมัวมัวมา
ตั้งแต่เล็ก ๆ เรื่ องสาคัญเช่นนี้นางไหนเลยจะมองผิดไปได้ ไหนเลย
จะกล้ากล่าวเท็จ! เรื่ องสาคัญคือควรรี บเสาะหาตัวท่านหญิงน้อย
ต่างหาก”
ทูลจบแล้ว ท่านรองมหาเสนาฯ ก็หนั ไปหาฝูงชนพร้อมกับน้ าตาที่
เริ่ มจะเอ่อล้นออกมา “นางมารผูน้ ้ ีจิตใจชัว่ ช้าเลวทราม ฝี มือก็
โหดเ**้้ยมอามหิต บุตรสาวที่จิตใจดีมีเมตตาของกระหม่อม
จะต้องถูกนางใส่ ร้ายเป็ นแน่ จึงได้ถูกส่ งไปยังตาหนักเย็น”
นับตั้งแต่หนิงเอ๋ อร์เกิดเรื่ องขึ้น เขาก็พยายามคิดหาหนทางจะเข้าไป
ทูลขอร้องฝ่ าบาท แต่วา่ น่าเสี ยดายที่ฝ่าบาททรงไม่ยนิ ยอมให้เขาเข้า
เฝ้า แต่วา่ สถานการณ์ในวันนี้ ตู๋กซู ิงหลันจาต้องแสดงความ
รับผิดชอบต่อหน้าผูค้ น นี่ยอ่ มเป็ นโอกาสอันดีที่จะพลิกคดีให้หนิง
เอ๋ อร์
ขอเพียงสามารถยืนยันได้วา่ นางเป็ นฆาตกรฆ่าคนดื่มโลหิ ต เป็ นนาง
ปี ศาจที่ล่อลวงฮ่องเต้ เท่านี้หนิงเอ๋ อร์กจ็ ะพ้นผิดได้แล้ว
“นี่ตอ้ งเป็ นเพราะนางริ ษยาที่หนิงเอ๋ องของข้าได้รับความโปรด
ปรานมานาน ถึงได้พยายามสร้างละครตบตาขึ้นมา ทั้งยังโยน
ความผิดให้หนิงเอ๋ อร์ของข้า โชคยังดีที่หนิงเอ๋ อร์ถึงจะอยูใ่ นตาหนัก
เย็นก็ยงั รักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่วา่ ท่านหญิงน้อยที่น่าสงสาร ….หาก
ว่า หากว่าเกิด….”
ท่านรองมหาเสนาฯ ยิง่ กล่าวก็ยงิ่ อารมณ์พงุ่ พล่านขึ้นมา เขาอายุมาก
ถึงเพียงนี้แล้ว แต่น้ าตากลับริ นไหลได้เป็ นสายคล้ายไม่ตอ้ งจ่ายเงิน
แม้แต่นอ้ ย
หากเขามิได้กล่าวถึงท่านหญิงน้อยก็นบั ว่ายังดี แต่พอพูดถึงขึ้นมา สี
พระพักตร์ขององค์หญิงใหญ่กย็ งิ่ ซีดเผือกแล้ว ยามปกตินางเป็ นผูท้ ี่
ใจเย็นมีสติ แต่วา่ เมื่ออยูใ่ นฐานะมารดาแล้ว เมืที่ตอ้ งเผชิญกับเรื่ อง
ของบุตรธิดาตนเอง ต่อให้เป็ นผูท้ ี่เคยเยือกเย็นมีเหตุผลมากเพียงใด
ทั้งหมดก็สามารถการเป็ นหมอกควันสายหนึ่งได้
สาหรับกับตัวตู๋กซู ิงหลันแล้ว นางไม่นบั ว่าชื่นชม แต่กม็ ิได้เกลียดชัง
ที่ผา่ นมาต่างฝ่ ายต่างเป็ นน้ าบ่อไม่ยงุ่ น้ าคลอง แต่วา่ คราวนี้นางเล่น
งานใครไม่เล่น กลับลงมือต่อธิดารักของนาง!
ตู๋กูซิงหลันมองดูจีฉุนที่อยากจะบุกเข้ามาฆ่าตนเองอยูร่ อมร่ อ ก็กล่าว
ว่า “ท่านหญิงน้อยผูท้ ี่ฟ้าดินคุม้ ครอง คนดียอ่ มมีผชู ้ ่วยเหลือ องค์
หญิงอย่าได้กงั วลใจไป”
ดาบขององค์หญิงใหญ่มิได้ยกขึ้นมาอีก แต่ดวงเนตรของนางยังคง
จดจ้องตู๋กซู ิงหลันอยูไ่ ม่คลาย “ข้าเชื่อว่าซุนหมัวมัวไม่มีทางให้ร้าย
เจ้า มีพยานยืนยันหนักแน่นเช่นนี้เจ้ายังจะดิ้นหลุดได้อีกหรื อ? เจ้า
คืนตัวซุ่นเอ๋ อร์มา ของเพียงนางไม่เป็ นอะไร ที่ผา่ นมาข้าจะไม่เอา
เรื่ อง! “
จีฉุนพึ่งตรัสจบ ก็ได้ยนิ เสี ยนไท่เฟยเอ่ยปากว่า ” องค์หญิง ข้ามี
ความเห็นว่า ไทเฮาไม่ทรงมีทางกระทาเรื่ องชัว่ ช้าเลวร้ายเช่นนั้นได้
เรื่ องนี้อาจจะมีความเข้าใจผิดอยูบ่ า้ ง”
เสี ยนไท่เฟยยืนอยูท่ ี่ปากประตูดว้ ยท่าทีมีเมตตา
” ไท่เฟยพะยะคะ จนถึงขนาดนี้แล้ว ท่านยังจะปกป้องนังปี ศาจตนนี้
อยูไ่ ด้อย่างไร! ” ท่านรองมหาเสนาฯ ระเบิดโทสะออกมา “เพราะ
นางมารผูน้ ้ ี แม้แต่อ้ ีอ๋องยังทรงถูกทาร้ายไปด้วย ก่อนที่นางจะเข้าวัง
ท่านเคยดูแลนางมามากมายขนาดไหน ประหนึ่งเป็ นมารดาแท้ ๆ ก็
ไม่ปาน แต่วา่ นางละ? กลับตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้น! นาง
ปี ศาจเช่นนี้ไม่สมควรที่ท่านจะต้องปกป้องคุม้ ครองอีก!
คราวนี้แม้แต่พระสนมหลายคนต่างก็เห็นพ้องขึ้นมา “ใช่เพคะไท่
เฟย เพื่อท่านหญิงน้อย เพื่อแคว้นต้าโจว จะอย่างไรก็สมควร
ประหารญาติเพื่อส่ วนรวม “
เสี ยนไท่เฟยส่ ายศีรษะ ถอดถอนใจเนิ่นนาน สองเนตรของนางเปี่ ยม
ไปด้วยความผิดหวัง
“เรื่ องนี้ยงั ไม่ได้สืบสวนให้แน่ชดั เลย พวกเจ้าจะรี บร้อนสรุ ปกันได้
อย่างไร? ” หยวนเฟยเดินออกมาด้วยสี หน้าไม่เห็นด้วย นางลูบไล้งู
เขียวบนข้อมือ “พักก่อนยังพึ่งจะรี บร้อนส่ งของขวัญไปให้ วันนี้
กลับคิดจะเหยียบคนให้จมดิน ช่างทาให้ขา้ ได้เปิ ดหูเปิ ดตานัก”
ถึงแม้ตวั นางจะเกลียดชังตู๋กซู ิงหลัน แต่ในใจก็ยงั มีคุณธรรมอยู่ ย่อม
ไม่อาจทนเห็นพวกที่ลมเพลมพัดเช่นนี้ได้
เหล่าพระสนมต่างพากันสาดสายตาเย็นชาใส่ นาง หยวนเฟยผูน้ ้ ีมีที่
ถือดีอะไรนัดหนา?
ก็แค่สตรี จากแดนทุรกันดาร ที่ถือว่าบิดามีบุญคุณเคยช่วยชีวิตฝ่ า
บาทไว้ ก็กล้ามาสัง่ สอนพวกนางหรื อ?
ดูจากท่าทางที่นางรี บร้อนออกมาปกป้องตู๋กูซิงหลัน คาดว่าทั้งสอง
คงจะเคยร่ วมมือกันมาก่อนละสิ
พวกนางปี ศาจโฉมงาม ต่างก็ไม่ใช่ตวั ดีหรอก!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปฎิกิริยาของผูค้ นทั้งหลาย ตู๋กซู ิงหลันเพียงยืน
นิ่งอยูด่ า้ นข้างขององค์หญิงใหญ่ ท่าทางของนางนั้นราวกับถูกตอก
หน้าเสี ยจนมีปากก็ไร้วาจาจะกล่าวเสี ยแล้ว ถึงแม้จะมีหยวนเฟยมาก
ล่าวแทนนางอยูบ่ า้ ง แต่ตวั นางเองกลับไม่กล้าเถียงอะไรออกไปสัก
คา
จีเฉวียนอดทนต่อความเจ็บปวด กวาดเก็บภาพของนางเอาไว้ใน
สายตา
สตรี ผนู ้ ้ ีกลับสงบปากสงบคา กัดลิ้นไว้ไม่โต้เถียง ท่าทางพยายามอด
กลั้นเอาไว้อย่างที่สุด
ฝ่ ามือใต้แขนเสื้ อถูกกาไว้แน่น ราวกับว่าได้รับความอยุติธรรมอย่าง
ยิง่ ยวด
จีเฉวียนหรี่ พระเนตรพิจารณาดู ก็ประทับบนเก้าอี้กยุ้ เฟยอย่างวางใจ
ต่อไป
“ไม่วา่ อย่างไรข้าก็ยงั เชื่อมัน่ ในไทเฮา ” ที่บริ เวณด้านนอกประตู
เสี ยนไท่เฟยยังคงยืนยันต่อไป “ข้าเห็นไทเฮามาตั้งแต่เล็ก ไม่มีทางที่
จะกลายเป็ นพวกควักหัวใจสู บโลหิตไปได้เด็ดขาด ที่นาตัวท่านหญิง
น้อยไป คิดว่าเพียงเพราะแค่ถูกใจนางมากเกินไปเท่านั้น”
หากว่านางไม่กล่าวถึงเรื่ องควักหัวใจนี้กแ็ ล้วไป พอพูดถึงขึ้นมาผูค้ น
ก็พากันหน้าเปลี่ยนสี
เสี ยนไท่เฟยยังคงเน้นย้าต่อไป ” จวนตระกูลตู๋กรู ึ กใ็ หญ่เพียงแค่น้ ี
ไม่แน่วา่ ท่านหญิงน้อยอาจจะวิง่ เล่นไปถึงไหนแล้ว ขอแค่ทุกคน
ช่วยกันตามหาดูให้ดีสกั หน่อย เพียงอย่าให้กระทบถึงพิธีการแต่งตั้ง
ของท่านหญิงน้อยก็พอแล้ว “
ว่าแล้ว นางก็ไม่ลืมหันไปกล่าวกับองค์หญิงใหญ่วา่ “องค์หญิงอย่า
พึ่งทรงร้อนรนไป ซุ่นเอ๋ อร์เป็ นคนมีชีวิต ย่อมไม่มีทางหายไปอย่าง
ไร้ร่อยรอยได้”
หัวใจขององค์หญิงใหญ่ราวกับถูกบีบแตกดังโพล๊ะ คนมีชีวิต……..
ซุ่นเอ๋ อร์ของนางจะยังมีชีวิตอยูใ่ ช่ไหม?
ตู๋กซู ิงหลันมองดูเสี ยนไท่เฟยอย่างละเอียดละออ ฝี มือของสตรี ผนู ้ ้ ียงั
สู งล้ ากว่าเต๋ อเฟยหลายขั้น
ทางหนึ่งบอกว่าเชื่อมัน่ ในตัวนาง อีกทางก็ช้ ีชดั ว่านางเป็ นคนที่หา
ตัวท่านหญิงน้อยไป
เปลือกนอกทาตัวดัง่ เป็ นคนดี ภายในกลับดาคล้ ายิง่ นัก
“ไท่เฟยทรงตรัสถูกแล้ว ” ท่านรองมหาเสนาฯ รี บสนับสนุน “ทุก
คนรี บไปตามหา อย่าว่าแต่ตอ้ งพลิกตลบจวนตระกูต๋ ูกูลงสักรอบ
หนึ่งก็ตอ้ งหาท่านหญิงน้อยให้พบ! “
พวกเขามาถึงจวนนี้ต้ งั นานแล้ว กลับไปพบเห็นตู๋กจู ุน ก็คาดคะเนว่า
เจ้าคนกล้ามโตนั้นคงจะไม่ได้อยูใ่ นจวน
ไม่อยูก่ พ็ อดีเลย อีกสักครู่ เมื่อหาตัวท่านหญิงพบ ดูสิวา่ จะยังมีใคร
สามารถปกป้องนางปี ศาจตู๋กูซิงหลันนี้ได้อีก!
ตู๋กซู ิงหลันได้ยนิ แล้ว ก็รีบวิง่ ออกมา รู ปร่ างที่เล็กบางของนางขวาง
อยูเ่ บื้องหน้าผูค้ นทั้งหลาย “วันนี้ผใู ้ ดกล้าแตะต้องจวนตระกูลตูกู
ของข้าแม้แต่ตน้ ไม้ใบหญ้า? “
“ทาไม ตอนนี้ละมีใจหวาดขึ้นมาแล้วรึ ? ” ท่านรองมหาเสนาฯ จ้อง
มองนางด้วยสายตาเย็นชา กล่าวต่อไปว่า “ไทเฮาพะยะคะ ดูพระ
พักตร์ที่แดงสดใสของท่าน นี่คงไม่ใช่วา่ เป็ นเพราะพึ่งจะกินหัวใจ
ดื่มเลือดมาใช่หรื อไม่? ก็วา่ อยู่ คนปกติทวั่ ไปมีหรื อจะสามารถ
งดงามได้ขนาดท่านเช่นนี้”
ตู๋กซู ิงหลันหัวเราะเสี ยงเย็น “เฒ่าฟู่ เอ๋ ย เจ้าอย่ามาทาเป็ นชื่นชมเรา
เราเป็ นคนหน้าบาง ไม่กล้ารับไว้ “
พอได้ยนิ นางเรี ยกขานตัวเอง หัวใจท่านรองมหาเสนาฯ ก็ยงิ่ เต้นแรง
ตึกตัก ราวกับว่ากาลังจะมีเรื่ องไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้น
เขาเป่ าหนวดถลึงตาโต แอ่นเอวตั้งตรง ทั้งยังกวาดตามองไปในสวน
ของนางรอบหนึ่ง จากนั้นก็ได้ยนิ เขากล่าวว่า “ต้นเหมยต้นนี้ถูก
กระทบมาก่อน! “
ตอนที่ 108 กุญแจอายุมั่นขวัญยืน
ในทันทีทนั ใด เหล่าผูค้ นทั้งหลายต่างก็พากันหันไปมองดูตน้ เหมย
ต้นนั้น
ใต้ตน้ ไม้มีหิมะกองทับอยู่ แต่กลับสกปรกเลอะเทอะ ราวกับว่าผืน
ดินถูกขุดคุย้ และโปะทับไว้ช้ นั หนึ่ง
อยูด่ ี ๆ จะขุดดินทาไมกัน?
ดอกเหมยหลายดอกหล่นอยูบ่ นพื้นหิ มะ ดูไปประหนึ่งกองโลหิ ต
“รี บไปขุดขึ้นมา ใต้ตน้ ไม้นนั่ จะต้องมีสิ่งของใดอยูแ่ น่ ๆ ! ” สายตา
ของท่านรองมหาเสนาฯ เป็ นประกาย เขารู ้ดีวา่ เมื่อห้าวันก่อน กรม
สื บสวนพึ่งขุดเจอศพเด็กน้อยศพหนึ่ง ซึ่งถูกฝังอยูใ่ ต้ตน้ ไม้เช่นกัน!
“เฒ่าฟู่ ต้นเหมยต้นนั้นเราพึ่งจะปลูกลงไปเมื่อวานนี้เอง มันมีที่มาไม่
ธรรมดา คุณค่ามิอาจนับได้ เจ้าอย่าได้คิดขยับมัน” ตู๋กูซิงหลันรี บ
กล่าวออกมาอย่างเร่ งร้อน
“ช่างน่าบังเอิญนักนะ ” ท่านรองมหาเสนาฯ ว่าเสี ยงเย็น
“หากแตะต้อง เจ้าชดใช้ไม่ได้แน่ ” ตู๋กซู ิงหลันว่าต่อ “บ้านเจ้าตอนนี้
ก็จนเสี ยขนาดไหนแล้ว ไยไม่ใช้ชีวิตให้สงบเสงี่ยมอีก วัน ๆ กลับทา
ตัวดัง่ ผีเสื้ อราตรี “
ท่านรองมหาเสนาฯ “……..” นางปี ศาจนี้พิษสงร้ายนัก ยกดาบ
ขึ้นมาก็แทงเข้าแผลสาคัญเลยทีเดียว
ทรัพย์สมบัติในบ้าน เป็ นเลือดเนื้อกว่าครึ่ งชีวติ ของเขา แค่เพียงค่า
คืนเดียวกับอันตรธานไปหมด!
บุตรสาวที่เป็ นถึงพระสนม ก็ถูกนางให้ร้ายจนเข้าไปอยูใ่ นตาหนัก
เย็น ยิง่ คิดก็ยงิ่ แค้นเคือง!
“ไทเฮา ท่านรองมหาเสนาเพียงอยากจะคืนความบริ สุทธิ์ให้กบั เจ้า
หากว่าไม่มีอะไรจริ ง ๆ เช่นนั้นไยเจ้าต้องเป็ นกังวลด้วย ” เสี ยนไท่
เฟยก้าวออกมา มองนางด้วยสายตาล้ าลึก “ดอกเหมยต้นนี้หากว่ามี
มูลค่าสู งส่ งแล้วอย่างไร ข้าชดใช้ให้เจ้าก็แล้วกัน “
นางกล่าวแล้ว ก็หนั ไปส่ งสายตาให้นางกานัลชิงผิง “เจ้าไปดูสิวา่ ที่
ต้นไม้น้ นั ตกลงมีอะไรกันแน่ “
ชิงผิงรับบัญชา ส่ งร่ มให้กบั เสี ยนไท่เฟย ค่อยเดินไปยังต้นเหมยต้น
นั้น
ทุกคนต่างก็รู้วา่ ชิงผิงเป็ นนางกานัลที่เสี ยนไท่เฟยให้ความสาคัญ
ที่สุด ถึงขนาดประทานตาแหน่งขุนนางหญิงในวังให้ ยามปกติ
เจ้านายในวังทั้งหลายพบเจอนางยังต้องให้ความเกรงอกเกรงใจ
ครั้งนี้ ชิงผิงลงมือเอง แน่นอนว่าผูอ้ ื่นย่อมไม่กล้ากล่าวมากความ
แต่ต๋ ูกซู ิงหลันกลับขมวดคิ้วแนบแน่น นางก้าวออกไปหลายก้าว คิด
จะรั้งตัวชิงผิงเอาไว้
ทันใดนั้นกลับถูกรองมหาเสนาฯ ขวางเอาไว้ “ไทเฮาสมควรชมดู
อย่างวางใจดีกว่า “
พอเขาพูดออกมา เหล่าพระสนมกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาขวางตู๋กซู ิงหลัน
เอาไว้ ดูท่าทางที่นางปี ศาจผูน้ ้ ีร้อนรนขึ้นมา แสดงว่าจะต้องใต้น้ นั
จะต้องมีปัญหาอยูแ่ น่ ๆ !
องค์หญิงใหญ่เองก็ออกมาเช่นกัน พระองค์ยงั คงถือดาบไว้ มองดู
ต้นไม้ตน้ นั้น หัวใจของพระองค์เต้นแรง ทางหนึ่งก็อยากจะให้รีบ ๆ
ขุดต้นไม้น้ นั ขึ้นมา ทางหนึ่งหัวใจก็เริ่ มสัน่ เกรงว่าใต้น้ นั จะมีอะไร
อยูจ่ ริ ง ๆ
จิตใจของพระองค์ยามนี้เลื่อนลอยไปแล้ว แม้แต่สองเท้าก็อ่อน
ระทวย
ชิงผิงรับพลัว่ เหล็กมา โกยหิมะออกไป ขุดดินขึ้นมา ต้นเหมยที่พ่ งึ
ปลูกใหม่ถูกนางสะเทือนเสี ยจนดอกไม้ท้ งั หลายหลุนร่ วง หล่นลง
บนพื้นหิมะ สี แดงสดใสของดอกไม้เหล่านั้นแดงฉานดุจโลหิ ต
ตู๋กซู ิงหลันยังคงกล่าวย้าว่า “เจ้าระมัดระวังหน่อยสิ ต้นเหมยของข้า
ต้นนี้ล้ าค่ามากนะ! “
ไม่มีผใู ้ ดสนใจนาง เพียงคิดว่าที่นางแสดงออกว่าร้อนใจเป็ นเพราะ
มีพิรุจ
กระทัง่ องค์หญิงใหญ่ยงั รู ้สึกว่าหัวใจถูกบีบมาจนจะถึงลาคออยูแ่ ล้ว!
พระองค์แทบจะเป็ นลมล้มลงไปตรงหน้า ดีที่มีซุนหมัวมัวประคอง
นางไว้ นางถึงได้ยงั คงประทับยืนอยูไ่ ด้
เพราะนับตั้งแต่ที่ราชบุตรเขยสิ้ นไป โลกของพระองค์กเ็ หมือนกับ
พังทลายลงไปด้วย แต่เพราะยังมีห่วงกังวลอย่างธิดาน้อย ทาให้
พระองค์อดทนมีชีวิตได้ในช่วงหลายปี นี้
ฟ้าดินไยจึงได้โหดร้ายถึงเพียงนี้ ซุ่นเอ๋ อร์เกิดมาก็มีโรคประจาตัว
พระองค์เพียงหวังให้เด็กคนนี้ได้เติบโตอย่างปลอดภัย ใช้ชีวิตอย่าง
สงบสุ ข ทาไมนะ ทาไมจึงจะต้องให้ธิดาของนางมาเผชิญกับ
เหตุการณ์ที่โหดร้ายเช่นนี้?
ในบางครั้ง รสชาติของการรอคอยนั้นเป็ นสิ่ งที่เคี่ยวกราและพาให้
ทุกข์ทนอย่างที่สุด
เพราะยิง่ คิดยิง่ เกิดความหวาดกลัว ทั้งที่ยงั ไม่ได้เห็นผลลัพธ์ แต่กลับ
ทาให้ตนเองตระหนกเสี ยจนปางตายไปแล้ว
สถานการณ์ขององค์หญิงใหญ่น้ นั เป็ นเช่นนี้จริ ง ๆ
ชิงผิงขุดไปสักพัก ผูค้ นต่างก็เห็นว่าสี หน้าของนางผิดปกติไป พอ
นางส่ งเสี ยงดังออกมาว่า “นี่คืออะไร? “
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็คอยืดคอยาวขึ้นมาเลยทีเดียว องค์หญิงใหญ่ถึง
ขนาดวิง่ สะโหลสะเหลออกไป ก็ทอดเนตรเห็นต้นเหมยต้นนั้นถูก
ขุดขึ้นมาจนรากขาด ใต้รากนั้นฝังเส้นผมกลุ่มหนึ่งไว้ เป็ นเส้นผมที่
ถักเป็ นเงื่อนอายุยนื ที่กน้ หลุมยังมีสายสร้อยแม่กญ
ุ แจอายุมนั่ ขวัญ
ยืนชุดหนึ่ง แม่กญ
ุ แจเปรอะเปื้ อนด้วยเลือด
ทันทีที่องค์หญิงใหญ่ได้ทอดพระเนตรเห็นแม่กญ
ุ แจอายุมนั่ ขวัญยืน
ชุดนั้น คนก็ตระหนกจนสิ้ นพระสติไปในทันที
ชิงผิงนากุญแจอายุมนั่ ขวัญยืนชุดนั้นขึ้นมา ทูลถวายพระองค์ดว้ ย
ความนอบน้อม
อุณหภูมิที่เย็นยะเยือกของแม่กญ
ู แจ แทบจะทาให้พระโลหิ ตในร่ าง
ขององค์หญิงใหญ่จบั แข็งไปด้วย
ุ แจอายุมนั่ ขวัญยืนชุดนี้ ก่อนที่ซุ่นเอ๋ อร์จะเกิดมานั้น
สายสร้อยแม่กญ
ราชบุตรเขยได้ไปเสาะหาช่างสัง่ ทาขึ้นมาด้วยพระองค์เอง นี่เป็ น
ความหวังที่จะให้บุตรของทั้งสองเกิดมาปลอดภัยแข็งแรง มีอายุยนื
ยาว ไร้ทุกข์ไร้โศก!
“ท่านหญิงน้อย……โอ้ท่านหญิงน้อย…….” พอซุนหมัวมัวได้เห็น
สร้อยแม่กญ
ุ แจอายุมนั่ ขวัญชุดนั้น ก็คุกเข่าลงไปร่ าร้องด้วยความ
เจ็บปวดราวกับหัวใจแตกสลาย
องค์หญิงใหญ่ที่ทรงรับแม่กญ
ุ แจไปก็กลายเป็ นหิ นไปทั้งร่ าง น้ าพระ
เนตรไหลริ นอย่างไม่อาจระงับ หยาดหยดลงบนหิ มะจนจับเป็ น
น้ าแข็ง
โทสะทั้งหลายไม่อาจเทียบได้กบั ความเจ็บปวดโศกเศร้าที่ได้รับ ยาม
นี้ แม้แต่ดาบในหัตถ์ของนางยังร่ วงหล่นลงบนพื้นหิ มะ พระองค์ได้
แต่ทอดพระเนตรมองกุญแจอายุมนั่ ขวัญยืนชุดนั้น
นางกระอักไอออกมา จนแทบจะเป็ นเลือด
เมื่อต่างเห็นสภาพของเจ้านายและบ่าวรับใช้เป็ นเช่นนี้ ในใจของ
ผูค้ นทั้งหลายก็เกิดความกระจ่างขึ้นมา ท่านหญิงน้อยสิ้ นแล้ว นาง
ตายด้วยน้ ามือของตู๋กซู ิงหลัน
” นางปี ศาจ เจ้าก็คือนางปี ศาจที่ควักหัวใจ ดื่มเลือดนัน่ จริ ง ๆ ด้วย! ”
ท่านรอมมหาเสนาฯ สบช่อง ก็ฟ้องร้องขึ้นมาทันที
เขาถอยหลังไปหลายก้าวในทันที แสดงท่าทีวา่ หวาดกลัวนางปี ศาจ
เสี ยนไท่เฟยเองก็มองดูต๋ ูกซู ิงหลันด้วยพระพักตร์ซีดขาว ท่าทางไม่
อาจเชื่อในสิ่ งที่เห็นได้ “ไทเฮา นี่เป็ นเจ้าจริ ง ๆ ……”
คาพูดนี้แม้จะตรัสไม่จบ แต่กส็ ามารถทาให้ทุกคนในที่น้ นั ต่างเข้าใจ
ความหมายได้
ก่อนหน้านี้เพียงแค่มีข่าวลือเท่านั้น แต่วา่ ตอนนี้หลักฐานกลับถูก
พวกเขาทั้งหลายค้นพบขึ้นมาแล้ว!
เล่าลือกันว่าในโลกนี้มีวิชาเล้นลับอยูว่ ชิ าหนึ่ง ที่ใช้โลหิ ตจากหัวใจ
ของเด็กน้อยเพื่อบารุ งรักษาความเยาว์วยั ไม่ให้เสื่ อมถอย ความ
งดงามเลอโฉมของตู๋กซู ิงหลันก็คงจะเป็ นเพราะอาศัยวิชาที่น่า
รังเกียจมาเกื้อหนุน!
ยามนี้เมื่อผูค้ นทั้งหลายมองไปยังดวงหน้าของนาง ต่างก็มีแต่ความ
หวาดกลัวและขยะแขยง!
ยิง่ เมื่อคิดย้อนกลับไปว่า นางอาศัยกาลังของตนเองเพียงลาพังแบก
ฮ่องเต้และอี้อ๋องออกมาจากในสุ สาน เรื่ องเช่นนี้เดิมทีกน็ บั ว่าไม่
ธรรมดาอยูแ่ ล้ว พวกเขาไยจึงได้โง่เช่นนี้ ถึงไม่ได้ฉุกคิดได้แต่แรก
ว่านางเป็ นปี ศาจ!
” นางปี ศาจสมควรต้องตาย มันสร้างความวุน่ วายในแคว้นต้าโจว
จะต้องเอาไฟเผาให้ตาย! ไม่อาจปล่อยนางไว้ให้ทาร้ายผูอ้ ื่นได้อีก! ”
ท่านรองมหาเสนาฯ ตะโกนด้วยความชิงชัง
เมื่อถูกเขาชี้นาขึ้นมา ผูค้ นทั้งหลายก็เกิดอารมณ์ร่วมด้วย
“เผานางปี ศาจให้ตายเสี ย! “
แม้แต่ท่านหญิงน้อยนางยังไม่ละเว้น เช่นนี้แล้วยังจะมีผอู ้ ื่นอยูใ่ น
สายตาอีกหรื อ?
หากว่าปล่อยทิ้งไว้ แคว้นต้าโจวเกรงว่าจะต้องจบสิ้ นกันแล้ว!
หลี่กงกงที่อยูด่ า้ นข้างตัวสัน่ สะท้านไปทั้งร่ าง เขาอยากจะไปดูวา่ ยาม
นี้ฝ่าบาททรงมีพระอามรณ์เช่นใด เขาไม่เชื่อหรอกว่าไทเฮาจะทรง
เป็ นนางปี ศาจ! น่าเสี ยดายแม้วา่ เขาจะพยายามทาคอยืดคอยาว
อย่างไร ก็ยงั มองเข้าไปไม่เห็นฝ่ าบาท หากว่าฝ่ าบาทเองก็ไม่ทรงส่ ง
เสี ยงใดออกมา หรื อว่าจะทรงยอมปล่อยให้คนพวกนี้ทาร้ายไทเฮา
น้อยหรื อ?
“หนิงเอ๋ อร์ของข้าถูกนางมารผูน้ ้ ีให้ร้ายจริ ง ๆ ด้วย! อี้อ๋องเองก็เป็ นผู ้
บริ สุทธ์! เผานางปี ศาจที่ทาร้ายแคว้นต้าโจว! ” รองมหาเสนาฯ ร่ า
ร้องต้อไป
“เผา! เผา! เผา! สมควรทาเพือ่ ท่านหญิงน้อย!
ยามนั้น องค์หญิงใหญ่พลันเริ่ มรู ้สึกองค์ข้ ึนมา พระองค์หนั กลับไป
จดจ้องตู๋กูซิงหลัน สานพระเนตรเปี่ ยมไปด้วยแววอาฆาต ดาบบน
พื้นถูกยกขึ้นมา ชี้ไปยังนาง “ตู๋กซู ิงหลัน ข้าจะให้เจ้าชดใช้ดว้ ยชีวิต
อย่าได้คิดหลบหนี! “
ตู๋กซู ิงหลันไม่ตอบคา เพียงทอดถอนใจออกมา “น่าเสี ยดายต้นเหมย
ของข้าจริ ง ๆ “
“ซุ่นเอ๋ อร์ของข้าตายด้วยน้ ามือของเจ้า! เจ้ายังจะมาคิดเสี ยดายต้นไม้
อีก? ” ในอกขององค์หญิงใหญ่มีแต่ความปวดร้าว อยากจะแทงนาง
ให้ตายไปในดาบเดียว
พระองค์ยกดาบขึ้นมา สาวพระบาทเข้ามาตู๋กูซิงหลัน ขณะที่เกือบจะ
มาถึงด้านหน้าใช้ดาบแทงทะลุหวั ใจของนางนั้น
ภายในห้อง สายพระเนตรของจีเฉวียนพลันทอประกายรุ นแรง
ออกมา
ขณะเดียวกันต้นทางเดินของระเบียงยาวก็มีเสี ยงดังมาว่า……
ตอนที่ 109 ท่ านพ่อถูกขุดทิง้ !

” ท่านแม่ ซุ่นเอ่อร์กลัวมาก~” เสี ยงของเด็กหญิงตัวน้อยบริ สุทธิ์


ไร้เดียงสาอย่างหาใดเปรี ยบ ทั้งยังสัน่ สะท้านอยูบ่ า้ ง ความเย็นยะ
เยือกของฤดูหนาวทาให้เลือดไหลช้า แม้แต่ผวิ หนังยังรู ้สึกชา
ทั้งที่เป็ นกลางวันแสก ๆ บรรยากาศกลับรู ้สึกเหมือนมีผโี พล่ออกมา
ผูค้ นทั้งหลายเมื่อได้ยนิ เสี ยงต่างก็หนั ตามไป พวกเขาเห็นท่านหญิง
น้อย!
นางสวมเสื้ อคลุมสี แดงสด ในหน้าขาวซีด ใต้เสื้ อคลุมเป็ นชุด
กระโปรงสี ขาว ตรงอกเป็ นสี แดงไปทั้งแถบราวกับว่าถูกย้อมด้วย
เลือดสด ๆ นางสวมรองเท้าปักลายคู่นอ้ ย ดูไปยิง่ คล้ายกับเป็ นผี
เด็กหญิงตนหนึ่ง
นางกวาดตามองดูโดยรอบคราหนึ่ง จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในอ้อมอก
ขององค์หญิงใหญ่ ส่ งเสี ยง ‘ฮือแง’ คาหนึ่งก็ร้องให้เสี ยงดังออกมา
“ท่านแม่ ท่านเกือบจะไม่ได้เจอซุ่นเอ๋ อร์อีกแล้ว เกือบไปนิดเดียว
ซุ่นเอ๋ อร์กจ็ ะถูกปี ศาจนั้นจับกินไปแล้ว ฮือ ๆ ๆ ๆ ” นางกอดขาของ
องค์หญิงใหญ่ไว้ ยิง่ ร่ าร้องอย่างเสี ยใจ
ผูค้ นทั้งหลายต่างทาหน้าเหรอหรา นี่มนั เรื่ องอะไรกันแน่?
องค์หญิงใหญ่คุกเข่าลงมา กอดรัดท่านหญิงน้อยอย่างแนบแน่น เมื่อ
สู ญเสี ยไปแล้วได้คืนมา ความยินดียอ่ มพลุ่งพล่าน นางหอมแก้มธิดา
น้อยแรง ๆ อยูห่ ลายครั้ง
ท่านรองมหาเสนาฯ แทบจะเป็ นคนแรก ๆ ที่มีปฎิกิริยาขึ้นมา เขา
ขยับเอวเดินเข้ามาหาท่านหญิงน้อย “ท่านหญิงน้อย ท่านลองมองดูซิ
ปี ศาจที่คิดจะกินท่านอยูใ่ นหมู่พวกเราหรื อไม่? “
ซุ่นเอ๋ อร์ปาดน้ าตาเช็ดน้ ามูก เหลือบมองดูเขาแวบหนึ่งอย่าง
หวาดกลัว คล้ายกับว่านางไม่กล้าพูดอะไรออกไป
องค์หญิงใหญ่กอดนางไว้ มองไปทางผูค้ น “ซุ่นเอ๋ อร์ อย่าได้กลัว แม่
จะไม่ปล่อยให้คนที่ทาร้ายเจ้าหนีรอดไปได้ เจ้าบอกมา ปี ศาจตนนั้น
อยูแ่ ถวนี้หรื อเปล่า? “
เมื่อได้รับการปลอบประโลมจากองค์หญิงใหญ่ ซุ่นเอ่อร์จึงค่อย ๆ มี
ความกล้าขึ้นมา จากนั้นก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น “อื้ม อยูเ่ จ้าค่ะ! “
ผูค้ นทั้งหลายพอได้ยนิ สายตาก็หนั ไปจับจ้องที่ตวั ของตู๋กซู ิงหลัน
แล้ว
ตู๋กซู ิงหลันถอยหลังไปก้าวหนึ่งทันทีคล้ายกับหวาดกลัวขึ้นมา
ท่าทางคล้ายกับว่าไม่อยากจะเชื่อว่าท่านหญิงน้อยจะยังมีชีวิตอยู่
ผูค้ นทั้งหลายต่างจับจ้อมองนางอยูแ่ ล้ว ท่าทางที่หวาดกลัวของนาง
ไหนเลยจะรอดพ้นสายตาของพวกเขาไปได้?
แต่วา่ กลับไม่มีผใู ้ ดสังเกตดูมือที่กาลังกุมด้ามร่ มของเสี ยนไท่เฟย ที่
แม้กระทั้งปลายนิ้วก็ยงั ปราศจากสี เลือดไปแล้ว
ท่านหญิงน้อยยังไม่ตาย…..ทาไมถึงยังไม่ตาย? ทั้งที่เมื่อคืนชิงผิงก็
เอาหัวใจดวงหนึ่งและเลือดสด ๆ กลับมาแล้วด้วยซ้ า!
พอชิงผิงกลับมายืนอยูข่ า้ งกายนาง นางก็ปรายตาจ้องมองชิงผิงอยู่
แวบหนึ่ง
ชิงผิงรับร่ มมาจากหัตถ์ของเสี ยนไท่เฟย ช่วยนางบังแดดไว้ ดวงตา
ของนางก็ปรากฎแววตาประหลาดใจเช่นกัน “พระสนมเพคะ เมื่อ
คืนนี้บ่าวได้…..”
“หุบปาก! ” เสี ยนไท่เฟยสัง่ ให้นางปิ ดปากทันที”
ชิงผิงทั้งตระหนกทั้งสานึกเสี ยใจ ได้แต่ยนื ถือร่ มอยูข่ า้ ง ๆ นางอย่าง
เงียบ ๆ
“ฟ้าดินคุม้ ครอง ท่านหญิงน้อยผ่านเคราะห์มาได้ ถือเป็ นโชคใน
คราวเคราะห์ ” เสี ยนไท่เฟยเก็บสี หน้าประหลาดใจกลับไป เพียง
แสดงรอยยิม้ อบอุ่นออกมา
นางยอบตัวลง กวักมือเรี ยกท่านหญิงน้อย กล่าวอย่างสนิทสนมว่า
“ซุ่นเอ๋ อร์ เจ้าทาให้ผคู ้ นต่างเข้าใจไทเฮาผิดไปแล้ว เจ้ารี บบอกพวก
เรามา ไทเฮาพาเจ้ามาทาอะไร จะได้คืนความบริ สุทธิ์ให้กบั ไทเฮาดี
ไหม? “
ต่อให้ท่านหญิงน้อยแอบหนีออกมาได้ แต่วา่ เมื่อคืนนี้ยอ่ มต้องเป็ นตู๋
กูซิงหลันชิงตัวนางมาจากชิงผิง ของเพียงเด็กหญิงบอกว่าปี ศาจนัน่
คือตู๋กซู ิงหลัน ต่อให้ต๋ ูกซู ิงหลันมีความสามารถสู งส่ งเทียมฟ้า
เพียงไรก็ได้แต่ตอ้ งตายสถานเดียว!
ซุ่นเอ๋ อร์ซุกตัวอยูใ่ นอ้อมอกขององค์หญิงใหญ่ ไม่กล้าเข้าใกล้นาง
ผูค้ นทั้งหลายต่างคิดไปว่าเด็กหญิงตัวน้อยหวาดกลัวตู๋กูซิงหลัน
เนื่องเพราะเผชิญเหตุการณ์เฉียดตายเช่นนั้น ต่อให้เปลี่ยนเป็ นผูใ้ หญ่
ในใจยังต้องเหลือร่ องรอยหวาดหวัน่ อยูบ่ า้ ง อย่าว่าแต่เป็ นเด็กหญิง
ตัวน้อยเพียงนี้
“ไท่เฟยพะยะค่ะ จนป่ านนี้แล้วท่านยังคงจะปกป้องนางปี ศาจผูน้ ้ นั
อยูอ่ ีก! ” ท่านรองมหาเสนาฯ ร้อนใจจนทนไม่ไหวแล้ว “ท่านหญิง
น้อย วันนี้พวกเราอยูก่ นั มากมาย นางปี ศาจนัน่ ย่อมไม่อาจแตะต้อง
ท่านได้แม้สกั ขุมขนหนึ่ง ท่านเพียงแต่ช้ ีตวั นางออกมา พวกเราจะ
จัดการนางให้ท่านเอง! “
รองมหาเสนาฯ กล่าวพลางก็จอ้ งมองตู๋กซู ิงหลันไปด้วย เขาแทบจะ
อยากจับนางเผาเป็ นขี้เถ้าไปเสี ยเดี๋ยวนี้
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็เห็นพ้องกัน “ใช่เลย ท่านหญิงน้อย พวกเราจะ
ระบายแค้นให้ท่านเอง! “
ท่านหญิงน้อยกลับไม่สนใจพวกเขา นางมองไปรอบ ๆ สุ ดท้าย
สายตากลับมองไปเห็นต้นเหมยที่ถูกขุดขึ้นมา ทันใดนั้นในดวงตา
ของนางก็ปรากฎน้ าตามากมายริ นไหล
ขาสั้น ๆ นั้นวิ่งออก โอบอุม้ ต้นเหมยที่ถูกทาลายขึ้นมา “นี่ นี่เป็ น
ฝี มือของใครกัน ฮือ ๆ ๆ แง ๆ ๆ ๆ …..”
ฝูงชนต่างงุนงงไปแล้ว แม้แต่เสี ยนไท่เฟยเองก็ยงั ไม่เข้าใจนาง
” ซุ่นเอ๋ อร์ เกิดอะไรหรื อลูก? ” องค์หญิงใหญ่คุกเข่าลงที่ขา้ งตัวนาง
เห็นนางร้องไห้อย่างโศกเศร้าเสี ยใจ นึกว่าเป็ นเพราะเด็กน้อยคิดถึง
เรื่ องหวาดกลัวขึ้นมา
ท่านหญิงน้อยโอบอุม้ ต้นเหมยที่ดอกหลุดร่ วงอย่างระมัดระวังตอบ
ว่า “ท่านแม่ ท่านมิใช่กล่าวว่า ท่านพ่อตายไปแล้ว จะกลายเป็ นต้น
เหมยคอยอยูเ่ คียงข้างพวกเราหรอกหรื อเจ้าคะ? “
องค์หญิงใหญ่ชะงักไป ยามเมื่อท่านราชบุตรเขยจากไปนั้น เป็ นช่วง
ฤดูหนาวที่หิมะมากมายปลิวไปทัว่ ท้องฟ้า
เขาเคยบอกไว้วา่ หากว่าเขาไม่ได้กลับมา ก็จะขอกลายเป็ นต้นเหม
ยอยูป่ กป้องสองแม่ลูก ดังนั้นในจวนขององค์หญิงจึงปลูกสวนดอก
เหมยเอาไว้
คาพูดนั้นนางยังจดจาได้ดี ทั้งยังกล่าวกับบุตรสาวมาตั้งแต่นางยังเล็ก
ๆ ว่าบิดาของนางได้กลายเป็ นต้นเหมยคอยอยูเ่ คียงข้างพวกนาง
“ฮือ ๆ ๆ ๆ ท่านย่าน้อยพึ่งจะยอมรับปากซุ่นเอ๋ อร์ ช่วยซุ่นเอ๋ อร์ปลูก
ท่านพ่อคืนมา ใครกันที่ขดุ ท่านพ่อขึ้นมา……แง ๆ ๆ ๆ ๆ ….”
เด็กหญิงน้อยร้องไห้จนไม่อาจกล่าววาจาได้ ท่าทางที่โศกเศร้านัน่ ยัง
เจ็บปวดยิง่ กว่านางโดนดาบทิ่มแทงเสี ยอีก
“พวกเจ้าคืนท่านพ่อมาให้ซุ่นเอ๋ อร์ คืนท่านพ่อมา! “
ป.. ปลูกท่านพ่อ?
ผูค้ นทั้งหลายต่างเหมือนโดนน้ าสาดใส่ ศีรษะ เรื่ องตลกเช่นนี้มี
เอาไว้หลอกเด็กน้อยเท่านั้นแหละ!
แล้วยังคาว่าท่านย่าน้อยนัน่ คืออะไร?
เห็นบุตรสาวเสี ยใจจนไม่อาจระงับได้ องค์หญิงใหญ่กง็ งงันไป
หมดแล้ว นางกอดซุ่นเอ๋ อร์ไว่ ถามเสี ยงเบาว่า ไม่ใช่วา่ ไทเฮา…..พา
ตัวเจ้าไปหรอกหรื อ? “
“เป็ นท่านย่าน้อยพาข้าไปน่ะสิ ! “ซุ่นเอ๋ อร์รีบตอบกลับ
ไม่ทนั รอให้คนบางคนได้กระหยิม่ ยิม้ ย่องใจ ก็ได้ยนิ นางกล่าวว่า
“กลางดึกเมื่อคืนมีเสี ยงขลุ่ยที่น่ากลัวมากเลย ทั้งยังมีตวั ประหลาดที่
สวมใส่ ชุดดาด้วย หากไม่ใช่เพราะท่านย่าน้อยไล่ตีมนั จนวิ่งหนีไป
ซุ่นเอ๋ อร์คงตายไปแล้ว! “
ผูค้ นทั้งหลาย “???!!! “
ตอนนี้พวกเขาเสี ยกระบวนรวนเรไปหมดแล้ว การพูดคุยกับเด็กน้อย
ช่างสิ้ นเปลืองกาลังโดยแท้
ตู๋กซู ิงหลันยืนอยูด่ า้ นหนึ่ง ยกยิม้ มุมปากขึ้นมา นางกาลังจะได้เห็น
งิ้วสุ ดสนุกละทีน้ ี!
เรื่ องนี้หากว่านาไปทาเป็ นหนังภาพยนต์ รับรองว่าจะต้องแปลกใหม่
น่าสนใจเป็ นแน่
เด็กน้อยร้องไห้ไป ก็ค่อย ๆ คลายมือออกจากองค์หญิงใหญ่ วิ่งซอย
ขามาหากตู๋กซู ิงหลันถึงเบื้องหน้า กอดขาของนางเอาไว้ร่ าร้องว่า
“ท่านย่าน้อย ท่านเป็ นเซียนหญิงบนสวรรค์ จะต้องมีหนทางปลูก
ท่านพ่อได้อีกครั้งใช่ไหมเจ้าคะ? “
ตู๋กซู ิงหลันมองดูดวงตากลมโตที่ร้องไห้จบบวมเสี ยเป็ นผลท้อ ก็ใจ
อ่อนลง
ถึงแม้วา่ เด็กน้อยนี้จะรู ้จกั แสดงได้ดี แต่วา่ ความรักมีต่อบิดาที่ไม่เคย
ได้พบหน้านั้นก็ลึกซึ้งอย่างแท้จริ ง
เรื่ องช่วยนางปลูกบิดาขึ้นมานั้น แน่นอนอยูว่ า่ เป็ นความคิดที่นาง
เสนอขึ้นมาเอง
อาศัยสิ่ งของที่มีความผูกพันอย่างลึกซึ้งต่อญาติที่จากไป รวมกับ
โลหิตของนางที่แฝงพลังของหยกคืนวิญญาณเอาไว้ ใช้อาคมสร้าง
อักขระดึงดูดจิตขึ้นมา เมื่อนาไปฝังไว้กบั สิ่ งมีชีวิตที่ใช้เป็ นสื่ อผูกพัน
และได้รับพลังงานจากธรรมชาตินานวันเข้าก็จะก่อกาเนิดเป็ นดวง
จิตน้อย ๆ ขึ้นมา
ดวงจิตน้อย ๆ นี้จะมีความผูกพันของผูจ้ ากไปที่ไม่อาจลืมเลือนอยู่
ด้วย และคอยอยูเ่ คียงข้างท่านหญิงน้อยตลอดไป
สร้อยกุญแจอายุมนั่ ขวัญยืนนั้นเป็ นสิ่ งที่ราชบุตรเขยเหลือไว้ให้ท่าน
หญิงน้อย เมื่อใช้เส้นผมของท่านหญิงน้อยผูกเป็ นเงื่อนชีวิตอายุยนื
เอาไว้ดว้ ยกัน ก็ยงิ่ กลายเป็ นสิ่ งที่ดึงดูดความคิดคานึงหาอย่างที่สุด
อีกทั้ง ‘เมื่อตายไปแล้วก็จะกลายเป็ นต้นเหมย คอยอยูเ่ คียงข้างพวก
นางตลอดไป’ ประโยคนี้กเ็ ป็ นความปราถนาแต่เดิมของราชบุตรเขย
อยูแ่ ล้ว ต้นเหมยจึงเป็ นสื่ อแทนความผูกพันของเขา
นักพรตอู๋เจินที่ถูกตู๋กูจุนจับตัวมานั้น พอได้เห็นเหตุการณ์เข้า คนก็
ตกตะลึงพรึ งเพริ ดไปแล้ว
โอ้สวรรค์!
เดิมเขาคิดว่าไทเฮาน้อยเป็ นปรมจารย์เขียนยันต์ผหู ้ นึ่ง คิดไม่ถึงว่า
นางสามารถใช้อาคมสร้างอักขระดึงดูดดวงจิตที่ตอ้ งศึกษากันนาน
ไม่รู้กี่ปีได้ดว้ ย!
ช่างน่านับถือเหลือเกิน! จะทาเช่นไรดี สมควรจะเชิญไปยังอาราม
กราบไหว้เป็ นพระโพธิสัตว์ได้ไหม?
ตอนที่ 110 เขาอยากจะคุกเข่ าลงไปบนพืน้ เรียกนางเป็ นบรรพชน!
ตู๋กซู ิงหลันโอบอุม้ ท่านหญิงน้อยเอาไว้ พอเงยหน้าขึ้นมาก็มองเห็น
พี่ชายตนเองนาตัวอู๋เจินเข้ามา
วันนี้ท่านนักพรตอู๋เจินนับว่าแต่งตัวมาอย่างเรี ยบร้อย ชุดสี เขียวทา
ให้ทวั่ ทั้งร่ างเปล่งประกายด้วยราศีของผูว้ ิเศษ กลางหน้าผากแต้ม
ตราประทับสี ดา หนวดเคราถูกโกนจนเกลี้ยงเกลา ดูแล้วอ่อนเยาว์ลง
ไม่นอ้ ย ใบหน้านั้นก็หล่อเหลาพอสมควรเลยทีเดียว
หากมิใช่เพราะว่าบนตาขวาของเขามีแผลเป็ น ก็จะยิง่ ดูมีราศีเทพ
เซียนเข้าจริ ง ๆ
ฮิ ฮิ ฮิ ยังคงเป็ นเหล่าบรรดานักพรตลูกศิษย์ที่หน้าตางดงามดุจ
ดอกไม้หน้าดูมากกว่า แต่ละคนละอ่อนใสขนาดจะคั้นน้ าออกมาได้
รอยแต้มสี ขาวรู ปกลีบดอกไม้บนหน้าผากยิง่ ส่ งเสริ มเหล่านักพรต
น้อยให้มีราศีของเซียนวิเศษมากกว่าเดิม
ทุกครั้งที่พวกเขาก้าวเดิน บรรยากาศรอบ ๆ ตัวก็เปลี่ยนเป็ น
อ่อนหวานขึ้นมา
ตู๋กจู ุนนาทางนักพรตอู๋เจินและเหล่าลูกศิษย์ของเขามาถึงใจกลาง
ผูค้ น จากนั้นก็ยกดาบใหญ่ของเขาขึ้นมาเฝ้าพิทกั ษ์อยูเ่ บื้องหน้า
น้องสาวของตนเอง
เช้าวันนี้ น้องเล็กสัง่ ให้เขาไปเชิญตัวนักพรตอู๋เจินมา แต่เพราะเจ้า
นักพรตผูน้ ้ ีด้ือดึงไปสักหน่อย ทาให้เขาต้องสิ้ นเปลืองกาลังไป
พอสมควรจึงจะสามารถนาตัวมาได้ ช่างเสี ยเวลาจริ ง ๆ
ดูจากสภาพการณ์ตรงหน้า น้องเล็กคงจะกาลังถูกไอ้พวกจิตใจชัว่ ช้า
วางแผนเล่นงานเข้าแล้ว

“โอ้ เง็กเซียนของข้า~” นักพรตอู๋เจินพยายามเก็ยอาการตื่นเต้น


ของตนเอง เขาเดินไปจนถึงเบื้องหน้าตู๋กูซิงหลัน ถวายคานับนาง
ครั้งหนึ่ง “ขอไทเฮาทรงพระเจริ ญ ข้านักพรตขอถวายพระพร”
ตู๋กซู ิงหลันอุม้ ซุ่นเอ๋ อร์เอาไว้ ยิม้ ให้เขาน้อย ๆ “อู๋เจินน้อย ไม่ตอ้ ง
มากมารยาท”
อู๋เจิน “……” ให้ดูอย่างไรเขาก็น่าจะแก่กว่าไทเฮาน้อยหลายปี อยู่
มั้ง?
แต่วา่ พอคิดดูอีกที หากว่ากันตามพลังความสามารถละก็ ไทเฮาน้อย
ตรัสเรี ยกเขาเช่นนี้ ก็ไม่มีปัญหาใดเลยสักนิด
ตัวเขาเองก็ยอ่ มยินดีอยูแ่ ล้ว
ผูค้ นที่อยูด่ า้ นข้างต่างก็ตกตะลึงกันไปแล้ว ท่านนักพรตผูน้ ้ ีกค็ ืออู๋
เจินจริ ง ๆ ? ท่านนักพรตอาวุโสผูส้ ู งส่ งแห่งอารามเทียนเก๋ อกวน?
ไยเขาจึงให้ความเกรงอกเกรงใจกับตู๋กซู ิงหลันถึงเพียงนี้?
ไม่รอให้ผคู ้ นทั้งหลายได้แสดงปฎิกริ ยาออกมา อู๋เจินก็มองไปยังซุ่น
เออร์ที่อยูใ่ นอ้อมแขนของตู๋กซู ิงหลัน “นี่คือท่านหญิงน้อยกระมั้ง
ถึงแม้วา่ จะอ่อนแอแต่กาเนิด แต่วา่ บุญบารมีกลับสู งส่ ง ได้รับความ
เมตตาจากไทเฮา ใช้พระโลหิตของพระองค์ช่วยนางหล่อเลี้ยงดวง
จิตของคนในครอบครัว นับเป็ นพระมหากรุ ณา ก่อให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงอันยิง่ ใหญ่”
ผูค้ นที่อยูใ่ นเหตุการณ์พากันตื่นตะลึงกว่าเดิม
ความหมายในคาพูดของท่านนักพรตอู๋เจินก็คือ ไทเฮามิได้ส่งเป็ น
นางปี ศาจ แต่ยงั ดีต่อท่านหญิงน้อยอย่างยิง่
“นี่มนั หมายความว่าอย่างไรกัน มิใช่วา่ นางทาไปเพื่อปลอยเด็ก
เท่านั้นหรอกหรื อ ก็แค่ปลูกต้นเหมยลงไปตรงไหนก็ได้สกั ต้น
นับเป็ นความยิง่ ใหญ่ที่ใด?” รองมหาเสนาฯ ฟู่ ขมวดหัวคิ้ว เขาไม่เคย
ได้พบกับอู๋เจินมาก่อน และไม่รู้วา่ คนผูน้ ้ ีเป็ นตัวจริ งหรื อตัวปลอม
หากว่าคนผูน้ ้ ีเกิดเป็ นตัวปลอมที่ต๋ ูกูซิงหลันพามาย้อมแมวขายเพื่อ
ช่วยเหลือตัวนางละ?
“ถึงขนาดใช้โลหิตจากหัวใจของตนเองเพื่อสร้างยันต์ เพื่อให้ความ
ปรารถนาของท่านหญิงน้อยสาเร็ จผล พระทัยที่เปี่ ยมไปด้วยพระ
เมตตาอันยิง่ ใหญ่เช่นนี้ เกรงว่าใต้เท้าเองก็คงมิอาจเทียบได้” อู๋เจิน
ประกบสิ บนิ้วประนม กล่าวสรรเสริ ญเง็กเซียนอีกครั้งหนึ่ง
“เฮอะ เฮอะ นางมีความสามารถเช่นนี้ที่ไหนกัน ยังจะสามารถเรี ยก
ดวงจิตได้ดว้ ยหรื อ?” ท่านรองฟู่ ยิม้ อย่างเย็นชา “เห็นอยูช่ ดั ๆ ว่า
นักพรตอย่างเจ้าเอาแต่พดู จามัว่ ซัว่ คิดจะหลอกลวงพวกเราละสิ ”
อู๋เจิน “…..” แม่งเอ้ย ข้านักพรตอยากจะระเบิดอารมณ์นกั !
ไม่เห็นหรื อไงว่าข้าถูกตู๋กจู ุนผูน้ ้ นั คุมตัวมา?
ตาบอดหรื อไงฟะ มองไม่เห็นดาบเล่มใหญ่นนั่ บ้างหรื อยังไง?
ท่านรองฯ ฟู่ พึ่งจะกล่าวจบ ตู๋กซู ิงหลันก็หวั เราะออกมาเบา ๆ “ตา
เฒ่าฟู่ เมื่อครู่ เจ้ายังเรี ยกเราว่าเป็ นนางมารอยูเ่ ต็มปากแท้ ๆ แล้วทาไม
พอตอนนี้เราจะเขียนยันต์เป็ นบ้างก็ไม่ได้? ในโลกนี้ไหนเลยจะมี
นางมารที่อ่อนด้อยขนาดนั้นกัน?”
“เอาเถอะ เอาเถอะ เอาเถอะ เรื่ องที่เจ้ามันไม่รู้อะไรเลยก็มิใช่วา่ พึ่งจะ
เป็ นแค่วนั สองวันนี้ เราจะไม่โทษว่าเจ้าแล้วกัน เพราะขนาดให้เลือก
ไข่มุกเจ้ายังไปเลือกเอามูลสัตว์ออกมาเลย ที่พดู จาโง่ ๆ ออกมาก็คง
เป็ นเพราะคิดอยากจะลองพนันเอาชนะดูละสิ ”
คาพูดของนางทาเอาใบหน้าของท่านรองฯ ฟู่ แสบร้อนราวกับโดน
ไฟเผา เรื่ องก็ผา่ นมาตั้งนานมากแล้ว นังปี ศาจนี่ยงั จะจดจาอยูอ่ ีก!
เมื่อผูอ้ ื่นถูกนางกระตุน้ เตือน สายตาที่มองไปยังท่านรองฯ ฟู่ ก็เปี่ ยม
ไปด้วยความสงสัย
ยังคงเป็ นเสี ยนไท่เฟยที่ออกมาช่วยแก้สถานการณ์ นางกระโดด
ออกมาลงมือด้วยตนเอง “ข้าเห็นไทเฮาเติบโตขึ้นมาโดยตลอด แต่
ไม่รู้เลยว่าพระนางมีความสามารถในวิชาเซียนเช่นนี้มาก่อน ช่าง
หน้าประหลาดใจจริ ง ๆ ”
“แต่เสี ยนไท่เฟยก็ทรงทราบ ว่าเรานั้นเป็ นคนเฉลียวฉลาด มิวา่ สิ่ งใด
แค่เรี ยนก็สามารถทาได้หมด” ตู๋กซู ิงหลันคลี่ยมิ้ มองไปทางอู๋เจิน
“หลังจากที่ได้ไปกราบไหว้สุสานของท่านย่ามา เขาก็กราบท่าน
นักพรตอู๋เจินผูน้ ้ ีเป็ นอาจารย์ ด้วยคิดจะเรี ยนรู ้วิชาปราบภูติผปี ี ศาจ
ให้พอเป็ นบ้าง จะได้มีโอกาสทางานรับใช้บา้ นเมือง”
“พวกเจ้าเองก็รู้ดี ว่าตระกูลตู๋กูของข้าจงรักภัคดีขนาดไหน แต่ละคน
ล้วนทาเพื่อฝ่ าบาท ล้วนเป็ นวีรษุรุษที่ถือดาบฟาดฟันเพื่อแคว้นต้า
โจว ถึงแม้วา่ เราจะเป็ นเพียงสตรี ไม่อาจร่ วมออกรบได้ แต่กย็ นิ ดีจะ
เรี ยนรู ้บางสิ่ ง เพื่อต้าโจวแล้วแม้ตายก็ไม่เสี ยดายชีวิต!”
พอพูดถึงตรงนี้ ลมหายใจของนางก็สงบนิ่ง ผูค้ นทั้งหลายที่มวั แต่ตก
ตะลึงต่างก็เริ่ มจะเชื่อถือขึ้นมาแล้ว
ดูสิสายพระเนตรของไทเฮาเป็ นประกายถึงขนาดนี้ ดูราวกับว่าเป็ น
แม่ทพั หญิงที่ฟาดฟันศัตรู เพื่อแผ่นดินก็มิปาน ไหนเลยจะมีลกั ษณ์
ของนางมารได้กนั
ภายในเรื อน จีเฉวียนที่ขยับพระองค์พอลุกขึ้นมาได้กพ็ อจะนัง่ ได้อยู่
บ้าง จากมุมของพระองค์สามารถมองเห็นเพียงแค่เงาหลังของตู๋กู
ซิงหลัน เท่านั้นเอง แต่ถึงจะเป็ นเพียงเท่านี้ พระองค์กย็ งั ทรงรู ้สึกว่า
ยามนี้เงาของสตรี ผนู ้ ้ ียงั สู งสง่ากว่าผูอ้ ื่นมากนัก
นาง…..คิดจะทาเช่นนั้นจริ ง ๆ ?
ตู๋กเู จี๋ยยืนอยูด่ า้ นข้าง รู็ สึกอับอายอยูบ่ า้ ง ก่อนหน้านี้ไม่นาน น้องเล็ก
พึ่งจะมาปรึ กษาหารื อเรื่ องที่จะก่อกบฎกับเขา
นี่มนั ….
“ไทเฮาทรงตรัสได้อย่างยอดเยีย่ ม พวกเราทั้งบ้านล้วยเป็ นผูจ้ งรักภัค
ดีแล้วกล้าหาญ ในเมืองหลวงมีปีศาจออกอาละวาด น้องเล็กเป็ นถึง
ไทเฮา แต่กย็ งั ยินดีขอร่ าเรี ยนวิชาพรตจากท่านนักพรตอู๋เจิน ความ
จริ งใจเช่นนี้ ฟ้าดินย่อมรับรู ้!” ตู๋กจู ุนกระชับดาบ กวาดสายตาเย็นชา
ไปทางรองมหาเสนาฯ ฟู่ “หากว่ามีความสามารถพวกเจ้าก็ไป
เสาะหาอาจารย์กราบเรี ยนวิชามาบ้างเป็ นไง อย่าได้รู้จกั แต่กระโดด
โลดเต้นอยูต่ รงนี้!”
เขากล่าวแล้วก็หนั ไปมองอู๋เจินครั้งหนึ่ง
ตู๋กูซิงหลันเองก็หนั ไปยิง่ ให้กบั เขาเช่นกัน “ท่านอาจารย์ ท่านคิดว่า
เรามีพรสวรรค์หรื อไม่?”
อู๋เจินตอนนี้ถึงกับชาไปทั้งตัวแล้ว
ให้ฟ้าผ่าตายเถอะ เขามีคุณสมบัติใดจะป็ นอาจารย์ของไทเฮาน้อยได้
กัน?
หากว่าจะให้พดู ออกมาให้ได้ละก็ อย่างดีเขาก็คงเป็ นได้แค่เจ้าที่เจ้า
ทาง ที่ถูกท่านเซียนบนสวรรค์ช้ นั เก้ากราบเป็ นอาจารย์ นี่มนั เท่ากับ
ทอนอายุให้ส้ นั ลงแท้ ๆ เชียวนะ!
เง็กเซียนของข้าเอ๋ ย เขาอยากจะคุกเข่าลงไปพบพื้นเรี ยกนางเป็ น
บรรพชนมากกว่า!
แต่พอเห็นไทเฮาน้อยมองมาด้วยรอยยิม้ ที่มุ่งมัน่ อู๋เจินก็พลันรู ้สึกขน
อ่อนลุกไปทั้งร่ าง ได้แต่สวดลูกประคาในมืออยูใ่ นใจ ค่อยกล่าว
ออกมาว่า “องค์ไทเฮาทรงมีพรสวรรค์อนั ล้ าเลิศ ทั้งยังยอมฝึ กฝน
อย่างยากลาบาก เมื่อข้านักพรตถ่ายทอดวิชาทั้งหมดให้ พระนางก็
เรี ยนรู ้ไปจนถถึงขั้น…..”
ลาดับชั้นยังไม่ทนั จะกล่าวออกมาจากปาก ก็เห็นสายพระเนตรของ
ไทเฮาพลัยแปรเปลี่ยนไป สื่ อความหมายตักเตือนอย่างชัดเจน
ออกมา
ไทเฮาน้อยซุกซ่อนพระองค์เอาไว้อย่างมิดชิด ย่อมต้องมีพระ
ประสงค์มิให้ผอู ้ ื่นล่วงรู ้วา่ พระนางมีความสามารถสู งส่ งเทียมฟ้า
ขนาดไหน
ทาเอาอู๋เจินตื่นตัวจนต้องรี บเปลี่ยนคาพูดไปในทันที “เรี ยนสาเร็ จไป
สองสามส่ วน ในบรรดาศิษย์ที่ขา้ สั่งสอนด้วยตนเอง นับว่ายอดเยีย่ ม
อย่างที่สุด!”
พออู๋เจินกล่าวออกมาเช่นนี้ ผูค้ นทั้งหลายก็พากันตื่นตะลึงไป “อะไร
นะ?”
อู๋เจินผูน้ ้ ี จะอย่างไรก็เป็ นถึงหนึ่งในสามผูอ้ าวุโสแห่งอารามเทียนเก๋
อกวน ฟังมาว่าเขามีความสามารถถึงขนาดเรี ยกฟ้าเรี ยกฝนได้แล้ว
ย่อมต้องเก่งอย่างแน่นอน
แต่ต๋ ูกซู ิงหลันกลับสามารถเรี ยนรู ้วิชาของเขาได้ถึงสามส่ วนใน
ช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ ?
นี่มนั ความสามารถระดับปี ศาจอันใดแล้ว!
คราวนี้ สายตาที่ทุกผูค้ นมองไปยังตู๋กซู ิงหลันถึงกับเปลี่ยนแปลงไป
แล้ว ดูท่าพวกเขาจะมองไทเฮาน้อยผิดไปแล้วจริ ง ๆ ?
นางไม่เพียงแต่มิใช่นางปี ศาจ แต่ยงั เป็ นผูม้ ีพรสวรรค์ที่หาได้อยากยิง่
ในต้าโจว?
ตอนที่ 111 ชนแลมโบกินี่พงั เสี ยแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันกอดซุ่นเอ๋ อร์เอาไว้ พลางยืดตัวขึ้นตรงดุจพูก่ นั แท่งหนึ่ง
วางท่าเสมือนว่านางทั้งเก่งทั้งเท่ห์อย่างเต็มที่
เด็กหญิงตัวน้อยที่ถูกอุม้ ไว้ยงั ไม่ลืมปิ ดทองให้นางอย่างเต็มที่ “ท่าย
ย่าน้อยของข้าเก่งที่สุดอยูแ่ ล้ว เก่งยิง่ กว่าเซียนหญิงคนไหน ๆ อีก! “
จากนั้นเด็กหญิงตัวน้อยก็ยกนิ้วขึ้นมา ชี้ใส่ รองมหาเสนาฯ และพวก
“ท่านย่าน้อย พวกเขาทาร้ายท่านพ่อของซุ่นเอ๋ อร์จนตาย ซุ่นเอ๋ อร์จะ
ให้พวกเขาชดใช้! “
ตู๋กูซิงหลันกวาดตามองออกไปได้แต่ยมิ้ อ่อนให้กบั รองมหาเสนาฯ
และเสี ยนไท่เฟย “ทั้งสองท่าน ก่อนหน้านี้เราได้เตือนพวกท่านแล้ว
ต้นเหมยต้นนี้ล้ าค่าเหลือคณา ไม่อาจกระทบได้โดยง่าย ของขวัญที่
เราตั้งใจจะมอบให้ท่านหญิงเนื่องในวันแต่งตั้งกลับถูกพวกท่านทั้ง
สองทาลายจนกลายเป็ นเช่นนี้ไปแล้ว และนี่ยงิ่ เป็ นความต้องการ
ของท่านหญิงน้อยเอง พวกท่านก็ชดใช้เสี ยเถอะ”
สายตาของทั้งเสี ยนไท่เฟยและรองมหาเสนาฯ ต่างก็มืดครึ้ มลง
” ผูห้ นึ่งเป็ นไท่เฟยที่ได้ชื่อว่ามีคุณธรรมสู งส่ ง ผูห้ นึ่งก็เป็ นถึงรอง
มหาเสนาบดีในราชสานัก คงไม่ใช่วา่ ความกล้าจะยอมรับแค่น้ ีกย็ งั
ไม่มีกระมัง? ” ตู๋กูซิงหลันหัวเราะเสี ยงเย็น นางหันไปมองดูตน้ เหมย
ต้นนั้นพลางยูป่ าก “จุ๊ ๆ ดอกเหมยบนต้นถูกสะเทือนเสี ยจนร่ วงลง
มาเกือบหมด แม้แต่รากยังถูกกระชากขาดถึงเพียงนี้ ช่างตายอย่างน่า
เสี ยดายจนเราปวดใจจริ ง ๆ “
“แง ๆ ๆ ท่านพ่อตายอย่างน่าอนาถนัก! ” ซุ่นเอ๋ อร์เองก็น้ าตาร่ วง
เช่นกัน
ผูค้ นทั้งหลาย “………” นัน่ มันจะอย่างไรก็แค่ตน้ ไม้ตน้ หนึ่ง ใช่ผี
ท่านพ่อเสี ยที่ไหนกัน!
องค์หญิงใหญ่มองตามไป พอซุ่นเอ่อร์ปลอดภัยไร้เรื่ องราว นางก็
สงบสติลงเยือกเย็นได้ ก่อนหน้านี้เพราะความเจ็บปวดจากความคิด
ที่วา่ ได้สูญเสี ยธิดารักไป จึงได้บดบังสติปัญญาของนางไปสิ้ น ยามนี้
เมื่อมาคิดดูให้ละเอียดละออ ถึงได้รู้สึกว่าตนเองกาลังถูกหลอกใช้
เสี ยแล้ว
มีคนคิดจะหลอกใช้นางและซุ่นเอ๋ อร์มาให้ร้ายไทเฮา
คนผูน้ ้ นั ต่างหากถึงจะเป็ นฆาตกรควักหัวใจ ดื่มโลหิ ต ที่แท้จริ ง
และเมื่อมองดูตน้ เหมยที่ ‘ชอกช้ าปางตาย’ ต้นนั้น ก็ยงิ่ ทาให้คิดถึง
ราชบุตรเขยขึ้นมา…….
ไม่วา่ เรื่ องอักขระดึงดูดดวงจิตนี้จะเป็ นจริ งหรื อไม่ ต้นเหมยต้นนี้ก็
คือความหวังและความคะนึงหาของซุ่นเอ๋ อร์ แต่กลับถูกผูค้ นทาลาย
ลงเช่นนี้ นางเองก็ไม่อาจจะทนได้เช่นกัน
ดวงเนตรของนางปรากฎเส้นเลือดขึ้นมา นางคว้าดาบขึ้นมาเดินถึง
ข้างกายตู๋กูซิงหลัน คราวนี้ยอ่ มไม่ใช่การหันดาบเข้าใส่ ต๋ ูกซู ิงหลัน
อีกแล้ว
ภายใต้สายตาของผูค้ นทั้งหลาย ดาบนั้นก็ช้ ีเข้าใส่ ท่านรองมหาเสนา
ฯ และเสี ยนไท่เฟย ” ขอทั้งสองท่านชดใช้มา! เดี๋ยวนี้เลย! “
เสี ยนไท่เฟยสี หน้าซีดขาว รองมหาเสนาฯ ก็ท่าทางกลืนไม่เข้าคาย
ไม่ออก
” ก็แค่ตน้ เหมยต้นหนึ่งไม่ใช่หรื อ ไยจะต้องจริ งจังถึงเพียงนี้……”
รองมหาเสนาฯ ขมวดคิ้วมุ่น เขาเองก็คาดไม่ถึง เหตุการณ์เบื้องหน้า
จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ วถึงเพียงนี้ เมื่อครู่ ทุกคนต่างก็พ่ งึ จะ
ร่ วมมือกันจัดการนางปี ศาจตู๋กซู ิงหลันนัน่ ไม่ใช่หรื อ?
ทาไมเพียงชัว่ แวบเดียวกลับหันหอกกลับมาใส่ เขาและเสี ยนไท่เฟย
ได้กนั ?
“ไทเฮา เสี ยนไท่เฟยจะอย่างไรก็เคยดูแลท่านดุจมารดาแท้ ๆ มาก่อน
ก่อนหน้าเมื่อครู่ กเ็ พียงแต่ร้อนใจเพราะเกรงว่าท่านหญิงน้อยจะเกิด
เรื่ องเท่านั้นเอง ท่านจะทาเป็ นไม่รู้จกั บุญคุณได้อย่างไร หนี้เล็ก ๆ
เพียงแค่น้ ีกจ็ ะต้องคิดให้ได้? ” รองมหาเสนาฯ คิดจะใช้ความฉลาด
เจ้าเล่ห์ของตนเอาตัวรอดอย่างสวยงาม “ยิง่ ไปกว่านั้น ในเมื่อท่านมี
ความสามารถมากนัก ก็ปลูกต้นเหมยให้ท่านหญิงน้อยใหม่อีกครั้งก็
สิ้ นเรื่ องแล้วมิใช่หรื อ? “
คราวนี้ต๋ ูกซู ิงหลันอยากจะหัวเราะบ้างแล้ว ไม่พบกันเพียงไม่นาน
ความสามารถในเชิงไร้ยางอายของท่านรองมหาเสนาฯ ถึงกับงอก
เงยเพิ่มขึ้นแล้ว
ไอ้ความคิดประเภทที่วา่ ‘ในเมื่อเอ็งร่ ารวยนัก ถึงพวกข้าจะชนแลม
โบกินี่ของเอ็งพังไปแล้ว เอ็งก็ไปซื้อใหม่อีกคันดิ ทาไมจะต้องมา
ตามจี้เอากับพวกจน ๆ แบบตรู ดว้ ย’
ช่างกล้าคิดกล้าทากันออกมาได้นะ!
นางมองดูดว้ ยสายตาเย็นชา ขณะที่กาลังจะเอ่ยปาก พลันได้ยนิ สุ
รเสี ยงของฮ่องเต้ที่รับสัง่ อออกมาด้วยน้ าเสี ยงเย็นยะเยือก ”
เหลวไหลสิ้ นดี! “
ผูค้ นทั้งหลายต่างตกตะลึงไปแล้ว ต่างก็รีบหันไปมองดูดา้ นในห้อง
แม้จะได้ยนิ แต่เสี ยงโดยไม่เห็นหน้า แต่วา่ ทาไมถึงได้รู้สึกว่า
คล้ายคลึงกับ…..ฮ่องเต้?
ยามนี้พวกเขาถึงได้คิดขึ้นมาได้วา่ ดูเหมือนหลี่กงกงและเหล่า
องครักษ์ของวังหลวงต่างก็นอ้ มรออยูท่ ี่ระเบียงยาวนี้ต้ งั แต่แรกแล้ว
ตอนแรกพวกเขาคิดกันว่าหลี่กงกงและเหล่าราชองครักษ์มารอเฝ้า
ไทเฮา คิดไม่ถึงว่า ฮ่องเต้เองก็เสด็จมาแล้ว?
อีกทั้งยังประทับอยูใ่ นห้องส่ วนตัวของไทเฮาอีกด้วย?
แสดงว่าเมื่อครู่ ที่พวกเขาพากันอึกทึกครึ กโครมกันอยูท่ ี่ดา้ นนอก
ฮ่องเต้กลับทรงประทับดูงิ้วนี้อยูด่ า้ นใน?
” นี่เท่ากับว่าเห็นผูอ้ ื่นเป็ นลิงเป็ นค่างกันหมดหรื อไง เขากลับดูงิ้ว
อย่างสนุกสนาน” มีแต่หยวนเฟยที่กล้าส่ งเสี ยงเบา ๆ ด้วยความแค้น
เจ้าฮ่องเต้ผนู ้ ้ ี เขามันไม่ใช่คน!
มีอย่างที่ไหนปล่อยให้แม่ของตนเองออกมาสู ้ศึกตีฝีปากอยูเ่ พียงผู ้
เดียวกัน?
พอเรื่ องราวคลี่คลายลงไปกว่าครึ่ ง หึ เขาถึงได้โผล่ออกมา
หยวนเฟยวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อนอยูภ่ ายในใจ
หลี่กงกงที่รอคอยอยูน่ านจนดอกไม้แทบจะจะร่ วงลงมาหมดแล้ว ก็
รี บพาเหล่าองครักษ์เข้าไปด้านใน ทั้งยังส่ งเสี ยงคร่ าครวญอย่างยืด
ยาวรอบหนึ่ง “ฝ่ าบาทพะยะค่ะ~”
พอเข้าไปข้างในห้องเขาถึงได้เห็นว่าฝ่ าบาทเหงื่อท่วมองค์ พระ
พักตร์ดาคล้ า นอนเอนอยูบ่ นเก้าอี้กยุ้ เฟย ที่ดา้ นข้างของเก้าอี้ยงั มีแตง
หวานจานใหญ่ที่ยงั เสวยไม่หมดอยูด่ ว้ ย
หลี่กงกงรี บร้อนเข้ามาก็ปากไว “ฝ่ าบาท พระองค์ทรง…..ปวดเบาใช่
ไหมพะยะค่ะ?
เขาเคยฟังมาว่า แตงหวานกินมากเกินไปทาให้ปวดปัสสาวะได้ง่าย
ไม่น่าละเมื่อครู่ ฝ่าบาทถึงได้ไม่ทรงยอมรับสัง่ จะต้องเป็ นเพราะทรง
รู ้สึกไม่สบายท้อง คิดจะเข้าห้องน้ า แต่กว่าไม่สะดวกพระทัยจะตรัส
ออกมา
” เจ้าหุบปากให้เราเดี๋ยวนี้! ” จีเฉวียนทรงไม่เข้าพระทัยจริ ง ๆ ว่า
ทาไมตนเองถึงได้ยอมเลี้ยงดูบ่าวที่โง่เหมือนหมูอยูไ่ ด้!
ตรัสแล้ว พระองค์กม็ ีรับสัง่ ให้กบั เหล่าราชองค์รักษ์ “พาเราออกไป
ไปพร้อม ๆ กับเก้าอี้นี่ดว้ ย! “
เหล่าองครักษ์ท้ งั หลายต่างหน้าตาเลิ่กลัก่ ต่างก็แอบคิดในใจว่าฝ่ า
บาทยิง่ ทียงิ่ รู ้จกั ตบตาแล้ว
ผูค้ นทั้งหลายต่างเห็นเพียงแต่ฮ่องเต้ทรงถูกเหล่าองครักษ์ยกออกมา
จากภายในห้อง เก้าอี้กยุ้ เฟยที่สวยงามและดูภูมิฐานนั้นช่างเตะตา
เหลือเกิน
เมื่อรวมเข้ากับฉลองพระองค์ที่หรู หรางดงามของฝ่ าบาทแล้ว ก็ดู
กลมกลืนกันอย่างบอกไม่ถูก
“ถวายพระพรฝ่ าบาท! ” ผูค้ นทั้งหลายต่างคุกเข่าลงไปในทันที เรื่ อง
ที่เกิดขึ้นในวันนี้ช่างเกินกว่าจะจินตนาการเสี ยจริ ง ๆ
ฮ่องเต้ผทู ้ รงสู งศักดิ์หาใดเทียบ ได้แต่ทนต่อความเจ็บปวดที่ยงั ไม่
ยอมจางหายไป โบกพระหัตถ์ให้คนทั้งหลายได้ลุกขึ้นมา
หัวเข่าชราของท่านรองมหาเสนาฯ มักจะมีปัญหา เขาลุกขึ้นมา
เกือบจะเป็ นคนสุ ดท้าย พอเขาพึ่งจะยันหัวเข่าได้ ก็ถูกฝ่ าบาทเรี ยก
เอาไว้เสี ยก่อน “รองมหาเสนาฯ ในเมื่อเจ้าชอบคุกเข่านัก ถ้างั้นก็
คุกเข่าต่อไปอีกสักพักเถอะ เราเข้าใจจิตใจที่ภกั ดีของเจ้า”
ท่านรองมหาเสนาฯ ที่ลุกขึ้นได้ครึ่ งหนึ่งแล้ว “??? “
แต่วา่ ฮ่องเต้กลับทรงไร้น้ าใจยิง่ นัก สายพระเนตรที่ทอดมองเขาเพียง
แวบเดียวนั้นแทบจะทาให้ตวั ของเขากลายเป็ นแท่งน้ าแข็งไป
ขาทั้งสองข้างของเขาอดที่จะสัน่ สะท้านไม่ได้ เพียงครู่ เดียงก็คุกเข่า
ลงไปใหม่
ตู๋กซู ิงหลันมองดูเจ้าลูกชายตัวร้ายที่นงั่ อยูด่ า้ นข้างของนาง เพียงครู่
เดียวก็คิดไขปัญหาหนึ่งขึ้นมาได้ เจ้าฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ ีไม่ออกมาก่อน
ไม่ออกมาหลัง กลับจะออกมาตอนที่นางกาลังต่อรองค่าชดใช้
แน่นอนว่าต้องคิดจะมาแบ่งสมบัติ …….หึ คิดจะริ บเอาทรัพย์สิน
ของนางอีกแล้ว!
“ท่านน้าฮ่องเต้ ” พอซุ่นเอ๋ อร์มองเห็นจีเฉวียน ก็เรี ยกออกไปเบา ๆ
แต่ไหนแต่ไรมานางก็มีความกลัวเกรงท่านน้าผูน้ ้ ีอยูบ่ า้ ง ยามปกติ
นางย่อมไม่กล้าเข้าใกล้เขา นี่นบั ว่าเป็ นครั้งแรกที่นางได้เข้าเฝ้าและ
มองดูท่านน้าผูส้ ู งศักดิ์อย่างใกล้ชิดเพียงนี้ นางอดรู ้สึกไม่ได้วา่ ท่าน
น้าและทานย่าน้อยช่างดูเหมาะสมกันอย่างยิง่
ต่างก็งดงามหน้าดูเป็ นพิเศษ!
พอได้ยนิ เสี ยงของซุ่นเอ๋ อร์ จีเฉวียนก็ตรัสตอบด้วยน้ าเสี ยงอ่อนโยน
อย่างยากที่จะหาได้ พระพักตร์ที่เย็นชาดุจน้ าแข็งพันปี ก็เปลี่ยนแปลง
ไปด้วย “เด็กดีที่เชื่อฟัง น้าจะจัดการเรื่ องนี้ให้เจ้าเอง จะให้พวกเขา
ชดเชยท่านพ่อให้เจ้าอย่างแน่นอน”
“อืม เจ้าค่ะ” ซุ่นเอ๋ อร์พยักหน้า “ขอบพระทัยท่านน้าฮ่องเต้เพคะ! “
พอนางพูดจบแล้ว ก็เห็นจีเฉวียนทรงยกพระหัตถ์ข้ ึนมาจับชาย
ลูกปัดบนพระมาลา จากนั้นก็หนั ไปมองรองมหาเสนาฯ รอบหนึ่ง
“ต้นเหมยต้นนั้นดูดซับจิตวิญญาณธรรมชาติบนเขาชิงซานมากว่า
ร้อยปี ไทเฮามาขอร้องเราด้วยพระองค์เอง รองมหาเสนาฯ เจ้าลอง
ค่อย ๆ คิดคานวนดู ว่าจะชดใช้อย่างไรเถอะ”
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็ได้แต่มองดูตน้ เหมยที่หนากว่าข้อมือของ
เด็กหญิงอยูเ่ ล็กน้อย
ฝ่ าบาท? ต้นไม้น้ นั ดูยงั ไงก็คงมีอายุไม่เกินห้าหกปี ที่บอกว่ามีมา
ตั้งแต่ร้อยกว่าปี ก่อน ทั้งยังมีจิตวิญญาณคอยช่วยเลี้ยงดู คุณธรรมใน
จิตใจของพระองค์ไม่ได้ทาให้รู้สึกเจ็บปวดบ้างเลยหรื อ? “
ตอนที่ 112 ฝ่ าบาททรงเข้ าข้ างไทเฮาอย่ างเต็มที่
ที่จริ งแล้วภูเขาฮวาชิงอยูห่ ่างไกลจากเมืองหลวงของต้าโจวมาก หาก
จะขนต้นไม้สักต้นมาจากที่นนั่ มีหวังคงได้กลายเป็ นท่อนฟื นไป
ตั้งแต่แรกแล้ว
ผูค้ นทั้งหลายต่างอดไม่ได้ที่จะย้อนคิดไปถึงตอนนั้น ที่ฝ่าบาทตรัส
ถ้อยรับสัง่ แสบร้อนแล้วริ บเอาทรัพย์สินทั้งหมดของบ้านท่านรอง
มหาเสนาฯ ไป
ท่านรองมหาเสนฯ าช่างโชคร้ายเสี ยจริ ง ๆ ถูกใครไถเงินไม่วา่ แต่
คนผูน้ ้ นั กลับเป็ นฝ่ าบาท
ผูใ้ ดกล้าจะกล่าวว่าฝ่ าบาททรงผิดได้บา้ งละ?
ยามนี้ท่านรองมหาเสนาฯ คุกเข่าอยูบ่ นพื้น ทัว่ ทั้งร่ างสัน่ สะท้านเขา
คิดไปถึงว่าข้าวของในบ้านแม้แต่กระโถนฉี่ ทองทายังถูกฝ่ าบาทสัง่
ริ บไปแล้ว
ทุกวันนี้เหล่าญาติพี่นอ้ งที่เคยรักใคร่ เขาจะเป็ นจะตาย ต่างก็พากัน
ม้วนเสื่ อหนีหน้าหายไปในคืนเดียว เขาในตอนนี้นอกจากตาแหน่ง
ขุนนางและชีวิตชรา ๆ แล้ว ยังจะมีอะไรเหลืออยูอ่ ีก
เดิมทีหนิงเอ๋ อร์จะอย่างไรยังนับว่าเป็ นถึงพระสนมผูห้ นึ่ง ตอนนี้
กลับถูกตู๋กซู ิงหลันให้ร้ายจนต้องเข้าไปอยูใ่ นตาหนักเย็น บรรดา
ลูกน้องของตนเองพวกนั้นแต่ละคนต่างรู ้ทางลมทั้งนั้น พอเห็นว่า
เขาหมดอานาจ ลูกสาวเข้าไปอยูใ่ นตาหนักเย็น แต่ละคนต่างก็คิดหา
หนทางไปให้พน้ จากการควบคุมของเขา
โดนเฉพาะบิดาของฉีผงิ นับเป็ นตัวอย่างอันดี ไม่มีคิดถึงบุญคุณที่เขา
สนับสนุนให้กา้ วหน้ามาตลอดหลายปี เพราะเรื่ องที่ฉีผงิ ได้รับความ
ทรมานในคุก ก็ตดั สิ นใจอย่างเด็ดขาดตั้งตัวเป็ นฝ่ ายตรงข้ามกับเขา
พวกที่เคยขยันมาประจบประแจงเขาอยูเ่ สมอ ยามนี้ต่างก็แทบจะรี บ
ออกห่างเขาให้ไกล
หมากตานั้นของฝ่ าบาท เสมือนกับการถอนฟื นจากเตาไฟ ทาลาย
รากฐานที่สะสมมาของเขาจนหมด
ยามนี้ หากยังทรงจัดการกับเขา ดูท่าแม้แต่ชีวิตชรานี้กค็ งต้องจบสิ้ น
แล้ว?
พอคิดถึงตรงนี้ ท่านรองมหาเสนาฯ ก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมา
เขาจะต้องรักษาหมวกขุนนางและชีวิตชราของตนเอาไว้ให้ได้ จึงจะ
มีโอกาสผงาดขึ้นอีกครั้ง
“ฝ่ าบาท กระหม่อมยามนี้ไม่เหลือทรัพย์สินใด ๆ ติดตัวอีก ต้นเหมย
ต้นนี้คงไม่อาจชดใช้ให้ได้แล้ว” รองมหาเสนาฯ น้ าตาร่ วง “ขอฝ่ า
บาทโปรดเมตตา ราลึกถึงความลาบากที่กระหม่อมเคยทาเพื่อต้าโจว
ละเว้นกระหม่อมสักครั้งเถอะพะยะค่ะ”
” อย่างเจ้าเคยมีผลงานที่ไหนกัน เคยไปออกรบชายแดนหรื อ มีแต่จะ
โกงกินรี ดไถบ้านเมืองมากกว่าละมั้ง? ” หยวนเฟยช่างจดจา
ความแค้นอยูแ่ ล้ว ทั้งยังชอบโยนหินลงบ่ออีกด้วย นางย่อมรี บ
ออกมาต่อว่ารองมหาเสนาฯ อย่างโกรธแค้น
เต๋ อเฟยกับนางกานัลประจาตัวซิ่วเหอไม่ใช่เคยพูดอยูห่ รอกหรื อว่า
นางที่ไม่มีบิดามารดาไม่มีทางเข้าอกเข้าใจความรู ้สึกภาคภูมิใจของ
คนที่ได้ทาเพื่อบุตรธิดาหรอก นางไม่อยากรู ้หรอกว่า มีบิดาอย่างรอง
มหาเสนาฯ เช่นนี้ มันน่าภาคภูมิใจตรงไหน
รองมหาเสนาฯ กระอักเลือดลงไปบนอกคาหนึ่ง เขาแทบจะอยากให้
สายตาของตนเองกลายเป็ นดาบแทงหยวนเฟยให้ตาย ๆ ไปเสี ย
ตู๋กซู ิงหลันเหลือบมองหยวนเฟยแว่บหนึ่ง หึ ท่าทางของนางที่ช่าง
จดจาความแค้นนี้กน็ ่ารักดีอยูไ่ ม่นอ้ ย
ว่าแล้ว นางก็หนั ไปมองดูรองมหาเสนาฯ อยูค่ รู่ หนึ่งยกยิม้ เบาบางให้
เขา
รองมหาเสนาฯ พลันรู ้สึกว่าร่ างกายเหน็บหนาวขึ้นมาในทันที เกิด
ความรู ้สึกราวกับว่ากาลังตกอยูใ่ นสงครามขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุม
ตัวเองได้ รอยยิม้ ของนางปี ศาจตนนี้ราวกับจะเอาชีวิตของเขา!
เขารี บเบิกตาโต กลับเห็นเพียงฮ่องเต้ยงั คงทาพระพักตร์ไร้ความรู ้สึก
เหมือนเดิม อีกทั้งยังเพิ่มความเย็นชาอยูห่ ลายส่ วน พอเห็นว่าฝ่ าบาท
กาลังจะตรัสออกมา เขาก็เกิดปฎิภาณวูบหนึ่ง หันศีรษะไปทางเสี ยน
ไท่เฟยที่ยนื การ่ มอยูด่ า้ นข้าง
“เสี ยนไท่เฟยพะยะค่ะ ก่อนหน้านี้ทรงรับสัง่ ว่า หากมีปัญหา
พระองค์จะทรงชดใช้นี่ คาพูดนั้นทุกคนล้วนได้ยนิ ชัดเจน”
เรื่ องถึงขั้นนี้แล้ว เขาเองก็ไม่คิดจะรักษาหน้าตาอะไรอีกแล้ว หากว่า
ยังสามารถผลักหม้อดาออกไปได้ยอ่ มต้องผลักไปให้เต็มที่ แม้
จะต้องล่วงเกินเสี ยนไท่เฟยก็ตามเถอะ จะอย่างไรต้องรักษาชีวิต
ตนเองเอาไว้ให้ได้เสี ยก่อน
พอท่านรองมหาเสนาฯ กล่าวออกไป ผูค้ นทั้งหลายต่างมองเขาด้วย
สายตาดูถูกเหยียดหยาม พวกเขาคิดไม่ถึงจริ ง ๆ ว่า คนที่เป็ นชาติ
บุรุษผูห้ นึ่ง กลับผลักความผิดมาให้สตรี อย่างไร้ยางอายได้เช่นนี้
ถึงแม้วา่ ว่าเสี ยนไท่เฟยจะเคยพูดเช่นนั้นจริ ง ๆ ก็ตามเถอะ
เสี ยนไท่เฟยถือร่ มยืนอยูอ่ ีกด้านหนึ่ง นางทอดถอนใจยาวเหยียด ก็
หันมาคานับจีเฉวียนครั้งหนึ่ง “ฝ่ าบาท ยามนั้นหม่อมฉันกังวลใน
ความปลอดภัยของท่านหญิงน้อยมากเกินไป ถึงได้สงั่ ให้นางกานัล
ขุดต้นไม้ตน้ นัน่ เป็ นหม่อมฉันหวังดีแต่กลับทาเสี ยเรื่ อง หม่อมฉัน
ยอมรับผิดเพคะ”
นางยืดตัวตรง ไม่อ่อนแอแต่กไ็ ม่แข็งขืน ทั้งยังมิได้แก้ต่างให้ตนเอง
แสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ที่แข็งแกร่ ง
ผูค้ นต่างก็รู้วา่ เสี ยนไท่เฟยคืออดีตนางกานัลประจาตัวของฉางซุน
ฮองเฮา ผูท้ ี่ติตามพระนางได้ยอ่ มไม่ธรรมดา ถึงแม้มีพ้นื เพเป็ นนาง
กานัล แต่ความกล้าหาญเช่นนนี้กน็ บั ว่าไม่อาจลบหลู่ได้
เมื่อนางกล้ายอมรับอย่างองอาจ ก็ยอ่ มดูดีกว่ารองมหาเสนาฯ ผูน้ ้ นั
มากมายนัก
ตรัสแล้ว เสี ยนไท่เฟยก็หนั ไปทางตู๋กูซิงหลันกล่าวว่า “ขอเพียงเป็ น
สิ่ งที่ขา้ มีอยู่ หากสามารถชดเชยให้ได้ยอ่ มต้องชดเชยให้ ไทเฮา
รับสัง่ มาเถอะ ต้องการให้หม่อมฉันทาเช่นไร? “
ตู๋กซู ิงหลันยิม้ บาง ๆ “ไท่เฟยกล่าวเช่นนี้ ราวกับว่าเราช่างคิดเล็กคิด
น้อย เพียรตามตื้อจะเอาให้ได้”
เมื่อเปรี ยบเทียบกับเต๋ อเฟยแล้ว ตาแหน่งของเสี ยนไท่เฟยนับว่า
สู งส่ งกว่ามาก คาพูดคาจาก็รวบรัดไร้ช่องโหว่ ทั้งที่ยอมรับความผิด
กลับสามารถทาให้ผคู ้ นต่างรู ้สึกว่านางมิได้กระทาผิดในที่ใด อีกทั้ง
ยังมีน้ าใจองอาจกล้าทากล้ารับ
คนผูน้ ้ ียงั สามารถทาให้ผคู ้ นต่างเห็นอกเห็นใจนาง ใช่สิ อย่างมากก็
เป็ นเพียงแค่หวังดีแต่กระทาพลาดไปเท่านั้น
เหล่าผูค้ นที่เกลียดนางเป็ นทุนเดิมต่างก็คิดหัวเราะเยาะนาง ตู๋กูซิงห
ลันทาเช่นนี้ยงั ไม่เรี ยกว่าคิดเล็กคิดน้อยอีกหรื อ ก็แค่ตน้ ไม่เพียงต้น
เดียวกลับต้องฟ้องร้องเสี ยจนกลายเป็ นเรื่ องใหญ่โต
เรื่ องนี้อย่างมากก็เป็ นแค่การสร้างเครื่ องรางเท่านั้น เครื่ องรางนี้จะใช้
ได้ผลหรื อไม่ใครจะไปรู ้กนั
เพียงแต่พวกเขาในตอนนี้ยงั ไม่มีความกล้า และไม่คิดจะเสี่ ยงไปหา
เรื่ องตู๋กซู ิงหลันก็เท่านั้น
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ยงั ไม่ได้หาเรื่ องสร้างความยากลาบากใดให้กบั เสี ยน
ไท่เฟย กลับเห็นฮ่องเต้ทรงหรี่ พระเนตรหงส์จอ้ งมองไปทางเสี ยน
ไท่เฟย “เป็ นหนี้ตอ้ งคืนเงิน ฆ่าคนก็ชดใช้ชีวิต ทาลายสิ่ งของย่อม
ต้องชดใช้ นี่เป็ นเรื่ องสมเหตุสมผลอยูแ่ ล้ว ยิง่ ไปกว่านั้นเจ้าเองก็เป็ น
คนเอ่ยปากเองว่าจะชดใช้ให้”
“ในเมื่อให้สญ
ั ญาไปแล้วว่าจะชดใช้ ก็กระทาให้ชดั เจนเสี ยหน่อย รี
ๆ รออยูไ่ ด้เพื่ออะไร? “
“ยิง่ ไปกว่านั้น ไทเฮาทุ่มเทเวลาและจิตใจไปตั้งเท่าไหร่ เพื่อ
ตระเตรี ยมของขวัญสาหรับพิธีแต่งตั้งให้ซุ่นเอ๋ อร์ หากไม่ใช่วา่ นาง
ไม่ได้รับความเป็ นธรรม แล้วเจ้าจะมาไม่ได้รับความเป็ นธรรม
ตรงไหนกัน? “
พระดารัสนี้กล่าวออกไปอย่างไร้เยือ่ ไย ราวกับว่าสตรี ตรงเบื้องพระ
พักตร์มิใช่ไท่เฟยที่สูงศักดิ์มาจากไหน หากแต่เป็ นเพียงนางกานัล
ธรรมดาผูห้ นึ่ง
ผูค้ นทั้งหลายต่างคาดไม่ถึงว่า ฝ่ าบาทจะทรงให้ทา้ ยไทเฮาถึงเพียงนี้
ถึงแม้วา่ ….ในพระดารัสของฝ่ าบาทจะฟังดูแล้วไม่มีสิ่งใดที่ผิด แต่
ว่าในใจของพวกเขาต่างก็ยดึ ถือเอาไว้แต่แรกแล้วว่าตู๋กซู ิงหลันเป็ น
ตัวหายนะ เป็ นนางปี ศาจ
เมื่อพูดถึงผูท้ ี่ในใจตนมีความเกลียดชังอยูแ่ ต่เดิมนั้น อารมณ์ยอ่ มอยู่
เหนือเหตผลทั้งมวลอยูแ่ ล้ว เพราะฉะนั้นไม่วา่ ตู๋กซู ิงหลันจะกระทา
สิ่ งใด พวกเขาก็ไม่คิดจะชื่นชม
ตู๋กซู ิงหลันเองก็แอบชะงักไปแล้ว นางมิใช่คนโง่ ย่อมต้องดูออกมา
เจ้าฮ่องเต้สุนขั กาลังออกหน้าปกป้องนาง
ช่างไร้สาระ เขาจะไม่ปกป้องนางได้หรื อ?
เจ้าฮ่องเต้สุนขั กาลังคิดถึงค่าตอบแทนที่เกินกว่าจะนับมูลค่าได้นนั่
ต่างหากเล่า?
มันก็เป็ นแค่ยนื อยูฝ่ ่ าเดียวกันเพื่อผลประโยชน์ชวั่ คราวเท่านั้น เขาที่
เป็ นพ่อไก่ขนเหล็ก เพียงแค่พดู จาไม่กี่ประโยคก็ได้รับผลประโยชน์
แล้ว ย่อมจะต้องยินดีแน่
ตู๋กจู ุนลองจับสังเกตจีเฉวียน ยิง่ รู ้สึกชัดเจนขึ้นว่าเจ้าฮ่องเต้สุนขั กาลัง
คิดไม่ดีกบั น้องเล็ก
เสี ยนไท่เฟยชะงักงันอยูช่ วั่ ครู่ การปฎิบตั ิที่จีเฉวียนมีต่อนางนั้นนาง
ไม่รู้สึกแปลกใจแม้แต่นอ้ ย เพราะตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ฮ่องเต้ทรง
มองนางเป็ นเพียงนางกานัลประจาตัวฉางซุนฮองเฮาเท่านั้น
เพียงแต่นางกาลังแปลกใจที่เขาปกป้องตู๋กซู ิงหลันถึงขั้นนี้
ทาไมท่าทีที่เขามีต่อตระกูลตู๋กถู ึงได้แปรเปลี่ยนไป? หรื อว่าเขาลืม
ไปแล้วว่าฉางซุนฮองเฮาสิ้ นพระชนม์ไปได้อย่างไร?
พอนางได้เห็นว่าตู๋กซู ิงหลันและจีเฉวียนกาลังสุ มหัวอยูด่ ว้ ยกัน ทั้ง
ยังดูกลมกลืนอย่างไร้ที่ติ เสี ยนไท่เฟยพลันรู ้สึกว่านางกาลังคานวน
สิ่ งใดพลาดไปหรื อไม่
” ฝ่ าบาททรงสัง่ สอนถูกต้องแล้วเพคะ เป็ นหม่อมฉันกล่าวมากเกิน
ความไปเอง ” เสี ยนไท่เฟยย่อมมีความสามารถคาดเดาจิตใจผูค้ น
เหนือธรรมดา “ไทเฮาทรงเอ่ยปากทั้งที ไม่วา่ ทรัพย์สินเงินทองใด ๆ
แม้ตอ้ งขายบ้านช่องจนหมดหม่อมฉันก็จะชดใช้ให้ท่าน”
ทันทีที่นางออกมา ตู๋กซู ิงหลันก็ตอกย้ากับนางว่า ” ไท่เฟย ไม่ใช่
ชดใช้ให้ขา้ แต่วา่ ชดใช้ให้กบั ท่านหญิงน้อยต่างหาก”
ตอนที่ 113 สุ นัขกัดกัน
” บิดาย่อมล้ าค่า ภูเขาเงินภูเขาทองใด ๆ ก็ชดใช้ไม่ได้! ” ซุ่นเอ๋ อร์ทา
แก้มพองทั้งสองข้าง นางโกรธขึ้นมาแล้ว “ไท่เฟยทรงคิดจะใช้เงิน
มาลบหลู่ท่านพ่อของข้า! “
เสี ยนไท่เฟย “……..”
ประโยคนี้หากว่าตู๋กซู ิงหลันพูดออกไปละก็ ผูค้ นต่างก็ตอ้ งคิดว่านาง
กาลังเสแสร้งเป็ นแน่
แต่วา่ เมื่อเป็ นท่านหญิงน้อยพูดออกมา ต่างก็คิดเพียงว่าเด็กน้อย
ผูกพันรักบิดาอย่างลึกล้ า แม้แต่ภูเขาเงินภูเขาทองก็ไม่ยอมแลก
” ไท่เฟย จวนองค์หญิงของข้าไม่ขดั สนเงินทอง ท่านอย่าได้นา
สิ่ งของเหล่านั้นมาฟาดหัวพวกเรา ” สี พระพักตร์ขององค์หญิงใหญ่
เปลี่ยนเป็ นไม่น่าดูอย่างยิง่
ราชบุตรเขยคือความเศร้าโศกที่นางไม่อาจลบล้างไปจากหัวใจได้
แน่นอนว่าย่อมไม่อาจยินยอมให้ผใู ้ ดก็ตามมาลบหลู่
ตู๋กซู ิงหลันและจีเฉวียนต่างก็ลอบสบตากันอยูช่ วั่ แวบหนึ่ง ฮ่องเต้
ทรงทอดพระเนตรภาษาทางสายตาของนางออกอย่างชัดเจนว่า
‘อยากจะถูกเงินทองลบหลู่’ ถึงเพียงไหน ถึงตอนนี้เขาก็ยงั จดจาได้
เป็ นอย่างดีวา่ นางมีนิสยั เป็ นถังปุ๋ ยมาแต่ไหนแต่ไร
เสี ยนไท่เฟยถูกล้อมกรอบไปทุกด้าน ทาเอานางถึงกับตรัสสิ่ งใดไม่
ออกไปชัว่ ขณะ ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่จึงได้ตรัสเสี ยงเบาออกมาว่า
“หม่อมฉันย่อมไม่ได้หมายความเช่นนั้น องค์หญิงและท่านหญิงต่าง
เข้าใจผิดไปแล้ว หม่อมฉันเพียงแต่ต้ งั ใจจะชดใช้ให้อย่างเต็มที่
เท่านั้น”
“จริ ง ๆ หรื อ? ” ท่านหญิงน้อยทาตาโต ถามนางออกไปอย่างใสซื่อ
“เสี ยนไท่เฟยจริ งใจหรื อไม่เพคะ? “
เสี ยนไท่เฟยก็ตอบว่า “ย่อมจริ งใจอย่างแน่นอน”
ซุ่นเอ๋ อร์สายตาเป็ นประกาย “เช่นนั้นเสี ยนไท่เฟยก็ทาแบบเดียวกับ
ท่านย่าน้อย มอบเลือดจากหัวใจให้ซุ่นเอ๋ อร์หนึ่งหยด ท่านย่าน้อย
อาจจะยังมีหนทาง ปลูกท่านพ่ออีกครั้ง “
คาพูดพอกล่าวออกไป ผูค้ นต่างก็ตกตะลึงไปแล้ว
เลือดจากหัวใจหนึ่งหยดหรื อ? นี่จะทาได้อย่างไร? ตู๋กูซิงหลันสร้าง
อักขระดึงดูดดวงจิตใดกัน? ไยจึงต้องใช้เลือดจากหัวใจชักนา?
หลอกลวงกันหรื อเปล่า? หากว่าใช้เลือดจากหัวใจจริ ง ๆ นางจะ
สามารถยืนอยูต่ รงนี่อย่างสบายดีได้อีกหรื อ?
องค์หญิงใหญ่นิ่งตะลึงไปแล้ว นางหันศีรษะกลับไปมองดูต๋ ูกซู ิงห
ลัน นาง….ทาถึงขนาดนี้เพื่อซุ่นเอ๋ อร์จริ ง ๆ หรื อ?
แต่วา่ ไม่วา่ เรื่ องนี้จะเป็ นจริ งหรื อไม่ ….ยามนี้ในใจของนางก็เกิด
ความละอายขึ้นแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันไม่พดู ไม่จา เพียงแต่แอบสงสายตาให้กบั อู๋เจินอย่างลับ ๆ
อู๋เจินก็รีบรับช่วงต่อ ยกสองมือขึ้นพนมในทันที “โอ้เง็กเซียนบน
สวรรค์ ~ หากว่าไท่เฟยจะทรงมีน้ าพระทัยชดใช้ให้จริ ง ๆ ก็มอบ
เลือดหยดหนึ่ง มารวมกับเส้นผมของท่านหญิงน้อย และกุญแจอายุ
มัน่ ขวัญยืน จากนั้นก็หาต้นเหมยที่ผา่ นการสะสมไอทิพย์สกั ต้นหนึ่ง
ให้ขา้ นักพรตทาพิธีสร้างอักขระดึงดูดดวงจิตลงไป ก็จะสามารถทา
ความปรารถนาของท่านหญิงน้อยให้สาเร็ จลุล่วง”
กระทัง่ อู๋เจินยังกล่าวถึงเพียงนี้ บรรดาผูค้ นที่มีใจคิดระแวงก็ไม่อาจ
พูดอะไรออกมาได้
คราวนี้นางกานัลของเสี ยนไท่เฟยชิงผิงก็รีบกล่าวออกมาว่า ” พระ
สนมของพวกเราเป็ นถึงพระสนมเอกที่อดีตฮ่องเต้ทรงโปรดปราน
ร่ างกายสู งค่าดัง่ ทองหยกไหนเลยจะให้บาดเจ็บได้? หากจะเอาเลือด
จากหัวใจนี่มิใช่วา่ ต้องการชีวิตของพระสนมหรอกหรื อ? “
พอชิงผิงพูดออกไป ฮ่องเต้กท็ รงโบกพระหัตถ์ สัง่ หลี่กงกง “ตบปาก

หลี่กงกงชะงักไปครู่ หนึ่ง ถึงแม้ฝ่าบาทมีพระอัธยาศัยไม่ดีเท่าไหร่
แต่วา่ น้อยครั้งนักที่จะจัดการนางกานัลเล็ก ๆ สักคน
เฮ่อ จะกังวลแทนพระองค์ไปทาไม ฝ่ าบาทรับสัง่ เช่นไรก็ทาไป
เช่นนั้นแล้วกัน อย่าว่าแต่เรื่ องตบหน้าเนี่ย มันสะใจดีแท้!
เขาเดินนาเหล่าองครักษ์ออกไป ให้คนจับตัวชิงผิงเอาไว้และเมื่อเงย
หน้าขึ้นมาก็ตบลงไปครั้งหนึ่ง ตบเดียวนี้ทาเอาชิงผิงหน้าบวมไปทั้ง
ใบหน้า มุมปากถึงกับมีเลือดไหลหยดออกมา
เสี ยนไท่เฟยขมวดคิ้ว หัตถ์ในชายแขนเสื้ อกาแน่นขึ้น เรื่ องของท่าน
หญิงน้อยนี้ ชิงผิงทาเสี ยเรื่ องไปแล้วก็จริ งอยู่ แต่ถึงอย่างไรนางก็ยงั
เป็ นนางกานัลที่มีศกั ดิ์ฐานะ ทั้งยังเป็ นคนสนิทของตนเอง ฮ่องเต้สงั่
ให้ตบหน้าชิงผิง ก็เท่ากับว่าเสี ยนไท่เฟยเองก็โดนตบไปด้วยมิใช่
หรื อ?
“ฝ่ าบาท ชิงผิงเพียงแต่พดู จาแทนหม่อมฉันสักประโยคสองประโยค
จาเป็ นจะต้องสัง่ สอนอย่างหนักถึงเพียงนี้เชียวหรื อเพคะ? ” เสี ยนไท่
เฟยจดจ้องจีเฉวียนบนเก้าอี้กยุ้ เฟย เมื่อคิดถึงว่าตาแหน่งฮ่องเต้น้ ีเดิม
ทีสมควรจะเป็ นของเย่เอ๋ อร์ของนาง ความคุกรุ่ นที่เก็บกดเอาไว้นาน
แสนนานมาแล้ว ก็แทบจะระเบิดออกมา
ได้ฟังดังนั้น ฮ่องเต้กแ็ ย้มพระโอษฐ์เยือกเย็น ใช้พระหัตถ์ซา้ ยหนุน
พระเศียรไว้ เอนพิงไปกับที่วางแขนบนเก้าอี้กยุ้ เฟย ดูไปทั้งงดงาม
และเย็นชาประหนึ่งภาพวาดทีเดียว “ในสถานการณ์เช่นนี้ มีที่ให้
บ่าวรับใช้เช่นนางโต้คารมด้วยรึ ? ในเมื่อไท่เฟยมิอาจสัง่ สอนคนของ
ตนเองให้ดีได้ เราก็ได้แต่กระทาแทนแล้ว”
ว่าแล้ว เขาก็ทอดพระเนตรไปยังตู๋กซู ิ งหลัน “อย่าว่าแต่ ไทเฮามิใช่วา่
ยิง่ สู งศักดิ์ยงิ่ กว่าไท่เฟยอีกหรื อ ตอนนี้กย็ งั อยูไ่ ด้สบายดี ไม่มีปัญหา
ใดสักนิด? “
ตู๋กซู ิงหลัน “…..” คาพูดนี้ทาไมฟัง ๆ ดูแล้ว เหมือนเจ้าลูกชายจะ
ลากยาวออกไปนอกเรื่ อง ทั้งยังสร้างความโกรธแค้นของเสี ยนไท่เฟ
ยมากกว่าเดิมนะ
เพราะแต่แรกนั้นเจ้าของร่ างเดิมและพระมารดาของอี้อ๋องต่างก็
ใกล้ชิดกันมาก หากว่าสามารถฉวยโอกาสนี้ทาให้พวกเขากลายเป็ น
ห่างกันมากสักหน่อย ย่อมส่ งเสริ มให้บลั ลังก์ของเขามัน่ คงได้
กว่าเดิมอีกหลายส่ วน
แต่กช็ ่างเถอะ…..จะอย่างไรเสี ยเสี ยนไท่เฟยผูน้ ้ ีกไ็ ม่ใช่คนดีสกั
เท่าไหร่ จะจับแยกก็แยกไปเถอะ
เสี ยนไท่เฟยประทับยืนอยูท่ ี่เดิม ดวงเนตรที่ลึกล้ านั้นปรากฎริ้ วคลื่น
ขึ้นมาเลา ๆ
ในขณะนั้นเองก็พลันได้ยนิ รองมหาเสนาฯ ที่คุกเข่าอยูก่ ล่าวกับนาง
ว่า “ไท่เฟยพะยะค่ะ ก็เพียงแค่ตอ้ งการเลือดของท่านเพียงหยดเดียว
เท่านั้น มิได้ตอ้ งให้ท่านชดใช้ภูเขาเงินภูเขาทองสักหน่อย พระองค์
ประทานให้กถ็ ือว่าจบสิ้ น พระองค์กม็ ิได้มีชาติกาเนิดสู งศักดิ์จริ ง ๆ
เสี ยหน่อย จะกระบิดกระบวนไปเพือ่ อะไร? “
รองมหาเสนาฯ ตอนนี้ไม่ได้ห่วงหน้าตาใด ๆ อีกแล้ว รักษาหน้าไว้
ยังมีประโยชน์อะไรต่อเขาอีกเล่า?
ดูเอาสิ ฝ่ าบาทแสดงออกว่าสนับสนุนไทเฮาชัดเจนเพียงไร ถ้า
เช่นนั้นเขาก็จะเพิ่มแรงให้อีกสักหน่อย หากว่าช่วยรุ มเสี ยนไท่เฟย
เช่นนี้ ไม่แน่วา่ เมื่อฝ่ าบาทพระอารมณ์ดีข้ ึนมา ก็อาจจะทรงละเว้น
เขาเสี ยก็ได้
เสี ยนไท่เฟยใช้สายตาที่เยือกเย็นปานแท่งน้ าแข็งจดจ้องเขา สายตา
นั้นเย็นยะเยือกจนทาให้ท่านรองมหาเสนาฯ รู ้สึกขนลุกทัว่ ทั้งตัวขั้น
มา
ตู๋กซู ิงหลันจับตาดูทุกสิ่ งอยูใ่ นสายตา ภาพเช่นนี้ ราวกับว่าได้เห็น
สุ นขั กัดกันไม่มีผดิ
คนสองคนที่เดิมทีร่วมมือคิดจัดการนาง ยามนี้กาลังย้อนกลับมาทา
ร้ายกันเอง หึ…….นางอยากจะยกเก้าอี้เล็ก ๆ ออกมาสักตัว แล้วก็มี
เม็ดแตงสักจานวนหนึ่งนัง่ แทะชมดูงิ้วฉากนี้เสี ยจริ ง
เพียงแต่วา่ ยามนี้นางไม่คิดจะเสี ยเวลาอีกต่อไป จึงได้ส่งสายตาให้อ๋ ู
เจินอีกครั้ง
พอถูกสายตาประหนึ่งบรรพบุรุษที่บีบคั้นคนได้มองเข้า อู๋เจินก็รู้สึก
ขนลุกขนพองขึ้นมา เช้าวันนี้ยามที่ต๋ ูกจู ุนไปจับตัวเขามานั้น ได้มอบ
จดหมายให้เขาฉบับหนึ่ง จดหมายฉบับนั้นเป็ นลายพูก่ นั ของไทเฮา
น้อยเขียนด้วยตนเอง ว่าต้องการให้เขามาช่วยเหลือสักหน่อย
เขาก็รีบหันไปกล่าวกับเสี ยนไท่เฟยว่า “ข้าแต่เง็กเซียนบนสวรรค์
~ ก็มิใช่วา่ จะเป็ นจะต้องใช้โลหิตจาหัวใจของไท่เฟยจริ ง ๆ ข้า
นักพรตย่อมจะต้องมีฝีมือกว่าลูกศิษย์อย่างไทเฮาอยูบ่ า้ ง หากว่าไท่
เฟยมีความจริ งใจจะชดใช้ให้ ก็เพียงแค่สะกิดปลายนิ้ว ประทาน
เลือดสักหลายหยดก็นบั ว่าเพียงพอแล้ว”
พูดกันถึงขั้นนี้แล้ว หากว่าเสี ยนไท่เฟยจะยังไม่ยนิ ยอมอีกละก็ นี่
ย่อมนับว่าเล่นตัวเกินไปจริ ง ๆ แล้ว
เพราะการที่ยอมถอยให้ถึงขนาดนี้ ย่อมดีกว่าตอนแรกที่จะกวาดเอา
ทรัพย์สินทั้งหมดของนางมา ตอนนี้คิดเป็ นเงินก็เพียงเงินเหรี ยญสอง
เหรี ยญ นี่ไม่ใช่วา่ เป็ นเรื่ องดีเข้าไปใหญ่หรอกหรื อ?
ท่านนักพรตอู๋เจินช่างเปี่ ยมไปด้วยเมตตาจริ ง ๆ
” ไท่เฟยพะยะค่ะ พระองค์รีบประทานเถอะ เสร็ จเรื่ องแล้ว ฝ่ าบาท
จะยังมีพิธีพระราชทานตาแหน่งให้กบั ท่านหญิงน้อยอีก จะได้ไม่
เป็ นการเสี ยฤกษ์ไป”
“จริ งด้วย ก็แค่สะกิดนิ้วนิดหน่อย ไม่ใช่วา่ จะเอาชีวิตท่านจริ ง ๆ “
เพียงครู่ เดียว ทั้งขุนนางและเหล่าพระสนมต่างก็เริ่ มส่ งเสี ยง
สนับสนุนขึ้นมา
ยามนี้เสี ยนไท่เฟยก็ประหนึ่งเป็ ดที่ถูดจับแขวนไว้ จะไม่ให้กย็ อ่ ม
ไม่ได้แล้ว
นางจ้องเขม็งไปยังตู๋กูซิงหลันที่ยนื อยูดา้ นข้างจีเฉวียน เห็นสี หน้า
ของนางสงบนิ่ง ดวงตาดอกท้อคู่น้ นั ก็มองดูนางอยูเ่ ช่นกัน

“พระสนม พระองค์ทรงยอมเถอะเพคะ~” ทันใดนั้น ชิงผิงที่ถูก


ตบปากไปเมื่อครู่ กย็ งั กล่าวกับนางเช่นกัน ทั้งยังยืน่ กริ ชเล่มหนึ่งมา
ให้
เสี ยนไท่เฟยจ้องดูนาง เพียงเห็นว่าชิงผิงนั้นนอกจากหน้าบวมเป็ น
หัวหมูแล้ว ในสายตาของนางกลับไม่มีความโกรธแค้นต่อตนเองสัก
น้อย
นางถึงได้พลันรู ้สึกตัวขึ้นมาว่า ตนเองตกหลุมพรางเสี ยแล้ว
ตอนที่ 114 นาง…..เป็ นอะไรกันแน่ ?
นางช่างโง่เขลานัก …….ดูไม่ออกแต่แรกว่าชิงผิงนั้นมีปัญหา
ทั้งที่ท่านหญิงน้อยมิได้ตาย แต่นางกลับนาหัวใจและเลือดสด ๆ
จานวนหนึ่งกลับมา ต้นเหมยนั้นทั้งที่ไม่จาเป็ นจะต้องถูกแตะต้อง
ทาลาย นางกลับขุดมันขึ้นมาจนรากขาด กระทัง่ ตอนนี้ นางก็เป็ นผูท้ ี่
ยืน่ กริ ชมาให้อีกด้วย!
นางได้แต่โทษตนเองที่ไว้ใจชิงผิงมากเกินไป เพราะไม่ทนั ได้คิด
ระแวงจึงถูกคนที่ไว้ใจที่สุดหักหลังเช่นนี้
ตู๋กซู ิงหลันใช้ฝีมืออันใดกันแน่ถึงสามารถซื้อใจของชิงผิงได้?

“พระสนม เชิญเพคะ~” ชิงผิงยังคงประคองกริ ชเอาไว้ ส่ งให้กบั


นางอย่างนอบน้อม สี หน้าดูไปเรี ยบเฉย แต่ในใจกลับลอบยินดีอยู่
น้อย ๆ ดูเอาเถอะ นางได้ช่วยเหลือท่านเซียนทางานสาเร็ จชิ้นใหญ่
หลังจากเสร็ จเรื่ องคราวนี้แล้ว นางจะขอให้ท่านเซียนรับนางเป็ น
ศิษย์ ไม่แน่วา่ หากนางตั้งใจฝึ กฝนให้มากเข้าก็อาจพบกับความสาเร็ จ
เข้าได้เหมือนกัน
เห็นแก่ที่นางยอมถูกตบจนหูชา ท่านเซียนคงจะยอมรับปากใช่ไหม?
เสี ยนไท่เฟยใช้สายตาเย็นชาจดจ้องนาง คมกริ ชที่วาววับฉาบไล้ดว้ ย
แสงเย็นจาง ๆ ทาให้นางรู ้สึกตาลายอยูบ่ า้ ง
ยามนั้นฮ่องเต้กลับตรัสออกมาอีกครั้ง “เสี ยนไท่เฟย ท่านยังไม่ลงมือ
หรื อว่าต้องการให้หลี่กงกงช่วยเหลือ? “
ทันทีที่ทรงตรัสออกไป หลี่กงกงที่ยนื อยูข่ า้ ง ๆ เสี ยนไท่เฟยก็
ตระเตรี ยมจะขยับตัว
“ฝ่ าบาท วันนี้สุขภาพของหม่อมฉันไม่ค่อยดีเท่าใดนัก ไม่อาจหลัง่
โลหิต ” เสี ยนไท่เฟยรี บกล่าวออกมา เรื่ องหยดเลือดนี้ไม่จาเป็ น
จะต้องรี บร้อน รอให้หม่อมฉันกลับวังไปพักผ่อนสักเล็กน้อย
จะต้องสัง่ ให้ชิงผิงรี บนามามอบให้ท่านหญิงน้อยด้วยตนเอง “
ทันทีที่นางพูดจบ ท่านหญิงน้อยก็ร้องไห้เสี ยงดังออกมา ” ท่านย่า
น้อย~ ท่านน้าฮ่องเต้~ท่านแม่~ ไท่เฟยทรงหลอกซุ่นเอ๋ อร์
นางไม่มีความจริ งใจแม้แต่นอ้ ย ฮือ ๆ ๆ ๆ ข้าต้องการ ท่านพ่อ ฮือ ๆ
ๆ ท่านพ่อ……”
ท่านหญิงน้อยพอหลัง่ น้ าตาออกมาก็เศร้าโศกเสี ยใจอย่างที่สุด พาให้
เหล่าผูท้ ี่พบเห็นต่างก็รู้สึกปวดใจไปตาม ๆ กัน
องค์หญิงใหญ่ยงิ่ ชมดูจนปวดใจกว่าผูใ้ ด นางหันไปหาเสี ยนไท่เฟยก
ล่าวว่า ” ก็เพียงแค่เลือดไม่กี่หยดเท่านั้น ถึงสุ ขภาพร่ างกายท่านจะ
ไม่ดีอย่างไร แต่วา่ คารับปากเพียงเท่านี้กค็ งไม่ถึงกับทาไม่ได้หรอก
ใช่ไหม? “
ยามนี้ถึงแม้จะมีบางคนเห็นอกเห็นใจเสี ยนไท่เฟยอยูบ่ า้ ง แต่วา่ คน
ส่ วนใหญ่ต่างก็อดจะรู ้สึกว่านางช่างไม่รู้จกั รับน้ าใจของผูอ้ ื่นมาก
เกินไปแล้ว
ทางองค์หญิงใหญ่เองก็ถอยให้มากถึงเพียงนี้แล้ว นางไยจะต้องหา
ข้ออ้างมาปฎิเสธรอบแล้วรอบเล่าอยูน่ นั่ ?
“พระสนมเพคะ ท่านรู ้สึกไม่สบายในที่ใดเพคะ? เป็ นบ่าวเลอะเลือน
ไปแล้ว ช่วงนี้กลับสังเกตไม่ออกแม่แต่นอ้ ย ” ชิงผิงกลับ
กระตือรื อร้นขึ้นมา เพียงประโยคเดียวก็กล่าวเปิ ดเผยอาการป่ วยของ
เสี ยนไท่เฟยออกไปด้วย
เสี ยนไท่เฟยตวัดสายตาใส่ นางคราหนึ่งก็คว้าเอากริ ชเล่มนั้นไป
ถือเอาไว้ในมือ ยกคมดาบขึ้นมา หันพักตร์ไปมองดูต๋ ูกูซิงหลันและจี
เฉวียน
ฮ่องเต้ทรงจดจ้องกลับมา “เจ้าไม่ตอ้ งมาทาเป็ นจ้องไทเฮา นางขี้กลัว
เกิดตกอกตกใจขึ้นมา จะกลายเป็ นเรื่ องราวใหญ่โต หากเป็ นเช่นนั้น
เจ้าคงจะชดใช้ไม่ไหวแน่”
ผูค้ นทั้งหลายต่างมองไปยังฝ่ าบาทด้วยสี หน้าสับสน
ฮ่องเต้ทรงเข้าใจอะไรเกี่ยวกับสตรี ผนู ้ ้ ีผดิ ไปหรื อไม่?
อย่างนางน่ะหรื อขี้กลัว?
ความกล้าของนางนั้นสู งส่ งเทียมฟ้า ครอบคลุมทัว่ นภา เจิดจ้าดังดวง
ตะวันเสี ยด้วยซ้ า
ไม่ทรงได้ฟังท่านหญิงน้อยบอกหรื อว่า เจ้าตัวประหลาดที่ลกั พาตัว
นางมานั้น ถูกไทเฮาไล่ตีกลับไปและ ช่วยเหลือนางเอาไว้
ตู๋กูซิงหลันทาราวกับกาลังอมของเปรี้ ยวอยูใ่ นปาก เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่
คงจะยังไม่ลืมความคิดที่จะริ บทรัพย์ผอู ้ ื่นอยูเ่ ป็ นแน่
นางได้แต่แอบมองอยูอ่ ย่างเงียบ ๆ ยามนี้ใช่สมควรที่จะร่ วมมือกับ
ฝ่ าบาท ผสมโรงแสดงท่าทีหวาดกลัวออกมาดีหรื อไม่?
คิด ๆ ไป ก็เริ่ มกุมทรวงอกเอาไว้ สองคิว้ งามดังไต้หยูข่ มวดแนบ
แน่น กระทัง่ ใบหน้าก็เริ่ มขาวซีดขึ้นมาแล้ว ท่าทางคล้ายกับว่าได้รับ
ความตื่นตระหนกจนหัวใจดวงน้อย ๆ กาลังจะรับไม่ไหวเสี ยแล้ว
ผูค้ นทั้งหลาย “…………”
“น้องเล็ก เจ้าอย่าได้ทาให้พี่ใหญ่ตกใจ! ” ตู๋กจู ุนรักใคร่ ผกู พันนาง
อย่างไร้ขอ้ แม้ รี บพุง่ เข้ามา เตรี ยมจะเข้ามาประคองน้องน้อยของ
ตนเอง
เสี ยนไท่เฟยรู ้สึกว่าหากตนเองยังไม่ลงมืออีกละก็ เกรงว่าตู๋กซู ิงหลัน
คงจะต้องงัดเอาแผนหวาดหวัน่ จนสลบสิ้ นสติไปมาแสดงแน่ ถึงจุด
นั้นก็ไม่รู้วา่ จะเล่นงานนางเช่นใดอีก
นางยกมือที่ขาวสะอาดขึ้นมา ใช้มีดกรี ดไปบนนิ้วชี้ของหัตถ์ซา้ ย
เป็ นปากแผลเส้นหนึ่ง
ผิวหนังเปิ ดออก จนมองเห็นเนื้อเล็กน้อย
การกระทานี้ ลากเอาสายตาของผูค้ นทั้งหลายมาไว้บนตัวนาง
ทั้งหมด
อู๋เจินพุง่ ออกไปเป็ นคนแรกด้วยความรี บร้อนราวกับจะออกไปรับ
หยดเลือดให้ทนั ท่วงที เขาตระเตรี ยมขวดใบเล็กจากไม้ตน้ ท้อเอาไว้
แต่แรกแล้ว “ขอไท่เฟยทรงหยดเลือดออกมา “
เสี ยนไท่เฟยวางนิ้วลงไปในปากขวด อู๋เจินเองก็รออยู่ แต่วา่ ผ่านไป
ครู่ ใหญ่แล้ว ก็ไม่เห็นเลือดสักหยดออกมา
เขากล่าวขึ้นว่า ไท่เฟยพะยะคะ ปากแผลของทานตื้นเกินไปหรื อ
เปล่า ไม่มีเลือดเลย”
สี พระพักตร์ของเสี ยนไท่เฟยกลับซีดขาว คล้ายกับว่านางสู ญเสี ย
เลือดมากเสี ยจนจะเป็ นลมลงไปเดี๋ยวนี้แล้ว
“ข้าสุ ขภาพไม่ดีมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีโรคโลหิ ตจาง หากว่า
ร่ างกายได้รับบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อยก็ยากที่จะฟื้ นฟูได้ เรื่ องนี้
สานักแพทย์หลวงมีบนั ทึกเอาไว้อยูแ่ ล้ว ” นางมองไปยังอู๋เจิน กล่าว
อย่างไร้เรี่ ยวแรงว่า “เพียงแต่วา่ เพื่อท่านหญิงน้อยแล้ว ข้ากรี ดไปมีด
หนึ่งก็นบั ว่าคุม้ ค่าอยู่ “
อู๋เจินกลับไม่สนใจคาพูดมากมายของนาง คว้าเอากริ ชมากรี ดลงไป
อย่างแรงมีดหนึ่ง
ผูค้ นทั้งหลาย “……..”
ทันทีที่สมั ผัสโดนมือของนาง อู๋เจินก็หน้าเปลี่ยนสี ไป ถึงแม้วา่
ตอนนี้จะเป็ นฤดูหนาว แต่วา่ หัตถ์ของเสี ยนไท่เฟยกลับเย็น
จนเกินไปแล้ว ไม่เพียงแค่เย็น แต่ยงั แข็งราวกับไร้ชีวิต
ทั้ง ๆ ที่เขาพึ่งจะกรี ดลงไปมีดหนึ่งแท้ ๆ แต่กลับเหมือนกรี ดลงไป
บนน้ าแข็ง
รอบนี้ ปากแผลบนนิ้วของนางลึกเสี ยจนเห็นเนื้อได้แล้วชัด ๆ
อู๋เจินก็เอาขวดไม้ทอ้ ใบน้อยมารองเลือดอีกครั้ง แต่วา่ รออยูอ่ ีกพัก
ใหญ่กย็ งั ไม่เห็นจะมีเลือดหยดออกมา
คราวนี้ ไม่เพียงแต่ตวั เขา ผูค้ นที่รายล้อมอยูโ่ ดยรอบต่างก็เริ่ ม
ถกเถียงกันด้วยความประหลาดใจขึ้นมาแล้ว
” แผลลึกถึงเพียงนี้ แต่กลับไม่มีเลือดหรื อ? “
“เป็ นคนจะไม่มีเลือดได้อย่างไร? “
” เสี ยนไท่เฟยก็ตรัสไว้แล้วไม่ใช่หรื อ ว่านางเป็ นโรคโลหิ ตจางขั้น
รุ นแรง”
” จะจางถึงเพียงไหน ก็เป็ นไปไม่ได้ที่จะไม่มีเลือดนี่นา”
” จริ งด้วย “
” นาง……เป็ นตัวอะไรกันแน่? “
ยามนี้สายตาของผูค้ นที่มองมายังเสี ยนไท่เฟยต่างก็เปลี่ยนไปแล้ว
ดูนางสิ กลางวันแสก ๆ แท้ ๆ กลับสวมแต่ชุดดาตลอดทั้งร่ าง ทั้งยัง
ถือร่ มขาว แม้แต่ยามที่กรี ดแผลหยดเลือดก็ยงั ไม่ยอมวางร่ มคันนั้น
ลง
หรื อจะเป็ นเพราะยามปกติพวกเขาไม่ค่อยจะได้สนใจเสี ยนไท่เฟย
สักเท่าใด?
คล้ายกับว่านอกจากเวลาค่าคืนแล้ว ทุกครั้งที่นางปรากฎตัวสู่ สายตา
เป็ นต้องสวมชุดกระโปรงดาและร่ มขาวเช่นนี้
หรื อว่าจะกลัวแสงสว่างรึ ?
อะไรกันเล่าที่หวาดกลัวแสงสว่าง……
พอคิดกันได้ถึงตรงนี้ผคู ้ นทั้งหลายต่างก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาแล้ว
เสี ยงไท่เฟยอ้าปากเตรี ยมจะกล่าวคาพูดที่นางตระเตรี ยมเอาไว้
แต่ชวั่ ขณะนั้นไม่รู้วา่ ทาไม ขลุ่ยสี แดงเลือดเลาหนึ่งก็หล่นออกมา
จากในกระโปรงของนาง
ขลุ่ยสั้นเลานี้มีสีแดงจนเกือบดา ราวกับว่ามันถูกย้อมไปด้วยโลหิต
มาหลายครั้งแล้ว เมื่อตกลงไปบนพื้นหิ มะ สี แดงบนตัวขลุ่ยก็ยอ้ ม
หิมะโดยรอบจนเปลี่ยนสี ไป เพียงชัว่ ขณะก็เกิดกลิ่นคาวเลือดที่
เข้มข้นฟุ้งกระจายออกมา
ขณะเดียวกันก็เกิดสายลมพัดขึ้นอย่างไร้ที่มา ในสายโลมที่พดั โหม
เหมือนกับว่าสามารถได้ยนิ เสี ยงร่ าไห้ของเด็กเล็ก ๆ หวีดร้องอยูใ่ น
สายลม คร่ าครวญอย่างน่าหวาดกลัว
ท่านหญิงน้อนซุ่นเอ๋ อร์กป็ ล่อยโฮร้องไห้ออกมาโดยทันที
“อ้า………….ซุ่นเอ๋ อร์กลัว เป็ นนาง ฮือ เป็ นไท่เฟยที่ตอ้ งการจะกิน
ซุ่นเอ๋ อร์! “
” เป็ นขลุ่ยเลานี้เอง ตอนที่ซุ่นเอ๋ อร์มาถึงก็รู้สึกได้วา่ มันอยูท่ ี่นี่ ที่แท้ก็
เป็ นไท่เฟย ท่านทาไมจะต้องกินซุ่นเอ๋ อร์ดว้ ย? ทั้งยังกินเด็ก ๆ คน
อื่นอีก พวกเราทาผิดอะไรหรื อ? “
ตอนที่ 115 หมากกระดานสาคัญ!
เสี ยนไท่เฟยหันไปทอดเนตรมองดูขลุ่ยสั้นที่หล่นอยูบ่ นพื้น เมื่อ
ประกอบกับเสี ยงร่ าไห้ของท่านหญิงน้อย ต่อให้นางเคยสงบนิ่ง
เพียงไร ยามนี้กจ็ ิตใจก็ร้อนรนไปหมดแล้ว
นี่คือขลุ่ยคุมวิญญาณ เพียงแต่นี่เป็ นสิ่ งของเลียนแบบ เสี ยงขลุ่ย
สามารถควบคุมเด็กเล็ก ๆ ขลุ่ยเลานี้นางให้ชิงผิงไปเพื่อช่วยให้นาง
สามารถควบคุมเด็ก ๆ ได้ง่ายขึ้น
แต่วา่ ขลุ่ยเลานี้ถูกเอามาซ่อนไว้ที่ตวั นางตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั ?
นางอดที่จะหันไปมองชิงผิงไม่ได้ แต่ ‘ชิงผิง’ ในตอนนี้กลับถอย
ห่างจากนางไปไกล ท่าทางไม่สนใจไยดีใด ๆ ทั้งสิ้ น
สายลมยังไม่ยอมหยุด เสี ยงร่ าร้องของเด็กบริ สุทธิ์ที่ตายไปราวกับว่า
กาลังรายล้อมอยูร่ อบตัวของนาง ทาให้เสี ยนไท่เฟยจิตใจว้าวุน่ ไป
หมด
” ดูท่า นี่คงจะเป็ นแรงอาฆาตของเด็กที่ตายไปแล้ว พอขลุ่ยนี้ปรากฎ
ขึ้นก็ดึงดูดพวกเขาออกมา คงเพราะต้องการหาตัวฆาตกรมาล้างแค้น
” อู๋เจินไม่ปล่อยเวลาให้เสี ยนไท่เฟยได้ทนั ตั้งตัว ก็สาดน้ ามันลงไป
บนกองเพลิงในทันที
เขาในตอนนี้ยงิ่ ทียงิ่ ทวีความเคารพนับถือในองค์ไทเฮาขึ้นไปอีก
วิญญาณของเด็ก ๆ เหล่านี้ถูกอักขระดึงดูดจิตนั้นดึงดูดมารวมกัน
เป็ นแน่ ในบรรดาผูท้ ี่เขารู ้จกั นั้น ก็มีแต่ท่านเจ้าอารามเท่านั้นที่
สามารถใช้วิชาดึงดูดวิญญาณเช่นนี้ได้
ท่านเจ้าอารามนั้นมีอายุร้อยกว่าปี แล้ว แต่วา่ ไทเฮาน้อยอายุเพียงสิ บ
หน้าปี เท่านั้น!
หากนางอายุถึงร้อยปี เมื่อใด เกรงว่านางคงจะสาเร็ จกลายเป็ นเทพ
เซียนไปแล้ว
เมื่อมีคาพูดของอู๋เจินสกัดไว้ก่อน เสี ยนไท่เฟยก็ไม่อาจหาข้ออ้างมา
ชาระล้างความบริ สุทธิ์ได้แล้ว
นางยังคงยืนอยูท่ ี่เดิม พอจะขยับไปก้าวหนึ่ง ก็ปรากฎวิญญาณเกรี้ ยว
กราดของเด็กน้อยออกมายื้อยุดนางไว้
เสี ยนไท่เฟยหรี่ เนตรมอง หัตถ์กาแน่นเป็ นหมัด ที่จริ งวิญญาณของ
เด็ก ๆ พวกนี้ไม่ได้น่ากลัวอันใด ที่นางกริ่ งเกรงก็คือผูท้ ี่สามารถเรี ยก
วิญญาณพวกนี้มาได้ต่างหาก
อู๋เจิน…….เขารึ มีความสามารถถึงเพียงนั้น? เกรงว่าคงจะไม่ใช่แล้ว
สุ ดท้ายสายตาของนางก็หนั ไปยังตู๋กซู ิงหลัน
ตู๋กูซิงหลันไขว้สองมือเอาไว้ดา้ นหลัง ในมือมีกระดาษยันต์แผ่น
หนึ่งที่เขียนขึ้นด้วยเลือดของนางเอง ยันต์แผ่นนี้มีลูกไฟสี น้ าเงินลุก
ไหม้อยู่ แต่วา่ กลับไม่ได้ทาร้ายผิวของนางแม้แต่นอ้ ย
ใช่แล้ว วิญญาณของเด็ก ๆ เหล่านั้นเป็ นนางที่เรี ยกมาเอง มีแค้น
พยาบาทล้วนต้องชาระ มีแต่ให้พวกเขาได้ระเบิดความแค้นลงที่
ฆาตกร เด็ก ๆ พวกนี้จึงจะได้ระบายความทุกข์ออกไป ค้นพบทาง
หลุดพ้น
ตู๋กูซิงหลันทางหนึ่งควบคุมบังคับยันต์ดึงดูดวิญญาณ ทางหนึ่งกลับ
จับจ้องมองดูเสี ยนไท่เฟยอย่างเงียบงัน นับตั้งแต่ที่นางได้ไปตาหนัก
ฉางเล่อ และได้ใกล้ชิดเสี ยนไท่เฟยตั้งแต่ครั้งแรก ก็พบแล้วว่านาง
ไม่ปกติธรรมดา
บรรยากาศของตาหนักฉางเล่อเสมือนสุ สานหลังหนึ่ง อีกทั้งเสี ยนไท่
เฟยยังใช้เครื่ องหอมจากเฉิงเซียง (ไม้จนั ทน์) อยูต่ ลอดเวลา ก็เพื่อ
กลบกลิ่นสาบศพของตนเอง
คราวก่อนที่อยูน่ อกตาหนักเฟิ่ งหมิงกง ตอนที่เสี ยนไท่เฟยคว้ามือ
นางไว้ แล้วใช้วิชาวิญญาณหุ่นไม้กบั นางนั้น นางก็อาศัยพลังของ
หยกสรรพชีวิตตรวจสอบฐานะที่แท้จริ งของนาง
ถึงแม้วา่ ผูค้ นทั้งหลายจะมองไม่เห็นวิญญาณอาฆาตเหล่านั้น แต่ก็
สามารถได้ยนิ เสี ยงของเด็ก ๆ ที่ร้องไห้อย่างโหยหวน ดังนั้นต่างก็
พากันตาโตมองมายังนาง
เส้นผมของไท่เฟยพลิ้วไหวอยูท่ ่ามกลางสายลม ใจกลางฝ่ ามือของ
นางปรากฎไอสี ดาขึ้นมากลุ่มหนึ่ง วิญญาณของเจ้าเด็กพวกนี้ไม่อยู่
ในสายตาของนางแม้แต่นอ้ ย คิดจะอาศัยกาลังเพียงเท่านี้มาจัดการ
นางนะหรื อ ฝันไปเถอะ!
แต่วา่ ในทันทีที่นางคิดจะขยับตัวนั้น ใต้ฝ่าเท้าก็รู้สึกเหมือนกับว่าถูก
สิ่ งใดดึงดูดเอาไว้ ราวกับจะดึงดูดนางลงไปยังใต้พ้นื ดิน
นางก้มลงมองดู ไม่รู้วา่ ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่กองหิ มะหนาใต้ฝ่าเท้า
กลายเป็ นกองข้าวสารมากมาย ใต้กองข้าวสารยังเป็ นแผ่นไม้ทอ้ รู ป
ยันต์แปดทิศ ตัวนางกาลังยืนอยูบ่ นกองข้าวสารที่มียนั ต์แปดทิศรอง
เอาไว้อย่างพอดิบพอดี
สิ่ งเหล่านี้คือของที่สามารถสะกดข่มนางได้!
ไอสี ดาบนฝ่ ามือของนางมอดดับสนิท ร่ างกายไม่อาจขยับเขยื้อนได้
แม้แต่นอ้ ย
ในที่สุดสี หน้าของเสี ยนไท่เฟยก็เปลี่ยนไปจริ ง ๆ แล้ว
นางพึ่งจะนึกขึ้นมาได้วา่ เป็ นชิงผิงที่พานางมายืนอยูต่ รงนี้
หลุมพรางนี้ ถูกขุดเอาไว้เพือ่ รอนางตั้งแต่แรกแล้ว!
ช่างเป็ นหมากที่ลึกล้ ายิง่ นัก!
ผูท้ ี่วางหมากเอาไว้ล่วงรู ้ฐานะของนางตั้งแต่แรก จึงได้วางแผนลง
มือกับนางอย่างละเอียดรอบคอบแม้กระทั้งจุดที่นางจะยืน
เมื่อนางไม่อาจต่อต้าน เหล่าวิญญาณอาฆาตก็ยงิ่ ลงมือหนักขึ้นเรื่ อย

ผูค้ นทั้งหลายต่างเห็นเพียงว่าคล้ายกับมีบางสิ่ งบางอย่างกาลังฉุด
กระชากเสื้ อผ้าของเสี ยนไท่เฟย ชุดกระโปรงสี ดาของนางถูกฉี กทึ้ง
จนไม่มีชิ้นดี แม้แต่ร่มสี ขาวนั้นก็ยงั ขาดเป็ นรู โหว่มากมาย
ใบหน้าที่เคยอ่อนโยนก็ถูกตะกุยจนเป็ นริ้ วรอยหลายแผล ผิวหน้า
ถลอกออกมาเป็ นทางยาวจนเห็นเนื้อขาว ๆ แต่วา่ กลับไม่มีเลือดไหล
ออกมาแม้แต่นอ้ ย
ภาพที่เห็นช่างหน้าสะพรึ งกลัวจนทาให้ผคู ้ นทั้งหลายต่างขนลุกซู่
” ปะ ๆ … ปี .. ปี ศาจ……” รองมหาเสนาตกใจกลัวจนปัสสาวะราด
ออกมา พอคิดได้วา่ เขากลายเป็ นฝ่ ายเดียวกับปี ศาจไปแล้ว ก็อดตัว
หนาวสัน่ ด้วยความหวาดกลัวไม่ได้
เมื่อมีรองมหาเสนาเปิ ดปากตะโกนขึ้นมาก่อน คนอื่น ๆ ต่างก็พากัน
ร่ าร้องขึ้นมาบ้าง “ปี ศาจ! นางคือปี ศาจที่ควักหัวใจดื่มโลหิต! “
“เผานางให้ตาย! “
“เผาให้ตาย! “
ทันใดผูค้ นทั้งหลายต่างแตกตื่นขึ้นมา ภายใต้สถานะการณ์เช่นนี้ไม่
ว่าเสี ยนไท่เฟยจะพูดเช่นไรก็ไม่อาจหักล้างได้อีกแล้ว
เสี ยนไท่เฟยได้แต่ยนื อยูท่ ี่เดิม ตั้งแต่แรกจนถึงบัดนี้นางยังคงมองดูต๋ ู
กูซิงหลันด้วยสายตาลึกล้ าเย็นวาบ
นางไม่อยากจะเชื่อ ว่าเหตุการณ์ท้ งั หมดจะเป็ นฝี มือวางแผนของสาว
น้อยที่เคยนอบน้อมเชื่องเชื่อนางทุกถ้อยคามาโดยตลอด
เมื่อถูกนางจดจ้องเขม็งเช่นนี้ ตู๋กซู ิงหลันก็แสดงอาการหวาดกลัว
ออกมาโดยทันที นางรี บไปแอบอยูด่ า้ นหลังของจีเฉวียน กล่าวอย่าง
อ่อนแอว่า “ฝ่ าบาทเพคะ หม่อมฉันกลัวจัง…..”
“เจ้าจะกลัวอะไร ไม่ใช่วา่ เจ้าช่วยซุ่นเอ๋ อร์เอาไว้ ไล่ตีปีศาจไปหรอก
หรื อ? “
” หม่อมฉันไหนเลยจะรู ้วา่ นัน่ คือปี ศาจเล่าเพคะ เป็ นเพราะยามนั้น
คิดว่าเป็ นสตรี ชุดดาผูห้ นึ่งต่างหาก อีกทั้งยังไม่ได้เห็นใบหน้า….
หม่อมฉันอายุเพียงสิ บห้าปี เท่านั้น เป็ นเพียงสตรี อ่อนแอเปราะบางผู ้
หนึ่ง ” ตู๋กซู ิงหลันร้องทุกข์ เจ้าฮ่องเต้สุนขั ช่างสมเป็ นบุรุษหยาบ
คาย!
พอได้ฟังแล้ว จีเฉวียนกลับตรัสอย่างอ่อนโยนอย่างยากที่จะได้ยนิ มา
ก่อนว่า
” มาแอบที่ขา้ งกายเรานี่ เราเป็ นโอรสสวรรค์ ไม่วา่ ภูติผปี ี ศาจใดต่าง
ต้องถูกสยบ”
หากมิใช่วา่ เขาเจ็บ “ตรงนั้น” เสี ยจนยืนไม่ไหว คาพูดเหล่านี้จะต้อง
ทาให้เขาดูองอาจกล้าหาญอย่างที่สุด
” อืม จริ งด้วยเพคะ” ตู๋กซู ิงหลันตอบรับคาหนึ่งอย่างว่าง่าย
กิริยาเช่นนี้ของนาง ทาให้เสี ยนไท่เฟยหักเลี้ยวความคิดของตนเอง
เมื่อครู่ ตู๋กซู ิงหลันที่โง่เขลาถึงเพียงนี้ มีหรื อจะสามารถวาง
หลุมพรางได้เจนจัดถึงเพียงนี้
ดูท่าแล้ว….จะต้องเป็ นจีเฉวียนเสี ยมากกว่า
หรื อไม่ก็ จีเฉวียนจะต้องมอบข้อเสนอดี ๆ อันใดให้แก่ต๋ ูกซู ิงหลัน
พวกมันถึงได้ตกลงร่ วมมือกัน
นี่จึงจะสมเหตุสมผล ว่าทาไมจีเฉวียนถึงได้เปลี่ยนแปลงท่าทีที่มี
ต่อตู๋กซู ิงหลันไปอย่างมากมาย
ยามนี้ องค์หญิงใหญ่เองก็บงั เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว ซุ่นเอ๋ อร์
ของนางเกือบจะตรงไปอยูใ่ นเงื้อมือมารแล้วจริ ง ๆ !
นางตรัสถามออกไปว่า “ท่านนักพรตอู๋เจิน ปี ศาจตนนี้…..ตกลงแล้ว
ตกลงแล้วคือตัวอะไรกันแน่? “
นักพรตอู๋เจินและบรรดาลูกศิษย์ต่างก็พากันรายล้อมเสี ยนไท่เฟย
เอาไว้อย่างแน่นหนา อู๋เจินลูบไล้ลูกประคาในฝ่ ามือ กล่าวอย่างเคร่ ง
ขรึ มว่า “มีเนื้อแต่ไร้เลือด ร่ างกายเย็นเฉี ยบอยูต่ ลอดเวลา โปรดปราน
กินหัวใจและดื่มโลหิต …..หากว่าข้านักพรตดูไม่ผดิ ละก็ นางคือศพ
มีชีวิต คนตายที่ยงั มีชีวิตและเคลื่อนไหวได้ “
ระหว่างศพเดินได้กบั ศพมีชีวิต นั้นเป็ นคนละเรื่ องกัน
อย่างแรกนั้นมีร่างเป็ นศพ อย่างหลังนั้นมีร่างที่มีชีวิต มีความนึกคิด
ของตนเอง ทั้งยังสื บทอดเผ่าพันธุ์กนั มา ปะปนอยูใ่ นหมู่ฝงู ชน
หากว่ากันตามคาเล่าลือที่โจษจันกันมา บรรพบุรุษของพวกเขาเคย
ได้รับพิษที่รุนแรงชนิดหนึ่ง แต่วา่ ด้วยภูมิตา้ นทานที่แข็งแกร่ ง ทาให้
ร่ างกายเปลี่ยนแปลงเป็ นร่ างที่มีพิษ กลายเป็ นร่ างกายอีกรู ปแบบ
หนึ่ง
ร่ างศพมีชีวิตชนิดนี้สามารถสื บทอดเผ่าพันธุ์ได้ มีลูกหลานร่ วมกัน
คนปกติได้ แต่ภายในร่ างจะมีพิษชนิดนั้นอยู่ เมื่อเติบโตจนถึงช่วง
ระยะเวลาหนึ่งร่ างกายก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลง จากนั้นก็ค่อย ๆ
กลายสภาพไปจนกลายเป็ นศพอย่างสมบูรณ์
เมื่ออู๋เจินกล่าวออกมาเช่นนี้ ผูค้ นทั้งหลายต่างก็พากันตกตะลึงไป
ในบรรดาผูท้ ี่อยูใ่ นเหตุการณ์กม็ ีผทู ้ ี่เป็ นขุนนางเก่าแก่รวมอยูด่ ว้ ย
พวกเขาอดไม่ได้ที่จะคิดย้อนไปยามที่ปฐมกษัตริ ยย์ งั ทรงพระชนม์
อยู่ เคยทรงปราบปรามแว่นแคว้นหนึ่งจนสิ้ นสู ญไป
ตอนที่ 116 กู่เย่ ว์กว๋ อ
กู่เย่วก์ ว๋ อ (แคว้นจันทราโบราณ)
ที่นนั่ เป็ น……..แคว้นเล็ก ๆ ที่เก่าแก่และลึกลับแห่งหนึ่ง มีประวัติ
ยาวนานนับพันปี ถึงแม้เขตแดนจะเล็กมาก แต่กส็ ื บทอดความ
เจริ ญรุ่ งเรื องกันมาโดยมิได้ขาด
ฟังว่า……แคว้นกู่เย่วม์ ีกองทัพศพมีชีวิตที่ไร้พา่ ยจานวนหนึ่งไว้ใน
ครอบครอง……
ยังมีอีก แคว่นกู่เย่วม์ ีสมบัติวิเศษอยูอ่ ย่างหนึ่ง เป็ นสิ่ งวิเศษเร้นลับ
ซุกซ่อนอยูใ่ นหุบเขา มันทาให้ผคู ้ รอบครองสามารถเหาะเหิ น
เดินอากาศได้ ทั้งยังสามารถควบคุมภูติผวี ิญญาณร้ายต่าง ๆ ได้อีก
ด้วย
ทั้งยังเล่าลือกันว่า สาเหตุที่แคว้นกู่เย่วเ์ จริ ญรุ่ งเรื องมาโดยตลอดนั้น
เป็ นเพราะในช่วงเวลาที่ผนู ้ าแคว้นต่าง ๆ กาลังแตกแยก และแย่งชิง
ดินแดนกันนั้น เจ้าผูค้ รองแคว้นอาศัยของวิเศษชิ้นนั้นบงการกองทัพ
ให้ไปขุดสุ สานลักสมบัติมาสะสมเอาไว้ในคลังหลวงของตน เมื่อ
กระทาต่อเนื่องจนวันคืนผ่านไปนานเข้า ก็สะสมเอาไว้ได้อย่าง
มากมาย จนกลายเป็ นแว่นแคว้นที่มงั่ มี
เมื่อเป็ นเช่นนี้ ย่อมมีศตั รู อยูไ่ ม่นอ้ ยที่คิดจะโจมตีช่วงชิง แคว้นกู่เย่ว์
แต่ที่น่าประหลาดก็คือ เหล่าศัตรู ท้ งั หลายนั้นสุ ดท้ายแล้วต่างก็ไม่มี
จุดจบอันดี
ราวกับว่าโดนคาสาปเข้า แต่ละคนตกตายอย่างอเนจอนาถ
ท้ายที่สุด ในขณะที่ปฐมกษัตริ ยย์ งั ทรงหนุ่มแน่นนั้น ได้ทรงนา
ขุนพลเหล็กจานวนหนึ่งแสนนายบุกไปยังแคว้นกู่เย่วก์ ว๋ อ หลังจาก
หลัง่ เลือดในสนามรบอยูส่ ามเดือน ถึงได้สามารถบุกยึดแคว้นกู่เย่ว์
ได้สาเร็ จ ปราบปรามเจ้าครองแคว้น ทั้งยังฆ่าล้างชาวเมืองกู่เย่วก์ ว๋ อ
จนสิ้ น
ในบรรดาพวกเขาไม่มีผใู ้ ดที่เคยได้ติดตามปฐมกษัตริ ยไ์ ปออกรบศึก
ครั้งนั้นจริ ง ๆ เพียงแต่ได้ยนิ ได้ฟังมาว่าโลหิ ตหลัง่ ไหลเป็ นท้องธาร
ทุกหนแห่งล้วนเงียบงันวังเวง แม้แต่พ้นื ดินยังถูกชะโลมจนแดงก่า
ดุจเดียวกับเลือด
แม้วา่ ผ่านไปหลายปี แล้วก็ยงั ไม่มีผใู ้ ดกล้ากลับไปดูสนามรบแห่งนั้น
อีกเลย
เพราะว่า……กองทัพนับแสนที่ติดตามปฐมกษัตริ ยไ์ ปในครั้งนั้น ก็
เหลือรอดกลับมาเพียงไม่ถึงร้อยคนเท่านั้น
หลังจากล้มล้างแคว้นกู่เย่วไ์ ด้แล้ว แคว้นตาโจวก็มิได้หยุดยั้งอยูแ่ ค่
นั้น แต่วา่ ปราบปรามเหล่าแคว้นเล็ก ๆ ไปอีกนับสิ บแคว้น จน
สามารถขยายดินแดนของตนเองออกไปได้อีกเท่าหนึ่งเลยทีเดียว
และอาจเป็ นเพราะการสู ้รบขยายดินแดนนั้นยากลามากเกินไป เป็ น
เหตุให้ปฐมกษัตริ ยท์ รงประชวรเรื้ อรัง เมื่อแคว้นต้าโจวมัน่ คงได้
เพียงไม่กี่ปี ก็เสด็จสวรรคตไป
……………………………
เมื่อได้เห็นสภาพของเสี ยนไท่เฟยที่อยูต่ รงหน้า ทาให้เหล่าขุนนาง
เก่าแก่ท้ งั หลายต่างอดไม่ได้ที่จะอยู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่ องราวที่ผา่ นมาของ
แคว้นกู่เย่วข์ ้ ึนมา
ศพมีชีวิต….นางใช่วา่ มีความสัมพันธ์ใดกับกองทัพศพมีชีวิตของ
แคว้นกู่เย่วก์ ว๋ อหรื อไม่?
หรื อบางที ปี นั้นอาจจะมีปลาที่เล็ดลอดหว่างแหออกไปได้?
ผูท้ ี่รู้เรื่ องราวเหล่านี้ คงเหลือเพียงขุนนางเก่าแก่แค่สองสามคน
เท่านั้น ผูค้ นอื่น ๆ ที่เหลือต่างก็แตกตื่นหวาดกลัวศพมีชีวิตด้วยกัน
ทั้งนั้น
โดยเฉพาะเหล่าพระสนมทั้งหลาย เมื่อพวกนางต่างก็คิดว่าตนเองเคย
ยืนเคียงข้างปี ศาจเช่นนี้อยูใ่ นเรื อนด้วยกันตั้งนาน หัวใจของทุกผูต้ ่าง
ก็สนั่ สะท้านขึ้นมา
เสี ยนไท่เฟยช่างรู ้จกั เสแสร้งนัก!
นางหลอกลวงฉางซุนฮองเฮา หลอกลวงอดีตฮ่องเต้ หลอกพวกนาง
ทุก ๆ คน!
หากไม่ใช่เพราะว่าวันนี้ความจริ งถูกเปิ ดเผยออกมา พวกนางเองยัง
ไม่รู้เลยว่าจะถูกปิ ดบังเอาไว้อีกนานเท่าใด
บนเก้าอี้กยุ้ เฟย สี พระพักตร์ของฝ่ าบาทกลับไม่มีวี่แววประหลาดใจ
ใด ๆ พระองค์สงบเยือกเย็น ทอดพระเนตรมองเสี ยนไท่เฟยอย่าง
เงียบ ๆ “จับตัวไว้ ขังในคุกหลวง เราจะสอบสวนด้วยตนเอง”
“ฝ่ าบาทพะยะค่ะ ยังจะมีเรื่ องอันใดต้องสอบสวนกันอีก นางเป็ น
ปี ศาจ สมควรจับเผาทั้งเป็ นไปเสี ยเดี๋ยวนี้ ” รองมหาเสนาฯ รี บกราบ
ทูล ” ตัวอันตรายเช่นนี้หากปล่อยเอาไว้วนั หนึ่ง ก็เพิ่มความอันตราย
ขึ้นอีกหนึ่งส่ วน “
ประเด็นสาคัญก็คือเขาหวาดเกรงว่าเสี ยนไท่เฟยจะหันมาแก้แค้นเขา
ใครจะไปรู ้วา่ ปี ศาจเช่นนี้จะแก้แค้นผูค้ นด้วยวิธีเช่นไรบ้าง
หากว่าเขาเกิดโดนควักหัวใจดูดโลหิตขึ้นมาบ้างละ…..พอคิดถึงตรง
นี้รองมหาเสนาฯ ก็หลังเหงื่อเย็น ๆ ออกมาบ้าง
จีเฉวียนกวาดพระเนตรมองมาที่เขาครั้งหนึ่ง ทาให้รองมหาเสนาฯ
ตระหนกจนต้องหุบปากไป
ยามที่พระองค์หนั กับมองทอดพระเนตรมองดูเสี ยนไท่เฟยอีกครั้ง
ถึงได้เห็นว่า นางกลับยิม้ ออกมา ใบหน้าที่ซีดขาว เต็มไปด้วย
บาดแผลนั้นยิม้ อย่างสยดสยองอย่างยิง่
“หม่อมฉันมีฝีมือสู ้ผอู ้ ื่นไม่ได้ วางหมากพลาดไปตาหนึ่ง ก็ได้แต่
ยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว “
นางยืนอยูท่ ี่เดิม ทรงผมถูกพวกวิญญาณรุ มทึ้งจนหลุดลุ่ย เส้นผม
ปลิวจนยุง่ เหยิง ดวงเนตรที่ลึกล้ านั้นเผยประกายลึกลับที่เฉี ยบคม
กว่าเดิม
“แต่วา่ ฝ่ าบาท อย่าได้ทรงลืมไปว่า ที่หม่อมฉันสามารถกลายเป็ นนาง
กานัลของพระมารดาพระองค์ได้ และยังได้รับความโปรดปรานจน
กลายเป็ นสนมคนโปรดของอดีตฮ่องเต้ ตระกูลตู๋กเู องก็มีส่วนไม่
น้อย”
” เจ้าหุบปาก! ” ตู๋กจู ุนกระชับดาบในมือไว้แน่น ในความทรงจาของ
เขา ทุกคนในบ้านต่างดีต่อเสี ยนไท่เฟยอย่างยิง่ โดยเฉพาะท่านปู่
แทบจะดูแลนางเป็ นดัง่ บุตรสาวคนหนึ่งเลยทีเดียว
หากไม่ใช่เพราะบุตรชายของนางอี้อ๋องทรยศหักหลังน้องเล็ก
ตระกูลตู๋กขู องพวกเขาจะต้องช่วยประคองอี้อ๋องขึ้นครองราชย์อย่าง
สุ ดกาลังไปแล้ว
นางไม่รู้จกั สานึกบุญคุณบ้างก็แล้วไป กลับลอบลงมือทาร้ายน้องเล็ก
กระทัง่ วันนี้ยงั คิดจะลากตระกูลตู๋กขู องพวกเขาลงน้ าไปด้วย!
ท่านปู่ ช่างตาบอดไปเสี ยแล้ว ถึงได้ดีต่อนางเช่นนี้!
เสี ยนไท่เฟยกลับไม่เกรงกลัวเขา รอยยิม้ ของนางยิง่ ทียงิ่ น่าขนลุก
“อ้อ ใช่สิ ยังมีอีกเรื่ องหนึ่งที่ผคู ้ นทั้งต้าโจวต่างก็รู้กนั เป็ นอย่างดี “
พูดแล้ว นางก็ช้ ีนิ้วออกไปยังตู๋กซู ิงหลันที่หลบอยูด่ า้ นหลังจีเฉวียน
“ไทเฮาพระองค์น้ ี สู ญเสี ยบิดามารดาไปแต่เยาว์วยั ข้าดูแลนางมา
ประหนึ่งบุตรสาวแท้ ๆ มาโดยตลอด แต่วา่ ข้าเป็ นศพเดินได้ เช่นนั้น
ไทเฮาที่มีศพเดินได้เลี้ยงดูมาจนโต จะเป็ นตัวอะไรละ? “
ตู๋กซู ิงหลังรู ้สึกว่านางช่างรู ้จกั ยุยแยงดีนกั มาจนถึงขั้นนี้แล้ว ยังไม่
ลืมที่จะหาเรื่ องแทงนางต่อหน้าจีเฉวียนและผูค้ นสักหลาย ๆ แผล
บางครั้งคาพูดเมื่อกล่าวออกมาอย่างชัดแจ้ง กลับกลายเป็ นไร้
ความหมาย
คาชี้นาที่กระตุน้ ความคิดผูค้ นเช่นนี้ต่างหากถึงจะน่ากลัวที่สุด
คาพูดของเสี ยนไท่เฟยหลายคานี้ เป็ นที่ชดั เจนเลยว่าต้องการจะยุแยง
ความสัมพันธ์ของเจ้าฮ่องเต้สุนขั กับตระกูลของนาง ฝังเมล็ดพันธุ์
แห่งความหวาดระแวงเอาไว้ในใจของผูค้ น
และเพราะว่านางกาลังแอบอยูด่ า้ นหลังของจีเฉวียน จึงรู ้สึกได้ถึง
กระแสเย็นยะเยือกจากตัวของเขาในทันที
เจ้าฮ่องเต้สุนขั เดิมทีกเ็ คียดแค้นตระกูลตู๋กอู ยูเ่ ป็ นทุนเดิม เมื่อถูกไท่
เฟยสะกิดแผลเช่นนี้ ไหนเลยจะไม่คิดมากได้อีก
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็ได้แต่สูดลมหายใจเข้าไป ผูใ้ ดก็ไม่กล้ายืน่ ศีรษะ
ออกไปก่อน
ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่ถึงได้เห็นว่าฮ่องเต้ทรงคลายบ่าไหล่ลง ตรัสตอบ
อย่างเยือกเย็นว่า “ไทเฮานั้น นางเป็ นดัง่ เซียนหญิง “
ตู๋กูซิงหลัน “??? “
อะไรนะ? นางพึ่งได้ยนิ อะไรออกไป? เจ้าฮ่องเต้สุนขั กาลังชื่นชม
นางหรื อ?
” เจ้าฟังไม่ผดิ เขาบอกว่าเจ้าเป็ นเซียนหญิง” วิญญาณทมิฬที่นงั่ ชม
งิ้วอยูบ่ นบ่าของนางมาโดยตลอด ทาสี หน้าขื่นขมออกมา “แต่วา่ เจ้า
อย่าได้ลิงโลดไป ตามประวัติศาสตร์ในมิติของโลกก่อน ‘เซียน
หญิง’ บางครั้งก็ใช้เปรี ยบเทียบแทนสตรี ในหอโคมเขียวอยู่
เหมือนกัน ไม่แน่วา่ ในมิติของโลกใบนี้กอ็ าจเป็ นเช่นเดียวกัน เจ้า
ฮ่องเต้สุนขั นัน่ อาจจะหลอกด่าเจ้าอยูก่ ไ็ ด้นะ “
ตู๋กซู ิงหลัน “………” เจ้าไม่พดู อะไรก็ไม่มีใครหาว่าเจ้าเป็ นใบ้
หรอกนะ จริ ง ๆ เลย
แต่วา่ จีเฉวียนกลับตรัสต่อไป เขาหันกลับไปทอดพระเนตรมองดู
สตรี ตวั น้อยที่อยูด่ า้ นหลัง คลี่ยมิ้ กล่าวว่า “ความคิดของไทเฮานั้น
เรี ยบง่าย สายตาการดูคนก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้จกั หลอกลวงผูค้ น
เพียงแต่สะสวยงดงาม เจ้ายังคิดหวังให้คนเช่นนางฉลาดเฉลียวมี
ไหวพริ บได้ดว้ ยหรื อ? “
วิญญาณทมิฬ “เขาบอกว่าเจ้ามันไม่มีสมอง ตาก็บอด เป็ นได้แค่
แจกันดอกไม้ใบหนึ่ง “
ตู๋กซู ิงหลันอยากจะเด็ดหัวมันทิ้งนัก
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็ตอ้ งประหลาดใจ ไยฝ่ าบาทไม่ทรงกริ้ วตามที่ควร
จะเป็ น? “
แต่วา่ เมื่อคิด ๆ ดูแล้ว ที่รับสัง่ ไปก็นบั ว่ามีเหตุผลอยู่ ไทเฮาผูน้ ้ ี
นอกจากความงามเลิศล้ าแล้ว ที่เหลือก็ไม่มีอะไร
แต่วา่ ไม่วา่ จะฟังดูอย่างไร พระดารัสของฝ่ าบาทเมื่อครู่ ทั้งอารมณ์
และน้ าเสี ยง แล้วยังพระพักตร์ที่แย้มสรวลงดงามนัน่ อีก ดูแล้วก็
น่าจะเป็ นความโปรดปรานเป็ นแน่
” ท่านย่าน้อยย่อมไม่ใช่ปีศาจ ท่านย่าน้อยเป็ นนางฟ้าบนสวรรค์ลง
มาเกิด! ซุ่นเอ๋ อร์นบั ว่าให้หน้านาง ทั้งยังยกนิ้วโป้งให้อย่างชื่นชม
เสี ยนไท่เฟยถึงกลับกล่าววาจาใดไม่ออก ถึงยามนี้นางถึงได้เข้าใจ
แล้วว่าตนเองมองตู๋กซู ิงหลันต่าไป สตรี ผนู ้ ้ ี ไม่เพียงแต่ทาให้เย่วเอ๋
อร์หลงใหลแทบเป็ นแทบตาย แม้กระทัง่ จีเฉวียนก็ยงั ถูกนางสยบ
เอาไว้แล้ว
ตอนที่ 117 ฝ่ าบาทคือจิง้ จอกที่ไร้ หัวใจ!
แค่พิศดูใบหน้านี้ของนาง ก็สรุ ปกันไปเสี ยแล้วว่านางมิได้มีความ
เฉลียวฉลาดสักเท่าใดนัก เพียงแต่สามารถสร้างความประทับใจแก่
เหล่าบุรุษได้โดยง่ายก็เท่านั้น
นางคิดจะกล่าวอันใด แต่กลับเห็นว่าจีเฉวียนละความสนใจไปเสี ย
แล้ว
“นักพรตอู๋เจิน คงต้องรบกวนเจ้าไปเฝ้านางในคุกหลวงด้วยตนเอง”
อู๋เจินที่อยูด่ ี ๆ ก็ถูกเรี ยกชื่อขึ้นมา ชะงักไปเล็กน้อย เขาเหลือบตา
มองดูสายตาของไทเฮาแวบหนึ่ง ถึงได้พยักหน้ารับ สองมือประนม
เข้าหากันตอบว่า “โอ้เง็กเซียนบนสวรรค์ การปราบปี ศาจการาบมาร
ร้ายนั้นเป็ นหน้าที่ของข้านักพรต ฝ่ าบาททรงเกรงใจไปแล้ว”
” นาตัวนางไป ” จีเฉวียนรับสัง่ อีกครั้งในทันที
เหล่าองครักษ์ที่ติดตามเขามา รี บเข้าไปควบคุมตัวเสี ยนไท่เฟยเอาไว้
อู๋เจินกับเหล่าลูกศิษย์อ่อนเยาว์และหนุ่มแน่นปานจะคั้นน้ าออกมา
ได้พากันรายล้อมเสี ยนไท่เฟยเอาไว้เป็ นวงล้อมชั้นหนึ่ง ก็ขยับมา
รวมตัวกันไว้ ดูไปยิง่ ใหญ่น่าเกรงขามอย่างยิง่
อู๋เจินย่อมไม่หวาดวิตกอยูแ่ ล้ว ในจดหมายที่ไทเฮาน้อยมอบให้เขา
นั้น มียนั ต์อยูส่ ามชุด แผ่นหนึ่งเป็ นยันต์สะกดร่ าง แผ่นหนึ่งสะกด
วิญญาณ อีกแผ่นเป็ นยันต์คุม้ ครอง ทั้งหมดล้วนเป็ นยันต์ช้ นั ยอด
เมื่อมียนั ต์สามแผ่นนี้ เขาย่อมสามารถควบคุมเสี ยนไท่เฟยได้โดยไม่
ยาก
ตอนนี้เขายิง่ ทียงิ่ นับถือไทเฮาน้อยแล้ว ทุกเรื่ องราวทุกสิ่ งล้วนอยูใ่ น
ความคาดหมายของนาง แม้แต่ยนั ต์ที่จะใช้ในการสะกดยามกักขัง
เสี ยนไท่เฟยก็ยงั ถูกเตรี ยมเอาไว้อย่างดี ไม่แน่วา่ ไทเฮาน้อยอาจจะ
เป็ นศาสดาพยากรณ์? หรื อไม่กน็ างอาจมีพลังหยัง่ รู ้ล่วงหน้า?
คิด ๆ แล้วเขาก็ได้แต่แอบหันไปมองดูอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับไม่ได้
สบตากับไทเฮาน้อยแต่ดนั ไปสบตากับฝ่ าบาทเข้า
โอ้ สวรรค์ ช่างน่ากลัวนัก ราวกับว่าเขาเผอิญไปแตะต้องสิ่ งที่ไม่
สมควรแตะเข้าให้ ฮ่องเต้ที่เมื่อครู่ ยงั มีทีท่าเกรงอกเกรงใจเขาอยูน่ ้ นั
ยามนี้สายพระเนตรประหนึ่งจะฆ่าคนได้
อู๋เจินรี บหลุบตากลับมา หันหน้ากลับไป พลางรู ้สึกขึ้นมาว่าความคิด
ที่จะ ‘อัญเชิญไทเฮาผูส้ กั ดิ์สิทธ์ิไปเคารพบูชาประหนึ่งพระโพธิสตั ว์
ในอารามนั้น’ ดูจะเจออุปสรรคสาคัญเสี ยแล้ว
เมื่อห่างไกลออกไป เสี ยนไท่เฟยถึงได้หยุกชะงักฝี เท้าลง นางกวาด
ตากลับมามองไปยังจีเฉวียนและตู๋กซู ิ งหลัน ประกายตานั้นทอแวว
เคียดแค้นอย่างชัดเจน
ทันทีที่นางจากไปลมหมุนที่พดั กระหน่าก็หยุดลง แม้แต่เสี ยงร่ าร้อง
โหยหวนของวิญญาณที่เคียดแค้นก็พลอยเงียบไปด้วย ท้องฟ้า
กลับมาใสกระจ่าง แสงแดดส่ องกระทบหิมะบนพื้นเป็ นประกาย
งดงามอีกครั้ง จิตใจของผูค้ นทั้งหลายในที่น้ นั ก็พลอยผ่อนคลายลง
ไปด้วย
เนื่องด้วยร่ างกายของฝ่ าบาทเกิดความไม่สบายบางประการ ไม่
สะดวกต่อการเดินเหิน จึงมีรับสัง่ ให้จดั พิธีแต่งตั้งท่านหญิงน้อยเสี ย
ในจวนของตระกูลตู๋กนู นั่ เอง พระราชทานพื้นที่ศกั ดินาเป็ นเมือง
ตันหยาง และราชทินนามในชื่อเดียวกัน เรี ยกว่าท่านหญิงตันหยาง
เหล่าเชื้อพระวงศ์และขุนนางทั้งหลายต่างพากันประหลาดใจขึ้นมา
เนื่องด้วยการพระราชทานดินแดน และพื้นที่ศกั ดินานั้นเป็ นคนละ
เรื่ องเดียวกัน อย่างแรกนั้นผูค้ รอบครองมีอานาจเหนือดินแดนของ
ตน เสมือนดัง่ เป็ นฮ่องเต้นอ้ ย อย่างหลังนั้นเพียงสามารถเก็บเกี่ยว
ภาษีในท้องที่ ไม่มีอานาจบริ หารจัดการใด ๆ ภาษีที่เก็บเกี่ยวได้ยงั
ต้องส่ งเข้ามาถวายฝ่ าบาทตามจานวนที่กาหนดไว้อย่างแน่นอนอีก
ด้วย
เรื่ องการพระราชทานพื้นที่ศกั ดินานั้นเป็ นฝ่ าบาททรงรับสัง่ ขึ้นมา
เองตั้งแต่เมื่อพักก่อน ทันทีที่รับสัง่ ก็ถูกเหล่าเชื้อพระวงค์และขุนนาง
ใหญ่ท้ งั หลายแสดงความคิดเห็นต่อต้าน
ฝ่ าบาทก็มิได้ร้อนพระทัย และมิได้แตะต้องดินแดนที่เคยมีการ
พระราชทานไปแล้ว
ที่แท้…..พระองค์คิดจะใช้โอกาสที่แต่งตั้งท่านหญิงน้อยนี้ ริ เริ่ มการ
พระราชทานแต่เพียงพื้นที่ศกั ดินานัน่ เอง
ตู๋กซู ิงหลันมองดูจีเฉวียนอย่างพิจารณา ก่อนหน้านี้นางยังดูไม่ออก
ว่าเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่จะหน้าหนาได้ถึงเพียงนี้ ช่างเหมาะเจาะจะเป็ น
ฮ่องเต้เสี ยจริ ง ๆ แม้แต่หลานสาวสายนอกของตนเองยังเอามาเป็ น
เครื่ องมือปูทางสร้างอานาจสายใหม่ได้
คนผูน้ ้ ีหากเอามาผ่าดูขา้ งในคงดาสนิท!
แต่ขณะเดียวกันนางก็อดที่จะชื่นชมจีเฉวียนในข้อนี้ไม่ได้ ใน
ประวัติศาสตร์ของโลกมิติปัจจุบนั การเปลี่ยนถ่ายจากพระราชทาน
ดินแดนมาเป็ นพื้นที่ศกั ดินานั้น จาเป็ นต้องผ่านหลายยุคหลายสมัย
จึงจะกระทาได้สาเร็ จ เขาที่เป็ นฮ่องเต้องค์ใหม่กลับใช้ออกด้วยวิธี
เช่นนี้ กลายเป็ นข้ออ้างสาหรับการเปิ ดทางให้กบั ตนเอง นับว่ารู ้จกั
วางแผนอย่างแยบยลนัก
คราวนี้เหล่าเชื้อพระวงศ์และขุนนางใหญ่ท้ งั หลายต่างก็อดที่จะหัน
ไปมองดูองค์หญิงใหญ่ไม่ได้ หากว่าองค์หญิงใหญ่มีความกล้าขึ้นมา
มากพอ แสดงความไม่พอพระทัยการพระราชทานพื้นที่ศกั ดินานี้ละ
ก็ การเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ฝ่าบาทมีพระประสงค์กค็ งจะเริ่ มไม่ออก
แล้ว
แต่วา่ องค์หญิงใหญ่กลับไม่มีท่าทีไม่พอพระทัยแม้แต่นอ้ ย นางดึง
ตัวซุ่นเอ๋ อร์ถวายคานับอย่างเต็มพิธีการให้จีเฉวียน “จีฉุนขอบ
พระทัยที่ฝ่าบาททรงพระเมตตาแทนท่านหญิงตันหยาง! “
ซุ่นเอ๋ อร์กร็ ี บโขกศีรษะเช่นกัน “ซุ่นเอ๋ อร์ขอบพระทัยท่านน้าฮ่องเต้!

สาหรับองค์หญิงใหญ่แล้ว เมื่อได้รับประสบการณ์ท้ งั ดีและร้ายใน
วันนี้ สิ่ งของนอกกายเหล่านั้น นางไม่คิดติดใจอันใดอีก เพียงแค่ซุ่น
เอ๋ อร์แคล้วคลาด มีชีวิตอย่างปลอดภัยก็พอแล้ว
ยิง่ ไปกว่านั้น…..นับตั้งแต่วนั ที่จีเฉวียนขึ้นครองราชย์ นางก็
ตระหนักดีแล้วว่า ฮ่องเต้ที่ยากจะคาดเดาพระทัยผูน้ ้ ี จะต้องสร้าง
ความเปลี่ยนแปลงอย่างยิง่ ใหญ่ให้กบั ต้าโจวเป็ นแน่
นางไม่มีความจาเป็ นใดจะต้องไปงัดข้อกับเขา ทั้งยังไม่มีกาลังจะทา
ด้วย เช่นนั้นไยไม่วา่ ตามเขาไป ไม่แน่วา่ ยังจะได้อยูอ่ ย่างสงบและ
ปลอดภัยมากกว่า
กระทัง่ องค์หญิงใหญ่ยงั ยอมรับแล้ว ผูอ้ ื่นไหนเลยจะมีคาพูดใด ๆ ได้
อีก?
หากไม่ใช่วา่ เสี ยนไท่เฟยนั้นเป็ นปี ศาจจริ ง ๆ พวกเขาคงจะต้องคิดว่า
เหตุการณ์ท้ งั หลายในวันนี้เป็ นแผนการที่ฝ่าบาททรงวางไว้แต่แรก
แล้ว
จัดการองค์หญิงใหญ่ลม้ เลิกความสนใจจะที่ครอบครองเขตแดน
พอใจเพียงแค่ได้ดูแลธิดาตนเองให้ปลอดภัยโดยไม่มุ่งหวังใดอื่น
ผลลัพธ์เช่นนี้………..คล้ายว่าจะเป็ นไปตามพระประสงค์ของฝ่ า
บาทจริ ง ๆ
ฝ่ าบาท ทรงเป็ นจิ้งจอกที่ไร้หวั ใจนัก
…………………
เมื่อเสร็ จพิธีการแต่งตั้งแล้ว องค์หญิงใหญ่กเ็ สด็จมาขวางอยูเ่ บื้อง
หน้าของตู๋กซู ิงหลัน นางดึงดาบประจาตัวออกมาอีกครั้ง
เหล่าเชื้อพระวงค์และขุนนางใหญ่ท้ งั หลายยังไม่ทนั ได้จากไป ต่างก็
มองไปยังองค์หญิงใหญ่อย่างเลิ่กลัก่ เสี ยนไท่เฟยคือนางปี ศาจตัว
จริ ง หรื อว่าองค์หญิงใหญ่ยงั ทรงมีความสงสัยใดในตัวตู๋กซู ิงหลัน
อีก จึงได้คิดหาเรื่ องนางอีกครั้ง?
่ ….คาพูดที่ก่อนหน้านี้เสี ยนไท่เฟยได้พดู
คิด ๆ ดูก็อาจจะใช่อยู…
เอาไว้แล้ว ได้กลายเป็ นเมล็ดพันธุ์ที่บ่มเพาะความสงสัยในใจของ
พวกเขา
ผูท้ ี่ศพมีชีวิตเลี้ยงดูมาจนเติบโต ยังจะนับว่าเป็ นมนุษย์ที่ปกติดี ๆ ได้
อีกหรื อ?
ตู๋กซู ิงหลันมองดูองค์หญิงใหญ่ เห็นสองปรางของนางปรากฎสี แดง
ซ่านขึ้นมา ดวงเนตรเรี ยวรู ปใบไม้จดจ้องมายังนางอยูน่ านเสี ยจนตู๋กู
ซิงหลันคิดไปว่าบนศีรษะของนางมีดอกไม้งอกเงยขึ้นมาแล้ว
ตู๋กจู ุนที่ยนื อยูด่ า้ นข้างอดไม่ได้ที่จะเขยิบเข้ามาใกล้นอ้ งสาวอีกหลาย
ส่ วน เขารู ้วา่ ตนเองเป็ นสาเหตุที่ทาให้องค์หญิงใหญ่ไม่ชอบหน้า
น้องเล็ก เขาจึงเกรงว่าองค์หญิงใหญ่จะทาร้ายนาง
นานอีกพักใหญ่องค์หญิงใหญ่จึงยกดาบขึ้นมา
แต่คราวนี้กลับหันสันดาบให้กบั ตู๋กูซิงหลัน
ตู๋กซู ิงหลันรับดาบไปด้วยสี หน้างงงัน จากนั้นพลันเห็นองค์หญิง
ใหญ่สะบัดชายกระโปรงขึ้นมา คุกเข่าลงต่อหน้าผูค้ นทั้งหลาย โขก
ศีรษะเสี ยงดังให้กบั นางครั้งหนึ่ง
” คานับนี้ ขอบพระทัยไทเฮาที่ทรงช่วยชีวิตซุ่นเอ๋ อร์เอาไว้! “
กล่าวแล้ว นางก็โขกศีรษะหนัก ๆ อีกครั้ง
” คานับที่สอง คือจีฉุนติดค้างพระเมตตาของไทเฮา พระคุณนี้จะ
จดจาใส่ ใจ วันหน้าต้องตอบแทน! “
สุ ดท้าย นางก็คานับเป็ นครั้งที่สาม
” คานับที่สาม เป็ นหม่อมฉันจีฉุนมีตาแต่ไร้แวว ตกหลุมพรางของ
ผูอ้ ื่น หลงคิดว่าไทเฮาคือปี ศาจ จนเกือบจะทาร้ายไทเฮา เป็ นหม่อม
ฉันโง่เขลา! ขอไทเฮาประทานดาบหนึ่งให้กบั หม่อมฉัน ชะล้าง
พระทัยที่ทรงได้รับความอยุติธรรม! “
คานับครบสามครั้ง ความขัดแย้งในพระทัยของจีฉุนก็หมดไป แวว
เนตรกระจ่างใส ปราศจากความเสแสร้งใด ๆ
การแสดงออกขององค์หญิงใหญ่ ทาให้ผคู ้ นทั้งหลายต่างนิ่งค้างกัน
ไปหมด
พวกเขารู ้ดีกว่าที่ผา่ นมาองค์หญิงใหญ่ทรงเป็ นผูท้ ี่กล้ารักกล้าแค้น
คนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่านางที่เป็ นถึงองค์หญิงสู งศักดิ์จะถึงขนาดยอม
วางศักดิ์ฐานะของตนลงและยอมรับผิดเช่นนี้!
ซุ่นเอ๋ อร์ที่เห็นมารดาคุกเข่าลงโขกศีรษะก็มีสีหน้าตกตะลึงไป
เช่นกัน นางเองก็รีบคุกเข่าลงโขกศีรษะไปด้วย “ขอบพระทัยท่านย่า
น้อยช่วยชีวิตหม่อมฉัน ท่านแม่เพียงแต่กงั วลใจในตัวซุ่นเอ๋ อร์มาก
เกินไป ท่านแม่มิได้ต้ งั ใจ”
ตู๋กูซิงหลันชมดูจนป่ วยใจ นางวางดาบในมือลง ดึงเด็กหญิงตัวน้อย
ขึ้นมากอดไว้ในอ้อมอก
จากนั้นก็ประคององค์หญิงใหญ่ให้ลุกขึ้นมาด้วยตนเอง ” เรื่ องได้รับ
ความอยุติธรรมนั้นไม่มีหรอก หากว่าองค์หญิงทรงคิดจะตอบแทน
บุญคุณละก็ เราก็มีคาขอร้องอยูข่ อ้ หนึ่ง “
ตอนที่ 118 นีม้ ันเรียกว่ าคนสิ้นคิด!
” ขอไทเฮาทรงตรัสมาเถอะเพคะ” องค์หญิงใหญ่จอ้ งมองนาง การ
ที่ต๋ ูกซู ิงหลันมิได้กล่าววาจาเกรงอกเกรงใจแม้สักครึ่ งคา ทาให้นาง
แปลกใจนัก ทั้งยังรู ้สึกนับถือขึ้นมาอยูบ่ า้ ง
เมื่อเปรี ยบเทียบกับพวกอสรพิษที่ชอบทาตนเป็ นพยัคฆ์แล้ว ไทเฮาที่
ตรงไปตรงมาเช่นนี้ยงั ถูกใจนางมากกว่านัก
ได้ฟังแล้ว ตู๋กูซิงหลันก็หนั กลับไปมองดูพี่ชายของตนเองแวบหนึ่ง
ตู๋กจู ุนชะงักไปเล็กน้อย ค่อยตัดสิ นใจเขยิบมายืนข้างตัวนาง ตู๋กซู ิ งห
ลันปล่อยเขาไว้เช่นนั้น
นางรี บหันกลับมามองดูองค์หญิงใหญ่
การกระทาก่อนหน้านี้ขององค์หญิงใหญ่ ตู๋กูซิงหลันมิได้รู้สึกโกรธ
เคืองเลย ไม่วา่ เป็ นแม่คนใด เมื่อเป็ นเรื่ องความเป็ นความตายของลูก
แล้วก็ยอ่ มจะสู ญเสี ยเหตุผลที่เคยมีได้ดว้ ยกันทั้งนั้น
เรื่ องนี้นางย่อมเข้าใจได้ อย่าว่าแต่สตรี ที่สามารถอบรมสัง่ สอนซุ่น
เอ๋ อร์ให้เป็ นเด็กน้อยน่ารักได้เช่นนี้ ย่อมมิใช่คนไม่ดีไปได้เด็ดขาด
นางยิง่ คิดไม่ถึงว่า องค์หญิงใหญ่ผหู ้ นึ่ง จะยินยอมคุกเข่าลงต่อหน้า
ผูค้ นเพื่อขออภัยต่อนาง เพียงแค่ขอ้ นี้ขอ้ เดียว ตู๋กซู ิงหลันก็อยากจะ
เพิ่มคะแนนให้องค์หญิงใหญ่อีกไม่นอ้ ยแล้ว
นางลดเสี ยงลง เขยิบเข้าไปจนใกล้ กระซิบลงที่ขา้ งพระกรรณของ
องค์หญิงกล่าวว่า “ข้าเพียงอยากรู ้วา่ ระหว่างพี่ใหญ่และองค์หญิง
เกิดข้อเข้าใจผิดอันใดกันหรื อ? “
นางกล่าวเพียงประโยคเดียว สี พระพักตร์ของจีฉุนก็เปลี่ยนไป
ในทันที แม้แต่แววตาก็หม่นหมองลงไปด้วย
นางค่อย ๆ ปิ ดตาลง ส่ ายหน้าน้อย ๆ “ขอไทเฮาทรงเปลี่ยนคาถาม
เป็ นเรื่ องอื่นเถอะเพคะ เรื่ องระหว่างข้าและพี่ชายของท่านนั้น ข้าไม่
มีคาพูดจะกล่าว”
“องค์หญิง บุญคุณที่เราต้องการให้ท่านตอบแทนนั้น ก็คือคาพูดที่
ชัดเจนไม่กี่คาเท่านั้น ” ตู๋กซู ิงหลันตอบกลับ “ขององค์หญิงใหญ่
ทรงตรัสอย่างรวบรัดชัดเจนเถอะ”
องค์หญิงใหญ่ลืมเนตรขึ้นมองนางอย่างละเอียดละออ สตรี นอ้ ย
ตรงหน้าอายุเพียงสิ บหน้าปี เท่านั้น แต่ความอาจหาญเจรจาเช่นนี้ทา
ให้นางประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง
นางก้มศีรษะลง ถอดถอนหายใจยาวเหยียด “ไทเฮาประสงค์จะทรง
ทราบให้จงได้หรื อเพคะ? “
ตู๋กูซิงหลัน พยักหน้ารับ “ใช่แล้ว”
ดวงพักตร์ขององค์หญิงใหญ่ซีดขาวยิง่ กว่าเดิม นานครู่ ใหญ่จึงได้
ยอมตรัสออกมา ” ฉางซุนซู่ ราชบุตรเขยของข้า เมื่อหกปี ก่อนถูก
พี่ชายของท่านสังหาร ความเกลียดชังนี้คงไม่อาจสลายได้ท้ งั ชาติ
ดังนั้น ระหว่างข้าและท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตมิได้มีขอ้ ผิดใจอันใดกัน”
วาจาประโยคเดียวกลับคล้ายว่าเผาผลาญพลังงานที่นางมีอยูท่ ้ งั หมด
จนสิ้ นไป ทาให้นางเจ็บปวดจนถึงขนาดลมหายใจยังสั่นสะท้าน
ผ่านไปครู่ ใหญ่นางจึงถวายคานับลากับตู๋กซู ิงหลัน “จีฉุนรู ้สึกร่ าย
กายไม่สู้ดี ขอทูลลาแล้วเพคะ วันหน้าจะต้องเข้าวังไปขอบพระทัย
ไทเฮาอีกครั้งแน่นอน “
กล่าวแล้ว นางก็เข้ามาอุม้ ตัวซุ่นเอ๋ อร์กลับไป จากนั้นก็ไปจากจวน
ตระกูลตู๋กอู ย่างรวดเร็ ว
ตู๋กจู ุนหยุดอยูท่ ี่เดิม มองดูเงาหลังของนางจากไป ก็ได้แต่อา้ ปากค้าง
แต่กลับไม่มีเสี ยงใดเล็ดลอดออกมาสักคา
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ละล้าละลัง แต่กไ็ ม่กล้าบังคับรั้งนางเอาไว้ น้ าหนัก
ของเรื่ องนี้ดูท่าจะรุ นแรงเกินไปแล้ว มิน่าเล่าพี่ใหญ่ถึงได้ไม่กล้า
บอกกับนางมาโดยตลอด
เมื่อมองดูพี่ชายตนเองที่ท่าทางเหมือนกับว่าวิญญาณได้หลุดลอยไป
แล้ว นางก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาอีกหลายส่ วน เรื่ องนี้ใช่วา่ ยังมีเงื่อนงา
อะไรอีกหรื อไม่?
“พี่ใหญ่ เรื่ องราวในปี นั้น ท่านหาเวลามาพูดกับข้าให้ละเอียดเถอะ
ข้าเป็ นน้องสาวของท่าน ข้าเชื่อว่าท่านไม่มีทางฆ่าคนอย่างไร้เหตุผล
หรอก นี่จะต้องมีเหตุจาเป็ นอันใดให้ท่านต้องกระทาเป็ นแน่ ” ตู๋กู
ซิงหลันยา่ เท้าลงไปพลางตบบ่าของเขาเบา ๆ “ชีวิตคนเรานั้นแสน
สั้น อย่าได้ปล่อยให้มีเรื่ องต้องเสี ยดาย”
เพียงแค่ประโยคเดียวของนางกลับทาให้ต๋ ูกจู ุนรู ้สึกประหลาดใจ
ขึ้นมาอีกหลายส่ วน น้องเล็กไปได้รับประสบการณ์เช่นไรมา ถึงได้
สามารถเกิดความเข้าอกเข้าใจได้ถึงเพียงนี้
ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้บอกนาง ก็เพราะว่าไม่อยากให้นางต้องวิตก
กังวลใจไปเปล่า ๆ บุรุษตระกูลตู๋กเู ช่นพวกเขาแต่ไหนแต่ไร ก็ไม่
อาจทนเห็นนางทุกข์ใจได้แม้แต่นอ้ ย กลับคิดไม่ถึงว่าน้องเล็กจะ
จดจาเรื่ องนี้ไว้ในใจมานานแล้ว
นางในตอนนี้กบั ก่อนหน้านั้น ช่างแตกต่างราวกับเป็ นคนละคนกัน
ทีเดียว
ก่อนหน้านี้นอ้ งเล็กไม่เคยจะใส่ ใจเขาแม้แต่นอ้ ย
ในใจของเขาทั้งซาบซึ้ง ทั้งรู ้สึกภาคภูมิใจขึ้นมา คิดว่าเรื่ องนี้ถึงเขา
ไม่พดู ออกมา นางก็คงหาทางรู ้เข้าจนได้
หากต้องปลอยให้นางว้าวุน่ ใจ โดยไม่อาจหาคาตอบที่แน่ชดั ได้
เช่นนี้ต่อไป มิสู้ให้เขาบอกกับนางด้วยตนเองจะดีกว่า
เมื่อคิดได้แล้ว ตู๋กจู ุนก็พยักหน้าติด ๆ กัน “ตกลง”
…………………………
บนเก้าอี้กยุ้ เฟย ฮ่องเต้ผทู ้ รงมิได้รับความสนใจไยดีใด ๆ จากไทเฮา
แม้แต่นอ้ ยกลับมิได้ทรงมีโทสะ นับตั้งแต่ที่เสี ยนไท่เฟยเดินออกไป
สายพระเนตรของพระองค์กม็ ีแต่ความเย็นชา ถึงแม้ต๋ ูกซู ิงหลันและ
องค์หญิงใหญ่จะกล่าวเรื่ องอันใดแก่กนั ก็ไม่ได้ทรงสนพระทัย
หลี่กงกงได้แต่ขดุ ความกล้าหาญขึ้นมาเข้าไปสอบถามรับสัง่ ” ฝ่ า
บาทพะยะค่ะ เวลาไม่เช้าแล้ว ยามนี้ใช่สมควรเสด็จกลับวังเลย
หรื อไม่พะยะค่ะ? “
จีเฉวียนถึงได้ค่อย ๆ เรี ยกสติกลับมา เขาหันไปทอดพระเนตรมอง
ไทเฮาน้อยที่ขา้ งกายชัว่ แวบหนึ่ง ” กลับ”
เขาขยับตัวอย่างรวดเร็ ว ลืมเรื่ องที่ตนเองเจ็บตรงนั้นไปชัว่ ขณะ ลุก
ขึ้นประทับยืนในคราเดียว เมื่อขยับตัวมากถึงเพียงนี้ ย่อมเกิดความ
เจ็บปวดไปถึงขั้วหัวใจ เรี ยกว่าเกือบจะส่ งเขาขึ้นสวรรค์ไปเลย
ทีเดียว!
ฮ่องเต้สีพระพักตร์ยา่ แย่ พระบาทอ่อนล้าไร้กาลัง ได้แต่กลับมา
ประทับนัง่ บนเก้าอี้กยุ้ เฟยอีกครั้ง กัดพระทนต์ตรัสว่า “แบกเรา
กลับไป”
หลี่กงกง “??? ” ยามนี้เขาชักสงสัยขึ้นมาเสี ยแล้วว่าฝ่ าบาททรง
ประชวรขึ้นมาอย่างกระทันหันหรื อไม่ ยามมานั้นองอาจดุจมังกร
คึกคักดุจพยัคฆ์ ทาไมบทจะไปถึงกับยืนไม่ข้ ึนเสี ยอย่างงั้น?
พอคิดถึงว่าก่อนหน้านี้เขาได้ยนิ ซุ่มเสี ยงแปลก ๆ ที่พาให้คนต้องขบ
คิดมากความมาจากในห้องของไทเฮาน้อย หลี่กงกงก็รู้สึกเหน็บ
หนาวขึ้นมาเลยทีเดียว
คงไม่ใช่วา่ …..ฝ่ าบาททรงถูกไทเฮาน้อย…….สู บจนแห้งไปแล้ว!
พอความคิดนี้ผดุ ขึ้นมา หลี่กงกงก็พลันรู ้สึกว่าศีรษะที่ขวัญกล้า
บังอาจของตนชักจะไม่มนั่ คงเท่าไหร่ แล้ว
พอเหล่าองครักษ์เข้ามายกเก้าอี้กยุ้ เฟยขึ้น ก็ได้ยนิ จีเฉวียนตรัสกับตู๋กู
ซิงหลันว่า “ไทเฮา ติดตามเรากลับวังด้วยกัน”
สายตาของตู๋กซู ิงหลันจับจ้องอยูบ่ นเก้าอี้กยุ้ เฟยตัวนั้น
เก้าอี้กยุ้ เฟยตัวนี้เป็ นผลงานของร้านเครื่ องเรื อนอันดับหนึ่งในแคว้น
ต้าโจว ใช้ไม้สกั ทองสร้างขึ้นทั้งตัว พนักพิงและที่วางแขนสลักลาย
ลงทองฝังอัญมณี ไว้ แม้แต่เบาะนุ่มที่ใช้รองบนเก้าอี้กท็ าจากผ้านวม
อ่อนนุ่มชั้นดีและผ้าต่วนเมฆไหล
เจ้าฮ่องเต้สุนขั ……บัลลังก์ของตนเองมีไม่นงั่ กลับจะมายึดเอาเก้าอี้
กุย้ เฟยของนางไปหรื อ?
นางค่อย ๆ กลืนน้ าลายลงไป ตอบว่า “เก้าอี้ตวั นี้ ฝ่ าบาทจะทรงคืน
ให้หม่อมฉันใช่ไหมเพคะ? “
จีเฉวียนพระพักตร์เขียวขึ้นมาทันที พูดตามจริ งเลย ตอนนี้เขาคิดจะ
ฆ่านางเสี ยด้วยซ้ าไป!
ในสายตาของนาง เกียรติของบุรุษเช่นเขาเทียบไม่ได้กลับเก้าอี้ตวั
หนึ่งหรื อไง?
” เจ้าคิดเช่นไรละ? ” นิ้วเรี ยวยาวของเขาลูบไล้ไพลินบนที่วางแขน
ไปมาคล้ายตั้งใจและไม่ต้ งั ใจอยูต่ ลอด
ตู๋กูซิงหลัน “……….”
……………..
ในพระตาหนักตี้หวั หมอหลวงซุนกาลังตรวจสอบดูไข่ใบสาคัญ
ของฝ่ าบาท เขาพลันรู ้สึกว่าตนได้มาถึงสุ ดสู งในอาชีพของหมอของ
ตนแล้ว
อีกหน่อยยามที่เขาแก่ชรากลับบ้านเกิดไป อยูใ่ นหุบเขาห่างไกลจาก
ฮ่องเต้ จะสามารถคุยอวดกับผูค้ นได้หรื อไม่ ว่าเขาได้เคยเห็นไข่
มังกรมาแล้ว อีกทั้งยังเป็ นหมอหลวงผูท้ รงคุณวุฒิที่สามารถรักษาไข่
มังกรจนหายดีอีกด้วย?
” ทูลฝ่ าบาท ยังดีที่ไม่ได้หกั เสี ยหาย มิได้บาดเจ็บจนถึงแก่นสาคัญ
กระหม่อมจะฝังเข็มถวายสักหลายครั้ง จากนั้นจัดเทียบยาให้ทรงดื่ม
ไม่เกินเจ็ดวันก็จะกลับคืนมาดีดงั เดิมพะยะค่ะ” หมอหลวงซุนพูดไป
ก็หยิบเอาเข็มเงินออกมา
พูดตามตรง เขาเองก็ประหลาดใจอยูม่ าก ฝ่ าบาททรงไปกระทาการ
ใดมากันแน่ ถึงได้ทาให้พระองค์เองกลายเป็ นเสี ยอย่างนี้
คงมิใช่วา่ สมองกลับตาลปัตรคิดว่าตนเองมีไข่เหล็กหรอกนะ?
ไปใช้งานอะไรรุ นแรงถึงเพียงนี้……
ดูสิวา่ บวมถึงเพียงไหน จุ๊ ๆ ๆ ….ยังดีที่พระวรกายของฝ่ าบาท
แข็งแรงมาตลอด หากเปลี่ยนเป็ นผูอ้ ื่น มีหวังเละเป็ นเต้าหูไ้ ปเสี ยแล้ว
จีเฉวียนสาดพระเนตรเย็นชาออกไป ทอดพระเนตรไปยังไทเฮาน้อย
ที่ถูกพากลับมาอย่างดี เงาของนางทอดอยูบ่ นฉากบังลมวิหคเพลิง
คนตัวสัน่ สะท้านแอบอยูห่ ลังฉากอย่างเงียบ ๆ เรี ยบร้อย
สตรี ผนู ้ ้ ี พอรู ้วา่ เรื่ องราวหนักหนาก็เกิดความกลัวขึ้นมาเป็ น
เหมือนกันรึ
ที่ดา้ นนอกของฉากบังลม ตู๋กซู ิงหลันได้พยายามหุบปากกลั้นยิม้
เอาไว้สุดความสามารถ นางปิ ดปากเสี ยแน่น ไม่ยอมให้เสี ยงของ
ตนเองเล็ดลอดออกไป จนทั้งร่ างได้แต่สนั่ สะท้าน
พอกลับมาถึงวัง ฮ่องเต้กม็ ีรับสัง่ ให้นางเตรี ยมเข้าเฝ้าอยูใ่ นตาหนักตี้
หัว รอหมอหลวงซุนมาตรวจอาการให้เขา
แต่พอได้ยนิ ว่าหมอหลวงซุนจะฝังเข็มลงบนไข่มงั กร ……สมอง
ของตู๋กซู ิงหลันก็อดที่จะจินตนาการภาพเหตุการณ์ข้ ึนมาไม่ได้ นาง
รู ้สึกว่าลมพัดเย็นจัดจนขนลุกกราวขึ้นมา เจ็บจี๊ดไปทั้งตัวเลยทีเดียว
ถึงแม้วา่ ในใจของนางจะปรากฎความละอายในความผิดขึ้นมาบ้าง
เล็กน้อย แต่สุดท้ายแล้วก็ยงั คงอดจะอยากหัวเราะอย่างสะใจไม่ได้
ช่างสมกับที่ตวั นางเคยมีฉายาว่าบงกชดาจริ ง ๆ
ไม่รู้วา่ ฝ่ าบาทจะได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์หรื อไม่
พระองค์จะได้กลายเป็ นฮ่องเต้พระองค์แรกที่พงศาวดารจารึ กไว้วา่ มี
การฝังเข็มไข่มงั กร
“ฝ่ าบาท กระหม่อมขอประทานอนุญาตล่วงเกินแล้ว…..” หลังฉาก
บังลม หมอหลวงซุนกาเข็มเงินเอาไว้ในมือ ทั้งตื่นกลัวและทั้ง
ตื่นเต้นไปพร้อม ๆ กัน
การรักษาด้วยวิธีฝังเข็มไข่มงั กรเช่นนี้ คงจะกลายเป็ นแรงผลักดันให้
เขาได้กลายเป็ นสุ ดยอดหมอหลวงในประวัติศาสตร์เป็ นแน่
จีเฉวียนสี พระพักตร์เย็นเฉียบ ฝ่ าพระหัตถ์ตวัดออกไป ก็ฟาดจนมือ
ของหมอหลวงซุนสัน่ สะท้าาน เข็มเงินปั กใส่ หลังมือของตนเอง ลึก
ลงไปในเนื้อถึงสามส่ วน เขาเจ็บปวดจนร่ าร้องออกมา
เขาไม่รู้จริ ง ๆ ว่าตนเองกระทาผิดต่อฝ่ าบาทในที่ใด ได้แต่ตระหนก
ตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความหวาดผวา บนศีรษะหลัง่ เหงื่อเย็น
ออกมามากมาย
” ไสหัวไปให้เราเดี๋ยวนี้ ” จีเฉวียนทรงกาเข็มขัดเอาไว้แน่น ใครก็
อย่าได้คิดจะแต่ตอ้ งไข่มงั กรของเขาแม้แต่นอ้ ย!
หมอหลวงซุนได้แต่ยอมถูกระทาเสี ยแล้ว ดูเอาเถอะ อาชีพหมอ
หลวงนั้นต้องเสี่ ยงเพียงไร คนไข้อารมณ์ไม่ดี เขาก็ไม่อาจพูดมาก
ความได้
“ทูลฝ่ าบาท หากว่าไม่ได้รับการฝังเข็ม อาศัยการดื่มยาแต่เพียงอย่าง
เดียว พระองค์จะทรงฟื้ นตัวได้ชา้ อย่างยิง่ เกรงว่าจะต้องใช้เวลากว่า
หนึ่งเดือนพะยะค่ะ หากว่าระหว่างนั้นเกิดเหตุอนั ใดขึ้นมาละก็ จะ
เกิดผลกระทบต่อเชื้อสายของราชวงค์ตา้ โจวได้นะพะยะค่ะ ” หมอ
หลวงซุนยึดเอาหลักการแพทย์มากล่าวอ้าง น้อมเตือนฝ่ าบาทอย่าง
ไม่กลัวตายเลยทีเดียว
” นอกจากฝังเข็มแล้ว ไม่มีวธิ ีอื่นเลยหรื อ? ” จีเฉวียนพระพักตร์เย็น
ชา แทบจะขู่ขวัญหมอหลวงซุนจนร้องไห้ออกมา
หมอหลวงซุนลูบคอของตนเอง เค้นสมองครุ่ นคิด จากนั้นค่อยกราบ
ทูลเสี ยงเบา ๆ ว่า “ฝ่ าบาทสามารถใช้วิธีแช่พระองค์ในอ่างน้ าร้อน
ผสมตัวยาเป็ นประจาทุกวัน ….วิธีน้ ีกจ็ ะช่วยคลายความเจ็บปวด
ร่ วมกับการดื่มยา ใช่เวลาประมาณครึ่ งเดือนก็น่าจะฟื้ นฟูได้พะยะ
ค่ะ”
” ถ้าเช่นนั้นก็ให้ใช้วิธีน้ ี เรื่ องนี้หากว่าเราได้ยนิ ข่าวลือออกไปแม้
เพียงครึ่ งคา ศีรษะของเจ้าได้ตกดินเป็ นแน่”
หมอหลวงซุนอยากจะร้องไห้ออกมาเหลือเกิน …….เป็ นหมอหลวง
ช่างไม่ง่ายดายเลย หากว่าไม่ระวังมีหวังได้เผาผีไปจริ ง ๆ
พอฝ่ าบาทตรัสจบแล้ว ก็ทรงไล่หมอหลวงซุนออกไป
เหลือเพียงตู๋กูซิงหลันที่แอบอยูน่ อกฉากบังลม
หลังจากนั้นก็ได้ยนิ ฮ่องเต้ตรัสด้วยสุ รเสี ยงเย็นชาว่า “ไทเฮา เจ้า
สานึกผิดหรื อยัง ครึ่ งเดือนให้หลังนี้ เจ้าต้องคอยดูแลเราแช่ยา เราจะ
ยอมให้อภัยที่เจ้าทาให้เราบาดเจ็บสาหัส”
ตู๋กูซิงหลัน “? “
” เจ้าคงจะไม่อยากให้ผอู ้ ื่นรู ้วา่ เจ้าทากับเราเช่นไรใช่ไหม? “
ตู๋กูซิงหลัน “……..” นางพอจะปฎิเสธได้ไหม?
จีเฉวียน “นี่เป็ นราชโอการ ไม่อาจปฎิเสธ”
………………………………………….
สามวันหลังจากนั้น
ข่าวที่วา่ เสี ยนไท่เฟยคือศพมีชีวิตก็โด่งดังไปทัว่ เมื่องหลวงอย่าง
รวดเร็ ว
ไม่วา่ กลางถนนใหญ่ในตรอกซอกซอยโรงเตี๊ยมร้านน้ าชาต่างก็ไม่
พลาดที่จะวิพากษ์วิจารณ์นาง
ปี ศาจเช่นนี้กลับสามารถเข้าไปอยูใ่ นวัง ทั้งยังกลายเป็ นถึงพระ
สนมกุย้ เฟย ซ้ ายังคลอดราชโอรสออกมา คิด ๆ ดูแล้วช่างน่า
หวาดกลัวนัก ไม่รู้วา่ หากอดีตฮ่องเต้ยงั ทรงพระชนม์อยูล่ ะก็ จะส่ ง
ดาริ เช่นไร
มิน่าเล่านางถึงสามารถไต่เต้าจากนางกานัลเล็ก ๆ ไปเป็ นพระสนม
คนโปรดของอดีตฮ่องเต้ได้ คิด ๆ ดูแล้วนี่ยอ่ มจะต้องเกี่ยวเนื่องกับ
ฐานะปี ศาจของนางเป็ นแน่
ยิง่ ไปกว่านั้นเรื่ องที่ทาให้ทุกผูต้ ่างพากันกังวลใจก็คือ ในเมื่อเสี ยน
ไท่เฟยเป็ นศพมีชีวติ เช่นนั้นอี้อ๋องจีเย่วเ์ ล่า?
เขาก็เท่ากับว่าเป็ นบุตรของศพมีชีวิตนะสิ !
……………………………………………..
ในตาหนักเย็นโหยวหนิงนาเรื่ องที่เล่าลือกันบนถนนใหญ่และตรอก
ซอยนี้บอกเล่าให้จีเย่วฟ์ ัง
ถึงแม้วา่ ตัวนางจะอยูใ่ นตาหนักเย็น แต่วา่ ยังดีที่มีซิ่วเหอผูจ้ งรักภักดี
อยู่ และค่อยหาเวลามาเยีย่ มเยียนนางอยูเ่ สมอ ทั้งยังเอาข่าวคราวจาก
ภายนอกมาเล่าให้นางฟังด้วย
ข่าวดีเช่นนี้ นางย่อมอยากจะแบ่งบันแก่จีเย่วเ์ ป็ นคนแรกอยูแ่ ล้ว
” คิดไม่ถึงเลยว่า สตรี ที่ท่านรักมากที่สุด จะเป็ นคนที่แทงดาบใส่
มารดาของท่านเอง ” นางยกมุมปาก มองดูพระพักตร์ของจีเย่วท์ ี่มีแต่
ความเคร่ งขรึ ม “เสี ยนไท่เฟย ผูท้ ี่อ้ ีอ๋องท่านใช้ชื่อเสี ยงของตนเอง
ทั้งหมดปกป้องเอาไว้ “
จีเย่วป์ ระทับอยูบ่ นแผ่นหินสี เขียวที่เปี ยกชื้นในตาหนักเย็น หิ มะตก
อีกแล้ว หิมะตกลงบนตัวของเขา ทาให้ร่างของเขาก็เปี ยกชื้นไปด้วย
เช่นกัน
ดวงพักตร์ที่งดงามดุจภาพวาดของเขา มีหยดน้ าที่เปี ยกชื้นอยู่
ชั้นหนึ่ง ริ มฝี ปากไร้สีเลือด กลายเป็ นความงามที่อมโรค
โหยวหนิงมองดูเขา พลางเขยิบหลายก้าวเข้ามาใกล้ “ฟังว่า ต้นเดือน
หน้า ฝ่ าบาทจะเสด็จไปควบคุมการจุดเพลิงด้วยพระองค์เอง จะทรง
เผานางให้ตายบนลานจูเสี ยไถในอารามเทียนเก๋ อกวน “
ประโยคนี้พอนางพูดออกไป จีเย่วถ์ ึงได้มีปฎิกิริยาขึ้นมาบ้าง เงยพระ
พักตร์ข้ ึนมาจ้องดูนางครู่ หนึ่ง
โหยวหนิงกลับไม่เกรงกลัว นางย่อตัว นัง่ ลงที่ขา้ งกายของเขา สอง
ตาจ้องมองเขาอย่างแน่วแน่ “ท่านอ๋ อง ท่านยังดูไม่ออกอีกหรื อ? ข้า
มิได้เกรงกลัวว่าท่านจะเป็ นทายาทของศพมีชีวิต มีแต่ขา้ เท่านั้นที่
จริ งใจต่อท่าน “
จีเย่วจ์ อ้ งนางด้วยสายพระเนตรเย็นชา “เจ้าคิดว่า อ๋ องเช่นข้าจะตกต่า
จนถึงขนาดให้เจ้าต้องมาสมเพชเวทนาหรื อ? “
” ข้ารู ้ต้ งั แต่แรกแล้วว่า เสี ยนไท่เฟยมิใช่คนธรรมดา ย่อมต้องรู ้วา่
ท่านอ๋ องเองก็ไม่ใช่คนปกติทวั่ ไป แต่ไม่วา่ ท่านจะเป็ นอะไร โหยวห
นิงก็ชอบท่าน ของเพียงท่านอ๋ องยินยอมอยูเ่ คียงข้างข้าตลอดไป ข้า
ยินดีทาทุกอย่างเพื่อท่าน “
โหยวหนิงพูดไป สองมือก็ค่อย ๆ ขยับขึ้นไปอย่างอาจหาญ “ท่าน
อ๋ อง ข้าเคยได้ยนิ มาว่า ขอเพียงโดนศพมีชีวิตกัดบนลาคอคาหนึ่ง ผูท้ ี่
โดนกัดก็จะกลายเป็ นศพมีชีวิต โหยวหนิงยินดีกลายเป็ นศพมีชีวติ
เพื่อท่าน อยูเ่ คียงข้างท่านไปตลอด “
นางกล่าวอย่างจริ งใจ ในดวงตายังมีประกายน้ าแห่งความยินดี
นางที่ได้แต่กอดหม้อยามาจนโต หมอทั้งหลายต่างก็บอกว่านางอาจ
มีชีวิตอยูไ่ ด้อีกไม่กี่ปี หากจะต้องรอความตายอยูใ่ นตาหนักเย็น
เช่นนี้ มิสู้กลายเป็ นศพมีชีวิตไปเสี ยดีกว่า จะได้มีชีวิตยืนยาวต่อไป
พอเห็นว่าจีเย่วไ์ ม่มีปฎิกิริยาใด ๆ ทั้งไม่ได้ผลักนางออก โหยวหนิงก็
ราพึงราพันต่อไปว่า
“ท่านอ๋ องพอได้ทรงฟังเรื่ องของเสี ยนไท่เฟยแล้ว ทั้งไม่ประหลาด
พระทัย และไม่มีโทสะ นี่แสดงว่าท่านทราบฐานะของไท่เฟยมาตั้ง
นานแล้ว และวันข้างหน้าของท่านก็คงจะหนีไม่พน้ เช่นกัน “
” ยามนี้ต๋ ูกซู ิงหลันเองก็ล่วงรู ้ฐานะของท่านแล้ว ท่านคิดว่านางจะ
ยินดีกลายเป็ นศพมีชีวิตเช่นเดียวกับท่านไหม? “
โหยวหนิงพูดจบแล้ว ก็เอนร่ างพิงจีเย่วล์ งไปทั้งตัวหันลาคอที่ขาว
ผ่องของตนเองไปยังริ มโอษฐ์ของเขา “ท่านอ๋ องเพคะ ข้าชอบท่าน
ด้วยใจจริ ง ข้ายินดีจะอยูเ่ คียงข้าท่านไปตลอดชัว่ ชีวิต “
จีเย่วท์ อดเนตรมองดูลาคอระหงกระจ่างประดุจหยกของนาง ใน
สมองก็ปรากฎภาพตู๋กซู ิงหลันที่งดงามนุ่มนวลขึ้นมา
เขาขมวดคิ้วขึ้น ผลักโหยวหนิงลงไปบนพื้นทันที น้ าเสี ยงที่กล่าว
ออกมานั้นเย็นชาอย่างที่สุด ” เจ้าเป็ นพี่สะใภ้ของอ๋ องเช่นข้า โปรด
รู ้จกั เคารพฐานะตนเองด้วย “
โหยวหนิงล้มลงไปบนลานกว้างอย่างแรง ฝ่ ามือกระแทกจน
ถลอกปอกเปิ ก นางก็เกรี้ ยวกราดขึ้นมาทันที “เช่นนั้นตู๋กซู ิงหลันก็
เป็ นมารดาเลี้ยงของท่าน ไยจึงไม่เห็นท่านรู ้จกั เคารพตนเองบ้าง? “
จีเย่วพ์ ระพักตร์เคร่ งขรึ ม “นางไม่เหมือนกัน “
“นางไม่เหมือนกัน! นับตั้งแต่ที่ท่านมาอยูใ่ นตาหนักเย็นจนถึงตอนนี้
นางไม่เคยมาเยีย่ มเยียนท่านเลยสักครั้ง! ” ท่านก็ยงั ทนได้อีก! ท่าน
อ๋ อง ท่านรู ้หรื อไม่วา่ นี่เรี ยกว่าอะไร? เรี ยกว่า สิ้ นคิด! “
ทันทีที่โหยวหนิงกล่าวออกไป ก็ได้ยนิ น้ าเสี ยงเย็นชาของสาวน้อยผู ้
หนึ่งดังมาจากประตูตาหนักเย็น……..
ตอนที่ 119 เขาไม่ อาจหักหลังใครได้ ท้งั นั้น
” พอดีจริ ง ข้าก็มาแล้วไม่ใช่หรื อ? “
หิมะที่ตกลงมาบาง ๆ ทอประกายดุจดวงดาว ตู๋กูซิงหลันสวมชุด
กระโปรงสี ดาเขียว สองมือซุกอยูใ่ นปลอกแขน ส่ วนหนึ่งของเส้น
ผมที่หนาและยาวของนางขมวดเป็ นมวยอย่างง่าย ๆ เส้นผมที่เหลือ
ส่ วนใหญ่ถูกปล่อยลงไปเคลียไหล่ ปลายคิ้วที่โค้งงามดัง่ ไต้หยูย่ งั มี
ละอองหิมะเกาะอยูเ่ ล็กน้อย ทาให้นางยิง่ ดูอ่อนโยนขึ้นอีกหลายส่ วน
จีเย่วท์ อดเนตรมองดูนาง ชัว่ ขณะหนึ่งจิตใจของเขาล่องลอยกลับไป
ยังยามที่พ่ งึ ได้เจอนางเป็ นครั้งแรก ยามนั้นฤดูหนาวที่มีหิมะตกบาง
ๆ เช่นนี้ นางที่อายุเพียงห้าปี งดงามน่ารักประหนึ่งตุ๊กตาเคลือบตัว
น้อย ผูกผมเป็ นมวยสองข้าง กาลังขี่คอนายท่านผูเ้ ฒ่าตู๋กู และหันมา
คลี่ยมิ้ ให้กบั เขาอย่างอ่อนหวาน
นับตั้งแต่ได้สบตากันอย่างลึกซึ้งในครั้งนั้น ทาให้เขาเองก็ไม่อาจลืม
เลือนได้อีก เพียงคิดจะปกป้องนางไปจนชัว่ ชีวิต ให้นางยิม้ แย้ม
เช่นนี้ตลอดไป
ตู๋กซู ิงหลันมาที่นี่เพียงลาพัง ยามนี้ทอ้ งฟ้าก็มืดครึ้ มลงมากแล้ว นาง
เดินช้า ๆ ก้าวมาหยุดอยูต่ รงหน้าจีเย่ว์ ดวงตาทั้งสองแฝงไว้ดว้ ย
ความเย็นชา
นางหันไปมองดูโหยวหนิงที่อยูข่ า้ งกายเขาด้วยสายตาเย็นชา ” ทาง
หนึ่งก็เฝ้าฝันถึงฮ่องเต้ อีกทางก็คืบคลานขึ้นมาบนตัวอี้อ๋อง โหยวห
นิง อย่างเจ้านี่ละถึงเรี ยกว่า สิ้ นคิด “
” ยังมี ครั้งหน้าเวลาจะนินทาใครรับหลัง จงจาเอาไว้ดว้ ยว่าต้องเสี ยง
เบาเข้าไว้ “
โหยวหนิงที่ตอนแรกนัง่ อยูบ่ นแผ่นหิน ยามนี้กองอยูแ่ ทบเท้าของตู๋กู
ซิงหลัน นางเงยหน้าขึ้นมองตู๋กซู ิงหลัน
ตู๋กูซิงหลันพึ่งจะอายุได้เพียงสิ บห้าปี เท่านั้น แต่กลับมีสง่าราศีสูงส่ ง
มีกลิ่นอายน่ายาเกรงที่ไม่อาจมองข้าม
ความน่ายาเกรงนี้ยงิ่ สะท้อนภาพตรงกับข้ามกับตัวนางโหยวหนิงที่
เป็ นเหมือนน้ าคราในโคลนเลน
นางคนน่ารังเกียจตู๋กซู ิงหลัน ช่างน่ารังเกียจจนเข้ากระดูกดา!
” ข้าก็แค่พดู ไปไม่กี่ประโยคเท่านั้น เจ้าไยจะต้องมาหึงหวงข้าด้วย?
” โหยวหนิงกล่าวเสี ยงเย็นคาหนึ่ง ค่อยพยายามลุกขึ้นจากบนพื้น
คนที่เหยียบเรื อสองแคมก็นบั ว่าเป็ นคนทุเรศชัด ๆ คนเช่นมันไหน
จะยังกล้ามาด่านางว่า สิ้ นคิดได้อีก?
ดูนางเองสิ ล่อล่วงฝ่ าบาทไปแล้ว ยามนี้ยงั คิดจะมาติดพันอี้อ๋องอีก!
อย่าได้ลืมไปว่า นางคือตัวต้นเหตุที่ทาร้ายเสี ยนไท่เฟย! อี้อ๋องมีหรื อ
จะอภัยให้นางได้?
โหยวหนิงกาลังจะขยับตัว ก็เห็นตู๋กซู ิงหลันใช้เท้าเพียงข้างเดียวก็
สามารถเหยียบนางลงไปได้แล้ว สายตาของนางทอประกายเย็นชา
อย่างที่สุด “ข้าไม่คิดจะพูดจาไร้สาระกับเจ้าอีก แต่มีเรื่ องหนึ่งที่เจ้า
ต้องจาใส่ กะโหลกเอาไว้ ล้มเลิกความคิดชัว่ ร้ายเหล่านั้นซะ กลับตัว
เป็ นคนดี ไม่เช่นนั้นจุดจบของเจ้าจะต้องอนาถอย่างไม่คาดคิดเป็ น
แน่ “
ประโยคนี้ ตู๋กซู ิงหลันถือว่ายึดเอาคาสัง่ สอนตามกฎของสานักหุบ
เขาภูติมากล่าวเตือน หากโหยวหนิงคิดเปลี่ยนเป็ นศพมีชีวิต อีก
หน่อยจะต้องเสี ยใจเป็ นแน่
โหยวหนิงถูกฝ่ าเท้าของนางเหยียบจนหน้าจมพื้น ใบหน้าเลอะเทอะ
ไปด้วยโคลนตม นางได้แต่มองตู๋กูซิงหลันด้วยความเคียดแค้น
ตู๋กซู ิงหลันไม่รอให้นางกล่าวตอบ ก็ละความสนใจไปแล้ว นางหัน
ไปมองอี้อ๋องที่ลุกขึ้นยืน “ข้ามีคาพูดจะกล่าวกับท่านเพียงลาพัง”
“ดี เช่นนั้นพวกเราเข้าไปในเรื อนกันเถอะ ” พอจีเย่วจ์ ดจ้องมองดู
นาง เขาก็รีบจัดแจงเสื้ อผ้าของตน ลูบไล้ใบหน้าคิดอยากจะรักษา
ภาพพจน์ของตนในสายตาของนางเอาไว้
พูดจบแล้ว ตู๋กซู ิงหลันก็ซดั ฝ่ ามือใส่ โหยวหนิงจนนางสลบไป นาง
ก้าวขาเรี ยวยาว เดินนาเข้าไปในเรื อน
จีเย่วต์ ิดตามนางมาที่ดา้ นหลัง มองดูเงาหลังและเส้นผมยาวที่พลิ้ว
ไหวประหนึ่งภาพวาดนั้น
ในใจของเขาก็บงั เกิดความอ้างว้างขึ้นมา …..ยามนี้นางล่วงรู ้ฐานะที่
แท้จริ งของเขาแล้ว แล้วนางจะรังเกียจเขาหรื อไม่?
พอคิดถึงสายตาเย็นชาของนางเมื่อครู่ หัวใจของจีเย่วก์ เ็ หมือนจะ
หล่นลงไปในหุบเหว สองขาที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้าก็หน่วงหนืด
ประหนึ่งลากเรื อ
ท่ามกลางฤดูหนาวที่โหดร้าย เขาสวมใส่ เพียงเสื้ อผ้าบาง ๆ ชั้นเดียว
แต่วา่ ร่ างกายกลับไม่รู้สึกเหน็บหนาวเท่าไหร่ เพราะในหัวใจนั้นเย็น
ยะเยือกยิง่ กว่า มันเย็นเฉียบเสี ยจนเขารู ้สึกว่าผิวหนังทุกตารางนิ้วนั้น
เจ็บปวด
จนกระทัง่ เมื่อเห็นตู๋กซู ิงหลันนัง่ อยูข่ า้ งโต๊ะไม้ตวั หนึ่ง เทน้ าชาอุ่น ๆ
ให้กบั เขา จีเย่วถ์ ึงได้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้าง
เขานัง่ ลงตรงข้างนาง ทั้งสองต่างตกอยูใ่ นความเงียบงัน ไอร้อนของ
น้ าชากลายเป็ นควันสายหนึ่ง บดบังใบหน้าให้พร่ าเลือนกว่าเดิม
ที่ขา้ มานี่ ก็เพราะอยากจะให้ท่านยืนยันเรื่ องหนึ่ง ” ครู่ หนึ่ง ตู๋กูซิงห
ลันถึงไปเปิ ดปากเข้าประเด็น “ผูท้ ี่ยยุ งให้โหยวหนิงวางแผนทาร้าย
ข้า ก็คือ เสี ยนไท่เฟย ไม่ใช่ท่าน “
นางใช้ประโยคที่ระบุแน่ชดั ไม่ใช่คาถามแม่แต้นอ้ ย
จีเย่วช์ ะงักไปครู่ หนึ่ง “ในเมื่อเจ้าแน่ใจอยูแ่ ล้ว ก็ไม่จาเป็ นต้องถามข้า
ให้มากความ”
” หากว่าไม่ได้รับคายืนยันจากปากท่านด้วยตนเอง ใจข้าก็ไม่อาจจะ
สงบได้”
จีเย่วม์ องดูดวงตาดอกท้อที่งดงามคู่น้ นั อยูน่ าน ในที่สุดค่อยถอน
หายใจออกมา ” ต่อให้ขา้ คิดจะทาร้ายผูค้ นทั้งโลก ก็ไม่มีทางจะคิด
ทาร้ายเจ้าได้แม้แต่ขมุ ขนหนึ่ง ความผูกพันนับแต่เยาว์วยั นี้ ชัว่ ชีวิตก็
ไม่มีเปลี่ยนได้”
น่าเสี ยดาย…….เจ้ากลับไม่เคยเชื่อในตัวข้ามาก่อน
พูดคานี้ออกมาแล้ว ดวงตาของเขาก็ยงิ่ สะท้อนแววแห่งความเจ็บช้ า
“แต่อีกด้านหนึ่ง ข้าก็เป็ นบุตร มารดากระทาลูกย่อมต้องชดใช้ ข้า
ย่อมต้องรับผิดชอบในฐานะบุตรคนหนึ่ง”
ตู๋กซู ิงหลันนิ่งฟังอย่างละเอียด ยามที่จีเย่วพ์ ดู เรื่ องนี้ออกมา นางก็
รู ้สึกได้อย่างชัดเจนว่า จิตใจที่หลงเหลืออยูข่ องร่ างเดิมกาลังสัน่
สะท้าน
” ไม่ใช่เขา….ไม่ใช่เขา…….เช่นนั้นก็ดีแล้ว ” ในสมองของนางมี
เสี ยงของเจ้าของร่ างเดิมสะท้อนไปมา
สี หน้าของตู๋กซู ิงหลันไม่เปลี่ยนแปลง นางยังคงจ้องมองดูจีเย่ว์
“ดังนั้นเจ้ารู ้ถึงฐานะของเสี ยนไท่เฟยแต่แรกแล้ว อีกทั้งยังรู ้ถึงฐานะ
ของตนเองอีกด้วย? “
จีเย่วเ์ องก็ไม่คิดจะปิ ดบังอะไรนางอีกแล้ว เขาทั้งส่ ายหน้าและพยัก
หน้ารับ “หลังเสด็จพ่อสิ้ นพระชนม์ไปถึงได้รู้ชดั ”
เรื่ องนี้ เขาต้องใช้เวลาอยูน่ านมากถึงจะสามารถคิดตก และยอมรับ
ได้ และเพราะมีฐานะที่แท้จริ งเป็ นเช่นนี้ ทาให้เขาไม่รู้วา่ สมควรจะ
ทาเช่นไรยามเจอหน้ากับหลันเอ๋ อร์ที่เขารักที่สุดดี
เขาอึดอัดขัดแย้งนัก หากว่าหลันเอ๋ อร์แต่งให้กบั เขา บุตรของพวก
เขาในวันข้างหน้าย่อมต้องมีสายเลือดของศพมีชีวิต เช่นนั้นก็น่า
อนาถนัก
แต่เขารักนางอย่างลึกล้ า ไหนเลยจะยอมสู ญเสี ยนางไปได้?
” ตอนนั้นท่านไยจึงต้องออกหน้าบอกให้ขา้ แต่งกับอดีตฮ่องเต้ดว้ ย
ตนเอง? ” ตู๋กซู ิงหลันถามขึ้นมาอีก ข้าจดจาได้อย่างชัดเจน ตอนนั้น
เป็ นท่านเอ่ยปากให้ขา้ ยอมแต่งกับอดีตฮ่องเต้ ส่ งเสริ มความฝันที่จะ
เป็ นฮ่องเต้ของท่าน “
พอจีเย่วไ์ ด้ฟังแล้ว ใบหน้าก็ซีดขาวไปในทันที แม้แต่เส้นขนทัว่ ร่ าง
ก็ลุกซู่ข้ ึนมา
” เป็ นฝี มือของเสี ยนไท่เฟยอีกละสิ ? ” ตู๋กซู ิงหลันคาดเอาไว้ต้ งั แต่
แรกแล้ว ฝี มือแปลงโฉมของชิงผิงยอดเยีย่ มยิง่ นัก ในหากสามารถ
ตบตาหลอกลวงเจ้าของร่ างเดิมได้ เรื่ องนี้กจ็ ะง่ายดายยิง่ นัก
จีเย่วม์ ิได้หาข้อแก้ตวั มาอธิบาย หากแต่พยักหน้าอย่างจาใจ
ที่นางยังไม่รู้กค็ ือ ยามที่เขาได้รู้วา่ นางจะแต่งให้กบั พระบิดานั้น เข้า
พยายามจะไปหานางอย่างสุ ดชีวิต คิดจะขัดขวางนางไว้ แต่กลับถูก
กักขังอยูใ่ นตาหนักฉางเล่อกง ทั้งยังกระอักเลือดออกมามากมายจน
สลบไปในที่สุด ชิงผิงไม่อาจทนดูได้ จึงได้บอกความจริ งแก่เขา
พอเขาสามารถลงจากเตียงได้ คิดจะไปหานางอย่างไม่สนใจสิ่ งใด
อีก……นางก็กลายเป็ นไทเฮาไปเสี ยแล้ว
ระหว่างพวกเขาราวกับมีแผ่นฟ้ามาขวางกั้นไปจนชัว่ ชีวิต
ทางหนึ่งคือมารดาบังเกิดกล้า อีกทางคือหญิงสาวที่ตนรัก
เขาไม่อาจหักหลังใครได้ท้ งั นั้น มีแต่ข้ ึนครองราชย์ได้สาเร็ จ
กลายเป็ นผูม้ ีอานาจและฐานะสู งสุ ดในต้าโจว ถึงจะสามารถปกป้อง
ผูท้ ี่เขาคิดจะปกป้องเอาไว้ได้
” ด้วยหัวใจที่ต๋ ูกซู ิงหลันทุ่มเทให้กบั เจ้า หากไม่ใช่เพราะว่ามารดา
ของเจ้าแทรกแซงมากเกินไป วันนี้แผ่นดินต้าโจวก็คงตกเป็ นของเจ้า
แล้ว ” สายตาของตู๋กูซิงหลันเต็มไปด้วยความเย็นชา “นางไยจะต้อง
ทาเช่นนี้ดว้ ย? “
คาถามนี้ หากว่านางเอาไปถามเสี ยนไท่เฟยเองละก็ เกรงว่าคงจะ
ไม่ได้ความจริ งอะไรออกมา
แต่หากลงมือจากฝั่งจีเย่ว์ ไม่แน่วา่ อาจจะได้ล่วงรู ้อะไรเพิม่ มากอีก
หน่อย
จีเย่วข์ ยับริ มฝี ปากอยูพ่ กั หนึ่ง ค่อยตอบประโยคหนึ่งออกมา
“หลันเอ๋ อร์ เจ้ารู ้หรื อไม่? ทายาทของศพมีชีวิต เมื่อถึงอายุช่วงหนึ่ง
ถึงได้กลายเป็ นศพมีชีวิต ก่อนที่จะกลายสภาพเป็ นเช่นศพนั้น ก็จะ
ยังมีเลือดมีเนื้อเหมือนคนทัว่ ไป “
ตอนที่ 120 เจ้ าเดาสิ ว่านางพูดกับเราว่ าอย่ างไร?
จีเย่วม์ ิได้รอให้ต๋ ูกซู ิงหลันกล่าวคาใดออกมา เขาเผยยิม้ อย่างจืดเจื่อ ”
เมื่อสามปี ก่อน พระมารดาถึงได้ค่อย ๆ กลายเป็ นศพมีชีวิต ช่วงก่อน
หน้านั้น นางมิได้ต่างจากคนธรรมดาแม้แต่นอ้ ย หลังเปลี่ยนเป็ นศพ
มีชีวิตแล้ว นางก็สูญเสี ยประสาทสัมผัส ประสาทการรับรส
ประสาทการดมกลิ่น จากนั้นก็สูญเสี ยโลหิ ตในกายทั้งหมดไป เนื้อ
ตัวเปลี่ยนเป็ นเย็นแข็ง ในร่ างมีแต่กลิ่นไอความตาย เช่นเดียวกับ
กลิ่นศพ ทัว่ ทั้งแคว้นต้าโจวอันยิง่ ใหญ่ในเลยจะมีที่ให้ศพมีชีวิตได้
อยูอ่ ย่างปกติได้? “
“มีแต่กลายเป็ นผูค้ รองแผ่นดินแห่งนี้ เปลี่ยนแปลงกฎบัญญัติช้ ีเป็ นชี้
ตายทั้งหลาย ถึงจะมีโอกาสรักษาชีวิตรอดไว้ได้ ” จีเย่วก์ ล่าวไป
ความเจ็บปวดในดวงตาของเขาก็ยงิ่ พลุ่งพล่านขึ้นมา “ดังนั้นพระ
มารดาจึงไม่อาจรอได้อีกแล้ว หากรอไปอีกวันหนึ่ง โอกาสที่นางจะ
ถูกพบว่าเป็ นศพมีชีวิตก็ยงิ่ มากขึ้น ยามนี้เอง ที่นางตัดสิ นใจเสี ยสละ
เจ้าไป “
และเขา……ก็ไม่ได้ปกป้องนางเอาไว้ให้ดี
จีเย่วพ์ ดู จบแล้ว ตู๋กซู ิงหลันยังคงครุ่ นคิดอยูอ่ ีกพักใหญ่ คาพูดของเขา
ฟังดูคล้ายกับไม่มีปัญหาใดผิดปกติ แต่นางกลับรู ้สึกว่ามีบางสิ่ งที่ไม่
ถูกต้องแฝงอยู่
เสี ยนไท่เฟย …..คล้ายกับมิใช่บุคคลประเภทที่ทาการใดเพื่อให้ตน
ได้มีชีวิตสื บต่อไป
นางหรี่ ตามอง จดจ้องไปยังจีเย่วไ์ ม่คลาย “เจ้าสามารถยืนยันได้หรื อ
ว่า คาพูดที่กล่าวกับข้าในวันนี้เป็ นจริ ง ไม่มีโป้ปดแม้เพียงครึ่ งคา? “
จีเย่วย์ กสองนิ้วขึ้นมาสาบาน “ไม่มีแน่นนอน”
ว่าแล้ว จีเย่วก์ ค็ ่อย ๆ ลดมือลง เขาแตะลงไปบนถ้วยชาาอุ่น ๆ ที่นาง
ริ นไว้แต่เพียงเบา ๆ ยามนี้ เขายังสามารถรู ้สึกถึงไออุ่นจากมันได้
เป็ นอย่างดี
แต่ไม่รู้วา่ สาหรับตัวเขาแล้วความอบอุ่นนี้ จะคงอยูไ่ ด้นานเพียงไร
สักวันหนึ่งเขาเองก็จะต้องเปลี่ยนร่ างกลายเป็ นศพไป กลายเป็ น
ปี ศาจที่ปราศจากความรู ้สึกใด ๆ เมื่อถึงยามนั้น นางจะยังคงยินยอม
หันมามองเขาบ้างหรื อไม่? “
” หลันเอ๋ อร์ วันนี้เจ้าได้รู้ฐานะที่แท้จริ งของข้าแล้ว เจ้าคิด….รังเกียจ
ข้าบ้างหรื อไม่? “
ยามที่ถามคาถามนี้ออกไป หัวใจของเขาก็กระดอนขึ้นลงไม่มีหยุด
ทั้งอยากจะรู ้คาตอบ แต่กก็ ลัวว่าจะได้ยนิ คาตอบที่ตนเองไม่ตอ้ งการ
ตู๋กูซิงหลันครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็ตอบว่า ” ที่ผา่ นมาตู๋กซู ิงหลันย่อมไม่
เคยรังเกียจเจ้า “
หัวใจของจีเย่วอ์ บอุ่นวาบ แม้กระทั้งดวงตาที่มีแต่ความมืดมิดคู่น้ นั
ยังทอประกายสว่างวาวขึ้นมา
แต่วา่ หัวใจของเขายังไม่ทนั จะอบอุ่นดี ก็ได้ยนิ ตู๋กซู ิงหลันตอบว่า
“น่าเสี ยดาย ตู๋กซู ิงหลันในอดีตคนนั้นได้ตายไปเสี ยแล้ว ข้าในวันนี้
ไม่คิดยึดครองเจ้าอีก ย่อมไม่จาเป็ นต้องพูดถึงรังเกียจแล้ว “
จีเย่วพ์ ลันรู ้สึกว่าหัวใจถูกแทงลงไปดาบหนึ่ง ความอบอุ่นที่ได้รับ
เมื่อครู่ สลายไปไม่เหลือสิ่ งใดอีก ทาให้เขาเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่
ออก
นับตั้งแต่ที่นางแต่งให้กบั เสด็จพ่อไปในวันนั้น ก็ไม่เหลือหัวใจ
ให้กบั เขาอีกแล้วหรื อ?
” แต่วา่ อี้อ๋อง ตัวท่านเองเถอะ ได้ฟังโหยวหนิงพูดเรื่ องที่พระมารดา
ของท่านถูกทาร้ายด้วยมือของข้า ท่านไม่เกลียดชัง ไม่เคียดแค้น
หรื อ? “
จีเย่วก์ มุ หัวใจตนเองไว้ “ไม่วา่ เจ้าจะทาสิ่ งใด ข้าก็จะไม่โทษเจ้า”
ความทุกข์ทรมานที่นางได้รับนับตั้งแต่เข้าวังมา มีมากมายจนเขา
คาดคิดไม่ถึง และทั้งหมดนั้นล้วนเกิดจากฝี มือของพระมารดา แต่
เขากลับไม่อาจทาสิ่ งใดได้ ถึงวันนี้แม้ตอ้ งเผชิญกับผลลัพธ์ที่เช่นนี้
เขาก็ไม่มีสิทธ์จะไปตาหนินาง ยิง่ ไม่มีเหตุผลจะไปชิงชังนาง
เขาได้แต่เกลียดตัวเอง ที่ไม่มีอิสระ ไม่มีอานาจ
เขาเกลียดที่ตนเองไม่แข็งแกร่ งเพียงพอ เกลียดที่ตนเองไม่กล้าลงมือ
ให้เด็ดขาด ไม่อาจทาเพื่อนางโดยไม่สนใจสิ่ งใดทั้งสิ้ น
เมื่อตู๋กซู ิงหลันได้เห็นเขาเปิ ดเผยจนหมดสิ้ นเช่นนี้ หัวใจของนางก็
ถูกความรักความผูกพันของเจ้าของร่ างเดิมกระตุน้ ความรู ้สึกขึ้นมา
ทาให้ใจของนางสัน่ ไหวด้วยความเจ็บปวด
เรื่ องราวในโลกล้วนไม่ธรรมดา ต้องถือว่าชะตาฟ้าทาร้ายผูค้ น
ยามเมื่อตู๋กซู ิงหลันจะจากไป นางมอบน้ ามนต์ให้กบั จีเย่วข์ วดหนึ่ง
นัน่ เป็ นสิ่ งที่นางใช้โลหิตของวิญญาณทมิฬวาดยันต์กาเนิดชีวิต
ขึ้นมา และใช้น้ าค้างมาหลอมรวมจนสาเร็ จ
ในโลกมิติก่อนหน้านี้ นามนต์เช่นนี้มกั ใช้เพื่อล้างพิษทั้งหลาย
ถึงแม้วา่ ในวันนี้จะไร้หนทางที่จะสะกดพิษที่อยูใ่ นสายเดือดของจี
เย่ว์ แต่วา่ อย่างน้อยก็ยงั สามารถยืดเวลาออกไปได้อีกหลายปี ถือว่า
เป็ นสิ่ งที่นางใช้ทดแทนความรักสุ ดชีวิตสุ ดจิตใจของเจ้าของร่ างเดิม
ก็แล้วกัน
……………………………………
ยามที่นางกลับไปถึงพระตาหนักตี้หวั นั้น ท้องฟ้าก็มืดมิดไป
หมดแล้ว
แต่วา่ ยังสามารถมองเห็นฮ่องเต้ที่ประทับอยูบ่ นเก้าอี้กยุ้ เฟยของนาง
ได้อย่างชัดเจน ท่ามกลายหิมะน้อย ๆ กาลังโปรยปราย เขาเอาแต่จด
จ้องดูนางจนเสมือนกับวิญญาณตนหนึ่ง
หากนางกลับมาช้ากว่านี้เพียงเล็กน้อย เขาจะต้องให้ราชองครักษ์
ประจาตัว ไปจับตัวนางกลับมาตาหนักเย็นเป็ นแน่!
หลี่กงกงยืนอยูข่ า้ งองค์ฮ่องเต้ คอยถือร่ มถวาย สองมือของเขาเย็น
แข็งดุจเดียวกับหัวไชเท้าไปแล้ว ทันทีที่มองเห็นไทเฮาน้อยเสด็จ
กลับมา สองตาก็เขาก็เป็ นประกายวิบวับ รี บกราบทูลว่า “ไทเฮาพะ
ยะค่ะ พระองค์เสด็จกลับมาแล้วว~”
หากว่าช้าไปอีกนิดละก็ เขาคงกลายเป็ นน้ าแข็งไปแล้ว!
ไม่รู้วา่ ฝ่ าบาททรงเป็ นอะไรไปกันแน่ จะต้องเสด็จลงมาตากหิ มะรอ
อยูต่ รงนี้ให้จงได้ ไม่วา่ เขาจะคะยั้นคะยอขอร้องเพียงไรก็ลว้ นไม่
ได้ผล
ดูเอาถอะ……ตั้งแต่ตอนที่อยูใ่ นจวนตระกูลตู๋กูแล้วโดนไทเฮาน้อย
กระทาเรื่ องพรรค์น้ นั เข้า……พอกลับมาก็ไม่ยอมห่างจากไทเฮาเลย
” ไทเฮาพะยะค่ะ หมอหลวงซุนได้ส่งยาของวันนี้มาแล้ว น้ าร้อนใน
พระตาหนักตี้หวั ก็ตม้ ไปถึงห้ารอบแล้ว ยามนี้เพียงแต่รอพระองค์ลง
มือผสมเท่านั้น “
ตู๋กซู ิงหลันฟังดูคาพูดเหล่านี้แล้วอดจะทาหน้าแปลก ๆ ไม่ได้ ว่าไง
นะ จะให้นางไปช่วยต้มน้ าหรื อไง?
จีเฉวียนสวมใส่ ฉลองพระองค์ชุดยาว พระพักตร์ที่สง่างามนั้นมี
ละอองหิมะเกาะอยูบ่ าง ๆ เมื่อตู๋กซู ิงหลันเดินเข้าไปใกล้ถึงได้ตรัสว่า
“เข้าไปด้านใน”
ทันทีที่มีรับสัง่ หลี่กงกงก็สงั่ ให้คนเข้ามายกฮ่องเต้ไปทั้งเก้าอี้เข้าไป
ยังเรื อนปี กข้างของพระตาหนัก
ที่นี่เป็ นห้องสรงที่จีเฉวียนทรงใช้อยูเ่ ป็ นประจาทุกวัน เรี ยนว่า
สระเย่วหัว
สระน้ าจัดสร้างเป็ นรู ปดอกกุย้ ฮวา (ดอกไม้หอมห้ากลีบ) สามารถให้
ผูค้ นยีส่ ิ บคนลงแช่น้ าได้พร้อม ๆ กัน
ทั้งสี่ ดา้ นล้อมด้วยกาแพงกระจกสี กระทัง่ หลังคาก็ยงั เป็ นกระจกแก้ว
ทาให้แสงเดือนและแสงดาวสามารถส่ องสว่างลงมาได้ จนทั่้ วทั้ง
ห้องสรงดูเรื องรองระยิบระยับ
ภายในสระมีไอน้ าหมุนวน ทั้งยังมีกลิ่นยาสมุนไพรเข้มข้นไม่นอ้ ย
ฮ่องเต้ทรงถอดฉลองพระองค์ตวั นอกออกไป เหลือเพียงฉลอง
พระองค์ตวั ในที่บางและขาวดุจหิมะ ชาววังเข้ามาประคองพระองค์
ลงไปในสระน้ า จากนั้นก็โปรยกลีบดอกกุย้ ลงไปอีกชั้นหนึ่ง ภาพที่
ปรากฎเบื้องหน้างดงามเหนือธรรมดายิง่
ค่าคืนนี้ไร้แสงจัทร์ ในห้องจึงจุดเทียนมากมาย ภายใต้แสงสะท้อน
กระจกแวววาม ทัว่ ทั้งสระน้ าเย่วหัวจึงงดงามเหนือบรรยาย
ฮ่องเต้เจ้าชีวิตทรงสนานอยูใ่ นสระน้ า พระวรกายตลอดพระองค์อยู่
ในน้ า แต่สระไม่ลึก ไม่ได้ท่วมถึงไหปลาร้าของพระองค์ พระเกศา
ทั้งหมดถูกปล่อยออกมา ดูราวกับสาหร่ ายที่หมุนพันอยูใ่ นน้ า ดวง
พักตร์ที่งดงามล้ าเลิศนั้นเพราะถูกความร้อนในน้ าเข้า จึงปรากฎ
สี สนั ที่ธรรมดาไม่เคยได้เห็นขึ้นมา
ในช่วงเวลานั้นเอง ในสมองของตู๋กูซิงหลันพลันปรากฎคาหนึ่ง
ขึ้นมา — จอมมาร
เจ้าฮ่องเต้ที่น่ารังเกียจผูน้ ้ ี กลับเป็ นไอ้หนุ่มที่ได้รับใบหน้าอันล้ าเลิศ
จากสรวงสวรรค์ ทั้งรู ปโฉมและเรื อนร่ างเช่นนี้ช่างล้ าเลิศนัก เมื่อ
ปลดเปลี้องเครื่ องทรงประจาพระองค์ฮ่องเต้ออกไป เหลือเพียง
รู ปลักษณ์ตามธรรมชาติ ก็ดูเย้ายวนน่ามองไปจนถึงแก่นกระดูก
นางยืนอยูท่ ี่ริมสระเย่วหัวอย่างไม่รู้วา่ ตนเองสมควรจะทาสิ่ งใดดี
ไอ้หนุ่มนัน่ สัง่ ให้นางมาคอยรับใช้เวลาแช่ยาตลอดครึ่ งเดือนนี้ แต่
พอนางมาถึงกลับไม่มีเรื่ องใดให้นางต้องลงมือกระทาแม้แต่นอ้ ย จะ
ปล่อยให้นางได้ชมดูพระพักตร์ที่งามล้ าหาใดเปรี ยบและพระวรกาย
ที่ล้ าค่าดุจทองคาแบบนี้นะหรอ?
หลังจากที่ชาววังทั้งหลายจัดแจงทุกสิ่ งเรี ยบร้อยแล้ว ก็พากันถอย
ออกไป เพียงชัว่ ขณะเดียวทัว่ ทั้งพระตาหนักเย่วหัวก็เหลือเพียงพวก
เขาสองคน
ฮ่องเต้ประทับนัง่ อยูใ่ นสระ สองพระหัตถ์พาดอยูบ่ นขอบสระ ดวง
เนตรหงส์ปิดลง ตรัสถามออกมาเบา ๆ ว่า ” ไปเจออี้อ๋องมาหรื อ? “
ตู๋กูซิงหลัน “อืม”
” เขาทาให้เจ้าลาบากใจหรื อไม่”
” ไม่มีหรอก ” ตู๋กูซิงหลันส่ ายศีรษะ
เจ้าจัดการพระมารดาของเขาเสี ยจนเป็ นเช่นนี้ เขากลับไม่ตดั พ้อแม้
เพียงครึ่ งคา นี่เป็ นความรักแท้หรื อว่าแสร้งเป็ นน่าสงสารกันแน่? “
ตู๋กซู ิงหลัน “…..” นี่เขากาลังพูดเรื่ องประหลาดอันใดอยูก่ นั แน่?
ครู่ ต่อมา จึงเห็นพระองค์ลืมพระเนตรขึ้น จดจ้องมองนางอย่าง
ตรงไปตรงมา “วันนี้เราได้พบเสี ยนไท่เฟยอีกครั้ง เจ้าเดาดูสิวา่ นาง
กล่าววาจาใดกับเรา? “
ตอนที่ 121 องค์ หญิงองค์ สุดท้ าย
ตู๋กูซิงหลันนัง่ ลงบนม้านัง่ ตรงข้ามสระน้ า สุ่ มหยิบเอาผลไม้ที่แวว
วาวดุจอัญมณี ข้ ึนมาลูกหนึ่ง ค่อยหันไปคลี่ยมิ้ น้อย ๆ ให้พระองค์
ผลไม้ที่แดงสดใสนั้นถูกคีบอยูบ่ นปลายนิ้ว ประกบลงไปบนกลีบ
ปากที่แดงฉ่ าปานกลีบดอกไม้น้ นั อย่างช้า ๆ เมื่อกัดเข้าไปคาหนึ่ง ก็
ปรากฎน้ าผลไม้สีแดงใสออกมา น้ าผลไม้บนริ มฝี ปากไหลลงไปถึง
ปลายคาง
จากนั้นค่อยหยดลงไปบนลาคอที่งามระหง ตู๋กูซิงหลันใช้ปลายนิ้ว
ลูบเช็ดขึ้นมาเบา ๆ น้ าผลไม้ที่เปรอะบนปลายนิ้ว ถูกนางละเลียดลง
ไปคาหนึ่ง จากนั้นค่อยหันไปตอบคาถามจีเฉวียน “ฝ่ าบาท ทรงเดาสิ
เพคะว่าหม่อมฉันจะเดาหรื อไม่? “
ไอน้ าระเหยเป็ นม่านหมอก จีเฉวียนมองดูกิริยาของนาง ช่างเป็ นนาง
มารที่ล่อลวงวิญญาณผูค้ นโดยแท้
เพียงแค่ดวงตาดอกท้อคู่น้ นั ก็ราวกับบึงน้ าลึกสุ ดหยัง่ ที่ดึงดูดผูค้ น
ให้จมลงไป
ทั้ง ๆ ที่การแต่งกายของนางมิได้งดงามเลยสักนิด ถึงขั้นที่สามารถ
เรี ยกได้วา่ จืดชืดไร้ความน่าดู แต่วา่ ในช่วงขณะนั้นกลับทรงรู ้สึกว่า
ไม่อาจละสายพระเนตรไปจากนางได้ ราวกลับว่าแสงสว่างใด ๆ ใน
สระเย่วหัวล้วนถูกนางกลบรัศมีไปเสี ยจนสิ้ น
ไม่รู้วา่ ตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั นับตั้งแต่ที่ฮ่องเต้ทรงรู ้สึกว่าสตรี ผนู ้ ้ ีพอดู
ได้ไม่ขดั หูขดั ตาอยูบ่ า้ ง พระองค์กย็ งิ่ มองดูกย็ งิ่ รู ้สึกว่านางน่าดูมาขึ้น
เรื่ อย ๆ น่าดูจนถึงขนาดที่ทรงรู ้สึกว่าน่าดึงดูดเสี ยแล้ว
ฝ่ าบาททรงรู ้สึกว่าพระองค์ประชวรเข้าแล้ว! ทั้งยังประชวรไม่นอ้ ย
ทีเดียว! นี่จะต้องเป็ นเพราะว่าสายพระเนตรเกิดปั ญหาขึ้นแล้วเป็ น
แน่
ความสามารถทางการแพทย์ของหมอหลวงซุนอย่างไรเสี ยก็ตอ้ งมี
ขีดจากัดจึงได้ตรวจไม่พบพระอาการประชวร สมควรที่จะทรงมี
รับสัง่ ให้เรี ยกตัวหมอที่มีฝีมืออีกสักชุดเข้ามาในวังแล้ว
ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่ถึงได้รู้สึกพระองค์ข้ ึนมา ทรงหรี่ พระเนตรหงส์
มองดู “เจ้าเดาสิ วา่ เราจะเดาเจ้าหรื อไม่เดา? ดูท่าเจ้าจะดื้อดึงมาก
เกินไปแล้ว คาถามของเรา มีหรื อให้เจ้าถามกลับได้? “
สมควรจับตัวนางมาฟาดยิง่ นัก นางจะได้รู้วา่ อะไรคือรับสัง่ ฮ่องเต้
ไม่อาจขัดขืน!
ตู๋กูซิงหลันยังลิ้มรสผลไม้สีแดงนั้นต่อไป กลีบปากของนางถูกย้อม
ไปด้วยน้ าผลไม้ ทาให้ริมฝี ปากนั้นดึงดูดผูค้ นมากกว่าเดิม นางหัน
มาคลี่ยมิ้ อ่อนหวานให้กบั จีเฉวียน “ฝ่ าบาท พระองค์กท็ รงรู ้วา่ ข้าโง่
เขลา ไหนเลยจะคาดเดาได้วา่ เสี ยนไท่เฟยกล่าวอะไรไป? ขอทรง
โปรดเมตตาอย่าปิ ดบัง อย่าได้กลัน่ แกล้งหม่อมฉันอีกเลยเพคะ “
น้ าเสี ยงของนางนุ่มนวลอ่อนหวาน ทั้งยังมีอารมณ์ของสาวน้อยอยู่
หลายส่ วน
เมื่อมองดูนางผ่านไอน้ า จีเฉวียนก็เกือบจะถลาตัวเชื่อคาพูดไร้สาระ
เหล่านั้นเข้า เขาขยับตัวเปลี่ยนอริ ยาบท จนน้ าในสระเกิดแรง
กระเพื่อม
” นางเตือนเราเรื่ องท่านย่าของเจ้า เจียงเย่วฮูหยิน “
ตู๋กูซิงหลัน “เอ๋ ? “
จีเฉวียนมิได้รีบร้อนอธิบายให้นางฟัง หากถามกลับว่า ” เจ้าเคยได้
ยินเรื่ องแคว้นต้าเย่วหรื อไม่? “
นางทางหนึ่งกินผลไม้ทางหนึ่งก็ผงกศีรษะอย่างไม่ใส่ ใจเท่าใด “ก็
ได้ยนิ มาบ้าง”
หลังจากที่เกิดคดีของเสี ยนไท่เฟยแล้ว ทัว่ สังคมภายนอกผูค้ นต่างก็
ถกเถียงเรื่ องแคว้นต้าเย่วกันใหญ่ นางจะอย่างไรก็ได้ฟังมาบ้างเล็ก ๆ
น้อย ๆ ต่างก็ไม่พน้ เรื่ องแคว้นต้าเย่วมีทหารศพมีชีวิตอยูจ่ านวนหนึ่ง
และเสี ยนไท่เฟยมีความเกี่ยวพันกับแคว้นต้าเย่ว
” เช่นนั้นเจ้าเคยได้ยนิ คนในครอบครัวพูดไหมว่า เสี ยนไท่เฟยและ
เจียงเย่วฮูหยินมีความสัมพันธ์ต่อกันเช่นไรแน่? “
พอจีเฉวียนถามคาถามนี้ออกมา ตู๋กซู ิ งหลันก็ชะงักไปเล็กน้อย นาง
ทราบดีวา่ ที่ผา่ นมาตระกูลตู๋กดู ีต่อเสี ยนไท่เฟยอย่างยิง่ แต่วา่ ที่
แท้จริ งแล้วมีความสัมพันธ์เช่นไร กลับไม่เคยได้ยนิ มาก่อน
“ดูจากกิริยาของเจ้าแล้ว ก็จะไม่ทราบเป็ นแน่ ” จีเฉวียนดึงสายตา
กลับมา มองดูกลีบดอกกุย้ ที่ลอยอยูบ่ นสระน้ า สายพระเนตรพลัน
อึมครึ มขึ้นมาอีก
ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่พระองค์จึงได้ตรัสว่า ” เสี ยนไท่เฟย เดิมชื่อว่า
เจี่ยงเวย เมื่อสามสิ บปี ก่อน ภายใต้ความขัดสนไร้หนทางจึงถูกเจียง
เย่วฮูหยินรับตัวไว้ ต่อมา ภายใต้การจัดการของเย่วฮูหยิน เจี่ยงเว
ยได้กลายเป็ นนางกานัลพระจาพระองค์ของเสด็จแม่ “
” ไม่ตอ้ งคิดก็รู้เลยว่า ตั้งแต่วนั นั้นที่นางได้พบกับเสด็จแม่ ก็เป็ น
หมากที่เย่วฮูหยินวางเอาไว้ “
ตู๋กซู ิงหลันตั้งใจฟังอย่างละเอียด จนหัวคิ้วขมวดมุ่น “ความหมาย
ของฝ่ าบาทก็คือ เสี ยนไท่เฟยเป็ นคนของท่านย่าหม่อมฉัน? นาง
ตั้งใจส่ งตัวเสี ยนไท่เฟยมาอยูข่ า้ งกายฉางซุนฮองเฮา เพื่อให้ได้
ใกล้ชิดกับอดีตฮ่องเต้? “
ข้อมูลนี้มีที่มายิง่ ใหญ่ไม่นอ้ ย แต่นางกลับคิดหาสาเหตุที่ท่านย่า
ต้องการกระทาเช่นนั้นไม่ออก
จีเฉวียนเหลือบตามองดูนางคราหนึ่ง “เจ้าไม่ใช่คนโง่จริ ง ๆ “
ตู๋กซู ิงหลันยังไม่คลายมือจากผลไม้ นางกัดลงไปอีกคาใหญ่ดว้ ย
ความประหลาดใจ “ฝ่ าบาทส่ งปรี ชากล้าหาญเหนือผูค้ น คาพูดของ
นางเพียงไม่กี่คา ก็ทรงเชื่อแล้วหรื อ? “
” เจ้าไม่จาเป็ นต้องมาทายกยอเสริ มหมวกให้เรา เรามิใช้ผนู ้ าที่มวั เมา
ทั้งยังไม่ใช่ตวั โง่เขลา ” ผิวบนพระพักตร์ของฝ่ าบาทถูกยาในสระรม
จนมีเหงื่อออกบาง ๆ ชั้นหนึ่ง ความเจ็บปวดที่มีอยูก่ ผ็ อ่ นคลายลง
เล็กน้อย
พระองค์ประทับยืนอยูก่ ลางสระ เสด็จเข้าไปใกล้ต๋ ูกูซิงหลันอีก
หลายก้าว คนช่างงดงาม รู ปร่ างก็ยงิ่ เลิศล้ า แต่วา่ ท่วงท่ายามเดินเหิ น
กลับกระบิดกระบวยอยูบ่ า้ ง
หากไม่ใช่เพราะตู๋กซู ิงหลันรู ้วา่ เขาได้รับบาดเจ็บ คงจะต้องสงสัยแน่
ว่า เขาถูกท่านราชครู รังแกจับพลิกคว่าบนเป็ นล่างมาแน่นอน
กระทัง่ ในที่สุดยามเมื่อเขาเสด็จเข้ามาใกล้ต๋ ูกูซิงหลัน ก้าวผ่านไอน้ า
ที่บดบังนางไป เขาก็ตรัสอีกว่า ” ดอกไฮ่ถางในพระตาหนักเฟิ งหมิง
และตระกูลตู๋กู ที่ใดผลิบานได้งดงามกว่ากัน? “
พออยูด่ ี ๆ ก็ถูกถามขึ้นมาเช่นนี้ ในสมองของตู่กซู ิงหลันก็บงั เกิด
เครื่ องหมายคาถามขึ้นมาทันที
“ความหมายของฝ่ าบาทก็คือ…….”
จีเฉวียนจ้องมองนาง ก็เห็นว่าสี หน้าของตู๋กซู ิงหลันแปลกประหลาด
ไปในทันที
พระองค์คลายพระขนง สตรี ผนู ้ ้ ีฉลาดล้ าจริ ง ๆ เพียงแค่กระตุน้ ก็รู้ได้
ทันทีวา่ ปัญหาอยูท่ ี่ใด
นี่กส็ มควรอยูบ่ า้ ง อาศัยฝี มือของนางเพียงคนเดียวก็สามารถล่อลวง
ให้เสี ยนไท่เฟยกระโดดลงไปในกับดักได้ นางจะเป็ นคนโง่ไปได้
อย่างไร
พอเขาครุ่ นคิดถึงตรงนี้ ก็ได้ยนิ นางกล่าวออกมาว่า “ฝ่ าบาท
พระองค์คงมิได้พอพระทัยในสวนไฮ่ถางของบ้านเรา คิดจะสัง่ ให้
คนไปขุดมาใช่ไหม? ยามนี้เป็ นฤดูหนาวแล้ว ต้นไม้ยากที่จะรอด
ชีวิตได้ ดอกไฮ่ถางในพระตาหนักเฟิ่ งหมิงก็งดงามมากอยูแ่ ล้ว ไม่
จาเป็ นต้องเอาที่บา้ นของหม่อมฉันมาหรอกมั้ง? “
สมองของสตรี ผนู ้ ้ ี ทาไมวัน ๆ ถึงได้เอาแต่พะวักพะวงอยูก่ บั สมบัติ
ข้าวของมีค่า!
” ก็พระองค์ทรงเอามาทุกอย่าง แม้แต่เก้าอี้กยุ้ เฟยของหม่อมฉันยังยก
มาด้วย…..” ตู๋กซู ิงหลันยังไม่ลืมเตือนเขาเสี ยงเบา
ไม่ตอ้ งพูดถึงว่าเก้าอี้ตวั นี้ของนางนัง่ สบายหรื อไม่ แค่มองดูอญั มณี
เม็ดใหญ่ที่ฝังอยูบ่ นนั้น คนก็รู้สึกอารมณ์ดี ผ่อนคลายอย่างบอกไม่
ถูกแล้ว
จีเฉวียน “………” แค่เก้าอี้ตวั เดียว มันสาคัญมากขนาดนั้นเลยหรื อ?
เอาแต่เสี ยดายไม่ยอมยกให้เขาอยูไ่ ด้ นี่ยงั คิดจะทวงกลับไปอีกรึ !
ผูค้ นมากมายคิดจะมอบสิ่ งของให้เขา เขายังไม่เหลือบแลแม้แต่นอ้ ย!
อย่าว่าแต่ ใครกันที่เคยกล่าวเอาไว้ต้ งั แต่แรก ว่าจะดูแลเขาเหมือนดัง่
บุตรในอุทร นี่นางดูแลลูกแบบนี้หรื อไง?
พอไม่ทนั ระวัง ฮ่องเต้กถ็ ูกนางลากออกนอกเรื่ องไปแล้ว “เก้าอี้ที่
ได้รับความโปรดปรานจากร่ างกายของเรา ก็ยอ่ มต้องเป็ นของเรา
หากว่าเจ้ายังเสี ยดายละก็ เราอนุญาตให้เจ้ามานัง่ ที่พระตาหนักตี้หวั
ได้บ่อย ๆ
พอได้ฟังเข้า เจ้าวิญญาณทมิฬก็โผล่ออกมาอีกครั้ง! “เจ้าฮ่องเต้สุนขั
นี่คือพวกจี้ปล้นโดยแท้! หลัน ๆ จะให้อ้วั ลงมือกัดเขาอีกรอบไหม?
ตอนนี้ขา้ รู ้แล้วว่าควรจะงับลงไปที่ตรงไหน ฮืม ๆ “
” คราวนี้รับรองว่าต้องสาเร็ จ เอาให้มนั สิ้ นลูกสิ้ นหลานไปเลย”
ตู๋กซู ิงหลันกรอกตามองเจ้าถวนจื่อบนบ่า ก็เห็นใบหน้าของมันแสยะ
แยกเขี้ยว กระเ**้้ยนกระหือรื อเสี ยจนมือป้อม ๆ นั้นสัน่ น้อย ๆ
พอสมองของนางลองจินตนาการภาพเจ้าวิญญาณทมิฬกัดฮ่องเต้ใน
สมอง นางก็รู้สึกขนอ่อนลุกทัว่ ตัว คนก็พลอยรู ้สึกตะครั่นตะครอไป
ด้วย
นางรี บจัดการกดหัวมันกลับลงไปในทันที จากนั้นพอหันกลับก็
พบว่าฝ่ าบาทผูถ้ ูกนินทาอยูน่ ้ นั กลับไปมีสีพระพักตร์เป็ นภูเขาน้ าแข็ง
อีกครั้ง
” พระตาหนักเฟิ่ งหมิง เป็ นสถานที่ที่ปฐมกษัตริ ยท์ รงสร้างขึ้นเพื่อ
สตรี ในดวงใจ เพราะได้ฟังว่าสตรี ผนู ้ ้ นั ชื่นชอบดอกไฮ่ถางเป็ นอย่าง
ยิง่ ดังนั้นทัว่ ทั้งพระตาหนักเฟิ่ งหมิงจึงเต็มไปด้วยดอกไฮ่ถาง “
จากนั้น นางก็ได้ยนิ ฮ่องเต้ตรัสเสริ มอีกว่า “องค์หญิงองค์สุดท้ายของ
แคว้นกู่เย่ว์ ก็โปรดปรานดอกไฮ่ถางเป็ นอย่างมาก “
ตอนที่ 122 แรงดึงดูดมหาศาล
” ผูค้ นใต้หล้าต่างพูดกันว่า ยามที่ปฐมกษัตริ ยเ์ สด็จปราบปรามแคว้น
กู่เย่ว์ ได้ประหารชาวเผ่ากู่เย่วจ์ นสิ้ น แต่กลับไม่ทราบว่า ปฐมกษัตริ ย ์
ทรงละเว้นชีวิตของคนผูห้ นึ่งไว้ ทั้งยังนาตัวนางกลับมายังเมือง
หลวงด้วย “
“สตรี ที่ถูกนากลับมาจากแคว้นกู่เย่วผ์ นู ้ ้ นั แม้ตายก็ไม่ขอยอมเข้าวัง
สุ ดท้าย นางก็แต่งให้กบั ตระกูลตู๋กู กลายเป็ นนายหญิงของตระกูลตู๋กู
ไป “
ตรัสแล้ว จีเฉวียนก็ทรงเหลือบพระเนตรมองม้วนอักษรไม้ไผ่บน
โต๊ะข้างตัวนาง “สิ่ งนี้เป็ นสารลับของปฐมกษัตริ ยท์ ี่เก็บงาอยูใ่ นพระ
ตาหนักเฟิ งหนิง ทั้งหมดคือบันทึกยามที่ปฐมกษัตริ ยท์ รงคิดคานึงถึง
นาง “
บันทึกที่เก็บซ่อนความคะนึงหาและความรักทั้งหมดที่ปฐมกษัตริ ย ์
ทรงมีให้กบั เย่วฮูหยินถูกเก็บรักษาเอาไว้บนชั้นบนสุ ดของหอสู งใน
พระตาหนักเฟิ งหนิง กุญแจประจาหอสู งนั้นมีแต่ฮ่องเต้ในแต่ละรุ่ น
สามารถถือครองไว้
ปฐมกษัตริ ยท์ รงทิ้งรับสัง่ เอาไว้ หลังจากที่ฮ่องเต้องค์ต่อ ๆ ไปขึ้น
ครองราชย์ จะต้องเสด็จมาเปิ ดดูหอ้ งชั้นบนของพระจาหนักเฟิ งหนิง
ด้วยพระองค์เอง ทาความเข้าพระทัยความสัมพันธ์ที่ผา่ นมาของต้า
โจวและแคว้นกู่เย่ว์ ทั้งยังมีราชโอการให้ฮ่องเต้ในรุ่ นหลังล้วนต้อง
ให้ความเคารพต่อเย่วฮูหยิน
ทั้งยังย้าเตือนพวกเขาเรื่ องการครองตนของผูน้ า อย่าได้กระทา
ผิดพลาดเช่นที่พระองค์ทรงเคยกระทาในตอนนั้น
ดังนั้นจีเฉวียนจึงทรงทราบฐานะของเย่วฮูหยินตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อได้
พบเจอกับเรื่ องประหลาดลี้ลบั ต่าง ๆ ในสุ สานของเย่วฮูหยิน เขาจึง
ได้ไม่ประหลาดใจอันใด
รวมถึง ยามที่ได้เห็นว่าตู๋กซู ิงหลันมีความสามารถในการใช้ยนั ต์และ
ปราบปี ศาจพวกนั้นด้วย เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าแปลกประหลาดจนเกิน
เลย เพราะเดิมที่แคว้นกู่เย่วเ์ องก็เต็มไปด้วยเรื่ องประหลาดลี้ลบั
เหล่านี้อยูแ่ ล้ว นางซึ่งเป็ นทายาทรุ่ นหลังของเย่วฮูหยิน จะมี
ความสามารถแปลก ๆ พวกนี้อยูบ่ า้ ง ก็อยูใ่ นความคาดคะเนของเขา
อยูแ่ ล้ว
แต่วา่ ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ ระหว่างเสี ยนไท่เฟยและเย่วฮูหยินยังมี
ความสัมพันธุ์อีกชั้นหนึ่งอยูด่ ว้ ย
บันทึกไม้ไผ่ที่อยูบ่ นโต๊ะเหล่านั้น เป็ นเพียงส่ วนหนึ่งของสิ่ งของล้ า
ค่าของปฐมกษัตริ ยท์ ี่เก็บเอาไว้ในหอสู ง นี่เป็ นเพียงเรื่ องราวความรัก
ของชายหญิง แต่ไม่ได้เปิ ดเผยความเล้นลับใด ๆ
ตู๋กซู ิงหลันเปิ ดออกดู ประโยคแรกนั้นเขียนไว้วา่ “เจียงเย่วที่รักของ
เรา…..”
เนื้อหาล้วนหนีไม่พน้ ความคิดคานึงสุ ดหยัง่ ความเจ็บปวดรวดร้าว
โศกเศร้า และเสี ยดาย
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่าสองมือเหน็บชาไปหมดราวกับขาดเลือด!
ในสมองของนางยามนี้สบั สนวุน่ วายไปหมด…….หลังจากครุ่ นคิด
จัดลาดับอยูอ่ ีกครึ่ งค่อนวันถึงได้ขอ้ สรุ ปออกมาบ้างเล็กน้อย
” ความหมายก็คือ ท่านย่าของข้าเป็ นองค์หญิงของแคว้นกู่เย่ว์ ปู่ ของ
ท่านกับปู่ ของข้าเป็ นศัตรู ความรักกัน? ท่ามกลางความรักสามเส้าที่
วุน่ วายนี้ ปู่ ของข้าคือผูท้ ี่ได้ชยั ในที่สุด? ท่าเช่นนั้นปู่ ของข้าก็นบั ว่า
สุ ดยอดไปเลย! แม้แต่สตรี ในดวงใจของปฐมกษัตริ ยก์ ็กล้าแย่งมา
เจ๋ ง! “
ดูเอาสิ ในบันทึกลับของปฐมกษัตริ ยน์ ้ ีเต็มไปด้วยความคิดคะนึงหา
อย่างที่สุด เรี ยกว่าแทบจะควักหัวใจออกมาเลย
ท่านปู่ สามารถชิงท่านย่ามาจากพระหัตถ์ของเขาได้ นับว่ายอดเยีย่ ม
อย่างแท้จริ ง!
จีเฉวียน “…..” เขาไม่เข้าใจจริ ง ๆ ว่าทาไมการจับประเด็นของตู๋กู
ซิงหลันถึงได้ประหลาดถึงเพียงนี้
” ดูท่าเจ้ายังฟังคาพูดของเราไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ นกั ” สี พระพักตร์
ของจีเฉวียนเย็นชาอย่างยิง่ “แคว้นต้าโจวปราบปรามแคว้นกู่เย่ว์ เย่ว
ฮูหยินคือผูส้ ื บทอดสายโลหิ ตของผูค้ รองแคว้น การที่นางอบรมดูแล
เสี ยนไท่เฟยมาด้วยตนเอง มีสิทธิ์อย่างมากที่จะทาไปเพือ่ ทาลาย
แคว้นต้าโจว”
ตู๋กซู ิงหลันลูบปลายคางอย่างครุ่ นคิด หากว่าเรื่ องนี้เป็ นจริ งละก็ ด้วย
ความโกรธแค้นที่ล่มชาติ ทาลายล้างบ้านเมือง หากว่าท่านย่าคิดจะ
ล้างแค้นก็นบั ว่าเข้าใจได้อยู่
ปฐมกษัตริ ยค์ ือศัตรู คู่แค้นที่ไม่อาจอยูร่ ่ วมฟ้าเดียวกัน นางย่อมไม่มี
ทางยอมแต่งให้กบั ปฐมกษัตริ ยเ์ ป็ นแน่
ดังนั้นจึงได้อบรมเลี้ยงดูเสี ยนไท่เฟยขึ้นมา เหตุผลเช่นนี้กพ็ อจะ
กล่าวได้อยู่
แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว ตู๋กซู ิงหลันก็ตอบกลับว่า “หากว่านางคือคนที่
ท่านย่าของหม่อมฉันอบรมเลี้ยงดูจริ ง ๆ ละก็ สมควรที่จะดูแลทะนุ
ถนอมหม่อมฉันต่างหาก หากว่าไม่ใช่เพราะว่าหม่อมฉันมีไหวพริ บ
อยูบ่ า้ ง ก็คงจะถูกนางให้ร้ายจนกลายเป็ นปี ศาจ ถูกเผาเป็ นขี้เถ้าไป
แล้ว “
” ยิง่ ไปกว่านั้น ท่านย่าก็จากโลกนี้ไปนานหลายปี แล้ว ปากอยูบ่ น
ร่ างของเสี ยนไท่เฟย นางคิดจะใส่ ความท่านย่าของหม่อมฉันอย่างไร
ท่านย่าก็ไม่มีโอกาสอธิบายแก้ต่างได้ เรื่ องนี้มีความสาคัญอย่างยิง่
ขอฝ่ าบาทอย่าได้ทรงรี บร้อนตัดสิ น “
ตู๋กซู ิงหลันกล่าวจนจบแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจีเฉวียนจะทรงมีดารัสตอบ
เช่นไร พระองค์พงิ อยูก่ บั ขอบสระ ดวงเนตรหงส์น้ นั เอาแต่จดจ้อง
มายังนาง มองเสี ยจนหัวใจของตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกคันยุกยิกขึ้นมา
ทันใดนั้นราวกับคิดขึ้นมาได้วา่ เรื่ องของท่านย่า แม้แต่เจ้าของร่ าง
เดิมและเชียนเชียนต่างก็ไม่เคยได้รู้มาก่อน พี่ใหญ่เองก็ไม่เคย
กล่าวถึง เรื่ องนี้ยอ่ มเป็ นความลับอย่างที่สุดเป็ นแน่ แล้วทาไมเจ้า
ฮ่องเต้สุนขั นี่ถึงได้เอามาบอกนางง่าย ๆ ?
หากว่าเขาเกลียดชังนาง ทาไมถึงได้เล่าให้นางฟังราวกับเป็ นเพียง
เรื่ องธรรมดาเรื่ องหนึ่ง?
นี่…..คงไม่ใช่วา่ คิดจะให้นางได้ตายอย่างเข้าใจมั้ง?
ตู๋กซู ิงหลันคิดได้แล้วก็ลูบไล้ลูกกระเดือกของตนเอง ค่อย ๆ กลืน
น้ าลายที่ไร้รสชาติลงไปคาหนึ่ง ” ฝ่ าบาท คงไม่ใช่เพราะว่าฐานะ
ของท่านย่า พระองค์จึงคิดจะเอาชีวิตน้อย ๆ ของหม่อมฉันหรอก
นะ? “
” ศีรษะของเจ้าจะคิดเป็ นเงินได้สกั เท่าไร? เราจะเอามาทาอะไร? “
” จริ งด้วย ๆ เพคะ ไม่กี่ตาลึงเท่านั้น! ” ตู๋กซู ิงหลันพยักหน้าอย่าง
เห็นด้วย “ศีรษะของหม่อมฉันยังน่าดูอยูม่ าก เก็บเอาไว้ดู ล้างตาบ้าง
นับว่ามีประโยชน์มาก “
ตู๋กซู ิงหลันว่าพลางก็ไม่ลืมมองดูเงาของตนเองที่สะท้อนอยูใ่ นถ้วย
น้ าชา อืม….นับว่างดงามมากจริ ง ๆ
จีเฉวียนทอดพระเนตรมองดูนางที่ทาท่างทาทางเข้าข้างตนเองอย่าง
จริ งจัง มุมโอษฐ์กช็ กั จะกระตุกขึ้นมา ” เราชักจะรู ้สึกว่าศีรษะของ
เจ้าก็น่าดูไม่เลว หากว่าตัดออกมาคงจะขายได้หลายเงินอยูไ่ ม่นอ้ ย “
” ต่อให้ขายไม่ได้เงิน แต่วา่ แขวนเอาไว้ในห้องเป็ นของตกแต่งอย่าง
หนึ่ง ก็นบั ว่าดูไปสบายตาดีไม่เลวเลย “
” หรื อต่อให้ทาเป็ นของตกแต่งไม่ได้ เอาไปตุ๋นลงหม้อก็คงจะได้
รสชาติดีมาก”
ตู๋กซู ิงหลัน “!!! ” ไอ้หนุ่มนี่เป็ นมารปี ศาจหรื อยังไง? หรื อเป็ นเผ่า
โบราณที่กินคนกัน?
ถ้าหากจะตัดก็ตอ้ งเป็ นนางที่ตดั หัวสุ นขั ของเขาลงมามากกว่ามั้ง?
นางฝื นยิม้ ออกมา แม้แต่นิ้วมือที่ยงั เปรอะเปื้ อนน้ าผลไม้กย็ งั สะบัด
เป็ นพัลวัน “อยูด่ ี ๆ หม่อมฉันก็รู้สึกว่าตนเองอัปลักษณ์มาก
อัปลักษณ์อย่างที่สุดไปเลย อัปลักษณ์เสี ยจนทาให้ปวดตา ไม่เหมาะ
จะทาของตกแต่งเลยสักนิด! หากว่าเสวยศีรษะของหม่อมฉันเข้าไป
ก็อาจจะทาให้กลายเป็ นคนโง่ได้! “
พอเห็นนางตื่นตระหนกราวกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง ฮ่องเต้กท็ รงลอบ
แย้มสรวลอย่างเงียบ ๆ พระองค์ทรงค้นพบว่าสตรี ผนู ้ ี่ยามเฉลียว
ฉลาดก็ปราดเปรี ยวอย่างที่สุด ยามโง่เขลาขึ้นมานั้น….อืม ……..
คล้ายกับว่าจะมีความน่ารักอยูบ่ า้ ง
พอดาริ ได้เช่นนี้ สี พระพักตร์ของจีเฉวียนก็เปลี่ยนเป็ นดาคล้ า!
ดวงตาของเขาชักจะอาการหนักเข้าไปทุกที ถึงได้อยู่ ๆ ก็รู้สึกขึ้นมา
ว่า สตรี ที่ใจดาทั้งยังรู ้จกั เสแสร้งผูน้ ้ ีน่ารัก?
พระองค์รีบหุบยิม้ แล้วตรัสเสี ยงเบา ๆ ว่า “หากว่าเจ้ารู ้จกั ประมาณ
ตนเองก็นบั ว่าดีแล้ว “
วิญญาณทมิฬ “ดูสิอวั๋ ว่าแล้วไหมละ? ปากของบุรุษนั้นหลอกลวง
เสี ยยิง่ กว่าผีท้ งั หลาย เมื่อไม่กี่วนั ก่อนเขายังบอกว่าเจ้าเป็ นเซียนหญิง
อยูเ่ ลย! “
ตู๋กูซิงหลัน “ฝ่ าบาท ในเมื่อหม่อมฉันหน้าตาอัปลักษณ์ ก็จะไม่ขออยู่
ที่นี่ให้ระคายเคืองพระเนตรแล้ว ขอประทานอนุญาตทูลลากลับไป
เก็บตัวเสี ยเดี๋ยวนี้ รับรองว่าจะไม่ปรากฎตัวขึ้นเบื้องพระพักตร์อีกเพ
คะ “
ได้ยนิ แล้วไหมละ? เมื่อครู่ เจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ หัวเราะเยาะใคร?
รสชาติเช่นนี้เป็ นอย่างไรบ้าง?
ฮ่องเต้ทรงหรี่ พระเนตร …….ครู่ ใหญ่ถึงได้กล้ ากลืนโทสะที่เกือบจะ
ระเบิดออกมาลงไปได้ นางช่างสมควรตายไปเสี ย!
ตู๋กซู ิงหลันพูดแล้วก็ทาท่าจะลุกขึ้นยืน แต่ยงั ไม่ทนั ได้ลุก กลับได้ยนิ
รับสัง่ เย็นชาขึ้นมาว่า “ก็ลองเดินไปก้าวหนึ่งดู เราจะได้ตดั ขาของเจ้า
ทิ้ง! “
ตู๋กซู ิงหลัน “……..” พูดจริ งหรื อเปล่า เจ้าฮ่องเต้สุนขั อย่าคิดจะมา
บีบนางให้จนมุม ประเดี๋ยวแม่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ระเบิดบึ้มขึ้นมา
จับเจ้ามาสับโช๊ะจบเลย
นางสงบนิ่งอยูท่ ี่เดิม กลับเห็นฮ่องเต้กวักพระหัตถ์เรี ยก “มาที่ขา้ ง
กายเรา “
ตอนที่ 123 ยิง่ นางพยายามหลีกหนี เขาก็ยงิ่ ……..
น้ าเสี ยงของเขากดต่า ทั้ง ๆ ที่ระยะระหว่างพวกเขาทั้งสองยังห่างอีก
ช่วงใหญ่ แต่กลับทาให้นางรู ้สึกว่า ถูกกระซิบอยูท่ ี่ขา้ งหู และเสี ยง
นั้นก็สะท้อนเข้าไปในหัวใจของนาง
เพียงประโยคเดียว และสายพระเนตรเช่นนั้น ยามเมื่อจอมมารผูน้ ้ ีใช้
ออกมา ยิง่ ปรากฎแรงดึงดูดชวนหลงใหลที่ไร้รูปลักษณ์
ตู๋กซู ิงหลันชะงักค้างไปชัว่ ครู่ ก็ค่อยลุกขึ้นยืน เดินก้าวเข้าไปใกล้เขา
น้ าในสระล้นออกมาบนขอบอยูเ่ ล็กน้อย กลิ่นยาที่เข้มข้นระเหยเข้า
จมูก พอน้ าอุ่นในสระล้นออกมาและซึมโดนรองเท้าของนาง ตู๋กู
ซิงหลันถึงได้รู้สึกตัวขึ้นมา
ช่างสมควรตาย……เมื่อครู่ นางถึงกับหลงใหลไปกับรู ปลักษณ์
ภายนอกของเจ้าฮ่องเต้สุนขั จนถึงกับลืมตัวไป
นางก้มศีรษะลงมองรองเท้า พอดีกบั ที่ฮ่องเต้ก็หนั พระพักตร์ไป
เช่นกัน
เขารับสัง่ ออกไปว่า ” ถอดรองเท้าเสี ย “
นางยังไม่ทนั ได้กล่าวอะไร ก็ได้ยนิ จีเฉวียนรับสัง่ เพิ่มว่า ” รองเท้า
เหยียบโดนโคลน จะทาให้น้ าในสระของเราสกปรก “
ตู๋กซู ิงหลัน “……..” นางเกือบจะลืมไปแล้ว คนผูน้ ้ ีชิงชังความ
สกปรกอย่างที่สุด!
นางยืนอยูท่ ี่ริมสระ ไม่ขยับเขยื้อน
ฮ่องเต้ทรงหรี่ พระเนตรหงส์หนั มามอง “ทาไม เท้าเหม็นเสี ยจนไม่
กล้าถอดรองเท้ารึ ไง? “
พอเขาตรัสขึ้นมา ตู๋กซู ิงหลันก็รีบรับคาเสี ยงสู งในทันที ” เหม็น!
เหม็นสุ ด ๆ ไปเลย เหม็นเสี ยยิง่ กว่าก้อนมูลของราชาหมาป่ านัน่ เสี ย
อีก! ฝ่ าบาทอย่าได้ทรงทาให้พระองค์ตอ้ งทรงลาบากเลย “
พอนางกล่าวเช่นนี้ จีเฉวียนก็ขมวดพระขนงมุ่น จมูกของเขานี้ ต่อให้
ผูใ้ ดสวมใส่ รองเท้าปิ ดบังเอาไว้เขาก็ยงั คงสามารถได้กลิ่นเช่นกัน
หากว่าเป็ นกลิ่นที่เหม็นยิง่ กว่ามูลของราชาหมาป่ า แล้วจมูกนี้ยงั ดม
ไม่ออกละก็ จมูกเช่นนี้เขาไม่ตอ้ งมีเสี ยก็ได้!
บนร่ างของตู๋กซู ิงหลันมีกลิ่นของดอกกุหลาบอยูต่ ลอดเวลา หอมยิง่
นัก
นางยิง่ พยายามหลีกหนี เขาก็ยงิ่ อยากให้นางถอดออกมา!
” เหม็นก็ดีเลย จะได้ใช้สระยาของหมอหลวงซุนล้างให้สะอาด! ” ฝ่ า
บาททรงออกความเห็น ราวกับว่าที่เขาอนุญาตให้นางสามารถใช้เท้า
เปล่าแช่ลงในสระเย่วหัวของพระองค์เองได้น้ นั ถือเป็ นบุญของนาง
มากแล้ว ไหนเลยจะมาทาท่ากระบิดกระบวนไปอีกทาไม?
ตู๋กูซิงหลัน “…..” หากว่านางมิได้จาผิดละก็ ไอ้หนุ่มนี้รังเกียจกลิ่น
เหม็นไม่ใช่หรื อ?
ทาไมถึงคราวนางก็ทาเป็ นไม่ย้ ขี ้ ึนมาแล้วละ? ก่อนหน้านี้ตอนอยูใ่ น
สุ สาน นางเคยผายลมใส่ หน้าเขาแล้วครั้งหนึ่ง …เขาก็ไม่ได้ตามมา
ต่อว่าต่อขานนาง
ตอนนี้จะเอาน้ าล้างเท้าของนางแช่ตวั …..ดูท่าสมองของเขาคงจะมี
ปัญหาอุดตันเข้าบ้างแล้วละมั้ง?
ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่ต๋ ูกซู ิงหลันถึงได้กล่าวว่า ” ฝ่ าบาท พระองค์แน่
พระทัยหรื อว่าจะให้หม่อมฉันถอดรองเท้า? “
” ถอด ” สี พระพักตร์ฮ่องเต้มีความแน่วแน่อยูเ่ ต็มเปี่ ยม
ตู๋กซู ิงหลันรี รออยูค่ รู่ ใหญ่ ในที่สุดค่อยขยับตัว นางทางหนึ่งขยับมือ
ทางหนึ่งก็กล่าวว่า ” ฝ่ าบาท นี่เป็ นพระองค์รับสัง่ ให้หม่อมฉันถอด
เองนะเพคะ หากว่าเกิดเรื่ องใดขึ้นอย่าได้มาโทษกันละ “
จีเฉวียนพระพักตร์ไม่เปลี่ยนแปลง ” แค่ถอดรองเท้ายังจะมีเรื่ องใด
ได้ เจ้าถอดเรี ยบร้อยแล้ว เราจะไม่ถือโทษ “
เขาตรัสถึงเพียงนี้แล้ว ตู๋กซู ิงหลันย่อมไม่กล้าบิดพลิ้วอีก จากเท้าซ้าย
ก็ขยับมาเท้าขวา นางรี บถอดรองเท้าหุม้ ขนสัตว์ของตนเองออกอย่าง
เรี ยบร้อย น้ าอุ่นภายในสระทาให้ถุงเท้าขาวของนางที่เปี ยกชื้นพลอย
อุ่นขึ้นมาด้วย
จีเฉวียนหันพระพักตร์มามองอีกครั้ง สายพระเนตรก็จดจ้องอยูท่ ี่ถุง
เท้า เขาเห็นเลยว่านิ้วโป้งทั้งสองข้างของนางขยับยุกยิกไม่หยุด
พระองค์กร็ ับสัง่ สาทับอีกครั้ง ” ถุงเท้าก็ไม่สะอาด ถอดออกด้วย “
ตู๋กซู ิงหลันปากคว่าขึ้นมาในทันที “ถุงเท้าพึ่งใส่ วนั นี้เอง ไม่สกปรก

” เราบอกว่าไม่สะอาดก็คือไม่สะอาด อย่าได้พดู มาก ถอดออก “
ตู๋กูซิงหลัน “………”
เมื่อตกอยูภ่ ายใต้สายพระเนตรราวกับพยัคฆ์ของฮ่องเต้ ตู๋กซู ิงหลันก็
ได้แต่ถอดถุงเท้าออกอย่างเชื่อฟัง
เท้าของนางละเอียดนุ่มนวล เรี ยวขาทั้งสองข้างก็ขาวสะอาดได้รูป
แต่นิ้วแม่เท้ากลับกลม ๆ กระทัดรัด ดูน่ารัก ดูคล้ายกับนิ้วเท้าของ
ทารกน้อย
สายพระเนตรของฮ่องเต้ทรงจดจ้องอยูบ่ นเรี ยวขาดังหยกแกะสลัก
ของนาง จนมิอาจละพระเนตรไปได้
” เข้ามาใกล้หน่อย ” จีเฉวียนรับสัง่ ” เรามีเรื่ องสาคัญจะกล่าวกับ
เจ้า”
ตู๋กซู ิงหลันกลับรู ้สึกว่าเขาดูจะมีปัญหาอยูบ่ า้ ง
สระเย่วหัวเดิมทีกม็ ีพวกเขาเพียงแค่สองคน มีอะไรทาไมไม่พดู
ออกมา กลับจะต้องให้นางเดินไปถึงตรงหน้า?
นางยกกระโปรงขึ้น กระโดดข้ามน้ าที่ลน้ ออกมานอกสระเข้าไป ยืน
อยูต่ รงข้าง ๆ ศีรษะของเขาพอดิบพอดี
ไอร้อนของน้ าในสระเปี ยกไปถึงหลังเท้าของนาง ฤดูหนาวที่รุนแรง
เช่นนี้ ได้แช่เท้าบ้างช่างสุ ขสบายดีจริ ง ๆ
ฮ่องเต้ทรงสู ดลมหายพระทัยเข้าไปอย่างช้า ๆ ไม่มีกลิ่นที่น่ารังเกียจ
แม้แต่นอ้ ย มีเพียงแต่กลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ ที่เป็ นเอกลักษณ์ของนาง
เท่านั้น
” ยามที่เสด็จแม่ทรงคลอดเราออกมานั้น ทรงตกพระโลหิ ตจานวน
มากจนกระทบถึงพื้นฐานร่ างกาย เจี่ยงเวยก็ฉวยโอกาสที่กาลังทรง
อ่อนแอนี้ ได้รับความโปรดปรานจากเสด็จพ่อ บรรเลงดนตรี ทุกค่า
คืน ครอบครองความโปรดปรานเอาไว้แต่เพียงผูเ้ ดียว ที่ผา่ นมาพระ
มารดาเมตตานางดุจดัง่ ญาติสนิท แต่ในยามที่ทรงลาบากที่สุดกลับ
ถูกนางทิ่มแทงเข้าเช่นนี้ พระทัยก็สลาย ยามที่เราอายุได้หา้ ปี นางก็
เสด็จจากไป” จีเฉวียนเก็บสายพระเนตรกลับมา ตรัสพลางมองดู
กลีบดอกกุย้ เหนือสระน้ า
” เจี่ยงเวยและตระกูลตู๋กสู นิทสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก เมื่อมีตระกูลตู๋
กูคอยหนุนหลังนาง เราย่อมต้องรู ้สึกเคียดแค้นพวกเจ้า “
” พอมาวันนี้ เจี่ยงเวยยอมสารภาพออกมาเองว่านางคือหมากของเย่ว
ฮูหยิน เรื่ องที่พระมารดาตกพระโลหิตขณะคลอดในปี นั้น ก็เพราะ
เย่วฮูหยินมีส่วนเกี่ยวข้อง”
ตู๋กซู ิงหลันนิ่งฟังอย่างเงียบงัน เสี ยนไท่เฟยเจ้าเล่ห์กลิ้งกลอก คาพูด
ส่ วนใหญ่ของนางย่อมเชื่อถือไม่ได้
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยูใ่ นสุ สานของเย่วฮูหยิน นางได้เห็นโครงกระดูก
ของท่าย่าด้วยตาของตนเอง บนโครงกระดูกไม่มีกลิ่นอายสกปรก
แม้แต่นอ้ ย นี่ยอ่ มหมายความว่าเมื่อยามมีชีวิตอยูน่ างไม่เคยกระทา
เรื่ องเลวร้ายใด ๆ มาก่อน
ท่านย่าเช่นนี้ ย่อมไม่ทางกระทาเรื่ องเช่นนั้นต่อฉางซุนฮองเฮาเป็ น
แน่
ที่ผา่ นมา ตู๋กซู ิงหลันเพียงแต่ทราบว่าจีเฉวียนเกลียดชังตระกูลตู๋กู
เกลียดชังนาง เดิมที่นางคิดว่าเป็ นเพราะตระกูลตู๋กมู ีอานาจแข็งแกร่ ง
มากเกินไป อีกทั้งยังใกล้ชิดกับอี้อ๋อง เขาคงจะเกรงว่าตระกูลตู๋กจู ะ
ก่อกบฎ ถึงได้ทาการป้องกันระมัดระวังอยูต่ ลอดเวลา
คิดไม่ถึงว่าเรื่ องนี้ยงั มีความเกี่ยวพันถึงความเป็ นความตายของฉาง
ซุนฮองเฮาซุกซ่อนอยูด่ ว้ ย
เมื่อตรัสมาถึงตอนนี้ ทันใดนั้นฮ่องเต้กท็ รงพบว่า ในกลีบดอกกุ้
ยฮวาบนผิวน้ า มีเศษอะไรแปลก ๆ ลอยปะปนอยู่
พอทรงขยับพระองค์เล็กน้อย เศษขาว ๆ นัน่ ที่มีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่า
ปลายเล็บนัน่ ก็กระจายออก ลอยหมุนไปมาอยูห่ น้าตรงของเขา
บางส่ วนก็หล่นอยูบ่ นบ่าไหล และเส้นผมของเขา
ฝ่ าบาทขมวดพระขนงขึ้นมา ยกพระหัตถ์ข้ ึนช้อนดู ก็เห็นเศษเล็ก ๆ
เหล่านั้นลอยอยูบ่ นใจกลางฝ่ าพระหัตถ์ พระองค์ใช้ปลายนิ้วคีบ
ขึ้นมา ขยี้ดูอยูค่ รู่ หนึ่ง ทันใดนั้นสี พระพักตร์กเ็ ปลี่ยนเป็ นดาดุจก้อน
หม้อ
พอทรงหันพระพักตร์กลับไป ก็ทอดพระเนตรเห็นเศษสิ่ งขาว ๆ
เหล่านั้นลอยออกมาจากใต้ปลายเท้าของตู๋กซู ิงหลัน
นัน่ มัน…..คือเศษขี้เท้า?!
ฮ่องเต้ทรงชะงักไปครู่ หนึ่ง ก็ประทับยืนขึ้นในสระอย่างรวดเร็ ว เส้น
พระเกศาที่ดกดายาว ผิวพระวรกายที่งดงามดุจเนื้อหยกโบราณ
ปลายคางเป็ นสันดุจคมมีด ต่างเต็มไปด้วยเศษขี้เท้าขาว ๆ พวกนั้น!
ดูไปคล้ายกับคนที่ไม่ได้สระผมมาตลอดทั้งเดือน ศีรษะจึงเต็มไป
ด้วยเศษหนังหัว
สองพระเนตรของฮ่องเต้จดจ้องอยูบ่ นเท้าของตู๋กซู ิงหลัน สายพระ
เนตรแฝงเอาไว้ดว้ ยความเย็นยะเยือกจนแทบแช่แข็งได้ “เสี ยนไท่เฟ
ยบอกว่าเจ้าเป็ นนังมาร เราก็ยงั ไม่เชื่อ ตอนนี้ดูท่า เจ้าคงจะเป็ นปี ศาจ
งู ถึงได้ลอกคราบได้? “
จะลอกคราบที่ไหนไม่ลอก กลับลอกเอาขี้ไคลใต้เท้าออกมา!
โรคคลัง่ ความสะอาดของฮ่องเต้กาลังถูกท้าทายอย่างรุ นแรงที่สุดใน
ประวัติกาล ตอนนี้เขาอยากจะขูดกระชากลอกผิวหนังของตนเอง
ออกมาให้หมดทั้งตัว!
เมื่อครู่ ต๋ ูกซู ิงหลันกาลังฟังเขาพูดอยูอ่ ย่างเพลินจนลืมตัว พอรู ้สึกตัว
ขึ้นมาทีน้ ี
ใบหน้าของนางก็ท้ งั ขาวทั้งเขียว ราวกับเป็ นปี ศาจงูไปจริ ง ๆ !
ก็บอกเขาเอาไว้แต่แรกแล้ว ว่าอย่าให้นางถอดรองเท้า เขาก็ไม่ฟัง!
ร่ างกายของไทเฮาน้อยไม่อาจเทียบได้กบั ร่ างเดิมของนางในโลกมิติ
ก่อน พอช่วงนี้นางใช้พลังของหยกสรรพชีวติ มากเกินขีดจากัดเข้า
ร่ างกายก็ได้รับไอหยินมากจนเกินไป ถึงได้กลายเป็ นเช่นนี้
ยังดีที่ผลกระทบเป็ นเพียงแค่ผวิ ใต้เท้าลอก เดิมทีกไ็ ม่ใช่เรื่ องใหญ่
อะไร แต่เพราะว่าเจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ กลับบีบบังคับให้นางถอด
รองเท้าออกมา!
นางจะไปทาอย่างไรได้ นางเองก็หมดหนทางจริ ง ๆ นะ
ตอนที่ 124 นางมารที่หุ้มหนังมนุษย์
ตู๋กซู ิงหลันรี บกล่าวเสี ยงเบาว่า ” ฝ่ าบาท เป็ นพระองค์รับสัง่ ให้
หม่อมฉันถอดรองเท้าถุงเท้าออกให้หมดเอง แถมยังตรัสว่าหม่อม
ฉันไม่มีความผิด “
วิญญาณทมิฬ “ข้าก็วา่ นะ จะอย่างไรเจ้าก็ถือว่าเป็ นโฉมงามผูห้ นึ่ง
ทาไมถึงได้ไม่รู้จกั ระวังรักษาภาพลักษณ์สกั นิดเฮ่อ? “
แต่วา่ อยูด่ ี ๆ ได้เห็นเจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ ถูกรังแกเช่นนี้ มันก็รู้สึกสะใจ
ขึ้นมาเหมือนกัน
” หม่อมฉันก็อยากจะระวังรักษาภาพลักษณ์อยูเ่ หมือนกัน แต่วา่
ร่ างกายนี้ซื่อตรงเกินไป ไม่ยอมถูกควบคุมแม้แต่นอ้ ย”
นางพูดพลางก็ถอยหลังไปพลาง ๆ เดิมทีฝืน ๆ อยูก่ ย็ งั พอได้ไม่หนัก
หนา แต่วา่ พอสัมผัสถูกยาแช่ตวั ของหมอหลวงซุนเข้า ก็ได้เรื่ องใหญ่
ขึ้นมาเลย
แม้แต่ตวั นางเองยังรู ้สึกสกปรกจะแย่
เกรงว่ายามนี้ฮ่องเต้ทรงตั้งพระทัยจะฆ่านางเสี ยให้ได้แล้ว
พอนางพึ่งจะขยับตัวได้ ก็ถูกจีเฉวียนคว้าข้อเท้าเข้าในทันที ดึงเอาตัว
นางทั้งร่ างลงไปในสระน้ า
ตู๋กูซิงหลันไม่ทนั ระวังตัวก็ลม้ ก้นกระแทก ก้นกบกระแทกขอบสระ
เจ็บจนนางร้องออกมาคาหนึ่ง
น้ ายาในสระเปี ยกไปทั้งตัว ซึมเข้าเสื้ อและกระโปรงของนางจนชุ่ม
โชก ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าร่ างกายหนักขึ้นเกือบร้อยชัง่
น้ าในสระลึกเกือบหนึ่งจุดแปดเมตร ถึงใต้เท้าจะมีหินหยกวางอยู่
ใกล้ ๆ แต่เพราะตัวนางถูกจีเฉวียนคว้าไว้ จึงเหยียบไม่โดนหินหยก
คนจมลงไปทั้งตัว ทั้งยังสาลักดื่มน้ าเข้าไปอีกอึกใหญ่
“อะคะ ๆ …” พอเห็นนางสาลักอย่างรุ นแรง จีเฉวียนถึงได้ลากนาง
ไปที่ริมขอบสระ สองหัตถ์โอบเอวของนางไว้ ยกเพียงเบา ๆ ก็วาง
นางลงบนขอบสระได้
ตู๋กซู ิงหลันนัง่ อยูบ่ นขอบสระ สองขาแช่อยูใ่ นน้ า นางว่ายน้ าไม่เป็ น
ริ มฝี ปากแดงเปิ ดกว้างหอบหายใจเข้าไป
ทั้งที่เห็นว่านางเปี ยกโชกไปทั้งร่ าง จีเฉวียนกลับคว้าเอาขาของนาง
ขึ้นมา ยกชายกระโปรงของนางขึ้น สองพระเนตรมองดูเท้าของนาง
อย่างเย็นชา
ฝ่ าเท้าของนางมีขนาดใกล้เคียงกับความยาวของฝ่ าพระหัตถ์ เป็ นเท้า
ของมนุษย์ธรรมดาผูห้ นึ่ง
พระองค์ยกพระหัตถ์ข้ ึนมา ขูดลงไปบนหลังเท้าของนางรอยหนึ่ง ก็
อุ่น ๆ นุ่ม ๆ ดี ให้ความรู ้สึกเหมือนผิวหนังมนุษย์
แรงที่ทรงใช้ออกนั้นค่อนข้างหนักมือ หลังเท้าของตู๋กซู ิงหลันถึงกับ
แดงเถือกขึ้นมา นางงงงันอยูบ่ นขอบสระ ดวงตาดอกท้อปรากฎ
น้ าตาคลอในทันที
” อืม ก็เหมือนคนทัว่ ไป ” จีเฉวียนไม่ทนั ได้สงั เกตสนใจ ขณะที่เขา
เกาะกุมข้อเท้าของนางเอาไว้น้ นั ในใจกลับไม่เกิดความรังเกียจ
แม้แต่นอ้ ย
” เสี ยนไท่เฟยพูดอะไร ท่านก็เชื่อหรอ? ” ตู๋กูซิงหลันมีโทสะขึ้นมา
บ้างแล้ว นางคิดจะชักเท้าตนเองกลับมา
แต่วา่ พอนางขยับตัว จีเฉวียนกลับกระชับมือเอาไว้แน่น เขาเงยพระ
พักตร์ข้ ึนมอง ก็ทอดพระเนตรเห็นนางทาท่าน่าสงสาร ” นี่เจ้า
กลายเป็ นคนเจ้าน้ าตาตั้งแต่เมื่อไหร่ เราถูกเจ้าเอาของสกปรกราดรด
ทั้งศีรษะ เรายังมิได้ร่ าร้องออกมา เจ้าจะร้องไปทาไม? “
หากเขาไม่พดู ยังถือว่าแล้วไป พอกล่าวขึ้นมา น้ าตาของตู๋กซู ิงหลันก็
ไหลพลัก่ ๆ ออกมาไม่ได้หยุด
ในโลกมิติก่อนนางมีศิษย์นอ้ งที่เป็ นบุรุษผูห้ นึ่ง ต้องสิ้ นชีวิตไปใน
ท้องทะเล นางได้แต่มองดูโดยไม่อาจช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ นับตั้งแต่
นั้นเป็ นต้นมาในใจของนางก็มีความกังวลเรื่ องน้ าลึกมาโดยตลอด
เมื่อครู่ พอจมลงไปในน้ า ในสมองของนางก็บงั เกิดภาพยามที่ศิษย์
น้องผูน้ ้ นั ยังมีชีวิตอยูข่ ้ ึนมา ความเสี ยใจที่ซุกซ่อนไว้กพ็ งั ทลาย
ออกมาดุจสายน้ า
พอนางร้องไห้ออกมา ตอนแรกจีเฉวียนเพียงชะงักไปครู่ หนึ่ง แต่
ครั้งเห็นว่าไข่มุกน้ าตาของนางริ นไหลราวกับไม่ตอ้ งการเงินทอง
เขาก็ชกั จะทาสิ่ งใดไม่ถูกแล้ว
” ถ้าเป็ นถึงเพียงนี้ เราไม่เอาความเจ้าก็แล้วกัน เจ้า……..อย่าร้องไห้
อีกเลย” จีเฉวียนตรัสพลาง ก็กระทาพระองค์ไม่ถูกไปพลาง ผ่านไป
อีกพักใหญ่ ค่อยยืน่ ปลายพระหัตถ์ออกมา ปาดเช็ดน้ าตาให้นางอย่าง
เบามือ
ปลายพระหัตถ์ของพระองค์มีรอยด้านอยูช่ ้ นั หนึ่ง พอลูบผ่านหางตา
ของนาง ก็ทาให้เจ็บนิด ๆ
ตู๋กซู ิงหลันได้สติกลับมา นางยกมือขึ้นปัดพระหัตถ์ขา้ งนั้นออกไป
พึ่งจะลูบเท้าของนางอยูห่ ยก ๆ …….มาจับหน้าของนางทาไม
” เสี ยนไท่เฟยยังบอกอะไรกับท่านอีก? บอกว่าข้าเป็ นผูส้ ื บสายเลือด
ของราชวงค์แคว้นกู่เย่ว์ เป็ นปี ศาจ ฉางซุนฮองเฮาสิ้ นพระชนม์เพราะ
ถูกครอบครัวของข้าทาร้าย คนทั้งตระกูลของข้าต่างก็คิดไม่ซื่อกับ
ท่าน หากเก็บข้าเอาไว้กเ็ ท่ากับเตรี ยมสุ สานให้ตนเอง? “
แรงที่นางสะบัดมือลงไปรุ นแรงเสี ยจนบนหลังพระหัตถ์ของจี
เฉวียนปรากฎรอยแดงขึ้นมาบ้าง พระองค์ประทับยืนอยูใ่ นน้ า ตู๋กู
ซิงหลันนัง่ อยูบ่ นขอบสระ พระเศียรของพระองค์กส็ ู งระดับเดียวกับ
เอวช่วงบนของนางพอดี สตรี ผนู ้ ้ ี อยูด่ ี ๆ ทาไมมีโทสะขึ้นมาได้?
ตู๋กซู ิงหลันระเบิดอารมณ์พดู ออกไปในคราเดียวจนหมด จากนั้นก็
จดจ้องมองเขาตรง ๆ “ฝ่ าบาททรงเห็นว่าข้าเป็ นปี ศาจหรื อไม่? “
สายตาที่มองมาของนางราวกับว่าต้องการจะมองทะลุเข้าไปถึงหัวใจ
ของเขา ดวงตาที่พ่ งึ ผ่านคราบน้ าตามาหมาด ๆ ก็ยงิ่ สุ กสกาวแวววาว
นัยตาสี ดาก็ยงิ่ ดูลึกล้ ากว่าเดิม
พระหัตถ์ขา้ งหนึ่งของจีเฉวียนยังกุมข้อเท้าของนางเอาไว้ ขยับเพียง
เบา ๆ ก็สามารถกุมเอาไว้ในฝ่ ามือได้หมด ความรู ้สึกที่นุ่มนวลเป็ น
พิเศษนั้น คล้ายจะซึมซาบจากฝ่ ามือเข้าไปภายในหัวใจของเขา
หากว่าสตรี ผนู ้ ้ ีจะเป็ นมารปี ศาจ ก็คงจะเป็ นนางมารที่ร้ายกาจอย่าง
ยิง่ ! สามารถทาให้เขาเกิดความคิดฆ่าฟันขึ้นมานับครั้งไม่ถว้ น แต่วา่
สุ ดท้ายแล้วกลับไม่ได้ทาร้ายนางแม้สกั รู ขมุ ขนหนึ่ง
นี่คือนางมารที่หุม้ หนังมนุษย์เอาไว้! ทั้งยังล่อลวงผูค้ นได้เก่งนัก!
” เราไม่ได้บอกว่าจะทาสิ่ งใดกับเจ้าเสี ยหน่อย เจ้าทาท่าน้อยอก
น้อยใจไปทาไม ” จีเฉวียนมิได้ตรัสตอบนางตรง ๆ ” ต่อให้เจ้าเป็ น
นางมาร เราก็เป็ นบุตรมังกรโอรสสวรรค์ มีหรื อจะปราบเจ้าไม่ได้? “
” เราเรี ยกตัวเจ้ามา ก็เพราะต้องการให้โอกาสเจ้าสักครั้ง ให้เจ้าได้
พิสูจน์วา่ ตระกูลตู๋กมู ิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสิ้ นพระชนม์ของพระ
มารดา ขอเพียงตระกูลเจ้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่อไปเราย่อม
ยอมรับตระกูลของเจ้า “
จีเฉวียนทอดพระเนตรดูนางที่ร้องไห้เสี ยจนจมูกแดง ปอยผมที่เปี ยก
ชื้นลีบติดใบหน้า ยังมีน้ าหยดอยูม่ ิได้ขาด ท่าทางประหนึ่งสะใภ้ตวั
น้อยที่ถูกรังแกอย่างน่าสงสาร ไม่รู้เพราะเหตุใด ดูไปแล้วพาให้เขา
รู ้สึกใจอ่อนขึ้นมา
อยู่ ๆ น้ าเสี ยงของเขาก็เปลี่ยนเป็ นอ่อนโยนลงอีกหลายส่ วน แม้แต่
พระพักตร์ที่เคยดาดุจก้นหม้อยามนี้กอ็ ่อนโยนลงด้วยเช่นกัน “เอา
เถอะ อย่ามัวน้อยใจไปเลย “
ตอนนี้ต๋ ูกูซิงหลันมิได้รู้สึกน้อยใจอันใดเสี ยหน่อย หัวใจดวงน้อย
ของนางกาลังสัน่ ไหวต่างหาก
เมื่อครู่ พอคิดถึงศิษย์นอ้ งในโลกมิติโน้นขึ้นมา ถึงได้โศกเศร้าจน
น้ าตาไหล ถึงได้เกิดอารมณ์พลุ่งพล่านกล้าถามโพล่งออกไปหลาย
ข้อ
ยามนี้จึงได้แต่รอให้เขาระเบิดอารมณ์ดงั่ พายุหิมะขึ้นมา จับนางเตะ
กระเด็นออกไป
ถึงแม้วา่ ยามนี้จะมีสติข้ ึนมาแล้ว แต่ทว่าปฏิกิริยาของเจ้าฮ่องเต้สุนขั
กลับทาเอานางตระหนกแทบตาย นี่เขากาลังวางแผนจะใช้กบั ดัก
แบบนุ่มนวลใช่ไหม เหมือนกับเวลาที่ค่อย ๆ ต้มกบในน้ าอุ่นอะไร
แบบนั้นหรื อ?
เจ้าจิ้งจอกเฒ่าใจดาผูน้ ้ ี ในท้องของเขาย่อมไม่เคยมีน้ าสะอาดมาก่อน
นางได้แต่เตรี ยมป้องกันแล้วป้องกันอีก
จีเฉวียนทอดพระเนตรเห็นท่าทางอเน็จอนาถใกล้ตายของนาง ก็ปวด
พระเศียรขึ้นมา
” ช่างเถอะ เจ้ากลับไปเสี ยก่อน ลองค่อย ๆ คิดทบทวนสิ่ งที่เราพูด
กับเจ้าให้ดี “
จีเฉวียนตรัสแล้วก็รับสัง่ ให้นางกานัลสองคนเข้ามา ” เปลี่ยนเสื้ อผ้า
ที่สะอาดให้ไทเฮา”
นางกานัลทั้งหมดเดินก้มศีรษะเข้ามา แม้แต่เหลือบมองฝ่ าบาทเพียง
ชัว่ พริ บตาก็ยงั ไม่กล้า ในใจของพวกนางต่างตื่นตระหนกจนแทบจะ
กระดอนขึ้นฟ้าอยูแ่ ล้ว แต่กไ็ ม่มีผใู ้ ดกล้าถามออกมาแม้สกั คาเดียว
พวกนางรี บเข้ามาประคองตู๋กูซิงหลันออกไปจากสระเย่วหัว
จีเฉวียนพิงพระองค์อยูท่ ี่ริมสระ ทอดพระเนตรมองดูเงาหลังของ
นางจากไป ค่อยก้มพระพักตร์ลงทอดพระเนตรดูเงาของพระองค์เอง
ในน้ า………พระพักตร์ที่งดงามนั้นเปลี่ยนเป็ นมืดครึ้ มอีกครั้ง
ทาไมตอนหลังสถานการณ์ถึงได้กลายเป็ นผูส้ ู งศักดิ์เปี่ ยมบารมีเช่น
เขาต้องคอยปลอบนางกัน?
ทั้ง ๆ ที่ผทู ้ ี่โดนกระทาจนสกปรกไปทั้งตัวคือเขาต่างหาก!
ช่างเถอะ…….นางเองก็ดื่มน้ าล้างเท้าตนเองไปอึกหนึ่ง ถือว่าเสมอ
กันไป
………………………………..
ที่สระเย่วหัว ตู๋กซู ิงหลันพึ่งจะเปลี่ยนเสื้ อผ้าเสร็ จเรี ยบร้อบก็ออกมา
ที่ดา้ นข้างของตาหนัก บังเอิญได้พบกับท่านราชครู เข้าพอดี
เขายังคงสวนชุดสี ม่วงตลอดทั้งตัว ใบหน้างดงามดุจภาพวาด รู ปร่ าง
ยังคงเป็ นหมูสามชั้นเช่นเคย
ยามเมื่อพบเห็นตู๋กูซิงหลันเข้า หว่างคิว้ ของเขาก็ยงั เรี ยบนิ่ง เขาถวาย
คานับนางครั้งหนึ่ง “ถวายพระพรไทเฮา ขอทรงพระเกษมสาราญ “
ตู๋กซู ิงหลันก้มศีรษะรับคานับจากเขา นางกวาดตามองดูครั้งหนึ่ง ก็
เห็นบนนิ้วหัวแม่มือของเขามีแหวนหยกที่ดูคุน้ เคยอย่างมาก
เหมือนกับแหวนหยกที่จีจวนเคยมอบให้นางอย่างไรอย่างนั้น
ท่านราชครู เห็นนางมองอย่างพิจารณา ก็คลี่ยมิ้ บาง ๆ สอดมือเข้าไป
ในแขนเสื้ อ ” เมื่อยามเยาว์วยั ฝ่ าบาททรงประทานให้กระหม่อมเป็ น
ของขวัญ เมื่ออยูเ่ บื้องพระพักตร์ไทเฮาก็เป็ นที่น่าขายหน้าแล้ว “
ตอนที่ 125 ดูกร็ ู้ว่า ไม่ เคยลงสนามจริง ๆ มาก่อน
รอยยิม้ นั้นแสนอ่อนโยนประดุลสายลมในฤดูใบไม้ผลิ งดงามอย่าง
ยิง่
หากว่ารู ปร่ างของท่านราชครู เป็ นปกติดงั คนทัว่ ไป จะต้องยิง่ ดึงดูด
จิตใจผูค้ นเป็ นแน่
ตู๋กซู ิงหลันอมยิม้ อยูใ่ นหน้า “ท่านราชครู และฝ่ าบาทผูกพันดุจพี่นอ้ ง
เราเห็นแล้วก็ชื่นชมยิง่ นัก “
อ้า ช่างเป็ นความสัมพันธ์แบบพี่นอ้ งที่สวยงามยิง่ นัก แถมยังมีการ
มอบของแทนใจให้แก่กนั ตั้งแต่เยาว์วยั แล้วด้วย นี้ช่างเป็ นการปลุก
พลังมโนของสาววายเช่นนางขึ้นมาเหลือเกิน
” กระหม่อมและฝ่ าบาทผ่านความยากลาบากมาด้วยกันนับครั้งไม่
ถ้วน ชัว่ ชีวิตนี้จะขอยกพระองค์เอาไว้เหนือเกล้า ความรู ้สึกที่ยดึ มัน่
เช่นนี้ยากที่ผอู ้ ื่นจะมาเข้าใจได้ ” ท่านราชครู ยดื ร่ างขึ้นตรง นัยตาก็
ฉายแววเย็นชากีดกันผูอ้ ื่นออกไป
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกราวกับถูกมองข้ามหัวไป ดูท่าทางที่หยิง่ ผยองของ
เขาสิ พวกเขาไม่อาจแต่งงานกันได้ ก็อย่าได้มาโทษคนโสดเช่นข้า
จะได้ไหม?
เขากล่าวกับตู๋กซู ิงหลันอีกว่า “ซูกยุ้ เฟยและอันหรวนกูกูกลับเข้ามา
ในวังแล้ว หากว่าไทเฮาทรงมีเวลา สมควรจะเสด็จไปพบพวกเขา
บ้าง จะพูดไป ซูกยุ้ เฟยและพระองค์ต่างก็เคยเป็ นดัง่ พี่นอ้ งที่สนิท
สนมกันมาก่อน อันหรวนกูกกู เ็ ป็ นถึงแม่นมของฉางซุนฮองเฮา “
ตู๋กซู ิงหลันย่อมเคยได้ยนิ มา ในวังหลังนี้มีพระสนมกุย้ เฟยอยูส่ อง
พระองค์ แต่วา่ ผ่านมาก็นานแล้ว นางกลับไม่เคยได้เห็นหน้ามาก่อน
คิดไม่ถึงว่าหนึ่งในนั้นจะเป็ นเพื่อนรักของเจ้าของร่ างเดิม?
แต่วา่ อันหรวนกูกนู ี่สิ นางกลับไม่เคยได้ยนิ ผูใ้ ดพูดถึงมาก่อน
แต่วา่ ขนาดเจ้าซิ่วเอ๋ อร์ยงั พูดออกมาถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังเป็ นผูท้ ี่มีส่วน
เกี่ยวข้องกับฉางซุนฮองเฮาอีกด้วย เพียงฐานะขอนางย่อมไม่
ธรรมดาแล้ว
ว่าแล้ว ท่านราชครู ค่อยกล่าวอีกว่า “กระหม่อมฟังมาว่าฝ่ าบาททรง
ได้รับบาดเจ็บ วันนี้กระหม่อมจึงตั้งใจจะมาเยีย่ มเป็ นพิเศษ คงมิอาจ
อยูถ่ วายการรับใช้ไทเฮาได้แล้ว
นี่มนั เท่ากับออกคาสัง่ ขับไล่แขกให้กบั นางชัด ๆ
รอยยิม้ บนใบหน้าของตู๋กซู ิงหลันยังไม่เลือนหายไป นางเพียงแต่
พยักหน้ารับ จากนั้นก็เสด็จจากไป
เมื่อครู่ ก่อนกระดูกก้นกบของนางพึ่งจะถูกกระแทกอย่างแรงมา พอ
ต้องมาเดินเหินเช่นนี้กพ็ าให้เจ็บปวดอย่างสาหัส
นางอยากจะกลับไปนอนกางแขนกางขาบนเตียงหลังใหญ่
ในตาหนักเฟิ่ งหมิงเหลือเกิน
ที่จริ งนางพยายามทาท่ามุ่งมัน่ ขึงขังออกมา แต่พอเดินไปไม่กี่กา้ ว ก็
ชักบิดไปบิดมาอยูบ่ า้ ง ราวกับคนที่เคล็ดขัดยอกไปทั้งตัว เดินเหินลง
จากเตียงไม่ไหว
ท่านราชครู เดินมุ่งไปทางสระเย่วหัวอยูห่ ลายก้าว ก็หนั ศีรษะกลับมา
มองนางคราหนึ่ง จึงได้เห็นท่าทางเดินเหิ นของนางแบบนั้น ทันใด
นั้น สายตาของเขาก็ทอประกายเหน็บหนาวขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง
ฝ่ าบาททาอะไรกับนาง?
ไม่ ฝ่ าบาทไม่มีทางทาอะไรกับนางแน่……
เมื่อเห็นว่าเส้นผมที่ถูกสยายออกของนางยังเปี ยกชื้นอยูบ่ า้ ง ….ก็ยงิ่
ทาให้เขาขมวดคิ้วแนบแน่นยิง่ ขึ้น
ในสระน้ าเย่วหัว เกิดเรื่ องใดขึ้นกันแน่?
………………………………….
ตู๋กซู ิงหลันพึ่งจะกลับมาถึงพระตาหนักเฟิ่ งหมิง ก็เห็นเจ้าไก่ติ๊งต๊อง
ขนฟูกาลังก้มหัวโก่งก้นหาหนอนกินอยูใ่ ต้ตน้ ไฮ่ถาง
พอนางพึ่งจะเดินไปถึง ก็เห็นเจ้าไก่ติ๊งต๊องจิกเอางูสีแดงตัวหนึ่ง
ขึ้นมาจากพื้น เจ้างูตวั นั้นพยายามขดตัวหนีอย่างวุน่ วาย แต่กลับถูก
ปากที่แข็งแกรงประดุจเหล็กกล้านั้นจิกไว้ พอได้ยนิ เสี ยงฉัว่ ๆ ขึ้น
สองครั้ง เจ้างูตวั นั้นก็ขาดเป็ นสองท่อน
พอมันเห็นว่าตู๋กซู ิงหลันกลับมาแล้ว เจ้าติ๊งต๊องก็คีบเอางูสองท่อน
นั้น ตีปีกโผเข้ามาหานางในทันที มันวางงูเอาไว้ที่เบื้องหน้านาง

ส่ งเสี ยงร้องอย่างเกินพอดีข้ ึนมาว่า “กรุ๊ ๆ กรู ้~”


ตู๋กซู ิงหลันเหลือบตามองดูแวบหนึ่ง “ข้าไม่กินงู”
” กรุ๊ ๆ กรู ้? ” เจ้าไก่ขนฟูเอียงหัวของมัน มันคิดว่างูเป็ นของรสชาติดี
ที่สุดแล้วนะ
หลายปี มานี้ตอนอยูใ่ นสุ สาน มันชอบกินงูมากที่สุด
พอเห็นว่าตู๋กซู ิงหลันไม่มีความสนใจแม้แต่นอ้ ย มันก็ได้แต่หุบปี ลง
ขยับปากจิกเพียงนิดเดียว ก็กลืนกรุ๊ บ ๆ ลงไปทันที
ตู๋กซู ิงหลันเห็นสายตาอิ่มเอมเปรมปรี ของมัน ก็หรี่ ตาลงมองอย่าง
พิจารณา เจ้างูนนั่ เป็ นงูกะปะแดงที่มีพิษร้ายแรง
ในตาหนักเฟิ่ งหมิงกลับปรากฎสัตว์พิษเช่นนี้ข้ ึนมาได้ หากว่าผูใ้ ดไม่
ทันระวังโดนกัดเข้าละก็ ผลลัพธ์อาจถึงขนาดจบชีวิตไปในทันที
เจ้าไก่ติ๊งต๊องกินเข้าไปกลับไม่มีทีท่าผิดปกติใด ๆ ตู๋กซู ิงหลันจึงยิง่
รู ้สึกว่าเจ้าไก่ตวั นี้ไม่ธรรมดาอย่างยิง่
พอเดินไปได้ไม่กี่กา้ ว นางก็เห็นสาวน้อยในชุดกระโปรงสี เขียว
สดใสบางเบาผูห้ นึ่ง โฉมงามน่ารัก กิริยาสง่างาม คิว้ โกงดัง่ ใบหลิว
ดวงตากลมโตดัง่ เมล็ดซิ่ง (เมล็ดผลท้อ) ปากเล็กบาง งดงามตามแบบ
ฉบับของสตรี โบราณ
เพียงชมดูรูปโฉมภายนอกของนาง ก็รู้สึกว่าดึงดูดสายตาน่า
ประทับใจนัก
ขณะที่ต๋ ูกูซิงหลันมองออกไป สาวน้อยผูน้ ้ นั ก็มองมาทางนี้เช่นกัน
นางชะงักไปครู่ หนึ่ง ค่อยยกกระโปรงขึ้นวิง่ เขามาใกล้
พอเห็นว่าตู๋กซู ิงหลันสวมชุดเฉกเช่นนางกานัล นางก็ยงิ่ เสยหน้าขึ้น
ใช้หางตาเหลือบมองนาง “เจ้าเป็ นนางกานัลในตาหนักเฟิ่ งหมิง? “
ที่สระสรงเย่วหัวย่อมไม่มีเสื้ อผ้าสาหรับเหล่าพระสนมทั้งหลาย นาง
เองก็เปี ยกไปทั้งตัว ทั้งยังไม่คิดจะสร้างความลาบากใจให้กบั นาง
กานัลทั้งหลาย ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป็ นชุดของนางกานัล ทั้งยังสยายผม
ออกมา เส้นผมยังไม่แห้ง เปี ยกชื้นลีบติดใบหน้า บดบังใบหน้าของ
นางเอาไว้
” เจ้าคือ? ” ตู๋กูซิงหลันมองดูนางด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย
” เฮ่อ เป็ นแค่นางกานัลเล็ก ๆ ผูห้ นึ่ง ยังคิดจะอยากรู ้ฐานะของข้ารึ ?
” สาวน้อยผูน้ ้ นั หัวเราะเสี ยงเย็นออกมา ” ในวังต่างลือกันไปทัว่ ว่า
เจ้าของตาหนักเฟิ่ งหมิงผูน้ ้ นั ไม่รู้จกั กฎระเบียบที่สุดแล้ว คิดไม่ถึงว่า
นางกานัลเล็ก ๆ เช่นเจ้าก็ไม่รู้จกั มารยาทด้วยเหมือนกัน “
ตู๋กซู ิงหลันอดจะมองดูนางอีกรอบไม่ได้ ชุดกระโปรงบนร่ างของ
สาวน้อยผูน้ ้ ีทาจากผ้าไหมเมฆคล้อยชั้นดี ซึ่งเหล่าพระสนมต่างนิยม
ใช้ตดั ชุดกัน
ข้างเอวของนางยังมีถุงใบเล็ก ๆ มัดปากเอาไว้อย่างแน่นหนา สิ่ งที่อยู่
ภายในก็ขยับดุ๊กดิ๊กไปมา
ตู๋กซู ิงหลันถามออกไปด้วนสี หน้าเรี ยบเฉย “มิทราบว่าเป็ นพระสนม
ตาหนักใด? “
” ยามนี้ยงั ไม่ใช่ ” สาวน้อยเชิดหน้าขึ้น ตอบออกไปอย่างแสน
ภาคภูมิใจว่า “แต่วา่ เร็ ว ๆ นี้ยอ่ มใช่แน่ “
ตู๋กูซิงหลัน ” หืม? “
” ดูท่าคนอย่างเจ้าคงจะไม่รู้อะไรดี ตามกฎบัญญัติของแคว้นต้าโจว
เมื่อฮ่องเต้พระองค์ใหม่ข้ ึนครองราชย์ในสามปี แรก ทุกครึ่ งปี จะมี
การคัดเลือกสนมหนึ่งครั้ง เจ้าดูสิวา่ ข้าน่ะโดดเด่นเพียงไร มีหรื อที่
ฝ่ าบาทจะทรงไม่ถูกพระทัยได้? “
พูดแล้ว นางก็เดินหมุนตัวที่ดา้ นหน้าตู๋กซู ิงหลันรอบหนึ่ง
ภายใต้ชุดกระโปรงเขียวที่พลิ้วไหว คือสาวน้อยที่มีใบหน้าดุจ
ดอกไม้ผลิบาน ช่างน่าดูอย่างแท้จริ ง
สาวน้อยหมุนตัวเสร็ จแล้ว ก็มิได้ลืมสอบถามนางว่า ” คุณหนูเช่นข้า
เปรี ยบเทียบกับเจ้าของตาหนักเฟิ่ งหมิงของเจ้าผูน้ ้ นั เป็ นเช่นไร? “
” เจ้ามาที่ตาหนักเฟิ่ งหมิงก็เพื่อจะมาประชันโฉมกับไทเฮาหรื อ? “
” ประชันโฉม? ฮ่า ๆ ” สาวน้อยหัวเราะเสี ยงเย็น ” ต่อให้นางงดงาม
มากกว่านี้ แต่ในสายตาของฝ่ าบาทก็ไม่อาจสู ้ขา้ ได้แม้สกั สามส่ วน
จะมาเปรี ยบเทียบกับข้า? นางไม่มีคุณสมบัติแม้แต่นอ้ ย! “
วิญญาณทมิฬ “อุวะ๊ นังหนูนี่โคตรจะมัน่ ! ดูกร็ ู ้เลยว่าไม่เคยลงสนาม
จริ ง ๆ มาก่อน! “
ตู๋กซู ิงหลันไม่กล่าวคาใด นางในตอนนี้ปวดกระดูกก้นกบอย่างที่สุด
คิดแต่จะปี นขึ้นเตียงไปนอนพักผ่อนเท่านั้น
แต่พอขยับได้กา้ วหนึ่งก็ถูกสาวน้อยผูน้ ้ นั สะกัดเอาไว้ “บอกว่าเจ้าไร้
มารยาท เจ้าก็กล้าไร้มารยาทจริ ง ๆ แค่บ่าวรับใช้ในวังคนหนึ่ง ไม่มี
คาสัง่ ของข้าก็คิดจะจากไปได้? “
ตู๋กูซิงหลัน ” ดังนั้นล่ะ? “
” ดูเจ้าสิ กล้าไม่เห็นข้าอยูใ่ นสายตาสักนิดหรื อ? นายของเจ้าสัง่ สอน
เจ้ามาเช่นนี้หรื อ? ” สาวน้อยพูดพลางก็ตวัดมือออกมา พริ บตาเดียวก็
ฝ่ ามือนั้นก็จะตบลงบนใบหน้าของตู๋กซู ิงหลัน
” กะ ๆ กระต๊าก! “
พอนางขยับมือ ก็เห็นเจ้าไก่ขนฟูถลาเข้ามาทั้งตัว พุง่ เข้าใส่ ใบหน้า
นางอย่างเต็มที่
สาวน้อยใบหน้าเปลี่ยนสี เอียงศีรษะหลบออก กรงเล็บของเจ้าไก่ขน
ฟูจึงกรี ดลงบนหัวไหล่ของนางแทน เลือดสด ๆ ไหลออกมาเป็ นทาง
ยาว
นางเกิดโทสะในทันที สะบัดฝ่ าเท้าออกใส่ เจ้าไก่ขนฟู
แต่ไก่ขนฟูมิใช่อ่อนด้อย ขยับปี กถลาเข้าตบตีนางเป็ นพลันละวัน
ตอนที่ 126 ซูเหม่ ย
เพียงครู่ เดียวทัว่ ทั้งร่ างของสาวน้อยก็เป็ นริ้ วรอยไปทั้งตัว ผิวพรรณ
ที่อ่อนนุ่มถูกจิกข่วนเสี ยจนใครเห็นเป็ นต้องปวดใจ
พอเห็นว่าตีกนั ได้พอสมควรแล้ว ตู๋กซู ิงหลันจึงได้เรี ยกติ๊งต๊องให้ก
ลับมาอยูท่ ี่ขา้ งตัวนาง “เจ้าไก่ตวั นี้อารมณ์ร้ายมาก ทั้งยังชมชอบต่อสู ้
ทางที่ดีเจ้าอย่าได้ไปหาเรื่ องมันจะดีกว่า “
“สมควรตายนัก! ” ชุดกระโปรงที่สวยงามของสาวน้อยฉีกขาด
ยับเยิน ถุงข้างเอวก็ตกลงบนพื้น นางลุกขึ้นมาจดจ้องตู๋กซู ิงหลันและ
เจ้าไก่ขนฟูดว้ ยสายตาถมึงทึง ” เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ ท่านย่าของข้าเป็ นใคร
กัน? กลับกล้าใช้ไก่ตวั หนึ่งมาลงมือเช่นนี้? “
ตู๋กซู ิงหลันสี หน้าเย็นชา “ท่านย่าอย่างข้าไม่รู้จกั “
” ท่านย่าของข้าก็คือ อันหร่ วนกูกู แม่นมของฉางซุนฮองเฮา พระพี่
เลี้ยงของฮ่องเต้ บ่าวรับใช้เช่นเจ้ากลับกล้าต่อกรกับข้าหรอ? “
ตู๋กูซิงหลัน “………” เมื่อครู่ คล้ายกับว่านางไม่ได้ทาสิ่ งใดเลยนะ
แต่วา่ เกี่ยวกับอันหร่ วนกูกผู นู ้ ้ นั นางก็พ่ งึ จะได้ยนิ ซิ่วเอ๋ อร์กล่าวถึงมา
เหมือนกัน “
พอเห็นว่านางไม่มีปฎิกิริยาใด ๆ สาวน้อยก็ยงิ่ มีโทสะมากกว่าเดิม
นางกล่าวออกมาด้วยน้ าเสี ยงไม่ยอมลดละว่า “อย่าคิดว่าเจ้าเป็ นคน
สนิทของไทเฮา แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไปนะ! “
ตู๋กูซิงหลัน “อ๋ อ “
พอนางรับคาไป ก็เห็นว่าถุงที่สาวน้อยผูน้ ้ นั ทาตกเอาไว้กาลังคลาย
ตัวออก งูกะปะแดงหลายตัวคลานออกมาจากภายในถุงใบนั้น
ตู๋กซู ิงหลันเหลือบตาดู ก็ถอยออกไปด้านข้างก้าวหนึ่ง “ติ๊งต๊อง ไป
จัดการซิ “
เจ้าไก่ขนฟูระเบิดความดีอกดีใจออกมาในทันที มันถลาเข้าหางู
กะปะแดงอย่างคุม้ คลัง่ จิกกลืน ๆ ต่อเนื่องไปหลายตัว พอฝ่ าเท้าของ
มันตะปบงูตวั สุ ดท้ายได้แล้ว ก็ขยับปี กโผเข้าหาสาวน้อยผูน้ ้ นั
ในทันที
ภาพที่เห็นสร้างความหวาดผวาให้นางจนหน้าเปลี่ยนสี หันหลังวิ่ง
หนีในทันใด
พอนางวิง่ มาถึงประตูตาหนักเฟิ่ งหมิง ก็ได้พบเห็นสตรี กลุ่มหนึ่ง
ผูท้ ี่เดินนามาในกลุ่มก็คือองค์หญิงใหญ่และพระสนมที่งดงามผูห้ นึ่ง
องค์หญิงใหญ่ยงั ได้นาท่านหญิงน้อยที่พ่ งึ จะได้รับการแต่งตั้งมาด้วย

นางวิ่งออกมาอย่างสะบักสะบอม พอมาถึงก็คว้าชายแขนเสื้ อของ
พระสนมผูน้ ้ นั เอาไว้ “ซูกยุ้ เฟยเพคะ ช่วยด้วยเพคะ บ่าวไพร่ กบั ไก่
ในตาหนักเฟิ่ งหมิง จะฆ่าคนแล้ว! “
พอนางพูดจบ ก็เห็นเจ้าไก่ขนฟูตวั นั้นร้องกระต๊าก ๆ ไล่ตามมา ฝ่ า
เท้าของมันยังกางูกะปะสี แดงเอาไว้แน่น พอเห็นว่ามีคนอยูจ่ านวน
มาก มันก็ไม่ผลีผลาม เพียงแต่ใช้เท้าข้างเดียวตะกุยอยูบ่ นพื้นไม่ยอม
หยุด
” หว่านจือ นี่เกิดอันใดขึ้นกับเจ้ากัน? ” ซูกยุ้ เฟยพยุงนางไว้ มองดู
ด้วยสายตาประหลาดใจ “เมื่อครู่ ขา้ ก็กาลังตามหาตัวเจ้าอยูเ่ ลย ทาไม
เพียงแค่ครู่ เดียว เจ้าก็ทาตนเองจนกลายเป็ นเช่นนี้แล้ว? “
” ยังไม่ใช่เป็ นเพราะนังบ่าวของตาหนักเฟิ่ งหมิง อาศัยไก่ตวั หนึ่งมา
รุ มทาร้ายหม่อมฉันจนมีสภาพเช่นนี้ ” อันหว่านจือขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“หม่อมฉันโตมาจนป่ านนี้ไม่เคยถูกรังแกถึงเพียงนี้มาก่อนเลย!
หม่อมฉันจะไปฟ้องท่านย่า ให้นางจัดการให้หม่อมฉัน! “
” อันหร่ วนกูกพู ่ งึ กลับเข้าวังมา เดินทางมายาวไกล นางมีอายุมาก
แล้วสมควรพักผ่อนให้มาก เจ้าก็อย่าได้ไปรบกวนผูเ้ ฒ่าเช่นนางเลย
” ซูกนุ้ เฟยกล่าว “ตัวข้ากับไทเฮาจะอย่างไรก็สนิมสนมกันดุจพี่นอ้ ง
อยูแ่ ล้ว หากว่าบ่าวไพร่ ใต้การดูแลของนางทาร้ายเจ้าจริ ง ข้าก็จะ
จัดการลงโทษให้เจ้าเอง”
หว่านจือพอได้ฟัง ก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง นางคว้ามือซูกยุ้ เฟยเอาไว้ ตอบ
ว่า “ยังคงเป็ นซูกยุ้ เฟยที่เมตตาต่อหม่อมฉัน “
ซูกยุ้ เฟยคลี่ยมิ้ บาง ๆ งดงามตรึ งตราตรึ งใจ
แม้แต่องค์หญิงใหญ่ยงั รู ้สึกว่าสายตาพร่ าเลือนไปวูบหนึง
ผูค้ นใต้หล้าต่างรู ้วา่ โฉมงามอันดับหนึ่งของแคว้นต้าโจวคือตู๋กซู ิงห
ลัน ซึ่งอภิเษกให้กบั อดีตฮ่องเต้จนกลายเป็ นไทเฮา
โฉมงามอันดับสองของต้าโจว ก็ยอ่ มเป็ นบุตรตรี สายตรงของซูอ๋ ู
ท่านอ๋ องแห่งหย่งโจว นามซูเหม่ย
ตั้งแต่ตอนที่ฝ่าบาทยังมิได้ข้ ึนครองราชย์ ท่านอ๋ องแห่งหย่งโจวผูน้ ้ ีก็
ยึดมัน่ ในองค์ชายสี่ อย่างไม่มีสนั่ คลอนแล้ว พอฝ่ าบาทขึ้นครองราชย์
ก็รับบุตรสาวของเขามันเป็ นกุย้ เฟยในทันที
หากจะกล่าวว่าตู๋กซู ิงหลันงดงามดุจเทพธิดา ซูเหม่ยก็เลอโฉมดุจ
นางมาร
นางมีคิ้วโก่งดุจสะพานทอดยาว รู ปร่ างสะโอดสะอง ใบหน้านั้น
เรี ยกว่าต่อให้เป็ นสตรี ดว้ ยกัน แต่หากได้สบตาสักครั้งก็อยากที่จะลืม
เลือนไปได้
ด้วยศักดิ์ฐานะเช่นนี้ รู ปโฉมที่งดงามเพียงนี้ หากคิดจะไม่เป็ นที่
โปรดปรานแต่เพียงผูเ้ ดียวในวังหลังก็นบั ได้วา่ ยากนัก แต่วา่ อุปนิสยั
ของนางสมถะเรี ยบง่าย ทั้งยังหลงใหลในการบาเพ็ญเพียร พอพึ่งจะ
ได้รับแต่งตั้งเป็ นกุย้ เฟย ก็อาสาไปเฝ้าสุ สานแทนฉางซุนฮองเฮา ณ
เขาจงหลิน นางกล่าวว่าเพื่อสวดภาวนาให้แคว้นต้าโจว กตัญญูแทน
ฝ่ าบาท ที่จริ งแล้วย่อมเป็ นว่าในเขาจงหลินนั้นสามารถสัมผัสกับไอ
ทิพย์ที่บริ สุทธฺ ์ได้มาก
ฝ่ าบาทก็ทรงมีน้ าพระทัยกว้างขวาง ย่อมปล่อยโฉมงามถึงเพียงนี้ไป
เฝ้าสุ สาน
พอดีกบั ที่เมื่อฉางซุนฮองเฮาสวรรคตไปแล้ว แม่นมอันหร่ วนก็ไป
เฝ้าสุ สานที่เขาจงหลินเช่นกัน ครั้งนี้ท้ งั สองคนจึงกลับมาพร้อมกัน
เฮ่อ ผูท้ ี่ร่วมขบวนกลับมาด้วย ยังมีหลานสาวของอันหร่ วน คุณหนู
อันหว่านจือ
ซูเหม่ยเป็ นคนถ่อมตน เมื่อกลับมาก็มิได้ประกาศศักดิ์ดาอวดอ้างอัน
ใด แม้แต่ผคู ้ นในวังหลายคนยังไม่รู้ข่าวคราว
วันนี้ที่องค์หญิงใหญ่ได้พบนาง ถือว่าเป็ นเรื่ องบังเอิญโดยแท้
คราวนี้ อันหว่านจือก็คว้ามือของซูกยุ้ เฟยเอาไว้แน่น นางพูดพลางก็
หันหน้ากลับไปดู จึงเห็นว่านังบ่าวของตาหนักเฟิ่ งหมิงผูน้ ้ นั ถึงกับ
กล้าเดินมาทางพวกนาง
ยามนี้ต๋ ูกูซิงหลันค่อย ๆ เดินออกมาจากตาหนักเฟิ่ งหมิง นางอดกลั้น
ต่อความปวดกระดูกก้นกบเอาไว้ ท่วงท่าเดินเหิ นยังคงกระปลกกระ
เปลี้ยอยูบ่ า้ ง
เมื่อพบเห็นคนทั้งหลาย สายตาของนางก็ถูกซูเหม่ยดึงดูดไปเสี ยแล้ว
ในวังหลังมีพระสนมมากมาย แต่ผทู ้ ี่สามารถทาให้นางผ่านตาแล้ว
ไม่ลืมเลือนได้น้ นั มีอยูไ่ ม่มาก นอกจากเต๋ อเฟยที่สู้กนั จนเกือบจะตาย
ไปข้างหนึ่ง ก็มีแต่นางมารน้อยเช่นหยวนเฟยเท่านั้น
เมื่อเปรี ยบเทียบกับหยวนเฟยที่ดูเป็ นนางมารน้อยแสนน่ารัก พระ
สนมที่อยูเ่ บื้องหน้าผูน้ ้ ีสิ…….ถึงจะเป็ นนางมารตัวจริ ง!
โครงร่ างที่ทรงเสน่ห์ไปทั้งตัว เปลือกตาอมชมพู นัยตาที่สะท้อน
ความลึกลับที่ถูกซุกซ่อนไว้ เพียงสบตาแค่แวบเดียวก็เหมือนกับ
วิญญาณจะหลุดลอยออกไป
มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างไม่อาจหักห้าม ถือเป็ นระดับที่สูงส่ งเลยทีเดียว
ทั้งที่สวมชุดแดงรัดกุมตลอดร่ าง แต่ยงั คงดูแล้วน่าขนลุกไปจนถึง
กระดูก
พอเห็นนางเดินออกมา อันหว่านจือก็หวั เราะเสี ยงเย็นอยูใ่ นใจ ยามนี้
ตนเองมีที่พ่ งึ พิงแล้ว จึงชี้นิ้วใส่ ต๋ ูกซู ิงหลันกล่างว่า “เป็ นนางนี่ละ!
เป็ นบ่าวไพร่ ผนู ้ ้ ี นาง นางยังคิดจะปล่อยงูมากัดข้า! “
ซูกยุ้ เฟยหันมามองทางตู๋กูซิงหลัน เห็นนางสวมใส่ เสื้ อผ้าของนาง
กานัลอย่างเรี ยบง่าย เส้นผมเปี ยกชื้นลีบติดใบหน้า ใบหน้าดูไปซีด
ขาวอยูบ่ า้ ง ท่าทางคล้ายอ่อนล้าโรยแรง
ยิง่ ทาให้นึกถึงท่าทางการเดินเหินของนางเมื่อครู่ สี หน้าของซูเหม่ยก็
เปลี่ยนไปในทันที
” กุย้ เฟยเพคะ ท่านต้องจัดการให้หม่อมฉันนะเพคะ! ” อันหว่านจือ
เห็นนางไม่กล่าววาจาก็ร้อนใจขึ้นมา
ไม่ทนั รอให้ซูเหม่ยเอ่ยปาก ก็เห็นซุ่นเอ๋ อร์ปล่อยมือจากองค์หญิง
ใหญ่ กึ่งวิง่ กึ่งกระโดดเข้าไปอยูข่ า้ ง ๆ ตู๋กูซิงหลัน กอดขานางเอาไว้
ออดอ้อนว่า
” ท่านย่าน้อย! “
น้ าเสี ยงที่เรี ยกขานนั้นหวานเสี ยจนคนฟังต้องใจละลายแล้ว!
” ท่านย่าน้อย? ” ดวงตาของอันหว่านจือถึงกับตะลึงจนโง่งมไปแล้ว
ท่านหญิงน้อยตาบอดไปหรื อเปล่า? นัน่ เป็ นบ่าวไพร่ ผหู ้ นึ่งมิใช่
หรื อ?
” เด็กดี ” ตู๋กูซิงหลันบิดเอว ลูบไล้ศีรษะของนาง
” ไทเฮาเพคะ ” จากนัน่ องค์หญิงใหญ่กถ็ วายคานับต่อตู๋กซู ิงหลัน
“ไยพระองค์……จึงมีสภาพเช่นนี้? “
อันหว่านจือ “??? “
ตู๋กูซิงหลันหัวเราะเบา ๆ “เมื่อครู่ ลื่นตกลงไปในสระน้ า ไม่เป็ นไร
หรอก “
พอนางพึ่งจะพูดจบลง ก็เห็นซูกยุ้ เฟยถลันออกมา คว้ามือของนาง
เอาไว้ “เจ้าลื่นล้ม? อากาศเย็นถึงเพียงนี้ เจ้าลื่นตกไปในสระได้
อย่างไร? “
นางทางหนึ่งกล่าวพลาง ทางหนึ่งก็นวดมือนวดไม้ของตู๋กซู ิงหลัน
ไปด้วย สายตาของนางเต็มไปด้วยความกังวลใจ
อันหว่านจือ “!!! ” ไหนรับปากว่าจะออกหน้าจัดการให้นางไง? แล้ว
นี่มนั หมายความว่าอย่างไรกัน?
ตอนที่ 127 อาหลัน
ตู๋กซู ิงหลันเองก็มีสีหน้าเหวอไปแล้ว ….นางแทบจะอยากเรี ยกจิต
วิญญาณที่ยงั หลงเหลืออยูข่ องเจ้าของร่ างเดิมออกมาซักถามเสี ย
เดี๋ยวนี้วา่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่
ที่แท้คือคนงามต่างก็ชอบเล่นกุ๊กกิ๊กกับคนงามด้วยกันใช่ไหม?
ผูอ้ ื่นต่างก็อ้ าอึ้งไปตาม ๆ กัน ท่ามกลางสายตาผูค้ นหลายคู่ กุย้ เฟยก
ลับแสดงออกเช่นนี้……ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ กระมั้ง?
“องค์หญิงใหญ่เพคะ กุย้ เฟยเพคะ พวกท่านจาคนผิดไปแล้วหรื อไม่
นางเป็ นแค่นางกานัลคนหนึ่งเท่านั้น! ” อันหว่านจือชักร้อนรนขึ้น
ไปอีก “นังบ่าวไพร่ ผนู ้ ้ ี ยังคิดจะเอางูพิษมากัดหม่อมฉันด้วยนะเพ
คะ! “
พอนางกล่าวออกไป ผูค้ นทั้งหลายต่างก็หนั ไปมองดูเจ้าไก่ขนฟูที่อยู่
ข้างตัวตู๋กูซิงหลัน
อุง้ เท้าของเจ้าไก่ขนฟูยงั คงยังคงคีบเจ้างูสีแดงตัวนั้นเอาไว้ งูตวั
นั้นเองก็ใกล้จะตายมิตายแหล่ หายใจร่ อแร่ เต็มทน
เล่าลือกันว่าไทเฮาและหยวนเฟยสนิมสนมกันมาก งูตวั นั้นอาจจะ
เป็ นนางได้รับมาจากหยวนเฟย เพื่อก่อเรื่ องร้ายบางประการก็
เป็ นได้?
ตู๋กซู ิงหลันได้ยนิ ดังนั้นก็หวั เราะออกมา “เรื่ องที่เราไม่เคยกระทามา
ก่อน เจ้ากลับพยายามยกขึ้นมากล่าวหาว่าเราทา ถ้าเช่นนั้นไยเราจึง
ไม่ทาไปเสี ยเลยละ จะได้ไม่เสี ยน้ าใจเจ้า “
พอนางพูดจบก็หนั ไปสบตากับเจ้าไก่ขนฟูน้ นั ครั้งหนึ่ง เจ้าไก่ขนฟูก็
ใช้เท้าของมันสะบัดออกไป โยนเจ้างูตวั นั้นเข้าใส่ อนั หว่านจือ
เจ้างูได้รับความตระหนกมาแต่แรก อีกทั้งบนร่ างของอันหว่านจือก็
มีกลิ่นโลหิตสด มันจึงอ้าปากกัดเข้าที่แขนของนางไปคาหนึ่ง
อันหว่านจือกรี ดร้องขึ้นมาครั้งหนึ่ง ริ มฝี ปากของนางก็เปลี่ยนเป็ นสี
ม่วงไปในทันที นางรี บล้วงเอาขวดใบหนึ่งออกมาจากอกเสื้ อ เทเม็ด
ยาสี ขาวออกมาจากด้านใน กลืนยาเม็ดนั้นลงไปต่อหน้าต่อตาผูค้ น
ทั้งหลาย
เพียงไม่นานริ มฝี ปากของนางก็เปลี่ยนกลับเป็ นสี เดิมตามธรรมชาติ
อีกครั้ง
” อ๋ อ? นี่ยงั พกยาแก้พิษงูเอาไว้เองอีกด้วยหรื อ? ” ตู๋กูซิงหลันหัวเราะ
เสี ยงเย็นชา
ที่จริ งแล้วถึงนางจะไม่พดู ออกมา ผูค้ นทั้งหลายต่างก็รู้แล้ว นี่มนั
ชัดเจนเลยว่าเป็ นอันหว่านจือก่อเรื่ อง งูน้ ีเป็ นฝี มือของนางเอามา
ปล่อยที่ตาหนักเฟิ่ งหมิง
เมื่อเห็นเช่นนี้ ซูกยุ้ เฟยก็ระเบิดโทสะแรงกล้าออกมา นางหันกลับไป
จ้อง และตะคอกใส่ เสี ยงดัง ” อัน! หว่าน! จรื อ! “
อันหว่ายนจรื อพึ่งจะเคยถูกซูกยุ้ เฟยเรี ยกนางทั้งชื่อแซ่เป็ นครั้งแรก
นางตระหนกเสี ยงจนสองขาอ่อนแรง “พระสนม หม่อมฉัน…..”
” เจ้าคิดจะกระทาสิ่ งใดกับอาหลัน? ” รังสี โทสะของนางยังคงไม่
ลดลงแม้แต่นอ้ ย เดิมทีนางก็มีแรงดึงดูดมากอยูแ่ ล้ว พอคราวนี้ยงิ่ มา
มีโทสะเพิ่มขึ้นไปอีก แก้มทั้งสองบนใบหน้าก็ยงิ่ มีสีสนั เข้มขึ้นมา
อีกขั้น
ขอเพียงเป็ นหญิงงาม ถึงแม้วา่ จะมีโทสะขึ้นมา จะอย่างไรก็ยงั หน้าดู
เพียงแต่เมื่อได้ยนิ คาเรี ยกหาว่าอาหลันเข้า ตู๋กูซิงหลันก็รู้สึกขนอ่อน
ลุกชันขึ้นมาทันที พลันคิดไปถึงคนผูห้ นึ่ง
ความสัมพันธ์ของเจ้าของร่ างเดิมและซูเหม่ย ถึงกับใกล้ชิดสนิท
สนมกันจนถึงขนาดเรี ยกหากันเช่นนี้เชียวหรื อ?
” หม่อม หม่อมฉันไม่ทราบเลยเพคะ พระสนม หม่อมฉันเติบโตใน
ป่ าเขามาตั้งแต่เล็ก จึงมักพกพายาแก้พิษติดตัวเอาไว้ เอาไว้กบั ตัว นี่
ไม่ใช่เรื่ องปกติหรอกหรื อ? ” อันหว่านจือแก้ตวั ไปขุ่น ๆ เวรกรรม
เข้าแล้ว นางไหนเลยจะคาดคิดว่า นางกานัลที่ปล่อยผม
กระเซอะกระเซิงที่บงั เอิญพบหน้ากันครั้งแรกในพระตาหนักเฟิ่ งหมิ
งจะกลายเป็ นไทเฮาไปได้?
นี่นะหรื อ คือยอดสตรี อนั ดับหนึ่งของแคว้นต้าโจว?
ผูค้ นทั้งหลายต่างตาบอดกันไปหมดแล้วหรื อไม่! “
” ก็คงใช่ เป็ นเรื่ องปกติ ” ปอยผมของตู๋กซู ิงหลันเปิ ดออกให้เห็นใบ
นางจดจ้องอันหว่านจืออย่างตรง ๆ คลี่ยมิ้ เย็นชาให้นาง
แต่วา่ รอยยิม้ นี้ แทบจะทาให้วิญญาณของอันหว่านจือหลุดลอยออก
ไปแล้ว
ตั้งแต่ที่นางได้พบคนงามเช่นซูกยุ้ เฟย เมื่อนางไปเห็นสตรี อื่น ก็รู้สึก
ว่าดูธรรมดาเหลือเกิน ไม่ตอ้ งตาแม้แต่นอ้ ย
แต่วา่ สตรี ที่อยูเ่ บื้องหน้าผูน้ ้ ี ………พอได้สบตากับนางแล้ว ถึงกับ
ทาให้ลมหายใจของนางสะดุด
เพียงแค่ได้เห็นสายตาคู่น้ นั ก็บงั เกิดแรงกดดันที่ไม่อาจต่อต้านได้ ทา
ให้นางชะงักอยูก่ บั ที่ สองขาหนักขึ้นจนไม่อาจขยับ
ตู๋กูซิงหลันเดิมมาถึงเบื้องหน้านาง ยืน่ มืออกมาเชยใบหน้านางขึ้น
อันหว่านจือก็พลันรู ้สึกว่าสองขาไร้เรี่ ยวแรง ร่ างกายแทบจะทรุ ดลง
ไปกอง
ตู๋กซู ิงหลันยังไม่ปล่อยมือ เพียงแต่จดจ้องนางละเอียด พิจารณาดู
ใบหน้านั้นทั้งซ้ายและขวา
อืม ถือว่างดงามปราณี ตไร้ตาหนิ
ตอนแรกอันหว่างจรื อนึกว่านางคิดจะทาลายโฉมของตน ในใจทั้ง
กรุ่ นโกรธทั้งหวาดกลัว ได้แต่จดจ้องนางแต่ไม่กล้าขยับ หากว่านาง
กล้าแตะต้องใบหน้าของตนเองแม้เพียงนิดเดียว ต่อให้นางเป็ นถึงไท
เฮา ตนก็จะไม่ละเว้นนางเด็ดขาด!
ถึงแม้ซูกยุ้ เฟยจะไม่ยอมออกหน้าให้นาง นางก็ยงั มีท่านย่าอยู!่
จะว่าไป นางเคยได้ยนิ มานานแล้วว่า ฝ่ าบาททรงชิงชังตระกูลตู๋กู
และรังเกียจไทเฮา นี่กพ็ ่ งึ จะยอมปล่อยนางออกมาจากตาหนักเย็นได้
ไม่นานเอง นางกลับกล้ากาแหงถึงเพียงนี้ ช่างไม่รู้จกั ดูน้ าหนักของ
ตนเองว่ามีเท่าใด แม้แต่คนเช่นตนก็กล้าแตะต้อง?
องค์หญิงใหญ่และซูกยุ้ เฟยมองดูอยูท่ ี่ดา้ นข้าง ต่างก็มิได้ยนื่ มือ
ขัดขวางตู๋กซู ิงหลัน อันหว่านจือขวัญกล้าบังอาจปล่อยงูพิษเข้ามาใน
ตาหนังเฟิ่ งหมิง สาวน้อยนางนี้ยอ่ มมิใช่ตวั ดีแน่
ไม่วา่ ตู๋กซู ิงหลันจะสัง่ สอนนางเช่นไร ก็ไม่นบั ว่าเกินเลยไป
แต่วา่ ตู๋กซู ิงหลันเพียงแต่จบั ใบหน้าของนางดูอยูน่ านสองนาน ค่อย
หัวเราะออกมาคาหนึ่ง ” ขี้ผ้ งึ ทาปากของเจ้าสี สวยดี”
สี แดงเข้ม ดุจกลีบกุหลาบหยาดเยิม้ ปานจะหยดลงมา
ในโลกมิติก่อนนั้นฉากหน้าของตู๋กซู ิงหลันคลุกคลีอยูใ่ นวงการ
ภาพยนต์ ยามว่างนางก็ชอบสะสมลิปสติก แต่เมื่อมาถึงโลกนี้กลับ
ยังไม่มีโอกาสได้แต่งหน้า
แคว้นต้าโจวไม่มีข้ ีผ้ งึ ทาปาก เหล่าสตรี ต่างใช้ดอกไม้สดหรื อไม่ก็
ไขมันสัตว์บางชนิดทาปาก จึงไม่ค่อยได้เห็นว่าจะมีสีแดงที่สดเข้ม
ขนาดนี้
แดงดุจเลือดทีเดียว
อันหว่านจือชะงักไปครู่ หนึ่ง ” นัน่ ….นัน่ ย่อมแน่นอน….”
ขี้ผ้ งึ ทาปากของนางทาขึ้นอย่างปราณี ตบรรจง ใช่ส่วนผสม
เช่นเดียวกับที่ฉางซุนฮองเฮาเคยโปรดปราน ซึ่งแม้แต่พระสนมใน
วังทั้งหลายต่างก็ไม่มีคุณสมบัติจะได้ใช้
อย่าว่าแต่…..คนที่ฝ่าบาทเองก็ไม่ทรงโปรด ยัยแม่ม่ายที่พ่ งึ จะได้
ออกมาจากตาหนักเย็น!
” อาหลัน หากว่าเจ้าชมชอบขี้ผ้ งึ มาปาก ที่ตาหนักของข้ามี
ให้เจ้าเลือกมากมาย ไยจะต้องไปสนใจของนางด้วย? ” ซูกยุ้ เฟย
เห็นตู๋กซู ิงหลันยังคงเชยคางของนางไว้ ก็เดินเข้ามาใกล้ เกาะกุมมือ
ทั้งคู่ที่นุ่มนวลดุจหนังแกะของนาง ลูบไล้นิ้วโป้งที่ขาวสะอาดนั้น
หัวคิ้วขมวดมุ่น
” ข้าพึ่งจะได้รับสี ผ้ งึ ทาปากชุดใหม่จากร้านหนานเยีย่ น หากว่า
ไทเฮาทรงโปรด กลับไปข้าจะรี บส่ งมาถวาย” องค์หญิงใหญที่อยู่
ด้านข้างรับสัง่ ออกมา
ถึงแม้วา่ ระหว่างนางและตู๋กูจุนจะมีหนี้แค้นชีวิตสามี แต่วา่ ตู๋กซู ิงห
ลันเคยช่วยชีวิตซุ่นเอ๋ อร์เอาไว้ นางติดค้างบุญคุณอันยิง่ ใหญ่น้ ีอยู่
นางสนใจเพียงตัวบุคคล บุญคุณและความแค้นแบ่งแยกชัดเจน
ตู๋กซู ิงหลันคลี่ยมิ้ บางเบา ค่อยปล่อยมือที่จบั ใบหน้าอันหว่านจือ
เอาไว้
อันหว่านจือเมื่อเป็ นอิสระ ก็ถอนใจออกมาคาหนึ่งค่อยตอบว่า
“ไทเฮาเพคะ เมื่อครู่ เพียงเกิดความเข้าใจผิดกันเท่านั้น หากว่าทรง
โปรด หม่อมฉันจะส่ งมาถวายพระองค์สกั หน่อยก็ได้ “
เป็ นถึงไทเฮาของประเทศ แต่กลับยากจนถึงขนาดที่แม้แต่ข้ ีผ้ งึ ทา
ปากยังไม่เคยเห็น ทั้งยังต้องไปเอามาจากผูอ้ ื่นอีก หึ
อันหว่านจือพึ่งพูดจบ ซุ่นเอ๋ อร์กเ็ ขย่ากระโปรงของตู๋กซู ิงหลันกล่าว
ว่า “ท่านย่าน้อย ท่านสวยงามขนาดนี้ ไม่จาเป็ นต้องทา ๆ ถู ๆ อะไร
แม้แต่นอ้ ย อาอี้ท่านนี้หน้าตาไม่ค่อยดี ถึงต้องทาถู”
อันหว่านจือถลึงตาใส่ ซุ่นเอ๋ อร์ครั้งหนึ่ง นังเด็กน้อยนี่ ช่างไร้การ
อบรมแม้แต่นอ้ ย ยังจะสมควรเป็ นเชื้อพระวงค์ฝ่ายหญิงได้อีกหรื อ?
อาอี้? นางพึ่งจะอายุสิบแปดเท่านั้น สมควรจะต้องเรี ยกว่าพี่สาว
ต่างหากสิ
นางได้แต่กรอกตาบนอยูใ่ นใจ ใบหน้ายังมีรอยยิม้ อยูบ่ า้ ง “ท่านหญิง
น้อย เจ้ายังเล็ก ย่อมไม่เข้าใจ เป็ นสตรี ยอ่ มต้องใส่ ใจการแต่งตัว
แต่งหน้า จึงจะมีบุรุษมาชื่นชอบ เอาไว้เจ้าโตขึ้นก็จะรู ้เอง”
” เอ๋ ? จริ งหรื อ? ” ซุ่นเอ๋ อร์โยกศีรษะไปมา ” แต่วา่ ท่านย่าน้อยไม่
เห็นต้องแต่งหน้า เสด็จน้าฮ่องเต้กโ็ ปรดปรานนางออก “
อันหว่านจือ “………” นังเด็กน้อยนี่หากว่าไม่ใช่ท่านหญิงน้อย นาง
จะจับตบให้ตายไปเสี ย!
ฝ่ าบาทโปรดปรานนาง?
นอกจากว่ามีใบหน้าน่าดูแล้ว อย่างอื่นก็หารสชาติไม่ได้สกั นิด
ฝ่ าบาทไม่ได้พระเนตรบอด ย่อมต้องทรงทราบดี สตรี เช่นนาง
ต่างหากจึงนับว่ายอดเยีย่ ม
ตอนที่ 128 ไทเฮา คือสตรีเจ้ าชู้ !
อันหว่านจือคิดจะกล่าวอะไรออกไป แต่เห็นองค์หญิงใหญ่สีพระ
พักตร์ไม่ดี อันหว่านจือย่อมรู ้จกั อ่านสี หน้าผูอ้ ื่น ไม่ทนั พูดอะไรก็
กล้ ากลืนกลับลงไป
นางอดที่จะหันไปมองดูซูกยุ้ เฟยไม่ได้ คาดหวังว่านางจะช่วยตน
พูดจาสิ่ งใดบ้าง แต่ไหนเลยจะคิดว่าซูเหม่ยกลับมีสีหน้าเย็นชา เดิน
มาถึงด้านหน้านาง ทันทีที่ยกมือขึ้นมา ก็ตบลงบนใบหน้าของอัน
หว่านจือ
” เพี้ยะ! “
ตบเดียวนั้นเสี ยงกลับดังชัดเจน รุ นแรงอย่างที่สุด เรี ยกว่าตบเพียง
ครั้งเดียวอันหว่านจือถึงกับลงไปกองกับพื้น ใบหน้าที่ปูดบวมนั้น
หันกลับมามองดูซูกยุ้ เฟยอย่างไม่อาจเชื่อสายตาตนเอง
ตู๋กซู ิงหลันหรี่ ตาดูอย่างพิจารณา
นางเห็นซูกยุ้ เฟยยืนอยูด่ า้ นหน้าอันหว่านจือ สี หน้าเปี่ ยมไปด้วย
โทสะ “ตบนี้ เพราะเจ้าไม่รู้จกั ที่ต่าที่สูง ไทเฮาแต่ไหนแต่ไรน้ า
พระทัยดีมีเมตตา หญิงชาวป่ าหยาบคายอย่างเจ้าไหนเลยคิดจะมา
รังแกได้กนั ? “
อันหว่านจือพูดไม่ออกไปแล้ว นางเคยรังแกไทเฮาที่ไหนกัน?
ยังมี…..ตลอดทางที่นางจะเข้าวังมา ล้วนแต่ได้ยนิ ข่าวเล่าลือว่า
ไทเฮาทรงเป็ นนางมารทาร้ายชาติและประชาชน นิสยั โหดเ**้้ยม
ฝี มือร้ายกาจ เพียงแต่ช่วงนี้พ่ งึ จะเปลี่ยนเป็ นผูเ้ ป็ นคนกับเขาบ้าง
ทาไมพอออกจากปากของซูกยุ้ เฟยถึงได้กลายเป็ นนิสยั ดีมีเมตตาไป
แล้ว?
นางยังไม่ทนั ได้กล่าวอะไร ก็เห็นซูเหม่ยยกเท้าขึ้นกระทืบลงไปบน
ร่ างของนาง “เท้านี้ ถือเป็ นการสัง่ สอนให้เจ้าเติบโต หากว่าเจ้ายังคิด
จะอยูใ่ นวังต่อไป ก็ไปร่ าเรี ยนกิริยามารยาทให้ดี! “
ฝ่ าเท้านี้ใช้ออกด้วยพละกาลังอย่างเต็มที่ กระทืบลงไปจนอันหว่านจื
อแทบจะจะกระอักเลือดออกมา
นางคิดไม่ถึงจริ ง ๆ ตอนที่เดินทางเข้าวังมากับซูกยุ้ เฟย อีกฝ่ ายมีนิสัย
เปิ ดเผยอลุ่มอล่วย แต่พอมาเจอตู๋กซู ิงหลัน นางกลับเปลี่ยนเป็ นคน
ละคน ราวกับระเบิดลูกหนึ่ง แตะต้องไม่ได้ ด่าว่าไม่ได้?
งูของนางพวกนั้นก็ไม่ได้กดั โดนตู๋กซู ิงหลันเสี ยหน่อยนี่?
ในใจนางมีแต่โทสะไม่อาจระบาย ได้แต่กล้ ากลืนลงท้องไป รี บตอบ
คาว่า “กุย้ เฟยสัง่ สอนได้ถูกต้องแล้วเพคะ หว่านจือสานึกผิดแล้วเพ
คะ ต่อไปไม่กล้าอีกแล้ว “
อย่าได้ให้นางหาโอกาสได้เชียวนะ! ขอเพียงฝ่ าบาทได้พบนางสัก
หลายครั้ง ใครจะได้เป็ นนายหญิงของวังหลังก็ยงั ไม่แน่หรอก
คราวนี้ สี หน้าของซูกยุ้ เฟยค่อยดีข้ ึนบ้าง นางเดินมาถึงข้างกายตู๋กู
ซิงหลัน ” อาหลัน ด้านนอกอากาศหนาว เจ้ารี บกลับเข้าตาหนักไป
เถอะ “
นางพูดพลาง สายตาก็เปิ ดเผยความห่วงใยจนร้อนรนออกมา ” ข้าแค่
ไปภูเขาจงหลิงมารอบหนึ่ง …….เจ้าทาไม ทาไมถึงได้ทาให้ตนเองมี
สภาพเช่นนี้ไปได้ “
ว่าพลาง นางก็ดึงตัวตู๋กซู ิงหลันมากอดเอาไว้ในอ้อมอก “อาหลัน
วางใจเถอะนะ ข้ากลับมาแล้ว “
ตู๋กซู ิงหลันเคยชินแต่ลูบคลาเอารัดเอาเปรี ยบผูอ้ ื่น พออยูด่ ี ๆ กลับ
โดนนางมารทรงเสน่ห์ผหู ้ นึ่งจับกินบ้าง นางชักจะไม่คุย้ เคยเท่าไหร่
บนร่ างของซูเหม่ยมีกลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ พอไม่ต้ งั ใจดมกลิ่นจะเข้ม
ขึ้น แต่พอคิดจะดมอีกครั้งกลิ่นกลับเบาบางลงไป ราวกับดอกไม้ที่
ผลิบานแล้วจะโรยรา เพียงพบเห็นก็สลายเป็ นหมอกควัน
กลิ่นเช่นนี้ …….สาหรับนางแล้ว กลับรู ้สึกคุย้ เคยยิง่ นัก
แต่เมื่อได้พบคนงามที่สะสวยตั้งแต่หางคิ้วไปจนถึงโครงกระดูก น่า
ชมดูเสี นจนวิญญาณจะแทบหลุดลอย นางก็ตบไหล่ของกุย้ เฟยเบา ๆ
จับมือของนางมากุมไว้
” พูดไปเรื่ องช่างยาวนัก….เจ้าเข้าไปในตาหนักกับข้าเถอะ พวกเรา
จะได้ค่อย ๆ พูดคุยกัน “
ซูเหม่ยรี บพยักหน้าติด ๆ กันในทันที กล่าวอย่างยินดีวา่ ” ดีเลย”
ดวงตาของนางโค้งมน ยามแย้มยิม้ ดุจปี ศาจจิ้งจอกที่ทาให้จิตใจผูค้ น
หลุดลอย
สายตาของอันหว่านจือถึงกับโง่งมไปแล้ว ทาไมนางถึงได้รู้สึกว่า
เหตุการณ์เบื้องหน้าดูประหลาดนัก
องค์หญิงใหญ่เองก็ชะงักไปบ้าง นางไม่ค่อยทราบถึงเรื่ องราวของตู๋กู
ซิงหลันเท่าใดนัก เพียงแต่เคยได้ยนิ มาว่า ก่อนจะเข้าวังมานั้น นาง
และซูกยุ้ เฟยมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมมาก
คิดไม่ถึงว่าพอทั้งสองได้พบหน้ากัน ยังดูสนิทสนมเสี ยยิง่ กว่าพี่สาว
น้องสาวแท้ ๆ เสี ยอีก
” อ๋ อ จริ งสิ กลับไปแล้วจาไว้วา่ ให้ส่งขี้ผ้ งึ ทาปากชุดหนึ่งมายัง
ตาหนักเฟิ่ งหมิงด้วย” ตู๋กซู ิงหลันไม่ลืมหันหน้าไปสัง่ อันหว่านจือ
” เห็นแก่หน้าซูกยุ้ เฟย เรื่ องในวันนี้เราจะไม่เอาความอีก หากไม่มี
เรื่ องใดแล้ว เจ้าก็ไสหัวไปเถอะ “
อันหว่านจือ “……..”
นางยิง่ คิดก็ยงิ่ แค้น ตอนออกจากเรื อนไม่ได้ดูฤกษ์ดูยามแท้ ๆ ไม่
เพียงแต่พา่ ยแพ้ ทั้งยังจะต้องส่ งมอบสี ผ้ งึ ชั้นดีให้กบั นางอีกด้วย?
นัน่ นะเป็ น…….ของที่ท่านย่าตั้งใจตระเตรี ยมให้ตนเองโดยเฉพาะ ที่
ตนพูดกับนางนั้นเป็ นเพียงวาจาประสาเกรงอกเกรงใจเท่านั้น นังตัว
ร้ายนี่ถึงกับจะเอาจริ ง?
ของที่นางเองไม่มี กลับคิดจะมาลักเอาจากตน ไม่คิดจะรักษาหน้าตา
บ้างหรื อไร?
” องค์หญิงกับซุ่นเอ๋ อร์กเ็ ข้ามานัง่ ด้วยกันเถอะ ” ตู๋กซู ิงหลันเองก็
มิได้ลืมองค์หญิงใหญ่และเด็กหญิงตัวน้อย
ซุ่นเอ๋ อร์แทบจะกระโดดบินตามไป มือน้อย ๆ คว้านิ้วของนางเอาไว้
แน่น จะให้นางจับจูงให้ได้
ตู๋กูซิงหลันคลี่ยมิ้ อย่างอ่อนโยน
องค์หญิงใหญ่ได้แต่ส่ายพระพักตร์ เด็กน้อยซุ่นเอ๋ อร์ ใครไม่รู้จะพาล
คิดไปว่าตู๋กซู ิงหลันคือมารดาแท้ ๆ ของนาง นับตั้งแต่ที่ไทเฮาทรง
ช่วยชีวิตเอาไว้ ก็เอาแต่ร่ าร้องจะเข้าวังมาเล่นกับนางอยูต่ ลอดเวลา
เด็กน้อยผูน้ ้ ีไม่เคยติดใจใครมาก่อน แต่วา่ กับไทเฮาแล้วไม่
เหมือนกัน
พออันหว่านจือพึ่งจะลุกขึ้นมาได้ ตู๋กซู ิงหลัน กับซูกยุ้ เฟย และพวก
องค์หญิงใหญ่กก็ าลังจะพากันเข้าไปในตาหนักเฟิ่ งหมิงแล้ว
แต่แล้วกลับเห็นหลี่กงกงรี บร้อนวิง่ เข้ามา ที่ดา้ นหลังของเขายังมี
หยวนเฟยติดตามมาด้วย ท่ามกลางฤดูหนาวแท้ หยวนเฟยยังคงสวม
ชุดกระโปรงสี ชมพูที่เปิ ดเผยเรี ยวแขนเรี ยวขา เพียงแต่ชายกระโปรง
เพิม่ ขนกระต่ายสี ดาอยูร่ อบ ๆ ซึ่งคงไม่ได้ช่วยเพิม่ ความอบอุ่นในที่
ใด
หลี่กงกงมาถึงก็ได้เห็นภาพอันแสนงดงามที่ต๋ ูกซู ิงหลันและซูกยุ้ เฟ
ยจูงมือกันและกัน
สวรรค์โปรดเถอะ ไทเฮาได้โปรดหยุดยั้งพลังเสน่ห์ของนางได้
หรื อไม่? ทาไมแม้แต่ซูกยุ้ เฟยที่พ่ งึ จะกลับเข้าวังมาก็ยงั …..ถูกดึงดูด
ไปด้วย?
หยวนเฟยย่อมมองเห็นอย่างชัดเจน หว่างคิ้วของนางอดจะขมวดมุ่น
ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่รู้ต้ งั แต่แรกแล้วว่าไทเฮาชื่นชอบอิสตรี แต่พอมาเห็น
นางจับจูงมือของผูอ้ ื่นเข้าจริ ง ๆ ความรู ้สึกที่ได้มาเห็นภาพบาดตา
เช่นนี้ช่างรุ นแรงนัก
ไทเฮา คือสตรี เจ้าชูจ้ ริ ง ๆ !
ก่อนหน้านี้เอง ที่ประตูตาหนักเฟิ่ งหมิงนี้ สถานที่เดียวกันแท้ ๆ สตรี
คนไหนที่แซ่ต๋ ูกนู ามซิงหลันกล่าวเอาไว้วา่ จะคอยดูแลอยูเ่ คียงข้าง
นางไปตลอด?
ดีนกั พอหมุนตัวไปก็รีบไปเกาะไหล่ลูบหลังพระสนมอื่น ตอนนี้ก็
ถึงขนาดจับจูงมือกัน คิดจะพาคนเข้าตาหนักไปหรื อ?
งูเขียวบนท่อนแขนของนางก็กาลังแลบลิ้นส่ งเสี ยงดังซี่ ๆ ออกมา
คล้ายจะเห็นด้วย
หากว่าวันนี้ไม่ได้มาเห็นด้วยตาของตนเอง นางคงไม่รู้วา่ ไทเฮาจะ
เข้าชูถ้ ึงเพียงนี้!
หลี่กงกงพยายามจะปรับอารมณ์ของทุกฝ่ ายให้กลมเกลียวกันเข้าไว้
เขาถวายคานับต่อผูค้ นทั้งหลาย สุ ดท้ายค่อยหันมาทางซูกยุ้ เฟยทูลว่า
” พระสนมเอกพะยะคะ ฝ่ าบาททรงเชิญท่านไปยังพระตาหนักตี้หวั

ซูกยุ้ เฟยเหลือบตาดูสีทอ้ งฟ้าที่เริ่ มมืดลง “ข้าไม่ได้พบไทเฮามานาน
ค่านี้คิดจะอยูร่ ่ วมกับไทเฮาให้นานพูดคุยกันให้มาก
ด้านฝ่ าบาทนั้น…… ขอรบกวนกงกงช่วยข้าปฎิเสธกลับไปได้
หรื อไม่? “
หลี่กงกง “………” ในวังแห่งนี้ จะมีพระสนมคนไหนที่ไม่หวังให้
ตนได้พบกับฝ่ าบาทสักหลาย ๆ ครั้ง แต่ซูกยุ้ เฟยกลับตัดโอกาสไป
เช่นนี้?
” นี่….” หลี่กงกงแสนจะลาบากใจ “ฝ่ าบาทมีรับสัง่ ให้บ่าว จะต้อง
เชิญพระสนมเอกไปยังพระตาหนักตี้หวั ให้ได้……”
เมื่อกล่าวออกไปแล้ว เขาก็ได้แต่หนั ไปมองทางตู๋กซู ิงหลันด้วย
สายตาของความช่วยเหลือ ที่ผา่ นมาไทเฮาน้อยล้วนเป็ นดัง่ พระโพธิ์
สัตว์ที่ช่วยดับน้ าดับไฟให้กบั เขา ครั้งนี้ นางก็จะยังช่วยเขาใช่
หรื อไม่?
ตู๋กซู ิงหลันยังไม่ทนั ได้กล่าวอันใด ก็เห็นหยวนเฟยเดินมาถึงเบื้อง
หน้าคนทั้งสอง ดวงตาที่งดงามทรงเสน่ห์น้ นั จดจ้องซูกยุ้ เฟย “ซูกยุ้
เฟยเพคะ ฝ่ าบาททรงเป็ นพระสวามีของท่าน ท่านจะมาเกาะติด
ไทเฮาทาไม พึ่งจะกลับเข้าวังมา ตามเหตุผลก็สมควรที่จะไปเข้าเฝ้า
ฝ่ าบาทต่างหาก จะมาให้หลี่กงกงต้องลาบากใจเช่นนี้ ไม่สมควร
กระมัง? “
ตอนที่ 129 จิง้ จอกจอมวุ่น
ซูเหม่ยหันมามองดูหยวนเฟยแวบหนึ่ง เห็นนางสวมใส่ เสื้ อผ้าของ
สตรี นอกด่าน บุคคลิกท่าทางดังนางมารน้อย นางก็ยกยิม้ มุมปาก
“พูดเสี ยอย่างกับว่าฝ่ าบาทไม่ใช่สวามีของเจ้าเช่นกัน “
หยวนเฟย “……” ก็ไม่เคยเข้าหอกันสักหน่อย จะนับว่าเป็ นสวามีได้
ที่ไหนกัน
อย่าว่าแต่ ทรวงอกของฝ่ าบาทไม่มีขน ไม่ใช่บุรุษแบบที่นางชื่น
ชอบ!
ในสมองของตู๋กูซิงหลันเต็มไปด้วยเครื่ องหมายคาถาม ทาไมนางถึง
ได้รู้สึกว่าบรรยากาศตอนนี้ยงิ่ ทียงิ่ แปลก ๆ ไปแล้ว?
พวกเจ้าช่วยเรี ยนรู ้จากเต๋ อเฟย ฉีผนิ เหลียนไฉเหริ น สามคนนั้น
หน่อย แก่งแย่งภายในวังกันให้เต็มที่จะได้ไหม?
เจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ ทาผิดอะไร ถึงได้ถูกพวกเจ้าพากันรังเกียจเช่นนี้?
ดูหน้าตา ดูรูปร่ าง ดูฐานะที่เป็ นถึงฮ่องเต้แล้ว ก็นบั ว่าเพียงพอต่อการ
จะให้พวกเจ้าแย่งชิงความโปรดปรานได้อยูน่ ะ! อ๋ อ……เกือบจะลืม
ไปเสี ยแล้วว่าที่จริ งฉีผนิ ได้ทูลขอลาออกไปเป็ นแม่ชีดว้ ยความเต็มใจ
แล้ว เหลียนไฉเหริ น…… ร่ างของนางช่วงนี้กถ็ ูกเสี่ ยวลี่ยดึ เอาไว้แล้ว
คนที่ต้ งั ใจจะต่อสู ้ในวังก็เหลือแต่เต๋ อเฟยคนเดียว แต่วา่ ก็เข้าตาหนัก
เย็นไปแล้ว
พูดไปแล้ว นางก็ไม่ได้พบหน้าเสี่ ยวลี่มานานแล้วนะ
ส่ วนบรรดาลูกสะใภ้คนอื่น ๆ ส่ วนใหญ่กเ็ ป็ นแค่หญ้าบนกาแพงที่
แทบจะไม่รู้สึกถึงการคงอยู่ เป็ นแค่พวกแนวหลังที่มาเสริ ม
บรรยากาศ ยามปกติกไ็ ม่สามารถวาดลวดลายใด ๆ ได้
แต่วา่ วาจาของซูเหม่ยยังไม่หมดเพียงเท่านั้น “ฟังมาว่า ช่วงที่ขา้ ไม่
อยู่ เจ้าสนิทสนมกับอาหลันมาก ต้องขอบใจเจ้ามากที่ช่วยดูแลอาห
ลัน “
” กริ ยาท่าทางดัง่ ปี ศาจน้อย ข้าก็รู้สึกคุน้ เคยอยูบ่ า้ ง แต่วา่ น่าเสี ยดาย
หากว่าจะเอาเจ้ามาเปรี ยบเทียบกับข้าแล้วละก็ ในหัวใจของอาหลัน
ข้าย่อมสาคัญกว่า “
หยวนเฟย “??? “
อะไรกัน ท่าทีที่คาก็อาหลัน สองคาก็อาหลันแบบนั้น คิดจะประกาศ
ความเป็ นเจ้าของอย่างชัดเจนงั้นสิ
เจ้าวิญญาณทมิฬทั้งล้วงทั้งแคะจมูก “บอกมาเถอะ เจ้าตัวนี้ตกลงแล้ว
เป็ นฝี มือของเจ้าที่ไปหว่านเสน่ห์เอาไว้ต้ งั แต่ที่ไหนเมื่อไหร่ ? “
ตู๋กซู ิงหลัน ” เจ้าว่าในโลกใบนี้ ผูท้ ี่เอาแต่เรี ยกข้าว่า อาหลัน จะมีใคร
บ้าง? “
วิญญาณทมิฬสายตาเป็ นประกาย ” เฮ้ย! เป็ นไปไม่ได้ม้งั ? เจ้าแก่ข้ ี
เมาอาจารย์ของเจ้า จะข้ามมิติมาแล้วกลายเป็ นสตรี ? “
แต่คิด ๆ ดูแล้วเจ้าแก่ซื่อม่อก็ไม่มีท่างทาท่ากระตุง้ กระติ้งแบบนี้
ได้……..
ตู๋กูซิงหลัน ” สมองของเจ้าคิดไปได้ไกลนัก”
นางเพียงแต่คิดถึงจิ้งจอกน้อยตัวหนึ่ง ที่เคยเลี้ยงเอาไว้ในสวน
กุหลาบของหุบเขาปี ศาจตัวนั้น เลี้ยงไปเลี้ยงมาก็เกือบสิ บปี
แต่อยูม่ าวันหนึ่งก็หายตัวไป นางตามหาอยูเ่ ป็ นนาน แต่วา่ ก็ไม่เคย
ได้พบอีกเลย
และก็ไม่รู้วา่ เพราะอะไร พอได้เจอกับซูกยุ้ เฟย ได้กลิ่นหอมที่มาจาก
ร่ างของนาง ทาให้อยูด่ ี ๆ ก็คิดถึงเจ้าจิ้งจอกในโลกนั้นขึ้นมา
วิญญาณทมิฬนิ่งงันไปอีกครู่ ใหญ่ ” แม่เจ้า! หรื อว่าเจ้าจิ้งจอกนั้น
ข้ามมิติมาแล้วกลายเป็ นสตรี ไป? “
ตู๋กูซิงหลัน “…….”
วิญญาณทมิฬพยายามดึงสติของมันกลับมา มันนวดหัวนวดขมับ
ตนเองใหญ่ “ขอโทษทีนะ นอกจากหน้าตาดุจปี ศาจสาวที่ยวั่ ยวนอยู่
บ้าง ตลอดทั้งร่ างของนางไม่มีกลิ่นอายมารแม้แต่นอ้ ย ดูอย่างไรก็
เป็ นมนุษย์แท้ ๆ ยิง่ ไปกว่านั้น เจ้าจิ้งจอกจอมวุน่ วายนัน่ มันเป็ นตัวผู ้
ชัด ๆ ! “
ประเด็นนี้ละที่ทาให้ต๋ ูกซู ิงหลันรู ้สึกสับสนเข้าไปใหญ่ หากจิ้งจอก
จะกลายเป็ นคน ก็ตอ้ งเริ่ มจากการเป็ นปี ศาจก่อน ซูปุ้ยเฟยเป็ นมนุษย์
แน่ ๆ เพราะแม้แต่นางยังไม่รู้สึกถึงไอปี ศาจใด ๆ
ยิง่ ไปกว่านั้น…….ที่นี่เป็ นคนละโลกกัน นางจะเป็ นจิ้งจอกน้อยได้
อย่างไร
พอเห็นว่าหลี่กงกงที่ก้ นั ศึกระหว่างหยวนเฟยกับซูกยุ้ เฟย ใกล้จะ
ร้องไห้ออกมาอยูร่ อมร่ อ
ตู๋กซู ิงหลันถึงได้หนั ไปกล่าวกับซูกยุ้ เฟยว่า ” ในเมื่อเป็ นฝ่ าบาทเรี ยก
ให้เข้าเฝ้า พระสนมเอกก็ควรที่จะไปเสี ยก่อน ข้าอยูท่ ี่ตาหนักเฟิ่ ง
หมิง เจ้าสามารถมาได้ทุกเมื่อ “
คราวนี้หยวนเฟยถึงกับยิม้ ออกมาได้บา้ ง หันไปกล่าวกับซูกยุ้ เฟยว่า
“ดูสิ กระทัง่ ไทเฮายังทรงรับสัง่ เช่นนี้ พระสนมเอกควรรี บเสด็จไป
เถอะเพคะ อย่าให้ฝ่าบาทต้องทรงรอนาน “
สี หน้าของซูกยุ้ เฟยหนักอึ้ง หันมาถลึงตาใส่ นางครั้งหนึ่ง
แต่พอหันกลับไปมองดูต๋ ูกซู ิงหลันดวงตาก็เป็ นประกายระยิบระยับ
ราวลูกแก้ว “อาหลัน งั้นเจ้ารอข้านะ “
พอตู๋กูซิงหลันพยักหน้าติด ๆ กัน ถึงได้เห็นว่าซูกยุ้ เฟยค่อย ๆ
ติดตามหลี่กงกงไป เดินก้าวหนึ่งก็หนั มามองนางสามรอบ ราวกับว่า
เสี ยดายอย่างที่สุด
รอจนกระทัง่ นางค่อย ๆ เดินจากไปไกลแล้ว ท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็ นมืด
สนิทมากแล้ว
ทางด้านหยวนเฟยนั้น นางยอมปล่อยให้องค์หญิงใหญ่และตู๋กซู ิงห
ลันพูดคุยกันได้โดยไม่ขดั ขาง นางถอยออกไปอย่างไม่รอช้า กระทัง่
เดินไปจนไกลแล้วถึงได้หนั มาถลึงตาค้อนตู๋กูซิงหลันคราหนึ่ง
………………………………..
ณ ตาหนักชางอู๋
ที่นี่ไม่มีผใู ้ ดอาศัยอยูม่ านานแล้ว แต่หลายวันนี้เพื่อต้อนรับการ
กลับมาจากการไปเฝ้าสุ สานที่เขาจงหลิงของอันหร่ วนกูกู ทัว่ ทั้ง
ตาหนักชางอู๋ถึงได้ครึ กครื้ นขึ้นมา
นางกานัลที่มีหน้าที่ทาความสะอาดหลายคนกาลังสนทนากันภายใน
สวนอย่างสนุกปาก
“ตาหนักชางอู๋เป็ นที่พานักของพระสนมในอดีตฮ่องเต้ แต่ทาไม
ตอนนี้ถึงได้กลายเป็ นที่อยูข่ องบ่าวไพร่ คนหนึ่งไปเสี ยแล้ว? “
” บอกแล้วว่าเจ้าไม่รู้อะไร อันหร่ วนกูกผู นู ้ ้ นั ไหนเลยจะเป็ นเพียง
บ่าวไพร่ ธรรมดาไปได้? ”
” ตระกูลเดิมของอันหร่ วนกูกนู บั เป็ นคนในราชวงค์เก่ามาก่อน นาง
มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกับฉางซุนฮูหยินผูเ้ ฒ่า ต่อมาพอ
ราชวงค์เก่าถูกโค่นลง ฉางซุนฮูหยินผูเ้ ฒ่ากันรับตัวอันหร่ วนไว้ อีก
ทั้งยังให้นางเป็ นแม่นมของฉางซุนฮองเฮาอีกด้วย “
” เช่นนั้นอันหร่ วนกูกผู นู ้ ้ ี จะอย่างไรก็ถือว่าเกิดในเชื้อพระวงศ์น่ะสิ
ยิง่ กับฉางซุนฮองเฮาแล้วผูกพันกันดัง่ มารดาและบุตรสาว แม้แต่
ฮ่องเต้ของพวกเรา นับตั้งแต่ประสู ติออกมาในนาทีแรกก็ลว้ นเป็ น
นางคอยดูแล เป็ นพระพี่เลี้ยงของโอรสสวรรค์ ฐานะเช่นนี้ของนาง
นับว่าไม่ต่าต้อยไปกว่าพระสนมคนใดในวังนี้เลย “
” เพราะฉะนั้นนะ ก่อนหน้านี้ในวัง แม้แต่เหล่าพระสนมของอดีต
ฮ่องเต้ยงั ต้องเรี ยกนางว่า กูกู (ท่านอา) “
” แต่วา่ …. ข้าอยูใ่ นวังมาตั้งนาน ทาไมถึงไม่เคยได้ยนิ ชื่ออันหร่ วนกู
กูมาก่อนเลย? “
” ไอ้หยา ยังไม่ใช่เพราะฉางซุนฮองเฮาเสด็จสวรรคตไปนานแล้ว
พอฮองเฮาของตนสิ้ นไป อันหร่ วนกูกกู ท็ ูลขออดีตฮ่องเต้
พระราชทานอนุญาต ให้นางได้ไปเฝ้าพระสุ สานของฮองเฮาที่เขา
จงหลิง ไปครั้งเดียวกลับยาวนานถึงสิ บแปดปี “
“สวรรค์ช่วย เช่นนั้นกูกทู ่านนี้ พวกเราก็ไม่อาจล่วงเกินได้เลยนะสิ “
” ยังจะไม่ใช่อีกหรื อ ไม่ใช่แค่น้ นั นะ พอฝ่ าบาทขึ้นครองราชย์ ก็มี
รับสัง่ ให้ซูกยุ้ เฟยไปรับตัวอันหร่ วนกูกกู ลับมาด้วยตนเอง พวกเจ้าว่า
นี่ยงั ไม่นบั ว่าเป็ นการให้เกียรติอย่างยิง่ อีกหรื อ? “
ขณะที่พวกนางยังคงถกเถียงกัน ก็เห็นอันหว่านจือกลับเข้ามาแล้ว
นางพกเอาโทสะกลับมาจากตาหนักของตู๋กซู ิงหลัน เดิมทีกไ็ ม่สบ
อารมณ์อยูแ่ ล้ว พอตอนนี้ยงิ่ ได้ฟังพวกนางกานัลแอบวิพากย์วิจารณ์
ท่านย่าลับหลัง โทสะก็ลุกโหมขึ้นในทันที “พวกเจ้าแต่ละคนคันลิ้น
มากนักใช่ไหม? ไม่อยากจะมีไว้ใช้อีกแล้วสิ นะ? “
นางกานัลทั้งหลายเห็นนางเข้าก็พากันตกอกตกใจ ต่างคนต่างถอย
ไปอีกด้านหนึ่ง
อันหว่านจือเห็นแบบเสื้ อผ้าเครื่ องแต่งกายประจาตัวของพวกนาง ก็
คิดไปถึงตู๋กซู ิงหลัน อารมณ์ของนางก็ยงิ่ รุ นแรงขึ้นมา “พวกของชั้น
ต่า ท่านย่าของข้าใช่ที่พวกเจ้าจะมาวิจารณ์กนั ได้หรื อ? “
นางด่ากราดออกมา ก็เดินดุ่มเข้าหา พอยืน่ มือออกไปก็ตบหน้านาง
กานัลเหล่านั้นคนละหลายรอบ แค่น้ นั ยังไม่อาจถอนอารมณ์โกรธ
ได้ ก็ตวัดเท้าเตะออกไปอีกหลายที จนนางกานัลทั้งหลายล้มลงกับ
พื้นลุกไม่ข้ ึนอีก แต่ละคนต่างร้องขออภัยนางด้วยความหวาดกลัว
ถึงตอนนี้ อันหว่านจือจึงค่อย ๆ สงบโทสะลงได้
นางพึ่งจะเข้าวังมาวันแรกก็ถูกรังแกถึงเพียงนี้ หากไม่หาผูใ้ ดมา
รองรับอารมณ์บา้ ง นางย่อมไม่อาจกล้ ากลืนโทสะลงไปได้
ยามนั้นเอง มีสตรี ม่ายผมขาวผูห้ นึ่งก้าวออกมาจากในตาหนักชางอู๋
นางสวมชุดสี ม่วงที่เรี ยบหรู เกล้าผมเป็ นมวยสู ง หากเป็ นยามที่ยงั
อายุนอ้ ยเชื่อว่าจะต้องเป็ นโฉมงามผูห้ นึ่งเป็ นแน่ ถึงวันนี้จะมีริ้วรอย
แล้ว แต่ริ้วรอยที่ลึกเข้มเหล่านั้นก็ส่งเสริ มให้นางดูน่ายาเกรงยิง่ ขึ้น
พออันหว่านจือเห็นนางเข้า ก็ทาท่าน้อยอกน้อยใจวิ่งเข้าไปกอดเอว
ของนางเอาไว้ ร่ าร้องว่า “ท่านย่าเจ้าขา~ “
อันหร่ วนเหลือบตามองดูนางครู่ หนึ่ง ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา คราวนี้แม้แต่
รอยย่นบนหน้าผากก็ลึกขึ้นอีก “อีกไม่กี่วนั ก็จะเป็ นวันสาคัญที่ฝ่า
บาทจะทรงคัดเลือกนางสนมแล้ว เจ้าทาไมถึงได้ทาตนเองจนมีส
ถาพเช่นนี้? “
” ยังไม่ใช่เพราะ….” อันหว่านจือยังไม่ทนั พูดจบ ก็หนั มากวาดตา
มองดูพวกนางกานัลที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้น ก็เข้าไปประคองอันหร่ วน
เข้าไปในเรื อน เมื่อปิ ดประตูลงเรี ยบร้อยนางถึงได้พดู ต่อว่า
ตอนที่ 130 นางเป็ นนางโจร
“ก็ยงั จะไม่ใช่นงั ตู๋กซู ิงหลัน กับซูเหม่ยอีกรึ ! ” นางกล่าวด้วยน้ าเสี ยง
เปี่ ยมอารมณ์ กุมใบหน้าครึ่ งหนึ่งที่ถูกตบมาด้วยความเจ็บปวด ”
พวกนางล้วนอิจฉาในรู ปโฉมของข้า ไม่อยากเห็นข้าได้รับความ
สนใจจากฝ่ าบาทยามคัดเลือกนางสนม ถึงได้มารังควาญตบตีขา้ ! “
พอฟังแล้ว อันหร่ วนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอีกครั้ง ข้าเคยบอกเจ้าแล้วไง
อยูใ่ นวังไม่เหมือนกับที่ภูเขาจงหลิง เจ้าไม่อาจทาตามใจชอบได้
หากว่าเจ้าไม่ไประรานพวกนางก่อน พวกนางจะมาทาร้ายเจ้าได้
หรื อ? “
” ท่านย่าเจ้าคะ ท่านทาไมถึงได้พดู จาเข้าข้างคนนอกเช่นนี้! ” อัน
หว่านจือน้อยอกน้อยใจอย่างที่สุด ” ข้าต่างหากที่เป็ นหลานสาวแท้
ๆ ของท่านนะเจ้าคะ ข้าก็แค่ไปแอบดูไทเฮาน้อยนัน่ ที่ตาหนักเฟิ่ งหมิ
งนิดเดียวเอง ใครจะไปรู ้วา่ นางจะอารมณ์ร้ายขนาดนั้น พอเห็นว่าข้า
หน้าตาดีกพ็ ากันอิจฉาข้า! “
” ยังไม่ใช่แค่น้ ีนะเจ้าคะ ” อันหว่านจือยังคงจีบปากจีบคอว่าต่อไป ”
นางยังถูกใจขี้ผ้ งึ ทาปากที่ท่านทาให้ขา้ เป็ นพิเศษ บีบบังคับให้ขา้ เอา
ตลับใหม่ส่งไปให้นางด้วย! นางคนนี้นะมันเป็ นโจรปล้นชัด ๆ ไหน
เลยจะเหมาะสมกับฐานะของไทเฮาแห่งแคว้นต้าโจวได้! “
” ข้าว่านะเจ้าคะ ท่านเป็ นถึงแม่นมของฉางซุนฮองเฮา และยังเป็ น
พระพี่เลี้ยงของฝ่ าบาทอีกด้วย ท่านจึงจะสมควรเป็ นผูท้ ี่มีตาแหน่ง
สู งส่ งในวังหลังต่างหาก! “
” หุบปาก! ” อันหร่ วนรี บปิ ดปากของนางเอาไว้ ประกายตาของนาง
ก็เข้มข้นขึ้นในทันที ” ต่อไปคาพูดเหล่านี้ขา้ ไม่ตอ้ งการได้ยนิ แม้สกั
ครึ่ งคา หากว่าเจ้ายังพูดจาเหลวไหลอีก ข้าจะจับเจ้าส่ งไปภูเขาจงห
ลิง! “
อันหว่านจือได้ยนิ ดังนั้นก็หวาดกลัวขึ้นมา ส่ ายศีรษะอย่างไม่คิดชีวิต
“ท่านย่า ข้าไม่ไปนะเจ้าคะ เขาจงหลิงกับวังหลวงแตกต่างกันจน
เทียบไม่ได้ ข้าอยากอยูท่ ี่นี่ ข้าจะแต่งให้กบั ฝ่ าบาท ข้าจะนาเกียรติยศ
มาสู่ ตระกูลอัน ท่านต้องช่วยข้านะ “
นางร้อนใจจนน้ าตาไหล “ท่านบอกมิใช่หรื อว่า คิว้ ของข้าเหมือนกับ
ฉางซุนฮองเฮา นี่จะต้องเป็ นลิขิตของสวรรค์ ที่กาหนดให้ขา้ ได้เป็ น
ฮองเฮาของฮ่องเต้องค์ใหม่”
อันหร่ วนได้ยนิ แล้ว สองตาที่หรี่ ลงก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง นางยืน่ มือ
ออกมานวดคลึงบริ เวณครึ่ งแก้มที่โดนตบมา “ข้าเลี้ยงเจ้ามาจนโต มี
หรื อที่ขา้ จะไม่รักถนอมเจ้า แต่วา่ เจ้าต้องจดจาให้ดี อยูใ่ นวังนี้จะต้อง
รู ้จกั เก็บงาอุปนิสยั ของเจ้าไว้ ไม่อาจพูดจาส่ งเดช ก่อเรื่ องวุน่ วาย
ไม่เช่นนั้นหากว่าเกิดเรื่ องร้ายใด ๆ ขึ้นมา แม้แต่ขา้ ก็ไม่แน่วา่ จะ
ปกป้องเจ้าได้”
” ข้าไม่เป็ นไรแล้วเจ้าค่ะ เป็ นเพราะสตรี พวกนั้นอิจฉาข้า! ” อัน
หว่านจือยังคงเสี ยงแข็ง
” ซูเหม่ยเองก็รู้จกั เสแสร้งยิง่ นัก ตลอดทางที่พาท่านกลับมา ทาตัว
กตัญญูราวกับว่าเป็ นหลานสาวแท้ ๆ ของท่าน แต่พอกลับถึงวังก็
สะบัดหน้าเปลี่ยนไปแล้ว ทั้งยังกล้าตีขา้ ด้วย “
” นี่จะต้องเป็ นฝี มือของตู๋กซู ิงหลันที่ครอบงานางเอาไว้แน่”
ขณะที่อนั หว่านจือกาลังเล่าเรื่ องพวกนี้อยู่ อันหร่ วนก็หยิบยาทาตลับ
หนึ่งมาทาบาง ๆ ที่ใบหน้าของนาง! “
พอได้เห็นใบหน้าที่อนั หว่านจือแสนจะภาคภูมิใจ เป็ นรอยช้ า นางก็
สงสารจับใจ คิด ๆ ดู ซูกยุ้ เฟยยามที่อยูใ่ นเขาจงหลิงนั้น จะคอยให้
ความเคารพนางอยูเ่ สมอ แต่พอพึ่งจะกลับมาถึงวังหลวงกลับถึง
ขนาดตบหน้าหว่านจือเพื่อไทเฮาน้อย ทาให้นางเองก็กรุ่ นโกรธ
ขึ้นมาบ้างแล้ว
ต่อให้หว่านจือจะทาผิดอย่างไร ซูเหม่ยก็สมควรที่จะเห็น
ความสัมพันธ์ยามอยูด่ ว้ ยกันที่เขาจงหลิง ช่วยเหลืออันหว่าจรื อถึงจะ
ถูก
” ตู๋กูซิงหลัน……”
นางทวนชื่อนั้นด้วยน้ าเสี ยงเย็นชา
” เป็ นเพราะนาง! นางเป็ นนางปี ศาจ! ข้าเชื่อว่านางยังร้ายกาจยิง่ กว่า
เสี ยนไท่เฟยเสี ยอีก! “
อันหร่ วนมิได้กล่าวสิ่ งใดเพิ่มเติม ยามนี้ทุกคนต่างอยูร่ ่ วมกันในวัง
หลวง ไม่ชา้ ก็เร็ วย่อมต้องได้พบ หลานสาวของตระกูลตู๋กผู นู ้ ้ ี หากว่า
ไม่ยนิ ยอมอยูใ่ นโอวาทจริ งละก็ คงจะต้องลงมือสัง่ สอนเสี ยบ้างแล้ว
ต่อให้นางเป็ นถึงไทเฮา แต่อย่างไรก็มีอายุเพียงสิ บห้าปี ยังจะวาด
ลวดลายอะไรออกมาได้?
ยิง่ ไปกว่านั้น ไทเฮาพระองค์น้ ียงั ไม่มีฐานอานาจใด ที่สาคัญที่สุดก็
คือ ฝ่ าบาททรงเกลียดชังตระกูลตู๋กู
นางนัง่ ลงบนเก้าอี้ไท่ซือ (เก้าอี้เท้าแขนแบบจีนโบราณ) ค่อย ๆ ยก
ยิม้ มุมปากอย่างเยือกเย็น จากนั้นก็หนั มาเหลือบตามองดูอนั หว่านจื
อแวบหนึ่ง “หลายวันหลังจากนี้ เจ้าจงรักษาตัวอยูใ่ นตาหนักชางอู๋
ให้ดี ในพิธีคดั เลือกนางสนมจะต้องทาให้ฝ่าบาทถูกพระทัยในตัวเจ้า
ให้ได้ “
“เจ้าค่ะ” อันหว่านจือมัน่ ใจในรู ปโฉมของตนเองยิง่ นัก “ท่านย่า
โปรดวางใจ ข้ารับรอง หากว่าฝ่ าบาทได้พบกับข้า ชัว่ ชีวติ นี้ของ
พระองค์จะต้องไม่ลืมข้าแน่ “
นางเคยได้ยนิ มาว่า ก่อนหน้านี้ในวังมีพระสนมเต๋ อเฟยอยูผ่ หู ้ นึ่ง
เพียงแค่นางมีวนั เกิดวันเดียวกับฉางซุนฮองเฮาเท่านั้น ก็ได้รับพระ
เมตตาจากฝ่ าบาทอย่างมากมาย จนเป็ นที่อิจฉาของคนทั้งวัง
แต่วา่ ตัวนางอันหร่ วนจรื อ ถึงกับมีคิ้วที่เหมือนกับฉางซุนฮองเฮา รู ป
โฉมนี้กค็ ืออาวุธที่ดีที่สุดของนาง!
เมื่อพิธีคดั เลือกพระสนมมาถึง สายพระเนตรของฝ่ าบาทจะต้องจด
จ้องอยูท่ ี่ตวั นางเป็ นแน่
…………………………
พระตาหนักตี้หวั
หลังจากที่ได้แช่พระองค์ในสระยามาหลายวัน พระอาการบาดเจ็บ
ของฮ่องเต้กน็ บั ว่าดีข้ ึนมาก อย่างน้อยท่วงท่ายามดาเนินก็ดูปกติดี
แล้ว
ยามนี้ จีเฉวียนทรงฉลองพระองค์เรี ยบหรู สีทองตัวกว้าง ประทับอยู่
บนพระเก้าอี้ในห้องพระอักษรของพระตาหนักตี้หวั ทอดพระเนตร
ฎีกา
หลายวันมานี้เพราะเรื่ องของเสี ยนไท่เฟย เหล่าขุนนางทั้งหลายต่าง
พากันกังวลใจในเรื่ องของอี้อ๋อง
กลุ่มที่ยามปกติสนับสนุนอี้อ๋อง พอทราบเรื่ องที่เขาเป็ นทายาทของ
ศพมีชีวิต ต่างก็เริ่ มโจมตีกนั เอง และหันมาสวามิภกั ดิ์ต่อฮ่องเต้
พระองค์ใหม่
กลุ่มที่ยงั หลงเหลืออยูบ่ า้ งนั้น ก็มีแต่พวกที่ถือทิฐิฝืนอยูเ่ ท่านั้น
ถึงจะมีพวกที่มีความจริ งใจอยูบ่ า้ ง เข้ามาขอร้องแทนอี้อ๋อง ขอฝ่ า
บาททรงเห็นแก่ความสัมพันธ์พี่นอ้ งละเว้นอี้อ๋อง ด้วยเหตุที่วา่ เมื่อได้
ทาการสื บสวนจนกระจ่างแล้ว ผูท้ ี่วางแผนเรื่ องให้ไทเฮาปี นเตียง
มังกรนั้น มิได้เกี่ยวข้องกับอี้อ๋องเลยแม้แต่นอ้ ย ทั้งหมดล้วนเป็ น
ฝี มือของเสี ยนไท่เฟย
แม้แต่เสี ยนไท่เฟยเองก็ยงั ยอมรับ
แต่ถึงวันนี้ อี้อ๋องยังคงถูกขังอยูใ่ นตาหนักเย็น
พวกเขายังทักท้วงว่า เรื่ องที่เสี ยนไท่เฟยคือศพมีชีวิตนั้น อี้อ๋องถือว่า
เป็ นผูบ้ ริ สุทธิ์ เนื่องด้วยผูใ้ ดก็ไม่อาจเลือกมารดาผูใ้ ห้กาเนิดได้
ฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์มารออยูท่ ี่ขา้ งกายของพระองค์นานแล้ว กลับเห็น
เพียงฝ่ าบาทเอาแต่ขมวดพระขนง เขาเพียงแต่เหลือบตามองดู
เล็กน้อย ก็สามารถมองเห็นได้วา่ บนฎีกาเหล่านั้นเขียนว่าอะไรบ้าง
” ฝ่ าบาท โปรดอภัยที่กระหม่อมกล่าวมากความ ในราชวงศ์ไม่มีพี่มี
น้อง อี้อ๋องมีจิตใจเหิมเกริ มมาโดยตลอด ยามนี้เขายิง่ กลายเป็ น
ทายาทของศพมีชีวิต หากว่าเราไม่ตดั รากถอนโคน เกรงว่าภายหลัง
อาจจะต้องเสี ยใจอย่างไม่อาจประมาณได้
จีเฉวียนปิ ดฎีกาเหล่านั้นลง หันมาทอดพระเนตรดูเขาแวบหนึ่ง ”
ท่านราชครู กเ็ ห็นว่า อี้อ่องสมควรตาย? “
ฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์ยกมือขึ้นคานับเขาพลางทูลตอบว่า ” นับตั้งแต่วนั
นั้นที่เขามีใจคิดคตหมายปองในพระราชบัลลังก็ของฝ่ าบาท เขาก็
สมควรตายแล้ว อย่าว่าแต่ตวั เขาก็คือปี ศาจ “
สี พระพักตร์จีเฉวียนไร้อารมณ์ใด ๆ พระองค์ประทับยืนขึ้นมา เสด็จ
มาที่ขา้ งกายฉางซุนซุ่นเอ๋ อร์ พระองค์สูงกว่าฉางซุ่นซิ่วอยูค่ รึ่ งศีรษะ
ดวงเนตรหงส์ทอประกายเย็นชา “อาซิ่ว เมื่อวานนี้ อี้อ๋องในตาหนัก
เย็นผูน้ ้ นั ขอเข้าเฝ้าเรา เขาได้มอบตราประทับของดินแดนเขตเหนือ
ออกมา ยินยอมมอบอานาจในมือทั้งหมดของเขา วอนขอให้เราละ
เว้นชีวิตของเสี ยนไท่เฟย “
ได้ฟังแล้ว ฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์กลับไม่เปลี่ยนแปลงสี หน้าแม้แต่นอ้ ย เขา
คุกเข่าลงที่ขา้ งพระวรกายฮ่องเต้ ทูลตอบเบา ๆ ว่า “ฝ่ าบาท หากไร้
ท้องฟ้าก็ไม่อาจมีผนื ดิน ทุกสิ่ งที่อ้ ีอ๋องครอบครองล้วนสมควรเป็ น
ของพระองค์แต่แรกแล้ว เสี ยนไท่เฟยยิง่ สมควรตายอย่างที่สุด ถึงแม้
อี้อ๋องจะยอมกระทาถึงเพียงนี้ แต่วา่ ก็ไม่สมควรปล่อยเสี ยนไท่เฟย
ไปได้แม้แต่นอ้ ย”
คาพูดของเขาทาให้ฮ่องเต้ทรงพระสรวลออกมาเบา ๆ ยามนี้ในพระ
หัตถ์ของพระองค์กมุ ตราหยกของดินแดนแถบเหนือไว้ “เราไม่เคย
สงสารเสี ยนไท่เฟยมาก่อน และก็จะไม่สงสารอี้อ๋องเช่นกัน เพียงแต่
เมื่อได้เห็นอี้อ๋องในวันนี้ ก็อดที่จะคิดไปถึงตนเองในปี นั้นไม่ได้ “
ว่าแล้ว เขาก็ตรัสว่า อี้อ๋องเองก็รู้วา่ ดินแดนแถบเหนือและอานาจที่
อยูใ่ นมือของเขา สาหรับเราแล้วไม่อาจเทียบได้กบั หนึ่งชีวิตชีวิต
ของเสี ยนไท่เฟย ดังนั้นเขาจึงได้นาอีกสิ่ งหนึ่งมาแลกด้วย “
ตอนที่ 131 รักเจ้ า ชาตินีแ้ ละตลอดไป
ฉางซุนซิ่ว “หืม? “
เขาคิดไม่ถึงจริ ง ๆ สาหรับอี้อ๋องแล้ว ยังจะมีสิ่งใดสาคัญยิง่ กว่านี้อยู่
อีก
จีเฉวียน ” ชีวิตของเขา “
” เขาคิดจะใช้ชีวิตของตนเอง มาแลกชีวิตเสี ยนไท่เฟยกับเรา”
ฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์ทอดถอนหายใจ
” เขาไม่อาจเลือกชาติกาเนิดของตนเองได้ ไม่อาจเลือกมารดาของ
ตนเองได้ อีกทั้งเรื่ องที่เสี ยนไท่เฟยได้ทาลงไป จะอย่างไรก็ไม่อาจ
เปลี่ยนแปลงความจริ งที่วา่ เสี ยนไท่เฟยคือมารดาของเขาได้ เขาที่
เป็ นบุตร ไม่อาจลืมตามองดูนางไปตาย จึงได้แต่ตายแทนนาง”
” เพราะฉะนั้น เขาจึงใช้ทุกสิ่ งที่เขามี รวมทั้งชีวิตของเขาเอง ขอร้อง
เราละเว้นชีวิตเสี ยนไท่เฟย “
ในที่สุดคราวนี้สีหน้าของฉางซุนซิ่วเอ่อร์กเ็ ปลี่ยนไปบ้างแล้ว “เขา
ยอมจริ งหรื อ? ฝ่ าบาทอย่าทรงลืมนะ ที่ผา่ นมาอี้อ๋องหมายปองใน
บัลลังก์ดุจพยัคฆ์จอ้ งตระครุ บเหยือ่ และเพราะพวกเขาแม่ลูก ตอน
นั้นพระองค์ถึงได้ทรงตกที่นงั่ ลาบาก…..คาพูดของเขา พระองค์จะ
ทรงเชื่อถือไม่ได้เด็จขาดนะพะยะคะ”
” ไม่แน่วา่ นี่อาจจะเป็ นกลลวงแสร้งเจ็บตัวก็เป็ นได้ เพียงหวังให้
พระองค์พระทัยอ่อนเท่านั้น “
จีเฉวียนแย้มสรวลเสี ยงเย็น “อาซิ่ว ตั้งแต่เมื่อไรกัน ที่เจ้าคิดว่าเราคือ
คนที่ใจอ่อนผูห้ นึ่ง? “
ฉางซุนซิ่วชะงักค้างไปครู่ หนึ่ง……จริ งสิ ไยเขาจึงคิดไปว่าฝ่ าบาท
จะใจอ่อนได้?
หรื ออาจเป็ นเพราะเห็นว่า ฝ่ าบาทใกล้ชิดตู๋กซู ิ งหลันมากไป เริ่ มมี
อารมณ์คุกรุ่ นเช่นคนธรรมดา เขาจึงได้รู้สึกเช่นนี้ข้ ึนมาได้?
เพราะที่ผา่ นมาฝ่ าบาท คือผูท้ ี่ไร้น้ าพระทัยที่สุด
จีเฉวียนนาตราหยกของแดนเหนือวางลงบนโต๊ะ “หากว่าอี้อ๋องตาย
ไป ความแค้นระหว่างเราและพวกเขาแม่ลูกก็ถือว่าสิ้ นสุ ดลงแล้ว เรา
คิดว่า หากว่าในปี นั้นเราสามารถใช้ชีวิตตนเองแลกกับชีวิตของพระ
มารดาได้ละก็ เราคงจะต้องทาเช่นที่อ้ ีอ๋องพูดเอาไว้แน่ “
” น่าเสี ยดาย…..เราไม่มีโอกาสแม้แต่นอ้ ย”
แววตาของฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์เบิกกว้าง ครู่ หนึ่งเขาถึงได้ทูลตอบว่า “ฝ่ า
บาท คนตายไม่อาจฟื้ นคืน ยามนี้อนั หร่ วนกูกกู ลับเข้ามาในวังแล้ว
นางเป็ นคนเก่าคนแก่ของเสด็จน้า นับว่าสามารถช่วยคลายความ
ระลึกถึงของพระองค์ได้บา้ ง “
จีเฉวียนไม่ตรัสสิ่ งใด ภายนอกตาหนักหิ มะโปรยปราย ดอกกุย้ ฮวา
ในพระตาหนักตี้หวั ต่างร่ วงหมดแล้ว ถึงแม้ในพระตาหนักจะจุดไฟ
เติมถ่านอยูต่ ลอดเวลา แต่เขาก็ยงั รู ้สึกว่าหนาวเย็นไปทั้งร่ าง
นับตั้งแต่เล็กเขาก็เจ็บป่ วยเพราะความเย็น จึงกลัวหนาวมากกว่าคน
ทัว่ ไป ทันทีที่เข้าสู่ ฤดูหนาว เตาไฟในตาหนักก็ไม่เคยดับมาก่อน
” ฝ่ าบาททรงคิดจะจัดการอี้อ๋องและเสี ยนไท่เฟยเช่นไรพะยะค่ะ? “
ฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์เขี่ยเชื้อไฟภายในเตา อีกทั้งยังเติมถ่านไม้ลงไปอีก
ก้อน เขาเคลื่อนไหวพลางกล่าวว่า “ฝ่ าบาททรงให้ความสาคัญกับ
ไทเฮาอย่างมากมาโดยตลอด ความสัมพันธ์ของไทเฮาและอี้อ๋องแต่
ไหนแต่ไรก็ผกู พันกันอย่างแน่นแฟ้น หากว่าฝ่ าบาททรงยอมรับคา
ขอของอี้อ๋อง ใช้หนึ่งชีวิตของเขาแลกกับหนึ่งชีวิตของเสี ยนไท่เฟย
เกรงว่าไทเฮาคงจะทรงเกลียดชังพระองค์เป็ นแน่ “
เสี ยงถ่านไม้ในเตาแตกดังเปรี้ ยะ ๆ เขาก็ยงิ่ ก้มศีรษะต่าลงมองดู แสง
สว่างนั้นก็ยงิ่ ลุกโชนอยูใ่ นสายตาของฝ่ าบาท
ครั้นเห็นว่า สี พระพักตร์ของฝ่ าบาทหมองมัว ทั้งที่เขาเพียงแค่เตือน
ถึงความสัมพันธ์ที่ผา่ นมาของตู๋กซู ิงหลันกับอี้อ๋องเท่านั้น พระพักตร์
ที่เคยเฉยชามาตลอดของฝ่ าบาทถึงกับเปลี่ยนไปแล้ว
พระองค์ทรงเป็ นกังวลเพราะนาง…….จริ งหรื อ?
จีเฉวียนหันมาทอดพระเนตรดูเขา แต่มิได้ตรัสสิ่ งใด ตลอดพระองค์
คล้ายกับกาจายไอเย็นออกมาโดยรอบ
ผ่านไปนานอีกพักใหญ่จึงได้ทรงตรัสตอบว่า ” อาซิ่ว เจ้าจาเอาไว้
เราจะทาสิ่ งใด ไม่ตอ้ งการให้ผใู ้ ดมาสอดแทรก รวมถึงตัวเจ้าด้วย “
ฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์ได้ยนิ รับสัง่ แล้ว ก็ลุกขึ้นยืน ถวายคานับต่อจีเฉวียน
อีกครั้งหนึ่ง “กระหม่อมรับพระบัญชา”
” เจ้าถอยไปเถอะ ” จีเฉวียนโบกพระหัตถ์ เสด็จกลับไปประทับที่
โต๊ะใช้พระหัตถ์ขา้ งหนึ่งหนุนพระเศียรไว้
พรุ่ งนี้จะเป็ นวันตัดสิ นคดีของเสี ยนไท่เฟย ยามนี้เขายังมิได้ตดั สิ นใจ
ในขั้นสุ ดท้าย
………………………………….
เข้ายามดึกสงัดแล้ว หิมะยิง่ ทีกย็ งิ่ ตกหนักขึ้น ตู๋กซู ิงหลันส่ งองค์หญิง
ใหญ่และท่านหญิงน้อยกลับไปถึงได้เข้านอน นางเอนตัวอยูบ่ นเตียง
กระดูกก้นกบยังเจ็บร้าว บานหน้าต่างแง้มอยู่ ละอองหิมะบางส่ วน
จึงปลิวเข้ามา เชียนเชียนเข้ามาวางอ่างน้ าอุ่นเอาไว้ให้นาง ปิ ดบาน
หน้าต่างจนเรี ยบร้อยถึงได้จากไป
ครึ่ งคืนให้หลัง บานหน้าต่างก็ถูกเปิ ดออกสายลมหนาวพัดโชยเข้ามา
พาให้คนรู ้สึกหนาวจนขนลุก
ตู๋กซู ิงหลันลืมตาขึ้นมา เห็นเพียงเงาของคนผูห้ นึ่งยืนอยูท่ ี่ขา้ งเตียง
เป็ นเพียงเงาดา ๆ ที่มองดูไม่ชดั เจน
นางแกล้งทาเป็ นหลับสนิทต่อไป ดวงตาหรี่ ข้ ึนเป็ นเส้นบาง ๆ สาย
หนึ่ง ก็เห็นคนผูน้ ้ นั ยืน่ มือมาทางนาง ฝ่ ามือที่เย็นเป็ นน้ าแข็งลอยอยู่
เหนือใบหน้าของนาง จนแน่ใจว่านางหลับเป็ นตาย เขาถึงค่อย ๆ
ลูบไล้อย่างระมัดระวังและอ่อนโยนอย่างที่สุด
” หลันเอ๋ อร์ พรุ่ งนี้ขา้ จะต้องไปแล้ว ” เขานัง่ อยูท่ ี่ดา้ นข้าง เส้น
ผมเปี ยกชื้น มองดูนางอย่างลึกซึ้ง
” ชาติน้ ีขา้ จีเย่วม์ ิเคยทาสิ่ งใดให้เจ้า ทั้งยังทาร้ายเจ้าจนต้องเข้าวัง
กลายเป็ นนกในกรงทอง ข้าติดค้างเจ้ามากเกินไปแล้ว “
” ชีวิตนี้ขา้ ไม่อาจตอบแทนเจ้าได้ หากว่ามีชาติหน้า ข้าจีเย่วจ์ ะยอม
เป็ นวัวเป็ นม้าให้เจ้า “
พูดจบแล้วเขาก็เงียบงันไปอีกครู่ ใหญ่ นิ้วมือยังคงสัมผัสอยูบ่ น
ใบหน้าของนาง อย่างไม่อาจตัดใจได้
หากว่า …..เขาแต่งงานกับนางเสี ยตั้งแต่แรก เป็ นไปได้หรื อไม่วา่ คง
จะไม่ตอ้ งมีเรื่ องทรมานใจเช่นนี้?
และหากว่า…..หลันเอ๋ อร์ไม่เคยได้พบเขามาก่อน นางอาจได้พบใคร
สักคน แต่งงาน มีลูกและอยูอ่ ย่างสงบสุ ขชัว่ ชีวิต?
แต่ชีวิตนี้ของเขาช่างโชคดีเหลือเกิน ได้พบกับนาง ได้รับความรัก
จากนาง แม้ตายก็ไม่เสี ยดายแล้ว
ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่ เขาถึงได้โน้มตัวลงมา จุมพิศเบา ๆ ลงบน
หน้าผากของนาง ” ขอให้เจ้ามีชีวิตที่ไร้โรคไร้โศก พบกับคนที่ดี มี
ลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง ประสบแต่ความสุ ขไปชัว่ ชีวิต “
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกขนลุกไปทัว่ ทั้งร่ าง ทาไมถึงได้รู้สึกเหมือนกับว่าจี
เย่วก์ าลังมาลาตายกับนางกัน?
จิตวิญญาณของเจ้าของร่ างเดิมถูกกระตุน้ ขึ้นมาแล้ว
กระทัง่ เมื่อจีเย่วจ์ ากไป จิตวิญญาณที่ร้อนลนนั้นสร้างความเจ็บปวด
ในหัวใจของตู๋กซู ิงหลันอย่างไม่อาจระงับได้ จึงได้แต่อาศัยพลังของ
หยกสรรพชีวิตดึงนางออกมา
ดวงวิญญาณนี้เคยบอกเอาไว้วา่ ขอเพียงนางได้รู้ตน้ สายปลายเหตุ
ของเรื่ องที่เกิดขึ้น ก็จะยอมปล่อยละวาง ไปสู่ สุขติ
แต่วา่ น่าเสี ยดาย ความอาลัยอาวรณ์ของนางฝังลึกจนยากที่จะหายา
มารักษาได้ ทั้งที่ต๋ ูกซู ิงหลันได้ช่วยให้นางทราบความจริ งจนกระจ่าง
แจ้งแล้ว แต่ความรักที่นางมีต่อจีเย่วอ์ ย่างหนักแน่นยังคงเป็ นเหมือน
ห่วงสุ ดท้ายที่ยดึ เหนี่ยวนางเอาไว้ไม่ไปไหน
ดวงวิญญาณนั้นคุกเข่าอยูต่ รงหน้าตู๋กซู ิงหลัน “เขาจะไปแล้ว ข้าไม่
อาจได้เห็นเขาอีกแล้ว ……ขอท่านได้โปรดช่วยข้าเถอะ ต่อให้ต่อ
กลายเป็ นเพียงหญ้าต้นหนึ่ง เป็ นหินก้อนหนึ่ง ข้าก็ยงั อยากจะอยู่
เคียงข้างเขา “
ตู๋กซู ิงหลัน “…….” นี่ไม่ใช่วา่ นางไม่อยากช่วย แต่วา่ นางไม่ใช่เทพ
เซียน เจ้าของร่ างเดิมเพียงหลงเหลือจิตวิญญาณส่ วนสุ ดท้ายแล้ว ไม่
เหมือนกันเสี่ ยวลี่ที่มีพลังดวงจิตของตนเองอยูอ่ ย่างเต็มเปี่ ยม
สามารถเข้าสิ งร่ างได้
นางอ่อนแอถึงเพียงนี้ ปี ศาจตนไหน ๆ ก็สามารถกลืนกินดวงจิต
ของนางไปจนหมดสิ้ นได้ตลอดเวลา หากไม่ใช่เพราะมีร่างนี้ปกป้อง
คุม้ ครองอยู่ ก็คงจะจบสิ้ นไปนานแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันสี หน้ากลัดกลุม้ ” คงไม่ใช่วา่ …..เจ้าปั กใจจะติดตามเขา
ไป ไม่คิดอาลัยพี่ชายและท่านปู่ ของเจ้าแล้วหรื อ? “
” พวกพี่ชายและท่านปู่ แม้จะไม่มีขา้ ก็ยงั สามารถมีชีวิตอยูต่ ่อไปได้
แต่วา่ อาเย่ไม่เหมือนกัน…..”
ตู๋กูซิงหลัน “……” นี่กร็ ักเสี ยจนไร้สมอง คนรักจะสาคัญเพียงไร มี
หรื อจะมากไปกว่าคนในครอบครัวไปได้?
” พวกพี่ ๆ และท่านปู่ มีเจ้าอยูก่ เ็ พียงพอแล้ว เจ้าสามารถทาสิ่ งต่าง ๆ
ได้ดีกว่าข้ามากมาย “
วิญญาณทมิฬเองก็ทนไม่ไหว กระโดดออกมากล่าวว่า ” เจ้าก็หาหิ น
มาสักก้อน จับนางยัดลงไปส่ งให้จีเย่วจ์ ะได้จบเรื่ องไป วัน ๆ เอาแต่
เรื่ องรัก ๆ ใคร่ ๆ ไม่รู้จกั จบจักสิ้ น น่าราคาญจริ ง ๆ “
พูดแล้ว มันก็ลงมือกรี ดตนเองแผลหนึ่ง หยดเลือดปี ศาจของตนเอง
ออกมาขวดใหญ่ “เลือดของข้ามีฤทธิ์ปกป้องวิญญาณ สามารถ
คุม้ ครองเศษเสี้ ยวดวงจิตของนางไม่ให้สูญสลายไปได้ “
ตอนที่ 132 ตราบจนชรา ก็ไม่ เสี ยใจ
ตู๋กซู ิงหลันเหลือบตามองดูมนั ชัว่ แวบหนึ่ง เจ้าวิญญาณนี่ทาเป็ น
โมโหกลบเกลื่อน ตัวมันใจอ่อนไปแล้วชัด ๆ ยังจะเสแสร้งทาเป็ น
ว่าราคาญ
” รี บหน่อยเถอะ ส่ ง ๆ ไปเลย อั้วดูแล้วปวดขมอง “
ตู๋กซู ิงหลันลุกขึ้นยืน ที่ดา้ นนอกหิมะขาวสะอาดตกหนา กดทับกิ่งไฮ่
ถางเสี ยจนโน้มลงมา นางเดินไปยังใต้ตน้ ไฮ่ถางที่อยูใ่ กล้ที่สุด
ท่ามกลางพื้นหิ มะขาวสะอาดตา มีตน้ อ่อนสี เขียวสดของไฮ่ถางต้น
หนึ่งงอกขึ้นมา
นางยืน่ มือลงไปถอนขึ้นมาทั้งราก จากนั้นก็ผนึกโลหิ ตของวิญญาณ
ทมิฬและจิตวิญญาณที่หลงเหลืออยูข่ องเจ้าของร่ างเดิมลงไป
ลาต้นของต้นกล้าไฮ่ถางนี้ มีความหนาไม่ถึงหนึ่งข้อนิ้ว เมื่อได้รับ
โลหิตและดวงจิตหล่อเลี้ยงก็เปลี่ยนเป็ นสี แดงราวกับเลือด ดูงดงาม
ระยิบระยับจับตาราวกับแกะขึ้นจากหยกโลหิ ตก็ไม่ปาน
……………………..
จีเย่วพ์ ่ งึ ก้าวเท้าออกจากตาหนักเฟิ่ งหมิง ก็ถูกตู๋กซู ิงหลันเรี ยกเอาไว้
ท่ามกลายหิมะโปรยปราย นางสวมเสื้ อคลุมขนสัตว์สีแดงสดที่มี
หมวกคลุมผม เส้นผมสี ดาสนิทล้วนปล่อยสยาย แทบจะโอบล้อมตัว
ของนางไว้กว่าครึ่ ง
ทั้ง ๆ ที่นางงดงามดุจเทพธิดาแท้ ๆ แต่ยามมองไปแล้วกลับดูน่าลุ่ม
หลงเสี ยยิง่ กว่าปี ศาจที่ล่อลวงผูค้ นอีกหลายส่ วน
” จีเย่ว์ “
นางเพียงเรี ยกออกไปเบา ๆ คาหนึ่ง จีเย่วท์ ี่อยูท่ ่ามกลางหิ มะก็ชะงัก
ไปทั้งร่ าง
บนเส้นผมและบ่าไหลของเขาล้วนเต็มไปด้วยหิ มะ แม้แต่ขนตาก็ยงั
มีละอองหิมะเกาะอยู่ เขาหมุนตัวกลับมามองดูนางอย่างเงียบ ๆ
ใบหน้าที่งดงามดุจเทพเซียนนั้น ถูกลมหนาวพัดโบกจนแข็งทื่อ แต่
ทันทีที่ได้เห็นนางสี หน้าก็ปรากฎความประหลาดใจขึ้นมาทันที
จากนั้นก็เปลี่ยนเป็ นรอยยิม้ ที่อบอุ่นอ่อนโยนอย่างรวดเร็ ว
” หลันเอ๋ อร์ เจ้าออกมา…..ทาไม? “
เขาแทบจะวิ่งไปถึงเบื้องหน้านาง คิดจะกอดนางเอาไว้ในอ้อมอก แต่
ความควรไม่ควรก็สะกัดขว้างความรู ้สึกเอาไว้ ทาให้ได้แต่ยนื จ้อง
มองนางอยูท่ ี่เบื้องหน้า
ตู๋กซู ิงหลันยืน่ มือออกมามอบต้นไฮ่ถางเล็ก ๆ นั้นให้กบั เขา ” เอาไป
ปลูกให้ดี อย่าให้ห่างกายเด็ดขาด “
จีเย่วร์ ับต้นไฮ่ถางนั้นเอาไว้ ฝ่ ามือที่เย็นจนเกือบแข็งก็สมั ผัสได้ถึง
ความอบอุ่น
” นี่คือ? ” เขาก้มลงมองสิ่ งที่นางมอบให้อย่างระมัดระวัง
” ตู๋กซู ิงหลันในอดีต เคยรักเจ้า แม้ตายก็ยงั รัก “
ประโยคเดียวของตู๋กูซิงหลัน แทบจะทาให้จีเย่วพ์ านางหนีไป
ด้วยกัน
เขารู ้อยูแ่ ล้ว นางรักเขามาโดนตลอด!
” ไม่วา่ เจ้าจะไปที่ใด นามันไปด้วย อย่าได้ห่างกายชัว่ ชีวิต “
ตู๋กซู ิงหลันเพียงบอกกล่าวทิ้งไว้แค่ประโยคเดียว ก็หนั หลังจะ
กลับไป หากกะ ๆ เวลาดูคร่ าว ๆ นี่กน็ ่าจะเกือบ ๆ ตีสองแล้ว ง่วง
จริ ง ๆ !
นางหันตัวกลับไปก็หาววอดใหญ่ ยังไม่ทนั จะหาวเสร็ จคนก็ถูกจีเย่ว์
โอบกอดเอาไว้ท้ งั ตัว
ทั้ง ๆ ที่เขาใช้แรงค่อนข้างมากแท้ ๆ แต่วา่ ก็รู้สึกได้ถึงความ
ระมัดระวังอย่างยิง่ แทบจะรัดนางจนหลอมรวมไปกลับกระดูกและ
เลือดของตนเอง ปลายคางของเขาจรดอยูบ่ นศีรษะของนาง ถาม
ออกไปอย่างไม่อาจอดกลั้นได้อีกว่า “หลันเอ๋ อร์ หากว่าข้าไม่
ต้องการสิ่ งใดอีกแล้ว เจ้ายินดีจากไปพร้อมกับข้าหรื อไม่? “
” พวกเราไปหาสถานที่ที่ไม่มีคนรู ้จกั พานักไปชัว่ ชีวิต จวบจนชราก็
ไม่เสี ยใจดีไหม? “
ยามที่เขาพูดออกมานั้น แม้แต่น้ าเสี ยงก็ยงั สัน่ สะท้านไปด้วย ” ดี
หรื อเปล่า? “
ตู๋กซู ิงหลันพยายามขยับตัว พละกาลังของเขายิง่ ทียงิ่ มาก นางไม่เคย
คิดมาก่อนว่าร่ างกายของจีเย่ว์ จะมีพละกาลังถึงเพียงนี้
” ในชีวิตของข้าสิ่ งเดียวที่มิอาจละทิ้งได้กค็ ือเจ้าเท่านั้น ขอเพียงแค่
เจ้ายินดีไปกับข้า …..ไม่วา่ เป็ นเรื่ องใด ๆ ข้าก็สามารถจะละวางลง
ได้”
น้ าเสี ยงของเขาอ่อนลงจนแทบจะเป็ นการขอร้อง ราวกับคนที่เฝ้าขอ
ความเมตตาสงสารจากนาง
” นับตั้งแต่ที่เจ้าเข้าวังมา ทุกวันข้าก็เหมือนตกอยูใ่ นความทรมาน
แม้จะปิ ดตาลงในสมองก็มีแต่ภาพของเจ้า ข้าไม่อาจทนเห็นเจ้าต้อง
รับความทรมานอยูใ่ นวังหลวงที่เยือกเย็นแห่งนี้ แต่วา่ เจ้าก็โกรธแค้น
ข้า ไม่ยอมให้ขา้ เข้าใกล้ “
” เจ้ารู ้หรื อไม่? ยามดึกสงัดมีแต่เงียบงัน ข้าเฝ้าคิดถึงคาพูดของเจ้าที่
บอกว่าจะแยกจากกันไปตลอดกาล ทุกครั้งที่คิดขึ้นมา ในใจเหมือน
มีเลือดหยาดหยด “
“หลันเอ่อร์…..หลันเอ๋ อร์…..ไปกับข้าได้หรื อไม่? “
ขอเพียงนางหยักหน้า ขอเพียงนางตอบรับสักคา ชีวิตนี้ เขาก็ไม่มีสิ่ง
ใดต้องอาลัยอีกแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันยังคงยืนอยูท่ ี่เดิม รับฟังคาพูดของเขาจนหมดสิ้ น เมื่อ
มองดูตน้ ไฮ่ถางสี แดงในมือของเขา ก็อดที่จะถอนใจออกมาไม่ได้
โชคชะตาทาร้ายผูค้ น……….
ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายอย่างหนัก ตู๋กซู ิงหลันยังสามารถได้ยนิ
เสี ยงหัวใจของบุรุษที่อยูด่ า้ นหลังอย่างชัดเจน นางรู ้สึกได้ถึงร่ างกาย
ที่สนั่ สะท้านของเขา
ยามนี้……นาทีน้ ีนางยิง่ สัมผัสได้ถึงความรู ้สึกที่จริ งใจของเขา
ในที่สุดนางก็หนั กลับไป กล่าวกับเขาว่า “อี้อ๋องเพคะ บอกกับท่าน
เช่นนี้กแ็ ล้วกัน ตู๋กซู ิงหลันที่ท่านรักนั้นได้ตายไปเสี ยแล้ว “
” เจ้ายังคงแค้นเคืองข้า ถึงได้พดู จาด้วยความโกรธเช่นนี้ใช่ไหม? “
จีเฉวียนยังจับนางเอาไว้แน่นโดยไม่ยอมคลายมือ ครั้งนี้เขาไม่คิดจะ
ยอมปล่อยมือง่าย ๆ อีกแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันยกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง ดึงชายแขนเสื้ อออกไป เผยให้เห็น
ข้อมือที่เล็กบาง ข้อมือที่ขาวสะอาดราวหิมะ กลับมีรอยแผล
ประหนึ่งราวตะขาบพาดผ่านอยู่ ยามที่เจ้าของร่ างเดิมเชือดข้อมือ
ตนเองนั้น นางได้หกั ใจ คิดไปไม่กลับอีกแล้ว จึงได้ลงมืออย่าง
รุ นแรงถึงที่สุด ปากแผลลึกถึงกระดูก
ปากแผลนี้ประสานแล้ว แต่กลับเหลือแผลเป็ นที่ไม่น่าดูเอาไว้
” นางตายไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่วนั ที่เชือดข้อมือฆ่าตัวตายไป “
” ตอนที่ชิงผิงแปลงโฉมเป็ นเจ้า สัง่ ให้นางแต่งเข้าวังให้กบั อดีต
ฮ่องเต้ เพื่อช่วยเจ้าสาเร็ จกิจการใหญ่ ยามนั้นหัวใจของนางก็เป็ น
น้ าแข็งไปกว่าครึ่ งแล้ว ต่อมา พระมารดาของเจ้าใช้เต๋ อเฟยนายาชาม
นั้นส่ งนางขึ้นเตียงบรรทมของฮ่องเต้พระองค์ใหม่ ทั้งยังถูกผูค้ น
มากมายพบเห็น ก็เพื่อให้ฮ่องเต้พระองค์ใหม่กบั ตระกูลตู๋กขู ดั แย้ง
กัน จะได้เป็ นโอกาสให้เจ้าจับปลาในน้ าขุ่น”
” แต่วา่ หัวใจของนางตายไปแล้ว “
ตู๋กซู้ ิงหลันพูดด้วยน้ าเสี ยงจริ งจัง ” เจ้ารักนางลึกซึ้งถึงเพียงนี้ ย่อม
สมควรดูออกว่า ข้าไม่ใช่นาง “
เมื่อได้ยนิ นางกล่าวคาพูดเหล่านี้ออกมา จีเย่วก์ ช็ ะงักค้างไปทั้งร่ าง
คนในอ้อมแขนยังอบอุ่น อ่อนนุ่ม จะไม่ใช่นาง……ได้อย่างไร?
” นิสยั ของคนผูห้ นึ่ง ถึงจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ไม่มีทางเปลี่ยน
จนกลายเป็ นอีกคนหนึ่งไปได้”
จีเย่วส์ ่ ายศีรษะอย่างไม่อาจเชื่อ ” ไม่มีทาง….ไม่มีทาง”
” อี้อ๋องเพคะ ที่จริ งท่านเองก็เริ่ มสงสัยมาตั้งแต่แรกแล้วใช่หรื อไม่?

ตู๋กซู ิงหลันพูดพลาง ก็ลวงเอายันต์สีเหลืองแผ่นหนึ่งออกมาอย่างไร้
ที่มา ปลายนิ้วขยับเพียงเล็กน้อย ยันต์สีเหลืองแผ่นนั้นก็เกิดเปลวไฟ
เล็ก ๆ สี น้ าเงินขึ้น จากนั้นกลายเป็ นวิหคตัวหนึ่งในทันที
” ของพวกนี้ นางทาได้ไหม? “
จีเย่วย์ งั คงไม่อาจจะยอมรับได้ ” เจ้าไม่ใช่บอกว่า ….เรี ยนรู ้มาจาก
นักพรตอูเ้ จินผูน้ ้ นั ….เพียงสองสามส่วนหรื อ? “
การจะทาความเข้าใจเรื่ องพวกนี้ ทั้งสิ้ นเปลืองพลังสมองและน้ าลาย
แต่ต๋ ูกซู ิงหลันก็ตดั ใจแล้ว “ท่านรู ้จกั นางมาสิ บปี เคยเห็นว่านางมี
พรสวรรค์ทางด้านนี้บา้ งหรื อไม่? “
จีเย่วน์ ิ่งงันไปในทันที
จริ งด้วย……หลันเอ๋ อร์ของเขา รู ้จกั แต่ชมนกชมไม้ แค่เห็น
แมลงสาบตัวหนึ่งยังร้องไห้ไปครึ่ งวัน ยิง่ ไม่มีทางจะมีแรงอุม้ บบุรุษ
สองคนได้
นางจะเป็ นคนที่อยูต่ รงหน้านี้ได้อย่างไรกัน?
แม้แต่ตวั เขายังกลายเป็ นทายาทของศพมีชีวิต หากว่าคนที่เบื้องหน้า
จะไม่ใช่หลันเอ๋ อร์ เรื่ องเช่นนี้ทาไมจะเป็ นไปไม่ได้กนั ?
ฝ่ ามือของเขาที่เกาะกุมนางเอาไว้แนบแน่น…..ค่อย ๆ คลายออก
มืออีกข้างที่ถือต้นกล้าไฮ่ถางเอาไว้กก็ มุ กระชับแน่นขึ้นมา
” นาง…..ไปยังที่ใดแล้ว? “
” จิตวิญญาณส่ วนสุ ดท้ายของนางอยูใ่ นต้นไฮ่ถางต้นนี้ หากว่ารอ
จนถึงเมื่อต้นไฮ่ถางผลิดอกได้เมื่อไหร่ บางทีนางอาจจะกลับมาก็
เป็ นได้ ” ตู๋กซู ิงหลันตอบเสี ยงเบา “อย่างที่ขา้ บอกไป ต้นไฮ่ถางต้นนี้
ท่านจะต้องดูแลให้ดี”
” กลับมาได้จริ ง ๆ หรื อ? ” จีเย่วก์ ระชับต้นไฮ่ถางในมือแน่นเข้า
ดวงตาของเขาเปี่ ยมไปด้วยความเจ็บปวด
ดวงจิตสุ ดท้ายของนาง….ทาไมเขาถึงมองไม่เห็น ทาไมเขาถึงฟัง
ไม่ได้ยนิ ?
ตอนที่ 133 พลังต้ านทานความเหน็บหนาว
จีเย่วไ์ ม่อาจยอมรับเรื่ องที่นางได้ตายไปแล้ว
หากว่าหลันเอ๋ อร์ตายไปแล้ว เช่นนั้นผูท้ ี่อยูเ่ บื้องหน้านี้คือผูใ้ ดกัน?
รู ปร่ างเช่นนี้ หน้าต่างเช่นนี้ ดูอย่างไรก็คือนาง
แม้แต่ความรู ้สึกยามที่ได้โอบกอดไว้กย็ งั เป็ นนาง
” ขอเพียงมีใจตั้งมัน่ ย่อมเกิดความสาเร็ จ ” ตู๋กซู ิงหลันพูดไปก็ตบบ่า
ของเขาไปด้วย “หากว่าวันหนึ่งท่านเปลี่ยนร่ างไป เมื่อผ่านวันคืนอัน
ยาวนาน อาจบางทีรอคอยจนถึงวันนั้นก็เป็ นได้ “
อายุไขของศพไร้ชีวิต ย่อมยืนยาวกว่าคนทัว่ ไป
ขอเพียงเขายินดีรอ ขอเพียงเจ้าของร่ างเดิมยินยอมฝึ กฝน พวกเขาจะ
ช้าเร็ วย่อมต้องได้พบกันในวันหนึ่งแน่ “
จีเย่วข์ ยับปากอย่างไร้ซุ่มเสี ยง สุ ดท้ายยังคงทนไม่ไหวจาต้องถาม
ออกไป ” เช่นนั้นเจ้าคือใครกัน? “
ตู๋กซู ิงหลันคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็ตอบไปว่า ” คนที่มีวาสนาต่อกัน “
ทันทีที่นางกล่าวออกมา เขาก็เห็นนางร่ ายคถาลงบนยันต์เหลืองอีก
ใบ โบกครั้งหนึ่งยันต์กถ็ ูกผนึกลงบนกึ่งกลางหน้าผากของจีเย่ว์ และ
ทันทีที่มนั สัมผัสกับใบหน้าของเขา ยันต์น้ นั ก็สลายเป็ นควันจาง ๆ
คงเหลือเพียงแสงสว่างวูบหนึ่งซึมเข้าสู่ หน้าผากไป
นี่เป็ นยันต์ผนึกความลับ ซึ่งจัดอยูใ่ นประเภทคาสาปชนิดหนึ่ง หาก
ว่าไม่ได้รับอนุญาตจากผูส้ าป ก็จะทาให้ไม่สามารถแพร่ งพราย
ความลับที่ตอ้ งการเก็บรักษาไว้ออกไปได้
ถึงแม้ต๋ ูกูซิงหลันจะเกิดความสงสารเห็นใจจีเย่ว์ แต่นนั่ ก็มิได้
หมายความว่านางจะต้องเชื่อใจเขาทั้งหมด
หากว่าเรื่ องที่นางมิใช่เจ้าของร่ างเดิมนี้ถูกแพร่ ออกไป ก็มีแต่จะเพิ่ม
เรื่ องเดือดร้อนให้นาง
ถึงตอนนี้ นางค่อยพลักไหล่จีเย่วอ์ อกไปเบา ๆ ” ไปเถอะ “
จีเย่วก์ ค็ ล้ายคนที่จิตใจล่องลอยไป เขาโอบประคองต้นกล้าไฮ่ถาง
นั้นเอาไว้ ค่อย ๆ เดินหายไปท่ามกลางหิ มะที่โหมลงมา
ตู๋กซู ิงหลันยืนอยูท่ ่ามกล่ามหิมะที่โปรยปรายอย่างหนัก ความง่วงงุ่น
แทบจะตัวแข็งแบบเมื่อครู่ ไม่เหลืออยูอ่ ีกแล้ว จนกระทัง่ นางไม่อาจ
มองเห็นจีเย่วอ์ ีกแล้ว นางถึงได้หนั ศีรษะกลับไปยังตาหนักเฟิ่ งหมิง
โดยที่มิได้รู้สึกตัวเลยว่า มีดวงตาหงส์ที่เยือกเย็นคู่หนึ่งจับจ้องอยูไ่ ม่
ไกล
……………………………………
หยวนเฟยแต่ไหนแต่ไรมาก็เป็ นดังแมวกลางคืนตัวหนึ่ง คืนนี้เมื่อ
ออกจากตาหนักเฟิ่ งหมิงมาแล้ว นางก็วนเวียนอยูร่ อบ ๆ บริ เวณนั้น
ขณะเดียวกันก็พบว่าบริ เวณโดยรอบของตาหนักเฟิ่ งหมิงมีตะขาบ
พิษตัวใหญ่อยูม่ ากมาย
เจ้าพวกนี้หากไม่คน้ หาก็ยงั พอว่า พอค้นหาก็ยงิ่ พบหนอนพิษอื่น ๆ
เพิ่มอีก คนทาช่างร้ายนัก แต่ละตัวแต่ละอย่างล้วนมีพิษรุ นแรง ยังถือ
ว่าจิตใจเ**้้ยมโหดกว่าชาวหนานเจียงเช่นพวกนางเสี ยอีก
ตู๋กซู ิงหลันผูน้ ้ ี ที่จริ งแล้วไปก่อเรื่ องผิดใจกับผูค้ นไว้มากเท่าใดกัน
แน่ ไม่รู้วา่ มีพวกชัว่ ๆ เช่นนี้ลอบลงมือทั้งในที่ลบั และที่แจ้ง
มากมายเท่าใดกัน
นางวุน่ วายอยูภ่ ายนอกเสี ยเกือบครึ่ งคืน ค่อยจับพวกมันทั้งหมดไว้
ในชะลอมไผ่ใบหนึ่ง พอตระเตรี ยมจะเสร็ จสิ้ นภารกิจ ก็เห็นว่าหลัง
ต้นไม้ใหญ่ตน้ หนึ่ง มีเงาคนในชุดสี ทองที่ดูคุน้ เคยอยู่
หยวนเฟยมองมาแต่ไกลก็ไม่กล้าแน่ใจ จนกระทัง่ มองเห็นถึง
ตรงหน้า ถึงได้ถอนใจออกมาเฮือกหนึ่ง ” อ้ายย่าส์ แม่จ๋า! ฝ่ าบาทเพ
คะ ดึกดื่นค่อนคืนพระองค์ไม่ทรงบรรทม กลับมาอยูท่ ี่นี่ ฝึ กวิชา
ต้านทานความเหน็บหนาวหรื อเพคะ? “
เดิมทีสีพระพักตร์กเ็ ย็นยะเยือกดุจแท่งน้ าแข็งอยูแ่ ล้ว ตอนนี้กย็ งิ่
คล้ายกับขุมนรกที่เยือกแข็งเข้าไปใหญ่
จีเฉวียนกวาดพระเนตรมองดูนาง ดวงเนตรหงส์น้ นั ก็ปรากฎแวว
พิฆาตออกมาในทันที สร้างความตระหนกให้กบั หยวนเฟยจนนาง
ถอยหลังไปหลายก้าวติดกัน “เป็ นหม่อมฉันพูดมาเกินไปแล้ว ทัว่ ทั้ง
วังนี้เป็ นของพระองค์ พระองค์คิดจะเสด็จไปที่ใดย่อมได้ท้ งั สิ้ น”
นางว่าแล้ว ก็ขยับเท้าเตรี ยมจากไป
ว่ากันตามจริ งแล้ว บุรุษที่ปราศจากขนบนหน้าอกเช่นฝ่ าบาท ไม่
นับว่าน่าสะดุดตาที่ใด ถึงแม้นางอยากจะโน้มนาวพระองค์ให้
กลับไปบรรทมพักผ่อน แต่วา่ เมื่อมองเห็นท่าทีที่คล้ายกับพร้อมจะ
สังหารคนได้ทุกเมื่อเช่นนั้น นางก็กล่าวคาเหล่านั้นไม่ออก
จะว่าไปแล้ว เมื่อครู่ กค็ ล้ายกับว่านางเห็นเงาคนผ่านมาทางนี้ ดูไป
คล้าย ๆ จะเป็ นอี้อ๋อง บุรุษสองพี่นอ้ งคู่น้ ี…….ดึก ๆ ดื่นถึงเพียงนี้
แล้วพวกเข้าคิดจะมาพบปะแสดงความรักความแค้นอะไรกัน
หรื อไม่?
พอนางกาลังก้าวเท้าออกไป ก็ได้ยนิ จีเฉวียนรับสัง่ รั้งนางเอาไว้
“หยวนเมิ่ง! “
สองคานี้แทบจะทาให้หยวนเฟยวิญญาณหลุดออกจากร่ างไปแล้ว
นางยังคงจาได้ ครั้งก่อนที่ฝ่าบาทตรัสเรี ยกชื่อของนางนั้น ขาของ
นางเกือบจะโดนตัดไปแล้ว
พอคิดถึงตรงนี้ ขาของหยวนเฟยก็อดที่จะเหน็บชาขึ้นมาไม่ได้ ” ฝ่ า
บาท หม่อมฉันไม่ได้เห็นสิ่ งใดเลยนะเพคะ จริ ง ๆ นะเพคะ “
นางไม่ได้เห็นเลยว่าดึกดื่นค่อนคืนฝ่ าบาทและอี้อ๋องออกมากระทา
เรื่ องที่ไม่อาจให้ผใู ้ ดพบเห็นได้
จีเฉวียนตรัสถามเสี ยงเย็น ที่หนานเจียงมีหมอรักษาตาและโรคหัวใจ
โดยเฉพาะหรื อไม่? “
” ฝ่ าบาทเพคะ พระเนตรของพระองค์มีปัญหาหรื อไม่ …..คนมีฝีมือ
ไม่ถึงขั้นนายกองด้วยซ้ า ไหนเลยจะกล้าเอามาถวายผูน้ าได้? ”
หยวนเฟยทูลตอบอย่างจริ งจัง “ทางหนานเจียงของพวกเรามีแต่พอ่
มดหมอผี ไหนเลยจะเทียบได้กบั เหล่าหมอมากความสามารถในต้า
โจว”
ส่ วนเรื่ องโรคหัวใจนั้น…… ฝ่ าบาทสมควรจะเรี ยกหมอมาตรวจจริ ง
ๆ พระองค์มีเรื่ องกังวลพระทัยมากมาย วัน ๆ สู งส่ งเย็นชาดุจเทพ
เซียน ที่ผคู ้ นธรรมดาไม่อาจจะสัมผัสได้
ในเมื่อฮ่องเต้เป็ นมนุษย์ธรรมดา ก็สมควรที่จะมีทีท่าดัง่ คนธรรมดา
บ้าง
” ให้เวลาเจ้าหนึ่งเดือน ไปหาตัวหมอผีที่มีความสามารถเรื่ องโรคตา
และโรคหัวใจมา” จีเฉวียนตรัสออกไป ทั้งยังไม่ลืมตรัสตามความ
เคยชินด้วยว่า ” ไม่เช่นนั้นจะหักเบี้ยเลี้ยงของตาหนักเจ้าให้หมด”
หยวนเฟย “………” ขอถามหน่อยเถอะ นี่นางกระทาเรื่ องผิดบาปใด
ๆ ต่อฟ้าดินหรื อ?
เดิมทีเบี้ยหวัดก็นอ้ ยเสี ยจนน่าสงสารอยูแ่ ล้ว หากว่ายังจะหักหนึ่งปี
นางจะยังมีชีวิตอยูไ่ หวหรื อ?
แต่ฝ่าบาทมิได้ทรงให้โอกาสนางต่อต้านแม้แต่นอ้ ย พระพักตร์
โหดเ**้้ยมนั้นจากไปท่ามกลางลมหิ มะ
ทอดทิ้งหยวนเฟยไว้ที่เดิมเพียงลาพัง นางไม่ควรจะมาเพ่นพ่านแถว
นอกตาหนักเฟิ่ งหมิงเลย
วันรุ่ งขึ้น เป็ นวันตัดสิ นโทษเสี ยนไท่เฟย
เกิดเรื่ องที่สร้างความประหลาดใจแก่ผคู ้ นขึ้น ฝ่ าบาททรงเปลี่ยน
พระทัยในยามสุ ดท้าย นัน่ คือละเว้นชีวิตของเสี ยนไท่เฟย เพียงรับสัง่
ให้กกั ขังนางเอาไว้ในอารามเทียนเก๋ อกวน มีนกั พรตอูเ้ จินคอยดูแล
ด้วยตนเอง
ส่ วนอี้อ๋องนั้น ถูกถอดถอนตาแหน่งอ๋ อง ยึดดินแดนเหนือทั้งหมด
ขับไล่ไปยังแดนตะวันตกที่เปลี่ยวร้าง
ฟังว่าสองแม่ลูกไม่มีโอกาสได้พบหน้ากันเสี ยงด้วยซ้ า ต้องจากกัน
ไปทั้ง ๆ อย่างนี้
และคราวนี้พวกขุนนางที่ยามปกติเคยสนับสนุนเขาก็ไม่คดั ค้าน
แม้แต่นอ้ ย
เรื่ องครั้งนี้สาหรับพวกเขาแล้ว นับว่าฝ่ าบาททรงมีพระกรุ ณาอย่าง
ที่สุดแล้ว ทั้ง ๆ ที่นี่เป็ นโอกาสดีที่จะประหารเขาเสี ยด้วยซ้ า แต่วา่
ฝ่ าบาทกลับปล่อยคนไปเสี ยอย่างงั้น
ทั้งที่ยามปกติฝ่าบาททรงไร้น้ าพระทัย และเย็นชาอย่างที่สุด แต่วา่
ครั้งนี้ที่สุดแล้วก็ทรงยั้งพระหัตถ์ไว้
นี่ไม่เท่ากับว่าทาให้ผคู ้ นทั้งหลายเปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อฮ่องเต้
พระองค์ใหม่หรอกหรื อ ………บางที ฝ่ าบาทอาจมิได้ทรงน่า
หวาดกลัวเช่นนั้นจริ ง ๆ
ในตาหนักตี้หวั จีเฉวียนทรงทอดพระเนตรสารทหารจากดินแดนเป่
ยเจียงในพระหัตถ์ สี พระพักตร์ยงิ่ ยุง่ ยากกว่าเดิม
เกรงว่าแม้แต่ต๋ ูกซู ิงหลันเองก็คงยังจะคิดไม่ถึงว่า ตู๋กถู ิงบุกยึด
ดินแดนเป่ ยเจียงได้อีกส่ วนหนึ่ง รางวัลที่ทูลขอก็คือชีวติ ของเสี ยน
ไท่เฟย
ไม่วา่ จะมองเช่นไร เรื่ องนี้นบั ว่าถึงจุดสิ้ นสุ ดแล้ว อย่างน้อย ๆ
ต่อไปอีกนานนับจากนี้ เขาก็ไม่ตอ้ งทนมามองเห็นจีเย่วแ์ ละตู๋กซู ิงห
ลันใกล้ชิดสนิทสนมกันอีกต่อไป
เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่ได้ทอดพระเนตรเห็นเมื่อคืนนั้น จีเฉวียนก็ยงิ่
รู ้สึกว่าพระทัยของพระองค์อึดอัดคับข้องไปหมด
พระองค์คิดไปจะสอบถามท่าทีที่มีต่อจีเย่วข์ องนาง คิดไม่ถึงว่าจะได้
เห็นภาพที่ท้ งั สองใกล้ชิดกัน
เพราะหิ มะตกหนักมาก อีกทั้งยังอยูห่ ่างไกล ถึงแม้จะไม่ได้ยนิ ว่า
พวกเขาพูดอะไร แต่วา่ เพียงมองดูภาพเหล่านั้นก็รู้วา่ จะต้องเป็ นการ
เปิ ดเผยความในใจต่อกันอย่างแน่นอน
คงจะมีแต่ฟ้าเท่านั้นที่รู้วา่ ยามนั้นพระองค์กริ้ วจนแทบจะระเบิด
แทบจะเสด็จเข้าไปรับสัง่ ประหารจีเย่วใ์ นทันที!
แต่พอคิดว่าหากจีเย่วต์ ายไปแล้ว ตู๋กซู ิงหลันจะเกลียดชังเขาไป
ตลอดชีวิต
ความคิดนั้นก็ค่อย ๆ ละลายลงไป
ช่างสมควรตายยิง่ นัก นี่เขาจะต้องมาห่วงกังวลความรู ้สึกของสตรี ผู ้
หนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั ?
เดิมทีจีเย่วก์ ค็ ือนักโทษก่อกบฎ จะฆ่าก็ฆ่าได้ พระองค์ทรงเป็ นถึง
ฮ่องเต้แท้ ๆ จะประหารนักโทษสักคนยังต้องคานึงถึงความรู ้สึก
ของผูใ้ ดด้วยหรื อ?
ตอนที่ 134 ใครบอกว่ า ข้ าไม่ มีบุรุษแล้ว?
และด้วยเพราะเหตุน้ ี ฝ่ าบาทจึงมิได้บรรทมตลอดทั้งคืน แม้หลับ
พระเนตรลง แต่ในสมองก็มีแต่ภาพของตู๋กซู ิงหลันที่เกลียดชัง
พระองค์เต็มไปหมด
สุ ดท้ายแล้วจึงตัดสิ นพระทัยละเว้นชีวิตจีเย่ว์ ขับไล่เขาจากไป
เมื่อเป็ นเช่นนี้ ก็เท่ากับตัดหนทางมิให้ต๋ ูกซู ิงหลันได้มีโอกาสพบ
หน้าจีเย่วอ์ ีกต่อไป
………………………………..
พอเรื่ องนี้จบลงได้ สายตาของผูค้ นทั้งหมดก็ยา้ ยความสาคัญไปจับ
จ้องอยูท่ ี่เรื่ องการคัดเลือกพระสนม
เหลียนไฉเหริ นสู ญเสี ยความโปรดปราน ฉีผงิ ทูลลาออกจากวังไปอยู่
อารามชี เต๋ อเฟยก็ถูกขังอยูใ่ นตาหนักเย็น ดู ๆ แล้ว เหล่าพระสนม
ขึ้นชื่อในวังหลวงต่างยา่ แย่กนั หมด เช่นนี้พวกคุณหนูในตระกูลต่าง
ๆ ก็เริ่ มมีท่าทางเคลื่อนไหวคึกคัก
ยามนี้ อี้อ่องถูกกาจัดออกไปแล้ว พระราชอานาจในพระหัตถ์ของฝ่ า
บาทก็ยงิ่ มัน่ คงยิง่ ขึ้น บรรดาเชื้อพระวงค์และขุนนางใหญ่จานวนไม่
น้อยต่างพากันยัดเยียดบุตรสาวของตนเองเข้ามาในวัง
ยามที่ฝ่าบาทพึ่งจะขึ้นครองราชย์น้ นั มีผคู ้ นไม่นอ้ ยที่หาทางซุกซ่อน
และถ่วงรั้งไม่ให้บุตรสาวเข้าวัง ต่างก็คิดหาหนทางถอยเอาไว้ ยามนี้
สถานการณ์แน่ชดั แล้ว ต่างก็รีบร้อนผลักดันคนเข้ามาในวัง
หลายวันหลังจากนั้น
ในพระตาหนักเฟิ่ งหมิง ตู๋กซู ิงหลันนอนหลับจนเกือบถึงยามเที่ยง
พอพึ่งจะตื่นขึ้นมาก็เห็นคนคุน้ เคยอย่างวิญญาณอาฆาตกาลังเดินวน
ไปวนมาอยูใ่ นห้องของนาง
พอเห็นว่านางตื่นแล้ว เสี่ ยวลี่กร็ ี บซอยเท้าเข้ามารายงานโดยเร็ ว
“ท่านเซียน ท่านช่างนอนหลับได้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลย! “
ตู๋กูซิงหลันนวดคลึงดวงตาที่ง่วงงุ่น ” ทาไมละ ฟ้าถล่มลงมาหรื อ? “
นางเป็ นคนนอนดึกมาแต่ไหนแต่ไร ยามปกติตอ้ งนอนถึงเที่ยงอยู่
แล้ว ประกอบกับช่วงก่อนหน้านี้สูญเสี ยพลังจานวนมากไปกับหยก
สรรพชีวติ แต่ละครั้งเป็ นต้องเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าไปทั้งร่ าง วันทั้ง
วันง่วงหงาวหาวนอน จามครั้งหนึ่งก็จะหลับไปอยูแ่ ล้ว
” ยายแก่เจียงที่บา้ นท่าน หลายวันมานี้ก่อเรื่ องวุน่ ไปหมด นางควาน
หาสาวน้อยมานางหนึ่ง จะส่ งเข้าวังมาร่ วมการคัดเลือก! “
ตู๋กซู ิงหลันไม่ค่อยสนใจเท่าใดนัก ” เจียงเหม่ยหยูน่ ะหรื อ? “
” ยังจะไม่ใช่อีกหรื อเจ้าคะ? ” เสี่ ยวลี่ฟ้องต่อไป “ยายแก่นนั่ วันทั้งวัน
เอาแต่ลากข้าไปลือกดูดว้ ยกัน แต่ละคนดูได้เสี ยที่ไหน แต่ละคน
หน้าต่างอย่างกับฟักแฟงแตงเบี้ยว ยังจะกล้าส่ งเข้าวังมาอีก “
ตู๋กซู ิงหลันเห็นท่าทางกระฟัดกระเฟี ยดของนางแล้ว ก็รู้สึกว่าน่าขา
ดี
โดนเฉพาะยามที่นางจ้องหน้าตู๋กูซิงหลันเขม็ง
” ท่านยังจะหัวเราะได้อีกแนะ ยายแกนัน่ นะไม่มีทางมาดีแน่ ที่ส่ง
หญิงสาวเหล่านั้นเข้าวังมาก็คิดจะแย้งชิงความโปรดปราน ลากท่าน
ลงมาเป็ นแน่”
เสี ยวลี่คิดจนร้อนใจไปหมด แม้วา่ ท่านเซียนจะเก่งกาจอย่างไร แต่
เรื่ องการแก่งแย่งของสตรี ในวังหลวงนั้น ดูจะยังมองไม่ทะลุเท่าใด
นัก
เอาแต่จะหัวเราะขา ๆ ไป มีอะไรให้ขากัน?
” เช่นนั้นนางหาคนหน้าตาดี ๆ ได้บา้ งหรื อยัง ” ตู๋กซู ิงหลันนอนอยู่
บนเบาะอ่อน คว้าเมล็ดแตงกาหนึ่งมาเริ่ มแกะกิน
” อย่างตอนนี้ ข้าจาได้วา่ มีอยูค่ นหนึ่งเรี ยกว่า ซ่งหรู หย้วน หน้าตาไม่
เลวเลยทีเดียว คล้ายกับว่าจะเป็ นหลานสาวสายนอกของนาง “
ตู๋กซู ิงหลันครุ่ นคิดดู จากที่เชียนเชียนเคยทบทวนเรื่ องความสัมพันธ์
ระหว่างบุคคลต่าง ๆ ให้ฟังนั้น ก็ค่อยคิดได้ เจียงเหม่ยหยูม่ ีบุตรชาย
หญิงฝาแฝด คล้ายกับว่าบุตรสาวของนางตู๋กจู ิงจะแต่งให้กบั ขุนนาง
ซัง่ ซู (ฝ่ ายบันทึกประวัติศาสตร์) คลอดลูกสาวคนหนึ่ง เรี ยวกว่า ซ่ง
หรู หย้วน
ตู๋กซู ิงหลันยังคงจดจาฮูหยินของซัง่ ซูผนู ้ ้ นั ได้ ก่อนหน้านี้ที่ดา้ นนอก
ของตาหนักเฟิ่ งหมิง นางเคยโดยยายป้าหน้าเหลืองนัน่ ด่ามาครั้ง
หนึ่ง
” ขอแค่หน้าตาดีก็พอแล้ว วังหลังจาเป็ นจะต้องมีบุปผาดอกใหม่บา้ ง
แล้ว ” ตู๋กูซิงหลันแกะเมล็ดแตงไปก็ตอบไปด้วย
” ท่านทาเช่นนี้ไม่เท่ากับว่าหาศัตรู ความรักให้ตนเองหรอกหรื อ?
ท่านคิดดูนะเจ้าคะ แต่ไหนแต่ไรมาบุรุษล้วนชอบของใหม่ทอดทิ้ง
ของเดิม หาดว่าบุปผาใหม่ ๆ เหล่านี้เข้าวังมา ฝ่ าบาทก็จะเอาแต่หนั
ไปสนพระทัยดอกไม้สดใหม่พวกนั้น แล้วบุปผาเดิมที่ยงั ไม่โรยรา
เช่นท่าน……ใครจะชื่นชมกัน? “
ตู๋กซู ิงหลันแทบจะอยากเอาเล็บข่วนหน้านางนัก ” ศัตรู ความรักที่
ไหนกัน! เป็ นตัวน่ารักต่างหาก เข้าใจไหม? เจ้าดูสิตอนนี้วงั หลัง
เหน็บหนาวเงียบงัน ไม่มีสาวน้อยน่ารักมาเป็ นเพื่อนพูดคุยกับข้า มัน
ช่างหน้าเบื่อเพียงไร หากว่ามีคนน่ารักมาสักหลาย ๆ คน ข้าจะได้
วันนี้ดูคนนี้ พรุ่ งนี้ดูคนนั้น สบายตาสบายใจแท้ เจ้าว่าใช่หรื อไม่? “
เสี่ ยวลี่ “…….”
” ยิง่ ไปกว่านั้น ฮ่องเต้เป็ นลูกชายข้า ข้าที่เป็ นยายแก่ไหนเลยจะไม่ใช่
มารดาผูล้ ้ าค่าของลูกเล่า ย่อมไม่จาเป็ นต้องไปหึ งหวงกับพวก
ลูกสะใภ้อยูแ่ ล้ว”
เมื่อเป็ นเช่นนี้เสี่ ยวลี่ยอ่ มพูดอะไรไม่ออก นี่มนั ช่างเป็ นฮ่องเต้ไม่รีบ
ร้อน ขันทีกลับร้อนใจ
ตัวนางอย่างน้อย ๆ ก็เคยเป็ นนางกานัลในวังหลวงมาเจ็ดแปดปี พบ
เห็นฝี มือการแย่งชิงความโปรดปรานของเหล่าพระสนมมาไม่นอ้ ย
แต่พอทาไมมาถึงท่านเซียนแล้ว ถึงได้กลายเป็ นอีกเรื่ องหนึ่งไปได้
กัน?
” ท่านเซียนเจ้าคะ ท่ายอายุยงั น้อย ไยจึงคิดจะใช้ชีวิตที่เหลือเป็ นม่าย
ไปตลอด? ” เสี่ ยวลี่คุกเข่าอยูท่ ี่ขา้ งตัวนาง “มีคาพูดที่วา่ หอสู งริ มน้ า
ได้รับแสงจันทร์ก่อน ท่านไยไม่ลองใคร่ ควรดู จับฮ่องเต้องค์น้ ีใส่
ล่วม (ยา) ไว้? “
ตู๋กซู ิงหลันหันมากรอกตาบนใส่ นางในทันที “ไยข้าเป็ นไทเฮาอยูด่ ี
ๆ กลับไม่เอา จะให้เอาตัวไปเป็ นนางสนม ? ข้าคงจะบ้าไปแล้ว! “
” ถึงจะพูดเช่นนั้นก็เถอะ แต่หากว่าไร้บุรุษเคียงข้างไปชัว่ ชีวิต ก็คง
ไม่ดีหรอกนะเจ้าคะ? ท่านดูสิฝ่าบาททรงเป็ นบุรุษรู ปงามไม่ธรรมดา
มีท้ งั ยังมีสติปัญญายอดเยีย่ ม หากมองไปทัว่ ทั้งแผ่นดิน เกรงว่าคงมี
แต่พระองค์ที่เหมาะสมจะเคียงคู่กบั ท่าน “
” ใครว่าข้าไม่มีบุรุษ? ” ตู๋กูซิงหลันเอนพิงเก้าอี้อ่อนไขว้ขาทั้งสอง
อย่างสบาย ” พี่ใหญ่ของข้า พี่รองของข้า ท่านปู่ ต่างมิใช่บุรุษหรื อ?

เสี่ ยวลี่พดู ไม่ออกบอกไม่ถูก สมองของท่านเซียนทาไมถึงได้ดึงดัน
ดุจรากไม้ จะพูดอย่างไรก็ไม่ยอมเข้าใจเช่นนี้?
” เอาเถอะ เสี่ ยวเหลียง เรื่ องของข้า เจ้าไม่เจ้าเป็ นต้องกังวลใจไป ข้า
รับน้ าใจเจ้าเอาไว้แล้ว”
” ท่านเซียน ขอท่านได้โปรดอย่าเรี ยกข้าว่าเสี่ ยวเหลียงเลยนะเจ้าคะ
…….มันไม่เป็ นมงคล เรี ยกข้าว่าเสี่ ยวลี่ดีกว่านะเจ้าคะ”
” ตอนนี้เจ้าก็เป็ นวิญญาณอาฆาตไปแล้ว ยังจะกลัวมงคลไม่มงคล
อะไรอีกละ? “
เสี่ ยวลี่……..ฮือ
นางยังไม่ทนั ได้พดู คุยจนได้เรื่ องได้ราวอะไร ก็ได้ยนิ เชียนเชียนเข้า
มากราบทูลว่า “นายหญิงเจ้าคะ นางเจียงซื่อขอเข้าเฝ้า “
สี หน้าเชียนเชียนไม่ยนิ ดี นางเจียงซื่อคนนี้ทุกครั้งที่มาไม่เคยมีเรื่ องดี
วันนี้กเ็ ช่นกัน ดูจากกิริยาท่าทางของนางแล้วคงมิได้มีจุดประสงค์ดี
เป็ นแนน่
” ให้นางเข้ามาเถอะ ” ตู๋กูซิงหลันยังคงแทะเมล็ดแตงต่อไป นางพึ่ง
จะตื่นขึ้นมาเมื่อครู่ ยังไม่ได้แต่งตัวหวีผม บรรยากาศรอบตัวจึงมี
กลิ่นอายของความเกียจคร้าน
ยามที่นางเจียงซื่อเข้ามานั้น พอเห็นนางนอนเอนแทะเมล็ดแตงอยู่
บนเก้าอี้อ่อน ในใจก็เกิดความคับข้องขึ้นมา
พอมองไปรอบทิศทั้งสี่ ทาง เห็นรอบด้านล้วนตกแต่งอย่าง
สวยงามหรู หรา จิตใจของนางก็ยงิ่ รู ้สึกอัดอั้นขึ้นไปอีก
นังคนสาส่ อนนี้ทาไมถึงได้ไม่อายุส้ นั และตาย ๆ ไปเสี ยที น่า
เสี ยดายฟ้าช่างไร้ตานัก ถึงได้ปล่อยให้มนั สุ ขสบายเช่นนี้อยูไ่ ด้
นับตั้งแต่ที่มนั ออกจากตาหนักเย็นมาได้ ก็ยงิ่ ทียงิ่ ว่า
อานาจบาตรใหญ่แล้ว
ดูเอาสิ นางซึ่งเป็ นญาติผใู ้ หญ่มาหาด้วยตนเอง นางกลับปรากฎตัว
ในสถาพเช่นนี้? แม้แต่จะลุกขึ้นมาก็ยงั ขี้เกียจ! “
นี่มนั เท่ากับว่าไม่ได้เห็นนางอยูใ่ นสายตาชัด ๆ
แม้ในใจของนางจะรู ้สึกไม่ยนิ ดี แต่นางก็สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้
นางกาไม้เท้ากระชับเข้ากล่าวขึ้นมาว่า ” ไม่ได้พบกันมาหลายวัน
หลันเอ๋ อร์สบายดีหรื อไม่? “
ตู๋กซู ิงหลันคายเปลือกเมล็ดแตง “เจียงซื่อ เราบอกเจ้าหลายครั้งแล้ว
การเรี ยกชื่อของเราตรง ๆ นั้นถือว่ามีโทษหนัก”
เชียนเชียนยืน่ อยูด่ า้ นข้าง แอบกรอกตามองนางเจียงซื่ออย่างเงีบย ๆ
เจียงซื่อ “……..”
นางไม่เข้าใจเลย นางเป็ นถึงญาติผใู ้ หญ่แท้ ๆ จะเรี ยกชื่อของมันสัก
คาไงจาจะต้องมีโทษหนักด้วย?
นางอดทนกล้ ากลืนอารมณ์ของตนเอง ใบหน้าชรายังคงมีรอยยิม้
“คนเฒ่าเช่นหม่อมฉันผิดไปแล้ว ขอไทเฮาทรงเห็นแก่ความเป็ นคน
ในครอบครัวเดียวกัน ละเว้นพระอาญาด้วยเพคะ”
ตอนที่ 135 สามี
ตู๋กซู ิงหลันแทะเมล็ดแตงต่อไป อย่างไม่สนใจใยดี
นางเจียงซื่อก็หนั ไปดึงตัวเด็กสาวคนหนึ่งมาจากด้านหลัง ” รี บเข้า
มาถวายพระพรไทเฮาเร็ วเข้า “
สาวน้อยได้ยนิ แล้ว ก็ยอบตัวลงต่อหน้าตู๋กซู ิงหลัน ” หม่อมฉัน ซ่ง
หรู หย้วน ถวายพระพรไทเฮา “
ตู๋กซู ิงหลันยามนี้ถึงได้หนั มามองนางเล็กน้อย หน้าตาของนางก็
นับว่าหมดจดดีอยู่ ดูไปแล้วอ่อนแอเปราะบางไม่อาจต้านทานลมได้
ไร้พิษภัยเสมือนดัง่ กระต่ายน้อยตัวหนึ่ง
เมื่อเห็นว่าตู๋กซู ิงหลันพอจะให้ความสนใจอยูบ่ า้ ง เจียงเหม่ยหยูก่ ร็ ี บ
กล่าวต่อว่า ” นี่เป็ นบุตรสาวของท่านอาจิงของท่าน พวกท่านเคยพบ
หน้ากันมาแล้ว แต่วา่ ท่านความจาเสื่ อมไปแล้วไม่ใช่หรื อ? หม่อม
ฉันจึงได้พานางมาเข้าเฝ้าท่านบ้าง พวกท่านเป็ นลูกพี่ลูกน้องกัน ก็
สมควรจะสร้างความสนิทสนมกันให้มากไว้มิใช่หรื อ? “
ตู๋กูซิงหลันขานรับคาหนึ่ง “แล้วอย่างไรอีก? “
” อีกไม่นานก็จะถึงเวลาคัดเลือกนางสนมแล้วมิใช่หรื อ ท่านดูสิ
ตระกูลตู๋กขู องพวกเราก็มีแต่เหลียนเอ๋ อร์และท่านเข้าวังมา พวกเรา
จะอย่างไรก็นบั ว่าเป็ นตระกูลใหญ่ นายท่านผูเ้ ฒ่าออกรบอยูท่ ี่ดา้ น
นอก พวกเราก็ไม่ควรเอาแต่เสวยสุ ขอยูใ่ นบ้าน สมควรทาอะไรเพื่อ
เกียรติของตระกูลบ้าง “
เจียงเหม่ยหยูย่ ดื ตัวขึ้นตรง กาไม้เท้าจดจ้องไปยังตู๋กซู ิ งหลัน “หรู หย้
วนนั้นเป็ นเด็กดี ไม่วา่ จะเป็ น ดนตรี หมาก วาดภาพ หรื อเขียนอักษร
ล้วนทาได้ นิสยั ก็นุ่มนวลอ่อนโยน สัง่ สอนง่ายรู ้จกั เอาอกเอาใจ หาก
ว่านางได้เข้าวังมาเป็ นพระสนม ฝ่ าบาทจะต้องโปรดปรานเป็ นแน่
อีกหน่อยอยูใ่ นวัง พวกท่านทั้งสามก็จะได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมิใช่
หรื อ? “
เชียนเชียนอยากจะกรอกตาขาวขึ้นไปบนท้องฟ้าอยูแ่ ล้ว นายหญิงยัง
จะต้องการซ่งหรู หย้วนมาช่วยสนับสนุนเกื้อกูลด้วยหรื อ?
สมองของนางถูกลาถีบมาหรื อยังไง?
ตู๋กซู ิงหลันไม่พดู ไม่จา คว้าเอาเมล็ดแตงมาแทะเล่นอีก
พอเห็นนางท่าทางไม่สนใจแม้แต่นอ้ ย เจียงเหม่ยหยูก่ ร็ ้อนรนขึ้น
มาแล้ว “วันนี้ที่หม่อมฉันมาขอเข้าเฝ้าไทเฮา ก็เพราะคิดจะขอให้ไท
เฮา เมื่อถึงวันคัดเลือกนางสนม ช่วยเหลือเด็กคนนี้บา้ ง เพราะ
อย่างไรพวกเราก็เป็ นครอบครัวเดียวกัน สนับสนุนผูค้ นในตระกูล
ย่อมเป็ นหน้าที่ของพวกเราอยูแ่ ล้ว ท่านว่าจริ งไหม? “
ซ่งหรู หย้วนก็รีบเออออ กล่าวต่ออย่างรวดเร็ วว่า “ขอไทเฮาทรง
โปรดเมตตาดูแลหม่อมฉันด้วยเพคะ “
เพราะว่าผูท้ ี่เข้าร่ วมการคัดเลือกพระสนมในครั้งนี้มีจานวนมาก หาก
ว่าเบื้องหลังของตนเองไม่มีผใู ้ ดสนับสนุนช่วยเหลือ เกรงว่าแม้แต่
โอกาสที่จะได้พบพระพักตร์ของฝ่ าบาทสักครั้งคงจะไม่มีแล้ว
หากไม่ใช่เพราะว่าตู๋กซู ิงหลันช่วงนี้มีหน้ามีตาขึ้นมา พวกนางก็คง
จะไม่ลดตัวลงมาขอร้องนางหรอก
ดู ๆ ท่าที่นางจองหองเข้าสิ พาให้คนอยากจะลงมือกับนางสักรอบ
เสี ยจริ ง
ตู๋กซู ิงหลันหันไปมองดูพวกนาง ก็พลันยิม้ แย้มออกมา พอนางยิม้ ทัว่
ทั้งตาหนักก็พลอยสว่างไสวไปด้วย “เจียงซื่อ เด็กน้อยหรู หย้วนผูน้ ้ ี
หากว่าดีงามเช่นที่เจ้าว่าจริ ง ไหนเลยจาเป็ นจะต้องให้เราช่วยเหลือ
อีก? ต่อให้นางอยูท่ ่ามกลางผูค้ นทั้งหลาย ฝ่ าบาทย่อมทอดพระเนตร
เห็นนางเอง “
เจียงเหม่ยหยูฟ่ ังแล้ว ก็คิดว่าตู๋กซู ิงหลันกาลังชื่นชมซ่งหรู หย้วน นาง
ก็ชกั จะเกิดความภาคภูมิใจขึ้นมาบ้าง ” นัน่ ก็ใช่แล้ว หรู หย้วน
หน้าตางดงาม ชาติกาเนิดก็ดี ฝ่ าบาทจะเรี ยกนางเข้าเฝ้าเพียงเป็ นเรื่ อง
ที่ชา้ หรื อเร็ วเท่านั้น แต่ที่หม่อมฉันต้องการไม่ใช้แค่ให้ฝ่าบาทได้
ทรงพบหน้านาง “
ตู๋กูซิงหลัน “หืม? “
เจียงเหม่ยหยูห่ นั ไปถลึงตาใส่ ‘ตู๋กูเหลียน’ที่ขา้ งกายของตู๋กูซิงหลัน
สายตาของนางมีแววเอือมระอา “เหลียนเอ๋ อร์ช่างไม่ได้เรื่ อง เข้าวัง
มาตังนานแล้วก็ยงั เป็ นได้แค่ไฉเหริ น”
เสี่ ยวลี่ “??? ” แหมมีแต่ท่านย่าเช่นเจ้าที่ได้เรื่ องใช่ไหม
” เพราะฉะนั้นจึงยังต้องของให้ไทเฮาทรงออกแรงมากหน่อย ให้หรู
หย้วนได้เป็ นพระสนมขั้นเฟย เรื่ องนี้จะอย่างไรก็ไม่มีผลร้ายต่อท่าน
ท่านลองคิดดู หากว่าหรู หย้วนได้รับความโปรดปรานเหนือผูใ้ ดใน
วังหลัง พระสนมคนอื่น ๆ ไหนเลยจะยังกล้าไม่เคารพท่าน?
ตาแหน่งไทเฮาของท่านก็ยงิ่ นัง่ ได้อย่างมัน่ คงมิใช่หรื อ? “
คราวนี้เชียนเชียนถึงกับไร้คาพูดบ้างแล้ว นางยั้งคาพูดไว้ สายตามอง
ออกไปที่เบื้องนอก วังหลังยามนี้คนที่กินอิ่มนอนหลับอยูด่ ี ๆ ที่
ไหนยังจะกล้ามาหาเรื่ องนายหญิงได้อีก?
ผูท้ ี่เก่งกล้าสามารถเช่นนายหญิง ไหนเลยจะต้องการคนเช่นซ่งหรู
หย้วนมาเสริ มความมัน่ คง?
ตู๋กซู ิงหลันได้ฟังแล้ว รอยยิม้ บนใบหน้าก็ยงิ่ เปลี่ยนไป
ซ่งหรู หย้วนเห็นนางแย้มยิม้ มากขึ้น ก็ยงิ่ พูดเสริ มว่า “ไทเฮาเพคะ
ของพระองค์วางพระทัย หากว่าข้าได้เป็ นพระสนมขั้นเฟย ย่อม
จะต้องไม่ลืมเลือนพระองค์แน่ ต่อไปเมื่อสามารถมีองค์ชายถวายฝ่ า
บาท ย่อมจะต้องให้เขามาเฝ้าท่านที่ตาหนักเฟิ่ งหมิงนี้บ่อย ๆ “
” ภายหน้าเมื่อวันหนึ่งเขาได้เป็ นฮ่องเต้ ท่านก็จะเป็ นไท่หวงไทเฮา
สู งศักดิ์เหนือผูอ้ ื่นผูใ้ ด “
ตู๋กูซิงหลันใช้มือนวดขมับ นางเกรงว่าตนเองจะหัวเราะเสี ยงดัง
ออกไป
นางเองก็ไม่รู้วา่ พวกนางไปเอาความมัน่ อกมัน่ ใจในตนเองขนาดนี้
มาจากที่ไหน
ประเด็นสาคัญคือบุตรชายที่เป็ นฮ่องเต้ของนางนั้น สนใจแต่เพียง
บุรุษเท่านั้น!
ไหนเลยจะไปมีลูกกับเจ้าได้?
” ท่านอย่าได้เอาแต่ยมิ้ แต่ตอ้ งรับปากออกมาด้วยสิ ” เจียงเหม่ยหยู่
ชิงชังท่าทางเช่นนี้ของนางเหลือเกิน ยิม้ ๆ ๆ ยิม้ ไปให้ใครดูกนั ?
เจ้าขายรอยยิม้ หรื อไง?
ทั้ง ๆ ที่เห็นชัดอยูแ่ ล้วว่าเหลียนเอ๋ อร์กบั นางสาระเลวตู๋กซู ิงหลัน
ต่างก็คลี่คลายความขัดแย้ง มีความสัมพันธ์แนบแน่นขึ้นมาแล้ว
ทาไมมันถึงได้ทากิริยาเช่นนี้ต่อพวกนางกัน?
” เจียงซื่อ เรารู ้สึกว่าหนังหน้าเจ้าช่างหนาจริ ง ๆ ” ตู๋กูซิงหลันขยับ
ตัววางท่า มือข้างหนึ่งเท้าศีรษะไว้ เส้นผมดาตกสยาย ดูไปประหนึ่ง
ฮ่องเต้หญิงผูส้ ู งส่ ง
เจียงซื่อเห็นท่าทางของนาง อยู่ ๆ ก็พาลนึกไปถึงเหตุการณ์ที่ตนถูก
นางตบซ้อมอย่างโหดร้าย ก็อดที่จะรู ้สึกเหน็บหนาวขึ้นมาไม่ได้
วันนี้ตนเองก็วางตัวอย่างดีแล้วนะ ไม่ได้ล่วงเกินนางที่ไหนสัก
หน่อย
หรื อว่านางสาระเลวผูน้ ้ ีจะไม่สนอกสนใจเหตุผลใด ๆ ก็ทุบตีคน
แล้ว?
” โอรสจะโปรดปรานผูใ้ ด ไม่โปรดปรานผูใ้ ด ก็ยอ่ มแล้วแต่
พระองค์เท่านั้น ต่อให้เรามีความสามารถยิง่ ใหญ่เพียงใดก็ไม่ควรจะ
ไปก้าวก่ายในสิ่ งที่ทรงโปรดปราน ” ตู๋กซู ิงหลันหรี่ ตา พลันหาว
ออกมา “หากว่าเรายัดเยียดคนให้พระองค์ แล้วทรงกริ้ วขึ้นมา จน
เกลียดชังเราจะทายังไง? “
” พวกเจ้าเองก็รู้ดี โอรสของเราพระอารมณ์ไม่คอ่ ยดี แม้แต่กบั เราก็
ไม่ละเว้น “
เจียงเหม่ยหยูอ่ ยากจะตบนางสักสองครั้ง ไม่คิดจะช่วยก็บอกกันตรง
ๆ ไยจะต้องหาข้ออ้างที่ออ้ มค้อมเช่นนี้ดว้ ย
พูดไปพูดมาก็คือตู๋กซู ิงหลันทาเพื่อตัวนางเอง ทั้งที่กแ็ ค่ช่วยออกแรง
เล็กน้อยเท่านั้น พูดเสี ยอย่างกับว่าพวกนางหาความยากลาบากมาให้
นี่มนั เห็นชัดเลยว่านางมีใจใฝ่ ในองค์ฮ่องเต้ จึงไม่ตอ้ งการให้หรู หย้
วนได้รับความโปรดปราน
ยามที่หลี่กงกงตามเสด็จฝ่ าบามมายังตาหนักเฟิ่ งหมิงนั้น ก็พอดีได้
ยินได้ฟังถ้อยคาที่ไทเฮารับสัง่ ออกมา
หลายวันมานี้ช่างแปลกประหลาดเสี ยจริ ง ไม่รู้วา่ ฝ่ าบาททรงไม่พอ
พระทัยอะไรไทเฮา จึงได้ไม่เสด็จมาตาหนักเฟิ่ งหมิงหลายวันแล้ว
พอเสด็จมาถึงก็ได้ยนิ ไทเฮารับสัง่ นินทาพระองค์พอดิบพอดี…….
หลี่กงกงเหลือบตามองไปอย่างระมัดระวัง แม้วา่ ในตาหนักจะจุดไฟ
เผาถ่านเอาไว้ แต่อยู่ ๆ บรรยากาศในห้องก็เกิดความเยือกเย็นขึ้นมา
ทันที
อยู่ ๆ ซ่งหรู หย้วนก็รู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมา พอหันศีรษะไปมอง แม้
เพียงแค่แวบเดียวแต่นางรู ้สึกเหมือนวิญญาณของตนเองกาลังสัน่
สะท้าน
นางเป็ นถึงคุณหนูของจวนซ่างซู ยามปกติมีโอกาสได้พบบรรดา
คุณชายมานับไม่ถว้ น แต่กลับไม่เคยเห็นผูใ้ ดที่งดงามจนไร้ที่เปรี ยบ
ได้เช่นนี้มาก่อน
พระองค์มีดวงเนตรหงส์ที่พาให้ผคู ้ นต้องหลงใหล พระพักตร์ที่เย็น
ชายิง่ ส่ งเสริ มพระองค์ให้ดูเยือกเย็น
ราวกับบุพชาติบนยอดเขาสู งที่ผใู ้ ดก็ไม่อาจอาจเอื้อมถึง
วันที่ฝ่าบาททรงขึ้นครองราชย์น้ นั นางเองก็เคยได้เข้าเฝ้ามาก่อน แต่
ด้วยฐานะของนาง จึงได้แต่ยนื เข้าเฝ้าอยูใ่ นตาแหน่งที่อยูห่ ่างไกล
เท่านั้น แต่ถึงกระนั้นหัวใจของนางก็ยงั ตื่นเต้นเสี ยจนจะหยุดเต้นอยู่
แล้ว
นี่คือสามีที่นางอยากจะแต่งให้ คือบุรุษที่แข็งแกร่ งที่สุดในแผ่นดิน
นางกลั้นหายใจ คุกเข่าลงไปที่เบื้องพระพักตร์ ชิงกล่าวออกไป
ก่อนที่ต๋ ูกูซิงหลันจะเอ่ยปาก “หม่อมฉันซ่งหรู หย้วน ถวายพระพรฝ่ า
บาทเพคะ “
น้ าเสี ยงของนางอ่อนหวานกว่าเมื่อครู่ มากมาย ดวงตาดาขลับคู่น้ นั
เป็ นประกายแวววาวอย่างที่สุด ทั้งยังเต็มเปี่ ยมไปด้วยความชื่นชม
อย่างเหลือล้น
ตอนที่ 136 ตัวเลวร้ ายที่แท้ จริง
เจียงเหม่ยหยูค่ ิดไม่ถึงเลยว่าทั้ง ๆ ที่นาน ๆ ทีนางจะได้เข้าวังมาสัก
ครั้งหนึ่ง กลับสามารถได้พบฝ่ าบาทเสด็จมาตาหนักเฟิ่ งหมิงได้พอดี
เรื่ องเช่นนี้สาหรับหรู หย้วนแล้ว นับว่าเป็ นโชคดีที่ฟ้าประทานมาให้
ทีเดียวเชียว
หากว่าก่อนที่จะถึงช่วงเวลาคัดเลือกนางสนมก็สามารถให้นางเข้า
ใกล้ฝ่าบาทสร้างความสนิมสนมเอาไว้ก่อน ก็จะทาให้ฝ่าบาทยิง่
เพิ่มพูนความทรงจาที่ดีต่อนางมากขึ้น พอถึงยามคัดเลือก ก็มิใช่วา่
ทาให้ฝ่าบาททรงสามารถเลือกนางได้ต้ งั แต่แวบแรกเลยหรื อ?
“หม่อมฉันเจียงเหม่ยหยู่ ถวายพระพรฝ่ าบาท ” นางถวายคานับอย่าง
ยินดี ทั้งยังดึงตัวซ่งหรู หย้วนมาที่เบื้องหน้าฝ่ าบาทอีกด้วย “นี่เป็ น
หลานสาวของหม่อมฉัน หรู หย้วน ปี นี้อายุสิบหก ไม่วา่ จะเป็ น
ดนตรี หมากล้อม อักษร หรื อวาดภาพล้วนมีความสามารถ
โดยเฉพาะฝี มือเล่นผีผาของนางยิง่ น่าประทับใจ แม้แต่ยอดอาจารย์
ดนตรี อนั ดับหนึ่งในเมืองหลวงยังเคยชื่นชมนางเพคะ”
พอพูดถึงหลานสาวสายนอกคนนี้แล้ว เจียงเหม่ยหยูเ่ ป็ นต้อง
ภาคภูมิใจอย่างยิง่ เดิมทียามที่ฝ่าบาทพึ่งจะขึ้นครองราชย์น้ นั พวก
นางก็เคยคิดจะส่ งหรู หย้วนเข้าวัง แต่วา่ ตอนนั้นสถานการณ์ยงั ไม่
ชัดเจน ขุนนางซ่างซูผเู ้ ป็ นบิดาจึงลังเลไม่กล้าตัดสิ นใจ
สุ ดท้ายจึงส่ งเหลียนเอ๋ อร์เข้าวังมา เหลียนเอ๋ อร์แม้จะมีหน้าตางดงาม
แต่วา่ นิสยั ใจคอกลับตื้นเขินเกินไป ตั้งแต่เล็กก็ถูกตามใจมามาก ไม่
สนใจเรี ยนรู ้
หากว่าเปรี ยบเทียบกับหรู หย้วนแล้ว เหลียนเอ๋ อร์นบั ว่ายังห่างไกล
อีกมาก
เจียงเหม่ยหยูย่ งั มีวาจาอีกมากมายกล่าวไม่หมด นางอยากจะเยินยอ
หรู หย้วนจนขึ้นฟ้าไปจนแทบจะอดใจไม่ไหว แต่วา่ ฝ่ าบาทกลับมิได้
สนใจฟังแม้สักคาเดียว
นับตั้งแต่ที่พระองค์เสด็จผ่านประตูเข้ามา สายพระเนตรก็จบั จ้องอยู่
แต่บนร่ างของตู๋กซู ิงหลัน
กิริยาท่าทางที่เกียจคร้านของนาง ดูไปราวกับหนอนขนฟูตวั หนึ่ง
ในมือของนางยังมีเมล็ดแตงอยูก่ าหนึ่ง ยามที่เห็นเขาในแวบแรก
ปฎิกิริยาอย่างแรกของนางคือกินเมล็ดแตงในมือให้หมดเกลี้ยง ใคร
จะอยากไปแย่งเมล็ดแตงของนางกัน!
ตู๋กูซิงหลันยัดเมล็ดแตงเข้าไปจนเต็มปาก ดูราวกับหนูนาที่ตุน
ธัญพืชเอาไว้ หลายวันมานี้พอไม่ได้พบเจอเจ้าลูกชายฮ่องเต้สุนขั
นางก็ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรี สบายอกสบายใจ ไหนเลยจะคิดว่าอยูด่ ี
ๆ เขาก็จะโผล่มาราวกับภูติผโี ดยมิได้บอกกล่าว
เดิมทีนางกาลังเกียจคร้านไม่อยากลุกจึงกึ่งนัง่ กึ่งนอนอยูบ่ นเก้าอี้
อ่อน ยามนี้จึงกลายเป็ นว่าดวงตาที่ง่วงงุนก็ปิดไม่ลงเสี ยแล้ว

” ฝ่ าบาท~” นางยิม้ หวานส่ งเสี ยงทักทายพระองค์


จีเฉวียนเสด็จมาที่ขา้ งกายนาง ทอดพระเนตรมองดูนางบนเก้าอี้อ่อน
” เขยิบหน่อย”
ตู๋กซู ิงหลันงงงันไปชัว่ ครู่ หนึ่ง ค่อย ๆ หดขาเข้าไป ยกพื้นที่เกือบ
ครึ่ งบนเก้าอี้อ่อนให้กบั เขา
จีเฉวียนขมวดพระขนงมุ่น ความหมายในรับสัง่ ของพระองค์คือให้
นางลุกขึ้น ไปนัง่ เก้าอี้อีกตัวที่อยูด่ า้ นข้าง
เป็ นถึงไทเฮาของแคว้นหนึ่งแท้ ๆ จะนัง่ ก็ไม่นงั่ ให้ดีมีสง่า ทาตัวไร้
กระดูก สวมใส่ เสื้ อผ้าตามสบายก็ออกมาเอนนอนให้คนเข้าพบได้
ทาไมถึงได้ไม่รู้จกั รักษากิริยาแม้แต่นอ้ ย?
น่าเสี ยดายที่สมองด้านความเข้าใจของนางมีปัญหาจริ ง ๆ พอ
พระองค์รับสัง่ ว่าเขยิบหน่อย นางก็เขยิบให้นิดนึงจริ ง ๆ ……..
จีเฉวียนก็มิได้รับสัง่ ออกมาให้มากความ พอเห็นว่านางเขยิบให้
หน่อยก็นงั่ ลงไปทั้งอย่างนั้น
บนร่ างของพระองค์มีกลิ่นอายของลมหิมะ พอประทับลงบนเก้าอี้
อ่อน ตู๋กซู ิงหลันก็พลันรู ้สึกว่าตนเองเกือบจะถูกทับกลายเป็ นขนม
เปี๊ ยะไส้เนื้อไปแล้ว
เจ้าคนผูน้ ้ ีถึงจะดูแล้วคล้ายจะผ่ายผอมไปบ้าง แต่ที่จริ งแล้วกระดูกก็
ใหญ่ตวั ก็แข็ง เต็มไปด้วยเหลี่ยมมุมไปหมด
ฮ่องเต้ที่ทรงประทับอยูอ่ ีกด้านก็ทรงรู ้สึกถึงร่ างกายของสตรี ที่อ่อน
นุ่ม ยิง่ ทรงรู ้สึกว่านางคล้ายกับหนอนขนฟูจริ ง ๆ
ไม่เช่นนั้นทาไมถึงได้ข้ ีเกียจจนไม่ยอมลุกขึ้นมา จะให้เขาลงมานัง่
บนเก้าอี้ตวั เดียวกันให้จงได้?
นอกจากเสี่ ยวลี่และหลี่กงกงแล้ว ผูอ้ ื่นที่อยูใ่ นตาหนักต่างก็ปากอ้า
ตาค้างไปตาม ๆ กัน
เสี่ ยวลี่ค่อย ๆ ถอยออกมาให้ไกลจากฮ่องเต้ออกไปอีก กลิ่นไอ
โอรสสวรรค์บนร่ างของฝ่ าบาททาให้ผตี ายโหงอย่างนางรู ้สึกไม่
สบายเนื้อตัว ยามปกติหากพบเจอก็จะหลบหนีไปจนห่างไกล คราว
นี้ตอ้ งมาอยูใ่ นห้องเดียวกัน นางรู ้สึกเหมือนขาดอากาศ หายใจจะไม่
ออกอยูแ่ ล้ว
หัวใจของเจียงเหม่ยหยูแ่ ละซ่งหรู หย้วนต่างก็หงุดหงิด
สี หน้าของซ่งหรู หย้วนไม่ดีอย่างยิง่ นางเคยได้ยนิ มาว่า ไทเฮาน้อย
คิดไม่ดีกบั องค์ฮ่องเต้ ไม่วา่ มีเรื่ องอันใดหรื อไม่กเ็ อาแต่จะค่อยทอด
เสน่ห์ยวั่ ยวนพระองค์
ก่อนหน้านี้นางไม่เคยเห็น จึงคิดว่าเป็ นแค่คาเล่าลือของผูอ้ ื่น แต่ยาม
นี้นางได้เห็นด้วนตาของตนเอง นางสวะผูน้ ้ ีถึงกับนัง่ อยูบ่ นเก้าอี้ตวั
เดียวกันกับฝ่ าบาท ร่ างกายแทบจะแนบชิดติดกันอยูแ่ ล้ว ทั้ง ๆ ที่อยู่
ต่อหน้าพวกนางแท้ ๆ แต่กบั ไม่แยแส จงใจล่อลวงฝ่ าบาท!
มิน่าล่ะเมื่อครู่ นางถึงได้เอาแต่ปฎิเสธ ไม่คิดจะช่วยเหลือนาง
ที่แท้ตวั เองก็คิดจะครอบครองฝ่ าบาทเอาไว้เพียงผูเ้ ดียว
” ฝ่ าบาท….” นางคุกเข่าอยูบ่ นพื้นจนขาชา จึงค่อยเปิ ดปากเรี ยกจี
เฉวียนคาหนึ่ง
จีเฉวียนยังคงไม่สนพระทัยนาง เพียงหันพระพักตร์ไปทางตู๋กซู ิงห
ลันที่อยูบ่ นเก้าอี้ตวั เดียวกัน “เจ้ากลัวว่าเรากริ้ วแล้วจะเกลียดเจ้า? “
เมื่อครู่ ตอนที่อยูน่ อกประตู คาพูดของนางเขาล้วนได้ยนิ อย่างชัดเจน
ตู๋กซู ิงหลันชะงักไปครู่ หนึ่ง “อืม”
เจ้าฮ่องเต้ผนู ้ ้ ีเป็ นนักลอบฟังหลังกาแพง!
นางก็แค่เกรงว่าซ่งหรู หย้วนผูน้ ้ ีเข้าวังมาแล้วจะสร้างความเดือดร้อน
ให้กบั ตระกูลตู๋กู
เพราะนางมีความเชื่อมโยงกับตระกูลตู๋กใู นเมื่อมีบรรพบุรุษร่ วมกัน
กระตุกผมเส้นเดียวย่อมสะเทือนไปทั้งร่ าง จะอย่างไรก็หนีไม่พน้
ไม่เช่นนั้นตนเองคงไม่ช่วยเหลือเสี่ ยวลี่ยดึ ร่ างของตู๋กเู หลียน
จุดประสงค์กเ็ พราะไม่ตอ้ งการให้ต๋ ูกเู หลียนก่อเรื่ อง
แน่อยูว่ า่ นางยิง่ เกรงว่าสมองของเจ้าฮ่องเต้สุนขั จะเกิดคึกขึ้นมา อยู่
ว่างไร้เรื่ องราวก็วางกับดักใส่ นาง จัดการนางได้ในสักวันหนึ่ง
ดังนั้นหากว่าสามารถไม่ไปยัว่ โทสะเขาได้ ก็ไม่ควรไปยัว่ โทสะของ
เขา
เมื่อได้ยนิ นางตอบรับ จีเฉวียนก็ขยับท่านัง่ ให้ภูมิฐานยิง่ กว่าเดิม ตรัส
เสี ยงเย็นชาออกมาคาหนึ่ง “เราให้อภัยเจ้า “
แต่ให้อภัยเฉพาะแค่เรื่ องที่หลายวันมานี้นางมิได้ไปดูแลเขายามแช่
ยาเท่านั้น ไม่ได้ให้อภัยเรื่ องที่นางกับจีเย่วไ์ ปแอบพบกันตอนมืดค่า!
ตู๋กูซิงหลัน “??? ” ว่ากันตามจริ ง นางไม่เข้าใจเลยว่าตนเองไปก่อ
เรื่ องอะไรให้เขาหงุดหงิดใจ
น้ าพระทัยเจ้าแผ่นดินลึกล้ าดุจมหาสมุทร หากไม่ระวังกระทา
ผิดพลาดก็เป็ นอันจบ
นางรี บตอบรับอย่างคล้อยตามว่า “ฝ่ าบาทพระทัยกว้างขวาง”
พระองค์ยอ่ มไม่อาจทนเห็นท่าทางที่นางโอบกอดใกล้ชิดกับบุรุษอื่น
ได้อีก
เรื่ องนี้แม้มิได้ทรงตรัสออกมา ในใจนางก็ควรจะรู ้อยูแ่ ล้ว ด้วยฐานะ
ของนางไม่อาจอนุญาตให้นางเกี่ยวข้องกับบุรุษใดได้ท้ งั นั้น
ตู๋กูซิงหลันพยักหน้าติด ๆ กัน “อืม”
คราวนี้ พระอารมณ์ของฝ่ าบาทค่อยดีข้ ึนบ้างเล็กน้อย พระองค์จึง
ค่อยสังเกตเห็นว่ามีอีกสองคนอยูใ่ นตาหนักเฟิ่ งหมิงด้วย พระขนงที่
พึ่งจะคลายออกก็ขมวดขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
พระองค์หนั ไปทอดพระเนตรเจียวเหม่ยหยูแ่ วบหนึ่ง จากนั้นก็หนั
ไปดูซ่งหรู หย้วนที่อยูข่ า้ งตัวนาง ” เจ้าเป็ นใครกัน? “
ซ่งหรู หย้วน “…..” เมื่อครู่ นางกับท่านยายพูดไปตั้งมากมาย หรื อว่า
ฝ่ าบาทมิได้ทรงฟังเลยแม้สักคาหนึ่ง?
” หม่อมฉัน ซ่งหรู หย้วน เป็ นบุตรสาวของขุนนางซ่างซูซ่งกงเลี่ยงเพ
คะ “
ซ่งฮูหยินไม่อาจคลอดบุตร ใต้เท้าซ่างซูจึงสู่ ขอบุตรสาวสายรองของ
ตระกูลตู๋กู ตู๋กจู ิงมาเป็ นภรรยาที่มีฐานะเท่าเทียมกัน เรื่ องนี้จีเฉวียน
ย่อมทราบชัดเจนอยูแ่ ล้ว
เพียงแต่พระองค์ไม่มีเคยสนพระทัยเรื่ องของซ่งหรู หย้วนมาก่อน
“อ้อ ” น้ าเสี ยงของฮ่องเต้เย็นชา
ถึงมาจะเป็ นเพียงแค่คาเดียว แต่วา่ สาหรับซ่งหรู หย้วนแล้วนางกลับ
ตื่นเต้นไปหมด
นี่เป็ นครั้งแรกที่ฝ่าบาททรงรับสัง่ กับนางก่อน!
ยามนี้นางหน้าบานดุจดอกท้อ ” หม่อมฉันได้ยนิ ผูค้ นสรรเสริ ญฝ่ า
บาทมานานแล้วเพคะ วันนี้ได้เข้าเฝ้านับว่าเป็ นบุญที่สงั่ สมมาสาม
ชาติ หม่อมฉันแม้ตายก็ยนิ ดีเพคะ “
จีเฉวียนทรงได้ยนิ แล้ว ก็ตรัสด้วยน้ าเสี ยงเย็นชา “ผ้าขาว ยาพิษ มีด
สั้น หากเจ้าอยากตาย เราสามารถประทานได้อย่างหนึ่ง”
ซ่งหรู หย้วน และเจียงเหม่ยหยู่ “!!! “
วิญญาณทมิฬ ” หึ ๆ ๆ ๆ ๆ เจ้าฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ี่นบั ว่าเป็ นตัวเลวร้าย
ที่แท้จริ ง! “
ว่าแล้ว จีเฉวียนก็ไม่ทรงลืมย้าไปอีกประโยค “หลี่กงกง ไป
ตระเตรี ยม อย่าให้นางต้องรอนาน “
หลี่กงกงทาหน้ากล้ ากลืน แต่กไ็ ม่กล้าขัดพระประสงค์ของฝ่ าบาท
ได้แต่หนั ไปสัง่ คนให้รีบไปเตรี ยมของประทานทั้งสาม
ว่ากันตามจริ งแล้ว แม้แต่ตวั เขาเองก็ไม่รู้วา่ ซ่งหรู หย้วนไปทาอะไร
ให้ฝ่าบาทไม่ทรงพอพระทัย
ตอนที่ 137 เจ้ ากาลังเอาใจเรา?
พอเห็นว่าฮ่องเต้ทรงเอาจริ ง ซ่งหรู หย้วนก็ตระหนกจนรี บโขกศีรษะ
ติดต่อกันหลายครั้ง “ฝ่ าบาท หม่อมฉัน….หม่อมฉันผิดในที่ใดกัน
จึงต้องรับโทษตายจากพระองค์? “
นางทูลถามพลาง น้ าตาก็ไหลเป็ นทางตามไปด้วย ท่าทางโศกเศร้า
คับแค้นใจอย่างที่สุด
“เพียงแค่ได้พบเรา เจ้าก็บอกว่าขอตายโดยไม่เสี ยดายชีวิต เราก็
อนุญาตตามที่เจ้าขอ นี่กลับกลายเป็ นว่าเราผิดกระนั้นหรื อ? “
คราวนี้ซ่งหรู หย้วนไม่กล้าพูอะไรออกมาพร่ อย ๆ อีก เกรงว่าหาก
นางพูดผิดไปคาหนึ่ง จะถูกฝ่ าบาทจับหางเอาไว้ได้ เป็ นเหตุให้นาง
ต้องจบชีวิต
ก่อนหน้านี้นางก็เคยได้ยนิ ได้ฟังมาว่า พระอุปนิสยั ของฝ่ าบาทไม่
เหมือนคนทัว่ ไป คิดไม่ถึงว่าพระอารมณ์ของพระองค์จะแปรปรวน
ง่ายเช่นนี้
นางได้แต่คุกเข่าร่ าไห้ ใช้สายตาน่าสงสารหันไปมองดูเจียงเหม่ยหยู่
จากนั้นก็หนั ไปหาตู๋กซู ิงหลัน วาดหวังว่าตู๋กซู ิงหลันจะเห็นแก่ความ
เป็ นญาติช่วยเหลือนางบ้าง
” ฝ่ าบาท ไทเฮาเพคะ เด็กน้อยหรู หย้วนคนนี้ไม่เคยได้พบโลก
ภายนอก พูดจาจึงไม่ได้ผา่ นการไตร่ ตรองไปบ้าง นางเพียงแต่มุ่งจะ
แสดงความเคารพพระองค์เท่านั้น ดังนั้นแม้จะให้นางมาเป็ นบ่าวรับ
ใช้พระองค์นางก็ยงั ยินดี ” เจียงเหม่ยหยูร่ ี บกล่าวต่อไป “ขอฝ่ าบาท
ทรงเห็นแก่นายท่านของหม่อมฉันละเว้นชีวิตนางเถอะเพคะ “
“เจียงซื่อ เจ้าดูให้ดีเสี ยก่อน นางแซ่ซ่ง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับ
นายท่านของเจ้าเลย” จีเฉวียนยังคงพระพักตร์เย็นชาดังเดิม เพียงแต่
สายพระเนตรเหลือบไปทางตู๋กซู ิงหลันอยูบ่ า้ งเท่านั้น
เขาชอบความรู ้สึกที่ได้เบียดอยูก่ บั ตู๋กูซิงหลันเช่นนี้ นุ่ม ๆ นิ่ม ๆ
อุ่น ๆ ดี แม้แต่ความเหน็บหนาวที่เกาะหนึบอยูบ่ นร่ างของเขาก็ยงั
ลดลงไปหลายส่ วน
ฉะนั้น…..เมื่อคิดถึงยามที่จีเย่วก์ อดนางเอาไว้อย่างแนบแน่น เขาก็
รู ้สึกอึดอัดขึ้นมา และอยากจะกอดนางเช่นนั้นบ้าง
แต่พอเกิดความคิดเช่นนี้ข้ ึน เขาก็คิดว่าจะต้องเร่ งให้หยวนเฟยตาม
หาหมอผีมาดูแลรักษาอาการของตนเอง
นางเป็ นไทเฮา เขาจะไปเกิดความคิดเช่นนั้นกับนาง……
” ฝ่ าบาท แต่วา่ หรู หย้วนเองก็เป็ นหลานสาวสายนอกของนายท่าน
ของหม่อมฉันนะเพคะ ” เจียงเหม่ยหยูร่ ้อนใจจนเหงื่อออกท่วม
ใบหน้า นางทูลพลางก็หนั ไปจ้องตาตู๋กซู ิงหลันอย่างไม่คิดชีวิต
นางสวะนี่ ทาไมถึงได้เอาแต่ทาตัวใจเย็นเป็ นเพียงผูช้ มอยูไ่ ด้?
ไม่เห็นหรื อว่าฝ่ าบาทจะทรงเอาชีวิตของหรู หย้วนอยูแ่ ล้ว? หรื อว่า
นางอยากจะให้หรู หย้วนตายไปเสี ยให้ได้?
นางหญิงชัว่ ที่มีแต่พิษร้าย!
“นายท่านยอมลาบากยากเข็นเพื่อแคว้นต้าโจว เสี ยสละร่ างกายเพื่อ
แผ่นดิน แม้อากาศจะเหน็บหนาวถึงเพียงนี้กย็ งั นาทัพออกรบอยูท่ ี่เป่
ยเจียง ไยฝ่ าบาทจะทรงประหารหลานสาวสายนอกของเขาอย่างไร้
เหตุผลได้กนั เล่าเพคะ นี่ช่างทาให้จิตใจผูค้ นเหน็บหนาวเหลือเกิน ”
กระดูกชราของเจียงเหม่ยหยูค่ ุกเข่าจนแทบจะจับแข็งไปหมดแล้ว
เดิมทีคิดว่าการที่หรู หย้วนได้พบกับฝ่ าบาทก่อนจะเป็ นเรื่ องดี ไหน
เลยจะรู ้วา่ ……
คาพูดเช่นนี้ของเจียงเหม่ยหยูท่ าเอาตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกไม่สบายขึ้นมา
บ้างแล้ว สายตาของนางทอประกายเยือกเย็นขึ้นมาบ้าง ” อย่าได้ยก
ท่านปู่ ของเรามาอ้างให้มนั มากนัก “
” ทุกสิ่ งที่ท่านปู่ ทาเพื่อแคว้นต้าโจวล้วนทาด้วยความเต็มใจ ไม่ได้
คานึงถึงประโยชน์ส่วนตนแม้แต่นอ้ ย ยิง่ ไม่จาเป็ นจะต้องมายกอ้าง
ความเป็ นลูกหลานให้ฝ่าบาทลาบากใจ ฝ่ าบาทเป็ นโอรสสวรรค์
ตรัสสิ่ งใดก็เป็ นไปเช่นนั้น เจ้าไม่เคยได้ยนิ คาที่วา่ ‘เจ้าชีวิตให้ขนุ
นางตาย ขุนนางมิอาจไม่ตาย’ หรอกหรื อ? “
นางยอมทนให้พวกนางพูดจาเหลวไหลได้ แต่ไม่อาจทนให้พวกนาง
ลากท่านปู่ ลงมาเป็ นเกราะกาบังได้
จีเฉวียนแต่ไรก็เกลียดชังตระกูลตู๋กอู ยูแ่ ล้ว พวกนางยังจะเรื่ องมาให้
ท่านปู่ ได้ไม่หยุดไม่หย่อน นี่ยงิ่ เท่ากับกระตุน้ ให้จีเฉวียนยิง่ ไม่พอใจ
มิใช่หรื อ?
ปากก็ร่ าร้องว่าว่าทาเพื่อตระกูล แต่กลับเรี ยกร้องให้ตระกูลยอมทุก
อย่างเพื่อพวกนาง
เจียงเหม่ยหยู่ “……..”
นังคนทรยศที่รู้จกั แต่โหมไฟใส่ ! ข้านึกอยูแ่ ล้วว่ามันจะต้องไม่ได้
หวังดีเป็ นแน่!
จีเฉวียนสู ดดมกลิ่นดอกฮว๋ ายที่กาจายจากกายของตู๋กซู ิงหลัน คาพูด
ของนางยิง่ ทาให้เขารู ้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
” ไทเฮาพูดได้ดียงิ่ นัก ” ยามที่หนั ไปทอดพระเนตรมองเจียงซื่อ
และซ่งหรู หย้วน สี พระพักตร์ของฝ่ าบาทก็ยงิ่ เย็นชา
ทันทีที่สิ้นเสี ยงรับสัง่ หลี่กงกงที่ทางานได้ดีมีประสิ ทธิ์ภาพมาโดย
ตลอด ก็เข้ามาพร้อมของประทานทั้งสาม
พอซ่งหรู หย้วนหันไปเห็น ร่ างของนางก็เหมือนกับถูกดูดเรี่ ยวแรง
ออกไปจนหมดสิ้ น นางอ่อนระทวยจนลงไปกองอยูบ่ นพื้น ตัวสัน่
สะท้านไปทั้งร่ าง
” อย่าได้ทาให้เราต้องเสี ยเวลา เจ้าเลือกมาอย่างหนึ่ง ตายให้จบ ๆ
ไป จะได้ไม่ตอ้ งไปทาให้ตระกูลตู๋กเู สี ยหน้าในภายหลังอีก”
พอฮ่องเต้รับสัง่ ออกมา ซ่งหรู หย้วนก็ตระหนกจนสลบไสลไป
ในทันที
จีเฉวียนแย้มสรวลเย็น ๆ ” ตัวไร้ประโยชน์”
หากว่านางเป็ นสตรี ที่มีความฉลาดอยูบ่ า้ งก็แล้วไปเถอะ แต่กลับทั้ง
โง่ท้ งั ขี้ขลาด
เป็ นเช่นนี้แล้วยังคิดจะเข้าวังมาเป็ นสนม ดูท่าแล้วไม่วา่ สตรี คนใด
ในวังหลังต่างก็สามารถผลัดกันแทงนางจนพรุ นเป็ นกระชอนได้
ทั้งนั้น
สตรี เช่นนี้หากเข้าวังมา ก็มีแต่จะหาความยากลาบากมาให้ต๋ ูกซู ิงห
ลัน และอาจทาให้ตระกูลตู๋กูพลอยยุง่ ยากไปด้วย
แต่วา่ นางเฒ่าชราเจียงเหม่ยหยูน่ นั่ กลับไม่เข้าใจ ยังจะกล้าส่ งตัว
ยุง่ ยากเช่นนี้เข้าวังมาอีก
ว่าแล้ว จีเฉวียนก็สงั่ ให้คนมาลากซ่งหรู หย้วนออกไป “ทิ้งไปไกล ๆ
หน่อย เราไม่อยากเห็นนางอีก”
พอเห็นว่าซ่งหรู หย้วนเก็บชีวิตกลับมาได้ เจียงเหม่ยหยูก่ ถ็ อนใจ
อย่างโล่งอก แต่ในใจของนางก็ยงิ่ ทวีความโกรธแค้นลึกล้ ากว่าเดิม
หากว่าตู๋กซู ิงหลันยอมพูดจาดี ๆ แทนหรู หย้วนสักสองคา หรู หย้วน
ก็คงไม่ตอ้ งกลายเป็ นเช่นนี้!
ทั้งหมดล้วนเป็ นเพราะนังหญิงชัว่ นัน่ !
ขณะที่นางยังมิทนั ได้เรี ยกสติกลับมา ก็ได้ยนิ ฝ่ าบาทรับสัง่ อีกว่า
“เอานางเจียงซื่อโยนออกไปด้วย หากไม่มีคาสัง่ จากเรา อย่าได้ให้
นางเข้ามาในวังอีกแม้สกั ครึ่ งก้าว”
ตรัสแล้ว จีเฉวียนก็หนั ไปเหลือบพระเนตรมองดู ‘ตู๋กเู หลียน’
เสี่ ยวลี่นบั ว่าเป็ นผีที่สายตาดีไม่เลว เดิมทีกถ็ อยไปอยูเ่ สี ยไกลแล้ว
คราวนี้พอเห็นว่าฝ่ าบาทหันมาจับจ้องนาง ก็รีบกราบทูลในทันที
“หม่อมฉันจะรับไสหัวไปเดี๋ยวนี้เพคะ ไม่อยูร่ บกวนฝ่ าบาทและ
ไทเฮาแล้วเพคะ”
พูดจบนางก็รีบหนีหายไปราวกับสายลมหอบหนึ่ง
นับตั้งแต่ฝ่าบาทขึ้นครองราชย์มา นางเจียงซื่อเข้าวังมาสองครั้งก็ถูก
จับโยนออกไปตลอดทุกครั้ง
ครั้งนี้แม้แต่หลานสาวสายนอกของนางเองก็ยงั พลอยถูกโยนออกมา
ด้วย ยามที่ถูกหิ้วไปทิ้งนอกวังนั้น ผูค้ นมากมายต่างก็เห็นกันอย่าง
ชัดเจน
อันหว่านจือที่ไปชมดูความครึ กครื้ นก็พลอยได้เห็นอย่างชัดเจน
ในใจนางครุ่ นคิดอย่างเงียบงัน ดูท่าฝ่ าบาทจะต้องทรงรังเกียจตระกูล
ตู๋กอู ย่างยิง่ ทีเดียว มิเช่นนั้นไยจึงจะไม่ไว้หน้าถึงเพียงนี้ ปล่อยให้คน
นาตัวมาโยนทิ้งเช่นนี้?
นางแอบมองดูสาวน้อยที่สลบไสบไปแล้วผูน้ ้ นั คงจะต้องเป็ นแผน
ของตระกูต๋ ูกทู ี่คิดจะส่ งคนเข้าวังมาร่ วมคัดเลือกนางสนมแน่ ๆ
หึ…..น่าเกลียดขนาดนั้นยังจะกล้าใฝ่ ฝันถึงฝ่ าบาทอีกหรื อ?
คนเช่นนั้น ต่อให้ได้เข้าวังมาจริ ง ฝ่ าบาทก็ไม่มีทางเหลือบพระเนตร
ไปมองนางหรอก!
อีกไม่นานทั้งสายพระเนตรและพระทัยของฝ่ าบาทก็จะมีแต่ตวั นาง
อันหว่านจือเท้านั้น
………………………………………………
ในตาหนักเฟิ่ งหมิง
พอพวกเจียงเหม่ยหยูถ่ อยออกไปจนหมด รอบด้านก็เงียบลง
ในทันที
หลี่กงกงลากเชียนเชียนออกไปด้วยกัน แม้แต่เจ้าไก่ที่ถูกนามาเลี้ยง
ไว้ตวั นั้นก็ยงั ถูกขับออกไปอยูใ่ นสวน
ในห้องจึงเหลือเพียงตู๋กซู ิงหลันและจีเฉวียนเท่านั้น
พวกเขายังคงอยูบ่ นเก้าอี้อ่อนตัวเดียวกัน!
พระวรกายของจีเฉวียนเปี่ ยมไปด้วยไอเย็น อย่างชนิดที่เรี ยกว่าธาตุห
ยินปกคุมจนเหน็บหนาว เย็นเสี ยจนตู๋กซู ิงหลันพลอยรู ้สึกหนาวสัน่
ขึ้นมาแล้ว นางรู ้สึกว่าความอบอุ่นในร่ างกายถูกเขาดูดออกไปจน
หมดสิ้ น
จิตใจนางตอนนี้รู้สึกขัดเขินไปหมด
“ฝ่ าบาทเพคะ อย่างไรพระองค์จะทรงลองแทะเม็ดแตงบ้างไหมเพ
คะ? ” ตู๋กูซิงหลันกาเม็ดแตงขึ้นมากาหนึ่งส่ งถวายเขา
ฮ่องเต้กวาดพระเนตรเหลือบดู “เราไม่กินของที่มีเปลือก”
ตู๋กูซิงหลันกุลีกุจอแกะเม็ดแตงให้เขา นางวางเม็ดแตงลงบนใจกลาง
ฝ่ ามือขาวอมชมพู ” อ่ะ ไม่มีเปลือกแล้วเพคะ”
ฝ่ ามือของนางเล็กนิดเดียว ปลายนิ้วก็เรี ยวยาวละมุนดุจต้นหอม ฝ่ า
มือเช่นนี้เมื่อมีเม็ดแตงวางอยูก่ น็ ่าดูยงิ่ นัก
พระองค์ทอดพระเนตรอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็เหลือบพระเนตรไปยังใบหน้า
ของนาง ” เจ้ากาลังเอาอกเอาใจเรา?
ตอนที่ 138 จูบเรา ถือเป็ นเรื่ องปกติหรื อ?
ตู๋กูซิงหลัน “? ” นี่ไม่ใช่เพราะว่าควรจะทาเรื่ องแก้ขดั เขินกันหน่อย
หรอกหรื อ? มันไม่ใช่วา่ ควรจะมีใครหาเรื่ องมาพูดคุยหรื อไม่กท็ า
อะไรสักหน่อยไม่ใช่หรื อ?
ไม่ทนั ได้รอให้นางพูดอะไร ก็ได้ยนิ เขาตรัสว่า “เราจะยอมรับการ
เอาใจของเจ้าก็ได้ “
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่าเขาเข้าใจอะไรผิดไปหน่อยแล้ว
จีเฉวียนค่อย ๆ หยิบเม็ดแตงในมือของนางขึ้นมาช้า ๆ เสวยพลาง
ตรัสพลางว่า “ยังจะนัง่ อยูบ่ นเก้าอี้น้ ีอีก เจ้าชอบเอาตัวมาติดกับเรา
ตามลาพังใช่ไหม? “
ตู๋กซู ิงหลันรี บออกแรงดึงชุดกระโปรงของตนเอง “ไม่ใช่เพคะ ฝ่ า
บาท…..พระองค์ประทับอยูบ่ นกระโปรงของหม่อมฉัน”
นางเกรงว่าหากตนเองฝื นลุกขึ้นมา จะไม่ใช่แค่กระโปรงที่ขาด แต่
อาจจะทาเอาเขาพลิกหล่นไปด้วย เดิมทีกเ็ ป็ นคนที่ไข่มงั กรเจ็บจนน่า
สงสารอยูแ่ ล้ว หากว่ามาล้มไปอีกมีหวังคงลุกขึ้นมาดับชีวิตนางแน่
จีเฉวียน “……..”
ก็เขาจะไม่ลุกเสี ยอย่าง มัน่ คงดุจเขาไท่ซานไม่เคลื่อนไหว พลางยืน่
พระหัตถ์ออกไปเขี่ยเม็ดแตงในจานข้างตัว “เราจะเอาอีก”
ตู๋กูซิงหลันแย้มยิม้ “ท่านไม่มีมือหรื อไง? “
” มือของเรามีไว้เพือ่ จัดการเรื่ องราวของบ้านเมืองไม่ใช่เอาไว้ปอก
เม็ดแตง ” จีเฉวียนตรัสตอบ ทั้งยังอดยกยิม้ มุมปากไม่ได้ สายพระ
เนตรทอดดูนาง “อย่าว่าแต่ เจ้าไม่ได้บอกว่าอยากจะเอาใจเราหรื อ
ไง? เราให้โอกาสเจ้าแล้ว”
ไม่รู้วา่ ทาไม ตู๋กซู ิงหลันถึงได้เกิดความรู ้สึกอยากจะหยิบรองเท้ามา
ฟาดหน้าเขาอีกสักครั้ง
นางกล้ ากลืนโทสะลงคอ ค่อยแกะเปลือกเม็ดแตงให้เขาต่อไป
“แต่ก่อนนี้เจ้าเคยแกะให้จีเย่วก์ ินมาก่อนหรื อไม่? ” จีเฉวียนเห็นนาง
แกะเม็ดแตงอย่างตั้งใจก็ตรัสถามขึ้นมา
” ไม่เคย ” ตู๋กซู ิงหลันตอบโดยมิได้เงยหน้าขึ้นมา ไม่วา่ จะชาติก่อน
หรื อชาติน้ ีนางก็ไม่เคยว่างนัง่ แกะเม็ดแตงให้ผอู ้ ื่นกินมาก่อน
พอได้ฟังคาตอบ พระทัยของจีเฉวียนก็เกิดความพอใจขึ้นมาจาง ๆ
อยู่ ๆ พระองค์กท็ รงรู ้สึกขึ้นมาว่าเม็ดแตงนี้กอ็ ร่ อยดีอยูเ่ หมือนกัน
พอเสวยไปเรื่ อย ๆ ก็ทรงตรัสถามขึ้นมาอีก “เจ้าเกลียดเราที่ส่งจีเย่ว์
ไปซีเหลียงบ้างไหม? “
” นี่เป็ นเรื่ องของชาติบา้ นเมือง ฝ่ าบาทอย่าได้ทรงเอามารับสัง่ กับ
หม่อมฉันดีกว่าเพคะ เดิมทีกไ็ ม่ได้เกี่ยวอะไรกับหม่อมฉันอยูแ่ ล้ว
จะให้ไปเกลียดอะไร? ” ตู๋กูซิงหลันพูดไปก็หยิบเอาเม็ดแตงที่แกะไว้
ขึ้นมา กาลังจะโยนเข้าปาก
ก็พลันพบว่าจีเฉวียนที่มือเท้าแคล้วคล่องมาคว้าเอาไปจากมือของ
นางเสี ยก่อน “ของเรา”
ตู๋กูซิงหลัน “……..” อ๋ า!
เพราะได้เสวยเม็ดแตง พระอารมณ์ของฝ่ าบาทเหมือนจะดีข้ ึนมามาก
ถึงแม้วา่ นางจะแสร้งทาเป็ นไม่สนใจเขาแล้วก็ตาม เขาก็ยงั ทนได้
สายพระเนตรของฝ่ าบาททอประกายบางอย่างขึ้นมา “การคัดเลือก
สนมครั้งนี้เราสัง่ ให้ยกเลิกไปแล้ว”
” ทาไมถึงได้ยกเลิกไปละเพคะ? ” ในใจของตู๋กซู ิงหลันเกิดความ
เสี ยดายขึ้นมา พูดกันตามจริ ง นางอุตส่ าห์รอคอยจะได้ไปคัดเลือก
ลูกสะใภ้ที่หน้าตาดีมาสักหลาย ๆ คน
” ดูท่าเจ้าจะผิดหวังอยูบ่ า้ ง? ” จีเฉวียนเปลี่ยนสี พระพักตร์ได้ไวกว่า
พลิกหน้าหนังสื อเสี ยอีก
” หม่อมฉันเป็ นไทเฮา ย่อมจะต้องมุ่งหวังจะให้ฝ่าบาททรงแตก
กิ่งก้านสาขาออกไป และให้หม่อมฉันได้อุม้ หลานไว ๆ “
” เจ้าอยากให้เราอยูร่ ่ วมกับสตรี อื่น ๆ จริ ง ๆ หรื อ? “
คาว่า ‘ อื่น ๆ ‘ นี้ดูจะมีความหมายอื่น ๆ ด้วยจริ ง ๆ เพราะประเด็น
สาคัญคือตู๋กซู ิงหลันยังไม่เคยเห็นเขาอยูร่ ่ วมกับสตรี คนใดมาก่อน
เลย
คิด ๆ ดูแล้ว สาเหตุที่เขายกเลิกการคัดเลือกนางสนมน่าจะมาเหตุผล
เดิม ๆ มากกว่า
ตู๋กูซิงหลันจึงค่อย ๆ ถามออกไปอย่างระมัดระวังว่า “ไม่ง้ นั พวกเรา
ก็คดั เลือกหนุ่มน้อยหน้ามนสักหลาย ๆ คนเข้าวังมาเป็ นยังไงเพคะ
อย่างไรเสี ย… …ร่ างกายท่านราชครู เป็ นถึงขนาดนั้น หม่อมฉันเกรง
ว่านานวันเข้าพระองค์จะทรงรับไม่ไหว”
หนุ่มน้อยก็ไม่เลว หากเข้าวังมานางก็ถือเสี ยว่าเป็ นลูกบุญธรรมก็ได้
อยู่
” ตู๋กูซิงหลัน! ” จีเฉวียนอยากจะสับนางให้ตายไปเสี ยจริ ง ๆ
เขายืน่ หัตถ์ออกมา แต่สุดท้ายแล้วกลับเพียงจิ้มหนัก ๆ ลงไปบน
หน้าผากของนาง “สมองของเจ้าวัน ๆ เอาแต่คิดเรื่ องใดอยูก่ นั แน่?
จะเลือกบุรุษเข้าวัง เจ้าคิดจะทาอะไร หื ม? “
ตัวเขาที่สง่างามเปี่ ยมด้วยพระบารมียงั ไม่อาจเติมเต็มความพอใจของ
นางหรื อ? พึ่งจะไล่จีเย่วไ์ ปคนหนึ่ง นางก็คิดจะเรี ยก ‘จีเย่ว’์ อีกหลาย
ๆ คนเข้าวัง?
ตู๋กซู ิงหลันที่ถูกเขาเคาะหน้าผากส่ งเสี ยงโอดครวญออกมาเบา ๆ
คนแทบจะหงายหลังตกเก้าอี้อ่อนลงไปแล้ว
ยังดีที่จีเฉวียนทรงคว้านางกลับมาได้อย่างรวดเร็ ว แต่เพราะออกแรง
มากไปจึงกลายเป็ นว่าดึงตู๋กซู ิงหลันเข้าไปในอ้อมพระอุระ พอดีกบั
ที่เขาก้มพระเศียรลงมา ริ มฝี ปากที่เย็นเป็ นน้ าแข็งนั้นจึงประทับลง
ไปบนหน้าผากของนางเบา ๆ ครั้งหนึ่ง
ยามที่ได้สมั ผัสกับความอบอุ่นที่แปลกประหลาดนั้นเขารู ้สึก
เหมือนกับว่าถูกกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่านไปทัว่ ร่ าง จนเลือดลมแทบ
พลิกกลับ ทั้งใบหน้า และลาคอ แม้กระทั้งใบหูกแ็ ดงเถือกไปหมด
ข้างตู๋กซู ิงหลันกลับไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้น เมื่อครู่ น้ นั คล้ายกับเป็ น
เพียงแมลงปอแตะผิวน้ า นางยังไม่ทนั ได้รู้สึกอะไรก็จบไปเสี ยแล้ว
เพียงแต่สถานการณ์ของนางตอนนี้ออกจะแปลก ๆ ไปเสี ยหน่อย
ตัวของนางแทบจะขึ้นไปเกาะอยูบ่ นตัวของจีเฉวียน ร่ างกายของทั้ง
สองคนแนบแน่นอยูบ่ นเก้าอี้อ่อน ต่างก็สามารถรู ้สึกได้ถึงเสี ยงหัว
ใจเต้นของอีกฝ่ าย
” ตึก ๆ ๆ ๆ …..” หัวใจของจีเฉวียนเต้นราวกับกลอง ส่ วนหัวใจ
ของตู๋กซู ิงหลันเต้นอย่างสบาย ๆ แม้แต่ความตื่นเต้นสักเล็กน้อยยัง
ไม่มี
” ฝ่ าบาท ท่านหน้าแดงทาไม? ” ตู๋กูซิงหลันจัดแจงผมเผ้าเล็กน้อย
ทั้งยังคิดจะดึงชายกระโปรงของตนเองออกมาด้วย เสี ยดายที่
กระโปรงของนางถูกจีเฉวียนนัง่ ทับไว้ จึงไม่อาจขยับได้แม้แต่นอ้ ย
นางจึงได้แต่ลม้ เลิกความคิดเสี ย เพียงสบตาเขาอย่างเงียบงัน
จีเฉวียนกระพริ บพระเนตรหงส์ สบตานางกลับไป “เจ้ารู ้หรื อไม่วา่
เมื่อครู่ เจ้าทาอะไรกับเรา? “
ตู๋กูซิงหลัน ” อ๋ า? “
“ช่างกล้าชาญชัยนัก ใช้หน้าผากของเจ้ามาจูบปากเรา? ตู๋กูซิงหลัน
เจ้าช่างมีวิธีการมากมายนัก”
ตู๋กูซิงหลัน ” ห๋ า? ” แน่ใจหรื อว่าไม่ใช่เจ้าที่เอาปากมาจูบหน้าผาก
ของข้า?
แล้วยังจะมาทาท่ารังเกียจกันทาไม หน้าผากข้าไม่ได้มีพษิ เสี ยหน่อย
“เป็ นอุบตั ิเหตุเพคะ อุบตั ิเหตุ ” นางรี บยอมมือขึ้นมาเช็ดปากให้เขา
“นี่ไม่นบั ว่าเป็ นอะไรหรอก เพราะว่าพวกเราเป็ นแม่ลูกกัน คนเป็ น
แม่จูบ ๆ หอม ๆ ลูกตัวเองถือเป็ นเรื่ องธรรมดาไม่ใช่หรื อเพคะ? “
ฝ่ ามือที่อุ่นนุ่มปัดผ่านริ มพระโอษฐ์น้ นั ทัว่ ทั้งร่ างของจีเฉวียนยิง่
กลายเป็ นหยุดชะงักไป ตั้งแต่ตอนที่พระองค์เป็ นเด็กจนโตมาล้วน
ไม่ชอบให้ผใู ้ ดสัมผัสตัว แต่วา่ พอเป็ นนาง….ไม่เพียงไม่รังเกียจแถม
ยัง……
สายพระเนตรของพระองค์เป็ นประกาย ขณะที่ต๋ ูกซู ิงหลันยังไม่ทนั
ได้ดึงมือกลับไปนั้น พระองค์กท็ รงรี บคว้าข้อมือของนางเอาไว้ ” ตู๋กู
ซิงหลัน สาหรับเจ้าแล้ว จูบเรา ถือเป็ นเรื่ องปกติหรื อไง? “
ตู๋กูซิงหลันฟังแล้วคล้ายกับว่าจะไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ ที่นางพูด
ออกไปเมื่อครู ก็เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่หน้าเขินอายเท่านั้น ก็
ช่วยหาทางลงจากเวทีให้เขาไงละ?
ทาไมถึงได้กลายเป็ นว่าไม่ยอมลงจากเวทีเสี ยแล้ว คิดจะเล่นต่อไป
หรื อ
สายลมภายนอกยังพัดหวีดหวิว กระถางไฟในห้องยังคงมีเสี ยงถ่าน
ไม้ไหม้เปรี๊ ยะ ๆ ฤดูหนาวที่เยือกเย็นคล้ายกันว่าอยู่ ๆ ก็อบอุ่น
นุ่มนวลขึ้นมา
จีเฉวียนเห็นนางทั้งงงงันและประหลาดใจ ก็ยนื่ พระพักตร์เข้าไป
ใกล้ จนสันจมูกแทบจะสัมผัสกัน
สองคนที่เดิมทีกต็ วั ติดกันอยูแ่ ล้ว ยามนี้ร่างกายของทั้งสองยิง่ เข้า
ใกล้จนแทบจะเป็ นร่ างเดียวกัน
ตู๋กซู ิงหลันค่อย ๆ โค้งเอวไปยังด้านหลัง กลับถูกจีเฉวียนใช้พระ
หัตถ์อีกข้างคว้าเอวที่บอบบางของนางเอาไว้ ดึงกลับเข้ามาใกล้
ตนเอง สองเนตรหงส์ของพระองค์จดจ้องไล่ตามดวงตาของนาง
ดวงตาดอกท้อคู่น้ นั เปล่งประกายราวแสงสะท้อนในน้ า นัยตา
สะท้อนเงาร่ างของพระองค์
นางช่างมีพิษร้ายอยูใ่ นตัว เพียงแค่พระองค์มองนางมากไป โรคใน
พระทัยก็เกิดอาการกาเริ บอย่างรุ นแรง
ชัว่ ขณะนั้นเอง จิตใจของจีเฉวียนคล้ายกับว่าหลุดลอยออกไปเสี ย
แล้ว ริ มพระโอษฐ์ถูกส่ งออกไปเบา ๆ ประทับลงบนริ มฝี ปากแดง
ปานจะหยดลงมานั้น
ตู๋กูซิงหลันได้ยนิ เสี ยงเลื่อนลัน่ อยูใ่ นสมอง ราวกับว่าโลกทั้งใบพลิก
ตลบลงมาแล้ว
ตายห่าแล้ว! นางถูกเจ้าลูกสุ นขั นี่จูบเอา!
นี่เขาคิดจะทาอะไร?
ทาพิษเอาไว้บนริ มฝี ปาก คิดจะวางยาพิษนางให้ตายหรอ?
ไม่ใช่สิ จากนิสยั เสี ยของเจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่ ไม่มีทางฉลาดขนาดนั้น
หรอก
หรื อว่าคิดจะสวมข้อหาล่อลวงฮ่องเต้จนวุน่ วายพระทัยให้กบั นาง?
ตอนที่ 139 จูบแรก
ถึงแม้การประทับจูบนี้จะยาวนานอยูบ่ า้ ง แต่วา่ ริ มฝี ปากของทั้งสอง
ก็เพียงแต่สมั ผัสกันเท่านั้น ไม่ได้มีการกระทาใดอื่นตามมาด้วย
นี่เป็ นครั้งแรกที่จีเฉวียนได้สมั ผัสกับริ มฝี ปากของหญิงสาว เขารู ้สึก
ว่ามันช่างนุ่มนิ่ม ยิง่ เข้าใกล้ถึงเพียงนี้ ยิง่ คล้ายจะได้กลิ่นหอมของ
ดอกฮว๋ ายจากตัวนางเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
พระหัตถ์ที่โอบประคองเอวของนางเอาไว้จึงอดไม่ได้ที่จะรัดให้
แนบแน่นขึ้นไปอีก แต่เอวของอิสตรี บอบบางเพียงเท่านี้ หากว่าเขา
ใช้กาลังมากเกินไป ใช่จะทาให้หกั ขาดไปหรื อไม่
ช่างคิดไม่ออกเสี ยจริ ง ๆ รู ปร่ างที่เล็กบางถึงเพียงนี้จะไปเอากาลังมา
จากไหนมาอุม้ เขากัน
ชัว่ ขณะที่ลมหายใจของทั้งสองต่างรดผ่านใบหน้าของกันละกัน
กลิ่นอายของบุรุษที่เข้มข้นก็สร้างความกดดันจนตู๋กูซิงหลันแทบจะ
หายใจไม่ออก
นางจดจ้องมองรู ปลักษณ์ที่งดงามของจีเฉวียนที่อยูต่ รงหน้า
ขณะเดียวกันก็ใคร่ ครวญว่าจะตัดสิ นใจเลือกทางไหนดี
นางสมควรที่จะผลักเขาออกไป หรื อว่าดึงเขาเข้าแล้วพลิกกลับ
กลายเป็ นฝ่ ายเริ่ มรุ กก่อนดี?
เต้าหูท้ อดส่ งมาถึงหน้าประตูหากว่าไม่กินก็คงต้องอดหมดแล้ว!
ถึงแม้วา่ เขาจะทาตัวน่ารังเกียจอยูบ่ าง แต่วา่ เปลือกนอกเช่นนี้กช็ ่าง
ยัว่ ให้คนชื่นชอบเสี ยจริ ง
คิดไปคิดมา เจ้าฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ ีเป็ นจิ้งจอกพันปี ย่อมต้องไม่มีทางมา
ดีกบั นางแน่ นางจะต้องไม่หลงใหลไปกับรู ปลักษณ์ที่งดงามของเขา
ง่าย ๆ หากว่าตนเองตกหลุมไปแล้ว เกรงว่าแม้แต่ตายอย่างไรก็
ยังคงไม่รู้ตวั เลย
หลังครุ่ นคิดอยูน่ านนางก็ตกลงใจว่าจะไม่ทาสิ่ งใดเลยดีกว่า และ
เพราะในขณะที่จีเฉวียนจูบนางอยูน่ ้ นั นางพลันรู ้สึกได้อย่างชัดเจน
ถึงพลังหยินที่รุนแรงหมุนวนอยูภ่ ายในร่ างของเขา
คนผูน้ ้ ีเป็ นโอรสสวรรค์แท้ ๆ แต่กลับมีพลังหยินรุ นแรงหนักแน่น
กว่ามารปี ศาจถึงสิ บเท่า
นี่ทาให้ต๋ ูกซู ิงหลันรู ้สึกประหลาดใจอย่างยิง่ ในร่ างกายของเขามีสิ่ง
ใด……..แฝงอยูก่ นั แน่?
นางจ้องสบตากับเขาอย่างตรง ๆ เพราะคิดจะดูให้แจ่มชัด จีเฉวียน
เองก็ถูกนางมองจนนิ่งค้าง
ขนตาของนางทั้งยาวทั้งหนาเป็ นแพ แต่ละเส้นล้วนงามงอน ดวงตา
ของนางนอกจากจะสะท้อนภาพใบหน้าของเขาแล้ว ก็ไม่มีแววว้าวุน่
ใด ๆ อื่นอีก ทั้งมิได้ตอบรับและมิได้ปฎิเสธ ราวกับสตรี มาก
ประสบการณ์ความรักคนหนึ่ง
จีเฉวียนเอื้อมมือไปปิ ดบังดวงตาของนาง ขบกัดลงบนริ มฝี ปากล่าง
ของนางเบา ๆ
ตู๋กซู ิงหลันที่รู้สึกเจ็บก็ครางออกมาเบา ๆ ค่อยรู ้สึกตัวขึ้นมา เจ้า
ฮ่องเต้องค์น้ ีช่างเป็ นสุ นขั โดยแท้ รู ้จกั กัดคนด้วย!
ในที่สุดจีเฉวียนก็คลายอ้อมแขน
ทรวงอกของเขากระเพื่อมขึ้นลง พยายามจะสงบอารมณ์ของตนเอง
อย่างสุ ดความสามารถ หากเขาไม่ระวังแม้เพียงนิดเดียว มีหวัง
จะต้องถูกนางทาให้หลงใหลแน่ เขาทั้งกรุ่ นโกรธทั้งรู ้สึกอดรนทน
ไม่ได้
แต่วา่ การแสดงออกของนางกลับสงบนิ่งอย่างมาก ราวกับว่าถึงจะ
ถูกเขาจูบก็มิใช่เรื่ องใหญ่อนั ใด
แม้แต่ใบหน้าก็ไม่แดง
หากว่ากันตามจริ ง สาหรับตู๋กซู ิงหลันแล้ว นอกจากจะรู ้สึกว่าริ ม
ฝี ปากของเขาเย็น ๆ ชืด ๆ และริ มฝี ปากตนเองโดนขบกัดจนเจ็บอยู่
บ้างแล้ว ที่เหลือก็มิได้รู้สึกอะไรอีก
สาหรับนางแล้วก็เหมือนกับการที่มือซ้ายจับกับมือขวา ไม่มี
ความรู ้สึกอะไรแม้แต่นอ้ ย
ที่นางรู ้สึกสนอกสนใจยิง่ กว่าก็คือทาไมในร่ างของเขาถึงได้มีพลังห
ยินอย่างหนักแน่นและรุ นแรงเช่นนี้
บางที….แม้แต่พลังหยินของหยกสรรพชีวิตที่นางถือครองอยูย่ งั ไม่
อาจเทียบได้กบั ความรุ นแรงของพลังที่อยูใ่ นร่ างของเขา
ก่อนหน้านี้นางมักจะรู ้สึกว่าไม่วา่ ที่ไหนหรื อเมื่อไหร่ ร่างกายของ
ฮ่องเต้องค์น้ ีกจ็ ะให้ความรู ้สึกหนาวเย็นอยูเ่ สมอ พอวันนี้ได้ใกล้ชิด
กันอย่างแนบแน่ถึงได้รู้สึกว่า ที่แท้เรื่ องนี้มีความลับอะไรซ่อนอยู่
ฮ่องเต้องค์น้ ีจะต้องไม่ธรรมดาเป็ นแน่
จีเฉวียนกลับอารมณ์พลุ่งพล่านอย่างรุ นแรง ขณะที่ต๋ ูกซู ิงหลันสงบ
เงียบดังทะเลสาบ เขากลับรู ้สึกราวกับท้องทะเลที่คลุม้ คลัง่
ท่าทีที่สงบนิ่งของนางทาให้จีเฉวียนชักจะรู ้สึกกรุ่ นโกรธขึ้นมาบ้าง
แล้ว “เจ้ายังคงคิดถึงจีเย่วอ์ ยูใ่ ช่หรื อไม่? “
สตรี ในโลกนี้จะมีคนใดที่ถูกคนจูบแล้วยังมีปฎิกิริยาเช่นนี้อยูบ่ า้ ง?
หากว่าไม่ชอบละก็อย่างน้อย ๆ ก็ตอ้ งตบกลับมาสักฉาดหนึ่ง หาก
ว่าชื่นชอบ……ก็ไม่ใช่วา่ ได้จงั หวะแสดงออกพอดีหรอกหรื อ?
นางกลับดีนกั ทาตัวเป็ นมนุษย์ไม้ตนหนึ่ง
นี่แสดงว่าอย่างไรกัน? แสดงว่าในใจของนางเขาก็แค่มีกไ็ ด้ไม่มีกไ็ ด้
เท่านั้นหรื อ ไม่สามารถทาให้นางหวัน่ ไหวได้เลยแม้แต่นอ้ ยงั้นสิ
หากพูดให้ชดั เจนลงไปอีกก็คือนางไม่ได้สนใจเขาเลยแม้สักนิด
หนึ่ง
หรื อไม่กใ็ นใจของนางที่จริ งมีผอู ้ ื่นจับจองอยูเ่ รี ยบร้อยแล้ว จึงไม่มี
พื้นที่ใด ๆ ให้เขาอีก
” ไม่เสี ยหน่อย ” ตู๋กซู ิงหลันส่ ายศีรษะ ” ฝ่ าบาท หม่อมฉันทูลไปก็
หลายครั้งแล้ว เขากับหม่อมฉันไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่นอ้ ย ยิง่
ไปกว่านั้นตอนนี้เขาก็จากไปไกลแล้ว พระองค์จะยังทรงยกเรื่ องนี้
ขึ้นมาอีกทาไม? “
” ยิง่ อธิบายก็คือมีเจตนาปกปิ ด “สี พระพักตร์ของจีเฉวียนกลับมา
เป็ นเย็นชาดุจเช่นเดิม
เขาคงบ้าไปแล้ว! ถึงได้มาสนใจว่าในใจนางมีใครกันแน่ แล้วยังจะ
หงุดหงิดกับปฎิกิริยาของนางอีก
แต่หากใจนางไม่มีจีเย่วแ์ ล้ว ทาไมถึงได้เฉยชากับจูบของเขานัก?
ตู๋กซู ิงหลัน “…..” นางปิ ดปากนิ่งเงียบ ไม่กล่าวสิ่ งใด
เพราะถึงนางจะอธิบายเช่นไร เขาก็มิได้ยอมรับฟัง
บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองกลายเป็ นหนักอึ้งอยูอ่ ีกนาน
จนกระทัง่ ถ่านไฟในห้องก็มอดดับลงแล้ว สายลมหนาวจาก
ภายนอกพัดเข้ามาในห้อง ร่ างกายของจีเฉวียนก็เย็นยิง่ ขึ้นกว่าเดิม
ความเย็นนี้คล้ายจะแทรกซึมเข้าไปจนถึงกระดูก แม้แต่พระพักตร์ที่
งดงามยามนี้กแ็ ทบจะไม่มีสีเลือดแล้ว
ในที่สุดพระองค์กป็ ระทับยืนขึ้น ดวงเนตรหงส์ยงั คงจับจ้องนางอยู่
อีกครู่ ใหญ่
ยามที่พระองค์นอ้ มเอวลงมา อาศัยร่ างกายที่แข็งแกร่ งกว่าสร้างความ
กดดันต่อนาง ” เจ้าเป็ นไทเฮา จงจดจาฐานะของตนเองเอาไว้ให้ดี!
หากว่ายังกล้าอาลัยเสี ยดายจีเย่วอ์ ยูอ่ ีกละก็ ถึงแม้เขาจะอยูไ่ กลสุ ด
หล้าฟ้าเขียวเพียงไร เราก็ฆ่าเขาได้อยูด่ ี”
ตรัสแล้ว พระองค์กส็ ะบัดชายฉลองพระองค์เสด็จจากไป แต่พอ
เสด็จถึงประตูใหญ่กช็ ะงักพระบาทก้าวหนึ่ง หันพระพักตร์กลับมา
มองนางชัว่ แวบ
ตู๋กซู ิงหลันเองก็มองตามไปเช่นกัน ยามที่ดวงตาทั้งสี่ สบประสาน
เขาก็ยงั คงไม่อาจมองเห็นร่ องรอยของความหวัน่ ไหวในด้วยตาของ
นางแม้แต่นอ้ ย
สมองของพระองค์ปรากฎภาพค่าคืนนั้นยามที่นางและจีเย่วโ์ อบกอด
กันอย่างแนบแน่น ไม่วา่ จะสลัดอย่างไรก็ไม่ลบภาพนั้นออกไปได้
ตู๋กซู ิงหลันมองดูเงาหลังของเขาเสด็จจากไป ค่อยยกมือขึ้นสัมผัสกับ
ริ มฝี ปากของตนเอง เขาไปเอาความคิดที่วา่ นางรักจีเย่วม์ าจากไหน
กัน?
วิญญาณทมิฬที่ซ่อนตัวอยูน่ านค่อยได้ทีกระโดดออกมาบ้าง ”
หลันหลัน จูบแรกของเจ้าก็โดนเอาไปเสี ยง่าย ๆ แบบนี้ ขอถาม
หน่อยเจ้ารู ้สึกอย่างไรบ้างเล่า? “
ตู๋กซู ิงหลันคิดอยูน่ าน ” จูบแรกหรื อ? ชาติก่อนตอนเจ๊ถ่ายหนัง
แม้แต่ฉากวาบหวามบนเตียงก็ถ่ายมาแล้วนิ? “
วิญญาณทมิฬ “…..” โว้ย! สตรี หน้าไม่อาย!
ตอนนั้นเพื่อติดตามค้นหาปี ศาจชั้นสู งที่แอบสิ งอยูใ่ นร่ างของดารา
สาวคนหนึ่งนางจึงได้เข้าสู่ วงการภาพยนต์ เรื่ องแรกที่ถ่ายทาก็คือ
ตานานเซียนกระบี่แมรี่ ซู นางเล่นเป็ นนางมารที่มีจิตใจชัว่ ร้ายตน
หนึ่ง
นางมารผูม้ ีจิตใจชัว่ ร้ายได้พยายามล่อลวงและครอบครองพระเอกที่
เป็ นจอมเทพมากว่าหนึ่งพันปี พระเอกกลับไม่ได้หวัน่ ไหวแม้แต่
น้อย แต่อยูด่ ี ๆ ก็บงั เอิญมีนางเอกกระต่ายขาวโผล่ออกมา ทาอะไร
ก็ไม่รู้ให้พระเอกหลงรักเข้า
ผูช้ ายในเรื่ องตั้งแต่อนั ดับหนึ่งถึงอันดับห้าต่างก็หลงรักนางเอก
โดยเฉพาะเบอร์สองที่ทุ่มเทอย่างที่สุด นางเอกก็เลยลังเลอยูร่ ะหว่าง
พระเอกและพระรองเลือกไม่ได้เสี ยที
พระรองร้อนใจอยากจะได้ครอบครองนางเอก จึงถูกนางมารร้ายยัว่ ยุ
ให้ทาเรื่ องน่าละอายขึ้นมา วางแผนรวบรัดจัดการนางเอก แต่สุดท้าย
ขโมยไก่ไม่สาเร็ จกลับเสี ยข้าวสารไปกามือ ทาให้ตนเองตก
หลุมพรางแทน ยามที่นางกับพระรองกระทาเรื่ องอย่างว่ากันก็ถูก
นางเอกพบเข้าพอดี นางเอกจึงตัดสิ นใจสะบัดพระรองทิ้งไปแล้วโผ
เข้าสู่ ออ้ มอกพระเอก
พระรองจึงเกลียดนางสุ ดชีวิต และเคียดแค้นพระเอกที่สุด เพื่อช่วย
พระเอกแล้ว นางมารร้ายยอมถูกพระรองคุมขังในนรก ทุกวันถูก
พระรองลงทัณฑ์ดว้ ยพันศรแทงหัวใจทาร้ายนางจนตายในที่สุด
สุ ดท้ายพระเอกและพระรองต่างใช้กาลังทั้งหมดแย่งชิงนางเอก และ
เพราะรักอย่างแทบเป็ นแทบตายพระรองกลับยอมอุทิศตนสุ ดชีวิต
แม้แต่ตอนจบสุ ดท้ายยังยอมรับกระบี่ตายแทนนางเอก
การแสดงของนางที่มีเสน่ห์รัดรึ ง ยัว่ ยวน ชัว่ ร้ายและน่าหลงใหลทา
ให้ผชู ้ มติดตามจนไม่อาจกระพริ บตา กระทัง่ ผูช้ มทั้งหลายต่างรู ้สึก
ว่าพระเอกช่างตาบอดไปแล้ว ละทิ้งหญิงงามที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล
ไปคว้าเอาความรักบริ สุทธิ์งี่เง่าแทน
ตอนที่ 140 สตรีที่ถูกทิง้ ในตาหนักเย็น
ฉากกอดรัดฟัดเหวี่ยงบนเตียงสามนาทีน้ นั ถูกเหล่าแฟนคลับบน
อินเตอร์เน็ตยกให้เป็ นฉากวาบหวามสุ ดโรแมนติกของเรื่ อง
และเพราะว่าเป็ นหนังตานานเซียน ที่จริ งแล้วจึงแค่เผยขาอ่อนและ
ไหปลาร้าเท่านั้น ภายใต้ผา้ โปร่ งสี แดงที่คลุมไว้ทาให้มองเห็นแค่เงา
คนเคลื่อนไหว แต่ความคิดของคนดูสามารถปะติดปะต่อจินตนาการ
ได้ ภาพที่ออกมาจึงดูงดงามดุจความฝันฉากหนึ่ง
ผูช้ มพากันเรี ยกร้อง : อยากเห็นเจ๊หลันทอดเสน่ห์ อยากเห็นเจ๊หลัน
ฟาดแส้!
ในความคิดของตู๋กซู ิงหลัน ตอนที่ร่วมแสดงบนเตียงเดียวกันกับ
นักแสดงชายนั้นก็ถือเป็ นฉากวาบหวามแล้ว
ถึงแม้วา่ ทั้งสองคนจะแค่ทาท่าโอบ ๆ กอด ๆ ที่สวยงามเท่านั้นก็
เถอะ…..
พอคิดถึงเรื่ องราวในชาติก่อน นักแสดงชายที่เคยเป็ นคู่แสดงกับนาง
นั้น แต่ละคนล้วนแต่เด็ด ๆ ดัง ๆ ทั้งนั้น
โอ้ คนงามทั้งรุ่ นใหญ่รุ่นเล็กทั้งหลาย ตอนนี้คงไม่ได้เจออีกแล้ว
สุ ดท้ายต่อมาอาจารย์ของนางมาเห็นฉากที่นางแสดงเข้า ก็ออกคาสัง่
เด็ดขาดห้ามมิให้นางทาอีก ทั้งยังกาหนดข้อบังคับสามข้อเอาไว้ :
ห้ามจูบ ห้ามขึ้นเตียง ห้ามเปิ ดเผยเนื้อหนัง
ดังนั้นจูบกับฮ่องเต้ในวันนี้ ก็เป็ นแค่จูบจริ ง ๆ
วิญญาณทมิฬเห็นสี หน้าที่เอาแต่ครุ่ นคิดถึงอดีตของนาง ก็ถอนใจ
เบา ๆ สองครั้ง “ข้าว่าเจ้าฮ่องเต้นนั่ น่าจะคิดอยากเล่นฉากวาบหวาม
กับเจ้าอยู่ “
ตู๋กซิงหหลัน “………” ให้เล่นกับฮ่องเต้น่ะหรื อยังคงแล้วไปเถอะ
จะอย่างไรก็ได้ชื่อว่าเป็ นแม่ลูกกัน ไม่ดีไม่ดีหรอก
วิญญาณทมิฬทาหน้าลึกลับ “ข้ารู ้สึกว่าเขาต้องมีแผนการจัดการเจ้า
อยูแ่ น่”
ตู๋กซู ิงหลัน ” ข้าว่าเขากาลังวางหลุมพลางอยูต่ ่างหาก “
วิญญาณทมิฬครุ่ นคิดอย่างละเอียด “ที่เจ้าพูดก็ถูก เขาคิดจะล่อลวง
เจ้า ให้เจ้าตกหลุมรักเขา จากนั้นค่อยยึดครองหัวใจของเจ้าไว้ ทาให้
เจ้ากลายเป็ นสตรี ที่ถูกทอดทิ้งอยูใ่ นตาหนักเย็นอย่างแท้จริ ง! “
” ดูสิ ข้าบอกให้เจ้าล่อลวงเขาแต่แรก เจ้าก็ไม่ทา พอตอนนี้ถูกฮ่องเต้
หลอกลวงบ้าง เสี ยดายเลยไหมละ? “
ตู๋กูซิงหลัน “??? “
ทาไมนางถึงได้รู้สึกว่าสมองของตนเองตามไม่ทนั อยูบ่ า้ งนะ?
……………………………..
เมื่อฝ่ าบาทมีรับสัง่ ให้ยกเลิกการคัดเลือกพระสนม ก็ทาให้ผคู ้ น
จานวนไม่นอ้ ยต้องผิดหวัง
ที่ตาหนักชางอู๋ บาดแผลของอันหว่าจรื อฟื้ นฟูจนหายดีแล้ว นาง
แต่งหน้าอย่างงดงาม สวมใส่ กระโปรงกามะหยีช่ ้ นั เลิศที่สูงค่า
ท่านย่า เรื่ องนี้จะทาอย่างไรดี ข้าเข้าวังมาก็เพื่อจะแต่งงานกับฝ่ าบาท
นะเจ้าคะ ยามนี้ฝ่าบาทยกเลิกการคัดเลือกนางสนมไปแล้ว เช่นนี้ก็
กลายเป็ นว่าข้าไม่มีโอกาสแล้วนะสิ ? “
อันหว่านจือคุกเข่าอยูท่ ี่ขา้ งกายของอันหร่ วน กอดขานางไว้ดว้ น
ความกระเง้ากระงอด
” อยูด่ ี ๆ กลับยกเลิกการคัดเลือกนางสนมเสี ยเฉย ๆ เรื่ องนี้แม้แต่ขา้
ก็ยงั ดูฮ่องเต้ไม่ออกเช่นกัน ” อันหร่ วนที่กาลังปิ ดตาสวดลูกประคา
ในกามือ พอถูกอันหว่านจือโยเยเข้าใส่ กไ็ ด้แต่ลืมตาขึ้นมา
“ข้าว่ายังจะไม่ใช่ฝีมือของสตรี ในตาหนักเฟิ งหมิ่งผูน้ ้ นั อีกหรื อ! ”
อันหว่านจือกล่าวอย่างกรุ่ นโกรธ ” ท่านย่าเจ้าคะ วันทั้งวันท่านก็เอา
แต่อยูเ่ ฝ้าในตาหนักชางอู๋หลังนี้ ทาไมถึงได้ไม่สนใจข่าวคราวในวัง
บ้างเลย! “
” ฟังว่าเมื่อหลายวันก่อนนางเฒ่าเจียงคนนั้นพาหลานสาวสายนอก
ของนางมาเข้าพบตู๋กซู ิงหลัน คงคิดจะให้ต๋ ูกซู ิ งหลันช่วยพูดอะไรดี
ๆ ให้ในยามที่คดั เลือกนางสนม จะได้ให้ฝ่าบาททรงแต่งตั้งนังซ่ง
หรู หย้วนนัน่ เป็ นพระสนมเฟย “
” แต่แล้วเป็ นไงละ? ตู๋กซู ิงหลันผูน้ ้ นั ไม่เพียงไม่ช่วยเหลือ กลับยุให้
ฝ่ าบาทโยนพวกมันทั้งสองคนออกนอกวังไป! “
” ข้าเห็นกับตาเลยว่ายายหลานคู่น้ นั ถูกเอาไปโยนทิ้งอย่างไร! ฮิ ๆ
ผูค้ นมากมายต่างพากันหัวเราะพวกนาง”
อันหร่ วนเพียงแต่รับฟังเท่านั้น
” ท่านย่าเจ้าคะ ไยท่านถึงยังนิ่งเฉยอยูไ่ ด้? ” อันหว่านจือเห็นท่าทาง
ที่ไม่รีบไม่ร้อนของนาง ตัวเองก็ชกั จะเดือดร้อนขึ้นมาบ้างแล้ว
” ก่อนหน้านี้ไม่เห็นฝ่ าบาทจะมีท่าทีวา่ ต้องการยกเลิกการคัดเลือก
นางสนม แต่วา่ แค่เสด็จไปตาหนักเฟิ่ งหมิงเพียงรอบเดียว ก็
กลายเป็ นเช่นนี้ นี่จะต้องเป็ นเพราะตู๋กซู ิงหลันแน่ ๆ ! “
” นางเป็ นไทเฮาอยูด่ ี ๆ แต่แล้วกลับไม่ตอ้ งการ คิดจะครอบครองฝ่ า
บาทเอาไว้เพียงผูเ้ ดียว! ท่านรี บคิดหาวิธีเร็ วเข้าสิ เจ้าคะ “
อันหร่ วนสวดประคาช้าลงเรื่ อย ๆ ” เจ้าเด็กคนนี้ ทาอะไรรี บ ๆ ลน
ๆ“
” ข้าจะไม่รีบได้อีกหรื อเจ้าคะ? หากว่าเกิดตู๋กูซิงหลันกลายเป็ นสนม
คนโปรดของฝ่ าบาทขึ้นมา เช่นนั้นข้าจะยังมีโอกาสได้เป็ นพระสนม
อีกหรื อ? ” อันหว่านจือไม่มนั่ ใจเลยแม้แต่นอ้ ย
” นางเป็ นไทเฮา ย่อมถูกกาหนดไว้แล้วว่าไม่อาจอยูร่ ่ วมกับฝ่ าบาท
อย่างมากก็ได้แต่สะบัดสะบิ้งตามอารมณ์สาวน้อย หรื อไประบาย
อารมณ์ใส่ พวกพระสนมในวัง เจ้ายังจะถือเป็ นจริ งเป็ นจังด้วยหรื อ?
” อันหร่ วนตอบอย่างไม่รีบร้อน
” เป็ นไทเฮาแล้วอย่างไร นัน่ ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริ งที่วา่ นาง
อายุเพียงสิ บหน้าปี เท่านั้น แถมยังเกิดมาเป็ นนางจิ้งจอกขนานแท้
บุรุษคนใดพอเห็นนางแล้วจะไม่หวัน่ ไหวใจได้บา้ งกัน? ” อัน
หว่านจือลุกขึ้นมา นางเดินไปรอบ ๆ ห้องอย่างอย่างไม่อาจสงบใจ
ลงได้ “ยิง่ ไปกว่านั้นธรรมเนียมของแคว้นต้าโจวเองก็เปิ ดกว้าง เรื่ อง
ที่ลูกชายจะแต่งกับแม่เลี้ยงก็ไม่ใช่วา่ จะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนิเจ้าคะ

” ถึงจะเปิ ดกว้างเพียงไร แต่วา่ ในวังก็มีกฎระเบียบอยูม่ ากมายยิง่ กว่า
” อันหร่ วนตอบ ” ข้ารู ้จกั ฝ่ าบาทดี พระองค์ทรงเป็ นผูท้ ี่รักษาตนอยู่
ในกรอบประเพณี ไม่มีทางที่พระองค์จะยอมกระทาเรื่ องที่ผดิ กฎ
ของบรรพชนเพียงเพื่อสตรี เพียงนางเดียว “
แต่วา่ การคัดเลือกนางสนมก็ถูกยกเลิกไปแล้ว ข้าควรทาเช่นใดถึงจะ
สามารถทาให้ฝ่าบาทพอพระทัยในตัวข้า แต่งตั้งข้าเป็ นพระสนมได้
กันละเจ้าคะ? “
เรื่ องนี้สาหรับนางแล้วถือเป็ นปัญหาใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ที่ครั้งก่อน
นางไปเสี ยทีที่ตาหนังเฟิ่ งหมิง นางก็ไม่กล้าไปไหนในวังอย่างสุ่มสี่
สุ่ มห้าอีก เข้าวังมาก็ต้ งั นานแล้วแต่วา่ พระพักตร์ของฝ่ าบาทเป็ นเช่น
ไรกลับไม่เคยได้เห็น แค่คิดจะให้ฝ่าบาทสังเกตเห็นนางบ้างไยจึง
ยากเย็นเช่นนี้
ทั้งหมดนี่ยอ่ มต้องโทษนางหญิงชัว่ ตู๋กซู ิงหลันผูน้ ้ นั ทาให้นางเสี ย
โอกาสในการเข้าร่ วมคัดเลือกนางสนมไปเสี ยเปล่า ๆ !
” เจ้าจะวุน่ วายไปทาไม ” อันหร่ วนวางประคาสวดมนต์ในมือลง
หันไปกล่าวกับนางว่า “การคัดเลือกนางสนมถูกยกเลิกแล้ว นี่จึงจะ
เป็ นเรื่ องดีต่อตัวเจ้า “
“ท่าย่ากล่าวเช่นนี้หมายความเช่นไรเจ้าคะ? ” อันหว่านจือมองดูนาง
ด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ
” ทุกวันนี้เจ้าก็พานักอยูใ่ นวังหลวงอยูแ่ ล้ว เรื่ องที่จะได้พบฝ่ าบาท
เมื่อไหร่ กแ็ ค่ชา้ เร็ วเท่านั้น หากว่าไปยืนรวมอยูก่ บั สตรี เหล่านั้น ก็
เท่ากับไปเป็ นหัวผักกาดหรื อไชเท้าให้ฝ่าบาททรงเลือก ไหนเลยจะ
เทียบได้กบั หอสู งริ มน้ า ได้รับแสงจันทร์ก่อน หากว่าฝ่ าบาททรงได้
เจอกับเจ้าเพียงผูเ้ ดียว เจ้ายังจะกังวลว่าไม่มีโอกาสอีกหรื อ? “
อันหร่ วนกล่าวเช่นนี้ ดวงตาทั้งคู่ของอันหว่านจือก็ทอประกายสดใส
สาวเท้าวิง่ เข้ามาถึงข้างกายนาง คว้าเอวของนางเอวไว้อย่างแนบ
แน่น ออดอ้อนว่า “ท่านย่า ข้ารู ้อยูแ่ ล้วว่า ท่านดีต่อหว่านจือที่สุด
แล้ว “
ยากนักที่ใบหน้าซึ่งจริ งจังอยูเ่ สมอของอันหร่ วนจะปรากฎรอยยิม้
อ่อนโยนขึ้นมาบ้าง “บิดามารดาของเจ้าจากไปเร็ วเกินไป มอบเจ้าให้
ข้าดูแล ข้าย่อมจะต้องเห็นเจ้าเสมือนลูกหลานแท้ ๆ หากไม่ดีกบั เด็ก
น้อยอย่างเจ้าให้มาก จะให้ไปดีกบั ใครเล่า? “
อันหว่าจรื อผงกศีรษะอย่างหนักแน่น “ถึงแม้วา่ ท่านพ่อท่านแม่จะยัง
อยู่ ก็เกรงว่าคงจะไม่มีทางรักข้าเท่ากับท่านย่าได้หรอกเจ้าค่ะ “
อันหร่ วนมองดูท่าทางที่ออดอ้อนและเชื่อฟังของนาง ก็ยงิ่ เพิ่มพูน
ความรักในตัวนางเข้าไปอีก ” หลายปี นี้เจ้าอยูเ่ ป็ นเพื่อนข้าที่เขาจงห
ลิงมาตลอด ย่าจะต้องไม่ยอมให้เจ้าได้รับความอยุติธรรมเด็ดขาด “
พูดแล้วนางก็ยกเอาประคาสวดมนต์ข้ ึนมาคล้องไว้บนมืออีกครั้ง ”
มานี่เถอะ ย่ามีคาพูดบางอย่างจะกล่าวกับเจ้า “
” อืม เจ้าค่ะ ” อันหว่านจือเขยิบเข้าไปใกล้ข้ ึนอีก
………………………………………………..
แม้ใกล้จะสิ้ นปี เข้าไปทุกที แต่หิมะกลับตกลงหนักขึ้นเรื่ อย ๆ แม้แต่
หลายวันนี้กไ็ ม่เคยหยุด
ในพระตาหนักตี้หวั ถ่านเงินชั้นดีถูกเผาจนหมดไปหลายตระกร้า
งานของบ้านเมืองในช่วงนี้กย็ งิ่ มากมาย ทุกวันฮ่องเต้ทรงวุน่ วายกับ
การสะสางงานราชการ แม้จะเลิกประชุมแล้วก็ยงั ไม่ยอมหยุด
ในห้องทรงพระอักษร ฮ่องเต้ทรงตอบฎีกาที่หนาหนักติดต่อกัน
หลายเล่ม พระองค์ทรงฉลองพระองค์คลุมสี ทองตัวหนา สะบัดพูก่ นั
ในพระหัตถ์อย่างต่อเนื่อง
หลี่กงกงที่เฝ้าอยูด่ า้ นข้าง ได้แต่ชมดูจนปวดใจ
ผูค้ นทั้งแผ่นดินต่างอิจฉาในพระราชอานาจบารมี แต่ผใู ้ ดเลยจะรู ้วา่
ผูซ้ ่ ึงครอบครองอานาจและบารมีน้ ีจะต้องตื่นก่อนไก่โห่ นอนหลัง
สุ นขั เห่าหอนอยูท่ ุกวัน
ตอนที่ 141 ปวงประชาเป็ นสุ ข ทั่วทั้งแผ่ นดิน
ฎีกาที่ไม่มีวนั หมด งานแผ่นดินที่ไม่มีวนั สิ้ นสุ ด แต่ละเรื่ องฝ่ าบาท
ล้วนเป็ นต้องแก้ไขด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง สาหรับพระองค์
แล้วเรื่ องของบ้านเมืองไม่มีเรื่ องใดที่เป็ นเรื่ องเล็กสักเรื่ องเดียว
ผูค้ นรอบข้างต่างทราบเพียงว่าฝ่ าบาททรงพระทัยแข็งถึงขั้นไร้น้ า
พระทัย แต่ตวั เขาอยูร่ ับใช้ฝ่าบาทมานาน ย่อมรู ้ดีวา่ ฝ่ าบาททรงเป็ น
ฮ่องเต้ที่ดีอย่างแท้จริ ง
ยามก่อนหน้าที่ยงั ไม่ได้ยดึ สมบัติของรองมหาเสนาฯ มานั้น ฝ่ าบาท
ทรงมีรับสัง่ ออกไปว่าให้ระดมความช่วยเหลือไปบรรเทาทุพภิกขภัย
ในเมืองหลีโจว ทั้งยังเบิกเอาเงินหมื่นตาลึงทองออกมาจาก
ท้องพระคลังส่ งไปด้วยพร้อม ๆ กัน
ผูท้ ี่ส่งสิ่ งของบรรเทาทุกข์ไปก็ยงั เป็ นถึงหัวหน้ากองรักษาพระองค์
ลับหลงเซียวที่พระองค์ทรงไว้พระทัยมากที่สุด
ก่อนที่อดีตฮ่องเต้จะเสด็จสวรรคตไป หลีโจวประสบกับภัยน้ าท่วม
อย่างรุ นแรง ประชาชนต้องอพยพแตกซ่านกระเซ็น ถึงแม้ฝ่าบาทมี
พระบัญชาให้คุณชายรองตระกูลตู๋กูเดินทางไปบรรเทาทุกข์ดว้ ย
ตนเองพระองค์กย็ งั ไม่อาจวางพระทัย
ถึงแม้วา่ ฝ่ าบาทจะโปรดแสดงพระราชอานาจ แต่กบั ประชาชนแล้ว
ทรงมีน้ าพระทัยกว้างขวาง
เรื่ องเหล่านี้ลว้ นไม่มีผใู ้ ดทราบ
พวกเขายิง่ ไม่เคยคิดว่า ฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั นี้ ยามที่ทรงพระเยาว์เพื่อ
หมัน่ โถชิ้นเดียวกลับโดยผูค้ นทุบตีจนพระชงฑ์หกั แต่ละวันใช้ชีวิต
อย่างยากลาบากถึงขนาดต้องยื้อแย่งอาหารกับสุ นขั
ครั้งหนึ่ง…….เพื่อให้ได้กินอาหารสักมื้อ ถึงขนาดไปยังตลาดมืดลง
สนามต่อสู ้กบั สัตว์ร้ายให้ผคู ้ นได้ชม
ผูค้ นทัว่ หล้าต่างทราบว่าพระองค์ทรงเป็ นพ่อไก่ขนเหล็ก แต่กลับไม่
เคยรู ้วา่ พระองค์ทรงผ่านประสบการณ์เช่นไรมาบ้าง เงินทุกอีแปะที่
พระองค์ได้รับมาล้วนต้องแลกด้วยหมัดและเลือดเนื้อทั้งนั้น แล้วไย
พระองค์จะไม่ทรงมัธยัสถ์ได้เล่า?
จนถึงทุกวันนี้เขาก็ยงั จาได้ดีวา่ วันที่ฝ่าบาททรงขึ้นครองราชย์น้ นั ได้
ทรงรับสัง่ กับเขาอย่างไรบ้าง
” เราต้องการให้แผ่นดินนี้ ไม่มีเด็กน้อยที่ตอ้ งตกระกาลาบากเช่นเรา
อีก ไม่ตอ้ งพลัดพรากจากพ่อแม่ ไม่ตอ้ งให้พี่นอ้ งแก่งแย่ง ไม่ตอ้ งอด
อยากเหน็บหนาว ไม่ตอ้ งเร่ ร่อนอย่างไร้จุดหมาย”
” เราจะต้องยิง่ ใหญ่เกรี ยงไกร ทาให้แผ่นดินอุดมสมบูรณ์ ปวง
ประชาเป็ นสุ ขร่ วมกันทัว่ ทั้งแผ่นดิน”
แม้แต่เรื่ องที่ยกเลิกการคัดเลือกพระสนมในครั้งนี้ ก็เป็ นเพราะฝ่ า
บาทไม่ประสงค์จะให้วงั หลังเพิ่มพูนค่าใช้จ่ายที่ไม่จาเป็ นอีก
ฝ่ าบาทที่เป็ นเช่นนี้……..เมื่อคิดขึ้นมาทีไร หลี่กงกงก็พลางจะน้ าตา
ไหล
จีเฉวียนถือพูก่ นั ไว้ในพระหัตถ์ สี พระพักตร์หนักหน่วง วันนี้หิมะ
ตกหนัก แม้แต่ในพระตาหนักของฮ่องเต้ยงั มีหิมะท่วม ที่อื่น ๆ ก็คง
ยิง่ ลาบากหนักหนากว่านี้
แท้จริ งแล้วมีหลายเมืองที่ยามนี้ตอ้ งประสบภัยพิบตั ิเพราะหิ มะแล้ว
พระองค์ขมวดพระขนงแน่น ทอดถอนพระทัยเบา ๆ รับสัง่ ให้หลี่
กงกงเติมฟื นลงไปในไฟอีกหลาย ๆ ก้อน
เรื่ องนี้หากว่าจัดการได้ไม่ดี ไม่รู้วา่ จะต้องมีครอบครัวที่บา้ นแตก
สาแหรกขาดอีกสักเท่าไหร่ มีผคู ้ นอีกเท่าไหร่ ที่จะกลายเป็ นคนไร้
บ้าน นัน่ มิใช่สิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนา
ในยามนั้นเอง ก็ได้ยนิ เสี ยงฝี เท้าของขันทีนอ้ ยเข้ามากราบทูลว่า “ทูล
ฝ่ าบาท อันหร่ วนกูกขู อพระราชทานอนุญาตเข้าเฝ้า”
จีเฉวียนมิได้เงยหน้าก็ตรัสว่า ” เชิญนางเข้ามาเถอะ “
เพียงครู่ เดียว ก็เห็นอันหร่ วนกูกูเดินนาอันหว่านจือเข้าไปในห้อง
ทรงพระอักษร
นี่เป็ นครั้งแรกที่อนั หว่านจือได้เข้ามาในพระตาหนักตี้หวั พระ
ตาหนักมิได้วิจิตรงดงามดัง่ ที่นางวาดภาพไว้ ทั้งสี่ ดา้ นล้วนเป็ นงาน
ไม้ที่เรี ยบง่าย ทั้งกว้างขวางและดูวงั เวง
ในห้องทรงพระอักษรล้วนเต็มไปด้วยชั้นหนังสื อใหญ่เล็กมากมาย
ล้วนแล้วแต่สีดาอึมครึ ม ฮ่องเต้กาลังประทับนัง่ ทอดพระเนตรฎีกา
ทรงฉลองพระองค์คลุมตัวใหญ่ พระเกศาที่ยาวสยายดูยงุ่ เหยิง
เล็กน้อย พระพักตร์ที่งดงามดุจเทพเซียนนั้น ยามนี้คล้ายกัยถูกฉาบ
ไว้ดว้ ยหิมะชั้นหนึ่ง
หัวใจของอันหว่านจือลิงโลดขึ้นอย่างไม่อาจระงับ นางเดินตามหลัง
อันหร่ วนมา แอบลอบมองดูฮ่องเต้ดว้ ยความระมัดระวัง
นี้กค็ ือสามีในอนาคตของนาง สามีชวั่ ชีวิตของนางอันหว่านจือ
ช่างเป็ นจริ งสมคาเล่าลือ ฝ่ าบามทรงสู งส่ งองอาจเกินผูใ้ ดทัดเทียม
ใบหน้าของนางแดงขึ้นอย่างไร้สาเหต นางยิง่ ก้มศีรษะลงไปอีก
หัวใจก็โลดเต้นไม่ยอมหยุด
ก่อนหน้านี้นางไม่เคยเห็นพระพักตร์ของฝ่ าบาทมาก่อน ในใจก็เคว้ง
คว้างอยูต่ ลอด ไม่อาจแน่ใจได้วา่ ฝ่ าบาทจะคู่ควรกับตัวนางหรื อไม่
ยามนี้พอได้เห็นตัวจริ งแล้ว หัวใจค่อยโล่งขึ้นบ้าง ในแผ่นดินนี้คงจะ
มีแต่เพียงบุรุษเช่นฝ่ าบาทเท่านั้นที่เหมาะสมจะเป็ นสามีของนาง
“บ่าวอันหร่ วน ถวายพระพรฝ่ าบาทเพคะ ” อันหร่ วนทูลพลางก็
คุกเข่าลงไปคานับจีเฉวียน
อันหว่านจือเองก็คุกเข่าตามไปด้วย
จีเฉวียนรี บโบกพระหัตถ์ “หมัวมัวมิตอ้ งมากมารยาท นัง่ ลงค่อยพูด
เถอะ “
อันหร่ วนมองดูพระองค์ ด้วยใบหน้าที่เปี่ ยมไปด้วยความรักความ
อบอุ่น ในเมื่อฮ่องเต้ประทานเก้าอี้ให้นงั่ นางก็มิได้ปฎิเสธ หลังจากที่
นางนัง่ ลงแล้ว ก็ใช้ดวงตาที่เปี่ ยมไปด้วยความเมตตาเฝ้ามองจีเฉวียน
“ยามที่บ่าวไปจากวังหลวงนั้น ฝ่ าบาทยังทรงเป็ นเพียงเด็กน้อยห้า
ขวบ เพียงพริ บตาเดียวสิ บแปดปี ก็ผา่ นพ้นไปแล้ว ยามนี้ฝ่าบาททรง
กลายเป็ นเจ้าแผ่นดินที่เปี่ ยมไปด้วยพระบารมี หากว่าฮองเฮาได้ทรง
เห็นเข้าละก็ จะต้องดีพระทัยอย่างยิง่ เป็ นแน่เพคะ “
เมื่อเอ่ยถึงฉางซุนฮองเฮา พูก่ นั ในพระหัตถ์ของจีเฉวียนก็ชะงักไป
เงยพระพักตร์ข้ ึนทอดพระเนตรอันหร่ วนที่เส้นผมเปลี่ยนเป็ นสี ขาว
ไปหมด “หมัวมัวเป็ นแม่นมของพระมารดา อีกทั้งยังเป็ นพระพีเ่ ลี้ยง
ที่ดูแลเรามา เมื่ออยูต่ ่อหน้าเรา ไม่จาเป็ นต้องเรี ยกตนเองเป็ นบ่าว
อีก”
อันหร่ วนจรื อรี บส่ ายหน้าปฎิเสธ “บ่าวมีฐานะใดกัน บ่าวล้วนจาจด
ได้อย่างดี ไม่กล้าอาจเอื้อมแม้แต่นอ้ ยเพคะ ฝ่ าบาททรงมีพระเมตตา
เลี้ยงดูบ่าวให้ได้แก่ชราอยูใ่ นวัง เพียงเท่านี้บ่าวก็ซาบซึ้งในน้ า
พระทัยแล้วเพคะ”
นางพูดไป ก็กล่าวขึ้นอีกว่า “บ่าวกลับมารอบนี้ เรื่ องหลัก ๆ ก็คือ
คิดถึงฝ่ าบาท พูดไปก็เป็ นการบังอาจอยูบ่ า้ ง บ่าวเห็นฮองเฮาดัง
บุตรสาวแท้ ๆ มาโดยตลอด ยอมต้องเห็นพระองค์เป็ นดัง่ หลานชาย
แท้ ๆ ไปด้วย เพียงแต่ฐานะของบ่าวต่าต้อยจึงได้แต่เก็บความรู ้สึกนี้
เอาไว้แต่เพียงในใจเท่านั้น”
” หมัวมัวมีใจเช่นนี้ เราก็ขอรับเอาไว้แล้ว ต่อไปเจ้าอยูใ่ นวัง ก็อยูใ่ ห้
สบายเถิด เราย่อมต้องมิให้เจ้าได้รับความลาบากอีก”
น้อยนักที่จีเฉวียนจะมีน้ าพระทัยเช่นนี้ สาหรับอันหร่ วนแล้ว
พระองค์เห็นแกที่นางเคยเป็ นแม่นมของพระมารดา เห็นแก่
ความสัมพันธ์เก่าก่อนก็เท่านั้น
“บ่าวขอขอบพระทัยฝ่ าบาทเพคะ ” อันหร่ วนทูลตอบ พอนางยกมือ
ขึ้นโบก อันหว่านจือที่อยูเ่ บื้องหลังนางค่อยก้าวออกมา
ในมือของนางประคองเสื้ อคลุมกามะหยีส่ ี ดาตัวหนึ่งไว้ ศีรษะก้มต่า
ราวกับว่าไม่กล้ามองดูฝ่าบาท
ยามนี้ อันหร่ วนค่อยทูลว่า “ฝ่ าบาทเพคะ อากาศเหน็บหนาวถึงเพียง
นี้ บ่าวจดจาได้วา่ พระองค์กลัวความหนาว ดังนั้นจึงได้ทาชุดฤดู
หนาวขึ้นมาตัวหนึ่ง วันนี้ต้ งั ใจนามาถวายเป็ นพิเศษเพคะ”
ทันทีที่นางพูดจบ อันหว่านจือก็ประคองเสื้ อหนาวที่หนาหนักนั้น
ไปยังที่ขา้ งโต๊ะอักษร คุกเขาลงไป
ริ มฝี ปากแดงของนางแย้มพราย ทูลว่า “ขอฝ่ าบาทโปรด
ทอดพระเนตรเพคะ”
เสื้ อกามะหยีต่ วั หนา แต่เข็มเล็ก ๆ กลับปักลอดลงไปได้ ฝี เข็มที่
ละเอียดละออนั้น ดูกร็ ู ้วา่ ผูท้ ี่เย็บเสื้ อตัวนี้ข้ ึนมาจะต้องมีความตั้งใจ
เพียงไร
จีเฉวียนยืน่ พระหัตถ์ไปลูบเบา ๆ สัมผัสนั้นอบอุ่น แสนสบาย
” เราจาได้วา่ ยามที่ยงั เป็ นเด็ก ทุกปี ในฤดูหนาว หมัวมัวจะต้องทาชุด
กามะหยีใ่ ห้เราหลาย ๆ ชุด”
อันหร่ วนได้ฟังแล้ว ก็แสดงสี หน้าย้อนคิดไปถึงความหลังเช่นกัน ”
หากว่าฝ่ าบาทมิได้ทรงรังเกียจ ต่อไปทุกปี ยามเข้าหน้าหนาว บ่าวจะ
ทามาถวายพระองค์ “
นางเคยอยูใ่ นวังมานานหลายปี ย่อมรู ้ดีวา่ สิ่ งที่สาคัญสาหรับฮ่องเต้ผู ้
ทรงสู งส่ งนั้น มีแต่ความจริ งใจเท่านั้นจึงจะล้ าค่า
โดยเฉพาะสาหรับฮ่องเต้พระองค์ใหม่ที่ทรงสู ญเสี ยพระมารดาไป
ตั้งแต่เยาว์วยั เช่นนี้
นับตั้งแต่ที่ฉางซุนฮองเฮาทรงสิ้ นไปนั้น พระองค์กไ็ ม่ได้รับอนุญาต
ให้เข้าเฝ้าอดีตฮ่องเต้อีก ทั้ง ๆ ที่เป็ นถึงพระราชโอรสสายตรง แท้ ๆ
แต่กลับกลายเป็ นผูท้ ี่ไม่ได้รับความโปดปราน ต่อมา…..ยังเคยถูก
ส่ งไปยังต่างแคว้นเพื่อเป็ นตัวประกันด้วยซ้ า
สามารถพูดได้วา่ การดูแลจากผูใ้ หญ่น้ นั เป็ นเรื่ องมากเกินความ
จาเป็ นสาหรับฮ่องเต้พระองค์น้ ี
” แน่นอนว่าต้องมิได้รังเกียจอยูแ่ ล้ว ” จีเฉวียนทรงรับฉลองพระองค์
มาไว้ในพระหัตถ์ ยามนี้พระพักตร์ที่เย็นชาจนเป็ นน้ าแข็งอยูเ่ สมอ
ค่อยปรากฎความอบอุ่นขั้นมาหลายส่ วน
ความอบอุ่นที่ได้รับจากเสื้ อคลุมตัวนี้ ทาให้พระองค์ทรงคิดถึงยามที่
เคยประทับอยูก่ บั พระมารดายามที่เป็ นเด็ก
พระองค์ที่ยงั ทรงพระเยาว์ ทุกปี ในยามที่หิมะตกในฤดูหนาวมีแต่
ตอนที่ได้ประทับอยูเ่ คียงข้างพระมารดาเท่านั้น ที่ทาให้พระองค์
สัมผัสกับความอบอุ่นได้
สายตาของอันหว่านจือ จับจ้องไปบนร่ างของพระองค์ ยามนี้หวั ใจ
ของนางเองก็ราวกับฤดูใบไม้ผลิที่ผลิบานด้วยความตื่นเต้น
ตอนที่ 142 หากว่ าอาหลันเห็นข้ า จะชอบหรื อไม่ ?
เมื่อครู่ สายพระเนตรของฝ่ าบาทยังเย็นชาอยูเ่ ลย เพียงพริ บตาเดียวก็
เปลี่ยนเป็ นอบอุ่นขึ้นมา นี่…..เป็ นเพราะตัวนางใช่ไหม?
นางเงยหน้าขึ้นกว่าเดิม กล่าวเสี ยงเบา ๆ ว่า “ฝ่ าบาทเพคะ หม่อมฉัน
ยินดีจะถวายงานอยูเ่ คียงข้างพระองค์ตลอดไปเพคะ”
เมื่อครู่ จีเฉวียนไม่ทนั ได้จงใจมองนางเลย พอได้ฟังเสี ยงของนางจึง
หันไปมองชัว่ แวบหนึ่ง
และแวบเดียวนี้กเ็ พียงพอที่จะทาให้พระองค์ได้เห็นดวงตาและคิ้ว
ของนาง……
ความนุ่มนวลบนพระพักตร์กแ็ ข็งค้างไปในทันที ดวงเนตรหงส์
ปรากฎแววตายุง่ เหยิง
” ทูลฝ่ าบาท นี่คือ หว่านจือ เป็ นหลานสาวของบ่าวเองเพคะ นางอยู่
กับข้าเฝ้าสุ สานที่เขาจงซานมาสิ บกว่าปี ” อันหร่ วนรี บอธิบาย “นาง
เป็ นเด็กที่น่าสงสาร ตั้งแต่เล็กก็ไม่มีมารดา ยิง่ ไม่ได้รับความรักจาก
บิดา ดังนั้นจึงมีแต่บ่าวที่รับนางมาเลี้ยงเอาไว้ขา้ งกายเพคะ”
อันหว่านจือรู ้ดีวา่ ตนเองสิ้ นไร้บิดามารดาแท้ ๆ แต่อนั หร่ วนกลับ
กล่าวเช่นนี้ ก็เพื่อทาให้ฝ่าบาทรู ้สึกว่านางและพระองค์ช่างน่าสงสาร
ดุจเดียวกัน เป็ นการกระตุน้ ความเห็นใจจากพระองค์
จีเฉวียนทรงนิ่งฟัง พักใหญ่หลังจากนั้นก็พิงพระองค์ไปกับพนัก
เก้าอี้ ทรงหันกลับมาทอดพระเนตรอันหว่านจืออีกครั้ง ” อายุเท่าไร
แล้ว “
“ทูลฝ่ าบาท บ่าวปี นี้อายุสิบหกแล้วเพคะ? ” อันหว่านจือก้มศีรษะลง
ไป นางลอบใช้สายตาที่สุกสกาวแอบมองอีกครั้ง สี หน้าปรากฎ
ความเหนียมอาย “ตั้งแต่เล็กบ่าวมักจะเคยได้ยนิ ท่านย่ากล่าวถึง
พระองค์ ในใจรู ้สึกเคารพเทิดทูนอย่างยิง่ มาตลอดเพคะ”
” เราถามอะไร เจ้าก็บอกเช่นนั้น หากว่าเราไม่ได้ถาม ก็อย่าได้กล่าว
มากความ” จีเฉวียนทรงพับเก็บฎีกาในพระหัตถ์ สายพระเนตรตกลง
บนริ มฝี ปากของนาง
สี แดงเข้มที่ดูงามสง่าเช่นนี้ เป็ นสี ที่พระองค์จาได้วา่ เป็ นสี โปรดของ
พระมารดา
แต่เมื่อมาอยูบ่ นริ มฝี ปากของนาง กลับดูเหลาะแหละไปเสี ยอย่าง
นั้น
อันหว่านจือถูกพระองค์สงั่ สอน ในใจก็ร้อนลนขึ้นมา ยิง่ ศีรษะลงไป
อีกตอบว่า ” เพคะ บ่าวรู ้ผดิ แล้ว”
” ฝ่ าบาท เด็กคนนี้ไม่เคยเห็นโลกภายนอกมาก่อน เป็ นเพราะย่าอย่าง
หม่อมฉันสัง่ สอนนางได้ไม่ดี ขอฝ่ าบาททรงลงพระอาญา ” อัน
หร่ วนรี บช่วยนางคลายวงล้อม
ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ฝ่าบาทก็เป็ นผูท้ ี่เย็นชาอยูเ่ สมอ คิดไม่ถึงว่าผ่าน
มาสิ บแปดปี แล้ว จะทรงเย็นชายิง่ ขึ้นกว่าเดิม
จีเฉวียนมิได้ตรัสสิ่ งใด โบกพระหัตถ์ให้หลี่กงกงนาเสื้ อผ้าไปเก็บ
เอาไว้
“ฝ่ าบาทเพคะ บ่าวยังมีเรื่ องจะขอร้องอยูอ่ ีกเรื่ องหนึ่ง ” ว่าแล้วอัน
หร่ วนก็ลงมาคุกเข่าลงที่เบื้องพระพักตร์ของพระองค์
” หมัวมัวว่ามาเถอะ ” จีเฉวียนมิได้ทาให้นางลาบากใจ
อันหร่ วนหันไปดูอนั หว่านจือแวบหนึ่ง ก็กราบทูลว่า “ในแผ่นดินนี้
บ่าวเหลือแต่เพียงอันหว่านจือเป็ นญาติเพียงคนเดียวแล้ว ดังนั้นคิด
ขอพระเมตตาจากฝ่ าบาทรับนางไว้เป็ นบ่าวรับใช้ของพระองค์ อย่าง
น้อยจะได้รับการอบรมสัง่ สอนเสี ยบ้าง อนาคตจะได้สามารถหา
ครอบครัวดี ๆ ให้นางแต่งออกไปได้ ขอเพียงให้นางได้แต่งกับบุรุษ
ที่ดีที่ตนพอใจ ยายแก่อย่างหม่อมฉันก็นบั ว่ามีหน้าไปตอบตระกูล
อันได้แล้วเพคะ

อันหว่านจือได้ฟัง ก็คิดจะปฎิเสธนางออกไปในทันที ท่านย่าคิดสิ่ ง
ใดอยูก่ นั แน่?
แค่ให้ฝ่าบาทรับนางเป็ นสนมก็จบแล้วมิใช่หรื อ? ไยจะต้องให้นาง
ไปเป็ นบ่าวรับใช้ดว้ ย?
แล้วยังคิดจะหาบ้านสามีให้นางอีก? นางมาที่เมืองหลวงก็เพื่อจะแต่ง
กับฝ่ าบาทนะ!
แต่วา่ นางก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป จึงได้แต่คุกเข่าอยูบ่ นพื้น แม้ใน
ใจจะไม่ยนิ ดี แต่สีหน้ายังคงอ่อนแอน่าสงสารดุจเดิม
เมื่อเห็นว่าฝ่ าบาทมิได้รับสัง่ อย่างไร อันหร่ วนก็ถือโอกาสโขกศีรษะ
ลงไปเสี ยงดังหลาย ๆ ที “ขอฝ่ าบาททรงพระกรุ ณาด้วยเพคะ! “
” ลุกขึ้นมาเถอะ ” ฝ่ าบาทโบกพระหัตถ์ แล้วจึงหันไปทอดพระเนตร
อันหว่านจืออีกครั้ง
อันหว่านจือถูกมองจนใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด ในใจขบคิดไม่หยุด
ว่าหากนางสามารถยืนอยูเ่ คียงข้างพระองค์ กลางวันก็ถวายการรับใช้
กลางคืนก็ได้รับความโปรดปราน นัน่ จะเป็ นเรื่ องที่ดีเยีย่ มเพียงไร
“หลี่กงกง ตาหนักตี้หวั ยังมีตาแหน่งนางกานัลใดว่าง ๆ อยูอ่ ีก
หรื อไม่” ครู่ หนึ่งจีเฉวียนก็ทรงหันไปถามหลี่ตา้ ชิง
อีกแล้ว! ชีวิตของคนสนิทช่างไม่ง่ายดายเลย!
หลี่กงกงรู ้สึกว่าตนเองถูกทดสอบอยูท่ ุกเมื่อเชื่อวัน คราวนี้ชดั เจน
เลยว่าฝ่ าบาทจงใจมอบบททดสอบที่ยากเข็ญให้กบั เขา
นางกานัลนั้นมีมากมายหลายระดับชั้น หากจะว่ากันระดับต่าไล่ลง
ไปจนถึงรับเวรทางานยามกลางคืนก็ลว้ นมีอยู่
หากว่ากันที่ระดับสู งขอเพียงได้ยนื ประจาการณ์รับใช้อยูข่ า้ ง
พระองค์ได้กม็ ี
แต่วา่ ยามปกติผทู ้ ี่รับใช้ใกล้ชิดฝ่ าบาทล้วนเป็ นเหล่าขันทีนอ้ ย นาง
กานัลในตาหนักตี้หวั แม้แต่คุณสมบัติจะได้เข้าใกล้พระองค์กย็ งั ไม่
มี
แต่วา่ อันหร่ วนกูกผู นู ้ ้ ีมีฐานะพิเศษออกไป
ที่จริ งแล้วของเพียงมีรับสัง่ ของฝ่ าบาทเพียงคาเดียว อันหว่านจือคิด
จะทางานในตาแหน่งใดล้วนแต่เป็ นได้หมด
เขากลืนน้ าลายลงไปหายอึก ครุ่ นคิดอยูน่ านถึงได้ตอบเสี ยงเบาไปว่า
” ทูลฝ่ าบาท ตาหนักตี้หวั ไม่มีตาแหน่งว่างเลยพะยะค่ะ”
ฮ่องเต้ทรงทวนคาตอบนั้นอย่างไม่เร็ วไม่ชา้ “อืม ไม่มีเลยรึ “
อันหร่ วนได้แต่ยอมรับด้วยความเสี ยดาย “ถ้าเช่นนั้นก็ถือว่าหว่านจือ
เด็กคนนี้ไม่มีบุญเลย เฮ่อ”
นางทอดถอนใจออกมา ในมือก็ปรากฎประคาสวดมนต์สายหนึ่ง จี
เฉวียนทรงมองเห็นอย่างชัดเจน ประคาสวดมนต์น้ ีเป็ นของที่ยาม
พระมารดาทรงพระชนม์อยู่ ทรงถือติดพระหัตถ์อยูท่ ุกเมื่อเชื่อวัน
พระมารดาที่มีพระทัยใฝ่ ทางธรรม ก่อนสิ้ นพระชนม์ทรงประทาน
ของติดกายเช่นนี้ให้กบั อันหร่ วน แสดงให้เห็นว่าทรงให้ความสาคัญ
กับอันหร่ วนเพียงไร
สี พระพักตร์ของพระองค์เปลี่ยนไปในทันที แต่เพียงครู่ เดียวก็กลับ
สงบลงดังเดิม ตรัสกับอันหว่านจือว่า “ห้องอักษรขาดนางกานัลยก
น้ าชาคนหนึ่ง พรุ่ งนี้เจ้าลงมาที่ตาหนักค่อยยกน้ าชาเถอะ
อันหว่านจือมิได้ยนิ ดีแม้แต่นอ้ ย ก็แค่นางกานัลยกน้ าชาเท่านั้น นี่
ไหนเลยจะเหมาะสมกับฐานะของนางกัน
แต่วา่ คิด ๆ ดูแล้ว หากทุก ๆ วันสามารถได้อยูใ่ กล้ชิดฝ่ าบาทเพียง
ลาพังเช่นนั้น ถึงต้องยอมลาบากสักหลาย ๆ วันก็ไม่เป็ นอะไร
นางจะทาให้ฝ่าบาทชื่นชอบนาง ให้ความสาคัญกับนาง ไม่อาจแยก
จากนางอีกต่อไป!
ดังนั้นนางจึงรี บถวายคานับจีเฉวียนด้วยความตื่นเต้น ” เพคะ บ่าว
ขอบพระทัยฝ่ าบาทเพคะ”
มุมปากของอันหร่ วนเองก็มีรอยยิม้ ขึ้นมาจาง ๆ “บ่าวขอบพระทัยฝ่ า
บาทแทนหว่านจือด้วยเพคะ เด็กคนนี้สามารถมีโชคเช่นนี้ได้ คง
เพราะว่าชาติก่อนทาบุญสัง่ สมมาเป็ นแน่ “
……………………..
การคัดเลือกนางสนมมิได้ถูกจัดขึ้น แต่ขา้ งกายฝ่ าบาทกลับเพิ่มนาง
กานัลยกน้ าชาขึ้นมาอีกคนหนึ่ง เรื่ องเช่นนี้ถึงกับแพร่ สะพัดไปทัว่ วัง
หลวงอย่างรวดเร็ ว
ยามที่ข่าวแพร่ มาถึงหูของซูเหม่ยนั้น นางกาลังแต้มชาดลงบน
หน้าผากอยู่
กลีบดอกไม้บนหว่างคิ้วนี้เป็ นนางลงมือวาดด้วยตนเอง ดูเย้ายวน
อย่างยิง่ สี ผ้ งึ ที่ใช้แต่งแต้มบนริ มฝี ปากก็งดงาม เดิมที่กเ็ ป็ นหญิงงาม
ผูห้ นึ่งอยูแ่ ล้ว เมื่อตั้งอกตั้งใจแต่งหน้าขึ้นมา ก็ยงิ่ เปล่งประกายเฉิ ด
ฉันจนกระชากวิญญาณผูค้ น
” กุย้ เฟยเพคะ ไยท่านยังจะมีอารมณ์บรรจงแต่งองค์ได้อีก” กระทัง่ ห
ยูฟู่นางกานัลประจาตัวของนางก็ยงั ร้อนใจขึ้นมาแล้ว “ท่านกลับมาก็
ตั้งหลายวันแล้ว แต่ฝ่าบาทยังมิได้เสด็จมาที่ตาหนักชุ่ยเวยของพวก
เราเลยสักครั้ง พวกคนที่ไร้ปัญญาที่อยูด่ า้ นนอกพวกนั้นต่างก็ชกั จะ
ลิ้นยาวปากยืน่ กันขึ้นมาแล้ว ถึงได้กล้าพูดกันว่าพระสนมท่านมิอาจ
เทียบได้กบั หญิงสาวชาวป่ าคนหนึ่ง “
ซูเหม่ยคล้ายกับว่าฟังไม่ได้ยนิ เคยสักคา เมื่อแต่เสร็ จจนถึงพูก่ นั
สุ ดท้ายนางถึงได้เงยหน้าขึ้นส่ งยิม้ ให้กบั หยูฟู่ “เจ้าว่าวันนี้ขา้ ดูดี
หรื อไม่? “
หยูฟู่ชะงักไปเล็กน้อย “กุย้ เฟยย่อมงดงามอยูแ่ ล้วเพคะ “
” เช่นนั้นอาหลันเห็นข้าแล้วจะชอบหรื อไม่? ซูเหม่ยอารมณ์ดียงิ่ นัก
นางสวมชุดกระโปรงสี แดงสด เมื่อลุกขึ้นยืนก็หมุนรอบตัวครั้งหนึ่ง
พอหมุนตัวมาถึงด้านหน้า แม้แต่หยูฟู่ยังรู ้สกั ลุ่มหลงจนมึนงง
” ไม่วา่ ใครเมื่อได้พบท่านก็ตอ้ งชอบด้วยกันทั้งนั้นเพคะ ” หยูฟ่ ู่
กล่าว นางไม่เข้าใจเลยว่าพระเนตรทั้งสองของฝ่ าบาทนั้นบอดไป
แล้วหรื อ ถึงได้ทรงละเลยกุย้ เฟยไม่สนพระทัย ไปคว้าเอาคนเช่นอัน
หว่านจือมาแทน
” เช่นนั้นตอนนี้ขา้ จะไปหาอาหลัน ” ซูเหม่ยกล่าวแล้วก็ยกกระโปรง
ขึ้นวิ่งออกไปโดยทันที
” กุย้ เฟยเพคะ ด้านนอกยังมีหิมะตกอยูเ่ ลยเพคะ ” หยูฟ่ ู่ รี บติดตาม
ออกไป นางไม่ลืมคว้านวมอุ่นมือติดไปให้ดว้ ย
ตาหนักชุ่ยเวยและพระตาหนักตี้หวั อยูใ่ กล้กนั นับตั้งแต่ก่อตั้งแคว้น
มา ผูท้ ี่ประทับในตาหนักนี้ลว้ นแล้วแต่เป็ นพระสนมที่ได้รับความ
โปรดปรานอย่างยิง่ แต่สาหรับกุย้ เฟยแล้วกลับไม่เคยใช้ประโยชน์
จากข้อได้เปรี ยบเช่นนี้เลยสักครั้ง ยามปกติก็แทบจะไม่เคยก้าวเท้า
ไปยังตาหนักตี้หวั เลยเสี ยด้วยซ้ า
ตอนที่ 143 เมื่อมาอยู่ต่อหน้ านางก็ไม่ อาจยับยั้งใจได้ อกี
ลองดูพระสนมท่านอื่นสิ อย่าว่าแต่พวกเหม่ยเหริ น ไฉเหริ นที่อยู่
ตามขอบวังเลย ต่างก็อยากจะมีขาสักสิ บข้างจะได้วิ่งมาพระ
ตาหนักตี้หวั ได้ทุกวัน
ต่อให้มาถึงแล้วไม่ได้อาจเห็นพระพักตร์ของฝ่ าบาท ก็ยงั คงไม่ยอม
ถอดใจกันเด็ดขาด
แต่วา่ กุย้ เฟยนี่สิ…….
เฮ่อ!
หยูฟ่ ู่ คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจยาว ทาไมถึงได้เอาแต่คิดถึงไทเฮาอยู่
เพียงผูเ้ ดียวนะ?
……………………………….
ยามที่ซูเม่ยเดินผ่านพระตาหนักตี้หวั นั้น นางก็มิได้หนั ไปเหลือบดู
แม้สกั ครั้ง และถูกอันหว่านจือสังเกตเห็นเข้า
หิมะหนาหนักตกในพระราชวัง ทัว่ ทุกตารางนิ้วบนพื้นล้วนแต่เป็ น
สี ขาว
ซูเหม่ยที่สวมใส่ ชุดสี แดงย่อมเป็ นที่สงั เกตเห็นได้ง่ายอยูแ่ ล้ว
เมื่อมองดูชุดนางกานัลที่เรี ยบง่ายของตนเอง หัวใจของอันหว่านจื
อก็อดที่จะอิจฉาขึ้นมาไม่ได้
ทั้ง ๆ ที่นางควรจะได้สวมใส่ เสื้ อผ้าที่หรู หราสวยงามเช่นเดียวกับซู
เม่ยแท้ ๆ
หลายวันมานี้ นางยอมยืนอยูบ่ นบันไดนอกตาหนักตี้หวั
นานวันละหลายชัว่ ยาม ให้พวกนางกานัลที่ผา่ นไปผ่านมาจะได้
มองเห็นนางอย่างชัดเจน
พอนางได้เข้ามาในตาหนักตี้หวั แล้วถึงได้รู้วา่ ตาหนักตี้หวั ไม่เพียงมี
นางกานัลน้อยมากเท่านั้น แต่กระทัง่ สามารถเข้าใกล้รับใช้ฝ่าบาทได้
ก็ยงั ไม่มีเลยสักคน
แน่นอนว่าตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว
ยกเว้นตาหนักพักผ่อนของฝ่ าบาทแล้ว นางก็สามารถเข้านอกออกใน
ตาหนักตี้หวั ได้ทุกที่ ทุกวันยามที่ฝ่าบาททรงอ่านฎีกา ล้วนเป็ นนางที่
คอยดูแลปรนนิบตั ิยกน้ าชาถวายอยูต่ ลอด
อย่าได้เห็นว่าตอนนี้นางเป็ นแค่นางกานัลยกน้ าชา แต่วา่ ก็เป็ นสตรี ที่
สามารถพบพระพักตร์ของฝ่ าบาทได้บ่อยที่สุดในวังหลัง
นี่มิอาจปฎิเสธได้เลยว่าท่านย่าช่างชาญฉลาดลึกล้ า ที่ไม่ได้บีบบังคับ
ให้ฝ่าบาทตั้งนางเป็ นพระสนม แต่กลับวางตัวนางไว้เป็ นนางกานัล
คอยรับใช้อยูข่ า้ งพระองค์ คอยดูแลพระองค์ดว้ ยความห่วงใย
ทั้งดวงตาหางคิ้วของนางก็มีส่วนคล้ายฉางซุนฮองเฮา เมื่อผ่านไป
นานวันเข้า ฝ่ าบาทย่อมจะบังเกิดความรักต่อนางขึ้นมา
เมื่อถึงยามนั้นก็เท่ากับว่าสามารถคว้าพระทัยของฝ่ าบาทเอาไว้ได้
อย่างมัง่ คง สามารถปี นป่ ายขึ้นไปในตาแหน่งสู งส่ ง กลายเป็ นสตรี ที่
ได้รับความเคารพยาเกรงที่สุดในวังหลังมิใช่หรื อ?
“ซูกยุ้ เฟยเพคะ ท่านรี บร้อนเช่นนี้จะไปที่ใดกันเพคะ? ” ซูเม่ยยังมิ
ทันได้เดินไปไกล ก็ถูกอันหว่านจือเรี ยกเอาไว้
นางยืนอยูบ่ นระเบียงสู ง ย่อมสามารถมองลงไปดูซูเม่ย
ซูเม่ยชะงักฝี เท้า เงยหน้าขึ้นมามองดูนาง “เจ้าไม่ไปดูแลฝ่ าบาทให้ดี
มายุง่ เรื่ องของข้าทาไม? “
อันหว่านจือได้แต่ฉีกยิม้ อยูแ่ ค่ริมฝี ปาก “เมื่อครู่ ฝ่าบาททรงบรรทม
ยามบ่ายแล้ว ข้าจึงมาคอยเฝ้าอยูท่ ี่นี่ เผือ่ ว่าเกิดมีพระสนมองค์ใดไม่
ระวังมาทาลายความฝันของพระองค์ คิดไม่ถึงว่าพึ่งจะออกมาก็เห็น
ท่านแล้ว นี่มิใช่เรื่ องบังเอิญหรื อไรเพคะ? “
พูดแล้ว ตนเองก็ทาท่าถอดถอนใจชมเชยนางออกมาประโยคหนึ่ง
“วันนี้กยุ้ เฟยแต่งองค์เช่นนี้ ดูแลงดงามนัก “
น่าเสี ยดาย…..ฝ่ าบาทกลับไม่ทรงเหลือบแลเจ้าแม้แต่นอ้ ย หึ
ต่อให้เป็ นถึงกุย้ เฟยแล้วอย่างไร หากมิได้รับอนุญาตจากนาง ก็ไม่มี
สิ ทธิกา้ วเท้าเข้าไปในตาหนักตี้หวั แม้สกั ครึ่ งก้าว
ดังนั้นซูเม่ยไยจะต้องทาเช่นนี้อีกเล่า? คิดหรื อว่าที่มาเดินเพ่นพ่านไป
มาอยูด่ า้ นนอกพระตาหนักตี้หวั เช่นนี้จะดึงดูดความสนพระทัยของ
ฝ่ าบาทได้?
ฝันไปเถอะ!
เมื่อได้ยนิ นางกล่าวชมตนเอง ซูเม่ยก็อดที่จะยิม้ ออกมาไม่ได้ “หาก
เจ้ายังชมว่างาม ถ้าเช่นนั้นอาหลันจะต้องชอบมากแน่ ๆ “
ว่าแล้ว นางก็ไม่คิดจะเสี ยเวลาพูดจาไร้สาระกับอันหว่านจืออีก นาง
ขยับเท้าเตรี ยมเดินจากไป
เดินไปได้ไม่ทนั ถึงสองก้าว นางก็เห็นว่าไม่ไกลนักมีเงาสี ดาเขียว
ของคนผูห้ นึ่ง
คนผูน้ ้ นั ถือร่ มกระดาษฉาบน้ ามัน ข้างตัวยังมีไก่อว้ นขนฟูตวั หนึ่ง
เมื่อเดินอยูร่ ิ มกาแพงแดงและหิมะขาวบนพื้นก็ดูโดดเด่นอย่าง
ชัดเจน
พอซูเม่ยเห็นแล้ว ดวงตางดงามของนางก็เปล่งประกายขึ้นมา
ในทันที ไม่รอให้คนผูน้ ้ นั เข้ามาใกล้ นางก็ถลาเข้าไปหา แล้วคว้าคน
มากอดเอาไว้ “อาหลัน! “
ซูเม่ยเรี่ ยวแรงเหลือล้น ตู๋กซู ิงหลันถูกนางกอดเอาไว้เต็มรัด ก็
เกือบจะยันเอาไว้ไม่ทนั แทบจะล้มลงไปกองกับหิ มะ
ร่ มในมือของนางกระเด็นหล่นไป แต่หิมะบนร่ มร่ วงใส่ นางเต็มหน้า
เต็มตัว ทาเอานางเย็นเสี ยจนแทบจับเป็ นน้ าแข็ง
” ดูขา้ ทาเข้าสิ พอเห็นเจ้าก็ตื่นเต้นดีใจจนเกินไป ” ซูเม่ยค่อยคลายตัว
นาง ยืน่ มือมาช่วยลูบไล้หิมะออกจากใบหน้า ดวงตาทั้งคู่ทอประกาย
คว้ามือของนางเอาไว้พลางกล่าวว่า “กลับมาก็สะสางเรื่ องราวในวัง
ทาให้หลายวันนี้ไม่ได้เจอหน้าเจ้าเลย คิดถึงเจ้านัก! “
พูดแล้วนางก็ไม่ลืมส่ งสายตาเป็ นประกายให้ต๋ ูกซู ิงหลัน “อาหลัน
เจ้าก็คิดถึงข้าเช่นกันใช่ไหม? นี่กาลังจะไปหาข้าที่ตาหนักชุ่ยเวย
หรื อ? “
นางพูดทั้งหมดออกมาในลมหายใจเดียว ตู๋กซู ิงหลันจึงไม่มีโอกาส
อ้าปากเลยแม้แต่นอ้ ย
เจ้าไก่ขนฟูที่ตามก้นนางมาตลอดนึกว่าตู๋กซู ิงหลันถูกโจมตีเข้าแล้ว
มันตะกุยฝ่ าเท้าลงไปบนพื้น ถีบตัวพุง่ เข้าไประดมจิกซูเหม่ยในทันที
ซูเม่ยกลับไม่เกรงกลัวมัน ไม่เพียงไม่ปล่อยมือจากตู๋กซู ิ งหลัน ยังคลี่
ยิม้ ราวบุปผาเฉิดฉัน ทาให้ต๋ ูกซู ิงหลันพลอยนึกไปว่านางเสี ยสติไป
แล้ว
” พระสนมเพคะ ระวังกิริยาด้วยเพคะ ระวังด้วย ” หยูฟ่ ู่ อดที่จะหลัง่
เหงื่อเย็น ๆ ออกมาไม่ได้ ยังดีที่บริ เวณโดยรอบมีเพียงอันหว่านจือ
แต่เพียงผูเ้ ดียว ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้วา่ กุย้ เฟยจะถูกผูอ้ ื่นมองอย่างขาขัน
เพียงไร
อันหว่านจืออยูบ่ นระเบียง หรี่ ตาชมดูพวกนาง นัยตายิง่ เผยแววชัว่
ร้ายออกมา
ซูเม่ยก็เป็ นเหมือนหญ้าบนกาแพงโดยแท้ ยามอยูท่ ี่เขาจงหลิงก็แสดง
ท่าทีเกรงอกเกรงใจพวกนาง แต่พอกลับถึงวัง รู ้วา่ ฝ่ าบาทถูกตู๋กซู ิ งห
ลันยัว่ ยวนจนหลงใหล ก็หนั ไปพึ่งพิงตู๋กซู ิงหลันอย่างรวดเร็ ว
สตรี เช่นนี้ช่างน่ารังเกียจนัก
ตู๋กซู ิงหลันผูน้ ้ นั ยิง่ หน้าไม่อายเข้าไปใหญ่ หิ มะตกหนังถึงเพียงนี้ยงั
จะมาเดินอวดที่หน้าพระตาหนักตี้หวั อยูไ่ ด้
แค่หลายวันนี้ฝ่าบาทไม่ได้เสด็จไปตาหนักเฟิ่ งหมิง นางก็นงั่ ไม่ติด
เสี ยแล้ว?
ที่รีบร้อนถ่อสังขารมานี่เพื่อจะมาเฝ้าฝ่ าบาทรึ ? ขาดบุรุษมากหรื อไง
อี๋ อี๋!
ตู๋กูซิงหลันยืนมองซูเม่ยที่กาลังร่ าเริ งยินดี ยืน่ มือมาช่วยปั ดหิ มะออก
จากเส้นผมให้นางไม่ยอมหยุด วันนี้ซูเม่ยดูงดงามเป็ นพิเศษจริ ง ๆ
นางแต่งหน้าอย่างปราณี ตบรรจง ภายใต้อากาศที่หนาวเย็น ชุด
กระโปรงสี แดงของนางเปิ ดเผยไหล่มนและไหปลาร้า คนงดงามจน
คล้ายดัง่ เดินออกมาจากภาพวาด
ตู๋กูซิงหลันคลายผ้าคลุมขนสัตว์ของตนเองออกมา คลุมลงบนตัว
ของซูเหม่ย “เสี่ ยวซูเฟย เจ้าไม่หนาวหรื อ? “
พอได้รับผ้าคลุมขนสัตว์ของนาง ซูเม่ยก็ตะลึงงันไปครู่ หนึ่ง ใน
ดวงตาพลันมีน้ าตาเอ่อล้นขึ้นมา ก้มลงมองดูผา้ ขนสัตว์บนร่ างของ
ตนเอง แล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองดูนางอีกครั้ง “อาหลัน……เจ้าเป็ น
ห่วงข้าหรื อ? “
นางพูดพลางก็คว้ามืองของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้แนบแน่นกว่าเดิม “ผูค้ น
ต่างบอกว่าเจ้าสู ญเสี ยความทรงจาไปแล้ว แต่วา่ เจ้ายังจดจาข้าได้ใช่
หรื อไม่ “
ที่ต๋ ูกซู ิงหลันครุ่ นคิดอยูใ่ นใจนั้นก็คือ คนงามเช่นนี้หากไม่ใส่ ใจดูแล
ให้ดี แล้วหนาวจนเจ็บปวดไปจะทายังไง?
หลังจากวันนั้นที่พบกันนางได้สอบถามกับเชียนเชียนเพิ่มเติม
ความสัมพันธ์ของเจ้าของร่ างเดิมกับซูเม่ยนั้นคล้ายจะเป็ นแฟนคลับ
เสี ยมากกว่า
เพียงแต่ท่าทีเช่นนี้ของซูเม่ย ทาให้นางวางตัวลาบากอยูบ่ า้ ง
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ไม่รู้วา่ สมควรจะพูดอะไรดี จึงได้แต่ยนื่ มือออกไป
ลูบหัวนางเบา ๆ “ตัวน่ารักนะ “
ที่จริ งซูเม่ยสู งกว่านางอีกครึ่ งศีรษะ หน้าตาสะสวยก็แล้วไปเถอะ
รู ปร่ างยังสู งโปร่ ง ความสู งของนางแทบจะไม่เป็ นรองบุรุษเลย
แม้แต่สองมือที่เกาะกุมมือของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ ก็ยงั ใหญ่กว่าหญิง
สาวทัว่ ไปอยูบ่ า้ ง
หากว่าอยูใ่ นยุคปั จจุบนั ซูเม่ยก็คงจะได้เป็ นนางแบบ อีกทั้งยังเป็ น
นางแบบที่น่าหลงใหล
แค่คาชมเพียงคาเดียวก็ทาเอาซูเม่ยล่องลอยไปแล้ว ท่ามกล่ามหิ มะ
ตกหนานางกลับหัวเราะอย่างร่ าเริ ง นางยืน่ มือมาเกาะหัวไหล่ของตู๋กู
ซิงหลันไว้ แนบใบหน้าลงบนหัวไหล่ของนาง สู ดดมกลิ่นดอกฮว๋ า
ยหอมอวลที่มาจากร่ างของนาง
” อาหลัน เจ้าน่ารักมากกว่าแต่ก่อนเสี ยอีก”
ตู๋กูซิงหลัน “??? ” นับตั้งแต่มาอยูใ่ นโลกนี้ นี่เป็ นครั้งแรกที่มีคนชม
ว่านางน่ารัก
ตอนที่ 144 ข้ ารู้จักเจ้ าก่อนจีเย่ ว์เสี ยอีก
“เสี่ ยวซูเฟย เจ้าไม่ไปเกาะแกะฝ่ าบาท แต่มาตามติดข้ายังงั้นหรื อ? ”
ตู๋กซู ิงหลันมองใบหน้าสาวน้อยที่อ่อนเยาว์ แล้วก็อดที่จะขนลุก
ขึ้นมาอย่างแปลก ๆ ไม่ได้
บรรยากาศเช่นนี้ทาไมถึงได้รู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูกต้องกันนะ?
ชาติก่อนนางก็ไม่ได้มีเพื่อนหญิงที่ก๊กุ กิ๊กสนิทสนมกัน จึงไม่ค่อยจะ
รู ้วา่ พวกสาว ๆ เขาทาอะไรกันบ้าง
คงจะเป็ น จับมือควงกัน เอาหัวพิงบ่า ทาเสี ยงงุง้ งิ้ง ๆ กันใช่ไหม?
ซูเฟยถูกนางถามเสี ยจนชะงักไป ” อ๋ า? ” ทาไมนางจะต้องไป
เกาะแกะฮ่องเต้ดว้ ย?
” เจ้ามาที่ตาหนักตี้หวั ไม่ใช่เพื่อมาหาฝ่ าบาทหรื อ? ” ตู๋กูซิงหลันพูด
พลางก็เงยหน้าขึ้นไปมองดูระเบียงบนพระตาหนักตี้หวั ไปด้วย
เมื่อมองขึ้นไป ก็พอดีสบตากับอันหว่านจือที่มองจ้องมา
ซูเม่ยกอดแขนของนางเอาไว้ไม่ยอมปล่อย “อาหลัน ข้าจะไปหาเจ้า
ต่างหาก “
ว่าแล้วนางก็คอ้ นควักใส่ ดว้ ยความผิดหวัง ” เจ้าอยากให้ขา้ ไปหาฝ่ า
บาทมากนักหรื อไง? “
ตู๋กซู ิงหลัน “………” ไม่ใช่หรื อ เจ้าทาท่าผิดหวังทาไม? ไปหา
ฮ่องเต้เป็ นหน้าที่ของเจ้านี่น่า! เจ้าเป็ นกุย้ เฟยมิใช่หรอ คุณพี่ซู!
ซูเม่ยน้อยใจยิง่ นัก “พวกเราเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ที่จริ งแล้ว….
ข้ารู ้จกั เจ้าก่อนจีเย่วเ์ สี ยอีก”
ดู ๆ ๆ อยูด่ ี ๆ จะไปพูดถึงจีเย่วข์ ้ ึนมาทาไม?
คนก็ถูกเอาไปปล่อยทิ้งไว้ถึงซีเหลียงโน้นแล้ว ขอร้องพวกเจ้าปล่อย
จีเย่วไ์ ปเถอะ
“ตอนที่เจ้ายังเป็ นเด็กทารก ข้าก็เคยอุม้ เจ้าด้วยตนเอง ” ซูเม่ยพูด
ต่อไป เสี ยงของนางทั้งห้าวทั้งน่าจักกระจี้ เมื่อเป่ าอยูท่ ี่ขา้ งหูของตู๋กู
ซิงหลัน ก็ทาเอากระดูกทัว่ ร่ างของตนคันยุบยิบไปหมด
แต่วา่ กลับต้องยอมทนให้นางเป่ าลมหายใจเข้าหูตนเองต่อไป “หาก
ไม่ใช่เพราะว่าเจ้าแต่งให้กบั อดีตฮ่องเต้ ข้าก็คงไม่ยอมเข้าวังมาแน่”
ตู๋กูซิงหลัน “??? “
ทาไมนางถึงได้รู้สึกว่าบรรยากาศนี้ยงิ่ ทียงิ่ แปลก ๆ ไปแล้ว?
ซูเม่ย พึ่งจะอายุสิบแปดสิ บเก้าปี เองไม่ใช่หรื อ?
………………………….
ในพระตาหนักตี้หวั จีเฉวียนพักผ่อนงีบไปครู่ หนึ่ง เขาฝันไป ฝัน
เห็นตู๋กซู ิงหลัน ฝันเห็นภาพวันที่เขาจูบวันนั้น
จูบที่อยูใ่ นความฝันนั้นยังลึกซึ้งยิง่ กว่าวันนั้นเสี ยอีก ยังนานกว่าด้วย
ที่จริ งแล้ว……ก็เป็ นภาพที่ไม่ค่อยจะเหมือนจริ งสักเท่าไหร่
จนกระทั้งยามที่เขาตื่นขึ้นมา ก็รู้สึกว่ากางเกงของตนเองอยู่ ๆ ก็สี
เข้มขึ้นมาแถบหนึ่ง
จีเฉวียนนัง่ อยูบ่ นเก้าอี้นอน นวดคลึงขมับ…..ท่ามกลางฤดูหนาวแท้
ๆ เขากลับล้างหน้าด้วยน้ าเย็น แถมยังแช่มือทั้งสองข้างลงในน้ าปน
น้ าแข็งที่เย็นจัดอีกด้วย หลังจากที่แช่อยูพ่ กั ใหญ่ กระทัง่ ความเย็นยะ
เยือกนั้นแทรกซึมไปถึงกระดูก เขาถึงได้ยกมือที่แดงก่าคู่น้ นั ออกมา
หยวนเฟยที่ทางานผลัดวันประกันพรุ่ งผูน้ ้ นั นานจนป่ านนี้แล้วก็ยงั
หาตัวหมอผีไม่ได้สกั คน เกรงว่าแม้แต่เงินเดือนของปี ถัดไปก็คงจะ
ไม่ตอ้ งการแล้ว
พอได้ยนิ ว่าที่ดา้ นนอกมีเสี ยง เขาเปลี่ยนชุดเป็ นเสื้ อผ้าที่สะอาด
สะอ้านชุดหนึ่งแล้วก็เดินออกไป พอพึ่งจะเดินถึงระเบียงของ
ตาหนักตี้หวั ก็มองเห็นว่าบนพื้นหิมะนั้นมีสตรี เยาว์วยั สองคนในชุด
แดงและชุดเขียวกาลังโอบกอดกันอย่างสนิมสนม
ท่ามกลางหิมะตกหนักโปรยปราย ทั้งสองคนกลับไม่ถือร่ มเอาไว้
ยืนอยูท่ ่ามกลางหิมะเช่นนั้นโดยไม่สนใจสายตาผูใ้ ด
ภายใต้แสงจันทราสาดส่ อง เหตุการณ์เบื้องหน้าคล้ายดังภาพวาดใบ
หนึ่ง
คราวนี้ซูเม่ยไปกันใหญ่แล้ว สองมือของนางโอบเอวของตู๋กซู ิงหลัน
เอาไว้ กระซิบอยูท่ ี่ริมหูของนางเบา ๆ ว่า ” อาหลัน นับตั้งแต่เจ้าเกิด
มา ข้าก็จอ้ งเจ้าเอาไว้แล้ว มันเหมือนกับว่าข้ารอเจ้ามานานแล้ว “
ตู๋กูซิงหลัน “!!! “
” ไม่รู้วา่ ทาไม ตอนนี้ยงิ่ รู ้สึกว่าชอบเจ้าเข้าแล้ว คล้ายกับว่าพึ่งจะรู ้จกั
เจ้า และก็เหมือนกับว่ารู ้จกั เจ้ามานานแล้ว”
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่าขนลุกซู่ไปทัว่ ทั้งร่ าง นางรู ้สึกว่าตนเองกาลังโดน
กลัน่ แกล้งเข้าแล้ว
จริ ง ๆ นะ ที่ผา่ นมามีแต่นางคอยกลัน่ แกล้งผูอ้ ื่น
นางกลืนน้ าลายลงไปเงียบ ๆ คาหนึ่ง พลิกมือคิดจะหลบหลีกปลาย
คางของนาง พอยกมือขึ้นมาบัง ก็ถูกซูเม่ยคว้าเอาไว้ท่ามกลางลาน
กว้างเช่นนี้ มือของนางข้างหนึ่งคว้ามือตู๋กซู ิงหลัน มืออีกข้างก็โอบ
เอวนาง จากนั้นก็จูบหนัก ๆ ลงไปบนแก้มของนางครั้งหนึ่ง
สี ผ้ งึ ที่สดเข้มบนริ มฝี ปากประทับลงบนใบหน้าของตู๋กูซิงหลัน จน
เห็นได้อย่างชัดเจน
ตู๋กซู ิงหลันถูกนางจูบจนตะลึงไปแล้ว ซูเม่ยก็ยนิ ดีจนหัวเราะออกมา
“อาหลัน ข้ายิง่ ได้เห็นเจ้ายิง่ รู ้สึกว่าน่ารักใหญ่แล้ว”
ก่อนหน้านี้มีจีเย่วค์ อยขวางทางอยู่ คอยแต่จะทาตัวใกล้ชิดเกาะติด
กับอาหลัน นางจึงไม่มีโอกาสแม้แต่นอ้ ย ยามนี้ไม่มีหินขวางเท้านัน่
แล้ว หากนางคิดจะจูบอาหลันก็จูบได้เลยมิใช่หรื อ?
ที่จริ งแล้วพอโตขึ้นมา จานวนครั้งที่นางและอาหลันได้พบหน้ากันก็
น้อยลงไปมาก เนื่องเพราะองค์ชายที่ท้ งั สองตระกูลสนับสนุนไม่
เหมือนกัน เมื่อยืนอยูก่ นั คนละฝ่ าย ต่อให้นางคิดจะเจออาหลันก็ได้
แต่ตอ้ งคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ
พอเข้าวังมาแล้ว ก็เพราะเหตุน้ ีทาให้นางต้องเดินทางไปเขาจงหลิง
มารอบหนึ่ง
ยามนี้ดีแล้ว นางกลับมาแล้ว ต่อไปก็สามารถจะอยูก่ บั อาหลันได้
ตลอดเวลา
พอคิดถึงตรงนี้ ซูเม่ยก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ พอมองดูต๋ ูกซู ิงห
ลันที่เตี้ยกว่าตนเองอยูค่ รึ่ งศีรษะ ก็อดที่อยากจับนางมาหมุน ๆ ไป
รอบ ๆ ไม่ได้
อันหว่านจือมองดูอยูบ่ นระเบียง ก็รู้สึกว่าสตรี ท้ งั สองทาตัว
ประหลาดนัก อยูบ่ นลานกว้างท่ามกลางสายตาผูอ้ ื่นแท้ ๆ กลับทา
อะไรประเจิดประเจ้อ!
นางหัวเราะเย้ยหยันออกมาดัง ๆ ” เย้ยฟ้าท้าดินนัก! “
พูดไปไม่ทนั ขาดคา นางก็รู้สึกว่าที่ดา้ นหลังมีไอเย็นหอบหนึ่งพัดเข้า
มา พอนางหันกลับไป ก็เห็นฝ่ าบาทเดินออกมาด้วยสี พระพักตร์ที่
เย็นชา สี หน้านั้นคล้ายดัง่ กับว่าผูค้ นทัง่ โลกต่างติดค้างพระองค์ จน
พระองค์คิดอยากจะเผาทาลายโลกเสี ยอย่างนั้น
อันหว่านจือตระหนกเสี ยจนต้องถอยหลังไปอีกด้านหนึ่ง “ฝ่ าบาท
ไทเฮากับซูเม่ยเอาแต่กอดรัดกันไปมาอยูอ่ ย่างนี้ บ่าวห้ามอย่างไรก็
ไม่ยอมฟังเพคะ”
เพราะเกรงว่าน้ ามันที่สาดลงบนไฟนี้จะไม่แรงพอ อันหว่านจือก็รีบ
พูดต่ออีกว่า “เป็ นถึงไทเฮาและกุย้ เฟยของแคว้นหนึ่ง กลับ
แสดงออกเช่นนี้ที่หน้าพระตาหนักของฝ่ าบาท ช่างไม่น่าดูเอา
เสี ยเลย มีแต่รู้จกั ทาให้ฝ่าบาทขายพระพักตร์ “
“ฝ่ าบาทควรที่จะ….”
นางพูดยังไม่ทนั จบ ก็ได้ยนิ จีเฉวียนตรัสเสี ยงเย็นเฉี ยบว่า “หุบปาก”
อันหว่านจือทั้งน้อยใจทั้งหวาดกลัว นางอ้าปากค้าง สุ ดท้ายก็กลืน
คาพูดที่ยงั กล่าวไม่จบสิ้ นนั้นลงไป
ที่นางพูดออกมาล้วนแต่เป็ นความจริ ง ไยฝ่ าบาทถึงได้มาลงเอากับ
นางกันนะ?
หลายวันนี้นางปรนนิบตั ิอยูข่ า้ งพระวรกายมาตลอด ถึงแม้วา่ ฝ่ าบาท
จะมิได้ให้ความสนิทสนมกับนาง แต่กไ็ ม่เคยจะตวาดใส่ นางเช่นนี้
มาก่อน
อันหว่าจรื อมองดูสตรี ท้ งั สองคนด้วยสายตาเคียดแค้น จะต้องเป็ น
เพราะว่าพวกนาง ฝ่ าบาทถึงได้ทรงปฎิบตั ิต่อนางเช่นนี้!
นางอดที่จะกาหมัดของตนเองให้แน่นเข้าไม่ได้
ท่ามกลางหิมะ ตู๋กูซิงหลันและซูเม่ยต่างก็มองเห็นฮ่องเต้ที่อยูบ่ น
ระเบียงแล้ว
สี หน้าของตู๋กูซิงหลันสงบราบเรี ยบ แต่ดวงตาของซูเม่ยกลับปรากฎ
แววที่ถูกรบกวนแต่วา่ ไม่อาจพูดได้ข้ ึนมา
จีเฉวียนทอดพระเนตรมองพวกนางด้วยสายพระเนตรเย็นเฉี ยบอยู่
ครู่ ใหญ่ พอเห็นหน้าของตู๋กซู ิงหลัน ในสมองของเขาอยูก่ เ็ กิดภาพที่
จูบกันวันนั้นขึ้นมา แล้วยังจะมีความฝันเมื่อบ่ายนี้อีก ความรู ้สึกที่พ่ งึ
จะใช้น้ าเย็นกดลงไปอย่างไม่ง่ายนั้นก็พลุ่งพล่านขึ้นมาอีก
ทาให้เขาฮึดฮัดขึ้นมา คิดจะจับตัวตู๋กูซิงหลันกลับมา สัง่ สอนนาง
อย่างหนักแน่นสักรอบหนึ่ง
แต่เพราะได้เห็นสี หน้าที่เรี ยบนิ่งของนาง ทาให้ชื่อที่มารออยูบ่ นริ ม
ฝี ปากของเขา เปลี่ยนเป็ นซูเม่ยไป
” เจ้ามาหาเราที่นี่”
ซูเม่ยถูกเรี ยกชื่อขึ้นมา ก็รู้สึกไม่ดีไปทัว่ ทั้งร่ าง
” เราเรี ยกเจ้าแล้วไม่มาหรอกหรื อ? ” สี พระพักตร์ของจีเฉวียนยิง่ คล้ า
ลง ความโกรธกริ้ วที่อดทนเอาไว้ยงิ่ ใกล้จะระเบิดออกมา
คราวนี้ซูเม่ยถึงค่อยปล่อยตู๋กซู ิงหลันอย่างแสนเสี ยดาย เดินขึ้นมาบน
ระเบียงทีละก้าว พอเดินถึงข้างกายของเขา ก็ถวายคานับลงไปครั้ง
หนึ่ง “ถวายพระพรฝ่ าบาท”
ซูเม่ยยืนอยูข่ า้ ง ๆ จีเฉวียน ก็เตี้ยกว่าพระองค์เพียงแค่ครึ่ งศีรษะ
เท่านั้น
ตอนที่ 145 ลงมือเอาให้ มันหมดสิ้นอิสระภาพไปเลย!
น้ าเสี ยงนั้นมิได้อ่อนโยนหรื อแข็งกระด้าง แต่วา่ ก็ไม่คล้ายท่าทีที่กยุ้
เฟยควรปฎิบตั ิต่อฮ่องเต้เลยแม้แต่นอ้ ย
จีเฉวียนขมวดพระขนงน้อย ๆ ดวงเนตรหงส์ท้ งั สองข้างจดจ้อง
มองดูอย่างหาจุดบกพร่ อง โดยเฉพาะเมื่อมองเห็นว่าบนร่ างของนาง
มีผา้ คลุมขนสัตว์ของตู๋กซู ิงหลันอยูแ่ ววตาของเขาก็ยงิ่ ทอประกาย
ขึ้นมาราวกับคมดาบ
” เจ้าโตจนขนาดนี้แล้วยังจะกลัวหนาว? ” จีเฉวียนตรัสแล้ว ก็มิได้
รอให้ซูเม่ยมีปฎิกิริยาใด ๆ ยืน่ มือออกไปกระตุกผ้าคลุมขนสัตว์ของ
นางออกมา พันเอาไว้บนมือของตนเอง
ซูเม่ย “……”
ผ้าคลุมถูกยึดไป นางย่อมไม่ยนิ ยอม จึงยิม้ แต่ปากแต่ดวงตาไม่ยมิ้
กล่าวว่า ” ฝ่ าบาทเพคะ ไทเฮาทรงห่วงใยหม่อมฉัน นี่เป็ นของที่
ไทเฮาทรงประทานให้ดว้ ยพระหัตถ์ หม่อมฉันอยากจะเก็บรักษา
เอาไว้ให้ดีดงั่ เป็ นสมบัติประจาตระกูล ขอฝ่ าบาททรงประทานคืน
ด้วยเพคะ “
พูดแล้ว นางก็ยนื่ มือออกไปขอรับคืนจากเขา
จีเฉวียนทาเหมือนมองไม่เห็นนาง ทอดสายตาออกไปบนร่ างของตู๋กู
ซิงหลันที่อยูใ่ ต้ระเบียง
พอเห็นรอยประทับจูบสี แดงบนแก้มของนาง เขาก็รู้สึกกริ้ วขึ้นมา
อย่างไร้สาเหตุ กล่าวกับตู๋กูซิงหลันโดยเฉพาะว่า “ไทเฮาทราบมา
ตลอดว่าเรากลัวหนาว ผ้าคลุมขนสัตว์น้ ี เจ้าบอกมาสิ วา่ จะให้ใคร? “
ตู๋กูซิงหลันถึงกับพูดไม่ออก พี่ชาย บนตัวท่านสวมใส่ เสื้ อหนาวตัว
ใหญ่อยูแ่ ท้ ๆ !
นางหยิบร่ มบนพื้นขึ้นมา ถือร่ มหันไปทางเขาแล้วกล่าวว่า “หากว่า
ฝ่ าบาทโปรดละก็ ข้าจะกลับตาหนักไปหยิบมาถวายอีกชิ้นก็แล้ว
กัน”
พูดแล้ว ก็หมุนตัวนาเจ้าไก่ขนฟูเตรี ยมจะเดินกลับไป
แต่วา่ เพียงก้าวขาออกไปก้าวเดียว ก็ได้ยนิ เสี ยงจีเฉวียนรั้งเอาไว้ “เรา
อนุญาตให้เจ้าไปได้แล้วหรื อ? “
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็ฟังออกว่าน้ าเสี ยงของพระองค์แฝงความโกรธ
กริ้ ว
อันหว่านจือก็รีบกระพือลมเติมไฟ “ฝ่ าบาท ไทเฮากับซูกยุ้ เฟยมี
น้ าใจสนิทสนมกันสู งล้ ายิง่ กว่าเงินทอง นางย่อมจะต้องเห็นว่าซูกยุ้
เฟยนั้นสาคัญกว่า นี่เห็นชัดเลยนะเพคะว่าพระองค์ไม่อาจเทียบกับ
คนที่เป็ นยอดดวงใจของนางได้”
ซูเม่ยยืนอยูด่ า้ นข้าง ที่จริ งแล้วที่อนั หว่านจือพูดมานั้นนางก็ชอบฟัง
อยู่
ในหัวใจของอาหลัน จะต้องเห็นนางสาคัญกว่าแน่นอน
ถึงแม้วา่ คนที่อาหลันชอบจะเป็ นจีเย่ว์ แต่วา่ ตอนนี้จีเย่วก์ ไ็ ม่อยูแ่ ล้ว
ดังนั้นในวังนี้ นางก็คือผูท้ ี่สาคัญที่สุดในใจของอาหลัน
จีเฉวียนหันไปสาดประกายดาบในพระเนตรใส่ อนั หว่านจือ อัน
หว่านจือก็รีบหุบปากลงในทันที พลางน้อยอกน้อยใจ จนต้องถอย
หลังไปหลายก้าว
ทาไมฝ่ าบาทถึงได้ไม่อยากจะสดับฟังความจริ งกัน?
แต่คิด ๆ ดูแล้ว ในเมื่อฝ่ าบาททรงพิโรธถึงขนาดนี้แล้ว ตู๋กซู ิง
หลันนัน่ จะต้องไม่รอดไปแน่ คอยดูเถอะ ฝ่ าบาทจะต้องจัดการนาง
แน่นอน
นางคิดว่าตัวเองเป็ นไทเฮาแล้วจะยิง่ ใหญ่นกั หรื อไง?
ในแผ่นดินต้าโจวนี้ ไม่มีผใู ้ ดที่มีอานาจเหนือกว่าฝ่ าบาท เป็ นไทเฮา
แล้วอย่างไร? หากว่าฝ่ าบาทไม่พอพระทัย ย่อมจะทรงมีวิธีมากมาย
มาจัดการนาง
เพราะถึงอย่างไรนางก็ไม่ใช่พระมารดาแท้ ๆ
ตู๋กซู ิงหลันถือร่ มหันหลังให้กบั จีเฉวียน เท้าของนางยังไม่ทนั จะได้
ก้าวออกไป ที่หวั ไหล่พลันรู ้สึกได้ถึงฝ่ ามือขนาดใหญ่ที่วางลงมา
ความเย็นเฉียบนั้นแทกซึมทะลุเนื้อผ้าลงสู่ ร่างกายของนาง จน
สะท้านไปจนถึงกระดูก ยังเย็นเฉียบเสี ยยิง่ กว่าหิ มะเสี ยอีก
นางค่อย ๆ หันหน้ากลับไป ก็เห็นว่าปลายนิ้วสี แดงที่ดูผดิ ปกติน้ นั
แตกเป็ นแผลเพราะถูกความเย็นกัดทาลายเสี ยแล้ว
ครู่ ต่อมาอยู่ ๆ ร่ างกายก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ที่แท้จีเฉวียนเอาผ้าคลุม
ขนสัตว์ผืนนั้นคลุมบนร่ างของนาง เขาโน้มพระองค์ลงมา ริ มพระ
โอษฐ์แทบจะสัมผัสกับใบหูของนาง ท่าทางที่แสดงออกอบอุ่น
อ่อนโยน แต่กลับตรัสเป็ นการเตือนว่า “ตู๋กซู ิงหลัน อยูใ่ ห้ห่างจาก
สนมของเราหน่อย “
ตู๋กซู ิงหลันชะงักค้างไปครู่ หนึ่ง ฟ้าดินโปรดเมตตาด้วยเถอะ รอบนี้
นางไม่ได้เป็ นฝ่ ายลงมือก่อนเลยนะ!
จีเฉวียนทางหนึ่งตรัสไป ทางหนึ่งก็คลุมผ้าให้นางอย่างแน่นหนา แม้
กระทั้งเศษหิมะบนเส้นผมของนางก็ยงั ช่วยปั ดออกไปให้
ดวงเนตรหงส์คู่น้ นั ยังไม่วายจดจ้องอยูบ่ นรอยจูบสี แดงบนข้างแก้ม
ของนาง หากว่ามีดาบละก็ เกรงว่าเขาคงจะต้องคว้าดาบมาเฉื อนรอบ
นัน่ ทิ้งไปแล้ว
เขายกมือขึ้นมา พอมองเห็นว่ามือของตนเองแตกจนผิวลอกแล้ว ก็
ได้แต่ขมวดคิ้วน้อย ๆ ค่อยดึงมือเก็บกลับไป
” หากว่าคราวหน้ายังให้เราได้รู้อีกว่าเจ้าพัวพันใกล้ชิดสนิทสนมกับ
สนมของเราอีกละก็ เราจะให้เจ้าได้ร้องไห้ขอความเมตตาเป็ นแน่”
วิญญาณทมิฬ ” เอาละโว้ย อาหลัน เจ้าฮ่องเต้สุนขั คิดไม่ดีกบั เจ้าเข้า
แล้ว เชิญลงมือเอาให้มนั หมดสิ้ นอิสระภาพไปเลย ขอบคุณมาก! “
ปกติมนั เห็นมีแต่ภาพที่ฝ่ายหญิงมาร้องไห้ออ้ นวอนฝ่ ายชาย ล้วนแต่
เป็ นเรื่ องที่เกิดขึ้นบ่อยตามละครรักที่ฉายในประเทศ
เจ้าฮ่องเต้สุนขั นี่บงั อาจเกิดความคิดชัว่ ร้ายแบบนั้นกับหลันหลัน
ขึ้นมา!
สมองของตู๋กซู ิงหลันกับเจ้าวิญญาณทมิฬมิได้ต้ งั อยูบ่ นถนนเส้น
เดียวกันเลย จีเฉวียนบอกว่าจะทาให้นางต้องร้องขอความเมตตา
แน่นอนเลยว่าจะต้องวางแผนทากับดักจัดการนางอย่างเด็ดขาด
นานอีกพักใหญ่นางจึงค่อยหันกลับมา มองดูเขาอย่างไม่หลบหลีก
“ฝ่ าบาท พระองค์ทรงหึงหวงหรื อ? “
นางถือร่ มเอาไว้ในมือ มิได้กล่าวอะไรกับจีเฉวียนอีก ปล่อยให้เขา
ถูกลมและหิมะพัดพา
นางไม่เคยเห็นจีเฉวียนให้ความสนใจกับสนมคนใดมาก่อน เดิมทียงั
คิดว่าเขาเป็ นบุรุษในบุรษ ชื่นชอบแต่บุรุษด้วยกันเท่านั้น คิดไม่ถึง
เลยว่าเขาจะเป็ นพวกชอบทั้งสองเพศ ทางหนึ่งก็งุบ ๆ งิบ ๆ กับ
ราชครู อีกทางก็ยงั มีซูเม่ยอยูใ่ นหัวใจด้วย
คิดดูแล้วก็ใช่อยู่ ซูเม่ยเป็ นสาวงามที่น่าหลงใหลขนาดนั้น แม้แต่ตวั
นางเห็นแล้วก็ยงั จะอดใจไม่ได้ อย่าว่าแต่จีเฉวียนที่เป็ นบุรุษด้วยเลย
ผูค้ นบอกว่าจากกันสั้น ๆ เสมือนหนึ่งคู่แต่งงานใหม่ เขาไม่ได้พบ
หน้าซูเม่ยมาตั้งนาน คาดว่าคงจะคิดถึงอย่างมากมาย พบเห็นสนม
ของตนเองมาทาท่าทางสนิทสนมกับนางก็คงจะเกิดความหึ งหวง
ขึ้นมาบ้าง
จีเฉวียนถูกคาถามของนางทาเอางุนงงไปแล้ว หึงหวง?
ตัวเขาจีเฉวียนเกิดมาชาติน้ ียงั ไม่เคยรักชอบผูใ้ ด จะให้ไปหึ งหวง
อะไร?
แต่วา่ เมื่อถูกตู๋กซู ิงหลันถามด้วยท่าทีที่จริ งจัง ทั้งยังทาท่าคล้ายกับ
กาลังรอคอยคาตอบจากเขา
หัวคิว้ ก็ขมวดมุ่นกว่าเดิม ” ทีตวั เจ้ายังชอบจีเย่วไ์ ด้ แต่วา่ กลับไม่ยอม
ให้ในใจเรามีสนมใดหรื อ? ตู๋กซู ิงหลัน เจ้าชักจะยุง่ มากเกินไปแล้ว
นะ? “
ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกสงสัยจีเฉวียนอยูห่ ลายวินาที คนก็ไปตั้งไกลแล้ว ยัง
ไม่วายถูกลากกลับมาอีก
พอได้ยนิ เขาออกปากว่าในใจมีซูเม่ยอยู่ นางยิม้ หวานออกมาอีกครั้ง
ยิม้ จนหัวคิว้ หางตาโค้ง สดใสประหนึ่งแสงอาทิตย์อนั อบอุ่น
นางถึงขนาดมีน้ าใจส่ งร่ มให้เขาถือเอาไว้ จะได้ป้องกันละลองหิ มะ
ที่โปรยปรายลงมา “เสี่ ยวซูเฟยงดงามจริ ง ๆ เหมาะสมกับฝ่ าบาท
อย่างยิง่ ฝ่ าบาทมีคู่ครองที่เหมาะเจาะกันเช่นนี้ ข้าที่เป็ นมารดาก็
วางใจได้แล้ว “
นางลองสมมุตภาพลูกของจีเฉวียนกับซูเม่ยที่จะเกิดมาอยูใ่ นหัว คน
ก็รู้สึกปลอดโปรงโล่งสบายไปทั้งตัว
เจ้าตุ๊กตาที่คนงามทั้งคู่สร้างขึ้นมา นัน่ ร้อยทั้งร้อยจะต้องเป็ นตัวน้อย
ที่งดงามน่ารักแน่ ๆ หากต่อไปได้เอามาอุม้ เล่นบ่อย ๆ คิด ๆ ดูแล้ว
ชีวิตช่างดีเสี ยนี่กระไร
จีเฉวียนเห็นรอยยิม้ ของนาง เขาก็คิดจะยอกย้อนใส่ นางดูบา้ ง
พอฟังว่าในใจเขามีคนอื่น นางก็มีปฎิกิริยาเช่นนี้? ดีอกดีใจ?
ตู๋กซู ิงหลันไม่รู่เลยว่าเขากาลังคิดอะไรอยู่ สายตาของนางกวาดตาดู
เขาจนทัว่ ตัว ก็ลดเสี ยงเบาลงกล่าวคาพูดจากใจจริ งว่า ” ฝ่ าบาท พอ
แผลของพระองค์หายดีแล้ว จะต้องเสริ มกาลังเพิ่มความขยันให้มาก
ๆ จะได้ให้หม่อมฉันมีหลานมาอุม้ เล่นไว ๆ “
สี พระพักตร์เย็นชาของจีเฉวียนแทบจะกลายเป็ นพายุหิมะขึ้นมาแล้ว
เขาจดจ้องมองดูต๋ ูกซู ิงหลัน “เจ้าคาดหวังให้เราโปรดปรานเหล่า
สนมงั้นหรื อ? “
ตู๋กูซิงหลัน ” อ๋ า? ถ้าฝ่ าบาทไม่โปรดสนมทั้งหลาย เช่นนั้นหม่อมฉัน
จะไปเอาพระราชนัดดามาจากที่ไหนกัน? “
สตรี ที่สมควรตาย!
ในพระทัยของจีเฉวียนนั้นอยากจะจับนางมาฟาดให้ตายไปหลาย
รอบจนนับไม่ถว้ นแล้ว แต่พอมองดูดวงตาดอกท้อคู่น้ นั ของนาง ก็
ได้แต่นิ่งค้างไปกระทัง่ จะโกรธก็ยงั ไม่รู้จะแสดงออกมาอย่างไรดี
พระองค์ได้แต่ฉีกยิม้ ให้กบั ตู๋กซู ิงหลัน ” ถ้าเช่นนั้นก็ให้สมดังพระ
ประสงค์ของไทเฮา “
ว่าแล้ว พระองค์กต็ รัสเรี ยกซูเม่ยด้วยพระสุ รเสี ยงดัง “ซูกยุ้ เฟย “
ซูเม่ยนัน่ ติดตามเขาลงมาบันไดมาด้วย เพียงแต่อยูห่ ่างไปด้านหลัง
พอสมควร นางรู ้สึกได้วา่ ตลอดทั้งร่ างของจีเฉวียนนั้นกาลังพยายาม
อดกลั้นต่อเพลิงพิโรธอย่างที่สุดแล้ว ดังนั้นหากว่าไม่มีเรื่ องใด นาง
ย่อมไมีกล้าผลีผลามออกไปแหย่เขาอย่างแน่นอน
เพียงแต่ยามที่เห็นจีเฉวียนเข้าใกล้อาหลัน ในใจของนางก็รู้สึกอึดอัด
ไม่สบายขึ้นมา เจ้าบุรุษหยาบช้าผูน้ ้ ี คิดจะทาอะไรอาหลันกัน?
ขณะที่ในใจของนางกาลังสับสนวุน่ วายอยูน่ ้ นั พลันได้ยนิ จีเฉวียน
ตรัสออกมาด้วยน้ าเสี ยงทรงพลังว่า “คืนนี้เจ้ามาที่ตาหนักตี้หวั ถวาย
ตัว! “
ตอนที่ 146 คืนนี้ เจ้ าต้ อทาตัวให้ ดี
ซูเม่ย “!!! “
สุ รเสี ยงของจีเฉวียนดังกังวานขนาดนั้น แม้กระทัง่ อันหว่านจือที่ยนื
อยูเ่ หนือขั้นบันไดยังได้ยนิ อย่างชัดเจน นางหน้าเปลี่ยนสี ไปในทันที
วิ่งตึง ๆ ลงมาอย่างรวดเร็ ว
ก็ได้ยนิ ฝ่ าบาทรับสัง่ เสริ มต่อไปอีกว่า “เจ้าสนิทสนมกับไทเฮามา
โดยตลอด ย่อมไม่อาจทนเห็นนางโดดเดี่ยวอยูใ่ นตาหนักเฟิ่ งหมิง
ได้”
จีเฉวียนตรัสไปสายพระเนตรก็จบั จ้องตู๋กซู ิงหลันโดยมิได้กระพริ บ
” จงรี บตั้งครรภ์มีพระราชนัดดาในเร็ ววัน จะได้เอามาอยูเ่ ป็ นเพื่อน
ไทเฮา ไม่ให้ทรงเปล่าเปลี่ยวอ้างว้าง”
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกผิดคาดไปอยูบ่ า้ ง เจ้าฮ่องเต้องค์น้ ีจะรี บร้อนไป
หน่อยไหม?
สี หน้าของนางจึงดูกลัดกลุม้ ไปเล็กน้อย
พอเห็นสี หน้าที่กลัดกลุม้ ของนาง ความโกรธเกรี้ ยวในพระทัยของจี
เฉวียนก็เบาบางลงไป ” ว่าไง เจ้าสานึกเสี ยดายแล้ว? “
ตู๋กซู ิงหลันรี บส่ ายศีรษะ นางลดเสี ยงเบาลงไปอีก เขย่งเท้าขึ้น
กระซิบถึงข้างพระกรรณ ให้มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยนิ ”
ฝ่ าบาท ตรงนั้นของท่านยังไม่ค่อยจะหายดี หม่อมฉันเกรงว่า
พระองค์จะไม่ไหว กลัวจะเกิดบาดเจ็บขึ้นมาอีก หรื อไม่อาจทาให้
เสี่ ยวซูเฟยพึงพอใจ…. “
คาพูดของนางยังไม่ทนั จบ จีเฉวียนก็สบัดพระหัตถ์ซดั ฝ่ ามือใส่ ลา
ต้นของต้นกุย้ ที่อยูข่ า้ งพระองค์ในทันที
บอกว่าเขาไม่ไหว?
ฝ่ ามือนี้ใช้ออกด้วยกาลังรุ นแรงอย่างยิง่ ทาเอาลาต้นของมันโยก
คลอนไปมา หิมะที่เกาะอยูด่ า้ นบนก็ร่วงพรู ลงมาจนหมดราวกับ
เกล็ดน้ าแข็งที่โดนทุบจนแตกกระจาย
” ระวัง! ” ซูเม่ยรี บโผเข้าไปที่ขา้ งตัวตู๋กซู ิงหลัน คิดจะดึงตัวนาง
ออกมา
แต่วา่ นางยังคงเคลื่อนไหวช้าไปก้าวหนึ่ง
เพียงทันเห็นแค่ฮ่องเต้ดึงรั้งตู๋กซู ิงหลันเข้าไปในอ้อมพระพาหา ยก
พระหัตถ์ข้ ึนเป็ นฉากกาบังให้นาง แต่พระองค์เองกลับถูกหิ มะหล่น
ใส่ ท้ งั ร่ าง
เดิมทีพระวรกายของพระองค์กแ็ พ้ความหนาวอยูแ่ ล้ว ก่อนหน้านี้ยงั
แช่พระหัตถ์ลงในน้ าที่เย็นจัด ยามนี้ยงิ่ ถูกหิ มะกระหน่าใส่ ลงมาอีก
เพียงชัว่ เวลาสั้น ๆ ตลอดทั้งพระองค์กเ็ ย็นเฉี ยบราวกับก้อนน้ าแข็ง
ที่ถูกขุดออกมา
ตู๋กซู ิงหลันถูกเขากอดเอาไว้ในอ้อมแขน ใบหน้าแนบกับอ้อมอก
ถึงแม้จะเป็ นผ้าฝ้ายหนา ๆ แต่กย็ งั ได้ยนิ เสี ยงหัวใจของเขาอย่าง
ชัดเจน
หัวใจที่เต้นแรงและเร็ วมาก
” ฝ่ าบาท พระองค์เป็ นอย่างไรบ้างเพคะ? ” อันหว่านจือรอจนหิ มะ
ร่ วงลงมาจนหมะแล้วจึงได้วงิ่ เข้าไป
นางล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกมาจากอกเสื้ อ เขย่งปลายเท้าขึ้น
คิดจะปัดหิมะที่อยูบ่ นพระองค์ออกไป
จีเฉวียนถลึงพระเนตรใส่ นาง ทาเอามือของนางชะงักค้างอยูต่ รงนั้น
ในชัว่ แวบนั้นเอง นางรู ้สึกว่าหากตนเองแตะต้องพระองค์ มือทั้ง
สองข้างของนางมีหวังถูกพระองค์ตดั ทิ้งอย่างแน่นอน
พระบารมีของฮ่องเต้เป็ นสิ่ งที่นางไม่สามารถอาจเอื้อมหรื อสัมผัสได้
เลย
ในใจของนางบังเกิดความหวาดกลัวอย่างไร้ที่มา จึงตัดสิ นใจถอย
ออกไปอีกก้าวหนึ่ง
ได้แต่อาศัยดวงตาทั้งคู่ทิ่มแทงตู๋กซู ิงหลันที่ยงั ซุกอยูใ่ นอ้อมพระ
พาหา
เป็ นเพราะมันอีกแล้ว!
มันทาตัวเป็ นบัวขาวดอกใหญ่!
เบื้องหน้าทาเหมือนมิได้ใส่ ใจใยดีฝ่าบาท แต่ทุกความเคลื่อนไหว
ของนางกลับซอกซอนเข้าไปในพระทัยของพระองค์ ล่อลวงไป
กระทัง่ พระวิญญาณ!
ดู๊ดูเอาเถอะ ดูที่พระองค์ทรงกระทา หากเมื่อครู่ ที่ตกลงมาจากฟ้าเป็ น
ฝนดาบ เกรงว่าพระองค์กย็ งั คงรับเอาไว้แทนนางแล้ว
นังคนนี้ช่างรู ้จกั เล่นละครนัก ตั้งแต่ตอนที่เจอกันที่ตาหนักเฟิ่ งหมิง
ตนเองก็ดูนางออกแล้ว
นังแพศยาผูน้ ้ ีเป็ นนางจิ้งจอกที่สามารถล่อลวงบุรุษได้เสี ยยิง่ กว่าซูเม่
ยอีก!
ในอ้อมพระพาหาของจีเฉวียน แค่ต๋ ูกูซิงหลันขยับมือ ก็สมั ผัสถูก
พระหัตถ์ของพระองค์ ฝ่ ามือเมื่อครู่ ทรงใช้พละกาลังอย่างเต็มที่ พระ
หัตถ์ที่เดิมมีบาดแผลจึงยิง่ ฉี กขาดจนพระโลหิตริ นไหล โลหิ ตนั้น
หยดลงบนหลังมือของนาง สี หน้าของตู๋กซู ิงหลันก็แปรเปลี่ยนไป
ในทันที
อีกแล้ว….นางรู ้สึกถึงพลังหยินที่ดึงดูดเอาภูติผีวิญญาณร้ายนับหมื่น
นับพันให้เข้ามาหา
ราวกับบ่วงในขุมนรกที่กดทับจนผูใ้ ดก็หายใจไม่ออก
สี หน้าของนางเปลี่ยนเป็ นยา่ แย่ นางคว้าพระหัตถ์ของพระองค์ไว้
ในทันทีปิดตาตนเองคิดจะอาศัยประสาทสัมผัสดาดึ่งลงไปให้รู้ แต่
กลับไม่สามารถสัมผัสสิ่ งใดได้เลย
ซูเม่ยที่เห็นเหตุการณ์อยูด่ า้ นข้าง ก็เผยดวงตาชัว่ ร้ายออกมา
นางประมาทจีเฉวียนเกินไปแล้ว
” ตู๋กซู ิงหลัน ปล่อย ” น้ าเสี ยงของจีเฉวียนเย็นชา ดึงพระหัตถ์ที่
บาดเจ็บกลับไปอย่างแรง
ขณะเดียวกันก็ปล่อยนางในทันที
” กลับไปเฝ้าตาหนักเฟิ่ งหมิงของเจ้าเสี ย ฤดูหนาวหิ มะแรง เดี๋ยวจะ
โดนฝังทั้งเป็ น”
พระองค์พยายามอดกลั้นต่อความหนาวสัน่ ที่กาลังจะจับแข็ง ผลักตู๋กู
ซิงหลันออกไป ตนเองก็กา้ วถอยไปอีกหลายก้าว
ท่ามกลางหิมะและอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ ตลอดพระองค์เย็นจัดดุจ
เดียวกับน้ าแข็ง ไม่วา่ ใครเข้าใกล้เพียงนิดเดียวเป็ นต้องถูกแช่แข็งไป
ด้วย
พระองค์เสด็จตรงไปยังบันได เพื่อกลับไปยังพระตาหนักตี้หวั พอ
เสด็จถึงบนระเบียงก็หนั พระพักตร์กลับมาทอดพระเนตรซูเม่ยแวบ
หนึ่ง
” ซูกยุ้ เฟย กลับไปอาบน้ าเปลี่ยนเสื้ อผ้าแต่งหน้าแต่งตัวเสี ยใหม่ ชุน
เอินเหนียนจะไปรับเจ้าที่ตาหนักชุ่ยเวยก่อนอาทิตย์ตกดิน “
ว่าแล้ว พระองค์กท็ รงเสริ มขึ้นอีกประโยคว่า “คืนนี้ เจ้าต้องทาตัวให้
ดี จะต้องมีลูกให้ได้ในคราวเดียว อย่าได้ทาให้ไทเฮาทรงผิดหวัง “
ซูเม่ยถึงกับริ มฝี ปากกระตุกอย่างแรง
แต่ดว้ ยฐานะของฮ่องเต้ทาให้นางมิอาจปฎิเสธออกไปได้ แม้สกั ครึ่ ง
คา ขอเพียงนางกล่าวว่าไม่ออกไปเพียงนิดเดียว ฝ่ าบาทย่อมต้องหัก
กระดูกนางจนป่ นไปเสี ยก่อน
นางได้แต่ยอ่ ตัวถวายคานับ ทูลตอบว่า ” เพคะ”
อันหว่านจือกลับอยากจะร้องไห้จนสลบไสลไปเดี๋ยวนี้เลย
ตลอดหลายวันมานี้นางคอยยกน้ าชาปรนนิบตั อยูใ่ นพระตาหนักตี้
หัว ทางานที่ต่าต้อยที่สุด ก็เพื่อจะได้ใกล้ชิดฝ่ าบาทให้มากขึ้น
ตลอดทั้งอาทิตย์นางพยายามส่ งสายตาทอดสะพานให้ฝ่าบาทอยู่
ตลอดเวลา แต่วา่ ฝ่ าบาทกลับคล้ายพระเนตรบอด แทบจะไม่เคย
มองดูนางอย่างเต็มตาเลยเสี ยด้วยซ้ า
ทาไม……ทาไมเพียงเพราะแค่นงั แพศยาตู๋กซู ิงหลันนัน่ ต้องการอุม้
พระราชนัดดา ก็จะต้องไปโปรดปรานซูเม่ยในทันทีหรื อ?
นางอุตส่ าห์ยอมทางานหัวปักหัวปาอยูต่ ้ งั นาน กลับกลายเป็ นการตัด
ชุดแต่งงานให้ผอู ้ ื่นไปเสี ยอย่างงั้น
นางเข้าวังมาก่อนนานพักใหญ่แล้ว ย่อมเคยได้ยนิ มาว่าฝ่ าบาทยังไม่
เคยแตะต้องพระสนมคนใดมาก่อนเลย
เดิมที…..นางต่างหากที่สมควรจะได้รับเลือกให้ถวายตัวเป็ นคนแรก
นางหันไปมองซูเม่ย และก็หนั ไปจ้องตู๋กซู ิงหลันอีก นางก็ตระหนัก
ได้ในทันทีวา่ สตรี สองคนนี้ จะต้องตั้งใจมาที่นี่เพื่อแสดงละครอย่าง
แน่นอน จุดประสงค์กเ็ พื่อจะได้โอกาสในการถวายตัว!
ตู๋กซู ิงหลันและซูเม่ย เป็ นนางจิ้งจอกฝูงเดียวกัน! พวกมันร่ วมมือกัน
วางแผนทั้งหมดนี้!
นางแค้นเสี ยจนจิกเล็บเข้าไปในฝ่ ามือ กัดฟัดเสี ยงกรอด ๆ นาง
จะต้องรี บกลับไปปรึ กษาวางแผนกับท่านย่า ไม่อาจปล่อยให้พวก
นางได้สมใจเด็ดขาด
ก่อนที่จีเฉวียนจะเสด็จเข้าพระตาหนักไป ก็ยงั ไม่ลืมที่จะหันมา
ทอดพระเนตรซูเม่ยอีกครั้ง “ตอนนี้ รี บกลับไปตาหนักชุ่ยเวยของเจ้า
ซะ”
ตอนแรกซูเม่ยยังคิดจะพัวพันตู๋กซู ิงหลันอีกสักเล็กน้อย แต่กลับถูก
พระองค์มีพระบัญชาลงมาเช่นนี้
หยูฟู่ก็รีบเข้ามาดึงเจ้านายของตนเอง ” พระสนมเพคะ พวกเรา
กลับไปก่อนเถอะเพคะ”
นางทางหนึ่งก็ลากดึงซูเม่ย ทางหนึ่งก็สุดแสนจะยินดี วันนี้พระสนม
เสด็จออกมาได้คุม้ ค่าเหลือเกิน ในที่สุดก็ถูกฝ่ าบาทเรี ยกไปถวายตัว
เสี ยที
ขอเพียงผ่านคืนนี้ไป พระสนมของพวกนางก็จะเป็ นสตรี คนแรกที่
ได้ถวายตัว ฐานะเช่นนี้สุดที่พระสนมคนอื่นคนใดจะมาเปรี ยบเทียบ
ได้
หากท่านอ๋ องและพระชายาได้ทรงทราบละก็ จะต้องดีพระทัยอย่าง
ที่สุดเป็ นแน่
ซูเม่ยหันไปมองดูต๋ ูกซู ิงหลันอย่างแสนเสี ยดาย แต่พอเห็นจีเฉวียน
จ้องมองมาที่นาง เมื่อรับพระบัญชามาแล้วก็มิกล้าขัดขืนอย่าง
เปิ ดเผย ได้แต่จายอมติดตามหยูฟู่กลับไป
จีเฉวียนรอจนซูเม่ยถอยไปจนหลับตาแล้ว จึงได้กลับพระตาหนักตี้
หัว ตู๋กซู ิงหลันยืนอยูท่ ี่เดิม นางยังคงครุ่ นคิดเรื่ องธาตุหยินที่ลึกลับ
ราวภูติผบี นร่ างของจีเฉวียนไม่ยอมหยุด ยามที่ได้สติกลับมานั้น ก็
เห็นว่าอยู่ ๆ อันหว่านจือก็มายืนอยูท่ ี่เบื้องหน้าของนางแล้ว
” ไทเฮาช่างมีฝีมือยิง่ นัก ตนเองไม่อาจได้มาครอบครอง ก็ไม่ยอมให้
ผูอ้ ื่นได้ไปครอง แถมยังส่ งคนที่ตนเองไว้ใจไปรับพระเมตตา หึ ๆ
อันหว่านจือนับถือท่านนัก “
อันหว่านจือหัวเราะอย่างมีลบั ลมคมนัย
ตู๋กซู ิงหลันกลับไม่ได้สนใจฟังคาพูดของนางเลยสักนิด พอได้พบ
อันหว่านจือนางถึงได้นึกสาเหตุที่ตนออกมาขึ้นมาได้ “สี ผ้ งึ ทาปาก
เจ้าเตรี ยมไว้แล้วหรื อยัง? วันนี้เรามาเพื่อจะขอรับด้วยตนเอง”
ตอนที่ 147 บุรุษล้วนชอบลองของใหม่
อันหว่าจรื อ “……..” นางคิดว่าตนเองชกออกไปเต็มแรง แต่ที่จริ ง
แล้วกลับชกลงไปบนปุยดอกฝ้าย
คาพูดของตนเอง นางแพศยาผูน้ ้ นั เห็นเป็ นแค่เพียงลมพัดผ่านหู
หรื อ?
” ขี้ผ้ งึ ทาปากอะไร? ” สี หน้าของนางเคร่ งขรึ มลง พูดอย่างอารมณ์
ไม่ดีเท่าไรนัก
ครั้งก่อนนางเพียงแต่เอ่ยปากไปเล่น ๆ เท่านั้น คิดไม่ถึงว่านางตัว
ร้ายผูน้ ้ ีจะมาทวงของกับตนโดยปราศจากความละอายเลยแท้จริ ง ๆ
?
เกรงว่าที่บอกว่าต้องการขี้ผ้ งึ ทาปากคงจะเป็ นแค่ขอ้ อ้างเท่านั้น แต่
การหาโอกาสเข้าใกล้ฝ่าบาทต่างหากจึงจะเป็ นเป้าหมายของนาง
พอเห็นกิริยาของนางเช่นนี้ ตู๋กซู ิงหลันก็ไม่คิดจะเกรงใจอีกต่อไป
“ดูท่าความจาของเจ้าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ “
พูดแล้ว นางก็หนั ไปเรี ยกเจ้าไก่ขนฟูที่ขดุ หิ มะหาที่อึอยูด่ า้ นข้างให้
เข้ามาหา
เจ้าไก่ขนฟูกาลังอึได้ครึ่ งทางก็ถูกเรี ยกเช่นนี้ ย่อมไม่พอใจอยูบ่ า้ ง
ทรวงอกของมันขยับขึ้นลง ฝ่ าเท้าก็จิกลงไปบนพื้น ” ติ๊งต๊องมัน
คิดถึงเจ้าพวกงูพิษสี แดงของเจ้ามากเลย ดูท่าแล้วคงจะเต็มใจค้นดู
จากบนร่ างของเจ้าหน่อย ดูสิวา่ ยังมีของกินอีกหรื อไม่ “
ตู๋กซู ิงหลันพูดจบ ก็เห็นเจ้าไก่ขนฟูนนั่ ดีใจจนตีปีก ท่าทางพร้อมท่ี
จะบุกเข้าไปได้ทุกเมื่อ
อันหว่านจือคิดถึงสถาพตอนที่ตนเองถูกจิกจนพรุ นในครั้งก่อน ก็
ตระหนกจนหน้าเปลี่ยนสี
” ตู๋กซู ิงหลัน ข้าขอเตือนเจ้าก่อน ที่นี่เป็ นตาหนักตี้หวั ไม่ใช่ที่ ๆ เจ้า
จะมาก่อความวุน่ วายได้! ข้าเป็ นถึงนางกานัลประจาพระองค์ของฝ่ า
บาท หากว่าเจ้าทาอะไรกับข้า ฝ่ าบาทจะต้องไม่มีทางปล่อยเจ้าแน่!

” ทุกวันนี้คนในวังต่างก็รู้ดีวา่ ข้าคือสตรี ที่ได้ใกล้ชิดกับฝ่ าบาทมาก
ที่สุด หากว่าเส้นผมของข้าหลุดไปสักเส้นเจ้าก็อย่างหวังจะได้เอาตัว
รอดไปได้เลย! “
ตู๋กซู ิงหลันยกยิม้ มุมปาก เดินเข้าไปหานางอีกหลายก้าว สองตาจด
จ้องมองนางอย่างแน่วแน่ ” ดูท่าเจ้าจะไม่รู้จกั มารยาทจริ ง ๆ “
พูดแล้ว นางก็ยนื่ มือออกไปปลดปิ่ นของอันหว่านจือลงมา ทันที
ที่ปินหลุดออก มวยผมของอันหว่านจือก็หลุดลงมา ตู๋กูซิงหลันใช้
ปลายนิ้วสะกิดเล็กน้อย เส้นผมของนางก็คลี่ออกอย่างง่ายดาย
อันหว่านจือตกตะลึงไปแล้ว นางทั้งตกใจทั้งกรุ่ นโกรธ เส้นผมของ
นางถูกบารุ งด้วยเห่อโส่ วหวูถ่ ึงได้ดกดาเงางามดุจขนกา แม้แต่พระ
สนมทั้งหลายในวังยังยากที่จะเปรี ยบเทียบได้ แต่วา่ นังตัวร้ายนี่อยู่ ๆ
ก็มาสยายผมนาง!
ตู๋กูซิงหลันเชยคางของนางเอาไว้
จากนั้นก็ดึงกริ ชของตนออกมา นาบลงไปที่ดวงตาของอันหว่านจือ
” เราไม่ได้แตะต้องเจ้าสักเส้นผม แต่จะลงมือสักพันรอยคงได้สินะ”
” ของที่รับปากว่าจะให้เรา จะมอบออกมาหรื อไม่? “
อันหว่านจือถูกลูบไล้ใบหน้าเช่นนี้ นางเองก็ชกั จะมีโทสะขึ้น
มาแล้ว
” ความอดทนของเรามีขีดจากัด หากเจ้ายังจะพล่ามไร้สาระ เราก็ไม่
รังเกียจที่จะลงมือโกนผมให้เจ้า “
ตู๋กซู ิงหลันพูดจบประโยค โทสะในใจของอันหว่านจือก็ยงิ้ พลุ่ง
พล่านขึ้นสู ง
นางขบฟันกรอด กุมอกเสื้ อเอาไว้ ถอยหลังไปหลายก้าว ” ฝ่ าบาท
เคยรับสัง่ ชื่นชมเส้นผมของข้าว่านุ่มนวลดุจปุยเมฆ เจ้าตายแน่
พระองค์จะต้องไม่ทรงปล่อยเจ้าไปแน่ “
ตู๋กซู ิงหลันหัวเราะออกมาในทันที ” เจ้าช่างดื้อด้านเสี ยจริ ง ๆ “
นางยิม้ งดงามกว่าเดิม “ลูกชายอยูใ่ นตาหนักตี้หวั ที่ดา้ ยหลังของเจ้านี้
เอง เจ้าไปเรี ยกเขาออกมา เราจะดูซิวา่ เขาจะไม่ปล่อยเราไป
อย่างไร”
อันหว่านจือกาหมัดแน่น นังตัวร้ายนี้ไม่ได้จงใจที่ไหนกัน?
ฝ่ าบาทพึ่งจะทรงพิโรธกลับวังไป หากนางไปรบกวนตอนนี้ไม่ใช่วา่
เป็ นการเติมฟื นลงไปในเตาหลอมยาหรื อ?
นางได้แต่กล้ ากลืนความโกรธลงไป ครู่ ต่อมาถึงได้ค่อย ๆ ล้วงเอา
ตลับสี ผ้ งึ ทาปากขนาดไข่ไก่ออกมา ” ให้เจ้า! “
ตลับขี้ผ้ งึ ถูกโยนใส่ หน้าตู๋กซู ิงหลัน แต่วา่ นางมีปฎิกิริยาว่องไว ตวัด
ฝ่ ามือก็รับเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ ว
นางควงกริ ชในฝ่ ามือเป็ นวงกลม จากนั้นก็เสี ยบมันลงไปในรองเท้า
บูท ท่วงท่าแคล่วคล่องไม่ติดขัด กระทัง่ อันหว่านจือที่กาลังหวาด
ผวายังตกตะลึง
นางเคยแต่ได้ยนิ ว่าตู๋กซู ิงหลันก่อนเข้าวังเป็ นเพียงคุณหนูผอู ้ ่อนแอ
เท่านั้น ทาไม……
ครู่ ต่อมาตู๋กซู ิงหลันก็จดจ้องเข้าไปในดวงตาของนาง “เห็นแก่พระ
พักตร์ของฉางซุนฮองเฮา เราจะปล่อยเจ้าเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น
หากว่ายังมีครั้งที่สาม ที่หลุดไปจะไม่ใช่แค่เส้นผมแน่”
สายตาของนางจ้องไปยังลาคอของอันหว่านจือ อันหว่านจือก็รู้สึกว่า
ลาคอตีบตันขึ้นมา ราวกับว่าถูกอะไรบางอย่างบีบรัดเอาไว้
นางรู ้สึกเย็นวาบขึ้นมา กระทัง่ หัวใจยังรู ้สึกเหน็บหนาว
นังตัวร้าย……..ตกลงเจ้าเป็ นอะไรกันแน่?
ตู๋กซู ิงหลันไม่รอให้อนั หว่านจือกล่าวอะไร ก็ไปจากตาหนักตี้หวั
อันหว่านจือมองตามเงาหลังของนาง สายตาปรากฎแววเกลียดชัง
และความแค้นอย่างรุ นแรง
…………………………….
เมื่อฟ้าใกล้มืดค่าขันทีฝ่ายพิธีการนาของมารับซูเม่ยเข้าไปในพระ
ตาหนักตี้หวั
ข่าวที่วา่ ซูกยุ้ เฟยถูกรับเข้าไปถวายตัวแพร่ สะพัดไปทัว่ วังอย่าง
รวดเร็ ว ทาให้รอบ ๆ ด้านนอกของตาหนักตี้หวั กลายเป็ นจุดรวมตัว
ของพระสนมจานวนไม่นอ้ ย แม้วา่ จะเป็ นกลางฤดูหนาวที่มีหิมะตก
จานวนมากก็ไม่อาจดับไฟในใจของพวกนางไปได้
เดิมทีพวกนางยังเข้าใจว่าขันทีนอ้ ยในตาหนักตี้หวั ปล่อยข่าวลือ
ออกมา เพราะตั้งแต่ฝ่าบาทขึ้นครองราชย์มาก็ยงั มิเคยเรี ยกผูใ้ ดไป
ถวายตัวมาก่อน
กระทัง่ เมื่อเห็นเกี้ยวสี ทองที่ขนั ทีฝ่ายพิธีการหาบมาถึงประตูพระ
ตาหนักตี้หวั พวกนางถึงได้อิจฉาจนตาแดงไปตาม ๆ กัน
” คนที่เกิดมาสวยช่างไม่เหมือนผูอ้ ื่นจริ ง ๆ ซูกยุ้ เฟยเพียงกลับเข้าวัง
มาก็เป็ นที่โปรดปราน เฮ่อ ไม่รู้วา่ เมื่อไหร่ พวกเราจึงจะได้รับน้ าฝน
จากฝ่ าบาทบ้าง”
” อย่าได้รีบร้อน ไม่แน่วา่ พอฝ่ าบาทได้ลิ้มรสสตรี สกั ครั้ง ก็จะอด
พระทัยไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว “
” จริ งสิ ถึงแม้ซูเม่ยจะงดงาม แต่ฝ่าบาทก็คงจะมิได้เรี ยกนางถวายตัว
ทุกวัน เหล่าบุรุษล้วนชื่นชอบลองของใหม่ ของเดิมหากได้ชิมนาน
ๆ ก็เลี่ยน “
“ใช่ ๆ ๆ ๆ ๆ ถึงเวลานั้นโอกาสของพวกเราย่อมต้องมาถึง “
” อ้ายหยา เช่นนี้ไม่รู้วา่ ผูท้ ี่อยูใ่ นตาหนักเฟิ่ งหมิงผูน้ ้ นั จะรู ้สึกเช่นไร
บ้างกัน เคยได้ยนิ มาใช่ไหม นางกับซูเม่ยนะรักกันปานพี่นอ้ ง คราว
นี้ฝ่าบาทรับสัง่ ให้ซูเม่ยถวายตัว คนในตาหนักเฟิ่ งหมิงผูน้ นั่ จะไม่
พลิกกลายเป็ นศัตรู กบั นางหรื อ?
“ฮิ ๆ ๆ ไทเฮากับซูกยุ้ เฟยแย่งชิงฝ่ าบาท เช่นนี้คงจะสนุกเสี ยยิง่ กว่า
ในโรงงิ้วเสี ยอีก”
” เช่นนั้นพวกเราก็รอชมเรื่ องสนุกกันเถอะ”
…………………………
ในพระตาหนักตี้หวั ซูกยุ้ เฟยนัง่ อยูบ่ นเกี้ยวรับตัว ที่ขนั ทีท้ งั สี่ หามมา
วางไว้ในห้องบรรทมของฝ่ าบาท
ยามที่ขนั ทีท้ งั สี่ หามเข้ามานั้น ต่างก็อดเกิดความสงสัยขึ้นมาเงียบ ๆ
ไม่ได้วา่ ช่วงนี้พวกมันกินข้าวน้อยไปหรื อไม่ คนสี่ คนยกพระสนม
คนเดียวเข้ามา ทาไมถึงได้กินแรงขนาดนี้
ซูกยุ้ เฟยผูน้ ้ ีถึงแม้จะร่ างสู งโปร่ งมากอยูส่ กั หน่อย แต่อย่างไรก็เป็ น
สตรี พวกมันช่วยกันยกเข้ามาไยจึงรู ้สึกว่าหนักกว่าบุรุษผูห้ นึ่งเสี ย
อีก?
ยามค่าคืนที่เงียบสงัด สายลมภายนอกพัดไม่ยอมหยุด
พระตาหนักตี้หวั กลับคึกครื้ น เหล่าขันทีนอ้ ยต่างสุ มหัวรวมกันที่
ระเบียงนอกพระตาหนักพูดจากระซิบกระซาบกันไม่หยุด
อันหว่านจือชงชาร้อน ๆ ออกมากาหนึ่ง เตรี ยมส่ งเข้าไปในห้อง
พระบรรทม
เหล่าขันทีนอ้ ยต่างไม่กล้ารั้งตัวนาง ยังดีที่หลี่กงกงมาทันเวลา ” แม่
นางอัน อย่าได้โทษว่าบ่าวเฒ่าไม่ได้เตือนท่านก่อน วันนี้หากท่าน
ก้าวขาเข้าไปในห้องบรรทมของฝ่ าบาทเพียงก้าวเดียว เกรงว่าท่าน
อาจเดินตัวตั้งเข้าไปแต่ตอ้ งนอนหงายออกมา”
” หลี่กงกง ข้าเพียงแต่จะเข้าถวายน้ าชาเท่านั้น ทุกคืนก่อนเข้า
บรรทม ฝ่ าบาทมักจะทรงดื่มชาที่ช่วยให้บรรทมได้ง่ายขึ้น”
หลี่กงกงก็มิไรรั้งนางอีก เขาเดิมเลี่ยงไปที่ดา้ นข้าง “คาพูดของบ่าว
เฒ่ามีเพียงเท่านี้ ท่านไปเถอะ หากฝ่ าบาทลงมีรับสัง่ ลงโทษลงมา ต่อ
ให้เป็ นอันหร่ วนกูกกู ป็ กป้องท่านไว้ไม่ได้”
อันหว่านจือเห็นเขามิได้ร้ ังนางไว้อีก ก็ชกั จะเกิดความลังเลขึ้นมา
นางยกน้ าชาเดินไปจนถึงด้านนอกของห้องบรรทม แต่พอถึงข้าง
ประตูกลับไม่กล้าเคาะประตูเข้าไปง่าย ๆ
จึงได้แต่ถือน้ าชาเอาไว้ดกั ฟังอยูข่ า้ งประตูน้ นั เอง
ภายในห้อง เงาตะเกียงสว่างวิบ ๆ
ซูเม่ยสวมชุดแดงเจิดจรัส ใบหน้าปราศจากการแต่งเติม แม้กระทัง่
เครื่ องประดับผมใด ๆ ก็ลว้ นถูกถอดออกไปจนหมด เส้นผม
เพียงแต่ถูกมวยเอาไว้อย่างหลวม ๆ เท่านั้น
เมื่อไร้ซ่ ึงเครื่ องสาอางค์ใด ๆ ช่วยแต่งเติม เส้นสายบนใบหน้าจึง
มิได้ดูอ่อนโยนเช่นยากปกติ
จีเฉวียนประทับอยูบ่ นเก้าอี้นอน พิงพระองค์ไปกับเบาะนุ่ม ดวงพระ
เนตรหงส์กวาดมองซูเม่ยอย่างเย็นชา “ถอดเสื้ อผ้า”
ตอนที่ 148 ชะตาชีวติ ถูกลิขิต
ซูเม่ยคิ้วกระตุก “ฝ่ าบาทเพคะ วันนี้หม่อมฉันไม่ค่อยสบาย ร่ างกาย
ไม่สะดวก ไม่อาจถวายตัวได้เพคะ”
นางกล่าวเสนอแนะว่า ” ที่ขา้ งนอกมีหูอยูบ่ นกาแพง ไยพระองค์ไม่
ทรงเรี ยกนางเข้ามาถวายปรนิบตั ิ? “
จีเฉวียนไม่สนใจคาพูดของเขา เพียงตรัสว่า ” เราสัง่ ให้เจ้าถอด เจ้าก็
ถอดเสี ย”
ซูเม่ย “…….”
นางถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ราวกับว่าจะต้องตัดสิ นใจครั้ง
สาคัญ นางปลดสายคาดเอวออกหลวม ๆ ก็ลว้ งลงไปเอาบางสิ่ ง
ออกมาจากในกางเกงชั้นใน
ทันใดนั้นกลิ่นคาวของเลือดก็คละคลุง้ ไปทัว่ ห้องบรรทม
จีเฉวียนทรงเหลือบพระเนตรมองมา ก็เห็นว่าในมือของซูเม่ยนั้นมี
ชิ้นผ้าเปื้ อนโลหิตที่แดงฉาดบาดตาอยู่
” ฝ่ าบาทเพคะ วันนี้หม่อมฉันมีระดู ไม่อาจถวายการปรนิบตั ิได้
พระองค์กลับไม่ทรงเชื่อ หม่อมฉันได้แต่บงั อาจนาหลักฐานมาถวาย
ให้ทอดพระเนตรแล้ว”
ทูลแล้ว นางก็เดินมาจนถึงเบื้องหน้าจีเฉวียน โยนผ้าเปื้ อนโลหิตแดง
ฉาดผืนนั้นลงไปบนโต๊ะเบื้องพระพักตร์
อาจเพราะกะแรงมากไปหน่อย ทันทีที่โยนลงไป เลือดก็กระเซ็น
ออกมา
ละอองเลือดนั้นกลายเป็ นจุดแดง ๆ บนฉลองพระองค์ของฝ่ าบาท
เห็นไหมเล่านางเฉลียวฉลาดเพียงไร!
บุรุษที่เป็ นโรคบ้าความสะอาดเช่นจีเฉวียน ไม่มีทางที่จะยอมแตะ
ต้องสตรี ที่มีระดูอยูแ่ น่
จีเฉวียนเอนพระองค์ลงบนเบาะนุ่ม พระขนงขมวดขึ้นส่ อแววเย็นชา
ขึ้นมา
” เพื่อให้ไทเฮาได้ทรงอุม้ พระราชนัดดาโดยไว เราไม่ถือสา ”
พระองค์ตรัสพลาง ก็หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งมาเช็ดละออกเลือด
บนพระองค์ไปพลาง ๆ
ท่าทางเช่นนั้นคล้ายกลับมิได้รังเกียจนางอยูจ่ ริ ง ๆ
คราวนี้ซูเม่ยกลับไม่ไหวเสี ยเองแล้ว แต่สายพระเนตรของจีเฉวียน
กลับจดจ้องนางอยูต่ ลอด คล้ายกับว่าสามารถอ่านนางออกได้อย่าง
ทะลุปรุ โปร่ งอย่างไรอย่างนั้น ทาให้นางรู ้สึกหมดหนทางจะ
หลบหนี
” ฝ่ าบาท พระวรกายมังกรของพระองค์สาคัญล้ าค่า หากว่าสัมผัสถูก
โลหิตสกปรกของหม่อมฉัน หม่อมฉันก็ไม่อาจจะสู ้หน้าบรรพ
กษัตริ ยท์ ้ งั หลายได้แล้ว”
ซูเม่ยกล่าวต่อไปอีกว่า ” ถึงอย่างไร ดับเทียนแล้วสตรี ทุกคนก็
เหมือนกันหมด หากพระองค์ประสงค์จะต้องการจริ ง ๆ ละก็ หม่อม
ฉันเชื่อว่าอันหว่านจือจะต้องคล้อยตามพระประสงค์ดว้ ยความยินดี
เป็ นแน่”
” กุย้ เฟย เจ้าไม่ได้ยนิ หรื อไร ที่ไทเฮามีพระประสงค์คือ ต้องการให้
เราโปรดปรานเจ้า ไม่ใช่ผอู ้ ื่น ” จีเฉวียนยังคงประทับอยูท่ ี่เดิม
ภายใต้แสงเทียนสาดส่ อง พระพักตร์ที่งดงามนั้นราวกับถูกฉาบไล้
ด้วยแสงสว่างชั้นหนึ่ง แต่กด็ ูเย็นชาอย่างที่สุดเช่นกัน
หัวใจของซูเม่ยเจ็บปวดราวถูดมีดแทง ทาเอานางพูดไม่ออกไป
ชัว่ ขณะ
” เก็บของนี่ไปซะ” จีเฉวียนเหลือบพระเนตรไปมองผ้าซับระดูที่
เปื้ อนโลหิตจนชุ่มโชกแวบหนึ่ง สี พระพักตร์เย็นยะเยือก
ท่าทางของพระองค์ ดูราวกับเทพเจ้าที่ไม่จาเป็ นต้องกินดื่มใด ๆ
เกือบจะปราศจากกลิ่นไอมนุษย์
ไหนเลยจะมีทีท่าของฮ่องเต้ที่ตอ้ งการจะรับสนมได้กนั
ซูเม่ยค่อย ๆ หยิบผ้าซับระดูกลับไป แถมยังใส่ กลับไปในกางเกงทั้ง
ต่อหน้า
นางไม่นึกไม่ฝันจริ ง ๆ ว่า วิธีที่น่ารังเกียจเช่นนี้จะใช้ไม่ได้ผล
พอพึ่งจะใส่ กลับไป ก็ได้ยนิ จีเฉวียนรับสัง่ เสี ยงเย็นว่า “ถอดเสื้ อผ้า
อย่าให้เราต้องพูดถึงสามรอบ”
ซูเม่ยก้มศีรษะลงมองดูตนเอง ได้แต่ถอดเสื้ อคลุมสี แดงเพลิงนั้นออก
อย่างหมดปัญญา นางกาหมัดแนบแน่น กระทัง่ เส้นโลหิตหลังมือยัง
ปูดโปนเป็ นสี เขียว
” ต่อไป ” จีเฉวียนจ้องมองนางอย่างเชยชา
ซูเม่ยสู ดหายใจลึก ๆ “ฝ่ าบาท หม่อมฉันมีเรื่ องปิ ดบัง หม่อมฉัน
ยินดีรับโทษ “
จีเฉวียนมิได้ทรงแปลกพระทัยแม้แต่นอ้ ย เพียงตรัสอย่างเรี ยบเฉยว่า
” ว่ามา “
ซูเม่ยถวายคานับเขาอย่างเต็มพิธีการ กล่าวด้วยน้ าเสี ยงละอายอย่าง
ที่สุดว่า ” หม่อมฉันมีกลิ่นตัว! เกรงว่าจะเป็ นที่ระคายเคืองของฝ่ า
บาท นี่คงจะไม่ดีละมั้งเพคะ? “
” แม้แต่เรื่ องที่เจ้ามีระดูเราก็ยงั ไม่รังเกียจ ไหนเลยจะกลัวว่าเจ้ามี
กลิ่นตัวได้อีก? ” จีเฉวียนรับสัง่ อย่างจริ งจัง จมูกที่ไวต่อกลิ่นเหม็น
ของเขาก็มิได้ยน่ จมูกเลยสักครั้ง
ซูเม่ยได้แต่คุกเข่าลงไปให้เขา
” หากยังไม่ลงมือ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะถอดให้เจ้าด้วยตนเอง ” ถึงแม้
จะตรัสเช่นนั้น จีเฉวียนก็ยงั คงประทับนัง่ อยูเ่ ดิม ดวงเนตรหงส์ของ
พระองค์ทอดมองอย่างเย็นชา
ซูเม่ยถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก ในที่สุดค่อยถอดเสื้ อออกตัว
หนึ่ง
เมื่อต้องมาถวายตัววันนี้ นางสวมเสื้ อผ้ามาเจ็ดแแปดตัวเป็ นพิเศษ
ห่อตัวเองจนกลายเป็ นบะจ่างก้อนหนึ่ง
” ถอดให้หมด ” สุ รเสี ยงของจีเฉวียนเย็นเฉี ยบ ” เจ้าไม่ถอดหมด
แล้วจะมีหลานมาถวายไทเฮาได้อย่างไร “
ดูแต่ละคา ๆ ของเขาสิ อะไร ๆ ก็ไทเฮา หากใครไม่รู้มีหวังเข้าใจว่า
เขาให้มีเด็กไปตุ๋นถวายไทเฮาบารุ งร่ างกายหรอก
ซูเม่ยถอดออกจนเหลือเพียงตัวสุ ดท้ายในอึดใจเดียว นางก็ไม่ยอม
ขยับอีกแล้ว
ที่ท่อนลางของชุดที่ขาวสะอาดเปรอะเปื้ อนไปด้วยเลือด
” ฝ่ าบาท เคยทรงได้ยนิ หรื อไม่ หากมีสมั พันธ์ขณะมีระดูจะทาให้
คนเจ็บป่ วย ” นางงัดเอาไม่สุดท้านออกมา
จีเฉวียน ” เราเป็ นโอรสสวรรค์ โอรสสวรรค์ยอ่ มไม่ถูกโรคร้าย
รบกวน”
ซูเม่ย “……….” ถึงกับพูดไม่ออก
อาจเพราะคืนนี้สวมใส่ เสื้ อผ้ามามากชิ้นไป สายรัดเส้นสุ ดท้ายเริ่ ม
คลายเล็กน้อย พอเมื่อครู นางขยับเขยือ่ นตัววุน่ วาย ยามนี้จึงทาให้มี
แอเปิ้ ลสองลูกโผ่ลออกมาจากหน้าอก
แอปเปิ้ ลที่แวววาวกลิ้งกุลุก ๆ ลงมา หล่นลงไปหยุดแทบเท้าของจี
เฉวียน
จีเฉวียนทอดพระเนตรมองแวบหนึ่ง ผลแอปเปิ้ ลที่สดใหม่ สี แดงฉ่ า
ขนาดใหญ่ประมาณกาหมัดทั้งสองผล
สายพระเนตรมองไปทางซูเม่ย คราวนี้ทรวงอกของนางกลับแบน
ราบลง
” หืม? ” จีเฉวียนทรงหยิบแอปเปิ้ ลลูกหนึ่งมาวางลงบนโต๊ะ “ซูเม่ย
ไม่ใช่วา่ เจ้าควรจะแก้ตวั กับเราเสี ยหน่อยหรื อ? “
มุมปากของซูเม่ยกระตุก นางหัวเราะออกมาช้า ๆ ” ฝ่ าบาทเพคะ
ผูค้ นในใต้ลา้ ล้วนแตกต่าง ถึงหม่อมฉันจะเป็ นโฉมงามอันดับสอง
ของต้าโจว แต่วา่ หน้าอกกลับเล็ก …ดังนั้นจึงไม่มีทางอื่นต้องเอา
ของพวกนี้ยดั ใส่ ไว้ หม่อมฉันเพียงแต่รักสวยรักงาม มิได้มีใจจะ
โกหกหลองลวงฝ่ าบาทเลยเพคะ”
จีเฉวียนหัวเราะเสี ยงเย็น คว้าแอปเปิ้ ลผลนั้นกัดลงไปคาหนึ่งต่อหน้า
ต่อตาซูเม่ย
” ฝ่ าบาท ไม่นะเพคะ! ” ซูเมยร้องออกมาเสี ยงดัง ก็เงียบไป
ที่ดา้ นนอกตาหนัก เดิมทีอนั หว่านจือได้ยนิ ไม่ชดั ฟังไม่รู้เรื่ องว่าใน
ห้องบรรทมคุยอะไรกัน ทันใดนั้นนางก็ได้ยนิ เสี ยงของซูเม่ยตะโกน
ร้องออกมา นางอิจฉาขึ้นมาเสี ยจนตัวสัน่ สะท้าน
เดิมผูท้ ี่สมควรจะนอนลงบนเตียงมังกรในตอนนี้ควรจะเป็ นนาง
ต่างหาก!
ผูท้ ี่สมควรจะได้รับความรักความเอ็นดูจากฝ่ าบาทก็คือนาง!
ทาไมกัน…..ทาไมนางถึงต้องมาทนฟังเสี ยงพรอดรักของฝ่ าบาท
กับซูเม่ย?
” ซูเม่ย อายุสิบเก้า วันที่เกิดมา สรรพสัตว์ลว้ นน้อมคานับ ” จีเฉวียน
หยิบแอปเปิ้ ลอีกลูกขึ้นมา ตรัสอย่างไม่เร็ วไม่ช่า
“หย่งเฉิงอ๋ องและชายารักใคร่ กลมเกลียวหาใดเปรี ยบ ปี ที่แต่งงาน
นั้นก็ได้ให้กาเนินบุตรคนหนึ่ง แต่วา่ บุตรชายคนโตกลับสิ้ นบุญไป
ห้าปี หลังจากนั้นก็ให้กาเนิดบุตรติดต่อกันสามคน แต่โชคร้ายล้วน
ตายแต่เยาว์วยั “
ขณะที่พระองค์ตรัสนั้น สี หน้าของซูเฟยที่ยงิ่ เปลี่ยนไปเรื่ อย ๆ
” ตอมาภายหลัง หย่งเฉิงอ๋ องได้พบกับผูส้ ู งส่ งท่านหนึ่ง ผูส้ ู งส่ งท่าน
นั้นได้ตรวจดูดวงชะตาให้เขา บอว่าชะตาของเขาถูกลิขิตไว้แล้ว
ชีวิตนี้ไม่อาจมีบุตรชาย มีได้เพียงบุตรสาว”
พระองค์ยงิ่ ตรัส สี หน้าของซูเม่ยก็ยงิ่ ยา่ แย่ลงไปเรื่ อย ๆ
นางหรี่ ตาลง จดจ้องไปยังพระองค์บา้ ง ” ฝ่ าบาทช่างรอบรู ้อย่าง
กว้างขวาง แม้แต่เรื่ องครอบครัวของเหล่าขุนนางยังทราบกระจ่าง
ชัด”
” หย่งเฉิงอ๋ องจงรักภัคดีต่อเรา เราย่อมต้องใส่ ใจขุนนางที่ภคั ดีเช่นนี
เป็ นพิเศษอยูแ่ ล้ว”
จีเฉวียนโยนแอปเปิ้ ลในมือเล่น ดวงเนตรหงส์มองไปทางซูเม่ย ”
ช่างบังเอิญเหลือเกิน เมื่อสิ บเก้าปี ก่อนหย่งเฉิ งอ๋ องก็มีบุตรชายอีกคน
กุย้ เฟย เจ้าลองว่ามาซิ บุตรชายผูน้ ้ นั หายไปไหนกัน? “
สี หน้าซูเม่ยอึมครึ มหนักหนา สายตาทอดมองไปบนร่ างของจี
เฉวียน
ตอนที่ 149 จะมีใครงดงามกว่ าข้ าอีก?
นางมิค่อยได้ใกล้ชิดกับฮ่องเต้องค์น้ ี จึงไม่รู้มาก่อนว่าเขาเป็ นจอมเจ้า
เล่ห์ช่างวางแผนขนาดนี้
เรี ยกนางมาที่ตาหนักตี้หวั เพื่อถวายตัวที่ไหนกัน เห็นอยูว่ า่ เขา
ต้องการเอาชีวิตนางชัด ๆ !
จีเฉวียนขยับพระองค์ประทับยืนขึ้น เสด็จมาถึงเบื้องหน้านาง ยัดแอ
ปเปิ้ ลลงไปในอ้อมอกของนาง ” หย่งเฉิ งอ๋ องสามีภรรยาเกรงว่าบุตร
คนที่หา้ จะสิ้ นไปตั้งแต่นอ้ ยอีก จึงได้เลี้ยงเขาดังบุตรสาวมาโดย
ตลอด ทั้งยังบอกออกไปสู่ ภายนอกว่าเขาเป็ นสตรี เรื่ องนี้จึงถูกเก็บ
เป็ นความลับมาโดยตลอด สุ ดท้ายแล้ว คุณชายน้อยห้าของหย่งเฉิ ง
อ๋ องที่เป็ นบุรุษปลอมเป็ นสตรี มาตั้งแต่เล็กแต่นอ้ ยนั้น ก็เข้าวังมา
กลายเป็ นกุย้ เฟยของเรา “
ตรัสแล้ว จีเฉวียนก็ถามอีกประโยคว่า “ซูเม่ย เจ้ามีอะไรจะแก้ตวั อีก
ไหม? “
ซูเม่ยถือแอปเปิ้ ลผลนั้นไว้ โดยมิได้เสแสร้างใด ๆ อีก กระทัง่ สายตา
ก็เปลี่ยนเป็ นเย็นชากว่าเดิม ” ในเมื่อฝ่ าบาทก็ทรงทราบแต่แรก แล้ว
ไยยังจะต้องมาเล่นละครเช่นนี้กบั ข้าด้วย? “
จีเฉวียนยืนอยูข่ า้ ง ๆ เขา ยิม้ เย็น ๆ ออกมา ” เป็ นบุรุษแท้ ๆ แต่
กลับต้องใช้ชีวิตอยูใ่ นฐานะของสตรี เกรงว่าสิ บเก้าปี มานี้เจ้าคงจะ
คิดว่าตนเองเป็ นสตรี ไปแล้วละมั้ง “
” เราอนุญาตให้เจ้าไปเขาจงหลิงเฝ้าสุ สานถวายพระมารดา ก็เพราะ
เห็นแก่หย่งเฉิงอ๋ องจึงได้เว้นทางรอดแก่เจ้าสายหนึ่ง เดิมทีชวั่ ชีวิตนี้
เราจะไม่เรี ยกเจ้ากลับเข้าวัง เจ้าสามารถท่องไปได้ทวั่ แผ่นดิน แต่วา่
เจ้ากลับต้องการกลับมาวังหลวง”
” กลับมาก็แล้วไปเถอะ แต่เจ้ากลับใช้ฐานะกุย้ เฟย ไปล่อลวงไทเฮา
ช่วยโอกาสยามเข้าใกล้สนิทสนมกับนาง ดูท่าเจ้าคงไม่คิดจะอยาก
รักษาหัวของตนเองเอาไว้อีกแล้วสิ นะ”
พอเขายกตู๋กซู ิงหลันขึ้นมาพูด สี หน้าของซูเม่ยก็เปลี่ยนไปในทันที
ผ่านไปอีกพักใหญ่ถึงได้ยนิ เขากล่าวปนหัวเราะออกมา “ฝ่ าบาท ข้า
กับอาหลันเติบโตมาด้วยกัน ดูแลห่วงใยนางก็ถือเป็ นเรื่ องปกติ
ทาไมในสายตาพระองค์จึงกลายเป็ นล่อลวงและฉวยโอกาสไปได้
เล่า? “
พูดแล้ว เขาก็ลว้ งเอาเข็มเงินเล่มหนึ่งขึ้นมาจากแขนเสื้ อขว้างออกไป
ทางหน้าต่าง เข็มนั้นก็ปักลงไปบนลาคอของอันหว่านจือ นอกจาก
ประโยคที่วา่ ” ไม่นะเพคะ ” อันหว่านจือก็ไม่ได้ยนิ ประโยคใดอีก
เลย
เมื่อโดนเข็มบินไปเล่มหนึ่ง นางก็ลม้ ลงไปบนพื้น สลบปางตายไป
จริ ง ๆ
จีเฉวียนมิได้สนพระทัยอันหว่านจือที่อยูน่ อกหน้าต่างนั้นเลย สาย
พระเนตรของพระองค์ยงั คงจับจ้องอยูบ่ นร่ างของซูเม่ย ตรัสตอบ
เพียงประโยคเดียวว่า ” ช่างไม่รู้จกั ละอาย”
ซูเม่ยได้ยนิ แล้ว ก็มิได้วางตนสงบนิ่งอีก เขาหัวเราะออกมาราวกับ
นางปี ศาจ “ฝ่ าบาท นับตั้งแต่อาหลันเกิดมา ข้าก็อยูเ่ คียงข้างนางมา
โดยตลอด ยามที่นางยังเป็ นทารกนั้น ข้าเคยป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อม
ให้นาง หากมิใช่วา่ ท่านพ่อท่านแม่ไม่อนุญาตให้ขา้ กลับไปใช้ชีวิต
เป็ นบุรุษ ข้าก็คงจะสู่ ของอาหลันไปตั้งนานแล้ว แม้แต่เจ้าเด็กจีเย่ว์
นั้นก็อย่าได้คิดจะมาติดพันอาหลัน”
” แต่เพราะว่ามีฐานะอันคลุมเคลือเช่นนี้ ข้าจึงไม่มีหนทางจะไปสู่ ขอ
นาง ได้แต่เลือกเข้าวังมาอยูเ่ ป็ นเพื่อนนาง ขอเพียงได้อยูเ่ ป็ นเพื่อน
นางข้าก็มีความสุ ขแล้ว”
เมื่อซูเม่ยกล่าวถ้อยคาเหล่านี้ออกมา ก็ถอดถอนหายใจยาวอีก
ตลอดช่วงหลายปี มานี้ เขาได้แต่เก็บงาความลับที่ตนเองเป็ นบุรุษ
เอาไว้ นอกจากบิดามารดาแล้วก็ไม่มีบุคคลที่สี่รู้อีก คิดไม่ถึงว่าพระ
ปรี ชาสามารถของฮ่องเต้จะจะแผ่ไปทัว่ แผ่นดินจริ ง ๆ แม้แต่
เรื่ องราวที่ลึกลับขนาดนี้กย็ งั ถูกเขาค้นพบ
ค้นพบแล้วก็แล้วไปเถอะ แต่การที่พระองค์ทรงรู ้ฐานะของเขาอยู่
ตั้งแต่แรก แต่กลับทรงแกล้งทาเป็ นไม่ทราบสิ่ งใดอีก
ฮ่องเต้เช่นนี้ ช่างเจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจลอบวางแผนเก่งนัก
ที่ผา่ นมาต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ เขาเองก็เคยคิดหากว่าวันหนึ่ง
ความลับถูกเปิ ดเผยออกมา เขาจะแก้ไขปั ญหาอย่างไรดี แต่เขาคิดไม่
ถึงว่าเมื่อความลับนี้ถูกฝ่ าบาทพบเข้าแล้ว เขากลับมิได้รู้สึกกังวลใด
ๆ อีก
ทั้งยังรู ้สึกว่า เป็ นการปลดปล่อยอย่างหนึ่ง
แต่วา่ ความรู ้สึกที่มีต่ออาหลันนั้น ราวกับว่าเขาได้รู้จกั นางมาตั้งแต่
ในชาติก่อนแล้ว นับตั้งแต่วนั แรกที่ได้เห็นตู๋กฮู ูหยินอุม้ ท้องใหญ่โต
ตอนที่เขาอยูบ่ นท้องถนน เขาก็ติดตามไปอย่างไม่อาจหักห้ามตนเอง
ได้
ถึงขนาดติดตามเข้าไปในบ้านของผูอ้ ื่น
ต่อมายามเมื่ออาหลันจะเกิดมานั้น เขาก็คอยเฝ้ารับใช้อยูด่ ว้ นนอก
เพื่อจะได้เป็ นคนแรกที่ได้เห็นเด็กน้องคนนั้น
จากนั้นนะหรื อ เขาก็มกั จะรู ้สึกอยูเ่ สมอ ๆ ว่าบนร่ างของเด็กน้อย
นัน่ มีสิ่งใดขาดหายไป จนกระทัง่ เมื่อกลับเข้าวังมาแล้วได้พบอาห
ลันอีกครั้งหนึ่ง เขาก็พบว่าหลังจากที่เขารอคอยมานานหลายปี ใน
ที่สุดนางก็มาแล้ว
ความรู ้สึกที่คุน้ เคยเช่นนี้ ความรู ้สึกผูกพันกันตั้งแต่ชาติก่อนจนมาถึง
ชาติน้ ี ทาให้เขามองออกตั้งแต่ในแวบแรกเลยทีเดียว
ซูเม่ยพูดออกไปตั้งมากมาย แต่จีเฉวียนกลัยสาดน้ าเย็นใส่ เขา ” นาง
ไม่ใช่สตรี ที่เจ้าจะสามารถคิดถึงได้ “
ซูเม่ยชะงักงั้นไปครู่ หนึ่ง ดวงตาราวหมาจิ้งจอกคู่น้ นั จ้องมองจี
เฉวียน ” เช่นนั้นแล้วจะอย่างไร? ยามนี้นางเป็ นไทเฮา บุรุาและสตรี
ทั้วทั้งแผ่นดินต่างก็ไม่มีสิทธิได้นางไป”
พูดแล้วซูเม่ยก็ถวายคานับให้กบั จีเย่ว์ ดวงตาจิ้งจอกคู่น้ นั มองด้วย
ความวิงวอนกึ่งขอร้อง ” ฝ่ าบาท บิดาของข้าเป็ นขุนนางเก่ามาสาม
รัชกาล หากพูดอย่างไม่น่าฟัง พวกเราเป็ นฝ่ ายตรงข้ามกับการแย่งชิง
บันลังค์ของอี้อ๋อง จวนหย่งเฉิงอ๋ องมีกองกาลังยิง่ ใหญ่ ดังนั้นข้าขอ
กราบทูลของพระเมตตาอย่างอุคอาจ โปรดทรงอนุญาตให้ขา้ อยูใ่ น
วังหลวงด้วยฐานกุย้ เฟยต่อไป”
วรองค์ของจีเฉวียนสู งกว่าเขาเล็กน้อย ในแววตาของพระองค์มีแต่
ความเหน็บหนาว ” เจ้าคิดว่าเราจะเก็บบุรุษผูห้ นึ่งเอาไว้ในวังหลัง
หรื อ? เราคิดอยากจะมีหญ้างอกเงยอยูบ่ นหัวหรื อไง? “
ซูเม่ยก็เถียงเขากลับในทันที ” ฝ่ าบาท วังหลีงมีสนมสามพันนาง แต่
จะมีใครงดงามไปกว่าข้าอีก? “
จีเฉวียนตอบชื่อหนึ่งออกไปอย่างไม่ตอ้ งคิดว่า ” ตู๋กซู ิงหลัน”
ซูเม่ย ” ไทเฮาไม่ถือเป็ นดอกไม้งามในวังหลัง นางเป็ นพระมารดา
เลี้ยงของพระองค์ ต่อให้….. ก็ไม่มีทางมาทาพระพระเศียรของ
พระองค์เขียวไปได้”
พอได้ฟังแล้ว สายพระเนตรของจีเฉวียนก็ยงิ่ เย็นชากว่าเดิม สายพระ
เนตรของพระองค์ราวกับกาลังส่ งสัญญาณตักเตือนออกมา ” นัน่ จะ
อย่างไรก็เป็ นมารดาเลี้ยงของเรา ไม่ถึงรอบให้เจ้าต้องมาคอยดูแล
เจ้าอยูใ่ ห้ห่างจากนางหน่อย “
สี หน้าของซูเม่ยอึมครึ มไปชัว่ ขณะ พอคิดขึ้นมาได้วา่ ตนมองเห็น
สายตาที่จีเฉวียนมีต่ออาหลัน หัวใจของเขาก็อึดอัดขึดข้องหายใจไม่
ออกไปหมด ” ฝ่ าบาท ไยพระองค์จะต้องทรงทาเช่นนี้ หรื อเพราะ
ถูกอาหลันทาให้หวัน่ ไหวเข้าแล้ว? “
พอเขากล่าวประโยคนี้ออกไป บรรยากาศในห้องก็อึดอัดขึ้นมาทันที
จีเฉวียนหรี่ พระเนตรลง สาดแววอันตรายออกมาในทันที “ซูเม่ย ดู
ท่าเจ้าจะมีชีวิตอยูม่ านานไปหน่อยแล้ว”
เขาจะไปหวัน่ ไหวได้อย่างไร? เขาก็แค่มีปัญหาเรื่ องหัวใจกับสายตา
เท่านั้น
ตู๋กซู ิงหลันคือ ไทเฮา นางไม่สมควรอยูใ่ กล้บุรุษอื่นใดทั้งนั้น!
ต่อให้เป็ นสตรี ดว้ ยกันก็ไม่ได้!
พอเห็นพระองค์มีปฎิกิริยาเช่นนี้ สายตาของซูเม่ยก็ยงิ่ เย็นเฉี ยบขึ้น
ไปอีก
เขาเข้าใจดีวา่ ความรู ้สึกที่หลงรักใครสักคนนั้นเป็ นเช่นไร ในตอนที่
สายตาของอาหลันมีแต่เพียงจีเย่ว์ เขาเองก็รู็สึกเช่นนี้เหมือนกัน!
เพียงได้เห็นผูใ้ ดแตะต้องนางก็อิจฉาจนจะเป็ นบ้า! กระทัง่ ความคิดที่
จะฆ่าจีเย่วใ์ ห้ตายก็ยงั มี
ดังนั้นเขาจึงอยูฝ่ ่ ายที่ขดั ขวงจีเย่ว์ ทั้งยังขอให้บิดามารดาสนับสนุนจี
เฉวียน
แต่คิดไม่ถึงว่าเบื้องหน้ามีหมาป่ า เบื้องหลังมีเสื อ ทั้งสองต่างมิใช่ตวั
ดี
ในเมื่อจีเฉวียนไม่อยากยอมรับ เขาก็จะไม่ถามให้มากความ เพียง
แตาถวายคานับอีกครั้ง ” ขอฝ่ าบาทโปรดอภัย เป็ นข้ากล่าวมากความ
ไปเอง”
จีเย่วพ์ ่ งึ จะไปได้ไม่ทนั ไร ตอนนี้กลับมีจิ้งจอกเฒ่าที่ฝีมือสู งส่ งว่าจี
เย่วเ์ สี ยอีก ทาเอาซูเม่ยถึงกับปวดหัวหนัก
ที่เขาอาศัยฐานะของอสตรี เข้ามาในวังหลัง ก็เพราะอยากจะอยูก่ บั
อาหลัน เดิมทีเขาคิดเอาไว้วา่ น้ าพัดมาเส้นทางก็บงั เกิด นึกไม่ถึงว่า
ไปได้ครึ่ งทางจะมีฮ่องเต้โผล่ข้ ึนขวางมาเสี ยได้
แต่ยงั ดีที่ฮ่องเต้ผนู ้ ี่ยงั ไม่ยอมรับ นี้จึงยังพอจะมีโอกาสให้เขาอยูบ่ า้ ง
ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่ ก็ได้ยนิ จีเฉวียนตรัสว่า ” เราอนุญาตให้เจ้ารั้งอยู่
ในวังหลังได้ เฉพาะยามกลางวันเท่านั้น ต่อไปทุกคืนเจ้าจะต้องมา
ถวายตัวที่ตาหนักตี้หวั ”
ซูเม่ยคิดว่าตนเองฟังผิดไปแล้ว เขาคิดว่าด้วยพระอุปนิสยั ของฮ่องเต้
จะต้องไปปล่อยตนเองไปโดยง่าย นี่หากไม่เพียงไม่สบั เขาเป็ นท่อน
ก็คงจะต้องให้เขาได้รับความเจ็บปวดทางผิวกายบ้าง แต่วา่ ที่ให้มา
ถวายตัวทุก ๆ คืน เช่นนี้จะหมายความว่าอย่างไร?
ตอนที่ 150 ไม่ มีความสามารถเช่ นนั้น
ผ่านไปอีกพักใหญ่เขาถึงได้ทูลออกไปว่า ” ฝ่ าบาท กระหม่อมเป็ น
บุรุษ มิอาจถวายตัวปรนนิบตั ิได้ “
” เจ้าเป็ นกระเทย เราสัง่ ให้เจ้าถวายตัว เจ้าก็ตอ้ งทา ” จีเฉวียนไม่ให้
โอกาสเขาได้ปฎิเสธแม้แต่นอ้ ย
ซูเม่ยรู ้สึกขนลุกไปทัว่ ทั้งตัว อยูด่ ี ๆ เขาก็นึกถึงข่าวลือที่แพร่ สะพัด
ไปทัว่ วังหลังขึ้นมา เรื่ องของฝ่ าบาทและท่านราชครู ที่ไม่วา่ ใครที่รู้
ต่างก็ไม่กล้าพูดออกมา
จีเฉวียนทางหนึ่งก็มีความสัมพันธ์อนั คลุมเคลือกับราชครู ทางหนึ่งก็
หมายตาอาหลัน สองด้านต่างคว้าเอาไว้ไม่พอ แม้กระทัง่ ตัวเขาก็ยงั
จะรวบเอาไปด้วย?
สายตาของซูเม่ยสาดประกายเย็นวาบขึ้นมา เพียงแต่เมื่ออยูต่ ่อหน้า
ฮ่องเต้ที่น่าเกรงขามเขาก็ยงั ไม่อาจต่อต้านได้สาเร็ จ
ครู่ ต่อมาก็ได้ยนิ ฝ่ าบาทรับสัง่ อีกว่า “อีกสิ บเดือนจะต้องมีทาตอบให้
ไทเฮา ในเมื่อนางชมชอบราชนัดดานัก ก็มีให้นางเสี ย”
คราวนี้ซูเม่ยถึงกับ……นี่ฮ่องเต้ทรงไม่ถือสาเขาที่ไหนกัน?
เห็นอยูช่ ดั ๆ ว่ากาลังผลักเขาไปสู่ ความตายโดยแท้ เขาเป็ นบุรุษ จะ
ไปเอาพระราชนัดดาจากไหนมาถวายให้ได้กนั ?
” ฝ่ าบาท กระหม่อม……ไม่มีความสามารถแบบนั้นจริ ง ๆ พะยะ
ค่ะ”
” นัน่ มันเรื่ องของเจ้า เจ้าไปหาทางจัดการเอาเอง ในเมื่อนางต้องการ
ลูกของเจ้า เจ้าก็ไปคิดหาวิธีเอา”
จีเฉวียนตรัสเพียงเท่านี้ ซูเม่ยก็เข้าใจขึ้นมาอีกหลายส่ วนแล้ว ฮ่องเต้
ต้องการให้เขาไปหลับนอนกับสตรี อื่น จากนั้นก็มีลูกออกมาให้อาห
ลันอุม้ เล่น?
ช่างเป็ นฮ่องเต้ที่ดีนกั !
แม้แต่สายโลหิตราชวงศ์กย็ งั ไม่สนใจ!
คิดจะใช้วิธีน้ ี ขับไล่เขาไปจากข้างกายอาหลัน แล้วยังกล้าพูดว่า
ไม่ได้พอใจในตัวอาหลันอีกหรื อ?
ตรัสแล้ว ฝ่ าบาทก็ไม่คิดจะพูดอะไรกับเขาอีก เพียงทอดพระเนตร
มองเขาอย่างเย็นชา ” เราเหนื่อยแล้ว ต้องการจะพักผ่อน”
ซูเม่ยตัดสิ นใจถอยหลังไปในทันที เพื่ออาหลันแล้ว เขาจะต้องรักษา
ความบริ สุทธิ์ของร่ างกายนี้เอาไว้ให้ได้!
” เจ้านอนบนพื้น เราจะนอนบนที่นอน หากว่ามีเสี ยงดังจนทาให้
ตื่น……..” พอพูดถึงตรงนี้จีเฉวียนก็หยุดไปชัว่ ขณะ “หากว่ามีเสี ยง
ดังจนทาให้ตื่น เราก็อาจจะฆ่าคน”
ซูเม่ย “………..” แบนนี้แหละที่เขาว่า เห็นแล้วไม่สบอารมณ์ เลยคิด
หาวิธีมากาจัดกัน จะอย่างไรเขาก็ถือเป็ นบุตรชายเพียงคนเดียวของ
หย่งเฉิงอ๋ อง มีหรื อที่จะถูกฆ่าเอาได้ง่าย ๆ กัน?
………………………….
ดึกดื่นมากแล้ว แต่ไฟในพระตาหนักบรรทมยังคงไม่ถูกดับลง เหล่า
ขันทีนอ้ ยต่างพากันลอบมองมาแต่ไกล แล้วก็อดที่จะหน้าแดงไป
ตาม ๆ กันไม่ได้
นี่ฝ่าบาท……….นานเกินไปแล้วหรื อไม่ ไม่รู็วา่ ซูกยุ้ เฟยจะรับไหว
ได้กี่รอบกัน
………………
วันรุ่ งขึ้น ยามที่ฝ่าบาทและซูกยุ้ เฟยต่างก็ตื่นบรรทมกันแล้ว เหล่า
ขันทีนอ้ ยถึงได้เขาไปดูแลภายในห้องบรรทม
จุ๊ ๆ ๆ …..ในห้องบรรทมถึงกับมีสภาพเละเทะวุน่ วายไปหมด!
โดยเฉพาะบนเตียงบรรทม ราวกับได้ผา่ นสงครามที่รุนแรงมา
อย่างไรอย่างนั้น แถมยังมีรอยเลือดพวกนั้นอีก ไม่ตอ้ งคิดก็รู้เลยว่า
เมื่อคืนนี้มีความเคลื่อนไหวที่คึกคักเพียงไหนกัน
เรื่ องของฝ่ าบาทกับท่านราชครู จะยังคลุมเครื ออย่างไรนั้นไม่มีใครรู ้
แต่วา่ กับซูกยุ้ เฟยนั้น …….อันนี้สิของจริ ง ถึงขนาดที่ร้ ังเอาไว้ไม่อยู่
แล้ว
ยามที่ขา้ รับใช้ในวังได้เห็นซูกยุ้ เฟยเสด็จออกไปนั้น นางมีท่าทาง
ระทดระทวย สี หน้าปราศจากสี เลือด เส้นผมล้วนยุง่ เหยิง ไหนเลยจะ
ดูงดงามเย้ายวนเหมือนยามปกติได้อีก ดูไปประหนึ่งลูกแกะตัวน้อย
ที่พ่ งึ รอดชีวิตจากการถูกหมาป่ าตัวใหญ่รังแกมา
ใบหน้าของข้ารับใช้ท้ งั หลายยังคงเปี่ ยมไปด้วยรอยยิม้ ต่างคนก็ต่าง
พยายามเข้าไปแสดงความยินดีกบั นาง
” กุย้ เฟยเพคะ นับตั้งแต่วนั นี้เป็ นต้นไปท่านก็ถือเป็ นอันดับหนึ่งใน
วังหลังแล้วนะเพคะ ฝ่ าบาททรงโปรดปรานท่านนัก “
” ใช่เพคะ กุย้ เฟย พวกบ่าวไม่เคยเห็นฝ่ าบาททรงโปรดปรานผูใ้ ด
เช่นนี้มาก่อนเลย”
” ขอแสดงความยินดีกบั กุย้ เฟย “
เสี ยงแสดงความยินดีมากมายนั้น ซูเฟยคล้ายจะได้ยนิ อยูเ่ พียงริ มหู
เท่านั้น
เขานอนอยูบ่ นพื้นที่เย็นเฉียบอยูท่ ้ งั คืน กระทั้งผ้าซับระดูผนื นั้นยัง
เย็นจนแทบจะเป็ นน้ าแข็ง หากรู ้แต่แรกละก็คงจะไม่ตอ้ งเทเลือด
กระต่ายลงไปมากมายถึงเพียงนั้น
ตอนนี้ร่างกายของเขาหนักอึ้งไปหมด เดินเพียงไม่กี่กา้ วก็เจออัน
หว่านจือขวางรออยูข่ า้ งหน้า
เมื่อคืนอันหว่าจรื อสลบอยูด่ า้ นนอกตลอดทั้งคืน วันนี้สีหน้าของนาง
จึงไม่สู้ดี กระทัง่ ริ มฝี ปากก็ยงั เย็นแข็งจนเกือบม่วง
พอเห็นซูเม่ยที่มีท่าทางอ่อนระโหยโรยแรง อันหว่านจือก็ยงิ่ คิดไป
ถึงเสี ยงที่ไหนยินเมื่อคืนนี้ สี หน้าของนางจึงยิง่ ยา่ แย่ลงไปอีก
ในเมื่อมีผคู ้ นมากมายลอบดูอยู่ นางย่อมไม่กล้ากระทาอะไรกับซูเม่ย
เพียงแต่จอ้ งเขม็งไปที่หน้าอกของเขา
นางขมวดคิ้วขึ้นมาในทันที ….ตอนอยูใ่ นเขาจงหลิงนางเคยไปมาหา
สู่ กบั ซูเม่ยอยูห่ ลายครั้ง นางจาได้วา่ หน้าอกของซูเม่ยไม่ได้เล็กเพียง
เท่นนี้
ซูเม่ยไม่สนใจนาง เพียงมุ่งตรงออกจากตาหนักตี้หวั ไป
เขาไม่ได้กลับไปตาหนักชุ่ยเว่ย แต่วา่ มุ่งไปทางตาหนักเฟิ่ งหมิง
หิมะหยุดตกแล้ว แต่วา่ ยังมิได้ละลายไป ลมหนาวพัดไม่ยอมหยุด
ทาให้อากาศเย็นยิง่ กว่ายามหิมะตกเสี ยอีก
พอเขามาถึงประตูใหญ่ของตาหนักเฟิ่ งหมิง ก็ได้เห็นตู๋กซู ิ่งหลัน
ในทันที นางยังคงสวมชุดสี เขียวดาเช่นเดิม เกล้าผมอย่างง่าย ๆ และ
มิได้แต่งหน้าเลยแม้แต่นอ้ ย
ไม่วา่ จะมองอย่างไรก็เป็ นคนที่ทาให้หวั ใจของเขาเต้นอย่างรุ นแรง
” อาหลัน ” เขาร้องเรี ยกออกไป ร่ างกายที่หนักอึ้งพยายามก้าว
ออกไป
ยามที่ตูก๋ ซู ิงหลันได้เห็นซูเม่ยนางค่อนข้างประหลาดใจอยูบ่ า้ ง มีที่
ไหนกันที่พ่ งึ ผ่านคืนถวายตัวแล้ววิ่งมาหาตนเอง?
แต่กไ็ ม่รู่วา่ เป็ นเพราะอะไร เมื่อคืนนี้นางนอนพลิกไปพลิกมาอยูบ่ น
เตียง ทาอย่างไรก็นอนไม่หลับ พอคิดว่าอีกไม่นานตนเองจะได้มี
หลานที่งดงามน่ารักขึ้นมา ในใจก็เอาแต่ตื่นเต้นไม่ยอมหยุด
พอเห็นท่าทางที่อ่อนล้าเปราะบางของซูเม่ย นางก็อดสงสารไม่ได้
” อาหลัน” ซูเม่ยเรี ยกนางติดติด ๆ กัน ยืน่ มือออกไปหานาง
ตู๋กซู ิงหลันเข้าไปรับตัวเขาเอาไว้ ถึงได้พอว่ามือทั้งสองของเขาร้อน
ระอุ
” ทาไมเจ้าถึงมีไข้ได้? ตู๋กซู ิงหลันรี บพยุงเขาเข้าไปในตาหนักเฟิ่ ง
หมิง พาเขาไปนอนบนเก้าอี้เอนของตนเอง
จากนั้นก็รีบไปสัง่ เชียนเชียนให้นาน้ าร้อน ผ้าเช็ดตัวมา ช่วยเขา
เช็ดหน้าด้วยตนเอง
ซูเม่ยนอนอยูบ่ นพื้นมาทั้งคืน ท่ามกลางฤดูหนาวที่รุนแรง จีเฉวียน
กลับไม่ยอมให้ผา้ ห่มเขาสักผืน แม้กระทัง่ เสื้ อคลุมของเขาก็ยงั ริ บไป
ด้วย
เช่นนั้นก็ยงั แล้วไปเถอะ แต่เขายังเปิ ดหน้าต่างเอาไว้ช่องหนึ่ง ให้ลม
หนาวพัดผ่านเข้ามาหาตนเอง ซูเม่ยโดนรังแกเช่นนี้อยูท่ ้ งั คืน
พอโดนเช่นนี้ไปเข้า ร่ างกายก็ชกั จะจับไข้ข้ ึนมา ยามนี้จึงร้อนรุ่ มไป
ทั้งตัว
ตู๋กซู ิงหลันช่วยเขาเช็ดเสร็ จ ข้อมือก็ถูกซูเม่ยเกาะกุมเอาไว้ เขาหรี่ ตา
จิ้งจอกนั้นมองดูนาง กล่าวเสี ยงอ่อนล้าว่า ” อาหลัน ข้าตายแล้วหรื อ
ยัง? “
“พูดจาเลอะเทอะอะไร? ” ตู๋กูซิงหลันใช้มืออีกข้างลูบศีรษะของเขา
“ก็แค่มีไข้ นอนลงพักสักหน่อยเดี๋ยวก็หาย”
นางพูดพลางก็ช่วยเขาจัดมุมผ้าห่มไปพลาง พอเห็นว่าที่แถวคอของ
ซูเม่ยมีรอยถลอก ก็อดที่จะจุปากไม่ได้ “อายุยงั น้อยจะทาอะไรก็ตอ้ ง
ดูแต่พอประมาณ ดูสิทาไมถึงได้เป็ นเสี ยขนาดนี้”
ซูเม่ยฟังแล้วยิง่ น้อยใจหนักขึ้นไปอีก สี หน้าโศกเศร้าปานจะร้องไห้
” ฝ่ าบาท เขาไม่ใช่คน”
เห็นอยูช่ ดั ๆ ว่านัน่ นะเป็ นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ กระทัง่ เขาที่ยงั เป็ นแค่
ผูเ้ ยาว์ที่อ่อนแอเช่นนี้ ก็ยงั โดนรังแกเสี ยทีจนเจ็บช้ า
เขาเป็ นบุรุษในคราบสตรี มาสิ บเก้าปี แม้แต่ตวั เขาเองก็ยงั รู ้สึกว่า
ตนเองเกือบจะกลายเป็ นสตรี ไปแล้ว ทั้งกิริยาอาการ วิธีวางตัวและ
แสดงออก เขาไม่เคยทาให้เกิดช่วงโหว่เลยแม้แต่นอ้ ย แม้แต่อาหลัน
เองก็ดูไม่ออก
แต่วา่ จีเฉวียนกลับมองทะลุรู้ต้ งั แต่แรกแล้ว
ทั้งยังวางแผนรังแกเขาเช่นนี้ นี่มนั จอมมารชัด ๆ
” เขาก็เป็ นขนาดนี้แล้วยังจะ….” ตู๋กซู ิงหลันแสนประหลาดใจ หรื อ
จะเป็ นเพราะว่านางบอกว่าเขาไม่ไหว ทั้งยังได้ตกั เตือนเขาไปบ้าง
เขาถึงได้มาบีบคั้นอย่างบ้าคลัง่ เอากับร่ างกายของเสี่ ยวซูเฟย
พอเห็นซูเม่ยที่ท่าทางน้อยเนื้อต่าใจ ตู๋กซู ิงหลันก็เกิดความใจดีมี
เมตตาที่มีอยูไ่ ม่บ่อยนัก นางรู ้สึกว่าครั้งนี้คนเองติดค้างซูเม่ยอยูบ่ า้ ง
แล้ว
ตอนที่ 151 คารักราพัน
” อาหลัน ฝ่ าบาทมีประสงค์ให้ขา้ ถวายตัวทุกคืน” ซูเม่ยอาศัยจังหวะ
ที่นางกาลังสงสารตนเอง เริ่ มป้ายสี จีเฉวียนอย่างบ้าคลัง่
” เจ้าไม่รู้หรอกว่าเขาน่ากลัวขนาดไหน เขาเป็ นพวกชอบความ
รุ นแรง ” ความสามารถในการสาดน้ ามันลงไปของซูเม่ยนับว่าดีอยู่
ไม่นอ้ ย ” ฝ่ าบาทตรัสว่า จะต้องให้ขา้ ตั้งครรภ์ภายในหนึ่งเดือนให้
ได้”
พอพูดถึงเรื่ องนี้เขาก็นอ้ ยอกน้อยใจอย่างที่สุด
เชียนเชียนได้แต่คอยดูแลอยูข่ า้ ง ๆ ว่ากันตามจริ ง หากไม่ใช่
เพราะว่าสี หน้าซูเม่ยทุกข์ระทม นางคงจะนึกสงสัยว่าซูเม่ยมาหา
เจ้านายของตนเองเพื่ออวดอ้างแล้ว
เพราะเหล่าพระสนมในวังหลังนี้ หากเคาะสมองออกมาดูใครบ้างละ
จะไม่ตอ้ งการให้ฝ่าบาทเหลียวแลนางให้มากหน่อย
นางกลับดีนกั ได้รับความโปรดปรานมาแค่คืนหนึ่ง ก็สามารถทาให้
ฝ่ าบาทตัดสิ นพระทัยใจให้นางตั้งครรภ์องค์ชายแล้ว
นี่ตอ้ งเข้าใจก่อนว่า ตามธรรมเนียมของแคว้นต้าโจวนั้น หลังจากที่
ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานสตรี ผหู ้ นึ่งแล้ว ก็ไม่แน่วา่ สตรี ผนู ้ ้ นั จะมีสิทธิ์
คลอดองค์ชายได้
จะมีองค์ชายได้หรื อไม่น้ นั ย่อมต้องแล้วแต่ฮ่องเต้จะทรงมีพระ
ประสงค์
หากไม่ตอ้ งการ จบเรื่ องแล้วก็จะถูกพาตัวไปยังห้อง ๆ หนึ่ง ดื่มยา
สลายบุตรลงไปชามหนึ่ง ภายในการจัดการของเหล่าหมัวมัวก็
สามารถขับออกไปราวของเสี ยอย่างหนึ่งได้
ซูเฟยไม่เพียงแต่เป็ นสตรี คนแรกที่ฝ่าบาทโปรดให้ถวายตัว ฝ่ าบาท
ยังมีพระประสงค์ให้นางตั้งครรภ์ เมื่อมองไปข้างหน้า ในวังหลังยังมี
ผูใ้ ดมีโชคลาภเช่นนี้ได้อีก?
ตู๋กซู ิงหลันได้ฟังแล้ว ก็รู้สึกมึนศีรษะไปบ้างเล็กน้อย นางคิดไม่ออก
จริ ง ๆ ว่าจีเฉวียนยามอยูบ่ นเตียงจะกลายเป็ นพวกชอบความรุ นแรง
ได้อย่างไร
จีเฉวียนถึงแม้จะมิใช่ตวั ดีเท่าไหร่ แต่นางก็รู้สึกว่า กับสตรี ของ
ตนเองแล้ว เขาไม่มีทางเป็ นพวกที่ชอบความรุ นแรงไปได้หรอก
ตู๋กซู ิงหลันงงงันพูดไม่ออกไปชัว่ ขณะ ได้แต่ปล่อยให้ซูเฟยกุมมือ
ของตนเองเอาไว้ นางก็คอยเอาผ้าอุ่น ๆ เช็ดหน้าให้เขา
โบราณมีประโยคหนึ่งกล่าวว่า มารดาสู งศักดิ์มีบุตรยิง่ ใหญ่ เสี่ ยว
ซูเฟยนับว่าอยูใ่ นเงื่อนไขข้อนี้ ขอเพียงฮึดสู ้สกั หน่อย คลอดองค์ชาย
หรื อองค์หญิงออกมาสักคน ไม่แน่วา่ อาจจะได้รับการแต่งตั้งเป็ น
ฮองเฮาไปเลยก็ได้
ในบรรดาเหล่าลูกสะใภ้มากมายในวังหลัง คนที่ใกล้ชิดกับนางมาก
ที่สุดนอกจากเสี่ ยวหยวนเฟยแล้ว ก็มีแต่เสี่ ยวซูเฟยนี่ละ
เสี่ ยวหยวนเฟยนั้นเอาแต่ร่ าร้องเรื่ องที่วา่ จีเฉวียนไม่มีขนหน้าอก
เกรงว่าอยูก่ บั ฝ่ าบาทไปก็คงจะไม่ได้ผลอะไรออกมา
แต่เสี่ ยวซูเฟยนั้น บรรยากาศเวลาอยูร่ ่ วมกับฝ่ าบาท ดูไปราวกับ
ภาพวาดของจิ้งจอกพันปี ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่าช่างโดดเด่นและดึงดูด
สายตามากจริ ง ๆ
ตู๋กซู ิงหลันเป็ นคนเช่นไรกัน ผูอ้ ื่นดีกบั นางสักหน่อย นางย่อมดีคืน
เป็ นสิ บเท่า
เพราะฉะนั้นนางคาดหวังอย่างยิง่ ว่าซูเม่ยจะสามารถคลอดบุตรชาย
หรื อหญิงสักคนแล้วได้รับแต่งตั้งเป็ นฮองเฮา
ซูเม่ยเห็นสี หน้าของนางแล้ว ในใจแทบจะมีเลือดหยาดหยด ความ
รักที่ถูกทับถมเอาไว้ในใจแค่น้ นั ยังไม่พอ ยังมีขอ้ กีดขวางด้วยศักดิ์
ฐานะที่ไม่อาจก้าวข้ามได้อีก ทาให้เขาหัวใจของเขาราวกับถูกแผด
เผา
ช่วงเวลาที่ผา่ นมาเขายังพอจะประคับประคองความรู ้สึกที่ทุกข์
ทรมานนี้ไปได้บา้ ง
แต่ไม่รู้วา่ ทาไม นับตั้งแต่ที่ตนเองกลับเข้าวังมาและได้เห็นนาง
ความรู ้สึกที่ถูกทับถมไว้ท้ งั หมดก็พลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างระงับไม่อยู่
อีก
เขาชอบตู๋กซู ิงหลันในยามนี้! ชอบอย่างที่สุด! ชอบอย่างไม่มีเหตุผล
ใด ๆ ทั้งสิ้ น!
ราวกับว่ารอคอยนางรอมานานนับพันปี แล้ว
แต่ยามนี้เมื่อมีจีเฉวียนคอยจดจ้องตะครุ บนางอยูข่ า้ ง ๆ ไม่วา่ เขาจะ
คิดดูอย่างไร ช้าเร็ วอาหลันจะต้องถูกเจ้าจิ้งจอกเฒ่านัน่ จับกลืนกินลง
ไปแน่ ๆ
โดยเฉพาะสาวน้อยเช่นอาหลันนี้ ย่อมไม่มีทางรับมือกับจิ้งจอกเฒ่า
อย่างจีเฉวียนได้เด็ดขาด หากไม่ระมัดระวังตัวเมื่อไร ก็อาจตกลงไป
ในกับดักของเขาได้ทุกเมื่อ เมื่อนั้นก็มิอาจหลบหนีได้อีก
อาหลันของเขาสมควรได้เป็ นนางพญาหงส์บนท้องฟ้า จะได้มิตอ้ ง
ถูกจีเฉวียนกักขังเอาไว้ในมุมเล็ก ๆ ของวังหลวง กลายเป็ นนกใน
กรงทอง
คิดถึงตรงนี้ข้ ึนมา เขาก็คว้ามือของอาหลันเอาไว้แนบแน่นกว่าเดิม ”
อาหลัน ข้า….”
เขายังไม่ทนั ได้กล่าวคาพูดของตนเองออกมา ที่ประตูตาหนักมี
สายตาเย็นชากวาดมองเข้ามา เป็ นจีเฉวียนที่ทรงชุดมังกรทอง ยก
พระบาทก้าวใหญ่ ๆ เข้ามาข้างในตาหนัก
” สนมรัก เราพึ่งจะตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นเจ้าแล้ว เจ้าช่างแสนกตัญญู รี บ
มาเฝ้าไทเฮาอยูท่ ี่นี่หรื อ? “
ขณะที่ตรัสอยูน่ ้ นั มุมประโอษฐ์ของจีเฉวียนก็ขยับยกขึ้น แย้มสรวล
ให้อย่างใส่ พระทัย
ตู๋กซู ิงหลันเห็นแล้วก็เกิดความรู ้สึกขึ้นมาอย่างหนึ่ง จึงยิม้ ออกมา
อย่างพึงพอใจ
เห็นท่าทางที่คึกคักเข้มแข็งของเขาเช่นนี้ ใครไม่รู้คงจะนึกว่าเขาเป็ น
จงหยวนบู๊เข้าให้
ซูเม่ยเกือบจะกระโดดขึ้นมาทั้งตัวแล้ว คาพูดที่ยงั ไม่ทนั ได้กล่าว
ออกมาเป็ นต้องกลืนลงท้องไปอีกครั้ง
จีเฉวียนเห็นซูเม่ยนอนอยูบ่ นเบาะอ่อนของตู๋กซู ิงหลัน ดวงเนตรของ
เขาก็พลันเกิดไอเย็นขึ้นมา แต่รอยยิม้ บนใบหน้ายังคงมิได้หายไป
ไหน เขาเดินเข้าไปใกล้ นัง่ ลงใกล้ซูเม่ย ” ดูสิ เพราะว่าเมื่อคืนเหน็ด
เหนื่อยเกินไป ไม่สบายหรื อ? “
จีเฉวียนตรัสออกไปได้อย่างชนิดที่วา่ หน้าไม่แดงใจไม่เต้นแรง ทั้ง
ยังคว้าเอาผ้าอุ่น ๆ บนมือของตู๋กซู ิงหลันมาช่วยเช็ดหน้าให้ซูเม่ยอีก
ด้วย
ไม่เพียงเท่านั้นยังไม่ลืมที่จะกล่าวประโยคสร้างความเข้าใจผิดให้
ผูค้ นอีกว่า ” เมื่อคืนสนมรักต้องเหนื่อยยากมากแล้ว”
ประโยคนี้ขนาดตู๋กซู ิงหลันฟังแล้วยังรู ้สึกถึงความอบอุ่นซึมซาบอ
อกมาได้เลย
แต่วา่ เมื่อซูเม่ยได้ฟัง หากเขายังกล้าร่ าร้องออกมาคาหนึ่งมีหวังต้อง
ถูกจีเฉวียนประหารทิ้งแน่
เมื่อวานนี้พระองค์กท็ รงเตือนเขาเอาไว้แล้ว ให้เขาอยูห่ ่าง ๆ จาก
อาหลัน
แต่วนั นี้พอฟ้าสางเขาก็พงุ่ มาหาอาหลันก่อน แน่นอนว่าจะต้องทาให้
พระองค์พิโรธเป็ นแน่
” ไม่ ๆ ๆ ๆ หม่อมฉันไม่ลาบาก ฝ่ าบาททรงราชการเหน็ดเหนื่อย
นั้นจึงจะนับว่าลาบากจริ ง ๆ ” ซูเม่ยงัดเอามารยาของสาวน้อย
ออกมา ทาเอาจีเฉวียนคลื่นไส้จนแทบกระอัก
น่าเสี ยดายที่ฝ่าบาททรงเป็ นผูท้ ี่มีพระทัยเข็มแข็งดุจภูผา พระองค์
เพียงแต่ปรายพระเนตรน้อย ๆ คิดจะทรงตรวจสอบดูวา่ ตู๋กซู ิง
หลันมีท่าทีเช่นไร
ตู๋กซู ิงหลันนัง่ อยูด่ า้ นข้างของเขา ดวงตาดอกท้อของนางจับจ้องอยู่
บนคนทั้งสอง ใบหน้ายังคนด้านชา ไม่มีสีแดงเลยแม้แต่นอ้ ย ดวงตา
ทั้งคู่ยงั คงเป็ นประกายสุ กใส
ตู๋กซู ิงหลันที่เป็ นโสดมานานจนถึงขั้นชินชาแล้ว ทุกวันนี้หน้าหนา
ขนาดที่มีดก็ยงั บาดไม่เข้า
ถ้อยคาพรอดรักราพันของคนทั้งคู่ไม่สามารถกระทบกระเทือนนาง
ได้เลย
อ๋ อ นอกจากว่าพวกเขาจะลงมือทากันจริ ง ๆ ให้ดูสักรอบ
” ไทเฮา ท่านดูสิ เพื่อจะให้ท่านได้อมุ ้ หลายโดยไว ร่ างกายของกุย้
เฟยแทบจะโดนคว้านเสี ยแล้ว” ว่าแล้ว จีเฉวียนก็กระซิบลงไปที่ขา้ ง
หูของตู๋กูซิงหลันอย่างหน้าไม่อาย
เขาไม่เชื่อหรอกว่า ตู๋กซู ิงหลันจะไม่มีปฎิกิริยาเลยแม้แต่นอ้ ย
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่าเขากาลังโอ้อวดตนเองอยู่
นางครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ค่อยกล่าวออกมาด้วยความจริ งใจว่า “ฝ่ าบาท
ร่ างกายของเสี่ ยวซูเฟยไม่อาจรองรับความรุ นแรงมากเกินไปได้ ครั้ง
ต่อ ๆ ไปพระองค์ควรจะอ่อนโยนมากกว่านี้สกั หน่อยนะเพคะ “
จีเฉวียน “……….” เขากาลังแสดงความโปรดปราน “สตรี ” อีกคน
ต่อหน้านาง แต่นางกลับไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยจริ ง ๆ หรื อ?
ก่อนหน้านี้ไม่ใช่วา่ เพื่อจะได้หาโอกาสยัว่ ยวนเขานางถึงขนาดคิดหา
นับพันนับร้อยวิธีไม่ใช่หรอกหรื อ?
ตอนที่อยูใ่ นทะเลสาบหยูจ่ ื่อถาน ไม่ใช่วา่ ขนาดหลังเท้าของเขายังจะ
จูบเลยมิใช่หรื อ
ตอนนี้มาทาเป็ นหน้าใหญ่ใจกว้าง ทาให้เขาเห็นแล้วรู ้สึกหงุดหงิดยิง่
นัก
ในพระทัยของจีเฉวียนยิง่ ทียงิ่ คุกรุ่ นขึ้นมาเรื่ อย ๆ รอยแย้มสรวล
ของเขากลายเป็ นยิม้ แต่หน้าตาไม่ยมิ้ เสี ยแล้ว “ตามแต่ไทเฮาจะทรง
โปรด เราจะ ‘อ่อนโยน’ กับกุย้ เฟยให้มากกว่านี้ “
ตรัสแล้ว ก็เห็นเขาคว้าตัวซูเม่ยขึ้นมาจากเบาะอ่อน “กุย้ เฟยเป็ นสตรี
ของเรา ในเมื่อเจ็บป่ วยเราก็ควรจะดูแล จงอย่าได้มาอยูร่ บกวนความ
เงียบสงบของไทเฮา ติดตามเรา กับตาหนักตี้หวั เถอะ “
ตรัสจบแล้ว ก็มิได้รอให้ซูเม่ยได้พดู อะไรทั้งสิ้ น จัดแจงคว้าตัวเขา
ออกไปจากตาหนักเฟิ่ งหมิงในทันที
ชนิดที่วา่ หิ้วคอเขาลอยออกไปเลย ถึงซูเม่ยจะมีน้ าหนักตัวกว่าร้อย
ชัง่ แต่กลับลอยละลิ่วออกไปราวลูกไก่ตวั หนึ่ง
พอมองเห็นว่าตู๋กซู ิงหลันกาลังห่างออกไปทุกที ซูเม่ยก็ได้แต่มอง
อย่างแสนอาลัย
กลับไปตาหนักตี้หวั คราวนี้ ไม่แน่วา่ ฝ่ าบาทอาจจะถึงขนาดตอนเขา
ให้กลายเป็ นสตรี ไปจริ ง ๆ
ตอนที่ 152 นังคนไม่ รู้ จักความสงบเสงีย่ ม
อีกเพียงแค่ครึ่ งเดือนก็จะถึงช่วงสิ้ นปี แล้ว ทัว่ ทั้งเมืองหลวงต่างก็พา
กันคึกคักขึ้นมา
ขณะเดียวกันข่าวของซูกยุ้ เฟยก็แพร่ สะพัดออกไปถึงนอกวังแล้ว
ชาวเมืองหลวงต่างก็ปรบมือด้วยความยินดี ขอบคุณเทวดาฟ้าดิน ใน
ที่สุดฝ่ าบาทก็ลืมพระเนตร รู ้จกั โปรดปรานพระสนมบ้างแล้ว
ก่อนหน้านี้ข่าวลือต่างก็แพร่ สะพัดกันไปทัว่ ว่าฝ่ าบาททรงถูกไทเฮา
ล่อลวงจนสู ญเสี ยกระทัง่ พระวิญญาณไปแล้ว
โปรดปรานพระสนมหรื อ ดีเลย จะได้ทาให้ไทเฮาต้องถอดใจอย่าง
ไร้ทางเลือก
ดูท่ารอจนถึงปี หน้า ท้องของซูกนุ้ เฟยก็คงจะมีสญ
ั ญาณอะไรออกมา
บ้างแล้วละมั้ง?
พวกเขาต่างก็รอคอยองค์ชายและองค์หญิงด้วยใจจดจ่อมานานแล้ว
…………………………
หยวนเฟยเตร็ ดเตร่ อยูน่ อกวังมาหลายวันแล้ว หลายปี ก่อนนั้นพระ
บิดาเป็ นฝ่ ายตัดสิ นพระทัยมาสวามิภคั ดิ์กบั ต้าโจวด้วยพระองค์เอง
อีกทั้งพระบิดายังเคยช่วยชีวิตอดีตฮ่องเต้เอาไว้ ดังนั้นในแคว้นต้า
โจว ชาวหนานเจียง (ชาวแดนใต้) จึงมีอิสระอยูพ่ อสมควร
ในเมืองหลวงก็มีชาวหนานเจียงทามาค้าขายอยูค่ ่อนข้างมาก
บนถนนทิศเหนือมีตลาดนัดกลางคืนอยูแ่ ห่งหนึ่ง แถบนั้นเป็ นแหล่ง
รวมตัวของชาวเผ่าต่าง ๆ ในแคว้นต้าโจว นางเองก็มาเตร่ อยูแ่ ถวนี้
เป็ นวันที่สามแล้ว เพื่อจะตามหาหมอผีที่เชื่อถือได้
เพื่อเบี้ยเลี้ยงของนางในปี หน้านางย่อมต้องทุ่มเทอย่างยิง่ แล้ว
ดังนั้นค่าคืนนี้ นางจึงมาอีกครั้ง
ท้องฟ้าพึ่งจะมืดค่า ทัว่ ทั้งตลาดกลางคืนก็สว่างไสวขึ้นมา
แสงโคมแวววาม เรื องรองระยิบระยับ
หยวนเฟยแต่งกายเช่นสาวน้อยชาวหนานเจียง เมื่ออยูใ่ นตลากนัด
ย่อมเป็ นจุดสนใจอยูแ่ ล้ว
นางใช้ผา้ ปิ ดบังโฉมหน้าเอาไว้ครึ่ งหนึ่ง ริ มฝี ปากแดงเรี ยบลื่นดุจ
ไข่มุกทั้งบนล่าง ดวงตาดากลมโตงดงามเรื องรองเช่นเดียวกับแสง
โคม ยิง่ ดูน่าหลงใหล
ในตลาดกลางคืนมีลมโชมมาเป็ นระยะ เมื่อลมพัดมาแต่ละที กระดิ่ง
ในตลาดกลางคืนก็ส่งเสี ยงกรุ ้งกริ๋ งไปตามลม
หยวนเฟยประทับยืนอยูข่ า้ งร้านริ มทางที่ขายตัวหนอนตากแห้ง ฟัง
เสี ยงกระดิ่งลมที่ลอยมา ทาให้นางอดที่จะคิดถึงค่าคืนในแดนหนาน
เจียงของพวกนางไม่ได้
ฤดูหนาวของหนานเจียงมิได้หนาวเย็นรุ นแรงเช่นเมืองหลวง ยามค่า
คืนพวกเขามักจะก่อกองไฟ ผูค้ นต้างจับมือกับและกันร้องเพลง
เต้นราไปรอบ ๆ
บนข้อมมือและข้อเท้าของบรรดาสาวน้อยล้วนพระดับไว้ดว้ ย
กระพรวน ยามที่เต้นราก็จะเกิดเสี ยงเช่นเดียวกันกับกระดิ่งลมเหล่านี้
น่าฟังยิง่ นัก
ยามนั้นทุก ๆ ที่ลว้ นเปี่ ยมไปด้วยเสี ยงหัวเราะ ทั้งยังคึกคัก
สนุกสนานเสี ยยิง่ กว่าตลาดนัดแห่งนี้เสี ยอีก
หากว่าท่านพ่อมิได้สิ้นไป หากว่านางยังมิได้เข้าวังมา ยามนี้นางก็
สมควรจะอยูท่ ี่หนานเจียง ยังคงเป็ นเช่นเด็กสาวที่มีแต่ความสุ ขและ
สดใส
ยิง่ คิดไป ๆ มุมปากของนางก็ยงิ่ ปรากฎยอยยิม้ ขึ้นมา
เจ้างูเขียวเลื้อยลงมาจากข้อมมือของนางพันตัวลงไปบนท่อนแขน
เพื่อจะนอนหลับ สายพันธุ์ของมันนี้ตอ้ งการการพักผ่อนมาเป็ น
พิเศษ
ตัวมันเองก็มิได้นอกเหนือไปเช่นกัน
หยวนเฟยประทับยืนอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็มองเห็นเงาร่ างของคนที่ดูคุน้ เคย
อยูท่ ่ามกลางฝูงชน ถึงแม้วา่ ผูน้ ้ นั จะแต่งกายเชกเช่นคนธรรมดา แต่
จากใบหน้านั้น นางสามารถจดจาได้ในทันที นัน่ คือองค์หญิงใหญ่
มิใช่หรื อ?
องค์หญิงใหญ่ที่สูงศักดิ์ เสด็จมาทาอะไรในตลาดนัดกลางคืนกัน?
หยวนเฟยมองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่าที่ขา้ งกายขององค์หญิงใหญ่น้ นั ไม่
มีผตู ้ ิดตามเลยสักคน
นางจึงตามหลังไปด้วยความระมัดระวัง
เมื่อถึงท้ายตลาดกลางคืน มีเรื อนไม้ที่เก่าจนทรุ ดโทรมอยูหอ้ งหนึ่ง
ที่ดา้ นนอกของเรื อนไม้แขวนธงเก่า ๆ สี แดงเลือดที่ดูสะดุดตา
หยามเฟยเห็นแล้วพาลรู ้สึกขนลุกขึ้นมา ราวกับว่าที่แขวนอยูน่ ้ นั มิใช่
ธง แต่วา่ เป็ นหัวคนผูห้ นึ่ง
องค์หญิงใหญ่พ่ งึ จะเสด็จถึงปากประตูของเรื อนไม้น้ นั ยังไม่ทนั จะ
เข้าไป หยวนเฟยก็อาศัยดวงตาที่วอ่ งไวมือเท้าที่รวดเร็ ว คว้าพระองค์
กลับออกมาก่อน
เมื่อดึงออกมาได้ นางก็พบว่าพระหัตถ์ขององค์หญิงใหญ่น้ นั เย็น
เฉียบเสี ยยิง่ กว่าน้ าแข็งอีก
เย็นเสี ยจนหยวนเฟยยังสะดุง้ นางเงยหน้ามององค์หญิงใหญ่ ก็เห็น
ว่าแววตาของพระองค์น้ นั ว่างเปล่า
ราวกับว่าได้สูญเสี ยจิตวิญญาณไปแล้ว และก็เหมือนดัง่ หลุมดาที่มืด
มิดที่คอยจะดึงดูดนางให้หล่นลงไป
หยวนเฟยชะงักไปเล็กน้อย ยังไม่ทนั ได้มีปฎิกิริยาเช่นไร ก็พลันรู ้สึก
ว่าที่เบื้องหน้านั้นดามืด หัวสมองมึนเพราะถูกคนใช้ถุงเหวี่ยงเข้าใส่
นางรี บพยายามสงบจิตใจ มือข้างหนึ่งก็เกาะกุมพระหัตถ์ขององค์
หญิงใหญ่เอาไว้ ร่ างกายก็กา้ วถอยหลังออกไป มืออีกข้างก็พยายาม
จะสบัดถุงผ้าสี ดาที่ครอบลงมาบนศีรษะ
มือของนางพึ่งจะขยับ ก็มีคนเข้ามาจับตัวนางเอาไว้
เป็ นบุรุษร่ างใหญ่ที่มีเรี่ ยวแรงมากมาย
หยวนเฟยที่เอวบางร่ างน้อย พอถูกบุรุษร่ างใหญ่พวกนั้นลงมือเพียง
เบา ๆ ก็ทาเอานางเห็นแต่ดาวระยิบระยับไปหมด
ภายใต้การดิ้นรนที่ไม่อาจต่อต้าน นางก็ถูกควบคุมตัวไว้ในที่สุด ทั้ง
คนและงูต่างก็ถูกครอบไปทั้งตัว
องค์หญิงใหญ่ที่ยนื อย่ดา้ นข้าง ก็มิได้ส่งเสี ยงใด ๆ เลยตั้งแต่ตน้ จน
จบ
หยวนเฟยถูกครอบศรี ษะเอาไว้ ไม่อาจมองเห็นสิ่ งใดได้ เพียงได้ยนิ
พวกที่พยายามจับตัวนางเอาไว้กล่าวว่า ” นายท่าน มีแม่นางน้อยผู ้
หนึ่งพยายามจะเข้ามาทาเสี ยเรื่ อง พวกเราจึงช่วยกันจับตัวมาแล้ว “
‘นายท่าน’ ผูน้ ้ นั มิได้สนใจในตัวนาง ผ่านไปอีกพักใหญ่ ถึงได้กล่าว
เสี ยงแหบต่าออกมาว่า ” นางยังเป็ นพรมจรรย์ เก็บเอาไว้ก่อน เอาตัว
ไปขังไว้ในคุก”
“ขอรับ” เหล่าบุรุษร่ างใหญ่พวกนั้นรี บเคลื่อนไหว
เมื่อผ้าบนศีรษะถูกถอดออกไป หยวนเฟยมองออกไปรอบด้านก็พบ
แต่ความมืดมิด แสงโคมในตลาดนัดไม่อาจส่ องมาถึง
องค์หญิงใหญ่ประทับยืนอยูข่ า้ ง ๆ ตัวนาง ราวกับถูกสิ่ งใดควบคุม
เอาไว้
ที่เบื้องหลังของเหล่าคนพวกนั้น มีคนสวมชุดคลุมสี ดาอยูผ่ หู ้ นึ่ง ฟัง
เสี ยงแล้วคล้ายว่าจะเป็ นบุรุษ
หยวนเฟยพยายามหรี่ ตามองดู แต่น่าเสี ยดายที่ใบหน้านั้นอยูภ่ ายใต้
ผ้าคลุมจึงมองได้ไม่ชดั เจน
ใต้พระบาทของโอรสสวรรค์ ในเมืองหลวงแท้ ๆ กลับมีคนกล้าทา
ตัวเป็ นโจรเรี ยกค่าไถ่จบั ตัวนางมา ทั้งยังเป็ นช่วงเวลาปลายปี อีกด้วย
พอนางเหลือบตามองดู ก็ได้ยนิ เสี ยงคนผูน้ ้ นั พูดว่า ” ควักลูกตาของ
นางออกมาซะ “
หัวใจของหยวนเฟยก็กระตุกขึ้นมาในทันที ทั้งสองมือสองเท้าของ
นางล้วนถูดมัดเอาไว้ จึงไม่อาจใช้พิษได้ หวังไฉ่กถ็ ูกโยนทิ้งไปด้าน
หนึ่ง จนร่ อแร่ ปางตาย ถึงแม้วา่ นางจะรู ้กบั วิชาต่อสู ้แบบแมวสามขา
อยูบ่ า้ ง แต่เมื่อต้องเผชิญกันบุรุษตัวใหญ่ถึงสองคน ก็ถือว่าเสี ยง
เปรี ยบอยูช่ ่วงใหญ่
บุรุษสองคนนั้นล้อมวงเข้ามา คนหนึ่งจับนางกดลงไปบนพื้น อีกคน
ก็จบั ใบหน้าของนางขึ้นมา ตระเตรี ยมจะควักลูกตาของนาง
หยวนเฟยพยายามดิ้นรนจนสุ ดชีวิต กลับถูกบุรุษร่ างใหญ่น้ นั ตบ
หน้าอย่างแรงครั้งหนึ่ง กาลังนั้นรุ นแรงอย่างที่สุด ทาเอาหัวสมอง
ของนางแทบจะแตกออก เกือบจะหมดลมหายใจไปด้วย
เมื่อเห็นว่านางยังเหลือเรี่ ยวแรงต่อต้านอยู่ บุรุษผูน้ ้ นั ก็ยงิ่ ตบนางซ้ า
ไปซ้ า ๆ มาอีกหลายหน ตบจนหยวนเฟยรู ้สึกมึนงงไปหมด
ปากของนางกระอักเลือดออกมา จมูกก็มีเลือดไหลเช่นกัน
” นังพวกที่ไม่รู้จกั สงบเสงี่ยม หาเรื่ องตาย! ” บุรุษผูน้ ้ นั ตบตีนางไปก็
ด่าทอไปด้วย กระทัง่ นางสิ้ นฤทธิ์หมดเรี่ ยวแรง ไม่อาจส่ งเสี ยงแล้ว
ถึงได้หยุดมือ
หยวนเฟยปิ ดตาแน่น ในใจก็รู้สึกว่าตนเองนั้นกาลังตกนรกแห่ง
ความลาบากอย่างที่สุด
นางไร้ซ่ ึงเรี่ ยวแรงจะขัดขืนแล้ว ได้แต่คิดว่าคนต้องจบสิ้ นชีวิตแน่
แล้ว
ฝ่ ามือของคนผูน้ ้ นั ก็พงุ่ ลงมาอีก กาลังจะสัมผัสกับดวงตาของนางอยู่
แล้ว
ในทันใดนั้นเอง ประตูใหญ่ของเรื อนไม้กถ็ ูกกระชากออก บุรุษที่ตบ
ตีนางผูน้ ้ นั ก็ถูกสับเป็ นสองท่อนลงตรงหน้านาง!
เลือดสดเหล่านั้นสาดกระเซ็นใส่ หน้า ทาเอานางแทบจะจมลงไปใน
ความอุ่นร้อนของเลือดเหล่านั้น ท่ามกลางอากาศของฤดูหนาวที่
โหมรุ นแรงหัวใจของนางตระหนกจนแทบจะหลุดออกมา
ศพของบุรุษที่ถูกสับเป็ นสองท่อนนั้นถูกทิ้งเอาไว้ดา้ นหนึ่ง
หยวนเฟยพยายามจะลืมตาขึ้นมา แต่กระทัง่ ขนตาของนางก็ยงั เต็ม
ไปด้วยหยดเลือด
เมื่อมองออกไป ภายใต้แสงโคมที่สว่างอยูน่ ้ นั ก็มีเพียงประกายของ
ดาบใหญ่ที่วาววับอยู่ ครู่ น่ ึงคอยมองเห็นเรื อนร่ างที่แข็งแกร่ งและ
องอาจนั้น
ภายใต้แสงสว่างของตลาดกลางคืน นางมองไม่เห็นใบหน้าของเขา
ในตอนนั้นเองที่นางพยายามอ้าปากเอ่ยเรี ยกออกไปนั้น ” ช่วย
ข้า…..”
น้ าเสี ยงของนางยังไม่ทนั ขาดคา บุรุษร่ างใหญ่กายาผูน้ ้ นั ก็ใช้มือข้าง
หนึ่งคว้าตัวองค์หญิงใหญ่ข้ ึนมา และแขนอีกข้างก็กาลังจะอุม้ นาง
เอาไว้
มือของบุรุษผูน้ ้ นั ยังไม่ทนั จะได้สมั ผัสนาง ก็เห็นว่าดาบใหญ่ในเมื่อ
ของเขาบินออกไปในทันที แทงทะลุร่างของคนที่กาลังจะเขามาจน
ร่ างลอยไปปักติดบนกาแพง
องค์หญิงใหญ่ที่ถูกเขาแบกเอาไว้บนบ่าลื่นตกลงมา บุรุษผูน้ ้ นั ก็
ชะงักไปในทันที เขารี บรุ่ นไปตรงหน้าองค์หญิงโอบนางขึ้นมาใน
อ้อมอกอีกครั้งอย่างอ่อนโยน
ตอนที่ 153 บุรุษในดวงใจ
คราวนี้ หยวนเฟยค่อยสมารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่าง
ชัดเจน
คนผูน้ ี่กค็ ือ…………….แม่ทพั ผูพ้ ิชิต ตู๋กจู ุน มิใช่หรื อ?
ทันทีที่องค์หญิงใหญ่อยูใ่ นอ้อมกอดของเขา นางก็สิ้นสติไป
หยวนเฟยพยายามฝื นถ่างสติตนเองเองไว้ นางมองไปยังตู๋กจู ุน ตู๋กู
จุนเองก็มองมาที่นางเช่นกัน เขากระชากดาบเล่มใหญ่ออกมาจาก
ร่ างของบุรุษผูน้ ้ นั ปัดผ่านร่ างของหยวนเฟยเบา ๆ เชือกที่มดั นาง
เอาไว้กห็ ลุดออกจนหมด
หยวนเฟยมีเลือดเปรอะเปื้ อนทัว่ ทั้งใบหน้า ดังนั้นเขาจึงมองไม่ออก
ว่าสาวน้อยนางนี้คือผูใ้ ดกัน
เขาในยามนี้กไ็ ม่มีกระจิตกระใจมาสนใจสาวน้อยนางหนึ่ง ดาบใหญ่
ในฝ่ ามือยังมีเลือดหยดไม่ขาดตอน ดวงตาทั้งคู่ของเขาจดจ้องไปยัง
บุรุษชุดดาที่แฝงตัวอยูใ่ นมุมมืด
ท่ามกลางห้องที่ทรุ ดโทรมของเรื อนไม้เก่า ๆ หลังนี้ ร่ างของชายผู ้
นั้นปลดปล่อยกลิ่นอายที่ดามืดออกมา ดูไปยิง่ ให้ความรู ้สึกชัว่ ร้าย
ประหนึ่งปี ศาจ
” เจ้าคือผูใ้ ดกันแน่? แม้แต่องค์หญิงยังกล้าแตะต้อง! ” ตู๋กจู ุนไม่
กล่าวคาพูดไร้สาระ เขาวาดดาบชี้ออกไปในทันที
หากไม่ใช่เพราะเขาคอยจับตาดูองค์หญิงใหญ่อยู่ เกรางว่าในค่าคืนนี้
คงเกิดเรื่ องไม่คาดฝันขึ้นกับนางแล้ว
บุรุษชุดดาผูน้ ้ นั ซ่อนร่ างเอาไว้ใต้ชุดคลุมสี ดาอย่างมิดชิด ทั้งยังมิได้
กล่าววาจาโต้ตอบเขา
คนผูน้ ้ นั กวาดตามองมาที่ทางพวกเขารอบหนึ่ง ในมือก็ปรากฎแส้
เหล็กสี ดาขึ้นมา บนแส้เต็มไปด้วยหนามแหลมเสมือนกริ ชทัว่ ทั้ง
เส้น เขาไม่เสี ยงเวลากล่าววาจาสักคาก็กวาดแส้พงุ่ มาทางตู๋กูจุนแล้ว
ตู่กจู ุนตวัดดาบขวางออกไป แส้น้ นั ก็พดั รัดดาบของเขาเอาไว้ ทันทีที่
พันได้รอบหนึ่ง คนผูน้ ้ นั ก็ออกแรงกระชากอย่างแรง
ด้วยพละกาลังที่รุนแรง ตู๋กจู ุนถูกกระชากจนก้าวล้ าไปข้างหน้าก้าว
หนึ่ง กล้ามเนื้อบนหัวไหล่ของเขาเกร็ งขึ้นมา เขาพลิกมือขึ้นเอื้อมไป
กระตุกกลับครั้งหนึ่ง
คนชุดดาผูน้ ้ นั ก็ถูกเขาดึงจนโผเข้ามา ร่ างกายของคนผูน้ ้ นั คล้ายจะ
เบามาก ตลอดร่ างคล้ายจะมีควันจาง ๆ สายหนึ่งครอบคลุมอยู่ เขา
ปลิมมาตามแรงดึงจนมาถึงข้างตัวหยวนเฟย
คนชุดดาใช้มือข้างหนึ่งยันพื้นเอาไว้ มืออีกข้างก็คว้าตัวหยวนเฟย
ใช้อมุ ้ มือของตนเองบีบลาคอของนาง ดึงนางมาขวางหน้าตนเองไว้
ดาบใหญ่ของตู๋กจู ุนกาลังแทงออกไป พอเผชิญกับหยวนเฟย ดาบ
นั้นก็ถูกเขาตวัดกลับมาอย่างรวดเร็ว
” แม่ทพั ผูพ้ ิชิต ขอน้อมเตือนท่านประโยคหนึ่ง ทางที่ดีอย่าได้ขอ้ ง
เกี่ยวเรื่ องของผูอ้ ื่น ” ในที่สุด คนชุดดาผูน้ ้ นั ก็กล่าววาจาออกมา
มือของเขาข้างหนึ่งบีบลาคอของหยวนเฟยเอาไว้ อีกข้างหนึ่งก็ถือ
แส้ ตลอดร่ างล้วนสวมใส่ ชุดสี ดาสนิท ที่ดา้ นนอกเริ่ มมีผคู ้ น
สังเกตเห็นความผิดปกติบา้ งแล้ว
คนผูน้ ้ นั เหลือบมองอยูแ่ วบหนึ่ง ก็ไม่คิดจะรั้งอยูอ่ ีก เขาซัดฝ่ ามือใส่
หยวนเฟยออกไปครั้งหนึ่ง
ฝ่ ามือนี้ซดั เข้ากลางแผ่นหลังของนาง นางถูกกระแทกจนกระอัก
เลือดออกมาในทันที คนลอยเข้าไปหาตู๋กูจุน
ตู๋กจู ุนรี บตวัดเก็บดาบใหญ่ ยืน่ มือออกไปรับตัวหยวนเฟยไว้
ทันทีที่รับตัวหยวนเฟยได้ เขาก็รู้สึกถึงแรงลมของลูกศรดอกหนึ่ง
กาลังพุง่ เข้ามาจากด้านหน้า ในทิศทางที่เป็ นศีรษะของหยวนเฟยพอ
ดิบพอดี
อาศัยช่วงเวลาเพียงชัว่ ประกายไฟแวบหนึ่ง ตู่กจู ุนก็พลักนางออกไป
ลูกศรจึงปักเข้าสู่ ทรวงอกของเขาแทน
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ วเพียงแค่กระพริ บตา หยวนเฟยเองก็ยงั
ไม่อาจจะตั้งสติได้ทนั
ลูกศรดอกนั้นยังไม่ทนั สิ้ นแรง ก็มีลูกศรอีกหลายสิ บดอกพุง่ ตามมา
ตู๋กจู ุนวางตัวองค์หญิงใหญ่ลง มือกุมดาบใหญ่กระชับมัน่ พอกวาด
ดาบออกไปลูกศรทั้งหมดก็ถูกสกัดเอาไว้ เขากระทืบเท้าลงไปครั้ง
หนึ่ง ไม้แผ่นหนึ่งก็บินออกไป กลายเป็ นตัวสกัดลูกศรที่กาลังพุง่
ออกมา
ลูกศรมากมายกระเด็นไปปักติดบนขอบประตู ผูค้ นที่อยูภ่ ายนอกพา
กันตกใจวุน่ วาย ต่างตะโกนร่ าร้องไปทัว่ ทั้งสี่ ทิศ
ตู๋กจู ุนเหลือบตาไปที่ดา้ นนอกแวบหนึ่ง ภายใต้แสงโคมสว่างไสว
เขาเห็นเงาดาของคนกลุ่มหนึ่งหมอบนิ่งอยูบ่ นอาคารฝั่งตรงข้าม เงา
ดากลุ่มนั้นกาลังจับตาดูสถานการณ์ ตระเตรี ยมจะบุกลงมาที่เรื อนไม้
แห่งนี้
เขาก็ไม่ขบคิดให้มากความอีก มือข้างหนึ่งโอบอุม้ องค์หญิงใหญ่ มือ
อีกข้างกุมดาบไว้ ทะลายกาแพงที่ดา้ นหลังออกเป็ นช่องทางสายหนึ่ง
ขยับเท้าเตรี ยมจะจากไป
ก่อนที่จะก้าวออกไป เขาก็คิดขึ้นมาได้ จึงเหลือบตากลับไปมองสาว
น้อยที่มีเลือดท่วมตัวซุกร่ างอยูใ่ นมุม ๆ หนึ่ง
” หากไม่อยากตายก็ติดตามข้ามา”
หยวนเฟยฝื นขยับร่ างกายลุกขึ้นไปยืนอยูด่ า้ นข้างของเขา ร่ างกายที่
สู งใหญ่ของตู๋กจู ุนมอบความรู ้สึกปลอดภัยให้กบั นาง บนอกของเขา
ยังคงมีลูกศรดอกหนึ่งปักอยุ่ เขาใช้ดาบตัดด้ามมันออกจนสั้น ทั้ง ๆ
ที่บนศีรษะของเขาหลัง่ เหงื่อเย็น ๆ ออกมาชั้นหนึ่ง คนกลับไม่
แสดงสี หน้าใด ๆ ออกมา
หยวนเฟยมองดูริมฝี ปากของเขา ก็เคร่ งเครี ยดขึ้นมา ” ท่านแม่ทพั
ลูกศรนี้มีพิษ “
ตู๋กจู ุนอยูใ่ นสนามรบมานานหลายปี ย่อมจะต้องรู ้สึกได้อยูแ่ ล้ว
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้ตดั สิ นใจที่จะถอยก่อน ไม่ได้ติดตามไล่ล่าชาย
ชุดดาผูน้ ้ นั ไป
” ไป” เขากล่าวออกไปคาหนึ่ง ก็พบว่าฝี เท้าของสาวน้อยผูน้ ้ นั กาลัง
อ่อนแรง เพียงแค่เดินก็ยงั ต้องฝื นใช้กาลังอย่างมาก
เขาลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง สุ ดท้ายก็ตดั สิ นใจวางดาบของตนเองลง คว้า
หยวนเฟยขึ้นมาบนบ่าตนเอง
ทางหนึ่งโอบอุม้ องค์หญิงใหญ่ ทางหนึ่งก็แบกหยวนเฟยเอาไว้ ดาบ
ใหญ่ยอมไม่อาจจะนาไปด้วยได้แล้ว
หยวนเฟยเพียงแต่รู้สึกว่าฝ่ าเท้าเบาวูบ ศีรษะมึนงง จากนั้นห้องเก่า ๆ
ในเรื อนไม้หลังนั้นก็ห่างไกลตนเองออกไปเรื่ อย ๆ อย่างรวดเร็ ว
รอจนนางรู ้สึกตัวได้สติข้ ึนมา คนก็อยูใ่ นจวนตระกูลตู๋กแู ล้ว
” ท่านแม่ทพั ! ” กองทหารตระกูลตู๋กเู ห็นเขามีเลือดอยูเ่ ต็มร่ าง บน
อกยังมีลูกศรปักอยูด่ อกหนึ่ง ก็พากันตกใจจนหน้าถอดสี
ตู๋กจู ุนค่อย ๆ วางองค์หญิงใหญ่และหยวนเฟยลง
” องค์หญิงถูกลอบทาร้าย พวกเจ้าจงเฝ้าเอาไว้ให้ดี ” เขาสัง่ แล้ว
ตนเองก็กระอักโลหิตออกมาคาหนึ่ง
ล้วนเป็ นสี ดาทั้งหมด!
เหล่าลูกน้องทั้งหลายเห็นแล้วก็พากับตระหนกจนหัวใจแทบจะ
กระโดดออกมา ท่านแม่ทพั แม้อยูท่ ่ามกล่างสงครามก็ไม่เคยกระอัก
เลือดมาก่อน!
เขากล่าวแล้วก็ค่อยวางตัวหยวนเฟยลง ” แม่นางผูน้ ้ ีได้รับบาดเจ็บ
เรี ยกหมอมาดูอาการรักษานางด้วย รอให้นางหายดี ค่อยส่ งกลับบ้าน
ไป “
พูดแล้วร่ างของเขาก็โอนเอนไปมา
” ดาบของข้าแม่ทพั ยังอยูท่ ี่ถนนทิศเหนือ ไปเอากลับมาด้วย”
สิ้ นเสี ยงประโยคสุ ดท้าย ร่ างกายใหญ่โตของเขาก็โอนเอนจนล้มลง
เหล่าลูกน้องต่างโถมเข้ามาพยุงอย่างรี บร้อน หลายคนต่างช่วยกันพ
ยุง่ เขาเข้าเรื อน
หยวนเฟยกัดฟันหอบฝี เท้าอ่อนแรงติดตามเข้าไป
เลือดบนใบหน้าของนางแห้งแล้ว เมื่อครู่ ถูกกระหน่าตบตี ศีราะมึน
งงไปหมด พอเมื่อครู่ ได้พกั สักหน่อยจึงดีข้ ึนมาก
ในจวนตระกูลตู๋กูมีแพทย์อยูโ่ ดยเฉพาะตู๋กจู ุนพึ่งจะเข้าเรื อนไป ก็มี
แพทย์ติดตามเข้ามาอย่างรี บร้อน เขาถอดเสื้ อผ้าของตู๋กจู ุนออกจน
เกลี้ยงเกลาต่อหน้าผูค้ นทั้งหลาย
” สวรรค์ ลูกศรนี้พงุ่ เข้าสู ้หวั ใจ หากว่ายังปักลึกลงไปอีกครึ้ งนิ้ว
เกรงว่าวันพรุ่ งนี้จะต้องกลายเป็ นวันระลึกถึงท่านแม่ทพั เสี ยแล้ว! ”
สี หน้าของแพทย์ผนู ้ ้ นั เปลี่ยนเป็ นหนักอึ้ง เขามองดูใบหน้าที่เริ่ ม
เปลี่ยนเป็ นสี เขียว ริ มฝี ปากก็กลายเป็ นสี ม่วงขึ้นมา ในใจของเขาก็ยงิ่
ร่ าร้อง
เหล่าลูกน้องทั้งหลายได้ยนิ เข้าก็ตะลึงจนหนังศีรษะชาวาบ
” พิษชนิดนี้รุนแรงอันตราย ความสามารถในวิชาแพทย์ของข้ามีอยู่
จากัด ดูไม่ออกว่าเป็ นอะไร พวกเจ้ารี บส่ งคนเข้าวังไปเชิญหมอ
หลวงมาดูแลเถอะ”
เขาพึ่งจะพูดจบ ก็เห็นตู๋กจู ุนพยายามลืมตาขึ้นมาอย่างกินแรง ” ไม่
ต้องไป อย่าได้ทาให้นอ้ งเล็กเป็ นกังวล”
” ท่านแม่ทพั ! เวลาเช่นนี้ท่านจะยังมาห่วงสิ่ งใดให้มากความอีก? ”
เหล่าลูกน้องทั้งหลายต่างก็ร้อนรนจนจะคลุม้ คลัง่ ขึ้นมาแล้ว เวลา
เช่นนี้สมควรจะรี บแจ้งคุณหนูให้รู้จึงจะถูก!
” ข้าแม่ทพั บอกว่าไม่ตอ้ งไปก็คือไม่ตอ้ งไป ” ตู๋กจู ุนกระแอมไอ
ออกมาอีกสองครั้ง ล้วนเป็ นโลหิตสี ดาสนิท
ลูกน้องทั้งหลายไม่กล้าล่วงเกินเขา ได้แต่หุบปากเงียบลง
” อ้ายยะ แล้วนี่จะทาเช่นไรดี ” ท่านหมอร้อนใจจนเหงื่อออกท่วม
ศีรษะ ท่านแม่ทพั ทาไมถึงได้ด้ือดึงเช่นนี้? “
ทั้ง ๆ ที่อากาศยังหนาวเย็นอยูแ่ ท้ ๆ แต่ยามนี้เขากลับร้อนรุ มเสี ยจน
มีเหงื่อท่วมไปหมด
หยวนเฟยมองดูดา้ นข้าง นางเช็ดถูใบหน้าที่มีแต่คราบเลือดแห้ง ๆ ”
ให้ขา้ ลองดู”
” เจ้ารึ ? เจ้าเป็ นเพียงสาวน้อยนางหนึ่ง ข้าเป็ นแพทย์มาสามสิ บปี ยัง
ไม่มีความมัน่ ใจสักนิด เจ้าจะทาอะไรได้หรื อ? “
ตอนที่ 154 บุรุษที่แปลกประหลาด
” เรื่ องรักษา ข้าทาไม่เป็ น แต่ถา้ จะให้ถอนพิษก็พอจะทาได้” หยวน
เฟย เดินไปนัง่ ลงที่ขา้ งกายเขา
” ท่านแม่ทพั ช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ข้ายอมสมควรตอบแทนมีน้ าใจของ
ท่าน ขอท่านแม่ทพั โปรดเชื่อถือข้าเถอะ ”
ตู๋กจู ุนมองดูดวงตาของนาง สาวน้อยผูน้ ้ ีองอาจกล้าหาญ ดวงตาของ
นางมีความมุ่งมัน่ อย่างเต็มเปี่ ยม
” รบกวนแม่นางแล้ว”
เขาตอบด้วยน้ าเสี ยงอ่อนแรง ดวงตาหนักอึ้ง คิดแต่จะหลับลงไป
เท่านั้น
” ท่านแม่ทพั ! ” เหล่าลูกน้องต่างรู ้สึกว่าเขาประมาทเกินไปแล้ว สตรี
ที่ไม่มีที่มาผูห้ นึ่งบอกให้เชื่อก็เชื่อถือได้หรื อ?
หยวนเฟยไม่กล่าววาจาไร้สาระอีก เพียงเห็นนางล้วงเอาเข็มเงิน
ออกมาจากกาไลข้อมือ ยืน่ มือไปเหนือทรวงอกของตู๋กจู ุน ”
ค่อนข้างจะเจ็บอยูบ่ า้ ง ขอท่านแม่ทพั อดทนสักครั้ง”
พูดแล้วก็เห็นนางปั กเข็มลงไปบนปากแผลของตู๋กจู ุนเพียงรวดเดียว
ก็สิบกว่าเข็ม หลังจากนั้นก็ลว้ งเอาหนอนสี ดาออกมาจากในถุงข้าง
เอว วางลงบนจุดที่ปักเข็มเอาไว้ นอนดาได้กลิ่นคาวเลือด ก็ขบกัดลง
บนผิวหนังมุดลงไปใต้ผิวหนัง
ดวงตาของท่านหมอกลายเป็ นไข่ไก่ ” นี่……….. นี่เป็ นหนอนพิษ!
แม่นางน้อย เจ้าเรี ยนรู ้อะไรไม่เรี ยน ทาไมเรี ยนรู ้วิชาทาร้ายผูค้ น! “
ผูท้ ี่รายล้อมอยูต่ ่างก็ตกตะลึงไป พอพวกเขาเห็นหนอนสี ดาเหล่านั้น
คลานเข้าไปใต้ร่างของท่านแม่ทพั แต่ละคนก็คิดจะลงมือฆ่านาง
ปี ศาจน้อยผูน้ ้ ีเสี ย
” หนอนที่สามารถทาร้ายคน ก็สามารถช่วยคนได้ แก่ ๆ อย่างเจ้าไม่
รู ้จกั ก็ช่างเถอะ อย่าได้รบกวนข้าช่วยคน”
นางต้องการให้หนอนเหล่านี้เข้าไปในเลือดเนื้อของเขา ดูดพิษร้าย
เหล่านั้นออกมาให้หมด
ท่านหมอโดนตอกหน้าไปรอบหนึ่ง ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเรื่ องพิษจึง
ได้แต่เฝ้าดูอยูท่ ี่ดา้ นข้าง
หยวนเฟยไม่คิดจะเสี ยสมาธิเมื่อของนางขยับต่าลงไปที่บนอกของตู๋
กูจุนก็พบว่า
ดูสิ! มีขนหน้าอกด้วย! แถมยังดกดานุ่มแน่นยิง่ กว่าบุรุษที่แข็งแกร่ ง
ของชาวหนานเจียงเสี ยอีก
นี่เป็ นบุรุษคนแรกในต้าโจวที่นางเห็นว่ามีขนหน้าอก ต่อให้ตอ้ ง
ทุ่มเทชีวิตลงไปนางก็จะต้องช่วยเขาให้ได้
ท่ามกลางความมึนงงตู๋กจู ุนรู ้สึกจัก๊ จี้ตรงหน้าอก ยุบยิบ ๆ เท่ากับว่า
มีมือเล็ก ๆ คู่หนึ่งกาลังลูบไล้ไปมา
………………………
เรื่ องที่องค์หญิงใหญ่ถูกทาร้าย ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตได้รับบาดเจ็บ มี
ผูเ้ ห็นเหตุการณ์อยูไ่ ม่นอ้ ย เพียงไม่นานข่าวนี้กแ็ พร่ สะพัดไปถึงจี
เฉวียน แม้กระทัง่ ตู๋กซู ิงหลันก็ยงั รู ้
นางออกจากวังตั้งแต่กลางดึก ทันทีที่มาถึงจวนตระกูลตู๋กู ก็เข้าไปดู
พี่ใหญ่ในทันที ยามที่เข้าไปนั้น นางเห็นเพียงตู่กจู ุนกาลังหลัก
พักผ่อนอยู่ ร่ างท่อนบนของเขาถูกพันเอาไว้ดว้ ยผ้าขาว สี หน้า
ค่อนข้างสงบนิ่ง หากไม่ใช่เพราะว่าเขากาลังหายใจอยู่ ตู๋กซู ิ่งหลันก็
คงคิดว่าเขาได้ตายไปแล้ว นางกวาดสายตามองดู เห็นสาวน้อยที่มี
เลือดท่วมตัวผูห้ นึ่งคุกเข่าอยูท่ ี่ปลายเตียง มือเล็ก ๆ ข้างหนึ่ง ยังเอื้อ
มาสัมผัสกับหน้าอกของพี่ชายตนเอง เมื่อนางเดินเข้าไป หยวนเฟยก็
รู ้สึกตัว หันศีรษะกลับมามองนาง กล่าวว่า ” วางใจเถอะ พิษของเขา
ถูกกาจัดไปแล้ว”
นางยอมเสี ยหนอนพิษไปถึงสิ บสองตัว ถึงได้ช่วยชีวิต ผูม้ ีพระคุณผู ้
นี้เอาไว้ได้ ทันทีที่นางพูดออกมา ก็ได้ยนิ เสี ยงของตู๋กซู ิง่หลันกล่าว
ว่า ” เสี่ ยวหยวนเฟยเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร
” พูดไปแล้วก็คงเป็ นเรื่ องยาว หยวนเฟยหัวเราะเบา ๆ ” สรุ ปก็ คือ
ว่า ในเมืองหลวงไม่ค่อยสงบนัก” ว่าแล้วนางก็ค่อย ๆ เล่าเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกมา
ตู๋กซู ิงหลันขมวดคิ้วแน่น นางนัง่ ลงที่ขา้ งตัวของตู๋กจู ุน พอ
ตรวจสอบดูจนแน่ใจว่าพี่ชายไม่มีอนั ตรายถึงแก่ชีวิต หัวใจที่ลอย
เคว้งคว้างอยูใ่ นอากาศถึงได้สงบลงได้ เพียงแต่ดวงตาคู่น้ นั ปรากฏ
แววเย็นยะเยือกออกมา คนในครอบครัวของนางตู๋กูซิงหลัน ผูใ้ ดที่
กล้าแตะต้อง นางจะต้องเอาคืนเป็ นร้อยเท่า
ในเมื่อพี่ชายโดนลูกศรไปดอกนึง เช่นนั้นฝ่ ายตรงข้าม สมควร
ได้รับพันศรแทงหัวใจ!
หยวนเฟยมองดูนาง อยู่ ๆ ก็อดที่จะรู ้สึกหนาวเย็นขึ้นมาไม่ได้
กระทัง่ ปลายเท้าก็ยงั รู ้สึกเย็นวูบวาบ
ครู่ ต่อมาตู๋กซู ิงหลันค่อยสัง่ ให้สาวใช้ในจวนนาหยวนเฟยไปชาระ
ร่ างกาย หาเสื้ อผ้าใหม่ของนางให้หยวนเฟยสวมใส่ ตัวนางเองคอย
เฝ้าตู๋กจู ุนอยูข่ า้ ง ๆ กระทัง่ ฟ้าสางแล้วตู๋กจู ุนถึงได้รู้สึกตัวขึ้นมา
” น้องเล็ก……………… เจ้ามาได้อย่างไร” ตู๋กจู ุนเห็นสี หน้าของ
นางเป็ นกังวลในใจก็รู้สึกเจ็บปวดนัก เขาอุตส่ าห์สงั่ พวกลูกน้อง
เอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าไม่ให้รบกวนนาง
” ทัว่ ทั้งเมืองหลวงต่างก็รู้วา่ ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตได้รับบาดเจ็บแล้วข้าที่
เป็ นน้องสาว จะไม่รู้ได้อย่างไร ” ตู๋กซู ิงหลันกุมมือของตู๋กจู ุนเอาไว้
” ต่อไปหากเกิดเรื่ อง จะต้องบอกข้าเป็ นคนแรกพวกเราเป็ น
ครอบครัวเดียวกันสมควรรักใคร่ ปรองดองเอาไว้”
ตู๋กจู ุนตะลึงงันไปครู่ หนึ่ง ค่อยคลี่ยมิ้ ออกมาอย่างอ่อนแรง ยกมือช้า
ๆ อย่างกินแรงอยูบ่ า้ ง ลูบศีรษะของน้องสาวเบา ๆ พี่ใหญ่ร่างกาย
แข็งแรงดุจเหล็กกล้า ย่อมสามารถปกป้องเจ้าได้ไหนเลยจะต้องให้
เจ้ามาคอยปกป้องด้วย`
น้องสาวผูน้ ้ ีเติบโตขึ้นแล้วรู ้จกั ปกป้องดูแลผูอ้ ื่น ครู่ หนึ่งเขาค่อยถาม
ว่า องค์หญิงใหญ่ทรงเป็ นเช่นไร
” นางนอนหลับพักผ่อนอยูใ่ นห้องรับแขก” มีเชียนเชียนคอยดูแลอยู่
ยามที่นางไปแอบมองดูองค์หญิงใหญ่ พระองค์บรรทมอยู่ แต่ถึงจะ
หลับไม่ได้สติ ก็ยงั คงท่องชื่อหนึ่งไม่หยุด ฟู่ หม่า (ราชบุตรเขย) ฉาง
ซุนซู่ แต่ไม่วา่ จะเรี ยกอย่างไร นางก็ไม่ยอมตื่น ราวกลับว่ากาลังติด
อยูใ่ นความฝัน
ตู๋กจู ุนขมวดคิ้วแน่น ” ช่วงนี้นางมักจะ ไปกราบไหว้ ฟู่ หม่าที่สุสาน
อยูบ่ ่อย ๆ ทุกครั้งจะมีท่าทางจิตใจล่องลอย ราวกับคนที่ไร้วิญญาณ
ข้าดูแล้วไม่วางใจ จึงได้ติดตามนางไว้อยูต่ ลอด
เมื่อคืนนี้เห็นนางเข้าไปที่ถนนเหนือ บริ เวณตลาดกลางคืน ในเรื อน
ไม้หลังหนึ่ง ดูท่าทางแปลกประหลาดอยูบ่ า้ ง ตอนที่บุกเข้าไปก็พบ
บุรุษชุดดา ที่มีท่าทางลึกลับผูห้ นึ่ง “
” ท่าทางลึกลับหรื อ? ” ตู๋กูซิงหลันจับประเด็นสาคัญเอาไว้
” เป็ นบุรุษที่ดูแปลกประหลาดผูห้ นึ่ง” ตู๋กูจุนทบทวนความทรงจา
รอบหนึ่ง ” ข้ามองไม่เห็นหน้าของเขา น้ าเสี ยงก็ฟังไม่ออกว่าเป็ นคน
มาจากที่ใด “
” ผูท้ ี่สามารถทาให้พี่ใหญ่บาดเจ็บได้ ย่อมสมควรมีฝีมือไม่ธรรมดา
” ตู๋กซู ิงหลันพูดพลาง ก็นายาที่ได้มาจากท่านหมอ ป้อนให้เขาดื่มที
ละช้อน
ตู๋กจู ุนได้รับการดูแลเช่นนี้ ก็แปลกประหลาดใจอย่างยิง่ เขาจดจาได้
ว่ายามที่นอ้ งเล็กป่ วยเมื่อตอนเด็ก ๆ นั้น ตอนป้อนยา เขาและเจ้า
รองต้องช่วยกันหลอกล่อนาง ใช้วิธีมากมายที่เตรี ยมไว้นบั ร้อยอย่าง
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันหนึ่ง น้องเล็กจะเป็ นคนป้อนยาให้กบั เขา
” แล้วแม่นางน้อย พี่ถอนพิษให้ขา้ เล่า? ” ดื่มยาไปได้ครึ่ งชาม ตู๋กูจุน
ก็คิดถึง แม่นางน้อยเมื่อวานขึ้นมาได้ เขามองไปรอบทิศ เขามองไป
รอบทิศสี่ ดา้ นก็ไม่เห็นตัวคน
” นางเองก็ได้รับบาดเจ็บ รอจนนางหายดีแล้ว ข้าจะส่ งนางกลับไป
บ้านด้วยตัวเอง แม่นางน้อยผูน้ ้ นั ช่วยชีวิตข้าไว้ครั้งหนึ่ง ข้าสมควร
จะต้องขอบคุณนาง”
ขณะที่เขาพูดเรื่ องนี้ออกมา หยวนเฟยที่เพิ่งจะเปลี่ยนเสื้ อผ้าเสร็ จ
เรี ยบร้อยก็เดินเข้าประตูมาและได้ยนิ อยูพ่ อดี แต่ไหนแต่ไร นางไม่
เคยสวมใส่ เสื้ อผ้าของชาวต้าโจว ยามนี้สวมใส่ ผา้ ไหมที่งดงามอยู่
บนล่าง บ่าวหญิงของจวนตู๋กู ยังเปลี่ยนทรงผมเป็ นแบบสตรี ตา้ โจว
ให้กบั นาง ทาให้นางรู ้สึกไม่คุน้ เคยเข้าไปใหญ่
” เป็ นท่านแม่ทพั ที่ช่วยข้าไว้ สมควรเป็ นข้าที่ตอ้ งขอบคุณท่าน
ต่างหาก”
ตู๋กจู ุนหันมามองเห็นนางสวมใส่ กระโปรงสี แดง เส้นผมสี ดายาวดุจ
คลื่นในทะเล ดวงตากลมโต จมูกโด่งเป็ นสัน ริ มฝี ปากแดงระเรื่ อ ดู
แล้วช่างแตกต่าง กับสตรี ทวั่ ไปที่มีผวิ ขาว ในทางตรงกันข้ามนั้น
ผิวพรรณของนาง เหมือนกับเมล็ดงาคัว่ ของคนที่มีสุขภาพดี ยามที่
นางเดินเข้ามาใกล้ เสี ยงกระพรวนก็ดงั ขึ้นเบา ๆ ช่างน่าฟังนัก
หยวนเฟยเดินมาถึงข้างกายเขา ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นทาบลงไปบน
ทรวงอกของเขา ” ร่ างกายของท่านแม่ทพั แข็งแกร่ งกว่าคนทัว่ ไป แต่
ยังไม่สมควรเคลื่อนไหวให้มาก ขอเพียงผ่านไปอีก 1 เดือนก็จะฟื้ นฟู
ดังเดิม”
ตู๋กซู ิงหลันนัง่ อยูด่ า้ นข้างของนาง นางเองก็คุน้ เคยกับการแต่งตัว ใน
แบบสาวน้อยหนานเจียงของหยวนเฟย อยู่ ๆ ได้เห็นนางแต่งตัว
เช่นนี้ ยังเกือบจะจาไม่ได้มองไม่ออกไปเหมือนกัน
ตอนที่ 155 ความชอบธรรม
” เสี่ ยวเฟยของพวกเราช่างงดงามน่าดูนกั ” ตู๋กซู ิงหลัน หยุดป้อนยา
ครึ่ งชามไปครู่ หนึ่ง นางหัวเราะเสี ยงเบา
สาวน้อยผูน้ ้ ีดูอย่างไรก็ไม่ใช่สตรี อ่อนแอเปราะบาง ที่ใช้ชีวิตอย่างไร้
ซุ่มไร้เสี ยงไปวัน ๆ อย่างเด็ดขาด
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเสื้ อผ้าของข้าเปรอะเปื้ อนไปด้วยเลือด ข้าไม่มีทาง
ยอมสวมใส่ เสื้ อผ้าของท่านเด็ดขาด”
หยวนเฟยละใบหน้าออกจากหน้าอกของตู๋กูจุน ใบหน้าของนางแดง
ระเรื่ ออยูบ่ า้ ง
” อย่าได้เห็นว่า เพราะท่านชื่นชมข้า แล้วข้าจะไปชอบท่านนะ ข้าไม่
ชอบสตรี …….” หยวนเฟยพูดพลางก็ถอยหนีห่างจากนางไปอีกนิด
” ข้ารู ้อยูแ่ ล้วว่าเจ้าชอบบุรุษที่มีขนหน้าอก” ตู๋กซู ิ่งหลันบีบปลาย
จมูกของนางเบา ๆ อย่างหยอกเย้า
ใบหน้าของหยวนเฟยยิง่ แดงก่าขึ้นไปอีก นางก้าวถอยหลังไปหลาย
ก้าว ” เจ้าพูดจาไร้สาระอันใดกัน”
นางพูดไปก็ไม่ลืมถลึงตาใส่ ต๋ ูกซู ิงหลัน พลางเหลือบตามองดูต๋ ูกจู ุน
ด้วยใจเต้นแรง
ร่ างกายท่อนบนของ ตู๋กจู ุนถูกพันไว้ดว้ ยผ้าพันแผลมากกว่าครึ่ ง ตู๋กู
ซิงหลันจึงไม่ได้เห็นว่าบนร่ างของเขาเป็ นเช่นไร ย่อมไม่รู้วา่ พี่ชาย
ตนเองมีขนหน้าอก
ข้างตู๋กจู ุนฟังแล้วก็คิดถึงมือเล็ก ๆ ที่ลูบไล้หน้าอกของเขาเมื่อวาน
ขึ้นมา จึงอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองดูหยวนเฟยอยูแ่ วบหนึ่งนึง ” คิด
ไม่ถึงว่าแม่นางน้อยเมื่อวานนี้กค็ ือพระสนม ข้าแม่ทพั เสี ยมารยาท
ไปแล้ว “
ตู๋กจู ุนคิดจะลุกขึ้นมาคานับ นางก็รีบเข้ามากดให้เขานอนลงบนเตียง
เบา ๆ
” ท่านแม่ทพั ได้รับบาดเจ็บ อย่าได้มากมารยาทไปเลย เมื่อกลับเข้าวัง
แล้ว ข้าจะต้องกราบทูลฮ่องเต้ให้ตอบแทนบุญคุณที่ท่านช่วยชีวติ
อย่างแน่นอน”
สี หน้าของหยวนเฟยยังคงแดงก่าไม่หาย โชคยังดีที่นางไม่ใช่คนผิว
ขาว ดังนั้นแก้มสองข้างที่แดงขึ้นมาจึงดูไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่
” เช่นนี้……พวกท่านก็สนทนากันไปก่อนเถอะ ข้าจะไปดูองค์หญิง
ใหญ่”
ไม่รอให้สองพี่นอ้ งตู๋กทู นั พูดอะไร นางก็ชิงวิง่ หนีไปราวสายลม
หอบหนึ่ง
” นางช่างน่ารักจริ ง ๆ ” ตู๋กูซิงหลันมองดูเงาหลังของนางก็อดที่จะ
ยิม้ ออกมาราวกับพวกแม่สื่อไม่ได้ ทั้งยังหันไปมองพี่ชายใหญ่ของ
ตนเอง ถามความเห็นอีกว่า ” พี่ใหญ่วา่ ใช่หรื อไม่? “
” น้องเล็กน่ารักที่สุด” บุรุษที่พนั ปี จะมีสกั คนหนึ่งเช่นตู๋กจู ุน
นอกจากน้องเล็กของเขาแล้ว สตรี อื่นดูอย่างไรก็เหมือน ๆ กันไป
หมด ถึงแม้วา่ หยวนเฟยจะดูพิเศษกว่าสตรี ทวั่ ไปอยูบ่ า้ ง แต่อย่างไร
น้องเล็กก็ยงั ดีที่สุด ตู๋กซู ิงหลันส่ ายศีรษะ นางรู ้สึกว่า นิสยั เช่นพี่ใหญ่
นี้ คงได้แต่เป็ นโสดไปพันปี เสี ยแล้ว
…………………………………..
ตู๋กซู ิงหลันเพิ่งจะป้อนยาอีกครึ่ งชามให้ต๋ ูกจู ุนจนหมดก็เห็นเชียน
เชียนวิง่ มาด้วยความรี บร้อน
” นายหญิงเจ้าคะ ท่านรี บมาดูเร็ ว ๆ เข้า อาการองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อย
ดีเจ้าค่ะ! “
ตู๋กจู ุนได้ยนิ เข้าเขากลับรี บร้อนยิง่ กว่าตู๋กซู ิงหลันเสี ยอีก เขาแทบจะ
ถลาลงจากเตียง แผลที่พ่ งึ พันผ้าไว้ฉีกออก เลือดสดใหม่ซึมออกมา
ตู๋กซู ิงหลันรี บพาเขากลับไปบนเตียง “พี่ใหญ่ท่านอย่าได้ ใจร้อน
มีขา้ อยูน่ ี่ องค์หญิงใหญ่จะต้องไม่ทรงเป็ นอะไร”
ตู๋กซู ิงหลันตกตะลึงไปชัว่ ขณะ นางรู ้มาตลอดว่าพี่ใหญ่ห่วงใยองค์
หญิงใหญ่แต่คิดไม่ถึงว่านางจะประเมินความรู ้สึกนี้ต่าเกินไป
เพียงแค่ได้ยนิ ว่าเกิดเรื่ องขึ้นกับองค์หญิงใหญ่ แม้แต่ชีวติ ของตนเอง
เขาก็ไม่ไยดีแล้ว
” ข้าไม่เป็ นอะไร” ใบหน้าของตู๋กจู ุนขาวเผือก เขากดบาดแผลที่ฉีก
บนหน้าอกไว้ พยายามจะลงจากเตียงให้ได้
” ข้าจะไปดูนาง” พูดแล้วเขาก็ลุกขึ้นมาสวมเสื้ อผ้า ใส่ เสื้ อคลุม เดิน
มุ่งไปทางเรื อนทิศตะวันตก
ตู๋กซู ิงหลันติดตามอยูด่ า้ นหลังของเขา เห็นพี่ชายใหญ่เดินเหิ นอย่าง
มัน่ คงดูไปไม่คล้ายคนที่ได้รับบาดเจ็บมา
จะอย่างไร เขาก็ผา่ นสงครามมาตลอดหลายปี บาดเจ็บมานับครั้งไม่
ถ้วน บาดแผลครั้งนี้สาหรับเขาแล้วไม่นบั ว่าเป็ นอะไรได้
ในเรื อนทิศตะวันตก หยวนเฟยนัง่ อยูข่ า้ ง ๆ เตียงขององค์หญิงใหญ่
องค์หญิงใหญ่ทรงหลัง่ เหงื่อท่วมใบหน้า หอบหายใจอย่างอึดอัดไป
ทั้งร่ าง
ก่อนหน้านี้นางยังไม่มีอาการเช่นนี้ แต่ตอนนี้อาการกลับรุ นแรงขึ้น
คล้ายดัง่ คนเป็ นไข้ แต่ไม่วา่ จะทาอย่างไรนางก็ไม่ยอมรู ้สึกตัว
ยามที่ต๋ ูกูซิงหลันและตู๋กจู ุนมาถึง ก็เห็นมุมโอษฐ์ขององค์หญิงใหญ่
มีเลือดซึมออกมา ตู๋กจู ุนรี บเข้าไปที่ขา้ งกายขององค์หญิงใหญ่ เขา
บีบโอษฐ์ของนางเอาไว้ ใส่หลังมือตนเองเข้าไปทันที เพียงครู่ เดียวก็
เห็น หลังมือของเขาถูกองค์หญิงใหญ่กดั จนมีเลือดออก เลือดสด
ไหลลงจากหลังมือของเขาลงไปถึงปลายคางของนาง
” ข้าเคยเห็น คนที่กดั ลิ้นตนเองมามาก นางจะต้องตกอยูใ่ นฝันร้าย
ทุกข์ทรมานจนทาร้ายตนเอง” ตู๋กูจุนปล่อยให้นางกัดหลังมือของตน
โดยมิได้ขมวดคิ้วแม้แต่นอ้ ย
” ท่านแม่ทพั ท่านพึ่งจะได้รับบาดเจ็บมา…….” หยวนเฟยเห็นเขา
ถูกกัดเช่นนั้น ก็รู้สึกทนไม่ได้อยูบ่ า้ ง
นางเป็ นคนที่กลัวความเจ็บปวดที่สุด หากถูกกัดจนเลือดออกเช่นนี้
เปลี่ยนเป็ นตัวนางคงจะทนไม่ได้แน่ นางพูดพลางก็รีบควานหา
ผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา ส่ งไปให้เขา ตู๋กซู ิงหลันรี บเข้าไปช่วยดึงมือของตู๋กู
จุนออกมา จากนั้นใช้ผา้ เช็ดหน้าใส่ เข้าไปในปากขององค์หญิงใหญ่
แทนป้องกันไม่ให้นางกัดลิ้นตนเองจนขาด ตลอดช่วงเวลานั้น
อาการขององค์หญิงใหญ่ยงิ่ ทียงิ่ แย่ลง นางทุกข์ทรมานอย่างเห็นได้
ชัด ทั้งที่ปิดตาอยูแ่ ต่กลับมีน้ าตาไหลออกมาอย่างไม่ขาด
” นางเป็ นอะไรกันแน่ ถูกสะกดหรื อไม่ เมื่อวานยามที่ขา้ ได้พบกับ
นาง ก็รู้สึกว่า จิตใจของนางไม่อยูก่ บั ตัว ราวกับคนที่ไร้วิญญาณ “
เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่แสนจะอันตรายเมื่อคืนนี้ สี หน้าของหยวนเฟย
ก็ยา่ แย่ลง ไม่มีผใู ้ ดตอบคาถามของนางได้ แม้แต่ต๋ ูกซู ิงหลันก็ยงั เงียบ
งันไปชัว่ ขณะ นางมองดูองค์หญิงใหญ่ ที่มีอาการคล้ายถูกกักขังอยู่
ในความฝัน ใคร่ ครวญอยูค่ รู่ หนึ่ง ระหว่างนั้นก็ได้ยนิ เสี ยงองค์หญิง
ใหญ่ส่งเสี ยงครวญครางอยูต่ ลอด พระหัตถ์กาแน่นเข้า เล็บจิกลงไป
ในใจกลางฝ่ ามือจนมีโลหิตไหลออกมา
” ปี ศาจความฝัน”
ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่นางถึงได้กล่าวคานี้ออกมา
วิญญาณทมิฬก็คลานออกมาจากเงาของนางปี นขึ้นไปบนหัวไหล่
” ดูถา้ ข้าจะประมาทโลกใบนี้ไปเกินไปแล้ว ถึงขนาดมีผทู ้ ี่เลี้ยงปี ศาจ
ความฝันไว้ดว้ ยหรื อ” วิญญาณทมิฬย่นจมูก
มันพยักหน้าเอาคางอ้วน ๆ ของมันชี้ไปทางตู๋กซู ิงหลันกล่าวว่า ”
ขอร้องข้าสิ เจ้าขอร้องข้า ข้าจะไปเรี ยก ไอ้ตวั เล็กนัน่ ออกมา ” ตู๋กู
ซิงหลันหันไปเขกหัวมันรอบหนึ่ง
วิญญาณทมิฬใช้มือสั้น ๆ ของมันกอดหัวทุย ๆ เอาไว้ส่งเสี ยงคราง
หงิง ๆ ออกมา บรรยากาศภายในห้องเงียบงันวังเวง ได้ยนิ แต่เสี ยง
ลมพัดวูบ ตู๋กจู ุนและหยวนเฟยต่างก็หนั ไปมองตู่กซู ิงหลัน ทั้งสอง
ต่างไม่เข้าใจว่าทาไมนานจะต้องทุบตีบ่าของตนเองด้วย
คราวนี้ ภายใต้สายตาที่เย็นเยือกของตู๋กซู ิงหลัน วิญญาณทมิฬ ได้แต่
ทาท่าทางหงอย ๆ อย่างน่าสงสาร มันกระโดดลงไปบนร่ างขององค์
หญิงใหญ่ เพียงชัว่ แว็บเดียวก็กลายเป็ นแสงสี ดา หายเข้าไปใน
หน้าผากขององค์หญิงใหญ่
ปี ศาจความฝันเช่นพวกมันนี้ สามารถกลืนกินความฝัน และสามารถ
กักขังผูค้ นให้ติดอยูใ่ นความฝันได้ ยามที่ต๋ ูกซู ิ งหลันได้พบกับ
วิญญาณทมิฬนั้น มันเป็ นปี ศาจร้ายกาจที่ได้กลืนความฝันมานับไม่
ถ้วนอยูแ่ ล้ว ต่อมาเมื่อนางสามารถการาบมันได้สาเร็ จ ก็ข้ ีเกียจจะ
เปลี่ยนชื่อใหม่ให้มนั จึงเรี ยกมันว่าวิญญาณทมิฬมาโดยตลอด
ปี ศาจระดับสู งเช่นวิญญาณทมิฬ สามารถควบคุมจิตใจของมนุษย์
ให้กระทาซ้ายขวาได้ตามต้องการ
ปี ศาจระดับสู งเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะสามารถกลืนกินความความคิดใน
ความฝันได้เท่านั้น แต่ยงั สามารถกลืนกินปี ศาจด้วยกันได้อีกด้วย
พวกมันมีพลังและความสามารถในการฝึ กฝนการบาเพ็ญตนและ
สามารถจาแลงกายได้ มีพลังในการฝึ กฝนบาเพ็ญเพียรอย่างไร้
ขีดจากัด
ดังนั้นโดยทัว่ ไปแล้วย่อมไม่มีปีศาจที่ยอมให้มนุษย์ควบคุมได้
โดยง่าย
วิญญาณทมิฬนั้นเป็ นปี ศาจที่ต๋ ูกซู ิงหลันกระทาพันธสัญญาด้วย ทั้งคู่
จึงมีจิตใจที่เชื่อมโยงถึงกัน สิ่ งที่วิญญาณทมิฬได้พบเห็นในความฝัน
ขององค์หญิงใหญ่ นางเองก็สามารถมองเห็นได้เช่นกัน
ตู๋กซู ิงหลันยืนพิงกาแพงด้านหนึ่ง ในมือปรากฎแผ่นยันต์ใบหนึ่ง
ขึ้นมา นางค่อย ๆ ปิ ดตาลงช้า ๆ
ทันทีที่ปิดตาลง นางก็เห็นภูเขาและท้องทะเลรายล้อมอยูเ่ ต็มไปหมด
ที่ดา้ นข้างก็เป็ นหุบเหวไร้กน้ บึ้งแห่งหนึ่ง
ท่ามกลางบรรยากาศของสงคราม โลหิตและซากศพท่วมพื้น
ซุ่มเสี ยงกรี ดร้องคร่ าครวญด้วยความน่ากลัวและสงสาร องค์หญิง
ใหญ่ทรงคุกเข่าลงที่ขา้ งกายคนผูห้ นึ่ง
ตอนที่ 156 ฝันร้ าย
ตลอดพระองค์ขององค์หญิงใหญ่เปรอะเปื้ อนไปด้วยโลหิ ต ทรงกุม
มือของคนผูน้ ้ นั เอาไว้อย่างแนบแน่น น้ าพระเนตรที่รินไหลเหือด
แห้งไปนานแล้ว ทัว่ ร่ างของพระองค์เต็มไปด้วยรอยบาดแผลจากคม
ดาบ
ร่ างของผูท้ ี่พระองค์ทรงกุมมือเอาไว้ ปราศจากลมหายใจไปแล้ว
เป็ นเพียงร่ างที่เหลืออยูเ่ ท่านั้น พระองค์เฝ้าอยูข่ า้ งศพนั้น ร่ าร้องเสี ยง
กึกก้อง
” อาซู่ อย่าทิ้งข้าไป”
” อาซู่ เจ้าลืมตามองดูขา้ ก่อน”
” อาซู่ บุตรสาวของพวกเราคลอดออกมาแล้ว นางไม่อาจอยูโ่ ดยไม่มี
บิดา “
นางตรัสประโยคเหล่านั้นซ้ าแล้วซ้ าเล่า
” เจ้าเคยบอกว่า เจ้าจะอยูเ่ คียงข้างข้าไปช่วยชีวิต เจ้าโกหกข้า”
นางเรี ยกอยูน่ านแสนนาน ร่ างนั้นก็ไม่มีความเคลื่อนไหว
นางคุกเข่าพับลงไปบนพื้น โอบกอดร่ างที่เย็นเฉี ยบของเขาเอาไว้
หางตามีน้ าตาที่มีเลือดปะปนอยูไ่ หลออกมา ” เจ้าโกหกข้า….โกหก
ข้า….”
ฉากที่มองเห็นอยูน่ ้ นั ทาให้ต๋ ูกซู ิงหลันเจ็บปวดไปทั้งหัวใจเช่นกัน
ในสมองของนางปรากฎภาพเหล่านั้นขึ้นมา
ทาให้นางปวดระบมไปทั้งศีรษะ
กระทัง่ ผ่านไปครู่ หนึ่ง อาการค่อยสงบลงได้
” อาซู่ อยูร่ ่ วมเป็ นตายร่ วมฝัง ในเมื่อเจ้าไม่อยูแ่ ล้ว เช่นนั้นข้าก็จะไป
ด้วย “
น้ าตาโลหิตเหือดแล้วไปแล้ว องค์หญิงใหญ่หนั ไปทอดพระเนตร
หุบเหวไร้กน้ บึ้งที่ขา้ งตัว ทันใดนั้นไม่รู้วา่ นางเอาเรี่ ยวแรงมาจาก
ไหน นางโอบอุม้ ศพนั้นขึ้นมา หมุนตัวไปเตรี ยมจะกระโดดหน้าผา
ตู๋กซู ิงหลันมองเห็นมือสี ดาขนาดใหญ่ที่ปรากฎขึ้นข้างกายองค์หญิง
กาลังจะผลักนางตกลงไป
” รี บรั้งนางไว้” ตู๋กซู ิงหลันส่ งเสี ยงออกไปทันที
ในความฝันนั้น วิญญาณทมิฬส่ งเสี ยงคารามออกมา ร่ างที่ขมวดเป็ น
ก้อนกลมถูกอุม้ มือสี ดาข้างหนึ่งแหวกมา อุง้ มือสี ดาข้างนั้นสลายร่ าง
กลม ๆ นั้นออกไป จากนั้นก็มีร่างของหมาป่ าดาตนหนึ่งกระโดด
ออกมา หมาป่ ามีขนาดเพียงหนึ่งจั้งเท่านั้น มันยืนอยูร่ ิ มเหวลึก บน
ร่ างของมันก็มีกลิ่นไอชัว่ ร้ายอยูจ่ าง ๆ เช่นกัน
ที่แท้ร่างเดิมของถวนจื่อก็เป็ นเจ้าอสู รประหลาดตัวนี้น่ะเอง
ทันทีที่ได้ยนิ เสี ยงสัง่ ของตู๋กซู ิงหลัน หมาป่ าดาตัวนั้นก็ขย้าลงไปบน
มือสี ดา เพียงคาเดียวก็กดั กระชากมือสี ดานั้นออกมาครึ่ งหนึ่ง
มันกลืนกินมือครึ่ งนั้นลงไป
ขณะเดียวกันองค์หญิงใหญ่กโ็ อบศพนั้นกระโดลงไปในเหวลึกแล้ว
ร่ างของนางที่นอนอยูบ่ นเตียงแสดงความเจ็บปวดรวดร้าวออกมา
หางตาปรากฎน้ าตาเป็ นสายเลือด ตู๋กจู ุนที่ยนื อยูข่ า้ งเตียงของนาง
อยากจะทาทุกทางเพื่อรับความเจ็บปวดนั้นเอาไว้เอง
” นี่เป็ นวิชามายาที่ชวั่ ร้ายเลวทราม แม้แต่หนอนพิษของพวกเราชาว
หนานเจียงก็ยงั มิได้ทาร้ายผูค้ นจนทรมานถึงเพียงนี้ ” หยวนเฟยรี บ
เข้าไปดูแลองค์หญิงใหญ่ นางนึกไม่ออกเลยว่าองค์หญิงจะต้อง
เผชิญกับสิ่ งใดบ้าง
ทั้ง ๆ ที่โอษฐ์ของพระองค์ถูกผ้าอุดไว้ นางยังคงได้ยนิ เสี ยงเรี ยก
ขานชื่อหนึ่งไม่ยอมหยุด ” อาซู่”
นางรู ้วา่ นามของราชบุตรเขยก็คือฉางซุนซู่ แต่นึกไม่ถึงว่าผ่านมาก็
ตั้งหลายปี แล้ว องค์หญิงกลับยังไม่ลืมเลือนราชบุตรเขย ทั้งยังคานึง
หาอย่างหนักหน่วง
” องค์หญิงใหญ่ ตื่นเถอะ ๆ ! ” ตู๋กูจุนตบเบา ๆ ลงบนพระพักตร์
ของพระองค์ พยายามลองปลุกให้ทรงรู ้สึกตัว
แต่องค์หญิงใหญ่กลับไม่ได้ยนิ เลยแม้สกั น้อย อาการกลับทรุ ดลงยิง่
กว่าเดิม เพียงครู่ เดียวลมหายใจก็ยงิ่ เบาบางอ่อนแรงลงไปอีก อ่อน
จางจนแทบจะสัมผัสไม่ได้ มือเท้าก็เย็นเป็ นน้ าแข็งไปจนหมด
สมองของตู๋กจู ุนแทบจะระเบิด เพียงคิดว่านางอาจจะตาย เลือดใน
กายของเขาก็แทบจะกลายเป็ นน้ าแข็ง
” จีฉุน เจ้าตื่นเดี๋ยวนี้! ” เขาส่ งเสี ยงดังกว่าเดิม ตบลงไปบนพระ
พักตร์ขององค์หญิงอีก ” หากเจ้าตาย แล้วซุ่นเอ๋ อร์จะทาเช่นไร? ฉาง
ซุนซู่อยูใ่ นปรโลกพอได้เห็นเจ้า เขาจะยังสงบสุ ขได้อีกหรื อ? “
หยวนเฟยอยูท่ ี่ขา้ งกายเขา นางรู ้สึกได้วา่ ร่ างกายของตู๋กูจุนเองก็
กาลังฝื นเอาไว้เช่นกัน
เดิมที่บาดแผลนั้นก็ฉีกขาดอยูแ่ ล้ว ยามนี้ผา้ พันแผลที่หน้าอกของเขา
ถูกย้อมจนเป็ นสี แดงฉาน เลือดไหลซึมออกมานอกผ้า เลือดที่อุ่น
ร้อนจากอกของเขาไหลออกมา หยดลงบนหลังมือขององค์หญิง
ใหญ่
ในความฝัน วิญญาณทมิฬที่แปลงร่ างกลับเป็ นหมาป่ ากระโดดตาม
ลงไปในหุบเหวลึก เพียงครู่ เดียวก็เห็นมันคาบเององค์หญิงใหญ่และ
ศพนั้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง
เท้าของมันตะกุยออกไปเพียงไม่กี่ที ก็พาพวกเขามาถึงบริ เวณที่
สะอาดสะอ้านแห่งหนึ่ง
จิตใจขององค์หญิงใหญ่ราวกับตายด้านไปแล้ว แม้วา่ อยู่ ๆ นางจะ
ได้เห็นหมาป่ าตัวหนึ่งปรากฎขึ้นอย่างไร้ที่มา นางก็ไม่มีปฎิกิริยาเลย
สักนิด
เพียงแต่โอบกอดศพของฉางซุนซู่เอาไว้ไม่ยอมขยับ
” หาตัวปี ศาจฝันร้ายนัน่ ออกมา ให้เจ้าจัดการได้ตามอาเภอใจ ” ตู๋กู
ซิงหลันออกคาสัง่ กับวิญญาณทมิฬอีกครั้ง
นางยังคงยืนพิงอยูข่ า้ งกาแพง แผ่นยันต์ในมือยังถูกคีบเอาไว้แน่น
ทันทีที่นางสัง่ ออกไป ภูเขาที่รายล้อมอยูร่ อบ ๆ ก็แปลเปลี่ยนเป็ น
แม่น้ าโลหิ ต สายน้ านั้นกาลังคลุม้ คลัง่ ราวกับงูร้ายตัวหนึ่งที่กาลังจะ
ม้วนกลืนองค์หญิงใหญ่เข้าไป
ที่นี่เป็ นโลกแห่งความฝัน ถึงแม้วา่ สิ่ งที่เกิดขึ้นนั้นที่จริ งแล้วมีแต่
ความว่างเปล่า แต่วา่ สาหรับผูค้ นหรื อจิตใจที่ถูกดูดเข้ามาในความ
ฝันนี้กลับมีผลร้ายอย่างรุ นแรง
และผูท้ ี่ได้รับผลกระทบอย่างรุ นแรงที่สุดนั้นย่อมเป็ นเจ้าของความ
ฝัน
หากว่าองค์หญิงใหญ่ทรงติดอยูใ่ นเหวลึกของความฝัน นางก็จะ
กลายเป็ นเพียงร่ างที่เดินได้แต่ไร้ซ่ ึงจิตวิญญาณ หากเปรี ยบเทียบกับ
คนที่ตายแล้วก็ไม่แตกต่างกัน
วิญญาณทมิฬกระโดดลงไปในทะเลเลือดนั้น มันกลายร่ างอีกครั้ง
อย่างรวดเร็ วเปลี่ยนเป็ นภูเขาสู งขนาดเล็กลูกหนึ่ง ต้านทานทะเล
เลือดที่คลุม้ คลัง่ ราวกับงูน้ นั ไว้
มันอ้าปากที่แดงฉานไปด้วยโลหิต กลืนกินทะเลเลือดที่ราวกับงูน้ า
ตัวนั้นลงไป
งูเลือดตัวนั้นพลิกตัวหนี โอบล้อมไปรอบตัวมัน พยายามจะกลืนกิน
มันเช่นกัน
หางตาขององค์หญิงใหญ่มีโลหิตไหลซึมออกมาอีก นางไม่สนใจ
ไยดีวิญญาณทมิฬ โอบกอดศพของฉางซุนซู่ไว้ เตรี ยมจะหันไป
กระโดดเหวอีกครั้งหนึ่ง
พอนางขยับตัว ทันใดนั้นก็ปรากฎเงาร่ างหนึ่งผุดขึ้นมาขวางเอาไว้
นางหันไปมองดู ก็เห็นตู๋กจู ุนที่สวมเกราะเงิน มือถือดาบฬใหญ่ขวาง
อยูเ่ บื้องหน้านาง
” จีฉุน กลับไปกับข้า”
จีฉุนพอเห็นเขา ก็เริ่ มมีปฎิกิริยาขึ้นมา ดวงตาของนางปรากฎแวว
แห่งความเคียดแค้นชิงชังอย่างที่สุด
” อาซู่ตายในน้ ามือของเจ้า เจ้าก็ฆ่าข้าไปด้วยกันเสี ยเถอะ “
” กลับไปกับข้า” ตู๋กจู ุนย้าประโยคนั้นอย่างหนักแน่นอีกครั้ง
” ซุ่นเอ๋ อร์กาลังรอเจ้าอยู่ “
พอเอ่ยถึงชื่อนี้ข้ ึนมา จีฉุนก็เริ่ มฟิ้ นฟูความคิดขึ้นมาได้ นางกอดศพ
ในอ้อมแขนเอาไว้แน่น ” ซุ่นเอ๋ อร์…….ซุ่นเอ๋ อร์……”
ใช่แล้ว บุตรสาวของนางกับอาซู่
” ซุ่นเอ๋ อร์ไม่อาจไร้มารดา ” ตู๋กจู ุนกุมข้อมมือขององค์หญิงไว้ ยก
มืออีกข้างขึ้นมาผลักศพของฉางซุนซู่ลงไปทางเหวลึก
อีกด้านหนึ่ง วิญญาณทมิฬกาลังต่อสู ้กบั ทะเลเลือดที่ราวกับงูที่คุม้
คลัง่ ตลอดร่ างของมันมีแต่รอยแผล
วิญญาณทมิฬได้เปรี ยบกว่าขั้นหนึ่ง ” ในดวงตาทั้งสองข้างที่แดงก่า
ประดุจเลือดของมันปรากฎสายฟ้าสี แดงขึ้นมา รอยแผลทัว่ ทั้งตัว
ของมันก็ประสานกันอย่างรวดเร็ ว
” ตอนที่อวั๊ ได้เป็ นปี ศาจร้ายนั้น เจ้ามันก็แค่ไข่ใบหนึ่ง”
ทะเลโลหิตนั้นถูกมันกลืนกินลงไปกว่าครึ่ งหนึ่ง ส่ วนที่เหลือได้แต่
ดิ้นรนอยูบ่ นพื้นอย่างคุม้ คลัง่
วิญญาณทมิฬมิได้ให้โอกาสมันต่อต้านเลยแม้แต่นอ้ ย กรงเล็บที่
แหลมคมของมันตวัดออกมา ก็อา้ ปากกว้างที่เต็มไปด้วยเลือดขึ้น
มันใช้กรงเล็บฉีกกระชากปี ศาจนั้นออกเป็ นชิ้น ๆ กลืนกินลงไปราว
กับขบเคี้ยวน้ าตาลเม็ด
เมื่อกินจนหมดก็อิ่มเอมเปรมปรี อย่างพออกพอใจ
คราวนี้ หุบเหวลึกที่อยูเ่ บื้องหลังพวกเขาก็ทะยอยหายไปจนหมด
วิญญาณทมิฬจดจ้องมองดูร่างของตนเอง มันติดตามตู๋กซู ิงหลันข้าม
ภพมาตั้งนาน นี่เป็ นครั้งแรกที่มนั สามารถฟื้ นฟูร่างเดิมได้ส่วนหนึ่ง
ถึงแม้วา่ ร่ างนี้จะมีกาลังไม่ถึงหนึ่งในสิ บส่ วนของร่ างเดิมที่มนั เคยมี
แต่วา่ ความองอาจนี้กย็ งั ทาให้มนั พอใจอยูไ่ ม่นอ้ ย
หากว่าสามารถฟื้ นฟูร่างเดิมเหมือนในชาติก่อนได้ ก็คงจะดียงิ่
…………………………….
ภายในเรื อนตะวันตกของตระกูลตู๋กู
ผูค้ นในห้องเพียงรู ้สึกถึงสายลมเย็นยะเยือกหอบหนึ่งพัดผ่านตนเอง
พวกเขาคับคล้ายคับคลาว่าได้เห็นไอสี ดาลอยออกมาจากหน้าผาก
ขององค์หญิงใหญ่
จากนั้นนางก็สงบลงในทันที
ขณะที่พวกเขายังงงงันกันอยูน่ ้ นั ก็เห็นตู๋กซู ิงหลันที่ยนื พิงกาแพงอยู่
ตลอดรี บเข้ามาแปะยันต์แผ่นหนึ่งลงบนหน้าผากขององค์หญิงใหญ่
เอาไว้
ตอนที่ 157 ใช้ ชีวติ ที่เหลืออยู่ไปปกป้องพวกนาง
เพียงแค่ยนั แผ่นนั้นสัมผัสลงไปเบา ๆ ก็สลายหายไปในทันทีราวกับ
ว่า มันไม่เคยได้สมั ผัสกับร่ างกายขององค์หญิงมาก่อน
ยันต์ติดตามนี้สามารถติดตามกระแสพลังของคาสาปได้
พูดง่าย ๆ ก็คือเป็ นดัง่ จมูกของสุ นขั ดมกลิ่นนัน่ เอง
บนร่ างขององค์หญิงใหญ่ยงั มีกลิ่นอายของปี ศาจความฝันอยู่ หาก
อาศัยพลังของยันต์ติดตามนี้ ก็จะสามารถหาร่ อยรอยของคนที่ใช้
อาคมกับนางออกมาได้
แต่การสร้างยันต์ชนิดนี้ไม่ง่ายเลย ไม่เพียงจะต้องสิ้ นเปลือง
พละกาลังไปมาก ในหนึ่งปี นางก็สามารถใช้ออกได้เพียงครั้งเดียว
พวกเขายังไม่ได้สอบถามตู๋กซู ิงหลันว่าทาอะไรลงไป ก็เห็นองค์
หญิงใหญ่ถอนหายใจยาว เริ่ มรู ้สึกตัวขึ้นมา
ทันทีที่นางรู ้สึกตัวก็ทอดพระเนตรเห็นตู๋กจู ุน
” จีฉุน” ตู๋กจู ุนส่ งเสี ยงเรี ยกนางครั้งหนึ่ง บนหน้าอกของเขายังคงมี
เลือดหยาดหยดออกมา ไหลลงไปบนหลังหัตถ์ของนาง ” ตื่นขึ้นมาก็
ดีแล้ว”
จีฉุนพึ่งจะรู ้สึกตัว ยังคงสับสนระหว่างความจริ งกับความฝัน
นางทอดพระเนตรเห็นใบหน้าของตู๋กจู ุน ก็เกิดอารมณ์พลุ่งพล่าน
ขึ้นมา กาหมัดทุบลงไปบนอกของเขา “ตู๋กจู ุน เจ้าฆ่าอาซู่ แล้วยัง
ผลักเขาลงเหวไปอีก ข้าเกลียดเจ้า! ข้าจะให้เจ้าชดใช้ชีวิตให้อาซู่!
นางกระหน่าหมัดลงไป ตู๋กจู ุนก็ไม่ได้หลบหลีก
ทุกหมัดของจีฉุนล้วนกระแทกลงไปบนบาดแผลของเขา เดิมที
บาดแผลนี้กฉ็ ีกขาดแล้ว ยามนี้กย็ งิ่ เจ็บซ้ าลงที่เดิมอีก
เลือดสดของเขาริ นไหลออกมา ย้อมหมัดของจีฉุนจนแดงฉาน
หยวนเฟยมองดูจากด้านข้าง ทาเอาหัวใจของนางเองเจ็บปวดแทน
บุรุษผูน้ ้ ีทาไมถึงได้โง่เขลาเช่นนี้ เขาไม่รู้จกั หลบหลีกหรื อไร?
กระทัง่ จีฉุนเหน็ดเหนื่อยแล้ว ตู๋กจู ุนถึงได้กล่าวว่า ” ทูลองค์หญิง
กระหม่อมไม่อาจตายได้”
เขารับปากฉางซุนซู่เอาไว้ จะใช้ชีวิตที่เหลืออยูป่ กป้องพวกนางแม่
ลูก
หัตถ์ของจีฉุนเปื้ อนไปด้วยเลือด ทาเอานางรู ้สึกถึงความเหนอะหนะ
ที่อุ่นร้อนขึ้นมา นางถึงได้รู้สึกตัวอย่างเต็มที่ นี่เป็ นความจริ ง มิใช่
ความฝัน
เมื่อเจ็ดวันก่อน เป็ นวันครบรอบราลึกถึงอาซู่ นางไปกราบไหว้ที่
สุ สาน พอกลับมาก็งุนงงไม่ค่อยได้สติ รู ้สึกเหมือนตกอยูใ่ นฝันร้าย
ในความฝันนั้นนางและอาซู่พ่ งึ จะผ่านพิธีวิวาห์ เขาก็ลาไปสนามรบ
สิ้ นชีวิตอยูบ่ นภูเขาท่ามกลางทะเลเลือด
คนที่เคยพูดบ่อย ๆ ว่าจะรักนางไปทั้งชาติ ปกป้องนางไปชัว่ ชีวิต
จะไม่กลับมาอีกแล้ว
ในความฝันนั้นเขาตายอย่างน่าอนาถนัก ดาบเดียวแทงทะลุหวั ใจ
สิ้ นไปในทันที
กระทัง่ ยามนี้เมื่อนางคิดขึ้นมา ก็รู้สึกว่าหัวใจถูกคนมาควักออกไป
อย่างโหดเ**้้ยม
จีฉุนพยายามเก็บงาความปวดร้าวราวกับหัวใจถูกทิ่มแทงนั้นเอาไว้
นางปิ ดเนตรลง ” เจ้าไปซะ ข้าไม่ตอ้ งการเห็นเจ้าอีก”
” ได้ ข้าไป ” ตู๋กจู ุนลุกขึ้นยืน ” เพียงแต่ไม่อาจทาตามพระประสงค์
ในประโยคหลังขององค์หญิงได้ เมื่อท่านมีอนั ตราย ข้าจาเป็ น
จะต้องปกป้องชีวิตของท่าน”
ใบหน้าของเขาขาวซีด พยายามเก็บอาการบาดเจ็บเอาไว้ เขาเดิน
ออกไปจากเรื อนตะวันตกท่ามกลางสายตาเกลียดชังของจีฉุน
” เสี่ ยวหยวนเฟย รบกวนเจ้าช่วยดูแลพี่ใหญ่แทนข้าหน่อยเถอะ” ตู๋กู
ซิงหลันหันไปขอร้องหยวนเฟย
เมื่อครู่ นางไม่ได้หา้ มองค์หญิงใหญ่ทาร้ายพี่ชาย เพราะรู ้วา่ ในใจของ
พระองค์เต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างลึกล้ า
พี่ชายยอมทนเช่นนี้ จะต้องรู ้จกั หนักเบาอยูแ่ ล้วแน่
พอได้ฟังคาพูดของพี่ชาย ขนาดนางที่เป็ นคนโสดมานานแสนนาน
ยังรู ้สึกประทับใจขึ้นมาเลย ถ้าจะบอกว่าพี่ใหญ่ไม่ได้ชอบองค์หญิง
ละก็ นางไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด
แต่เพราะไปฆ่าสามีของผูอ้ ื่น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฆาตกรที่ฆ่าสามี
จะให้องค์หญิงใหญ่ทนได้เช่นไร
หยวนเฟยชะงักไปชัว่ ครู่ ก็พยักหน้า ติดตามออกไปทันที
ตู๋กซู ิงหลันสัง่ ให้เชียนเชียนไปชงชาสงบใจมา
ในห้องจึงมีแต่เพียงองค์หญิงใหญ่และตู๋กซู ิงหลันเท่านั้น นางหยิบ
ผ้าสะอาดมาเช็ดคราบเลือดบนหัตถ์
” องค์หญิง หากวางความแค้นลงจึงจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้
หากว่าท่านราชบุตรเขยยังคงอยู่ เขาย่อมต้องคาดหวังให้ท่านมี
ความสุ ข ” ตู๋กซู ิงหลันนัง่ ลงที่ขา้ งกายนาง
ที่ปีศาจฝันร้ายสามารถกักขังพระองค์เอาไว้ในความฝันได้ ก็เป็ น
เพราะว่าองค์หญิงใหญ่คานึงหาอยูต่ ลอดเวลา แม้ผา่ นมานานหลายปี
ก็ยงั คงตอกย้าอยูก่ บั ตนเอง
” ท่านถูกมนต์ควบคุมเข้าแล้ว เป็ นพี่ใหญ่ไปช่วยท่านกลับมา ” ผ่าน
ไปครู่ หนึ่งตู๋กซู ิงหลันก็พดู ขึ้นมาอีก
” ไทเฮา หากท่านจะมาขอร้องให้ขา้ ให้อภัยตู๋กจู ุนละก็ ท่านจงล้มเลิก
ความตั้งใจเสี ยเถอะ ” จีฉุนเอนตัวอยูบ่ นฟูก ” ท่านไม่เคยต้องเผชิญ
กับความทุกข์และความสิ้ นหวังเช่นเดียวกันกับข้า…….”
” ข้าเป็ นองค์หญิงใหญ่ของต้าโจว สามีขา้ อาจตายในสงครามได้
สามารถตายเพื่อชาติบา้ นเมืองได้ แต่ไม่สมควรจะต้องมาตายด้วยมือ
ของทหารของชาติตนเอง! “
” อาซู่ห่วงใยชาติบา้ นเมือง ถึงแม้เข้าจะเป็ นเพียงขุนนางบุ๋น แต่
สงครามกับพวกริ วกิว (โอกินาว่า , ญี่ปุ่น) ในปี นั้น กองทหารสิ บ
หมื่นของตระกูลตู๋กถู ูลอ้ มเอาไว้ เป็ นสามีของข้าที่บุกป่ าผ่าวงล้อม
เข้าไปส่ งเสบียง ช่วยชีวิตทหารทั้งสิ บหมื่นของตู๋กจู ุน อยูร่ ่ วมต้อสู ้
ในแนวหน้ากับพวกเขาทั้งวันทั้งคืน ถึงได้ได้สามารถเอาชัยเหนือ
พวกริ วกิวได้ “
” แต่วา่ ต่อมาละ………เขากลับตายเสี ยแล้ว”
จีฉุนพยายามหักห้ามอารมณ์ที่พลุงพล่านของตนเอง “เขาตายด้วย
น้ ามือของคนที่เขาช่วยเอาไว้ “
นางพยายามหักห้ามน้ าตาไม่ให้ไหลออกมา จนร่ างกายสัน่ สะท้าน
ไปทั้งร่ าง
ท่าทางเช่นนี้ไม่วา่ ผูใ้ ดได้เห็นเป็ นต้องปวดใจแน่แท้
” เขาไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าซุนเอ๋ อร์ ไม่มีโอกาสได้ร่ าลาข้าเลยสัก
คา”
” เป็ นข้าที่ผดิ ไปแล้ว ข้าไม่ควรรับปากให้เขาไปสงคราม ข้าสมควร
รั้งเขาเอาไว้ในเมืองหลวง ไม่ให้เขาไปไหนแม้แต่กา้ วเดียว”
” เขาเป็ นถึงราชบุตรเขย สามารถอยูอ่ ย่างมีเกียรติสูงส่ งไปชัว่ ชีวิต
เดิมเขาไม่จาเป็ นต้องไปแนวหน้าเลยด้วยซ้ า”
จีฉุนสู ดลมหายพระทัยติด ๆ กัน
พอเห็นร่ างที่สนั่ สะท้านอย่างรุ นแรงของพระองค์ ตู๋กซู ิงหลันก็ลุก
ขึ้นมา โอบกอดพระองค์ไว้เบา ๆ
ไม่รู้วา่ เพราะอะไร ยามที่จีฉุนพูดเรื่ องเหล่านี้ออกมา หัวใจของนางก็
พลอยเจ็บปวดไปด้วย ราวกับว่านางเองก็เคยได้ผา่ นเหตุการณ์ที่ขม
ขื่นทรมานหัวใจเช่นนี้มาแล้วเหมือนกัน
องค์หญิงใหญ่มิได้ปฎิเสธอ้อมกอดของนาง พระองค์เองก็คล้ายกับ
จะลืมไปแล้วว่า กี่ปีมาแล้วที่ไม่เคยได้รับการปลอบประโลมจาก
ผูอ้ ื่น
น้ าพระเนตรที่ทรงพยายามหักห้ามเอาไว้ ก็รินไหลลงมาไม่ขาด
สายในทันที
ตู๋กูซิงหลันโอบกอดและตบหลังให้พระองค์เบา ๆ นางไม่รู้วา่
สมควรจะกล่าวอะไร หากจะให้พระองค์อภัยให้พี่ชายใหญ่กค็ งจะ
เป็ นไปไม่ได้แล้ว
เรื่ องนี้ตวั นางก็จะต้องรับผิดชอบเช่นกัน ไม่อาจปล่อยให้พี่ชายใหญ่
เอาชีวิตไปชดใช้ให้ฉางซุนซู่ได้เด็ดขาด
ต่อไปภายภาคหน้า นางจะต้องพยายามทุ่มเทดูแลสองแม่ลูกคู่น้ ีให้ดี
ตู๋กซู ิงหลันคอยปลอบประโลมนางโดยมิได้กล่างวาจาใด จีฉุนก็ร้ า
ไห้อย่างหนักอยูใ่ นอ้อมแขนของนาง เมื่อได้ปลดปลอยระบาย
ออกมา คนก็ผอ่ นคลายลงมาก
นางถูกปี ศาจความฝันกักขังอยูน่ าน ร่ างกายอ่อนแอลงมาก เมื่อ
ร้องไห้จนเหน็ดเหนื่อยก็ยงิ่ อ่อนล้าเข้าไปอีก หลังดื่มชาสงบใจลงไป
ไม่นานก็หลับลึกลงไป
แต่คราวนี้เป็ นการหลับอย่างสงบ บนหัวตาและหางคิ้วไม่มีร่องรอย
ของความทุรนทุรายอีก
ตู๋กซู ิงหลันห่มผ้าให้นาง ทั้งยังจุดกายานหอมสงบใจให้ ถึงได้วางใจ
ลงได้บา้ ง
” เชียนเชียน เจ้าไปที่จวนองค์หญิง รับตัวซุ่นเออร์มาที่นี่” ครู่ ต่อมา
นางก็หนั ไปร้องสัง่ เชียนเชียน
แต่กลับไม่ได้ยนิ เชียนเชียนขานรับ
พอนางมองออกไปด้านนอก ก็เห็นร่ างกลม ๆ สี ชมพูของเด็กหญิง
ตัวน้อยกาลังพุง่ เข้ามาทางนาง ” ท่านย่าน้อย ท่านแม่เป็ นอะไรไปเจ้า
คะ? “
ตู๋กซู ิงหลันอุม้ เด็กหญิงน้อยขึ้นมา ” ไม่เป็ อะไรหรอก นางแค่เหนื่อย
เกินไปเท่านั้น นอนสักตื่นหนึ่งก็หายแล้ว “
ตู๋กซู ิงหลันอุม้ ซุ่นเออร์เอาไว้ หอมแก้มกลม ๆ นั้นไปฟอดหนึ่ง ”
หลายวันนี้มาพักอยูใ่ นจวนของย่าน้อยดีไหม? “
” แล้ว ท่านน้าฮ่องเต้เล่าเจ้าคะ? ” ซุ่นเออร์หนั ไปมองดูรอบ ๆ “ท่าน
น้าฮ่องเต้พาซุนเออร์มา พระองค์กป็ ระทับอยูท่ ี่บา้ นของท่านย่าน้อย
ด้วยใช่ไหมเจ้าคะ? “
คราวนี้ต๋ ูกซู ิงหลันถึงได้หนั ไปมองเห็นจีเฉวียน เขามักจะสวมใส่ แต่
ชุดสี ดาอยูต่ ลอด ช่วงเวลารุ่ นสางเช่นนี้แสงสว่างยังคงขมุกขมัวอยู่
มาก หากไม่ได้สงั เกตให้ดีก็คงมองไม่เห็นเขา
ยามปกติช่วงเวลานี้ ฮ่องเต้จะต้องเตรี ยมพระองค์สาหรับการประชุม
เช้า
ตู๋กซู ิงหลันจึงคิดไม่ถึงว่าเขาจะมาด้วย
ที่แท้เมื่อครู่ น้ ี จีเฉวียนอุม้ ซุ่นเออร์รออยูข่ า้ งนอกมาโดยตลอด
ตอนที่ 158 เมื่อใจไม่ อยู่กบั ตัว ตัวก็ไร้ อสิ ระ
ตู๋กซู ิงหลันช่างอ่อนโยนกับองค์หญิงใหญ่มากเกินไปแล้ว ความ
อ่อนโยนถึงเพียงนี้แม้แต่พระองค์เองก็ยงั ไม่เคยได้ทอดพระเนตรมา
ก่อน
ตู๋กซู ิงหลันอุม้ ซุ่นเออร์ออกมาจากในเรื อน ค่อยนาเสด็จจีเฉวียน
ออกไปด้านข้างเรื อน หันไปยกมือ”ไฮ” ทักเขาคาหนึ่ง
จีเฉวียนมองดูกิริยาของนาง ก็อดที่จะดึงนางเข้ามาในอ้อมกอดไม่ได้
เขารัดนางอย่างแนบแน่น
ซุ่นเออร์จึงได้แต่กลายเป็ นไส้ขนมเปี๊ ยอยูต่ รงกลาง
จีเฉวียนยืน่ มือออกไปรับตัวเด็กน้อยมา ส่ งต่อให้หลี่กงกง “พาท่าน
หญิงน้อยไปรับประทานอาหารเช้า”
หลี่กงกงไหนเลยจะกล้ารั้งอยูน่ าน พอรับตัวท่านหญิงน้อยได้กจ็ าก
ไปอย่างรวดเร็ วทันที
ฤดูหนาวยามเช้าฟ้าสว่างช้า รอบด้านยังขมุกขมัว ราวกับยามเย็นที่
พระอาทิตย์พ่ ึงจะลับไป
จีเฉวียนยังคงกอดตู๋กซู ิงหลันเอาไว้อย่างแนบแน่น นานอีกพักใหญ่
ถึงได้ยอมปล่อยนาง
เขาเองก็ไม่รู้วา่ ทาไมถึงได้อยากกอดนาง เขารู ้สึกโหยหาอย่าง
ประหลาด
เพียงแต่คิดว่าสตรี ที่เยาว์วยั เช่นนาง ตนเองยังเป็ นเพียงแค่สาวน้อย
แท้ ๆ กลับต้องไปปลอบประโลมผูใ้ หญ่ที่อายุมากกว่าสิ บปี
เช่นนี้……..เห็นแล้วช่างน่าปวดใจเพียงไร
เขามิได้กล่าวอะไรออกมา ทาเอาตู๋กซู ิงหลันงงงันไปอยูเ่ หมือนกัน
” ฝ่ าบาท พระองค์เสด็จมาได้อย่างไรเพคะ? ” ตัวนางมีเลือดเปื้ อนอยู่
เป็ นกลิ่นคาวเลือดของตู๋กจู ุน แม้แต่ต๋ ูกซู ิงหลันยังรู ้สึกไม่สบายตัวอยู่
บ้าง
” ใกล้ช่วงสิ้ นปี แล้วแท้ ๆ กลับเกิดเรื่ องเช่นนี้ที่ใต้หนังตาของเรา เรา
มิได้ตาบอด ย่อมไม่อาจทาเป็ นนัง่ ดูโดยไม่เห็นได้ ” จีเฉวียนล้วงเอา
ผ้าเช็ดหน้าสี เหลืองออกมาผืนหนึ่ง จับมือของนางเช็ดให้อย่าง
ละเอียดละออ
ตู๋กซู ิงหลันตะลึงงันไป นางไม่รู้วา่ ฮ่องเต้ที่อยูต่ รงหน้านี้เป็ นตัวจริ ง
หรื อตัวปลอมกันแน่
ฮ่องเต้ทมิฬกลายเป็ นเจ้าชายกบที่อบอุ่นอ่อนโยนได้ดว้ ยหรื อ?
ช่วงเวลาแบบนี้นางไม่ควรจะทาเรื่ องอะไรให้เขาต้องหงุดหงิด
อารมณ์เสี ยขึ้นมาสิ นะ
” เราเคยบอกแล้ว อย่าออกจากวังเพียงลาพัง ” จีเฉวียนทางหนึ่งเช็ด
เลือดให้นาง ทางหนึ่งตรัสไปพร้อมกัน “องค์หญิงใหญ่ทรงฝึ กฝนวร
ยุทธ์มาก่อน ย่อมรู ้จกั ปกป้องตนเอง คนที่ถูกแค่ลมก็เป่ าจนปลิวได้
แบบเจ้า จะทาอะไรได้”
ตู๋กซู ิงหลัน ” ข้าเอาหินมาถ่วงไว้บนอกก็ได้”
จีเฉวียน “………..”
ตู๋กซู ิงหลันยังพูดอีกว่า ” ข้ายังตีฮ่องเต้สุ….”
คาสุ ดท้ายนั้นนางย่อมไม่ได้พดู ออกมา แต่กลืนลงท้องไป ค่อยยิม้
ออกมาอย่างอ่อนหวาน ” ตีท่านก็ได้”
จีเฉวียนยอกพระหัตถ์ข้ ึนมาเขกศีรษะนางครั้งหนึ่ง ” เจ้าไปอยูน่ ิ่ง ๆ
ให้เราเสี ยเถอะ”
เขาเขกนางไม่แรง เพียงแค่ทาให้นางรู ้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ เท่านั้น
นางทาท่าน้อยอกน้อยใจไปในทันที ยามออกจากวังรี บร้อนจัด
กระทัง่ ไม่ได้หยุดม้าเลยสักนิด พอมาถึงแม้แต่น้ าอุ่นก็ยงั ไม่ได้ดื่มสัก
อึก เรื่ องวุน่ วายพึ่งจะจบลง ยามนี้หิวจนท้องโหวงเหวง
ท้องที่วา่ งเปล่าของนางร่ าร้องออกมาดังครื ดคราดต่อพระพักตร์จี
เฉวียน
” มาเถอะ ไปทานอาหารเช้ากัน ” จีเฉวียนตรัสแล้ว เสด็จนานางเข้า
ไปในห้องว่างห้องหนึ่ง
โดยไม่ทนั รู ้ตวั ห้องนั้นก็ตระเตรี ยมโจ๊กอุ่นและเครื่ องเคียงต่าง ๆ
เอาไว้แล้ว อีกทั้งยังมีแตงหวานที่นางชอบกินที่สุด กระทัง่ ไม้เสี ยบ
เล็ก ๆ ก็มี
ไม้เสี ยบทองคา!
” ทาออกมาจากในวัง พึ่งส่ งมาถึงเมื่อครู่ น้ ี รี บทานขณะยังร้อนเถอะ”
จีเฉวียนประทับลงด้านหนึ่ง ทรงตักโจ๊กให้นางด้วยพระองค์เอง
โจ๊กละเอียดที่มีเนื้อบดผสม แค่ฝีมือปรุ งโจ๊กก็นบั ว่าไม่ธรรมดา กลิ่น
หอมของโจ๊กผสมกับกลิ่นเนื้อ เพียงดมไปครั้งหนึ่งก็ทาเอานางอยาก
อาหารขึ้นมา
ตู๋กูซิงหลันหันมาจดจ้องมองเขา
จีเฉวียนสี พระพักตร์เคร่ งขรึ มลง ใช้ชอ้ นตักไปคาหนึ่ง ชิมดูก่อน
ด้วยพระองค์เอง ” ไม่มีพิษ”
ตู๋กซู ิงหลัน “………” เรื่ องมีพิษหรื อไม่น้ นั ช่างมันไปเถอะ นาง
เพียงแต่รู้สึกหวาดกลัววิธีการต้มกบในน้ าอุ่นที่เขาใช้อยูบ่ า้ งเท่านั้น
” รี บทาน ทานเสร็ จก็กลับเข้าวัง เรายังต้องรี บกลับไปประชุมยามเช้า
” จีเฉวียนเร่ งรัดนาง
ตู๋กซู ิงหลันมองดูชอ้ นที่เขาเคยใช้ ก็ลงั เลเล็กน้อย
นางเป็ นคนที่เรื่ องมากเรื่ องของกินของใช้อยูบ่ า้ ง ชามช้อนที่คนอื่น
เคยแตะต้องหรื อไม่สะอาดนางล้วนไม่ยอมใช้ ผลไม้ที่มีคนกัดแล้ว
นางไม่มีทางไปกัดเป็ นคาที่สองแน่นอน
” ฝ่ าบาท หากว่าให้ขา้ ใช้ชอ้ นที่พระองค์ทรงเสวยโจ๊กไปแล้วมากิน
ข้าวละก็…..” ตู๋กูซิงหลันยังคงลังเล
” เราบ้วนปากแล้ว” จีเฉวียนทรงคิดไม่ถึงมาก่อยว่าตนเองจะถูก
รังเกียจเช่นนี้
สตรี ที่ไม่รู้ความผูน้ ้ ี! เขาไม่สมควรจะออกจากวังมาส่ งข้าวเช้าให้นาง
เลย
ตู๋กซู ิงหลันหงอยไปชัว่ ขณะ ค่อยตอบว่า ” ฝ่ าบาท หม่อมฉันไม่ได้
รังเกียจพระองค์ เพียงแต่…..นี้ไม่ใช่การจูบกันทางอ้อมหรอกหรื อ?

จูบกันทางอ้อม!
คาพูดไม่กี่คานั้นทาเอาจีเฉวียนทรงตะลึงไปแล้ว เขาสมควรรู ้แต่แรก
ว่าในสมองของสตรี ผนู ้ ้ ีมีแต่เรื่ องเหลวไหลไร้สาระ
” จูบจริ ง ๆ กับปากของเราก็เคยมาแล้ว เจ้ายังจะไปกังวลกับจูบ
ทางอ้อมอีกทาไม หืม? “
ตู๋กซู ิงหลัน “!!! ” อย่าไปพูดถึงเรื่ องนี้ได้ไหม? มันน่าละอาย ทาไม
นางถึงได้รู้สึกว่าทาผิดตาแหน่งแม่เลี้ยงนี้ไปแล้ว
ยิง่ ไปกว่านั้น……หลายวันนี้เขาพึ่งจะไปโปรดปรานเสี่ ยวซูเฟยมา
เองไม่ใช่หรื อ ไม่ทนั ไรก็หนั มาใช้วิธีตม้ น้ าอุ่น (ต้มกบ) กับนางเสี ย
แล้ว มันจะดีหรื อ?
ตู๋กูซิงหลันกระพริ บตาปริ บ ๆ มองดูจีเฉวียน
ฮ่องเต้ยคุ โบราณช่างมากรักมากน้ าใจเสี ยจริ ง ถึงแม้จะบอกว่าใน
สามวังหกตาหนักเขาคิดจะโปรดปรานใครก็ยอ่ มได้ แต่ต๋ ูกซู ิงหลันอ
ย่างไรเสี ยก็มาจากโลกยุคปั จจุบนั มุมมองความรักของนางยังคงเป็ น
เรื่ องของคนสองคนตราบจนสิ้ นชีวิต
เอาเถอะ ถึงแม้วา่ นางจะเป็ นสตรี เจ้าชูท้ ี่ชอบชมดูสาวงามไปทัว่
แต่กม็ ีขอ้ จากัดอยูเ่ พียงแค่การดูเท่านั้น อย่างมากที่สุดก็แค่จบั มือลูบ
หน้าเป็ นพอ
ตู๋กซู ิงหลันครุ่ นคิดอย่างเงียบ ๆ ก็รู้สึกว่าตนเองมิได้เจ้าชูจ้ นเกินไป
วิญญาณทมิฬที่ได้กลืนกินปี ศาจฝันร้ายในความฝันขององค์หญิง
ใหญ่กโ็ ผล่ออกมา ” เจ้าไม่ได้เจ้าชู ้ แค่รักไปทัว่ ๆ “
คานี้ต๋ ูกซู ิงหลันยังชอบฟังอยูบ่ า้ ง
จีเฉวียนเห็นนางนิ่งงันไปไม่พดู ไม่จา ติ่งพระกรรณทั้งสองข้างก็แดง
ขึ้นมาบ้างแล้ว เขาเป็ นถึงประมุขของแว่นแคว้นหนึ่ง จะพูดจาโดย
ไม่คิดเช่นนี้ได้อย่างไร
” เจ้าอย่าได้คิดมากไป ทุกวันนี้ในใจของเรามีซูกยุ้ เฟยอยูแ่ ล้ว ย่อม
ไม่ได้คิดอะไรกับเจ้าหรอก”
ประโยคนี้น่าขัดใจนัก แต่เขากลับตรัสออกมาอย่างเป็ นจริ งเป็ นจัง
ที่สุด
ตู๋กูซิงหลันคนโจ๊ก รับคาเบา ๆ นางถอนหายใจออกมาเบา ๆ แย้ม
ยิม้ ทั้งหัวคิ้วและดวงตา “เช่นนั้นก็ดีเลย”
ถึงแม้วา่ จะคาดเอาไว้อยูแ่ ล้วว่านางจะมีปฎิกิริยาเช่นนี้ แต่วา่ จีเฉวียน
ก็ยงั คงรู ้สึกเสี ยพระทัยอยูด่ ี
หลายวันนี้หมอหลวงซุนมาจับชีพจรถวาย สภาพร่ างกายเป็ นปกติดี
ไม่มีปัญหาในที่ใด แต่วา่ เป็ นหัวใจของเขาที่มีปัญหา
จิตใจหดหู่ มีแต่ความวิตกกังวล
” ฝ่ าบาท พระองค์ทรงมีผใู ้ ดอยูใ่ นพระทัยเข้าแล้ว ” หมอหลวงซุน
จับชีพจรไปมาอยูน่ าน ก็ถวายข้อสรุ ปออกมาเช่นนี้
ถึงวันนี้ผคู ้ นต่างก็รู้วา่ ฝ่ าบาททรงยกซูกยุ้ เฟยเป็ นคนโปรดใน
พระทัย
” พวกเราเหล่าบุรุษนั้น เมื่อชื่นชอบสตรี ข้ ึนมาสักคน จิตใจก็จะไม่
อยูก่ บั เนื้อกับตัว ร่ างกายก็ไม่เป็ นอิสระอีก”
” จิตใจเปลี่ยนแปลงง่าย อารมณ์ข้ ึนลงรวดเร็ ว เหล่านี้ลว้ นเป็ นเรื่ อง
ปกติ ขอเพียงพระองค์ทรงโปรดปรานประทับอยูร่ ่ วมกับซูกยุ้ เฟยอ
ย่างกลมเกลียวอยูเ่ สมอ นานไปก็จะดีข้ ึนเองพะยะค่ะ”
ฝี มือการประจบสอพอของหมอหลวงซุนนับว่าสู งส่ งจนถึงก้นม้า
แล้ว หลังจากที่ถวายการตรวจครั้งนี้แล้วจึงมีรับสัง่ ให้ลดขั้นเขา
จากหัวหน้าแพทย์หลวงเหลือเพียงเด็กต้มยาก็พอ
จีเฉวียนทรงคิดทบทวนถ้อยคาของหมอหลวงซุน ทรงรู ้สึกว่าเขาผิด
แล้ว
พระองค์ทรงเป็ นฮ่องเต้ ฮ่องเต้ไม่อาจมีพระทัยให้กบั สตรี ใครใดคน
หนึ่ง
ยิง่ ไปกว่านั้น ซูเม่ยก็เป็ นบุรุษทั้งแท่ง
แต่หากถอยมามองดูกา้ วหนึ่ง ต่อให้เขาเกิดความสนใจในผูใ้ ด เขา
ย่อมไม่มีทางเอ่ยจากปากก่อนเป็ นแน่
เมื่อนัง่ อยูบ่ นบัลลังค์ฮ่องเต้ ก็ไม่อาจลาเอียงรักใคร่ ใครคนใดคนหนึ่ง
เท่านั้น
ฉะนั้นมีแต่ตอ้ งให้อีกฝ่ ายแสดงความรู ้สึกออกมาอย่างชัดเจน อย่าง
สุ ดจิตสุ ดใจ เขาค่อยฝื นตอบรับไปด้วยความลาบากใจ เช่นนี้จึงจะ
เหมาะสมและถูกต้อง
เพียงแต่คนที่เคยเทิดทูนเขาจนลอยขึ้นฟ้า ยามนี้กลับไม่ค่อยจะยอม
เทิดทูนเขาอีกแล้ว
อยู่ ๆ จีเฉวียนก็ทรงตรัสถามออกมาในทันใดว่า ” ตู๋กซู ิงหลัน ตอน
นั้นที่เจ้าปฎิเสธไม่ยอมแต่งงานกับเรา ยามนี้ไม่เสี ยใจอยูบ่ า้ งจริ ง ๆ
หรื อ? “
ตอนที่ 159 เคยเสี ยใจที่ไม่ ได้ แต่ งงานกับเราไหม?
ตู๋กซู ิงหลันยังไม่ทนั กลืนโจ๊กลงไปสักคา ก็พน่ โจ๊กออกมาจนหมด
ปาก
ฮ่องเต้ทรงประทับอยูฝ่ ั่งตรงกันข้าม ใบหน้าที่แสนงดงามเลอะเทอะ
ไปด้วยโจ๊กข้น ๆ จากปากของนาง
“ขะ ๆ ๆ ……” โจ๊กติดอยูใ่ นหลอดลม นางทางหนึ่งไอเสี ยจน
น้ าตาไหลออกมา
ทางหนึ่งไอ ทางหนึ่งใช้แขนเสื้ อเช็ดพระพักตร์ของจีเฉวียน
จีเฉวียนประทับอยูท่ ี่เดิม พระพักตร์ดาดุจก้นหม้อ ดูไปคล้ายจะกิน
คนได้
ตู๋กซู ิงหลันไออยูค่ รึ่ งค่อนวันถึงได้สงบเสี ยงลงบ้าง แขนเสื้ อที่ถูไป
มา เพียงแต่ทาให้โจ๊กที่เกาะติดเป็ นจุด ๆ กระจายไปทัว่ ๆ เท่านั้น
ฮ่องเต้อยู่ ๆ ก็ทรงได้รับการพอกโจ๊กเนื้อไปทัว่ พระพักตร์โดยมิได้
คิดเงิน พระอารมณ์กไ็ ม่ดีข้ ึนมา
พระองค์ปัดมือของนางออกไป ล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าในพระอุระที่เมื่อ
ครู เช็ดเลือดให้นางออกมาเช็ดคราบโจ๊กบนพระพักตร์พระองค์เอง
อย่างชนิดที่ไร้พระอารมณ์อย่างที่สุด
ตู๋กซู ิงหลันกลับไปนัง่ ที่ที่ของตนเอง คราวนี้นางนัง่ ลงอย่างเรี ยบร้อย
กว่าเดิม
บนเปลือกตาของฝ่ าบาทยังมีเมล็ดข้าวเกาะอยู่ นางจ้องมองอย่างไม่
กล้าคลาดสายตา ค่อยตอบออกไปอย่างระมัดระวังว่า
” ฝ่ าบาท พระองค์กท็ รงทราบ หม่อมฉันสู ญเสี ยความทรงจาไปแล้ว
ที่ทรงรับสัง่ ออกมาเมื่อครู่ ทาเอาหม่อมฉันตกใจแทบแย่แล้ว”
ก่อนหน้านี้นางเคยถูกจีเฉวียนไต่ถามอยูห่ ลายครั้ง ว่าเสี ยดายบ้าง
หรื อไม่
ต่อให้ตีจนตายนางก็นึกไม่ถึงว่าจีเฉวียนทรงเคยรับสัง่ ขอเจ้าของร่ าง
เดิมแต่งงาน!
อ๋ ายย่าห์! เจ้าของร่ างเดิมช่างมีชะตาและความสามารถของแมรี่ ซูจริ ง
ๆ!
ดูสถานการณ์เอาเถอะ อดีตฮ่องเต้มีพระประสงค์จะอภิเษกกับนาง
องค์ชายสองก็จะแต่งกับนาง นี่มนั เป็ นฉากในละครศึกสายเลือดชัด

จีเฉวียนทรงพยายามอดทนเก็บพระอารมณ์ แค่มองดูกิริยาของสตรี ผู ้
นี้กส็ ามารถบอกได้วา่ นางมิได้มีความเสี ยดายใด ๆ เลยสักนิด
” เราเตือนความทรงจาเจ้าสักหน่อย สองปี ก่อน งานล่าสัตว์ของเชื้อ
พระวงค์ ในป่ าน้อย”
ตู๋กูซิงหลัน “………” ในป่ าน้อย? นี่ถึงขนาดเข้าป่ าไปด้วยกันแล้ว?
ว่ากันจริ ง ๆ ตอนนี้นางคิดอยากจะลากเจ้าของร่ างเดิมออกมาสัก
ถาม ว่าเกิดเรื่ องอะไรขึ้นกันแน่
ไม่ใช่บอกกันชัดเจนว่ารักจีเย่วร์ ักแทบเป็ นแทบตายหรอกหรื อ? ป่ า
น้อยนัน่ คือเรื่ องผีสางอะไรกัน?
” ฝ่ าบาท ทรงเตือนถึงรายละเอียดหน่อยได้หรื อไม่เพคะ? หม่อมฉัน
คิดอะไรไม่ออกจริ ง ๆ ” สี หน้าตู๋กซู ิงหลันมีแต่ความยุง่ เหยิง
ได้โปรดเถอะ ขออย่าได้มาพูดเรื่ องรัก ๆ ใคร่ ๆ กับนางได้ไหม
นางฟังแล้วเป็ นต้องปวดหัวไปหมด
ตอนนี้นางถึงได้รู้วา้ เจ้าของร่ างเดิมคือนักขุดหลุมพรางตัวจริ ง แต่
ละหลุมที่นางวางไว้ถึงขนาดฝังตนให้ตายไปได้เลย
นางอยากจะกลายร่ างเป็ นต้นกล้าน้อย ๆ ในทันที ให้พี่ชายสุ ดหล่อ
คนหนึ่งอุม้ จากไป ปลูกลงในหุบเขาลึกภูเขาสู ง ทุกวันทุกคืนเฝ้าชม
แสงจันทร์ที่งดงาม ฝึ กฝนร่ างจิตขึ้นมาใหม่
” อย่าได้มาทาแกล้งโง่กบั เรา หากว่าเป็ นภรรยาหลวงของเรา ฮองเฮา
ของต้าโจว ก็ไม่ตอ้ งมาใช้ร้อยแปดวิธีดึงดูดความสนใจของเรา
เช่นนี้”
ตู๋กซู ิงหลัน “……” แต่วา่ ตอนนี้นางเป็ นไทเฮานะ ว่ากันตามจริ งแล้ว
ไทเฮาเนี่ย ยังสู งส่ งกว่าฮองเฮาตั้งเยอะ
อย่างน้อย ๆ ยามเจอเจ้าฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ ี นางก็ไม่ตอ้ งคุกเข่า
สารพันนางสนมในวังหลังเห็นนางเข้าก็ตอ้ งพากันร้องเรี ยกมู่โฮ่ว
แล้ว
ยิง่ ไปกว่านั้นเป็ นฮองเฮานะความเสี่ ยงสู งจะตาย ตามประวัติศาสตร์
แต่ไหนแต่ไรมาฮองเฮากี่คนต่อกี่คนที่ถูกการแก่งแย่ชิงดีชิงเด่นใน
วังเล่นงานจนไม่เจ็บก็ตาย
ทั้ง ๆ ที่เป็ นถึงภรรยาหลวงของฮ่องเต้ ยังต้องมาออกหน้าคัดเลือก
เหล่าสนม นางในไปคอยปรนิบตั ิรับใช้ นางสนมตั้งครรภ์ ฮองเฮาก็
ต้องมาคอยสอดส่องดูแล
วังหลังเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาก็ลงที่ฮองเฮาก่อน
ตู๋กซู ิงหลันยังค้นพบทฤษฎีอีกข้อหนึ่ง หากว่าอยากเป็ นไทเฮา ทางที่
ดีตอ้ งรอจนฮ่องเต้เข้าสู ้วยั กลางคนค่อยเข้าวัง บุรุษจะอายุมาก
เพียงไรก็ชื่นชอบสาวน้อยด้วยกันทั้งนั้น
แม่นางน้อยขอเพียงชาญฉลาดพอมีฝีมือมากพอ จับฮ่องเต้ในวัย
กลางคนให้อยูห่ มัด ต่อสู ้กบั บรรดาสนมชราสักหลายปี ค่อยคลอด
พระโอรสพระธิดาถวายสักหลายคน ดึงคนสักกลุ่มมาเข้าพวกเสริ ม
ฐานะ แค่น้ ีกไ็ ด้ตาแหน่งมาเห็น ๆ
หากเข้าวังเร็ วเกินไป ยิง่ ฮ่องเต้ทรงมีพระชนม์ยาวนาน ก็ยงิ่ แก่หงา
เหงือกหมดสิ้ นความงาม
เข้าวังช้าเกินไป ยังไม่ทนั ได้รับความโปรดปราน ฮ่องเต้กช็ ิงตายไป
ก่อนแล้ว ตาแหน่งยังไม่ทนั ครองอย่างมัน่ คง เผลอ ๆ ก็ตอ้ งถูก
ส่ งไปตายร่ วมกลบฝัง
ดังนั้นหากว่าอยากครอบครองตาแหน่งสู งส่ ง จะต้องจับจอง
ช่วงเวลาที่เหมาะสมถึงจะสาเร็ จ
แบบนางเช่นนี้ แต่งปุ๊ บก็ได้เป็ นไทเฮาเลย เกรงว่าคงจะมีนอ้ ยจนถึง
ขั้นหายากเลยแน่ ๆ
คิดไปคิดมาจนถึงตรงนี้ ตู๋กูซิงหลันพลันรู ้สึกว่าเจ้าของร่ างเดิมก็ช่วย
ขจัดปัญหาในการได้ตาแหน่งให้นางมากพอสมควร
ไม่ได้รับปากแต่งงานกับจีเฉวียนก็ถือว่าดีอยูเ่ หมือนกัน ไม่แน่วา่
หากรับปากแล้ว อาจจะต้องตายอนาถกว่านี้กเ็ ป็ นได้
สมองของตู๋กซู ิงหลันล่องลอยออกไปไกลเป็ นหมื่นลี้ ในที่สุดค่อย
ย้อนกลับมา
นางนัง่ อยูอ่ ย่างสงบเสงี่ยมสง่างาม ดวงตาดอกท้อของนางจดจ้องจี
เฉวียนอย่างเอาจริ งเอาจัง ” เป็ นเพราะฝ่ าบาทเคยชื่นชอบหม่อมฉัน
อย่างจริ งจัง ถึงได้ขอแต่งงานใช่หรื อไม่? “
คาถามนี้ทาเอาสี พระพักตร์ของจีเฉวียนถึงกับเปลี่ยนแปลงไป ชื่น
ชอบ?
เห็นเขาเงียบงัน ตู๋กูซิงหลันก็ถอนใจยาวออกมา ” หรื อจะบอกว่าฝ่ า
บาททรงเห็นในความงามของหม่อมฉัน เลยคิดจะจับแต่งเอากลับ
บ้านไปนัง่ ดูกนั ? “
จีเฉวียน ” เจ้าอยากได้หน้า” เขาใช่คนที่ชอบมองหน้าใครเสี ยที่ไหน
กัน?
ว่าตามจริ ง แค่ทุก ๆ วันมองตนเองในกระจกก็เกินพอแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันโดนตอกเสี ยนิ่งงันไป ไอ้ผชู ้ ายเฮงซวย!
ตู๋กซู ิงหลันคลี่ยมิ้ อ่อนหวาน ” เช่นนั้นขอบังอาจทูลถามฝ่ าบาท
เหตุผลที่แท้จริ งที่ตอ้ งการแต่งงานกับหม่อมฉันคืออะไร? “
เรื่ องนี้ไม่เพียงแต่นางไม่เคยได้ยนิ จากเจ้าของร่ างเดิม กระทัง่ คนใน
ครอบครัวก็ไม่เคยมีใครเอ่ยถึงมาก่อน
หากไม่ใช่เพราะว่าวันนี้จีเฉวียนทรงตรัสขึ้นมา ชาติน้ ีท้ งั ชาตินางก็
คงไม่มีทางรู ้เรื่ องนี้เป็ นแน่
จีฉวรทรงหรี่ พระเนตรลง แต่มิได้ตรัสอธิบายว่าทาไมจึงเคยของนาง
แต่งงาน เพียงตอบว่า ” เราถาม เจ้าก็ตอบมา ไม่ตอ้ งซักไซร้ให้มาก
เรื่ อง”
ว่าแล้ว เขาก็ตรัสเสี ยงหนัก ๆ ออกมาอีกประโยคหนึ่ง ” เราถามเจ้า
เสี ยดายที่ไม่ได้แต่งให้เราบ้างหรื อไม่? “
” เสี ยดายแล้วอย่างไร? ” ตู๋กูซิงหลันจดจ้องเขาไปตรง ๆ นาง
หัวเราะออกไปทันที ” ฝ่ าบาททรงเป็ นถึงโอรสสวรรค์ที่ชาญฉลาด
และสู งส่ ง มีหรื อจะทรงทาผิดต่อบรรพชนเพือ่ เรา แต่งเราไปเป็ น
ภรรยา? “
เขาไม่กลัวว่าอดีตฮ่องเต้จะกระโดดออกมาจากหลุมตบเขาสักฉาด
หรื อไง?
ไม่กลัวหรื อว่ายามหลับทุกบ่าย อดีตฮ่องเต้จะมาเข้าฝัน ด่าทอว่าเขา
อกตัญญู ผีหลอกข้างหูอยูตลอด?
เจอประโยคนี้ จีเฉวียนทรงฟังแล้ว ก็สะท้อนเข้าไปในพระทัย
” หากว่าเจ้าเสี ยดาย เรา….. จะแต่งเจ้า
คาพูดยังไม่ทนั ตรัสออกมา ก็ทรงได้ยนิ ตู๋กซู ิงหลันพึมพาต่อไปอีกว่า
” ไม่เสี ยดายแล้วจะอย่างไร? “
” ทุกวันนี้เราเป็ นไทเฮาก็สุขสบายดี มีโอรสบุญธรรมที่งดงามดุจ
เทพเซียนเช่นฝ่ าบาท มีลูกสะใภ้กตัญญูเช่นเสี่ ยวซูเฟย เสี่ ยวหยวน
เฟย ก็รู้สึกว่าชีวิตสมบูรณ์ดีแล้ว น่าพึงพอใจมากแล้ว”
เจ้าของร่ างเดิมจะเสี ยใจเสี ยดายบ้างหรื อไม่นางไม่อาจรู ้ได้ แต่วา่ ตัว
นาง ไม่ได้เสี ยดายอยูแ่ น่นอน
ในเมื่อไม่อาจมีคู่ครองที่มีเพียงกันและกันสองคนไปชัว่ ชีวิต นางก็
ขอเลือกตาแหน่งและอานาจเอาไว้ละกัน อย่างน้อยก็ยงั มีความ
มัน่ คง
หากแต่งให้จีเฉวียน ต้องมาเผชิญกับอารมณ์ที่ข้ ึนลงอย่างไม่ธรรมดา
ของขา แล้วยังมีความเสี่ ยงจะถูกส่ งเข้าตาหนักเย็นอยูต่ ลอดเวลา วัน
เวลาเช่นนั้น นางไม่ตอ้ งการ
ประโยคนี้ของนางทาเอาถ้อยคาที่ยงั ไม่ได้พดู ออกมาของเขาคัง่ ค้าง
อยูใ่ นหัวใจ
มันชัดเจนแล้วว่า……..นางไม่ได้เสี ยดาย
พระทัยของจีเฉวียนปั่นปวนอย่างไร้สาเหตุ เขาเจ็บ
ริ มหูของเขาพลันได้ยนิ เสี ยงของหมอหลวงซุน “หากว่าชื่นชอบแต่
กลับไม่ได้รับการตอบสนอง คงมีแต่เจ็บปวดไปชัว่ ชีวิต”
ถึงแม้วา่ เขาจะไม่ถึงขั้นเจ็บปวดไปชัว่ ชีวิต แต่กน็ บั ว่าเจ็บแล้ว
นานอีกพักใหญ่เขาถึงได้ค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ของตนให้นิ่งลงได้
ฮ่องเต้ทรงเชี่ยวชาญการจัดการพระอามารณ์มาแต่ไหนแต่ไร ไม่วา่
เรื่ องดีหรื อเรื่ องร้าย ก็แทบจะไม่ทรงเผยพระอามรณ์ที่แตกต่าง
ออกมาบนพระพักตร์
ดังนั้นในมุมมองของตู๋กซู ิงหลัน เขาก็เพียงแต่นิ่งเงียบไปครู่ หนึ่ง
เท่านั้น
นานอีกพักใหญ่พระองค์ถึงได้ฝืนตรัสออกมาไม่กี่คา ” เราเข้าใจ
แล้ว”
ตอนที่ 160 แฟนคลับของตัวแม่
เดิมทีต๋ ูกูซิงหลันตระเตรี ยมจะรับแรงระเบิดอารมณ์ของเขาเอาไว้
แล้ว แต่วา่ คราวนี้เขา กลับทาให้นางคาดการณ์ผดิ ไปเสี ยแล้ว
……………………………………….
ในเรื อนหลัก หยวนเฟยพาตู๋กูจุนกลับมาพัก
เลือดจากทรวงอกของเขายังไหลไม่ยอมหยุด ฝ่ ามือของหยวนเฟย
เปรอะเปื้ อนไปด้วยเลือดสด ๆ ของเขา พอส่ งคนกลับไปถึงห้อง แม่
ทัพผูแ้ ข็งแกร่ งก็ลม้ พับลงไปบนเตียงแล้ว
หยวนเฟยช่วยปลดเสื้ อคลุมให้เขา ถอดชุดชั้นนอกออกไป
ผ้าพันแผลถูกเลือดย้อมเสี ยจนชุ่มโชกแล้ว
นางหยิบกรรไกรมา ค่อย ๆ ตัดผ้าออกอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็หา
ยาห้ามเลือดมาทาลงบนปากแผล ค่อยใช้ความระมัดระวังยิง่ กว่าเดิม
พันแผลให้เขาใหม่
ตู๋กจู ุนเสี ยเลือดมากเกินไป ได้แต่นอนอยูบ่ นเตียง แต่วา่ คนยังคงมีสติ
สมบูรณ์อยู่
” พระสนมหนวนเฟยสู งส่ งดุจทองคา ให้ท่านต้องมาดูแลข้าแม่ทพั
ด้วยตนเองเช่นนี้ ข้าแม่ทพั ไม่อาจตอบแทนบุญคุณของท่านได้ ”
น้ าเสี ยงของตู่กจู ุนทั้งเบาทั้งอ่อนแรง
” ศรดอกนี้เป็ นท่านแม่ทพั รับเอาไว้แทนข้า ข้าดูแลท่านก็เป็ นเรื่ อง
สมควรอยูแ่ ล้ว ” หยวนเฟยพันผ้าให้เขาใหม่แล้วก็ให้เขากลืนยา
บารุ งเลือดลงไปอีกเม็ดหนึ่ง ค่อยนัง่ ลงที่ขา้ งกายเขา
” ท่านแม่ทพั ทางที่ดีตลอดเดือนนี้ท่านอย่าได้เคลื่อนไหววุน่ วาย
หากเป็ นคนทัว่ ไปมาเสี ยเลือดมากมายเช่นท่านคงจะมอดม้วยไป
ตั้งแต่แรกแล้ว” สองมือของนางเท้าคางเอาไว้ ในใจก็นบั ถือตู๋กจู ุน
มากกว่าเดิม
ในแผ่นดินต้าโจวนี้นางได้พบเห็นบุรุษมาก็ไม่นอ้ ย แต่ส่วนใหญ่
ล้วนเป็ นขุนนางบุ๋น ไม่ค่อยมีใครที่เป็ นชาติบุรุษอาชาไนยเหมือนตู๋กู
จุน
ตู๋กจู ุนเพียงยิม้ น้อย ๆ ไม่ได้กล่าววาจา ในสงครามเขาแขวนชีวติ
เอาไว้ครึ่ งหนึ่ง ยังอันตรายกว่านี้มากนัก
แต่ละครั้งที่ถือดาบฟาดฟันอยูใ่ นสนามรบ ล้วนไม่เคยขมวดคิ้วมา
ก่อน
พอคิดถึงสนามรบ เขายิง่ คิดถึงฉางซุนซู่
” ท่านแม่ทพั องค์หญิงใหญ่เกลียดชังท่านถึงเพียงนี้ เป็ นเพราะท่าน
ฆ่าราชบุตรเขยไปจริ งหรื อ? ” นิสยั ของหยวนเฟยนั้นตรงไปตรงมา
ในเมื่อสงสัยขึ้นมาแล้ว ก็ถามออกไปตรง ๆ
เมื่อครู่ ตอนอยูท่ ี่เรื อนตะวันตก หากว่าข้างกายมีดาบอยูล่ ะก็ นางเชื่อ
ว่าองค์หญิงใหญ่คงจะไม่ลงั เลที่จะใช้มนั แทงเขาเป็ นแน่
คาถามนี้ทาเอาตู๋กจู ุนถึงกับเงียบงันไป
” หากว่าท่านแม่ทพั ไม่สะดวกที่จะตอบ ก็ไม่ตอ้ งบอกข้าก็ได้”
หยวนเฟยก็ไม่คิดจะบังคับให้ผอู ้ ื่นลาบากใจ
ยามปกตินางก็มิใช่คนสอดรู ้สอดเห็น เมื่ออยูใ่ นวังที่ต่างคนต่างอยู่
นางก็ทามาจนชินเสี ยแล้ว ทั้งยังมิใคร่ สนอกสนใจผูใ้ ด
ที่ถามท่านแม่ทพั ออกไปเช่นนี้ ก็เพราะนางเกิดความกังวลใจในตัว
เขาขึ้นมา
เพราะอย่างไร………เขาก็เป็ นผูม้ ีพระคุณของนาง
” ข้าฆ่าเขาเอง” ตู๋กูจุนไม่ได้ปิดบังนาง “ราชบุตรเขยฉางซุนซู่ สิ้ นใน
สงครามกับริ วกิว ด้วยน้ ามือของข้าแม่ทพั ”
” เรื่ องนี้อดีตฮ่องเต้ทรงทราบดี หลังกลับถึงเมืองหลวงแล้ว จึงรับสัง่
ให้ลงทัณฑ์ขา้ แม่ทพั หนึ่งร้อยแส้ ไม่ให้รับเงินหลวงสิ บปี เรื่ องนี้ถือ
ว่าสิ้ นสุ ดแล้ว”
เรื่ องเงินถือเป็ นเรื่ องรอง เพราะหากใช้เงินจัดการแก้ปัญหาได้กไ็ ม่
ถือว่าเป็ นปัญหาอีกต่อไป
แต่วา่ หนึ่งร้อยแส้น้ นั !
หยวนเฟยถึงกลับตระหนกแล้ว ฟังว่าแม่ทพั ทัว่ ไปเพียงโดนเข้าไป
ห้าสิ บแส้กไ็ ม่อาจรอดกันแล้ว
เขากลับทนได้ถึงร้อนแส้ แล้วยังมีชีวิตรอดมาได้? นี่ตอ้ งเรี ยกว่าเป็ น
ตัวประหลาดแล้ว!
” ขอท่านอย่าได้ตาหนิที่ขา้ ถามไถ่มากความ ท่านแม่ทพั มีเหตุจาเป็ น
อันใดจึงต้อง…….ฆ่าท่านราชบุตรเขย? ” หยวนเฟยรู ้สึกว่าเรื่ องนี้
จะต้องมีปัญหา
คนเช่นตู๋กจู ุนไม่มีทางฆ่าคนอย่างไร้ความผิด
อย่าว่าแต่คนผูน้ ้ นั ยังเป็ นถึงราชบุตรเขยของแคว้นหนึ่ง
ทั้ง ๆ ที่รู้ชดั ว่าหากฆ่าเขาแล้วจะต้องรับเรื่ องเลวร้ายที่ตามมา เขาก็
ยังจะทา?
” หากเป็ นเพราะว่าไม่อาจหลีกเลี่ยง หรื อมีความจาเป็ นอันใดละ
ก็……..ข้าคิดว่า บางทีองค์หญิงใหญ่อาจจะทรงเข้าพระทัยบ้างก็ได้
” หยวนเฟยยังคงกล่าวต่อไป เพราะนางเองก็เห็นว่าองค์หญิงใหญ่
มิใช่คนที่ไร้เหตุผลใด ๆ เสี ยทีเดียว
ตู๋กจู ุนกลับไม่ตอบคาถามของนางแล้ว
นานพักใหญ่เขาจึงกล่าวว่า ” ข้าแม่ทพั เหน็ดเหนื่อยแล้ว อยากจะ
หลับสักพัก ขอพระสนมหยวนเฟยเสด็จกลับวังโดยเร็ วเถอะพะยะ
คะ อย่าได้ให้ฝ่าบาททรงห่วงหา “
พูดจบแล้วเขาก็หลับตาลง
ภาพในสมองหมุนวนอีกครั้ง ทุกที่ยงั คงมีแต่เลือดและซากศพ และ
ยังคงเป็ นศพที่อา้ ปากตาค้างนั้น
” เมื่อข้าตายแล้ว ขอท่านแม่ทพั โปรดดูแลเสี่ ยวฉุนและลูกที่กาลังจะ
เกิดมาของข้าด้วย”
หัวใจของเขาราวถูกหินก้อนใหญ่ทบั เอาไว้ จนแทบจะหายใจไม่
ออก
หยวนเฟยมองดูท่าท่างที่จะอย่างไรก็ไม่ยอมพูดจาของเขา ก็ได้แต่
ส่ ายศีรษะ
เป็ นเพราะเขาหลงชอบองค์หญิงใหญ่ จึงได้หาโอกาสในสนามรบ
ฆ่าราชบุตรเขย เพื่อจะได้เข้าไปแทนที่เขาหรื อ?
บุรุษผูน้ ี่จะต้องมีความหลังอยูเ่ ป็ นแน่
……………………………………….
หลายวันนี้ต๋ ูกซู ิงหลันล้วนพานักอยูใ่ นจวน จีเฉวียนเองก็ประหลาด
ไป เขาไม่ได้จบั ตัวนางกลับไปด้วย
และไม่รู้วา่ เชียนเชียนไปฟังข่าวจากฆ้องปากแตกที่ใด จึงมาเล่าให้
นางฟังว่า ฝ่ าบาททรงเรี ยกหาซูกยุ้ เฟยอยูท่ ุกค่าคืน
ไม่เพียงแต่เท่านี้ แม้แต่ยามเสวยก็ยงั ให้ซูกยุ้ เฟยของปรนนิบตั ิอยูข่ า้ ง
ๆ บางครั้งยังคีบอาหารให้ซูกยุ้ เฟยอีกด้วย กิริยารักใคร่ โปรดปราน
แทบจะทรงยกซูกยุ้ เฟยลอยขึ้นฟ้าไปอยูแ่ ล้ว
” นายหญิงเจ้าคะ เกรงว่าวังหลังอีกไม่นานก็คงจะมีฮองเฮาแล้วละ
เจ้าค่ะ ” เชียนเชียนช่วยนางหวีผม “ยังดีที่ซูกยุ้ เฟยทรงมี
ความสัมพันธ์อนั ดีกบั ท่าน คิดว่าต่อไปคงไม่ได้ทรงสร้างความ
ลาบากใจอันใดให้ “
เชียนเชียนเองก็รู้เห็นมาไม่นอ้ ย เมื่ออยูใ่ นวังต่อหน้าเรี ยกกันเป็ นพี่
เป็ นน้อง แต่เพื่อแย่งชิงความโปรดปรานแล้วกลับกลายเป็ น
ความแค้น นางเกรงว่าพระสนมกุย้ เฟยเมื่อทรงกลายเป็ นฮองเฮาแล้ว
จะเปลี่ยนไป หากเปลี่ยนจากพี่นอ้ งเป็ นศัตรู นายหญิงไยจะไม่
เสี ยใจ
ตู๋กซู ิงหลันมองดูตวั เองในกระจก อยู่ ๆ ก็คิดถึงคาที่จีเฉวียนตรัส
ขึ้นมาในวันนั้น “เสี ยดายที่ไม่ได้แต่งให้กบั เราหรื อไม่? “
ไม่รู้วา่ เพราะอะไรจิตใจของนางจึงรู ้สึกสับสนขึ้นมา
เขาเป็ นบุรุษเจ้าชูม้ ากรักในยุคนี้ ทางหนึ่งโอบกอดซูเฟยเอาไว้ อีก
ทางก็มาติดพันนาง
พอฟังคาของเชียนเชียนแล้ว เส้นเชือกในสมองของนางก็พนั กันยุง่
เหยิงไปหมด
เห็นอยูช่ ดั ๆ ว่าเจ้าฮ่องเต้สุนขั นั้นกาลังใช้อุบายยุให้แตกกัน คิดจะ
ทาลายความสัมพันธ์ฉนั ท์พี่สาวน้องสาวที่บริ สุทธิ์ของนางกับซูเฟย
หากไม่ได้ตีให้นางจนหัวแตกอย่าหวังว่านางจะยอมแพ้!
เจ้าจิ้งจอกเฒ่านี้นบั ว่าเป็ นตัวร้ายถึงขั้นสุ ดแล้ว
พอคิดได้แล้ว จิตใจของนางก็พลอยสดใสขึ้นมา
ที่ดา้ นนอกเรื อนสายลมหนาวพัดโหม บานหน้าต่างยังคงเปิ ดอยู่ วิ
ญาณทมิฬเล่นอยูเ่ พียงลาพังที่ในสวน นับตั้งแต่ที่มนั ได้กลืนกิน
ปี ศาจฝันร้านที่อยูใ่ นความฝันขององค์หญิงใหญ่ลงไปนั้น จิต
วิญญาณของมันก็ยงิ่ แข็งแกร่ งขึ้นไม่นอ้ ย ยามนี้มนั สามารถออกจาก
เงาของตู๋กซู ิงหลัน มาโลดแล่นไปมาอยูร่ อบ ๆ บริ เวณของนางได้
แล้ว
มันปี นขึ้นไปบนต้นไม้ ส่ งเสี ยงหอนดุจหมาป่ าอย่างยินดี
มันพึ่งจะตะเบ็งคอหอนเสร็จ ก็เห็นเงาดากลุ่มหนึ่งบินโฉบเข้ามาใน
สวน
เงาดานัน่ พุง่ ผ่านหน้าต่างไป ลอยตัวอยูบ่ นฝ่ ามือของตู๋กซู ิงหลัน
กลายเป็ นนกกระเรี ยนกระดาษขนาดนิ้วโป้งตัวหนึ่ง
ตู๋กซู ิงหลันขมวดคิว้ น้อย ๆ หมุนตัวออกไปนอกจวน
วิญญาณทมิฬก็ติดตามไป
นกกระเรี ยนกระดาษนั้นบินนาอยูด่ า้ นหน้า นี่เป็ นจิตที่เกิดจากยันต์
ติดตามใบนั้น มันมาหาตู๋กซู ิงหลัน เป็ นเพราะค้นพบสิ่ งใดกัน
คนทัว่ ไปไม่อาจมองเห็นนกกระเรี ยนกระดาษสี ดา มันขยับปี กสอง
ข้างโผบินอยูด่ า้ นหน้า ตู๋กซู ิงหลันก็ติดตามอยูด่ า้ นหลัง
พอออกไปนอกจวนตระกูลตู๋กู ลดเลี้ยวอยูห่ ลายรอบ นกกระเรี ยน
กระดาษก็พงุ่ เข้าไปในตรอกแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ ว
ตู๋กซู ิงหลันลังเลอยูเ่ ล็กน้อย นางเห็นบนถนนมีร้านขายหน้ากากร้าน
เล็ก ๆ อยู่ นางจ่ายเงินซื้อหน้ากากมาใบหนึ่งก็สวมลงไป สบัดเท้า
ดุจสายลม ติดตามไปอย่างรวดเร็ ว
เมื่อติดตามมาตลอดทาง ในที่สุดก็หยุดลงที่ประตูวงั
ทันทีที่ต๋ ูกูซิงหลันหยุดเท้าที่หน้าประตูวงั นกกระเรี ยนกระดาษสี ดา
ก็บินข้ามประตูเข้าไป แต่กถ็ ูกไอมังกรของวังหลวงพัวพันไว้ เพียง
ไม่นานก็กลับกลายเป็ นควันสี ดาแลสลายไปในอากาศ
วิญญาณทมิฬเองก็ประหลาดใจไม่นอ้ ย “คนที่ควบคุมองค์หญิงใหญ่
ก็อยูใ่ นวังหลวงหรื อ? “
ตอนที่ 161 ยันต์ ห่ ุนเชิด
ตู๋กซู ิงหลันไม่ได้กล่าววาจาใด ๆ นางแอบซ่อนตัวอยูใ่ นมุมมุมหนึ่ง
มองดูทิศทางที่นกกระเรี ยนกระดาษสี ดานั้นสลายตัวไป ก็ลว้ งเอา
ยันต์ใบหนึ่งออกมา
เพียงปลายนิ้วของนางขยับเล็กน้อย ก็บงั เกิดลูกไฟสี น้ าเงินดวงหนึ่ง
ยันต์น้ นั ยังไม่ทนั จะถูกแปลงกาย ก็เห็นเงาร่ างที่ดูคุน้ เคยร่ างหนึ่ง
ออกมาจากในวัง
ตู๋กซู ิงหลันเก็บยันต์ลงไป ดวงตาดอกท้อภายใต้หน้ากากหรี่ ลงอย่าง
จับจ้อง
วิญญาณทมิฬเองก็เบิกตาโต อย่างประหลาดใจ ” เป็ นนาง? “
ตู๋กซู ิงหลันจดจ้องมองดูสาวน้อยในชุดกระโปรงสี เขียวที่พริ้ วไหว
นางก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
อันหว่านจือ
ตู๋กซู ิงหลันไม่ได้กล่าวอะไร นางรอจนอันหว่านจือออกจากวังหลวง
ไป จึงค่อยติดตามไปอย่างเงียบ ๆ
ไม่ได้พบกันมาหลายวัน บนร่ างของนางกลับมีหมอกดาครอบคลุม
อยู่ ถึงแม้จะอ่อนจาง ชนิดที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าก็ตาม
กระทัง่ ตนเองยังต้องจ้องมองอย่างละเอียดจึงจะพบเห็น
ในมือของนางถือกล่องใบหนึ่งเอาไว้ พอออกนอกวังนางก็เข้าไปใน
ตรอกแห่งหนึ่ง สวมใส่ ผา้ คลุมสี ดาที่มีหมวก พอปิ ดหน้าด้วยหมวก
คลุมสี ดานั้นลงมา ก็ทาให้คนดูลึกลับกว่าเดิม
จากนั้นก็กวาดตามองไปทั้งสี่ ทิศ พอแน่ใจว่าไม่มีคนเห็นนางแล้วถึง
ได้ขยับตัว
ตู๋กซู ิงหลันติดตามนางมาจนถึงถนนทิศเหนือ เพราะเรื่ องที่ท่านแม่
ทัพผูพ้ ิชิตได้รับบาดเจ็บ ทาให้ตลาดกลางคืนแห่งนี้ถูกสัง่ ปิ ดไป
ตั้งแต่แรก บริ เวณโดยรอบจึงมีแต่ความหนาวเย็นและเงียบงัน
กระทัง่ เงาผูค้ นก็ไม่มี
ตู๋กซู ิงหลันนึกว่านางต้องการมาที่ตลาด แต่กลายเป็ นว่า พอมาถึง
ทางเข้าตลาดแล้ว อันหว่านจือกลับชะงักฝี เท้าลง เดินไปในทิศทาง
ตรงกันข้ามแทน
ตู๋กซู ิงหลันไม่ได้ติดตามไปในทันที
ในมือของนางปรากฎแผ่นยันต์ข้ ึนหลายใบ เพียงฉี กเบา ๆ ยันต์
เหล่านั้นก็กลายเป็ นนกกระเรี ยนกระดาษมากมาย ตู๋กซู ิ งหลันว่า
คาถาอยูค่ รู่ หนึ่ง นกกระเรี ยนกระดาษเหล่านั้นก็โบยบินขึ้นไปใน
อากาศ เพียงมีเสี ยงขยับปี กไม่กี่ครั้งก็หายไปใจไม่เหลือเงา
วิญญาณทมิฬกระโดดออกมา ยามนี้ดวงจิตของมันแข็งแกร่ งขึ้นมาก
ทันทีที่กระโดดลงไปบนพื้นก็กลายร่ างเป็ นลูกสุ นขั สี ดาตัวเท่าฝ่ ามือ
มันสารวจไปรอบ ๆ ทั้งสี่ ทิศ มองดูวา่ มีปีศาจฝันร้ายอยูใ่ นที่ใด
หรื อไม่ หากได้กลืนลงไปอีกสักหลาย ๆ ตัว ไม่แน่วา่ แม้แต่ร่างเนื้อ
มันก็อาจจะฝึ กฝนจนเสกขึ้นมาได้
ตอนนี้ขนาดแค่กลืนลงไปตัวหนึ่งยังสามารถสร้างร่ างเงาของของ
โลกก่อนขึ้นมาได้เลย
มันก้าวเดินอย่างสง่างาม หลังสารวจดูสี่ทิศโดนรอบก็ค่อยเงยขึ้น
กล่าวกับตู๋กซู ิงหลันว่า ” พลังชีวิตของเจ้ามันแข็งแกร่ งเกินไปแล้ว
ระวังจะชักศึกเข้ามาหาตนเองเถอะ “
ดูเอาเถอะ กระทัง่ ยันต์หุ่นเชิดยังเสกออกมาตั้งมากมายขนาดนี้ จุ๊ ๆ
……มันเห็นแล้วก็รู้สึกปวดใจแทน
สตรี ผนู ้ ้ ียามปกติจะเก็บซ่อนฝี มือเอาไว้อย่างมิดชิด ยันต์เหล่านั้น
สามารถแบ่งร่ างออกไปนับไม่ถว้ น ช่วยนางสารวจว่ามีอนั ตรายใด
ๆ หรื อไม่
ผูม้ ีอาคมที่แข็งแกร่ ง ก็ยงิ่ สามารถสร้างหุ่นยันต์เชิดได้มากมาย
เท่านั้นพลังชีวิตที่พวกมันแฝงเอาไว้กย็ งิ่ ยาวนาน ยิง่ สามารถไปได้
ไกลจากผูส้ ร้างมากกว่าเดิม
ชาติก่อนมีอยูค่ รั้งหนึ่งตู๋กซู ิงหลันสามารถบังคับได้ทีเดียวนับร้อยตัว
ยันต์หุ่นเชิดแต่ละตัวก็สามารถคงสภาพอยูไ่ ด้นานถึงสามวัน
ยันต์ชนิดนี้สิ้นเปลืองพละกาลังของร่ างกายมาก นางต้องอาศัยความ
ช่วยเหลือของหยกสรรพชีวติ จึงจะสามารถเสกออกมาได้สกั ครั้ง
ครู่ ต่อมานางค่อยเสาะหามุมที่ค่อนข้างลับตาในตลาดได้ จึงค่อย ๆ
แอบเข้าไป”
พอปิ ดตาลงไปครู่ หนึ่ง นางก็เห็นยันต์หุ่นเชิดตัวหนึ่งบินกลับมา
หลังค้นหาติดตามอยูค่ รู่ หนึ่งมันก็หาอันหว่าจรื อเจอเข้าแล้ว
รอบด้านทั้งสี่ ทิศล้วนมืดสนิท มีแต่เสี ยงบานหน้าต่างดังเอียดอ๊าด
เบา ๆ ภายใต้แสงอ่อนจาง คล้ายกันว่าสามารถมองเห็นเงาของคน
กลุ่มหนึ่ง
หนึ่งในเงาดาของคนกลุ่มนั้นดึงดูดความสนใจของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้
เพราะว่าเงาดานั้นไม่เหมือนกันกับเงาอื่น ๆ ทัว่ ทั้งร่ างเปี่ ยมไปด้วน
ไอสี ดาที่เข้มข้น จนทาให้แทบจะมองไม่เห็นร่ างสี ดานั้นเลย
” ท่านย่าสัง่ ให้ขา้ นามันมามอบให้พวกท่าน ” อันหว่านจือหยิบ
กล่องที่ถือมาตลอดทางวางลงบนโต๊ะ
พอเปิ ดกล่องออก ภายในก็มีขวดยาสี ขาวใบหนึ่ง
” ท่านย่ายังกล่าวว่า อย่าได้ใจร้อน สิ่ งที่นายท่านต้องการจะช้าหรื อ
เร็ วย่อมต้องได้มา แต่อย่าได้แหวกหญ้าให้งูตื่น “
ว่าแล้วนางก็เสริ มขึ้นอีกประโยคหนึ่ง ” ช่วงนี้พวกเจ้าต้องเก็บตัวให้
มากหน่อย อย่าได้เผยพิรุธอันใดออกไป”
นางพูดพลาง หว่างคิ้วก็ยงิ่ ขมวดมุ่นขึ้นมา สี หน้าแฝงแววชิงชัง
รังเกียจ
หนึ่งในคนชุดดาเข้ามารับยาไป กล่าวอย่างเกรงอกเกรงใจว่า ”
รบกวนแม่นางหว่าจรื อแจ้งแก่กกู ู ขอบคุณสาหรับยาเหล่านี้”
อันหว่านจือขยับยกมุมผ้าคลุมหน้าเล็กน้อย ” ท่านย่าปรุ งยาอย่าง
ยากลาบาก พวกเจ้าก็ใช้อย่างประหยัดหน่อยเถอะ”
” ขอรับ” คนชุดดาที่รับยาไปผงกศีรษะ พลางอธิบายว่า ” ที่การเคลื่น
ไหวครั้งนี้ลม้ เหลว นัน่ เป็ นเพราะ…..”
เขาพูดยังไม่ทนั จบ ก็เห็นว่าที่ที่มีไอดาเข้มข้นที่สุดนั้นก้าวออกมา
ด้านหน้า เขาสบัดแส้ในมือออกไปครั้งหนึ่ง ก็พงุ่ ผ่านกรอบหน้าต่าง
ตรงเข้าใส่ นกกระเรี ยนกระดาษจนร่ วงลงมาอย่างแม่นยา
คนอื่น ๆ ล้วนพากันตกตะลึงไป อันหว่านจือยิง่ รี บซ่อนใบหน้าของ
ตนเองลงไปใต้ผา้ คลุมอีก
ตอนที่นางออกมาจากวัง ก็ตรวจดูถึงสามรอบแล้วว่าไม่มีผใู ้ ดติดตาม
มา
อีกด้านหนึ่ง ตู๋กซู ิงหลันที่แอบซ่อนตัวอยูใ่ นมุมห้องห้องหนึ่ง ก็เห็น
ว่าภาพเบื้องหน้าพลันเสื่ อมสลาย ที่ติดตาในตอนสุ ดท้ายคือดวงตาที่
ดูโหดร้ายราวกระบี่คู่หนึ่ง ซึ่งสามารถกรี ดผูค้ นเป็ นชิ้น ๆ ได้
” ถูกเจอตัวเข้าแล้ว ” นางลุกขึ้นยืน รี บเรี ยกยันต์หุ่นเชิดที่เหลือ
กลับมา
ฝ่ ายตรงข้ามมีที่มาไม่ธรรมดา สวมผ้าคลุมสี ดา มีแส้เหล็กเป็ นอาวุธ
ย่อมต้องเป็ นคนที่พี่ใหญ่เอ่ยถึง
สถานที่เมื่อครู่ อยูใ่ กล้ ๆ ตู๋กซู ิงหลันจึงไม่กล้าอยูน่ าน นางยืน่ มืออก
ไปรับตัววิญญาณทมิฬ ขยับตัวไม่กี่ครั้งก็หลบหนีออกมา
แต่ยงั ไม่ทนั ที่นางจะได้ออกจากถนนทิศเหนือ เงาสี ดาเงาหนึ่งก็
เคลื่อนเข้ามาขวางนางเอาไว้
” คิดไม่ถึง ว่าในดินแดนต้าโจวจะมีผทู ้ ี่รู้วิชาเวทย์อยูด่ ว้ ย ” เงาสี ดาที่
เบื้องหน้าจับจ้องมองดูนางด้วยแววตาเยือกเย็น
เขาสวมชุดคลุมสี ดาตลอดร่ าง ใบหน้าซ่อนอยูใ่ นหมวกคลุมหน้า
เพียงเผยให้เห็นปลางคางและริ มฝี ปากล่างเท่านั้น
ริ มฝี ปากซีด ดูอ่อนจางจนเกือบขาว
สองมือของเขามีถุงมือสี ดา มือหนึ่งถือแส้ไว้ อีกมือหนึ่งคีบนก
กระเรี ยนกระดาษเอาไว้ในมือ
” เจ้ายอดเยีย่ มมาก น่าเสี ยดายฝี มือเช่นนี้กลับใช้ไปในทางที่ผดิ วันนี้
จึงเป็ นวันตายของเจ้าแล้ว” คนชุดดาพูดแล้ว ก็ขยี้กระกระเรี ยน
กระดาษจนเป็ นผุยผง เพียงขยับนิ้วเบา ๆ ก็เผาไหม้มนั จนกลายเป็ น
ขี้เถ้าไปในอากาศจนไม่เหลือสิ่ งใด
จากนั้นก็เห็นเงาของเขาพลันเคลื่อนไหว อยูท่ ่ามกลางไอสี ดา
โดยรอบ พุง่ ลงจากบนหลังคาตึกเข้าใส่ จุดที่ต๋ ูกูซิงหลันยืนอยู่ แส้ใน
มือตวัดออกไปตรงหน้านาง
แส้ที่ดูเหมือนจะฉีกแหวกอากาศได้น้ ีส่งเสี ยงกรี ดร้องออกมา
ตู๋กซู ิงหลันชะงักเล็กน้อย คนก็ถอยไปด้านหลัง ปลายแส้จึงพุง่ ผ่าน
ริ มหูของนางออกไป
เสี ยงควับของแส้แทบจะกรี ดลงไปบนผิวของนาง
ตู๋กซู ิงหลันกระโดดหลบหลีกอยูห่ ลายครั้ง ไม่ได้รับแส้ของคนผูน้ ้ นั
ตรง ๆ ในด้านวรยุทธ์น้ นั กาลังของร่ างนี้นบั ว่าด้อยกว่าตัวนางใน
โลกก่อนอยูม่ ามาย
ถึงแม้วา่ ครึ่ งปี ที่ผา่ นนางจะฝึ กฝนจนเพิ่มพูนขึ้นมากแล้วก็ตาม
เห็นชัดว่าคนชุดดาที่อยูต่ รงหน้ามีฝีมือโหดเ**้้ยมไม่ธรรมดา เมื่อ
ครู่ เขายังอยูใ่ นอีกที่หนึ่ง แต่เพียงพริ บตาเดียวก็ไล่ตามมาถึงข้างกาย
นาง เช่นนี้ยอ่ มไม่อาจรับมือได้โดยง่าย
ก่อนที่จะทาความเข้าใจฝ่ ายตรงข้ามให้ดี นางไม่จาเป็ นจะต้องเผชิญ
กับความเสี่ ยงนี้ตรง ๆ
นางไพล่สองมือไปที่ดา้ นหลัง ดวงตาดอกท้อทอประกายเย็นชาที่
ยากจะพบเจอ ในมือก็ลว้ งยันต์แผ่นหนึ่งออกมา
ริ มฝี ปากแดงสดคู่น้ นั ขยับ “นี่ตอ้ งดูวา่ เจ้ามีฝีมือเหมือนกันหรื อไม่”
ตอนที่ 162 มารหนุ่ม
ริ มฝี ปากแดงสดคู่น้ นั ขยับ “นี่ตอ้ งดูวา่ เจ้ามีฝีมือเหมือนกันหรื อไม่”
พอสิ้ นเสี ยง ยันต์สีแดงแผ่นหนึ่งก็ถูกนางเขวี้ยงออกไปในทันที ยันต์
สี แดงสาแดงฤทธิ์ รอบด้านก็พลันตกอยูใ่ นความมืดครึ้ ม
สายลมหนาวพัดโหม เสี ยงภูติผพี ากันร่ าร้อง
ที่เบื้องหน้าของชายชุดดาปรากฎหมอกสี ดาชั้นหนึ่ง ในใจกลาง
หมอกนั้นคล้ายกับว่าจะมีเงาร่ างสี แดงดุจเลือดมากมายอยู่
ที่ใต้เท้าของเขาบังเกิดเกิดแผ่นดินขยับ พอก้มลงไปมอง ก็เห็นมือ
ขาวซีดเปลือยเปล่าคู่หนึ่งผุดขึ้นมาจากพื้นดิน คว้ากุมขาของเขา
เอาไว้
เล็บที่ยดื ยาวนั้นจิกเข้าไปในผิวเนื้อของเขา
ใบหน้าใต้ผา้ คลุมนั้นมิได้แตกตื่นสนใจ เพียงยกฝ่ าเท้าขึ้นก็เหยียบขยี้
มือซีดขาวจนแหลก
เขาส่ งเสี ยงคารามต่า ๆ ออกมาครั้งหนึ่ง ทาให้เงาสี แดงที่อยูร่ อบตัว
ตระหนกขึ้นมา เสี ยงกรี ดร้องก็เบาบางลงจนแทบจะกลับไปเช่นเดิม
นั้นเป็ น……..พลังธาตุหยินที่รุนแรงยิง่ กว่าพวกมันมากมายนัก
ภูติผลี ว้ นหวาดกลัวพลังที่แข็งแกร่ งกว่าตนเองโดยธรรมชาติ พลังที่
อีกฝ่ ายกดดันออกมา ทาให้พวกมันล้วนไม่กล้าขยับ
คนชุดดาจับจ้องไปยังจุดที่ต๋ ูกซู ิงหลันอยูเ่ มื่อครู่ กล่าวเสี ยงเยือกเย็น
ออกมาคาหนึ่ง ” นกน้อยซ่อนตนในบุปผา”
พอพูดจบมือใหญ่โตก็ขยับทันที แส้เหล็กในฝ่ ามือบินออกไป พุง่ เข้า
ใส่ ในทิศทางที่ตอ้ งการค้นหาตู๋กซู ิงหลันอย่างแม่นยา
ความรวดเร็ วปาดสายฟ้านี้ ไม่เหลือช่องวางให้ผใู ้ ดได้ตอบโต้เลย
แม้แต่นอ้ ย
แม้ต๋ ูกซู ิงหลันจะพลิกหลบอย่างรวดเร็ว แต่หวั ไหล่กย็ งั คงถูกฉี กขาด
จนเลือดไหลเป็ นทาง
” เจ้าตัวนี้ช่างโหดเ**้้ยมดีเสี ยจริ ง มันไม่กลัวภูติผวี ิญาณร้ายก็ยงั
แล้วไป แต่วา่ มันกลับสามารถหาตาแหน่งของเจ้าเจอจากค่ายกลลับ
ได้ นี่มนั เป็ นตัวอะไรกันแน่?
วิญญาณทมิฬเองก็งงงันไป มันเริ่ มขบเขี้ยวด้วยความตื่นเต้น กางกรง
เล็บออกมาขูดพื้นราวกับสุ นขั
หากว่าได้รับอนุญาตเมื่อไหร่ มันก็พร้อมที่จะกระโดดเข้าไปกัดสัก
คาสองคา
แต่วา่ มันก็ยงั ไม่ขยับตัว
ท่อนแขนของตู๋กซู ิงหลันชุ่มโชกไปด้วยเลือด บาดแผลเริ่ มเจ็บปวด
เพียงแค่นางขยับเท้าเล็กน้อย ก็รู้สึกเหน็บชาไปทัว่ ร่ าง ราวกับว่ามีฝงู
มดนับพันนับหมื่นไต่ลงไปในบาดแผล เข้าไปรวมตัวกันอยูต่ ามเส้น
โลหิต ความรู ้สึกทรมานไร้ที่เปรี ยบนี้ ทาเอานางหายใจไม่ออก
พี่ใหญ่………โดยพิษเช่นนี้เอง
นางไม่ทนั คิดว่าแส้ของอีกฝ่ ายจะมีพิษ
” หากว่าข้าเป็ นเจ้า จะยอมตายอยูเ่ สี ยที่นี่ อย่างน้อยจะได้มีศพที่
สมบูรณ์ ” คราวนี้ คนชุดดาหัวเราะเสี ยงเย็นออกมา
ทัว่ ทั้งร่ างของเขามีแต่ไอหยินกระจายออกมา แส้ที่โบกสะบัดอยูใ่ น
มือราวกับเคียวแห่งความตาย แต่ละแส้ที่พาดออกมาล้วนพุง่ เข้าตู๋กู
ซิงหลันอย่างประสงค์ร้าย
ตู๋กซู ิงหลันยังคงยืนอยูท่ ี่เดิม วิญญาณทมิฬขวางอยูเ่ บื้องหน้านาง น่า
เสี ยดายที่มนั มีแค่ร่างจิต ถึงแปลงเป็ งร่ างหมาป่ าก็ยงั มีขนาดเพียงแค่
ฝ่ ามือ จะปกป้องหรื อกาบังอะไรก็ไม่ได้
หากยามนี้จะให้มนั กรี ดเลือดที่กน้ มาแก้พิษให้ต๋ ูกซู ิงหลัน ก็ดูจะไม่
ทันการเสี ยแล้ว
แส้ที่โหดร้ายนัน่ พุง่ เข้ามาอีกครั้ง ตู๋กูซิงหลันได้แต่กดั ฟัน พลิกมือ
ตะปบแส้ ใช้เรี่ ยวแรงทั้งหมดรั้งแส้น้ นั เอาไว้ จนมันถูกขึงเป็ น
เส้นตรงและเริ่ มเกิดรอยฉีกขาด
คนชุดดาตกตะลึงไปพักหนึ่ง น่าเสี ยงดายที่ต๋ ูกซู ิงหลันใส่ หน้ากาก
เอาไว้ช้ นั หนึ่ง เขาจึงไม่อาจเห็นรู ปโฉมของนาง
แส้เหล็กรู ดผ่านใจกลางฝ่ ามือของนาง โลหิ ตมากมายไหลนองอย่าง
น่ากลัว
ดวงตาที่เปล่งประกายของนางจับจ้องคนชุดดา กล่าวด้วยน้ าเสี ยงเย็น
ชาว่า “ในเมื่อเจ้าไม่ใช่มนุษย์ เช่นนั้นเรากันมาใช้วิธีของคนตาย
จัดการกันดีกว่า”
โลหิตสี แดงย้อมแส้เหล็กของเขา ทันใดนั้นตู๋กซู ิงหลันก็หลับตาลง
ริ มฝี ปากร่ ายคาถาออกมา ทัว่ ทั้งร่ างถูกปกคลุมไปด้วยหมอกชั้นหนึ่ง
ราวกับว่ามีบางสิ่ งกาลังจะพวยพุง่ ออกมาจากร่ างของนาง
วิญญาณทมิฬตระหนกจนแทบจะร่ าร้องอย่างโหยหวน “อ้ายหย่า
สวรรค์ทรงโปรด ลูกพี่ อย่าได้ววู่ าม! “
คนที่เคยตายไปแล้วครั้งหนึ่ง พลังในการต่อสู ้ดว้ ยชีวติ ช่างระห่ าไป
แล้ว
นางต้องการจะแยกร่ างจิตของตนเองออกจากร่ างเนื้อ คิดจะใช้ดวง
จิตเข้าต่อสู ้หรื อ? หากว่าเกิดผิดผลาดขึ้นมา มีหวังดวงวิญญาญต้อง
แตกสลายนะลูกพี่!
สาหรับตู๋กซู ิงหลันแล้ว ร่ างของเจ้าของเดิมนี้ทางหนึ่งคือที่สถิตดวง
จิตของนาง อีกทางคือสิ่ งที่กกั ขังนางเอาไว้
หากหลุดพ้นจากการกักขังนี้ ต่อให้นางเป็ นเพียงแค่ดวงจิต เจ้าของ
เล่นที่อยูเ่ บื้องหน้านี้ ก็มีแต่ตอ้ งถูกสับจนแหลกเท่านั้น
แต่นี่มนั เสี่ ยงเกินไปแล้ว วิญญาณทมิฬทั้งหวาดกลัวทั้งยาเกรง
” พวกเราพูดกันดี ๆ เถอะ อย่าได้ววู่ าม ของร้องเจ้าแล้ว” วิญญาณ
ทมิฬแทบร้องไห้ออกมา มันกับตู๋กซู ิ งหลันผูกพันด้วยสัญญาเป็ น
ตาย หากว่าลูกพี่ผนู ้ ้ ีดบั สิ้ นไปแล้ว มันก็มีแต่ตอ้ งสลายไปด้วย
ในทางตรงกันข้าม หากว่ามันตาย ตู๋กูซิงหลันก็เพียงแต่ได้รับ
บาดเจ็บเท่านั้น นี่เป็ นความไม่ยตุ ิธรรมข้อหนึ่งในสัญญาที่ผกู พันนี้
ตู๋กซู ิงหลันมิได้สนใจมัน ดวงจิตในร่ างเนื้อกาลังขยับเขยื้อน บน
หน้าผากของร่ างจิตมีตราประทับสี ดาสี ดาอยู่ นัน่ คือส่ วนหนึ่งของ
หยกสรรพชีวิต
ยามที่นางได้รับหยกนั้นกลับคืนมา มันก็ประทับร่ างลงบนดวงจิต
ของนางแล้ว
ทุกครั้งที่ตอ้ งเผชิญกับเหล่าปี ศาจ คนเช่นตู๋กูซิงหลันมีแต่สู้ตายอยู่
แล้ว นางไม่เคยหวาดกลัวตายมาก่อน
เมื่อต้องเผชิญกับพวกนี่ มันชัดเจนเลยว่าไม่ใช่สิ่งที่ร่างเนื้อของนาง
จะต้านทานได้
คนชุดดาที่อยูต่ รงข้ามตกตะลึงไป มันไม่ยอมให้เวลวาตู๋กซู ิงหลัน
แม้แต่นอ้ ย ก็กระชากแส้ของตนเองกลับไป โห่ร้องคาหนึ่งก็พงุ่ เข้า
ใส่ ตวั นาง
เปลือกตาของตู๋กซู ิงหลันเต็มไปด้วยฝอยโลหิ ต ดวงจิตที่แข็งแกร่ ง
กาลังแยกออกจากร่ าง
ทันใดนั้น เงาสี แดงร่ างหนึ่งก็โบยบินเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ ว ใต้
เท้าของตู๋กซู ิงหลันกลายเป็ นว่างเปล่า นางยังไม่ทนั ได้เห็นชัดว่าเป็ น
ผูใ้ ด ก็ถูกคนผูน้ ้ นั โอบอุม้ เข้าไปในอ้อมอก ใต้เท้าของคนผูน้ ้ นั
บังเกิดสายลม เพียงไม่กี่กา้ วกระโดดก็พานางหลบหนีออกมาจาก
ถนนทิศเหนือ
เส้นผมที่เย็นฉ่ าของเขาพลิ้วผ่านใบหน้าของนาง จนทาให้คนั นิด ๆ
ตู๋กซู ิงหลันเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นคนผูน้ ้ นั หนุ่มแน่นงดงามดุจปี ศาจ
ริ มฝี ปากแดงฉ่ าราวอาบเลือด ดวงตาดาดัง่ น้ าหมึก สง่างามดัง่ มาร
ร้าย
เพียงแต่รูปลักษณ์เช่นนี้ คล้ายกับคนผูห้ นึ่งเหลือเกิน
บุรุษหนุ่มผูน้ ้ นั ไม่กล่าววาจา เพียงโอบอุม้ นางโผบินไปตลอดทาง
จากถนนหลักทิศเหนือ มุ่งสู่ ถนนหลักทิศตะวันตก หลีกเร้นผูค้ นไป
ตลอดทาง
ร่ างเนื้อและดวงจิตของตู๋กูซิงหลันกาลังแบ่งแยกไปได้ครึ่ งทาง ก็ถูก
สกัดขวางอย่างกระทันหัน ทาเอานางแทบจะกระอักโลหิ ตออกมา
อีกทั้งยังโดนพิษบนแส้ของคนผูน้ ้ นั ตลอดร่ างจึงอ่อนปวกเปี ยก สิ้ น
ไร้เรี่ ยวแรง
ได้แต่ยอมให้บุรุษหนุ่มที่งามดังมารร้ายผูน้ ้ ีโอบอุม้ ไป
บุรุษหนุ่มโอบอุม้ นางไปถึงจวนที่สวยงามหลังหนึ่ง ก็พลิกตัวปี น
กาแพงเข้าไป หลบลี้เข้าไปในห้องหับหลังหนึ่ง พอวางร่ างนางลง
บนเตียงได้กร็ ี บปิ ดประตูให้สนิท
จากนั้นก็เดินมาที่ขา้ งกายนาง ดวงตาที่งดงามดุจดวงตาของจิ้งจอกคู่
นั้นเปี่ ยมไปด้วยความร้อนรนและกังวลใจ ” เจ้าไม่เป็ นไรใช่ไหม? “
หน้ากากของตู๋กูซิงหลันแตกไปครึ่ งหนึ่ง เผยให้เห็นใบหน้าที่ไร้สี
เลือด ซีดขาว กระทัง่ ริ มฝี ปากก็ม่วงคล้ า
เพียงแต่นางพยายามฝื นร่ างกายเอาไว้ ดวงตาจับจ้องบุรุษหนุ่มอย่าง
ไม่คลาดเคลื่อน
บุรุษหนุ่มสวมชุดแดงที่ร้อนแรงตลอดร่ าง เส้นผมที่ยาวสวยถูกมัด
สู งเป็ นหางม้า ปอยผมสองข้างแนบกับใบหน้า ดวงตาจิ้งจอกทอ
ประกาย ยามที่เขาไม่กล่าววาจา ก็คล้ายกับว่าจะมีรอบยิม้ บาง ๆ ที่
น่าหลงใหลประดับอยูเ่ สมอ
รู ปลักษณ์ที่ไม่แบ่งแยกชายหญิงเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะเขามีน้ าเสี ยง
ของบุรุษ ตู๋กูซิงหลันคงจะต้องสงสัยในสภาพเพศของเขาแน่แล้ว
” ขอบคุณที่เจ้าช่วยชีวิตของข้า แต่ขา้ คิดว่าตนเองมีปัญหาใหญ่แล้ว
คงยากที่จะช่วยเอาไว้ได้ ” ตู๋กซู ิงหลันนอนอยูบ่ นเตียง ราวกับตัว
หนอนที่ไร้กระดูดตัวหนึ่ง
สี หน้าของบุรุษหนุ่มยิง่ ร้อนรน ” เจ้าเป็ นเพียงสาวน้อยนางหนึ่ง วิ่ง
เข้าไปต่อยตีกบั ตัวประหลาดนัน่ ทาไม? ตอนนี้รู้จกั เจ็บจักปวดขึ้น
มาแล้วหรื อ? “
ถึงแม้วา่ เขาจะต่อว่า แต่กล็ ว้ งเอายาสี ขาวเม็ดหนึ่งออกมาจากในอก
ป้อนให้นางด้วยตนเอง
พอกลืนยาเม็กนั้นลงไป ทัว่ ทั้งร่ างของตู๋กซู ิงหลันก็เบาสบายขึ้นมาก
สี ม่วงบนริ มฝี ปากค่อย ๆ จางหายไป
ตอนที่ 163 น้ องชายฝาแฝด
พอรู ้สึกดีข้ ึนบ้าง นางก็ถามบุรุษหนุ่มผูน้ ้ นั ออกไปว่า ” ไม่ทราบ
ว่า…..ซูเม่ยกับเจ้าเป็ นอะไรกัน? “
ถึงแม้วา่ เมื่อครู่ เขาจะเป็ นคนอุม้ นางข้ามกาแพงมา ตู๋กซู ิงหลันก็ยงั คง
มองเห็นป้ายหน้าประตูที่มีอกั ษรตัวโตเขียนว่า ‘จวนหย่งเฉิ งอ๋ อง’
ที่นี่คือบ้านของซูเม่ย
หย่งเฉิงอ๋ อง ซูอ๋ ูมีธิดาสายหลักเพียงคนเดียว
ตู๋กซู ิงหลันเอนตัวลงบนเตียง พยายามผ่อนลมหายใจให้สงบลง
มองดูบุรุษหนุ่มที่งดงามดุจมารร้ายผูน้ ้ นั นางก็ชกั จะมีคาถามขึ้นมา
มากมายเสี ยแล้ว
อย่างเช่นว่า ทาไมอยูเ่ ขาถึงได้ปรากฏตัวขึ้นมาช่วยเหลือนาง?
ทาไมถึงมียาถอนพิษ?
ทาไม…..ถึงได้มีหน้าตาคล้ายคลึงกับซูเฟยถึงแปดส่ วน
” ข้าเป็ นน้อยชายฝาแฝดของนาง” บุรุษหนุ่มนัง่ ลงที่ขา้ งกายนาง คลี่
ยิม้ ให้อย่างสดใส ” ข้าเรี ยกว่าซูเยา[1]”
” ซูเยา” ตู๋กซู ิงหลันทบทวนชื่อของเขา ศิลปะในการตั้งชื่อของหย่ง
เฉิงอ๋ องสามีภรรยาช่างไม่ธรรมดาเสี ยจริ ง ๆ
พอได้ยนิ นางเรี ยกชื่อของตนเอง บุรุษหนุ่มก็ยมิ้ ให้นางอย่าง
อ่อนหวาน
นางไม่เคยได้ยนิ มาก่อนจริ ง ๆ ว่าซูเม่ยมีนอ้ งชายฝาแฝดด้วย
คล้ายว่าเขาเองก็สงั เกตเห็นความระแวงของนางได้ต้ งั แต่แรก บุรุษ
หนุ่มจึงกล่าวให้ฟังว่า ” บิดาของข้ามีชะตาไร้บุตร ดังนั้นพอข้าเกิด
มาจึงถูกส่ งไปเลี้ยงดูที่อื่น เพราะเกรงว่าข้าจะต้องสิ้ นไปตั้งแต่
เยาว์วยั ท่านพ่อท่านแม่จึงไม่ได้แพร่ งพรายออกไปสู่ ภายนอก ดังนั้น
เจ้าไม่รู้จกั ข้าก็ถือว่าธรรมดา”
บุรุษหนุ่มอธิบายอย่างใจเย็น ” ตั้งแต่เล็กข้าก็ได้ฝึกฝนวิชากับ
อาจารย์ที่เป็ นเซียนท่านหนึ่ง ท่านอาจารย์มอบยาให้กบั ข้าไว้ไม่นอ้ ย
พอดีมีเม็ดหนึ่งเป็ นยาขจัดร้อยพิษ จึงให้เจ้ากินเข้าไป โชคดีที่มนั
ได้ผล”
ตู๋กซู ิงหลันนอนฟังอย่างเงียบ ๆ อดรู ้สึกไม่ได้วา่ เขาอธิบายได้อย่าง
ไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่
นางจดจ้องมองเขา ถึงแม้วา่ จะมีรูปร่ างหน้าตาคล้ายกับซูเม่ย แต่วา่
กลิ่นอายบนร่ างก็ไม่เหมือนกัน
ซูเม่ยนั้นงดงามราวจุติจากฟากฟ้า ซูเยากลับคล้ายมารจาแลงเป็ น
มนุษย์
มีแก่นแท้ที่แตกต่างกัน
” พอดีขา้ จะมาร่ วมฉลองครบรอบยีส่ ิ บปี กับพี่สาว จึงได้ลอบกลับมา
เงียบ ๆ ไหนเลยจะคิดว่าพอผ่านไปยังถนนหลักทิศเหนือ ก็ได้เผอิญ
เจอกับเจ้า”
บุรุษหนุ่มทางหนึ่งพูด ทางหนึ่งก็รินน้ าอุ่นให้นาง ส่ งมาให้นางถึง
จนถึงเบื้องหน้า
ท่าทางที่ดูสนิทสนมเช่นนี้ คล้ายกับว่าเขารู ้จกั นางมานานนับสิ บปี
แล้ว
ตู๋กซู ิงหลันลังเลอยูค่ รู่ หนึ่งค่อยยืน่ มือออกไปรับ ถ้วยกระเบื้อง
เคลือบมีน้ าอุ่นกาลังพอดี ทาให้ความเย็นบนร่ างของนางลดลงไม่
น้อย
” ตัวข้าฝึ กฝนวิชาเซียนและศาสตร์เวทย์จากอาจารย์ ไม่เช่นนั้นวันนี้
คงไม่อาจพาเจ้าออกมาได้โดยง่าย”
สายตาของบุรุษชุดแดงทอประกายอบอุ่น ” ก่อนหน้านี้ยามที่ได้อยู่
กับพี่สาว มักจะได้ยนิ นางเอ่ยถึงเจ้าบ่อย ๆ เจ้ากับพี่สาวเป็ นสหาย
สนิทกัน ก็นบั ว่าเป็ นสหายของข้าด้วย”
” ข้าอายุมากกว่าเจ้า เจ้าต้องเรี ยกข้าว่าเยาเกอเกอ (พี่ชาย) “
ตู๋กซู ิงหลัน “……..” เยาเกอเกอมารดาของเจ้าสิ ! ขนลุกจนร่ วงไป
ครึ่ งหนึ่งแล้ว !
พอสังเกตเห็นว่าทัว่ ทั้งร่ างของนางมีปฎิกิริยาต่อต้าน เขาก็แก้คาพูด
ไหมว่า ” เรี ยกเยาเยาก็ได้”
จะให้เรี ยกบุรุษตัวโตว่าเยาเยา ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกกระบิดกระบวนอยู่
บ้าง
พอเห็นสี หน้าที่ปฎิเสธของนาง บุรุษหนุ่มก็ดึงชายแขนเสื้ อของนาง
ขึ้นมา “พี่สาวบอกเสมอว่าเจ้านั้นดีที่สุดเลย ไม่เคยมีขอ้ แม้กบั มิตร
สหาย ข้าก็แค่อยากจะได้ยนิ เจ้าเรี ยกชื่อข้าสักครั้ง ไม่ได้หรื อ? “
” ไม่ได้จริ ง ๆ หรื อ? “
ชาติก่อนตู๋กซู ิงหลันได้พบละอ่อนน้อยมาหลายคนพอสมควร แต่
กลับไม่เคยเจอใครที่ดูยวั่ เย้าเช่นบุรุษหนุ่มตรงหน้ามาก่อนเลยใน
ชีวิต
นางส่ งเสี ยงรับคาในลาคอ ในที่สุดก็ยอมเรี ยกเขาออกมาคาหนึ่งว่า
“เยาเยา”
” อ๋ าย” ดวงตาของบุรุษหนุ่มเป็ นประกายขึ้นมาในทันที
วิญญาณทมิฬ ” ข้าอยากจะบอกว่า จะอ้วกแล้ว ได้ไหม? “
ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้หนุ่มเจ้าชูน้ ้ ีช่วยชีวิตตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ มันรู ้สึกว่า
เขาสมควรถูกส่ งไปเผาในลาแสง X ชนิดเข้มข้นพิเศษเสี ยเลย
เอาเถอะ……..จะอย่างไรใบหน้านั้นก็นบั ว่าน่าดูดุจมารร้าย ถือว่ายัง
ไม่เลี่ยนมากเท่าไหร่
” ใช่แล้ว ข้ายังไม่ได้ถามเจ้าเลย ทาไมเจ้าถึงได้ถูกเจ้าตัวประหลาด
นั้นหมายหัวเอา จะต้องฆ่าเจ้าให้ได้กนั ? “
ตู๋กูซิงหลันเหลือบตาดูเขาแวบหนนึ่ง ” ตัวประหลาด? ” เจ้ารู ้วา่ คน
ชุดดานัน่ คือตัวอะไรหรื อ? “
พอบุรุษหนุ่มที่เรี ยกว่าซูเยาเขยิบเข้าไปใกล้นาง นางก็สามารถได้
กลิ่นหอมที่ไม่เหมือนกับสิ่ งใดสิ่ งหนึ่ง กลิ่นนี้แตกต่างกับกลิ่น
กุหลาบบนร่ างของซูเม่ย
แต่จะอย่างไรนางก็ยงั คงรักษาความระมัดระวังและสงสัยเกี่ยวกับ
บุรุษหนุ่มผูน้ ้ ีเอาไว้ บางส่ วนของความรู ้สึกบอกว่าเขาคือซูเม่ยที่
ปลอมแปลงเป็ นบุรุษ
หากไม่ใช่เพราะเห็นว่าบนอกของเขานั้นแบนจนราบเรี ยบ
” ตอนที่ขา้ ฝึ กฝนวิชากับอาจารย์กเ็ คยเห็นมันมาก่อน บนร่ างอบอวน
ไปด้วยไอดา พกพาแส้กระดูกเหล็กชิ้นหนึ่ง ท่านอาจารย์บอกว่านั้น
คือศพคืนชีวตที่ฝึกฝนวิชามานานหลายปี จนกลายเป็ นสัตว์
ประหลาด แส้กระดูดเหล็กที่เป็ นอาวุธคู่มือของมันเกิดจากการนา
กระดูกสันหลังของศพนับไม่ถว้ นมาหล่อหลอมจนสาเร็ จ”
บุรุษหนึ่งกล่าวแล้ว ก็จดจ้องมองดูนาง ” เจ้าสามารถรอดชีวิตมาจาก
กามือของมันได้ ………นับว่าเป็ นสตรี ที่ฟ้าทรงเลือกสรรแล้ว! “
ชื่อของเขาเรี ยกว่าเยา แต่น้ าเสี ยงกลับยิง่ แฝงไอมารที่ยวั่ เย้ายิง่ กว่า
โดยเฉพาะเมื่อสวมใส่ ชุดแดง ยามยกมือขยับเท้าล้วนมีพลังดึงดูด
อย่างไม่สิ้นสุ ด
อย่าว่าแต่การพูดเพียงสักประโยค ก็สามารถทาให้คนต้องขนลุกได้
ถึงเพียงนี้ ราวกับว่าเขาเป็ นจิ้งจอกจาแลง ที่ดึงดูดหลอกล่อเอา
วิญญาณ
ตู๋กซู ิงหลันชะงักไปเล็กน้อย ค่อยยิม้ ออกมา ” จริ งด้วยสิ นะ อีกทั้งยัง
ถูกเจ้าช่วยไว้อย่างบังเอิญ”
ว่าแล้วตู๋กซู ิงหลันก็กล่าวต่อว่า ” เจ้าช่วยเหลือเราเอาไว้ เราย่อมต้อง
ตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน จะอย่างไรพรุ่ งนี้เจ้าติดตามเรากลับเข้าวัง
พี่สาวเจ้าได้พบเจ้าในวังหลวง นางจะต้องยินดีอย่างแน่นอน”
บุรุษหนุ่มฟังแล้วก็รีบส่ ายศีรษะ “ท่านพ่อท่านแม่ไม่ตอ้ งการให้คน
ภายนอกรับรู ้ตวั ตนของข้า กับพี่สาวข้าก็เพียงแต่แอบพบกันเท่านั้น
ข้าช่วยเหลือเจ้าด้วยความเต็มใจ ไม่ตอ้ งการให้เจ้ามาตอบแทน”
” แต่หากว่าเจ้าต้องการจะตอบแทนจริ ง ๆ …..”
เขาอยากจะให้นางตอบแทนด้วยการอยูเ่ คียงข้างกันเหลือเกิน แต่ก็
รู ้สึกว่าพูดเช่นนั้นออกจะขอมากเกินไป ผ่านมาถึงสิ บเก้าปี แล้ว เขา
พึ่งจะได้ใช้ฐานะบุรุษพบนางเป็ นครั้งแรก หากว่ารุ กล้ ามากเกินไป
จนทาให้นางตระหนกหวาดกลัวขึ้นมาก็คงไม่ดี
เขาชัง่ น้ าหนักในใจอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็ส่ายศรี ษะ ” หากว่าอยากตอบแทน
ก็เล่าให้ขา้ ฟัง ว่าเจ้าร่ าเรี ยนวิชาเวทย์เหล่านี้จากที่ใด”
นางที่เป็ นเพียงสาวน้อย กลับหาญกล้าใช้กาลังต่อกรกับตัว
ประหลาดคืนชีพตนนั้น จะดูอย่างไร ก็ไม่เหมือนกับอาหลันที่เขา
เคยรู ้จกั
” อาจารย์ของข้าคือนักพรตอูเ้ จิน เขาเป็ นคนจิตใจกว้างขวาง
ถ่ายทอดวิชาทั้งหมดที่เขาได้ศึกษามาให้กบั ข้า หากว่าเจ้าสนใจล่ะก็
ข้าสามารถขอให้เขาสัง่ สอนเจ้าได้สกั ท่าสองท่า”
ทุกครั้งที่โดนถามเช่นนี้ ตู๋กูซิงหลันเป็ นต้องยกนักพรตอู๋เจินขึ้นมา
เป็ นเกราะกาบัง
ในอารามเทียนเก๋ อ นักพรตอู๋เจินอยู่ ๆ ก็จามออกมาติด ๆ กัน
จากนั้นอยู่ ๆ ก็นึกถึงไทเฮาน้อยขึ้นมา จนรู ้สึกเหน็บหนาวไปทัว่ ทั้ง
ร่ าง
” นักพรตอู๋เจินหรื อ ข้าเคยได้ยนิ ท่านอาจารย์เอ๋ ยถึง เขาก็แค่นกั พรต
ไม้แขวนเสื้ อคนหนึ่ง หากว่าสามารถสัง่ สอนศิษย์อย่างเจ้าขึ้นมาได้
ก็ตอ้ งถือว่าบรรชนของเขาเฮี้ยนแล้ว “
บุรุษหนึ่งหัวเราะออกมา มองดูใบหน้ารู ปไข่ของนาง ที่มีผวิ ดัง่ ทารก
น้อย ก็อดที่จะคิดอยากหอมขึ้นมาไม่ได้
คิดถึงตรงนี้ หัวใจของเขาก็กระชุ่มกระชวยเหลือเกิน
รอยยิม้ ของเขายังไม่ทนั ได้จืดจาง ทันใดนั้นประตูหอ้ งก็ถูกเปิ ดออก
พ่อบ้านชราของตาหนักหย่งเฉิงอ๋ องก็เข้ามาอย่างร้อนรน ” นะ……
นายน้อย ฮ่องเต้ทรงเสด็จมาที่ตาหนักของพวกเราอย่างกระทันหัน “
” อะไรนะ? ” บุรุษหนุ่มหน้าเปลี่ยนสี ไป พ่อบ้านชราเหลือบตา
มองดูต๋ ูกซู ิงหลันที่นอนอยูบ่ นเตียง สี หน้าของเขาสับสนวุน่ วาย เข้า
ไปกระซิบที่ขา้ งหูของนายน้อยว่า ” ท่านอ๋ องและพระชายา ต่างก็รับ
เสด็จอยูท่ ี่หอ้ งโถงแล้ว ฝ่ าบาททรงรับสัง่ เรี ยก ให้นายน้อยเข้า
เฝ้า……..”
——

[1] 妖 หรื อ ‘เยา’ แปลว่า ปี ศาจหรื อมาร ส่ อความหมายในทาง


ยัว่ ยวน
ตอนที่ 164 ลูกชายเอ๋ย ขอเถอะ อย่ าได้ เป็ นที่โปรดปรานเลย
” ท่านอ๋ องและพระชายา ต่างก็รับเสด็จอยูท่ ี่หอ้ งโถงแล้ว ฝ่ าบาททรง
รับสัง่ เรี ยก ให้นายน้อยเข้าเฝ้า……..”
แม้น้ าเสี ยงของเขาเบามาก แต่ต๋ ูกซู ิงหลันก็ยงั คงได้ยนิ แล้ว
จีเฉวียนนับว่าเป็ นวิญญาณที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิดจริ ง ๆ ไม่วา่ นางจะ
ไปอยูท่ ี่ใด เป็ นต้องพบเจอเขาอยูต่ ลอด
” ฝ่ าบาทเสด็จมาที่ตาหนักหย่งเฉิงอ๋ องด้วยเหตุใดกัน? ” บุรุษหนุ่มผู ้
นั้นนวดขมับด้วยท่าทางปวดศีรษะอย่างรุ นแรง
พ่อบ้านชราลังเลอยูค่ รู่ หนึ่งค่อยตอบว่า ” ฟังมาว่า…..ฝ่ าบาทเสด็จมา
พระราชทานราชโองการให้ดว้ ยพระองค์เอง”
” หืม? “
” ฝ่ าบาทจะทรงแต่งตั้งพี่สาวของท่าน……เป็ นหวงกุย้ เฟย ดังนั้นจึง
ทรงเสด็จมาพระราชทานราชโองการ”
มารหนุ่มรู ้จึกว่าสมองของเขาส่ งเสี ยงลัน่ ดังเปรี้ ยะ คนคล้ายจะโดน
ฟ้าผ่าลงมาตลอดร่ าง
เรื่ องนี่ ทาไมเจ้าตัวอย่างเขาถึงไม่เคยรู ้เรื่ องมาก่อนกัน?
ตาแหน่งหวงกุย้ เฟย จากตาแหน่งนี้อาจจะได้เป็ นฮองเฮาในภายหลัง
ฝ่ าบาทคิดจะโอบอุม้ เขาขึ้นไปสู ง ๆ จากนั้นค่อยปล่อยให้ตกลงมา
ตายหรื ออย่างไร?
” นายน้อย……จะอย่างไรก็ขอให้ท่านไปดูที่โถงหน้าก่อนเถอะ สี
พระพักตร์ฝ่าบาทดูอึมครึ มอย่างยิง่ คล้ายกับจะเสวยผูค้ นเข้าไปได้
อยูแ่ ล้ว”
ท่าทางเช่นนั้นไหนเลยจะเป็ นเพราะมาเรื่ องหวงกุย้ เฟยกัน”
พ่อบ้านชราอดที่จะขนลุกจนตัวสัน่ ไม่ได้ นับตั้งแต่อายุได้หกขวบ
เขาก็เริ่ มทางานรับใช้ในตาหนักนี้แล้ว นับไปนับมาก็มีมากกว่าหก
สิ บปี
ยังจะมีเรื่ องใด ๆ ในตาหนักที่เขาไม่รู้อีกหรื อ ก็ที่นายน้อยแต่งตัว
เป็ นหญิงมาตลอดหลายปี มานี้ เขาก็จบั ได้มานานแล้ว เพียงแต่แกล้ง
ทาเป็ นไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้น
ดูเอาเถอะ นายน้อยถึงวัยแล้ว เริ่ มคิดถึงเรื่ องความรัก ถึงขนาดอุม้
หญิงสาวกลับมาวางบนเตียงเช่นนี้ หากว่าท่านอ๋ องและพระชายา
เห็นเข้าละก็มีหวังคงได้ตีเขาจนขาหัก
ดูท่าแล้วนายน้อยเข้าวังไปแล้วคงจะได้รับผลกระทบอะไร
บางอย่าง……ถึงได้ทาเรื่ องเช่นนี้ข้ ึนมา
ภายใต้ผา้ โปร่ งผืนบาง แม่นางน้อยบนเตียงดูอ่อนแอและนุ่มนวล
ชายผ้าทิ้งยาวปิ ดบังใบหน้าของนางเอาไว้ จนทาให้เขาไม่อาจ
มองเห็นนางได้อย่างชัดเจน
เขาเองก็ไม่กล้ามองมากไป ได้แต่เร่ งรัดนายน้อยให้ออกไปด้าน
นอก
ซูเยาขมวดคิว้ แนบแน่น เขาเดินเข้ามาถึงข้างตัวตู๋กซู ิงหลัน ” พิษบน
ร่ างเจ้ายังไม่ได้ถูกขจัดจนหมด อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บ เจ้าอย่าได้
เพ่นพ่านวุน่ วาย พักผ่อนอยูแ่ ต่เพียงในห้องนี้เถอะ เข้าใจไหม? “
ตู๋กูซิงหลันเหลือบมองกิริยาที่แสนจะเป็ นจริ งเป็ นจังของเขา นาง
รู ้สึกคล้ายดัง่ กับว่าตนเองคือชูร้ ักที่กาลังจะถูกสามีชาวบ้านจับได้คา
เตียง
ทั้งปิ ดบังทั้งแอบซ่อนราวกับกลัวว่านางจะถูกใครเจอตัวเข้า
” อย่าได้ออกไปจากห้องนี้แม้แต่กา้ วเดียว รอจนข้าจัดการเรื่ องราว
เรี ยบร้อยหมดแล้วจะรี บมาหาเจ้านะ “
ยามที่เขาเดินจากไป ยังไม่วายหันกลับมากาชับนาง
ตู๋กซู ิงหลันได้แต่พยักหน้า ตอบตกลงไปคาหนึ่ง
นางในตอนนี้กไ็ ม่มีกาลังใด ๆ พิษแม้ถูกถอนไปแล้ว แต่วา่ การ
บังคับแยกกายเนื้อและร่ างจิตที่ถูกขัดขวางอย่างกระทันหัน ทาให้
ร่ างเนื้อนี้ได้รับผลสะท้อนกลับอย่างรุ นแรง ตอนนี้จึงอ่อนแออย่าง
มาก คิดแต่เพียงจะนอนอยูบ่ นเตียงเท่านั้น
อีกอย่างสภาพของนางในตอนนี้ ก็ไม่มีหน้าออกไปพบกับใครเลย
จริ ง ๆ
พอเห็นนางเชื่อฟังอย่างว่าง่าย ซูเยาถึงได้คลายใจลง ติดตามพ่อบ้าน
ชราออกไปที่หอ้ งโถงเบื้องหน้าอย่างวางใจ
ก่อนจากไป เขาไม่ลืมที่จะปิ ดประตูลงอย่างแน่นหนา อีกทั้งยังลง
ดานจากนอกประตูเอาไว้ดว้ ย
…………………………………..
ตาหนักหย่งเฉิง ห้องโถงหน้า
ที่จริ งยามนี้สีพระพักตร์ของหย่งเฉิงอ๋ องและพระชายาต่างก็เขียวจน
คล้ าแล้ว คนทั้งสองนัง่ อยูด่ ว้ ยกัน มองดูฮ่องเต้ที่ทรงประทับนัง่ อยู่
บนเก้าอี้หลัก ต่างก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างไร้สาเหตุ
ฝ่ าบาทประทับนัง่ อย่างสง่างาม ราศีของพระองค์เปล่งประกาย แม้วา่
จะเพียงแค่ประทับนัง่ อยูก่ ลับดูเหมือนต้นสนพันปี อย่างไรอย่างนั้น
ทั้งสู งส่ ง สง่างามด้วยพระบารมี สุ ดที่ผอู ้ ื่นจะเปรี ยบเทียบได้
ยามนี้ แม้กระทัง่ ห้องโถงที่มิได้หรู หราแต่อย่างใดของพวกเขา ก็ยงั ดู
เริ่ ดหรู ข้ ึนไปอีกมาก
ขณะเดียวกัน ฝ่ าบาทก็ทรงเริ่ มเสวยน้ าชาเป็ นถ้วยที่สองแล้ว
หย่งเฉิงอ๋ องสองสามีภารยาต่างมองหน้ากันและกัน นับตั้งแต่ที่พวก
เขาได้ยนิ ข่าวว่าเจ้าลูกอกตัญญูผนู ้ ้ นั ถูกเรี ยกให้ถวายตัวเป็ นต้นมา
จิตใจของทั้งสองก็เป็ นอันไม่สงบมาโดยตลอด
วันทั้งวันได้แต่อกสัน่ ขวัญผวา เกรงว่าวันใดวันหนึ่งเรื่ องจะแดง
ขึ้นมา ถูกฝ่ าบาทสัง่ ลงพระอาญา คนทั้งตาหนักหย่งเฉิ งอ๋ องของพวก
เขาอาจจะต้องรับโทษปิ ดบังหลอกลวงเบื้องสู ง
พูดแล้วก็ได้แต่แอบหลัง่ น้ าตาอย่างขมขื่น
เจ้าลูกทรพีคนนั้น วัน ๆ ไม่รู้จกั ใช้ชีวิตให้ดี กลับต้องการจะเข้าวัง
ไปเป็ นพระสนม เอะอะร้องไห้ข้ ึนมาก็เอาแต่จะแขวนคอตาย ทาเอา
พวกเขาสิ้ นไร้หนทาง สุ ดท้ายได้แต่จายอมส่ งเขาเข้าวังไป
บ้านอื่น ๆ ล้วนแต่เฝ้าวาดหวังให้บุตรสาวได้รับการโปรดปราน
พวกเขาช่างดีนกั เอาแต่กราบพระไหว้เทพเจ้าขอให้ฝ่าบาทอย่างได้
สนพระทัยในตัวเจ้าลูกทรพีของตน
ดังนั้นตอนที่เจ้าลูกทรพีเข้าวังไปแล้วก็บอกว่าต้องการจะไปเฝ้า
สุ สานยังเขาจงหลิง พวกเขาจึงพากันยกทั้งมือและเท้าสนับสนุน
ไปที่ไหนล้วนดีท้ งั นั้น ของเพียงแค่ไม่ใช่วงั หลวง ไม่ตอ้ งอยูร่ ่ วมกัน
ฮ่องเต้ หัวใจของพวกเขาจะได้ไม่ตอ้ งเอาแต่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ อยูท่ ้ งั
วัน
แต่วา่ ตอนนี้นะสิ เขาไม่เพียงแต่กลับมาจากเขาจงหลิงแล้ว กลับยัง
ถูกฮ่องเต้ให้ความสาคัญอีกด้วย ทุกค่าคืนเป็ นต้องถวายตัว ในวังยังมี
แต่ข่าวลือออกมาว่า ฝ่ าบาทมีพระประสงค์จะให้เขาคลอดพระโอสร
องค์แรกถวาย!
ฟังเอาเถอะ ลูกชายของพวกเขาจะเอาอะไรคลอดลูกได้กนั เฮ้อ?
สองสามีภรรยาได้แต่เกลียดตนเองที่ต้ งั แต่แรกก็เอาอกเอาใจเขามาก
ไป แม้แต่เรื่ องบ้าบอเช่นเข้าวังไปเป็ นพระสนมเช่นนั้นก็ยงั จะไป
รับปากได้
หากจะโทษก็ตอ้ งโทษที่พวกเขาสู ญเสี ยบุตรชายติดต่อกันไปสี่ คน
ถึงได้บงั คับเลี้ยงดูเจ้าห้าให้เป็ นบุรุษในคราบสตรี มาตั้งแต่เล็ก ๆ ใน
ใจอดไม่ได้ที่จะรู ้สึกผิดต่อเขามาโดยตลอด ดังนั้นในยามปกติจึงได้
รักใคร่ เอาอกเอาใจสารพัด จนถึงขั้นมิวา่ อยากได้อะไรเป็ นต้องได้
ไปหมด
และเพราะความรักใคร่ เอาอกเอาใจเช่นนี้ ทาให้เขากลายเป็ นคนที่ไม่
รู ้จกั กฎข้อห้ามใด ๆ
ยามนี้ล่ะดีเลย ถึงขนาดไปรังควาญฝ่ าบาท
ที่จริ งพวกเขาก็สงสัยว่า ฝ่ าบาทอาจจะทรงรู ้ความจริ งเรื่ องความเป็ น
บุรุษของเจ้าลูกทรพีแล้วก็เป็ นได้ ได้ยนิ มานานแล้วว่าฝ่ าบาททรง
โปรดปรานรักใคร่ บุรุษมาโดยตลอด ท่านราชครู กเ็ ป็ นบุรุษคนโปรด
ของพระองค์
แต่ไหนแต่ไรฝ่ าบาทมิทรงได้แตะต้องพระสนมคนใดทั้งสิ้ น พอ
โปรดจะแตะต้องขึ้นมาก็หยุดไม่ได้เสี ยอย่างงั้น
นี่จะต้องเป็ นเพราะว่าพระองค์ชื่นชอบบุรุษ เพราะฉะนั้นถึงได้โปรด
ปรานลูกชายของพวกเขา ส่ วนเรื่ องที่ถึงขั้นจะให้เขาคลอด
พระโอรสอะไรนั้น คงจะเป็ นเพียงแค่ฉากหน้าเท่านั้น
พอคิดมาถึงตรงนี้ หย่งเฉิงอ๋ องสามีภรรยา ก็อดที่จะน้ าตานองหน้า
ไม่ได้ วันนี้มนั วันอะไรกันนะ
เรื่ องที่ฝ่าบาททรงโปรดปรานบุรุษ สาหรับพวกเขาแล้วก็ไม่รู้วา่ เป็ น
เรื่ องที่ควรจะยินดีหรื อโศกเศร้ากันแน่น
ฝ่ าบาทประทับนัง่ อยูบ่ นเก้าอี้ประธาน สี พระพักตร์ที่ราวกับว่ามี
น้ าแข็งเกาะอยูบ่ นใบหน้ามาตลอดพันปี ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
ผ่านไปอีกพักใหญ่ในที่สุดถึงได้มองเห็นเจ้าคุณชายตัวร้ายในชุดสี
แดงนั้นเดินมาอย่างรี บร้อน
ทั้ง ๆ ที่เห็นชัด ๆ ว่าเป็ นใบหน้าที่ปราษจากอันตรายใด ๆ แต่วา่
กลับดูร้ายบริ สุทธิ์จนผูค้ นไม่อาจละสายตาไปได้
พอหย่งเฉิงอ๋ องและพระชายาเห็นเขา วิญญาณก็แทบจะหลุดลอยไป
ครึ่ งหนึ่ง สิ บเก้าปี ที่ผา่ นมานี้ กระทัง่ พวกเขายังไม่ค่อยได้เห็นลูกชาย
ในชุดบุรุษสักเท่าไร พอมองดูไปในแวบแรก ก็นึกได้วา่ ในบ้านมี
บุรุษจิ้งจอกขึ้นมาคนหนึ่งเข้าจริ ง ๆ
เมื่อคิดถึงปี นั้นที่เขาเกิดมา รอบตาหนักของหย่งเฉิ งอ๋ องมีแต่สรรพ
สัตว์มาทาความเคารพ และที่เป็ นผูน้ าในฝูงนั้นก็คือจิ้งจอกตัวหนึ่ง ที่
เลวร้ายไปยิง่ กว่านั้น บุตรชายผูน้ ้ ียงิ่ เติบโตก็ยงิ่ งดงามน่าดูดงั่ นางฟ้า
นางสวรรค์ สมดัง่ ที่นกั พรตผูน้ ้ นั ได้บอกเอาไว้จริ ง ๆ
สายพระเนตรหงส์ท้ งั สองข้างของฝ่ าบาทเองก็จบั จ้องอยูบ่ นร่ างของ
เขา ทรงเคยเห็นซูเม่ยที่เป็ นสตรี มาจนคุน้ ชินแล้ว พบเห็นเขาใน
ฐานะบุรุษ ฮ่องเต้กท็ รงแย้มสรวลขึ้นมา
พอเห็นรอยยิม้ เช่นนั้น ก็ทาให้หย่งเฉิงอ๋ องสองสามีภรรยาลุกขึ้นมา
ในทันที อีกทั้งยังคุกเข่าลงไปถวายคานับพระองค์
ซูเม่ยอยากจะเข้าไปประคองพวกเขาขึ้นมาเหลือเกิน เตี่ย (บิดา) และ
เหนียง (มารดา) จะอย่างไรก็เป็ นถึงท่านอ๋ องและพระชายา แต่เมื่ออยู่
ต่อหน้าพระพักตร์ของจีเฉวียนกลับไม่มีสิทธฺ ์จะพูดจา
” ฝ่ าบาท เจ้าลูกทรพีหลบลี้จากโลกภายนอกมานานหลายปี ไม่รู้จกั
ความสู งส่ งของเจ้าฟ้าเจ้าสวรรค์ ขอฝ่ าบาททรงลงพระอาญา ” หย่ง
เฉิงลอบปาดเม็ดเหงื่อบนใบหน้า หัวใจแทบจะกระดอนออกมาจึงถึง
คอหอยอยูแ่ ล้ว
ฮ่องเต้ผยู ้ งิ่ ใหญ่ของต้าโจว ยังลึกล้ ากว่าที่พระองค์ทรงแสดงออก
เพียงภายนอกจนไม่อาจคาดเดา ด้วยเหตุน้ ีเขาจึงได้ถวายความ
สนับสนุนพระองค์มาตั้งแต่ยงั ไม่ได้ทรงขึ้นครองราชย์
แม้ยามปกติจะได้เข้าเฝ้า แต่กค็ ิดจะอยูใ่ ห้ไกลเข้าไว้ ด้วยเกรงว่าจะ
ไปพูดผิดหรื อทาพลาดอันใดเข้า
จีเฉวียนเห็นแล้ว ก็วางถ้วยน้ าชาในพระหัตถ์ลง ลุกขึ้นเสด็จเข้าไป
หา ยืน่ พระหัตถ์ไปประคองหย่งเฉิงอ๋ องสองสามีภรรยาด้วยตนเอง ”
ท่านอ๋ องกล่าวหนักไปแล้ว เรารักถนอมกุย้ เฟย ย่อมเสมือนรักบ้าน
เผือ่ แผ่นกกา เจ้าต้นกล้าโทนของท่านนี้ เราเองก็ชื่นชอบเขามาก
เช่นกัน “
——

爱屋及乌 = รักบ้านเผือ่ แผ่ถึงนกกา = Love me love my dog

你家这根独苗 = เลือดเนื้อเชื้อไขที่เป็ นลูกโทนของตระกูล


ตอนที่ 165 เอากลับไปให้ ตู๋กซู ิงหลัน
” ท่านอ๋ องกล่าวหนักไปแล้ว เรารักถนอมกุย้ เฟย ย่อมเสมือนรักบ้าน
เผือ่ แผ่นกกา เจ้าต้นกล้าโทนของท่านนี้ เราเองก็ชื่นชอบเขามาก
เช่นกัน “
หย่งเฉิงอ๋ องสามีภรรยาหวาดผวาขึ้นมา ในขณะเดียวกันก็งงงัน
ฝ่ าบาทมิได้ทรงพบว่าเจ้าลูกทรพีเป็ นบุรุษหรื อ?
” กุย้ เฟยเชื่อถือเรา บอกเราว่านางมีนอ้ งชายอยูค่ นหนึ่ง พึ่งจะกลับมา
ที่เมืองหลวง เราเกิดความสนใจ จึงได้มาดูเป็ นพิเศษ ” จีเฉวียนตรัส
พลางก็เหลือบพระเนตรไปมองดูมารชุดแดงผูน้ ้ นั
ซูเม่ยรู ้สึกตัวชาไปทัว่ ทั้งร่ าง เขารู ้สึกมาตลอดมาตนเองประมาท
ฮ่องเต้ผนู ้ ้ ีไปเล็กน้อย ยามนี้ถึงได้พบว่า ไม่เพียงแต่ประมาทไป
เล็กน้อย แต่วา่ เป็ นประมาทมากเลยต่างหาก
รอบนี้เท้าของเขาเพียงแค่กา้ วออกจากวังหลวง พระองค์กร็ ี บเสด็จ
มาตามหาถึงจวนแล้ว
หากจะบอกว่านี่เป็ นเรื่ องบังเอิญ เขาก็ไม่มีวนั เชื่อ
พระองค์จะต้องจัดคนมาคอยเฝ้าติดตามตนเองแน่ ๆ แต่วา่ ตนเองไม่
ทันได้รู้ตวั
ตรัสแล้ว จีเฉวียนก็หนั ไปกวักมือเรี ยกเขา ” มานี่สิ ให้เราได้เห็น
น้องเขยเล็กผูน้ ้ ีอย่างชัด ๆ “
น้อง! เขย! เล็ก!
ช่างเป็ นฮ่องเต้ที่รู้จกั เล่นละครดีนกั คาพูดที่ไม่ไว้หน้าเช่นนี้ยงั จะ
กล้าเอ่ยออกมาได้
ซูเม่ยได้แต่ชะงักงันไปจนรู ้สึกหนังศีรษะชาวูบ ค่อยเดินไปถึงข้าง
กายเขา ถวายคานับครั้งหนึ่ง ” บุตรชายของหย่งเฉิ งอ๋ องซูเยา ถวาย
พระพรฝ่ าบาท “
ทั้ง ๆ ที่เป็ นคุณชาย แต่กิริยายกมือวางเท้าของเขานั้นกลับน่าดึงดูด
ประทับใจ
จีเฉวียนหรี่ พระเนตรมองดูเขา พระองค์สามารถสู ดได้กลิ่นคาวเลือด
จาง ๆ อย่างปิ ดไม่มิด
ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นดอกฮว๋ ายที่แฝงมาอ่อน ๆ อีกด้วย
ดวงตาที่แสนจะงดงามและดุดนั คล้ายจะมีเข็มแหลมเล่มหนึ่งพวยพุง่
ออกมา
มันกับตู๋กูซิงหลันพึ่งสัมผัสใกล้ชิดกันมา?
” ซูกยุ้ เฟยเป็ นที่รักใคร่ ของเราอย่างยิง่ เราจึงมามอบราชโองการถึง
ตาหนักหย่งเฉิงอ๋ องให้ดว้ ยตนเอง แต่งตั้งนางเป็ นหวงกุย้ เฟย รอ
จอนถึงวันที่นางได้รับแต่งตั้งอย่างเป็ นทางการนั้น เจ้าก็เข้าไปร่ วม
อวยพรนางด้วยกันเถอะ”
ซูเม่ยชะงักงันไป นี่ไม่ใช่ชดั เจนเลยว่าต้องการสร้างความยามลาบาก
ให้เขาหรอกหรื อ?
เขาคือซูเม่ย และก็คือซูเยา จะปรากฎตัวขึ้นพร้อมกันได้อย่างไร
สี พระพักตร์ของหย่งเฉิงอ๋ องสามีภรรยาปั้นยากอย่างยิง่ เพียงพัก
เดียวหย่งเฉิงอ๋ องก็รีบถวายคานับกล่าวว่า ” ฝ่ าบาท กระหม่อมถูก
ชะตาฟ้าลิขิต เพียงมีบุตรผูน้ ้ ีอยูค่ นเดียว คนภายนอกล้วนไม่ทราบว่า
หย่งเฉิงอ๋ องเช่นกระหม่อมมีบุตรชาย ยามปกติกระหม่อมก็ควบคุม
เขาอย่างเข้มงวดไม่ให้เขาไปพบผูใ้ ด ทูลขอฝ่ าบาททรงเห็นแก่ที่
กระหม่อมอายุมากแล้ว ทั้งจงรักและภักดีต่อประเทศชาติมาโดย
ตลอด ขออย่าได้ให้ผคู ้ นภายนอกรู ้วา่ มีบุตรผูน้ ้ ีอยู”่
พระชายาเองก็หลัง่ น้ าตาเช่นกัน “ขอฝ่ าบาททรงเมตตาพวกเรา”
จีเฉวียนทรงทอดพระเนตรมองดูสองสามีภรรยาพยายามช่วยกัน
อ้อนวอน ในใจก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา
ซูเม่ยแม้จะเป็ นชายแต่งกายเป็ นหญิงมานานหลายปี แต่อย่างน้อยก็
ยังได้รับการเลี้ยงดูดว้ ยมือที่รักใคร่ ของบิดามารดา หากว่าเกิดเรื่ อง
ขึ้นมา หย่งเฉิงอ๋ องเป็ นต้องโผออกไปอ้อนวอนแทนเขาเป็ นคนแรก
แต่ชีวิตพระองค์เองกลับมีเพียงช่วงเวลาห้าปี สั้น ๆ ที่ได้รับรู ้ถึง
ความอบอุ่นของครอบครัวเท่านั้น วันคืนหลังจากนั้น มีแต่ความ
เหน็บหนาวเข้ากระดูก
พระองค์ทรงเงียบงันไปครู่ หนึ่ง จากนั้นจึงค่อยตรัสว่า ” เราโปรด
ปรานกุย้ เฟย ย่อมต้องปกป้องคุม้ ครองน้องชายของนาง ไม่มีเรื่ องใด
หรอก”
อืม แน่นอนว่าเขาจะไม่ทาอะไร’ซูเยา’ หรอก แต่วา่ กับซูเม่ยนั้นก็
เป็ นอีกเรื่ องหนึ่ง
ตรัสแล้ว พระองค์กท็ อดพระเนตรมองออกไปที่ดา้ นนอก “หิ มะหยุด
แล้ว ได้ยนิ มานานแล้วว่าตาหนักของหย่งเฉิ งอ๋ องเป็ นดัง่ แดนเซียน
ในโลกมนุษย์ ยากนักจะหาโอกาสมาได้สกั ครั้ง เราอยากจะชมดู
สถานที่ที่กยุ้ เฟยเติบโตขึ้นมานี้ให้ละเอียด
ซูเม่ยได้ยนิ แล้ว ก็พลันคิดไปถึงเสี่ ยวไทเฮาที่ถูกตนเองซ่อนเอาไว้ใน
ห้อง ก็เข้าขวางทางเสด็จเอาไว้ “ฝ่ าบาท ที่ดา้ นนอกมีแต่หิมะ ขาว
โพลนไปหมด ไม่มีอะไรหน้าดูเลยสักนิด หากอยากจะชมทิวทัศน์
ละก็ พระองค์สามารถเสด็จขึ้นเขา ชมทะเลสาบ ที่ไหน ๆ ก็ลว้ น
ดีกว่าตาหนักของพวกเรามากนัก”
หากว่าถูกฮ่องเต้ทรงพบว่าเขาซ่อนตัวอาหลันเอาไว้ เกรงว่าต่อไป
หากเขาคิดจะได้พบอาหลันอีกสักครั้งก็คงยาก
จีเฉวียนเพียงเหลือบพระเนตรมองดูเขาหน่อยนึง จากนั้นก็หนั พระ
พักตร์ไปจดจ้องหย่งเฉิงอ๋ องผูเ้ ป็ นบิดาของเขา
หย่งเฉิงอ๋ องยกหัตถ์ซดั ลงไปบนร่ างซูเม่ยในทันที “ไร้สาระ เจ้าพูด
พล่ามอะไรกัน! ทางขึ้นภูเขาในฤดูหนาวล้วนถูกปิ ด ทะเลสาบก็เป็ น
น้ าแข็งไปหมดแล้ว จะให้ฝ่าบาทเสด็จไปดูอะไร? “
ซูเม่ย “……..” ไม่รู้จริ ง ๆ เลยว่า นี่เป็ นบิดาแท้ ๆ ของใครกันแน่!
จากนั้นหย่งเฉิงอ๋ องก็ถวายคานับให้กบั จีเฉวียนอย่างนอบน้อม “ฝ่ า
บาท พระองค์อย่าได้ทรงฟังเจ้าเด็กปากเหม็นนี้พดู จาเหลวไหล
ตาหนักของกระหม่อมแม้จะไม่หรู หราเลอเลิศ แต่วา่ ก็ปลูกพืชพรรณ
ไม้ดอกเอาไว้เป็ นจานวนมาก ฤดูหนาวปี นี้หิมะตกค่อนข้างมาก แม้
ต้นไม้จะแข็งตายไปจานวนหนึ่ง แต่ที่เหลืออยูก่ ย็ งั งดงามดึงดูดผูค้ น
โดยเฉพาะสวนดอกซิ่วชิว (ไฮเดรนเยีย) ที่ผลิบานมากมายในฤดู
หนาว ทัว่ ทั้งบริ เวณนั้นล้วนแต่งดงามไปหมด”
หย่งเฉิงอ๋ องก็คิดจะนาเสด็จฮ่องเต้ไปชมดอกไม้ดว้ ยตนเอง
ซูเม่ยยิง่ ปวดศีรษะมากกว่าเดิม ห้องที่เขาซ่อนอาหลันเอาไว้ ก็อยู่
บริ เวณที่เป็ นสวนดอกซิ่วชิวนัน่ เอง ตอนนี้เขาชักสงสัยอย่างหนัก
แล้วว่าบิดาจะต้องเป็ นสายสื บของฮ่องเต้เป็ นแน่
” เราเพียงแต่ตอ้ งการไปเดินเล่นเท่านั้น หย่งเฉิ งอ๋ องมิได้ลาบาก
ติดตามไป ” จีเฉวียนปฎิเสธเขา ก้าวเท้าเสด็จออกไป”
ที่นอกเรื อนยังมีสายลมเย็นพัดอยู่ ทาให้พระเกศาที่รวบไว้ครึ่ งหนึ่ง
ปิ ดปลิวตามลม
หย่งเฉิงอ๋ องสามีภรรยาทอดสายตามองตามพระองค์ไป ในใจรับรู ้ถึง
ความเสี ยดายอย่างที่สุด หากว่าเจ้าลูกทรพีเป็ นสตรี จริ ง ๆ และได้
แต่งบุรุษผูง้ ดงามดัง่ เทพเซียนเป็ นสามีละก็
กระทัง่ ยามหลับฝันพวกเขาก็คงจะยังยิม้ ไปด้วยเลย
หย่งเฉิงอ๋ องเกรงว่าพระองค์จะทรงหลงทางอยูภ่ ายในจวน จึงยังคิด
จะช่วยนาเสด็จ แต่จีเฉวียนทรงหันกลับมากวาดพระเนตรมองดูเขา
แวบหนึ่ง
หย่งเฉิงอ๋ องก็รีบถอยกลับไป ” ฝ่ าบาทเชิญเสด็จเถอะพะยะค่ะ หากมี
พระประสงค์ใด เพียงให้คนมาบอกคาหนึ่งก็พอแล้ว ทุกพื้นที่ทุกมุม
ของตาหนัก พระองค์ลว้ นสามารถชมดูได้ตามพระทัย”
เขาทูลแล้วก็ดึงเอาพระชายาของตนหลบไปด้านข้าง
สายพระเนตรของฝ่ าบาทเมื่อครู่ น้ นั น่าตระหนกจริ ง ๆ ทั้งที่ทรง
เจริ ญพระชนม์มากกว่าเจ้าลูกตัวร้ายนัน่ เพียงไม่กี่ชนั ษา แต่ทาไม
รัศมีรอบพระองค์จึงเปี่ ยมไปด้วยประกายของเงาดาบเงากระบี่ที่
หลอมขึ้นจากภูเขาน้ าแข็งพันปี เช่นนั้น
ซูเม่ยอยากจะหาทางผนึกปากของผูเ้ ฒ่าประจาบ้านของตนยิง่ นัก
เขารี บตามไปที่เบื้องพระปรางค์ของจีเฉวียนอย่างไม่ยอ่ มแพ้ “ฝ่ า
บาท ให้ขา้ ได้ตามเสด็จพระองค์เถอะ”
หย่งเฉิงอ๋ องสามีภรรยามองดูท่าทางที่พยายามเข้าไปประจบฝ่ าบาท
ของบุตรชาย ในใจก็พลันบังเกิดข้อสงสัยขึ้นมา
หรื อว่า……….พวกเขาล้วนเข้าใจผิดไป
ไม่แน่วา่ เจ้าลูกทรพีอาจจะหลงชื่นชอบฝ่ าบาทจริ ง ๆ ? ไม่อย่างนั้น
ตอนนั้นจะร่ าร้องจะเป็ นจะตายเพื่อให้ได้เข้าวังไปเป็ นสนมหรื อ
เจ้าลูกตัวร้ายคนนี้มีอุปนิสยั เช่นไรไม่ใช่วา่ พวกเขาจะไม่รู้ ตั้งแต่เล็ก
จนเติบใหญ่ หากชื่นชอบสิ่ งใดเป็ นต้องคิดหาหนทางร้อยพันวิธีให้
ได้มาไว้ในมือ
จบกันแล้ว ๆ …..นี่จะต้องเป็ นเพราะเจ้าลูกทรพีเป็ นฝ่ ายไปล่อล่วง
ฝ่ าบาทก่อน พอฝ่ าบาทถูกพระทัย หลงใหลวิญญาณหลุดลอย ถึงได้
มีรับสัง่ ให้ถวายตัวทุกค่าทุกคืน อีกทั้งยังโปรดแต่งตั้งเขาเป็ นหวงกุย้
เฟย
ทั้งสองคนต่างรู ้สึกสมองพองโตขึ้นมา พอหันไปมองดูเจ้าลูกทรพีที่
เป็ นดัง่ มารร้ายยัว่ ยวน สายตาของพวกเขาก็ยงิ่ วุน่ วายจนซับซ้อน
ในพระทัยของหย่งเฉิงอ๋ องมีน้ าตาหยาดหยด ตระกูลของพวกเขา
ล้วนแต่จงรักภักดีมาทุกรุ่ น ทาไมอยู่ ๆ ถึงมามีบุตรชายที่ล่อลวงเจ้า
แผ่นดินขึ้นมาได้กนั !
หากว่าวันหนึ่งบุตรผูน้ ้ ีเกิดล่อลวงฝ่ าบาทจนพาลแต่งตั้งเขาเป็ น
ฮองเฮาขึ้นมา หย่งเฉิงอ๋ องคิดว่าเขากับพระชายาคงได้แต่แขวน
ตนเองไว้บนต้นไม้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ อาศัยความตายไถ่โทษ
แล้ว
ยามที่รู้ตวั อีกที ฝ่ าบาทก็เสด็จไปไกลแล้ว
เจ้าลูกทรพีติดตามไปด้านหลัง หย่งเฉิ งอ๋ องก็รีบถลาเข้าไปลากคอ
ของเขากลับมา
” เจ้าลูกทรพีที่ไม่รู้จกั กตัญญูและจงรักภักดี เจ้าไปคุกเข่าให้ขา้ ที่ศาล
บรรพชนเดี๋ยวนี้! ” เขาโกรธเสี ยจนหนวดเคราปลิวกระจายดวงตา
โปนแทบถลน ถึงแม้วา่ จะรักลูกเพียงไร แต่ไม่อาจทนมองดูให้เขา
เดินไปในทางที่ไม่อาจหวนกลับเช่นนี้ได้
พระชายาเองก็ยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ าตา เอ่ยด้วยความปวด
พระทัยว่า ” ลูกเอ๋ ย เจ้าฟังคาพ่อแม่เถอะนะ อย่าได้ไปล่อลวงฝ่ าบาท
อีก เจ้าอยากทาให้ราชบัลลังก์สิ้นไร้ผสู ้ ื บทอด ตนเองกลายเป็ นที่
ประนามหยามหยันของผูค้ นไปอีกนับพันปี หรื อไง? “
ซูเม่ย “??? “
เขาเป็ นใครกัน เขาอยูท่ ี่ไหนกันแน่ ท่านพ่อท่านแม่พดู เรื่ องอะไร
อยู?่
………………………………..
มุมต่าง ๆ ของตาหนักหย่งเฉิ งอ๋ องล้วนมีดอกไม้ผลิบานมากมาย แม้
จะเป็ นกลางฤดูหนาวก็ยงั งดงามอย่างยิง่
ท่ามกลามหิมะขาวบนพื้น จีเฉวียนทอดพระเนตรเห็นกลุ่มดอกซิ่วชิ
วสี ม่วง (ไฮเดรนเยีย) ในฤดูหนาว ผลิบานไปทัว่ งดงามน่าชมเป็ น
ที่สุด
เขาเด็ดออกมาสองดอก อดคิดจะเอาไปฝากตู๋กซู ิงหลันไม่ได้
เด็กสาว คนไหนก็ชื่นชอบดอกไม้งาม ๆ ด้วยกันทั้งนั้น
ตอนที่ 166 เงาหลังของนางงดงามอย่ างที่สุด
ภายในห้อง ตู๋กซู ิงหลันยังคงนอนอยูบ่ นเตียง ประตูถูกมารชุดแดงผู ้
นั้นลงดานเอาไว้จากภายนอก นางพักผ่อนร่ างกายได้พกั ใหญ่แล้ว
ในที่สุดก็ดีข้ ึนบ้าง
บนหัวไหล่ยงั มีบาดแผลฉีกจากแส้อยู่ เลือดไหลเป็ นทางจากหัวไหล่
ไปถึงข้อมือ ชนิดที่ไม่วา่ ใครได้เห็นเป็ นต้องตกใจ ยังดีที่บาดแผลกิน
เนื้อไม่ลึก และตอนนี้เป็ นฤดูหนาว จึงไม่ติดเชื้อโดยง่าย
เพียงแต่บาดแผลจากแส้ที่สร้างด้วยกระดูกสันหลังของศพเช่นนี้ จะ
มากน้อยก็ตอ้ งมีไอซากศพซึมเข้าไปในบาดแผล
หากไม่รีบจัดการให้ดีละก็ จะทิ้งผลร้ายจนเกิดปั ญหาใหญ่กบั
ร่ างกายนี้ได้
เจ้ามารผูน้ ้ นั ให้ยาถอนพิษแก่นาง ยังไม่ทนั ได้จดั การกับบาดแผลก็
ถูกเรี ยกออกไปเสี ยก่อน
ยามนี้ต๋ ูกูซิงหลันได้แต่ค่อย ๆ ลุกขึ้นมาด้วยตนเอง นางถอดเสื้ อผ้า
ออกข้างหนึ่ง เผยเรี ยวแขนทั้งข้างออกมา ดีที่ในห้องมีน้ าสะอาดอยู่
อ่างหนึ่ง นางค่อย ๆ ล้างแผล เลือดที่แข็งตัวไปแล้วละลายออกมา
ผสมลงไปในน้ า
หน้าต่างห้องถูกแง้มเอาไว้เป็ นช่องเล็ก ๆ กลิ่นคาวเลือดจึงกระจาย
ออกไป
จีเฉวียนที่ประทับอยูใ่ นสวนดอกไม้ ก็กวาดพระเนตรมองมา
ในทันที
ประสาทสัมผัสในเรื่ องกลิ่นของพระองค์ไวมาก โดยเฉพาะกับกลิ่น
เลือด ดวงเนตรหงส์จดจ้องไปที่ประตูซ่ ึงถูกลงดานเอาไว้อย่าง
รวดเร็ ว ดอกซิ่วชิวในมือยังไม่ทนั ได้ถูกวางลง ก็เสด็จตรงเข้าไป
ทันที
ภายในห้อง ตู๋กซู ิงหลันล้างแผลเสร็ จแล้ว วิญญาณทมิฬก็แทงตนเอง
แผลหนึ่งโดยไม่ตอ้ งถาม มอบโลหิตหยดหนึ่งของมันให้แก่นาง
โลหิตของมันไม่เพียงสามารถล้างพิษ ยังสามารถชาระไอศพได้ดว้ ย
วิญญาณทมิฬพบว่าตัวมันชักจะกลายเป็ นยาว่านหลิงตัน (ยาชุบชีวิต)
เสี ยแล้ว ตาหรับวิเศษนี้ไม่วา่ ใครต้องการเป็ นต้องแจกให้เขาไปเสี ย
หมด
คิดแล้วมันก็ได้แต่คลาก้นน้อย ๆ ของตนเอง กล่าวอย่างน้อยอก
น้อยใจว่า “เจ้าใช้ประหยัด ๆ หน่อยเถอะนะ “
ตู๋กูซิงหลันหยิบกระดาษยันต์ออกมาแผ่นหนึ่ง ใช้โลหิตของวิญญาณ
ทมิฬวาดอักขระลงไป จากนั้นสะกิดปลายนิ้วสร้างดวงไฟสี ฟ้าขึ้นมา
เผายันต์ใบนั้น ค่อยนาเอาขี้เถ้าที่เหลือโป๊ ะลงไปบนบาดแผล
เพียงครู่ เดียว ก็ได้ยนิ เสี ยงซี่ ๆ จากปากแผล และมีไอดาลอยออกมา
” เจ้าสิ่ งนี้ร้ายกาจจริ ง ๆ ศพคืนชีพสามารถฝึ กฝนได้จนถึงขนาดนี้
ช่างหาได้ยากจริ ง ๆ ” วิญญาณทมิฬลูบคลาปลายคางขณะพูดไป
ด้วย
โดยเฉพาะเมื่ออยูใ่ นโลกมิติใบนี้ ศพคืนชีพที่เคยพบเจอครั้งก่อนก็มี
แต่เสี ยนไท่เฟยเท่านั้น แต่เสี ยนไท่เฟยนอกจากจิตใจที่ลึกซึ้งชัว่ ร้าย
แล้ว ด้านอื่นยังไม่ถือว่าจะมีฝีมือสักเท่าใด
เจ้าตัวที่ได้พบในวันนี้ นับว่าร้ายกาจกว่าเสี ยนไท่เฟยมากมายนัก
ตู๋กซู ิงหลันหัวคิ้วขมวดแนบแน่น ขี้เถ้ายันต์พอสาดโดนปากแผล
ความรู ้สึกนั้นยังเจ็บปวดแสบเสี ยยิง่ กว่าทาเกลือลงบนเนื้ออีก
นางได้แต่ขบฟันอดทนเอาไว้ ศพคืนชีพผูน้ ้ นั จะต้องมีความเกี่ยวพัน
กับอันหยวนกูกทู ี่อยูใ่ นวังหลวงเป็ นแน่
ตอนนี้นางยังคงไม่เข้าใจ พวกเขาลงมือกับองค์หญิงใหญ่ไปเพื่อ
อะไร
เพียงแต่มนั่ ใจว่าคนพวกนี้จะต้องคิดทาการณ์ใหญ่อย่างแน่นอน
นับตั้งแต่ที่อนั หยวนกูกผู นู ้ ้ นั กลับเข้าวังมา พวกนางสองคนก็ยงั ไม่
เคยพบหน้ากัน รอให้บาดแผลหายดีก่อน ดูท่าจะต้องไปพบหน้าเข้า
สักหน่อย
ที่นอกห้อง จีเฉวียนประทับอยูท่ ี่ริมหน้าต่าง ทอดพระเนตรมองผ่าน
ช่องแคบ ๆ จนมองเห็นเหตุการ์ดา้ นใน
สาวน้อยหันหลังให้เขา นางถอดเสื้ อผ้าลงไปกว่าครึ่ ง จึงสามารถ
มองเห็นแผ่นหลังกว่าครึ่ งหนึ่งได้อย่างชัดเจน ลาคอระหงดุจคอห่าน
ลาแขนเรี ยวบางเป็ นลายเส้นที่อ่อนช้อยงดงาม ผิวขาวสะอาดราว
หยกเนื้อดีที่ส่องประกาย คล้ายดัง่ เป็ นสมบัติล้ าค่าในโลก
จีเฉวียนพยายามมองผ่านสิ่ งที่ดึงดูสายตาเหล่านั้นไป สิ่ งสาคัญคือ
หัวไหล่ของนาง เขาได้ยนิ เสี ยงนางบ่นพึมพา ทั้งยังเห็นเผากระดาษ
ยันต์แผ่นหนึ่งโป๊ ะลงไปบนบาดแผล
และถึงแม้วา่ คนจะหันหลังให้กบั เขา แต่เขาก็รู้สึกได้วา่ นางกาลัง
เจ็บปวดอย่างมาก
สาวน้อยยังคนพึมพากับตนเองต่อไป ราวกับว่าที่ขา้ งกายนางมีอะไร
อยูด่ ว้ ย
ผ่านไปอีกครู่ หนึ่ง ก็ได้ยนิ เสี ยงซู่ ๆ ซี่ ๆ เย็น ๆ ดังออกมา ร่ างทั้ง
ร่ างพลอยสัน่ สะท้าน บนหัวไหล่น้ นั มีไอสี ดาระเหยออกมาจนเขา
สามารถมองเห็นได้ดวงตาเปล่า
จีเฉวียนก็ไม่ครุ่ นคิดให้มากอีกต่อไป เขากระชากหน้าต่างออก พลิก
ตัวเข้าไป
สายลมเย็นพัดวูบเข้ามา ตู๋กูซิงหลันถูกลมเย็นพัดจนรู ้สึกขนลุกกราว
นางห่อไหล่หนั หน้ากลับไปมอง พึ่งเอี้ยวตัวไปก็เห็นพระพักตร์ที่
เย็นชาของจีเฉวียนยืนอยูเ่ บื้องหน้านาง
ในพระหัตถ์ยงั มีดอกซิ่วฉิวสี ม่วงอยูด่ ว้ ย
ตู๋กซู ิงหลันพบว่า บางครั้งเมื่อมีบุรุษเคียงคู่กบั ดอกไม้ ผลลัพธ์ที่ได้
ยังออกมาแล้วน่าประทับใจเสี ยยิง่ กว่าเป็ นสตรี เสี ยอีก
อย่างเช่นฮ่องเต้ที่อยูต่ รงหน้าพระองค์น้ ี แม้วา่ จะยังมีพระพักตร์เป็ น
ภูเขาน้ าแข็ง แต่ภายใต้การชักนาของดอกซิ่วฉิ ว พระองค์ดูแล้ว
อ่อนโยนขึ้นมาอีกหลายส่ วน
ที่ดา้ นนอกหน้าต่างคือทิวทัศน์ของสวนดอกไม้ลานหิ มะ ทาให้ภาพ
ของเขาในยามนี้ งดงามจนบอกไม่ถูก
จีเฉวียนมองดูนางที่อยูเ่ บื้องหน้าของเขา ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ซีดขาวนั้น
ค่อนข้างประหลาดใจอยูเ่ ล็กน้อย นางลืมกระทัง่ จะดึงเสื้ อผ้านขึ้นมา
ร่ างกายที่อยูด่ า้ นเปล่าเปลือยจนเปล่งประกาย เส้นผมยาวเหยียดตรง
ลงมา ถูกสายลมพริ้ วจนปลิวเบา ๆ
เห็นจีเฉวียนเอาแต่จดจ้องมองนิ่งงัน ตู๋กซู ิงหลันจึงได้สติข้ ึนมา นาง
จัดการสวมใส่ เสื้ อผ้า ขณะเดียวกันก็กา้ วถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ค่อย
ยิม้ ออกมาอย่าเก้อเขิน ” ฝ่ าบาท บังเอิญจัง”
กิริยาที่นางก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่งนั้น กลับทาเอาจีเฉวียนรู ้สึกเจ็บ
ขึ้นมา
เขาน่ากลัวมากนักหรื อไง?
เพราะมีใบหน้าดัง่ เป็ นภูเขาน้ าแข็งพันปี ไม่วา่ ใครได้เห็นเป็ นต้อง
หวาดกลัวอยูห่ ลายส่ วน
จีเฉวียนหันพระองค์กลับไปปิ ดหน้าต่าง จากนั้นค่อยเสด็จมาที่
ข้างหน้านาง กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นเสี ยดแทงพระนาสิ ก อ่างน้ าที่มี
โลหิตผสมจนแดงชานนัน่ เตะตาอย่างยิง่
เขาเสด็จเข้าไปใกล้ต๋ ูกซู ิงหลัน จนคนทั้งคู่ห่างกันเพียงก้าวเดียว เขา
ค่อยยืน่ พระหัตถ์ออกไปดึงตัวตู๋กซู ิงหลันเข้ามา
ตู๋กซู ิงหลันในยามนี้เดิมที่กไ็ ม่มีเรี่ ยวแรงอยูแ่ ล้ว พอถูกเขาดึง ขาก็
อ่อนแรง จนเกือบจะล้มลงไปในอ้อมพระอุระ
จีเฉวียนจัดการโอบอุม้ นางขึ้นมา วางลงบนเบาะอ่อนนุ่มบนเตียง
ดอกซิวฉิวถูกเขาวางเอาไว้ที่ขา้ งเตียง พระองค์มิได้ตรัสสักประโยค
ก็ยนื่ พระหัตถ์ไปแก้เสื้ อของตู๋กซู ิงหลัน จนเผยให้เห็นบาดแผลที่ตรง
หัวไหล่
ผิวเนื้อบนปากแผลฉีกขาด อีกทั้งบางส่ วนยังเปลี่ยนเป็ นสี ดา
พระองค์ทอดพระเนตรดู อยูก่ ร็ ู ้สึกคล้ายกับว่าเป็ นพระองค์เองที่
ได้รับบาดแผลเช่นนี้ข้ ึนมา
หากว่าเป็ นยามปกติ ตู๋กซู ิงหลันย่อมต้องมีเรี่ ยวแรงมาดื้อรั้นกับเขา
แต่วา่ ตอนนี้นางอ่อนแอมากจริ ง ๆ อีกทั้งยังคร้านจะเถียงกับเขา
แล้ว
จึงได้แต่ปล่อยให้จีเฉวียนคว้าหัวไหล่ของนางไว้
เจ้าฮ่องเต้สุนขั ที่มีแต่ไอหยินหนาวเย็นไปทั้งร่ าง ดูไปแล้วท่าทางดัง
จะกลืนคนอย่างไรอย่างนั้น
ครู่ ต่อมา ก็เห็นพระองค์ลว้ งเอาสิ่ งของออกมาจากในฉลองพระองค์
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่า ดูกนั ตามพระอุปนิสยั ที่ชวั่ ร้ายแล้ว เขาจะต้องมา
โรยเกลือให้นางแน่ ๆ
ที่ไหนได้เขากลับล้วงเอาขวดยาออกมา อีกทั้งยังมีผา้ สะอาดผืนหนึ่ง
ในหัวของตู๋กซู ิงหลันเต็มไปด้วยคาถาม ทาไมคนอย่างฮ่องเต้สุนขั ถึง
ได้พกพาสิ่ งของพวกนี้?
ตามความเข้าใจที่นางรู ้จกั จีเฉวียนสมควรจะเป็ นคนที่พกพาพวก
แก้วแหวนเงินทองถึงจะถูก
จีเฉวียนมิได้ทรงสนพระทัยความงุนงงของนาง ยามที่เขายังเยาว์วยั
มักจะได้รับบาดเจ็บอยูเ่ สมอ จึงกลายเป็ นความเคยชินที่จะต้องพกพา
ยาและผ้าพันแผล เพื่อเผือ่ เอาไว้ก่อน
เขาบีบมือของนางเอาไว้ แล้วยังใส่ ยาให้นางด้วยพระองค์เอง
แค่เพียงได้กลิ่น ตู๋กซู ิงหลันก็รู้วา่ นี่เป็ นยาจินหวงชั้นดี อีกทั้งวิธีการ
ทายาของฮ่องเต้ยงั นับได้วา่ ชานาญการอย่างยิง่
พระหัตถ์ที่เย็นเฉียบค่อย ๆ ไล้เนื้อยาลงไปบนรอบ ๆ ปากแผล
สุ ดท้ายแล้วจึงค่อยใช้ผา้ สะอาดที่ทรงพกไว้พนั แผลให้นางอย่างดี
ถึงแม้สีพระพักตร์จะดาเคร่ งเครี ยด และมิได้ตรัสสักถ้อยคา แต่ก็ยงั
ก้มพระเศียรช่วยนางพันแผลต่อไป
รอจนทุกอย่างเรี ยบร้อย ก็ช่วยนางสวมใส่ เสื้ อผ้า
ขณะที่ใส่ เสื้ อผ้าให้น้ นั ปลายประหัตถ์กส็ มั ผัสผ่านผิวเนื้อของนาง
อย่างไม่ได้ต้ งั พระทัย ทาเอาพระองค์รู้สึกว่าผิวเนื้อของนางช่าง
เหมือนลูกนกที่ออกจากเปลือกไข่ นุ่มละมุนยิง่ นัก
ทาเอาแทบจะอดไม่ไหวที่จะลูบไล้อีกครา
พอทรงคิดขึ้นมาได้ ฮ่องเต้กท็ รงรู ้สึกละอายกับความคิดไม่ดีเช่นนี้
พระองค์ทรงเก็บพระหัตถ์กลับไป ดวงเนตรหงส์จดจ้องไปยังตู๋กู
ซิงหลัน อย่างที่ทาให้นางไม่มีที่หลบหลีก
ทรงตรัสถามเสี ยงเข้มว่า ” เจ้าคือผูใ้ ดกันแน่? “
ตอนที่ 167 เราเด็ดมามอบให้ คนอื่น
ทรงตรัสถามเสี ยงเข้มว่า ” เจ้าคือผูใ้ ดกันแน่? “
คาถามนี้ทาเอาตู๋กซู ิงหลันชะงักไป
เมื่อครู่ นางกาลังใส่ ใจเรื่ องบาดแผล จึงไม่ทนั ได้ระมัดระวังว่าที่นอก
หน้าต่างจะมีฮ่องเต้ถ้ ามองอยู่
ตอนนี้คิด ๆ ดูแล้ว เมื่อครู่ คงจะถูกเขาเห็นหมดแล้ว
เฮ้อ………นางสมควรจะอธิบายเรื่ องนี้อย่างไรดี
หากว่าบ่งบอกความจริ งกับเขาไป นางกล้าพนันว่า จีเฉวียนจะต้อง
ส่ งนางไป เผาบนกองไฟ จนไม่เหลือซากแน่
เพราะว่าเขาเคยขอเจ้าของร่ างเดิมแต่งงานมาก่อน จะมากจะน้อยก็
จะต้องมีความใส่ ใจเจ้าของเดิมอยูบ่ า้ ง
หากรู ้วา่ ร่ างนี้ถูกเปลี่ยนคน จะยอมได้หรื อ
ก่อนหน้านี้ยามที่อยูใ่ นตาหนักเย็นเขาหาวิธีมากมาย มากลัน่ แกล้ง
นาง นัน่ อาจเป็ นเพราะรักจนกลายเป็ นเกลียด จึงได้ต้ งั ใจกันแกล้ง
นาง
นางกระแอมเบา ๆ มองเขาอย่างด้วยความบริ สุทธิ์ใจ “ฝ่ าบาทท่าน
ความจาเสื่ อมแล้วหรื อ? แม้แต่ขา้ ก็จดจาไม่ได้หรื อ? “
ดวงตาหงส์ของจีเฉวียนหรี่ มอง แสงสว่างในดวงเนตรราวกับว่าจะ
ส่ องเข่าไปให้ถึงภายในดวงตาของนาง เขาประทับนัง่ ลงที่ขา้ งกาย
นาง ” เจ้ารู ้หรื อไม่ โทษฐานเพ็ดทูลเบื้องสู งมีวธิ ีตายอยูก่ ี่แบบกัน? “
ตู๋กซู ิงหลัน ” ตัดหัว แขวนคอ ห้าม้าแยกร่ าง? “
จีเฉวียน “……….”
เขาเงียบงันไปชัว่ ครู่ ค่อยส่ งยิม้ เย็นออกมา ” ยังมีแล่เนื้อถลกหนัง
เผาหมดสิ้ นตระกูล “
สี หน้าของตู๋กซู ิงหลันเต็มไปด้วยความเสี ยดาย “โอ้ย แต่วา่ ฝ่ าบาทก็
เป็ นคนในครอบครัวของข้าเหมือนกัน ฝ่ าบาทจะทรงประหารตนเอง
ได้อย่างไร? “
ประโยคที่วา่ ‘ครอบครัวเดียวกัน’ นั้นกระทบพระทัยของจีเฉวียน
อย่างแรง นางเห็นเขาเป็ นคนในครอบครัวเดียวกันจริ ง ๆ หรื อ?
จากนั้นก็ยงั ได้ยนิ ตู๋กซู ิงหลันกล่าวอย่างมัน่ อกมัน่ ใจว่า “ที่จริ งแล้ว
หม่อมฉันก็ไม่รู้วา่ ตนเองไปเพ็ดทูลเบื้องสู งที่ตรงไหนกัน”
นางทาเหมือนบริ สุทธฺ ์ไร้เดียงสาเสี ยเต็มประดา หากไม่ใช่เพราะว่า
เขารู ้จกั ความสามารถในการแสดงของนางเป็ นอย่างดี มีหวังต้องถูก
นางหลอกลวงแน่นอน
” อย่าได้ใช้วิธีน้ ีกบั เรา ทุกสิ่ งที่เจ้าทาเมื่อครู่ เราล้วนเห็นอย่าง
ชัดเจน” จีเฉวียนตรัวต่อไป ” นอกจากชมนกเด็ดดอกไม้ และเป็ น
สาวงามอันดับหนึ่งของต้าโจวแล้ว เจ้าก็เป็ นแค่คนไร้ค่า”
ตู๋กซู ิงหลัน “……” คนไร้ค่าอย่างข้าขอขอบคุณในคาชมของท่าน
จริ ง ๆ นะ
” คนไร้ค่ากลับสามารถเรี ยนวิชาอาคมได้ในเพียงเวลาสั้น ๆ ทั้ง
สามารถใช้ยนั ต์ และเพิ่มพูนกาลังวังชาได้ดว้ ย? “
ที่จริ งนับตั้งแต่หลังจากเรื่ องผึ้งพิษเป็ นต้นมา จีจวนก็เริ่ มสงสัยนาง
แล้ว
แต่พอให้คนลอบตรวจสอบอย่างลับ ๆ ผลที่ได้ออกมา ก็ยงั คงเป็ น
ว่ารายงานเดิมนั้นไม่มีอะไรผิดพลาด ไทเฮานั้นเป็ นแค่แจกันดอกไม้
มาโดยตลอดจริ ง ๆ
แม้แต่เรื่ องจาพวกแต่งกลอน เดินหมาก วาดภาพหรื อเขียนอักษร
นางก็ยงั เรี ยนได้ไม่ดีสกั เท่าไร
ประสาอะไรกับเรื่ องวิชาอาคมที่เป็ นศาสตร์ลึกลับชั้นสู งพวกนั้น
กัน?
ตู๋กซู ิงหลันฟังแล้ว ก็จดจ้องมองเขากลับไป “ฝ่ าบาท ทรง
ทอดพระเนตรมองหม่อมฉันให้ละเอียดสิ เพคะ “
จีเฉวียน ” เราดูละเอียดพอแล้ว”
” เช่นนั้นทรงมองออกหรื อไม่วา่ พรสวรรค์ของหม่อมฉันนั้นซ่อน
เอาไว้ได้อย่างเฉลียวฉลาดเพียงใด? เป็ นความสามารถในการเรี ยนรู ้
ที่สูงส่ งถึงเพียงไหน “
” เรารู ้สึกว่าเจ้าดูไปคล้ายจะโง่งมอยูบ่ า้ ง”
ตู๋กซู ิงหลัน “…….” อ้ายยะ มาอย่างงี้กไ็ ม่ตอ้ งคุยกันแล้ว
ไอ้ผชู ้ ายเฮงซวย ไปตายเสี ย!
” ไม่ใช่เพคะ หม่อมฉันนั้นเป็ นพวกซ่อนคมในฝัก ก่อนหน้านี้ตอน
เรื่ องของเสี ยวไท่เฟยก็ทรงทราบแล้วมิใช่หรื อเพคะ? หม่อมฉันได้
ทุ่มเทเพื่อต้าโจว จึงได้ไปเล่าเรี ยนมาเป็ นพิเศษ”
ว่าแล้วตู๋กซู ิงหลันก็อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ” หรื อไม่ก็ สวรรค์ทรง
สงสาร เห็นว่าข้าเป็ นคนที่ตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นจึงได้มีเมตตา
ต่อข้าเป็ นพิเศษ ให้ขา้ ได้มีพรสวรรค์ในทางนี้ ทั้งยังมอบกาลังวังชา
ให้”
พูดแล้ว ตู๋กซู ิงหลันก็ถกแขนเสื้ อขึ้นมา ยืน่ ไปถึงเบื้องหน้าของเขา
เผยให้เห็นข้อมือที่มีรอยแผลเป็ นดุจรอยตะขาบตัวหนึ่ง
” ไม่เช่นนั้นฝ่ าบาททรงเห็นว่าข้าเป็ นเช่นไรกัน? “
จีเฉวียนทอดพระเนตรมองดูบาดแผลทั้งเก่าและใหม่ของนาง อีกทั้ง
ท่าทางที่คล้ายเสี ยใจเพราะได้รับความไม่ยตุ ิธรรม ก็ไม่กล้าหักใจไต่
ถามนางอีก
จริ งสิ นะ หากว่านางยังคงเป็ นตู๋กซู ิงหลันคนเดิม เขาจะทาเช่นไร?
ฆ่านาง?
ไม่ตอ้ งพูดถึงว่าจะฆ่านาง ตอนนี้แค่เห็นว่านางได้รับบาดเจ็บ ใน
พระทัยก็ราวกับถูกดาบแทงเข้าแผลหนึ่งแล้ว
” ตู๋กซู ิงหลัน เราหวังว่าเจ้าจะคิดดูให้ดี สิ่ งที่สมควรจะสารภาพ
ออกมาตนก็ควรทาให้กระจ่างจึงจะดีที่สุด ” เขาตรัสต่อไป “หาก
สารภาพจะได้รับความเมตตา “
“ฝ่ าบาท พวกเราเป็ นครอบครัวเดียวกัน หม่อมฉันไม่วา่ จะมีเรื่ องใด
ย่อมไม่ปิดบังพระองค์อยูแ่ ล้วเพคะ ” ตู๋กซู ิงหลันยิม้ หวานให้กบั เขา
ช่วงนี้ถูกเรื่ องต่าง ๆ รบกวนมากเกินไป จนตัวนางเกือบจะลืมไป
แล้วว่า ตนเองมีเป้าหมายที่จะต่อต้านพลิกกระดานเขาอยู่
จีเฉวียนยามนี้เกิดความสงสัยในตัวนางอย่างหนักแน่น หากว่ามีวนั
หนึ่งถูกเขาจับทางได้ข้ ึนมา การจะต่อต้านนี้คงจะพลิกไม่ข้ ึนเสี ย
แล้ว
พอคิดถึงเรื่ องนี้ข้ ึนมา นางก็รีบหลุบตาลง ด้วยกลัวว่าเจ้าจิ้งจอกเฒ่าผู ้
นี้จะเฉลียวฉลาดจนเกินไป จนมองทะลุจิตใจของนาง
พอก้มหน้าลงก็มองเห็นดอกซิ่วฉิวที่ขา้ งเตียง จึงรี บเปลี่ยนหัวข้อไป
เป็ นว่า ” ดอกไม้นี่สวยงามจริ ง ๆ “
จีเฉวียน ” เราเด็ดมามอบให้ผอู ้ ื่น”
นิ้วมือที่ยนื่ ออกไปของตู๋กซู ิงหลันยังไม่ทนั ได้สมั ผัสดอกซิ่วฉิ วก็หด
กลับมา “เสี่ ยวซูเฟยจะต้องชื่นชอบแน่นอน”
เรื่ องมอบดอกไม้ให้แก่กนั เป็ นเรื่ องสานเสริ มความสัมพันธ์ที่สามี
ภรรยาควรจะทาอยูแ่ ล้ว
ดอกไม้น้ ีเป็ นของที่จีเฉวียนจะมอบให้กบั ผูอ้ ื่น นางไม่ควรจะไปแตะ
ต้อง
อีกสักครู่ ตนเองค่อยไปที่สวนเด็ดมาสักหลายดอกก็พอแล้ว
จีเฉวียนเงียบงันไปครู่ หนึ่ง คาพูดที่มารออยูถ่ ึงริ มพระโอษฐ์ก็
เปลี่ยนเป็ นว่า ” ใช่ เราจะนากลับวังไปมอบให้กยุ้ เฟย นางชอบพวก
ดอกไม้ดอก ๆ ดวง ๆ เช่นนี้ที่สุด “
ดอก ๆ ดวง ๆ ดอกซิ่วฉิวนี้สูงส่ งงดงามจะตาย
ยามที่จีเฉวียนทรงตรัสนั้น สายพระเนตรมิได้แปรไปจากร่ างของ
นางเลย ” เราลืมบอกเจ้าไป ที่จริ งซูกยุ้ เฟยได้รับการแต่งตั้งจากเรา
เป็ นหวงกุย้ เฟยแล้ว”
ตู๋กซู ิงหลัน ” ขอแสดงความยินดีกบั ฝ่ าบาท”
จีเฉวียน ” หลังจากเป็ นหวงกุย้ เฟย ก็ยงิ่ มีโอกาสได้รับการแต่งตั้ง
เป็ นฮองเฮา “
ตู๋กซู ิงหลันครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ” อืม เสี่ ยวซูน้ นั ดีมากเลย มองจาก
แง่มุมต่าง ๆ แล้ว เหมาะสมกับฝ่ าบาทยิง่ นัก”
จีเฉวียนทรงรู ้สึกว่าตนเองไร้คาพูดจะกล่าว ดูดวงตาของนางสิ เปล่ง
ประกายเสี ยขนาดนั้น
เขาพยายามสงบสติอารมณ์ของตนเองอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็ค่อยคิดถึงเรื่ อง
สาคัญอีกเรื่ องขึ้นมาได้ ” ทาไมเจ้าถึงมาอยูท่ ี่ตาหนักของหย่งเฉิ งอ๋ อง
ได้กนั ? “
ยามที่องครักษ์ลบั ที่เขาสัง่ ให้จบั ตาดูซูเม่ยเข้ามารายงาน บอกว่าซูเฟ
ยแต่งกายเป็ นชายลอบออกจากวังหลวงไป อีกทั้งยังนาตัวหญิงสาวที่
สวมหน้ากากผูห้ นึ่งมาจากถนนหลักทิศเหนือ
ยามนี้คิดย้อนกลับไป หญิงสาวผูน้ ้ นั คงจะเป็ นนางอย่างแน่นอน
ซูเม่ย………นาตัวนางกลับมา ขังเอาไว้ในห้อง เสื้ อผ้าก็ไม่เรี ยบร้อย
ผมเผ้ารุ่ ยร่ าย
ดังนั้นเขาจึงตรัสถามไปอีกว่า ” เจ้าคนกระล่อนผูน้ ้ นั มันทาอะไรเจ้า
หรื อไม่? “
ตู๋กซู ิงหลันครุ่ นคิดอยูพ่ กั ใหญ่ ค่อยคิดออกว่า ‘คนกระล่อน’ ผูน้ ้ นั
หมายถึงใคร
” ท่านหมายถึงซูเยานะหรื อ เขาช่วยข้าไว้ ” ตู๋กซู ิงหลันตอบ ” คิดไม่
ถึงว่าเสี่ ยวซูเฟยจะมีนอ้ งชายฝาแฝดอยูค่ นหนึง นี่ถือเป็ นวาสนา
กลับได้พบกับเขาที่กลางถนน”
จีเฉวียนหัวเราะเย็นอยูใ่ นพระทัย วาสนาที่ดีนกั
พระองค์จบั ซูเม่ยขังเอาไว้ที่ขา้ งกายอยูท่ ุกคืน ทาให้เขาไม่มีโอกาส
ไปเข้าใกล้ต๋ ูกูซิงหลัน เขากลับคิดหาหนทางหลบหนีเป็ นร้อยเป็ น
พัน พอออกจากวังมาได้ครั้งหนึ่งก็รีบมารับบทวีรบุรุษช่วยเหลือ
หญิงสาวเชียวหรื อ?
เขาต่างหากที่ส่งสุ ดยอดองครักษ์ลบั ไปปกป้องนาง ซูเม่ยมีโอกาสได้
แสดงฝี มือที่ไหนกัน?
นานอีกครู่ ใหญ่จีเฉวียนค่อยตรัสตอบว่า ” เจ้านัน่ นะเป็ นแค่จิ้งจอกที่
ไว้ใจไม่ได้ตวั หนึ่ง บุญคุณช่วยชีวิตนี้เราจะตอบแทนเขาแทนเจ้า
ต่อไป เจ้าก็อยูใ่ ห้ห่างจากเขาหน่อย “
ยามนั้น พ่อบ้านชราของหย่งเฉิงอ๋ องก็ผา่ นมาทางนี้เข้า เขาเผอิญได้
ยินเสี ยงบุรุษดังออกมาจากด้านใน
นะนี้……สตรี ที่นายน้อยพากลับมา กาลังลักลอบพบปะกับผูอ้ ื่นใน
ตาหนักหย่งเฉิงอ๋ องของพวกเขา?
ตอนที่ 168 นางเป็ นหญิงเลว
ยามที่นายน้อยอยูใ่ นห้อง เขาเหลือบมองสตรี ผนู ้ ้ นั อยูส่ องครั้ง ถึง
ไม่ได้เห็นนางอย่างชัดเจน แต่ดูจากรู ปร่ างแล้วจะต้องเป็ นหญิงที่
งดงามอย่างแน่นอน
นางมีความสามารถถึงขนาดทาให้นายน้อยนากลับมาที่ตาหนักได้
สตรี ผนู ้ ้ ีจะต้องมิใช่ธรรมดา
ตอนนี้ยงิ่ ลอบพบปะกับบุรุษอื่นลับหลังนายน้อยหรื อ?
พ่อบ้านชรารู ้สึกว่าเรื่ องนี้จะต้องรี บกลับไปรายงานท่านอ๋ องและ
พระชายา เพราะยามนี้ฝ่าบาทยังประทับอยูใ่ นตาหนักของพวกเขา
หากว่าถูกฝ่ าบาทพบเรื่ องที่ไม่ควรนี้เข้าละก็ เกียรติยศของตาหนัก
หย่งเฉิงอ๋ องของพวกเขาก็คงไม่มีเหลือแล้ว
พอคิดถึงตรงนี้ เขาก็รีบไปที่โถงหน้าโดยทันที
………………………………………..
ซูเม่ยถูกหย่งเฉิงอ๋ องไล่ไปคุกเข่าที่ศาลบรรพชน ป้ายวิญญาณของ
เหล่าบรรพบุรุษทั้งหลายตั้งตระหง่านอยูเ่ รี ยงราย สายเลือดที่หย่งเฉิ ง
อ๋ องสื บทอดมานี่ หากนับขึ้นไปทั้งสิ บแปดรุ่ นแล้วล้วนเป็ นผูส้ ู งศักดิ์
ด้วยกันทั้งนั้น หลายปี มานี้พวกเขาไม่เคยถูกรบกวนด้วยเรื่ องใด ๆ
มาก่อนเลย
ต้นบรรพชนที่อยูใ่ นอันดับแรกของบันทึกสายตระกูลนั้น ยังคล้าย
จะเป็ นถึงชั้นเซียนมาแล้วเสี ยด้วยซ้ า
ตอนนี้ในใจของเขามีแต่ต๋ ูกูซิงหลัน ที่นอกศาลบรรพชนล้วนแล้วแต่
เป็ นคนสนิทของหย่งเฉิงอ๋ อง แต่ละคนล้วนเบิกตาจนโตกว้าง เกรง
ว่าเขาจะหาทางวิง่ หนีไป
หากซูเม่ยคิดจะปลอมตัวก็ยงั ยาก
……………………………………
ภายในโถงหน้า หัวใจของหย่งเฉิงอ๋ องสามีภรรยายังไม่ทนั จะสงบ
ลง ก็เห็นพ่อบ้านชรารี บร้อนวิ่งเข้ามาทางนี้ กระซิบกระซาบที่ริมหู
อยูห่ ลายประโยค
” ไอ้ ไอ้ลูกทรพีมีแม่เป็ นสุ นขั มันถึงกลับกล้า กล้าเอาสตรี กลับมา
ทั้งยังขังไว้บนเตียงอยูใ่ นห้อง? ” หย่งเฉิ งอ๋ องโกรธเสี ยจนแทบจะ
กระอักเลือดออกมา
พระชายาจับผ้าเช็ดหน้าในมือฟาดใส่ หน้าเขา ” ท่านอ๋ อง ท่านด่าใคร
กันเหอะ? “
มีแม่เป็ นสุ นขั อะไรกัน คาพูดพวกนี้ท่านพูดออกมาได้หรื อ?
ฮูหยินอย่าได้มีโทสะ ข้าแค่วา่ ไปตามอามารณ์เท่านั้นหรอก” หย่งเฉิ ง
อ๋ องตบอกระบายอามารณ์ ” เจ้าดูเอาเถอะ ก่อนหน้านี้มนั ไปร่ าย
เสน่ห์ใส่ ฝ่าบาทเอาไว้ก่อน ตอนนี้กพ็ าหญิงสาวกลับมา นี่มิใช่วา่ คิด
จะสวมหมวกชายชูใ้ บใหญ่ให้กยั ฝ่ าบาทหรื ออย่างไร? “
พระชายาได้ยนิ แล้ว ผ้าเช็ดหน้าในมือก็ถูกบิดจนแน่นกว่าเดิม นาง
กัดริ มฝี ปากกลั้นเสี ยงสะอื้นเอาไว้ ” อย่าได้โทษบุตรของท่านเสี ย
ทั้งหมด หากว่าลูกชายข้าสามารถเติบโตอย่างคนปกติ ไหนเลยจะทา
เรื่ องเช่นนี้ข้ ึนมาได้? “
หย่งเฉิงอ๋ องทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด เขาร้อนใจจนต้องยา่ เท้าไปมา ” เอา
เถอะ ๆ ๆ ๆ โทษข้า ต้องโทษข้า ฮูหยินโปรดอย่าได้ร้องไห้ “
เขาทางหนึ่งปลอบประโลมพระชายา ทางหนึ่งก็กล่าวว่า ” ฮูหยิน เจ้า
ลูกทรพีนาสตรี กลับมาก็แล้วไปเถอะ กลับนาคนที่ไม่รู้จกั สานึกตน
ถึงกลับกล้าลอบพบปะคนอื่นในตาหนักหย่งเฉิ งอ๋ อง”
” เจ้าอย่าพึ่งร้อนใจ ให้ขา้ ไปดูเสี ยก่อน หากว่านางเป็ นหญิงเลว
แพศยาจริ ง ๆ ข้าจะขับไล่นางออกไปทันที”
” ท่านยังรู ้จกั แยกแยะสตรี ดีเลวได้ดว้ ยหรื อ? ” พระยาชาถลึงเนตร
จ้องเขาอย่างเสี ยอารมรณ์ไม่ได้ ” ข้าก็จะไปดูดว้ ย ดูสิวา่ เป็ นนางมาร
ยัว่ สวาทมาจากไหนกัน แม้แต่บุตรชายของข้ายังสามารถยัว่ ยวนจน
หลงใหลไปได้ “
ในสายตาของหย่งเฉิงอ๋ องสามีภรรยา เกรงว่าในโลกนี้คงจะไม่มีผใู ้ ด
ที่งดงามไปกว่าเจ้าลูกทรพีของพวกเขาไปได้แล้ว
ประเด็นสาคัญคือยามนี้ฝ่าบาทยังประทับอยูท่ ี่นี่ แผนเฉพาะหน้า
ย่อมไม่อาจให้ฝ่าบาททรงรู ้ ว่าลูกทรพีถึงกับปลูกหญ้าเขียวเอาไว้บน
พระเศียรแล้ว
ว่าแล้ว พระชายาก็เสด็จนาไปก่อนก้าวหนึ่ง
หย่งเฉิงอ๋ องรี บติดตามไป ทั้งยังสัง่ ให้พอ่ บ้านเรี ยกองครักษ์อีกหลาย
คนตามมาด้วย
………………………………………
ภายในห้อง จีเฉวียนมิได้ทรงมีท่าทีคิดจะเสด็จจากไป
ดวงเนตรหงส์ยงั คงมุ่งแต่จดจ้องตู๋กซู ิงหลันอยูเ่ ช่นเดิม ” ติดตามเรา
กลับวัง “
ไม่วา่ จะอย่างไรก็ตาม บาดแผลของนางก็ดูแล้วหนักหนาอยูม่ าก
บาดแผลเช่นนี้ใช้น้ าอ่างเดียวล้างจะสะอาดได้อย่างไร จะต้อง
กลับไปให้หมอหลวงจัดการให้ดี
” อาการบาดเจ็บของพี่ใหญ่ยงั ไม่ดีข้ ึน ข้า…” ตู๋กซู ิงหลันคิดแต่เพียง
ว่ารอให้บาดแผลของตู๋กจู ุนดีข้ ึนสักหน่อยค่อยกลับเข้าวังไป
” เราส่ งหมอหลวงไปที่จวนตระกูลตู๋กแู ล้ว มีผชู ้ านาญการดูแล เขา
ย่อมไม่เป็ นอะไร ” จีเฉวียนตรัส ” เขาเป็ นแม่ทพั ผูพ้ ิชิต ไม่ได้
อ่อนแอเช่นเจ้า “
” อีกไม่นานก็จะสิ้ นปี แล้ว ในวังจะต้องมีงานเลี้ยงพระราชทาน เจ้า
เป็ นไทเฮา ย่อมไม่อาจขาดไปได้”
พอพูดถึงวังหลวง ตู๋กซู ิงหลันก็คิดถึงอันหร่ วนและอันหว่านจือ
ขึ้นมา
เห็นนางไม่กล่าววาจา จีเฉวียนก็ถือว่านางรับปากอย่างเงียบงัน
เขาขมวดพระขนงขึ้นมา ยืน่ พระหัตถ์ไปโอบตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ ที่
ด้านนอกมีลม จึงทรงใช้ฉลองพระองค์คลุมห่อนางเอาไว้ท้ งั ตัว เดิม
ทีนางก็เป็ นสตรี ร่างเล็ก พอใส่ เสื้ อคลุมลงไปก็คลุมมิดไปกว่าครึ่ งตัว
ที่ดา้ นนอกห้อง หย่งเฉิงอ๋ องสามีภรรยารี บรุ ดมา พ่อบ้านชราก็นา
เหล่าองครักษ์มาอีกทั้ง ทั้งหมดดูคึกคักดุจพยัคฆ์และราชสี ห์
หย่งเฉิงอ๋ องยืนอยูน่ อกประตู เมื่อครู่ เขาได้ยนิ เสี ยงบุรุษดังออกมา
อย่างชัดเจน พอมองเห็นว่าประตูยงั ถูกลงดานเอาไว้ หน้าต่างก็ถูก
ปิ ดแน่น คนที่อยูด่ า้ นในจะต้องกระทาเรื่ องที่ไม่อาจพบหน้าผูค้ นได้
อยูเ่ ป็ นแน่
เขาก็ยงิ่ มีโทสะ เจ้าลูกตัวร้ายทาไมถึงได้มีสายตามืดบอด! ไปพาใคร
ที่ไหนกลับมากัน!
เขาขมวดคิว้ แน่น กระแอมในลาคอ มาถึงก็ยกเท้ากระทืบลงไปบน
ประตู
ขาของเขาพึ่งจะยกขึ้นมา ก็ได้ยนิ เสี ยงผลัว่ ะจากด้านใน จากนั้นบาน
ประตูที่เปิ ดออกก็ลอยลงมาทับ
” ท่านอ๋ อง! ” พระชายารี บปรี่ เข้าไป นางพยายามใช้แรงงัดบาน
ประตู แต่บานประตูน้ นั หนักมาก นางพึ่งจะขยับได้เพียงเล็กน้อย
เรี่ ยวแรงก็หมดลง จนบานประตูกระแทกลงมาอีกครั้งอย่างแรง
หย่งเฉิงอ๋ องแทบจะกระอักเลือดคัง่ ในปอดออกมา ” ฮูหยิน เจ้าฟัง
ก่อน ไปรออยูท่ ี่ดา้ นข้างเถอะ “
พระชายาปิ ดผ้าเช็ดหน้าในมือ น้ าตาแห่งความน้อยเนื้อต่าใจแทบ
หยาดหยด แต่นางก็ยงั คงเชื่อฟังถอยไปยืนอยูด่ า้ นข้าง
เหล่าองครักษ์เร่ งรุ ดเข้ามาช่วนกันยกบานประตูที่ทบั ท่านอ๋ อง
ออกไป หย่งเฉิงอ๋ องสู ดลมหายใจเข้าไปอึกหนึ่ง พอลุกขึ้นได้ก็
เตรี ยมจะหันไปตะโกนด่าคน
สายตาของเขากวาดมองเข้าไป กลับเห็นฮ่องเต้ประทับยืนอยูด่ ว้ ย
สายพระเนตรเย็นชาดุจน้ าแข็ง
คาพูดที่ได้เอ่อมาถึงลาคอของเขาต้องกลืนกลับลงท้องไป
เขาได้แต่หนั กลับไปถลึงตาใส่ พอ่ บ้านชรา นี่มนั อะไรกัน บุรุษที่อยู่
ภายในห้องไยจึงกลายเป็ นฝ่ าบาทไปได้?
สี หน้าของพ่อบ้านชราก็ตกตะลึงไปเช่นกัน องครักษ์ท้ งั หมดก็
ตระหนกจนพากันถอยกรู ด คุกเข่าลงไปบนพื้น แม้แต่ศีรษะก็ยงั ไม่
กล้าเงยขึ้นมา
พระชายาเองก็ประหลาดพระทัย ผ้าเช็ดหน้าในหัตถ์เกือบจะตกลง
ไปบนพื้น นางมองจ้องไปฝ่ าบาท และ ส…สตรี ที่อยูใ่ นอ้อมพระ
พาหา
ฉลองพระองค์น้ นั คลุมร่ างเอาไว้กว่าครึ่ ง จึงไม่มีโอกาสมองเห็น
ใบหน้าของนางได้อย่างชัดเจน
เพียงเห็นแค่รูปร่ างที่บอบบาง เส้นผมยาวสลวยทิ้งตัวลงมา หากว่า
ตามความรู ้สึกแบบสตรี ของพระชายา นี่กช็ ดั เจนแล้วว่าจะต้องเป็ น
นางแพศยาน้อยแน่นอน
นางไม่กล้ากล่าวออกมา เพียงแต่ลากหย่างเฉิ งอ๋ องถอยออกไป
ด้านข้าง
หย่งเฉิงอ๋ องมองดูฝ่าบาท แล้วก็หนั ไปมองดูคนในอ้อมพระพาหา
เขาก็รู้สึกว่าท้องฟ้าเปลี่ยนเป็ นมืดครึ้ มราวกับมีพายุ
สตรี ที่เจ้าลูกทรพีพากลับมาถูกฝ่ าบาทพบเห็นเข้าเสี ยแล้ว ไม่เพียง
พบเห็น ดูจากสี พระหักตร์ของฝ่ าบาท ท่าทางประหนึ่งจะกวาดล้าง
ประหารให้หมดบ้าน
เมื่อโดนสวมหมวกเขียวเป็ นชายชูเ้ ช่นนี้ ไม่วา่ จะเป็ นบุรุษคนใดก็
ล้วนรับไม่ได้ อย่าว่าแต่ผทู ้ ี่เป็ นประมุขของประเทศเลย
” ฝ่ าบาท สตรี ผนู ้ ้ ีเป็ นหญิงเลวร้าย ขอพระองค์ประทานตัวนางให้
กระหม่อมจัดการเถอะพะยะค่ะ กระหม่อมจะต้องทาให้เป็ นที่พอ
พระทัยให้จงได้ ” หย่งเฉิงอ๋ องยืนกล่าวอยูด่ า้ นข้าง
พอได้ทรงฟังแล้ว จีเฉวียนก็แย้มสรวลเย็นออกมา ” ใช่สิ หญิงร้าย “
นางชัว่ ร้ายนัก ร้ายกาจไปจนถึงในกระดูก ร้ายเสี ยจนเขาไม่รู้จะ
ลงโทษนางอย่างไรดี ได้แต่พากลับไป ขังเอาไว้ ไม่ให้นางมีโอกาส
ออกมานอกวังโดยง่ายได้อีก
ตู๋กูซิงหลัน “………..” นี่คล้ายกับว่าทุกคนเข้าใจอะไรผิดไปหรื อไม่
เกิดอะไรขึ้นกัน?
พอเห็นฝ่ าบาททรงเห็นด้วยกับเขา หย่งเฉิ งอ่องก็รับตอบว่า ” ฝ่ าบาท
สตรี ที่เลวร้ายผูห้ นึ่ง ไม่สมควรจะแปดเปื้ อนพระหัตถ์ของพระองค์
ขอให้หม่อมฉันจัดการเถอะพะยะค่ะ”
เขาพูดจบแล้ว บรรดาองครักษ์ในตาหนักก็พากันขยับเข้ามา
ตอนที่ 169 สุ นัขเปลีย่ นนิสัยกินมูลไม่ ได้ ฉันใด ไทเฮาก็แก้นิสัยรัก
สมบัติไม่ ได้ ฉันนั้น
” ฝ่ าบาท สตรี ที่เลวร้ายผูห้ นึ่ง ไม่สมควรจะแปดเปื้ อนพระหัตถ์ของ
พระองค์ ขอให้หม่อมฉันจัดการเถอะพะยะค่ะ”
เขาพูดแล้ว บรรดาองครักษ์ในตาหนักก็พากันขยับเข้ามา
แต่พระวรกายฝ่ าบาทกลับแผ่ไอเย็นออกมาโดยรอบ เพียงแค่
พระองค์กวาดพระเนตรผ่านไป ก็ทาเอาราชองครักษ์เหล่านั้นตกอก
ตกใจจนร้องเรี ยกหาบิดามารดาแล้ว
” สตรี ที่เลวร้ายผูน้ ้ ี มีแต่เราที่สามารถจัดการได้”
ฝ่ าบาทตรัสเพียงประโยคเดียว ก็ทาเอาหัวใจของหย่งเฉิ งอ๋ องสอง
สามีภรรยาเย็นวาบไป
จบกันแล้ว ฝ่ าบาทจะต้องทรง เดาได้อย่างแน่นอน
ไม่รู้วา่ เพราะสาเหตุใดกัน พวกเขามักรู ้สึกว่าฝ่ าบาททรงทราบเรื่ อง
ฐานะของเจ้าลูกชายตัวดีอยูแ่ ล้ว และยามนี้กย็ งั ทรงพบว่าตนเองถูก
สวมหมวกเขียวอยูอ่ ีก แต่วา่ ถึงจะอย่างไรก็มีพระประสงค์จะทรงพา
สตรี ผนู ้ ้ ีกลับวังไปไต่สวนอยูด่ ี
ดูท่าครั้งนี้เจ้าลูกทรพีนนั่ จะหาเรื่ องเข้าจริ ง ๆ แล้ว
พอจีเฉวียนทรงตรัสออกไป ยังจะมีผใู ้ ดกล้าคัดค้านเขาอีก เขาเสด็จ
ก้าวใหญ่ ๆ จากไป ทิ้งเอาไว้เพียงเงาหลังที่หนาวเย็น หย่งเฉิงอ๋ อง
สามีภรรยาต่างก็รู้สึกผิดหวังอยูบ่ า้ ง คราวนี้จะไปขออภัยต่อฝ่ าบาท
อย่างไรดี?
” ดอกซิ่วฉิวในฤดูหนาวงดงามน่าดู ไทเฮาทรงโปรด ยามที่หย่งเฉิ ง
เข้าวัง ให้นาไปถวายไทเฮาสองต้น “
จีเฉวียนเสด็จไปได้สองก้าว ก็หนั กลับมาตรัสกับหย่งเฉิ งอ๋ อง
หย่งเฉิงอ๋ องงงงันไปชัว่ ขณะ นี่หมายความว่าอย่างไรกัน? อยูด่ ี ๆ ก็
ลากไปหาไทเฮาทาไม?
ฝ่ าบาทไม่ได้ทรงรอให้เขาไต่ถาม ก็เสด็จจากไปไกลแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันที่อย่างไรก็ไร้เรี่ ยวแรง เมื่อถูกเขาอุม้ เอาไว้ ก็มิได้ขยับตัว
วุน่ วาย เมื่อครู่ ตอนที่ถุกคลุมอยูใ่ ต้ฉลองพระองค์ของจีเฉวียน นางก็
แอบมองลอดผ่านช่องจนเห็นหย่งเฉิ งอ๋ องสามีภรรยา น่าแปลกจริ ง
ๆ จากราศีของหย่งเฉิงอ๋ องสามรี ภรรยาเดิมทีสมควรจะสมบูรณ์พนู
สุ ขมีลูกหลานมากมาย ทาไมถึงได้กลายเป็ นสู ญเสี ยบุตรติดกันถึงสี่
คน?
นางกาลังคิดถึงเรื่ องนี้อยูต่ ลอด จึงไม่ทนั ได้ยนิ จีเฉวียนตรัสเรื่ องดอก
ซิ่วฉิว
………………………………..
ซูเม่ยพึ่งจะหลบหนีออกมาจากศาลบรรพชนได้ ก็พบว่าจีเฉวียนทรง
อุม้ ตู๋กูซิงหลันจากไปไกลแล้ว
ดวงตาจิ้งจอกคู่น้ นั เกรี้ ยวกราดขึ้นมา เขากาหมัดเอาไว้แน่น กระแทก
หมัดหนึ่งลงไปบนกาแพงสวนข้างตัว
” ครื นนนน” ทันทีที่ได้ยนิ เสี ยง กาแพงนั้นก็ทรุ ดตัวลงมา
กระทัง่ พระชายายังตกพระทัยจนหัวใจเกือบจะกระดอนออกมา
หย่งเฉิงอ๋ องมองไปยังเขา เห็นเพียงเงาสี แดงของเจ้าลูกทรพีพลิกข้าม
กาแพงออกไป ก็ได้แต่ถอนหายใจติด ๆ กัน ” เวรกรรมเอ๋ ยเวรกรรม
เจ้าลูกทรพีคนนี้เกิดมาเพื่อทวงหนี้แท้ ๆ
……………………..
ราชรถของฮ่องเต้หยุดลงที่หน้าพระตาหนักตี้หวั พอเสด็จลงจากรถ
ม้าแล้ว เขาก็อุม้ ตู๋กูซิงหลันลงมาด้วยตนเอง
ฉลองพระองค์คลุมสี ดายังคงคลุมใบหน้าของนางเอาไว้
ตู๋กซู ิงหลันตัวเบามาก อุม้ ขึ้นมาก็ไม่รู้สึกเปลืองแรงแต่อย่างใด ยิง่ หา
ได้อยากที่นางจะว่าง่ายเชื่อฟัง ตลอดทางก็มิได้ก่อเรื่ องใด ๆ เลยสัก
น้อย
พอเสด็จลงมาได้ ก็ทอดพระเนตรเห็นอันหว่านจือในชุดชาววังรอ
รับเสด็จอยูแ่ ล้ว
” หว่านจรื อถวายพระพรฝ่ าบาท ” นางถวายคานับให้จีเฉวียน แต่
ดวงตากลับมองไปยังคนในอ้อมพระพาหาอย่างไม่มีหยุด
จีเฉวียนไม่ได้สนพระทัยนาง ทรงอุม้ ตู๋กซู ิงหลันเสด็จตรงเข้าไปใน
พระตาหนักบรรทม
อันหว่านจือก็ไล่ตามหลังไป ” ฝ่ าบาทเพคะ พระองค์เสด็จออกไป
กว่าครึ่ งวัน หว่านจรื อกังวลเหลือเกิน อากาศหนาวเย็นมาก พระองค์
ก็ทรงเกรงความเหน็บหนาว…….”
ทูลแล้ว นางก็ยนื่ เตาอุ่นทองคาใบหนึ่งถวายให้เขา ” นี่เป็ นเตาอุ่นมือ
ที่หว่านจรื อหาช่างพิเศษให้ทาขึ้นมา หากว่าฝ่ าบาททรงประคอง
เอาไว้ในพระหัตถ์ อีกหน่อยก็จะไม่ทรงรู ้สึกหนาวแล้วเพคะ”
จีเฉวียนกวาดพระเนตรมามองดูเตาอุ่นมือนัน่ แวบหนึ่ง เตาอุ่นมือทา
จากทองคาอีกทั้งยังประดับด้วยอัญมณี สีแดง
เดิมที่พระองค์คิดจะปฏิเสธ แต่หางพระเนตรกลับเห็นประกายตา
ของสตรี ในอ้อมพระพาหาเปล่งประกายวูบวาบ ก็ทรงทราบดี
” เรารับเอาไว้แล้ว เจ้าวางไว้ที่หอ้ งอักษรเถอะ”
สุ นขั เปลี่ยนนิสยั กินมูลไม่ได้ฉนั ใด ไทเฮาก็แก้เรื่ องรักสมบัติไม่ได้
ฉันนั้น
ที่จริ งตู๋กซู ิงหลันเพียงแต่อยากมองดูให้มากหน่อยเท่านั้น ทับทิมเป็ น
นั้นสวยงามมากจริ ง ๆ หากว่านาไปขายคงจะเพียงพอให้นางวาด
ยันต์ได้สกั ร้อยใบแน่
” เพคะ” อันหว่านจือแสดงความยินดีออกมา นางได้ยนิ มาว่า ฝ่ าบาท
ไม่ทรงเคยรับของขวัญจากพระสนมคนใดมาก่อนเลย แต่คราวนี้
กลับทรงยินยอมรับของของนาง
แสดงว่าความพยายามของนางไปถึงพระทัยของฝ่ าบาทแล้วใช่
หรื อไม่?
ท่านย่ากล่าวได้ถูกต้องจริ ง ๆ ขอเพียงแค่นางอ่อนโยนและเอาใจใส่
ให้มากพอ และอยูข่ า้ งกายฝ่ าบาทอยูเ่ สมอ ฝ่ าบาทจะต้องทรงมี
พระทัยให้นางเป็ นแน่
วันนี้ตอนที่นางออกไปนอกวัง นอกจากจะนายาไปให้คนพวกนั้น
แล้ว ยังไปหาช่างเหล็กตระกูลจ้าวยังฟากตะวันตกของเมืองเพื่อสัง่
ทาเตาอุ่นมือใบนี้ ใช้ทองคาหล่อขึ้นมา ฝี มือละเอียดปราณี ต ทับทิม
เม็ดนั้นก็มีราคาไม่ธรรมดา เนื่องเพราะเป็ นของที่จะทูลถวายฝ่ าบาท
ย่อมไม่อาจดาษดื่นเหมือนทัว่ ไป
ในใจของนางปิ ติอย่างยิง่ แต่แล้วกลับพบว่าฝ่ าบาททรงรับของขวัญ
ของนาง แต่มิได้ทอดพระเนตรมองนางเลย
อันหว่านจืออดที่จะหงุดหงิดขึ้นมาไม่ได้ โดยเฉพาะยิง่ เห็นฝ่ าบาท
ทรงอุม้ คนผูห้ นึ่งเอาไว้อยูต่ ลอดเวลา โดยไม่มีท่าทีจะคลายพระหัตถ์
เลย
เพราะฉะนั้นสตรี ผนู ้ ้ ีคือใครกันแน่? ถึงขนาดต้องให้ฝ่าบาททรงอุม้
นางเข้ามาในตาหนักตี้หวั ด้วยพระองค์เอง?
พออันหว่านจือยืดคอออกไป จีเฉวียนก็สาดพระเนตรเย็นชากลับมา
” เจ้าไม่เคยพบกุย้ เฟยหรื อไร? ต้องให้เราช่วยลากคอเจ้าให้ยาว
กว่าเดิมไหม? “
ตู๋กูซิงหลัน “? ” นางรู ้สึกเห็นใจซูเม่ยขึ้นมาบ้างแล้ว นี่มนั เรื่ องอะไร
กัน?
ทาไมดูเหมือนว่าเรื่ องที่ฝ่าบาททรงพูดคุยกับอันหว่านจือ คล้ายจะ
เติมความเกลียดชังให้กบั ซูเม่ย
ช่วงนี้ซูเม่ยเป็ นที่โปรดปรานเสี ยขนาดนั้น เดิมทีกช็ กั นาให้บรรดา
พระสนมทั้งหลายเกิดเพลิงหึงหวงกันจนจะทะลุข้ ึนฟ้าอยูแ่ ล้ว อัน
หว่านจือมีที่มาไม่ธรรมดา อีกทั้งยังมีใจจะเป็ นพระสนมให้ได้ นี่ไม่
เท่ากับว่าชักให้เกิดศึกกันหรอกหรื อ?
เพียงแค่ประโยคเดียวของจีเฉวียนก็ทาให้อนั หว่านจือรู ้สึกเจ็บช้ า
ขึ้นมา
นางถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กล่าวอย่างหวาดกลัวว่า ” หว่านจรื อรู ้ผดิ
แล้วเพคะ “
คนผูน้ ้ ีคือซูกยุ้ เฟยหรื อ? ทาไมถึงเป็ นนางอีกแล้ว!
หลายวันมานี้ถูกนางยึดเอาฝ่ าบาทไว้กว็ า่ แย่แล้ว ยามนี้ยงั ถึงขนาด
ยัว่ ยวนฝ่ าบาทกระทัง่ เดินเองก็ยงั ไม่ยอม จะต้องให้พระองค์อุม้ เข้า
ไปในตาหนัก?
สตรี ผนู ้ ้ ีช่างรู ้จกั เสแสร้งนัก แต่ก่อนนี้ยามที่อยูใ่ นเขาจงหลิง ไม่ใช่วา่
เอาแต่แสดงความนอบน้อมอยูต่ ลอดหรื อ
” ไม่ทราบว่ากุย้ เฟยเป็ นอะไรไปหรื อเพคะ? ” อันหว่านจือถาม
ออกไปอย่างไม่กลัวตาย
จีเฉวียนไม่ได้ทรงสนพระทัยนาง เขาโอบอุม้ ตู๋กซู ิงหลันเข้าไปใน
ตาหนักบรรทม
อันหว่านจือทาท่าจะติดตามเข้าไป แต่เท้าของนางยังไม่ทนั จะก้าว
เข้าประตู ก็ได้ยนิ เสี ยงประตูใหญ่ปิดดังปั้ ง
จมูกของนางถูกชนเข้าอย่างแรง และยังได้ยนิ ฮ่องเต้รับสัง่ ด้วยสุ
รเสี ยงเย็นชาออกมาอีกว่า ” เราเห็นแก่ที่หมัวมัวเคยดูแลยามเยาว์วยั
จึงอดทนกับเจ้าได้บา้ ง แต่อย่าได้อาศัยความอดทนนี้มาทาเป็ นลืม
ฐานะของตนเองไป “
น้ าเสี ยงนี้ไม่เพียงแต่เย็นชา หนาซ้ ายังแฝงความข่มขู่
ถึงแม้จะมิได้ทรงตรัสว่าจะกระทาสิ่ งใด แต่สาหรับอันหว่านจือแล้ว
นี่กเ็ หมือนกับเอามีดมาแทงหัวใจของนางอยูด่ ี
เรื่ องไม่สมควรจะเป็ นเช่นนี้ นางไม่ได้ทาสิ่ งใดผิดสักหน่อย เพียงแค่
ห่วงใยฝ่ าบาทเท่านั้นเอง ฝ่ าบาทสมควรจะพูดจากับนางดี ๆ ด้วยถึง
จะถูก
จะต้องเป็ นเพราะว่าสตรี ในอ้อมพระหัตถ์ผนู ้ ้ นั กล่าวอะไรกับเพราะ
องค์เป็ นแน่
ซูเม่ย! พวกเราคอยดูกนั ไปเถอะ!
………………………………….
ท้องฟ้ามืดมิดมากแล้ว ตาหนักบรรทมภายในพระตาหนักตี้หวั เริ่ ม
จุดเทียนแล้ว เทียนพอสว่างไสว แสงสี แดงพวกนั้นก็ทาให้ใน
ตาหนักดูอบอุ่นขึ้นมา
ในตาหนักมีเก้าอี้กยุ้ เฟยตัวหนึ่งวางอยู่ ในตาแหน่งที่สะดุดตาอย่าง
ที่สุด จีเฉวียนทรงอุม้ ตู๋กซู ิงหลันไปวางลงบนเก้าอี้กยุ้ เฟย
พอทอดพระเนตรเห็นสี หน้าของนางยังคงซีดขาว ก็รีบรับสัง่ ให้หลี่
กงกงไปตามหมอหลวงซุน อ๋ อไม่สิ ตอนนี้เป็ นแค่เด็กต้มยาแซ่ซุน
มา
ฮ่องเต้รีบสัง่ เรี ยกหาหมอหลวง ย่อมต้องเป็ นที่รับรู ้ของคนในวัง ยิง่
เรี ยกหาแค่คนต้มยาผูห้ นึ่งยิง่ เป็ นที่โจษจันกันมากกว่าเดิม
เด็กต้มยาซุนรู ้สึกว่าชาติก่อนตนเองจะต้องเป็ นคนโฉดชัว่ เลวร้ายมา
มาก ไม่เช่นนั้นชาติน้ ีจะต้องตกต่ามาถึงขั้นต้มยาเช่นนี้หรื อ ยามที่รีบ
ร้อนมาถึงพระตาหนักตี้หวั เขาแทบจะเอาศีรษะมุดเข้าไปในสายรัด
อยูแ่ ล้ว
คนป่ วยเป็ นอิสตรี !
ใบหน้าของหญิงสาวถูกผ้าโปร่ งคลุมเอาไว้ จึงไม่อาจมองเห็น
รู ปลักษณ์ของนางได้อย่างชัดเจน
แต่วา่ บาดแผลที่นางได้รับค่อนข้างสาหัสมาก ไม่รู้วา่ เป็ นฝี มือของ
ฆาตกรใจโหดจากที่ใด ถึงกลับลงมือกับสตรี ที่อ่อนนุ่มเช่นนี้อย่าง
โหดเ**้้ยม
ตอนที่ 171 กอดจีเฉวียนเอาไว้ ดั่งเป็ นปลาหมึกยักษ์
ตู๋กซู ิงหลันถูแท่งน้ ำแข็งขนำดใหญ่ขนำบข้ำง ตลอดทั้งคืนจีเฉวียน
ทรงพำดท่อนแขนเอำไว้บนลำคอของนำง ท่อนแขนที่ท้ งั แข็งและ
หนักทำเอำนำงหำยใจแทบไม่ออก
นำงพลิกตัว หันหลังให้จีเฉวียน และอำจเป็ นเพรำะยำที่หมอหลวง
ซุนให้มำ มีฤทธฺ ์ค่อนข้ำงรุ นแรง เพียงไม่นำนก็ทำให้นำงหลับลึกลง
ไปด้วยควำมง่วง
จำกนั้นตลอดทั้งคืนนำงก็ติดอยูใ่ นควำมฝัน
นำงฝันเห็นสถำนที่ที่มีแต่น้ ำแข็งเต็มไปหมด ลมหนำงพัดโชยมำ แต่
นำงกลับใส่ เพียงชุดนอนผืนบำง ที่ดำ้ นหลังยังมีรำชสี ห์ตวั ใหญ่ที่ถูก
น้ ำแข็งเกำะอยูท่ วั่ ร่ ำงคอยติดตำมมำอยูต่ ลอด
ฝี เท้ำของนำงหนักมำก เพียงไม่นำนก็ถูกรำชสี ห์น้ ำแข็งนั้นไล่ตำม
จนทัน
รำชสี ห์ตวั นั้นอยูท่ ี่เบื้องหน้ำของนำง พอร่ ำงกำยที่สูงเมตรกว่ำๆ ของ
มันกดดันลงมำ นำงก็รู้สึกว่ำกระทัง่ เลือดในตัวก็ยงั เย็นเฉียบ
ดวงตำสี น้ ำเงินคู่น้ นั จับจ้องนำง ในดวงตำคู่น้ นั มีแต่เงำร่ ำงของนำง
สะท้อนอยู่ ท่ำทำงของมันคล้ำยจะตื่นเต้นยินดี พอปลำยหำงส่ ำยและ
พำดลงไปครั้งหนึ่ง พื้นดินด้ำนหลังก็แตกระแหงออกมำ
กรงเล็บของมันกำงออก มันคิดจะสัมผัสตู๋กซู ิงหลันสักหน่อย แต่
กลับถูกพลังที่ไร้รูปลักษณ์ขดั ขวำงไว้ รำวกับว่ำรอบตัวของมันมี
ห่วงโซ่ที่มองไม่เห็นอยู่ จนมันถูกลำกกลับไปขังไว้ในโลกน้ ำแข็ง
ตลอดกำลดังเดิม
ตู๋กซู ิงหลันยืนอยูท่ ี่เดิม ไม่รู้เพรำะเหตุใด ทั้งที่เป็ นควำมฝันแต่นำง
กลับรู ้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมำ
…………………………………….
ฮ่องเต้เองก็ทรงฝัน ในควำมฝันนั้นทรงทอดพระเนตรเห็นฤดูหนำว
กลำงเดือนสิ บสอง ในที่สุดตำหนักตี้หวั ก็ได้มองเห็นดวงอำทิตย์แล้ว
ดอกเย่วกุย้ ฮวำทัง่ ทั้งสวนล้วนผลิบำน ส่ งกลิ่นหอมเข้มข้นออกมำ
ทำให้จิตใจผูค้ นรู ้สึกอบอุ่น
อยูๆ่ ในพระตำหนักตี้หวั ปรำกฎรำชสี ห์น้ ำแข็งตัวใหญ่อยูต่ วั หนึ่ง
นอนหมอบอย่ำงสงบอยูใ่ ต้ตน้ เย่วกุย้ ฮวำ
บนหลังของรำชสี ห์น้ ำแข็ง มีสำวน้อยนำงหนึ่งเกำะอยู่ นำงคลี่ยมิ้
กว้ำงให้กบั เขำ
รอบตัวนำงคล้ำยจะมีรัศมีอยูร่ ำยล้อม ยำมที่นำงยิม้ แย้มก็งดงำมรำว
กับดวงตะวันที่สดใส
เขำยังยืนอยูท่ ี่เดิม เงยหน้ำมองไปยังนำง พอได้สบตำกัน ก็เห็นว่ำ
สตรี ผนู ้ ้ นั เหมือนกับตู๋กซู ิงหลันรำวกับเป็ นคนๆ เดียวกัน
ช่วงเวลำนั้นเองพระองค์กร็ ู็ สึกว่ำดวงพระทัยกำลังพองโตขึ้นมำ
ตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั นะ ที่พระองค์รู้สึกว่ำนำงงดงำมเช่นนี้?
……………………………………….
ยำมเช้ำของวันรุ่ งขึ้น
ผ้ำห่มบนเตียงบรรทมห่อคนสองคนเอำไว้แนบแน่น ทั้งที่ก่อนนอน
ยังรักษำระยะระหว่ำงกันอยูช่ ดั ๆ แต่พอยำมเช้ำมำถึง ระยะนั้นไม่
เพียงถูกทำลำยลงไป ซ้ ำยังออกจะมีอะไรที่เกินๆ ไปอยูบ่ ำ้ ง
ฮ่องเต้ทรงบรรทมเช่นคนปกติทวั่ ไป แต่ต๋ ูกซู ิงหลันกลับไม่เรี ยบร้อย
เอำเสี ยเลย ขำข้ำงหนึ่งพำดผ่ำนเอวผอมของเขำอยู่ สองมือก็กอดอยู่
บนร่ ำงของเขำ รำวกับปลำหมึกยักษ์ที่รัดเขำเอำไว้ท้ งั เป็ น
ใบหน้ำขำวที่หมดจดของนำงอยูบ่ นอกของเขำ กำลังลืมตำอย่ำง
งัวเงีย
พอนำงลืมตำขึ้นมำ ก็เห็นว่ำฮ่องเต้ทรงนอนลืมตำมองนำงอยู่
จีเฉวียนมองนำงอยูน่ ำนแล้ว ฟ้ำยังไม่ทนั สว่ำงเขำก็ตื่นแล้ว แต่พอ
ตื่นแล้วก็ยงั คงรักษำท่ำนอนเช่นนี้เอำไว้ ปล่อยให้ต๋ ูกซู ิงหลันที่หลับ
อุตุกอดเขำเอำไว้
แต่ไหนแต่ไรเขำไม่ชอบให้ใครมำสัมผัส ที่ผำ่ นมำรอบตัวเขำใน
ระยะหนึ่งจั้งล้วนไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยูใ่ กล้
เนื่องเพรำะประสบกำรณ์บำงอย่ำงในวัยเด็ก ทำให้เขำเป็ นโรคกลัว
ควำมใกล้ชิด
ทันทีที่มีคนเขำมำสัมผัสขอบเขตควำมปลอดภัยของเขำอย่ำง
กระทันหัน เขำก็จะรู ้สึกอึดอัดไม่สบำยตัวขึ้นมำในทันที และหำกยัง
มีคนกล้ำเข้ำมำใกล้เขำอีกละก็ เขำก็จะมีโทสะ ระเบิดอำรมณ์ออกมำ
ในทันที
ตอนที่เขำพึ่งจะกลับมำยังต้ำโจวนั้น มีสตรี ที่ไม่กลัวตำยอยูไ่ ม่นอ้ ย
คิดจะเข้ำใกล้เขำ สุ ดท้ำยแล้วก็ไม่เหลือใครที่รอดพ้นจำกจุดจบดับ
อนำถไปได้
ขนำดยำมปกติทวั่ ไปที่ตอ้ งสัมผัสกันตำมำรยำทยังทำให้เขำรู ้สึกไม่
สบำยตัว ยิง่ ไม่ตอ้ งพูดถึงว่ำมีคนนอนร่ วมเตียงด้วยเลย
ตู๋กูซิงหลันนับว่ำเป็ นคนแรก
เขำไม่ปฎิเสธ และไม่หงุดหงิด เพียงแต่มองดูนำงนิ่งๆ
ยำมที่นำงกำลังหลับใหล ขนตำนั้นก็กระพริ บน้อยๆ ริ มฝี ปำกที่
ปรำศจำกเลือดไปเมื่อวำนยำมนี้กฟ็ ้ื นคืนจนดีข้ ึนมำก ไม่รู้วำ่ นำงฝัน
เห็นสิ่ งใดอยู่ ถึงได้พึมพำบำงคำอยูใ่ นปำก ฟังไม่ออกว่ำเป็ นคำว่ำ
อะไรกันแน่
จีเฉวียนไม่ทรงทรำบว่ำในใจของนำงกำลังคิดอะไร ถึงได้นอนหลับ
สบำย กอดอยูบ่ นตัวเขำอย่ำงไม่ยอมลงเช่นนี้
แต่วำ่ เขำเองก็ไม่ผลักนำงออก
ยำมนี้ต๋ ูกูซิงหลันรู ้สึกอับอำยขึ้นมำอย่ำงรุ นแรง ปกติเวลำนอนนำง
มักจะไม่ค่อยเรี ยบร้อย หำกมีตุ๊กตำก็กอดตุ๊กตำ ไม่มีตุ๊กตำก็กอด
หมอนก็ได้ ขอแค่มีอะไรให้นอนกอดก็เป็ นพอ
คิดไม่ถึงเลยว่ำโรคที่คุน้ เคยนี้ …….จะมำก่อปั ญหำในยำมที่ฮ่องเต้
ทรงประทับอยูบ่ นเตียงด้วย
อ้ำยๆๆๆ นำงกลับเป็ นตัวหิวกระหำยไปแล้ว แม้แต่แท่งน้ ำแข็งเช่นนี้
ก็ยงั ไม่ปล่อยผ่ำน!
ประเด็นสำคัญก็คือ……..นำงรู ้สึกว่ำมุมปำกตัวเองเปี ยกชื้น คล้ำย
ว่ำ……จะน้ ำลำยไหล
นำงทำน้ ำลำยหกบนชุดนอนของจีเฉวียน!
หำกว่ำนำงไม่ได้จำผิดละก็ จีเฉวียนเป็ นโรคบ้ำควำมสะอำดอย่ำง
รุ นแรง!
นำงรี บลุกขึ้นนัง่ ใช้ขอ้ มือปำดเช็ดน้ ำลำยที่มุมปำก
จีเฉวียนก็ยงั คงจ้องดูนำง แต่กลับไม่ได้มีโทสะ เพียงกล่ำวเบำๆ
ประโยคหนึ่งว่ำ ” ชุดมังกรของเรำแพงมำก ถูกเจ้ำทำสกปรกแล้ว”
ที่จริ งนี่กไ็ ม่ใช่ครั้งแรก ตอนกลำงวัยที่ฝันถึงนำงก็สกปรกมำแล้ว
รอบหนึ่งด้วยซ้ ำ
พอฟังเขำพูดเช่นนี้ ตู๋กซู ิงหลันก็ยงิ่ รู ้สึกอับอำยยิง่ กว่ำเดิม ยำมปกติ
นำงไม่มีทำงเป็ นเช่นนี้แน่ สำเหตุหลักจะต้องมำจำกยำของหมอ
หลวงซุนเป็ นแน่
ยิง่ ไปกว่ำนั้นเมื่อคืนนี้นอกจำกจะฝันเห็นรำชสี ห์น้ ำแข็งตัวนั้นแล้ว
ต่อจำกนั้นก็ยงั ฝันอะไรที่ไม่ปะติดปะต่อกันอีกด้วย อืม คล้ำยกับจะ
ฝันว่ำเห็นเสี่ ยวซูเฟยกับเสี่ ยวหยวนเฟยอำบน้ ำด้วยกันกระมั้ง?
อิๆๆๆ ….ภำพนั้นมันสวยงำมมำกๆ เลย
ดูเสี ยจนคึกคัก เลยพำลให้ตื่นขึ้นมำ
ตื่นแต่เช้ำมำเห็นใบหน้ำของจีเฉวียน พูดตำมจริ งเถอะ ออกจะบำด
ตำไปสักหน่อย
ฮ่องเต้ที่พ่ งึ จะทรงตื่นบรรทม ไม่ได้ดูแล้วเย็นชำเป็ นน้ ำแข็งเหมือน
ยำมปกติ เส้นพระเกศำยุง่ เหยิงเล็กน้อย ยุง่ เหยิงแบบนี้ควรจะเรี ยกว่ำ
อะไรดีนำ้ ?
ขนฟู………
ใช่ๆ คล้ำยกับขนฟูๆ นั้นเอง ดังนั้นเขำจึงดูเกียจคร้ำนอย่ำงยำกจะมี
ให้เห็น
จีเฉวียนถูกนำงจับจ้องมองดูไม่วำงตำ ทันใดนั้นก็รีบยืน่ พระหัตถ์
ออกไป บังดวงตำของนำงเอำไว้
ถูกกอดเอำไว้ท้ งั คืน ฝ่ ำมือของเขำจึงมีไออุ่นอยูบ่ ำ้ ง ไม่ได้เย็นเฉี ยบ
เหมือนยำมปกติ
ฝ่ ำมือใหญ่ยนื่ ออกมำ ใบหน้ำของตู๋กซู ิงหลันเกือบทั้งหมดล้วนถูก
เขำบังเอำไว้
จีเฉวียนทรงรี บใช้พระหัตถ์อีกข้ำงลูบไล้หำงตำ ยังดี ที่สะอำดอยู่
นับตั้งแต่ที่ครั้งก่อนถูกตู๋กซู ิงหลันบอกว่ำหำงตำของเขำมีสิ่งสกปรก
ทุกวันที่เขำตื่นขึ้นมำสิ่ งแรกที่ตอ้ งทำก็คือล้ำงหน้ำ
วันนี้ยงั ไม่ได้ทนั ล้ำงหน้ำก็เจอกันแล้ว ยิง่ ทำให้ฮ่องเต้ทรงยิง่ เพิ่ม
ควำมระมัดระวังในรู ปลักษณ์ของตนเอง
หืม ไม่มีกด็ ีแล้ว
จำกนั้นเขำจึงค่อยลดมือที่ปิดบังดวงตำของตู๋กซู ิงหลันลง ลุกขึ้นมำ
นัง่ ด้วยใบหน้ำเย็นชำ ” อย่ำได้เอำแต่จอ้ งมองดูเรำ น้ ำลำยของเจ้ำ
เกือบทำเรำจมแล้ว”
ตู๋กซู ิงหลันคิดจะบอกเขำว่ำ เขำเข้ำใจผิดแล้ว
นำงยังไม่ทนั ได้เอ่ยปำก ก็ได้ยนิ เสี ยงฉำงซุนซิ่วดังมำจำกนอก
ตำหนักบรรทมว่ำ ” ฝ่ ำบำท กระหม่อมมำขอเข้ำเฝ้ำ”
จีเฉวียนประทับนัง่ อยูบ่ นเตียง เหลือบพระเนตรมองดูทอ้ งฟ้ำนอก
หน้ำต่ำงที่ยงั ไม่ทนั สว่ำงดี พระพักตร์เกียจคร้ำนที่ดูงดงำมนั้นพลัน
เลือนหำยไปจนสิ้ น
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่ำตนเองกำลังจะกลำยเป็ นมือที่สำมที่ถูกฝ่ ำยหญิง
จับได้คำเตียง จบกัน เมียหลวงมำถึงที่แล้ว
ในใจของนำงตอนนี้โหวงเหวงไปหมดแล้ว
พอนำงเงยหน้ำสบตำมองจีเฉวียน ก็เห็นเขำพลิกตัวลงจำกเตียง ยืน่
มือมำคว้ำตัวนำงไปอุม้ ค่อยผลักหน้ำต่ำงพลิกตัวออกไปทันที
ใต้เท้ำของเขำมีสำยลมพัดผ่ำน ร่ ำงกำยเคลื่อนไหวอย่ำงรวดเร็ ว ตู๋กู
ซิงหลันไม่สำมำรถมองทุกสิ่ งที่อยูด่ ำ้ นข้ำงได้ชดั เจน เพียงรู ้สึกว่ำมี
สำยลมรุ นแรงพัดผ่ำนลำคอไป
ดูท่ำนำงคงจะประเมินจีเฉวียนต่ำไปเสี ยแล้ว เพียงแค่ควำมเร็ วขนำด
นี้ วรยุทธ์ของเขำไหนเลยจะเป็ นแค่พี่ชำยที่อ่อนแอคนหนึ่งได้ มีแต่
จะต้อง…….แข็งแกร่ งอย่ำงยิง่
เพียงแต่วำ่ ยำมปกติไม่เคยเห็นเขำแสดงออกมำเลยสักน้อย อืม เก็บ
ซ่อนได้ดีมำก
ตอนที่ 172 สายพระเนตรของฝ่ าบาทเปลีย่ นเป็ นอ่อนโยนขึน้ มาแล้ว
ดูท่ำนำงคงจะประเมินจีเฉวียนต่ำไปเสี ยแล้ว เพียงแค่ควำมเร็ วขนำด
นี้ วรยุทธ์ของเขำไหนเลยจะเป็ นแค่พี่ชำยที่อ่อนแอคนหนึ่งได้ มีแต่
จะต้อง…….แข็งแกร่ งอย่ำงยิง่
เพียงแต่วำ่ ยำมปกติไม่เคยเห็นเขำแสดงออกมำเลยสักน้อย อืม เก็บ
ซ่อนได้ดีมำก
หำกไม่ใช่เพรำะว่ำอีกนิดเดียวก็จะถูกท่ำนรำชครู จบั ได้แบบคำหนัง
คำเขำ เกรงว่ำเขำก็คงจะยังปิ ดบังต่อไป
พระตำหนักตี้หวั กับตำหนักเฟิ่ งหมิงห่ำงกันไม่ใช่ระยะทำงใกล้ๆ แต่
เขำใช่เวลำเพียงครู่ เดียวก็พำนำงกลับมำถึงได้แล้ว
ท้องฟ้ำยังคงมืดอยู่ กระทัง่ นกกระจอกยังคงหลับอยูใ่ นรังบนต้นไห่
ถำง มันเพียงรู ้สึกว่ำข้ำงกำยมีเสี ยงขยับ บำงสิ่ งก็ผำ่ นไปแล้ว
มันยืดคอน้อยๆ ขึ้นมำมองหำในทันที มองไปมองมำหำอย่ำงไรก็ไม่
พบเจออะไร จึงมุดกลับไปซุกตัวกลมเหมือนเดิม ค่อยผลอยหลับไป
อีก
จีเฉวียนอุม้ ตู๋กูซิงหลันกลับมำที่หอ้ งของนำง วำงลงบนเตียงนอน
” ฝ่ ำบำทเกรงว่ำท่ำนรำชครู จะพบเห็นถึงเพียงนี้เชียวหรื อ? ” ตู๋กูซิงห
ลันซุกตัวลงไปในผ้ำห่ม ยำมเช้ำในฤดูหนำวช่ำงทรมำนผูค้ น
เห็นสี พระพักตร์ของเขำเคร่ งเครี ยด คงเกรงว่ำท่ำนรำชครู จะเข้ำใจ
ผิดขึ้นมำละมั้ง
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่ำเขำทำตัวประหลำดอยูบ่ ำ้ ง ทำงหนึ่งชอบท่ำน
รำชครู ทำงหนึ่งโปรดปรำนเสี่ ยวซูเฟย
อย่ำงที่เขำว่ำพระทัยของฮ่องเต้มีแต่ควำมรักเผือ่ แผ่ไปทัว่ ละมั้ง?
จีเฉวียนไม่ได้ตรัสว่ำกระไร เพียงแต่เสด็จไปยังบำนหน้ำต่ำงเปิ ด
ออกมุมหนึ่ง ทอดพระเนตรมองยังต้นไห่ถำงที่ยงั คงมีหิมะเกำะอยู่
เต็มภำยในตำหนัก
” นับแต่วนั นี้เป็ นต้นไป หำกไม่มีคำอนุญำตจำกเรำ เจ้ำไม่อำจออก
จำกตำหนักเฟิ่ งหมิงด้วยตนเอง” ครู่ ต่อมำพระองค์ค่อยตรัสเสริ ม
ขณะหันพระพักตร์กลับมำ ก็ทอดพระเนตรมองดูนำงด้วยสำยพระ
เนตรลึกล้ ำ
” หำกว่ำยังไม่ฟังคำอีก ข้ำก็ไม่รังเกียจที่จะส่ งเจ้ำไปอยูก่ บั โยวหนิง “
ไม่ได้ยนิ ชื่อของเต๋ อเฟยมำนำนแล้ว แต่พอได้ยนิ พระองค์ตรัสจำก
พระโอษฐ์ ทำให้นำงอยูๆ่ ก็รู้สึกเหน็บหนำวขึ้นมำ
ตรัสแล้วจีเฉวียนก็หนั ไปทอดพระเนตรเจ้ำไก่ขนดำตัวฟูที่อยูใ่ ต้
ต้นไม้ในสวน พอนึกถึงอำกำรบำดเจ็บของนำง ก็ยงิ่ เกิดควำมคิดจะ
เอำเจ้ำไก่น้ นั มำตุ๋นน้ ำแกงขึ้นมำ
เจ้ำไก่ตวั นั้นจะต้องมีรสชำติดีกว่ำน้ ำแกงแม่ไก่แก่ต๋ ุนมำกมำยเป็ น
แน่
ตู๋กซู ิงหลันมองดูเงำหลังของพระองค์ อยูๆ่ ก็เกิดควำมรู ้สึกขึ้นมำว่ำ
บนร่ ำงของเขำกำลังเกิดไอสังหำร
หำกว่ำนำงยังคงออกไปวิ่งวุน่ วำยอยูภ่ ำยนอก จีเฉวียนคงจะต้อง
แขวนศีรษะของนำงเอำไว้บนกำแพงเมืองคอยต้อนรับผูค้ นเป็ นแน่
พอนำงตัดสิ นใจได้แล้วก็ลูบคอเบำๆ กล่ำวออกมำคำหนึ่ง ” รู ้แล้วเพ
คะ “
อย่ำงไรเสี ยในช่วงเวลำสั้นๆ นี้ ร่ ำงกำยจำเป็ นจะต้องพักรักษำตัว
นำงเองก็ไม่ได้อยำกจะไปเสี ยเวลำคิดให้วนุ่ วำย
ฮ่องเต้ทรงได้ฟังแล้ว สำยพระเนตรก็เปลี่ยนเป็ นอบอุ่นไปชัว่ ขณะ
ตรัสเสี ยงเบำคำหนึ่งว่ำ ” เชื่อฟังก็ดี”
ตู๋กซู ิงหลัน ไม่ทนั ได้ยนิ ชัดเจน พระองค์กพ็ ลิกร่ ำงออกจำกหน้ำต่ำง
ไปแล้ว ตู๋กซู ิงหลันเพียงแต่มองเห็นชำยผ้ำพลิ้วผ่ำนหน้ำต่ำงออกไป
เขำก็ไม่ได้อยูท่ ี่นนั่ แล้ว
นำงพิงร่ ำงกับเบำะนุ่มบนเตียง ครุ่ นคิดว่ำต่อไปคงจะต้องยิง่
ระมัดระวังฮ่องเต้องค์น้ ีให้มำกกว่ำเดิม
นำงไม่เข้ำใจเขำเลยแม้แต่นอ้ ย และไม่รู้วำ่ ในร่ ำงของเขำมีควำมลับ
อันใดที่ทำให้คนประหลำดใจซุกซ่อนอยู่
แต่วำ่ ศพคืนชีพที่กลำยเป็ นตัวประหลำดผูน้ ้ นั และยังมีอนั หว่ำนจื
ออีกคน นำงจะต้องสื บออกมำให้ชดั เจน
………………………………………………….
ตู๋กซู ิงหลันสะลึมสะลือจนหลับไปอีกรอบหนึ่ง พอนำงตื่นขึ้นมำ
เชียนเชียนก็เอำดอกไห่ถำงที่พ่ งึ เด็ดใหม่เข้ำมำ
” นำยหญิงเจ้ำคะ เมื่อครู่ หลี่กงกงแวะมำรอบหนึ่ง บอกว่ำฝ่ ำบำท
ทรงมีสิ่งของประทำนให้ท่ำน” เชียนเชียนพูดพลำง ก็ช้ ีไปยังกล่อง
ไม้ที่อยูบ่ นโต๊ะ
ตู๋กซู ิงหลันสัง่ ให้นำงเปิ ดออกดู ก็เห็นว่ำเป็ นเตำอุ่นมือที่ทำจำก
ทองคำและประดับด้วยทับทิม เป็ นชิ้นที่อนั หว่ำนจือถวำยแก่ฝ่ำบำท
นั้นเอง
” นำยหญิงท่ำนเกรงกลัวควำมหนำวหรื อเจ้ำคะ? ทำไมฝ่ ำบำทถึง
ประทำนสิ่ งนี้ให้กบั ท่ำน? ” เชียนเชียนโคลงศีรษะอย่ำงสงสัย
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ไม่เข้ำใจเช่นกัน สิ่ งของของอันหว่ำนจือ ทำไมฝ่ ำ
บำทถึงต้องยกให้นำง?
ของที่เป็ นเหมือนเผือกร้อนเช่นนี้อย่ำได้เก็บเอำไว้นำนจะดีกว่ำ
” จริ งสิ เจ้ำคะ หลี่กงกงยังส่ งโจ๊กกุง้ ซุปไก่และผลไม้หำยำกมำด้วย
ทั้งหมดล้วนวำงอยูใ่ นห้องข้ำงๆ นำยหญิงตื่นแล้วก็รับประทำนสัก
หน่อยเถอะเจ้ำค่ะ”
ตู๋กซู ิงหลันถูกจีเฉวียนข่มขู่จนเคยชินเสี ยแล้ว อยูๆ่ ก็มำเปลี่ยนไป
เช่นนี้ทำเอำนำงรู ้สึกไม่คุน้ เคยขึ้นมำ
เดี๋ยวก่อน ซุปไก่หรื อ?
นำงลงจำกเตียงอย่ำงรี บร้อน อำศัยฝี เท้ำที่ยงั คงอ่อนล้ำเดินไปที่ขำ้ ง
เตียง มองออกไปในสวนกลับไม่เห็นเจ้ำไก่ขนฟูตวั นั้นเลยแม้แต่เงำ
” เจ้ำติ๊งต๊องละ? “
” เมื่อวำนยังเห็นหำหนอนกินอยูใ่ นสวนเลยเจ้ำค่ะ ” เชียนเชียนโยก
ศีรษะไปมำ ” เอ๋ ? ทำไมถึงไม่เจอแล้วนะ แปลกจริ งๆ “
ตู๋กซู ิงหลันรี บฉวยเสื้ อคลุมมำคลุมลงบนตัว เดินออกไปที่หอ้ งข้ำงๆ
บนโต๊ะเต็มไปด้วยอำหำร ไก่ต๋ ุนชำมนั้นยังมีควันร้อนฉุยขึ้นมำอยู่
เลย เนื้อไก่ถูกตุ๋นจนเปื่ อยยุย่ ตู๋กซู ิงหลันอดที่จะคิดถึงภำพเจ้ำติ๊งต๊อ
งถูกเชือดอย่ำงอนำถไม่ได้
แต่ประเด็นสำคัญคือ…….ไก่ต๋ ุนนั้นหอมมำก
เชียนเชียนรี บตักมำให้นำงชำมหนึ่ง ซุปไก่น้ ีถูกตุ๋นอย่ำงใส่ ใจ น้ ำมัน
ลอยถูกตักทิ้งไปหมด แล้วเติมถัง่ เช่ำลงไป นี่เป็ นของบำรุ งที่ดีนกั ดู
แล้วไม่เลี่ยนเลยสักนิด
ตู๋กซู ิงหลันดื่มลงไปทั้งน้ ำตำชำมหนึ่ง พอหมดชำมก็รู้สึกว่ำกระตุน้
กระเพำะอำหำรดีมำก จึงดื่มอีกชำม
วิญญำณทมิฬหมอบดูอยูบ่ นบ่ำของนำง อดรู ้สึกไม่ได้วำ่ ตนเอง
อย่ำได้เปลี่ยนเป็ นร่ ำงเนื้อจะดีกว่ำ ไม่ง้ นั มีหวังเพียงพริ บตำเดียวก็
อำจจะกลำยเป็ นน้ ำแกงในหม้อได้
หลังจำกนั้นผูห้ ญิงบำงคนก็คงจะกินมันลงไปทั้งน้ ำตำ
…………………………………….
ข่ำวที่ฝ่ำบำททรงอุม้ ซูกยุ้ เฟยเข้ำห้องบรรทมและประทำนควำม
โปรดปรำนอยูท่ ้ งั คืน ถูกสำยสื บของบรรดำพระสนมนำควำม
ออกไปเผยแพร่ อย่ำงรวดเร็ ว
เช้ำวันรุ่ งขึ้นในท้องพระโรง ฝ่ ำบำทก็ทรงลงพระนำมในรำชโองกำร
แต่งตั้งให้ซูกยุ้ เฟยเป็ นหวงกุย้ เฟย
ถึงแม้วำ่ จะมีขนุ นำงบำงคนคัดค้ำน แต่กลับถูกฝ่ ำบำทตำหนิกลำง
ท้องพระโรงรอบหนึ่ง คนอื่นๆ จึงไม่มีใครกล้ำพูดอะไรอีก
กลับเป็ นตู๋กซู ิงหลันที่พวกเขำมองว่ำเป็ นนำงมำรมำโดยตลอด ไม่รู้
ว่ำไปกระทำสิ่ งใดให้ฝ่ำบำททรงเคืองพระทัย ถึงได้ทรงมีพระบัญชำ
ให้กกั บริ เวณนำงเอำไว้แต่ในตำหนักเฟิ่ งหมิง
ผูค้ นทั้งหลำยจึงได้เข้ำใจขึ้นมำว่ำ นำงมำรล่มบ้ำนล่มเมืองที่ใดกัน
ไทเฮำน้อยผูน้ ้ นั ที่จริ งแล้วไม่ได้รับกำรจัดอันดับเลยเสี ยด้วยซ้ ำ
สุ ดท้ำยแล้วนำงก็เป็ นเพียงแค่สำวงำมที่ไร้สมองคนหนึ่ง ต่อไปก็คง
ไม่สำมำรถทำเรื่ องใหญ่ใดๆ ได้อีก
ดูอย่ำงซูกยุ้ เฟยเสี ยยังดีกว่ำ นำงพึ่งจะกลับมำไม่ทนั ไร ก็สำมำรถทำ
ให้ฝ่ำบำททรงลุ่มหลงจนไม่รู้ทิศรู ้ทำงได้แล้ว
ในวังหลังมีสำวงำมมำกมำยแต่ฝ่ำบำทกลับมอบพระทัยให้กบั นำง
แต่เพียงผูเ้ ดียว แม้พระสนมอื่นๆ จะชะแง้หน้ำคอยมองสักเท่ำใดก็
ไม่เคยได้รับกำรเหลียวแลจำกพระองค์
นี่ยอ่ มจะทำให้เหล่ำขุนนำงทั้งหลำยที่ส่งบุตรสำวเข้ำวังไปเกิดควำม
ไม่พอใจอยูแ่ ล้ว
เช่นนี้แต่ละคนย่อมต้องเทควำมเกลียดชังลงไปบนซูเม่ย
หย่งเฉิงอ๋ องเองก็กลำยเป็ นศัตรู หลักของส่ วนรวม มีแต่ฟ้ำดินเท่ำนั้น
ที่รู้วำ่ พระทัยของหย่งเฉิงอ๋ องและพระชำยำนั้นตกอยูใ่ นควำม
หวำดหวัน่ เพียงไร
………………..
ซูเม่ยเดินทำงไปยังตำหนักเฟิ่ งหมิง ที่ดำ้ นนอกมีรำชองครักษ์
มำกมำยรอยล้อมอยู่ กองรำชองครักษ์ประจำพระองค์ของฝ่ ำบำทแต่
ละคนล้อมตำหนักเฟิ่ งหมิงเอำไว้อย่ำงคึกคักเข้มแข็ง จนแม้แต่ยงุ สัก
ตัวยังบินผ่ำนเข้ำไปไม่ได้
เป็ นเช่นดังที่ข่ำวภำยนอกร่ ำลือกัน อำหลันถูกคุมขังเอำไว้จริ งๆ
ครั้งก่อนเป็ นเพรำะเขำเอำแต่ใจพำตัวนำงไป ดังนั้นจึงกระตุน้ พระ
พิโรธของฝ่ ำบำทขึ้นมำ ไม่รู้วำ่ ตอนนี้อำหลันอยูใ่ นตำหนักเฟิ่ งหมิง
จะถูกทรมำนจนลำบำกเพียงไร
ซูเม่ยทั้งตำหนิตนเอง ทั้งรู ้สึกโกรธแค้นขึ้นมำ
แต่วำ่ ยำมที่นำงเข้ำไปในพระตำหนักตี้หวั กลับไม่มีผใู ้ ดกล้ำรั้งตัว
นำง
ฝ่ ำบำททรงประทับอยูใ่ นห้องทรงพระอักษร กำลังอ่ำนฎีกำต่ำงๆ อัน
หว่ำนจือถวำยชำแล้ว ก็คอยรับใช้อยูท่ ี่ดำ้ นข้ำง
ฝ่ ำบำทมิได้ทรงไล่นำงออกไป แต่กไ็ ม่ได้ทรงสนพระทัยนำงเช่นกัน
ปล่อยให้นำงต้องเฝ้ำดูพระองค์กบั ซูเม่ยใกล้ชิดสนิทสนมกันอยูท่ ุก
วัน ทุกค่ำคืนก็ร่วมห้อง หัวใจของนำงรำวกับว่ำมีมดนับพันนับหมื่น
ตัวกำลังไต่ไปมำ
แม้วำ่ ท่ำนย่ำจะบอกว่ำให้นำงอดทนไว้ แต่นำงก็ทนต่อไปไม่ไหว
แล้ว
ทุกๆ วันได้แต่เฝ้ำมองดูฝ่ำบำทผูท้ รงงดงำมดุจเทพเซียน หัวใจของ
นำงยิง่ ทียงิ่ กระเพื่อมไม่ยอมหยุด ได้แต่เกลียดที่ตนเองไม่ใช่ซูเม่ย
พอคิดถึงซูเม่ย คนก็เดินเข้ำมำ
ซูเม่ยสวมชุดแดงตลอดร่ ำง ใบหน้ำตกแต่งอย่ำงปรำณี ตบรรจง ดู
งดงำมยัว่ ยวนรำวกับนำงมำรที่ออกมำจำกยมโลก
พอเห็นอันหว่ำนจือนัง่ คุกเข่ำอยูท่ ี่ดำ้ นข้ำงของฝ่ ำบำท นำงก็กล่ำว
เสี ยงเยือกเย็นออกไปว่ำ ” เจ้ำออกไปซะ เรำมีเรื่ องส่ วนตัวจะทูลฝ่ ำ
บำท”
ตอนที่ 173 ในที่สุดเขาก็ยอมรับว่ า……ถูกใจอาหลันเข้ าแล้ ว
อันหว่ำนจือ โกรธจนแทบจะด่ำนำงออกมำ นำงค้อนตำขำวใส่ สตรี
ที่ได้รับควำมโปรดปรำนเป็ นพิเศษและหยิง่ ผยองผูน้ ้ นั มีอะไรน่ำ
อวดหนักหรื อ?
ต้องมีสักวันที่นำงจะได้รับควำมโปรดปรำนเหนือกว่ำ!
นำงทอดสำยตำไปยังจีเฉวียน ด้วยควำมน้อยเนื้อต่ำใจ
จีเฉวียนเพียงแต่กล่ำวด้วยเสี ยงเย็นชำว่ำ “หวงกุย้ เฟยสัง่ แล้ว เจ้ำ ก็ไม่
ขยับหรื อ? “
ท่ำทำงเช่นนั้นเห็นได้ชดั เลยว่ำ ฝ่ ำบำททรงวำงซูเม่ยเอำไว้เป็ นอันดับ
หนึ่ง และเห็นนำงเป็ นเพียงบ่ำวรับใช้
อันหว่ำจรื อ โกรธจนโทสะพลุ่งพล่ำน แต่กไ็ ม่อำจขัดขืน นำงได้แต่
ถอยออกไปอย่ำงไม่ยนิ ยอม จำกนั้นรี บกลับไปที่ตำหนักชำงอู๋เข้ำไป
หำอันหร่ วน
ภำยในห้องซูเม่ยยืนสงบนิ่ง พอมองดูสีพระพักตร์ที่ยงั คงเย็นชำดัง่
เดิมของฝ่ ำบำท ก็เปิ ดหัวข้อสนทนำอย่ำงตรงๆ ว่ำ ” ฝ่ ำบำท เป็ นข้ำที่
พำอำหลันไปเอง พระองค์ทรงกักบริ เวณนำงเพื่ออะไร? “
” เจ้ำว่ำไงล่ะ? ” จีเฉวียนเงยพระพักตร์ หรี่ พระเนตรมอง ท่ำทำง
เช่นนั้นยังดูเป็ นจิ้งจอกเสี ยยิง่ กว่ำซูเม่ยอีก
” ข้ำยอมรับ ข้ำชอบอำหลัน อยำกจะอยูก่ บั นำงตลอดเวลำ ” ซูเม่ย
หงำยไพ่กล่ำวกับเขำ ” พูดกันตรงๆ เลยก็แล้วกัน ตอนนั้นที่ขำ้ เข้ำวัง
มำเป็ นพระสนม ทั้งหมดก็เพื่ออำหลัน”
เขำยืนตัวตรงดุจพูก่ นั ท่ำทำงไม่มีกลัวตำย
” หืม? ” จีเฉวียนทรงปิ ดหนังสื อฎีกำ สำยพระเนตรหงส์จดจ้องไปยัง
เขำ ” ดังนั้นละ? “
ควำมนิ่งเงียบของจีเฉวียนนับว่ำอยูน่ อกเหนือควำมคำดหมำยของเขำ
ไปบ้ำง
ซูเม่ยขมวดคิ้วถำมเบำๆ ว่ำ “ดังนั้นอะไร? “
เขำคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็ตอบคำถำมนั้นว่ำ ” ดังนั้น ขอฝ่ ำบำทอย่ำได้ทรง
รังแกอำหลัน ไม่วำ่ เป็ นเรื่ องใดข้ำก็สำมำรถยอมทำแทนนำงได้ และ
ยินดีจะทำแทนนำง “
พอเขำพูดออกไปแล้ว สี พระพักตร์ของจีเฉวียนก็ยงิ่ เย็นชำกว่ำเดิม
” เจ้ำจะยอมรับแทนนำง? ” จีเฉวียนประทับนัง่ ให้ตรง พระสุ รเสี ยงก็
ยิง่ ทียงิ่ ต่ำลง
” ชีวิตของข้ำนี้สำมำรถมอบออกไปเพื่อนำง ฝ่ ำบำทจะว่ำอย่ำงไร? ”
ซูเม่ยถึงขนำดคุกเข่ำลงแล้วหมอบลงไปที่เบื้องพระพักตร์ สำยตำ
ของเขำมีแต่ควำมมุ่งมัน่ ” ในชีวิตนี้ ข้ำชอบแต่นำงเพียงผูเ้ ดียว ต่อ
ให้ตอ้ งฝ่ ำภูเขำดำบ ข้ำมทะเลเพลิง ถึงตำยก็ไม่หวัน่ ไหว! “
จีเฉวียนทรงได้ฟังแล้ว ก็พระสรวลออกมำ ” ควำมสำมำรถมีไม่มำก
แต่ปำกกลับกล่ำวได้อย่ำงเต็มที่”
พระองค์ถอนพระทัยเสี ยงเย็นคำหนึ่ง ” ซูเม่ย อย่ำได้ลืมเสี ย ตอนนี้
เจ้ำเป็ นหวงกุย้ เฟยของเรำ เป็ นว่ำที่มำรดำขององค์ชำยใหญ่ “
” เจ้ำสำมำรถลำพองเอำแต่ใจ แต่อย่ำได้ลืมว่ำในบ้ำนยังมีบิดำมำรดำ
ทุกวันนี้พวกเขำมีเจ้ำเป็ นบุตรโทน เจ้ำจะเอำชีวิตที่ไหนไปถวำย
ไทเฮำกัน? “
ประโยคเดียวของจีเฉวียน ทำเอำซูเม่ยถึงกับนิ่งงันอยูก่ บั ที่ไป
แต่แล้วดวงตำจิ้งจอกคู่น้ นั ก็ฉุกประกำยเย็นวำบขึ้นมำ ” ข้ำชอบอำห
ลันก็เป็ นเรื่ องของข้ำ ไม่เกี่ยวกับคนในครอบครัว บิดำของข้ำยอม
ลำบำกตรำกตรำเพื่อฝ่ ำบำท ตำมเหตุผลแล้วฝ่ ำบำทย่อมไม่มีทำงไร้
น้ ำพระทัย ทำร้ำยคนในครอบครัวของข้ำ “
” เรำย่อมไม่ไปแตะต้องบิดำมำรดำของเจ้ำ แต่เจ้ำเป็ นบุตรโทนหำก
ว่ำเกิดตำยไป เจ้ำคิดว่ำหย่งเฉิงอ๋ องสำมีภรรยำจะอยูต่ ่อไปได้? “
หัวใจของซูเม่ยเย็นวำบขึ้นมำ ถึงแม้วำ่ ที่ผำ่ นมำเขำล้วนไม่เชื่อฟัง
โอวำท แต่จะอย่ำงไรก็เข้ำใจดีมำตลอดว่ำบิดำมำรดำรักใคร่ เขำถึง
เพียงไร หำกว่ำเขำตำยไป บิดำมำรดำคงแทบจะเสี ยสติ
เขำเหยียดหลังขึ้นตั้งตรง ดวงตำจิ้งจอกคู่น้ นั จดจ้องดวงเนตรหงส์
ของจีเฉวียน โดยปรำศจำกควำมหวำดกลัวแม้แต่นอ้ ย ” ฝ่ ำบำททรง
ดำริ เอำไว้อย่ำงรอบคอบ หรื อจะเป็ นเพรำะว่ำ ในพระทัยของ
พระองค์มีอำหลันอยู่ ถึงไม่อำจยอมให้ขำ้ กับนำงได้ใกล้ชิดกัน? “
คำพูดนี้เขำก็เคยเอ่ยขึ้นมำก่อน แต่วำ่ ก่อนหน้ำนี้ฝ่ำบำทมิได้ทรง
ยอมรับ แต่กำรที่พระองค์ไม่ทรงยอมรับมิได้หมำยควำมว่ำเขำจะไม่
รู ้
จีเฉวียนถูกคำพูดนี้กระเทือนถึงควำมในพระทัยก็จริ ง แต่สีพระ
พักตร์ยงั คงไม่เปลี่ยนแปลง
” ฝ่ ำบำทมีพระประสงค์จะแยกข้ำกับอำหลัน กลับไม่ทรงใส่ พระทัย
ระมัดระวังคนข้ำงพระองค์ ทุกวันนี้เมืองหลวงไร้ควำมสงบ กระทัง่
องค์หญิงใหญ่ยงั มีคนกล้ำแตะต้อง ไม่แน่วำ่ อีกไม่นำน กระทัง่
พระองค์เองก็อำจถูกคนโยกคลอนเข้ำสักวัน “
ซูเม่ยกล่ำวจบ ก็เหลือบตำมองออกไปที่นอกประตู ” ท่ำนผูเ้ ฒ่ำตู๋กู
รบชนะแดนเป่ ยเจียงไปกว่ำครึ่ งแล้ว กำรจะได้ดินแดนเป่ ยเจียงมำ
ทั้งหมดเป็ นเรื่ องช้ำหรื อเร็ วเท่ำนั้น แคว้นต้ำโจวนับว่ำอยูใ่ นอำนำจ
ของเขำตั้งแต่แรก ฝ่ ำบำททรงเป็ นผูน้ ำที่มีปณิ ธำนยิง่ ใหญ่ ไม่จำเป็ น
จะต้องเสี ยเวลำสิ้ นเปลืองพระดำริ ไปกับเรื่ องของหนุ่มสำว”
” มิสู้ทรงสนับสนุนข้ำกับอำหลัน แล้วตั้งพระทัยมุ่งมัน่ ในรำชกิจ
เช่นนี้พระองค์ยอ่ มทรงไร้ซ่ ึงจุดอ่อนใดๆ ในชีวิตอีกแล้ว”
จีเฉวียน ” หึๆๆ ฝันหวำนไปเถอะ ” ผูท้ ี่ไร้จุดอ่อนชีวิตมิอำจสมบูรณ์
พร้อมไปได้
พระองค์เป็ นฮ่องเต้ แต่ขณะเดียวกันก็เป็ นมนุษย์ เป็ นคนที่มีเลือด
เนื้อมีหวั ใจ
ซูเม่ย “…….”..
” ไสหัวกลับไปเป็ นหวงกุย้ เฟยของเจ้ำเสี ย”
” ฝ่ ำบำท ถึงแม้วำ่ พระองค์จะทรงเป็ นฮ่องเต้เป็ นโอรสสวรรค์ แต่วำ่
เรื่ องของอำหลัน ข้ำจะไม่ยอมถอยเด็ดขำด! ” ซูเม่ยไม่ยอมถอย หำก
เขำจะแย่งชิงอำหลันกับพระองค์ ตนเองยอมต้องมีไพ่ตำยอยูอ่ ีกบ้ำง
จีเฉวียนสำดสำยพระเนตรเย็นไปยังเขำ ” คนที่เรำหมำยตำ ผูอ้ ื่นย่อม
ไม่อำจแย่งชิงได้ตลอดกำล ซูเม่ย ควำมสำมำรถของเจ้ำยังไม่พอ “
ซูเม่ยตกตะลึงไป……..ดู! …….ในที่สุดเขำก็ยอมรับแล้วว่ำ……
ถูกใจอำหลัน!
…………………………
ตำหนักชำงอู๋ อันหว่ำนจือไปกระเง้ำกระงอดร่ ำร้องกับอันหร่ วนอยู่
นำนแล้ว
” ท่ำนย่ำ ข้ำถวำยกำรรับใช่ฝ่ำบำทมำก็ต้ งั นำนแล้ว แต่วำ่ พระองค์
กลับไม่ทรงแลมองดูขำ้ ตรงๆ เลยสักครั้ง หำกปล่อยไปอย่ำงนี้
เมื่อไหร่ ขำ้ ถึงจะได้เป็ นพระสนมกัน? “
น้ ำตำของนำงริ นไหลอย่ำงไม่คิดชีวิต
” ทุกวันนี้ในพระทัยของพระองค์มีแต่ซูเม่ย ซูเม่ยนัน่ ก็เป็ นนำง
จิ้งจอกแท้ๆ ฝ่ ำบำทถูกมันยัว่ จนหลง ไม่สนใจข้ำเลยสักนิด”
อันหร่ วนนัง่ คุกเข่ำอยูท่ ี่เบื้องหน้ำพระพุทธรู ป สวดเม็ดประคำในมือ
เสี ยงเบำๆ
ในใจของนำงตอนนี้คิดแต่จะสื บเสำะทรำบให้จงได้วำ่ สตรี ใต้
หน้ำกำกผูน้ ้ นั คือใครกัน จำกควำมเห็นที่ได้รับมำของเฮยโยว (黑
幽= ควำมเงียบงันอันดำมืด) ในร่ ำงของสตรี ที่สวมหน้ำกำกผูน้ ้ นั มี
กลิ่นอำยของหยกสรรพชีวติ
นี่เป็ นกำรค้นพบที่น่ำแปลกประหลำดนัก
นำยท่ำนติดตำมรวบรวมเศษเสี้ ยวของหยกสรรพชีวิตนี้มำโดยตลอด
ถึงวันนี้กส็ ำมำรถรวบรวมมำได้เกือบครึ่ งชิ้นแล้ว คิดไม่ถึงว่ำ ในร่ ำง
ของสตรี ในเมืองหลวง จะมีกลิ่นไอของหยกสรรพชีวิตที่เข้มข้นอยู่
อีกทั้งยังมีควำมสำมำรถที่จะต่อสู ้กบั เฮยโยวที่เป็ นศพคืนชีพกลำย
ร่ ำงไปแล้วได้ดว้ ย
เป็ นผูใ้ ดกัน?
หลำยวันนี้ เฮยโยวและพวกกำลังตำมหำเบำะแสของสตรี ผนู ้ ้ นั แต่
กลับไม่พบสิ่ งใดเลยสักนิด
พอตอนนี้ตอ้ งมำทนฟังเสี ยงคร่ ำครวญของอันหว่ำจรื อ ในใจของ
นำงก็ข่นุ ข้องรำคำญนัก
” ท่ำนย่ำ ท่ำนพูดอะไรสักอย่ำงสิ ! ” อันหว่ำนจือร้อนใจใหญ่แล้ว ”
หำกปล่อยไปอย่ำงนี้ วังหลังทั้งหมดก็คงกลำยเป็ นสรวงสวรรค์ของ
ซูเม่ยไปแล้ว ขนำดตอนนี้นำงยังไม่ยอมละเว้นข้ำเลยสักนิด ภำย
หน้ำไม่แน่วำ่ อำจจะไล่ขำ้ ออกจำกวังไปก็ได้นะ “
อันหร่ วนยังคงสวดประคำในมือต่อไป จิตใจของนำงเคร่ งเครี ยด
รอยยับย่นบนใบหน้ำก็ยงิ่ ลึก ” ในเมื่อเป็ นเช่นนี้ เจ้ำก็ยงิ่ ต้องชิง
ตั้งครรภ์ให้ได้ก่อนซูเม่ย ขอเพียงแค่เจ้ำคลอดองค์ชำยใหญ่ออกมำ
วังหลังย่อมจะต้องเป็ นของเจ้ำแต่เพียงผูเ้ ดียว”
เดิมทีนำงคิดจะให้หว่ำนจรื อใกล้ชิดจนเกิดควำมผูกพันทำงใจขึ้นมำ
อำศัยรู ปลักษณ์ของหว่ำนจรื อที่คล้ำยคลึงกับฉำงซุนฮองเฮำอยูส่ ำม
ส่ วน บวกกับกำรรับใช้ใกล้ชิดอยูท่ ุกเมื่อเชื่อวัน นำงก็คิดว่ำไม่ชำ้ ไม่
นำนฝ่ ำบำทจะต้องทรงรักหว่ำนจรื อเข้ำสักวัน
แต่วำ่ ดูท่ำนำงจะประเมินน้ ำพระทัยของฝ่ ำบำทต่ำไปแล้ว
อันหว่ำนจือได้ฟังแล้ว ดวงตำคู่น้ นั ก็ทอประกำยขึ้นมำ ” ตั้งครรภ์?
ท่ำนย่ำ ข้ำจะไปเอำควำมสำมำรถมำจำกที่ไหนกัน …..ฝ่ ำบำท อย่ำ
ว่ำแต่สมั ผัสข้ำเลย แม้แต่มองก็ยงั ไม่ทรงยอมมองข้ำ”
ใบหน้ำที่ยบั ย่นของอันหร่ วนปรำกฎรอยยิม้ ” เจ้ำคอยถวำยพระสุ ธำ
รสให้กบั ฝ่ ำบำทอยูท่ ุกวันยังจะไม่มีโอกำสอีกหรื อ? “
พูดแล้ว นำงก็ลว้ งเอำขวดยำสี อ่อนออกมำใบหนึ่ง
” นี่เป็ นยำเสน่ห์ ไร้สีไร้กลิ่น แม้แต่พวกหมอก็ไม่มีทำงตรวจออกได้
ขอเพียงฝ่ ำบำมทรงดื่มลงไป ย่อมต้องบังเกิดควำมต้องกำรขึ้นมำ ”
อันหร่ วนพูดแล้ว ก็ส่งยำขวดนั้นให้กบั อันหว่ำนจือ
จำกนั้นก็ดึงฝ่ ำมือของอันหว่ำนจือเข้ำมำพลำงกล่ำวว่ำ ” ถึงตอนนั้น
ในสำยพระเนตรของพระองค์ เจ้ำก็จะกลำยเป็ นคนที่พระองค์ทรง
ปรำรถนำที่สุด “
ตอนที่ 174 ไทเฮาน้ อยผู้ทรงยืนอยู่เคียงข้ างจีเฉวียน

” เช่นนั้นก็คือจะให้ขา้ กลายเป็ นตัวแทนของซูเม่ยหรื อ? ” อันหว่านจือ


ไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก ” หากว่าจบเรื่ องแล้วพระองค์ไม่ยอมรับเล่าจะ
ทาเช่นไรเจ้าคะ? “

” อีกไม่เท่าไหร่ ก็จะสิ้ นปี แล้วมิใช่หรื อ? หากว่าทุกคนล้วนได้เห็นว่า


ฝ่ าบาททรงได้ตวั เจ้าไปแล้ว พระองค์จะทรงปฏิเสธได้หรื อ? “

…………………..

ว่ากันตามโบราณราชประเพณี ของต้าโจว ยามสิ้ นปี ในวังย่อมต้องมี


งานเลี้ยงพระราชทานใหญ่โต

นี่ เป็ นปี ใหม่แรกนับตั้งแต่ที่ฝ่าบาททรงขึ้นครองราชย์ แม้ว่าจะอยู่


ในช่ วงที่ ตอ้ งไว้ทุกข์ถวายอดี ตฮ่อ งเต้ ไม่อ าจจัดงานอย่างใหญ่โต
โอ่อ่า แต่วา่ พิธีการที่ควรจะมีลว้ นไม่อาจงดเว้นไปได้
เชื้อพระองค์ ขุนนางใหญ่ ยังมีเหล่าอ๋ องจากเขตแดนต่างๆ ย่อมต้อง
ทยอยกันมาร่ วมถวายพระพร

ในพระตาหนักจิ่นซิ่ วอบอวลไปด้วยไอมงคล ดอกไม้ประดิษฐ์สีแดง


ดอกใหญ่ถูกประดับเอาไว้เต็มไปหมด เปลวเที ยนในโคมมังกรก็
ลุกโชนส่ องประกาย

เหล่ า นัก ดนตรี ใ นวัง ถู ก แบ่ ง เป็ นสองสาย ผลัด กัน บรรเลงดนตรี
ไพเราะตั้งแต่เช้า

ตู๋กซู ิ งหลันพักผ่อนอยูแ่ ต่ในตาหนักเฟิ่ งหมิงมานานหลายวัน ร่ ายกาย


ก็ฟ้ื นฟูไปมากแล้ว ยาของหมอหลวงซุนทาเอานางง่วงงุนอยูต่ ลอด
นอนอย่างไรก็ยงั รู ้สึกว่ายังไม่เต็มอิ่ม ยากนักที่นางจะตื่นแต่เช้าขึ้นมา
ได้ พอลุกขึ้นมาก็เห็นหลี่กงกงพาคนเข้ามากลุ่มหนึ่ง

หลี่กงกงน้อมคานับนางด้วยหน้าตาที่สดชื่น ” ไทเฮาพะย่ะค่ะ วันนี้


จะมี ง านเลี้ยงพระราชทานสิ้ นปี พระองค์ตอ้ งทรงเสด็จไปยังพระ
ตาหนักจิ่นซิ่ วเพื่อร่ วมงาน”
พูดแล้ว ก็ให้คนนาเอาฉลองพระองค์ชุดใหม่ของไทเฮาเข้ามา เป็ น
ชุดสี ทองที่งดงาม อีกทั้งยังมีมงกุฎหงส์ของไทเฮา ที่ประดับด้วยพู่
ทองถึงสิ บสองสาย สวยงามอย่างที่สุด

นับตั้งแต่ที่จีเฉวียนทรงกักบริ เวณนางเอาไว้ในตาหนักเฟิ่ งหมิง มีคน


ในวังไม่นอ้ ยที่มองเห็นนางเป็ นเพียงตัวตลก ล้วนเป็ นเพียงพวกหญ้า
บนสันกาแพง ตู๋กซู ิ งหลันเองก็เคยเห็นมามากแล้ว จึงมิได้ใส่ ใจ กลับ
เป็ นหลี่กงกง ที่ยงั คงมองนางด้วยรอยยิม้ ดุจเดิม

หลี่กงกงเกรงว่านางจะโกรธเกลียดฝ่ าบาทเพราะเรื่ องที่ถูกกักขัง จึง


กล่าวว่า ” วันนี้ ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตก็เข้าวังมาด้วยพะย่ะค่ะ หลังผ่านปี
ใหม่แล้วก็คงจะต้องกลับไปออกรบที่เป่ ยเจียงอีกแล้ว พวกท่านพี่ชาย
น้องสาวก็คงจะไม่ได้พบกันอีกนาน ขอไทเฮาทรงแต่งพระองค์ให้
งดงามเป็ นพิเศษ มิให้ท่านแม่ทพั ต้องเป็ นกังวลในตัวท่าน”

เรื่ อ งอาการบาดเจ็บของพี่ใ หญ่ ทุกวันเสี่ ยวหยวนเฟยเป็ นต้อ งหา


หนทางมาแจ้งข่าวแก่นาง ไม่รู้ว่าเป็ นคนที่หล่อขึ้นจากเหล็กหรื อไร
เพียงเวลาไม่นานก็ฟ้ื นฟูได้เร็ วยิง่ นัก เมื่อเป็ นเช่นนี้ นางก็สบายใจขึ้น
ได้มาก
พระตาหนักจิ่นซิ่ ว หยวนเฟยกับตู๋กจู ุนมาถึงในเวลาเกือบจะพร้อมๆ
กัน หยวนเฟยยังคงสวมใส่ เสื้ อผ้าของสตรี ชาวหนานเจียง ระหว่าง
นางกับตู๋กูจุนมีผคู ้ นหลายคนกั้นขวางอยู่ จึงไม่อาจมองเห็ นเขาได้
บ่อยครั้ง

หลายวันมานี้ นางเป็ นต้องออกนอกวังไปเยี่ยมเยียนเขาทุกวัน ยิ่งได้


ใกล้ชิดก็ยงิ่ รู ้สึกว่าขนหน้าอกของท่านแม่ทพั ผูน้ ้ ียงิ่ น่าเย้ายวน

หงิงๆๆๆ ………

พอตู๋กจู ุนมาถึง สี หน้าของผูค้ นมากมายก็ไม่สู้ดี

เมื่อหลายวันก่อน ไทเฮาทรงถูกกักบริ เวณ ตู๋กูจุนเองก็ได้รับบาดเจ็บ


ฟั งว่าหนักหนาจนเกือบตาย ดังนั้นบารมีของตระกูลตู๋กูในช่วงนี้ จึง
ตกต่าลงไปไม่นอ้ ย

ดูเอาสิ เกิ ดเป็ นคนก็อย่าได้ลอยจนสู งส่ งเกิ นไปนัก มิเช่นนั้นแม้แต่


สวรรค์ก็อาจจะเขม่นเข้าได้
องค์หญิงใหญ่ทรงเสด็จมาถึงก่อนพวกเขามากนัก นางประทับนัง่ อยู่
ก่อนแล้ว พอนางหันไปทอดพระเนตรมองตู๋กูจุน ตู๋กูจุนก็มองมาที่
นางอยูเ่ ช่นกัน ดวงตาของคนทั้งสองต่างก็สบตากัน

คนหนึ่งแฝงความเกลียดชัง คนหนึ่งแฝงความห่วงใย

หยวนเฟยล้วนมองเห็นทั้งหมด ในใจของนางก็รู้สึกว่าตู๋กูจุนช่างน่า
สงสาร

ยามที่เขาได้รับบาดเจ็บนั้น ยังคงคอยห่วงใยองค์หญิงใหญ่อยูท่ กุ เวลา


นาที อี ก ทั้ง ยัง สั่ ง ให้เ หล่ า ลูก น้อ งที่ มี ฝี มื อ ดี ที่ สุด ไปคอยคุ ้มครอง
องค์หญิง แต่วา่ องค์หญิงใหญ่กลับไม่ทรงรับน้ าใจ

วันนี้ หย่งเฉิ งอ๋ องสองสามีภรรยาก็เข้าวังมาเช่นกัน หย่งเฉิงอ๋ องยังคง


จดจารับสั่งของฝ่ าบาทได้ จึงได้นาดอกซิ่ วชิวฮวาสองต้นที่ใหญ่เป็ น
พิเศษมาด้วย ต้นไม้ถูกห่อมาอย่างดีอยูใ่ นกระถาง รอจนจบงานเลี้ยง
พระราชทานแล้วจึงจะส่ งเข้าไปถวายตาหนักเฟิ่ งหมิง

พระชายาประทับนั่งอยูข่ า้ งกายท่านอ๋ อง นางกวาดเนตรมองไปทัว่


ในที่ สุดก็เห็ นเจ้าลูกตัวร้ายของตนในชุ ดแดงเพลิง แต่ง หน้าอย่าง
ประณี ตงดงาม เข้ามาในงานภายใต้สายตานับพันของผูค้ นโดยมีนาง
กานัลคอยประคับประคอง

พระชายาอดที่จะนวดคลึงขมับของตนเองไม่ได้ ท่วงท่าการย่างกราย
ของเจ้าลูกตัวร้าย แม้แต่สตรี จริ งๆ ก็ยงั เย้ายวนสู ้เขาไม่ได้เลย

หย่งเฉิงอ๋ องเองก็มีสีหน้าที่ยากจะบรรยายได้

พอซูเม่ยเข้ามาในตาหนักจิ่นซิ่ วก็คลี่ยิ่มให้ผคู ้ นทั้งหมดรอบหนึ่ ง ทา


เอาคนทั้งหลายวิญญาณหลุดลอย ทั้งยังลอบก่นด่าว่าเขาเป็ นนางมาร
ตัวจริ ง

แต่ก็มีไม่น้อยที่พุ่งเข้ามาประจบประแจงเขา สรรเสริ ญที่เขาได้รับ


ความโปรดปรานแต่เพียงลาพัง ทั้งยังสนับสนุ นให้มีองค์ชายน้อ ย
โดยเร็ ว เพื่อจะได้ข้ ึนเป็ นฮองเฮา

อีกทั้งยังไม่ลืมที่จะทับถมตู๋กูซิงหลัน โฉมงามอันดับหนึ่ งที่ไหนกัน


ได้เข้าไปอยูต่ าหนักเฟิ่ งหมิงแล้วอย่างไร ได้แต่เป็ นหญิงม่ายที่ไม่มี
ผูใ้ ดรัก แก่เฒ่าไปแต่เพียงลาพัง
ซู เม่ยชักจะอารมณ์ ไม่ดีข้ ึนมาแล้ว ใครบอกว่าอาหลันไม่มีผใู ้ ดรั ก
ใครกัน? เขาไม่ใช่คนหรื ออย่างไร?

พวกนี้ คิดว่าที่ เขาแต่งหน้าแต่งตามาอย่างงดงามก็เพื่อให้ใครชมดู


กัน? ยัง ไม่ใ ช่ เพราะว่าอาหลันชมชอบสิ่ งสวยงามที่สุดหรอกหรื อ
ดังนั้นของเพียงเขาได้ปรากฎตัวที่เบื้องหน้าอาหลันเมื่อใด ย่อมต้อง
งดงามอย่างที่สุดอยูเ่ สมอ

พวกที่คอยมาประจบประแจงเขายังคงเข้าใจไปว่าเขาหงุดหงิดใจที่
ถูกนาไปเปรี ยบเทียบกับตู๋กูซิงหลัน จึงยิ่งพากันเหยียบย่าซ้ าเติมตู๋กู
ซิ งหลันเข้าไปอีก

” หวงกุย้ เฟยพะย่ะค่ะ ถึงวันนี้ไทเเฮาก็ทรงถูกกักบริ เวณไปแล้ว เกรง


ว่างานเลี้ยงพระราชทานในวันนี้คงไม่อาจมาร่ วมได้แล้ว”

” ใช่เพคะ ในสายพระเนตรของฝ่ าบาทมีแต่ท่านเพียงผูเ้ ดียว นี่ ไม่ใช่


เท่ากับว่า วังหลังที่มีพระสนมสามพันนั้นพระองค์มิไม่ทรงเหลียวแล
ผูใ้ ดเลยดอกหรื อเพคะ”
” ต่อให้ไทเฮาเสด็จมาจริ ง ไหนเลยจะยังมาแข่งขันกับท่านได้อีก?
ฉายาโฉมงามอันดับหนึ่ ง ของต้าโจว ก็เป็ นเพียงเพราะในยามนั้น
ตระกูลตู๋กูมีกาลังแข็งแกร่ งหรอก ถึ ง ได้ยกนางขึ้ นมาอวดโอ้ก็เท่า
นั้นเอง”

” ใช่แล้วๆ พระสนมต่างหากจึงจะเป็ นโฉมงามอันดับหนึ่ง! “

พวกเขาย่อมไม่กล้ากล่าวเสี ยดังจนเกินไป เพราะอย่างไรตู๋กจู ุนที่คอย


ปกป้ องคนในครอบครัวอยูเ่ สมอก็อยูใ่ นที่น้ ีดว้ ย หากว่าถูกเขาได้ยนิ
ขึ้นมาคงจะเป็ นเรื่ องอีกมิใช่นอ้ ย

ซูเม่ยสาดสายตาเย็นชาใส่ พวกเขารอบหนึ่ ง จดจารู ปร่ างหน้าตาของ


พวกเขาแต่ละคนเอาไว้เป็ นแม่นมัน่ ต่อไปทุกๆ วันยามอยูใ่ กล้จีจวน
จะคอยรายงานเรื่ องชัว่ ช้าของคนกลุ่มนี้ จากนั้นก็มิได้ใส่ ใจคนพวกนี้
อีก เพียงนัง่ ลงในที่ของตนเอง

ฐานะของหวงกุย้ เฟยย่อมสูงส่ง ที่ประทับย่อมอยูด่ า้ นข้างของฝ่ าบาท


อันหร่ วนมีฐานะเป็ นแม่นมของฉางซุนฮองเฮา อีกทั้งยังเป็ นพระพี่
เลี้ยงในยามเยาว์วยั ของฝ่ าบาท ที่นงั่ ของนางย่อมไม่อาจต่าต้อยไปได้
ย่อมอยูท่ ี่ดา้ นข้างของหวงกุย้ เฟยนัน่ เอง

นับตั้งแต่ที่ซูเม่ยก้าวเข้ามา นางก็คอยจับตาดูอยูแ่ ล้ว

ซู เม่ยหันมาสบตากับนางครั้งหนึ่ ง ” บนใบหน้าของข้ามีขนมเปี๊ ยะ
ชิ้นโตหรื ออย่างไร หมัวมัวถึงได้จบั จ้องมองไม่เลิก? “

” วัน นี้ หวงกุ้ยเฟยงดงามเหนื อ ธรรมดา ข้า ผูเ้ ฒ่ า มองเพลิ นไปสัก


หน่ อย กุย้ เฟยไยจะต้องถือสา ” อันหร่ วนกล่าวแล้ว ก็กวาดสายตา
มองไปทางอื่น

พึ่งจะละสายตาจากมา นางก็ได้ยนิ เสี ยงผูค้ นสูดลมหายใจเข้าไปอย่าง


เหน็บหนาว เห็นที่หน้าประตูพระตาหนักจิ่นซิ่ ว มีเงาร่ างสี ทองสอง
เงากาลังผ่านเข้ามา

ฝ่ าบาททรงฉลองพระองค์มงั กรทองตลอดทั้งพระองค์ บนพระเศียร


ทรงพระมาลา ทั้งสายพระเนตรและพระขนงเปล่งประกายด้วยพระ
บารมีของกษัตริ ย ์
เดิมที่พระองค์ก็ทรงมีพระสิ ริโฉมงดงามอยูแ่ ล้ว ยามนี้ ตลอดทั้งร่ าง
ยิง่ กาจายรัศมีของฮ่องเต้ออกมา จึงยิง่ นับว่าสู งส่ งหาที่ใดเปรี ยบ ไม่
ว่าผูใ้ ดที่คิดจะไปยืนอยู่ใกล้ก็มีแต่ตอ้ งหมองราศีไปจนหมด แต่ว่า
สตรี ที่ยนื อยูเ่ คียงข้างพระองค์ในยามนี้กลับสง่างามแช่มช้อย

นางสวมชุดหงส์สีทองเช่นเดียวกันกับฮ่องเต้ บนศีรษะมีมงกุฎหงส์ที่
ประดับด้วยพู่ทองทั้งสิ บสองสาย ใบหน้างดงามอ่อนหวานอย่างหา
ใดเปรี ยบ ริ มฝี ปางเล็กบาง คิ้วดัง่ คันศร มงกุฎหงส์ที่งดงามประณี ตก็
ยิง่ ส่ งเสริ มความความงามสง่าของนางจนไร้ผใู ้ ดจะเปรี ยบได้

สตรี ผนู ้ ้ ี เมื่อยืนอยูเ่ คียงข้างฝ่ าบาทแล้ว ก็มิได้ถูกเปรี ยบเทียบว่าดูดอ้ ย


ไปกว่า กลับยิง่ ส่ งเสริ มพระบารมีให้ยงิ่ ใหญ่เรื องรองกว่าเดิม

นอกจากคาว่างดงามหาใดเปรี ยบ สู งส่ งเหนือธรรมดาแล้ว พวกเขาก็


ไม่รู้วา่ จะสรรหาคาใดมาบรรยายได้อีก
กลุ่มคนที่พ่ งึ จะเหยียบยา่ ตู๋กซู ิ งหลันอยูเ่ มื่อครู่ เป็ นต้องปากอ้าตาค้าง

นี่คือ…….ตู๋กซู ิ งหลันหรื อ? ไทเฮาน้อยที่ถูกกักบริ เวณเอาไว้ผนู ้ ้ นั ?

ทาไมนางถึงได้เสด็จมาพร้อมกับฝ่ าบาทได้กนั ? อีกทั้งยังแต่งกายเข้า


กันอีกด้วย!
ตอนที่ 175 ที่สุดแห่ งความโปรดปราน

มีบางคนเกิดมา ไม่ตอ้ งเติมเสริ ม เพียงแต่งหน้าอย่างเบาบางก็งดงาม


อยูแ่ ล้ว ตู๋กซู ิ งหลันก็เป็ นเช่นนี้

ยามปกตินางมิได้แต่งหน้า ก็งดงามดุจนางฟ้านางสวรรค์ ยามนี้ เมื่อ


แต่งตัวมาอย่างเพียบพร้อม ต่อให้ซูเม่ยดูงดงามเย้ายวนเพียงไร ก็ยงั
ไม่อาจเปรี ยบเทียบกับนางได้

เมื่อฮ่องเต้กบั ไทเฮาประทับยืนเคียงข้างกัน ผูอ้ ื่นก็ได้แต่ตอ้ งถอยไป


อยูด่ า้ นข้างกลายเป็ นเพียงไม้ประดับเท่านั้น

หวงกุย้ เฟยซูเม่ยที่กลายเป็ นไม้ประดับ ยามนี้ ดูไปแล้วก็เป็ นเพียงแค่


ภรรยาน้อยเท่านั้น

เขาจดจ้องมองดูต๋ กู ซู ิ งหลัน นับตั้งแต่ที่เขากลับเข้าวังมา ก็แทบจะไม่


มีโอกาสได้เห็นตู๋กูซิงหลันแต่งกายเช่นนี้ แต่ไม่ว่าจะแต่งกายเช่นไร
นางก็ดูงดงามที่สุดอยูเ่ สมอ
เพียงแต่…….ฮ่องเต้ที่ประทับอยู่ขา้ งกายนั้น ดูไปแล้วช่างบาดลูก
นัยตานัก

ผูอ้ ื่นต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน ตู๋กซู ิ งหลันนั้นเป็ นไทเฮาแท้ๆ ทาไม


พวกเขาดูอย่างไรก็รู้สึกว่านางคือฮองเฮาที่แท้จริ งต่างหาก

ฉลองพระองค์ของทั้งสองพระองค์เป็ นสี เดียวกัน ราวกับว่าผ่านการ


นัดแนะกันมาอย่างดี ดูเหมาะสมกันเป็ นอย่างยิง่

ผูค้ นทั้งหมดล้วนจดจ้องไปที่ท้ งั สองพระองค์ ด้วยเกรงว่า หากไม่


ระมัดระวัง ภาพที่งดงามเบื้องหน้านี้ก็อาจจะมลายหายไป

ตู๋กูซิง หลันนั้น’บังเอิ ญ ’ได้พบจี เฉวียนเสด็จมาถึ งที่ ดา้ นนอกของ


ตาหนักจิ่นซิ่ วพอดี

ยามที่มองเห็ นเขานั้นนางเองก็ตะตกลึงไปเช่นกัน พวกเขาแต่งกาย


เช่นนี้ดูแล้วคล้ายกับคู่รักที่ใจตรงกันเกินไปแล้ว

เดิมทีต๋ ูกูซิงหลันคิดจะกลับไปเปลี่ยนชุด แต่กลับถูกเขาคว้าข้อมือ


เอาไว้จูงไปที่ตาหนักจิ่นซิ่ วในทันที ” ไทเฮา วันนี้งามสง่านัก”
พระพัก ตร์ ที่ เ ย็น ชาเป็ นภู เ ขาน้ าแข็ ง อยู่เ สมอแย้ม สรวลออกมา
รู ป ลัก ษณะภายนอกของเจ้า ฮ่ อ งเต้สุ นัข ผูน้ ี่ มี แ ต่ ท าให้ผูค้ นต้อ ง
หลงใหลจนคนตายไป! “ นี่เป็ นครั้งแรกที่เราได้เห็นเจ้าแต่งกายอย่าง
เต็มพิธีการ ” ตลอดทางที่ เสด็จมา จี เฉวียนทรงกุมข้อ มื อ ของนาง
เอาไว้ไม่ยอมปล่อย คนทั้งสองเดินผ่านทางเดินยาวที่ประดับประดา
ด้วยดอกไม้งดงาม ดูราวกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่กาลังจะเข้าไปกราบไหว้
ฟ้าดินด้วยกัน

“หลายวันมานี้ อยูใ่ นตาหนักเฟิ่ งหมิงได้พกั ผ่อนอย่างดี น้ าแกงไก่ต๋ นุ


นั้นถูกปากดีหรื อไม่? “ ตู๋กูซิงหลัน ” ติ๊งต๊องถูกท่านจับตุ๋นไปแล้ว
หรื อ? “ จีเฉวียน ” เจ้ามิใช่วา่ ดื่มกินอย่างเอร็ ดอร่ อยหรอกหรื อ? “

ตู๋กซู ิ งหลัน “……..”

ภายใต้สายตาที่ของผูค้ นที่คุกเข่าลงถวายความเคารพ จีเฉวียนยังคง


เกาะกุมข้อมือของนางเอาไว้ นาเสด็จนางไปยังเบาะนัง่ ข้างที่ประทับ
ของฮ่องเต้
วันนี้ ยามที่ทุกคนเข้ามาในงานนั้น ต่างก็มองเห็นที่นงั่ อันนั้นอยูแ่ ล้ว
หากจะบอกว่าเป็ นที่นงั่ ที่ใกล้ฮ่องเต้มากที่สุด มิสู้บอกว่าประทับนัง่
ลงด้วยกันจะดีกว่า

ก่อนหน้านี้ พระตาหนักจิ่นซิ วไม่เคยมีที่ประทับเช่นนี้มาก่อน!

เดิมทีตอนแรกยังไม่มีผใู ้ ดเข้าใจว่าที่ประทับเช่นนั้นมีไว้เพื่อการใด
ยามนี้ พอเห็ นไทเฮาน้อยประทับนั่งลงไป อีกทั้งยังเกิดจากการที่ฝ่า
บาททรงนาเสด็จมาด้วยพระองค์เอง พวกเขาต่างก็ยงิ่ ไม่เข้าใจเข้าไป
ใหญ่แล้ว นี่มนั เรื่ องอะไรกันแน่?

ถึงกับเลือกที่จะแสดงออกในงานเลี้ยงพระราชทานที่สาคัญเช่นนี้!

ตู๋กูจุนเองก็มองดูอยู่ แน่นอนว่าเขาย่อมรู ้ว่าทาไมจีเฉวียนถึงได้ทรง


ทาเช่นนี้

ท่านปู่ อยูท่ ี่แดนเป่ ยเจียงได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่ อง จีเฉวียนนั้นแต่


ไหนแต่ไหนก็ชานาญเรื่ องการรักษาหน้าตาอยูแ่ ล้ว ก็เหมือนกับตอน
ที่เขาพึ่งจะกลับตอนนั้น อย่างน้อยๆ เขาจะต้องไม่ปล่อยให้พวกตน
รู ้สึกว่าเขาละเลยน้องเล็ก
อันหร่ วนมองดูต๋ ูกูซิงหลัน หลังจากที่กลับเข้าวังมานี่ เป็ นครั้งแรกที่
นางได้เจอตู๋กซู ิ งหลัน

นางได้ยินชื่ อเสี ยงความงามนี่ มาตั้งนานแล้ว ยามนี้ เมื่อได้มาพบตัว


จริ งก็ยงั อดที่จะประหลาดใจจนชะงักไปไม่ได้

ความงามที่เย้ายวนของซูเม่ยเดิมทีก็เพียงพอให้ผคู ้ นตื่นตะลึงอยูแ่ ล้ว


แต่ความงามของสตรี ผนู ้ ้ ี ราวกับนางเซี ยนที่มีอยูแ่ ต่ในสรวงสวรรค์
เท่านั้น

นางหรี่ ดวงตาลง จิ บ น้ าชาในมื อ อย่า งช้า ๆ หลัง กลับ เข้า วัง มา


เรื่ องราวที่สมควรจะสอบถามนางล้วนสื บความมาจนกระจ่างชัดแล้ว

ทั้งเต๋ อเฟยและ เสี ยนไท่เฟยก็ลว้ นพ่ายแพ้ลม้ ลงด้วยฝี มือของสตรี ผนู ้ ้ ี

ทั้งที่เป็ นเพียวสาวน้อยอายุสิบกว่าปี เท่านั้น แต่กลับมีจิตใจลึกซึ้ งร้าย


ลึกจนสุ ดหยัง่

ว่าแต่น่าเสี ยดายตัวหมากอย่างเสี ยนไท่เฟยยิง่ นัก เดิมทีทุกอย่างล้วน


เป็ นไปตามที่นายท่านได้วางอุบายเอาไว้ แต่เพราะไทเฮาน้อยผูน้ ้ ี ทุก
สิ่ งจึงวุน่ วายไปหมด
นางมองดูเหตุการณ์ โดยมิ ได้ส่งเสี ยง ทั้ง มองไปยังตู๋กูซิงหลัน ทั้ง
เหลือบดูจีเฉวียน

สิ่ ง ที่ ผู ้อื่ น ล้ว นมองไม่ อ อก แต่ ว่ า นางกลับ สั ง เกตเห็ น แววตาที่


ประหลาดไปของฝ่ าบาทได้

แม้ว่ า พระองค์จ ะยัง ทรงเย็น ชาเหมื อ นดั่ง ยามปกติ แต่ ว่ า ยามที่


ทอดพระเนตรไปยังตู๋กซู ิ งหลัน สายพระเนตรนั้นแฝงความอบอุ่นอยู่
เสมอ

สายพระเนตรเช่นนั้น เทียบกับยามที่พระองค์ทอดพระเนตรไปยังซู
เม่ยแล้วช่างแตกต่างกันอย่างยิง่

ที่จริ งแล้ว…..นับตั้งแต่ที่พระองค์เสด็จเข้ามาในตาหนักจิ่นซิ่ วนั้น ก็


มิได้ทรงทอดพระเนตรมายังซูเม่ยเลยด้วยซ้ า นี่นะหรื อสิ่ งที่พระสนม
ผูเ้ ป็ นที่โปรดปรานได้รับ?

ทันใดนั้นอันหร่ วนก็เกิดความรู ้สึกขึ้นมา…….พระสนมผูเ้ ดียวที่ทรง


โปรด หรื อว่า เป็ นเพียงหุ่นเชิด?
ฮ่ อ งเต้ท รงเป็ นผูท้ ี่ มี พ ระทัย ลึ ก ซึ้ ง มิ ว่า จะทรงท าสิ่ ง ใดผูอ้ ื่ น ก็ ไ ม่
อาจจะคาดเดาได้โดยง่าย บางทีพวกเขาอาจจะถูกฝ่ าบาทหลอกเข้า
แล้ว

ตู๋กซู ิ งหลันย่อมรู ้สึกถึงสายตาที่มองมายังตนเองของอันหร่ วน ฮูหยิน


เฒ่ า ที่ นั่ ง อยู่เ สี ย ใกล้ที่ ป ระทับ ของฮ่ อ งเต้ มี แ ต่ น างเพี ย งผูเ้ ดี ย ว
ถึงแม้วา่ จะไม่เคยเจอตัวอันหร่ วนมาก่อน แต่ว่าตนเองก็สามารถคาด
เดาฐานะของนางได้

อันหร่ วนมีรูปโฉมที่ดูเคร่ งขรึ มอยูเ่ สมอ มีราศีของผูอ้ าวุโส นางนัง่


อย่างสง่า กิริยาการวางมือและเท้าล้วนไม่มีทีท่าของฮูหยินผูเ้ ฒ่าเลย
สักนิด เพียงมองดูก็รู้วา่ เป็ นผูท้ ี่ฉลาดล้ า

ตู๋กซู ิ งหลันเพียงแต่กวาดสายตามองผ่านนาง

เป็ นฮูหยินเฒ่าที่ดูสุขมุ ลุ่มลึกจนไม่อาจคาดเดา นางรู ้จกั ปรุ งยา อีกทั้ง


ยังเกี่ยวพันกับผูท้ ี่ลงมือกับองค์หญิงใหญ่

พวกนางอยูห่ ่างกันพอสมควร ตู๋กซู ิ งหลันจึงไม่มีหนทางจะสัมผัสได้


ว่าบนร่ างขอนางมีไอหยินหรื อว่ากลิ่นไออื่นใดอยูอ่ ีกหรื อไม่
ครั้งก่อนที่พยายามแยกร่ างเนื้ อและด้วยจิต เรื่ องที่นางหยิบยืมพลัง
ของหยกสรรพชีวิต เกรงว่าคงจะถูกเปิ ดเผยออกมาแล้ว ยามนี้ จึงไม่
อาจวูว่ ามได้อย่างเด็จขาด

อันหร่ วนผูน้ ้ ี อาจจะรับมือได้ยากยิง่ กว่าเสี ยนไท่เฟยเสี ยอีก

เสี ยงดนตรี ดงั ขึ้น สร้างบรรยากาศรื่ นเริ งอยู่มิได้ขาด ไม่ชา้ ก็ชกั จูง
ความสนใจของผูค้ นจากองค์ฮ่องเต้และไทเฮาไป

บนโต๊ะของตู๋กซู ิ งหลันล้วนเต็มไปด้วยอาหารรสเลิศมากมาย นางดื่ม


น้ าแกงไก่ ติดต่อ กันมาหลายวัน พอมองเห็ นอาหารโอชามากมาย
ตรงหน้า ก็คว้าตะเกียบคีบขาหมูข้ ึนมาชิ้นหนึ่ง

แต่ ย ัง ไม่ ท ัน ได้ส่ ง เข้า ปากก็ ถู ก พระหั ต ถ์ข องจี เ ฉวี ย นมาฉกไป
เสี ยก่อน “ อาการบาดเจ็บของเจ้ายังไม่หายดี ดื่มน้ าแกง กินโจ๊กไป”

ว่าแล้ว พระองค์ก็เสวยขาหมูชิ้นนั้นลงไปต่อหน้าต่อตาของตู๋กซู ิ งห
ลัน อีกทั้งยังไม่ลืมรับสั่งกับนางกานัลไม่ให้ถวายอาหารเลี่ยนมันแก่
ไทเฮา

ยามนี้ ตู๋กซู ิ งหลันรู ้สึกว่าเขาก็คือราชามารดีๆ นี่เอง!


เพียงแค่ครู่ เดียว เหล่านางกานัลก็ยกน้ าแกงไก่และโจ๊กมาถวาย อีก
ทั้งยังมีผลไม้สด

ตู๋กซู ิ งหลันชมดูจนอยากจะอาเจียนออกมา

นางมองไปยังจีเฉวียน เห็นบนริ มฝี ปากบางๆ ของเขายังคงมีคราบน้ า


ขาหมู อ ยู่ ก็ นึ ก อยากจะชิ ม ขึ้ นมาคาหนึ่ ง คิ ด แล้ว นางก็ได้แ ต่กลื น
น้ าลายลงไปอึกหนึ่ง

จีเฉวียนเห็นนางกลืนน้ าลายอยูเ่ ช่นนั้น ก็ไม่รู้ว่าทาไม อดจะพระทัย


อ่อนขึ้นมาไม่ได้

ที่เบื้องหน้าของเขามีจานอยูใ่ บหนึ่ง เขาสั่งให้คนยกน้ าสะอาดมา คีบ


เนื้ อชิ้นเล็กๆ ลงไปล้างในจากใบนั้น พอเห็นว่าล้างน้ ามันๆ ออกไป
จนหมดแล้ว จึงส่ งให้นาง “กินเถอะ”

นี่ เป็ นเพียงเศษเนื้ อชิ้นเล็กๆ เท่านั้น สาหรับตู๋กูซิงหลันที่เป็ นตัวกิ น


เนื้อแล้ว ไม่พอยาขี้ฟันเสี ยด้วยซ้ า

ตู๋กูซิงหลัน “………” ขอถามหน่ อยเถอะที่เอาไปล้างอยู่หลายสิ บ


ครั้งนั้นนะ เอาจริ งใช่ไหม?
ฮ่ อ งเต้ทรงรั บสั่งว่า “ซุ นต้มยาบอกเอาไว้แ ล้ว เจ้าต้อ งงดเว้นของ
เลี่ยนมัน”

“ไม่กินหรื อ? หากไม่กิน เราจะกินละนะ”

“เราจะกินจริ งๆ แล้วนะ”

ตรั สแล้ว พระองค์ก็ทาท่าจะเอาเนื้ อ ชิ้ นนั้นกลับมา พอพึ่งจะขยับ


ตะเกียบคีบขึ้นมาได้ ตู๋กซู ิ งหลันก็พงุ่ เข้ามาฉกกัดในทันที ท่าทางของ
นางประหนึ่งลูกสุ นขั น้อยที่ไม่ได้กินเนื้อมาแล้วแปดชาติ

ตะเกียบของจีเฉวียนกลายเป็ นว่างเปล่า เห็นนางเคี้ยวตุย้ ๆ อยูใ่ นแก้ม


พระองค์เองก็อดที่จะรู ้สึกไม่ได้วา่ ดูแล้วก็น่ารักดี

อีกด้านหนึ่ ง ซูเม่ยเอาแต่จดจ้องไปทางพวกเขา ฮ่องเต้ทรงให้ความ


สนิทสนมกับอาหลันถึงเพียงนี้ เพราะตั้งใจจะแสดงให้เขาเห็นหรื อ?
ตอนที่ 176 โรคหัวใจของเราซึมลึกถึงกระดูกแล้ว

เขาฉวยเอาจานกระดูกเล้งตุ๋นซอสเปรี้ ยวที่อยูต่ รงหน้าขึ้นมา ลากชุด


กระโปรงยาวเดินไปจนถึงเบื้องหน้าตู๋กซู ิงหลัน “ อา….” คาว่าหลัน
ยังไม่ทนั ได้เรี ยกออกมา เขาก็เปลี่ยนใหม่เป็ นว่า “ ไทเฮาเพคะกระดูก
เล้งนี้เป็ นเนื้อล้วน ท่านสามารถชิมได้สักเล็กน้อย “

กลิ่นหอมโชยเตะจมูก ปลุกจิตวิญญาณให้ตื่นขึ้นมา ท้องของตู๋กซู ิงหลัน


ส่ งเสี ยงร้องโครกคราก นางยังไม่ทนั ได้ขยับตะเกียบ ก็ได้ยินจีเฉวียน
กล่ า วเสี ยงเย็นชาที่ ริม หู ว่า “ กุ้ย เฟย หากว่า เจ้า ไม่ อ ยากกิ นเนื้ อ ละก็
นับตั้งแต่วนั นี้ไปตาหนักชุ่ยเวยก็งดเว้นอาหารจาพวกเนื้อสัตว์แล้วกัน”

สี หน้าซูเม่ยเปลี่ยนเป็ นไม่น่าดู พลางมองดูอาหลันอย่างสงสาร ขนาด


จะกินอะไรยังต้องถูกฮ่องเต้คุมเข้มอย่างเคร่ งครัดอยูใ่ นวังหลวง นาง
ไม่มีอิสระใดๆ เลยแม้แต่นอ้ ย

“ ถอยไปเสี ย” จีเฉวียนทอดพระเนตรจดจ้องมายังซูเม่ย “ อย่าให้เรา


ต้องกล่าวซ้ า”
ภายใต้การจับจ้อ งของผูค้ นมากมาย ซู เ ม่ ย ก็ ไ ม่ก ล้าโต้แ ย้ง กับเขา
ต่อไป

“ เสี่ ยวซูเฟย ความหวังดีของเจ้า เรารับรู ้ดว้ ยใจแล้ว ” ตู๋กูซิงหลันยิง่


เกิดความสงสารเห็นใจซูเม่ยมาอีก

พอคิดถึงว่าตนเองหยิบยืมชื่อของนางเข้าไปพักผ่อนในพระตาหนัก
ตี้หัวมาคืนหนึ่ ง ทาให้ซูเม่ยตกอยู่ภายใต้ความเกลียดชัง ในใจของ
นางก็ยงิ่ รู ้สึกสานึกผิด

ซูเม่ยมองดูสายตาของนาง ก็คิดแต่อยากจะโอบกอดนางเข้ามาปลอบ
ประโลมในอ้อมอก ตอนนี้ ฮ่องเต้ทรงหมายตาอาหลันเอาไว้แล้ว ดู
ท่าพระองค์คงจะต้องคิดหาหนทางให้ได้ตวั อาหลันไปแน่ เขาจะต้อง
ไม่ปล่อยให้เรื่ องเช่นนี้เกิดขึ้นได้เป็ นอันขาด!

หย่งเฉิ งอ๋ องสามีภรรยามองขึ้นมาจากด้านล่าง ด้วยระยะที่ห่างไกล


กัน จึงไม่มีโอกาสได้ยนิ ว่าเจ้าลูกทรพีกล่าวอะไรกับไทเฮา เพียงรู ้สึก
ว่าเจ้าลูกทรพียามอยูต่ ่อหน้าไทเฮาช่างรู ้จกั ประจบสอพลอนัก
คนภายนอกต่ า งลื อ กัน ว่ า เขาเข้า กับ ไทเฮาไม่ ไ ด้ อยู่ ใ นวัง ต่ า งก็
แก่งแย่งช่วงชิงหึ งหวงกันอยูม่ ิได้ขาด ทาไมพวกเขาดูแล้วกลับรู ้สึก
ว่าไม่ได้เป็ นเช่นนั้นเลย?

ในงานเลี้ยงนอกจากจะมีเสี ยงดนตรี แล้ว ยังมีการแสดงอื่นๆ อีกด้วย


กุลธิ ดาไม่นอ้ ยต่างก็แย่งชิงกันออกมาแสดงพรสวรรค์ในด้านต่างๆ
โดยเฉพาะพวกที่ก่อนหน้านี้ตระเตรี ยมจะส่ งบุตรสาวเข้ามาคัดเลือก
นางสนม แต่เพราะฝ่ าบาททรงยกเลิกไปอย่างกระทันหัน พวกเขาจึง
ได้แต่คิดอ่านหาหนทางเอาในงานเลี้ยงพระราชทานสิ้ นปี นี้แล้ว

ไม่ว่าจะเป็ นดีด สี ตี เป่ า ร่ ายกลอนหรื อร้องเพลงใดๆ ล้วนมีหมด


ตู๋กซู ิ งหลันชมดูอย่างสาราญใจ พออารมณ์ดีข้ ึนมาก็ดื่มสุ ราติดต่อกัน
ไปสองถ้วย ดื่มสุ ราจีเฉวียนกลับมิได้หวงห้ามนาง เพียงตรัสว่าสุ ราดี
ต่อร่ างกายของนาง

ฮ่ อ งเต้มิ ไ ด้ท รงสนพระทัย ในระบ าร าฟ้ อ น สายพระเนตรของ


พระองค์มกั จะทอดลงไปยังร่ างของสาวน้อยข้างพระองค์อย่างไม่
อาจจะบังคับได้อยูต่ ลอดเวลา
สุ ราผ่านไปสามรอบ หยวนเฟยก็ลุกขึ้นมา นางถวายคานับจีเฉวียน
ค่อยกล่าวด้วยเสี ยงเล็กๆ ว่า “ ฝ่ าบาทเพคะ หม่อมฉันหาพ่อหมอเจอ
แล้วและได้นาเข้าวังมา จะทรงโปรดให้เขาเข้าเฝ้าและถวายการรักษา
ไหมเพคะ? ”

ถึงแม้ว่าช่วงนี้ นางจะยุง่ กับการดูแลตู๋กูจุน แต่ว่ารเรื่ องที่ฝ่าบาททรง


มอบหมายเอาไว้ นางก็มิกล้าลืมเลือน ในที่สุดก็เจออยูค่ นหนึ่ง

จี เ ฉวี ย นหั น ไปทอดพระเนตรมองนางแวบหนึ่ ง ก็ ต รั ส ตอบว่ า


“ โรคหัวใจของเราซึ มลึกถึงกระดูก เกรงว่าไม่อาจรักษาหายแล้ว”

มิ ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อ ยากจะยอมรั บ ทั้ง ยัง ไม่อ าจเปลี่ ยนแปลงว่า


ตอนนี้เขาห่วงใยตู๋กซู ิ งหลันเป็ นอย่างมาก

หยวนเฟยมีสีหน้าตระหนกไป “ฝ่ าบาท พระองค์อย่าได้สวรรคตนะ


เพคะ!” ก็เขาเคยสัญญาแล้ว ว่ารอให้เขาได้เป็ นฮ่ องเต้ เขาจะเป็ น
อู่ขา้ วอู่น้ าตลอดกาลของนาง หากว่าเขาอยูๆ่ ก็มาสิ้ นไป แล้วนางจะ
ไปหาข้าวสารอาหารแห้งมาจากไหน?
ตู๋กูซิงหลันได้ฟังที่ทรงตรัส ในใจก็ตระหนกขึ้นมาบ้าง ถึงแม้ในร่ าง
ของจีเฉวียนจะมีไอหยินที่แปลกประหลาดแทรกอยู่ แต่วา่ จะอย่างไร
ก็ไม่สมควรจะถึงขั้นทาให้สวรรคตไปได้นี่น่า

“ ปี ใหม่ ท้ งั ที เจ้าแช่ ง เราเพื่อ อะไร? ” จี เ ฉวี ย นทรงเสวยสุ ราลงไป


พระพักตร์ ที่เคยเย็นชาอยูเ่ สมอก็ปรากฎสี แดงระเรื่ อขึ้นมาบ้าง เดิมที่
พระองค์ก็ทรงงดงามเกินผูอ้ ื่นอยูแ่ ล้ว ยามนี้จึงยิง่ เพิ่มพูนเสน่ห์ข้ ึนมา
อีก

ตู๋ กูซิ ง หลัน หัน หน้า ไปมอง นางดื่ ม ไปหลายถ้วยติ ด ๆ กัน ยามนี้
ใบหน้า จึ ง แดงก่ า ขึ้ น มา นางจดจ้อ งไปยัง จี เ ฉวี ยนและหยวนเฟย
“ โรคหัวใจอะไรกัน? ”

จีเฉวียนหันกลับมาทอดพระเนตรมองนาง แต่มิได้ตรัสสิ่ งใดออกมา


จากพระโอษฐ์

หยวนเฟยนวดคลึ ง ขมับ ขึ้ นมาบ้า ง นางรู ้ สึ ก ว่ า ฝ่ าบาทเป็ นผูท้ ี่


ซั บ ซ้ อ นเหลื อ เกิ น นางซึ่ งมี ม ัน สมองอยู่อ ย่า งจ ากัด ไม่ ว่ า จะคิ ด
อย่างไรก็ไม่เข้าใจ
หมอผีผนู ้ ้ นั …….. ตกลงแล้วยังจะต้องการหรื อไม่? เพื่อตามหาหมอ
ผี คิดว่านางทาได้ง่ายๆ นักหรื อ? ถูกคนซ้อมเสี ยน่วมไปรอบนึง ชีวิต
นี้นางก็พ่ งึ จะเคยโดนเป็ นครั้งแรก

แต่พอเห็ นท่าทางของฝ่ าบาทก้มพระเศียรลงยกถ้วยสุ ราขึ้นมา โดย


มิได้สนใจนางเลยสักนิ ด นางก็ได้แต่ยอมรับ และถอยกลับไป ไม่
กล้ารบกวนอีก

……………………….

งานเลี้ยงผ่านไปได้ครึ่ งหนึ่ งท้องฟ้าก็มืดสนิ ทลง เมื่อมืดค่าเช่นนี้ ใน


วังก็จะจุดพลุ นับตั้งแต่สมัยของปฐมกษัตริ ยเ์ ป็ นต้นมามา การจุดพลุ
ในยามขึ้นปี ใหม่นบั เป็ นธรรมเนี ยมอย่างหนึ่ ง เป็ นสิ่ งที่สืบทอดกัน
มาในทุกรัชสมัย ทุกปี ในยามนี้ ชาวบ้านในเมืองหลวงล้วนมารวมตัว
กันอยูท่ ี่นอกวัง ร่ วมฉลองปี ใหม่กบั โอรสสวรรค์

บนท้องฟ้าที่ใสกระจ่าง ดูงดงามดุจภาพวาด ผูค้ นต่างออกมารวมตัว


กันอยูน่ อกพระตาหนักจิ่นซิ่ ว ที่ดา้ นหน้าของตาหนักมีทะเลสาบอยู่
แห่ ง หนึ่ ง ยามที่ พลุถูกจุดขึ้ นไปกระจายอยู่บนท้อ งฟ้ า เงาในน้ าก็
สะท้อนภาพเดียวกันออกมา กลายเป็ นความงดงามที่ยากจะบรรยาย

ตู๋กซู ิ งหลันเองก็ถูกหยวนเฟยลากออกไปชมดูพลุดว้ ยกัน

ฮ่องเต้ยงั คงประทับนัง่ อยูบ่ นที่ประทับด้านบน เขาเองก็ดื่มสุ ราลงไป


ไม่น้อย หากว่าจู่ๆ ก็ออกไป รับลมเย็น เกรงว่า ฤทธิ์ สุ ราจะกาเริ บ
ขึ้นมาทาให้เมาได้ง่าย

“ ฝ่ าบาทเพคะ พระองค์เมาแล้ว ” ในยามนั้นเองได้ยินเสี ยงนุ่มนวล


ของสตรี ผหู ้ นึ่งดังแว่วมา จีเฉวียนลืมพระเนตรขึ้นมามองนาง

อันหว่านจือก็กม้ ศรี ษะลงไป “ ฝ่ าบาทเพคะ บ่าวต้มนาแกงสร่ างเมา


เอาไว้แล้ว ทรงเสวยสักหน่อยเถอะเพคะ” ทูลแล้ว นางก็วางถ้วยน้ า
แกงสร่ างเมาลงตรงเบื้องพระพักตร์

น้ าแกงสร่ างเมายังมีความร้อนฉุยๆ มันร้อนเสี ยจนทาเอาพระพักตร์ที่


แดงอยูแ่ ล้วของจีเฉวียนยิ่งแดงขึ้นไปอีก เขายกถ้วยน้ าแกงนั้นขึ้นมา
สู ดดมอยูใ่ ต้จมูกคู่นึง ได้กลิ่นเปรี้ ยวๆ หวานๆ อ่อนๆ ดมแล้วยิง่ รู ้สึก
สบายตัวนะ
“ ฝ่ าบาทเพคะ น้ าแกงสร่ างเมาต้องดื่มยามร้อนๆ จึงจะดี” อันหว่านจือ
ทูลต่อ ไปอี ก นางพยายามระงับความตื่ นเต้นในใจของตนเอง นาง
เลื อ กช่ ว เวลาได้เ หมาะสมอย่า งที่ สุ ด ผูค้ นทั้ง ต าหนัก จิ่ น ซิ่ ว ต่ า งก็
ออกไปกันจนหมด ท่านย่าเฝ้าอยูท่ ี่ปากประตู ก่อนที่เรื่ องจะสาเร็ จลง
ย่อมไม่ปล่อยให้ผใู ้ ดเข้ามาโดยง่าย

จีเฉวียนทอดพระเนตรมองพระพักตร์ที่แดงก่าของตนเองสะท้อนอยู่
ในน้ าแกง ก็พลันฉุดคิดถึงตู๋กซู ิ งหลันขึ้นมา

เมื่อครู่ นางเองก็ดื่มไปไม่นอ้ ย ตอนนี้ ออกไปรับลมเย็นๆ เกรงว่าจะ


รู ้สึกไม่สบาย

“ เจ้า มี น้ า ใจมากแล้ว ” พอพระองค์ต รั สประโยคนี้ หัว ใจของอัน


หว่านจือก็ลิงโลดด้วยความยินดีข้ ึนมา

“ ได้ทาเพื่อฝ่ าบาท เป็ นสิ่ งที่บ่าวสมควรอยูแ่ ล้วเพคะ ” อันหว่านจือ


ทูลตอบด้วยใบหน้าแดงน้อยๆ พอคิดถึงเรื่ องที่อีกเดี๋ยวก็จะเกิดขึ้น
แล้ว ใบหน้าของนางก็ยงิ่ ร้อนผะผ่าวขึ้นไปอีก
ยังไม่ทนั ได้รอให้นางได้เขินอายไปสักเท่าไร จีเฉวียนก็ประคองถ้วย
น้ าแกงขึ้นมา เสด็จออกจากพระตาหนักจิ่นซิ่ วไปในทันที

“ ฝ่ าบาทเพคะ? ” สี หน้าของอันหว่านจือตกตะลึงไป นางรี บไล่ตาม


ไปอย่างรวดเร็ ว ที่ปากประตูตาหนัก อันหร่ วนประหลาดใจอยู่ไม่
น้อย นางถวายคานับครั้งหนึ่ ง “ ฝ่ าบาท พระองค์เสด็จออกมาทาไม
เพคะ?”

“ เราออกมาบ้ า ง หมั ว มั ว ประหลาดใจมากหรื อ ? ” จี เ ฉวี ย น


ทอดพระเนตรดูนางครั้ งหนึ่ ง แม้จะเมามายอยู่บา้ ง แต่รัศมี ความ
กดดันที่อยูใ่ นพระองค์ของฮ่องเต้ไม่ได้จางหายไปไหน

อันหร่ วนถวายคานับ “ บ่าวเพียงแต่กงั วลว่าฝ่ าบาททรงเมาแล้ว พอ


ถูกลมโชยจะไม่สบายพระองค์ มิสู้ฝ่าบาททรงเสวยน้ าแกงสร่ างเมา
เสี ยก่อน ค่อยเสด็จออกไปก็ยงั ไม่สายนะเพคะ?”

“ ใช่เพคะ ฝ่ าบาท น้ าแกงนี้ เย็นแล้วจะไม่อร่ อย ” อันหว่านจือรี บว่า


ตาม
ด้านนอกอากาศเย็น น้ าแกงร้อนๆ ชามเดียว ประเดี๋ยวก็จะกลายเป็ น
เย็นเฉียบแล้ว

จีเฉวียนตรัสว่า “ ใช่ เย็นแล้วก็ไม่ดีแล้ว ”

อันหว่านจือพึ่งวางใจลงได้อีกครั้ง ยังไม่ทนั ที่นางจะได้ถอนหายใจ


ก็เห็นฝ่ าบาททรงทรงนาน้ าแกงสร่ างเมาของนางออกไป ตามหาตู๋กู
ซิ งหลันท่ามกลางฝูงชนได้อย่างแม่นยา

จี เฉวียนพอเห็ นนาง ก็คว้ามื อ ของนางขึ้นมา วางชามน้ าแกงสร่ าง


เหล้าลงไปในมือ “ นี่ ให้เจ้าดื่ม”
ตอนที่ 177 ไยคืนนีท้ ่ านจึงงดงามขนาดนี?้

ตู๋กซู ิ งหลัน “ ? ”

“ เกรงว่าเจ้าเมาแล้วจะทาตัวเละเทะเหลวไหล จึงได้นาน้ าแกงสร่ าง


เมามาให้เจ้าโดยเฉพาะ ” จีเฉวียนตรัสพลางก็ลว้ งเอาเข็มเงินขึ้นจาก
ที่ ใ ดก็ ไ ม่ รู้ แกว่ ง ลงไปในน้ าแกงรอบหนึ่ ง เข็ ม เงิ น ไม่ มี ก าร
เปลี่ยนแปลงแม้แต่นอ้ ย ก็ทรงตรัสซ้ าว่า “ตรวจสอบดูแล้ว ไม่มีพิษ
เจ้าสามารถดื่มได้อย่างวางใจแล้ว”

ตู๋กูซิงหลัน “ ??? ” ทาไมนางถึงรู็ สึกว่า เป็ นเขาที่ดื่มมากเกินไปแล้ว


ต่างหาก?

ยามนี้ พลุยงั ถูกจุดมิได้หยุด ผูค้ นทั้งหลายต่างยังคงจดจ่อกับการชม


พลุ จึงแทบไม่มีผใู ้ ดสังเกตเห็นเลยว่าฝ่ าบาททรงนาน้ าแกงสร่ างเมา
มาให้ไทเฮาด้วยพระองค์เอง

“ ดื่มตอนร้อนๆ หื ม? ” จีเฉวียนจับจ้องนาง ทั้งยังสาทับอีกว่า “ เย็น


แล้วจะไม่ดีกบั กระเพาะ”
หยวนเฟยก็เสด็จเข้ามาชมความครึ กครื้ น นางมองไปยังจีเฉวียน “ ฝ่ า
บาท หม่อ มฉันเองก็ดื่มเยอะเกิ นไป ทรงแบ่ง ให้หม่อมฉันบ้างได้
ไหมเพคะ? ”

นางคิดจะเอาไปให้ต๋ ูกูจุนบ้าง ตลอดงานเลี้ยงเขาเอาแต่จอ้ งมององค์


หญิงใหญ่ ดื่มไปก็ไม่นอ้ ย ฟังมาว่าในกองทัพตระกูลตู๋กมู ีขอ้ ห้ามดื่ม
สุ รา เขาเองก็เป็ นคนที่เคารพกฎระเบียบมาโดยตลอด นี่ น่าจะเป็ น
เพราะองค์หญิงใหญ่……

จีเฉวียนกลับปฎิเสธนางไปตรงๆ “ ไม่ได้”

หยวนเฟย “…….” ดุจริ ง! ช่างเถอะ อีกสักครู่ นางไปต้มเองชามหนึ่ง


ก็ได้ ใครเขาอยากได้กนั

ภายใต้แสงพลุบนท้องฟ้า จีเฉวียนคล้ายกับมีรัศมีระยิบระยับรายล้อม
อยูช่ ้ นั หนึ่ง เมื่อตกอยูใ่ ต้บรรยายกาศเช่นนี้ ตู๋กซู ิ งหลันก็รู้สึกว่าเขายิง่
งดงามน่าดูกว่าเดิม

แต่ไหนแต่ไรมานางก็ดื่มสุ ราไม่เก่ ง ตอนนี้ พอโดนลมเย็นเข้าไป


หน่อย ในกระเพาะก็ชกั จะปั่ นป่ วนราวท้องทะเลพลิกกลับขึ้นมา
จีเฉวียนส่ งน้ าแกงสร่ างเมาให้นางต่อหน้าผูค้ นมากมาย คิดๆ ดูแล้ว
คงจะไม่ได้มีลูกไม้อะไรหรอกกระมั้ง

ตู๋กูซิงหลันฝื นใจรับมา ริ มฝี ปากแดงแตะลงไปบนชามหยกใบนั้น


จิบเบาๆ อึกหนึ่ง

อันหร่ วนและอันหว่านจือต่างหน้าเปลี่ยนสี ไปตามๆ กัน

อันหว่านจือยังคิดจะออกไปขวางไว้ แต่กลับถูกอันหร่ วนลากกลับมา


อันหร่ วนส่ ายหน้าให้กบั นาง ทากิริยาให้นางอย่าได้ส่งเสี ยง

เรื่ องที่ผิดที่ผิดทางเช่นนี้ หากว่าอันหว่านจือออกไปละก็อาจจะเป็ น


การเปิ ดเผยการกระทาของตนเองเข้าได้

สี หน้าของอันหว่านจื อเต็มไปด้วยความร้ อนรุ่ มใจ แต่กลับถูกอัน


หร่ วนจับเอาไว้อย่างเหนียวแน่น นางจึงไม่กล้าเคลื่อนไหว

น่าตายนัก แผนการดีๆ กลับถูกตู๋กูซิงหลันทาเสี ยเรื่ องจนวุ่นวายไป


หมด
วันนี้ ในตาหนักจิ่นซิ่ วนังคนนั้นโดดเด่นจนเงยหน้าขึ้นได้ พอตอนนี้
แม้แต่เรื่ องดีๆ ของนางก็ยงั จะมาช่วงชิงไปอีก!

ดวงตาของอันหว่านจือเปี่ ยมไปด้วยเพลิงโทสะ ในเมื่อเป็ นเช่นนี้ ก็


ให้นางตายๆ ไปเสี ยเถอะ

ยาเสน่ ห์ ไ ร้ สี ไร้ ก ลิ่ น แม้ แ ต่ พ วกหมอก็ ย ัง ตรวจสอบไม่ อ อก


เสี่ ยวไทเฮาผูน้ ้ ี อีกประเดี๋ ยวเดี ยวก็จะได้ทาเรื่ องขายขี้ หน้าต่อผูค้ น
ทั้งหมดแน่!

…………………………………….

อีกด้านหนึ่ ง ตู๋กูซิงหลันที่ดื่มไปคาเล็กๆ แต่จีเฉวียนกลับยังไม่พอ


พระทัย ต้องให้นางดื่มไปถึงครึ่ งชามถึงได้ยอมเลิกรา

น้ าแกงสร่ างเมานั้นรสเปรี้ ยวๆ หวานๆ ดื่มแล้วก็เหมือนกับดื่ มน้ า


ผลไม้ ตู๋กซู ิ งหลันดื่มไปกว่าครึ่ งชาม เขาจึงยอมปล่อยนาง

จีเฉวียนพอถูกลมโชยหนักเข้า ก็ชดั จะออกพระอาการเมาขึ้นมาบ้าง


พอเห็ นสองแก้มที่ แ ดงซ่ านของตู๋กูซิง หลันก็รู้สึกว่านางสดใสน่ า
ประทับใจเสี ยยิง่ กว่าพลุในคืนนี้อีก ดวงพักตร์ที่ไม่เคยสบอารมณ์กบั
ผูใ้ ดเปลี่ยนเป็ นอ่อนโยนขึ้นมา “ ดอกไม้ไฟใกล้จะหมด นี่ ก็ดึกมาก
แล้ว เราส่ งเจ้ากลับตาหนักเฟิ่ งหมิงดีกว่า”

ริ ม ฝี ปากของนางยัง มี น้ า แกงแวววาวเกาะอยู่ส องหยด จี เ ฉวี ย น


อยากจะช่วยปาดเช็ดให้นาง พอพระหัตถ์ยื่นออกไป ก็ทรงชะงักอยู่
กับที่ นี่ มนั ตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั ที่แม้แต่ร่างกายของพระองค์ก็ควบคุม
ไม่อยูแ่ ล้ว?

ตู๋กูซิงหลันพึ่งดื่มน้ าแกงสร่ างเมาลงไป รู ้สึกว่าร่ างกายอบอุ่นสบาย


นัก นางเงยหน้าขึ้นมองดูจีเฉวียน

เมื่อมีดอกไม้ไฟที่แสนงดงามเป็ นฉากหลังให้กบั เขา เขาก็ยิ่งดูโดด


เด่นขึ้นมาราวกับศูนย์กลางภาพวาดและโดดเด่นอยู่ในสายตาของ
นาง ราวกับว่ามีแสงทองส่ องประกายฉาบล้อม

ยามปกติ เ ขาก็ น่ า ดู อ ย่า งยิ่ง อยู่แ ล้ว แต่ ว่า ยามนี้ เขาในสายตาของ
ตู๋กซู ิ งหลัน ยิง่ งดงามเหนือโลกขึ้นไปอีก

ราวกับว่ามีพลังทางอารมณ์บางอย่างทาให้นางอยากเข้าใกล้เขาโดย
ไม่รู้ตวั อยากจะบีบรัดและนวดเฟ้นสักรอบ
นางพยายามฝื นความรู ้สึกนี้เอาไว้ แต่วา่ ยิง่ พยายามกดมันไว้ก็ยงิ่ รู ้สึก
ว่ า จี เ ฉวี ย นช่ า งน่ า หลงใหลแทบตาย ทั่ว ทั้ง ร่ า ยกายของนางถู ก
ความคิดนี้ควบคุมเอาไว้จนหมดสิ้ น

นางยิม้ บางๆ ก็คว้าหัตถ์ของเขาขึ้นมากลางอากาศ “ ลูกชาย….ไยคืน


นี้เจ้าจึงงดงามขนาดนี้?”

จีเฉวียนถูกนางจับเอาไว้ ก็ทรงรู ้สึกถึงความอบอุ่นจากใจกลางมือ


ของนางที่ถ่ายทอดมายังหลังพระหัตถ์ ท่ามกลางอากาศในฤดูหนาว
กระแสอบอุ่นระลอกแล้วระลอกเล่าซึ มเข้าสู่ หวั ใจของเขา

“ เจ้าเมามายไม่น้อยเลย ” พระองค์ตรัส แต่ก็มิได้ทรงผลักไสนาง


ออกไป ทาไมพอดื่มน้ าแกงสร่ างเมาแล้ว นางถึงได้ดูเมามายกว่าเดิม
เสี ยอีก?

“ ข้าไม่มาววว ข้าไม่เมาซักหน่อย ” ตู๋กซู ิ งหลันทาแก้มพองพลางส่าย


ศีรษะ ว่าแล้ว นางก็พงุ่ เข้าใส่ เขาทั้งตัว เขย่งเท้าขึ้นเงยหน้ามองลึกเข้า
ไปในดวงตาทั้งสองของเขา “เอ๋ ในดวงตาของท่านมีดวงดาวอยูด่ ว้ ย
หรื อ?” พูดจบ นางก็ยื่นปลายนิ้ วออกไปอย่างกล้าตาย ลูบไล้ขนตา
ของเขาเบาๆ ขนตาของเขายาวมากเวลาลูบแล้วยิ่งเป็ นแพหนา ให้
ความรู ้สึกที่ดีเหลือเกิน

ครู่ ต่อมาตู๋กูซิงหลันก็หวั เราะฮิฮะออกมา “ว้าว ข้าก็อยูใ่ นดวงตาของ


ท่ า นด้ว ย” พุ่ง เข้า มาใกล้จ นถึ ง เพี ย งนี้ นางย่อ มสามารถมองเห็ น
ตนเองในดวงเนตรของจีเฉวียนได้อย่างชัดเจน

‘วิง้ งงง’ จีเฉวียนทรงรู ้สึกว่าบางสิ่ งในสมองของพระองค์ระเบิดวูบ

ตู๋กูซิงหลันแทบจะยืนอยูใ่ นอ้อมพระกรของเขา นางทั้งหอมและนุ่ม


เหลือเกิน มงกุฎหงส์ของนางและสายไข่มุกบนพระมาลาของเขาพัน
กันอยู่ จนเกิ ดเสี ยงกระทบกันเบาๆ อยู่ใ ต้เสี ยงสนั่นที่ ปิดทับของ
ดอกไม้ไฟ

ตู๋กซู ิ งหลันไม่ยนิ ยอม นางกระเง้ากระงอดกับอกเสื้ อของเขา“ จีเฉวียน


ท่านยิม้ สิ ท่านยิม้ แล้วน่าดูที่สุดเลย”

จีเฉวียนรู ้สึกว่านี่ เป็ นครั้งแรกในชีวิตที่ทรงถูกยัว่ เย้า เขาพยายามฝื น


เอาไว้ท้ งั ตัว เพราะตอนนี้ เริ่ มมีผคู ้ นไม่น้อยสังเกตเห็ นพวกเขาบ้าง
แล้ว แม้ว่าจะยังมีพลุอยู่ แต่ก็มีคนสังเกตเห็ นว่าไทเฮากาลังเมามาย
ยิง่ ทีหลายคนก็ยงิ่ มองมามากขึ้น

“ ไทเฮาทรงเป็ นอะไรไป? ”

“เมาอาละวาดละมั้ง?”

“ เมาอาละวาดที่ไหน จะต้องเป็ นเพราะว่าช่วงนี้ ฝ่าบาททรงโปรด


ปรานแต่ซูกุย้ เฟยเพียงผูเ้ ดียว ในใจของนางจึงริ ษยาอย่างหนัก พอ
คราวนี้เลยออกลายขึ้นมา”

“นี้มนั จะกล้ามากเกินไปแล้ว คนมากมายมองดูอยูแ่ ท้ๆ!”

“ นางก็กล้ามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว มีหรื อครั้งนี้จะยอมพลาดกัน?”

ผูค้ นทั้งหลายตอนแรกก็ตื่นตระหนกไป แต่ครู่ ต่อมาก็เริ่ มส่ งเสี ยง


นิ นทา ซู เม่ยเองก็มองไปเช่นกัน แต่เขาเห็ นเพียงว่าตู๋กูซิงหลันสอง
แก้มแดงระเรื่ อ แย้มยิม้ อย่างโง่งมท่าทางเช่นนี้ดูก็รู้วา่ ไม่ปกติแล้ว

เขาเดินเข้าไปหา ส่ งเสี ยงเรี ยกนางคาหนึ่ ง “อาหลัน เจ้าดื่มมากไป


หรื อเปล่า?”
แต่ว่าตู๋กูซิงหลันกลับคล้ายไม่ได้ยินเสี ยงของเขาเลยแม้แต่นอ้ ย นาง
ยังคงเอาแต่จบั จ้องจีเฉวียน เขย่าฉลองพระองค์ของเขาอย่างแง่งอน
“จีเฉวียน ท่านรี บยิม้ เร็ วๆ เข้าสิ อย่าได้เอาแต่ทาหน้านิ่ง ข้ากลัวนะ”

เป็ นเพราะฤทธิ์ ของยาเสน่ห์ สายตาของตู๋กูซิงหลันในยามนี้ จึง มีแต่


จีเฉวียนเพียงผูเ้ ดียว ผูค้ นหรื อเสี ยงอื่นใดล้วนไม่อยู่ในความสนใจ
ของนาง ในดวงตาของนางเห็นแต่จีเฉวียนที่งดงามน่าหลงใหล ยิง่ น่า
หลงใหลกว่าเดิม น่าหลงใหลที่สุด น่าหลงใหลจนแทบตายแล้ว

ประหลาดจริ งๆ ทาไมก่อนหน้านี้นางถึงได้ไม่เคยรู ้สึกมาก่อนว่าเขา


ถูกตาต้องใจนางขนาดนี้?

น้ าเสี ยงของนางอ่อนหวาน น้ าเสี ยงที่เว้าวอนของสาวน้อยอ่อนไปไป


จนถึงกระดูก สองมือที่เรี ยวงามคอยดึงรั้งพระหัตถ์ของเขาอยูต่ ลอด
นางแทบจะซุกไซร้ฉลองพระองค์ของเขาอย่างสุ ดชีวิต

ต่อให้จีเฉวียนทรงเป็ นดัง่ ต้นสาคูโบราณอายุพนั ปี หมื่นปี ยามนี้ ก็ยงั


ต้องทรงรู ้สึกอ่อนไปทั้งพระองค์จนจะผลิดอกได้แล้ว
“ อย่าได้วุ่นวาย ” เขาจับมือเล็กของนางเอาไว้ ” เจ้าเมามากแล้ว เรา
จะส่ งเจ้ากลับไปเดี๋ยวนี้ “

“ ไม่อาวง่ะ หากท่านไม่ยิ้มข้าก็จะไม่ไป ” ตู๋กูซิงหลันทาแก้มพอง


กระทืบเท้าราวกับเป็ นเด็กๆ
ตอนที่ 178 จีเฉวียน กอด กอด~

จีเฉวียน ที่เย็นยะเยือกอยูเ่ สมอ แต่วา่ เมื่อได้พิงกับตัวเขา นางรู ้สึกว่า


สบายไปทั้งร่ าง ความร้อนรุ่ มที่ผดุ ขึ้นมาจากภายใน ก็เหมือนกับว่า
ได้รับการผ่อนคลาย

จี เ ฉวี ย น ห้า มนางไม่ ส าเร็ จ แต่ ก็ ไ ม่ ไ ด้คิ ด จะผลัก ไสนางออกไป


ใบหน้าที่เฉยชานั้นปรากฎรอยยิม้ ขึ้นมา

ตู๋กซู ิ งหลันจ้องมองดู ก็ส่ายศีรษะ “ ไม่พอ ยังไม่พอ” พูดแล้วตู๋กซู ิ งหลัน


ก็ปล่อยเขา นางยกสองนิ้วขึ้นมา สัมผัสเบาๆ ลากจากมุมปากไปที่ขา้ ง
แก้มทั้งสองข้าง จนเกินเส้นโค้งตามมา ทาให้นางพอใจได้ในที่สุด นาง
ก็ค่อยยิม้ ออกมาบ้าง

“เช่นนี้ จึงจะถูกต้อง” ว่าแล้วก็ไม่ลืมที่จะชมเขาประโยคหนึ่ ง “จีเฉวียน


ท่านน่าดูมากๆ เลย”

จีเฉวียนมองดูนางยิม้ แย้ม พระทัยก็หลุดลอยไป จนทรงลืมเลือนว่ามี


ผูค้ นมากมายอยูร่ อบข้าง ตรัสถามออกไป “ เจ้าชอบหรื อไม่? ”
“ ชอบสิ ชอบมากๆ เลย” ตู๋กูซิง หลันพูดพลาง ก็ปล่อ ยมื อ จากเขา
ทาท่าหัวใจดวงโตๆ ให้เขาดูทาเสร็ จแล้วนางก็ยื่นสองมื อออกมา
กอดเอวเขาเอาไว้แน่นๆ อีก ดวงตาเล็กๆ คลอเคลียอยูบ่ นอกของเขา
ถูกไถไปมา “จีเฉวียน ข้ารู ้สึกแย่มากเลย ขอกอดท่านอย่างนี้ตลอดไป
ได้หรื อไม่?”

ถึงยามนี้ จีเฉวียนค่อยรู ้สึกขึ้นมาว่าร่ างกายนางร้อนระอุประหนึ่งเตา


ไฟ คนแทบจะร้อนลวกไปทั้งตัว

เหล่าขุนนางใหญ่ เชื้อพระวงค์สูงศักดิ์ท้ งั หลายคืนนี้ ต่างก็ได้เห็นจน


ประจักษ์ชดั แล้ว ไทเฮาน้อยทรงสาแดงวิชายัว่ ยวนฝ่ าบาทให้ดู ฉากที่
ได้เห็นนี้ยงั ดึงดูดสายตาได้มากกว่าการแสดงคืนนี้มากมายนัก

เหล่าพระสนมในวังหลังต่างก็มองดูกนั จนปากอ้าตาค้าง ขอโทษที


เถอะ พวกนางคงจะต้องกราบกรานยอมแพ้เสี ยแล้ว! ฝี มือยัว่ ยวนที่
ไร้ยางอายขนาดนี้ พวกนางคงจะไม่อาจร่ าเรี ยนได้
ตู๋กจู ุนเองก็ประหลาดใจอย่างยิง่ น้องสาวกาลังเล่นละครใดอยู?่ หรื อ
ว่าจะถูกตาต้องใจจีเฉวียนขึ้นมาจริ งๆ? เจ้าฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ นั มีดีในที่
ใดกัน? รู ้หรื อไม่ แม้แต่ปลายเท้าของนางเขาก็ยงั ไม่คู่ควรด้วยซ้ า

ซูเม่ยเองก็ร้อนใจขึ้นมาแล้ว เห็นตาตาว่าตู๋กซู ิ งหลันโอบกอดจีเฉวียน


อย่างแนบแน่น เขาก็หึงหวงจนอยากจะทาลายพระตาหนักจิ่นซิ่ วให้
ราบแล้ว เขาก้า วเข้า ไปดึ ง ตู๋ กูซิ ง หลัน ออกมา “อาหลัน เจ้า ตั้ง สติ
หน่อย”

“อย่ามาดึงข้า ข้าจะกอดเขา จีเฉวียน กอด กอด~” ตู๋กูซิงหลันราว


กับเป็ นปลาหมึกไปแล้ว เกาะติดกับจีเฉวียน จะเป็ นจะตายก็ไม่ยอม
ปล่อย นางมีเรี่ ยวแรงมาก แค่โบกมือยังเกือบจะผลักซูเม่ยจนกระเด็น

ผูค้ นทั้ง หมดต่างเห็ นกับตา จุ จุ …….ไทเฮากับหวงกุย้ เฟยแย่งชิ ง


ฝ่ าบาทกัน ละครฉากนี้ยงิ่ ทีก็ยงิ่ สนุกไปกันใหญ่แล้ว!

จีเฉวียนมองดูสาวน้อยที่ร่ าร้องขอให้อมุ ้ ในอ้อมอก ทั้งๆ ที่ทรงรู ้ดีวา่


สมควรจะผลักไสนางไปให้ไกล แต่ว่าพระหัตถ์คู่น้ นั กลับกอดนาง
กลับไปอย่างไม่อาจควบคุมได้ ดวงเนตรหงส์กวาดขึ้นมามองดูผคู ้ น
ที่กาลังจดจ้องมา

“ไทเฮาทรงเมาสุ รา ไม่รู้องค์ งานเลี้ยงในคืนนี้สิ้นสุ ดลงแล้ว ออกจาก


วังแล้วกลับบ้านไปเสี ย”

ผู ้ค นทั้ง หลายยัง คิ ด จะชมดู ค วามสนุ ก สนานต่ อ ไป แต่ ว่ า สาย


พระเนตรของฝ่ าบาทกลับเปี่ ยมไปด้วยไอสังหาร แต่ละคนแม้มีใจ
อ ยากหากก็ ป ราศจากความกล้ า ได้ แ ต่ ท ยอยกั น ออกจาก
พระตาหนักจิ่นซิ่ วไป

เหล่าพระสนมทั้งหลายต่างก็ยงั ยืนอยู่ที่เดิ ม พูดกันตามจริ งตอนนี้


พวกนางต่างโกรธเกรี้ ยวจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขึ้นมาบ้างแล้ว แม่ยายถึง
ขนาดแย่งชิงสามีของนางต่อหน้า โทสะเช่นนี้ จะให้กล้ ากลืนลงไป
ได้อย่างไร?

ซูเม่ยที่เป็ นถึงหวงกุย้ เฟยก็ใช้การไม่ได้เสี ยเลย ยามปกติมิใช่ว่านาง


เป็ นที่โปรดปรานของฝ่ าบาทที่สุดหรอกหรื อ? ทาไมพอตอนนี้แม้แต่
จะมองฝ่ าบาทก็ยงั ไม่ทรงชายพระเนตรให้นางเลย?
ตู๋กูจุนยังคงไม่ได้จากไป ท่าทางเช่นนี้ ของน้องสาวทาเอาเขากังวล
มากจริ งๆ

เขาเดินเข้าไปใกล้ คิดจะดึงเอาตัวนางออกมาจากจีเฉวียน แต่ยงั ไม่


ทันที่เขาจะได้ลงมือ ก็เห็นจีเฉวียนโอบอุม้ นางขึ้นมาทั้งตัว “เราจะส่ ง
นางกลับตาหนักเฟิ่ งหมิงด้วยตนเอง ท่านแม่ทพั อย่าได้เป็ นกังวล”

หยวนเฟยเกรงว่าเขาจะขัดแย้งกับฝ่ าบาท ก็รีบกล่าวขึ้นมาว่า “ท่าน


แม่ทพั ผูพ้ ิชิต ข้าจะคอยดูแ ลไทเฮาด้วยตัวเอง ท่านก็กลับจวนไป
อย่างวางใจเถอะ”

ว่ากันตามนิ สัยของตู๋กูจุน เกรงว่าเรื่ องที่ต่อให้ตอ้ งแย่งชิงคนกับฝ่ า


บาทก็คงจะกล้าทา

หยวนเฟยกังวลในอาการบาดเจ็บของเขาที่ยงั คงไม่หายดี หากว่าเกิด


ใช้กาลังกันขึ้นมา จนได้รับบาดเจ็บซ้ าอีกก็คงจะแย่แน่ๆ

นางทางหนึ่ ง พูด ทางหนึ่ ง ก็ดึง แขนเสื้ อ ของตู๋ กูจุน ให้เขาถอยไป


ด้านหลัง องค์หญิงใหญ่ก็ทอดเนตรมองมาจากจุดที่ไม่ไกลนัก

“ฝ่ าบาทย่อมไม่ทรงทาร้ายไทเฮา เจ้าไม่จาเป็ นต้องเคร่ งเครี ยดไป”


นางคื อ คนที่ รู้ จ ักความรั ก รั ก จนถึ ง ขั้น แม้ต ายจากกัน ย่อ มเข้า ใจ
ความรู ้สึกของหนุ่มสาวมากกว่าผูใ้ ด ฮ่องเต้ผทู ้ รงเป็ นอนุชาของนาง
ไม่เคยมีความอ่อนโยนให้กบั ผูใ้ ดมาก่อน

พอได้ฟังคาขององค์หญิงใหญ่ ตู๋กูจุนก็ค่อยเย็นลงได้บา้ ง ไม่เข้าไป


แย่งชิงคนอีก

จากนั้นก็ได้ยินองค์หญิงใหญ่ตรัสเพิ่มอีกว่า “เราเองก็จะกลับแล้ว
รบกวนท่านแม่ทพั คุม้ ครองส่ งพวกเราแม่ลูกด้วย”

นี่ เ ป็ นครั้ งแรกที่ น างขอร้ อ งออกมาด้ว ยตนเอง ตู๋ กู จุ น ตะลึ ง ไป


เล็กน้อย ค่อยผงกศีรษะ “ ได้ ”

เขารับคาแล้วก็หันมาเหลือบมองตู๋กูซิงหลันแวบหนึ่ ง เห็นนางกอด
แขนจีเฉวียนเอาไว้อย่างแนบแน่น ซุกศีรษะเข้าไปในอ้อมอกของเขา
แย้มยิม้ อย่างโง่งม ก็คิดว่านางดื่มสุ รามากไปจึงได้เอาแต่ใจเหมือนดัง่
เด็กน้อย

ตู๋กูจุนออกจากตาหนักจิ่นซิ่ ว ถือดาบใหญ่ประจาตัวของเขาคุม้ ครอง


องค์หญิงใหญ่แม่ลูกกลับไป
ในตาหนักจิ่นซิ่ ว เหล่าสนมยังคงไม่ยอมแยกย้าย จีเฉวียนก็ทรงอุม้
ตู๋กซู ิ งหลันเอาไว้เตรี ยมจะเสด็จไปตาหนักเฟิ่ งหมิงกง

แต่ยงั ไม่ทนั จะได้กา้ วพระบาทออกจากตาหนัก ก็เห็นอันหร่ วนขวาง


อยูท่ ี่เบื้องหน้าพระพักตร์ คุกเข่าลงไปอย่างแรง “ ฝ่ าบาท พระองค์ไม่
อาจจะทรงกระทาเรื่ องเหลวใหลนะเพคะ” อันหว่านจือที่อยู่ขา้ งๆ
นาง ก็คุกเข่าลงไปเช่นกัน น่าตายนัก นางคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะ
ยอมอ่อนให้กบั ตู๋กซู ิ งหลันจนถึงเพียงนี้

เป็ นถึงไทเฮาของบ้านเมือง กล้ายัว่ ยวนฝ่ าบาทต่อหน้าฝูงชน กลับไม่


มีผใู ้ ดกล้าพูดอะไร? ทาไมถึงได้ผดิ ท่าไปได้ถึงเพียงนี้ ?

ฝ่ าบาทเองก็เช่นกัน มิได้ทรงกริ้ วเลยแม้แต่นอ้ ย กลับจะส่ งนางกลับ


ตาหนักด้วยพระองค์เอง

หากปล่อยให้ส่งกลับตาหนักเฟิ่ งหมิงทั้งๆ อย่างนี้ ยงั จะเหลือหรื อ?


เกรงว่าพอกลับถึงตาหนักเฟิ่ งหมิง เขาก็คงจะจับตู๋กูซิงหลันกลืนกิน
ลงไปทั้งเป็ นแน่แล้ว
ยาเสน่ห์น้ ีมีฤทธิ์รุนแรงนัก ต่อให้เป็ นถึงเทพเซี ยนก็ดิ้นไม่พน้ เกรงว่า
นางวางแผนวุ่นวายขึ้ นมารอบหนึ่ ง กลับกลายเป็ นตัดชุดแต่งงาน
ให้กบั ผูอ้ ื่นหรื อไม่?

จี เฉวียนเพียงแต่ทอดพระเนตรมองแวบหนึ่ ง ก็สาวพระบาทก้า ว
ออกไป

อันหร่ วนรี บหมอบลงไปกับพื้น ” ฝ่ าบาท ยามฮองเฮายังทรงพระ


ชนม์อยู่ ก็ทรงให้ความสาคัญต่อกฎระเบียบและจารี ตประเพณี อย่าง
ที่สุด พระองค์ทรงเป็ นพระโอรสเพียงผูเ้ ดียวในโลกนี้ ของพระนาง
ไม่อาจจะทรงทอดทิง้ กฎได้นะเพคะ”

อันหร่ วนทูล แล้วก็จดจ้องมองสตรี ในอ้อมพระกร “จะอย่างไรก็เป็ น


ถึงไทเฮาของแว่นแคว้น กลับยัว่ ยวนพระองค์ต่อหน้าผูค้ น ไม่รู้จกั
ระวังรักษากิริยา บ่าวเฝ้าดูฝ่าบาทมาตั้งแต่พระเยาว์จนเติ บใหญ่ ไม่
อาจปล่อยให้พระองค์ทรงถูกเล่ห์อุบายยัว่ ยวนเช่นนี้นะเพคะ”
“ยัว่ ยวน งั้นหรื อ? ” จีชวนทรงตรัสพระสุ รเสี ยงเย็นยะเยือก “ เช่นนั้น
เราก็คงจะต้องสัง่ ให้คนสื บสวนดูให้ดีแล้วว่าน้ าแกงสร่ างเมาชามนั้น
ตกลงแล้วเป็ นอะไรกันแน่”

ตู๋กูซิง หลันแต่ไหนแต่ไรก็เป็ นสาวน้อ ยที่ เจ้าเล่ห์แ ละรู ้ จกั รั ก ชี วิ ต


ตนเอง ต่อให้นางเมามายจนไม่เป็ นผูเ้ ป็ นคน ก็ไม่มีทางจะก่อเรื่ อง
จนถึงขั้นยัว่ ยวนเขาต่อหน้าฝูงชนขึ้นมาได้ แค่เรื่ องอุปนิ สัยของนาง
เขาย่อมรู ้ดีอยูแ่ ล้ว หากว่าเป็ นเขาที่ดื่มน้ าแกงสร่ างเมานัน่ ลงไป เกรง
ว่าผลลัพธ์คงจะกลับกลายเป็ นอีกแบบหนึ่ง

อันหร่ วนตกตะลึงไป นางยังไม่ทนั กล่าวสิ่ งใด ก็เห็ นอันหร่ วนจรื อ


อดรนทนไม่ไหว รี บร้อนกล่าวขึ้นมาบ้างว่า “ฝ่ าบาท พระองค์ก็ทรง
ใช้เข็มเงินทดสอบดูแล้วมิใช่หรื อเพคะ? นัน่ เป็ นความหวังดีของบ่าว
ไยจึงทรงหันมาระแวงบ่าวได้กนั ?”

“ฝ่ าบาท เพื่ อ ปกป้ อ ง สตรี ที่ ก ล้า ยัว่ ยวนเจ้า แผ่น ดิ น จึ ง ทรงสาด
ความผิดนี้ใส่ บ่าว บ่าวเสี ยใจเหลือเกิน”
พูดแล้ว อันหว่านจือก็น้ าตาไหล “บ่าวรับใช้ฝ่าบาทมาตั้งนาน ไม่เคย
คิ ดอาจเอื้ อ มเลยแม้แ ต่น้อ ย ถึ ง ตอนนี้ คนที่ มีจุดประสงค์ไม่ดีก็คือ
ไทเฮาต่างหากเพคะ”
ตอนที่ 179 ปักนางเข็มหนึ่ง ก็เฉื อนเจ้ าดาบหนึ่ง

เหล่าพระสนมถึงแม้ไม่ได้ชื่นชอบนาง แต่ตอนนี้ต๋ กู ซู ิ งหลันก็คือศัตรู


ร่ วมกันของทั้งหมด ดังนั้นต่างก็พากันเข้าข้างนาง

“ขอฝ่ าบาททรงเห็ นแก่ประเทศชาติ อย่าได้ถูกเสน่ ห์ล่อลวง” เหล่า


พระสนมกล่าวแล้ว ก็พากันคุกเข่าลงไป

ซู เม่ยก็คิดจะยื่นมือเข้าไปจัดการเรื่ องนี้ ดว้ ย แต่กลับถูกหย่งเฉิ งอ๋ อง


สามีภรรยารั้งตัวเอาไว้ ลากเขาออกไปจากสถานที่ในทันที

พวกเขาเกรงว่าเจ้าลูกทรพีจะสบโอกาสตบตีกบั ไทเฮาขึ้นมา ดังนั้น


รี บเอาเจ้าตัวปั ญหานี้ออกไปให้ไกลๆ เป็ นดีที่สุด

ก่ อ นหน้านี้ เจ้าลูกตัวร้ายก็สวมหมวกเขี ยวใบโตให้ฝ่าบาทไปแล้ว


หากว่าวันนี้ฝ่าบาทจะกระทาบ้าง ก็ถือว่าเสมอกันไป

…………………………

พระตาหนักจิ่นซิ่ ว
จี เ ฉวี ย นกวาดพระเนตรมองดู เ หล่ า สนมอย่า งเย็น ชา สุ ด ท้า ยก็
ทอดพระเนตรไปยัง อันหว่านจื อ “ ดูท่าเจ้าไม่เห็ นโลงศพไม่หลัง่
น้ าตา”

ขณะที่ทรงตรัสเรื่ องนี้ ตู๋กูซิงหลันยังคงซุกไซร้อยู่ในอ้อมพระอุระ


อย่างไม่รับรู ้เรื่ องราวใดๆ อ๋ ายย่าห์ ทาไมก่อนหน้านี้ถึงไม่เคยรู ้สึกว่า
จีเฉวียนนั้นงดงามและน่ าหลงใหลถึงเพียงนี้ ? นี่ เขากาลังพูดคุยกับ
ใครกัน? ไม่สนใจแล้ว เอาเป็ นว่าอย่ามาร้ายกาจกับนางก็พอ

วิญญาณทมิฬเกาะอยูบ่ นบ่าของนาง มันเรี ยกนางให้ ‘ตื่น’ อยูห่ ลาย


รอบแล้ว แต่ก็ยงั ไม่สาเร็ จ สตรี ผนู ้ ้ ี ยามปกติรู้ดีไปหมดทุกเรื่ อง มา
คราวนี้ โดนน้ าพลิกเรื อคว่า ถูกเจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ ยัดเยียดสิ่ งของให้
นางกินเข้าไป! คราวนี้ถึงคราวต้องซวยแน่!

รอจนนาง’ตื่น’ขึ้นมา พอได้รู้ว่าเมื่อคืนตนเองทาอะไรลงไป เกรงว่า


คงต้องสานึกเสี ยใจจนอยากเอาหัวโขกกาแพง

อันหว่านจือคุกเข่าอยูบ่ นพื้น ในใจของนางมีแต่ความพลุ่งพล่าน ไย


ฝ่ าบาทจึงไม่ทรงเชื่อนางกัน?
ยาเสน่ ห์น้ ี ท่านย่าปรุ งขึ้นด้วยตนเอง ใครก็ไม่มีทางตรวจรู ้ได้ เรื่ อง
อะไรนางจะต้องไปกลัว?

อันหร่ วนถึงแม้จะหงุดหงิดที่อนั หว่านจือพูดมากเกินไป แต่อย่างไร


ยังคงต้องช่วยหลาน นางกล่าวอย่างสารวมว่า ” ฝ่ าบาท พระองค์ทรง
ใส่ ความหว่านจรื อแล้ว “

“นางถวายการดูแลฝ่ าบาทด้วยความใส่ ใจ มิว่าเรื่ องใดๆ ล้วนแล้วแต่


คานึ งถึงพระองค์ก่อน ทุกสิ่ งที่นางนามาถวายพระองค์ไหนเลยจะมี
ข้อผิดพลาดได้”

“ฝ่ าบาท หากพระองค์ มิ ท รงเชื่ อ ก็ ส ามารถเรี ย กหมอหลวงมา


ตรวจสอบดูได้เพคะ” พูดแล้ว อันหร่ วนก็จดจ้องไปยังตู๋กูซิงหลันที่
อยู่ใ นอ้อ มพระกร กราบทูลต่ อ ไปว่า “ไทเฮาน้อ ยผูน้ ้ ี นับ ตั้ง แต่ที่
ได้รั บ การแต่ง ตั้ง มาก็เ ป็ นเหตุ ใ ห้อ ดี ต ฮ่ อ งเต้สิ้ นพระชนม์ ตอนที่
ฝ่ าบาทเสด็จขึ้นครองราชย์นางก็บงั อาจปี นเตียงมังกร นี่ แสดงว่านาง
มี ใ จใฝ่ ฝั น ในพระองค์ม ากเพี ยงไร คราวนี้ พ อดื่ มสุ ราลงไปถึ ง ได้
สาแดงออกมาจนหมด”
“อันกูกู ที่ ก่อ นหน้านี้ เรื่ อ งที่ ไทเฮาทรงปี นเตี ยงบรรทมได้รับการ
พิ สู จ น์ จ นชัด แจ้ง แล้ว นั่น เป็ นแผนการให้ ร้ า ยของเสี ย นไท่ เ ฟย
และเต๋ อเฟย ” มีสนมบางคนเตือนนาง

นี่ มนั คนละเรื่ องกัน หากคิดจะคุย้ คดีเก่าขึ้นมาละก็ ควรต้องเอาที่มี


ประโยชน์หน่อยจึงจะใช้ได้ ข่าวสารของอันกูกนู บั ว่าล้าหลังไปแล้ว

อันหร่ วนก็มิได้เร่ งร้อน นางเพียงกราบทูลจีเฉวียนว่า “บ่าวมีวิธีการ


อยู่ อ ย่ า งหนึ่ ง ขอเพี ย งฝ่ าบาททรงทดลองดู ก็ จ ะทราบได้ว่ า
เสี่ ยวไทเฮาทรงแกล้งเมาสุ ราเพื่อล่อลวงฝ่ าบาทหรื อไม่” พูดแล้ว ก็
เห็นนางล้วงเอาเข็มเล่มดาๆ ทื่อๆ ออกมาจากในอกเสื้ อ

เหล่าสนมต่างก็เข้าใจในความหมายของนางขึ้ นมา ใครบ้างจะไม่


กลัวเจ็บกัน? หากว่าโดนเข็มเช่นนี้ แทงเข้าไปครั้งหนึ่ ง ต่อให้แกล้ง
เป็ นเมาอยูก่ ็ตอ้ งรี บสร่ างขึ้นมาแน่

“ขอฝ่ าบาททรงประทานอนุญาตให้บ่าวได้ทดลองดูสักครั้ง จะได้ทา


ให้พระองค์ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริ งของนาง ” อันหร่ วนกราบทูล
อย่างชี้แนะ
ผูท้ ี่โดนยานี้ เข้าไป หากไม่ได้กระทาเรื่ องดังว่าแล้ว ก็มีแต่การฝังเข็ม
ของนางเท่านั้นจึงจะแก้ไขได้

ต่อให้พวกหมอหลวงมีฝีมือสู งส่ งเพียงไร ก็มิอาจตรวจเจอปั ญหาใน


น้ าแกงสร่ างเมาได้ ขอเพียงตอนนี้นางใช้เข็มแทงจนตู๋กซู ิ งหลัน’ตื่น’
ขึ้นมาได้ ความเสี่ ยงของหว่านจรื อก็จะคลี่คลายไปเอง

อีกทั้งยังสามารถทาให้ฝ่าบาททรง ‘ได้เห็น’ โฉมหน้าที่แท้จริ งของตู๋


กูซิงหลัน นับว่ากระสุ นนัดเดียวยิงนกได้สองตัว

พอถึงตอนนั้นค่อยให้อนั หว่านจือทาท่าน่าสงสาร ฝ่ าบาทย่อมบังเกิด


ความเสี ยใจสานึ กผิดต่ออันหว่านจือ เช่นนี้ ต่อไปในภายหน้าเรื่ องที่
อันหว่านจือวาดหวังเอาไว้ก็ยอ่ มจะสาเร็ จได้อย่างแน่นอน

“ขอฝ่ าบาททรงประทานอนุญาตให้อนั กูกไู ด้ทดลองด้วยเถอะเพคะ”


เหล่าพระสนมต่างพากันขอร้อง

จีเฉวียนทรงสดับฟั งแล้ว ก็พระสรวลเสี ยงเย็น ดวงเนตรหงส์คู่น้ นั


บังเกิดรังสี อามหิ ตขึ้นมา
สายพระเนตรนั้นทอดลงบนร่ างของอันหร่ วน ชั่วขณะนั้นเองอัน
หร่ วนก็พลันรู ้สึกเหมือนตกอยูใ่ นความเหน็บหนาวขึ้นมา “หมัวมัว
เจ้าคิดว่ารับผิดชอบเรื่ องนี้ไหวหรื อ?”

อันหร่ วนสงบจิตใจลง “ เพื่อฝ่ าบาท เพื่ออดีตฮองเฮา แม้บ่าวเฒ่าผูน้ ้ ี


จะต้องสละชีวิตก็ขอรับผิดชอบอย่างสุ ดกาลังเพคะ”

จีเฉวียนทรงหรี่ พระเนตรลง พลุไฟหยุดลงไปแล้ว ท้องฟ้าเหลือเพียง


แสงดาวกระจ่างเท่านัน่ สองพระหัตถ์ของพระองค์โอบอุม้ ตู๋กซู ิ งหลัน
เอาไว้ ตรัสด้วยพระสุ รเสี ยงเย็นยะเยือกอย่างที่สุดว่า “ไทเฮาทรงศักดิ์
ล้ าค่ากว่าทองคา หากจะให้นางหลัง่ โลหิ ตพบกับความเจ็บปวด ก็จง
หาสิ่ งที่ทดั เทียมมาแลกเปลี่ยน”

“อย่าเช่น เจ้าแทงนางเข็มหนึ่ ง เราก็จะเฉื อนอันหว่านจือดาบหนึ่ ง


ทางที่ดีเจ้าจงภาวนาให้สามารถแทง ‘ปลุก’ ไทเฮาสาเร็ จในครั้งเดียว
มิเช่นนั้นเราจะให้ร่างของอันหว่านจือต้องเผชิญกี่ดาบ ก็ยงั ไม่รู้”
ใบหน้าชราของอันหร่ วนถึงกับระงับอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ นางยังคง
ถื อ เข็มดาเอาไว้ใ นมื อ แต่ยงั ไม่ทนั ที่ นางจะได้ทูลตอบฮ่ อ งเต้ อัน
หว่านจือก็ระเบิดคาพูดออกมาก่อนแล้ว

“ฝ่ าบาท เพราะอะไรพระองค์จะทรงทาเช่นนี้กบั หม่อมฉันได้กนั ?”

อันหว่านอยากจะตบปากของนางนัก นี่ เป็ นเพราะว่าตั้งแต่ยงั เล็ก ตน


ตามใจนางมากไปแท้ๆ …..

จีเฉวียนพระสรวลเสี ยงเย็น “เพราะว่าเจ้าเป็ นบ่าวคนหนึ่ ง หมัวมัว


อายุมากแล้ว คงจะทนได้ไม่กี่ดาบ ในเมื่อนางมีบุญคุณเลี้ยงดูเจ้ามา
เจ้าก็สมควรจะรับดาบแทนนาง ถือเป็ นความกตัญญู”

อัน หว่ า นจื อ พู ด ไม่ อ อกไปชั่ ว ขณะ บ่ า ว……บ่ า ว……ในสาย


พระเนตร นางก็เป็ นเพียงแค่บ่าวเท่านั้นหรื อ? แม้แต่เส้นผมสักเส้น
ของตู๋กูซิงหลันก็ยงั คงเทียบไม่ได้อย่างนั้นรึ ! เพียงแค่จะแทงนางสัก
เข็มหนึ่ง ถึงกับจะเฉือนนางดาบหนึ่ง?

คราวนี้ ในใจของนางถึงกับเกิ ดความรู ้สึกเหน็บหนาวเข้าไปถึงแก่น


กระดูก สายตาสาดประกายเคียดแค้นออกมา ความอับอายที่ถูกดูถกู ว่า
เป็ นเพียงบ่าวไพร่ อยูต่ ลอดหลายวันมานี้ก็ปะทุออกมา “นังตู๋กซู ิ งหลัน
เป็ นนังมาร ดูสิว่ามันยัว่ ยวนฝ่ าบาทจนหลงใหลหัวปั กหัวปาถึง เพียง
ไหนแล้ว?”

“พวกคนตระกูลตู๋กูก็ลว้ นแต่มิใช่ตวั ดี ฝ่ าบาท หม่อมฉันทูลพระองค์


ตามตรงเลยก็แล้วกัน ปี นั้นแม้แต่อดีตฮองเฮาก็ทรงสิ้ นประชนม์ดว้ ย
น้ า มื อ ของพวกตระกู ล ตู๋ กู แต่ ว่ า วัน นี้ พระองค์ก ลับ ทรงปกป้ อ ง
หลานสาวของผูท้ ี่ฆ่าพระมารดาหรื อ? ช่างน่าขานัก!”

“อ๋ อ พระองค์มิทรงทราบละมั้ง ว่า ยามที่ อ ดี ตฮองเฮาเริ่ มทรงพระ


ครรภ์ ทุกๆ วันต่างถูกคนวางยาพิษ เป็ นยาพิษกาเริ บช้า ที่ซึมซาบเข้า
ไปในร่ างของพระนางอยูท่ ุกๆ วัน ดังนั้นยามที่พระองค์ทรงประสู ติ
ออกมา พระนางถึงได้ตกพระโลหิ ตอย่างรุ นแรง เพียงไม่กี่ปีก็ตอ้ ง
สิ้ นไป”

อันหว่านจือกล่าวออกมาจนหมดในลมหายใจเดียว ทั้งยังยืนขึ้นมา
อย่างไม่กลัวตาย “อดีตฮองเฮาทรงทราบพระองค์ดี แต่เพราะยามนั้น
ตระกูลตู๋กมู ีอานาจเทียมฟ้า จึงได้แต่ฝืนพระทัยกล้ ากลืนความทุกข์น้ ี
ลงไป พอพระนางสิ้ นไปแล้ว ท่านย่าของหม่อมฉันก็นาความลับนี้
หนี ไปอยูเ่ ขาจงหลิง ตลอดหลายปี มานี้ เพียงเล่าให้หม่อมฉันฟั งแต่ผู ้
เดียว!”

นางหอบหายใจจนอกกระเพื่อม ท่าทางราวกับสู ญเสี ยความมีเหตุผล


ไปหมดแล้ว “ก็นงั เสี ยนไท่เฟยอะไรนัน่ มิใช่วา่ ยังไม่ตายหรอกหรื อ?
หากว่าฝ่ าบาทไม่ทรงเชื่ อ ก็เรี ยกนางมาสอบความดูสิเพคะ ยาพิษที่
ถวายให้กบั ฮองเฮา ล้วนเป็ นนางส่ งมาด้วยตนเองทั้งนั้น! พระองค์
สมควรจะทราบว่า เสี ยนไท่เฟยนั่นกลายมาเป็ นนางกานัลประจา
พระองค์ของอดีตไทเฮาได้อย่างไรกระมัง?”

“ แม้ทุกวันนี้ ท่านย่ากับหม่อมฉันมีใจจะปกป้ องพระองค์ แต่ฝ่าบาท


กลับ ทรงถู ก นัง มารนี้ ปิ ดพระเนตร ช่ า งท าร้ า ยจิ ต ใจของพวกเรา
เหลือเกิน!”

คาพูดของอันหว่านจือ พระสนมที่อยูใ่ นที่นนั่ ล้วนได้ยนิ อย่างชัดเจน


แต่ละคนต่างเบิกตาโตขึ้นมา ตระหนกตกใจไปตามๆ กัน

ฉางซุนฮองเฮาทรงถูกพวกตระกูลตู๋กทู าร้ายจนสิ้ นพระชนม์?


มิน่าเล่า…. นับตั้งแต่ฝ่าบาททรงขึ้นครองราชย์มาก็ทรงเป็ นปรปั กษ์
กับตระกูลตู๋กู เดิมทียงั เข้าใจว่าเป็ นเพราะพระองค์ทรงโกรธแค้นที่
ตระกูลตู๋กูเคยสนับสนุ นอี้อ๋อง ที่แท้ก็เป็ นเพราะมีเรื่ องราวใหญ่โต
เช่นนี้น่ะเอง เรื่ องเช่นนี้มนั …….เป็ นปั ญหาใหญ่เกินไปแล้ว

อันหว่านจื อ รู ้ สึกสะใจยิ่ง นัก นางคิ ดว่าในเมื่ อ เปิ ดเผยเรื่ อ งนี้ อ อก


มาแล้ว ต่อให้ฮ่องเต้จะทรงลาเอียงอย่างไร ก็ยอ่ มไม่อาจจะเข้าข้างอีก
ฝ่ ายที่มีความแค้นฆ่าพระมารดาได้เป็ นแน่
ตอนที่ 180 เสี่ ยวเฉวียนเฉวียน

จีเฉวียนทรงได้ฟังแล้ว สายพระเนตรก็ มืดครึ้ มลง ร่ างของตู๋กซู ิ งหลัน


ที่อยูใ่ นอ้อมพระกรยิง่ ทีกย็ งิ่ ร้อนระอุข้ ึนมา สองมือโอบกอดไปรอบ
พระศอ ส่ งเสี ยงครางหงิงๆ ออกมา “จีเฉวียน ข้าทรมานมากเลย”

หากว่าเป็ นในยามปกติ พอนางได้ฟังอันหว่านจือกล่าวถ้อยคาเหล่านี้


ตู๋กซู ิ งหลันย่อมต้องพุง่ เข้าไปกระโดดถีบและตบหน้านางเป็ นแน่

แต่ว่านางในตอนนี้ ได้แ ต่ซุกอยู่ใ นอ้อมพระอุระอย่างเชื่ อ ฟั ง สอง


แก้มแดงเปล่งปลัง่ ราวกับอาทิตย์อสั ดงที่งดงาม ในดวงตาดอกท้อคู่
นั้นมองเห็นแต่พระองค์อยูเ่ พียงผูเ้ ดียว

ทั้งผูอ้ ื่นและเรื่ องใดๆ ล้วนถูกปฏิเสธไปจนหมดสิ้ น

เมื่ อ ได้รั บ สายตาเช่ น นี้ ทัน ใดนั้น จี เ ฉวี ย นทรงรู ้ สึ ก คล้า ยดั่ง เป็ น
ทรราชย์ผทู ้ รงอานาจขึ้นมาในทันที
“ ฝ่ าบาท พระองค์ทรงดู นางสิ เ พคะ นี่ ย งั จะไม่ เรี ยกว่าล่อ ลวงอี ก
หรื อ? ” อันหว่านจืออากจะพุง่ เข้าไปแทงตู๋กซู ิ งหลันสักสองดาบ

เดิมที……เดิมทีคนที่ฝ่าบาทสมควรจะอุม้ เอาไว้ก็คือนางต่างหาก

ยิ่งกว่านั้นนางเปิ ดเผยความลับที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ออกมา ไยฝ่ าบาท


จึงไม่ทรงโยนมันทิง้ ไป กลับยังโอบอุม้ มันไว้ในอ้อมพระกรอีก

อันหร่ วนที่อยู่ดา้ นข้าง แทบจะทาเข็มดาเล่มนั้นตกลงพื้น นางไม่รู้


เลยว่าสมควรจะด่าอันหว่านจืออย่างไรดี ใจร้อนเกิ นไปแล้ว! เรื่ อง
เช่นนี้สมควรจะค่อยๆ เกลี้ยกล่อมฝ่ าบาทถึงจะถูก!

เดิมทีคิดจะรอให้นางได้กลายเป็ นพระสนมเสี ยก่อน จากนั้นทุกๆ วัน


ยามอยูเ่ คียงข้างฝ่ าบาทก็ค่อยๆ คอยเป่ าหู ไปเรื่ อยๆ พอถึงวันหนึ่ งฝ่ า
บาทย่อมจะทรงหลงเชื่อโดนสนิทใจขึ้นมาเอง

ตอนนี้กลับดีนกั แผนกลับกลายเป็ นเช่นนี้ ไม่แน่วา่ ผลลัพธ์ที่ต้ งั ใจไว้


อาจจะกลายเป็ นตรงกันข้าม

แต่ว่าเมื่ อ เรื่ องมาถึงขั้นนี้ แล้ว ตนก็ได้แ ต่ฝืนผลักดันต่อไปเท่านั้น


“ฝ่ าบาท อดีตฮองเฮาทรงมีรับสั่งกับบ่าว เพื่อความสงบสุ ขของต้า
โจว ให้เก็บความลับนี้ ลงหลุมไปกับตัว หว่านจรื อเด็กคนนี้ ไม่รู้จกั
เรื่ องหนักเบา …..ถึงได้พดู โพล่งออกมา ขอฝ่ าบาททรงโปรดวินิจฉัย
ด้วยเพคะ”

“ฝ่ าบาทเพคะ นี่ถือเป็ นเรื่ องใหญ่เลยนะเพคะ ที่ตระกูลตู๋กกู ล้ากระทา


การวางแผนปลงพระชนม์อดีตฮองเฮา เช่นนี้ ต่อให้ประหารพวกเขา
ทั้งตระกูลก็ไม่ถือว่าเกินไปนะเพคะ ” ในหมู่พระสนมย่อมมีผทู ้ ี่กล้า
พอจะออกมาสนับสนุน

แต่ว่ายามนี้ ตู๋กูซิงหลันไม่เหลือสติใดๆ อยู่กบั ตัวแล้ว เพียงรู ้แต่ว่า


ตนเองใกล้จะจะถูกแผดเผาตาย นางยิง่ กอดคอของจีเฉวียนให้แนบ
แน่นเข้าไปอีก คิดแต่จะทาบตัวเข้าหาความเย็นดุจน้ าแข็งบนร่ างกาย
ของเขาจะได้เอามาชโลมความร้อนที่แผดเผาในร่ างกายและจิตใจ
ของนาง น่าเสี ยดายที่นางปวดศีรษะเหลือเกิน ทั้งยังรู ้สึกมึนงงอย่าง
ทรมาน ยิ่ง อยากออดอ้อนเขามากว่าเดิ ม “จี เฉวียน ให้ขา้ กอดท่าน
นอนสักครู่ ได้หรื อไม่?” จีเฉวียนทรงทอดพระเนตรมองดูท่าทีที่ทุกข์
ทรมานอย่างรุ นแรงของนาง พระทัยก็อ่อนลง
สองพระหัตถ์ที่แข็งแกร่ งและเย็นยะเยือกของพระองค์กอดนางแน่น
เข้า หันพระพักตร์ กลับไปเหลือบมองอันหร่ วนและอันหว่านจือครา
หนึ่ ง “หวังว่าพวกเจ้าจะมีดีพอที่จะรับผิดชอบต่อคาพูดของตนเอง
เมื่อครู่ ”

“บ่าวเฒ่าของสาบานต่อฟ้าดิน ไม่มีโป้ ปดเลยสักคา! ” อันหร่ วนยก


นิ้วขึ้นสาบาน

แต่จีเฉวียนกลับมิได้ทรงทอดพระเนตรมองนางเลยสักนิด เพียงกวาด
พระเนตรไปมองดูเหล่าสนมที่กาลังชมดูอย่างสนอกสนใจ “เรื่ องใน
วันนี้ หากว่าเราได้ยนิ คาเล่าลือไร้สาระอันใดแม้เพียงครึ่ งคา ย่อมมีวิธี
ให้พวกเจ้าแต่ละคนอยูม่ ิสู้ตาย ก่อนจะพ่นน้ าลายออกมา ก็จงคิดดูให้
ดีเสี ยก่อน” ทันทีที่ตรัสจบ ทันใดนั้นก็ปรากฎคนชุดดานับร้อยขึ้นมา

คนชุ ด ด าเหล่า นี้ ย่อ มเป็ นราชองครั กษ์เงาของพระองค์ แต่ ล ะคน


ลึกลับดุจภูติผี ล้วนคุกเข่าอยู่บนพื้นแทบพระบาท ฉับพลันท้องฟ้า
ยามค่าคืนก็มีเมฆหมอกพัดผ่านมา กลบแสงดาวทั้งหลายจนมืดมิด
ไป สายลมพัดมาวูบหนึ่ง โบกจนฉลองพระองค์มงั กรไหววูบ
สายพระเนตรเย็นชาดุจน้ าแข็ง ในชัว่ ขณะนั้นดูราวดัง่ เป็ นจอมมาร
ในรั ต ติ ก าล ที่ แ ฝงความน่ า หวาดหวัน่ ยิ่ ง เสี ย กว่ า พวกองครั ก ษ์
เหล่านั้นนับร้อยนับพันเท่า

ทันใดนั้นก็ทรงตรัสออกมาว่า “อันหร่ วนหมัวมัวเหน็ดเหนื่ อยแล้ว


จาเป็ นต้องพักผ่อน ส่ งนางกลับไปเสี ย ไม่มีคาสั่งจากเรา ไม่อาจก้าว
ออกจากตาหนักชางอู๋แม้แต่ครึ่ งก้าว”

“อันหว่านจือ กล่าววาจามากเรื่ อง ส่ งเข้าคุก ให้นางไปสงบอารมณ์


ลงเสี ย”

ผูค้ นทั้ง หลายต่ า งตกตะลึ ง แล้ว ฝ่ าบาททรงท าเช่ น นี้ หมายความว่า


อย่างไรกัน? ถึงแม้ผคู ้ นจะเคยได้ยนิ ได้ฟังมาว่าพระองค์กบั ตู๋กซู ิ งหลันมี
สัมพันธ์ไม่ชดั เจน แต่ก็เป็ นเพียงข่าวลือลมๆ แล้งๆ เท่านั้น

แต่ ว่า ตอนนี้ ทั้ง ที่ ไ ด้ท รงฟั ง ว่า การสิ้ น พระชนม์ข องอดี ต ฮองเฮา
เกี่ ยวเนื่ องกับตระกูลตู๋กู พระองค์ไม่เพียงรี บจัดการตู๋กูซิงหลัน แต่
กลับให้จบั อันหร่ วนและอันหว่านจือไปขังหรื อ?
เหล่าพระสนมชาววังทั้งหลายต่างก็เกิดหวาดผวาจนตัวสั่นขึ้นมา ไม่
กล้ากล่าววาจาแม้แต่ครึ่ งคา

ราชองครักษ์เงาเหล่านั้นแต่ละคนล้วนเปี่ ยมไปด้วยจิตสังหาร พวก


นางล้วนรู ้สึกได้อย่างชัดเจน หากว่าผูใ้ ดกล่าวผิดไปครึ่ งคา เกรงว่า
ศีรษะคงต้องถูกย้ายลงมาในทันที

ฟั ง ว่า ก่ อ นที่ ฝ่ าบาทจะทรงขึ้ น ครองราชย์น้ ัน องครั ก ษ์เ งาเหล่านี้


สั ง หารผู ้ที่ มิ ไ ด้เ ห็ น ด้ ว ยไปมากมายจนเลื อ ดนองดัง ท้อ งธาร
แม้กระทัง่ กองทหารที่ยอดเยีย่ มที่สุดของอี้อ๋อง ก็ยงั ถูกลบออกไปจน
หมดสิ้ น

เดิมทีพวกนางคิดว่าราชองครักษ์เหล่านี้ ลว้ นห่ างไกลจากพวกนาง


คิ ดไม่ถึงว่า ที่ จริ งแล้วพวกนางล้วนมีชีวิตอยู่ภายใต้การจับตาของ
พวกเขามาตลอด

อันหร่ วนตกตะลึงไปชัว่ ครู่ ปฎิกริ ยาของฮ่องเต้ทาให้การลงมือของ


นางผิดพลาดไปเสี ยหมด นางยังไม่ทนั ได้เอ่ยปาก ก็ถูกจับกลับไป
ตาหนักชางอู๋เสี ยแล้ว
อันหว่านจือยิ่งกลายเป็ นลิ้นจุกปากไป แม้แต่เสี ยอูอ้ ้ ียงั ไม่ทนั ได้เล็ด
ลอดออกมา ก็ถูกลากออกไป

เมื่อเป็ นเช่นนี้ เหล่าสนมอื่นจะยังมีผใู ้ ดกล้ารั้งอยูอ่ ีก ต่างก็รีบย้ายก้น


ออกจากพระตาหนักจิ่นซิ่ วไปตามๆ กัน

เพียงครู่ เดียว ทัว่ ทั้งตาหนักจิ่นซิ่ วก็เงียบลง

จีเฉวียนทรงประคองตู๋กซู ิ งหลันไว้ในอ้อมพระกร ภายใต้ค่าคืนที่ไร้


แสงดาว ดวงเนตรของพระองค์ยงิ่ ดามืดลงกว่าเดิม

จากนั้นก็ทรงตรัสกับองครักษ์เงาผูห้ นึ่ งว่า “ตรวจสอบดูให้ละเอียด


ว่าในน้ าแกงสร่ างเมามีส่ิ งใด”

“พะยะค่ะ ฝ่ าบาท” ราชองครักษ์เงาที่คุกเข่าข้างหนึ่ งอยูบ่ นพื้นพลัน


หายลับไปในความมืดมิด

……………………………….

พระต าหนัก เฟิ่ งหมิ ง ในห้อ งของตู๋ กูซิง หลัน ฮ่ อ งเต้ท รงพานาง
กลับมาผ่านหน้าต่างอีกครั้ง
ผ้าห่มนั้นเพิ่งถูกเปลี่ยนใหม่ เป็ นสี แดงสดใสราวกับว่าถูกฉาบไล้ดว้ ย
ไอมงคล จีเฉวียนทรงวางนางลงบนฟูก

พระหัตถ์เพิ่งจะคลายออกจากเอวของนาง ก็เห็ นตู๋กูซิงหลันผุดลุก


ขึ้นมานัง่ ผลักพระองค์ลงไปนอนอยูใ่ ต้ร่างแทน

ปลายคางของนางวางอยูบ่ นพระอุระ ดวงตาดอกท้อฉ่าไปด้วยน้ า จด


จ้องพระองค์อย่างไม่ยอมวางตา “จีเฉวียน กอดนอนหน่อย~”

ท่าทางของนางเช่นนี้เป็ นดัง่ นางมารที่ล่อลวงวิญญาณผูค้ นอยูช่ ดั ๆ

จีเฉวียนทอดพระเนตรมองนาง ก็สูดลมหายพระทัยเข้าไปลึกๆ จับ


ปลายคาของนางเอาไว้ “ตู๋กูซิงหลัน เจ้ารู ้ตวั หรื อไม่ว่ากาลังทาสิ่ งใด
อยู?่ ”

“รู ้สิ กอดท่านไง ” ตู๋กซู ิ งหลันกาลังหลงใหลเขาจนวิญญาณหลุดลอย


พูด แล้ว ก็กอดเขาเอาไว้อ ย่า งแนบแน่ น “ตัว ของท่า นเย็นดี จ ัง อื ม
สบายมากๆ เลย”
ที่ผ่านมาจีเฉวียนทรงวางท่าดังต้นไม้เหล็กมาโดยตลอด แต่พอถูก
ตู๋กซู ิ งหลันหยอกเย้าเอาเช่นนี้ เส้นแบ่งนั้นก็เกือบจะขาดผึงอยูร่ อมร่ อ
เขาจดจ้องตู๋กูซิงหลัน กล่าวเสี ยงต่ าว่า “เจ้าคิ ดจะให้เรากลายเป็ น
ทรราชย์ห รื อ ยัง ไง?” แต่ ว่ า ท่ า ทางของพระองค์ใ นยามนี้ ต่ า งกับ
ทรราชย์ในที่ใดกัน

หากว่าเป็ นแต่ก่อน ขอแค่ตระกูลตู๋กูมีท่าทีไม่ภกั ดีออกมาเพียงน้อย


นิ ด เขาจะต้องคิดหาวิธีการมาจัดการให้จบสิ้ นไปแล้ว แต่ว่าตอนนี้
โอกาสยิง่ ใหญ่อยูต่ รงหน้าแท้ๆ กลับถูกเขาปั ดทิง้ ไปเสี ย

ถึงแม้จะรู ้ว่าเรื่ องนี้ มีลบั ลมคมนัย แต่หากว่าเป็ นตัวเขาในยามก่อน


ต่อให้รู้ว่ามีอะไรซ่ อนเร้น ก็คงจะไม่สนใจอยู่ดี ตอนนี้ …..ทาไมถึง
ได้เปลี่ยนไปแล้ว?

พอทอดพระเนตรมองดูนางมารน้อยที่ยวั่ ยวน จีเฉวียนก็คล้ายกับจะ


หาคาตอบให้กบั พระองค์เองได้อยู่

ตู๋กซู ิ งหลัน ก็จดจ้องมองดูเขา “ท่านไม่ใช่ทรราชย์ ท่านคือจีเฉวียนที่


หล่อเหลา งดงาม น่าหลงใหล อย่างไม่มีสิ่งใดจะเทียบได้”
วิญญาณทมิฬ “ อ้วก ” ตู๋กูซิงหลันน้ าเน่ าจนมันคิดอยากจะอ้วกอยู่
แล้ว! มันควรจะลอง ‘ปลุก’ นางดูอีกสักครั้งดีหรื อไม่?

ตู๋กูซิงหลันพูดพลาง ก็เลื้อยอยู่บนร่ างของพระองค์ไปด้วย นางลูบ


คลาวุน่ วายไปบนเสื้ อผ้า ทาเอาจีเฉวียนทรงร้อนรุ่ มวุน่ วายขึ้นมา

“ ตู๋กซู ิ งหลัน!” พระองค์ตรัสเรี ยกนางเสี ยงต่า “ ความอดทนของเรามี


จากัดนะรู ้ไหม”

“ถ้าเช่นนั้นท่านก็อย่าได้อดทนไปเลย จะทาชี วิตให้ลาบากถึงเพียง


นั้นเพื่ออะไร หื ม? เสี่ ยวเฉวียนเฉวียน ” ตู๋กซู ิ งหลันคลี่ยมิ้ งดงาม

นางอ้า ปากงับ ลงที่ ป ลายคางของเขา “อื ม ท่ า นก็ ห วานนิ ด ๆ อยู่


เหมือนกันนะ”

คราวนี้ จิ ต ใจของจี เ ฉวี ย นก็ พุ่ง พล่ า นขึ้ น มา สติ สั ม ปชัญ ญะและ
เหตุผลทั้งหมดพลันเลือนหายไป
ตอนที่ 181 เรารักเจ้ า

นางอ้าปากงับลงที่ปลายคางของเขา “ อืม ท่านก็หวานนิดๆ อยู่


เหมือนกันนะ”

คราวนี้ จิ ต ใจของจี เ ฉวี ย นก็ พุ่ง พล่ า นขึ้ น มา สติ สั ม ปชัญ ญะและ
เหตุผลทั้งหมดพลันเลือนหายไป

แต่ต๋ ูกูซิงหลันกลับยังคงกระทาอย่างไม่รู้ตวั ต่อไป นางกดเขาเอาไว้


เมื่อครู่ งบั คางเข้าไปแล้ว คราวนี้ ก็ขบปลายจมูกเขาคาหนึ่ งอย่างกล้า
ตาย จีเฉวียนทรงดื่มไปไม่นอ้ ย ทาให้ทวั่ ทั้งร่ างมีกลิ่นหอมของสุ รา
อบอวล

“ เสี่ ยวฉวนฉวน ท่านน่ากินจริ งๆ ” ตู๋กซู ิ งหลันโถมอยูบ่ นตัวเขา นาง


คลี่ยมิ้ งดงามดุจบุปผา ลมหายใจอุ่นร้อนของนางเป่ าลงบนพระพักตร์
จนร้อนวูบ วูบเข้าไปถึงในพระทัยของพระองค์

จีเฉวียนทรงพยายามฝื นดึงเอาพระสติกลับมา ตอนนี้พระองค์ทรงถูก


รังแกอย่างถึงที่สุด ทั้งๆ ที่เป็ นครั้งแรกในชีวิตที่ถูกจุดไฟจนลุกโชน
ขึ้นมา กลับต้องพยายามฝื นอดทนเอาไว้ แต่ว่าสตรี ที่ไม่รู้สึกตัวผูน้ ้ ี
กลับยังจะไปต่อ

นางลูบไล้พระเกศากลุ่มหนึ่ง ปลายนิ้วไหลผ่านเส้นพระเกศาที่เรี ยบ
ลื่ นช้าๆ ใบหน้ารู ปไข่ที่ผุดผาดงดงามนั้นสัมผัสเข้ากับพระพักตร์
ของพระองค์ ทั้งยังถูไถเบาๆ

“ ตู๋กซู ิ งหลัน เจ้าอย่าได้สานึกเสี ยใจภายหลัง ” จีเฉวียนไม่อาจจะทรง


ปล่อยให้นางได้วุ่นวายอีก ทั้งๆ ที่ทราบดีว่าที่นางเป็ นเช่นนี้ ก็เพราะ
น้ าแกงสร่ างเมาชามนั้น แต่ก็กลับปฎิเสธไม่ได้ พระองค์ไม่เพียงแต่
ทรงห่ วงใยนางเท่านั้น แต่ยงั ….ชอบนาง ชอบ? ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เริ่ ม
หลงรักนางเข้าแล้ว?

พอจะครุ่ นคิดดูให้ละเอียด กลับคิดอะไรไม่ออก ราวกับว่าไม่รู้เนื้ อ


รู ้ตวั ตั้งแต่ตอนที่รู้วา่ นางกับจีเย่ยงั มีเยือ่ ใยต่อกัน หัวใจของเขาก็พลัน
ไม่ มี ค วามสุ ข หรื อ ? หรื อ ว่า ตั้ง แต่ ต อนที่ น างเลื อ กไข่ มุ ก ได้อ ย่า ง
ถูกต้องในพระตาหนักจิ่นซิ่ ว?
ใช่สิ คล้ายกับว่านับตั้งแต่น้ นั มา เขาก็อดที่จะคอยสังเกตมองดูนางอยู่
ตลอดไม่ได้ ยิ่งเฝ้าดู ก็ยิ่งค้นพบ นางเดินใกล้เข้ามาในจิตใจของเขา
เรื่ อยๆ ทีละนิด ทีละนิด ราวกับยาพิษที่ผสมอยูใ่ นอาหารได้แทรกซึม
เข้าสู่ หวั ใจของเขา

ทั้งๆ ที่รู้ว่าเช่นนี้ไม่ใช่เรื่ องที่ถูกต้อง แต่เขากลับสู ญเสี ยการความคุม


จนหมด สถานการณ์เช่นคืนนี้ เขาควรที่จะระเบิดโทสะปานฟ้าผ่าใส่
นาง จับนางไปคุมขังเอาไว้ในตาหนักเย็นถึ งจะถูก แต่ว่าเขากลับ
เรี ย กใช้ก ระทั่ง ราชองครั ก ษ์เ งา เพื่ อ ปิ ดปากคนเหล่ า นั้น น านาง
กลับมายังตาหนักเฟิ่ งหมิง

สติและเหตุผลของจีเฉวียนกาลังตีกนั อย่างวุ่นวาย เขาไม่อาจสัมผัส


นาง เพียงแต่สัมผัส ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคงไม่อาจเรี ยกย้อนกลับมา

เขาไม่ได้เป็ นเพียงแค่จีเฉวียน แต่ว่ายังเป็ นถึงฮ่องเต้ของต้าโจว เขา


สาบานเอาไว้แ ล้วตั้ง แต่ แ รก ว่า ชี วิ ต นี้ จะทุ่ มเทพลัง อ านาจที่ มีไป
ครองครองแผ่นดินทั้งหมดให้จงได้ ดังนั้นชีวิตนี้จึงถูกกาหนดเอาไว้
แล้วว่าไม่อาจมีสัมพันธ์รักชายหญิงที่ยงั่ ยืน ไม่อาจหยุดอยู่เพื่อใคร
คนหนึ่งได้ตลอดไป
จีเฉวียนสู ดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ หลายๆ รอบ พยายามเอาความคิด
ความมุ่งมัน่ ที่จะต้องได้ครองแผ่นดินทั้งหมด มากดทับความรู ้สึกพุ่ง
พล่านในยามนี้เอาไว้

พอพึ่ ง จะสงบลงได้ ริ ม พระโอษฐ์ก็ ถู ก ประทับ ด้ว ยรอยจู บ เบาๆ


“ เสี่ ยวฉวนๆ ชอบท่านที่สุดเลย ~”

อะไรคือความทะเยอทะยานของผูค้ รองแผ่นดิน อะไรคือความกังวล


ต่อผลที่จะตามมา พระทัยที่เคยแต่หยิ่งทนงของจีเฉวียนยามนี้ถึงกับ
ทลายลงมาแล้ว นางบอกว่าชอบเขา! ครั้งนี้ นางเป็ นฝ่ ายบอกออกมา
เอง!

คาพูดนี้เขารอมานานเพียงไรแล้วก็ไม่รู้ ไม่วา่ มันจะเป็ นเพราะน้ าแกง


สร่ างเมาถ้วยนั้นหรื อไม่ แต่ในเมื่อนางพูดออกมาเอง เขาก็จะถือว่า
มันเป็ นจริ ง

ที่แล้วมา หัวใจที่มอบให้ไปเมื่อไม่ได้รับการตอบสนองก็กลายเป็ น
ความทุกข์ระทม แต่เมื่อได้รับมา ก็รู้สึกราวกับหัวใจได้ทะยานขึ้นไป
ยังสวรรค์ช้ นั เก้าเช่นนี้น่ะเองหรื อ?
ร่ า งกายที่ เ ย็นยะเยือ กของจี เฉวีย นราวกับได้รับการหลอมละลาย
หัตถ์ของเขาแรกเข้าไปในมุ่นผมของนาง ตรึ งท้ายทอยของนางเอาไว้
จากนั้นก็ประทับจูบลงไปอย่างดูดดื่ม

คนทั้งสองที่แตกต่างกันราวกับอยูค่ นละขั้ว เหมือนดัง่ การปะทะกัน


ของน้ าแข็งและกองไฟ จูบนี้ จึงงดงามตราตรึ งอย่างที่สุด “เรารักเจ้า
เพียงผูเ้ ดียว”

ใบหน้าดาๆ ของวิญญาณทมิ ฬที่เอาแต่หมอบอยู่ดา้ นข้างมาตลอด


คราวนี้กลายเป็ นแดงจนดากว่าเดิม โว้ย! เจ้าพวกหน้าไม่อาย!

เจ้าฮ่องเต้สุนัขที่ไร้ยางอาย เจ้าคนฉวยโอกาสตีตามไฟ! นังหนู ต๋ ูกู


ซิ งหลันผูน้ ้ นั เป็ นคนไม่มีหัวจิตหัวใจต่างหาก นางไม่มีทางชอบผูใ้ ด
ได้ห รอก! ตอนนี้ มัน ……..ก็ แ ค่ อุ บ ัติ เ หตเท่ า นั้น ใช่ เป็ นแค่ เ หตุ
บังเอิญ มันรี บพุง่ เข้าไปที่ตะโกนใส่ ริมหูของนาง

“หากว่ า ยัง ไม่ ตื่ น ขึ้ นมาอี ก ละก็ เจ้า จะได้เ ปลี่ ย นจากสาวน้ อ ย
กลายเป็ นสตรี เต็มตัวแล้วนะ!”

“รบกวนช่วยตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยได้ไหม ขอบคุณ!”
“ #@!+& เจ้าฮ่องเต้สุนขั มันจะลงมือแล้วนะ!”

น่ า เสี ย ดายที่ ต๋ ู กู ซิ ง หลัน ยัง คงไม่ ส นใจสิ่ ง อื่ น ใดอยู่ อี ก เช่ น เดิ ม
วิญญาณทมิฬพยายามแล้วพยายามอีกอยูห่ ลายรอบก็ยงั คงไม่ได้ผล

ทายังไงดี ดูท่าจะหมดหวังเสี ยแล้ว มันร้อนใจเสี ยจนเหงื่อออกท่วม


หัว ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าที่ดา้ นนอกหน้าต่างมีไอหยินที่เข้มข้นกลุ่ม
หนึ่ง ทาให้มนั ต้องหันไปมองในทันที

พอมองไปก็เห็ นว่าที่นอกหน้าต่างมี เงาสายหนึ่ งไหววูบ เงาดานั้น


โฉบลงมาในทันที

จี เฉวียนเองก็ทรงรู ้ สึกพระองค์เช่ นกัน ทันที ที่เขากวาดตาออกไป


มองดูนอกหน้าต่าง ฝ่ ามือก็แปรเป็ นสันดาบสับลงบนหลังท้ายทอย
ของตู๋กซู ิ งหลัน ทาเอานางถึงกับสลบหมดสติไปในทันที

จากนั้นพอสบัดพระหัตถ์ออกไป ม่านมุง้ บนเตียงก็ร่วงลงมา คลุม


ตัวตู๋กูซิง หลันเอาไว้ท้ งั หมด พระองค์ก็เสด็จลงจากเตี ยงในทัน ที
ประทับนั่งลงบนโต๊ะไม้ภายในห้อง ทอดพระเนตรมองออกไปที่
นอกหน้าต่าง “ออกมาเถอะ”
ครู่ หนึ่ ง ก็ปรากฎเงาร่ างของคนผูห้ นึ่งพลิกข้ามหน้าต่างเข้ามา พลาง
ถวายบังคมลง “ ฝ่ าบาท” คนผูน้ ้ นั ก็คือ ฉางซุนซิ่ วเอ๋ อร์

“งานเลี้ยงพระราชทานคืนนี้ กลับไม่เห็นเจ้าปรากฎตัว เราก็นึกสงสัย


อยู่ ว่าเจ้าไปที่ใดแล้ว? ” จีเฉวียนทอดพระเนตรมองดูเขาเล็กน้อย ก็
ทรงริ มน้ าชาเย็นให้กบั พระองค์เองถ้วยหนึ่ ง น้ าชานั้นเย็นมาก พอ
สัมผัสความเย็นก็แล่นเข้าสู่ หัวใจ กดทับความพุ่งพล่านเมื่อครู่ ของ
พระองค์ลงไป

“ฝ่ าบาทก็ทรงทราบว่ากระหม่อมไม่ชมชอบความครึ กครื้ นมาโดย


ตลอด ” ฉางซุนซิ่ วทูลพลาง ก็เหลือบตาไปทางตู๋กูซิงหลันที่ถูกม่าน
มุง้ คลุมเอาไว้

“กระหม่ อ มไม่ เ คยรู ้ ม าก่ อ นเลยว่ า ฝ่ าบาทก็ ท รงมี ว ัน ที่ พ ระทัย


หวัน่ ไหวขึ้นมาเหมือนกัน”

สายพระเนตรของจีเฉวียนเย็นยะเยือกขึ้นมา “หากว่าเจ้ามาเพื่อพูด
เรื่ องนี้ ก็สามารถถอยออกไปได้”
“ฝ่ าบาท พระองค์จะทรงโปรดสตรี คนไหนก็ยอ่ มได้ แต่ว่าทาไมถึง
จะต้องเป็ นนางด้วย? นางเป็ นคนตระกูลตู๋กู ” สายตาของฉางซุนซิ่ ว
ทอประกายลึ ก ล้ า ขึ้ น มา “พี่ ช ายของกระหม่ อ มตายใต้น้ า มื อ ของ
ตู๋กจู ุน ท่านป้าก็….”

เขายังไม่ทนั ได้พดู จบ ก็ถูกจีเฉวียนขัดขึ้นมา “หยุดพูดแล้ว”

“ฝ่ าบาท ความจริ งอยูต่ รงหน้าแท้ๆ แต่ว่าพระองค์กลับไม่ทรงยอม


เชื่อหรื อ?”

“ พอแล้ว เราไม่จาเป็ นต้องให้เจ้ามาสอนว่าต้องทาอะไร ” จีเฉวียน


ประทับยื่นขึ้นมา วางพระหัตถ์ลงบนบ่าของเขา “อาซิ่ ว เรามิใช่คน
โง่”

วิญญาณทมิฬหมอบอยูข่ า้ งกายตู๋กซู ิ งหลัน ดวงตากลมๆ ราวเมล็ดถัว่


สองเมล็ดจับจ้องมองดูฉางซุนซิ่ว ก็สังเกตเห็นว่าที่ดา้ นหลังของเขามี
หมอกดาเคลื่อนไหวอยู่ ไอหยินที่เข้มข้นเมื่อครู่ ตอนนี้ ก็เกาะกุมอยู่
บนร่ างของเขา ทาไมก่อนหน้านี้ถึงได้ไม่เลยพบเห็นมาก่อนนะ?
ขณะที่ไม่มีใครสังเกตอยูน่ ้ นั เอง บนหลังคาก็มีเงาร่ างสี แดงเงาหนึ่ง ซู
เม่ยย่อมมิได้กลับไปสงบเสงี่ยมอยูใ่ นตาหนักชุยเว่ยของเขา เพียงแค่
กลับไปเปลี่ยนเป็ นชุดบุรุษรอบหนึ่งก็มายังที่นี่แล้ว

จากนั้นก็ได้เห็นจีเฉวียนกับตู๋กูซิงหลันที่กาลังใกล้ชิดกันอย่างตาตา
เขารู็ สึกทนไม่ได้ข้ ึนมาในทันที เขายังไม่เคยจูบอาหลันมาก่อนเลย
จี เฉวียนมี สิทธ์ใ ดกัน? ดวงตาจิ้ง จอกคู่น้ ันพลันเกิ ดประกายสี แดง
ขึ้นมา วิญญาณทมิฬก็สัมผัสได้ถึงไอมารได้ในทันที

เอาละโว้ย น่ าดูละทีน้ ี ! ฉางซุ นซิ่ วคล้ายมิได้รู้สึกถึงสิ่ งใด เขาเพียง


ถวายคานับจีเฉวียนเพื่ออาลา แล้วจากไปทางหน้าต่างเช่นเดิม ร่ างที่
เปี่ ยมไปด้วยไขมันนั้นกลับคล่องแคล่วอย่างที่สุด เพียงแค่พลิกสอง
สามตลบเขาก็ข้ ึนไปอยูบ่ นหลังคาแล้ว

ซู เม่ยเจอกับเขาก็ไม่ได้ประหลาดใจ เพียงกล่าวเตื อ นเสี ยงเย็นชา


ประโยคหนึ่ ง “ท่านราชครู ทางที่ดีท่านจงเลิกความคิดจะเป็ นอริ กบั
ไทเฮาไปเสี ย”
“ท่านกับซูเม่ยเกี่ยวพันกันอย่างไร? ” ฉางซุนซิ่ วมองดูเขา หมอกดา
บนร่ างเหมือนดัง่ หมอกที่หมุนวนช้าๆ ไอมารที่เห็นนั้นทาให้รู้สึกน่า
อิจฉาขึ้นมา

ซูเม่ยเพียงตอบแค่วา่ “ความเป็ นมาของเจ้า ข้ารู ้อย่างชัดเจน ตราบใด


ที่ขา้ ยังอยู่ มิว่าผูใ้ ดก็ไม่อาจแตะต้องอาหลันได้แม้สักรู ขุมขน คานี้
เจ้าจงจาเอาไว้” พูดแล้ว เงาร่ างสี แดงเพลิงนั้นก็หายวับไปจนไม่อาจ
สัมผัสได้อีก ฉางซุนซิ่ วยืนอยูบ่ นหลังคาอยูค่ รู่ หนึ่ ง สองมือก็กาหมัด
แนบแน่น
ตอนที่ 182 สั กวันหนึ่งเขาจะแต่งงานกับนาง

ที่ดา้ นนอกวัง ตู๋กจู ุนส่งองค์หญิงใหญ่สองแม่ลกู กลับถึงตาหนักอย่าง


ปลอดภัยแล้ว ตลอดทางทั้งสองไม่ได้พดู คุยกันเลยสักคาเดียว

กระทัง่ รถม้าขององค์หญิงใกล้จะเข้าไปในตาหนักประจาพระองค์
แล้ว ตู๋กูจุนถึงได้กล่าวว่า “ทูลองค์หญิง อีกไม่กี่วนั กระหม่อมก็ตอ้ ง
ไปเป่ ยเจียงแล้ว หากว่าพระองค์ทรงมีเรื่ องร้อนพระทัยอันใด แม้จะ
ไกลถึงพันลี้กระหม่อมก็จะเร่ งรุ ดกลับมา”

จีฉุนประทับอยูใ่ นรถม้า สี พระพักตร์เย็นชา “หากว่ามีโอกาสผ่านไป


ถึงริ วกิวละก็ หวังว่าท่านจะช่วยจุดธูปให้กบั สามีของข้าด้วย”

ตู๋กจู ุนถอนลมหายใจลึกเบาๆ ได้แต่ตอบว่า “ได้”

“ขอให้ท่านมีอายุยืนยาวร้อยปี เราต้องการให้ท่านอยูก่ บั ความสานึก


ผิดนี้ ไปทั้งชีวิต ทุกค่าคืนต้องตกอยูใ่ นฝันร้าย ไม่อาจปลดเปลื้องไป
ได้ชวั่ ชีวิต”
นางสาปแช่งด้วยน้ าเสี ยงเย็นเฉียบ รุ นแรงยิง่ กว่าการแทงคนด้วยดาบ
เสี ยอีก

สายตาของตู๋กูจุนทอประกายอมทุกข์ “จี ฉุน พวกเราเติ บโตขึ้นมา


ด้วยกันตั้งแต่เด็ก ท่านเกลียดข้าเข้ากระดูกดาถึงเพียงนี้ ?”

ยามเยาว์วยั เขามักติ ดตามอยู่ดา้ นหลังของนาง ชอบเรี ยกนางเป็ น


พี่สาวองค์หญิง พอเขาเติบโตขึ้นจนสู งกว่านางแล้ว ก็ไม่เรี ยกนาง
เป็ นพี่สาวอีกแล้ว แต่เขามักจะทาเช่นยามนี้ คอยดูแลปกป้องนาง ยาม
นั้นอายุยงั น้อยไม่ประสี ประสา ทั้งยังไม่เคยมีความรักมาก่อน เขา
เป็ นคนหยาบ ไม่รู้จกั ความอ่อนหวานอย่างพวกดอกไม้ผลิบานหรื อ
จันทราในฤดูสาทร ทั้งยังไม่มีความงามสง่าหรู หราอย่างพวกคุณชาย
ตระกูลใหญ่ท้ งั หลาย เขาเพียงรู ้จกั ตวัดดาบราทวน ฆ่าล้างศัตรู ใน
สนามรบ กับคนเดียวที่หลงรัก เขาเพียงเก็บเอาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ
ไม่กล้าเปิ ดเผยออกมาโดยง่าย

ตอนอายุสิบหกปี นั้นเป็ นครั้งแรกที่เขาได้เป็ นหัวหน้ากองทะลวง เขา


ได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ สามารถปลิดศีรษะของแม่ทพั ฝ่ ายศัตรู ลง
ได้ดว้ ยตนเอง
หัวหน้ากองที่ออกรบครั้งแรกก็ได้รับชัยชนะ ว่ากันตามธรรมเนี ยม
แล้ว สามารถทูลขอความต้องการกับฮ่องเต้ได้

ตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็คิดเอาไว้อย่างดีแล้ว รอจนกลับมาถึงเมืองหลวง
จะขอให้ฮ่ อ งเต้ป ระทานสมรสพระราชทาน เขาจะสู่ ข อนาง จะ
ปกป้องนางไปชัว่ ชีวิต

แต่ว่าวันที่เขากลับมาถึ งเมื องหลวงนั้น ทัว่ ทั้ง เมื องประดับประดา


ด้วยดอกไม้แดง

นางแต่ ง ออกไปแล้ว ผ้า แดงสิ บลี้ ท อดยาวตั้ง แต่ ห น้า ประตูวงั ไป


จนถึ ง จวนตระกูลฉางซุ น ผูค้ นทั้ง หลายต่างร่ วมอวยพรงานมงคล
สมรสขององค์หญิงใหญ่ เหลือเพียงเขาคนเดียว……….ที่ไม่เต็มใจ

เดิมทีเขาคิดเอาไว้ ว่าในโลกนี้คนเดียวที่สามารถมอบความสุ ขให้กบั


นางได้ก็คือตนเอง

เดิมทีเขาคิดเอาไว้ สักวันหนึ่งเขาจะแต่งงานกับนาง

แต่เขาช้าไปแล้ว และพ่ายแพ้ไปแล้ว
นับตั้งแต่น้ นั เป็ นต้นมา เขาก็ตดั สิ นใจอย่างชัดเจน ชีวิตนี้จะขอทุ่มเท
อยูก่ บั สนามรบ ปกป้ องประเทศชาติของนาง ให้นางได้มีความสงบ
สุ ขปลอดภัยไปชัว่ ชีวิต

แต่ใครจะไปรู ้ ว่าจะเกิดเรื่ องของราชบุตรเขยขึ้นมา ทาให้นางชิงชัง


เขาถึงเพียงนี้ ที่ต่อมาเขาเกิ ดความคิดจะก่อกบฎนั้น ก็เพราะคิดถึ ง
หนทางในอนาคตเพื่อนาง

ตู๋กูจุนแสนทุกข์ทรมาน หลายปี มานี้ ไม่เคยมีผใู ้ ดล่วงรู ้ว่าเขามีใจรัก


ใคร่ องค์หญิง แม้แต่นอ้ งสาวที่สนิ ทสนมใกล้ชิดที่สุด เขาก็ยงั ไม่เคย
ปริ ปากสักครึ่ งคา ถึงวันนี้คนพยายามปกป้องในทุกทางมาตลอดกลับ
กลายเป็ นคนที่ถูกสาปแช่ง ตัวเขานี้มนั ช่างน่าขาเสี ยเหลือเกิน

ภายในรถม้า จีฉุนปิ ดตาแนบแน่น พอคิดถึงภาพบุรุษหนุ่มเยาว์วยั ที่


องอาจหล่อเหลา ในใจก็ทวีความเจ็บปวดขึ้นมา

นางไม่สนใจเขาอีก รถม้าเคลื่อนเข้าไปในจวน ทอดทิ้งตู๋กูจุนไว้ที่


ประตูเพียงลาพัง
หยวนเฟยที่แอบตามมาอย่างเงียบๆ เฝ้ามองตู๋กูจุนที่ยืนอยูท่ ่ามกลาง
หิ มะอันหนาวเหน็บ ก็ยงิ่ รู ้สึกว่าเขาช่างน่าสงสาร

………………………………………….

เพียงพริ บตาเดียวเวลาสามเดือนก็ผา่ นพ้นไปแล้ว ฤดูใบไม้ผลิมาถึง


อากาศเปลี่ยนเป็ นอบอุ่นขึ้นมา

ต้นไห่ ถางในตาหนักเฟิ่ งหมิงล้วนแต่แตกยอดใหม่ เพิ่มพูนความมี


ชีวิตชีวา

ข่ า วที่ ก ระพื อ โหมเรื่ อ งที่ ไ ทเฮาทรงยัว่ ยวนฝ่ าบาทในงานเลี้ ย ง


พระราชทานวันสิ้ นปี ก็ค่อยซาลงไปในที่สุด

เพราะนับตั้งแต่วนั นั้นเป็ นต้นมา ฝ่ าบาทก็ทรงใส่ พระทัยในราชกิจ


มากขึ้ น ทุกวันเริ่ มทรงงานตั้ง แต่ยามเหมา (05.00 – 07.00 น.) จน
มาถึงยามจื่อ (23.00-01.00น.) ถึงได้เข้าบรรทม ชนิดที่เรี ยกว่าแทบจะ
ทุ่มเทพละกาลังทั้งหมดลงไปกับงานในราชสานัก
เหล่าพระสนมในวังหลังเดิมทีก็มีโอกาสน้อยนักที่จะได้เข้าเฝ้ าฝ่ า
บาทอยูแ่ ล้ว คราวนี้ แม้แต่เวลาที่จะได้เห็นพระพักตร์ ก็ยงั น้อยลงไป
อีก

เดือนๆ หนึ่ งเพียงได้พบพระพักตร์ เพียงแค่ครั้งสองครั้ง ทั้งยังเป็ น


เพียงแค่มองผ่านไป

ไม่เพียงแค่น้ ี กระทัง่ ตาหนักเฟิ่ งหมิงฝ่ าบาทยังไม่ค่อยได้เสด็จไป


แล้ว สุ ดท้ายแล้วพระองค์ก็ยงั ทรงเป็ นฮ่องเต้ของแผ่นดิน มิอาจไม่
คานึ งถึงสายตาของผูค้ นทั้งหลาย ดังนั้นต่อให้ทรงมีพระทัยโปรด
ปรานคนผูน้ ้ นั จริ ง แล้วจะอย่างไร? ไหนเลยจะสามารถมอบฐานะที่
ชัดเจนให้นางได้กนั ?

ดูเอาเถอะ นี่ก็ไม่ใช่วา่ ทรงเย็นชาใส่ มาหลายเดือนแล้วหรอกหรื อ?

แม้เหตุการณ์วนั นั้นนับว่าทาเอาพวกนางตระหนกตกใจกันไปแล้ว
จริ งๆ นึ กว่าฝ่ าบาทจะไม่ทรงสนใจสิ่ งใดอีก จะรับตู๋กูซิงหลันเป็ น
พระสนมให้ได้เสี ยแล้ว

ยังโชคดี……..ที่เป็ นเพียงแค่ตกใจกันไปเองเท่านั้น
ถึงวันนี้ ต๋ ูกูจุนเองก็ไปจากเมืองหลวงแล้ว เช่นนั้นตู๋กูซิงหลันก็เป็ น
เพียงเด็กกาพร้าที่ไร้ที่พ่ งึ พิง

ตาหนักเฟิ่ งหมิงเรี ยกได้ว่าเงียบเหงาวังเวง เพราะนอกจากหยวนเฟย


และองค์หญิ ง ใหญ่ที่นานๆ ที จะไปเยี่ยมเยียนบ้างแล้ว แม้กระทั้ง
หวงกุย้ เฟยซูเม่ยยังน้อยครั้งที่จะเสด็จไป

ฟังว่านะ ซูเม่ยกลายเป็ นอริ กบั ตู๋กซู ิ งหลันเพราะฝ่ าบาท

หึ หึ เป็ นใครจะไม่คิดอริ กนั ละ?

………………………..

ในตาหนักเฟิ่ งหมิง ตู๋กซู ิ งหลันกาลังจดจ่อกับการวาดยันต์

วิญญาณทมิฬเดินไปเดินมาอยู่รอบๆ ตัวนาง “อร๊ าย เสี่ ยวฉวนฉวน


ท่านน่ากินมากเลย”

“เสี่ ยวฉวนฉวน ข้าชอบท่านม๊ากมาก~” มันทาซุ่มเสี ยงประหลาด


เลียนแบบนาง
ตู๋ กูซิ ง หลัน ขว้า งรองเท้า ไปข้า งหนึ่ ง นับ ตั้ง แต่ ที่ น าง ‘ตื่ น ’ขึ้ นมา
วิญญาณทมิฬเป็ นต้องเอาเรื่ องนี้มาหยอกล้อนางอยูท่ ุกวัน

เรื่ องในวันนั้น นางเพียงแต่รู้สึกว่าเมามายอย่างหนักไปรอบหนึ่ง จา


ได้แต่เพียงเลาๆ ว่าได้เห็นจีเฉวียนที่สุดแสนจะน่าหลงใหล หลังจาก
นั้น ร่ างกายก็ร้อนวูบวาบ พอเจอกับเขาที่เนื้อตัวเย็นยะเยือกอยูต่ ลอด
ก็คิดจะไปอิงแอบความเย็นจากเขา หลังจากนั้นแล้วเกิดอะไรขึ้น ก็จา
ไม่ได้แล้วจริ งๆ

“อย่า ได้เ อาแต่ ตี หั ว อั๊ว จะได้ไ หม เดี๋ ย วก็ ก ลายเป็ นโง่ กัน พอดี ”
วิญญาณทมิฬกุมหัวประท้วงนาง “คาพูดพวกนี้ เป็ นเจ้าพูดออกจาก
ปากกับ ฮ่ อ งเต้สุนัข นั่น เอง ยัง จะไม่ ใ ห้ขา้ เลี ยนแบบสักหน่ อ ยอี ก
หรื อ?”

ตู๋กซู ิ งหลันใช่พกู่ นั ที่เขียนยันต์ตวัดลงบนหน้าผากของมันครั้งหนึ่ง

“รบกวนอย่าได้มาตอกย้าข้าอยูท่ ุกวัน ข้ายอมรับว่าทาเรื่ องน่าอับอาย


ไปแล้ว”
“เรื่ องที่ทาไปแล้วจะไปลบทิง้ ได้อย่างไร? ” วิญญาณทมิฬพยายามใช้
มือสั้นๆ ของมันถูหมึกสี แดงบนหน้าผากออกไป

มันยังไม่กล้าบอกนางเลยว่า คืนนั้นเจ้าฮ่องเต้สุนัขเกื อบจะหักห้าม


ความต้องการจะกลืนนางลงไปเอาไว้ไม่อยูข่ นาดไหน

แต่วา่ ประโยคที่บอกว่า “เรารักเจ้า ” มันกลับฟังเข้าใจได้อย่างชัดเจน

แต่ก็ไม่รู้วา่ ทาไม นับตั้งแต่น้ นั มา เจ้าฮ่องเต้สุนขั นั้นถึงไม่ได้กา้ วเท้า


เข้ามาในตาหนักเฟิ่ งหมิงเลยสักก้าวเดียว

ตลอดสามเดือนมานี้ ก็ไม่ได้โผล่หน้ามาให้เห็นเลย

ที่ ดา้ นนอกตาหนักเฟิ่ งหมิ งยัง คงมี ทหารยามเฝ้ ารักษาดังเดิม ดูแล


อย่างขึงขังแน่นหนา เจ้าฮ่องเต้สุนัขนั้นไม่มาพบนางก็แล้วไปเถอะ
แต่น้ ีกลับยังถึงขั้นขังคนเอาไว้ดว้ ย ครั้งนี้กลับกักขังอย่างเป็ นจริ งเป็ น
จังนัก

วิญญาณทมิ ฬถึ ง กลับดูไม่ออกว่าเขากาลังทาไปเพื่อ อะไรอยู่ “เจ้า


บอกมาสิ ว่า เจ้าฮ่องเต้สุนขั นั้นป่ วยหรื อเปล่า? ทั้งๆ ที่มาสารภาพรัก
กับเจ้าไปแล้ว ดูเอาสิ ที่อยูแ่ บบนี้มนั ใช่คนหรื อ?”
ตู๋ กู ซิ ง หลัน ยัง คงสงบนิ่ ง วาดยัน ต์ข องนางต่ อ ไป ค าพู ด ของเจ้า
วิญญาณทมิฬตัวยุง่ ล้วนไม่อาจเอามาเชื่อถือได้ เจ้าฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ นั
ไม่มีทางชอบนางอย่างเด็ดขาด เรื่ องที่ควรจะรู ้จกั ประมาณตนเช่นนี้
นางยังมีอยู่

เขาสั่ ง ขัง ของเขาไป นางก็ แ ค่ รอจนดึ กสงัด ไร้ ผูค้ นค่อ ยออกไปก็
ใช้ได้แล้ว

ประเด็นสาคัญคือต้องจับตาดูตาหนักชางอู่ทางนั้นให้ดี อันหร่ วนพอ


ถู ก ขัง เอาไว้แ ล้ว วัน ทั้ง วัน ก็ เ อาแต่ กิ น เจสวดมนต์ ไม่ มี ค วาม
เคลื่อนไหวพิเศษอันใด

อันหว่านจือจนถึงวันนี้ก็ยงั ถูกขังอยูใ่ นคุก ไม่มีโอกาสออกมาสาแดง


ฤทธิ์อีก

และด้วยอุปนิ สัยของอันหว่านจือแล้ว การขังนางเอาไว้เท่ากับเป็ น


การปกป้องนางอย่างหนึ่ง
ตู๋ กู ซิ ง หลัน สามารถเข้า อกเข้า ใจการกระท าของจี เ ฉวี ย นได้ จะ
อย่างไรอันหร่ วนก็เป็ นแม่นมของอดีตฮองเฮา สาหรับจีเฉวียนแล้ว ก็
เป็ นดัง่ ยายคนหนึ่ง เขาย่อมต้องให้ความเคารพ

เจ้า จิ้ ง จอกเฒ่ า ผูน้ ้ ี ที่ ผ่า นมาฉลาดเจ้า เล่ห์อ ย่างที่ สุด เพี ย งแต่เรื่ อ ง
อารมณ์ ค วามรู ้ สึ ก นั้น ชาจนช้า ไม่ รู้ สึ ก หรื อ ไงว่า อัน หร่ ว นนั้นมี
ปั ญหา?

ตกดึกแล้ว ตู๋กูซิงหลันก็เล็ดลอดพวกเวรยามออกไปอีก นางเร้นกาย


ออกไปเงียบๆ

แต่ครั้ งนี้ พอพึ่ง จะออกจากประตูตาหนักมาได้ ก็เห็ นเงาของชุดสี


ทองที่คนุ ้ เคยรออยูใ่ ต้ตน้ ไห่ถางนอกตาหนักแล้ว

ร่ างที่สูงใหญ่น้ นั ขวางนางเอาไว้ ดวงตาหงส์ คู่น้ นั จับจ้องมองมาที่


นาง
ตอนที่ 183 ฝ่ าบาท เดินทางปลอดภัยนะเพคะ

กลางคืนมืดมิด ท่ามกลางแสงดาวริ บหรี่ บนร่ างของเขาคล้ายดัง่ มี


แสงดาวระยิบระยับ ดวงพักตร์หมดจดงดงาม เส้นผมกลุ่มหนึ่งไล้อยู่
ข้างกรอบหน้า ราวกับคลื่นสาหร่ ายที่ไหลลื่นอยูบ่ นหัวไหล่ของเขา
กลายเป็ นภาพที่ ง ดงามจนยากจะบรรยายออกมา ดู ไ ปแล้ว เขา
ผ่ายผอมไปกว่าเมื่อสามเดือนก่อนไม่นอ้ ย

พระพักตร์ มีเหลี่ยมมุมจัดเจนกว่าเดิม ดวงเนตรหงส์คู่น้ นั ยังคงดาลึก


ดุจดัง่ ราตรี ยามนี้กลับมองดูนางอย่างสงบนิ่ง เขาเอาแต่จดจ้องมองดู
นางอยูอ่ ย่างนั้น

จนผ่านไปอีกพักใหญ่ ถึงได้เริ่ มเอ่ยขึ้นมา “เราควบคุมดูแลเจ้าไม่ได้


แล้ว” น้ าเสี ยงลึกต่านั้นออกจะแหบพร่ าอยูบ่ า้ ง ราวกับคนที่เจ็บป่ วย
มานานและยังไม่หายดี

ตู๋กูซิงหลันยืนอยู่ใต้กาแพงวัง อึกอักอยู่ครู่ ใหญ่ถึงได้กล่าวออกมา


สองคา “ ลูก….ฝ่ าบาท” เจ้าลูกชายคนนี้ ตอ้ งมีเนื้ อมีหนังเสี ยหน่อย
ถึงจะน่ าดู พอผ่ายผอมเสี ยอย่างนี้ มีแต่จะปลุกความเป็ นแม่ของนาง
ขึ้นมา ทาให้นางรู ้สึกว่าเขาช่างน่าสงสารขาดมารดาเลี้ยงดูเอาใจใส่

พอได้ยนิ เสี ยงของนาง สายพระเนตรของจีเฉวียนก็ทอประกายสว่าง


วูบขึ้นมา ทั้งๆ ที่อยากจะเข้าใกล้นาง แต่ความรับผิดชอบอันยิง่ ใหญ่
กลับฉุดรั้งเขาเอาไว้

เขาเอนตัวลงพิงต้นไห่ถางเอาไว้ครึ่ งหนึ่ง หลับตาหงส์ลงงาประกาย


กดเสี ยงต่ากล่าวว่า “ ที่เรามาวันนี้ ก็เพื่อจะมาลาเจ้า”

“หื ม ? ฝ่ าบาทจะเสด็จ ไปที่ ใ ดกัน ? ” ที่ จ ริ ง ตู๋ กูซิ ง หลัน รู ้ สึ ก ว่า เขา
อยากจะไปที่ไหนก็ไม่จาเป็ นจะต้องมาบอกนางเสี ยหน่อย นางเองก็
ไม่ได้สนใจจะอยากรู ้

ตอนงานเลี้ยงชมพลุดอกไม้ไฟ รู ้สึกว่าเขาน่าหลงใหลจนสามารถทา
ให้น างวิญ ญาณหลุด ลอย พอตอนนี้ กลับรู ้ สึกว่าทัว่ ทั้ง ตัวของเขา
หนาวเย็นจนเสี ยดกระดูก ชนิดที่ไม่วา่ อย่างไรก็ไม่น่าเข้าใกล้อย่างไร
อย่างนั้น
จะให้ชื่นชอบจีเฉวียนหรื อ ? เป็ นไปไม่ได้ ชาติน้ ี ท้ งั ชาติก็ไม่มีทาง
เป็ นไปได้

“เรื่ องใหญ่ของบ้านเมือง แน่นอนว่าย่อมไม่อาจบอกเจ้าได้ ” จีเฉวียน


ตรัส “ช่วงเวลาที่เราไม่อยูใ่ นวัง เจ้าต้องเก็บตัวอยูใ่ นตาหนักเฟิ่ งหมิง
ให้ดี ห้ามปี นกาแพงออกไปโดยเด็ดขาด”

ที่ผา่ นมา เขาพูดไปแล้วแต่นางก็ไม่เคยยอมฟั ง ตลอดสามเดือนมานี้


พวกที่เฝ้าเวรล้วนคอยรายงานมาโดยตลอด นางปี นกาแพงออกไปใน
ยามดึกเกือบทุกคืน เขาก็ได้แต่ลืมตาข้างหนึ่งหลับตาข้างหนึ่ง แกล้ง
ทาเป็ นไม่รู้ก็เท่านั้น ขอเพียงเขายังอยูใ่ นวัง ก็ยงั ไม่มีผใู ้ ดกล้าทาอะไร
กับนางได้ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว เขาจาเป็ นต้องไปจากวังหลวง
ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทั้งยังไม่อาจปล่อยให้นางก่อเรื่ องได้

ตู๋กูซิงหลันฟั งแล้วก็กล่าวว่า “หม่อมฉันขอถามคาหนึ่ ง ฝ่ าบาททรง


เกลียดชังหม่อมฉัน ถึงได้สั่งให้ขงั เอาไว้หรื อไม่?”
เป็ นเพราะนางก่อเรื่ องให้กบั เขาในงานเลี้ยงพระราชทาน ถึงต้องโดน
ขังไว้เหมือนตอนแรกที่ถูกขังในตาหนักเย็น เพียงแต่เปลี่ยนสถานที่
เป็ นตาหนักเฟิ่ งหมิงเท่านั้น

ถึงจะบอกว่าขัง แต่ทุกวันก็ยงั มีให้กินให้ดื่มอย่างเอร็ ดอร่ อย หลี่กงกง


ก็คอยนาของเล่นแปลกๆ ใหม่ๆ จากนอกวังมาให้นางมิ ได้ขาด ทั้ง
ยัง ให้ค วามเคารพต่ อ นางราวกับ เป็ นพระโพธิ สั ต ว์อ งค์ห นึ่ ง นี่ จ ะ
เรี ยกว่ากักขังได้อย่างไร

จี เฉวียนทรงฟั งแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะตรัสตอบนางอย่างไรดี คื นนั้นเขา


รู ้ตวั แล้วว่า ตนเองประเมินความรู ้สึกที่มีให้นางต่าเกินไป

เพื่อ บัลลัง ก์แ ล้ว เขาไม่อ าจปล่อ ยให้ความรู ้ สึกส่ วนตัวมาควบคุม


ตนเองได้ เขารู ้ตวั ดีว่าตนเองเข้าใกล้นางมากเกินไปแล้ว ดังนั้นเขามี
แต่จะต้องรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยเอาไว้

หากว่าเข้าใกล้อีกก้าวหนึ่ ง เขาไม่กล้ารับประกันตนเองเลยว่าจะทา
สิ่ งใดกับนางบ้าง ก่อนหน้านี้ เขาผลีผลามเกินไป ครั้งแรกที่ชอบใคร
สักคน ทุกสิ่ งล้วนพุง่ พล่านจนเกินของเขตของตน
ยามนี้ พอสงบลงได้แล้ว ก็ยิ่งรู ้ดีว่า สาหรับเขาแล้วสิ่ งที่สาคัญที่สุดก็
ยังคงเป็ นแผ่นดินต้าโจว ยังมีการสิ้ นพระชนม์ของพระมารดา ยังคง
เป็ นปมปั ญหาอยูใ่ นใจของเขา ถึงแม้วา่ เรื่ องนี้เขาได้สืบทราบไปแล้ว
กว่าครึ่ ง แต่ปมในใจนี้ ก็ยงั ไม่ได้รับการคลี่คลายออก ถึงแม้ว่าเขาจะ
ชอบนาง แต่ก็ยงั คงต้องยับยั้งเอาไว้ นี่ เป็ นปมปั ญหาที่ยอ้ นแย้งอยูใ่ น
ใจของเขา

ดังนั้นสามเดือนที่ผา่ นมานี้ เขาทุ่มเทให้กบั งานราชกิจอย่างสุ ดชีวิต มี


แต่ทาตนเองให้ยงุ่ จนไม่มีเวลา จะได้ไม่ตอ้ งคิดถึงนาง

ผ่านไปอีกครู่ ใหญ่เขาถึงได้ตรัสตอบปั ญหาของตู๋กูซิงหลัน “ไม่ได้


เกลียด แต่ก็ไม่ได้ชอบ” ครึ่ งประโยคหลังนั้น ดูจะเน้นอยูเ่ ป็ นพิเศษ

ตู๋กูซิง หลันนึ กรู ้ อ ยู่แ ล้ว ละครฉากใหญ่ที่วิญญาณทมิ ฬเล่นอยู่น้ ัน


เพราะตั้งใจจะเอามาหลอกนาง ที่วา่ ‘เรารักเจ้าเพียงผูเ้ ดียว’ อะไรนัน่
ก็แค่หาคาพูดลวงๆ มาหลอกนางเท่านั้น เจ้าตัวแสบนั้นมีชีวิตอยูม่ า
ยาวนานไปแล้ว
พอตอนนี้ ได้ยนิ จีเฉวียนพูดออกมาจากปากของเขาว่าไม่ได้ชอบนาง
นางก็รู้สึกว่าสามารถวางใจลงได้แล้ว จึงทอดถอนใจออกมาอย่างยืด
ยาว “เช่นนี้ก็ดี เช่นนี้ก็ดี”

ไม่ได้ชอบก็ดีแล้ว มิเช่นนั้นพอคิดว่าถูกลูกเลี้ยงมาหลงรักตนเองเข้า
ให้ นางก็เป็ นต้องปวดหัวขึ้นมาอีก เหล่าลูกสะใภ้ที่มีอยูอ่ ย่างมากมาย
ในวังหลังก็คงจะมีแต่พากันมารุ มเกลียดนาง แม้แต่เสี่ ยวซูเฟยก็คงจะ
พลอยคิดสู ้ตายกับนางด้วย ตอนนี้ละดีแล้ว รากเหง้าของปั ญหาที่นาง
กังวลใจสลายไปแล้ว

พอตรั สออกไปแล้ว จี เฉวียนก็ทรงเห็ นว่านางแย้มยิ้มให้พระองค์


อย่างยินดี “ ฝ่ าบาท เดินทางปลอดภัยนะเพคะ ฝ่ าบาทสู ้ๆ นะเพคะ”

จีเฉวียน “……..” พระองค์คิดว่านางจะต้องเป็ นทุกข์เสี ยอีก

ที่แท้ เรื่ องในคืนนั้นทั้งหมดก็เป็ นเพียงเพราะฤทธิ์ ของน้ าแกงสร่ าง


เมาชามนั้น สตรี ผนู ้ ้ ีไม่มีหวั ใจแท้ๆ นางชอบเขาที่ไหนกัน

แต่เพราะคิดถึงคาพูดของนาง ‘ชอบท่านมากเลย’ คิดถึงจูบที่ดื่มด่า


ลึกซึ่ งในคืนนั้น ทาให้ทรงรู ้สึกว่าทั้งหมดราวกับเป็ นเรื่ องจริ ง
เดิมทีพระองค์มีคาพูดมากมายคิดจะกล่าวกับนาง แต่พอถึงริ มพระ
โอษฐ์ก ลับมี เ พี ย งประโยคเดี ยว “ ตู๋ กูซิ ง หลัน กลับ ไปนอนหลับ
พักผ่อนให้ดี”

“ได้ เ รยยยย! ” ตู๋ กู ซิ ง หลั น รั บค า ก็ ห มุ น ตั ว กลั บ ไปอ ย่ า ง


กระฉับกระเฉง ปี นกาแพงกลับไปอย่างเข้มแข็ง

ท่าปี นกาแพงของนางคึกคักดัง่ ม้าออกศึก เขายืนอยูใ่ ต้ตน้ ไม้ เห็นปลี


น่องที่เรี ยวเล็กและปลายเท้าเล็กๆ ที่ดูบอบบางประหนึ่ งจะหักได้ทุก
เมื่อใต้กระโปรงของนาง จีเฉวียนนวดคลึงขมับ เพื่อป้องกันไม่ให้ขา
ของนางได้รับบาดแผลเวลาปี นกาแพง เขาคิดว่าใต้กาแพงสมควรจะ
ปลูกหญ้าให้มากหน่อย ชนิ ดที่มีใบหนานุ่มๆ พวกนั้น แล้วก็……..
เสริ มกาแพงให้สูงหน่อย เอาให้นางปี นออกมาไม่ได้

“ นู๋นวั่ ” เพียงแค่ได้ยนิ เสี ยงเขาเรี ยกออกไป

เงาดานั้นก็ปรากฎขึ้นมาที่เบื้องหน้าของเขาโดยทันที คุกเข่าครึ่ งหนึ่ง


อยูเ่ บื้องหน้าด้วยความเคารพนบนอบ
จีเฉวียนยังคงมองดูกาแพงวังสี แดงอยูอ่ ย่างนั้น “ปกป้ องไทเฮาให้ดี
ไม่อาจปล่อยให้ผใู ้ ดทาร้ายนางได้แม้แต่นอ้ ย”

“ พะยะค่ะ ” คนในชุดดาตอบ จากนั้นก็หายลับไปในความมืด

……………

ตู๋กูซิงหลันยืนอยู่ดา้ นในกาแพง ในมือก็ปรากฎยันต์ข้ ึนมาอีกหลาย


ใบ เพียงได้ยนิ ริ มฝี ปากของนางท่องคาถาขมุบขมิบ ยันต์หลายใบนั้น
ก็โบยบินข้ามกาแพงไป

จีเฉวียนพึ่งจะหันหลังก้าวออกไปได้กา้ วเดียว ยันต์เหล่านั้นก็ไล่ตาม


ไปผนึกเข้าบนร่ างของเขา

ยันต์เหลืองแต่ละใบพอสัมผัสถูกร่ างของเขาก็ละลายกลายเป็ นไอสี


ดาซึ มซับเข้าไปในร่ างของเขา

หลังจากสามเดือนแล้ว นางก็กระตุน้ พลังของหยกสรรพชีวิตขึ้นมา


อีกครั้ง ครั้งนี้ได้สร้างยันต์คมุ ้ กันขึ้นมา สามารถขับไล่ภูติผปี ี ศาจร้าย
ได้
ถึ ง แม้ว่าเขาจะเป็ นถึ ง ฮ่ อ งเต้ แต่ใ นร่ างกลับมี ไอหยินรุ นแรงหนัก
แน่ น หากออกไปนอกวังก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการดึงดูดสิ่ งอัปมงคล
ได้ หากมียนั ต์คมุ ้ ครองของนางอยู่ ก็สามารถลดเภทภัยไปได้มาก

ตู๋กซู ิ งหลันไม่ตอ้ งการปล่อยให้เขาไปเกิดเรื่ องร้ายที่ภายนอก

ไม่วา่ จีเฉวียนจะทาสิ่ งใด เขาก็นบั ได้วา่ เป็ นฮ่องเต้ที่ดีองค์หนึ่ง ฮ่องเต้


ที่ดีสาหรับอาณาประชาราชแล้ว นับว่าสาคัญอย่างยิ่ง ก่อนที่จะก่อ
กบฏ สมควรให้เขาอยูร่ อดปลอดภัยจะดีกว่า

………………………

ตาหนักชางอู่ อันหร่ วนที่กาลังสวดเม็ดประคาอยูน่ ้ นั ก็พลันหยุดลง


ดวงตาชราที่ปิดอยูล่ ืมขึ้นมา ทอประกายสว่างวาบ “ หยกสรรพชีวิต
…..ที่แท้ก็อยูใ่ นวัง” ดูท่านางจะประเมินวังหลังต่าไปเสี ยแล้ว

ทันทีที่พดู จบ ก็เห็นเงาดาสายหนึ่งพุง่ ผ่านหน้าหน้าต่างเข้ามาในห้อง


หลังจากที่หมอกดาในห้องค่อยๆ สลายไป ก็มีคนคนชุดดาใต้ผา้ คลุม
ปรากฎขึ้นอย่างช้าๆ
สี หน้าของอันหร่ วนเปลี่ยนไปอย่างทันที นางกวาดตามองออกไป
ด้านนอก รี บลุกขึ้นไปปิ ดหน้าต่าง ค่อยหันมากล่าวกับคนชุดดานั้น
มา “ เจ้ามาทาไม?”
ตอนที่ 184 พี่ไก่ดากับม้ า

“ เวลาก็ผา่ นไปถึงสามเดือนแล้ว งานของท่านยังไม่สาเร็จเลยสัก


อย่าง หากข้ายังไม่มา เกรงว่าท่านคงจะลืมเป้าหมายของท่านไป
หมดแล้ว ” คนชุดดาตอบเสี ยงเย็น “ อันหร่ วนกูกู ข้าจะขอเตือนท่าน
สักหน่อย ความอดทนของนายท่านนั้นมีอยูอ่ ย่างจากัด”

อันหร่ วนขมวดคิ้วขึ้นมา “ พวกเจ้าประเมินฮ่องเต้ตา้ โจวต่าไปแล้ว


เขาใช่วา่ จะถูกหลอกลวงได้ง่ายๆ เสี ยเมื่อไหร่ ”

คนชุดดาตอบว่า “นัน่ เป็ นเรื่ องของเจ้า”

อันหร่ วนได้ยนิ แล้วก็เถียงว่า “ตั้งแต่ตอนแรกที่การครอบงาองค์หญิง


ใหญ่ลม้ เหลว พวกเจ้าก็แหวกหญ้าให้งูตื่นแล้ว ตอนนี้ ขา้ ก็เพียงแต่
ซ่ อนเร้นแสวงหาโอกาสในความเงียบ การจะได้โอกาสมาย่อมต้อง
รู ้จกั อดทนรอ”
ตอนแรกพวกเขาคิดจะควบคุมองค์หญิงใหญ่เอาไว้ เพื่อคอยกระตุน้
ความขัดแย้งระว่างฮ่องเต้และตระกูลตู๋กู แต่วา่ แผนนี้กลับถูกขัดขวาง
เสี ยจนเละเทะหมดแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น พอหว่านจรื อมาถูกขังอยูใ่ นคุก นางก็รู้ดีว่า ฮ่องเต้เกิด


ความสงสัยในตัวนางขึ้นมาแล้ว ถึงได้จบั หว่านจรื อเอาไว้ในมือเป็ น
ตัวประกัน

นางย่อ มไม่กล้ากระทาการใดๆ อย่างวู่วาม ฮ่ อ งเต้อ งค์น้ ี ยัง ลึ กล้ า


มากกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้มาก แม้ภายนอกจะดูคล้ายกับว่าพระองค์
ถูกสตรี ครอบงาจนหลงใหล แต่ที่จริ งแล้วหมากทุกตาที่ทรงก้าวเดิน
ล้วนผ่านการคิดคานึงมาอย่างดีแล้ว

มิเช่นนั้นแล้ว ด้วยความห่ วงหาที่พระองค์มีต่อฉางซุนฮองเฮา ไม่มี


ทางเลยที่เมื่อได้ยนิ ว่าอดีตฮองเฮาถูกวางยาพิษแล้วก็จะยังสงบนิ่งได้
เช่นนั้น

บางที พระองค์อ าจจะคาดการณ์ เอาไว้ก่อนแล้วว่าพวกนางจะพูด


ออกไปเช่นนี้
แม้แต่ตวั นางเองก็ยงั ดูไม่ออกว่าฮ่องเต้ทรงมีพระดาริ ใดอยูใ่ นพระทัย

“นายท่านไม่มีเวลาจะรอคอยมากขนาดนั้น ” คนชุดดากล่าวขึ้นมาอีก
“นายท่านปรารถนาให้ตา้ โจวพินาศย่อยยับ ให้ผคู ้ รองต้าโจวต้องทน
ทุกข์ทรมานเจ็บปวดมิสู้ตายไป”

พอพูดออกมาแล้วบนร่ างของเขาก็ปรากฏหมอกดากาจายออกมา
“อันหร่ วน ท่านมีจุดประสงค์ซ่อนเร้น คิดจะให้อนั หร่ วนกลายเป็ น
สตรี ของฮ่องเต้ คลอดโอรสออกมา ครองแผ่นดินต้าโจวแทน เรื่ องนี้
นายท่านทราบดี ขอเพียงท่านทาสาเร็ จ ก็นบั ว่านี้เป็ นผลงานของท่าน
แต่วา่ อันหว่านจือนัน่ กลับใช้การไม่ได้”

“ก็แ ค่หมากตัวหนึ่ ง ในเมื่ อไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย ซ้ ายังถูก


ฮ่องเต้เอามาใช้ข่มขู่ท่าน ท่านเองก็ใช้การไม่ได้เหมือนกัน”

อันหร่ วนไร้คาพูดจะกล่าว นางได้แต่กาลูกประคาในมือเอาไว้อย่าง


แนบแน่น
คนชุดดาผูน้ ้ นั ยังคงพูดต่อไปอีกว่า “อุทกภัยในลี่โจวรุ นแรงหนักขึ้น
ฮ่องเต้ตอ้ งเสด็จไปลี่โจวด้วยพระองค์เอง นี่ กลับเป็ นโอกาสที่ดีที่สุด
ของพวกเราแล้ว”

“เจ้าคิดจะทาอะไร? ” อันหร่ วนถามออกไป

“โอรสสวรรค์เสด็จไปบรรเทาทุกข์ดว้ ยพระองค์เอง แต่กลับกระตุน้


ทาให้ฟ้าดินพิโรธ เกิดฝนตกหนัก โรคระบาดแพร่ กระจาย ผูค้ นล้ม
ตายจานวนมาก เช่นนี้ เขาจะยังครองใจชาวประชาได้อีกหรื อ? ” คน
ชุดดาหัวเราะเสี ยงเย็นเฉียบ “เจ้าล่วงรู ้เวลาตกฟากของเขาเป็ นอย่างดี
ขอเพียงร่ ายคาถาสาปแช่งอีกครั้ง ทาให้เขากลายเป็ นตัวประหลาดต่อ
หน้าประชาราษฎ์ เช่นนี้แล้วแคว้นต้าโจวจะยังสงบสุ ขได้อีกหรื อ?”

ว่าแล้วเขาก็เสริ มขึ้นมาอีกประโยคหนึ่ ง “ครั้งนี้ ข้าหวังว่าท่านคงจะ


ไม่ทาพลาดอีกแล้ว”

…………………………..
ตาหนักเฟิ่ งหมิง

ตู๋กูซิงหลันเองก็ได้รับทราบข่าวคราว ว่าในช่วงหลายวันนี้ แม่น้ าลี่


เหอท่ ว มท้น ผูค้ นบาดเจ็บ ล้ม ตายตามกัน เป็ นจ านวนมาก อาณา
ประชาราษฏ์เดือนร้อนไปทัว่ ที่สาคัญที่สุดคือ พี่รองที่เป็ นหัวหน้า
ขุนนางฝ่ ายบรรเทาทุกข์ หายตัวไป

พอเกิดเรื่ องเช่นนี้ราชสานักก็ร้อนระอุข้ ึนมา เหล่าขุนนางต่างก็พากัน


วิพากวิจารณ์ว่าพี่รองทางานไม่สาเร็ จ พอเกิดปั ญหาก็มว้ นเสื่ อวิง่ หนี
หายไป

“ คุณชายรองไม่มีทางเป็ นคนเช่นนั้นเด็ดขาด! ” เชียนเชียนโมโหถึง


ขั้นจะตะโกนด่าบรรพบุรุษของคนพวกนั้นที เดี ยว “นายหญิ ง แต่
ไหนแต่ไรคุณชายรองห่ วงใยชาวบ้าน เป็ นดัง่ พระโพธิ สัตว์ที่มีชีวิต
อยู่ช่วยเหลือผูต้ กทุกข์ได้ยาก เขาย่อมไม่มีทางกระทาเรื่ องไร้ความ
รับผิดชอบอย่างวิ่งหนีไปโดยเด็ดขาด”
“คนเหล่านั้นรู ้จกั แต่ความสุ ขสบายจนเคยชิน รู ้ดีว่าเรื่ องน้ าท่วมนั้น
หนักหนาเพียงไร พอเกิ ดเรื่ องขี้นมาก็โยนความผิดใส่ คุณชายรอง
คุณชายรองของพวกเราช่างโชคร้ายจริ งๆ”

ในมือของตู๋กูซิงหลันยังคงถือจดหมายจากแดนไกลที่พี่ชายใหญ่ส่ง
มา สั่งให้นางสงบใจอยูแ่ ต่ในวัง ไม่ตอ้ งกังวลถึงเรื่ องของพวกพี่ชาย

แต่วา่ ทางลี่โจวกับส่ งข่าวมา ว่าพี่รองหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

พี่ใหญ่และท่านปู่ ต่างก็ยงั อยูท่ ี่เป่ ยเจียง นางไม่อาจอยูใ่ นวังรอคอยไป


วันๆ

พอใคร่ ครวญดูแ ล้ว ตู๋กูซิง หลันก็ตดั สิ นใจจะไปลี่ โจวด้วยตนเอง


ก่ อ นที่ พี่ใ หญ่จะออกเดิ นทาง ได้ทิ้ง สมบัติกองใหญ่เอาไว้ใ ห้นาง
เพียงพอให้นางใช้จ่ายระหว่างเดินทางได้อย่างสบาย

นอกจากซื้ อมาแล้ว ยังต้องมีของใช้ในชีวิตประจาวัน ตะเตรี ยมชุด


บุรุษสักหลายชุด ในคืนที่ไร้แสงจันทร์ สายลมพัดแรงนางก็ออกจาก
วังไป
เชี ยนเชียนถูกนางทิ้งเอาไว้ที่ตาหนักเฟิ่ งหมิง ให้นางสวมใส่ เสื้ อผ้า
ของตนเอง ยามว่างๆ ก็เดินผ่านหน้าต่างสักหลายๆ รอบ แกล้งทา
เป็ นว่าไทเฮายังทรงอยูใ่ นวัง

นางสวมใส่ ชุดบุรุษสี ดา เกล้าผมหางม้าทรงสู ง ขี่มา้ ออกไปทางประตู


เมืองตะวันออก

สี่ ทิศรอบด้านของเมื องหลวงล้วนแล้วแต่เป็ นป่ าหนาทึ บ ในป่ ามี


ถนนหลวงอยูเ่ ส้นหนึ่ง มีรถม้าและผูค้ นผ่านไปมาอยูต่ ลอด

ตลอดทางมีคนมองนางไม่น้อย ความหล่อเหลาของตู๋กูซิงหลันนั้น
จัด ว่า พวกบุ รุ ษ ทั่ว ไปไม่ อ าจเที ย บได้ แต่ ว่า วิ ช าขี่ ม ้า ของนางนั้น
ธรรมดาจนต่าเตี้ยไปแล้ว

เหล่าสาวๆ มากมายที่ได้พบนาง ต่างก็หรี่ ตาลง ติดตามมาที่ดา้ นหลัง


ม้าของนาง มอบทั้งดอกไม้และผลไม้ให้ท้ งั ยังมีที่ติดตามนางไปอีก
หลายลี้

ต่อมา ตู๋กซู ิ งหลันจึงตัดสิ นใจเปลี่ยนเป็ นใช้เส้นทางเล็กๆ พอพึ่งออก


จากถนนเล็กๆ เส้นหนึ่ งไปยังถนนเล็กอีกเส้นหนึ่ง ก็เห็นไก่ขนดาฟู
ตัวหนึ่งขยับปี กส่ายก้น ขวางอยูบ่ นถนนเล็กๆ อุง้ เท้าของมันยา่ อยูบ่ น
พื้น ดวงตาทั้งสองข้างนั้น ราวแผนภูมิรูปภาพที่บอกความรู ้สึกได้ มี
ความชอกช้ าเสี ยใจสามส่ วน ฟ้องร้องสามส่ วน และตื่นเต้นยินดีอีกสี่
ส่ วน

“ กุ๊ก กุ๊ก กรู ้~ ” มันขวางอยูท่ ี่ดา้ นหน้าของตู๋กซู ิ งหลัน กระทั้งเสี ยง


ขัดยังแฝงความเจ็บช้ า

“ ติ๊งต๊องหรื อ? ” ตู๋กูซิงหลันรั้งม้าเอาไว้ จ้องมองดูมนั นางเกื อบจะ


นึกว่าตนเองตาฝาดไปแล้ว

“ กุ๊ก กรู ้ ” ติ๊งต๊องตอบรับอย่างคึกคัก

ตู๋ กู ซิ ง หลัน มองดู ม ัน ในใจก็ อ ดนึ ก ถึ ง น้ า แกงไก่ ต๋ ุ น ที่ ต นเองดื่ ม


ติดต่อกันไปหลายวันไม่ได้

ตอนนี้ ในใจของนางเกิ ดความรู ้สึกผิดขึ้นมาอยู่บา้ ง “ เจ้าตัวน้อยที่


น่ารัก เจ้ายังไม่ตายข้าก็ดีใจมากจริ งๆ มานี่สิ ให้พี่สาวลูบหน่อย”
พอนางกล่าวแค่ประโยคเดียว ความทุกข์ทรมานที่เจ้าไก่ขนดาฟูได้
รับมาตลอดหลายวันนี้ ก็สลายไปราวกับเมฆหมอก มันส่ ายก้นวิ่ง
กุกๆ เข้ามาหานาง ท่าทางออดอ้อนร้องขอให้ลูบไล้และโอบอุม้

ตู๋ กูซิ ง หลันพลิ กตัวลงจากหลัง ม้า ลู บ ไล้ศีรษะของมัน ทั้ง ยัง มอง


ออกไปโดยรอบ ตลอดทางมานี้ นางเจอะเจอสัตว์ร้ายในป่ าทึบมาไม่
น้อ ย มัน ที่ เ ป็ นเพี ย งแค่ ไ ก่ ต ัว หนึ่ ง กลับ สามารถมี ชี วิ ต รอดอยู่ใ น
สถานที่เช่นนี้ได้มาตั้งนาน คงจะไม่ง่ายดายเลย

ไม่เพียงแต่อยู่อย่างดี ดูๆ แล้วก็อว้ นขึ้นไม่น้อย กระทัง่ เส้นขนก็ดู


งดงามระยิบระยับมากขึ้ น โดยเฉพาะหางตรงก้นนี้ ยาวขึ้ นมาเลย
ทีเดียว

“ตาหนักเฟิ่ งหมิงของข้าเลี้ยงดูเจ้าไม่ดีพอหรื อ ถึงได้ตอ้ งหนีออกจาก


บ้านมา? ” ตู๋กูซิงหลันอุม้ มันขึ้นมา “ ข้านึ กว่าเจ้าตายไปแล้ว เสี ยใจ
อยูต่ ้ งั เป็ นนาน”

วิญญาณทมิฬ “……..” มันยังจาได้นะ มีสตรี ผใู ้ ดกันนะ ดื่มน้ าแกง


ไก่อย่างเอร็ ดอร่ อยเหลือหลาย?
“ กุ๊ก กุ๊ก กรู ้~ ” เจ้าไก่ขนดาฟูภาคภูมิใจอยูใ่ นอ้อมอกของนาง

ก็ไม่ใช่วา่ เกือบจะตายไปแล้วหรื อ? เช้าวันนั้นมันนอนหลับสบายอยู่


ในสวน อยูๆ่ ก็ถูกเจ้าฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ นั คว้าคอจับไปอย่างไม่ทนั ระวัง
ตัว

หลัง จากนั้นมันก็ถูกเอาไปโยนแผ่ไว้ใ นห้อ งเครื่ อ ง อี กนิ ดเดี ยวก็


เกือบจะกลายเป็ นน้ าแกงไก่รสเลิศแล้ว

ยังดีที่มนั มีพละกาลังมาก วรยุทธ์สูงล้ า พอจิกตีคนตัวโตไปได้หลาย


คน มันก็วิ่งหนี ออกจาวังโดยไม่รู้ทิศทาง หากมิใช่ว่ามีวาสนาผูกพัน
เกรงว่าชาติน้ ีท้ งั ชาติคงมิอาจได้พบหน้าพี่สาวตัวน้อยอีกแล้ว

พอคิดแล้วเจ้าไก่ขนดาฟูก็น้ าตาคลอขึ้นมา ซุ กหัวลงไปในอ้อมอก


ของตู๋กซู ิ งหลัน น้ าตาริ นไหลไม่หยุด

ตู๋กซู ิ งหลันครุ่ นคิดไปมา ก็ไม่กล้าส่ งมันกลับไป ได้แต่พามันเดินทาง


ไปด้วยกัน
บนถนนเล็กๆ ในป่ าทึบ หนึ่ งคน หนึ่ งไก่ ขี่มา้ ท่องไป เหล่าสัตว์ป่าดุ
ร้ายที่อาศัยอยูใ่ นป่ าทึบ เดิมทีจบั จ้องพวกเขาอย่างยินดี

แต่พอได้เห็นเจ้าไก่ก๊กุ ที่นงั่ อย่างสง่างามอยูบ่ นหลังม้า หันกลับมาจด


จ้องพวกมันบ้าง ก็รีบล้มเลิกความคิดไปในทันที
ตอนที่ 185 ลีโ่ จว

พวกมันอยูม่ าตั้งนานแล้งยังไม่เคยเห็นไก่ที่กล้าชูคอผงาดเช่นนี้ มา
ก่อน! ดูองุ ้ เท้าและเดือยแหลมนัน่ สิ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็ นไก่โหดตัว
หนึ่ง ไม่อาจเคี้ยวได้ง่าย โดยเฉพาะสายตานัน่ มีไอสังหาร!

ว่ากันตามจริ ง ตู๋กูซิงหลันก็รู้สึกว่าประหลาดอยูบ่ า้ ง เดิมที่นางคิดจะ


หาผ้ามาผูกมันเอาไว้บนหลังม้า ใครจะไปคิดว่าไก่จะขี่มา้ เป็ น ตลอด
ทางแม้จะขรุ ขระอย่างไรก็ไม่สามารถทาให้มนั ตกลงมาได้

วิญญาณทมิฬตั้งใจอย่างเด็ดขาดว่าจะต้องหาโอกาสกินเจ้าติ๊งต๊องนี้
ให้ได้ ว่ากันตามจริ งแล้ว เจ้าไก่ที่กระโดดออกมาจากสุ สานตัวนี้ ไม่
แน่วา่ อาจจะเป็ นตัวอะไรที่ไม่ธรรมดาก็เป็ นได้

มัน หมอบอยู่ บ นหั ว ไหล่ ข องตู๋ กู ซิ ง หลัน มาตลอดทาง จับ จ้อ ง


เจ้าติ๊งต๊องด้วยสายตาเหี้ ยม
ติ๊งต๊องเองก็หันกลับไปหรี่ ตาใส่ มนั ด้วยแววตาประหนึ่ งว่าหากเจ้ามี
ปั ญญากล้ามากลืนตัวพ่อเช่นข้าในคาเดียว ข้าก็มีปัญญาจิกเจ้าสักร้อย
ครั้งเช่นกัน มาเด้ มาอัดกันสักรอบเป็ นไง ใครกลัวใครกัน!

“…….”

ลี่ โจวตั้ง อยู่ทางตะวันออกเฉี ยงใต้ของต้าโจว ถึ ง แม้จะอยู่ห่างจาก


เมืองหลวงมาก แต่ที่จริ งแล้วเป็ นผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์

หลายร้อยหลายพันปี ก่อน แม่น้ าลี่เหอได้ล่อเลี้ยงแผ่นดินแถบนี้ แต่


ก่ อ นที่ ตา้ โจวจะก่อ ร่ างสร้างแคว้นขึ้ นมา ก็มีศึกสงครามอยู่ตลอด
แก่งแย่งทรัพยากรกันมิได้ขาด สร้างความเสี ยหายอย่างรุ นแรงต่อลุ่ม
แม่น้ าลี่เหอ ดังนั้นเมื่อปฐมกษัตริ ยไ์ ด้ก่อตั้งแคว้นขึ้นมาแล้ว แม่น้ าลี่
เหอจึงได้กลายเป็ นปั ญหาใหญ่ของราชวงค์ตา้ โจว

ตลอดหลายปี มานี้ ได้ทุ่มเทเงินลงไปเป็ นจานวนมากเพื่อสร้างเขื่อน


ป้ องกันน้ าหลาก แต่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ได้ผล มวลน้ ากลับรุ นแรงขึ้น
ทุกๆ ปี กระทัง่ ฮ่องเต้องค์ใหม่ข้ ึนครองราชย์ สถานการณ์น้ าในลี่โจว
ก็ทวีความรุ นแรงจนถึงขีดสุ ด
ยามนี้ ถึงขนาดที่ว่าเขื่อนกั้นก็ได้พงั ทลายลงไปแล้ว ฟั ง ว่าหมูบ้ า้ น
หลายสิ บแห่งที่อยูใ่ ต้ลี่โจวล้วนจมอยูใ่ ต้น้ า ผูค้ นล้มตายนับไม่ถว้ น

ตู๋กูซิงหลันขี่มา้ ทันที ที่เ ข้าไปในเขตของลี่โจว ก็พบว่าบนท้องฟ้ า


เหนื อลี่โจวอบอวลไปด้วยไอหยินและแรงพยาบาท กลายเป็ นหมอก
ดาไปทั้งแถบ กระทัง่ ตาเนื้อยังสามารถมองเห็นได้บางส่ วน

เพียงแต่วา่ สาหรับคนธรรมดาแล้ว นี่เป็ นเพียงเมฆดาปกคลุมเท่านั้น

“ สวรรค์โ ปรด นี่ มี ค นตายไปมากเท่ า ใดกัน แต่ ล ะคนวิ ญ ญาณ


วนเวียนไม่ยอมไปไหน หากว่าที่นี่มีตวั ปี ศาจอะไร กลืนกินวิญญาณ
เหล่านี้เข้าไป ไม่รู้วา่ จะกลายเป็ นแข็งแกร่ งถึงเพียงไหน!”

มันหมุนคอไปมองโดยรอบ อดที่จะน้ าลายไหลย้อยไม่ได้ วิญญาณ


คนตายเหล่านั้นน่ากินเหลือเกิน นับตั้งแต่ครั้งก่อนที่มนั ได้กินปี ศาจ
ความฝันตัวนั้นลงไป มันก็ไม่ได้กินอะไรดีๆ มานานแล้ว

ตู๋ กูซิ ง หลันดึ ง รั้ งสายบัง เหี ยน ในใจรู ้ สึกเคร่ ง เครี ยดขึ้ น มา ไม่ น่ า
แปลกที่วิญญาณคนตายเหล่านี้มีแรงพยาบาทรุ นแรง ในหมู่พวกเขาที่
จริ งแล้วมีคนจานวนมากที่สมควรจะมีอายุยงั ไม่หมดอายุขยั พอคน
พวกนี้ ตายลงแรงพยาบาทก็พวยพุ่งขึ้นฟ้ า แม้แต่ธาตุปฐพีก็ยงั ดึงรั้ง
เอาไว้ไม่อยู่ ได้แต่กลายเป็ นวิญญาณร้ายวนเวียนอยูบ่ นโลก

หากว่า ไม่ อ าจลดทอนความรุ นแรงลงได้ พวกเขาก็ จ ะกลายเป็ น


วิ ญ ญาณตายโหง หรื อ ไม่ ก็ ถู ก ปี ศาจที่ มี อิ ท ธิ ฤทธิ์ สู ง กว่ากลื นกิ น
กลายเป็ นอาหารหล่อเลี้ยงปี ศาจทั้งหลาย

ยามนี้ ก็ใกล้จะมืดค่าเข้าไปทุกทีแล้ว ประตูเมืองลี่โจวยังไม่ปิด นาง


จึ ง ขี่ มา้ เขาไป ทัว่ ทั้ง เมื อ งลี่ โจวเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ หดหู่ แ ละ
สู ญเสี ย อากาศอับชื้ นและมี ไอเย็นยะเยือก ทาให้คนรู ้สึกไม่สบาย
ตัวอย่างยิง่

บนถนนมีผคู ้ นเดินผ่านบางตา คนพวกนี้ ต่างก็โพกผ้าปิ ดหน้า แต่ละ


คนเดินทางอย่างรี บร้อน

บนถนนใหญ่ไม่มีแ ม้แ ต่ร้านหาบเร่ เล็กๆ ร้ านรวงในเมื อ งต่างปิ ด


กิจการ ราวกับว่าทั้งเมืองกลางเป็ นเมืองร้าง

ผูป้ กครองลี่ โจวคื อ ลี่ โจวอ๋ อ ง พระเจ้าอาคนที่ สิบหกของจี เฉวียน


นามจีหราน
จีหรานเป็ นโอรสเกิดจากปฐมกษัตริ ยท์ รงดื่มสุ ราจนเมามายแล้วไป
คว้านางกานัลผูห้ นึ่ งขึ้นมา แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยได้รับความโปรด
ปรานจากปฐมกษัตริ ย ์ ตอนที่ อายุเพียงห้าหกชันษาก็ถูกส่ งมายังลี่
โจวแล้ว แม้แต่ราชทินนามก็ยงั คร้านจะตั้งให้ ดังนั้นจึงถูกเรี ยกว่า
อ๋ องหรานเสี ยอย่างนั้น

ยามปกติแม้ว่าในวังหลวงจะมีเรื่ องอันใดก็ไม่เคยเรี ยกเขากลับเมือง


หลวง ดังนั้นในแผ่นดินนี้จึงแทบไม่มีผใู ้ ดกล่าวถึงชื่อของหรานอ๋ อง

ตู๋กูซิงหลันเองก็ไม่เคยพบเห็ นพระเจ้าอาผูน้ ้ ี มาก่อน พี่รองรับพระ


บัญชามาบรรเทาทุพภิกขภัยที่ลี่โจว ย่อมต้องพักอยู่ในตาหนักของ
หรานอ๋ อง

ตู๋กูซิงหลันขี่มา้ ไปจนถึงประตูตาหนักของหรานอ๋ อง แต่กลับเห็นว่า


ประตูตาหนักหรานอ๋ องถึงกับขึ้นรา มีแต่คราบสกปรก แม้แต่อกั ษร
หรานบนประตูยงั ก็ยงั บวมเบี้ยวจนผิดรู ป

ประตูใหญ่ของตาหนักหรานอ๋ องปิ ดสนิ ท แม้แต่คนเฝ้าประตูที่ดา้ น


นอกก็ยงั ไม่มี แลดูมอซออย่างที่สุด
ดูอย่างไรก็ไม่เหลือศักดิ์ศรี ของอ๋ ององค์หนึ่ งเลยแม้สักน้อย ทั้งๆ ที่มี
ดินแดนของตนเอง แต่ตาหนักนี้ กลับไม่มีความสง่างามเลยสักนิด ไม่
อาจจะเทียบได้แม้แต่กบั จวนของขุนนางขั้นห้าขั้นหกในเมืองหลวง

ตู๋กซู ิ งหลันพลิกตัวลงจากหลังม้า นางไปเคาะประตูอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็ไม่มี


คนตอบรับแม้สักคนเดียว

ผ่านไปครู่ หนึ่ง ก็มีเด็กชายอายุประมาณเจ็ดแปดขวบเดินมาตามท้อง


ถนนอย่างมือเท้าอ่อนแรง เขากระตุกขากางเกงของตู๋กูซิงหลัน ถาม
อย่างอ่อนน้อมว่า ” พี่ชายขอรับ ท่านมีถงั หู ลู่ (ผลไม้เคลือบน้ าตาล
เสี ยบไม้) บ้างหรื อไม่?

ตู๋ กูซิ ง หลันหัน หน้า กลับไปมอง ก็ เ ห็ น เด็กชายที่ ผ่า ยผอมจนมี แ ต่


โครงกระดูกเพราะความหิ วโหย ดวงตาคู่นนั่ จมลึกลงไปในเบ้าตา

เสื้ อผ้าบนร่ างมีแต่โคลน ทั้งยังมีกลิ่นเหม็นโชย

มือของเขาทาให้ขากางเกงตู๋กูซิงหลันสกปรก พอเห็นว่าตู๋กูซิงหลัน
กาลังมองดูเขา เด็กชายก็รีบคลายมือออก กล่าวกับนางว่า “ ขออภัย
ขอรับ ทาให้เสื้ อผ้าของท่านสกปรกแล้ว”
ในดวงตาของเขามี แ ต่ ค วามหวาดกลัว แต่ ก็ ย งั มี ค วามหวัง แฝงอยู่
“ ข้า…น้องสาวของข้าป่ วยแล้ว นางกินอะไรไม่ลง นางชอบกินถังหูลู่
ที่สุดเลย ข้าอยาก…..อยากได้มาสักนิ ด สักเม็ดเดียวก็พอ เม็ดเดียวก็
พอแล้ว”

พูดแล้วเขาก็ก้มศี รษะลงไป ทั้ง ยัง ไม่กล้ายื่นมื อ มาจับขากางเกาง


ของตู๋กซู ิ งหลันอีก ตู๋กซู ิ งหลันได้กลิ่นเหม็นจากตัวเขา เป็ นกลิ่นศพที่
ชัดเจน

ตอนที่ ต๋ ูกูซิงหลันมาถึงนอกเมื องลี่โจวก็พบกับผูป้ ระสบภัยอยู่ไม่


น้อ ย อาหารแห้ง ที่ มี ติ ด ตัว ถู ก แบ่ ง ไปจนหมดแล้ว ตอนนี้ ในตัว
นอกจากเงินทองแล้วก้ไม่มีของกินอะไรเลย

อ๋ อ ยังมีเจ้าติ๊งต๊องที่เป็ นอาหารสารองนัน่ อยู่

แต่วา่ ที่นี่แม้แต่ร้านหาบเร่ เล็กๆ ก็ยงั ไม่มี ต่อให้มีเงินก็ไม่อาจซื้ อถังหู


ลู่ได้
นางหันกลับไปมองดูประตูใหญ่ที่ปิดสนิ ทของตาหนักหรานอ๋ องครู่
หนึ่ง พลางบอกกับเด็กชายว่า “ข้าไม่มีถงั หูลู่ แต่วา่ ข้าเป็ นหมอ พาข้า
ไปหาน้องสาวเจ้าเถอะ ได้ไหม?”

เด็กชายตัวน้อยเห็นนางหน้าตาหล่อเหลามาก ลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ งก็พยัก


หน้า “ ได้ขอรับ” รับคาแล้วเขาก็เดินนาไปข้างหน้า เขาเดินด้วยเท้า
เปล่า ส้นเท้ามีรอยเลือด แผลพุพอง และแผลแตก

เวลาเดินย่อมต้องเจ็บปวดเป็ นอย่างมาก แต่เขากลับกัดฟันแน่นไม่ส่ง


เสี ยง เพียงนาตู๋กูซิงหลันเดินคดโค้งไปมาจนถึงอารามที่ผุพงั นอก
เมืองลี่โจว

ในอารามที่ผพุ งั มีรูปปั้ นเทพธิดาที่ศีรษะเป็ นคนและท่อนร่ างเป็ นงูอยู่


เพียงแต่ไร้ธูปเทียนให้ความเคารพมานานแล้ว เทพธิ ดามีแต่ฝนปก
ุ่
คลุ ม ไปทั้ง ร่ า ง หยากไย่เ กาะไปทั้ง ศี ร ษะ รอยยิ้ม ที่ เ คยดู มี เ มตตา
ตอนนี้กลับดูไปแล้วน่ากลัวอยูบ่ า้ ง
เด็กชายนานางเข้าไปด้านใน จากนั้นก็เห็นเขาเดินไปจนถึงโต๊ะบูชา
ใต้ฐานเทพธิดา เคลื่อนย้ายกองหญ้าฟางที่ปิดอยูอ่ อกไป ข้างใต้น้ นั ก็
ปรากฎเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ผา่ ยผอมออกมา

จากนั้นเขาก็เขาไปกอดเด็กหญิงเอาไว้ในอ้อมแขน จูบเบาๆ ลงบน


ใบหน้าของนาง กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “น้องจ๋ า ข้ากลับมาแล้ว”

เด็กหญิงตัวน้อยดูแล้วมีอายุเพียงสามสี่ ขวบเท่านั้น ผ่ายผอมจนแทบ


ไม่เป็ นรู ปร่ าง เสื้ อผ้าบนร่ างขาดวิ่น กระดูกแต่ละท่อนล้วนปูดโปน
ออกมา ดูไปราวกับศพแห้งๆ ร่ างหนึ่ง

ที่ขา้ งกายเด็กหญิงยังมีของกิ นอยู่บา้ ง หมัน่ โถที่ข้ ึนราครึ่ งลูก แอป


เปิ้ ลที่กดั ไปแล้วคาหนึ่ง และยังมีเศษอาหารอื่นๆ อีกเล็กน้อย

ตู๋กูซิง หลันเพียงมองแค่แว่บเดียวก็รู้ว่า เด็กหญิ งตัวน้อยสิ้ นลมจน


เหลือแต่เพียงร่ างมาหลายวันแล้ว กลิ่นศพที่อยูบ่ นร่ างเด็กชาย ก็มา
จากน้องสาวของเขานัน่ เอง
แต่ เ ด็ก ชายกลับดู ไม่ อ อกว่านางตายไปแล้ว ยัง คงกล่า วด้วยเสี ยง
นุ่มนวลที่ขา้ งหูของนางว่า “ น้องจ๋ า วันนี้เจ้ากินอะไรสักคาดีไหม?”

“รอจนน้ าหลากลดไปแล้ว พวกเราก็กลับบ้านกัน พี่จะหาเงินมาซื้ อ


ถังหู ลู่ที่เจ้าชอบกิ นที่สุด ซื้ อมาเยอะๆ ให้เต็มบ้านเอาให้เจ้ากิ นจน
พอใจเลยนะ”
ตอนที่ 186 เทพธิดา

“ ท่านพ่อท่านแม่ต่างก็ไม่อยูแ่ ล้ว น้องจ๋ าเจ้าต้องเชื่อฟังนะ กินอาหาร


เยอะๆ อย่าได้ทงิ้ พี่ชายเอาไว้เพียงลาพังนะรู ้ไหม? ” ขณะที่เขาพร่ า
พูดไปเรื่ อยๆ นั้น เด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมแขนกลับกลับไม่มี
ปฏิกริ ยาเลยแม้แต่นอ้ ย ดวงตาที่แม้ตายไปแล้วก็ไม่ยอมปิ ดคูน่ ้ นั เบิก
โพลง

ตู๋กูซิงหลันเห็นแล้วก็ปวดใจอยูเ่ งียบๆ ตอนนี้ ตวั นางเองก็เป็ นคนที่มี


พี่ชายเช่ นกัน หากว่ามี สักวันที่ พวกพี่ชายต้องโศกเศร้าเพราะนาง
เช่ นเดี ยวกับเด็กชายตัวน้อยนี้ แล้วล่ะก็ นางคิ ดว่าตนเองคงจะต้อง
เสี ยใจแทบตายเช่นกัน

นางเองก็ไม่ รู้ว่า คนที่ หิว ตายทั้ง เป็ น ตอนยัง มี ชี วิต อยู่จะต้อ งผ่าน
ประสบการณ์แห่งความสิ้ นหวังเพียงไร แถมยังเป็ นเพียงเด็กหญิงตัว
น้อยเท่านี้
ในโลกของนาง เด็กๆ ตัวแค่น้ ี สมควรอยูภ่ ายใต้การปกป้ องคุม้ ครอง
ของพ่อแม่ ไปโรงเรี ยนอนุบาลอย่างไร้ทุกข์ไร้โศกใดๆ

แต่ภายใต้การปกครองของราชวงค์น้ ี ชีวิตคนมิได้ต่างไปกับใบหญ้า
อย่าว่าแต่ชาวบ้านธรรมดาเลย แม้แต่นางที่เป็ นไทเฮายังสามารถเสี ย
หัวไปได้ทุกข์ขณะจิต

นางคุกเข่าลงไป พอยืน่ มือออกไป ก็เห็นเด็กชายโอบกอดน้องสาวตัว


น้อยแนบแน่น

ครู่ หนึ่ ง เขาก็คลายมือออกอย่างไม่อาจทาอะไรได้ วางน้องสาวลง


โขกศี ร ษะให้ต๋ ู กูซิ งหลันหนัก ๆ ” พี่ ช าย ท่ า นเป็ นหมอ ท่ า นช่ วย
น้องสาวของข้าได้ไหม? นางไม่ยอมกินอะไรมาสามวันแล้ว ขอท่าน
โปรดช่วยนาง จะให้ขา้ เป็ นวัวเป็ นควายรับใช้ท่านก็ได้ท้ งั นั้น “

เขาโขกศีรษะตนเองอย่างแรง จนผิวหนังบนหน้าผากแตก เลือดสดๆ


ไหลซึ ม จากข้างแก้มมาถึงลาคอ แลดูยงิ่ น่าอนาถใจอย่างที่สุด

” ขอร้องท่านแล้ว “
เขาพูดแล้ว ก็คิดจะโขกศี รษะให้ต๋ ูกูซิง หลันอี ก ตู๋กูซิง หลันดึ ง เขา
ขึ้นมา ” น้องสาวของเจ้าไม่อยูแ่ ล้ว “

คาพูดเช่นนี้ สาหรับเด็กชายที่อายุเพียงเจ็ดแปดขวบ นับว่าโหดร้าย


เกินไปแล้ว

” ไม่ มี ท าง! น้อ งสาวเพียงแต่ …. เพี ย งแต่…….” เด็ก ชายพูดไปก็


สะอึกสะอื้นจนพูดไม่ออกอีก

ที่จริ งแล้วเขารู ้ดีวา่ น้องสาวก็เป็ นเหมือนกับพ่อและแม่ ต่างก็ทอดทิง้


เขาไปแล้ว

แต่วา่ เขาไม่อยากจะยอมรับเรื่ องนี้ ไม่มีนอ้ งสาวแล้ว ในโลกนี้กเ็ หลือ


เพียงเขาอยูอ่ ย่างลาพังเพียงคนเดียว

ไม่มีคนรักเขา และไม่มีคนที่เขารัก เขาได้แต่รอความตายอย่างโดด


เดี่ยวเพียงลาพัง

” หากว่าข้า….หากว่าข้าหาถังหูลู่มาได้สักเม็ด นางก็คงจะไม่…..ก็คง
จะไม่ตาย…….ข้ามันไม่ใช่พี่ชายที่ดี ข้าไม่ได้ดูแลนางให้ดี “
เขานึ กว่า เพียงแค่สามารถหาถังหู ลู่ที่นางชอบกิ นมาได้ นางก็จะมี
ชีวิตคืนมาร่ างเล็กๆ ของเขาสั่นสะท้าน ริ มฝี ปากถูกกัดจนเลือดไหล
น้ าตาไหลเป็ นทาง โศกเศร้าเสี ยใจอย่างที่สุด

ตู๋กูซิงหลันเห็นท่าทางของเขา นางก็ปวดใจจนต้องโอบเด็กชายคน
นั้นเข้ามาในอ้อมกอด ลูบไล้ศีรษะของเขาเบาๆ ” ถึงแม้ว่านางจะไม่
อยูใ่ นโลกนี้ แล้ว แต่วา่ จะได้ไปมีชีวิตอยูใ่ นที่ที่มีความสุ ข ที่นนั่ ไม่มี
ความหิ วโหย ไม่มีความเจ็บปวด ยิ่งไม่มีน้ าหลาก เจ้าสมควรจะยินดี
แทนนาง “

บนร่ า งของเด็ ก หญิ ง ตัว น้อ ยยัง มี เ ศษเสี้ ยวของดวงจิ ต ที่ บ ริ สุ ท ธิ์
เหลืออยู่ อีกทั้งยังมิได้ถูกไอพยาบาทในเมืองลี่โจวครอบงา นางตาย
ตาไม่หลับ คงเพราะห่วงใยไม่อาจทอดทิง้ พี่ชายคนนี้

ตู๋กูซิงหลันพูดพลาง ก็ยื่นมือออกไปลูบลงบนดวงตาของเด็กหญิง
เบาๆ พอดวงตาของนางปิ ดสนิ ทแล้ว สี หน้าของนางก็เปลี่ยนเป็ น
สงบขึ้นมา
เด็กชายตัวน้อยมองมา นับตั้งแต่วนั ที่น้องสาวไม่ยอมกิ นอะไรเลย
เขาก็คิดจะหาทางให้นางหลับตาพักผ่อน แต่ว่าดวงตาของนางกลับ
ไม่ยอมปิ ดลง ตอนนี้ พี่ชายผูน้ ้ ี เพียงแต่ลูบไล้เบาๆ นางก็หลับตาลง
แล้ว ในสายตาของเด็กชายผูน้ ้ ี ตู๋กซู ิ งหลันพลันกลายเป็ นยิง่ ใหญ่ไร้ที่
เปรี ยบ น้องสาว…..ได้ไปมีชีวิตอยูอ่ ย่างมีความสุ ขในอีกที่หนึ่ งจริ ง
หรื อ?

ตู๋กูซิงหลันปล่อยตัวเด็กชาย นางเรี ยกดวงวิญญาณเด็กหญิงจากร่ าง


พลางหยิบยันต์ใบหนึ่งออกมา ผนึกลงไปบนดวงจิตของเด็ก

นางนัง่ ลงขัดสมาธิ สวดมนต์ชกั นาวิญญาณไปสู่ การจุติใหม่ออกมา


ดวงวิญญาณปรากฎแสงสว่างสะอาดบริ สุทธิ์ ภายใต้ยนั ต์คุม้ ครอง
ของนาง เด็กหญิงตัวน้อยสมควรเข้าสู ้วฎั สังขารได้อย่างราบรื่ น ชาติ
หน้าย่อมสามารถเกิดใหม่ในชาติภพที่ดีได้

เด็ก ชายตัว น้อ ยเงยหน้าขึ้ น ราวกับ ว่าเขาก็ม องเห็ นแสงสว่างนั้น


“ พี่ชาย ท่านสามารถส่ งข้าไปที่เดียวกับน้องสาวได้หรื อไม่? ” เขา
ถามตู๋กซู ิ งหลันออกมา
“ สักวันหนึ่ งเจ้าก็จะได้ไป ตอนนี้ ยงั ไม่ได้ ” ตู๋กูซิงหลันส่ ายศีรษะ
โอบอุม้ ร่ างของเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นมา ตระเตรี ยมจะหาสถานที่ฝัง
กลบนาง มีแต่กลับคืนสู่ พสุ ธา ดวงวิญญาณจึงจะได้รับความสงบสุ ข
อย่างแท้จริ ง

เด็กชายไม่ได้ขดั ขวางนางอีก เพียงแต่ติดตามนางมาโดยตลอด ตอน


ที่ต๋ ูกูซิงหลันขุดหลุม เขาก็โกยดินด้วยมือเปล่าอยู่ดา้ นข้าง สองมือ
ถลอกปอกเปิ กจนเลือดออก ก็ไม่ส่งเสี ยงแม้ครึ่ งคา พอฝั งเด็กหญิง
เรี ยบร้อย ท้องฟ้าก็มืดสนิทลง

เด็กชายโขกศีรษะที่หน้าสุ สาน วางแอบเปิ้ ลที่กดั ไปเพียงคาเดียวทั้ง


ยังสุ กจนเน่าแล้วเอาไว้ดา้ นบน ” น้องจ๋ า รอจนข้าได้ไปที่เดียวกับเจ้า
ที่น้ นั จะต้องหาเจ้าจนพบ เจ้าอย่าได้ลืมข้านะ “

ยามนี้ ที่จริ งเป็ นฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่ว่าอากาศในลี่โจวยังหนาวเย็น


กว่าค่าคืนในฤดูหนาวของเมืองหลวงอยูห่ ลายส่ วน

สายลมพัดหวีดหวิว ราวกับว่ามีภูติผนี บั พันนับร้อยกรี ดร้องอยูท่ ี่ริมหู


แต่เด็กชายตัวน้อยผูน้ ้ นั คล้ายกับว่าคุน้ เคยเสี ยแล้ว เขาติดตามมาข้าง
กายตู๋กซู ิ งหลันอยูต่ ลอด ยามนี้ค่อยกล่าวออกมาว่า ” พี่ชายมาตามหา
หรานอ๋ องหรื อ? “

” อืม ” ตู๋กซู ิ งหลันผงกศีรษะ นางจูงม้า อุม้ เด็กชายขึ้นบนหลังมา เดิน


กลับไปทางอารามที่ผผุ งั

” หรานอ๋ องผูน้ ้ นั ไม่ได้เรื่ อง ท่านอย่าได้ไปตามหาเขาเลย ” เด็กชาย


นัง่ อยูบ่ นหลังม้าส่ ายศีรษะให้นาง

” หื ม? เจ้ารู ้อะไรมาหรื อ ? ” ตู๋กูซิงหลันประหลาดใจอยู่บา้ ง ตลอด


ทางที่มายังลี่โจว ได้ยนิ ผูค้ นสรรเสริ ญหรานอ๋ องไม่นอ้ ย ฟังว่าตอนที่
แม่น้ าลี่เหอเอ่อล้นขึ้นมานั้น หรานอ๋ องไม่สนใจตนเอง ใช้ร่างเข้ากั้น
ขวางกระแสน้ าเอาไว้ หากไม่ใช่เพราะเหล่าผูใ้ ต้บงั คับบัญชาดึงดัน
พากลับไป เกรงว่าหรานอ๋ องเองก็คงไม่เหลือรอดแล้ว

ยังได้ยินมาอีกว่า เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบเภทภัย หรานอ๋ อง


เปิ ดยุง้ ฉางของเมืองลี่โจวออกแจกจ่าย จนแม้แต่ในจวนของตนเองก็
เหลือแต่โจ๊กใสที่นบั เมล็ดข้าวได้เท่านั้น
จากปากของชาวบ้าน เขานับว่าเป็ นอ๋ องที่ดีผหู ้ นึ่ ง ท่านอ๋ องที่ได้รับ
การสรรเสริ ญผูห้ นึ่ ง ทาไมพอออกจากปากของเด็กชายก็กลายเป็ น
ไม่ดีแล้ว?

” มี เย็นวันหนึ่ งข้าไปที่ ตาหนักของหรานอ๋ องเพื่อขโมยของกิ นให้


น้องสาว ข้าเห็นเขากินเนื้ อ กินเนื้ อดิบๆ สดๆ จานวนมาก เขาโกหก
พวกเรา ” เขาเป็ นผูใ้ หญ่ตวั โตที่หลอกลวง”

ตู๋กูซิง หลันขมวดคิ้วแน่ น ขณะที่ ครุ่ นคิ ดไปนางก็พาเขากลับมาที่


อารามเทพธิดาแล้ว

เด็กชายตัวน้อ ยเรี ยกว่า ฮว๋ ายอัน เป็ นชาวบ้านในหมู่บา้ นทั้ง ห้า ที่
อาศัยอยูใ่ ต้แม่น้ าลี่เหอ แม่น้ าลี่เหอไหลท่วมจมหมู่บา้ นของเขา เขา
และน้องสาวหลบหนี ออกมาได้ หลายวันมานี้ ได้แต่ขอทานอยู่ใ น
เมืองลี่โจเพื่อประทังชีวิต

เด็ก คนนี้ ไม่ เ คยได้กิน อิ่ ม มาหลายมื้ อ ทั้ง เนื้ อ ทั้ง ตัวมี แ ต่ บาดแผล
น้องสาวก็ยงั มาตายจากไป เรี ยกว่ากาลังใจในการมีชีวิตแทบจะล่ม
สลาย
ตู๋กูซิงหลันช่วยทาแผลให้กบั เขา ใส่ ยา เอาเสื้ อคลุมของตนถอดออก
ให้เขาใช้หนุนเป็ นหมอน

หลัง เที่ ยงคื นไปแล้วสายลมด้านนอกก็ยิ่งพัดแรง ลมพัดเสี ยงหวีด


หวิว ราวกับว่ามีบางสิ่ งพยายามจะบุกเข้ามา ตู๋กูซิงหลันสั่งให้เจ้าไก่
ขนดาฟูอยูท่ ี่อาราม คอยดูแลฮว๋ ายอัน

นางล้ว งเอายัน ต์อ อกมาหลายใบ ผนึ ก ลงไปบนอารามทั้ง สี่ ทิ ศ


สุ ดท้ายก็กวาดตาไปยังเทพธิ ดาที่มีร่างเป็ นงูแวบหนึ่ ง ก็เข้าไปปั ด
หยากไย่บนร่ างนั้น ใช้แขนเสื้ อเช็ดทาความสะอาดฝุ่ นควันบนรู ปปั้น
จึงค่อยนาวิญญาณทมิฬมุ่งไปยังตาหนักของหรานอ๋ อง

พอนางพึ่ ง จะออกจากวัด ไป รู ป ปั้ นเทพธิ ด าก็ ค ล้า ยจะมี ค วาม


เคลื่อนไหว
ตอนที่ 187 หรานอ๋อง

พอนางพึ่งจะออกจากวัดไป รู ปปั้นเทพธิดาก็คล้ายจะมีความ
เคลื่อนไหว เพียงครู่ เดียวเสี ยงลมที่โหมแรงอยูใ่ นวัดที่ผพุ งั ก็ซาลง
อย่างรวดเร็ ว

แผ่นยันต์ที่ผนึกอยูบ่ นกาแพงทั้งสี่ ทิศก็สว่างวาบ เหล่าดวงจิตที่กาลัง


เกรี้ ยวกราดได้แต่รายล้อมอยูแ่ ต่เพียงด้านนอก

………..

ตาหนักหรานอ๋ อง

ตู๋กูซิงหลันพึ่งจะเข้าไป ก็ได้กลิ่นเน่าเหม็นที่เข้มข้น ค่ามืดมากแล้ว


แต่ว่าในตาหนักหรานอ๋ องยังคงมีแสงไฟสว่างไสว บ่าวไพร่ เดินกัน
ขวักไขว่ ราวกับว่าในจวนมีเรื่ องใหญ่ใดกาลังเกิดขึ้น

ตู๋กูซิง หลันสวมชุดดาตลอดร่ าง ติ ดตามไปด้านหลังพวกบ่าวไพร่


จนถึงตาหนักในของหรานอ๋ อง พอพึ่งจะมาถึงในนี้ นางก็ได้กลิ่นคาว
สดใหม่ กลิ่นคาวเลือดและคาวปลาปะปนกัน ทั้งยังมีกลิ่นอับคอย
กลบทับอีกที

นางคุกเข่าอยูท่ ี่เชิงกาแพง เห็นแค่วา่ มีเงาของบุรุษผูห้ นึ่ งถูกแสงโคม


ทอดอยูบ่ นหน้าต่าง

” ฮะเฮ่อๆๆ ” เขาไอโขลกอยูใ่ นลาคอสองสามที ถวายคานับผูท้ ี่นงั่


อยูใ่ นตาแหน่งที่สูงกว่า ” ฝ่ าบาท กระหม่อมไร้ความสามารถ ทาให้
เมืองลี่โจวต้องสู ญเสี ยมากมายถึงเพียงนี้ ขอฝ่ าบาททรงลงพระอาญา
ด้วย “

ตู๋กูซิงหลันออกจะตกใจอยู่บา้ ง นางสมควรที่ จะเดาได้ต้ งั แต่แ รก


จีเฉวียนออกจากเมืองหลวงก็เพราะเรื่ องอุทกภัยในลี่โจวนี่เอง

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะว่องไวถึงขนาดนี้ ที่
ผ่านมาฮ่ อ งเต้ยามเสด็จออกไปไหนมาไหนล้วนเป็ นต้องเอิกเกริ ก
ยิง่ ใหญ่เกรี ยงไกร ดังนั้นจึงเดินทางกันอย่างอืดอาดยืดยาด
ตลอดทางที่นางมานี้ ก็ไม่เคยได้ยนิ คนพูดถึงเรื่ องที่ฮ่องเต้เสด็จมายัง
ลี่โจวด้วยพระองค์เองเลย เห็ นทีตอ้ งยอมให้เขาจริ งๆ และก็ช่างน่า
บังเอิญเหลือเกิน พึ่งจะมาถึงก็เจอเขาเข้าพอดี

นางยอบตัวลง คนแทบจะแนบตัวลงไปกับกาแพง ระมัด ระวังตัว


กลัวว่าจะถูกพบเข้า

บุรุษที่ อ ยู่ในห้องนั้น น้ าเสี ยงแหบแห้ง แต่ถอ้ ยคาที่พูดออกไปก็มี


ความจริ งใจคิดๆ ดูแล้วบุรุษผูน้ ้ ีคงจะเป็ นท่านอาสิ บหกจีหรานละมั้ง

หากดูแต่เพียงเงาของเขา คล้ายจะเป็ นคนที่ร่างกายอ่อนแออย่างยิ่ง


จะพูดจะจาแต่ละทีก็ตอ้ งรวบรวมลมหายใจอยู่หลายเฮื อก ท่าทาง
เหมือนคนที่ป่วยหนักไม่อาจหายขาดจนดูน่าสงสาร

จี หรานพึ่ง จะทูลจบ ลูกน้อ งของเขาก็เสริ มว่า ” ท่านอ๋ อ ง ท่านได้


พยายามอย่างที่สุดแล้ว ถึงขนาดไม่คานึงถึงร่ างกายเอาตัวไปขวางน้ า
ในเขื่อน……”

” หากไม่ใช่เพราะว่าคุณชายรองของตระกูลตู๋กูไม่ยอมฟั งคาทัดทาน
จะขุดลอกแม่น้ าลี่เหอให้ได้ เรื่ องก็คงจะไม่เลยร้ายถึงขนาดนี้ “
” หุบปาก ” จีหรานรอจนลูกน้องพูดจนจบค่อยกล่าวว่า ” คุณชายรอง
นับเป็ นผูม้ ีความสามารถที่ประเทศชาติตอ้ งการ ทุกสิ่ งที่เขาตัดสิ นใจ
ทาย่อมต้องถูกแล้ว “

” แต่ ว่ า ตอนนี้ เกิ ด เรื่ อ งใหญ่ ถึ ง เพี ย งนี้ เขากลับ หนี ห ายไปจนไร้
ร่ อ งรอย ทัว่ ทั้ง เมื อ งลี่ โจวได้แต่ตอ้ งพึ่ง พาท่านอ๋ องแบกรั บเอาไว้
ทั้งๆ ที่ตอนแรกท่านอ๋ องได้พยายามทัดทานเขาอย่างสุ ดชีวิตว่าต้อง
ป้องกัน ไม่อาจขุดลอก “

ในใจของเหล่าลูกน้องมีแต่ความโกรธแค้นอย่างชัดเจน

ตู๋ กูซิ ง หลัน ฟั ง อยู่ด ้า นนอก ก็ จ ับ ความได้อ ยู่ถึ ง เจ็ด แปดส่ ว น นี่ ก็
ความหมายว่าพี่รองเรี ยกร้องขุดลอกแม่น้ าลี่เหอเพื่อควบคุมอุทกภัย
แต่ว่าหรานอ๋ อ งให้เสริ มแนวป้ อ งกัน ความคิ ดเห็ นของทั้งสองไม่
ตรงกัน แต่สุดท้ายแล้วหรานอ๋ องก็ยอมตามพี่รอง

แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือแม่น้ าลี่เหอหลากทะลัก ท่วมใส่ หมู่บา้ นสิ บกว่า


แห่ งใต้แม่น้ า ชาวบ้านนับไม่ถว้ นถูกน้ าจานวนมหาศาลพัดจนจมน้ า
ตาย
พี่รองไม่กล้าแบกรับความรับผิดชอบ ดังนั้นจึงหนี หายไปอย่างไร้
ร่ องรอย แน่ นอนว่า นี่ เป็ นเพียงการรายงานจากหรานอ๋ องเพียงฝ่ าย
เดียว ถึงแม้วา่ นางจะไม่เคยได้พบพี่รองของตนเองมาก่อน แต่ก็รู้ดีวา่
พี่รองจะต้องมิใช่บุคคลเช่นนี้ เรื่ องนี้จะต้องมีลบั ลมคมในเป็ นแน่

” ฝ่ าบาท คนของกระหม่ อ มไร้ ม ารยาท ขอฝ่ าบาทโปรดลงพระ


อาญา” หรานอ๋ องที่อยูภ่ ายในห้องถวายคานับอีกครั้ง

แสงสว่างที่จากภายในทาให้เห็นว่าเงาร่ างของเขาไหวโอนอย่างไม่
มัน่ คง

ผ่านไปอีกพักใหญ่ค่อยได้ยนิ เสี ยงของฮ่องเต้ที่ประทับอยูบ่ นเก้าอี้ใน


ตาแหน่งที่สูงกว่าตรัสออกมาประโยคหนึ่ ง ” เสด็จอา เรื่ องนี้ ลาบาก
ท่านมากแล้ว ยังคงไปพักผ่อนให้ดีเถอะ “

น้ าเสี ยงที่เย็นเฉี ยบเช่นเดิมลอดผ่านหน้าต่างมาเข้าหู ของตู๋กซู ิ งหลัน


ทั้งที่ที่นี่เป็ นสถานที่ที่ไม่คนุ ้ เคย แต่วา่ นางกลับรู ้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา

” กระหม่อมขอบพระทัยที่ฝ่าบาททรงละเว้น ” หรานอ๋ องคุกเข่าอยู่


บนพื้นน้อมคานับลงไป ” กระหม่อมจะทุ่มเทกาลังเสาะหาเบาะแส
ของคุณชายรองตู๋กูอย่างเต็มที่ ฝ่ าบาทเสด็จมาเหนื่ อยล้า กระหม่อม
ขอทูลเชิญประทับในสถานที่อนั ซอมซ่อนี้ชวั่ คราวก่อน “

” ไม่เป็ นไร ” ฮ่องเต้ตรัสเสี ยงราบเรี ยบ

” เรื อนทางตะวันตกจัดแจงเอาไว้เรี ยบร้อยแล้ว ยามค่าคืนในลี่โจวไม่


ปลอดภัย ขอฝ่ าบาททรงพักผ่อนโดยเร็วเถอะพะยะค่ะ ” ขณะที่หราน
อ๋ องทูลไป ก็เห็นว่าฝ่ าบาททรงประทับยืนขึ้นมา

ภายใต้แ สงโคมไฟ เรื อ นร่ างของเขายืนตรงสง่างามดุจต้นสน รู ป


หน้าที่ชดั เจนทาให้เกิดเงาตกลงบนหน้าต่าง กลายเป็ นเงาที่งดงาม

ผ่านไปอีกครู่ หนึ่ ง ก็ได้ยินเสี ยงประตูใหญ่เปิ ดออก จีเฉวียนทรงชุด


เรี ยบๆ สี อ่อนไพล่มือไว้ดา้ นหลังเสด็จออกมา

พอถอดชุดมังกรออกไป ทั้งที่เขาสวมใส่ เสื้ อผ้าอย่างคนธรรมดา แต่


เพราะคนมีรูปลักษณ์งามจนถึงขั้นล้ าเลิศ เรื อนร่ างก็งามสง่า เสื้ อผ้าที่
ดูไปแสนจะธรรมดากลับกลายเป็ นเลอค่าขึ้นมาอีกมากโข

ตู๋กูซิงหลันแอบดูเขาอยูท่ ี่ตรงกาแพง ในสมองของนางมีเพียงสองคา


วนเวียนอยู่ ‘หล่อโคตร’
นี่ เป็ นราศีสูงส่ งที่สะท้อนออกมาจากภายใน ไม่ว่าจะขยับมือวาดเท้า
อย่างไรล้วนมิอาจปิ ดบังความสง่างามสู งส่ งนี้ไปได้

ท่ามกลางความมืดมิด เส้นพระเกศายาวพลิ้วไหว ราวกับคุณชายสู ง


ศักดิ์ในราตรี มืดมิดผูห้ นึ่ง ทาให้หวั ใจผูค้ นวาบหวิว

ขนาดวิญญาณทมิฬยังชมดูจนใจลอยไปอยูบ่ า้ ง ” ข้ารู ้สึกว่า เจ้าฮ่องเต้


สุ นขั ผูน้ ้ ีเปรี ยบเทียบกับเจ้าผูเ้ ฒ่าซื่ อม่ออาจารย์ของเจ้า ก็ไม่แพ้กนั สัก
เท่าไหร่ “

เป็ นพวกที่ยงิ่ ได้ชมดูก็ยงิ่ รู ้สึกว่างดงาม

ตู๋กูซิงหลันมิได้สนใจเขา ที่ขา้ งกายจีเฉวียนไม่มีผตู ้ ิดตามแม้สักคน


เป็ นถึงประมุขของแว่นแคว้นแห้งหนึ่ง กลับกล้ามายังเมืองลี่โจวแต่
เพียงผูเ้ ดียว ใจของเขาออกจะบ้าบิ่นเกินไปหน่อยแล้ว

สายลมยามค่าคืนยังไม่ยอมหยุด เสี ยงหวีดหวิวร่ าร้อง คล้ายกับเป็ น


วิญญาณผูต้ ายมากมาย แม้จะรายล้อมอยูร่ อบตัวเขา แต่จะอย่างไรก็
ไม่อาจเข้าใกล้เขาได้
วิญญาณแต่ละตนยัง ไม่ทนั ได้เข้าใกล้เขา ก็มีอ กั ขระจากยันต์ที่ตา
เปล่ามิอาจมองเห็น ปรากฎขึ้นรายล้อมเป็ นวงเวทย์ ปกป้องเขาเอาไว้
ตรงกลาง

ยันต์คมุ ้ ครองที่ต๋ กู ซู ิ งหลันวาดขึ้นด้วยตนเองย่อมแข็งแกร่ งอย่างยิง่

จีเฉวียนคล้ายกับว่าทรงรู ้สึกถึงสิ่ งใดขึ้นมาได้ สองเนตรหงส์ปรายตา


มาที่ดา้ นหลัง ตู๋กซู ิ งหลันได้แต่รีบกลั้นลมหายใจ

กลางคื นลมแรง เขาจึ ง มิ ได้ร้ ั งอยู่นาน เพียงครู่ เดี ยวก็เสด็จไปทาง


เรื อนตะวันตก

หรานอ๋ องยังคงยืนส่ งเขาอยูท่ ี่เดิม

บุรุษผูน้ ้ ี มองดูแล้วมีอายุประมาณสามสิ บกว่าปี รู ปร่ างผ่ายผอม ดวง


หน้าซี ดขาว โครงหน้ามีเหลี่ยมมุม ใต้ตามีรอยเขียวคล้ า

ทั้งๆ ที่รู้ลกั ษณ์ของเขาก็นบั ว่าไม่เลวร้าย แต่ดวงจิตของเขากลับเข้า


ขั้นยา่ แย่ ทาให้กลายเป็ นคนอ่อนแออมโรค
แถมที่จริ งแล้วเขายังเป็ นคนหลังค่อมน้อยๆ อีกด้วย รอจนจีเฉวียน
เสด็จจากไปไกลแล้ว เขาถึ ง ได้ยืดตัวขึ้ นมามองไปยัง เงาหลังของ
พระองค์อยูอ่ ีกพักใหญ่

” ท่านอ๋ อง ท่านก็พกั ผ่อนให้มากๆ เถอะ ฝ่ าบาทเสด็จมาแล้ว เรื่ องที่


เหลื อ อยู่น้ ี ฝ่าบาทจะต้อ งทรงจัดการอย่างดี เป็ นแน่ ” ผูต้ ิ ดตามเขา
กล่าวเตือนด้วยความห่วงใย

หรานอ๋ องได้ฟังแล้ว ก็คลี่ยมิ้ ออกมาอย่างลึกลับอยูบ่ า้ ง ” ถ้าเช่นนั้นก็


คงต้องรบกวนฝ่ าบาทลาบากมากหน่อยแล้ว “

ท่ามกลางค่าคืนที่มืดมิด รอยยิม้ นั้นดูน่าหวาดหวัน่ อยูบ่ า้ ง แม้แต่ต๋ ูกู


ซิ งหลันที่ชมดูอยูก่ ็ยงั รู ้สึกขนลุกขึ้นมา

จากนั้นก็ได้ยินหรานอ๋ องกล่าวอีกว่า ” จดจาไว้เสริ มกาลังทหารเข้า


ไปอีก จะต้องหาตัวตู๋กเู จวี๋ยออกมาให้ได้ อยูต่ อ้ งพบคน ตายต้องพบ
ศพ “

” ขอรับ “
รอจนดวงไฟในห้อ งของหรานอ๋ อ งดับลง ตู๋ กูซิ งหลันถึ งได้หลบ
ออกไป

หลังจากครึ่ งคืนไปแล้วตู๋กูซิงหลันถึงได้คลาทางมาจนถึงห้องครัว
ของตาหนักอ๋ อง ท้องว่างมาแล้วทั้งวัน นางเองก็หิวมากแล้ว

ในอารามร้างเองก็ยงั มีฮว๋ ายอันที่หิ้วท้องหิ วอยูอ่ ีกคนหนึ่ ง นางย่อม


ไม่อาจปล่อยไปอย่างไม่สนใจไยดีได้

ห้ อ งครั ว ของหรานอ๋ อ งว่ า งเปล่ า ไชเท้า ผัก สดอะไรก็ ร่ อ ยหรอ


ข้าวสารและแป้ งแทบจะติดก้นหม้อ ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงเนื้ อสัตว์อะไร
แล้ว

ตู๋กูซิงหลันพลิกหาดูอยูค่ รู่ ใหญ่ ก็หาพบแต่เพียงแค่หมัน่ โถขาวสอง


ใบและผัดผักจานเล็กๆ จานหนึ่ง

นางหยิบหมัน่ โถได้ก็เตรี ยมจะหลบออกไป ก็เห็นเงาสี ดาที่ดูคุน้ เคย


พลิกเข้ามาทางหน้าต่าง
ตอนที่ 188 ไทเฮาทรงอ่อนแอ และบอบบาง

ตู๋กซู ิ งหลันถูกขวางเอาไว้ นางก็รีบถอบไปข้างหลัง พอคิดจะวิ่งหนี


ข้อมือก็ถกู คว้าจับเอาไว้แน่น

ไม่ทนั รอให้นางได้ส่ง เสี ยง ฝ่ ามื อ ใหญ่โตนั้นก็ปิดปากนางเอาไว้


แน่น คนผูน้ ้ นั กระซิ บข้างหูนาง ส่ งเสี ยงเบาๆ คาหนึ่งว่า “ชู่ว”์

รอบด้านมื ดมิ ด นอกเรื อนไม่มีแ สงสว่างใดๆ ตู๋กูซิง หลันพยายาม


อย่างไรก็ไม่อาจจะมองเห็นลักษณะของคนผูน้ ้ ี ได้ แต่พอได้ยินเสี ยง
เพียงคาเดียวเท่านั้น นางก็จดจาได้ในทันที

น้ าเสี ยงที่เย็นประดุจแผ่นน้ าแข็ง ไม่ใช่จีเฉวียนแล้วจะยังเป็ นใครไป


ได้กนั

แต่ว่าจีเฉวียนกลับเอาแต่ปิดปากนาง ไม่ให้โอกาสนางได้พูดแม้สัก
น้อย ลากตัวนางถอยไปด้านหลังไหข้าวสาร ที่ดา้ นหลังไหข้าวเต็ม
ไปด้วยข้าวของมากมาย เขาก็ลากตู๋กซู ิ งหลันเข้าไปข้างในนั้น
จากนั้นฝ่ ามือใหญ่ก็กอดเอวของนางเอาไว้แน่นดึงตัวนางเข้าไปใน
อ้อมอก

” ฝ่ าบาท ท่านเป็ นขโมยหรื อ? ” ตู๋กูซิงหลันซุกอยูใ่ นอ้อมอกของเขา


โดยไม่เข้าใจความหมายของจีเฉวียนเลยสักนิด

นางพูดพึ่งจะจบ ก็ได้ยินเสี ยงท้องของจีเฉวียนร้องดังโครกครากอยู่


สองรอบ ช่างน่าอายจริ งๆ

ในมื อ ของตู๋กูซิง หลันยัง มี หมัน่ โถอยู่อี กลูกหนึ่ ง นางจ้อ งมองเขา


อย่างตกตะลึงไปในทันที ” ฝ่ าบาท ท่านหิ วหรื อไม่? “

นางพูดไป ก็พยายามจะแอบซุกหมัน่ โถเข้าไปในอ้อมอก

ในความมืดมิด ดวงเนตรของจีเฉวียนทอประกายเย็นวาบออกมา ริ ม
โอษฐ์บางก็โฉบเข้าไปกัดลงคาหนึ่ง

ค่อ ยๆ เคี้ ยวช้าๆ พอกลื นลงท้องไปค่อยตรัสว่า ” เราไม่ได้หิว เรา


เพียงคิดจะลิ้มลองอาหารของชาวบ้านดูบา้ งเท่านั้น ถือเป็ นการร่ วม
ทุกข์กบั ประชาชน “
ตู๋กซู ิ งหลัน “? ” คาพูดนี้ ยังเสแสร้งได้อีก?

จีเฉวียนตรัสพึ่งจะจบ ท้องที่ไม่รักหน้าของเขาก็ร่ าร้องโครกคราก


ขึ้นมาอีก ตู๋กูซิงหลันรี บเอาหมัน่ โถที่ถูกกัดไปแล้วคาหนึ่ งยัดลงไป
ในอกเสื้ ออย่างรวดเร็ ว

” ปี ศาจขี้เหนียว ” จีเฉวียนเขกหน้าผากนางไปครั้งหนึ่ง

เขาเขกนางเสี ยแรง จนตู๋กซู ิ งหลันคิดจะขยับออกจากตัวเขา แต่เพราะ


ทั้ง สองคนอิ ง แอบกัน อย่า งแนบแน่ น หากว่ า ฝื นขยับ คงไม่ อ าจ
หลี กเลี่ยงจะไม่ให้เกิ ดเสี ยงได้ หากทาให้คนในตาหนักหรานอ๋ อง
เอะใจเข้าคงจะไม่ดีเท่าไหร่

” ท่านเป็ นถึงประมุขของแคว้นหนึ่ ง ดึ กๆ ดื่ นๆ ต้อ งมาหาของกิ น


แถวนี้ หรื อ? ตาหนักพระเจ้าอาของท่านรึ ก็ใหญ่โต เพียงมีที่ให้อยูไ่ ม่
มีขา้ วให้กินหรื อยังไง? ” ตู๋กซู ิ งหลันประหลาดใจอย่างยิง่

ต่อให้เมืองลี่โจวลาบากยากแค้นเพียงไร ก็คงไม่มีทางปล่อยให้ฮ่องเต้
ทรงหิ วตายได้ ความกล้าของจีหรานนับว่าเกินกว่าธรรมดาไปมาก
แต่เมื่อครู่ กวาดดูทวั่ ทั้งครัวแล้ว กระทัง่ น้ าแกงยังใสเป็ นเป็ นน้ าปล่า
อะไรก็ไม่มีท้ งั นั้น ตาหนักหรานอ๋ องนับว่ายากจนถึง ขั้นว่า งเปล่า
จริ งๆ

นางไม่ทนั ได้สังเกตเลยว่าจีเฉวียนทรงทราบว่านางอยูท่ ี่นี่ จึงไม่ทนั


ได้มีทีท่าแปลกใจใดๆ

พอนางพึ่งกล่าวจบ จีเฉวียนทรงใช้พระดัชนี ต้ งั ขวางริ มฝี ปากของ


นางไว้ เป็ นนัยว่าให้เงียบ

จากนั้น ก็ได้ยินเสี ยงคนเปิ ดประตูครัว เงาร่ างที่ผา่ ยผอมอ่อนแอเดิน


เข้ามา ในมือของเขามีกระบอกไต้ใส่ เชื้อไฟ แสงริ บหรี่ ที่ส่องออกมา
นั้น ทาให้ใบหน้าที่มีเหลี่ยมมุมดูดุร้ายน่ากลัวกว่าเดิม

คนผูน้ ้ ี ยอ่ มเป็ นจีหรานอย่างแน่นอน พอเขาเข้ามาข้างในก็ปิดประตู


เสี ยสนิท จากนั้นก็อาศัยแสงสว่างเดินต่อไป

เขาเปิ ดฝาหม้อใบใหญ่ออก คนก็กระโดดลงไปในหม้อใหญ่ใบนั้น


กระทัง่ แสงจากกระบอกไต้ก็ยงั หายวับไปด้วย
ที่แท้ ก็เป็ นเช่นนี้ ตู๋กูซิงหลันเข้าใจขึ้นมาทันที เตาไฟในห้องครัวมี
กลไก เกรงว่าในนั้นคงจะมีทางลงไปยังห้องลับนัน่ เอง

รอจนกระทัง่ จีหรานจากไปนานจนได้พกั ใหญ่แล้ว จีเฉวียนถึงได้


ปล่อยตัวตู๋กซู ิ งหลัน

เขาค่อยๆ กวาดมองทั้งซ้ายและขวา จึงหันมาจดจ้องดูนางอยูใ่ นความ


มืด ” ลี่โจวเต็มไปด้วยอันตราย ไม่ใช่ที่ที่เจ้าควรจะมา “

ตู๋กซู ิ งหลัน ” แต่ขา้ ก็มาแล้ว “

” เราตามใจเจ้ามากไปแล้ว ถึงได้ทาให้เจ้ากล้าเย้ยฟ้าท้าดินถึงเพียงนี้
” จีเฉวียนทรงเขกหน้าผากนางแรงๆ อีกครั้งหนึ่ง

หากไม่ใช่เพราะว่ามีน๋ ูนวั คอยลอบส่ งข่าวให้เขาอยูต่ ลอด เขาคงไม่มี


ทางทราบได้ว่าสตรี ผนู ้ ้ ี กล้าบ้าบิ่นเพียงไร ถึงได้เดินทางมาเพียงคน
เดียวจนถึงที่นี่

เมื่อครู่ ตอนที่ออกมานอกเรื อนของจีหราน เขาก็ได้กลิ่นหอมคล้าย


กับดอกกุหลาบนั้นแล้ว
คนที่ดกั ฟังอยูใ่ ต้กาแพงผูน้ ้ ีช่างไม่มีฝีมือของผูช้ านาญเลยสักนิด

ตู๋กูซิงหลันถูกเขกเสี ยจนเจ็บจริ งๆ นางไม่เข้าใจจริ งๆ ว่า เจ้าฮ่องเต้


สุ นขั ผูน้ ้ ี ไปฝึ กวิชาเขกหน้าผากมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ยังมี เขาเคยตามใจ
นางมาตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั ? มีแต่กลัน่ แกล้งนางอยูท่ ้ งั วี่ท้ งั วัน ชนิ ดเอา
เป็ นเอาตายเสี ยด้วยซ้ า

หากไม่ใช่เพราะว่านางฉลาดมีไหวพริ บทั้งยังใจกล้าอย่างหน้าไม่อาย
เกรงว่าคงถูกเขากลบฝังไปตั้งแต่แรก

เพียงแต่วา่ สถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช้เวลาจะมาพูดคุยเรื่ องนี้กนั ตอนนี้


นางต้องการจะติดตามจีหรานลงไปดูว่าเขากาลังทาอะไรลับๆ ล่อๆ
อยู่

จมูกของฮ่องเต้สุนขั ว่องไวถึงเพียงไหน ไม่มีทางที่จะไม่รู้สึกถึงกลิ่น


บนตัวของเขา กลิ่นพวกนั้นทาให้คนรู ้สึกอึดอัดอย่างรุ นแรง

อีกทั้งคนก็ประหลาดอยูม่ าก เรื่ องที่พี่ชายหายตัวไปเขาย่อมหนีความ


เกี่ยวข้องไม่พน้
” ฝ่ าบาท ไม่คิดจะเสด็จไปดูสักหน่ อยหรื อเพคะ? ” ตู๋กูซิงหลันรี บ
กล่าวออกมา

” เราย่อ มมี วิ ธี ต รวจสอบ ” จี เ ฉวี ย นตรั ส ทัน ใดนั้น ก็ โอบอุม้ นาง


ขึ้นมา พลิกตัวพุ่งออกจากหน้าต่าง หลบออกจากตาหนักของหราน
อ๋ องอย่างรวดเร็ ว

สองหัตถ์ของเขาโอบกอดนางไว้ คนแทบจะโบยบินอยูเ่ หนือหลังคา

ตู๋กูซิงหลันได้ยินแต่เสี ยงลมที่สองข้างหูเช่นเลย รอบด้านมีแต่ความ


ขมุกขมัว

วรยุทธ์ของจีเฉวียนสูงล้าอย่างยิง่ แม้แต่ยามเหาะผ่านหลังคาบ้านก็ยงั
รู ้สึกได้ถึงความอาจหาญไร้ความกลัวใดๆ

เขาพานางมายังป่ าไผ่นอกเมือง ในป่ าไผ่มีเรื อนหลังเล็กหลังหนึ่ง ที่


ด้านนอกเรื อนมีเหล่าองครักษ์คอยคุม้ ครองอยู่

พอเห็ นจีเฉวียนพาตู๋กูซิงหลันมาด้วย พวกขาก็แสดงความแปลกใจ


ออกมาอยู่บา้ ง แต่ว่ายัง คงคุกเข่าลงไปบนพื้นอย่างพร้อมเพรี ยง ”
ถวายพระพรฝ่ าบาท “
จีเฉวียนโบกพระหัตถ์ พวกเขาก็ลุกขึ้น ถอยออกไปเฝ้าที่ดา้ นนอก

จากนั้นเขาถึงได้นาตู๋กูซิงหลันเข้าไปในเรื อน ภายในเรื อนนักพรตอู๋


เจินที่กาลังวาดยันต์อยูพ่ อเห็นนางเข้า ก็แทบจะกระโดดขึ้นมา

” ทะ ทะ ไท…. ไท….ไทเฮา? ” ตายแน่ๆ เทพเซี ยนผูน้ ้ ีทาไมถึงได้มา


ปรากฎตัวที่นี่ได้กนั ?

ตู๋กูซิงหลันเห็นเขาเข้าก็ตอ้ งประหลาดใจไปเช่นกัน นางชะงักไปครู่


หนึ่ ง จากนั้นค่อยเก็บกริ ยาของตัวเอง ส่ งเสี ยงเรี ยกคาหนึ่ ง ” ท่าน
อาจารย์ “

อ้า ยโย่ว เรี ย กอาจารย์เ ข้า ค าหนึ่ ง ก็ แ ทบจะท าเอาอู๋ เ จิ น ลาตายขึ้ น


สวรรค์ไปเสี ยแล้ว

เขาไหนเลยจะกล้าเป็ นท่านอาจารย์ของท่านเซี ยนกัน!

แต่จะให้ปฎิเสธไม่รับก็ไม่ได้ เมื่อถูกตู๋กซู ิ งหลันส่ งสายตาเขม่นให้ ก็


ไม่อาจไม่พลิกลิน้ ” ศิษย์ไทเฮา เจ้ามายังลี่โจวหรื อ? “
ไม่รอให้ต๋ กู ซู ิ งหลันตอบว่าอย่างไร จีเฉวียนก็ตรัสด้วบน้ าเสี ยงเย็นชา
ว่า ” ไทเฮาห่วงใยเรา จึงติดตามพันลี้มาดูแลเรา “

อู๋เจินทาสี หน้าประหลาดใจขึ้นมา ” อ๋ า? “

เขายัง นึ กว่าท่านเซี ยนไทเฮาพบว่าเมื อ งลี่ โจวปรากฎสิ่ ง อัปมงคล


ขึ้นมา จึงได้เสด็จมากวาดล้างด้วยตนเองเสี ยอีก

ที่แท้ก็เป็ นเพราะว่าห่วงใยฝ่ าบาทเท่านั้นเองหรอกหรื อ?

ฝ่ าบาท ช่างมีหน้ามีตาใหญ่โตนัก

” ไทเฮาทรงอ่อนแอบอบบาง ไม่อาจตรากตรา อย่าได้ปล่อยให้นาง


ออกไปวิ่งวุ่นวาย ” ว่าแล้วจีเฉวียนก็ทรงตรัสอีกว่า ” อู๋เจิน แต่ไหน
แต่ไรมาไทเฮาทรงเลือกเสวย หลายวันนี้ เจ้าจงรับผิดชอบดูแลเครื่ อง
เสวยของนาง “

อู๋เจิน ” หื อ? ” ดะ เดี๋ยวก่อน อยูๆ่ เขาก็ถูกลากมาอยูท่ ่ามกลางสถานที่


อัปมงคลเช่นนี้ ก็นับว่าน่ าสงสารจนอนาถมากแล้ว ทาไมอยู่ๆ ถึง
ต้องตกต่าลงไปจนถึงขั้นกลายเป็ นพ่อครัวให้กบั ไทเฮาด้วยเล่า?
ยังมีอีก……ไทเฮาทรงอ่อนแอบอบบาง ไม่อาจลาบากหรื อ? ขอถาม
ฝ่ าบาทหน่อยเถอะว่าทรงเอาความกล้าจากที่ใดมาตรัสกัน?

ยากนักที่ฮ่องเต้จะทรงมีน้ าพระทัยดีอธิบายเพิ่มขึ้นอีกสักประโยค ”
องครักษ์ของเราไม่มีผใู ้ ดทาอาหารเป็ น “

อู๋ เ จิ น “…….” ตรั ส เสี ย งราวกับ ว่ า ข้า นัก พรตหน้า ตาเหมื อ นคน
ทาอาหารได้เสี ยอย่างนั้น

คาพูดเหล่านี้เขาย่อมไม่กล้ากล่าวออกมา ได้แต่ฝืนผงกศีรษะไปอย่าง
หน้าด้านๆ จากนั้นก็หันกลับไปจ้องมองไทเฮาด้วนสี หน้าคับข้องใจ
อย่างเต็มที่
ตอนที่ 189 เกิดได้ ด้วยศรัทธา ดับไปก็ด้วยศรัทธา

ตู๋กซู ิ งหลันหัวเราะน้อยๆ ” รบกวนท่านอาจารย์แล้ว”

นักปรตอู๋เจินปวดหัวจนศีรษะบวม ท่านเทพ ขออย่าได้เรี ยกเขาเป็ น


อาจารย์เลย ทุกครั้งที่เรี ยกเช่นนี้ เขารู ้สึกว่าตนเองอายุส้ นั ไปสิ บปี

เขาน้อยใจเสี ยจนได้แต่นงั่ วาดวงกลมไปมาอยูบ่ นกระดาษยันต์ ทั้งที่


เป็ นถึงท่านนักพรตอู๋เจินแห่ งอารามเทียนเก๋ อกวนแท้ๆ แต่พอมาถึง
ที่นี่กลับกลายเป็ นใครไปแล้วก็ไม่รู้

ในเรื อนไผ่จุดเทียนเอาไว้เล่มหนึ่ง ยามนี้ จีเฉวียนถึงค่อยมองดูต๋ กู ซู ิ ง


หลันอย่างละเอียดรอบหนึ่ง

นางสวมใส่ ชุดดาตลอดร่ าง เกล้าผมหางม้ารวบสู ง ดูเป็ นคุณชายน้อย


ที่งดงามผูห้ นึ่ ง ฟั งนู๋นวั บอกว่า ตลอดทางมานี้ นางล่อลวงจิตใจสาว
น้อยทั้งหลายมาไม่นอ้ ยเลยทีเดียว
ไล่ตามบุรุษหนุ่ มเพื่อส่ งมอบดอกไม้และผลไม้ เป็ นวิธีการบอกรัก
ของสตรี ในต้าโจว นางหน้าตางดงามถึงขนาดนี้ในสมองกลับไม่รู้จกั
ไตร่ ต รองบ้า งหรื อ จี เ ฉวี ย น รู ้ สึ ก ขึ้ น มาจริ ง ๆ ว่ า ก าแพงวัง ของ
ตาหนักเฟิ่ งหมิงนั้นเตี้ยเกินไปแล้วจริ งๆ

” เจ้าอยูท่ ี่นี่ให้ดีๆ ด้านนอกมีอนั ตรายมาก อย่าได้วิ่งวุน่ วาย” จีเฉวียน


ตรัสสั่งอีกประโยคหนึ่งก็หมุนตัวออกไปจากเรื อนไม้ไผ่

ตู๋ กู ซิ ง หลัน มองดู เ ขากลื น หายไปกับ ราตรี ที่ มื ด มิ ด เงาหลัง นั้น


กลมกลืนไปกับความมืด ดูไปช่างโดดเดี่ยวโดยแท้

เขาต้องการจะทาอะไรกันแน่?

อู๋เจินมองตามสายตาของนาง ก็ยื่นมือออกมาโบกส่ ายอยูต่ รงหน้า ”


ท่านเทพไทเฮา ที่ แ ท้ท่านก็เป็ นดังที่ เขาเล่าลือกันจริ งๆ? มี พระทัย
ให้กบั ฝ่ าบาทอย่างลึกล้ า! “

ตู๋กูซิงหลัน ” หื ม? ” ข่าวลือผีสางอะไร ทาไมนางจึงไม่เคยได้ยินมา


ก่อน
” หลัง ปี ใหม่ ผ่า นไป ในเมื อ งหลวงล้ว นล่ า ลื อ กัน ไปทั่ว ว่ า ท่ า น
หลงใหลฝ่ าบาทอย่างนั้นอย่างนี้ กระทัง่ พวกเราอารามเทียนเก๋ อกวน
ที่ไม่สนใจเรื่ องโลกภายนอกยังได้ยนิ เหล่าลูกศิษย์พดู คุยกันเรื่ องนี้ “

ดูจากสายตาของไทเฮาที่มองตาฝ่ าบาทเมื่อครู่ ก็รู้ว่ามีความปวดใจ


แฝงอยูใ่ นนั้น

ตู๋กซู ิ งหลัน ” ลูกศิษย์ของพวกเจ้าเทียนเก๋ อกวนล้วนมิใช่ตวั ดี “

เรื่ องที่อิสตรี นินทากัน เด็กหนุ่มพวกนั้นพูดพล่อยอะไรด้วย

ว่าแล้ว นางก็กล่าวอีกว่า ” อย่ามามัวพูดเรื่ องนี้ เลย ฮ่องเต้เสด็จลี่โจว


ถึงกับพาเจ้ามาด้วย ที่แท้แล้วพวกเจ้าพบเห็นอะไรกันแน่? “

พอพูดถึงตรงนี้สีหน้าของอู๋เจินก็เปลี่ยนเป็ นจริ งจังขึ้นมา ” เรื่ องนี้พดู


ไปแล้วยาว คิดว่าท่านเองก็คงได้พบแล้วว่า เมืองลี่โจวเต็มไปด้วย
กลิ่นไออัปมงคล ข้าส่ งสัยว่าจะมีปีศาจ ไม่แน่ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับ
แม่น้ าลี่เหอด้วยก็ได้ “

” ดังนั้นฮ่องเต้จึงพาเจ้ามากาจัดปี ศาจ? ” ตู๋กูซิงหลัน เหลือบตามองดู


เขาแว่บนึง ไม่ใช่วา่ นางไม่เชื่อถืออู่เจิน เพียงแต่วา่ ความสามารถของ
อู่เจินนั้นมีอยู่อย่างจากัด หากว่าเจอกับอะไรที่ร้ายกาจเข้าแล้ว ก็ไม่
แน่วา่ เขาจะรับมือได้

จีเฉวียนเป็ นคนที่วางแผนซับซ้อนมาแต่ไหนแต่ไร ปกติแล้วไม่มีทาง


ที่จะทาเรื่ องที่ไม่มีความมัน่ ใจ

” ท่านเทพไทเฮา ท่านสบประมาทข้าเช่นนี้ ข้านักพรตเจ็บปวดยิง่ นัก


” อู๋เจินจับที่หัวใจของตนเอง ” พวกเราอารามเทียนเก๋ อกวนปวรนา
ตัวช่ วยเหลือสัตว์โลกมาโดยตลอด ข้านักพรตจะอย่างไรก็เป็ นถึง
หนึ่ งในสามผูอ้ าวุโส ถึงแม้มิอาจเทียบได้กบั ท่าน แต่ก็นบั ว่าพอจะมี
ความสามารถอยูบ่ า้ ง “

พูดจบแล้วเขาก็กล่าวอีกว่า ” คุณชายรองตู๋กูใช้วิธีระบายน้ ารักษา


สมดุล เดิมทีนี่เป็ นวิธีที่ดีมาก หากว่ามิได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
ระดับน้ าในแม่น้ าลี่เหอย่อมสมควรจะรักษาให้คงเอาไว้ได้ ทั้งๆ ที่
กาลังไปได้ดีอยูแ่ ท้ๆ แต่กลับเกิดเหตุขดั ขวาง ท่านไม่คิดบ้างหรื อว่า
นี่เป็ นฝี มือคนหรื อว่าปี ศาจกันแน่? “
” แม่น้ าลี่เหอสายนี้ เลี้ยงดูผคู ้ นมานับร้อยรุ่ น ทุกวันนี้ ไหลผ่านพื้นที่
มากกว่าครึ่ งหนึ่ งของดินแดนต้าโจว ถือเป็ นแม่น้ าสายหลักของต้า
โจว” อูจ้ ินยังคงว่าต่อไป ” ท่านอายุยงั น้อยคงไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า
แม่ น้ าสายนี้ ก็ มี เ ทพธิ ด าพิ ท ัก ษ์ ส ายน้ าอยู่ อ งค์ ห นึ่ ง ภายใต้ก าร
คุม้ ครองของเทพธิ ดา ชาวประชาล้วนอยูด่ ีมีสุข พืชพันธุ์ธญ
ั ญาหาร
สมบูรณ์ ต่อมาแม่น้ าลี่เหอได้รับความสกปรก เทพธิดาประจาสายน้ า
แห่งนี้ก็ตอ้ งมัวหมองไปด้วย สุ ดท้ายกลายเป็ นถูกชาวบ้านลืมเลือน”

ขณะที่อ๋ ูเจินพูดไปอย่างนั้น ตู๋กูซิงหลันก็พลันคิดถึงรู ปปั้ นเทพธิดาที่


มีร่างเป็ นงูในอารามผุพงั หลังนั้นขึ้นมาได้

ยามนี้ คิดย้อนกลับไป ใบหน้าของเทพธิ ดาผูน้ ้ นั ดูแล้วโศกเศร้าทุกข์


ใจ ทั้งยังมีความผิดหวังในผูค้ น

” เทพที่ได้รับการกราบไหว้บูชาจากผูค้ น จึงจะเป็ นอมตะอยูไ่ ด้ หาก


ว่าศรั ทธาของผูค้ นเสื่ อ มสลาย เทพแม้จะยัง คงอยู่ได้แ ต่ก็อ่อ นแอ
ท่านเทพธิ ดาประจาแม่น้ าลี่เหอผูน้ ้ นั ถูกชาวบ้านลืมเลือน หากว่าใน
แม่น้ าลี่เหอมีอะไรอยูจ่ ริ ง เกรงว่าแม้แต่นางก็คงไม่อาจต้านทานได้”
ที่อ๋ ูเจินพูดไป ตู๋กูซิงหลันย่อมเข้าใจดี เหล่าทวยเทพทั้งหลาย เกิดได้
ด้วยศรัทธา ดับไปก็ดว้ ยศรัทธา

แม้ที่ผา่ นมาจะมีชีวิตอย่างยืนยาว แต่ก็อาจดับสู ญไปได้ดว้ ยเมื่อไร้ซ่ ึ ง


จิตศรัธาของมนุษย์ เทพธิดาประจาแม่น้ าลี่เหอเองก็เป็ นเช่นนี้

ผ่ า นไปอี ก ครู่ หนึ่ ง ตู๋ กู ซิ งหลัน ถึ ง ได้ ชั ก สี หน้ า พู ด ขึ้ นมาว่ า ”


ความหมายของเจ้าก็คือ ในแม่น้ าลี่เหอมีปีศาจ”

อู๋เจินผงกศีรษะ ” เดิมทีขา้ ได้วางวงเวทย์ไว้ที่กน้ แม้น้ าลี่เหอ คิดจะ


จับกุมเจ้าตัวนั้นเอาไว้ ใครจะไปนึ กว่ามันช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ถึงกับ
หลบหนีไปได้ เหลือเอาไว้แต่เพียงสิ่ งนี้ “

อู๋เจินพูดพลาง ก็ลว้ งเอาเกล็ดสี น้ าตาลอมเทาออกมาจากในแขนเสื้ อ


เกล็ดนี้ มีขนาดเท่ากับกาปั้ นของเด็ก บนนั้นยังมีรอยเลือดและกลิ่น
คาวที่เหม็นคลุง้ จมูก กลิ่นคาวเช่นนี้คนุ ้ เคยมาก

” นี่เป็ นของที่ได้จากเจ้าตัวนั้น ” สี หน้าของอู๋เจินเปลี่ยนเป็ นเคร่ งขรึ ม


ขึ้นมา ” มันได้รับบาดเจ็บ ช่วงนี้คงไม่อาจออกมาอาละวาด “
” จุดที่เขื่อนแตก ฝ่ าบาทก็ได้นาข้านักพรตไปตรวจดูดว้ ยตนเอง แถว
นั้นก็มีกลิ่นคาวหลงเหลืออยู่เช่นกัน นี่ จะต้องมีส่วนเกี่ ยวข้อกับเจ้า
ปี ศาจตัวนี้แน่ๆ “

ว่าแล้ว เขาก็ส่งมอบเกล็ดชิ้นนั้นให้กบั ตู๋กซู ิ งหลัน ทันทีที่สัมผัสโดน


ก็เกิ ดความรู ้สึกราวกับถือแผ่นเหลักแช่น้ าแข็ง พาให้คนอดที่จะขน
ลุกกราวไม่ได้

วิญญาณทมิ ฬตื่ นตระหนกขึ้ นมา ” ดูขนาดของเจ้าเกล็ดนี่ สิ อย่าง


น้อยๆ คงจะต้องบาเพ็ญตบะมาพันปี กระมัง ไม่รู้ว่าเป็ นปี ศาจหรื อ
อสู ร หรื อว่าเป็ นตัวอะไร ทายังไงดี น่าตื่นเต้นจังเลย ไม่รู้ว่ารสชาติ
ของมันจะเป็ นอย่างไร! ”

หากว่าได้กินเจ้าตัวนี้ลงไป ไม่แน่วา่ มันอาจจะสามารถสร้างร่ างเนื้อ


ขึ้นมาได้ในทันทีเลยก็เป็ นได้ ตู๋กูซิงหลันเพ่งมองดูเกล็ดชิ้นนั้นอยู่
นาน

อู๋เจินเห็นนางจับจ้องมองดูอย่างจริ งจัง ก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ” จริ งสิ


วันที่ เขื่อนแตกนั้น มีชาวบ้านไม่นอ้ ยได้ยนิ เสี ยง กรี ดร้องกึกก้องดัง
มาจากแม่น้ า แต่เสี ยงน้ าหลากในแม่น้ าก็ดงั มาก ดังนั้นชาวบ้านจึงไม่
แน่ใจว่า เป็ นเสี ยงอะไรกันแน่”

ตู๋ กู ซิ ง หลัน ฟั ง แล้ว ก็ นิ่ ง ไปครู่ ใ หญ่ ค่ อ ยกล่ า วออกมาสองค า ”


อสรพิษจาแลงกาย “

ชาติก่อนตอนที่ยงั เป็ นเด็ก ท่านอาจารย์เคยเล่าเรื่ องนี้ให้นางฟัง นี่เป็ น


สัตว์อสู รในตานานของแผ่นดินใหญ่ตวั หนึ่ ง เกล็ดเย็นดัง่ เหล็กใน
หิ มะ ร่ างมีกลิ่นคาวคละคุง้ พละกาลังรุ นแรงไร้ที่เปรี ยบ เสี ยงกรี ด
ร้องของมันสามารถสร้างน้ าหลากได้

ในแม่น้ าลี่เหอ ถึงกับมีเจ้าปี ศาจเช่นนี้อยูจ่ ริ ง?

วิญญาณทมิฬตกใจจนแทบจะกระโดดขึ้นมา ” เป็ นไปไม่ได้? หากว่า


นัน่ เป็ นอสรพิษจาแลงจริ ง เจ้าในตอนนี้ จะสู ้มนั ไหวหรื อ? “

หากว่าเป็ นอสรพิษจาแลงกายขึ้นมาจริ งๆ เกรงว่าตู๋กูซิงหลันคงต้อง


เป็ นฝ่ ายเสี ยเปรี ยบแล้ว

ตู๋กูซิงหลันคืนเกล็ดชิ้นนั้นให้กบั อู๋เจิน ในแม่น้ าลี่เหอมีตวั ประหลาด


อยูจ่ ริ งๆ แต่วา่ จะใช่อสรพิษจาแลงหรื อไม่ตอนนี้ยงั ไม่อาจสรุ ปได้
ที่นางกังวลมากกว่าก็คือพี่รอง

นับตั้งแต่ที่เขาหายตัวไปตอนนี้ ก็กินเวลาไปสิ บวันแล้ว แต่จนบัดนี้ก็


ยังไม่มีข่าวคราวเลยแม้แต่นอ้ ย นางย่อมต้องร้อนใจ

อู๋ เ จิ น เห็ น ท่ า ทางของนาง ก็ ค าดเดาว่า นางคงก าลัง กัง วลในเรื่ อ ง


คุ ณ ชายรองตู๋ กู เขาลัง เลอยู่ค รู่ หนึ่ ง ไม่ รู้ว่า สมควรจะพูดกับนางดี
หรื อไม่

ตู๋กูซิงหลันเห็นท่าทางที่รีๆ รอๆ ของเขา ” เจ้ายังมีเรื่ องใดปิ ดบังข้า


อยูอ่ ีก? “

อู๋เจิ นอ้าปากหุ บปาก พอคิ ดถึ ง พระพักตร์ ที่เย็นชาเป็ นน้ าแข็งของ


ฮ่องเต้ข้ ึนมา ก็คิดว่ายังคงไม่พดู จะดีกว่า

เขาส่ ายศีรษะติดๆ กัน พูดกลบเกลื่อนไปว่า “ไม่มีเรื่ องอะไร ฝ่ าบาท


รับสั่งให้คมุ ้ ครองท่านให้ดี ไม่วา่ เรื่ องใดพระองค์ยอ่ มสามารถจัดการ
ได้ พระองค์มิใช่ฮ่องเต้ธรรมดา ” ตู๋กูซิงหลันหรี่ ตาลงในทันที นาง
สะบัดฝ่ ามือตบลงบนหัวไหล่ของอู๋เจิน ” อู๋เจินน้อย เจ้ารู ้หรื อไม่ว่า
คนที่กล้าโกหกข้า จะมีจุดจบเป็ นเช่นไร? “
ตอนที่ 190 แค่ งูตวั หนึ่ง ไหนเลยจะมีฐานะเทียมองค์ ชายได้ ?

อู๋เจินเหน็บหนาวขึ้นมาในทันที เขาพบแล้วว่า ยามที่ฮ่องเต้และ


ไทเฮาข่มขู่ผคู ้ นนั้น ล้วนมีท่าทางดุจเดียวกันเลย

คนทั้งสองนี้สมควรไปเป็ นสามีภรรยากดขี่ข่มเหงกันเอง ปล่อยปละ


ละเว้นผูอ้ ื่น ถือเป็ นการสร้างกุศลแก่โลก

” โอ้เง็กเซี ยนบนสวรรค์~ ” เขาเช็ดคราบเหงื่อเย็นๆ บนศีรษะ ผ่าน


ไปอีกครู่ ใหญ่ ค่อยอ้ าๆ อึ้งๆ ออกมาว่า “ที่จริ งแล้ว บริ เวณนั้น พบ
หยกประจาตัวชิ้นหนึ่ง “

” บนหยกแผ่นนั้นสลักชื่อของคุณชายรองเอาไว้ ตอนที่พบหยกบน
นั้นมีรอยเลือดอยูด่ ว้ ย….” อู๋เจินมองเห็นสายตาเย็นยะเยือกของตู๋กู
ซิ ง หลัน เม็ดเหงื่ อบนศีรษะก็ผุดขึ้นมาอีก ” แผ่นหยกชิ้นนั้นถูกฝ่ า
บาทเก็บรักษาไว้ สมควรจะเป็ นสิ่ งของประจาตัวของคุณชายรอง “

จบกัน ๆ ดู ท่ า แล้ว เรื่ อ งนี่ ฝ่ าบาทจะปิ ดบัง ไทเฮาเอาไว้ เขาก็ เ กิ ด


ปากมากเข้า
ตู๋ กูซิ ง หลัน นิ่ ง เงี ย บไม่ พูด ไม่ จ าอยู่น าน พอนางไม่ พูด อู๋ เ จิ น ก็ ยิ่ง
หวาดกลัวขึ้นไปอีก

ดูท่าทางของนางสิ ราวกับว่าอีกประเดี๋ยวก็จะกระโดดลงไปในแม่น้ า
ลี่เหอควานหาเจ้าตัวประหลาดนัน่ ขึ้นมาสับให้จงได้

” ท่านเทพไทเฮา ท่านอย่าได้ผลีผลาม ” อู๋เจินปลอบประโลมนาง ”


องครักษ์ของฝ่ าบาทได้ออกตามหาร่ องรอยของคุณชายรองแล้ว คิด
ว่าอีกไม่นานจะต้องมีผลลัพธ์ออกมาแน่นอน “

ผ่านไปอีกพักใหญ่ ตู๋กซู ิ งหลันก็ตอบออกมาประโยคหนึ่ง ”ข้ารู ้แล้ว“

ว่าแล้ว นางก็ไม่พูดอะไรเรื่ องนี้ อีก เพียงเรี ยกองครักษ์เงามาผูห้ นึ่ ง


ขอให้เขาไปรับตัวฮว๋ ายอันน้อยและเจ้าไก่ขนดาฟูมา

ฮว๋ ายอันถูกฟาดให้สลบแบกตัวมา แต่วา่ เจ้าไก่ขนดาฟู พอเห็นหน้าตู๋


กูซิง หลันก็ตื่นเต้นตกใจยกใหญ่ มันกระพือปี ก ส่ ง เสี ยง’กุ๊กๆ กรู ้’
เรี ยกนางอย่างไม่หยุดหย่อน

พี่สาวตัวน้อย รู ปปั้ นเทพธิ ดาในอารามนั้นขยับได้ดว้ ยล่ะ! พี่สาวตัว


น้อย เทพธิดาผูน้ ้ นั กินวิญญาณด้วยล่ะ!
พี่สาวตัวน้อย เทพธิดาผูน้ ้ นั กระทัง่ ไก่เช่นข้าก็ยงั จะจับไปกิน!

พี่สาวตัวน้อย พี่ตกลงฟังเข้าใจบ้างหรื อไม่?

มันทาเสี ยงกุ๊กๆ กระต๊ากๆ อยูพ่ กั ใหญ่ กลับได้มาเพียงแค่การลูบหัว


จากตู๋กซู ิ งหลัน

เจ้าไก่ขนดาฟูรู้สึกว่ามันจาเป็ นจะต้องหัดเรี ยนภาษามนุษย์บา้ งแล้ว มิ


เช่นนั้นจะช้าเร็ วคงต้องอึดอัดตาย ค่าคืนผ่านไปอย่างช้าๆ สายลมพัด
ปลิวตลอดทั้งคืน

………………………………………………

ในตาหนักหรานอ๋ อง จีหรานกาลังฟั งคนรายงานอยู่ บอกว่าฝ่ าบาท


ทรงเสวยอาหารเช้าแล้ว ก็รู้สึกไม่สบายพระองค์จนต้องพักผ่อนอีก
ครั้ง

จีหรานอดที่จะยิม้ เย็นไม่ได้ คนที่ถูกประคบประหงมอยูแ่ ต่ในวังมา


ตั้งแต่เล็ก ย่อมมีร่างกายอ่อนปวกเปี ยกเช่นนี้ พึ่งจะมาถึงลี่โจวแท้ๆ ก็
ทาท่าว่าจะไม่ไหวเสี ยแล้ว
ตอนที่ 191 ไม่ ต้องมาเสแสร้ งแกล้งเมตตา

หากเปรี บเทียบกับบรรดาเหล่าพี่ชายน้องสาวที่เป็ นหมู่มงั กรและฝูง


หงส์เหล่านั้นแล้ว เขาก็ต่าต้อยจนกลายเป็ นเพียงแค่เศษธุลีดินเท่านั้น

” หรานอ๋ อง ในเมื่อพวกเราก็ร่วมมือกันไปแล้ว ท่านเองก็ไม่มีทาง


ถอยอีก ” คนชุดดายังคงกล่าวย้าอีก

จีหรานเงียบขรึ มไปครู่ หนึ่ง ดวงตาที่ลึกโหลของเขามีประกายสับสน


เขาเม้มริ มฝี ปากไอออกมาเบาๆ ” ก้าวต่อไป เจ้าต้องการให้ขา้ ทาสิ่ ง
ใด? “

” ล่อโอรสสวรรค์ออกไปทาพิธีขอพร และจากนั้นให้ชาวเมืองลี่โจว
ทั้ง หมดได้ทราบข่าว ” คนชุ ดดากล่าวพลางก็เหลื อบมองอสรพิษ
จาแลงที่ดา้ นหลังของเขาไปด้วย ”ถึงตอนนั้น ก็จะเกิดฝนตกหนัก ให้
อสรพิษจาแลงก่อกวนแม่น้ าลี่เหอ จนเกิดน้ าป่ าไหลหลากอีกครั้ง “

” เมืองลี่โจวก็จมไปแล้ว หากยังมีน้ าหลากอีกครั้ง คงบาดเจ็บล้มตาย


จนมิอาจฟื้ นคืนมาได้ ” จีหรานตอบเสี ยงต่า
” เหอะๆ หรานอ๋ อง เก็บความเสแสร้งแกล้งเมตตาของท่านไปเถอะ ”
คนชุดดายิม้ เย็นออกมา ” ตายไปคนหนึ่ งก็คือตาย ตายร้อยคนก็คือ
ตาย จะพันคนหมื่นคนล้วนเป็ นเช่นเดียวกัน จะสาเร็ จกิจการใหญ่ก็
อย่าได้คานึ งถึงข้อปลีกย่อย ตอนนี้ เจ้าค่อยมีใจห่ วงใยชีวิตผูค้ นขึ้น
มาแล้วหรื อ? “

หรานอ๋ องหาคาพูดที่จะเถียงเขากลับไปไม่เจอ

” อย่างมากก็รอจนถึงตอนท่านขึ้นครองราชย์เป็ นฮ่องเต้ ค่อยสร้าง


อนุ สรณ์หมื่นประชาขึ้นมา ทุกปี ยามเทศกาลเชงเม้งก็กราบไหว้สัก
ครั้ง หากได้รับการจุดธูปจากโอรสสวรรค์ ก็ถือว่าเป็ นบุญกุศลที่คน
ธรรมดาสะสมมาแปดชาติแล้ว “

คนชุดดากล่าวจบแล้ว ก็ยา้ ยร่ างมาปรากฎตัวตรงหน้าจีหราน ” หราน


อ๋ อง ขอให้ขา้ ได้เตือนท่านอีกคาหนึ่ ง เพราะฐานะมารดาของท่านต่า
ต้อย ท่านจึงต้องตกเป็ นเบี้ยล่างให้ผอู ้ ื่นรังแก หากไม่เป็ นฮ่องเต้ ชีวิต
นี้ของท่านก็ไม่อาจจะเงยหน้าขึ้นมาอยูเ่ หนือคนในตระกูลจีได้ “
พอพูดถึงมารดาที่เป็ นนางกานัล สี พระพักตร์ของจีหรานก็เปลี่ยนไป
ในทันที

งูยกั ษ์ที่อยูข่ า้ งเขาก็ชกั จะไม่สงบนิ่งอีกต่อไปเช่นกัน

” ข้ารู ้แล้ว ” ครู่ ใหญ่หลังจากนั้น เขาถึงได้ผงกเศียรอย่างเงียบๆ

………………………………….

ข่าวที่วา่ ฝ่ าบาทเสด็จมาตรวจดูภยั พิบตั ิดว้ ยพระองค์เอง ไม่ถึงสามวัน


ก็พดั ไปทัว่ เมืองลี่โจวแล้ว

เมื อ งที่ตกอยู่ภายใต้ไอหมอกหนาแน่ นอย่างลี่โจวในที่สุดก็มีกลิ่น


อายของผูค้ นขึ้นมา ยามนี้ จึงมีชาวบ้านมาออเฝ้ากันอยู่หน้าตาหนัก
ของหรานอ๋ อง คิดจะได้ชื่นชมพระพักตร์ ที่แท้จริ งของโอรสสวรรค์
บ้าง

ฮ่องเต้ผยู ้ งิ่ ใหญ่เสด็จมายังลี่โจวด้วยพระองค์เอง นี่แสดงให้เห็นว่าใน


พระทัยของพระองค์ยงั ทรงคิดถึงพวกเขาอยู่
ที่เหลือก็ของเพียงฟ้าดินได้โปรดเมตตา อย่าได้ส่งเภทภัยใดๆ มาให้
ลี่โจวอีกเลย

ตาหนักหรานอ๋ อง

จี เ ฉวี ย นประทับ นั่ง อยู่ใ นต าแหน่ ง ประธานของห้อ งโถง จี ห ราน


ประทับยืนอยูด่ า้ นข้าง ด้วยท่าทาง ‘หวาดหวัน่ ยาเกรง’ อยูต่ ลอด

บนที่ประทับนั่น สี พระพักตร์ ของฮ่องเต้เย็นชา เพียงแค่ปรายพระ


เนตรมองก็เพียงพอจะทาให้ท้ งั ห้องเงียบลง

” ฝ่ าบาท ในเมื่ อ ชาวบ้านทัว่ ทั้ง เมื อ งลี่ โจวต่างก็ทราบว่าพระองค์


เสด็จมาที่นี่ ตอนนี้เกรงว่าคงปกปิ ดต่อไปไม่ไหวแล้ว ” ผ่านไปอีกครู่
หนึ่ ง จี หรานถึงได้กล้าสบสายพระเนตรที่ เย็นชากล่าวทูลว่า ” มิ สู้
พระองค์ทรงเสด็จออกไปปรากฎองค์อย่างยิง่ ใหญ่ พอชาวบ้านทราบ
ว่าพระองค์ทรงห่วงใย ในใจก็จะได้มีหลักยึด “

ที่ จ ริ ง จี เ ฉวี ย นทรงเสด็จ มาลี่ โจวเป็ นการลับ ย่อ มมิ ไ ด้ท รงมี พระ
ประสงค์ให้เรื่ องราวแพร่ ออกไป
แต่ว่าเรื่ องนี้ ไม่เพียงแพร่ ออกไป แต่ยงั กระจายไปจนทั้วเมืองลี่โจว
แล้ว

ท่าทางของพระองค์ประหนึ่ งมิได้ทรงคาดคิดมาก่อน นอกจากท่าที


พิโรธแล้วก็คล้ายกับว่ามิได้ทรงมีหนทางอื่นใดอีก

จีหรานเห็นดังนั้น ก็ยงิ่ ประจักษ์แก่ใจว่า ฮ่องเต้พระองค์น้ ี ก็ทรงเป็ น


เพียงแค่เสื อกระดาษเท่านั้น มีเอาไว้ก็เพื่อข่มขู่ผคู ้ น แท้ที่จริ งแล้ว
ตอนที่ 192 เฮีย (ไก่) ยังอยู่ดี ไม่มีบบุ สลาย

หางของงูขนาดใหญ่โผล่ข้ ึนมาเหนือน้ า

หางนั้นพุ่งตรงมาที่ต๋ ูกูซิงหลัน ตู๋กูซิงหลันคาดการณ์เอาไว้ก่อนแล้ว


นางถอยไปด้านข้างก้าวหนึ่ ง หางเส้นนั้นพอพุง่ เลยไปก็ตวัดกลับมา
ม้วนเข้าใส่ เจ้าไก่ขนดาฟู ลากเอาตัวมันลงไปในน้ าทันที

” กุ๊ก กุ๊ก กรู ้ ” เจ้าไก่ขนดาฟูพองขนขึ้นมา มันพยายามกระพือ ปี ก


สองขาตะกุยจิกลงไปบนกลางหางของงู กรี ดลงไปอย่างแรง ถึงกับ
กรี ดทะลุเกล็ดที่หนาดุจเกราะ

ต่างก็ได้ยินแต่เสี ยงกรี ดร้องอย่างวุ่นวายของมัน มันตะกุยอุง้ เท้าลง


ไปอย่างแรง จนทาให้เกล็ดงูชิ้นหนึ่งหลุดออกมา

เลือดงูสีดาริ นไหลทะลักออกมา กระเด็นเปรอะเปื้ อนหัวเจ้าไก่ไป


หมด
เจ้างูตวั นั้นโผล่มาแต่เพียงแค่หาง เมื่อหางได้รับบาดเจ็บมันก็พยายาม
จะพลิกตัว คิดจะลากเจ้าตัวประหลาดนี้ลงไปในน้ า

ไหนเลยจะรู ้ว่าเจ้าไก่ขนดาฟูน้ นั ไม่ได้มีเมตตามาแต่ไหนแต่ไร พอ


ถูกเลือดงูสาดเข้าท่วมหัว มันก็คล้ายกับถูกปลุกเลือดไก่ในกายขึ้นมา
จนสู บฉีดไปทัว่ ทั้งร่ าง

ยกหางขึ้นสะบัดปี กกระพือขึ้นลง จนเกิดประกายระยิบระยับไปทัว่


ทั้งร่ าง สะบัดปี กกระพือออกไป กระพือขึ้นลง กระพือขึ้นลงจนบิน
ขึ้นไป บินขึ้นไปแล้ว

” เฮ้ย อะไรวะนัน่ ที่แท้มนั เป็ นนกกระจอกเทศตัวหนึ่งหรื ออย่างไร ”


วิญญาณทมิ ฬหมอบอยู่บนบ่าของตู๋กูซิง หลัน โดยไม่มีทีท่าว่า จะ
ช่วยเหลือเลยแม้แต่นอ้ ย

เดิมทีมนั คิดเอาไว้ว่า พอเจ้าไก่ขนดาฟูถูกกินลงไปแล้ว มันก็จะออก


แรงในยามยากช่วยเจ้าไก่แก้แค้น กัดกลืนเจ้าตัวประหลาดในแม่น้ า
ลงไปสักหลายคา ถือซะว่าได้กินเจ้าไก่ขนดาฟูน้ นั ลงไปเหมือนกัน
ไก่อว้ นของเราไม่ควรจะเอาไปเลี้ยงดูผอู ้ ื่น
ไหนเลยจะรู ้วา่ เจ้าไก่ขนดาฟูน้ นั มิใช่ไก่ธรรมดา มันถึงกับบินได้

ไม่เพียงแค่น้ นั กรงเล็บของมันถึงกับแหลมคมอย่างที่สุด เจ้างูที่อยู่


ในแม่น้ าลี่เหอถึงแม้จะมิได้ปรากฏตัวออกมา แต่แค่เพียงเห็ นเกร็ ด
ส่ วนหนึ่ งของมัน ก็รู้ว่าแล้วว่าแข็งแกร่ งอย่างร้ายกาจ เจ้าไก่ขนดาฟู
ถึงขนาดขอดเกล็ดของมันออกมาได้อย่างง่ายดาย ตะกุยเสี ยจนเลือด
สดไหลนอง

ทาเอาแม้แต่ต๋ ูกซู ิ งหลันเองก็ยงั รู ้สึกประหลาดใจ ในมือของนางยังมี


ยันต์อยูใ่ บหนึ่ง ยามนี้เห็นเจ้าติ๊งต๊องสามารถได้เปรี ยบเหนือหางของ
เจ้างูยกั ษ์น้ นั ได้ ยันต์ในมือจึงยังมิได้ถูกส่ งออกไป

” กุ๊ก กุ๊ก กรู ้ ” อีกด้านหนึ่ ง เจ้าไก่ขนดาฟูยิ่งต่อสู ้ก็ยิ่งห้าวหาญ ปี ก


ของมันเริ งระบายิ่งทียิ่งรวดเร็ ว ตัวมันบินโฉบวนอยู่รอบหางของงู
ยัก ษ์ ทั้ งอุ ้ ง เท้ า และจงอยปากโจมตี ล งไปพร้ อ มๆ กั น เพี ย ง
พริ บตาเดียว ก็ถอดเกล็ดงูออกมาได้อีกหลายแผ่น

ครั้งนี้มนั ยังถึงกับกลืนกินเนื้องูลงไปอีกหลายคา พอกลืนลงไปได้คา


หนึ่งก็รู้สึกเลยว่ารสชาติยอดเยีย่ มเกินหาใดเทียบ
ถึงกับหยุดไม่ได้อีกต่อไป จิกกินติดต่อกันหลายคาเป็ นการใหญ่

นี่ ม ัน อร่ อ ยเลิ ศ กว่ า งู เ ล็ ก ตะขาบน้อ ยที่ ม ัน จับ กิ น ได้ไ ด้ย ามปกติ
มากมายนัก ช่างอร่ อยเลอเลิศ

พอจิกกิ นติดต่อกันไปหลายคา ร่ างกายของมันก็รู้สึกร้อนรุ่ มขึ้นมา


เลือดไก่พงุ่ พล่านไปทัว่ ทั้งกาย แม้แต่ขนบนตัวของมันก็เปลี่ยนเป็ นมี
ประกายแสงทองส่ องออกมา

” กี๊ กี๊ กี๊ ” งู ยกั ษ์ตวั นั้นถูกจิกจนโกรธเกรี้ ยว ในที่ สุดก็กรี ดร้องจน


ต้องโผล่หวั ออกมาครึ่ งหนึ่ง

พอหัว ของมัน เคลื่ อ นไหว น้ า ในแม่ น้ า ลี่ เ หอก็ เ กิ ด คลื่ น หลากล้น


ออกมา

ดวงตาสี เขี ยวของมันใหญ่โตราวกับกาปั้ นของมนุ ษย์ หัวของมัน


ใหญ่พอๆ กับหัวกระทิง สายตาของมันจดจ้องไปยังเจ้าไก่ขนดาฟู
อย่างเย็นชา

ทันใดนั้นมันก็อา้ ปากสี แดงราวกับเลือดออกมา เผยให้เห็นคมเขี้ยวงู


ที่แหลมคมอย่างที่สุด ไล่ฉกใส่ เจ้าไก่ขนดาฟู
ความรวดเร็ วระดับนั้น เกิ นกว่าที่เจ้าไก่ขนดาฟูจะหลบหลีกได้พน้
เพียงคาเดียวก็กลืนกินมันลงไปทั้งตัว

บนฝั่ง ดวงตาของตู๋กซู ิ งหลันสาดประกายออกมา ยันต์ในมือเพิ่มขึ้น


อีกหลายใบ ติ๊งต๊องเป็ นไก่ของนาง ไม่มีทางที่จะปล่อยให้มนั ไปตาย
ง่ายๆ

วิ ญ ญาณทมิ ฬ กล่ า วอย่า งไม่ รี บ ไม่ ร้ อ นว่ า ” เจ้า อย่า พึ่ ง ใจร้ อ นสิ
เจ้าติ๊งต๊องนั้นย่อยยากอยูพ่ อสมควร รอให้เจ้างูน้ นั ย่อยมันสักหน่อย
คายขนออกมาสักหลายๆ เส้น พวกเราค่อยตั้งป้ายวิญญาณให้มนั “

ตู๋กซู ิ งหลัน “………”

” กรงเล็บของมันแหลมคมขนาดนั้น ตอนที่เอามันออกมา เจ้าก็เอา


ไปทากริ ชด้ามใหม่ รับประกันเลยว่าจะต้องใช้ได้ดีกว่าด้ามที่เจ้าถือ
อยูอ่ ย่างแน่นอน “

ตู๋ กู ซิ ง หลัน ครุ่ น คิ ด อย่า งละเอี ย ดละอออยู่ค รู่ ห นึ่ ง กรงเล็ บ ของ
เจ้าติ๊งต๊องนับว่าคมกริ บดีจริ งๆ หากว่าเอามันทาเป็ นกริ ชจะต้อ งดี
มากๆ แน่
นางกับวิญญาณทมิฬหันไปสบตากัน ยังไม่ทนั จะได้มองตากัน ก็ได้
ยิน เสี ย งกรี ด ร้ อ งดัง กัง วานมาจากภายในหัว ของงู ย กั ษ์ ” กะ กะ
กะต๊าก “

จากนั้นก็มีแสงเพลิงสาดส่ องออกมา ปากขนาดใหญ่ที่มีแต่เลือดของ


งูระเบิดออกมาจากภายใน แสงเพลิงสี ทองขุมหนึ่ งพุง่ ออกมาจากใน
ปากของมัน สาดส่ องจนแม่น้ าลี่เหอสว่างวาบ

” ซัววาลาลา ” เพลิงนั้นเผาไหม้อยู่เหนื อแม่น้ าลี่เหอ เกิ ดเป็ นเสี ยง


ประหลาดแหวกอากาศออกมา

” วะเฮ้ย โว้ โว้ว เชี่ยแล้ว ” วิญญาณทมิฬด่ากราดออกมา ” เคยได้ยนิ


แต่ว่าอสรพิษจาแลงสามารถเรี ยกน้ าหลากได้ ไม่เคยได้ยินมาก่อน
เลยว่ามันพ่นไฟได้ ทั้งยังเป็ นเปลวเพลิงสี ทอง “

แม้ม ัน จะตื่ น ตระหนกตกใจ แต่ ค วามสงสั ยกลับมี ม ากกว่าถึ ง กับ


กระโดดโลดเต้นขึ้นมา

แสงเพลิ ง สี ทอง เป็ นเพลิ ง ธาตุ ห ยางที่ บ ริ สุ ท ธิ์ ที่ สุ ด สามารถ


ปราบปรามภูติผปี ี ศาจอย่างได้ผล
ว่าอย่างนี้ ก็แล้วกัน หากว่าตอนนี้ ยงั มีเหล่าผีร้ายวิญญาณตายโหงอยู่
ละก็ มีหวังได้ถูกแผดเผาจนมอดไหม้ วิญญาณสลายกลายเป็ นเถ้า
ถ่าน ไม่อาจเกิดใหม่ได้อีกตลอดกาลเลยทีเดียว

หรื อว่านี่ จะไม่ใช่อสรพิษจาแลง แต่ว่าเป็ นตัวประหลาดชนิ ดอื่นที่


แปลกออกไป มัน ลื ม ตากลมโต มองดู อ ย่า งต้อ งการจะศึ ก ษาให้
ละเอียด

พูดกันตามจริ งแล้ว ตอนนี้ตวั มันเองก็เป็ นแค่เพียงดวงจิตเท่านั้น หาก


ว่าเข้าไปใกล้เกินไปละก็ อาจจะถูกไฟนี้แผดเผาร่ างได้โดยง่าย

ดะ เดี๋ยวก่อน ไอ้กอ้ นที่อยูใ่ นปากงูน้ นั มันคือของเล่นอะไรกัน ทาไม


ถึงได้ดูแล้วคุน้ ตาขนาดนั้น

ทันใดนั้น ตู๋กซู ิ งหลันเองก็หรี่ ตามองไปเช่นกัน ก็เห็นว่าในปากของงู


มี เงาของไก่ ตวั หนึ่ ง มี แ สงเพลิ งลุกท่วมร่ าง สองปี กกระพือขึ้นมา
ตอกตรึ งหัวงูน้ นั เอาไว้

ตู๋ กู ซิ ง หลัน อยู่ห่ า งจากมัน ไม่ นับ ว่า ไกลเท่ า ไร ผ่า นไปครู่ เ ดี ย วก็
สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เจ้าสิ่ งนั้นถึงกับเป็ นติ๊งต๊องจริ งๆ
ดวงตาไก่ก๊กุ ของติ๊งต๊อง ถึงกับมีแสงเพลิงสี ทองลุกโชนอยู่

ยามที่ต๋ ูกูซิงหลันมองไปนั้น มันยังไม่ลืมที่จะโบกปี กข้างหนึ่งขึ้นมา


ทักทายนาง ส่ งเสี ยงกลับมาหานางว่า ” กุ๊ก กุ๊ก กรู ้ “

พี่สาวตัวน้อยโปรดวางใจได้เลย เฮี ยยัง อยู่ดี ไม่เพียงแค่น้ ัน เฮี ยยัง


ได้รับความสามารถใหม่จากเลือดงูดว้ ย

แสงเพลิงสี ทองที่สาดส่ องออกมาแต่ละครั้งล้วนออกมาจากร่ างของ


มัน แผดเผาเสี ยจนงูตวั นั้นกรี ดร้องอย่างโหยหวน มันรี ดพลังส่ งเสี ยง
สารอกออกมา ก็คายเจ้าติ๊งต๊องกลับไปบนฝั่ง

จากนั้นก็หลบลี้หนีหายลงไปในแม่น้ าลี่เหออย่างรวดเร็ ว

” กุ๊ก กุ๊ก กรู ้ ” ถูกถุยลงมาบนพื้นเช่นนี้ ติ๊งต๊องก็แสดงความไม่พอใจ


อย่างยิง่ ออกมา

มัน ใช้ปี กข้า งหนึ่ งป่ ายปั ด เศษฝุ่ นบนตัว ที่ ไ ม่ ไ ด้มี อ ยู่เ ลยด้ว ยซ้ า
จากนั้นก็ใช่ดวงตาที่มีประกายทองของมันมองไปยังตู๋กูซิงหลันส่ ง
เสี ยงกุ๊กกุ๊กกรู ้ให้นางอย่างอบอุน่ อ่อนโยนที่สุด
พี่สาวตัวน้อยชมข้าสิ เฮียเก่งมากเลยใช่ไหม

ตู๋กูซิงหลันมองดูติ๊งต๊องที่อยู่ตรงหน้า เห็ นแสงทองบนร่ างของมัน


ค่อยๆ ลดลงจนเลือนหายไป ร่ างกายของมันเติบใหญ่ข้ ึนมากว่าช่วง
ก่อนอยูม่ าก เดิมทีก็สูงเกื อบครึ่ งตัวคนอยูแ่ ล้ว ตอนนี้ ถึงกับมีขนาด
ตัวใหญ่พอๆ กับนกกระจอกเทศที่โตเต็มวัยเลยทีเดียว

โดยเฉพาะอุง้ เท้าคู่น้ นั ก็ยงิ่ คมกริ บขึ้นไปอีก ราบกับว่าถูกหล่อหลอม


ขึ้นมาจากเตาไฟ เกิดเป็ นประกายแสงเย็นวาบแม้อยูใ่ นความมืด

สี เทาบนขนปี กคู่น้ นั ก็จางลงไปไม่นอ้ ย

ตู๋กซู ิ งหลันราวกับได้ของประหลาดมา สุ ดท้ายแล้วจะดูอย่างไรก็ยงั ดู


ไม่ออกว่าเจ้าติ๊งต๊องนั้นเป็ นตัวอะไรกันแน่

พอถูกแสงทองจากร่ างของติ๊ งต๊องแผดเผาไปรอบหนึ่ ง ไอหยินที่


หมุนวนอยูร่ อบๆ ก็ถูกแผดเผาจนหายไปหมด แม้แต่ไอวิญญาณแค้น
ที่รวมตัวอยูใ่ นอากาศเหนือเมืองลี่โจวเองก็จางหายไปโดยรอบ

ทันใดนั้นเอง เจ้าไก่ขนดาฟูก็ขยับปี กไปมาอีกครั้ง มันส่ งเสี ยง “กุ๊ก


กุ๊ก กรู ้ไปทางด้านหลังของนาง
ตู๋กูซิงหลันหันหน้ากลับไป ก็เห็นว่าท่ามกลางค่าคืนที่มืดมิด มีไอห
ยินที่มีความเคียดแค้นอย่างรุ นแรงกาลังพุง่ เข้ามาใกล้

หลังจากนั้น ก็เห็นเงาร่ างของคนผูห้ นึ่งปรากฏขึ้นมาจากความมืด

พอนางมองดูอย่างละเอียดละออ ก็พบว่านัน่ เป็ นสตรี ผหู ้ นึ่ง


ตอนที่ 193 จิตวิญญาณที่หลงเหลือของเทพ

เงาของสตรี ผหู ้ นึ่ง ล่องลอยอยูท่ ่ามกลางความมืดมิดของท้องฟ้ายาม


ราตรี ทุกครั้งที่นางก้าวเดิน ไอแค้นบนร่ างก็เพิ่มพูนขึ้นมาอีกหลาย
ส่ วน

ร่ างที่ซุกซ่ อนอยูใ่ ต้แม่น้ าลี่เหอถูกกระตุน้ ปลุกเร้า ทั้งๆ ที่พ่ ึงจะสงบ


ลงไปได้ครู่ เดียว ก็กระสับกระส่ ายขึ้นมาอีกครั้ง

พอนางขยับเข้ามาใกล้ ถึงได้เห็นว่าที่รายล้อมอยูร่ อบๆ ตัวนางนั้นก็


คื อ วิญญาณตายโหงนับร้อ ยตน วิญญาณแค้นเหล่านั้นหมุนวนอยู่
รอบตัว นาง แต่ ส ายตาเย็น ยะเยือ กของพวกมัน ล้ว นจดจ้อ งมาที่
ตู๋กซู ิ งหลัน

สตรี ผนู ้ ้ นั หยุดห่างไปจากนางสามจั้ง ร่ างของนางอ่อนแออย่างยิง่ ไม่


มีกายหยาบ มีแต่เพียงดวงจิตขุ่นมัวที่ฝืนปรากฎร่ างเงาขึ้นมาเท่านั้น
นางมีเส้นผมยาวที่แดงดุจแสงเพลิง และดวงเนตรสี ชาดแดงก่ าดุจ
ลูกไฟคู่หนึ่ง ร่ างท่อนบนนั้นถูกเส้นผมยาวปิ ดบังเอาไว้จนหมด เพียง
เผยให้เห็นแต่องค์เอวที่บอบบางเท่านั้น

ร่ างครึ่ งล่างเป็ นหางที่ ยาวเฟื้ อยของงู เขี ยว คล้ายกับว่านางไม่อ าจ


เดินเหิ น เพียงอาศัยกองทัพวิญญาณแค้นนับร้อยเหล่านั้นเป็ นดัง่ เหล่า
ทาสพานางเคลื่อนไปในความมืดมิดของราตรี

” กุ๊ก กุ๊ก กรู ้ กุ๊ก กุ๊ก กรู ้ ” พอติ๊งต๊องเห็นนางก็กระโตกกระตากขึ้นมา


ในทันที

พี่ ส าวตัว น้อ ย เป็ นนาง ตอนอยู่ใ นอารามเทพธิ ด านางกลื น กิ น


วิญญาณแค้นเข้าไปมากมาย ทั้งยังคิดจะกินเฮียไก่อย่างข้าด้วย!

มันตีปีกวิ่งวนไปรอบๆ ตัวตู๋กูซิงหลัน ตะกุยเท้าลงบนพื้นด้วยความ


แตกตื่นวุน่ วายไปหมด

ตู๋กซู ิ งหลันคว้าคอของเจ้าไก่เอาไว้ ค่อยๆ ทาให้มนั สงบลง วันนี้เจ้าติ๊


งต๊องอยูๆ่ ก็แสดงความสามารถแปลกใหม่ออกมา นางเกรงว่ามันจะ
ควบคุมตนเองไม่ได้ก่อเรื่ องขึ้นมา
ร่ องรอยของพี่รองยังไม่ทนั ได้สืบหา นางไม่อยากจะทาให้บางสิ่ ง
รู ้ตวั มากเกินไป

ตู๋กูซิงหลันคว้าเจ้าติ๊งต๊องเอาไว้แล้ว ก็หันไปมองดูสตรี ที่มีร่างเป็ นงู


อีกครั้ง

นางงดงามอย่า งยิ่ง งดงามราวกับ ว่า เป็ นทายาทของเทพหนี่ วาที่


ออกมาจากแดนเซี ยนอย่างไรอย่างนั้น

เพียงแต่จิตวิญญาณของเทพอ่อนล้า ประกอบกับดวงหน้าของนางซีด
ขาว รอบกายรายล้อมไปด้วยจิตวิญญาณแค้น เพียงมองแค่แวบเดียว
ก็ทาให้คนทั้งรู ้สึกประหลาดและหวาดหวัน่ ใจ

ตู๋ กู ซิ ง หลัน มิ ไ ด้เ คลื่ อ นไหว สตรี ผูน้ ้ ี ถึ ง แม้ว่ า จะมี วิ ญ ญาณแค้น
มากมายรายล้อม แต่ในร่ างยังมีแสงทองอยูจ่ างๆ

มี แ ต่ ไ ด้รั บ การกราบไหว้บู ช ามานับ ร้ อ ยนับ พัน ปี จึ ง จะสามารถ


บาเพ็ญเพียรจนเกิดร่ างทิพย์ ถึงแม้วา่ นางจะสู ญเสี ยกายหยาบไปแล้ว
แต่เพราะว่าเคยได้รับควันธู ปบูชามานานหลายปี ภายใต้แสงทอง
คุม้ ครอง จึงทาให้ยงั ดวงจิตหลงเหลืออยูส่ ่ วนหนึ่ง
นางมองดูต๋ ูกูซิงหลันอยูเ่ นิ่ นนาน คล้ายกับว่ากาลังต้องการยืนยันใน
แน่ใจ วิญญาณแค้นที่รายล้อมอยูก่ ็พากันเคลื่อนไหวขึ้นมา เห็นนาง
เอ่ยริ มฝี ปากส่ งเสี ยงเพียงเบาๆ พวกมันก็พากันสงบเสงี่ยมลงในทันที
แต่ละตนนอบน้อมดัง่ ข้าทาส

ร่ างของนางทอประกายแสงออกมา วิญญาณคนตายเท่านั้นก็ไม่อาจ
ขัดขืนแรงกดดันจากพลังอานาจของเทพได้ ถึงแม้พลังที่กดดันอยูน่ ้ ี
จะเทียบไม่ได้แม้สักหนึ่งในพันของแต่ก่อน แต่เมื่อนามาใช้กบั พวก
มันก็ถือว่าเกินพอ

พอเหล่าวิญญาณแค้นสงบเงี ยบลง นางก็เก็บพลัง ของเทพนั้นคื น


กลับไป มองไปยังตู๋กซู ิ งหลัน ในที่สุดก็กล่าวกับนางว่า

” ข้ามาเพื่อขอบคุณเจ้า “

ไก่ขนดาฟู ” กุ๊ก กุ๊ก กรู ้? ” ขอบคุณรึ ? วิธีที่จะขอบคุณพี่สาวตัวน้อย


คือการกินเฮียที่นางรักเอ็นดูที่สุดหรื อ?

เห็นไหมเล่าว่ามันเกิดมาหล่อเหลางดงามเพียงไร? กระทัง่ เหล่าเทพที่


สู งส่ งก็ยงั ก็ยงั คานึงหาไม่รู้ลืม
ตู๋กซู ิ งหลันมองดูนาง ก็ตอบกลับไปประโยคหนึ่ง ” ไม่ตอ้ งเกรงใจ “

นางก็แค่ช่วยประคองรู ปปั้ นเทพธิ ดาให้ต้ งั ตรง ปั ดกวาดใยแมงมุม


และเขม่ า ฝุ่ นออกไปให้ ไม่ จ าเป็ นต้อ งให้ เ ทพธิ ด ามาขอบคุ ณ
โดยเฉพาะ

เทพธิ ดาที่ผคู ้ นเคยเคารพบูชา พอถึงคราตกต่ากลายเป็ นวิญญาณ ก็


มิได้รับความยาเกรงอย่างเหล่าเทพเลยสักนิ ด พูดไปแล้วก็เจ็บปวด
แทน

นางก็แค่เกิดความสงสารขึ้นมาเท่านั้น

” ผูค้ นบนโลกกล่าวว่า ติดค้างบุญคุณพึงตอบแทน ข้าติดค้างบุญคุณ


จากเจ้า เจ้าไม่ตอ้ งการการตอบแทนหรื อ? ” สตรี ผมแดงผูน้ ้ นั กล่าว
ต่อไป น้ าเสี ยงของนางแผ่วเบา แผ่วเบาเสี ยจนน่ ากลัว ราวกับดวง
วิญญาณที่กระซิ บอยูข่ า้ งหู

ก็เพราะว่ารู ปปั้ นของนางได้รับการตั้งตรงขึ้นใหม่ สิ่ งสกปรกถูกขจัด


ออกไป ดวงจิ ต ที่ เ หลื อ อยู่ เ พี ย งเล็ ก น้ อ ยของนางถึ ง ได้รั บ การ
ปลดปล่อย สามารถออกจากอารามมาได้
ที่นางมาขอบคุณก็ยอ่ มสมควรอยูแ่ ล้ว

” เพียงแค่งานออกแรงง่ายๆ เท่านั้น ” ตู๋กูซิงหลันตอบ นางคิดอยูค่ รู่


หนึ่งก็ตอบกลับไปอีกว่า ” หากว่าท่านเทพธิดาคิดจะตอบแทนข้า จะ
สามารถบอกได้หรื อไม่ว่า คุณชายรองตระกูลตู๋กู ตู๋กูเจวี๋ยยามนี้อยูท่ ี่
ใด “

นางเป็ นถึ ง เทพธิ ด า ถึ ง แม้จ ะเหลื อ เพี ย งแค่ ด วงจิ ต แต่ ห ากจะหา
ร่ องรอยของคนผ่านทาง ตามเหตุผลแล้วไม่ใช่เรื่ องยาก

พอได้ยนิ ชื่อตู๋กเู จวี๋ยสามคา สี หน้าของนางก็พลันเปลี่ยนแปลงไป

ครู่ ต่อมาก็ถอนใจเบาๆ ครั้งหนึ่ง ” ผูค้ นในโลกวอนขอเงินทอง วอน


ขออานาจ วอนขอฐานะราชศักดิ์และความรุ่ งเรื องชัว่ ชีวิต แต่เจ้ากลับ
ขอเพียงแค่ร่องรอยของคนผูห้ นึ่งหรื อ? “

ตู๋กูซิงหลันตอบออกไปโดยมิได้ครุ่ นคิดใดๆ ทั้งสิ้ น “นั่นเป็ นพี่ชาย


ของข้า เขาสาคัญยิง่ กว่าสิ่ งใดทั้งหมด “

ถึงแม้วา่ นางจะรักเงินทอง แต่ก็รักคนในครอบครัวยิง่ กว่า


ในชาติก่อนนางมีแต่เพียงอาจารย์และเหล่าลูกสมุน ไม่มีญาติมิตร
สายเลือดเดียวกัน ชาติน้ ีสวรรค์ได้ชดเชยให้กบั นางแล้ว ย่อมต้องทนุ
ถนอมเอาไว้ให้ดี

ผ่านไปอีกครู่ หนึ่ ง ดวงจิตของเทพธิ ดาผูน้ ้ นั ก็กล่าวกับนางว่า ” เจ้า


ตามข้ามา “

พูดแล้ว นางก็หันร่ างกลับไป ภายใต้การหนุ นประคองของเหล่ า


วิ ญ ญาณแค้น ดวงจิ ต ที่ ล่ อ งลอยอยู่ใ นอากาศก็ เ ลื อ นหายไปทาง
ทิศทางของอารามเทพธิดาที่ผพุ งั

ตู๋กูซิงหลันพึ่งจะก้าวเท้าออกไปข้างหนึ่ ง เจ้าไก่ขนดาฟูก็ขวางนาง
เอาไว้ ” กุ๊ก กุ๊ก กรู ้! “

หากว่าเทพธิดาผูน้ ้ นั เป็ นเทพที่ไม่ดีละ? พี่สาวตัวน้อยท่านจะหลงเชื่อ


ง่ายๆ ไม่ได้นะ!

เพราะมันได้เห็ นมากับตาแล้วจริ ง ๆ ว่าเทพธิ ดาผูน้ ้ ันกลื นกิ นดวง


วิญญาณแค้นลงไปราวกับเสื อหิ วโหยและหมาป่ าโหดเ**้้ยม น่ า
กลัวยิง่ กว่ายามที่มนั จับพวกหนอนแมลงกินมากนัก
เห็ นนางสงบนิ่ งเงี ยบเชี ยบเช่นนั้น ที่จริ งแล้วเปี่ ยมไปด้วยไอแค้น!
นั้นมิใช่ไอแค้นจากดวงจิตของวิญญาณตายโหงที่รายล้อมอยู่รอบ
กาย แต่วา่ มาจากตัวนางเอง!

เป็ นถึงเทพธิ ดาอันศักดิ์สิทธ์ิ กลับมีไอแค้นอยูเ่ ช่นนี้ ถือว่าไม่ถูกต้อง


อย่างยิง่

วิญญาณทมิฬเองก็หรี่ ตากลมๆ ของมันลง ระดับมันแล้วมีวิญญาณ


ภูติผีปีศาจใดไม่เคยเจอมาบ้าง แต่สิ่งที่ได้เห็นอยูต่ รงหน้านี้กลับเป็ น
ครั้งแรก ควรจะพูดอย่างไรดี เป็ นความอึดอัดคับข้องใจอย่างบอกไม่
ถูก

หรื ออาจบางทีเป็ นเพราะวิญญาณแค้นที่ถูกนางควบคุมเอาไว้มีมาก


จนเกินไปแล้ว

ตู๋กูซิงหลันหยุดเท้าเอาไว้ครู่ หนึ่ ง แต่พอเห็ นดวงจิ ตของเทพธิ ด า


ล่องลอยออกไปยิง่ ทียงิ่ ไกล นางก็ติดตามไปในทันที

นางกลับมาที่อารามเทพธิดาจริ งๆ
ตู๋กูซิงหลันกวาดตามองไปรอบๆ ครั้งหนึ่ ง ก็เห็ นว่ายันต์ที่นางผนึ ก
เอาไว้รอบอารามเทพธิ ดาทั้งสี่ ทิศนั้นสลายไปไม่เหลืออยู่แล้ว สาย
ลมค่าคืนพัดโหม ต้นไม้เก่าแก่ภายในวัดโยกคลอนจนส่ งเสี ยงครื ด
คราด

ตลอดทางที่มาดวงจิตของเทพธิ ดาผูน้ ้ นั มิได้กล่าวสิ่ งใดทั้งสิ้ น นาง


ถูกเหล่าวิญญาณแค้นหนุนนามาจนถึงเบื้องหน้ารู ปปั้ นของนาง รู ป
ปั้ นนั้นดูสะอาดสะอ้านกว่าหลายวันก่อนมากทีเดียว ดวงหน้าของ
เทพธิดายังคงมีเค้าของความเมตตา

รู ปปั้ น คือที่สถิตของดวงจิตศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดา เมื่ออยูใ่ กล้กบั รู ป


ปั้ น ดวงจิตของนางก็เปลี่ยนเป็ นเข้มแข็งขึ้นมา

ปลายหางงู สีเขี ยวค่อยๆ แปรเปลี่ ยนเป็ นขายาวๆ ของมนุ ษย์ ดวง


วิญญาณแค้นนับร้อยถูกนางขับไล่ไปเฝ้าอยู่ดา้ นนอกอาราม เหลือ
เพียงไม่กี่ตวั เท่านั้นที่ยงั รายล้อมนางอยู่

ครู่ หนึ่ ง ตู๋กูซิงหลันก็เดินเข้าไปข้างในดวงจิตของเทพธิ ดาผูน้ ้ นั ค่อย


กล่าวว่า ” วันที่แม่น้ าลี่เหอหลากล้น มีบุรุษหนุ่ มผูห้ นึ่ งใช้ร่างขวาง
เอาไว้ จึงถูกกระแสน้ าพัดพาไป เขาเป็ นผูม้ ีเมตตามีดวงชะตายิง่ ใหญ่
ฟ้ าดิ นปกป้ องคุม้ ครอง เต่ายักษ์ในแม่น้ าตัวหนึ่ ง จึ ง พาเขามาซ่ อน
เอาไว้ในอาราม “

วิญญาณทมิฬและติ๊งต๊องต่างก็มองไปรอบๆ อารามพร้อมๆ กัน ว่า


กันตามจริ ง อารามเทพธิ ดาแห่ งนี้ แม้จะมี กาแพงทั้งสี่ ดา้ น แต่ก็ไม่
นับว่าสามารถซ่อนผูค้ นได้แต่อย่างใด

ดวงจิตเทพธิดากล่าวจบแล้ว พอเห็นนางขยับโต๊ะหมู่บูชาที่ตรงหน้า
ก็ปรากฎหลุมใหญ่ข้ ึ นมา ” ตอนที่ ก่อ สร้างอารามขึ้นมานั้น มี การ
สร้างห้องลับแห่ งหนึ่ งเอาไว้ที่ใต้ฐานราก มีอยู่วนั หนึ่ ง บุรุษหนุ่มผู ้
นั้นก็ลงไปซ่ อนตัวอยูใ่ นนั้น รู ปร่ างหน้าตาของเขาคล้ายคลึงกับเจ้า
อยูส่ ามส่ วน และก็ยงั แซ่ต๋ กู ดู ว้ ย “
ตอนที่ 194 พี่รองผู้น่าสงสาร

ข้างๆ กอหญ้านั้นยังมีเศษอาหารเน่าหลงเหลืออยู่ เป็ นของที่ก่อน


นี้ฮว๋ ายอันน้อยเก็บเอาไว้ให้นอ้ งสาว

เทพธิดาเคลื่อนย้ายกอหญ้าเหล่านั้นออกไป เผยให้เห็นแผ่นไม้ที่ปิด
อยูด่ า้ นล่าง นางกล่าวสาทับอีกว่า ” เขาอยูข่ า้ งล่างนัน่ เจ้าต้องลงไปดู
ด้วยตนเอง “

ตู๋กซู ิ งหลันมิได้รีบร้อนเคลื่อนไหว เพียงถามไถ่ออกไปประโยคหนึ่ง


” เขาอยูใ่ นนั้นมาตลอดหรื อ? “

” อยูใ่ นนั้นมาตลอด ” ดวงจิตของเทพธิดากล่าว จากนั้นนางก็เปิ ด


แผ่นไม้ออกมา เผยให้เห็นทางลับ เมื่อมองลงไปก็เห็นแต่เพียงบันได
ไม้ที่ลึกลงไป ปากทางคับแคบ เพียงสามารถให้คนๆ เดียวลอดผ่าน

ด้านในมีแต่ความมืดมิด แม้จะบอกว่าเป็ นห้องลับ แต่วา่ ตู๋กซู ิงหลันก


ลับรู ้สึกว่าเป็ นคุกใต้ดินเสี ยมากกว่า ภายในยังมีกลิ่นอับชื้นลอย
ออกมา
นับตั้งแต่ที่พี่รองหายสาบสู ญจนถึงตอนนี้ อย่างน้อยๆ ก็ตอ้ งมีครึ่ ง
เดือนแล้ว ต่อให้มีให้กินให้ดื่ม คนธรรมดาที่ถูกกักขังอยูใ่ นคุกใต้ดิน
นานถึงพียงนี้ คิดดูแล้วนับว่าไม่ง่ายดาย อย่าว่าแต่พี่รองอาจจะอยูใ่ น
สถานการณ์ที่ได้รับบาดเจ็บอยูก่ ่อนแล้ว

” เจ้าจะไม่ลงไปดูหรื อ? ” ดวงจิตของเทพธิดาเห็นนางรี รอไม่ยอม


ขยับ ก็ถามขึ้นมา

” ไม่ใช่วา่ เจ้าให้ความสาคัญกับคนในครอบครัวหรอกหรื อ? ทาไม


พอรู ้วา่ เขาอยูใ่ นนี้ ก็ไม่ตื่นเต้นไม่ได้ยนิ ดี? “ สองประโยคนี้ นางถาม
ออกไปตรงๆ

ตู๋กซู ิ งหลันเงียบขรึ มไปครู่ หนึ่ง ดวงหน้าเผยความเคร่ งเครี ยดออกมา


” ไม่ได้พบกันมานาน ในใจของข้าตื่นเต้นอยูม่ าก หวาดกลัวว่า
ร่ างกายและจิตใจของเขาจะได้รับบาดแผล”

ดวงจิตของเทพธิดายิม้ บางๆ ” เจ้าวางใจเถอะ เขาสบายดี “ ว่าแล้ว


ภายใต้การประคับประคองหนุนของวิญญาณแค้นทั้งหลาย นางก็
ลอยลงไปในทางลับช้าๆ
ตู๋กซู ิ งหลันมิใช่พวกไร้เดียงสา แต่ไหนแต่ไรมาก็มิใช่พวกที่หลงเชื่อ
คนโดยง่าย อย่าว่าแต่ที่ตรงหน้าก็เป็ นเพียงเทพที่เหลือเพียงดวงจิต
องค์หนึ่ง ถึงจะพูดว่าเป็ นเทพ แต่วา่ ก็ออกจะประหลาดอยูบ่ า้ ง

รอจนดวงจิตของเทพธิดาผูน้ ้ นั ลงไปแล้ว ตู๋กซู ิงหลันก็ครุ่ นคิดอยูค่ รู่


หนึ่ง สุ ดท้ายแล้วถึงได้คอ่ ยติดตามลงไป พอก้าวเท้าลงไปข้างหนึ่ง ก็
รู ้สึกได้ถึงความเย็นจากใต้ฝ่าเท้า

เจ้าไก่ขนดาฟูและวิญญาณทมิฬต่างก็ติดตามนางไป สหายน้อบติงต๋ อง
นับตั้งแต่ตน้ จนถึงบัดนี้กย็ งั รักษาความตื่นตัวเอาไว้ที่ระดับสูงสุ ด สอง
ตาไก่ก๊กุ ของมัยจดจ้องอยูท่ ี่ดวงจิตของเทพธิดาอยูต่ ลอด

บันไดไม้น้ ียาวมาก ยิง่ เดินลงไปก็ยงิ่ รู ้สึกถึงความเย็นยะเยือก เจ้าไก่


ขนดาฟูเฝ้าสุ สานของเย่วฮูหยินมาแล้วสิ บปี มันคุน้ เคยกับกลิ่นไอ
ของหลุมฝังศพเป็ นอย่างดี มันกล้ารับประกันเลยว่าใต้บนั ไดนี้ก็คือ
สุ สานแห่งหนึ่ง! พี่ชายของพี่สาวตัวน้อยอยูใ่ นสุสานนี้หรื อ? เช่นนั้น
มิกลายเป็ นคนตายไปแล้วหรื อ?
ตู๋กซู ิ งหลันเองก็รู้สึกได้ ไม่เพียงแต่รู้สึกถึงไอหยินที่เย็นเฉียบใน
สุ สาน แต่นางยังรู ้สึกได้ถึงกลิ่นอีกอย่างหนึ่ง ที่สร้างผลสะท้อน
ให้กบั หยกสรรพชีวิตที่ผนึกอยูใ่ นดวงจิตของนาง

นางเดินตามดวงจิตของเทพธิดาลงไปนานเกือบหนึ่งชัว่ ก้านธูป ถึง


ได้ลงไปจนถึงปลายทาง ที่ดา้ นล่างมืดมิด ในอากาศมีแต่กลิ่นอับชื้น
ของเชื้อรา และกลิ่นเน่าของซากสิ่ งมีชีวิตลอยมาจางๆ

นางหรี่ ตาลง มองออกไปท่ามกลางความมืดมิดที่ไม่อาจเห็นนิ้วมือ


ทั้งห้านี้ ท่ามกลางความมืด ดวงจิตของเทพธิดาหันกลับมามองนาง
ครั้งหนึ่ง เปิ ดเผยกิเลสที่ถูกบดบังเอาไว้ออกมา เป็ นความต้องการที่
แม้แต่ความมืดมิดอย่างที่สุดก็ยงั ไม่อาจจะซุกซ่อนเอาไว้ได้

นางเปิ ดปากขึ้น ลิ้นของนางถึงกับเป็ นลิ้นของงู แทบจะกวาดไปทัว่


ใบหน้าของตู๋กซู ิงหลัน ดวงเนตรแดงฉานดัง่ ดวงไฟคูน่ ้ นั วาววับไป
จนถึงนัยตา

” ซัววาลาลา—” ทันใดนั้น ก็เห็นสหายติ๊งต๊องตีปีกทั้งสองอย่าง


รวดเร็ว จนเกิดประกายไฟสี ทองออกมา ทันทีที่สิ้นเสี ยงเปลวไฟสี
ทองนั้นก็สกัดปลายลิ้นของเทพธิดาเอาไว้ แสงเพลิงที่ร้อนระอุทาให้
นางต้องม้วนลิน้ กลับไปในพริ บตา

ดวงวิญญาณอาฆาตที่รายล้อมนางอยูก่ ็พากันไปหลบอยูท่ ี่ดา้ นหลัง


จนหมด ด้วยความหวาดเกรงว่าเพลิงนั้นจะเผาผลาญพวกมันไปด้วย

ติ๊งต๊องสบัดปี กอยูข่ า้ งกายตู๋กซู ิงหลันราวกับคบเพลิงมีชีวิตที่สว่างจ้า


ด้ามหนึ่ง ดูท่าอีกหน่อยมันคงจะต้องกินพวกเนื้องูให้มากหน่อยแล้ว
ไฟจากท่าใหม่น้ ีใช้ได้สะดวกดีจริ งๆ

ดูเอาสิ ขนาดว่าแผดเผาจนปี กของตนเองลุกไหม้ขนาดนี้แล้วก็ยงั ไม่


รู ้สึกเจ็บปวดแม้แต่นอ้ ย ซ้ ายังรู ้สึกได้วา่ ในร่ างกายยังมีพลังอัดแน่น
อยูอ่ ีกจานวนมากด้วยซ้ า

วิญญาณทมิฬถูกสะเก็ดไฟเล็กๆ นั้นกระเด็นเข้าใส่ จนสมองของมัน


ชักจะร้อนวูบวาบขึ้นมา มันจึงรี บหลบเข้าไปในเงาของตู๋กซู ิงหลัน
อย่างรวดเร็ ว
ประกายเพลิงสี ทองทาให้ทวั่ ทั้งบริ เวณสว่างวาบขึ้นมาในทันที
ตู๋กซู ิ งหลันที่ดวงตาเคยชินอยูก่ บั ความมืด พอจู่ๆ ก็ตกอยูใ่ นความ
สว่างจ้า ทาเอาดวงตาของนางเกือบจะบอดไป

นางหรี่ ตาลงในทันที หลังจากที่หายมึนงงแล้ว จีงได้มองเห็นทัว่ ทั้ง


บริ เวณใต้ดินของอารามแห่งนี้ได้อย่างชัดเจน ที่ประจักษ์แก่ดวงตา
ของนางในยามนี้ก็คือกองกระดูกขาวโพลน โครงกระดูกมนุษย์!

ตรงนั้นกอง ตรงนี้กอง นับไปนับมาอย่างน้อยๆ ก็ตอ้ งได้ร้อยกว่าร่ าง


ดูจากสภาพแล้วก็สามารถจินตนาการได้ถึงความทุกข์ทรมานและ
หวาดกลัวก่อนตาย

ยังมีกระดูกบางส่วนที่กลายเป็ นสี ดา บนนั้นมีตวั หนอนมากมายคืบ


คลานกันยุบยับไปหมด หากว่าเป็ นคนปกติได้มาเห็นภาพเช่นนี้ เกรง
ว่าคงต้องเป็ นลมล้มลงไปในทันทีแล้ว

แต่วา่ ตู๋กซู ิ งหลันเคยได้เห็นภาพที่ยงิ่ กว่านี้มาแล้ว ในโลกก่อนตอนที่


อายุได้สิบขวบนั้น ท่านอาจารย์เคยโยนนางลงไปยังสุสานหมื่น
ทหารของสมัยจ้านกว๋ อ ที่นนั่ นับว่าน่ากลัวว่าที่นี่มากนัก
บนกองกระดูกมนุษย์ ยังมีโครงกระดูกของกระรอกและกระต่าย
ปะปนอยูด่ ว้ ย บ้างก็เริ่ มจะเน่าแล้ว บ้างก็ยงั คงสดใหม่อยู่ เลือดของ
พวกมันยังหยดนอง ภาพที่เห็นพาให้คนรู ้สึกอึดอัดไม่สบายใจอย่าง
ยิง่

ตู๋กซิ งหลันได้แต่ขมวดคิ้ว นางกวาดตามองคร่ าวๆ รอบหนึ่งก็เห็นว่า


ในกองซากกระต่ายนั้น มีร่างของบุรุษชุดขาวอยู่ เขานัง่ อยูท่ ่ามกลาง
ซากกระต่าย หลังพิงอยูก่ บั ก้อนหินก้อนหนึ่ง ชุดขาวบนร่ างมีเลือด
เปรอะเปื้ อน เลือดพวกนั้นแห้งกรังไปแล้ว ทั้งยังเริ่ มจะขึ้นรา

เส้นผมยาวปรกอยูบ่ นใบหน้าอย่างยุง่ เหยิง คงจะไม่ได้ลา้ งหน้ามา


นานมากแล้ว ใบหน้ามีหนวดเคราครึ้ ม แต่เพียงหัวคิ้วยังดูงดงาม
อย่างที่สุด

เขาหลับตาอยู่ ขนตางามงอนนั้นถึงกับยาวกว่าสตรี เสี ยอีก หางตา


ของเขากระตุกน้อยๆ เขากาลังหลับอยูด่ ว้ ยสี หน้าอ่อนเพลีย

หื อ ท่ามกลางกองกระดูกและซากเหล่านี้ เขาคืออย่างเดียวที่ยงั มีชีวิต


อยู่ สองมือของเขาถูกล่ามเอาไว้ดว้ ยโซ่เหล็ก บนเอวก็มีโซ่หนา
ขนาดข้อมืออยูอ่ ีกเส้น ถูกพันธนาการเอาไว้ประหนึ่งว่าเป็ นสัตว์เลี้ยง
ตัวน้อยที่ถกู ทารุ ณอย่างน่าสงสาร

ตู๋กซู ิ งหลันไม่เคยได้พบพี่รองของตนเองมาก่อน แต่วา่ ตอนที่อยูใ่ น


จวนตระกูลตู๋กู พี่ใหญ่เคยนาภาพของคนในครอบครัวทั้งหมดมาให้
ดู นั้นเป็ นผลงานของช่างศิลป์ ที่มีฝีมือดีที่สุดในเมืองหลวง บนภาพ
นั้นมีท่านปู่ พี่ใหญ่ พีร่ อง และก็นาง

ถึงแม้วา่ ภาพนั้นจะเทียบไม่ได้กบั รู ปถ่ายของยุคปั จจุบนั แต่วา่ ฝี มือ


ของช่างศิลป์ ผูน้ ้ นั ก็ยอดเยีย่ มอย่างยิง่ ถึงกับว่าได้คล้ายคนจริ งอยูถ่ ึง
เก้าส่ วน

ดังนั้น ตอนนี้พอได้เห็นบุรุษชุดขาวผูน้ ้ นั ตู๋กซู ิงหลันก็จดจาเขาได้


ในทันที เป็ นพี่รองผูช้ ื่นชอบสวมใส่ ชุดสี ขาวของนางจริ งๆ

ผ่านไปครู่ หนึ่ง ดวงจิตของเทพธิดาที่อยูใ่ กล้ๆ ค่อยกล่าวออกมาว่า ”


เจ้าเห็นชัดแล้วใช่ไหม เป็ นคนในครอบครัวของเจ้าใช่หรื อไม่? “

เนื่องเพราะว่าเมื่อครู่ ปลายลิ้นถูกไฟลวกเข้าจนพอง ยามนี้พอพูด


ออกมาจึงไม่ชดั อยูบ่ า้ ง
ตู๋กซู ิ งหลันพยักหน้าติดๆ กัน ” ใช่แล้ว “ นางมิได้พงุ่ เข้าไปที่ขา้ งกาย
พี่รองในทันที แต่กลับหันไปถามดวงจิตของเทพธิดา ” ทาไมเขาจึงมี
สภาพเช่นนี้? “

ดวงเนตรสี ชาดทั้งสองของเทพธิดาทอประกายกระหายเลือดออกมา
นางกล่าวว่า ” เจ้ามีบญ
ุ คุณกับข้า ข้านาเจ้ามาเจอญาติ ก็ถือว่าได้ตอบ
แทนบุณคุณนี้ให้แก่เจ้าแล้ว “

นางมิได้ตอบคาถามของตู๋กซู ิ งหลัน แต่กบั พูดไปอีกว่า ” ต่อไป ให้


ข้าได้แนะนาตัวสักหน่อย ข้าคือชือหลี เทพธิดาประจาลาน้ าลี่เหอ
เฝ้าปกป้องลาน้ าลี่เหอมานานถึงสามพันปี แล้ว เดิมทีขา้ ได้รับควันธูป
บูชาจากผูค้ น จึงได้อยูอ่ ย่างนิรันด์ไม่มีดบั สู ญ “

” มีอยูป่ ี หนึ่งในฤดูหนาว หนุ่มน้อยชุดขาวผูห้ นึ่งตกลงไปในแม่น้ าลี่เหอ


ข้าได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เขาจึงมักจะมาอยูใ่ ต้แม่น้ าลี่เหอนี้กบั ข้า ต่อมา
พอเขาเติบโตขึ้น ก็บอกว่าจะสู่ ขอข้าแต่งงาน จะเฝ้าแม่น้ าร่ วมกับข้าไป
จวบจนชัว่ ชีวิต ข้าก็หลงเชื่อ “
พอพูดมาถึงตรงนี้ นางก็ฝืนยิม้ ออกมาอย่างขมขื่น ” เป็ นถึงเทพธิดาแห่ง
สายน้ า กลับเชื่อในถ้อยคาของมนุษย์ธรรมดา ช่างน่าหัวเราะนัก “
ตอนที่ 195 ข้ าต้ องการร่ างเนื้อของเจ้ า

เปลวเพลิงสี ทองของเจ้าไก่ขนดาสาดส่ องจนสามารถมองเห็นดวงจิต


ของนางได้อย่างชัดเจน ในดวงเนตรสี ชาดคู่น้ นั ยังคงมีความเจ็บช้ า
อยู่

ตู๋กซู ิ งหลันจดจ้องไปยังดวงเนตรของนาง ” หากว่ามิเคยได้สัมผัสถึง


ความสว่าง ย่อมไม่รู้วา่ ความมืดนั้นน่ากลัวเพียงไร หากแม้นมิเคยมี
คู่ครอง ย่อมไม่รู้จกั ความว้าเหว่ เทพธิดาแห่งสายน้ า ท่านมิได้น่า
หัวเราะเลย “

ผูท้ ี่เป็ นเทพเซี ยนล้วนแล้วแต่ตอ้ งมีชีวิตอย่างอ้างว้าง หากว่าสามารถ


มีใครสักคนอยูเ่ คียงคูก่ นั ก็นบั ว่าเป็ นเรื่ องดีที่หาได้ยากอย่างยิง่

คาพูดนี้ของนางทาให้ ชือหลียงิ่ จดจ้องมองนางอย่างลึกซึ้งกว่าเดิม


ดวงเนตรสี ชาดนั้นคล้ายกับว่าต้องการจะมองเข้าไปให้ทะลุถึง
ภายในของนาง ” เจ้าก็เป็ นผูท้ ี่มีอายุเพียงสิ บกว่าปี เท่านั้น ไหนเลยจะ
สามารถเข้าใจความเจ็บปวดของผูท้ ี่เป็ นเทพได้กนั ? “
” ข้าเป็ นถึงเทพประจาลาน้ าลี่เหอ มอบหัวใจทั้งดวงให้แก่เขา แต่
สุ ดท้าย เขากลับหักหลังข้า เขาร่ วมมือกับน้องสาวของข้ากระทาเรื่ อง
ชัว่ ช้า ทาลายควันธูปของข้า คิดจะให้ขา้ ต้องสาปสู ญไปจากโลกนี้
มนุษย์อย่างพวกเจ้า ทั้งจิตใจหยาบช้าและน่ารังเกียจนัก “

ตู๋กซู ิ งหลันได้ฟังแล้ว ก็รู้สึกว่าเรื่ องน้ าเน่าพรรค์น้ ีช่างฟังดูคนุ ้ หูอย่าง


ยิง่ คล้ายกับภาพยนต์ชุดหนึ่งที่นางเคยได้ร่วมแสดงมาก่อน ในเรื่ อง
นั้นน้องสาวแย่งชิงว่าที่พี่เขยมาจากพี่สาว แถมยังเป็ นเหตุให้พี่เขยทา
ร้ายพี่สาวจนพิการ เรื่ องน้ าเน่าพรรค์น้ ีกเ็ กิดขึ้นกับพวกเทพเซียนได้
เหมือนกันหรื อ?

นางครุ่ นคิดอย่างละเอียดอยูค่ รู่ หนึ่ง ค่อยตอบไปว่า ” ข้ารู ้สึกว่า ข้าก็


เป็ นคนดีคนหนึ่ง เจ้าก็ไม่ควรจะใช้ไม้กวาดทุกคนไปด้านเดียว ใน
โลกนี้กย็ งั มีคนที่มีเมตตาอยู่ “

ชือหลี “……..” การจับประเด็นของนางทาไมถึงได้ประหลาดเช่นนี้?


” คนที่มีจิตใจชัว่ ร้ายในโลกนี้ เจ้าคงยังไม่เคยได้พบมาก่อน ” ชือหลี
เปลี่ยนเป็ นอึมครึ มลงไป นางพยายามจะบังคับลิน้ ให้พดู ชัด เพื่อ
รักษาภาพลักษณ์ที่สูงส่ งในฐานะเทพธิกดาแห่งสายน้ าของนาง

ตู๋กซู ิ งหลันถอนใจเบาๆ ก็ถามออกไปอีกว่า ” แล้วต่อมาหญิงร้ายชาย


โฉดคู่น้ นั เป็ นอย่างไรบ้างล่ะ? “

ชือหลียงั มีนอ้ งสาวอยูอ่ ีกคนหนึ่ง เรื่ องนี้ทาให้นางรู ้สึกประหลาดใจ


อยูบ่ า้ ง ถ้อยคาที่วา่ ‘หญิงร้ายชายโฉด’ นั้นได้สลักลงในใจของชือห
ลีแล้ว ดวงเนตรของนางเปล่งประกาย ตอบว่า ” พอข้าถูกกักขังอยูใ่ ต้
อาราม ชือฉิงน้องสาวข้าก็ทาให้แม่น้ าลี่เหอปั่นป่ วน จนเกิดกระแส
น้ าหลาก ชาวบ้านบริ เวณแม่น้ าลี่เหอเมื่อไม่ได้รับความคุม้ ครองจาก
ข้า ในไม่ชา้ ก็ไม่ได้ให้ความเคารพนับถือข้าอีก ข้าจึงยิง่ อ่อนแอลงไป
เรื่ อยๆ “

” บุรุษผูน้ ้ นั ได้รับความรักนับถือจากชาวบ้าน ยิง่ ทีก็ยงิ่ มีชีวิตที่ดีข้ ึน


เรื่ อยๆ “
ชือหลียงิ่ พูดก็ยงิ่ โกรธแค้น พูดไปพูดไปนางก็ยงิ่ หัวเราะเหอะๆ
ออกมา ” พวกเขารักกันแล้วจะอย่างไร ก็ตอ้ งถูกข้าสาปแช่ง ไม่อาจ
อยูร่ ่ วมกัน หนึ่งคนหนึ่งงู ย่อมไม่มีทางลงเอยไปได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ฮ่า “

พอได้พดู ถึงเรื่ องนี้ชือหลีก็ยนิ ดีกว่าเดิม ” ฟ้าดินไม่ทอดทิง้ ข้า ตอนนี้


ก็ได้เจอเจ้าแล้ว ในเมื่อรู ปปั้นเทพธิดาถูกตั้งขึ้นใหม่ ข้าก็สามารถ
ออกไปจากใต้ดินที่เย็นยะเยือกนี้ได้แล้ว ถึงแม้วา่ จะเหลือเพียงเศษ
เสี้ ยวของดวงจิต ข้าก็จะไม่ปล่อยให้พวกมันได้อยูอ่ ย่างมีความสุข! “

” เจ้าพวกชัว่ ช้าที่ทรยศข้า ทาร้ายข้า ย่อมต้องไม่มีจุดจบที่ดีแม้แต่คน


เดียว! ” พูดถึงตรงนี้ ร่ างของนางก็เพิ่มพูนไอหยินที่เย็นยะเยือกขึ้นมา
” รวมไปถึงเจ้าพวกที่ขา้ เคยปกป้องเหล่านั้นด้วย! ตอนที่ขา้ ต้องการ
พวกมันที่สุด แต่ละคนต่างก็ทงิ้ ข้าไป ไม่มีแม้แต่จะหยุดแวะพียงชัว่
ครู่ เพื่อกราบไหว้ ต่างก็เป็ นเพียงพวกขี้ขลาดตาขาว ปกป้องมันไปมี
ประโยชน์อะไร! “

นางพูดพลางก็ดึงดูดวิญญาณคนตายดวงหนึ่งเข้ามา จากนั้นก็บีบเค้น
มันจนแตกละเอียดไปต่อหน้าต่อตาของตู๋กซู ิงหลัน ก่อนจะค่อยๆ ดูด
ซับดวงวิญญาณเข้าไปในร่ างอย่างช้าๆ วิธีการเช่นนี้ดแู ล้วน่าหวาด
ผวาอย่างยิง่ วิญญาณคนตายเหล่านั้นกรี ดร้อง แต่อย่างไรก็ไม่อาจ
หลบหนีไปได้

วิญญาณอื่นๆ ที่ได้แต่สั่นสะท้าน พวกมันคิดอยากจะหลบหนี แต่


กลับถูกพลังเทพของชือหลีกดครอบเอาไว้ จึงมิอาจหลบเลี่ยงไปได้
เลย ยามที่ยงั มีชีวิตอยูพ่ วกเขาก็คือชาวเมืองลี่โจว ทั้งยังเคยเชื่อถือ
เทพธิดาแห่งแม่น้ าลี่เหอ แต่พอแม่น้ าลี่เหอท่วมบ่อยครั้งเข้า พวกเขา
ก็ละทิง้ นางไป แม้แต่อารามก็ผพุ งั ลงมา

ชือหลีดูดกลืนดวงวิญญาณเข้าไปดวงหนึ่ง ดวงจิตของนางก็มนั่ คง
ขึ้นมาบ้าง ดวงเนตรสี ชาดนั้นจดจ้องมายังตู๋กซู ิ งหลันอีกครั้ง นาง
มองออกไปยังกองโครงกระดูกขาวโพลนที่อยูร่ าบรอบ ” พวกนี้ลว้ น
เป็ นบุรุษหนุ่มเยาว์วยั ในชุดขาว และไม่มีสักคน ที่จริ งใจ หลายปี ที่ขา้
ต้องทนอยูใ่ นใต้ดินแห่งนี้ ก็เพียงแค่อยากจะให้พวกเขา อยูเ่ ป็ นเพื่อน
ข้าเท่านั้น แต่ละคนต่างก็หวาดกลัวจนไม่กล้ามองข้าแม้สักแวบเดียว
ดังนั้นข้าจึงค่อยๆ ทรมานพวกเขาจนตาย “
ตู๋กซู ิ งหลันพูดไม่ออก หลายวันนี้มีเหล่าวิญญาณแค้นและวิญญาณคน
ตายถูกดูดกลืนหายไปมากมาย คิดดูแล้วก็คงจะเป็ นฝี มือของชือหลี
นัน่ เอง

เพียงแต่วา่ เพราะเรื่ องที่นางถูกทรยศหักหลังในปี นั้น ทาให้อุปนิสยั


เปลี่ยนแปลงไปจนหมดสิ้ น ดูดกลืนวิญญาณคนตายนั้นยังแล้วไป
เถอะ แต่วา่ นี่แม้แต่คนเป็ นก็ไม่ละเว้น

กองกระดูกขาวมากมายบนพื้น เกรงว่ายามมีชีวิตอยูค่ งมิใช่แค่ถกู


ทรมานจนตายแล้ว นางหันไปเหลือบมองพี่รองที่อยูท่ ่ามกลางกอง
ซากกระต่ายแวบหนึ่ง หากว่านางมาช้าไปอีกสักหน่อย เกรงว่าพี่รอง
ก็คงจะกลายเป็ นหนึ่งในโครงกระดูกขาวเหล่านี้แน่ๆ

เห็นนางมองดูต๋ กู เู จวีย๋ โดยมิได้พดู จา ชือหลีกห็ วั เราะเสี ยงเย็นออกมา


คาหนึ่ง ” พีช่ ายของเจ้าคนนี้ช่าง โดดเด่นเป็ นพิเศษนัก ไม่เพียงไม่
หวาดกลัวข้า ยังคอยสัง่ สอนข้าอยูท่ ุกๆ วัน คิดจะเกลี้ยกล่อมข้า
หลายปี มานี้ ผูท้ ี่สามารถอดทนมาได้หลายวันโดยไม่ตายเช่นนี้ ก็มี
แต่เขาเพียงคนเดียว “
ตู๋กซู ิ งหลันหรี่ ตาลงช้าๆ กล่าวว่า ” ข้าต้องการจะพาเขาไป “

ชือหลีได้ฟังแล้ว ดวงเนตรก็มีประกายเย็นชามากขึ้นกว่าเดิม ” พาเขา


ไปหรื อ? นังเด็กน้อย เจ้าพลาดไปแล้ว ตอนนี้ท้ งั เจ้าและเขาล้วนตก
อยูใ่ นกามือของข้า เจ้าจะพาเขาไปได้อย่างไร? “

” ข้าก็บอกแล้วไง บุญคุณที่ติดค้างเจ้านั้นถูกชดใช้ไปแล้ว ถึงตอนนี้


เจ้าก็เหมือนกับเขา ต่างก็เป็ นสัตว์เลี้ยงของข้า เจ้าเองยังเอาตัวไม่รอด
แล้วยังคิดจะช่วยเขาอีกหรื อ? “

ตู๋กซู ิ งหลัน เดินเข้าไปยังข้างกายพีร่ อง ยืน่ มือออกไปสัมผัสโซ่เหล็ก


ตรงเอวของเขา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาถามชือหลีประโยคหนึ่ง ” เจ้า
คิดจะทาอะไร? “

ชือหลีล่อลวงนางมาจนถึงที่นี่ ย่อมมิได้มีประสงค์ดีอยูแ่ ล้ว จุดนี้ต๋ กู ู


ซิ งหลันเองก็รู้ดี

ชือหลียมิ้ อย่างเย็นชา ยกมือขึ้นมาลูบไล้ปอยผมสี แดงเพลิงที่ขา้ งหู


ค่อยยืน่ นิ้วยาวๆ ชี้มายังตู๋กซู ิ งหลัน ” ข้าต้องการร่ างเนื้อของเจ้า “
หลายปี มานี้นางควานหาไปจนทัว่ คิดจะตามหา ร่ างสักร่ างหนึ่งที่
สามารถรองรับดวงจิตเทพของนางได้ แต่วา่ น่าเสี ยดาย จะอย่างไร ก็
ไม่เคยได้สมใจ

จนกระทัง่ บังเอิญได้เจอกับตู๋กซู ิงหลัน นางรู ้ดีวา่ ร่ างของ แม่นางน้อย


ผูน้ ้ ีไม่ธรรมดา ดวงจิตที่อยูใ่ นร่ างนี้ก็ยงิ่ แปลกประหลาด คล้ายกับว่า
มีก่ ึงเทพกึ่งมาร เคลื่อนไหวอยู่ นางสัมผัสได้เพียงเท่านี้

แต่เพียงเท่านี้ ก็สามารถยืนยันได้แล้วว่า ร่ างและดวงจิตของแม่นาง


น้อยผูน้ ้ ีไม่ได้เป็ นหนึ่งเดียวกัน ดูทา่ แล้วก็คงจะเป็ นการเข้าสิ งเช่นกัน

” ร่ างเนื้อนี้ เดิมทีก็ไม่ใช่ของเจ้า หากเจ้ามอบนางให้กบั ข้า ข้าก็จะแผ่


เมตตา ละเว้นชีวิตพี่ชายของเจ้าสักครั้ง ” นางพูดไป ก็เคลื่อนเข้าไป
หาตู๋กซู ิงหลัน

ตู๋กซู ิ งหลันหลบหลีก ชือหลีก็ซดั ส่ายอยูใ่ นอากาศ ยามนี้นางมีแต่


เพียงดวงจิตครึ่ งบน ใช้ดวงเนตรแดงชาดนั้นจดจ้องมายังตู๋กซู ิ งหลัน
” นังเด็กน้อย นอกจากต้องรับปากข้าแล้ว เจ้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด
อีก “
ตู๋กซู ิ งหลันมองดูนาง เห็นในดวงเนตรของชือหลีมีแต่ความละโมภ
อย่างไม่อาจปิ ดบัง

ที่แท้ที่นางต้องการก็คือร่ างเนื้อ จึงต้องยอมเสี ยเรี่ ยวแรงไปมากมาย


กว่าครึ่ งวัน ช่างน่าสงสารเทพธิดาแห่งสายน้ าผูน้ ้ ีอยูเ่ หมือนกัน

” ว่าแต่หากได้ร่างกายของข้าไปแล้ว เจ้าคิดจะทาสิ่ งใดกันละ? “

ความใจเย็นของตู๋กซู ิงหลันราวกับสุ นขั แก่ที่ชานิชานาญงาน


ภายนอกนางดูตกตะลึงพรึ งเพริ ด ” เจ้าเป็ นถึงดวงจิตของเทพ ข้า
ไม่ใช่คู่มือของเจ้าเลยสักนิด แต่วา่ หากข้าไม่มีร่างเนื้อ ก็เท่ากับว่าต้อง
ตายแล้ว อย่างน้อยๆ ข้าก็นบั ว่ามีบญ
ุ คุณกับเจ้ามาบ้าง เจ้าก็ควรจะให้
ข้าได้ตายอย่างเข้าใจอะไรชัดเจนมิใช่หรื อ? “
แซ่ 蚩 นี้ มีเสี ยงพ้องกับคาว่า 吃 ที่แปลว่า กิน ดังนั้นก็เหมาะสม
แล้วกับสองสาวพี่นอ้ งที่บริ โภคผูอ้ ื่นเป็ นอาหาร

ชือหลี (蚩梨) : 梨 อักษรตัวนี้แม้จะแปลว่าลูกแพร แต่วา่ คนจีน


ไม่นิยมนามาตั้งชื่อลูกหลาน เนื่องจากพ้องเสี ยงกับคาว่า 离 ที่
แปลว่าพรากจาก ดังนั้นตัวละครนี้จึงถูกกาหนดมาให้ตอ้ งมีรักที่ไม่
สมหวังตั้งแต่ชื่อเลย

ชือฉิง (蚩情) : 情 อักษรนี้หมายถึงความรัก ความผูกพัน ตัว


ละครน้องสาวจึงเป็ นผูท้ ี่ชะตาพัวพันอยูใ่ นความรักและความลุ่มหลง
นางทาทุกสิ่ งเพือ่ ความรักของนาง
ตอนที่ 196 ผู้คนใต้ หล้าทาสิ่งใดผิดหรื อ

ชือหลีมองดูสีหน้าที่หวาดกลัวของนาง ในใจก็เกิดความสบายใจ
ขึ้นมาบ้าง นางเป็ นถึงเทพ สมควรจะได้รับความเคารพยาเกรงจาก
ผูค้ นบนโลก แต่วา่ แม้นางน้อยผูน้ ้ ีกลับรักษาความสงบอยูต่ ลอดเวลา

ที่แท้ความสงบนิ่งเหล่านั้นก็เป็ นแค่การเสแสร้งเท่านั้น พอความตาย


ยา่ กรายมาถึงศีรษะ นางก็รู้จกั หวาดกลัวขึ้นมาแล้ว หัวใจของชือหลี
บังเกิดความปิ ติดงั เช่นผูท้ ี่กมุ ชัยชนะเอาไว้

ดวงเนตรของนางหรี่ ลง ตอบว่า ” ร่ างเนื้อของเจ้านี้พิเศษอย่างยิง่


หากว่าข้าได้ครองครองล่ะก็ ชายโฉดหญิงชัว่ คู่น้ นั จะต้องมิได้ตายดี
และข้าจะกวาดล้างผูค้ นทั้งใต้หล้าให้เป็ นเพื่อนร่ วมกลบฝัง ชดเชย
ความทรมานที่ขา้ ต้องทนรับมาในหลายปี นี้! “

ความเคียดแค้นของนางระเบิดออกมา ทัว่ ทั้งร่ างสัน่ สะท้านไปด้วย


ความกระเ**้้ยนกระหือ จนบนร่ างปรากฏไอสี ดาจางๆ ออกมา

นัน่ ดูคนุ ้ เคยมาก


วิญญาณทมิฬโวยวายใส่นางด้วยท่าทางประท้วง ” ทาไมพอจะขยับ
นิด ทาอะไรหน่อยก็เป็ นต้องกวาดล้างผูค้ นทั้งใต้หล้า ผูค้ นใต้หล้าทา
สิ่ งใดผิดกัน พวกเขา… พวกเขาก็แค่คนธรรมดาที่ชอบไปมุงเรื่ อง
ชาวบ้านเท่านั้นเอง ขอร้องท่านล่ะ ปล่อยผูค้ นใต้หล้าเหล่านี้ไปเสี ย
เถอะ “

นี่คงจะเป็ นเพราะว่าในโลกก่อนนั้น มันเคยชมดูต๋ กู ซู ิ งหลันร่ วม


แสดงในละครชุดจาพวกที่นางเอกเก่งกาจและโชคดีข้ นั เทพมาก
เกินไปเสี ยแล้ว โดยเฉพาะพวกตัวละครบุรุษทั้งตัวหลักและตัวรอง
ทั้งหลายที่อยูใ่ นเรื่ อง อะไรนิดอะไรหน่อยก็เป็ นต้องออกหน้ากา
หราบคนทั้งโลกให้กบั นางเอก

ผูค้ นใต้หล้าเอ๋ ย ผูค้ นเหล่านั้นนัง่ อยูใ่ นบ้านตนเองแท้ๆ แต่ทาไม


ความซวยถึงได้ตกลงมาจากบนฟ้าได้กนั

ตู๋กซู ิ งหลันที่กาลังเสแสร้งเป็ นหวาดกลัวได้อย่างแนบเนียน ถูกลีลา


โวยวายของวิญญาณทมิฬทาเอานางเห็นแล้วต้องคลื่นไส้แทบจะ
อาเจียนออกมา ขอทีเถอะ สถานการณ์กาลังจริ งจังขนาดนี้มนั ยังกล้า
มาทาเป็ นเล่นละครแย่งซี นกันอยูไ่ ด้อีก?
แต่เพราะว่าคาพูดของวิญญาณทมิฬนั้นทาเอานางขาจนแทบจะสาลัก
ออกมา ก็ในละครที่นางเคยได้ร่วมแสดงของโลกก่อน คาว่า ‘กวาด
ล้างผูค้ นทั้งใต้หล้า’ ถูกใช้กนั เสี ยจนเกร่ อมากเกินไปแล้ว

นางกัดริ มฝี ปากล่างเอาไว้ สองมือโอบกอดเอวของพีร่ องตัวเอง กลั้น


หัวเราะเสี ยจนเนื้อตัวสั่นสะท้าน

ชือหลีกลับคิดว่านางหวาดกลัวจนถึงขีดสุ ด ก็ยมิ้ เย็นพลางกล่าวว่า ”


ความอดทนของข้ามีอยูอ่ ย่างจากัด เจ้าตอบมาเร็วๆ เข้า “

ที่จริ งแล้วไม่วา่ ตู๋กซู ิงหลันจะตอบรับหรื อว่าปฎิเสธ ร่ างเนื้อนี้นางก็


ต้องการจะครอบครองเอาไว้อย่างแน่นอน นางรอคอยมานานหลาย
ปี แล้ว พึ่งจะได้เจอกับร่ างเนื้อที่สามารถจะรองรับดวงจิตเทพของ
นางได้ นางย่อมไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือไปอย่างแน่นอน

ใบหน้าของตู๋กซู ิ หลันซุกอยูข่ า้ งซอกคอของตู๋กเู จวี๋ย จึงรู ้สึกได้ถึง


ความเคลื่อนไหวบนเส้นชีพจรหลักของพี่รอง ลมหายใจของเขาก็
สงบอย่างสม่าเสมอ นอกจากความอ่อนเพลียแล้ว ที่เหลือก็ไม่น่าจะมี
อะไร
หากว่านางตกอยูใ่ นสถานการณ์ที่ตอ้ งคอยคุม้ ครองความปลอดภัย
ในชีวิตของพี่รอง แล้วต้องต่อสูอ้ ย่างเต็มกาลังกับชือหลีไปด้วยละก็
นางคงจะต้องสิ้ นเปลืองพละกาลังอย่างยิง่ เป็ นแน่

ภายใต้แสงเพลิงสี ทอง ดวงตาของตู๋กเู จวี๋ยกระพริ บขึ้นมาเล็กน้อย


ขนตายาวๆ ของเขาสั่นไหว บางทีอาจเป็ นเพราะว่าเขาสัมผัสได้ถึง
ความอบอุ่นจากร่ างของสาวน้อย หรื อว่ากลิ่นหอมของกุหลาบจางๆ
ที่อยูบ่ นร่ างนาง ในที่สุดเขาก็รู้สึกตัวแล้ว

พอพึ่งจะฟื้ นขึ้นมา ก็เห็นว่าน้องสาวของตนเองสวมชุดดาตลอดร่ าง


กอดร่ างของเขาเอาไว้อย่างไม่ยอมปล่อย

ดวงตาของตู๋กเู จวี๋ยงงงันอยูค่ รู่ หนึ่ง ” น้องเล็ก นี้เจ้าลงมาอยูก่ บั พีร่ อง


ในนรกแล้วหรื อ? “

ไม่ทนั รอให้ต๋ กู ซู ิ งหลันได้ตอบคา ก็ได้ยนิ เขาตะโกนออกมาอย่าง


จริ งจังว่า ” ไม่ได้เด็ดขาด! คุณหนูใหญ่ตระกูลตู๋กขู องข้าจะต้องมี
ชีวิตยืนยาวนับร้อยปี สุขสบายชัว่ ชีวิต! ไม่ตอ้ งกลัวนะ พี่รองจะไป
หาผูด้ ูแลนรกถกเหตุผลกับเขาเดี๋ยวนี้ “
พูดแล้ว เขาก็ขยับตัวในทันที พอพึ่งจะลุกขึ้นมาได้ ก็ถกู โซ่เหล็กหนา
เท่าข้อแขนรั้งเอาไว้ คนถูกดึงกลับไปทั้งร่ าง จนล้มลงไปนัง่ บนพื้นอีก
ครั้ง

ความเจ็บปวดที่ได้รับทาให้เขาตกตะลึงจนชะงักไป พอมองไปรอบ
ด้านก็เห็นว่ายังคงเป็ นกองกระดูกมนุษย์มากมายไม่เปลี่ยนแปลง ถึง
ค่อยได้สติข้ นึ มา

” อ้อ ยังอยูท่ ี่นี่อีกหรื อ ” เขาทอดถอนใจออกมาอย่างผิดหวัง จนผ่าน


ไปอีกพักใหญ่ถึงพึ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาคว้าหลังมือของตู๋กซู ิ งหลัน
ไปกัดคาหนึ่ง

ตู๋กซู ิ งหลันเจ็บปวดจนต้องร้องออกมา สี หน้าของตู๋กเู จวี๋ยถึงได้


เปลี่ยนไปในทันที ” นี่ไม่ใช่ความฝัน! น้องเล็ก เจ้ามาได้อย่างไรกัน?

ตู๋กซู ิ งหลันถูกเขากัดจนต้องสู ดปาก ดูท่าแล้วพี่รองคงจะถูกขังจน


สมองเสื่ อม ก็เขาไม่กดั ตนเอง แต่กลับหันมากัดนางคาหนึ่ง แถมยัง
กัดอย่างรุ นแรงจนทิง้ รอยฟันลึกไว้เช่นนี้
เขาพูดจบแล้ว ก็เห็นว่าชือหลีกาลังจ้องมาด้วยสี หน้าไม่สบอารมณ์

ตู๋กเู จวี๋ยพอเห็นนาง หัวคิว้ ก็ตอ้ งขมวดขึ้นมาในทันที ” แม่นาง


เทพธิดา ข้าคงต้องพูดกับเจ้าอีกสักรอบแล้ว จับตัวข้ามาก็ช่างเถอะ
แต่วา่ กระทัง่ น้องสาวของข้าก็ไม่คิดจะละเว้นเลยหรื อ? เจ้าเองก็มิใช่
เด็กๆ แล้วนะ! ท่านดูสิ นางหน้าตางดงามขนาดนี้ แค่ดูกร็ ู ้อยูแ่ ล้วว่ามี
พิษสง อย่าได้สัมผัสเชียวนะ! “

” นี่เป็ นกฎของธรรมชาติ เกิดมายิง่ งดงามก็ยงิ่ น่ากลัว เจ้าคงจะรู ้จกั


เห็ดพิษใช่ไหม ยิง่ น่าดึงดูดเพียงไรก็ยงิ่ มีพิษร้ายแรงเพียงนั้น
น้องสาวของข้าก็เช่นเดียวกัน หากว่าสัมผัสแตะต้องนางเข้าล่ะก็
ผลลัพธ์ไม่อาจคิดคานวนได้เลยจริ งๆ นะ ตัวข้าเพียงคนเดียวก็ทาให้
เจ้าเพลิดเพลินได้เกินพอแล้ว “

แค่ลมหายใจเดียวก็พดู ออกมาได้ยดื ยาวเสี ยขนาดนี้ ชือหลีอยากจะใช้


เข็มเย็บผ้าเย็บปากของเขาให้ติดกันจริ งๆ

ตู๋กเู จวี๋ยยังคิดจะพูดต่อไป แต่วา่ น่าเสี ยดายที่กระเพาะของเขาไม่รู้จกั


รักษาหน้าตาส่งเสี ยร้องโครกครากออกมา
” หากว่าเจ้ายินยอมหิ วตายล่ะก็ ข้าก็ไม่วา่ อะไร ” ชือหลีช้ ีไปทางซาก
กระต่ายที่อยูข่ า้ งกายเขา ” มีกระต่ายเหล่านี้ให้เจ้ากิน ก็ถือว่าข้ามี
เมตตามากแล้ว “

ตู๋กเู จวี๋ยมองดูกระต่ายมากมายที่ตายอยูต่ รงหน้า ในดวงตาก็ปรากฏ


ความเห็นอกเห็นใจราวกับพระโพธิสัตว์ออกมา

เขานัง่ สมาธิ กล่าวอามิตตาพุทธออกมาคาหนึ่ง ” กระต่ายน้อยที่น่า


สงสาร ข้ามิได้ฆ่าพวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับต้องมาตายเพราะข้า หวัง
ว่าพวกเจ้าเมื่อตายไปแล้วก็จงได้ไปอยูใ่ นสรวงสวรรค์อย่างมี
ความสุ ข จากนี้มิตอ้ งประสบกับความทุกข์และความตายใดๆ อีก
หากว่าข้าสามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ จะต้องฝังกลบพวกเจ้าอย่างดี
ไม่ให้พวกเจ้าถูกพวกหมาป่ าที่โหดร้ายจับไปกินเด็ดขาด “

ว่าแล้ว ก็ไม่ลืมจะตักเตือนชือหลีอีกสักประโยค ” แม่นางเทพธิดา


ทาไมจิตใจของท่านถึงได้โหดร้ายเช่นนี้ กระต่ายน้อยน่ารักจะตาย
ไยจึงต้องฆ่าพวกมันด้วย? “
ชือหลีแทบจะคลุม้ คลัง่ เกือบจะสกัดกั้นไอดาในร่ างกายของนาง
เอาไว้ไม่อยูเ่ สี ยแล้ว

แม้แต่ต๋ กู ซู ิ งหลันเองก็ยงั รู ้สึกว่าที่ริมหูมีแต่ยงุ ตอมส่งเสี ยงดังหึ่ งๆ ไป


หมด

เจ้าไก่ขนดาฟูก็เป็ นต้องใช้ปีกข้างหนึ่งอดหูเอาไว้ พี่ชายของพีส่ าวตัว


น้อยช่างจิ๊ๆ จ๊ะๆ มากความเกินไปแล้ว!

วิญญาณทมิฬหนวกหูเสี ยจนรู ้สึกอึดอัดไปทั้งร่ าง ไม่เป็ นตัวของ


ตัวเอง พี่ชายของไทเฮาน้อยเป็ นพวกพล่ามทั้งวันจริ งๆ ตัวเองยังเอา
ตัวไม่รอด มัวแต่ทาท่ากังวลพวกกระต่ายอยูไ่ ด้!

ผ่านไปอีกครึ่ งวัน ตู๋กเู จวี๋ยถึงพึ่งจะคิดได้วา่ ที่ขา้ งกายยังมีนอ้ งเล็กอยู่


อีกคน เขาจับมือนางเอาไว้อย่างอ่อนโยน กล่าวว่า ” น้องเล็ก อย่า
กลัวไปเลย พีร่ องจะปกป้องเจ้าเอง “

เหลือบมองดูเขาแวบหนึ่ง บอกตรงๆ นะเจ้าคะพี่รอง ข้ารู ้สึกว่า


โอกาสที่ขา้ จะต้องปกป้องท่านนั้นมีมากกว่า
ดูรูปร่ างที่ผา่ ยผอมเปราะบางนัน่ สิ ตัวบางปานจะขาดออกจากกันได้
อยูแ่ ล้ว เทียบกับพี่ใหญ่ที่กายามีพละกาลังล้นเหลือแล้วเป็ นคนละ
เรื่ องกันเลย แน่ใจหรื อว่าพวกเราสามคนเกิดจากพ่อคนเดียวกัน?

วิญญาณทมิฬ ” ข้าคิดว่าที่เขาอยูใ่ นอันดับสองนั้นก็สมเหตุสมผลดี


คาว่า ‘เอ้อ’ (ที่สอง แต่พอ้ งเสี ยงกับคาว่า ‘หิ ว’) นี้เหมาะสมกับเขา
อย่างที่สุดแล้ว “

ตู๋กเู จวี๋ย ปลอบน้องสาวแล้ว ก็หนั ไปหาชือหลีเริ่ มพล่ามต่อไป ” แม่


นางเทพธิดา พวกเรามาคุยกันหน่อย ท่านพูดเอาไว้ ว่าขอเพียงข้า
สามารถทนได้หนึ่งเดือน ท่านก็จะปล่อยข้าจากไป และตัวท่านเองก็
จะยอมกลับเนื้อกลับตัวใหม่ เป็ นเทพธิดาที่ดี ถึงตอนนี้ก็ผา่ มมาครึ่ ง
เดือนแล้ว เหลืออีกเพียงครึ่ งเดือน ข้าก็จะชนะแล้ว ท่านจะอย่างไรก็
เป็ นถึงเทพธิดาแห่งสายน้ า ไม่อาจพูดแล้วไม่รักษาคาพูดใช่ไหม? “

” หากว่าแม้แต่เทพเซียนก็ยงั โกหกหลอกลวง ในโลกนี้จะยังมีสิ่งใด


ที่เชื่อถือได้อีก? “
ตู๋กเู จวี๋ยยังคงพร่ าเพ้อต่อไปไม่เลิก ทาเอาชือหลีกรุ่ นโกรธจนต้อง
กลอกตาขาว สองขาที่เรี ยวยาวของนางแปรเปลี่ยนกลายเป็ นหางงูสี
เขียว ไม่พดู ไม่จาก็สะบัดหางนั้นเข้าใส่ในทันที

เจ้าตัวนี้พดู มากน่าราคาญเกินไปแล้ว ตลอดครึ่ งเดือนมานี้พอนางปิ ด


ตาลงเมื่อใด ในสมองล้วนมีแต่เสี ยงหลอกหลอนของเขาลอยมาเข้าหู
หากมิใช่วา่ นางเคยเป็ นเทพมาก่อน คงยากจะทนทานเสี ยงที่มีพลังกัด
กร่ อนทาลายประสาทของเขา
ตอนที่ 197 ยันต์ สีชาด

ตู๋กซู ิ งหลันรู ้สึกว่านางได้เห็นประสบการณ์ใหม่เพิ่มแล้ว ที่ผา่ นมา


นางเคยรู ้สึกว่าวิชาพูดไปเรื่ อยเปื่ อยของตนเองสู งส่ งไม่มีใครเทียบได้
วันนี้พอได้เจอพีร่ อง ถึงได้รู้วา่ อะไรเรี ยกว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า

เทียบกับพี่รองแล้วนางรู ้สึกว่าตนเองก็เป็ นแค่พวกมือสมัครเล่น


เท่านั้น

คราวนี้ พอหางงูสะบัดเข้ามาหา ยันต์สีเหลืองในมือตู๋กซู ิงหลันก็พงุ่


ออกไปแล้ว ยันต์สีเหลืองกับหางของชือหลีปะทะกัน เกิดเป็ นเสี ยง
กึกก้องกังวานไปทัว่ ประกายแสงอันสวยงามระเบิดออกมา แสงนี้
ทาให้วิญญาณคนตายที่รายล้อมอยูร่ ่ าร้องจนกระเจิดกระเจิง

กองกระดูกขาวบนพื้นสะเทือนไปมา หางของชือหลีถกู เผาจนเกิด


รอยไหม้ต้ืนๆ นางหน้าเปลี่ยนสี ไปในทันที นางดูไม่ผดิ ในร่ างเนื้อนี้
มีดวงจิตที่พิเศษอยูจ่ ริ งๆ
วิชายันต์สะกดเช่นนี้ ปกติใช้ได้กบั แค่พวกภูติผปี ี ศาจเท่านั้น นางไม่
รู ้วา่ แม่นางน้อยผูน้ ้ ีใช้ยนั ต์อะไรกันแน่ ถึงได้สามารถทาให้ร่างจิต
ของนางได้รับบาดเจ็บขึ้นมาได้

พี่รองที่อยูด่ า้ นข้างก็ตาโตขึ้นมา เขาไม่เคยนึกเคยฝันมาก่อนเลยว่า


น้องสาวที่ออ่ นแอและนุ่มนวลของตนเอง วันหนึ่งจะสามารถ
ปกป้องเขาจากอันตรายได้ นี้มนั เหมือนกับจะให้แม่หมูปีนต้นไม้ ให้
พระอาทิตย์ข้ ึนทางตะวันตกอย่างไรอย่างนั้น

เขาอดที่จะเกิดความสงสัยขึ้นมาไม่ได้ แม่นางน้อยที่อยูต่ รงหน้าที่


จริ งแล้วใช้นอ้ งสาวของตนเองหรื อไม่ ตั้งแต่เล็กจนโต มีครั้งไหน
บ้างที่ไม่ถูกนางผลักออกไปรับดาบแทน? แต่วา่ ตอนนี้ น้องเล็กกาลัง
ปกป้องเขาอยูจ่ ริ งๆ!

เรื่ องนี้ทาให้ต๋ กู เู จวีย๋ ทั้งตกตะลึงทั้งซาบซึ้ง ดูเถอะ เขาที่เป็ นถึง


คุณชายรองของตระกูลตู๋กู ทาเรื่ องอะไรลงไปแล้ว? อยูๆ่ ก็ตกต่า
จนถึงขั้นที่ตอ้ งให้นอ้ งเล็กออกมาปกป้องเขา!
ยามปกตินอ้ งเล็กหวาดกลัวงูที่สุด แต่วา่ ตอนนี้กลับกาลังสูก้ บั งูตวั
หนึ่งอยู!่ แต่เดี๋ยวก่อน! ดูเหมือนว่าที่ต่อสูก้ นั เมื่อครู่ น้ ีนอ้ งเล็กจะ
ไม่ได้ตกเป็ นฝ่ ายเสี ยเปรี ยบนี่?

ตู๋กเู จวี๋ยมองดูเงาหลังของตู๋กซู ิ งหลันที่บงั อยูด่ า้ นหน้าของตนเอง


เห็นผมหางม้าของนางปลิวไสวขึ้นไปบนอากาศ ในมือมียนั ต์สี
เหลืองรู ปร่ างหลากหลาย ก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่าน้องเล็กของ
ตนเองใช่ตกลงไปในทางใต้ดินด้วยความบังเอิญ แล้วก็ได้รับวิชาลับ
มาชุดหนึ่ง นับตั้งแต่น้ นั ก็เลยใช้วิชาอันล้ าเลิศเดินในเส้นทางปราบผี
ล่าปี ศาจใช่หรื อไม่?

หากว่าเรื่ องนี้เกิดขึ้นจริ ง นี่คงเป็ นชะตาลิขิตอันยิง่ ใหญ่ละก็ ถูกน้อง


เล็กช่วยเอาไว้ก็เป็ นเรื่ องธรรมดา

นางเป็ นคนที่เกิดมาพร้อมกับชัยชนะอยูแ่ ล้ว หากจะได้วชิ าลับมาก็


ไม่ใช่เรื่ องแปลกอะไร
ในสมองของตู๋กเู จวี๋ยเกิดความคิดความเป็ นไปได้อย่างหลากหลาย
หลังเพ้อเจ้อไปมาอยูห่ ลายวูบ ก็เห็นว่าน้องเล็กประมือกับชือหลีไป
อีกหลายกระบวน

ทั้งสองฝ่ ายมิได้ใช้พลังกันอย่างเต็มที คล้ายกับว่าแค่หยัง่ เชิงดูกนั


เท่านั้น

ตู๋กซู ิ งหลันไม่ได้ลงแรงแข็งขันเท่าไรนักเพราะหากลงมือหนัก
เกินไปก็จะกระตุน้ ความสนใจของผูค้ นด้านบนได้ นางเพียงแค่เขวี้
ยงยันต์ออกไปไม่กี่แผ่น ดูซิวา่ ดวงจิตของชือหลีน้ นั แข็งแกร่ งใน
ระดับใด

ถึงอย่างไรก็เคยเป็ นถึงเทพธิดาประจาสายน้ ามาก่อน ถึงแม้วา่ พลัง


ของนางไม่เหมือนเดิม แต่ก็ถือว่ามีความสามารถอย่างแท้จริ ง

หากว่าเป็ นตัวนางในโลกก่อน ต่อให้เป็ นชือหลีในยามที่แข็งแกร่ ง


ที่สุด นางก็ยงั สามารถต่อกรได้สกั รอบ

แต่วา่ ตอนนี้ท้งั สองฝ่ ายต่างก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในเมื่อเพียงแค่


แลกเปลี่ยนฝี มือกัน ตู๋กซู ิ งหลันก็ยงั มิได้เสี ยเปรี ยบอันใด
ตู๋กเู จวี๋ยกระชากโซ่บนร่ างไปมา สองตาจับจ้องอยูบ่ นเปลวเพลิงสี
ทองของเจ้าไก่ขนดาฟู จนเส้นเลือดดาบนสองแขนเบ่งพอง ” แม่นาง
เทพธิดา ท่านที่เป็ นถึงเทพองค์หนึ่ง กลับมารังแกแม่นางน้อยที่อายุ
เพียงสิ บกว่าปี เท่านี้ หากเล่าลือออกไปไม่เกรงว่าจะทาให้น่าอับอาย
ขายหน้าหรอกหรื อ? “

” ข้าตู๋กเู จวีย๋ ถึงจะเป็ นคนสารวมพูดน้อย แต่ขอเพียงแค่ขา้ สามารถมี


ชีวิตรอดออกไปได้ ข้าจะต้องทาให้คนทั้งแผ่นดินได้รู้วา่ ท่านที่เป็ น
เทพธิดาแห่งสายน้ า กลับใจแคบเสี ยยิง่ กว่ารู เข็ม ลงมาตบตีกบั สตรี
ตัวเล็กๆ ที่สาคัญคือประมือกันไปตั้งหลายรอบแล้วก็ยงั เอาชนะ
ไม่ได้ คนบนโลกนี้ได้ยนิ แล้วก็ช่างเถอะ แต่วา่ หากพวกเทพแห่งน้ า
เซี ยนทั้งหลายพวกนั้นได้รู้เข้าละก็ ไม่รู้วา่ อีกหน่อยยามท่านอยูใ่ น
แดนเซี ยน ยังจะมีหน้าไปพบผูค้ นอีกไหม? “

ชือหลี ตู๋กซู ิงหลัน วิญญาณทมิฬ ติง๊ ต๊อง แม้กระทั้งเหล่าวิญญาณคน


ตายที่หลบหนีอยูร่ อบๆ ต่างก็เกิดคาถามขึ้นมาในสมอง

สารวมพูดน้อย? ขอถามหน่อยคุณชายหมายถึงผูใ้ ดกัน?


แต่พวกเขากลับได้ยนิ ตู๋กเู จวีย๋ พร่ าบ่นต่อไป ” หากว่าข้าเป็ นท่านละก็
จะต้องไม่ทาให้นอ้ งเล็กยุง่ ยากแม้แต่นอ้ ย เรื่ องพรรค์น้ ีมีแค้นกับใคร
ก็ควรไปชาระกับคนนั้น ท่านมาวนเวียนอยูก่ บั น้องสาวข้าไม่ยอม
ปล่อยไปเพื่ออะไร ก็ไม่ใช่วา่ นางเคยไปรังแกท่านสักหน่อย แล้วนาง
ก็ไม่ใช่คนที่ทาลายควันธูปของท่านด้วย นี่ท่านเอาความแค้นมาลง
ผิดที่ไปหรื อเปล่า? “

ชือหลีถูกฝี ปากของเขาด่าจนนางปวดศีรษะขึ้นมา หากนางรู ้มาก่อน


ว่าไอ้หนุ่มผูน้ ้ ีจิกกัดได้ตลอดเวลา นางย่อมไม่มีทางพาเขามาไว้ที่นี่
ตั้งแต่แรก

หลายวันมานี้นอกจากดื่มน้ า กินผักกินหญ้าแล้ว เขาก็ไม่ได้กินสิ่ งอื่น


ใดอีกเลย ไม่รู้วา่ เขาไปเอาเรี่ ยวแรงมาจากที่ใดกัน ถึงได้ยงั สามารถ
จิ๊ๆ จ๊ะๆ ได้มากเช่นนี้

ทาเอานางพลอยหมดกาลังใจจะไปประมือกับตู๋กซู ิ งหลัน ถูกเขาบ่น


เสี ยจนสมาธิกระเจิดกระเจิง คิดแต่จะหาอะไรมาอุดปากเขาให้จงได้
ตู๋กซู ิ งหลันอาศัยช่วงเวลาที่นางเสี ยสมาธิ หายตัวไปในชัว่ พริ บตา
นางสะบัดเท้าเหินขึ้นไปกลางอากาศ เหาะขึ้นมาด้วย ท่วงท่าองอาจ
สง่างาม นางสวมชุดดาตลอดร่ าง ผมมัดหางม้าพลิ้วไสว โถมร่ างพุง่
เข้าไปหาชือหลี ทันใดนั้นในฝ่ ามือก็ปรากฏยันต์สีชาดขึ้นมาผืนหนึ่ง
ประทับลงไปบนหน้าผากของชือหลีในทันที

แม้วา่ ชือหลีเองจะมีปฎิกริ ยารวดเร็ว แต่วา่ ก็ไม่อาจหลบเลี่ยงยันต์สี


แดงของตู๋กซู ิ งหลันได้ ขณะที่ยนั ต์แผ่นนี้สัมผัสโดนหน้าผากของ
นาง ก็สลายกลายเป็ นแสงสี แดงแทรกซึ มเข้าไป ทาให้นางถูกตรึ งอยู่
กับที่ในทันที

ถึงตอนนี้ ตู๋กซู ิ งหลันถึงค่อยคลี่ยมิ้ บางๆ ให้กบั นาง “เทพธิดาชือหลี


ลาบากท่านต้องมาเล่นละครร่ วมกับข้าเสี ยแล้ว “

ชือหลีมองดูนางยิม้ แย้มด้วยความมัน่ ใจ ก็ตอ้ งตกตะลึงขึ้นมา พอคิด


ย้อนกลับไป แม้เมื่อครู่ เห็นนางทาท่าหวาดหวัน่ ขวัญผวา แต่ที่แท้ก็
เป็ นตัวเองที่ตกหลุมพลาง
ตั้งแต่ตน้ แล้ว สาวน้อยนางนี้มิได้เกรงกลัวนางเลย! ที่เห็นว่าหวาดกลัว
ที่แท้เป็ นเรื่ องที่นางเสแสร้งเท่านั้น นาง เป็ นผูใ้ ดกันแน่?

” กุ๊ก กุ๊ก กรู ้! ” พอเห็นว่าตู๋กซู ิ งหลันผนึกชือหลีเอาไว้ได้ เจ้าไก่ขน


ดาฟูก็กระพือปี กพรึ่ บพรั่บ มันคิดจะใช้เปลวเพลิงสี ทองฉลองชัย
ชนะให้กบั นาง

พี่สาวตัวน้อยเก่งที่สุด สมแล้วที่มนั ถูกชะตาด้วย!

” พอก่อน! ติ๊งต๊อง อย่าได้สิ้นเปลืองเพลิงสี ทองของเจ้าเลย ขอร้อง


เถอะ ต่อไปยังมีโอกาสให้ได้ใช้อีกมาก! ” ตู๋กซู ิงหลันทามือห้าม
สหายติ๊งต๊องไม่อาจคึกคักได้มากเกินไป หากว่าคึกขึ้นมาเกินควร
นางเกรงว่าที่นี่อาจจะระเบิดได้

นางยังต้องเก็บรักษาดวงจิตของชือหลีเอาไว้ ยังมีประโยชน์อยูอ่ ีก
มาก

พอเจ้าไก่ขนดาฟูได้ฟังแล้ว คอของมันก็คอ่ ยๆ ตกลง ปี กที่กระพือ


ขึ้นสูงก็ลดลงมาช้าๆ
ก็ได้ คราวหน้าพอพีส่ าวตัวน้อยอยากจะใช้งาน มันจะสาแดงสุดฝี มือ
ไปเลย

วิญญาณทมิฬเองก็อศั จรรย์ใจไปเหมือนกัน มันคิดไม่ถึงเลยว่าพลัง


ของตู๋กซู ิงหลันจะฟื้ นฟูข้ ีนมาได้มากถึงขั้นนี้ ยันต์ที่นางใช้มี
ระดับชั้นที่หลากหลาย ที่ปกติใช้เป็ นประจาก็คือยันต์พ้นื ๆ อย่างสี
เหลือง แต่วา่ ยันต์สีชาดนี้ มิได้ใช้ออกโดยง่าย โดยมากก็จะใช้กบั
พวกที่คอ่ นข้างหนักมือ หรื อประมาณพลังไม่ได้

มันนึกว่านางในตอนนี้ทาได้แค่เพียงใช้ยนั ต์สีเหลืองเท่านั้น คิดไม่ถึง


ว่า นางจะสามารถถึงขนาดควบคุมยันต์สีชาดได้แล้ว หรื อจะเป็ น
เพราะพลังของหยกสรรพชีวิตกัน

” น้องเล็ก พี่รองซาบซึ้ งยิง่ นัก ไม่ได้พบกันตั้งนาน เจ้าเติบโตจน


เปลี่ยนไปมากแล้ว ราวกับว่าเปลี่ยนเป็ นอีกคนหนึ่ง ความตื่นเต้น
และซาบซึ้งในใจของพี่รองไม่สามารถบรรยายออกมาด้วยคาพูดได้
จริ งๆ หากว่าจะให้อธิบายให้ได้จริ งๆ ละก็ นัน่ ก็คือ…..”
ตู๋กซู ิ งหลันไม่เปิ ดโอกาสให้เขาได้พร่ าเพ้อต่อไป นางพุง่ กลับไปที่
ข้างกายเขา ซัดฝ่ ามือใส่คนจนสลบไปในครั้งเดียว

จากประสบการณ์ในครั้งนี้ นางตัดสิ นใจแล้วว่าต่อไปตนเองจะต้อง


พยายามบ่นให้นอ้ ยลง มลพิษทางจิตใจเช่นนี้มนั ทรมานเกินไปแล้ว

ยันต์สีเหลืองและยันต์สีแดงต่างกันอย่างไร?

1. จุดประสงค์การใช้งานแตกต่างกัน

– ยันต์สีเหลืองนั้นใช้เพือ่ ขับไล่สิ่งชัว่ ร้ายและปกป้องคุม้ ครอง จึงใช้


สี เหลืองซึ้งเป็ นพื้นฐานของพลังหยาง (แสงอาทิตย์และแสงสว่าง)

– ยันต์สีแดงนั้นใช้เพือ่ อัญเชิญเทพและส่งเทพ
2. ช่วงเวลาการสร้างยันต์แตกต่างกัน

– ยันต์สีเหลืองต้องเขียนขึ้นในเวลากลางคืน หากเขียนในเวลา
กลางวันนัยว่าจะถูกแสงอาทิตย์ตามธรรมชาติสะกดข่ม ไม่แข็งแกร่ ง
เพียงพอ

– ยันต์สีแดง ต้องเริ่ มเขียนหลังไก่ขนั ครบสิ บครั้งและต้องเขียนให้


เสร็ จก่อนที่แสงแรกของดวงอาทิตย์จะขึ้นมาบนท้องฟ้า
ตอนที่ 198 จับตาดูอยู่ตลอดเวลา ดูสวิ า่ นางยังจะกล ้าไม่เชือฟั
่ งอีก
ไหม

อยู่ดๆี ตู๋กูซงิ หลันก็พลันนึ กสงสารอู๋เจินน้อยขึนมา

อู๋เจินน้อยถูกคนคิดถึงจนต้องจามออกมายกใหญ่ ในกระท่อมไม้
ไผ่ เขาลูบจมูกพลาง ในใจก็รู ้สึกหวาดผวาอยู่บา้ ง

เขาแค่เผลอไปนิ ดเดียว ก็ดน


ั ทําท่านเซียนไทเฮาหายไปเสียแลว้
สวรรค ์ทรงโปรดเถอะ ดูสายพระเนตรที่ฝ่ าบาททรงมองเขาสิ แทบ
จะแทงเขาให้ทะลุอยู่แลว้

สวรรค ์ได้โปรดเมตตาด้วยเถอะ ระดับของเขากับไทเฮาน้อยนั้น


ต่างกันสักหนึ่ งแสนแปดพันลีได้
้ เขาจะไปรังนางเอาไว
้ ไ้ ด้อย่างไร
กัน
่ เขาจะอธิ
แต่ว่าเรืองนี ้ บายให้ฝ่าบาทฟังได้อย่างไร

หากว่าพูดความจริงออกไป เกรงว่าคําพูดยังไม่ทน ั ได้ออกจากปาก


ก็คงโดนไทเฮาน้อยผูน้ ั้นขวา้ งยันต ์ออกมาสักใบสองใบ แค่นีก็


พอจะทําให้เขาต้องอําลาโลกทีสวยงามใบนี ้
ไปเสี
ยแลว้

ยังดีนะ ยังดี ทีฝ่่ าบาทยังทรงมีเรืองวุ


่ ่นวายเรืองอื
่ นอยู
่ ่อก
ี ถึงได้ไม่
่ บเขา
ทรงมาหาเรืองกั

สามวันหลังจากนั้น ก ้อนเมฆมืดครึมเหนื
้ ่
อท้องฟ้ าเมืองลีโจวก็ กระ
จัดกระจายออกไปบา้ ง ฮ่องเต้ทรงเสด็จไปยังอารามเทพธิดาแต่
เช ้าตรู ่
้ ฟ้ายังไม่ทน
ชาวบา้ นไม่นอ้ ยพากันมาเฝ้ ารอตังแต่ ั สาง ตลอดชีวต ิ
พวกเขายังไม่เคยได้เห็นฮ่องเต้มาก่อนสักครัง้ ย่อมต้องรู ้สึกสนอก
สนใจอย่างยิง่

่ิ
ขบวนเสด็จของฝ่ าบาทมิได้ยงใหญ่ พระองค ์ทรงฉลองพระองค ์
ี่
มังกรทอง ขา้ งพระวรกายมีองครักษ์ไม่กคน

หรานอ๋องทีมี่ รา่ งกายอ่อนแอก็ตามเสด็จอยู่ขา้ งๆ เขาสวมใส่ชด


ุ สี
้ าง ยิงเมื
ดําสนิ ททังร่ ่ อเปรี
่ ่ี พระวรกายสูงใหญ่
ยบเทียบกับฮ่องเต้ทมี

แลว้ เขาก็ดูเตียไปถนั ดตา

่ บป่ วยมานาน ดวงเนตรปูดโปน


ท่าทางของหรานอ๋องราวกับคนทีเจ็
แม้แต่ใต้ตาก็เป็ นสีดํา
พอชาวบา้ นเห็นดังนั้น ต่างก็พากันรู ้สึกปวดใจขึนมา้ ท่านอ๋อง
หรานเป็ นท่านอ๋องทีดี ่ มีความรับผิดชอบ ยามปกติก็มเี มตตารักษา
คุณธรรม ไม่เคยถือยศถืออย่างว่าตนเป็ นอ๋อง บางครังก็ ้ ออกไปให้
กําลังใจชาวบ ้านจนถึงทีบ ่ า้ น ในใจของพวกเขา หรานอ๋องก็คอ ื
พระโพธิสต ่ ชวี ต
ั ว ์ทีมี ่
ิ อยู่บนโลก ทีคอยช่ ี่
วยเหลือผูท้ ตกทุ กข ์ได้ยาก
โดยเฉพาะ


ก่อนหน้านี เขายังดูสดใสกว่านี บ ้ า้ ง ตอนนี กลั
้ บดูเหมือกําลังป่ วยไข ้
อยู่อย่างไรอย่างนั้น นี่ จะต้องเป็ นเพราะว่าครังก่้ อนเขาใช ้ร่างกาย
ตนเองขวางแม่นํ้าเอาไว ้ จนทําให้เกิดป่ วยไขข ้
้ ึนมา

่ เช่นนี ้ นับว่าสูงส่งหาได้ยากจริงๆ
ท่านอ๋องทีดี


พูดขึนมาแล ้ จริ
ว้ ก่อนหน้านี ที ่ งหรานอ๋องก็นับว่าเป็ นบุรุษทีงดงามผู
่ ้
หนึ่ ง ในบางครังเขาก็
้ จะสวมใส่ชด ้ าง หากมิใช่เป็ น
ุ สีขาวทังร่

เพราะว่าลีโจวตกอยู ่ในความยากลําบาก เขาก็คงจะไม่กลายสภาพ
เป็ นแบบนี ้
ี่ แลว้ สง่างามอะไรเช่นนี ้
ลองไปดูฝ่าบาทบา้ งสิ อ้าาาา ช่างเป็ นผูท้ ดู
งดงามประหนึ่ งเทพเซียนลงมาจากฟากฟ้ า ชุดมังกรทองนั้นคงจะ
แพงมากสินะ


ผูค้ นในลีโจวตั ้ าไหร่ทไม่
งเท่ ี่ มข
ี า้ วและหมั่นโถกินสักคํา ยิงไม่
่ ตอ้ ง

ไปพูดถึงเรืองสวมใส่ ้ าแลว้ นํ ้ามหาศาลที่ทะลักเขา้ มาครังนี
เสือผ้ ้ ้
้ าเอาไวใ้ ส่ ก็นับว่าดีมากแลว้
แค่พวกเขายังมีเสือผ้

้ ่มาเปรียบเทียบกันเช่นนี ้ ผูใ้ ดมีใจห่วงใยชาวบา้ น ผูใ้ ดที่


พอนํ าทังคู

แค่มาตังขบวนเดิ นให้ดูเท่านั้น เพียงแวบเดียวก็สามารถบอก
ออกมาได้แลว้

หลายวันมานี ้ ในเมืองลีโจวมี
่ ้ องเต้ทรง
ข่าวเล่าลือว่า ก่อนหน้านี ฮ่
ี่
ประทานเสบียงบรรเทาทุกข ์มาให้ แต่ว่ากลับถูกผูท้ มาบรรเทาทุ กข
๋ กตุนเอาไว ้
ภิกภัยอย่างตู๋กูเจวียกั
๋ น้ ั้นไม่เพียงกักตุนเงินบรรเทาทุกข ์ เขายังเป็ นสาเหตุให้
ตู๋กูเจวียผู

เขือนแตก ่ มว้ นหางหนี หายไป กระทั่งเงินบรรเทา
พอเกิดเรืองก็
ทุกข ์ก็ถูกเขาหอบเอาไปด้วย


ว่ากันตามจริงแลว้ หากว่าเบืองหลั ี ่องเต้หนุ นอยู่ละก็ ตู๋กูเจวี๋
งไม่มฮ
ยจะกลา้ บังอาจเพียงนั้นได้อย่างไร

ฮ่องเต้พระองค ์นี ้ เพียงแต่ใช ้รูปลักษณ์ภายนอกมาหลอกลวงผูค้ น


เท่านั้น

เกรงว่าล่วงเลยมาจนถึงป่ านนี ตู ้ ๋กูเจวียก็


๋ คงจะหอบเอาเงินบรรเทา
ทุกข ์กลับไปถึงเมืองหลวงแลว้ ละมัง้ และก็ทงความยากลํ
ิ้ าบากยุ่ง

เหยิงทังหลายเอาไว ใ้ ห้หรานอ๋องดูแลต่อไป ทีฮ่ ่ องเต้เสด็จมายังลี่

โจว ก็เพียงเพือนเอาหน้ าเท่านั้น
ก็แค่มาจัดพิธบ ่
ี ูชาขอพรทีอารามสั กรอบหนึ่ ง เขาคิดว่าผูค้ น

ทังหลายเป็ นไอ้โง่กน
ั หมดหรืออย่างไร

เทพธิดาประจําสายนํ ้าองค ์นั้นหมดความศักดิสิ์ ทธิไปเป็์ นสิบปี แลว้


ขนาดพวกเขายังไม่มใี ครไปจุดธูปให้เลย เขามาขอพรทีอารามที ่ ่
ไร ้ความศักดิสิ์ ทธิแล
์ ว้ เช่นนี ้ มันจะมีประโยชน์อะไร

่ นทางมาจีหรานทรงคอยสังเกตดูปฏิกริยาของผูค้ น
ตลอดทางทีเดิ
่ นว่าได้ผลตอบรับเช่นนี ้ ในใจของเขาก็รู ้สึกพึง
อยู่ตลอด เมือเห็
พอใจอย่างยิง่

เช ้าวันนี ้ เดิมทีฮ่องเต้ทรงสวมฉลองพระองค ์สีดํามาสวดขอพร แต่


ว่ากลับถูกเขาทูลทัดทานไว ้
ี อพรนั้นต้องแสดงออกถึงความรู ้สึก
เขาบอกกับฮ่องเต้วา่ ในพิธข
่ ด ถึงจะสามารถสร ้างความประทับใจ
ให้เห็นถึงความจริงใจอย่างทีสุ
้ เทพธิดากลับมาปกป้ องลีโจวอี
อันซาบซึงให้ ่ กครัง้

ดังนั้น จําเป็ นจะต้องสวมใส่ชด ่


ุ มังกร เพือจะได้
แสดงออกถึงการให้
ความเคารพ


ฝ่ าบาททรงรับฟังแลว้ ก็เห็นว่ามีเหตุผล จึงเปลียนเป็ นชุดมังกร
แทน

ดูเอาสิ เจ ้าโง่นี่ กลับเป็ นคนหูเบาถึงเพียงนี ้ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร


พระองค ์ก็ทรงทําตามนั้นไปหมด

้ บสวมใส่ชด
ในสถานการณ์เช่นนี กลั ่ หรางดงาม มิใช่ว่า
ุ มังกรทีหรู

เท่ากับลากเอาความเกลียดชงั ของชาวบา้ นทังหลายมาเทรวมกั น
หรอกหรือ
ดูเอาสิ ถึงแม้ว่าพระองค ์จะมีรูปโฉมงดงาม แต่พอปรากฏพระองค ์
ออกมากลับทําให้เหล่าชาวบา้ นเกิดความรู ้สึกยํ่าแย่ดว้ ยกันทังนั
้ ้น


เมือประกอบกั ่
บข่าวลือทีเขาจงใจปล่ อยออกไป ไม่ตอ้ งเดาก็รู ้แน่ ว่า

ประชาชนทังหลายกํ าลังก่นด่าพระองค ์อยู่

ไม่ตอ้ งรีบร ้อน พอพิธข ่ น้ ยังจะมีเรืองให้


ี อพรเริมขึ ่ พระองค ์ได้โดน
้ มอีกเยอะ
ซําเติ

่ งแลว้ ช่วงนี จี
ทีจริ ้ หรานทรงครุน ่ คิดถึงปัญหาหนึ่ งมาโดยตลอด อี ้
ู ้ ั้นจะต้องเป็ นคนโง่เง่าถึงขนาดไหน จึงได้พ่ายแพใ้ ห้กบ
อ๋องจีเย่ผน ั
คนอย่างจีเฉวียนได้กน ั
พลังอํานาจของราชวงศ ์จีนั้นตกตํ่าจนถึงขนาดนี เชี ้ ยวหรือ? ฮ่องเต้
ขาดคุณสมบัตถ ิ งึ เพียงนี ้ หากว่าแผ่นดินต้าโจวไม่ได้ถูกเขารับ
เอาไว ้ เกรงว่าอีกไม่นานก็คงต้องเปลียนแซ่่ ของผูป้ กครองกันแลว้

ฮ่องเต้ยงั ทรงมีสพ ่ ้อารมณ์ใดๆ ดังเช่นเคย นับตังแต่


ี ระพักตร ์ทีไร ้ ท ี่
พระองค ์ย่างพระบาทออกมาจากตําหนักของหรานอ๋อง ก็มไิ ด้
กวาดพระเนตรมองดูประชาชนสักแวบหนึ่ ง พระวรกายของโอรส

สวรรค ์ตังตรงงามสง่ าดุจดั่งต้นสน ยามเสด็จผ่านก็ดูสูงส่งอย่างไร ้ที่
เปรียบ

แต่ว่าในสายตาของจีหรานแลว้ ก็ไม่ถอ ้ น้
ื ว่ามีค่าใดๆ ทังสิ
ตลอดเวลาทีผ่่ านมา เขาเองก็คุน้ เคยกับท่าทางดั่งเสือกระดาษของ
จีเฉวียนไปเสียแลว้

อารามเทพธิดาผุพงั มานาน เนื่ องเพราะการเสด็จมาของฮ่องเต้จงึ


ได้รบั การบูรณะ ต้นฮว๋ายกลางลานเ**◌่ยวเฉามานานหลายปี แลว้
ถึงแม้จะเป็ นฤดูใบไม้ผลิแต่ก็ไม่เคยมียอดใหม่แทงออกมาเลยสัก
นิ ด
จีเฉวียนเสด็จเขา้ ไปในอาราม ประทับยืนอยู่กลางลานใต้ตน้ ฮว๋าย
ต้นนั้น ทอดพระเนตรอยู่ครูห
่ นึ่ ง


ลําต้นทังใหญ่ และหนามาก ดูท่าอย่างน้อยๆ คงมีอายุนับร ้อยปี แลว้

จีหรานเห็นพระองค ์ทอดพระเนตรมองอยู่ครูใ่ หญ่ ก็เกรงว่าจะเลย


้ อสิ
่ บปี ก่อนก็เ**◌่ยว
เวลาขอพร จึงทูลว่า ” ฝ่ าบาท ต้นไม้ตน้ นี เมื
เฉาไปแลว้ ไม่มอ
ี น
ั ใดน่ ามองหรอกพะยะค่ะ “


เขาไม่ได้เขา้ มาในอารามนี มานานแล ่ ได้เห็นต้นฮว๋ายต้นนี ้
ว้ ยิงไม่
มานานเช่นกัน

ต้นฮว๋าย เรียกผีได้
ตอนนั้นต้นฮว๋ายต้นนี เติ
้ บโตอย่างยิงใหญ่
่ และงดงาม ยามที่
ดอกฮว๋ายผลิบานนั้น ก็จะกลายเป็ นช่อดอกสีขาวบานสะพรังไปทั
่ ง้
ต้น ดอกฮว๋ายพร่างพราวเต็มไปหมด


ทุกๆ ปี ยามทีดอกไม้ ้ บาน กลินหอมขจรไปไกลหลายลี
นีผลิ ่ ้ ดึงดูด
เหล่าภูตผิ เี ขา้ มาไม่นอ้ ย ชือหลีมก
ั จะหัวเราะพลางกล่าวว่า รอให้
เขาตายแลว้ ก็ให้ฝังร่างของเขาเอาไวใ้ ต้ตน้ ฮว๋ายนี ้ เช่นนี ดวง

วิญญาณของเขาก็จะได้วนเวียนอยู่ในอารามเทพธิดา อยู่เป็ น

เพือนนางได้ ตลอดไป


พอคิดถึงเรืองเก่ ้
าๆ ขึนมา ในใจของจีหรานก็รู ้สึกอึดอัดคับขอ้ ง

่ี
ยังดีทพอจิ ้ เ**
ตวิญญาณของชือหลีแตกสลายไปแลว้ ต้นฮว๋ายนี ก็
◌่ยวเฉาตามไปด้วย
จีเฉวียนทรงประทับอยู่ใต้ตน้ ฮว๋าย ในพระทัยก็คดิ ไปถึงตู๋กูซงิ หลัน
่ รู ้จักความสงบเสงียมผู
สาวน้อยทีไม่ ่ ้ ั้น ชอบออกไปวิงวุ
น ่ ่นวายอยู่
เสมอ


บนร่างของนางมีกลินดอกฮว๋ ายอยู่ตลอดเวลา คิดดูแลว้ คงจะต้อง
ชอบต้นฮว๋ายเป็ นแน่ ไวห้ ลังจากกลับวังไปแลว้ เขาจะสร ้างตําหนัก
ึ้
ใหม่ขนมาอีกหลังหนึ่ ง ด้านในปลูกต้นฮว๋าย จากนั้นก็ขงั นางเอาไว ้
่ งอีก
คอยจับตาดูนางอยู่ตลอดเวลา ดูสวิ ่านางยังจะกลา้ ไม่เชือฟั
ไหม

่ี
พอคิดถึงตู๋กูซงิ หลันแลว้ พระขนงของฮ่องเต้ก็อดไม่ได้ทจะ

เปลียนเป็ ้
นอ่อนโยนขึนมา

่ นพระองค ์พระอารมณ์ของพระองค ์ จีหรานก็ทูลขึนมาว่


เมือเห็ ้ า”
้ ลก
ฝ่ าบาท ต้นฮว๋ายนี มี ั ษณะชวร่ ั ้าย ถึงแม้จะเ**◌่ยวเฉามานานปี
แต่ก็ยงั คงมีความน่ ากลัวอยู่ พระองค ์อย่าได้ทอดพระเนตรนาน
จนเกินไปจะดีกว่าพะยะค่ะ “
ผ่านไปอีกครูใ่ หญ่ จีเฉวียนถึงได้เก็บสายพระเนตรกลับมา พระ

พักตร ์ทีงดงามก็ กลับไปเย็นชาดุจดังนํ ้าแข็งอีกครัง้

ทรงหันไปทอดพระเนตรดูภายในอารามอีกรอบ ก็เห็นว่าบริเวณที่
้ ด้
แตกหักผุพงั ทังสี ่ านมีแต่ใยแมงมุม รูปปั้นเทพธิดายืนอยู่เพียง
ลําพังบนแท่นด้านใน ดวงหน้าเปี่ ยมเมตตาแฝงรอยยิมที ้ ขมขื
่ ่

——
槐花 ดอกฮว๋าย Sophora japonica : ไม้ยน ื ต้นขนาดใหญ่
ี่ สรรคุณทางยา นํ ามาผัดกิน สรรพคุณลดความดันเลือด
ดอกไม้ทมี
้ น
ออกดอกเป็ นช่อสีขาวทังต้


(สําหรับกลินหอมประจํ าตัวของอาหลันนั้นก็คอื ดอกฮว๋าย (槐)
ไม่ใช่ดอกกุหลาบ (瑰) ต้องของอภัยทุกท่านด้วยสําหรับความ
ผิดพลาดในการแปลทีผ่่ านมา เนื่ องจากตัวอักษรทังสองมี
้ ความ
คลา้ ยกันมากค่ะ)

槐树 ‘ ต้นฮว๋าย เรียกผีได้ ‘ : ทีจี ่ หรานคิดเช่นนี ้ เพราะในบาง



ความเชือของคนจี ี่ ดทีว่่ ากันว่ามีความผูกพันและ
น มีตน้ ไม้สชนิ
สามารถดึงดูดจิตวิญญาณเหนื อธรรมชาติและภูตผี นั่นก็คอ ื 桑
(ต้นหม่อน) ,槐 (ต้นฮว๋าย) ,杨 (ยาง) ,柳 (ต้นหลิว, วิล
โลล ์) (ผูแ้ ปลคิดว่านี่ เหมือนกับทีบ ่ า้ นเราเชือเรื
่ อง ่ ต้นโพธิ ์ , ต้นไทร
, กลา้ ยตานี และต้นตะเคียนทอง)

ในส่วนของต้นฮว๋ายนั้นก็เป็ นเพราะคําว่า 槐 นี ้ ประกอบขึนมาจาก



ื 木 (มู่, ไม้) และ 鬼 (กุ่ย,ผี) นั้นเอง ประกอบ
ตัวอักษรสองตัว ก็คอ
กับความเขียวขจีของต้นไม้ชนิ ดนี ทํ้ าให้สะสมธาตุหยินเอาไวม้ าก
จึงดึงดูให้มวี ญ
ิ ญาณเขา้ มาสิงสถิต

แต่ว่าหากไปดูในตําราฮวงจุ ้ยนั้น จะบอกว่าต้นฮว๋ายนี ้ ไม่ได้เรียกผี


แต่เป็ นการสะกดข่มผีและขับไล่สงชิ่ วร
่ ั ้ายต่างหาก ทังยั
้ งช่วยเรียก
ทรัพย ์ด้วย
ตอนที่ 199 นี่ มันทําบา้ อันใดกัน?

โต๊ะบูชาตรงเบืองหน้ าเทพธิดาเลอะเทอะไปด้วยฝุ่ น กระถางธูปอัน

เล็กๆ ทีวางเอาไว ่ าให้เห็นถึงความ
ห้ ลายอันก็มแี ต่สนิ มเขรอะ ยิงทํ
ชํารุดทรุดโทรม

จีหรานสั่งให้คนไปเปิ ดประตูและหน้าต่างในอารามออกให้หมด จะ

ได้ให้ชาวบา้ นทังหลายที ่
รายล อ้ มอยู่ทุกทิศได้เห็นอย่างชดั เจน

้ องถือว่าอากาศดีขนมากจริ
วันนี ต้ ึ้ งๆ สายลมพัดโชยเบาๆ บน
ท้องฟ้ าก็สามารถมองเห็นสีฟ้าได้อย่างชดั เจน มีก ้อนเมฆลอยอยู่
เพียงสองก ้อนเท่านั้น แสงอาทิตย ์ทีมิ
่ ได้เห็นมานานสาดส่องลงมา

พอสัมผัสกับร่างกายก็ทําให้รู ้สึกอบอุ่นสบายขึนกว่ าเดิม

้ าหรับเมืองลีโจวแล
สภาพอากาศเช่นนี สํ ่ ว้ นับว่าหากได้ยากอย่าง
ยิง่
เหล่าประชาชนต่างก็รายลอ้ มอยู่รอบๆ อาราม พวกเข่าคุกเข่าลง
บนพืน้ ในใจก็ปรากฏความหวังขึนมาใยหนึ
้ ่ ง หากว่าโอรสสวรรค ์
สามารถโน้มนํ าเทพธิดาแห่งสายนํ ้าให้กลับมาพิทก ่
ั ษ์เมืองลีโจวอี

้ ละก็ นั้นก็ถอ
ครังได้ ่
ื ว่าเป็ นกุศลอันยิงใหญ่ อย่างแท้จริง

พวกเขาต่างก็จดจ ้องมองดูโดยมิกลา้ กระพริบตา ด้วยเกรงว่าจะ



พลาดสิงใดไป

ท่ามกลางฝูงชน มีเงาคนชุดดําสองคนแอบอยู่ในมุมหนึ่ ง

่ ผา้ คลุมผมในมือถือแสเ้ หล็กเอาไว ้ ตลอดร่างมีกลิน


บุรุษชุดดําทีมี ่
อายของความตามกําจายออกมา ” อันกูกู อีกเพียงไม่นาน ก็ตอ้ ง
ขอดูฝีมอื ของท่านสักหน่ อยแลว้ “
อันหร่วนเองก็สวมชุดสีดํา ยืนอยู่ขา้ งกายบุรุษผูน้ ั้น ในมือของนาง
มีตก ่ าจากไม้ตวั เล็กๆ บนตุก
ุ ๊ ตาคนทีทํ ๊ ตาไม้มย
ี น ่ ้โลหิตเขียน
ั ต ์ทีใช

ขึนมาอยู ่แผ่นหนึ่ ง

๊ ตาไม้ แกะเป็ นวันเวลาตกฝากของคนผูห้ นึ่ ง


บนอกของตุก

นางกําตุก ่ี า ”
๊ ตาเอาไวแ้ น่ น พยักหน้า ค่อยกล่าวออกมาไม่กคํ
วางใจเถอะ “

……………………………………..
ขณะเดียวกัน ฮ่องเต้ประทับยืนอยู่ต่อหน้ารูปปั้นเทพธิดา สั่งให้
ี่ ่ขา้ งพระองค ์ทําความสะอาดโต๊ะบูชาจนหมดจด
องครักษ์ทอยู
เรียบร ้อย จากนั้นก็นําผลไม้สดขึนมาถวาย

่ิ งดูด
พอผลไม้สดสีแดงสดใสถูกนํ ามาวางไวบ้ นโต๊ะบูชา ก็ยงดึ
สายตามากเป็ นพิเศษ

จีหรานยืนธู่ ปถวายด้วยความเคารพนบนอบ กราบทูลเบาๆ ว่า ”


ฝ่ าบาท เทพธิดาแห่งสายนํ ้าผูน้ ี อารั
้ กขาแม่นํ้าลีเหอมานานนั
่ บพัน

ปี วันนี พระองค ์เสด็จมาขอพรด้วยพระองค ์เอง ย่อมต้องสามารถทํา

ให้นางซาบซึงใจได้ แน่ พะยะค่ะ “

พอธูปสีเขียวถูกจุด ควันสีเขียวจางๆ ก็ลอ ้


่ งลองขึนมา ทั่วทังพระ

้ั
วรกายของจีเฉวียนราวกับว่ามีควันบางๆ ลอ้ มอยู่ชนหนึ ่ ง ทรง

ประคองธูปเอาไวใ้ นพระหัตถ ์ ตังพระทั
ยสวดมนต ์ขอพรต่อ
เทพธิดา
หลังจากนั้นก็ปักธูปลงไปในกระถางธูปแต่ละกระถาง


จีหรานคอยเฝ้ าอยู่ดา้ นขา้ ง ในหัวใจของเขากําลังยิมอย่ างเย็นชา
ดวงจิตของชือหลีดบ ้
ั สูญไปนานหลายปี แลว้ ต่อให้ตอนนี นางจะ
ได้รบั ควันจากธูปบูชาก็ไม่มท ี างจะกลับมามีชวี ต
ิ ได้อกี

ี่
ดูท่าทางของฮ่องเต้ททรงตั ้
งอกตั ้ ยขนาดนั้น ราวกับว่าใน
งใจเสี
พระทัยพระองค ์ใส่ใจราษฏรจริงๆ

ี่ พระปรีชาความสามารถจริง ย่อมไม่ฝากความหวัง
แต่ว่าฮ่องเต้ทมี
เอาไวก้ บ
ั เทพยดาอย่างแน่ นอน

จากนั้นฮ่องเต้ก็ทรงทําพิธส ้ ่ง
ี วดมนต ์ขอพรอย่างยืดยาวอีกครังหนึ

ประชาชนทังหลายต่ ้ เริมพิ
างก็จดจ ้องมองดูพระองค ์ นับตังแต่ ่ ธี
้ ได้เห็ นพระองค ์คุกเข่าลงเลยสักครัง้ ทังๆ
จนถึงตอนนี ไม่ ้ ทีเป็
่ นพิธ ี
ขอพรแท้ๆ แต่กลับเอาแต่ถอ ื ยศว่าเป็ นฮ่องเต้ไม่ละวาง หากไม่
คุกเข่าลงไปแลว้ จะสามารถทําให้เทพธิดาหวั่นไหวใจได้อย่างไร
กัน?


ขณะทีพวกเขากํ ่ ้ ท้องฟ้ าทีเดิ
าลังคิดถึงเรืองนี ่ มแจ่มใสอยู่ๆ ก็

เปลียนแปลงไป ้
ไม่รู ้ว่ามีลมพัดแรงขึนมาตั ้ เมือไหร่
งแต่ ่ ท้องฟ้ าสีฟ้า
ถูกปิ ดบังไปอย่างรวดเร็ว

้ ปร ้าง! ” เพียงครูเ่ ดียว ก็เริมได้


” เปรียง! ่ ยน ิ เสียงฟ้ าผ่า ท้องฟ้ ามีแต่

ความมืดครึมไปหมด สายลมก็พด ั โหมกระหนํ่ า

พายุใหญ่บอกมาก็มา ทําท่าจะตกกระหนํ่ าให้ชม


ุ่ โชก

ชาวบา้ นต่างตระหนกตกใจกับขึนมา ่
แยกย้ายกันหาทีหลบฝน
อย่างรวดเร็ว


ฮ่องเต้องค ์นี ขอพงขอพรอะไรกั
น?


ทําไมถึงไปเรียกพายุฝนมาเสียได้! เขือนในแม่ นํ้าลีเหอพึ
่ ่
งจะแตก
ไป ทั่วทังเมื
้ องลีโจวจมอยู
่ ่ใต้นํ้าไปแลว้ เมือเห็
่ นว่าพายุฝนใหญ่
กําลังมาในใจของผูค้ นต่างก็หวาดผวา เกรงว่าปริมาณนํ ้าในแม่นํ้า

ลีเหอจะเพิ ่ นขึนอี
มพู ้ ก จนทําให้เมืองลีโจวต้
่ องจมบาดาลอีกรอบ

นี่ จะต้องเป็ นเพราะว่าในพระทัยฮ่องเต้ไม่มีศรัทธา ทําให้เทพ



ทังหลายพิ โรธ ถึงได้ส่งพายุฝนใหญ่ลงมา!

จีหรานมองดูสถานการณ์ภายนอก ในใจก็ตืนตะลึ ่ ้
งขึนมาบ า้ ง คน
ชุดดําผูน้ ้นช่
ั างมีความสามารถจริงๆ ถึงกับเรียกฟ้ าเรียกฝนได้
เช่นนี ้ แต่กลับทํางานรับใช ้ผูอ้ น
ื่ ไม่รู ้ว่าเจ ้านายทีเขาเรี
่ ยกหาอยู่น้น

จริงๆ แลว้ จะเก่งกาจมากถึงเพียงไหนกัน

พอฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นเหตุการณ์โดยรอบ ก็ทรงตกตะลึงไป สี

พระพักตร ์เต็มไปด้วยความสับสน ความไม่เขา้ ใจว่าทรงทําสิงใด
ผิด

่ านนอกฝนตกลงมาใหญ่แลว้ หรือจะเป็ นเพราะว่า


” ฝ่ าบาท ทีด้
เทพธิดาเขา้ ใจความหมายของพระองค ์ผิดไป? ฝ่ าบาทมิได้เสด็จ

มาเพือขอฝนสั กหน่ อย “

จีหรานยืนอยู่ขา้ งพระองค ์ ทําท่าอย่างไม่อยากจะเชือ่


” เราทําสิงใดผิ ่ี ม ตรัสเบาๆ กับ
ดไปหรือ? ” จีเฉวียนประทับอยู่ทเดิ
พระองค ์เอง
” ฝ่ าบาทจะทรงทําผิดได้อย่างไร? ” จีหรานส่ายศีรษะ ” อากาศใน

ลีโจวเปลี ่
ยนแปลงอยู ่ าลังจะ
่เสมอ บางทีอาจจะเป็ นความบังเอิญทีกํ
เกิดพายุฝนเท่านั้น ฝ่ าบาทอย่าได้ทรงกังวลพระทัยไปเลยพะยะค่ะ

แม้ปากจะกล่าวเช่นนั้น แต่จห ี รานกลับเดินลึกเขา้ ไปขา้ งในอาราม


มือขา้ งหนึ่ งก็กุมขอ้ มือเอาไว ้ ตระเตรียมจะเรียกงู ออกมา

ฮ่องเต้เสด็จมาขอพร ไม่เพียงเรียกพายุฝนใหญ่มา แต่ยงั เป็ นเหตุ


ให้แม่นํ้าลีเหอหลากล
่ น้ อีกรอบ ความผิดรุนแรงเช่นนี ้ เพียงพอจะ
ให้คนรุน ่ หลังก่นด่าไปอีกร ้อยปี แลว้

” เป็ นเช่นนั้นหรือ ” จีเฉวียนหรีพระเนตรลง


่ สายพระเนตรปรากฏ
ความผิดหวังอยู่บา้ ง

พระองค ์มองออกไปยังพายุฝนด้านนอก พายุฝนนี ตกอย่ างแปลก

ประหลาดนัก เมือครู ่ กลงมาอย่างกระจายไปทั่ว แต่ว่าตอนนี กลั
ต ้ บ
ตกลงแต่ในใจกลางของอาราม ทีอื ่ นล
่ ว้ นหยุดหมดแลว้

ราวกับว่าด้านบนของอารามมีรูระบาย ให้เทนํ ้าลงมาอย่างไรอย่าง


นั้น

อารามเทพธิดาเดิมทีก็เก่าผุพงั อยู่แลว้ พอโดนเขา้ ไปเช่นนี ้ ก็


ทําท่าว่าจะทลายลง

แต่ว่ายังไม่ทน ั จะทลายลงมาจริงๆ ทันใดนั้นก็เห็ นว่าพายุฝนเริม่



ย้ายทีออกไป ้
ราวกับว่ามันมีความตังใจของตนเอง ถึงกับมุ่งไปยัง
่ นตําหนักของหรานอ๋อง
ตําแหน่ งทีเป็

ผูค้ นทังหลายต่ างตกตะลึง

นี่ มันหมายความว่าอย่างไรกัน?

ผูค้ นไม่นอ้ ยติดตามเมฆฝนนั้นไป ก็เห็นว่าฝนยิงที


่ ยงตกหนั
ิ่ กขึน้
่ างไรอย่างนั้น ฝนทังหมดเทไปรวมกั
ราวกับว่าบนฟ้ ามีรู ้รัวอย่ ้ นลง
บนตําหนักของหรานอ๋อง สาดกระหนํ่ าลงไปอย่างรุนแรง

ในตําหนักของหรานอ๋อง อู๋เจินนั่งขัดสมาธิทําพิธเี รียกฝนอยู่ดา้ น


่ านขา้ งกายของเขายังมีบุรุษหนุ่ มอีกผูห้ นึ่ งทีสวมใส่
ใน ทีด้ ่ ชด ุ สี

เขียวแบบเดียวกัน เพียงแต่ว่าอ่อนเยาว ์กว่าอู๋เจินอยู่มาก ทังสอง
ต่างปิ ดตาแน่ น ริมฝี ปากท่องคาถาอยู่ตลอด

่ ๋ซอื่ ฝนมาแลว้ ” พอพายุฝนกระหนํ่ าลงมาตรงนี จริ


” ศิษย ์พีอู ้ งๆ อู๋
เจินถึงได้ลม ้
ื ตาขึนมา ่ ฝ่่ าบาททรงมอบหมายมาให้ พวก
” หน้าทีที
่ ่ง “
เราถือว่าทําสําเร็จไปแลว้ ครึงหนึ
่ กเรียกว่าอู๋ซอยั
บุรุษทีถู ่ื งคงปิ ดตาทังสองข
้ ่
า้ ง ” ในเมืองลีโจวเกิ

ปี ศาจอาละวาด เจ ้าและขา้ ต่างก็เป็ นผูอ้ าวุโสของอารามเทียนเก๋อก
วน เดิมทีก็่ ตอ้ งเห็นแก่อาณาประชาราษฏร ์เป็ นหลักอยู่แลว้ นี่ เป็ น
่ อยู
เรืองที ่ ่ในความรับผิดชอบของพวกเรา ต่อให้ฮ่องเต้มไิ ด้ทรงมี
พระบัญชา เจ ้าและขา้ ก็ยงั คงต้องมาปราบปี ศาจ “

ื่
อู๋ซอกล่ ่
าวอย่างซือตรง แม้ว่าดูไปแลว้ จะมีอายุเพียงสามสิบห้า
สามสิบหกปี แต่ท่าทางกริยากลับเหมือนนักพรตเฒ่าอย่างไรอย่าง
นั้น

” ใช่แลว้ ๆๆ ” อู๋เจินได้แต่ท่องคาถาเรียกฝนต่อไป ไม่กลา้ ว่อกแว่ก


พูดมากอีก
……………………………………………….

้ บถึงคราวทีจี
ภายในอารามเทพธิดา รอบนี กลั ่ หรานจะต้องตืนตะลึ
่ ง
บา้ งแลว้

คนชุดดํานั่นทําบา้ อันใดกัน? ทําไมพายุฝนถึงได้ไปเทลงบน


ตําหนักของเขา?

” หรานอ๋อง เจ ้าไปทําอะไรเขา้ ถึงได้ทําให้เทพธิดาทรงพิโรธ ถึงกับ


จะจมบา้ นของเจ ้าให้จงได้? ” คราวนี ้ จีเฉวียนทรงไพล่สองพระ
หัตถ ์เอาไวด้ า้ นหลัง สองเนตรหงส ์จดจ ้องไปยังเขา สีพระพักตร ์
ขององค ์เหนื อหัวมีแต่ความเย็นชา
จีหรานถูกจ ้องเสียจนทั่วทังร่้ างขนลุกขึนมา้ เขาตัดสินใจถอยไป
ขา้ งหลังก ้าวหนึ่ ง ” ไม่ จะต้องเกิดขอ้ ผิดพลาดในทีใดเป็
่ นแน่ “

่ คราด เปรียงปร
” ครืด ้ ่
้าง! ” เขาพึงจะพู ดออกไป ก็ได้ยน
ิ เสียง

สายฟ้ าฟาดดังออกมาจากท้องฟ้ า แสงสว่างทีมากั บสายฟ้ าทําเอา
ในอารามเทพธิดาสว่างวาบขึนมา ้

จีหรานหันออกไปด้านนอกพอดี พอมองออกไป เขาก็ได้เห็นว่ารูป


ปั้นเทพธิดากําลังแสยะยิมให้
้ เขา


หัวใจของจีหรานกระตุกขึนมาในทั นที เป็ นไปไม่ได้ เป็ นไปไม่ได้

……ชือหลีตายไปตังนานแล ้
ว้ นางตายไปตังนานมากแล ว้ !
ต้องมีใครกําลังดําเนิ นแผนวางอุบายอยู่เป็ นแน่ ?

เขาหันไปมองดูโดยรอบ นอกจากจีเฉวียนและคนขา้ งกายไม่กคน ี่


่ านนอกก็มีแต่พวกชาวบา้ นทีไม่
ทีด้ ่ ได้รู ้ความจริงอะไรเท่านั้น


เมือครู ผ
่ ค ้ ละคนต่าง
ู ้ นต่างก็พากันมองเห็นฮ่องเต้เป็ นศัตรู ตอนนี แต่

ก็จดจ ้องมาทีหรานอ๋ องเป็ นตาเดียว
ตอนที่ 200 เทพธิดาสําแดงองค ์!
ในใจของพวกเขา หรานอ๋องเป็ นคนดีมากผูห้ นึ่ ง

แต่ว่าทําไม……..พายุฝนที่เกิดขึนหลั
้ งจากฮ่องเต้ขอพร ถึงได้เทลง
ไปบนตําหนักของหรานอ๋องกัน?


ขณะทีหรานอ๋ ่
องยังตืนตะลึงไม่ทนั หาย จีเฉวียนก็เอ่ยพระโอษฐ ์
ออกมาว่า ” เรานึ กได้แลว้ ตอนนั้นเงินบรรเทาทุกข ์ทีส่
่ งมา เป็ น

หัวหน้าองครักษ์เงาส่งมอบให้ท่านกับมือ ตอนนี พวกเราอยู ่ตอน

หน้าเทพธิดา เราอยากจะรู ้ว่า เงินบรรเทาทุกข ์ทังหมดนั ้นเสด็จอา
นํ าไปใช ้ในทางใด? “

พระสุรเสียงของฮ่องเต้เปี่ ยมไปด้วยพลัง ประชาชนทีอยู


่ ่รอบอาราม
ต่างก็ได้ยน
ิ อย่างชดั เจน
๋ มาบรรเทาภั

เงินบรรเทาทุกข ์หรือ? ไม่ใช่ว่าถูกตู๋กูเจวียที ยหอบหนี
ไปแลว้ หรือ?

ทําไมฝ่ าบาทถึงได้มารับสั่งถามเอากับหรานอ๋องกัน?

พวกเขาลว้ นรู ้กันทั่ว พอเกิดนํ ้าท่วม หรานอ๋องก็เอาเสบียงอาหารที่



สะสมไวม้ าแจกชาวบา้ นทีประสบภั ยจนหมด แม้แต่ตวั เขาเองก็ยงั
ื่
ได้ดมแต่ โจ๊กใสเท่านั้น


แต่ฮ่องเต้ตรัสออกมาเช่นนี หมายความว่ าอย่างไร? มันชดั เจนอยู่
่ บสนุ นการกระทําของตู๋กูเจวียมิ
แลว้ ว่าเป็ นพระองค ์เองทีสนั ๋ ใช่หรือ
นี่ คิดจะหันกลับมาแวง้ กัดหรานอ๋องหรือไร?

่ ขึ
พอจีหรานถูกถามเรืองนี ้ นมา
้ ่ิ
สีหน้าก็ไม่น่าดูยงไปกว่ าเดิม เขา
้ นมากระแอมไอหลายครั
ยกชายแขนเสือขึ ้ ง้ ” ฝ่ าบาท พระองค ์ทรง
สงสัยกระหม่อมหรือ? “
้ แรกแลว้ เรืองการบรรเทาอุ
” ตังแต่ ่ ่
ทกภัยในลีโจวล ว้ นเป็ นคุณชาย
รองตู๋กูเป็ นผูส้ ่งการ
ั กระหม่อมเป็ นเพียงบุตรที่มิได้รบั ความเหลียว
แลของราชวงศ ์เท่านั้น ทุกเรืองล่ ว้ นอยู่ภายใต้การตัดสินใจของ

คุณชายรอง เงินบรรเทาทุกข ์ทังหมดนั ้นย่อมเป็ นเขาทีดู่ แล ” จีหรา
นกราบทูลราวกับจะปฏิญานตน ” ตลอดหลายวันมานี ้ สิงที ่ ่
กระหม่อมทําลงไปลว้ นอยู่ในสายพระเนตร กระหม่อมเองก็เป็ นคน
ในราชวงค ์ต้าโจว หรือฝ่ าบาททรงเห็นว่ากระหม่อมนํ าชีวต ิ ของ

พลเมืองต้าโจวมาเป็ นเรืองเล่ นหรือ? “

จีหรานมีโทสะขึนมา้ ่
ทรวงอกกระเพือมขึ ้
นลงอยู ่ อง
่ตลอด เมือต้
มองดูตําหนักหรานอ๋องถูกพายุฝนกระหนํ่ าใส่อย่างไม่มห
ี ยุด ในใจ
ของเขาก็ร ้อนรุม
่ ไปหมดแลว้

” ฝ่ าบาทพะยะค่ะ ความผิดพลาดทังหลายล้ ว้ นเป็ นคุณชายรองตูก


๋ ู

เป็ นผูก้ ่อขึนมาทั ้ ้น ไยตอนนี พระองค
งนั ้ ์ถึงได้ทรงตรัสโทษท่านอ๋อง
ของพวกกระหม่อมด้วย? ” เหล่าลูกน้องของจีหรานต่างแสดงความ
ไม่พอใจออกมา
” หุบปาก ยามทีฝ่่ าบาทตรัส ไหนเลยจะมีทให้่ี ขา้ รับใช ้อย่างเจ ้า
กล่าวสอดกัน! ” ทันใดนั้นผูต้ ิดตามขา้ งพระวรกายก็แสดงความ

เกรียวกราดออกมา เขาเพียงสะบัดเท้าออกไปแค่ครังเดี้ ยวก็ทําให้
ลูกน้องของหรานอ๋องต้องคุกเข่าลงไปกับพืนได้ ้ อย่างสบายๆ


จีเฉวียนมิได้เคลือนไหว เพียงตรัสต่อไปว่า ” เราเพียงแต่ถามดู
เท่านั้น เสด็จอาไม่จําเป็ นจะต้องโวยวายให้เป็ นเรืองใหญ่
่ ๋
ตู๋กูเจวีย
หายสาบสูญไปตังนานแล้ ว้ เราไม่อาจถามเขา ย่อมต้องถามท่าน
ดู”

จีหรานเห็นสายพระเนตรที่เย็นเฉี ยบเป็ นนํ ้าแข็งของฮ่องเต้ ในใจก็


่ ้สึกไม่สงบ เขากุมขอ้ มือเอาไว ้ คิดจะกระตุน
ยิงรู ้ อสรพิษจําแลง

ออกมาก่อนเวลาทีวางแผนไว ้
พอเขาขยับตัว ก็ได้ยนิ เสียงชาวบา้ นต่างก็ร ้องระงมออกมาว่า ” ดู
นั้นสิ ทีตํ
่ าหนักหรานอ๋องนั้นเกิดอะไรขึนกั
้ น? “

ภายใต้ลมพายุฝนกระหนํ่ าลงมา ตําหนักหรานอ๋องทังหลั ้ งถูกฝนชะ


จนพังทลายลง บนพืนใต้้ ตําหนักหรานอ๋อง ก็มน
ี ํ ้าผุดเพิมพู
่ นขึนมา


เรือยๆ ่
พอรวมเขา้ กับพายุฝนทีตกลงมา จึงกลายเป็ นแม้นํ้าน้อยๆ
สายหนึ่ ง

สายนํ ้าเพิมพู
่ นขึนมา
้ ่
แทบจะทําให้ในตัวเมืองลีโจวล่ มลงไปแลว้

และในขณะเดียวกันนั้นเอง งู ยก ั ษ์สนี ํ ้าตาลเทาตัวหนึ่ งก็สะบัดตัว



ขึนมาจากในนั ้น มันผงาดร่างขึนสู
้ ง ดวงตาสีเขียวแวววาวคู่นั้นจด
จ ้องไปยังผูค้ น ปลายหางขนาดใหญ่ก็ฟาดกระหนํ่ าไปทั่วทังสี ้ ทิ
่ ศ
่ อสร ้างลงไปทีละหลังๆ
ทําลายสิงก่
มันอ้าปากกวา้ งร ้องคํารามออกมา ส่งเสียงคํารามดังกึกก ้อง
ประหนึ่ งระฆังยักษ์ ทันใดนั้น นํ ้าในแม่นํ้าก็เกิดคลืนซั
่ ด ไหลหลาก
ราวกับจะลน้ ทะลักออกมา


ในใจของผูค้ นทังหลายต่ างก็ตกอยู่ในความหวาดกลัว ไม่มผ
ี ใู ้ ด
คาดคิดมาก่อนว่าจะมีงูยก
ั ษ์ออกมาจากในตําหนักหรานอ๋อง

้ มั
ทุกครังที ่ นร ้องคําราม ระดับนํ ้าในแม่นํ้า◌้ก็จะสูงขึนมาหนึ
้ ่ งฉื่ อ
(ประมาณ 10นิ ว) ้ ทั่วทังร่
้ างของมันมีแต่กลินเหม็
่ นคาวสุดทนทาน
ต่อให้อยู่ห่างไกลออกไปก็ยงั คงได้กลิน ่

ในมุมอับ คนชุดดําและอันหร่วนต่างก็ตกตะลึงจนแทบจะกระโดด
ออกมา แผนการหลุดจากการควบคุมไปแลว้

่ าลังคลุม้ คลั่ง ก็ขมวดคิวแนบแน่


จีหรานมองดูอสรพิษจําแลงทีกํ ้ น
ไม่รอให้จเี ฉวียนตรัสอันใดออกมา เขาก็ชงิ ตะโกนฟ้ องเสียงดังขึน้
ก่อน ” ฝ่ าบาท พระองค ์เป็ นถึงโอรสสวรรค ์ เสด็จมาขอพรแท้ๆ

ทําไมอยู่ๆ ถึงได้เรียกเอาตัวประหลาดเช่นนี ออกมากั น? ตําหนัก
ของกระหม่อมสงบสุขร่มเย็นตลอดมา ทําไมพอพระองค ์เสด็จมา
่ั
ประทับเพียงแค่ชวเวลาสั ้ ก็เกิดตัวประหลาดโผล่ออกมา? “
นๆ

เสียงของจีหรานดังก ้อง ราวกับเกรงว่าฝูงชนจะไม่ได้ยน


ิ อย่างไร
อย่างนั้น

พอได้ยน ่ ได้รู ้ความจริงก็พากันหันไป


ิ คําพูดของเขา ฝูงชนทีมิ
มองดูฮอ
่ งเต้ดว้ ยความสงสัย

หรือฮ่องเต้จะทรงเป็ นต้นเหตุให้เทพธิดาส่งหายนะลงมา?

เมือกลายเป็ นเช่นนี ้ คนชุดดําก็จําต้องเปลียนแปลงแผนการ
่ เขา
หันไปมองดูอน ั หร่วนแวบหนึ่ ง กล่าวว่า ” รีบลงมือ “

อันหร่วนมือหนึ่ งถือตุก
๊ ตาไม้เอาไว ้ อีกมือหนึ่ งก็หยิบเอาเข็มดํา
หนาๆ ออกมา ปักลงไปบนอกของตุก ๊ ตาไม้โดยมิได้ลงั เล

่ี มดําแทงลงไป ก็ปรากฏเลือดสีดําไหลออกมา
ทันทีทเข็

อันหร่วนบริกรรมคาถาอยู่ในปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียด
ชงั
ี่ ่อครูป
ภายในอาราม ฮ่องเต้ทเมื ั ทันใดนั้นก็กด
่ ระทับยืนตรงดังพู่กน
พระอุระของพระองค ์เอาไว ้

บนร่างของพระองค ์ ปรากฏไอสีดํากําจายออกมา


บนพระพักตร ์ทีงดงาม เกิดเป็ นนํ ้าแข็งบางๆ ขึนช
้ นหนึ
้ั ่ง

” ฮ๊ากกก ปี ศาจจจ! ” จีหรานร ้องเสียงดังออกมาในทันที จากนั้นก็


ถอยหนี ออกไปจนห่าง

ฝูงชนลว้ นอยู่ดา้ นนอก ต่างก็มองเห็ นได้ไม่ชดั เท่าไร เพียงได้ยน



แค่ว่าหรานอ๋องตะโกนโหวกเหวกเสียงดังว่า ‘ฮ่องเต้ทรงกลายเป็ น
ปี ศาจแลว้ ฮ่องเต้กลายเป็ นปี ศาจจจจ……’

เขาตะโกนพลางวิงออกมาด้
านนอก ดวงตาเต็มไปด้วยความ
หวาดกลัว

่ างออกไปไม่ไกลได้ยน
อสรพิษจําแลงทีห่ ิ เสียงร ้องของเขา ก็มว้ นตัว

เคลือนมาทางอารามเทพธิ ดา

ั ษ์น้นเป็
” ดูสิ งู ยก ่ องเต้ทรงเลียงเอาไว
ั นปี ศาจทีฮ่ ้ !้ ” จีหรานร ้องเสียง
ดังออกมา ดึงความสนใจของทุกคนไปยังจีเฉวียน


จิตใจของประชาชนตกอยู่ในความหวาดกลัว แต่เมือพวกเขามอง
ี่
ตามไป ฮ่องเต้ทประทั บยืนอยู่ห่างไกล นอกจากจะมีไอเย็นออกมา
จากพระองค ์แลว้ ก็มไิ ด้มอ ่
ี ะไรเปลียนแปลงไปนี่?
หรือว่าหรานอ๋องจะวิปลาสไปแลว้ ถึงได้พูดออกมาว่าฮ่องเต้เป็ น
ปี ศาจ?

ในมุมมืด อันหร่วนเองก็ตกตะลึงไป ” นี่ ไม่ถูกต้อง พอฝังเข็มลงไป


เขาควรจะกลายเป็ นปี ศาจสิ ทําไมถึงได้มแี ค่ไอดําออกมากัน? “

คาถาสาปแช่งของนางศักดิสิ์ ทธิได้
์ ผลเสมอมา ทังๆ ้ ทีตุ
่ ก ๊ ตาไม้นี่
ถูกซ่อนเอาไวใ้ นตําหนักบรรทมของจีเฉวียนมาตลอดเจ็ดสัปดาห ์สี่
่ เฉวียนไปมากมายแลว้ แท้ๆ อีกทัง้
สิบเก ้าวัน ซึมซับกลินไอของจี
ิ่
นางยังรู ้เวลาตกฟากของจีเฉวียนอย่างแม่นยํา และมีสงของที ่
เคย
ติดกายของเขาอีกด้วย ย่อมไม่มท ่ นจะลม้ เหลวไปได้
ี างทีมั

่ี ม กุมพระอุระเอาไว ้ ดวงพระเนตรหงส ์ทอ


จีเฉวียนประทับยืนอยู่ทเดิ
ประกายเย็นยะเยือกออกมา
สีพระพักตร ์ของพระองค ์ยังคงนิ่ งเฉย ทันทีทกํ
ี่ าพระหัตถ ์เขา้ เงาดํา
หลายเงาก็พุ่งเขา้ ไปสกัดจีหรานทีกํ่ าลังจะหนี ออกไปเอาไว ้

ในขณะเดียวกัน ก็ได้ยน ่ ่
ิ เสียงแตกดังกึกก ้อง โต๊ะบูชาทีอยู
ด้านหน้ารูปปั้นของเทพธิดาแตกร ้าวออกมา

ทันใดนั้น ก็เกิดแสงสีทองส่องออกมาจากภายใน เทพธิดาปรากฏ


องค ์ขึน้ เทพธิดาทีมี
่ เสน้ ผมสีแดงยาวสยายลืมตาขึนมาช
้ ้าๆ ดวง

เนตรทังสองที ่
แดงฉานของนางแวววาวดั ่งนัยตาของอสรพิษ พอ
กวาดมองออกมา ก็สําแดงถึงพลังอันยิงใหญ่ ่ ออกมา ขณะทีกํ ่ าลัง
ตกตะลึงตุก ่ ่ห่างไปไม่ไกลก็แหลก
๊ ตาไม้ในมือของอันหร่วนทีอยู
สลายกลายเป็ นผุยผงลงไป

เหนื อโต๊ะบูชา ดวงเนตรของเทพธิดาทอดมองลงมายังร่างของจี


เฉวียน

นางสําแดงความเป็ นเทพ กล่าวเรียกพระองค ์ขึนมาครั ้ ่ง ”
งหนึ
ฮ่องเต้แห่งต้าโจว”


จีเฉวียนเงยพระพักตร ์ขึนมองนาง ในพระทัยบังเกิดความรู ้สึกว่า
นํ ้าเสียงในคําพูดนั้นฟังแลว้ คุน้ เคยเป็ นอย่างยิง่

” เจ ้าเดินทางไกลมาพันลี ้ เพือสวดมนต
่ ์ขอพรแทนชาวประชาต้า
โจว เราบังเกิดความประทับใจแลว้ ” ด้วยพลังของเทพธิดา ทั่วทุก

มุมในเมืองลีโจวต่ างก็สามารถได้ยน ้ นทั่ว
ิ เสียงนี กั

ประชาชนต่างก็ไม่นึกไม่ฝัน เทพธิดาสําแดงองค ์แลว้ จริงๆ!

ทันใดนั้นผูค้ นทังหมดต่
้ างก็พากันคุกเข่าลงไป แม้แต่กระทั่งงู ยก
ั ษ์

ทีอาละวาดก็ ั ที่ ไม่กลา้ ก่อเรือง
หยุดอยู่กบ ่
้ ญไปแลว้ หรือ?
ชือหลีมไิ ด้แตกดับจนสินสู

ื่
จีหรานเองก็เองก็ตนตะลึ งจนตาเบิกโพรง มองดูเทพธิดาผมแดงผู ้
นั้นด้วยสายตาทีไม่
่ อยากจะเชือ่ ต่อให้ฝันเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อน
้ วน
เลยว่า ชาตินีจะมี ่ เจอกับนางอีก
ั ทีได้

นี่ มันเป็ น………ฝันร ้ายที่แท้จริง!


ตอนที่ 201 มีดที่แทงลงไปกลางใจ!
ใต้โต๊ะบูชา ตู๋กูซงิ หลันกําลังนั่งอยู่บนบันไดไม้ นางและดวงจิต
่ี ่ดา้ นบนต่างแสดงท่าทางและอารมณ์ออกมาในแบบ
ของชือหลีทอยู
เดียวกัน

ยามนี ้ มิว่านางจะกล่าวอะไร ชือหลีก็จะต้องพูดออกไปแบบนั้น

ดวงจิตของชือหลีมไิ ด้ถูกดึงออกไป นางเพียงแต่ถูกยันต ์สีชาด


ของตู๋กู๋ซงิ หลันควบคุมเอาไวเ้ ท่านั้น จึงไม่อาจทําอะไรได้ดว้ ย
ตนเอง

่ กอย่างทีชื
ทุกสิงทุ ่ อหลีมองเห็น นางก็สามารถมองเห็นได้ทงหมด
ั้

ดูจเี ฉวียนสิ เขาช่างน่ าสงสารนัก ผ่ายผอมไปจากเมือหลายวั น
ก่อนมากทีเดียว ชนนํ ้ั ้าแข็งบางๆ บนใบหน้านั้นยังมิได้จางหายไป

ทังหมด

มือขา้ งนั้นยังคงกดอยู่บนอก ราวกับว่าได้รบั บาดเจ็บอย่างรุนแรง

่ อนหน้านี นางได้
ยันต ์คุม้ ครองทีก่ ้ ผนึ กเอาไวบ้ นร่างของเขาพึงจะ่
้ ่ ง เจ ้าฮ่องเต้สุนัขผูน้ ี ไปขวางทางผู
ช่วยรับเคราะห ์แทนไปครังหนึ ้ ค้ น

เอาไวม้ าก ไม่ว่าจะไปทีใดก็ มีแต่คนคิดจะลอบลงมือกับเขา

แต่ทฝ่ี่ ายตรงขา้ มใช ้หุ่นไม้สาปแช่งก็ถอ ่ ั ้ายเกินไปแลว้ ! นาง


ื ว่าชวร
ชกั จะสงสัยแลว้ ว่าจีเฉวียนไปฆ่าลา้ งตระกูลใครมาหรืออย่างไร ถึง
ได้ถูกวางแผนทําร ้ายเช่นนี ้


ตู๋กูซงิ หลันรู ้สึกว่าหลังจบเรืองแล ว้ ควรจะคิดบัญชีเก็บเงินกับ
ฮ่องเต้ผน ้ กหน่ อย รอบนี นั
ู ้ ี สั ้ บว่านางได้ชว่ ยชีวต ้ ่ งจริงๆ
ิ เขาครังหนึ

” ฮ่องเต้แห่งต้าโจว ท่านเป็ นโอรสทีสวรรค ์เลือกสรรมา เราผูเ้ ป็ น
เทพถูกพันธนาการมานานหลายปี เมือได้ ่ รบั ไอมังกรของโอรส
สวรรค ์จึงสามารถหลุดพน้ จากพันธนาการได้ บุญคุณครังนี ้ ้ เราจะ
ตอบแทนให้กบ ั ประชาชนของท่าน ” ตู๋กูซงิ หลันบนบันไดไม้ ยังคง

พล่ามอย่างเรือยเปื ่ อยต่อไป


แต่ในสายตาของผูค้ นทังหลาย นี่ เป็ นถ้อยคําทีออกมาจากปาก

ของเทพธิดา

้ งมีสงที
พวกเขากําลังพากันตกตะลึง ในโลกนี ยั ิ่ สามารถ

พันธนาการดวงจิตของเทพเซียนได้ดว้ ยหรือ?

นี่ เป็ นฝี มือของใครกัน? ถึงกับกลา้ ลงมือกับเทพธิดาผูพ


้ ท
ิ ก
ั ษ์
สายนํ ้า?
” ในปี น้นเราผู
ั ิ คนผูห้ นึ่ งไว ้ แต่สุดท้าย
เ้ ป็ นเทพมีเมตตาช่วยชีวต
แลว้ เขากลับทําร ้ายเราดาบหนึ่ ง ทําลายควันธูปของเรา เกือบจะทํา
ให้เราต้องแตกดับสินสู ้ ญ ขอเพียงลงโทษคนผูน ้ ้น
ั ให้เราผูเ้ ป็ นเทพ

ได้สมประสงค ์ เรายินดีจะทุ่มเทพลังทังหมดไปช่ วยเหลือเมืองลีโจว ่
ให้พน้ ทุกข ์ “

ภายในอาราม พอจีหรานได้ยน
ิ คําพูดของชือหลี ในใจก็หวาดผวา

ขึนมาในทั
นที

่ ่าแย่ทสุ
ทียํ ี่ ดก็คอ ่ าวเรืองนี
ื ยามทีกล่ ่ ออกมา
้ ั มาจับจ ้องที่
ชือหลีก็หน
เขาอย่างชดั เจน

แม้ว่าพลังอํานาจของชือหลีจะมิอาจหลุดพน้ จากการควบคุมของตู๋
กูซงิ หลันไปได้ แต่ว่านางก็มไิ ด้ตาบอด แค่มองเพียงแวบเดียวนางก็
หาจีหรานเจอ
่ ยดชงั เขา้ กระดูกดําผูน้ ี ้ หากเปรียบเทียบกับความ
บุรุษทีนางเกลี
หล่อเหลาในตอนนั้นแลว้ ดูยํ่าแย่กว่ามากนัก

แต่ต่อให้เขากลายเป็ นเถ้าถ่าน นางก็ยงั คงจดจําเขาได้

แม้จะเป็ นเพียงแค่การกวาดตามอง แต่ในสายตานั้นก็เปี่ ยมไปด้วย



ความเกลียดชงั ทีแทบจะแผดเผาจี หรานให้กลายเป็ นเถ้าถ่านไป
เสีย

จีหรานถูกสายตาของนางกวาดมองมา ในใจก็ยงสั ่ิ ่นสะท้าน


กว่าเดิม ชือหลีไม่เพียงแต่ยงั ไม่ตาย แต่ว่ากลับมาแก ้แค้นเขา!

ฝี เท้าของเขาอ่อนระทวย จนต้องถอยไปหลายก ้าว


แต่เพราะว่าองครักษ์ของจีเฉวียนรายลอ้ มเขาเอาไว ้ ทําให้เขาไม่
อาจหลบหนี ได้เลยสักนิ ด


ผูค้ นทังหลายต่ างก็สงั เกตเห็นสายตาของชือหลี ความชิงชงั ทีแทบ ่
จะพวยพุ่งออกมาจากดวงตาคู่น้น ั แม้ว่าไม่มีผใู ้ ดบอก ก็สามารถ
่ี ดาเอ่ยถึงว่าได้ทําร ้ายนางไปดาบหนึ่ ง ก็คอ
รับรู ้ได้ ผูท้ เทพธิ ื …..
หรานอ๋อง?

้ งเริมมี
คราวนี จึ ่ คนคิดขึนมาได้
้ ว่า เมื่อสิบปี ก่อน คนทีสั
่ ่งให้ทุบ
ทําลายอารามเทพธิดาก็คอ ื จีหราน

่ มี
เรืองนี ้ ความนัยอะไรซ่อนอยู่กน
ั แน่ ?
” จีเฉวียน เจ ้าแกลง้ ทําเป็ นมีผส ้ ออะไรกั
ี างเช่นนี เพื ่ น? ” จีหราน

เห็นสายตาของผูค้ นทังหลายมองมาที ่ วเองเช่นนี ้ ก็ไม่กลา้ นิ่ งเฉย
ตั
อยู่อก


เขาขมวดคิวแนบแน่ น ตัดสินใจทุบหม้อขา้ วตนเอง ตะโกนใส่
เทพธิดาและจีเฉวียน ” เห็นอยู่ชดั ๆ ว่าเจ ้าสวดขอพายุฝน เรียกเอา
้ มาทําเป็ นว่ามีเทพธิดาจากไหนก็ไม่รู ้มาใส่
ปี ศาจออกมา ตอนนี ก็
ความขา้ อีกหรือ? “

” ขา้ รู ้แลว้ เป็ นเพราะว่าเจ ้ามันไร ้ความสามารถ จึงชิงช ังทีอ๋่ องเช่น


ขา้ ได้รบั ความเคารพจากประชาชน กลัวว่าข ้าจะทําให้บลั ลังก ์ของ
เจ ้าไม่ม่นคง
ั จึงได้คด
ิ หาหนทางทีจะโค่ ่ ้
นขา้ ทิงไปใช่
หรือไม่?
เหมือนดั่งทีเจ ่ ้าทํากับอีอ๋้ องจีเย่ว ์ไง คิดจะฆ่าลูกหลานตระกูลจีให้
หมดสิน? ้ “


เรืองมาจนถึ ้ ้ เขาได้แต่ตอ้ งทุบหม้อขา้ วสูพ
งขันนี ้ นันดูสก ้ ว้
ั ครังแล
จีเฉวียนทีร่ ้ายกาจ!

่ แลว้ เขาแกลง้ ทําเป็ นว่าไร ้ความสามารถมาโดยตลอด!


ทีแท้

ี่ งแลว้ กลับขุดหลุมพรางดักเขาเอาไว ้ คิดจะให้ตวั เขาจีหราน


แต่ทจริ
ี่ ่ !
ต้องตายอยู่ทนี

้ นไปแลว้
เขาประมาทคนผูน้ ี เกิ

้ อดีตกาลมา ผูท้ ี่ได้ขนเป็


นับตังแต่ ึ ้ นฮ่องเต้ จะเป็ นเพียงแค่คนที่
่ อจนถึ
ซือบื ้ ้
งขันไร ้เดียงสาไปได้อย่างไร!
สีพระพักตร ์ของจีเฉวียนราวนํ ้าแข็ง เพียงทอดพระเนตรมองไปยัง
เขาอย่างเย็นชา “เจ ้ามองว่าตนเองสูงส่งจนเกินไป”

ต่อให้ฮ่องเต้มไิ ด้ทรงตรัสออกมา เพียงแค่สายพระเนตรนั้นก็เปี่ ยม


ไปด้วยไอสังหารอยู่แลว้

ี่
ทันทีททรงตรั ้
สจบ ก็เห็นเทพธิดาล่องลอยมายังเบืองหน้ าของจี

หราน นัยตาทังสองที ่ อนกับนัยตาของงู จบ
เหมื ี่ หราน นาง
ั จ ้องอยู่ทจี
่ วมื
ยืนนิ ้ อทีเรี
่ ยวยาวออกเชยคางของจีหรานขึนมา ้ ” ดูท่าแลว้ ไม่
ต้องบีบบังคับเจ ้าก็เผยพิรุธออกมาแลว้ นี่ “

จากนั้นปลายนิ วของนางก็
้ ี แน่ นเขา้ จนเล็บยาวนั้นแทบจะจิก
บบ

เขา้ ไปในเนื อของจี ่ นชาเปี่ ยมไปด้วยความ
หราน ดวงหน้าทีเย็
่ ดค้างเรานั้นจะชดใช ้ให้อย่างไร? “
เกลียดชงั ” บอกมาซิ ทีติ
จีหรานถูกนางบีบคางจนเลือดสดๆ ซึมไหลออกมา ความหนาว
เหน็ บชนิ ดหนึ่ งแทรกซึมจากปากแผลกระจ่างไปทั่วทังร่
้ าง แทบจะ
ทําให้เขากลายเป็ นนํ ้าแข็งอยู่กบ
ั ที่

บรรดาผูต้ ด ื่
ิ ตามของจีหรานได้เห็นแลว้ ต่างก็ตนตระหนกจนตั วแข็ง

ทือไปหมด ไม่มผ
ี ใู ้ ดกลา้ เขา้ ไปช่วยเหลือเลยสักนิ ด

ฝ่ ายตรงขา้ ม…….ถึงกับเป็ นเทพเชียวนะ!


เหล่าประชาชนทังหลายก็ เพียงชมดูอยู่ดา้ นหนึ่ ง พวกเขาต่างก็พา
กันประหลาดใจ ตอนนั้นหรานอ๋องทําสิงใดกั ่ นแน่ จึงได้ทําให้
เทพธิดาพิโรธถึงเพียงนี ?้

่ นกันที่เขาหลับฝันกลับไปกลับมา ในความ
จีหรานมองดูชอื หลี กีคื
ฝันเขามักจะเห็ นสองเนตรที่มีนัยตาแดงฉานดุจเลือด ทุกครังที
้ ฝั
่ น
่ วมกายจนสะดุง้ ตืนจากความฝั
เห็นเป็ นต้องเหงือท่ ่ น
ปี นั้นเขาอายุเพียงแค่เจ็ดชนั ษา ไม่ทน ั ระวังจึงตกลงไปในแม่นํ้า จึง
ั ษ์สเี ขียวช่วยเอาไว ้ นัยตาสีแดงของงู เขียวตัวนั้นยังใหญ่
ได้ถูกงู ยก
กว่ากําปั้นของเขาเสียอีก

เขาคิดว่าตนเองคงต้องตายแน่ แลว้ คิดไม่ถงึ ว่างู เขียวตัวนั้นจะ



กลายเป็ นพีสาวที ่
งดงามผู ห้ นึ่ ง ชือหลี

เขาพํานักอยู่ใต้แม่นํ้าลีเหอนั
่ ่ นหลายวัน ชือหลีคอยดูแลเขาโดย
มิได้จากไปไหน ในใจของเขาเกิดความซาบซึง้ ดังนั้นพออาการ
บาดเจ็บหายดีแลว้ จึงมักจะลงไปทีใต้ ่ แม้นํ้าเพือเล่
่ นกับนาง

่ ดความคิดนอกลู่นอกทางกับชือหลี ในคํ่าคืน
อย่างช ้าๆ เขาเริมเกิ
หนึ่ งทีท้
่ องฟ้ ามีแต่แสงดาวพร่างพราว เขาสารภาพความในใจกับ
่ ตน้ ฮว๋ายในอารามเทพธิดา ยินดีจะอยู่รว่ มกับนางไปชว่ ั
นางทีใต้
ชีวต

และเพราะคําสาบานนี ้ ต่อมาเขายังต้องอยู่ในนรกทีไม่
่ อาจย้อนคืน
มาได้

ั ชือหลี จนกระทั่งเขา
เขาคิดว่าเขามีความรักฉันท ์ชายหญิงให้กบ
ได้พบกับน้องสาวของนาง ชือฉิ ง

เพียงแค่ได้มองเห็ นชือฉิ งเพียงแวบเดียว เขาก็ตกหลุมรักนาง ชือห


่ ้เหตุผลน่ าเบือหน่
ลีไร ่ าย แต่ชอื ฉิ งกลับมีเสน่ ห ์ดึงดูด พอ
เปรียบเทียบกันแลว้ ยังน่ าหลงใหลกว่าชือหลีมากนัก

่ าพาเขาไปสู่ความสุขจากความรักของบุรุษและสตรี
เป็ นชือฉิ งทีนํ
่ กลงไปในความสุขนี จนไม่
เขาดิงลึ ้ อาจถอนตัว
แต่ว่าความสุขของพวกเขาได้แต่เพียงแอบซ่อนอยู่ลบ ั หลังชือหลี
เท่านั้น ถูกกดเอาไวเ้ ช่นนี อยู
้ ่ตลอด ไม่มวี น
ั ได้พบกับแสงสว่าง

เขากับชือฉิ งรักกันอย่างแท้จริง รักแท้ย่อมต้องไม่ผด


ิ !

่ ดเขาก็รวบรวมความกลา้ ไปเปิ ดเผยเรืองนี


ในทีสุ ่ กั ้ บชือหลี แต่ว่า
นอกจากชือหลีจะไม่ยอมเขา้ ใจพวกเขาแลว้ ยังด่าว่าพวกเขาเป็ น
คนอกตัญ�ูทลื ่ี มบุญคุณผูอ้ ืน

้ ้นนางโกรธเกรียวอย่
ครังนั ้ ้
างถล่มทลาย ความเกรียวกราดของนาง
ม้วนเขา้ ใส่แม่นํ้าลีเหอ
่ ่
จมเมืองลีโจวไปครึ ่ ่ง
งหนึ

้ วน
นับตังแต่ ั นั้น เขาก็ถูกชือหลีคอยหลอกหลอนเรือยมา
่ นาง
ต้องการให้เขาตัดความสัมพันธ ์กับชือฉิ งให้เด็ดขาด กลับไปรักษา

คําสัญญาทีเขาเคยให้ เอาไวต้ ลอดไป
แต่น่ นเป็
ั นเพราะความวู่วามในวัยหนุ่ มของเขาเท่านั้น เขาจะไปอยู่
่ ั วต
ร่วมกับนางไปจนชวชี ิ ได้อย่างไร?


ทีเขารั
กก็คอ ้ ตน้ จนจบลว้ นเป็ นชือฉิ ง
ื ชือฉิ ง ตังแต่


เพือความรักของเขาและชือฉิ ง ……เขาจึงแกลง้ รับปากขอ้ แม้ของชื
อหลี แต่งนางเป็ นภรรยา

แต่เขาแอบไปเสาะหาดาบทําลายเทพมา ในคืนแต่งงาน ยามทีพวก่


เขาร่วมหอผ่านคืนวสันต ์ด้วยกัน ก็แทงดาบทําลายเทพลงไปใน
หัวใจของนาง
แต่ว่านางก็ชวร ่ ั ้ายยิงนั
่ ก ถึงกับใช ้พลังเทพก่อนตายสาปแช่งมิให้
เขาและชือฉิ งได้ลงเอยกัน ชือฉิ งถูกนางสาปจนมิอาจกลายร่างเป็ น
มนุ ษย ์ ได้แต่เป็ นงู ยก ี่ าเกลียดตัวหนึ่ งอยู่เคียงขา้ งเขา
ั ษ์ทหน้
ตอนที่ 202 เพียงต ้องการฉี กเขาเป็ นพันชิน้ หักกระดูกจนเป็ น
ผุยผง!

ทังหมดล ว้ นเป็ นเพราะสตรีชวร่ ั ้ายนางนั้น ทังๆ
้ ทีเขาและชื
่ อฉิ งอยู่
ิ เป็ นดั่งสามีภรรยาทั่วไป!
ด้วยกันแต่ก็ไม่อาจใช ้ชีวต

เขาเกลียดชงั นาง อยากให้ดวงจิตของนางแตกสลายดับสูญ!


นางคงหอบร่างของตนเองหนี ลงไปใต้อารามทีเขาเคยสร ้างห้องใต้
ดินเอาไวเ้ มื่อนานมาแลว้

หลังจากตอนนั้นเขาพาชือฉิ งทีกลายเป็
่ นงู ยก
ั ษ์ไปสร ้างความ

เคลือนไหวที ่แม่นํ้าลีเหอ
่ เหล่าประชาชนต่างคิดกันว่าเทพธิดาไม่
ยอมปกป้ องแม่นํ้าลีเหออี
่ กแลว้ จึงค่อยๆ พากันเลิกราการจุดธูป
หอมบูชาไปจนหมด

ขอเพียงควันธูปดับมอด ศรัทธาเสือมสู ญ ดวงจิตของนางก็ตอ้ งสูญ
สลายไปจากโลกนี ้

่ งวันทีเขาย้
เมือถึ ่ ่ าลายอารามด้วยตนเอง ต้นฮว๋า
อนกลับไปเพือทํ
่ ่ในอารามก็เ**◌่ยวเฉาไปแลว้
ยทีอยู

่ ดชือหลีก็จบสินไปแล
เขาจึงรู ้ว่า ในทีสุ ้ ว้

้ นางไม่อาจเป็ นภัยคุกคามเขาและชือฉิ งได้อก


นับจากวันนี ไป ี

แต่ชอื ฉิ งถูกคําสาปของนาง ไม่อาจกลายร่างเป็ นคนได้อก ี ตลอด


กาล เขาได้ยน ิ วิธก
ี ารมาวิธหี นึ่ ง ขอเพียงมีจต
ิ ใจมุ่งมั่นในรักแท้ ใช ้
เลือดของเขาเลียงดู้ ชอื ฉิ ง เมือผ่
่ านไปหลายปี เขา้ คําสาปนั้นก็จะ
ถูกทําลายลง
่ งเวลานั้น เขาก็จะได้อยู่กน
เมือถึ ั ชือฉิ งอีกครัง้

ดังนั้นตลอดสิบปี มานี ้ มิว่าจะต้องเผชิญลมฝนเช่นไรเขาก็ยงั มอบ


เลือดของตนเองให้ชอื ฉิ ง เพียงวาดหวังให้คําสาปนั้นถูกทําลายลง
โดยเร็ว

่ งเขาเคยคิดเอาไวว้ ่า ต่อให้คําสาปมิอาจทําลายลงไป เขาก็ยงั


ทีจริ
้ ชอื ฉิ งไปชวชี
จะเลียงดู ่ ั วต ้ งชาติ
ิ ชาตินีทั้ จะไม่ขอห่างจากนาง

” จีหราน เจ ้าเคยสํานึ กเสียใจสักนิ ดบา้ งไหม? ” ในตอนนั้นเอง มือ


ของชือหลีก็บบ ี คางของเขาเอาไวจ้ นแน่ น

ตู๋กูซงิ หลันสัมผัสได้ถงึ จิตใจของชือหลี นี่ คือความรู ้สึกทีอยู


่ ่ในใจ
ของนาง
้ างถึงทีสุ
นางเกลียดชงั บุรุษผูน้ ี อย่ ่ ด เพียงต้องการจะฉี กเขาเป็ นพัน
ชิน้ หักกระดูกให้แหลกเป็ นผุยผง!

่ องเต้ลากออกมาเพื่อปิ ดหูปิดตา
” เจ ้ามันเป็ นนางปี ศาจ ทีฮ่

ประชาชน ขา้ ไม่รู ้ว่าเจ ้าพูดเรืองอะไรกั
น! ” จีหรานยังคงปากแข็ง
ดั่งเป็ ดตายตัวหนึ่ ง

ประชาชนเห็นท่าทางของเขาทีแม้ ่ จะตายก็ยงั ไม่ยอมรับ ก็ชกั จะ


รู ้สึกว่า หรือว่าหรานอ๋องจะถูกใส่ร ้ายจริงๆ

เนื่ องเพราะทีเขาพู
่ ดออกมาก็ใช่ว่าจะไม่มท
ี างเป็ นไปได้
ฟังมาว่าฮ่องเต้พระองค ์นี นํ้ ้าพระทัยลึกลํา้ แม้แต่ออ๋
ี ้ องจีเย่ทเป็
ี่ นพระ
อนุ ชาแท้ๆ ยังถูกพระองค ์ขับไล่ไปอยู่ซเี หลียงเลย

้ งได้รบั ความเคารพรักจากพวกเขา โอรส


จีหรานเป็ นเสด็จอา ทังยั
สวรรค ์ไหนเลยจะยอมให้มค ี นในราชวงศ ์ได้รบั ความรักจาก
ประชาชนมากกว่าตนเองได้กน ั ?

พวกเขาเองก็เป็ นเพียงประชาชนธรรมดา ยิงไม่ ่ กลา้ ตัดสินว่าผูใ้ ด


จริงผูใ้ ดเท็จโดยง่าย ได้แต่ทําตนเป็ นฉากหลังมองดูจากด้านขา้ ง
เท่านั้น

ี่ หรานพูดจบ ก็ยงโหมความโกรธเกรี
ทันทีทจี ิ่ ้
ยวของชื ึ้
อหลีขนมา

ดวงจิตของชือหลีไหววูบอย่างรุนแรง แทบจะฉี กทําลายยันต ์สีชาด


ของตู๋กูซงิ หลัน
ดวงเนตรยาวรีของนางลุกโชนด้วยไฟแค้น ภายใต้การควบคุม
ของตู๋กูซงิ หลัน ก็ตบลงไปบนพักตร ์ของจีหรานอย่างรุนแรงครัง้
หนึ่ ง ” เจ ้ามันตัวเนรคุณ! “

ลูกตบของเทพเรียกเลือดสดๆ จากริมฝี ปากของจีหราน ร่างของ


เขาปลิวไปดั่งเศษผ้าชินหนึ
้ ่ ง พอเห็นอยู่ว่ากําลังจะกระแทกเขา้ กับ
ลําต้นของต้นฮว๋ายในอาราม

ก็มห ่
ี างทีใหญ่ ยาวของงู ยก
ั ษ์พุ่งออกมารับตัวจีหรานเอาไว ้

งู ตวั นั้นพอรัดตัวจีหรานเอาไวไ้ ด้ก็คด


ิ จะหนี


ผูค้ นทังหลายหวาดกลั
วมันต่างก็ไม่กลา้ ขัดขวาง
ฮ่องเต้เสด็จออกมาจากในอาราม ตรัสคําเดียวด้วยพระพักตร ์เย็น
ชา ” ตาม”


เหล่าองครักษ์รบั พระบัญชา ต่างโผร่างเหาะขึนไปขวางทางเจ ้างู
ยักษ์ตวั นั้นเอาไว ้

” ซี่ ซี่ ซี…….”


่ งู ยก ้
ั ษ์แลบลินออกมา จดจ ้องพวกเขาด้วยสายตา
ชิงชงั

แต่กลับม้วนตัวจีหรานเอาไวด้ ว้ ยความระมัดระวัง ความกลัวว่าเขา


จะได้รบั บาดเจ็บแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
ประชาชานทังหลายต่ ้ ้ สามารถดูออก
อให้โง่เขลาเพียงใด ยามนี ก็
้ าลังปกป้ องจีหรานอยู่
ว่างู ตวั นี กํ

่ องเต้ทรงเรียกออกมาจริงๆ เช่นนั้นจะปกป้ องจี


หากว่าเป็ นปี ศาจทีฮ่
หรานไปทําไมกัน?

ประกอบกับเมือครู ่ ง่ ู ตวั นั้นก็พุ่งออกมาจากตําหนักของจีหราน


้ อให้มไิ ด้พูดอะไร พวกเขาก็เขา้ ใจได้ แลว้ ว่างู ตวั นี ต้
เช่นนี ต่ ้ องถูกจี

หรานเลียงเอาไว อ้ ย่างแน่ นอน


เหล่าองครักษ์เคลือนไหวรวดเร็ วดั่งสายลม หลังไล่ตามอยู่เพียงครู ่
เดียว ในมือของพวกเขาก็ปรากฎตาข่ายสีทองขึนมา ้ ตาข่ายถูก
่ นไป
เหวียงขึ ้ คิดจะจับงู ตวั นั้นเอาไว ้

่ ดบนตัวมันแข็งแกร่งมาก ตาข่ายสีทองพอคลุม
แต่น่าเสียดายทีเกล็
้ ยงไม่กครั
ลงไปถูกมันดินเพี ี่ งก็
้ ขาดกลายเป็ นรูขนาดใหญ่
ื่ างก็รบ
ในตําหนักของจีหราน อูเ้ จินและอู๋ซอต่ ี รุดออกมาช่วยเหลือ
่ านหลังของพวกเขายังมีเหล่าลูกศิษย ์ทีงดงามดั
ทีด้ ่ ่งบุปผาชุม
่ นํ ้า
ตามมาอีกด้วย


เหล่านักพรตน้อยทีงดงามเหาะลงมาดุ จเซียนวิเศษ พวกเขาพากัน
้ นต ์และชกั กระบีวิ่ เศษใส่งูยก
เขวียงยั ั ษ์ คิดจะสกัดจับมันเอาไว ้

หลังจากรับมือกันอยู่หลายรอบ งู ยก ั ษ์นั้นก็พงั ท้องถนนเสียจนราบ


คาบ มันโกรธเกรียวขึ้ นมา
้ ส่งเสียงกรีดร ้องดังกึกก ้อง นํ ้าในแม่นํ้า

ลีเหอก็ ่ ด เห็นอยู่ว่ากําลังจะถาโถมเขา้ สู่เมืองลีโจวอี
เกิดคลืนซั ่ ก
ครัง้

่ ปีศาจทีทํ
” ทีแท้ ่ าให้แม้นํ้าลีเหอวิ
่ ปริตไปก็คืองู ตวั นี !้ ” ในบรรดาฝูง

ชนมีคนคิดขึนมาถึ งเสียงประหลาดทีดั ่ งกึกก ้องขึนมาในวั
้ นนั้นได้
” ใครจะไปคิดกัน ว่าหรานอ๋องยามปกติคํานึ งถึงประชาชนก่อนอยู่
่ ก็คือเจ ้านายของสัตว ์ปี ศาจ! “
เสมอ ทีแท้

” สวรรค ์ทรงโปรด พอคิดดูให้ดๆี ก็น่ากลัวเกินไปแลว้ ตกลงเขา


คิดอะไรอยู่กน ้
ั แน่ ? ทังหมดนี ้ อการวางแผน รวบไปถึงทีสละร่
คื ่ าง

เขา้ ขวางเขือนแตกด้ วยหรือ? “

้ องเต้มไิ ด้เสด็จมา เมือลี


ไม่กลา้ คิดเลยจริงๆ หากว่าวันนี ฮ่ ่ โจวจะ

กลายเป็ นเช่นไร “

…………………………….

่ โต๊ะบูชาอย่าง
จีฉวนประทับอยู่ในอาราม สายพระเนตรเหลืบลงทีใต้
จดจ ้อง
ี่
ทันทีททอดพระเนตรลงไป ก็เห็นว่าใต้บน ้ ้นมีความ
ั ไดหลายขันนั

เคลือนไหว

พอดวงเนตรหงส ์ของเขาหรีลง ่ ก็พบว่าเป็ นศีรษะของบุรษ


ุ หนุ่ มผู ้
หนึ่ งโผล่ขนมา
ึ้ ้ ก็ไม่อาจปิ ดบังใบหน้า
แม้จะมีหนวดเครารกครึมแต่

ทีงดงามนั ้นได้

๋ นพระองค ์ก็พลอยตกตะลึง เขากวาดตา


” ฝ่ าบาท? ” ตู๋กูเจวียเห็
ี่ งพระองค ์มาอย่างเต็มยศ ชนิ ดทีเรี
มองฮ่องเต้ทแต่ ่ ยกว่าแทบจะ
เขียนเอาไวบ้ นพระพักตร ์ว่า ” ขา้ คือฮ่องเต้” อย่างไรอย่างนั้น

เขาถวายพระพรจีฉวนครังหนึ ้ ่ ง ค่อยกราบทูลว่า “พวกเขาพูดจา


มั่วซัว่ ตอนนั้นคนที่เอาตัวเขา้ ไปขวางเขือนที
่ ่
แตกก็ คอ
ื กระหม่อม จี
หรานผูน้ ั้นมิใช่ตวั ดี! “
” ฝ่ าบาท พระองค ์มิได้ทรงทราบ ตอนนั้นสถานการณ์อน ั ตราย

มาก เขือนนั ้นเดิมทีก็อ่อนเป็ นเต้าหู ้ แค่มงี ู ตวั หนึ่ งเขา้ ไปชนเพียง
เบาๆ ก็พงั ทลายออกมาแลว้ ตอนนั้นกระหม่อมร ้อนใจ ไม่มห ี นทาง

อืนได้ ่ ายผอมเล็กบางของตนเองขวาง แต่ก็ไม่อาจปิ ด
แต่ใช ้ร่างทีผ่
รอยแตกนั้นเอาไวไ้ ด้ ทังยั ้ งถูกกระแสนํ ้าพัดพาไป เฮอ้ โชคดีทยาม ่ี
ปกติกระหม่อมทําบุญแผ่เมตตาเอาไวม้ าก จึงได้รบั ความคุม้ ครอง
จากสวรรค ์ ตอนนี ถึ ้ งได้ถูกเทพธิดาช่วยออกมาแลว้ อย่างไรเล่าพะ
ยะค่ะ”

๋ หน
ทูลแลว้ ตู๋กูเจวียก็ ั ไปกล่าวกับเทพธิดาว่า ” เทพธิดา บุญคุณที่
ช่วยชีวต ๋
ิ ไม่รู ้จะตอบแทนเช่นไรดี ประเดียวข า้ จะช่วยแทงจีหรานให้
ท่านสักสองดาบ ให้ท่านได้ระบายแค้นในปี นั้นออกมา”

้ งร่
” ถึงแม้ว่าช่วงนี ทั้ างกายและจิตใจของขา้ จะพึงผ่
่ านการถูก
ทรมานอย่างอย่างหนักหนา แต่ว่าบุญคุณช่วยชีวต ิ จะอย่างไรย่อม

ยิงใหญ่ ิ้
กว่าและสําคัญกว่า ขา้ มิใช่จงจอกตาขาว ย่อมไม่มท
ี างลืม
เลือนอยู่แลว้ “

ยามนี พอชื อหลีได้ยน ้
ิ เสียงของเขาขึนมาที
ไรนางเป็ นต้องรู ้สึก
่ ว้ งิ เวียน!
คลืนไส

เจ ้าช่วยลืมมันไปเสียเถอะ!

ฮ่องเต้เองก็ทรงขมวดพระขนงเบาๆ เห็นตัวเขาสกปรกไปหมดทังยั ้ ง

มีกลินเหม็ นโชยชาย ฮ่องเต้จงึ ขยับพระองค ์ไปทางด้านขา้ งหลาย
ก ้าว ไม่คด
ิ จะเสวนากับเขาเลยแม้แต่นอ้ ย

ก่อนหน้านี ก็้ รู ้อยู่แลว้ ว่าคุณชายรองตระกูลตู๋กูเป็ นคนช่างพูด แต่


คิดไม่ถงึ ว่าจะมีวาจาไร ้สาระมากมายถึงเพียงนี ้


ชาวบา้ นทังหลายได้ ่ึ อครึ
เห็นเขา และได้ฟังคําพูดของเขา ก็กงเชื ่ ง่
่ ง่
ไม่เชือครึ

หรานอ๋องจะแย่เพียงไร ก็คงไม่ถงึ ขันแย่ ้ อนของ
งผลงานปิ ดกันเขื ่
ื่
ผูอ้ นหรอกมั
ง?้


พอมองออกไป ทังองครั ั ษ์ตวั นั้นต่างก็ต่อสูก้ น
กษ์ นักพรต และงู ยก ั

ไปอีกหลายรอบแลว้ ตลอดทังถนนถู กทุบทําลายจนกลายเป็ นพืนที ้ ่
ราบ

ชือหลียงั คงถูกควบคุมเอาไว ้ ไม่อาจกระทําการเกินเลยด้วยตนเอง


ั้
นัยตายาวรีทงสองของนางมองดู ่
ชอื ฉิ งทีกลายเป็ นงู ยกั ษ์ กําลัง
พยายามปกป้ องจีหรานเอาไวอ้ ย่างดี ก็คด ่ กคนทังสอง
ิ ถึงตอนทีถู ้

หักหลังขึนมา ใจของนางราวกับถูกฉี กกระชากออกจากกัน

้ อยากเห็นประชาชน
ตู๋กูซงิ หลันไม่อยากจะเสียเวลาอีกต่อไป ทังไม่
่ นต ์สีแดงอีกแผ่นหนึ่ ง
เดือดร ้อนไปทุกหย่อมหญ้า ในมือจึงเพิมยั

ขึนมา ่
ขณะทีนางยังไม่ทน ้
ั ได้เขวียงออกไป ๊ องชิง
ก็เห็นสหายติงต๊
อาสากระโดดนํ าไปก่อนเสียแลว้
ตอนที่ 203 ที่แท้นางก็มไิ ด ้หลอกลวงเขา

มันกระพือปี กทังสองข ้ ยวก็
า้ ง และด้วยการกระโดดโผเพียงครังเดี
โบยบินออกไปจากทางเดินใต้ดน ิ ไปแลว้

้ ่ ง ทั่วทังร่
พอส่งเสียงร ้องออกมาครังหนึ ้ างก็เปล่งประกายสีทอง
ออกมา


มันสะบัดปี ก อุง้ เท้าทีรวบอยู ่ในอากาศก็แสดงท่วงท่าอันสง่างาม
และองอาจออกมา โผบินด้วยลีลาทีสุ ่ ดแสนจะหยิงผยอง

่ มครึมพลันปรากฎสิงมี
ท่ามกลางท้องฟ้ าทีอึ ่ ชวี ต
ิ ตัวหนึ่ งทีมี
่ ประกาย
สีทองทั่วทังร่
้ าง สายตาของทุกผูท้ ุกนามต่างก็ถูกดึงดูดไปทางนั้น

เจ ้างู ยก
ั ษ์พอเห็นมันเขา้ ก็คด ่ กเจ ้าไก่ตวั
ิ ถึงความน่ ากลัวยามเมือถู
นั้นโจมตีเมือหลายคื
่ ้
นก่อนขึนมาทั นที
ความดุร ้ายของมันจึงถดถอยลงไปมาก

พอมันม้วนหางได้ก็คด
ิ จะหลบหนี แต่กลับถูกเหล่าองครักษ์และ

นักพรตทังหลายสกั ดไว ้

๊ องโฉบลงไปตรงบริเวณเจ็ดนิ วจากหน้
เจ ้าติงต๊ ้ าท้องของมัน กรง

เล็บทีแหลมคมคู ่นั้นเปล่งประกายสีทองออกมา มันตะปบลงไปโดย
มิได้รอช ้า

่ี ดอุง้ เท้าลงไป ก็ฉีกเอาเกล็ดที่แข็งแกร่งเหล่านั้นออกมา


ทันทีทกรี

” ซี่ ซี่ ซี……”


่ งู ยก ่
ั ษ์กรีดร ้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายทีใหญ่ โต
โอฬารของมันขดม้วนไปมาคิดจะสะบัดเจ ้าไก่ขนฟูตวั นั้นลงไป
่ิ นออกแรง กรงเล็บของเจ ้าไก่ขนฟูก็ยงตะครุ
แต่ยงมั ่ิ บแน่ นขึน้ เล็บ
่ ามีดสัน
ของมันยาวเสียยิงกว่ ้ พอกรีดทะลุเกล็ดลงไปก็ฉีกจนเห็น
้ อยู
เนื อที ่ ่ภายใน

้ าท้องของงู นั้นเป็ นบริเวณทีใกล


จุดเจ็ดนิ วจากหน้ ่ ก้ บ
ั หัวใจของงู
หากว่าหัวใจถูกตะครุบเอาไว ้ มันก็ได้แต่ตอ้ งตายสถานเดียวแลว้


กรงเล็บทียาวและแหลมคมของเจ ้าไก่ตวั นั้นเดิมทีมไิ ด้มีผลกับมัน
สักเท่าไร ทีน่ ่ ากลัวยิงกว่
่ าก็คอ ื เพลิงศักดิสิ์ ทธิที์ สามารถเผาผลาญ

่ วร
สิงช ่ ั ้ายทังหมด
้ มันต้องคําสาปแห่งทวยเทพต้องกลายเป็ น
อสรพิษดุร ้าย เดิมทีก็ ่ นับว่าตัวประหลาดทีไม่ ่ อาจสูห้ น้าผูค้ นได้อยู่
แลว้


พอแสงเพลิงสีทองนี แผดเผาจากจุ ้
ดเจ็ดนิ วลงไป ่ิ าให้กระทั่ง
ก็ยงทํ
หัวใจของมันถูกเผาไปด้วย จนมันเจ็บปวดอย่างไม่อาจทนทาน
แต่ว่าหางของมันยังคงม้วนตัวจีหรานเอาไว ้ ทําให้ไม่อาจตอบโต้
เจ ้าไก่ขนฟูน่ ันได้เลยแม้แต่นอ
้ ย

่ ่
มันคิดแต่จะพาจีหรานหนี ไปให้ไกลจากทีนี

” กะ กะ กะต๊าก! “เจ ้าไก่ขนฟูคอ ๊ องผูไ้ ร ้ความปราณี มันตะกุย


ื ติงต๊
้ งสาดแสงเพลิงออกมาโดยมิได้หยุดหายใจ
กรงเล็บลงไป ทังยั

้ ่ นแผดเผาไปจนถึงหัวใจของงู ยก
ยามนี ไฟนั ั ษ์แลว้ จริงๆ

จนสามารถได้ยน ่ อที
ิ เสียงดังฉ่ าๆ ออกมา กลินเนื ้ ถู
่ กย่างลอยคุง้ ไป
ทั่ว จุดเจ็ดนิ วของงู
้ ้ สุกใหม่ทแสนจะน่
ถูกย่างจนสุกกลายเป็ นเนื องู ่ี า
กิน
เจ ้าไก่ขนฟูได้แต่นํ้าลายไหล

วันนั้นมันได้กน ้ ไปเล็กน้อย ก็ได้รบั พลังทีสามารถสร


ิ เนื องู ่ ้างเพลิงสี
้ นมา
ทองเช่นนี ขึ ้ ้ นได้กน
หากว่าวันนี มั ิ ไปอีกสักหลายคํา ก็ไม่รู ้ว่า
จะเกิดผลได้ถงึ ขนาดไหน

่ นขึนมาละก็
หากว่ามันมีความสามารถเพิมพู ้ ่
พีสาวตั
วน้อยจะต้อง

ยิงชมชอบมั นอย่างแน่ นอน

่ วดํานั่นเป็ นแน่
ฮืม จะต้องรักมันมากกว่าไอ้ถวนจือตั
พอคิดได้ถงึ ตรงนี ้ มันก็ใช ้จงอยปากทีแหลมคมจิ
่ กลงไป ฉี กเอาทัง้

เนื อและเกล็ ดหลุดออกมาชินใหญ่้ ้
กลืนลงไปโดยไม่ได้เคียวเลย
แม้แต่นอ้ ย

่ งแลว้ วิญญาณทมิฬเองก็คด
ทีจริ ิ อยากจะเขา้ ไปเอาส่วนแบ่งอย่าง
ยิง่ แต่ว่าน่ าเสียดายกระทั่งตัวมันเองยังต้องเกรงใจเพลิงสีทองของ
เจ ้าไก่ขนฟูตวั นั้น จนไม่กลา้ เขา้ ใกลเ้ ลยสักนิ ด

พอคิดไปคิดมาแลว้ มันก็เห็นว่าชีวติ น้อยๆ ของตนเองยังคงสําคัญ


้ น่ นมั
กว่า เนื องู ั นคงได้แต่ตอ้ งถอดใจเสียแลว้

้ ลงไปอีกชิน้
เพียงครูเ่ ดียว เจ ้าไก่ขนฟูก็กลืนเนื องู


พอผูค้ นทังหลายอยู ่ๆ ก็ได้เห็ น’ไก่ยก ่ เพลิงสีทองโผบิน
ั ษ์’ ทีมี
ออกมาก็ตอ้ งพากันตกตะลึงไปตามๆ กัน
้ ง ตลอดร่างสง่างามแกลว้ กลา้ แม้แต่งูยก
พอเห็นมันโผบินขึนสู ั ษ์ตวั
นั้นก็ถูกมันโจมตีจนไม่มเี รียวแรงจะตอบโต้
่ ได้เลย

ี องตัวนั้นบินออกมาจากในอาราม หรือว่าจะเป็ นสัตว ์เทพ


เจ ้าไก่สท
่ นผูต้ ด
ทีเป็ ิ ตามของเทพธิดากัน?

่ ชาขอพรจากโอรสสวรรค ์ ย่อมต้อง
” เราผูเ้ ป็ นเทพได้รบั เครืองบู
่ วร
ขจัดสิงช ่ ั ้ายแทนสวรรค ์ ไก่ตวั นี เกิ
้ ดจากผืนทรายใต้ฐานรองนั่ง
ของเรา ควรค่าแก่การให้ความเคารพ ” ตู๋กูซงิ หลันเริมพล่ ่ ามไร ้
สาระต่อไป

๊ องนั้นเป็ นดาวพิฆาตของงู ยก
สหายติงต๊ ้ ทีขนาด
ั ษ์แต่กําเนิ ด ทังๆ ่
ั ษ์น้นมาก
ร่างกายของมันต่างกับเจ ้างู ยก ั ่ ่โจมก็ยง่ิ
แต่ว่ายิงจู
ได้เปรียบ
่ มค
ในเมือไม่ ่ องออกไปจัดการด้วยตนเอง ตู๋กูซงิ ห
ี วามจําเป็ นทีจะต้
ลันก็รู ้สึกว่านางสามารถออมแรงไปได้มาก


นางอาศัยจิตเทพเอือนเอ่ ยของชือหลี นอกจากฮ่องเต้แลว้ ก็ไม่มี
ผูใ้ ดมาสังเกตทางใต้ดน ่ โต๊ะบูชาอีก
ิ ทีใต้


ยามนี ดวงเนตรหงส ์เหลือบมองลงไปอีกครัง้

่ ยงโอหั
คนในวังยิงที ิ่ ่ แลว้ เจ ้าไก่ขนฟูทเขาลงมื
งมากแลว้ ทีแท้ ี่ อจับ
่ วยตนเองกลับยังไม่ตาย คนในห้องเครืองเหล่
ส่งไปยังห้องเครืองด้ ่ า
นั่นไปหาไก่กาตัวอืนมาปิ
่ ดบังเขา

เจ ้าไก่ขนฟูนั้นเอาแต่ตามติดนางอยู่ทงวี
ั้ ทั
่ งวั
้ น แค่ดูก็รู ้ว่าไม่ใช่ไก่ดี

จากทีไหน
้ นมีเพลิงสีทองทั่วทังร่
ยามนี มั ้ าง พอคิดว่าหากในอนาคตจะจับมัน
มาตุ๋นนํ ้าแกงก็จะต้องยากยิงกว่
่ าเดิมแลว้

ขณะทีฮ่่ องเต้ทรงกําลังใคร่ครวญปัญหาทีสํ ่ าคัญนี อยู


้ ่ ก็ชกั พระ
บาทเสด็จไปยังปากทางใต้ดน ิ อีกก ้าวหนึ่ ง ร่างสูงมองลงไปยัง
ด้านล่าง

เพียงแค่แว๊บเดียวก็ทอดพระเนตรเห็นตู๋กูซงิ หลันยืนอยู่บนบันได
ไม้

นางสวมชุดบุรุษหนุ่ มสีดํา เกลา้ ผมรวบสูงเป็ นหางม้าเช่นเดิม


่ี
ใบหน้ารูปไข่ทงดงามสะดุ ้ งส่
ดตา คราวนี ยิ่ งประกายองอาจเหนื อ
ผูค้ น
่ อเหลางดงามผูห้ นึ่ ง
เป็ นหนุ่ มน้อยทีหล่


อยู่ๆ ตู๋กูซงิ หลันก็รู ้สึกว่าศีรษะเย็นวาบขึนมา พอเงยหน้ามองดูก็
เห็นว่าเป็ นพระพักตร ์ภูเขานํ ้าแข็งพันปี ทไม่ ่ี มวี น
ั ละลายของฮ่องเต้

อุย้ ทําไงดี ชกั จะอายๆ อยู่เหมือนกัน

่ อยู
ทําไมสิงที ่ ่ในความสนใจของฮ่องเต้ผูน ้ งได้ไม่เหมือนกับของ
้ ี ถึ
ื่
ผูอ้ นตลอดเลยนะ?

๊ องนั้นเท่ห ์จะตายเขาไม่คิดจะไปดูบา้ งหรือ?


เจ ้าติงต๊
เขาสมควรจะประหลาดใจทีได้ ่ เห็นไก่ที่เสกไฟได้ไม่ใช่หรือ? จะวิง่
มานี่ เพือจั
่ บตาดูนางทําไมกัน?

พอดวงตาทังสี ้ ประสานกั
่ น สายพระเนตรของจีเฉวียนก็หรีลง่ เมือ

ครูเ่ ขาโดนหุ่นไม้สาปแช่ง แม้ว่านํ ้าแข็งบางๆ บนใบหน้าจะละลาย
ไปแลว้ แต่ว่าสีหน้าก็ยงั คงยํ่าแย่อยู่หลายส่วน

คนดูไปแลว้ ให้ความรู ้สึกคลา้ ยดั่งกับคนงามทีป่่ วยไข ้


จีเฉวียนมองเห็นนาง ก็มไิ ด้ตรัสสิงใด

เขามิได้ประหลาดใจเลยสักน้อย เพียงยืนอยู่ดา้ นขา้ ง มองดูนาง


ควบคุมดวงจิตของชือหลี
ตู๋กูซงิ หลันถูกเขาจ ้องมองมา ก็เกรงว่าวันหน้าเขาจะมาหาเรืองนาง่
จึงได้แต่ทําหน้าหนากล่าวออกไปว่า ” จีเฉวียน โอรสสวรรค ์แห่งต้า
โจว ได้รบั ชะตาฟ้ าเป็ นมังกรจุติ แควน้ ต้าโจวมีประมุขเช่นนี ้ ย่อม
ต้องเจริญรุง่ เรืองสืบเนื่ องกันไปทุกรุน
่ อีกนานนับพันปี “


แน่ นอนว่า ในสายตาของผูค้ นทังหลาย ้ นชือหลีเอ่ย
คําพูดนี เป็
ออกมา

ี่ งประโยคประจบประแจงเช่นนี ้ เป็ นเพียงการดินรนเพื


แต่ทจริ ้ ่
อการ
เอาชีวติ รอดของนางเท่านั้น


ชือหลีรู ้สึกว่านางเป็ นเทพมาตังนานหลายปี ยังไม่เคยรู ้สึกว่าอับ
อายขายหน้าถึงขนาดนี มาก่ ้ อน

้ บยืม
จะอย่างไรนางก็เป็ นถึงดวงจิตของเทพ แต่ว่านังเด็กน้อยผูน้ ี กลั
ปากของนางมาประจบประแจงฮ่องเต้น่ ัน
ขนาดนางทีเป็ ่ นเทพเด็กนั่นยังกลา้ เล่นงาน แต่แลว้ กลับเกรงกลัว
ฮ่องเต้องค ์หนึ่ ง? นางทีมี
่ ความสามารถถึงเพียงนี หากจะกํ
้ าจัด
ิ้
ฮ่องเต้ทงไปสั ้
กคนแลว้ ให้ตนเองขึนแทนที ่ ไม่น่าจะเป็ นปัญหาใดๆ
ก็
เลยสักนิ ด

่ บขึนมาเขานึ
จีเฉวียนถูกนางประจบประแจงเสียจนอิมเอิ ้ กถึงคําพูด
นี่ นางเคยกล่าวกับเขาเมือตอนแรกๆ
่ ้
ขึนมาได้

ี่
นางอยากให้เขาเป็ นฮ่องเต้ทดี

ตระกูลตู๋กูของนางยังจงรักภักดีต่อเขา

่ นางก็ไม่ได้โกหกเขา
ทีแท้
เขารู ้ว่านางรู ้วิชาไสยเวท แต่คดิ ไม่ถงึ ว่าแม้แต่จต
ิ ของเทพนางก็
สามารถควบคุมได้ ทังยั ้ งใช ้ปากของเทพมาพิสจู น์ให้เขาดู

่ งเพียงนี ้
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ตู๋กูซงิ หลันจะทําเพือเขาถึ


นอกจากตอนเด็กๆ ทีเคยได้ รบั การปกป้ องจากพระมารดาแลว้ นี่
้ ่ เฉวียนทรงรู ้สึกว่ามีคนปกป้ องเขา
เป็ นครังแรกที
จี

่ นเป็ นนํ ้าแข็งถูกกระเทาะออกมาเล็กน้อย ความอบอุ่นสาย


หัวใจทีเย็
หนึ่ งแทรกซึมเขา้ ไป เติมเต็มในหัวใจของเขา

อืม เป็ นความอบอุ่นจากดอกฮว๋ายฮวา


จีเฉวียนมองดูนาง เกล็ดนํ ้าแข็งในดวงเนตรหงส ์คู่นั้นละลายออกไป

ปลายนาสิกแสบร ้อนขึนมา แม้กระทั่งในดวงเนตรก็มไี อนํ ้าเกาะ
พราว

นั่นเป็ นความรู ้สึกทีมิ


่ อาจจะบรรยายออกมาได้

่ กพระบิดาทอดทิง้ ถูกผูค้ นรุมรังแก มีกระทั่งช่วงเวลาทีต้


เขาทีถู ่ อง
ไปแย่งชิงอาหารกับสุนัข แต่ก็ยงั ไม่เคยหลั่งนํ ้าตาเลยสักหยด

้ บ อยากจะร ้องไห้ออกมา
ตอนนี กลั

เขาเป็ นฮ่องเต้ จะหลั่งนํ ้าตาได้อย่างไร?


แต่ว่าตอนนี ้ หยดนํ ้าในดวงตากลับเอ่อขึนมาอย่
้ างระงับไม่อยู่

่ กลําครั
เขามองดูตู๋กูซงิ หลันด้วยสายตาทีลึ ้ งหนึ
้ ่ง

ในตอนนั้นเอง ฮ่องเต้ได้ทรงตัดสินพระทัยบางอย่างออกไปอย่าง
เงียบๆ ……
ตอนที่ 204 บุรษ ่ านมาล ้วนสูงส่งดัง่
ุ ในตระกูลจีของข ้า ทีผ่
ทองพันชง่ ั

ตู๋กูซงิ หลันแห็นท่าทางของเขา ในใจก็เกิดความตระหนกขึนมา


ใช่เป็ นเพราะว่ากลินในห้ ิ นี รุ้ นแรงเกินไปหรือไม่ ถึงได้ทํา
องใต้ดน
ให้เขาพาลนํ ้าตาไหลออกมา?


นางยังจําได้ว่าตอนทีเขาถู ่
กมูลราชาหมาป่ ารมในพระตําหนักจิน
ซิว่ เขาก็มส ี น้าเช่นนี ้
ี ห

นางได้แต่โบกแขนเสือเบาๆ้ ่
คิดจะพัดกลินพวกนั ้นให้เบาบางลง
้ ดเี กินไปแลว้ เห็นท่าทางของเขาดูอ่อนแอ
จมูกของฮ่องเต้สุนัขผูน้ ี ก็
เช่นนี ้ น่ ากลัวว่าหากทนไม่ไหวคงจะต้องเป็ นลมลม้ ลงไปแน่
ื่ อไปหยิบผลไม้สีแดงสดใสผล
จีเฉวียนประทับยืนอยู่ดา้ นขา้ ง ก็ยนมื
หนึ่ งจากบนโต๊ะบูชาส่งให้กบั นาง


อือ ในเมืองลีโจวเดิ
มก็ไม่มข ้
ี องกินอะไรอยู่แลว้ หลายวันนี นางย่ อม
ไม่ได้ทานอาหาร อย่าได้หวิ จนยํ่าแย่ไป

ตู๋กูซงิ หลัน “? ” ไม่เขา้ ใจจริงๆ ว่าเขาหมายความว่าอะไร

นางรับผลไม้ทจีี่ เฉวียนส่งให้ไปอย่างเงียบๆ ของพวกนี ไม่


้ ใช่ว่า
เอาไวบ้ ูชาเทพหรือ?

” เจ ้ากินเสียเถอะ เจ ้าก็คอ ่ ่เบืองหลั


ื เทพทีอยู ้ ง มิใช่ว่าต้องถวายบูชา
ให้เจ ้าหรอกหรือ? ” วิญญาณทมิฬกรอกตาค้อน ตอนนี มั ้ นอัดอัน

ตันใจอย่างมาก ตัวมันไม่มโี อกาสได้กน ้ ที่เลิศรส ได้แต่ยอม
ิ เนื องู

ยกทังหมดให้ ไอ้ไก่น่ น ้ นับว่าได้รบั ความอยุตธิ รรมมากแลว้
ั แค่นีก็
้ ้าฮ่องเต้สุนัขนั่นยังเป็ นฝ่ ายยื่นของกินให้หลันหลันด้วย
ตอนนี เจ
ตนเอง ฮือ ฮือ ฮือ

ตู๋กูซงิ หลันเงียบงันไป เจ ้าวิญญาณทมิฬนั่นเหมือนจะพูดถูก

……………………

่ านนอก ติงต๊
ทีด้ ๊ องทีมี
่ เปลวเพลิงสีทองอยูท
่ ่วร่ ้ ลงไป
ั าง กลืนเนื องู
หลายคําแลว้

มันโบกปี กอันใหญ่โตไปมา ส่งเสียงสูงร ้องกะต๊ากๆ ออกไป


่ มน
เมือมี ั เป็ นแม่ทพ ้
ั เหล่าองครักษ์และนักพรตทังหลายเป็ นทหาร
ราบ ก็สามารถสกัดงู ยก ั ษ์ตวั นั้นเอาไวไ้ ด้อย่างอยู่หมัด อู๋ซอและอู
ื่ ๋

เจินศิษย ์พีและศิ ้
ษย ์น้องทังสองเสกฝุ่ นดินเป็ นแสม้ ด ั ปากงู ยก ั ษ์ตวั
นั้นเอาไวไ้ ม่ให้มน ่
ั ส่งเสียงกรีดร ้องสร ้างคลืนในแม่ นํ้าลีเหออี
่ ก

เหล่าองครักษ์ก็สกัดบริเวณลําคอของมันเอาไว ้ เมือใช่ ้ดาบกระบี่


กระหนํ่ าแทงลงไป ถึงแม้ว่างู ยก ่ งหนาและแข็
ั ษ์จะมีเกล็ดทีทั้ งอย่าง
่ สามารถกรีดจนเป็ นแผลลากยาว
ยิงก็

่ าคัญทีสุ
ทีสํ ่ ดก็คอ ่
ื เปลวเพลิงสีทองของเจ ้าไก่ขนฟู ทีแผดเผาจนมั

้ วต
เจ็บปวดแทบสินชี ิ

เหล่าประชาชนได้เห็นดังนั้นต่างก็พากันตกตะลึงจนถึงขีดสุด แต่
่ มพู
่ นความเคารพในตัวเทพธิดาแห่งสายนํ ้า
ละคนยิงเพิ
พวกเขาเลิกจุดธูปเทียนบูชามานานหลายปี คิดไม่ถงึ ว่าเทพธิดาจะ
ยังคงยอมส่งไก่เทพออกมาช่วยเหลือพวกเขากําราบปี ศาจ


ทังหมดนี ้ เป็ นเพราะฮ่องเต้ทรงทําการถวายบูชาอย่างได้ผล เขาคือ

โอรสทีสรวงสวรรค ์เลือก เมื่อแผ่พระเกียรติแห่งจักรพรรดิออกมาก็
สามารถทําให้เทพธิดายอมรับ


ทีปลายหางของงู ยก ่ กปกป้ องเอาไวอ้ ย่างระมัดระวัง
ั ษ์ จีหรานทีถู
ั ษ์ตอ้ งเจ็บปวดถึงเพียงนี ้ ในใจของเขาก็เหมือนจะบิดเป็ น
มองดูงูยก
เกลียว


เขาอยากจะดินออกไปจากหางงู แต่ว่างู ยก
ั ษ์กลับรัดเขาเอาไวไ้ ม่
้ งรับดาบแทนเขาไปอีกหลายครัง้
ยอมปล่อย ทังยั

จีหรานไอออกมาหลายครัง้ ตะโกนใส่ชอื หลีอย่างคลุม้ คลั่ง ” ชือห


่ า้ ผูเ้ ป็ นอ๋อง อาฉิ งนางไม่ได้ผด
ลี จะฆ่าจะแกงก็จงมาลงทีข ิ อะไร! “

ภายในอารามสีหน้าของชือหลีพลันเปลียนไป ความเกลียดชงั ที่

รุนแรงพวยพุ่งขึนมาจนเกื
อบจะทลายยันต ์สีชาดของตู๋กูซงิ หลันอ
อกไป

นัยตายาวรีสแี ดงเลือดคู่นั้นทอประกายแสงเย็นยะเยือกดั่งธาร
นํ ้าแข็ง จดจ ้องมองจีหรานอย่างลึกลํา้ นางแย้มยิมอย่
้ างเย็นชา ”
พวกเจ ้าช่างเป็ นชายหญิงชาติสุนัขทีมี ่ ความรักลึกลําต่
้ อกันจริงๆ

หากมิใช่เป็ นเพราะถูกยันต ์สีชาดของตู๋กูซงิ หลันควบคุมเอาไว ้ นาง



จะต้องสับชายหญิงชาติสุนัขคู่นีจนเป็ ้ ไปแลว้
นชินๆ

้ เป็
” ชือหลี เจ ้ามันไม่มเี มตตาไร ้ปราณี ทังที ่ นถึงเทพ หากปี นั้นเจ ้า
ไม่ได้พรากขา้ กับอาฉิ ง บีบบังคับให้ขา้ แต่งเจ ้าเป็ นภรรยา พวกเรา
ั เป็ นเช่นนี !้ ” จีหรานตอกยําอย่
ก็คงไม่ตอ้ งมีวน ้ างหนักแน่ น ไม่ได้
รู ้สึกว่าตนเองมีความผิดใดเลยสักนิ ด

” ตอนนั้นขา้ ยังเยาว ์วัยไม่รู ้ความ ถึงได้ให้คําสัญญากับเจ ้าไป เจ ้า


กลับยึดไวไ้ ม่ยอมปล่อย บุรุษในโลกมีนับพันนับหมืน ่ ทําไมจึง
จะต้องเป็ นอ๋องเช่นขา้ เท่านั้น? “

้ อหลีคด
ยามนี ชื ้
ิ แต่เพียงจะตัดลินของเขาออกมาป้ อนให้สุนัขกิน ดู
คําพูดเหล่านั้นสิยงั จะใช่คนอยู่หรือไม่?


ตู๋กูเจวียทนดู ไม่ได้อก
ี ต่อไป ถูกขังอยู่คุกใต้ดน ้
ิ มาตังนาน เขาย่อม

ได้รบั รู ้เรืองราวของชื อหลีมาเจ็ดแปดส่วน


บวกกับทีเขามาบรรเทาทุ ี่ โจวนี
กข ์อยู่ทลี ่ ้ อบครึงปี
เกื ่ นับว่าได้รู ้จัก
ท่านอ๋องจีหรานผูน ้
้ ี จนคุ น้ เคย อ๋องผูน ้ นคนเช่นไร ตนเองเขา้ ใจ
้ ี เป็
อย่างกระจ่างแจ ้ง
” หรานอ๋อง ขา้ จะไม่ด่าเจ ้าก็คงจะไม่ได้แลว้ จะเลวก็เลวไปเถอะ ไย
ต้องมาทําให้ราชวงศ ์ต้องแปดเปื ้อนถึงเพียงนี ้ เจ ้ามันทําให้พวกเรา
เหล่าบุรุษต้องอับอาย! “

” ดูแม่นางเทพธิดาสิ นางงดงามหาใดเทียบ มีรกั แท้ให้โดยไม่แปร


้ งมีบุญคุณช่วยชีวต
ผัน ทังยั ่
ิ เจ ้า ปกป้ องชาวเมืองลีโจวมาตลอด
หลายปี ฐานะสูงส่งเกินใดเทียบ นางเกิดความรักต่อเจ ้า ต่อให้
บรรพบุรุษของเจ ้าฟื ้นขึนมาก็
้ ยงั ไม่อาจวาดฝันได้ “

” เจ ้ากลับดีเหลือเกิน ไม่เพียงแต่หก ั หลังนาง ไปพลอดรักเพอ้


รําพันกับน้องสาวของผูอ้ น ื่ ตอนนี ยั
้ งจะกลา้ มาโต้กลับ สาดนํ ้าเย็น
ใส่เทพธิดาเช่นนาง เจ ้าไม่ละอายบา้ งหรือไร? เจ ้าไม่ละอาย ฮ่องเต้
ยังทรงละอายแทนเลย ต้องมามีเสด็จอาเช่นเจ ้า ก็ไม่รู ้ว่าเป็ นความ
ซวยของพระองค ์มากีชาติ ่ กน
ั !“
ว่าแลว้ เขาก็ไม่ลม
ื หันกลับไปขอคํายืนยันจากฮ่องเต้สก
ั หน่ อย ”
ฝ่ าบาท พระองค ์คิดว่ากระหม่อมพูดถูกหรือไม่พะยะค่ะ? “

พอจีเฉวียนได้ยน ้
ิ คําพูดของเขาก็ปวดพระเศียรขึนมา เขานวด
่ านมาล ้วนสูงส่งดั่ง
ขมับเบาๆ ” บุรุษในตระกูลจีของขา้ ทีผ่
ทองพันชง่ ั “

๋ าคํ
” ฟังสิ ฟัง! ” ตู๋กูเจวียยํ ้ านั้นไม่มห
ี ยุด รีบกล่าวต่อไปว่า ” หราน
อ๋อง เจ ้ามันไม่สมกับทีเป็่ นบุรุษเป็ นลูกหลานในตระกูลจี! “

่ ดแลว้ จริงๆ
” หุบปากเจ ้าของเจ ้าซะ ” ชือหลีราํ คาญเขาอย่างทีสุ

” แม่นางเทพธิดา เจ ้าไม่ตอ้ งขอบคุณขา้ หรอก ไอ้บุรุษเสเพลเช่นนี ้


ไม่ว่าใครก็สามารถลงโทษมันได้ทงนั ั้ ้น ท่านเป็ นถึงเทพทีคนเคารพ

ย่อมด่าออกมาไม่ได้ ขา้ มันเป็ นเพียงคนธรรมดาย่อมด่าได้ถนัดอยู่
แลว้ แต่ว่าขา้ ก็ตอ้ งขอตําหนิ ท่านสักหน่ อย สายตาการเลือกบุรุษ

ของท่านนับว่าใช ้ไม่ได้จริงๆ ท่านทีโดดเด่ นถึงเพียงนี ้ จะต้องไป
แขวนคอตายใต้ตน้ ไม้ทําไม? ” (เปรียบเทียบถึงความผิดหวังใน
รัก)

” คนทีรั่ กท่าน ต่อให้ตใี ห้ตายก็ยงั ไม่ยอมไปจากท่าน หากไม่ได้รกั



จะฝื นได้มาเพืออะไร ๋ งคงพูดต่อไป ” ต้องสละลมหายใจ
” ตู๋กูเจวียยั
ไปให้กบ ั บุรุษเสเพลเช่นนี ้ ช่างไม่คุม้ ค่าเลยจริงๆ ไยจึงไม่ละวาง
ความเกลียดชงั นั้นลงเสีย กลับไปเป็ นเทพธิดาแห่งสายนํ ้าอีกครัง้
ดูแลชาวประชา ได้รบั การสักการะอย่างยิงใหญ่ ่ หรือไม่ก็สก
ั วัน
หนึ่ ง อาจจะมีคนทียิ่ นดีรว่ มเป็ นร่วมตายกับท่านปรากฎตัวขึนมาก็ ้
ได้ “

ชือหลี “……” เอาจริงๆ เลยนะ หากมิใช่ว่ามียนั ต ์สีชาดนั้นควบคุม



นางเอาไว ้ นางก็จะกระชากลินของตู ๋
๋กูเจวียออกมาด้ วย

่ มานี ้ จีหรานเองก็รู ้ดีถงึ ความร ้ายกาจในวาจาตู๋กูเจวีย


ตลอดครึงปี ๋
พอได้ยน ้ ยปากขึนมาก็
ิ คนผูน้ ี เอ่ ้ ้
รู ้สึกว่าความหวังทังหมดดั
บสูญ
” ชือหลี เจ ้าไม่ตอ้ งมายืมปากของไอ้หนุ่ มนั่นมาดูถูกขา้ ตอนนั้น

ทังหมดที ่ า้ ทําลงไปเป็ นเพราะว่าถูกเจ ้าบีบคัน
ข ้ เจ ้ารีบปล่อยอาฉิ ง

เสีย ขา้ ยอมรับการลงโทษทังหมดจากเจ ้า “

ดวงเนตรของจีหรานปูดโปนไปด้วยเสน้ เลือด เขาเองก็คด


ิ ไม่ถงึ เลย

ว่าเรืองราวจะเกิ ่
ดความเปลียนแปลงไปจนมาถึ งจุดนี ้


เรืองมาถึ ้ ้ เขาก็ไม่คํานึ งถึงสิงใดอี
งขันนี ่ กแลว้

่ ขลาดตาขาว
เขารู ้จักชือหลีมานานหลายปี รู ้ว่านางดูถูกคนทีขี ้
่ ด หากว่าเขาวิงวอนขอให้นางละเวน้ ตนเองและอาฉิ งก็มแี ต่
ทีสุ
จะต้องตายเร็วขึน้

มิสูฝ้ ื นอดทนไว ้ บางทีชอื หลีอาจจะละเวน้ พวกเขาก็ได้


้ ตไหววูบ นางกําลังคุม้ คลั่งจนแทบจะ
ชือหลีโกรธเกรียวจนดวงจิ

ทลายพลังทีควบคุ มนางอยู่ออกไป

แต่ตู๋กูซงิ หลันยังคงใช ้ยันต ์สีชาดควบคุมนางเอาไวไ้ ด้อย่าง


ทันท่วงที

จากนั้นก็ได้ยนิ เสียงนางยืมปากของชือหลีเอ่ยออกมาว่า ” เจ ้าไม่มี


คุณสมบัตจิ ะมาต่อรองกับเราผูเ้ ป็ นเทพ บุรุษเจ ้าชูและสตรี
้ ่ ั ้าคู่
ชวช
หนึ่ ง ฆ่าพวกเจ ้าทิงก็
้ เปื ้อนมือของเราเปล่าๆ “

่ หลงเหลือแต่เพียงดวงจิตอยู่แลว้ ตลอดหลายปี มานี ้


ชือหลีเดิมทีก็
นางทําให้บุรุษชุดขาวต้องตายไปหลายคน เดิมทีก็นับว่ามีความผิด
ติดตัวอยู่แลว้ หากว่าสองมือยังต้องแปดเปื ้อนเลือดอีก เช่นนี แม้
้ แต่
ิ่
ด้วยจิตของนางก็ตอ้ งมีมลทิน ได้แต่ดงลงสู ่วถ
ิ ข
ี องมาร
ั ษ์มาปั่นป่ วนแม่นํ้าหลีเหอ
ตู๋กูซงิ หลันตอบไปอีกว่า ” เจ ้าชกั นํ างู ยก ่
ทําร ้ายสรรพชีวติ ไปมากมาย โทษทัณฑ ์นี่ ยังหนักหนายิงกว่ ่ าที่
หลอกลวงเรา และทําลายควันธูปของเราผูเ้ ป็ นเทพเสียอีก เรืองของ ่
ผูค้ นบนโลกเราผูเ้ ป็ นเทพจะไม่ยนมืื่ อสอดแทรก ย่อมต้องให้ฮ่องเต้
ทรงคืนความยุตธิ รรมให้กบ ั ประชาชนทังหลายเอง้ “
ตอนที่ 205 ฮ่องเต ้ทรงเท่ห ์จริงๆ!

ประชาชนทังหลายพอได้
ยนิ ดังนั้นต่างก็ยงทวี
ิ่ ความชิงชงั ขึนมา

หรานอ๋องช่างรู ้จักเสแสร ้งนัก ทําเป็ นรักใคร่ห่วงใยประชาชนมา


นานหลายปี คิดไม่ถงึ ว่าสุดท้ายแลว้ เขานี่ ละคือตัวชวร่ ั ้ายทีสุ
่ ด!

้ นมา
ราชวงศ ์มีตวั แปลกปลอมเช่นนี ขึ ้ นับว่าเป็ นความอับอาย
จริงๆ!

ไม่เพียงแต่เขาจะหลอกลวงเทพธิดา เขายังทําร ้ายนางไปดาบหนึ่ ง


จนทําให้ดวงจิตของนางเกือบจะต้องแตกดับ

คนเช่นนี ้ เก็บเอาไวก้ ็มแี ต่จะเป็ นเภทภัยเท่านั้น!


” ขอฝ่ าบาททรงลงพระอาญาหรานอ๋องและงู ยก ่
ั ษ์ เพือชดเชย
ให้กบ ่ี องตายไป! “
ั ผูท้ ต้

ทันใดนั้นประชาชนทังหลายต่
้ างก็พากันคุกเข่าลงไป มองดูฮ่องเต้
่ ออย่างหมดใจ
ด้วยความเคารพเชือถื

หากว่าฮ่องเต้มไิ ด้เสด็จมาด้วยพระองค ์เอง ก็ไม่รู ้ว่าพวกเขาจะต้อง


ถูกหรานอ๋องหลอกลวงไปจนถึงเมื่อไหร่


หากเมืองลีโจวต้ ่
องถูกคลืนลมและพายุ ฝนกระหนํ่ าต่อไปก็คงจะไม่
มีใครทนทานต่อไปได้อกี แลว้

้ ฝ่่ าบาทสามารถนั่งชมดูอยู่บนบัลลังก ์โดยไม่จําเป็ นต้องสนใจ


ทังที
ความเป็ นตายของพวกเขา แต่พระองค ์กลับเสด็จมาแลว้
นี่ เป็ นเพราะพระองค ์ทรงคํานึ งถึงแผ่นดิน ในพระทัยมีราษฏร จึงได้
ทรงเสด็จมา


ดูเหล่าองครักษ์และนักพรตทังหลายเหล่ านั้นสิ ต่างก็มาทีนี
่ ่ ตาม

พระบัญชา ฮ่องเต้พระองค ์นี คงจะทรงตรวจสอบพบความผิ ดปกติ

ในลีโจวเกิ ้
ดขึนเพราะปี ศาจมาแต่แรก จึงได้ทรงวางแผนการเอาไว ้
แลว้

่ี
ต้าโจวของพวกเขามีฮ่องเต้ททรงพระปรีชาสามารถเช่นนี ้ นับว่า
เป็ นบุญของประชาชน บุญของชาติบา้ นเมือง!

จีหรานเห็นท่าทางของประชาชนกลายเป็ นเช่นนี ้ ก็ยงทั


่ิ งโกรธทั
้ ง้
้ เหมือนกับฝูงจิงจอกตาขาวที
ผิดหวัง คนพวกนี ก็ ้ ่ ยงอย่
เลี ้ างไรก็

เลียงไม่ ่ พวกหญ้าบนกําแพง
เชือง
้ าไมพวกเขาถึงได้จดจําความดีของเขาไม่ได้เลยสักนิ ด?
ตอนนี ทํ

กลับต้องการให้ฮอ
่ งเต้ลงโทษเขา ส่งเขาไปประหาร?


เขายังคิดจะดินรนขั ดขืน ทันใดนั้นก็ได้ยน
ิ เสียงคนกล่าวอีกว่า ” ดู
นั้นเร็ว มีทองคํามากมายถูกพัดออกมาจากตําหนักของหรานอ๋อง!

ทันใดนั้น สายตาของผูค้ นก็พากันจับจ ้องไปที่ตําหนักหรานอ๋อง


พายุฝนทีราวกั ่ นรูลงมานั้น ทีจริ
บฟ้ ารัวเป็ ่ งได้ทลายตําหนักหราน
้ งแลว้ แม้แต่หอ้ งลับของหรานอ๋องก็ถูกทําลายลงมา
อ๋องลงมาทังหลั
ด้วย
ทองคําสุกปลั่งทีถู
่ กสร ้างเป็ นกําแพงนั้น ถูกนํ ้าจากในแม่นํ้าพัดโถม
เขา้ ใส่จนทลายลงมา

้ งอึมครึม แต่แสงสีทองของทองคําก็ยงั
แม้ว่าท้องฟ้ าในตอนนี จะยั
เจิดจ ้าในสายตาของผูค้ น


” ดูท่าเงินบรรเทาทุกข ์ทีเราส่ ่ กใจของหรานอ๋อง
งมา คงจะเป็ นทีถู

มากแลว้ ” จีเฉวียนทรงหรีพระเนตรลง สีพระพักตร ์ของฮ่องเต้เย็น
ชาอย่างทีสุ่ ด

๋ สามารถล
ตู๋กูเจวียที ่ ้ ยงกล่
า้ งคําครหาได้หมดสินก็ ่ิ ้
าวขึนมาว่ า ” ฝ่ า
บาท ครังนี ้ ทรงเชื
้ ่
อกระหม่ อมลว้ ใช่ไหมพะยะค่ะ? กระหม่อมไม่ได้
หอบเอาเงินบรรเทาทุกข ์หนี ไปจริงๆ หรานอ๋องเป็ นโจรทีร่ ้องจับโจร
แท้ๆ โยนหม้อดําใบใหญ่ใส่หวั กระหม่อม กระหม่อมถูกใส่ร ้ายจน
เกือบต้องตาย “
หากว่าเงินบรรเทาทุกข ์มิได้ปรากฏออกมา อาศัยฝี ปากของจีหราน
่ องถูกกลับดําเป็ นขาวไปถึงเมื่อไหร่
ก็ไม่รู ้ว่าเรืองจะต้

้ กฐานปรากฏชดั เจน ต่อให้เขาจะพูดอะไรอีก ก็ไม่อาจ


ตอนนี หลั
ลา้ งความผิดได้แลว้

ทําร ้ายเทพธิดา ชกั ใยงู ยก


ั ษ์ กักตุนเงินบรรเทาทุกข ์ ไม่ว่าจะเป็ น
ขอ้ ไหนก็สามารถจะทําให้เขาได้รบั โทษหนักห้าม้าแยกสังขาร
แล่เนื่ อพันชินได้
้ ทงนั
้ั ้น

เขาครุน่ คิดอย่างละเอียด เงินบรรเทาทุกข ์นั้นถูกเขาเก็บเอาไวใ้ น


ห้องลับ มีแต่ตนเองและคนสนิ ททีล่่ วงรู ้ ห้องลับก็สร ้างอย่างแข็งแรง
แค่นํ้าหลากครังเดี
้ ยวจะซัดจนพังได้อย่างไร?
นอกเสียจากว่าจะมีคนหักหลังเขา

้ หรานมองออกไป ถึงได้มองเห็นว่าคนสนิ ททีเคยพู


คราวนี จี ่ ดจา
้ าลังยืนอยู่ขา้ งกายจีเฉวียน
แทนเขาตอนนี กํ


ในสมองของเขาพลันเกิดเสียงแตกเพลง้ ขึนมา

แม้กระทั่งคนสนิ ทของเขาก็เป็ นคนของจีเฉวียน

่ ราชวงค ์จีไม่เคยเชือใจเขามาโดยตลอด
ทีแท้ ่ ่ เขากระทํ

ทุกสิงที าลง
ไปลว้ นอยู่ภายใต้การจับตาดูของจีเฉวียน


ฮ่องเต้พระองค ์ใหม่ เป็ นเพียงคนโง่เขลาทีไหนกั


เห็นอยู่ว่าเป็ นจิงจอกเฒ่ ่ ้าเล่ห ์และช่างวางแผนชดั ๆ!
าทีเจ

ั้ แรกแลว้ ทังยั
พระองค ์แกลง้ แสดงให้เขาดูตงแต่ ้ งขุดหลุมพลาง
ขนาดใหญ่เอาไวร้ อให้เขากระโดดลงไป!


ช่างน่ าขําทีเขาคิ ่ ดหลางพรางให้ฮ่องเต้
ดมาตลอดว่าเป็ นตนเอง ทีขุ
กระโดดลงไป

้ อดทั่วทังตั
ยามนี เลื ้ วของเขาเย็นเฉี ยบ ทีผ่
่ านมามีแต่เขาเป็ นฝ่ าย
วางแผนเล่นงานผูอ้ น ื่ ตอนนี กลั
้ บถูกจิงจอกเฒ่
้ ารุน
่ หลานเล่นงาน
่ เคยได้รบั มา
อย่างหมดสภาพ ทําให้เขาต้องรู ้สึกพ่ายแพอ้ ย่างทีไม่
ก่อน
จีเฉวียนเสด็จออกมาจากในอาราม โอรสสวรรค ์ทรงฉลองพระองค ์

มังกร ประทับยืนอยู่เบืองหน้
างู ยก
ั ษ์

ั ษ์ตวั นั้นแม้ว่าจะบาดเจ็บไปทัวทั
งู ยก ้ งร่
้ าง แต่ดว้ ยรูปร่างทีใหญ่
่ โต
ี่
ลําตัวงู ทหยาบหนานั ้นยังใหญ่กว่าต้นไม้พน ั ปี เสียอีก ดวงตาสีเขียว
ของมันทอประกายดุร ้าย ทีมิ ่ ว่าผูใ้ ดได้เห็นเป็ นต้องหวาดกลัวขึนมา

สามส่วน


แต่ว่าจีเฉวียนทีประทั ้
บอยู่เบืองหน้ ี วามหวาดหวั่น
ามันกลับไม่มค
เลยแม้สก ั น้อย

ยามเมือ่ ดวงเนตรหงส ์ทีเย็


่ นชาคู่นั้นกวาดมองมา ในสายพระเนตร
ี วามโหดเ**◌้ยม แต่ความองอาจนั้นยังเหนื อลํากว่
มิได้มค ้ าเจ ้างู
ยักษ์หลายเท่า

บนพระวรกายมีกลินอายของผู ่ มีผใู ้ ดเทียบเทียมได้มาแต่
ส้ ูงส่งทีไม่
กําเนิ ด ราวกับมิว่าเขาจะยืนอยู่ในทีใด่ ผูค้ นต่างก็ตอ้ งคุกเข่าลงไป
ก ้มศีรษะให้เขาด้วยความเคารพ

” ซี่ ซี่ ซี่ ……” งู ยก


ั ษ์ไม่สนใจว่ามีแสม้ ด
ั ปากของมันอยู่ มัน
พยายามหันมาส่งเสียงขู่คํารามใส่จเี ฉวียน

ี่ นพ่นนํ ้าลายทีเหม็
ทันทีทมั ่ นคาวออกมา องครักษ์ก็ปรากฏตัวขึน้
ี่ ยมเอาไวอ้ ยูแ่ ลว้ บังนํ ้าลายงู น่ ันเอาไว ้
พร ้อมกับกางร่มคันใหญ่ทเตรี

ี่ มโดนมิได้ขยับพระองค ์เลยสักนิ ด
ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่ทเดิ

พระองค ์เพียงแต่หน ้
ั ไปทางหรานอ๋องแลว้ ตรัสว่า ” นับจากวันนี ไป
เจ ้าถูกขับออกจากตระกูลจี ไม่ถอ
ื เป็ นคนในราชวงค ์ของต้าโจวอีก

” ประชาชนมากมายต้องตายเพราะเจ ้า เจ ้าไม่เหมาะสมจะเป็ น
ลูกหลานของตระกูลจี “

จีหรานยิมเย็้ นชาอย่างไม่สนใจไยดี ” ต่อให้ไม่ใช ้แซ่จ ี ในกายของ


เราผูเ้ ป็ นอ๋องก็ยงั มีพระโลหิตของอดีตฮ่องเต้ไหลเวียนอยู่ เจ ้า

สามารถเปลียนแปลงสายพระโลหิ ตในร่างกายของเราได้หรือไร? “

่ ้ามีคํา
จีเฉวียนได้ทรงฟัง ก็ตรัสอย่างไม่ดงั ไม่เบาว่า ” ในเมือเจ
ขอร ้องเช่นนี ้ เช่นนั้นก็เปลียนเป็
่ ้ าง
นถ่ายเลือดและถอดกระดูกทังร่
ของเจ ้าออกมาทังหมด ้ ่ นการรําลึกถึงดวงวิญญาณทีตายไป
เพือเป็ ่
ก็แลว้ กัน “

้ าง!
ถ่ายเลือดถอดกระดูกทังร่
้ างอะไรกับการถลกหนังเลาะเสน้ เอ็นกัน!
โทษหนักถึงเพียงนี จะต่

แต่ท่าทางยามทีฮ่ ่ องเต้ทรงตรัสออกมาจากพระโอษฐ ์นั้น คลา้ ยดั่ง



กับว่าสบายๆ ราวกับพูดคุยเรืองลมฟ้ าอากาศก็ไม่ปาน ราวกับว่า

เป็ นเรืองแค่ ลากคนออกไปโบยตีสก ั สิบกว่าไม้เท่านั้น

ทังๆ้ ทีพระสุ
่ รเสียงก็ธรรมดามิได้แยแสใดๆ แต่กลับเป็ นพระบัญชา

ทีโหดเ**◌ ่ ด!
้ ยมอย่างทีสุ


หัวใจของจีหรานอยู่ๆ ก็หวาดกลัวขึนมาแล ว้

้ งกับกลา้ ถ่ายเลือดถอดกระดูกของเขาได้อย่างไร
จีเฉวียนผูน้ ึ จะถึ
กัน?
” เจ ้าบา้ ไปแลว้ หรือไร? ” เขาตะโกนเสียงดังด้วยความเกรียวกราด ้
้ ขา้ ผูเ้ ป็ นอ๋องอายุได้หา้ ขวบก็ถูกขับออกมาจากเมือง
” นับตังแต่
หลวง มาเป็ นอ๋องไร ้ค่าอยูใ่ นทีที ่ ทั
่ งห่
้ างไกลและกันดารเช่นนี ้ ตอน
นั้นมิว่าใครก็สามารถรังแกขา้ ได้ ทีข ่ า้ ผูเ้ ป็ นอ๋องมีวน ้ นมาได้
ั นี ขึ ้ ก็

เป็ นเพราะว่าพึงพาตนเองสร ้
้างขึนมาทั ้ ้น เจ ้าถือสิทธิอะไรจะมา
งนั
จัดการขา้ กัน? “

” หรือเป็ นเพราะว่าขา้ ผูเ้ ป็ นอ๋องกําเนิ ดจากนางกํานัล จึงถูก


กําหนดให้ตอ้ งสกปรกตํ่าทรามหรือไร? ขา้ ก็เป็ นองค ์ชายพระองค ์
หนึ่ ง เป็ นโอรสของอดีตฮ่องเต้นะ! “


” เชือพระวงค ์ทําผิด หากว่าจะต้องลงทัณฑ ์ก็ตอ้ งให้ผอู ้ าวุโส

ทังหมดในราชวงค ์ร่วมกันหารือแลว้ จึงจะกําหนดได้ จีเฉวียน เจ ้า
เพียงคนเดียวมีสท ์
ิ ธิอะไรมาลงโทษข า้ กัน? “

จีฉวรทรงหรีพระเนตรลง ้ ่ง ”
ตรัสอย่างเยือกเย็นออกมาครังหนึ
เพราะเจ ้าทําร ้ายประชาชนของต้าโจว เพราะเราก็คอื ฮ่องเต้แห่งต้า
โจว “


เพียงแค่ประโยคนี ประโยคเดี ้
ยว ก็ทําให้ประชาชนทังหลายต่ างก็

ซาบซึงจนแทบจะระเบิ ดอารมณ์ออกมา

่ ณธรรมเช่นนี ้ ไม่ตอ้ งทําให้มน


ฝ่ าบาท การประหารญาติเพือคุ ั เท่ห ์
มากขนาดนั้นก็ได้มง!
ั้

่ รษะครึงหนึ
ตู๋กูซงิ หลันยืนศี ่ ่ งออกมาจากทางใต้ดน
ิ ดวงตาดอกท้อคู ้
นั้นจดจ ้องอยู่บนเงาหลังของจีเฉวียน

ว่ากันตามจริงแลว้ เจ ้าฮ่องเต้สุนัขผูน้ ั้นบางครังก็


้ ออกจะมุทะลุดุดน

เกินไปอยู่บา้ ง
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็ นคนทีนิ ่ สยั ไม่ดแี ละมักจะขุดหลุมวางแผนจัดการ
ื่
ผูอ้ นอยู ่
่เสมอ แต่ว่าหากพูดถึงเรืองประชาชนและบ า้ นเมืองแลว้ ละก็
เขาก็เป็ นฮ่องเต้ทดีี่ พระองค ์หนึ่ งจริงๆ

” น้องเล็ก ได้ยน ้
ิ ว่าว่าเจ ้ามีใจแอบหลงใหลฮ่องเต้ วันนี พอพี ่
รองได้

เห็นสายตาของเจ ้า ดูแลว้ ก็รู ้ว่าไม่ธรรมดาอยู่บา้ ง ” พอตู๋กูเจวีย
พบว่านางแอบมองดูจเี ฉวียน ก็รบั เขา้ มาหาในทัน เขาคุกเข่าลงที่
ขา้ งกายนางกล่าวว่า

่ องเล็กของขา้ พอใจ ต่อให้พรองต้


” ขอเพียงเป็ นบุรุษทีน้ ี่ องพูดจน
ปากเปื่ อย ก็ตอ้ งพูดจนเอามาให้เจ ้าจนได้! “
ตอนที่ 206 จีเฉวียน.......ตกลงแล ้วเขาเป็ นอะไรกันแน่ ?
่ เกี
ตู๋กูซงิ หลัน “!!! ” ข่าวเล่าลือสองสามเรืองที ่ ยวข
่ อ้ งกับนางและ
ฮ่องเต้ในเมืองหลวง ถูกแพร่กระจายมาไกลถึงเมืองลีโจวเชี ่ ยว
หรือ?

” พวกสาวใช ้ในตําหนักของหรานอ๋องเล่ากันอย่างมีสส ี นั เลย


่ เจ
ทีเดียว เรืองที ่ ้าบังคับจูบฮ่องเต้เอย กอดฝ่ าบาทจะเขา้ นอนเอย

แต่ละเรืองราวกั บว่าได้เห็นมาด้วยตาของตนเองอย่างไรอย่างนั้น ”
๋ ลม
ตู๋กูเจวียไม่ ่
ื ทีจะอธิ บายให้นางฟังอย่างละเอียดละออ

ว่ากันตามจริงแลว้ ตอนแรกทีเขาได้ ่ ยน ่
ิ เรืองพวกนี ้
มาก็ ยงั ไม่ค่อย
่ อสักเท่าไหร่ เนื่ องเพราะว่าน้องเล็กนั้นเคยรักจีเย่ว ์จะเป็ นจะ
เชือถื
่ นพีชายย่
ตาย เขาทีเป็ ่ อมรู ้อย่างชดั เจน

แต่พอได้เห็ นสายตาของนางในวันนี ้ เขาถึงได้เชือถื


่ อข่าวลือพวก
นั้นขึนมาบางส่
้ วน

ทําไมนอกจากบุรุษแซ่จแี ลว้ น้องเล็กถึงได้ไม่ถูกอกถูกใจคนอืน
เสียบา้ ง?


ยิงไปกว่ านั้น ต่อให้ชาตินีนางไม่
้ มบ ้
ี ุรุษไปทังชาติ ่
เขาและพีชาย
ใหญ่ก็สามารถจะเลียงดู ้ นางให้อว้ นท้วนสมบูรณ์ได้อยู่แลว้ จะต้อง

หาบุรุษอืนมาให้ ลําบากทําไม?


แต่เมือเขาคิ ี ทางหนึ่ ง ขอเพียงน้องเล็กชืนชอบ
ดดูอก ่ ต่อให้เป็ น
้ั ้า พวกเขาก็จะคิดหาหนทางจับลงมาให้
เทพเซียนในสวรรค ์ชนเก
นางให้ได้!

่ี บขันเช่นนี ้
ตู๋กูซงิ หลันได้แต่กุมหน้าผากเอาไว ้ ในสถานการณ์ทคั
เขากลับมาพูดเรืองนี่ อยู
้ ่ได้มน
ั จะดีหรือ?

” พีรอง ขา้ รู ้สึกว่าชือหลีจะเมตตาท่านมากไปแลว้ ” ตู๋กูซงิ หลันหัน
ไปตอบเขาประโยคหนึ่ ง นางมิได้รู ้สึกสงสารพีรองของตนเองเลย

สักนิ ด คนผูน้ ี ดื ้ มแต่
่ นํ้ากินแต่หญ้ามาครึงเดื
่ อน ยังคงมีเรียวแรงดี

่ ส่วนนางกลับกลุม้ อกกลุม้ ใจแทนเขามาตังนาน
ไม่มเี สือม ้ ่
วิงมาถึ


ลีโจวด้ วยทางไกลกว่าพันลี ้ ยังต้องมาถูกเขากระแนะกระแหนอีก

้ เป็
่ นพีน้
ทังที ่ องกันแท้ๆ ทําไมถึงได้ไม่ได้มาทางเดียวกับพีใหญ่
่ เลย
สักนิ ด?


ในความคิดของตู๋กูซงิ หลัน พีรองไม่ ่ เขา
นับว่าเป็ นยอดยุทธ ์ในทีใด

เป็ นพวกบุรุษชุดขาวทีบอบบางและพลิ ้
วไหว ใช ้ชีวต
ิ ล่องลอย แลดู
สูงส่งดั่งเซียนวิเศษ

หากจะดูแต่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก เขาก็นับเป็ นยอดบุรุษรูปงาม


จริงๆ

แต่พอเปิ ดปากขึนมา ภาพลักษณ์ของเซียนหนุ่ มก็มลายหายไปจน
หมด

๋ ้สึกเจ็บปวดราวกับว่าหัวใจถูกทิมแทงไปดาบหนึ
ตู๋กูเจวียรู ่ ่ ง น้องเล็ก
ช่างใจร ้าย

………………………………..

่ านนอก งู ยก
ทีด้ ั ษ์ถูกกําหราบจนอยู่หมัดแลว้ จีหรานเองก็ไร ้
หนทางจะหลบหนี

ชือหลีเองก็คอยมองออกมาจากด้านในอาราม เวลาผ่านมาก็นาน
หลายปี แลว้ พอมองเห็นชายหญิงคู่นีถู้ กลงโทษเขา้ จริงๆ ในใจของ
ึ้
นางกลับไม่ได้รู ้สึกยินดีขนมาเลยสั
กนิ ด

” พีสาว ้
ทังหมดล ว้ นแลว้ แต่เป็ นความผิดของขา้ ขอท่านได้โปรด
เห็นแก่ความผูกพันในตอนนั้น ช่วยชีวต ิ หรานเถอะ ” ยามนี ้ งู ยก
ั ษ์

เอาแต่จดจอ้ งมาทีนาง ใช ้กระแสจิตส่งเสียงมาหานาง

” ขา้ กับหรานมีรกั แท้ต่อกัน ทําร ้ายท่านแลว้ ขา้ เองก็เจ็บปวด


เช่นกัน ” ดวงตาสีเขียวของงู ยก ั ษ์คู่น้นมี
ั นํ้าตารินไหลออกมา ”
ท่านไม่ได้รกั เขาจริงสักนิ ด แต่เพราะว่าเขาเคยให้คําสัญญาเอาไว ้
คําหนึ่ งถึงได้ตอ้ งการให้เขาอยู่เคียงขา้ งไปชวชี่ ั วต ิ ท่านมีชวี ต
ิ อยู่
มายาวนานหลายปี แต่กลับไม่รู ้จักความรักที่แท้จริงของบุรุษและ
สตรี หากว่าท่านเขา้ ใจละก็ จุดจบของพวกเราทังสามก็ ้ คงมิตอ้ ง
เป็ นเช่นวันนี ้ “

ชือหลีสห ี น้าเย็นชา นางกล่าวออกมาเพียงประโยคเดียว ” เขามัน


่ าเขาเสียอีก “
น่ าไม่อาย แต่เจ ้ากลับไม่รกั หน้ายิงกว่
” ขา้ ถูกท่านสาปแช่ง กลายเป็ นงู มาสิบปี ตลอดสิบปี มานี ข ้ า้ อยู่มสิ ู้
ตาย ขา้ ไม่ขอให้ท่านให้อภัย เพียงหวังให้ท่านช่วยชีวต ิ หราน ขา้
ยินยอมแตกดับสินสู ้ ญ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีกไปตลอดกาล ” งู ยก ั ษ์
ยังคงนํ ้าตาหลั่งริน ” ท่านและขา้ เป็ นพีน้
่ องแท้ๆ ตังแต่
้ เล็กจนโตขา้
ไม่เคยขออะไรจากท่าน แค่ครังนี ้ เท่
้ านั้น ขอท่านได้โปรดช่วยเขา

สายตาของชือหลีเย็นยะเยือก นึ กไม่ถงึ จริงๆ ว่านางยังจะมีหน้ามา


ร ้องขอตนให้ชว่ ยบุรุษเสเพลผูน้ ั้น

” หุบปากเสียเถอะ ขา้ ผูเ้ ป็ นเทพไม่มท ี างให้อภัยหญิงร ้ายชายเลว


อย่างพวกเจ ้าตลอดกาล ” ชือหลีจดจ ้องไปยังนาง นางแย้มยิม้

อย่างเย็นชากว่าเดิม ” ในเมือพวกเจ ้ารักกันมากนัก ขา้ ผูเ้ ป็ นเทพก็
จะสนับสนุ นพวกเจ ้า พอพวกเจ ้าตายแลว้ ขา้ ก็เอาวิญญาณของ

พวกเจ ้าทังสองมาทํ าเป็ นไสข ้
้ องตะเกียงนิ รนั ดร ์ ให้พวกเจ ้าทังสอง
ได้เคียงคู่อยู่อย่างรักใคร่ ส่องสว่างอยู่ในอารามแห่งนี ไปอี้ กนานนับ
พันปี จนกว่าไสเ้ ทียนจะเผาไหม้จนหมดสิน ้ ดวงจิตของพวกเจ ้า
แตกสลายดับสูญจึงจะได้หลุดพน้ ก็แลว้ กัน “
พองู ยก ิ แลว้ นํ ้าตาก็พลันหยุดไหล เปลียนเป็
ั ษ์ได้ยน ่ นใช ้นํ ้าเสียงดุ

ร ้ายขึนมา ่
” พีสาว ท่านถึงกับไร ้นํ ้าใจจริงๆ หรือ? “

” ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตอนนั้นทีหญิ


่ งร ้ายชายชวอย่
่ ั างพวกเจ ้าใช ้ดาบทําลาย
เทพแทงเขา้ มาในหัวใจของเรา ทังยั ้ งทําลายควันธูปของเราทิงไป ้
ก็เคยมีนํ้าใจหลงเหลือบา้ งหรือไม่? ” ชือหลีขําแทบตายแลว้ ” คน
หนึ่ งแย่งชิงว่าทีสามี
่ ่
ของพีสาว อีกคนหนึ่ งเป็ นชูกั้ บน้องสาวของว่า

ทีภรรยา เจ ้ายังจะกลา้ มาพูดว่าพวกเจ ้ามีรกั แท้ ความรักเช่นนี ้
ตายไปแลว้ ก็ยงั จะรักกันอยู่ร ึ “

ชืหลีพูดจบ ก็กล่าวด้วยนํ ้าเสียงเย็นชาอีกว่า ” อย่าได้มากล่าว


่ อดเย็นมาแต่
วาจาไร ้สาระกับเราผูเ้ ป็ นเทพอีก เราเป็ นเทพทีเลื
กําเนิ ด ไม่มท
ี างสงสารหญิงร ้ายชายชวเช่่ ั นพวกเจ ้า “

งู ยก ั ษ์เห็นว่าปราศจากความหวังใดๆ แลว้ ก็กรีดร ้องเสียงดังกึกก ้อง



ขึนมาอี กครัง้ แม้ว่าอาวุธมากมายจะทิมแทงเข
่ า้ ไปในร่างกายมันก็
ยังไม่ยอมหยุด
ทันใดนั้นระดับนํ ้าในแม่นํ้าก็เพิมพู
่ นขึนมา
้ แสป้ ัดถูกปากของมัน
งา้ งจนแทบขาดออก เลือดงู ทเหม็ ี่ นคาวคละคลุง้ ก็ไหลอาบลงมา แต่
ว่ามันกลับไม่สนใจเลยสักนิ ด

่ ม
มันอ้าปากทีชุ่ เลือดจนกวา้ งโผเขา้ หาฮ่องเต้ที่ประทับยืนอยู่
ตรงหน้า

่ แต่ตอ้ งตายเท่านั้น ตายแลว้ ก็ยงั ไม่อาจได้รบั การ


ในเมือมี
ปลดปล่อย เช่นนั้นก็ควรลากฮ่องเต้แห่งต้าโจวทีหรานชิ
่ งชงั ลงนรก
ไปด้วยกัน!

้ ดขึนอย่
เหตุการณ์นีเกิ ้ างว่องไว แม้แต่เหล่าองครักษ์ก็ไม่ทน ั ป้ องกัน
ใครก็นึกไม่ถงึ ว่างู ยก ่ี กปราบจนสงบนิ่ งไปแลว้ อยู่ๆ ก็คลุม้ คลั่ง
ั ษ์ทถู

ขึนมา!

ความเคลือนไหวของมั ้
นรวดเร็วว่องไว พุ่งเขา้ ไปถึงเบืองพระพั
กตร ์
ในเกือบจะทันที เห็นอยู่ว่ามันปากอ้าเตรียมจะเขมือบกลืนฮ่องเต้ลง
้ าง
ไปทังร่

่ อนออกมา
จีเฉวียนยังคงไม่ได้ขยับเลยสักก ้าวเดียว เขาชกั กระบีอ่
่ั
จากหว่างเอวอย่างรวดเร็ว ชวขณะที ่
ฉลองพระองค ์พองขึน้ กระบี่

ในพระหัตถ ์ก็วาดออกมา เห็นเพียงลินของงู ถูกเขากรีดออกจาก
กัน


จากปากงู ไปจนถึงลําคอถูกสะบันขาดออกเป็ นสองส่วน!

” ตึงงง! ” งู ตวั นั้นไม่ทน


ั ได้ต่อสูข ั ขืน ก็ทรุดลงบนพืน้ ขยับอยู่สอง
้ ด
ที ก็ไม่เหลือลมหายใจอีก

ตู๋กูซงิ หลันยังคงถือยันต ์สีชาดไม่ทน ้


ั ได้เขวียงออกไปอยู ่ในมือ ตก

ตะลึงจนแข็งทือไปทั ้ วอยู่ในห้องใต้ดน
งตั ิ
จีเฉวียน…….ตกลงแลว้ เขาเป็ นอะไรกันแน่ ?


เมือครู ต ่
่ อนทีเขาวาดกระบี ่
ออกมา ่
นางก็รู ้สึกถึงไอหยินทีพวงพุ ่ง
ออกมาจากร่างของเขาได้อย่างชดั เจน


ทังหมดนั ้นผสานอยู่ในกระบีอ่
่ อนของเขา ปลิดชีพในกระบีเดี
่ ยว!

คนธรรมดาไม่มท ้ างเด็ดขาด!
ี างมีพละกําลังเช่นนี อย่

คราวนี ้ ทั่วทังบริ
้ เวณกลายเป็ นความสงบเงียบ มีเพียงแต่เสียงสาย
ลมพัดผ่าน

ในอากาศคาวคลุง้ ไปด้วยกลินของเลื ่ี
อดงู ทไหลออกมาจากร่ าง

ร่างกายทีใหญ่ ้
โตของมันกองอยู่บนพืนราวกั บว่าเป็ นภูเขาเล็กๆ
ลูกหนึ่ ง

แม้ตายแลว้ หางของมันก็ยงั ไม่คลายออกจากจีหราน

จีหรานตกตะลึงอยู่กบ ั ที่ เขาถลึงตามองจีเฉวียนอยู่ครูห่ นึ่ ง จากนั้น


ก็ชกั เอากริชเล่มหนึ่ งขึนมา
้ ่ั
ชวขณะที ่
จะแทงเข า้ ไปในลําคอของ
ตนเองนั้น เขาก็พลันเกิดความลังเลขึนมา ้

เขา……ยังไม่อยากตาย
เขา……ยังมีความทะเยอทะยานอีกมากมายทียั่ งไม่ได้ทาํ ให้เป็ นจริง
ตลอดชีวต ่ านมาเขาทนลําบากมาตังมากมาย
ิ ทีผ่ ้ เขาจะมายอม
้ อย่างไร?
ตายเช่นนี ได้

หากว่าเขาตายไปแลว้ เช่นนั้นก็จะไม่เหลืออะไรอีกแลว้ จริงๆ

ั ษ์หลั่งเลือดออกมามากมายเช่นนี ้ เขาก็หวาดกลัว
พอมองเห็นงู ยก

ขึนมา

่ ่ในมือสั่นไหวอย่างรุนแรง ทั่วร่างไม่เหลือเรียวแรงใดๆ
กริชทีอยู ่ อีก
เขามองออกไปรอบๆ ตัว หวังว่าคนในชุดคลุมสีดํานั้นจะมาช่วยพา
เขาหนี ไป

แต่มองอยู่เป็ นนานก็ไม่เห็นเงาของคนชุดดํานั่นเลยสักนิ ด

เขาถึงได้เขา้ ใจขึนมา ้ ว้
เขาถูกทอดทิงแล

ก็เหมือนกับทีอดี ่ ตฮ่องเต้ทรงทอดทิงเขาในตอนนั
้ ้น เขาเป็ นแค่คน
ไร ้ค่า เป็ นเพียงหมากตัวหนึ่ ง

แต่ว่าเขาไม่ยน ้
ิ ยอม เขาไม่ยอมตายไปง่ายๆ เช่นนี หรอก

เขายังอยาก……


” พลักกก” ขณะทีเขากํ าลังลังเลไปมาอยู่น้น
ั ไก่ขนฟูก็บน
ิ โฉบลง
่ า้ งกายของเขา สะบัดกรงเล็บกางออกเพียงเบาๆ ก็ชว่ ยเขา
มาทีข
ผลักกริชด้ามนั้นลงไปในลําคอ
ตอนที่ 207 ทีข
่ ้าเกรงกลัวทีสุ
่ ดก็คอื ท่าน

” พลักกก” ขณะทีเขากํ าลังลังเลไปมาอยู่น้น
ั ไก่ขนฟูก็บน
ิ โฉบลง
่ า้ งกายของเขา สะบัดกรงเล็บกางออกเพียงเบาๆ ก็ชว่ ยเขา
มาทีข
ผลักกริชด้ามนั้นลงไปในลําคอ

นั่นเรียกว่า โหด เร็ว แม่น ลําคอของจีหรานถูกแทงจนทะลุ เลือดสี


แดงฉี ดพุ่งออกมาเป็ นสายจนบาดตา

จากนั้นเจ ้าไก่ขนฟูก็ขยับปี กทีข


่ า้ งเอว ส่งเสียงอย่างองอาจออกมา
้ ่ ง ” กะ กะ กะต้าก~“
ครังหนึ

จะตายก็ตายให้เร็วๆ หน่ อย จะมายึกยักคิดมากไปทําไม น่ า


รําคาญ!
เฮียช่วยให้เจ ้าได้ตายในดาบเดียว ไม่ตอ้ งมาขอบคุณเฮียหรอกนะ

หลังจากนั้นครูห่ นึ่ ง ก็มเี สียงของประชาชนร ้องออกมาในทันที ”


แม้แต่สต ้ วร
ั ว ์เทพยังทนดูไม่ได้ หรานอ๋องผูน้ ี ช ่ ั ้ายเกินไปแลว้ จริงๆ!

” จริงด้วย หากเขาไม่ตายประชาชนคงไม่อาจสงบสุข! “


ผูค้ นทังหลายต่ างก็พากันร ้องรับ

่ ยก
เมืองู ั ษ์และจีหรานตายไปแลว้ แม่นํ้าลีเหอที
่ ่
โหมซั ดเขา้ มาก็กลับ
กลายเป็ นสงบเงียบดังเดิม นํ ้าทีท่
่ วมเมืองลีโจวไปกว่
่ ่ ลดระดับ
าครึงก็
ลงไป
ตู๋กูซงิ หลันกักดวงวิญญาณของจีหรานและงู ยก
ั ษ์เอาไว ้ ใช ้เป็ น

ขอ้ ตกลงกับชือหลี แลกเปลียนความสงบร่มเย็นให้กบ ั ชาวบา้ นใน
ลุ่มแม่นํ้าลีเหอไปอี
่ กพันปี


ชือหลีไม่มเี หตุผลทีจะปฏิ เสธนาง เพราะอย่างไรเสียตนเองก็เป็ นผู ้
แพ ้ หากว่าสูก้ น
ั ใหม่อก
ี รอบก็ใช่ว่าจะเอาชนะนางได้อยู่ดี

่ี อหลีรบั ปาก ตู๋กูซงิ หลันก็คลายผนึ กของยันต ์สีชาดออก


ทันทีทชื
ส่งวิญญาณของหญิงร ้ายชายโฉดให้กบ ั นาง

้ ประชาชนทังหลายย่
” นับจากวันนี ไป ้ อมกลับมาจุดธูปบูชาให้ท่าน
อีกครัง้ ในภายหน้าท่านก็จะมีโอกาศมีรา่ งเทพขึนมาใหม่
้ ” ตู๋กูซงิ
หลันว่าต่อไป ” ท่านปกป้ องแม่นํ้าลีเหอมานานนั
่ บพันปี ความดี
เหล่านั้นถูกหักลา้ งไปกับการพรากชีวต ้
ิ ในช่วงหลายปี มานี จนหมด

สินแล ว้ ต่อไปขอเพียงท่านกลับมาทําดีมเี มตตา ย่อมสามารถมี

โอกาสสร ้างความเปลียนแปลงได้ ี ครัง้ “
อก

ว่ากันตามจริงแลว้ ชือหลีรู ้สึกว่าต่อให้เป็ นตู๋กูเจวียมาช กั จูงให้นาง
” มีเมตตา ” นางก็ยงั คงสามารถเขา้ ใจได้

้ ี ้ ไม่ว่าตัว นัยตาหรือว่าในใจลว้ นดําสนิ ท สตรีทมี


แต่แม่นางน้อยผูน ี่
แต่ความดํามืดเช่นนี ้ มาชกั จูงให้เทพอย่างนางมีเมตตา รู ้สึกว่าจะ
แปลกประหลาดไปหน่ อยแลว้

ชือหลีจดจ ้องมองดูนางอยู่ครูห่ นึ่ ง ก็ยงั คงรู ้แต่เพียงว่าภายใต้



ผิวหนังทีหมดจดงดงามนี ้ เป็ นดวงจิตทีมื ่ ดสนิ ทดวงหนึ่ ง แม้ว่าจะยัง
มีพลังเซียนเบาบางปกป้ องร่างอยู่ ก็ไม่อาจปกปิ ดความมืดมิดจาก
ภายในของนางได้อยู่ดี

่ ดแลว้ ….คืออะไรกันแน่ ?
ทีสุ
พอนางจะมองดูให้ละเอียด ก็เห็นตู๋กูเจวียที๋ ยื
่ นอยู่โผเขา้ มาใกลๆ้
ดวงตาทีมี ่ ความคลา้ ยคลึงกับตู๋กูซงิ หลันอยู่สามส่วนนั้นทอประกาย

ขึนมา ” แม่นางเทพธิดา ท่านต้องเชือฟั ่ งคําสั่งสอนของน้องเล็กขา้
่ นะ “
ให้ดี ทําตัวเป็ นเทพทีดี


” ภายหน้าหากว่าขา้ มีเวลาว่าง ก็จะมาเยียมท่ ่
านทีอารามบ่ อยๆ
พูดกันตามตรงนะ ช่วงหลายวันมานี แม้้ ว่าท่านจะจับขา้ ขังเอาไว ้
ราวกับไม่ใช่คน แต่ก็ฟังคําพูดของขา้ ไปไม่นอ้ ย ท่านเป็ นผูฟ ่
้ ังทีดี
คนหนึ่ ง พวกเราสามารถเป็ นคนรู ้ใจกันได้ “


ชือหลี “…..” ขอโทษที ชาตินีนางไม่ คด ้ ก
ิ จะเจอคนปากมากผูน้ ี อี
แลว้ !

เพราะเกรงว่าเขาจะพล่ามต่อไป ชือหลีก็สลายร่างจิตกลับไปเป็ น
รูปปั้นเทพธิดาหินทีน่
่ าเคารพด้านหลังโต๊ะบูชาในทันที

ก่อนทีจะกลายเป็ นหินไปอย่างสมบูรณ์ นางก็กล่าวประโยคสุดท้าย
่ ไวก้ บ
ออกมา ” เราผูเ้ ป็ นเทพจะรักษาสัจจะวาจาทีให้ ั ฮ่องเต้ นับจาก

วันนี ไปจะพิ
ทกั ษ์แม่นํ้าลีเหอ
่ ปกป้ องความสงบสุขของประชาชน

ทังหลาย”

่ สจั จะแลว้ ย่อมไม่มท


พวกเขาเป็ นถึงทวยเทพ เมือให้ ี างคืนคํา


พอประชาชนทังหลายได้ ยน
ิ เสียงของเทพธิดา จิตใจก็สงบลง อด
ี่ กเข่าลงไปกราบกรานฮ่องเต้ส่งเสียงขอทรงพระเจริญ
ไม่ได้ทจะคุ
่ ปี
หมืนๆ


ดูสิ ฝ่ าบาททรงองอาจกลา้ หาญเพียงไร เพียงแค่ชกั กระบีออกมา
้ ยวก็ผ่าหัวงู ยก
ครังเดี ั ษ์ออกได้แลว้ !
้ แต่
พระองค ์ไม่เพียงชาญฉลาดมีแผนการ ความสามารถเช่นนี แม้
นักพรตพวกนั้นจะมาเทียบได้ที่ไหนกัน?


ฝ่ าบาท…….ทรงยอดเยียมเกิ
นไปแลว้ !

จีเฉวียนประทับอยู่ขา้ งร่างของงู ยก ่ ดอยู่บนกระบี่


ั ษ์ เช็ดเลือดทีติ
อ่อนออกไป ก็เก็บกระบีไว ่ ท้ ข่ี า้ งเอว ทรงสั่งให้เหล่าองครักษ์จดั การ
่ จ ก็หน
เก็บกวาดสถานทีเสร็ ั พระองค ์เสด็จกลับเขา้ ไปในอาราม

คราวนี ้ ทรงยืนพระหั
่ ้
ตถ ์ออกไปลากตู๋กูซงิ หลันขึนมาจากห้
องใต้
ดิน

่ นอยู่ขา้ งพระองค ์ดูไปก็คลา้ ยเป็ น


ตู๋กูซงิ หลันแต่งกายเป็ นชาย เมือยื
น้องชายตัวน้อย
นางเก็บยันต ์สีชาดในมือเรียบร ้อยแลว้ ก็ไม่ลม ่
ื ทีจะประจบประแจง
่ ฝ่ าบาททรงปรีชา
ฮ่องเต้ ” ฝ่ าบาททรงเจ๋งเป้ ง ฝ่ าบาทยอดเยียม
สามารถเช่นนี ้ ทรงเท่ห ์จนทําเอาตาของขา้ เกือบจะบอดไปเลย! “

พอคิดย้อนกลับไปถึงตอนทีวิ่ ญญาณทมิฬกระโดดงับเขาจนต้อง
้ ตอนนั้นนางก็สมควรจะรู ้ว่าเขาไม่ใช่คน
ฟันร่วงหมดปาก ตังแต่
ธรรมดาแน่ นอนแลว้


วันนี เขาสามารถใช ่ ยวกําจัดงู ทงไป
้กระบีเดี ิ้ ่ิ
ก็ยงประจั
กษ์ชดั เลยว่า
เขาไม่ใช่ธรรมดา


นางไม่เชือหรอกว่ า อาศัยเพียงแค่การฝึ กยุทธ ์จะทําให้มก
ี ําลังได้
มากขนาดนั้น
่ ่ในร่างของฮ่องเต้ผน
ความลับทีอยู ้ อยู่มากมาย แต่ว่านางก็ไม่กลา้
ู ้ ี มี
ถามออกไปอย่างง่ายๆ

้ าได้เพียงยืนยันว่าเขาเก่งมาก ทีจริ
ตอนนี ทํ ่ งแลว้ ยังเก่งกว่าทีนาง


เคยคิดเอาไวเ้ สียอีก แผนการก่อกบฏอันยิงใหญ่ ของนางคงจะต้อง

เลือนออกไปก่ อน

หากยังคลําหาความสามารถของฮ่องเต้ผน ้ ออก ก็ไม่ควรจะ


ู ้ ี ไม่
ผลีผลาม


เอาเถอะ หากว่าไม่ได้ถูกเขาบีบคันจนสุ ดทาง นางก็จะไม่ก่อกบฏก็
่ งเกินไปแลว้
แลว้ กัน ความเสียงสู

ต่อไปยามอยู่ในวัง คงต้องระมัดระวังตัวให้มากกว่าเดิมแลว้
จีเฉวียนมองดูท่าทางของนางทีชื่ นชมตนเอง
่ ในพระทัยก็ทรงรู ้สึก
ว่าการเป็ นคนเก่งกาจก็ไม่เลวนัก

่ ตถ ์ออกไปปัดฝุ่ นบนศีรษะของนาง ” ต่อไปยามอยู่ขา้ งกาย


เขายืนหั
เรา ก็ไม่มป ่ ้าต้องหวาดกลัวแลว้ “
ี ี ศาจร ้ายทีเจ

่ า้ หวาดกลัวทีสุ
ตู๋กูซงิ หลัน “……..” เอ่อ ทีข ่ ดก็คอ
ื ท่านน่ ะแหละ
ขอบคุณนะ

วิญญาณทมิฬชกั จะตัวสั่นสะท้านขึนมาบ ้ า้ งแลว้ ” หลันหลัน หาก


ว่าเขาชกั ดาบสับขา้ สักครัง้ ขา้ จะมีโอกาสรอดสักกีส่ ่ วนกัน? “

ตู๋กูซงิ หลันตอบอย่างไม่มล
ี งั เลว่า ” ศูนย ์ “
วิญญาณทมิฬ “!!! “


” งันให้ทางเลือกเจ ้าอีกครัง้ มีแค่สองทาง หนึ่ ง: กอดขาฮ่องเต้
เอาไวใ้ ห้แนบแน่ น ต่อให้ตอ้ งตายก็อย่าได้ปล่อยมือ! สอง: ไปให้

ไกลจากเขา ยิงไกลก็ ่ิ ! “
ยงดี

ตัวอันตรายเช่นนี ้ หากว่าไม่สามารถเอามาเป็ นมิตรกับฝ่ ายเราได้


่ ดเขา้ ไว ้
ก็ตอ้ งอยู่ให้ห่างทีสุ

งู ตวั ยักษ์ขนาดนั้น เกรงว่าต่อให้เป็ นยมบาลมาเองก็เกรงว่าไม่อาจ



สับทิงในดาบเดี ยวละมัง?้


เห็นกันมาตังนานแล ่ นนี ้
ว้ กลับไม่เคยรู ้เลยว่าเขามีดา้ นทีมหาโหดเช่
คิดดูแลว้ ก่อนหน้านี ที ้ พวกนางอยู
่ ่กน ่ ก็ไปก่อเรือง
ั เบือๆ ่ แลว้ ยังไม่
้ บเอา ก็ตอ้ งนับว่าพวกมันมีบุญแลว้ !
ถูกฮ่องเต้สุนัขผูน้ ี สั

นี่ ยังไม่แน่ ว่าทีจริ


่ งแลว้ ฮ่องเต้อาจจะทรงรู ้ไสร้ ู ้พุงของพวกนางเป็ น
อย่างดีแลว้ ก็เป็ นได้


เห็นนางไม่พูดจา จีเฉวียนก็เขา้ ใจว่านางเกิดความซาบซึงใจขึ ้
นมา
่ นชาก็พลันอิมเอิ
เสียแลว้ พระทัยทีเย็ ่ บขึนมานิ
้ ดๆ


” เรืองของเมื ่
องลีโจวจั
ดการเรียบร ้อยแลว้ ก็ตด ิ ตามเรากลับวังเถอะ
เจ ้าหิวจนผ่ายผอมแลว้ สมควรจะต้องบํารุงให้ดส ั หน่ อย ” ขณะที่
ี ก
ฮ่องเต้ทรงตรัสออกมานั้น สายพระเนตรก็อดไม่ได้ทจะมองออกไปี่
่ี งคงกินเนื องู
ยังร่างของเจ ้าไก่ขนฟูทยั ้ อยู่ดา้ นนอก
เจ ้าไก่ขนฟูรู ้สึกว่ามีสายตาลึกลับจับจ ้องมายังตัวมัน พอเงยหน้า

ขึนมากวาดตามองดู โดยรอบ ก็ไม่พบเห็นอะไร

ใครจะไปสนกัน…..กินงู ก่อนดีกว่า

้ มจี ํานวนมาก อืม เก็บเอาไวใ้ ห้เจ ้าถวนจือตั


เนื องู ่ วดํานั่นสักชินก็้
่ ่ นจะน่ ารังเกียจ แต่ว่ามันก็เป็ นสัตว ์ใน
แลว้ กัน ถึงแม้ว่าเจ ้าถวนจือนั
พันธะสัญญาของพีสาวตั ่ ่ วมันชอบพีสาวตั
วน้อย ในเมือตั ่ วน้อย ถ้า
เช่นนั้นก็ตอ้ งถือว่ารักบา้ นเพือแผ่
่ นกกาก็แลว้ กัน

้ แรก หุ่น
ในมุมสงัด คนชุดดํานํ าตัวอันหร่วนหลบหนี ออกมาตังแต่
ไม้น่ ันแตกสลายกลายเป็ นชินเล็
้ กชินน้
้ อยไปแลว้

………………………………
ยามคํ่าคืน ตู๋กูซงิ หลันลากตัวอู๋เจินออกมาจัดการเรืองหนึ
่ ่ ง ทําพิธ ี
ชําระให้กบ ่
ั วิญญาณผูต้ ายนับพันนับหมืนเหล่ านั้นทีริ่ มแม่นํ้าลีเหอ


พอวิญญานผูต้ ายทังหลายต่ างก็ไปจนหมดแลว้ ทั่วทังแม่
้ นํ้าลีเห

ี ครัง้
อก็กลับมาเป็ นฤดูใบไม้ผลิอก

สายลมยามคํ่าคืนก็มไิ ด้หนาวเหน็ บจนน่ ากลัวอีกต่อไป

อู๋เจินอยากจะคุกเข่าให้นางจริงๆ ” เพียงแค่คนื เดียวก็ชาํ ระ


วิญญาณได้มากมายถึงเพียงนี ้ มีแต่ท่านเซียนไทเฮาเท่านั้นทีทํ ่ า
ได้ ท่านเซียน ท่านไม่คดิ จะมาเป็ นเจ ้าอารามผูท
้ รงเกียรติให้กบั

พวกเราทีอารามเที ยนเก๋อกวนจริงๆ หรือขอรับ? “
ตัวเขาเอง ในหนึ่ งคืนให้ชาํ ระวิญญาณสักร ้อยดวงก็ถอ
ื ว่าสุด
ความสามารถแลว้


ความเคารพนับถือทีเขามี
ให้กบ ่ ก็ยงลึ
ั ตู๋กูซงิ หลันยิงที ิ่ กลําแล
้ ว้ ” ขา้
อยากจะกราบท่านเป็ นพระโพธิสตั ว ์จริงๆ “
ตอนที่ 208 แม่นางเทพธิดา ขอเชิญเจ ้าลงมาร่วมดืมกั
่ นสักจอกได ้
หรือไม่?
ตู๋กูซงิ หลันลองคิดๆ ดู พลางมองดูผวิ นํ ้าทีราบเรี
่ ยบของแม่นํ้าหลี่
เหอ ” หากว่ามีสก ั วันหนึ่ ง ขา้ เป็ นไทเฮาต่อไปไม่ได้ ขา้ จะไปขอ
ขา้ วขออาหารตอนผ่านไปทางประตูของอารามเทียนเก๋อกวน อู๋
เจินน้อย เจ ้าก็อย่าลืมให้ทานขา้ มากสักหน่ อยแลว้ กัน “

อู๋เจินตกตะลึงจนแทบจะกระโดด ” ท่านทีมี ่ ความสามารถอยู่กบ


ั ตัว
้ วน
มากมายเพียงนี จะมี ่ องตกยากถึงขันขออาหารกิ
ั ทีต้ ้ นด้วยหรือ?


ตีให้ตายเขาก็ไม่อยากจะเชือหรอก


ตู๋กูซงิ หลันได้แต่สํานึ กเสียใจขึนมา ้ รู ้แลว้ ว่าฮ่องเต้สุนัขผู ้
วันนี ได้
นั้นเก่งกาจถึงเพียงไหน นางรู ้สึกว่าวันเวลาทีตนเองจะต้
่ องออกไป
ขอทานคงอยู่อก ี ไม่ไกลแลว้
……………………

ภายในอารามเทพธิดา ต้นฮว๋ายฮวาทีเ**◌ ่ ่ ยวเฉามานานสิบปี พอ


ได้รบั สายลมฤดูใบไม้ผลิไปคืนหนึ่ งก็แตกยอดใหม่ออกมา

จากนั้นอีกเพียงคืนเดียวก็เปลียนเป็
่ นสีเขียวทั่วทังต้
้ น กลินหอม

้ ของต้นฮว๋ายกําจายไปทั่วอารามเทพธิดา
เฉพาะจากเนื อไม้

้ เช ้าตรูก
ตังแต่ ่ ็มช ้ งมีคนจํานวน
ี าวบา้ นไม่นอ้ ยพากันมาจุดธูป ทังยั
ไม่นอ้ ยมาช่วยซ่อมแซมอารามด้วยตนเอง

ยิงไปกว่ านั้น พวกเขายังระดมเงินในชวข่ ั า้ มคืนจนได้ทองคํามา
จํานวนหนึ่ ง นํ าไปบดเป็ นผงทอง เพือนํ
่ ามาปั้นเป็ นเทพธิดาชือหลี
ทองคําด้วย

้ ไม่กวัี่ น อารามเทพธิดาก็ถูกบูรณะขึนมาใหม่
เพียงเวลาสันๆ ้

ในอารามมีควันหอมกําจาย ควันธูปหมุนวนเป็ นวง

่ ม้ ขน้ เช่นนี มานานหลายปี


ชือหลีไม่ได้รบั ควันธูปทีเข ้ แลว้ หลายวัน

มานี นางจึงซึมซับอย่างไม่เกรงใจ จนทําให้ดวงจิตของนางเองก็
มั่นคงขึนมาอี
้ กไม่นอ้ ย

อย่างน้อยก็ไม่จําเป็ นต้องให้พวกดวงวิญญาณคนตายเหล่านั้นมา
พยุงนางอีกแลว้
่ งทุกวันนี ก็
ทีจริ ้ ไม่มวี ญ
ิ ญาณคนตายให้นางได้ใช ้สอยอีกแลว้ ก็
พวกมันถูกนังเด็กน้อยนั่นชําระดวงวิญญาณจนหมดสินไปแล้ ว้
มิใช่หรือ?

้ นต้นไป นางก็ไม่ตอ้ งซ่อนอยู่ในห้องใต้ดน


นับจากวันนี เป็ ิ นั่นอีก
แลว้ ช่างดีจริงๆ

คืนนี ้ นางพิงร่างอยู่บนกิงใหญ่
่ ของต้นฮว๋ายฮวา ร่างท่อนบนมีเสน้
ผมสีแดงปกคลุมจนทั่ว เพียงเผยให้เห็นสองแขนทีขาวผุ ่ ดผ่องราว
หิมะและช่วงเอวคอดเท่านั้น

่ องผ่านใบเขียวสดของต้นฮว๋ายทอดลง
ภายใต้แสงจันทร ์กระจ่างทีส่
มาบนปลางหางงู สเี ขียวยาวเฟื ้อย
ในมือของชือหลีถอ ื ตะเกียงเอาไวห้ นึ่ งดวง ไสต้ ะเกียงเป็ นเสน้ ด้ายสี
่ นทบกัน
ดําสองเสน้ ทีพั


ใช ้เวลาไปตังหลายวั
น นางถึงได้ทําไสข้ องตะเกียงนิ รนั ดร ์จากดวง
จิตของหญิงร ้ายชายโฉดคู่น้นสํ ่
ั าเร็จ พึงจะเสร็
จเรียบร ้อย ก็อดใจ
ไม่ไหวควรจะนํ ามาชมดูสก
ั หน่ อยมิใช่หรือ?


เพียงแค่นางเคาะลงไปเบาๆ ก็เห็นแสงไฟในตะเกียงลุกโชนขึนมา

” ฮิ ฮิ ดูจต ่ ามืดของพวกเจ ้าสิ แม้แต่ยามเมือดวงจิ


ิ ใจทีดํ ่ ตถูกแผด
เผาก็ยงั ลุกโชนเป็ นสีดํา ” ชือหลีหวั เราะเสียงเย็น

่ เ้ ทียนลุกโชนขึนมา
ยามทีไส ้ ก็ยงั สามารถได้ยินเสียงกรีดร ้อง
โหยหวนด้วยความทรมานของคนทังสอง ้
่ ก เจ ้าเองก็ตอ้ งไม่มีจุด
” ชือหลี เจ ้าเป็ นถึงเทพ แต่กลับโหดร ้ายยิงนั
่ แน่ ! ” ดวงวิญญาณของจีหรานยังคงสาปแช่งนางไม่ยอม
จบทีดี
หยุด

ชือหลีพงิ ลงไปบนลําต้น ยิมอย่ ้ ่ าเดิม ” เจ ้าดูสิ พอ


างอ่อนโยนยิงกว่
ผ่านไปอีกสักร ้อยปี พน ั ปี ขา้ ผูเ้ ป็ นเทพก็จะสามารถสร ้างกายทิพย ์

ขึนมาได้ อกี ครัง้ ถึงตอนนั้นก็จะมีอส ิ ระเสรีไปไหนได้ตามใจ ถึง
ตอนนนั้น วิญญาณของพวกเจ ้าก็คงถูกเผาผลาญจนหมดสินแล ้ ว้
แลว้ มาดูกนั สิ ว่าจุดจบของใครจะยํ่าแย่กว่ากันนะ? “


” พีสาว ท่านจัดการให้รวบรัดไปเลยดีกว่า ไยจึงต้องทรมานพวก
เราด้วยวิธท ี่ ่ นนานเช่นนี ้ ขา้ กับหรานรักกันอย่างแท้จริง พวกเรา
ี เนิ
ไม่ได้ทําผิดอะไรถึงเพียงนั้น ” ดวงจิตของชือฉิ งวิงวอนนางด้วย
ความทุกข ์ทรมาน

” รักแท้? อ๋อ ชือฉิ ง เจ ้าตายเร็วไปหน่ อย จึงไม่ได้เห็นว่าพอเจ ้าตาย


่ นรักแท้ของเจ ้านั้น แม้แต่จะฆ่าตัวตายก็ยงั ไม่
แลว้ หรานอ๋องทีเป็
กลา้ ทํา เจ ้าควรจะรู ้สึกขอบคุณไก่เทพตัวนั้น หากมิใช่เพราะว่ามัน

ช่วยคนเสเพลผูน้ ี ไปนิ ้ ท
ดหน่ อย ไม่แน่ ว่าตอนนี ผู ี่
้ ตายอาจมี
เจ ้า
เพียงคนเดียว ส่วนเขาก็ยงั อยู่ดม ี ส
ี ุขต่อไป “


ชือฉิ งเงียบงันไป มิใช่ว่านางมองไม่เห็น ……หลังจากทีตายแล ว้
่ เขาทํ
วิญญาณของนางก็ยงั อยู่ขา้ งๆ เขา ทุกสิงที ่ าลงไปนางลว้ นได้
เห็นอย่างละเอียดละออ

เขาไม่อยากตาย……นางก็เขา้ ใจได้

้ ้น เขาเองก็มไิ ด้นอกเหนื อ
คนธรรมดาลว้ นแต่กลัวตายด้วยกันทังนั
่ ้
นางไม่เกลียดเขาเพราะเรืองนี

แต่ว่าในหัวใจก็มบ ้
ี าดแผลขึนมา นางเคยนึ กว่า ความสัมพันธ ์ของ
พวกนางสามารถทําให้ฟ้าดินยังต้องซาบซึง้ สามารถผ่านการ
ทดสอบใดๆ ได้ทงนั ้ั ้น

ตลอดสิบปี มานี เขาป้ อนเลือดให้นางทุกวัน คิดจะช่วยให้นางได้

หลุดพน้ จากคําสาปทีกลายเป็ นงู นางจึงมั่นใจมาโดยตลอดจะขอ
อยู่กบ
ั เขาไปด้วยกันตลอดชาติภพ


แต่ว่าพอสุดท้ายแลว้ …..เขากลับขาดเขลาขึนมา

” หากไม่ใช่เจ ้า ขา้ กับอาฉิ งก็ไม่ตอ้ งเป็ นเช่นนี !้ ” จีหรานยังคงตี


โพยตีพายต่อไป

ตอนยังมีชวี ต
ิ อยู่เขาเคยได้รบั บาดเจ็บมาไม่นอ้ ย คิดไม่ถงึ ว่า ความ
ทุกข ์ทรมานจากการทีวิ่ ญญาณถูกแผดเผายังเจ็บปวดมากกว่า
หลายร ้อยเท่า
เขาทนต่อไปไม่ไหวแลว้

” คนเสเพล เจ ้ามันไม่มค ้ ้น! ” ชือหลีเพิมแสงไฟให้


ี ่าอะไรทังนั ่ โชติ
ช่วงแผดเผาเขามากกว่าเดิม

๊ จีหรานถูกเผาจนร ้องโหยหวน
ไสต้ ะเกียงถูกเผาจนแตกดังเปรียะๆ
้ มท
ออกมา ความเจ็บปวดนี ไม่ ่ ่วไปจะทนทานได้
ี างทีคนทั

เขาตะโกนด่าเสียงดัง ขอเพียงเขาด่าออกมาอีกหนึ่ งประโยค ชือห



ลีก็จะเพิมความสว่ ้ กหนึ่ งส่วน ดังนั้นเพียงแค่
างของตะเกียงขึนอี
่ ั ่ จีหรานก็ทนต่อไปอีกไม่ไหวแลว้
ช่วงเวลาเพียงชวครู

” ชือหลี เจ ้าปล่อยขา้ ไปเถอะ ตอนนั้น… ตอนนั้นทังหมดเป็


้ น
เพราะว่าชือฉิ งยั่วยวนขา้ ขา้ ถึงได้หลงไหลจนลืมตัว…. อ๊าก ….
……”
เขาทางหนึ่ งก็ร ้องอย่างเจ็บปวด ทางหนึ่ งก็วงิ วอนต่อนางราวสุนข ั
ตัวหนึ่ ง ” เจ ้าปล่อยขา้ เถอะนะ ต่อให้จะให้ขา้ ต้องเป็ นสุนัขอยู่ขา้ ง
กายเจ ้าขา้ ก็ยน ิ ดี “

” ตอนนั้น ขา้ ชอบเจ ้าจริงๆ นะ คิดจะอยู่กบ ั เจ ้าตลอดไป ขา้ ติดค้าง


บุญคุณช่วยชีวต ิ จากเจ ้า ยังไม่ทน
ั ได้ตอนแทนเลย หากไม่ใช่
เพราะว่าชือฉิ งมาล่อลวงข ้า ขา้ กับเจ ้าก็คงอยู่ด ้วยกันอย่างมี
ความสุขตลอดไป “

” ชือหลี ขอร ้องเจ ้าเถอะ ได้โปรดเห็นแก่ความสัมพันธ ์เดิมของ


พวกเรา ปล่อยขา้ ออกไปเถอะนะ….”

ชือหลีรบั ฟังคําพูดอย่างไม่ละอายเหล่านั้นด้วยสีหน้าเย็นชา นาง


รู ้สึกว่าตอนนั้นตนเองช่างตาบอดไปแลว้ จริงๆ ถึงได้ไปถูกอกถูกใจ
เจ ้าสุนัขไร ้ค่าตัวนี ้
” ชือฉิ ง เจ ้าได้ยน
ิ ชดั เจนแลว้ ใช่ไหม เขาอยากจะมาเป็ นสุนข
ั ของ
เรา ” นางหัวเราะขบขันด้วยความเย้ยหยัน

ดวงจิตของชือฉิ งถูกแผดเผา นางเองก็ได้รบั ความทุกข ์ทรมานแบบ


เดียวกันกับจีหราน แต่กลับกัดฟันทนเอาไวไ้ ม่ยอมเอ่ยอะไรออกมา
่ า
สักครึงคํ

่ ของตนเองเลยจริงๆ หราน ถึงกับ……


นางไม่กลา้ เชือหู

้ ไม่สมกับทีเจ
” ดูให้ชดั ๆ เขามันก็เป็ นบุรุษเสเพลเช่นนี เอง ่ ้าได้
่ อหลีหวั เราะ ก็ยงรู
ทุ่มเทไปเลยสักนิ ด ” ยิงชื ่ิ ้สึกว่าในหัวใจมีแต่
ความขมขืน ่
น้องสาวผูน้ ี ้ นางค่อยทนุ ถนอมดูแลมาตังแต่้ เล็กจนโต นับตังแต่ ้ ท ่ี
นางยังเป็ นเพียงไข่งูใบหนึ่ ง นางก็ทม
ุ่ เทแรงใจไปปกป้ องดูแลน้องมา
โดยตลอด กระทั่งนางกะเทาะเปลือกออกมา กระทั่งนางเปลียนร่ ่ าง

ได้ ตลอดมาคนเป็ นพีสาวคอยดู แลดั่งเป็ นพ่อเป็ นแม่อยู่เสมอ


ก่อนหน้านี ตนรั
กนางมากขนาดไหน พอถูกหักหลังแลว้ ถึงได้
เกลียดชงั นางขนาดนั้น!

้ อได้
่ มาเห็นนางถูกบุรุษเจ ้าชูเช่
แต่ตอนนี เมื ้ นจีหรานทอดทิง้ นางก็

ชกั จะใจอ่อนขึนมาบ า้ งแลว้


หัวใจอ่อนไหวทีสมควรตาย!


” พีสาว~ ่ ดแลว้ เขาจะเป็ นคน
เอาเป็ นว่าขา้ รักเขาไปแลว้ มิว่าทีสุ
เช่นไร รักไปแลว้ ก็คือรักไปแลว้ ……” ชือฉิ งกล่าวอย่างแสนจะ
ผิดหวัง
ในไสต้ ะเกียงดวงนั้น มีเงาร่างของสาวน้อยนางหนึ่ ง ทีหน้
่ าตา
คลา้ ยคลึงกับชือหลีอยู่ถงึ สามส่วน นางดูผด
ิ หวังเสียจนต้องหลับตา
ลง

ี่ มหางตาก็ยงั มีนํ้าตาเป็ นสายเลือดรินไหลออกมา


แต่ทมุ

นํ ้าตาเลือดนั้นหยดลงในไสต้ ะเกียงนิ รนั ดร ์ พอถูกแผดเผาขึนมาก็



กลายเป็ นดวงไฟสีแดงราวกับโลหิตดวงเล็กๆ

ชือหลีข่น ้ นที นางรีบดับไฟบนไสต้ ะเกียงนั้นลงไป


ุ เคืองขึนมาในทั

เจ ้าคิดจะเผาวิญญาณตนเองให้หมดสินเร็้ วขึนจะได้
้ หลุดพน้ ไป
้ อ? ไม่มท
จากโลกนี หรื ี างเสียหรอก! เจ ้าจงเปิ ดตาให้กวา้ งอยู่เฝ้ าดู
ให้กบ ้ สุ
ั เราผูเ้ ป็ นเทพ ดูให้ดวี ่าบุรุษเสเพลผูน้ ี ที ่ ดแลว้ เป็ นชาติสุนัข
ขนาดไหน! “


ชือฉิ งและนางต่างก็มเี ชือสายของเทพเหมื อนๆ กัน ถึงแม้ว่าดวงจิต
จะถูกนํ ามาทําเป็ นไสต้ ะเกียง แต่หากว่านางคิดจะทําลายตนเอง ก็
นับว่ามีโอกาสอยู่เหมือนกัน

่ อทําเช่นนั้นไปแลว้ ก็ไม่มห
เพียงแต่ว่าเมือลงมื ี นทางจะย้อนกลับมา
อีก ต้องแตกสลายไปจากโลกนี ไปดั ้ บสูญไปตลอดกาล

พอตะเกียงนิ รนั ดร ์ถูกดับลง รอบด้านก็มีแต่ความสงบเงียบ

่ นึ่ ง ก็เห็นเงาร่างสีขาวเขา้ มาในอาราม เดินมาจนถึงใต้


ผ่านไปครูห
ต้นฮว๋ายฮวา
คุณชายผูน้ ้นรู
ั ปงามผิวพรรณขาวสะอาด ดูคลา้ ยดั่งภาพวาด
้ ่เป็ นประกายราวหยดนํ ้าใสสะอาด น่ าชืนชมแท้
ดวงตาทังคู ่ ๆ

ในมือของเขามือสุรามาไหหนึ่ ง เขาคลียิ
่ มบางๆ
้ ให้กบ
ั นาง ” แม่
่ บขา้ สักจอกได้หรือไม่? “
นางเทพธิดา ได้โปรดลงมาร่วมดืมกั
ตอนที่ 209 หนุ่ มน้อยทีงดงามบาดตา

ชือหลีน่ ังอยู่บนต้นฮว๋ายก ้มลงมองดูเขา บุรุษหนุ่ มในชุดขาวอายุ


เพียงสิบเก ้าปี สะอาดสะอ้านหมดจดและสดใส


ยามทีเขายิ ้
มออกมา มุมปากยังมีลก ้ งสองข
ั ยิมทั ้ า้ ง เพียงได้เห็นก็
ทําให้คนรู ้สึกสนิ ทสนมน่ าชิดใกล ้


หนวดเคราบนใบหน้าถูกโกนจนสะอาดเกลียงเกลาแล ว้ เสน้ ผมดํา
่ วไหวตั
ยาวทีพลิ ้ ดกันกับชุดขาวบนร่าง คนดูราวกับภาพวาดที่

สําเร็จขึนในพู ่กน
ั เดียว


หากว่าเขาสามารถปิ ดปากได้ละก็ ช่างเป็ นหนุ่ มน้อยทีงดงามบาด
ตานัก
ชือหลีพลิกตัวหันหลังให้กบ
ั เขา นางสะบัดปลายหางน้อยๆ อยากจะ
ไล่เขากลับไปเร็วๆ

้ า้ อารมณ์ไม่ดี ไม่อยากจะเสวนากับเด็กน้อยทีขนอ่
ตอนนี ข ่ อนยังไม่
ขึน้

้ า้ ไปทูลขอมาจากฝ่ าบาทเชียวนะ เป็ นไห่ถางเหนี ยงจาก


” สุรานี ข
เมืองหลวง ท่านจะไม่ดมสัื่ กจอกหรือ? ” ตู๋กูเจวียมิ
๋ ได้หมดกําลังใจ
เขานั่งลงบนโต๊ะหินใต้ตน้ ฮว๋าย พอลว้ งเอาจอกสองใบออกมาก็รน ิ
สุราลงไป


กลินหอมของสุ ่ ม้ ขน้ ทําให้กลินของต้
ราทีเข ่ ่
นฮว๋ายถูกกลบเกลือน
ไป


เขาไม่เหมือนกับพีใหญ่ นิ สยั ของเขารักอิสระเสรี ชอบอ่านหนังสือ
่ นทึกเรืองราวของสิ
ทีบั ่ ่ ลั้ บตังแต่
งลี ้ เด็กๆ โดยเฉพาะพวกทีเกี ่ ยวข
่ อ้ ง

กับเทพเซียนและมารปี ศาจ ชือหลีเป็ นเทพองค ์แรกทีเขาได้ พบเจอ
ถึงแม้ว่าจะถูกนางจับไปทรมานมารอบหนึ่ ง แต่ยงั ดีทไม่
ี่ ถงึ กับ
ตะเกียงดับไสเ้ ทียนขาด

่ ตายก็แสดงว่าเป็ นวาสนา
ในเมือไม่


ชือหลีได้กลินหอมของเหล ้
า้ ในหัวใจก็รู ้สึกคันขึนมานิ ดๆ ยามว่าง

นอกจากทรมานผูค้ นแลว้ นางก็ชอบดืมแต่ สุรานี่ ล่ะ

่ กน้อยนั่นเอามายังหอมจัดถึงเพียงนี ้ นางส่ายหางเบาๆ
สุราทีเด็
อย่างอดใจไม่ไหว ต้องหันกลับไปเหลือบดูเขาแว๊บหนึ่ ง

หนุ่ มน้อยชุดขาวนั่นดืมไปแก
่ ้วนึ ง ใบหน้าก็ปรากฏสีแดงจางๆ ขึน้

เขาแลบลินออกมา โบกมือโบกไม่ไปในอากาศ ” วา้ แรงมากเลย
นะ “

ชือหลี “…….” ดืมเหล า้ ไม่เป็ นแลว้ จะมาชวนนางทําไม? ไอ้ตวั
ยุ่งยาก

เห็นเขาดืมไปอึ่ กเดียวก็อาเจียนออกมาหมด นางค่อยพลิกตัวลงมา


จากต้นฮว๋าย ควา้ ไหสุราขึนมาด้ ้ ี่ ก
วยมือเดียว กรอกลงคอไปไม่กอึ
ก็หมด สุราของเมืองหลวงช่างหอมเขม้ ขน้ ดีจริงๆ พอลงท้องไปไห
หนึ่ งก็รู ้สึกได้ว่ากลินหอมกระจายไปทั
่ ่วทังร่
้ าง สะใจยิงนั
่ ก

จากนั้นชือหลีค่อยปากเช็ดมุมปากอย่างอ้อยอิง่ ดวงตาสีแดงถลึง
้ ่ ง ” เสียดายของดีๆ “
ใส่เขาครังหนึ


ตู๋กูเจวียมองดู ิ้
ท่าทางของนาง ก็ยมออกมา ” หากว่าเจ ้าชอบดืม ่ ที
หลังขา้ จะไปเอามาจากเมืองหลวงให้มากหน่ อยก็แลว้ กัน เหลา้ ของ
คนธรรมดาถูกปากเทพเซียน นี่ ถือเป็ นวาสนาของสุรานี แล้ ว้ ”
ชือหลีมองดูเขาด้วยสายตาเย็นชา ” เจ ้ามันเป็ นพวกชอบความ
่ อน เจ ้ายังจะ
ทารุณหรือไง เราผูเ้ ป็ นเทพกักขังเจ ้าเอาไวเ้ กือบครึงเดื

กลา้ กลับมาชวนขา้ ดืมเหล า้ อีก? “

๋ “ขา้ ก็ออกมาได้แลว้ มิใช่หรือ? “


ตู๋กูเจวีย

ชือหลีพูดอะไรไม่ออก


” ประเดียวข ่
า้ ก็ตอ้ งกลับไปเมืองหลวงแลว้ ไม่รู ้ว่าอีกเมือไหร่
ถงึ จะ
่ โจว
ได้มาทีลี ่ มาถึงอารามเทพธิดาแลว้ ยังจะได้เจอเจ ้าอีกไหม สุรา
้ อว่าดืมอํ
ไหนี ถื ่ าลาเพือเดิ่ นทางไกลแลว้ กัน ” นัยตาของหนุ่ มน้อย
โศกเศร ้าอย่างทีสุ ่ ด
ชือหลีมองดูเขา อยู่ๆ ก็คด ิ ไปถึงพวกกระต่ายทีถู ่ กนางฆ่าไป
เหล่านั้น เจ ้ามนุ ษย ์ตัวยุ่งผูน
้ ี ้ ไม่ต่างอะไรกับกระต่ายพวกนั้นเลยสัก
นิ ด

” จะไปก็รบ ่ อ้ กับเราผูเ้ ป็ นเทพ เราเห็น


ี ๆ หน่ อย อย่างได้มาพรําเพ

เจ ้าแลว้ ก็ราํ คาญ ” ชือหลีวางไหสุราลง ปี นขึนไปนอนบนต้ นฮว๋า
ยอีกครัง้ ส่ายหางเบาๆ ไม่หยุด

อีกาคู่หนึ่ งพึงจะทํ
่ ารังบนต้นฮว๋ายเสร็จ พอนางส่ายหางไปมาไม่ก ่ี
ครัง้ ทั่วทังต้
้ นก็ไหวเอน ทําเอาไข่กาสองฟองกลิงออกจากรั
้ งหล่น
ลงมา


ตู๋กูเจวียสะบั ้ าออกไป อาศัยมือเท้าทีรวดเร็
ดชายเสือผ้ ่ วรับเอาไวไ้ ด้
่ เปลือกเขียวนวลกลิงอยู
อย่างทันท่วงที ไข่กาทีมี ้ ่ในอ้อมอก หัวใจ
ของเขาตระหนกจนเกือบจะกระโดดโลดขึนมา ้
พอเห็นว่าไข่ไม่ได้รบั ความกระทบกระเทือน ค่อยถอนลมหายใจ
ออกมาครังหนึ้ ่ ง ” อามิตาพุทธ แม่นางเทพธิดา เจ ้าเกือบจะทําร ้าย
ชีวต ้ กเพียงไม่กวั่ี นก็จะกะเทาะ
ิ อีกแลว้ เจ ้ากาน้อยๆ สองตัวนี อี
เปลือกออกมาแลว้ หากว่าเมือครู่ แ่ ตกร ้าวไป พวกมันยังไม่ทน ั ได้
่ นชีวต
เริมต้ ่
ิ ใหม่ก็ตอ้ งจากลาโลกทีสวยงามใบนี ้
ไปเสี ้ า
ยแลว้ ทังน่
เสียดายและน่ าสงสารออกนะ “

พูดแลว้ ก็เห็นเขาเอาไข่กาสองฟองนั้นใส่เขา้ ไปในเสือตั


้ วใน ใช ้มือ

และเท้าค่อยๆ ปี นขึนมาบนต้นฮว๋าย

่ ปี นขึนมาสอง
เขาเป็ นพวกบัณฑิตอ่อนแอ ปี นต้นไม้ก็ไม่ได้เรือง ้
้ หล่นลงไปทังสองครั
ครังก็ ้ ง้ แต่ก็ยงั อยากจะทําตนเป็ นมารดา ปก
้ั
ปักษ์รกั ษาไข่ทงสองฟองอย่ างสุดชีวติ


หลังจากทีทดลองอยู ่หลายครัง้ ในทีสุ
่ ดเขาก็ปีนขึนมาได้
้ แลว้
เขาตัวสั่นสะท้านกอดอยู่บนลําต้นฮว๋ายด้วยความระมัดระวัง รังนก

อยู่สูงมาก เขาต้องปี นสูงขึนมาถึ ่ นจึงจะมองเห็นรังของมัน
งครึงต้

เขาลว้ งมือลงไปในอกเสือเตรี ยมจะเอาไข่สองฟองนั้นวางกลับไปใน
รัง

ึ้
เดิมทีก็ตอ้ งใช ้สองมือปี นต้นไม้ขนมา ้ อยมือขา้ งหนึ่ ง
พอตอนนี ปล่
ตัวจึงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

ี่ านขา้ ง ในดวงตาของนางมีแต่ความเอือมระอา
ชือหลีมองดูอยู่ทด้

พอเห็นว่าไข่ยงั ไม่ทน
ั จะวางกลับลงไปในรัง เท้าของเขาก็พลันอ่อน

แรงลืนหลุ ด คนหงายหลังลงไปทังร่้ าง เกือบจะหล่นลงไปถึงพืน้

ชือหลีก็พลันขมวดคิว้ หางงู กวาดออกไปเบาๆ ก็รบั ตัวเขาเอาไว ้


กล่าวด้วยนํ ้าเสียงเย็นชาว่า ” โง่จริงๆ “

ว่าพลาง นางก็ใช ้หางงู พาตัวเขาขึนไปจนถึ
งรังนก


ตู๋กูเจวียวางไข่ สองฟองนั้นลงไปในรังนก พอมองดูหางงู ทโอบรั
ี่ ด
ื่ อออกมาลูบไลด้ ูเบาๆ เย็นๆ เรียบลืนให้
ตนเองเอาไว ้ ก็ยนมื ่ ั ผัสที่
สม
ละเอียดมากๆ

ว่าแลว้ เขาก็ลูบลงไปอีกครัง้

ชือหลีรู ้สึกขนลุก เสน้ ผมสีแดงทั่วศีรษะชีฟู้ ราวกับตัวเม่น นาง


๋ งลงพื
สะบัดตู๋กูเจวียทิ ้ ้
นไปทั ่ วต
นที ” เจ ้ามนุ ษย ์ขนอ่อน เจ ้าเบือชี ิ
แลว้ หรือไง? “
ปลายหางถือเป็ นจุดอ่อนไหวของนาง เขากลับกลา้ ลูบ

นางไม่ตด ่ นตัวประหลาด
ั มือของเขาลงมา ถือว่าเห็นแก่นอ้ งสาวทีเป็
ของเขาแลว้ !


ตู๋กูเจวียหล่ นลงบนพืน้ แม้ว่าจะก ้นกระแทก แต่ทจริ
่ี งชือหลีมไิ ด้ใช ้
กําลัง เขาจึงไม่ได้บาดเจ็บอะไร


ผ่านไปอีกครูใ่ หญ่เขาถึงได้ลุกขึนมา ่
ปัดฝุ่ นผงทีเกาะอยู ่บนก ้น
ค่อยหันกลับมายิมกั้ บชือหลีอก ี ครัง้ ” อีกแป๊ บเดียวขา้ ก็จะอายุยสิ่ี บ
แลว้ นั่นเรียกว่าขนอ่อนทีไหนกั
่ น แม่นางเทพธิดา ถึงแม้ว่าว่าเจ ้า
จะเป็ นเทพแห่งสายนํ ้า แต่ดูจากหน้าตาแลว้ ก็ไม่เกินยีสิ ่ บ หากว่า
ตามรูปลักษณ์ของมนุ ษย ์แลว้ เจ ้าและขา้ นับว่าอายุเหมาะสมกัน
มาก “

” หากว่าเจ ้าไม่รงั เกียจละก็ พวกเราสามารถสาบานเป็ นพีชาย
น้องชายกัน”


พอเห็นสีหน้าของชือหลีถมึงทึงกว่าเดิม ก็ได้ยินตู๋กูเจวียเปลี
ยน่

คําพูดใหม่เป็ นว่า ” เป็ นพีสาวน้
องสาวก็ได้ “

่ ดถือสายตาของผูอ้ ืนอยู
อย่างไรเสียเขาก็มใิ ช่คนทียึ ่ ่แลว้


ชือหลี “…….” ใครสักคนช่วยมาพาตัวคนปากมากผูน้ ี ไปเสี
ยที ไป
แบบปัจจุบน
ั ทันด่วนเลยได้ไหม?

ี่
” ก็เจ ้าเป็ นงู อยู่เพียงลําพังไม่เหงาหรือ? มีพชายน้
องชายมาก
หนทางก็มาก มีพสาวน้ ่ี องสาวมาก…..”
เขากล่าวยังไม่ทน
ั จบ ชือหลีก็สะบัดมือออกไป สายลมจากฝ่ ามือ
คมราวมีดดาบ ทําเอาโอ่งนํ ้าใบใหญ่ทอยู
่ี ่ดา้ นหลังของเขาแตก
ออกเป็ นสองส่วน

” เจ ้าเด็กน้อย หากว่าเจ ้ายังจะพูดมากอีก ต้องมีจุดจบเหมือนกับ


โอ่งนํ ้านั่นแน่ ! ” นางถลึงดวงเนตรทีแดงฉานคู
่ ่นั้นกล่าวด้วย
นํ ้าเสียงเย็นชา


ตู๋กูเจวียมองดู โอ่งนํ ้าด้านหลังทีแตกออกเป็
่ นสองส่วน เขาคิดอยู่ครู ่
หนึ่ ง ก็ถามนางออกไปอย่างจริงจังว่า ” ถ้าหากว่าขา้ พูดมากไป
สองประโยค…..ก็จะถูกสับเป็ นสีส่ ่ วนใช่หรือไม่? “


ชือหลี “……..” อ๊ากก!

” ในเมือจะสองส่ ่ วนก็ลว้ นแลว้ แต่ตอ้ งตาย ถ้าเช่นนั้นก็
วนหรือว่าสีส่
รอให้ขา้ พูดให้มากอีกสักหลายประโยค ถึงเจ ้าจะสับขา้ จน
้ ไม่เป็ นไร “
กลายเป็ นไสเ้ กียวก็

๋ ดให้รวดเร็วขึนกว่
ตู๋กูเจวียพู ้ ๋
าเดิม “ฟ้ าดินเป็ นพยาน ขา้ ตู๋กูเจวียว

วันนี จะขอสาบานอยู ่ี ่ ยินดีจะ……”
่ทนี

ั ออกมา ก็เห็ นหนุ่ มน้อยในชุดดําพุ่งเขา้ มาทางนี ้ ดั่ง


คําพูดยังไม่ทน
สายลมหอบหนึ่ ง หยุดลงตรงขา้ งๆ กายเขา พลางตบบ่าเขาไปแรงๆ
้ ่ง
ครังหนึ


” พีรอง ท่านสมควรกลับบา้ นไปกินยาได้แลว้ เจ ้าค่ะ “

๋ นศีรษะกลับมามองดูนาง พลางส่ายหน้า ” น้องเล็ก ขา้


ตู๋กูเจวียหั
ไม่ได้ป่วยเสียหน่ อย “
้ เมือไหร่
เขาป่ วยตังแต่ ่ ทําไมเขาถึงได้ไม่เคยรู ้มาก่อนเลย? “
ตอนที่ 210 ฝ่ าบาทแจกลูกอม

” พี่รอง ท่านป่ วยแล้ว ถูกขังในห้องใต้ดินมาตั้งนาน ป่ วยไม่นอ้ ย


เลย ” ตู๋กซู ิ งหลันจับหัวไหล่ของเขาเอาไว้

พูดเสร็ จก็หันไปพยักหน้ากับชือหลี ” พี่ชายของข้าสติไม่ดี เจ้าอย่า


ไปใส่ ใจเขาเลย ไว้วนั หน้าเจอกันใหม่ในยุทธภพนะ ข้าจะพาเขาไป
แล้ว “

ชือหลี ” ในสายตาของเราเขาเป็ นแค่ลมตดเท่านั้น ” เด็กขนอ่อนหน้า


เหม็น

” แม่นางเทพธิ ดา เจ้าจะมาบอกว่าข้าเป็ นตดได้อย่างไรกัน ตดคือลม


ที่ออกจากร่ างกาย ข้าคือคนเป็ นๆ ทั้งแท่ง เอามาผสมกันไม่ได้ นอก
เสี ยจากว่าข้าตายแล้ว ร่ างกายมีกลิ่นเน่าออกมา ตอนนั้นถึงจะผสม
กับตดเป็ นหนึ่งเดียวกัน “

ชือหลี “…….” ปวดกระโหลกจริ งโว้ย!


ตู๋กูซิงหลันเองก็ตอ้ งนวดขมับเหมือนกัน เอาจริ งนะ ในโลกนี้ คนที่
พล่ามมากกว่านางนอกจากเขาแล้วก็ไม่มีผอู ้ ื่นอีก เพราะกลัวว่าเขาจะ
ยัง เพ้อ เจ้อ ต่ อ ไป นางจึ ง คว้า ชายเสื้ อ ของเขาแล้ว ลากออกไปจาก
อารามเทพธิดาในทันที

” แม่นางเทพธิ ดา หากว่ามี เวลาข้าจะต้อ งมาหาเจ้าแน่ นอน โปรด


อย่ า ได้ลื ม นั ด หมายของพวกเราล่ ะ ~” แม้จ ะเดิ น ไปไกลแล้ว
ตู๋กเู จวี๋ยก็ยงั ไม่ลืมหันกลับมาตะโกนบอกชือหลี

ชื อหลีคิดอยู่ครู่ หนึ่ ง ก็ตดั สิ นใจอย่างแน่ วแน่ ว่า อย่าได้ไปจดจาว่า


ระหว่างพวกเขามีนดั หมายกันจะดีกว่า

พอตู๋กูเจวี๋ยจากไป นางก็รู้สึกขึ้นมาในทันทีวา่ โลกเปลี่ยนเป็ นงดงาม


น่าอยูอ่ ย่างยิง่ อ้า ไม่ได้รู้สึกสงบ สบายหูมานานแล้ว ดีจริ งๆ!

……………………………………

พอจีหรานและงูยกั ษ์ตายไป ลี่โจวก็กลับสู่ ความสงบสุ ข ฮ่องเต้ทรง


ใช้เงิ นบรรเทาทุกข์ซ่อ มบารุ ง เขื่ อ นขึ้ นมาใหม่ ให้แ ม่น้ าไหลผ่าน
อย่างสงบอีกครั้ง
หลังจากชักนาชาวบ้านที่แตกซ่านเซ็นไป กลับมาได้เรี ยบร้อยจึงค่อย
เดินทางกลับเมืองหลวง

ข่าวที่ ฝ่าบาททรงสวดขอพรด้วยพระองค์เอง วอนขอให้เทพธิ ดา


ประจาสายน้ า กลับมาปกปั กษ์รักษาประชาชนอีกครั้งกระจายจาก
เมืองลี่โจวออกไปโดยรอบ

ในเวลาเพียงสั้นๆ ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ก็ได้รับการสรรเสริ ญดุจดัง่


เป็ นเทพบ้าง เป็ นโอรสที่สวรรค์เลือกมาบ้าง ในอนาคตย่อมสามารถ
รวมแผ่นดินให้เป็ นหนึ่งเดียวได้เป็ นแน่

ตลอดการเดินทางกลับ ตู๋กซู ิ งหลันได้ยนิ ข่าวเช่นนี้มาไม่นอ้ ย

การเดินทางมาลี่โจวรอบนี้ฮ่องเต้ทรงคุม้ ค่าเกินไปแล้ว

ที่ จ ริ ง แล้ว ตู๋ กูซิ ง หลัน ก าลัง คิ ด อยู่ว่า เขาได้ต ระเตรี ย มการเอาไว้
หมดแล้วใช่หรื อไม่ อาศัยฐานะที่เขาคือผูท้ ี่สวรรค์ได้เลือกสรรใน
ครั้ งนี้ เพื่ อ วางรากฐานส าหรั บ การต่ อ สู ้แ ละรวบรวมแผ่น ดิ นใน
อนาคต
เนื่องเพราะความต้องการจะรวมแผ่นดินให้สาเร็จของเขานั้น นางเอง
ก็ใช่ว่าจะพึ่งได้รับรู ้เป็ นวันแรก ยิง่ ไปกว่านั้น ฮ่องเต้ในยุคโบราณผู ้
รวบรวบแผ่นดินได้สาเร็ จต่างก็ตอ้ งสร้างข้ออ้างว่าตนเป็ น ‘โอรสที่
สวรรค์เลือกเฟ้น’ ขึ้นมาด้วยกันทั้งนั้น

ตัวอย่างเช่นจักรพรรดิฮนั่ เกาจู่หลิวปั งในราชวงค์ฮนั่ ของแผ่นดินจีน


ก็มีตานานเรื่ อง’สังหารงูขาวก่อกบฎ’

ตู๋กูซิงหลันที่ครุ่ นคิดไปเรื่ อยเปื่ อยมาตลอดทาง ที่จริ งแล้วก็นงั่ อยูใ่ น


ราชรถคันเดียวกับจีเฉวียน

สหายติ๊งต๊องนั้นน่าสงสารเป็ นที่สุด มันถูกเอาไปทิ้งไว้ตรงที่นงั่ ของ


สารถี ต้องนัง่ คู่ไปกับคนขับ จึงได้แต่พยายามคอยหันกลับมามองดู
ในรถอยูต่ ลอดเวลา

ไอ้ต ัว ร้ า ยนั้น กระทัง่ ม่ า นหน้า ต่ า งก็ ปิ ดจนแน่ น หนา ท าเอามอง


อย่างไรก็ไม่เห็ น ไม่รู้ว่าเจ้าฮ่องเต้ตวั ร้ายนั้นจะทาอะไรไม่ดีไม่งาม
กับพี่สาวตัวน้อยหรื อเปล่า
จิ ตใจของมันเป็ นกัง วล เอาแต่ร้อ งกะต๊ากๆ อยู่ตลอดเวลา ขนาด
วิญญาณทมิฬก็ยงั หนวกหู จึงกระโดดจากบ่าของตู๋กูซิงหลันออกมา
ถวนจื่อน้อยตัวดากระโดดผลุบมาถึงข้างกายติ๊งต๊อง

” หลันหลันกาลังสัมผัสกับแบบทดสอบความเป็ นความตายในชีวิต
โปรดอย่าพึ่งรบกวนนาง O K มั้ยหื อ? “

ติ๊งต๊อง ” กะต๊าก…….” หากว่ามีอนั ตรายละก็ เฮียจะขอปกป้องพีส่ าว


ตัวน้อยเป็ นคนแรกเอง!

วิญญาณทมิฬเองก็ฟังไม่เข้าใจว่าที่มนั กะต๊ากๆ นัน่ แปลว่าอะไร ได้


แต่อาศัยขาอ้วนสั้นของมันกระโดดไปเกาะบนลาคอของเจ้าไก่ พอ
มองดูน้ นั ก็ตอ้ งกลืนน้ าลายลงไปอึกหนึ่ง

คิ ดถึ ง คอเป็ ดพะโล้ในโลกโน้นเหลือเกิ น แบบที่ หอมเครื่ องพะโล้


เต็มๆ! คอของเจ้าไก่นี่ก็ยาวดี หากว่าเอาไปทาพะโล้น่าจะอร่ อยนะ?

มันได้แ ต่ตอ้ งอดทนไว้ พลางใช้ปลายนิ้ วสั้นๆ แคะจมูก ไก่ ตวั นี้ มี


เพลิงสี ทองคุม้ ร่ าง ดูๆ แล้วตอนนี้ ตนอาจจะยังสู ้มนั ไม่ได้ เอาเถอะ
เอาเถอะ รอไปก่อนอีกหน่อยค่อยทาเนื้อตุ๋นแล้วกัน
เจ้าไก่ ขนฟูไม่สามารถไปนั่ง กับพี่สาวตัวน้อ ย ก็แ สดงท่าทางเบื่อ
หน่ ายออกมา มันทรุ ดตัวลงหมอบราวกับแม่ไก่ นงั่ ฟั กไข่อยู่ขา้ งๆ
คนขับรถ ทั้งยังใช้ปีกอีกข้างหนึ่ งมายันหัวเอาไว้ ด้วยสี หน้าไม่สบ
อารมณ์

กระทัง่ น้ าลายของวิญญาณทมิฬหยดลงบนลาคอของมัน มันถึงนึ ก


ขึ้นมาได้วา่ วันนั้นมันเก็บเนื้องูเอาไว้ให้เจ้าถวนจื่อตัวดาส่ วนหนึ่ง

มันอ้าปากขึ้นมาในทันที ทาเสี ยงโอ๊กอากอยู่ครู่ หนึ่ ง ก็อาเจียนเอา


เนื้องูที่ยงั เป็ นรู ปเป็ นร่ างชิ้นหนึ่งออกมา มันหันหน้ากลับไป กระพือ
ปี กใส่ เจ้าถวนจื่อตัวดาที่นงั่ อยู่บนลาคอของตนเอง “กะ กะ กะต๊าก
~” กินสิ ไม่ตอ้ งเกรงใจหรอก เฮียก็รักเจ้านะ

วิญญาณทมิฬ “………” รู ้สึกรังเกียจอยูบ่ า้ ง ทาไงดี?

……………………..

ภายในรถม้า ฮ่องเต้ทรงพิงพระองค์กบั เบาะนุ่ม สองเนตรหงส์หรี่ ลง


คอยเหลือบมองไทเฮาที่สวมชุดบุรุษหนุ่มสี ดาอยูต่ ลอดเวลา
ไม่ใช่เรื่ องง่ายกว่าจะไล่เจ้าไก่ตวั นั้นออกไปได้ ไม่ทนั ไรก็มีหัวไช
เท้าโผล่ข้ ึนมาอีกหนึ่ง

ไอ้หวั ไชเท้าตัวจิ๋วนั้นเป็ นตายก็จะต้องทาตัวติดกับนาง แค่อยูด่ ว้ ยกัน


ก็แ ล้วไปเถอะ มันถื อ สิ ทธ์อ ะไรไปนั่ง ติ ดอยู่กับนาง ทั้ง ยัง คอยกุม
ข้อ มื อ นางเอาไว้ พอมองเห็ นเขาก็เป็ นต้องทาตัวสั่นสะท้านขึ้นมา
ด้วยหรื อ?

เขาเป็ นฮ่องเต้ ไม่ใช่จอมมาร น่ากลัวขนาดนั้นเลยหรื อไง?

พอสัมผัสได้ถึงความกลัวของฮว๋ ายอันตัวน้อย ตู๋กซู ิ งหลันก็ยนื่ มือไป


ลูบศีรษะของเขา เด็กคนนี้ สูญเสี ยทั้งพ่อและแม่ แม้กระทัง่ น้องสาว
คนเดียวก็จากไปแล้ว เขายังอายุแค่เจ็ดแปดขวบเท่านั้นเอง หากว่าไม่
มีผใู ้ หญ่คอยดูแล เกรงว่าคงจะมีชีวิตต่อไปไม่ได้

ดังนั้นนางถึงได้ตดั สิ นใจพาเขากลับไปเมืองหลวงด้วย จากนั้นค่อย


หาครอบครัวดีๆ รับไปเลี้ยงดู
ตู๋ กูซิ ง หลัน ลัง เลอยู่พ กั ใหญ่ ค่ อ ยเอ่ ย ปากว่า ” ฝ่ าบาทเพคะ สาย
พระเนตรของพระองค์จะมีเมตตากว่านี้ หน่อยได้หรื อไม่? ฮว๋ ายอัน
น้อยขี้กลัว ทรงทาให้เขาตกใจแล้ว”

สี พระพักตร์ของฮ่องเต้เขียวคล้าขึ้นมา ขยับพระองค์นงั่ หลังตรงอย่าง


ขึงขัง ดวงพักตร์ ที่งดงามแต่ก็เย็นชาปานโลงน้ าแข็งนั้นสามารถทา
ให้เด็กตกใจจนร้องไห้ออกมาได้จริ งๆ

ฮว๋ า ยอัน น้อ ยถู จ มู ก ซุ ก ตัว เข้า ไปในอ้อ มอกของตู๋ กูซิ ง หลัน มาก
กว่าเดิม

ชาติน้ ีเขาไม่เคยเจอใครที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อนเลย ราวกับแท่งน้ าแข็ง


อย่างไรอย่างนั้น ดูแล้วยังน่ากลัวยิง่ กว่าหรานอ๋ องมากมายหลายเท่า

จีเฉวียนมองดูเขาซุ กอยู่ในอ้อมกอดของตู๋กูซิงหลัน สายพระเนตร


หงส์ก็เย็นชาขึ้นมาอีกหลายส่ วน

จนผ่านไปอีกครู่ ใหญ่ จึงได้ยนิ ฮ่องเต้ทรงตรัสด้วยพระสุ รเสี ยงลึกล้ า


ว่า ” ที หลัง ก็ทิ้งเจ้าหัวไชเท้านี้ ไว้ที่ขา้ งกายเรา เราจะสั่ง สอนด้วย
ตัวเอง “
” ได้รับการชี้แนะจากฟ้าตั้งแต่เล็ก ถือเป็ นบุญของเขาแล้ว “ ดูสิ เขาดี
ต่อประชาชนของตนเองเพียงไร

“อ้า ยย่า ห์ … ..” พระองค์ต รั ส พึ่ ง จบไป ฮว๋ า ยอัน น้อ ยก็ ต กใจจน
เกือบจะร้องไห้ออกมา หากว่าทุกๆ วันต้องอยูข่ า้ งกายฮ่องเต้ผนู ้ ้ ี มิสู้
ให้เขาไปอยูก่ บั น้องสาวดีกว่า

ตู๋กูซิง หลันยกยิ้มมุมปาก ที่ จริ ง แล้ว …….เพื่อความเจริ ญก้าวหน้า


ของฮว๋ ายอันในอนาคต หากให้เขาอยูข่ า้ งกายฮ่องเต้ก็นบั ว่าเป็ นเรื่ อง
ที่ดีมากๆ

เพียงแต่ว่าทิ้งเด็กน้อยที่อายุเพียงเท่านั้นไว้ที่ขา้ งกายเขา ก็ออกจะน่า


กลัวไปสักหน่อย เพราะขนาดนางเองก็ยงั กลัวเขาเลย

พอเจ้าหัวไชเท้าตัวน้อยน้ าตาไหล ฮ่องเต้ก็ทรงขมวดพระขนงขึ้นมา


ทรงประทับนัง่ อย่างสง่างาม รอบพระองค์แผ่รังสี กดดันเข้มข้น

ผ่านไปอีกครู่ หนึ่ งถึงเห็นว่าพระหัตถ์ใหญ่หนากาลังขยับ ทรงหยิบ


บางสิ่ งออกมาจากใต้แขนฉลองพระองค์
ตู๋กูซิงหลันกาลังคิดว่าจะทรงล้วงเอากระบี่ออกมาแทงฮว๋ ายอันน้อย
ตายในดาบเดียวเลยหรื อไม่ ใครจะไปรู ้วา่ ที่ทรงหยิบอยูค่ รู่ หนึ่งนั้น ที่
แท้ก็คือลูกอมดอกกุย้

เมื่ อ ทรงยื่นไปยังเบื้ องหน้าของฮว๋ ายอันน้อย ก็ตรั สเสี ยงเข้มๆ คา


หนึ่งว่า ” ห้ามร้องไห้ “

ฮว๋ ายอันน้อยถูกขู่เสี ยจนเสี ยงจุกอยูข่ า้ งใน หยดน้ าตายังคงเกาะอยู่


บนใบหน้า เขามองดูกอ้ นน้ าตาลในพระหัตถ์ของฮ่องเต้ดว้ ยความ
หวาดกลัวว่าหากตนเองไม่หยิบขึ้ นมาละก็ ฝ่ าบาทจะต้อ งทรงเอา
น้ าตาลเขวี้ยงใส่ หน้าของเขาเป็ นแน่ เขาจึงได้แต่หยิบขึ้นมาด้วยความ
กล้าๆ กลัวๆ

พอพึ่งจะหยิบใส่ มือเรี ยบร้อย ก็เห็ นฝ่ าบาททรงหยิบออกมาอีกชิ้น


หนึ่ง ส่ งให้กบั ตู๋กซู ิ งหลัน ” ชิ้นนี้ให้เจ้า “

แม่จ๋า! ชิ้นนี้ ยงั ใหญ่กว่าหน้าของข้าอีก! ใหญ่กว่าของเจ้าหัวไชเท้า


น้อยตั้งกี่เท่าต่อกี่เท่า!

——
槐安 [huái ān] (ฮว๋ ายอัน/ หวยอัน) : จะชื่อไหน ก็คนเดียวกันนะ
จ๊ะ ขออภัยหากทาให้สับสน มันเป็ นความติสในการเทียบเสี ยงจีน -
ไทยของไรท์เ อง ว่ า แบบไหนจะฟั ง เพราะกว่ า กัน แต่ เ พื่ อ ความ
กลมกลืนไปกับต้นฮว๋ ายฮวา และดอกฮว๋ ายฮวา ก็ขอใช้ฮว๋ ายอันแล้ว
กันค่ะ

桂花糖 (ลูกอมดอกกุย้ ) : เป็ นหนึ่งในสี่ ลูกอมที่ชาวจีนแต่โบราณ


นิยมชมชอบ โดยเฉพาะสาวๆ เชื่อว่าเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทา
ให้มีกลิ่นตัวหอมสดชื่ น หน้าตามีหลายแบบตามแต่ความพอใจทั้ง
เม็ดกลมๆ หรื อสี่ เหลี่ยม หรื อแบบที่เป็ นน้ าเชื่อมเข้นข้นสาหรับราด
ขนมหวานก็มี สู ตรการทานั้นก็ง่ายมากๆๆๆ เพียงอุ่นน้ าเชื่อม หรื อ
น้ าผึ้งจนร้อนและเหนี ยวข้น เทดอกกุย้ อบแห้งลงไปกวน เทใส่ พิมพ์
ทิ้งให้เย็น ก็สาเร็ จเลย บางสู ตรก็มีการใส่ อย่างอื่นลงไปด้วยเช่น งา
ขาวคัว่ หรื อไม่ก็ เก๋ ากี้ เพื่อเพิ่มความสวยงามและความหรู หราให้สม
กับคาว่ากุย้ (แพง, สู งส่ ง) ตามค่านิยมของขนมจากในวังนัน่ เอง
ตอนที่ 211 นางทาปากจู๋ เตรียมจะจูบกลับไป

ลูกอมนัน่ ดูราวกับลูกอมยักษ์ในโลกปั จจุบนั ที่เอามาตีหวั เล่นกัน!


มิน่าเล่าวันนี้ฝ่าบาททรงฉลองพระองค์ตวั กว้าง ก็เพื่อความสะดวก
ในการซุกลูกอมนัน่ เองใช่ไหม?

เจ้าหัวไชเท้าน้อยมองดูลูกอมที่เล็กกว่าฝ่ ามือน้อยๆ ของเขาถึงห้าเท่า


ค่อยหันไปมองดูลูกอมที่ฝ่าบาทประทานให้พี่ชายตัวน้อย และก็หนั
กลับมามองดูลูกอมของตนเองอีกครั้ง

เขามองกลับไปกลับมาอยูห่ ลายรอบ เขาคิดจะถามออกไปสักคาถาม


หนึ่ ง ต่างก็เป็ นลูกอมเหมือนกัน แต่ทาไมถึงได้แตกต่างกันถึงเพียง
นี้?

” เจ้าไม่ชอบหรื อ? ” ฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรตู๋กูซิงหลันที่เงียบงัน
ไปจนไร้ซุ่มเสี ยง ไม่รู้ว่าเป็ นเพราะอะไร ในใจของเขาบังเกิดความ
เคร่ งเครี ยดขึ้นมานิดๆ
ซุนต้มยามักจะกล่าวอยูบ่ ่อยๆ ว่า เด็กผูห้ ญิงล้วนชอบกินลูกอม ดูท่า
คงจะหลอกลวงแน่ แล้ว! งานต้มยาดูท่าจะไม่ค่อยเหมาะกับเขาสัก
เท่าไหร่ แล้ว วิชาแพทย์ก็ไม่ได้เรื่ อง กับฮ่องเต้ก็ยงั กล้ามาหลอกลวง
อีก สี พระพักตร์ของพระองค์มืดครึ้ มไป

ตู๋ กูซิ ง หลัน พลัน คิ ด ถึ ง ท่ วงท่า ที่ เ ขาปราบงู ยกั ษ์ไปในดาบเดี ย ว ก็


หวาดกลัว ขึ้ นมาจนต้อ งกัดลูกอมไปค าหนึ่ ง เพื่อ ประคับประคอง
อารมณ์เอาไว้ แค่กดั ลงไปคาเดียวก็ทาเอานางเอียนปานจะขาดใจตาย
แล้ว! ของเล่นพวกนี้หวานเกินไป!

นางเป็ นพวกสายกิ นเนื้ อ ที่จริ งแล้วก็ไม่ค่อยชอบกิ นของหวานสัก


เท่าไหร่ ดว้ ยซ้ า ถ้าหากว่าฮ่องเต้ประทานขาหมูชิ้นโต แน่นอนว่านาง
จะต้องดีใจอย่างยิง่

” ชอบสิ ชอบ ” ตู๋กูซิงหลันกลืนลงไปในคาเดียว ผงกศีรษะติดๆ กัน


พลางตอบอย่างไม่ห่วงศักดิ์ศรี ใดๆ
แค่นางบอกออกมาคาเดียวว่าชอบ พระทัยของฝ่ าบาทก็ผ่อนคลาย
ในสายพระเนตรยังมีรอยแย้มสรวลนิดๆ เสี ยด้วยซ้ า ” หากว่าเจ้าชอบ
ละก็ พอกลับเข้าวังเราจะให้หอ้ งครัวทาให้เจ้าเยอะๆ หน่อย “

ตู๋กซู ิ งหลัน เฮือกกก

……………………………………

พอกลับ ไปถึ ง วัง หลวง อากาศก็ เ ข้า สู่ ป ลายฤดู ใ บไม้ผ ลิ แ ล้ว หาก
เปรี ย บเที ย บกับ ลี่ โ จวแล้ว เมื อ งหลวงนับ ว่ า หรู ห รารุ่ ง เรื อ งกว่า
มากมายนัก

ดอกไฮ่ถางในตาหนักเฟิ่ งหมิงมิว่าจะเป็ นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน หรื อ


ฤดูใบไม้ร่วงก็ลว้ นผลิบานอยูเ่ สมอ ไม่มีผใู ้ ดรู ้ว่าเป็ นเพราะอาศัยสิ่ ง
ใดจึงได้ประหลาดเช่นนี้

ยามที่ต๋ ูกูซิงหลันกลับไปนั้น ทัว่ ทั้งตาหนักล้วนเกลื่อนไปด้วยสี แดง


สดใส งดงามประหนึ่งภาพวาดบนผ้าใบ
ข่าวที่วา่ เพราะเรื่ องของหรานอ๋ องทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งเสด็จไปฟื้ นฟูเมือง
ลี่โจวโด่งดังจนเกิดความเคลื่อนไหวไปทัว่ ประชาชนทั้งหลายถึงได้
ทราบว่าฮ่องเต้เสด็จไปบรรเทาทุกขภิขภัยด้วยพระองค์เอง

เหล่ า พระสนมวัง หลัง ต่ างก็ ต้ งั ตารอ แต่ ล ะคนก็ไ ด้แ ต่ ชะเง้อ มอง
ออกไป ช่ ว งที่ ฝ่ าบาทเสด็ จ ออกจากวัง ไปนี้ แม้ แ ต่ ผู ้ที่ อ ยู่ ใ น
ต าหนัก เฟิ่ งหมิ ง ก็ยงั ไม่ อ อกมากระโดดโลดเต้น เอาแต่ซุกอยู่ใ น
ตาหนักทั้งวี่ท้ งั วัน ไม่กล้าออกมานอกประตูแม้แต่นอ้ ย

ดูท่าแล้วนางเองก็คงจะรู ้ตวั ดีว่าเมื่อตอนงานเลี้ยงสิ้ นปี นั้นตนเองทา


วีรกรรมไว้มากมายเพียงไร ทาเรื่ องข้ามหน้าข้ามตาผิดใจกับผูอ้ ื่น
เอาไว้ไม่นอ้ ย ครอบครัวของตนเองก็ยงั ถูกสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับเรื่ อง
อดีตฮ่องเต้ทรงถูกทาร้ายด้วยหรื อไม่ ดังนั้นช่วงนี้จึงไม่กล้าโผล่หน้า
ออกมาละมั้ง

อืม จะว่าไปก็ดูประหลาดอยูบ่ า้ ง พอวันนี้ ฝ่าบาทเสด็จกลับเข้าวังมา


ไทเฮาน้อยที่อยูใ่ นตาหนักเฟิ่ งหมิงท่านนั้นก็รีบร้อนลุกขึ้นมาปั ดฝุ่ น
ให้ผคู ้ นสัมผัสได้ถึงการคงอยูข่ องนางทันที
นางสลัด ชุ ด ฤดู ห นาวที่ ห นั ก หนาทิ้ ง ไป เปลี่ ย นเป็ นสวมใส่ ชุ ด
กระโปรงสี เขี ยวอมดาที่ ดูสดชื่ น ใบหน้าที่ สวรรค์ใ ห้มานั้นแม้จะ
ปราศจากการแต่งแต้มยังคงงดงามดึงดูดทุกสายตา

ช่วงที่ผ่านมาพอไม่ตอ้ งเห็ นหน้านาง เหล่าพระสนมในวังก็บงั เกิด


ความมัน่ ใจในรู ปโฉมของตนเองขึ้นมาอีกครั้ง พอตอนนี้ ตอ้ งมาเจอ
กัน อี ก ความมั่น ใจเหล่ า นั้น ก็ ถู ก พัด กระจายปลิ ว ไปกับ ก้อ นเมฆ
หมดแล้ว

สตรี ผนู ้ ้ ีเกิดมาหน้าตาดีเกินไปแล้ว ไม่ตอ้ งโผล่หน้าออกมาให้มากจะ


ได้หรื อไม่

ตู๋กูซิงหลันเองก็คิดอยากจะนอนพักผ่อนดีๆ แต่เพราะความเป็ นห่วง


โรคหัวใจในวัยว้าวุน่ ของพี่รอง หลังจากที่พาเขากลับมาวันนั้นก็เห็น
อยูว่ า่ สติสตางค์ไม่ค่อยจะอยูก่ บั ตัวสักเท่าไหร่

ไม่รู้ว่าเป็ นเพราะถูกขังอยูใ่ ต้ดินจนเกิดโง่ข้ ึนมาหรื ออย่างไร ถึงได้


หาญกล้าขนาดจะไปให้คาสัญญิงสัญญาอะไรกับชือหลี
ชือหลีเป็ นดวงจิตแห่งเทพ พวกเทพให้ความสาคัญกับคาสัญญาที่สุด
ดูจุดจบของจีหรานสิ มีชีวิตอยูด่ ีๆ แต่เพราะคาพูดเดียวถึงเป็ นเหตุให้
เกิดคดีเลือดขึ้นมา

พี่รองไม่รู้สึดเข็ดขยาดบ้างหรื อไง? หากมิ ใ ช่ว่าวันนั้นนางโผล่ไป


อย่า งทัน ท่ ว งที คงจะมี แ ต่ ฟ้ า ดิ น เท่ า นั้น ถึ ง จะรู ้ ว่า เขาจะไปให้คา
สัญญาอะไรกับชือหลี

ที่นางออกมาวันนี้เพราะกะว่าจะพาท่านหมอหลวงซุนไปตรวจดูเขา
สักหน่ อย เพราะต่อให้ร่างกายไม่เจ็บป่ วยอะไรแต่ว่าสมองคงจะมี
ปั ญหาอย่างแน่นอน

พึ่งจะก้าวขาออกมาจากตาหนักเฟิ่ งหมิงได้ไม่กี่กา้ ว ก็เห็ นลูกไฟสี


แดงดวงหนึ่งพุง่ เข้ามาหานาง

เงาร่ างเพรี ยวบางนั้นส่ งเสี ยงร้องเรี ยกคาหนึ่ งก็พุ่งถึงเบื้องหน้าของ


นาง โอบตัวนางเข้าไปในอ้อมกอดทันที
” อาหลัน เจ้าใจร้ายมาก ไม่มาเจอข้าตั้งนาน เป็ นเพราะว่าเจ้าไปฟั ง
ถ้อยคาไร้สาระของผูอ้ ื่นมา จึงไม่ชอบข้าแล้วใช่หรื อไม่? ” ซูเฟยคน
งามทาน้ าตาคลอใส่ นาง สองมือก็ทุบซอยลงไปบนอกของนางอย่าง
ไม่มีเกรงใจ

ไม่เจอกันนาน ซู กุย้ เฟยคนงามก็ยิ่งบาดตาบาดใจสมกับที่เป็ นสาว


งามของแผ่นดินยิง่ กว่าเดิม ทาเอาคนชมดูได้ไม่เบื่อเลยจริ งๆ

” มีที่ไหนกัน ข้าย่อมต้องชื่นชอบเจ้าแน่นอนอยูแ่ ล้ว ” ตู๋กซู ิ งหลันลูบ


คลาใบหน้าของเขาพลันก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกล่าวว่า ” พอดีเลย
ดอกไฮ่ถางในตาหนักเฟิ่ งหมิงกาลังผลิบาน เจ้าหาเวลาเชิญน้องชาย
ของเจ้าเข้าวังมา ข้าจะได้เชิญพวกเจ้ามาชมดอกไม้ “

พอได้ยินนางเอ่ยถึง ‘ซูเยา’ ดวงตาของซูเม่ยก็เป็ นประกายวิบๆ วับๆ


” เจ้ายังจาน้องชายของข้าได้หรื อ? “

” ย่อมต้องจาได้อย่างแน่ นอน ” ตู๋กูซิงหลันพยักหน้า หนุ่ มน้อยที่มี


เสน่ห์เหลือเฟื อผูน้ ้ นั เดิมทีแค่เคยได้เห็นก็ตอ้ งจดจาได้อยูแ่ ล้ว นึ กๆ
ดูแ ล้วนางก็ยงั ติ ดหนี้ บุณคุณซู เยาอยู่ดว้ ย ครั้ งก่อนพบเจอกันอย่าง
ฉุกละหุก จึงยังไม่ได้ตอบแทนเลย

” อาหลัน เจ้าช่างดีจริ งๆ ” ซูเม่ยกอดนางอีกครั้ง พลางฉวยโอกาสที่


รอบด้านปราศจากผูอ้ ื่นทิ้งรอยจุมพิศเอาไว้บนใบหน้าของนางอย่าง
เด่นชัด

ช่ ว งที่ ผ่า นมานี้ เขาย่อ มรู ้ ว่า ตู๋ กูซิ ง หลัน ไม่ อ ยู่ใ นต าหนัก เฟิ่ งหมิ ง
เพียงแต่ในช่วงเวลาสั้นๆ ยังสื บไม่พบว่านางไปยังที่ใด

ดังนั้นช่วงหลายวันที่ผา่ นมา เขาจึงมักมาเฝ้าอยูน่ อกตาหนักเฟิ่ งหมิง


เฝ้ามาถึงครึ่ งเดือน ในที่สุดก็รอจนได้เจอนางแล้ว

ซูเม่ยเองไม่ได้โง่เขลา เมื่อคานวนดูช่วงเวลานับตั้งแต่ที่อาหลันหาย
ตัว ไป ก็ พ อดี กับ ช่ ว งที่ ฮ่ อ งเต้เ สด็ จ ไปยัง ลี่ โ จว พอเขาคิ ด ดู อ ย่า ง
ละเอียด ก็มีแต่วา่ จีเฉวียนพาตัวอาหลันไปเท่านั้นที่จะเป็ นไปได้

ตู๋กูซิงหลันพบว่าซูคนงามคล้ายจะชอบหอมนางอยูเ่ สมอทุกครั้งเป็ น
ต้องทิ้งรอบชาดทาปากเข้มๆ ไว้บนใบหน้าของตน วิธีแสดงความ
สนิทสนมระหว่างมิตรสหายในแคว้นต้าโจวคงต้องทาเช่นนี้กระมัง?
นางคิดดูอยูค่ รู่ หนึ่ง ปล่อยให้ซูคนงามเป็ นฝ่ ายรุ กเช่นนี้อยูต่ ลอดก็คง
จะไม่ดี ดังนั้นนางจึงยูร่ ิ มฝี ปาก เตรี ยมจะจูบคืน

พอซูเม่ยรู ้ตวั ว่าจะรับความใกล้ชิดก็ตกตะลึงไป แทบจะยืน่ เข้าไปหา


ทั้งหน้า อาหลันถึงกับจะจูบเขา?! นี่ ……..นี่ นี่ นี่ ……… เขายังไม่
ทันได้เตรี ยมใจเลย มาก็มาเถอะ จูบซ้ายจูบขวา อยากจะจูบตรงไหน
ก็ได้ท้ งั นั้น!

ซูเม่ยใจเต้นตูมตาม น่าเสี ยดายที่ยงั ไม่ทนั ได้รอให้ต๋ ูกูซิงหลันจุ๊บลง


มาบนใบหน้าของเขาก็ได้ยนิ ซุ่มเสี ยงชรากล่าวขึ้นว่า

” ไทเฮาและพระสนมเอกซูหวงกุย้ เฟยช่างสนิทสนมกันมากจริ งๆ “

ตู๋กูซิง หลันละซู เม่ยกวาดตามองออกไปพร้อมๆ กัน ก็เห็ นว่าที่ใต้


ต้นไม้ซ่ ึ งอยู่ไม่ไกลนัก อันหร่ วนที่มีผมสี ดอกเลาทัว่ ทั้งศีรษะกาลัง
เดินตรงมาที่พวกนาง

หากเปรี ยบเที ย บกับ ยามก่ อ นที่ จ ะไปจากวัง หลวงแล้ว อัน หร่ วน


ในตอนนี้ดูชราลงไปมาก
เส้นผมทั้งหมดเปลี่ยนเป็ นสี ขาว รอยยับเหี่ ยวย่นบนใบหน้าเพิ่มพูน
จนทาให้คนต้องตกใจ ราวกับว่าภายในเวลาสั้นๆ นางก็แก่ชราลงไป
ถึงสิ บปี

หากว่านางจาได้ไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้ทรงประทานตาหนัก


ชางอู๋ให้นางอยูม่ ิใช่หรื อ?

ตู๋กูซิงหลันเหลือบตามองนางแว๊บหนึ่ ง ก็หรี่ ตาลง ” อันกูกู เรากับ


ท่านไม่ใช่คนคุน้ เคยกัน “

ซูเม่ยเองก็รีบกล่าวขึ้นมาด้วย ” ข้าก็ไม่คนุ ้ เคยกับท่านเหมือนกัน “

เขาคุน้ เคยแต่กบั อาหลันเพียงผูเ้ ดียว!

” ซูหวงกุย้ เฟยอย่าได้ทรงลืมสิ เพคะ ตอนที่อยูท่ ี่เขาจงหลิงซาน พวก


เราก็ได้รู้จกั กันมาถึ ง ครึ่ งปี นี่ ยงั จะนับว่าไม่คุน้ เคยอี กหรื อ ? ” อัน
หร่ วนยิม้ เย็น ค่อยหันสายตากลับมามองดูต๋ กู ซู ิ งหลันอีกครั้ง

” ฟังมาว่าไทเฮาทรงเลี้ยงดูไก่เทพตัวหนึ่งเอาไว้ ไม่รู้วา่ บ่าวเฒ่ามีบุญ


จะได้ชื่นชมมันบ้างหรื อไม่ “
ตอนที่ 212 ล่องูออกจากถา้

นางขยับตัวอย่างโคลงเคลงเล็กน้อย ในมือก็เพิ่มไม้เท้าขึ้นมาอีกด้าม
หนึ่ง พูดจาด้วยน้ าเสี ยงออกจะลับลมคมในอยูบ่ า้ ง

แต่ไหนแต่ไรติ๊งต๊องก็รักอิสระไม่ชอบถูกควบคุมอยู่แล้ว พอกลับ
มาถึงวังก็หนีหายไปจนไม่ทิง้ เงา คาดว่าน่าจะไปตามหาตะขาบพิษที่
ตาหนักฉางซิ นของหยวนเฟยน้อยเป็ นแน่

อันหร่ วนพูดพลาง ก็เหลือบตามาจ้องมองดูนางไปพลางๆ

ตอนที่ อ ยู่ในวังก่อ นหน้านี้ นางเคยได้มองดูเจ้าไก่ นั่นจากที่ไกลๆ


ครั้งหนึ่ง มันสู งเกือบครึ่ งตัวคน หน้าตาดูโง่ๆ

แต่พอตอนนี้ คิดๆ ดูแ ล้ว ก็นับว่ามี ส่วนคล้ายกับไก่ตวั ที่ได้เห็ นใน


เมืองลี่โจวอยูเ่ หมือนกัน

ก่อนหน้านี้ได้เห็นเพียงคร่ าวๆ จึงไม่กล้ายืนยัน ดังนั้นตอนนี้จึงมาชม


ดูจนถึงตาหนักเฟิ่ งหมิง
ตอนแรกๆ นางเพียงแต่รู้สึกว่าในวังหลวงมี ผูท้ ี่สูงส่ งทางไสยเวท์
ซ่ อ นอยู่ แต่พวกเขาก็สืบเสาะกันมาตั้งนานแล้วกลับยังระบุตวั ตน
ไม่ได้ วันนี้ พอคิดดูให้ละเอียด ก็รู้สึกว่าจะข้ามเจ้าของตาหนักเฟิ่ ง
หมิงผูน้ ้ ีไปคนหนึ่ง

หากว่าไก่ตวั นั้นเป็ นตัวเดียวกันกับที่ลี่โจว เช่นนั้นตู๋กูซิงหลันที่เป็ น


เจ้าของของมัน ก็ยอ่ มต้องสู งส่ งกว่ามากมายหลายเท่า?

นางหรี่ ตาลงมองดูต๋ ูกูซิงหลันอย่างใคร่ ครวญเป็ นนาน ก่อนหน้านี้


เพียงรู ้สึกว่านางมีรูปโฉมที่สามารถล่มบ้านล่มเมือง ตอนนี้ พอคิดดู
ให้ละเอียด กลับรู ้สึกว่ามองไม่ทะลุอย่างไรไม่รู้

” บนหน้าของเรามีขนมเปี๊ ยะชิ้นใหญ่หรื ออย่างไร? ” ตู๋กูซิงหลันจด


จ้องกลับไป ดวงตาดอกท้อคู่น้ นั มีแต่แววเย็นชา

อันหร่ วนกับคนชุดดาที่เป็ นศพคื นชี พมี ความใกล้ชิดกัน ไม่แ น่ ว่า


เรื่ องที่เกิดขึ้นในเมืองลี่โจวอาจจะเป็ นการร่ วมมือของพวกเขาก็ได้

แน่นอนว่า นี่เป็ นเพียงแค่ความรู ้สึกของตู๋กซู ิ งหลันฝ่ ายเดียวเท่านั้น


” พระพักตร์ ของไทเฮาย่อมไม่มีขนมเปี๊ ยะชิ้นโต แต่เกรงว่าจะมีบาง
สิ่ งที่ผคู ้ นมองไม่ออกแทน ” อันหร่ วนขยับไม้เท้ากล่าวอย่างลึกลับ
อยูบ่ า้ ง

พูดแล้ว นางก็หันมามองซูเม่ยอีกครั้ง กล่าวอย่างลับลมคมในอยูบ่ า้ ง


ว่า ” พระสนมเอกซูก็ทรงมีความสามารถอยูไ่ ม่นอ้ ย คิดๆ ดูแล้วคง
มิใช่วา่ มองไม่ออกละมั้ง? “

” อันกูกู ข้าคิดว่าท่านอยูใ่ นวังก็สมควรจะรู ้จกั สงบเสงี่ยมเอาไว้บา้ ง


เผือ่ จะได้อยูอ่ ย่างสงบไปจนถึงบั้นปลาย “

ซู เม่ยกล่าวอย่างอารมณ์ ไม่ดี เห็ นอยู่ชัดๆ ว่าอันหร่ วนพูดจาซ่ อ น


ความนัย เขาย่อมรู ้ดีว่าในร่ างของอาหลันมีความลับซุ กซ่ อนอยู่ แต่
ขอเพียงอาหลันไม่ได้พูดออกมาเอง เขาย่อมไม่ถามไปชัว่ ชีวิต และ
แน่นอนว่า เขาเองก็จะไม่ยอมให้ใครมาบีบคั้นนางด้วย

อัน หร่ ว นยิ้ม อย่า งเย็น ชา นางก าไม้เ ท้า ในมื อ แนบแน่ น กว่า เดิ ม
ดวงตาที่มืดหม่นคู่น้ นั ยังคงจับจ้องตู๋กซู ิ งหลันไม่ยอมวางตา
แต่ ย งั ไม่ ท ัน ได้ม องสั ก เท่ า ไหร่ นางก็ รู้ สึ ก ถึ ง ความเย็น วาบจาก
ด้านหลัง

” อันกูกูดูท่าจะไม่ค่อ ยชอบตาหนักชางอู๋สักเท่าไหร่ นะ? ” ฮ่ อ งเต้


ตรัสพระสุ รเสี ยงเย็นชา ถึงแม้ว่าตอนนี้ จะเป็ นฤดูใบไม้ผลิแล้วก็ยงั
ทาให้หนาวเข้าไปถึงในกระดูก

อันหร่ วนตะลึงไปเล็กน้อย พอหันศีรษะกลับไปดู ก็สบเข้ากับดวง


เนตรหงส์ที่ลุ่มลึกของฝ่ าบาทในทันที

หัว ใจของนางเต้น ดัง ตึ ก ตัก เพราะคิ ด ไม่ ถึ ง เลยว่า เขาจะมาอย่าง


รวดเร็ วเพียงนี้

” ฝ่ าบาท ” นางหันไปถวายคานับจีเฉวียนครั้งหนึ่ ง เมื่ อ มองดูดวง


พักตร์ ที่งดงามราวเทพบุตรนั้นก็เห็นว่า นอกจากผ่ายผอมกว่าตอน
ก่อนออกจากวังไปเล็กน้อย ก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ อีก

พิธีหุ่นสาปแช่งในวันนั้นสิ้ นเปลืองฐานพลังของนางไปถึงสิ บปี แต่


กลับไม่มีผลกับเขาแม้สักเส้นผมเดียว
ไม่เพียงไม่ถูกมนต์สาปแช่งนั้น พลังยังย้อนกลับมาทาลายหุน้ ไม้ของ
นางจนแหลกละเอียด หากจะบอกว่าเป็ นพลังของเทพมาทาลาย นาง
ก็ไม่อยากจะเชื่อ

นางรู ้สึกว่าเรื่ องนี้จะต้องมีอะไรที่ลบั ลมคมในซุกซ่อนอยูแ่ น่

” นับตั้งแต่ที่ฝ่าบาททรงกลับมาวังหลวง บ่าวเฒ่าก็คิดถึงฝ่ าบาท จึง


คิดมาเข้าเฝ้าไทเฮาที่นี่ วอนขอไทเฮาให้ทรงพระกรุ ณาการทูลในทาง
ที่ดี ให้บ่าวได้พน้ จากการถูกกักบริ เวณ ” ขณะที่พูดไป อันหร่ วนก็
หลัง่ น้ าตาของหญิงชราออกมา ” บ่าวคิดถึงคาที่อดีตฮองเฮาทรงเคย
รับสัง่ ให้บ่าวคอยดูแลพระองค์อย่างดีอยูท่ ุกๆ วัน ทั้งยังคิดถึงสถานะ
ของตนเอง ในตอนนี้ก็รู้สึกละอายใจเหลือเกิน “

พอเห็ นนางอะไรๆ ก็เป็ นต้องยกอดีตฮองเฮาขึ้นมาอ้าง เอาแต่สาด


เกลือลงไปในแผลของจีเฉวียนไม่มีหยุด อยูๆ่ ตู๋กูซิงหลันก็รู้สึกเห็น
ใจจีเฉวียนขึ้นมาในทันที

” ไหนเลยจะไปรู ้ ว่าพอบ่าวมาถึ ง ตาหนักเฟิ่ งหมิ ง เท่านั้นแหละ ก็


เผอิญได้เห็นไทเฮา และซูหวงกุย้ เฟยกาลังแสดงกริ ยาสนิ ทสนมกัน
อย่างใกล้ชิด ผลัดกับจูบอยูพ่ อดี เป็ นความผิดของบ่าวเองเพคะ บ่าว
ไม่ควรจะมาขอเข้าเฝ้าไทเฮาในตอนนี้ “

อันหร่ วนรู ้ดีว่าจีเฉวียนทรงสนพระทัยและห่ วงใยในตัวตู๋กูซิงหลัน


แล้วนางก็ยงั รู ้อีกว่าเขาเป็ นคนที่อิจฉารุ นแรง

ไทเฮาประพฤติองค์ไม่เหมาะสม ทั้งยังถูกจับได้อย่างคาหนังคาเขา
เช่นนี้ ถึงแม้ว่าอีกฝ่ ายจะเป็ นหญิงเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ไม่มีทาง
หลบพ้นจากความเกลียดชังของฝ่ าบาทเป็ นแน่

จีเฉวียนทรงทอดพระเนตรเห็นรอยจูบบนดวงหน้าของตู๋กูซิงหลัน
ตั้งแต่แรกแล้ว รอยชาดทาปากสี แดงเข้มขนาดนั้น ยังสะดุดตาเสี ยยิง่
กว่าดอกไฮ่ถางเสี ยอีก

พอสายพระเนตรของฮ่องเต้กวาดผ่านจูเม่ยไปอย่างเย็นชา อยูๆ่ ซูเม่ย


ก็รู้สึกหนาวขึ้นมาในทันที ทาไมทุกครั้ งที่เขาจะเข้าไปใกล้ชิดกับ
อาหลันฮ่องเต้เป็ นต้องเสด็จออกมาทันทีในทุกครั้ง?

เขาวางสายคอยสอดส่ องในตาหนักเฟิ่ งหมิงอยูก่ ี่คนกันแน่?


องครักษ์ลบั ที่มีอยูอ่ ย่างมากมายนับไม่ถว้ นเหล่านี้ ทาให้คนต้องปวด
ศีรษะอยูต่ ลอดเวลา

ตู๋กูซิงหลันเองก็ปวดหัวอยูเ่ หมือนกัน ดูอย่างไรอันหร่ วนผูน้ ้ ี ก็พูดจา


ผีเจาะปากอยูบ่ า้ งจริ งๆ แต่ละเรื่ องๆ ไม่เคยจะพลาดการโจมตีเลยสัก
ครั้ง

นางมองดูจีเฉวียนแวบหนึ่ ง นึ กอยู่ว่าเขาจะต้องบอกให้นางอยู่ให้
ห่างๆ จากหวงกุย้ เฟยของเขาสักหน่อยเป็ นแน่

ไหนเลยจะรู ้ว่าเขาจดจ้องดูนางอยูค่ รู่ หนึ่ ง ก็หันไปตรัสกับอันหร่ วน


ว่า

” ก่อนที่ไทเฮาและหวงกุย้ เฟยจะเข้าวังมา ก็เป็ นดัง่ พี่สาวน้องสาวกัน


อยูก่ ่อนแล้ว พี่สาวน้องสาวจะใกล้ชิดกันมากสักหน่อยก็ถือเป็ นเรื่ อง
ธรรมดา เจ้าจะมาทาเป็ นผิดแปลกไปเพื่ออะไร? “

ตู๋กซู ิ งหลันและซูเม่ย “??? “

อันหร่ วนเองก็อ้ ึมอึ้งไปเหมือนกัน นางคาดการณ์เอาไว้ไม่สมควรจะ


เป็ นเช่นนี้ ทาไมฮ่องเต้ถึงได้ไม่เอาเรื่ องกัน?
เขาเป็ นคนที่ให้ความสาคัญกับระเบียบกฎเกณฑ์เสมอมามิใช่หรื อ?

” หมัวมัวอยูท่ ี่นี่ก็พอดีเลย อีกหนึ่งเดือนจะถึงวันเกิดของเรา ทางกรม


พิธีการยังไม่มีเวลาตกฟากโดยละเอียด หมัวมัวท่านเป็ นคนทาคลอด
เรา ย่อมต้องรู ้อย่างชัดเจน? “

จีเฉวียนตรัสถามออกไปอย่างสบายๆ แต่กลับทาให้อนั หร่ วนตื่นตัว


ขึ้นมาในทันที

นางกาไม้เท้าในมือแน่ นเข้า ว่ากันตามโบราณประเพณี ในราชวงค์


ของต้าโจว ทุกครั้งที่มีองค์ชายประสู ติออกมา ย่อมต้องมีการจดลง
ในบันทึกของราชวงศ์โดยละเอียด

แต่วา่ ของจีเฉวียนนั้นแตกต่างออกไป ฉางซุนฮองเฮาทรงเกรงว่าจะมี


คนทาร้ายเขา จึงใส่ เพียงช่วงเวลาเกิดคร่ าวๆ ไม่ได้ระบุรายละเอียด
ลงไป

ผูท้ ี่ทราบช่วงเวลาก็มีแต่ฉางซุนฮองเฮา อดีตฮ่องเต้ และก็นาง

ยามนี้ อยูๆ่ จีเฉวียนก็ทรงไต่ถามขึ้นมา หรื อว่าเขาจะไปพบเจออะไร


เข้า?
เป็ นไปไม่ได้…..พิธีหุ่นไม้สาปเป็ นศาสตร์ลึกลับ คนทัว่ ไปไม่มีทาง
รู ้จกั หรื อต่อให้เขาจะมีความสามารถไปรู ้อะไรมาอยูบ่ า้ ง ก็ไม่มีทาง
สื บพบเรื่ องนี้ได้

” บ่าวอายุมากแล้วเพคะ จดจาได้แต่ช่วงเวลาที่ฝ่าบาททรงพระสู ติ
แต่รายละเอียดที่วา่ กี่โมงกี่ยามนั้น คิดอย่างไร……ก็คิดไม่ออกจริ งๆ
เพคะ ” ยามที่อนั หร่ วนทูลตอบกลับไป หัวใจก็เต้นแรงยิง่ กว่าเดิม

จีเฉวียนยังคงมีสีพระพักตร์ เย็นชาปานภูเขาน้ าแข็ง รอจนอันหร่ วน


ทูลจบ เขาถึงถอนพระทัยเบาๆ ” ถ้าเช่นนั้นก็น่าเสี ยดายแล้ว “

” ปากก็ บ อกว่ า ห่ ว งใยฝ่ าบาท แต่ แ ม้ก ระทั่ง ช่ ว งเวลาประสู ติ ที่


แน่ นอนก็ยงั จาไม่ได้ อันกูกูช่างใส่ ใจเหลือเกิ นนะ ” สายตาของตู๋กู
ซิ งหลันเย็นชาขึ้นมาอีกหลายส่ วน

ตั้งแต่ที่จีเฉวียนเอ่ยพระโอษฐ์ถามอันหร่ วน นางก็รู้แล้วว่าเขาคิดจะ
ทาอะไร

หากว่านางคาดเดาไม่ผิดละก็ เขาคงจะรู ้ตวั แล้วว่าตอนที่อยูท่ ี่ลี่โจว


นั้น มีคนใช้คาถาหุ่นไม้สาปแช่งเขา
วิธีการสาปแช่งนี้ จาเป็ นจะต้องระบุวนั เดือนปี เกิดและช่วงเวลาตก
ฟากที่แน่นอนลงไป

หมากตานี้ของจีเฉวียน หากใช้อย่างผิดพลาดก็คือตีหญ้าให้งูตื่น

หากใช้ได้ถูกก็จะเป็ น ล่องูออกจากถ้ า

คนที่เป็ นฮ่องเต้ยอ่ มต้องมีฝีมือที่หลากหลายอยูแ่ ล้ว และไม่เคยเชื่อ


ใจผูใ้ ดอีกด้วย
ตอนที่ 213 เขา! ตั้ง! ครรภ์ !

ที่ผา่ นมาตู๋กซู ิงหลันคิดว่าจีเฉวียนทรงให้ความเคารพอันหร่ วนอย่าง


สู งมาตลอด เนื่องเพราะอันหร่ วนเป็ นแม่นมของฉางซุนฮองเฮา ทั้ง
ยังเป็ นพระพี่เลี้ยงของเขา ด้วยความผูกพันที่จีเฉวียนมีต่อฉางซุน
ฮองเฮา เขาย่อมต้องให้ความสาคัญกับอันหร่ วนเหนือธรรมดา

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ความเชื่อใจของเขาจะเบาบางถึงเพียงนี้ กับบุคคล


เช่ น ฮ่ อ งเต้พ ระองค์น้ ี จะต้อ งเป็ นคนเช่ น ไรหรื อ จึ ง จะสามารถมี
คุณสมบัติยนื อยูข่ า้ งกายเขาได้กนั ?

ท่านราชครู ?

ดูท่าคงจะมีแต่เขาเท่านั้น

ยามนี้ ในใจของอันหร่ วนยิง่ เคร่ งเครี ยดกว่าเดิม ถึงแม้ว่านางจะยังคง


ฝื นรักษาความสงบบนสี หน้าเอาไว้ได้ แต่ว่าฝ่ ามือที่กาไม้เท้าเอาไว้
กลับซี ดขาว
ดวงตาชราคู่น้ ันจับจ้อ งตู๋กูซิง หลัน แล้วก็หันกลับมามองจี เฉวียน
สุ ดท้ายจึงหลุบตาลง ” ยามที่ฝ่าบาททรงประสู ติ ฮองเฮาทรงตกพระ
โลหิ ตมากเกิ นไป สถานการณ์คบั ขันอันตราย บ่าวมัวแต่หาคนมา
ช่วยฮองเฮา จึงพลาดช่วงเวลาที่ฝ่าบาทประสู ติโดยละเอียดไป บ่าว
ผิดไปแล้วเพคะ “

ได้ฟังแล่ว จีเฉวียนก็ไม่ได้ทาให้นางต้องลาบากใจ ” ตอนนั้น หมัว


มัวต้องลาบากมากแล้วจริ งๆ “

ไม่รู้ว่าทาไม พออันหร่ วนได้ยิ่งเขาตรัสออกมาเช่นนี้ แล้ว ในใจก็ยงิ่


ไม่สงบกว่าเดิม

อาจเพราะว่าการสาปแช่งที่ลม้ เลว ทาให้นางสู ญเสี ยพลังไปจานวน


มากยามนี้ถึงกับมีเม็ดเหงื่อเย็นๆ เกาะอยูท่ ี่หน้าผากชั้นหนึ่ง

พอยิ่งดูจีเฉวียนมองมากเข้าหน่ อย ฝ่ าเท้าของนางก็ถึงกับอ่อนแรง
ขึ้นมา
ฮ่องเต้เห็นท่าทางของนาง พระพักตร์ ที่งดงามก็เพิ่มพูนความห่ วงใย
” หมัวมัวร่ างกายไปค่อยสบาย ก็สมควรจะรักษาตัวอยู่ในตาหนัก
ชางอู๋ อย่าได้ออกมาเดินเยอะเกิน “

อั น หร่ วนมองเห็ น ความห่ วงใยจากเขาได้ อ ย่ า งชั ด เจน แต่


ขณะเดียวกันเมื่อตรัสอย่างแจ่มชัดเช่นนี้ ก็หมายความว่าต้องการกัก
บริ เวณนางด้วย

ตอนนี้นางถึงกับมองไม่ออกเลยว่าที่จริ งแล้วฮ่องเต้ทรงคิดเช่นไรกัน
แน่ หากว่าเขาห่วงใยนางจริ งใยจึงต้องกักบริ เวณนางด้วย?

ฮ่ อ งเต้พ ระองค์ น้ ี แต่ ไ หนแต่ ไ รมาก็ ชัก สี ห น้ า เย็ น ชาอยู่ ต ลอด


นอกจากครั้งนั้นที่นางส่ งเสื้ อหนาวให้เขา จึงได้เห็นวี่แววแสดงความ
ห่วงใยจากเขาแล้ว ช่วงเวลาอื่นๆ ที่เหลือก็ไม่เคยเห็นสิ่ งใดอีกเลย

อันหร่ วนไม่กล้ามองเขาให้มากเกินไป ได้แต่ขยับตัวถวายบังคมลา


ถือไม้เท้าจากไปอย่างรวดเร็ ว

จี เ ฉวี ย นมองดู เ งาหลัง ของนาง สี หน้ า ที่ มี ค วามห่ ว งใยค่ อ ยๆ


เปลี่ยนเป็ นสงบนิ่ง จนไม่เหลือวี่แววใดๆ อีก
ตู๋กูซิง หลันจับตามองจากด้านข้าง ดูอ ย่างไรนางก็รู้สึกว่าจี เฉวียน
กาลังวางเบ็ดดักปลาใหญ่อยูเ่ ป็ นแน่ คนผูน้ ้ ี ไม่เพียงมีอุบายชัว่ ร้ายอยู่
เต็มท้อง ทั้งยังรู ้จกั แสดงแกล้งทาอย่างแนบเนียน

ตั้งแต่ตอนที่อยูท่ ี่ลี่โจวแล้ว ก็มิใช่วา่ เขาหลอกลวงจีหรานได้สาเร็จอยู่


หมัดหรอกรึ ? ขณะที่นางกาลังครุ่ นคิดอย่างเหม่อลอยนั้น ก็เห็ นเขา
หันกลับมามองดูนางและซูเม่ยแว่บหนึ่ง

ซูเม่ยเองสัมผัสได้ถึงไอสังหารจากสายตาของเขาในทันที

นางอ้าปากขึ้นมา แต่ยงั ไม่ทนั จะได้กล่าวอะไร ก็ได้ยินฮ่องเต้ทรง


ตรัสว่า ” หวงกุย้ เฟย ในเมื่อตั้งครรภ์แล้วก็อย่าได้วิ่งวุ่นวาย สงบจิต
สงบใจอยูแ่ ต่ในตาหนักให้ดี ถ้าครรภ์น้ ีเป็ นองค์ชายใหญ่ หากว่าเกิด
ปั ญหาใดขึ้นมา เจ้าคงรับผิดชอบไม่ไหว”

ตู๋กซู ิ งหลัน “!!! “

ซูเม่ย “!!!!! “

ในสมองของซูเม่ยมีเสี ยงดังวิง้ คนราวกับว่าหล่นลงไปในห้องเย็นใต้


ดิน!
เขา! ท้อง! แล้ว! เขาที่ เป็ นบุรุษตัวโตตั้ง ครรภ์แ ล้ว ทั้ง ยัง ตั้ง ครรภ์
ขึ้นมาในช่วงที่ฮ่องเต้มิได้ประทับอยูใ่ นวัง? ฮ่องเต้ทรงผลักเขาลงไป
ตายแน่ๆ!

แม้แต่หลี่กงกงที่อยูข่ า้ งพระวรกายฮ่องเต้ ก็ยงั ตาโตขึ้นมา พวกเขาฟัง


ไม่ผดิ ใช่หรื อไม่?

หวงกุย้ เฟยช่างปิ ดบังได้อย่างยอดเยี่ยมนัก ผ่านมานานถึงเพียงนี้ก็ยงั


ไม่มีเสี ยงเล่าลือใดๆ เล็ดลอดออกมาเลยสักนิด

ฝ่ าบาทพึ่งจะทรงกลับเข้าวัง ก็ทรงประกาศข่าวใหญ่เช่นนี้ ออกมา


ด้วยพระองค์เอง สมแล้วที่เป็ นหวงกุย้ เฟย นับว่ามีฝีไม้ลายมือไม่เบา
เลย

ไม่ รู้ ห ลี่ ก งกงคิ ด อย่า งไร ถึ ง ได้เ หลื อ บตาไปมองดู ต๋ ู กูซิง หลันอยู่
แว๊บหนึ่ง ไทเฮาน้อยยามนี้คงต้องพ่ายแพ้แล้วละมั้ง?

ช่ วงที่ ฝ่าบาทเสด็จออกไปนอกวัง ไทเฮาทรงเป็ นทุกข์เสี ยพระทัย


อย่างยิ่ง ถึ งขนาดไม่ได้ก้าวออกมาจากตาหนักเฟิ่ งหมิ ง เลยสักก้าว
ตอนนี้ ยงั ต้องมารับรู ้ข่าวที่หวงกุย้ เฟยทรงพระครรภ์อีก คิดๆ ดูแล้ว
เขาก็รู้สึกทุกข์ร้อนแทนนางอยูเ่ หมือนกัน

หลังจากที่จีเฉวียนทรงประกาศ ‘ข่าวดี’ นี้ ออกไป ก็ทรงเหลือบพระ


เนตรดูต๋ กู ซู ิ งหลันแว๊บหนึ่งเขาคิดจะตรัสอะไรเพิ่ม

แต่ก็พลันได้เห็ นสี หน้าที่ ประหลาดใจของตู๋กูซิงหลันเปลี่ ยนเป็ น


ความยินดี! นางรี บหันไปคว้าซูเม่ยเอาไว้ จากนั้นก็ยอ่ ตัวลงไป เอาหู
แนบกับหน้าท้องของเขา ฟั งดูความเคลื่อนไหว พลางกล่าวว่า ” คิด
ไม่ถึงเลย ว่าข้าจะได้เป็ นเสด็จย่าอย่างรวดเร็ วขนาดนี้ สวรรค์ทรง
โปรด ลูกของพวกเจ้าทั้งสองคนจะหน้าตาดีขนาดไหนกันนะ”

ไม่ ก ล้า จะคิ ด เลยจริ ง ๆ ลู ก ของจี เ ฉวี ย นกับ ซู เ ม่ ย จะออกมาน่ า รั ก


งดงามถึงเพียงไหน! ถึงแม้ว่าตอนนี้ นางจะมีหลานสาวสายนอกที่
แสนน่ า รั ก อย่า งซุ่ น เออร์ อ ยู่แ ล้ว แต่ ส าหรั บ ราชวงศ์แ ล้ว ย่อ มไม่
รังเกียจที่จะมีหลานให้มากเข้าไว้ นึ กภาพว่าอีกหน่อยจะมีหลายชาย
หลานสาวที่ น่ารั กอยู่รอบๆ เอว นางก็คงทาให้ใ ช้ชี วิตยามชราได้
อย่างสุ ขใจ
ตู๋กูซิงหลันแนบหน้ากับท้องของซูเม่ยฟั งดูอย่างใส่ ใจ ราวกับว่านาง
ก็คือบิดาของลูกเขาก็ไม่ปาน

ซูเม่ย “……..” ว่ากันตามจริ งเลยนะ เห็นอาหลันดีใจถึงเพียงนี้ เขาก็


ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรื อว่าเสี ยใจดี เขาเคยครุ่ นคิดมาหลายครั้งหลาย
หน ว่าสักวันหนึ่ งเขาจะกลับไปป็ นบุรุษ มีอาหลันเป็ นภรรยา เมื่อ
นางท้อง เขาก็จะเอาหู มาแนบกับท้องของนางเช่นนี้ เหมือนกัน คอย
ฟังเสี ยงของเจ้าตัวน้อยที่แสนสาคัญของพวกเขาอย่างใจจดใจจ่อ

แต่วา่ ตอนนี้ภาพทั้งหมดกลับข้างกันเสี ยแล้ว

สี พระพักตร์ ของฝ่ าบาทดาทะมึน หางตาก็กระตุกไม่ยอมหยุด เขาไม่


ทนรอให้ต๋ ูกูซิง หลันทาอะไรมากไปกว่านี้ ก็ชิง เสด็จเข้ามาหา ยื่น
พระหัตถ์ออกมาคว้าตัวนางไป

พระดารัสที่คิดจะสัง่ สอนนางให้รู้จกั กริ ยาการวางตัวทั้งหลาย พอมา


ริ มพระโอษฐ์กลับตรัสอะไรไม่ออก ได้แต่ใช้พระหัตถ์ขา้ งหนึ่ งคว้า
ตัวนางเอาไว้ สายพระเนตรก็สาดไปยังร่ างของซูเม่ย ” นับตั้งแต่วนั
พรุ่ ง นี้ เป็ นต้น ไป ทุ ก ๆ วัน จะมี ค นส่ ง ยาบ ารุ ง ครรภ์ไ ปที่ ต าหนัก
ชุ่ยเว่ยกง หวงกุย้ เฟยต้องสงบจิตใจรักษาร่ างกาย จะได้คลอดพระ
นัดดาที่น่ารักมาถวายไทเฮา “

ซูเม่ย “…….” เพื่อจะแยกเขาและอาหลันออกจากกันฮ่องเต้ถึงกับทา


ได้ทุกวิธี

จีเฉวียนไม่ทรงให้โอกาสซูเม่ยกล่าววาจา หันไปรับสัง่ ให้หลี่กงกงส่ ง


คนกลับไปในทันที หลังจากนั้นถึงได้หนั กลับมารับสั่งกับตู๋กซู ิ งหลัน
” หวงกุย้ เฟยตั้งครรภ์ เจ้าไม่รู้สึกโกรธเคืองเลยสักนิด? “

ตู๋กซู ิ งหลัน “? ” แล้วทาไมนางถึงจะต้องโกรธด้วย? มีพระนัดดาไม่ดี


ตรงไหน?

พอทอดพระเนตรเห็ นสี หน้าที่มึนงงของนาง จี เฉวียนก็ทรงทราบ


แล้วว่าคาตอบคื อ อะไร เขาหรี่ พระเนตรลง ข่มความหงุ ดหงิ ดใน
พระทัยลงไป ว่าแล้วก็ทรงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปในทันที ” เจ้าจะ
ออกไปนอกวัง? “

ตู๋กูซิง หลันกลับมามี สมาธิ อีกครั้ง ” คิ ดจะกลับจวนไปดู พี่รองสัก


หน่อยเพคะ “
พอถูกจ้องจนปั่ นป่ วนไปเมื่อครู่ นางก็เกื อบจะลืมไปแล้วว่าตนเอง
ต้องการจะทาอะไร

” เราก็จะออกไปนอกวังพอดี เพื่อลดความยุง่ ยาก จะให้เจ้านัง่ รถม้า


ไปด้วยก็แล้วกัน ” จีเฉวียนตรัสพลางก็ลากนางออกเดินไปด้วย

ตู๋กูซิงหลันถูกเขาหิ้ วออกไปอย่างไร้กาลังจะต่อต้านราวกับว่าเป็ น
ลูกเจี๊ยบตัวหนึ่ง

………………………..

ยามดึก ในพระตาหนักตี้หวั

จีเฉวียนยังทรงประทับอยูใ่ นห้องทรงพระอักษร จัดการกับกองภูเขา


ฎีกาที่ส่งเข้ามาในช่วงตลอดหลายวันนี้

ผ่านไปอีกครู่ หนึ่ง ก็มีเงาดาลงมาจากบนเพดาน

” ฝ่ าบาท ” คนชุ ดดาผูน้ ้ ันคุกเข่าถวายคานับ อยู่ที่ดา้ นหน้าของเขา


พลางดึงกล่องใบหนึ่งออกมาจากในอก

” สิ่ งนี้ถูกค้นพบจากใต้ตาหนักของหรานอ๋ องในลี่โจวพะยะค่ะ “


จีเฉวียนอนุ ญาตให้เขาลุกขึ้น คนชุดดาก็ถวายของชิ้นหนึ่ งถึงเบื้อง
หน้าของพระองค์

ทันที ที่กล่องถูกเปิ ดออก ก็รู้สึกได้ถึงไอหยินที่ เข้มข้นและรุ นแรง


หมอกสี ดาขดม้วนเป็ นวง ด้านในมีหยกสี ดาขนาดเท่าเล็บนิ้วมืออยู่
ชิ้นหนึ่ง

จีเฉวียนทรงหรี่ พระเนตรหงส์คู่น้ นั ลง พอยื่นพระหัตถ์ออกก็ปิดทับ


ลงไปบนกล่องใบนั้น

” ฝ่ าบาท กระหม่อมยังต้องติดตามสื บเสาะต่อไปหรื อไม่พะยะค่ะ? “

ตอนนั้นฝ่ าบาททรงส่ งเขาไปยังลี่โจว ก็ไม่ใช่เพียงแค่ทาเรื่ องง่ายๆ


อย่างส่ งมอบเงินบรรเทาทุกข์เท่านั้น

จีหรานมีสิ่งนี้อยูใ่ นครอบครองแต่กลับไม่รู้วิธีใช้ ช่างน่าหัวเราะนัก


ตอนที่ 214 เหยียนเฉี ยวหลัว
ี่ องใบนั้นอยู่อก
สายพระเนตรของจีเฉวียนยังคงจับจ ้องอยู่ทกล่ ี นาน

สักพักใหญ่จงึ ได้ตรัสออกมาประโยคหนึ่ ง ” จัดการอย่างลับๆ จะ


ดีกว่า “

้ ่ ง ก็หายตัวไปท่ามกลางความ
” พะยะค่ะ ” คนชุดดํารับคําครังหนึ
มืดมิด

จีเฉวียนทรงทอดพระเนตรมองดูกล่องใบนั้นอีกนาน ยามทีพระ ่
หัตถ ์ใหญ่หนายกขึนมานั้ ้น หมอกสีดําก็เหมือนกับหยดนํ ้าทีร่่ วงลง
สู่ทอ้ งทะเล ซึมเขา้ ไปในร่างกายของพระองค ์อย่างรวดเร็ว
่ ม้ ขน้ ทําให้พระวรกายเย็นปานห้องนํ ้าแข็งใต้ดน
ไอหยินทีเข ้ ที่
ิ ทังๆ
้ ใกลจ้ ะถึงฤดูร ้อนอยู่แลว้ แต่รา่ งกายของพระองค ์ยังคงเย็น
ตอนนี ก็
จัดประหนึ่ งมีนํ้าแข็งฉาบอยู่ชนหนึ
้ั ่ งดังเดิม

ผ่านไปอีกนานพักใหญ่นํ้าแข็งบนร่างจึงค่อยๆ ละลายลง


ดวงเนตรหงส ์ยิงฉายแววเย็ ้
นยะเยือกขึนมา

…………………………………
สถานการณ์นํ้าในลีโจวกลั
่ บสู่ความสงบ หวงกุ ้ยเฟยก็ทรงครรภ ์
ประชาชนในเมืองหลวงจึงเบิกบานดั่งดอกไม้

ดูสิ ฝ่ าบาททรงได้รบั การคุม้ ครองจากสรวงสวรรค ์อย่างแท้จริง พอ


สําเร็จงานใหญ่ สวรรค ์ก็ประทานพระโอรสองค ์โตมาให้ ช่างสมกับ
่ นผูซ
ทีเป็ ึ่
้ งสวรรค ์เลือกสรรแลว้ จริงๆ อนาคตของต้าโจวเมืออยู ่ ่ใน
พระหัตถ ์ของฮ่องเต้พระองค ์นี ้ ต่อไปก็ย่อมจะต้องรุง่ เรืองอย่างไม่
้ ดแน่ นอน
สินสุ

ประกอบกับด้านเป่ ยเจียงก็ใกลจ้ ะถูกพิชต


ิ คิดๆ ดูแลว้ อีกเพียงไม่

นานแผนทีชายแดนของต้ าโจวต่อมาต้องขยายออกไปอีกแน่

ในเมืองหลวง ถนนตงต้าเจีย (ถนนตะวันออก)


เฟิ่ งไหลโหลว (โรงเตียมหงส
้ ์ร่อน)

่ นถึงโรงเตียมอั
เมือเป็ ้ นดับหนึ่ งของเมืองหลวง กิจการวันนี ก็
้ ยงั คง
คับคั่งแน่ นขนัดเหมือนดังเก่า

่ เทพธิ
ผูค้ นต่างก็กําลังพูดคุยกันถึงเรืองที ่ ดาสําแดงองค ์ในเมืองลี่

โจวและข่าวทีหวงกุ ้ยเฟยทรงพระครรภ ์

ในห้องรับรองห้องหนึ่ งของโรงเตียมเฟิ ้ ่ งไหลโหลว หญิงสาวในชุด


กระโปรงสีเขียวนั่งอยู่ทริี่ มหน้าต่าง นางคาดผ้าโปร่งบนใบหน้า เผย

ให้เห็นแค่ดวงตาทีสวยงามคู ่หนึ่ ง

เพียงแค่ดวงตาคู่นั้น ก็นับว่างดงามอย่างทีสุ
่ ดแลว้

รูปร่างของหญิงสาวสูงโปร่ง บนร่างยังมีกลินอายของความสู งศักดิ ์
่ ธรรมดากําจายออกมา
ทีไม่


ในมือของนางมีจอกสุรา สุราดืมไปเพี ่ ยว จอกในมือก็ถูก
ยงครึงเดี
กระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง

” ก็แค่สนมคนหนึ่ งตังท้ ้ องมิใช่หรือไร จะคลอดออกมาได้หรือเปล่า



ก็ยงั ไม่แน่ เลย ก็เริมจะยิ
นดีปรีดากันแลว้ หรือ? “

เสียงของนางไม่ได้ดงั แต่ก็ทําให้สห
ี น้าของบุรุษทีอยู่ ่ขา้ งกาย

เปลียนไปเล็ ่ ่ คือเมืองหลวงของต้าโจว
กน้อย ” องค ์หญิงอาหลัว ทีนี
บางคําพูดไม่อาจกล่าวอย่างเหลวไหล “
” ทีข่ า้ พูดลว้ นแต่เป็ นความจริง สถานทีอย่
่ างวังหลังทีผ่ ่ านมาลว้ นมี
แต่เจ ้าหลอกมาขา้ ก็ลวงกลับ มีองค ์ชายองค ์หญิงตังเท่ ้ าไรทีต้ ่ องสิน้
้ ยงั เยาว ์ หากว่าสามารถรักษาชีวต
ไปตังแต่ ิ องค ์ชายใหญ่ผูน้ ้นไวั ไ้ ด้
สิถงึ จะประหลาด ” หญิงสาวทีถู ่ กเรียกว่าอาหลัวยิมอย่
้ างเย็นชา ”
่ รบั ความรักจากฮ่องเต้มาก ยิงต้
ซิว เจ ้าไม่รู ้อะไร ยิงได้ ่ องทนรับแรง
กดดันทีไม่ ่ อาจรับไหว? “

” ความโปรดปรานเช่นนี ้ มีแต่จะทําให้หวงกุ ้ยเฟยผูน้ ั้นเกิดปัญหา


อย่างไม่มส ิ ้ ด เจ ้าคอยดูไปเถอะ ไม่แน่ ว่าอีกเพียงไม่กวัี่ นก็อาจจะ
ี นสุ
มีข่าวทีว่่ านางแท้งเสียแลว้ ออกมาก็ได้ “

่ ่ งอยู่ขา้ งกายนางมิได้กล่าววาจา เขาเพียงแต่หยิบตะเกียบ


บุรุษทีนั

ขึนมาคี บอกไก่ชนหนึิ้ ่ งให้กบ
ั นาง ” องค ์หญิงทรงคุน้ เคยกับจี
เฉวียนมาแต่ยามเยาว ์ แต่อย่าได้ทรงลืมว่ายามนี เขาเป็ ้ นถึงฮ่องเต้
แห้งต้าโจวไปแลว้ มิใช่จเี ฉวียนคนเดิมอีกแลว้ พวกเรามายังต้าโจว
้ ้ ไม่ว่าจะทําเรืองใดก็
ครังนี ่ ตอ้ งรักษาความระมัดระวังไว”้

” ต่อให้เขาจะเปลียนไปเช่ ่
นไร ก็เปลียนแปลงความจริ งทีว่่ าเขาเคย
ี่
ไปเป็ นตัวประกันอยู่ทแคว น
้ ต้าเหยียนของขา้ ไม่ได้ ” สายตาของ
หญิงสาวเย็นชา ” หากว่าไม่ได้ผ่านการฝึ กฝนจากแควน้ ตาเหยียน
ของขา้ มานานหลายปี เขาจะกลายเป็ นฮ่องเต้ของต้าโจวได้อย่าง
ไร “

ดวงตาของบุรุษผูน้ ้นมื ้
ั ดครึมลง เขามองออกไปรอบๆ พอมั่นใจว่า
ไม่มผ
ี ใู ้ ดได้ยน ้
ิ เสียงของนางแลว้ ก็ลุกขึนมา ปิ ดหน้าต่างของห้อง
รับรองเอาไวอ้ ย่างแน่ นหนา


” ซิว เจ ้าไปเตรียมการสักหน่ อย พรุง่ นี พวกเราจะเข า้ วังกัน ไม่ได้

พบจีเฉวียนมาตังนานหลายปี แลว้ พอเขาได้เห็นขา้ จะต้องแปลกใจ
และยินดีเป็ นแน่ ใช่ไหม? “

หญิงสาวพูดพลาง ก็จบ ั ปลางคางไปด้วย นางคลา้ ยกับว่าย้อนนึ ก


ไปถึงบางสิง่ ทังหั
้ วคิวและหางตาจึ
้ ้
งโค้งขึนมา อารมณ์ก็พลอยดีขน ึ้
ด้วย
หน้าต่างอีกขา้ งหนึ่ งไม่ได้ถูกปิ ด พอลมพัดเขา้ มาก็ทําให้ผา้ โปร่ง
ของนางหลุดออก นางยืนมื ่ อออกไปควา้ แต่ว่าผ้าผืนนั้นกลับลอด

จากปลายนิ วปลิ วจากหน้าต่างลงไป

ผ้าโปร่งสีเขียวอ่อนแสนจะบางเบา บนนั้นยังมีกลินหอมเฉพาะตั
่ ว
ของหญิงสาวอยู่ดว้ ย และด้วยความบังเอิญอย่างทีสุ่ ดจึงตกลงไป
บนศีรษะของบุรุษชุดขาวผูห้ นึ่ ง


บุรุษชุดขาวยกมือขึนมาดึ งผ้าออกไป เขากวาดตามองไปรอบด้าน

สุดท้ายจึงเงยหน้ามองขึนมาที ่ นบนของเฟิ
ช ั้ ่ งไหลโหลว

สายตาของเขาสบเขา้ กับดวงตาสีนํ้าตาลคู่นั้น

คุณชายผูน้ ั้นก็นําผ้าโปร่งเขา้ ไปในเฟิ่ งไหลโหลว


เพียงแค่ครูเ่ ดียว ประตูของห้องรับรองก็ถูกเขาเคาะ

คุณชายชุดขาวมองเขา้ ไปในห้อง ก็เห็นเพียงหนึ่ งบุรุษหนึ่ งสตรี


บุรุษสูงใหญ่กํายํา ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย สตรีรูปโฉมงดงามชุด

กระโปรงทีนางสวมใส่ ่ อง
ก็ยงั เป็ นสีเขียวอมดําแบบเดียวกันกับทีน้
เล็กชอบใส่อยู่เสมอ

” ซิว เจ ้าให้เงินไปสักหน่ อยแลว้ ก็ไล่ไป ถือเสียว่าเป็ นค่าตอบแทนที่


เก็บผ้าคลุมหน้าของขา้ ได้ ” สตรีผน ู ้ ั้นมิได้หน
ั มาเหลือบมอง
คุณชายชุดขาวเลยสักนิ ด

ซิวลว้ งเงินจํานวนหนึ่ งออกมา ส่งให้คุณชายชุดขาว ” แทนคํา


ขอบคุณของคุณหนู ของขา้ ”
พูดจบแลว้ ก็รบั ผ้าคลุมหน้าในมือนั่นไป

ไหนเลยจะรู ้ว่าคุณชายชุดขาวผูน้ ้นจะถอยหลั


ั งไปก ้าวหนึ่ ง ดวงตา
่ นประกายราวหยดนํ ้าจดจ ้องไปยังสตรีนางนั้น เขากระชบั ผ้า
ทีเป็
คลุมหน้าในมือ ” แน่ ใจหรือว่านี่ เป็ นของเจ ้า? “

” หากไม่ใช่ของขา้ แลว้ ยังจะเป็ นของใครได้อก


ี ? ” สตรีผนู ้ ้นคร
ั ้าน
จะเสวนากับเขา โดยทั่วๆ ไปแลว้ บุรุษทีเก็
่ บผ้าคลุมหน้าของสตรี
่ อมคิดจะมาสานสัมพันธ ์ได้คบ
กลับมา มากกว่าครึงย่ ื เอาศอกกัน
้ ้น
ทังนั

่ พบเจอกับโฉมสคราญเช่นนาง
โดยเฉพาะเมือได้
้ านั้น หากว่าเขาไม่รู ้จักลงจากเวทีไป ก็ให้ซวิ ลง
ก็แค่พวกช่างตือเท่
มือสักรอบก็ใช ้ได้แลว้


นางเตรียมการรับมือกับการตามตือของคุ ณชายชุดขาวผูน้ ้นเอาไว
ั ้
แลว้ แต่กลับเห็นเขาถือผ้าคลุมนั้นด้วยอารมณ์ฉุนเฉี ยว หันมาเล่น

งานนาง ” พีสาว ขา้ คงต้องพูดกับท่านหน่ อยแลว้ ท่านไม่รู ้หรือไง
้ า้ วของลงจากชนบนมั
ว่าการเขวียงข ้ั นเป็ นอันตรายมาก? “

้ านโยนผ้าคลุมหน้า โยนจนติดเป็ นนิ สยั ครังต่


” รอบนี ท่ ้ อไปโยนอิฐ
่ ่ เป็ นย่านทีคึ
หรือไง? ทีนี ่ กคัก ชนล่
ั้ างมีคนผ่านไปมาจํานวนมาก

เขวียงอะไรลงไปก็ อาจทําคนถึงตายได้! “

สตรีชด ่
ุ เขียวตกตะลึงไป ทีนางเผอิ ้ พวกตาม
ญเจออยู่ในตอนนี ใช่
้ ไหนกั

ตือที น เห็ นอยู่ชดั ๆ ว่าเป็ นพวกโรคประสาท


แลว้ ยังมาเรียกว่าพีสาว? นางดูแลว้ แก่มากหรือยังไง?

นางพึงจะผ่ ่ บปี มาแท้ๆ ดูยงั ไงก็อายุแค่พอๆ
านวันเกิดครบรอบยีสิ
กันกับเขาเท่านั้นเถอะ

” ประสาท” นางกลอกตาบน ส่งสัญญาณให้ซวิ รีบไล่คนบา้ ผูน้ ี ้


ออกไป

้ ณชายชุดขาวโกรธขึนมาจริ
” ยังไม่รู ้สํานึ กแก ้ไขอีก! ” คราวนี คุ ้ งๆ
แลว้ ไม่รอให้บุรุษทีชื ่ อซิ
่ วมาไล่เขาออกไป เขาก็บุกเขา้ ไปในห้อง
รับรอง เดินไปตรงหน้านางอย่างช ้าๆ

่ เขาสะบัดผ้าคลุมหน้าผืนนั้นตรงหน้านาง ” ดูจากท่าทาง
‘พรึบ’
ของท่าน ไม่ใช่ชาวต้าโจวเช่นพวกเรา ท่านรู ้หรือไม่ว่าการกระทํา
ของท่านถือว่าฝ่ าฝื นและผิดกฎของพวกเราชาวต้าโจว? “

คราวนี นางถึ
งกับพูดอะไรไม่ออกแลว้ นางคิดไม่ถงึ จริงๆ ว่า พอ
่ นนี ้
มาถึงต้าโจวก็จะได้พบกับเรืองประหลาดเช่

ก็แค่ทําผ้าคลุมหน้าหล่นมิใช่หรือ ถึงกับผิดกฎหมายด้วย?

่ี ม้ งวดถึงเพียงนี เชี
จีเฉวียนเป็ นฮ่องเต้ทเข ้ ยว?

่ี านพึงจะทํ
” เห็นแก่ทท่ ่ ้
าผิดเป็ นครังแรก ้ จะเพี
ครังนี ้ ยงตักเตือนด้วย
วาจาเท่านั้น หากยังมีครังต่
้ อไป จะต้องจับท่านไปทีว่่ าการแน่ ”
คุณชายชุดขาวยังกล่าวต่อไม่ยอมจบ

้ าคลุมหน้าผืนนั้นลงบนโต๊ะ แลว้ ก็หน


เขาคลายมือออก ทิงผ้ ั มาจ ้อง
นาง ดวงตาคู่นั้นกวาดมองดูนางอย่างจดจํา ” ชืออะไร?
่ “
สตรีผูน้ ้นตกตะลึ
ั ง จึงตอบกลับไปอย่างไม่ทน ้ ้ตัว ” เหยียน
ั รู ้เนื อรู
เฉี ยวหลัว “


” เอาละ ชือของท่ านถูกบันทึกเอาไวใ้ นบัญชีบุคคลอันตรายของ
เมืองหลวงแควน้ ต้าโจวแลว้ ภายในหนึ่ งปี หากว่าไม่พบการกระทํา
่ สมควรอีก ก็จะถูกลบออกไปเอง พีสาว
ทีไม่ ่ ทําตัวให้ดๆี แควน้ ต้า
โจวของพวกเรายังคงต้อนรับท่านอยู่ “
ตอนที่ 215 สมบัตเิ ทพของแคว ้นเซอปี่ ซือ
เหยียนเฉี ยวหลัว “…..” นี่ นางต้องมาเจอกับเรืองตลกอะไรกั
่ น?

คราวนี ้ นางถึงได้หน ั ไปมองดูคุณชายชุดขาวอย่างละเอียด หน้าตา


หรือก็ดเี ป็ นผูเ้ ป็ นคนอยู่หรอก แต่ว่าสมองไม่สมประกอบ

่ ๋กูเจวียจะไม่
หายากเหลือเกินทีตู ๋ ้
อยากพูดกับนางขึนมา พอกล่าว
จบ เขาก็สะบัดชายเสือก้ ้าวยาวๆ ออกไปจากห้องรับรอง

่ ไม่ว่าทีใดก็
เขาไม่ได้กลับมาเมืองหลวงถึงครึงปี ่ อยากจะผ่านไปดู
สักรอบหนึ่ งด้วยตนเอง

เขาเป็ นขุนนางอวีสื้ อ่ [1] ของเมืองหลวง มีหน้าทีดู


่ แลรักษาความ
รักษาความสงบสุขของประชาชนในเมืองหลวง ภายใต้หนังตาของ
เขาจะต้องไม่มท ่ เป็
ี างปล่อยให้เกิดเรืองที ่ นอันตรายต่อชีวต
ิ คน

ขึนมาได้

่ าให้เกิดอันตรายก็ไม่ได้!
ต่อให้เป็ นอุปนิ สยั ทีทํ

้ ง
น้องเล็กอยู่ในวัง เขาย่อมไม่อาจเขา้ วังไปดูแลนางได้บ่อยๆ ทังยั

อยู่ๆ ก็เกิดความหงุ ดหงิดขึนมาโดยไม่ มส
ี าเหตุ

หรือจะเป็ นเพราะตอนที่อยู่เมืองลีโจวถู
่ กทรมานมามาก พอกลับ
มาถึงเมืองหลวง ก็ใช ้ชีวต
ิ สงบสุขเกินไป ถึงได้เกิดความรู ้สึกว่าไม่
ชินเสียแลว้

………………………………………..
เช ้าวันรุง่ ขึน้ ในเมืองหลวงก็เกิดข่าวแพร่สะพัดออกมา องค ์หญิง
จากแควน้ ต้าเหยียนเสด็จมาเยือนด้วยพระองค ์เอง

่ ดถึงแควน้ ต้าเหยียน เหล่าขิงแก่ในวังหลวงต่างก็รู ้กันเป็ น


เมือพู
อย่างดี ตอนนั้นหลังจากทีฉางซุ
่ ้
นฮองเฮาสินไป ไม่ถงึ สองปี องค ์
ชายสีจี่ เฉวียนทีมี
่ พระชนั ษาเพียงเจ็ดขวบก็ถูกส่งไปเป็ นองค ์ประกัน
่ น้ ต้าเหยียน
ทีแคว

ในตอนนั้น แควน้ ต้าโจวก่อตังมาได้


้ เพียงสองรัชสมัย ถึงแม้จะได้
เป็ นถึงหนึ่ งในสามแควน้ ใหญ่ที่แข็งแกร่งในแผ่นดินนี ้ แต่ก็เป็ น
่ อนแอทีสุ
แควน้ ทีอ่ ่ ดในสามแควน้
และในช่วงเวลานั้น ในแว่นแควน้ ยังเกิดความวุ่นวายด้วยฝี มอื ของ
กบฏจีอ๋้ อง ก่อให้เกิดความเสียหายคั่งค้างภายในแควน้ อย่าง
รุนแรง

่ นผูน้ ํ าในสามแควน
แควน้ ต้าฉิ นทีเป็ ้ ถือโอกาสส่งกําลังมารุกรานต้า

โจว จึงเกิดศึกทังภายในและภายนอก ่ ้นฟูความสัมพันธ ์กับ
เพือฟื
แควน้ ต้าเหยียนพันธมิตรเก่า อดีตฮ่องเต้จงึ ส่งองค ์ชายในฮองเฮา
่ าเหยียนด้วยพระองค ์เอง
ไปเป็ นองค ์ประกันทีต้

้ นั้นมา องค ์ชายสีจี


นับตังแต่ ่ เฉวียนก็ได้เริมใช
่ ้ชีวต
ิ ในแควน้ ต้าเห

ยียนและเติบโตขึนในฐานะตั วประกันยาวนานถึงสิบปี

กระทั่งเขาอายุได้สบ
ิ เจ็ดปี ถงึ ได้กลับมายังต้าโจวอีกครัง้

่ เดิมเคยเป็ นถึงองค ์ชายสายตรงทีสู


เขาทีแต่ ่ งศักดิที์ สุ
่ ดในต้าโจว แต่
เพราะอดีตฮ่องเต้ไม่ทรงโปรด จึงต้องจากบา้ นเกิดเมืองนอนไปนาน
ถึงสิบปี ประสบการณ์ทได้ ่ี รบั ในช่วงนั้น หลังจากทีกลั
่ บมาแลว้ องค ์
่ มเิ คยได้เอ่ยกับผูใ้ ดเลยสักคน
ชายสีก็

่ บมาแลว้ คนก็กลายเป็ นเย็นชาดั่งภูเขานํ ้าแข็ง


เพียงแต่เมือเขากลั
อยู่ตลอดเวลา


ตลอดพระองค ์มีแต่กลินอายที
กี่ ดกันไม่ให้ผูค้ นเขา้ ใกลอ้ ยู่เสมอ

่ ่ในแควน้ ต้าเหยียนเขาต้องใช ้ชีวต


ยามทีอยู ิ เช่นไร คิดๆ ดูแลว้ ก็คง
จะมีแต่ท่านราชครูทรูี่ ้กระมัง

องค ์หญิงแห่งต้าเหยียนผูน ้ ี ้ ฟังมาว่านางคือพระธิดาองค ์เล็กของ


ฮ่องเต้แห่งต้าเหยียน เป็ นผูท้ ฮ่่ี องเต้แห่งต้าเหยียนทรงโปรดปราน
่ ด
ทีสุ
้ นางจะมาที
ไม่รู ้ว่าครังนี ้ ต้่ าโจวด้วยเหตุอน
ั ใด

ในวังยังไม่ทน ่
ั จะมีความเคลือนไหว ทั่วเมืองหลวงก็มข
ี ่าวลือแพร่
สะพัดออกไปก่อนแลว้

ต่างก็ลอื กันไปว่าองค ์หญิงแห่งแควน้ เหยียนกับฮ่องเต้ทรงเติบโต



ขึนมาด้ ้ เล็ก ทีมาในครั
วยกันตังแต่ ่ ้ ้ ก็คงจะมาสานพรหมลิขต
งนี ิ กับ
ฮ่องเต้เป็ นแน่

เขาเล่ากันว่าตอนทีฝ่่ าบาททรงอยู่ในแควน้ เหยียนก็ได้องค ์หญิง


ดูแลอยู่เสมอ
ประกอบกับทีต้่ าโจวและต้าเหยียนเป็ นพันธมิตรกันมาก่อน ดูๆ แลว้

ทังสองฝ่ ี่ ผูกสัมพันธ ์กันให้แนบแน่ นกว่าเดิม
ายก็คงจะยินดีทได้
ละมัง้

ดังนั้นหากว่าองค ์หญิงทรงอภิเษกกับฝ่ าบาท สําหรับทังสองแคว


้ น้
แลว้ ย่อมมีขอ้ ดีมากมายนับไม่ถว้ นเลยทีเดียว

ประชาชนในเมืองหลวงต่างก็ตงตารอ ั้ หวังให้ฮอ
่ งเต้ทรงอภิเษกองค ์
้ าโจวก็จะเป็ นเสมือนกับพยัคฆ ์ติดปี ก
หญิงเขา้ มาโดยเร็ว เช่นนี ต้

…………………………..
้ ฮ่
ภายในวัง ครังนี ้ องเต้มไิ ด้ทรงจัดงานเลียงรั
้ บรององค ์หญิงแห่งต้า
เหยียน


เพียงแต่เชิญเสด็จมาทีพระตํ ้ ว เพือร่
าหนักตีหั ่ วมเสวยด้วยกันสัก

มือหนึ่ง

้ งทําแค่ตงโต๊
ทังยั ั้ ะเสวยทีบริ
่ เวณหนึ่ งในส่วนหน้าของพระตําหนักตี ้
หัว อาหารก็ยด ึ เอาตามรสนิ ยมของคนต้าเหยียนเป็ นหลัก

เหยียนเฉี ยวหลัวสวมชุดสีเขียวอ่อนตลอดร่าง นั่งอยู่ทด้


่ี านขา้ ง
พระองค ์ นางถอดผ้าคลุมหน้าออก คอยมองดูจเี ฉวียนอยู่
ตลอดเวลา

” ฝ่ าบาท คิดไม่ถงึ เลยว่าผ่านมานานหลายปี แลว้ พระองค ์ยังทรง


จําได้ว่าขา้ ชอบกินอะไร ” ใบหน้าของนางมีรอยยิม้ กริยาการ
้ งส่งและเปิ ดเผยสง่างาม
วางตัวทังสู
จีเฉวียนประทับบนพระทีนั ่ ่ ง ทอดพระเนตรมองดูเครืองเสวยที
่ ่
วาง
้ นห้องเครืองทํ
อยู่จนเต็มโต๊ะ ” เราจําไม่ได้ ของพวกนี เป็ ่ ามา “

เหยีนเฉี ยวหลัว “……..” เขายังคงไม่รู ้จักพูดจาเหมือนแต่ก่อนไม่มี


ผิด


นางยิมอย่ ่ คงต้องมาถามไถ่พระ
างเก ้อเขิน “พวกห้องเครืองก็
ประสงค ์ก่อน ถึงได้ทําออกมา โอ้ ดูขนมบัวลอยขา้ วหมักบนโต๊ะนี สิ ้
สุราเป็ นสุราดอกท้อของต้าเหยียนเรา ดูก็รู ้แลว้ ว่าเป็ นความใส่ใจ “

่ านมาห้องเครืองล
” ทีผ่ ่ ว้ นจัดการเองทุกเรือง
่ ไม่จําเป็ นจะต้องมารอ
ถามความเห็นจากเรา “

รอยยิมของเหยี ่ งค้างกว่าเดิม
ยนเฉี ยวหลัวยิงแข็


นางรีบเปลียนเป็ นกล่าวเปิ ดประเด็นว่า ” ฝ่ าบาท พวกเราไม่ได้พบ
กันนานหลายปี พระองค ์ในยามนี ยิ ้ งดู
่ สง่างามองอาจอย่างไม่
่ าเมือก่
ธรรมดายิงกว่ ่ อน เมือครู
่ ต
่ อนทีข ่ า้ มองเห็ นในแวบแรก ขา้ ยัง
เกือบจะจําไม่ได้เลย “

นางพูดพลาง ก็ตก ั บัวลอยขา้ วหมักช ้อนหนึ่ งใส่ลงในชามของเขา


” ตอนนั้นทีท่
่ านยังอยู่ในต้าเหยียน ก็ชอบรับประทานสิงนี
่ ้“

จีเฉวียน ” เจ ้าจําผิดแลว้ เราไม่ชอบ “

ตรัสจบ เขาก็ยกชามทีอยู ่ ่ขา้ งหน้าตัวเองใบนั้นออกไป ว่ากันตาม


้ ตั
จริง อาหารมือนี ้ งแต่
้ ตน ้ จนจบ ฮ่องเต้ยงั ไม่ได้เสวยเลยสักคํา
เดียว

สีพระพักตร ์ก็ราวกับไม่พอพระทัย ราวกับว่ามีใครติดค้างหนี เขาอยู ่
หลายเมืองก็ไม่ปาน

เหยียนเฉี ยวหลัวไม่รู ้แลว้ ว่าจะชวนเขาพูดคุยอย่างไรดี ไม่ได้พบ



กันมาตังนาน เขาไม่คด ิ ถึงนางเลยสักนิ ดหรือ?

ี่ กลับมาเจอกันจากตัวของ
นางไม่อาจสัมผัสได้ถงึ ความยินดีทได้
เขาเลย


ราวกับว่านางจะมาหรือไม่ ก็ไม่เกียวข อ้ งอะไรชีวต
ิ ของเขาสักนิ ด
เดียว
่ า้ มาทีนี
” ฝ่ าบาท พระองค ์จะไม่ทรงถามหรือว่า จุดประสงค ์ทีข ่ ่ คือ
อะไร? ” ผ่านมาก็พก ่ ดเหยียนเฉี ยวหลัวถึงได้เปิ ด
ั ใหญ่แลว้ ในทีสุ

หัวขอ้ ขึนมา


” มีเรืองอะไรเจ ี ว่ามา ” จีเฉวียน บุรุษตัวโต ภูเขานํ ้าแข็งของ
้าก็รบ
่ี
แท้ทจะตรั สสักคํายังแพงกว่าทอง

” พระบิดาของขา้ ได้รบั ข่าวสารมา ในทีสุ ่ ดก็คน้ พบสมบัตเิ ทพของ


แควน้ เซอปี่ ซือ แควน้ ต้าฉิ นเองก็ได้ส่งคนนํ าไปก่อนแลว้ ” เหยียน
เฉี ยวหลัวเล่าต่อไป ” ขา้ เห็นแก่ความสัมพันธ ์ในวัยเยาว ์ของพวก
่ าคัญเช่นนี มาบอกท่
เรา ถึงได้นําเรืองสํ ้ าน “

แควน้ เซอปี่ ซือ นี่ ยังเป็ นแควน้ ที่เก่าแก่ยงกว่


่ิ าแควน้ กู่เย่วเสียอีก
้ เหมือนกับแควน้ กู่เย่ว แควน้ กู่เย่วนั้นถูกต้าโจวทําลายไป
แควน้ นี ไม่
แควน้ เซอปี่ ซือกลับล่มสลายไปเอง


เรืองเล่ ่
าลือเกียวกั ้ ว้ นเป็ นเรืองเกี
บแควน้ นี ล ่ ่
ยวข อ้ งกับความมั่งคั่ง
และสมบัตท ี่ เหลือคณานับ และคนในแควน้ ที่มีอายุขยั ยืนยาว คน
ิ มี
ทั่วไปอายุถงึ ร ้อยปี กน
็ ับว่ามากแลว้ แต่คนของแควน้ เซอปี่ ซือกลับ
สามารถมีอายุได้ถงึ ห้าหกร ้อยปี

คนแควน้ เซอปี่ ซือยังมีนิสยั เจ ้าปัญหาอย่างหนึ่ ง นั่นก็คอ


ื ชอบสะสม

สิงของมี
ค่า

นอกจากสะสมของมีค่าแลว้ พวกเขาก็ไม่คด ่ ก ดังนั้น


ิ จะทําสิงใดอี
ต่อมาถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีทรัพย ์สมบัตส ิ ะสมเอาไวม้ าก แต่กลับ
ขาดแคลนพืชพันธุ ์ธัญญาหาร จนถึงขันไม่้ เพียงพอกับการ
ดํารงชีวต ้
ิ ทังคนในชาติยงั เกียจคร ้านอย่างทีสุ่ ด
ี่ องอดยากจนตาย
จึงกลายเป็ นชาติทต้

่ น้ เซอปี่ ซือล่มสลายไปแลว้ ก็ถูกกระแสลมและดิน


หลังจากทีแคว
ทรายกลบทับ ตลอดหลายปี มานี ้ มีประมุขแควน้ และขุมอํานาจ

จํานวนไม่นอ้ ยทีสละเลื ้ อไปตามหาขุ

อดเนื อเพื มทรัพย ์ของแควน้
เซอปี่ ซือ

แม้กระทั่งอดีตฮ่องเต้ทงสองพระองค
ั้ ์ของต้าโจวเอง ก็ไม่เคยละ

ความพยายามทีจะตามหากรุ ิ องแควน้ เซอปี่ ซือ
สมบัตข

พอมาถึงรุน ่ ของเขาถึงได้พก ั เอาไวก้ ่อน สําหรับจีเฉวียน หาก


นํ ามาเปรียบเทียบกันแลว้ การจะต้องไปวิงไล่ ่ ไขว่ควา้ สิงที
่ เป็
่ นเพียง
่ มผัสอะไรไม่ได้ ก็มส
คําเล่าลือทีสั ู ้ ุ่งมั่นตังใจสร
ิ ม ้ ้
้างขึนมาใหม่ ให้

ประชาชนทังหลายได้ อยู่ดม
ี สี ุขดีกว่า
แต่ในเมื่อตอนนี มี
้ ข่าวคราวส่งมาถึงหน้าประตู เขาก็ไม่คด ่
ิ ทีจะปฎิ
เสธ

เหยียนเฉี ยวหลัวขยับเขา้ มาใกลเ้ ขาอีกหน่ อย กระซิบเสียงเบาที่


ขา้ งพระกรรณว่า ” ฟังมาว่ากรุสมบัตข ิ องแควน้ เซอปี่ ซือมีของลํา้
้ งมียาวิเศษทีทํ
ค่าอยู่มากมายนับไม่ถว้ น ทังยั ่ าให้ผค
ู ้ นสามารถมี
อายุยนื ยาวโดยไม่แก่ชรา ฮ่องเต้ตา้ ฉิ นเองก็ทรงพระชนมายุมาก
แลว้ เขามุ่งมั่นค้นหายาอายุวฒ ั นะไม่ยอมหยุด ดังนั้นในบรรดาผูท้ ี่
ค้นหาสมบัตข ิ องเซอปี่ ซือ นับว่าแควน้ ต้าฉิ นโดดเด่นทีสุ่ ด คิดไม่
่ ดก็ถูกพวกเขาหาจนเจอ “
ถึงว่าในทีสุ

่ สมบัตค
เหยียนเฉี ยวหลัวพูดพลาง ก็ลว้ งเอาแผนทีกรุ ่
ิ รึงใบออกมา
จากในอก

นางมิได้ถวายให้กบ ั จีเฉวียนในทันที แต่กลับถือเอาไวใ้ นมือ ” ฝ่ า


บาท ขา้ สามารถมอบแผนทีครึ ่ งใบนี
่ ้ แก่ท่าน แต่ท่านต้องยอมรับ
ให้

เงือนไขของข า้ ขอ้ หนึ่ ง “
——

คุยกันนิ ดนึ ง: เอาล่ะค่ะความโลภมาเยือนแลว้

ตอนต่อไปชือ่ ” คนในดวงใจของเราคือสมบัติทลํ
ี่ าค่
้ ามากทีสุ
่ ด

——
[1] 御史ตุลาการสูงสุด/ผูต้ รวจการ
ตอนที่ 216 คนในดวงใจของเราคือสมบัตท ่ี าค่
ิ ลํ ้ ามากทีสุ
่ ด

ไม่รอให้จเี ฉวียนได้ทรงรับปาก ก็ได้ยน


ิ เหยียนเฉี ยวหลัวกล่าวด้วย
่ ่นในตนเองว่า ” ขา้ ต้องการเป็ นฮองเฮาของท่าน “
ความเชือมั


” แผนทีสมบัตค ่
ิ รึงใบนี ้ ขา้ ขโมยมาจากพระบิดา คิดดูแลว้ ด้วย
ความฉลาดเฉลียวของท่าน อย่าว่าแต่มแี ผนทีเพี่ ยงครึงใบเลย

ท่านจะต้องตามหาสมบัตเิ จออย่างแน่ นอน “

่ า้ ได้เป็ นฮองเฮาของท่านแลว้ ขา้ จะช่วยดูแลวังหลังให้ท่าน


” เมือข
เป็ นอย่างดี เป็ นพระมารดาของแผ่นดิน เป็ นฐานกําลังสนับสนุ น
่ าเหยียนและต้าโจวร่วมมือกัน การจะรวบรวมแผ่นดิน
ท่าน เมือต้

ให้เป็ นปึ กแผ่นไยมิใช่เรืองช ้าหรือเร็วเท่านั้น “


หลีกงกงที ่ าอยู่ดา้ นนอก ย่อมได้ยน
เฝ้ ้ า้ พอดี
ิ หลายประโยคนี เข

เดิมทีเขากํ ี ่ ยน
าลังง่วงเหงาหาวนอน ทันทีทได้ ่ องค
ิ สิงที ่ ์หญิงแห่งต้า
่ ว
เหยียนตรัสออกมา คนก็สะดุง้ จนตืนตั

้ งมีสตรีทกล
มารดาขา้ เอ๋ย! บนโลกนี ยั ี่ า้ ยืนข
่ อ้ เสนอกับฝ่ าบาทอยู่
ด้วย!

่ า้ งกายของเขา คือบุรุษทีติ
ทีข ่ ดตามเหยียนเฉี ยวหลัวมา ‘ซิว’

่ นเขายืนอยู่ดา้ นนอก รูปร่างองอาจบึกบึนกว่าพวก


ตอนทีเห็
องครักษ์ภายในวังมากนัก ใบหน้านั้นราวกับปฏิมากรรมที่ไร ้
รอยยิม้

้ แรก แต่เมือได้
ถึงแม้ว่าจะได้เตรียมใจมาแลว้ ตังแต่ ่ ยน ิ องค ์หญิงตรัส
ว่าต้องการจะเป็ นฮองเฮาของต้าโจวเขา้ กับหู หัวใจของเขาก็ยงั
กระตุกไปวูบหนึ่ ง

องค ์หญิงทรงชืนชมฮ่ ่ ด
องเต้แห่งต้าโจวทีสุ

้ เด็กแลว้
นางชอบเขามาตังแต่

้ ไม่เคยเปลียน
ตลอดหลายปี มานี ก็ ่


แต่ว่าสีพระพักตร ์ของจีเฉวียนกลับมิได้เปลียนแปลงเลยสั กนิ ด เขา
ยังคงนั่งอย่างสง่างามเช่นเดิม เพียงแต่ในดวงเนตรหงส ์นั้นเปล่ง

ประกายขึนมา
ผ่านไปอีกครู ่ พระองค ์จึงทรงหันมาทอดพระเนตรเหยียนเฉี ยวหลัว
ด้วยความสนใจกว่าเดิม

เหยียนฉี ยวหลัวเห็นเขาให้ความสนใจ ความมั่นใจในตนเองก็ยงิ่


่ น นางรู ้จักคุน้ เคยกับจีเฉวียนมานานหลายปี ตนเองรู ้ดีว่า
เพิมพู
เขาเป็ นคนเช่นไร

่ าหมายแลว้ เขาสามารถลงมือได้ทุกรูปแบบ ในเมือนาง


เพือเป้ ่
ี่
ต้องการตําแหน่ งฮองเฮา แต่ทมอบให้ เขานั้นไม่เพียงแค่สมบัตเิ ทพ
ของแควน้ เซอปี่ ซือ แต่ยงั รวมถึงความเป็ นไปได้ทจะรวมแผ่
ี่ นดิน
้ าหรับเขาแลว้ มีแต่ได้ไม่มเี สีย แลว้
เป็ นปึ กแผ่น การค้าขายเช่นนี สํ
ไยเขาจะไม่รบั ปากกัน


ยิงไปกว่ านั้นนางกับจีเฉวียนก็ยงั มีความผูกพันทีเติ
่ บโตขึนมา

้ เด็ก ให้นางเป็ นฮองเฮาของเขานับว่าเป็ นสิงที
ด้วยกันตังแต่ ่ ่
เหมาะสมทีสุ่ ดแลว้
ต่อให้จเี ฉวียนไม่มีความรักฉันท ์ชายหญิงให้กบั นาง นางก็ไม่กลัว
การจะสยบบุรุษผูห้ นึ่ งแม้ว่าจะยากลําบาก แต่อาศัยความงามและ
ความเฉลียวฉลาดของนาง ผ่านไปนานปี เขา้ เขาก็จะต้องยอม

เปลียนใจอย่ างแน่ นอน

้ นหินแกร่งก ้อนหนึ่ ง จะต้องใส่ความรักความ


บุรุษผูน้ ี เป็

ประนี ประนอมและไหวพริบทีชาญฉลาดอย่ างไม่ขาดช่วง จึงจะสา
มารทําให้เขาละลายลงได้

่ ่ในแควน้ ต้าเหยียน นางก็ตงใจจะเลื


ตอนแรกทีอยู ั้ อกเขามาเป็ นราช
บุตรเขยอยู่แลว้ แต่พลาดไปนิ ดเดียว ขาดไปนิ ดเดียวจริงๆ เขาก็จะ
กลายเป็ นราชบุตรเขยของนาง

ื่
ต่อให้รู ้ดีว่าเขาไม่ได้ชนชอบนางสั กนิ ด นั่นก็ไม่อาจหักห้ามความ
ต้องการของนางทีจะเข ่ า้ ใกลเ้ ขา

ตอนนี นางอายุ ี่ บแลว้ อายุยสิ
ยสิ ่ี บยังไม่ได้แต่งงาน ไม่ว่าเป็ น
แควน้ ต้าเหยียนหรือต้าโจว ก็ถอ ื ว่าเป็ นวัยของสาวใหญ่แลว้


ทีนานถึ ้
งเพียงนี นางก็ ยงั ไม่แต่งกับใคร ยังมิใช่เพราะว่าครุน
่ คิดถึง
เขาอยู่ตลอดหรอกหรือ

้ นางกล
ครังนี ้ า้ ไล่ตามมาถึงต้าโจว ก็เพราะว่านางมีความมั่นใจอยู่
อย่างเต็มเปี่ ยม เมือมี
่ แผนทีครึ
่ งใบนี
่ ้ ว้ นางก็เชือว่
แล ่ าจีเฉวียน
จะต้องรับปากนางอย่างแน่ นอน

่ า้ พอดี
นางจดจ ้องมองดูจเี ฉวียน และได้สบตากับเขาอย่างเต็มทีเข

ใจของนางสั่นไหว รู ้สึกตืนเต้
่ นอย่างทีสุ
่ ด
จ ้องมองอยู่นาน ในทีสุ ่ ดจีเฉวียนถึงได้เอ่ยปากตรัสขึนมา้ ” ฮองเฮา
ของเรา มีแต่ผทู ้ ี่อยู่ในใจของเราเท่านั้นจึงจะเป็ นได้ “

ในวังหลังของเขา สามารถมีสนมมากมายนับไม่ถว้ น สตรีเหล่านี ้


่ ได้ก็ไม่เป็ นไร
เขาจะจดจําใบหน้าของพวกนางไม่ได้ หรือจําชือไม่

ี่ นทีสุ
แต่ว่าฮองเฮาของเขา จะต้องเป็ นผูท้ เป็ ่ ดในใจของเขาเท่านั้น

่ อก็แค่นางบําเรอ
ฮองเฮาคือภรรยา ทีเหลื

้ น
” คนในดวงใจ? ” เหยียนเฉี ยวหลัวขมวดคิวมุ ่ ” ฝ่ าบาทมีนางใน
ดวงใจแลว้ ? “
จริงอยู่ นางสามารถยอมรับให้เขามีสนมได้มากมายนับไม่ถว้ น แต่
ไม่อาจทนยอมให้เขามีคนพิเศษได้เด็ดขาด

่ ่ในแควน้ ต้าเหยียน นางใช ้เวลาไปถึงห้าปี ก็ยงั ไม่อาจ


ตอนทีอยู
ละลายหัวใจก ้อนหินของเขาลงได้ ต้าโจวมีสตรีเช่นไรกัน ถึงได้เขา้
ไปอยู่ในใจของเขาได้?

” เรามีนางในดวงใจแลว้ แต่ไม่ใช่เจ ้า ” ฮ่องเต้ทรงตอบอย่างแจ่ม


แจ ้งชดั เจน สมองของพระองค ์ก็คด
ิ ไปถึงนางผูน ้ ั้น บรรยายกาศร

อบพระองค ์เปลียนเป็ นอ่อนโยนลงไม่นอ ้ ย


แม้แต่มุมพระโอษฐ ์ก็ยงั มีรอยยิมปรากฎ
โอ้ เพราะความรักน่ าตายนั่น!

สีพระพักตร ์ของเหยียนเฉี ยนหลัวซีดเซียวไปในทันที หัวใจของนาง


่ ด พระหัตถ ์ทังสองกํ
เจ็บปวดอย่างทีสุ ้ าเขา้ หากันจนบีบแน่ น

นางคิดถึงคนผูห้ นึ่ งขึนมา


้ ก็ถามออกไปทันที ” ซูหวงกุ ้ยเฟยหรือ?

้ ทนางมาถึ
นับตังแต่ ี่ งต้าโจวก็ได้ยนิ ผูค้ นพูดคุยกันถึงหวงกุ ้ยเฟยผูน้ ี ้

บอกว่านางตังครรภ ์มังกร ขอเพียงนางให้กําเนิ ดองค ์ชายใหญ่ ก็
เท่ากับว่าจับจองตําแหน่ งฮองเฮาเอาไวอ้ ย่างมั่นคง

คิดถึงตรงนี ้ หัวใจของนางก็ทนไม่ไหว

นางเขา้ ใจในตัวจีเฉวียนเป็ นอย่างดี หากมิใช่ว่าเขาชืนชอบหวงกุ ้ย
เฟยผูน้ ั้นจริงๆ ก็ย่อมไม่มท ้
ี างปล่อยให้นางตังครรภ ์

สตรีพวกนั้น ไม่ดพ
ี อจะให้กําเนิ ดองค ์ชายของเขา!

จีเฉวียนมิได้ทรงตอบนาง เพียงแต่ยกนํ ้าชาขึนมาอย่


้ างช ้าๆ จิบลง
ไปคําหนึ่ ง ยังคงตอบอย่างบุรุษปากเสียทีสามารถทํ
่ าให้คนฟังต้อง
โมโหตายได้ ” เอาเป็ นว่าไม่ใช่เจ ้าแลว้ กัน “

เดิมทีเหยียนเฉี ยวหลัวเหมือนถูกแทงไปแลว้ ดาบหนึ่ ง ตอนนี กลั


้ บ

ถูกแทงซําสองในที ่ ม ยามนี นางถึ
เดิ ้ งกับยํ่าแย่ไปหมดแลว้
หากว่าซูหวงกุ ้ยเฟยผูน้ ั้นอยู่ตรงหน้านางในตอนนี ้ นางไม่กลา้

รับประกันเลยว่าตนเองจะห้ามใจไม่ให้ลุกขึนไปแทงเข า้ ใส่สก
ั สอง
ดาบหรือไม่


จนนานอีกพักใหญ่ เหยียนเฉี ยวหลัวถึงได้ค่อยๆ กลํากลื
นลม

หายใจลงไปได้ นางคลายหมัดออก แต่รอยยิมบนใบหน้ าแม้สก
ั นิ ด
ก็ไม่หลงเหลือแลว้

” ไม่เป็ นไร ขา้ รู ้ว่า ในพระทัยของฝ่ าบาทนั้นห่วงใยแผ่นดินทีสุ


่ ด
นางในดวงใจต่อให้สําคัญเช่นไร แต่ก็ไม่มท ี างจะไปเปรียบเทียบกับ
กรุสมบัตข ิ องแควน้ เซอปี่ ซือไปได้หรอก “

นางหยิบแผนทีสมบั่ ตค ่
ิ รึงใบโบกไปมาตรงหน้ าของเขา ” ฝ่ าบาท
จะทรงเป็ นผูร้ วบแผ่นดินที่เหนื อกว่าประมุขแห่งแควน้ ใดๆ ในอดีต
้ วยเรืองของชายหญิ
ย่อมไม่ทรงถูกฉุ ดรังด้ ่ ่ าบาททรงทํา
ง ในเมือฝ่
้ั
พระทัยเย็นฟังขา้ กล่าวมาได้ตงมากมาย ก็แสดงว่าได้ทรงทําการ
ตัดสินพระทัยเอาไวแ้ ลว้ “
เหยียนเฉี ยวหลัวหยุดพักหายใจ นางเขา้ ใจบุรษ ้ นอย่างดี ต่อ
ุ ผูน้ ี เป็
ให้นางในดวงใจของเขาตายลงไปต่อหน้าในตอนนี ้ เขาก็ตอ้ งเลือก
สมบัตอิ ย่างแน่ นอน

ความมั่นใจนี ้ นางมีอยู่อย่างเต็มเปี่ ยม


จีเฉวียนทรงแย้มสรวลออกมาในทันที ยิมจนทํ าเอาหัวใจของเห
ยียนเฉี ยวหลัวสะท้านด้วยความหวั่นไหว


นางยกหัตถ ์อีกขา้ งขึนมา คิดจะระงับหัวใจของตนเองเอาไว ้ นาง
้ งหมดรวมกั
รู ้จักจีเฉวียนมานานหลายปี เห็นเขายิมทั ้ นยังนับได้ไม่
ครบสิบนิ ว้

ยามทีเขายิ ้
มออกมา ต่อให้ดอกไม้ท่วทั
้ ใบไม้ผลิเบ่งบาน ก็
ั งฤดู
ยังคงเทียบกับเขาไม่ได้

เห็นไหม นางว่าแลว้ อย่างไร เขาจะต้องรับปากแน่ นอน


ขณะทีความมั ่นใจของนางกําลังเต็มเปี่ ยมขึนมา ้ ก็ได้ยน
ิ จีเฉวียน
เอ่ยพระโอษฐ ์ตรัสว่า ” นางสําคัญอย่างยิง่ เป็ นยอดดวงใจของเรา
่ มทรัพย ์สักสิบแห่งมาก็ไม่ขอแลก ตัวนางเองก็
ต่อให้เจ ้าเอาแผนทีขุ

คือขุมทรัพย ์อันยิงใหญ่ ่
ทีเราใช ้ วต
้ทังชี ื่
ิ ก็ชนชมไม่ เพียงพออยู่แลว้

เหยียนเฉี ยวหลัว “…….” หัวใจของนางเดิมก็บาดเจ็บมากอยู่แลว้


้ งถูกแทงลงไปอีกดาบหนึ่ ง ทําเอานางแทบจะกระอักเลือกคั่ง
ยามนี ยั
ออกมา

นางเคยบอกว่าเขาไม่รู ้จักการพูดจา แต่พอเขาเอ่ยเรืองความรั


ขึนมา ้
ก็ทําให้คนแทบจะเยิมตาย!

ต่อให้จบั คนยัดลงไปในกองนํ ้าตาลทรายก็ยงั ไม่กลายเป็ นนํ ้าเชือม



ถึงเพียงนี !้

นางอิจฉาจนแทบจะเป็ นบา้ หัวใจเหมือนถูกแมวตะกุยจนได้แต่


ทรมาน

ความจงเกลียดจงชงั ทังหมดพุ้ ่งไปยังซูหวงกุ ้ยเฟย รอให้ออกไป


จากพระตําหนักตีหั ้ วก่อน นางจะต้องไปดูหน้าสตรีผน ู ้ ั้นสักหน่ อย

ดูสวิ ่าเป็ นนางปี ศาจจิงจอกขนาดไหน ถึงได้ทําให้คนทีมี ่ หวั ใจเป็ น
เหล็กอย่างจีเฉวียน หลงใหลจนถึงขนาดนี !้
๋ งมาถึ

ตู๋กูซงิ หลันและตู๋กูเจวียพึ งพระตําหนักตีหั ้ วด้วยกัน ทังสองอยู
้ ่
่ านนอกก็ประจวบเหมาะได้ยน
ทีด้ ิ คําว่า ‘ยอดดวงใจของเรา สมบัติ
ทีลํ่ าค่
้ าทีสุ
่ ด’ เขา้ พอดี


ทังสองมี
สหี น้าพะอืดพะอม จนเกือบจะอาเจียนออกมา
ตอนที่ 217 น่ าอับอายแทบตายแล ้ว!
๋ บสนวุ่นวาย เขาหันไปมองดูนอ้ งสาวของตนเอง
ในใจของตู๋กูเจวียสั
่ ่ ยมไปด้วยประกายหยดนํ ้าแห่งความสงสารจนปวด
ด้วยสายตาทีเปี
ใจ

ต้องมาทนฟังกับหูว่าคนทีปั ่ กใจอยู่มน ้ งรัก


ี างในดวงใจแลว้ ทังยั
ถนอมราวกับสมบัตล ํ ้ า น้องเล็กคงจะต้องเจ็บปวดแทบเป็ นแทบ
ิ าค่
ตายเลยใช่ไหม?

เฮ่อ พวกเขาช่างมาได้ไม่ถูกจังหวะเลยจริงๆ ทําไมต้องมาบังเอิญ


ได้ยน ้ วยนะ?
ิ ฮ่องเต้ตรัสเช่นนี ด้


” น้องเล็ก หากว่าเจ ้าอยากร ้องไห้ละก็ บ่าของพีรองสามารถให้ เจ ้า
๋ บศีรษะของนางเบาๆ จากนั้นก็ตบไหล่นาง
ซบได้เสมอ ” ตู๋กูเจวียลู
อีกหลายครัง้ ” บ่าของพีรองแม้
่ จะไม่แกร่งหนาเท่าพีใหญ่่ แต่วา่ ก็
มั่นคง เจ ้าร ้องจบแลว้ พีรองจะไปถกกั
่ ่ “
บเขาให้รู ้เรือง!
่ หน้ากันไปเลยว่านี่ มันเรืองอะไรกั
จะไปถามฮ่องเต้ตอ ่ น?

้ องสาวทีงดงามจนเจิ
จะทอดทิงน้ ่ ่
ดจ ้าของเขา ไปควา้ เอาคนอืน?

น้องเล็กชอบเขา ก็ถอ ่
ื เป็ นเพราะผลบุญทีพระองค ์ได้ส่งสมมาแล
ั ว้
แปดชาติ รู ้ไหม?


เขาจะต้องไปพูดกับพระองค ์ให้รู ้สํานึ ก ดูซเู ม่ยทีเอาแต่ เป็ นสตรี
หว่านเสน่ ห ์ยั่วยวนนั่นสิ มีตรงไหนทีเที
่ ยบกับเสน ้ ผมของน้องสาว
เขาได้กน
ั ?

้ ๋กูซงิ หลันถึงกับหัวเราะไม่ออกร ้องไห้ไม่ได้ ทําไมกันนะทังที


ตอนนี ตู ้ ่
มีพ่อและแม่คนเดียวกันแท้ๆ แต่พรองถึี่ งกับเป็ นเอามากเช่นนี ?้

นางส่ายศีรษะ ” พีรอง ขา้ เพียงแต่รกั ฮ่องเต้ด่งมารดารั
ั กบุตร ท่าน
อย่าได้กล่าวอะไรเหลวไหล “


” เสียวหลั ่ าสงสาร พีชายจะกอดๆ
นทีน่ ่ นะ ดูสต ้ าของบา้ นเรา
ิ วั ลําค่
กลับต้องมาทนต่อความอยุตธิ รรมเช่นนี ้ ” ตู๋กูเจวียพู
๋ ดแลว้ ก็ควา้
นางเขา้ ไปในอ้อมแขน ลูบศีรษะให้อย่างปลอบประโลม

้ กลายเป็ นไทเฮา น้องเล็กก็เติบโตขึนมาก


นับตังแต่ ้ ่
มิว่าจะเป็ นเรือง
ใดก็เก็บเอาไวก้ บ
ั ตัวคนเดียว

นี่ เป็ นเพราะพวกเขาไร ้ความสามารถ ไม่อาจจัดการปัญหาคราว


่ นเตียงมังกรให้จบสินไป
เรืองปี ้ ถึงได้ทําให้นางต้องไปลําบากอยู่ใน

ตําหนักเย็น จนบ่มเพาะกลายเป็ นนิ สยั ทียอมทนเช่ ้ นมา
นนี ขึ ้
เขากอดแน่ นๆ อยู่หลายครัง้ จากนั้นตู๋กูเจวียก็
๋ ตดั สินใจพุ่งเขา้ ไป
้ วก่อนก ้าวหนึ่ ง
ในตําหนักตีหั


พอเห็นสีหน้าทีโมโหโกรธาอย่ ่
างชดั เจนของเขา หลีกงกงก็ รง้ั
เอาไวไ้ ม่อยู่

้ งไม่กลา้ รังเอาไว
ทังยั ้ ้ มีแต่ฟ้าเท่านั้นที่รู ้ว่า คุณชายผูน้ ้นสามารถ

อาละวาดจิกกัดเขาได้จนถึงเพียงไหน

หากเปรียบเทียบกับคุณชายใหญ่ทถื ่ี อดาบฆ่าคนแลว้ คุณชายรอง



ทีสามารถจิกกัดคนได้ผน ้ งรับมือได้ยากกว่ามากนัก
ู ้ ี ยั

ถ้าเผลอไปสะกิดเขา้ สะบัดไม่หลุดเลยทีเดียว!
ในพระตําหนักตีหั้ ว เหยียนเฉี ยวหลัวทียั
่ งคงไม่ได้สติจากการถูก
ฮ่องเต้หก ๋ นผ่านเขา้ มา
ั หน้า ก็เห็นตู๋กูเจวียเดิ


เขายกมือขึนมาถวายคํ ้ ่ ง ” กระหม่อมตู๋กูเจวีย
านับจีเฉวียนครังหนึ ๋
ถวายพระพรฝ่ าบาท “


ฮ่องเต้เงยพระพักตร ์ขึนมามองหน้ าเขาแว่บหนึ่ ง จากนั้นก็หน
ั ไป
่ ่ดา้ นหลังของเขา
มองดูตู๋กูซงิ หลันทีอยู

นางยังคงแต่งกายด้วยชุดสีดําอมเขียวเช่นเดิม ด้านนอกของ
ั้
กระโปรงเป็ นผ้าโปร่งบางๆ ชนหนึ ่ ง เป็ นแบบเดียวกับทีเหล่
่ าคุณหนู
์ งหลายนิ
สูงศักดิทั้ ยม ไหนเลยจะดูคลา้ ยลักษณะของไทเฮา
่ ๋กูเจวียปรากฎตั
ตอนทีตู ๋ ้
วขึนมานั ้น ดวงตาของเหยียนเฉี ยวหลัวก็

พลันกระตุก ยิงพอได้ เห็นใบหน้าของเขาอย่างชดั เจน มุมปากของ
นางก็ถงึ กับเหวอออกมา

นางยกจอกนํ ้าชาในมือขึนมา
้ ่ กหนึ่ งเพือสงบ
ก ้มศีรษะดืมลงไปอึ ่
จิตใจ


ก่อนทีนางจะมายั ้
งต้าโจวก็ทําการสืบค้นขอ้ มูลมาแลว้ อย่างดี ตังแต่
ก่อนทีจี่ เฉวียนจะขึนครองราชย
้ ้ เป็ นตระกูลใหญ่ใน
์ ตระกูลตู๋กูนีก็
่ อาจโยกคลอนโดยง่ายอยู่แลว้
แควน้ ต้าโจว ทีไม่

่ พบกันอย่างบังเอิญผูน้ ี จะ
นางไหนเลยจะรู ้ว่า คนประสาทเสียทีได้ ้
เป็ นคนของตระกูลตู๋กู

ไม่ตอ้ งรอให้เรียกตัวเขาก็สามารถบุกเขา้ มาในพระตําหนักของ


้ รู ้แลว้ ว่าจะต้องมีฐานะไม่ต่าต้
ฮ่องเต้ได้ ดูแค่นีก็ ํ อย
สายพระเนตรของจีเฉวียนจับจ ้องอยู่บนร่างของตู๋กูซงิ หลันอยู่
ตลอดเวลา เห็นนางเอาแต่รกั ษาสีหน้าสงบนิ่ ง ไม่รู ้ว่าทีเขาพู
่ ดไป

เมือครู น
่ างจะได้ยินบา้ งหรือไม่


ตู๋กูเจวียถวายบั งคมแลว้ ก็ยด ้ งตรง

ื ตัวขึนตั ่
” ฝ่ าบาท ทีกระหม่ อม
มาวันนี ้ นอกจากการรายงานสถานการณ์ประจําวันในเมืองหลวง
่ ดอยากจะขอพระกรุณาสอบถาม “
แลว้ ก็มเี รืองคิ


จีเฉวียนมิได้รู ้สึกโกรธเคืองทีเขาบุ กเขา้ มา ทรงวางจอกชาในพระ
หัตถ ์ลงเบาๆ ตรัสช ้าๆ ว่า “เจ ้าถามมาสิ “

“มิทราบว่าในพระทัยของฝ่ าบาท น้องสาวของกระหม่อมอยู่ใน



ฐานะเช่นไร? ” ตู๋กูเจวียสอบถามอย่ างตรงไปตรงมา ยามปกติเขา
้ บเด็ดขาดราวตัดเหล็ก
พูดมาก แต่คราวนี กลั
ดูเผินๆ เขาเหมือนพวกลูกแกะทีร่ ้องแบะๆๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ว่าที่
จริงในกระดูกก็มคี วามแกร่งอยู่เหมือนกัน

น้องสาวของตนเองได้รบั ความอยุตธิ รรม ย่อมไม่อาจปล่อยให้นาง


ต้องทนรับต่อไปโดยไม่มคี วามกระจ่างเช่นนี ้

พอฮ่องเต้ทรงได้ฟังแลว้ ก็หน
ั สายพระเนตรไปทางตู๋กูซงิ หลัน
“หืม?”

“น้องสาวของกระหม่อมสูงส่งและลําค่ ้ า ของเพียงเป็ นสิงที


่ นาง

่ นพีชายจะต้
ปรารถนา ไม่ว่าจะเป็ นอะไร ขา้ ทีเป็ ่ องใช ้ความ

พยายามทังหมดทั ้
งมวลนํ ๋
ามาให้นางให้จงได้” แม้ว่าตู๋กูเจวียจะไม่
ชอบบุรุษตระกูลจี แต่พอคิดว่าเป็ นความต้องการของน้องสาวแลว้
ไม่ว่าจะเป็ นอย่างไรก็ได้แต่ยอมรับ
พอจีเฉวียนทรงได้ฟัง สีพระพักตร ์ทีเย็่ นชาเป็ นภูเขานํ ้าแข็งยาม

เมืออยู ่กบ ่
ั เหยียนเฉี ยวหลัว ก็พลันเปลียนเป็ นหลอมละลายลง ตรัส
ถามว่า “ดังนั้น นางชอบอะไรเล่า?”

้ จะถามกับตู๋กูเจวีย
ประโยคนี แม้ ๋ แต่ว่าสายพระเนตรกลับตกลงบน
ร่างของตู๋กูซงิ หลัน


พระองค ์เองก็ไม่ทรงทราบว่าในพระทัยกําลังคาดหวังสิงใดอยู ่


คาดหวังให้คนทีนางชอบ ก็คอ
ื ตนเอง?

๋ าปากขึน้ แต่คราวนี ยั
ตู๋กูเจวียอ้ ้ งไม่ทน
ั ได้ส่งเสียงออกมา ก็เห็นใน
้ นต ์สีเหลืองออกมาแผ่นหนึ่ ง ยันต ์สี
มือของตู๋กูซงิ หลันเขวียงยั
เหลืองแทรกซึมเขา้ ไปในแผ่นหลังของเขา

“อู ้ อู ้ อู ้ ……” คําพูดทีออกจากปากของตู ๋ งหมดกลายเป็
๋กูเจวียทั ้ น
เสียงอูอ้ ที ี ้ ฟั
่ งไม่รู ้เรือง


เขาตาโตขึนมา สีหน้าตกตะลึงอย่างไม่รู ้ว่าเกิดอะไรขึน้

ต่อมาค่อยเห็นว่าน้องสาวเดินเขา้ มาหยุดอยู่ขา้ งกาย

นางคลียิ ่ มจางๆ
้ ให้กบ ่
ั ฮ่องเต้ “ทีเราชมชอบย่ อมต้องเป็ นแควน้ ต้า
โจวรุง่ เรือง ปวงประชาสงบสุขร่มเย็น”


“พีรองชอบกล่ ้
าววาจามากเกิน คอยแต่จะเอาความตังใจของเรา
่ าอับอายแทบตายแลว้ ”
ประกาศออกมาให้ได้จงึ จะพอใจ เป็ นทีน่
พูดแลว้ สายตาของนางก็หน
ั ไปกวาดมองบนร่างของเหยียนเฉี ยว
หลัว

พอสายตาของนางมองออกไป ในสมองก็พลันปรากฎคําสามคํา

ขึนมา ‘แฝดสีเหมือน’

คนหนึ่ งสีดําอมเขียว อีกคนก็ดําครามเขียว แทบจะไม่มค


ี วาม
้ั
แตกต่างกันสักเท่าไร แถมกระโปรงชนนอกของทั ้
งสองคนก็ ยงั มีผา้
้ั
โปร่งชนหนึ ่ งเหมือนกันอีก

้ าของ
เหยียนเฉี ยวหลัวมองดูนาง แลว้ ก็ก ้มศีรษะลงมองดูเสือผ้
ตนเอง

ในแควน้ ต้าเหยียนของพวกนาง สีเขียวครามเช่นนี แสดงถึ งความ
สูงศักดิ ์ ในภาพจิตรกรรมของแควน้ ต้าเหยียนลว้ นแลว้ แต่เป็ น
มังกรเขียว ดังนั้นในแควน้ ต้าเหยียนจึงมีแต่คนในราชวงค ์เท่านั้นที่
จะใส่สเี ขียวได้

้ คอ
สีดําอมเขียวเช่นนี ก็ ื ส่วนหนึ่ งเช่นกัน

่ รบั ความโปรด
โดยปกติแลว้ มีแต่ฮ่องเต้และองค ์ชายองค ์หญิงทีได้
ปรานจึงจะมีสท ์
ิ ธิสวมใส่

ตลอดชีวต ่ านมานางไม่เคยเจอคนทีใส่
ิ ทีผ่ ่ สเี ดียวกันมาก่อนเลย
คิดไม่ถงึ ว่ามาถึงวังของต้าโจวเพียงแค่วนั แรก ก็จะเจอเขา้ เต็มๆ
้ ว้
เช่นนี แล

่ าคัญก็คอ
ประเด็นทีสํ ่ สเี ดียวกัน…..งดงามจนน่ า
ื ฝ่ ายตรงขา้ มทีใส่

ตืนตะลึง!
่ นหญิงเหมือนกันก็ยงั รู ้สึกเลยว่าความงดงามเช่นนี ้
แม้แต่นางทีเป็
้ ศเกินไป จนถึงขันสร
ออกจะลําเลิ ้ ้างความริษยาไปทังแผ่้ นดินแลว้

่ ยกแทนตนเองเป็ นเรา นางก็คงจะเป็ นไทเฮาน้อยทีเล่


ในเมือเรี ่ าลือ

กันว่างามจนทําให้อดีตฮ่องเต้ถงึ กับสินไปคนนั ้น?


เหยียนเฉี ยวหลัวหรีเนตรจดจ ่
้องดูนาง ยิงทอดพระเนตรดู ิ่ ้สึก
ก็ยงรู
้ าเอาตนเองรู ้สึกหลอนขึนมา
ว่าความงดงามนี ทํ ้


ก่อนหน้านี นางคิ ่
ดว่าคําเล่าลือลว้ นแลว้ แต่เป็ นเรืองเกิ ้
นจริง วันนี ได้
เห็นด้วยตาของตาเอง ถึงได้รู ้สึกว่าไม่เกินไปเลยสักนิ ด
ตู๋กูซงิ หลันเองก็มองดูนางอยู่หลายรอบ แต่ท่ทํ
ี าให้รู ้สึกว่าน่ าสนใจ
มากทีสุ ่ ด ก็คอ ่ สมบัตค
ื แผนทีกรุ ่
ิ รึงใบในมื
อของเหยียนเฉี ยวหลัว

นางกวาดตามองเพียงสองครัง้ ก็ถูกกลินอายที
่ ซ่่ อนอยู่ในแผนทีนั
่ ้น
ดึงดูดเขา้ ไปแลว้

“นั่นคือ?” แม้แต่วิญญาณทมิฬยังกระโดดออกมาดู มันใช ้มือสันๆ




ของตนเองนวดดวงตา “กลินอายของหยกสรรพชี วติ ?!”

ไม่เพียงแต่มก ่
ี ลินอายของหยกแต่ ่ กลับและแปลก
ยงั มี……พลังทีลึ
ประหลาดบางอย่างทีอธิ่ บายไม่ถูก

่ งแผนที่แผ่นนั้นเก่าจนเป็ นสีเหลืองแลว้ แต่ว่ายังสามารถ


ทีจริ
มองเห็นรูขม
ุ ขนด้านบนได้ มองดูแลว้ …..เหมือนกับเป็ นหนังคน
้ เป็
ทังที่ นเพียงแค่แผนทีครึ
่ งแผ่
่ นเท่านั้น แต่กลับกําจายไอแค้นที่
เขม้ ขน้ ออกมา
ตอนที่ 218 จะต้ องเป็ นโอกาสดีอนั ยิ่งใหญ่ แน่ นอน!

นี่เป็ นหนังคนที่ถูกสักทั้งเป็ น เจ้าของหนังแผ่นนี้ยามที่ยงั มีชีวิตอยูค่ ง


จะได้รับความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานอย่างยิง่ ถึงทาให้แม้จะตาย
ไปนานขนาดนี้แล้วก็ยงั คงมีไอแค้นหลงเหลืออยู่

เห็นนางเอาแต่จดจ้องมองแผนที่สมบัติในมือของตนเอง เหยียนเฉียว
หลัวก็รีบเก็บแผนที่เข้าไปในอก

สายตาของนางสาดประกายขุ่นเคือง

ไทเฮาแห่ งต้าโจว นอกจากรู ปโฉมภายนอกที่ดูง ดงามแล้ว ก็ไม่มี


มารยาทพื้นฐานเลยสักนิด นางไม่รู้หรื ออย่างไรว่า ข้าวของของผูอ้ ื่น
ไม่ควรถือวิสาสะมาชมดู? ยิง่ ไปกว่านั้น นี่ ก็ยงั เป็ นถึงกรุ สมบัติล้ าค่า
ที่ น างจะใช้ต่ อ รองแลกเปลี่ ย นต าแหน่ ง ฮองเฮากับ จี เ ฉวี ย นอี ก
ต่างหาก

กริ ยาของนางไม่ได้ทาให้ต๋ ูกซู ิ งหลันขุ่นเคือง นางเพียงแต่เก็บสายตา


กลับมาค่อ ยหันไปมองดูเหยียนเฉี ยวหลัวอี กครั้ งหนึ่ ง “องค์หญิ ง
แห่ งต้าเหยียน หากว่าเราเป็ นเจ้า ก็จะไม่เก็บสิ่ งของอัปมงคลนี้เอาไว้
กับตัวหรอก”

“ของอัปมงคล?” เหยียนเฉี ยวหลัวหัวเราะออกมา “สิ่ งนี้ เป็ นของล้ า


ค่า เกรงว่าแม้แต่ไทเฮาแห่งต้าโจวก็คงยังจะนึกไม่ถึง ท่านพูดพล่อยๆ
ว่ า เป็ นของอัป มงคล เพราะคิ ด จะให้ ข ้า น ามัน ออกมาถวายด้ว ย
ตนเอง?”

เกี่ ยวกับเรื่ องของไทเฮาแห่ งต้าโจว นางเองก็ได้ยินมาบ้าง สถานะ


ของคนผูน้ ้ ี ไม่ดีนกั งดงามจนทาให้พระบิดาของจีเฉวียนต้องสิ้ นไป
ตอนนี้ ก็หันมาหมายตาจีเฉวียนอีก คิดว่าที่นางพูดออกมาเช่นนี้ คง
เพราะคิดจะเอาหน้ากับจีเฉวียนเป็ นแน่

ในวังหลัง มีวิธีการแย่งชิ งความโปรดปรานอยู่มากมายนับไม่ถว้ น


ตอนนี้จีเฉวียนมีนางในดวงใจแล้ว ดังนั้นต่อให้ไทเฮาน้อยผูน้ ้ ีงดงาม
เป็ นนางเซี ย น เขาก็ ค งจะไม่ เ หลี ย วแลสั ก นิ ด อยู่ ดี จึ ง ได้แ ต่ ใ ช้
ฝี ไม้ลายมือต่างๆ มาดึงดูดความสนใจจากจีเฉวียนเท่านั้น

แต่วา่ นางเล่นผิดคนเสี ยแล้ว


คนอย่างตนเหยียนเฉี ยวหลัว ไม่ใช่พวกหญิงโง่ๆ ที่ มีอยู่เต็มวังหลัง
เบื้ อ งหลัง ของนางคื อ แคว้น ต้า เหยียนทั้ง แคว้น นางคื อ องค์หญิ ง
แห่ งต้าเหยียนที่มีท้ งั ความงดงามและความเฉลียวฉลาด ต่อให้เป็ น
ไทเฮาน้อยแห่งต้าโจวนางก็ยงั ไม่กลัว

ตู๋กซู ิ งหลันก็ไม่คิดที่จะอธิบายรายละเอียดอะไรกับนาง สิ่ งของเช่นนี้


หากคนธรรมดาเก็บเอาไว้กบั ตัว ไม่ชา้ ก็เร็ วย่อมจะต้องเกิดเรื่ อง

ในเมื่ อ นางพู ด ก็ พู ด ไปแล้ว องค์ห ญิ ง แห่ ง ต้า เหยี ย นผูน้ ้ ี อยากท า


อย่างไรก็ทาไปแล้วกัน

คราวนี้ ต๋ ูกูเจวี๋ยถึงได้สังเกตเห็นเหยียนเฉี ยวหลัวขึ้นมาบ้าง พอกวาด


ตามองไปมองมาอยูห่ ลายรอบ ริ มฝี ปากคู่น้ นั ก็ส่งเสี ยงอูๆ้ อี้ๆ ออกมา

แต่น่าเสี ยดายที่ยนั ต์สาปของตู๋กซู ิ งหลันยังไม่เสื่ อมฤทธิ์ ไม่ว่าเขาจะ


โยกศีรษะชักสี หน้าอย่างไรก็มีเพียงแค่เสี ยงอูอ้ ้ ีออกมาเท่านั้น

ตู๋ กูเ จวี๋ ย ส่ ง เสี ยงอู ้อ้ ี อ ยู่พ กั หนึ่ ง ค่ อ ยหุ บ ปากลง หัน กลับ ไปมองดู
น้องสาวด้วยสายตาคับแค้น
มีวาจาอยูเ่ ต็มท้อง แต่กลับไม่สามารถกล่าวออกมาได้ช่างอึดอัดคับ
ข้องสุ ดชีวิต

ก่อนหน้านี้ ตอนที่อยูใ่ นลี่โจวก็ได้เห็นความเก่งกาจของนางมาแล้ว


น้องสาวที่สามารถควบคุมได้กระทัง่ ดวงจิตของเทพผูน้ ้ ี หากคิดจะ
ทาให้เขาปิ ดปากก็นบั ว่าง่ายดายอย่างยิง่

ในเมื่อน้องสาวบอกว่าสิ่ งของนัน่ อัปมงคล เช่นนั้นก็ตอ้ งอัปมงคล


อย่างแน่นอน ช่างเถอะ ถึงอย่างไรเสี ยองค์หญิงแห่ งต้าเหยียนผูน้ ้ นั ก็
เป็ นบุคคลอันตราย ในเมื่อนางคิดอยากจะหาเรื่ องตาย เช่นนั้นก็อย่า
ไปห้ามเลย

ฮ่องเต้ยงั ทรงประทับอยูท่ ี่เดิมดวงเนตรหงส์คู่น้ นั ยังคงจับจ้องไปยัง


ตู๋กูซิงหลัน เรื่ องที่เมืองลี่โจว เขายังไม่ได้ซักไซร้ถามไถ่นางเลยสัก
คาแต่ไม่ตอ้ งถามก็ทราบได้เลยว่า นางจะต้องลากอู๋เจินออกมาเป็ น
เกราะกาบังแน่นอน ดังนั้นหลายวันมานี้ เขาจึงเพียงแต่จบั ตาดูอย่าง
เงียบๆ เท่านั้น
ยามนี้ สายพระเนตรหงส์คู่น้ นั คล้ายจะสามารถมองดูนางจนทะลุปรุ
โปร่ ง

ตู๋กซู ิ งหลันจึงรี บหาเรื่ องมาลดทอนความสนใจในสายตาของเขา

“พี่รองพอตื่นเต้นขึ้นมาก็จะร้องอูๆ้ อี้ๆ ออกมาบ่อยๆ เราจะพาตัวเขา


ไปตรวจที่สานักแพทย์หลวง ทูลลาแล้ว”

พูดจบ นางก็ลากแขนเสื้ อของพี่รองออกไปจากพระตาหนักตี้หวั

กระทัง่ เดินออกมาจนไกลแล้ว ตู๋กูซิงหลันก็ยงั รู ้สึกว่าแผ่นหลังเย็น


วาบ ช่วงนี้ ยงิ่ ทีนางยิง่ รู ้สึกว่าไม่อยากจะไปเจอหน้ากับจีเฉวียนแล้ว
นางรู ้สึกว่าจิ้งจอกเฒ่าผูน้ ้ ีมองอะไรออก

แต่ว่าเขากลับไม่ได้พูดอะไรออกมา เอาแต่จอ้ งมองนางโดยไม่พดู จา


ไม่รู้วา่ เขาคิดสิ่ งใดอยูใ่ นใจ

ในพระตาหนักตี้หัว เหยียนเฉี ยวหลัวไม่ปล่อยให้ความเคลื่อนไหว


ของจี เฉวียนคลาดสายตาไปเลยแม้แต่น้อย แม้แ ต่แววตาของเขาก็
ตาม
ไม่รู้ว่านางจะรู ้สึกเข้าใจผิดไปหรื อไม่ ถึงได้รู้สึกว่าสายตาของเขา
ยามมองดูไทเฮาน้อยนั้น ไม่ธรรมดา ราวกับเป็ นพญาเหยี่ยวในยาม
ราตรี ที่รอจังหวะจะคว้าเหยือ่ เข้ามาในกรงเล็บอย่างไรอย่างนั้น

ทั้งยังดูราวกับหมาป่ าตัวหนึ่ง ที่กาลังเฝ้ามองลูกแกะรสล้ าเลิศ

จีเฉวียนกับไทเฮาน้อย ตกลงแล้ว?

…………….

ยามดึกครึ่ งคืนหลัง ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกว่าใบหน้าของนางคันยุบยิบ พอ


ลืมตาขึ้นมามองดู ก็เห็นเจ้าไก่ดาขนฟูตวั โตเกือบเท่านกกระจอกเทศ
มากระพือปี กอยูข่ า้ งกายนาง

หงอนไก่สีแดงบนหัวของมันเริ่ มก่อตัวเป็ นรู ปร่ างกว่าเดิ ม ดวงตา


ของมันเป็ นประกายเจิดจ้า เมื่ อ จับจ้องมองผูค้ นยังดูบาดตายิ่งกว่า
แสงเอ็กซเรย์เสี ยอีก

ตู๋กซู ิ งหลันลุกขึ้นมานัง่ เห็นเจ้าไก่ขนฟูขยับปี กครั้งหนึ่งก็โยนแผนที่


หนังคนครึ่ งใบมาทางนาง
แล้วก็หันมาส่ งเสี ยงร้องอย่างอ่อนหวานกับนางครั้ งหนึ่ ง “กะ กะ
กะต๊าก~” พี่สาวตัวน้อย พวกเราไปตามหาสมบัติกนั เถอะ

ว่าแล้วมันก็กระพือปี กอีก พลางใช้ปลายขนเส้นที่ยาวที่สุดทาเป็ นวง


วนรอบแผนที่อยูไ่ ปมา แล้วก็หันมาส่ งเสี ยงกับนางอีกครั้ง “กะ กะ
กะต้า ก ~” ที่ นี่ แ หละใช่ เ ลย จะต้อ งมี โ อกาสดี อ ัน ยิ่ ง ใหญ่ อ ยู่
แน่นอน!

ตู๋กูซิงหลันมองดูแผนที่หนังคนแผ่นนั้น สายตาของนางหยุดลงตรง
จุดที่เจ้าติ๊งต๊องใช้ปีกวาดเป็ นวงกลม บนมุมหนึ่งของแผนที่กรุ สมบัติ
หนัง คนที่ มี อ ยู่เ พี ย งครึ่ งเดี ย ว นั่น คื อ ภู เ ขาลู ก หนึ่ ง บนยอดเขามี
ทะเลสาบหนึ่งแห่ง

แผนที่สมบัติขาดหาย ดังนั้นภูเขาจึงมีอยูเ่ พียงครึ่ งลูก ทะเลสาบก็มี


เพียงครึ่ งเดี ยว ดูจากฮวงจุย้ แล้ว สถานที่ เช่ นนี้ เรี ยกว่าสระสวรรค์
โดยมากเป็ นแหล่งสะสมชีพจรมังกร ถือเป็ นฮวงจุย้ ชั้นเลิศ

“กะ กะ กะต๊าก!” เจ้าไก่ขนฟูกระพือปี กใส่นางอีกครั้ง ดวงตาของมัน


ทอประกาย
นับตั้งแต่ที่ครั้งก่อนได้ต่อสู ้กบั งูยกั ษ์ในลี่โจว มันรู ้แล้วว่าตนเองมี
ฝี มือยอดเยีย่ มเพียงไร

หากว่าครั้งนี้ ได้ไปที่นี่อีก ไม่แน่ว่าอาจจะได้เจอเข้ากับมังกรสักตัวก็


ได้นะ? กินงูยกั ษ์เข้าไปยังทาให้มนั เปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดนี้
หากว่าได้กินเนื้อมังกรสักหลายคา มิใช่วา่ มันอาจจะลอยขึ้นฟ้าไปได้
เลยหรื อ!

แผนที่สมบัติครึ่ งเดียวแผ่นนี้ มีกลิ่นอายอาฆาตแค้นอย่างเข้มข้น ทั้ง


ยังมีกลิ่นอายของหยกสรรพชีวิตอยูอ่ ีกด้วย นี่ จะต้องเป็ นของที่อยูใ่ น
มือขององค์หญิงแห่ งต้าเหยียนผูน้ ้ นั เป็ นแน่ ไม่รู้ว่าถูกเจ้าติ๊งต๊องไป
ฉกมาได้อย่างไร

นับ ตั้ง แต่ ที่ ม ัน สามารถเปล่ ง แสงสี ท องได้ เจ้า ติ๊ ง ต๊ อ งก็ เ พิ่ ม พู น
ความสามารถขึ้นมาอีกอย่างหนึ่ง นัน่ ก็คือไปมาอย่างไร้ร่องรอย

ช่วงนี้ มนั มักจะหอบหิ้ วอะไรมากมายหลายอย่างมาให้นาง หนึ่ งใน


นั้นก็ยงั มีรัดเกล้าของจีเฉวียนอยูด่ ว้ ย ส่ วนใหญ่แล้วจะเป็ นพวกอัญ
มณี ล้ าค่าทั้งนั้น!
ดูเหมือนว่ามันค่อนข้างจะเพ่งเล็งไปที่ขา้ วของของจีเฉวียน ทุกครั้ง
เป็ นต้องเลือกเอาชิ้นที่แพงที่สุดกลับมาโยนทิง้ ไว้ในตาหนักเฟิ่ งหมิง

ตอนแรกๆ นางก็ยงั กังวลอยูบ่ า้ ง แต่ว่าทางตาหนักตี้หัวกลับไม่ได้มี


ความเคลื่อนไหวใดๆ ราวกับว่าไม่มีเรื่ องอะไรเกิ ดขึ้นทั้งนั้น ไม่มี
ข่าวคราวว่ามีหวั ขโมยออกมาเลยสักนิดเดียว

คาดว่าคงเป็ นเพราะจีเฉวียนทรงต้องการรักษาชื่อเสี ยงของตาหนัก


ตี้หวั ถึงได้ปิดเรื่ องนี้เอาไว้

เงิ นที่พี่ใหญ่ทิ้งเอาไว้ให้ก็เหลืออยูไ่ ม่มากแล้ว ตู๋กูซิงหลันกาลังจน


จริ งๆ! เดิมทีนางยังคิดจะแกะพวกอัญมณี ออกมาและแอบเอาไปขาย
ข้างนอก แต่ว่ามี อ ยู่คืนหนึ่ ง กลับพบว่ามี เงาคนหลายเงาเหาะจาก
ต าหนัก ของนางออกไป ตู๋ กูซิ ง หลันจึ ง ต้อ งระงับความตั้ง ใจที่ จะ
ออกไปเคลื่อนไหวของตนเองเอาไว้ก่อน

จีเฉวียนวางเหล่าองครักษ์ลบั ไว้ที่ขา้ งตัวนาง ไม่ใช่เพียงแค่คนเดียว

เกรงว่าวันๆ นางตดกี่ครั้ง เรอเสี ยงดังไปกี่ หน ทางตาหนักตี้หัวก็คง


จะทราบอย่างชัดเจน
สุ ดท้ายนางจึงได้แต่ยอมรับ เอารัดเกล้าของจีเฉวียนเหล่านั้นไปคืน
แต่โดยดี

หลังจากคืนไปคืนมาอยูห่ ลายรอบ เจ้าติ๊งต๊องก็ชกั จะเข้าใจเจตนาของ


นางขึ้นมา จึงไม่ไปขโมยของของจีเฉวียนอีก คิดไม่ถึงว่ามันกลับย้าย
ความสนอกสนใจมาไว้ที่นี่

ตู๋กูซิงหลันหยิบแผนที่สมบัติครึ่ งใบขึ้นมา ขณะที่กาลังลังเลใจไปมา


อยูน่ ้ นั

วิญญาณทมิ ฬก็โผล่ออกมาชี้ นาท่ามกลางความสับสนของนางใน


ทันที “ย่อมต้องไป บนนี้ มีกลิ่นอายของหยกสรรพชี วิต หากว่าเจ้า
อยากจะกลับไปโลกปั จจุบนั ย่อมต้องอาศัยขุมกาลังของหยก หรื อว่า
เจ้าไม่คิดจะกลับไปแล้ว?”
ตอนที่ 219 พวกหมูคิดจะกินเสื อ! หมาไนในพุ่มหญ้ า!

หรื อว่าเจ้าไม่คิดจะกลับไปแล้ว? เพียงแค่ประโยคนั้นประโยคเดียว ก็


เหมือนกับว่าตู๋กซู ิงหลันถูกแทงเข้าไปดาบหนึ่ง นางหยิบแผนสมบัติ
ที่มีอยูค่ รึ่ งแผ่นนั้นขึ้นมา ตกตะลึงจนใจลอย ในสมองมีแต่ประโยค
สุ ดท้ายของวิญญาณทมิฬ โลกปั จจุบนั จึงจะเป็ นบ้านของนาง ไยนาง
จึงไม่คิดที่จะกลับไปเล่า?

เพียงแต่ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ชกั จะคุน้ เคยกับฐานะของไทเฮาน้อย


ขึ้ น มาแล้ว รู ้ สึ ก ว่า คนในบ้า นของนางก็ คือ ครอบครั ว ของตนเอง
ขึ้นมาจริ งๆ จนถึงกลับมีช่วงหนึ่งที่ไม่คิดจะกลับไปโลกปั จจุบนั นั้น
แล้ว

นางไม่ทนั ได้รู้สึกตัวเลย ตอนแรกๆ ยังมีหลายสิ่ งที่ทาให้ไม่คุน้ เคย


กับฐานะของไทเฮาอยูบ่ า้ ง แต่วา่ ตอนนี้กลับแยกไม่ขาดไปเสี ยแล้ว

ในโลกมิติน้ ี นางก็คือตู๋กซู ิ งหลัน ไทเฮาแห่งต้าโจว


“ข้าจะเตือนเจ้าประโยคหนึ่ งนะ เจ้าเป็ นลูกศิษย์สุดรักสุ ดหวงของ
ชื่ อม่อ ข้าคาดเดาว่าพอเจ้าหายไป ชื่ อม่อที่อยูใ่ นโลกปั จจุบนั คงคุม้
คลัง่ ไปแล้ว เจ้ามันคนไร้น้ าใจ อย่าได้พอพบเห็นหนุ่มหน้าสวย ก็ลืม
เลือนตาแก่ผนู ้ ้ นั ไปเสี ยล่ะ” วิญญาณทมิฬแคะจมูกไปพลางก็กล่าว
พลางย้อนคิดถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นขึ้นมาด้วย

“เจ้ามันเป็ นเด็กกาพร้ าที่ ถูกทอดทิ้ง ตั้งแต่เ ด็ก เป็ นชื่ อ ม่อ ที่ เก็บเจ้า
กลับบ้าน ให้ความรักเลี้ยงดูดงั่ ดวงใจ เจ้าจึงได้เป็ นปรมจารย์นกั พรต
ที่ท้ งั เยาว์วยั และเจ๋ งที่สุดในสานักหุบเขาภูติ

ตู๋ กู ซิ ง หลัน ลู บ ใบหน้ า กลมๆ ของมัน เบาๆ ไม่ รู้ ว่ า มัน ไปโดน
โรคติดต่อมาจากพี่รองหรื ออย่างไร ถึงได้พอกล่าวก็เป็ นพูดจาพร่ า
เพื่อ ขึ้ นมา เห็ นนางเป็ นคนลืมบุญคุณอาจารย์ไปได้อย่างไร? ก่ อน
หน้านี้ตอ้ งคอยวางแผนเพื่อรักษาชีวิตอยูต่ ลอดไม่เห็นหรื อ?

อย่างน้อยๆ ก็ตอ้ งมีหนทางจะรักษาชีวิตให้ได้เสี ยก่อน ถึงจะไปตาม


หาเศษหยกสรรพชีวิตชิ้นอื่นๆ ได้เถอะ
นี่ก็นบั ว่าประหลาดอยูเ่ หมือนกัน ที่ผา่ นมาไม่เคยเห็นมันให้ความสน
อกสนใจท่านอาจารย์เลยสักนิ ด ทาไมพอตอนนี้ ถึงได้เอาแต่คอยมา
กระซิ บเรื่ องอาจารย์กบั นางไม่มีหยุด?

ตู๋ กู ซิ ง หลัน มองขึ้ นไปบนท้อ งฟ้ า ด้ว ยความคิ ด ถึ ง อาจารย์ข อง


ตนเอง…. เอาเถอะ นางทิ้งเขาไม่ลงจริ งๆ

คราวนี้ นางจึ ง กวาดตาลงไปมองดู แผนที่ ก รุ ส มบัติ อี กหลายรอบ


จดจารายละเอียดทุกอย่างบนนั้นลงไปในสมอง

ที่จริ งช่วงนี้ ก็นบั ว่าไม่มีปัญหาติดขัดอะไรอีกแล้ว ในเมื่อสนมซูคน


งามตั้ง ครรภ์ ช่ ว งนี้ จี เ ฉวี ยนก็ สมควรจะหัน เหความสนอกสนใจ
ทั้งหมดไปยังซูเม่ย ในเมื่อจัดส่ งองครักษ์ลบั มาจับตาดูนางเอาไว้แล้ว
ตัวเขาเองก็คงจะไม่ค่อยได้สนใจนางสักเท่าไหร่

ครั้งก่อนที่ไปลี่โจว นางสัง่ ให้เชียนเชียนแต่งตัวเป็ นนางแล้วหมกตัว


อยู่แต่ในตาหนักเฟิ่ งหมิง แต่การจะไปตามหาสมบัติครั้งนี้ เกรงว่า
จะต้องใช้เวลามากกว่าคราวที่ไปลี่โจวเสี ยอีก
แค่รอบแรกก็ทาเอาเชียนเชียนตกอกตกใจแทบตายแล้ว หากจะให้มี
อีกรอบที่สองเกรงว่าถึงตายนางก็คงไม่ยอมปลอมเป็ นตนเองอีกแน่

ตู๋กซู ิ งหลันครุ่ นคิดไปมา ก็กะว่าจะไปขอให้หยวนเฟยน้อยช่วยเหลือ

หาข้อ อ้างประมาณว่าซู หวงกุย้ เฟยตั้ง ครรภ์แล้ว ไทเฮาทรงปลาบ


ปลื้มพระทัยอย่างยิง่ จึงมีพระดาริ จะเสด็จไปยังอารามเทียนเก๋ อกวน
เพื่อขอพรแทนนางกับโอรสในครรภ์ โดยจะเสด็จไปทรงถือศีลกินเจ
ที่อารามเทียนเก๋ อกวนสักระยะหนึ่ งเพื่อสวดมนต์ให้องค์ชายใหญ่
ประสู ติออกมาอย่างปลอดภัยและแข็งแรง

หยวนเฟยมีไหวพริ บยอดเยี่ยม หากมีนางอยูข่ า้ งกายเชียนเชียนก็คง


หมดเรื่ องไปกว่าครึ่ ง

ยิ่งไปกว่านั้น ที่อารามเทียนเก๋ อกวนยังมีคนคุน้ เคยของนางอย่างอู๋


เจินน้อย สามคนนี้ พอร่ วมมือกันช่วยนางปิ ดบังความจริ งสักระยะ
หนึ่ง ย่อมสาเร็ จได้อย่างง่ายดาย
พอตัดสิ นใจเสร็ จเรี ยบร้อย ตู๋กูซิงหลันก็เก็บแผนที่สมบัติลงไป นาง
กะจะเล็ดลอดเข้าไปในที่ประทับขององค์หญิงแห่งต้าเหยียนแอบเอา
สิ่ งของกลับไปคืนอย่างลับๆ เสี ยก่อน ค่อยไปหาหยวนเฟยน้อย

เหยียนเฉี ยวหลัวประทับอยูท่ ี่ตาหนักหยูเ่ ฉี ยนกง ตาหนักที่ฉีผินและ


เหลียงไฉหริ นเคยอยูเ่ มื่อก่อนหน้านี้

ยามที่ต๋ ูกูซิงหลันไปที่นนั่ อีกครั้ง ในสมองของนางก็เต็มไปด้วยภาพ


ที่ตนเองหล่นลงมาจากบนหลังคา แล้วเหยียบลงไปบนร่ างเหลียนไฉ
เหริ นจนนางมีแต่อึทะลักออกมา

พอคิดย้อนกลับไปก็รู้สึกราวกับว่าเป็ นเหตุการณ์เพียงไม่กี่วนั ก่อนนี้


เอง นางยังจดจาสี พระพักตร์ ที่น่าชิงชังของเจ้าฮ่องเต้ลูกชายได้เป็ น
อย่างดี สายพระเนตรที่ราวกับป่ าน้ าแข็งนั้นดูคล้ายว่าสามารถสังหาร
ผูค้ นได้เลยทีเดียว

จะว่ า ไป ก็ ดู เ หมื อ นว่ า จะไม่ ไ ด้พ บกับ เสี่ ย วลี่ ม าช่ ว งหนึ่ งแล้ว
นับตั้งแต่ที่ตนเองกลับเข้าวังมาก็ยงั ไม่ได้พบกับนางเลย
ตู๋ กูซิ ง หลัน คิ ด ย้อ นกลับ ไปอยู่ค รู่ ห นึ่ ง ก็ ค่ อ ยดึ ง แผนที่ ค รึ่ งใบนั้น
ออกมา พอพึ่งจะหยิบออกมาเท่านั้น ก็ได้ยินซุ่ มเสี ยงของสตรี ร้อง
ออกมาด้วยความขุ่นเคือง

“แผนที่ สมบัติของข้าล่ะ? ใครกันบัง อาจมาขโมย?!” น้ าเสี ยงของ


เหยียนเฉียวหลัวดังก้องกังวาน ทาเอาคนทัว่ ทั้งตาหนักหยูเ่ ฉียนกงถูก
นางปลุกขึ้นมา

ที่จริ งตอนนี้ เป็ นยามดึกสงัด แต่ไฟในตาหนักหยูเ่ ฉี ยนกงกลับสว่าง


พรึ่ บขึ้นมาอย่างรวดเร็ ว

ตู๋กูซิง หลันคุกเข่าอยู่บนหลังคา แอบมองลงมา ก็เห็ นเหยียนเฉี ยว


หลัวถือขนไก่สีดาเส้นหนึ่งเอาไว้ในมือ “นี่เป็ นสิ่ งที่หวั ขโมยผูน้ นั่ ทิง้
เอาไว้ จงออกไปตามหาให้ขา้ สมบัติของเราผูเ้ ป็ นถึงองค์หญิงแห่งต้า
เหยียนสู ญหายไปในวังหลวงแห่งต้าโจวเช่นนี้จะใช้ได้อย่างไรกัน?”

น้ าเสี ยงของนางพึ่งจะขาดหาย ซิ วที่ติดตามนางมาด้วยกันก็รับขนไก่


เส้นนั้นไป แล้วออกตามหาในทันที
นางกานัลคนอื่นๆ ก็มีสีหน้าร้อนรุ่ มขึ้นมา องค์หญิงแห่ งต้าเหยียนผู ้
นี้ มิใช่เจ้านายที่สามารถจะขัดใจนางได้ ใครจะไปรู ้ว่าอยูด่ ีๆ แผนที่
สมบัติแผ่นนั้นก็จะมาหายไป?

ตู๋กูซิงหลันขมวดหัวคิ้วเบาๆ เจ้าไก่ขนฟูตวั นั้นถึงแม้จะชื่อว่าติ๊งต๊อง


แต่วา่ มันก็ไม่ได้ติ๊งต๊องไปจริ งๆ

มันขโมยรัดเกล้าของจีเฉวียนมาตั้งมากมายหลายครั้ง แต่ไม่เคยทิ้ง
ร่ องรอยหรื อหลักฐานเอาไว้

ยามนี้ พอขโมยแผนที่สมบัติของเหยียนเฉี ยวหลัวออกมา ก็ถึงกับทิ้ง


ขนเอาไว้ท้ งั เส้น? ตู๋กซู ิ งหลันรู ้สึกถึงบางสิ่ งที่กาลัง…..

นางงัดแผ่นกระเบื้องหลังคาออกมาแผ่นหนึ่ง คิดจะนาแผนที่สมบัติ
แผ่นส่ งกลับไป แต่พอขยับตัว ก็เห็นแส้เส้นหนึ่งฟาดมาถึง

แส้เส้นนั้นแหวกอากาศออกมา พุง่ เข้าใส่ นางในทันที

ตู๋กูซิงหลันขยับตัววูบหนึ่ ง หันหน้ากลับไปดู ก็เห็ นคนใส่ ผา้ คลุมที่


ตนคุน้ เคยผูน้ ้ นั
ในมือของเขามีแส้เหล็กที่แหลมคม พอพบเห็นตู๋กซู ิ งหลันก็แสยะยิม้
เย็นออกมา กล่าวด้วยน้ าเสี ยงแหบต่าว่า “ในที่สุดก็เสาะหาเจ้า พบ
แล้ว”

ตู๋ กููซิ ง หลัน ไม่ ไ ด้หัน ไปกล่ า วอะไรกับ เขา นางรี บ หลบออกจาก
ต าหนัก หยู่เ ฉี ย นกง ด้ว ยสถานการณ์ ใ นตอนนี้ ไม่ ส มควรจะไป
กระตุน้ ให้เหลียนเฉียวหลัวเกิดความสนอกสนใจขึ้นมา

แต่น่าเสี ยดายที่เรื่ องราวไม่เป็ นไปดังวาดหวัง ซิ ว องครักษ์ที่อยูข่ า้ ง


กายของเหยียนเฉียวหลัวติดตามมาอย่างรวดเร็ ว

เขาไล่ตามคนชุดดาในผ้าคลุมหน้าออกมาหนึ่ งหน้าหนึ่ งหลัง ด้วย


ความเร็ วประหนึ่งสายฟ้าฟาดในยามราตรี ดูแล้วอีกเพียงไม่กี่อึดใจก็
คงสามารถไล่ตามมาถึงเบื้องหน้าของนางได้แล้ว

ตู๋กูซิง หลันหรี่ ตาลง ในมื อ เพิ่มยันต์ข้ ึ นมาใบหนึ่ ง ทันใดนั้นก็เจ็บ


หน้าอกขึ้นมา ราวกับว่ามีอะไรกัดลงไปในหัวใจของนาง
นางหันมาเหลือบตาลงมองดูครั้งหนึ่ งก็เห็นว่าที่แท้แล้วรู ปภาพบน
แผนที่ กรุ สมบัติครึ่ งใบนั้นได้กลายเป็ นใบหน้าที่ซีดขาวของคนผู ้
หนึ่ง

ใบหน้านั้นมองดูนางทั้งยังแสยะยิม้ ให้อย่างชัว่ ร้าย มัน อ้าปากกว้าง


กัดลงตรงที่หวั ใจของนาง กัดลงไปคาหนึ่ง ก็จมลึกลงไปในผิวเนื้อ

ราวกับว่าจะฉี กผิวหนังของนางออกมาจากร่ างทั้งเป็ น พอกัดหลาย


ครั้งเข้าบนอกของตู๋กซู ิ งหลันก็เต็มไปด้วยเลือด

ไอแค้นบนร่ างของมันแทกซึ มเข้าสู่ หัวใจของนาง กลายเป็ นดาบ


เล็กๆ นับพันนับหมื่นเล่มที่พยายามจะเฉื อนเอาตราประทับของหยก
ที่ผนึกอยูบ่ นดวงจิตของนางออกมา

วิญญาณทมิฬพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ ว เจ้าถวนจื่อตัวดากลายร่ างเป็ น


สุ นัขป่ าสี ดาตัวน้อยขนาดเพีย งฝ่ ามือ คมเขี้ยวที่แหลมคมกัดเข้าใส่
หนังคนแผ่นนั้นในทันควัน
ตู๋กซู ิ งหลันเจ็บปวดจนแทบไม่ไหว สี หน้าซี ดเผือกไปในทันที ในมือ
ของนางยังคงถือยันต์แผ่นนั้นเอาไว้ในมือ พอคนทั้งสองไล่ตามมา
กระชั้นเข้าก็เขวี้ยงออกไป

แม่เอ๋ ย! ไอ้พวกหมูคิดจะกินเสื อ! หมาไนในพุม่ หญ้า!

ลวงนางไม่ ส าเร็ จ ก็ หั น ไปหลอกล่ อ ไก่ ข องนางแทน ไอ้พ วก


ไร้ยางอาย! ตู๋กูซิงหลันปาดเช็ดเลือดที่มุมปาก นัยน์ตาสาดประกาย
เย็นยะเยือกออกมา
ตอนที่ 220 สาวน้ อยใต้ แสงจันทรา

นับตั้งแต่ที่คนชุดคลุมหน้าผูน้ ้ นั ปรากฎตัวขึ้นมา นางก็รู้แล้วว่า


ตนเองติดกับที่เจ้าติ๊งต๊องไปขโมยแผนที่สมบัติมาได้ ดูท่าคงจะเป็ น
เพราะถูกคนวางแผนไว้หรื ออาจบอกว่า มีคนตั้งใจชักนามันไปขโมย

และเพราะก่ อนหน้านี้ เจ้าติ๊ งต๊องไปก่อเรื่ อ งที่พระตาหนักตี้หัว


สาเร็ จไปหลายครั้ง ดังนั้นนางจึงละเลยเรื่ องเหล่านี้ไป

ติ๊งต๊องจะอย่างไรก็เป็ นเพียงแค่ไก่ตวั หนึ่ ง สมองหรื อก็มีแค่น้ นั


ไหนเลยจะสู ้กบั คนที่เจ้าเล่ห์เจ้ากลได้กนั ดูท่าต่อให้ถูกเอาตัวไปขาย
ก็ยงั ช่วยเขานับเงินด้วยซ้ า

ตู๋กซู ิ งหลันไม่โทษว่ามัน เพียงโทษตัวเองที่ประมาทผูอ้ ื่นเกินไป

เพราะใจคิดแต่ว่าไม่อยากจะให้เป็ นเรื่ องใหญ่ จึ ง กะจะนาแผน


ที่มาคืนอย่างเงียบๆ คิดไม่ถึงว่าคนอื่นวางแผนขุดหลุมรอนางเอาไว้
อยูแ่ ล้วแม้กระทัง่ แผนที่แผ่นนี้ก็ยงั มีกบั ดัก
คาสาปอาฆาต

สิ่ งของที่แต่เดิมก็มีความอาฆาตแค้นฝังลึกอยูแ่ ล้วเช่นนี้ เมื่อผนึก


คาสาปอาฆาตลงไปยิ่งเสริ มความรุ นแรงขึ้นอีกเป็ นพันเท่า จนทาให้
มันกลายเป็ นอสุ รกายขึ้ นมา พอถูกนามาใช้โจมตี ใ นระยะประชิ ด
เช่นนี้ ก็สามารถผลักนางลงหลุมมรณะได้เลยทีเดียว!

หั ว ใจของนางเจ็ บ ปวดจนด้า นชาที่ ร้ า ยกาจที่ สุ ด ก็ คื อ ถู ก ฉี ก


กระชากตราประทับ ศัก ดิ์ สิ ท ธิ์ บนดวงจิ ต ของนางออกมา ความ
เจ็บปวดนี้ไม่ต่างอะไรกับถูกถลกหนัง คิดจะเอาสิ่ งของของเจ้ ก็ตอ้ ง
ดูวา่ พวกเจ้ามีปัญญาหรื อไม่!

คนอย่างตู๋กซู ิ งหลันนั้นไม่ธรรมดา นางทั้งอึดและทน โดยเฉพาะ


เมื่อต้องเผชิญกับความตายตรงหน้า นางก็จะสู ้ชนิ ดที่ต่อให้ปลาตาย
แหขาด ก็ไม่ขอนัง่ รอความตายอยูก่ บั ที่ ให้ฝ่ายตรงข้ามมาตัดศีรษะ
ไปง่ายๆ อย่างเด็ดขาด
แต่แผนการหมูกินเสื อเช่นนี้ ก็สามารถผลักนางไปจนถึงเส้นตาย
ได้จริ งๆ ตู๋กซู ิ งหลันได้แต่ตอ้ งทุม่ เทพลังทั้งหมดออกมา นางเพิม่ กริ ช
ในมือ กรี ดลงไปบนฝ่ ามือในทันที โลหิ ตสดไหลทะลักออกมา

มืออีกข้างกวาดวาดยันต์โลหิ ต ริ มฝี ปากก็ร่ายคาถา ปลุกพลังของ


หยกที่ถูกฉี กออกขึ้นมา นางถ่ายเทพลังทั้งหมดลงไปในยันต์โลหิ ต
ของตนเอง

ท่ามกลางราตรี ที่มืดมิด ไม่ว่าผูใ้ ดก็ไม่อาจมองเห็นรู ปลักษณ์ของ


นางได้อย่างชัดเจน เห็นเพียงเส้นผมของนางปลิวกระจาย ร่ างในชุด
สี ดาลอยคว้างอยูใ่ นอากาศ

พลังของหยกสรรพชีวิตและโลหิ ตของนางก่อกาเนิ ดเป็ นยันต์


โลหิ ต กลายเป็ นยันต์ทาลายล้างที่จะระเบิดศัตรู ให้กลายเป็ นผุยผง!

วิญญาณทมิฬไม่ได้ห้ามปรามนาง ตอนนี้ มนั ได้แต่ทุมเทพลังไป


สกัดใบหน้าหนังมนุษย์ที่กดั อยูบ่ นหัวใจของตู๋กซู ิ งหลัน
หนังมนุษย์ชิ้นนี้มีแรงพยาบาทรุ นแรง เมื่อได้รับคาสาปพยาบาทก็
ยิง่ กระตุน้ แรงอาฆาตไปอีกร้อยพันเท่า ถือเป็ นคู่มือที่เผ็ดร้อนของมัน

ดูท่าฝ่ ายตรงข้ามมิ ได้ประมาท ถึ ง กับใช้เลือดเนื้ อมาสร้าง มิ ว่า


อย่างไรก็ตอ้ งคว้านเอาหยกสรรพชีวิตในกายของตู๋กซู ิ งหลันออกมา
ให้ได้

จากนั้น......ก็เอาชีวิตนางไปด้วย!

ช่างชัว่ ร้ายนัก!

ทันทีที่ยนั ต์โลหิ ตของตู๋กูซิงหลันสาแดงฤทธิ์ ออกไป ท้องฟ้าทัว่


ตาหนักหยูเ่ ฉียนกงก็กลายเป็ นสี แดงดุจเลือด

คืนนี้ เดิมทีเป็ นข้างขึ้นสิ บห้าค่า ตอนแรกยังมีหมู่เมฆบดบังแสง


จันทร์อยู่ แต่ทนั ทีที่ทอ้ งฟ้ากลายเป็ นสี แดง เมฆทั้งหลายก็ยงั กระจาย
หายไป

เหลื อเพียงดวงจันทร์ กลางฟ้ าที่ ถูกย้อมจนกลายเป็ นสี แดงฉาน


เท่านั้น
ที่ เบื้ อ งหน้าของดวงจันทร์ มี สาวน้อยนางหนึ่ งที่มีหมอกโลหิ ต
ก าจายอยู่ร อบตัว เส้ น ผมยาวของนางปลิ ว ไสว ทั่ว ทั้ง ร่ า งเปล่ ง
ประกายด้วยแสงสี แดงดุจเลือด

เงาหลังของนางคล้ายปรากฎเป็ นร่ างจาแลงสี แดงดาโอบล้อมตัว


นางเอาไว้ และจดจ้องลงมายังศัตรู อย่างโหดเ**้้ยม

พวกเขาไม่อาจมองเห็นใบหน้าของนางได้อย่างชัดเจน เห็นเพียง
เงาคนอันเลือนลางที่อยูใ่ นหมอกทึบเท่านั้น!

ภายใต้ด วงจัน ทราสี เ ลื อ ด นางดู ป ระหนึ่ งเป็ นนางมารที่ ก้า ว


ออกมาจากโลกปี ศาจดูลึกลับและน่ากลัวจนต้องหวาดผวา

บรรยากาศรอบด้านตกอยูใ่ นห้วงลี้ลบั ผูค้ นทั้งหลายราวกับโดน


มนต์สะกด ไม่มีใ ครกล้าขยับหรื อส่ งเสี ยงร้อง ได้แ ต่เฝ้ามองอย่าง
แน่นิ่งอยูอ่ ย่างนั้น ราวกับกาลังชมดูจิตรกรรมอันล้ าเลิศในพิภพ
คนชุดดาใต้ผา้ คลุมเองก็ตกตะลึงไป ถึงแม้ว่าเขาจะเป็ นศพมีชีวิต
แต่เมื่อต้องเผชิญกับพลังของยันต์โลหิ ตที่สร้างขึ้นจากพลังของหยก
สรรพชีวิต เขาเองก็ยงั หวาดกลัวขึ้นมา

ในมือของเขากาแส้เอาไว้ ได้แต่แอบถอยหลังไปก้าวหนึ่ งอย่าง


เงียบๆ

ตั้ง แต่ก่อ นที่ จะไปเมื อ งลี่ โจว เขาก็ร่วมมื อ กับอันหร่ วนสื บ หา


ฐานะของสาวน้อยผูน้ ้ ี อย่างเงียบๆ มาตลอด รวมถึงเรื่ องที่ในวังนี้ มี
กลิ่นอายของหยกสรรพชีวิตด้วย

สื บหาอย่างละเอียดละอออยูห่ ลายรอบ ในที่สุดก็เป็ นจริ งดังคาด


นางไม่เพียงแต่เป็ นสาวน้อยที่คลุมหน้านางนั้น ทั้งยังมีหยกสรรพ
ชีวิตอยูใ่ นร่ าง

ตอนที่องค์หญิงแห่งต้าเหยียนมาที่นี่ดว้ ยเรื่ องของแผนที่กรุ สมบัติ


พวกเขาจึงได้คิดแผนนี้ออกมา
ตอนแรกก็ล่อลวงเจ้าไก่โง่ๆ นัน่ ไปขโมยข้าวของของฮ่องเต้ พอ
ฮ่องเต้มิได้ทรงเอาความ ไทเฮาน้อยก็ลดความระแวดระวังลง

ดังนั้นเมื่อเจ้าไก่ดาขนฟูนนั่ ไปขโมยแผนที่สมบัติ ไทเฮาน้อยจึง


ตกหลุมพรางอย่างง่ายดาย พวกเขาวางเบ็ดเอาไว้ รอให้นางมาติดกับ
ได้สาเร็ จ

ถึงอย่างไรนางก็อายุยงั น้อย ทั้งวันทั้งคืนมัวแต่ระแวดระวังฮ่องเต้


ทั้ง ยัง ต้องป้ องกันว่าจะมี คนลอบลงมื อจัดการนาง สมาธิ แ ละพลัง
ย่อมมีอย่างจากัด

หากมิใช่วา่ พวกเขาวางแผนการเอาไว้เช่นนี้ ปลาใหญ่อย่างนางจะ


มาติดเบ็ดง่ายๆ ได้อย่างไร?

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า ไทเฮาน้อยผูน้ ้ ีจะเคี้ยวยากถึงเพียงนี้

มาจนถึงขั้นนี้แล้ว ก็ยงั ไม่ยอมถอยแม้แต่กา้ วเดียว

ทาให้เขาย้อนคิดไปถึงยามก่อนหน้านางคิดจะ’ แยกร่ างถอดดวง


จิต’ ออกมาจัดการกับเขา
คนทัว่ ไปคงไม่อาจเชื่อว่าไทเฮาน้อยที่ยามปกติอ่อนแอบอบบาง
ที่จริ งแล้วร้ายกาจจนน่าตระหนกเช่นนี้

ทันใดนั้นดวงตาทั้งคู่ของตู๋กูซิงหลันก็สาดหมอกสี แดงออกมา
ดวงหน้าที่งดงามกลายเป็ นเยือกเย็นประหนึ่ งจอมมารจากขุมนรก
นางยกข้อมือขึ้นมา กระดิกนิ้วเรี ยวยาวเพียงเบาๆ ก็เห็นยันต์โลหิ ตสี
แดงที่อยูต่ รงหน้าแผ่พลังกดดันลงมา

“ตูม บรึ ม บรึ ม!” ผูค้ นทั้งหมดได้ยนิ เสี ยงฟ้าผ่าสัน่ สะเทือนเลื่อน


ลัน่ จากดวงจันทราสี เลือดฟาดเปรี้ ยงลงมา

ตาหนักหยูเ่ ฉียนกงก็สั่นสะเทือนไปทั้งหลังในทันที

เศษกระเบื้องปลิวกระจายว่อน ร่ วงหล่นลงบนพื้นเป็ นชิ้นเล็กชิ้น


น้อย กาแพงตาหนักแตกกราวลงมาแรงกดมหาศาลบดขยี้ลงไปราว
กับจะบี้ตาหนักหยูเ่ ฉียนกงทั้งหลังให้แหลกลาญ

สาวน้อยผูอ้ ยูใ่ ต้เงาจันทราผูน้ ้ นั ดูราวกับจอมมาร!


พอนางยกมือขึ้นมาอีกครั้ง ก็บงั คับให้ยนั ต์โลหิ ตนั่นส่ งพลังกด
ทับลงไปอีก

ใต้ยนั ต์โลหิ ต คนชุดดาใต้ผา้ คลุมรู ้สึกราวกับถูกภูเขาขนาดใหญ่


กดทับลงมาเหนื อศีรษะ เขากวาดแส้ในมือออกไป คิดจะทาลายยันต์
โลหิ ตแผ่นนั้นให้แหลกเป็ นชิ้นๆ

แต่ว่าแส้ยงั ไม่ทนั จะตวัดไปถึงยันต์โลหิ ตก็ถูกหมอกสี แดงลาย


ล้อมเอาไว้จนไม่อาจขยับ

เขาได้ยินเสี ยง “เปรี๊ ยะ เปรี๊ ยะ เปรี๊ ยะ” จากตัวแส้อยู่ไม่กี่ครั้ง ก็


เห็นแส้เส้นนั้นถูกหมอกสี แดงทาลายจนกลายเป็ นผุยผง!

ชายผูน้ ้ นั ตกตะลึงไป! แส้โครงกระดูกของเขาสามารถกล่าวได้ว่า


แข็ง แกร่ ง อย่า งที่ สุด ตลอดหลายปี มานี้ ก็ ไม่ เ คยเกิ ดริ้ วรอยขึ้ นมา
แม้แต่นอ้ ย แต่วา่ วันนี้กลับถูกหมอกสี แดงของนางทาลายไปแล้วกว่า
ครึ่ ง?

เขาไม่อยากจะเชื่อ
แต่ต๋ ูกูซิงหลันไม่ให้เวลาเขาได้ครุ่ นคิดเลยสักนิด ยันต์สีแดงแผ่น
นั้นแผ่ขมุ พลังบดขยี้ลงมาอย่างต่อเนื่อง

ชุดคลุมสี ดาบนร่ างของชายผูน้ ้ นั ถูกแรงกดอัดจนแหลกสลายเผย


ให้เห็นศีรษะที่ลา้ นโล้นสี ดา

บนหนั ง ศี ร ษะของเขามี ภ าพอัก ขระที่ แ ปลกประหลาดและ


ซับซ้อน ใบหน้าที่ปราศจากสี เลือดนั้นปูดโปนไปด้วนเส้นเอ็นสี ดา
จนทัว่ ทั้ง ใบหน้า แค่เห็ นก็ทาให้คิดไปถึ งศพโบราณที่ตายไปแล้ว
เป็ นร้อยเป็ นพันปี ที่ถูกขุดออกมาจากสุ สาน

ภายใต้แสงสี แดงที่เจิดจ้าคนในบริ เวณรอบตาหนักหยู่เฉี ยนกง


ล้ว นมองเห็ น สภาพของเขาได้ใ นทัน ที แต่ ล ะคนตกใจกลัว จน
เกือบจะฉี่ราด

กลางดึกคืนนี้ พวกเขาถึงกับเจอผีเข้าแล้วจริ งๆ!


ปี นี้ เป็ นปี ที่ภูติผีปีศาจออกอาละวาดหรื อไร? ถึงกลับกล้าบุกเข้า
มาถึงในรั้วในวัง ไม่รู้หรื อไงว่าฮ่องเต้ของพวกเขาได้รับการปกป้อง
คุม้ ครองจากสวรรค์ เป็ นผูท้ ี่สวรรค์เลือกแล้ว

You might also like