Professional Documents
Culture Documents
เสินเวยนําคนมุง่ หน้าไปยังเมืองอวินโจว การเดินทางครังนี
ไม่ยงใหญ่
ิ เกรียงไกรเหมือนครังก่อนทีไปซีเจียง นอกจาก
โอวหยางไน่คนขับรถทีจําเปนต้องพามาและพ่อบ้านรองทีปู
นางยัดเยียดเข้ามาเพือให้จัดการเรืองเล็กๆ น้อยๆ ระหว่าง
ทางแล้ว คนทีเหลือส่วนมากก็เปนสาวใช้หญิงชรารับใช้
เถาจือ เหอฮวา เถอฮวา รวมถึงเย่ว์ก้ย
ุ ทีรักษาอาการบาดเจ็บ
ดีแล้ว อ้อจริงสิ แม้แต่แม่นมมัวยังตามนางออกมาด้วยกัน
เหตุผลยังเปดเผยอย่างยิง ‘ตามไปปรนนิบต
ั ิขา้ งกายคุณหนู
เพือทีจะทําตัวเปนแบบอย่างทังคําพูดและการกระทํา’
สําหรับในจวน แม่นมมัวก็แนะนําแม่นมฝกอบรมผูห
้ นึง ขอ
เพียงแค่สอนกฎระเบียบบุตรสาวไม่ให้พฒ
ั นาล่าช้า ฮูหยิน
จ้าวก็ไม่ได้คัดค้านแม้แต่นด
ิ เดียว
ออกมาครังนีเสินเวยยังคงแต่งกายเปนชาย ยังคงใช้ชอ
ื
คุณชายสีแซ่เสิน นีทําให้เสินเวยหงุดหงิดยิงนัก ในยุคโบราณ
สตรีจะทําเรืองอะไรหน่อยล้วนยากอย่างยิง แม้แต่ออกจาก
จวนไปหนุนหลังท่านอายังต้องแสดงตัวเปนผูช
้ าย
ขณะทีเสินเวยกําลังมุง่ หน้าไปยังเมืองอวินโจว เรือนหลังจวน
ตระกูลเหอเมืองอวินโจวก็กําลังเกิดสถานการณ์ตึงเครียด
เหอจังหมิงไม่อ่อนโยนเหมือนแต่ก่อน ถามเสินหย่าด้วย
สีหน้าเกลียดชัง “สัญญาขายทาสเล่า สัญญาทาสของ
พวกนางสามคนเล่า” ขอเพียงแค่มส
ี ญ
ั ญาขายทาสเขาก็
สามารถขายพวกนางออกไปไกลๆ ได้ทันที ยังมีอวินหรง
หญิงชัวผูน
้ น
ั ไม่ใช่หนีไปแล้วหรือ เช่นนันก็ใช้ขอ
้ อ้างบ่าวหนี
มาเจรจา ยังเพ้อฝนว่าจะกลับเมืองหลวงไปฟองร้อง เหอะ
ไม่แน่ว่าระหว่างทางคงจะถูกคนพาไปขายเสียแล้วกระมัง
เสินหย่ามองสามีทีทังใบหน้าดุรา้ ย ในใจสับสนมากเปน
พิเศษ นีคือสามีทีนางเลือกมาดีแล้วหรือ บางทีเมือก่อนนาง
อาจจะยังเพ้อฝน คิดว่าสามีเพียงแค่ถก
ู หลอกลวง ตอนนีนาง
รูแ
้ ล้วว่านางควรตืนจากฝน นางตายก็ดีมช
ี ว
ี ิตอยูก
่ ็ดีกลับไม่มี
อะไรติดค้างแล้ว ชีวิตเช่นนีนางใช้มาพอแล้ว ตายก็ถือว่าได้
หลุดพ้นแล้ว
แต่นางยังมีหลินเจียเอ๋อร์ หลินเจียเอ๋อร์เพิงจะอายุสบ
ิ สามป
ยังไม่ถึงวัยออกเรือน ชีวิตดีๆ ของนางเพิงจะเริมต้น นางไม่
อาจทําให้คนใจร้ายใจดําผูน
้ ทํ
ี าลายลูกสาวทีนางทะนุถนอม
ราวกับของลาค่าได้ ต่อให้จะต้องทําเพือหลินเจียเอ๋อร์นางก็
ต้องดินรนมีชว
ี ิตอยูต
่ ่อไปให้ได้
เสินหย่าเบือนหน้าหนีไม่พด
ู จา นางกําลังคิดว่าตอนนี
อวินหรงจะถึงเมืองหลวงแล้วหรือยัง พบท่านพ่อหรือไม่ ตน
จะต้องทําให้ท่านพ่อรูส
้ ก
ึ ขายหน้าอย่างยิงใช่หรือไม่ ในจวน
จะมีคนมาอวินโจวหรือไม่ จะเปนพีใหญ่พรองพี
ี สามหรือเปน
เพียงผูด
้ แ
ู ลหนึงคน
“พูดสิ เจ้าพูดสิ!” เหอจังหมิงเห็นความเหยียดหยามใน
แววตาของเสินหย่า ความโกรธก็พงุ่ ขึนจากจิตใจ ก้าวขึนไป
ผลักเสินหย่าหนึงคราอย่างอดไม่ได้ “เจ้าคิดว่าอวินหรง
หญิงชัวผูน
้ นออกจากจวนเหอแล้
ั วจะไปถึงเมืองหลวงได้หรือ
เหอะ ผูห
้ ญิงตัวคนเดียวเช่นนาง ไม่แน่ว่าอาจจะถูกคนขาย
ไปถึงหุบเหวไหนแล้ว เจ้ายังหวังว่านางจะขนกองทัพมาช่วย
เจ้า ฝนไปเสียเถอะ!” ต่อให้จวนโหวส่งคนมาแล้วอย่างไร
หลายปมานีไม่มบ
ี ุตรชายให้เขาแม้แต่คนเดียว เขาไม่ขบ
ั นาง
ออกไปก็เพราะยังเห็นแก่จวนโหวหรอกนะ
“หลายปเพียงนีแล้ว หากจวนจงอู่โหวคิดจะสนใจก็คงสนใจ
ไปนานแล้ว เจ้าเปนเพียงบุตรอนุภรรยาทีไม่ได้รบ
ั ความ
โปรดปราน ใครจะสนใจว่าเจ้าจะเปนตายร้ายดีอย่างไร
ตอนนันข้าตาบอดไปจริงๆ เหตุใดถึงแต่งงานกับตัวนํา
โชคร้ายทีไร้ประโยชน์เช่นเจ้า มิเช่นนันตอนนีข้าก็คงจะไม่
ต้องขดตัวอยูใ่ นเมืองเล็กๆ อย่างอวินโจวแห่งนี ฉลาดหน่อย
เจ้าก็เอาสัญญาขายทาสของพวกนางสามคนออกมา เห็นแก่
ทีเจ้าคลอดหลินเจียเอ๋อร์ขา้ จะยอมให้เจ้าใช้ชว
ี ิตบันปลาย
อย่างสงบสุขในเรือนแห่งนี มิเช่นนัน เหอะๆ!”
เสินหย่าถูกเหอจังหมิงผลักลงบนโต๊ะ ท้องน้อยเจ็บแปลบ แต่
ต่อให้เจ็บก็เทียบกับความเจ็บปวดในใจไม่ได้ นางหันหน้า
เบิกตาโตมองบุรุษผูน
้ ตรงหน้
ี าอย่างเหลือเชือ เขาลงมือกับ
นางหรือ คาดไม่ถึงว่าเขาลงมือกับภรรยาของตนเองหรือ นี
ไหนเลยจะเปนคนดีทีมีกิรย
ิ างดงามเปนสุภาพบุรุษทีตนคิด
ในตอนแรก เห็นชัดๆ ว่าเปนหมาปา หมาปาในร่างมนุษย์
เหตุใดตอนนันนางถึงตาบอดได้ถึงขนาดนัน
ในทีสุดนาตาแห่งความเคียดแค้นก็ไหลรินลงมา ไหลอาบ
แก้มทีเ**่ยวย่นของเสินหย่า เปยกเปอนส่วนหน้าของเสือ
นางกล่าวเสียงแหบแห้ง “ไม่มี ไม่มส
ี ญ
ั ญาขายทาส แม้จะมี
ก็ไม่มท
ี างให้เจ้าเปนอันขาด” นีคือยันต์ค้ม
ุ ภัยสุดท้ายของ
พวกนางแม่ลก
ู ไม่อาจถูกหมาปาใจเ**้ยมผูน
้ แย่
ี งไปได้
เด็ดขาด
เหอจังหมิงแค่นเสียงหึหนึงครา จ้องมองเสินหย่าแล้วกล่าว
“เจ้าแทบจะเอาตัวเองไม่รอดแล้วยังคิดจะปกปองพวกนาง
อยูอ
่ ีกหรือ เจ้าคิดว่าไม่มส
ี ญ
ั ญาขายทาสแล้วข้าจะทําอะไร
พวกนางไม่ได้งันหรือ อย่างไรเสียข้าก็เปนนายอําเภอเมือง
อวินโจวแห่งนี!” ถึงตอนนันใช้อุบายเล็กน้อย ก็ยงั ทําได้มใิ ช่
หรือ
“ไม่ เจ้าทําไม่ได้!” ความตืนตระหนกแวบผ่านใบหน้าของ
เสินหย่า นางโผเข้าไปคิดจะคว้าแขนเสือของเหอจังหมิงเพือ
ร้องขอ ทว่ากลับถูกเขาหลบออกอย่างรังเกียจ ชัวขณะ
เสินหย่าหยุดฝเท้าไม่ทัน ล้มลงบนพืน
เหอหลินหลินทีถูกแม่นมชรากอดไว้ภายในห้องได้ยน
ิ เสียง
การเคลือนไหว ออกแรงดินจนหลุดแล้วจึงวิงออกมา
“ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านเปนอะไรไป” นางมองเห็นมารดาของ
ตนล้มอยูบ
่ นพืน ชัวขณะก็ตกใจหน้าถอดสี
เหอหลินหลินเข้าไปพยุงมารดา มองเห็นฝามือของแม่นางมี
เส้นเลือดปูด สายตาทีมองพ่อนางก็มป
ี ระกายความดุรา้ ย
เหอจังหมิงขลาดกลัวภายใต้การจ้องมองของลูกสาว
“หลินเจียเอ๋อร์ แม่เจ้าล้มลงไปเอง เจ้าเปนเด็กรูป
้ ระสา
โน้มน้าวนางหน่อยเถอะ พ่อวางแผนให้เจ้ามีค่ห
ู มันทีดี เจ้า
แต่งเข้าไปแล้วก็มแ
ี ต่ความสุข” แม้เขาจะไม่ค่อยมีความ
ผูกพันกับลูกสาวคนนี แต่อย่างไรเสียก็ยงั เปนเลือดเนือของ
เขา ยิงไปกว่านันเขายังต้องใช้ลก
ู สาวผูน
้ แลกผลประโยชน์
ี
ย่อมต้องแสดงท่าทีเปนบิดาทีเมตตา
“ท่านพี ท่านอย่าทําเช่นนี ทําเช่นนีไม่ได้! หลินเจียเอ๋อร์เพิง
จะอายุสบ
ิ สาม…” เสินหย่าได้ยน
ิ คําพูดของเหอจังหมิง
ชัวขณะก็หมดหนทางแล้ว บุตรสาวแรกแย้มทีงดงามราวกับ
หยกของนางจะแต่งงานกับตาเฒ่าทีใกล้จะลงโลงได้อย่างไร
เหอหลินหลินโกรธจนกําหมัดแน่น ในดวงตาเต็มไปด้วย
ความโมโห นางเกลียด นางเกลียดทีสุด! เหตุใดบุรุษทีขาย
ลูกสาวแลกชือเสียงทังยังหน้าด้านหน้าทนผูน
้ ตรงหน้
ี าถึงได้
เปนพ่อนาง
“ออกไป ท่านออกไป ท่านออกไปเสีย!” เหอหลินหลิน
พยายามกลันนาตาตนเอง นางเงยหน้าขึนอย่างฝนทน มือชี
ประตูขา้ งหลังเหอจังหมิง “หลายปมานีท่านก้าวเข้ามาใน
เรือนนีนับครังได้ ในเมือสายตาท่านไม่มพ
ี วกข้าแม่ลก
ู อยู ่
เช่นนันก็หวังว่าภายหลังจะไม่มอ
ี ีก ท่านออกไป ทีนีไม่
ต้อนรับท่าน”
ความอึดอัดแวบผ่านอยูบ
่ นใบหน้าเหอจังหมิง สีหน้า
เดือดดาล “หลินเจียเอ๋อร์ มารยาทเจ้าเล่า” จากนันก็ตะโกน
ใส่เสินหย่า “เจ้าสังสอนหลินเจียเอ๋อร์เช่นนีหรือ เจ้าดูสว
ิ ่า
นางไหนเลยจะมีความอ่อนน้อมอย่างสตรี เจ้า เจ้าทําให้ขา้
ผิดหวังจริงๆ” แววตาเขามีความเสียใจอย่างถึงทีสุด
เสินหย่าทําหูทวนลม นางหมดหวังในตัวชายผูน
้ มานานแล้
ี ว
ความสนใจของนางล้วนแต่อยูท
่ ีลูกสาว กลัวสามีจะทําให้
ลูกสาวลําบาก
“ตอนนีเพิงจะมาสนใจการสังสอนของข้าไม่สายไปหน่อย
หรือ” บนใบหน้าเหอหลินหลินเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
ดึงปนบนศีรษะลงมาอย่างรวดเร็วแล้วจ่อไว้บนลําคอของตน
“ท่านจะไปไม่ไป ท่านเองก็รูว
้ ่าอวินหรงไปเมืองหลวงแล้ว
ท่านว่าหากท่านตารูว
้ ่าท่านบีบบังคับพวกข้าแม่ลก
ู จะทํา
อย่างไร หมวกขุนนางบนศีรษะท่านจะยังรักษาไว้ได้หรือไม่”
ไม่เพียงแต่เหอจังหมิงทีตกใจจนสะดุ้งโหยง แม้แต่เสินหย่า
เองก็หวาดผวาไม่หยุด “หลินเจียเอ๋อร์อย่า เจ้าอย่าได้ทํา
เรืองโง่ๆ เด็ดขาด! วางลงเดียวนี เจ้าอย่าทําให้แม่กลัว!” นาง
มองลูกสาวนาตาไหลพราก คิดอยากจะเข้าไปก็กลัวจะ
เปนการกระตุ้นลูกสาว
“หลินเจียเอ๋อร์เจ้าจะทําอะไร” เหอจังหมิงขมวดคิวมอง
ลูกสาว คิดอยากจะเข้าไปแย่งปนในมือลูกสาว เพียงแต่พอ
เท้าของเขาขยับ เหอหลินหลินก็กดปนปกผมลงทันที โลหิต
ไหลออกมาจากลําคอทีขาวกระจ่างของนางในชัวพริบตา
“ท่านพ่อจะบีบบังคับลูกให้ตายหรือ”
เหอจังหมิงผวาแล้ว หวาดกลัวแล้ว ยืนอยูท
่ ีเดิมไม่กล้าขยับ
“พอแล้วๆ ข้าไปแล้ว ข้าไปแล้ว หลินเจียเอ๋อร์เจ้าคิดให้ดีๆ
ข้าเปนพ่อเจ้า จะทําร้ายเจ้าได้อย่างไร” เขามองลูกสาวอย่าง
ลุ่มลึกปราดหนึง แววตาสับสนมากเปนพิเศษ
พอเหอจังหมิงไป เรียวแรงทังร่างเหอหลินหลินก็ราวกับถูก
สูบ นางล้มพับลงบนพืน มือทีกุมปนอยูก
่ ็ตกลงมา
เสินหย่าโผเข้าไปทันที ซับผ้าเช็ดหน้าลงบนลําคอของ
ลูกสาว ปากร้องตะโกนเรียก “แม่นม แม่นมรีบมาดู
หลินเจียเอ๋อร์ทีว่าเปนอย่างไร” เสียงเด็ดขาดและ
แหลมเปรียว
แม่นมชราเองก็วิงเข้ามา เมือครูน
่ างเห็นคุณหนูนอ
้ ยถือปน
จ่อคอตัวเอง ตกใจอกสันขวัญหาย “ฮูหยินท่านหลบหน่อย
เจ้าค่ะ ให้บา่ วดูแผลคุณหนูหน่อย”
เสินหย่ารีบหลบออกไปทันที มือทีกุมคอลูกสาวต่างก็สนเทา
ั
ความเสียใจดังงูหนึงตัวทีเลือยอยูใ่ นจิตใจของนาง ความผิด
นาง ความผิดนางทังหมด! หากนางไม่ได้อ่อนแอไร้ประโยชน์
เพียงนัน หลินเจียเอ๋อร์ก็คงจะไม่ต้องมาทนรับความยาก
ลําบากเช่นนี ความผิดนางทังหมด!
“ข้าไม่เปนไร” เหอหลินหลินได้สติกลับมา เห็นแม่นางกับ
แม่นมชราต่างก็ยุง่ วุ่นวาย รีบเอ่ยปากปลอบขวัญ นางรับ
ผ้าเช็ดหน้าในมือแม่นางมาเช็ดลงบนลําคอ บนผ้าเช็ดหน้า
เต็มไปด้วยโลหิตสด นางขมวดคิวสูดลมหายใจเย็นเยียบ เจ็บ
จริงๆ
“หลินเจียเอ๋อร์เจ้าอย่าขยับ!” เสินหย่ารีบตะโกนหยุดลูกสาว
หันหน้าสังแม่นมชรา “บาดแผลของหลินเจียเอ๋อร์ต้องใส่ยา
แม่นม ข้าจําได้ว่าเดือนก่อนอวินหรงบาดเจ็บทีมือยังเหลือยา
รักษาแผลอยูเ่ ล็กน้อย เจ้ารีบไปหามา”
“เจ้าค่ะ” แม่นมชราเห็นโลหิตทีเต็มผ้าเช็ดหน้าก็หวาดกลัว
แล้ว พยักหน้าถีรับคําจากนันก็วิงไปยังห้องด้านใน ไม่ทัน
ระวังชนขอบโต๊ะเข้าก็ยงั ไม่รูต
้ ัวแม้แต่นด
ิ เดียว
“ท่านแม่ ข้าไม่เปนไรจริงๆ เพียงแค่ดน
ู า่ กลัวก็เท่านันเอง
เมือครูข
่ า้ ไม่ได้ใช้แรงเลย” เหอหลินหลิน เห็นใบหน้าของ
แม่นางซีดขาวหมดแล้ว จึงรีบปลอบนาง
เสินหย่าไหนเลยจะเชือ “เลือดออกเยอะเพียงนีจะไม่เปนไร
ได้อย่างไร เจ้าลูกคนนีเหตุใดถึงบุม
่ บ่ามเช่นนี หากเจ้าเปน
อะไรขึนมา แม่จะอยูอ
่ ย่างไร!” พูดไปพูดมานาตาของนางก็
ร่วงลงมาอีกครัง ไม่กล้านึกถึงเหตุการณ์นน
ั
เหอหลินหลินยิมเจือนในใจ หากนางไม่ทําเช่นนีแล้วพ่อนาง
จะเลิกราหรือ หากปล่อยให้พอ
่ นางขายคนใช้สามคนทีเหลือ
อยูข
่ องพวกนางสองแม่ลก
ู เช่นนันก็ไม่มใี ครช่วยพวกนางได้
แล้วจริงๆ
ตอนนีความหวังเพียงหนึงเดียวของนางก็คืออวินหรง
สามารถไปถึงเมืองหลวงได้อย่างราบรืนแล้วขนกองกําลังมา
ช่วย นางคิดไว้ดีแล้ว หากถึงวันทีไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ นาง
จะยอมตายไปพร้อมกับแม่นาง ไม่ให้แผนการของพ่อนาง
สําเร็จ
ตอนที 191-2 จวนตระกูลเหอเมืองอวินโจว
ผ่านความทรมานหนึงรอบบาดแผลบนลําคอของ
เหอหลินหลินก็ใส่ยาพันแผลเรียบร้อยแล้ว ส่วนเสียวจวี
สาวใช้แรงงานทีไปขายผ้าในโรงเย็บผ้าก็กลับมาแล้ว เมือ
นางเห็นผ้าบางสีขาวสะอาดบนลําคอของเหอหลินหลิน ก็
ตกใจทันที “คุณหนูนอ
้ ยเปนอะไรไปเจ้าคะ”
หลังอวินหรงไปชีวิตของพวกนางก็ยงั ต้องดําเนินต่อ บ่าวใน
จวนเองต่างก็วางมาด พวกนางแม่ลก
ู ไม่ได้อยูเ่ ปนสุข แม้แต่
บ่าวยังดูถก
ู พวกนาง เสินหย่าคิดอยากจะทําอาหารอร่อยให้
ลูกสาวก็ยงั ต้องใช้เงิน สินเดิมของนางส่วนใหญ่อยูใ่ นมือ
แม่สามี เครืองประดับไม่กีชินทีเหลืออยูก
่ ็หมดลงเรือยๆ แล้ว
เมือหมดหนทางจริงๆ ก็ทําได้เพียงเย็บกระเปาเงินใบเล็ก
ผ้าเช็ดหน้าแลกเงินเบียเลียง ก่อนหน้านีคนทีออกไปส่งผ้าที
โรงเย็บผ้าล้วนแต่เปนอวินหรง ตอนนีอวินหรงไปแล้ว ทําได้
เพียงให้เสียวจวีไป
“ไม่เปนไร ไม่ทันระวังเล็กน้อย” เหอหลินหลินกล่าวอย่าง
เรียบง่าย
แม้เสียวจวีจะรูว
้ ่าเหตุการณ์จะต้องไม่เหมือนอย่างทีคุณหนู
น้อยพูดแน่นอน แต่ในเมือคุณหนูนอ
้ ยพูดเช่นนีแล้ว นางก็ไม่
กล้าถามอะไรมาก กลับล้วงกระเปาเงินใบเล็กในอกออกมา
อย่างระมัดระวังยืนให้เสินหย่า “คุณหนู ผ้าครังนีแลกเงินมา
ได้หนึงสองสามตําลึงเงิน อยูใ่ นนีหมดแล้วเจ้าค่ะ”
เสินหย่ารับกระเปาเงินใบเล็กเข้ามา ส่งให้แม่นมชราข้างๆ
อย่างไม่แม้แต่จะมอง “แม่นมเก็บไว้ดีกว่า” นางหัวเราะเยาะ
ตัวเองในใจ ตอนแรกทีจวนโจว แม้ว่านางจะไม่ใช่ลก
ู ทีได้รบ
ั
ความโปรดปราน แต่ก็ไม่ได้ยากจนถึงขนาดนี เมือไรกับที
บุตรสาวจวนโหวเช่นนางตกตาจนต้องใช้ชว
ี ิตด้วยเงินไม่กี
ตําลึงทองไม่กีตําลึงเงินเช่นนี
“ท่านแม่ ท่านว่าอวินหรงจะไปถึงเมืองหลวงได้อย่าง
ปลอดภัยหรือไม่ ท่านตาจะสนใจพวกเราหรือไม่” ในใจ
เหอหลินหลินไม่รูอ
้ ะไรเลย
เสินหย่าพยักหน้ากล่าวอย่างไม่แม้แต่จะคิด “ขอเพียงแค่ตา
เจ้ารูส
้ ถานการณ์ของพวกเรา เขาจะต้องไม่นงดู
ิ ดายแน่นอน
” นางไม่มนใจแม่
ั ใหญ่กับพีชายพีสะใภ้ทังหลาย แต่นางกลับ
รูว
้ ่าพ่อนางจะต้องสนใจนางแน่นอน
พ่อนางผูน
้ นดู
ั เหมือนเข้มงวดน่าเกรงขาม แต่ความจริงแล้ว
กลับดีต่อลูกๆ คําพูดนีอีเหนียงของนางเปนคนพูดกับนาง
น่าแปลกยิงนัก ตอนทีอีเหนียงจากไปนางเพิงจะอายุได้หา้
ขวบ ตอนนีนางจําไม่ได้แม้แต่หน้าตาอีเหนียงของนาง แต่
กลับจําประโยคนีได้ขนใจ
ึ ดังนันตอนแรกทีนางชอบใจเหอ
จังหมิงจึงกล้าโวยวาย ส่วนบิดาของนางก็รก
ั ลูกจริงๆ แม้ว่า
จะไม่ยน
ิ ดีแต่ก็ยงั คงทําให้นางสมหวัง
คิดถึงตรงนีในใจเสินหย่าก็เจ็บปวด ผูเ้ ปนลูกสาวเช่นนางเอง
ทีอกตัญ ู ไม่แสดงความกตัญ ูต่อหน้าพ่อ ซายังต้องทําให้
ท่านพ่อทีแก่แล้วมานังทุกข์ใจแทนนางอีก
เหอหลินหลินกัดริมฝปากดวงตากะพริบวาบ “ท่านแม่
หากว่า หากว่าอวินหรง…” กําปนข้างลําตัวนางกําแน่น กล่าว
อย่างรวดเร็ว “ท่านแม่ พวกเราหนีกันเถอะ!” หนีจากจวน
ตระกูลเหอ หนีไปให้ไกลๆ
เห็นแววตาทีจริงจังของบุตรสาว เสินหย่าก็ลบ
ู ศีรษะนางแล้ว
ฝนยิมเล็กน้อย “เด็กโง่พวกเราจะหนีออกไปได้อย่างไร แล้ว
จะหนีไปทีไหนได้” พวกนางเปนเพียงสตรีทีอ่อนแอแก่ชรา
ไม่กีคน แม้จะโชคดีหนีออกจากจวนตระกูลเหอได้ แต่ไหน
เลยจะออกไปจากเขตแดนเมืองอวินเหอได้ ตลอดเส้นทางนี
ไปจนถึงเมืองหลวงไกลกว่าพันลี พวกนางไม่มค
ี ่าใช้จ่ายใน
การเดินทาง ทังยังไม่มผ
ี ต
ู้ ิดตามทีมีอํานาจ จะไปเมืองหลวง
ได้อย่างไร
เหอหลินหลินคิดครูห
่ นึงก็เข้าใจว่าความคิดของตนไร้เดียงสา
เกินไปแล้ว “หวังว่าอวินหรงจะไปถึงเมืองหลวงได้อย่าง
ปลอดภัย”
ทําได้เพียงปลอบตัวเช่นนี! เสินหย่ากอดลูกสาวเข้ามาใน
อ้อมอก ในใจวิตกกังวลกว่าร้อยรอบ ทําอย่างไรดี จะทํา
อย่างไรกับลูกสาวดี ทําอย่างไรจึงจะให้คนชัวผูน
้ นปล่
ั อย
ลูกสาวของนางไป
เสินเวยนอนอยูบ
่ นรถม้าพลิกอ่านข่าวทีทหารลับส่งกลับมา
ตังแต่ทีซีเจียงครังนัน เสินเวยก็ใช้ทหารลับคล่องมือแล้ว ไม่
ว่าจะทําเรืองอะไรล้วนแต่ชอบใช้ทหารลับไปเปดทางข้าง
หน้าก่อน ประสิทธิภาพสูงอย่างยิง
จุ๊ๆ อาเขยไม่แท้ผน
ู้ ของนางแปลกคนจริ
ี งๆ คาดไม่ถึงว่าเอา
ม้าซูบผอมมาเปนอีเหนียง อีกทังยังเปนอนุภรรยาศักดิสูงอีก
ต่างหาก เท่านียังไม่พอ อีเหนียงสามคนและสาวใช้ทีเลือน
ขันเปนอนุภรรยาสองคนในเรือนหลังของเขา หนึงในนันเปน
ม้าซูบผอม หนึงคนเปนหญิงขายศิลปะในหอนางโลม
อีกหนึงคนเปนหญิงนางโลมผิดกฎหมาย ไม่มส
ี ตรีสกุลดี
สักคน จะบอกว่าอาเขยไม่แท้มรี สนิยมพิเศษก็ไม่ได้ ตามข่าว
ทีทหารลับส่งกลับมา เขาถูกปดหูปดตาอย่างสินเชิง
เหอๆๆ เสินเวยหัวเราะอยูเ่ งียบๆ นางกําลังคิดว่าจะประกาศ
เรืองนีให้อาเขยไม่แท้รูด
้ ีหรือไม่ สีหน้าของเขานันจะต้องตืน
ตะลึงเปนแน่! อยากเห็นจริงๆ
เสินเวยยิงคิดก็ยงมี
ิ ความสุข กระทังได้อ่านข่าวว่าอาเขยไม่
แท้ผน
ู้ นบี
ั บบังคับญาติผน
ู้ อ
้ งนางจนต้องใช้ปนจ่อคอตัวเอง
รอยยิมบนใบหน้าก็หยุดชะงักในชัวขณะ
“เร่งทุกส่วนเดินทาง คืนนีพวกเราไม่ต้องพัก” เสินเวยสังคน
ทังหมด นางกลัวว่าหากเดินทางล่าช้าท่านอากับญาติผน
ู้ อ
้ ง
ของนางอาจจะถูกทรมานยิงกว่านี
เร่งเดินทางไม่หยุดพัก ในทีสุดเสินเวยก็เข้าเมืองอวินโจวแล้ว
นางไม่สนทัศนียภาพสองข้างทาง ตรงไปยังจวนตระกูลเหอ
ทันที
ตอนทีเสินเวยไปถึงหน้าประตูเหอจังหมิงอยูใ่ นจวนพอดี
ได้ยน
ิ รายงานของบ่าวรับใช้เขาก็ตกใจจนแก้วชาแทบจะร่วง
ลงบนพืน “อะไรนะ เจ้าพูดอีกรอบสิ ผูท
้ ีมาเปนใคร” มาเร็ว
เพียงนีเชียวหรือ
บ่าวผูน
้ นรี
ั บกล่าว “เรียนนายท่าน เปนคุณชายวัยหนุม
่ บอก
ว่าเปนหลานชายบ้านฝงมารดาของฮูหยินพวกเรา” แววตา
บ่าวผูน
้ นเปนประกาย
ั ใครไม่รูบ
้ า้ งว่าฮูหยินเปนเพียงของ
ประดับ ผูท
้ ีเปนใหญ่ในจวนก็คือเถียนอีเหนียง ตอนนีแย่แล้ว
หลานบ้านฝงมารดาของฮูหยินมาหาถึงหน้าประตูแล้ว ดูสว
ิ ่า
นายท่านจะทําเช่นไร
ทว่าเหอจังหมิงกลับถอนหายใจอย่างโล่งอก ผูท
้ ีมาไม่ใช่
พ่อตาเขา และไม่ใช่พชายภรรยาสามคนนั
ี นของเขา แต่เปน
รุน
่ หลานวัยหนุม
่ เช่นนันเขาจะยังกลัวอะไร “เร็ว รีบไปเชิญ
เข้าจวนเถอะ” วางใจลงแล้ว จะทําอะไรก็สบายขึนมาก
เถียนอีเหนียงดูแลจวนทุกระดับชัน เรืองทีประตูใหญ่มแ
ี ขก
มานางย่อมทราบแล้ว เมือนางได้ขา่ วก็รบ
ี ตามมา
“นายท่าน ฟงว่าบ้านฝงมารดาฮูหยินมีคนมาหรือ ข้าต้อง
เตรียมห้องรับแขกกับโต๊ะเลียงแขกหรือไม่” นางถามเสียง
เบา
เหอจังหมิงเห็นเถียนอีเหนียงมุมปากก็อดยกขึนไม่ได้
เถียนอีเหนียงปรนนิบต
ั ิเขามาสิบกว่าปแล้ว ว่ากันตามความ
จริงก็ไม่นา่ จะมีความสดใหม่หลงเหลืออยูน
่ านแล้ว แต่กลับ
กันเสียอย่างนัน เหอจังหมิงไม่เพียงแต่ไม่เบือนาง กลับยิง
หลงใหลมากขึน อันทีจริงเถียนอีเหนียงผูน
้ เปนหญิ
ี งงาม ลีลา
บนเตียงนัน ทุกครังก็ทําให้เหอจังหมิงมีความสุขราวกับว่ายัง
เปนเด็กหนุม
่
“ไม่ต้องกังวลไป ผูท
้ ีมาเปนหลานชายของฮูหยิน
ห้องรับแขกกับโต๊ะรับแขกเจ้าก็ไปจัดเตรียมเถอะ ลําบากเจ้า
แล้ว” เหอจังหมิงตบมือของเถียนอีเหนียง ท่าทางชืนชม
อย่างถึงทีสุด แม้ว่าฮูหยินจะใช้ไม่ได้ แต่เถียนอีเหนียงกลับ
จัดการเรือนหลังของเขาได้อย่างเปนระเบียบเรียบร้อย
เถียนอีเหนียงเม้มปากยิม งดงามเปยมเสน่ห์ ชายตามอง
เหอจังหมิงปราดหนึงอย่างเง้างอน “ลําบากอะไรกัน ข้าล้วน
ทําเพือนนายท่านมิใช่หรือไร” ท่าทางหว่านเสน่หน
์ น
ั เสียง
เล็กๆ ทีอ่อนนุม
่ แทบจะทําให้เหอจังหมิงสติแตกขึนมาตรง
นัน
เสินเวยตามคนรับใช้จวนตระกูลเหอเข้ามาในจวนแล้ว
ขีเกียจจะมองประเมิณทิวทัศน์รอบข้าง นางอยากจะรีบเจอ
อาและญาติผน
ู้ อ
้ งของนางเท่านัน
เหอจังหมิงเห็นคุณชายวัยหนุม
่ ทีสวมชุดคลุมผ้าไหมรูปงาม
ดังหยกผูห
้ นึงเดินช้าๆ เข้ามาแต่ไกล ในใจก็อดชมว่าหน้าตา
ดีไม่ได้ เถียนอีเหนียงทีอยูข
่ า้ งๆ ก็ตกตะลึงเล็กน้อย ใครๆ ก็
บอกว่าเฉิงเกอเอ๋อร์ของนางหน้าตาโดดเด่น แต่เมือเทียบกับ
คุณชายสูงส่งผูน
้ แล้
ี ว เฉิงเกอเอ๋อร์กลับถูกบดบังลงไปทันที
ในใจนางไม่สบายใจขึนมารางๆ
“คนผูน
้ ก็
ี คือท่านอาเขยใช่หรือไม่ ในจวนโหวหลานมีลําดับที
สี ท่านอาเขยเรียกหลานว่าหลานสีก็ได้” เสินเวยทําความ
เคารพด้วยใบหน้ายิมแย้ม ในดวงตามองประเมินท่านอาเขย
ไม่แท้ผน
ู้ ี เห็นเพียงเขาสวมอาภรณ์สแ
ี ดงเข้ม หน้าตา
ค่อนข้างดี ทังร่างเต็มไปด้วยกลินอายของปญญาชน ทําให้
เขามองดูแล้วยังเปนหนุม
่ แน่น ชวนให้คนเกิดความรูส
้ ก
ึ ดีใน
ชัวขณะ วัยกลางคนแล้วยังมีเสน่หเ์ ช่นนี มินา่ เล่าตอนยัง
หนุม
่ ถึงได้ทําให้ท่านอาตกหลุมรักตังแต่แรกพบ
“อ้อ หลานสีเองหรือ รีบนังเถิด เดินทางมาไกล เหนือยหรือ
ไม่” เหอจังหมิงอัธยาศัยดี แต่ความหยังเชิงในแววตากลับ
หนีไม่พน
้ สายตาของเสินเวย
เสินเวยเองก็ไม่เกรงใจ สะบัดชุดคลุมนังลงทันที กล่าวราวกับ
ตามอําเภอใจ “เหนือยอย่างยิง อากาศหนาวเหน็บ ออกมา
ข้างนอกทรมานยิงนัก แต่จะทําอย่างไรได้ท่านปูมีคําสัง
หลานสีเองก็ทําได้เพียงวิงมาทีนีเทียวหนึง อ้อจริงสิ
ท่านอาเขยคงยังไม่รูว
้ ่าหลานสีมาทําไม พวกเราต่างก็เปน
ญาติกัน หลานสีขอพูดตรงไปตรงมาแล้วกัน ฟงว่าท่านอากับ
ญาติผน
ู้ อ
้ งอยูท
่ ีจวนตระกูลเหอได้รบ
ั ความยากลําบากไม่
น้อย ท่านปูไม่สบายใจจึงส่งหลานสีมาเยียมทีอวินโจว
ท่านอาเขย เหตุใดถึงไม่เห็นท่านอากับญาติผน
ู้ อ
้ งเล่า” ท่าที
ของเสินเวยจริงใจอย่างยิง!
รอยยิมบนใบหน้าเหอจังหมิงแทบจะรักษาไว้ไม่อยูแ
่ ล้ว
แววตากะพริบวาบกําลังจะเอ่ยปาก จู่ๆ ก็ได้ยน
ิ เถียนอีเหนียง
กล่าว “คุณชายสีช่างเปนหนุม
่ รูปงามจริงๆ! เรียนให้คณ
ุ ชาย
สีทราบ ตังแต่ทีท่านพีคลอดคุณหนูใหญ่ ร่างกายก็ไม่ค่อย
แข็งแรง ตลอดทังปรักษาตัวอยูใ่ นเรือน คุณชายสีเข้าห้องพัก
ให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยไปหาท่านพีกับคุณหนูใหญ่ดีหรือ
ไม่”
บนใบหน้านางมีรอยยิมบางๆ ทีตนคิดไปเอง ซายังคิดว่าตน
ใส่ซอบริ
ื สทุ ธิ อืม อย่างน้อยเหอจังหมิงมองดูแล้วก็เปนเช่นนี
เมือเห็นแววตาทีชืนชมของนายท่าน รอยยิมบนใบหน้าของ
เถียนอีเหนียงก็ยงกว้
ิ าง ในใจก็ยงพอใจ
ิ
ทว่าเสินเวยกลับขมวดคิว เชิดคางไปทางเถียนอีเหนียง
เล็กน้อย กล่าว “คนผูน
้ คื
ี อ?”
“ข้าคืออีเหนียงของจวนตระกูลเหอ หลายปมานีทีท่านพี
นอนพักฟนร่างกาย ล้วนแต่เปนข้าทีช่วยจัดการกิจธุระใน
จวน” เถียนอีเหนียงภูมใิ จเล็กน้อย
เสินเวยหน้าตึงทันที วางชาลงบนโต๊ะ สายตาทีมอง
เหอจังหมิงก็เหยียดหยามขึนมา “ท่านอาเขย ก่อนหน้านี
หลานสีได้ยน
ิ ว่าท่านอาใช้ชว
ี ิตอยูใ่ นจวนตระกูลเหออย่าง
ยากลําบากก็ยงั ไม่เชือ แต่ตอนนีได้ยน
ิ เถียนอีเหนียงผูน
้ พู
ี ด
หลานสีกลับเชือแล้ว…อีเหนียงเล็กๆ คนหนึง เปนเพียงคน
ต้อยตา นายพูดอยูม
่ ส
ี ท
ิ ธิให้เจ้าพูดแทรกหรือ ยังมีมารยาท
อยูห
่ รือไม่ มิหนําซายังจัดการเรืองในจวน ท่านอาเพียงแค่
สุขภาพไม่ดี ข้างกายนางยังมีแม่นมทีรูจ
้ ักระเบียบประเพณีที
นํามาจากจวนโหวด้วยไม่นอ
้ ย เหตุใดถึงต้องให้อีเหนียงคน
หนึงยืนมือวาดเท้าเล่า” สายตาเสินเวยเย็นเยียบ
สีหน้าของเถียนอีเหนียงเปลียนฉับพลัน ประเดียวเขียว
ประเดียวม่วง เหอจังหมิงก็อดขมวดคิวไม่ได้ คุณชายสีแซ่
เสินผูน
้ ดู
ี ท่าทางเปนผูใ้ หญ่ เหตุใดถึงได้ประพฤติตัวเผด็จการ
เช่นนี
“คุณชายสี ท่านเข้าใจข้าผิดแล้ว ไม่ใช่แบบทีท่านคิด ท่านพี
นาง…” เถียนอีเหนียงอดทนอดกลันคิดจะอธิบาย
เสินเวยตัดบทพูดนางทันที “หุบปาก! ยิงพูดเจ้าก็ยงเหิ
ิ มเกริม
ใช่หรือไม่ ข้าโตมาขนาดนียังไม่เคยเห็นบ่าวทีเหยียบจมูกขึน
หน้าเช่นเจ้ามาก่อน เปนแค่คนต้อยตา ยังกล้าทะนงตน ยัง
รูจ
้ ักกฎระเบียบอยูห
่ รือไม่ เย่ว์ก้ย
ุ ตบปากให้ขา้ สังสอน
อีเหนียงผูน
้ เสี
ี ยหน่อยว่าอะไรคือกฎระเบียบ” เสินเวยตังใจ
เรียกเย่ว์ก้ย
ุ ทีเปนยุทธ์
“เจ้าค่ะ คุณชาย” เย่ว์ก้ย
ุ ก้าวออกมา ออกมือดังสายฟา
เถียนอีเหนียงกับเหอจังหมิงต่างก็ตอบสนองกลับมาไม่ทัน
ถูกตบหน้าดังเพียะๆๆ ไปห้าหกครังแล้ว
ใบหน้าของเถียนอีเหนียงแดงกาขึนมาในชัวพริบตา นางกุม
หน้าด้วยท่าทางเหลือเชือ “นายท่าน” นางนาตาคลอสะอืน
ไห้มองเหอจังหมิง น่าสงสารอย่างยิง ทว่าเสินเวยกลับมอง
เห็นความโกรธเกรียวทีแวบผ่านแววตานาง ยกยมุมปากขึน
อย่างอดไม่ได้
เหอจังหมิงทังตกใจทังโมโห ตะโกนกล่าวเสียงดัง “หลานสี
เจ้ามีเจตนาอันใด ไม่เห็นอาเขยเช่นข้าอยูใ่ นสายตามากเกิน
ไปแล้ว!”
เสินเวยยิมเยาะ “หลานสียังอยากถามท่านอาเขยอยูเ่ ลยว่ามี
เจตนาอันใด หลานชายบ้านฝงมารดามาถึงหน้าบ้าน แต่ท่าน
อากับญาติผน
ู้ อ
้ งแท้ๆ กลับไม่ปรากฏหน้า ท่านอาเขยพาอี
เหนียงออกมาไม่ไว้หน้าใคร คนตาช้าทีไม่รูจ
้ ักกฎระเบียบ
เช่นนีหากอยูท
่ ีจวนจงอู่โหวคงจะถูกฆ่าทิงไปนานแล้ว แต่ท่า
อาเขยยังโปรดปรานทะนุถนอมเปนของลาค่า อ้อ หลานสีรู้
แล้ว ท่านอาเขยโปรดอนุภรรยาทอดทิงภรรยาเอกสินะ
ใต้เท้าผูต
้ รวจการทราบหรือไม่”
เหอจังหมิงได้ยน
ิ ชือผูต
้ รวจการ แม้ว่าสีหน้าจะไม่แสดงออก
แต่เบืองลึกในใจกลับเสมือนถูกทําลายชีวิตอันสงบสุข เขา
เปนขุนนางมาหลายป ย่อมต้องรูว
้ ่าการโปรดอนุภรรยา
ทอดทิงภรรยาเอกเช่นนี หากถูกผูต
้ รวจการแจ้งคนในให้
กราบทูลรายงานองค์จักรพรรดิคงจะต้องรับผิดชอบผลที
ตามมาแน่นอน เดิมเขาก็ถก
ู เสินเวยเอ่ยต้อนด้วยเหตุผลแล้ว
ตอนนีก็ยงพู
ิ ดไม่ออก อ้าปากอาอึงอยูห
่ ลายครัง จากนันจึง
กล่าว “อย่างไรเสียนางก็เปนอนุภรรยาของอาเขย หลานสีก็
ควรไว้หน้าสักหน่อยจึงจะถูก”
ทว่าเสินเวยกลับแค่นเสียงหนึงคราลุกขึนยืน “คุยกันไม่
ถูกคอครึงคําก็มากเกิน ท่านอาเขยไม่ต้อนรับหลานสีด้วย
ความจริงใจ เช่นนันหลานสีก็จะไปเยียมท่านอาเดียวนี”
นางยกเท้าเดินออกไปนอกประตู ทหารลับของนางสืบข่าว
อย่างดีมาก่อนแล้ว ท่านอากับญาติผน
ู้ อ
้ งของนางอาศัยอยู่
ในเรือนหลังนันทีโทรมทีสุดโดดเดียวทีสุดในจวนตระกูลเหอ
อีกทังฝงนางยังมีอวินหรงผูท
้ ีคุ้นเคยจวนตระกูลเหอเปน
อย่างดี นางแอบไปทีเรือนของท่านอาแล้ว คาดว่าตอนนี
ท่านอากับญาติผน
ู้ อ
้ งน่าจะรูว
้ ่านางมาถึงแล้ว
เหอจังหมิงตกใจ เขาจะให้เสินเวยไปทีเรือนเสินหย่าตอนนี
ได้อย่างไร นันไม่เท่ากับเปนการบอกคนอืนหรือว่าเขาโปรด
อนุภรรยาทอดทิงภรรยาเอก เรือนแห่งนันก็คือหลักฐานอัน
โจ่งแจ้ง
“หลานสี กลับมา กลับมา ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ ไม่ว่าอย่างไร
ก็ต้องดืมชาพักกายเสียหน่อย” ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสังคนให้
ไปจัดระเบียบเรือนทีทรุดโทรดหลังนันก่อน
เสินเวยไม่สนใจเขาอย่างสินเชิง ข้างกายนางมีโอวหยางไน่
กับเถาฮวาเย่ว์ก้ย
ุ บ่าวจวนตระกูลเหอไหนเลยจะขัดขวาง
นางได้
และในตอนนีเอง ในเรือนของเสินหย่าก็กําลังชุลมุนวุ่นวาย
กันอยู ่
ตอนที 192-1 เปดฉากศึกบีบคันครังใหญ่
“ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านลืมตาสิ ท่านอย่าทําให้ลก
ู กลัว! ท่าน
ลืมตามองข้าสิ” เหอหลินหลินนังอยูบ
่ นพืนกอดมารดาราไห้
ปานใจจะขาด
เสินหย่าทีนอนราบอยูบ
่ นพืนปดตาทังคู่สนิท ไม่ขยับแม้แต่
นิดเดียว บนลําคอมีรอยรัดทีน่าตกอกตกใจอยูห
่ นึงรอย
แม่นมชราและเสียวจวีเองก็ล้อมวงราไห้ “คุณหนู เหตุใด
ท่านถึงโง่เพียงนัน ท่านตัดใจทิงคุณหนูนอ
้ ยไว้คนเดียวได้
อย่างไร คุณหนู ไม่ค้ม
ุ กันเลย ท่านโง่เกินไปแล้ว!”
เหอหลินหลินได้ยน
ิ ดังนันนาตาก็ไหลหนักกว่าเดิม เขย่าร่าง
มารดานางไม่หยุด ตะโกนเรียกมารดาด้วยเสียงสะอึกสะอืน
เช้าวันนีหลังทานข้าวเช้าเสร็จนางก็ทํางานเย็บปกอยูใ่ นห้อง
ทําไปทํามาก็รูส
้ ก
ึ ว่าจิตใจไม่สงบสุข กระทังนิวมือยังถูกเข็ม
แทงไปหลายครา นางวางงานปกลงแล้วไปหามารดานางที
ห้องใหญ่ด้วยจิตใจกระวนกระวาย คาดไม่ถึงว่าจะเห็น
มารดนางแขวนคออยูบ
่ นคานห้อง นางตกใจจนอกสัน
ขวัญหายในชัวขณะ โผเข้าไปกอดขาทังคู่ของมารดานาง
แล้วร้องตะโกนเสียงดัง แม่นมชรากับเสียวจวีได้ยน
ิ เสียง
เรียกตะโกนก็วิงเข้ามา ตกใจจนขวัญแทบกระเจิง คนทังสาม
ร่วมแรงกันกว่าจะนําเสินหย่าลงมาได้
เหอหลินหลินคิดไม่ถึงเลยว่ามารดานางจะหมดหนทางจนคิด
สัน นางรูว
้ ่ามารดานางทิงนางไม่ลง ตอนนีในเมือมารดานาง
เลือกเส้นทางนีแล้ว เช่นนันก็แปลว่าจะต้องทําเพือนาง
แน่นอน
เมือคิดภาพว่าหลังจากนีนางก็จะเปนลูกทีไม่มแ
ี ม่แล้ว ซายัง
ไม่มใี ครใช้สายตารักใคร่ทะนุถนอมมองนางอีกแล้ว
เหอหลินหลินก็รูส
้ ก
ึ เจ็บปวดใจแทบตาย หายใจไม่ออก นาง
ร้องจนเสียงแหบเสียงแห้ง หายใจไม่เปนจังหวะ นาตาที
ร้อนผ่าวหยดลงบนใบหน้าแม่นาง
“คุณหนูนอ
้ ยอย่างเพิงเสียใจไป คุณหนูยงั มีลมหายใจเจ้าค่ะ
” จู่ๆ แม่นมชราทีวางนิวลงบนปลายจมูกของเสินหย่าก็
ตะโกนกล่าว
เสียวจวีเองก็ตะโกนด้วยความดีใจ “ดูสิ ดูสิ คุณหนูขยับแล้ว
ขยับแล้ว”
เหอหลินหลินหยุดร้องไห้ทันที ก้มหน้ามองมารดาในอ้อมอก
เห็นเพียงคิวของมารดานางขมวดมุน
่ ดังคาด ศีรษะเองก็ขยับ
เล็กน้อย นางดีใจอย่างยิง ร้องตะโกนไม่หยุด “ท่านแม่
ท่านแม่ ท่านอย่าทิงข้าไปเด็ดขาดนะเจ้าคะ!” ตะโกนไป
ตะโกนมาก็อดเจ็บปวดหัวใจไม่ได้ นาตาบดบังทัศนวิสย
ั
ดวงชะตาเสินหย่ายังไม่ถึงฆาต หลายวันมานีนางคิดมาโดย
ตลอดว่าทําอย่างไรจึงจะขัดขวางไม่ให้สามีผลัก
หลินเจียเอ๋อร์เข้ากองไฟได้ คิดไปคิดมาก็มเี พียงวิธเี ดียว
นันก็คือนางตาย
นางตายแล้ว หลินเจียเอ๋อร์ทีเปนลูกสาวแท้ๆ ก็ต้องไว้ทก
ุ ข์
สามป ช่วงเวลาไว้ทก
ุ ข์ยอ
่ มไม่อาจแต่งงานได้ นางช่วยอะไร
ลูกสาวไม่ได้แล้ว หากการตายของนางสามารถแลกโอกาส
ชีวิตให้ลก
ู สาวได้ นางก็ยน
ิ ดี
วันนีนางหาข้ออ้างไล่แม่นมชราและเสียวจวีออกไปอย่าง
ยากลําบาก หยิบผ้าขาวทีแอบเตรียมไว้แล้วมาแขวนไว้บน
คานห้อง แขวนคอขึนไปอย่างไม่ลังเล ก่อนทีจะหมดสตินาง
ยังเสียใจทีไม่สามารถจัดพิธป
ี กปน[1]ให้ลก
ู สาวได้ ไม่อาจ
มองลูกสาวออกเรือนด้วยตาตัวเองได้
แต่นางก็ไม่คิดว่าลูกสาวจะเข้ามาหาเร็วถึงเพียงนัน เพราะ
ช่วงเวลาทีแขวนคอยังไม่นาน ถูกลูกสาวร้องไห้ตะโกนเขย่า
ตัวเช่นนี เสินหย่าก็ฟนอีกครัง
“หลินเจียเอ๋อร์…อย่าร้อง!” เสินหย่าทีฟนขึนพยายามพูด
คําไม่กีคํานีออกมาด้วยเสียงทีแหบแห้ง มือทีลูบแก้มของ
ลูกสาวสันระริก เช็ดนาตาออกไป “หลินเจียเอ๋อร์…เจ้า…เจ้า
ให้แม่…ตายเสียเถอะ! เช่นนี…พ่อเจ้า…ก็จะไม่…บังคับเจ้า…
ให้แต่งงานอีก”
เหอหลินหลินร้องไห้ด้วยความเสียใจยิงขึน คว้ามือของแม่
นางมาแนบไว้ขา้ งแก้มตน “ท่านแม่ ท่านแม่ ข้าไม่ให้ท่าน
ตาย ข้ายอมฟงคําพูดท่านพ่อแต่งงานกับคนผูน
้ นยั
ั งดีกว่า
ท่านต้องตาย”
ท่านตายแล้ว ก็จะไม่มใี ครรักข้าแล้ว! วินาทีนี ความไม่พอใจ
จํานวนหนึงทีเหอหลินหลินมีต่อแม่นางพลันหายวับไปกับตา
แม้ว่าแม่นางจะอ่อนแอไร้ประโยชน์ลก
ุ ยืนไม่ขน
ึ พลอยให้
นางลําบากไปด้วยตังแต่เกิด แต่มารดาทีอ่อนแอไร้ประโยชน์
ผูน
้ กลั
ี บยอมตายเพือนาง!
นางไม่โกรธ ไม่โกรธ ไม่โกรธอีกต่อไป ขอเพียงแค่มารดามี
ชีวิตต่อไปได้ แม้ว่าจะต้องใช้ชว
ี ิตทีลําบากกว่านีนางก็ยน
ิ ดี
เห็นสองแม่ลก
ู ร้องไห้อย่างระงับอารมณ์ไม่ได้ แม่นมชราก็ดึง
แขนเสือเช็ดนาตา กล่าวตําหนิ “เหตุใดคุณหนูถึงโง่เพียงนี
ท่านรูว
้ ่าหากบิดามารดาเสียชีวิตบุตรต้องไว้ทก
ุ ข์สามป
เหตุใดถึงลืมว่ายังมีเรืองสมรสช่วงต้นของการไว้ทก
ุ ข์เล่า
หากท่านไม่อยูแ
่ ล้ว ท่านเขยโกรธขึนมาจะต้องให้คณ
ุ หนูนอ
้ ย
แต่งงานภายในร้อยวันเปนแน่”
เสินหย่าตะลึงงันในชัวขณะ จริงสิ ด้วยนิสย
ั ของสามี บวกกัน
การเปาหูของเถียนอีเหนียง จะต้องไม่ให้ลก
ู สาวรอถึงสามป
แน่นอน นางคิดไม่ถึงได้อย่างไร
“เช่นนัน…จะทําอย่างไร..หลินเจียเอ๋อร์…ของข้า…จะทํา
อย่างไร บุตรสาว…ผูม
้ ช
ี ว
ี ิตขืนขมของข้า!” เสินหย่าทังร้อนใจ
ทังหมดหวัง นาตาไหลพรากลงมา
แม่นมชรากับเสียวจวีก็ยงหมดหนทาง
ิ ทําได้เพียงร้องไห้ตาม
ตอนทีอวินหรงเข้ามาในเรือนก็มองเห็นฉากๆ นีพอดี
ยังคิดว่าคุณหนูของตนเปนอะไรไป ตืนตระหนกวิงเข้ามา
อย่างลืมตัว “คุณหนู คุณหนู ท่านอย่าได้เปนอะไรไปนะ
เจ้าคะ คนของจวนโหวมาแล้ว หลานชายของท่านมา
หนุนหลังท่านแล้ว” นางวิงไปพลางตะโกนไปพลาง โทษ
ตัวเองในใจไม่หยุด ผิดทีนางเดินช้าเกินไป หากว่าคุณหนูเปน
อะไรไป เช่นนันนางก็คงอยูต
่ ่อไปไม่ได้แล้วเช่นกัน
เสินหย่าและคนอืนๆ ได้ยน
ิ อวินหรงตะโกนเช่นนี ชัวขณะก็
หยุดร้องไห้ โดยเฉพาะเสินหย่าทีดินพล่านลุกขึนยืน มอง
อวินหรงอย่าเหลือเชือ “จริงหรือ มีคนมาจากจวนโหวแล้ว
จริงๆ หรือ”
“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ!” อวินหรงพยักหน้าไม่หยุด เช็ดนาตาบน
หน้าลวกๆ เบะปากแต่กลับเผยให้เห็นรอยยิมกว้าง “เปน
คุณชายสีบ้านนายท่านสาม หลานชายของท่าน เปนคุณชาย
สีทีสร้างชือเสียงอํานาจในสนามรบซีเจียง คุณหนู พวกเราไม่
ต้องกลัวอีกแล้ว!” นางเองก็ทราบว่าคุณชายสีผูน
้ คื
ี อคุณหนูส ี
คุณหนูสที
ี ฝาบาทพระราชทานบรรดาศักดิให้เปนจวินจู่ผน
ู้ น
ั
ตอนทีมานางยังกังวลเล็กน้อย แต่ผา่ นการเดินทางครังนี
จิตใจนางก็วางลงทังหมด คุณหนูสผู
ี น้ เก่
ี งกาจจริงๆ มินา่ เล่า
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวถึงให้นางมาอวินโจวเทียวนี
หยาดนาตาของเสินหย่าก็ยงเปยมความสุ
ิ ข คว้ามือของ
ลูกสาวตะโกนอย่างดีใจ “หลินเจียเอ๋อร์…เจ้าได้ยน
ิ …หรือไม่
…ญาติผพ
ู้ …ของเจ้
ี า…มาแล้ว!”
เหอหลินหลินสะอืน “อือ อือ ท่านแม่ ข้าได้ยน
ิ แล้ว ญาติผพ
ู้ ี
มาแล้ว พวกเราไม่ต้องกลัวแล้ว พวกเรารอดแล้ว” บน
ใบหน้าของนางเผยรอยยิมกว้าง
ส่วนแม่นมชราและเสียวจวีเองก็เช็ดนาตาไปพลาง สวดมนต์
อมิตาพุทธไปพลาง
ไม่รอให้เสินหย่าสองแม่ลก
ู รอนาน เร็วอย่างยิงเงาร่างของ
เสินเวยก็ปรากฎอยูห
่ น้าประตูเรือน
ท่ามกลางความพร่าเลือนเสินหย่ามองเห็นเพียงคุณชายวัย
หนุม
่ ทีมีเรือนร่างสูงตระหง่านดังหนุม
่ รูปงามกําลังยิมน้อยๆ
เดินเข้ามาหานางช้าๆ นีคือหลานของนางงันหรือ หน้าตาดี
จริงๆ! ไม่รูเ้ พราะเหตุใด เมือเห็นหลานผูน
้ หั
ี วใจซึงไร้ทีพึง
ของนางก็สงบลงทันที ดวงตาคู่นนของหลานชายเหมื
ั อนพ่อ
เขาอย่างยิง กระบอกตานางร้อนผ่าวอย่างไม่รูต
้ ัว โชคดีที
ไม่มน
ี าตาร่วงลงมาอีก
เหอหลินหลินเองก็มองเสินเวยอย่างไม่ละสายตา นีคือญาติ
ผูพ
้ ของนาง
ี คุณชายสูงส่งของจวนโหว ทีแท้แล้วก็มห
ี น้าตา
เช่นนี เปนนกกระเรียนในฝูงไก่ โดดเด่นสง่างามนัก
“ท่านอา หลานสีมาเยียมท่านแล้ว!” เมือเสินเวยเข้ามาก็
ทําความเคารพอย่างนบนอบ อีกทังยังยิมน้อยๆ อย่างเปน
มิตรให้เหอหลินหลินอีกด้วย “นีก็คือญาติผน
ู้ อ
้ งหลินสินะ!”
ความเปนมิตรทีออกมาจากใจจริงนันทําให้เหอหลินหลิน
แสบจมูกอย่างอดไม้ได้ ดีจริงๆ! ญาติผพ
ู้ ของนางไม่
ี ทะนงตน
และดูถก
ู พวกนางแม่ลก
ู แม้แต่นด
ิ เดียว นางเองก็ทําความ
เคารพเสินเวยอย่างมีมารยาทอย่างยิง เรียกหนึงครา
“ญาติผพ
ู้ ”
ี
เสินเวยมองดู ชัวขณะก็รูส
้ ก
ึ ว่าญาติผน
ู้ อ
้ งคนนียังนับว่า
น่าเชือถือได้ รอยยิมบนใบหน้าก็จริงใจสามส่วน หันหน้ากลับ
มากําลังจะพูดกับท่านอา แต่พลันมองเห็นรอยรัดบนลําคอ
ของนาง รอยยิมบนใบหน้าก็หายไปทันที แววตาเย็บเยียบลง
“เกิดเรืองอะไรขึน คนแซ่เหอผูน
้ นทํ
ั าอะไรอีก” ตอนนี
เหอจังหมิงจากปากของเสินเวยกลายเปนคนแซ่เหอไปเสีย
แล้ว “ลงมือกับภรรยาของตนเอง หน้าไม่อายจริงๆ ข้าจะไป
หาเขา!” นางไม่แม้แต่จะคิดก็เอาบัญชีนไปชํ
ี าระที
เหอจังหมิงแล้ว อย่างไรเสียชายชาติชวผู
ั น ้ ก็
ี มป
ี ระวัติไม่ดี
ตามการสืบข่าวของทหารลับ เขาลงมือกับภรรยาก็ไม่ใช่แค่
ครังสองครัง
เหอหลินหลินร้อนใจใหญ่ ไม่สนการถือตัวระหว่างชายหญิง
ใดๆ ก้าวขึนไปดึงแขนเสือของเสินเวยไว้ “ญาติผพ
ู้ ี ไม่ใช่
อย่างนัน ไม่ใช่อย่างนัน” นางส่ายหน้าอย่างรีบร้อน บน
ใบหน้ายังมีความอึดอัดหลายส่วน
เสินเวยอดสงสัยไม่ได้ ละสายตามองอาของนาง เห็นนาง
อึดอัดไปทังใบหน้าเช่นกัน แม่นมมัวทีอยูข
่ า้ งๆ เสินเวยมอง
เห็นปญหาแล้ว กระซิบข้างหูเสินเวยหลายประโยค
เสินเวยเผยสีหน้าเข้าใจ สายตาทีมองท่านอาของนางก็
ซับซ้อนเล็กน้อย ความรักของแม่ยงใหญ่
ิ จริงๆ คนอ่อนแอ
เช่นท่านอายอมตายเพือลูกสาวได้ นีทําให้นางนึกถึงฮูหยิน
หร่วนมารดาเจ้าของร่างเดิมอย่างอดไม่ได้ ฟงว่านางตายไป
พร้อมความโศกเศร้า แต่จะมีอะไรสําคัญไปกว่าลูกอีก นาง
ไม่เคยคิดหรือว่านางไม่อยูแ
่ ล้วจะทิงลูกชายลูกสาวอายุนอ
้ ย
คู่นให้
ี มชี ว
ี ิตอยูอ
่ ย่างไร
เหอจังหมิงเองก็วิงตามมาแล้ว “หลานน้อย หลานสี หลาน
น้อย เจ้าอยากเคารพอาเจ้า อาเขยพาเจ้ามาก็ได้แล้ว เจ้าจะ
รีบร้อนเพียงนีไปไย” อย่างไรเสียก็เปนเช่นนีแล้ว
เหอจังหมิงกลับยอมเสียง แสดงท่าทีของอาเขยทีดีกล่าวติ
เตียนเสินเวย
เสินเวยหัวเราะเยาะ “หลานสีร้อนใจทีไหนกัน ท่านอาเขย
ร้อนใจเองหรือเปล่า” บนใบหน้านางมีรอ
้ ยยิมอันแสนอบอุ่น
แต่เมือมองดูให้ดี รอยยิมนันกลับไม่จริงใจอย่างสินเชิง
“มาๆๆ ท่านอาเขย เชิญนัง วันนีพวกเรามาหารือกันดีๆ
เถอะ” นางตังใจมาหาเรือง ย่อมต้องสะสางบัญชีก่อนแล้ว
ค่อยว่ากัน
“ดูหลานน้อยพูดเขา พวกเราเปนญาติกันแท้ๆ มีอะไรให้
ต้องหารือหรือ อากับญาติผน
ู้ อ
้ งเจ้าก็พบแล้ว ตอนนีไปคุย
กับอาเขยทีห้องหนังสือเถอะ จัดกับข้าวไว้เรียบร้อยแล้ว
พวกเราสองคนไปดืมสุรากันหน่อยดีกว่า” เหอจังหมิงทํา
ราวกับว่าไม่รูเ้ จตนาในคําพูดของเสินเวย
ทว่าเสินเวยกลับไม่ขยับ แต่หน
ั มองเย่ว์ก้ย
ุ ปราดหนึง
เย่ว์ก้ย
ุ ก้าวขึนมาพยุงแขนของเหอจังหมิงอย่างกระตือรือร้น
ทันที “นายท่านเขย ให้บา่ วช่วยพยุงท่านนังเถอะเจ้าค่ะ” ไม่
สนว่าเหอจังหมิงจะยอมหรือไม่ มือก็ออกแรงกดเขาลงไปบน
เก้าอีแล้ว
เสินเวยยกมุมปาก ส่งแววตาชืนชมให้เย่ว์ก้ย
ุ พยุงท่านอา
ของนางให้นงลงอี
ั กฝงด้วยตัวเอง
ในใจเหอจังหมิงก็ยงไม่
ิ ยน ิ ยอม แต่กลับทําได้เพียงปนหน้า
ยิม “หลานน้อยมีเรืองอะไรก็รบ
ี พูดเถอะ พูดเสร็จแล้ว
พวกเราสองคนไปดืมสุรากัน”
เสินเวยยังคงยิม ถอนหายใจในใจ หนังหน้าท่าอาเขยไม่แท้
ผูน
้ หนาจริ
ี งๆ! ยางอายยังมีอยูห
่ รือไม่ ในเมือเจ้าไม่เห็น
โลงศพไม่หลังนาตา เช่นนันข้าก็จะเปดโลงศพให้เจ้าเห็น
ข้างในเอง!
“ก่อนหน้านีหลานสีจัดการเถียนอีเหนียง ท่านอาเขยยัง
ตําหนิทีข้าไม่ไว้หน้าท่าน ท่านอาเขย ข้าไว้หน้าท่าน แต่ท่าน
ไว้หน้าจวนจงอู่โหวของพวกข้าบ้างหรือไม่” เสินเวยถามด้วย
ความตังใจมากเปนพิเศษ “คุณหนูสงู ส่งของจวนโหวทีใหญ่
โตโอ่อ่า อาศัยอยูใ่ นเรือนโทรมๆ เช่นนีหรือ ไม่ใช่บอกว่า
ท่านอาข้าพักรักษาตัวหรอกหรือ อยูใ่ นสถานทีแย่ๆ แบบนี
จะรักษาโรคอะไรได้ อีเหนียงคนหนึง คนต้อยตาทีซือมาได้
ด้วยเงินไม่กีตําลึง กินดีอยูด
่ ียงกว่
ิ าภรรยาเอก นีคือสิงทีท่าน
อาเขยเรียกว่าไว้หน้าจวนจงอู่โหวของพวกข้าหรือ”
เสินเวยถามอย่างต่อเนือง
สีหน้าเหอจังหมิงเดียวเขียวเดียวม่วง เสียใจอย่างยิงทีเหตุใด
ตนถึงดึงดันจะตามมา ตามมาเพืออะไร หาเรืองใส่ตัวหรือ
“ไม่ใช่อย่างนัน ไม่ใช่อย่างนัน…” เหอจังหมิงร้อนใจจนเหงือ
ท่วมศีรษะ แต่กลับพูดเถียงไม่ออกสักคําเดียว ความจริงอยู่
ตรงหน้า ไม่ยอมให้เขาเล่นลิน
“อะไรไม่ใช่ ท่านอาเขยโปรดอนุภรรยาทอดทิงภรรยาเอก
โยนศักดิศรีจวนโหวของพวกข้าทิงเหยียบยาติดพืนแล้วใช่
หรือไม่” เสินเวยกล่าวช้าๆ ชายตามองเหอจังหมิงทีนังไม่ติด
ปราดหนึง กล่าวต่อ “ฟงว่าท่านอาเขยยังคิดจะแต่งญาติ
ผูน
้ อ
้ งให้ตาเฒ่าทีใกล้จะลงโลงเปนภรรยาคนทีสองอีกด้วย
จุ๊ๆ ไม่ใช่ว่าหลานว่าท่าน ท่านไม่สนใจท่านอาก็พอแล้ว แต่
ญาติผน
ู้ อ
้ งเปนบุตรสาวแท้ๆ ของท่าน เหตุใดท่านถึงใจดําได้
ลงคอเช่นนี” เสินเวยไม่อยากไว้หน้าเขาแม้แต่นด
ิ เดียว
สําหรับชายชาติชวเช่
ั นนี ต้องถอดเสือผ้าทีปกคลุมตัวเขา
ออกให้หมด ให้เขาเปลือยกายล่อนจ้อนจึงจะดี
ทว่าเหอจังหมิงกลับไม่คิดเช่นนี “หลานน้อยพูดผิดแล้ว
หลินเจียเอ๋อร์เปนบุตรสาวแท้ๆ ของข้า ข้าจะไม่วางแผนเพือ
นางได้อย่างไร หลินเจียเอ๋อร์แต่งเข้าไปแล้วก็จะได้เปน
ฮูหยินขันสี นีเปนเกียรติมากเพียงใด ผูช
้ ายทีโตหน่อยมีอะไร
ไม่ดี โตหน่อยจึงจะรูจ
้ ักรักผูอ
้ ืน”
“พูดเช่นนีแสดงว่าท่านอาเขยหวังดีต่อญาติผน
ู้ อ
้ งสินะ”
เสินเวยแค่เสียงในใจหนึงครา เห็นชายชาติชวแซ่
ั เหอ
พยักหน้าอย่างมันอกมันใจ นางก็แทบจะโมโหแล้ว “เหตุใด
หลานสีถึงได้ยน
ิ ว่าท่านอาเขยทําเพือปูทางให้ลก
ู ชายคนโต
บุตรอนุภรรยาผูน
้ นเล่
ั า เฮ้อ ท่านอาเขยคิดถึงอนาคตแทน
บุตรชายก็เปนเรืองสมควร เพียงแต่ญาติผน
ู้ อ
้ งเพิงจะอายุ
สิบสาม แต่งเข้าไปแล้วจะดีหรือ หลานสีคิดว่าเถียนอีเหนียง
ผูน
้ นกลั
ั บเปนตัวเลือกทีดี ด้วยอุบายของนางจะต้องมัดใจ
ใต้เท้าเฉวียนผูน
้ นได้
ั แน่ อีกทังลูกชายคนโตผูน
้ นของท่
ั าน
ไม่ใช่ลก
ู ชายแท้ๆ ของนางหรอกหรือ เพืออนาคตของลูกชาย
นางจะต้องพยายามแน่นอน ดีกว่าญาติผน
ู้ อ
้ งทีไม่ยน
ิ ยอม
พร้อมใจ ถึงตอนนันทําเสียเรืองท่านอาเขยขึนมาก็คงจะไม่
งาม” เสินเวยเสนอความคิดเห็นจากใจจริง คนทีอยูต
่ รงนัน
ต่างก็ก้มหน้ากลันหัวเราะ คุณหนูสร้ี ายกาจจริงๆ เหอหลิน
หลินเองก็รูส
้ ก
ึ โล่งใจ สายตาทีมองเสินเวยเลือมใสยิงนัก
[1] พิธป
ี กปน เปนพิธข
ี องเด็กสาวทีมีอายุครบสิบห้าป
เด็กสาวจะรวบมวยผมไว้กลางศีรษะ ผูใ้ หญ่ฝายเด็กสาวจะ
เชิญแขกผูห
้ ญิงมาช่วยปกปนให้เด็กสาว แสดงให้เห็นว่า
เด็กสาวผูน
้ นได้
ั เติบโตเปนผูใ้ หญ่และพร้อมจะออกเรือนแล้ว
ตอนที 192-2 เปดฉากศึกบีบคันครังใหญ่
สีหน้าของเหอจังหมิงไม่ค่อยดีแล้ว แม้จะบอกว่าเปนการ
ซือขายภรรยา แต่ก็ไม่เคยมีหลักการนํามารดาแท้ๆ ของ
บุตรชายคนโตไปให้คนอืน ปากหลานสีผูน
้ ร้ี ายจริงๆ นีไม่
เท่ากับว่าตบหน้าเขาอยูห
่ รือ เขากําลังจะเอ่ยปากก่นด่า ก็ได้
ยินเสียงดังเข้ามาจากหน้าประตู “เด็กเหิมเกริมไร้มารยาท
ทีไหนกัน”
“ท่านแม่ ท่านมาได้อย่างไร” เหอจังหมิงมองเห็นพีสะใภ้
ใหญ่ของเขาประคองแม่เขาเดินเข้ามา ก็ตกใจเล็กน้อยอย่าง
อดไม่ได้
มารดาแซ่เหอปรายตามองลูกชายอย่างไม่พอใจปราดหนึง
ก่อน “คนมากลันแกล้งถึงบ้าน แม่จะไม่มาได้อย่างไร”
เถียนอีเหนียงวิงมาร้องทุกข์ต่อหน้านาง บอกว่าจวนจงอู่โหว
ส่งคนมาแล้ว ไม่พด
ู พราทําเพลงก็ตบหน้านางไปหลายที
มารดาแซ่เหอเห็นใบหน้านางปูดบวมจริงๆ รอยฝามือก็ยงั
ชัดเจนแจ่มแจ้ง จากนันก็คิดได้ว่าตระกูลใหญ่โตมักจะใช้
อํานาจบาตรใหญ่จึงเชือทันที ในใจนางไม่พอใจแล้ว แม้
เถียนอีเหนียงจะเปนอนุภรรยา แต่อย่างไรเสียก็มห
ี ลานชาย
คนโตให้นาง เห็นแก่หลานชายคนโต นางจึงไม่อาจปล่อยให้
เถียนอีเหนียงถูกคนตบเช่นนีได้ ฟงว่าเปนเพียงเด็กหนุม
่ คน
หนึง นางกลับอยากเห็นว่าจวนจงอู่โหวจะน่าเกรงขามมาก
เพียงใดเชียว
“คนผูน
้ คื
ี อคุณชายจวนโหวหรือ หน้าตาก็ดีใช้ได้ แต่เหตุใด
จิตใจถึงโหดเ**้ยมเพียงนัน” แม้ว่ามารดาแซ่เหอจะ
ประหลาดใจเล็กน้อย แต่เมือนึกถึงหน้าบวมๆ ใบนันของ
เถียนอีเหนียง นางก็รูส
้ ก
ึ ว่าเสินเวยหน้าตาน่าเกลียดขึนมา
ทันที
เสินเวยเองก็ไม่โกรธ เพียงแค่กระตุกมุมปาก “คนผูน
้ ก็
ี คือ
แม่เฒ่าของท่านอาใช่หรือไม่ ดูใจดียงนั
ิ ก แต่เหตุใดถึงเปน
คนโง่เขลาเบาปญญาเล่า” เสินเวยตอบกลับเหมือนเดิมไม่
เปลียน “อนุภรรยาผูห
้ นึงไหนเลยจะควรค่าให้คณ
ุ ชาย
โต้เถียงด้วย เพียงแค่เห็นนางไม่รูจ
้ ักกฎระเบียบเกินไป จึง
ชีแนะสักหน่อยก็เท่านันเอง”
มารดาแซ่เหอแทบจะโกรธจนหน้าบิดเบียวแล้ว “ใครบอกว่า
เถียนอีเหนียงไม่รูจ
้ ักกฎระเบียบ เถียนอีเหนียงปฏิบต
ั ิตามกฎ
ระเบียบดี” กินดีอยูด
่ ีก็เพราะเคารพนางก่อน อีกทังยังส่ง
เครืองประดับไปให้บอ
่ ยๆ รูจ
้ ักอ่านสถานการณ์ทีสุด
“อ้อ ข้าก็ว่า ทีแท้แล้วกฎระเบียบจวนตระกูลเหอของ
พวกท่านก็เปนเช่นนีนีเอง! ทิงขว้างฮูหยินภรรยาเอก ยกย่อง
อีเหนียงให้ทําหน้าทีของภรรยาแทน เปนกฎทีดีจริงๆ! เอ๋
เหตุใดกําไลหยกชินนันบนข้อมือแม่เฒ่าถึงได้ค้น
ุ ตาเพียงนี
เล่า อ้อจริงสิ นีไม่ใช่สน
ิ เดิมของท่านอาข้าหรือ ยังมีปน
ทองบนศีรษะของพีสะใหญ่ผน
ู้ อี
ี ก ดูเหมือนว่าจะเปนของ
ท่านอาข้าเหมือนกันนีนา แม่ยายกับพีสะใภ้แบ่งสินเดิมของ
ลูกสะใภ้ พีน้อง ฮ่าๆๆ เปนกฎทีดีจริงๆ! ท่านอาเขย เรืองนี
ใต้เท้าผูต
้ รวจการรูห
้ รือไม่” เสินเวยไม่กลัวหรอก เจ้าพูดมา
ข้าก็ตอกกลับได้ หึ! ดูสว
ิ ่าใครจะกลัว
สีหน้าของเหอจังหมิงปรากฏความหวาดผวาหลายส่วนดัง
คาด เขาเองก็เข้าใจว่าในจวนมีกฎหลายข้อทีไม่ถก
ู ต้อง แต่
เขาก็เพียงแค่ปดบังไม่ให้ผต
ู้ รวจการรูก
้ ็เท่านันเอง
ทว่ามารดาแซ่เหอกลับไม่กลัว นางเปนเพียงหญิงชราใน
ชนบทคนหนึง ไหนเลยจะรูว
้ ่าผูต
้ รวจการทําอะไรได้บา้ ง เห็น
นางกวาดสายตามองลูกสะใภ้รองอย่างเหยียดหยามปราด
หนึง กล่าวอย่างรังเกียจ “ในเมือเสินซือแต่งเข้ามาในตระกูล
เหอของพวกข้า นางก็คือคนในตระกูลพวกข้าแล้ว นับ
ประสาอะไรกับสินเดิมเล่า เคารพแม่ยายให้เครืองประดับไม่
กีชินจะเปนอะไรไป” นางกลับมันอกมันใจอย่างยิง “นาง
แต่งเข้าตระกูลเหอมาสิบกว่าปแล้ว คลอดแค่เด็กผูห
้ ญิงหนึง
คน แม้แต่ลก
ู ผูช
้ ายยังให้พวกข้าไม่ได้ ตระกูลพวกข้าไม่ขบ
ั
นางออกก็เมตตาพอแล้ว” นางไม่พอใจเต็มที
“ขับหรือ ท่านอาข้าผิดกฎเจ็ดขับ[1]ข้อไหนหรือ” เสินเวย
เลิกคิว แววตาเย็นเยียบ
“ไม่มบ
ี ุตร!” มารดาแซ่เหอเอ่ยปากกล่าวทันที
เสินเวยยิมแล้ว “บุตรอนุภรรยาหลายคนนันในจวนไม่ใช่
ลูกชายของท่านอาหรือไร”
“นันไม่ใช่ลก
ู ทีนางคลอด” มารดาแซ่เหอแสยะปากโต้เถียง
นางจ้องมองหลานสาวทีอยูข
่ า้ งๆ เสินหย่า สีหน้าก็ยงรั
ิ งเกียจ
ไปทังใบหน้า
“พวกเขาล้วนเปนลูกของอีเหนียงทังหลายงันหรือ
ท่านอาเขยก็คิดเช่นนีหรือ” เสินเวยมองเหอจังหมิง
อย่างไรเสียเหอจังหมิงก็รบ
ั ราชการมาหลายป มีความรูก
้ ว่า
มารดามาก ปจจุบน
ั บุตรภรรยาหลวงและบุตรอนุภรรยายัง
คงเข้มงวดอย่างยิง บุตรทีอนุภรรยาคลอดเปนนาย แต่
อนุภรรยากลับยังคงเปนบ่าว อย่างมากก็เปนเพียงกึงนาย
ย่อมไม่มส
ี ท
ิ ธิเลียงดูลก
ู ทีตนให้กําเนิด ยิงไม่อาจให้ลก
ู ของตน
เรียกว่าแม่ได้ แม่ของพวกเขามีเพียงฮูหยินภรรยาเอกเท่านัน
ทําลายกฎระเบียบลูกภรรยาหลวงลูกอนุภรรยา หากถูก
ผูต
้ รวจการจับหลักฐานและนําขึนกราบทูลจักรพรรดิ ก็รอ
ถอดถอนตําแหน่งค้นบ้านยึดทรัพย์ได้เลย
เห็นท่าทางอยากพูดแต่พด
ู ไม่ออกเช่นนันของเหอจังหมิง
เสินเวยจะไม่รูค
้ วามคิดในใจเขาได้อย่างไร ก่นด่าด้วยความ
เคียดแค้นหนึงครา แล้วกล่าวทันที “แม่เฒ่า วันนีพวกเรามา
พูดกันอย่างตรงไปตรงมาดีกว่า! จวนสูงศักดิละทิงท่านอากับ
ญาติผน
ู้ อ
้ งแบบนี เช่นนันก็หย่าเถอะ ข้าจะพาท่านอากลับ
เมืองหลวง แม่เฒ่าท่านเห็นบุตรสาวตระกูลใดดีงาม ก็รบ
ี
หมันหมายให้ใต้เท้าเหอเสีย ใต้เท้าเหออายุก็ยงั ไม่มาก ยัง
คล่องแคล่วปราดเปรียวไม่แน่ว่าอาจจะยังมีบุตรภรรยาหลวง
ได้อีกหลายคน”
มารดาแซ่เหอผูน
้ เปนคนที
ี ไม่มค
ี วามรูเ้ ถียงคําไม่ตกฟาก
รบเร้ากับนางต่อไปเช่นนีก็ไม่มป
ี ระโยชน์ เสินเวยขีเกียจจะ
เปลืองนาลายกับนางแล้ว รอท่านอาหย่าแล้วค่อยมาจัดการ
คนชัวตระกูลนี
“หย่าก็หย่า!” เหอจังหมิงกําลังจะบอกว่าข้าไม่เห็นด้วย ก็ถก
ู
แม่ของเขาแย่งพูดแล้ว
มารดาแซ่เหอสนใจข้อเสนอของเสินเวย แม้ว่าลูกชายคนเล็ก
จะมีหลานชายหลายคน แต่ก็เปนบุตรอนุภรรยาทังหมด นาง
คิดว่าไม่เปนไร ไม่สนว่าใครจะให้กําเนิด ต่างก็เปนลูกชาย
ของลูกชายนาง เปนหลานชายของนางเหมือนกัน
แต่เมือได้ยน
ิ ว่าในแวดวงขุนนางมีการลําดับความสําคัญ
อย่างไรเสียบุตรอนุภรรยาก็ไม่สงู ส่งเท่าบุตรภรรยาหลวง
เพือลูกชายแล้วนางก็ยน
ิ ดีจะให้ลก
ู ชายมีบุตรภรรยาหลวง
ในเมือเสินซือให้กําเนิดลูกชายไม่ได้ เช่นนันก็เลิกยึดครอง
ตําแหน่งภรรยาเอก ถอยให้ผอ
ู้ ืนเสีย! ข้อเสนอของเสินเวยก็
ตรงใจนางมิใช่หรือ
“ในเมือแม่เฒ่าเห็นด้วย เช่นนันก็ดีจริงๆ อ้อ นีคือใบสินเดิม
ของท่านอาข้าในตอนแรก พวกท่านลองดู รีบรวบรวม
สินเดิมของท่านอามา ข้าจะนํากลับไปพร้อมกัน” เสินเวย
กล่าวอย่างมีความสุขทีสุด
“อะไรนะ ยังต้องเอาสินเดิมกลับไปด้วยหรือ” นีคือเสียงทีสูง
และดังของมารดาแซ่เหอ “ฝนไปเถอะ!” ของทีเข้ากระเปา
นางแล้วจะยังให้นางคายออกมาได้อย่างไร ไม่มท
ี างเสีย
หรอก ยิงไปกว่านันใจวนล้วนอาศัยสินเดิมของเสินซือ
ประคับประคองไว้ สินเดิมยึดไปแล้ว พวกเขาไม่ต้องกิน
แกลบกันเลยหรือไร ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด
เสินเวยไม่แม้แต่จะสนใจนาง มองเหอจังหมิง “ใต้เท้าเหอ
คงจะไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ หย่ากันแล้ว ยังยึดสินเดิมฝายหญิง
ไว้ไม่ปล่อย หากเรืองนีดังออกไปใต้เท้าเหอจะยังมีหน้าไป
พบเพือนร่วมงานอีกหรือ”
สีหน้าร้อยแปดพันเก้าบนใบหน้าของเหอจังหมิงแปรเปลียน
อย่างรวดเร็ว สูดหายใจเข้าลึกแล้วกล่าว “หลานน้อยไยจะ
ต้องพูดจาข่มขูด
่ ้วยเล่า ว่ากันว่าเปนสามีภรรยากันวันเดียว
ความสัมพันธ์กลับแน่นแฟนไปเนินนาน ข้ากับอาเจ้าอยูก
่ ัน
มาเกือบยีสิบปแล้ว สามีภรรยาแก่เฒ่ามาพูดให้หย่าเปนการ
ทําร้ายความรูส
้ ก
ึ มากเพียงใด ยิงไปกว่านันพวกข้ายังมี
หลินเจียเอ๋อร์ อาเขยรูว
้ ่าเมือก่อนปฏิบต
ั ิตัวไม่ดีต่ออาเจ้า แต่
ตอนนีอาเขยสํานึกผิดแล้ว หลังจากนีจะชดเชยให้พวกนาง
แม่ลก
ู เปนอย่างดี” เปนถึงคนทีทํางานอยูใ่ นแวดวงขุนนาง
ย่อมสามารถปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์
มารดาแซ่เหอได้ยน
ิ คําพูดของลูกชาย ชัวขณะก็ตอบสนอง
กลับมา ตะโกนกล่าวเสียงดัง “ใช่ ไม่หย่าแล้ว ก็แค่ให้นาง
เปนภรรยาเอกเช่นนีต่อไป” เจตนาในคําพูดก็คือสินเดิมไม่
อาจคืนให้เปนอันขาด
เสินเวยหงุดหงิดแล้ว กล่าวอย่างรําคาญใจ “ขออภัยใต้เท้า
เหอ จวนโหวไม่เชือคําสาบานของท่านแล้ว อีกทังการหย่าก็
เปนเจตนาของท่านปูข้า ท่านกับท่านอาจะต้องหย่ากัน”
จากนันจึงหันหน้าถามท่านอานาง “ท่านอาคิดว่าอย่างไร”
เห็นอานางสีหน้าลังเล เสินเวยจึงรีบกล่าว “ท่านไม่ต้องเปน
ห่วงชีวิตหลังจากนี ท่านปูอยูป
่ กปองท่านทุกวัน ท่านปูไม่อยู่
ก็ยงั มีขา้ หลานสี หากข้าเปนอะไรไป ในจวนข้ายังมีนอ
้ งชาย
แม่เดียวกัน” เจตนาในคําพูดก็คือท่านไม่ต้องเปนห่วงชีวิต
หลังหย่าร้างอย่างสินเชิง
เสินหย่ายังคงสองจิตสองใจ ทว่าเหอหลินหลินกลับตัดสินใจ
แล้ว “ขอบคุณญาติผพ
ู้ ยิ
ี งนัก ทําตามทีญาติผพ
ู้ ว่
ี าเถิด
พวกข้าแม่ลก
ู ไม่ขด
ั ขืน” แม่นางอยูใ่ นจวนตระกูลเหอต่อไป
จะต้องไม่มจ
ี ุดจบทีดีแน่นอน ไม่สห
ู้ ย่าแล้วตามญาติผพ
ู้ กลั
ี บ
เมืองหลวง ต่อให้จวนโหวไม่สนใจพวกนาง พวกนางแม่ลก
ู ก็
สามารถใช้ชว
ี ิตทํางานเย็บปกถักร้อยอยูต
่ ่อไปได้
“เช่นนันก็ได้ ว่าตามนีแล้วกัน” เสินเวยพยักหน้า “เย่ว์ก้ย
ุ
เหอฮวา เจ้าสองคนนําคนอยูป
่ รนนิบต
ั ิขา้ งกายท่านอากับ
ญาติผน
ู้ อ
้ งชัวคราว พ่อบ้านรองเจ้านําเด็กรับใช้อยูท
่ ีนี
จัดแจงงานตามคําสังของโหวกูไหน่ไนกับคุณหนูญาติผน
ู้ อ
้ ง
และถือโอกาสเฝาประตูดเู รือนส่งข่าวต่างๆ จวนตระกูลเหอ
แห่งนีข้าอยูไ่ ม่ลงแล้ว โชคดีทีตระกูลพวกเรามีคฤหาสน์หลัง
หนึงอยูใ่ นเมืองอวินเหอพอดี ข้าจะพาคนไปจัดแจงทีพัก
ก่อน” สังเสร็จแล้วเสินเวยก็กําลังจะพาคนเดินออกไปข้าง
นอก
“หยุด ห้ามไป!” มารดาแซ่เหอร้อนใจแล้ว “ขวางพวกเขาไว้
เดียวนี” โชคดีทีนางนําคนรับใช้มาเปนพยานจํานวนมาก ดูส ิ
ตอนนีไม่ใช่ว่ามีประโยชน์แล้วหรือ บนใบหน้ามารดาแซ่เหอ
พอใจยิงนัก
เห็นคนรับใช้สบ
ิ กว่าคนล้อมกรูเข้าไป เสินเวยก็อยากจะ
กลอกตามองฟาจริงๆ สายตามองไปยังมารดาแซ่เหออย่าง
น่าสะพรึงกลัว “แม่เฒ่าหมายความว่าอย่างไร ขวางไม่ให้ไป
งันหรือ เหอะๆ ท่านเองก็ไปสืบข่าวบ้างก็ดี ข้าคุณชายสี
แซ่เสินเปนบุคคลทีเข่นฆ่าไล่ฟนอยูใ่ นกองทัพใหญ่ซเี หลียง
นับหมืนนาย เพียงแค่ทหารซีเหลียงทีตายในมือข้าไม่หนึง
พันศพก็แปดร้อยศพแล้ว บ่าวรับใช้ไม่กีคนแค่นยั
ี งคิดจะ
ขวางข้า น่าขันจริงๆ”
เสินเวยมองมารดาแซ่เหอถอยหลังอย่างหวาดกลัวด้วยความ
พอใจ จากนันจึงมองเหอจังหมิง กล่าวอย่างแฝงความนัย
“แม่เฒ่าไม่รูช
้ อเสี
ื ยงของคุณชายสีแซ่เสิน แต่ใต้เท้าเหอ
น่าจะต้องได้ยน
ิ มาบ้างใช่หรือไม่ ใครก็ได้ แสดงฝมือให้
ใต้เท้าเหอดูหน่อย!”
“คุณชาย คุณชาย ข้าเอง!” เถาฮวาก้าวออกมาทันที ยืนมือ
อย่างรวดเร็วก็หวบ่
ิ าวรับใช้จวนตระกูลเหอทีอยูใ่ กล้นางทีสุด
ขึนมาแล้ว ชูขนเหนื
ึ อศีรษะราวกับลูกไก่แล้วหมุนหลายๆ
รอบ มือเหวียงออก คนก็ลอยไปแล้ว ตกลงไกลอย่างยิง
ฝุนดินฟุงกระจาย
“ไอ๊หยา พีเย่ว์ก้ย
ุ ท่านอย่างมาแย่งข้าสิ!” เถาฮวาเห็นเย่ว์ก้ย
ุ
เดินเข้ามาเช่นกัน ชัวขณะก็รอ
้ นใจแล้ว มือหนึงคว้าคนหนึง
ขึนมาโยนออกไปข้างนอก ได้ยน
ิ เพียงเสียงตุบดังอย่างต่อ
เนือง บ่าวรับใช้จวนตระกูลเหอสิบกว่าคนถูกเถาฮวาโยน
ออกไปหกเจ็ดคนแล้ว ทีเหลืออยูก
่ ็วิงหนีออกไปไกล แต่ละ
คนสีหน้าซีดเผือด
“คุณชาย คุณชาย เถาฮวาเก่งหรือไม่” เถาฮวาเท้าเอวอย่าง
ห้าวหาญ หันหน้าขอคําชมอย่างน่าเอ็นดู
เสินเวยกลันหัวเราะ ชูนวโปงขึ
ิ นมา “เก่ง เถาฮวาของข้าเก่ง
ทีสุดแล้ว”
เมือครูน
่ างสังให้เย่ว์ก้ย
ุ ตบหน้าเถียนอีเหนียงเถาฮวาก็ไม่
พอใจแล้ว นางกล่าว “คุณหนู ท่านควรจะให้ขา้ ไป ข้ารับรอง
ว่าจะตบหญิงตัวเหม็นผูน
้ นไปถึ
ั งกําแพงทิศใต้เลย”
เสินเวยพูดจาดีปลอบนางไปพลาง กล่าวในใจไปพลาง ด้วย
แรงของเจ้า คงจะไม่ใช่แค่ตบคนไปถึงกําแพงทิศใต้ เกรงว่า
จะตบเข้าไปในกําแพงทิศใต้จะขุดก็ขุดไม่ออกกระมัง
“พูดดีๆ ไม่ฟงต้องให้ใช้กําลังบังคับ เฮ้อ เกรงใจมามาก
พอแล้ว ไยจะต้องทําลายมิตรภาพให้ได้ ใช่หรือไม่ ใต้เท้าเหอ
” เสินเวยเชิดคางเบาๆ ท่าทางทะนงตนอย่างถึงทีสุด นําคน
เดินวางท่าออกไปภายใต้สภาพปากอ้าตาค้างของเหอจังหมิง
[1] เจ็ดขับ คือการทีฝายสามีสามารถขับภรรยาออกจากบ้าน
หากมีพฤติกรรมตรงกับข้อใดข้อหนึงในเจ็ดขับ ซึงได้แก่ ไม่
ปรนนิบต
ั ิพอ
่ แม่สามี ไม่มบ
ี ุตร คบชู้ อิจฉาริษยา มีโรคร้าย
แรง พูดมาก และลักขโมย
ตอนที 193-1 สงครามมติมหาชน
ให้ตายเถอะ เทพสังหารนีมาจากไหนกัน! มารดาแซ่เหอตบ
อกแทบจะเปนลมล้มพับไปกับพืน ยังดีทีถูกสะใภ้ใหญ่พยุงไว้
จึงไม่ได้ขายหน้า
สะใภ้ใหญ่ของมารดาแซ่เหอมีแซ่เดิมว่าจาง แต่งเข้าตระกูล
เหอได้ยสิ
ี บปแล้ว มีบุตรชายสามคนบุตรสาวสองคน
บุตรชายสามคนและบุตรสาวคนโตมีครอบครัวหมดแล้ว มี
เพียงลูกสาวคนเล็กซึงอายุเท่าเหอหลินหลินทียังอยูข
่ า้ งกาย
เพราะว่านางมีบุตรชายสามคนให้แก่ตระกูลเหอ ดังนันไม่ว่า
จะเปนบุตรชายคนโตของตระกูลเหอ หรือว่ามารดาแซ่เหอ
ต่างก็ปฏิบต
ั ิต่อนางดีอย่างยิง
เมือครูจ
่ างซือเองก็ตกใจไม่นอ
้ ย แม้จะบอกว่าคนในชนบท
เพียงพูดไม่เข้าหูก็ลงไม้ลงมือมีเยอะถมไป แต่อย่างมากก็แค่
ตบตีเตะต่อย ไหนเลยจะเหมือนคุณชายสีจวนโหวผูน
้ น
ั
เมือครู่ ดาบในมือส่องแสงเย็นวาบ ราวกับว่าวินาทีถัดมาจะ
แทงลงบนร่างนาง ยังมีสาวใช้ตัวเล็กๆ ผอมๆ ผูน
้ น
ั มือข้าง
เดียวก็สามารถโยนชายฉกรรจ์ออกไปได้ โหดเ**้ยมเกินไป
แล้ว
ไม่คิดว่าเบืองหลังน้องสะใภ้ทีแต่ไหนแต่ไรอ่อนแอจะยังมีที
พึงทีใหญ่ถึงเพียงนี นางนึกถึงเครืองประดับและเงินทองที
เอามาจากมือน้องสะใภ้หลายปมานี จากนันจึงนึกถึงร้านค้า
ทีครอบครัวดูแลอยู่ จิตใจก็ตืนตระหนก กังวลว่าคุณชายสี
จวนโหวจะมาคิดบัญชีกับนาง หลังจากนันก็นก
ึ ได้ว่าคุณชาย
สีผูน
้ นบอกว่
ั าจะเอาสินเดิมของน้องสะใภ้กลับไปทังหมด
เช่นนันครอบครัวนางใช่จะต้องเปลียนกลับไปเปนสภาพ
ยากจนอย่างเช่นทีแล้วมาหรือไม่ นีเปนการเฉือนเนือนาง
อย่างแท้จริง
ทําอย่างไร ทําอย่างไรดี จริงสิ ไม่หย่าก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ ขอ
เพียงแค่นอ
้ งสามีกับน้องสะใภ้หย่ากันไม่สาํ เร็จ สินเดิมของ
น้องสะใภ้ยอ
่ มสามารถรักษาไว้ในจวนตระกูเหอต่อไปได้ อยู่
ในจวนตระกูลเหอต่างอะไรจากอยูใ่ นมือนาง พ่อสามีแม่สามี
รักลูกชายทังสามของบ้านนางมากกว่า มักจะมีเบียเลียงอยู่
เสมอ มิเช่นนันเหตุใดนางจะต้องวิงมาโน้มน้าวยายแก่ทีไม่มี
ความรูเ้ ช่นนีด้วยเล่า
คิดถึงตรงนีนางก็ก้มกระซิบข้างหูแม่สามีหลายประโยค
สีหน้าบนใบหน้ามารดาแซ่เหอก็ลังเลเล็กน้อย จะให้แม่สามี
เช่นนางลดตัวลงมานอบน้อมกับลูกสะใภ้ทีไม่มแ
ี ม้แต่ลก
ู ชาย
นางจะยอมได้อย่างไร
จางซือร้อนใจแล้ว กล่าวเสียงตา “ท่านแม่ คิดถึงสินเดิมของ
น้องสะใภ้ แล้วคิดถึงหลานชายบ้านใหญ่สามคนนันของท่าน
สิ”
คราวนีมารดาแซ่เหอยอมแล้ว หลานชายบ้านใหญ่สามคน
ของนาง หลานชายคนโตฉลาด เรียนหนังสือมาสิบกว่าป
เปนบัณฑิตแล้ว สอบอีกครังก็เปนซิวไฉแล้ว เรียนหนังสือ
ผลาญเงินทีสุด ตอนแรกครอบครัวพวกนางกินน้อยใช้นอ
้ ย
กว่าจะส่งเสียลูกชายคนเล็กออกไปได้ หากไม่มเี งิน อนาคต
ของหลานชายคนโตก็จะล่าช้าออกไป
หลานชายคนรองก็มไี หวพริบตังแต่เล็ก แม้ว่าจะไม่ใช่บุคคล
ทีเรียนหนังสือ แต่กลับมีฝมือในการหาเงิน อายุสบ
ิ สอง
สิบสามปก็ชว
่ ยพ่อเขาดูแลร้านค้า ครังแรกก็ได้เงินไปซือ
ขนมหร่วนเกา[1]บนถนนใหญ่ฝงตะวันตกให้ตัวเองได้แล้ว
หลานคนทีสามก็กตัญ ู ห้าหกขวบก็ตืนแต่เช้ามาเคารพนาง
ตกเย็นเลิกเรียนก็ไปพูดคุยเปนเพือนทีเรือนของตน เด็กดี
เช่นนีกลับสุขภาพไม่ดี ทุกเดือนต้องปวยสักสองครัง ดืมยา
นาขมๆ นันบ่อยยิงกว่ากินข้าวเสียอีก ลําบากยิงนัก
สําหรับหลานชายหลายคนของบ้านลูกชายคนเล็ก หนึงคือ
พวกเขาอายุยงั น้อย มารดาแซ่เหออายุมากแล้ว เลียงเด็กไม่
ไหวแล้ว ลูกชายคนเล็กเองก็ไม่ต้องการให้นางเลียงลูก ดังนัน
จึงไม่ได้มค
ี วามผูกพันระหว่างย่าหลานมากนัก สองคือ
ลูกชายคนเล็กเปนขุนนาง อนาคตในภายหน้าของหลานชาย
หลายคนนีก็ไม่หา่ งไปไหนไกล มารดาแซ่เหอก็ไม่ได้ทก
ุ ข์ใจ
เพียงนันแล้ว ดังนันผูท
้ ีมารดาแซ่เหอเปนห่วงมากทีสุดใน
ตอนนียังคงเปนหลานชายทังสามของลูกชายคนโต
มารดาแซ่เหอเปนแม่เฒ่าในชนบทธรรมดาๆ สายตาสันก็ม ี
เห็นแก่ตัวก็มี แต่กับลูกหลานแล้วยังคงรักใคร่อย่างยิง เพือ
ลูกหลานแล้วจะให้นางทิงชีวิตของตัวเองก็ยอม นับประสา
อะไรกับการก้มหัวให้ลก
ู สะใภ้
“ยังยืนนิงอยูต
่ รงนันทําไม ยังไม่รบ
ี ไปเตรียมอาหารมา
ปรนนิบต
ั ิผช
ู้ ายของตัวเองอีก เปนภรรยาของผูอ
้ ืน ไหนเลย
จะแอบอู้เช่นเจ้าได้ ละทิงบุรุษสงบจิตใจตนเองมาสิบกว่าป
แล้ว ตอนนีหลินเจียเอ๋อร์ก็โตแล้ว เจ้าไม่อาจดือรันต่อไปได้
แล้ว อย่าได้เปนเช่นนีอีกเลย อีกประเดียวก็จัดระเบียบเรือน
ใหญ่นเสี
ี ยหน่อย คืนนีผูช
้ ายของเจ้าจะย้ายเข้ามา!” มารดา
แซ่เหอวางมาดแม่สามี ท่าทางชีแนะจากใจจริง
เสินหย่าแทบจะปากอ้าตาค้างอยูแ
่ ล้ว คําพูดกลับดําเปนขาว
นีมารดาแซ่เหอพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคําจริงๆ หากเปนคน
ทีแยกแยะความจริงไม่ได้ ยังคิดจริงๆ ว่าเสินหย่าวางมาด
คุณหนูสงู ศักดิจวนโหวดูถก
ู ครอบครัวสามี
เย่ว์ก้ย
ุ เหอฮวาและคนรับใช้จวนโหวทีอยูใ่ นเรือนก็ประหลาด
ใจกับความหน้าหนาของมารดาแซ่เหอ หากไม่ใช่ว่าได้เห็น
นางบันดาลโทสะก่อนหน้านีกับตา ยังคิดจริงๆ ว่านางเปน
แม่สามีทีใจดีมเี หตุมผ
ี ลผูห
้ นึง
ทว่าเสินหย่ากลับไม่ขยับ จางซือเห็นท่าทีก็รบ
ี ก้าวขึนไป
โน้มน้าว “น้องสะใภ้ สองสามีภรรยาทะเลาะกันชัวครูห
่ ว
ั ถึง
หมอนก็คืนดีแล้ว ไหนเลยจะต้องหย่าเพียงเพราะเรือง
เล็กน้อย น้องสามีก็สาํ นึกผิดแล้ว เจ้าจงใจกว้างให้อภัยเขา
ครังนีสักครังเถอะ! ไม่เห็นแก่หน้าภิกษุสงฆ์ก็เห็นแก่หน้า
พระพุทธรูปหน่อย พวกเจ้ายังมีหลินเจียเอ๋อร์อยูม
่ ใิ ช่หรือ
หากหย่าแล้ว เจ้าจะให้หลินเจียเอ๋อร์ทําอย่างไร ภายหลังจะ
เอ่ยเรืองบ้านสามีอีกได้อย่างไร”
ความลังเลวาบผ่านหน้าของเสินหย่า ชัวขณะจางซือก็รูส
้ ก
ึ มี
ช่องทาง กําลังจะโน้มน้าวต่อ เหอฮวาก็มาขวางอยูข
่ า้ งหน้า
นางเงียบๆ “สะใภ้ใหญ่ท่านนี ท่านพูดเช่นนีข้าไม่ยน
ิ ดีแล้ว
กูไหน่ไนของพวกเราเปนคุณหนูสงู ศักดิจวนจงอู่โหว ลูกสาว
ของนางย่อมเปนคุณหนูญาติผน
ู้ อ
้ งของจวนโหว ด้วยสถานะ
ครอบครัวของจวนจงอู่โหว ย่อมไม่ต้องกังวลเรืองคู่สมรสทีดี
แน่นอน เหตุใดจึงเอ่ยถึงบ้านสามีไม่ได้เล่า”
หลายปมานีทีกุมสินเดิมและเงินทองของเสินหย่าไว้ จางซือ
ย่อมไม่ใช่สตรีชนบททีหวาดกลัวไม่มค
ี วามรูเ้ ช่นนันอีก
เพราะว่ามีลก
ู ชายเคียงข้างกายจึงมีความมันใจพอ นางกลับ
เคยใช้ชว
ี ิตอันสุขสบายเรียกบ่าวเรียกคนใช้มาก่อน จู่ๆ
ตอนนีกลับถูกสาวใช้คนหนึงตอกกลับไปบนหน้า ในใจกลับ
ไม่พอใจเล็กน้อย แต่แม้ว่าจะไม่พอใจนางก็ไม่กล้าแสดงออก
มา เด็กผูห
้ ญิงตัวผอมบางผูน
้ นเมื
ั อครูย
่ งั ร้ายกาจเพียงนัน
ใครจะรูว
้ ่าคนผูน
้ ตรงหน้
ี าจะมีความสามารถอะไรอีก
จางซือหน้าเหยเก บ่นพึมพํา “ข้าหวังดีต่างหาก! สุภาษิตว่า
ไว้พงั ศาลเจ้าสิบหลังยังดีกว่าพังชีวิตคู่ น้องสะใภ้ก็อายุเท่านี
แล้ว ซายังไม่มบ
ี ุตรชาย หย่าแล้วจะมีบนปลายที
ั ดีอะไรได้
ไม่แน่ว่าผ่านไปอีกร้อยปก็อาจจะไม่มแ
ี ม้แต่คนจะให้พก
ั พิง”
เหอหลินหลินโมโหแล้ว “ท่านปาสะใภ้ใหญ่โปรดระวังคําพูด
ด้วย!”
“ระวังคําพูดอะไรกัน ผูใ้ หญ่พด
ู อยูเ่ ด็กเช่นเจ้าพูดแทรกได้
ด้วยหรือ เหล่าเอ้อร์ เจ้าเองก็สนใจลูกสาวคนนีของเจ้าบ้าง
ตระกูลเหอของพวกเราไม่มล
ี ก
ู สาวทีไร้มารยาทเช่นนี”
มารดาแซ่เหอไม่พอใจขึนมาในชัวขณะ ขูล
่ ก
ู ชายให้สงสอน
ั
หลานสาว “ยิงไปกว่านันปาสะใภ้ใหญ่ของเจ้าก็พด
ู ความจริง
ละแวกแปดหมูบ
่ า้ นสิบลีเจ้าก็ลองไปถามดู สตรีหย่าร้าง
ทีไหนมีบนปลายที
ั ดีบา้ ง”
นางมองลูกสะใภ้ทีสีหน้าเรียบเฉยด้วยแววตาดูถก
ู ปราดหนึง
กล่าว “คําพูดไม่ดีเจ้าก็วางไว้ตรงนีก่อน หากเจ้ายังยืนกราน
จะหย่าจริงๆ จวนโหวของพวกเจ้ามีอํานาจมาก ตระกูลเหอ
ของพวกเราทําอะไรไม่ได้ แต่หลินเจียเอ๋อร์เปนบุตรสาว
ตระกูลเหอ กลับต้องอยูท
่ ีตระกูลเหอ เจ้าพาไปด้วยไม่ได้
เรืองนีต่อให้จะไปถึงตําหนักจินหลวนให้ฝาบาทตัดสินข้าก็ไม่
กลัว”
นางมองลูกสะใภ้หน้าเปลียนสีด้วยความพอใจอย่างยิง นาง
เชิดหน้าสูงในใจก็ยงพอใจ
ิ “ควรจะทําอย่างไรเจ้าก็คิดให้ดีๆ
แล้วกัน เหล่าเอ้อร์ พวกเราไปกัน” จางซือรีบก้าวขึนไปพยุง
แขนของแม่สามี
เหอจังหมิงมองเสินหย่าด้วยสีหน้าสับสน ถอนหายใจหนึง
คราแล้วกล่าว “หย่าเอ๋อร์ ไยจะต้องทําถึงเพียงนี เจ้าสงบ
จิตใจค่อยๆ คิดดูเถอะ” เห็นเสินหย่าไม่สนใจเขา จึงทําได้
เพียงจากไปพร้อมความผิดหวัง
“กูไหน่ไน ตอนนีใกล้จะถึงเวลาอาหารแล้ว พวกเรามีกฎ
อย่างไร รอครัวในจวนส่งมา หรือว่าเตรียมกันเอง” เหอฮวา
หันหน้าถาม
พ่อบ้านรองก็ก้าวเข้ามาประสานมือทําความเคารพ
“กูไหน่ไน บ่าวคารวะท่าน ท่านยังจําบ่าวได้หรือไม่ บ่าวคิด
ว่า พวกเราเตรียมกับข้าวเองดีกว่าขอรับ” ทะเลาะกับจวน
ตระกูลเหอจนเปนเช่นนีแล้ว กินอาหารทีจวนตระกูลเหอส่ง
มาอีก เขาไหนเลยจะวางใจได้ ในมือมีเงิน ยังจะต้องกลุ้มใจ
ว่าจะไม่มข
ี า้ วให้กินอีกหรือ
เสินหย่าหรีตามองพ่อบ้านรองผูน
้ อย่
ี างละเอียด ครูใ่ หญ่จึง
กล่าว “ทีแท้แล้วก็เปนเจ้า อันหราน พ่อเจ้าสบายดีหรือไม่”
พ่อบ้านรองทีชืออันหรานผูน
้ ี เสินหย่ายังคงจําได้เล็กน้อย
พ่อเขาเปนผูม
้ ค
ี วามสามารถข้างกายบิดาของนาง อีกทังยัง
เคยรับดาบแทนบิดาของนางอีกด้วย ตอนทีนางยังไม่
ออกเรือนอันหรานผูน
้ ยั
ี งเปนเด็กรับใช้ทีวิงซุกซนอยูเ่ ลย
ชัวพริบตาเขาก็กลายเปนพ่อบ้านรองของจวนตระกูลโหว
แล้ว เสือผ้าบนร่างยังมีราศีอย่างยิง แล้วตัวเองเล่า ตกตาจน
เทียบไม่ได้แม้แต่บา่ วคนหนึง! บนใบหน้าของเสินหย่าเผย
สีหน้างงงวย ในใจมักจะรูส
้ ก
ึ อึดอัด ยังคงเปนเหอหลินหลินที
ดึงแขนเสือพยายามจะเรียกสติเขากลับมา รีบกล่าว “เอา
ตามทีเจ้าว่าเถอะ”
“พ่อบ่าวสุขภาพยังแข็งแรงอยูข
่ อรับ ขอบคุณกูไหน่ไนทีเปน
ห่วง” พ่อบ้านรองกล่าวด้วยความเคารพ คิดครูห
่ นึงแล้วจึง
เสริมหนึงประโยค “กูไหน่ไนโปรดวางใจ มีคณ
ุ ชายสีของ
พวกเราอยู่ ท่านไม่ต้องกังวลสิงใดทังนัน” จากนันจึงพา
เด็กรับใช้ไปเตรียมการ
[1] ขนมหร่วนเกา ขนมโบราณเนือนุม
่ ทําจากแปงปรุงกลิน
ด้วยใบสาระแหน่ โรยหน้าด้วยงาและนาตาลทรายเล็กน้อย
ตอนที 193-2 สงครามมติมหาชน
ส่วนเย่ว์ก้ย
ุ เหอฮวาก็นาํ สาวใช้ไปวิงวุ่นทํางานอยูก
่ ่อนแล้ว
จัดโต๊ะจัดเก้าอี เช็ดฝุนบนข้าวของเครืองใช้ คล่องแคล่ว
ปราดเปรียว เหอหลินหลินมองแล้วก็อ้าปากค้างอย่างตก
ตะลึง ทีแท้แล้วคนรับใช้ในจวนโหวก็เปนเช่นนี! คนรับใช้ใน
จวนตระกูลเหอเทียบกับพวกนางแล้ว ถูกโยนออกไปแปด
สายถนนทันที
เสินหย่าถอนหายใจหนึงครา พาลูกสาวเข้ามาในห้องด้านใน
ด้วยสีหน้าสับสน นางกําลังจะเรียกหลินเจียเอ๋อร์ ก็ถก
ู
เหอหลินหลินตัดบท “ท่านแม่ คงไม่ใช่ว่าท่านไม่อยากหย่า
หรอกนะ จวนตระกูลเหอกับท่านพ่อควรค่าให้ท่านอาลัย
อาวรณ์เพียงนันหรือไร” คําถามนีนางอยากถามตังแต่ทีอยู่
ข้างนอกเมือครูแ
่ ล้ว
“หลินเจียเอ๋อร์ เจ้าไม่เข้าใจ” เสินหย่ามองใบหน้าเล็กๆ ที
ไร้เดียงสาของลูกสาว ในใจเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู
เหอหลินหลินร้อนใจแล้ว “ท่านแม่ ท่านอย่าได้ทําเรืองโง่ๆ
เชียวนะ! ท่านย่ากับท่านปาสะใภ้ใหญ่หลอกท่าน ตอนนี
พวกนางพูดจาดี นันก็เพราะว่าญาติผพ
ู้ สี
ี มาหนุนหลังให้
พวกเรา เมือญาติผพ
ู้ ไป
ี ยังไม่รูว
้ ่าพวกนางจะทรมานท่าน
อย่างไร ท่านอย่าได้ตกหลุมพรางเปนอันขาด!”
เห็นท่าทางร้อนใจของลูกสาว หัวใจของเสินหย่าก็อบอุ่น นาง
ลูบใบหน้ารูปไข่ของลูกสาวแล้วกล่าว “หลินเจียเอ๋อร์ จวน
ตระกูลเหอแห่งนี รวมถึงพ่อเจ้า แม่เลิกอาลัยอาวรณ์ณม
์ า
นานแล้ว แต่แม่ไม่วางใจเจ้า หากแม่กับพ่อเจ้าหย่าร้าง พ่อ
เจ้าคงจะไม่ให้แม่พาเจ้ากลับไปด้วยกันเปนแน่ เจ้าเปน
แก้วตาดวงใจของแม่ แม่ไหนเลยจะทิงเจ้าลง” เพือลูกสาว
แล้วนางยอมตายได้ ไหนเลยจะยอมทิงลูกสาวให้อยูใ่ นจวน
ตระกูลเหอเพียงคนเดียวเล่า
ทว่าเหอหลินหลินกลับส่ายหน้าอย่างสุดชีวิต “ท่านแม่ ไม่
เอาๆ ลูกไม่อยากให้ท่านเสียสละเช่นนี หากไม่หย่า พวกเรา
แม่ลก
ู อยูท
่ ีจวนตระกูลเหอต่อไปไม่ชา้ ไม่เร็วก็ต้องตาย ท่าน
ยังมองไม่เห็นความทะเยอทะยานของเถียนอีเหนียงหรือ
ญาติผพ
ู้ สั
ี งสอนนางแล้ว นางจะยอมวางมือหรือ เมือญาติ
ผูพ
้ ไป
ี นางจะไม่ระบายอารมณ์กับพวกเราแทนหรือ”
นางหยุดครูห
่ นึงจึงกล่าวต่อ “ท่านเองก็ได้ยน
ิ ญาติผพ
ู้ กล่
ี าว
แล้ว เรืองหย่าเปนเจตนาของท่านตา หากท่านไม่ปฏิบต
ั ิตาม
ท่านตาก็จะผิดหวังต่อท่านอย่างยิง หลังจากนีก็ขเกี
ี ยจจะ
สนใจท่านแล้ว เช่นนันพวกเราก็จะไร้ซงที
ึ พึงต้องยอมให้คน
กดขีแล้วจริงๆ”
“แต่แม่ทิงหลินเจียเอ๋อร์ไม่ลง!” เสินหย่ายังคงไม่ยน
ิ ยอม
ต่อให้จะต้องใช้ชว
ี ิตลําบากนางก็ไม่กลัว ขอเพียงแค่ได้อยู่
ข้างกายลูกสาวก็พอ
“ท่านแม่ เหตุใดท่านถึงไม่เข้าใจ” เหอหลินหลินยิงร้อนใจ
แล้ว ขึนเสียงสูงอย่างอดไม่ได้ “ขอเพียงแค่ท่านมีชว
ี ิตทีดีใน
จวนโหว ต่อให้ลก
ู จะต้องอยูใ่ นจวนตระกูลเหอ พวกเขาก็ไม่
กล้าปฏิบต
ั ิไม่ดีต่อข้า ยิงไปกว่านันลูกคิดว่าญาติผพ
ู้ มี
ี
จุดประสงค์ ไม่แน่ว่าอาจจะคิดหาวิธพ
ี าลูกกลับเมืองหลวงไป
พร้อมกันไว้แล้ว”
“จริงหรือ” ดวงตาของเสินหย่าเปนประกายในชัวขณะ หาก
สามารถพาหลินเจียเอ๋อร์กลับไปพร้อมกันได้ นางจะยังลังเล
อะไรอีก รีบหย่าแล้วกลับเมืองหลวงโดยเร็วทีสุด
เหอหลินหลินหยุดชะงัก นางเพียงแค่พด
ู ออกไปเช่นนี ไหน
เลยจะรูว
้ ่าญาติผพ
ู้ มี
ี วิธห
ี รือไม่
ในตอนนีเองก็ได้ยน
ิ เพียงเสียงๆ หนึงดังขึนทีหน้าประตู
“จริงเจ้าค่ะ”
เสินหย่าสองแม่ลก
ู หันหน้ากลับไปมองพร้อมกัน เห็นเพียง
สาวใช้ทีพูดก่อนหน้านียืนอยูห
่ น้าประตูหอ
้ งด้านใน
เสินหย่าสองแม่ลก
ู สนทนาโดนไม่ได้ปดประตู เหอฮวาทํางาน
อยูข
่ า้ งนอกย่อมต้องได้ยน
ิ บทสนทนาของพวกนาง อดไม่ได้
พูดแทรกเข้ามา
อย่างไรเสียนางก็พด
ู แทรกแล้ว เหอฮวาก็ถือโอกาสเดินเข้า
มาเสีย โค้งตัวทําความเคารพเสินหย่ากับเหอหลินหลิน กล่าว
“กูไหน่ไนกับคุณหนูญาติผน
ู้ อ
้ งโปรดให้อภัยบ่าวทีบุม
่ บ่าม
คุณหนูญาติผน
ู้ อ
้ งกล่าวถูกแล้ว ตอนทีมาคุณชายของ
พวกเราตังใจจะพากูไหน่ไนกับคุณหนูญาติผน
ู้ อ
้ งกลับ
เมืองหลวงพร้อมกัน ทังยังยืนยันกับนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวว่าจะ
ปฏิบต
ั ิหน้าทีจนสําเร็จ ส่วนคุณชายจะใช้วิธใี ด บ่าวก็ไม่
ทราบแล้ว แต่บา่ วรูว
้ ่าขอเพียงแค่เปนเรืองทีคุณชายคิดจะ
ทําก็ไม่มท
ี างทําไม่ได้ ดังนันกูไหน่ไนท่านโปรดวางใจเถอะ”
หลังจากนันก็เปลียนเรือง “พ่อบ้านรองสังคนไปเชิญหมอมา
แล้ว อีกประเดียวจะเข้ามาดูบาดแผลบนลําคอของกูไหน่ไน
เจ้าค่ะ”
เสินหย่าสองแม่ลก
ู ได้ยน
ิ ดังนันก็ดีใจแล้ว “ท่านแม่ ท่าน
ได้ยน
ิ แล้วใช่หรือไม่ ญาติผพ
ู้ บอกว่
ี าจะไม่ทิงพวกเราไม่สนใจ
พวกเรา ท่านจะต้องยืนหยัดความตังใจของท่านไว้ อย่าได้ถก
ู
พวกนางพูดจาดีเกลียกล่อมไม่กีประโยคก็เปลียนความตังใจ
”
เสินหย่าพยักหน้าไม่หยุด “แม่จะจําไว้ แม่จะจําไว้” ส่วน
ประโยคหลังของเหอฮวานางไม่ได้ฟงเข้าหูอย่างสินเชิง
เหอหลินหลินยังคงไม่วางใจ คนเลวเมือหมดทางถอยอะไรก็
ล้วนทําได้ทังนัน ใครจะรูว
้ ่าพวกนางจะเล่นลูกไม้อะไรออก
มาอีก นางอยูข
่ า้ งกายแม่นางไม่ให้หา่ งจะดีกว่า
เหอจังหมิงทีออกจากเรือนเสินหย่าแล้วก็ตําหนิแม่เขาอย่าง
ไม่พอใจเล็กน้อย “ท่านแม่ เหตุใดท่านถึงรับปากหย่าตาม
อําเภอใจเช่นนันเล่า หากตัดความสัมพันธ์กับตระกูลนีแล้ว
งานการของลูกก็คงจะจบสินเปนแน่” เขารูต
้ ัวเองดี ด้วย
อํานาจของจวนจงอู่โหวในตอนนีจะจัดการนายอําเภอเล็กๆ
เช่นเขา เพียงแค่กระดิกนิวมือเล็กน้อยก็ได้แล้ว กระทังไม่
ต้องให้จวนโหวลงมือเอง เพียงแค่จวนโหวเผยเจตนาเงียบๆ
ก็จะมีคนจํานวนมากวิงเข้ามาเหยียบยาเขาไปเลียแข้งเลียขา
จวนโหว
ทว่ามารดาแซ่เหอกลับถลึงตาใส่ “แม่เจ้าไม่ได้โง่ เรืองขัด
อนาคตของเจ้าแม่จะทําได้หรือ เจ้าน่ะ อย่ามองว่าเจ้าเปน
ขุนนาง แม่เปนเพียงยายแก่ชนบททีไม่มค
ี วามรูไ้ ม่มี
ประสบการณ์ แต่ความคิดของผูห
้ ญิงคนนีแม่เข้าใจดีกว่าเจ้า
” นางมองลูกชายคนเล็กทีทําให้นางภูมใิ จอย่างถึงทีสุดผูน
้ ี
กล่าวจากใจจริง “ผูห
้ ญิงน่ะ ไม่ว่าปากจะร้ายเพียงใด เพียง
แค่มบ
ี ุตรเปนแม่คน จิตใจก็อ่อนลงแล้ว ภรรยาของเจ้าก็มี
หลินเจียเอ๋อร์หนึงคน นางทิงหลินเจียเอ๋อร์ไม่ลงหรอก วางใจ
เถอะ นางจะต้องไม่กล้าหย่า ขอเพียงแค่พวกเรารับมือกับ
คุณชายสีผูน
้ นให้
ั ได้ก็พอแล้ว”
เหอจังหมิงคล้ายกําลังครุน
่ คิด รูส
้ ก
ึ ว่าแม่เขาพูดถูกจริงๆ
จิตใจก็วางลงช้าๆ “แต่คณ
ุ ชายสีแซ่เสินผูน
้ นไหนเลยจะ
ั
รับมือได้ง่ายๆ ไม่อ่อนข้อ ดือรัน เมือครูท
่ ่านเองก็เห็นแล้ว”
จนถึงตอนนีเขาก็ยงั หวาดกลัวอยู่ คุณชายสีแซ่เสินผูน
้ น
ั
สุภาพมีมารยาท แต่เหตุใดการกระทําถึงได้โหดเ**้ยมดุรา้ ย
เพียงนันเล่า
มารดาแซ่เหอทนมองท่าทางหวาดผวาเช่นนีของลูกชายไม่
ได้ “สองมือหรือจะสูส
้ มื
ี อ อย่างไรเสียอวินโจวก็เปนเขตแดน
ของเจ้ามิใช่หรือ ยังกลัวว่าจะจัดการเด็กคนหนึงไม่ได้อีกหรือ
” ลูกชายคนนีดีหมดทุกอย่าง ฉลาดเรียนหนังสือเก่ง เพียง
แต่ขขลาด
ี ตอนเด็กๆ พอฟามืดก็ไม่กล้าไปเข้าห้องนา
คนเดียว ทุกครังต้องให้พชายเขาพาไป
ี
หยุดครูห
่ นึงนางจึงกล่าวต่อ “แม่ตริตรองดีแล้ว เรืองนีขึนอยู่
กับภรรยาของเจ้า ขอเพียงแค่นางไม่ยอมหย่า คุณชายสีแซ่
เสินผูน
้ นจะยื
ั นกรานตัดสินใจแทนนางได้อยูห
่ รือ ช่วงนีเจ้าก็
โน้มน้าวภรรยาเจ้าสักหน่อย ผูห
้ ญิงน่ะ ใจอ่อนเสมอ เรือง
รักๆ ใคร่ๆ ทีเรือนหลังเจ้าก็ทําให้นอ
้ ยหน่อย ดูสช
ิ ว
่ งนีเจ้า
ผอมหมดแล้ว”
เหอจังหมิงถูกมารดาพูดเช่นนีต่อหน้าก็อึดอัดอย่างอดไม่ได้
“ดูท่านแม่พด
ู เข้า ลูกเปนคนไม่รูล
้ ําดับความสําคัญหรือ
อย่างไร ช่วงนีลูกงานยุง่ เหนือยก็ต้องมีบา้ ง” ไม่ต้องเอ่ยถึง
เถียนอีเหนียง เพียงแค่อีเหนียงอีกสองคนก็รูจ
้ ักอ่าน
สถานการณ์ ทุกครังต่างก็ทําให้เขาพอใจได้ หากบุรุษหมด
ความสนใจแม้แต่เรืองนี เช่นนันชีวิตจะยังมีความน่าสนใจ
อะไรอีก
มารดาแซ่เหอชายตามองลูกชายปราดหนึง กลับไม่พด
ู อะไร
แล้ว นางคิดมาดีอย่างยิง เดาความกังวลของเสินหย่าได้ แต่
นางไหนเลยจะรูว
้ ่าเสินเวยเตรียมการมาก่อน ตอนทีนางรูว
้ ่า
เสินหย่าใจแข็งต้องการหย่า ไม่สนแม้กระทังลูกสาว นางก็
โมโหจนแทบจะหายใจไม่ออก ตบต้นขาสาปแช่งเสินหย่า
บ้างก็ว่าโหดร้าย บ้างก็ว่าใจเ**้ยม บ้างก็ว่าชัวช้า…และคําไม่
น่าฟงอีกมากมาย
หลังจากนันท่าทีของจวนตระกูเหอก็เปลียนไปแล้ว ไม่เอ่ยถึง
เรืองหย่าแม้แต่ประโยคเดียว แต่ยน
ื กรานจะขับภรรยาให้ได้
เพราะเหตุใดน่ะหรือ หย่าต้องคืนสินเดิมฝายหญิง แต่ขบ
ั
ภรรยากลับไม่ต้อง
ขับภรรยาก็ขบ
ั ภรรยา อย่างไรเสียก็มเี หตุผลทีเหมาะสมมิใช่
หรือ จวนตระกูลเหอกลับแย้งไม่ได้ จึงยืนกรานจะขับภรรยา
อย่างเปนนัยๆ
เสินเวยโมโหแล้ว คนพวกนีหน้าไม่อายไม่มจ
ี ุดสินสุดจริงๆ
ขับภรรยาอะไร ก็แค่ต้องการยึดครองสินเดิมของท่านน้ามิใช่
หรือ เหอะๆ ในเมือเจ้าต้องการให้ได้ เช่นนันข้าก็ยงไม่
ิ ให้
ดวงตาเสินเวยกะพริบวาบ เกิดความคิดดีๆ แล้ว
วันทีสอง เด็กขอทานทัวทังเมืองอวินโจวต่างก็รอ
้ งเพลง
พืนบ้านทีแปลกใหม่หนึงเพลง เนือหามีดังนี ‘น่าแปลก
น่าแปลก น่าแปลกจริง อวินโจวมีนายอําเภอเหอผูห
้ นึง
นายอําเภอเหอ เรือนหลังวุ่น ยกอีเหนียงผูเ้ ปนม้าซูบผอมขึน
หิง ทิงขว้างฮูหยินภรรยาเอก สิบกว่าป สิบกว่าป ภรรยาเอก
เดิมเปนบุตรสาวจวนโหว ลดตัวลงแต่งงานกับนายอําเภอ
ใครจะรูน
้ ายอําเภอใจโลเลแล้วยังลืมบุญคุณ แย่งสินเดิม
ภรรยาเอกทรยศ ภรรยาเอกหญิงอ่อนแอผูน
้ า่ สงสาร ขังอยู่
ในเรือนหลังเจ็บปวดจนพูดไม่ออก ทนลําบากเลียงดูลก
ู สาว
กลับถูกหญิงชัววางแผนลวง เดิมเปนหญิงงามเยาว์วัย ถูกกด
จนผมหงอกหัวขาว เจ้าว่าเปนเพราะเหตุใด เพราะเหตุใด
ภรรยาเอกร้องไห้จนเหือดแห้ง ทําอย่างไรเมือใจสามีเย็นชา
ดังเหล็ก ภรรยาเอกจนใจไปผูกคอตาย ดวงแข็งจึงยังรอดอยู่
…’
เพลงพืนบ้านติดปาก ภาพลักษณ์สดใสซายังเปดเผย
เรืองราวของคุณหนูผส
ู้ งู ศักดิกับชายชัวผูล
้ ืมบุญคุณผูห
้ นึงที
ดวงชะตาไม่ราบรืน เพราะว่าแพร่กระจายเปนวงกว้าง ไม่ถึง
ครึงวัน ในเมืองอวินเหอตังแต่ขุนนางสูงส่งจนถึงคนต้อยตา
ทีสุดต่างก็รูจ
้ ักเพลงพืนบ้านบทนีแล้ว ในเหลาสุรา ในโรง
นาชา ข้างถนนใหญ่ ผูค
้ นล้วนแต่ถกเถียงถึงเพลงพืนบ้านบท
นีอย่างให้ความสนอกสนใจ สายตาต่างก็มองไปยังประตูที
ว่าการอําเภอรางๆ
ไอ๊หยา ไม่คิดว่านายอําเภอจะเปนคนแบบนี เหตุใดก่อนหน้า
นีถึงมองไม่ออกเลยเล่า
ได้ยน
ิ เรืองนันแล้วใช่หรือไม่ เจ้าว่าเหตุใดจิตใจคนผูน
้ ถึ
ี งได้
ดําขนาดนีเล่า กินของคนอืน ดืมของคนอืน ใช้ของคนอืน พอ
ก้าวหน้าแล้วก็ทรมานเขาแทบตาย นียังเปนคนอยูห
่ รือไม่
นีๆๆ อะไรคือม้าซูบผอม ม้าทีผอมๆ แบบนันน่ะหรือ หรือว่า
คนผูน
้ เปนคนโง่
ี ชอบอะไรแบบนีงันหรือ
ชูๆ
่ ๆ ไม่มค
ี วามรูส
้ ท
ิ ่า ม้าผอมๆ อะไรกัน ข้าจะบอกเจ้าให้
ไม่ใช่มา้ เปนคน คนซูบผอม!
ทุกๆ วันเสินเวยพาคนออกไปเดินเล่น ทุกครังทีได้ยน
ิ
ข้อความเหล่านีนางก็อดมีความสุขไม่ได้ ไอ๊หยา สติปญญา
ของทุกคนนีดูถก
ู ไม่ได้จริงๆ เหอจังหมิง นายอําเภอเหอ
ใต้เท้าเหอ ท่านค่อยๆ รับของขวัญชินใหญ่ทีข้าส่งให้ท่าน
เถอะ ใช่รูส
้ ก
ึ สบายอารมณ์อย่างยิงหรือไม่
เพลงพืนบ้านทีมีพลังสังหารแข็งกล้าบทนีย่อมเปนฝมือของ
เสินเวยเอง นางเองก็เปนคนทีเคยได้รบ
ั การศึกษาชันสูง แต่ง
เพลงติดปากเพลงหนึงไม่ใช่เปนเรืองง่ายดายหรอกหรือ เคย
เห็นสงครามนาลายนับไม่ถ้วนในวงการบันเทิงยุคปจจุบน
ั
เสินเวยรูถ
้ ึงพลังของมติมหาชนเปนอย่างดี ในเมือพวกเจ้า
หน้าไม่อายขนาดนัน เช่นนันข้าก็จะเปดฉากสงคราม
มติมหาชนกับพวกเจ้าก่อน เจ้าก็คอยประคองร่างเล็กๆ ที
บอบบางนันของเจ้าให้ได้แล้วกัน
กว่าเหอจังหมิงจะรูเ้ รืองนีก็ตกบ่ายแล้ว เหตุใดเขาถึงรูช
้ า้
เช่นนีน่ะหรือ ไม่ใช่มค
ี ําพูดหรือว่า ไม่ว่าเรืองใดก็ตามคนต้น
เรืองมักจะเปนคนสุดท้ายทีรูห
้ รอกหรือ
และผิดทีปกติแล้วเหอจังหมิงประพฤติตัวไม่ถก
ู มักจะคิดว่า
ตนเปนผูร้ ูผ
้ ม
ู้ ค
ี วามสามารถ แม้แต่ขุนนางชันสูงเขายังไม่
ยอมก้มหัวให้ จะผูกมิตรแท้ในทีทํางานได้หรือไร ดังนันเมือ
เพือนร่วมงานทังหลายได้ยน
ิ เพลงพืนบ้านบทนี ต่างก็มอง
เขาเปนตัวตลกอยูเ่ งียบๆ ไม่มใี ครเล่าให้เขาฟงเลยแม้แต่คน
เดียว
ท้ายทีสุดยังเปนพีใหญ่เขาทีวิงมาบอกเรืองนีกับเขา เขาโมโห
แทบตาย เส้นเลือดดําบนดําคอปูดนูน ดวงตาถลึงจนแดงไป
ด้วยโลหิต ไม่ต้องคิดเขาก็รูว
้ ่าเรืองนีเปนฝมือของใคร แต่ใน
มือเขาไม่มห
ี ลักฐาน
“โธ่เอ๊ย เสียหน้าบรรพบุรุษหมดแล้ว เหล่าเอ้อร์เจ้ายังรอ
อะไรอีก รีบไปจัดการเสีย!” มารดาแซ่เหอรูเ้ รืองนีแล้วก็อาย
จนไม่กล้าแม้แต่จะออกจากบ้าน
ใบหน้าของเหอจังหมิงเหยเก จัดการหรือ พูดเหมือนง่าย
ห้ามปากประชาชนนันยากยิงกว่าห้ามสายนาไม่ให้ไหล
ประชาชนทัวทังเมืองอวินเหอ ไหนเลยจะหยุดได้ เขาคงไม่
อาจฆ่าคนทังหมดได้กระมัง
ตอนที่ 194-1 ฉีกหน้าอย่างต่อเนื่อง
เสิ่นหย่าเองก็ได้ยินเพลงพื้นบ้านที่ดังไปทัว่ เมืองบทนี้แล้วเช่นกัน
นางไม่ได้ดีใจเหมือนกับอวิน๋ หรงเสี่ยวจวี๋ ความรู้สึกของเสิ่นหย่า
ซับซ้อนมากเป็นพิเศษ แม้เพลงพื้นบ้านบทนี้จะเปิดโปงความชั่วร้าย
ของเหอจังหมิง วางนางอยู่ในตำแหน่งที่น่าสงสารน่าเห็นใจ แต่นางก็
ยอมที่จะไม่ต้องเป็นคนที่น่าสงสารน่าเห็นใจเช่นนี้
นางเองก็รู้ว่าการที่นางหย่าส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของลูกสาว แต่
ตอนนี้นางไม่สนใจเรื่องมากมายเพียงนั้นแล้ว นางเองก็ไม่คิดจะให้
ลูกสาวแต่งเข้าตระกูลสูงศักดิ์ มีจวนโหวค้ำจุนอยู่ตรงนัน้ ลูกสาวก็
น่าจะแต่งงานกับบัณฑิตที่กำลังจะก้าวหน้าได้กระมัง ดีกว่าไปเป็นฮู
หยินขั้นสี่นนั่ มาก ตอนนี้นางคิดอยากจะพาลูกสาวหนีไปจากถ้ำสัตว์
ร้ายนี้เต็มทนแล้ว
เหอจังหมิงบุกเข้ามาในเรือนของเสิ่นหย่าด้วยความโมโหเดือดดาล ชี้
หน้าเสิ่นหย่าแล้วกล่าวอย่างกระหืดกระหอบ “เจ้า เจ้า รีบให้
หลานชายคนเก่งผู้นนั้ ของเจ้าวางมือเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่
เกรงใจ” เขาเอ่ยวาจาข่มขู่
เสิ่นหย่าสบสายตาของเหอจังหมิงอย่างไร้กังวล นางมั่นใจว่าด้วย
นิสัยห่วงศักดิ์ศรีของเขาจะต้องเล่าเรื่องเพลงพื้นบ้านไม่ได้แน่ นาง
ชนะแล้วจริงๆ แต่ในใจของเสิ่นหย่ากลับไม่มีความรูส้ ึกดีใจในชัย
ชนะแม้แต่นิดเดียว ชายผู้ที่นางเคยสุขใจผู้นี้ เหตุใดถึงเปลี่ยนไปเป็น
คนที่น่ารังเกียจอย่างเช่นทุกวันนี้ บางทีเขาอาจจะเป็นแบบนีม้ าโดย
ตลอด แต่ตนมองเห็นไม่ชัดก็เท่านั้นเอง เสิ่นหย่าทอดถอนใจไม่หยุด
บางทีสายตาของนางอาจจะใสซื่อเกินไป เหอจังหมิงหงุดหงิดอย่าง
ถึงที่สุดแล้ว “ข้าไม่สนว่าเจ้าจะไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้ ไปบอก
หลานชายคนดีผู้นนั้ ของเจ้าเสีย เล่นละครหน้าไม่อายเหล่านีใ้ ห้น้อย
หน่อย แค่ข่าวลือเล็กน้อยคิดว่าจะโจมตีข้าได้หรือ ฝันไปเถอะ! คิด
ยั่วโมโหข้าหรือ เหอะๆ!” ในแววตาเขามีประกายดุร้ายแวบผ่าน
เมื่อถูกบ่าวเอ่ยเสียดสี เหอจังหมิงก็โกรธจนเบื้องหน้าดำมืดไปหมด
หากไม่ใช่ว่าเด็กรับใช้ที่ตามเขามาพยุงเขาไว้ก็คงจะล้มลงไปเป็นแน่
เหอจังหมิงออกมาจากเรือนของเสิ่นหย่าแล้วก็ไปที่เรือนของเถียนอี๋
เหนียง เถียนอี๋เหนียงได้ยินคำรายงานของสาวใช้ก็ออกมาต้อนรับแต่
ไกล ความกระตือรือร้นทั่วทั้งใบหน้าทำให้เหอจังหมิงรู้สึกสบายใจ
อย่างยิ่ง ไฟโกรธเต็มอกในเรือนของเสิ่นหย่าก็ลดลงครึ่งหนึ่ง เขาคว้า
มือของเถียนอี๋เหนียง กล่าวเสียงอ่อน “เหตุใดถึงไม่สวมเสื้อเพิ่ม
อากาศยังหนาวอยู่เลย ร่างกายเจ้าอ่อนแอ ต้องระวังหน่อย”
มุมปากเถียนอี๋เหนียงเผยรอยยิม้ ชดช้อย กล่าวเสียงนุ่ม “ไม่ใช่ว่าข้า
อยากเจอนายท่านเร็วๆ หรือไร”
เหอจังหมิงอ่านความเป็นห่วงในคำพูดของเถียนอี๋เหนียงได้ ในใจก็
อบอุ่น ถอนหายใจ “ยังคงเป็นเถียนอี๋เหนียงที่รู้ร้อนรู้หนาว” เขาเงย
หน้าขึ้นตรงกับใบหน้าที่ยังบวมเล็กน้อยใบนั้นของเถียนอี๋เหนียงพอดี
ไม่ได้รังเกียจ แต่ในใจกลับรูส้ ึกผิด “ยังเจ็บอยู่หรือไม่” มือของเขา
ลูบใบหน้าของนางเบาๆ
เถียนอี๋เหนียงถอนหายใจโล่งอก นางรู้ว่านายท่านชอบความสวย
ความงาม กลัวว่านายท่านจะรังเกียจที่หน้าของนางน่าเกลียด นาง
ทุ่มแรงรักษาอย่างยิ่งแล้ว แต่มอื แรงของสาวใช้ผู้นั้นมากอย่างยิ่ง
ไหนเลยจะหายบวมได้เร็วเพียงนั้น ต่อให้ใช้ผงไข่มุกที่ดีที่สุดก็ยังคง
ปกปิดไม่ได้
แววตาเหอจังหมิงมีบางอย่ากะพริบผ่านอย่างรวดเร็ว ทว่าหลังจาก
นั้นกลับถอนหายใจ “หากฮูหยินมีสติปัญญาเช่นเจ้าก็ดี” เขากอด
เถียนอี๋เหนียงด้วยความสงสาร ในใจก็ยิ่งไม่พอใจเสิ่นหย่า เสิ่นเวย
และจวนจงอู่โหวมากขึ้น
ใช้อำนาจระรานคน เหอะ คอยดูเถอะ ต้องมีสักวันหนึ่งที่ข้าจะ
เหยียบจวนจงอู่โหวให้จมดิน
เถียนอี๋เหนียงพูดประโยคนี้โดยมีเจตนาหยั่งเชิง ข่าวลือตามท้อง
ถนนบอกว่านางมีฐานะเป็นม้าซูบผอมทำให้นางกลัวแทบตาย นาง
ไม่แน่ใจว่าคนทีป่ ล่อยข่าวลือแต่งขึ้นมั่วๆ หรือว่าหาสืบหาข้อมูลของ
นางเจอแล้วจริงๆ ดังนัน้ นางจึงอยากดูว่านายท่านมีท่าทีต่อเรื่องนี้
อย่างไร
เหอจังหมิงเองก็นึกถึงประโยคนี้ในข่าวลือก็ยิ่งโมโหแล้ว “หลานสี่แซ่
เสิ่นผู้นี้ ไหนเลยจะเป็นคุณชายสูงศักดิ์จวนโหว เป็นคนพาลไม่เอา
ไหนต่างหาก ม้าซูบผอมหญิงนางโลมอะไรกัน เป็นผู้มีความรู้
ต่างหากเล่า” เขาเหอจังหมิงจะเอาม้าซูบผอมมาเป็นอนุภรรยาได้
อย่างไร อีกทั้งเหออี๋เหนียงยังมีคุณธรรมดีงามอ่อนโยน ไหนเลยจะ
เป็นม้าซูบผอมยัว่ สวาทอะไรนัน่
เมื่อเสร็จเรื่อง เถียนอี๋เหนียงก็ซบอยู่ในอ้อมอกของเหอจังหมิงราว
กับแมวหนึ่งตัว กล่าวเสียงเบา “เหตุใดข้าถึงได้ยินว่าฮูหยินจะหย่า
เล่า เฮ้อ พูดจาเกินไป แท้จริงแล้วในใจฮูหยินคิดอย่างไรกันแน่ นาย
ท่านไม่เคยปฏิบัติไม่ดีต่อฮูหยินเสียหน่อย หลายปีเพียงนี้ฮูหยินก็ไม่
สามารถมีบุตรชายให้นายท่านได้ นายท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรมิใช่หรือ มี
แต่ข้า ต้องการให้ฮูหยินสงบจิตใจพักฟื้นร่างกายให้เพียงพอ จึง
รับภาระเหน็ดเหนื่อยกายใจในจวนมาแทนมิใช่หรือ ฮูหยินยังมีอะไร
ไม่พอใจอีก”
หึ ไม่ใช่คนในครอบครัวไม่อาจอยู่บ้านร่วมกันได้จริงๆ ความสามารถ
ในการกลับดำเป็นขาวก็เก่งเช่นเดียวกัน
แต่ว่าคำพูดนี้ของเถียนอี๋เหนียงกลับพูดตรงใจของเหอจังหมิง เสิ่น
ซื่อไม่ออกไปร่วมงานเลี้ยงนอกจวน ทั้งยังไม่จัดการเรื่องในบ้าน ทุก
วันก็ว่างอย่างยิ่ง ยังมีอะไรไม่พอใจอีก
ทว่าเหอจังหมิงกลับถอนหายใจ ก้มหน้าลูบศีรษะนุ่มสลวยของเถียน
อี๋เหนียง “เจ้ามีจิตใจดีงาม แต่ไหนเลยจะง่ายเพียงนั้น หากหย่า สิน
เดิมของฮูหยิน…” แววตาเขากะพริบวาบ ไม่ได้กล่าวต่อ
แต่เถียนอี๋เหนียงกลับเข้าใจแล้ว นางเองก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ต้อง
คืนสินเดิมของฮูหยินกลับไป นางดูแลเรื่องในจวน ไหนเลยจะไม่รู้ว่า
รายได้มากกว่าครึ่งในจวนมาจากร้านค้าสินเดิมของฮูหยิน หากคืน
กลับไปแล้ว นางกับลูกคงไม่ตอ้ งกินแกลบกันเลยหรือ ไม่ ไม่ได้
เด็ดขาด
เหอจังหมิงคิดว่าหาทางแก้ไขปัญหาได้แล้ว จึงขลุกตัวอยู่ในเรือน
เถียนอี๋เหนียงอย่างวางใจไร้กังวล แต่ตอนที่เขาเดินออกจากจวน
ตระกูลเหอไปยังที่ว่าการกลับพบว่าตนดีใจเร็วเกินไป
เมื่อเหอจังหมิงก้าวออกจากจวนตระกูลเหอ ก็เห็นคนจำนวนมาก
ข้างนอกชี้ไม้ชี้มือมาที่เขา เขากระทั่งได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของ
พวกเขา “ดูเร็ว นั่นก็คือนายอำเภอเหอ จุ๊ๆ หน้าตาก็เหมือนคนแต่
การกระทำเหมือนสุนัข ไม่เหมือนคนลืมบุญคุณเหล่านั้นงัน้ หรือ”
อีกคนหนึ่งก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที “หรือว่าบนหน้าคนเลวจะสลัก
อักษรไว้เล่า ว่ากันว่าคนหน้าตาดีมักประพฤติตัวแย่ หน้าตา
นายอำเภอเหอก็ดีจริงๆ นั่นแหละ”
เหอจังหมิงเดินไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย หวังว่าจะเข้าที่ว่าการ
ได้เร็วขึ้น น่าเสียดายที่เรื่องไม่เป็นอย่างที่หวัง ยังเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็
มีขอทานหนึ่งกลุ่มที่ไม่รวู้ ่าโผล่ออกมาจากไหน ตบมือร้องเพลงอยู่
ข้างหลังเขา ร้องเพลงพื้นบ้านบทนั้น โดยเฉพาะประโยค
‘นายอำเภอเหอผู้ลืมบุญคุณ’ ประโยคนั้นร้องดังกังวานมากเป็น
พิเศษ
ใบหน้าของเหอจังหมิงดำแล้ว ไม่ต้องให้เขาสั่ง ผู้ติดตามข้างกายเขา
ก็ไล่เด็กขอทานออกไปเอง “ออกไป รีบออกไป อยากกินข้าวแดง
หรือไร”
เหอจังหมิงแบกร่างจนตรอกกลับจวน เด็กขอทานที่วิ่งไปไกลฝั่งนี้
กลับกำลังรับเงินทองแดงอย่างมีความสุข แต่ละคนได้ยี่สบิ กว่า
เหรียญ ซื้อหมั่นโถวได้ไม่น้อย เด็กขอทานทั้งหลายดีใจอย่างยิ่ง พา
กันรับปากว่าจะจับตามองจวนตระกูลเหอเป็นอย่างดี
เหอจังหมิงกลับไปถึงจวนแล้ว เสิ่นเวยก็พาคนมาถึงหน้าบ้านทันที
ผลักคนรับใช้จวนตระกูลเหอทีข่ วางทางออกไป เดินเข้ามาอย่างไร้
อุปสรรคขัดขวาง
“ใต้เท้าเหอคิดได้แล้วหรือยัง” เสิ่นเวยนั่งลงบนเก้าอี้อย่าง
ตรงไปตรงมา ท่าทางนั้นเหมือนเจ้าของบ้านเสียยิ่งกว่าเจ้าของบ้าน
เอง
เหอจังหมิงกดไฟโกรธในใจไว้ กล่าว “หลานสี่ อย่างไรเสียข้าเองก็
เป็นผู้อาวุโสของเจ้า ก่อนหน้านี้ที่เจ้าโวยวายข้าก็จะไม่ถือสา แต่ไหน
เลยจะมีอย่างที่ชนรุ่นหลังเร่งรัดผู้อาวุโสให้หย่าร้าง หากว่าเรื่องนี้ดัง
ออกไป จวนจงอู่โหวจะยังมีเกียรติอยู่อีกหรือ สตรีในจวนจะแต่ง
ออกเรือนได้หรือ” ทั้งใบหน้าเขาเศร้าโศก ราวกับว่าเสิ่นเวยทำเรื่อง
ผิดมหันต์
เหอะๆ พวกเรามาลองดูกันสิว่าคุณหนูจวนโหวของพวกข้าจะออก
เรือนไม่ได้ หรือว่าลูกชายของชายชั่วแซ่เหอเช่นเจ้าที่จะแต่งภรรยา
ไม่ได้
“ใต้เท้าเหอเองก็ได้ยินเพลงพื้นบ้านบทนั้นแล้วใช่หรือไม่ ในนัน้ มี
ประโยคหนึ่งทีห่ ลานสี่จำได้แม่นอย่างยิ่ง! ยกอี๋เหนียงที่เป็นม้าซูบ
ผอมขึ้นหิ้ง เป็นม้าซูบผอมใช่หรือไม่” เสิ่นเวยยังเอียงหน้าถาม
เถาจือที่ยืนอยู่ข้างหลังนาง
“จุ๊ๆ ใต้เท้าเหอท่านเก่งจริงๆ เป็นถึงขุนนางราชสำนัก ไม่เพียงแต่
เลี้ยงดูม้าซูบผอม ซ้ำยังยกเป็นอนุภรรยาศักดิ์สูงอย่างโจ่งแจ้ง ท่าน
ต้องการจะท้าทายกฎหมายต้ายงหรือ ช่างเป็นผู้กล้าเสียจริงๆ!” เสิ่น
เวยกล่าวชื่นชมเกินจริง
เสิ่นเวยหลุดหัวเราะหนึ่งครา คนที่กลับขาวเป็นดำมาโดยตลอดคือ
พวกท่านไม่ใช่หรือ
“สตรีมีความสามารถงั้นหรือ ยังเป็นคนแก่มีความสามารถที่ยากจน
จนต้องขายลูกสาว สามารถเลีย้ งเถียนอี๋เหนียงจนเป็นเช่นนีไ้ ด้ จะใช้
คำว่าอะไรดีเล่า” เสิ่นเวยขมวดคิ้วท่าทางราวกับลำบากใจอย่างยิ่ง
เถียนอี๋เหนียงที่หลบอยู่ข้างหลังฉากกั้นก็ทนไม่ไหวแล้ว วิ่งออกมา
ร้องห่มร้องไห้มองลูกชายของตน “เฉิงเกอเอ๋อร์ เฉิงเกอเอ๋อร์”
จากนั้นจึงหันไปหาเหอจังหมิง อ้อนวอนไม่หยุด “นายท่าน ท่านช่วย
ลูกของพวกเราเถิด ข้าขอร้องท่านล่ะ ข้ามีลูกชายเพียงคนเดียว ข้า
คุกเข่าขอร้องท่านแล้ว ท่านลงนามเถิด”
โอวหยางไน่หยิบหนังสือหย่าส่งให้เสิ่นเวยด้วยความเคารพ เสิ่นเวยม
องชื่อข้างบนก่อน จากนั้นจึงส่งให้โอวหยางไน่อย่างระมัดระวัง “เอา
ไปให้ที่ว่าการบันทึกคดี”
เสิ่นหย่ามาเร็วอย่างยิ่ง กระทั่งบ่าวรับใช้ที่เสิ่นเวยทิ้งไว้ก่อนหน้านี้ก็
ล้อมตัวนางไว้ กรูเข้ามาเป็นหนึ่งกลุ่มใหญ่ ดูกระตือรือร้นมากเป็น
พิเศษ
เหอจังหมิงมองภรรยาที่เดินเข้ามาช้าๆ ความยากลำบากหลายปี
เพียงนี้ไม่ได้ทำให้นางลืมการอบรมที่ดีงามเลย กระโปรงไม่ขยับปิ่น
ไม่สั่นไหว หลังยืดตรง ฝีเท้าไม่กว้างไม่แคบ ไม่เร็วไม่ช้า สง่าผ่าเผย
แต่ทุกๆ ย่างก้าวเสมือนเหยียบย่ำลงในหัวใจของเหอจังหมิง
ความรู้สึกของเขาซับซ้อนอย่างถึงที่สุด จำต้องยอมรับว่าความ
แตกต่างของภรรยากับเถียนอี๋เหนียงต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆ ใน
ใจเขาประหนึ่งมีมือเล็กๆ ข้างหนึ่งกำลังสะกิดอยู่ ไม่สบายอย่างยิ่ง
“หย่าเอ๋อร์!” เหอจังหมิงเดินขึ้นไปข้างหน้าสองก้าวอย่างไม่รตู้ ัว ยื่น
มือออกไปคิดจะจับแขนของเสิ่นหย่าไว้
ทว่าเสิ่นหย่ากลับหยุดเท้าห่างจากเขาออกไปสองก้าว โค้งคำนับต่ำๆ
“วันนี้เราสองจากลากันด้วยดี หลังจากนี้ไม่มีอะไรให้ต้องเกี่ยวข้อง
กันอีก”
มารดาแซ่เหอหน้าเหยเก กำลังจะเอ่ยปากก็ถูกลูกชายแย่งพูดขึ้น
ก่อน “เจตนาของท่านแม่ย่อมต้องเหมือนข้า หลินเจี่ยเอ๋อร์ รีบมาหา
พ่อเถอะ” ท่าทางจะเป็นจะตายก็ไม่ยอมให้เหอหลินหลินเดินออก
จากจวนตระกูลเหอ
ชั่วพริบตาคฤหาสน์ที่อยู่ในมือกำลังจะลอยออกไป อย่าว่าแต่มารดา
แซ่เหอที่ร้อนใจ แม้แต่ภรรยาบุตรคนโตแซ่เหอกับเถียนอี๋เหนียงที่อุ้ม
ลูกชายมาดูพร้อมกันต่างก็โกรธแค้นเหอจังหมิง นัน่ คือคฤหาสน์
มูลค่าหนึ่งพันตำลึงเชียวนะ แม้จะไม่อยู่อาศัยเพียงปล่อยให้เช่า
หนึ่งปีก็มีรายได้เป็นเงินไม่น้อยแล้ว คนจวนโหวจะรับหลินเจีย่ เอ๋อร์
ไปแค่ไม่กี่วันไม่ใช่หรือ ไม่ได้พดู ว่าจะไม่กลับมาเสียหน่อย มิหนำซ้ำ
ยังไม่ได้ออกจากเมืองอวิ๋นโจวแห่งนี้ เขาจะตื่นตระหนกทำไมกัน
มารดาแซ่เหอเห็นคุณชายจวนตระกูลโหวผู้นนั้ และลูกสะใภ้คนก่อน
ไม่สนใจหลินเจี่ยเอ๋อร์แล้วจริงๆ ก็ยิ่งร้อนใจ ก้าวขึ้นไปสองก้าวดึงเห
อหลินหลินเข้ามา ผลักนางไปอยู่ข้างๆ เสิ่นหย่าแม่ของนาง “เจ้าเด็ก
คนนี้เหตุใดถึงใสซื่อเพียงนั้น พ่อเจ้าพูดออกมาด้วยความโมโหก็ฟัง
ไม่ออกหรือ แยกกันครั้งนี้ไม่รู้วา่ จะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ หลินเจี่ย
เอ๋อร์ผู้น่าสงสาร ไปเถอะ ตามแม่เจ้ากับญาติผู้พี่เจ้าไปเที่ยวเล่นสัก
วันสองวัน อีกสองวันค่อยให้พอ่ เจ้าไปรับเจ้า” นางดึงแขนเสือ้ แสร้ง
เช็ดน้ำตา ท่าทางอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด
เหอหลินหลินยังคงไม่พูดจา คำนับมารดาแซ่เหอแล้วจึงกลับไปยืน
ข้างกายแม่นางด้วยสีหน้าเรียบเฉย มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยเผย
ความเย็นชาหลายส่วน ย่านางไหนเลยจะคิดแทนนาง ชัดเจนว่าตัด
ใจทิ้งคฤหาสน์หลังนั้นไม่ได้ต่างหาก
เพื่อคฤหาสน์หลังนัน้ แล้ว มารดาแซ่เหอเมื่อลงมือทำอะไรแล้วต้อง
ทำให้สุด ฉวยโอกาสตอนที่ลูกชายยังไม่ได้สติกลับมา ‘ไล่’ กลุ่มคน
ของเสิ่นเวยออกไปเสียเลย “ในเมื่อหย่ากันแล้ว เช่นนัน้ คุณชายสี่กับ
แม่หลินเจีย่ เอ๋อร์ก็รีบไปเถอะ เหล่าเอ้อร์เขาลำบากใจ พวกเจ้าก็
อย่าได้อยู่ที่นี่ให้เขาเห็นหน้าเลย”
กว่าเหอจังหมิงจะได้สติกลับมากลุ่มของเสิ่นเวยก็เหลือเพียงแต่เงา
แล้ว เขาไต่ถามแม่เขาอย่างไม่พอใจ “ท่านแม่ ท่านปล่อยหลินเจี่ย
เอ๋อร์ไปได้อย่างไร” ไม่จับหลินเจี่ยเอ๋อร์ไว้ในมือในใจเขามักจะรู้สึก
ไม่ปลอดภัย
สีหน้าเหอจังหมิงแข็งทื่อ เอ่ยถึงเงินทองเขาเองก็ยิ่งไม่มีความมั่นใจ
อย่างมาก แต่เขากังวลยิ่งกว่าหากเสิ่นซื่อแอบพาหลินเจี่ยเอ๋อร์กลับ
เมืองหลวงขึ้นมาจะทำอย่างไร
มารดาแซ่เหอเห็นท่าทีก็ไม่โมโหแล้ว กล่าวด้วยคำชี้แนะจากใจจริง
“เหล่าเอ้อร์ หลินเจี่ยเอ๋อร์เพียงแค่ไปคฤหาสน์ เจ้ากังวลอะไร
อย่างไรเสียเจ้าเองก็เป็นนายอำเภอ อวิ๋นเหอแห่งนี้พวกเราคุ้นเคยดี
ยิ่งกว่าพวกเขามิใช่หรือ แม่ว่า หลินเจีย่ เอ๋อร์ตามไปสิดี หากเสิ่นซื่อ
ใจร้ายไม่สนใจหลินเจีย่ เอ๋อร์จริงๆ พวกเราก็คงจะไม่ได้อะไรเลยมิใช่
หรือ ตอนนี้คอยกระตุ้นนางทุกวันๆ นางยังจะใจร้ายได้ลงคออีกหรือ
อย่างน้อยก็ต้องวางแผนอนาคตให้หลินเจี่ยเอ๋อร์บ้าง หลินเจีย่ เอ๋อร์
ได้ผลประโยชน์ ก็เท่ากับพวกเราได้รับผลประโยชน์เช่นกันมิใช่หรือ”
ในใจมารดาแซ่เหอพอใจ ชื่นชมภรรยาลูกชายคนโตที่เชื่อฟังกตัญญู
แม้ว่านางจะเป็นหญิงชราในชนบท แต่กลับแต่งงานกับสามีที่ป่วย
ออดแอด ดังนั้นนางจึงมีอำนาจตัดสินใจในตระกูลเหอ สิ่งที่นา่ พอใจ
ที่สุดในชีวิตของนางก็คือการตัดสินใจส่งบุตรชายคนเล็กไปเรียน
หนังสือ ตอนแรกเพื่อนบ้านต่างก็หัวเราะเยาะที่นางใฝ่สูง ดูสิว่า
ตอนนี้นางกลายเป็นแม่ของใต้เท้านายอำเภอแล้วมิใช่หรือ ซ้ำยังใช้
ชีวิตที่ดีมีบ่าวให้เรียกใช้อีกด้วย
นึกถึงตรงนี้นางก็กล่าวต่อ “พวกเราไม่ใช่ว่ายังต้องคืนสินเดิมอีกหรือ
มีหลินเจีย่ เอ๋อร์ลดความตึงเครียดอยู่ตรงกลาง พวกเขาจะยังบีบ
บังคับเจ้าจนหมดหนทางได้อีกหรือ”
มารดาแซ่เหอไม่คิดจะคืนสินเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่มีแม้แต่ประโยค
เดียว ทั้งหมดล้วนใช้หมดแล้ว พวกเขาจะทำอะไรนางได้อีก
ก่อนหน้านี้เหอจังหมิงยังคงลังเล เมื่อได้ยินเหตุผลแล้วเขาก็ผอ่ น
คลายลง ใช่แล้ว อย่างไรเสียเขาก็เป็นบิดาของหลินเจี่ยเอ๋อร์ หลิน
เจี่ยเอ๋อร์มีความสัมพันธ์อันดีกบั บ้านฝั่งมารดา หากเห็นแก่หลินเจี่ย
เอ๋อร์ก็ต้องไว้หน้าตนบ้างใช่หรือไม่
เหอจังหมิงกับมารดาแซ่เหอคิดไว้ดียิ่งนัก ทว่าพวกเขากลับคิดไม่ถึง
ว่าเสิ่นเวยจะเป็นคนที่ไม่ไว้หน้าคนอื่น จากมุมมองของเสิ่นเวย ต่างก็
หย่ากันแล้ว เช่นนั้นย่อมต้องเอาของของข้าที่กินเข้าไปคายออกมา
ให้หมด เอาของของข้าคืนกลับมาให้ข้า ไว้หน้าหรือ นั่นเป็นสิง่ ใดกัน
เสิ่นเวยไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ตอนที่ 195-2 จับแยกเข้าคุก
วันที่สอง คนทั้งหมดในจวนตระกูลเหอเห็นชายร่างกำยำชุดดำ
เหมือนกันทั้งหมดหลายสิบคนนี้ต่างก็ตะลึงงันแล้ว นี่…นี่จะมาทำ
อะไรกัน ค้นบ้านหรือ
“แม่เฒ่าเหอเชิญเถิด!” แม่นมมั่วก้าวไปหามารดาแซ่เหอช้าๆ
พ่อบ้านรองฝั่งนั้นเองก็เดินไปหาเหอจังหมิง “ใต้เท้าเหอ นี่คือใบ
รายการสินเดิมในตอนแรกของกูไหน่ไนของพวกเรา ฝ่ายราชการก็มี
ข้อมูลสำรอง ท่านจะอ่านสักหน่อยหรือไม่”
สินเดิมของเสิ่นหย่าเหอจังหมิงย่อมเคยเห็นแล้ว ตอนนั้นเขายังตก
ตะลึงในความร่ำรวยของจวนจงอู่โหว เพียงแค่บุตรสาวอนุภรรยายัง
มีสินเดิมเยอะถึงเพียงนี้ ยังเคยแอบดีใจกับตัวเอง
ทว่าตอนนี้เผชิญหน้ากับใบรายการสินเดิมที่พ่อบ้านรองส่งเข้ามานี้
เขาจะรับก็ไม่ได้ ไม่รับก็ไม่ได้ กล่าวจากใจจริง เขาเป็นบัณฑิต เรียก
ตัวเองว่าเป็นสุภาพบุรุษ ก็ไม่อยากครอบครองสินเดิมของภรรยาที่
หย่ากันแล้ว แต่จะให้เขาคืนกลับไป ในใจเขาก็ไม่ยินยอมอย่างถึง
ที่สุด ต่อให้เขาจะไม่ชำนาญงานในจวนนักแต่ก็รู้ว่าหากไม่มีสนิ เดิม
ของเสิ่นซื่อประคับประคอง จวนตระกูลเหอก็จะไม่เหลืออะไรเลย
มารดาแซ่เหอมองแม่นมมั่วที่เดินเข้ามาหานาง ราวกับเห็นผีร้าย
ถอยหลังไปพลางตะโกนไปพลาง “สินเดิมอะไร ไม่มี ไม่มีสินเดิม!
เสิ่นซื่อแต่งเข้ามาจะยี่สิบปีแล้ว เพราะนางจะกินรังนกวันนี้ พรุ่งนี้จะ
ตุ๋นอุ้งตีนหมีใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ต่อให้จะมีกองเงินกองทองก็ใช้หมดไป
นานแล้ว” จะให้คืนสินเดิมเช่นนั้นก็คงต้องเฉือนเนื้อนางอย่างไม่ต้อง
สงสัย นางจะยอมได้อย่างไร
แม่นมมั่วกล่าว “ตอนแรกกูไหน่ไนของพวกเราแต่งเข้ามามีขบวน
สินสอดยาวสิบลี้ เพียงแค่ร้านค้าที่ได้กำไรดีก็มีห้าหกแห่งแล้ว เพียง
แค่กำไรของร้านค้าห้าหกแห่งก็เพียงพอให้กูไหน่ไนของพวกเรากิน
อุ้งตีนหมีรังนกทุกวันก็ใช้ไม่หมด แม่เฒ่าเหอหมายความว่าจะไม่
ยอมคืนสินเดิมหรือ”
สีหน้ามารดาแซ่เหอเปลี่ยนแล้ว มองแม่นมมั่วด้วยความตื่นตัวราว
กับป้องกันตัวจากคนร้าย ปากตะคอกกล่าว “ร้านค้าห้าหกร้านอะไร
กัน ข้าไม่เคยเห็น ครอบครัวของพวกข้าไม่มีสินเดิมของเสิ่นซื่อ เจ้า
ออกไป อย่ามาบ้านพวกข้า ออกไป ออกไป”
เสิ่นเวยไหนเลยจะไม่รู้ความละโมบของคนแซ่เหอสองแม่ลูก มุมปาก
เผยรอยยิ้มเหยียดหยาม ใบหน้าที่งามราวกับหยกก็เย็นเยียบลง “ดู
ท่าแล้วจะพูดดีๆ ไม่ฟัง ต้องใช้กำลังบังคับ ยังรออะไรอีก ขนไป!”
เสิ่นเวยโบกมือ ชายกำยำชุดดำก็กรูเข้าไปในเรือนราวกับเสือหิว
“พวกเจ้าทำอะไร ทำอะไร ออกไป ออกไป ห้ามเข้ามา” มารดาแซ่
เหอร้องเสียงแหลมโถมตัวเข้าไปขวาง แต่นางไหนเลยจะขวางอยู่
กลับถูกชายกำยำหนึ่งคนในนัน้ ถือโอกาสผลักออกไปหนึ่งครา ล้มนั่ง
ลงบนพื้น
สีหน้าของเหอจังหมิงเองก็เปลี่ยนไปอย่างยิ่ง เดินเข้าไปหลายก้าว
พยุงแม่ของเขาขึ้น สายตาที่ดุรา้ ยสาดยิงไปยังเสิ่นเวย “พวกเจ้าบุก
รุกบ้านคนอื่นโดยพลการ ข้าจะยื่นสาน์สกราบทูลจักรพรรดิ จวนจง
อู่โหวใช้อำนาจระรานคน ข้าจะต้องหาที่ฟ้องร้อง”
เสิ่นเวยหัวเราะเยาะหนึ่งครา “บ้านคนอื่นหรือ ใต้เท้าเหอ นี่คือจวน
ขุนนาง! เหตุใดถึงวุ่นวายจนเป็นเช่นนี้ท่านรู้ดีอยู่แก่ใจ หากท่านยอม
มอบสินเดิมออกมาโดยดี ข้าก็จะพาคนไปทันที แต่น่าเสียดายที่ท่าน
ตัดใจไม่ได้ เช่นนั้นข้าก็ทำได้เพียงไปเอาเอง เอาของที่เป็นของข้าไป
ไม่ใช่เป็นสัจธรรมอันถูกต้องแล้วหรือ”
ต่อให้ข้าจะใช้อำนาจระรานผู้อื่นแล้วเจ้าจะทำไม นั่นก็เพราะว่าข้ามี
อำนาจ เจ้าคอยดูข้าไว้แล้วกัน!
ยังจะยื่นสาส์นกราบทูลจักรพรรดิอีกงั้นหรือ นายอำเภอเล็กๆ คน
หนึ่งยังเพ้อฝันว่าโอรสสวรรค์จะรับฟัง รับราชการมาเกือบยี่สิบปียัง
ไร้เดียงสาเช่นนี้ มิน่าเล่าถึงเลื่อนขั้นไม่ได้เสียที
การเคลื่อนไหวของชายชุดดำเร็วอย่างยิ่ง พวกเขาต่างก็เป็นคนที่เสิ่น
เวยใช้เงินจ้างมา เดิมก็จ่ายเงินไปแพง บวกกับชื่อเสียงอันโด่งดังของ
จวนจงอู่โหว ย่อมต้องเชื่อฟังอย่างถึงที่สุด อีกทั้งยังเป็นการยึดสิน
เดิมคืนจากนายอำเภอแซ่เหอในข่าวลือ ตอนนี้ในเมืองอวิ๋นโจวมีใคร
บ้างที่ไม่รู้ว่านายอำเภอแซ่เหอเป็นคนต่ำช้าหน้าไม่อายที่อาศัยฮู
หยินสร้างอำนาจแต่กลับโปรดปรานอนุภรรยาทอดทิ้งภรรยาเอก ไม่
ต้องสนว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร ในใจล้วนแต่เหยียดหยามเขา ลง
มือขึ้นมาย่อมไร้ความเมตตา
ทุกอย่างที่บันทึกลงในใบรายการสินเดิมต่างก็ขนไปหมดแล้ว เครื่อง
เรือนขนาดใหญ่เหล่านั้นที่ขนไปไม่สะดวก เช่นนั้นก็ทบุ ทำลายเป็น
ฟืนเสีย ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเสียเปรียบให้กบั คนต้อยต่ำหน้าไม่อาย
ได้ ในขั้นตอนการขนย้ายสินเดิม พวกเขายังไม่ระมัดระวังทำของพัง
ไปไม่น้อย
มารดาแซ่เหอเจ็บใจอย่างถึงที่สุด วิ่งพุ่งไปหาเสิ่นเวยราวกับคนบ้า
“เจ้าคนโฉดชั่ว ข้าจะสู้กับเจ้า”
แม้แต่ชายเสื้อของเสิ่นเวยยังแตะไม่ได้ถึงก็ถูกเถาฮวาคว้าแขนแล้ว
พับไปด้านหลังจับตัวมาไว้ข้างๆ มารดาแซ่เหอเจ็บจนกรีดร้องโอด
โอย
“เจ้า หลานสี่แซ่เสิ่นเจ้ารีบปล่อยแม่ข้าเดี๋ยวนี้!” เหอจังหมิงมองเสิ่น
เวยด้วยความโมโห พยายามจะพุ่งเข้ามา มีโอวหยางไน่ผู้คุ้มกันที่
มีวรยุทธ์สูงส่งผูน้ ี้อยู่ เหอจังหมิงย่อมทำได้แค่เพียงร้อนใจจนกระทืบ
เท้าอยู่กับที่ “หากแม่ข้าเป็นอะไรไป ข้าเอาเรื่องเจ้าแน่” แม้ว่าเขา
จะทำอะไรไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่กลับเป็นลูกกตัญญู กตัญญูตอ่
บุพการีอย่างถึงที่สุด
ชายกำยำชุดดำที่ถือ**บเครื่องประดับอีกฝั่งหนึ่งไว้หวั เราะเยาะหนึ่ง
ครา “ของของเจ้าอะไรกัน นี่คือสินเดิมของกูไหน่ไนจวนโหว” จุ๊ๆๆ
หน้าไม่อายเสียจริงๆ แม้แต่สนิ เดิมของน้องสะใภ้ก็ยังย้ายมาไว้ใน
ห้องตน เหตุใดถึงได้มีคนแบบนี้อยู่ได้นะ
**บเครื่องประดับย่อมตกลงในมือของชายกำยำชุดดำ สะใภ้ใหญ่
ตระกูลเหอปวดใจจนกรีดร้องเสียงดัง ละสายตาไปเห็นแม่สามีกับ
น้องสามีถูกจับอยู่ข้างๆ ชั่วขณะก็ตื่นกลัวขึ้นมา “อย่า อย่าตีข้า ข้า
ไม่รู้อะไรทั้งนั้น เรื่องทั้งหมดพวกเขาเป็นคนทำ อย่าจับข้า อย่าจับ
ข้า” นางหันหน้ากำลังจะวิ่งกลับไป แต่กลับไม่ทนั ระวังล้มลงกับพื้น
สองมือกุมศีรษะขดตัวอยู่บนพื้นด้วยความหวาดกลัวไม่กล้าลุกขึ้นยืน
ไม่แปลกที่สะใภ้ใหญ่จะหวาดกลัวเช่นนี้ เพราะว่าปกติแล้วน้องสามี
เป็นนายอำเภอ นางเดินออกไปข้างนอกภรรยาพ่อค้าจำนวนมาก
เคารพนาง มอบของดีๆ ให้นาง เวลานานเข้านางก็ยิ่งรู้สึกว่าน้อง
สามีคือฮ่องเต้ท้องถิ่นของอวิ๋นโจวแห่งนี้ แต่ใครจะรูว้ ่าน้องสามีขุน
นางที่สูงส่งในใจนางตอนนี้กลับถูกคนจับไว้ข้างๆ นางจะไม่
หวาดกลัวตื่นตระหนกได้อย่างไร
ไม่นานเจ้านายคนอื่นๆ ในจวนตระกูลเหอต่างก็วิ่งเข้ามาด้วยสภาพ
จนตรอก พวกเขาไหนเลยจะเคยเห็นเหตุการณ์โดนค้นบ้านเช่นนี้
ต่างก็ทำตัวไม่ถูกเช่นเดียวกับสะใภ้ใหญ่ตระกูลเหอ กระวนกระวาย
ใจประหนึ่งวิหคตื่นเกาทัณฑ์
ประสิทธิภาพของเหล่าชายกำยำชุดดำยังคงสูงอย่างยิ่ง เพียงแค่หนึ่ง
ชั่วยามก็เก็บกวาดสินเดิมทั้งหมดของเสิ่นหย่าเรียบร้อยแล้ว เสิ่นเวย
ใช้พัดพับชี้ไปที่เหอจังหมิง “ใต้เท้าเหอ ขุนเขามิแปรเปลี่ยน สายน้ำ
มิไหลย้อนกลับ ข้าขอตัวลา ท่านระวังตัวไว้ให้ดีล่ะ!” นางยิ้มอย่าง
แปลกประหลาดให้เหอจังหมิง พาคนยกสินเดิมเรียงแถวยาวเหยียด
ออกจากจวนตระกูลเหอ
จากนั้นนางจึงมองภายในห้องที่ถูกค้นจนกระเจิดกระเจิง ของมูลค่า
เล็กน้อยล้วนหายไปแล้ว แม้แต่โต๊ะน้ำชาที่ทำจากไม้หวงฮวาหลี (ไม้
พะยูงหอม) ตัวนั้น เก้าอี้ไม้หยาง (ไม้ทิวลิป) ที่เหลืออยู่ไม่กี่ตวั ก็ล้ม
ระเนระนาดอยู่บนพื้น จบแล้ว จบหมดแล้ว สมบัติทนี่ างเก็บมาทั้ง
ชีวิตหมดแล้ว ชีวิตหลังจากนี้จะผ่านไปอย่างไร มารดาแซ่เหอร้องไห้
ขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ไม่เพียงแต่เรือนมารดาแซ่เหอที่เป็นเช่นนี้ เรือนของเหอจังหมิง
เรือนของบุตรคนโตแซ่เหอ กระทั่งเรือนอี๋เหนียงหลายคนของเห
อจังหมิงก็เป็นเช่นนี้ ชั่วขณะทุกคนในจวนต่างก็ตกใจร้องไห้ฟูมฟาย
เหอจังหมิงส่ายหน้าไม่พูด เขาเห็นว่าบนเสื้อผ้าของพี่ใหญ่กับ
หลานชายมีรอยเลือด ก็รีบถาม “พวกท่านเป็นอะไร”
บุตรคนโตแซ่เหอได้สติกลับมาในชั่วขณะ ตบเข่าฉาดแล้วกล่าว
“เหล่าเอ้อร์ คนจากบ้านฝั่งแม่ของน้องสะใภ้มายึดร้านค้า ไล่
ผู้จัดการกับเด็กในร้านออกไปจนหมด ข้าไม่ยอม เข้าไปเถียงอยู่สัก
พักก็ถูกพวกเขาตีจนเป็นเช่นนี้ หลานเจ้าเข้ามาปกป้องข้า เกือบจะ
ถูกตีจนขาหัก เหล่าเอ้อร์ จะทำอย่างไรดี ไม่มีกำไรในร้านค้า
ครอบครัวใหญ่ของพวกเราจะใช้ชีวิตอย่างไร”
เหอจังหมิงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าหลานชายคนรองเดินขากระเผลก
ถามอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้ “ฮุยเกอเอ๋อร์ไม่เป็นไรใช่หรือไม่”
เหอเทียนฮุยส่ายหน้า “ท่านอารอง ข้าไม่เป็นไร ให้หมอข้างทางดู
แล้ว ไม่ได้รับบาดเจ็บถึงกระดูก” ดวงตากะพริบวาบถามอย่าง
ระมัดระวัง “ท่านอารอง คนจากบ้านฝั่งมารดาของอาสะใภ้รองมาที่
จวนหรือ” หากไม่ใช่ ในจวนคงจะไม่เกลี้ยงถึงขนาดนี้
สีหน้าของเหอจังหมิงดำขึ้นกว่าเดิม เขามองแจกันดอกไม้ที่แตก
ละเอียด โต๊ะเก้าอี้ที่ล้มเกลื่อน แค้นจนกัดฟันกรอด จวนจงอู่โหว
เสิ่นซื่อ คุณชายสี่แซ่เสิ่น พวกเจ้ารอข้าก่อนเถอะ ข้าจะร้องเรียน
ฮ่องเต้ ร้องเรียนฮ่องเต้!
น่าเสียดายที่เอหจังหมิงยังไม่ทนั จะได้เขียนสาส์นฟ้องร้องก็มีขุนนาง
ตรวจการมาหาถึงหน้าบ้านแล้ว บอกว่ามีคนฟ้องว่าเขาใช้อำนาจใน
ตำแหน่งครอบครองร้านค้าผู้อนื่ ข่มขู่ผู้อื่น ใต้เท้าข้าหลวงประจำ
จังหวัดรับคำร้องแล้ว ส่งเขามาไถ่ถาม
คราวนี้มารดาแซ่เหอก็ไม่เศร้าโศกต่อเงินทองเครื่องประดับของนาง
แล้ว ดึงแขนเสื้อลูกชายคนเล็กร้องไห้ขอร้องไม่ให้ขุนนางพาตัวเขา
ไป ทว่าท้ายทีส่ ุดเหอจังหมิงก็ยงั คงต้องตามขุนนางไป กระทั่งยังถูก
ขังอยู่ในคุก
บุตรคนโตแซ่เหอมีส่วนทำให้นอ้ งชายถูกจับเข้าคุก คนทั้งหมดใน
ตระกูลเหอก็ยิ่งตื่นตระหนกไม่สบายใจ มารดาแซ่เหอเดี๋ยวก็รำ่ ไห้
เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็ก่นด่าไม่หยุดราวกับคนวิกลจริต เพียงหนึ่งวัน
สั้นๆ นางก็แก่ลงไปหลายปี
“คุ ณ หนู หญิ งชราตระกู ล เหอผู น ้ ้ั นนั่ งโวยวายร ้องทุ ก ข อ์ ยู่ ท่ี
ประตู ห ลัง เรือนจวนตระกู ล เหอเจ า้ ค่ ะ” เถาจือรีบเข า้ มารายงาน สี
หน้ามีความกังวลหลายส่วน
้ บมีสติปัญญาหลายส่วน แต่น่าเสียดายที่
มารดาแซ่เหอผูน้ ี กลั
นางร ้องช ้าไป ประชามติต่างก็เป็ นรูปเป็ นร่างแลว้ ข่าวลือที่คนพู ด
่
มากเข า้ ก็ ก ลายเป็ นเรืองจริ
ง ต่ อให้จ ะเรียกร ้องความสนใจ ก็ เสีย
แรงเปล่าๆ
เหอะ แค่ นี้ ก็ ม าร อ้ งทุ ก ข แ์ ล ว้ หรือ นี่ เพิ่ งจะเริม
่ วัน คื น ที่ ต้อ ง
ร ้องไห้ยงั มาไม่ถงึ เลย “ไป พวกเราไปดูกน ่
ั หน่ อย” จู่ๆ เสินเวยก็ เกิด
ความคิด แม้ไม่ได้บอกว่าจะเหยียบซําคนล ้ ม้ แต่ซมึ ซับผลลัพธ ์ของ
ชยั ชนะก็ยงั ทําได้มใิ ช่หรือ
เสิ่นเวยหาโรงนํ ้ าชาใกล บ
้ า้ นแห่ งหนึ่ ง นั่ งข า้ งหน้าต่ างดื่มชา
แทะเมล็ ด แตงโมไปพลาง ดู ก ารแสดงของมารดาแซ่ เหออย่ า ง
สนุ กสนานไปพลาง
้
มารดาแซ่เหอร ้องขึนมาประหนึ ่ งร ้องงิว้ สะอึ ก สะอืนไห้
้ ้ ง
ซ ํายั
้ ่พูดถึงความเสียใจยังขึนเสี
ลากเป็ นทํานอง แต่ละครังที ้ ยงสูง ไม่ต่าง
อะไรจากระดับเสียงร ้องไห้ในศาลางานศพชนบท เสินเวยเลื ่ ่
อมใส
้
ในฝี มือของมารดาแซ่เหอจริงๆ เป็ นเช่นนี นางก็ วางใจแลว้ มีทก
ั ษะ
้ างน้อยๆ ก็สามารถร ้องไห้ในศาลางานศพหาเงินแทนคน
เช่นนี อย่
่
อืนได้ ไม่มท
ี างหิวตายแน่ นอน
เถาฮวาฉวยโอกาสชุลมุนกลับไปยังโรงนํ ้าชา
่ มารดาแซ่
เหอจังหมิงเขา้ คุกกับเรืองที ่ เหอโวยวายร ้องทุกข ์ก็ดงั
ไปถึ ง หู ข องเสิ่ นหย่ า สองแม่ ลู ก เช่ น กัน เสิ่ นหย่ า ไม่ ส บายใจใน
่ั
ช วขณะ นางมองลู ก สาวที่ สีห น้า เรีย บเฉยปราดหนึ่ ง กล่ า วด้ว ย
่ อร ์ อย่างไรเสียนั่นก็เป็ นพ่อเจ ้า…”
ความลังเล “หลินเจียเอ๋
่
เสินหย่ าตกตะลึงดั่งคาด แม้ว่าสีหน้าจะมีความลังเล แต่ก็ยงั คง
พยักหน้า
่ ย งของจวนโหวกับ ญาติผูพ
เหอหลินหลินไม่ เห็ นด้วย “ชือเสี ้ ี่
ถูกทําลายได้ง่ายเพียงนั้นเชียวหรือ ท่านวางใจเถอะ ในใจญาติผูพ้ ่ี
มีแผนการ พวกเราแม่ลูกอยู่อย่างซือสั ่ ตย ์ ไม่เพิ่มภาระให้ญาติผูพ ้ ่ี
ก็พอแลว้ ” นางเองก็รู ้ว่าแม่นางใจอ่อน คนอืนร่ ้องไห้ร ้องขอนางก็ใจ
อ่อนแลว้ จึงตัดสินใจเงียบๆ ว่าจะต้องดูแม่ นางให้ดี ไม่อาจหาเรือง ่
มาให้ญาติผูพ ่ี
้ ได้
ตอนนี พ่ ้ อบ า้ นรองเคารพเสินเวยอย่
่ างยิ่ง แม้จ ะรู ้ว่า ความจริง
แล ว้ คนผู น้ ี ้คือ คุ ณ หนู แต่ ก ลับ ไม่ ก ล า้ ดู ถู ก เลยแม้แต่ น้อย “เรีย น
คุ ณ ชาย พยานหลัก ฐานครบแล ว้ ไม่ ย อมรับ คํ า ปฏิเสธของผู แ้ ซ่
เหอผูน้ ั้น ใต้เท้าขา้ หลวงประจําจังหวัดบอกว่าอีกไม่กวั่ี นก็จะตัดสิน
ได้แลว้ เรียนถามคุณชายมีวธิ ล ี งโทษใด”
่
เสินเวยพยักหน้า กล่าว “อย่างไรเสียก็เป็ นพ่อแท้ๆ ของญาติผู ้
น้อง จะเอาชีวิต เขาจริงๆ ได้อย่ างไร เนรเทศเสีย !” เนรเทศเขาไป
สามพันลี ้ บัณฑิตอ่อนแอเช่นเขา เพียงแค่เดินทางก็เพียงพอให้เขา
ิ ไปถึงสถานที่ทีถู
ได้รบั ความลําบากแลว้ ต่อให้มีชวี ต ่ กเนรเทศ สิงที
่ ่
รอเขาอยู่ก็คอื ความทรมานเท่านั้น
ความตายน่ ะไม่ น่ากลัว มีช วี ิตออยู่ไม่สู ต
้ ายต่างหากจึงจะเป็ น
่ จริง เป็ นคนเหนื อคนอยู่ดๆี ไม่ชอบ เช่นนั้นก็
ความยากลําบากทีแท้
ไปเป็ นคนล่างคนเอาเถอะ
อันที่จริงเรืองนี
่ เสิ ้ นเวยเองก็
่ ไม่ได้ไร ้ความเป็ นธรรมต่อเหอจังห
มิง แย่งร ้านค้าคนอืน ่ บีบบังคับคนจนตาย นี่ กลับเป็ นเรืองจริ
่ ง ทว่า
ตัวละครหลักไม่ใช่เหอจังหมิง แต่เป็ นพีใหญ่ ่ ของเขาต่างหาก
้ ง ถู ก เฆี่ ยนตี
ภรรยาเถ้า แก่ ไ ม่ เพี ย งแต่ ฟ้ องร อ้ งไม่ ช นะ ซํ ายั
กลับไปก็ผูกคอตาย ทิงลู ้ กชายลูกสาวสามคนเอาไว ้ คนโตสุดเพิ่ง
จะอายุได้เพียงสิบสามปี
่
เรืองนี ้ เสิ่ นเวยได้ยิ น ทหารลับ รายงานระหว่ า งการเดิ น ทาง
ดังนั้นตอนทีตั ่ ดสินใจเรืองเหอจั
่ ่ ขึ
งหมิงนางจึงนึ กถึงเรืองนี ้ นมาทั
้ นที
่
ตอนทีนางส่ งคนไปเจรจากับบุตรคนโตตระกูลนั้น เขาก็เกลียดแค้น
ครอบครัวเหอจังหมิงอยู่นานแลว้ เพียงแต่ไม่มอ ี ํานาจอับจนหนทาง
ตอนนี เสิ ้ นเวยสั
่ ญญาว่าจะช่วยเขาแก ้แค้น เขาก็รบั ปากทันที
อันที่จริง แม้ว่ าจะไม่ มีเรืองนี
่ ้เสิ่นเวยก็ มีวิธ ีจ ด
ั การเขา ขุนนาง
คนใดบ า้ งที่ขาวสะอาด หากตังใจสื ้ บ หาก็ มีจํ านวนมากมายที่ไม่
ขาวสะอาด เหอจังหมิงที่เกิด ในโคลนตมจะไม่ เปื ้ อนสิ่งสกปรกได้
่
อย่างไร เสินเวยไม่ ่ แต่นิดเดียว
เชือแม้
ตระกูลเหอฝั่งนั้นยังกอดความหวังว่าอีกประเดี๋ยวเหอจังหมิงก็
จะออกมาแล ว้ ความตระหนั ก รู ข ้ องตระกู ล เหอที่ มี ต่ อ เรื่องนี ้ ก็
เหมือนกัน แม้บุตรคนโตแซ่เหอจะโลภมากเห็นแก่ตวั แต่กลับรู ้ดีว่า
้ ี ้ เป็ นที่ พึ่ งแล ว้ ต่ อ ให้เขามี อุ บ ายก็ ไ ร ้
ไม่ มี น้ อ งรองนายอํ า เภอผู น
ประโยชน์ มารดาแซ่เหอก็ยิ่งไม่ต อ้ งเอ่ยถึง นี่ คือลูก ชายแท้ๆ ของ
นาง ทังยั ้ งเป็ นลูกชายทีนํ
่ าความรุง่ เรืองมาให้นางนับไม่ถว้ น นางรัก
่ าใครๆ
ยิงกว่
ทว่าสีหน้าของเหอเทียนเสียงกลับไม่ดีอย่างมาก เห็นสายตาที่
เฝ้ ารอของท่านย่าเขาก็อดทนพูดความจริงไม่ได้ “ท่านย่า เพื่อนผู ้
นั้นของขา้ ไม่อยู่ ในจวน บอกว่าไปบา้ นตาแลว้ หลานค่ อยไปใหม่
พรุง่ นี ”้
มารดาแซ่เหอมองท่าทีของหลานชายคนโตมีหรือจะไม่เขา้ ใจ
หน้า เปลี่ยนสีท น
ั ที เป็ นห่ วงหลานชายคนโตจึงไม่ ได้พู ด อะไรต่ อ
่
หน้า เมือหลานชายคนโตไปแล ้
ว้ นางจึงตบขาก่นด่าขึนมาทั
นที
“ตาเฒ่าหนังเหนี ยว เขาบอกว่าแต่งงานกับบุรุษ มีเสือผ้ ้ าให้ใส่
ิ แต่นี่อะไร ขา้ แต่งกับเจ ้าไม่มส
มีขา้ วให้กน ั วันที่อยู่อย่างสบาย ซํา้
ี ก
ยังต้องอุทิศ ตนเพื่อตระกู ลเหอของเจา้ ตอนนี ้เหล่าเอ้อร ์ถูกจับ เข า้
คุกแลว้ เจ ้าต้องคิดหาวิธม ๋
ี าเดียวนี ้ นางทุบตีตําหนิ โทษผูเ้ ฒ่าเหอ
!”
ตอนที่ 197 ถูกขับ
่
มารดาแซ่เหอเห็ นท่าทีก็ตืนตระหนกทั นที “ตาเฒ่า พ่อ เจา้ ไม่
่
เป็ นไรใช่หรือไม่ เร็ว รีบดืมชาให้ คล่องคอก่อน” นางตบหลังและยก
ชารินนํ ้า กลัวว่าผูเ้ ฒ่าเหอจะเป็ นอะไรไป
้
คิวของผู เ้ ฒ่ า เหอขมวดจนสามารถหนี บ ยุ ง ตายได้แล ว้ “ให้
เหล่าต้าพาหลานชายทังหลายไปผู้ กสัมพันธ ์ โดยเฉพาะหลานคน
โต เขารู ้จัก เพื่ อนคุ ณ ชายตระกู ลขุนนางไม่ น้อยมิใ ช่ห รือ ตอนนี ้
พวกเราไม่ เหมือนเมื่อก่ อนแลว้ ลดตัว ลงหน่ อย อย่ากลัวเสีย หน้า
่ า คนทังหมดจะวางมาดเช่
ขา้ ไม่ เชือว่ ้ นนั้ นกันหมด คงจะต้องมีส ก
ั
คนสองคนทีช่ ่ วยเหลือได้บา้ ง”
แต่ ว่ า ไม่ ต อ
้ งรอให้ม ารดาแซ่ เ หอไปบ า้ นลู ก สาวตอนเย็ น
บุตรสาวคนโตแซ่เหอก็มาหาถึงหน้าบา้ นด้วยท่าทางเศร ้าตรมแลว้
่ั
มารดาแซ่เหอเห็ นเข า้ ก็ ต กใจในช วขณะ “ต้านิ ว เจ า้ เป็ นอะไรไป
ทะเลาะกับลูกเขยเขา้ แลว้ หรือ”
้ อ
“หา หาเจอแลว้ ” เหอต้านิ วไม่ขยับ สะอืนต่
มารดาแซ่เหอก็ยงโมโห่ิ ้
จิมหน้ าผากของบุตรสาวก่นด่า “เจา้
มัน น่ าผิด หวัง นั ก ปกติก็ เก่ งนั ก ไม่ ใช่ห รือ ตอนนี ้เป็ นอะไรไปแล ว้
เล่า เจ ้าพูดสิ!”
ถามอยู่นานเหอต้านิ วก็ ยงั ไม่ พู ด อะไรออกมา ยังคงเป็ นสะใภ้
่
ใหญ่ตระกูลเหอทีตามเข ่ “ท่านแม่ ต้านิ วก็
า้ มาก ้าวเขา้ ไปไกล่เกลีย
มาแลว้ เขา้ ไปลา้ งหน้าลา้ งตาก่อนแลว้ ค่อยว่ากันดีกว่า”
้
ผ่ า นการซัก ถามซํ าแล ้ า ของมารดาแซ่ เหอและสะใภ้
ว้ ซํ าเล่
่
ใหญ่ตระกูลเหอ เหอต้านิ วก็เล่าเรืองราวทั ้
งหมดให้
ฟัง
่ นนี ้ ยืนกรานจะตาม
เหอต้านิ วมีความสามารถในการทําเรืองเช่
น้องรองมาเสวยสุ ขให้ได้ บิด ามารดาตระกู ลจ า้ วสองคนอายุมาก
แลว้ ไม่ ยอมย้าย บอกว่ าให้พวกเจา้ สองคนตามไป พวกขา้ ที่เป็ น
พ่อแม่จะอยู่ดูลูกๆ แทนพวกเจ ้า เหอต้านิ วไม่ยอม นางฉลาดอย่าง
ยิง่ มีบิดามารดาตระกูลจา้ วไปด้วย นางทําอะไรไม่เป็ นรอแต่คนมา
ปรนนิ บ ต ั ิ แม้แต่ ลู กยังไม่ เคยถามไถ่ ชีวิต สุข สบายมากขึนเรื ้ อยๆ ่
อะไรนะ เจ ้าบอกว่าให้ซอคนใช ื้ ้
้มาก็ได้ไม่ใช่หรือ ซือคนใช ้ก็ตอ้ งใช ้
เงินมิใช่หรือ คนทีมี ่ อยู่ตอนนี ไม่
้ รู ้จักใช ้ โง่นัก!
่ ว ยครึงปี
เริมด้ ่ นั้ นเพราะว่ า ไม่ เคยชินกับ สภาพแวดล อ้ ม บิด า
มารดาตระกู ล เหอเกือบจะป่ วยตาย เมื่อดี ขึนแล ้ ว้ คนก็ ผ อมลงไป
มาก ไม่มีชวี ิตชีวาเหมือนแต่ก่อน รู ้สึกผิดต่อลูกชายจ ้าวเกิงเถียน
แอบเช็ด นํ ้ าตาเงีย บๆ ท่ า ทีท่ีมีต่ อเหอต้า นิ ว ก็ เย็ นชาลง วันคืนกิน
นอนอยู่ท่รี ้านค้า เดิมเขาก็ขยัน ทําการค้าด้วยความซือสั ่ ตย ์ ครึงปี
่
้ ก็ขยายร ้านได้ การค้าขายในร ้านค้าก็รุง่ เรือง
สันๆ
เหอต้านิ วพอใจอย่างยิ่ง ดูสิ คิดถูกแลว้ ทีมาอวิ ่ ๋นโจว อยู่ท่สู
ี ่จง
คิด ว่า ที่นาไม่ กผื
ี่ นนั่ นจะทํ าให้มีช วี ิต ที่ดีเช่นตอนนี ้ได้ห รือไร ด้ว ย
เหตุนี้นางจึงกําเริบเสิบ สาน วันทังวั ้ นสวมทองใส่ เงิน วาดคิวบางๆ ้
เรีย กคนนั้ นมาบ า้ นที เรีย กคนนี ้มาบ า้ นที ชอบฟั งคํ า ยกย่ องของ
ื่ แม้แต่ลูกก็ไม่เลียงแล
ผูอ้ น ้ ว้
้ น
บิดามารดาตระกูล จา้ วย่อมไม่กล า้ พูดอะไรทังสิ ้ ขอเพีย งแค่
่ พอแลว้
นางไม่หาเรืองก็
้ ้
เหอต้า นิ วตะลึงงัน ร ้องไห้ต ะโกนโวยวายไม่ ยอมไป แต่ ค รังนี
่
จา้ วเกิงเถีย นใจแข็ ง ผ่ านเรืองนี ้ไปเขาก็ เขา้ ใจแล ว้ เขายอมครอง
ตัวเป็ นโสดดีกว่าจะต้องให้ห ญิงสาวเช่นนี มาส่ ้ งผลกระทบต่อลูก ๆ
ของเขา เขาคิดดีแลว้ อีกไม่กวัี่ นก็จะพาพ่อแม่และลูกๆ กลับไปสู่จง
หลังจากนี ก็้ ครอบครัวก็ใช ้ชีวต ิ อย่างสงบสุข
“จ ้าวเกิงเถียนคนไม่ตายดีผูน ้ ี ้ เขามีสิทธิอะไรมาขั
์ บลูกสาวขา้
ขา้ จะไปคิดบัญชีเขา” มารดาแซ่เหอฟังคําร ้องของลูกสาวจบ ใกล ้
้
จะระเบิ ด ขึ นมาแล ว้ บ่ น พึ ม พํ า “ลื มบุ ญ คุ ณ ครอบครัว อกตัญ �ู
น้องรองเจ า้ เป็ นขุนนางครอบครัว เขาได้ผลประโยชน์ไปตังเท่ ้ าไร
หากไม่ ใ ช่ว่ ามีเจ า้ ครอบครัวเขาจะมี ช วี ิต เช่นทุ ก วันนี ้ได้ห รือ ไม่
รู ้จักขุดดินเก็ บตัวอยู่ ในมุม ตอนนี ้เห็ นครอบครัวพวกเราลําบากก็
หักหลังทรยศทันที ใจร ้ายใจดํา ขอให้ฟ้าผ่าตาย” คําสาปแช่งของ
มารดาแซ่เหอคล่องแคล่วยิงนั ่ ก
่
“ร ้องๆๆ เจา้ ยังมีหน้ามาร ้องอีก ปกติเจา้ เก่งนักมิใช่หรือ วิงจน
ตรอกกลับมาเช่นนี เสี ้ ยแลว้ ” มารดาแซ่เหอมองบุตรสาวที่ร ้องไห้ไม่
่
หยุด ในใจก็เริมหงุ ่
ด หงิด “เคยบอกเจา้ แลว้ ว่า อย่าเอาแต่วิงไปนู ่น
ไปนี่ ทังวั
้ น ต้องกุมหัวใจผูช ้ ายของเจ ้าให้อยู่ แต่เจา้ ก็ดน
ั ไม่ฟัง เจา้
เจา้ เจ ้าจะให้ขา้ พูดอะไรดี” นางแสดงท่าทางเจ็บใจที่ไม่อาจหลอม
เหล็กให้กลายเป็ นเหล็กกลา้ ได้
้
“ไม่ ใช่เป็ นเพราะน้องรองทังหมดหรื อไร!” เหอต้านิ วยังคงร ้อง
ความไม่เป็ นธรรม “ปกติก็ดๆี อยู่ เกิงเถียนเชือฟั่ งขา้ ตลอด คนแก่
หนั งเหนี ย วสองคนนั้ นก็ไม่ก ลา้ หาเรืองข
่ า้ ไม่ ใช่เพราะว่าน้องรอง
เขา้ คุก เกิง
่ งสะใภ้ใหญ่ผูน
เหอต้านิ วกลับเชือฟั ้ างยิง่ เดินเขา้ ไปดึงแขน
้ ี อย่
้
เสือแม่ นางตามคําบอก กล่าว “ท่านแม่ ท่านแม่ เป็ นความผิดของ
ขา้ เอง ท่านอย่าได้เก็บมาใส่ใจเลย”
มารดาแซ่เหอพเยิดหน้า แม้ว่าสีหน้าจะเรียบเฉย แต่ในใจกลับ
อ่อนลงแลว้ สะใภ้แซ่เหอช่วยพูดดีๆ อีกสองสามประโยค มารดาแซ่
เหอก็ เผยรอยยิมออกมา ้ “พอแล ว้ ในเมื่ อกลับ มาแล ว้ ก็ พ ัก ก่ อ น
เถอะ พรุ ง่ นี ้ค่ อ ยให้พ่ี ชายพี่ สะใภ้เจ า้ กลับ ไปเป็ นเพื่ อนเจ า้ ” ปาก
บอกว่าไม่สน แต่จะไม่สนได้หรือ ต่อให้บุตรสาวจะทําให้ตนผิดหวัง
้
ก็ยงั เป็ นเลือดเนื อจากร่ างกายนางอยู่ดี
้
เคราะห ์ซํากรรมซั ้ บจนหนทางแลว้ จริงๆ
ด วันนี อั
้
คราวนี มารดาแซ่ เหอตะลึงงันแลว้ ตระกูลจา้ วกลับชนบทแล ว้
บุตรสาวจะทํ าอย่างไรเล่า เห็ นบุต รสาวที่ร ้องไห้ไม่หยุ ดกับลูกชาย
คนโตและภรรยาที่ นิ่ งเงี ย บไม่ พู ด มารดาแซ่ เหอก็ คิ ด อะไรไม่
้
ออกเป็ นครังแรก
่ วยาม
ผ่ า นไปอีก กว่ า ครึงช ่ั ่ั
ช วพริบ ตาก็ กํ า ลัง จะตกบ่ า ยแล ว้
่ ณชายใหญ่ตระกูลปลัดอําเภอสหายคนสนิ ทของตนยังคง
จ ้าวชิงคุ
ไม่เห็นเงา เด็กรับใช ้ยังคงพูดประโยคเดิมคือ ไม่รู ้
่ อนตอนทีท่
เมือก่ ่ านอารองยังไม่เขา้ คุก เหอเทียนเสียง
สนิ ทกับหลานชายปลัดอําเภอผูน ้ างยิ่ง เขามักจะเชิญตนมาดืม
้ ี อย่ ่
สุราแต่งกลอนในบา้ นบ่อยๆ ปลัดอําเภอจ ้าวอัธยาศัยดีต่อตนอย่าง
ถึงที่สุ ด ชืนชมลู
่ กชายเพื่อนไม่ หยุ ด ปาก แต่ต อนนี ้เล่า ตนมาขอ
่
พบถึงหน้าบา้ น ไม่ตอ้ งพูดถึงเรืองจะช่ วยหรือไม่ก่อน แต่ ปล่อยให้
ตนรออยู่ ใ นห้อ งหนั ง สื อ ด้า นนอก ไม่ ใ ห้พ บแม้แต่ ห น้า สัง คมไร ้
นํ ้าใจยิงนั
่ ก
เหอเทียนเสียงได้ยินดังนั้นร่างทังร่
้ างก็มึนงง เขาเดินยังไม่รู ้ว่า
ตนเดินออกมาจากบ า้ นพัศดีส วี่ได้อย่ างไร ในใจมีเพีย งความคิด
เดียว ท่านอารองจบแลว้ ตระกูลเหอจบแลว้ !
่
“ไปแลว้ หรือ” พัศดีสวีมองลู ่ นเขา้ มาถามเสียงเรียบ
กชายทีเดิ
่
พัศดีส วีไหนเลยจะไม่ เข า้ ใจความคิด ในใจลูก ชาย แค่ นเสีย ง
หนึ่ งคราแลว้ กล่าว “แกว่งเท้าหาเสียน ้ เรืองนี่ ้
ของตระกู ลเหอไม่ใช่
่ พวกเขาสร
เรืองที ่ ้
้างขึนเองหรื อ เจ ้ารู ้จักเหอเทียนเสียงมานานเพียง
นี ้ เคยได้ยน ิ เขาเอ่ยถึงฮูหยินนายอําเภอเหอบา้ งหรือไม่ หากไม่ใช่
่
ว่าเกิดเรืองนี ้ พวกเราไหนเลยจะรู ้ว่าฮูหยินนายอําเภอเหอเป็ นสตรี
์
สูงศักดิของจวนโหว เห็นเขายกย่องเชิดชูอเหนี ี๋ ยงเช่นนี ้ ยังคิดว่าฮู
หยินภรรยาเอกตระกู ล เขาเป็ นหญิ งชนบทไม่ มีค วามรู ้เสีย อีก เห
อจังหมิงคนผูน ้ เป็ นคนเขลา มีของที่ดีเพียงนี ไม่
้ ี ก็ ้ รู ้จักใช ้ประโยชน์
ขอเพียงแค่ประจบประแจงบา้ นภรรยาให้ดี เขาแบ่งเศษเงินเศษทอง
ให้เจ า้ ก็ ส บายแล ว้ หากเป็ นคนอื่นก็ ค งจะยกย่ อ งฮู ห ยิ น ใครจะ
เหมื อนตระกู ล เขา ทรมานนางจนเกือบตาย เหอะๆ คิ ด ไปเองว่ า
ตระกูลสูงส่งเหล่านั้นทําอะไรไม่ได้! เขาขยับนิ วนิ ้ ดเดียวครอบครัว
เจ ้าก็พงั ทลายได้แลว้ ”
่ ยดหยามทังใบหน้
สีหน้าพัศดีสวีเหยี ้ า เห็ นลูกชายคลา้ ยเขา้ ใจ
อะไรขึ นมาก็้ ก ล่ าวต่ อ “กับ ภรรยา ต้องรัก ใคร่ซ งกั ึ่ นและกัน การ
สมรสเป็ นการตกลงปลงใจกันทังสองฝ่ ้ าย ต่อให้ในใจจะไม่ชอบ ไม่
ว่าอย่า งไรภรรยาเอกก็ ตอ้ งให้ค วามเคารพ โปรดปรานอนุ ภรรยา
้
ทอดทิงภรรยาเอก นั่นคือลางร ้ายทําลายครอบครัว เจา้ เองก็โตแลว้
อีกสามเดือนคุณหนู ตระกูลหลิวจะมาที ่ ่ า้ น เจ ้าก็เตรียมใจให้ดี คน
บ
ไม่ ก ี่คนข า้ งกายนั้ นก็ ส่ งไปที่หมู่ บ า้ นให้ห มด ไม่ อาจทํ า ให้ภรรยา
ขุ่น เคื อ งใจได้ ถ้า หากเจ า้ …พ่ อ เจ า้ ไม่ ได้ใ จดี เหมื อ นตระกู ล เหอ
เช่นนั้นนะ!”
่ั
ช วขณะคุ ณ ชายสวี่ก็ ห วาดกลัว ในใจ “ขอรับ ลู ก เข า้ ใจแล ว้
ลูกขอบคุณท่านพ่อทีชี่ แนะ”
้ แม้ว่าเขาจะเป็ นบุตรคนโตของภรรยา
เอกในบา้ น แต่หลังจากเขาก็ยงั มีนอ้ งชายสองคนและน้องชายบุตร
อนุ ภรรยาอีกสองคน พ่ อเขาไม่ขาดแคลนลูก ชาย หากเขาทําผิด
พ่อเขาก็สามารถไล่เขาออกไปได้ทน ั ที
เหอเทียนเสีย งกลับ มาถึง บา้ นด้วยสติที่หลุ ด ลอย พบหน้าแม่
เขา สะใภ้ใหญ่ตระกูลเหอก็ตกใจ “เป็ นอะไร เป็ นอะไรไป”
่
เหอเทียนเสียงเพิงจะได้ สติกลับมา บอกข่าวที่สืบได้ สะใภ้ใหญ่
ตระกูลเหอไม่สบายใจแลว้ นางยังหวังว่าน้องสามีจะออกมาเสวยสุข
ต่อได้ ตอนนี น้ ้ องสามีออกมาไม่ได้แลว้ ร ้านค้ากับของมีค่าในบา้ น
ก็ไม่มแี ลว้ ชีวต ้ าอย่างไรเล่า
ิ หลังจากนี จะทํ
้
ไม่ ต อ้ งเอ่ ย ถึ งว่ า มารดาแซ่เหอได้รบั ข่ า วแล ว้ ผิ ด หวัง สินหวั ง
เพี ย งใด ฝั่ งของเสิ่นเวย พ่ อบ า้ นรองกับ สาวใช ้หลายคนข า้ งกาย
นางต่างก็ไม่เขา้ ใจอย่างถึงทีสุ ่ ด เห็นชดั ๆ ว่าคดีนีสามารถตั
้ ดสินได้
ในเร็ว วัน แต่ เหตุ ใดคุ ณ หนู ถึง ยังรออยู่ อีก รีบ ตัด สินรีบ เสร็จ เรือง่
พวกเขาเองก็จะได้กลับเมืองหลวงเร็วขึนมิ ้ ใช่หรือ
่
เดิมคดียงั เกียวเนื่ องไปถึงบุ ตรคนโตตระกู ลเหอ อย่างไรเสีย ก็
่
เป็ นร ้านค้าทีเขาแย่ ่
งคนอืนมา เหอ
่ี นโจวต่
ผูเ้ ฒ่าแซ่เหอขัดลูกหลานไม่ได้ ทําได้เพียงอยู่ทอวิ ๋ อ
่
อ้อ ตระกู ลเหอยังเคยถกเถียงเรืองการกลั
บมาของเหอหลินห
ลิน มารดาแซ่เหอยืนกรานจะเอาเหอ
หลินหลินกลับมาให้ได้ นางยังคิดถึงคฤหาสน์มูลค่าสูงหลังนั้น
อยู่ อี ก ทั้งยัง มี ค วามแค้น ต่ อ หลานสาวผู น
้ ี ้อยู่ ด ว้ ย เกลี ย ดนางที่
มองดู พ่ อ นางถู ก เนรเทศหน้ า ตาเฉย มี สิ ท ธิ อะไรถึ ์ ง ปล่ อ ยให้
ครอบครัวขา้ เผชิญความลําบากแต่เจ ้ากลับสุขสบายรํารวยได้ ่
ไม่ ไ ด้ ต้อ งเอานางกลั บ มา ในบ า้ นกํ า ลั ง ขาดเด็ ก สาวให้
เรีย กใช ้อยู่ พ อดี เมื่ออายุ ถึงแล ว้ ค่ อยหาตระกู ล ที่มีเงิน ส่ งออกไป
ยังคงได้สน ิ สอดก ้อนใหญ่อยู่
่ อร ์จะอยู่กบ
ผูเ้ ฒ่าเหอไม่โง่ ไม่ว่าหลินเจียเอ๋ ั ใครก็หนี ความจริง
ทีว่่ านางเป็ นคนตระกูลเหอไม่ได้ นางอยู่กบ ั แม่นางจึงจะมีชวี ติ ที่ดีมี
คู่สมรสที่ดีได้ รอหลานชายคนโตทังหลายเข ้ า้ เมืองหลวงสอบขุน
นางแล ว้ ค่ อ ยไปขอร อ้ งนางที่ หน้ า ประตู เป็ นพี่ น้ อ งครอบครัว
เดียวกัน นางคงจะไม่ไล่คนออกมากระมัง
่
เสินเวยไม่ สนว่าตระกูลเหอจะคิดเห็ นเช่นไร อย่างไรเสียนางก็
รู ้สึกว่าตระกูลเหอยังน่ าเวทนาไม่พอ ความโกรธของนางยังระบาย
ออกไม่ ห มด ด้ว ยเหตุ นี้พ่ อบ า้ นรองจึงได้ร บ ั หน้าที่ ใหม่ คุ ณ หนู สี่
บอกว่า ไม่ว่าเจา้ จะใช ้วิธใี ด ขโมยมาก็ดี แย่งมาก็ดี อย่างไรเสียเจา้
้ ข า้ จะทํ า ให้พ วก
ก็ ต อ้ งตัด กํ า ลัง ทรัพ ย ใ์ นมือตระกู ล เหอให้เกลียง
เขาไม่เหลือเงินสักแดงเดียวจนต้องขอทานไสหัวกลับ บา้ นเก่ าที่สู่
จง นางอยากดูว่ามารดาแซ่เหอทีเลี ่ ยงดู
้ ใต้เท้านายอําเภอขึนมาจะ
้
้
เลียงหลานต่ อไปได้อก ี หรือไม่
หน้าที่นี กลั
้ บไม่ยาก ทว่าพ่อบา้ นรองกลับตืนตั่ วขึนมา
้ คุณหนู
่ นิสยั เจ ้าคิดเจา้ แค้นเช่นนี เขาต้
สีมี ้ ้
องตังใจปฏิ บต
ั งิ าน ห้ามทําให้คน
้ พอใจเป็ นอัดขาด อุบายเจ ้าเล่ห ์กลับกลอกนี ้ พ่อบา้ นรองเก่ง
ผูน้ ี ไม่
จริงๆ!
ประสิท ธิภาพการจัดการของพ่อบา้ นรองสู งอย่างยิ่ง เพียงแค่
วางกับดักง่ายๆ สองแห่ง คนตระกูล
ด้ว ยเหตุ นี้ เหอหลิ น หลิ น จึ ง คํ า นั บ เสิ่ นเวยหนึ่ งครา “ท่ า นพี่
ขอบคุณท่าน”
่ อวิ
เรืองที ่ นโจวจั
๋ ดการเสร็จแลว้ ควรกลับเมืองหลวงได้แลว้
บัง เอิ ญ อย่ า งยิ่ ง วัน นั้ นที่ ออกเดิ น ทางเหอจัง หมิ ง ถู ก คุ ม ตัว
ออกมาพอดี บนคอเขาสวมเครืองลงโทษที ่ ่หนั ก อึง้ ศีรษะยุ่ งเหยิง
หนวดเครารุงรัง ไหนเลยจะยังเป็ นใต้เท้าเหอที่งามสง่าอยู่อีก แทบ
ไม่ต่างอะไรจากคนเร่รอ่ นในคูนํ้า
่
เสินหย่ าพยักหน้า “ใช่ ตาเจา้ ชอบเด็กแบบญาติผูพ ี่ ของเจ
้ สี ่ า้
ไม่ชอบคนที่ร ้องไห้งอแงที่สุด รอได้พ บท่านผูเ้ ฒ่ า ความกลา้ หาญ
่ นแน่
ของเจ ้าจะต้องเพิมขึ ้ นอน”
“หลานสี่ มีเรืองอั
่ นใดหรือ” เสินเวยถามด้
่ ว ยใบหน้า ที่เต็มไป
ด้วยรอยยิม้ นางรู ้สึกสนิ ทกับหลานชายคนนี แล
้ ว้
่
เสินเวยลู บ จมูก กล่าวด้วยความเคอะเขินหลายส่วน “ท่านอา
่
หลานสีมายอมรั บผิดกับท่าน หลานสีไม่ ่ ใช่หลานชายของท่าน แต่
เป็ นหลานสาวของท่าน ก่ อนหน้า นี เพื ้ ่อที่จะจัด การเรืองได้
่ สะดวก
จึง ต้อ งทํ า เช่ น นี ้ ปิ ดบัง ท่ า นกับ ญาติ ผู น
้ ้ อ งมานานเพี ย งนี ้ เป็ น
ความผิ ด ของหลานสี่จริงๆ” อย่ า งไรเสีย ไม่ ช ้าไม่ เร็ว ก็ ต อ้ งรู ้ ไม่ สู ้
้
บอกความจริงไปเสียตอนนี เลยดีกว่า
เย่ ว ์กุ ย้ ที่ปรนนิ บ ตั ิอยู่ข า้ งๆ ก็ก ล่า ว “กู ไหน่ ไน คุณ หนู ญ าติผู ้
น้อง นี่ เป็ นเรืองจริ
่ งเจา้ ค่ะ นี่ คือคุณหนู สีของพวกเราจริ
่ งๆ ไม่กวั่ี น
่
ก่อนเพิงจะได้ รบั พระราชทานบรรดาศักดิให้ ์ เป็ นจวินจู
้ ่ เจ ้านายท่าน
อืนๆ่ ในจวนต่างก็มีภาระแยกตัวออกมาไม่ได้ นายท่านผูเ้ ฒ่ าโหว
จึงให้คุณ หนู สี่มาเที่ยวนี ้แทน คุ ณ หนู สี่ของพวกเราเก่ งมาก นาย
้
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวยังพู ดอยู่บ่อยๆ ว่าลูกหลานทังจวนยั งเทียบคุณหนู
ของพวกเราไม่ ได้แม้แต่ ค นเดีย ว” นางมีท่ าทางได้รบั เกีย รติอย่า ง
ยิง่
่
รู ้ว่าเสินเวยไปแล ่
ว้ เสินหย่ ่ ่ในความตกใจ นางไม่
ายังคงจมดิงอยู
รู ้มาก่อนว่ าที่แท้แลว้ สตรีก็ เก่ งกาจขนาดนี ได้
้ มิน่าเล่ าท่ านพ่อถึง
วางใจให้นางมาอวินโจว ๋
ส่วนเหอหลินหลินก็ดีใจทังอกทั ้ ้
งใจ ่
เดิมนางก็เลือมใสญาติ ้ ี่
ผูพ
่ น
สีผู ้ ่แลว้ ตอนนี รู้ ้ว่านางเป็ นพีสาว
้ ี อยู ่ ่
ความรู ้สึกเลือมใสก็ เพิ่มมาก
ขึน้ ญาติผูพ ้ ี่สีใช
่ ้ชีวิตได้อย่างสง่าผ่าเผยจริงๆ นางเองก็อยากเป็ น
เหมือนญาติผพ ี่ ่ ดูสวิ ่าใครจะยังกลา้ กลั่นแกลง้ นางได้อก
ู ้ สี ี
ตอนที่ 199-1 คนไม่ดูตาม้าตาเรือระหว่างทางกลับ
เมืองหลวง
เดือนสามต้นฤดูใบไม้ผลิ สายลมอุ่นพัดผ่านหน้า
่
เสินเวยยื นอยู่บ นดาดฟ้ าเรือทอดสายตาออกไปไกล ผืนนํ ้าที่
สงบนิ่ งเสมือนกระจกเงินบานใหญ่ ส่องแสงสีขาวแวววับออกมาใต้
เงาสะท้อนของแสงอาทิตย ์ ต้นหลิวเขียวชอุ่มขนาบชายฝั่ ง กิงไม้
่ ท ี่
้
โอนอ่อนพลิวไหวท่ ามกลางสายลมโชย ลมพัดผ่านหน้าราวกับมือ
่ อนโยนขา้ งหนึ่ ง ทําให้ความรู ้สึกของคนเปรมปรีดไปตามกั
ทีอ่ ิ์ น
“ท่ า นพี่ ที่ แท้แล ว้ ท่ านก็ อยู่ ที่นี่ เอง” เหอหลินหลิ นเดินเข า้ มา
้ งเปื ้อนรอยยิม้
คิวโค้
่
เสินเวยยิ ้ อยๆ “ออกมาทําไม ท่านอาดีขนแล
มน้ ึ้ ว้ หรือ”
่
เสินหย่ ่ ้าแกงยาที่หมอสั่งให้ จึงดีขนเล็
าดืมนํ ึ ้ กน้อย เพียงแต่ใน
หนึ่ งวันยังต้องนอนอยู่บ นเตียงเป็ นส่วนใหญ่ ออกจากห้องใต้ทอ้ ง
เรือน้อยอย่างยิ่ง เหอหลินหลินที่เป็ นลูกสาวย่อมต้องเป็ นห่วงอย่าง
่ ด มักจะอยู่เป็ นเพือนในห้
ถึงทีสุ ่ องใต้ทอ้ งเรือ
่
เสินเวยหลุ ดหัวเราะ “วางใจ ไม่ทงเจ ิ ้ า้ หรอก” กินขา้ วเช ้าเสร็จ
แล ว้ ก็ ไม่ เห็ น หัว คน ไม่ รู ้ว่ า วิ่งไปหลบที่ มุ ม ไหนแล ว้ ตอนนี ้ได้ยิ น
่
เรืองกิ ่
นก็ วิงมาเร็ ว อย่ างยิ่ง ไม่เสีย ชือที
่ ่เป็ นปรมาจารย ์จอมตะกละ
น้อย
่
เรือเทียบท่าแลว้ เสินเวยกั ่
บเหอหลินหลินช่วยกันพยุงเสินหย่ า
้ ่ ง เดิมเสิ่นหย่ า ไม่ อยากลงเรือ ร่างกายนางอ่ อนแอ ทังยั
ขึนฝั ้ งเมา
เรือ ถึ ง ฝั่ งแล ว้ จะต้อ งรบกวนหลานสาวและลู ก สาวแน่ นอน แต่
หลานสาวกับ ลู ก สาวต่ า งก็ ยื น กราน บอกว่ า ลงเรือ ไปเดิ น เล่ น
อารมณ์จะได้ดี จะได้ไม่รู ้สึกพะอืดพะอมอีก
่
เสินเวยฝั ่ งนี ไล่
้ พ่อบา้ นรองออกไปแลว้ เดินเขา้ มายืนอยู่อีกฝั่ ง
้ บ
ของหน้า ต่า ง “ไม่เป็ นไร น้องยัง เล็ ก กฎมารยาทอะไรเหล่า นี กลั
เมืองหลวงไปแลว้ ค่อยเรียนก็ ยงั ไม่ สาย ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ คือทงโจว
ไม่มใี ครรู ้จักพวกเรา ให้นอ้ งได้ผ่อนคลายสักหน่ อยเถอะ”
่
เสินหย่ าไม่ยอมเอากฎระเบียบมาผูกตัวลูกสาว แต่อย่างไรเสีย
สังคมนี ก็ ้ โหดร ้ายกับสตรีเล็กน้อย กลับเมืองหลวงครังนี ้ ้ แม้จะบอก
ว่ากลับบา้ น แต่ชอเสี ่ื ยงทีหย่่ าร ้างไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ดี หลินเอ๋อร ์พ่อ
นางก็ เป็ นคนแบบนั้ น สายตาที่ คนทั่วไปมองหลิ น เอ๋ อ ร ์ก็ อ าจจะ
จุ ก จิ ก ยิ่ งขึ น
้ เพื่ อที่ หลิ น เอ๋ อ ร ์จะได้มี อ นาคตที่ ดี กฎระเบี ย บจึ ง
จําเป็ นต้องเขม้ งวด
้
แต่เห็ นรอยยิมบนหน้ าลูกสาวแลว้ หัวใจของเสินหย่ ่ าก็อ่อนลง
“เจ า้ เด็ ก คนนี ้เริงร่านั ก ลูก ผู พ
้ ี่เจ า้ เอ็ นดูเจ า้ ” ท้า ยที่สุ ด ก็ ไม่ ได้เอ่ ย
่
เรืองกฎระเบี ยบ
้
“เหอฮวา เย่ ว ก์ ุ ย้ เจ า้ สองคนไปซือของที ่คุ ณ หนู ญ าติ ผู น
้ ้อ ง
ชอบมาให้ห มด” เสิ่นเวยสั่งโดยไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับ นางชอบ
ลูกผูน้ อ ้
้ งคนนี มากจริ งๆ หนึ่ งเพราะลูกผูน ้ สยั ไม่เลว ไม่ทํา
้ อ้ งคนนี นิ
ให้ค นรํา คาญ สองก็ คื อ ลู ก ผู น ้ ้ อ งคนนี ้ ถู ก ทรมานอยู่ ใ นตระกู ล
เหอจนเศร ้าซึมเล็ ก น้อย ไม่ เริงร่า มีช วี ิต ชีว าเหมือนเด็ ก ผู ห ้ ญิ งรุ น
่
ราวคราวเดียวกัน เผยนิ สยั ของเด็กผูห ้ ญิงที่ถูกกดเก็บไวเ้ นิ่ นนาน
เล็กน้อย นางก็ทําใจบีบบังคับไม่ได้
้
เอ้อร ์กุ ้ยลอบมองรอยยิมบนใบหน้ านายท่านอย่างระมัดระวัง จู่ๆ
ก็เกิดความคิดขึนมา ้ เขาเดินไปขา้ งหน้าสองกา้ วเบาๆ กล่าวเสียง
เบา “นายท่านสาม ในเมื่อพวกเขาผ่านทางมา เช่นนั้นพวกเรา…”
สองมือของเขาทําท่ากําราบ เจตนาไม่ตอ้ งบอกก็รู ้ “นายท่านสาม
บ่าวเห็ นว่าหน้าตาของคุณชายผูน ้ ้นคล
ั า้ ยโดดเด่นกว่าใคร ท่านว่า
หากส่งเขาไปให้เบืองบน ้ จะมีประโยชน์บา้ งหรือไม่ ถึงตอนนั้นนาย
ท่ า นใหญ่ น ายท่ า นรองพวกเขาก็ ไม่ มี คุ ณ สมบัติม าแข่ ง กับ ท่ า น
แลว้ ”
๊
โรงเตียมเองก็ มีพ่ อบา้ นรองเป็ นคนจอง ห่ า งจากเหลาสุร าไม่
ไกล เดินเพียงหนึ่ งเค่อก็ถึงแลว้ พ่อบา้ นรองจองเรือนข า้ งหลังเล็ ก
ไว ้ ไม่ใหญ่ แต่กลับได้ความเงียบสงบ
่
เสินเวยพาเหอหลิ นหลินเดินไปพลางดูไปพลาง ซือของมาไม่้
น้อย ในมือเด็กรับใช ้ต่างก็ถอ ๊
ื ไม่ไหวแลว้ กลับโรงเตียมไปสองรอบ
้
แล ว้ แต่ ค วามต้องการซือของของเหอหลิ นหลินก็ ยงั ไม่ ล ดลงเลย
แม้แ ต่ น้อ ย เห็ น อะไรก็ ต าลุ ก วาวไปหมด เสิ่นเวยเองก็ ขี เกี ้ ย จจะ
้
เตือนนาง อย่างไรเสียก็ใช ้เงินเพียงไม่เท่าไร ถือเสียว่าซือความสุ ข
ให้นาง
ตอนที่ 199-2 คนไม่ดต
ู าม้าตาเรือระหว่างทางกลับเมืองหลวง
ี่
“มีกคน” ่
เสินเวยมองโอวหยางไน่ ถามเงียบๆ
้
“สองคน” โอวหยางไน่ ทํานิ วสองนิ ้ เสินเวย
วให้ ่ หลังจากนั้นก็เสริม
อีกหนึ่ งประโยค “ตังแต่
้ ทพวกเราออกจากเหลาสุ
่ี ราก็ตามมาแลว้ ”
่
เสินเวยไม่ ได้สนใจ โบกมือไล่เด็กในร ้านออกไป หากไม่ใช่ว่าเหอห
้ ย นางไหนเลยจะสนใจสินค้าลําค่
ลินหลินขีสงสั ้ าทีสุ่ ดในร ้านอะไร
นั่น ของดีๆ ใน**บเครืองประดั
่ บนางเยอะจะตายไป ไหนเลยจะ
้ าทีสุ
สนใจสินค้าลําค่ ่ ดของร ้านเครืองประดั
่ บแห่งนี ้ ในเมือลู
่ กผูน้ อ้ ง
สนใจ เช่นนั้นก็ดูสก
ั หน่ อยเถอะ ถือเสียว่าพักเท้า
่
เสินเวยยกแก ้วชาขึน้ เพิงจะจรดริ
่ มฝี ปากก็หยุดชะงัก ทันใดนั้นก็
กลับเป็ นปกติ เม้มปากเบาๆ หลังจากนั้นนางก็ใช ้ฝาแก ้วเกลียฟอง
่
ชา จากนั้นก็เม้มปากอีกครา หางตาของนางมองเห็นเด็กในร ้านที่
้ า้ ยถอนหายใจอย่างแรงคราหนึ่ ง จึง
ส่งชาเขา้ มาก่อนหน้านี คล
มั่นใจได้ว่าในนํ ้าชาผิดปกติจริงๆ
่
เสินเวยเข ่ นอยู่ขา้ งๆ “เหอฮวา พา
า้ ใจในทันที กล่าวกับเหอฮวาทียื
คุณหนู ญาติผูน้ อ้ งไปเขา้ ห้องนํ ้า”
่ั
ชวขณะเหอหลิ นหลินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ยิมให้ ้ เสินเวยอย่
่ าง
เคอะเขิน เดินตามเหอฮวาออกไป เสินเวยเห็่ นชาแก ้วนั้นของเหอห
ลินหลินหมดไปครึงหนึ่ ่ งแลว้ คิวก็
้ อดขมวดมุ่นไม่ได้ เสียดายเงียบๆ
ในใจ ตนสะเพร่าไป ควรจะให้เย่ว ์กุ ้ยตามไปมากกว่า ตัวนางเองไม่
กลัว แต่หากลูกผูน้ อ้ งเป็ นอะไรไป ท่านอาคงจะเป็ นกังวลแย่
่ ดเช่นนี ้ เสินเวยก็
เมือคิ ่ อยากลุกขึน้ เพิงจะลุ ่ ้ รู ้สึกมึนศีรษะพัก
กขึนก็
หนึ่ ง คลา้ ยกับยังได้ยน
ิ เสียงอุทานตกใจ นางมองไปทางเหอหลินห
ลินกับเหอฮวา มองเห็นเงาร่างทีคุ ่ น้ เคยกะพริบวาบ ด้วยเหตุนีเสิ้ น
่
เวยจึงกระโดดกลับไปทีเก ่ ้าอี ้ ศีรษะโอนเอนหลายครา ไม่ขยับแลว้
่ งนํ ้าชาก่อนหน้านี ก็
เด็กในร ้านทีส่ ้ วงเข
ิ่ า้ มาอย่างรวดเร็ว “คุณชาย
คุณชาย คุณชายตืน” ่ แต่ไม่ว่าเขาจะเขย่าอย่างไร คนผูน้ ี บนเก
้ ้าอี ้
ก็ยงั คงหายใจช ้ายาว หลับสนิ ทแลว้
้
ทังสองมั ่
ดเสินเวย ่ งหนึ่ งด้วยความรวดเร็ว
พาออกไปยังทีแห่
่ งกัน
ดูสิ อีกไม่นานก็จะเป็ นสามีภรรยากันแลว้ ไหนบอกว่าใจสือถึ
มิใช่หรือ ไปไหนแลว้ เล่า ไปไหนแลว้ ไปไหนแลว้ ใครอนุ ญาตให้
เจ ้าออกจากบา้ นกัน
โอวหยางไน่ อม ่
ุ ้ คุณหนู ญาติผูน้ อ้ งทีหมดสติ ๊
กลับไปถึงโรงเตียม
พ่อบา้ นรองตกใจแทบแย่ “คุณชาย คุณชายเล่า”
่ ไม่อยู่กบ
เทียบกับพ่อบา้ นรองทีสติ ้ บตัว โอวหยางไน่ ก็สงบสติ
ั เนื อกั
อารมณ์ได้มากแลว้ เขาเรียกเย่ว ์กุ ้ยกับเถาจือเขา้ มา “คุณหนู ญาติ
ผูน้ อ้ งเพียงแค่ถูกยาสลบ นอนพอแลว้ ย่อมฟื ้น เรืองนี
่ อย่
้ าได้ทําให้
่
กูไหน่ ไนตืนตกใจ บอกเพียงแค่คุณหนู ญาติผูน ้ อ้ งเหนื่ อยจึงมาพัก
ก่อน ขา้ จะไปหาคุณหนู พวกเจ ้าสองคนกับแม่นมมั่วดูแลกูไหน่ ไน
กับคุณหนู ญาติผูน้ อ้ งให้ด”ี
่
เสินเวยถู กคนแบกไปก่อน หลังจากนั้นก็โยนขึนไปบนรถม้
้ า รถม้า
แข็งอย่างยิง่ คนทีแบกนางไม่
่ ทะนุ ถนอมเลยแม้แต่นอ้ ย โยนนางขึน้
ไปตรงๆ เจ็บจนนางเกือบจะแสร ้งต่อไม่ได้ ให้ตายเถอะ อย่างไรเสีย
้
เจ ้าก็วางเบาๆ หน่ อยไม่ได้หรือ ไม่ใช่ว่าพวกเจ ้าชอบเนื อหนั งของ
ขา้ หรือไร หากผิวเป็ นรอยขีดข่วน ดูสวิ ่าพวกเจ ้าจะบอกนาย
อย่างไร หึๆ
่
เสินเวยกั ๋
ดฟันบ่นในใจ สาบานเงียบๆ ว่าอีกประเดียวจะต้
องเอาคืน
่
คนทีโยนนางผู น้ ั้น
่
รถม้าเคลือนตั ี ไม่ร ้อน หลังจากนั้นก็หยุดลง ต่อมาก็มี
วอย่างไม่รบ
่
คนแบกเสินเวยออกมา โยนเขา้ ไปในห้องๆ หนึ่ ง
่
เสินเวยลื ้ กน้อย เห็นว่าฟางบนพืนยั
มตาขึนเล็ ้ งมีเด็กหนุ่ มผูห้ นึ่ ง
นอนอยู่ กําลังหมดสติ เขาหันหลังให้เสินเวย่ มองไม่เห็นว่าเขา
หน้าตาเช่นไร แต่ดูจากเสือผ้ ้ าทีเขาใส่
่ และปิ่ นที่รวบผม เด็กหนุ่ ม
คนนี น่้ าจะมีฐานะไม่ตํ่าต้อย ไม่ใช่คุณชายตระกูลขุนนาง ก็เป็ น
บุตรในตระกูลทีรํ่ ารวย
่
่
เสินเวยเพิ ่
งจะลุ ้
กขึนขยั
บเท้าเล็กน้อย ก็ได้ยน
ิ เสียงเท้าดังเขา้ มา
นางนอนลงแกลง้ ตายทันที
“นั่นก็ถูก คนผูน้ ี เจ
้ ้าต้องดูให้ดี คนผูน
้ ั้นก่อนหน้านี เป็
้ นของดี ไม่
อาจให้เป็ นอะไรไปได้”
่
“เหอะ ดูนอ้ งพูดเขา้ ขา้ ทําหน้าทีบกพร่ ้ เมือไรกั
องตังแต่ ่ น วางใจ
่
เถอะ เพียงแค่ลูกท่านหลานเธอไร ้เรียวแรงเป็ นไก่อ่อน แม้เจ ้าจะให้
่
เขาวิงเขาจะวิ ่
งไปไหนได้ นับประสาอะไรกับหมดสติ ขา้ ว่าไม่ถงึ
้ ้าก็คงไม่ตนขึ
พรุง่ นี เช ื่ นมาหรอก”
้
“พอแลว้ ขา้ ไปแลว้ อย่างไรเสียเจ ้าก็ระมัดระวังหน่ อยแลว้ กัน หาก
่
เกิดเรืองจริ ้ ใช่สงที
งๆ ผลลัพธ ์หลังจากนี ไม่ ิ่ เจ
่ ้าขา้ จะแบกรับได้”
ตอนที่ 200-1 เล่นหยอกลอ้ ในคฤหาสน์ระหว่างทางกลับเมืองหลวง
่
เสินเวยได้ ยน ิ เสียงฝี เท้าค่อยๆ ไกลออกไป จึงลืมตาขึน้ นางมองไป
ขา้ งๆ เอ๋ เป็ นเหอฮวาจริงๆ ด้วย กําลังปิ ดตานอนหลับสนิ ทอยู่
เหอฮวาไม่ได้ดืมชาที่ ่
วางยา ดูท่าแลว้ น่ าจะถูกคนตีสลบ
่ เสินเวยผลั
“เหอฮวา ตืน” ่ กเหอฮวาเรียกเสียงเบา
่
ครูใ่ หญ่เหอฮวาเพิงจะลื ้ ้าๆ แวบแรกที่เห็นคุณหนู ของตน
มตาขึนช
้
นางทังตกใจทั ้ ใจ “คุณ…” ทันใดนั้นก็คลา้ ยตระหนักอะไรได้จงึ
งดี
่
รีบปิ ดปากทันที เหลือเพียงสายตาทีประหลาดใจคู ่หนึ่ ง
่
เสินเวยทํ าท่า ‘ชูว่ ’ ให้นาง เหอฮวาพยักหน้าอย่างเขา้ ใจ “คุณชาย
ท่านไม่เป็ นไรใช่หรือไม่ ร ้านค้าแห่งนั้นเป็ นร ้านมืด คุณหนู ญาติผู ้
น้องถูกอาจารย ์โอวหยางช่วยไว”้ เหอฮวากล่าวเสียงเบา นางมอง
ไปรอบด้าน “คุณชาย ทีนี ่ ่ คือทีไหน”
่ เมื่อเห็นคุณหนู ของตน หัวใจ
นางก็สงลบลง มีคุณหนู ของนางอยู่ พวกนางจะต้องไม่เป็ นอะไร
แน่ นอน
่
เสินเวยส่ ่ ่ มันทีบ
ายหน้า “ไม่รู ้” ใครจะรู ้ว่าทีนี ่ า้ อะไรกัน นางลุกขึน้
่
ยืนเดินไปขา้ งๆ ประตู เสินเวยรวบรวมสติ คลา้ ยกําลังครุน
่ คิด
้ งมีอก
“คุณชาย ตรงนี ยั ี หนึ่ งคน” เมือครู
่ เ่ อาแต่ตกใจ เหอฮวาเพิงจะ่
เห็นว่าในห้องนอกจากพวกนางนายบ่าวแลว้ ยังมีอก ี หนึ่ งคน ดูจาก
การแต่งตัวเหมือนคุณชายตระกูลใหญ่
่
เสินเวยพยักหน้า เดินเขา้ ไปกล่าวเสียงเบา “เหมือนพวกเรา น่ าจะ
ถูกจับตัวมา”
่
ความคิดทีอดไม่ ได้ในใจเหอฮวาก็ผ่านมาเพียงแวบเดียว ในเมือ ่
่
คุณหนู บอกว่าไม่ควร นางก็เปลียนความสนใจทั นที “คุณชาย
้
ตอนนี พวกเราจะทํ าอย่างไรดี” เหอฮวากังวลเล็กน้อย นางดีใจทีคน ่
่ กจับตัวเป็ นตน หากว่าเป็ นคุณหนู ญาติผน
ทีถู ู้ อ
้ ง กูไหน่ ไนจะไม่
้ งหงุ ดหงิดตัวเองทีไม่
เป็ นกังวลแย่หรือ ซํายั ่ สามารถวิงให้่ เร็วกว่านี ้
่ วกว่านี ้ อาจารย ์โอวหยางก็สามารถช่วย
ได้ ขอเพียงแค่นางวิงเร็
นางไปพร ้อมกันได้แลว้ จะได้ลดภาระคุณหนู ในตอนนี ้
สําหรับความคิดโง่เขลาเช่นการเสียงอั ่ นตรายเป็ นเพือนคุ
่ ณหนู นาง
้ ครังก่
ไม่มเี ลยแม้แต่นิดเดียว ตังแต่ ้ อนที่ผ่านการลอบสังหารที่
้ นพวกนางก็มค
หมู่บา้ น สาวใช ้ขา้ งกายคุณหนู เหล่านี เช่ ี วาม
คิดเห็นตรงกัน นั่นก็คอ ่
ื เมือเจออั นตรายจะต้องคิดหาวิธปี กป้ อง
่ า้ ไปหาคมดาบ ไม่มพ
ตัวเองให้ได้ อย่าได้อวดเก่งวิงเข ี วกนางเป็ น
ตัวถ่วง คุณหนู จะหลบหนี ได้ง่ายอย่างยิง่ ส่วนการรับดาบรับกระบี่
แทนคุณหนู เหอๆ รู ้ตัวบา้ งก็ดี คุณหนู ของพวกนางไม่ตอ้ งการ
้ ง
อย่างสินเชิ
่
เสินเวยครุ น ่ นึ่ ง หลังจากนั้นก็ก ้มลงกระซิบขา้ งหูเหอฮวา
่ คิดครูห
หลายประโยค เหอฮวาพยักหน้าอย่างหนักแน่ น “คุณชาย บ่าว
ทราบแลว้ ”
่
เสินเวยกระตุ กมุมปากนอนลงบนฟางแกลง้ ตายต่อ ในห้องมีเสียง
ร ้องตกใจของเหอฮวาดังขึน้ “คุณชาย คุณชาย ท่านเป็ นอะไรไป
รีบฟื ้นสิ ทีนี
่ ่ ทีไหน
่ ใครก็ได้ รีบมาช่วยที มีคนอยู่หรือไม่” เหอฮวา
่
โผเขา้ ไปทีประตู ออกแรงทุบตี
่
การเคลือนไหวใหญ่ อย่างยิง่ คนทีคุ
่ มพวกนางอยู่ย่อมได้ยินแลว้
เดินสถบเขา้ มา “โวยวาย โวยวายอะไร เงียบหน่ อยยังเหลืออีก
หลายวัน มิเช่นนั้นแลว้ ล่ะก็ หึๆ”
้
คนคุมนึ กสนุ กขึนมาในช ่ั
วขณะ เสียงดังปังเปิ ดประตูออก เขาเห็น
เหอฮวาทีล ่ ม้ นั่งอยู่บนพืนตื
้ นตระหนกจนทํ
่ าอะไรไม่ถูก อารมณ์ก็ดี
อย่างยิง่
้ อึงๆ
เหอฮวาราวกับถูกทําให้ตกใจ ลูกตาหดเล็ก กล่าวอําๆ ้ “ค…
ื่
คุณชายช ้าของขา้ เรียก…เรียกไม่ตน”
ื่ ถูกแลว้ นี่ มันยาสลบทีซื
“เรียกไม่ตนก็ ่ อมาด้
้ วยเงินก ้อนใหญ่
่
พอแลว้ ในเมือมาถึ งตรงนี แล ้ ว้ ก็อยู่ให้มน
ั นิ่ งๆ หน่ อย พรุง่ นี เช
้ ้า
ื่
คุณชายเจ ้าก็ตนแล ว้ ” คนคุมยื่นมือคิดจะจับใบหน้าเล็กๆ ของ
เหอฮวา
เหอฮวาได้ยน ิ ดังนั้นก็เหมือนกระต่ายน้อยทีตกใจ
่ ่ บชาย
มือทีจั
่
กางเกงก็ปล่อยออกทันที ดวงหน้าทีงดงามแดงกํ ่าอย่างขลาดกลัว
“ขา้ …ขา้ อยาก…” นางกุมท้องน้อย ท่าทางเขินอายแทบตาย
่
“พีชายช่ วยพาไปทําธุระหน่ อย”
้
“แต่…แต่ว่า…” เหอฮวาหันหน้ามองคนทังสองที่
นอนอยู ่บนพืน้
่ าเดิม “พีชายช่
หน้าแดงยิงกว่ ่ วยทีเถอะ” บนใบหน้างดงามเต็มไป
ด้วยการร ้องขอ
ชายมีปานยังคงใจอ่อนเล็กน้อยจริงๆ “ก็ได้ๆ เจา้ รีบออกมา พวก
้
เจ ้าตระกูลใหญ่โตเช่นนี แหกกฎเยอะ ขา้ จะบอกอะไรเจ ้าให้ ทําตัว
่ ตย ์หน่ อย ห้ามมองไปรอบด้าน ได้ยน
คล่องแคล่วหน่ อย ซือสั ิ
่
หรือไม่” เพียงแค่เด็กผูห้ ญิง จะเกิดเรืองอะไรได้
่
ชายมีปานมีความสุขแลว้ “ใช่ๆ พีชายเป็ ๋
นคนดี เดียวเจ ้าก็รู ้”
่
“พ…พีชาย” ่
ในขณะทีชายมี ิ เสียงที่
ปานคิดไปไกล จู่ๆ ก็ได้ยน
ขลาดกลัวของเด็กผูห้ ญิงดังออกมาจากขา้ งใน
่
“พีชายช่ ่
วยหน่ อยเถอะ พ…พีชายคนดี
ของขา้ ” เหอฮวาร ้องขอต่อ
มองแผ่นหลังทีวิ่ งออกไปไกลของเหอฮวา
่ ่
เสินเวยก็ หน
ั หน้ากลับมา
่ าประตูเรือน ทําท่าทางให้เหมือน
กล่าว “เจ ้า แบกเขาไปทีหน้
สัปหงก”
่
คุณชายทีตามเสิ ่
นเวยออกมาผู น้ ั้นชีจมู
้ กตัวเอง “ขา้ หรือ” ท่าทาง
เหลือเชือ่ “พีชายท่
่ านนี ้ ขา้ น้อยร่างกายอ่อนแอ จะแบกรับหน้าทีที ่ ่
้ อย่างไร คุณชายทําเองเถิด”
หนักเพียงนี ได้
่
เสินเวยมองประเมิ ้ ศรี ษะจรดปลายเท้าอย่างเย็นชาปราด
นเขาตังแต่
หนึ่ ง มุมปากยกขึน้ “เจ ้าจะไม่ทําก็ได้” รอยยิมบนใบหน้
้ าคุณชาย
ป่ าวประกาศว่าตนอ่อนแอเพิงจะยิ ่ ้
มไปได้ ่ ยว ก็ได้ยน
ครึงเดี ิ ประโยค
่
ถัดไปของเสินเวย ๋
“อีกประเดียวปลุ ่ อในลานบา้ นแห่งนี ้
กคนทีเหลื
จนแตกตืน ่ ก็ไม่รู ้ว่าพีชายที
่ ร่่ างกายอ่อนแอผูน้ ี จะหนี
้ ออกมาอย่าง
่
ปลอดภัยได้หรือไม่” เสินเวยแสร ้งทําท่าทีจะเดินหนี ท่าทางไม่ยุ่ง
่
เรืองของคนอื ่ ดขาด
นเด็
่
“ช ้าก่อนๆ พีชายอย่ ่
าเพิงไป อย่างไรเสียพวกเราก็ผ่านหายนะมา
่
ด้วยกัน พีชายจะทิ ้ า้ น้อยไวค้ นเดียวได้อย่างไร” คุณชายอ่อนแอ
งข
ตะโกนกล่าวอย่างลนลาน เสินเวยเห็ ่ ่
นสัญญาณทีลอยขึ ้ าไม่
นฟ้
่ น้
ไกล ฝี เท้าก็ก ้าวเร็วยิงขึ
คุณชายอ่อนแอผูน ้ ั้นเห็นเสินเวยใจแข็
่ งไม่สนใจเขา ก็จ ้องมองชาย
่
ฉกรรจ ์ทีนอนอยู ่บนพืน้ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ แต่
กลับทําได้เพียงก ้มตัวลงไปแบกคนขึนมา ้ เดินไปพลางส่ายหน้าไป
พลางทอดถอนใจ “ใจคนยากแท้หยั่งถึง ยากแท้หยั่งถึง”
่
หางตาของเสินเวยเห็ นฉากๆ นี ้ ในใจก็แค่นเสียงอย่างเย็นชา มือ
ขา้ งหนึ่ งยกชายฉกรรจ ์ร่างใหญ่ขนมา
ึ้ ่ นก็ยงั สบาย
ระหว่างทีเดิ
่ ด ร่างกายอ่อนแอบา้ อะไร นี่ มันเจ ้านายทีทํ
อารมณ์อย่างถึงทีสุ ่ าตัว
่ นแมวนอนหวด ไม่คด
ซือเป็ ่
ิ จริงๆ ว่าเสินเวยจะมี วน ่
ั ทีมองพลาดไป
้
ก่อนหน้านี ชายมี ่
ปานกับเหอฮวาออกไป เสินเวยก็ ้
ตะกายขึนมา
กําลังจะใช ้ปิ่ นงัดกลอนออกก็รู ้สึกว่าไหล่ถูกตบ เสินเวยไม่
่ แม้แต่จะ
คิดก็จบั มือขา้ งนั้นบนไหล่ไว ้ ร่างถอยไปอย่างรวดเร็ว ปิ่ นในมืออีก
ขา้ งหนึ่ งก็แทงออกไป
่
แม้เสินเวยจะหยุ ่ วขึนมา
ดจู่โจม แต่ในใจกลับตืนตั ้ ้
คนผูน้ ี สามารถ
่ ตอ้ งเอ่ย
มายืนอยู่ขา้ งหลังนางเงียบๆ ได้ก็ทําให้นางตกใจแลว้ ยิงไม่
่
ถึงทีเขาหลบการจู ่โจมของนางได้ ดูเหมือนจนตรอก แต่ในความ
จนตรอกกลับค่อนขา้ งมีลําดับขันตอน้ ้ นศัตรูหาใช่
หากคนผูน้ ี เป็
มิตร เช่นนั้นผลลัพธ ์เล่า เสินเวยคิ
่ ดแลว้ ก็ยงั หวาดกลัวอยู่พก ั หนึ่ ง
คนผูน้ ้ันเห็นท่าทีระมัดระวังตัวของเสินเวย
่ จึงถือโอกาสนั่งลงบน
พืน้ ปากก็บ่นอย่างไม่พอใจ “ขา้ ว่าพีชายผู
่ ้ ใจร ้ายเกินไปหน่ อย
น้ ี ก็
่
แลว้ กระมัง หากไม่ใช่ว่าขา้ น้อยโชคดี เมือครู ท
่ ่านก็คงจะทําลาย
ใบหน้าอันงดงามของขา้ น้อยแลว้ ต่อให้เคียดแค้นมากเพียงใด
้
อย่างไรเสียตอนนี พวกเราก็ ลงเรือลําเดียวกันแลว้ ” เขาลูบหน้า
ตัวเอง ท่าทางหลงตัวเองอย่างยิง่
่
เสินเวยกระตุ กมุมปาก กล่าวในใจ หากคนผูน้ ี ไม่ ้ ใช่คนโง่ เช่นนั้นก็
เป็ นคนยากแท้หยั่งถึง นางจ ้องมองเขาอยู่นานจึงเก็บปิ่ นแลว้ เดิน
ออกไปนอกประตู ใครจะรู ้คนผูน ้ ั้นขา้ งหลังกลับตามมาด้วย
ตอนที่ 200-2 เล่นหยอกล้อในคฤหาสน์ ระหว่ างทางกลับเมืองหลวง
ทหารลับที่ตามหาคนในเมืองทงโจวเห็นพลุสัญญาณที่ลอยขึ้นฟ้า
ทางทิศตะวันออกเฉี ยงใต้ ทั้งหมดก็กม้ หน้าก้มตาวิ่งไปยังทิศทาง
นั้น อย่า งรวดเร็ ว โอวหยางไน่ ไ ต่ ส วนเด็ก ในร้ า นค้า แห่ ง นั้นได้
ครึ่ งหนึ่ง เห็นสัญญาณนั้นจากนอกหน้าต่าง ก็ถือโอกาสผลักเด็กใน
ร้านแล้วจึงวิง่ พุง่ ออกไป หัวใจก็วางลงกว่าครึ่ ง
พลุสัญญาณนั้นไม่เพียงแต่มีโอวหยางไน่ และทหารลับที่มองเห็น
แล้ว คนจานวนหนึ่ ง ในเมื อ งทงโจวก็มองเห็ นแล้วเช่ นกัน คนที่
คุน้ เคยตาแหน่ งนั้นจานวนหนึ่ งชั่วขณะสายตาก็เฉี ยบแหลม “แย่
แล้ว คฤหาสน์เกิดเรื่ องแล้ว รี บนากาลังคนไป”
ส่ วนคนที่คนุ ้ เคยตาแหน่งนั้นอีกจานวนหนึ่งก็หวั เราะบนความทุกข์
ของผูอ้ ื่น “เหอะๆ คราวนี้ หมิ่นเหล่าซานเจอตัวฉกาจเข้าให้แล้ว ”
ศรสัญญาณยิงออกไป สหายหมื่นพันก็ปรี่ ไปช่วย คนทัว่ ไปไหนเลย
จะมีของชนิ ดนั้น อยากจะเห็นหมิ่นเหล่าซานล้มยิ่งนัก กาแหง ให้
เจ้ากาแหงไป สักวันก็ตอ้ งมีคนมาเก็บเจ้า
“ใครก็ ไ ด้ช่ว ยที เกิ ด เรื่ อ งแล้ว ลู ก พี่ ถู ก คนฆ่า ตายแล้ว ” คนผูน้ ้ ัน
ตะโกนเสี ยงดังอย่างตื่นตระหนกขึ้นมา
เหอฮวาทาได้เพียงสะกดกลั้นความกลัวในใจปล่อยมือลง
บริเวณทีห่ ่างไกลจากเมืองหลวงสองร้อยกว่าลี้มีภูเขาใหญ่ที่
ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางอย่างถึงที่สุดอยู่หนึ่งลูก ชื่อว่าเขาชิงลั่ว
ลึกเข้าไปในเขาลูกใหญ่มีวัดจยาหลานวัดเก่าแก่อยู่หนึ่งแห่ง ย้อนไป
เมื่อรัชสมัยก่อน นับๆ ดูแล้วก็มีประวัติศาสตร์มาห้าหกร้อยปีได้แล้ว
ทั่วทั้งวัดมีกลิน่ อายของความเก่าแก่และความยาวนานชนิดหนึ่ง
แต่ใครจะคิดได้ว่าวัดทีผ่ ู้คนเลื่อมใสแห่งนี้กลับซ่อนสิ่งชั่วร้ายให้
กลายเป็นสถานที่สะสมกองกำลังส่วนตัวของใครบางคน
สวีโย่วได้รบั พระราชโองการของจักรพรรดิยงเซวียนก็แฝงตัวเข้าไป
สืบความลับในที่มืด ตามข้อมูลจำนวนหนึ่งทีจ่ ักรพรรดิยงเซวียนพระ
ราชทานมา จากเมืองหลวงไปทางตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากนั้น
เบาะแสก็ขาดหายไป ใช้เวลาอยู่สองวันจึงสืบหาเงื่อนงำบางอย่างได้
ทิศทางกลับชี้ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ พวกเขาก็มุ่งไปทาง
ตะวันตกเฉียงเหนืออย่างไม่หยุดพัก เริ่มต้นก็ราบรื่นดีอย่างยิ่ง
ท้ายที่สุดเบาะแสไม่มีอีกแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้สวีโย่วจึงพาคนวิ่งอ้อม
ในที่สุดก็กำหนดเป้าหมายได้ทวี่ ัดจยาหลานบนเขาชิงลั่ว
มีสำนวนว่าไว้ไม่ใช่หรือว่า ‘แม้จะสวมชุดฮ่องเต้ก็ยังไม่เหมือนรัช
ทายาท’ ส่วนคุณชายของพวกเขาสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งก็ยังไม่เหมือน
ขอทาน
ได้ยินเจียงเฮยเจียงไป๋เอ่ยถึงเสิ่นเวย ดวงตาของสวีโย่วก็ปรากฏ
รอยยิ้มหลายส่วน ใช่แล้ว นั่นมันเด็กสาวเจ้าเล่ห์กลับกลอก มีนางอยู่
ตนก็ไม่ต้องกลุ้มใจอย่างตอนนี้ ตนโรคเก่ากำเริบ เลื่อนงานสมรส
ออกไป เด็กน้อยคนนั้นจะดีใจหรือว่าโมโห เป็นห่วงเขาหรือไม่ …อยู่
ในจวนรอตนไปสู่ขอที่หน้าประตูอย่างเชื่อฟังหรือไม่
“ช่างเถอะ คุณชายท่านกลับไปเป็นตัวเองเถิด ท่านไม่เหมือนลูก
คุณชายตระกูลเศรษฐีที่ไม่เอาไหน เจียงเฮยเจียงไป๋เองก็ไม่เหมือน
สุนัขรับใช้ พวกเราต้องเปลี่ยน” ซังหลิ่งกล่าว เขาก็คือผู้จัดการร้าน
หนังสือผูน้ ั้นที่เสิน่ เวยเคยเห็น “เจียงเฮยเจียงไป๋เป็นทหารคุ้มกัน
ของท่านดีกว่า ส่วนท่านก็เป็นคุณชายตระกูลขุนนางที่ปว่ ยออดแอด
ที่บ้านไม่วางใจ ข้างกายมีทหารคุ้มกันติดตามหลายคนก็เป็นเรื่อง
ปกติอย่างยิ่งมิใช่หรือ”
พ่อบ้านรองเห็นเสิ่นเวยกลับมาแล้ว หัวใจทั้งดวงก็นับได้ว่าวางลง
แล้ว หากคุณหนูสี่เป็นอะไรไปข้างนอก เขาเองก็ไม่ต้องกลับจวนจงอู่
โหวแล้ว หาต้นไม้ที่มีกิ่งโน้มเอียงแล้วผูกคอตายได้เลย
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ทหารลับก็เข้ามารายงานข่าวด้วย
ตัวเอง “ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหลายสืบหาแล้ว ผู้มีอำนาจในเมืองทง
โจวก็คือตระกูลหมิ่น ครอบครองพื้นที่ทางตะวันออกของเมือง
คฤหาสน์หลังนัน้ ที่คุณชายอยู่กอ่ นหน้านี้เป็นคฤหาสน์ภายใต้ชื่อ
พ่อบ้านใหญ่ข้างกายนายท่านสามตระกูลหมิ่น ผู้น้อยคิดว่าเรื่องนี้
น่าจะหนีไม่พน้ ต้องเกี่ยวข้องกับนายท่านสามตระกูลหมิน่ ”
เสิ่นเวยพยักหน้า “นายท่านสามแซ่หมิ่นมีประวัติอย่างไร”
“บุตรภรรยาเอกตระกูลหมิ่นมีสามคน แม้ว่านายท่านสามแซ่หมิ่น
จะถูกเรียกว่านายท่านสาม แต่กลับเป็นบุตรภรรยาเอกคนโต คนผู้นี้
ค่อนข้างแผนสูง ฝีมือก็โหดเ**้ยม การค้าในมือก็มีส่วนเกี่ยวเนื่องถึง
ขอบเขตมากมาย ฮูหยินที่เขาแต่งงานก็มีฐานะในตระกูลดี หลายปี
มานี้บ้านใหญ่ได้เปรียบมาโดยตลอด” ทหารลับกล่าว
เสิ่นเวยพยักหน้าอีกครั้ง แววตาคล้ายกำลังครุ่นคิด “คืนนี้พวกเจ้า
ตื่นตัวไว้”
เสิ่นเวยชายตามองเขาปราดหนึ่ง “เจ้าคิดว่านายท่านสามแซ่หมิ่น
เสียหายมากเพียงนี้แล้วจะยังกล้ำกลืนฝืนทนหรือ ทำได้หรือ ข้าจะ
บอกพวกเจ้าให้ ไม่ว่าเรื่องในวันนี้จะเป็นฝีมือของนายท่านสามแซ่
หมิ่น หรือเป็นฝีมือของคนใต้บังคับบัญชาเขา ล้วนแต่ไม่ใช่เจตนา
เพียงชั่วครู่ เกรงว่าพวกเขาจะจับตาดูข้ากับลูกผู้น้องอยู่นานแล้ว
พวกเราไปที่ไหนพวกเขาก็รู้ได้อย่างชัดเจน มิเช่นนั้นจะรออยู่ในร้าน
เครื่องประดับร้านนั้นพอดีได้อย่างไร”
เทียบเชิญนี้ตอนที่ออกมาเสิ่นเวยยัดไว้ในอกลวกๆ เดิมคิดว่าไปอวิ๋น
โจวอาจจะได้ใช้ ไม่คิดว่าจะได้ใช้มันที่เมืองทงโจวจริงๆ
เหอฮวากำลังเล่าคุณูปการความกล้าหาญของตัวเองให้คนหลายคน
ฟังอย่างตื่นเต้นดีใจ “เสียดายพวกเจ้าไม่เห็น คนชั่วผู้นั้นสูงเพียงนี้
แข็งแรงเพียงนี้ น่าจะจัดการข้าได้สามคน เขายิ้มเยาะกำลังจะเข้ามา
จับข้า ข้าหมอบลงไป เพียงแค่ก้มตัวก็หลบได้แล้ว ข้าวิ่งเร็วมาก เขา
ตามข้าอยู่นานก็ยังตามไม่ทัน ฮ่าๆ ไฟในคฤหาสน์หลังนั้นข้าคนเดียว
ก็จุดไปสามแห่งแล้ว ใช่ไหมคุณชาย” เหอฮวาถามเสิ่นเวยอย่าง
คาดหวัง ภูมิใจยิ่งนัก
เห็นความจริงจังบนใบหน้าเถาฮวา เสิ่นเวยรู้สึกหวานชื่นในใจอย่าง
ไม่มีเหตุผล “ได้ ครั้งหน้าข้าจะตะโกนเรียกเถาฮวา เถาฮวาของพวก
เราเก่งที่สุด”
ตอนที่ 201-2 นายท่านสามแซ่หมิ่นระหว่างทางกลับเมืองหลวง
เสิ่นเวยหันหลังกลับ มองเห็นคุณชายคนโง่ผู้ที่อยู่ข้างหลังเถาจือ บน
ร่างยังคงสวมชุดสีฟ้าอ่อนตัวนัน้ อยู่ ยับย่นสกปรก มวยผมก็ยงั บิด
เบี้ยว แต่ใบหน้ากลับล้างสะอาดแล้ว คิ้วตรงยาว ตาดำเป็นประกาย
นับได้ว่าหน้าตาดี มิน่าเล่าจึงถูกคนชอบใจจับตัวไป
เพียงแต่คนโง่ผู้นี้ดูเหมือนบุตรหลานตระกูลร่ำรวย เด็กรับใช้ที่
ติดตามข้างกายเล่า คงจะไม่ได้หนีออกจากบ้านมาใช่หรือไม่ เสิ่นเวย
กำลังวิจารณ์ในใจ ก็เห็นคุณชายคนโง่กล่าวอย่างน่าสงสาร “ช่วยคน
ก็ช่วยให้ถึงที่สุด ส่งพระพุทธเจ้าก็ส่งให้ถึงฟ้า พี่ชาย สามารถเปลี่ยน
ชุดให้ข้าน้อยได้หรือไม่ ชุดนี้แปดเปื้อนพลังอันสง่างามองอาจของ
ข้าน้อย” เขาใช้นิ้วสองนิ้วคีบชุดที่ตนสวมอยู่ด้วยความรังเกียจ
บนใบหน้าคุณชายคนโง่ปรากฏความเคอะเขินหลายส่วน “พี่ชาย
ช่วยหาสาวใช้ให้ข้าน้อยหน่อย ข้าน้อย ข้าน้อยหวีผมไม่เป็น”
“ได้ เถาจือ เจ้าไปปรนนิบัติคณ ุ ชายท่านนี้” เสิ่นเวยรับปากอย่าง
สบายอารมณ์ยิ่งนัก นางก็ว่าคนโง่ผู้นสี้ นใจในรูปลักษณ์ภายนอกของ
ตนเช่นนี้ เหตุใดผมถึงยุ่งเล่า ทีแ่ ท้แล้วก็หวีผมไม่เป็น เหอะๆ โรคคน
รวย ลูกคนรวย
ไม่เอาเงินแล้วก็ได้ ขอแค่รีบพาไปเถอะ
“นายท่านสาม จิตใจที่จงรักภัคดีต่อท่านของผู้น้อยฟ้าดินเป็นพยาน
ได้ หากท่านเห็นแก่ความจงรักภัคดีของผู้น้อยก็โปรดไว้ชีวติ ผูน้ ้อย
ครั้งนี้ด้วยเถอะ นายท่านสาม ผู้น้อยโขกศีรษะให้ท่านแล้ว” ขณะที่
พูด ศีรษะนั้นก็โขกลงบนพื้นดังตุบๆๆ โลหิตสดสีแดงฉานนั้นก็ไหล
ลงมาตามแก้ม
ทว่าหมิ่นซือเหนียนกลับไม่ขยับ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย คล้ายกำลัง
หลับอยู่ แต่อันที่จริงตอนนีไ้ ฟโกรธในใจเขาพุ่งพล่าน กี่ปีแล้ว ตั้งแต่
ที่เขาใช้อุบายโหดเ**้ยมสั่นคลอนบ้านรองและบ้านสาม จนไม่มีใคร
กล้ามาระรานเขาอีก แต่เด็กสองคนที่ยังไม่โตกลับต้มเขาจนเปื่อย
เขาจะกล้ำกลืนความโกรธนีล้ งได้อย่างไร
แม่เล้าฉินเห็นใบหน้าเอ้อร์กุ้ยเต็มไปด้วยโลหิต ในใจก็ทนไม่ไหว
หลายส่วน ผลักหมิ่นซือเหนียนเบาๆ “นายท่านสาม ไม่มีใคร
สมบูรณ์แบบทุกคนล้วนเคยผิดพลาด เอ้อร์กุ้ยเองก็ติดตามท่านมา
หลายปีแล้ว ไม่ได้สร้างคุณูปการแต่ก็ทำงานอย่างหนักมิใช่หรือ ท่าน
เป็นเจ้าคนนายคนต้องใจกว้าง ให้อภัยเขาสักครั้งเถอะ”
อันที่จริง แม่เล้าฉินพูดประโยคขอความเมตตานี้ออกมาในใจก็พะว้า
พะวงเช่นกัน แม้ว่าหอซิ่งชุนแห่งนี้จะเป็นของนาง แต่เงินที่ทำงาน
แลกมาครึ่งหนึ่งกลับตกอยู่ในมือของหมิ่นซือเหนียน แม้แต่ตวั นาง
เองยังเป็นของที่หมิ่นซือเหนียนหวงแหน แต่นางเองก็หมดหนทาง
ไม่พึ่งเขา หอซิ่งชุ่นแห่งนี้ก็ประคับประคองไม่ไหวหรอก
“รู้ภูมิหลังของพวกเขาหรือไม่” หมิ่นซือเหนียนถาม
“คนที่จับกลับมาคนแรกดูเหมือนจะเป็นคุณชายตระกูลร่ำรวย ไม่
เคยออกจากบ้านมาก่อน คนก็โง่เขลา” ผู้ใต้บังคับบัญชานึกถึง
เหตุการณ์ที่คนโง่ผนู้ ั้นให้เงินจำนวนมากแก่ขอทานข้างถนน ทำให้
คนมาแย่งชิง ส่วนเขาที่ไร้ประสบการณ์ก็เข้าไปไกล่เกลี่ยจนแทบจะ
ถูกตีพักหนึ่ง
“สำหรับเด็กคนหลังคล้ายเป็นบุตรหลานขุนนาง ได้ยินเด็กใน
โรงเตี๊ยมหรงฝูบอกว่าพวกเขามีนายสามคน ญาติผู้พี่ ญาติผนู้ ้อง
และกูไหน่ไนอีกหนึ่งคน คล้ายจะกลับเมืองหลวงไปเยีย่ มญาติ นาย
ท่านสาม ท่านคิดว่า?” ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้นั้นกล่าวไปพลาง สีหน้าก็
มีความลังเลหลายส่วน
ตระกูลหมิ่นไม่มีใครในทงโจวกล้ายุแหย่ แม้แต่ใต้เท้าข้าหลวงก็ต้อง
ให้เกียรติหลายส่วน แต่อย่างไรเสียเด็กคนนั้นก็เป็นบุตรหลาน
ตระกูลขุนนาง แต่ไหนแต่ไรมาประชานชนสู้ขุนนางไม่ได้ ใครจะรู้ว่า
เบื้องหลังเด็กคนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ยุ่งยากซับซ้อนอะไรหรือไม่
ทว่าหมิ่นซือเหนียนกลับไม่คิดเช่นนี้ เป็นบุตรหลานขุนนางแล้ว
อย่างไร คุณชายคุณหนูตระกูลขุนนางที่ส่งผ่านมือเขาออกไปมีน้อย
หรือไร ถึงตอนนั้นทิ้งศพไว้ที่กน้ แม่น้ำ ลบร่องรอยทั้งหมด ใครจะสืบ
สาวมาถึงตัวเขาได้อีก ต่อให้สบื มาถึงตัวเขาเขาก็ไม่กลัว หลักฐาน
หลักฐานเล่า ไม่มีหลักฐานแล้วจะทำอะไรเขาได้
“คืนนี้เจ้าพาคนฝีมือดีไปให้มากหน่อย ให้คนในเมืองทงโจวได้เห็น
จุดจบของคนที่ยุแหย่นายท่านสามแซ่หมิ่นเช่นข้า” หมิ่นซือเหนียน
วางแก้วชาลงบนโต๊ะอย่างแรง ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุร้าย
ตอนนี้ใต้เท้าอวี๋ข้าหลวงเมืองทงโจวถือเทียบเชิญของจวนจงอู่โหว
ลำบากใจไม่สิ้นสุด นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน คุณชายจวนจงอู่โหววิ่ง
มาถึงเมืองทงโจวได้อย่างไร ซ้ำยังไปสร้างความแค้นให้หมิ่นเหล่า
ซานตัวปัญหาผู้นนั้ อีก ตระกูลเจ้าสองคนผูกพยาบาทก็ผูกพยาบาท
ไปสิ เหตุใดต้องลากข้าเข้าไปเกี่ยวด้วย
คุณชายสี่แซ่เสิ่นมาขอยืมคนจากเขา เขาจะให้ยืมหรือไม่ให้ยืมดี
หากให้ยืม ผิดใจหมิน่ เหล่าซาน ตระกูลหมิ่นเป็นผู้มีอำนาจใน
ท้องถิ่น ไปขัดขาเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการได้ง่ายๆ หลายปีมานี้เขา
กับตระกูลหมิ่นต่างคนต่างอยู่ กลับไม่มีปัญหาอะไร แม้ว่าเขาจะไม่
กลัวตระกูลหมิน่ แต่ขอเพียงแค่เขายังดำรงตำแหน่งข้าหลวงเมืองทง
โจวอยู่ ก็ไม่ควรผิดใจตระกูลหมิ่นมากเกินไป
หากไม่ให้ยืม ผิดใจจวนจงอู่โหว ภูมิหลังนี้ใหญ่เสียยิ่งกว่า มีใครไม่รู้
บ้างว่านายท่านผู้เฒ่าเสิ่นโหวผูน้ ั้นเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่จักรพรรดิ
โปรดปราน หากคุณชายสี่แซ่เสิ่นเกิดเรื่องขึ้นในอาณาเขตเมืองทง
โจว เช่นนั้นตำแหน่งข้าหลวงของเขาก็อยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่แน่ว่า
อาจจะนำหายนะมาสู่คนในครอบครัวอีกด้วย
ตอนนี้นอกประตูมีเสียงฝีเท้าดังเข้ามา ตามมาด้วยเสียงของฮูหยิน
คิ้วของข้าหลวงอวี๋ก็ยิ่งขมวดมุน่ “ฮูหยินมาได้อย่างไร”
อวี๋ฮูหยินมองค้อนสามีปราดหนึ่ง “ไม่ใช่กลัวว่านายท่านจะตัดสินใจ
ผิดหรือไร” ที่เรือนหน้านางเองก็มีคนสนิท ย่อมรู้เรื่องที่คุณชายสี่
จวนจงอู่โหวมายืมคนแล้ว นางจึงรีบตามมาทันที
หลังจากใต้เท้าไปแล้ว หมิ่นซือเหนียนก็คว้าแก้วชาบนโต๊ะขึ้นมาแล้ว
ขว้างลงบนพื้นอย่างแรง คนทีย่ ืนรับใช้อยู่ภายในห้องต่างก็ใจสั่น ก้ม
หน้างุดอยากจะให้ตัวเองหายไปจากตรงนี้
แต่ว่าเด็กนั่นคือคุณชายจวนจงอู่โหวในเมืองหลวง นี่กลับทำให้เขา
ประหลาดใจ แต่หลังจากนัน้ เมื่อคิดดูแล้วก็เข้าใจ จวนจงอู่โหวตั้ง
ตระกูลจากการทหาร ข้างกายคุณชายจวนโหวจะไร้คนติดตามหลาย
คนได้อย่างไร มิน่าเล่าเร็วเพียงนั้นถึงได้หาคฤหาสน์เจอแล้ว
ชายในชุดจอมยุทธ์ถอนหายใจยาวโล่งอกอยู่เงียบๆ ในใจ
เสิ่นเวยทราบว่าพลลับหนึ่งไปยืมคนจากใต้เท้าข้าหลวงมาได้สำเร็จ
เข้าใจเรื่องราวที่ผ่านมาแล้ว มุมปากนางก็ยกขึ้น ดูท่าแล้วคืนนี้จะ
หลับสบายได้แล้ว สำหรับจิตใจของใต้เท้าข้าหลวงผู้นั้นนางกลับเดา
ได้หลายส่วน นางไม่ถือสาเลยแม้แต่นิดเดียว เรื่องบนโลกก็เป็น
เช่นนี้ แวดวงขุนนางก็เป็นเช่นนี้ ขอเพียงแค่ใต้เท้าข้าหลวงผูน้ ี้ไม่ใช่
คนเลอะเลือน นางก็ไม่ถือสาที่จะผูกพันธมิตรเพิ่มอีกหนึ่งคน
หลายปีมานี้ที่ใช้ชีวิตมา รวมกลุ่มกันจึงจะไปได้ไกล สู้เพียงลำพัง
เรี่ยวแรงยังคงไม่พอ
หมิ่นซือเหนียนไม่มีอารมณ์กินอาหารชั้นดีที่วางอยู่เต็มโต๊ะเลยแม้แต่
นิดเดียว ก้มหน้าดื่มสุราแก้วแล้วแก้วเล่า แม่เล้าฉินที่รินสุราอยู่ข้างๆ
ก็อกสั่นขวัญแขวน แม้จะรู้ว่าหมิ่นซือเหนียนคอแข็ง แต่ก็ไม่อาจดื่ม
หนักเช่นนี้ได้ ดื่มจนเมาแล้วยังไม่รู้ว่าจะทรมานตัวเองอย่างไร นึกถึง
นิสัยของหมิ่นซือเหนียน สีหน้าแม่เล้าฉินก็ซีดลงหลายส่วนอย่างอด
ไม่ได้
“นายท่านสาม เอาแต่ดื่มสุราเช่นนี้จะไปสนุกอะไร ให้ข้าเรียกแม่
นางหลายคนมาขับเพลงให้ท่านอารมณ์ดีดีหรือไม่ ช่วงนี้ซูซูเรียน
เพลงบทใหม่หลายบท ท่านยังไม่เคยฟังมิใช่หรือ ไม่สู้เรียกนางมา…”
เอ้อร์กุ้ยที่ยืนรับใช้อยู่ข้างนอกวิ่งเข้ามาทันที รอยเลือดบนศีรษะเขา
ล้างสะอาดแล้ว ศีรษะทั้งศีรษะพันผ้าขาวไว้หนึ่งรอบ มองไปแล้วดู
ตลกอย่างถึงที่สุด
“นายท่านสาม ท่านมีอะไรรับสั่งหรือขอรับ” บนใบหน้าเขามีรอยยิ้ม
สอพลอ ท่าทางเป็นสุนัขรับใช้
มือที่ถือแก้วของหมิ่นซือเหนียนหยุดชะงัก จากนั้นจึงจรดแก้วสุราไว้
ตรงมุมปาก เงยหน้า สุราในแก้วก็ลงท้องไปทั้งหมด “ไปเชิญ
อาจารย์เฮ่อมา” ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งไม่ยินยอม หากปล่อยให้จบเช่นนี้ใน
ภายหน้าเขาก็คงจะต้องกินไม่ได้นอนไม่หลับไปอีกนาน
หมิ่นซือเหนียนเองก็ไม่ได้ถือสาที่เขาไม่ถ่อมตน แต่กลับกล่าวอย่าง
สุภาพ “ครั้งนี้ต้องรบกวนอาจารย์ออกมือแล้ว”
ดังเช่นตระกูลใหญ่ทรงอำนาจ ตระกูลใดบ้างไม่มีไพ่ลับหลายๆ ใบ
และอาจารย์เฮ่อก็คือไพ่ลับหนึง่ ใบที่ดีที่สุดในมือหมิ่นซือเหนียน อัน
ที่จริงเขาเองก็ไม่รู้ว่าอาจารย์เฮ่อเป็นใครมาจากไหน กระทั่งไม่รู้ว่า
แท้จริงแล้วเขาแซ่เหอ หรือว่าในชื่อมีอักษรเฮ่ออยู่ เขาเพียงแค่
บังเอิญช่วยชีวิตเขาไว้หนึ่งครั้ง เขาจึงติดตามเขามาตระกูลหมิ่น
หลายปีมานี้ช่วยเขาจัดการเรื่องที่เขาไม่สะดวกออกมือไม่น้อย ทำให้
ฐานะในตระกูลหมิ่นของตนมัน่ คงยิ่งขึ้น ความระมัดระวังตัวในตอน
แรกที่เขามีต่ออาจารย์เฮ่อก็กลายเป็นความเชื่อใจและเคารพ
อย่างเช่นในตอนนี้
ราตรีมืดมิดสายลมกรรโชก ควรค่าแก่การสังหารวางเพลิง อาจารย์
เฮ่อยืนอยู่บนหลังคาเงยหน้ามองนภาที่ดำมืด ดวงจันทร์ในคืนนี้ราว
กับสัมผัสได้ถึงความไม่สงบ มักจะหลบเข้ากลีบเมฆอยู่เสมอ ดวง
ดาราก็ไม่มากเช่นกัน ประหนึ่งง่วงนอน กะพริบตาอย่างโรยแรง
หากเป็นกลางวัน เจ้าจะต้องมองเห็นความทุกข์ตรมในแววตาของ
อาจารย์เฮ่อ เสมือนพระพุทธเจ้าที่โปรดสรรพสิ่งอยู่บนตำหนัก
มุมปากของเสิ่นเวยกระตุกเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าหมอนี่ถือเทียนมา
ด้วย ห้องที่เขาอยู่ห่างจากห้องของเสิ่นเวยระยะหนึ่ง ไม่รู้เหมือนกัน
ว่าเขาปกป้องไฟไม่ให้ดับทั้งยังวิ่งมาเร็วเพียงนั้นได้อย่างไร
ตอนที่ 202-2 การปะทะระหว่างทางกลับเมืองหลวง
คุณชายฟู่โยนเทียนในมือไปบนร่างอาจารย์ฟู่ ยกหมัดขึ้นแล้วต่อย
ออกไป ท่ามกลางแสงไฟเสิ่นเวยมองเห็นโฉมหน้าของอาจารย์เฮ่อ
ประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ มือสังหารไม่ใช่หน้าตาโหดเ**้ยมดุร้ายน่า
กลัวหรอกหรือ เหตุใดมือสังหารผู้นี้ถึงได้เหมือนนักปราชญ์เลยเล่า
มีคุณชายฟู่กับทหารลับเข้ามา ชั่วขณะเสิ่นเวยก็ผ่อนคลายลง
โดยเฉพาะคุณชายฟู่ผู้นั้น ต่อยไปทางขวา เตะไปทางซ้าย อีกทั้งยัง
ร้องฮือๆ ไม่หยุด ประหนึ่งจนตรอกอย่างยิ่ง แต่เสิ่นเวยสังเกตเห็นว่า
เขาสามารถหลบกระบวนท่าสังหารในอันตรายซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ทุก
ครั้ง อย่าเห็นว่าเขาร้องโวยวาย ความจริงแล้วไม่ได้ถูกโจมตีเลย
นี่ทำให้เสิ่นเวยยิ่งมัน่ ใจว่าหมอนี่ทำซื่อเป็นแมวนอนหวด จึงปล่อยให้
เขาร้องตวาดไป ทำให้มือสังหารสับสนวุน่ วายจึงจะดี น่าเสียดายที่
เป้าหมายที่นางปรารถนากำลังจะล้มเหลวแล้ว อาจารย์เฮ่อสีหน้าไม่
สะทกสะท้าน กระบวนท่าก็ดุดนั ไม่ได้รบั ผลกระทบจากโลก
ภายนอกอย่างสิ้นเชิง
อาจารย์เฮ่อรู้ว่าวันนี้โจมตีไม่ได้แล้ว ต่อให้วรยุทธ์เขาจะสูงก็ยากจะ
ต่อสู้กับศัตรูหลายคน โดยเฉพาะเด็กที่โวยวายผูน้ ี้ เขาจะจัดการเขา
อย่างไร ปลายกระบี่อยู่ห่างจากเขาตั้งไกลก็ร้องจนห่างออกไปสิบลี้ก็
ยังได้ยิน แต่ว่าที่เด็กคนนี้ทำเป็นศิลปะการป้องกันตัวของตระกูลฟู่
เขาเป็นอะไรกับฟู่เซิ่งเทียนกัน
อาจารย์ฟู่คาดการณ์ได้ว่าไม่ดแี ล้ว เก็บพิรุธแล้วใช้กระบวนท่าหนึ่ง
กระโดดออกมาจากวงล้อม ประหนึ่งลูกนกนางแอ่นที่โผบินเข้าป่า
ขึ้นๆ ลงๆ ไม่กี่ครั้งก็หายไปในแสงยามราตรีที่ไร้ขอบเขตแล้ว
เสิ่นเวยเตะคุณชายฟู่ที่โวยวายว่านางได้ผลประโยชน์แล้วทิ้งผูน้ ั้น
ออกไป เดินหาวคลานขึ้นเตียง
คราวนี้โอวหยางไน่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่ยอมออกห่างแล้ว เฝ้าอยู่
นอกประตูห้องคุณหนูของเขาราวกับเสาหนึ่งต้น ส่วนทหารลับก็พา
กันซ่อนตัว
ไม่เอยถึงคฤหาสน์ยังดี เมื่อเอ่ยถึงคฤหาสน์แล้วแววตาของหมิ่น
ซือเหนียนก็มีความดุร้ายแวบผ่าน เขามั่นใจมากว่าคุณชายจวนโหวผู้
นี้ตรงหน้าจะต้องตั้งใจ เขาตั้งใจอยากยั่วโมโหตน เหอะ อายุยังน้อย
ก็เล่นอุบายต่อหน้าข้าแล้ว ไม่ดูบ้างว่าเจ้ามีความสามารถนัน้ หรือไม่
เดิมเขายอมให้ยืมกำลังคนก็เพื่อที่จะผูกมิตรกับคุณชายจวนจงอู่โหว
ผู้นี้ ไม่คิดว่าหมิ่นเหล่าซานชายผู้นี้จะไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่นิดเดียว นี่
ไม่ใช่ว่าเป็นการตบหน้าเขาอย่างจังหรอกหรือ อย่างไรเสียเขา
ต่างหากที่เป็นใต้เท้าข้าหลวงเมืองทงโจวแห่งนี้ ตระกูลหมิ่นกลั่น
แกล้งคนเกินไปแล้วจริงๆ ความไม่พอใจที่เขามีต่อตระกูลหมิ่น มีต่อ
หมิ่นซือเหนียนก็เลื่อนขึ้นหลายขั้นในชั่วพริบตา
“ขอบคุณคุณชายเสิ่นที่ตักเตือน ข้าเองก็กำลังสงสัย ตั้งแต่ที่ข้าเข้า
มาดำรงตำแหน่ง เมืองทงโจวแห่งนี้ก็สงบสุขยิ่งนัก เหตุใดเมื่อคืน
คุณชายสี่ถึงพบมือสังหารเข้าได้ เป็นข้าที่บกพร่องต่อหน้าที่ โชคดีที่
คุณชายไม่เป็นอะไร มิเช่นนั้นข้าก็ละอายใจอย่างยิ่งจริงๆ คุณชาย
วางใจ ในเมื่อข้าเป็นขุนนางปกครองเมืองทงโจว จะไม่ให้เกิดเรื่อง
เช่นนี้ขึ้นอีกเด็ดขาด” ใต้เท้าอวี๋สีหน้าจริงจัง พูดด้วยเสียงดังกังวาน
วางมาดขุนนางโปร่งใสเป็นธรรมที่คิดแทนราษฎร
หมิ่นซือเหนียนย่อมฟังการยุยงในคำพูดของเสิ่นเวยและความไม่
พอใจในวาจาของข้าหลวงอวี๋ออกแล้ว แต่แล้วอย่างไรเล่า หลักฐาน
ล่ะ หลักฐานเล่า เจ้าพูดปากเปล่าว่ามือสังหารเป็นข้าที่ส่งมา ข้าก็
พูดได้ว่าเจ้ามีเจตนาร้ายสาดสีใส่ข้าเช่นกัน
เห็นความเหยียดหยามแวบผ่านใบหน้าหมิ่นซือเหนียน ในใจ
ข้าหลวงอวี๋ก็ยิ่งแค้น เสิน่ เวยเห็นท่าทีแล้ว ก็ยกมุมปากอย่างอดไม่ได้
ภายใต้การส่งของข้าหลวงอวี๋และหมิ่นซือเหนียน เสิ่นเวยก็ขึ้นเรือ
เดินทางต่อ เสิ่นเวยยืนอยูบ่ นดาดฟ้าเรือ เมื่อมองไม่เห็นเงาคนบนฝั่ง
แล้วจึงเข้าไปในห้องใต้ท้องเรือของลูกผู้น้อง เมื่อวานนางถูกทำให้
ตกใจ เสิ่นเวยยังต้องชี้แนะนางสักหน่อย
เรือลำใหญ่เดินทางในน้ำมาสองวันแล้ว คืนวันนี้เสิน่ เวยเปลีย่ นชุด
ขึ้นเรือลำเล็กเงียบๆ คนที่ติดตามมีเพียงโอวหยางไน่กับพลลับหนึ่ง
แม้แต่เถาฮวานางก็ไม่พาไปด้วย แม้เถาฮวาจะห้าวหาญ แต่กลับ
ไม่ใช่คนชำนาญการลอบสังหาร
หากไม่มีการลอบสังหารครั้งนัน้ เสิ่นเวยก็อาจจะปล่อยหมิ่น
ซือเหนียนไป แต่ตอนนีน้ างจะต้องชำระแค้นนี้ให้ได้
ตอนที่ 203-1 ชำระหนี้แค้น
เหตุใดถึงเปลี่ยนเป็นสี่คนน่ะหรือ คนที่เพิ่มเข้ามาแน่นอนว่าเป็น
คุณชายฟู่คนโง่ผู้นนั้ คืนนัน้ เสิน่ เวยเพิ่งจะลงเรือลำเล็ก คุณชายฟู่ก็
กระโดดลงมาจากข้างบน เชิดหน้ายิ้มซื่อๆ ยียวน “พี่ชายจะไปหา
เรื่องคนแซ่หมิ่นหรือ ข้าน้อยจะไม่ไปด้วยได้อย่างไร พวกเราเป็นพี่
น้องที่ร่วมตกทุกข์ได้ยากมาด้วยกัน” เสิ่นเวยชายตามองเขาปราด
หนึ่งก็อนุญาตโดยนัยแล้ว
ตอนที่เมืองทงโจวอยู่ตรงหน้าก็เข้าสู่บ่ายวันทีส่ องแล้ว พวกเขาไม่ได้
เข้าเมืองทันที แต่เข้าโรงเตี๊ยมเล็กๆ แห่งหนึ่งเพื่อกินข้าวพักเท้าให้
พอแล้วจึงถือโอกาสเข้าเมืองในช่วงที่อาทิตย์ตกดิน แน่นอนว่ามีคน
คอยช่วยเหลือ สามวันก่อนเข้ามาก็เช่าเรือนหลังเล็กไว้เรียบร้อยแล้ว
ต่างฝ่ายต่างเข้าห้องนอนพักเอาแรง
ดูผิดหรือไม่ คลังลับไม่ใช่ว่าต้องคุ้มกันอย่างเข้มงวดหรอกหรือ
คฤหาสน์หลังนี้ถูกไฟไหม้แล้วก็กลายเป็นคฤหาสน์ร้างหนึ่งหลัง พวก
เขาเข้ามานานแล้ว แม้แต่เงาผียังมองไม่เห็น หมิ่นซือเหนียนจะเก็บ
คลังลับไว้ที่นหี่ รือ คุณชายฟู่แสดงท่าทีไม่เชื่อ
ไม่ได้เข้าไปในห้อง เสี่ยวตี๋เดินไปยังภูเขาจำลองลูกหนึ่งในลานบ้าน
กดลงบนผนังหินหลายครา ในท้องภูเขาจำลองก็ปรากฎเส้นทาง
เล็กๆ ที่ลงไปข้างล่างหนึ่งสาย เดินลงไปตามเส้นทางสายเล็กก็จะ
เป็นคลังลับของหมิน่ ซือเหนียน
“โห คนแซ่หมิน่ นี่มีเงินจริงๆ ครั้งนี้พวกเรารวยแล้ว” คบไฟจุดขึ้นมา
คุณชายฟู่ก็มองเห็น**บที่เต็มไปด้วยเงินทองแต่ละใบๆ ดวงตาก็
ตะลึงงัน
“นั่นก็ต้องระวังไว้ก่อนเหมือนกัน” เสิ่นเวยกำชับอย่างจริงจัง
ระมัดระวังจึงจะประสบความสำเร็จได้
คิดถึงอนาคตแม่เล้าฉินก็เกิดหวาดกลัวในใจ คนเช่นพวกนางจุดจบที่
ดีที่สุดก็คือการเป็นอนุภรรยาของคนร่ำคนรวย แต่แม่เล้าฉินไม่ยอม
ไปถูกเปรียบเทียบกับภรรยาหลวง จึงถือโอกาสไถ่ตัวเอง ใช้เงินเก็บ
ซื้อหอซิ่งชุนแห่งนี้ จากนั้นก็ซื้อเด็กสาวที่ท่าทางดีจำนวนหนึ่ง
ประกอบอาชีพเดิม ส่วนตนเองก็เป็นแม่เล้า
หมิ่นซือเหนียนก็คือที่พึ่งของแม่เล้าฉิน นางอยู่กับเขามาเกือบยี่สิบปี
แล้ว ไม่ใช่สามีภรรยาก็ยิ่งกว่าสามีภรรยา หอซิ่งชุนแห่งนี้พูดในอีก
ความหมายหนึ่งก็คือคฤหาสน์อีกหลังของหมิ่นซือเหนียน อีกทั้งยัง
เป็นคฤหาสน์ที่นำความมั่งคั่งมาให้เขา อย่างไรเสียกำไรครึ่งหนึ่งของ
หอซิ่งชุนในทุกๆ ปีต่างก็เข้ากระเป๋าเขา ดังนั้นหมิ่นซือเหนียนจึงให้
ความสำคัญกับแม่เล้าฉินอย่างยิ่ง
เรือนหน้าเต็มไปด้วยเสียงออดอ้อนอ่อนหวาน ดนตรีบรรเลงอย่าง
ต่อเนื่อง ทว่าในเรือนเล็กของแม่เล้าฉินกลับมีบรรยากาศคุกรุ่น
“หนีสิ กล้านักเจ้าก็หนีไปแล้วอย่าถูกจับกลับมา นางแพศยาให้หน้า
ไม่เอาหน้า ต่อให้เจ้าหนีออกไปแล้วก็ยังเป็นนางแพศยาอยู่ดี” หมิ่น
ซือเหนียนบีบคางของสตรีที่ถูกมัดไว้กับเสาผู้นั้น กล่าวด้วยใบหน้าดุ
ร้าย
อันที่จริงไม่ต้องให้หมิ่นซือเหนียนตะโกน คนที่คุ้มกันเขาซึ่งหลบอยู่
ในที่มืดก็สัมผัสได้ถึงเสียงอาวุธทลายอากาศอยู่ก่อนแล้ว คนสามคน
กระโดดออกมาต่อสู้กับเสิ่นเวยและคนอื่นๆ หลังจากนั้นก็มีผคู้ ุ้มกัน
เรือนที่พักอยู่ห้องข้างๆ อีกสามคนออกมา หมิ่นซือเหนียนเห็นแล้วก็
วางใจลง ทั้งตกใจทั้งโกรธอย่างอดไม่ได้ บนพื้นที่ในทงโจวยังมีใคร
กล้าลงมือกับเขา รนหาที่ตายจริงๆ
ฝั่งเสิ่นเวยสี่คนสู้กับคนหกคนของฝั่งหมิ่นซือเหนียน แม้ว่าจะ
เสียเปรียบในด้านจำนวนคน แต่ฝั่งเสิ่นเวยก็ล้วนแต่เป็นมือดีอันดับ
หนึ่ง ชั่วขณะกลับไม่เสียเปรียบ อีกทั้งเสิ่นเวยยังไม่ได้คิดจะเอาชีวิต
ของหมิ่นซือเหนียนอย่างสิน้ เชิง ตายแล้วจะเป็นการเสียเปรียบเขา
มิใช่หรือ ไม่ใช่ว่าเขาอยากได้ขานางหนึ่งข้างหรือ เช่นนั้นก็ดี นางขอ
ขาของเขาสองข้างก็พอ ข้างหนึ่งเป็นของนาง อีกข้างหนึ่ง อืม ให้คน
โง่แซ่ฟู่แล้วกัน อย่างไรเสียเขาก็ออกแรง ไม่แบ่งผลประโยชน์ให้
หน่อยก็คงจะไม่เหมาะ
ขณะที่หมิ่นซือเหนียนคิดเช่นนี้ ก็อยากรีบออกไปจากที่เกิดเหตุนี้
เขารู้ดีอยู่แก่ใจ แม้ตนจะเลื่องชื่อว่าบุ๋นบู๊ไม่เป็นรองใคร แต่ความจริง
แล้วกลับเตะต่อยได้แค่ไม่กี่กระบวนท่า ขู่ขวัญคนนอกแสร้งทำให้ดู
น่ากลัวก็เท่านั้นเอง เมื่อเจอยอดฝีมือที่แท้จริง เขาก็เป็นคนไร้
ประโยชน์
เขากระโดดลงจากเตียงเพิ่งจะยกขา ก็รู้สึกว่าร่างกายขยับไม่ได้ หัน
หน้ามอง เป็นแม่เล้าฉินคนรักเก่าที่ดึงเสื้อของเขาไว้ “นายท่านสาม
ท่านพาข้าไปด้วยเถิด” นางหมอบอยู่บนเตียง ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วย
ความร้องขอ
หมิ่นซือเหนียนนึกถึงการกระทำก่อนหน้านี้ที่ดึงนางมารับดาบ บน
ใบหน้าก็มีความอึดอัดแวบผ่าน กล่าวเสียงเบาอย่างไม่รู้ตวั “ชิงชิง
รออยู่ที่นี่ ข้าออกไปดูสถานการณ์ เจ้าได้รับบาดเจ็บ อย่าขยับตัว
มากจะดีกว่า”
แม่เล้าฉินไหนเลยจะเชื่อ อ้อนวอนต่อ “นายท่านสาม ท่านช่วยข้า
ด้วยเถิด อย่าทิ้งข้าไว้คนเดียว”
หมิ่นซือเหนียนเห็นว่าถูกคนรักเก่าเดาความคิดได้ ก็ฉุนเฉียว
เล็กน้อย เสียงเย็นเยียบลงอย่างอดไม่ได้ “จงฟัง สงบสติรออยู่ที่นี่
ปล่อยมือ” น่าขัน เขาคนเดียวยังแทบจะเอาตัวไม่รอด จะพาตัวถ่วง
ไปด้วยได้อย่างไร
เขาออกแรงสะบัดมือของคนรักเก่าออก ไม่มองความเศร้าโศกบน
ใบหน้าของคนรัก ก้าวยาวเดินไปยังผนังฝั่งขวา ประตูหลังตรง
ภาพวาดภาพนั้นบนผนังทางขวามีกลไกอยู่
หมิ่นซือเหนียนเป็นคนที่ตระหนักได้ถึงหายนะอย่างยิ่งคนหนึง่ มิ
เช่นนั้นจะสร้างกลไกแม้แต่ในหอซิ่งชุนได้อย่างไร น่าเสียดายที่คน
กระทำไม่สู้ฟ้าลิขิต เสิ่นเวยจะปล่อยให้เขาหนีไปได้อย่างไร
มือของหมิ่นซือเหนียนเพิ่งจะกดลงบนกลไก ก็ถูกเสิ่นเวยดึงคอเสื้อ
กลับมา มือออกแรงก็หมุนชายร่างใหญ่อยู่กับที่สองรอบทันที
ความเสียใจลุกลามไปทั่วร่างเขา เหตุใดเขาถึงไปยั่วยุดาวหายนะที่
แก้แค้นกระทั่งเรือ่ งเล็กๆ เช่นนี้ เพียงแค่พลาดจับเขามามิใช่หรือ
เขายังเผาคฤหาสน์หนึ่งหลังของตน ทำลาย ‘สินค้า’ หนึ่งกลุม่ ใหญ่
ของตน หากรู้ว่าเขามีนิสัยโหดเ**้ยมเช่นนี้ ตนไหนเลยจะยังกล้าส่ง
อาจารย์เฮ่อไปหาเรื่องเขา
หลังจากเสียใจแล้วก็โมโห ดูจากรอยยิ้มตอนที่เด็กชั่วแซ่เสิ่นผูน้ ั้นไป
แล้วเขาก็รู้ว่าขาทั้งคู่ของตนจะต้องพิการ นายท่านสามตระกูลหมิ่น
ที่พิการขาทั้งสองไม่สู้ตายไปยังดีกว่า เจ้าก็แค่อาศัยจวนจงอู่โหวข้าง
หลังมิใช่หรือ คิดว่าจะใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างไม่มีขื่อไม่มีแปเช่นนี้
ได้หรือ มีสิทธิอะไร มีสิทธิอะไร
จวนจงอู่โหว ชีวิตนี้ของข้าหมิ่นเหล่าซานจะไม่ขออยู่ร่วมโลกกับเจ้า
โลหิตร้อนพ่นออกมาจากปากเขา ฉากๆ นี้ตกอยู่ในสายตาของเหล่า
ทหารคุ้มกันที่เพิ่งจะจุดไฟพอดี ตกใจวิ่งเข้ามาพร้อมกัน “นายท่าน
สาม นายท่านสาม นายท่านสามท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่”
หมิ่นซือเหนียนกัดฟันทนความเจ็บปวดแสนสาหัส ครู่ใหญ่จึงกล่าว
“ไม่เป็นไร แค่ขาหัก อย่าแตะขาข้า ไปเชิญหมอ หมอที่รักษาแผล
ภายนอกที่ดีที่สุดในทงโจว” เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงมาจากใบหน้าเขา
เสียงของเขาก็เย็นเยียบเพียงนั้น หมัดทั้งคู่ที่กำแน่นค้ำยันร่างกาย
ของตน ไม่ให้ตนล้มลงไป
หมิ่นซือเหนียนเป็นชายคนแรกของนาง แม้ว่าระหว่างนั้นนางจะ
รับแขกผู้มีพระคุณคนอื่นๆ ทว่าตั้งแต่วันนัน้ ที่ตนตัดสินใจจะติดตาม
หมิ่นซือเหนียน นางก็ไม่ให้แขกผู้มีพระคุณคนอื่นเข้าใกล้นางอีก
ยี่สิบปีแล้ว ยี่สิบปีแล้ว นางคิดว่าต่อให้จะไม่มีชื่อหรือฐานะ นาง
ติดตามหมิ่นซือเหนียนมาก็นบั ได้ว่าเป็นสามีภรรยากันแล้ว หลายปี
มานี้หมิ่นซือเหนียนปฏิบัติต่อนางดีอย่างยิ่ง ช่วยงานในหอซิ่งชุนไม่
น้อย ดังนั้นนางจึงมีภาพลวงตาชนิดนี้ใช่หรือไม่
นางไหนเลยจะเป็นภรรยาของหมิ่นซือเหนียน แม้แต่อนุภรรยาคน
หนึ่งยังเทียบไม่ได้เลยกระมัง นางเป็นเพียงของตายที่เขาสามารถ
โยนทิ้งเมื่อไรก็ได้ก็เท่านั้น ความเจ็บปวดทีป่ ลายกระบี่แทงเข้าเนื้อ
ยังเจ็บปวดไม่เท่าวินาทีนนั้ ที่เขาดึงตนเองมาบังไว้ข้างหน้า
ถ้าหากพูดว่าหมิ่นซือเหนียนดึงนางมารับดาบนางก็เจ็บปวดแล้ว
เช่นนั้นต่อมาที่หมิ่นซือเหนียนทิ้งนางเอาตัวรอดเพียงคนเดียวก็ทำให้
นางผิดหวัง เหอๆ อายุปูนนี้แล้วยังฝันลมๆ แล้งๆ เช่นนี้อยู่อีก ควร
ตื่นได้แล้ว สำหรับหมิ่นซือเหนียนนางก็เป็นเพียงแค่ของเล่น ของ
เล่นที่ทำกำไรให้เขาได้ ที่เขาดีกับตนก็เป็นเพียงสิ่งที่ตนคิดไปเอง
เท่านั้น
นางเป็นตัวอะไร ก็แค่แม่เล้าทีช่ ่วยเขาดูแลหอซิ่งชุนได้ก็เท่านัน้ ไม่มี
นางก็ยังมีคนอื่น เพียงแค่เขาใช้ตนคล่องมือ อีกทั้งยังมีความรู้สึกอัน
น้อยนิดเพียงนั้นด้วย มิหนำซ้ำตนยังเชื่อฟัง ไม่โวยวายขอเข้าเรือน
หลังตระกูลหมิน่ ให้ได้ เขาจึงไม่ทิ้งตนมาโดยตลอดก็เท่านั้นเอง
หาหมอรักษาบาดแผลภายนอกที่ดีที่สุดในทงโจวมารักษาบาดแผล
ให้หมิ่นซือเหนียนได้แล้ว อีกทัง้ ยังวุ่นอยู่กับการดับไฟ ชุลมุนเช่นนี้
จนกระทั่งฟ้าสาง รอจนหมิ่นซือเหนียนมีแรงสั่งให้ติดตามจับกุม เสิ่น
เวยและคนอื่นๆ ก็ออกจากเมืองขี่ม้าเร็วออกไปแล้ว คนของหมิ่น
ซือเหนียนสืบหาอยูส่ องวันก็ไร้ซึ่งเบาะแส โมโหจนหมิ่นซือเหนียน
ทุบหมอนอย่างสุดชีวติ
คนข้างนอกต่างก็รู้ว่าหมิ่นซือเหนียนเสียหายมหาศาลแล้ว แม้จะไม่รู้
ว่าขาของเขาที่บาดเจ็บแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร แต่ก็ดีใจบนความ
ทุกข์ผู้อื่นเห็นเขาเป็นตัวตลก
เสิ่นหย่าสองแม่ลูกที่ไร้เดียงสาย่อมต้องเชื่อ เพราะว่าพวกนางไม่เคย
คิดว่าเสิ่นเวยจะพูดปด และเพราะว่าเสิ่นเวยนำของกลับมาไม่น้อย
จริงๆ บอกว่าเขาส่งของขวัญกลับมาให้
เสิ่นเวยรับลมกลางคืน รอยยิ้มคืบคลานขึ้นมาบนแก้มของนาง
อารมณ์ของนางในตอนนี้ดีอย่างยิ่ง ฮ่าๆ หมิ่นซือเหนียนที่พิการขา
สองข้างจะยังกดหัวบ้านรองบ้านสามตระกูลหมิน่ ได้อยูห่ รือไม่ การ
ต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดของตระกูลหมิ่นกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว น่าเฝ้ารอ
จริงๆ เลย
ตอนที่ 204-1 เช้าตรู่วันหนึ่ง
เหนียนซื่อเดินอยู่บนทางที่ไปยังเรือนนอก หมิ่นซือเหนียนก็กำลังบัล
ดาลโทสะ “เจ้าว่าอะไรนะ คลังลับว่างเปล่าหมดเลยหรือ” เขาตกใจ
จนชั่วขณะก็ลืมขาที่เจ็บอยู่ของตนคิดอยากจะลุกขึ้นยืน ร้องโอดโอย
ล้มกลับลงไปอย่างเจ็บปวด พ่อบ้านหวังที่มาบอกข่าวก็รบี พยุงเขา
ขึ้น “นายท่านสามท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่” ในใจร้องทุกข์เงียบๆ แต่
ใครให้เขาเป็นพ่อบ้านเล่า เขาไม่มารับหายนะนี้แล้วใครจะมา
หมิ่นซือเหนียนสะบัดมือของเขาออก กัดฟันกรอดกล่าว “ว่ามา
แท้จริงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
พ่อบ้านหวังกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่นในใจก็หวาดกลัว “เรียนนายท่าน
สาม เช้าวันนี้ตื่นมาแล้วบ่าวรู้สกึ ผิดปกติอย่างยิ่ง หลายวันมานี้บ่าว
ไม่ค่อยสบายใจนัก ทุกคืนมักจะต้องพลิกไปพลิกมานอนไม่หลับ แต่
เมื่อคืนบ่าวกลับหลับสบายอย่างยิ่ง รู้สึกตัวอีกทีก็ฟ้าสางแล้ว ถาม
คนอื่นๆ ต่างก็พูดว่าเมื่อคืนหลับสบาย บ่าวก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติ เมื่อ
ตรวจสอบก็พบว่าคลังลับถูกขนออกไปจนเกลี้ยง นายท่านสาม บ่าว
บ่าวไม่ทราบจริงๆ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” ตอนนี้เขายังจับต้นชน
ปลายไม่ถูก นี่มนั โจรย่องเบาที่ไหนถึงได้เก่งเพียงนี้ ไม่เผยพิรธุ
ออกมาแม้แต่นิดเดียวก็ขนของในคลังลับจนเกลี้ยงแล้ว
พ่อบ้านหวังจับต้นชนปลายไม่ถูก ทว่าหมิ่นซือเหนียนเจ้านายของ
เขากลับรู้ดีแก่ใจ เขากำหมัดแน่น บนใบหน้ามีความดุร้ายอันน่ากลัว
แวบผ่าน กล่าวทีละคำ “คนแซ่เสิ่น” จักต้องเป็นฝีมือของเด็กแซ่
เสิ่นคนนัน้ แน่นอน
แม้จะรู้ว่าเรื่องในคลังลับเด็กแซ่เสิ่นเป็นคนทำ แต่หมิ่นซือเหนียน
กลับไม่มีหนทางแม้แต่นิดเดียว ไม่เพียงแค่ในมือเขาไม่มีหลักฐาน
ต่อให้มีหลักฐาน เด็กคนนั้นก็คงวิ่งหนีไปนานแล้ว เขาจะไปหาจาก
ไหนได้ เขากล้าเข้าเมืองหลวงหรือ กล้าไปฟ้องร้องคุณชายจวนจงอู่
โหวหรือ เขาไม่ใช่เด็กสามขวบ ที่จะแยกแยะความหนักเบาแค่นี้
ไม่ได้
ดังนั้นนอกจากกล้ำกลืนความเสียหายนี้เงียบๆ แล้วเขาก็ไม่มีหนทาง
อื่นอีก และเพราะว่าหมดหนทางเขาจึงยิ่งโมโห แต่ไหนแต่ไรเขา
หมิ่นซือเหนียนรังแกผู้อื่น เมื่อไรกันที่ถึงตาเขาถูกคนรังแกบ้าง เขา
กลับลืมว่ากรรมใดใครก่อ กรรมนั้นตามสนอง ผู้ที่รังแกคนอื่นย่อม
เป็นเช่นนี้ หลักการแห่งสวรรค์ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว
ในตอนนี้เอง สองแม่ลูกก็ได้ยินเสียงร้องอุทานดังเข้ามาจากเรือนฝั่ง
ตะวันออก เด็กหนุ่มเปิดประตูออกไปทันที เห็นในมือลุงเหมาเรือน
ตะวันออกกำลังถือของแวววาวอยู่ คล้ายเป็นเงินหนึ่งก้อนเช่นกัน
เด็กหนุ่มมองดูแล้วก็ถอยกลับเข้าห้อง ดีใจกล่าวเสียงเล็ก “ท่านแม่
ท่านทายสิว่าลูกเห็นอะไร ท่านลุงเหมา ท่านลุงเหมาที่เรือนฝั่ง
ตะวันออกของพวกเราก็เก็บเงินหนึ่งก้อนได้เช่นกัน ลูกบอกแล้วว่า
สวรรค์สงสารพวกเราคนจนทีม่ ีชีวิตไม่ดี ตั้งใจช่วยเหลือพวกเรา”
นี่เป็นเช้าตรู่ที่มีความสุขและทำให้คนรู้สึกเปี่ยมล้นไปด้วยความหวัง
จริงๆ ชาวบ้านยากจนนับไม่ถ้วนในเมืองทงโจวต่างก็เปิดประตูหรือ
ว่าในลานบ้าน หรือว่าข้างประตูบ้าน เก็บก้อนทองหรือว่าก้อนเงิน
ขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ คนที่มีความรู้ก็เข้าใจว่านี่คือขโมยผู้ชอบ
ธรรมในเมือง ประชาชนที่เยอะยิ่งกว่าก็คิดว่าเป็นสวรรค์
พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์กวนอิมที่คอยปกปักรักษา พากันคุกเข่า
โขกศีรษะในลานบ้าน น้อมคำนับขอบคุณพระกรุณาของสวรรค์
พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์กวนอิม
ยังคงเป็นเช้าตรู่เช่นเดียวกัน สวีโย่วนั่งอยู่บนรถเข็นโดยมีเจียงเฮย
เจียงไป๋ยกขึ้นเขาชิงลั่ว ศาสนิกชนที่บังเอิญพบระหว่างทางก็พากัน
ส่งสายตาสงสารมายังคุณชายวัยหนุ่มผู้นี้ มีผู้อาวุโสอายุมากยัง
ปลอบด้วยความหวังดี “พ่อหนุ่มเอ๋ย อย่าได้ท้อใจไป พระที่วัดจยา
หลานของพวกเราศักดิ์สิทธิย์ ิ่งนัก เจ้าจุดธูปบูชาให้เยอะหน่อย
พระองค์ก็จะรักษาอาการป่วยของเจ้าให้หายดี” เกิดในตระกูล
ร่ำรวยแล้วอย่างไร ไม่มีร่างกายที่แข็งแรงก็สู้พวกเขาไม่ได้ เด็กหนุ่ม
คนนี้มองดูก็รู้ว่าอ่อนแอมีโรครุมเร้า เกิดมาดีเช่นนี้ น่าเสียดายยิ่งนัก
สวีโย่วมาถึงหน้าวัดจยาหลานท่ามกลางสายตาสงสารตลอดทาง
เช่นนี้ เงยหน้าขึ้นมอง วัดจยาหลานทั้งหลังก็อาบอยู่ในแสงแรกอรุณ
เงียบสงบและขลัง หากไม่ใช่ว่าได้แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ สวีโย่วเองก็
ไม่เชื่อว่าพื้นที่ห่างไกลแห่งนีจ้ ะกลายเป็นที่ซ่อนมลทิน
หลวงจีนวัยกลางคนผูน้ ั้นประกบมือแล้วสวดอมิตาพุทธหนึ่งครา
“โยมน้องผู้นี้พูดมีเหตุผล สัตว์เล็กๆ ยังโหยหาชีวิต นับประสาอะไร
กับมนุษย์เล่า ในเมื่อโยมมีความปรารถนา อีกทั้งในใจยังมีห่วง
เช่นนั้นก็ตั้งสติมารักษาโรคดีกว่า อาจารย์อาเต้ากวงศึกษาการแพทย์
มาหลายปี ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นคนที่มีวาสนากับโยม”
“ใช่ๆๆ คุณชาย วันนี้ตอนที่ออกมานกกางเขนร้องจิ้บๆ ไม่หยุด นี่
เป็นลางดี ไม่แน่ว่าพระอาจารย์เต้ากวงอาจจะรักษาอาการป่วยของ
ท่านได้” เจียงไป๋กล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น
หลวงจีนเต้ากวงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง “สถานการณ์ในวัดหลายวันมา
นี้ก็เป็นปกติดีไม่ใช่หรือ เพียงแค่วันนี้คุณชายขี้โรคมา เจ้าไม่ได้ยิน
ข่าวที่หมิงเจวี๋ยส่งกลับมาหรือ แม้แต่จะเดินยังต้องให้คนพยุง จะ
เป็นสายลับของราชสำนักได้อย่างไร ศิษย์พี่น่ะ เจ้าอย่ากดดันตัวเอง
นักเลย”
เต้าเสวียนยังคงยืนกราน “ข้ามักจะรู้สึกไม่วางใจอย่างยิ่ง ดูให้ดีๆ
หน่อยแล้วกัน ศิษย์น้อง พวกเขามาแล้ว ข้าไปหลบก่อน” เขายืนขึ้น
เข้าไปในห้องลับ
หลวงจีนวัยกลางคนเข้ามาในกุฏิก่อน ชั่วขณะก็เดินออกมาอีกครั้ง
“โยม อาจารย์อาเต้ากวงเชิญเข้าไป”
รถเข็นย่อมเข็นเข้ามาไม่ได้ เจียงเฮยเจียงไป๋ก็พยุงสวีโย่วเดินเข้ามา
ในกุฎิ “พระอาจารย์เต้าหวง ผู้น้อยรบกวนแล้ว”
เดิมคิดว่าคนทั้งสามตรงหน้าจะผิดหวังอย่างถึงที่สุด กลับเห็นบ่าวรับ
ใช้ผู้นั้นด้านขวากล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น “คุณชายท่านได้ยินหรือไม่
พระอาจารย์บอกว่ามั่นใจสามส่วนสิบ เยอะกว่าหมอหลวงจำนวน
มากที่นายท่านผูกสัมพันธ์ทุ่มเทกายใจกว่าจะเชิญมาได้ตั้งสองส่วน
คุณชาย ผู้น้อยบอกแล้วว่าท่านจะดีขึ้นได้ ท่านจะต้องหาย พวกเรา
จะไม่ไปไหน พวกเราจะอยู่ที่วดั จยาหลาน มีพระอาจารย์เต้ากวง
ออกมือ ท่านจะต้องดีขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน”
จากนั้นก็โผเข้าไปคุกเข่าให้หลวงจีนเต้ากวง “พระอาจารย์ ขอร้อง
ท่านล่ะ ท่านต้องช่วยคุณชายของพวกเรานะขอรับ คุณชายของพวก
เราเป็นคนดี มีคุณธรรมมีสติปญ ั ญา จิตใจก็ดี ไม่เคยดุด่าบ่าวเช่น
พวกข้าเลย ผู้น้อยขอให้ท่านช่วยคุณชายของพวกเราด้วยเถิด”
ปังๆๆ โขกศีรษะขึ้นมา
หลวงจีนเต้าเสวียนคิดอย่างละเอียด จากนั้นก็เข้าใจแล้ว
หลวงจีนวัยกลางคนนำกลุ่มของสวีโย่วไปยังเรือนหลังเล็กที่เงียบสงบ
แห่งหนึ่ง เจียงไป๋เจียงเฮยขอบคุณอย่างซึ้งอกซึ้งใจพลางส่งคน
ออกไป เมื่อเข้าห้องแล้ว เจียงเฮยเจียงไป๋ก็มองไปรอบด้านด้วย
ความระมัดระวังปราดหนึ่ง ไม่พบอะไรผิดปกติจึงวางใจลง “คุณชาย
วัดจยาหลานแห่งนี้ดูเหมือนผิดปกติมากจริงๆ” เจียงเฮยกล่าวเสียง
เบา
“ผิดปกติตรงไหน เหตุใดข้าถึงมองไม่ออกเล่า” เจียงไป๋เองก็ลดเสียง
ต่ำ
“คุณชายจะบอกว่าเขาด้านหลังซ่อนคนไว้หรือขอรับ” เจียงเฮยเจียง
ไป๋กล่าวขึน้ พร้อมกัน
สวีโย่วพยักหน้า “ถูกต้อง” หลวงจีนวัดจยาหลานจะมีกี่คนกัน อย่าง
มากก็แค่ไม่กี่ร้อย จากข่าวที่ฝ่าบาทพระราชทานมา คนกลุ่มนีม้ ี
หลายพันคน นอกจากเขาด้านหลังแล้วจะยังซ่อนไว้ที่ไหนได้อีก
มองนายท่านที่จมอยู่ในความคิดอย่างชัดเจน เจียงเฮยเจียงไป๋สองพี่
น้องก็สบตากันปราดหนึ่ง ไอเบาๆ หนึ่งครา ถามอย่างเป็นห่วง
“นายท่าน ร่างกายของท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่” สุขภาพขอคุณชาย
ไม่ดี แต่ถูกหมอเทวดาหลี่รักษาจนเกือบหายดีแล้ว ตอนนีท้ ี่มที ่าทาง
ป่วยหนักจนเกิดเยียวยาเช่นนีอ้ ันที่จริงเป็นเพราะกินยาลับเข้าไป
พวกเขากังวลอย่างยิ่งว่ายาลับจะทำลายสุขภาพของคุณชาย
“คุ ณ หนู สี่ ท่ านกลับ จวนแล้ว” พ่อ บ้า นเล็กหน้า ประตู โค้ง เอว ทั้ง
ใบหน้าคนชรายิม้ ราวกับบุปผาที่เบ่งบาน
เสิ่ นเวยพยักหน้าอย่างทะนงตน ริ มฝี ปากสี ชมพูเปิ ดออกน้อยๆ “รี บ
ไปรายงานข้างใน บอกว่ากูไหน่ไนกับคุณหนูญาติผนู ้ อ้ งมาถึงแล้ว”
กวาดสายตามองคนรับใช้ท้ งั หมดที่หน้าประตูปราดหนึ่ งแล้วกล่าว
“เห็นแล้วใช่หรื อไม่ นี่ คือกูไหน่ไนกับคุณหนูญาติผนู ้ อ้ งในจวนของ
พวกเรา เจ้านายที่แท้จริ ง แต่ละคนเบิกตาให้กว้าง ไม่เคารพเจ้านาย
ไม่วา่ ใครหน้าไหนก็ไม่เอาไว้ท้ งั สิ้ น” เสิ่ นเวยเตือนสติข้ ึนมาลอยๆ
เหอหลิ น หลิ น ถูก สตรี สู ง ศักดิ์ ตรงหน้า จับ มื อ ไว้ แม้ว่า จะตื่ น เต้น
เล็กน้อย แต่ก็ยงั คงทาความเคารพอย่างเป็ นธรรมชาติ “หลินเจี่ยเอ๋ อร์
คารวะท่านป้าสะใภ้ใหญ่ ท่านป้าสะใภ้รอง”
ท่ า ทางกุม อกของนางท าให้ฮู หยิน สวี่ หัว เราะขึ้ น มาอี กครั้ ง “อย่า
แม้แต่จะคิด อีกประเดี๋ยวเอาไปส่ งที่เรื อนสี่ ประสานให้ป้าทั้งหมด
เจ้าน่ะ ชอบหยอกล้อคนเล่น”
ฮู ห ยิน จ้า วที่ อ ยู่ขา้ งๆ ก็ ต าลุ ก วาว กล่ า วอย่า งคล้า ยยิ้ม คล้ายไม่ ยิ้ม
“เวยเอ๋ อร์ มีแต่ของขวัญของป้าสะใภ้ใหญ่เจ้าหรื อ”
ท่าทางขับร้องเล่นละครนี้หยอกล้อจนคนในลานหัวเราะขึ้นมา ยังคง
เป็ นฮูหยินสวี่ที่กา้ วออกมาแล้วกล่าว “พวกเราเข้าไปกันเถอะ ท่าน
พ่อท่านแม่ยงั รออยูเ่ ลย”
ทว่ า ฮู ห ยิ น สวี่ ก ลับ ใจสั่ น กล่ า วในใจ พ่ อ ตาให้ ค วามส าคัญ กับ
บุตรสาวที่หย่ากลับมาผูน้ ้ ี กว่าที่นางคิดไว้เสี ยอีก เช่ นนั้นต่อจากนี้
นางต้องใส่ ใจให้มากขึ้นหลายส่ วนจึงจะถูก
เรือนเหลียนอีคอ ่ นหย่
ื เรือนทีเสิ ่ ่ งไม่ออกเรือน
าพักอาศัยอยู่ตอนทียั
้ ว้ เรือนเหลียนอีในตอนนี เปลี
เทียบกับตอนนี แล ้ ยนไปนานแล
่ ว้ ทาสี
กําแพงลานบา้ นใหม่ สีนํ้ามันบนช่องหน้าต่างก็มน ั วาว บนราวจับ
ตรงระเบียงทางเดินก็ทานํ ้ามันขัดเงา ยิงไม่
่ ตอ้ งเอ่ยถึงการตกแต่ง
ภายในห้อง ย่อมต้องหรูหราโอ่อ่าแน่ นอน
่
เสินหย่ ่
ามองลานบา้ นทีแพรวพราวเหมื อนใหม่ แทบจะนํ ้าตาตก
สายตาของนางกวาดมองหญ้าทุกใบต้นไม้ทุกต้นในลานบา้ น ตอน
่
ทีมองเห็ นต้นกุ ้ยฮวา (ต้นหอมหมืนลี ่ )้ ทีมี
่ ขนาดใหญ่เท่าสองคน
กอด ดวงตานางก็ปรากฏประกายแห่งความคิดถึง ตอนนั้นนาง
ชอบนั่งเย็นปักถักร ้อยอยู่ใต้ตน้ กุ ้ยฮวาต้นนั้น เมือสายลมพั
่ ด ทั่วทัง้
่
ลานบา้ นก็เต็มไปด้วยกลินหอม
่
คนทีประหลาดใจเหมื อนเหอหลินหลินยังมีเสียวจวี ่ ๋ นางเป็ นบ่าวที่
่
เสินหย่ ้
าซือมาในภายหลั ง สถานทีที ่ โอ่
่ โถงทีสุ
่ ดทีเคยเห็
่ นก็คอื จวน
้ เมื่อครูท
ตระกูลเหอ ตังแต่ ่ี า้ มาใจวนโหวนางก็มน
่ เข ึ ศีรษะงุ นงง
ตอนนี เข้ า้ มาในเรือนเหลียนอีแม้แต่เดินยังเดินไม่ถูกแลว้ สวรรค ์ นี่
่ ่ของเทพหรือไม่ หลังจากนี นางจะอยู
คือทีอยู ้ ่กบ ั คุณหนู และคุณหนู
น้อยด้วยกันทีนี ่ ่ ได้จริงๆ หรือ นี่ ไม่ใช่ฝันใช่หรือไม่
๋
อวินหรงกั บแม่นมก็มส ี ห ้
ี น้าดีใจทังใบหน้
า ทอดมองหญ้าทุกใบ
ต้นไม้ทุกต้นในลานบา้ นอย่างไม่รู ้จักพอ ไม่คด ิ จริงๆ ว่าชีวต ้
ิ นี จะได้
่ ่ อีก น่ าเสียดายคนทีเคยออกเรื
กลับมาทีนี ่ อนพร ้อมคุณหนู ตอนนี ้
เหลือเพียงแค่พวกนางสองคน คนทีเหลื ่ อไม่ตายก็ถูกขายออกไป
ไกลแลว้
“ถูกต้อง นี่ คือเรือนที่แม่อาศัยอยู่เมื่อก่อน หลังจากนี หลิ
้ นเจียเอ๋
่ อร ์
ั แม่ดว้ ยกันที่นี่ หลินเจียเอ๋
ก็อยู่กบ ่ อร ์ชอบหรือไม่” เสินหย่
่ ามองลูก
สาวด้วยความรัก
่ิ ก” ดวงตาของเหอหลินหลินก็ยงเป็
“จริงหรือ ดียงนั ิ่ นประกาย นาง
่
ยกขาวิงไปยั งห้องฝั่งตะวันออกแลว้ เร็วจนเย่ว ์กุ ้ยตะโกนดังอยู่ขา้ ง
หลัง “คุณหนู ญาติผน ู ้ อ้ งช ้าหน่ อย ช ้าหน่ อยเจา้ คะ”
่
เสินหย่ าเองก็หลุดหัวเราะ “เด็กคนนี นี้ ่ ” แต่กลับไม่ได้พูดต่อ ตอนที่
อยู่ในจวนตระกูลเหอก่อนหน้านี หลิ ้ นเจียเอ๋ ่ อร ์มีเวลาร่าเริงเช่นนี ้
น้อยอย่างยิง่ แม้แต่ยมยั
ิ ้ งไม่ค่อยยิม้ ตอนนี ในที
้ ่สุดนางก็เผยนิ สยั
ธรรมชาติของเด็กผูห้ ญิงออกมาแลว้ นางจะใจแข็งว่ากล่าวได้
อย่างไร
่
เย่ว ์กุ ้ยไม่ได้กลับเรือนเฟิ งหวา เสินเวยให้ ่ี ่ เพือช่
นางอยู่ทนี ่ วยเหลือ
ก่อน รอบ่าวรับใช ้ประจํากายท่านอาและลูกผูน้ อ ้ งจัดการงานได้เอง
แลว้ ค่อยกลับมา
่ ส่งสาวใช ้ใหญ่สคนและสาวใช
ตกบ่ายฮูหยินสวีก็ ี่ ั้
้ชนรองแปดคนมา
้ั
ให้ สําหรับสาวใช ้และหญิงชราใช ้แรงงานชนสาม ้ เขา้
ก่อนหน้านี ก็
มาในเรือนเหลียนอีเรียบร ้อยแลว้
่
จากมุมมองของเสินเวยเรื ่ เป็
องนี ้ นการคิดมากไปแลว้ จวนจงอู่โหว
ี่ หาก
มีทรัพย ์สินมหาศาล ใครจะคิดเล็กคิดน้อยกับสาวใช ้ไม่กคน
้
ต้องให้กูไหน่ ไนออกเงินซือคนเองจริงๆ เช่นนั้นจวนโหวก็ไม่มี
เกียรติแลว้
่
เสินเวยเปลี ่
ยนชุดและไปยังห้องหนังสือของปู่ นางทีเรื ่ อนนอกทันที
รายงานเรืองที่ อวิ
่ นโจวก่
๋ อน “หลานคิดว่าต่อให้คนแซ่เหอผูน้ ั้นจะ
น่ ารังเกียจแต่เขาก็ยงั เป็ นพ่อแท้ๆ ของลูกผูน้ อ้ ง ท่านอาตัด
ความสัมพันธ ์ฉันสามีภรรยากับเขาได้ แต่สายสัมพันธ ์ทาง
สายเลือดของพ่อลูกกลับตัดไม่ขาด หากพวกเราออกมือเอาชีวต ิ
เขา ขา้ งนอกก็จะบอกว่าครอบครัวของเราไร ้เมตตา และชือเสี ่ ยง
ของลูกผูน้ อ้ งก็จะมีอุปสรรค หากลูกผูน้ อ้ งเป็ นแค่เด็กอายุสามขวบ
ห้าขวบเช่นนั้นก็ไม่เป็ นไร กว่าลูกผูน้ อ้ งจะถึงวัยปักปิ่ นทุกคนก็ลม ื
่ ไปหมดแล
เรืองนี ้ ้ กผูน
ว้ แต่ตอนนี ลู ้ อ้ งอายุสบ
ิ สามปี แลว้ อย่างมาก
่ ดอีกสองสามปี ก็ควรจะแต่งงานได้แลว้ เก็บชือเสี
ทีสุ ่ ยงดีๆ ไวจ้ ะ
ดีกว่า ดังนั้นหลานจึงตัดสินใจเองว่าจะเนรเทศคนแซ่เหอออกไปยัง
เหลียวตง คนแซ่เหอฝ่ าฝื นกฎต้ายงเอง อีกทังใต้ ้ เท้าขา้ หลวงยังไต่
สวนคดีดว้ ยตัวเอง ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่เกียวข ่ อ้ งกับจวนจงอู่
โหวของพวกเราแม้แต่นิดเดียว ส่วนเขาจะไปถึงเหลียวตงได้อย่าง
ปลอดภัยหรือไม่ จะใช ้ชีวต ิ อยู่ในเหลียวตงได้หรือไม่ นั่นก็ไม่
เกียวกั่ บพวกเราแลว้ ”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวพยักหน้า ดวงตาปรากฏประกายความชืนชม ่
่ อร ์เจ ้าทําถูกยิงนั
“อืม เวยเจียเอ๋ ่ ก ต่อให้ปู่ไปเองก็ยงั ทําไม่ได้เท่านี ”้
่
เสินเวยกล่ าวต่อ “คนอืนๆ ่ ในตระกูลเหอ หลานก็ไม่ได้เอาชีวต ิ เขา
เพียงแค่ลงโทษเล็กๆ น้อยๆ ก็เท่านั้นเอง ตระกูลเหอใช ้สินเดิมของ
ท่านอาแลว้ ยังปฏิบต ี ่อท่านอา เช่นนั้นก็ไล่พวกเขากลับไปอยู่
ั ไิ ม่ดต
จุดเดิมก็พอ คนบางคนก็ต่าช ํ ้า ท่านทําดีกบั เขา เขากลับเหยียบ
้
จมูกขึนหน้ าคิดว่าถูกต้องแลว้ ต้องให้ท่านหยิบแสโ้ บยภายหลังจึง
จะได้ พวกเรารอดูสวิ ่าคนตระกูลเหอทีหล่ ่ นจากเมฆลงมาสู่โคลน
ไม่มกี ารสนับสนุ นจากสินเดิมของท่านอาแลว้ จะใช ้ชีวต ิ อยู่อย่างไร”
่
แม้เสินเวยจะกล่ าวอย่างเรียบเฉย แต่นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็ได้ฟัง
การรายงานของพ่อบา้ นรองก่อนหน้านี แล ้ ว้ เขาคิดถึงแผนการจาก
่
สิงหนึ ่ งไปสู่อก ่ ่ งนั้น อุบายทีพลิ
ี สิงหนึ ่ กมือเป็ นเมฆควํ่ามือเป็ นฝน
นั้นของหลานสาว ในใจก็เกิดความรู ้สึกร ้อยแปดพันเก ้า หากเชียน
เกอเอ๋อร ์มีฝีมืออย่างหลานสีบ ่ า้ งเขายังจะต้องกลุม้ ใจอะไรอีก แม้แต่
ตําแหน่ งราชครูของรัชทายาทอะไรนั่นเขาก็จะปฏิเสธ พาทหารคน
สนิ ทสองคนออกไปเยียมสหายท่ ่ องดินแดนแลว้
้ บไม่ได้ เชียนเกอเอ๋อร ์ยังไม่มรี ากฐานมั่นคงในซีเจียง
ทว่าตอนนี กลั
่ งเกียรติ
เขายังต้องอยู่ในราชสํานัก อยู่ขา้ งพระองค ์จักรพรรดิเพือชิ
จวนโหวแทนชนรุง่ หลัง ความปรารถนาทีอยากจะท่่ องดินแดนไม่รู ้
เหมือนกันว่าชีวต ้ งเป็ นจริงได้หรือไม่ เฮอ้
ิ นี จะยั
้
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวรู ้สึกสลดใจขึนมา กล่าวถามอย่างคลา้ ยนึ ก
้
อะไรขึนได้ ่
“ไม่ใช่ว่ากันว่าพวกเจ ้าเจอเรืองระหว่ างทางหรือ เกิด
อะไรขึน้ พ่อบา้ นรองเองก็ไม่ได้บอกชดั เจน หายตัวอะไร ลอบ
้
สังหารอะไร ทําให้เขาเป็ นกังวลขึนมา
้
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกระตุกมุมปาก เด็กคนนี ปราดเปรี ่ าลิง
ยวยิงกว่
จะถูกคนลักพาตัวได้ง่ายๆ หรือ คงจะแกลง้ สลบวางแผนว่าไม่เขา้
้ อใยจะได้เสือสิท่า ไม่พูดไม่ได้ว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวคิดถูก
ถําเสื
แลว้ ส่วนหอนายโลมอะไรนั่น นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเพียงแค่ทาํ เป็ น
ไม่ได้ยน
ิ
จากนั้นก็ได้ยน ่
ิ เสินเวยกล่ าวต่อ “คิดว่าขา้ เป็ นใครกัน อย่างไรเสีย
ก็เคยขลุกอยู่ในสนามรบมาแลว้ ครังหนึ ้ ่ ง พวกเราไหนเลยจะ
้
เสียเปรียบได้ ด้วยเหตุนีหลานจึ ่ อนคนของผูน้ ั้น ปล่อย
งเผารังทีซ่
่ กลักพาตัวทังหมดออกมา
คนทีถู ้ จากนั้นขา้ ก็กลับโรงเตียมอย่
๊ างมี
่
ความสุข” เสินเวยเล่ ้ แต่กลับไม่ต่างจากเรืองจริ
าสันๆ ่ งนัก
“หลังจากนั้นเล่า ไม่ใช่บอกว่ามีมอ
ื สังหารมาหรือ” นายท่าผูเ้ ฒ่า
โหวถามต่อ
“หลานกลับไปถึงโรงเตียมก็ ๊ รู ้สึกไม่สบายใจอย่างยิง่ ผูม้ อ ี ํานาจยังสู ้
คนในท้องถินไม่่ ได้ เขาเป็ นผูม้ อ ี ท
ิ ธิพลท้องถิน่ เสียหายมากเพียงนี ้
จะยอมเลิกราได้ที่ไหนกัน เพือความปลอดภั
่ ย ขา้ เลยให้คนเอา
เทียบเชิญของท่านไปขอความช่วยเหลือจากใต้เท้าขา้ หลวงท้องที่
ขา้ หลวงอวีผู๋ น้ ้นยั
ั งนับว่าไม่เลว ให้ยม ื กําลังพลหนึ่ งกลุ่มอย่าง
ง่ายดาย คืนนั้นก็มม ี อื สังหารมาจริงๆ วิทยายุทธ ์คนผูน้ ั้นสูงอย่างยิง่
ท่านปู่ ท่านไม่เห็น หากไม่ใช่ว่าหลานท่านยุทธ ์ดี ท่านคงจะไม่ได้
่
เห็นขา้ แลว้ ” เสินเวยกล่ าวเกินจริงพอควร
่ หากจบลงเช่
“เรืองนี ้ ้ คงไม่เป็ นไร แต่ท่านไม่รู ้ คนทีปองร
นนี ก็ ่ ้าย
หลานผูน้ ั้นน่ ารําคาญยิงนั ่ ก เขาลากขา้ หลวงอวีมาเป็๋ นผูไ้ กล่เกลีย่
ต่อหน้าก็ขอโทษขอโพยมอบของขวัญให้ขา้ แต่ท่าทางกลับหยิง่
ผยองสินดี ้ ซํายั
้ งใช ้คําพูดเบียดเบียนขา้ โมโหจนขา้ ทนแลว้ ทนอีก
จึงไม่ถบ ี เขาลงแม่นํ้า พอขึนเรื
้ อ ขา้ ยิงคิ
่ ดก็ยงโกรธ
ิ่ เจ ้าบอกว่าเจ ้า
เป็ นผูท้ รงอํานาจท้องถิน ่ แม้แต่ขน ุ นางยังไม่ใช่ คาดไม่ถงึ ว่ากลา้
มาวัดกับคุณชายจวนโหว นี่ ไม่ใช่ว่ารนหาทีตายหรอกหรื่ อ หาก
หลานไม่ใช่วธิ โี หดเ**◌้ยมขู่ขวัญเสียหน่ อย คนอืนก็ ่ จะมองว่าพวก
เราจวนจงอู่โหวรังแกง่าย” พูดถึงตรงนี เสิ ้ นเวยก็
่ ั้
ตงใจหยุ ดครูห่ นึ่ ง
กะพริบตาปริบๆ มองปู่ นาง เห็นปู่ นางสีหน้าสงบนิ่ ง ก็ทําได้เพียง
แสยะปากพูดต่อไป
้
“เพราะเหตุนีหลานจึ งพาคนนั่งเรือเล็กขึนฝั
้ ่ ง ขีม้ ่ ากลับไปทีเมื
่ องทง
โจวอีกครัง้ ปลน้ คลังลับหนึ่ งแห่งของคนชวผู ่ ั น้ ้นจนเกลี
ั ้ อน
ยงก่
จากนั้นก็ต่อยขาทังสองของคนผู
้ น้ ั้นจนพิการ”
้
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวไม่รู ้ว่าจะพูดอะไรดี หากหลานคนนี ของเขาไป
ิ อยู่ในราชสํานัก เช่นนั้นก็คงจะต้องเป็ นขุนนางสพลอขุน
ใช ้ชีวต
่
นางคุมอํานาจ เรืองอย่ างการกลับผิดเป็ นถูกจะต้องทําออกมาได้
แน่ ๆ ไหนจะเงินสกปรก ไหนจะคุณธรรมสูงส่ง เงินของรังโจรนั้นไม่
ว่าใครก็แย่งได้ไม่เร็วเท่านาง
ิ ้ องรอยอะไรไวใ้ ช่หรือไม่” ขอเพียงแค่หลานสาวไม่
“ไม่ได้ทงร่
เสียหาย นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็ขเกีี ้ ยจจะสนว่าใครจะขาพิการ
่
เสินเวยส่ ายหน้า กล่าวอย่างไม่สนใจ “ไม่มี ท่านปู่ วางใจเถอะ แม้ว่า
จะเป็ นผูท้ รงอํานาจในท้องถิน่ ต่อให้จะรู ้ว่าเป็ นขา้ ก็ไม่มห
ี ลักฐาน
่
อยู่ดี เขากลา้ วิงมากั
ดขา้ ถึงเมืองหลวงหรือ หึๆ ยิงไปว่่ านั้นตอนนี ้
เขายังดูแลตัวเองไม่ได้ดว้ ยซํา้ การทะเลาะภายในยังตามไม่ทน ั ไหน
เลยจะมีเวลาว่างมาหาเรืองข่ า้ ”
่
เสินเวยลู บลูบจมูกแสยะปาก นี่ หมายความว่าพูดไม่ได้หรือไม่รู ้ เอา
่
เถอะ ลึกลับใช ้ได้ ชิ อยากทําอะไรก็ทํา ขา้ ไม่อยากรู ้หรอกนะ เสิน
เวยเชิดหน้าออกมาด้วยความทะนงตน
ตอนที่ 206-2 เรืองจุ
่ กจิกในเมืองหลวง
คนก่อนหน้ากล่าวต่อ “จะบอกว่าปลอมก็ไม่ได้ปลอมขนาดนั้น
่ นึ่ งจึงเม้มปากยิม้
เพียงแค่สายสัมพันธ ์ห่างไกลเล็กน้อย” หยุดครูห
้ อ้ งสองคนในจวนนี ้ ภายหลังจะต้องมีเรืองสนุ
“คุณหนู ญาติผูน ่ กๆ
ให้ดูแน่ เลย”
่
นางต้องไปเยียมเยี ้ อไม่ ฟังว่าคุณหนู ญาติผน
ยนกูไหน่ ไนผูน้ ี หรื ู ้ อ้ ง
คนนั้นแซ่เหอ อายุพอๆ กับนาง หากนางสามารถสานสัมพันธ ์เป็ น
่ องทีดี
พีน้ ่ ได้ ในจวนจะให้ความสําคัญกับนางหรือไม่ คิดถึงตรงนี ้
ความน้อยใจหนึ่ งกลุ่มก็จู่โจมหัวใจ เป็ นคุณหนู นอ้ ยเหมือนกัน
่
สตรีคนอืนขอเพี ิ ผ่านไปวันๆ แต่ตนเล่า อยากจะได้ป่ิ น
ยงแค่ใช ้ชีวต
เงินหนึ่ งอันยังต้องคิดหาทางเอง นางเพียงแค่อยากได้คู่สมรสทีดี ่
ไปทําเวรทํากรรมอะไรไวก้ น ั
่
เสินเวยพั กอยู่ในจวนสองวัน จากนั้นก็กระโดดโลดเต้นออกจาก
่
เรือนแลว้ ไปเยียมเยี ยนตาของนางทีจวนแม่ ่ ทพ
ั ใหญ่หร่วน หลังพ่อ
่
นางเสินหงเซวี ยนรู ้ข่าวก็มค
ี วามรู ้สึกซับซ ้อนเป็ นพิเศษ ส่วนนาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็เพียงแค่หลับตาขา้ งหนึ่ งปล่อยไป
่
หร่วนเหมียนเหมียนเห็ นลูกผูพ ี่
้ นางย่ ่ ด แต่ว่า
อมดีใจอย่างถึงทีสุ
ตอนนี กลั ้ บกําลังเรียนมารยาทอยู่ ครังก่
้ อนจวนโหวเชิญแม่นมอบ
่
รม เสินเวยก็ ไหวว้ านให้ท่านป้ าสะใภ้ใหญ่ชว่ ยเชิญมาให้ลูกผูน้ อ้ ง
หนึ่ งคน ดังนั้นหร่วนเหมียนเหมียนยั ่ งพูดกับลูกผูพ ี่ ไม่กคํ
้ ได้ ี่ า สาว
ใช ้ขา้ งกายก็มาเร่งรัดนางไปเรียนมารยาทแลว้ แม้ว่านางจะตัดใจ
ไม่ได้ แต่กลับทําได้เพียงเดินไปอย่างอาลัยอาวรณ์ ท่าทางตัดใจไม่
ลงนั้นเสินเวยเห็
่ นแลว้ ก็อยากหัวเราะออกมา
่
เสินเวยพู ่
ดคุยเป็ นเพือนท่ านตาในห้องหนังสือ นางหยิบสม้ บนโต๊ะ
้
ขึนมาปอกเปลื อก วางแต่ละกลีบๆ ไวใ้ นถาด ใช ้ไม้เสียบลูกชิน้
่
เสียบแลว้ ยืนให้ท่านตา
้ ยนชิมแลว้ เปรียวก็
หร่วนเจินเที ้ ไม่ยอมกินอีก กลับกลายเป็ นเสินเว
่
ยกอดถาดกินอย่างแฮปปี ้ หร่วนเจินเที
้ ยนเห็นนางกินอย่างมี
ความสุข ในใจก็ดใี จ แต่ปากกลับกล่าว “อะไร จวนโหวให้เจ ้ากิน
น้อยได้ดว้ ยหรือ” เขาเคยได้ยน ่ งยวนตาเฒ่าผู ้
ิ หลานบอกว่า เสินผิ
นั้นชอบหลานสาวผูน้ ี ของตนมากเพี
้ ยงใด นางอยู่ในจวนโหวแทบ
จะยกแห่
้
ท่าทางเช่นนี เอาอกเอาใจหร่ ้ ยนอย่างยิง่ เขาหัวเราะฮ่าๆ
วนเจินเที
กล่าว “นี่ เป็ นของผูใ้ ต้บงั คับบัญชาทีนํ
่ ามาให้ลก
ู ผูพ ่ี ้า มีหนึ่ ง
้ เจ
ตะกร ้าเต็มๆ ขา้ กับลูกผูพ ี่ ้าไม่ชอบกิน เหมียนเอ๋อร ์ก็กน
้ เจ ิ ไม่เยอะ
่ อเจ ้าก็เอากลับไปได้เลย” ทุกครังที
เจ ้าเหลือไวใ้ ห้นางหน่ อย ทีเหลื ้ ่
่ อร ์กลับมาก็จะนํ ารถคันเล็กคันใหญ่มาส่งของทีนี
เวยเจียเอ๋ ่ ่ ยากจะ
่
เห็นของทีนางชอบกิ น เขาจะใจแคบได้อย่างไร
่
“ได้เลย ขา้ ไม่เกรงใจท่านตาแลว้ นะเจ ้าค่ะ” เสินเวยโยนส ม้ หนึ่ ง
กลีบเขา้ ปาก กล่าวด้วยตาเป็ นประกาย “ดูท่าแลว้ ลูกผูพ ่ี
้ จะใช ้ชีวต
ิ
อยู่ในกองทัพองครักษ์ได้ไม่เลวเลย งานสมรสของเขาท่านตา
วางแผนไวว้ ่าอย่างไร”
่ ยน เดิมเขาก็อยากอยู่สร ้างคุณูปการทีซี
หร่วนเหิงไม่เหมือนเสินเชี ่
เจียงฟื ้นฟูจวนแม่ทพ ึ้
ั ใหญ่ขนมาอี กครัง้ แต่ถูกเสินเวยปฏิ
่ เสธ ซี
เจียงอย่างน้อยสิบปี กย ้
็ งั ไม่อาจมีสงครามครังใหญ่ ได้ ไม่มก
ี ารต่อสู ้
แลว้ จะสร ้างคุณูปการอะไรได้ เสียเวลาเปล่าอยู่ทซี ่ี เจียงไม่สก ู ้ ลับ
เมืองหลวงมาหาหนทางอืน ่
่
แม้ว่าซีเจียงจะมีสงคราม เสินเวยก็ ไม่อาจปล่อยเขาไวไ้ ด้ เขาคือต้น
อ่อนเพียงต้นเดียวของตระกูล
่ สํ
หร่วน หน้าทีที ่ าคัญทีสุ
่ ดก็คอ ้
ื สืบเชือสายตระกู ล ส่วนการฟื ้นฟู
จวนแม่ทพ ้ ใ้ ห้รน
ั ใหญ่ ทิงไว ุ ่ ลูกรุน
่ หลานทําเถอะ ลูกผูพ ่ี
้ สามารถมี
หลานอ้วนท้วนสมบูรณ์ให้ท่านตาได้หลายๆ คนหน้าทีก็ ่ นับว่าเสร็จ
สมบูรณ์แลว้
่
มีตําแหน่ งขุนนางแลว้ ย่อมต้องทุกข ์ใจเรืองแต่ งงาน เด็กหนุ่ มมาก
ความสามารถขันห้ ้ า ในเมืองหลวงก็มห ี น้ามีตาอย่างยิง่ อีกทังห ้
ร่วนเหิงก็หน้าตาไม่ได้ดอ้ ย ดังนั้นตระกูลทีจั ่ บจอ้ งเขาก็มไี ม่นอ้ ย
ั้
เลยจริงๆ แต่ทงหมดล ว้ นเป็ นขุนนางเล็กขันตํ้ ่า หรือไม่ก็เป็ นเศรษฐี
ี่ มีภูมห
ใหม่ทไม่ ่
ิ ลัง อย่าว่าแต่ไม่เขา้ ตาเสินเวย แม้แต่หร่วนเจิน้
เทียนเองก็ไม่สบายใจ
้ ยนมีอํานาจ หากหลานชายเขาเป็ นคนไม่ได้
ไม่ใช่ว่าหร่วนเจินเที
่ เขาก็จะไม่ขอมาก แต่ตอนนี หลานชายเขาเป็
เรือง ้ นถึงชายหนุ่ มใน
อุดมคติ หากสมรสกับภรรยาทีไม่่ ดี เขาก็รู ้สึกไม่เป็ นธรรมแทน
หลานชาย
่
“ตระกูลไหน” เสินเวยรี
บถาม
“ตระกูลราชบัณฑิตสวี่ คนทีพู
่ ดถึงคือบุตรสาวคนโตของตระกูล
ราชบัณฑิตสวี”่ หร่วนเจินเที
้ ยนกล่าว
่ อ ดวงตาเสินเวยเป็
แซ่สวีหรื ่ นกระกายอีกครัง้ “แซ่เดียวกับ
่
เสนาบดีสวีเลย”
่
“อ้อ” เสินเวยพยั
กหน้า คลา้ ยกําลังครุน ่ คิด “เช่นนั้นเหตุใดตระกูล
พวกเขาถึงได้สนใจลูกผูพ ่ี า ขา้ ไม่ได้บอกว่าลูกผูพ
้ เล่ ่ี ดี แต่แม่
้ ไม่
ทัพเช่นพวกเราในสายตาตระกูลใหญ่ตระกูลโตทีมี ่ ภูมห ิ ลังเหล่านั้น
แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ค่อยอยู่ในสายตา ราชบัณฑิตสวีสนใจลู ่ กผูพ ี่
้ ได้
อย่างไร”
่
“ในเมือสองสามี ่
ภรรยาราชบัณฑิตสวีสามารถคิ ่ ตรสาว
ดเพือบุ
้ นิ สยั ใจคอคนผูน
เช่นนี ได้ ้ ั้นจะต้องไม่เลวแน่ นอน ท่านตาท่านอย่า
รีบตอบรับ ขา้ กลับไปสืบถามท่านป้ าสะใภ้ใหญ่ถงึ ตระกูลพวกเขา
ก่อน ดูว่าเป็ นความจริงหรือไม่ หากเป็ นความจริง พวกเราก็ผูก
สัมพันธ ์แต่งงานกันอย่างมีความสุข หากในนั้นมีความจริงทีปกปิ ่ ด
พวกเราก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ ไม่ทําให้ลูกผูท้ ่ได้ี รบั ความไม่เป็ น
่
ธรรม” เสินเวยเสนอความคิ ดเห็น
ตอนที่ 207-1 พระชายาจินอ๋
้ องมีคาํ เชิญ
่
พูดเรืองสมรสของหร่ ้ ยนก็เปลียนเรื
วนเหิงจบแลว้ หร่วนเจินเที ่ ่ ก
องอี
ครัง้ “ไม่ใช่ว่ากันว่าเจ ้าไปวัดต้าเจวียมาอี
๋ กแลว้ หรือ” เขามอง
ประเมิณหลานสาวตังแต่ ้ ศรี ษะจรดปลายเท้าปราดหนึ่ ง รู ้สึกว่า
้ องเป็ นฉากบังตาอีกแน่ นอน คราวก่อนวิงไปกระโดด
คราวนี จะต้ ่
โลดเต้นทีซี่ เจียงเทียวหนึ
่ ่ ง คราวนี ไปไหนมาอี
้ กเล่า
่
เสินเวยก็ ไม่คด ๋
ิ จะปิ ดบังท่านตานาง “ไปอวินโจวมาเที ่
ยวหนึ ่ ง” ไม่
รอให้ตานางไต่ถามนางก็เล่าให้ฟังด้วยตัวเอง “ขา้ มีท่านอาอยู่คน
หนึ่ งใช่หรือไม่ ตอนนั้นไม่ใช่ว่าแต่งงานกับเด็กยากจนหรอกหรือ
เด็กยากจนผูน้ ี กั้ บครอบครัวของเขาเป็ นพวกจอมปลอม ใช ้สินเดิม
ของท่านอามีชวี ต ่ แต่กลับรังเกียจท่านอาที่ไร ้ประโยชน์ ไม่
ิ ทีดี
สามารถให้ตําแหน่ งขุนนางทีใหญ่ ่ ้ เขาได้ ชีวต
กว่านี แก่ ิ ของท่านอา
่ งให้วงไปอวิ
ไปต่อไม่ได้แลว้ ท่านปู่ รู ้เรืองจึ ิ่ ๋
นโจวเที ่
ยวหนึ ่ งพาท่าน
อากับลูกผูน้ อ้ งกลับมา เลียงไม่่ ให้พวกนางตรอมใจตาย”
้ ยนเลิกคิวขึ
“หย่าหรือ” หร่วนเจินเที ้ น้
้ ้นแลว้ จะยังเหลือความสัมพันธ ์ฉันสามีภรรยา
“ก็แน่ น่ะสิ มาถึงขันนั
อะไรอีก ตัดขาดเสีย ขา้ กลับจวนโหวไปเป็ นสตรีสูงศักดิของข ์ า้
เหมือนเดิม พวกเจ ้าก็กลับไปยังทีดิ ่ นสองหมู่[1]นั่นทีบ
่ า้ นเก่าพวก
ี่
เจ ้าต่อ ผืนฟ้ ากวา้ งแผ่นดินกวา้ ง หย่ากันแลว้ ใครกันแน่ ทจะอยู ่
่
ไม่ได้” เสินเวยกล่ าวอย่างไม่สนใจ
่ นเวยได้
เมือเสิ ่ ยน
ิ ดังนี ก็ ้ ไม่พอใจแลว้ วางถาดผลไม้ลงบนโต๊ะ
วางมาดเตรียมจะถกเถียงกับตานาง “ดูท่านตาพูดเขา้ ถือหางให้
ท้ายแลว้ อย่างไร ญาติของตัวเอง จะไม่ถอ ื หางได้อย่างไร ถือหางให้
ท้ายถือเป็ นขอ้ ดีของขา้ ! ลูกผูพ ี่ กผูน้ อ
้ ลู ้ งคนไหนบา้ งทีข ่ า้ ไม่ถอ
ื
หาง นึ กถึงตอนนั้นทีลู ่ กผูน้ อ้ งถูกเด็กแซ่ฉินผูน ้ ั้นรังแกขา้ งถนน
เดิมขา้ ไม่คด ่
ิ จะยุ่งเรืองคนอื น่ ต่อมาได้ยน ิ ว่านี่ คือลูกผูน้ อ้ ง ขา้ ก็ส่งั
คนไปจัดการเด็กคนนั้นทันทีไม่ใช่หรือ ยังมีลูกผูพ ้ ี่ ทีซี
่ เจียงมีครัง้
่
ไหนบา้ งทีเขาออกรบแล ว้ ขา้ ไม่ตามไป ไม่ใช่ว่ากลัวเขาเป็ นอะไรไป
แลว้ จะส่งผลกระทบต่อการสืบสกุลตระกูลหร่วนหรอกหรือ อย่าว่า
่ าบาก ต่อให้เป็ นแม่ขา้ ก็ตอ้ งวิงกลั
แต่ท่านทีลํ ่ บมากลางดึกพูดคุย
กับขา้ ! คิดว่าง่ายนักหรือ”
่
เสินเวยกล่ าวอย่างจริงจัง “พูดว่าซาบซึงบุ ้ ญคุณก็เหินห่างไปหน่ อย
ใครให้พวกเราเป็ นญาติแท้ๆ เล่า ไม่ไวห้ น้าใครก็ยงั ต้องไวห้ น้าแม่
่
ขา้ บา้ ง นางอุส่าให้กําเนิ ดขา้ บุญคุณทีใหญ่ เท่าฟ้ า ยังไม่รอขา้ โต
ตอบแทนบุญคุณนางนางก็ไม่อยู่แลว้ ผูท้ เป็ ่ี นลูก ขา้ ก็ตอ้ งทําอะไร
ให้นางบา้ งมิใช่หรือ นอกจากน้องชายทีนางวางใจไม่่ ี่ ดตอนที่
ได้ทสุ
ยังมีชวี ต ื บา้ นท่านตานี่ แหละ ขา้ จึงต้องพยายามปกป้ อง
ิ อยู่ก็คอ
แทนนางบา้ ง”
้ ดจนหร่วนเจินเที
คําพูดเหล่านี พู ้ ยนคนใจแข็งผูน ้
้ ี แทบจะนํ ้าตาไหล
คิดอยู่เสมอว่าบุตรสาวโชคร ้ายเกินไป ให้กําเนิ ดลูกสาวทีดี ่ เพียงนี ้
แลว้ แต่กลับไม่มสี ก ่ เสพสุข หากนางยังมีชวี ต
ั วันทีได้ ิ อยู่จนถึง
ตอนนี ้ แม้ว่านิ สยั จะอ่อนแอ สุขภาพจะไม่ดี แต่มเี วยเจียเอ๋ ่ อร ์ลูก
้ ่ ไม่ว่าใครก็แตะต้องตําแหน่ งเรือนหลังของนางไม่ได้
สาวคนนี อยู
่
เสินหงเซวี ยนหลานชวผู ่ ั น้ ้นจะกล
ั า้ ปฏิบต
ั ิไม่ดต
ี ่อบุตรสาวเขาแม้แต่
นิ ดเดียวเชียวหรือ ไม่ตอ้ งให้เขาออกหน้า เวยเจียเอ๋ ่ อร ์ก็จด
ั การเขา
ได้อย่างเสร็จสรรพ
้ นเวยเองก็
จุดนี เสิ ่ เห็นด้วยอย่างยิง่ กล่าวด้วยสีหน้าภูมใิ จ “ถูกต้อง
สติปัญญาของปู่ ขา้ เทียบกับคนทั่วไปได้หรือ หากไม่ใช่พวกขา้ ปู่
้ อก
หลานจะมีใครนิ สยั ตรงกันเช่นนี ได้ ี ท่านตา ขา้ จะบอกท่านให้
หากไม่ใช่ปู่ขา้ สายตาดีเพียงนี ้ ไม่หวั โบราณ ไม่ครําครึ
่ ไม่ดูถูก
สตรี ขา้ จะคงจะปลดระวางไปนานแลว้ ขา้ จะสนหรือว่าซีเจียงของ
ท่านจะปกป้ องไวไ้ ด้หรือไม่ จะสนหรือว่าท่านจะเป็ นจะตาย ขา้ จะ
สนหรือว่าจวนจงอู่โหวของท่านจะมีอํานาจคําฟ้ ้ าหรือล่มสลายเป็ น
ู ้ นึ่ งเช่นขา้ ไหนเลยจะส่งผลกระทบถึงชีวต
ฝุ่ นผง สตรีผห ิ แต่จะว่าไป
หากไม่ใช่ท่านปู่ ก็ไม่มใี ครยอมให้ขา้ ออกหน้าหรอก!”
่
ชืนชมปู่ นางรอบหนึ่ ง เสินเวยก็
่ ่
เปลียนเรื ่
องเปิ ดฉากเสียดสี “ขา้
เกลียดตระกูลใหญ่ตระกูลโตทีสุ ่ ด พูดให้น่าฟังว่านั่นคือกฎระเบียบ
เคร่งครัด อันทีจริ่ งก็ไร ้ความปรานี บุตรสาวเจอคนชวทํ ่ ั าร ้ายไม่
อยากลงโทษคนชว่ ั กลับแต่งบุตรสาวเขา้ ไปเพือชื ่ อเสี
่ ยงอะไรนั่น
ไม่ก็ส่งไปทีวั่ ด ยังมีคนทีใจร
่ ้ายยิงกว่
่ าต้องการจะเอาชีวต ิ บุตรสาว
บุตรสาวถูกรังแกทีบ ่ า้ นสามี แทบจะเอาชีวต ิ ไม่รอด บา้ นฝั่งมารดา
กลับกดดันไม่ยอมให้หย่า แม้ว่าจะหย่าก็ไม่ให้เขา้ บา้ น กฎบา้ อะไร
กัน! ยังมีอะไรสําคัญกว่าชีวต ิ ของบุตรสาวอีก ไม่เห็นบุตรสาวเป็ น
คน บุตรสาวทีแต่ ่ งออกไปแลว้ ก็เหมือนนํ ้าทีสาดออกไปอะไรกั
่ น ไม่
มีสตรีแลว้ ใครจะให้กําเนิ ดเจ ้า”
้ ยนจะไม่ครําครึ
แม้ว่าหร่วนเจินเที ่ แม้แต่นิดเดียว ทังยั
้ งไม่ดูถูกสตรี
้
แต่เขาก็ยงั คงถูกคําพูดนี ของหลานสาวทํ าให้ตกตะลึงจนพูดไม่
ออก เนิ่ นนานกว่าจะกล่าวด้วยสีหน้าซับซ ้อน “เวยเจียเอ๋
่ อร ์ เอ่อ
้ ้าพูดต่อหน้าตาก็พอ อย่าได้พูดขา้ งนอกเชียวล่ะ!”
คําพูดนี เจ
่
เสินเวยกรอกตาขาว ่
“แน่ นอนอยู่แลว้ ” นางเองก็บ่นต่อหน้าทีคน
ั นั้น อยู่ขา้ งนอกปากของนางปิ ดสนิ ท นางไม่โง่
สนิ ทและไวใ้ จก็ทน
จนไปท้าทายกฎระเบียบในยุคสมัยนี หรอก ้
“นั่นกลับไม่จําเป็ น” หร่วนเจินเที
้ ยนมองหลานสาวของเขาปราด
หนึ่ งแลว้ กล่าว “เจ ้ายังบอกเองเลยว่าคนทีอาเจ ่ ้าแต่งงานด้วยเป็ น
่ ปู่่ เจ ้าสั่งได้มใิ ช่หรือ แต่เจ ้าไม่
เด็กยากจน จะหย่าก็เป็ นเรืองที
เหมือนกัน ทีเจ ่ ้าแต่งด้วยคือราชนิ กลุ นั่นคือหลานชายแท้ๆ ของฝ่ า
บาท แม้ว่าปู่ เจ ้าจะอยากออกหน้าแทนเจ ้า แต่ก็ทําไม่ได้! เขาจะเป็ น
่
ใหญ่ไปกว่าราชนิ กุลได้อย่างไร ยิงไปกว่ านั้นนี่ ยังเป็ นการสมรส
พระราชทานจากฝ่ าบาท การหย่าเป็ นเรืองที ่ ไม่ ่ ตอ้ งแม้แต่จะคิดเลย
เจ ้าคิดว่าจะใช ้ชีวต
ิ ให้ผ่านไปได้ดว้ ยดีอย่างไรจึงจะถูก”
่ อสม้ ของเสินเวยหยุ
มือทีถื ่ ดชะงัก หลังจากนั้นก็กล่าวราวกับไม่เป็ น
ปัญหา “ไม่มี ขา้ เองก็ไม่รู ้ว่าเขาเป็ นอย่างไร น่ าจะไม่เป็ นไรหรอก
กระมัง” สุดท้ายนางก็ไม่ได้บอกว่าคุณชายใหญ่สวีนําพระราชการ
่
โองการลับออกไปทํางานขา้ งนอก ไม่ใช่ว่าไม่เชือใจท่ านตา แต่ไม่
จําเป็ นต้องให้เขารู ้แลว้ เป็ นกังวล
ความกังวลในแววตาของหร่วนเจินเที ้ ยนก็ยงมากขึ
่ิ น้ “ไม่ได้สบ
ื
้ องหรือ ทางฝ่ าบาทจะต้องมีข่าวบา้ งสิ เขาไม่ได้
ถามกับจวนจินอ๋
หลุดปากบอกปู่ เจ ้าบา้ งเลยหรือ”
่
เสินเวยส่ ้
ายหน้า “ไม่มี ท่านปู่ ไม่ได้พูดอะไร” ใครจะรู ้ว่าตอนนี เขา
ี่ มไหน
ไปซ่อนตัวอยู่ทมุ
้ ยนยังคิดว่าคุณชายใหญ่สวีป่วยหนัก ถอนหายใจ
หร่วนเจินเที
้
ขึนมา ่ อร ์ เจ ้าต้องเตรียมใจไวบ้ า้ ง หากว่า
กล่าวเตือน “เวยเจียเอ๋
หากว่าคุณชายใหญ่สวี…” เขามองดวงตาทีใสกระจ่ ่ างของ
หลานสาว พูดไม่ออกแลว้ ถุยๆๆ ต้องเป็ นเขาที่คิดมากไปแน่ ๆ
หลานสาวเขาคงไม่โชคร ้ายเพียงนั้นหรอก
่
ทว่าเสินเวยกลั บกล่าวอย่างปลอบโยน “ท่านตา ไม่เป็ นไร ฟังว่าบน
เขาลูกนั้นทีคุ
่ ณชายใหญ่สวีไปรักษามีหมอเทวดาอาศัยอยู่ เขา
จะต้องไม่เป็ นไรแน่ นอน
้ กวันหลังทานขา้ วเสร็จหลวงจีนวัดจยาหลานก็จะเห็น
ด้วยเหตุนีทุ
คุณชายสูงศักดิที์ มารั
่ กษาผูน้ ั้นเดินอย่างช ้าๆ ภายใต้การพยุงของ
บ่าวรับใช ้ ผ่านไปหลายวันพวกเขาก็เห็นเงาร่างของพวกเขาในวัด
้
จนชินแลว้ บางครังเจอหน้ าพวกเขาก็ยงั หลบไปขา้ งๆ ให้คุณชาย
้ นก่อน น่ าสงสารเขายิงนั
ท่านนี เดิ ่ ก
้
สวีโย่วเดินเล่นอยู่ในวัดเช่นนี หลายต่ อหลายวัน กลับไม่เห็นอะไร
ผิดปกติ แต่มีอยู่เย็นวันหนึ่ งเขาเห็ นชายชุดดําสองคนอยู่ทางฝั่งป่ า
่ ั บตาก็หายไปแลว้ และทีบั
ไผ่เพียงชวพริ ่ งเอิญก็คอ
ื กุฏข
ิ องพระ
่ กษาสวีโย่วผูน้ ้นก็
อาจารย ์เต้ากวงทีรั ั อยู่ละแวกนั้นพอดี
สวีโย่วเดินเขา้ ไปใกลๆ้ ป่ าไผ่ภายใต้การพยุงของเจียงเฮยเจียงไป๋
อยู่หลายรอบก็ไม่เห็ นชายชุดดําสองคนนั้น แต่หลวงจีนเต้ากวงที่
นั่งสมาธิอยู่ในกุฏก
ิ ลับถูกรบกวนแลว้ “อมิตาพุทธ คารวะโยม”
่ี พระอาจารย ์
สวีโย่วรีบคํานับกลับ “มิบงั อาจ มิบงั อาจ โชคดีทได้
ออกมือ อาการป่ วยของผูน้ อ ้ ยก็ดข ึ้
ี นแล ้ น้ อ
ว้ หลายวันมานี ผู ้ ยทํา
้
ตามคําชีแนะของพระอาจารย ์ ออกมาเดินทุกวัน กําลังวังชากลับดี
้
ขึนกว่ ่ อนมาก” พูดจบก็คํานับให้หลวงจีนเต้ากวงอีกครัง้
าเมือก่
่ อนสติ
สวีโย่วกล่าวขอบคุณอย่างจริงจัง “ขอบคุณพระอาจารย ์ทีเตื
ผูน้ อ้ ยจะจําไว”้
สวีโย่วมั่นใจว่าตนไม่ได้ตาฝาด สองคนนั้นสวมชุดดํา ศีรษะมีผม
แตกต่างจากหลวงจีนทีหั ่ วโลน้ ในวัดอย่างยิง่ ตนไม่มท
ี างดูผิด
แน่ นอน
้ ของจี
[1] หมู่ หน่ วยวัดขนาดพืนที ่ น หนึ่ งหมู่เท่ากับ 666.67 ตาราง
เมตร
ตอนที่ 207-2 พระชายาจินอ๋
้ องมีคาํ เชิญ
้ ได้แลว้ ต้องมีคนไปสืบข่าว
สวีโย่วคิดว่าเขาเดินเตร่ไปมาเช่นนี ไม่
จากหลวงจีนเต้ากวง และกุฏข ิ องเจ ้าอาวาสจึงจะถูก ให้ใครไปดีเล่า
แม้ว่าหลวงจีนในวัดจยาหลานจะเป็ นมิตรกับพวกเขาอย่างยิง่ แต่
เขาก็รู ้ว่าพวกเขาไม่ได้ลดการเฝ้ าติดตามพวกเขามาโดยตลอด
ดังนั้นเขากับเจียงเฮยเจียงไป๋ จึงลงมือไม่ได้ กระทั่งคนอืนๆ
่ ทีขึ
่ น้
เขามาพร ้อมกับเขาก็ไม่ได้เช่นกัน เช่นนั้นก็ทําได้เพียงหาคนกลาง
จากขา้ งนอก สวีโย่วขมวดคิว้ นิ วมื ้ อเคาะโต๊ะเบาๆ ในสมองคิด
้
อย่างรวดเร็วว่าจะพาคนกลางขึนเขาอย่ างไร สืบข่าวอย่างไร
้ องทีหมุ
ฝี เท้าของจินอ๋ ่ นตัวพลันหยุดชะงัก ทันใดนั้นก็กล่าว “บน
เขามีหมอเทวดาเก่าแก่อยู่ หลายปี มานี โย่้ วเกอเอ๋อร ์ก็ป่วยมาหลาย
้
รอบแลว้ ครังไหนบ ่ ร ้ายแรงแต่ไม่มอ
า้ งทีไม่ ี น
ั ตราย เจ ้าวางใจลง
เถอะ ไม่เป็ นไรหรอก”
้ องยังคงกระวนกระวาย “ขา้ ไหนเลยจะวางใจได้ เมือ
พระชายาจินอ๋ ่
คิดภาพว่าโย่วเกอเอ๋อร ์ทรมานอยู่บนเขา หัวใจของขา้ ก็เจ็บราวกับ
ถูกเข็มแทง ท่านอ๋อง ต้องเป็ นบนเขาเท่านั้นหรือ พวกเราไม่อาจ
เชิญหมอเทวดากลับจวนอ๋องหรือ ขา้ ได้เห็นโย่วเกอเอ๋อร ์จิตใจก็จะ
้
ได้สบายขึนหน่ อย”
่
สบสายตาทีมองมาของหวั ้ องก็ส่ายหน้า “ยอดฝี มอ
งเฟย จินอ๋ ื
เหล่านั้นต่างก็มน ้ น้ เจ ้าคิดว่าเสด็จพีไม่
ี ิ สยั ประหลาดดือรั ่ เคยคิดจะ
เชิญหมอเทวดาลงเขาหรือ จะทําอย่างไรได้ในเมือเขาไม่ ่ ยน
ิ ยอม
คงไม่อาจฆ่าเขาได้กระมัง เช่นนั้นใครจะรักษาโรคให้โย่วเกอเอ๋อร ์
เล่า”
้ องได้ยน
จินอ๋ ิ หวังเฟยพูดเช่นนี ้ เมือคิ
่ ดตามอย่างละเอียดยังรู ้สึกว่า
้ งๆ จึงกล่าว “หากหวังเฟยไม่สบายใจ ก็ถอ
เป็ นปัญหาเช่นนี จริ ื
โอกาสเรียกคุณหนู สีผู ่ น้ ้ันมาปลอบขวัญหวังเฟยสักหน่ อย อย่างไร
เสียไม่ช ้าไม่เร็วก็ตอ้ งเป็ นสะใภ้ของตระกูลเราอยู่ด”ี
้ องหัวเราะขึนมา
จินอ๋ ้ กล่าวหยอกลอ้ นาง “เจ ้าเป็ นแม่สามีมาสอง
้ ว้ เหตุใดถึงยังไม่เลิกตืนเต้
ครังแล ่ นอีก ตอนทีสะใภ้
่ ่ อร ์
ของเยียเอ๋
เขา้ เรือนก็ไม่เห็นเจ ้าเป็ นเช่นนี ้
้
รอยยิมบนใบหน้ ้ องกลับจางลง “พอแลว้ ไม่ตอ้ งหาเรือง
าของจินอ๋ ่
ใส่ตวั สงบอารมณ์เสีย” แม้ว่าบุตรคนโตจะได้รบั พระราชทาน
บรรดาศักดิเป็ ์ นจวินอ๋
้ องนานแลว้ แต่เมือจิ
่ นอ๋
้ องได้ยนิ หวังเฟยพูด
ว่าบุตรคนโตมีอนาคตกว่าบุตรทังสามเสี ้ ยอีก ในใจเขาก็ไม่สบ
อารมณ์อย่างยิง่ เป็ นบุตรชายเขาเหมือนกัน สุขภาพก็ยงั ดีกว่าคน
้
ขีโรคมิ ่ อร ์บุตรคนรอง อายุสบ
ใช่หรือ โดยเฉพาะเยียเอ๋ ิ สามสิบสีก็่
ตามเขาไปทํางานแลว้ ช่วยเขาไปมากเพียงใด เหตุใดถึงเทียบคนขี ้
่
โรคทีตลอดปี รกั ษาตัวอยู่บนเขาไม่ได้ ก็แค่ฝ่าบาทลําเอียงเท่า
นั้นเอง
ตอนนี ้ จินอ๋
้ องไม่พอใจเสด็จพีของเขาขึ
่ ้
นมาแล ว้
้ องลอบมองสีหน้าบนใบหน้าจินอ๋
พระชายาจินอ๋ ้ อง ย่อมโอนอ่อน
ผ่อนตามอย่างว่าง่าย
้ องเชิญนางไปพูดคุยทีจวนหรื
อะไรนะ พระชายาจินอ๋ ่ ่
อ เสินเวยได้
ยินคําพูดของท่านป้ าสะใภ้ใหญ่นางก็แทบจะพ่นชาในปากออกมา
ความคิดแรกในสมองก็คอ ้ องจะเล่นลูกไม้อะไร
ื พระชายาจินอ๋
่ นเวยคิ
ไม่แปลกทีเสิ ่ ดเช่นนี ้ อันทีจริ
่ งจังหวะทีพระชายาจิ
่ ้ องเลือก
นอ๋
ก็ไม่ถูกจริงๆ คุณชายใหญ่สวียงั รักษาตัวอยู่บนเขา ว่าทีแม่่ เลียง
้
่
สามีของเจ ้าเรียกนางไปทีจวนทํ าไม มัดใจด้วยอุบาย เตือนสติ หรือ
่ ั บตาเสินเวยก็
ว่าแสดงอํานาจ ชวพริ ่ คด
ิ ไปต่างๆ นานา
่ บกล่าวอย่างดีอกดีใจ “คนทีมาบอกข่
ทว่าฮูหยินสวีกลั ่ าวคือแม่
นมซือประจํากายพระชายาจินอ๋ ้ อง ฟังจากเจตนาในคําพูดของนาง
้ องให้ความสําคัญกับเจ ้ามากเป็ นพิเศษ คุณชาย
พระชายาจินอ๋
ใหญ่สวีไม่ใช่กลับมาป่ วยอีกแลว้ หรือ หวังเฟยเป็ นห่วงว่าเจ ้าจะคิด
มาก อยากรับเจ ้าเขา้ จวนไปพูดคุย ถือโอกาสปิ ดปากคนเหล่านั้น
ขา้ งนอกอีกด้วย”
่
เสินเวยตาลุ กวาว ลางสังหรณ์บอกว่าไม่เชือ่ แม่เลียงสามี
้ ปลอบ
่
ขวัญว่าทีสะใภ้ ้ั
งนหรื ้ ว่าจะคิดอย่างไรก็ผด
อ ภาพๆ นี ไม่ ิ ปกติ หาก
พระชายาจินอ๋ ้ องผูน้ ี เป็
้ นคนใจกวา้ งเมตตาจริงๆ เช่นนั้นสวีโย่วคน
โรคจิตผูน้ ้ันจะมีนิสยั เย็ นชาเช่นนั้นหรือ ยิงไปกว่
่ านั้นตําแหน่ ง
่ อจวนจิ
ซือจื ่ ้ องยังตกอยู่ในมือลูกชายแท้ๆ ของหวังเฟยผูน้ ี ้ แม้
นอ๋
ทุกคนต่างก็พูดว่าเพราะร่างกายสวีโย่วไม่ดี เหอะ หลอกใครหรือ
่
เสินเวยไม่ ่
เชืออย่ ่ าในนั้นจะไม่มีฝีมอ
างยิงว่ ื ของหวังเฟยผูน้ ั้น
่ บมือของเสินเวยอธิ
ฮูหยินสวีจั ่ บายต่างๆ นานา “วันกําหนดไวเ้ ป็ น
้ นมซือผูน้ ั้นยังมารับ ถึงตอนนั้นเจ ้าแต่งตัวสวยๆ
วันหลัง อีกทังแม่
งามๆ สร ้างความประทับให้หวังเฟย อืม ให้แม่นมมั่วไปเป็ นเพือน ่
เจ ้าด้วย นางมาจากในวัง คุน้ เคยกับกฎมารยาทราชนิ กุล มี
ตรงไหนทีไม่ ่ เขา้ ใจนางจะได้เตือนเจ ้าได้” นางสาธยายยืดยาว กลัว
่
ว่าเสินเวยทํ าไม่ดตี รงไหนจะเป็ นการยั่วโมโหว่าทีแม่
่ สามี
่
เสินเวยพยั ่ ง “อืม อืม ท่านป้ าสะใภ้ใหญ่ หลาน
กหน้าอย่างเชือฟั
ทราบแลว้ จะไม่ทําให้จวนโหวของพวกเราเสียหน้าแน่ นอน”
ฮูหยินสวีลู ่ บศีรษะของเสินเวย
่ ถอนหายใจเบาๆ หนึ่ งคราแลว้ กล่าว
่ อร ์ ป้ ากลับไม่ได้สนใจว่าเจ ้าจะทําจวนโหวเสียหน้า เจ ้า
“เวยเจียเอ๋
้ อง พระชายาจินอ๋
ต้องรู ้ไวว้ ่า ในภายหน้าเจ ้าแต่งเขา้ จวนจินอ๋ ้ องก็
คือแม่สามีของเจ ้า คุณชายใหญ่สวีไม่ ่ ใช่คนที่นางให้กําเนิ ด ทีนาง
่
ปฏิบต ั ต
ิ ่อพวกเจ ้าเป็ นเพียงภายนอก เจ ้าต้องเอาใจนาง ชีวต ิ จึงจะดี
เจ ้ายังเล็ก ไม่เขา้ ใจ หากคนทีเป็่ นแม่สามีมเี จตนาอยากทําร ้าย
ลูกสะใภ้ เจ ้าก็จะไม่มห ี นทางแม้แต่นิดเดียว อย่างไรเสียนางก็ถอ ื
ครองกฎในตระกูล”
่ งใจเช่นนี ก็
คําพูดทีจริ ้ มเี พียงแม่แท้ๆ ทีจะพู
่ ่
ดกับบุตรสาวได้ เสินเว
ยย่อมซาบซึง้ “ท่านป้ าสะใภ้ใหญ่วางใจ หลานจะรับปากอย่างดี”
่
เดิมเสินเวยก็ ่
อยากไปสืบข่าวเรืองตระกู ่
ลราชบัณฑิตสวีจากป้ า
สะใภ้ใหญ่ ตอนนี ถู ้ กนางดึงไวพ ้
้ ูดเรือยเจื ้
อยไม่ หยุดปาก กลับลืม
่
เรืองหลั กไปเสียแลว้ เมื่อป้ าสะใภ้ใหญ่นางออกจากเรือนเฟิ งหวาไป
่
เสินเวยก็ ่
เพิงจะนึ ้
กขึนได้ ตบหน้าผากด้วยหงุ ดหงิดอย่างอดไม่ได้
ช่างมัน ช่างมัน อย่างไรเสียก็ไม่เกินวันสองวันนี ้ รอนางไปรับมือกับ
พระชายาจินอ๋้ องก่อนแลว้ ค่อยว่ากัน
้ องเชิญคุณหนู สไปสนทนา
พระชายาจินอ๋ ี่ ้
ข่าวๆ นี แพร่
กระจายไป
ทั่วทังจวนโหวราวกั
้ ้ งมี
บกระพือปี ก มีคนอิจฉา มีคนริษยา ทังยั
ใบหน้าบางคนทีมี่ ความดุร ้ายและโกรธแค้นแวบผ่าน
่ จฉาก็คอ
คนทีอิ ่
ื ฮูหยินจ ้าวบา้ นรอง นางลากเสินเซวี
ยนมาขา้ งหน้า
่ สนใจนั้นของลูกสาว ก็เจ็บใจทีไม่
ตน เห็นท่าทางทีไม่ ่ อาจหลอม
เหล็กให้กลายเป็ นเหล็กกลา้ ได้
“ดูชะตาพีสี ่ เจ
่ ้าสิ ทังได้
้ รบั พระราชทานสมรสทังได้้ รบั พระราชทาน
บรรดาศักดิเป็ ์ นจวินจู
้ ่ ตอนนี ยั
้ งถูกพระชายาจินอ๋
้ องเรียกไป
สนทนา จุๆๆ ในเมืองหลวงยังนับได้ว่าเป็ นครังแรก้ เซวียนเอ๋อร ์ เจ ้า
้
ตังใจฟั ่ พูดหรือไม่” ฮูหยินจ ้าวเห็นว่าลูกสาวใจลอย ชวขณะก็
งทีแม่ ่ั
โมโหอย่างยิง่
่ ก” เสินเซวี
“ท่านแม่ ฟังอยู่ ฟังอยู่ เจ็บยิงนั ่ ่ นางใช ้
ยนกุมบริเวณทีแม่
้ ม้ พูดด้วยความไม่พอใจ
นิ วจิ
เห็นแม่นางกําลังจะร่ายยาวไม่หยุดอีกครัง้ เสินเซวี
่ ยนก็อด
ึ อัดจน
้ นตัดบท “ท่านแม่ ลูกต้อง
ลําไสแ้ ทบจะบิดเป็ นเกลียว รีบลุกขึนยื
กลับเรือนแลว้ ตอนบ่ายแม่นมเหยาจะทดสอบกฎมารยาท ลูกยัง
ไม่ได้ฝึกให้ดเี ลย”
่
มองแผ่นหลังทีออกไปราวกั ่
บวิงหนี ของลูกสาว ฮูหยินจ ้าวก็ตบโต๊ะ
้ วยความเคียดแค้น “เด็กคนนี นี
หลายครังด้ ้ ่ ไม่คด
ิ บา้ งหรือว่าแม่
ั เจ ้า หนึ่ งคนสองคน ลว้ นแต่ทําให้แม่กลัดกลุม้ หากนางมี
หวังดีกบ
่ ่ งของเวยเอ๋อร ์ ขา้ จะยังต้องกลุม้ ใจอะไรอีก”
โชคได้ครึงหนึ
้
ช่วงนี นางกํ ่
าลังดูเรืองสมรสให้
เซวียนเอ๋อร ์มาโดยตลอด ส่วนใหญ่
ในนั้นนางลว้ นแต่ไม่ชอบ มีเพียงสองสามตระกูลทียั ่ งนับว่าไม่เลว
แต่ก็ยงั ห่างจากความต้องการในใจนางอยู่ดี เป็ นคุณหนู จวนจงอู่
โหวเหมือนกัน แม้เซวียนเอ๋อร ์จะไม่อาจเทียบเวยเอ๋อร ์ได้ แต่ก็ไม่
อาจด้อยกว่าเกินไปมิใช่หรือ
่
ชุย่ หนงสาวใช ้ใหญ่เองก็รู ้ว่าฮูหยินของตนกําลังเป็ นทุกข ์เรือง
สมรสของคุณหนู อยู่ จึงลอบมองสีหน้านางอย่างระมัดระวังแลว้
กล่าวเสียงเบา “ฮูหยิน มะรืนนี คุ ้ ณหนู สไปจวนจิ
ี่ ้ อง หากคุณหนู
นอ๋
ของพวกเราตามไปได้ ถึงตอนนั้นเขา้ ตาพระชายาจินอ๋ ้ อง ขอเพียง
้ องพูดถึงคุณหนู ของเราดีๆ ที่ขา้ งนอก เช่นนั้น
แค่พระชายาจินอ๋
่
เรืองสมรสของคุ ณหนู ยงั จะต้องเป็ นกังวลไปไยอีก”
ิ ดังนั้นก็คลา้ ยครุน
ฮูหยินจ ้าวได้ยน ่ นึ่ งกลับส่าย
่ คิด ตริตรองอยู่ครูห
หน้า “ไม่ควร เวยเอ๋อร ์ไปจวนจินอ๋้ องเป็ นครังแรก
้ ตนเองก็ตอ้ ง
รวบรวมสติให้ดี ไหนเลยจะแบ่งความสนใจมาดูแลเซวียนเอ๋อร ์ได้
อีก ไม่ควร ไม่ควร”
้ ว่าฮูหยินจ ้าวจะสนใจอย่างถึงทีสุ
ขอ้ เสนอนี แม้ ่ ด แต่นางก็ไม่ได้
้
สายตาสันจนไม่ ้ น้ เวยเอ๋อร ์ไปจวนจินอ๋
ใส่ใจอะไรทังสิ ้ องเป็ นครัง้
่ นมากอยู่แลว้ เซวียนเอ๋อร ์อย่าไปสร ้าง
แรก ตนเองก็ตอ้ งตืนเต้
่
ปัญหาเพิมจะดี ่ ย่ หนงพูดกลับเตือนสตินางได้ ตอนนี ้
กว่า แต่ว่าทีชุ
ไปไม่ได้ รอเวยเอ๋อร ์แต่งเขา้ ไปแลว้ เซวียนเอ๋อร ์จะไปไม่ได้หรือไร
อืม ต้องกําชบั เซวียนเอ๋อร ์ให้ผูกมิตรกับเวยเอ๋อร ์ไวจ้ ะดีกว่า
่
เสินหย่ ่ อนเหลียนอีแลว้ ไปๆ
าเห็นท่าทีก็ไม่หา้ มให้หลิวรุย่ ฟังมาทีเรื
้
มาๆ เด็กทังสองกลั บสนิ ทกันหลายส่วนจริงๆ
“น้องหลินได้ยน ้
ิ หรือไม่ วันนี จวนจิ ้ องมีคนมา” หลิวรุย่ ฟังกล่าว
นอ๋
อย่างแสร ้งทําทีไม่สนใจ
่
หลิวรุย่ ฟังกล่าว “ฟังว่าคนทีมาคื อแม่นมประจํากายพระชายาจิ ้
นอ๋อง มาเชิญญาติผพ ี่ ไปสนทนาที
ู ้ สี ่ ่
จวนจิ ้ อง” ดวงตาของนางมี
งอ๋
ความอิจฉาแวบผ่าน นั่นคือจวนจินอ๋ ้ อง จวนอ๋องจะต้องทรงอํานาจ
กว่าจวนโหวใช่หรือไม่ หากตามไปดูสก ่ิ ก
ั หน่ อยได้ก็คงดียงนั
“เหตุใดเล่า ญาติผูพ ี่ ยั
้ สี ่ งไม่แต่งเขา้ เรือนเลยมิใช่หรือ เขา้ บา้ น
้ หรือ” อย่างไรเสียความคิดของเหอหลินหลินก็ใสซือ่ บน
เช่นนี จะดี
ใบหน้านางมีความกังวลแวบผ่าน
ในใจหลิวรุย่ ฟังร ้อนผ่าว ก ้มหน้ากัดปลายด้ายบนผ้าเช็ดหน้า “จะ
เป็ นอะไรไป คุณชายใหญ่สวีไม่อยู่มใิ ช่หรือ ขา้ คิดว่าเป็ นเพราะ
คุณชายใหญ่สวีไม่อยู่ พระชายาจินอ๋ ้ องจึงให้เกียรติญาติผพ ่ี ่
ู ้ สี
เช่นนี ้ พระชายาจินอ๋
้ องดีต่อญาติผพ ี่ จริ
ู ้ สี ่ งๆ” ในนํ ้าเสียงเต็มไปด้วย
ความอิจฉา
่
เมือเหอหลิ นหลินได้ฟังก็ดใี จ “นั่นก็เพราะว่าญาติผพ ี่ เป็
ู ้ สี ่ นคนดี
อย่างไรเล่า” ในใจนาง ญาติผพ ี่ เป็
ู ้ สี ่ นคนทีนอกจากแม่
่ นางแลว้ ก็ดี
่ ด ทังสวยทั
ต่อนางทีสุ ้ ้ ความสามารถ พระชายาจินอ๋
งมี ้ องดีต่อนางก็
่
เป็ นสิงสมควรแล ว้ เหอหลินหลินดีใจแทนนางจากใจจริง
่
เมือหลิ
วรุย่ ฟังไป เหอหลินหลินก็เก็บ**บเข็มด้ายไปยังห้องของแม่
้ รุ่ี ย่ ฟัง”
นาง “ท่านแม่ ขา้ ไม่ชอบญาติผูพ
่
เสินหย่ าเห็นท่าทางไม่มค
ี วามสุขของลูกสาว ก็กล่าวอย่างอ่อนโยน
้
“เป็ นอะไรไปเล่า ทะเลาะกันหรือ ใช่เจ ้าขีงอนหรื
อไม่”
เหอหลินหลินเขยิบเขา้ ไปนั่งใกลแ้ ม่นาง “เปล่าเจ ้าค่ะ ก็ญาติผพ ู ้ รุ่ี ย่
ฟังน่ ะสิ นางเอาแต่พูดว่าญาติผูพ ่ี โชคดี
้ สี ่ ต่างๆ นานา แลว้ ยังยุงยง
ให้ลูกตามญาติผพ ี่ ไปจวนจิ
ู ้ สี ่ ้ อง นาง นางเป็ นเช่นนี ไปได้
นอ๋ ้
อย่างไร” เหอหลินหลินเบป้ าก ท่าทางน้อยใจอย่างถึงทีสุ ่ ด
่
ในดวงตาเสินหย่ ามีความเขา้ ใจแวบผ่าน นางลูบศีรษะของลูกสาว
้
กล่าวชีแนะจากใจจริ ่
ง “หลินเอ๋อร ์ เรืองมากมายบางเรื ่ อนหน้า
องก่
้ ก็ไม่เคยสอนเจ ้า จึงเลียงให้
นี แม่ ้ ่ ้เดียงสาเช่นนี ้ แม่หวัง
เจ ้ามีนิสยั ทีไร
เสมอว่าเจ ้าจะมีชวี ต ่ ยบง่ายมีความสุข ตอนนี พวกเรากลั
ิ ทีเรี ้ บมา
เมืองหลวงแลว้ แม่ก็เสียใจเล็กน้อย นิ สยั ทีไร ่ ้เดียงสาของเจ ้านี เดิ
้ น
ออกไปขา้ งนอกจะไม่ถูกคนหลอกแย่หรือ นี่ เป็ นความผิดของแม่
เอง แม่ควรจะสอนเจ ้าให้มากกว่านี ”้
แม้นางจะมีชวี ต ่
ิ ทียากลํ ้ าทีสะอาด
าบาก แต่กลับพยายามคิดจะคําฟ้ ่
ฟากหนึ่ งให้ลูกสาว ไม่อยากให้มลทินเรือนหลังกับอุบายทีโสมม
่
แปดเปื ้อนจิตใจทีดี ่ งามของลูกสาว
“ท่านแม่” นํ ้าเสียงทีสํ
่ านึ กผิดของมารดาทําให้เหอหลินหลินรู ้สึกไม่
สบายใจเล็กน้อย ขยับตัวเงยหน้ามองแม่นางอย่างอดไม่ได้
่
เสินหย่ ้
ายิมอย่
างปลอบประโลมให้ลูกสาว ตบแขนของนางแลว้
้
กล่าว “แต่ว่าตอนนี พวกเรากลั ่ านวนมาก
บเมืองหลวงแลว้ เรืองจํ
เจ ้าเองก็ควรจะเรียนรู ้ได้แลว้ ไม่ตอ้ งรีบร ้อน แม่จะค่อยๆ สอนเจ ้า”
้ กสาวแสดงออกมาได้ดอ
ดูสิ ตอนนี ลู ่ ใช่หรือ ดวงตาของ
ี ย่างยิงมิ
่
เสินหย่ ้
ามีความภูมใิ จปรากฎขึนมา
“ดังนั้นหลังจากนี หลิ
้ นเอ๋อร ์จึงต้องปฏิบต ั ติ ่อฟังเอ๋อร ์ให้เหมือนปกติ
่ นางพู
สิงที ่ ่ ดี
ดหรือทําเจ ้าคิดว่าไม่ใช่เรืองที ่ ก็ไม่ตอ้ งไปสนใจ
่
กลับมาเล่าให้แม่ฟัง ให้แม่สอนเจ ้า” เสินหย่ าฉวยโอกาสชีแนะลู ้ ก
สาว อย่างไรเสียก็อดใจทําลายความดีงามในจิตใจลูกสาวไม่ได้
ช่างเถอะ เพียงแค่ให้หลินเอ๋อร ์รู ้สึกว่าฟังเอ๋อร ์เป็ นคนทีให้ ่ อภัยได้ก็
พอ ชีวต ิ ยังอีกยาวไกล นางจะต้องเห็นกับตาตัวเองสักวัน
ตอนที่ 208-2 ไปจวนจิน้ อ๋อง
ถ้าหากหลินรุ่ ยฟังริ ษยา เช่นนั้นฮูหยินหลิวที่อยูใ่ นห้องพระเล็กผูน้ ้ นั
ก็คงเกลียดชังคับแค้นแล้ว
เสิ่ นเสวี่ยออกเรื อนฮูหยินหลิวยังออกไปไม่ได้ ตอนนั้นนางท้อแท้ใจ
จริ ง ๆ ภายหลังเสิ่ นเสวี่ยไปเยีย่ มนาง นาของกินของใช้และเงินไม่
น้อยมาให้นาง ชีวติ ของนางก็ค่อย ๆ ดีข้ ึนเล็กน้อย ไม่กี่วนั ก่อนหน้า
นี้แม่นมจางที่หกล้มขาหักก็กลับจวนมาเยีย่ มนาง ร้องทุกข์ถึงชีวิตที่
ลาบากในบ้าน ทั้งสองสาปแช่งคนร้ายด้วยกัน “ฮูหยิน ท่านอย่าได้
ถอดใจ บ่าวยังรอให้ท่านออกไปเป็ นนายอยู่ ท่านยังมีคุณชายหก ชัว่
พริ บตาคุณชายหกก็จะโตแล้ว นายท่านจะขังท่านไว้ตลอดชีวิตได้
จริ ง ๆ หรื อ ก่อนหน้านี้บ่าวแอบไปเยีย่ มคุณชายหกมาแล้ว เรี ยน
หนังสื อมีพฒั นาการแล้ว หลังจากนี้เขาแต่งภรรยามีบุตรยังต้องให้
ท่านเป็ นห่วง ฮูหยินท่านควรจะลุกขึ้นสู ้ ท่านทาร้ายตนเองจนตาย
มิใช่วา่ จะเป็ นการเสี ยเปรี ยบคนนอกหรอกหรื อ บ่าวอยูข่ า้ งนอกจุด
ธูปวันละสามครั้ง ขอพระคุม้ ครองให้ท่านออกมาโดยเร็ ว”
ฮูหยินหลิวเปลี่ยนความคิด ใช่แล้ว นางยังมีอ้ ีเอ๋ อร์อยู่ ไม่มีนางดูแลอี้
เอ๋ อร์จะไม่ถูกคนชัว่ สองคนนั้นกลัน่ แกล้งตายหรื อ นางจะยอมรับ
ชะตาชีวิตไม่ได้ นางต้องวางแผน นางต้องออกไป ไม่เพียงแต่ทาเพื่อ
อี้เอ๋ อร์ ยังมีเสวี่ยเอ๋ อร์ ยายแก่ฮูหยินอวี้จวนจงอู่โหวผูน้ ้ นั มีสิทธิอะไร
มารังแกเสวี่ยเอ๋ อร์ของนาง นางต้องคิดหาวิธีออกไปหนุนหลังเสวี่ย
เอ๋ อร์
ได้ยนิ ว่าลูกเลี้ยงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่นางก็เคียด
แค้นอย่างถึงที่สุดแล้ว ตอนนี้ได้ยนิ ว่าพระชายาจิ้นอ๋ องเชิญนางไป
สนทนาที่จวน นางก็ยงิ่ แค้นจนดึงปิ่ นปั กผมบนศีรษะปั กลงบน
กาแพงอย่างแรง เด็กชัว่ เหตุใดชะตาเจ้าถึงได้ดีเพียงนั้น พระชายาจิ้
นอ๋ องไม่ใช่แม่เลี้ยงสามีของนางหรื อ มีสิทธิ์อะไรถึงใจดีให้เกียรติ
นางเพียงนี้ นางมีสิทธิ์อะไรถึงโชคดีได้พบแม่สามีที่ดีเพียงนี้ ส่ วน
เสวี่ยเอ๋ อร์ของตัวเองกลับต้องเจอแม่สามีใจร้ายอย่างฮูหยินอวี้
นางสาปแช่ง สาปแช่งให้นางไม่มีจุดจบที่ดี สาปแช่งให้คุณชายใหญ่
จวนจิ้นอ๋ องผูน้ ้ นั มีชีวิตอยูไ่ ม่ถึงหนึ่งปี ให้นางแต่งเข้าไปแล้วก็ตอ้ ง
ครองตัวเป็ นหม้าย อ้อไม่ คุณชายใหญ่ผนู ้ ้ นั น่าจะตายเสี ยตอนนี้ ให้
นางไม่ได้แต่งงานไปจนตายจึงจะลดความเคียดแค้นในจิตใจของ
นางลงได้
หน้าพระพุทธรู ปที่เมตตาสรรพสิ่ ง ฮูหยินหลิวใบหน้าดุร้าย ราวกับ
ปี ศาจที่โผล่ออกมาจากนรก
ชัว่ พริ บตาวันมะรื นก็มาถึงแล้ว เหล่าสาวใช้เรื อนเฟิ งหวายุง่ กันตั้งแต่
เช้าตรู่ ที่เตรี ยมน้ าก็เตรี ยมน้ า ที่เร่ งทาอาหารก็เร่ งทาอาหาร ที่หา
เสื้ อผ้าก็หาเสื้ อผ้า ที่ขนชาดขนแป้งก็ขนชาดขนแป้ง นับไปนับมาก็
นับได้วา่ เจ้านายเสิ่ นเวยว่างที่สุด นางขอเพียงแค่นงั่ หาวอยูต่ รงนั้น
ปล่อยให้เหล่าสาวใช้จดั การก็พอแล้ว
แม้แต่แม่นมกูท้ ี่ไปเรื อนเจวีย๋ เอ๋ อร์แล้วก็ยงั วิ่งมาหาอย่างอดไม่ได้ จับ
มือของแม่นมมัว่ ไหว้วานแล้วไหว้วานอีก “ท่านพี่ ท่านเก่งยิง่ นัก
ท่านมีความสามารถ คุณหนูของพวกเราก็ฝากท่านไว้แล้วกัน” น้ าตา
หยดลงมาด้วยความดีใจ ปากก็พึมพาว่าคุณหนูผา่ นทุกข์ผา่ นสุ ขกว่า
จะมีชะตาที่ดีบา้ ง ในที่สุดฮูหยินก็สามารถสบายใจได้แล้วต่าง ๆ
นานา
ทุกคนต่างก็รู้ดีวา่ ความสัมพันธ์ของแม่นมกูก้ บั คุณหนูแน่นแฟ้น พา
กันโน้มน้าวนาง
เสิ่ นเวยปล่อยให้เหล่าสาวใช้จดั การตนเองอย่างสะลึมสะลือ เมื่อเปิ ด
ตาขึ้นมามองเห็นหญิงงามสว่างต้องตาผูน้ ้ ีในกระจกก็ตกใจจนสะดุง้
โหยง คิ้วขมวด กล่าว “รี บล้างออก”
หลีฮวากับเถาจือและคนอื่น ๆ ก็รีบปลอบนาง “คุณหนู บ่าวรู ้วา่ ท่าน
ไม่ชอบแต่งหน้า แต่ครั้งนี้ไปจวนจิ้นอ๋ อง หากท่านไปด้วยใบหน้า
เรี ยบ ๆ พระชายาจิ้นอ๋ องจะต้องคิดว่าท่านไม่เคารพนางเป็ นแน่ บ่าว
ว่า ท่านควรแต่งตัวสวย ๆ ให้จิ้งหวังเฟยเห็นว่าท่านไม่ดอ้ ยเลย
แม้แต่นิดเดียว”
เสิ่ นเวยกลอกตาขาว กล่าว “พวกเจ้าเคยเห็นคนถือศีลกินเจบาเพ็ญ
เพียรอยูใ่ นวัดหนึ่งเดือนกว่าแล้วไม่ซีดเซียวแต่กลับมีชีวิตชีวาสดใส
หรื อไม่ นี่ไม่ใช่จะทาให้คนสงสัยหรื อไร ข้าสวยมาตั้งแต่เกิด ต่อให้
ไม่แต่งอะไรพวกนี้กด็ ูดีเหมือนกัน เร็ ว ๆ ล้างให้หมด ล้างให้หมด”
ดวงตาของแม่นมมัว่ ที่ยนื สงบเงียบอยูข่ า้ ง ๆ ก็มีความชื่นชมแวบ
ผ่าน คุณหนูสี่ผนู ้ ้ ียงั คงเป็ นคนรอบคอบจริ ง ๆ
สาวใช้ท้ งั หมดต่างก็งงงัน “ต้องล้างออกจริ ง ๆ หรื อ คุณหนูแบบนี้ดู
ดีอย่างยิง่ ” แม้จะรู ้วา่ คุณหนูพดู ถูก แต่กต็ ดั ใจลบเครื่ องประทินโฉม
ที่ดูดีเช่นนี้ไม่ลง
ท่าทีของเสิ่ นเวยแข็งกร้าวอย่างถึงที่สุด “ต้องล้าง” วันนี้ขา้ จะไปสื บ
สถานการณ์ศตั รู ความงามที่มีลกั ษณะรุ กรานเช่นนี้ไม่ค่อยเหมาะสม
นัก ดอกไม้ขาวดอกเล็ก ๆ ที่อ่อนแอซีดเซียวจึงจะเป็ นตัวเลือกที่ดี
ที่สุดในวันนี้
เสิ่ นเวยล้างหน้าแล้วก็หนั กลับไปหน้ากระจกอีกครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้น
ก็สบสายตาของแม่นมมัว่ ใจเต้นอย่างอดไม่ได้ กล่าว “รบกวนแม่
นมมัว่ มาแต่งหน้าให้ขา้ หน่อย”
แม่นมมัว่ สวามิภกั ดิ์กบั นาง นางเองก็เห็นด้วย ระหว่างทางที่ไปอวิน๋
โจวนางพอใจอย่างยิง่ กับท่าทีของแม่นมมัว่ แต่ความสามารถด้านอื่น
ๆ ของแม่นมมัว่ นางยังอยากจะขุดค้นอีกหน่อย
“บ่าวน้อมรับคาสัง่ ” แม่นมมัว่ ไม่เล่นตัว ก้าวขึ้นไปหยิบแป้งละเอียด
ขึ้นมาเติมลงบนหน้าของเสิ่ นเวย
มือของแม่นมมัว่ เบายิง่ นัก แต่งหน้าก็เร็ วอย่างยิง่ เช่นกัน “คุณหนู
ท่านดูสิวา่ พอใจหรื อไม่” แม่นมมัว่ ถอยไปข้าง ๆ กล่าวด้วยความ
เคารพ
เสิ่ นเวยจ้องมองไปยังกระจก เห็นเพียงใบหน้าของเด็กสาวในกระจก
ลดความหนักแน่นลงไปหลายส่ วน มีความอ่อนโยนเพิ่มขึ้นหลาย
ส่ วน ไม่วา่ จะมองอย่างไรก็งามยิง่ นัก เมื่อตั้งใจมอง กลับมองเห็น
ความซีดเซียวบนใบหน้า มุมปากของเสิ่ นเวยยกขึ้นน้อย ๆ พอใจจน
ยิม้ ออกมา
ในความงามมีความซีดเซียวและอ่อนแอ แสดงผลลัพธ์ที่นางต้องการ
ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ “แม่นมมัว่ มีฝีมือนี่นา” เสิ่ นเวยกล่าว
ชม “เช่นนั้นก็รบกวนแม่นมมัว่ เลือกเครื่ องประดับพร้อมกันเลย”
“มิบงั อาจรับคาชมคุณหนูหรอกเจ้าค่ะ นี่ลว้ นแต่เป็ นงานส่ วนในของ
บ่าว” แม่นมมัว่ ไม่ประจบไม่วางก้าม ในใจเข้าใจดีวา่ นี่คือ
แบบทดสอบอีกอย่างหนึ่งของคุณหนู ดวงตาของนางกวาดผ่าน**
บเครื่ องประดับปราดหนึ่ง หยิบปิ่ นปักผมที่เลี่ยมดอกเหมยเล็ก ๆ
ใหญ่ ๆ สามดอกเสี ยบเข้าไประหว่างผมเสิ่ นเวย จากนั้นจึงเลือกหวี
สับที่งามประณี ตหนึ่งอัน พูร่ ะย้าไข่มุกห้าพวงที่หอ้ ยลงมาจากหวีสบั
กระจายอยูบ่ นผมงดงามที่แผ่อยูด่ า้ นหลังของเสิ่ นเวยอย่างเป็ น
ธรรมชาติ เปล่งประกายระยิบระยับ จับตาอย่างถึงที่สุด สุ ดท้ายนางก็
หยิบต่างหูไข่มุกทรงหยดน้ าหนึ่งคู่มาใส่ ลงบนหูของเสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยส่ ายหน้าเบา ๆ ต่างหูไข่มุกก็แกว่งไกวเบา ๆ เสิ่ นเวยกะพริ บ
ตา พอใจอย่างถึงที่สุด
“วันนี้แม่นมมัว่ หลีฮวา เถาจือตามข้าไปแล้วกัน” เสิ่ นเวยเรี ยกชื่อ
กล่าว “เห็นปากน้อย ๆ ที่เบ้ลงของเถาฮวาก็อดใจเต้นไม่ได้ แก้คา
กล่าว “หลีฮวา เจ้าอยูท่ ี่นี่ ให้เถาฮวาไปแล้วกัน” วันนี้นางไปแสดง
ท่าทีอ่อนข้อ พาเถาฮวาเด็กโง่ผนู ้ ้ ีไปด้วยไม่แน่วา่ อาจจะมีผลสาเร็ จที่
คาดไม่ถึงก็ได้
เถาฮวาได้ยนิ ว่าคุณหนูยอมพานางไปด้วย ก็แย้มยิม้ อย่างดีใจทันที
หลีฮวาถูกเปลี่ยนตัวก็ไม่ผดิ หวัง เพราะนางรู ้วา่ คุณหนูจดั การเช่นนี้
จะต้องมีเหตุผลของคุณหนูแน่นอน ช่วงเวลาที่รับใช้อยูข่ า้ งกาย
คุณหนูยงิ่ นานก็ยงิ่ เข้าใจ ไม่ตอ้ งแย่งความรัก ไม่จาเป็ นต้องแย่ง
ความรัก ขอเพียงแค่ทาเรื่ องทุกเรื่ องที่คุณหนูสงั่ ให้ดี เชื่อฟังคุณหนู
สายตาของคุณหนูน้ นั ก็จะมองเห็นเจ้า
“ไม่ใช่บอกว่าแม่นมผูน้ ้ นั ประจากายพระชายาจิ้นอ๋ องมาถึงแล้วหรื อ
ไปเถอะ อย่าให้นางรอนานแล้วบอกว่าจวนจงอู่โหวของเราไม่มี
มารยาท” เสิ่ นเวยยกย่างก้าว เดินไปข้างนอกอย่างสง่าผ่าเผย
“ท่านย่า ท่านป้าสะใภ้ใหญ่” เสิ่ นเวยทาความเคารพอย่างสุ ภาพ
นายหญิงผูเ้ ฒ่ามองประเมิณเสิ่ นเวยปราดหนึ่ง เห็นว่าไม่ได้แต่งหน้า
ไม่เหมาะสมอะไร บนใบหน้าก็มีรอยยิม้ จาง ๆ ชี้สตรี แปลกหน้าผู ้
นั้นแล้วแนะนา “เวยเอ๋ อร์ นี่คือแม่นมซือประจากายพระชายาจิ้
นอ๋ อง”
เสิ่ นเวยยิม้ บาง ๆ เล็กน้อย โค้งตัวทาความเคารพแม่นมซือกึ่งหนึ่ง
“อรุ ณสวัสดิ์แม่นมซือ” เสี ยงไพเราะเสนาะหูราวกับลาธารที่ไหล
ผ่านระหว่างภูเขานั้น
แม่นมซือไหนเลยจะกล้ารับการคารวะจากเสิ่ นเวย รี บหลบทันที
จากนั้นจึงเคารพกลับ กล่าวด้วยความประหลาดใจ “มิกล้า มิกล้า
บ่าวไหนเลยจะกล้ารับการคานับจากคุณหนู”
นายหญิงผูเ้ ฒ่ากล่าว “นางเป็ นเด็ก เจ้าเป็ นคนเก่าคนแก่ที่มี
ความสามารถข้างกายพระชายาจิ้นอ๋ อง รับการคานับกึ่งหนึ่งของนาง
ก็เป็ นสิ่ งสมควร”
แม่นมซือยังคงโบกมือ “มิกล้า มิกล้า” ทว่าสายตากลับมองประเมิณ
คุณหนูสี่ที่เลื่องชื่อผูน้ ้ ีตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ท่าทีสง่างามผ่าเผย
หน้าตาดัง่ ภาพวาด ดูดีจริ ง ๆ มิน่าเล่าคุณชายใหญ่ที่เย็นชาผูน้ ้ นั ใน
จวนถึงได้ชอบใจ
“สายแล้ว พระชายาจิ้นอ๋ องในจวนยังรอคุณหนูสี่อยู่ บ่าวขอตัวก่อน”
แม่นมซือกล่าวอย่างจริ งใจกับนายหญิงผูเ้ ฒ่าและสวี่ซื่อ
นายหญิงผูเ้ ฒ่าพยักหน้าช้า ๆ “ไปเถอะ เวยเอ๋ อร์ตามแม่นมซือไป
ถึงจวนจิ้นอ๋ องแล้วก็อย่าได้ซุกซน”
“เจ้าค่ะ ข้าจะปฏิบตั ิตามคาสัง่ สอนของท่านย่า” เสิ่ นเวยคานับหนึ่ง
ครา แล้วจึงหันหลังจากไป ท่านป้าสะใภ้ใหญ่สวี่ซื่อจับมือของนาง
ไปส่ งนางถึงประตูใหญ่ตลอดทาง
รถม้าของจวนจิ้นอ๋ องหรู หราอย่างถึงที่สุด ไม่รู้เหมือนกันว่าข้างใน
จะสบายหรื อไม่
แม่นมซือเปิ ดม่านอย่างกระตือรื อร้น ทาท่าเชิญเสิ่ นเวย “คุณหนูสี่
เชิญขึ้นรถ”
เสิ่ นเวยกล่าวลาบากแล้วคราหนึ่ง จากนั้นก็ข้ ึนรถม้าภายใต้การพยุง
ของเถาจือเถาฮวา แม่นมซือเองก็ตามขึ้นไป แม่นมมัว่ ข้าง ๆ พูด
“ท่านพี่ซือ คงไม่ถือสานัง่ เบียดกับน้องในรถหรอกกระมัง”
แม่นมซือเพิง่ จะสังเกตเห็นแม่นมมัว่ ตกใจในใจอย่างอดไม่ได้ แม่
นมมัว่ เคยเป็ นแม่นมในวังสมัยฮ่องเต้องค์ก่อน นางเป็ นแม่นมที่มี
เกียรติขา้ งกายพระชายาจิ้นอ๋ อง ย่อมต้องเคยเห็นแม่นมมัว่ เพียงแต่
ไม่คิดว่าตอนนี้แม่นมมัว่ ผูน้ ้ ีจะอยูป่ ระจากายคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นแล้ว
แม่นมซือย่อมปฏิเสธไม่ได้ ทาได้เพียงขึ้นรถคันหลังกับแม่นมมัว่
เพียงแต่ตลอดทางนางดูเหมือนจิตใจไม่อยูก่ บั เนื้อกับตัวเล็กน้อย
ตอนที่ 209-1 ปะทะพระชายาจิน้ อ๋องครั้งแรก
เมื่อลงจากรถม้าหน้าประตูใหญ่จวนจิ้นอ๋ อง ก็ข้ ึนเกี้ยวเล็กหนึ่งตัว
แน่นอนว่านี่คือสิ ทธิพิเศษที่เสิ่ นเวยได้รับเพียงคนเดียว คนทั้งสามที่
รับใช้ขา้ งกายนางรวมถึงแม่นมซือทาได้เพียงเดินอยูข่ า้ ง ๆ เกี้ยว
เดินไปตลอดทางจนกระทัง่ ถึงประตูกลางเกี้ยวเล็กจึงหยุดลง มีสาว
ใช้ใหญ่สวมชุดสี ฟ้าอ่อนรออยูต่ รงนี้แล้ว ทาความเคารพให้เสิ่ นเวย
ยิม้ ก่อนเอ่ยปาก “คารวะคุณหนูสี่ตระกูลเสิ่ น ท่านมาเสี ยที พระชายา
ให้บ่าววิ่งมาแปดรอบแล้ว ท่านก็ยงั ไม่มา พระชายาแทบจะออกมา
รอท่านเองแล้ว”
นี่หมายความว่าอย่างไร ให้ความสาคัญแก่นางหรื อว่านางวางมาดทา
ให้ผใู ้ หญ่รอนาน ความคิดนี้อยูใ่ นใจเสิ่ นเวยเพียงชัว่ แวบหนึ่ง
จากนั้นนางก็ตดั สิ นอย่างมีความสุ ขมากว่าพระชายาหมายความแบบ
แรก หากไม่ได้เห็นความสาคัญของนางก็คงจะไม่รับนางเข้าจวนมา
สนทนามิใช่หรื อ
ด้วยเหตุน้ ีบนใบหน้าเสิ่ นเวยจึงมีความประหลาดใจที่ได้รับความ
โปรดปรานหลายส่ วน “พระชายาดีกบั อาเวยจริ ง ๆ ” เห็นชัด ๆ ว่า
นางตื่นแต่เช้าตรู่ มาทรมานตัวเอง ไม่สายแม้แต่ครึ่ งเค่อ ทว่าพระ
ชายากลับใช้คนวิง่ มารับนางรอบที่แปดแล้ว แสดงว่าร้อนใจอยาก
พบนางอย่างยิง่ ! คนที่ไม่รู้ ยังคิดว่าพวกนางเป็ นแม่ลูกที่ไม่ได้พบ
หน้ากับหลายปี
รอยยิม้ บนใบหน้าหวาเยียนอึกอักเล็กน้อย หลังจากนั้นก็กลับเป็ น
ปกติ “คุณหนูสี่ตระกูลเสิ่ นรี บเข้าไปข้างในเถิดเจ้าค่ะ” นางหา
ช่องว่างส่งสายตาให้แม่นมซือ คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีไม่เข้าใจจริ ง ๆ
หรื อว่าตั้งใจกันแน่
แม่นมซือเหลือบมองนางปราดหนึ่ง แต่กลับไม่ได้บอกเป็ นนัยใด ๆ
ทาให้หวาเยียนไม่มีความมัน่ ใจเลยแม้แต่นิดเดียว
เสิ่ นเวยทาความเคารพอย่างสง่างาม เรื อนร่ างยืดตรง ฝี เท้าอ่อนช้อย
ทาให้คนไม่เห็นจุดบกพร่ องเลยแม้แต่นอ้ ย หวาเยียนเห็นท่าที ในใจ
ก็รู้สึกประหลาดใจ ไม่ใช่วา่ กันว่าคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีเติบโตใน
ชนบทหรอกหรื อ ทว่าดูไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว! ดูท่าแล้วข่าวลือ
จะเชื่อไม่ได้เสมอไป ความเคารพบนบนใบหน้าหวาเยียนเพิ่มขึ้น
สองส่ วน
เข้าไปในลานบ้านของพระชายาจิ้นอ๋ องแล้ว สายตาของเสิ่ นเวยก็
ยังคงไม่วอกแวก หากอยากมองทิวทัศน์ภายหลังก็ยงั มีโอกาสอีก
มาก แค่เวลาสั้น ๆ นี้ไม่เป็ นไรหรอก
“ในที่สุดก็มาแล้ว บ่าวคารวะคุณหนูสี่ตระกูลเสิ่ น เชิญเข้ามา คอพระ
ชายาของพวกเรายืดยาวหมดแล้ว” สาวใช้ใหญ่ที่ตากลมโตเหมือน
ผลซิ่งผูห้ นึ่งหน้าประตูเปิ ดม่านขึ้นพลาง คานับเสิ่ นเวยไปพลาง ดู
จากความสบาย ๆ ในคาพูดของนางก็รู้แล้วว่าได้รับความโปรด
ปรานจากพระชายาจิ้นอ๋ อง
เสิ่ นเวยก้าวเข้าไปช้า ๆ แวบแรกก็เห็นสตรี สูงศักดิ์ที่นงั่ ตัวตรงอยู่
บนที่นงั่ เจ้าภาพ สวมชุดสี เขียวไข่กาทอลายอย่างกลมกลืน ทั้งศีรษะ
โอบล้อมไปด้วยมุกหยก บนใบหน้าที่งดงามก็แต่งหน้าได้อย่าง
เหมาะสมพอดี ผิวพรรณขาวกระจ่าง หางตาไม่มีแม้แต่ริ้วรอย ดูแล้ว
น่าจะอายุประมาณสามสิ บ มุมปากนางอมยิม้ ในความสุ ภาพสู งส่ ง
ยังมีความเป็ นมิตรอีกหลายส่ วน แตกต่างจากท่าทีสูงส่ งเย็นชาใน
ตอนที่มามอบสิ นสอดทองหมั้นที่จวนโหวครั้งก่อนอย่างสิ้ นเชิง!
“คุณหนูสี่มาแล้วหรื อ ครั้งก่อนเห็นไม่ชดั วันนี้เห็นแล้วช่างเป็ น
หญิงงามจริ ง ๆ ข้าเห็นแล้วก็รู้สึกชอบใจ” พระชายาจิ้นอ๋ องแย่งพูด
ขึ้นก่อน สายตาที่มองเสิ่ นเวยอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด เสมือนกับมอง
บุตรสาวแท้ ๆ ของตนเอง
“ขอบพระคุณพระชายาที่ชื่นชมเพคะ ผูน้ อ้ ยมิกล้า” เสิ่ นเวยรี บคานับ
“เสิ่ นซื่ออาเวยถวายความเคารพพระชายาเพคะ” กระโปรงไม่ขยับ
ปิ่ นไม่ส่าย เอวบางขยับเบา ๆ ประหนึ่งบุปผางามท่ามกลางสายลม
ฤดูใบไม้ผลิ ต้องตาต้องใจยิง่ นัก
ในดวงตาพระชายาจิ้นอ๋ องมีความชื่นชมแวบผ่าน ปากก็กล่าวซ้ า ๆ
“ลุกขึ้นเถิด ลุกขึ้นเถิด รี บลุกขึ้น คุณหนูสี่จะสุ ภาพกับข้าไปไย มา
ที่นี่แล้วก็ทาตัวให้เหมือนอยูบ่ า้ นตัวเองเถิด” นางมองเสิ่ นเวยกล่าว
ด้วยความหมายลึกซึ้ง
เสิ่ นเวยเพียงแค่ทาเป็ นฟังคาหยอกล้อในคาพูดนางไม่ออก เม้มปาก
ยิม้ อย่างเหนียมอาย “ขอบพระคุณพระชายาที่เมตตา ผูน้ อ้ ยนาม
ว่าเวย พระชายาเรี ยกผูน้ อ้ ยว่าอาเวยก็ได้เพคะ”
“อาเวย ชื่อนี้ดีจริ ง ๆ ! ชื่อดี คนเองก็งาม มิน่าเล่าคุณชายใหญ่ของ
พวกเราถึงอยากรี บแต่งกลับบ้าน” พระชายาจิ้นอ๋ องเอ่ยชมอีกครั้ง
แต่กลับไม่เอ่ยให้เสิ่ นเวยนัง่ ลงสนทนาเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่รู้
เหมือนกันว่าดีใจจนลืมหรื อว่าตั้งใจ
เสิ่ นเวยเองก็ไม่รีบไม่ร้อน ยืนอยูใ่ นห้องโถงอย่างอ่อนหวานเช่นนี้
สบายอกสบายใจ ราวกับอยูใ่ นห้องของตัวเอง “ก่อนมาอาเวยยังพะ
ว้าพะวง กลัวว่าตัวเองจะไม่รู้ประสาทาให้พระชายาไม่พอใจ ตอนนี้
เห็นพระชายาใจกว้างเมตตาเพียงนี้ จิตใจของอาเวยก็วางลงได้แล้ว”
การพูดต่อหน้าคนเสิ่ นเวยก็นบั ได้วา่ พูดเป็ น นึกถึงปี นั้นที่นาง
ควบคุมและรวบรวมอานาจใหญ่มกั จะต้องคบค้าสมาคมกับพวกเสื อ
สิ งห์กระทิงแรด ฝึ กฝนเอาไว้นานแล้ว
“ดูสิเด็กคนนี้ซื่อสัตย์ยงิ่ นัก! ข้าน่ะชอบคนนิสยั ตรงไปตรงมา ชอบ
แม่นางที่จริ งใจเช่นอาเวยที่สุด มีอะไรก็พดู ไม่ตอ้ งอ้อมไปอ้อมมา
ทาให้คนจับต้นชนปลายไม่ถูก พวกเราสองคนเพิ่งจะทาความรู ้จกั
ภายหลังรู ้จกั กันนานเข้าอาเวยก็จะรู ้วา่ ข้าเป็ นคนชอบพูดที่สุด” พระ
ชายาจิ้นอ๋ องหยุดครู่ หนึ่งแล้วจึงกล่าวต่อ “เจ้ามาจวนอ๋ องเป็ นครั้ง
แรก กาไลหยกมันแพะอันนี้ขา้ ใส่ มาหลายสิ บปี แล้ว วันนี้กใ็ ห้อาเวย
เอาไปเล่นแล้วกัน”
เสิ่ นเวยโบกมือถี่ ๆ “อาเวยจะกล้าแย่งของรักของพระชายาได้
อย่างไร พระชายาเพียงแค่เลือกปิ่ นแหวนธรรมดานัน่ มามอบให้
อาเวยก็พอแล้ว”
พระชายาจิ้นอ๋ องแสร้งปั้นหน้าขรึ มกล่าว “ผูอ้ าวุโสให้ของอย่าได้
ปฏิเสธ อาเวยถูกชะตาข้านัก รี บมารับไปเถิด”
เสิ่ นเวยปฏิเสธซ้ าแล้วซ้ าเล่าจึงทาท่าทีซาบซึ้งยืน่ มือทั้งคู่ออกมารับ
“อาเวยขอบพระคุณของขวัญของพระชายาเพคะ” คานับอย่างตั้งใจ
จริ ง จากนั้นจึงกล่าว “พระชายาดีกบั อาเวยจริ ง ๆ !” รับแล้วก็นา
กาไลมาสวมลงบนข้อมือตนด้วยความดีใจ ทั้งยังยกให้พระชายาดู
หัวเราะแหะ ๆ ราวกับเด็กที่ได้ของล้ าค่า
บนใบหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องจึงปรากฎรอยยิม้ “นี่สิถึงจะเป็ นเด็กดี”
จากนั้นก็ก่ายหน้าผากคล้ายนึกอะไรขึ้นได้กล่าว “ดูขา้ สิ เอาแต่ดีใจ
จนลืมเชิญอาเวยนัง่ ลงคุย เร็ ว หวาเยียน เอาเก้าอี้มาให้คุณหนูสี่”
จากนั้นก็กล่าวตาหนิแม่นมซือและคนอื่น ๆ “พวกเจ้าแต่ละคนก็
เหมือนกัน ข้าลืมแล้ว เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่เตือนข้าสักคา” แม่นมซือ
และคนอื่น ๆ ย่อมขอโทษไม่หยุดหย่อน
เสิ่ นเวยเพียงแค่ยมิ้ บาง ๆ ไม่พดู มองพระชายาจิ้นอ๋ องแสดงละคร
อยูต่ รงนั้นเงียบ ๆ นางตอบสนองเช่นนี้ทาให้พระชายาจิ้นอ๋ องเกือบ
เผยพิรุธ คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีเป็ นคนโง่หรื อไร ไม่ใช่วา่ นางควรพูด
ขอความเมตตาอะไรสักหน่อยหรื อ เอาแต่ยมิ้ คงไม่ใช่วา่ …
พระชายาจิ้นอ๋ องตาลุกวาว รู ้สึกว่าตนคล้ายหาข้อเท็จจริ งได้แล้ว ก็
ใช่ คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีเติบโตในชนบท หน้าตาได้มาแต่กาเนิด แต่
การอบรมกฎมารยาทกลับหลอกไม่ได้ ต่อให้นางจะฉลาดกว่านี้กไ็ ม่
อาจถอดรู ปเปลี่ยนร่ างได้ในระยะเวลาอันสั้น คาดว่าคงจะเลียนแบบ
การวางท่าทางเพื่อข่มคนเท่านั้น ไม่รู้วา่ จะตอบสนองอย่างไรก็แค่ยมิ้
ไว้มิใช่หรื อ
เมื่อคิดเช่นนี้ รอยยิม้ บนใบหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องก็เด่นชัดขึ้นหลาย
ส่ วน เหอะ ได้รับพระราชทานเป็ นจวิน้ จู่แล้วอย่างไร ไม่ใช่เป็ นหญิง
งามสมองขี้เลื่อยหรอกหรื อ เหมาะสมกับคนขี้โรคผูน้ ้ นั พอดี
ตอนที่พระชายาจิ้นอ๋ องเห็นเถาฮวากลืนน้ าลายกับขนมบนโต๊ะก็ยงิ่
มัน่ ใจว่าเสิ่ นเวยเป็ นคนสมองขี้เลื่อย ดูสิ แม้แต่สาวใช้ขา้ งกายยังโง่
เขลา ผูเ้ ป็ นนายจะฉลาดกว่าสักเท่าไร
เมื่อมัน่ ใจเช่นนี้ ท่าทีของพระชายาจิ้นอ๋ องก็ยงิ่ สบายใจ ถามเสิ่ นเวย
ว่าชอบอะไร วันปกติทาอะไร เสิ่ นเวยล้วนแต่ตอบตามคาตอบ
มาตรฐาน อีกทั้งยังเผยความจริ งด้วยความเขินอายอย่างยิง่ แม้วา่ จะ
ชอบงานเย็บปักถักร้อยมาก แต่ฝีมือกลับธรรมดา ความหมายของ
เสิ่ นเวยก็คือ ข้าบอกให้เจ้ารู ้ล่วงหน้า ในภายหน้าหากเจ้าให้ขา้ แสดง
ความกตัญญูขา้ ก็จะหลอกได้
ทว่าพระชายาจิ้นอ๋ องกลับเข้าใจผิดแล้ว คิดว่าท่าทีสนิทสนมของนาง
ชนะความเชื่อใจของเสิ่ นเวย มิเช่นนั้นจะเผยจุดอ่อนของตนได้
อย่างไร “จะเป็ นอะไรไป คนอย่างพวกเราไหนเลยจะต้องลงมือเย็บ
เสื้ อผ้าด้วยตัวเอง อาเวยไม่ตอ้ งกลัว ไม่มีใครตาหนิเจ้าเรื่ องนี้หรอก”
นางยังปลอบขวัญเสิ่ นเวยหนึ่งครา พูดจนใบหน้าของเสิ่ นเวยลอยขึ้น
ไปบนชั้นเมฆ ดูดีอย่างถึงที่สุด
พระชายาจิ้นอ๋ องมองเสิ่ นเวยที่กม้ หน้าเล็กน้อยนัง่ นิ่งอยูต่ รงนั้น ยิง่
มองก็ยงิ่ มีความสุ ข งดงามก็ดี งดงามจึงจะสามารถมัดใจคนชัว่ ที่มี
นิสยั เย็นชาผูน้ ้ นั ได้ อ่อนข้อก็ดี อ่อนข้อจึงจะเชื่อฟังนาง สมองขี้เลื่อย
ก็ยงิ่ ดี เช่นนั้นจึงจะครอบงาง่ายมิใช่หรื อ
ด้วยเหตุน้ ีคาพูดของพระชายาจิ้นอ๋ องยิง่ พูดจึงยิง่ เผยธาตุแท้ “จุ ๆ ๆ
คนดีเช่นอาเวยแม้แต่ขา้ ที่เป็ นสตรี เห็นแล้วก็ยงั รัก มิน่าเล่าคุณชาย
ใหญ่ของพวกเราจึงไปขอให้ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้ได้” นาง
ปิ ดปากหัวเราะ ทว่าดวงตาทั้งคู่กลับจ้องมองเสิ่ นเวยนิ่ง นางรู ้สึกมา
โดยตลอดว่าการสมรสพระราชทานนี้มีที่มาแปลกประหลาด
ดวงตาของเสิ่ นเวยกะพริ บวาบเล็กน้อย นี่จะบอกว่าสวีโย่วคนโรค
จิตผูน้ ้ นั เจ้าชู ้ หรื อว่าจะดูถูกที่นางมีความสัมพันธ์ลบั ๆ กับชายอื่น
เสิ่ นเวยไม่แม้แต่จะคิดก็โยนความผิดไปที่สวีโย่ว ในความเป็ นจริ งก็
เป็ นเช่นนี้ เดิมการสมรสพระราชทานครั้งนี้กเ็ ป็ นฝี มือของสวีโย่วคน
โรคจิตผูน้ ้ นั
ด้วยเหตุน้ ีเสิ่ นเวยจึงก้มหน้าอย่างเขินอาย กล่าวเสี ยงเบา “ก่อนหน้านี้
ได้มีวาสนาพบหน้าคุณชายใหญ่ที่จวนองค์หญิงใหญ่ ตอนนั้น ตอน
นั้นอาเวยเพิ่งจะกลับเมืองหลวง ไม่รู้วา่ นัน่ คือคุณชายใหญ่ ยังคงเป็ น
ฝ่ าบาทที่ออกพระราชโองการพระราชทานสมรส อาเวยจึงได้รู้วา่
นัน่ คือคุณชายใหญ่”
ที่แท้แล้วก็เป็ นเช่นนี้! พระชายาจิ้นอ๋ องพยักหน้าเงียบ ๆ ในใจ แรก
พบก็ขอพระราชทานสมรส ที่แท้แล้วคนชัว่ ผูน้ ้ นั ก็ชอบคนงาม
เช่นนี้! นางใจเต้น เรี ยกหวาเยียนเข้ามากาชับสองสามประโยค หวา
เยียนพยักหน้าถอยออกไป ตอนที่ถอยออกไปคล้ายยังมองเสิ่ นเวย
ปราดหนึ่ง
เสิ่ นเวยเดาว่านี่คงเกี่ยวข้องกับนางใช่หรื อไม่ แต่สีหน้ากลับเรี ยบเฉย
ก็แค่ทหารมาใช้ขนุ พลต้าน น้ ามาใช้ดินต้าน พลิกแพลงตาม
สถานการณ์กเ็ ท่านั้นเอง
พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าวอธิบายกันเสิ่ นเวย “บ้านฝั่งมารดาข้ามี
หลานสาวคนหนึ่งพักอยูใ่ นจวนชัว่ คราว พวกเจ้าอายุรุ่ นราวคราว
เดียวกัน น่าจะเข้ากันได้ดี ข้าเรี ยกนางมาให้พวกเจ้าได้พบหน้ากัน
เสี ยหน่อย”
เสิ่ นเวยพูดในใจว่าคงไม่ใช่แค่พบหน้ากันหรอกกระมัง จากนั้นก็ได้
ยินเสี ยงของพระชายาจิ้นอ๋ องดังขึ้นอีกครั้ง “จะว่าไปนี่กเ็ ป็ น
ความเห็นแก่ตวั เล็กน้อยของข้า คุณชายใหญ่ของพวกเราสุ ขภาพไม่ดี
ตั้งแต่เล็ก ซ้ าเขายังขึ้นเขาไปพักฟื้ นอยูบ่ ่อย ๆ แม้วา่ พวกเราจะเป็ น
ห่วงแต่กลับเหนือบ่ากว่าแรง หลานสาวฝั่งแม่ขา้ คนนี้นิสยั อ่อนโยน
ละเอียดอ่อนที่สุด ข้าคิดว่าจะให้แต่งนางให้เป็ นอนุภรรยาของ
คุณชายใหญ่ ติดตามข้างกายเขาปรนนิบตั ิเขา ก่อนหน้านี้ไม่กี่วนั เคย
เอ่ยปากไป แต่คุณชายใหญ่สวีกงั วลว่าอาเวยยังไม่เข้าเรื อน จึงไม่
ยินยอมอย่างยิง่ ”
ดวงตาของนางจ้องมองเสิ่ นเวย “ตระกูลเช่นพวกเรา สามภรรยาสี่ อนุ
ก็เป็ นเรื่ องที่เลี่ยงไม่ได้ ฮุ่ยเอ๋ อร์นิสยั ดี ไม่ใช่คนดื้อรั้นเช่นนั้น ไม่มี
ทางทะเลาะกับเจ้าแน่นอน อีกทั้งข้างกายคุณชายใหญ่มีคนเพิ่มขึ้นมา
ก็จะได้ช่วยเจ้าได้มิใช่หรื อ อาเวยคิดว่าอย่างไร”
นี่จะบังคับให้ตนหาจังหวะแต่งอนุภรรยาให้สวีโย่วคนโรคจิตผูน้ ้ นั
หรื อ นางยังอึดอัดที่เหตุใดพระชายาจิ้นอ๋ องถึงได้สุภาพอ่อนโยนกับ
นางเช่นนี้ ที่แท้แล้วก็รอโอกาสนี้อยู่
ช่วยนางหรื อ นางพูดได้หรื อว่าไม่ตอ้ งการความช่วยเหลือ สวีโย่
วนะสวีโย่ว เจ้ายังไม่แต่งงาน แม่เลี้ยงเจ้าก็ยนื่ มือเข้ามาจะแต่ง
อนุภรรยาให้เจ้าแล้ว เสน่ห์แรงจริ ง ๆ ! ในใจเสิ่ นเวยเคียดแค้นจนกัด
ฟันกรอด หากว่าสวีโย่วอยูต่ รงหน้า นางจะต้องถีบเขาหลายครั้ง
แน่นอน
ในสมองเสิ่ นเวยมีความคิดหมื่นพันแวบผ่าน อันที่จริ งจากมุมมอง
คนนอกก็เป็ นเพียงแค่ชวั่ พริ บตา นางเพิ่งจะเอ่ยปาก ก็ได้ยนิ เถาฮวา
ข้างหลังตะโกนเสี ยงดัง “ไม่ได้!”
“บังอาจนัก นายพูดอยูบ่ ่าวเล็ก ๆ เช่นเจ้าพูดแทรกได้อย่างไร ลาก
ไปตบปากเสี ยง” แม่นมซือสี หน้าเคร่ งขรึ มตะคอกด่า
เสิ่ นเวยรี บลุกขึ้นขอความเมตตา “พระชายาโปรดระงับโทสะ สาวใช้
ผูน้ ้ ีของอาเวยไม่ค่อยปราดเปรื่ องนัก นางเติบโตมาพร้อมกับอาเวยที่
บ้านเก่า ใจร้อนชัว่ ขณะ หวังว่าพระชายาจะให้อภัยนางครั้งนี้”
พระชายาจิ้นอ๋ องมองออกว่าเถาฮวาเป็ นคนโง่ท่ ึม คิดเล็กคิดน้อยกับ
คนโง่ไม่ใช่เป็ นการลดตัวลงหรอกหรื อ นางไม่ได้โกรธ ห้ามแม่
นมซือ ถามเถาฮวาด้วยความสนใจใคร่ รู้ “เหตุใดถึงไม่ได้เล่า”
เสิ่ นเวยปาดเหงื่อแทนเถาฮวา นางเองก็ไม่รู้วา่ เถาฮวาที่แต่ไหนแต่ไร
ในสายตามีแต่ของกินผูน้ ้ ีวนั นี้เป็ นบ้าอะไรขึ้นมา
จากนั้นก็ได้ยนิ เถาฮวากล่าว “ไม่ได้กค็ ือไม่ได้ คุณชายใหญ่หา้ มแต่ง
อนุภรรยา มารดาของคุณหนูพวกเราก็ถูกอนุภรรยาทาให้โกรธจน
ตาย คุณหนูดีต่อเถาฮวา เถาฮวาไม่อาจปล่อยให้คุณหนูถูกคนทาให้
โกรธจนตายได้ ใครเป็ นอนุภรรยาเถาฮวาจะตีคนผูน้ ้ นั ให้ตาย แรง
เถาฮวาเยอะ”
นางกล่าวอย่างจริ งจัง มิหนาซ้ ายังกลัวว่าพระชายาจะไม่เชื่อ ดวงตา
เหลือบมอง วิ่งตรงเข้าไปที่ฉากกั้น คาพูดห้ามปรามของเสิ่ นเวยยังอยู่
ในลาคอ นางก็ยกขาเหยียบยา่ ฉากกั้นที่มองดูแล้วราคาไม่นอ้ ยฉาก
นั้นจนแหลกละเอียด
เสิ่ นเวยเห็นสี หน้าพระชายาจิ้นอ๋ องไม่พอใจแล้ว บ่าวที่รับใช้ในห้อง
ต่างก็ปากอ้าตาค้าง ในใจแอบสบายใจ แต่สีหน้ากลับละอาย “พระ
ชายา เอ่อ…คือ…” นางร้อนใจจนดวงตาแดงก่า ตาหนิเถาฮวา “เถาฮ
วา ดูสิวา่ เจ้าทาอะไรลงไป ยังไม่รับคุกเข่าขอโทษพระชายาอีก”
เถาฮวากลับคุกเข่าลงอย่างเชื่อฟัง “พระชายา ขออภัยจริ ง ๆ เพคะ
เหยียบฉากกั้นของท่านพังหมดแล้ว จะให้ขา้ ชดใช้อนั ใหม่ให้ท่าน
หรื อไม่ ข้ามีเงินเดือน ทั้งหมดเก็บออมอยูท่ ี่คุณหนู น่าจะพอ”
ยังกล้าพูดอีก! พระชายาจิ้นอ๋ องแทบจะกระอักโลหิ ต ฉากกั้นอันนี้
เป็ นไม้จินซือหนาน (ไม้ไหมทอง) ราคากว่าหมื่นตาลึง เงินเดือนสาว
ใช้เช่นเจ้าจะชดใช้ได้หรื อไร
ตอนที่ 209-2 ปะทะพระชายาจิน้ อ๋องครั้งแรก
เถาฮวาไม่เข้าใจ แต่เสิ่ นเวยกลับรู ้มูลค่าของฉากกั้นอันนี้ นางหน้า
แดงกล่าว “พระชายา เป็ นอาเวยที่สอนบ่าวไม่ดี ฉากกั้นนี้อาเวยจะ
หามาชดใช้ให้ พระชายาบอกราคามา อาเวยกลับจวนแล้วจะส่ งเงิน
มาให้ ขอเพียงพระชายาอย่าได้โกรธอาเวยเลย” เสี ยงยิง่ พูดก็ยงิ่ ต่า
หน้ายิง่ ก้มก็ยงิ่ ต่า ท่าทางน่าสงสาร
พระชายาจิ้นอ๋ องจะทาอะไรได้ นางรับเงินจากว่าที่ลูกสะใภ้ได้หรื อ
ข่าวดังออกไปจะไม่ถูกคนหัวเราะแย่หรื อ ยิง่ ไปกว่านั้นนี่กไ็ ม่ใช่
ความผิดของเสิ่ นเวย นางเป็ นถึงพระชายาผูย้ งิ่ ใหญ่ จะไปหาเรื่ องเด็ก
โง่ ๆ คนหนึ่งได้อย่างไร ต่อให้ตีนางจนตายฉากกั้นก็เอากลับมา
ไม่ได้ ไม่สู้ใจกว้างไม่คิดเล็กคิดน้อยแสดงความอ่อนโยนเมตตาของ
นางดีกว่า
ด้วยเหตุน้ ีนางจึงเก็บความหงุดหงิดในใจลง กล่าวเสี ยงเรี ยบ “เด็กดี
ลุกขึ้นเถิด คงตกใจแย่เลยสิ นะ เรื่ องนี้ไม่โทษเจ้าหรอก! เพียงแค่ของ
นอกกาย พังแล้วก็พงั ไป บอกว่าจะชดใช้กด็ ูเป็ นคนนอกเกินไป
แล้ว” นางเปลี่ยนเรื่ องแล้วกล่าว “แต่วา่ สาวใช้คนนี้ของเจ้ากลับต้อง
อบรมให้ดีจึงจะถูก!”
เสิ่ นเวยคล้ายยิง่ ละอายใจ มองพระชายาจิ้นอ๋ อง บนใบหน้าเล็ก ๆ
เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง “เพคะ เพคะ ขอบพระคุณพระชายาที่ไม่ถือ
โทษ ต่อไปนี้อาเวยจะต้องอบรมเถาฮวาให้ดี ไม่ให้นางออกมาง่าย ๆ
”
ทว่าคาพูดของเจ้าตัวเถาฮวายังพูดไม่จบ “พระชายา หลานสาวบ้าน
แม่ของท่านใช่แต่งไม่ออกจึงต้องแต่งเป็ นอนุภรรยาของคุณชายใหญ่
หรื อไม่ ในจวนพวกเรากลับมีตวั เลือกดี ๆ ไม่นอ้ ย เหมือนอย่างพี่
ใหญ่โอวหยาง พี่ใหญ่หู่โถว ยังมีอาจารย์ซู ท่านอย่ามองว่าบนหน้าพี่
ใหญ่โอวหยางมีแผลเป็ น เขามีกาลังมาก พอ ๆ กับเถาฮวาเลย แม้
อาจารย์ซูจะอายุมากเล็กน้อย แต่เขาก็มีความรู ้ ความรู ้มากมายอย่าง
ยิง่ …”
ตอนที่ซ่งจยาฮุ่ยเข้ามาก็ได้ยนิ เถาฮวาแนะนาบ้านสามีให้คนพอดี บน
ใบหน้านางมีไฟโกรธกระพริ บผ่าน อยากจะตบหน้าเถาฮวาออกไป
อย่างไรเสี ยนางก็เป็ นสตรี ตระกูลขุนนาง จะคู่ควรกับทาสรับใช้ได้
อย่างไร
สี หน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องก็ไม่ดีเช่นกัน เปรี ยบเทียบหลานสาวของ
นางกับบ่าวรับใช้นางจะยังมีเกียรติอยูไ่ ด้อย่างไร เพียงแต่เป็ นห่วง
เสิ่ นเวย นางจึงไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับคนโง่กเ็ ท่านั้นเอง
เสิ่ นเวยเองก็รู้วา่ ควรหยุดก่อนที่เรื่ องจะไปไกล รี บดึงเถาฮวาไปข้าง
หลัง แสร้งว่ากล่าว “หุบปาก พูดจาโง่ ๆ อะไร ดูสิวา่ กลับจวนแล้ว
ข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร” นางมองตาขวาง เถาฮวาก็ปิดปากสนิท
ทันที เสิ่ นเวยเห็นแล้วก็รีบส่ งสายตาให้นาง เถาฮวาก็เข้าใจทันที อ้อ
คุณหนูกาลังเล่นละครกับนาง
คุณหนูเคยสอนนางไว้ หากนางสร้างเรื่ องข้างนอก คนอื่นตามมา
ฟ้องร้องถึงบ้าน คุณหนูกจ็ ะทาเป็ นตาหนินางต่อหน้าคนนอก
กลับไปถึงจวนแล้วก็จะให้คนทาของอร่ อย ๆ ให้นางกิน คุณหนู
บอกว่า ตาหนินางเพียงแค่ทาให้คนนอกเห็น อันที่จริ งในใจคุณหนู
ยังคงชอบนางอยู่
เถาฮวาได้รับสัญญาณลับจากคุณหนู ก็ปิดปากอย่างดีใจทันที คิด
เงียบ ๆ ในใจว่ากลับจวนไปแล้วคุณหนูจะทาของอร่ อยอะไรให้นาง
กิน
ตอนที่ซ่งจยาฮุ่ยมาก็รู้เจตนาของท่านอาแล้ว นางทาความเคารพช้า ๆ
“หลานถวายความเคารพท่านอา” จากนั้นจึงหมุนตัวคานับเสิ่ นเวย
“คุณหนูสี่ตระกูลเสิ่ น”
พระชายาจิ้นอ๋ องโมโหกล่าว “เรี ยกคุณหนูสี่อะไรกัน เป็ นคนนอก
คนไกลไปได้ ฮุ่ยเอ๋ อร์เจ้าเรี ยกอาเวยว่าพี่สิ”
บนใบหน้าซ่งจยาฮุ่ยมีความดีใจแวบผ่าน คานับจากใจจริ งให้เสิ่ นเวย
“จยาฮุ่ยคารวะท่านพี่”
อะไรนะ นี่คือบังคับให้ตนยอมรับฐานะอนุภรรยาของซ่งจยาฮุ่ยหรื อ
จะเป็ นไปได้อย่างไร! เสิ่ นเวยเบี่ยงตัวหลบการคานับของซ่องจยาฮุ่ย
กล่าวเสี ยงเรี ยบ “คุณหนูซ่งสุ ภาพเกินไปแล้ว อาเวยอายุนอ้ ย ให้
คุณหนูซ่งเรี ยกท่านพี่ไม่ได้หรอก”
น่ารังเกียจจริ ง ๆ คิดจะเป็ นอนุภรรยาเจ้าก็พยายามเองสิ มาบีบ
บังคับผูห้ ญิงอ่อนแอเช่นข้าจะนับว่ามีความสามารถอะไร นางเคย
บอกแล้วว่าการสมรสครั้งนี้ไม่คุม้ ทุน ดูสิ ยังไม่ทนั แต่งเข้ามา ปั ญหา
ก็มาถึงที่แล้ว สวีโย่ว สวีโย่วเจ้าคนโรคจิตไปตายที่ไหนแล้ว เจ้ามานี่
ข้ารับปากว่าจะไม่ตีเจ้าตาย
ซ่งจยาฮุ่ยคานับได้ครึ่ งหนึ่ง ก็แข็งทื่ออยูต่ รงนั้น อึดอัดอย่างถึงที่สุด
“ทาไมเล่า อาเวยไม่เห็นด้วยหรื อ” รอยยิม้ บนใบหน้าพระชายาจิ้
นอ๋ องหายไปแล้ว
ทว่าเสิ่ นเวยกลับกล่าวอย่างจริ งจัง “ทูลพระชายา ไม่ใช่วา่ อาเวยไม่
ยินยอม แต่ผอู ้ าวุโสในตระกูลสัง่ สอนมาตั้งแต่เล็ก อยูใ่ นบ้านเชื่อฟัง
บิดา ออกเรื อนเชื่อฟังสามี อย่าว่าแต่อาเวยยังไม่ได้เข้าเรื อน ต่อให้
เข้าเรื อนแล้ว อาเวยก็ตอ้ งเชื่อฟังคุณชายใหญ่ หากคุณชายใหญ่
ยินยอม อาเวยย่อมต้องยินยอม คุณชายใหญ่ไม่ยนิ ยอม อาเวยย่อมไม่
กล้าตัดสิ นใจเองโดยพลการ”
ได้ยนิ คาพูดของเสิ่ นเวย สี หน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องก็ดีข้ ึนเล็กน้อย
กาลังจะโน้มน้าวต่อ ก็ได้ยนิ เสิ่ นเวยกล่าวขึ้นอีก “พระชายาถาม
เจตนาของอาเวยจริ ง ๆ อาเวยทาได้เพียงบอกให้พระชายาไปถาม
ความคิดเห็นของท่านพ่อ ท่านปู่ ในตระกูล หากพวกเขาเห็นด้วย
อาเวยย่อมไม่อาจคัดค้าน”
พระชายาจิ้นอ๋ องคล้ายถูกคนตบหน้าในชัว่ ขณะ บุตรสาวผูอ้ ื่นยังไม่
เข้าเรื อน นางก็วิ่งไปบอกผูอ้ าวุโสของสตรี ผนู ้ ้ นั ว่าขอแต่งอนุภรรยา
นี่ไม่ใช่การตบหน้าหรอกหรื อ นี่ไหนเลยจะเป็ นการผูกสัมพันธ์ ผูก
อริ น่ะสิ ไม่วา่ สมองนางยังดีอยู่ จะทาเรื่ องโง่เขลาเช่นนี้ได้อย่างไร
นางเพียงแค่เห็นเสิ่ นเวยอายุนอ้ ย หลอกง่าย อยากใช้คาพูดควบคุม
นางก็เท่านั้นเอง เรื่ องเช่นนี้นางไหนเลยจะกล้าไปพูดต่อหน้าผู ้
อาวุโสของคนอื่น หากนางกล้าเอ่ยปาก นายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวก็คง
จะเข้าวังคุกเข่าขอให้ฝ่าบาทถอนหมั้นทันที เจ้าหมายความว่า
อย่างไร บุตรสาวตระกูลข้ายังไม่ทนั เข้าบ้าน เจ้าก็ใจคดใจดาคิดจะ
ทาอะไร ทาให้จวนจงอู่โหวไม่พอใจ ก็เท่ากับทาให้ฝ่าบาทไม่พอใจ
มิใช่หรื อ
มือที่กาผ้าเช็ดหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องกาแน่น เค้นรอยยิม้ น้อย ๆ
ออกมา “เรื่ องเล็กเพียงนี้ไหนเลยจะต้องรบกวนนายท่านผูเ้ ฒ่าโหว
และใต้เท้าเสิ่ น หากอาเวยไม่ยนิ ยอมก็คิดเสี ยว่าข้าไม่เคยเอ่ยขึ้นมา
ก่อน ข้าเองก็เพียงแค่เห็นคุณชายใหญ่สุขภาพไม่ดี อาเวยลาบากอยู่
คนเดียว อยากหาผูช้ ่วยมาให้เจ้าก็เท่านั้นเอง อาเวยไม่ยนิ ยอมเช่นนั้น
ก็ช่างเถิด”
ไอหยา มาถึงตอนนี้แล้วยังคิดจะสาดน้ าสกปรกมาให้ขา้ อีกหรื อ
คุณชายใหญ่เพิ่งจะร่ างกายไม่ดีได้วนั สองวันหรื อไร เหตุใดตอนนี้
เจ้าเพิ่งคิดจะแต่งอนุภรรยาให้เขาเล่า เจ้าเห็นข้าไม่เข้าตาจึงอยาก
สร้างปัญหาให้ขา้ หรื อไร ยังมีผชู ้ ่วย เหตุใดลูกชายสองคนนั้นของเจ้า
ถึงไม่ตอ้ งการผูช้ ่วยบ้างเล่า
เหอะ เจ้าไม่ให้ขา้ มีความสุ ข เช่นนั้นเจ้าก็อย่าได้คิดจะสบายใจเลย
เสิ่ นเวยคล้ายจู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้ กล่าว “เมื่อวานท่านปู่ รู ้วา่ อาเวย
จะมาเข้าเฝ้าพระชายา ก็ต้ งั ใจเรี ยกอาเวยไปสัง่ สอนที่หอ้ งหนังสื อ
เที่ยวหนึ่ง ท่านปู่ เตือนอาเวยว่าต้องมีคุณธรรมรู ้จกั โอนอ่อนผ่อน
ตาม เคารพผูใ้ หญ่รักเด็ก อาเวยจาได้วา่ ท่านอ๋ องไม่มีอนุภรรยาใช่
หรื อไม่ พระชายาคนเดียวคงจะลาบากจริ ง ๆ อาเวยยินดีแสดงความ
กตัญญูแทนคุณชายใหญ่ อนุภรรยาผูน้ ้ ีให้ท่านอ๋ องแต่งก่อนเถิด”
พระชายาจิ้นอ๋ องได้ยนิ ดังนั้นก็แทบจะโมโหจนชี้หน้าด่าเสิ่ นเวย อา
หลานมีสามีคนเดียวกัน นี่ไม่ใช่ขดั หลักศีลธรรมหรอกหรื อ บน
ใบหน้าซ่งจยาฮุ่ยที่อยูข่ า้ ง ๆ ก็มีความอับอายแวบผ่าน “เจ้า เจ้า เจ้า
พูดเกินไปแล้ว”
เสิ่ นเวยไม่สนใจนางอย่างสิ้ นเชิง ราวกับเพิ่งจะตอบสนองกลับมาได้
ยิม้ ให้พระชายาจิ้นอ๋ องอย่างเคอะเขิน “ดูขา้ สิ ช่างโง่เขลา ท่านอ๋ อง
กับคุณหนูซ่งอายุห่างกันเป็ นรุ่ น กลับไม่ควรแต่งกับคุณหนูซ่ง เอ๋
คุณชายรองคุณชายสามก็ยงั ไม่มีอนุภรรยาทั้งคู่มิใช่หรื อ พวกเขา
กลับอยูใ่ นรุ่ นเดียวกันกับคุณหนูซ่ง จะแต่งงานก็ไม่เป็ นไร” เสิ่ นเวย
ตาเป็ นประกาย มองพระชายาจิ้นอ๋ องอย่างคาดหวัง “พระชายา บ้าน
ฝั่งมารดาของท่านยังมีหลานสาวอีกใช่หรื อไม่ คุณชายรองแต่งหนึ่ง
คน คุณชายสามแต่งหนึ่งคน จากนั้นค่อยแต่งให้คุณชายใหญ่อีกหนึ่ง
คน โห เท่านี้กม็ ีความสุ ขกันถ้วนหน้าแล้ว หากหลานสาวไม่พอก็ไม่
เป็ นไร คุณชายใหญ่สามารถถอยให้ได้ ใครให้คุณชายใหญ่เป็ นพี่คน
โตเล่า เป็ นพี่คนโตจะแย่งน้องชายทั้งหลายได้อย่างไร พระชายาท่าน
คิดเหมือนกันหรื อไม่”
นี่จะให้พระชายาจิ้นอ๋ องตอบอย่างไร จู่ ๆ หลานสาวบ้านฝั่งมารดาก็
ไม่มีค่าเพียงนี้ ทั้งหมดล้วนกลายเป็ นอนุภรรยาให้คนอื่น เช่นนั้น
พี่สะใภ้ฝั่งมารดานางจะไม่แค้นนางจนตายหรื อไร
ไม่ นางผิดแล้ว คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีไหนเลยจะเป็ นคนโง่ที่ครอบงา
ได้ เห็นชัด ๆ ว่าเป็ นคนที่ร้ายกาจ! แต่พระชายาจิ้นอ๋ องจ้องมอง
ใบหน้าของนางมองอยูเ่ นิ่นนานก็รู้สึกว่าไม่เหมือน เห็นใบหน้าเล็ก
ๆ ที่จริ งจังของนางกับแววตาที่คาดหวังจนมัน่ ใจได้ เห็นได้ชดั ว่าคิด
เช่นนั้นจริ ง ๆ อันที่จริ งเบื้องลึกในใจพระชายาจิ้นอ๋ องก็ไม่ยอมรับ
ว่าตนมองผิดไป เช่นนั้นก็ชดั เจนแล้วว่าคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีโง่
เกินไป โง่จนทาให้คนเจ็บใจ มิน่าเล่าถึงได้วา่ กันว่าคนฉลาดคบค้า
ง่าย แต่คนโง่กลับตรงกันข้าม เพราะว่าเจ้าไม่มีวนั รู ้วา่ วินาทีต่อไป
เขาจะทาอะไรออกมา
พระชายาจิ้นอ๋ องหมดแรงอย่างถึงที่สุด อุบายทั้งหมดที่มี แผนการ
ทั้งหมดในสมองกลับนาออกมาใช้ไม่ได้แม้แต่นิดเดียว กลับถูกเสิ่ น
เวยทาให้โมโหจนปวดหัว ส่ วนคนที่ทาให้โมโหก็ยงั ประคอง
ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ไร้เดียงสา คิดว่าตนพูดดีทาดี พระชายาจิ้นอ๋ องหา
ข้ออ้างออกไปอย่างรวดเร็ว นางยังโง่เขลาคิดจริ ง ๆ ว่าพระชายาจิ้
นอ๋ องไม่สบายตรงไหนอยากตามไปดูแล ถูกแม่นมซือและคนอื่น ๆ
โน้มน้าวอยูน่ านกว่าจะอยูน่ ิ่ง ๆ ได้
ในห้องเหลือเพียงเสิ่ นเวยกับซ่งจยาฮุ่ยเจ้านายสองคน ซ่งจยาฮุ่ยมอง
เสิ่ นเวย ในใจเหยียดหยัดอย่างถึงที่สุด เป็ นแค่เด็กสาวชนบท คาดไม่
ถึงว่าได้แต่งงานกับลูกผูพ้ ี่ใหญ่ ตนด้อยกว่านางตรงไหน! เป็ น
ภรรยาเอกไม่ได้ แม้แต่อนุภรรยาก็ยงั เป็ นไม่ได้ นี่จะให้นางยอมได้
อย่างไร
“ฟังว่าคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นเติบโตในชนบทหรื อ” ซ่งจยาฮุ่ยสี หน้าดูถูก
ปิ ดปากหัวเราะ ท่าทางเต็มไปด้วยเจตนาร้าย
เสิ่ นเวยพยักหน้าด้วยความเปิ ดเผยอย่างยิง่ กล่าวอย่างไร้กงั วล “ใช่
แล้ว! บ้านเก่าของจวนจงอู่โหวของข้าอยูท่ ี่หมู่บา้ นตระกูลเสิ่ น ข้า
สุ ขภาพไม่ค่อยดี ผูอ้ าวุโสในบ้านสงสาร จึงส่ งข้าไปรักษาร่ างกายที่
บ้านเก่า กระทัง่ ถึงวัยปักปั่นก็เพิ่งจะกลับเมืองหลวง”
สี หน้าซ่งจยาฮุ่ยแข็งทื่อ เดิมคิดว่าเอ่ยถึงชนบทแล้วจะทาให้คุณหนู
แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีนอ้ ยเนื้อต่าใจ ไม่คิดว่านางไม่เพียงแต่จะไม่นอ้ ยเนื้อต่าใจ
แต่ยงั สบายใจอย่างยิง่ นี่ทาให้ซ่งจยาฮุ่ยรู ้สึกเหมือนต่อยหมัดลงไป
บนฝ้าย ไร้เรี่ ยวแรง
แต่เสิ่ นเวยกลับมีความสุ ขอย่างยิง่ ชายตามองเด็กสาวที่กดั ฟันกรอด
คับแค้นเสี ยใจพักหนึ่งผูน้ ้ ีตรงหน้า กล่าวในใจ ขนาดอาเจ้า ข้ายัง
รับมือได้ง่าย ๆ คนทักษะอ่อน ๆ เช่นเจ้า ข้าก็ยงิ่ ไม่กลัว
นางเหลือบมองบนโต๊ะปราดหนึ่ง มุมปากเบ้ลง จวนจิ้นอ๋ องขี้เหนียว
จริ ง ๆ แม้แต่ผลไม้สด ๆ ยังไม่ให้กิน แค่ขนมแห้ง ๆ หนึ่งจานนั้น
เห็นแล้วไม่อยากอาหาร ของว่างกินมากเข้าก็ตอ้ งกินชามิใช่หรื อ
ใครจะรู ้วา่ ในชาใส่ อะไรเพิ่มลงไปหรื อไม่ ไม่แปลกที่เสิ่ นเวยคิดมาก
ในนิยายล้วนแต่เขียนไว้เช่นนั้น ไม่กลัวหมื่นแต่กลัวหนึ่งในหมื่น
ระวังไว้ก่อนดีกว่า
“เด็กสาวชนบทเช่นเจ้ามีอะไรดีถึงได้แต่งงานกับลูกผูพ้ ี่ใหญ่ เหอะ
คงไม่ใช่วา่ เข้ามาสามวันก็ถูขบั หรอกนะ” ซ่งจยาฮุ่ยเอ่ยปากว่าร้าย
เสิ่ นเวยไม่โกรธเลยแม้แต่นิดเดียว กล่าวด้วยความตั้งใจมากเป็ น
พิเศษ “ข้าโชคดีอย่างไรเล่า! มิเช่นนั้นจะได้แต่งงานกับคุณชายใหญ่
หรื อ คุณหนูซ่งอิจฉามากใช่หรื อไม่ จะอิจฉากันก็ไม่ได้ จะต้องเป็ น
เพราะชาติที่แล้วข้าทาดีไว้แน่ ๆ ” ปากก็กล่าวเช่นนี้ แต่ในใจกลับ
บ่น ชาติที่แล้วคงจะไปขุดหลุมฝังศพของใครเข้า มิเช่นนั้นจะมา
เจอสวีโย่วคนโรคจิตผูน้ ้ ีได้อย่างไร
“คุณหนูซ่งวางใจเถิด ข้ากับคุณชายใหญ่ได้รับพระราชทานสมรส
จากฝ่ าบาท คุณชายใหญ่ไม่เพียงแต่ไม่อาจขับข้าได้ แม้แต่หย่าก็ยงั
ทาไมได้” ท่าทางแม้วา่ ข้าจะไม่ตอ้ งการแต่กข็ อบคุณที่เจ้าคิดแทนข้า
ใครคิดแทนเจ้า ซ่งจยาฮุ่ยโกรธจนแทบจะระเบิดแล้ว เหตุใดถึงมีคน
ที่โง่เพียงนี้ได้ แม้แต่คาเหยียดหยามชัดแจ้งยังฟังไม่ออก ซ่งจยาฮุ่ย
พ่ายแพ้ยอ่ ยยับ
อารมณ์ของเสิ่ นเวยดียงิ่ กว่าเดิม เด็กน้อย ฝี มือเป็ นแมวสามขา
[1]เช่นนี้ยงั คิดจะมาสู ้กบั ข้า น้อย ๆ หน่อย! กระทัง่ ออกจากจวนจิ้
นอ๋ องมุมปากของนางก็ยกขึ้นมาโดยตลอด สวีโย่ว เห็นหรื อยัง
ความสามารถในการต่อสู ้ของข้ายอดเยีย่ ม เลื่อมใสข้าบ้างหรื อไม่
อย่าทาตัวขี้ขลาดไปหน่อยเลย รางวัลในการทางานคราวนี้ส่งไปที่
คลังส่ วนตัวของข้าให้หมด
[1] แมวสามขา เปรี ยบคนไร้ความสามารถเป็ นแมวสามขาที่จบั หนู
ไม่ได้
ตอนที่ 210-1 พลเงาหนึ่ง
พระชายาจิ้นอ๋ องในจวนจิ้นอ๋ องกาลังพิงอยูบ่ นพนักพิงตัง่ ยาว สาว
ใช้เล็กสองคนนวดขาให้นาง สาวใช้ใหญ่หวาอวิ๋นนวดศีรษะให้นาง
“พระชายา” แม่นมซือเดินเข้ามาเงียบ ๆ
“ส่ งกลับไปแล้วหรื อ” พระชายาจิ้นอ๋ องไม่แม้แต่จะลืมตา เสี ยงก็
เกียจคร้าน
“ทูลพระชายา ส่ งกลับไปแล้วเพคะ” แม่นมซือกล่าวด้วยความ
เคารพ
“แม่นมคิดว่าคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีเป็ นคนเช่นไร” เสี ยงของพระชายาจิ้
นอ๋ องยังคงเฉื่อยชา
แม่นมซือคิดครู่ หนึ่งแล้วจึงกล่าว “บ่าวมองคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีไม่
ออกนักเพคะ บ่าวรู ้สึกว่าไม่เจ้าเล่ห์มาก ก็โง่มาก บ่าวโน้มเอียงไป
ทางแบบแรก”
“ฮ่า ๆ ” พระชายาจิ้นอ๋ องหัวเราะเสี ยงเบาหนึ่งครา “แม่นมคงจะให้
เกียรตินางเกินไปแล้วกระมัง ข้าว่านางก็เป็ นเพียงคนเขลาที่ถูกสอน
ให้โง่ มิหนาซ้ ายังคิดว่าตนฉลาด ฮ่า ๆ น่าขาจริ ง ๆ ”
แม้แต่นยั ที่แฝงอยูใ่ นคาพูดยังฟังไม่ออก ซ้ ายังเอาแต่พดู ถึง
กฎระเบียบ หลักการสาคัญแต่ละชุด ๆ แม้แต่ประจบคนก็ยงั ทาไม่
เป็ น เป็ นเช่นนี้จะอยูใ่ นเรื อนหลังได้สกั กี่ปี
เมื่อคิดถึงตรงนี้ในใจพระชายาจิ้นอ๋ องก็มีความสุ ขอย่างถึงที่สุด
ความโมโหที่ถูกเสิ่ นเวยยัว่ ยุจนแน่นหน้าอกก่อนหน้านี้กส็ บายขึ้น
“ยังคงเป็ นพระชายาที่มีสายตาเฉียบแหลม บ่าวไหนเลยจะเทียบพระ
ชายาได้” แม่นมซือคล้อยตามคาพูดของพระชายาจิ้นอ๋ องราวกับ
กระแสน้ าไหล คนเป็ นบ่าวนายพูดอะไรย่อมต้องทาเช่นนั้น แสดง
ท่าทีตรงข้ามกับนายไม่ใช่เป็ นการหาเรื่ องใส่ ตวั หรอกหรื อ
เป็ นดังคาด พระชายาจิ้นอ๋ องถูกประจบจนมีความสุ ข ทัว่ ทั้งห้องต่าง
ก็เต็มไปด้วยเสี ยงหัวเราะที่พึงพอใจของนาง
เสิ่ นเวยกลับไปถึงจวนย่อมต้องไปรายงานสถานการณ์ให้ท่านย่ากับ
ท่านป้าสะใภ้ใหญ่นางที่เรื องซงเฮ่อก่อน นอกจากจะตัดเรื่ องเถาฮวา
ออกไปเรื่ องอื่น ๆ กลับไม่ได้ปิดบัง รวมถึงเรื่ องที่พระชายาจิ้นอ๋ อง
บังคับให้นางยินยอมแต่งอนุภรรยาให้สวีโย่วก็เล่าด้วยเช่นกัน ให้
พวกนางได้เห็นใบหน้าที่แท้จริ งของพระชายาจิ้นอ๋ องแต่เนิ่น ๆ
เลี่ยงไม่ให้ทุกคนคิดว่าพระชายาจิ้นอ๋ องดีต่อนางอย่างยิง่ ภายหลัง
นางมีเรื่ องกลับจวนฟ้องร้องต่างก็ไม่มีใครเชื่อนาง
ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ฮูหยินสวี่ได้ยนิ ดังนั้นสี หน้าก็เป็ นกังวลหลายส่ วน
“พระชายาจิ้นอ๋ องหมายความว่าอย่างไร เวยเอ๋ อร์ยงั ไม่เข้าเรื อนก็คิด
จะแต่งอนุภรรยาก่อนแล้ว นี่ไม่ได้เป็ นการตบหน้าพวกเราหรื อ ไม่
ว่าตระกูลใดก็ไม่มีกฎเช่นนี้”
นางมองหลานสาวที่ยนื เงียบอยูข่ า้ ง ๆ ทั้งสงสารทั้งลาบากใจ หาก
เปลี่ยนเป็ นตระกูลอื่น นางเองก็กล้าไปหนุนหลังแทนเวยเอ๋ อร์ถึงที่
แต่นี่ดนั เป็ นจวนจิ้นอ๋ อง จิ้นอ๋ องผูน้ ้ นั เป็ นน้องชายมารดาเดียวกันกับ
ฝ่ าบาท อานาจยิง่ ใหญ่กดทับคนตาย โหวฮูหยินเล็ก ๆ เช่นนางไหน
เลยจะกล้าไปตาหนิติเตียนที่จวนจิ้นอ๋ อง เฮ้อ นี่กค็ ือข้อเสี ยของ
บุตรสาวที่แต่งเข้าตระกูลสู ง บุตรสาวได้รับความไม่เป็ นธรรมที่บา้ น
สามี บ้านฝั่งมารดาทาไม่ได้แม้แต่จะหนุนหลัง โชคดีที่ซวงเอ๋ อร์ของ
ตนไม่ได้แต่งเข้าตระกูลสู ง มิเช่นนั้นนางจะไม่สงสารตายเลยหรื อ
ทว่านายหญิงผูเ้ ฒ่ากลับไม่เห็นด้วย “บุรุษน่ะ ใครบ้างที่ไม่มีสาม
ภรรยาสี่ อนุ ไม่วา่ จะเป็ นอย่างไร เวยเอ๋ อร์เจ้าก็เป็ นภรรยาเอก ต้อง
เอาอานาจของภรรยาเอกออกมา อย่าไปเลียนแบบนิสยั ขี้แยขี้หึงขี้
หวง ต่อให้เป็ นอนุภรรยาก็เป็ นเพียงแค่สิ่งไร้ประโยชน์ ขอเพียงแค่
เจ้าแต่งเข้าไปแล้วให้กาเนิดบุตรชาย ได้ใจสามี ใครก็แตะต้อง
ตาแหน่งของเจ้าไม่ได้ ตอนนี้ไม่ควรยัว่ โมโหพระชายาจิ้นอ๋ อง
อย่างไรเสี ยนางก็เป็ นแม่สามีของเจ้า”
เสิ่ นเวยไม่แม้แต่จะเหลือบตาขึ้น ตอบรับทันที “หลานทราบแล้ว”
มุมมองทั้งสาม[1]ของพวกนางแต่ไหนแต่ไรก็ไม่ได้อยูใ่ นชั้น
เดียวกันอยูแ่ ล้ว เสิ่ นเวยขี้เกียจจะเปลืองน้ าลายกับย่านาง
เสิ่ นเวยกับฮูหยินสวี่ออกจากเรื อนซงเฮ่อพร้อมกัน ฮูหยินสวี่ตะโกน
เรี ยกนางด้วยสี หน้าซับซ้อน “เวยเอ๋ อร์” ในใจมีคาพูดมากมายแต่
กลับพูดไม่ออกแม้แต่คาเดียว
ทว่าเสิ่ นเวยกลับเข้าใจความรู ้สึกของฮูหยินสวี่อย่างยิง่ ยิม้ เหยเกให้
นางแล้วกล่าว “ท่านป้าสะใภ้ใหญ่วางใจ อย่างไรเสี ยข้าก็เป็ นจวิน้ จู่ที่
ฝ่ าบาทพระราชทานให้ดว้ ยตัวพระองค์เอง ไม่เสี ยเปรี ยบหรอก เรื่ อง
อนุภรรยาถูกข้าปฏิเสธไปแล้ว ข้าบอกเพียงแค่วา่ เรื่ องนี้ตอ้ งฟังความ
คิดเห็นคุณชายใหญ่ ซ้ าข้าก็ยงั ไม่เข้าเรื อน ไหนเลยจะตัดสิ นใจแทน
คุณชายใหญ่ได้”
“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี” ฮูหยินสวี่วางใจลง ตบมือของเสิ่ นเวย กล่าว
ด้วยความจริ งใจ “เวยเอ๋ อร์ ไม่ใช่วา่ ป้าไม่หนุนหลังให้เจ้า แต่เจ้าก็
แต่งเข้าตระกูลที่สูงเกินไปจริ ง ๆ พวกเรา พวกเราเหลือบ่ากว่าแรง!
เจ้าอย่าได้โทษป้าเลย!”
เสิ่ นเวยพยักหน้าอย่างเฉลียวฉลาด “ข้าเข้าใจดี ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ดี
ต่อหลานมากแล้ว หลานไม่ใช่คนไม่รู้คุณ” ดวงตากะพริ บวาบ นึก
ถึงเรื่ องที่ตอ้ งสื บถามตระกูลราชบัณฑิตสวี่ “ท่านป้าสะใภ้ใหญ่
หลานอยากถามท่านเรื่ องหนึ่ง เป็ นเช่นนี้…” นางเล่าเรื่ องลูกผูพ้ ี่นาง
สู่ ขอภรรยาให้ฟังรอบหนึ่ง
“อ้อ เจ้าหมายถึงตระกูลเขาน่ะหรื อ! ที่วา่ มากลับเป็ นเรื่ องจริ ง
ตระกูลนั้นเป็ นคนเมตตา จะว่าไปแล้วราชบัณฑิตสวี่กอ็ ยูใ่ นรุ่ น
เดียวกันกับป้า ข้ายังเรี ยกเขาว่าญาติผพู ้ ี่ ตั้งแต่เล็กก็เรี ยนเก่ง เขามี
วันนี้กเ็ พราะตัวเองขยันหมัน่ เพียร ฮูหยินที่เขาแต่งงานคือลูกผูน้ อ้ ง
บ้านฝั่งน้าห่าง ๆ ของเขา ฐานะไม่สูง แต่มีคุณธรรมเพียบพร้อม
จัดการงานบ้านดีเยีย่ ม ลูกสาวคนโตตระกูลเขาชื่อฉู่ถง โตกว่าพี่รอง
เจ้าหนึ่งปี ตอนเด็กยังเคยมาเล่นกับพี่รองเจ้าอยูเ่ ลย เป็ นเด็กผูห้ ญิงที่
สุ ขมุ ฉลาด หน้าตางดงามราวกับบุปผา ภายหลังตระกูลเขาไว้ทุกข์
จึงไม่เคยพบหน้าอีก ฟังว่าแม่นางผูน้ ้ นั อายุได้สิบสามสิ บสี่ ปีก็เรี ยนรู ้
การจัดการงานบ้านกับแม่นางแล้ว เป็ นคนที่โดดเด่น”
ขณะที่ฮูหยินสวี่เล่าเรื่ องที่นางรู ้ ก็นึกได้วา่ เรื่ องที่จวนจิ้นอ๋ องนาง
ช่วยไม่ได้ เรื่ องนี้นางกลับสามารถช่วยได้ “อย่างไรปากว่าก็ไม่เท่าตา
เห็น หรื อไม่กเ็ อาเช่นนี้ อีกสองวันเวยเอ๋ อร์ตามข้าไปบ้านฝั่งมารดา
เที่ยวหนึ่ง เชิญฉู่ถงกลับมาด้วยกัน เวยเอ๋ อร์จะได้เห็นเองกับตา”
“เช่นนั้นก็ดีอย่างยิง่ ขอบคุณท่านป้าสะใภ้ใหญ่จริ ง ๆ เจ้าค่ะ” เสิ่ นเว
ยกล่าวขอบคุณด้วยความดีใจ อันที่จริ งนางมาสื บข่าวจากป้าสะใภ้
ใหญ่กว็ างแผนไว้เช่นนี้ ต่อให้คนอื่นจะพูดดี แต่ได้ไปเห็นด้วยตา
ตัวเองก็วางใจกว่า อย่างไรเสี ยนี่กเ็ กี่ยวข้องกับความสุ ขชัว่ ชีวิตของ
ลูกผูพ้ ี่นาง
เสิ่ นเวยฝั่งนี้อยากไปดูตวั สวีฉ่ ู่ถงให้เห็นกับตา สวี่ฉู่ถงฝั่งนั้นก็กาลัง
ครุ่ นคิดว่าจะไปดูหร่ วนเหิงอยูเ่ ช่นกัน
“ลูกเอ๋ ย เจ้าก็สิบแปดแล้ว ไม่อาจล่าช้าไปมากกว่านี้ได้แล้ว กว่าจะ
เจอคนที่เหมาะสม เจ้าคิดอย่างไรกันแน่ คนอื่นเชื่อไม่ได้แต่เจ้าจะไม่
เชื่อแม้แต่พอ่ เจ้าหรื อ ชนรุ่ นหลังผูน้ ้ นั พ่อเจ้าเห็นมากับตา บอกว่าไม่
เลว แม้ตอนนี้จวนแม่ทพั ใหญ่หร่ วนจะตกต่า แต่ชนรุ่ นหลังของเขาก็
พัฒนา!” จางซื่อฮูหยินราชบัณฑิตสวี่โน้มน้าวเกลี้ยกล่อมบุตรสาว
สวี่ฉู่ถงเพียงแค่หลุบตา เม้มริ มฝี ปากแน่น ไม่พดู แม้แต่ประโยคเดียว
จางซื่อมองท่าทางดื้อรั้นของลูกสาว ในใจก็สงสารเล็กน้อย ถงเอ๋ อร์
เป็ นลูกคนแรกของนาง แม้วา่ จะเป็ นลูกสาว แต่เมื่อคลอดออก
มาแล้วก็น่ารักน่าเอ็นดู สามี รวมถึงพ่อแม่สามีต่างก็รักอย่างถึงที่สุด
ตั้งแต่เล็กก็เฉลียวฉลาด อายุสามขวบก็สามารถท่องกลอนกับพ่อนาง
ได้แล้ว พิณหมากพูก่ นั วาดภาพล้วนแต่มีความสามารถ ในด้าน
ความรู ้กเ็ ก่งกว่าน้อยชายนางหลายส่ วน ฝี มือเย็นปั กถักร้อยก็ดีเยีย่ ม
อายุสิบสี่ กส็ ามารถช่วยตนดูแล้วบ้านได้แล้ว
บุตรสาวที่ไม่วา่ อะไรก็ดีไปหมดเช่นนี้กลับโชคไม่ดี อายุที่ควร
สมรสพ่อแม่สามีกล็ าโลกตามกันไป ไป ๆ มา ๆ ก็ทาให้นางล่าช้า
ทุกครั้งที่ได้ยนิ คนในวงศ์ตระกูลวิจารณ์วา่ ถงเอ๋ อร์ของนางเป็ นสตรี
อายุมากที่แต่งไม่ออก นางก็อยากจะข่วนหน้าสตรี ข้ ีนินทาไม่กี่คน
นั้นอย่างยิง่
“ลูกเอ๋ ย แม่รู้วา่ ลูกน้อยใจ แต่นี่กค็ ือชะตา คนทาอะไรไม่ได้” จางซื่อ
ถอนหายใจ อย่าว่าแต่ลูกสาวน้อยใจ นางเองก็นอ้ ยใจเช่นกัน สตรี ที่
เทียบถงเอ๋ อร์ไม่ได้จานวนมากในวงศ์ตระกูลต่างก็แต่งกับเขยดี
ตระกูลสู ง ถงเอ๋ อร์ของนางเรี ยนหนังสื อมามากอย่างยิง่ ย่อมหวังว่า
ว่าที่สามีจะเป็ นผูม้ ีความสามารถ แต่ผมู ้ ีความสามารถแบบนั้นส่ วน
ใหญ่กแ็ ต่งงานกันหมดแล้ว คนสองคนที่เหลืออยูก่ ลับรังเกียจที่ถง
เอ๋ อร์อายุมากแล้ว คนมาสู่ ขอถึงบ้านส่ วนใหญ่ลว้ นเป็ นอนุภรรยา
หรื อภรรยาคนที่สอง หรื อไม่กเ็ ป็ นลูกหลานคนรวยเหล่านั้น นี่จะให้
จางซื่อตอบรับได้อย่างไร เพื่อคู่หมั้นของลูกสาวนางกลัดกลุม้ จน
นอนไม่หลับทั้งวันทั้งคืน
สวี่ฉู่ถงเองก็เข้าใจว่าแม่นางทุกข์ใจเรื่ องคู่หมั้นของนาง กัดริ มฝี ปาก
กล่าว “อย่างไรเสี ยงก็ลากมาจนถึงตอนนี้แล้ว คงล่าช้าไปมากกว่านี้
ไม่ได้ ลูกเองก็ไม่ใช่คนโลภเงินโลภทอง ขอเพียงแค่เป็ นคนดี มี
พัฒนา ไม่ใช่พวกเจ้าชูป้ ระตูดินไร้กฎเกณฑ์ ลูกก็ไม่เลือกลาดับศักดิ์
ในวงศ์ตระกูล”
จางซื่อได้ยนิ ดังนั้นก็ลูบหลังของลูกสาว กล่าว “เจ้าวางใจ พ่อแม่จะ
ทาร้ายเจ้าได้อย่างไร ชนรุ่ นหลังตระกูลหร่ วนผูน้ ้ ีพอ่ เจ้าดูมาดีแล้ว
แม้จะบอกว่าจวนแม่ทพั ใหญ่หร่ วนตกต่า แต่ชนรุ่ นหลังผูน้ ้ นั ก็ชิง
ตาแหน่งขุนนางขั้นห้ามาได้ นับได้วา่ มีพฒั นาการ ฟังว่าหน้าตาก็
ยอดเยีย่ ม เรี ยนหนังสื อตั้งแต่เล็ก ไม่ใช่ชายฉกรรจ์หยาบคาบ
เช่นนั้น”
ดวงตาสวีฉ่ ู่ถงมีความลังเลแวบผ่าน “ไม่ใช่วา่ ลูกไม่เชื่อสายตาของ
ท่านพ่อ เพียงแค่อย่างไรเสี ยนี่กเ็ ป็ นเรื่ องชัว่ ชีวิตของลูก ลูกอยาก
อยากเห็นคนผูน้ ้ นั ด้วยตาตัวเอง” เด็กสาวมีความรัก ใครบ้างไม่อยาก
แต่งงานกับสามีดีเลิศ อย่างไรเสี ยนางก็อายุสิบแปดแล้ว ต่อให้ล่าช้า
ก็ไม่อาจล่าช้าไปมากกว่านี้แล้ว คนผูน้ ้ นั ที่ท่านพ่อบอกฟังดูแล้วไม่
เลว แต่ไม่เห็นกับตานางก็ยงั ไม่เชื่อมัน่ นางไม่อยากน้อยใจตัวเองอีก
แล้ว
“ลูกเอ๋ ย ตนไหนเลยจะพบสามีตวั เองได้” บนใบหน้าจางซื่อมีความ
ไม่เห็นด้วยหลายส่ วน แต่เมื่อสบสายตาที่ด้ือรั้นของลูกสาว หัวใจก็
อ่อนลงอย่างอดไม่ได้ “ช่างเถอะ ๆ ตามใจเจ้า กลับไปให้นอ้ งเจ้า
ปกป้องเจ้าออกจากเรื อน ดูอยูไ่ กล ๆ ก็พอ”
สวี่ฉู่ถงแย้มยิม้ ออกมา ซบไหล่จางซื่อ “ลูกรู ้วา่ ท่านแม่จะต้อง
รับปาก”
จางซื่อตบลูกสาวเบา ๆ อย่างขุ่นเคือง “เจ้าน่ะ แม่กม็ ีเจ้าเป็ นลูกสาว
คนเดียว ไม่รักเจ้าแล้วจะให้รักใคร ไม่ใช่แค่แม่ที่รักเจ้า พ่อเจ้าก็รัก
เจ้ายิง่ กว่า เพื่อคู่หมั้นของเจ้า เขาที่แต่ไหนแต่ไรไม่ชอบคบค้า
สมาคมก็ลากเพื่อนพ้องไปดื่มสุ รา ไปสื บถามทัว่ ทุกที่วา่ ตระกูลใดมี
ชนรุ่ นหลังที่อายุพอ ๆ กันบ้าง” ทุกครั้งที่กลับจวนก็อาเจียนราวกับ
อะไรดี ลาบากนายท่านเสี ยจริ ง ๆ
ดวงตาของสวี่ฉู่ถงก็มีไอน้ าเอ่อขึ้นมาหนึ่งชั้น ช่างโชคดีเสี ยกะไร
นางถึงได้เกิดเป็ นบุตรสาวของพ่อแม่
[1] มุมมองทั้งสาม ได้แก่ทศั นคติต่อโลก ชีวิตและคุณค่า
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 210-2 พลเงาหนึ่ง
ตกดึก เงาดาหนึ่งสายกระโดดเข้ามาในเรื อนหลังเล็กที่สวีโย่วอาศัย
อยู่ ถูกเจียงเฮยที่รอรับอยูพ่ าเข้ามาในห้องสวีโย่วทันที “เจ้าได้รับ
บาดเจ็บแล้ว” สวีโย่วได้กลิ่นคาวโลหิตหนึ่งกลุ่ม
เงาดาก็คือคนที่สวีโย่วพามาจากล่างเขา เป็ นหนึ่งในสมาชิกทหารเงา
พลเงาหนึ่ง
พลเงาหนึ่งก้มหน้ามองไหล่ซา้ ยของตัวเอง พยักหน้า กล่าวอย่าง
รวดเร็ ว “คุณชาย ผูน้ อ้ ยถูกพบแล้ว คาดว่าอีกไม่นานพวกเขาก็จะค้น
ลานวัด ผูน้ อ้ ยพบว่าใต้ดินในกุฎิหลวงจีนเต้ากวงคล้ายมีอุโมงค์ใต้
ดิน ผูน้ อ้ ยอยากลงไปตรวจดู ไม่คิดว่าหลวงจีนเต้ากวงจะรู ้ตวั ถูกเขา
ทาร้าย โชคดีที่ผนู ้ อ้ ยหนีไว มิเช่นนั้นคงจะถูกตัดศีรษะอยูใ่ นนั้นเป็ น
แน่”
พูดยังไม่ทนั ขาดคา ก็ได้ยนิ เสี ยงเอะอะโวยวายข้างนอก อีกทั้งยังมี
เสี ยงตบประตูดงั ขึ้นมา
“แย่แล้ว พวกเขาไล่มาแล้ว คุณชายท่านรักษาตัว ผูน้ อ้ ยจะหนีไป
เดี๋ยวนี้ ไม่อาจเป็ นภาระท่านได้” พลเงาหนึ่งพูดพลางกาลังจะ
ออกไปทางหน้าต่างด้านหลัง
ทว่าสวีโย่วกลับห้ามเขาไว้ “ไม่ทนั แล้ว เร็ ว หลบไปในห้องลับล่าง
เตียง” ในเมื่อพวกเขาตามมาถึงที่นี่ได้ เช่นนั้นข้างนอกก็จะต้องวาง
กับดักไว้เรี ยบร้อยแล้ว ตอนนี้ขอเพียงแค่พลเงาหนึ่งออกไป เช่นนั้น
ก็จะติดกับดักเอง
หลังจากพลเงาหนึ่งซ่อนตัวเสร็ จแล้ว เจียงเฮยก็โยนถ้วยยาลงบนพื้น
อย่างรวดเร็ ว ชัว่ พริ บตาภายในห้องก็เต็มไปด้วยกลิ่นยาจีน เจียงไป๋ ก็
ขานรับเสี ยงดังออกไปเปิ ดประตู “มาแล้วๆ”
เจียงไป๋ เปิ ดประตูเรื อนออก ชัว่ ขณะก็ตกใจกลัว ข้างนอกมีหลวงจีน
ชูคบไฟจานวนมากยืนอยู่ คนที่อยูข่ า้ งหน้าสุ ดเจียงไป๋ เองก็รู้จกั คือ
หลวงจีนเต้าเสวียนศิษย์พี่ของหลวงจีนเต้ากวง เจียงไป๋ ไม่ชอบหลวง
จีนเต้าเสวียนแม้แต่นิดเดียว เขามักจะมองคุณชายของพวกเขาด้วย
สายตาที่มีลบั ลมคมนัย ทาให้เขาไม่สบายใจยิง่ นัก
“พระอาจารย์เต้าเสวียนนี่เอง เกิดอะไรขึ้นหรื อ” เจียงไป๋ ทาท่าทางอก
สันขวัญแขวน
หลวงจีนเต้าเสวียนมองเจียงไป๋ ปราหนึ่ง “ในวัดมีขโมย ทาร้ายศิษย์
น้องเต้ากวง ขอโมยของล้ าค่าชิ้นหนึ่งในวัดไป อาตมาไล่ตามมาแถว
นี้กย็ งั ไม่เห็นแม้แต่เงา โยมเห็นบ้างหรื อไม่”
“ไม่มีนี่ ไม่ปิดบังพระอาจารย์ คืนนี้คุณชายพวกเราป่ วยอีกแล้ว ไอ
ไม่หยุด ยาก็กินไม่ลง ผูน้ อ้ ยกลุม้ ใจใกล้จะตายอยูแ่ ล้ว กาลังจะไป
เชิญพระอาจารย์เต้ากวงมาดูเสี ยหน่อย ไม่ได้สงั เกตสถานการณ์ขา้ ง
นอกจริ งๆ” เจียงไป๋ กล่าวอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด บนใบหน้ามีความ
เป็ นห่วงหลายส่ วนพอดิบพอดี “พระอาจารย์ พระอาจารย์เต้ากวง
บาดเจ็บสาหัสหรื อไม่ ท่านคิดว่ายังมาตรวจดูอาการคุณชายพวกเรา
ได้หรื อไม่”
หลวงจีนเต้าเสวียนจ้องมองเจียงไป๋ ปราดหนึ่ง เห็นสี หน้าบนใบหน้า
เขาไม่เหมือนโกหก ก็ส่ายหน้ากล่าว “ศิษย์นอ้ งบาดเจ็บหนักเล็กน้อย
เกรงว่าจะมาดูอาการคุณชายของเจ้าไม่ได้ ขออภัยจริ งๆ!”
หน้าเจียงไป๋ ก็เหยเกขึ้นมา กระทืบเท้าสาปแช่ง “หัวขโมยสมควรตาย
ผูน้ ้ ี หากข้าจับเขาได้จะสับเขาเป็ นหมื่นชิ้นเลยคอยดู น่าสงสาร
คุณชายของเรายิง่ นัก!”
ดวงตาของหลวงจีนเต้าเสวียนกะพริ บวาบ กล่าว “แม้วา่ ศิษย์นอ้ งจะ
ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อาตมาก็พอจะชานาญการแพทย์อยูบ่ า้ ง กลับ
สามารถจับชีพจรคุณชายของเจ้าให้ได้ ยิง่ ไปกว่านั้นอาตมาเองก็เป็ น
ห่วงว่าขโมยผูน้ ้ นั จะกระโดดเข้ามาในเรื อนของพวกเจ้า หากทาร้าย
คุณชายพวกเจ้าก็คงจะไม่ดี หมิงเจวี๋ย เจ้าพาคนเข้าไปค้นให้ทวั่ ”
เจียงไป๋ ดีใจเหนือความคาดหมายทันที “พระอาจารย์พูดถูก เร็ ว รี บ
เข้ามาหา ทุกซอกทุกมุมต้องหาให้ละเอียดสักหน่อย อย่าได้ซ่อนอยู่
ในเรื อนของพวกเราจริ งๆ เลย กลับไปทาร้ายคุณชายของพวกเราอีก
จะไม่ดี พระอาจารย์ เชิญ รี บไปดูคุณชายของเรา เขาไอจนปอดจะ
ทะลุแล้ว” เขาเปิ ดประตูออกให้กว้างกว่าเดิมเล็กน้อย เชิญหลวงจีน
เต้าเสวียนเข้ามาอย่างกระตือรื อร้น
หลวงจีนเต้าเสวียนเหลือบมองเจียงไป๋ ปราดหนึ่ง จากนั้นจึงนาเข้า
ไปข้างใน อยูห่ ่างไกลแต่ยงั ได้ยนิ เสี ยงไอที่แหบแห้งหมดแรงดัง
ออกมาจากข้างในห้อง ชัว่ ขณะเจียงไป๋ ก็เร่ งฝี เท้าหลายก้าว “คุณชาย
คุณชาย ท่านไม่เป็ นไรใช่หรื อไม่ ในวัดมีขโมย ขโมยของไปแล้ว ซ้ า
ยังทาร้ายพระอาจารย์เต้ากวงอีก พระอาจารย์เต้าเสวียนเองก็ชานาญ
การแพทย์ ผูน้ อ้ ยเชิญเขามาดูอาการท่าน” พูดไปพลางเปิ ดประตูไป
พลาง
หลวงจีนเต้ากวงเข้ามาในห้องแล้ว กลิ่นยาจีนที่เข้มข้นหนึ่งกลุ่มก็
ปะทะเข้ามาทันที เขากวาดสายตามองถ้วยยาที่แตกละเอียดบนพื้น
ปราดหนึ่ง บนใบหน้ามีความเข้าใจแวบผ่าน ส่ วนเจียเฮยก็กาลังโน้ม
น้าวให้ทานยาอีกหนึ่งถ้วย “คุณชาย ท่านดื่มหน่อยเถิด ดื่มยาแล้ว
อาการของท่านจะได้ดีข้ ึน”
สวีโย่วยังคงไอ เสี ยงบีบเค้น “ไม่…ไม่ดื่มแล้ว ไร้…ไร้ประโยชน์”
เขาเบือนหน้าหนีอย่างรังเกียจ มือปิ ดปาก ไอประหนึ่งจิ้งหรี ดเฒ่าตัว
หนึ่งในปลายฤดูใบไม้ร่วง “พระ…พระอาจารย์ นัง่ …นัง่ ก่อน”
“แค่ก!” เสี ยงไอของสวีโย่วดังลัน่ พักหนึ่ง เจียงเฮยส่ งผ้าเช็ดหน้าเข้า
มาทันที สวีโย่วรับผ้าเช็ดหน้ามาปิ ดปากไว้ ไออยูห่ ลายคราจึงเอา
ผ้าเช็ดหน้าออก ร่ างทั้งร่ างราวกับใช้เรี่ ยวแรงจนหมดพิงหัวเตียง
หายใจหอบถี่กระชั้น
“เอ๋ คุณชาย ท่านไอเป็ นเลือดอีกแล้วหรื อ พระอาจารย์ ท่านช่วยดู
คุณชายของพวกเราหน่อยเถิด” เจียงไป๋ รับผ้าเช็ดหน้าสี ขาวสะอาดที่
เปื้ อนเต็มไปด้วยรอยเลือดเข้ามาแล้วโยนทิ้งลงในถังทองแดงข้างเท้า
ตรงนั้นคล้ายยังมีผา้ เช็ดหน้าที่เปื้ อนรอยเลือดอีกสองก้อน
ในดวงตาหลวงจีนเต้าเสวียนมีความเข้าใจแวบผ่าน เขาก็วา่ เหตุใดใน
ห้อถึงมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ “อาตมาขอจับชีพจรโยมหน่อย” เขาก้าว
เข้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
“ลาบากพระอาจารย์แล้ว” สวีโย่วยืน่ แขนออกไป ส่ วนเจียงเฮยกับ
เจียงไป๋ ก็จอ้ งมองด้วยสี หน้าตื่นตระหนก
หลวงจีนเต้าเสวียนจับชีพจรแล้ว หยิบผ้าเช็ดหน้าที่เปื้ อนโลหิ ต
ขึ้นมาดู หลังจากนั้นจึงกล่าว “โยมถูกลมบนเขาจึงทาให้เป็ นไข้
ร่ างกายของโยมอ่อนแอกว่าคนปกติ ลมบนเขาลูกนี้แรงเกินไป โยม
ออกไปเดินเล่นให้นอ้ ยหน่อยจะดีกว่า แม้จะออกไปก็ตอ้ งใส่ เสื้ อเพิ่ม
หลายๆ ชั้น”
“ขอบคุณพระอาจารย์ที่เตือน ผูน้ อ้ ยจะจาไว้” สวีโย่วรี บกล่าว
ขอบคุณ
“พระอาจารย์ คุณชายของเรายังไอเป็ นเลือดเยอะเพียงนั้น” เจียงเฮย
เอ่ยปากถาม
หลวงจีนเต้าเสวียนลูบหนวดกล่าว “นี่กลับไม่เป็ นไร ลมบนเขาทา
ให้เลือดลมไหลย้อนกลับ ตอนนี้ไอปนเลือดออกมาก็ไม่เป็ นไร”
“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี ขอบคุณฟ้าขอบคุณดินขอบคุณพระพุทธเจ้า
ที่คุม้ ครองจริ งๆ” เจียงไป๋ พนมมือ ถอนหายใจเฮือกใหญ่หนึ่งครา
“คุณชาย ผูน้ อ้ ยบอกแล้วว่าให้ท่านสวมเสื้ อคลุมออกไป ท่านก็ไม่ฟัง
ดูสิวา่ ทรมานยิง่ นัก เฮ้อ! พระอาจารย์เต้าเสวียน ขอบคุณท่านจริ งๆ!”
ในตอนนี้เอง หมิงเจวี๋ยก็เดินเข้ามา “อาจารย์อา ดูทวั่ แล้ว ไม่พบเงา
ขโมย น่าจะวิ่งหนีไปที่อื่นแล้ว”
ดวงตาหลวงจีนเต้าเสวียนกะพริ บวาบ กล่าว “เช่นนั้นพวกเราก็รีบ
ไปหาที่อื่นต่อ ไม่รบกวนโยมแล้ว” เหตุใดเขาถึงหนีไปได้ง่ายเพียง
นั้น อันที่จริ งภายในห้องสวีโย่วกวาดตามองปราดเดียวก็เห็นทุก
อย่าง ไม่มีที่ซ่อนคนได้อย่างสิ้ นเชิง แต่เขากลับไม่รู้ ตั้งแต่วนั นั้น
ที่สวีโย่วเข้ามาพัก เตียงหลังนั้นก็ถูกสร้างใหม่ ใต้ไม้กระดานเตียงก็
คือชั้นลับที่สามารถซ่อนคนได้หนึ่งคนพอดี
หลวงจีนเต้าเสวียนพาคนไปแล้ว เจียงไป๋ ยืนอยูบ่ ริ เวณประตูเรื อน
มองพวกเขาถือคบไฟออกไปไกลช้าๆ จึงจะปิ ดประตูเรื อนกลับมาที่
ห้อง
“คุณชาย พวกเขาไปแล้ว” เจียงไป๋ พูดพลางกาลังจะไปเปิ ดแผ่นไม้
กระดานเตียงออก ถูกเจียงเฮยจับไว้ “เจ้ารี บไปไย รออีกหน่อย ไป
ต้มยาให้คุณชาย”
ฝี เท้าเจียงไป๋ หยุดชะงัก สบสายตากับพี่ชายเขาเล็กน้อย หันหลัง
กลับไปหยิบยาในตู ้ เพิ่งจะเดินไปถึงระเบียงทางเดินก็ได้ยนิ เสี ยงตบ
ประตู “มาแล้วๆ” เขาไม่แม้แต่จะวางถุงยาก็วิ่งออกไปเปิ ดประตูแล้ว
“พระอาจาร์ ท่านยังมีเรื่ องอันใด” คนที่จู่ๆ ก็ยนื อยูน่ อกประตูกค็ ือ
หลวงจีนเต้าเสวียนที่กลับมาอีกครั้ง “ในใจเจียงไป๋ กล่าวในใจว่า
เกือบไปแล้ว
จากนั้นก็ได้ยนิ หลวงจีนเต้าเสวียนกล่าว “อาตมานึกได้วา่ ใช้เข็มเงิน
จะบรรเทาความเจ็บปวดของคุณชายพวกเจ้าได้ จึงกลับไปเอาเข็ม
เงินมา”
เจียงไป๋ ดีใจใหญ่ รี บเชิญหลวงจีนเต้าเสวียนเข้ามา “พระอาจารย์
ขอบคุณท่านอย่างยิง่ จริ งๆ ท่านก็คือพระพุทธเจ้าที่ช่วยให้พน้ ทุกข์ผู ้
นั้น!”
หลวงจีนเข้ามาในห้องแล้ว สายตาเฉี ยบแหลมกวาดมองปราดหนึ่ง
จากนั้นก็พบว่าเศษถ้วยยาบนพื้นถูกเก็บกวาดแล้ว ภายในห้องยังคง
เป็ นเช่นเมื่อครู่ ไม่เปลี่ยนไปแม้แต้นิดเดียว คราวนี้จึงวางใจลงใน
ที่สุด
สวีโย่วถูกเจียงเฮยพยุงนอนบนเตียง หลวงจีนเต้าเสวียนใช้เข็มเงิน
แทงจุดบนศีรษะและหลังของเขา ยังคงหยุดการไอของเขาได้จริ งๆ
นายบ่าวสามคนย่อมกล่าวขอบคุณไม่ขาดสาย
คราวนี้หลังจากหลวงจีนเต้าเสวียนจากไปแล้วเจียงเฮยเจียงไป๋ จึง
พยุงพลเงาหนึ่งที่อยูใ่ นช่องลับออกมา เขาหมดสติไปเล็กน้อยแล้ว
เจียงไป๋ ถือไฟ เจียงเฮยดูบาดแผลให้เขา
บาดแผลอยูบ่ นไหล่ซา้ ย คล้ายถูกอาวุธประเภทกริ ชทาร้าย ที่ร้ายแรง
ก็คือบริ เวณบาดแผลเป็ นสี ดา มองดูกร็ ู ้วา่ ถูกพิษ แต่ในมือพวกเขา
กลับมียา เพราะว่าอาการป่ วยของสวีโย่ว ปกติแล้วเจียงเฮยเจียงไป๋
สองคนจึงสับเปลี่ยนกันลงเขาไปหายา ถือโอกาสทายารักษา
บาดแผลภายนอกและยาลูกกลอนถอนพิษไว้จานวนหนึ่ง เพียงแต่ไม่
รู ้วา่ ที่พลเงาหนึ่งถูกคือพิษอะไร นี่กลับเป็ นปั ญหาเล็กน้อย
“คุณชาย ทาอย่างไรดี” เจียงเฮยเจียงไป๋ เห็นพลเงาหนึ่งกึ่งสลบไสลก็
ร้อนใจอย่างยิง่
หากหมอเทวดาหลี่อยูก่ ค็ งจะดี แต่สวี่โย่วเป็ นคนที่ป่วยมานานแล้ว
ด้านการแพทย์กพ็ อจะเข้าใจอยูห่ ลายส่ วน จึงกล่าว “ใช้ยาลูกกลอน
ถอนพิษก่อน ถอนได้เท่าไรก็เท่านั้น เจียงไป๋ เจ้าไปต้มยามาอีก ใช้ยา
ชนิดนั้นที่ขา้ ดื่มเป็ นประจา” อย่างไรเสี ยข้างในก็มีส่วนขับความร้อน
ถอนพิษระงับอาการอยู่ น่าจะช่วยได้บา้ ง
อันที่จริ งสิ่ งที่ควรทาในทันทีคือส่ งพลเงาหนึ่งลงเขาไปรักษา แต่
ตอนนี้ในวัดจะต้องป้องกันเข้มงวดแน่นอน ส่ งออกไปไม่ได้อย่าง
สิ้ นเชิง! จะทาอย่างไรดี
ป้อนยาให้พลเงาหนึ่งแล้ว ทาแผลแล้ว ก็ส่งเขากลับไปในช่องลับอีก
ครั้ง
นายบ่าวทั้งสามภายในห้องต่างก็นิ่งเงียบไม่พดู จา นอกจากเป็ นห่วง
อาการบาดเจ็บของพลเงาหนึ่งแล้ว สวีโย่วก็กาลังไตร่ ตรองถึงข่าวที่
ได้มา ในกุฏิของหลวงจีนเต้ากวงมีอุโมงค์ใต้ดิน จะไปโผล่ที่ไหน มี
แค่กฏุ ิเต้ากวงที่มีอุโมงค์ใต้ดินหรื อ ที่อื่นยังมีอีกหรื อไม่ มีเยอะ
เพียงใด ใช่เชื่อมกับเขาด้านหลังหรื อไม่
หากจะทาลายกองกาลังหลายพันนายนั้นที่เขาด้านหลัง ยังต้อง
ตั้งเป้าหมายจากวัดจยาหลาน! ล่อศัตรู ใช่ ล่อศัตรู ! เขาด้านหลังใหญ่
เกินไป ป่ าเขาลึกเกินไป ในเมื่อหาไม่เจอเช่นนั้นก็ไม่ตอ้ งหาเสี ยเลย
ต้องคิดหาวิธีล่อพวกเขาเข้ามา
จะล่ออย่างไรเล่า นิ้วมือของสวีโย่ววาดไปมาบนเสื้ อเบาๆ หาก
ควบคุมหลวงจีนในวัดจยาหลานได้ พวกเขาจะมาช่วยหรื อไม่ แต่จะ
ควบคุมวัดจยาหลานอย่างเงียบๆ ได้อย่างไร
ตอนนี้สวีโย่วคิดถึงเสิ่ นเวยอย่างถึงที่สุด เด็กคนนั้นมีความคิดชัว่ ร้าย
เยอะที่สุดแล้ว แต่เขากลับไม่รู้วา่ เสิ่ นเวยได้ไปกระโดดโลดเต้นที่
บ้านเขารอบหนึ่งแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 211-1 สนามรบของสวีโย่ ว
เห็นศิษย์พี่ที่ผลักประตูเข้ามา หลวงจีนเต้ากวงที่ขดั สมาธินงั่ สมาธิอยู่
บนเบาะกลมก็ลืมตาขึ้น “คราวนี้วางใจแล้วหรื อ” ไม่เข้าใจจริ งๆ ว่า
เหตุใดศิษย์พี่ถึงได้จอ้ งมองคนขี้โรคผูน้ ้ นั ไม่วางตา สื บค้นรอบหนึ่ง
แล้วก็ยงั ไม่วางใจ ไปจู่โจมโดยไม่ให้อีกฝ่ ายรู ้ตวั ต่อ แต่กไ็ ม่ได้อะไร
กลับมาเลยมิใช่หรื อ
เขาบอกแล้วว่านัน่ คือคุณชายธรรมดา แต่ศิษย์พี่กร็ าวกับถูกผีสิง
ข้อเท็จจริ งได้รับการพิสูจน์แล้ว เป็ นศิษย์พี่ที่หวาดระแวงเกินไปเอง
“ศิษย์นอ้ ง ระวังหน่อยก็ไม่เสี ยหาย” หลวงจีนเต้าเสวียนนัง่ ลงตรง
ข้ามเขา ถามด้วยความเป็ นห่วง “อาการบาดเจ็บเจ้าไม่เป็ นไรใช่
หรื อไม่” สายตาของเขาตกลงบนแขนขวาที่โค้งงอของหลวงจีนเต้าก
วง ในดวงตามีความกังวลกะพริ บผ่าน
“ไม่เป็ นไร เพียงแค่บาดเจ็บภายนอก” หลวงจีนเต้ากวงเองก็มอง
แขนขวาของตน คิดครู่ หนึ่งแล้วจึงกล่าว “เขาน่าจะได้รับบาดเจ็บ
สาหัสกว่าข้า บนกริ ชข้าชุบยาพิษ ดังนั้นเขาจะต้องหนีไปได้ไม่ไกล
ก่อนฟ้าสางจะต้องหาคนเจอ”
หากเป็ นเพียงขโมยทัว่ ไปก็ดี แต่หากเป็ นสายลับของราชสานักก็เป็ น
ปัญหาแล้ว อีกทั้งดูจากฝี มือของคนผูน้ ้ นั เขาโน้มเอียงไปทางอย่าง
หลัง
หลวงจีนเต้าเสวียนพยักหน้าช้าๆ “หมิงเจวี๋ยนาคนไปหาต่ออยู่ ศิษย์
น้อง ในใจข้ามักมีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง มักจะรู ้สึกใจเต้นไม่เป็ น
สุ ข คล้ายมีเรื่ องใหญ่บางเรื่ องกาลังจะเกิดขึ้น”
เต้ากวงไม่เห็นด้วยเล็กน้อย “จะมีเรื่ องใหญ่อะไรได้ วัดจยาหลาน
ของพวกเราสงบสุ ขไร้คลื่นลมมายีส่ ิ บปี แล้ว ไม่ปิดบังศิษย์พี่ ตอนนี้
ศิษย์นอ้ งเคยชินกับชีวิตแบบนี้แล้ว คืนวันฆ่าๆ ฟันๆ เหล่านั้น เฮ้อ
เมื่อไตร่ ตรองดูให้ดี เป็ นหลวงจีนละทางโลกอยูบ่ นเขาลูกนี้กไ็ ม่ได้มี
อะไรไม่ดี”
“ศิษย์นอ้ งคิดเช่นนี้ได้อย่างไร” ดวงตาหลวงจีนเต้าเสวียนมีความ
ประหลาดใจแวบผ่าน “หรื อว่าเจ้าลืมนายท่านไปแล้ว ชีวิตของพวก
เราได้นายท่านช่วยไว้ ตอนนั้นก็สาบานว่าจะซื่อสัตย์ภกั ดีต่อนาย
ท่าน”
“แต่นายท่านอยูไ่ หนเล่า ศิษย์พี่ เจ้านับดูสิวา่ พวกเราไม่เห็นนายท่าน
มากี่ปีแล้ว ตอนนั้นพวกเราได้รับคาสัง่ มาวัดจยาหลาน ครั้งสุ ดท้ายที่
ได้รับคาสัง่ ลับของนายท่านก็เมื่อเจ็ดปี ก่อนที่มีคนหนึ่งกลุ่มนั้นเพิ่ม
เข้ามาที่ภูเขาด้านหลัง ต่อมาก็ไม่เคยเห็นนายท่านพูดอีกแม้แต่คา
เดียว การเคลื่อนไหวของคนเหล่านั้นที่ภูเขาด้านหลังก็ไม่อนุญาตให้
พวกเราถามไถ่ แต่ค่าเลี้ยงดูกลับเป็ นพวกเราที่ออก อีกทั้งยังเรี ยกใช้
พวกเราตามอาเภอใจ ศิษย์พี่ยอมได้หรื อ แท้จริ งแล้วนายท่านมี
เจตนาอย่างไรกันแน่” หลวงจีนเต้ากวงกล่าวกับศิษย์พี่
หลายปี มานี้เขาชินกับฐานะพระอาจารย์ที่ได้รับการเคารพจากคน
แล้ว หากไม่ใช่วา่ คนเหล่านั้นบนเขาด้านหลังมักจะมาเตือนสติอยู่
บ่อยครั้ง เขาก็คงลืมนายท่านอะไรนัน่ คาสัง่ ลับอะไรนัน่ แผนการ
ยิง่ ใหญ่อะไรนัน่ ไปนานแล้ว เขาไม่โง่ ใต้หล้านี้สงบสุ ขนานแล้ว
จักรพรรดิยงเซวียนก็ครองบัลลังก์มนั่ คงนานแล้ว อาศัยคนสามพัน
ห้าพันคนนั้นบนเขาด้านหลังก็คิดจะโค่นล้มดินแดนต้ายงได้หรื อ
อย่าได้ฝันกลางวันเลย แม้วา่ ในมือนายท่านจะยังมีกาลังพล แต่ก็
เป็ นไปไม่ได้อยูด่ ี ก่อกบฏไหนเลยจะเป็ นเรื่ องที่ง่ายเพียงนั้น
“ศิษย์นอ้ งเจ้า! เจ้าคงจะไม่เป็ นคนตระบัดสัตย์คืนคาหลงลืมบุญคุณ
เช่นนั้นใช่หรื อไม่” ดวงตาของหลวงจีนเต้าเสวียนเบิกกว้างในชัว่
พริ บตา เห็นศิษย์นอ้ งมองเขาอย่างสงบนิ่งไร้กงั วล ก็หลับตาด้วย
ความห่อเ**่่ยวอย่างอดไม่ได้ ครู่ ใหญ่จึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง “ศิษย์
น้อง ข้ารู ้วา่ เจ้าไม่อยากรับแรงแค้นของคนกลุ่มนั้นที่เขาด้านหลัง แต่
พวกเราก็ทาเพื่อนายท่านทั้งนั้นมิใช่หรื อ เจ้าจะสนใจคาพูดของพวก
เขาทาไม พวกเราทาเรื่ องภายในของตัวเองให้ดีกพ็ อแล้ว นี่กย็ สี่ ิ บปี
แล้ว นายท่าน นายท่านน่าจะปรากฏตัวเร็ วๆ นี้แล้ว…” ยิง่ พูดเขาก็ยงิ่
ไม่มนั่ ใจ แม้แต่ตวั เองเขาก็เกลี้ยกล่อมไม่ได้ แล้วจะเกลี้ยกล่อมศิษย์
น้องได้อย่างไร ส่ วนลึกภายในใจเขาก็กาลังคาดเดาว่านายท่านเดิน
ทางไกล เจอเหตุไม่คาดคิดอะไรหรื อไม่ อย่างไรเสี ยอายุของนาย
ท่านก็ไม่ใช่นอ้ ยๆ แล้ว!
“อย่างไรเสี ย อย่างไรเสี ยข้าก็ไม่ทรยศนายท่าน” ท้ายที่สุดหลวงจีน
เต้าเสวียนก็ทิ้งท้ายไว้เช่นนี้ หลวงจีนเต้ากวงถอนหายใจในใจ สวดอ
มิตาพุทธในใจ จากนั้นจึงหลุบตาเล็กน้อยนัง่ สมาธิต่อ
ช่างเถอะ ฟังคาบัญชาจากสวรรค์เอาแล้วกัน!
ไพ่ลบั ที่ใหญ่ที่สุดในมือสวีโย่วไม่ใช่ทหารเงา แต่เป็ นทหารคุม้ มังกร
ในมือของเขากุมทหารคุม้ มังกรห้าร้อยนายหนึ่งกลุ่ม ความลับนี้
แม้แต่จกั รพรรดิยงเซวียนก็ยงั ไม่ทราบ
เห็นชื่อก็พอจะรู ้ความหมาย ทหารคุม้ มังกรเป็ นทหารลับที่คุม้ กัน
จักรพรรดิ เป็ นทหารที่จกั รพรรดิผสู ้ ถานปนาแคว้นต้ายงสร้างขึ้นเอง
กับมือ เพียงแต่หลังจากจักรพรรดิองค์ก่อน จักรพรรดิยงเซวียนก็ไม่
รู ้วา่ ทหารคุม้ มังกรกลุ่มนี้ตกอยูใ่ นมือใคร เขาสื บเสาะค้นหาอยูห่ ลาย
ปี ก็ไม่ได้อะไรเลย ทหารคุม้ มังกรกลุ่มนี้ราวกับสาบสู ญไป ไม่ทิ้ง
เบาะแสไว้แม้แต่นิดเดียว เขาจึงเดาว่าก่อนพ่อเขาจากไปได้กระจัด
กระจายทหารคุม้ มังกรกลุ่มนี้หรื อไม่ มิเช่นนั้นไม่วา่ อย่างไรก็ควรส่ ง
ต่อให้เขา เขาหารู ้ไม่วา่ ทหารคุม้ มังกรถูกพ่อเขามอบเป็ นของขวัญ
ให้สวีโย่วหลานชายคนนี้อยูน่ านแล้ว
ทหารเงาเก่งกาจอย่างยิง่ แล้ว ทหารคุม้ มังกรก็ยงิ่ เป็ นราชันในกลุ่ม
ทหารลับ ครั้งนี้สวีโย่วเคลื่อนพลทหารคุม้ มังกรออกมาทั้งหมด แฝง
ตัวเข้ามาในวัดจยาหลานเงียบๆ กลางดึก รี บรบรี บจบ เขาไม่อยากให้
ยืดเยื้ออีกต่อไปแล้ว ออกมาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว หากเขายังไม่กลับไป
อีก คาดว่าน้องสี่ แซ่เสิ่ นคงจะลืมหน้าตาเขาไปแล้ว ไม่ได้ เขาต้องรี บ
กลับไปแต่งงานกับน้องสี่ แซ่เสิ่ น
ทหารคุม้ มังกรออกมา ใต้หล้าใครจะสู ้ชนะ! ครึ่ งชัว่ ยาม เพียงแค่ครึ่ ง
ชัว่ ยาม ทหารคุม้ มังกรก็ควบคุมวัดจยาหลานทั้งหลังไว้ได้ และอีก
ครึ่ งชัว่ ยาม อุโมงค์ใต้ดินล่างวัดจยาหลานก็ถูกทาลายจนหมด
นักบวชวัดจยาหลาน นอกจากคนที่ฆ่าตายอย่างไม่ได้ต้ งั ใจแล้ว
ทั้งหมดก็ถูกมัดมือมัดเท้าโยนเข้ามาในวิหารใหญ่ อ้อ เต้ากวงเต้า
เสวียนและผูท้ ี่อาวุโสอีกสิ บกว่าคนไม่ได้ถูกมัดมือเท้า เพียงแต่พวก
เขาคล้ายถูกพิษสลายกล้ามเนื้อ มือเท้าอ่อนแรง สามารถฝื นลุกขึ้นยืน
ได้ แต่กลับใช้ยทุ ธ์ไม่ได้ ส่ วนเจ้าอาวาสที่ถูกใช้เป็ นสิ่ งนาโชคสร้าง
ขึ้นมาคุม้ กัน เพราะว่าถูกใช้ยาควบคุมมาเป็ นระยะเวลานาน ร่ างกาย
อ่อนแอลงจากเตียงไม่ได้อยูน่ านแล้ว ย่อมไม่อาจปรากฏตัวอยูใ่ น
วิหารใหญ่ได้
หลวงจีนเต้ากวงมองสวีโย่วที่เดินเข้ามาช้าๆ ในใจรู ้สึกสับสนมาก
เป็ นพิเศษ ส่ วนหลวงจีนเต้าเสวียนก็อยากจะโผเข้าไปฉีกเขาออกเป็ น
ชิ้นๆ ด้วยความโกรธแค้น แม้หมิงเจวีย๋ และคนอื่นๆ จะไม่เปิ ดปาก
ก่นด่า แต่กลับใช้สายตาที่เคียดแค้นมองเขาอยู่
“พระอาจารย์เต้าเสวียน เต้ากวง ผูน้ อ้ ยเสี ยมารยาทแล้ว” สวีโย่วยืน
นิ่งอยูต่ รงกลางวิหารใหญ่ เจียงเฮยเจียงไป๋ ยืนขนาบข้างหลังเขา ฝี เท้า
เขาแข็งแรง เรื อนร่ างสู งตระหง่านดัง่ ต้นสน ไหนเลยจะยังมีท่าทาง
อ่อนแอเดินหนึ่งก้าวหอบสามครั้งอย่างเช่นก่อนหน้านี้อยูอ่ ีก ภายใต้
แสงสะท้อนของคบไฟ ดวงหน้าที่งามดัง่ หยกของเขาก็ยงิ่ ชัดเจน
ดวงตาที่ดาเงาราวกับบ่อน้ าที่สงบนิ่งไร้คลื่นนั้น นี่ไหนเลยจะเป็ น
คนขี้โรค เห็นชัดๆ ว่าเป็ นคุณชายสู งส่ งที่มีรูปร่ างหน้าตางดงามผู ้
หนึ่ง
“เป็ นเจ้าดังคาด! ข้าบอกแล้วว่าคนชัว่ ผูน้ ้ ีซ่อนแผนการร้ายเอาไว้
ศิษย์นอ้ งก็ยงั ไม่เชื่อ ไอเด็กชัว่ คนนั้น รี บบอกชื่อมา ในเมื่อตกอยูใ่ น
มือเจ้าแล้ว ก็ให้ขา้ ได้ตายไปเป็ นผีที่ไร้ขอ้ แคลงใจ” หลวงจีนเต้า
เสวียนมองสวีโย่วอย่างเคืองแค้น กัดฟันกรอดร้องตะโกน
สวีโย่วเลิกคิ้วเล็กน้อย กล่าวหนึ่งประโยค “ผูน้ อ้ ยแซ่สวี”
“เจ้าเป็ นคนของราชสานัก” หลวงจีนเต้ากวงใจเต้น เขากลับไม่ได้
โมโหอย่างหลวงจีนเต้าเสวียน กลับกัน ส่ วนลึกภายในใจเขากลับมี
ความรู ้สึกหลุดพ้นบางอย่าง คล้ายหลายปี มานี้เขาเฝ้ารอผลลัพธ์น้ ีมา
โดยตลอด “อาตมาอยากรู ้วา่ อาการป่ วยของโยมปลอมแปลงได้
อย่างไร” เรื่ องที่เขาสนใจยิง่ กว่าคือเรื่ องนี้ ก่อนที่เขาจะเข้ามาในวัดจ
ยาหลานก็เป็ นหมอ ยีส่ ิ บปี นี้กต็ ้ งั ใจศึกษาตาราแพทย์ ถ้าถามตัวเอง
แล้วก็ไม่ดอ้ ยไปกว่าหมอหลวงในวัง แต่เขากลับมองไม่ออกแม้แต่
นิดเดียวว่าอาการป่ วยของสวีโย่วเป็ นการเสแสร้ง นี่ทาให้เขาไม่
เข้าใจยิง่ นัก
มุมปากสวีโย่วยกขึ้น ไม่ปิดบังเขา “พระอาจารย์ตรวจไม่ผดิ ร่ างกาย
ผูน้ อ้ ยเดิมก็มีโรคอยูแ่ ล้ว เพียงแต่ไม่ได้หนักเพียงนั้นก็เท่านั้นเอง
ข้างกายผูน้ อ้ ยก็มีหมอชื่อดัง”
“ที่แท้แล้วก็เป็ นเช่นนี้ อมิตาพุทธ ขอบคุณโยมยิง่ นักที่ไขข้อสงสัย
ให้อาตมา” หลวงจีนเต้ากวงคลายความสงสัยในใจแล้วก็ไม่เอ่ยปาก
อีก
ทว่าสวีโย่วกลับมองเขาแล้วกล่าว “ในเมื่อพระอาจารย์เต้ากวงเดาได้
ว่าผูน้ อ้ ยเป็ นคนในราชสานัก เช่นนั้นก็ยอ่ มรู ้เช่นกันว่าผูน้ อ้ ยมา
ทาไม ถูกต้อง ผูน้ อ้ ยมาเพราะกาลังพลกลุ่มนั้นที่เขาด้านหลัง พระ
อาจารย์เป็ นนักพรต มีจิตเมตตากรุ ณา คงไม่อยากเห็นประชาชนตก
ทุกข์ได้ยากหรอกกระมัง” สวีโย่วกล่าวโน้มน้าว
“ถุย เจ้าพูดจาไพเราะน่าเลื่อมใสให้นอ้ ยหน่อย จะฆ่าจะฟันก็รีบทา
เยิน่ เย้อทาไม” ดวงตาทั้งคู่ของหลวงจีนเต้าเสวียนมีไฟโกรธ หาก
ไม่ใช่ศิษย์นอ้ งดึงเขาไว้ เขาก็คงจะโผเข้าไปนานแล้ว “ศิษย์นอ้ งอย่า
ถูกคาพูดไพเราะของเขาหลอก ในราชสานักจะมีคนดีได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้เขายังหลอกเราเลย เจ้าอย่าได้ฟังเขา เหอะ เก่งนักก็
หาทางไปจับเขาที่เขาด้านหลังเองสิ ”
ประโยคสุ ดท้ายพูดกับสวีโย่ว บนใบหน้าเขามีความพอใจ ป่ าเขา
กว้างเพียงนั้น นอกจากกองทัพแสนนายจะค้นเขาแล้ว ก็อย่าได้คิดจะ
จับกาลังพลกลุ่มนั้นที่เขาด้านหลังได้ง่ายๆ
สวีโย่วไม่สนใจเขา โน้มน้าวพระอาจารย์เต้ากวงต่อ “พระอาจารย์
เป็ นคนฉลาด ย่อมเข้าใจว่ากาลังพลที่เขาด้านหลังผูน้ อ้ ยจาเป็ นต้อง
จับมาให้ได้ มีความช่วยเหลือจากพระอาจารย์หรื อไม่ ไม่ได้ส่งผล
กระทบต่อสถานการณ์โดยรวมนัก เพียงแค่เสี ยเวลาก็เท่านั้นเอง
ดังนั้นผูน้ อ้ ยจะให้โอกาสพระอาจารย์ เพียงเพราะระลึกถึงจิตใจ
เมตตาของพระอาจารย์ก่อนหน้านี้กเ็ ท่านั้น ผูน้ อ้ ยสามารถให้คามัน่
สัญญาได้วา่ ขอเพียงแค่พระอาจารย์ยอมช่วยผูน้ อ้ ยอีกแรง เช่นนั้น
ผูน้ อ้ ยก็จะไม่แตะต้องนักบวชในวัดจยาหลาน พระอาจารย์ยงั คงเป็ น
พระอาจารย์เต้ากวงที่มีคุณธรรมสู งส่ งอยู”่
นักบวชในวัดจยาหลานส่ วนใหญ่ต่างก็ไม่รู้เรื่ องราว แม้ทุกวันจะฝึ ก
ยุทธ์ แต่ก็เป็ นนักบวชธรรมดาทัว่ ไปจริ งๆ สวีโย่วเองก็ไม่คิดจะฆ่า
พวกเขาทั้งหมด
ปฏิเสธไม่ได้วา่ ข้อเสนอนี้ของสวีโย่วทาให้หลวงจีนเต้ากวงสนใจ
อย่างมาก เขารู ้ดีวา่ ที่สวีโย่วพูดคือความจริ ง กาลังพลสามพันห้าพัน
นายเผชิญหน้ากับกองทัพใหญ่ราชสานักก็เป็ นไม้ซีกที่งดั ไม้ซุงอย่าง
ไม่ตอ้ งสงสัย ถูกเก็บกวาดจนเรี ยบได้ทุกเมื่อ เพียงแค่จะช้าจะเร็ วก็
เท่านั้นเอง เขาเองก็เบื่อหน่ายแล้วจริ งๆ คิดจะหลบอยูใ่ นดินแดน
ห่างไกลแห่งนี้ใช้ชีวิตสงบสุ ขสักหน่อย ชนรุ่ นหลังวัยหนุ่มผูน้ ้ ีกลับ
เป็ นคนที่มีสายตาเฉียบแหลมมองทะลุจิตใจคน! เพียงแค่น้ ีเขาก็ไม่
กอดความหวังใดๆ กับแผนการการยิง่ ใหญ่ที่วา่ ของนายท่านอีกแล้ว
ไม่เพียงแต่หลวงจีนเต้ากวงที่สนใจ ผูอ้ าวุโสรุ่ นหมิงก็มีหลายคนที่
สนใจเช่นกัน พวกเขาต่างก็เป็ นศิษย์ที่เต้ากวงและเต้าเสวียนเลี้ยงดู
ไม่เคยเห็นนายท่านอะไรนัน่ อย่างสิ้ นเชิง ย่อมไม่ตอ้ งพูดถึงความ
จงรักภักดี อีกทั้งวัดจยาหลานก็เจริ ญ ชีวิตของพวกเขาผ่านไปอย่าง
ชื่นมื่น มีชีวิตที่ดีแล้วใครจะยอมทางานที่อนั ตรายนัน่ เล่า ยิง่ ไปกว่า
นั้นไม่มีคนกลุ่มนั้นบนเขาด้านหลัง พวกเขาก็ยงิ่ เป็ นอิสระได้มาก
กว่าเดิม
ดังนั้นนอกจากเต้าเสวียนที่เคียดแค้นจนตาแดงก่า ด่าทอไม่จบไม่สิ้น
นักบวชคนอื่นๆ ในวิหารใหญ่ต่างก็นิ่งเงียบไม่พดู จา ในใจสวีโย่วก็
เข้าใจดี
“โยมสวีพดู จริ งหรื อ” หลวงจีนเต้ากวงถอนหายใจถามด้วยท่าที
จริ งจัง
“แน่นอน” สวีโย่วตอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช้วิธีนองเลือดได้เขา
ก็พยายามจะไม่ใช้ ก่อนหน้านี้กลับไม่รู้สึก ตอนนี้มีนอ้ งสี่ แซ่เสิ่ นเด็ก
คนนั้นแล้ว หัวใจของเขาก็อ่อนลงอย่างไม่มีเหตุผล
“อาตมายังมีคาขอที่ไม่เหมาะสมนัก” หลวงจีนเต้ากวงพูดพลางมอง
ศิษย์พี่ที่ถูกยัดเศษผ้าไว้ในปาก “หลังเรื่ องสาเร็ จ หวังว่าโยมสวีจะไว้
ชีวิตศิษย์พี่ของอาตมา”
สวีโย่วมองหลวงจีนเต้าเสวียนที่ถูกจับตัวอยูข่ า้ งๆ ปราดหนึ่ง เห็น
เพียงเขาพยายามดิ้นรน สายตาปรากฏความอาฆาต ในปากส่ งเสี ยง
ร้องอูอ้ ้ ีออกมา
“ได้ ขอเพียงแค่พระอาจารย์สามารถดูพระอาจารย์เต้าเสวียนให้ดีได้
ผูน้ อ้ ยไม่ใช่คนที่ชอบฆ่าใคร” สวีโย่วตอบด้วยความสบายใจอย่างถึง
ที่สุด ขอเพียงแค่ทาลายกาลังพลกลุ่มนั้นบนเขาด้านหลังให้หมด
หลวงจีนเต้าเสวียนเพียงคนเดียวกลับสร้างหายนะอะไรไม่ได้ อีกทั้ง
วัดจยาหลานเขายังมีแผนการอื่นอยู่
“อมิตาพุทธ ขอบคุณโยมสวียงิ่ นัก” หลวงจีนเต้ากวงประสานมือ
คานับให้สวีโย่ว ไม่เอ่ยปากอีกแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 211-2 สนามรบของสวีโย่ ว
มีคนเข้ามารายงานสถานการณ์ “คุณชาย อีกประเดี๋ยวกองทัพใหญ่ก็
จะมาถึงแล้ว เป็ นผูบ้ ญั ชาการใหญ่สวีเวย”
สวีโย่วพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวหนึ่งประโยค “ถอยทัพ” จากนั้นจึง
เห็นทหารคุม้ มังกรที่ลึกๆ ลับๆ ห้าร้อยนายจมหายไปท่ามกลางแสง
ในยามราตรี ที่ดามืดทันที ราวกับปรากฏตัวฉับพลัน จากนั้นก็หายไป
ไร้เงาฉับพลัน คนที่มาแทนที่พวกเขาก็คือทหารเงา
ขอเพียงแค่สวีโย่วขยับ ทหารเงาทั้งหมดก็ขยับตาม แสงไฟในวัดจยา
หลานพวยพุง่ ขึ้นฟ้า เสี ยงตะโกนฆ่าดึงกึกก้องทัว่ สารทิศ
“พระอาจารย์ทุกท่านตามผูน้ อ้ ยไปชมนอกวิหารเถิด” สวีโย่วเดิน
นาออกไปนอกวิหาร ทุกคนมองไปยังหลวงจีนเต้ากวงอย่างพร้อม
เพียง บนใบหน้าหลวงจีนเต้ากวงนิ่งเรี ยบ “ไปเถอะ ไปดูสกั หน่อย”
คนอื่นเป็ นมีดตนเป็ นเนื้อบนเขียง จะไม่ปฏิบตั ิตามคาสัง่ ได้หรื อ
ทุกคนพากันพยุงเดินออกไปข้างนอก รู ้สึกได้วา่ อยูห่ ่างจากสวีโย่ว
ห้าก้าวก็หยุดฝี เท้าลง พวกเขามองเห็นทัว่ ทั้งบริ เวณลานวัดที่ตน
คุน้ เคยไฟไหม้โหม ทหารเงาแต่ละกลุ่มกุมมีดกุมกระบี่สู้รบกันอยู่
เสี ยงตะโกน เสี ยงเข่นฆ่า ดังทัว่ พื้นที่ แม้ในใจพวกเขาจะรู ้วา่ นี่คือ
การแสดง แต่กย็ งั คงรู ้สึกเสี ยวสันหลังอย่างอดไม่ได้ เหงื่อซึมออกมา
จากเสื้ อ
อดส่ งสายตาไปมองคุณชายวัยหนุ่มผูน้ ้ นั ที่ยนื อยูต่ รงหน้าไม่ได้ มือ
ทั้งคู่ของเขาไพล่อยูข่ า้ งหลัง หลังยืดตรง ราวกับทวนเล่มยาว
ท่ามกลางราตรี อนั มืดมิด แสดงฝี มือออกมา เขาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย
ราวกับไม่สนใจสนามรบตรงหน้าอย่างสิ้ นเชิง เขายืนสบายใจ
เช่นนั้น เรื อนร่ างสู งตระหง่าน ทาให้คนอดเกิดความสวามิศกั ดิ์ในใจ
ไม่ได้
ผ่านไปหนึ่งเค่อ สวีโย่วยกมือ ก็เห็นหลวงจีนที่สวมจีวรแบบเดียวกับ
วัดจยาหลานแวบออกมา “คุณชาย” พวกเขาก้มศีรษะลงเล็กน้อยยืน
อยูต่ รงหน้าสวีโย่วรอฟังคาสัง่
สวีโย่วหันหลังกลับ มองหลวงจีนเต้ากวง “พระอาจารย์ ท่านควรจะ
ไปขอความช่วยเหลือที่เขาด้านหลังได้แล้ว เส้นทางภูเขาขรุ ขระเดิน
ลาบาก ผูน้ อ้ ยหาผูช้ ่วยสองคนมาให้ท่าน” บอกเป็ นนัยเล็กน้อย
หลวงจีนสองคนนั้นก็ยนื ขนาบข้างหลวงจีนเต้ากวง
นี่หมายความว่าไม่ไว้ใจตน หลวงจีนเต้ากวงมองผูช้ ่วยที่เตรี ยมให้
ตนปราดหนึ่ง ผืนหัวเราะในใจ ไม่มีทางหันหลังกลับนานแล้ว แม้วา่
ข้างหน้าจะเป็ นหน้าผาก็ทาได้เพียงกระโดดลงไป
แสงเพลิงและการเคลื่อนไหวในวัดจยาหลานย่อมดังไปถึงเขา
ด้านหลังแล้ว “หัวหน้า แย่แล้ว ทหารล้อมเขาไว้แล้ว พวกเรารี บไป
กันเถอะ”
หัวหน้ายืนอยูบ่ นหินก้อนใหญ่หนึ่งก้อน หรี่ ตามองแสงเพลิงในวัดจ
ยาหลาน บนใบหน้ามีความเคร่ งขรึ ม “ไปไหนเล่า หากไม่มีวดั จยา
หลานแล้ว พวกเราพี่นอ้ งหลายพันคนนี้ยงั จะมีชีวิตอยูต่ ่อไปได้หรื อ”
ไม่มีการเลี้ยงดูของวัดจยาหลาน ข้าวของเครื่ องใช้ของพวกเขาจะไป
หามาจากไหน “ไม่ได้ พวกเราต้องปกป้องวัดจยาหลาน”
“หัวหน้า ท่านต้องคิดให้ดีๆ! พวกเรารู ้อยูแ่ ล้วว่านี่เป็ นการพุง่ เป้ามา
ที่พวกเรา ท่านไม่อาจตกหลุมพรางพวกเขาได้! สุ ภาษิตว่าไว้ ตราบ
ใดที่ยงั มีชีวิตย่อมต้องมีความหวัง ไม่มีวดั จยาหลานแล้ว ไม่ใช่วา่ ยัง
มี…” ภายใต้สายตาที่เย็นเยียบของหัวหน้าคนผูน้ ้ นั ก็ไม่กล้าพูดต่อ
แล้ว
หัวหน้าสี หน้าเรี ยบเฉย ทาให้คนทายไม่ถูกว่าเขากาลังคิดอะไรอยู่
ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาหลายคนต่างก็กระวนกระวายใจ เงียบเป็ นเป่ าสาก
เสี ยงตะโกนฆ่าในวัดจยาหลานก็ยงิ่ ชัดเจนขึ้นเรื่ อยๆ โจมตีหวั ใจคน
ทุกคน
“ข้าจะพาคนครึ่ งหนึ่งไปหนุนวัดจยาหลาน พวกเจ้าอยูท่ ี่เขาด้านหลัง
คอยหาโอกาสลงมือ” มือของหัวหน้าโบกบัญชาหนักๆ ตัดสิ นใจ
ด้วยความรวดเร็ ว
“หัวหน้า ให้พวกข้าไปหนุนวัดจยาหลานดีกว่า และไม่จาเป็ นต้องใช้
กาลังพลครึ่ งหนึ่ง ห้าร้อยก็พอแล้ว ฟังจากเสี ยงจานวนทหารน่าจะมี
ไม่เยอะ” หัวหน้าเล็กผูห้ นึ่งกล่าว
หัวหน้าโบกมือ “ทาตามคาสัง่ ”
หัวหน้าพาคนครึ่ งหนึ่งวิ่งไปยังวัดจยาหลานด้วยความเร่ งรี บ
ระหว่างทางก็เจอหลวงจีนเต้ากวงที่มาของความช่วยเหลือที่เขา
ด้านหลัง
หลวงจีนเต้ากวงและคนทั้งสองสภาพจนตรอก บนจีวรเปรอะเปื้ อน
รอยเลือด ราวกับวิง่ ฆ่าออกมาจากกองทัพใหญ่ เมื่อเห็นหัวหน้า
ดวงตาก็ลุกวาว ตะโกนกล่าวด้วยความตื่นเต้นดีใจ “เร็ ว รี บไปช่วย
คน ทหารเยอะยิง่ นัก มีถึงสองสามพันคน ในวัดแทบจะประคองไม่
อยูแ่ ล้ว” เขาหายใจหอบกล่าว
แววตาของหัวหน้านิ่งงัน สองสามพันหรื อ กาลังพลครึ่ งหนึ่งนี้ของ
ตน บวกกับนักบวชหลายร้อยในวัด ก็ทาได้เพียงสู ้รบไล่เลี่ยกัน แต่
ฝ่ ายตนมีขอ้ ดี นัน่ ก็คือคุน้ เคยภูมิประเทศ อืม อัตราชนะยังคงสู งอย่าง
ยิง่
“รี บไป ยังรออะไรอีก” หัวหน้าพาคนวิ่งไปยังวัดจยาหลานด้วยความ
รวดเร็ ว
หลวงจีนเต้ากวงถอนหายใจอย่างโล่งอก กาลังจะเดินตามกลับไป
ถูกผูช้ ่วยหนึ่งขวางไว้ จับแขนหลวงจีนเต้ากวงกับผูช้ ่วยสองหลบเข้า
ไปในป่ า
หัวหน้ากาลังรี บไปช่วยคน ไม่ทนั ได้สงั เกตว่าหลวงจีนเต้ากวง
ตามมาหรื อไม่ ยังคิดว่าเขาอยูข่ า้ งหลังกองทัพอยูเ่ ลย
กว่าหัวหน้าจะตระหนักถึงความผิดปกติได้ เขาก็ถูกสวีโย่วตัดทาง
หนีทีไล่หนั กลับไม่ได้แล้ว เขาเห็นคุณชายสู งส่ งที่สง่าผ่าเผยผูน้ ้ นั ยืน
อยูน่ อกวิหารใหญ่ จากนั้นจึงเห็นนักบวชที่ยนื อยูข่ า้ งหลังเขา
ท้ายที่สุดก็ส่งสายตาไปยังชายฉกรรจ์ชุดดาที่ตะโกนฆ่าสู ้รบกันอยู่
ยังมีอะไรไม่เข้าใจอีก
“ท่านเป็ นใคร” ดวงตาหัวหน้ามีความรู ้สึกอาฆาตแค้นแวบผ่าน
สวีโย่ววางท่าทีสบายๆ “ข้าเป็ นใครสาคัญด้วยหรื อ ในเมื่อมาแล้ว
เช่นนั้นก็อยูท่ ี่นี่ให้หมดเถอะ”
“เหอะ ท่าทางการพูดของท่านโอ้อวดยิง่ นัก ไม่รู้เหมือนกันว่าฝี มือ
จะเป็ นอย่างไร คิดจะฆ่าพวกข้าหรื อ เช่นนั้นก็ลองดูเถอะ” หัวหน้า
กล่าวอย่างเย็นเยียบ “ฆ่า!” เขาชักมีดคู่ออกมาจากนั้นก็วิ่งไปยังทหาร
เงาที่อยูใ่ กล้เขาที่สุด
สวีโย่วเองก็ขยับแล้ว เขาไม่ได้ใช้กระบี่ แต่จบั ทวนยาวที่เจียงเฮยส่ ง
มาให้เขา ตกลงสู่ มืออย่างหนักหน่วง “ทวนดี!” เขาเอ่ยชมหนึ่ง
ประโยค วันนี้เขาอยากลองราชันอาวุธที่ถูกน้องสี่ แซ่เสิ นเทิดทูนมาก
เป็ นพิเศษดูบา้ ง
เขากระโดดออกไปราวกับนกใหญ่สยายปี ก ทวนยาวในมือแทงติดๆ
กัน ประหนึ่งมังกรคะนองน้ าที่โผล่ออกมาจากน้ าลึก บีบรัดพลังที่มิ
อาจหลบหลีกหนึ่งกลุ่ม เขาลอยขึ้น หมุนตัวกลางอากาศ โบกม่าน
แสงแวววับหนึ่งผืน ดุจดวงดาราระยิบระยับที่ตกลงท่ามกลางนภา
ในยามราตรี ม่านแสงหายไป สวีโย่วยืนอย่างมัน่ คง รอบด้านเขามี
คนหนึ่งวงล้มลง
เขากุมทวนยืนตรง ปลายทวนชี้ออกข้างหน้า สายตากวาดไปทัว่ ทุก
แห่ง ทหารกบฏบนเขาด้านหลังถอยทัพพร้อมกัน “ทวนดี!” สวีโย่วก
ล่าวชมอีกครั้ง ในสนามรบแห่งนี้ ยังคงเป็ นทวนยาวที่ใช้ได้คล่อง
มือ! มิน่าเล่าน้องสี่ แซ่เสิ่ นถึงได้ชอบใช้ดาบหมื่นโลหิ ตเพียงนั้น สวี
โย่วแหงนหน้าผิวปากยาว ในใจฮึกเหิ มอย่างยิง่ กระโดดเข้าวงรบอีก
ครั้ง
แทบจะหนึ่งทวนหนึ่งคน สวีโย่วฆ่าอย่างมีความสุ ข ส่ วนนักบวชที่
ยืนมองดูอยูน่ อกวิหารใหญ่กแ็ ทบจะอกสัน่ ขวัญแขวน น…นี่คือ
คุณชายอ่อนแอที่ทุกวันถูกคนพยุงแม้แต่ถนนก็เดินไม่ได้ผนู ้ ้ นั หรื อ
เห็นชัดๆ ว่าเป็ นเทพสังหาร! บางคนที่ข้ ีขลาด ก็ขาอ่อนสัน่ ระริ กนัง่
ลงไปบนพื้นอยูน่ านแล้ว แม้วา่ จะเป็ นคนที่กล้าหาญ ทัว่ ทั้งร่ างก็เย็น
ชืด รู ้สึกว่ามือเท้าต่างก็คล้ายกับชาไปหมดแล้ว
สวีโย่วกับหัวหน้าสู ้รบด้วยกัน หัวหน้าเป็ นชายอายุประมาณสามสิ บ
ร่ างสู งแปดฉื่อ รู ปร่ างกายา สวีโย่วอยูต่ ่อหน้าเขาก็เหมือนกับไก่อ่อน
ตอนแรก หัวหน้าไม่เห็นสวีโย่วอยูใ่ นสายตาเลยด้วยซ้ า แต่ยงิ่ รบ
หัวใจเขาก็ยงิ่ เย็น เสื้ อของตนถูกฝ่ ายตรงข้ามแทงจนเป็ นรู นบั ไม่ถว้ น
แล้ว ส่ วนตนเองกลับแตะไม่ได้แม้แต่ชายเสื้ อของฝ่ ายตรงข้าม
นอกประตูวดั มีเสี ยงตะโกนฆ่าดังขึ้น สวีโย่วก็รู้วา่ กองทัพใหญ่ของ
ราชสานักมาแล้ว การเคลื่อนไหวในมือก็เร็ วยิง่ ขึ้น ส่ วนหัวหน้าก็ตื่น
ตระหนกยิง่ ขึ้น
สวีเวยคือผูบ้ ญั ชาการใหญ่ของกองทัพรักษาพระองค์ และเป็ นคน
สนิทที่จกั รพรรดิยงเซวียนไว้ใจที่สุด ตอนนี้เขาถือพระราชโองการ
ลับนากองทัพรักษาพระองค์หา้ พันนายมาสมทบกับคุณชายใหญ่ เขา
วิง่ เข้ามาในวัดจยาหลาน เห็นคุณชายใหญ่ผนู ้ ้ นั แทงคนที่แต่งตัวเป็ น
หัวหน้าติดอยูก่ บั พื้น มุมปากก็กระตุกอย่างอดไม่ได้ คนนอกต่างก็
กล่าวว่าคุณชายใหญ่เป็ นคนขี้โรค แต่จะมีใครรู ้บา้ งว่าเขากล้า
หาญเ**่้ยมโหดเพียงนี้
สวีโย่วเองก็มองเห็นสวีเวยแล้ว พยักหน้าบอกเป็ นนัยให้เขาเล็กน้อย
ปากก็ส่งเสี ยงผิวปากที่แหลมเปรี ยวเสี ยงหนึ่งออกมา ทหารเงาที่
กาลังสู ้รบก็มารวมตัวข้างกายสวีโย่วทันที เมื่อรวมตัวได้เกือบครบ
แล้ว เขาก็พาคนไปยังเขาด้านหลัง ส่ งสนามรบในวัดจยาหลานให้ส
วีเวยรับมือต่อ
หลวงจีนเต้ากวงที่ถูกทหารเงาคุมตัวไปจับต้นชนปลายไม่ถูก
เล็กน้อย เดิมเขาคิดว่าสวีโย่วกลับคาคิดจะเอาชีวิตเขา แต่ทหารเงา
สองคนนี้เพียงแค่คุมตัวเขาไปข้างๆ ไม่ได้ทาให้เขาลาบาก แต่กไ็ ม่
พูดอะไรกับเขาเช่นกัน
“โยมทั้งสอง หากไม่มีอะไรก็โปรดพาอาตมาออกไป ก่อนหน้านี้
โยมสวีรับปากไว้แล้ว” หลวงจีนเต้ากวงพูดอีกครั้ง
คราวนี้ทหารเงาตอบกลับแล้ว “ไม่รีบ เขาด้านหลังยังมีกาลังพลอีก
ครึ่ งมิใช่หรื อ ไปเถอะ หน้าที่ของพระอาจารย์ยงั ไม่เสร็ จเลย”
สบสายตาที่คล้ายยิม้ คล้ายไม่ยมิ้ ของทหารเงา หัวใจของหลวงจีน
เต้ากวงก็พลันเต้น คาดไม่ถึงว่าพวกเขารู ้แม้แต่เรื่ องที่เมื่อครู่ มีกาลัง
พลไปเพียงครึ่ งหนึ่ง คิดว่าตนโชคดี คิดว่าอย่างไรเสี ยก็ปกป้องกาลัง
พลครึ่ งหนึ่งให้นายท่านได้
ช่างเถอะๆ มาถึงขั้นนี้แล้ว ไหนเลยจะยังต้องห่วงนายท่านอะไรอีก
ปกป้องชีวิตตัวเองเถอะ
หลวงจีนเต้ากวงไปขอความช่วยเหลือที่เขาด้านหลังต่อ เดิมยังกังวล
ว่าโน้มน้าวพวกเขายังต้องเปลืองน้ าลายมากกว่านี้ ไม่นึกว่าเมื่อพวก
เขาได้ยนิ ว่าสถานการณ์ในวัดจยาหลานไม่ดี ก็นากาลังพลครึ่ งหนึ่งที่
เหลือไปทันที
ไม่ไปได้หรื อ หัวหน้ายังอยูใ่ นวัดจยาหลาน ไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งช่วย
หัวหน้ากลับมา ไม่มีหวั หน้าพวกเขาก็จะถูกตัดความสัมพันธ์กบั
เบื้องบน
ยังไปไม่ถึงวัดจยาหลาน ก็ถูกสวีโย่วนาคนมาซุ่มโจมตีระหว่างทาง
เห็นทหารกบฏบนเขาด้านหลังที่ถูกธนูยงิ ล้มอย่างต่อเนื่อง มุมปาก
ของสวีโย่วก็เผยรอยยิม้ กระหายเลือดออกมา
มีทหารเงาสมทบกับกองทัพรักษาพระองค์ ทหารกบฏบนเขา
ด้านหลังก็หนีไปไม่ได้แม้แต่คนเดียว ถึงรุ่ งสางสนามรบก็ถูกเก็บ
วาดจนเรี ยบร้อย ทัว่ ทุกหนทุกแห่งในวัดจยาหลานต่างก็เผาไม้จนั ทร์
จึงกลบกลิ่นคาวเลือดได้
เรื่ องหลังจากนี้สวีโย่วไม่คิดจะยุง่ แม้แต่นิดเดียว ทั้งหมดโยนให้ส
วีเวยผูบ้ ญั ชาการใหญ่ ตอนนี้ใจเขาอยากกลับบ้านเต็มทน ทั้งสมอง
คิดแต่เพียงจะแต่งน้องสี่ แซ่เสิ่ นเด็กคนนั้นกลับบ้าน
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 212-1 วันสมรสกาหนดแล้ว
เสิ่ นเวยกาลังตามฮูหยินสวี่ป้าสะใภ้ใหญ่ของนางไปเป็ นแขกที่บา้ น
ฝั่งมารดา
สวี่เหลิ่งเหมยเห็นเสิ่ นเวยมาแต่ไกลก็ยกกระโปรงวิ่งเข้ามาแล้ว
“ท่านพี่เวย” ตะโกนเรี ยกเสิ่ นเวยเสร็ จแล้วก็เพิ่งจะทาความเคารพฮู
หยินสวี่ขา้ งๆ “ท่านอา”
ฮูหยินโหลวมารดาของสวี่เหลิ่งเหมยอยูข่ า้ งหลังมองท่าทางโง่เขลา
ของบุตรสาวตัวเอง อดไม่ได้ที่จะทาหน้ากลุม้ ใจ นี่บุตรสาวโง่เขลา
ตระกูลใดกัน ตีให้ตายก็ไม่ยอมรับว่าเป็ นบุตรสาวตระกูลตน หิ้วไป
หิ้วไป รี บหิ้วไปให้ไว
โชคดีที่ฮูหยินสวี่รู้นิสยั ของหลานสาวเป็ นอย่างดี จึงไม่ได้โกรธ ยิม้
แย้มมองนางจับมือของเวยเอ๋ อร์แล้วกล่าว
“ท่านพี่เวย เหตุใดท่านถึงไม่มาเล่นกับข้าเล่า ข้าอยูค่ นเดียวในจวน
แทบจะอึดอัดตายอยูแ่ ล้ว ข้าอยากไปหาท่านที่จวนโหว ท่านแม่กไ็ ม่
อนุญาต บอกว่าท่านยุง่ อยู่ ท่านพี่เวยท่านยุง่ อะไรหรื อ” สวี่เหลิ่ง
เหมยมองเสิ่ นเวยด้วยดวงตาเป็ นประกาย
คราวนี้ไม่เพียงแต่ฮูหยินโหลวอยากก่ายหน้าผาก แม้แต่ฮูหยินสวี่ก็
อดหัวเราะไม่ได้ “เด็กโง่ แม่เจ้าไม่ได้หลอกเจ้า พี่เวยของเจ้ายุง่
จริ งๆ”
สวี่เหลิ่งเหมยเด็กคนนี้ยงั ถามอีกว่ายุง่ อะไร
ฮูหยินโหลวจิ้มหน้าผากลูกสาวด้วยความเจ็บใจที่ไม่อาจหลอมเหล็ก
ให้กลายเป็ นเหล็กกล้าได้ “พี่เวย
ของเจ้าหมั้นหมายแล้ว อีกประเดี๋ยวก็จะออกเรื อนแล้ว เจ้าคิดว่าวัน
ทั้งวันจะว่างไม่มีอะไรทาเหมือนเจ้าหรื อไร”
ส่ วนสวี่เหลิ่งเหมยก็กมุ หน้าผากหัวเราะใสซื่อ มีความสุ ขมากเป็ น
พิเศษ ฮูหยินโหลวโมโหจะตายอยูแ่ ล้ว บุตรสาวเช่นนี้จะแต่งออก
เรื อนได้จริ งๆ หรื อ แต่งออกไปแล้วจะดีจริ งๆ หรื อ หรื อว่าจะ
ปรึ กษากับนายท่าน ดูวา่ เขามีศตั รู การเมืองในราชสานักหรื อไม่ ให้
บุตรสาวแต่งเข้าไปทาลายตระกูลเขาเสี ย
เสิ่ นเวยทาความเคารพฮูหยินโหลว “คารวะท่านน้าสะใภ้ใหญ่” ยัง
ไม่ทนั จะย่อขาก็ถูกฮูหยินโหลวดึงขึ้นมาแล้ว “ดูเด็กคนนี้สิ ยัง
เกรงใจน้าอยูเ่ ลย ยิง่ โตยิง่ สวยจริ งๆ ไม่เจอกันเดือนกว่า เวยเอ๋ อร์สวย
ขึ้นแล้ว” นางจับมือของเสิ่ นเวยกล่าวชม รอยยิม้ บนใบหน้าเป็ นมิตร
อย่างยิง่
เสิ่ นเวยยิม้ ทักทายพี่รองของนาง ลูกสะใภ้คนโตของฮูหยินโหลว
ตามสามีออกไปทางานราชการข้างนอกแล้ว ไม่อยูใ่ นจวน ดังนั้นคน
ที่อยูข่ า้ งกายฮูหยินโหลวจึงเป็ นลูกสะใภ้รองของนาง ก็คือเสิ่ นซวงพี่
รองของเสิ่ นเวย
เสิ่ นซวงประคองแขนของฮูหยินโหลว ท่าทางสนิทสนมอย่างยิง่ ฮู
หยินสวี่มองบุตรสาวตนปราดหนึ่ง เห็นนางมีท่าทางผ่อนคลาย สี
หน้าดีอย่างยิง่ จึงวางใจลง แม้จะรู ้วา่ พี่สะใภ้ใหญ่ดีต่อบุตรสาวนาง
แต่อย่างไรเสี ยมาเห็นด้วยตาตัวเองจึงจะเชื่อ
ฮูหยินอาวุโสในจวนสวี่อายุมากแล้ว ก่อนหน้านี้กก็ าชับว่าไม่ตอ้ ง
ตั้งใจมากเยีย่ มเยียนเป็ นพิเศษ อีกทั้งฮูหยินสวี่กก็ ลับบ้านฝั่งมารดา
ไม่ถือว่าเป็ นคนนอก อยากเจอมารดาเมื่อไหร่ กย็ อ่ มได้ ด้วยเหตุน้ ีคน
หนึ่งแถวจึงไปพูดคุยที่เรื อนฮูหยินโหลวก่อน
ฮูหยินโหลวลากฮูหยินสวี่มาพูดคุย “ฉู่ถงเอ๋ อร์ที่นอ้ งพูดถึงคือ
บุตรสาวคนโตบ้านน้องกวง เป็ นเด็กดี ในตระกูลเป็ นคนที่มี
ความสามารถยอดเยีย่ มไม่เป็ นรองใคร เพียงแต่เรื่ องสมรสไม่คอ่ ย
สมหวังนัก นี่เองก็โทษบุตรสาวตระกูลเขาไม่ได้ อันที่จริ งแล้วไว้
ทุกข์จนล่าช้า” นางหยุดครู่ หนึ่ง ละสายตามองเด็กสาวที่นงั่ ตัวตรงอยู่
ข้างๆ ปราดหนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวต่อ “ครอบครัวบ้านน้องกวงดีอย่าง
ยิง่ น้องสะใภ้ตระกูลเขาก็เป็ นคนเพียบพร้อม ทั้งตระกูลปรองดอง
รักใคร่ กนั ข้าว่า ก็แค่บุตรสาวอายุมากไปสองปี มิใช่หรื อ บุตรสาว
เป็ นคนดีสาคัญกว่าสิ่ งใดมิใช่หรื อ หากข้ามีลูกชายอีก ก็ยอมที่จะสู่
ขอฉู่ถงเอ๋ อร์เป็ นลูกสะใภ้ ดีกว่าสู่ ขอคนที่ไม่มีระเบียบแบบแผนเข้า
มา”
ฮูหยินสวี่กล่าวคล้อยตาม “พูดได้วา่ แต่งภรรยาแต่งสตรี มีคุณธรรม
อะไรก็สู้คนดีไม่ได้” ตอนที่พดู เช่นนี้นางก็มองเสิ่ นเวยปราดหนึ่ง
“ข้าพูดมากกว่านี้กเ็ หมือนเสแสร้ง อีกประเดี๋ยวน้องสะใภ้ตระกูล
น้องกวงกับฉู่ถงเอ๋ อร์มาเจ้าก็ดูเองแล้วกัน” ฮูหยินโหลวยิม้
ฮูหยินสวี่กล่าวด้วยความสนใจใคร่ รู้ “ก็จริ ง ข้าไม่ได้เจอฉู่ถงเอ๋ อร์มา
หลายปี แล้ว ฟังว่าเติบโตมาราวกับบุปผา อีกประเดี๋ยวจะต้องตั้งใจดู
ให้ดีแล้ว”
เสิ่ นเวยรี บลุกขึ้นยืนโค้งคานับขอบคุณฮูหยินโหลว “ขอบคุณท่านน้า
สะใภ้ใหญ่ที่เป็ นห่วง ไม่ปิดบังท่านน้าสะใภ้ใหญ่ ลูกผูพ้ ี่ของข้าที่
บ้านท่านตาข้าผูน้ ้ นั แม้วา่ ในตระกูลจะเทียบเมื่อก่อนไม่ได้ แต่ลูกผูพ้ ี่
ของข้าผูน้ ้ นั กลับเป็ นคนดีอย่างยิง่ ประพฤติตนซื่อสัตย์ยดึ มัน่ ใน
จริ ยธรรม ทั้งยังสร้างอนาคตได้ดว้ ยตัวเอง ตระกูลเขาก็ไม่ขออย่าง
อื่น เพียงแค่เป็ นคนดี กตัญญู ดูแลบ้านได้ ส่ วนรู ปร่ างหน้าตาต่างๆ
ขอเพียงแค่หน้าตาได้สดั ส่ วนก็พอแล้ว เหมือนอย่างที่ท่านน้าสะใภ้
ว่า แต่งภรรยาแต่งสตรี มีคุณธรรม ลูกผูพ้ ี่ขา้ เองก็ไม่ได้มีนิสยั เสเพล
เจ้าชูป้ ระตูดิน อายุมากหน่อยก็ไม่เป็ นไร นิทานพื้นบ้านยังบอกไว้วา่
‘แก่กว่าหุม้ ทอง 3 ก้อน[1]’ มิใช่หรื อ”
ดวงตาของเสิ่ นเวยมีความจริ งใจ “ท่านตาข้าไม่มีแม้แต่สตรี ใน
ครอบครัวที่สามารถออกหน้าได้ คาดหวังกับผูช้ ายสองคนในบ้านก็
ไม่ประสบความสาเร็ จ ข้าที่เป็ นหลานสาวจะช่วยเหลือสักเล็กน้อย
ไม่ได้เลยหรื อ เพียงแต่ตอ้ งลาบากท่านน้าสะใภ้ใหญ่ให้ตอ้ งเหนื่อย
ไปด้วย ในใจข้ารู ้สึกเสี ยใจจริ งๆ”
คาพูดหลายประโยคพูดได้อย่างรอบคอบไร้ช่องโหว่ พูดจนฮูหยิน
โหลวแย้มยิม้ ดีใจ “ดูเวยเอ๋ อร์พดู เข้า ยังจะเกรงใจน้าอยูท่ าไม น้าเห็น
เจ้าเป็ นเหมือนกับพี่รองของเจ้าและเหมยเอ๋ อร์ เด็กดี มีอะไรเจ้าก็มา
รบกวนน้าได้เลย น้ายินดี”
คาพูดนี้ฮูหยินโหลวพูดด้วยความสัตย์ซื่อจริ งใจ ไม่ตอ้ งเอ่ยถึงเรื่ องที่
เวยเอ๋ อร์ช่วยบุตรสาวนางไว้ เพียงแค่นิสยั ของเสิ่ นเวย ฐานะตาแหน่ง
กับบ้านว่าที่สามี ก็เพียงพอให้นางผูกมิตรอย่างยิง่ แล้ว
ขณะที่กาลังพูด ก็มีสาวใช้เข้ามารายงานว่ากวงต้าไหน่ไนตระกูล
นายท่านกวงมาถึงแล้ว ไม่นานนัก ก็เห็นสตรี วยั กลางคนผูห้ นึ่งพา
เด็กสาวชุดกระโปรงสี ม่วงผูห้ นึ่งเดินเข้ามา
“ไอหยา น้องสะใภ้มาเสี ยที ไม่เจอกันนานเลย ฉู่ถงเอ๋ อร์โตเป็ นสาว
แล้ว สวยจริ งๆ” ฮูหยินโหลวต้อนรับอย่างเป็ นมิตร
จางซื่อเองก็ยมิ้ ทักทาย “นางเพียงแค่มีหน้าตาได้สดั ส่ วนเล็กน้อย
ไหนเลยจะควรค่าให้พี่สะใภ้ใหญ่เชยชม ข้ากลับคิดว่าเหมยเอ๋ อร์ของ
พวกเราอ่อนหวานน่ารัก ภรรยาของหรงเอ๋ อร์กส็ ง่าผ่าเผย น้องใหญ่
กลับมาแล้ว ดูสีหน้าสิ เด็กลงกว่าเดิมอีก!” นางพูดถึงคนทั้งหมดใน
ลานรอบหนึ่งอย่างชาญฉลาด หลังจากนั้นสายตาก็ลุกวาว มอง
ใบหน้าของเสิ่ นเวย “เด็กสาวที่ราวกับนางฟ้าผูน้ ้ ีไม่ค่อยคุน้ หน้านัก!”
ฮูหยินสวี่ดึงเสิ่ นเวยมาแนะนา “นี่คือเวยเอ๋ อร์หลานสาวบ้านสามีของ
ข้า พ่อนางทางานอยูใ่ นกรมพิธีการ” จากนั้นก็กล่าวกับเสิ่ นเวย “เวย
เอ๋ อร์ นี่คือพี่สะใภ้บา้ นพี่ใหญ่กวงผูน้ ้ นั ของข้า ฮูหยินของท่านราช
บัณฑิต นี่คือบุตรสาวของนาง ชื่อฉู่ถง โตกว่าเจ้าเล็กน้อย เจ้าต้อง
เรี ยกนางว่าพี่”
เสิ่ นเวยโค้งตัวทาความเคารพ “เคารพฮูหยิน ท่านพี่ฉู่ถง”
จางซื่อยืน่ มือจับเสิ่ นเวยขึ้นมา “นี่กค็ ือเวยเอ๋ อร์ที่ได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์ให้เป็ นจวิน้ จู่ผนู ้ ้ นั ใช่หรื อไม่ เป็ นหญิงงามจริ งๆ! ว่ากัน
ตามจริ งข้าควรจะเคารพจวิน้ จู่เหนียงเหนียง วันนี้ขา้ อาศัยบารมีของ
น้องใหญ่ เรี บกเจ้าว่าเวยเอ๋ อร์ เวยเอ๋ อร์เองก็อย่าเรี ยกข้าว่าฮูหยินเลย
เรี ยกว่าน้าสะใภ้จะดูสนิทกว่า”
ฮูหยินสวี่รีบกล่าว “ดูพี่สะใภ้ใหญ่กวงพูดเข้า พวกเราไม่ใช่คนนอก
นางเป็ นเด็กผูห้ ญิงตัวเล็กๆ จะต้องเคารพอะไรกัน วันนี้พวกเราเพียง
มาพบปะญาติๆ”
เสิ่ นเวยย่อมเอ่ยปากเรี ยกจางซื่อว่าน้าสะใภ้อย่างว่าง่าย ได้รับปิ่ นปั ก
ผมเลี่ยมดอกเหมยหนึ่งอันเป็ นของขวัญพบหน้า จากนั้นก็พดู คุยกับ
ฉู่ถงและคนอื่นๆ เล็กน้อย
สายตาของเสิ่ นเวยมองประเมินสวี่ฉู่ถงอยูเ่ งียบๆ หากบอกว่าสวี่
เหลิ่งเหมยอ่อนหวานน่ารัก เช่นนั้นสวี่ฉู่ถงก็งดงามสุ ภาพ ดวงหน้า
แจ่มชัด เรี ยบร้อยเมตตา ดูก็รู้วา่ เป็ นคนที่มีความคิดเป็ นของตัวเอง
เสิ่ นเวยพยักหน้าเงียบๆ ในใจ ลูกผูพ้ ี่นางต้องการภรรยาคุณธรรมที่มี
ความคิดเป็ นของตัวเอง ดอกไม้เล็กๆ ที่อ่อนแอไหนเลยจะประคอง
จวนแม่ทพั ใหญ่ได้
ตอนที่เสิ่ นเวยมองประเมินสวี่ฉู่ถง สวี่ฉู่ถงเองก็มองประเมินนางอยู่
เช่นกัน เมื่อก่อนนางเคยพอใจในหน้าตาของตัวเอง แต่รูปร่ างหน้าตา
ของเด็กสาวผูน้ ้ ีตรงหน้ากลับดีกว่านางสามเท่า เมื่อมองอากัปกิริยา
นั้น ก็รู้วา่ มารยาทดีอย่างถึงที่สุด ดวงตาที่ยมิ้ แย้ม ง่ายอย่างยิง่ ที่จะทา
ให้คนเกิดความรู ้สึกดีในใจ
ตอนที่มา ท่านแม่หลุดปากบอกจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้กบั นาง
แล้ว นางเองก็รู้วา่ เด็กสาวผูน้ ้ ีกค็ ือลูกผูน้ อ้ งของชนรุ่ นหลังแซ่หร่ วน
ผูน้ ้ นั ตั้งใจมาดูตนเอง นึกถึงตรงนี้ในใจนางก็พะว้าพะวงหลายส่ วน
ไม่รู้เหมือนกันว่าการแสดงออกของตนจะทาให้เด็กสาวผูน้ ้ ีพอใจ
หรื อไม่ นิ้วมือก็บิดผ้าเช็ดหน้าอย่างไม่รู้ตวั
จางซื่อสังเกตเห็นการกระทาเล็กๆ ของลูกสาว ก็รู้สึกขบขันในใจ
อย่างอดไม่ได้
ก่อนหน้านี้ลูกสาวดึงดันจะไปดูชนรุ่ นหลังแซ่หร่ วนผูน้ ้ นั กับตา ตน
ทนนางรบเร้าไม่ไหว จึงรับปาก ใครจะรู ้หลังจากที่นอ้ งชายนางพา
นางไปดูรอบหนึ่ง กลับมานางก็พยักหน้าตอบรับแล้ว ใบหน้างามทั้ง
ใบแดงซ่าน
จางซื่อรู ้สึกประหลาดใจ ลูกชายบอกนางว่า ถงเอ๋ อร์มองดูอยูไ่ กลๆ
ปราดหนึ่ง ไม่ได้กระทาการเกินเลยแม้แต้นิดเดียว เช่นนั้นบุตรสาว
หน้าแดงได้อย่างไร
หลังจากไต่ถามซ้ าแล้วซ้ าเล่า บุตรสาวก็เผยต้นสายปลายเหตุดว้ ย
ความเขินอาย ที่แท้แล้วหลายเดือนก่อน ระหว่างทางที่ถงเอ๋ อร์กลับ
มาจากการกราบไหว้บูชาก็บงั เอิญเจออันธพาลเสเพล ทาให้มา้
แตกตื่น ชนรุ่ นหลังแซ่หร่ วนที่ผา่ นทางมาช่วยคุมม้าตื่นไว้ให้ จัดการ
คนเสเพลหลายคนนั้น ทั้งยังคุม้ กันนางเข้าเมืองด้วยตัวเอง ภายหลัง
ไม่ทิ้งไว้แม้แต่ชื่อแซ่กจ็ ากไปแล้ว
เรื่ องนี้จางซื่อเองก็ทราบ หลังกลับจวนบ่าวรับใช้กเ็ ล่าเรื่ องนี้ให้นาง
ฟัง นางยังกอดลูกสาวรู ้สึกโชคดีไปพลางหวาดกลัวไปพลาง ว่ากัน
ตามตรงบุตรสาวโชคดีได้พบบุคคลผูท้ รงเกียรติ ไม่คิดว่าบุคคลผู ้
ทรงเกียรติน้ ีจะเป็ นชนรุ่ นหลังแซ่หร่ วนผูน้ ้ นั ช่วยคนไม่ทวงบุญคุณ
เห็นได้วา่ เป็ นคนนิสยั ดี อย่าว่าแต่บุตรสาวยินยอม แม้แต่ตน ก็
ยินยอมเช่นกัน
“พอแล้ว เหมยเอ๋ อร์ เจ้าไม่ตอ้ งเบ้ปากแล้ว รี บพาพี่เวย พีถ่ งของเจ้า
ไปเล่นที่สวนของเจ้ากับพี่สะใภ้รองเถอะ” ฮูหยินโหลวมองลูกสาว
อย่างขบขา
จางซื่อฮูหยินสวี่เองก็กล่าว “ไปเถอะ ไปเถอะ พวกข้าคุยกันพวกนาง
จะเบื่อเอา ไม่บงั คับกัน พวกเจ้าไปเล่นกันเองเถอะ”
สวี่เหลิ่งเหมยลุกขึ้นยืนด้วยความดีใจทันที “ท่านพี่สะใภ้รอง ท่านพี่
เวย ท่านพี่ถง พวกเรารี บไปกันเถอะ ข้ายังมีของดีให้พวกท่านดู” มือ
แต่ละข้างจูงเสิ่ นเวยกับสวี่ฉู่ถงจากนั้นก็วงิ่ ไปข้างนอก ทาให้คนเป็ น
แม่ท้ งั สามหัวเราะไม่หยุด
[1] แก่กว่าหุม้ ทอง 3 ก้อน หมายถึงภรรยาที่แก่กว่าสามี มีขอ้ ดี 3
ประการ ได้แก่ ดูแลสามีประดุจสามีเป็ นลูกชาย ให้คาปรึ กษาประดุจ
สามีเป็ นน้องชาย และต่อหน้าสังคมเคารพเชื่อฟังสามีเหมือนภรรยา
ทัว่ ไป
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 212-2 วันสมรสกำหนดแล้ว
สวีโย่วรี บกลับเมืองหลวงด้วยความร้อนอกร้อนใจ เข้าวังกลางดึก
รายงานหน้าที่ เล่าเรื่ องสื บสาวกวาดล้างทหารกบฏก่อนหนึ่งรอบ
จากนั้นก็คุกเข่าลงบนพื้นไม่ลุกขึ้นอีกทันที “เสด็จลุง หลานเองก็อายุ
ไม่นอ้ ยแล้ว ท่านคิดว่างานสมรสของหลานควรจัดได้แล้วหรื อยัง
วันที่ยสี่ ิ บหกเดือนสี่ เป็ นวันดี หลานคิดว่าวันนั้นก็ไม่เลว”
จักรพรรดิยงเซวียนมองหลานชายที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้น เขายังจมดิ่งอยู่
ในความดีใจในชัยชนะ ยังคิดจะปูนบาเหน็จให้หลานชายอีกหน่อย
ไม่นึกว่าท่าทีของหลานชายจะเปลี่ยนไปเร็ วเพียงนี้ ชัว่ ขณะก็
เปลี่ยนไปพูดเรื่ องสมรสแล้ว
นิ้วมือจักรพรรดิยงเซวียนชี้สวีโย่วอยูน่ านก็พดู ไม่ออกแม้แต่
ประโยคเดียว เคยได้ยนิ คนเกลียดการแต่งงาน แต่ไม่เคยได้ยนิ คนที่
ร้อนใจอยากจะแต่งงานเช่นนี้ วันที่ยสี่ ิ บหกเดือนสี่ วันนี้กว็ นั ที่ยสี่ ิ บ
เอ็ดเดือนสี่ แล้วมิใช่หรื อ เวลาสี่ หา้ วันจะพอให้ทาอะไร
ทว่าสวี่โย่วกลับมีเหตุผลอย่างยิง่ “เตรี ยมการหรื อ ไม่มีอะไร
จาเป็ นต้องเตรี ยม เดิมหลานก็ควรแต่งงานตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนแล้ว
ก่อนหน้านี้กเ็ ตรี ยมเสร็ จสมบูรณ์อย่างยิง่ แล้ว ตอนนี้ล่าช้าอยูน่ าน
เพียงนี้ ก็ยงิ่ ควรจะเตรี ยมเสร็ จเรี ยบร้อยแล้ว หลานคิดว่าต่อให้จะ
กาหนดวันเป็ นพรุ่ งนี้ กรมพิธีการกับจวนอ๋ องก็สามารถวางลาดับพิธี
ได้แล้ว”
น่าขัน เขาจะไม่รีบได้อย่างไร หากยังไม่แต่งน้องสี่ แซ่เสิ่ นมาไว้ใน
มือนางก็คงจะหนีไปแล้ว ระหว่างทางกลับเขาก็ได้รับข่าว บอก
ว่าจิ้นหวังเฟยเชิญน้องสี่ แซ่เสิ่ นไปสนทนาที่จวนอ๋ อง หลานสาวคน
ดีผนู ้ ้ นั ที่บา้ นฝั่งมารดานางก็เปิ ดตัว แม้วา่ น้องสี่ แซ่เสิ่ นจะไม่ถูกเอา
เปรี ยบ ทั้งยังทาจิ้นหวังเฟยโกรธจนหงายหลัง
แต่สวีโย่วก็เป็ นกังวล น้องสี่ แซ่เสิ่ นไม่ใช่คนใจเย็น ทั้งยังราคาญ
ปัญหาจุกจิกที่น่าเบื่อเหล่านี้ เขากลัวอย่างยิง่ ว่านางจะกลับคาหนีไป
ถึงตอนนั้นนางใช้ไม้ตายอะไรออกมา เชิดหน้าออกไปท่องยุทธภพ
ด้วยตัวเอง แล้วเขาจะไปหานางจากไหน รี บแต่งกลับมาให้สบายใจ
ดีกว่า!
“พรุ่ งนี้หรื อ เจ้าคิดว่าเสนาบดีกรมพิธีการของเราเป็ นเทวดาหรื อ
อาโย่ว เจ้าอยากแต่งภรรยาเพียงนี้เลยหรื อ” จักรพรรดิยงเซวียนยิม้
ก่นด่าหนึ่งครา หลังจากนั้นก็หยอกล้อหลานชายขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณหนูตระกูลเสิ่ นผูน้ ้ นั ดีเพียงนั้นเชียวหรื อ”
ทว่าสวีโย่วกลับพยักหน้าอย่างจริ งจัง “เสด็จลุง หลานคิดว่าคุณหนูสี่
แซ่เสิ่ นดี อยูก่ บั นางหลานจึงรู ้สึกมีความสุ ข”
เดิมจักรพรรดิยงเซวียนคิดจะบอกว่าอย่างน้อยก็ตอ้ งเตรี ยมงานสัก
ครึ่ งเดือน แต่เห็นท่าทางห่อเ**่่ยวกับสี หน้าจริ งจังบนใบหน้าของ
หลานชาย หัวใจเขาก็อ่อนลงอีกครั้ง ช่างเถอะ ตั้งแต่เล็กหลานชาย
คนนี้กเ็ ย็นชา ตลอดทั้งปี ไม่เคยเห็นเขายิม้ สักครั้ง ทั้งยังไม่เคยเห็น
เขาชอบอะไรหรื อชอบใครมาก่อน ยากจะเห็นว่าเขาสนใจสตรี เพียง
นี้ ซ้ ายังเป็ นคู่หมั้นของตนเอง เช่นนั้นก็ทาให้เขาสมหวังเถอะ
จักรพรรดิยงเซวียนตัดสิ นใจว่าแม้กรมพิธีการจะทางานล่วงเวลาก็
ต้องทาให้หลานชายสมปรารถนา
สวีโย่วปฏิเสธพระกรุ ณาธิคุณที่จกั รพรรดิยงเซวียนให้เขาค้างคืนใน
วัง หนึ่งก็เพื่อหลีกเลี่ยงการสงสัย อย่างไรเสี ยเขาก็ไม่ใช่พระราชบุตร
ซ้ ายังเป็ นผูใ้ หญ่แล้ว ที่สาคัญที่สุดก็คือเขายังอยากไปปี นกาแพงจวน
จงอู่โหวเยีย่ มเยียนหญิงงามอยูด่ ว้ ย
เมื่อสวีโย่วเข้าไปใกล้หอ้ งของเสิ่ นเวยนางก็รู้สึกตัวแล้ว แอบเตรี ยม
ป้องกันตัวเงียบๆ เมื่อเห็นศีรษะงดงามศีรษะนั้นชะโงกเข้ามาจาก
หน้าต่าง เสิ่ นเวยไม่แม้แต่จะคิดก็ปาเหรี ยญทองแดงออกไปแล้ว
“เอ๋ คุณชายใหญ่สวี สี หน้าไม่เลว หายป่ วยแล้วหรื อ” เสิ่ นเวยกอดอก
กระแทกกระทั้นส่ อเสี ยดสวีโย่ว
ดูสิ โกรธจริ งๆ ด้วย สวีโย่วรู ้ตวั ดีวา่ ตนผิด ลูบจมูกวางเหรี ยญ
ทองแดงที่รับไว้เมื่อครู่ ลงบนโต๊ะให้นาง “หายแล้ว หายดีแล้ว
แข็งแรงฮึกเหิม กาลังวังชาดีข้ ึนร้อยเท่าเลย”
เขายกเท้าเดินเข้ามาหาเสิ่ นเวย แต่กลับถูกเสิ่ นเวยถีบออกไป “ท่าน
อยูห่ ่างข้าหน่อย แม่เลี้ยงผูน้ ้ นั ของท่านไม่ใช่เตรี ยมอนุภรรยาในจวน
ไว้ให้ท่านหรื อ ท่านไม่กลับจวนอ๋ องไปปลอบขวัญหญิงงาม วิง่ มา
หาข้าที่นี่ทาไม” เดิมเสิ่ นเวยก็ไม่ได้เก็บเรื่ องนี้มาใส่ ใจ แต่เมื่อเห็น
หมอนี่ นางก็โมโหอย่างถึงที่สุด ชีวิตที่สงบสบายและมีความสุ ขของ
นางถูกหมอนี่ทาพังแล้ว ความฝันจะเป็ นเศรษฐีนีอนั ดับหนึ่งของนาง
ความฝันท่องยุทธจักรของนาง สู ญสลายหายไปหมดแล้ว
แย่แล้ว โมโหแรงยิง่ นัก สวีโย่วร้องทุกข์เงียบๆ ในใจ แต่บนใบหน้า
กลับแสร้งไม่มีความผิด “อนุภรรยาอะไร คุณหนูสี่แซ่เสิ่ น เจ้าอย่า
โทษช้า ข้าไม่มีแม้แต่สาวใช้สตรี ดว้ ยซ้ า ไหนเลยจะมีอนุภรรยาได้
เจ้าต้องเข้าใจผิดเป็ นแน่”
“หึ!” เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะหนึ่งครา “ท่านแสร้งทาเป็ นไม่รู้เรื่ องให้
น้อยหน่อย ท่านกล้าพูดหรื อว่าท่านไม่รู้แผนการของแม่เลี้ยงท่าน
ซ่งจยาฮุ่ยผูน้ ้ นั ท่านอย่าบอกว่าท่านไม่รู้จกั ! ไอหยา หน้าตานัน่ ก็ อืม
หน้ารู ปไข่นนั่ รู ปร่ างนัน่ ทรวดทรงองเอวนัน่ ยังมีขาวยาวๆ นัน่ อีก
คุณชายใหญ่สวีมีบุญตายิง่ นัก!”
“ซ่งจยาฮุ่ยหรื อใคร” จู่ๆ สวีโย่วก็ถามกลับด้วยท่าทีจริ งจัง
เสิ่ นเวยตกตะลึง ทันใดนั้นก็แค่นเสี ยงกล่าว “อนุภรรยาที่แม่เลี้ยง
ท่านหามาให้ท่านอย่างไรเล่า! ท่านไม่รู้หรื อ ไม่ตอ้ งมาแสร้ง แสร้ง
ไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
“ไม่รู้จริ งๆ” ทั้งใบหน้าสวีโย่วไร้กงั วล “หวังเฟยเคยเอ่ยเรื่ อง
อนุภรรยา แต่ขา้ ปฏิเสธไปนานแล้ว เจ้าวางใจ ไม่อาจมีอนุภรรยา
อะไรแน่ ข้าไม่อาจเอาคนไม่รู้หวั นอนปลายเท้าอะไรมาสร้างความ
ราคาญใจแก่เจ้า” เขากล่าวอย่างตั้งใจ
เสิ่ นเวยเห็นท่าทีของสวีโย่วไม่เหมือนเสแสร้ง เบื้องลึกในใจก็ดีใจ
เล็กน้อย แต่ปากกลับยังคงไม่ให้อภัย “ใครสร้างความราคาญใจให้
ใครยังไม่รู้แน่ชดั เลย” ข้างเตียงนอนของตัวเอง จะยอมให้คนอื่นมา
นอนสบายได้อย่างไร อนุภรรยาบ้าอะไร ขอแค่กล้ามา นางก็กล้า
ทาลาย กล้าแย่งผูช้ ายกับเสิ่ นเวย ใช่รนหาที่ตายหรื อไม่
เสิ่ นเวยกลอกตาหนึ่งครา เหลือบมองเหรี ยญทองแดงบนโต๊ะ
ชัว่ ขณะก็เกิดความคิด “ท่านจะแต่งอนุขา้ ก็ไม่หา้ มท่าน เพียงแค่ก่อน
หน้านั้นท่านต้องเข้าใจกฎของข้า ท่านแต่งอนุข้ ึนอยูก่ บั เหรี ยญ
ทองแดงของข้า” เสิ่ นเวยโยนเหรี ยญทองแดงในมือ ชายตามองสวี
โย่วด้วยเจตนาชัว่ ร้าย
“อะไรนะ” สวีโย่วไม่เข้าใจ
เสิ่ นเวยโยนเหรี ยญทองแดงครู่ หนึ่ง เสี ยงดังกังวาน “เห็นแล้วหรื อยัง
ด้านหน้าหันขึ้น ฆ่าท่านตาย ด้านหลังหันขึ้น ฆ่าอนุตาย ตั้งพอดี ขอ
อภัย ท่านทั้งสองถูกฆ่าตาย” เสิ่ นเวยยิงฟันขาวซี่เล็กๆ ท่าทาง
โหดเ**่้ยมดุร้าย
สวีโย่วอารมณ์ดีแล้ว รักเสิ่ นเวยเด็กที่อามหิ ตผูน้ ้ ีจริ งๆ! ดวงตาของ
เขามีความโปรดปรานแวบผ่าน ให้คาสัญญา “วางใจ เจ้าไม่มีโอกาส
นี้หรอก”
ไอหยา อยากจะแต่งน้องสี่ แซ่เสิ่ นกลับบ้านจริ งๆ ได้เห็นนาง
กระโดดโลดเต้นในจวนจิ้นอ๋ อง เหตุการณ์น้ นั จะต้องสนุกมากเป็ น
แน่
“นัน่ ก็ไม่แน่!” เสิ่ นเวยจ้องมองดวงตาทั้งคู่ของสวีโย่ว ไม่เชื่ออย่าง
สิ้ นเชิง “ข้าได้ยนิ เขาพูดกันเช่นนี้ ยอมที่จะเชื่อว่าโลกนี้มีผี ดีกว่า
จะต้องเชื่อคาพูดจากปากผูช้ าย ข้าเห็นด้วยอย่างยิง่ ”
สวีโย่วลูบจมูกต่อ ความรู ้สึกพ่ายแพ้ในใจก็ยงิ่ ชัดเจน อยากจะกอด
เด็กคนนี้ไว้บนขาแล้วตีสกั ป้าบ เฉลียวฉลาดหัวไวเช่นนี้ดีจริ งๆ หรื อ
เห็นนางทาผูอ้ ื่นโมโห ตนก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารักยิง่ นัก แต่พอถึงตา
ตัวเอง เหตุใดความรู ้สึกนี้ถึงได้…ถึงได้สบายใจเช่นนี้เล่า
ราตรี ดึกสงัด นอกหน้าต่างมีแสงจันทร์สลัว คืนที่เงียบสงัดและดีงาม
เช่นนี้ หัวข้อสนทนาเรื่ องอนุภรรยาของเสิ่ นเวยกับสวีโย่วได้เข้าสู่
การไต่ถามเชิงลึก ท้ายที่สุดก็เบี่ยงประเด็นไปเป็ นหัวข้อ ‘ผูช้ ายล้วน
เชื่อถือไม่ได้’ แทน ในระหว่างนั้น เสิ่ นเวยใช้เหรี ยญทองแดง
คุกคามสวีโย่ว
วันรุ่ งขึ้น ข่าวคุณชายใหญ่จวนจิ้นอ๋ องหายป่ วยกลับเมืองหลวงก็ดงั
ออกไป ที่ตามมาพร้อมกันยังมีพระราชโองการหนึ่งฉบับ พระราช
โองการกาหนดวันพระราชพิธีเสกสมรสของสวีโย่วเสิ่ นเวยในวันที่
ยีส่ ิ บหกเดือนสี่
เมื่อพระราชโองการฉบับนี้ประกาศออกไป กรมพิธีการก็สบั สนมึน
งง คุณชายใหญ่จวนจิ้นอ๋ องกับคุณหนูสี่จวนจงอู่โหว คนหนึ่งได้รับ
พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ อ๋ อง คนหนึ่งได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่ พิธีสมรสของพวกเขาล้วนแต่มีระเบียบ
ประเพณี แน่นอน ต้องเดินพิธีท้ งั หมดหนึ่งรอบภายในห้าวัน แม้วา่ จะ
ทาทั้งวันทั้งคืนก็เสร็ จไม่ทนั หรอก!
จวนจิ้นอ๋ องกับจวนจงอู่โหวเองก็มึนงงเช่นกัน สองตระกูลนี้ตระกูล
หนึ่งแต่งออกตระกูลหนึ่งรับเข้ามา ต้องจัดลานบ้าน ต้องคัดเทียบ
เชิญส่ งเทียบเชิญ ต้องหารื อเรื่ องโต๊ะอาหารเลี้ยงแขก แล้วยังต้อง
จัดการสิ นเดิมส่ งสิ นเดิม เรื่ องเล็กๆ ใหญ่ๆ เยอะแยะมากมาย เวลาห้า
วันไหนเลยจะพอ
แต่พระราชโองการประกาศออกมาแล้ว ต่อให้ฝ่าบาทจะบอกว่า
พรุ่ งนี้จะจัดพิธีสมรส พวกเขาก็ตอ้ งเชื่อฟัง! ห้าวันก็หา้ วัน ลดได้ก็
ลด เรี ยบง่ายได้กพ็ ยายามทาให้เรี ยบง่าย พิถีพิถนั มากเพียงนั้นไม่ได้
แล้ว บ่าวรับใช้ในจวนจงอู่โหวยุง่ อย่างถึงที่สุด วิ่งกันขวักไขว่ตลอด
ทาง
เสิ่ นเวยเองก็โมโหอย่างยิง่ กัดฟันกรอดตะโกนเรี ยกชื่อสวีโย่ว นาง
กลับไม่ได้โมโหที่เวลากระชั้นชิดพิธีสมรสจะไม่ยงิ่ ใหญ่ แต่นาง
โมโหเพราะเรื่ องคู่หมั้นของลูกผูพ้ ี่นางต่างหาก
ครั้งก่อนหลังกลับมาจากการพบหน้าสวี่ฉู่ถง ความประทับใจที่เสิ่ น
เวยมีต่อนางก็ดีอย่างยิง่ ฉลาด สวย มีความสามารถดูแลบ้านได้ มี
ความคิดเป็ นของตัวเอง ทั้งหมดนี่กเ็ พื่อเตรี ยมการวัดตัวให้ลูกผูพ้ ี่
นาง! จวนแม่ทพั ใหญ่ตอ้ งการนายหญิงเช่นนี้ ลูกผูพ้ ี่นางต้องการ
แม่บา้ นมีคุณธรรมเช่นนี้
มิหนาซ้ าไม่เพียงแต่สตรี ที่ดี ครอบครัวก็ยงั ดี บิดาเป็ นราชบัณฑิต
ยิง่ ใหญ่ สู งส่ งที่สุดแล้ว ช่วยเหลือลูกผูพ้ ี่ได้มากอย่างยิง่ ใน
ครอบครัวยังมีนอ้ งชายอีกสามคน เรี ยนหนังสื อมีพฒั นาการ ตอนนี้
แม้จะมองไม่ออกว่าในภายหน้าจะมีอนาคตมากเพียงใด แต่อย่าง
น้อยก็ไม่อาจเป็ นภาระ บ้านพ่อตาแม่ยายแบบนี้ต่อให้ส่องไฟก็ไม่ใช่
ว่าจะหาเจอ!
สาหรับอายุที่มากกว่าสองปี ไอหยา เสิ่ นเวยที่เห็นคู่รักที่ผหู ้ ญิงอายุ
มากกว่าผูช้ ายมาจนชินแล้วไม่ได้มองว่าเป็ นปั ญหาแม้แต่นิดเดียว
สตรี ที่ดีเช่นนี้ ชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรี ยบ พากลับมาเรื อนที่บา้ น
ตนเองจึงจะวางใจได้ เสิ่ นเวยพูดเรื่ องนี้กบั ท่านตานาง ท่านตานางก็
รู ้สึกว่าควรหาแม่สื่อไปสู่ ขอทันที
แต่จะหาใครเป็ นแม่สื่อดีเล่า คิดไป คิดมา เสิ่ นเวยก็รู้สึกว่าขอช่วย
หนึ่งคนแล้วไม่ควรไปรบกวนคนที่สอง ท้ายที่สุดก็ยงั คงไปหาฮู
หยินสวี่ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ของนาง หนึ่งคือฐานะเพียงพอ เป็ นการ
ให้ความสาคัญแก่ฝ่ายหญิง สองคือเป็ นคนสนิท พูดขึ้นมาแล้วก็
สบายใจ
ท่านป้าสะใภ้ใหญ่เองก็ตอบตกลง กาลังเตรี ยมจะไปเยีย่ มบ้าน
ตระกูลราชบัณฑิตสวี่ พระราชโองการก็ประกาศออกมา ดีจริ งๆ ฮู
หยินสวี่จึงจัดการเรื่ องออกเรื อนของเสิ่ นเวยทันที ไหนเลยจะยังมี
เวลาว่างไปสู่ ของแทนลูกผูพ้ ี่ของนาง
นี่ทาให้เสิ่ นเวยไม่พอใจอย่างยิง่ เมืองหลวงใหญ่เพียงนั้น คนตาดี
ไม่ได้มีแค่นางเพียงคนเดียว นางกังวลอย่างยิง่ ว่าจะมีคนแย่งว่าที่
สะใภ้ญาติผพู ้ ี่ของนางไป
สวีโย่วคล้ายรู ้สึกได้ถึงความเคียดแค้นของเสิ่ นเวย ซ่อนตัวอยูห่ ่างๆ
ไม่กล้าปรากฎตัวต่อหน้านางอย่างสิ้ นเชิง ทุกวันปั้นหน้าตายสัง่ คน
รับใช้ตกแต่งเรื อนหอ อันที่จริ งในใจกลับมีความสุ ขยิง่ นัก
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 213-1 พระรำชพิธีเสกสมรส
โหวฮูหยินฮูหยินสวี่ยงุ่ จนเท้าแทบไม่ติดพื้นแล้ว นอกจากจะเตรี ยม
ธุระปะปังต่างๆ ยังต้องจัดการสิ นเดิมของเสิ่ นเวยออกมา วันงานคือ
วันที่ยสี่ ิ บหก วันแรกก็ตอ้ งหามสิ นเดิมแล้ว ไม่ใช่เรื่ องง่าย
คนที่มามอบของขวัญแต่งงานให้เสิ่ นเวยมีไม่นอ้ ย นอกจากพี่สาว
น้องสาวญาติๆ ตระกูลตนแล้ว ที่นางรู ้จกั ก็มีท่านน้าสะใภ้ใหญ่จวน
เสนาบดีสองแม่ลูก จังเข่อจงเพื่อนสนิทของนางจากจวนแม่ทพั อู่เลี่ย
อ้อ ยังมีสวี่ฉู่ถงที่เพิ่งรู ้จกั ก็มาด้วยเช่นกัน
มากกว่านี้เป็ นคนที่เสิ่ นเวยไม่รู้จกั ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ของนางจูงมือ
แนะนาตัวให้นาง คนนี้คือฮูหยิน คนนั้นคือท่านย่า ทาเอาเสิ่ นเวยมึน
ศีรษะหลงทิศ จาใครไม่ได้อยางสิ้ นเชิง จึงทาได้เพียงปั้นหน้ายิม้
ทักทายอย่างเชื่อฟัง
เมื่อส่ งเหล่าฮูหยินคุณหนูที่มามอบของขวัญแต่งงานไปแล้ว เสิ่ นเวย
ก็เหนื่อยจนนอนแผ่อยูบ่ นเตียงปักลายไม่อยากขยับตัว ผูกมิตรกับ
เหล่าสตรี เรื อนในเหล่านี้ไม่ใช่งานถนัดจริ งๆ เหนื่อยกว่านางฆ่าศัตรู
ในสนามรบสามเท่า เลื่อมใสท่านป้าสะใภ้ใหญ่จริ งๆ หากอยูใ่ นยุค
ปัจจุบนั จะต้องเป็ นคนเก่งในที่ทางานแน่นอน
ฮูหยินสวี่มองใบรายการสิ นเดิมของหลานสาวร่ างทั้งร่ างก็รู้สึกไม่ดี
แล้ว ใบรายการนี้นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเพิ่งจะใช้คนมาส่ ง ยาวสิ บหน้า
กว่า นอกจากเงินเดือนในจวนแล้ว นายท่านผูเ้ ฒ่ายังยกมรดกของ
ตัวเองให้เวยเอ๋ อร์ท้ งั หมดจริ งๆ ฮูหยินสวี่คิดว่าตอนแรกนายท่านผู ้
เฒ่าโหวเพียงแค่พดู เล่น ไม่คิดว่าเขาจะทาจริ ง
เห็นทรัพย์สินล้ าค่านับไม่ถว้ นที่เขียนอยูบ่ นใบรายการสิ นเดิม ยังมี
เงินสิ นสอดสองแสนตาลึงที่เด่นชัดนั้น ความรู ้สึกของฮูหยินสวี่ก็
ซับซ้อน บัญชีจวนโหวทั้งจวนมีเงินได้ถึงสองแสนตาลึงหรื อ นี่ยงั
ไม่ใช่ท้ งั หมด ด้วยสติปัญญาของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวจะต้องไม่เขียน
เงินทั้งหมดลงบนในใบรายการสิ นเดิมเป็ นแน่ ที่ให้เวยเอ๋ อร์เป็ นการ
ส่ วนตัวใช่ยงั มีอีกเยอะหรื อไม่
เงินเหล่านี้ เห็นชัดๆ ว่าควรตกทอดสู่ พวกเขาบ้านใหญ่ แต่ตอนนี้
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกลับยกให้หลานสาวที่แต่งออกข้างนอกผูน้ ้ ี
ทั้งหมด ในใจนางสงบสุ ขได้กแ็ ปลกแล้ว
ในใจฮูหยินสวี่สับสนกระวนกระวายต่างๆ นานา กัดฟันก็แล้วถอน
หายใจก็แล้วกลับอันจนหนทางอยูด่ ี แม้จะบอกว่าสามีของนางรับ
ตาแหน่งจงอู่โหวแล้ว แต่ผทู ้ ี่เป็ นใหญ่ในจวนยังคงเป็ นนายท่านผู ้
เฒ่าโหว ทั้งจวนโหวเป็ นเขาที่สร้างขึ้นกับมือ เขาจะยกมรดกให้ผอู ้ ื่น
ย่อมไม่กล้าว่าอะไร
ช่างๆๆ คิดเสี ยว่าทั้งหมดเป็ นการลงทุนล่วงหน้า ไม่อาจคิดต่อไปได้
แล้ว ยิง่ คิดจิตใจนางก็ยงิ่ เจ็บปวด
ตอนนี้เสิ่ นเวยกาลังอยูใ่ นห้องหนังสื อของท่านปู่ นาง กาลังอ่านใบ
รายการสิ นเดิมนี้อยูเ่ ช่นเดียวกัน ปู่ นางยังพูดอยูข่ า้ งๆ “เจ้าดูสิวา่ น้อย
ไปหรื อไม่ จะให้เพิ่มอีกหน่อยหรื อไม่”
เสิ่ นเวยได้ยนิ ดังนั้นก็อดกระตุกมุมปากไม่ได้ สิ นเดิมนี้แทบจะ
เทียบเท่าฮ่องเต้แต่งองค์หญิงแล้ว อีกอย่าง เหล่าองค์หญิงของฝ่ าบาท
จะไม่มองนางด้วยความอาฆาตตายหรื อ สิ นเดิมขององค์หญิงราชนิ
กุลเทียบไม่ได้แม้แต่ขนุ นางหญิง คาพูดนี้ดงั ออกไปจะฟังได้หรื อ ฝ่ า
บาทเองก็คงไม่ยนิ ดีนกั ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและเพื่อ
ไว้หน้าเหล่าองค์หญิงราชนิกลุ ถ่อมตนสักหน่อยคงดีกว่า
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเองก็ไม่บีบบังคับ กล่าวต่อ “นอกจากเงินสิ นสอด
สองแสนตาลึงที่เขียนอยูใ่ นใบรายการแล้ว ยังมีเงินแสนตาลึงที่เจ้า
เก็บไว้ส่วนตัว ของเหล่านั้นที่ยงั เหลืออยูใ่ นคลังเจ้าจะเปลี่ยนเป็ นเงิน
หรื อว่าจะวางไว้ก่อน ปู่ บอกว่าให้เจ้าก็คือให้เจ้า อยากจัดการอย่างไร
เจ้าตัดสิ นใจเอง”
เสิ่ นเวยก็ไม่พดู อ้อมค้อมบอกปัดอีก คิดครู่ หนึ่งแล้วจึงกล่าว “วางไว้
ในเรื อนท่านปู่ ก่อนดีกว่า สิ นเดิมนี้ของหลานก็มากพอแล้ว เกิดก็
ไม่ได้เอามาตายก็เอาไปไม่ได้ พอประมาณก็ได้แล้ว ของเหล่านี้
รวมถึงสิ นเดิมที่ยงั เหลืออยูข่ องท่านแม่กท็ ิ้งไว้ให้เจวี๋ยเอ๋ อร์แต่ง
ภรรยาเถอะ”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเองก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ ความใส่ ใจที่
หลานสาวมีต่อเจวีย๋ เอ๋ อร์เขาเองก็มองเห็น จะไม่ทิ้งของไว้ให้เขาได้
อย่างไร ส่ วนที่หลานสาวไม่เอ่ยถึงอี้เอ๋ อร์แม้แต่ประโยคเดียว เขาก็
ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ หลานสาวกับฮูหยินหลิวต่างก็ฉีกหน้ากัน
แล้ว ไม่ได้ต่างจากศัตรู คู่แค้น นางไม่โกรธจนพาลใส่ เสวี่ยเอ๋ อร์อ้ ี
เอ๋ อร์กถ็ ือว่าเมตตาแล้ว ด้วยฝี มือของเวยเอ๋ อร์จดั การเสวี่ยเอ๋ อร์กบั อี้
เอ๋ อร์ไม่ใช่เรื่ องง่ายๆ หรอกหรื อ ยิง่ ไปกว่านั้นเวยเอ๋ อร์สองพี่นอ้ ง
ปฏิบตั ิต่ออี้เอ๋ อร์กไ็ ม่ได้แย่ ด้านค่าใช้จ่ายก็ไม่ขาด ทั้งยังไม่ปล่อยให้
บ่าวข้างล่างกลัน่ แกล้งนาย ยิง่ ไม่ใช้วิธีสกปรกมาล่อลวงให้เขาเสี ย
กาเรี ยน จากมุมมองของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวนี่ถือว่าหาได้ยากอย่างยิง่
แล้ว นี่เองก็ทาให้นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวให้ความสาคัญกับเวยเอ๋ อร์สอง
พี่นอ้ ง
หยุดครู่ หนึ่งเสิ่ นเวยก็นึกอะไรขึ้นได้ “ท่านปู่ เรื อนเฟิ งหวานี้ตอ้ งเก็บ
ไว้ให้หลาน” เรื อนนี้นางทุ่มเทแรงซ่อมแซม ยังอยูไ่ ด้ไม่ถึงปี นางก็
ออกเรื อนแล้ว นางตัดใจทิ้งให้คนอื่นเข้ามาอยูไ่ ม่ได้
“ได้ เก็บไว้ให้เจ้า เจ้ากลับมาเมื่อไรก็มาพักได้” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวต
อบด้วยความสบายใจอย่างยิง่
เสิ่ นเวยดีใจแล้ว “ขอบคุณท่านปู่ ที่เมตตา” นางวางแผนไว้ดีแล้ว
เรื อนเฟิ งหวาแห่งนี้เก็บไว้ให้นางพักชัว่ คราว อีกไม่กี่ปีเจวี๋ยเอ๋ อร์ก็
ควรจะแต่งภรรยาได้แล้ว ถึงตอนนั้นก็ให้เรื อนเฟิ งหวาเป็ นเรื อนหอ
เขาแล้วกัน
ชัว่ พริ บตาก็ถึงวันที่ยสี่ ิ บห้าเดือนสี่ แล้ว วันรุ่ งขึ้นก็จะเป็ นวันที่เสิ่ นเว
ยออกเรื อน ทานอาหารเช้าเสร็ จก็เริ่ มหามสิ นเดิมจากจวนจงอู่โหว
ไปจวนจิ้นอ๋ อง สิ นสอดของหมั้นของสวีโย่วไม่ทิ้งไว้ที่จวนจงอู่โหว
แม้แต่นิดเดียว ทั้งหมดเก็บรวบรวมไปไว้ในสิ นเดิมของเสิ่ นเวย
ดังนั้นขบวนสิ นเดิมของเสิ่ นเวยอลังการยิง่ กว่าของแม่นางเสี ยอีก
หนึ่งร้อยยีส่ ิ บคานหามเต็มๆ แต่ละคานหามต่างก็ใส่ จนอัดเต็ม
กระทัง่ สอดมือเข้าไปไม่ได้
เมื่อสิ นเดิมหามออกไปก็สร้างความตื่นตกใจ แม้ทุกคนจะไม่เห็น
ของให้**บ แต่สีหน้าท่าทางของเหล่าชนรุ่ นหลังที่หามสิ นเดิมกลับ
หลอกคนไม่ได้ บุตรสาวตระกูลอื่นออกเรื อนมีคนหามสิ นเดิมสอง
คนต่อหนึ่งคานหาม บุตรสาวจวนจงอู่โหวก็ใช้ชายหนุ่มสี่ คนหาม
สิ นเดิมหนึ่งคานหาม หากทาเช่นนี้ยงั กินแรงอย่างถึงที่สุด ก็สามารถ
นึกภาพได้วา่ **บใหญ่เพียงใด บรรจุของเต็มเพียงใด
ขณะที่ผคู ้ นวิจารณ์ในความร่ ารวยของจวนจงอู่โหว ก็ยงั วิจารณ์วา่
เจ้าสาวผูน้ ้ ีได้รับความโปรดปรานในจวน มีคนที่สนใจคานวณ
เงียบๆ ในใจ สิ นเดิมของคุณหนูจวนจงอู่โหวผูน้ ้ ีอย่างน้อยที่สุดก็มี
มูลค่าหลายแสนตาลึง สถิติน้ ีอย่างน้อยภายในสิ บปี ข้างหน้าก็ไม่มี
ใครสามารถทาลายได้
สิ นเดิมใช้เวลาหามหนึ่งวันเต็มๆ กระทัง่ อาทิตย์ตกดินจึงขนเข้าไป
ในจวนจิ้นอ๋ องจนหมด เพื่อที่จะวางสิ นเดิม สวีโย่วยังตั้งใจรื้ อห้อง
จานวนมาก แม้วา่ จะทาเช่นนี้กย็ งั วางไม่หมด ในลานบ้านยังวางอยู่
อีกเยอะ
คนทุกระดับชั้นในเรื อนสวีโย่วต่างก็ดีอกดีใจ สิ นเดิมว่าที่นายหญิง
มากมายเช่นนี้ พวกเขาที่เป็ นคนรับใช้เหล่านี้กร็ ู ้สึกเป็ นเกียรติ แต่ละ
คนยืดอกเชิดหน้าช่วยคนที่มาจากจวนโหวเฝ้าสิ นเดิมด้วยกันอย่างมี
ความสุ ข
จะไม่เฝ้าได้หรื อ คนที่ผา่ นมาดูสินเดิมแต่ละกลุ่มๆ สิ นเดิมของว่าที่
นายหญิงทั้งเยอะทั้งมีราคาแพง ถูกคนไม่ดูตาม้าตาเรื อที่ไหนหยิบ
ไปชิ้นสองชิ้นก็ไม่งามแล้ว
พระชายาจิ้นอ๋ องฟังการรายงานของคนใช้แล้ว ดวงตาก็ลุกวาว
สวดอมิตาพุทธกับหวังเฟยฮูหยินเต็มห้อง “ไอหยา ข้าบอกแล้วว่า
คุณชายใหญ่ของพวกเรามีวาสนา ดูสิไม่ใช่วา่ แต่งเทพแห่งโชคลาภ
เข้ามาหรอกหรื อ ข้าน่ะในที่สุดก็วางใจได้บา้ งแล้ว” นางวางท่าทาง
เป็ นแม่เลี้ยงผูร้ ักลูกเลี้ยง
จากนั้นก็มีฮูหยินที่หูตาไวผูน้ ้ นั หยอกล้อสอพลอ นอกจากชมคุณชาย
ใหญ่แล้ว ก็ยงิ่ ชื่นชมจิ้น
หวังเฟย พูดจาน่าฟังอย่างเช่นมารดาผูเ้ มตตาต่างๆ แน่นอนว่ายังมีคน
ที่ไม่เห็นด้วย เพียงแต่ใครบ้างในนี้ไม่ใช่ผมู ้ ีปัญญา วันมงคลของ
จวนจิ้นอ๋ องย่อมไม่อาจพูดจาไม่รู้กาลเทศะได้ ทาได้เพียงวางมาดดื่ม
ชา
พระชายาจิ้นอ๋ องสงบอารมณ์ได้ ลูกสะใภ้ท้ งั สองของนางอู๋ซื่อกับหู
ซื่อกลับไม่มีความสามารถนี้ ทั้งสองหาโอกาสไปดูสินเดิมของว่าที่
พี่สะใภ้ใหญ่ผนู ้ ้ ีกบั ตาตัวเอง เห็น**บที่วางอย่างเป็ นระเบียบ
เรี ยบร้อยในลานบ้าน เครื่ องประดับที่เปล่งประกายแพรวพราวนั้น
อัญมณี ที่ถูกเลี่ยมไว้ใหญ่พอๆ กับไข่นกพิราบ เพียงแค่ชิ้นเดียวเกรง
ว่าจะมีมูลค่ามากกว่าหมื่นตาลึงแล้ว ยิง่ ไปกว่านั้นเครื่ องประดับ
ศีรษะเช่นนี้มีถึงเจ็ดแปดชิ้น อู๋ซื่อกับหูซื่อมองจนตาร้อนแล้ว
บ้านฝั่งมารดาของอู๋ซื่อคือจวนกัว๋ กง นางเป็ นบุตรสาวคนโตที่ได้รับ
ความโปรดปรานที่สุดในจวน ตอนนั้นที่ได้ซื่อจื่อจวนจิ้นอ๋ องเป็ น
คู่หมั้น พี่สาวน้องสาวทั้งหลายในจวนต่างก็อิจฉานาง ในครอบครัว
ก็ทุ่มเทสิ นเดิมส่ งตัวนาง หวังเฟยกับซื่อจื่อก็ให้ความสาคัญแก่นาง
นางเองก็เคยภูมิใจในสิ นเดิมจานวนมากของตน แต่ตอนนี้เทียบกับ
พี่สะใภ้ใหญ่ผนู ้ ้ ีแล้ว สิ นเดิมสิ บลี้ของนางเป็ นเพียงเรื่ องน่าขัน
“เสด็จแม่พดู ถูกจริ งๆ พี่สะใภ้ใหญ่ผนู ้ ้ ีของพวกเราเป็ นเทพแห่งโชค
ลาภจริ งๆ แต่งภรรยาเช่นนี้ได้ คุณชายใหญ่กไ็ ม่มีอะไรให้ตอ้ งกังวล
แล้ว” อู๋ซื่อกล่าวอย่างมีเลศนัย
บนใบหน้าหูซื่อก็คล้ายกาลังครุ่ นคิด กล่าวด้วยความอิจฉา “ใครว่า
ไม่ใช่เล่า น่าอิจฉาเสี ยจริ งๆ ข้าอดทนรอเจอพี่สะใภ้ใหญ่คนดีของ
พวกเราไม่ไหวแล้ว”
ทั้งสองคนมองหน้าแล้วยิม้ ในแววตามีบางอย่างแวบผ่าน ดูเหมือน
ทาข้อตกลงอะไรบางอย่างเสร็ จเรี ยบร้อยแล้ว
ตกค่า ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ฮูหยินสวี่มาที่หอ้ งเสิ่ นเวย จับมือนางพูด
คาพูดมากมาย ท้ายที่สุดก็ลว้ งหนังสื อเล่มเล็กหนึ่งเล่มยัดใส่ มือเสิ่ น
เวยด้วยสี หน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไอเบาๆ หลายคราแล้วจึงกล่าว
“เวยเอ๋ อร์ คืนเข้าหอเป็ นขั้นตอนที่เจ้าสาวทุกคนจะต้องผ่าน ถึงตอน
นั้นเจ้าก็ฟังสามีเจ้าก็พอแล้ว อาจจะเจ็บหน่อย เจ้า เจ้าอดทนไว้
ประเดี๋ยวก็ผา่ นไป ผ่านคืนพรุ่ งนี้ไปก็จะดีข้ ึน”
การชี้แนะลูกๆ ในคืนก่อนพิธีสมรสเดิมควรจะเป็ นเรื่ องของมารดา
แต่นอ้ งสามีสามที่น่าสงสารผูน้ ้ นั ของนางตายก่อนวัยอันควร ฮู
หยินหลิวก็…ช่างเถอะ วันมงคลอย่าได้เอ่ยถึงนางเลย ด้วยเหตุน้ ีเรื่ อง
นี้จึงตกมาอยูท่ ี่นางผูเ้ ป็ นป้าสะใภ้ใหญ่ผนู ้ ้ ี อย่างไรเสี ยเวยเอ๋ อร์ก็
ไม่ใช่บุตรสาวแท้ๆ ของนาง นางก็ยงั ไม่กล้าพูดละเอียดจริ งๆ
แรกเริ่ มเสิ่ นเวยยังไม่ค่อยเข้าใจนัก อะไรเจ็บไม่เจ็บ ทนไม่ทน นาง
แต่งงาน ไม่ได้ลงสู่ สนามรบ แต่เมื่อได้เห็นความอึดอัดบนใบหน้า
ของท่านป้าสะใภ้ใหญ่ จากนั้นก็เห็นปกหนังสื อเล่มเล็กในมือ
ชัว่ ขณะก็เข้าใจแล้ว
อ้อ นี่คือการสอนเรื่ องในเรื อนหอก่อนแต่งงานฉบับโบราณสิ นะ
เสิ่ นเวยเป็ นใคร จะไม่เข้าใจเรื่ องนี้ได้อย่างไร ไม่เคยกินเนื้อก็ไม่ได้
หมายความว่าจะไม่เคยเห็นหมูวิ่งมิใช่หรื อ โดยเฉพาะยุคปั จจุบนั
หนังต่างประเทศเหล่านั้นเผยแพร่ อยูท่ วั่ ไป
เสิ่ นเวยอยากจะถามคาถามละเอียดหลายคาถาม แต่เห็นท่านป้าสะใภ้
ใหญ่เอ่ยเพียงแค่สองประโยคสั้นๆ เช่นนั้นก็อึดอัดไปทั้งใบหน้า ได้
นางจะทาตัวเป็ นลูกคุณหนูตวั ปลอมโดยดี ไม่ทาให้คนตกใจ
ด้วยเหตุน้ ีเสิ่ นเวยก็เกร็ งหน้าตัวเองจนแดงซ่าน ก้มหน้าทาท่าทาง
เขินอาย แม้แต่เสี ยงก็เบาราวกับยุง “ทราบแล้ว ท่านป้าสะใภ้ใหญ่”
ฮูหยินสวี่เห็นท่าที ในที่สุดก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ตบไล่ของเสิ่ น
เวยแล้วกล่าว “เวยเอ๋ อร์รีบพักผ่อนเถอะ พรุ่ งนี้ยงั ต้องเหนื่อยทั้งวัน”
ส่ งท่านป้าสะใภ้ใหญ่ไปแล้ว เสิ่ นเวยกลับไปถึงห้องก็เปิ ดหนังสื อ
เล่มเล็กออก จุ๊ๆ คนสองคนในภาพราวกับขนมเกลียว ภาพนับได้วา่
ชัดเจนอย่างยิง่ ดูไม่ออกว่าคนโบราณที่หวั เก่าแก่จะมีดา้ นที่เปิ ดเผย
เช่นนี้ เสิ่ นเวยพลิกหน้าแล้วหน้าเล่า บ้างก็ตกใจ บ้างก็ถอนหายใจ ดู
ด้วยความสนใจใคร่ รู้
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 213-2 พระรำชพิธีเสกสมรส
“อ่านอะไรอยูถ่ ึงได้ต้ งั ใจเพียงนั้น” จู่ๆ ข้างหูกไ็ ด้ยนิ เสี ยงๆ หนึ่ง เสิ่ น
เวยซ่อนหนังสื อเล่มเล็กไว้ใต้แขนเสื้ ออย่างลนลานตามจิตใต้สานึก
“ไม่…ไม่ได้อ่านอะไร”
เมื่อเห็นว่าคนที่มาคือสวีโย่ว ชัว่ ขณะก็โมโหอย่างถึงที่สุด ไม่ใช่บอก
ไว้หรื อว่าก่อนวันแต่งงานคนทั้งสองไม่ควรพบหน้ากัน กลางดึก
หมอนี่วิ่งมาหานางที่นี่ทาไม ทั้งยังทานางสะดุง้ ตกใจ เสิ่ นเวยทาหน้า
ดีๆ ใส่ เขาได้กแ็ ปลกแล้ว นางหยิบหมอนบนเตียงโยนออกไปทันที
กล่าวอย่างโมโห “ท่านรู ้หรื อไม่วา่ ทาคนตกใจแทบตาย ท่านเป็ นผี
หรื อมาไม่ให้สุ้มให้เสี ยง ท่านไม่อยูใ่ นจวนวิ่งมาที่นี่ทาไม ท่านไม่
อยากได้ชื่อเสี ยงแต่ขา้ ยังมีศกั ดิ์ศรี ลูกผูห้ ญิงอยู”่
เสิ่ นเวยกล่าวอย่างมีเหตุผลและสัจธรรม อันที่จริ งในใจกาลังคิด
ศักดิ์ศรี ลูกผูห้ ญิง นัน่ มันอะไรกัน ใครเคยเห็นช่วยเอามาให้นางดู
หน่อย
สวีโย่วหมดความมัน่ ใจเล็กน้อย กล่าวอย่างอึกอัก “ก็แค่มาดูเจ้ามิใช่
หรื อ”
พูดยังไม่ทนั ขาดคาก็ถูกเสิ่ นเวยกดเสี ยงต่าตะโกนแล้ว “ข้ามีอะไรให้
น่าดู พรุ่ งนี้กไ็ ด้เจอแล้วไม่ใช่หรื อ ท่านรี บกลับไปดีกว่า หากทาคน
อื่นแตกตื่นจะแย่เอา”
สวีโย่วคิดๆ แล้วก็ถูก เขาอยูใ่ นจวนเพียงแค่คิดถึงพิธีสมรสแล้วดีใจ
จนนอนไม่หลับ จึงมาดูเสิ่ นเวย ตอนนี้คนก็เห็นแล้ว ความต้องการ
ได้รับการสนอง เขาย่อมไม่ยดื เยื้อเสี ยเวลา
“อ้อจริ งสิ เมื่อครู่ เจ้าอ่านอะไรอยูก่ นั แน่” สวีโย่วเดินไปแล้วสองก้าว
คล้ายจู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้จึงหันหลังกลับมาถาม
เสิ่ นเวยใจเต้น ชูหนังสื อเล่มเล็กขึ้นอย่างไม่สนใจ “ท่านหมายถึงเล่ม
นี้หรื อ ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่านี่คืออะไร ท่านป้าสะใภ้ใหญ่เพิง่ จะ
ให้ขา้ มา ให้ขา้ อ่านให้ดี บอกว่าต้องใช้ แปลกใจจริ งๆ เหตุใดคนใน
รู ปนี้เหมือนกาลังพัวพันกันอยูเ่ ลย คุณชายใหญ่สวีท่านรู ้หรื อไม่คน
ที่เปลือยก้นผูน้ ้ ีกาลังทาอะไรอยู”่ ท่าทางของเสิ่ นเวยสงสัยอย่างยิง่
ท่าทางไม่รู้สึกอายที่จะถาม
สายตาของสวีโย่วมองเห็นคนในหนังสื อเล่มเล็ก ชัว่ ขณะใบหน้าก็
ร้อนราวกับไฟเผา กล่าวในใจ นี่กค็ ือการพัวพันกับราคะอยูม่ ิใช่หรื อ
เขาโตกว่าเสิ่ นเวยหลายปี ซ้ ายังเป็ นผูช้ าย ย่อมต้องเข้าใจว่าหนังสื อ
เล่มนั้นคืออะไร ไม่ใช่หนังสื อภาพเปลือยหรอกหรื อ เขาพูดได้หรื อ
ว่าอันที่จริ งเขาก็เคยซ่อนไว้หลายเล่ม
ยิง่ สวีโย่วอึดอัด เสิ่ นเวยก็ยงิ่ ไล่ถาม “คุณชายใหญ่ นี่คืออะไรกันแน่”
ท่าทางเหมือนเด็กโง่ข้ ีสงสัย อันที่จริ งในใจหัวเราะหงายหลังแล้ว
สวีโย่วกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างยิง่ ละสายตาออกไปอย่างอึดอัด
แม้แต่ดวงตาของเสิ่ นเวยก็ไม่กล้ามอง กล่าวอย่างคลุมเครื อ “ไม่มี
อะไร ของเหล่านี้ขา้ เองก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก รออีกไม่นานเจ้าก็รู้เอง”
พูดจบ ก็หนีไปราวกับว่าข้างหลังมีคนไล่ตามเขา
เสิ่ นเวยชายตามองหัวเราะเยาะ พ่อหนุ่ม ข้าไม่เชื่อว่าจะจัดการเจ้า
ไม่ได้ นางโบกหนังสื อเล่มเล็กในมือ คิดครู่ หนึ่ง จากนั้นก็ยดั มันลง
ก้น**บ เข้านอนเร็ วหน่อยดีกว่า ฟังว่าแต่งงานเหนื่อยยิง่ นัก
เดิมคิดว่าจะนอนไม่หลับ ไม่คิดว่าเสิ่ นเวยจะนอนหลับจนฟ้าสาง อ้อ
ไม่ วันนี้นางไม่มีโอกาสได้นอนจนฟ้าสาง ฟ้ายังไม่สาง หลีฮวาก็
เรี ยกนางแล้ว เสิ่ นเวยง่วงจนลืมตาไม่ข้ ึน ปากขานรับแต่คนกลับไม่
ขยับ ดึงดันจะนอนต่ออีกครึ่ งชัว่ ยาม หลีฮวาและคนอื่นๆ ร้อนใจจน
อยากจะเข้าไปแบกนางขึ้นมา
เสิ่ นเวยลงจากเตียงอย่างสะลึมสะลือ ปล่อยให้สาวใช้หลายคน
อาบน้ าแต่งตัวให้นาง จากนั้นก็กินข้าว ทรมานต่อไปจนนาง
กระปรี้ กระเปร่ าเล็กน้อย
“เรี ยบร้อยแล้วหรื อยัง เก็บกวาดเรี ยบร้อยแล้วหรื อยัง” ข้างนอกมี
เสี ยงของป้าสะใภ้ใหญ่ฮูหยินสวี่ดงั เข้ามา
เสิ่ นเวยตื่นตัว ได้สติกลับมาทันที จากนั้นก็ได้ยนิ หลีฮวาขานรับ
“เรี ยนฮูหยิน เตรี ยมเสร็ จเรี ยบร้อยแล้วเจ้าค่ะ รอหวีผมอยู”่
ไม่นานนัก ก็เห็นป้าสะใภ้ใหญ่เดินเข้ามาพร้อมฮูหยินมีหน้ามีตาผู ้
หนึ่ง เสิ่ นเวยก็เข้าใจว่าคนผูน้ ้ ีคือผูม้ ีวาสนาครบที่มาหวีผมให้นาง
สมัยโบราณ สตรี ออกเรื อนต้องหาผูม้ ีวาสนาครบมาช่วยกวาดเกี้ยว
จุดธูปในเกี้ยว วางกระจกในเกี้ยว ผูม้ ีวาสนาครบก็ไม่ใช่วา่ จะหาใคร
มาก็ได้ ต้องเป็ นสตรี ผมู ้ ีวาสนาครบที่ในบ้านพ่อแม่ยงั อยู่ สามีภรรยา
รักใคร่ มีท้ งั ลูกชายลูกสาว พี่นอ้ งปรองดองกลมเกลียวจึงจะได้
“เวยเอ๋ อร์ นี่คือจ้าวฮูหยินจวนเจี้ยนอั้นโหว พีจ่ า้ ว วันนี้รบกวนท่าน
แล้ว” ฮูหยินสวี่มองจ้าวฮูหยินแล้วอมยิม้ กล่าว
เสิ่ นเวยรี บทาความเคารพ จ้าวฮูหยินผูน้ ้ นั คล้ายมีความสัมพันธ์ไม่
เลวกับท่านป้าสะใภ้ใหญ่ เห็นนางจับมือของเสิ่ นเวยด้วยท่าทีเอ็นดู
ยิม้ อย่างสบายๆ “ได้หวีผมหญิงที่สวยเพียงนี้ ข้าก็ดีใจ ข้าน่ะยังต้อง
ขอบคุณเจ้าที่ให้โอกาสนี้แก่ขา้ ให้ขา้ ได้สมั ผัสความสุ ขจากจวิน้ จู่
เหนียงเหนียงของพวกเรา” นางกล่าวหยอกล้อ
บุตรสาวออกเรื อน ล้วนแต่เป็ นมารดาที่ช่วยหวีผม หร่ วนซื่อไม่อยู่
แล้ว ถือโอกาสให้จา้ วฮูหยินผูม้ ีวาสนาครบรับหน้าที่หวีผมแทน
เสี ยเลย
เสิ่ นเวยนัง่ ตัวตรงหน้ากระจก จ้าวฮูหยินหวีผมจากยอดศีรษะลงมา
ช้าๆ หวีไปพลางเอื้อนเอ่ยไปพลาง “หนึ่งหวีหวีถึงต้น ร่ ารวยไร้
กังวล สองหวีหวีถึงต้น ไม่บาดเจ็บไม่ทุกข์ใจ สามหวีหวีถึงต้น มี
บุตรมากอายุยนื อีกหวีหวีถึงปลาย เคารพกันซึ่งสามีภรรยา สองหวี
หวีถึงปลาย ไม่มีวนั แยกจากกัน สามหวีหวีถึงปลาย รักใคร่ กลม
เกลียวชัว่ นิจนิรันดร์ มีตน้ มีปลาย ร่ ารวยเงินทอง”
ในคาพูดอวยพรแต่ละครั้ง เสิ่ นเวยรู ้สึกเศร้าอย่างไม่มีสาเหตุ นาง
กาลังคิด หากหร่ วนซื่อยังอยู่ ได้เห็นนางออกเรื อนก็คงจะดียงิ่ นัก
จากนั้นจึงคิดถึงแม่ที่อยูไ่ กลออกไปในอีกมิติ วันนี้เป็ นวันที่ลูกออก
เรื อน ท่านเห็นหรื อไม่
ไม่เพียงแต่เสิ่ นเวยเสี ยใจ แม่นมกูก้ ป็ าดน้ าตาอยูน่ านแล้ว กลัวคน
เห็นแล้วจะไม่ดี จึงหลบไปอยูข่ า้ งๆ เงียบๆ ฮูหยิน ท่านเห็นแล้วหรื อ
ยัง คุณหนูโตแล้ว วันนี้ออกเรื อนแล้ว หากท่านมีชีวิตอยูถ่ ึงตอนนี้ก็
คงจะดียงิ่ นัก
จ้าวฮูหยินมองเด็กสาวโฉมงามที่เบ้าตาแดงก่าในกระจก ดวงตามี
ความสงสารแวบผ่าน กล่าวเกลี้ยกล่อมอย่างเป็ นมิตร “วันนี้เป็ นวันดี
ของคุณหนูสี่ ไม่อาจร่ าไห้เป็ นเม็ดถัว่ ทองคาได้ หากจะร้องไห้เป็ น
ถัว่ ทองคาก็ตอ้ งรอพี่นอ้ งเจ้าหาเครื่ องเรื อนมารับก่อน”
คาพูดติดตลกทาให้เสิ่ นเวยยกมุมปากเบาๆ ยิม้ ให้นางด้วยความซึ้งใจ
แต่งหน้าแน่นอนว่ามีผชู ้ านาญการ เรื่ องนี้มีสี่เหนียง[1]มาทา ก่อน
หน้านี้เสิ่ นเวยบอกนางแล้ว ไม่ตอ้ งแต่งหน้าเข้มจนเหมือนก้นลิง
เดิมนางก็มีพ้นื ฐานดีอยูแ่ ล้ว แต่งเบาๆ ก็พอ ภายใต้การชี้แนะของ
เสิ่ นเวย สี่ เหนียงแต่งหน้าแบบธรรมชาติให้นาง มองไม่เห็นร่ องรอย
การแต่งหน้า แต่กลับรู ้สึกว่างามไปหมดทุกส่ วน
เมื่อเสิ่ นเวยหันหน้ากลับมา ทุกคนก็รู้สึกเพียงในห้องสว่างไสวสาม
ส่ วนในชัว่ พริ บตา เสิ่ นเวยที่สวมชุดแต่งงานสี แดงฉานแต่งหน้า
แต่งตัว งดงามจนราวกับนางฟ้าตกลงมาจากสวรรค์ช้ นั เก้า ทาให้คน
ละสายตาไม่ได้
“ท่านพี่สี่งามเกินไปแล้วจริ งๆ เป็ นเจ้าสาวที่สวยที่สุดที่ขา้ เคยเห็น”
เหอหลินหลินอ้าปากกล่าวอย่างโง่เขลา
ทุกคนพากันพยักหน้า นี่คือเสี ยงในใจของคนทั้งหมด ในใจเสิ่ น
เสวี่ยที่ยนื อยูต่ รงมุมอิจฉามากเป็ นพิเศษ เทียบกับความเย็นชาใน
วันที่ตนออกเรื อน เสิ่ นเวยออกเรื อนกลับครื้ นเครงอย่างถึงที่สุด นี่จะ
ให้นางสงบจิตสงบใจได้อย่างไร นางกาหมัดแน่น แค่นเสี ยงหึ หมุน
ตัวออกจากห้องไป
นางกลับอยากพูดจาถากถางหลายประโยค แต่นางไม่กล้า ก่อนหน้า
นี้นางแค่ปรายตามองเสิ่ นเวย
สองครา ท่านป้าสะใภ้ใหญ่กเ็ ตือนให้นางอยูน่ ิ่งๆ มิเช่นนั้นจะส่ งนาง
กลับจวนหย่งติ้งโหว อีกทั้งยังให้พี่รองดูนางไว้ นางในตอนนี้ไม่
อยากบุ่มบ่ามเหมือนเช่นแต่ก่อน นางรู ้ดีวา่ หากนางเสี ยบ้านฝั่ง
มารดาที่พ่ งึ นี้ไป อวี้ซื่อแม่สามีผชู ้ วั่ ร้ายคนนั้นของนางก็สามารถกัด
นางได้ ดังนั้นต่อให้นางจะไม่ยนิ ดี ก็ไม่กล้าก่อเรื่ องก่อราวที่นี่
ทุกคนออกมาหมดแล้ว ในห้องมีเพียงแม่นมมัว่ กับหลีฮวาและสาว
ใช้คนอื่นๆ อยูเ่ ป็ นเพื่อนเสิ่ นเวย เสิ่ นเวยนัง่ อยูห่ น้าเตียง ในใจเคียด
แค้นอย่างถึงที่สุด พิธีแต่งงานของคนโบราณเหตุใดจะต้องจัดขึ้น
ตอนพลบค่าให้ได้ เช้าตรู่ ปลุกนางมาทรมานไม่ใช่เป็ นทุกข์หรอก
หรื อ นางไม่ตอ้ งตื่นเช้าเพียงนั้นก็ยงั ได้
“คุณหนู ท่านหิวแล้วหรื อยัง บ่าวไปทาอะไรท่านกินเสี ยหน่อย พอ
ท่านเขยมาท่านก็กินไม่ได้แล้ว” หลีฮวาพูดพลางถอยออกไป
ผ่านไปอีกครู่ หนึ่ง นอกประตูกม็ ีเสี ยงฝี เท้าพักหนึ่ง เสิ่ นเวยคิดว่า
หลีฮวากลับมาแล้ว เงยหน้ามอง กลับเห็นเสิ่ นเจวี๋ยน้องชายแม่
เดียวกันยืนอยูต่ รงหน้านาง เห็นเพียงเขาก้มศีรษะต่า ดวงตาแดงก่า
“เป็ นอะไร น้องเจวีย๋ ” เสิ่ นเวยกวักมือเรี ยกเสิ่ นเจวี๋ยเข้ามา
“ท่านพี่ ข้าไม่อยากเสี ยท่านไป” เสิ่ นเจวี๋ยกอดเอวของเสิ่ นเวยด้วย
ความอาลัย แนบศีรษะลงบนขานาง ในจวนนี้มีเพียงท่านพี่ที่ดีต่อเขา
ที่สุด เขาไม่อยากให้ท่านพี่ออกเรื อน
หนึ่งประโยคทาให้หวั ใจของเสิ่ นเวยอ่อนลง “เด็กโง่ มีอะไรให้อาลัย
จวนจิ้นอ๋ องก็อยูไ่ ม่ไกล เจ้าคิดถึงข้าก็ไปหาข้าสิ ”
“จริ งหรื อ” เสิ่ นเจวี๋ยเงยหน้าขึ้นฉับพลัน ในดวงตาเต็มไปด้วยความดี
ใจ ทันใดนั้นบนใบหน้าก็มีความไม่แน่ใจหลายส่ วนปรากฎอยู่ “จวน
จิ้นกัว๋ กงจะไม่วา่ ใช่หรื อไม่” แม้เขาจะอายุนอ้ ย แต่กลับรู ้วา่ เป็ นพี่
น้องบ้านฝั่งมารดาก็ไม่ควรไปเยีย่ มบ้านบ่อยๆ
ทว่าเสิ่ นเวยกลับไม่สนใจ “จะเป็ นอะไรไป พีไ่ ม่ได้อยูจ่ วนจิ้นอ๋ อง
ไปตลอด พี่เขยเจ้าได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ อ๋ อง อย่าง
มากสามถึงห้าเดือนก็ยา้ ยไปที่จวนจวิน้ อ๋ องแล้ว พี่เป็ นเจ้านายดูแล
บ้าน ต่อให้เจ้าจะเข้าไปพักก็ยงั ได้ ไม่มีใครว่า”
“อืมๆ” เสิ่ นเจวี๋ยพยักหน้าตาลุกวาวไม่หยุด จากนั้นจึงวางศีรษะลง
บนขาของพี่สาว ในใจอาวรณ์อย่างถึงที่สุด
หลีฮวาเข้ามาแล้ว ในมือถือเกี๊ยวหนึ่งถ้วย แต่ละชิ้นต่างก็มีขนาดเล็ก
เสิ่ นเวยอ้าปากก็กินได้หนึ่งตัว “คุณหนู เหลือเวลาไม่มากแล้ว บ่าว
คาดว่าท่านเขยใกล้ถึงแล้ว ท่านรี บกินเถอะ” หลีฮวาคีบเกี๊ยวตัวเล็ก
ส่ งเข้ามาในปากเสิ่ นเวย
เพิ่งจะกินไปได้สองชิ้น ก็เห็นเถาฮวาวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ ว “คุณหนู
คุณหนู ท่านเขยมาแล้ว ใกล้จะถึงหน้าประตูใหญ่แล้ว”
เสิ่ นเวยมองเกี๊ยวตัวเล็กในชามปราดหนึ่ง ชัว่ ขณะก็ร้อนใจเล็กน้อย
ผลักเสิ่ นเจวี๋ยกล่าว “น้องเจวี๋ยรี บไปกั้นประตู พี่จะกินอิ่มหรื อไม่
ขึ้นอยูก่ บั เจ้าแล้ว” จากนั้นก็สงั่ เถาฮวา “เถาฮวาเด็กดี เจ้าแรงเยอะ ไป
ดันประตูอย่าให้ปิดออก ขอเงินอัง่ เปาพวกเขา พอเมื่อไรก็เปิ ดประตู
เมื่อนั้น”
เสิ่ นเจวี๋ยกับเถาฮวาไปกั้นประตูดว้ ยความกระตือรื อร้น เสิ่ นเวยพอ
ใจอย่างยิง่ พ่อหนุ่ม ให้เจ้าปี นกาแพงบ้านข้าอยูบ่ ่อยๆ วันนี้ไม่ให้เจ้า
ฝ่ าห้าด่านสังหารหกขุนพลก็อย่าได้คิดจะเข้ามาเลย
เสิ่ นเวยกินเกี๊ยวตัวเล็กของนางอย่างไม่รีบไม่ร้อน สวีโย่วข้างนอก
สวมชุดสี แดงขี่มา้ ตัวสู งใหญ่นาขบวนรับเจ้าสาวมาถึงหน้าประตู
ใหญ่จวนจงอู่โหว สวีโย่วที่แต่ไหนแต่ไรเย็นชา วันนี้บนใบหน้ามี
ความสุ ขจางๆ ทาให้เขามองดูแล้วไม่ได้สูงส่ งเกินเอื้อมเพียงนั้น
เขามองเห็นประตูใหญ่จวนโหวที่ปิดอย่างรวดเร็ วมีศีรษะเล็กๆ ทั้ง
สองชะโงกออกมา จาได้วา่ เป็ นน้องภรรยาที่เจอไม่บ่อยนักกับเถาฮ
วา ในใจก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีข้ ึนมาในชัว่ ขณะ พิธีวนั นี้คล้ายใหญ่
เล็กน้อย แต่ไม่วา่ จะยากลาบากเพียงใดเขาก็จะต้องรับคุณหนูสี่แซ่
เสิ่ นกลับจวนให้จงได้
[1] สี่ เหนียง สตรี ที่คอยทาหน้าที่ช้ ีแนะเจ้าสาว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 214-1 รับตัวเจ้ ำสำวและกรำบไหว้ ฟ้ำดิน
เสิ่ นเจวี๋ยยืนอยูบ่ นบันไดเอ่ยคาขอต่างๆ เสี ยงดัง เหล่าลูกพี่ลูกน้อง
ข้างกายเขารวมถึงชนรุ่ นหลังหมู่บา้ นตระกูลเสิ่ นก็ตะโกนเรี ยกร้อง
ขึ้นมาเช่นกัน
สวีโย่วมองเห็นอาจารย์ซูขา้ งกายเสิ่ นเวยในฝูงชนกาลังหัวเราะหึๆ
มองเขา ก็รู้สึกท่าไม่ดีทนั ที แม้อาจารย์ซูผนู ้ ้ ีจะเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อย
ปรากฎหน้า แต่จากที่เสิ่ นเวยไปซีเจียงให้เขาดูแลความมัน่ คงในเมือง
หลวงก็เห็นแล้วว่านางให้ความสาคัญต่อเขา ใต้บงั คับบัญชาแม่ทพั
แข็งแกร่ งไร้ทหารอ่อนแอ อาจารย์ซูผนู ้ ้ ีไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
เป็ นดังคาด ขณะที่เสิ่ นเจวี๋ยใช้อุบายจนหมดแล้วอาจารย์ซูผนู ้ ้ ีกเ็ ข้ามา
ช่วย คาถามเจ้าเล่ห์แต่ละข้อๆ เปล่งเสี ยงดังออกมาจากปากของเสิ่ น
เจวี๋ย สวีโย่วอดรู ้สึกจนปัญญาไม่ได้ นี่จะให้เป็ นนักกวีหรื อว่าจะให้
สอบแปลความหมายบทความ ยากยิง่ กว่าสอบขุนนางเสี ยอีก จะดี
จริ งๆ หรื อ
คนที่ตามสวีโย่วมารับตัวเจ้าสาวนอกจากบุตรหลานในราชสานัก
แล้วยังมีบุตรหลานขุนนางสู งศักดิ์ หากเป็ นเรื่ องกินดื่มสังสรรค์กลับ
เชี่ยวชาญกันทุกคน แม้จะเป็ นการพนัน พวกเขาก็สามารถช่วยเจ้าได้
ไม่มากก็นอ้ ย แต่ความสามารถด้านตาราการเรี ยนกลับอ่อนอย่างถึง
ที่สุด ในนั้นมีหลายคนที่แม้แต่อกั ษรยังเขียนเหมือนกับไก่เขี่ย ก่อน
หน้านี้ยงั โห่ร้องครื้ นเครง ตอนนี้กลับถูกคนอื่นทาเอาตกตะลึงแล้ว
สวีโย่วหวังพึ่งพวกเขาไม่ได้ ทาได้เพียงพยายามฝ่ าอุปสรรคไปด้วย
ตัวเอง เขากลับอ่านหนังสื อมาไม่นอ้ ย การบ้านยังเคยได้รับคาชม
จากฝ่ าบาท แต่สองมือยากจะสู ้สี่มือ เขาคนเดียวเผชิญหน้ากับคน
หนึ่งกลุ่ม เสี ยเปรี ยบยิง่ นัก! โชคดีที่ตอนมาเขาดึงผูช้ ่วยคนหนึ่งมา
จากสานักราชบัณฑิต มิเช่นนั้นด่านนี้เขาก็คงผ่านไปไม่ได้จริ งๆ
ผูช้ ่วยที่ถูกสวีโย่วลากมาก็คือเจียงเฉิน กระทัง่ ตอนนี้เขาก็ยงั สับสน
งุนงง เขาเพียงแค่ตามไปดื่มสุ รามงคลสมทบที่จวนจิ้นอ๋ อง เห็นชัดๆ
ว่าคุณชายใหญ่สวีผนู ้ ้ ีไม่รู้จกั เขา เพียงแต่ได้ยนิ คนตะโกนเรี ยกเขาว่า
ราชบัณฑิตเจียงหนึ่งครา ก็หนั หลังกลับสัง่ ให้เขาตามมารับตัว
เจ้าสาวด้วย
โชคดีที่อาจารย์ซูรู้จกั ความหนักเบาอย่างยิง่ เมื่อเจียงเฉิ นท่องกลอน
ไม่รู้กี่บทจบ เห็นว่าพอได้แล้ว ก็บอกเป็ นนัยให้ผา่ นด่านนี้ สวีโย่
วถอนหายใจอย่างโล่งอก บอกเป็ นนัยให้เจียงไป๋ ให้ซองแดงแก่เหล่า
น้องชายภรรยาของเขา เสิ่ นเจวี๋ยน้องภรรยาที่ซื่อสัตย์ที่สุดย่อมได้
เยอะที่สุด
ทว่าเถาฮวาที่เฝ้าประตูกลับไม่ยอมเปิ ดประตูเด็ดขาด โวยวายเสี ยงดัง
“ให้ซองแดง ให้ซองแดง คุณหนูของเราบอกว่าหากให้ซองแดงไม่
มากพอก็จะไม่เปิ ดประตูให้”
ทุกคนหัวเราะร่ าพร้อมกัน สวีฉงั่ คุณชายสี่ จวนจิ้นอ๋ องม้วนแขนเสื้ อ
ขึ้นอย่างไม่เชื่ออาสาเดินเข้าไปผลักประตู ก็แค่เด็กผูห้ ญิงไม่ใช่หรื อ
จะแรงเยอะเพียงใดกัน
ใครจะรู ้เขากระทัง่ ใช้แรงทั้งหมดที่มี ประตูใหญ่บานนั้นก็ยงั คงไม่
ขยับแม้แต่นิดเดียว ทุกคนก็หวั เราะครื้ นเครงอีกครั้ง เถาฮวาข้างใน
ยังคงตะโกนขอซองแดง ขอซองแดงใหญ่ๆ
สวีฉงั่ อัดอั้นจนหน้าแดงก่าแล้วก็ยงั ผลักประตูไม่ออก เขาเคยชินกับ
ชีวิตคุณชายแล้ว ไม่รู้สึกขายหน้า หันหลังกลับไปถลึงตามองสหาย
ที่หวั เราะเขา “พวกใจร้ายใจดา เห็นข้าขายหน้าแล้วพวกเจ้ายังมี
เกียรติอยูอ่ ีกหรื อ ยังไม่รีบมาช่วยอีก”
ในกลุ่มคนมีสหายสี่ คนเดินเข้ามาทันที แต่พวกเขาร่ วมกันออกแรง
ประตูใหญ่จวนจงอู่โหวก็ยงั แน่นิ่งไม่ขยับ เสี ยงหัวเราะข้างในก็ยงิ่
ดัง “เถาฮวาน้อยของพวกเราแรงเยอะ พวกท่านรี บให้ซองแดงเถอะ
พยานรู ้เห็นย่อมมีส่วน ให้หลายๆ ซองหน่อย”
สวีโย่วยืนมือไพล่หลังมองพวกเขาหัวเราะสนุกสนาน ตอนนี้จึงบอก
เป็ นนัยให้เจียงไป๋ ให้ซองแดง งานมงคล งานมงคล ก็ตอ้ งสร้างความ
ครื้ นเครงและเสี ยงหัวเราะจึงจะได้บรรยากาศ ไม่อาจจืดชืดเย็นชา
เหมือนกับอะไรดี
เจียงไป๋ แจกจ่ายซองแดงออกไปทั้งหมดสิ บกว่าซองจากนั้นจึงเคาะ
ประตู ในอ้อมอกเถาฮวากอดซองแดงเจ็ดแปดซองยิม้ จนตาปิ ด
“เร็ วเข้าๆ ท่านเขยเข้ามาในจวนแล้ว รี บไปรายงานด้านใน” พ่อบ้าน
ใหญ่ตะโกนเสี ยงดัง
สวีโย่วนาขบวนรับตัวเจ้าสาวเดินเข้าไปในจวน ทว่าเขาดีใจเร็ ว
เกินไป หน้าประตูเรื อนเฟิ งหวาเหล่าชนรุ่ นหลังของหมู่บา้ นตระกูล
เสิ่ นยืนวางมาดรออยูน่ านแล้ว พวกเขาสวมชุดสี ดา ช่วงเอวมัดผ้า
คาดเอวสี แดง ในมือถือทวนยาวเหมือนกัน บนทวนยาวก็มีผา้ สี แดง
สดผูกอยูเ่ ช่นกัน
โอวหยางไน่ยนื อยูข่ า้ งๆ ด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย โบกมือบัญชา ชนรุ่ ง
หลังเหล่านี้ของหมู่บา้ นตระกูลเสิ่ นก็ต้ งั แนวรบทันที ตะโกนเสี ยงดัง
ก้องโสตประสาท พลังที่พงุ่ ออกมานั้น เหล่าสหายที่มารับตัวเจ้าสาว
ต่างก็อา้ ปากค้าง พากันส่ งสายตาเห็นใจไปยังเจ้าบ่าว
ทว่าสวีโย่วกลับไม่ประหลาดใจเลยแม้แต่นิดเดียว น้องสี่ แซ่เสิ่ นเด็ก
ชัว่ ผูน้ ้ นั จะให้เขาอุม้ หญิงงามกลับง่ายๆ ได้อย่างไร
หลีฮวายืนทาความเคารพอย่างงดงามอยูบ่ ริ เวณประตูลานบ้าน “ท่าน
เขย คุณหนูของเรารออยูใ่ นห้องเจ้าค่ะ” ความหมายนั้นไม่ตอ้ งบอกก็
รู ้ อยากแต่งคุณหนูของพวกข้าเช่นนั้นก็ตอ้ งแสดงความสามารถ
ออกมา
เถาฮวาแทรกตัวผ่านช่องว่างอย่างคล่องแคล่ว วิ่งไม่กี่กา้ วก็เข้าไปใน
ลานบ้านแล้ว ยังไม่ลืมที่จะหันหน้ากลับมาแลบลิ้นให้เหล่าสหาย
ที่มารับตัวเจ้าสาวที่ยนื ตะลึงงันอยู่
“คุณหนู คุณหนู ดูสิวา่ ข้าได้ซองแดงมาเยอะเลย” เถาฮวาหยิบซอง
แดงในอ้อมอกให้เสิ่ นเวยดูอย่างดีใจ ดวงตาเปล่งประกาย ราวกับเด็ก
ที่รอคาชม
เสิ่ นเวยย่อมชมนางอย่างไม่งกเลยแม้แต่นิดเดียว “ทาดีมาก คราวนี้
เถาฮวาก็รวยแล้ว” ไม่ตอ้ งยืน่ มือไปจับเสิ่ นเวยก็รู้วา่ นี่เป็ นซองใหญ่
เถาฮวาเป็ นคนที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดข้างกายนาง ขอเพียงแค่
ตาไม่บอดใครบ้างจะกล้าปฏิบตั ิอย่างไม่เป็ นธรรม
ถวาฮวามีความสุ ขมากกว่าเดิม “คุณหนู คุณหนู ข้ากั้นท่านเขยอยูพ่ กั
ใหญ่ เขาอยูน่ อกเรื อนของพวกเรา จะให้ขา้ ไปปิ ดประตูอีกหรื อไม่
เสิ่ นเวยลูบศีรษะของเถาฮวา กล่าว “ไม่ตอ้ งแล้ว เถาฮวาอยูเ่ ป็ นเพื่อน
ข้าในห้องเถอะ มีอาจารย์โอวหยางอยู่ เขาไม่มีทางเข้ามาได้ง่าย
ขนาดนั้นหรอก” มุมปากของเสิ่ นเวยยกสู ง อารมณ์ดียงิ่ นัก
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวและคนอื่นๆ ในจวนรู ้เรื่ องแนบรบหน้าประตู
เรื อนเฟิ งหวาแล้ว ลุงทั้งสองของเสิ่ นเวยตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
เช่นเดียวกับเหล่าสหายที่มารับตัวเจ้าสาว สี หน้าของพ่อนางก็ไม่ดี
อย่างยิง่ เช่นกัน “สร้างเรื่ อง เวยเอ๋ อร์สร้างเรื่ องเกินไปแล้ว” หันหลัง
กลับกาลังจะเดินไปข้างนอก
“เจ้าจะไปไหน” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเหลือบตาขึ้น
“ลูกจะไปดูเสี ยหน่อย ให้ผชู ้ ่วยเด็กซนเหล่านั้นรี บๆ ออกไป” เวย
เอ๋ อร์ด้ือรั้นเอาแต่ใจเช่นนี้ หากท่านเขยโมโหขึ้นมาจะทาอย่างไร วัน
มงคล วุน่ วายแล้วคงจะไม่ดีอย่างยิง่
“กลับมา” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหววางแก้วชาลงบนโต๊ะทันที ชายตามอง
ลูกคนที่สามปราดหนึ่งอย่างไม่ยนิ ดีนกั กล่าวเสี ยงเรี ยบ “เวยเอ๋ อร์
ไหนเลยจะทาไม่ดี หลานสาวของข้าเสิ่ นผิงยวนจะแต่งงานได้ง่ายๆ
เพียงนั้นเชียวหรื อ ไม่แสดงความสามารถออกมาก็คิดจะแต่งไข่มุก
ล้ าค่าในมือของข้าเสิ่ นผิงยวนไปหรื อ เหอะ!”
เสิ่ นหงเซวียนมองใบหน้าโกรธเกรี้ ยวของพ่อเขา สุ ดท้ายก็ไม่กล้า
ออกไป
สหายที่มารับตัวเจ้าสาวแม้วา่ ด้านการเรี ยนจะไม่ปราดเปรื่ องนัก แต่
อย่างน้อยๆ ก็พอจะเป็ นยุทธ์อยูบ่ า้ ง ด้วยเหตุน้ ีหลังคนหนึ่งกลุ่มหาย
ตกใจแล้วก็ถูฝ่ามืออยากลงประลอง วิ่งเข้าไปในลานบ้านทันที ยังไม่
ทันได้แสดงหมัดมวย ก็ถูกชนรุ่ นหลังหมูบา้ นตระกูลเสิ่ นโยน
ออกไปทีละคนๆ แล้ว จนตรอกยิง่ นัก
สวีโย่วเองก็ไม่ได้หวังจะพึ่งพวกเขา เขาลูบจมูก ก้าวไปข้างหน้าช้าๆ
โอวหยางไน่ประจันหน้าเข้ามาทันที อันที่จริ งในใจเขาก็จนปั ญญา
คุณหนูบอกแล้วว่า หากเขากล้าปล่อยให้เข้ามา เขาก็ตอ้ งรับผิดชอบ
ด้วยตัวเอง เพื่อที่จะไม่รับผิดชอบเขาจึงจาเป็ นต้องขวาง!
ทว่าสวีโย่วกลับไม่ได้ต้ งั รับกระบวนท่าของโอวหยางไน่ แต่กวาด
สายตามองเจียงไป๋ และคนอื่นๆ ปราดหนึ่ง เจียงไป๋ และคนอื่นๆ
กระโดดออกไปก่อตัวเป็ นบันไดคน สวีโย่วใช้พลังที่รวดเร็ วไม่อาจ
ตั้งตัวเหยียบบันไดคนอาศัยแรงคนหลายขั้นก็ขา้ มผ่านยอดศีรษะ
ของชนรุ่ นหลังหมู่บา้ นตระกูลเสิ่ นแล้ว เหล่าชนรุ่ นหลังหมู่บา้ น
ตระกูลเสิ่ นยังไม่ทนั ได้สติกลับมา สวีโย่วก็กางปี กใหญ่อนั งามสง่า
ตกลงบนพื้นแล้ว เขาหมุนตัวยกมุมปากเบาๆ ให้ทุกคน ชุดแดงทั้ง
ร่ างไม่ยบั เลยแม้แต่นิดเดียว เดินเข้าไปในเรื อนด้วยความผ่าเผย
ทุกคนตกใจจนคางแทบจะหล่นลงมาแล้ว ไม่ใช่วา่ กันว่าคุณชาย
ใหญ่เป็ นคนขี้โรคหรอกหรื อ คนขี้โรคสามารถใช้วิชาตัวเบาที่ยอด
เยีย่ มเป็ นอันดับหนึ่งเพียงนี้ได้ดว้ ยหรื อ เจ้าเชื่อหรื อไม่ ทุกคนมอง
หน้ากันไปมา พากันส่ ายหน้า
ไม่ใช่บอกว่าคุณชายใหญ่เป็ นคนหน้าตายยิม้ ไม่เป็ นหรื อ เมื่อครู่ คน
ที่ยมิ้ จนพวกเขาสัน่ สะท้านผูน้ ้ นั คือใคร
“เข้ามาแล้ว เข้ามาแล้ว ท่านเขยเข้ามาแล้ว” เหล่าสาวใช้ร้องตะโกน
ฮูหยินสวี่กบั ฮูหยินจ้าวที่รอต้อนรับอยูข่ า้ งนอกก็เร่ งฝี เท้าเข้ามา “ผ้า
คลุมหน้าเล่า รี บคลุมให้เวยเอ๋ อร์!”
แม่นมมัว่ สวมมงกุฎหงส์ลงบนศีรษะของเสิ่ นเวยอย่างรวดเร็ ว หลีฮ
วาคลุมผ้าคลุมหน้าสี แดงฉานบนศีรษะนางทันที เสิ่ นรู ้สึกเพียงคอ
ถูกกด ดวงตาแดงก่า เอาล่ะ เหตุใดถึงไม่มีใครบอกนางว่ามงกุฎหงส์
หนักเพียงนี้ แทบจะกดจนลาคอเล็กๆ ที่บอบบางของนางหักอยูแ่ ล้ว
ตอนที่สวีโย่วเข้ามาก็มองเห็นเสิ่ นเวยยืนอยูอ่ ย่างดงามตรงนั้น สี แดง
ที่สะท้อนเข้ามาในม่านตาทาให้หวั ใจของเขาอบอุ่น เขาก้าวเข้ามาหา
เสิ่ นเวยช้าๆ “ข้ามาแล้ว”
คาสามคาง่ายๆ ถูกสวีโย่วพูดออกมาได้อย่างอ่อนโยนที่สุด ใช่ ข้า
มาแล้ว ข้ามเขาข้ามน้ าพันหมื่นลี้เพื่อมาแต่งเจ้า! แม่นางผูเ้ ป็ นที่รัก
ข้าจะเอาความรักและชีวิตของข้ามอบให้ดว้ ยสองมือ ท่ามกลางความ
งามนับพันหมื่นเจ้าจะยอมออกไปเผชิญพร้อมกับข้าหรื อไม่ นับจาก
นี้ไปน้ าค้างยามเช้าจะเฝ้ารอเจ้า อาทิตย์อสั ดงจะร้องเพลงให้เจ้าฟัง
แม่นางผูเ้ ป็ นที่รักของข้า ชัว่ ชีวิตนี้พวกเราจะจับมือกันเดินไปบน
เส้นทางธุลีแดง
เสี ยงประทัดข้างนอกดังขึ้น เสิ่ นเวยกับสวีโย่วถูกทุกคนติดตามไป
กราบลาญาติที่เรื อนใหญ่
นายท่านผูเ้ ฒ่ากับนายหญิงผูเ้ ฒ่านัง่ ตัวตรงอยูใ่ นห้องโถง เสิ่ นเวยคุก
เข่าลงกับพื้นโขกศีรษะสามครั้งอย่างตั้งใจจริ ง สวีโย่วเป็ นจวิน้ อ๋ อง
ไม่จาเป็ นต้องคุกเข่าไหว้ แต่เขาก็ยงั คงเลิกชุดคลุมนัง่ คุกเข่าลง
ตรงหน้านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเป็ นเพื่อนเสิ่ นเวย เขารู ้วา่ นายท่านผูเ้ ฒ่า
โหวเป็ นคนที่ภรรยาของเขาเคารพที่สุด
นายหญิงผูเ้ ฒ่ารู ้สึกมีเกียรติมากเป็ นพิเศษ รอยยิม้ บนใบหน้าก็จริ งใจ
ขึ้นหลายส่ วน กล่าวกับเสิ่ นเวยว่าหลังแต่งงานต้องเคารพผูอ้ าวุโส
เชื่อฟังสามี รักใคร่ กบั น้องสะใภ้ต่างๆ นานาหลายประโยคด้วย
ใบหน้าเมตตาอ่อนโยน
ทว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกลับมีสีหน้าเคร่ งขรึ มไม่พดู จา เขาไม่ยนิ ดี ไม่
ยินดีเลยแม้แต่นิดเดียว คุณชายใหญ่สวีคุกเข่าให้เขาเขาเองก็ไม่ยนิ ดี
ไข่มุกในมือที่ล้ าค่าของเขาถูกเด็กชัว่ ผูน้ ้ ีแต่งไปแล้ว เขาจะทาหน้าดีๆ
ให้เขามองได้อย่างไร
“ท่านพ่อ วันนี้เป็ นวันมงคลของเวยเอ๋ อร์ ท่านสัง่ เสี ยเวยเอ่อร์สกั
หน่อยเถิด” เสิ่ นหงเหวินสามพี่นอ้ งข้างๆ เป็ นกังวลยิง่ นัก ท่านเขยสี่
จวิน้ อ๋ องผูย้ งิ่ ใหญ่ให้เกียรติขนาดนี้แล้ว แต่ท่านพ่อกลับยังหน้าดา
คร่ าเครี ยด พวกเขากลัวว่าท่านพ่อจะทาอะไรที่ไม่เหมาะสมออกมา
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวมองลูกชายสามคนอย่างไม่พอใจปราดหนึ่ง กล้ า
กลืนอยูน่ านจึงกล่าวกับหลานสาวหนึ่งประโยค “หากชีวิตไม่ราบรื่ น
ก็กลับจวน เรื่ องที่ใหญ่เท่าฟ้าปู่ ก็แบกรับแทนเจ้าได้”
หนึ่งประโยคแทบจะทาให้เสิ่ นเวยน้ าตาไหล นางกัดริ มฝี ปากกล่าว
เสี ยงเบา “เจ้าค่ะ หลานทราบแล้ว” นางโขกศีรษะด้วยความเคารพ
นบนอบให้ท่านปู่ อีกครั้งจึงลุกขึ้น
“ท่านปู่ วางใจ ไม่มีวนั นั้นหรอก” สวีโย่วมองคนข้างกาย สาบาน
อย่างหนักแน่น
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวมองเขาอย่างเย็นชา แค่นเสี ยงอยูใ่ นจมูกไม่เปล่ง
ออกมา สายตาถลึงมองหลานเขยที่ฉกฉวยผลประโยชน์อย่างไม่ยนิ ดี
กล่าวเตือน “จาคาเจ้าไว้แล้วกัน”
สวีโย่วเลิกคิ้ว ถือเป็ นคาตอบ
กราบลาปู่ ย่าแล้ว ต่อไปก็กราบลาพ่อแม่ เสิ่ นเวยกับสวีโย่วโขกศีรษะ
ให้ท่านพ่อและแท่นบูชาท่านแม่สามครั้ง เทียบกับความรู ้สึกที่
ซับซ้อนของเสิ่ นหงเซวียน ความรู ้สึกของเสิ่ นเวยสงบนิ่งยิง่ กว่า เดิม
นางก็ไม่ได้มีความผูกพันกับบิดาผูน้ ้ ีอยูแ่ ล้ว หวังจะเห็นนางร้องห่ม
ร้องไห้เป็ นเรื่ องที่เป็ นไปไม่ได้
ข้างนอกมีเสี ยงครึ กครื้ นดังขึ้น ประทัดที่งานแต่งจุดขึ้นสามครั้งแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 214-2 รับตัวเจ้ ำสำวและกรำบไหว้ ฟ้ำดิน
“ท่านพ่อ ควรส่ งเวยเอ๋ อร์ออกเรื อนแล้ว หากคลาดฤกษ์จะไม่ดี” ฮู
หยินสวี่ยมิ้ พลางก้าวขึ้นมา นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวจึงพยักหน้าน้อยๆ
เพิ่งจะก้าวออกจากธรณี ประตู ไม่รอพี่รองเสิ่ นซงย่อตัวลง สวีโย่วก็
อุม้ เสิ่ นเวยขึ้นมาแล้ว ก้าวยาวเดินออกไปข้างนอกท่ามกลางความตื่น
ตะลึงของทุกคน
ปกติสตรี ออกเรื อนจะมีพี่นอ้ งแบกขึ้นเกี้ยว ไม่มีพี่นอ้ งแท้ๆ หรื อว่า
พี่นอ้ งแท้ๆ เด็กเกินไปเช่นนั้นก็จะหาลูกพี่ลูกน้อง เสิ่ นเจวี๋ยยังไม่
บรรลุนิติภาวะ ดังนั้นจึงต้องให้เสิ่ นซงบ้านรองแบกนางขึ้นเกี้ยว
แต่ท่านเขยสี่ หมายความว่าอย่างไร ไม่เคยได้ยนิ ว่ามีเจ้าบ่าวอุม้
เจ้าสาวขึ้นเกี้ยวด้วยตัวเอง แต่วา่ เนื่องจากสวีโย่วมีอานาจตาแหน่ง
ทุกคนก็ไม่กล้าพูดอะไร อีกทั้งสวีโย่วยังเดินเร็ วอย่างยิง่ กว่าทุกคน
จะได้สติกลับมาเขาก็ออกจากเรื อนไปแล้ว
เสิ่ นเวยเองก็ไม่คิดว่าสวีโย่วจะมาไม้น้ ี ตกใจจนมือทัง่ คู่กอดคอของ
เขาไว้แน่น ถลึงตามองเขาปราดหนึ่งผ่านผ้าคลุมหน้า ทว่าสวีโย่วก
ลับยกมุมปากอย่างพอใจ ภรรยาของเขาย่อมต้องให้เขาอุม้ ขึ้นเกี้ยว
เอง จะให้ชายอื่นมาแบกได้อย่างไร ต่อให้จะเป็ นพี่นอ้ งก็ไม่ได้
สี่ เหนียงกับหลีฮวาสับขาวิ่งจึงจะตามเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปหน้าประตู
จวนโหวทัน เจียงไป๋ เปิ ดม่านเกี้ยว สวีโย่ววางเสิ่ นเวยเข้าไปอย่าง
ระมัดระวัง หันหน้ากลับมามองสี่ เหนียงที่ตะลึงงันปราดหนึ่ง สี่
เหนียงผูน้ ้ นั รู ้สึกเพียงหัวใจเย็นเยียบ รี บวิ่งมาข้างเกี้ยวโบก
ผ้าเช็ดหน้าตะโกนดัง “ขึ้นเกี้ยว ขึ้นเกี้ยว เจ้าสาวออกเรื อนแล้ว!”
สวีโย่วกระตุกมุมปากอย่างพอใจ พลิกตัวขึ้นม้านาทางอยูข่ า้ งหน้า
เสิ่ นเวยนัง่ เกี้ยวน้อยอย่างถึงที่สุด ออกจากบ้านไม่ขี่มา้ ก็นงั่ รถม้า ฟัง
ว่านัง่ เกี้ยวจะทาให้เวียนหัว แต่เสิ่ นเวยไม่รู้สึกเลยแม้แต่นิดเดียว
เกี้ยวหามอย่างมัน่ คง ไม่โคลงเคลงเลยแม้แต่นอ้ ย
นางกลับไม่รู้วา่ คนหามเกี้ยวเป็ นคนที่สวีโย่วตั้งใจเลือกมาจาก
กองทัพคุม้ มังกร ไม่เพียงแต่มีกาลังวังชา ส่ วนสู งปกติ อีกทั้งกาลังใน
มือยังดีอย่างยิง่ ยอดฝี มือเช่นนี้หามเกี้ยวย่อมนิ่งราวกับเดินบนพื้น
เรี ยบแน่นอน
เกี้ยวหยุดลงแล้ว สวีโย่วเตะประตูเกี้ยวตามธรรมเนียม หลังจากนั้นก็
เปิ ดม่านเกี้ยวประคองเสิ่ นเวยออกมา สี่ เหนียงกับหลีฮวาพยุงขนาบ
ข้างนาง ผ้าไหมสี แดงสดส่ งมาที่มือเสิ่ นเวย ปลายอีกด้านหนึ่งก็อยู่
ในมือสวีโย่ว เขาจูงเสิ่ นเวยเดินเข้าไปในจวนช้าๆ ก้าวข้ามกระถาง
ไฟ จากนั้นก็ตรงเข้าโถงหลัก
มีขนุ นางกรมพิธีการและคนอื่นๆ รออยูท่ ี่นี่นานแล้ว “เร็ วๆๆ เจ้าบ่าว
เจ้าสาวกราบไหว้ฟ้าดิน!”
เสิ่ นเวยไม่ค่อยเข้าใจธรรมเนียมพิธีแต่งงานโบราณนัก โชคดีที่มีสี่
เหนียง นางคอยกระซิบเตือนอยูข่ า้ งๆ เสิ่ นเวย นางว่าอย่างไรเสิ่ นเวย
ก็ทาตามนั้น
สายตาแขกทั้งห้องต่างก็ตกอยูบ่ นร่ างคู่บ่าวสาวในชุดแดง งานมงคล
ทาให้ผคู ้ นมีชีวิตชีวา บนร่ างคุณชายใหญ่ถอดความเย็นชาห่างเหิ น
ในวันปกติออกไปแล้ว แม้แต่ใบหน้าที่ขาวซีดนั้นยังมีสีแดงระเรื่ อ
ประดับอยูห่ ลายส่ วน เจ้าสาวยืนอยูข่ า้ งกายเขาอย่างโอนอ่อนผ่อน
ตาม ทั้งสองมองดูแล้วเหมาะสมกันเพียงนั้น
“หนึ่งคานับฟ้าดิน สองคานับบุพการี สามีภรรยาคานับซึ่งกันและ
กัน ส่ งตัวเข้าเรื อนหอ!”
หลังจากเสี ยงๆ นี้พดู จบ เสิ่ นเวยก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เอา
ล่ะ หน้าที่เสร็ จแล้ว ไม่มีอะไรให้นางต้องทาแล้ว นางไปนัง่ พักใน
ห้องหอได้แล้ว
สวีโย่วจูงเสิ่ นเวยเข้าเรื อนหอ สี่ เหนียงชี้แนะให้เสิ่ นเวยนัง่ ลงบน
เตียง ยิม้ แย้มเอ่ยปากกล่าว “คุณชายใหญ่เลิกผ้าคลุมเถิดเจ้าค่ะ”
สวีโย่วรับคันชัง่ เข้ามาเลิกผ้าคลุมหน้าบนศีรษะของเสิ่ นเวยออก เสิ่ น
เวยเงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่งามเลิศใบนั้นทาให้คนทั้งหมดที่ลอ้ มห้อง
หอต่างก็ประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ ในดวงตาสวีโย่วมีความตะลึง
แวบผ่าน น้องสี่ แซ่เสิ่ นหน้าตาดี แต่ไม่คิดว่าน้องสี่ แซ่เสิ่ นที่แต่งหน้า
แต่งตัวจะงดงามเพียงนี้
เสิ่ นเวยย่อมเห็นความตกตะลึงในดวงตาของสวีโย่วแล้ว ยิม้ แย้ม
อย่างอดไม่ได้ วินาทีน้ นั ทุกคนรู ้สึกเพียงเบื้องหน้างามตระการตา
ราวกับบุปผางามพันหมื่นผลิบานอีกครั้ง ฟ้าดินจึงดับมืดไร้สีสนั
“เจ้าสาวสวยจริ งๆ ดูสิ คุณชายใหญ่ตกตะลึงแล้ว” อู๋ซื่อฮูหยินของส
วีเยีย่ หยอกล้อกล่าวด้วยรอยยิม้ ทัว่ ใบหน้า
มีนางนา คนอื่นๆ ในห้องหอก็คล้อยตาม ยังมีคนที่ทาตัวเสเพลจน
เคยชินหยอกเล่นอย่างตรงไปตรงมา บ้างก็วา่ ขาวนวลเหมือนดอกฝู
หรง (ดอกพุดตาน) บ้างก็วา่ ฝ่ ายชายมีวาสนาได้หญิงงามเป็ นภรรยา
เสิ่ นเวยเพียงแค่นงั่ ก้มหน้าน้อยๆ ไม่สนใจ แสร้งทาท่าทางเขินอาย
ชีวิตคนก็เหมือนละคร ทั้งหมดต้องการอาศัยการแสดง วันนี้นางเป็ น
เจ้าสาว ย่อมต้องสวมบทบาทนี้ให้ดี
เสิ่ นเวยไม่สนใจ แต่สวีโย่วกลับไม่ยนิ ดีแล้ว สายตาเย็นเยียบกวาด
ผ่านออกไป คนไม่กี่คนนั้นต่างก็สั่นสะท้านในใจ ปิ ดปากหน้าเจื่อน
แอบหนีออกไปเงียบๆ ตอนที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ไปถึงข้างนอกแล้ว
ก็ยงั ลูบอกหวาดกลัว แอบเกลียดตัวเองที่เหตุใดถึงลืมตัวทาตาม
อาเภอใจชัว่ ขณะ
นัน่ คือพญามาร สาหรับคนที่ไม่ได้เรื่ องเช่นพวกเขาเหล่านี้กถ็ ือเป็ น
การดารงอยูท่ ี่เสมือนเขาสู งมหาสมุทรกว้าง พญามารไม่เพียงแต่
ได้รับความโปรดปรานจากฝ่ าบาท อีกทั้งยังเป็ นแบบอย่างในสายตา
บิดาของจวนต่างๆ มักจะชี้พวกเขาแล้วกล่าวอย่างเจ็บใจที่ไม่อาจ
หลอมเหล็กให้กลายเป็ นเหล็กกล้าได้ ‘ดูโย่วเอ่อร์สิ ร่ างกายไม่ดี แต่
ความรู ้ความสามารถยังได้รับคาชมจากฝ่ าบาท เจ้ากายาล่าสัน แต่
ท่องไม่ได้แม้แต่คมั ภีร์สามอักษร ขายหน้าบรรพบุรุษจะแย่’
ไม่ก็ ‘ดูกิริยามารยาทโย่วเอ๋ อร์ แล้วดูเจ้าสิ ยืนยังยืนไม่เหมือน นัง่ ยัง
นัง่ ไม่เหมือน อ่อนปวกเปี ยกราวกับหนอนไม่รู้จกั อาย เหตุใดข้าถึง
ได้มีลูกไม่เอาไหนแบบเจ้า’
สรุ ปแล้ว สวีโย่วคือดอกไม้ที่สูงส่ ง ไผ่เขียวที่ทรงพลัง เมฆขาวบน
ท้องฟ้า นอกจากสุ ขภาพไม่ดี ไม่วา่ อะไรต่างก็ดี พวกเขาเล่า เป็ นดัง่
โคลนตมบนพื้นดิน เป็ นสุ นขั ที่ปีนกาแพงไม่ได้ เป็ นคนไร้ค่า นี่ยงั
เป็ นสิ่ งที่พอ่ แท้ๆ ของพวกเขาพูดเอง
ตอนที่ยงั ไม่รู้ประสี ประสาก็เคยมีความคิดที่จะกลัน่ แกล้งสวีโย่ว
หนึ่งคือสวีโย่วไม่คอ่ ยอยูเ่ มืองหลวง สองต่อให้เขาอยูใ่ นเมืองหลวง
ไม่อยูใ่ นจวนก็อยูใ่ นพระราชวัง พวกเขาหาโอกาสไม่ได้ กว่าจะได้
โอกาสมา เพิ่งคิดจะปล่อยวาจาเสี ยดแทงสองประโยค ก็ถูกแววตา
รังเกียจที่เยือกเย็นของเขาจ้องมอง ราวกับมองสิ่ งสกปรกบางอย่าง
พวกเขาก็ขลาดกลัวละอายแก่ใจแล้ว ยิง่ ไปกว่านั้นยังถูกทหารคุม้ กัน
ข้างกายเขาตีจนลุกไม่ข้ ึน กลับบ้านไปก็ถูกบิดาตีอีก บวกกับคุกเข่า
ในศาลบรรพบุรุษ
นับตั้งแต่น้ นั มา พวกเขาก็ไม่กล้ายัว่ ยุพญามารอีกเลย ต่อให้เขาจะไม่
อยูใ่ นเมืองหลวง ในเมืองหลวงก็ยงั คงมีข่าวลือเกี่ยวกับเขา
สตรี ในห้องหอเองก็อึดอัดเล็กน้อย โชคดีที่สี่เหนียงเข้ามาทาพิธี นาง
คีบเกี๊ยวส่ งไปที่ปากเสิ่ นเวยให้นางกิน อีกทั้งยังถามนางว่ามีบุตร
หรื อไม่ เสิ่ นเวยถูกทาให้ตกใจจนงงงัน แต่กย็ งั คงฝื นใจบอกว่ามี
สี่ เหนียงออกไปพูดคามงคลนั้นข้างนอกราวกับไม่ตอ้ งการเงิน สตรี
ในห้องก็หยอกล้อพูดจาประเภทขอให้มีบุตรโดยเร็ วต่างๆ นานาก็ยงั
เชื่อฟัง
ดาเนินไปจนถึงพิธีสุดท้าย หลังดื่มสุ รามงคลสมรสแล้ว สวีโย่วก็
ควรออกไปดื่มสุ ราอวยพร เขากล่าวกับเสิ่ นเวยด้วยเสี ยงอ่อนโยน
“เจ้าพักก่อน ข้าไปครู่ เดียวประเดี๋ยวจะกลับมา”
เสิ่ นเวยหน้าแดงพยักหน้า
เมื่อสวีโย่วไปแล้วก็มีคนกล่าวหยอก “มิน่าเล่าพี่ใหญ่ถึงไม่อยากไป
หญิงงามอ่อนหวานชดช้อยเพียงนี้ ใครบ้างจะตัดใจได้”
“นัน่ สิ เทียบกับภรรยาของโย่วเอ๋ อร์แล้ว พวกเราก็กลายเป็ นหมัน่
โถวไหม้ไปเลย”
“ดูเจ้าเด็กนี่พดู เข้า หากเจ้าเป็ นหมัน่ โถวไหม้ อาสะใภ้เช่นข้าจะเป็ น
อะไร”
“ท่านน่ะหรื อ ย่อมเป็ นเทพแห่งอายุขยั อย่างไรเล่า!”
“ฮ่าๆ เจ้าเด็กนี่ปากหวานจริ งๆ วันหลังต้องไปคุยกับแม่สามีเจ้าจริ งๆ
เสี ยแล้ว”
ในห้องหอเต็มไปด้วยเสี ยงพูดคุยและเสี ยงหัวเราะที่ฟังไม่ศพั ท์ อู๋ซื่อ
กับหูซื่อสบตากันปราดหนึ่ง จากนั้นจึงมองเจ้าสาวที่เขินอายจนก้ม
หน้างุด อู๋ซื่อก็แย้มยิม้ กล่าว “ข้าว่าท่านป้าสะใภ้ท่านอาสะใภ้พี่สะใภ้
น้องสะใภ้ทุกท่าน พวกท่านอย่าได้หยอกล้อเจ้าสาวอยูเ่ ลย หากยัง
พูดต่อไป เจ้าสาวคงจะเขินอายจนมุดแผ่นดินหนีแล้ว ไปๆๆ พวกเรา
ออกไปนัง่ ในงานเถอะ”
เจ้าสาวก็เห็นแล้ว อีกอย่างอู๋ซื่อก็เป็ นฮูหยินซื่อจื่อ ทุกคนย่อมต้องไว้
หน้านาง พากันจูงมือเดินออกไปข้างนอก
อู๋ซื่อกับหูซื่อออกไปทีหลังสุ ด “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้ากับน้องสะใภ้สาม
ไม่กวนท่านแล้ว ท่านก็พกั ผ่อนเถิด ต้องการอะไรก็เรี ยกได้ สาวใช้
คอยปรนนิบตั ิอยูข่ า้ งนอกทั้งหมด”
เสิ่ นเวยพยักหน้า กล่าวหนึ่งครา “ลาบากแล้ว”
รอยยิม้ บนใบหน้าอู๋ซื่อก็ยงิ่ กว้าง “คนบ้านเดียวกันจะเกรงใจไป
ทาไม” เสิ่ นเวยจึงไม่พดู อีก
ทุกคนไปแล้ว ไหล่ของเสิ่ นเวยก็ตกลงทันที “หลีฮวา หลีฮวา รี บเอา
มงกุฎหงส์ออกไป คอข้าจะหักอยูแ่ ล้ว”
หลีฮวาลังเลเล็กน้อย มองสี่ เหนียง เอามงกุฎหงส์ออกตอนนี้จะดีหรื อ
สี่ เหนียงยังไม่ทนั ได้พดู เสิ่ นเวยก็เร่ งรัดแล้ว “เร็ วหน่อย ข้าจะแบก
ไม่ไหวแล้ว” นางไม่สนว่าอะไรจะเป็ นมงคลไม่เป็ นมงคล เป็ นกฎ
ไม่เป็ นกฎ นางรู ้เพียงมงกุฎหงส์บนศีรษะหนักเกินไป นางใส่ แล้ว
ทรมานยิง่ นัก
เมื่อหลีฮวาได้ยนิ ก็ไม่มองสี่ เหนียงแล้ว วิ่งเข้าไปช่วยเสิ่ นเวยถอด
มงกุฎหงส์ลง “คุณหนู ท่านไม่เป็ นไรใช่หรื อไม่” นางถามด้วยความ
เป็ นห่วง
เสิ่ นเวยหมุนคอ ใช้มือนวด “ในที่สุดก็หายใจได้แล้ว”
สี่ เหนียงอ้าปาก ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พดู อะไร ด้วยความโปรดปรานที่
คุณชายใหญ่มีต่อคนผูน้ ้ ี นางยอมโอนอ่อนผ่อนตามเล็กน้อยดีกว่า
เสิ่ นเวยพอใจต่อท่าทีของสี่ เหนียงอย่างถึงที่สุด บอกเป็ นนัยให้หลีฮ
วาปูนบาเหน็จนางหนักๆ หลังจากนั้นก็ไล่นางออกไป
เดิมสี่ เหนียงยังลังเลเล็กน้อย แต่นางเห็นแม่นมผูน้ ้ นั ที่ติดตามอยูข่ า้ ง
กายเสิ่ นเวยแล้ว ก็ยงั คงถอยออกไปอย่างเชื่อฟัง
ภายในห้องล้วนแต่เป็ นคนของตน เสิ่ นเวยรู ้สึกเป็ นตัวของตัวเองขึ้น
มากในชัว่ พริ บตา “หลีฮวา มีของกินหรื อไม่ ข้าหิ วแล้ว” ก่อนหน้านี้
กินเกี๊ยวตัวเล็กหนึ่งถ้วยนั้น ตอนนี้ฟ้าก็มืดแล้ว ย่อยหมดไปนานแล้ว
หลีฮวากล่าว “คุณหนูท่านรอสักครู่ บ่าวจะออกไปดู”
“เดี๋ยว ไม่ตอ้ งไปแล้ว” เสิ่ นเวยกวาดสายตามองเห็นมุมหนึ่งของห้อง
วางโต๊ะอาหารไว้หนึ่งโต๊ะ วิง่ เข้าไปทันที “ไม่ตอ้ งทาให้ยงุ่ ยาก ข้า
กินอันนี้กไ็ ด้”
“คุณหนู นี่ไม่ดีกระมัง บ่าวออกไปทาอะไรรองท้องให้ดีกว่า โต๊ะ
อาหารนี้รอท่านเขยมาแล้วท่านค่อยกินพร้อมกันกับเขา” หลีฮวา
โน้มน้าว
ทว่าเสิ่ นเวยกลับโบกมือ “เขาอยูข่ า้ งนอกคงกินอิ่มไปนานแล้ว” เหตุ
ใดนางจะต้องทนหิวรอเขา ฝันไปเถอะ!
เสิ่ นเวยหยิบตะเกียบขึ้นมาก็กิน นางหิวจริ งๆ กินแม้กระทัง่ ขาหมู
หลายชิ้น “เถาฮวาเล่า” จู่ๆ เสิ่ นเวยก็ถาม เถาฮวาชอบกินเนื้อที่สุด
หลีฮวาย่อมเข้าใจเจตนาของคุณหนู มุมปากกระตุก คุณหนูกินเองไม่
รอท่านเขยก็ไม่เป็ นไร แต่ยงั คิดจะให้เถาฮวามากินด้วย มันช่าง
ช่าง…เฮ้อ! หลีฮวาถอนหายใจอย่างหนักหน่วงหนึ่งครา “ใครจะรู ้
เด็กคนนั้นวิง่ ไปก่อเรื่ องที่ไหนแล้ว คุณหนูวางใจเถิด นางมีเนื้อให้
กินแน่นอน”
เสิ่ นเวยพยักหน้าเล็กน้อย กินต่อ กินอิ่มแล้วนางก็บิดขี้เกียจรู ้สึกง่วง
ตื่นเช้าเพียงนั้น ทั้งยังทนทรมานทั้งวัน จะไม่ง่วงได้อย่างไร
นางปี นขึ้นเตียง โผลงบนหมอนทั้งชุดที่ใส่ อยู่ “หลีฮวา ข้านอนแปป
เดียว มีคนมาแล้วเรี ยกข้าด้วย”
หลีฮวากระวนกระวายใจแล้ว คุณหนูของนางยังเป็ นเจ้าสาวอยู่
หรื อไม่ ท่านเขยยังไม่กลับมานางก็นอนก่อนแล้ว จะดีจริ งๆ หรื อ
หลีฮวาอยากปลุกคุณหนูของนางขึ้นมา แต่กลับถูกแม่นมมัว่ ห้ามไว้
“คุณหนูเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ให้นางนอนสักพักเถอะ สัง่ คนไปดูขา้ ง
นอก ท่านเขยมาแล้วค่อยปลุกคุณหนูกพ็ อ”
นางที่มีชีวิตมาจนถึงอายุเท่านี้กลับมองโลกออกแล้ว กฎระเบียบ
อะไรคือกฎระเบียบ บุรุษรักเจ้าหลงเจ้า เจ้าทาอะไรล้วนเป็ น
กฎระเบียบ หากบุรุษราคาญเจ้า ต่อให้เจ้าเคารพกฎเพียงใดเขาก็ไม่
มองเจ้าอยูด่ ี
ตอนที่สวีโย่วผลักประตูเข้ามาก็มองเห็นน้องสี่ แซ่เสิ่ นของเขานอน
ขดตัวอยูบ่ นเตียงห้องหอ หลีฮวาลุกขึ้นยืนอย่ารวดเร็ วกาลังจะเรี ยก
คุณหนู แต่กลับถูกสวีโย่วห้ามไว้ นางกัดริ มฝี ปากอย่างแค้นเคือง
หากท่านเขยทาคุณหนูโกรธจะทาอย่างไร ท่านเขยก็เข้ามาแล้ว เหตุ
ใดถึงไม่ส่งข่าวล่วงหน้า
สาวใช้เล็กเองก็อดั อั้นอย่างยิง่ นางไหนเลยจะไม่อยากรายงาน
เห็นชัดๆ ว่า ท่านเขยไม่อนุญาต! พี่ใหญ่ผเู ้ ป็ นบ่าวตัวสู งๆ ผูน้ ้ นั กด
ไล่นางไว้เบาๆ นางก็ขยับไม่ได้แล้ว
“เอาล่ะ พวกเจ้าออกไปให้หมด” สวีโย่วโบกมือไล่คนทั้งหมด
ออกไป
หลีฮวาลังเลยืนอยูอ่ ย่างไม่ขยับ ยังคงเป็ นแม่นมมัว่ ที่ดึงนาง “แม่นม
มัว่ หากท่านเขยทาคุณหนูโกรธจะทาอย่างไร” นางกระวนกระวาย
ใจ
“เช่นนั้นเจ้าอยูใ่ นห้องไปจะมีประโยชน์อะไร” แม่นมมัว่ กล่าวตรง
ประเด็น “ดูเจ้าสิ ปกติกเ็ ป็ นคนฉลาด เหตุใดตอนนี้ถึงเลอะเลือนแล้ว
เล่า ท่านเขยไม่ทาคุณหนูโกรธหรอก ท่านเขยดีต่อคุณหนูของพวก
เรา” นางใช้ชีวิตถึงอายุปูนนี้แล้ว จะมองไม่เห็นแววตารักใคร่ ที่ท่าน
เขยมองคุณหนูได้อย่างไร
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 215-1 คืนเข้ าหอ
สวีโย่วเท้าคางมองใบหน้าตอนหลับของเสิ่ นเวย เสิ่ นเวยตะแคงตัว
นอน ผมดาปรกอยูล่ ่างใบหน้า ดวงหน้าแดงระเรื่ อ ริ มฝี ปากเล็กๆ สี
ชมพู ขนตาที่ยาวงอนราวกับพัดอันเล็กสะท้อนเงาดาอยูใ่ ต้ตา จมูก
ส่ งเสี ยงหายใจเบาๆ ออกมา สวีโย่วมองจนจิตใจตื้นตัน น้องสี่ แซ่
เสิ่ น เวยเวย นางผูเ้ ป็ นที่รักของเขา ในที่สุดเขาก็แต่งงานกับนางแล้ว
สวีโย่วมองคนที่หลับสนิทอยูข่ า้ งกายด้วยความรักใคร่ เกิดความคิด
ซุกซน เอาผมหนึ่งช่อของนางมาปัดป่ ายไปบนหน้านาง ชัว่ ขณะคิ้ว
งามของคนข้างๆ ก็ขมวดมุ่น ถูหน้าไปมาบนหมอน มุมปากสวีโย่
วอมยิม้ จากนั้นก็แกล้งนางอีกเล็กน้อย ครั้งนี้คิ้วของเด็กน้อยขมวด
มุ่นยิง่ กว่าเดิม ศีรษะก็ขยับอย่างไม่สบายตัว คล้ายอยากสะบัดสิ่ งที่
สร้างความน่าราคาญออกไป
ท่าทางน่ารักนั้นทาให้สวีโย่วอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เหตุใดเด็กน้อย
คนนี้ถึงได้น่ารักเพียงนี้ สวีโย่ว
ตะแคงตัวหอมลงไปบนแก้มเสิ่ นเวยอย่างแรง ทาให้เสิ่ นเวยตื่นทันที
เสิ่ นเวยลืมตาที่สะลึมสะลือขึ้น ยังคิดว่าอยูใ่ นห้องตัวเอง เมื่อได้
เห็นสวีโย่วที่ยมิ้ สดใสราวกับดอกไม้ผลิบาน ก็ตระหนักได้ฉบั พลัน
ว่าตนแต่งงานแล้ว นี่ไม่ใช่หอ้ งของตัวเอง แสดงว่าเมื่อครู่ คนโรคจิต
ผูน้ ้ ีกาลังก่อกวนตนอยูห่ รื อ เมื่อเห็นว่าบนมือสวีโย่วกาลังจับผมช่อ
หนึ่งของตนอยู่ เสิ่ นเวยก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ตนก็อายุยสี่ ิ บสองแล้ว
อายุเท่านี้แล้ว ยังเล่นอะไรที่ปัญญาอ่อนเช่นนี้อยูอ่ ีก จะดีจริ งๆ หรื อ
สวีโย่วเห็นใบหน้าที่ฉลาดปราดเปรื่ องของเสิ่ นเวยจนชินแล้ว ตอนนี้
เห็นท่าทางสะลึมสะลือของนาง รู ้สึกแปลกใหม่ยงิ่ นัก! พลิกตัวกอด
นางไว้ในอ้อมอกตนทันที ส่ วนสี หน้ารังเกียจที่เด่นชัดบนใบหน้า
เสิ่ นเวย เขาทาเป็ นว่าตัวเองตาบอดมองไม่เห็นไปเสี ย
“เด็กดื้อ ไม่รอข้าก็หลับก่อนแล้ว” สวีโย่วจิ้มจมูกเสิ่ นเวยฟ้องร้อง
อย่างไม่พอใจ
เสิ่ นเวยไม่เคยสัมผัสกับผูช้ ายระยะใกล้เช่นนี้มาก่อน ตอนนี้ซบอยู่
บนร่ างของสวีโย่ว รู ้สึกทาตัวไม่ถูกยิง่ นัก อดขยับตัวอยากลุกขึ้น
ไม่ได้ แต่อบั จนหนทางมือทั้งคู่ของสวีโย่วกอดหลังนางไว้แนบแน่น
ไม่ให้นางหนี “ปล่อยมือ ให้ขา้ ลุก” กลิ่นสุ ราทั้งร่ างเหม็นจะตายอยู่
แล้ว เสิ่ นเวยปิ ดจมูกดิ้นพล่านคิดจะออกห่างจากเขาเล็กน้อย
“ไม่ปล่อย” ในดวงตาสวีโย่วอมยิม้ พอใจยิง่ นัก! หญิงงามในอ้อมอก
ที่เฝ้ารอมาเนิ่นนาน เขาจะยอมปล่อยมือได้อย่างไร
“จะปล่อยไม่ปล่อย” เสิ่ นเวยแยกเขี้ยวใส่ สวีโย่ว ดวงตามีความข่มขู่
ท่าทางกางกรงเล็กนัน่ ทาให้รอยยิม้ ในดวงตาของสวีโย่วลุ่มลึกยิง่ ขึ้น
“ไม่ปล่อย!”
“จะไม่ปล่อยจริ งๆ ใช่หรื อไม่” เสิ่ นเวยหรี่ ตาลง ดวงตามีประกาย
ความชัว่ ร้ายกะพริ บผ่าน
สวีโย่วส่ ายหน้า “ไม่ปล่อย!” เขากลับอยากดูวา่ เด็กน้อยคนนี้จะเล่น
ลูกไม้อะไร
“ข้าให้ท่านปล่อยไม่ปล่อย ให้ท่านปล่อยไม่ปล่อย!” ปากเสิ่ นเวยกล่า
วอย่างโหดเ**้้ยมดุร้าย มือขาวนวลก็จู่โจมใบหน้าที่หล่อเหลาดัง่
หยกใบนั้นของสวีโย่ว ดึงแก้มเขาบิดไปมาจนเป็ นรู ปร่ างแปลก
ประหลาดต่างๆ นานา
แรกเริ่ มเป็ นเพียงแค่การระบายอารมณ์ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็ นความ
สนุกสนาน หัวเราะคิกคักพลางขยุม้ หน้าของสวีโย่ว
เสิ่ นเวยเล่นอย่างสนุกสนาน สวีโย่วรู ้สึกเพียงจนปั ญญาเต็มทรวง
“เด็กดื้อ” เขาเพียงพลิกตัวเบาๆ ก็กดเสิ่ นเวยไว้ขา้ งใต้แล้ว ดวงตามี
ประกายอันตราย “เวยเวยอยากให้ขา้ พาเข้าเรื อนหอเลยหรื อไม่” พูด
พลางคร่ อมตัว
“ไม่เอา” ร่ างของเสิ่ นเวยแข็งทื่อในชัว่ พริ บตา ของแข็งๆ ที่ดนั นาง
อยูน่ นั่ ก็คือของอย่างว่าใช่หรื อไม่ ให้ตายเถอะ อันตรายนัก! รี บเอา
ออกไปได้หรื อไม่
“ไม่เอาหรื อ เวยเวยทาร้ายจิตใจข้าเก่งจริ งๆ” สวีโย่วมองเสิ่ นเวยที่ก
ลายเป็ นลูกแมวน่ารัก น่าสงสาร ในใจก็ยงิ่ พอใจ ทว่าบนใบหน้า
กลับแสดงท่าทีเจ็บปวดออกมา ซ้ ายังตั้งใจดันนางเล็กน้อย
“ท่าน ท่านอย่าเข้ามา!” เสิ่ นเวยหาเสี ยงของตัวเองกลับมาอยูน่ าน
ก่อนหน้านี้หมอนี่กป็ กติมาโดยตลอด เหตุใดถึงกลายเป็ นผีทะเลใน
ชัว่ พริ บตา เมื่อเห็นความหยอกล้อในดวงตาของสวีโย่ว เสิ่ นเวยก็
โมโหแล้ว หยิกเอวของอย่างแรงหนึ่งครา
“ท่าน ลุกให้ขา้ เดี๋ยวนี้” เสิ่ นเวยกัดฟันกรอด แทบจะกล่าวหนึ่งคา
หยุดหนึ่งหน ความขายหน้าในใจมากยิง่ กว่าความเขินอาย แม้วา่ จะ
ไม่เคยสู ้รบจริ งๆ มาก่อน แต่ไม่วา่ อย่างไรนางก็เป็ นคนที่ผา่ นสังคม
สกปรกโสมมในยุคปัจจุบนั มาแล้ว เหตุใดถึงได้ถูกคนโบราณ
ลวนลามเอาได้ จะลวนลามก็ควรเป็ นนางที่ลวนลามเขา!
สวีโย่วเห็นสุ นขั จิ้งจอกน้อยโกรธเกรี้ ยวแล้ว ก็ปล่อยนางอย่างเชื่อฟัง
มือใหญ่ๆ ลูบไปตามผมสลวยของนาง กล่าวปลอบ “พอแล้วๆ ไม่
แกล้งเจ้าแล้ว เป็ นความผิดข้าเอง”
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหึหนึ่งครา กลอกตาขาวมองเขาปราดหนึ่ง แน่นอน
ว่าเป็ นความผิดของเขา ตนนอนอยูด่ ีๆ ไม่ได้ไปหาเรื่ องเขาเลย
เสิ่ นเวยพลิกตัวลงจากเตียง เห็นว่าในห้องไม่มีคนรับใช้อยูแ่ ม้แต่คน
เดียว ก็ขมวดคิ้วจัดแจงชุดแต่งงานและผมให้เรี ยบร้อยด้วยตัวเอง
เทียนสี แดงที่ใหญ่เท่าแขนสองเล่มลุกไหม้อยูเ่ งียบๆ ส่ องให้ภายใน
ห้องสว่างราวกับกลางวัน
“โกรธจริ งๆ หรื อ” สวีโย่วมองเสิ่ นเวยที่กม้ หน้าไม่พดู ด้วยเสี ยง
อ่อนโยน
เสิ่ นเวยชายตามองเขาปราดหนึ่ง “ขี้เกียจจะสนใจท่านแล้ว”
สวีโย่วหัวเราะเบาๆ “ขอบคุณใต้เท้าฮูหยินที่ใจกว้าง” สายตากวาด
มองโต๊ะอาหารโต๊ะนั้นที่ถูกแตะแล้วปราดหนึ่ง กล่าว “ฮูหยินกินอิ่ม
แล้ว ข้ายังหิวอยูเ่ ลย ข้าช่างน่าสงสาร ฮูหยินกินเป็ นเพื่อนข้าหน่อย
เถอะ” เขากล่าวด้วยสี หน้าน้อยใจทั้งใบหน้า แต่เจ้าพูดก็พดู ไปสิ จะ
เลียมริ มฝี ปากทาไม ลูกผูช้ ายโตมาในตระกูลสู งศักดิ์เช่นนั้นเลียริ ม
ฝี ปากเหมือนกับอะไรดี ไม่รู้หรื อว่าจะทาให้เกิดอาชญากรรมได้ เสิ่ น
เวยอดทนเก็บความคิดที่จะผลักหมอนี่ให้ลม้ เบะปากเดินเข้าไป
สวีโย่วจูงมือของเสิ่ นเวย ดึงนางมานัง่ บนตักตน เสิ่ นเวยกลุม้ ใจ มาร
ตนนี้คงไม่คิดจะกินแบบนี้ใช่หรื อไม่ สวีโย่วหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้ว
เฮ้ เขาคิดจะกินแบบนี้จริ งๆ ด้วย
เสิ่ นเวยเพิ่งจะขยับได้เล็กน้อย สวีโย่วก็ตบหัวนางเบาๆ “เด็กดี ข้าหิ ว
จริ งๆ กินไปแต่สุรา”
เสิ่ นเวยเบ้ปาก ใครจะเชื่อ! ร่ างกายอ่อนแอเช่นนั้นของเขาใครจะกล้า
ริ นสุ ราให้เขาดื่ม แต่วา่ หัวใจเสิ่ นเวยก็อ่อนลงแล้ว กอดก็กอดเถอะ
อย่างไรเสี ยพวกเขาก็เป็ นสามีภรรยากันแล้ว “กับข้าวเย็นหมดแล้ว
ให้คนเอาไปจัดการใหม่เถอะ”
สวีโย่วมองคนที่ยอมอยูใ่ นอ้อมอกโดยดี ถอนหายใจออกเสี ยงด้วย
ความพอใจ “ไม่ตอ้ ง ดึกแล้วไม่ตอ้ งทาให้ยงุ่ ยาก กินเท่าที่มีเถอะ”
คาพูดนี้เขาที่เป็ นคนพูดเองยังไม่เชื่อ จะมีคนใช้ไว้ทาไม ไม่ใช่
ปรนนิบตั ินายได้ทุกเวลาหรื อ ขอเพียงแค่นายบอกว่าจะกิน ต่อให้
เป็ นกลางดึกครัวก็ตอ้ งก่อไฟทันที กินเท่าที่มีอะไรกัน เพียงแค่อยาก
รี บกินให้ทอ้ งอิ่มจะได้ลิ้มรสหญิงงามก็เท่านั้นเอง
ขณะที่สวีโย่วกาลังกิน ก็ไม่ลืมที่จะป้อนเสิ่ นเวยไปหลายคา เสิ่ นเวย
ปฏิเสธไม่ได้กท็ าได้เพียงกินเข้าไป กินไปพลางเสี ยดสี ไปพลาง มาร
ตนนี้ไม่ใช่วา่ เย็นชาสันโดษหรอกหรื อ คิดจะเปลี่ยนนิสยั หรื อไร
กินอิ่มดื่มพอแล้ว สวีโย่วก็สะกิดเสิ่ นเวยกล่าวอย่างมีเลศนัย “ดึกแล้ว
ควรจะอาบน้ าเตรี ยมตัวได้แล้ว เจ้าก่อน หรื อข้าก่อน หรื อว่าพวกเรา
สองคนอาบน้ าพร้อมกันดี” แววตาเขามีไฟปรารถนา มองออกว่าเขา
ค่อนข้างโน้มเอียงไปทางตัวเลือกสุ ดท้าย
เสิ่ นเวยยืน่ มือผลักเขาออกไป “ไม่ตอ้ งแม้แต่จะคิด” แค่นเสี ยงหึหนึ่ง
คราเดินเข้าไปในห้องด้านใน
สวีโย่วหัวเราะร่ าฮ่าๆ อยูข่ า้ งหลัง “ดูท่าแล้วฮูหยินจะอดทนรอไม่
ไหว วางใจ ข้าจะทาให้เจ้าพอใจแน่นอน”
ใบหน้าของเสิ่ นเวยแตกระแหงในชัว่ ขณะ นางอดทนรอไม่ไหวงั้น
หรื อ เขาต่างหากที่อดทนรอไม่ไหวไม่ใช่หรื อ
หลีฮวาและคนอื่นๆ ข้างนอกได้ยนิ เสี ยงหัวเราะของท่านเขย จิตใจที่
พะว้าพะวงก็วางลง เมื่อได้ยนิ คุณหนูของตนเดินเข้าไปในห้องด้าน
ใน นางก็อยากเข้าไปรับใช้ แต่กเ็ ป็ นกังวลท่านเขย ขณะที่นางกาลัง
ลังเลไม่แน่ใจก็ได้ยนิ คุณหนูเรี ยกชื่อนาง นางจึงรี บผลักประตูเข้าไป
ทาความเคารพท่านเขยแล้วจึงเข้าไปในห้องด้านใน
เดิมเสิ่ นเวยไม่คิดจะเรี ยกหลีฮวา แต่ไม่มีใครรับใช้แม้แต่ชุดแต่งงาน
ที่ซบั ซ้อนบนร่ างนั้นนางก็ยงั จัดการไม่ได้
สวีโย่วนอนอยูบ่ นเตียง หูฟังเสี ยงน้ าที่ดงั มาจากห้องด้านใน ทั้งจิตใจ
รอคอย
เสิ่ นเวยแช่น้ าจนร่ างทั้งร่ างสบายขึ้นแล้ว ก็สวมชุดป้ายตัวในเดิน
ออกมา ผมสี ดาทิ้งตัวลงบนหัวไหล่ สวีโย่วมองใบหน้าเล็กๆ ที่ถูกน้ า
ร้อนรมจนแดงนั้น ก็ถีบขาทั้งคู่ลุกขึ้นจากเตียง เร่ งฝี เท้าเดินเข้าไปใน
ห้องด้านใน
“เดี๋ยวๆ เปลี่ยนน้ า…” เสิ่ นเวยยังพูดไม่ทนั จบเขาก็หายไปไม่เห็นเงา
แล้ว ข้างในมีเสี ยงที่มีความสุ ขของเขาดังออกมา “ไม่เป็ นไร ข้า
อาบน้ าที่เหลือจากฮูหยินก็ได้แล้ว”
“ผูช้ ายหน้าไม่อาย” ใบหน้าของเสิ่ นเวยแดงขึ้นกว่าเดิม ไม่รู้
เหมือนกันว่าเพราะโกรธหรื อเขิน คงจะเป็ นทั้งสองอย่าง!
เสิ่ นเวยนัง่ ลงริ มเตียง หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนเดินวนในห้อง เดินวน
เสร็ จแล้วก็นงั่ ลงอีกครั้ง แม้วา่ บนหน้านางจะพยายามสงบ แต่กย็ งั คง
ปิ ดบังความจริ งที่จิตใจนางว้าวุน่ ไม่ได้ ว่ากันว่าต้องหาประสบการณ์
ความรู ้ แต่อย่างไรเสี ยนี่กเ็ ป็ นคืนแต่งงานครั้งแรกในชีวิตทั้งสองภพ
ของนาง นางไม่มีประสบการณ์จริ งๆ!
ตอนที่สวีโย่วออกมาก็เห็นเสิ่ นเวยนิ่วหน้าเล็กๆ ท่าทางโมโหเคียด
แค้น ก็อดหัวเราะไม่ได้ เสี ยงหัวเราะนี้ทาเสิ่ นเวยตกใจ นางเงยหน้า
ขึ้น ก็เห็นท่อนบนที่เปลือยของสวีโย่ว จากนั้นก็เห็นนางถอยไปข้าง
หลังราวกับกระต่ายน้อยที่แตกตื่น ถอยไปได้หนึ่งก้าวก็ได้สติ
กลับมา กล่าวอย่างระมัดระวัง “ท่านจะทาอะไร” ในใจแอบด่าคน
เสเพล แต่ดวงตากลับจ้องมองอย่างอดไม่ได้ จุๆๆ มารตนนี้ดูผอม
อย่างยิง่ ไม่คิดว่าเรื อนร่ างจะน่าทึ่งเช่นนี้ น่าลูบสักทีจริ งๆ!
สวีโย่วมองเด็กน้อยที่ปากไม่ตรงกับใจ เบื้องลึกในใจก็อารมณ์ดี
อย่างอดไม่ได้ ก้าวยาวเข้าไปอุม้ เสิ่ นเวยเข้ามาในอ้อมอก เลิกม่าน
เตียงแล้วโยนลงบนเตียง เสิ่ นเวยยังไม่ทนั ได้ร้องอุทาน เขาก็กดตัว
ลงมาแล้ว “ฮูหยิน หนึ่งเค่อในราตรี งามล้ าค่าดัง่ เงินทอง อย่าได้
ทาลายค่าคืนอันงดงามเช่นนี้เลย!”
เสิ่ นเวยมองใบหน้ามารที่เข้ามาใกล้เรื่ อยๆ ใบนั้น ใบหน้างามก็แดง
อย่างไม่รักดีอีกครั้ง ทาให้สวีโย่วหัวเราะเสี ยงดังขึ้นมาอีก ในใจเสิ่ น
เวยคับแค้นอย่างถึงที่สุด เห็นชัดๆ ว่านางมาจากยุคปั จจุบนั เหตุใด
คนที่เขินอายถึงได้เป็ นนาง ไม่ได้ นางต้องจู่โจมกลับ! เสิ่ นเวยใจเต้น
ไม่สู้ขยับกาย อุง้ มือลูบตรงไปที่แผงอกของสวีโย่ว หนึ่งครั้ง สอง
ครั้ง ความรู ้สึกที่มือนับว่าไม่เลวอย่างยิง่
เสิ่ นเวยจมดิ่งอยูใ่ นโลกของตัวเอง ไม่ทนั ได้รู้สึกตัวเสื้ อผ้าก็ถูกสวีโย่
วถอดออกไปหมดแล้ว นางร้องอุทานหนึ่งคราก็เอื้อมมือไปดึงผ้าห่ม
แต่กลับถูกสวีโย่วกดไว้แนบแน่นขยับไม่ได้ “ฮูหยิน เรื อนร่ างของข้า
น่าลูบไล้ใช่หรื อไม่”
เสิ่ นเวยเก็บอุง้ มือกลับมาทันที แต่ถูกสวีโย่วคว้าไว้ได้ กดลงบนอก
ของตน ดวงตาของเขามีเปลวไฟเล็กสองลูกกะพริ บวาบ เสี ยงก็แหบ
พร่ าขึ้นมา “ดูท่าแล้วเวยเวยจะพอใจกับเรื อนร่ างของข้ายิง่ นัก”
ลมหายใจที่อุ่นร้อนของเขาเป่ าลงข้างหูของเสิ่ นเวย คันๆ ชาๆ เสิ่ นเว
ยเบี่ยงตัวหลบไปข้างๆ อย่างอดไม่ได้ “จัก๊ จี้”
“ยังมีจกั๊ จี้กว่านี้อีก” สวีโย่วพูดพลางก้มหน้าประกบริ มฝี ปากสี ชมพู
ของนาง ร้อนแผดเผาและรุ นแรง เสิ่ นเวยรู ้สึกว่าตนหายใจไม่ออก
สมองมึนเมา ทาได้เพียงขยับไปตามความสามารถของร่ างกาย ลุ่ม
หลง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 215-2 คืนเข้ าหอ
ตอนที่ของอย่างว่าสัมผัสแนบชิดเสิ่ นเวย นางเจ็บจนอยากฆ่าคน
จริ งๆ บ้าเอ้ย นางรู ้วา่ จะต้องเจ็บ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเจ็บแบบนี้ ความ
เจ็บนั้นไม่เหมือนกันความเจ็บจากการได้รับบาดเจ็บเลยสักนิดเดียว
คนไม่กลัวเจ็บเช่นเสิ่ นเวยยังอดสู ดลมหายใจไม่ได้ ไม่ใช่บอกว่า
เรื่ องนี้ประเดี๋ยวเดียวก็จะมีความสุ ขหรอกหรื อ เหตุใดนางถึงเหลือ
แต่ความเจ็บเล่า
เพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวในยุคปัจจุบนั ของนางเคยหัวเราะที่
นางอายุเท่านี้แล้วยังไม่เคย บอกกับนางว่า ไม่เป็ นไร ไม่เจ็บ เหมือน
โดนมดกัดนิดเดียว
จะบ้าหรื อ นี่หรื อคือมดกัด นี่ไม่ต่างจากโดนงูพิษกัด อีกทั้งยังเป็ นงู
พิษหน้าตาดีอีกต่างหาก
“ท่านออกไป” เสิ่ นเวยพยายามผลักสวีโย่ว เจ็บจนเสี ยงเปลี่ยน
กว่าสวีโย่วจะได้รับสิ่ งที่ปรารถนา ไหนเลยจะยอมถอยได้ เขามอง
ใบหน้าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของเสิ่ นเวย สงสารอย่างถึง
ที่สุด ปลอบนางด้วยความรัก “เด็กดี อดทนหน่อย อีกประเดี๋ยวก็ไม่
เจ็บแล้ว เวยเวย เด็กดี เด็กดี!”
“ทนไม่ไหวแล้ว” ก็คนที่เจ็บไม่ใช่เจ้านี่! เสิ่ นเวยพยายามควบคุมกรง
เล็บของตน ไม่ให้ยนื่ ออกไปข่วนหน้าของสวีโย่ว
“ผ่อนคลาย เวยเวยเด็กดี เจ้าทาได้ อีกประเดี๋ยวก็จะดีแล้ว” สวีโย่วป
รับองศาตัวเล็กน้อย มือใหญ่ลูบหลังขาวเนียนของนางซ้ าแล้วซ้ าเล่า
ทว่าร่ างกายกลับยิง่ แนบชิดนางมากขึ้น
อันที่จริ งสวีโย่วเองก็ไม่ได้รู้สึกดีนกั ธนูอยูบ่ นคันแล้วแต่กลับเป็ น
ห่วงความรู ้สึกของเสิ่ นเวยจึงไม่กล้าขยับตัว โอ๊ย ให้เขาตายยังดีกว่า
เหงื่อเม็ดใหญ่หยดลงมาจากใบหน้าของสวีโย่ว ดวงหน้าที่ราวกับ
เทพของเขาปรากฏตัณหาราคะ ท่ามกลางความสลัวเลือนราง ส่ วน
ลึกในร่ างกายของเสิ่ นเวยเกิดความรู ้สึกบางอย่างขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
คล้ายความเจ็บนั้นไม่ได้ชดั เจนเพียงนั้นแล้ว
แขนทั้งคู่ของเสิ่ นเวยโอบคล้องลาคอของสวีโย่ว ร่ างขยับอย่างไม่
รู ้ตวั สวีโย่วคล้ายสัมผัสได้ถึงแรงปลุกเร้า ขยับเล็กน้อยอย่างหยัง่ เชิง
ทว่าดวงตากลับจ้องมองคนใต้ร่างอย่างแน่นิ่ง เห็นนางเพียงแค่ขมวด
คิว้ น้อยๆ ก็พยายามต่ออย่างมีความสุ ข
ร่ างกายที่ยงั เด็กของเสิ่ นเวยค่อยๆ ถูกเปิ ดออก สวีโย่วออกแรงเผด็จ
ศึก คนทั้งสองเกาะเกี่ยวอยูด่ ว้ ยกันเป็ นเกลียว เสิ่ นเวยราวกับดอกอิง
ซู่ (ดอกฝิ่ น) สวยงามที่ผลิบานในยามราตรี สงัด ส่ งกลิ่นหอมที่น่า
หลงใหลออกไป นางรู ้สึกว่าตนเหมือนเรื อเล็กๆ หนึ่งลาท่ามกลาง
มหาสมุทรใหญ่ กระเพื่อมขึ้นลงตามคลื่นลม แต่ไม่อาจไปถึงฝั่งได้
เสี ยที
การเคลื่อนไหวภายในห้องย่อมดังออกไปข้างนอก แม่นมมัว่ ยังดี แต่
หลีฮวาและคนอื่นๆ ที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์บนโลกก็หน้าแดง
ซ่าน แต่ละคนปิ ดหูอยากจะกลายเป็ นคนหูหนวกอย่างยิง่
ดวงจันทร์นวลผ่องหนึ่งดวงนอกหน้าต่าง มันหาวอย่างเกียจคร้าน
หลบเขากลีบเมฆเงียบๆ ราวกับเขินอาย
โบกสะบัดพลิ้วไหวเช่นนี้ต่อไปเรื่ อยๆ เสิ่ นเวยไม่รู้เหมือนกันว่าเวลา
ผ่านไปนานเพียงใดแล้ว นางอ้าปากกว้างหายใจหอบ รู ้สึกเพียง
ตัวเองเป็ นปลาเล็กที่ใกล้จะขาดน้ าตาย แต่ความเป็ นจริ งในปากของ
นางส่ งเสี ยงเล็กๆ ออกมา เสี ยงๆ นั้นทาให้สวีโย่วยิง่ ถูกกระตุน้
อยากจะตายอยูบ่ นร่ างเสิ่ นเวยเช่นนี้เสี ยเลย
เมื่อคลื่นลมสงบลง เสิ่ นเวยก็เหนื่อยจนไม่อยากขยับแม้แต่นิ้วเท้า
หลับตาลงปล่อยให้สวีโย่วช่วยนางชาระสะสาง สะลึมสะลือนอน
หลับไปแล้ว ก่อนหลับยังคิดว่า เรี่ ยวแรงของมารตนนี้ดีจริ งๆ
หลังจากนี้นางก็โชคดีแล้ว
ทว่าสวีโย่วกลับกระปรี้ กระเปร่ าจนดวงตาเป็ นประกาย ไม่ง่วงแม้แต่
นิดเดียว เขามองเสิ่ นเวยที่เหนื่อยจนหลับ ในแววตามีความรักใคร่ ที่
เขามองไม่เห็น เขากอดเสิ่ นเวยไว้ในอ้อมอก ให้แก้มของนางแนบ
แผงอกตน หลับตาลงด้วยความพอใจ
มีภรรยาดีจริ งๆ มิน่าเล่าปุถุชนถึงได้ลุ่มหลงเช่นนี้
เช้าวันรุ่ งขึ้น เสิ่ นเวยตื่นขึ้นมา เมื่อเงยหน้าขึ้นก็สบสายตาที่เปล่ง
ประกายของสวีโย่ว นึกถึงเรื่ องเมื่อคืนทันที ใบหน้าก็ร้อนผ่าวอย่าง
อดไม่ได้ นางขยับด้วยอย่างเคอะเขิน จากนั้นจึงพบว่านางไม่ได้สวม
ชุดป้ายตัวในซุกอยูใ่ นอ้อมอกของสวีโย่ว ขาของคนทั้งสองเกี่ยวพัน
กันอยู่ ของแข็งๆ นั้นกาลังดันต้นขานางอยู่
ให้ตาย อายจะแย่อยูแ่ ล้ว! เสิ่ นเวยมุดหน้าเข้าไปในอกของสวีโย่ว
เช้าตรู่ คนงามก็ตกอยูใ่ นอ้อมกอด อารมณ์ของสวีโย่วสบายใจยิง่ นัก
โอบคนในอ้อมอกแนบแน่น หัวเราะเสี ยงต่ากล่าว “หรื อว่า พวกเรา
มาทาอีกสักรอบ”
เสิ่ นเวยถอนตัวออกจากอ้อมกอดของเขาทันที ผีทะเลคนนี้ ติดใจ
อยากจะลิ้มรสอีกแล้ว “รี บลุกเถอะ วันนี้ตอ้ งทาพิธียกน้ าชาไม่ใช่
หรื อ” นึกถึงพิธียกน้ าชาเสิ่ นเวยก็ลุกขึ้นนัง่ ทันที “กี่โมงกี่ยามแล้ว
หลีฮวาเล่า แม่นมมัว่ เล่า เหตุใดถึงไม่เรี ยกข้า” หลังจากนั้นก็เพิง่ รู ้ตวั
ว่าตนไม่ได้สวมเสื้ อผ้า รี บดึงผ้านวมขึ้นมาห่อตัว
ทิวทัศน์งดงามถูกปิ ดบัง สวีโย่วก็เสี ยดายเล็กน้อย “ข้าให้พวกนางไม่
ปลุกเจ้าเอง ยังเช้าอยู่ หากเจ้าง่วงก็นอนต่ออีกสักพักเถอะ ยกน้ าชาก็
แค่พิธี ในจวนไม่ได้เคร่ งกฎเพียงนั้น อีกทั้งฝ่ าบาทยังตรัสแล้วว่า
พวกเราค่อยเข้าวังน้อมสานึกพระมหากรุ ณาธิคุณตอนบ่ายก็ได้”
ยังเช้าอยูห่ รื อ เสิ่ นเวยเปิ ดม่านเตียงมองออกไปข้างนอก ไม่เชื่อคาพูด
ของเขาอย่างสิ้ นเชิง “รี บตื่นเถอะ ให้ผใู ้ หญ่รอไม่ดีนกั ” จวนอ๋ องไม่
เคร่ งกฎเพียงนั้นหรื อ นางเชื่อก็โง่แล้ว แม้วา่ จะไม่เคร่ งจริ งๆ ดูจาก
ท่าทางของพระชายาจิ้นอ๋ อง ก็สามารถตั้งกฎออกมาให้นางได้ทนั ที
ทว่าสวีโย่วกลับไม่ขยับ เพียงแค่มือค้ าศีรษะยิม้ แย้มมองนาง
เสิ่ นเวยกัดฟันกรอดในชัว่ ขณะ ถลึงตามองสวีโย่วอย่างอารมณ์ไม่ดี
เหอะ คิดว่านางไม่รู้ความคิดเขาหรื อไร มารตนนี้ยงั เปลือยอยู่ นาง
ไม่กล้าเรี ยกหลีฮวาเข้ามารับใช้ แต่เสื้ อผ้าของนางกลับอยูใ่ น**บฝั่ง
นั้น ดูท่าทางคุณชายผูน้ ้ ีแล้วคงไม่คิดจะช่วยนางหยิบ เหอะ คิดว่าทา
เช่นนี้แล้วนนางจะไม่มีวิธีง้ นั หรื อ
เสิ่ นเวยดึงปลอกหมอนออกมาพันรอบตัวเอง ก้าวข้ามเท้าและขา
ยาวๆ ทั้งสองที่เปลือยเปล่าของ
สวีโย่วกระโดดลงจากเตียง นางหันหลังให้สวีโย่วรื้ อเสื้ อผ้าของ
ตนเองออกมา
น่าแปลกยิง่ นัก ผ่านการมองเห็นที่เปิ ดเผยเมื่อคืนแล้ว เสิ่ นเวยล่อน
จ้อนต่อหน้าสวีโย่วก็ไม่รู้สึกเขินอายเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว อาจจะ
เกี่ยวกับที่นางไม่ใช่คนในท้องที่กเ็ ป็ นได้
เสิ่ นเวยสวมชุดป้ายตัวในด้วยความรวดเร็ วอย่างยิง่ จากนั้นจึงหาชุด
ป้ายตัวในของสวีโย่วแล้วโยนขึ้นไปบนเตียง ถือโอกาสเก็บชุดที่
โยนไว้บนพื้นเมื่อคืนมาวางไว้ขา้ งๆ เมื่อหันหน้ากลับไปก็เห็นสวี
โย่วยังคงนอนอยูบ่ นเตียง “ยังไม่รีบลุกอีก ท่านรออะไรอยู”่
ทว่าสวีโย่วกลับกล่าวอย่างมัน่ ใจ “ย่อมต้องรอฮูหยินมาปรนนิบตั ิ
สวมเสื้ อผ้าให้ขา้ ”
“ท่านสวมเองไม่เป็ นหรื อ มีมือไว้ทาไม” เสิ่ นเวยกลอกตาขาวให้เขา
“ข้าแต่งภรรยาแล้ว” สวีโย่วกล่าวด้วยเหตุผล แสดงท่าทางว่าข้าปั ด
วามรับผิดชอบให้เจ้าแล้ว
เสิ่ นเวยโมโหจนกัดฟันกรอด หากไม่ใช่เป็ นห่วงว่านี่คือวันแรกของ
การแต่งงาน นางจะต้องตีเขาจนฟันร่ วงทัว่ พื้นแน่นอน ให้เขาเข้าใจ
ว่าอะไรที่เรี ยกว่ากฎของสามี
เสิ่ นเวยรับคาสัง่ เดินเข้าไป หยิบเสื้ อป้ายตัวในมาสวมลงบนร่ าง
ของสวีโย่ว “มาๆๆ ท่านชาย เชิญลุกขึ้นมาสวมเสื้ อเถอะ” ยังต้องไป
ยกน้ าชาเคารพอีก นางไม่วา่ งมาเสี ยเวลากับมารตนนี้ที่นี่
เสิ่ นเวยไม่เคยปรนนิบตั ิคนมาก่อน ตลอดขั้นตอนการสวมเสื้ อผ้าต่าง
ก็ลนลานทาอะไรไม่ถูก แต่สวีโย่วไม่โมโหเลยแม้แต่นอ้ ย กลับมี
ความสุ ขอย่างถึงที่สุด
เสื้ อผ้าสวมเสร็ จแล้ว บนหน้าผากของเสิ่ นเวยก็มีเหงื่อผุดออกมา นาง
ผลักสวีโย่วลงข้างๆ ขึ้นเสี ยงตะโกนเรี ยกหลีฮวากับแม่นมมัว่ และ
คนอื่นๆ ที่รออยูข่ า้ งนอกนานแล้ว
“คารวะท่านเขย คุณหนู” ทุกคนเคารพพร้อมกัน
เสิ่ นเวยไม่ได้รู้สึกอะไร แต่แม่นมมัว่ กลับพูดแก้ “เรี ยกคุณหนูไม่ได้
แล้ว ต่อไปนี้ตอ้ งเรี ยกฮูหยิน”
เสิ่ นเวยปรายตามองสวีโย่วปราดหนึ่ง กล่าว “ได้ เช่นนั้นตั้งแต่วนั นี้
เป็ นต้นไปก็เรี ยกฮูหยิน” นางเพิง่ จะอายุสิบห้าก็ได้เป็ นฮูหยินแล้ว
รู ้สึกแก่ยงิ่ นัก “อืม แล้วก็ไม่ตอ้ งเรี ยกท่านเขย ตามจวนอ๋ อง เรี ยกว่า
คุณชายใหญ่กพ็ อ” เสิ่ นเวยคิดคู่หนึ่งแล้วกล่าวเสริ ม อยูใ่ นอาณาเขต
ของคนอื่นเรี ยกท่านเขย คล้ายเป็ นการตบหน้าเล็กน้อย!
ทุกคนพากันตอบรับ เร่ งมือทางานอย่างเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย
เถาจือสัง่ สาวใช้เล็กที่ยกน้ าร้อนให้เข้าไปในห้องด้านใน แม่นมมัว่
ช่วยเสิ่ นเวยหาเสื้ อผ้าที่จะสวมในวันนี้ หลีฮวาก็ประคองเสิ่ นเวยไป
อาบน้ า
“แม่นมมัว่ รี บมาแต่งตัวให้ขา้ ” เสิ่ นเวยออกมาจากห้องด้านในแล้วก็
นัง่ หน้ากระจกกล่าวเร่ งรัด
แม่นมมัว่ ย่อมเข้าใจความสาคัญของพิธียกน้ าชาให้ผอู ้ าวุโสในวัน
แรกของการแต่งงาน ไม่พดู พร่ าทาเพลงก็หวีผมแต่งหน้าให้เสิ่ นเวย
แม่นมมัว่ เข้าใจนิสัยของเสิ่ นเวยอยูน่ านแล้ว ไม่ตอ้ งใช้แป้ง เพียงแค่
เขียนคิ้ว แต้มริ มฝี ปากชมพู จากนั้นก็แต้มชาดเล็กน้อยบนแก้ม ตบ
แต่งอย่างเรี ยบง่ายเช่นนี้ใบหน้าของเสิ่ นเวยก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
เครื่ องประดับยังคงเรี ยบง่ายดูดี ทั้งศีรษะปั กเพียงปิ่ นหยกสี เขียวหนึ่ง
อัน แต่กลับไม่ได้ดูซอมซ่อเลยแม้แต่นิดเดียว ต่างหูยงั คงเป็ นไข่มุก
เพียงแต่เปลี่ยนเป็ นรู ปดอกไม้
หลีฮวากอบเสื้ อผ้ารออยูข่ า้ งๆ แล้ว ยังคงเป็ นชุดสี แดง ข้างบนใช้ดา้ ย
ทองปักลายมงคลและนกกระจอก
ตอนที่สวีโย่วออกมา เสิ่ นเวยเพิ่งจะแต่งตัวเสร็ จ นางยิม้ หวานให้สวี
โย่ว ถาม “เหมาะสมหรื อไม่”
ในดวงตาสวีโย่วเต็มไปด้วยความตกตะลึง คิว้ เลิกขึ้น กล่าว “ย่อม
ต้องเหมาะสมที่สุด ฮูหยินของข้าผูแ้ ซ่สวีจะไม่เหมาะสมได้อย่างไร”
ท่าทางภาคภูมิใจนั้น ทาให้เสิ่ นเวยอดยิม้ ไม่ได้
ในห้องโถงเล็กจัดวางอาหารเช้าไว้เรี ยบร้อยแล้ว สวีโย่วพาเสิ่ นเวย
มานัง่ “กินให้อิ่มก่อนแล้วค่อยไป”
เสิ่ นเวยย่อมไม่มีความเห็นอื่น ในแผ่นการของนางไม่เคยบัญญัติไว้
ว่าต้องปล่อยให้ทอ้ งหิว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 216-1 คลื่นยักษ์ ในพิธียกน้าชา
คุณภาพอาหารของจวนจิ้นอ๋ องยังนับได้วา่ สู งอย่างยิง่ เสิ่ นเวยชิมไป
ไม่กี่คาก็พยักหน้าอย่างพอใจ กินไปได้ครึ่ งหนึ่ง แม่นมซือประจา
กายพระชายาจิ้นอ๋ องก็เดินเข้ามา “คารวะคุณชายใหญ่ ฮูหยินใหญ่เจ้า
ค่ะ พระชายาให้บ่าวมาดูวา่ เตรี ยมตัวเสร็ จเรี ยบร้อยแล้วหรื อยัง”
นี่เป็ นการตาหนิที่พวกเขาล่าช้าจึงมาเร่ งรัดหรื อไม่ ดวงตาเสิ่ นเวย
กะพริ บวาบ วางตะเกียบลงลุกขึ้นกล่าว “ทาเสด็จแม่เป็ นห่วงแล้ว
เสด็จแม่ร้อนใจแล้วหรื อ พวกข้า พวกข้าจะไปเดี๋ยวนี้” บนใบหน้ามี
ความรี บร้อน มองสวีโย่วที่ยงั คงนัง่ ตัวตรงกินข้าว
สวีโย่วไม่แม้แต่จะเหลือบตาขึ้นมอง เหล่าคนรับใช้ก็ยงิ่ ก้มหน้าไม่
กล้าส่ งเสี ยงสักนิดเดียว ความเงียบสงัดแผ่กระจายทัว่ ห้องโถงเล็ก
กดดันยิง่ นัก
เสิ่ นเวยที่ยนื อยูก่ ลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างถึงที่สุด นางเป็ นเจ้าสาว
หน้าบาง สามีกย็ งั ไม่ไว้หน้าเพียงนี้ ดวงตาของนางก็แดงทันที เอ่ย
ปากด้วยความกล้าหาญแต่สีหน้ากลับลาบากใจ “ท่าน…ท่านพี่ เสด็จ
พ่อ เสด็จแม่รออยู่ พวกเรารี บไปดีกว่า” ทว่าเท้าใต้โต๊ะกลับเตะสวี
โย่วหนึ่งครา สักนิดก็ได้แล้ว รี บเอ่ยปากสักหน่อย แสดงเกินบทบาท
จะไม่ดีเอา
จากนั้นก็เห็นสวีโย่ววางถ้วยลงบนโต๊ะดัง ‘ปั ง’ กล่าวกับเสิ่ นเวยอ
ย่างไม่พอใจ “โวยวายอะไร จะให้คนกินข้าวเช้าดีๆ หรื อไม่ นัง่ ลง
กินข้าวของเจ้า ยกน้ าชาเป็ นพิธีที่ตอ้ งใช้แรง ไม่กินให้อิ่มอีก
ประเดี๋ยวจะขายหน้าข้า”
จากนั้นก็ตาหนิหลีฮวาและคนรับใช้ที่ยนื ปรนนิบตั ิคนอื่นๆ “แต่ละ
คนไม่มีตาดีสกั นิด ไม่เห็นหรื อว่าฮูหยินพวกเจ้าเพิง่ จะจับตะเกียบ
ยืนบื้ออยูท่ าไม ยังไม่รีบมารับใช้ฮูหยินกินข้าวอีก เก็บพวกเจ้าไว้
ทาไมกัน แต่ละคนวางมาดสูงกว่านายเสี ยอีก” ใครบอกว่าคุณชาย
ใหญ่สวีเย็นชา เขาเองก็ช้ ีหน้าด่าเป็ น เห็นสี หน้าของแม่นมซือเหยเก
ขึ้นมาแล้ว
นายท่านเจ้าบ้านก็พดู เช่นนี้แล้ว เสิ่ นเวยที่เป็ นเจ้าสาวที่เพิ่งเข้าเรื อน
มาย่อมต้องเชื่อฟังสามี นางยิม้ ขอโทษให้แม่นมซือเล็กน้อย สัน่
ระริ กนัง่ ลงกินข้าวเช้าต่อ อืม หมันโถวลูกเล็กเนื้อนุ่มนี้ทาได้ไม่เลว
ต้องกินอีกลูก ผักดองจากนนี้กช็ ุ่มคอยิง่ นัก ต้องกินอีกหน่อย เสิ่ นเว
ยกวาดสายตา ตะเกียบของหลีฮวาก็ยนื่ ไปทางนั้น นายบ่าวทั้งสองรู ้
ใจกันยิง่ นัก
สวีโย่วเพิง่ จะมองแม่นมซือ “หากข้าจาไม่ผดิ น้องสะใภ้รองกับ
น้องสะใภ้สามต่างก็ยกน้ าชายามซื่อ ตอนนี้เพิ่งจะยามเฉิ น เสด็จแม่ก็
ร้อนใจแล้วหรื อ”
แม่นมซือพูดอะไรได้หรื อ แม้วา่ นายท่านผูน้ ้ ีจะเป็ นคุณชายใหญ่ใน
จวน แต่นางกับนายท่านผูน้ ้ ียงั ไม่เคยผูกมิตรกันจริ งๆ เลย นางไหน
เลยจะคิดว่านายท่านผูน้ ้ ีไม่ไว้หน้านางเลยแม้แต่นิดเดียว อย่างไรเสี ย
นางก็เป็ นแม่นมที่มีเกียรติที่สุดประจากายพระชายา เมื่อคิดถึงท่าทีที่
เขาตาหนิฮูหยินใหญ่ แม่นมซือก็เข้าใจเล็กน้อย แม้แต่ฮูหยินใหญ่ที่
เพิง่ เข้าเรื อนยังถูกตาหนิ นับประสาอะไรกับนางที่เป็ นบ่าว มิน่าเล่า
พระชายาถึงแอบพูดว่าคุณชายใหญ่มีนิสยั แปลกๆ ผิดมนุษย์มนา
ทัว่ ไป
“ได้อย่างไรกัน พระชายาเป็ นห่วงว่าคุณชายใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่อายุ
น้อย กลัวว่าจะมีตรงไหนไม่เข้าใจ สัง่ ให้บ่าวมาช่วยเหลือ” แม่นมซื
อกล่าวพร้อมรอยยิม้
สวีโย่วพยักหน้าเล็กน้อย บอกเป็ นนัยว่าเข้าใจแล้ว “ทาให้เสด็จแม่
เป็ นกังวลแล้ว” ทว่ากลับเปลี่ยนเรื่ อง “เสด็จแม่กเ็ ป็ นกังวลเกินไป ข้า
กับฮูหยินไม่รู้เรื่ อง ไม่ใช่ยงั มีแม่นมมัว่ อยูห่ รื อ นางเป็ นคนเก่าคนแก่
ในวัง จะไม่เข้าใจได้อย่างไร”
ประโยคเรี ยบๆ หนึ่งประโยคกลับพูดจนแม่นมซือเหงื่อแตกไปทัว่
ทั้งร่ าง คุณชายใหญ่หมายความว่าอย่างไร ไม่ใช่ตาหนิพระชายาที่ยงุ่
เรื่ องผูอ้ ื่นมากไปหรื อ แต่นางเป็ นแค่บ่าวก็ทาได้เพียงรับฟัง ยิม้ เจื่อน
ยืนอยูท่ ี่เดิมด้วยความอึดอัด
ท่ามกลางความทรมานของแม่นมซือในที่สุดสวีโย่วก็กินเสร็ จแล้ว
เขาลุกขึ้นยืนมือไพล่หลังเดินออกไปข้างนอก “ไปเถอะ ไปยกน้ าชา
ให้เสด็จแม่” เสิ่ นเวยเร่ งฝี เท้าเล็กๆ ตามอยูข่ า้ งๆ เขาราวกับสตรี ตวั
น้อยทันที
แม่นมซือไปรายงานก่อน สวีโย่วพาเสิ่ นเวยเดินยุรยาตรเข้าไปใน
เรื อนหลัก เดินไปพลางแนะนาทัศนียภาพในจวนให้นางไปพลาง
ข้างหลังตามมาด้วยสาวใช้ที่ถือ**บของขวัญหนึ่งกลุ่ม
อันที่จริ งสวี่โย่วอยากจูงมือเล็กๆ ของเสิ่ นเวยอย่างยิง่ กลับถูกนาง
ปฏิเสธ ในเมื่อจะเล่นละครก็ตอ้ งเล่นให้สมจริ ง แม้จะรู ้วา่ ไม่ชา้ ไม่
เร็ วก็ตอ้ งถูกเปิ ดโปง แต่ตอนนี้กย็ งั ไม่ใช่เวลาที่จะถูกเปิ ดโปงไม่ใช่
หรื อ นางเพิ่งจะมาถึง สงบเสงี่ยมหน่อยดีกว่า โวยวายข่มขู่คนที่จริ ง
แล้วไม่ใช่นิสยั ของนาง นางเป็ นคนรักสันติ รักชีวิต
ดังนั้นคนรับใช้ในจวนอ๋ องมองดูไกลๆ แล้ว จึงคิดว่าคุณชายใหญ่
กาลังตาหนิฮูหยินเจ้าสาวคนใหม่อยู่ ส่ วนฮูหยินใหญ่ที่เพิ่งแต่งเข้ามา
ผูน้ ้ นั ก็พยักหน้าเล็กน้อย ยังคิดว่าคุณชายใหญ่แต่งฮูหยินแล้วจะมี
นิสยั อ่อนโยนขึ้น ไม่คิดว่า… เหอะ ฮูหยินใหญ่น่าสงสารยิง่ นัก
“มาแล้วๆ คุณชายใหญ่ ฮูหยินใหญ่มาแล้ว รี บเข้ามาด้านในเถิดเจ้า
ค่ะ” หวาเยียนที่ยนื รอต้อนรับอยูห่ น้าประตูสงั่ คนให้ไปรายงานด้าน
ในไปพลาง ต้อนรับเข้ามาอย่างกระตือรื อร้นไปพลาง โค้งตัวคานับ
กล่าว “คารวะคุณชายใหญ่และฮูหยินใหญ่” จากนั้นจึงนาสวีโย่วและ
เสิ่ นเวยเข้าไปข้างในด้วยตัวเอง
ก้าวเข้าธรณี ประตู เสิ่ นเวยก็เห็นสามีภรรยาวัยกลางคนหนึ่งคู่ที่นงั่ ตัว
ตรงอยูบ่ นที่นงั่ เจ้าภาพ จิ้น
พระชายานางเคยเจอแล้ว เพียงแต่วนั นี้เห็นนางสวมชุดตัวใหญ่สีแดง
เข้มปักลายเมฆและนกกระจอก บนศีรษะปั กปิ่ นระย้าทองสลักลาย
เฟิ่ งหวงสองอัน บนใบหน้าแต่งหน้าบางๆ ท่าทางสง่างามสู งส่ ง เมื่อ
เห็นพวกเขาเข้ามา บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิม้ “โย่วเอ๋ อร์กบั ภรรยา
โย่วเอ๋ อร์มาแล้ว เด็กดี ไหนมาให้แม่ดูสิ” คนที่ขานเรี ยกก็คือเสิ่ นเวย
“เหตุใดถึงมาช้าเพียงนี้ ปล่อยให้ผใู ้ หญ่รอ เหมือนกับอะไรดี” ทว่าจิ้
นอ๋ องกลับมีสีหน้าไม่พอใจ เขารอมาครึ่ งชัว่ ยามแล้ว ลูกชายคนโต
เพิ่งจะพาเจ้าสาวเดินกรี ดกรายมา เขาจะมีความสุ ขได้อย่างไร หาก
ไม่ใช่พระชายาโน้มน้าวไว้ เขาก็คงจะสะบัดแขนเสื้ อออกไปนาน
แล้ว
เสิ่ นเวยชายตามองจิ้นอ๋ องอย่างรวดเร็ ว เป็ นคุณอารู ปงามวัยกลางคน
ที่ดูแลตัวเองดีอย่างถึงที่สุด หน้าตาเหมือนสวีโย่วสามส่ วน เพียงแค่
สี หน้าไม่พอใจนัน่ ทาให้เสิ่ นเวยรู ้สึกไม่ดีกบั เขาทันที
สวีโย่วไม่รีบไม่ร้อน กล่าวถามพระชายาจิ้นอ๋ องด้วยความประหลาด
ใจ “ในจวนเปลี่ยนกฎตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดถึงไม่มีใครแจ้งลูกเลย
น้องสะใภ้รองน้องสะใภ้สามยกน้ าชาต่างก็เป็ นยามซื่อ เหตุใดพอ
เป็ นลูกถึงได้เปลี่ยนเล่า”
คิว้ ของจิ้นอ๋ องขมวดมุ่นทันที สายก็คือสาย ยังมัวพูดมากหาเหตุผม
อยูอ่ ีก ช่างไม่รู้กาลเทศะเสี ยจริ งๆ กาลังจะอ้าปากตาหนิ พระชายา
ข้างกายก็กระแทกแขนของเขา “ท่านอ๋ องก็พดู ให้นอ้ ยหน่อย ลูกก็
มาแล้วมิใช่หรื อ” นางเป็ นคนตั้งใจปลุกท่านอ๋ องมาตั้งแต่เช้าตรู่
พระชายาจิ้นอ๋ องหันไปทางสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันที่ยนื อยู่
ตรงหน้า บนใบหน้าเปี่ ยมล้นไปด้วยรอยยิม้ กล่าวอย่าเป็ นมิตร “อย่า
ถือสาพ่อเจ้าเลย เขาก็ใจร้อนเช่นนี้ จะเร็ วจะสายอะไรกัน เป็ นคน
บ้านเดียวกันใครจะมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่ องนี้ มาๆๆ รี บยกน้ าชาเถอะ
ชาของลูกสะใภ้แก้วนี้ขา้ เฝ้ารอมาหลายปี แล้ว”
หวาเยียนที่เตรี ยมการอยูน่ านแล้วก็ส่งแก้วชาเข้ามาทันที “ฮูหยิน
ใหญ่ เชิญท่านยกน้ าชา”
เสิ่ นเวยลังเลครู่ หนึ่งจึงรับแก้วชาเข้ามา แต่เนิ่นนานกลับไม่ได้ยกให้
พระชายาจิ้นอ๋ อง ในตอนที่รอยยิม้ บนใบหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องแทบ
จะประคองไว้ไม่อยูแ่ ล้ว เสิ่ นเวยก็ร้อง ‘ฮือ’ ออกมา
คนในห้องต่างก็ตกตะลึง นี่ นี่มนั อะไรกัน
พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็คลายสะดุง้ ตกใจ ไล่ถามซ้ าไปซ้ ามา “เป็ น
อะไร เป็ นอะไร ภรรยาโย่วเอ๋ อร์เป็ นอะไรไป ได้รับความไม่เป็ น
ธรรมอะไรหรื อ โย่วเอ๋ อร์ใช่เจ้ารังแกภรรยาเจ้าหรื อไม่ ไม่ตอ้ งกลัว
ไม่ตอ้ งกลัว เด็กดี มีอะไรไม่พอใจก็บอกแม่ แม่กบั พ่อจะช่วยเจ้าเอง”
หลังจากนั้นสายตาที่จิ้นอ๋ องมองลูกชายคนโตก็ยงิ่ ขรึ มเคร่ ง น่าขาย
หน้า เจ้าสาวที่แต่งเข้ามาวันแรกก็ถูกรังแกร้องไห้ต่อหน้าผูอ้ าวุโส
มันช่าง มันช่าง…เขามือสัน่ ชี้สวีโย่ว โกรธจนพูดไม่ออกแล้ว
“ไม่ ไม่เกี่ยวกับท่านพี่ ท่านพี่ดีต่อลูกอย่างยิง่ ” เสิ่ นเวยสะอึกสะอื้น
ไห้ เนิ่นนานภายใต้การปลอบโยนของพระชายาจิ้นอ๋ องกว่าจะหยุด
ร้องไห้ได้ เสิ่ นเวยที่เพิ่งร้องไห้กย็ งิ่ มีท่าทางน่าสงสาร “เสด็จแม่ไม่
ชอบลูกใช่หรื อไม่” นางเช็ดน้ าตาถามเสี ยงเบา แม้วา่ เสี ยงจะเบา แต่
คนทั้งห้องก็ได้ยนิ กันถ้วนหน้า
นอกจากสวีโย่วที่ยนื สี หน้าเรี ยบเฉยอยูต่ รงนั้น คนที่เหลือก็จบั ต้น
ชนปลายไม่ถูกอย่างยิง่ เช่นเดียวกับพระชายาจิ้นอ๋ อง “ภรรยาโย่ว
เอ๋ อร์ไปเอาคาพูดมาจากไหนกัน”
เสิ่ นเวยกัดริ มฝี ปาก ครู่ ใหญ่จึงกล่าว “เสด็จแม่ให้ลูกยกน้ าชา แม้แต่
เบาะก็ยงั ไม่มี นี่ไม่ได้หมายความว่าไม่ชอบลูกหรอกหรื อ” นางเม้ม
ปาก ใช้ดวงตาที่ดูเหมือนขลาดกลัวลอบมองพระชายาจิ้นอ๋ องปราด
หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าว “ตอนที่ลูกยังไม่ออกเรื อนก็ได้ยนิ คนพูดกันว่า
มีแม่สามีใจร้ายเหล่านั้นที่ต้ งั ใจกลัน่ แกล้งตอนที่สะใภ้ยกน้ าชา ชาที่
ยกเป็ นน้ าร้อนจัดบ้างล่ะ ไม่วางเบาะปล่อยให้สะใภ้คุกเข่าลงบนพื้น
บ้างล่ะ ในเบาะซ่อนเศษกระเบื้องและเข็มแหลมไว้บา้ งล่ะ แสร้งมือ
ลื่นถือแก้วชาไม่ได้ทาหกใส่ สะใภ้บา้ งล่ะ”
เสิ่ นเวยยิง่ พูดเสี ยงก็ยงิ่ สัน่ ท่าทางหวาดกลัวอย่างยิง่ “เสด็จแม่ เสด็จ
แม่ ลูกรู ้วา่ ตนโง่ ท่านอย่าได้รังเกียจลูก ลูกจะกตัญญูต่อท่านและ
เสด็จพ่อเป็ นอย่างดี” ขณะที่พดู นางก็ดึงแขนเสื้ อของพระชายาจิ้
นอ๋ อง น้ าตาไหลพรั่งพรู ลงมาอีกครั้ง ร้องไห้ดว้ ยความเสี ยใจ
คนในห้องนอกจากสวีโย่วที่ยกมุมปากอยูเ่ งียบๆ สายตาคนอื่นๆ ที่
มองเสิ่ นเวยก็คล้ายเห็นตัวประหลาด พูดความคิดออกมาตรงๆ เช่นนี้
คนผูน้ ้ ีโง่หรื อ เป็ นคนโง่หรื อ หรื อว่าเป็ นคนโง่
คุณชายสี่ สวีฉงั่ ก็ยงิ่ พ่นน้ าชาออกมา แทบจะตกลงจากเก้าอี้ จ้องมอง
พี่สะใภ้ใหญ่คนใหม่ผนู ้ ้ ีของเขา หลังจากนั้นก็ดีใจแล้ว ใครๆ ก็บอก
ว่าเขาสมองกลวง ดูท่าแล้วพี่สะให้ใหญ่คนใหม่ผนู ้ ้ ีจะสมองกลวงยิง่
กว่าเขาเสี ยอีก
ใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องดามืดแล้ว แต่กลับยังแสร้งทาท่าทีเอ็นดู
ปลอบขวัญเสิ่ นเวย “ดูสิทาภรรยาโย่วเอ๋ อร์ตกใจหมดแล้ว เป็ น
ความผิดของแม่เอง เป็ นแม่ที่สะเพร่ า…”
พูดยังไม่ทนั ขาดคา หวาอวิน๋ ข้างๆ ก็คุกเข่าลง “ฮูหยินใหญ่ นี่ไม่
เกี่ยวกับพระชายา พระชายาสัง่ บ่าวแต่เช้าแล้ว แต่บ่าวสะเพร่ าลืมไป
ชัว่ ขณะ ฮูหยินใหญ่ บ่าวสมควรตาย ท่านลงโทษบ่าวเถิดเจ้าค่ะ”
“นี่…ทาอะไรกัน” เสิ่ นเวยสะดุง้ ตกใจจนถอยหลังไปหนึ่งก้าวใหญ่
“เจ้า เจ้ารี บลุกขึ้น” นางลนลานไม่รู้จะวางมือวางเท้าไว้ตรงไหน
มองพระชายาจิ้นอ๋ องราวกับขอความช่วยเหลือ “เสด็จแม่ นี่คือสาว
ใช้ใหญ่ยอดเยีย่ มประจากายท่าน ท่านรี บสัง่ นางให้ลุกขึ้นเถิด”
คราวนี้พระชายาจิ้นอ๋ องไม่ทาโทษหวาอวิ๋นก็ไม่ได้แล้ว “ปกติเจ้าก็
ปราดปเรี ยว เหตุใดวันนี้ถึงได้สะเพร่ าเช่นนี้ หากวันนี้ขา้ ไม่ลงโทษ
เจ้า คุณชายใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่กค็ งไม่ได้รับความเป็ นธรรม เด็กๆ
ลากออกไป โบยห้าครั้ง ตัดเงินเดือนสามเดือน”
แววตาสวีโย่วนิ่งงัน ถีบคนที่มาลากหวาอวิ๋นออกไปข้างๆ ทันที
“หากเสด็จแม่จะลงโทษก็กลับไปลงโทษที่เรื อนของท่าน วันนี้เป็ น
วันแรกของการแต่งงานของลูก อย่าสร้างความราคาญใจให้ลูกที่นี่
เป็ นลางไม่ดี”
เสิ่ นเวยเองก็รีบร้องขอ “เหตุใดเสด็จแม่ถึงบันดาลโทสะเล่า นาง
สานักผิดแล้ว แก้ไขก็พอแล้ว ไม่ตอ้ งลงโทษอีกหรอกกระมัง แม้จะ
ลงโทษตัดเงินเดือนก็พอแล้ว โบยจนเจ็บไม่ใช่จะทาให้เสด็จแม่
เสี ยใจหรื อ”
พระชายาจิ้นอ๋ องแทบจะเป็ นลม คาดไม่ถึงว่าคนชัว่ สมควรตายผูน้ ้ ี
จะพูดว่านางเป็ นลางไม่ดี “ในเมื่อฮูหยินใหญ่ขอร้องแทนเจ้าแล้ว จะ
ยังคุกเข่าอยูต่ รงนี้ทาไม ยังไม่รีบลุกขึ้นยืนอีก” ไฟโกรธทั้งทรวงอก
ของพระชายาจิ้นอ๋ องหาที่ระบายไม่ได้ ทาได้เพียงพาลใส่ หวาอวิ๋น
ความรู ้สึกที่ขโมยไก่ไม่ได้ซ้ ายังเสี ยข้าวสารช่างน่าอึดอัดอย่างถึง
ที่สุด
หวาอวิ๋นโขกศีรษะให้เสิ่ นเวยอย่างรี บร้อน “ขอบคุณพระชายาที่
เมตตา ขอบคุณฮูหยินใหญ่” ลุกขึ้นยืนตัวสัน่ หลบไปข้างหลังแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 216-2 คลื่นยักษ์ ในพิธียกน้าชา
“ดูสิ เด็กคนนี้คิดมากยิง่ นัก เพียงแค่ความสะเพร่ าของคนใช้เจ้าก็คิด
เยอะเพียงนั้น หลังจากนี้หา้ มทาแบบนี้อีก” พระชายาจิ้นอ๋ องสู ด
หายใจเข้าลึกหนึ่งครา เผยรอยยิม้ เอ็นดูให้เสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยหยุดร้องไห้แล้วยิม้ หน้าแดงกล่าวเสี ยงเบา “เป็ นความผิด
ของลูกที่ข้ ีขลาด เข้าใจเสด็จแม่ผดิ เสด็จแม่ไม่รังเกียจลูกก็ดีแล้ว”
นางแสดงท่าทางรู ้สึกผิด
จิ้นอ๋ องกลับหงุดหงิดแล้ว “พอแล้ว รี บยกน้ าชาเถอะ” ภรรยาของ
โย่วเอ๋ อร์ข้ ีขลาดเกินไปไม่อาจพาออกงานสังคมได้กระมัง หน้าตาดี
แล้วจะมีประโยชน์อะไร แต่เขาก็ทาได้เพียงคิดเช่นนี้ หลังจากนั้นก็
โยนทิ้งไป
“ท่านอ๋ องพูดถูก ยกน้ าชา รี บยกน้ าชา” พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าวคล้อย
ตาม
เบาะทรงกลมถูกแม่นมซือวางลงก่อนแล้ว ชาเองก็เปลี่ยนแก้วแล้ว
เสิ่ นเวยคุกเข่าลงบนเบาะ มือทั้งคู่ส่งแก้วชาออกไปด้วยความเคารพ
“เสด็จแม่เชิญดื่มชา”
“เด็กดี” พระชายาจิ้นอ๋ องรับแก้วชามาด้วยความดีใจ เปิ ดฝาออกแล้ว
ดื่มหลายอึกจึงวางลงบนโต๊ะ กล่าวด้วยท่าทางอ่อนโยน “หลังจากนี้
ก็เป็ นครอบครัวเดียวกันแล้ว โย่วเอ๋ อร์อารมณ์ค่อนข้างร้อน เจ้าก็ให้
อภัยเขาหน่อย พวกเจ้าสองคนรักใคร่ ปรองดองกัน ข้ากับพ่อก็วางใจ
แล้ว ขาดเหลืออะไร หรื อมีอะไรไม่เข้าใจก็มาขอแม่ แม่จะช่วยเหลือ
เจ้าเอง”
นางมอบผ้าคลุมหน้าหนึ่งชุดให้เสิ่ นเวย เลี่ยมอัญมณี สีฟ้า ข้างบนยัง
มีขนนกยูงหนึ่งกระจุกเล็กอยูด่ ว้ ย มองดูกร็ ู ้วา่ มูลค่าไม่ธรรมดา
“ขอบคุณเสด็จแม่เจ้าค่ะ” เสิ่ นเวยรับมาด้วยความเคารพแล้วส่ งให้
สาวใช้ขา้ งหลัง จากนั้นก็หยิบของขวัญแสดงความกตัญญูของนาง
มาจากมือหลีฮวา กล่าวอย่างรู ้สึกผิดเล็กน้อย “เสด็จแม่เป็ นถึงชิน
พระชายา มีของดีๆ อะไรบ้างที่ไม่เคยเห็น ลูกเป็ นคนโง่ คิดไม่ออก
ว่าควรแสดงความกตัญญูต่อเสด็จแม่อย่างไรดี จึงทารองเท้าหนึ่งคู่
ด้วยตัวเอง แม้วา่ จะไม่ดีนกั แต่กเ็ ป็ นเจตนาอันดีของลูก”
นี่คือรองเท้าปักลายด้ายทองพื้นเขียวหนึ่งคู่ บนหน้ารองเท้าประดับ
ไข่มุกเม็ดใหญ่ ฝี มือไม่ถึงกับดีมาก แต่กไ็ ม่นบั ว่าแย่ รอยเย็บกลับ
ละเอียดถี่ พระชายาจิ้นอ๋ องถือดูอยูใ่ นมือ กล่าวชม “ภรรยาโย่วเอ๋ อร์
มีน้ าใจ แม่ดีใจยิง่ นัก”
เสิ่ นเวยพูดในใจ เจ้าดีใจบ้าอะไร มุมปากเบ้ลงเรี ยกดีใจหรื อ แต่เจ้า
ไม่ดีใจก็ถูกแล้ว ข้าดีใจ รองเท้าหนึ่งคู่แลกกับผ้าคลุมหน้าราคาสู ง
คุม้ ค่า
“เสด็จแม่ไม่รังเกียจก็พอแล้ว” บนใบหน้าของเสิ่ นเวยเต็มไปด้วย
รอยยิม้
ต่อมาก็ถึงตายกน้ าชาให้จิ้นอ๋ อง เสิ่ นเวยคุกเข่าลงสองข้าง มือทั้งคู่ยก
แก้วจรดศีรษะ “ลูกยกน้ าชาแด่เสด็จพ่อ”
จิ้นอ๋ องรับชามาจิบหนึ่งคราจากนั้นก็วางลง หยิบซองแดงหนึ่งซองที่
ยังอยูบ่ นถาด พูดหนึ่งประโยคอย่างเรี ยบเฉย “ชักจูงโย่วเอ๋ อร์ดีๆ ใช้
ชีวิตให้ดี”
“เพคะ ลูกจะปฏิบตั ิตามคาสัง่ สอนของเสด็จพ่อ” ของขวัญแสดง
ความกตัญญูของเสิ่ นเวยยังคงเป็ นรองเท้าหนึ่งคู่ เพียงแต่สีต่าง
ออกไปก็เท่านั้นเอง จิ้นอ๋ องก็ไม่ได้สนใจ บอกเป็ นนัยให้บ่าวรับใช้
ข้างหลังเก็บไป
พิธีมอบของขวัญพบหน้าต่อไปไม่จาเป็ นต้องให้เสิ่ นเวยคุกเข่าแล้ว
เพราะว่าต่างก็อายุนอ้ ยกว่าสวีโย่ว
เดิมพิธียกน้ าชามอบของขวัญพบหน้าในวันแรกของการแต่งงาน
เป็ นสิ่ งสาคัญอย่างยิง่ ผูอ้ าวุโสจานวนมากในวงศ์ตระกูลควรอยูก่ นั
ทั้งหมด แต่จวนจิ้นอ๋ องเป็ นราชนิกลุ ญาติในวงศ์ตระกูลมีเยอะ
เกินไป หากมากันทั้งหมด ในห้องโถงก็คงจะนัง่ ไม่พอ จึงถือโอกาส
ไม่เชิญเสี ย อย่างไรเสี ยภายหลังก็มีโอกาสได้พบหน้า
“นี่คือน้องสะใภ้รองและน้องสะใภ้สาม” สวีโย่วพาเสิ่ นเวยลุกขึ้นยืน
อยูข่ า้ งหน้าสวีเยีย่ สองสามีภรรยาแล้วกล่าวแนะนา
สวี่เยีย่ กับอู๋ซื่อทาความเคารพสวีโย่วกับเสิ่ นเวยก่อน “คารวะพี่ใหญ่
พี่สะใภ้” อู๋ซื่อมองประเมินเสิ่ นเวย แอบถอดทอนใจในใจที่พี่สามี
โชคดีได้ภรรยางาม หน้าตาของพี่สะใภ้ใหญ่ผนู ้ ้ ีดีจริ งๆ
เสิ่ นเวยคารวะกลับ มอบของขวัญที่เตรี ยมมา ปิ่ นระย้าพันด้ายทอง
หนึ่งอันกับจี้หยกสลักลายมงคลหนึ่งชิ้น อู๋ซื่อรับของขวัญแล้วกล่าว
ขอบคุณ แววตากะพริ บวาบ แต่กลับไม่ได้พดู อะไรต่อ
ของขวัญที่มอบให้สวีเหยียนและหูซื่อก็เป็ นปิ่ นระย้าและจี้หยก
เช่นกัน เพียงแค่แตกต่างกันที่ลวดลายก็เท่านั้นเอง แววตาหูซื่อมี
ความผิดหวังแวบผ่าน สิ นเดิมของคนผูน้ ้ ีนางเห็นมาแล้ว แต่
ของขวัญพบหน้ากลับนับได้วา่ ธรรมดา ดูท่าแล้วจะเป็ นคนตระหนี่
ของขวัญที่มอบให้คุณชายสี่ สวีฉงั่ กลับเป็ นดาบหนึ่งเล่ม ก่อนหน้านี้
เสิ่ นเวยทาการบ้านมา คุณชายสี่ ผนู ้ ้ ีเป็ นคนชอบเที่ยวเล่น กินดื่มเล่น
พนันจนเชี่ยวชาญ ในด้านศิลปะการต่อสู ้กห็ ละหลวมอย่างยิง่ แต่
กลับมีงานอดิเรก นัน่ ก็คือชอบดาบ เก็บสะสมส่ วนตัวไว้ไม่นอ้ ย
บังเอิญว่าเสิ่ นเวยก็มีดาบเยอะ ในคลังวางดาบอยูเ่ กือบร้อยเล่ม
ทั้งหมดเป็ นดาบที่พวกจางสยงมอบให้ดว้ ยความกตัญญู เสิ่ นเวยก็
เลือกเล่มที่งามประณี ตและนับว่าแหลมคมมาหนึ่งเล่มส่ งเป็ น
ของขวัญให้สวี่ฉงั่
“ดาบดี” สวีฉงั่ ชักตัวดาบออกมาทันที ในแววตามีความดีใจ กล่าว
ชมเสี ยงดัง “น้องขอบคุณพีส่ ะใภ้ใหญ่ยงิ่ นัก” ความประทับใจที่เขามี
ต่อเสิ่ นเวยก็ดีข้ ึนมา พี่สะใภ้ใหญ่ผนู ้ ้ ีไม่เพียงแต่หน้าดี อีกทั้งยังรู ้เรื่ อง
รู ้ราว เพียงแค่ข้ ีขลาด อืม สตรี กเ็ ป็ นเช่นนั้นกันหมดมิใช่หรื อ กลับ
ไม่นบั ว่าเป็ นจุดอ่อนอะไรนัก
เสิ่ นเวยเม้มปากยิม้ “น้องชอบก็ดีแล้ว”
สวีฉงั่ รู ้สึกเพียงเบื้องหน้ามีดอกไม้งามพัดพลิ้ว ดวงตามองจนตะลึง
งัน ยังคงเป็ นสวีโย่วที่แค่นเสี ยงเย็นชาหนึ่งครา เขาจึงได้สติกลับมา
เขามีความกล้ามาก ยังล้อพี่ใหญ่ของเขาเล่นหลายประโยค “พี่สะใภ้
ใหญ่ดูกร็ ู ้วา่ เป็ นคนอ่อนโยนอ่อนหวาน พี่ใหญ่โชคดีได้ภรรยางาม
น้องอิจฉาแล้ว”
สุ ดท้ายก็เป็ นบุตรชายบุตรสาวอนุภรรยาหนึ่งคู่ในจวนจิ้นอ๋ อง
บุตรชายอนุภรรยาชื่อสวีสิง อายุเท่ากับคุณชายสี่ สวีฉงั่ แต่เด็กกว่า
เขาสามเดือน ถูกคนเจาะหาโอกาสตอนที่พระชายาจิ้นอ๋ องตั้งครรภ์ส
วีฉงั่ กว่านางจะรู ้ครรภ์ของอี๋เหนียงผูน้ ้ นั ก็ใหญ่แล้ว พระชายาจิ้
นอ๋ องเคียดแค้นยิง่ นัก เพื่อที่จะสัง่ สมบุญให้ลูกในครรภ์ นางอดทน
แล้วอดทนอีกจึงห้ามตัวเองไม่ให้ลงมือได้ ปล่อยให้สวีสิงเกิดมา แต่
แค่คิดก็รู้แล้วว่าสวีสิงมีชีวิตเช่นไรในจวน
บุตรสาวอนุภรรยาชื่อสวีเจียนจยา มีมารดาเดียวกับสวีสิง จะว่าไป
จางอี๋เหนียงที่คลอดสวีสิงกับสวีเจียนจยาก็เป็ นผูม้ ีความสามารถ
จริ งๆ คาดไม่ถึงว่านางสามารถคลอดบุตรชายบุตรสาวหนึ่งคู่ออกมา
ภายใต้การป้องกันอย่างสุ ดชีวิตของพระชายาจิ้นอ๋ อง แม้จะไม่ได้รับ
ความโปรดปราน แต่กลับล้มลุกคุกคลานเลี้ยงมาจนโตได้อย่าง
ปลอดภัย
เดิมจางอี๋เหนียงคิดจะอาศัยบารมีลูกชายเลื่อนขั้นเป็ นเช่อเฟย (ชายา
รอง) แต่พระชายาจิ้นอ๋ องเกลียดนาง จะให้นางสมปรารถนาได้
อย่างไร ดังนั้นจนกระทัง่ ตอนนี้นางก็ยงั เป็ นเพียงอี๋เหนียงเล็กๆ อยู่
อย่าว่าแต่เช่อเฟยเลย แม้แต่ฮูหยินนางยังเป็ นไม่ได้
เสิ่ นเวยรู ้เรื่ องเหล่านี้ ล้วนแต่เป็ นอาจารย์ซูผมู ้ ีความสามารถสารพัด
อย่างของนางเป็ นคนบอกนาง บางครั้งเสิ่ นเวยก็สงสัยจริ งๆ
อาจารย์ซูของนางเป็ นบุคคลที่มีคุณธรรมสู งส่ งเพียงนั้น เหตุใดถึง
ชอบนินทาเรื่ องผิดๆ ถูกๆ ในเรื อนหลังของคนอื่นเช่นนั้นเล่า
ของขวัญที่เสิ่ นเวยมอบให้สวีสิงคือสี่ สิ่งล้ าค่าในห้องหนังสื อ[1]หนึ่ง
ชุด ของไม่นบั ว่าดีแต่กไ็ ม่แย่ ของขวัญที่มอบให้สวีเจียนจยาคือ
กาไลหินปะการังหนึ่งคู่ ทั้งสองคนกล่าวขอบคุณด้วยความเกรงใจ
ถึงตอนนี้พิธีมอบของขวัญพบหน้าของเสิ่ นเวยก็จบสิ้ นลงแล้ว จิ้
นอ๋ องเดินนาหน้าออกไป ต่อมาท่านซื่อจื่อ คุณชายสาม คุณชายสี่
และคุณชายห้าก็หาข้ออ้างออกไปเช่นกัน ภายในห้องเหลือเพียงสตรี
และสวีโย่วผูห้ นึ่ง
พระชายาจิ้นอ๋ องยิม้ กล่าว “ให้นายท่านทั้งหลายไปทางานเถิด พวก
เราสตรี กม็ านัง่ สนทนากัน”
สวีโย่วได้ยนิ ดังนั้นสี หน้าก็เคร่ งขรึ ม แค่นเสี ยงหนักๆ หนึ่งครา ร่ าง
ของเสิ่ นเวยก็สนั่ น้อยๆ ทันที หันหน้ากลับไปกล่าวกับพระชายาจิ้
นอ๋ องด้วยความลาบากใจ “เสด็จแม่ พรุ่ งนี้ลูกค่อนมาสนทนากับ
ท่านได้หรื อไม่ ในเรื อนยังมีงานอยูอ่ ีกกองมิใช่หรื อ ตอนบ่ายลูกยัง
ต้องเข้าวังไปน้อมสานึกพระมหากรุ ณาธิคุณอีกด้วย”
ดวงตาของพระชายาจิ้นอ๋ องกะพริ บวาบเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ยมิ้
กล่าว “ดูสิแม่ลืมไป เจ้าเพิ่งจะมาถึง มีเรื่ องมากมายให้ตอ้ งจัดการ
มิใช่หรื อ คนรับใช้พอหรื อไม่ หากไม่พอ แม่ให้เจ้าเพิ่มสองคน หวา
ฉังหวาลู่ ต่อจากนี้เจ้าทั้งสองไปรับใช้คุณชายใหญ่ฮูหยินใหญ่”
“เพคะ” สาวใช้โฉมหน้างดงามทั้งสองขานรับเดินออกมา
ไอหยา พระชายาจิ้นอ๋ องฉวยโอกาสเก่งจริ งๆ เพิ่งจะวันแรกก็ยดั คน
เข้ามาข้างกายนางแล้ว
“ลูกขอบคุณในความเห็นใจของเสด็จแม่ คนข้างกายของเสด็จแม่
ล้วนดีอย่างยิง่ แม่นางสองคนนี้ดูกร็ ู ้แล้วว่ามีความสามารถ เพียงแต่
เพียงแต่…” เสิ่ นเวยละสายตาลอบมองสี หน้าของสวีโย่ว ไม่กล้าพูด
ต่อ เจตนานั้นชัดเจนอย่างยิง่ ‘เสด็จแม่คนที่ท่านมอบให้ดีอย่างยิง่ ลูก
เองก็ยนิ ดีจะรับไว้ เพียงแต่ลูกเป็ นคนตัดสิ นใจไม่ได้ ทั้งหมดต้องดู
ความคิดเห็นของสามี’
สวีโย่วขมวดคิ้วมุ่น “เจตนาดีของเสด็จแม่ลูกต้องขอปฏิเสธ ลูกไม่
ขาดแคลนคนใช้ สองคนนี้เสด็จแม่เก็บไว้เองดีกว่า” เขาชายตามอง
หวาฉังกับหวาลู่ปราดหนึ่ง ความรังเกียจบนใบหน้านั้นชัดเจนอย่าง
ยิง่ “ตัวเปื้ อนอะไรมา เหม็นจะตายชัก สวมเสื้ อผ้าเช่นนี้จะทางาน
เป็ นหรื อ เอาไว้ที่เรื อนเสด็จแม่ดีกว่า อย่าได้ทาให้ภรรยาของลูกเสี ย
คนเลย”
หวาฉังกับหวาลู่ที่ถูกเรี ยกชื่อวิจารณ์เช่นนี้ต่างก็มีสีหน้าอับอายอย่าง
ยิง่ นางทั้งสองหน้าตาดี ย่อมมีความทะนงตนสู ง วันนี้ถูกคนรังเกียจ
เช่นนี้ อยากจะแทรกแผ่นดินหนีเสี ยยิง่ นัก
พระชายาจิ้นอ๋ องโมโหจนแทบจะเป็ นลมแล้ว รอยยิม้ บนใบหน้าก็
จางลงสามส่ วน “ในเมื่อโย่วเอ๋ อร์ไม่รับน้ าใจ เช่นนั้นก็คิดเสี ยว่าแม่
คิดไปเองแล้วกัน”
เสิ่ นเวยเห็นพระชายาจิ้นอ๋ องโกรธ ก็หวาดกลัวขึ้นมา อ้ าอึ้งขอความ
เมตตา “เสด็จแม่ ท่านพี่พดู ไม่เก่ง อันที่จริ งในใจไม่ได้ตาหนิที่ท่าน
ก้าวก่ายเกินไป ท่านอย่าโกรธ ลูกขออภัย” นางก้มหน้า ท่าทาง
ลาบากใจอย่างถึงที่สุด
พระชายาจิ้นอ๋ องสูดหายใจหนึ่งครา กล่าวอย่างจริ งใจ “เด็กดีไม่ตอ้ ง
กลัว แม่ไม่ได้โกรธ คนเป็ นแม่ไหนเลยจะโกรธลูกตัวเองได้ ไปเถอะ
ตามโย่วเอ๋ อร์กลับไปพักผ่อน เมื่อวานก็ยงุ่ มาทั้งวันแล้ว เหนื่อยแย่
เลยใช่หรื อไม่”
“เสด็จแม่” เสิ่ นเวยซาบซึ้งอย่างถึงที่สุด น้ าตาสัน่ คลออยูใ่ นเบ้า พระ
ชายาจิ้นอ๋ องเห็นแล้วก็สงสาร ตบมือของนางปลอบขวัญไม่หยุด
ทว่าสวีโย่วกลับหงุดหงิดแล้ว “ไปสิ เจ้าจะยืนบื้ออยูต่ รงนั้นทาไม”
พูดจบก็ไม่รอเสิ่ นเวย หันหน้าเดินออกไปข้างนอก
เสิ่ นเวยกะพริ บตา คารวะพระชายาจิ้นอ๋ อง “ลูกขอตัวก่อน” จากนั้นก็
ไล่ตามสวีโย่วไปด้วยความร้อนรน
[1] สี่ สิ่งล้ าค่าในห้องหนังสื อ ได้แก่ กระดาษ หมึก พูก่ นั และแท่นฝน
หมึก.
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 217-1 เข้ าวังน้ อมสานึกพระมหา
กรุณาธิคุณ
สวีโย่วกับเสิ่ นเวยเดินเข้าเรื อนกันตามลาดับ ทั้งสองคนเพิ่งจะถอน
หายใจอย่างโล่งอก สวีโย่วยืน่ มือออกไปหาเสิ่ นเวย เสิ่ นเวยถลึงตา
มองเขาปราดหนึ่งฝ่ ามือข้างหนึ่งปัดออก “ตอนนี้นึกถึงข้าแล้วหรื อ
เมื่อครู่ ยงั ถลึงตาใส่ ขา้ อยูเ่ ลย เหอะ สายไปแล้ว” นางบิดตัวเดินเข้าไป
ในห้องหอ
สวีโย่วลูบจมูกยิม้ เดินตามหลังนางอย่างไม่สนใจเลยแม้แต่นอ้ ย “ฮู
หยิน ข้าผิดไปแล้วได้หรื อไม่ หรื อว่า ฮูหยินก็ถลึงตาใส่ ขา้ สักหลายๆ
ครั้ง”
เสิ่ นเวยหันหน้ายิม้ เยาะ “คิดว่าข้าไร้เดียงสาเหมือนท่านหรื อไร เหอะ
ข้าขี้เกียจจะสนใจท่านแล้ว” สวีโย่วหน้าหนาเดินตามหลังนางเข้าไป
ในห้องต่อ
เมื่อเสิ่ นเวยเข้าห้องไปก็ตรงไปยังเตียงหลังใหญ่ เหนื่อยเกินไปแล้ว
นางต้องงีบสักพัก ตอนบ่ายยังมีงานดุเดือดให้ตอ้ งสู ้อีก เมื่อเงยหน้า
ขึ้นก็เห็นว่าสวีโย่วเองก็ตามมา ก็โบกมืออย่างราคาญใจ “ท่าน
ออกไปทางานเถอะ ข้าจะหลับสักตื่น ไม่มีเวลาว่างมาเล่นกับท่าน”
สวีโย่วอารมณ์ดียงิ่ นัก “ข้าไม่ยงุ่ ให้ขา้ นอนเป็ นเพื่อนฮูหยินเถอะ”
“ไม่ตอ้ ง” เสิ่ นเวยกล่าวปฏิเสธ คิดว่านางไม่รู้หรื อว่าเขาคิดอะไรอยู่
ผีทะเลจิตใจชัว่ ร้าย เมื่อคืนทรมานนางครึ่ งค่อนคืน ตอนนี้นางไม่มี
กระจิตกระใจจะคิดบัญชีเขา เหอะ รอก่อนเถอะ
“ข้ารับปากจากใจจริ ง จะไม่รบกวนฮูหยินแน่นอน” สวีโย่วรี บ
รับปาก
เสิ่ นเวยเชื่อเขาก็บา้ แล้ว คิ้วงามตั้งขึ้น กล่าวด้วยความโมโห “ข้าจะ
บอกอะไรท่านให้สวีโย่ว แต่งข้าได้กถ็ ือเป็ นบุญสู งสุ ดในชีวิตท่าน
แล้ว ด้วยปัญหาจุกจิกมากมายในจวนท่าน นอกจากข้าแล้วยังจะมี
ใครทนอยูใ่ นนรกนี้ของท่านได้อีก หลังจากนี้ท่านก็ทาดีกบั ข้าหน่อย
ได้ยนิ แล้วหรื อยัง มิเช่นนั้น หึ!” ท่าทางแก้มป่ องของนางเหมือน
กระรอกน้อยอย่างถึงที่สุด
สวีโย่วอารมณ์ดีแล้ว เหตุใดเวยเวยของเขาถึงน่ารักเพียงนี้ “ได้ยนิ
แล้ว ได้ยนิ แล้ว ข้ารับปากว่าจะทาดีต่อฮูหยิน เมื่อคืนฮูหยินสัมผัสได้
ถึงความจริ งใจของข้าได้แล้วมิใช่หรื อ” สวีโย่วกล่าวอย่างจริ งจัง
“หากว่าไม่พอ ข้ายังสามารถทุ่มเทแรงได้อีก” พูดพลางก็กาลังจะ
ถอดสายคาดเอวของตน
เสิ่ นเวยเหลือบมองเขาปราดหนึ่ง สะบัดรองเท้าบนเท้าออกไปทันที
กระแทกอกของสวีโย่วพอดี “เล่นลูกไม้ให้นอ้ ยหน่อย ตอนบ่ายยัง
ต้องเข้าวังไปน้อมสานึกพระกรุ ณาธิคุณ อ้อจริ งสิ ฝ่ าบาทผูอ้ าวุโสคง
จะไม่สมองกลวงเหมือนพ่อท่านหรอกนะ ในวังหลังมีใครคิดจะขุด
หลุมฝังท่านเหมือนแม่เลี้ยงท่านหรื อไม่”
มุมปากสวีโย่วกระตุก เด็กคนนี้ปากร้ายจริ งๆ แต่วา่ สิ่ งที่พดู กลับเป็ น
เรื่ องจริ ง เสด็จพ่อของเขาสมองกลวงจริ งๆ มิใช่หรื อ แม่เลี้ยงเขาก็คิด
จะขุดหลุมฝังเขาอยูท่ ุกเมื่อมิใช่หรื อ ฮูหยินฉลาดปราดเปรื่ องจริ งๆ
เข้าเรื อนวันแรกก็รู้ธาตุแท้ของคนทั้งสองนี้อย่างชัดเจนแล้ว
“ฮูหยินวางใจเถิด ในวังไม่มีคนไม่ดูตาม้าตาเรื อเหล่านั้นหรอก ฝ่ า
บาทก็ยงิ่ ไม่ตอ้ งเป็ นกังวล” สวี
โย่วกล่าว บางครั้งเขาก็ประหลาดใจอย่างยิง่ ชัดเจนว่าเสด็จพ่อเขา
เป็ นพี่มารดาเดียวกับฝ่ าบาท ฝ่ าบาททรงมีพระปรี ชาสามารถมีบุคลิก
ของฮ่องเต้เช่นนั้น เสด็จพ่อของเขาเทียบฝ่ าบาทไม่ได้ แต่กไ็ ม่ควรจะ
ด้อยไปกว่ามากนักมิใช่หรื อ ครึ่ งหนึ่งก็ควรจะเทียบได้มิใช่หรื อ
แต่ในความเป็ นจริ งเล่า เสด็จพ่อของเขาไม่เพียงแต่มีความรู ้ดา้ น
ราชการพื้นๆ สามัญ ซ้ ายังหูเบา ถูกสตรี ควบคุมอยูใ่ นมือหลายสิ บปี
เขาทาได้เพียงคาดเดาว่าตอนที่เสด็จย่าคลอดเสด็จพ่อออกมาเกิดเหตุ
ไม่คาดคิดอะไรหรื อไม่ หรื อว่าเด็กถูกคนสับเปลี่ยน
คราวนี้เสิ่ นเวยจึงวางใจแล้ว นางไม่อยากฉี กหน้าจวนอ๋ องเสร็ จแล้ว
ยังต้องไปฉีกหน้าพระราชวังอีก เรื่ องฉี กหน้าข่มขู่พรรณ์น้ นั น่า
ราคาญที่สุด นางยกขาถีบรองเท้าอีกข้างให้หลุด จากนั้นจึงดึงปิ่ น
หยกเขียวบนศีรษะส่ งให้หลีฮวา มุดเข้าไปนอนต่อในผ้าห่มอย่าง
รวดเร็ ว
สวีโย่วถูกนางกั้นไว้นอกม่านก็คบั แค้นใจ เขาคิดเพียงแค่จะนอนเป็ น
เพื่อนเฉยๆ จริ งๆ เด็กคนนี้ก็คิดมาก แต่เมื่อด้ยนิ เสี ยงลมหายใจ
สม่าเสมอของเสิ่ นเวยที่ดงั ออกมาจากในม่าน มือที่ยกขึ้นของสวีโย่ว
ก็วางลงอีกครั้ง ช่างเถอะ ปล่อยให้เด็กคนนี้นอนหลับสักตื่นเถอะ
เมื่อคืนทานางเหนื่อยเกินไปจริ งๆ
ไม่รู้เหมือนกันว่าหลับไปนานเพียงใด เสิ่ นเวยตื่นแล้ว นางบิดขี้เกียจ
ถูหน้าอยูบ่ นหมอน รู ้สึกสบายตัวยิง่ นัก
“กี่ยามแล้ว” นางลุกขึ้นมองไปข้างนอกแล้วกล่าวถาม เสี ยงมีความ
อ่อนนุ่มอย่างคนเพิ่งตื่นนอน
“ตื่นแล้วหรื อ” เสี ยงของสวีโย่วดังขึ้นมา
เสิ่ นเวยเปิ ดม่านเตียงออกชะโงกหน้าออกไปมองข้างนอก เห็นว่าใน
ห้องไม่มีแม้แต่คนรับใช้เลยสักคนเดียว สวีโย่วนัง่ อยูข่ า้ งหน้าต่าง
กาลังไขว่หา้ ง ในมือถือหนังสื อหนึ่งเล่ม แสงอาทิตย์นอกหน้าต่าง
เคลือบแสงทองหนึ่งชั้นลงบนผิวของสวีโย่ว ใบหน้าด้านข้างของสวี
โย่วท่ามกลางแสงและเงางดงามราวกับเทพเทวดา ความรู ้สึกของ
เสิ่ นเวยก็ลอยขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ ยังดีที่มารตนนี้มีหน้าตาที่ดูดี มิ
เช่นนั้นนางก็คงจะขาดทุนตาย
“ท่านไม่ได้ออกไปนี่” เสิ่ นเวยกล่าวอย่างประหลาดใจ ดูท่าทางนัน่
ของเขาน่าจะนัง่ อยูใ่ นห้องนานแล้ว
สวีโย่วไม่ตอบ แต่กลับกล่าว “ลุกขึ้นเถอะ ควรกินข้าวเที่ยงได้แล้ว”
เขาวางหนังสื อลงข้างๆ ลุกขึ้นช่วยเสิ่ นเวยเรี ยกสาวใช้เข้ามา
ปรนนิบตั ิ
กินข้าวเที่ยงเสร็ จแล้ว เสิ่ นเวยก็อาบน้ าเปลี่ยนเสื้ อผ้า นางเป็ นจวิน้ จู่ที่
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ของราชสานัก เข้าวังน้อมสานึกพระ
มหากรุ ณาธิคุณย่อมต้องสวมชุดของจวิน้ จู่ แม้แต่เครื่ องประดับที่
สวมศีรษะก็ตอ้ งพิถีพิถนั โชคดีที่มีแม่นมมัว่ เสิ่ นเวยไม่ตอ้ งกังวล
แม้แต่นิดเดียว
เสิ่ นเวยที่อยูใ่ นเครื่ องแต่งกายชุดใหญ่ของจวิน้ จู่ดูงดงามตระการตา
ท่าทีน่าสงสารที่นางแสดงออกมาอย่างสุ ดความสามารถก่อนหน้านี้
ก็ลดลงสามส่ วน เสิ่ นเวยรู ้สึกไม่ดี เมื่อไรก็ตามที่อ่อนแอเปราะบาง
จึงจะไม่ขวางหูขวางตาผูอ้ ื่น วังหลังเป็ นสถานที่ที่ผลิตโรคประสาท
ด้วยเหตุน้ ีนางจึงเก็บพลังที่ออกมาจากร่ าง แล้วจึงลุกขึ้นยืนด้วย
ความพอใจ
จวนจิ้นอ๋ องอยูห่ ่างจากพระราชวังระยะทางหนึ่ง สวีโย่วนัง่ รถม้าไป
กับเสิ่ นเวย ความจริ งแล้วนอกจากวันที่รับตัวเจ้าสาววันนั้น สวีโย่วก็
ไม่เคยขี่มา้ ในเมืองหลวงมาก่อน
ในรถม้าเสิ่ นเวยนิ่งเงียบไม่พดู จา ดวงตาที่ดาสนิทเหลือบมองสวีโย่ว
แวบหนึ่งแล้วจึงละสายตาออกมา นางกาลังคิดว่าเหตุใดนางถึง
หลงใหลสวีโย่วคนชัว่ ผูน้ ้ ีเข้าแล้ว คิดเหตุผลนับไม่ถว้ นสุ ดท้ายก็
กลับมาที่ขอ้ แรก หมอนี่หน้าตาดี สองชาติรวมกันแล้วนางยังไม่เคย
เห็นใครหน้าตาดีกว่าสวีโย่ว นางสามารถรับปากได้วา่ การสมรสครั้ง
นี้เหตุผลใหญ่อย่างยิง่ ยังคงเป็ นเพราะนางชอบหน้าใบนั้นของสวีโย่ว
สวีโย่วยังคิดว่านางตื่นเต้น กล่าวปลอบ “พวกเราไปนัง่ ในตาหนัก
ฮองเฮาก่อนสักครู่ ฮองเฮาเป็ นคนใจกว้างที่สุด ไม่อาจทาให้เจ้า
ลาบากใจ หากฝ่ าบาทว่าง พวกเราก็เข้าไปน้อมสานักพระมหา
กรุ ณาธิคุณ หากไม่วา่ งเรี ยกพวกเราเข้าเฝ้า เช่นนั้นพวกเราก็กลับจวน
ได้เลย
เสิ่ นเวยพยักหน้าบอกเป็ นนัยว่าเข้าใจ
ไม่นานนักก็ถึงหน้าประตูพระราชวัง สวีโย่วประคองเสิ่ นเวยลงจาก
รถม้า แม้ทหารองครักษ์หน้าประตูวงั จะไม่รู้จกั สวีโย่วและเสิ่ นเวย
แต่สญ
ั ลักษณ์จวนจิ้นอ๋ องบนรถม้ายังคงรู ้จกั ยิง่ ต้องรู ้จกั เครื่ องแต่ง
กายของจวิน้ อ๋ องและจวิน้ จู่บนร่ างพวกเขา มิหนาซ้ าเร็ วอย่างยิง่ ข้าง
ในก็มีขนั ทีอว้ นหนึ่งคนรี บเข้ามา ต้อนรับคนทั้งสองด้วยรอยยิม้ ทัว่
ทั้งใบหน้า “คุณชายใหญ่ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ เหนียงเหนียงให้บ่าวออกมา
ต้อนรับท่านทั้งสอง”
จริ งสิ ราชทินนามของเสิ่ นเวยก็คือจยาฮุ่ย มีราชทินนามแต่กลับไม่มี
ที่ดินพระราชทาน เพียงเท่านี้เสิ่ นเวยก็พอใจอย่างยิง่ แล้ว จวิน้ จู่น่า
เกรงขามกว่าขุนนางหญิงขั้นสี่ มาก ในเมื่อแต่งงานกับสวีโย่วแล้ว
ภายหลังก็ตอ้ งคบค้าสมาคมกับผูม้ ีตาแหน่งสู งอย่างไม่อาจเลี่ยง
ตาแหน่งขุนนางของพ่อนางไม่เพียงพอจริ งๆ ที่นางต้องการเป็ นเพียง
ชื่อเสี ยงที่โด่งดัง สาหรับที่ดินพระราชทานทรัพย์สินแค่นนั้นนางไม่
เห็นอยูใ่ นสายตาจริ งๆ
ตาแหน่งจวิน้ อ๋ องของสวีโย่วนี้กลับมีที่ดินพระราชทานหนึ่งแห่ง
เป็ นเมืองเล็กๆ ชื่อ ‘ซาผิง’ ทางตอนใต้ แม้ที่ดินพระราชทานจะไม่
ใหญ่ แต่กใ็ กล้ท่าเรื อ เรื อที่ไปมามีเยอะอย่างยิง่ เจริ ญอย่างถึงที่สุด
จักรพรรดิยงเซวียนทรงมีพระกรุ ณาต่อหลานชายผูน้ ้ ีจริ งๆ
“หลินกงกงนี่เอง! เหนียงเหนียงสบายดีหรื อไม่” สวีโย่วพยักหน้าให้
ขันทีผนู ้ ้ นั
“ดี ดี ฮองเฮาเหนียงเหนียงสบายดี ช่วงนี้อาการป่ วยของท่านไท่จื่อดี
ขึ้นแล้ว เหนียงเหนียงดีใจยิง่ นัก” ดวงตาของขันทีหลินยิม้ จนเป็ นขีด
ขันทีหลินผูน้ ้ ีเป็ นขันทีที่มีเกียรติประจาองค์ฮองเฮา แม้จะไม่ได้จดั
อยูใ่ นลาดับที่หนึ่ง แต่สามอันดับแรกก็มีตาแหน่งของเขาอยู่
องครักษ์เห็นว่าเป็ นขันทีใหญ่ในตาหนักฮองเฮาเหนียงเหนียงมารับ
ด้วยตัวเอง ชัว่ ขณะก็นึกได้วา่ นี่คือใคร ย่อมไม่กล้าขวางทาง สวีโย่ว
กับเสิ่ นเวยจึงเดินตามหลังขันทีหลินเข้าไปยังตาหนักฮองเฮา
พระมารดาของจักรพรรดิยงเซวียน ก็คือเสด็จย่าของสวีโย่วที่จากไป
ก่อนวัยอันควร ปี ที่จกั รพรรดิยงเซวียนราชาภิเษกก็สวรรคตแล้ว
ดังนั้นในวังหลังจึงมีฮองเฮาเป็ นใหญ่
ฮองเฮาแซ่เวย ฐานะไม่สูงนัก อย่างน้อยก็เทียบเหยียนกุย้ เฟยที่มี
ฐานะเดิมอยูใ่ นจวนแม่ทพั ใหญ่ผงิ หนานและฉินซูเฟยที่มีฐานะเดิม
ในจวนเสนาบดีไม่ได้
ตอนที่สวีโย่วกับเสิ่ นเวยมาถึงตาหนักคุนหนิง ก็เห็นว่าในตาหนัก
ไม่ได้มีเพียงฮองเฮาเหนียงเหนียงพระองค์เดียว ยังมีหญิงงามผูส้ ุ ภาพ
สู งส่ งสองคนนัง่ อยูด่ ว้ ย
“ถวายความเคารพฮองเฮาเหนียงเหนียง ถวายความเคารพกุย้ เฟย
เหนียงเหนียง ซูเฟยเหนียงเหนียง” เสิ่ นเวยโขกศีรษะอยูข่ า้ งหลังสวี
โย่ว ฮองเฮานางเคยเห็นแล้ว ครั้งก่อนที่พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ น
จวิน้ จู่นางตามท่านป้าสะใภ้ใหญ่เข้าวังมาน้อมสานึกพระมหา
กรุ ณาธิคุณก็ได้พบฮองเฮาหนึ่งครั้งแล้ว คนแปลกหน้าสองคนนี้
ข้างๆ แท้จริ งแล้วก็คือเหยียนกุย้ เฟยและฉิ นซูเฟยนี่เอง เพียงแต่ไม่รู้
ว่าใครเป็ นใคร
“ลุกขึ้นเถิด ลุกขึ้นเถิด เป็ นคนบ้านเดียวกัน จะเกรงใจไปไย” ฮองเฮา
เรี ยกซ้ าไปซ้ ามา ปากก็กล่าวหยอกล้อ “ในที่สุดก็ได้เห็นคุณชายใหญ่
ของพวกเราแต่งภรรยาแล้ว จยาฮุ่ยมานี่ ให้ป้าดูหน่อย”
“เพคะ ฮองเฮาเหนียงเหนียง จยาฮุ่ยรับคาสัง่ ” ฮองเฮาสามารถเรี ยก
ตัวพระองค์เองว่าเสด็จป้าได้ แต่เสิ่ นเวยกลับไม่โง่จนเรี ยกเช่นนั้น
จริ งๆ ความน่าเกรงขามของราชนิกลุ ไม่อาจดูหมิ่นได้ ไม่แน่วา่ นาง
อาจจะพูดไปตามมารยาทก็เท่านั้น หากนางคิดเป็ นจริ งเช่นนั้นก็คง
สมองกลวงแล้วจริ งๆ
“ดูสิ ดูสิ จยาฮุ่ยเด็กคนนี้หน้าตางดงามจริ งๆ อาโย่วสายตาดียงิ่ นัก”
ฮองเฮาเหนียงเหนียงดึงเสิ่ นเวยเข้ามาเอ่ยปากชมไม่หยุด
เสิ่ นเวยแสดงท่าทีเขินอายออกมาอย่างถูกกาลเทศะ กล่าวเสี ยงเบา
“เหนียงเหนียงกล่าวชมเกินไปแล้วเพคะ ผอมแห้งอย่างจยาฮุ่ย ไหน
เลยจะสง่างามสู งศักดิ์เช่นเหนียงเหนียงทั้งหลาย เหนียงเหนียง
อย่าได้ชมจยาฮุ่ยเลยเพคะ”
“โห เด็กคนนี้พดู จากเป็ นยิง่ นัก จวนจงอู่โหวไม่ใช่ต้ งั ตระกูลจาก
กองทัพหรื อ ฟังว่าคุณหนูแต่ละคนในจวนต่างก็เป็ นศิลปะการต่อสู ้
น้องชายผูน้ ้ นั ของข้ายังโชคดีที่ลูกน้องจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ให้อภัย” หญิง
งามผูน้ ้ นั ที่นงั่ อยูท่ างฝั่งขวามองเสิ่ นเวยกล่าวอย่างคล้ายยิม้ คล้ายไม่
ยิม้
เสิ่ นเวยเข้าใจทันทีวา่ คนผูน้ ้ ีคือฉินซูเฟย เพียงแต่นางหมายความว่า
อย่างไร ระบายอารมณ์ให้นอ้ งชายตนกับตัวเองงั้นหรื อ เลือกวันนี้
ใช่ไม่เอาสมองมาด้วยหรื อไม่
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 217-2 เข้ าวังน้ อมสานึกพระมหา
กรุณาธิคุณ
ความคิดนี้อยูใ่ นสมองเสิ่ นเวยเพียงแค่ชวั่ วูบ เหลือบมองสวีโย่วอย่าง
เงียบๆ ปราดหนึ่ง เจตนานั้นไม่พดู ก็รู้ ไม่ใช่บอกว่าในวังหลังไม่มี
คนไม่ดูตาม้าตาเรื อหรอกหรื อ แล้วคนตรงหน้าผูน้ ้ ีคืออะไร
“ขอบคุณซูเฟยเหนียงเหนียงที่ชื่นชม กราบทูลเหนียงเหนียงให้
ทราบว่า แม้จวนจงอู่โหวจะตั้งตระกูลจากกองทัพ แต่พี่สาวน้องสาว
ในตระกูลนอกจากจยาฮุ่ยแล้วก็มีทกั ษะหมัดเท้าปั กบุปผาหลาย
กระบวนท่า พวกนางไม่ชานาญวิทยายุทธ์ ผูอ้ าสุ โสกล่าวแล้วว่า คน
ปกป้องแว่นแคว้นมีบุรุษก็เพียงพอแล้ว สตรี สุภาพคงความงามไว้จะ
ดีกว่า จยาฮุ่ยฝึ กยุทธ์กเ็ พราะว่าตั้งแต่เล็กสุ ขภาพไม่ดี ผูอ้ าวุโสใน
บ้านสงสารจึงอนุญาตให้จยาฮุ่ยฝึ กเล็กน้อย”
เสิ่ นเวยกล่าวด้วยความตั้งใจมากเป็ นพิเศษ “ส่ วนน้องชายของเหนียง
เหนียง เหนียงเหนียงท่านทราบข่าวลือในเมืองหลวงของน้องชาย
ท่านหรื อไม่ ทัว่ ทั้งเมืองหลวงต่างก็พดู ว่าคุณชายน้อยตระกูล
เสนาบดีฉินศีรษะมีหนองไหลเท้ามีรอยแผลยาว จากต้นตอก็เละจน
ไม่มียารักษา แต่ศกั ดิ์ศรี ของพ่อแม่พนี่ อ้ งถูกทาให้เสื่ อมเสี ยแล้ว จยา
ฮุ่ยเคยบังเอิญพบเขาลวนลามหญิงสาวชาวบ้านข้างถนน จยาฮุ่ยคิดว่า
คุณชายน้อยฉินอย่างไรเสี ยก็เป็ นคุณชายน้อยของเสนาบดีฉิน
เสนาบดีฉินก็เป็ นขุนนางร่ วมราชสานักกับผูอ้ าวุโสทั้งหลายของจยา
ฮุ่ย ไม่วา่ อย่างไรก็มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันหลายส่ วนมิใช่หรื อ
ดังนั้นจยาฮุ่ยจึงสัง่ คนให้ตีบ่าวทั้งหลายที่ยยุ งคุณชายน้อย ไม่ได้แตะ
ต้องคุณชายน้อยแม้แต่นิ้วเดียว ซูเฟยเหนียงเหนียงอันที่จริ งแล้วท่าน
ต้องขอบคุณจยาฮุ่ยนะเพคะ”
พูดถึงตรงนี้สีหน้าบนใบหน้านางก็จริ งใจยิง่ นัก ขมวดคิว้ อย่างคล้าย
นึกอะไรขึ้นได้ “แต่วา่ ซูเฟยเหนียงเหนียงน้องชายท่านไม่ค่อยกล้า
หาญจริ งๆ ไม่ได้แตะต้องเขาแม้แต่ปลายนิ้วเขาก็หวาดกลัวจนป่ วย
แล้ว ห่างไกลจากคุณชายสี่ จวนอ๋ องของพวกเรานัก เป็ นคุณชาย
ตระกูลร่ ารวยเหมือนกัน คุณชายสี่ ของพวกเราเก่งยิง่ นัก เมื่อวันก่อน
ไม่รู้วา่ ถูกใครต่อยตีมา บาดเจ็บสาหัส พักรักษาตัวอยูส่ ามวันในจวน
ก็กระโดดโลดเต้นออกจากบ้านไปแก้แค้นคนแล้ว เช้าวันนี้จยาฮุ่ยม
อบดาบให้เขาหนึ่งเล่ม เขาไม่ตกใจ ซ้ ายังดีใจยิง่ นัก! คุณชายน้อยฉิ น
ต้องเลียนแบบคุณชายสี่ ของพวกเราเสี ยแล้วจริ งๆ!”
ในตาหนักเงียบสงัดอย่างถึงที่สุด มีเพียงเสี ยงดีใจของเสิ่ นเวยดัง
สะท้อนอยูใ่ นหูของคนทุกคน ฮองเฮาเหนียงเหนียงมองจยาฮุ่ยจวิน้ จู่
ด้วยดวงตาโตที่กะพริ บวาบ สี หน้าบนใบหน้าซับซ้อนอย่างยิง่ ! ครั้ง
ก่อนที่เจอแม่นางผูน้ ้ ีกป็ กติดีนี่!
ซูเฟยเหนียงเหนียงโมโหจนควันขึ้นศีรษะ ชี้เสิ่ นเวยพูดไม่ออก
แม้แต่ประโยคเดียว
เหยียนกุย้ เฟยผูน้ ้ นั ที่นงั่ อยูท่ างด้านซ้ายกลับหลุดหัวเราะออกมาหนึ่ง
ครา “เป็ นเด็กที่ซื่อสัตย์จริ งๆ เหมือนบุตรสาวโง่เขลาผูน้ ้ นั ของเขา
ถูกใจข้ายิง่ นัก มาๆๆ กาไลมุกเคลือบเงาเส้นนี้ขา้ ใส่ มาหลายปี แล้ว
วันนี้มอบให้เจ้าแล้วกัน”
เสิ่ นเวยรับเข้ามาด้วยความเคารพ “จยาฮุ่ยขอบคุณกุย้ เฟยเหนียง
เหนียงเพคะ”
ฮองเฮาเหนียงเหนียงด้านบนก็ได้สติกลับมา กล่าวกับกุย้ กูกนู าง
กานัลใหญ่ติดตัวประจาพระองค์ “รี บไปเอาของขวัญที่ขา้ เตรี ยมไว้
ให้จยาฮุ่ยจวิน้ จู่มา” จากนั้นจึงหันหน้ากล่าวกับเสิ่ นเวยด้วยความ
ตาหนิ “แม้จะพูดความจริ ง แต่กไ็ ม่อาจพูดเช่นนี้ ดูสิเจ้าทาซูเฟยตก
ใจแล้ว ยังไม่รีบเข้าไปขอโทษอีก”
ฮองเฮาเหนียงเหนียงตั้งใจเปลี่ยนคาว่าโกรธเป็ นตกใจ นางดีใจอย่าง
ยิง่ ที่ได้เห็นซูเฟยเสี ยหน้า หลายปี มานี้ซูเฟยอาศัยพ่อผูเ้ ป็ นท่าน
เสนาบดีของนาง ต่อหน้าลับหลังขัดขาตนไปมากน้อยเพียงใด องค์
ชายรองที่นางให้กาเนิดแย่งรัศมีไท่จื่อของตนไปมากน้อยเพียงใด
ประโยคเดียวของจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ช่างทาให้คนมีความสุ ขมากจริ งๆ!
สายตาที่ฮองเฮาเหนียงเหนียงมองเสิ่ นเวยก็ยงิ่ เมตตามากขึ้น
เสิ่ นเวยย่อมรับฟังความคิดเห็นของผูอ้ ื่น “ซูเฟยเหนียงเหนียงท่าน
อย่าได้โมโห จยาฮุ่ยโง่เขลา พูดจาดีๆ ไม่เป็ น ท่านอย่าได้โกรธจ
ยาฮุ่ยเลยเพคะ! แต่จยาฮุ่ยพูดล้วนเป็ นความจริ งทั้งหมด ไม่พดู เท็จ
แม้แต่ประโยคเดียว แม้นอ้ งชายของท่านจะไม่ได้ความ แต่ฟังว่าองค์
ชายรองมีอนาคตอย่างยิง่ ว่ากันว่าเขามีความสามารถยิง่ กว่าท่าน
ไท่จื่อเสี ยอีก”
ใครบอกว่าจยาฮุ่ยของพวกเราพูดจาไม่เป็ น ดูสิ ประโยคเดียวไม่
เพียงแต่ทาให้ซูเฟยเหนียงเหนียงตกใจ ยังทาให้ฮองเฮาเหนียงเหนียง
พูดไม่ออกอีกด้วย แต่คนก่อเรื่ องยังมีท่าทางจริ งใจอย่างถึงที่สุดอยู่
เลย
“เจ้า เจ้าบังอาจนัก! องค์ชายรองกับท่านไท่จื่อเป็ นคนที่เจ้าจะวิจารณ์
ได้หรื อ” ซูเฟยเหนียงเหนียงตะโกนเสี ยงต่า
เสิ่ นเวยตกใจในชัว่ ขณะ เบ้าตาแดงก่าทันที “ข้า ข้า จยาฮุ่ยไม่ได้
วิจารณ์ เพียงแค่พดู ความจริ งเท่านั้นเอง” นางหลบไปอยูข่ า้ งหลังสวี
โย่วทันที ก้มหน้าไม่กล้าออกมาแล้ว
คิ้วของฮองเฮาขมวดมุ่นแล้ว “ซูเฟยทาอะไร เจ้าถือสาอะไรกับเด็ก
คนหนึ่ง จยาฮุ่ยเพียงแค่พดู ความจริ ง เจ้าขู่นางทาไม”
สวีโย่วเองก็ไม่มีความสุ ขแล้ว แม้จะรู ้วา่ ภรรยาของเขาเล่นละคร แต่
ดวงตาที่แดงก่า ท่าทางขลาดกลัวนั้นยังคงทาให้เขาสงสารอย่างถึง
ที่สุด
“ซูเฟยเหนียงเหนียงทะนงตนยิง่ นัก! ทูลถามฮูหยินของกระหม่อม
พูดผิดตรงไหน แม้วา่ องค์ชายรองกับท่านไท่จื่อจะสู งศักดิ์ แต่ในทาง
ส่ วนตัวแล้วก็ยงั ต้องเรี ยกกระหม่อมว่าพี่มิใช่หรื อ ภรรยาของ
กระหม่อมเป็ นถึงพี่สะใภ้พดู ความจริ งหนึ่งประโยคเหตุใดถึง
กลายเป็ นวิจารณ์ไปเสี ยเล่า ข้อกล่าวหานี้ใหญ่เกินไปเล็กน้อย
กระหม่อมคงทาได้เพียงให้ฝ่าบาทเป็ นผูต้ ดั สิ น”
แววตาที่เย็นเยียบของสวีโย่วทาให้ซูเฟยได้สติกลับมาอย่างว่องไว
คิดว่าหากเรื่ องนี้วนุ่ วายไปจนถึงหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท ด้วยระดับ
ความโปรดปรานที่คุณชายใหญ่ผนู ้ ้ ีได้รับ ตนจะต้องไม่มีจุดจบที่ดี
แน่นอน แต่หากจะให้นางก้มหัว นางก็ลดตัวไม่ลง ตกอยูใ่ น
สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างไม่อาจเลือก เสี ยใจขึ้นมา
เงียบๆ ต้องโทษแม่นางคนเดียว เข้าวังมาร้องทุกข์วา่ น้องชายถูก
รังแกมากเพียงใด ทาให้ตนโมโหจนขาดสติไปชัว่ ขณะ
ฮองเฮาหวังว่าจะให้เรื่ องวุน่ วายไปถึงหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท จะได้
ฆ่าความกาแหงของซูเฟยเสี ย อย่างดีที่สุดก็จะได้โยงไปถึงตัวองค์
ชายรอง
“เอ๋ คุยอะไรถึงได้เสี ยงดังเพียงนี้ บ่าวถวายความเคารพฮองเฮาเหนียง
กุย้ เฟยเหนียงเหนียง ซูเฟยเหนียงเหนียงพะยะค่ะ” จางเฉวียนขันที
ใหญ่ประจาองค์จกั รพรรดิยงเซวียนยิม้ แย้มเดินเข้ามา คล้ายมองไม่
เห็นบรรยากาศตึงเครี ยดในตาหนัก “คุณชายใหญ่ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ บ่าว
คารวะท่านทั้งสอง”
แววตาของฮองเฮากะพริ บวาบ กล่าวถามด้วยสี หน้ายิม้ แย้ม “ฝ่ าบาท
มีเรื่ องอันใดหรื อไม่”
“มีสิพะยะค่ะ ฝ่ าบาทร้อนใจอยากดื่มชาของภรรยาหลานชาย จึงให้
บ่าวมาเร่ งรัด ให้ฮองเฮาเหนียงเหนียงปล่อยคนเร็ วหน่อย” จาว
เฉวียนกล่าวพลางหัวเราะ
“ตายจริ ง ฝ่ าบาทใจร้อนยิง่ นัก อาโย่ว จยาฮุ่ย พวกเจ้ารี บไปเถอะ”
ฮองเฮากล่าวกับสวีโย่วเสิ่ นเวย
ด้วยเหตุน้ ี สวีโย่วกับเสิ่ นเวยจึงคานับแล้วกล่าวลา ตามจางเฉวียนไป
พบจักรพรรดิยงเซวียนแล้ว
เมื่อเขาไป คิว้ ของฮองเฮาก็ขมวดมุ่น มองซูเฟยแล้วกล่าว “ซูเฟย
ไม่ใช่ขา้ ว่าเจ้า นิสยั ใจร้อนของเจ้าก็ควรแก้ได้แล้ว เจ้าว่าพระชายาที่
ยิง่ ใหญ่เช่นเจ้า โมโหเด็กคนหนึ่งทาไมกัน จยาฮุ่ยเพิ่งจะอายุสิบห้า
เด็กกว่าองค์ชายรองหลายปี เจ้าคิดว่าเจ้า… เฮ้อ!” นางถอนหายใจ
อย่างหนักหน่วง
ซูเฟยลุกขึ้นอย่างรวดเร็ ว เชิดหน้า “ขออภัยท่านพี่ฮองเฮา ในวังข้ายัง
มีเรื่ องให้ตอ้ งจัดการ ขอตัวลา” พูดจบก็หนั หลังกลับเดินออกไป
ทาฮองเฮาโมโห หายใจหอบถี่กระชั้น
มุมปากเหยียนกุย้ เฟยปรากฏรอยยิม้ เหยียดหยาม ลุกขึ้นกล่าวลา
เช่นกัน “ไม่มีอะไรแล้ว ข้าเองก็ขอตัวลา” ประคองมือนางกานัล บิด
สะโพกเดินออกไปแล้ว
ฮองเฮาโกรธจนกัดฟันกรอด แต่ละคนวางมาดใหญ่ยงิ่ นัก ต้องมีสกั
วัน ต้องมีสกั วัน! นางกาหมัดแน่น
“เด็กคนนั้นพูดเช่นนั้นจริ งๆ หรื อ” จักรพรรดิยงเซวียนที่เดินไปเดิน
มาในห้องหนังสื อส่ วนพระองค์หยุดฝี เท้า
“พะยะค่ะ!” ทหารลับขานรับเสี ยงเบา
มุมปากของจักรพรรดิยงเซวียนกระตุก คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีเป็ นคนที่
เสี ยเปรี ยบไม่ได้ ดูสิพดู เช่นนั้น ราวกับเหล็กแหลม แทงเข้าไปใน
จิตใจคน ซูเฟยก็เหมือนกัน อาโย่วพาภรรยาเข้ามาในวังครั้งแรกนาง
ก็สร้างความราคาญใจให้แล้ว โตเพียงนี้แล้วยังไปทาให้เด็กลาบาก
ใจ ถูกตอกกลับเป็ นอย่างไรเล่า สมน้ าหน้า!
เทียบกับฮองเฮาเหนียงเหนียงและคนอื่นๆ จักรพรรดิยงเซวียนรู ้ธาตุ
แท้ของเสิ่ นเวย นัน่ คือเด็กน้อยที่ฉลาดซุกซน มิเช่นนั้นหลานชายที่
ไม่เห็นใครในสายตาผูน้ ้ นั ของเขาจะให้ความสาคัญจนอดใจรอแต่ง
กลับบ้านไม่ได้เช่นนั้นหรื อ สตรี ใสซื่อไร้เดียงสางั้นหรื อ เหอะๆ เด็ก
คนนี้แสดงเก่งจริ งๆ
เข้าห้องหนังสื อส่ วนพระองค์แล้ว สวีโย่วก็พาเสิ่ นเวยไปโขกศีรษะ
คานับจักรพรรดิยงเซวียน ยกน้ าชาหนึ่งแก้ว หลังจากนั้นจักรพรรดิ
ยงเซวียนก็โบกมือให้พวกเขาลุกขึ้น
“จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ ฟังว่าเจ้าไปเล่นซนที่ตาหนังคุนหนิงมาหรื อ ทาซูเฟย
โมโหแล้ว ทั้งยังวิจารณ์องค์ชายรองกับไท่จื่อของเราอีก ควรลงโทษ
อย่างไรดี” จักรพรรดิยงเซวียนกล่าวด้วยสี หน้าเคร่ งขรึ ม
เสิ่ นเวยใจเต้นเล็กน้อย โอ้โห เรื่ องที่เกิดที่ตาหนักคุนหนิงฝั่งนั้น ฝ่ า
บาทฝั่งนี้กท็ ราบแล้ว ดูท่าแล้วจักรพรรดิยงเซวียนจะไม่เหมือนพ่อ
ของมารตนนี้ที่ไอคิวต่ากว่าระดับตลอดทั้งปี เช่นนั้นจริ งๆ
นางลอบมองสี หน้าของจักรพรรดิยงเซวียนอย่างระมัดระวังปราด
หนึ่ง เห็นว่าแม้เขาจะทาหน้าดุ แต่ในแววตากลับมีรอยยิม้ เล็กน้อย
จึงวางใจลง กล่าวด้วยความมัน่ ใจ “นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณชายใหญ่
หรอกหรื อ ก่อนเข้าวังเขาก็รับปากซ้ าแล้วซ้ าเล่าว่าเหนียงเหนียงแต่
ละคนในวังหลังนิสยั ดีอย่างยิง่ ประพฤติตนเมตตาเฉลียวฉลาด ไม่มี
คนที่หวั ใหญ่ไร้สมองเหล่านั้น ใครจะรู ้วา่ จู่ๆ ซูเฟยเหนียงเหนียงจะ
ก่อกบฏ จยาฮุ่ยไหนเลยจะทานางโกรธ เห็นชัดๆ ว่าพูดความจริ ง
แม้วา่ ฝ่ าบาทจะอยูต่ ่อหน้าจยาฮุ่ยก็จะพูดเช่นนี้ น้องชายของซูเฟย
เป็ นคนหื่นกามรังแกบุรุษข่มขู่สตรี จยาฮุ่ยเองก็ไม่ได้ตีเขาจริ งๆ ท่าน
ก็รู้ความสามารถของจยาฮุ่ย หากอยากฆ่าเขาให้ตาย หญ้าหน้าหลุม
ศพของเขาก็คงยาวหมดแล้ว”
เสิ่ นเวยเบ้ปากกล่าวต่อ “จยาฮุ่ยต้องโต้เถียงก็เพราะว่าหลานชายท่าน
ปกป้องภรรยาไม่ได้มิใช่หรื อ เขาพูดจาโง่เขลา ในใจมีคาพูดแต่พดู
ไม่ออก ทาได้เพียงใช้สายตาถลึงมองคน มีประโยชน์อะไร ดูสิ ดูสิ
ร่ างกายก็ผอมแห้ง หลายปี มานี้ไม่รู้วา่ ได้รับความไม่เป็ นธรรมาก
น้อยเพียงใด แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว คุณชายใหญ่แต่งงานกับ
ข้าจยาฮุ่ย ท่านก็รู้ จยาฮุ่ยร้ายกาจ ทั้งยังรักพวกพ้อง คุณชายใหญ่
ปกป้องภรรยาไม่ได้ เช่นนั้นภรรยาก็จะปกป้องเขาเอง! ฝ่ าบาทวางใจ
มีจยาฮุ่ยอยู่ ไม่วา่ ใครก็กลัน่ แกล้งคุณชายใหญ่ไม่ได้”
เสิ่ นเวยรับปากสาบาน จักรพรรดิยงเซวียนแทบจะพ่นชาออกมา ชี้
เสิ่ นเวย ครู่ ใหญ่กว่าจะหาเสี ยงตัวเองกลับมาได้ “เจ้ามันเด็กแก่น
คุณชายใหญ่ปกป้องภรรยาไม่ได้อะไรกัน เขาปกป้องเจ้าไม่ได้หรื อ”
แม้ปากจะพูดเช่นนี้ ในใจกลับชื่นชมยิง่ นัก ดี! ภรรยาผูน้ ้ ีของอาโย่ว
นับได้วา่ แต่งมาไม่เสี ยเปล่า รู ้จกั ปกป้องผูช้ ายของตัวเองจึงจะถือว่า
เป็ นภรรยาที่ดี!
ดวงตาจักรพรรดิยงเซวียนกะพริ บวาบ นึกถึงภรรยาคนแรกขึ้นมา
ชัว่ พริ บตานางก็จากไปสิ บกว่าปี แล้ว!
บนใบหน้าของสวีโย่วสะเทือนใจเล็กน้อย หลายปี เพียงนี้แล้ว มีใคร
คิดจะทาอะไรเพื่อเขาบ้าง
มีเพียงนาง มีนางผูเ้ ดียวเท่านั้น!
ปากบอกรังเกียจ บอกว่าราคาญเขา ให้เขาออกไปห่างๆ แต่ทุกครั้งที่
มีเรื่ องกลับแยกเขี้ยวยิงฟันพุง่ ขึ้นมาข้างหน้า ปกป้องเขา!
ในใจสวีโย่วร้อนผ่าว ไม่รู้วา่ ควรจะแสดงความรู ้สึกของตนอย่างไร
เขารู ้สึกว่า ชัว่ ชีวิตนี้หากไม่มอบของดีๆ ทั้งหมดไว้ตรงหน้านาง ใน
ใจตนก็คงจะไม่สงบสุ ข
น้องสี่ แซ่เสิ่ น เวยเวย เจ้าก็คือผูก้ อบกูท้ ี่เทพเทวัญทั้งสวรรค์ส่งมาให้
ข้าใช่หรื อไม่
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 218-1 ตื่นเช้ าไปเคารพ
“สวีโย่ว ตอนนี้เจ้าก็แต่งงานแล้ว ใช่ควรจะเริ่ มทางานได้แล้วหรื อไม่
เจ้าอยากไปกรมโยธาหรื อกรมพระคลัง หรื อว่ากรมอาญา หกกรม
หรื อที่วา่ การต่างๆ ในเมืองหลวงของลุงเจ้าอยากไปตรงไหนก็ได้
ทั้งสิ้ น” จักรพรรดิยงเซวียนมองสวีโย่วแล้วตรัส ท่าทางใจกว้าง
เช่นนี้คาดว่าเหล่าองค์ชายรู ้เข้าคงจะอิจฉาตาร้อน ดีต่อหลานชายยิง่
กว่าลูกชายแท้ๆ จะดีจริ งๆ หรื อ
ทว่าสวีโย่วกลับปฏิเสธ กล่าวเสี ยงเรี ยบ “ขอบคุณเสด็จลุงที่ให้
ความสาคัญ หลานสุ ขภาพไม่ค่อยดี นัก อยูร่ ักษาตัวในจวนจะดีกว่า”
จักรพรรดิยงเซวียนเบิกตาโต สุ ขภาพไม่ดีง้ นั หรื อ ใช้ขอ้ อ้างนี้ปิดบัง
ผูอ้ ื่นได้ แต่ไหนเลยจะปิ ดบังเขาได้ ตอนนั้นยังเป็ นเขาที่เตรี ยมส่ งเขา
ขึ้นไปบนภูเขาด้วยตัวเอง สารพิษในร่ างกายเขาหายไปเกือบหมด
นานแล้ว หลายปี เพียงนี้กใ็ ช้ท่าทีของคนป่ วยแสดงตนมาโดยตลอด
เพียงเพื่อปิ ดหูปิดตาก็เท่านั้นเอง ลับหลังก็ช่วยตนจัดการงานที่ราช
สานักไม่สะดวกออกหน้าอยูไ่ ม่นอ้ ย
“สุ ขภาพเจ้าดีหรื อไม่ลุงยังไม่รู้อีกหรื อ อายุยงั น้อยคิดจะอูง้ านไม่ได้
แม้บุตรหลานราชนิกลุ จะเยอะ แต่ที่ได้ความกลับมีไม่กี่คน ลุงก็อายุ
ปูนนี้แล้ว เจ้าจะแบ่งเบาภาระลุงไม่ได้เชียวหรื อ” จักรพรรดิยงเซวีย
นทรงเรี ยกร้องความเห็นใจ
แต่เขาพูดประโยคนี้ไม่เพียงแต่สวีโย่วที่ไม่เชื่อ แม้แต่เสิ่ นเวยที่อยู่
ข้างๆ เป็ นตัวประกอบอย่างซื่อสัตย์กย็ งั รู ้สึกตกใจ จักรพรรดิยงเซ
วียนอายุเพียงสี่ สิบปี กาลังอยูใ่ นยุคทองของการทางาน ไม่วา่ อย่างไร
ก็ไม่อาจพูดได้วา่ อายุปูนนี้!
“เสด็จลุงอย่าทาให้หลานลาบากใจเลยพะยะค่ะ หลานไม่มีปณิ ธาน
ยิง่ ใหญ่อะไร ได้รับพระมหากรุ ณาธิคุณจากเสด็จลุง หลานได้เป็ น
จวิน๋ อ๋ องแล้ว ชาติน้ ีกเ็ พียงพอแล้ว” สวีโย่วไม่หลงกลเลยแม้แต่นอ้ ย
ชีวิตคนบนโลกก็มีเพียงอานาจและความร่ ารวย สองอย่างนี้เขาไม่
ขาดตกบกพร่ อง ไยจะต้องแสวงหาช่องทางประจบผูม้ ีอานาจให้ได้
“ยิง่ ไปกว่านั้นหลานเพิง่ แต่งงานหมาดๆ ไม่มีกระจิตกระใจจริ งๆ”
เพิ่งจะแต่งภรรยา ยังออดออ้นไม่พอเลย ตัดใจทิ้งภรรยาที่งดงามดัง่
บุปผาไว้ในจวนไม่ได้
ความเจ็บป่ วยรุ มเร้าร่ างกายทาให้สวีโย่วมองเห็นเรื่ องราวบนโล่งจน
ทะลุปรุ โปร่ งแล้ว เขาคิดว่าชีวิตในอุดมคติที่สุดก็คือการมีภรรยา
บุตรปราศจากเรื่ องทุกข์ใจ พาน้องสี่ แซ่เสิ่ นไปท่องเที่ยวพเนจร
เช้าตรู่ ข้ ึนเขา ตกบ่ายล่องเรื อ แค่คิดก็พอใจอย่างถึงที่สุดแล้ว
“เจ้ามันคนไม่มีอนาคต” จักรพรรดิยงเซวียนชี้จมูกของสวีโย่วแล้ว
ยิม้ ด่า ยังไม่ทนั เข้าราชสานักก็ปฏิเสธงานแล้ว ไหนเลยจะมีเรื่ อง
เช่นนี้
จักรพรรดิยงเซวียนยังอยากจะพูดอะไรอีก ก็ได้ยนิ เสี ยงขององค์ชาย
รองดังเข้ามาจากนอกห้องหนังสื อส่ วนพระองค์ รอยยิม้ บนใบหน้า
เขาก็หุบลงทันที “เหล่าเอ้อร์มาแล้วหรื อ เข้ามาเถิด”
จากนั้นจึงเห็นองค์ชายรองที่สง่าผ่าเผยอมยิม้ เดินเข้ามา ผูท้ ี่เข้ามา
พร้อมกับเขายังมีองค์ชายสี่ เขาเป็ นพระราชบุตรของฮองเฮา หลายปี
ก่อนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็ นไท่จื่อ
จักรพรรดิยงเซวียนประหลาดใจเล็กน้อย บุตรสองคนนี้มาด้วยกัน
ได้อย่างไร
“พวกลูกถวายบังคมเสด็จพ่อ ลูกทราบมาว่าวันนี้เสด็จพี่พาพี่สะใภ้
คนใหม่มาเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ ลูกจึงตั้งใจมาร่ วมยินดี ระหว่างทาง
บังเอิญพบไท่จื่อ จึงมาพร้อมกัน” องค์ชายรองอธิบายเหตุผลที่เขามา
พร้อมกับไท่จื่อ
ไท่จื่อเองก็กล่าว “ตอนที่เสด็จพี่โย่วสมรส ลูกร่ างกายไม่ค่อยสบาย
นัก จึงไม่อาจไปแสดงความยินดีดว้ ยตัวเองได้ ลูกไม่ได้เจอเสด็จ
พี่โย่วนานแล้ว ในใจก็คิดถึง วันนี้เสด็จพี่โย่วเข้าวังมาเข้าเฝ้า ลูกจึง
ร้อนใจอยากมาหา”
แม้วา่ องค์ชายรองกับไท่จื่อจะเรี ยกสวีโย่วว่าเสด็จพี่ แต่อย่างไร
ราชวงศ์และขุนนางก็มีความแตกต่าง สวีโย่วยังคงนาเสิ่ นเวยทา
ความเคารพพวกเขา ทั้งสองคนย่อมเลี่ยงการเคารพด้วยความเกรงใจ
อย่างยิง่
เสิ่ นเวยชายตามองคนทั้งสองปราดหนึ่งอย่างรวดเร็ ว เห็นองค์ชาย
รองและไท่จื่อหน้าตาดีใช้ได้ ก็ใช่ ราชนิกลุ จะมีคนขี้เหร่ ได้อย่างไร
เพียงแต่เทียบกับองค์ชายรองที่องอาจผ่าเผย ท่านไท่จื่อก็อ่อนแอกว่า
มาก ไม่เพียงแต่ส่วนสู งเตี้ยกว่าสองสามชุ่น แม้แต่พลังที่ออกมาจาก
ร่ างก็อ่อนกว่าสามส่ วน
มีองค์ชายที่โดเด่นผูห้ นึ่งเช่นนี้อยูข่ า้ งกาย มิน่าเล่าความยโสโอหัง
ของของซูเฟยจึงสู งเพียงนั้น
มีองค์ชายสองคนเพิม่ เข้ามา บทสนทนาที่ถูกตัดไปย่อมไม่อาจพูด
ขึ้นได้อีก เสิ่ นเวยก็เป็ นตัวประกอบฉากต่อ เดิมสวีโย่วก็พดู ไม่เยอะ
อยูแ่ ล้ว ตอบรับประโยคสองประโยคเป็ นบางครั้ง คนที่พดู เยอะกลับ
เป็ นจักรพรรดิยงเซวียนสามพ่อลูก
เสิ่ นเวยมองดูอย่างเย็นชา องค์ชายรองไม่เพียงแต่องอาจผ่าเผยกว่า
ไท่จื่อ แต่ยงั พูดจาเป็ นยิง่ กว่าเขา บนใบหน้าเขามีรอยยิม้ น้อยๆ ที่
อบอุ่น ท่าทางสุ ภาพมีมารยาท แต่ละประโยคที่พดู คล้ายทาให้
จักรพรรดิยงเซวียนยิม้ ในใจได้ เขาเทียบไท่จื่อไม่ได้ ไท่จื่ออยูต่ ่อ
หน้าพระพักตร์จกั รพรรดิยงเซวียนอึดอัดเล็กน้อย ไม่เป็ นธรรมชาติ
เหมือนองค์ชายรอง แม้เขาจะพยายามซ่อนจุดๆ นี้ แต่เสิ่ นเวยก็ยงั คง
สังเกตเห็น
เมื่อคิดดูให้ดีเรื่ องนี้กไ็ ม่แปลก องค์ชายรองอายุมากกว่าไท่จื่อห
ลายปั ลาดับก็อยูห่ น้าๆ ความสัมพันธ์ที่มีต่อจักรพรรดิยงเซียนก็
ลึกซึ้ง อีกทั้งแม้วา่ เขาจะเป็ นบุตรของจักรพรรดิยงเซวียน แต่คนหนึ่ง
เป็ นองค์ชาย อีกคนหนึ่งเป็ นไท่จื่อ อย่างไรเสี ยฐานะก็ไม่เหมือนกัน
จักรพรรดิยงเซวียนอาจจะมีใจเมตตาต่อลูกมากกว่าหลายส่ วน แต่
กลับสัง่ สอนไท่จื่อเข้มงวดอย่างถึงที่สุด จึงเป็ นเหตุผลที่ไท่จื่ออยูต่ ่อ
หน้าพระพักตร์จกั รพรรดิยงเซวียนแล้วอึดอัดอย่างยิง่
ดวงตาของเสิ่ นเวยกะพริ บวาบ จู่ๆ ก็นึกได้วา่ องค์ชายที่อายุสิบห้าปี
ขึ้นไปของจักรพรรดิยงเซวียน
คล้ายมีหกเจ็ดคน ตอนนี้นางเพิ่งจะเห็นเพียงแค่สองคน องค์ชายคน
อื่นๆ องอาจผ่าเผยเหมือนองค์ชายรอง หรื อจะอ่อนแอเหมือนอย่าง
ไท่จื่อ แม้วา่ ไท่จื่อจะได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์แล้ว แต่เป็ นลูก
ชายของจักรพรรดิยงเซวียนเหมือนกันพวกเขาจะยินยอมได้อย่างไร
องค์ชายที่ไม่อยากเป็ นฮ่องเต้ไม่ใช่องค์ชายที่ดี จักรพรรดิยงเซวียน
ไม่กลัวพวกเขาทะเลาะกันเองในหมู่พี่นอ้ งหรื อ
ความคิดนี้อยูใ่ นสมองเสิ่ นเวยเพียงแค่ชวั่ แวบหนึ่ง แม้จะทะเลาะกัน
ในหมู่พี่นอ้ งแล้วอย่างไร เกี่ยวอะไรกับนางสักทองแดงเดียวหรื อไม่
นางแทะถัว่ รอชมอย่างมากก็ขนม้านัง่ เล็กมานัง่ ชมความสนุกอยู่
ข้างๆ ก็พอแล้ว
เร็ วอย่างยิง่ สวีโย่วก็พาเสิ่ นเวยกราบลาออกมา ตอนที่กลับไปถึงจวน
จิ้นอ๋ องฟ้าก็มืดพอดี สวีโย่วมองโคมไฟสี แดงที่แขวนอยูห่ น้าเรื อน
ในใจก็อบอุ่น กุมมือเสิ่ นเวยข้างกายแน่นอย่างอดไม่ได้ เสิ่ นเวยมอง
เขาปราดหนึ่งด้วยความประหลาดใจ ไม่ได้สะบัดออกอย่างเชื่อฟัง
อาหารมื้อเย็นยังคงกินในเรื อน กลับไม่ใช่เสิ่ นเวยที่ทะนงตน แต่พระ
ชายาจิ้นอ๋ องเข้าใจความรู ้สึกมากเป็ นพิเศษ ตั้งแต่พวกเขากลับมาจาก
วังพระชายาจิ้นอ๋ องก็ส่งคนมาบอกว่าเห็นใจพวกเขาสองสามีภรรยา
ที่เหน็ดเหนื่อยมาอย่างยิง่ ไม่จาเป็ นต้องไปเคารพแล้ว
เสิ่ นเวยย่อมเชื่อฟังอย่างยิง่ วันนี้นางเหนื่อยจริ งๆ จึงไม่สนว่าพระ
ชายาจิ้นอ๋ องจะพูดจากใจจริ งหรื อว่าเสแสร้ง เพียงแค่พายเรื อตามน้ า
ส่ งแม่นมมัว่ ไปรายงานสถานการณ์เข้าวังน้อมราลึกพระมหา
กรุ ณาธิคุณ และถือโอกาสฝากความซาบซึ้งนับไม่ถว้ นของนางไป
ด้วย
ทานข้าวเย็นเสร็ จแล้ว เสิ่ นเวยก็หยิบบันทึกการท่องเที่ยวหนึ่งเล่มพิง
ตัง่ อ่านอย่างผ่านๆ หลีฮวาพาเด็กรับใช้สองคนมานวดไหล่ทุบขาให้
นาง สบายยิง่ นัก เสิ่ นเวยสะลึมสะลือจะหลับอยูแ่ ล้ว
ภาพที่สวีโย่วมองเห็นตอนที่เดินออกมาจากห้องด้านในก็คือภาพ
หญิงงามสะลึมสะลือภาพนี้ เขาโบกมือไล่หลีฮวาและคนอื่นๆ พวก
นางลังเลเล็กน้อยแต่กย็ งั คงถอยออกไปเงียบๆ
มือของสวีโย่ววางลงบบ่าเสิ่ นเวยนางก็รู้สึกตัวแล้ว แรงมือไม่
เหมือนกันอย่างสิ้ นเชิง “เป็ นท่านนี่เอง!” เสิ่ นเวยลืมตามองเขาปราด
หนึ่ง จากนั้นก็หรี่ ตาเสพสาราญต่อไป
สวีโย่วยกมุมปาก นวดไปนวดมามือใหญ่หนึ่งคู่กเ็ ลื่อนลงไปข้างล่าง
ตามไหล่ของเสิ่ นเวย ถูกอุง้ มือของเสิ่ นเวยปั ดออก “ดีๆ หน่อย”
เสิ่ นเวยถลึงตาใส่ เขาอย่างไม่พอใจ สวีโย่วเลิกคิ้ว ไม่ได้พดู อะไร มือ
ใหญ่ๆ เลื่อนกลับไปตามไหล่ลงมือนวดต่อ แต่ผา่ นไปไม่นานเขาก็
เล่นลูกไม้เดิม ทาเสิ่ นเวยโมโหอยูพ่ กั หนึ่งจนลุกขึ้นนัง่ ในช่องฟันมี
คาไม่กี่คาเค้นออกมา “ให้คนนอนดีๆ ได้หรื อไม่” ฤดูใบไม้ผลิ
เหนื่อยง่ายฤดูใบไม่ร่วงก็ง่วงง่าย ตอนนี้นางง่วงยิง่ นักรู ้หรื อไม่
ทว่าสวีโย่วกลับแสดงท่าทีไร้เดียงสาอย่างสิ้ นเชิง “เจ้าก็นอนไปสิ ข้า
ก็ช่วยเจ้านวดไหล่อยูม่ ิใช่หรื อ”
เสิ่ นเวยถลึงตาใส่ สวีโย่วอย่างสุ ดชีวิต นัน่ เจ้านวดไหล่หรื อ เจ้ามัน่ ใจ
หรื อว่าที่เจ้านวดคือไหล่
เสิ่ นเวยปัดมือสวีโย่วออก โยนบันทึกการท่องเที่ยวทิ้ง โมโหเดือด
ดาลเดินไปที่เตียงใหญ่ ยังไม่ลืมหันหน้ากลับมาเตือน “ท่าน ห้ามเข้า
มา”
สวีโย่วอารมณ์ดีทนั ที น้องสี่ แซ่เสิ่ นโง่แล้วหรื อ นัน่ คือเตียงห้องหอ
ของพวกเขา เขาไม่เข้าไปแล้วจะไปไหน แต่เพราะว่าเด็กน้อยโมโห
แล้ว เขารออีกสักพักค่อยเข้าไปดีกว่า
พระชายาจิ้นอ๋ องได้ยนิ คารายงานของแม่นมมัว่ ในปากก็สวดอมิตา
พุทธ กล่าวด้วยความดีใจทั้งใบหน้า “ข้าบอกแล้วว่าภรรยาโย่วเอ๋ อร์
เป็ นเด็กที่มีวาสนา ดูสิ ไม่เพียงแต่ฮองเฮาเหนียงเหนียงชอบ แม้
แต่กยุ้ เฟยเหนียงเหนียงกับซูเฟยเหนียงเหนียงต่างก็ชอบนางเช่นกัน
ขอบคุณฟ้าดิน ในที่สุดจิตใจของข้าก็เบาลงแล้ว”
แม่นมซือที่อยูข่ า้ งๆ ก็กล่าวหยอกล้อ “ตั้งแต่ที่องค์หญิงใหญ่กบั ฮู
หยินใหญ่ออกจากประตูใหญ่จวนอ๋ อง พระชายาของพวกเราก็เป็ น
ห่วงแล้ว ประเดี๋ยวเดียวก็ถามว่าคุณชายใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่กลับ
มาแล้วหรื อยัง ตอนนี้รู้วา่ ฮูหยินใหญ่ได้ความโปรดปรานจากคนสู ง
ศักดิ์ในวัง จิตใจที่เป็ นกังวลของพระชายาก็เบาลงได้เสี ยที”
“เฮ้อ พูดเรื่ องนี้ทาไมกัน โย่วเอ๋ อร์สองสามีภรรยากลับมาอย่าง
ปลอดภัยก็ดีแล้ว” พระชายาจิ้นอ๋ องโบกมือห้ามคาพูดของแม่นมซือ
จู่ๆ ก็ถอนหายใจหนึ่งครา “คนเป็ นพ่อเป็ นแม่กเ็ ป็ นเช่นนี้มิใช่หรื อ
ภรรยาโย่วเอ๋ อร์เป็ นคนโอนอ่อนผ่อนตาม ข้าก็ตอ้ งใส่ ใจนางให้มาก
มิใช่หรื อ ลาบากเด็กคนนี้มาทั้งวันยังจะคิดให้นางมาบอกข้าอีกหรื อ
ข้าว่า พรุ่ งนี้ค่อยมาก็เหมือนกัน”
แม่นมมัว่ เป็ นใครกัน จะฟังความหมายในคาพูดของพระชายาจิ้
นอ๋ องไม่ออกได้อย่างไร ต่อหน้าพูดว่าฮูหยินใหญ่คิดรอบคอบ แต่
อันที่จริ งลับหลังกลับตาหนิวา่ เคารพแม่สามีไม่พอ ส่ งแม่นมมาได้
แต่ตนมาเองไม่ได้ง้นั หรื อ เหนื่อยหรื อ คนเป็ นภรรยาที่ไหนบ้างไม่
เหนื่อย
ทว่าแม่นมมัว่ กลับมีสีหน้าเรี ยบเฉย “ฮูหยินของพวกเราอยากมา
พูดคุยกับพระชายาด้วยตัวเอง แต่กก็ ลัวจะรบกวนการพักผ่อนของ
พระชายา คุณชายใหญ่เองก็บอกว่าให้เชื่อฟังพระชายาค่อยมาพรุ่ งนี้
อีกทั้งยังบอกว่าพระชายาใจกว้างเมตตาต่อชนรุ่ นหลังที่สุด ไม่อาจ
คิดเล็กคิดน้อยกับนางได้”
เจ้าพูดมา ข้าก็พดู กลับ กตัญญูเชื่อฟัง กตัญญูเชื่อฟัง ไม่เพียงแต่
กตัญญู ซ้ ายังเชื่อฟังอีกด้วย อะไรที่เรี ยกว่าเชื่อฟังงั้นหรื อ นัน่ ก็คือทา
ตามที่ผอู ้ าวุโสบอก ท่านดูสิ คาพูดที่ท่านพูดฮูหยินของพวกเราต่างก็
เชื่อฟัง
รอยยิม้ บนใบหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องจางลงเล็กน้อย นางชายตามอง
แม่นมมัว่ เห็นความตื้นตันบนใบหน้านาง ท่าทางเคารพ ในใจก็ผอ่ น
คลายลงเล็กน้อย จากนั้นก็กาชับอีกไม่กี่ประโยคก็ไล่นางออกไป
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 218-2 ตื่นเช้ าไปเคารพ
หลังแม่นมมัว่ กลับไป สี หน้าบนใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องก็เก็บ
จนหมดจด นางพิงลงบนเก้าอี้ ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง คิ้วขมวดมุ่น ดู
ดุดนั ขึ้นหลานส่ วน
“แม่นมคิดว่าฮูหยินผูน้ ้ ีของพวกเราเป็ นคนอย่างไร” แม่นมซือกาลัง
ตกตะลึง ก็ได้ยนิ พระชายาถาม
แม่นมซือรี บตั้งสติกา้ วขึ้นมา ในใจนางเข้าใจว่าพระชายาถามอะไร
“ทูลพระชายา บ่าวคิดว่าฮูหยินใหญ่น่าจะไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น
ฐานะอยูท่ ี่นนั่ จะรู ้ประสี ประสาอะไรได้ ยิง่ ไปว่านั้นคุณชาย
ใหญ่…” นางลอบมองสี หน้าของพระชายาไม่ได้พดู ต่อ
พระชายาจิ้นอ๋ องพยักหน้า เข้าใจเจตนาของนาง หลุบตาลงคล้าย
กาลังครุ่ นคิด อันที่จริ งนางเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน เสิ่ นซื่อเป็ น
บุตรสาวที่เติบโตในชนบท ไม่เคยเรี ยนกฎมารยาทมาก่อน ช่วงเวลา
ที่แม่นมมัว่ มาอยูข่ า้ งกายนางก็มีจากัด ต่อให้นางจะฉลาดมีความรู ้ก็
ไม่อาจเก่งขึ้นมาในภายในช่วงเวลาสั้นๆ ยิง่ ไปกว่านั้นนางก็ไม่ใช่คน
ฉลาด เพียงแค่หน้าตาสละสลวยก็เท่านั้นเอง
อีกทั้งคุณชายใหญ่คนชัว่ ผูน้ ้ นั ก็ไม่รู้จกั เคารพคนที่เด็กกว่า เขาพูด
หนึ่งประโยคนางจะไม่ฟังได้หรื อ คาดว่าเขาคงจะห้ามไม่ให้มา
คนเป็ นภรรยาย่อมต้องไปเคารพแม่สามี เสิ่ นเวยเองก็ไม่คิดจะท้าทาย
ประเพณี นางใช้ชีวิตในจวนจงอู่โหวอย่างสุ ขสบาย นั้นล้วนเป็ น
เพราะใครบางคนทาออกมาด้วยตัวเอง อันที่จริ งนางยังเคารพผู ้
อาวุโสรักเด็กมีใจกตัญญูรู้จกั กฎระเบียบมีมารยาทอย่างยิง่ …เป็ นคน
ดีต่างๆ นานา
ช่วงเวลาเคารพจิ้นหวังเวยเป็ นยามเฉิ น นี่เป็ นข่าวที่เหอฮวาไปสื บ
ถามกลับมา เพราะว่านอนเร็วแต่หวั วัน วันรุ่ งขึ้นเสิ่ นเวยจึงตื่นเช้า
อย่างยิง่ เมื่อนางหวีผมล้างหน้าแต่งตัวเสร็ จเดินออกมาจากห้อง บน
โต๊ะข้างนอกก็มีอาหารเช้าวางอยูเ่ รี ยบร้อยแล้ว สวีโย่วนัง่ ไขว่หา้ งรอ
นางอยู่
เสิ่ นเวยประหลาดใจอย่างยิง่ ลูกสะใภ้ในยุคโบราณเคารพแม่สามี
ต่างก็ทอ้ งว่างมิใช่หรื อ หลังจากนั้นก็มีแม่สามีใจร้ายเหล่านั้นก็ต้ งั ใจ
ถ่วงเวลาเพื่อที่จะทรมานลูกสะใภ้ ให้ลูกสะใภ้ปรนนิบตั ิตวั เองทาน
อาหารเช้าขณะที่ทอ้ งหิวอยู่
สวีโย่วย่อมมองความคิดของเสิ่ นเวยออก กล่าวด้วยท่าทีจริ งจัง “รี บ
เข้ามาทานข้าวเถอะ พระชายาเมตตา ไม่อาจทารุ ณสะใภ้หรอก” เขา
ไม่ใช่คนโง่ จะให้ภรรยาของตัวเองท้องหิ วไปเคารพพระชายาจิ้
นอ๋ องได้
อย่างไร เขาบอกว่าจะดูแลภรรยาให้ดีไม่ใช่คาพูดส่ งเดช
เสิ่ นเวยก้าวฝี เท้าที่เบาเร็ วเดินเข้าไป ในเมื่อนายท่านผูด้ ูแลบ้านก็พดู
แล้ว เสิ่ นเวยย่อมไม่อยากหิวแต่เช้า กินอิ่มแล้วจึงจะมีพลังไปเคารพ
มิใช่หรื อ ตอนแรกที่เพิง่ กลับจวนไปเคารพท่านย่าและหลิวซื่อนาง
เองก็กินจนท้องอิ่ม คนโง่เท่านั้นที่จะทาให้ตวั เองหิ วท้องร้อง
เพราะว่าอารมณ์ดี ดังนั้นความอยากอาหารของเสิ่ นเวยก็ดีเช่นกัน
เช้าตรู่ มีน้ าแกงหนึ่งถ้วยเพิ่มขึ้นมาจากเมื่อคืน
“ไปเถอะ” สวีโย่วเห็นเสิ่ นเวยวางตะเกียบลงจึงกล่าว
เสิ่ นเวยประหลาดใจอีกครั้ง “ท่านจะไปกับข้าหรื อ ไม่ตอ้ งหรอก
ท่านไปทาธุระของท่านเถอะ ข้าไปคนเดียวได้” ก็แค่เคารพไม่ใช่
หรื อ ไม่ได้จะไปบุกถ้ าเสื อมังกร ใช้เวลาไม่นานนางก็จดั การได้แล้ว
สี หน้าบนใบหน้าสวีโย่วจริ งจัง “ฮูหยินพูดผิดแล้ว แคว้นต้ายงของ
เราให้ความสาคัญกับความกตัญญูที่สุด คนเป็ นลูกจะไม่ไปเคารพผู ้
อาวุโสได้อย่างไร ฮูหยิน พวกเราไปกันเถอะ”
เห็นท่าทางเด็ดเดี่ยวแน่วแน่เช่นนั้นของสวีโย่ว เสิ่ นเวยก็แสยะปาก
อย่างไม่เห็นด้วย หมอนี่กแ็ ค่พดู จาน่าฟังใช่หรื อไม่ เมื่อวานนางเห็น
ชัดเจนแจ่มแจ้ง เขาไม่มีจิตใจกตัญญูต่อพ่อของเขาเลย แล้ว
นับประสาอะไรกับแม่เลี้ยง เขาจะไปสร้างความราคาญใจให้แม่เลี้ยง
มากกว่ากระมัง
นอกจากนี้เสิ่ นเวยยังไม่แน่ใจว่าผูช้ ายยุคโบราณใช่ตอ้ งเคารพผู ้
อาวุโสหรื อไม่ ตอนที่นางอยูท่ ี่จวนโหวก็ไปเคารพท่านย่าเพียงไม่กี่
ครั้ง บางครั้งก็บงั เอิญเจอเหล่าพี่ชายน้องชาย ส่ วนพ่อนางและท่าน
ลุงทั้งหลายของนาง ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน หรื อว่าช่วงเวลาเคารพของ
ผูช้ ายเช้ากว่า เสิ่ นเวยไม่แน่ใจจริ งๆ
แต่วา่ ในเมื่อสวีโย่วยินดีไปเป็ นเพื่อนนางเช่นนั้นก็ยงิ่ ดี พระชายาจิ้
นอ๋ องคงจะไม่ทาให้นางลาบากใจต่อหน้าลูกเลี้ยงหรอกกระมัง
เช้าตรู่ ในต้นฤดูร้อนยังคงเย็นสบายอย่างยิง่ เสิ่ นเวยรับลมเย็นสบาย
ใจยิง่ นัก ตอนที่เดินไปได้ครึ่ งทางก็พบฮูหยินซื่อจื่ออู๋ซื่อที่ไปเคารพ
เหมือนกันพอดี ทั้งสองคนหยุดทักทาย
อันที่จริ งอู๋ซื่อเห็นพี่ใหญ่สามีขา้ งกายพี่สะใภ้ใหญ่มาแต่ไกลแล้ว ใน
แววตาก็มีความประหลาดใจแวบผ่าน ในจวนอ๋ องใครบ้างไม่รู้วา่ พี่
ใหญ่สามีไม่เคยเคารพพระชายามาก่อน คราวนี้กลับไปเป็ นเพื่อน
ภรรยาที่เพิ่งแต่งงาน ดูท่าแล้วพี่สะใภ้ใหญ่จะกุมหัวใจของพี่ใหญ่
สามีได้ดีอย่างยิง่ ! กลัวว่าพีส่ ะใภ้ใหญ่จะได้รับความไม่เป็ นธรรมที่
เรื อนพระชายา เมื่อคิดอีกมุม พี่สะใภ้ใหญ่น่าตาดีเพียงนั้น นิสยั ก็
อ่อนโยน อายุยงั น้อยกว่าพี่ใหญ่สามีเจ็ดแปดปี หากเป็ นนางก็คงไม่
วางใจเช่นกัน
อู๋ซื่อกล่าวอย่างเป็ นมิตร “บังเอิญจริ งๆ พบพี่สะใภ้พี่ใหญ่แล้ว พี่
ใหญ่ยงั มาเคารพเสด็จแม่เป็ นเพื่อนพีส่ ะใภ้ใหญ่ดว้ ย ความรักใคร่ น้ ี
ช่างน่าอิจฉาจริ งๆ” นางปิ ดปากหัวเราะหยอกเล่น
“น้องสะใภ้รองอย่าหยอกล้อเลย” เสิ่ นเวยหน้าแดงเหลือบมองสวี
โย่วปราดหนึ่งอย่างรวดเร็ ว หลุบตาลงด้วยใบหน้าหวานเยิม้ ทั้งใบ
ท่าทางเขินอายอย่างถึงที่สุด
เดิมหน้าตาก็ดีอย่างถึงที่สุด จู่ๆ ก็ดูดีข้ ึนสามส่ วนอย่างไม่มีเหตุผล อู๋
ซื่อมองจนละสายตาไม่ได้ ถอนหายใจในใจ อายุนอ้ ยดียงิ่ นัก!
พี่สะใภ้ใหญ่อ่อนหวานราวกับดอกไม้งามบนกิ่งไม้ ใบหน้าเล็กๆ
นั้นหวานจนแทบจะบีบน้ าออกมาได้แล้ว ยิง่ เป็ นหญิงงามที่ไม่รู้
ประสานัก พี่ใหญ่สามีจะไม่รักไม่หลงแย่เลยหรื อ
หลังจากนั้นมือของนางก็ลูบหน้าตัวเองอย่างไม่รู้ตวั ซื่อจื่ออายุเท่าพี่
ใหญ่สามี เพียงแต่เด็กกว่าสามเดือน ตนก็อายุนอ้ ยกว่าซื่อจื่อหนึ่งปี
โตกว่าพี่สะใภ้ใหญ่นอ้ ยตรงหน้าหกเจ็ดปี เต็มๆ ไม่ตอ้ งตบแป้งทา
ชาดใบหน้านั้นก็มองไม่ได้แล้ว ไหนเลยจะเหมือนพีส่ ะใภ้ใหญ่นอ้ ย
เพียงแค่เขียนคิ้วลวกๆ แต้มชาดที่ปากก็งดงามจนทาให้คนตกตะลึง
แล้ว
แก่แล้ว แก่แล้ว! แม้วา่ ซื่อจื่อจะปฏิบตั ิต่อนางด้วยความเคารพ แต่
อย่างไรเสี ยก็ยงั เทียบไม่ได้กบั คนตรงหน้า
อู๋ซื่อถอนหายใจอย่างเจ็บปวด ประคองแขนของเสิ่ นเวยเดินไปที่
เรื อนของพระชายาจิ้นอ๋ องด้วยกัน
ตอนที่พวกนางเข้าไปพระชายาจิ้นอ๋ องกาลังหวีผมอยู่ แม่นมซือถาม
เสี ยงเบาว่าวันนี้นางจะใช้เครื่ องประดับชิ้นไหน เสิ่ นเวยกับอู๋ซื่อย่อ
ตัวเคารพนาง นางยังยิม้ ถามหนึ่งประโยค “พวกเจ้าพี่สะใภ้
น้องสะใภ้มาด้วยกันได้อย่างไร”
ฟังว่าพวกนางเจอกันระหว่างทาง พระชายาจิ้นอ๋ องก็พยักหน้า กล่าว
ด้วยใบหน้ายิม้ แย้ม “พวกเจ้าพี่สะใภ้นอ้ งสะใภ้เข้ากันได้ดีขา้ ก็วางใจ
ภรรยาเยีย่ เอ๋ อร์เจ้าเข้าเรื อนมาเร็ วกว่าหน่อย ทั้งยังช่วยข้าจัดการเรื่ อง
ครัวในจวน ต้องช่วยพี่สะใภ้เจ้าให้มากหน่อย นางอายุยงั น้อย แต่
อย่างไรเสี ยก็เป็ นพี่สะใภ้ เจ้ากับภรรยาของสิ งเอ๋ อร์ตอ้ งเคารพนาง
ครอบครัวพวกเรารักใคร่ ปรองดอง ข้ากับเสด็จพ่อของพวกเจ้าก็ไม่มี
ความปรารถนาอื่นแล้ว”
เสิ่ นเวยกับอู๋ซื่อย่อมขานรับพร้อมกัน
พระชายาจิ้นอ๋ องเหลือบมองตัวเองในกระจกปราดหนึ่ง เปลี่ยนเรื่ อง
กล่าว “ภรรยาโย่วเอ๋ อร์มานี่ ช่วยแม่เลือกเครื่ องประดับสักชิ้น”
เสิ่ นเวยจับต้นชนปลายไม่ถูกเล็กน้อย ยังคงเป็ นอู๋ซื่อที่ผลักนาง
เล็กน้อยนางจึงได้สติกลับมา ใบหน้างามแดงระเรื่ อก่อน “เสด็จแม่
ลูกไม่มีความรู ้ หากเลือกชิ้นที่ท่านไม่ชอบ ท่านอย่าได้โกรธลูกนะเพ
คะ!”
ท่าทางเด็กผูห้ ญิงตัวน้อยที่ไร้เดียงสาทาให้พระชายาจิ้นอ๋ องหัวเราะ
ออกมาในชัว่ พริ บตา “ไม่โกรธ ไม่โกรธ นี่เป็ นชิ้นที่ลูกสะใภ้ใหญ่
ของข้าเลือกให้กบั มือ ต่อให้เจ้าเลือกไม้มาแม่กม็ ีความสุ ข”
ใบหน้าของเสิ่ นเวยแดงก่ากว่าเดิม อู๋ซื่อเองก็หยอกล้อ โวยวายบอก
ว่าเสด็จแม่ลาเอียง มีลูกสะใภ้ใหม่แล้วไม่ตอ้ งการลูกสะใภ้เก่าเช่น
นางแล้ว พระชายารี บปลอบนาง “ต้องการสิ สะใภ้ที่เก่งเช่นนี้จะไม่
ต้องการได้อย่างไร” แม่สามีลูกสะใภ้เล่นลูกไม้คารมกันพักหนึ่ง
เสิ่ นเวยก้าวขึ้นไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ เลือกอยูใ่ น**บเครื่ อง
ประดับของพระชายาจิ้นอ๋ องอยูน่ าน จึงเลือกปิ่ นระย้าทองที่หนัก
อย่างถึงที่สุดออกมาหนึ่งอัน ยกไปตรงหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องราวกับ
มอบสิ่ งของล้ าค่า “เสด็จแม่ ลูกเลือกได้แล้ว ท่านว่าอันนี้เป็ นอย่างไร
ลูกคิดว่ามีเพียงปิ่ นระย้าที่หรู หราอันนี้จึงจะเหมาะสมกับฐานะที่
สู งส่ งของท่าน ชิ้นอื่นเหล่านั้นต่างก็จืดชืดเกินไป”
บนใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องมีบางอย่างแวบผ่านไปอย่างรวดเร็ ว
ทันใดนั้นก็ยกยิม้ “ดี ดี ภรรยาโย่วเอ๋ อร์ตาดี เร็ ว ช่วยเสี ยบไว้บนผม
แม่เร็ ว”
อู๋ซื่อที่ยนื อยูข่ า้ งหน้าแทบจะปากอ้าตาค้างแล้ว เครื่ องประดับเต็ม**
บแต่กลับเลือกปิ่ นระย้าทองชิ้นนี้ที่ไม่มีรสนิยมงั้นหรื อ พี่สะใภ้ใหญ่
เป็ นคนอย่างไร แต่เมื่อคิดถึงฐานะเดิมของนางก็เข้าใจแล้ว จวนจงอู่
โหวเป็ นตระกูลเศรษฐีใหม่มิใช่หรื อ มุมปากแสยะ ในใจก็เหยียด
หยามขึ้นมา
เสิ่ นเวยปักปิ่ นระย้าทองไว้ในผมของพระชายาจิ้นอ๋ องด้วยความ
เคารพนอบน้อม มองพระชายาจิ้นอ๋ องในกระจกที่มีเสน่ห์ลดลงสอง
เท่าในชัว่ ขณะ อารมณ์ของเสิ่ นเวยก็ดีอย่างยิง่ กล่าวชม “เสด็จแม่สง่า
ผ่าเผยจริ งๆ!”
พระชายาจิ้นอ๋ องเป็ นทุกข์จนไม่อาจพูด เพราะว่าเอ่ยปากไว้ก่อนแล้ว
ต่อให้ไม่พอใจก็ไม่อาจว่าอะไรได้ ยังคงฝื นใจชมเสิ่ นเวยว่าตาดี นาง
อัดอั้นจะตายอยูแ่ ล้ว
ไม่พอใจแต่ทาอะไรไม่ได้ นางถือโอกาสเบนหน้าหนีไม่มองตัวเอง
ในกระจกเสี ย
เสิ่ นเวยไม่สนว่าความรู ้สึกของพระชายาจิ้นอ๋ องจะเป็ นเช่นไร ตาม
หลักการเจ้าไม่พอใจข้าจึงจะพอใจ เสิ่ นเวยตัดสิ นใจว่าจะทางาน
สร้างความราคาญใจให้พระชายาจิ้นอ๋ องไปจนถึงที่สุด
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 219-1 สร้ างความราคาญใจต่ อเนื่อง
“เคารพพระชายา” สวีโย่วที่รออยูข่ า้ งนอกกล่าวเสี ยงเรี ยบ ช่วงเวลา
ส่ วนใหญ่เขายังคงเรี ยกจิ้น
พระชายาว่าพระชายา ไม่ใช่เสด็จแม่ เสด็จแม่ของเขาคือคนอื่น แม้
นางจะจากไปนานแล้ว ซ้ ายังให้ร่างกายที่ทรุ ดโทรมแก่เขาไว้ แต่เขา
ก็ยงั ไม่คิดจะเปลี่ยนเสด็จแม่คนใหม่
พระชายาจิ้นอ๋ องเดินออกมาจากห้องด้านใน ก็เห็นลูกเลี้ยงนัง่ ดื่มชา
อยูข่ า้ งนอก ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ ต้องรู ้วา่ คุณชายใหญ่ท่านนี้ไม่
เคยเคารพตนมาก่อน นางไม่ใช่ไม่เคยคิดจะร้องทุกข์เรื่ องนี้ แต่นาง
เพิ่งจะเอ่ยปากก็ถูกองค์หญิงใหญ่เปลี่ยนคาพูด ขึ้นเสี ยงสู งชื่นชมนาง
ว่าเป็ นสตรี มีสติปัญญา บอกว่านางเห็นใจคุณชายใหญ่ที่ร่างกาย
อ่อนแอ ยังตั้งใจเลี่ยงการเคารพของเขา เป็ นสตรมีคุณธรรมที่หาได้
ยากในราชสานัก คนอื่นๆ ย่อมพากันเห็นด้วย นางถูกดักทางแล้ว
ย่อมไม่กล้าเอ่ยเรื่ องคุณชายใหญ่ไม่เคยเคารพนางขึ้นมาอีก และ
ตั้งแต่ตอนนั้นเอง นางกับองค์หญิงใหญ่กไ็ ม่ถูกกันมากขึ้นเรื่ อยๆ
บางครั้งเจอหน้าก็ยงั นิ่งเฉย
ตอนนี้คุณชายใหญ่ผนู ้ ้ ีคาดไม่ถึงว่ามาเคารพนางเป็ นครั้งแรก นาง
มองเสิ่ นซื่อที่นอบน้อมเชื่อฟังปราดหนึ่ง คล้ายคิดอะไรอยู่ บน
ใบหน้าก็มีรอยยิม้ ที่เป็ นมิตรปรากฏขึ้นอีกครั้ง กล่าวหยอกล้อ “เฮ้อ
อย่างไรเสี ยก็เป็ นคู่ขา้ วใหม่ปลามัน เพียงจากกันครู่ หนึ่ง คุณชาย
ใหญ่กต็ ดั ใจไม่ได้ จึงมาเป็ นเพื่อนเสี ยเลย” สายตาของนางทอดมอง
ออกไปด้วยความอ่อนโยน “พวกเจ้าสองสามีภรรยารักใครกลม
เกลียวกัน ข้าก็วางใจแล้ว”
“เสด็จแม่” เสิ่ นเวยเรี ยกอย่างงอนง้อหนึ่งครา หน้าแดงก้มศีรษะงุด
ราวกับดอกบัวที่เหนียมอายหนึ่งดอก
ทว่าสวีโย่วกลับสี หน้าเรี ยบเฉย “เสิ่ นซื่อเป็ นคนโง่ มาเคารพพระ
ชายาครั้งนี้หากเดินหลงทางก็จะไม่ดี”
“ดูคุณชายใหญ่พดู เข้า อยูใ่ นจวนตัวเองจะเดินหลงทางได้อย่างไร
บ่าวรับใช้ทวั่ ทั้งจวนมีไว้ทาไมกัน” พระชายาจิ้นอ๋ องแสร้งโมโหต่อ
ว่าสวีโย่วหนึ่งประโยค
สวีโย่วกระตุกมุมปากไม่พดู ความหมายลึกซึ้งที่ปรากฏอยูใ่ นแววตา
กลับทาให้พระชายาจิ้นอ๋ องใจเต้นอย่างอดไม่ได้
ในตอนนี้เองฮูหยินสามหูซื่อก็มาถึงแล้ว นางมองเห็นสวีโย่วอยูด่ ว้ ย
ก็ประหลาดใจเช่นกัน ทันใดนั้นก็ยกยิม้ ทั้งใบหน้า กล่าว “พี่สะใภ้
ใหญ่กบั พี่สะใภ้รองมาถึงแล้ว ดูท่าแล้วข้าจะมาช้าที่สุด เสด็จแม่ เช้า
นี้ร่างกายลูกไม่ค่อยสบายเล็กน้อย จึงล่าช้าไปพักหนึ่ง ท่านโปรด
อภัย” ขณะที่นางพูดมือขวาก็ค้ าเอวอย่างอดไม่ได้
พระชายาจิ้นอ๋ องตื่นตระหนกดังคาด รี บถาม “ไม่สบายอย่างไร เชิญ
หมอแล้วหรื อยัง ตอนนี้เจ้าเป็ นคนสองชีวิตแล้ว ไม่อาจสะเพร่ าเป็ น
อันขาด เจ้าเองก็เหมือนกัน ไม่สบายก็นอนพักอยูบ่ นเตียง จะวิ่งมา
ที่นี่ทาไม ข้าจะตาหนิเจ้าได้อย่างไร เฝ่ ยชุ่ย ยังไม่รีบพยุงฮูหยินของ
เจ้านัง่ ลงอีก หวาเยียน ไปเอาหมอนหนุนหลังมาให้ฮูหยินสาม”
หูซื่อตั้งครรภ์ จิ้นหวังเผยราพึงราพันอยากอุม้ หลานชายอยู่ ดังนั้นจึง
ให้ความสาคัญกับครรภ์น้ ีของนางเป็ นอย่างมาก
หูซื่อชายตามองเสิ่ นเวยกับอู๋ซื่อปราดหนึ่ง จากนั้นก็ยดื ท้องตรง ทั้ง
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิม้ ภูมิใจ “เสด็จแม่เมตตา ลูกก็ยงิ่ ไม่อาจ
สะเพร่ า เสด็จแม่วางใจ หมอตรวจดูแล้ว ไม่เป็ นไรแล้วลูกจึงมา”
เหอะ พวกเจ้ามาเช้าแล้วอย่างไร ต้องคลอดบุตรชายได้จึงจะถูก
ขณะที่นางคิดเช่นนี้ มือก็ลูบท้องที่นูนป่ องของตัวเอง หมอหลวง
บอกแล้วว่า ครรภ์น้ ีแปดเก้าในสิ บน่าจะเป็ นลูกชาย
หากเสิ่ นเวยรู ้ความคิดในใจหูซื่อ จะต้องเหยียดหยามแน่นอน สตรี
ขอเพียงแค่ให้กาเนิดได้กส็ ามารถให้กาเนิดบุตรชายได้ เป็ นเรื่ องที่ไม่
ช้าไม่เร็ วก็ตอ้ งเกิดมิใช่หรื อ ต่อให้อ๋ ูซื่อคลอดบุตรชายไม่ได้ ซื่อจื่อก็
สามารถแต่งอนุภรรยาได้มิใช่หรื อ ถึงตอนนั้นก็อยูภ่ ายใต้นามของอู๋
ซื่อ เลี้ยงดูเหมือนบุตรภรรยาเอกเช่นเดียวกัน สะใภ้บา้ นหนึ่งบ้าน
สามเช่นเจ้าตั้งครรภ์แล้วจะได้อะไร เจ้ารับรองได้หรื อว่าในท้องเจ้า
จะเป็ นลูกชาย ช่างไม่รู้อะไรเสี ยเลยจริ งๆ
“นัน่ ก็ไม่อาจประมาทได้ แม่รู้วา่ เจ้าเป็ นเด็กกตัญญู แต่บุตรชาย
สาคัญที่สุด ตั้งแต่พรุ่ งนี้ไปเจ้าไม่ตอ้ งมาเคารพอีก สงบจิตใจบารุ ง
ครรภ์อยูใ่ นเรื อน ให้กาเนิดหลานชายอ้วนพีคนหนึ่งให้แม่จึงจะถูก”
จิ้น
พระชายากล่าว จากนั้นก็หนั หน้าสัง่ แม่นมซือ “อีกประเดี๋ยวเจ้าไป
เลือกยาบารุ งชั้นดีในคลังส่ วนตัวของข้าแล้วส่ งไปที่เรื อนของฮูหยิ
นสาม”
หูซื่อประหลาดใจที่ได้รับความโปรดปราน “ลูกขอบคุณเสด็จแม่ที่
เมตตา ยาบารุ งเสด็จแม่เก็บไว้ใช้เถิด ที่เรื อนลูกมี”
ทว่าพระชายาจิ้นอ๋ องกลับกล่าว “ให้เจ้าเจ้าก็รับไว้ แม่จะขาดยาบารุ ง
กินได้อย่างไร ที่ขา้ ยังมี เจ้าใช้หมดแล้วก็มาเอาไปได้ เจ้ามีสองชีวิต
แล้ว ต้องบารุ งให้ดี ถึงตอนนั้นก็คลอดหลานชายอ้วนๆ ให้ขา้ ”
หูซื่อยิม้ อย่างภูมิใจยิง่ กว่าเดิม เป็ นฮูหยินสามในจวนจิ้นอ๋ อง จะขาด
ยาบารุ งกินได้อย่างไร นางเองก็ไม่ใช่คนโง่เขลาเบาปั ญญาเช่นนั้น
พระชายาจิ้นอ๋ องยอมให้เช่นนั้นก็ชดั เจนว่าเห็นความสาคัญของนาง
ประโยชน์ของร่ างกายสาคัญยิง่ กว่ายาบารุ งมากนัก
เสิ่ นเวยสังเกตเห็น ตอนที่พระชายาจิ้นอ๋ องเอ่ยถึงหลานชายตัวอ้วนพี
มือของอู๋ซื่อข้างๆ นางก็กาผ้าเช็ดหน้าแน่น สี หน้าก็ไม่ค่อยดีนกั
ใคร่ ครวญเล็กน้อยก็เข้าใจแล้ว ลูกๆ ของอู๋ซื่อมีเพียงบุตรสาวสองคน
จนถึงวันนี้กย็ งั ไม่มีบุตรชายข้างกาย แม้แต่บุตรอนุภรรยาก็ยงั ไม่มี
พระชายาจิ้นอ๋ องทาเช่นนี้ไม่ใช่เป็ นการแทงใจดานางหรื อ
อาหารเช้าจัดวางเรี ยบร้อยแล้ว คนเป็ นลูกสะใภ้ตอ้ งปรนนิบตั ิแม่
สามีกินข้าว หมายความว่าแม่สามีกินข้าว ลูกสะใภ้กจ็ ะยืนปรนนิบตั ิ
คีบกับข้าวส่ งจานให้เป็ นต้น
เมื่อพระชายาจิ้นอ๋ องนัง่ ลงแล้ว อู๋ซื่อก็ไปยืนอยูข่ า้ งหลังนางตาม
ความเคยชิน เสิ่ นเวยเองก็ลุกขึ้นยืนตาม หูซื่อเห็นท่าทีกแ็ สร้งกาลัง
จะลุกขึ้นยืน ถูกพระชายาจิ้นอ๋ องห้ามไว้ “เจ้ามีสองชีวติ แล้ว ไหน
เลยจะยังปรนนิบตั ิขา้ ได้อยู่ รี บนัง่ ลงกินข้าวเถอะ” จากนั้นก็หนั หน้า
บอกอู๋ซื่อกับเสิ่ นเวย “เจ้าสองคนก็นงั่ ลงกินข้าวด้วย ข้าไม่ใช่คนแก่
อายุแปดสิ บ ไม่ตอ้ งให้พวกเจ้ามาปรนนิบตั ิ ไม่ใช่วา่ ยังมีสาวใช้
หรอกหรื อ”
อู๋ซื่อไหนเลยจะยอม นางไม่มีบุตร ซ้ ายังไม่ยอมให้แต่งอนุภรรยาคน
อื่น พระชายาก็ตาหนินางเล็กน้อยแล้ว นางไหนเลยจะกล้าละเลยการ
ปรนนิบตั ิ “ลูกปรนนิบตั ิเสด็จแม่ทานอาหารเป็ นสิ่ งสมควรมิใช่หรื อ
เสด็จแม่ท่านให้ลูกได้ใช้โอกาสแสดงความกตัญญูเถิด”
เสิ่ นเวยเองก็พยักหน้าคล้อยตาม
พระชายาจิ้นอ๋ องหัวเราะ “กตัญญูกไ็ ม่ตอ้ งขนาดนี้ นัง่ เถอะ นัง่ เถอะ
ภรรยาโย่วเอ๋ อร์กบั ภรรยาเยีย่ เอ๋ อร์นงั่ ลงให้หมด ไม่จาเป็ นต้องทาพิธี
เหล่านี้เอาหน้าแม่ โดยเฉพาะภรรยาโย่วเอ๋ อร์ เจ้าเพิ่งแต่งเข้าเรื อน มา
ชิมกับข้าวในเรื อนแม่เสี ยหน่อย”
อู๋ซื่อเองก็กล่าว “ใช่แล้วพี่สะใภ้ใหญ่ ท่านนัง่ เถิด เสด็จแม่ให้ขา้
ปรนนิบตั ิคนเดียวก็พอแล้ว”
เสิ่ นเวยไม่ตกหลุมพรางนี้ “น้องสะใภ้รองนัง่ เถอะ เจ้าปรนนิบตั ิ
เสด็จแม่มานานเพียงนั้นแล้ว วันนี้โอกาสนี้ให้ขา้ ทาเถอะ” พูดพลาง
ผลักอู๋ซื่อให้นงั่ ลงบนเก้าอี้ขา้ งๆ ตนเองกลับไปยืน หยิบตะเกียบบน
โต๊ะส่ งให้พระชายาจิ้นอ๋ องด้วยความเคารพ “เสด็จแม่ ท่านอยากกิน
จานไหน ให้ลูกช่วยท่าน” นางเบียดหวาเยียนออกไปข้างๆ
“นี่…นี่…ดูเจ้าเด็กคนนี้สิ” พระชายาจิ้นอ๋ องแสดงท่าทีฝืนใจอย่างถึง
ที่สุด แต่มุมปากกลับยกขึ้นมา พอใจต่อการปรนนิบตั ิที่กระตือรื อร้น
ของเสิ่ นเวยเป็ นอย่างมาก นางมองลูกเลี้ยงที่นงั่ อยูต่ รงมุมปราดหนึ่ง
เงียบๆ เห็นเขาหลุบตาดื่มชา ไม่ได้มองมาทางฝั่งนี้อย่างสิ้ นเชิง ในใจ
ก็ยงิ่ มีความสุ ข
ไม่ใช่วา่ เจ้ามีฝีมือมากนักหรื อ เสิ่ นซื่อไม่ใช่ยนื ปรนนิบตั ิขา้ พระชายา
ทานข้าวหรื อ อืม ดูท่าแล้วเด็กชัว่ คนนี้คล้ายใส่ ใจเสิ่ นเวยยิง่ นัก หาก
ควบคุมเสิ่ นซื่อได้… ดวงตาของพระชายาจิ้นอ๋ องเป็ นประกาย
แต่ไม่ทนั ไรพระชายาจิ้นอ๋ องก็ดีใจไม่ออกแล้ว ไม่ใช่อื่นใด ถูกเสิ่ น
ซื่อสะใภ้โง่ผนู ้ ้ ีทาให้โมโหแล้ว เห็นชัดๆ ว่าสายตาของนางมอง
แตงกวา แต่ที่เสิ่ นซื่อช่วยนางคีบกลับมาคือเต้าหูจ้ านข้างๆ หากครั้ง
นี้ครั้งเดียวก็ยงั ดี แต่กบั ข้าวที่เสิ่ นซื่อคีบกลับมาทุกครั้งล้วนแต่ไม่ใช่
อาหารที่นางต้องการ นี่จะให้นางกินอย่างไร
มิหนาซ้ าเสิ่ นซื่อยังโน้มน้าวด้วยความกระตือรื อร้นอยูข่ า้ งๆ บ้างก็วา่
เต้าหูน้ ้ ีเคี้ยวง่าย บ้างก็วา่ กับข้าวนั้นมีคุณค่าทางสารอาหาร บ้างก็วา่
จานนี้กินแล้วดีต่อสุ ขภาพของผูอ้ าวุโส…
นางแก่มากนักหรื อ แก่มากนักหรื อ แก่มากนักหรื อ
อาหารที่ถูกบ่าวรับใช้นามาวางได้ ย่อมเป็ นอาหารที่พระชายาจิ้นอ๋ อง
ชอบทาน แต่กต็ อ้ งแบ่งเป็ นลาดับสามห้าหกเก้ามิใช่หรื อ แต่
เผชิญหน้ากับใบหน้ายิม้ แย้มที่กระตือรื อร้นของเสิ่ นซื่อ นางสามารถ
พูดได้หรื อ ด้วยนิสยั ขี้ขลาดนั้นของเสิ่ นซื่อคงจะไม่ร้องไห้ให้นางดู
เลยหรื อ ฝั่งนั้นยังมีเทพเจ้าแห่งกาฬโรคนัง่ อยูห่ นึ่งองค์
พระชายาจิ้นอ๋ องกัดฟัน กินเข้าไป
เสิ่ นเวยก็ดีใจแล้ว ราวกับได้รับการยืนยัน คีบกับข้าวจานวนมากเข้า
มาอีกครั้ง “ในเมื่อเสด็จแม่ชอบทานจานนี้ เช่นนั้นก็ทานเยอะๆ
หน่อย เมื่อครู่ ลูกยังกังวลว่าตัวเองจะเลือกผิด คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญ
ทาได้จริ งๆ ฮ่าๆ เสด็จแม่ท่านทานเยอะๆ นะเพคะ” มือของเสิ่ นเว
ยเร็ วอย่างยิง่ หนึ่งอย่าง สองอย่าง สามอย่าง คีบกับข้าวที่พระชายาจิ้
นอ๋ องไม่ชอบกลับมาทั้งหมด อีกทั้งยังมองดูดว้ ยความคาดหวัง
“เสด็จแม่ ท่านรี บกินสิ เพคะ”
พระชายาจิ้นอ๋ องอัดอั้นใจจริ งๆ รอยยิม้ บนใบหน้ากลับก็แทบจะ
ประคองไม่อยูแ่ ล้ว “พอแล้วๆ ภรรยาโย่วเอ๋ อร์รีบไปนัง่ เถอะ มีน้ าจิต
น้ าใจก็พอแล้ว เจ้าเองก็หิวมาทั้งเช้า รี บกินรองท้องสักหน่อยเถอะ”
ทว่าเสิ่ นเวยกลับไม่ขยับ โบกมือกล่าว “ไม่เป็ นไรลูกไม่หิว วันนี้ลูก
ตื่นเช้า กินอาหารเช้ามาแล้ว เสด็จแม่ ลูกเพิ่งเข้าเรื อน ท่านต้องชี้แนะ
ลูกให้มากหน่อย” สี หน้าบนใบหน้าของนางจริ งใจยิง่ นัก!
เบื้องลึกในจิตใจของเสิ่ นเวยมีคนตัวเล็กกระโดดโลดเต้น ลาลาลา ข้า
กินอิ่มมาแล้ว ไม่กลัวเจ้าถ่วงเวลาหรอก ลาลาลา ข้าแข็งแรง อย่าว่า
แต่ยนื ทั้งเช้า ให้ยนื ทั้งวันก็ไม่มีปัญหา ลาลาลา…
พระชายาจิ้นอ๋ องหน้าดาคร่ าเครี ยดแล้ว รู ้สึกเพียงแค่นางค่อนข้างไม่
ถูกกับเสิ่ นซื่อผูน้ ้ ี เสิ่ นซื่อเล่นงานนาง นางกินลวกๆ ไม่กี่คาก็วาง
ตะเกียบแล้ว
เสิ่ นเวยกล่าวด้วยความเป็ นกังวล “เสด็จแม่ เหตุใดท่านถึงกินน้อย
เพียงนี้ ร่ างกายไม่สบายหรื อ แม่นมซือ รี บไปเชิญหมอ เสด็จแม่
ร่ างกายไม่สบาย” นางหันหน้าสัง่
แม่นมซือย่อมไม่กล้ามองข้าม นางเองก็รู้สึกว่าพระชายามีตรงไหน
ผิดปกติ มิเช่นนั้นเหตุใดถึงไม่อยากอาหารเช่นนี้ เมื่อก่อนพระชายา
ไม่เคยเป็ นเช่นนี้มาก่อน
พระชายาจิ้นอ๋ องรี บห้ามนาง “กลับมา ข้าไม่เป็ นไร” หันหน้าตบมือ
ของเสิ่ นเวยกล่าวอธิบาย “ข้าสบายดี เพียงแค่ตอนนี้ไม่หิวแล้วก็เท่า
นั้นเอง”
เสิ่ นเวยยังคงไม่วางใจทั้งใบหน้า “เสด็จแม่ท่านไม่เป็ นไรจริ งๆ หรื อ
ปกปิ ดอาการป่ วยเพราะกลัวการรักษาไม่ได้นะเพคะ อาหารป่ วย
ส่ วนใหญ่กเ็ กิดจากการเจ็บป่ วยเล็กๆ น้อยๆ ทั้งนั้น ท่านไม่อยาก
อาหารเพียงนี้ ลูกเป็ นห่วงจริ งๆ”
“ไม่เป็ นไร ไม่เป็ นไร ร่ างกายของตัวเองแม่จะไม่รู้ได้อย่างไร” พระ
ชายาจิ้นอ๋ องแทบจะกัดฟัน เช้าตรู่ วนั นี้ เริ่ มที่วา่ นางแก่ ตอนนี้กม็ า
สาปแช่งว่านางป่ วย เสิ่ นซื่อผูน้ ้ ีจะมีสมองหน่อยได้หรื อไม่
อู๋ซื่อที่อยูข่ า้ งๆ พอจะทายได้วา่ เหตุใดพระชายาถึงไม่อยากอาหาร
แต่นางไม่อาจพูดออกไปโง่ๆ ได้ ผิดใจพี่สะใภ้ใหญ่ยงั ไม่เท่าไร แต่
นางไม่อยากผิดใจพี่ใหญ่สามีที่แปลกประหลาดผูน้ ้ นั ยิง่ ไปกว่านั้น
เพราะว่านางไม่มีบุตร ต่อหน้าลับหลังแม่สามีกโ็ จมตีนางหลายต่อ
หลายครั้ง กาลังจ้องจะส่ งคนมาที่เรื อนนาง นางปรารถนาจะได้เห็น
แม่สามีไม่มีความสุ ข
เช้าวันนี้พระชายาจิ้นอ๋ องโมโหเต็มทรวงอก กระทัง่ พวกนางกล่าวลา
ก็เพียงแค่โบกมืออย่างไร้เรี่ ยวแรง เสิ่ นเวยตามสวีโย่วกลับไปอย่างมี
ความสุ ข
ตอนที่ 219-2 สร ้างความรําคาญใจต่อเนื่ อง
่
“ขอบคุณสําหรับคําชม” เสินเวยกะพริ ่
บตาดวงโตทีใสวาว “วางใจ
ได้ ขา้ ยังทําได้ดก ้ ก ต่อไปนี ข
ี ว่านี อี ้ า้ จะปกป้ องท่านเอง” นาง
รับปากด้วยความสบายใจอย่างถึงทีสุ ่ ด
้ ทังสองสบตากั
ดวงตาของสวีโย่วก็โค้งเป็ นจันทร ์เสียว ้ นปราดหนึ่ ง
่ ก
ต่างก็รู ้สึกพอใจยิงนั
่
สวีโย่วคิด เด็กน้อยของเขาไม่ใช่นายทีสามารถอยู ่นิ่งๆ ในเรือน
หลังได้ ต้องหาอะไรสนุ กๆ มาให้นางเล่นเสมอ มิเช่นนั้นจะอึดอัดแย่
่
เสินเวยเองก็ คด ่
ิ แต่งงานไม่สนุ กเลยแม้แต่นิดเดียว น่ าเบือจะตาย
้ งออกจากจวนไปเทียวไม่
อยู่แลว้ ซํายั ่ ได้ โชคดีทยัี่ งมีพระชายาจิ ้
นอ๋อง แกลง้ นางหาความสนุ กฆ่าเวลา มิเช่นนั้นชีวต ้ เงียบเหงา
ิ นี ก็
เกินไปจริงๆ!
้ องของพวกเขาสร ้างเสร็จแลว้
อืม ไม่ใช่บอกไวห้ รือว่าจวนจวินอ๋
เช่นนั้นเมื่อไรจะย้ายไปอยู่ได้เล่า พรุง่ นี หรื
้ อ พรุง่ นี ไม่
้ ได้ พรุง่ นี ต้
้ อง
กลับบา้ น เช่นนั้นวันมะรืนหรือ คาดว่าก็คงไม่ได้เหมือนกัน พวก
่
เขาเพิงจะแต่ ่ ตนมีเกียรติ ท่านจินอ๋
งงาน เพือให้ ้ องสองสามีภรรยา
ไม่มท
ี างปล่อยคนแน่ นอน
่
เสินเวยถอนหายใจหนึ ่ งคราอย่างโล่งอกในชวขณะ
่ั กล่าวกับแม่นม
มั่ว “ไม่ตอ้ งเก็บ วางในไวห้ อ้ งลงกลอนไวเ้ ถอะ รอไปจวนจวินอ๋
้ อง
แลว้ ค่อยเก็บ” อย่างไรเสียถึงตอนนั้นก็ตอ้ งยกไปอยู่ดี
่
เสินเวยงงงั
น ถามอย่างไม่เขา้ ใจ “ขา้ จะไปพบบ่าวทําไม”
้
สวีโย่วทังขบขั ้
นทังโมโห ้
จิตใจเด็กคนนี ใหญ่ จริงๆ เจ ้าสาวคนอืน่
แต่งเขา้ มาก็ตอ้ งกุมอํานาจก่อนมิใช่หรือ ไม่ใช่ว่าปรารถนาให้สามี
เอ่ยประโยคนี ขึ ้ นมาเองหรอกหรื
้ อ มีแต่เด็กสาวคนนี ที ้ ยั
่ งถามด้วยสี
้
หน้างุ นงงทังใบหน้ าว่าทําไม คิดถึงนิ สยั ของนาง สวีโย่วก็อดทน
อธิบายให้นางฟัง “เพราะขา้ ไม่ได้อยู่ในจวนบ่อยๆ บ่าวในเรือนของ
พวกเราก็มเี ยอะ หลายปี มานี มี ้ เจียงปั
่ ๋ วดูแล ถือเป็ นพ่อบา้ นใหญ่
ของขา้ เจียงเฮยเจียงไป๋ ขา้ งกายข ้าเจ ้าก็รู ้จักแลว้ คนทีเหลื ่ อ อืม
ช่างเถอะ กลับไปขา้ จะให้เจียงปั ่ ๋ วมาเคารพเจ ้า คนทีเหลื่ อไม่สําคัญ
เจ ้าก็ไม่ตอ้ งไปพบ มีอะไรเรียกเจียงปั ่ ๋ วก็ได้แลว้ ”
่
เสินเวยพยั ่
กหน้า ไม่เก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว แม้แต่เรืองใน
เรือนของตนนางก็โยนให้หลีฮวาและคนอืนๆ ่ จัดการ ตนไม่เคย
ทุกข ์ใจเลยแม้แต่นอ้ ย ฝั่งสวีโย่วนางก็ยงไม่
่ิ มที างสอดมือเขา้ ไปยุ่ง
่
เสินเวยถลึ งตาใส่เขาปราดหนึ่ ง “ขา้ จะไปจัดการธุระแลว้ ท่านคิด
ี่ ่ จะดีหรือ”
ว่าท่านอยู่ทนี
่
สวีโย่วยืนหน้ ากล่าว “พวกเราไม่ใช่สามีภรรยาร่างเดียวหรอกหรือ
่
ไม่เป็ นไร เจ ้าจัดการเรืองเจ ้าไป ขา้ จะไม่รบกวนเจ ้า”
่
“ตามใจท่าน” เสินเวยกลอกตาขาว ่
หยิบบันทึกท่องเทียวเล่ มนั้น
ื เขา “ไป ไปอยู่ตรงนั้น”
บนโต๊ะยัดใส่มอ
่
สวีโย่วถือบันทึกการท่องเทียวเดิ ่ นเวยชี
นไปอยู่ตรงมุมทีเสิ ่ ้ างเชือ่
อย่
ฟัง ภาพๆ นั้นทําให้เจียงเฮยเจียงไป๋ ทีอยู
่ ่นอกประตูแทบจะตาถลน
สามีกลัวภรรยา คุณชายของพวกเขาเป็ นสามีกลัวภรรยาไปแลว้ !
่
หางตาของเสินเวยกระตุ ้ ได้
ก ทุกครังที ่ ยน ้
ิ คําว่าฮูหยินสองคํานี นาง
ก็ไม่สบอารมณ์ทุกครัง! ้ นางยังอายุไม่ถงึ สิบหกปี เต็มเลย สาวใช ้
เรียกเช่นนี ้ นางรู ้สึกว่าตัวเองแก่แลว้
่
“เป็ นอย่างไร คุน้ ชินแลว้ หรือยัง” เสินเวยเอ่ ่
ยปากถาม คนทีนาง
นํ ามามีไม่เยอะ เพราะรู ้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่จวนอ๋องนาน นางจึงให้คน
่ี อนเฟิ งหวา คิดว่าอีกไม่กวัี่ นค่อยให้พวกเขาไปอยู่
ส่วนใหญ่อยู่ทเรื
่
ทีจวนจวิ ้ องโดยตรง
นอ๋
่
เสินเวยย่ ่
อมสังเกตเห็ นการเคลือนไหวของเถาจื อแลว้ ถลึงตามอง
่ มห้องด้วยความไม่พอใจปราดหนึ่ ง “พูดความจริง พวกเจ ้า
ไปทีมุ
ต่างก็เป็ นคนทีข่ า้ พามา ในเมือติ
่ ดตามนายเช่นขา้ ขา้ ก็สามารถ
ปกป้ องพวกเจ ้าได้ หากได้รบั ความไม่เป็ นธรรมก็อย่าเก็บไวก้ บั
่
ตัวเอง คนทีออกจากเรื อนเฟิ งหวาของพวกเราไม่มกี ฎขอ้ นี ”้
่ี
สาวใช ้ไม่กคนมองหน้ ากันและกัน ไม่รู ้ว่าคุณหนู หมายความว่า
่ มห้องกลับใช ้หนังสือปิ ดใบหน้า ในดวงตา
อย่างไร ทว่าสวีโย่วทีมุ
เต็มไปด้วยรอยยิม้
้
คิวของเสิ ่
นเวยขมวดมุ ่
่น ยังคงไม่เชืออย่ างยิง่ นางคิดว่าจะต้องเป็ น
เพราะสวีโย่วอยู่พวกนางจึงไม่กลา้ พูดความจริง ในละครต่างก็มี
่
เหล่าสาวใช ้ทีตามเจ ้าสาวออกเรือนทะเลาะเบาะแวง้ กับเหล่าสาวใช ้
ในเรือนนายผูช ่
้ ายไม่ใช่หรือ แม้ว่าจะเป็ นพีรองที ่ งเขา้ บา้ นฝั่ง
แต่
มารดาก็ยงั เตือนนางว่าต้องระวังจุดนี ้
่
“แต่ว่าพีเถาจื
อไม่ให้ขา้ ออกจากเรือน แลว้ ยังไม่ให้ขา้ มาหาคุณหนู
้
อีกด้วย” เถาฮวายิมเสร็ ้
จแลว้ ก็ฟ้องขึนมา
่
เสินเวยมองเถาฮวาปราดหนึ ่ ง เห็นความจนใจบนใบหน้าของนาง
่
ย่อมต้องเขา้ ใจว่าเกิดเรืองอะไรขึ น้ นางบีบแก ้มเล็กๆ ของเถาฮวา
่
กล่าว “พีเถาจื อของเจ ้าหวังดีต่อเจ ้า นี่ ไม่ใช่เรือนเฟิ งหวาของพวก
่
เรา หากเจ ้าวิงออกไปก่ ่
อเรืองจะถู ่
กโบยเอาได้” เสินเวยขู ่นางหนึ่ ง
ประโยคก่อน แลว้ จึงกล่าว “แต่ว่าพวกเราก็อยู่ทนี ่ี ่ อีกไม่นาน รอไป
้ องแลว้ เจ ้าอยากเล่นซนอะไรก็ย่อมได้ ตอนนี ก็
จวนจวินอ๋ ้ ทนไป
ก่อน”
เห็นเถาฮวายังคงไม่มค ่
ี วามสุขเล็กน้อย เสินเวยก็ ้
เกลียกล่ อมนาง
้ บบา้ น เถาฮวาก็ตาม
อีก “เอาล่ะ เลิกเบะปากได้แลว้ พรุง่ นี กลั
คุณหนู กลับจวนโหวด้วยกันดีหรือไม่ พวกเราไม่พาพีเถาจื ่ อของ
่
เจ ้าไป ลงโทษให้นางอยู่ดูแลเรือนทีจวนอ๋ องแทน”
้
เถาฮวาดีใจขึนมาอีกครัง้ จากนั้นเสินเวยก็
่ ่ นึ่ ง
ถามฉาฮวาครูห
จากนั้นจึงไล่พวกนางออกไป
่
เสินเวยเดินไปตรงหน้าสวีโย่วด้วยความโมโห ดึงบันทึกท่องเทียว ่
ในมือเขาออกแลว้ โยนไปบนโต๊ะ “ดูสิ ดูสิ เพราะท่านคนเดียวเลย
ท่านอยู่ในห้องสาวใช ้ของขา้ เลยไม่กลา้ พูดความจริง ขา้ จะบอก
ท่านให้ หากสาวใช ้ใหญ่ในเรือนท่านรังแกพวกเขา ขา้ ไม่ยอมแน่ ”
่ ดเด้งของเสินเวยหนึ
“เด็กโง่!” สวีโย่วบีบแก ้มเล็กๆ ทีดี ่ ่ งครา กล่าว
“ในเรือนขา้ ไหนเลยจะมีสาวใช ้ใหญ่ นอกจากหญิงชราใช ้แรงงาน
่ี ทีเหลื
ไม่กคน ่ อลว้ นแต่เป็ นบ่าวรับใช ้ผูช ่
้ าย จะเอาทีไหนมารั งแก
สาวใช ้ของเจ ้าได้ เจ ้าวางใจได้เลย พวกเขายังไม่แต่งภรรยาทังสิ ้ น้
ยังไม่ทนั ได้เอาใจพวกนางด้วยซํา้ จะเอาทีไหนมารั
่ งแกได้”
่
เสินเวยไม่ ่
เชืออย่ างยิง่ กล่าวอย่างระแวง “ท่านไม่ได้โกหกขา้ หรือ
ขา้ งกายคุณชายตระกูลใดบา้ งไม่มส ี าวใช ้ปรนนิ บต
ั ต
ิ ด
ิ ตัว แลว้ ดู
้
จากแม่เลียงของท่ ้
าน จะปล่อยโอกาสอันดีนีไปได้ อย่างไร”
่
แม้ว่าสวีโย่วจะพูดอย่างเรียบง่าย แต่เสินเวยก็ ยงั คงได้ยน
ิ ความ
ลําบากจากในนั้นได้ สวีโย่วมองแววตาเล็กๆ ทีเห็ ่ นอกเห็นใจของ
่
เสินเวย รู ้ว่านางคิดมากอีกแลว้
่
เฮอ้ ความสงสารของภรรยาทีชอบคิ
ดว่าตนได้รบั ความไม่เป็ น
ธรรมต้องแก ้อย่างไรกันนะ
ตอนที่ 220-1 ก่อนกลับบา้ น
่
เสินเวยเห็ ่ นึ่ ง จู่ๆ ก็นึกเรืองบางเรื
นใจสวีโย่วครูห ่ ่ นได้
องขึ ้ “ขา้ ต้อง
ไปหาเสด็จแม่หรือไม่ เอ่อ ทีข ่ า้ หมายถึงคือต้องไปจุดธูปกราบไหว ้
เสด็จแม่แท้ๆ ของพวกเราหรือไม่” แม้ว่าจะเสียชีวต ิ แลว้ แต่น่ นก็
ั คอื
ี่ จริงของนาง
แม่สามีทแท้
่ จริ
สวีโย่วยังคิดไม่ถงึ เรืองนี ้ งๆ ตังแต่
้ เล็กเขาก็ไม่เคยเห็นแม่แท้ๆ มา
ก่อน มารดาสําหรับเขาแลว้ เป็ นเพียงสัญลักษณ์ทแปลกหน้ ่ี า
เท่านั้น ย่อมไม่ตอ้ งเอ่ยถึงความผูกพันใดๆ ตอนเด็กๆ ยังคิด
ว่า หากแม่ยงั อยู่ เสด็จพ่อก็คงจะไม่เฉยชาต่อเขาเพียงนั้น
่
กระมัง เมือโตขึ ้ งได้รู ้ว่าตนไร ้เดียงสา ต่อให้แม่เขาจะยังมีชวี ต
นจึ ิ
อยู่ คาดว่าก็คงจะถูกเสด็จพ่อของเขากับพระชายาคนปัจจุบน ั ทีช ่ ว่ ั
ช ้าคู่นั้นทําให้โกรธจนอกแตกตาย
่ อมากราบไหว
“ยายหรู ขา้ พาเสินซื ่ เ้ สด็จแม่” สวีโย่วกล่าวกับหญิง
ชราผูด้ ูแลศาลบรรพบุรุษเพียงหนึ่ งเดียว หลังจากนั้นก็หน ั หน้า
่
อธิบายให้เสินเวยฟั ื คนรับใช ้ขา้ งกายเสด็จแม่ ตอนที่
ง “ยายหรูคอ
ขา้ เด็กๆ ก็ยงั เคยดูแลขา้ ต่อมาก็มาดูแลแท่นบูชาของเสด็จแม่ทนี ่ี ่ ”
่
เสินเวยพยั กหน้า คํานับหญิงชราทีมี่ รอยย่นทั่วใบหน้า ผมขาวทั่ว
ศีรษะผูน้ ั้นด้วยความจริงใจหนึ่ งครา นางรู ้ว่าคนทีสามารถทํ
่ าให้สวี
้ จะต้องเป็ นคนที่เขาเคารพ
โย่วแนะนํ าอย่างจริงจังเช่นนี ได้
หญิงชราผูน้ ั้นรีบหลบไปอยู่ขา้ งๆ “มิบงั อาจรับการคํานับของฮูหยิน
ใหญ่หรอกเจ ้าค่ะ”
่
ทว่าเสินเวยกลั บยืนกรานคํานับจนเสร็จ หญิงชราผูน้ ั้นขมุบขมิบ
ริมฝี ปาก ครูใ่ หญ่จงึ เอ่ยคําดีๆ สามคํา ในดวงตาชราภาพทีขุ่ ่นมั่วคู่
นั้นมีประกายความเมตตาปรากฎขึน้
่ ชาพระชายาจินอ๋
โต๊ะทีบู ้ องคนก่อนถูกปัดกวาดจนสะอาดอย่างยิง่
ขา้ งบนวางของไหวไ้ วจ้ ํานวนหนึ่ ง ธูปหนึ่ งดอกในกระถางธูปกําลัง
จุดไฟลุกโชน ท่ามกลางควันธูปทีวนเป็่ ่
นเกลียวเสินเวยมองเห็ นบน
่ นสุ่ย เสินเวยคุ
แท่นบูชาเขียนไวว้ ่าสุสานของต้วนซือเฉิ ่ กเข่าหน้า
แท่นบูชากราบด้วยความเคารพสามครา กล่าวเสียงเบา “เสด็จแม่
ขา้ คือลูกสะใภ้ของท่าน หากท่านอยู่บนฟ้ าก็ของให้ท่านกลับให้
สบาย หลังจากนี ลู้ กจะดูแลคุณชายใหญ่ให้เป็ นอย่างดี”
้
ควันดําในกระถางธูปลอยวนขึนมา ่
แท่นบูชาของต้วนซือคล า้ ย
ผลุบคลา้ ยโผล่
้ น้ คนเป็ นบ่าวย่อมต้องเกลียกล่
นายดือรั ้ อม แม่นมซือกล่าวต่อ
“บ่าวทราบว่าท่านคิดแทนคุณชายใหญ่สองสามีภรรยา แต่รา่ งกาย
้ ”
ของท่านไม่สบายก็ไม่อาจทนเช่นนี ได้
่
หมอเพิงจะไปหวาอวิ ๋ เขา้ มาแลว้ ท่าทางอยากพูดแต่ไม่กลา้ พูด
นก็
้ องก็เขา้ ใจว่านางมีเรืองจะบอก
พระชายาจินอ๋ ่ ่
“ว่ามาเถอะ เกิดเรือง
้
อะไรขึน”
๋ งเลครูห
หวาอวินลั ่ นึ่ ง จากนั้นจึงกล่าวเสียงเบา “สาวใช ้เบืองล่
้ าง
รายงานว่าคุณชายใหญ่พาฮูหยินใหญ่ไปศาลบรรพบุรุษเจ ้าค่ะ”
้
พูดประโยคนี จบศีรษะของนางก็ก ้มตํ่าลงไป ไม่กลา้ มองสีหน้าของ
พระชายา
่
สาวใช ้ทีปรนนิ บต
ั ภ
ิ ายในห้องต่างก็ตกใจจนไม่กลา้ แม้แต่จะหายใจ
แรง แม้พวกนางจะอายุนอ้ ย แต่ตงแต่ ้ั เขา้ เรือนของพระชายามาก็
ื่ รู ้ว่าพระชายาคนก่อนหน้านั้นเป็ นบุคคล
ได้รบั คําเตือนจากผูอ้ น
ต้องห้ามในใจของพระชายา ไม่มใี ครกลา้ เอ่ยขึนมา ้
แม่นมซือมองใบหน้าทีดุ ่ ร ้ายน่ ากลัวของพระชายาปราดหนึ่ งด้วย
้
ความระมัดระวัง โบกมือไล่คนในห้องทังหมดออกไป “พระชายา
โปรดระงับโทสะ ท่านจะคิดเล็กคิดน้อยกับคนตายไปไย เหมือน
อย่างทีท่่ านว่า นางเน่ าเปื่ อยจนไม่เหลือแม้แต่เถ้ากระดูกไปนาน
แลว้ แต่ท่านกลับนั่งเสพสุขสําราญ ขา้ งกายยังมีคุณชายทังสาม ้
้
อยู่ขา้ งๆ ท่านชนะตังนานแล ว้ ”
้
“ขา้ แค่กลํากลื ้ ลง นางตายแลว้ แต่กลับทิงหนี
นความโกรธนี ไม่ ้ ไว ้ ้
สร ้างความรําคาญใจให้ขา้ ” จิน้
้
แม่นมซือรีบก ้าวขึนไป นวดศีรษะของให้พระชายาด้วยความ
่
ชําชอง “หากท่านเห็นพวกเขาขวางหูขวางตาก็ไล่ออกไปสิเจ ้าค่ะ
้ องแลว้
อย่างไรเสียคุณชายใหญ่ก็ได้รบั พระราชทานจวนจวินอ๋
ท่านไม่อยากเห็นพวกเขาก็ให้พวกเขาย้ายออกไป”
“หยุดคิดเลย!” พระชายาจินอ๋้ องลุกขึนนั
้ ่ งทันที ดวงตาประหนึ่ ง
เคลือบยาพิษ “เขาอยากย้ายออกไปมีชวี ต ้
ิ ของตัวเองงันหรื
อ ฝันไป
เถอะ! ขา้ ไม่ปล่อยเขาก็อย่าได้คิดจะย้ายออกจากจวนอ๋องเลย”
่ ่ งนั้นก็รู ้เรืองของต้
เสินเวยฝั ่ ่
วนซือแม่ สามีนางแลว้
่
ต้วนซือพระชายาจิ ้ องคนก่อนนามว่าเฉิ นสุ่ย เป็ นคนทีฮ่
นอ๋ ่ องเต้
องค ์ก่อนทรงพากลับมาจากการเสด็จเยียมเยี่ ยนประชาชนในปี
หนึ่ ง ว่ากันว่าเป็ นบุตรสาวของสหายเก่า สหายเก่าฝากฝังไวก้ ่อน
ตาย ปี นั้นต้วนซือเพิ
่ งจะอายุ
่ ได้แปดปี
่ งๆ ว่าต้ว
พระราชโองการสมรสประกาศออกมา ทุกคนจึงเชือจริ
่ ใช่บุตรสาวฮ่องเต้ อิจฉา
นซือไม่
้ องทีโชคดี
จินอ๋ ่ ่ รบั ความโปรดปรานจาก
อย่างอดไม่ได้ มีภรรยาทีได้
ฝ่ าบาทผูน้ ี ้ ก็เท่ากับได้รบั ความช่วยเหลือทีใหญ่
่ ่
อย่างยิง!
้ องสวีจงที
ทว่าจินอ๋ ิ่ ถู
่ กคนอิจฉาริษยาโกรธเกลียดกลับตกใจราวกับ
ถูกฟ้ าผ่า เพราะเขามีนางในใจอยู่ก่อนแลว้ กําลังรอโอกาสที่
้
เหมาะสมจะเอ่ยต่อพระบิดา พระราชโองการสมรสฉบับนี ประกาศ
ออกมาก็โจมตีเขาจนมึนงง
้ องสวีจงผู
พูดได้ว่าจินอ๋ ิ่ น้ ี ไม่
้ ใช่คนทีมี
่ ความรับผิดชอบ แม้จะ
คิดถึงซ่งหลินหลาง แต่กลับไม่มค ี วามกลา้ พอจะคัดค้านพระราช
่
โองการ แม้แต่จะอธิบายกับพ่อเขาเรืองนางในใจยั งไม่กลา้ ทุกวัน
เอาแต่ถอนอกถอนใจดืมสุ ่ ราคลายทุกข ์
เป็ นเช่นนี ้ ต้วนซือยกขบวนสิ
่ ้ งเป็ นพระชายาจินอ๋
นสอดสิบลีแต่ ้ อง
้ องปฏิบต
จินอ๋ ั ต ่ ผ่าน
ิ ่อนางไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ไม่นับว่าแย่มาก ครึงปี
ไป ต้วนซือตั ่ งครรภ
้ ่ ก ของขวัญส่งไปที่
์ ฮ่องเต้องค ์ก่อนดีใจยิงนั
พระชายาจินอ๋ ้ องราวกับสายนํ ้า ทังยั ้ งทรงมีพระเมตตาให้จนอ๋
ิ ้ อง
เขา้ ไปฝึ กงานในกรมพระคลังเป็ นพิเศษ นี่ แทบจะทําให้พน้ ี่ อง
้
ทังหมดของจิ ้ องอิจฉาตาร ้อน แม้ว่าจะเป็ นจักรพรรดิยงเซวียน
นอ๋
ในปัจจุบน ่
ั พีชายแม่ เดียวกันของเขาก็ยงั เจ็บปวดใจ
้ องผูน้ ี เป็
ใครจะรู ้จินอ๋ ้ นคนไร ้ประโยชน์ ช่วงทีต้
่ วนซือตั
่ งครรภ
้ ์ไม่รู ้ว่า
ื ้ ้นรักในอดีตกับซ่งหลินหลางผูน
เหตุใดถึงได้รอฟื ้ ั้น ซํายั
้ งมี
ความสัมพันธ ์ลับๆ ตอนทีต้ ่ วนซือตั
่ งครรภ
้ ์ได้หกเดือน ซ่งหลิน
หลางก็ใกลจ้ ะตังท้ ้ องได้สามเดือนแลว้
่ องนี
ตอนทีเรื ่ แดงขึ้ ้
นมา ทุกคนตกตะลึง ฮ่องเต้องค ์ก่อนทรงพิโรธ ต้
่
วนซือแพ ท้ อ้ งกะทันหัน หากไม่ใช่ว่าหมอหลวงมาทันเวลา เกรงว่า
ทารกในครรภ ์ก็คงจะไม่รอด
้ องลุ่มหลงอยู่ทใด
ไม่รู ้ว่าท่านจินอ๋ ี่ จะเป็ นจะตายก็ตอ้ งแต่งซ่งหลิน
หลางเขา้ จวนเป็ นชายารองให้ได้ ฮ่องเต้องค ์ก่อนทรงพิโรธ หาก
ไม่ใช่ว่าเป็ นลูกแท้ๆ ของเขาเขาก็คงจะให้คนลากออกไปฟันทิงแล ้ ว้
เขาไม่ได้คด ั ค้านไม่ให้ลูกชายแต่งชายารอง แต่ก็ไม่อาจใช ้วิธน ้
ี ี ได้
ท้องก่อนแต่ง เห็นได้ถงึ นิ สยั ของซ่งหลินหลางผูน้ ั้น เดิมเขาคิดจะ
ประหารชีวต ิ ้ อง
ิ ซ่งหลินหลางให้สนเรื ่ แต่จนอ๋
ิ ้ องยืนกรานจะปกป้ อง
้ งโวยวายว่าหากซ่งหลินหลางเป็ นอะไรไปเขาก็จะไม่อยู่
ซํายั
เช่นเดียวกัน แม้ฮ่องเต้องค ์ก่อนจะเป็ นกษัตริย ์ แต่ก็ทนเห็ นลูกชาย
ไปตายไม่ได้ ภายใต้ความโกรธจึงถือโอกาสไม่สนใจ ตรัสเพียงแค่
‘ซ่งหลินหลางจะไม่ตายก็ได้ แต่ไม่อาจแต่งเขา้ จวนจินอ๋ ้ องด้วย
ฐานะชายารองได้เป็ นอันขาด เป็ นได้เพียงอนุ ภรรยาเท่านั้น’
ภายใต้นํ้าตาและการโจมตีอย่างอ่อนโยนของซ่งหลินหลาง จินอ๋ ้ อง
่ มลุ่มหลงอยู่แลว้ ก็ยงเสี
ทีเดิ ิ่ ยสติ คาดไม่ถงึ ว่าบีบบังคับต้วนซือ่ บีบ
ให้นางไปขอฮ่องเต้อง ์ก่อน อนุ ญาตให้ซง่ หลินหลางเขา้ จวนด้วย
ฐานะชายารอง ต้วนซือมี ่ นิสยั อ่อนแอ แต่นางกลับไม่โง่ จะไปขอ
ฮ่องเต้องค ์ก่อนได้อย่างไร
้ องทีอั
จินอ๋ ่ บอายจนโมโหก็ผลักต้วนซือหนึ ่ ่ งครา ชนกําแพงพอดี
ตอนนั้นทารกในท้องนางกําลังจะเก ้าเดือน เมือกระแทกเช่
่ นนี ้ ก็ตก
เลือดทันที ทรมานอยู่หนึ่ งวันหนึ่ งคืนคลอดคุณชายใหญ่ออกมา
ก่อนกําหนด เสียงร ้องไห้นั้นอ่อนแอยิงกว่
่ าลูกแมวด้วยซํา้
่
ต้วนซือเลย ไม่มห
ี ลักฐานจะจับนางได้อย่างไร
่
ว่ากันตามเหตุผลต้วนซือเองก็ นับว่าเสียชีวต
ิ เพราะซ่งหลินหลาง
ิ่ อนุ ญาตให้นางเขา้ มาในราชวงศ ์แลว้ แต่
ฮ่องเต้องค ์ก่อนก็ยงไม่
ไม่ใช่ว่ายังมีคนปัญญาอ่อนทีลุ ่ ่มหลงในความรักผูน้ ั้นอย่างจินอ๋
้ อง
อยู่หรือ จะเป็ นจะตายก็โวยวายจะแต่งนางในฐานะชายาเอกให้ได้
บวกกับในท้องซ่งหลินหลางก็มท ี ายาทของราชวงศ ์อยู่ ทุกคนก็
ช่วยกันร ้องขอ ฮ่องเต้องค ์ก่อนก็ประนี ประนอม
ได้ เจ ้าอยากแต่งมิใช่หรือ เช่นนั้นก็แต่งสิ! เพียงแต่ชวชี
่ ั วต ้ ง
ิ นี ซ่
หลินหลางอย่าได้คด ิ จะเขา้ พระราชวัง หมายความว่าซ่งหลินหลาง
่
มีเพียงชือพระชายาจิ ้ องเท่านั้น แต่ไม่มค
นอ๋ ี ุณสมบัตเิ ขา้ ร่วม
้
เทศกาลงานเลียงฉลองทั ้
งหมดของราชวงศ ์
่
วันทีสามเป็ ่ นเวยกลั
นวันทีเสิ ่ ่
บบา้ น ตอนทีเคารพพระชายาจิ ้ องก็
นอ๋
บอกนางว่าของขวัญกลับบา้ นเตรียมใส่รถไวด้ แี ลว้ ให้นางกลับไป
อย่างสบายใจ ไม่ตอ้ งรีบกลับมา
่
เสินเวยจมดิ ่ ่ท่ามกลางความดีใจ ตอนทีอยู
งอยู ่ ่ในจวนโหวไม่รู ้สึก
้
ตอนนี ออกมาเพี ยงแค่สามสีวั่ นก็คด
ิ ถึงแทบแย่แลว้ ไม่รู ้เหมือนกัน
๋
ว่าท่านปู่ กับน้องเจวียจะคิดถึงนางบา้ งหรือไม่ ใช่แลว้ ทั่วทังจวนจง
้
อู่โหวคนทีเสิ่ นเวยคิ
่ ่ ดก็คือปู่ กับน้องชายนาง หากจะพูดว่า
ดถึงทีสุ
ยังมีใครอีก เช่นนั้นก็คงจะเป็ นท่านอากับลูกผูน ่ อเล่า
้ อ้ ง คนทีเหลื
ไม่ทน ั ได้เกิดความผูกพันใดๆ อย่างสินเชิ ้ ง
้
แม้ของขวัญกลับบา้ นจะขนขึนรถเรี ยบร ้อยแลว้ แต่แม่นมมั่วเป็ น
คนรอบคอบ จึงพาหลีฮวาและคนอืนๆ ่ ไปตรวจดูรอบหนึ่ ง ตรวจดู
้ พบปัญหาแลว้ ของขวัญทีเตรี
รอบนี ก็ ่ ยมกลับบา้ นโดยทั่วไปลว้ น
เป็ นจํานวนคู่ ความหมายแฝงก็คอ ื เป็ นคู่ครอง เหมือนเช่นไก่เป็ น
โดยทั่วไปลว้ นมีสองตัว แทนความหมายสิรมิ งคลสมปรารถนา แต่
่ ้าเตรียมถึงมีชนเดี
เหตุใดของทุกอย่างทีเจ ิ ้ ยว หมายความว่าอย่างไร
ตอนทีเรื ่ องนี
่ รายงานไปถึ
้ ่
งหูเสินเวยนางก็ โมโหแลว้ นี่ ไม่ใช่การ
กลั่นแกลง้ หรือไร นี่ ไม่ใช่การดูถูกจวนจงอู่โหวหรือไร จวนจินอ๋ ้ อง
้
แห่งนี ของเจ ่
้าอาศัยพีชายแท้ ่ นฮ่องเต้ถงึ ได้มท
ๆ ทีเป็ ี รัพย ์สิน
เกียรติยศมิใช่หรือ พอฝ่ าบาทเสด็จสวรรคตฮ่องเต้องค ์ใหม่ขน ึ้
ครองบัลลังก ์จะยังมีใครสนใจท่านอ๋องว่างงานเช่นท่านอยู่อก ี แต่
จวนจงอู่โหวของขา้ กลับสามารถอาศัยคุณูปการสงครามตัง้
ตระหง่านหลายสิบปี ก็ไม่ลม้
แววตาชวร ่ ั ้ายของเสินเวยจ
่ ้องมองสวีโย่ว ความหมายนั้นชดั เจน
อย่างยิง่ ‘วันนี หากเจ
้ ้าไม่อธิบายให้ขา้ ฟัง พวกเราไม่จบแน่ ’
่
หลังสวีโย่วไปไปแลว้ เสินเวยก็ คด ่ นึ่ ง ร ้องไห้ตามทางไปยัง
ิ ครูห
เรือนของของจวนจินอ๋้ อง ร ้องไห้ไปพลางตะโกนไปพลาง “เสด็จแม่
ท่านโปรดไวห้ น้าลูกสักหน่ อยเถิด ท่านไม่พอใจลูกตรงไหน ลูกจะ
แก ้”
้ องได้ยน
พระชายาจินอ๋ ่
ิ เสียงร ้องไห้ของเสินเวยมาแต่ ไกล ก่าย
หน้าผากโดยไม่รู ้ตัว “รีบไปดูว่าเกิดอะไรขึน”้
สาวใช ้ยังไม่ทน ่
ั เดินออกจากห้อง เสินเวยก็ มาถึงแลว้ นางโผเขา้ มา
กอดขาของพระชายาจินอ๋ ้ องทันที บนใบหน้าเล็กๆ ทีเงยขึ
่ ้
นมี
หยาดนํ ้าตา “เสด็จแม่ ท่านต้องช่วยลูก ลูกไม่มห
ี น้าจะอยู่แลว้ ”
่
เสินเวยร ้องไปพลางพูดไปพลาง “ของเป็ นของดี แต่จาํ นวนผิด
ของขวัญกลับบา้ นลว้ นแต่เป็ นคู่ แต่ของขวัญกลับบา้ นทีเสด็ ่ จแม่
ให้กลับมีอย่างละชิน้ นี่ ไม่ใช่เป็ นการสาปแช่งลูกหรือ นี่ หมายความ
ว่าลูกแช่งคุณชายใหญ่ หรือว่าคุณชายใหญ่แช่งลูก ลูกยังอายุ
น้อย วันเวลาดีๆ ยังใช ้ไม่พอ ยังไม่อยากตายและยังไม่อยากเป็ นแม่
่ าของขวัญกลับบา้ นนี กลั
หม้าย! เมือนํ ้ บไป จวนโหวจะไม่ไล่ลูก
ออกมาพร ้อมคุณชายใหญ่หรือ เสด็จแม่ท่านมีเจตนาเช่นไร”
ร ้องไห้ไปพลางก็เช็ดนํ ้าตาลงบนตัวนางเงียบๆ อีกครัง้
่ ด้
“อะไรนะ มีเรืองนี ้ วยหรือ” พระชายาจินอ๋ ้ องท่าทางตกใจไม่เชือ่
“แม่นมซือ ของขวัญกลับบา้ นของคุณชายใครเป็ นคนเตรียม เหตุ
่
ใดถึงเกิดเรืองสะเพร่ ่
าทีใหญ่ ้ รีบตรวจสอบเดียวนี
ถงึ เพียงนี ได้ ๋ ้ คิด
ว่าขา้ ไม่กลา้ ถลกหนังนางหรือ”
้ องทีรี่ บตามมาเมือเข
ท่านจินอ๋ ่ า้ มาก็ได้ยินคําร ้องประโยคนี ้ เท้าเขา
่ แทบจะลม้ ลงกับพืน้ สวีโย่ว
ลืน
ื่ า ไปดูสวิ ่าไท่จอทํ
“ไท่จอเล่ ่ื าอะไรอยู่ หากว่างก็ถอ
ื โอกาสไปเยียม่
้ องสักหน่ อย มีสายโลหิตบรรพบุรุษเดียวกัน อย่าทํา
เยียมจวนจินอ๋
ตัวเหินห่างจึงจะถูก” ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงออกคําสั่ง คิดครูห
่ นึ่ งก็
เสริมอีกหนึ่ งประโยค “ไปเชิญไท่จอเฟยมา”
่ื
“เหนี ยงเหนี ยงทรงพระปรีชาญาณ” กุ ้ยกูกูเอ่ยชมหนึ่ งประโยค
้ ่”
กล่าวเตือน “เหนี ยงเหนี ยง ยังมีจยาฮุ่ยจวินจู
้
“เสด็จแม่ ลูกทราบแลว้ พรุง่ นี จะไปเยี ่
ยมท่ านตา ลูกเองก็ไม่ได้
พูดคุยกับท่านตามาสักพักแลว้ ยังคิดถึงเขาอยู่บา้ งจริงๆ ยังมีท่าน
น้า วันก่อนเสด็จพ่อชมท่านน้า บอกว่าเขามีความรู ้แข็งขัน
ความคิดก็ปราดเปรียว” องค ์ชายรองสวีอวียิ้ มพลางพู
้ ด
“เสด็จแม่ หากการสมรสครังนี ้ สํ
้ าเร็จ ญาติผน ้ งฉั่งก็จะโตกว่าลูก
ู้ อ
หนึ่ งรุน
่ ” องค ์ชายรองพลันกล่าว
ฉิ นซูเฟยคิดๆ ดูแลว้ ก็ถูก อิงเอ๋อร ์เป็ นบุตรสาวของอาสาม ญาติผู ้
น้องของตน แม้ว่าจะอายุนอ้ ยกว่าลูกชาย แต่ลูกชายก็ตอ้ งเรียก
นางว่าน้าเล็ก หากสองตระกูลแต่งงานเชือมสั ่ มพันธ ์สําเร็จจริงๆ ฉั่ง
เอ๋อร ์ก็จะกลายเป็ นน้าเขยเล็กของลูกชายมิใช่หรือ
่ สํ
องค ์ชายรองเองก็รู ้ว่าเรืองนี ้ าคัญ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เสด็จ
แม่วางใจ ในใจลูกมีหนทาง”
่
ฉิ นซูเฟยตบมือของลูกชายเบาๆ ท่าทางชืนชมอย่ างยิง่
จู่ๆ ในเมืองก็มข
ี ่าวลือ บอกว่าท่านเสนาบดีฉินได้ภาพวาดใหม่มา
่
ดีใจจนขังตัวเองอยู่ในห้องหนังสือชืนชมหนึ ่ งวันเต็ม รู ้หรือไม่ว่า
ภาพวาดของใคร บอกไปแลว้ เจ ้าจะต้องสะดุง้ ตกใจ จางเต้าจือ่
่ งในรัชสมัยก่อนรู ้จักหรือไม่ ใช่แลว้ ก็คอ
ศิลปิ นชือดั ื ภาพตกปลา
ใต้จน ่ งดังทีสุ
ั ทราผลงานทีโด่ ่ ดของเขา
หลังจากนั้นก็มค
ี นขยิบตาอย่างลับๆ ย่อมต้องมีคนส่งให้แน่ นอน
้ ศทางของข่าวลือจึงเปลียนแล
ด้วยเหตุนีทิ ่ ว้ จากภาพตกปลาใต้
่ กลายเป็ นจวนจินอ๋
จันทราของจางเต้าจือก็ ้ องวางแผนแย่งสินเดิม
้
ของสะใภ้ลูกเลียงไปเป็ ้ กชายตัวเอง
นของหมันลู
่ าวลือนี ดั
เมือข่ ้ งออกไป การแพร่ขยายก็เร็วอย่างยิง!เพี ่ ยงแค่ชว่ ง
๊
เช ้า เหลาสุราโรงเตียมแต่ ละแห่งต่างก็รู ้ทั่วแลว้ ผูค้ นก็เห็ นใจจยา
้ ่ทถู
ฮุ่ยจวินจู ี่ กแย่งสินเดิมกับคุณชายใหญ่จวนจินอ๋ ้ องทีร่่ างกาย
้
อ่อนแอขีโรคเป็ ่ อจะได้
นอย่างมาก ดูสิ ดูสิ ต่อให้เสินซื ่ รบั พระราช
บรรดาศักดิเป็ ์ นจวินจู
้ ่ นางเองก็เป็ นลูกสะใภ้ ผูเ้ ป็ นแม่สามีคด ิ จะหา
่
เรืองนางก็ ทําได้ง่ายๆ มิใช่หรือ
เห็นใจจยาฮุ่ยจวินจู ้ ่กบ ่
ั คุณชายใหญ่เสร็จแลว้ ก็มเี รืองใหญ่ กระทั่ง
้ องในอดี
รือเรื ่ ตทีน่ ่ าอับอายของพระชายาจินอ๋ ้ องซ่งซือเมื่ อยี
่ สิ่ บกว่า
้
ปี ก่อนขึนมา ่
เรืองของนางแต่ ่ พอๆ กับนางต่างก็ทราบ
ละจวนทีอายุ
่
ใครให้เรืองในปี นั้นวุ่นวายจนดังกระฉ่ อนไปทั่วเล่า แม้ว่าทุกคนจะ
ไม่ถกเถียงเสียงดังกันออกนอกหน้า แต่ในทีลั ่ บก็ยงั คงแอบกระซิบ
กระซาบ ไม่ว่าอย่างไรก็ปิดกันจิ ้ ตใจขีนิ้ นทาดวงนั้นของผูค้ นไม่ได้
หรอก!
่
ผ่านไปอีกหลายวัน ข่าวลือก็เปลียนอี
กแลว้ เพราะว่าจู่ๆ ผูจ้ ด
ั การ
้ าเปิ ดเผยว่าภาพตกปลาใต้จน
ใหญ่ของเรือนเจียเป่ ั ทราในมือท่าน
เสนาบดีฉินเป็ นของปลอม ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
้ ยนไปทุ
สรุปแลว้ ข่าวลือนี เปลี ่ ่
กวัน ลว้ นแต่เกียวข ้ อง
อ้ งกับจวนจินอ๋
่
เสินเวยประหลาดใจยิ ่ ก นางยังไม่ทน
งนั ั ได้ลงมือ เหตุใดข่าวลือถึง
ออกมาแลว้ เป็ นเทวดาตนไหนทีทํ ่ าเรืองดี
่ ่ ่ งไขว ้
นางมองสวีโย่วทีนั
ห้างสบายใจอยู่บนตั่งนุ่ ม ชวขณะก็
่ั เขา้ ใจแลว้
หมอนี่ มีฝีมือยิงนั
่ ก! ในเมือเรื
่ องเจ ่ ั การแลว้ เช่นนั้นขา้ ก็ลาก
้าก็จด
ม้านั่งมานั่งดูละครดีกว่า! ปี นีนั
้ ่ งกินเผือกคงเป็ นเรืองที
่ สนุ่ กทีสุ่ ด
แลว้ !
่
เสินเวยดู ละครอย่างมีความสุขมาก พระชายาจินอ๋ ้ องทีเป็
่ นบุคคล
่
หลักในข่าวลือโมโหแทบแย่อยู่แลว้ นางดูแลเรืองภายในจวนอ๋ อง
สั่งสมอํานาจไวม้ ากอย่างยิง่ บ่าวรับใช ้ข ้างล่างได้ยน ิ ข่าวลือก็ไม่
กลา้ บอกนาง คนสนิ ทขา้ งกายนางก็ไม่ค่อยกลา้ ออกจากจวนอ๋อง
่
ยังคงเป็ นพีสะใภ้ ใหญ่ของนางเห็นข่าวลือยิงดั ่ งยิงไปกั
่ นใหญ่ ในใจ
ก็เป็ นห่วง อดไม่ได้มาปรึกษาหนทางแก ้ไขกับนางถึงบา้ น นางจึง
ได้รู ้ว่ามีข่าวลือเช่นนี ้ แต่ก็สายไปเสียแลว้
ตอนที่ 226-1 การเคลือนไหวของแต่
่ ละฝ่ าย
พระชายาจินอ๋ ้ องโมโหจนพังโต๊ะเครืองแป้
่ ง “สืบ ไปสืบมาให้ขา้ !”
่
ชดั เจนว่าพุ่งเป้ ามาทีจวนจิ ้ อง อันทีจริ
นอ๋ ่ งแลว้ ก็คอ ่
ื พุ่งเป้ ามาทีนาง
้
แม้เนื อหาในข่ าวลือจะพัวพันไปถึงท่านอ๋อง แต่ส่วนใหญ่ก็ยงั
่
เกียวข ่
อ้ งกับนาง โดยเฉพาะเรืองในอดี ตเหล่านั้นเมือยี
่ สิ ่ บกว่าปี
ก่อน
่ งตั
ใครกัน ใครทีตั ้ วเป็ นศัตรูกบ ้
ั นาง หากนางหาคนผูน้ ี ออกมาได้
นางจะต้องเฉื อนคนผูน ้ นหมื่นเป็ นพันชิน้ เช่นนี จึ
้ ี เป็ ้ งจะทําให้ความ
เคียดแค้นในใจนางสงบลงได้
แม่นมซือกับหวาอวินกลั๋ ี่ มด้วยสีหน้าลําบากใจ ข่าวลือ
บยืนอยู่ทเดิ
แพร่ขยายมาหลายวันแลว้ ขอบเขตก็กวา้ งเพียงนั้น พวกนางจะเริม่
้
สืบจากตรงไหน ทังสองสบตากั นปราดหนึ่ ง ยังคงเป็ นแม่นมซือที่
้
ก ้าวขึนมาข า้ งหน้าแลว้ กล่าว “พระชายา สืบจากขา้ งนอกหรือสืบ
จากในจวนอ๋อง”
่ งผูต้ อ้ งสงสัยในใจพระชายาจินอ๋
อันทีจริ ้ องก็คอ ้ เป็
ื ลูกเลียงที ่ นหนาม
ยอกอกผูน ้ ั้นของนาง อย่างไรเสียทั่วทังจวนอ๋
้ ่ ถูกกับนาง
องคนทีไม่
ก็คอ ้ ลึ
ื ลูกเลียงที ่ กลับแปลกประหลาดผูน้ ี ้ ภาพผืนนั้นก็เป็ นสินเดิม
ของภรรยาเขา แม้ว่าจะเป็ นของปลอม แต่ก็ไม่เป็ นอุปสรรคให้เขา
เอามาสร ้างสถานการณ์
ทันใดนั้นนางก็ปฏิเสธขอ้ สงสัยนี ้ อย่างไรเสียเรืองอั
่ ปยศในบา้ นไม่
้ องเสียเกียรติ คุณชายใหญ่จวนอ๋อง
อาจแพร่สู่ขา้ งนอก จวนจินอ๋
้
เช่นเขาจะยังเหลือเกียรติอะไรได้ มิหนํ าซําหากคนช ่ ั น้ ี จะแพร่
วผู ้
ข่าวลือก็คงจะแพร่ไปนานแลว้ จะยังรอถึงวันนี ได้้ หรือ
พระชายาจินอ๋ ้ องกลับไม่ได้สงสัยเสินเวย่ ่
ในสายตานาง เสินเวยก็
ี้
คือคนโง่ขขลาดผู ห้ นึ่ ง อย่างนางน่ ะหรือ จัดการเรือนตัวเองได้ก็ไม่
เลวแลว้ ยังจะวางแผนปล่อยข่าวลืออีกหรือ ประเมิณนางสูงเกินไป
จริงๆ!
่
หากเสินเวยรู ้ความคิดของพระชายาจินอ๋ ้ อง จะต้องแขวะสวีโย่วอ
ย่างภูมใิ จสุดขีดแน่ นอน ‘ดูสิ บอกแลว้ ว่าเจ ้าทําหน้าตายทังวั้ นราว
กับคนอืนติ่ ดหนี เจ
้ ้าไม่ได้ ไม่เอือต่
้ อการสามัคคีปรองดองให้จวน
่ ของขา้ ฝัง
อ๋องสงบสุข! เจ ้าต้องเรียนรู ้จากขา้ จุๆ ดูสวิ ่าตัวอย่างทีดี
ลึกเขา้ ไปในใจคนมากเพียงใด!’
้ บข่าวลือแลว้ แต่จนอ๋
สองคนนี ไปสื ิ ้ องกลับเดินเขา้ มาด้วยความ
โมโหเดือดดาล พระชายาจินอ๋ ้ องเพิงจะยกยิ
่ ้ ถูกความโกรธบน
มก็
ใบหน้าของท่านอ๋องทําให้สะดุง้ ตกใจ “ท่านอ๋องเป็ นอะไรไป เหตุใด
ถึงโมโหเพียงนี ”้ นางก ้าวเขา้ ไปปรนนิ บต
ั อ
ิ ย่างอ่อนโยน
้ องกลับสะบัดมือของนางออก ชีพระชายาจิ
ทว่าจินอ๋ ้ ้ องกล่าว
นอ๋
ด้วยสีหน้าซับซ ้อน “เจ ้าถามขา้ ว่าเหตุใดถึงโมโห พระชายาไม่ใช่รู ้
ดีอยู่แก่ใจหรือ”
พระชายาจินอ๋้ องงุ นงงทังใบหน้
้ า จากนั้นก็นอ้ ยใจเล็กน้อย “ดูท่าน
อ๋องพูดเขา้ หรือว่าขา้ ทําให้ท่านอ๋องไม่พอใจหรือ” ทว่าในใจกลับ
้
เต้นแรงขึนมา
้ องมองพระชายาจินอ๋
จินอ๋ ้ องนิ่ งๆ มองจนนางแทบจะประคับประคอง
ต่อไปไม่ได้ก็แค่นเสียงหึหนึ่ งครา “เจ ้ากลา้ พูดหรือไม่ว่าภาพตก
ปลาใต้จนั ทราภาพนั้นเจ ้าไม่ได้ส่งคนส่
ั งไปให้ท่านเสนาบดีฉิน นั่น
เป็ นของปลอม! นั่นเป็ นของปลอม! เจ ้ารู ้อยู่แก่ใจว่านั่นเป็ นของ
้ องโมโหจน
ปลอมก็ยงั จะส่งไปให้ท่านเสนาบดีฉิน เจ ้า เจ ้า!” จินอ๋
้ อนหน้าหนี
สะบัดแขนเสือเบื
่
เมือเขาพู ดเช่นนี ้ เสด็จพีหวั
่ งก็ไม่เชือ่ ยังพูดจาไร ้ต้นสายปลายเหตุ
ทํานองว่าเขาเก็บไวค้ นเดียว ก่อนไปรอยยิมที ้ แฝงเลศนั
่ ่ิ าให้
ยก็ยงทํ
เขาจับต้นชนปลายไม่ถูก
ผูม้ ค
ี วามสามารถเช่นเขาก็รู ้สึกผิดปกติแลว้ หมดอารมณ์ดมสุ ื่ รา
เรียกบ่าวรับใช ้เขา้ มาถามไถ่ บ่าวรับใช ้มีสห ้
ี น้าลําบากใจ อําๆ อึงๆ
่ าวลือให้ฟัง เขาจึงเขา้ ใจแลว้ ว่าเหตุใดเสด็จพีกงจึ
เล่าเรืองข่ ่ งมี
ท่าทางเช่นนี ้ คิดว่าภาพตกปลาใต้จน ั ทราของแท้อยู่ในมือเขางัน้
หรือ
้ องโมโหจนจมูกเบียว
จินอ๋ ้ ซ่งซือผู
่ น้ ี !้ สามารถแต่งงานเชือม ่
สัมพันธ ์กับจวนเสนาบดีฉินได้เขาเองก็ยน ิ ว่าซ่งซือ่
ิ ดี แต่เขาไม่คด
จะกลา้ ถึงเพียงนั้น รู ้อยู่แก่ใจว่าภาพในมือภรรยาโย่วเอ๋อร ์เป็ นของ
ปลอมก็ยงั กลา้ ส่งไปให้ท่านเสนาบดีฉิน นางคิดว่าท่านเสนาบดีฉิน
หลอกง่ายหรือไร
่ ดถึงเนื อหาในข่
เมือคิ ้ าวลือ เขาก็หงุ ดหงิดจนอยากฆ่าคน บอกว่า
้ั
ของจริงถูกเขาเก็บไวง้ นหรื ิ่
อ ท่านอ๋องผูย้ งใหญ่ เช่นเขาเป็ นคน
้ นนั้นหรือไร แย่งสินเดิมลูกสะใภ้ตอ้ งถูกคนนิ นทาลับ
สายตาสันเช่
หลัง ต่อให้เขาจะชอบภาพของจางเต้าจือก็ ่ รู ้จักความหนักเบาของ
่
เรือง!
่ องนี
เพือเรื ่ จริ ้ งๆ ด้วย! ในใจพระชายาจินอ๋ ้ องกลับถอนหายใจหนึ่ ง
คราอย่างโล่งอก สูดหายใจเขา้ ลึกหนึ่ งครัง้ แสร ้งทําท่าทางเศร ้า
ระทม “ท่านอ๋อง ขา้ อยู่กบ ั ท่านมาหลายปี เพียงนี ้ ท่านยังไม่รู ้จัก
นิ สยั ขา้ อีกหรือ แม้ว่าจะมีหนทางอืน ่ ขา้ จะทําเรืองเช่
่ ้ หรือ
นนี ได้
่ ่ งเอ๋อร ์ทังนั
ไม่ใช่ว่าทําเพือฉั ้ ้นหรือ”
้ ยงของพระชายาจินอ๋
พูดถึงตรงนี เสี ้ องก็ส่นเครื
ั อ “ฉั่งเอ๋อร ์ไม่ได้
มานะบากบั่นเท่าพีชายทั่ ้
งหลายของเขา แต่น้นก็ ้
ั เป็ นเลือดเนื อของ
่
ขา้ ยังคงเป็ นขา้ ทีพยายามคลอดออกมา ขา้ จะไม่คด ่
ิ เรืองอนาคต
่
เพือเขาได้ อย่างไร คุณหนู เจ็ดตระกูลฉิ นเป็ นญาติผน ู ้ อ้ งของซูเฟย
เหนี ยงเหนี ยง ในภายหน้ามีองค ์ชายรองดูแล ขา้ เองก็วางใจแลว้
่ ่ งเอ๋อร ์ของพวกเรา!”
ท่านอ๋อง ขา้ ลว้ นแต่ทําเพือฉั
้ องลอบมองความเปลียนแปลงในสี
พระชายาจินอ๋ ่ ้ อง
หน้าของจินอ๋
กล่าวต่อ “ขา้ เองก็ไม่ได้บอกว่าเป็ นของแท้ พูดเพียงแค่ว่าได้ภาพ
่
ของจางเต้าจือมาหนึ ่ งภาพ ไม่รู ้ว่าแท้หรือปลอม ส่งไปให้ท่าน
เสนาบดีฉินชมเล่น นั่นเองก็ไม่ใช่ว่าขา้ แย่งมา ภรรยาโย่วเอ๋อร ์
แสดงความกตัญ�ูมอบให้ขา้ ด้วยตัวเอง เพียงแค่ภาพผืนหนึ่ ง เหตุ
้ ขา้ ว่า นี่ จะต้องมีผูไ้ ม่หวังดีใส่ร ้าย
ใดถึงเกิดข่าวลือมากเพียงนี ได้
้ องของเรา อิจฉาทีพวกเรากั
ใช ้อุบายกับจวนจินอ๋ ่ บจวนเสนาบดีฉิน
่
แต่งงานเชือมสั มพันธ ์ คิดจะก่อกวนการสมรสครังนี ้ ้ ท่านอ๋อง พวก
เราอย่าได้ตกหลุมพรางคนไม่ด!ี ”
่
เมือพระชายาจิ ้ องเอ่ยว่ามีคนตังใจใส่
นอ๋ ้ ้ อง เขาก็นึก
ร ้ายจวนจินอ๋
ถึงองค ์ชายหลายคนในหมู่พน้ ี่ องของเขา หรือว่าจะมีคนคิดว่าเขา
ยืนอยู่ฝ่ ังองค ์ชายรองขัดขวางผลประโยชน์ของเขา เหอะ แต่งงาน
่
เชือมสั มพันธ ์กับจวนเสนาบดีฉินเป็ นเพียงแค่การหาบา้ นพ่อตาทีมี ่
กําลังสนับสนุ นให้ฉ่ ังเอ๋อร ์ก็เท่านั้น เขาไม่ได้โง่ เขาเป็ นน้องชาย
มารดาเดียวกันกับฝ่ าบาทองค ์ปัจจุบน ั เป็ นอาขององค ์ชายทังหมด้
่ ่ในตําแหน่ งนั้นลว้ นแต่ตอ้ งเคารพเขา ชีวต
ไม่ว่าใครทีอยู ิ ดีๆ ของ
เขาไยจะต้องไปลุยนํ ้าขุ่นนี ด้ ้ วย
“ท่านอ๋อง ท่านต้องสืบให้ดๆี ! นี่ เกียวข
่ ้ องทังหมด
อ้ งกับจวนจินอ๋ ้
้ นใคร เหตุใดจิตใจถึงได้เ**◌้ยม
ของเรา ไม่รู ้เหมือนกันว่าคนผูน้ ี เป็
โหดเพียงนี ”้ พระชายาจินอ๋้ องมองจินอ๋ ้ องอย่างกระตือรือร ้น หางตา
มีประกายกะพริบวาบ
้ ยน
สาวใช ้ใหญ่สองคนนี ได้ ิ ดังนั้นก็เงยหน้าขึนอย่
้ างเหลือเชือ่
ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ นั่นก็คอ ื หวาลู่กบ ่ ง
ั หวาฉังทีส่
้ อนแลว้ ถูกปฏิเสธ
ให้สวีโย่วครังก่
หวาลู่กบ ่
ั หวาฉังเป็ นคนทีพระชายาจิ ้ องตังใจเลื
นอ๋ ้ อกออกมาคิดจะ
่ อนของลูกเลียง
ส่งไปทีเรื ้ หน้าตาและเรือนร่างย่อมต้องดีเลิศ ครัง้
ก่อนส่งออกไปไม่ได้ ในใจหวาลู่กบ ั หวาฉังก็กงั วลเล็กน้อย กลัวว่า
จะถูกพระชายาโมโหตําหนิ ไม่คด ้ านอ๋องจะสั่งให้พวกนาง
ิ ว่าวันนี ท่
ไปปรนนิ บต ั ท ี่ องหนังสือนอก นี่ ก็คอ
ิ ห้ ่
ื โชคทีตกลงจากสวรรค ์
่
บอกว่าเป็ นสาวใช ้ทีปรนนิ บต
ั หิ มึกพู่กน
ั แต่ใครบา้ งไม่รู ้ว่าปรนนิ บต
ั ิ
หมึกพู่กน ่
ั เป็ นเรืองรอง ปรนนิ บตั ท ่
ิ ่านอ๋องจึงจะเป็ นเรืองจริ ง หาก
ได้รบั ความชอบใจจากท่านอ๋อง สามารถให้กําเนิ ดบุตรได้ เช่นนั้น
่
ความรํารวยมี เกียรติในภายหลังก็อยู่ไม่ไกลแลว้
้
ทังสองคนคิ ดถึงตรงนี ้ ในใจก็ตนเต้
ื่ นขึนมา
้ ่
สายตาทีมองจิ ้ องก็
นอ๋
่
ยิงแรงกล า้ ไม่ปิดบัง
ตอนที่ 226-2 การเคลือนไหวของแต่
่ ละฝ่ าย
้ องนึ กถึงเด็กสาวทีถู
จินอ๋ ่ กเขาหักหลังถูกคนอืนส่
่ งไปบําเพ็ญตนที่
อารามชีผน ู ้ ั้นเมือยี
่ สิ่ บกว่าปี ก่อน นางเองก็มองตนด้วยความ
น้อยใจอย่างเช่นวันนี ้ เกือบจะทําให้หวั ใจของเขาอ่อนลง แต่เขาก็
นึ กถึงแววตาทีคล ่ า้ ยยิมคล
้ ิ้
า้ ยไม่ยมของเสด็ จพี่กง จากนั้นจึง
พยายามแข็งใจ “ทําไม พระชายาตัดใจไม่ได้หรือ”
หวาลูก่ บ
ั หวาฉังเองก็ได้สติกลับมาแลว้ เหลือบมองไปทางพระ
ชายาด้วยความหวาดกลัวปราดหนึ่ ง พวกนางเป็ นสาวใช ้ขา้ งกาย
พระชายา ย่อมต้องรู ้วิธก ่
ี ารทีพระชายาใช ้กับอนุ ภรรยาเรือนหลัง
่
เป็ นอย่างดี แต่หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เทียบความรํารวยมี เกียรติ
้
ไม่ได้ ทังสองก ้มหน้าคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพระชายาจินอ๋ ้ อง
ใบหน้าของพระชายาจินอ๋ ้ องก็ยงเหยเก
ิ่ ่ั
หญิงชวสองคนนี ้ หญิงชว่ ั
่
เกลือเป็ นหนอน! พกนางคิดว่าไปห้องหนังสือนอกแลว้ จะเลือนขั ้
น
้
ได้ในวันเดียวงันหรื
อ หึ อย่าฝัน
“บ่าวจะจําคําสั่งสอนของพระชายา ไม่ทําให้พระชายาผิดหวังเพ
้
คะ” ทังสองพากั นแสดงความจงรักภัคดี ทว่าความดีใจในแววตาไม่
ว่าอย่างไรก็เก็บไวไ้ ม่อยู่
นี่ ทําให้พระชายาจินอ๋
้ องยิงแค้
่ นเคือง อยากจะฆ่าเด็กสองคนนี ทั ้ นที
่
จริงๆ “จําคําพูดทีพวกเจ ้ ดี ลุกขึนเถอะ
้าพูดวันนี ให้ ้ ยังคุกเข่าอยู่
ทําไม กลับไปเก็บของแลว้ ตามท่านอ๋องไปทํางานทีห้ ่ องหนังสือ
้
นอกเสีย” โบกมือไล่สองคนนี ออกไป
่ นอ๋
เมือจิ ้ องไปแลว้ พระชายาจินอ๋ ้ องก็บน
ั ดาลโทสะอีกครัง้ คนรับใช ้
ทั่วทังเรื
้ อนต่างก็น่ิ งเงียบด้วยความหวาดกลัว
้ าให้อู๋ซอกั
ข่าวๆ นี ทํ ่ื บหูซอที
่ื กํ ่ าลังมาทางนี ตั ้ ดสินใจถอยทัพกลับไป
่ื ารุงครรภ ์อยู่ท่เรื
หูซอบํ ี อนของตน รู ้ข่าวนี ช ้ ้าเล็กน้อย แต่ก็ยงั เร็ว
กว่าพระชายาจินอ๋ ้ อง อู๋ซอรู
่ื ้ข่าวเร็วอย่างยิง่ บา้ นฝั่งแม่นางส่งข่าว
มาบอกนาง
้
ทังสองคนรู ้แลว้ ก็แสร ้งทําเป็ นไม่รู ้โดยไม่ได้นัดหมาย หนึ่ งคือข่าว
ลือพัวพันไปถึงพ่อสามี พวกนางเป็ นลูกสะใภ้ไม่ควรเปิ ดปาก สอง
คือแผนการก่อกวนเล็กๆ ในใจพวกนาง แม่สามีท่านไม่ใช่แสดงตน
ว่าเป็ นสตรีมค ี ุณธรรมมาโดยตลอดหรอกหรือ เหตุใดถึงยังมีอดีตที่
อัปยศเช่นนี ได้้ เหตุใดถึงยังทําเรืองอดสู
่ เช่นการแย่งสินเดิม
ลูกสะใภ้ได้อก ี แม้ว่าจะเป็ นแม่สามี แต่ก็ไม่เป็ นอุปสรรคต่อจิตใจที่
อยากจะเห็นความสนุ กสนานของพวกนาง มิเช่นนั้นจะพูดกันได้
อย่างไรว่าแม่ยายลูกสะใภ้เป็ นศัตรูกน ั แต่กําเนิ ด
ื่
อู๋ซอกลั บไปถึงเรือนก็อารมณ์ไม่ดีอย่างมาก ท่านย่าฝั่งมารดาของ
่
นางป่ วย เมือวานนางกลั บจวนอู๋ก๋วกงไปเยี
ั ่ สายตาทีพี
ยม ่ สาว
่
่
น้องสาวและพีสะใภ้ ั้
ทงหลายมองนางก็ แปลกประหลาด ท่ามกลาง
ความยินดีบนความทุกข ์ของผูอ้ นยั ื่ งแฝงไปด้วยความเห็นใจรางๆ
่
เมือสบสายตานางก็ หน ั มองไปทางอืนทั่ นที ทําให้นางอึดอัดยิงนั
่ ก
่
เดิมพีสาวน้ ้
องสาวทังหมดในบ า้ นก็มน ่ งงานดีทสุ
ี างทีแต่ ี่ ด เป็ นคนที่
พวกนางอิจฉาตาร ้อน นางเคยมีความสุขกับเกียรติยศนี อย่ ้ างยิง่
แต่วน ้ สาวน้
ั นี พี ่ ่
องสาวของนางทีเคยอิ จฉาตาร ้อนเหล่านั้นกลับมี
ความสุขบนความทุกข ์ของผูอ้ น ื่ ไม่ก็ส่งสายตาเห็นอกเห็นใจมอง
นาง ราวกับกําลังบอกว่า ‘แต่งงานกับตระกูลสูงแลว้ อย่างไร ไม่ใช่
ว่าต้องถูกแม่สามีกลั่นแกลง้ แม้แต่สินเดิมของตนยังปกป้ องไวไ้ ม่ได้
หรอกหรือ’ จะไม่ทําให้นางอัดอันได้้ อย่างไร
่ งหมดนี
ส่วนคนต้นเรืองทั ้ ้ คอ
ก็ ื พระชายาจินอ๋้ องแม่สามีของนาง แม่
สามีเอาสินเดิมของสะใภ้ใหญ่ส่งเป็ นของขวัญจึงทําให้เกิดเรือง ่ นี่
ื่
ทําให้ในใจอู๋ซอเหยี ยดหยามการกระทําของแม่สามีอย่างถึงทีสุ ่ ด
สินเดิมของสตรีทไหนบ ี่ า้ งไม่ใช่ทรัพย ์สินส่วนตัวของตน แม้แต่สามี
ยังไม่มส
ี ท ์
ิ ธิแตะ ้
แม่เลียงสามี เช่นท่านกลับเอาสินเดิมของลูกสะใภ้
ใครจะยังกลา้ ให้บุตรสาวแต่งเขา้ มาในจวนจินอ๋ ้ องอีก
ื่ ชอบแม่สามีผน
อู๋ซอไม่ ้ างถึงทีสุ
ู ้ ี อย่ ่ ด แต่กลับอับจนหนทาง ใครให้
นางแต่งงานกับสามีผเู ้ ป็ นลูกชายคนโตของแม่สามีเล่า
ื่ งตั่งนอนโมโหโกรธา เมือรู
อู๋ซอพิ ่ ้ว่าลูกสาวสองคนวิงเข
่ า้ มาเรียก
้
ท่านแม่ดว้ ยเสียงเจือยแจ ้
้วจึงเผยรอยยิมออกมา ้
มองลูกสาวทังสอง
่ อนนุ่ มราวกับไข่มุก ความไม่พอใจต่อแม่สามีในใจอู๋ซอก็
ทีอ่ ื่
่ นอี
เพิมขึ ้ กขัน้
ลูกสาวของนางน่ ารักเช่นนี ้ ทังรู
้ ้ประสาทังเชื
้ อฟั่ ง แต่แม่สามีกลับไม่
้ นพรําเพ
ชอบ วันทังวั ่ อ้ ถึงแต่หลานชาย หลานชาย ท้องนั้นของ
น้องสะใภ้สามยังดูไม่ออกว่าท้องนางก็ดูแลประหนึ่ งไข่หงส ์แลว้
เหอะ ขา้ จะคอยดูว่าถึงตอนนั้นจะคลอดอะไรออกมาได้ หากเป็ น
บุตรสาวเหมือนกันเช่นนั้นก็คงมีความสุขยิงนั่ ก
ฝั่งหูซอแม้
ื่ ว่าจะไม่อด ้
ั อันใจเหมื อนเช่นอู๋ซอื่ แต่ฮูหยินไหวเซียงโหว
แม่นางก็มากระซิบกระซาบสั่งสอนนางถึงบา้ น ให้นางตังใจดู ้ แลสิน
เดิมให้ดี
่
การเคลือนไหวของข่ าวลือวุ่นวายจนใหญ่โตเช่นนี ้ จวนจงอู่โหวที่
เป็ นบา้ นฝั่งมารดาของเสินเวย
่
้ องอยากจะคุกเข่าให้นายท่านผูเ้ ฒ่าเสินโหวยิ
จินอ๋ ่ ่ ก ขอเพียงแค่
งนั
่
ให้เขาหยุดพูด ส่งนายท่านผูเ้ ฒ่าเสินโหวไปแล ้ องก็วงไป
ว้ จินอ๋ ิ่
บันดาลโทสะอย่างรุนแรงทีเรื่ อนของพระชายาจินอ๋
้ องอีกครัง้ คืน
นั้นก็ใช ้หาวลู่หวาฉังสองคน
พระชายาจินอ๋้ องทีได้
่ ข่าวแลว้ ก็โมโหอย่างเลียงไม่
่ ้ น
ได้ มิหนํ าซําเสิ ่
่
เวยยังวิงมาสร ้างความรําคาญใจเพิม ่ ทังขอโทษ
้ ้ านึ กผิด ปาด
ทังสํ
นํ ้าตาสาบานด้วยความบริสุทธิใจ ์ บอกว่าไม่ใช่นางทีปล่
่ อยข่าวใน
่ ท่านปู่ มาบา้ นจริงๆ
บา้ นจริงๆ ไม่ใช่นางทีให้
้ องอัดอัน
ในใจพระชายาจินอ๋ ้ แต่จําใจต้องเค้นรอยยิมออกมาปลอบ
้
้
นาง อัดอันจนแม้แต่ความคิดอยากตายนางก็มีแลว้
การทํางานของแม่นมซือกับหวาเยียนมีประสิทธิภาพสูงอย่างยิง่ ไม่
นานนักก็สบ
ื ได้ว่าข่าวลือออกมาจากครัวใหญ่ หญิงชรารับใช ้แซ่ห
่ นคนพูดคนแรก
ลีเป็
ยายหลีถู่ กพามาตรงหน้าพระชายาจินอ๋ ้ องก็รู ้สึกได้รบั ความไม่เป็ น
ธรรม “พระชายาโปรดไวช ิ ! ไม่มใี ครสั่งบ่าว บ่าวเพียงแค่ออก
้ วี ต
้ กก็ได้ยน
จากเรือนไปซือผั ิ คําไม่กคํ ่ี า จึงเล่าให้ทุกคนฟัง เป็ นบ่าวที่
ปากไม่ดี พระชายา บ่าวไม่กลา้ อีกแลว้ ท่านไวช ้ วี ต ้ ได้
ิ บ่าวครังนี ้
หรือไม่” นางร ้องห่มร ้องไห้พยายามตีปากตัวเอง
้ องใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตามีประกายเลือนรางแวบ
พระชายาจินอ๋
ผ่าน โบกมือ “ลากออกไป ลากออกไป บ่าวขีนิ้ นทาเช่นนี จะเก็
้ บไว ้
้ ย” คําพูดหนึ่ งประโยคทีเรี
ทําอะไร ขายทิงเสี ่ ยบง่ายก็ตด
ั สินชะตา
ชีวต ่ ว้
ิ ของยายหลีแล
่ั
หวาลู่หวาฉังเด็กชวสองคนนั ้น เชือฟั
่ งก็พอแลว้ หากไม่เชือฟั
่ ง
่
เหอะ ทีนางมีคอื วิธจี ดั การพวกนางให้ตาย ในบ่อนํ ้าเรือนหลัง
ตระกูลใดบา้ งไม่มผี อ ี าฆาต
องค ์ชายรองสวีอวีหน้้ านิ่ งนั่งอยู่ในห้องหนังสือของเสนาบดีฉินท่าน
ตาของเขา “ท่านตาท่านว่าตัวการเบืองหลั ้ ้ อใคร” เดิม
งข่าวลือนี คื
ตระกูลฝั่งมารดากับจวนจินอ๋ ้ องจะแต่งงานเชือมความสั
่ มพันธ ์เขาดี
ใจอย่างยิง่ ไม่คด ่ ยวกั
ิ ว่าจู่ๆ ข่าวลือทีเกี ่ ้ องจะลือกันไปทั่ว
บจวนจินอ๋
่
แม้จะไม่ได้เอ่ยถึงเขาโดยตรง แต่แววตาคลุมเครือทีมองมาทางเขา
เหล่านั้นก็ยงั คงทําให้เขากระวนกระวายใจ
เสนาบดีฉินลูบหนวดยิม้ “เกียวอะไรกั
่ ่ อเสี
บพวกเราเล่า คนทีชื่ ยง
้ อง คือจิน้
ถูกทําลายคือจวนจินอ๋
้ อง ไม่แน่ ว่านี่ อาจจะเป็ นเรืองดี
พระชายากับจินอ๋ ่ เมืออิ
่ งเอ๋อร ์แต่งเขา้
ไป”
้ งดําเนิ นต่อ
องค ์ชายรองตกใจเล็กน้อย “ท่านตา การสมรสนี ยั
หรือ”
้ ้ ไม่ว่าอย่างไรตนก็ไม่
แต่ว่านางคิดจะขัดขวางการแต่งงานครังนี
อาจทําให้นางสมปรารถนาได้เช่นกัน
ตอนที่ 227-1 เก็บหน้าตายของท่านหน่ อย
่
อาศัยโชคดีของข่าวลือ เสินเวยถู กฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงเรียกเขา้
้ ว้ ครังแรกกุ
วังสองครังแล ้ ้ยกูกูมานางยังจับต้นชนปลายไม่ถูก
่
ไม่ใช่เพิงจะน้ อมสํานึ กพระมหากรุณาธิคุณหรือ สําหรับขอ้ อ้างที่
ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงอยากพบนางนางไม่เชืออย่ ่ ้ ง ยังคง
างสินเชิ
่ ดกับนางด้วยความสุขม
เป็ นสวีโย่วทีพู ุ “เจ ้าไปก็พอแลว้ ”
่
สําหรับสวีโย่ว เสินเวยยั ่
งคงเชือใจอย่ างยิง่
่ งตําหนักคุนหนิ งแลว้ ท่าทีของฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงก็
เมือถึ
่ ก ชมนางตังแต่
กระตือรือร ้นยิงนั ้ ศรี ษะจรดปลายเท้ารอบหนึ่ ง ทํา
่
เอาคนหน้าหนาเช่นเสินเวยยั งรู ้สึกเขินอาย
่
เสินเวยรี
บลุกขึนด้ ้ วยความประหลาดใจบอกว่านางอยู่ในจวนอ๋อง
ทุกอย่างลว้ นดี พ่อแม่สามีรกั ใคร่ น้องสะใภ้รกั กันฉันมิตร สามี
เคารพ บ่าวชนล่ ั้ างก็ปฏิบต
ั ต ่
ิ ามกฎ ขอบคุณฝ่ าบาททีพระราชทาน
การสมรสทีดี ่ เช่นนี ให้
้ นาง
่
ท่าทางของสตรีอายุนอ้ ยทีกระวนกระวายใจนั ้นฮองเฮาเหนี ยง
เหนี ยงเห็นแลว้ ก็ยงั รู ้สึกไม่สบายใจ กล่าวในใจ นี่ คือคนจริงใจทีใส
่
่ สุทธิ ์
ซือบริ
่
ในเมือบอกเป็ นนัยไม่ได้ผล เช่นนั้นก็บอกตรงๆ แลว้ กัน ฮองเฮา
เหนี ยงเหนี ยงเอ่ยถึงข่าวลือในเมืองหลวงต่อ ถามนางว่าภาพวาด
ตกปลาใต้จน ั ทราภาพนั้นเกิดอะไรขึน้
่
เสินเวยย่ อมพูดความจริง นางบอกว่าภาพผืนนั้นเป็ นนางมอบให้
้
แม่สามีดว้ ยตัวเอง อีกทังภาพผื นนั้นยังเป็ นของปลอมจริงๆ
ิ่ เหตุผลอย่างยิง่ คนมีอุบาย
สําหรับการมอบให้ดว้ ยตัวเองก็ยงมี
เช่นนั้นอย่างซ่งซือไหนเลยจะขอสิ
่ ่
งของกั
บนางตรงๆ พูดอ้อมค้อม
่ นลูกสะใภ้เช่นเจ ้าก็ตอ้ งถวายให้เอง
บอกเป็ นนัยเล็กน้อย คนทีเป็
่ งมิใช่หรือ
อย่างเชือฟั
ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงถุยนํ ้าลายใส่พระชายาจินอ๋ ้ องซ่งซือครั
่ งหนึ
้ ่ง
่ ้สึกว่าจยาฮุ่ยจวินจู
ในใจ ยิงรู ้ ่ผน ้ นคนโง่ สายตาทีมองนางก็
ู ้ ี เป็ ่ ยง่ิ
่
อ่อนโยน ตอนทีลายั งใจปํ ้ าให้บําเหน็ จจํานวนมาก
่
เสินเวยนํ าบําเหน็ จของฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงกลับจวนจินอ๋ ้ อง
่
สายตาทีคนรั บใช ้ในจวนมองนางก็ไม่เหมือนเดิมในชวขณะ ่ั ดูท่า
แลว้ ฮูหยินใหญ่ผูน ้
้ ี จะเข า้ ตาฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงแลว้ หลังจากนี ้
ใครจะกลา้ ดูแคลนอีก
ื่ บหูซอก็
แม้แต่อู๋ซอกั ่ื ยงั คับแค้นใจ นางทังสองเข
้ า้ จวนมาก่อน แต่
ไม่เคยเห็ นฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงเรียกไปเขา้ เฝ้ าเลยสักครัง้ ยิงไม่
่
ต้องเอ่ยถึงบําเหน็ จ
้ สองฮองเฮาเหนี
ครังที ่ ่
ยงเหนี ยงเรียกพบอีกเสินเวยก็ มป
ี ระสบการณ์
มากขึนแล ้ ว้ อย่างไรเสียนางก็เพียงแค่แสดงท่าทางสตรีอายุนอ้ ย
ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงถามอะไรก็ตอบไปตามตรงก็ได้แลว้ หากว่า
ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงถามถึงพระชายาจินอ๋ ้ อง นางเพียงแค่ยมก็
ิ ้ พอ
่
หากเลียงไม่ ได้จริงๆ ก็พูดถึงแม่สามีดีๆ ทํานองว่าใจกวา้ งเมตตา
ปฏิบต
ั ต
ิ ่อนางดี
่
เสินเวยนํ าเงินบําเหน็ จจํานวนมากของฮองเฮาเหนี ยงกลับจวนอีก
ครัง้ ในใจก็ม่นใจแล
ั ว้ ว่าฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงไม่ถูกกับพระชายาจิ ้
นอ๋อง เดิมหลักการศัตรูของศัตรูก็คอ ่ เสินเวยรู
ื เพือน ่ ้สึกว่าฮองเฮา
่ งนี
เหนี ยงเหนี ยงทีพึ ่ ยั้ งคงต้องเล่นละครตบตาต่อไป แม้ว่าจะเห็นแก่
บําเหน็ จก็ตาม
่
เสินเวยถู กฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงเรียกพบสองครัง้ อีกทังยั
้ งได้
้ องทีเดิ
บําเหน็ จมาไม่นอ้ ย พระชายาจินอ๋ ่ มหงุ ดหงิดอยู่แลว้ ก็ยงไม่
ิ่
่
พอใจ เมือไรกั ่ นซื
นทีเสิ ่ อผู
่ น้ ี ตามราวี
้ อยูใ่ นจวนเงียบๆ ไม่ได้หรือไร
ฐานะเดิมไม่ดก ้
ี ็สายตาสันหลงใหลในเกี ยรติยศอันจอมปลอม
่
เสินเวยเห็ ่ งมา ก็ลูบจมูกหัวเราะ เถาจือทีไป
นกับขา้ วหร็อมแหร็มทีส่ ่
นํ าอาหารมาโมโหแทบตายอยู่แลว้ “ฮูหยินท่านยังหัวเราะอยู่อก ี
พวกนางกลั่นแกลง้ คนเกินไปแลว้ ”
่
เมือวานนางไปรั ่ วใหญ่ คนของครัวใหญ่ยงั
บอาหารทีครั
่ บห่านให้นางหนึ่ งจาน ใครจะรู ้วันนี ไปอี
กระตือรือร ้น เพิมตั ้ กใบหน้า
ฝี ปากนั้นกลับเปลียนแล
่ ้
ว้ ชีลวกๆ อย่างไม่แยแส “นั่น อาหารของ
คุณชายใหญ่กบ ั ฮูหยินใหญ่อยู่ตรงนั้น”
เถาจือมองดู กับขา้ วธรรมดาสีอย่ ่ าง ลว้ นแต่เป็ นผัก ไม่มน
ี ํ ้าแกง
แม้แต่ถว้ ยเดียว ปกติสาวใช ้ใหญ่หลายคนเช่นพวกนางยังกินดีกว่า
นี ้ สีหน้าของนางก็ไม่ดท ี น ่ งเขา้ มา นางจึงยก
ั ที คิดว่าฮูหยินเพิงแต่
้
ยิมถามหนึ ่ งประโยค “ใช่เขา้ ใจผิดแลว้ หรือไม่” ดวงตาจ ้องมอง
อาหารชนดี ั้ เต็มโต๊ะอีกฝั่งหนึ่ ง
“คุณชายใหญ่กบ ั ฮูหยินใหญ่ของพวกเราย่อมกตัญ�ูต่อท่านอ๋อง
พระชายา เพียงแต่ท่านอ๋องกับพระชายาเพียงแค่สองคน จะทาน
่
อาหารทีเยอะเพี ้
ยงนี หมดได้ อย่างไร” เถาจือถามกลับ แม่บา้ นหม่า
้ นชดั ๆ ว่าหาขอ้ อ้างมาปฏิเสธ ท่านอ๋องพระชายาเป็ นผูอ้ าวุโส
ผูน้ ี เห็
อะไร คาดว่านายทังจวนต่ ้ างก็กนิ อาหารอันโอชะ กลั่นแกลง้ แต่
เรือนของพวกนางมากกว่ากระมัง
้ ่ “นี่ ไม่ใช่ว่ายังมีฮูหยินซือจื
แม่บา้ นหม่ากลอกตาทังคู ่ อกั
่ บฮูหยิ
่ อมี
นสามอีกหรือ ฮูหยินซือจื ่ คุณหนู อายุนอ ้ ยสองคน ฮูหยินสาม
้
ตังครรภ ้ ไม่
์ อาหารมือนี ้ ว่าอย่างไรก็ตอ้ งละเอียดหน่ อยมิใช่หรือ ขา้
คิดว่าฮูหยินใหญ่คงไม่ถงึ กับแย่งอาหารของหลานสาวกับหญิง
้
ตังครรภ ์หรอกกระมัง”
เถาจือโมโหจนตัวสั่นไปทั่วทังร่
้ าง ตังใจแกล
้ ง้ เรือนพวกนางจริงๆ
่
ด้วย ฮูหยินเพิงจะแต่ งเขา้ มาได้ไม่กวั่ี นก็ถูกยํ่ายีเช่นนี แล
้ ว้ หรือ
เถาจืออยากจะตบหน้าแม่บา้ นหม่าสักฉาดจริงๆ ทนแลว้ ทนอีกจึง
ควบคุมตัวเองไวไ้ ด้ เพราะนางรู ้ว่าแม่บา้ นหม่าเป็ นเพียงแม่บา้ นใน
ครัวใหญ่คนหนึ่ ง ให้ความกลา้ มหาศาลแก่นางก็ไม่กลา้ เหยียด
หยามนาย ขา้ งหลังนางจะต้องมีคนหนุ นหลังแน่ นอน คนผูน้ ี เป็ ้ น
ใครในใจเถาจือย่อมรู ้ดี
่
เสินเวยมองสวี ้ านเป็ นบา้ อะไรขึนมา
โย่วอย่างอดไม่ได้ “แม่เลียงท่ ้
้ เหมือนขา้ ไม่ได้หาเรืองนางนี
ช่วงนี ดู ่ ่ ” ทันใดนั้นก็กล่าวอย่างคลา้ ย
้
นึ กอะไรขึนได้ “หรือว่าฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงเรียกขา้ เขา้ วังเลยขัด
ตานาง”
่
เห็นสวีโย่วพยักหน้า เสินเวยก็ อดก่ายหน้าผากไม่ได้ “ใจแคบ
เกินไปแลว้ !” อุบายแค่นี้ อนุ ภรรยาเหล่านั้นทีเรื
่ อนหลังจวนจินอ๋
้ อง
ก็ไร ้ประโยชน์เกินไปหน่ อยแลว้ กระมัง
ทั่วทังร่
้ างสวีโย่วถูกความเย็นเยียบแผ่ซา่ น ถือถาดอาหารกําลังจะ
่
เดินออกไปขา้ งนอก เสินเวยรี บเรียกเขาไว ้ “เดี๋ยวๆๆ ท่านจะไป
ไหน”
่ ้
“กลับมา กลับมา” เสินเวยจนใจทั
งใบหน้ ิ ่านใจร ้อนแบบนี ้
า “ดูสท
ต้องแก ้”
่
สวีโย่วไม่ขยับ เสินเวยทํ าได้เพียงก ้าวเขา้ ไปดึงเขากลับมา แย่ง
ถาดอาหารในมือเขามาวางไวบ้ นโต๊ะ “ท่านเอาแต่จะไปทะเลาะกับ
เสด็จพ่อไม่ได้ แสดงความกตัญ�ูไม่ได้มเี พียงวิธน ี ี วิ้ ธเี ดียว”
่ นเล่า ให้นางพาคนสองคนออกจวนไปเลือกซือวั
“พีเฉิ ้ ตถุดบ ิ แม่
นมมั่ว เจ ้าไปสั่งอาหารดีๆ สีชุ
่ ดทีเหลาสุ
่ ราด้วยตัวเอง หากมีคน
ถามก็บอกว่าจวนจินอ๋ ้ องลดค่าใช ้จ่าย ขา้ ฮูหยินเป็ นห่วงผูอ้ าวุโส
สงสารหลานสาวอายุนอ้ ยกับน้องสะใภ้สามทีตั ่ งครรภ
้ ์อยู่ ควักเงิน
่
สินเดิมมาจ่ายเอง” เสินเวยขึ ้ ยงสั่ง
นเสี
้
สวีโย่วเขา้ ใจเจตนาของนางทันที คิวขมวดมุ ่น “เหตุใดถึงไม่ส่งอี
ั ก
ชุดเล่า” เขาชายตามองถาดอาหารบนโต๊ะ บนใบหน้าเต็มไปด้วย
ความรังเกียจ
่
เสินเวยกล่ าว “ท่านคงไม่คด ้
ิ ว่าขา้ จะกินของพวกนี หรอกกระมัง
ไม่ใช่ว่าสั่งไวส้ ชุ
ี่ ดแลว้ หรือ พอให้เรือนของพวกเรากินได้พอดี
ส่วนเรือนอืนๆ่ เลือกกับขา้ วอย่างสองอย่างส่งไปเป็ นพิธก ี ็พอแลว้ ”
ใครจะโง่ส่งไปจริงๆ เล่า
่
ใบหน้าทีเฉยชาของสวี โย่วกระตุกเล็กน้อย ใช่แลว้ เขาลืมไปได้
้ ยอมเสียเปรียบทีสุ
อย่างไรว่าเด็กคนนี ไม่ ่ ด หลังจากนั้นก็ได้ยน ่
ิ เสิน
เวยกล่าวต่อ “คุณชายใหญ่ ตอนทีข ่ า้ กลับจวนโหวแรกๆ ก็เจอ
่
เรืองแบบนี ้ อนกัน รู ้หรือไม่ว่าขา้ จัดการอย่างไร ดวงตาของนาง
เหมื
เต็มไปด้วยความเจ ้าเล่ห ์ “ขา้ พังครัวใหญ่ บ่ายวันนั้นนายทังหมด
้
ในจวนจงอู่โหวไม่ได้กน ้ า้ ไม่ได้คด
ิ ขา้ วตรงเวลา แต่ว่าคราวนี ข ิ จะ
พังครัวใหญ่ ขา้ คิดว่าให้พระชายาจัดการด้วยตัวเองตรงกับเจตนา
ของขา้ มากกว่า”
่
เสินเวยโบกมื ี่ า้ มีอารมณ์
ออย่างไม่ถือสา “พูดดี พูดดี ยังดีทข
จัดการ แต่ว่าคุณชายใหญ่ วันนี มี้ งานให้ท่านทํา” จ ้องมองขา้ ง
นอกตะโกนเสียงสูง “เจียงไป๋ เขา้ มา ถือถาดอาหารนี ้ นายของ
่
พวกเจ ้าจะไปกินขา้ วเป็ นเพือนเสด็ จพ่อ ถือโอกาสกระชบั
ความสัมพันธ ์ระหว่างพ่อลูก”
่
เสินเวยแนะนํ าทีละประโยคๆ แต่เห็นสีหน้าที่ไร ้อารมณ์ใบนั้นองสวี
โย่ว นางก็ไม่อยากพูดต่อทันที “ช่างเถอะ หวังให้ท่านพูดจา
้
อ่อนหวานพระอาทิตย ์คงขึนทางตะวั นตก เจียงไป๋ ถึงตอนนั้นก็ชว่ ย
นายพวกเจ ้าพูด บอกว่าคุณชายใหญ่เป็ นห่วงเสด็จพ่อยิงนั ่ ก
เพียงแต่เขินอายไม่กลา้ แสดงออก หรือบอกว่าทุกครังที ้ คุ
่ ณชาย
ของพวกเราอารมณ์ไม่ดก ี ็จะไปเดินวนอยู่ขา้ งนอกเรือนท่านอ๋อง
เพียงแต่กลัวเสียหน้าไม่กลา้ เขา้ มาต่างๆ สรุปแลว้ เจ ้าแสดง
ความสามารถตามสบาย ประโยคไหนโจมตีท่านอ๋องได้ก็พูด
ประโยคนั้น”
่ั
ใบหน้าของเจียงไป๋ แทบจะร่วงลงมาในชวขณะ “ฮูหยิน นี่ นี่ !” จะให้
สุภาพบุรุษเช่นเขาพูดจากสะอิดสะเอียนเช่นนี ้ เขาพูดไม่ออก
้ งๆ คาดว่าคงจะไม่ได้โจมตีท่านอ๋อง
หรอก! หากเขาพูดเช่นนี จริ
แลว้ ท่านอ๋องต้องสะอิดสะเอียนจนขย้อนอาหารเมือคื่ นออกมาเป็ น
แน่
่
เสินเวยถลึ งตาหนึ่ งครา “นี่ อะไรของเจ ้า ปกติเจา้ พูดเก่งนักไม่ใช่
หรือ ช่วงเวลาสําคัญกลับทําไมได้หรือ เจ ้ารู ้สึกสะอิดสะเอียน
เช่นนั้นท่านอ๋องก็ตอ้ งรู ้สึกสะอิดสะเอียนด้วยไม่ใช่หรือ เจ ้าไม่ลอง
่
คิดดูบา้ ง ทีเขาทํ ากับนายของพวกเจ ้า ขา้ จะให้คุณชายใหญ่ไป
แสดงความกตัญ�ูต่อเขาอีกหรือ ไม่มส ี มอง รู ้จักแต่ต่อยตี เจ ้าต้อง
หัดเรียนด้านนี บ้ า้ ง” เสินเวยชี
่ ศี้ รษะ สั่งสอนด้วยความเจ็บใจทีไม่ ่
อาจหลอมเหล็กให้กลายเป็ นเหล็กกลา้ ได้
่ ั บตาเจียงไป๋ ก็เขา้ ใจแลว้ “ฮูหยิน หากท่านพูดเช่นนี บ่
ชวพริ ้ าวก็
เขา้ ใจแลว้ !” เพียงแค่ไปสร ้างความรําคาญใจมิใช่หรือ ต่อให้จะ
สะอิดสะเอียนจนขย้อนอาหารเมื่อคืนออกมาเขาก็จะทําภารกิจให้
สําเร็จ
่
เสินเวยจึ
งพยักหน้าด้วยความพอใจ “ไปเถอะ ทําให้ดี เจ ้ายังไม่
่
แต่งงานไม่ใช่หรือ หากทําดีขา้ จะหาภรรยาดีๆ มาให้เจ ้า” เสินเวย
รับปากอย่างใจกวา้ ง
่ั
ดวงตาของเจียงไป๋ ลุกวาวในชวขณะ ตบอกรับปาก “ฮูหยิน บ่าว
่ ให้
จะต้องจัดการเรืองนี ้ ท่านอย่างดี” เขามองสาวใช ้ใหญ่หลายคนที่
ยืนอยู่ขา้ งกายฮูหยิน พูดในใจ ต่อให้จะต้องขย้อนอาหารเมือหลาย่
วันก่อนออกมาก็จะต้องทํางานให้ดี ภรรยา ภรรยาทีอ่ ่ อนนุ่ ม
้ นเห็นคุณชายใหญ่แสดงความรักออกนอกหน้า
ร ้อนแรง วันทังวั
พวกเขาคนโสดเหล่านี อิ ้ จฉาจนตาร ้อนผ่าวแลว้ ตอนนี ฮู้ หยินเอ่ย
ปาก ต่อให้เป็ นผามีดทะเลเพลิงเขาก็ตอ้ งพุ่งไปขา้ งหน้า!
่ โย่วถือถาดอาหารเดินออกไปทีเรื
ตอนทีสวี ่ อนนอก ไปทันจินอ๋้ อง
่
กินขา้ วเทียงพอดี ฟังคํารายงานของคนรับใช ้ เขาก็ขมวดคิวตาม ้
ความเคยชิน ลูกอกตัญ�ูผน ้ เรืองอะไรอี
ู ้ ี มี ่ กแลว้ แต่ว่าเขาก็ยงั คง
วางตะเกียบลง
่ โย่วเขา้ มาจินอ๋
ตอนทีสวี ้ องก็ยงประหลาดใจ
ิ่ ื่
ไม่ใช่อนใด ลูกชาย
่ นชาจนเคยชินผูน้ ั้นของเขาคาดไม่ถึงว่าถือถาดอาหาร
คนโตทีเย็
อยู่
ิ ้ องเอ่ยปาก สวีโย่วก็แย่งพูดขึนก่
ไม่รอให้จนอ๋ ้ อน “อย่าคิดว่าลูก
่ อผู
อยากมา ไม่ใช่เสินซื ่ น้ ้นหรอกหรื
ั อ บังคับให้ลูกมาทานขา้ วกับ
ท่าน บอกว่าต้นไม้หวังอยู่น่ิ งแต่สายลมกลับไม่หยุดพัก ลูกอยาก
้ แต่พ่อแม่กลับไม่อยู่รอ ลูกเห็นท่านร่างกายแข็งแรงดี ไม่แน่
เลียงดู
ว่าอาจจะมีชวี ต
ิ อยู่นานกว่าลูกอีก”
หลายประโยคทีแข็ ่ งกระด้างยั่วโมโหจินอ๋
้ องทันที เด็กอันธพาลคน
นี ้ มายั่วโมโหเขาหรือ
เจียงไป๋ รีบเสริม “ท่านอ๋อง ท่านอ๋องอย่าได้โมโห คุณชายใหญ่
่ งคุณชายใหญ่เป็ นห่วงท่านยิงนั
พูดจาไม่เป็ น อันทีจริ ่ ก พอฮูหยิน
ใหญ่พูดเขาก็มาทันที ท่านอ๋องท่านเห็นแก่จต ิ ใจกตัญ�ูของ
คุณชายใหญ่ก็อย่าได้โกรธเคือง” ทว่าในใจกลับตําหนิ คุณชาย
ใหญ่ของขา้ ไม่ใช่ว่าไม่ให้ท่านเปิ ดปากหรือ ท่านทําให้บ่าวกลัว
แทบตาย!
้ องหยิบขึนมาดู
จินอ๋ ้ เป็ นตั๋วเงินห้าพันตําลึงจริงๆ ก็ยงสงสั
ิ่ ย “เสด็จ
ลุงเจ ้าให้เจ ้าเจ ้าก็เก็บไวเ้ อง ให้ขา้ ทําไม ขา้ มีเงินเหลือใช ้” เขาไม่
ยอมรับว่าเบืองลึ้ กในใจเขามีความสุขเล็กน้อย
้
“ภรรยาเจ ้าจะขายหมู่บา้ นมาสททบค่าใช ้จ่ายในจวนงันหรื อ ใคร
้ องสัมผัสได้ว่าเหตุการณ์
บอกเจ ้าว่าค่าใช ้จ่ายในจวนคับขัน” จินอ๋
ผิดปกติแลว้ จวนอ๋องอันโอ่อ่าของเขาซอกมุมไหนบา้ งทีมี ่ เงินไม่
พอใช ้ ยังต้องให้สะใภ้เอาสินเดิมมาสมทบ
้ องถลึงตามองกับขา้ วสีอย่
จินอ๋ ่ างทีวางลง
่ ครูใ่ หญ่กว่าจะพูดออก
้ อ”
“เจ ้ากับภรรยาเจ ้าทานของพวกนี หรื
“ใช่แลว้ !” สวีโย่วตอบอย่างเป็ นธรรมชาติ “เมือวานยั่ งไม่ได้กน
ิ
้ นมือแรก
วันนี เป็ ้ นี่ ไม่ใช่เพราะในจวนลดค่าใช ้จ่ายหรอกหรือ เป็ น
่ หมดหนทาง
เรืองที ่ ทุกคนลว้ นแต่กน ่
ิ ได้ ลูกมีเหตุผลอะไรให้เรือง
มาก เพียงแค่ขา้ วมือเดี้ ยว ทีซี่ เจียงลูกยังเคยกินอาหารทีแย่
่ กว่านี ้
อีก”
่ั
ชวขณะใบหน้ ้ องก็เหยเกขึนมา
าของจินอ๋ ้ คิดอยากจะบันดาลโทสะ
แต่กลับสะกดกลันไว ้ ้ สวีโย่วไม่สนใจเขา หยิบตะเกียบกินเรียบร ้อย
้
แลว้ ไม่รู ้เหมือนกันว่าเขาตังใจหรือเสแสร ้ง เห็ นชดั ๆ ว่าเป็ นกับขา้ ว
ของคนใช ้ แต่สวีโย่วกลับกินอย่างเอร็ดอร่อยมาก ไม่รงั เกียจแม้แต่
นิ ดเดียว นี่ ทําให้ใบหน้าของท่าน
้ องเคร่งขรึมยิงขึ
จินอ๋ ่ น้
ตอนทีกิ่ นไปได้ครึงหนึ
่ ่ ง อาการทีสั
่ ่งไวท้ เหลาสุ
่ี ราก็มาส่งแลว้ เป็ น
่ี
กับขา้ วชุดใหญ่ทประณี ่ าง สวีโย่วลากข ้าวสวยหนึ่ งถ้วยเขา้
ตสีอย่
มา ในระหว่างนั้นก็คบ ี อาหารให้พ่อเขาสองครา
เทียบกับลูกชายทีกิ ่ นอย่างเอร็ดอร่อย จินอ๋
้ องถือชามไวแ้ ต่กลับ
้ องก็เรียก
ยากจะกลืนลง กว่าสวีโย่วจะกินขา้ วเสร็จออกไปได้ จินอ๋
บ่าวรับใช ้มาสั่งเสียงเบาหลายประโยค บ่าวรับใช ้พยักหน้าออกไป
แลว้ เขานั่งอยู่ในห้องหนังสือแต่เนิ่ นนานอารมณ์กลับไม่อาจสงบ
ลงได้
้ องกล่าวถาม
“เป็ นอย่างไร” จินอ๋
้
“บ่าวหรือ บ่าวกลา้ ได้เพียงนี เลยหรื
อ บ่าวต้องฟังนายหมดไม่ใช่
้ องตะโกนด้วยความเดือดดาล
หรือ” จินอ๋
ซ่งซือ่ เจ ้าซ่งซือ!
่ ครังก่
้ อนภาพวาดตกปลาใต้จน ั ทรานั้นเจ ้าบอก
ว่าภรรยาสวีโย่วมอบให้เจ ้าเอง ตนก็เชือ่ ไม่คดิ ว่าหันหลังกลับมา
นางจะปฏิบต ั ต
ิ ่อโย่วเอ๋อร ์อย่างโหดร ้าย
้ เห็
่ นเขา เขาก็จะ
ใช่ เขาไม่ค่อยใส่ใจโย่วเอ๋อร ์นัก เพราะทุกครังที
่ ถู
นึ กถึงต้วนซือที ่ กเขาผลักลม้ จนคลอดก่อนกําหนด แต่ต่อให้เขา
จะไม่ใส่ใจนั่นเองก็เป็ นลูกชายของเขา เป็ นลูกชายคนโตของเขา
่
แต่เจ ้าซ่งซือกลั บโหดร ้ายต่อลูกชายของขา้ เช่นนี ้ เจ ้าหมายความ
ว่าอย่างไร
พระชายาจินอ๋ ้ องเห็นเรือนของลูกเลียงไม่
้ มก ่
ี ารเคลือนไหว ่ อ่
เสินซื
ผูน้ ้นก็
ั ยงั โง่ส่งอาหารมาแสดงความกตั
ั ิ่
ญ�ูให้ตน ในใจก็ยงพอใจ
่ เรื
หารู ้ไม่ว่าเขาเปิ ดโปงเรืองที ่ อนจินอ๋
้ องแลว้ อีกทังจิ
้ นอ๋
้ องก็ยงั
้
สะกดกลันไฟโกรธทั ้
งทรวงอกรอชํ าระกับนาง
ตอนที่ 228-1 ความซือตรงของท่
่ านเล่า
้
แม่นมซือเองก็กล่าวอย่างหยอกลอ้ “คราวนี พระชายาก็ วางใจได้
่
แลว้ ใช่หรือไม่ ท่านรอดืมชาสะใภ้ เถิด! บ่าวเห็ นหน้าตามารยาท
ของคุณหนู เจ็ดผูน้ ั้นแลว้ เทียบฮูหยินใหญ่ไม่ได้เลย จะต้อง
ปรองดองและรักใคร่กบ ่ างถึงทีสุ
ั คุณชายสีอย่ ่ ดแน่ นอน”
่
“เทียบกับนางทําไม” แม่นมซือเอาว่าทีสะใภ้ ี่
สมาเที ่ อ่ นี่
ยบกับเสินซื
ทําให้ในใจของพระชายาจินอ๋้ องไม่พอใจเล็กน้อย เสินซื
่ อเป็
่ นคนโง่
่ บโตในชนบท หากไม่ใช่ว่ามีวาสนาหลายส่วน สามารถ
เขลาทีเติ
้ ได้
แต่งกับครอบครัวขุนนางขันสี ่ ก็ไม่เลวแลว้ จะเทียบสตรีสูงศักดิที์ ่
มีฐานะในจวนเสนาบดีได้อย่างไร
้ องมองพระชายาทีใบหน้
จินอ๋ ่ าเต็มไปด้วยรอยยิม้ ความรู ้สึกในใจก็
ซับซ ้อน จู่ๆ ก็นึกถึงเหตุการณ์สมรสพระราชทานของลูกชายคน
้
โตขึนมา ้
แม้ว่าพระชายาจะยิมเหมื อนกัน แต่ก็คลา้ ยไม่ได้ดใี จ
เหมือนอย่างตอนนี ้ ตามหาสาเหตุ จินอ๋้ องไม่ได้โง่จริงๆ ย่อมเขา้ ใจ
ได้หลายส่วน
้
ตอนนี เขาจํ าใจต้องยอมรับ พระชายาของเขา คนเคียงคู่ทเขาเชื่ี อ่
้ งโปรดปรานมาตลอดยีสิ
ใจทังยั ่ บกว่าปี คลา้ ยกับว่าไม่ได้ปฏิบต ั ต
ิ ่อ
่
โย่วเอ๋อร ์ด้วยความใส่ใจเหมือนอย่างทีนางแสดงออกมา ่
เมือได้
ค้นพบ ก็ทําให้เขาโมโห ละอายใจ แต่กลับอับจนหนทาง
“ท่านอ๋อง ท่านไม่ดใี จหรือ ใช่ฝ่าบาทพูดอะไรอีกหรือไม่” พระ
้ องพูดอยู่นานเห็นท่านอ๋องไม่พูดแม้แต่ประโยคเดียว ก็
ชายาจินอ๋
หยุดชะงักอย่างอดประหลาดใจไม่ได้ ยังคิดว่าฝ่ าบาทตําหนิ อะไร
เขาอีก “ท่านอ๋อง ในทางการ ฝ่ าบาทเป็ นกษัตริย ์ ท่านเป็ นขุนนาง
ในส่วนตัว ฝ่ าบาทเป็ นพี่ ท่านเป็ นน้อง ฝ่ าบาทพูดอะไรก็หวังดีต่อ
้ น”
ท่านทังสิ ้ นางโน้มน้าวเสียงอ่อนโยน
่ นอ๋
สายตาทีจิ ้ องมองพระชายาก็ยงซั ิ่ บซ ้อน พระชายาจินอ๋
้ องย่อม
สังเกตได้แลว้ กล่าวอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูกเล็กน้อย “ท่านอ๋อง
้ าไม ทําคนตกใจยิงนั
ท่านมองขา้ เช่นนี ทํ ่ ก”
่ อน ซ่งซือพู
หากเป็ นเมือก่ ่ ดเช่นนี เขาจะต้
้ ่
องเชือแน่ นอน แต่ตอนนี ้
่
เขานึ กถึงคําให้การทีเขาไต่ สวนได้จากยายหม่าในครัวใหญ่ดว้ ย
่
ตัวเอง เขาก็ไม่กลา้ เชือเลยแม้ แต่นิดเดียว “เหตุใดตามทีข ่ า้ รู ้มาทั่ว
้
ทังจวนมี ่ กลดเล่า เรือนอืนๆ
เพียงค่ายใช ้จ่ายของเรือนโย่วเอ๋อร ์ทีถู ่
้ องกล่าวเสียงเรียบ
ยังคงเป็ นปกติ” จินอ๋
่ ด้
“เอ๋ นึ กไม่ถงึ ว่ามีเรืองนี ้ วย” พระชายาจินอ๋
้ องท่าทางตกใจอย่างถึง
่ ด “เป็ นไปไม่ได้ ขา้ สั่งทังจวนเองว่
ทีสุ ้ าให้ลดค่าใช ้จ่าย นอกจาก
เรือนท่านอ๋องแลว้ แม้แต่เรือนขา้ เองก็ยงั ลด”
้ องกลับไม่ได้มองนาง แต่ก ้มหน้ากล่าวกับบ่าว
“จริงหรือ” ทว่าจินอ๋
่
รับใช ้ “เสียวเฉวี ่
ยน รายงานใบรายการอาหารเทียงของเรื อนพระ
ชายา ซือจื่ อและฮู
่ ้ พระชายาฟัง”
หยินสามในสามวันนี ให้
้
บ่าวรับใช ้รีบกลันใจก ้
้าวขึนมาข า้ งหน้า รายงานรายการอาการ
้
ของเรือนทังสามนี ้ างชดั เจนและถูกต้องรอบหนึ่ ง
อย่
“รายงานรายการของเรือนคุณชายใหญ่ให้พระชายาฟังต่อ” จิ ้
นอ๋องสั่งเสียงเรียบ
้
ตอนนี หากพระชายาจิ ้ องไม่เขา้ ใจอีกว่าท่านอ๋องเกณฑ ์คนมา
นอ๋
ประณามเช่นนั้นนางก็คงเป็ นคนโง่แลว้ นางไม่คด ่
ิ ว่าท่านอ๋องทีแต่
่ กจิกเรือนหลังจะสืบสาวเรืองราวได้
ไหนแต่ไรไม่สนใจเรืองจุ ่ อย่าง
ชดั เจนเช่นนี ้ ในใจอดก่นด่ายายหม่าไม่ได้ ไม่เป็ นงาน ไม่เป็ นงาน
เกินไปแลว้
่ ดั
หากเพียงแค่ไม่เป็ นธรรมต่อบุตรภรรยาเอกก็ไม่เป็ นไร แต่เรืองนี ้ ง
ออกไปนอกจวนแลว้ ตอนนี เนื ้ อหาข่
้ ่
าวลือขา้ งนอกเปลียนแล ว้ ไม่
พูดถึงภาพตกปลาใต้จน ั ทราภาพนั้นแลว้ แต่พูดว่าพระชายาจวน
จิน้
อ๋องไร ้คุณธรรม บีบบังคับให้ลูกสะใภ้ควักเงินสินเดิมออกไปซือ้
วัตถุดบ ้ องจวินจู
ิ จวินอ๋ ้ ่ผย ิ่
ู ้ งใหญ่ แม้แต่ขา้ วยังไม่มก ิ นี่ จะต้องถูก
ี น
ทรมานมากเพียงใด
้ าวลือนี ยั
มิหนํ าซําข่ ้ งดังไปถึงหูของเสด็จพีเขา ่ ่
เสด็จพีเขาไม่ เรียก
เขาเขา้ วังมาหลายปี แลว้ คราวนี เรี ้ ยกเขาเขา้ ไปด่าใส่หน้าโครมๆ
ขวา้ งของใส่เขาต่อหน้าขันทีขน ุ นางทั่วทังห้ ้ อง หากไม่ใช่ว่าเขา
กลับเร็ว จะต้องถูกปาใส่จนหัวแตกเลือดไหลแน่ นอน สุดท้ายก็ช ี ้
้
จมูกเขาแลว้ กล่าว ‘ลูกคนนี หากเจ ้าไม่อยากได้แลว้ ก็ส่งมาให้เรา
่ ตรเยอะ อ๋องผูย้ งใหญ่
เราไม่รงั เกียจทีบุ ่ิ ถูกสตรีหลอกลวง เราอับ
อายแทนเจ ้าเสียจริง’
้ องอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี โดยเฉพาะสายตาทีแปลก
จินอ๋ ่
่ องเหล่านั้นในหมู่ราชนิ กุล มองจนเขาหายใจไม่
ประหลาดของพีน้
ออก
แต่นี่ก็เป็ นสิงที
่ ตนเลื
่ อก ทําได้เพียงกัดฟันข่มไวใ้ นใจ ความชืนใจ่
เพียงหนึ่ งเดียวก็คอ ื เขามีพระชายาทีเข ่ า้ ใจผูอ้ ืนอ่
่ อนโยนใจดี รู ้จัก
เขา เขา้ ใจเขา เคารพเขา รักเขา ซํายั ้ งให้บุตรชายสามคนแก่เขา
เขาเองก็รู ้สึกว่าไม่เสียใจเพียงนั้นแลว้
้
แต่ตอนนี ความดี ้
งามส่วนนี เผยใบหน้าแท้จริงอันอัปยศอดสูออกมา
่ กอย่างจริงๆ ไม่มใี ครรู ้ว่าเขา
เขาก็โกรธจนอยากจะทําลายทุกสิงทุ
ใช ้แรงมากมายเพียงใดจึงจะควบคุมตัวเองไวไ้ ด้
ยังมีประโยคนั้นของท่านอ๋องหมายความว่าอย่างไร หาคนมารับ
่
หน้าทีแทนนาง ่
คนทีสามารถรั บหน้าที่แทนนางได้ก็มเี พียงชายา
รอง หรือว่าท่านอ๋องจะแต่งชายารอง หรือคิดจะยกฐานะเรือนหลัง
คนไหน
้ องเสียใจยิงนั
พระชายาจินอ๋ ่ ก เสียใจทีไม่
่ ได้ส่งยายหม่
ั าให้ชดั เจน
กระทั่งยายหม่าคิดว่าตัวเองฉลาดเอาภาระมาให้นาง สมควรตาย
ิ ้ องไม่ลงโทษนาง ตนก็ยอมให้นางมี
สมควรตายจริงๆ ต่อให้จนอ๋
ชีวต
ิ อยู่ไม่ได้เช่นกัน
ตอนที่ 228-2 ความซือตรงของท่
่ านเล่า
้ องมองด้วยสายตาเย็นชา เห็นนางร ้องไห้อย่างปวดใจ ในใจก็
จินอ๋
อ่อนลงอย่างอดไม่ได้ นึ กถึงโย่วเอ๋อร ์ตอนเด็กๆ พระชายาก็ดูแล
เขาดีจริงๆ มีครังหนึ ้ ่ งโย่วเอ๋อร ์ไขข ึ ้ ง พระชายาตังท้
้ นสู ้ องอยู่ก็ไป
เฝ้ าเขาสองวันหนึ่ งคืน ด้วยเหตุนีจึ ้ งเจ็บท้องคลอด และเพราะว่า
ดูแลโย่วเอ๋อร ์ทีป่่ วย พระชายาจึงละเลยเยียเอ๋ ่ อร ์และเหยียนเอ๋อร ์
กระทั่งเด็กซนสองคนนี ตกลงไปในสระนํ
้ ้า หากไม่ใช่ว่าคนรับใช ้พบ
เห็นก็คงจะเสียชีวต ิ ไปนานแลว้
่
เรืองราวแต่ ่
ละเรืองๆ ้
แวบผ่านเบืองหน้ ้ องก็ลงั เลแลว้ แต่
าเขา จินอ๋
นึ กถึงคําตักเตือนของเสด็จพี่ หัวใจของเขาก็แข็งขึนมาอี
้ กครัง้ ซํา้
่ งซือทั
เขายังไม่กลา้ เชือซ่ ่ งหมด
้ เขาแยกแยะไม่ได้ว่าประโยคไหน
ของนางเป็ นจริง ประโยคไหนเป็ นเท็จ
่
เห็นพระชายาทีราวกั บถูกผีสงิ เหล่าคนรับใช ้ก็ตกใจแทบแย่ ยังคง
เป็ นแม่นมซือกับหวาเยียนหวา
๋ กล
อวินที ่ า้ หาญเขา้ ไปพยุง “พระชายา ท่านอย่าได้เสียใจไปเลย
่ั
ท่านอ๋อง เอ่อท่านอ๋องจะต้องถูกคนชวลวงหลอกแน่ นอน ท่าน
อย่าได้ทอ้ ใจ อีกไม่กวั่ี นท่านอ๋องหายโกรธ ท่านก็ค่อยอธิบายกับ
เขาใหม่”
แม่นมซือและคนอืนๆ่ ตืนตกใจ
่ “พระชายา พระชายา พระชายา
ท่านเป็ นอะไรไป เร็ว รีบไปเชิญหมอมา!” ทั่วทังเรื
้ อนแตกตืน
่
วุ่นวาย
้ องทีกลั
จินอ๋ ่ บไปถึงเรือนนอกในใจก็รู ้สึกไม่ดี เดิมเขาไม่อยากเป็ น
้
คนเด็ดขาด วันนี ลงโทษพระชายาแล ว้ ในใจเขาก็หนักอึง้ อย่างไร
เสียนั่นก็คอ ้
ื พระชายาของเขา มารดาของลูกทังสามของเขา คนที่
้ แรกพบ! พวกเขาอยู่เป็ นคู่ครองกันมายีสิ
เขาตกหลุมรักตังแต่ ่ บกว่า
่ บกว่าปี !
ปี ยีสิ
่ ั บตาใบหน้างามเคลา้ นํ ้าตาใบหน้าของพระชายากับอาหารที่
ชวพริ
จืดชืดหลายอย่างนั้นก็วนเวียนปรากฎอยู่ตรงหน้าเขา ก่อกวนจน
จิตใจของเขาไม่อาจสงบนิ่ งได้ในชวขณะ ่ั เขากระทั่งคิดว่า เหตุใด
โย่วเอ๋อร ์ถึงต้องกลับมา หากเขาไม่กลับมา พระชายาจะยังเป็ นพระ
ชายาทรงคุณธรรมผูน ้ ั้น เขาเองก็ไม่อาจมีเรืองวุ
่ ่นวายใจมากเพียง
้ แต่สติปัญญาก็บอกเขาว่าเขาคิดเช่นนี ผิ
นี ได้ ้ ดแลว้ ไม่ถูกต้อง
โย่วเอ๋อร ์เป็ นบุตรคนโตของเขา เหตุใดเขาถึงจะกลับมาไม่ได้
่
เสินเวยอ่ านความคิดสวีโย่วได้ทนั ที แอบกลอกตาขาวให้เขา โน้ม
น้าวบ่าวรับใช ้พูดนั้น “คุณชายใหญ่นิสยั ดือรั
้ นเล็
้ กน้อย ขา้ จะลอง
้
เกลียกล่ ่
อมเขา พ่อบา้ นเสียวเฉวี ๋
ยนกลับไปก่อน อีกประเดียว
คุณชายใหญ่จะตามไป”
้ หยินใหญ่
บ่าวรับใช ้ไหนเลยจะไม่รู ้นิ สยั ของคุณชายใหญ่ ตอนนี ฮู
ยอมโน้มน้าว เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก กลับไปด้วยความ
้
ซาบซึงขอบคุ ณ
่ าวรับใช ้ไปแลว้ เสินเวยก็
เมือบ่ ่ ิ ้ วสวีโย่วอย่างไม่เกรงใจ “ท่านโง่
จมหั
่ ราตายแลว้ ท่านก็แยกบา้ นไม่ได้แลว้ มีพ่อท่าน
หรือไ พ่อท่านดืมสุ
้ นอยู่ พระชายาจึงไม่กลา้ ทําอะไร หากพ่อท่านไม่อยู่ พระชายา
คํายั
ก็จะเป็ นใหญ่เพียงผูเ้ ดียวในจวนจินอ๋ ้ อง ไม่แน่ ว่าอาจจะเล่นลูกไม้
อะไรอีก นางถือความชอบธรรมในการเป็ นผูอ้ าวุโส แม้ว่าพวกเรา
จะไม่กลัว แต่ก็ยุ่งยากทีสุ่ ดน่ าเบือที
่ สุ
่ ด!”
่
เสินเวยแค่ นเสียงหนึ่ งคราไม่ได้พูดอะไร จินอ๋
้ องไม่ใช่พ่อนางเสีย
หน่ อย นางมีพ่อกากๆ คนหนึ่ งแลว้ นั่นก็คือพ่อแท้ๆ หมดหนทาง
้ บไวใ้ ห้มารแซ่สวี
ไม่รบั ไวไ้ ม่ได้ แต่นางไม่อยากมีอีกคน วาสนานี เก็
ใช ้ดีกว่า
้ อนหลังเจียงไป๋ กลับมาก็รายงานสถานการณ์ตงแต่
ครังก่ ั้ ต น ้ จนจบ
นางประหลาดใจมาก แท้จริงแลว้ ทุกคนก็มองผิดไป คุณชายใหญ่
ของนางไหนเลยจะสงวนท่าที เห็นชดั ๆ ว่าเป็ นคนเจ ้าเล่ห ์พูดจาเป็ น
ดูสิ ดูสิ พูดแต่ละประโยคลว้ นทําให้คนสําลักตายได้ แต่พ่อเขาคาด
ไม่ถงึ ว่ายังตกหลุมพรางเขา ไม่เพียงแต่ไม่ไล่เขาออกไป ยังสั่งคน
ไปสืบครัวใหญ่ดว้ ยตัวเอง ไอหยา ท่านพีมี ่ สามารถยิงนั
่ ก! หลังจาก
นั้นก็สามารถหลบอยู่ใต้ตน้ ไม้ใหญ่ตากอากาศได้แลว้ เสินเวยมี
่
ความสุขนัก!
่
เสินเวยย่ ่
อมสังเกตเห็ นการเคลือนไหวของเขาแล ว้ ถลึงตามองเขา
่
อย่างแรง ก่นด่าคนผีทะเลในใจ ริมฝี ปากนางเพิงจะหายบวม ไม่
อาจถูกเขาทําให้เสียหายได้อก ี
วังหลวง ตาหนักเจาเต๋ อ
เสนาบดีและคนอื่นๆ ได้รับราชโองการจากฮ่องเต้ยงเซวียนไม่นาน
นัก ก็ ม าถึ ง ต าหนัก เจาเต๋ อ ฮ่ อ งเต้ย งเซวี ย นตรั ส ว่า “เสนาบดี ฉิน
ผูต้ รวจการร้องเรี ยนท่านซ่ องสุ มอาวุธ ข้าเห็นแก่หน้าซู่เฟยและองค์
ชายรองอนุญาตให้ท่านอธิบาย”
แล้วก็เห็นคนคนหนึ่ งถูกมัดมือไขว้หลังถูกทหารรักษาพระองค์หิ้ว
เข้ามา โยนลงพื้นอย่างแรง
เสนาบดี ฉินหน้า ถอดสี “ฉิ นสื อ !” จากนั้นจ้อ งสวี โ ย่ว ด้ว ยความ
โกรธว่า “ผิงจวิ้นอ๋ องทาเช่ นนี้ หมายความว่าอย่างไร จับบ่าวไพร่
ของจวนเสนาบดีมาทาอะไร”
พระพัก ตร์ ข องฮ่ อ งเต้ย งเซวี ย นยัง คงไม่ มีอ ารมณ์ ว่ า “แต่ ง ตั้ง รั ช
ทายาท คนที่เสนาบดีฉินถูกใจเป็ นใคร องค์ชายรองหรื อ” ความเยาะ
เย้ยลอยขึ้นจากใต้ตา
พวกใต้เท้าจากคณะเสนาบดีสบตากัน แม้รู้สึกว่าที่เสนาบดีฉินพูด
เป็ นเรื่ องจริ ง ทว่าไม่อาจไม่พูดว่าบีบคั้นเกินไป รองเสนาบดีใต้เท้า
เหยาก้า วออกมาประนี ป ระนอมว่า “เสนาบดี ฉินอย่า ใจร้ อ น ทุ ก
อย่างฟังการวินิจฉัยจากฝ่ าบาท”
ฮ่ อ งเต้ย งเซวี ย นกลับ เบื อ นสายตาไปที่ อ งค์ ช ายรองว่ า “ลู ก ล่ ะ
เสนาบดี ฉิ น บอกว่ า ต าแหน่ ง รั ช ทายาทจะเป็ นของใครไปไม่ ไ ด้
นอกจากเจ้า เจ้าก็คิดเช่นนี้หรื อไม่”
คนทั้งตาหนัก รวมทั้งตัวองค์ชายรองเองล้วนตกใจหน้าถอดสี
“ฝ่ าบาท ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!” นี่คือเสี ยงร้องตกใจของเหล่าขุนนางคณะ
เสนาบดี
มีเพียงสองคนที่ไม่กระโตกกระตาก คนหนึ่งคือสวีโย่วที่พาดกระบี่
ไว้ที่คอองค์ชายรอง อีกคนหนึ่งก็คือเสนาบดีฉิน
ทว่าเมื่อยามที่นางตื่นขึ้นมาอีกครั้งกลับไม่เห็ นไฝแดงอะไรที่ติ่งหู
ของบุตรชาย ยามที่นางถาม หญิงชราบอกว่านางหู ฝาดไป นางไม่
เคยพูดถึงไฝแดงอะไรเลย สาวใช้ก็บอกว่าไม่เห็นไฝแดงอะไร นาง
จึงนึ กว่าตนฟั งผิด ไม่คิดว่าไม่ใช่นางฟั งผิด หากแต่หญิงชราปิ ดบัง
นางไว้
หญิงชราที่ออกเรื อนไปจวนอ๋ องพร้อมนางผูน้ ้ นั นางจาได้วา่ ผ่านไป
ไม่นานนางก็เป็ นโรคร้ายจากไปแล้ว ยามนั้นนางยังเสี ยใจยกใหญ่
ไม่คิดว่านี่เป็ นเพียงแผนชัว่ แผนหนึ่งเท่านั้น แผนชัว่ อันใหญ่หลวง
ฉิ นซู่เฟยเบือนหน้ามองไปที่องค์ชายรองที่หน้าตาน้อยใจแล้วสี หน้า
ซั บ ซ้ อ นเหลื อ เกิ น หากคนผู ้น้ ัน เป็ นบุ ต รบัง เกิ ด เกล้า ของนาง
เช่ นนั้นเด็กที่ นางทั้งรั กทั้งปกป้ องเลี้ ยงมากับมื อคนนี้ เป็ นใครเล่ า
นางอดเบือนสายตาไปหาเสนาบดีฉินไม่ได้ว่า “ท่านพ่อ ท่านบอก
ข้าหน่อย นี่มนั เรื่ องอะไรกันแน่ เขาเป็ นใคร เป็ นใคร” สองประโยค
สุ ดท้ายนางแทบจะตะคอกออกมา
“ท่ า น พ่ อ เ ห ร า ะ เ ห ตุ ใ ด ” ฉิ น ซู่ เ ฟ ย ท่ า ท า ง เ ห มื อ น ถู ก
กระทบกระเทือนอย่างหนัก หญิงที่ชื่อหงเพียนคนนี้นางก็จาได้ ยาม
นั้นนางยังไม่ ออกเรื อน หงเพียนมาพึ่งพาญาติ ห่างๆ ที่ จวน นิ สัย
อ่อนโยนมาก ไม่ว่าคุยกับใครล้วนอ่อนโยน นางจาได้ว่านางอยู่ใน
จวนเพียงไม่กี่เดื อนก็ไปแล้ว บอกว่าออกเรื อนไป ต่อมานางก็เข้า
จวนฉิ นอ๋ องไม่ได้พบหงเพียนอีก ไม่คิดว่านางจะคลอดบุตรชายให้
บิ ด า ยิ่ ง กว่ า นั้น เด็ ก คนนี้ ยัง ถู ก เปลี่ ย นมาอยู่ ข ้า งกายตน ดัง นั้น
บุตรชายที่นางกอบไว้ในมือเป็ นเพียงน้องชายของนาง! นี่จะให้นาง
รับความสัน่ สะเทือนเช่นนี้ได้อย่างไร!
“จยาฮุ่ ยจวิ้นจู่ ฝีมื อดี ข้าเพียงแต่ แค้นที่ ครั้ งนั้นไม่ ได้เอาชี วิตเจ้า”
เสนาบดีฉินกล่าวอย่างน่าขนลุก
ฮ่ อ งเต้ย งเซวี ย นสี ห น้า เปลี่ ย นทัน ที “ฉิ น ชัง เจ้า ! ไม่ คิ ด ว่ า รองผู ้
บัญชาการทหารรั กษาพระองค์ของข้าจะเป็ นคนของเจ้า ” ยามนี้ เขา
ยังมีอะไรไม่เข้าใจอีก ไยบิดาของสวีเวยถึงหกล้มขาหักได้บงั เอิญ
ปานนั้น ที่แท้กเ็ พื่อกันเขาออกไปหรื อนี่!
“ในเมื่อพวกเจ้าไม่รู้กาลเทศะ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าเข้าไม่ให้โอกาส
พวกเจ้าแล้วกัน” เสนาบดีฉินพูดพลางตบมือสามที “เข้ามาให้หมด
เถอะ”
ทหารรักษาพระองค์ถืออาวุธทีมหนึ่งฮือกันเข้ามาจากด้านนอก ดาบ
และกระบี่ที่เป็ นประกายชี้ไปที่ฮ่องเต้ยงเซวียนและคนอื่นๆ
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 282-2 บังคับสละบัลลังก์
สวีโย่วผลักองค์ชำยรองมำข้ำงหน้ำ “ฉิ นชัง เจ้ำลืมแล้วใช่หรื อไม่วำ่
องค์ชำยรองของเจ้ำยังอยูใ่ นมือข้ำอยูเ่ ลย” เขำกดกระบี่ยำวในมือ
โลหิตไหลลงมำตำมคอขององค์ชำยรอง “เจ้ำอย่ำเคลื่อนไหวโดย
พลกำรดีกว่ำ หำกมือข้ำไม่นิ่ง องค์ชำยรองก็ไม่รอดแล้ว”
เสนำบดีฉินหน้ำถอดสี ยกมือขึ้นห้ำมทหำรรักษำพระองค์ที่บุกขึ้น
หน้ำทันที “ปล่อยองค์ชำยรอง ข้ำจะให้ศพเจ้ำอยูค่ รบ” องค์ชำยรอง
เป็ นไพ่ตำยที่สำคัญที่สุดในมือเขำ จะพลำดไม่ได้เด็ดขำด
เสิ่ นเวยหัวเรำะเยำะออกมำว่ำ “กวำงตำยในมือใคร*ยังไม่รู้เลย” สิ้ น
เสี ยงคนขยับ รอยำมที่ทหำรรักษำพระองค์กลุ่มนั้นได้สติกลับมำ
เสิ่ นเวยก็ฆ่ำไปแล้วสี่ คน ถือกระบี่อ่อนชุ่มโลหิ ตกลับมำยืนที่เดิม
“ใครกล้ำเข้ำมำ นี่กค็ ือจุดจบของมัน” เสิ่ นเวยชี้ศพบนพื้นแล้วข่มขู่
อย่ำงน่ำสยดสยอง
“ดี จยำฮุ่ยจวิน้ จู่เป็ นวีรสตรี จริ งๆ” ฮ่องเต้ยงเซวียนชื่นชมเสี ยงดัง
บรรยำกำศที่ตกต่ำพลิกผันทันที ฮ่องเต้ยงเซวียนพูดกับทหำรรักษำ
พระองค์วำ่ “พวกเจ้ำจะช่วยคนเลวก่อกรรมชัว่ จริ งหรื อ ขอเพียงพวก
เจ้ำวำงอำวุธลงกลับตัวกลับใจ ข้ำจะไม่ตำหนิในควำมผิดที่เกิดขึ้น”
ทว่ำทหำรรักษำพระองค์พวกนี้กลับไม่ขยับเขยื้อน เสนำบดีฉิน
หัวเรำะอย่ำงได้ใจว่ำ “ฝ่ ำบำทก็อย่ำเสี ยแรงเปล่ำเลย พวกเขำเป็ น
ทหำรคนสนิทของข้ำทั้งหมด”
ระหว่ำงที่พดู ก็ได้ยนิ เสี ยงอำวุธแหวกอำกำศ ลูกธนูสำมดอกจู่โจมมำ
อย่ำงรวดเร็ ว ดอกหนึ่งเล็งฮ่องเต้ยงเซวียน ดอกหนึ่งเล็งอ๋ องเคียงบ่ำ
เฉิงอี้ ยังมีอีกดอกหนึ่งพุง่ ตรงไปยังผิงอัน
ลูกธนูสำมดอกยิงเข้ำมำอย่ำงดุดนั พริ บตำเดียวก็มำถึงตรงหน้ำ
ฮ่องเต้ยงเซวียนจ้องหัวลูกธนูสีเงินวำวที่ใกล้แค่เอื้อมด้วยควำมตก
ตะลึง ใจว่ำชีวิตข้ำสิ้ นแล้ว และในชัว่ ลัดนิ้วมือเดียว เสิ่ นเวยและสวี
โย่วโถมเข้ำไปพร้อมกัน ผลักฮ่องเต้ยงเซวียนทีหนึ่ง ถึงหลบลูกธนูน้ ี
ได้อย่ำงหวุดหวิด
อ๋ องเคียงบ่ำเฉิงอี้กไ็ ม่โชคดีปำนนั้นแล้ว แม้เขำเคยเยีย่ มยุทธ ทว่ำกำร
จองจำสิ บกว่ำปี ร่ ำงกำยของเขำก็เสื่ อมโทรมไปนำนแล้ว ย่อมหลบ
ลูกธนูน้ ีไม่พน้ ถูกยิงทะลุ
“เสด็จอำ” ฮ่องเต้ยงเซวียนเรี ยกอย่ำงทำใจไม่ได้
เฉิงอี้กลับหัวเรำะร่ ำว่ำ “ฉิ นชังเสี่ ยวเอ๋ อร์ ข้ำจะไปรอเจ้ำอยูข่ ำ้ งล่ำง”
“เสด็จแม่!” เสี ยงร้องอย่ำงเศร้ำโศกดังขึ้นอีกเสี ยงหนึ่ง มำจำกปำก
องค์ชำยรองที่ได้อิสระแล้ว เขำมองข้ำงหน้ำอย่ำงไม่อยำกเชื่อ เดิน
โซเซไปข้ำงหน้ำสองก้ำวทว่ำกลับยกเท้ำไม่ข้ ึนอีก
นัน่ คือเสด็จแม่ของเขำ ทว่ำไยนำงถึงมองคนอีกคนหนึ่งอย่ำง
อ่อนโยนเมตตำเช่นนั้น เสด็จแม่กลัวเจ็บถึงเพียงนั้น เพรำะอะไรนำง
ถึงต้องบังธนูให้คนคนนั้นด้วย
“ท่ำน ท่ำน!” ผิงอันมองหญิงที่โถมมำบังธนูให้เขำข้ำงหน้ำอย่ำงทำ
อะไรไม่ถูก นำงงดงำม สง่ำเลิศล้ ำ กลับน้ ำตำนองหน้ำ
“เจ้ำ เจ้ำชื่อผิงอัน ใช่หรื อไม่” ฉินซู่เฟยยกมุมปำกขึ้นอย่ำงลำบำก
ใบหน้ำระบำยรอยยิม้ อ่อนโยน นำงยืน่ มือที่สนั่ เทำคิดจะลูบหน้ำของ
เขำ “เจ้ำ เจ้ำเรี ยกข้ำว่ำ เสด็จแม่คำหนึ่ง ได้หรื อไม่” เจ็บ เจ็บจริ งๆ !
ทว่ำนำงไม่เสี ยใจเลยแม้แต่นอ้ ย ยำมที่ลูกธนูยงิ มำที่ผงิ อันนำงไม่
แม้แต่จะคิดก็โถมตัวมำถึงหน้ำเขำ นี่คือบุตรชำยของนำง บุตรชำยที่
นำงให้กำเนิดและไม่ได้เลี้ยงแม้วนั เดียว!
ผิงอันยิง่ ทำอะไรไม่ถูก หญิงผูง้ ดงำมนี้กค็ ือมำรดำของเขำหรื อ ทว่ำ
ในใจของเขำเพรำะอะไรถึงเสี ยใจเพียงนี้
“อย่ำร้อง ผิงอัน เรี ยกข้ำสิ !” ในที่สุดฉินซู่เฟยก็ลูบถึงหน้ำผิงอันแล้ว
“เด็กดี ไม่ร้อง” นำงมองใบหน้ำของผิงอันอย่ำงละโมบ รำวกับดู
เท่ำไรก็ไม่พอ
ผิงอันถึงพบว่ำที่แท้ตนน้ ำตำไหลแล้ว เขำยืน่ มือไปเช็ด กลับเช็ด
อย่ำงไรก็ไม่สะอำด “สะ เสด็จแม่! ท่ำนอย่ำตำย ขอร้องท่ำนอย่ำ
ตำย!” เขำเพิ่งหำมำรดำเจอก็สูญเสี ยมำรดำไปแล้ว เขำไม่ตอ้ งกำรให้
เป็ นเช่นนี้ ผิงอันกอดฉินซู่เฟยไว้ ร้องไห้จนเสี ยงแหบแห้ง
ฉินซู่เฟยระบำยยิม้ อันปลำบปลื้มบนใบหน้ำ “ผิงอัน ผิงอัน ลูกแม่!”
เสี ยงของนำงรี บร้อน จำกนั้นจึงหยุดในทันใด มือที่ลูบหน้ำผิงอัน
ห้อยลงมำอย่ำงหมดแรง
“เสด็จแม่ เสด็จแม่ ท่ำนแม่!” ผิงอันตะโกนอย่ำงรวดร้ำว ทว่ำฉิ นซู่
เฟยในอ้อมกอดของเขำกลับหลับตำลงตลอดกำลแล้ว โฉมหน้ำกลับ
สงบสุ ขเหลือเกิน
“เจ้ำ เจ้ำฆ่ำแม่ขำ้ !” ผิงอันเงยหน้ำขึ้นโดยพลัน สำยตำแห่งควำมเคียด
แค้นยิงไปที่เสนำบดีฉิน
“เสด็จแม่ เสด็จแม่” องค์ชำยรองคลำนมำทำงนี้อย่ำงตื่นตระหนก
ทันทีที่เสนำบดีฉินให้สญ
ั ญำณ ก็มีคนขวำงเขำไว้
“ปล่อย เจ้ำปล่อยข้ำ ข้ำจะไปหำเสด็จแม่” องค์ชำยรองดิ้นรนสุ ดชีวิต
เสด็จแม่ของเขำตำยแล้ว ตำยแล้ว ไม่ นัน่ อำจไม่ใช่เสด็จแม่ของเขำ
เป็ นเพียง พี่สำวของเขำ!
คนชุดดำที่อยูด่ ีๆ ก็โผล่ออกมำยิงธนูออกมำพร้อมกันสำมดอกคน
นั้นเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วทีหนึ่ง แล้วเดินเข้ำไปสับมือครำหนึ่งองค์
ชำยรองหมดสติ “นำยท่ำน ข้ำน้อยมำช้ำแล้ว”
เสนำบดีฉินพูดว่ำ “ไม่ชำ้ กำลังดี” บุตรสำวตำยไปคนหนึ่ง บน
ใบหน้ำเขำไม่มีควำมโศกเศร้ำเลยแม้แต่นอ้ ย เสิ่ นเวยรู ้สึกไม่คุม้ แทน
ฉินซู่เฟย
“ข้ำงนอกจัดกำรเรี ยบร้อยหรื อยัง” เสนำบดีฉินถำม
“นำยท่ำนวำงใจได้ คนในวังล้วนเป็ นคนของเรำ” คนชุดดำหยุดที
หนึ่งแล้วพูดอีกว่ำ “กองทัพมำถึงนอกประตูเมืองทิศตะวันตกแล้ว
รอเพียงคำสัง่ จำกนำยท่ำนเท่ำนั้น” ขอเพียงเห็นสัญญำณที่นำยท่ำน
ปล่อย คนของพวกเขำก็จะเปิ ดประตูเมืองปล่อยกองทัพเข้ำเมือง
เสนำบดีฉินพยักหน้ำอย่ำงพอใจว่ำ “ฝ่ ำบำท ท่ำนรี บร่ ำงรำชโองกำร
ดีกว่ำ ควำมอดทนของกระหม่อมมีจำกัด ท่ำนไม่ตอ้ งคำดหวังว่ำจยำ
ฮุ่ยจวิน้ จู่จะช่วยท่ำนได้ ต่อให้นำงวรยุทธสู งเพียงใดก็มีเพียงคนเดียว
ท่ำนยิง่ ไม่ตอ้ งคิดถ่วงเวลำ บัดนี้ทวั่ ทั้งวังหลวงอยูใ่ นกำรควบคุมของ
กระหม่อมหมดแล้ว ท่ำนรอกองทัพหนุนไม่ได้หรอก บัดนี้ท่ำนติด
ปี กก็ยำกจะบินแล้ว”
“ใครคุยโวอย่ำงไม่รู้สึกละอำยถึงเพียงนี้” สวีเวยผูบ้ ญั ชำกำรทหำร
รักษำพระองค์ที่ลำกิจกลับบ้ำนเกิดเยีย่ มบิดำนำคนเดินกร่ ำงเข้ำมำ
“ฝ่ ำบำท กระหม่อมมำอำรักขำช้ำ ขอฝ่ ำบำทได้โปรดอภัยด้วยพ่ะย่ะ
ค่ะ”
“ผูบ้ ญั ชำกำรสวีรีบลุกขึ้น” เห็นสวีเวยปรำกฏตัวขึ้น ฮ่องเต้ยงเซวียน
ถึงวำงใจ “ข้ำงนอกสถำนกำรณ์เป็ นเช่นไร”
“ฝ่ ำบำทโปรดวำงพระทัย สังหำรโจรกบฏในวังหมดแล้ว” สวีเวยพูด
เสี ยงกังวำน
ทันทีที่เสนำบดีฉินเห็นสวีเวยก็รู้วำ่ แย่แล้ว รอได้ยนิ คำพูดของเขำ ก็
หน้ำถอดสี ทนั ที “แย่แล้ว รี บถอนกำลัง!” แล้วหันหลังวิง่ ออกนอก
ตำหนัก ขอเพียงออกจำกวังหลังได้กพ็ อ เขำยังมีกองกำลัง เขำยัง
กลับมำยิง่ ใหญ่อีกครั้งได้
“เร็ ว ขวำงพวกเขำไว้ ฆ่ำอย่ำให้เหลือ” ฮ่องเต้ยงเซวียนแผดเสี ยงออก
คำสัง่
สวีโย่วและเสิ่ นเวยคนหนึ่งซ้ำยคนหนึ่งขวำอำรักขำอยูข่ ำ้ งกำยฮ่องเต้
ยงเซวียน มองสวีเวยนำคนเข้ำห้ ำหัน่ กับคนของเสนำบดีฉิน คนชุด
ดำที่โผล่มำท้ำยสุ ดคนนั้นช่ำงร้ำยกำจจริ งๆ อำรักขำเสนำบดีฉินที่ไม่
รู ้วรยุทธด้วยควำมคล่องแคล่วว่องไว
เสิ่ นเวยเห็นแล้วไม่ได้กำร คิส้ กระตุกหนึ่งครำ คิดอุบำยได้ จึงแผด
เสี ยงตะโกนว่ำ “ฉินชัง เจ้ำยังเพ้อฝันถึงกองทัพหนึ่งแสนนัน่ ของเจ้ำ
สิ นะ ข้ำจะบอกให้ พวกเขำคิดห่วงตัวเองยังไม่ทนั กำร ต่อให้ติดปี กก็
ยำกจะบินคือเจ้ำถึงจะถูก!”
“เสิ่ นผิงยวน” ได้ยนิ เสนำบดีฉินตะคอกด้วยควำมโกรธเสี ยงหนึ่ง
“ถูกต้อง เป็ นท่ำนปู่ ของข้ำ มีท่ำนปู่ รักษำเมือง กองทัพหนึ่งแสนของ
เจ้ำนัน่ โชคร้ำยมำกกว่ำดีแล้ว! ไม่เชื่อ เจ้ำก็ลองฟังดูดีๆ สิ !” เสิ่ นเวยก
ล่ำว
“ไอ้แก่!” เสนำบดีฉินโกรธแค้นจนด่ำใหญ่ เขำก็วำ่ ผิดปกติ เจ้ำไข่เต่ำ
แก่นนั่ ไยถึงพิกลพิกำรได้นะ ที่แท้รอเขำอยูท่ ี่นี่นนั่ เอง
“เจ้ำสิ ไอ้แก่ ไข่เต่ำแก่ ไข่เน่ำแก่ แก่หน้ำไม่อำย” เสิ่ นเวยด่ำกลับจน
เสนำบดีฉินโกรธจนควันออกหู ฉวยโอกำสที่เขำเสี ยสมำธิ สวีเวย
ฟันลงที่ขำของเขำ เขำล้มลงพื้นทันที จำกนั้นอำวุธห้ำหกเล่มก็พำด
อยูบ่ นตัวเขำพร้อมกัน
คนชุดดำคิดจะกลับมำช่วยก็ไม่ทนั กำรแล้ว เขำเห็นสถำนกำรณ์แล้ว
ก็ไม่มีใจคิดจะสู ้อีก หันหลังหนีออกนอกวังไป
“ตำม!” สวีเวยออกคำสัง่ เสี ยงดัง
“ไม่ตอ้ งแล้ว เขำหนีไม่พน้ หรอก” เสิ่ นเวยรี บห้ำมไว้ มีองครักษ์เงำ
อยู่ เขำหนีได้กแ็ ปลกแล้ว
เสนำบดีฉินถูกมัดมือไขว้หลังคุมตัวไป อ้อ ที่ถูกคุมตัวไปยังมีองค์
ชำยรองที่หมดสติดว้ ย
“ฝ่ ำบำท ในวังต้องขอไหว้วำนผูบ้ ญั ชำกำรสวีแล้ว จยำฮุ่ยและ
คุณชำยใหญ่ควรไปช่วยท่ำนปู่ อีกแรงแล้วเพคะ” เสิ่ นเวยพูดเสี ยงเข้ม
“ไปเถอะ ระวังตัวด้วย” ฮ่องเต้ยงเซวียนพยักหน้ำ
“ไปเถอะ คุณชำยใหญ่ เรำควรไปสร้ำงผลงำนแล้ว” เสิ่ นเวยยิม้ ให้ส
วีโย่วอย่ำงซุกซน ทั้งสองคนจับมือกันทะยำนไปยังสนำมรบของ
พวกเขำ
นี่คือกำรรบที่ไม่ตอ้ งวิตกเลยแม้แต่นอ้ ย นี่คือกำรรบที่กองทหำรเด็ก
สร้ำงชื่อในชัว่ ค่ำคืน คือกำรรบที่สร้ำงภำพลักษณ์หำ้ วหำญให้จยำฮุ่ย
จวิน้ จู่
ภำยใต้กำรตีขนำบประสำนกันทั้งด้ำนนอกด้ำนในของค่ำยทหำรซี
ซำนและทหำรรักษำเมือง กำจัดทหำรกบฏสองหมื่นกว่ำคน จับเป็ น
เชลยแปดหมื่น ในประตูเมืองทิศตะวันตกโลหิ ตไหลนองเป็ นแม่น้ ำ
กลิ่นคำวโลหิตคละคลุง้ อยูห่ นึ่งเดือนกว่ำเต็มๆ
กำรก่อกบฏครั้งนี้ในประวัติศำสตร์ขนำนนำมว่ำ “กบฏเดือนห้ำ”
สุ ดท้ำยจบลงด้วยกำรพ่ำยแพ้ของเสนำบดีฉิน โจรกบฏฉิ นชังถูก
ตัดสิ นโทษหลิงฉือ** ประหำรเก้ำชัว่ โคตร ทุกคนของตระกูลฉิ นที่
หนีไปทำงทำงลับก็ถูกจับกลับมำทั้งหมด ตัดศีรษะไม่ตกหล่นสักคน
เดียว
องค์ชำยรอง อ้อไม่ใช่ องค์ชำยรองในอดีตต่ำงหำก หลังจำกช่วงไว้
อำลัยสี่ สิบเก้ำวันให้ฉินซู่เฟยจบลงเขำก็ฆ่ำตัวตำย ข่ำวส่ งไปถึง
ฮ่องเต้ยงเซวียน เขำนิ่งเงียบอยูเ่ นิ่นนำน แล้วสัง่ ให้คนฝังศพอย่ำง
สมเกียรติ
ยงเซวียนปี ที่สิบเจ็ด ฝ่ ำบำทแต่งตั้งองค์ชำยใหญ่สวีเช่อเป็ นรัช
ทำยำท พระชำยำองค์ชำยใหญ่เจียงซื่อเป็ นพระชำยำรัชทำยำท
ขณะเดียวกันก็แต่งตั้งองค์ชำยผิงอันที่สำบสู ญอยูข่ ำ้ งนอกคนนั้นเป็ น
อันอ๋ อง องค์ชำยสำมสวีเฉิงเป็ นอิงอ๋ อง ผิงจวิน้ อ๋ องสวีโย่วเนื่องจำกมี
ควำมดีควำมชอบแต่งตั้งเพิ่มเป็ นผิงอ๋ อง ส่ วนจยำฮุ่ยจวิน้ จู่เพิ่มหนึ่ง
พันศักดินำ
ยงเซวียนปี ที่ยสี่ ิ บสำม เนื่องจำกประชวรฝ่ ำบำทสละรำชบัลลังก์ รัช
ทำยำทสวีเช่อขึ้นครองรำชย์เป็ นฮ่องเต้ เริ่ มศักรำชใหม่ของรำชวงค์
ต้ำยง
*กวำงตำยในมือใคร ในโลกของจีนโบรำณ กำรแย่งชิงอำนำจของ
มนุษย์ถูกตีควำมไว้เหมือนกำรล่ำสัตว์ “กวำงตำยในมือใคร” จึงมี
ควำมหมำยว่ำ ใครจะชนะ
**หลิงฉือ คือ กำรใช้มีดเฉือนเนื้อของนักโทษออกทีละชิ้นทีละชิ้น
ให้นกั โทษเจ็บปวดทรมำนและตำยไปแบบช้ำๆ เรี ยกได้วำ่ เป็ น
วิธีกำรประหำรที่โหดเ**้้ยมไร้มนุษยธรรมที่สุดวิธีหนึ่ง
ตอนพิเศษ 1-1 สวีโย่ ว (ต้ น)
หลังจำกที่สวีโย่วรู ้จกั กับคุณหนูสี่แห่งจวนจงอู่โหวนำมว่ำแม่นำง
เสิ่ นเวยผูน้ ้ นั จึงรู ้สึกว่ำชีวิตค่อยสนุกขึ้นบ้ำง
นับตั้งแต่จำควำมได้ เขำก็อำศัยอยูใ่ นเรื อนหลังหนึ่งในจวนจิ้นอ๋ อง
ไม่มีเสด็จพ่อ ไม่มีเสด็จแม่ และไม่มีพนี่ อ้ งคนอื่นๆ เขำมีเพียงหญิง
รับใช้และแม่นม ยังมียำน้ ำขมๆ และควำมเจ็บปวด
ใช่แล้ว ควำมเจ็บปวด ควำมเจ็บปวดที่ติดตำมเหมือนเงำ เมื่อกำเริ บ
ขึ้นมำก็เจ็บปวดเหมือนจะตำย เมื่อนั้นยำยหรู จะกอดเขำเอำไว้ในอก
บอกกับเขำด้วยน้ ำตำนอง “คุณชำยใหญ่นิ่งไว้! อดทนเข้ำ อดทนอีก
นิดก็หำยแล้วเจ้ำค่ะ”
เมื่อเห็นยำยหรู เป็ นทุกข์ถึงเพียงนั้น เขำอยำกจะบอกนำงว่ำ “อย่ำ
กังวลไปเลย ข้ำจะอดทน” ทว่ำแม้แต่แรงที่จะเปิ ดปำกพูดก็ยงั ไม่มี
ดังนั้นเขำจึงอดทนต่อควำมเจ็บปวดได้เป็ นพิเศษตั้งแต่เด็ก ตอนที่เขำ
รู ้วำ่ สตรี งดงำมที่ต่อหน้ำเสด็จพ่อทำทีดูแลเอำใจใส่ เขำเป็ นอย่ำงดีแต่
เมื่อเสด็จพ่อไม่อยูก่ ลับจับตำมองเขำอย่ำงเย็นชำไม่ใช่เสด็จแม่ของ
เขำเอง เขำก็ยงิ่ อดทนเก่งมำกขึ้น
แม้ควำมเจ็บปวดจะมำกมำยเพียงใด แค่เขำกัดฟันมันก็จะผ่ำนพ้นไป
เหมือนกับกำรขึ้นภูเขำไม่มีผดิ
ตอนนั้นเขำอำยุหำ้ ขวบหรื อหกขวบหรื อไม่กเ็ จ็ดขวบเขำเองก็จำไม่
ค่อยได้แล้ว เป็ นเพรำะวันเวลำในตอนนี้เขำมีควำมสุ ขมำกเหลือเกิน
เขำจึงได้นึกย้อนไปถึงเรื่ องรำวในอดีตได้นอ้ ยมำก
จำได้เพียงครั้งนั้นเขำป่ วยจนเกือบตำย ทว่ำแม้บ่ำวไพร่ สกั คนใน
เรื อนก็ไม่อยู่ แม้แต่ยำยหรู ที่ดีต่อเขำมำกที่สุดก็ยงั ไม่อยู่ เขำทุกข์
ทรมำนอย่ำงถึงที่สุด รู ้สึกเหมือนร่ ำงกำยมีไฟแผดเผำ เขำกระหำยน้ ำ
อย่ำงยิม้ จึงพลิกกำยลงจำกเตียงอย่ำงสุ ดชีวิต เขำล้มลงบนพื้น ทันใด
นั้นก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่นอ้ ย สัมผัสเย็นๆ ทำให้เขำรู ้สึกสบำยมำก
ขึ้น สบำยจนอยำกจะนอนหลับไม่ตื่น
จำกนั้นเขำกลับตื่นขึ้นมำ เป็ นท่ำนพี่รัชทำยำทแห่งจวนจิ้นอ๋ องที่
บังเอิญช่วยเขำได้พอดี อ้อ ในตอนนั้นท่ำนพี่รัชทำยำทยังไม่ได้เป็ น
รัชทำยำทเลย เขำเป็ นคุณชำยใหญ่แห่งจวนฉิ นอ๋ องต่ำงหำก
ตอนที่เขำตื่นขึ้นมำนั้น เขำไม่ได้อยูใ่ นห้องที่คุน้ เคย แต่เขำนอนอยู่
ในห้องที่กว้ำงใหญ่มำก ชำยชรำที่อยูใ่ นชุดสี เหลืองสว่ำงมองเขำด้วย
ควำมเมตตำ และยังมีชำยชรำหนวดเครำยำวอีกสองสำมคนคุกเข่ำอยู่
ที่พ้นื
นัน่ เป็ นครั้งแรกที่เขำได้พบเสด็จปู่ ของเขำเอง ชำยชรำเครำยำวคน
นั้นเป็ นหมอหลวงที่ให้กำรรักษำเขำ
เสด็จปู่ มีหน้ำตำอย่ำงไร เขำเองก็จำไม่ได้แล้ว แต่เขำยังจำได้วำ่ เสด็จ
ปู่ พูดคุยกับเขำอย่ำงสนิทสนมและยังทำดีกบั เขำ ไม่เหมือนเสด็จพ่อ
ที่แสนเย็นชำเลยแม้แต่นอ้ ย ใจของเขำทั้งประหม่ำทั้งปี ติยนิ ดี
จำกนั้นเขำก็ถูกส่ งขึ้นมำบนภูเขำ บนเขำมีหมอเทวดำคนหนึ่งอำศัย
อยูซ่ ่ ึงสำมำรถรักษำโรคของเขำให้หำยได้ พูดอย่ำงจริ งจังว่ำเขำเป็ น
โรคเรื้ อนแต่กำเนิด หมอเทวดำมีนิสยั ไม่ดีเอำเสี ยเลย ตอนที่เขำเพิ่ง
จะขึ้นเขำมำได้ หมอเทดำมองเห็นว่ำสำยตำของเขำเต็มไปด้วยควำม
เฉยชำ ยังร้องเรี ยกเขำว่ำเจ้ำลูกหมำและยังใช้ให้เขำทำงำนอีกด้วย
“เจ้ำลูกหมำ ไปถอนหญ้ำที่สวนสมุนไพรหลังเรื อนซิ”
“เจ้ำลูกหมำ ฟื นของวันนี้ยงั ไม่ได้ผำ่ เลยนะ”
“เจ้ำลูกหมำ น้ ำในถังแห้งหมดแล้วไม่เห็นหรื อไร ช่ำงเป็ นคุณชำยที่
มีตำแต่หำแววไม่ยงิ่ นัก”
——
เขำอยำกจะกระโดดลงเขำเสี ยทุกครั้ง แต่เมื่อคิดถึงตอนที่ยำยหรู กอด
เขำเอำไว้แล้วสัง่ เสี ยว่ำ “คุณชำยใหญ่ เมื่อขึ้นเขำไปแล้วต้องเป็ นเชื่อ
ฟังและเป็ นเด็กดี คนที่อยูบ่ นภูเขำผูน้ ้ นั เป็ นรำวกับเทวดำ มีเพียงเขำ
เท่ำนั้นจึงจะสำมำรถรักษำท่ำนได้ ท่ำนนักปรำชญ์ตอ้ งลงแรงอย่ำง
มำกจึงจะวำงแผนเพื่อท่ำนได้นะเจ้ำคะ”
หำกเขำกลับไปเช่นนี้ ยำยหรู จะต้องน้ ำตำไหลพรำกแน่ เสด็จปู่ เองก็
คงจะทรงผิดหวัง เมื่อนึกถึงเสด็จปู่ ที่ลูบศีรษะเขำอย่ำงสนิทสนม เขำ
ก็กดั ฟันทนต่อไป
จำกนั้น หมอเทวดำก็กลำยเป็ นอำจำรย์ของเขำ
มันเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหนกัน อำจจะเป็ นตอนที่เขำเคยชินกับกำร
ต้องกัดฟันทน อำจจะเป็ นตอนที่เขำยอมปล่อยให้เขำแทงเข็มเงิน
มำกมำยถึงเพียงนั้นเข้ำมำในร่ ำงกำยโดยไม่ร้องสักแอะกระมัง! เขำ
ได้ยนิ หมอเทวดำบ่นพึมพำ “ช่ำงเป็ นเจ้ำลูกหมำที่ด้ือรั้นจริ งๆ”
บำงครั้งเขำก็เห็นแววตำสงสำรยำมที่หมอเทวดำมองมำที่เขำ เมื่อเขำ
ตั้งใจมองดีๆ หมอเทวดำก็ลูบเครำตัวเองแรงๆ พลำงถลึงตำจ้อง “อืด
อำดอยูท่ ำไม วันนี้ท่องหนังสื อแล้วหรื อ คัดตัวอักษรแล้วหรื อ ฝึ กยืน
บนเสำได้กี่ชวั่ ยำม ฝึ กวิชำต่อสู ้ได้กี่รอบแล้ว”
ใช่แล้ว หมอเทวดำนั้นนอกจำกจะรักษำโรคให้เขำแล้ว ยังสอน
หนังสื อและฝึ กวิชำยุทธ์ให้เขำอีกด้วย พลำงสอนพลำงเฉยชำ “ดูให้ดี
นะ ข้ำจะสอนเจ้ำเพียงครั้งเดียว ถ้ำทำไม่ได้ตอนเที่ยงไม่ตอ้ งกินข้ำว”
ปำกยังชอบบ่นอีกว่ำ “เสี ยเปรี ยบชัดๆ เพื่อเศษสมุนไพรไม่กี่ตน้ ต้อง
ลำบำกเลี้ยงทำรกด้วย”
หมอเทวดำยังคงพูดจำเหมือนมะนำวไม่มีน้ ำกับเขำเหมือนเดิม ยังใช้
เขำทำงำนหนัก และยังต่อว่ำที่เขำเรี ยนได้ชำ้ เพรำะโง่เง่ำ ทำให้เขำ
เสี ยหน้ำ ทว่ำสวีโย่วกลับรู ้สึกสนิทสนม ทั้งยังบ่มเพำะประสำท
สัมผัสตั้งแต่ยงั เยำว์ ใครกันแน่ที่ดีต่อเขำอย่ำงจริ งใจ เพียงครู่ เดียวเขำ
ก็แยกแยะได้
เหมือนกับหมอเทวดำ แม้เขำจะบ่นว่ำเขำนั้นเลี้ยงเสี ยข้ำวสุ ก แต่ไม่
ว่ำจะเป็ นกระต่ำยป่ ำหรื อไก่ป่ำที่ล่ำมำได้ในสำมวันห้ำวันก็แบ่งให้
เขำกินด้วย แม้วำ่ เขำจะพูดจำไม่น่ำฟัง แต่กย็ งั ยัดลูกวำดใส่ คอเขำทุก
ครั้งที่ดื่มยำจนหมด
ดังนั้นจึงเริ่ มที่จะเรี กเขำว่ำอำจำรย์ และหมอเทวดำก็เอำแต่อำ้ ปำก
ค้ำงและไม่ได้พดู ตอบโต้อะไร ทำเพียงถอนหำยใจยำวแล้วยอมรับ
และในช่วงเวลำนั้นเองที่เจียงเฮยและเจียงไป๋ ได้มำอยูข่ ำ้ งๆ เขำ พวก
เขำเป็ นเด็กกำพร้ำที่อำจำรย์เก็บได้ที่ล่ำงเขำ
เสด็จปู่ เสด็จมำหำเขำบนภูเขำในปี ที่สอง เมื่อมำถึงแล้วก็มีพระรำช
โองกำรเรี ยกให้เขำเข้ำไปพบ เขำมองไปที่เสด็จปู่ ผูแ้ ก่ชรำ ในใจก็
รู ้สึกเป็ นทุกข์ เสด็จปู่ ยังคงมองเขำอย่ำงเมตตำเช่นเคย แต่เขำกลับ
รู ้สึกว่ำเสด็จปู่ กำลังมองผ่ำนเขำไปที่ใครบำงคน ควำมรู ้สึกเช่นนั้น
ช่ำงแปลกประหลำดนัก
เสด็จปู่ มอบป้ำยอำญำสิ ทธิ์ให้เขำหนึ่งป้ำย เป็ นป้ำยที่สลักรู ปกิเลน
เอำไว้ ให้เขำเก็บเอำไว้ให้ดี อย่ำได้บอกใครเด็ดขำด บอกว่ำเป็ นของ
ที่เอำไว้ให้เขำตั้งตัว
ตอนนั้นเขำยังไม่เข้ำใจ ต่อมำภำยหลังจึงรู ้วำ่ เสด็จปู่ ทิ้งทหำรคุม้
มังกรเอำไว้ให้เขำ ทหำรคุม้ มังกรคือทหำรลับที่เก่งกำจที่สุดและ
ลึกลับที่สุดในพระหัตถ์ของเสด็จปู่ แต่เสด็จปู่ กลับมอบให้กบั เขำ
และเป็ นเพรำะเขำต้องพึ่งพำกำรคุม้ ครองจำกทหำรคุม้ มังกรเองทำ
ให้เขำมีโอกำสได้พบกับหญิงสำวคนสำคัญ
ทุกๆ ปี เขำใช้เวลำส่ วนใหญ่อยูบ่ นภูเขำ มีเพียงช่วงปี ใหม่ที่เขำต้อง
กลับเมืองหลวง กลับไปยังจวนจิ้นอ๋ อง
พูดไปแล้วก็น่ำขัน จวนจิ้นอ๋ องเป็ นบ้ำนของเขำแท้ๆ เขำเป็ นทำยำท
ชำยเอกของจวนจิ้นอ๋ องแท้ๆ เชียว แต่เขำกลับยอมที่จะอยูบ่ นเขำ
มำกกว่ำ ไม่อยำกจะกลับมำเลยแม้แต่นอ้ ย
เขำจะกลับมำทำไม สำยตำของเสด็จพ่อที่มองมำที่เขำช่ำงเย็นชำนัก
แม้วำ่ หญิงคนนั้นถำมใถ่สำรทุกข์สุขดิบด้วยควำมอบอุ่น แต่กเ็ ป็ น
เพียงกำรใส่ หน้ำกำกเท่ำนั้น ลับหลังก็ยงั คงจัดแจงกลั้นแกล้งไม่หยุด
อย่ำงเช่นกำรยัดคนเข้ำมำในเรื อนพักของเขำ โดยเฉพำะยัดเยียดสำว
ใช้หน้ำตำสวยๆ เข้ำมำ
พี่นอ้ งคนอื่นก็ไม่ได้สนิทสนมกับเขำ พวกเขำก็มีครอบครัว เขำเป็ น
เพียงคนนอกที่จะมีหรื อไม่มีกไ็ ด้ บ่ำวไพร่ ที่เคยอยูร่ ับใช้เขำสองสำม
คนนั้น นอกจำกยำยหรู แล้วก็ไม่รู้วำ่ ถูกส่ งไปที่ใด แม้แต่ยำยหรู ก็
ไม่ได้อยูใ่ นเรื อนพัก กลับไปอยูท่ ี่ศำลบรรพชนคอยดูแลรักษำป้ำย
วิญญำณของเสด็จแม่
เมื่อเขำเริ่ มมีอำยุมำกยิง่ ขึ้น เขำก็รู้ถึงประวัติควำมเป็ นมำของชีวิต
ตัวเอง รู ้วำ่ เสด็จแม่ตอ้ งเสี ยชีวิตเพรำะคลอดเขำออกมำ รู ้วำ่ เสด็จพ่อ
ของเขำนั้นไม่ยนิ ยอมที่จะแต่งงำนกับเสด็จแม่ของเขำ หญิงผูน้ ้ นั ผู ้
ซึ่งตอนนี้เป็ นจิ้นหวังเฟยต่ำงหำกถึงจะเป็ นคนที่เสด็จพ่อรักทั้งใจ
ดังนั้นเขำจึงไม่อยำกกลับมำยังจวนจิ้นอ๋ อง
ตอนที่เขำอำยุสิบห้ำปี อำกำรป่ วยของเขำหำยแล้ว โรคที่อยูใ่ นกำรก็
รักษำหำยแล้ว อำจำรย์กล่ำวไว้วำ่ หำกเขำไม่รนหำที่ตำย ก็สำมำรถมี
ชีวิตอยูไ่ ด้ถึงเจ็ดสิ บแปดสิ บปี ส่ วนเรื่ องทำยำทก็คงจะมีอุปสรรค
บ้ำงเล็กน้อย แต่เรื่ องนี้กไ็ ม่ใช่เรื่ องใหญ่ ท่ำนอำจำรย์ผชู ้ รำได้คิด
ค้นหำวิธีให้เขำอย่ำงยำกลำบำกแล้ว
เรื่ องนี้ สวีโย่วไม่ได้ใส่ ใจแม้แต่นอ้ ย หลำยปี มำนี้เขำได้บ่มเพำะนิสยั
เย็นชำไม่ยนิ ดียนิ ร้ำย หำกต้องใช้ชีวิตอย่ำงเป็ นทุกข์ขนำดนี้ จะมี
อะไรดีเล่ำ ตำยแล้วก็จะได้หลุดพ้น ไม่เห็นว่ำจะมีอะไรไม่ดีตรงไหน
ดังนั้นเขำจึงยอมรับเสด็จลุง จักรพรรดิยงเสวียนฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั
พระรำชทำนฐำนะและตำแหน่งแก่เขำ ต่อหน้ำเขำคือองค์ชำยใหญ่ข้ ี
โรคแห่งจวนจิ้นอ๋ องลับหลังเขำเป็ นหัวหน้ำทหำรเงำ อยูน่ อกสำยตำ
โดยสิ้ นเชิง เรื่ องต่ำงๆ ที่ยำกจะแก้ไขในรำชสำนักเขำล้วนแล้วแต่
รับมำจัดกำรทั้งสิ้ น
เป็ นเพรำะเขำกลัวและไม่เสี ยดำยชีวิต ใช่แล้ว เขำไม่เอำเรื่ องควำม
เป็ นควำมตำยของตัวเองมำใส่ ใจ ขอแค่เข่นฆ่ำศัตรู ได้ เขำก็ไม่สนใจ
ว่ำตัวเองจะบำดเจ็บ ดังนั้น แม้วำ่ จะเป็ นเรื่ องที่ยำกเพียงใดก็สำมำรถ
จัดกำรได้อย่ำงสมบูรณ์แบบ จึงค่อยๆ ได้รับควำมเชื่อถือและ
ไว้วำงใจจำกฝ่ ำบำท ในสำยตำของคนทั้งหลำยเขำเป็ นเพียงคุณชำย
ใหญ่ผไู ้ ร้อำนำจแห่งจวนจิ้นอ๋ องผูเ้ ป็ นพระภำติยะที่ฝ่ำบำทรักใคร่
เอ็นดูมำกที่สุด
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนพิเศษ 1-2 สวีโย่ ว (ต้ น)
ควำมรักใคร่ เอ็นดูเช่นนี้ขวำงหูขวำงตำผูห้ ญิงคนนั้น พูดตำมตรง
กำรปล่อยให้เขำมีอำยุถึงสิ บห้ำปี หญิงผูน้ ้ นั ก็ร้อนอกร้อนใจแทบแย่
นำงวำงยำใส่ ร้ำยเขำต่อหน้ำเสด็จพ่อ ทำให้เสด็จพ่อยิง่ รังเกียจหมำง
เมินเขำไปกันใหญ่ ที่จริ ง หญิงผูน้ ้ นั ทำไปเพียงเพื่อตำแหน่งซื่อจื่อ
เท่ำนั้น
เฮอะ เฮอะ ตำแหน่งซื่อจื่อนั้นไม่อยูใ่ นสำยตำของเขำเลย อีกอย่ำง
สำหรับเขำนั้นจวนจิ้นอ๋ องก็เป็ นเพียงสถำนที่แปลกหน้ำที่น่ำรังเกียจ
เท่ำนั้น เขำไม่เห็นอยำกได้
หลังจำกที่โดนผูห้ ญิงคนนั้นยัว่ ยุ เสด็จพ่อจึงดุด่ำเขำโดยไม่คิด เพื่อ
ควำมสงบ เขำยอมยกตำแหน่งซื่อจื่อให้กบั น้องชำยคนรองสวีเยีย่
บุตรชำยคนโตของผูห้ ญิงคนนั้นด้วยตัวเอง ที่จริ งแล้วน้องรองเองก็
มีอำยุนอ้ ยกว่ำเขำเพียงไม่กี่เดือน
ผูห้ ญิงคนนั้นต้องกำรที่จะแสดงตัวว่ำเป็ นผูม้ ีคุณธรรมสู งส่ ง จึงเริ่ มที่
จะเข้ำมำวุน่ วำยในเรื่ องกำรแต่งงำนของเขำ เตรี ยมงำนหมั้นหมำยใน
เขำทั้งหมดสำมครั้งด้วยกัน แสดงต่อหน้ำดูงดงำมไม่มีด่ำงพร้อย แต่
ควำมจริ งต้องกำรลดทอนอำนำจของเขำให้อ่อนลง
เป็ นเพรำะนำงไม่มนั่ ใจกลัวว่ำเขำจะให้กำเนิดทำยำท ดังนั้นว่ำที่
เจ้ำสำวของเขำทั้งสำมล้วนแล้วแต่เกิดปั ญหำ คนแรก ระหว่ำงทำง
ไปไหว้พระม้ำเกิดตกใจจนห้อตกหน้ำผำ คนที่สอง ทะเลำะกับ
น้องสำวที่เกิดจำกอนุภรรยำจนถูกจับโยนลงบ่อน้ ำเสี ยชีวิต คนที่
สำม ถูกจับได้วำ่ คบหำกับผูช้ ำยจึงแขวนคอตำยด้วยควำมอับอำย
ดังนั้นเขำจึงได้รับฉำยำฉำวโฉ่ไปทัว่ ว่ำเป็ นผูช้ ำยกินเมีย ผูค้ นพำกัน
หลีกเลี่ยงเขำเหมือนตัวโชคร้ำย
สวีโย่วไม่สนใจเรื่ องนี้เลยแม้แต่นอ้ ย กลับรู ้สึกพึงพอใจเป็ นอย่ำง
มำก เขำไม่ได้อยำกแต่งงำนเลย และไม่คิดจะมีทำยำทด้วย เพรำะเขำ
จะตำยเมื่อไรก็ไม่รู้ ไม่อยำกจะทำให้หญิงสำวบ้ำนไหนต้องเจ็บปวด
เขำชินกับกำรอยูค่ นเดียว และไม่ชอบที่จะมีคนมำกมำยมำล้อมหน้ำ
ล้อมหลัง
แต่ควำมคิดเช่นนี้ของเขำได้เปลี่ยนไปเมื่อพบสำวน้อยที่ชื่อเสิ่ นเวย
ตอนนั้นเขำอำยุยสี่ ิ บสองปี เขำยังคงเป็ นคุณชำยใหญ่ผอู ้ ่อนแอแห่ง
จวนจิ้นอ๋ อง ใช้เวลำส่ วนใหญ่ในหนึ่งปี รักษำตัวบนภูเขำ แต่ในควำม
จริ งแล้วเขำกำลังซ่อนตัวเพือ่ ทำภำระกิจแทนฝ่ ำบำทอยู่
ตอนนั้นเป็ นเดือนเจ็ด จวนของเสด็จป้ำองค์หญิงใหญ่ได้จดั งำนเลี้ยง
รับรอง เขำอยูท่ ี่เมืองหลวงพอดี อีกอย่ำง เขำมีธุระต้องไปหำน้องชิ
งอวี่พอดี จึงไปยังจวนองค์หญิงใหญ่เป็ นครั้งแรก
ที่จวนองค์หญิงใหญ่เป็ นครั้งแรกที่พบกับเสิ่ นเวย ตอนนั้นเสิ่ นเวย
กำลังต่อปำกต่อคำกับกลุ่มของสตรี สูงศักดิ์ในเมืองหลวง แต่เขำ
กำลังยืนอยูท่ ี่ช้ นั บนสุ ดของหอสู ง
ฝี ปำกของหญิงคนนั้นช่ำงเก่งกล้ำนัก คนๆ เดียวกลับต่อปำกต่อคำ
กับกลุ่มสตรี สูงศักดิ์โดยไม่เพลี้ยงพล้ ำ ทั้งยังใช้วิธีหลำดหลำย ทั้ง
เยำะเย้ยถำกถำงและขู่ให้หวำดกลัว สตรี สูงศักดิ์ในเมืองหลวงไหน
เลยจะหำวิธีมำสู ้นำงได้
เขำที่มองอยูด่ ำ้ นบนนั้นมองดูดว้ ยควำมสนุก แต่แม่นำงผูน้ ้ นั ช่ำงกล้ำ
พูดนัก ปกติแล้วคุณหนูตอ้ งสงบเสงี่ยมไม่ใช่หรื อ นำงเอำแต่เปิ ด
ปำกพูดเรื่ องแต่งเข้ำแต่งออก อนุภรรยำหรื อเมียน้อย แล้วยังชี้ให้เห็น
ว่ำเหล่ำสตรี สูงศักดิ์เหล่ำนี้ทำให้นำงลำบำกก็เป็ นเพรำะอิจฉำที่นำง
เป็ นว่ำที่ภรรยำของหย่งหนิงโหวซื่อจื่อ และยังบอกว่ำหำกนำงมี
ควำมสำมำรถจริ งก็ไปให้ถึงตัวของหย่งหนิงโหวให้ได้ซี ซ้ ำนำงยังมี
น้ ำใจอวยพรให้พวกนำงโชคดี
เฮอะ เฮอะ ช่ำงเป็ นหญิงสำวที่น่ำสนใจนัก ดังนั้นเขำจึงจำนำงเอำไว้
ในใจ อ้อ ใช่แล้ว ตอนนั้นเขำยังไม่รู้วำ่ ตัวนำงชื่อเสิ่ นเวย กลุ่มสตรี
สู งศักดิ์ในตอนนั้นเรี ยกนำงว่ำเสิ่ นซื่อ เจียงไป๋ บอกว่ำนำงเป็ นคุณหนู
สี่ แห่งจวนจงอู่โหว เพิ่งกลับมำเมืองหลวงหลังจำกไปรักษำอำกำร
ป่ วยที่บำ้ นนอก แต่ที่เขำเห็นนั้น นำงดูมีชีวิตชีวำเกินกว่ำที่จะเป็ นคน
ป่ วย แต่เบื้องหลังเรื่ องเหล่ำนี้เขำเองก็เข้ำใจ คงเป็ นเพรำะแม่แท้ๆ
ของเสิ่ นซื่อไม่อยูแ่ ล้ว ดังนั้นคงมีคนให้เหตุผลนี้รังแกนำงนัน่ เอง
ครั้งที่สองที่เจอกับเสิ่ นเวยคือที่ภตั ตำคำร นำงพำสำวใช้มำ
รับประทำนในห้องอำหำร บรรดำสำวใช้ต่ำงพูดคุยกันเสี ยให้เอ็ด แต่
นำงกลับไม่ดุวำ่ ทั้งยังเล่นสนุกด้วยควำมรื่ นเริ ง ยังพูดกับพวกนำง
ด้วยว่ำ “พวกเจ้ำซื้อหำอะไรได้เต็มที่ วำงใจเถิด คุณหนูของเจ้ำจะ
จ่ำยเงินให้ คุณหนูของพวกเจ้ำมีเงิน ไม่ตอ้ งเกรงใจข้ำ เดี๋ยวพวกเรำ
กินเสร็ จแล้วตอนบ่ำยก็ไปซื้อของต่อ ดูสิวำ่ ใครจะซื้อได้มำกที่สุด”
ตอนนั้นเขำอยูห่ อ้ งข้ำงๆ น้ ำเสี ยงใสเสนำะหูน้ นั เพียงไม่นำนเขำก็จำ
ได้ ไม่รู้วำ่ ทำไม เมื่อได้ยนิ ที่แม่นำงคนนั้นพูด มุมปำกของเขำก็
ยกขึ้นโดยไม่รู้ตวั ในสมองปรำกฏดวงตำแสนเฉลียวฉลำดผุดขึ้นมำ
หนึ่งคู่
ครั้งที่สำมที่พบกับเสิ่ นเวยนั้นอยูน่ อกเมือง พูดตำมตรง กำรพบหน้ำ
กันในครั้งนี้ช่ำงน่ำอึดอัดใจอยูบ่ ำ้ ง เป็ นเพรำะแม่นำงเสิ่ นเวยผูน้ ้ ีนดั
พบบุรุษ ตอนนั้นเขำไม่อำจก้ำวเดินได้ จำต้องยืน่ นิ่งอยูก่ บั ที่
ไม่ได้เจตนำจะเสี ยมำรยำทในกำรแอบฟัง แต่ไม่รู้ทำไม น้ ำเสี ยงใส
ของแม่นำงคนนั้นจึงดังเข้ำมำในหูอย่ำงชัดเจน ฟังเพียงไม่กี่คำเขำก็
ต้องขมวดคิ้ว นำงถูกถอนหมั้นหรื อ หรื อจะพูดให้ถูกก็คือกำร
แต่งงำนของนำงนั้นถูกน้องสำวที่เป็ นลูกภรรยำเอกแย่งไป ชำยหนุ่ม
ที่นดั นำงออกมำคือหย่งหนิงโหวซื่อจื่อ เป็ นว่ำที่สำมีที่เคยหมั้นกับ
นำงเอำไว้นนั่ เอง
แม้วำ่ เขำจะไม่ค่อยสนใจเรื่ องอะไรนักแต่เขำก็รู้วำ่ หญิงสำวที่ถูก
ถอนหมั้นนั้นเจ็บปวดมำก โดยเฉพำะหย่งหนิงโหวซื่อจื่อผูม้ ีชื่อทรง
คุณธรรม ทุกคนในเมืองหลวงต่ำงพำกันแย่งชิงคุณชำยแสนดีคนนี้
นำงจะต้องเป็ นทุกข์มำกและยิง่ ไม่ยนิ ยอมด้วย หรื อไม่อย่ำงนั้นก็
ต้องอยำกพบเขำอยูร่ ่ ำไปแม้วำ่ จะถอนหมั้นกันแล้วก็ตำม
วินำทีต่อมำ สวีโย่วรู ้วำ่ ตัวเองนั้นคิดผิดเสี ยแล้ว แม่นำงผูน้ ้ นั ไม่มีที
ท่ำว่ำจะเจ็บปวดทุกข์ใจแม้แต่นอ้ ย ทั้งยังดุกว่ำหย่งหนิงโหวซื่อจื่อ
เสี ยด้วยว่ำห้ำมส่ งจดหมำยมำหำนำงอีก อย่ำทำให้นำงต้องแปดเปื้ อน
ไปด้วย
หย่งหนิงโหวซื่อจื่อคนนั้นดูท่ำคงจะเลอะเลือนเสี ยแล้ว ถึงได้บอกว่ำ
จะแต่งกับน้องสำวของนำงให้เป็ นภรรยำเอกแล้วแต่งนำงเป็ นภรรยำ
รอง เหอๆ ช่ำงน่ำหัวเรำะนัก! ตอนนั้น ควำมประทับใจที่เขำมีต่อ
คุณชำยแสนดีของเมืองหลวงก็ลดฮวบลงไปถึงขีดสุ ด
ภรรยำรองหรื อ อย่ำงนั้นก็เท่ำกับดูหมิ่นนำงชัดๆ!
เป็ นดังคำด แม่นำงคนนั้นไม่ทำให้เขำผิดหวัง น้ ำเสี ยงของนำงเต็ม
ไปด้วยควำมรู ้สึกถำกถำงไม่พอใจ “เว่ยจิ่นอวี้ เจ้ำหน้ำ ใหญ่นกั หรื อ
แต่งงำนกับคุณหนูแห่งจวนจงอู่โหวคนเดียวไม่พอจะแต่งถึงสองเลย
หรื อไร เจ้ำคิดจะเลือกคุณหนูแห่งจวนจงอู่โหวเหมือนเลือกซื้อหัว
ผักกำดข้ำงถนนหรื ออย่ำงไร เจ้ำคิดว่ำเจ้ำเป็ นใคร แค่มีคนป้อยอเข้ำ
หน่อยเจ้ำก็ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงแล้วหรื อ กลับไปถำมหย่งหนิงโหวพ่อของ
เจ้ำซี รู ้ไหมคำว่ำถ่อมตนเขียนอย่ำงไร แม้แต่แม่ของเจ้ำเองก็ไม่ตอ้ ง
พูดถึงเลย นำงเป็ นหญิงโง่ไร้ควำมรู ้! สำหรับข้ำแล้ว เจ้ำเป็ นเพียงคน
ชัว่ ที่ตระบัดสัตย์ ว่ำอย่ำงไร ข้ำพูดถูกหรื อไม่ ยังคิดที่จะแต่งข้ำเป็ น
ภรรยำรอง ทำไมไม่ข้ ึนสวรรค์เสี ยเลยเล่ำ เจ้ำไม่ยนื เคียงบ่ำเคียงไหล่
กับดวงตะวันเลยเล่ำ ตัวข้ำเสิ่ นเวยยอมแต่งกับชำวนำยังดีกว่ำแต่งกับ
เจ้ำเป็ นพันเท่ำ เว่ยจิ่นอวี้ ข้ำจะบอกเจ้ำไว้อย่ำง เก็บควำมคิดสกปรก
ของเจ้ำไปเสี ย อย่ำยัว่ โมโหข้ำอีก ไม่อย่ำงนั้นข้ำจะทำให้เจ้ำเสี ยใจที่
เกิดมำบนโลกใบนี้ ไป ไสหัวไปไกลๆ ข้ำ ไม่เช่นนั้นข้ำจะตีเจ้ำทุก
ครั้งที่เห็นหน้ำเชียว!”
เมื่อพูดจบนำงก็กำ้ วยำวๆ เดินนำสำวใช้ออกไป ท่ำทีของนำงเหมือน
กำลังสลัดเอำของสกปรกออกจำกกำยไม่มีผดิ สวีโย่วมองแผ่นหลัง
ของนำง สำยตำเต็มไปด้วยควำมชื่นชม
สวีโย่วจึงได้รู้ในครั้งนี้วำ่ นำงชื่อเวย เสิ่ นเวย ดอกหญ้ำที่งดงำม เป็ น
ชื่อที่เหมำะกับนำงยิง่ นัก!
เจียงไป๋ ตกตะลึงกับท่ำทีเก่งกล้ำของนำง ถึงกับร้องชื่นชมว่ำ “แม่
นำงที่แกร่ งกล้ำถึงเพียงนี้จะแต่งออกหรื อ”
สวีโย่วกลับรู ้สึกชอบใจนัก ให้ควำมรู ้สึกสดใหม่ กล้ำหำญ สดใส
และยังชัดเจนอีกด้วย! หญิงสำวเช่นนี้ซีจึงจะเรี ยกว่ำใช้ชีวิตอย่ำง
แท้จริ ง ไม่ได้ทำให้ตวั เองต้องตกที่นงั่ ลำบำกเพรำะเรื่ องรักๆ ใคร่ ๆ
ทั้งยังกล้ำหำญ และไม่ยอมให้ใครมำเอำเปรี ยบ ไม่ยอมให้ตวั เองต้อง
ตกที่นงั่ ลำบำก
ใช่แล้ว เป็ นเพรำะเสด็จแม่ สวีโย่วจึงไม่มีควำมสนใจในหญิงสำวผู ้
อ่อนแอเลยแม้แต่นอ้ ย ไม่เห็นหรื อว่ำเสด็จพ่อมีรักอื่น เรื่ องยุง่ ยำก
เพียงไร เสด็จแม่เอำแต่อยูใ่ นเรื อนหลักนิ่งๆ จนผูห้ ญิงคนนั้นเข้ำมำ
ในจวนแล้วก็ปล่อยให้นำงจัดกำรทุกอย่ำงมิใช่หรื อ หำกเสด็จแม่ยงั
อยู่ ตัวเขำจะมีสภำพเช่นนี้หรื อ
เขำกระทัง่ คิดว่ำ หำกเสด็จแม่ของเขำเหมือนเสิ่ นเวยก็คงจะมีกว่ำนี้
มำก!
ควำมจริ งแล้ว หญิงสำวที่ท้งั งดงำมและพิเศษกว่ำคนอื่นได้ตกลงสู่
กลำงใจของเขำตั้งแต่ตอนนั้น เพียงแต่เขำยังไม่รู้สึกก็เท่ำนั้น หำกเขำ
รู ้วำ่ เขำพึงใจหญิงคนนี้ เขำคงจะดึงนำงเข้ำสู่ ออ้ มกอดเสี ยแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนพิเศษ 2-1 สวีโย่ ว (ปลาย)
หากไม่มีความช่วยเหลือในภายหลัง หญิงสาวที่น่าสนใจเช่นนี้คง
กลายเป็ นเพียงคนที่เดินผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาเท่านั้น ในความ
ทรงจาของสวีโย่ว นี่คือความโชคดีอย่างหาใดเปรี ยบมิได้ ถึงขนาด
ต้องขอบคุณการลอบสังหารในครั้งนั้น
วันนั้นท้องฟ้ามืดครึ้ ม ฝนใกล้จะตกแล้ว เขาถูกล้อมไปด้วยชายชุด
ดาที่นอกเมือง ตอนนั้นทั้งเจียงเฮยและเจียงไป๋ ล้วนไม่อยูท่ ้ งั คู่เขาเอง
ก็ถูกพิษ สถานการณ์ไม่สู้ดีเท่าไหร่
ในช่วงที่การสู ้รบติดพันมีรถม้าคันหนึ่งเคลื่อนเข้ามา ความเร็ วของ
รถไม่ลดลงเลย ดูท่าทางแล้วคงจะไม่อยากเข้ามายุง่
ชายชุดดาเหล่านี้คงจะอยากฆ่าปิ ดปาก ถือดาบพุง่ เข้าไปในรถม้าสอง
นาย รถม้าหยุดลง คนที่ลงมาจากรถนั้นเป็ นคนที่เขาคิดไม่ถึงเอา
เสี ยเลย เสิ่ นเวย เสิ่ นเวยหญิงที่พิเศษไม่เหมือนใครคนนั้น
สี หน้าของนางกรุ่ นโกรธ นาข้ารับใช้คนหนึ่งเข้าฟาดฟันคนชุดดา
สวีโย่วตกใจอย่างถึงที่สุด ที่แท้หญิงผูน้ ้ ีไม่เพียงน่าสนใจแต่ยงั มี
วิทยายุทธติดกาย ฝี มือของนางนั้นพอๆ กับทหารคุม้ มังกรที่อยู่
ภายใต้การบังคับบัญชาของเขา ที่จวนจงอู่โหวเลี้ยงหญิงสาวเช่นนี้
ไว้ดว้ ยหรื อ อีกทั้งยังมีสาวใช้ที่อายุเพียงสิ บกว่าปี เท่านั้นที่กาลังเริ ง
ระบาด้วยพลองเหล็กอีก ช่างองอาจเสี ยเหลือเกิน!
ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบจะไม่ตอ้ งทาอะไร คนชุดดาที่เมื่อครู่ ยงั
แสดงท่าทีกา้ วราวชัว่ วินาทีกถ็ ูกนายบ่าวสองคนจัดการไปมากกว่า
ครึ่ ง เหลือเพียงสองสามคนที่กาลังหมุนกายเตรี ยมหนี
สวีโย่วพิงต้นไม่ ได้ยนิ เสี ยงหญิงสาวคนนั้นส่ งเสี ยงเยาะเย้ย ตัดผ้า
จากเสื้ อสี ดาที่อยูบ่ นพื้นมาชิ้นใหญ่แล้วเช็ดใบดาบจนสะอาด เหน็บ
เอาไว้ที่เอวอีกครั้ง จากนั้นก็ร้องเรี ยกสาวใช้แล้ววิง่ ไปที่รถม้า
ระหว่างที่ยงั ไม่ได้สติสมั ปชัญญะ สวีโย่วร้องเรี ยกนาง
หญิงสาวผูน้ ้ นั มีสีหน้าประหลาดใจอย่างเห็นได้ชดั “เจ้าเป็ นใคร รู ้จกั
ข้าด้วยหรื อ”
เขามองไปที่ดวงตาสวยงามจนน่าตื่นตะลึงของนาง ไม่รู้วา่ ทาไม เขา
ไม่เคยชอบใจเวลาคนอื่นหลงใหลรู ปลักษณ์หน้าตาของเขา ทว่าใน
ใจตอนนี้กลับลอบดีใจ “สวีโย่ว ชื่อของข้า” ประโยคนี้หลุดออกจาก
ปาก
ใบหน้าของหญิงสาวดูมึนงง เห็นได้ชดั เจนว่าไม่รู้วา่ สวีโย่วคือใคร
ต้องรอให้เขาบอกอีกครั้งว่าเขาคือคุณชายใหญ่แห่งจวนจิ้นอ๋ อง สี
หน้าของนางจึงแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจ “อ้อ ญาติผพู ้ ี่ของจวิน้ จู่
น้อย”
ตอนนั้นนางเขินอายจริ งๆ ไม่คิดเลยว่าจะมีวนั ที่อาศัยบารมีญาติผู ้
น้องเช่นนี้!
ครั้นเขาเอ่ยเรื่ องทดแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตขึ้นมานั้น เขามองเห็น
ดวงตาของหญิงสาวอย่างชัดเจน จากนั้นกลับโบกมือตัดบท “ช่าง
เถิด สาวน้อยอย่างข้าช่วยคนไม่หวังผลตอบแทนหรอก”
เนิ่นนานหลังจากนั้นเขาจึงได้รู้วา่ ตอนนั้นเวยเวยของเขาคิดจะเรี ยก
เงินเขา เฮอๆ คิดไม่ถึงใช่ม้ยั ล่ะ เวยเวยของเขาเหมือนว่านเรี ยกเงิน
ไม่มีผดิ เรื่ องที่นางทาได้ไม่เบื่อคือการหาเงิน ที่ชอบที่สุดก็คือการ
ขุดเอาทรัพย์สมบัติของเขาด้วยมือของตัวเอง
ใช่แล้ว เวยเวยยังบอกอีกว่า สิ่ งที่นางชอบที่สุดคือเงินของเขา
รองลงมาคือหน้าของเขา เป็ นเพราะเขาหน้าตาดี ตอนนั้นเวยเวยเลย
ไม่ตอ้ งการเงินจากเขาอย่างไรล่ะ
เมื่อพูดถึงรู ปร่ างหน้าตาของเขาแล้ว แต่เดิมเขารังเกียจมันอย่างมาก
บุรุษมีหน้าตาดีแล้วดีอย่างไร เขายิง่ รังเกียจสายตาโสมมของคนที่
มองเขาแต่ภายนอก
หลังจากที่รู้จกั นางแล้ว เขาก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่หน้าตาดี
เป็ นเพราะเวยเวยของเขามักจะลูบไล้ใบหน้าของเขาอย่างหลงใหล
“คุณชายใหญ่ ทาไมถึงหน้าตาดีขนาดนี้ ข้าชอบใบหน้าของท่าน
ที่สุดเลย”
“ขอเพียงท่านมีหน้าตาแบบนี้ ให้ขา้ แต่งงานกับท่านก็ไม่ใช่เรื่ อง
เสี ยหายอะไร”
ใช่แล้ว ที่เขาสามารถแต่งงานกับนางได้ เหตุผลหลักๆ ก็ตอ้ งยก
ผลประโยชน์ให้เขาที่เกิดมาหน้าตาดี เวยเวยของเขาไม่เพียงชอบเงิน
แต่ยงั รักความสวยงามอีกด้วย
เมื่อมีบุญคุณที่ช่วยชีวิต และรู ้วา่ หญิงสาวอยูท่ ี่จวนของตัวเองอย่าง
ไม่ค่อยมีความสุ ขนัก เขาก็ออกคาสัง่ กับบ่าวไพร่ ให้ใส่ ใจให้มากขึ้น
คิดว่าคงจะมีโอกาสได้ช่วยเหลือไม่มากก็นอ้ ย และยังเป็ นการตอบ
แทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตอีกด้วย
จากนั้นก็ได้พบกับเสิ่ นเวยที่ร้านขายหยังสื ออีกครั้ง หญิงสาวคนนี้
กาลังค้นหาหนังสื อไปพลางบ่นกับสาวใช้ไปพลาง ตอนนั้นเขายืน
อยูท่ ี่ช้ นั สอง พอดีวา่ ได้ยนิ ในสิ่ งที่นางพูดพอดี คาพูดของนางนั้น
น่าสนใจนัก
“ดูเล่นนี้ซี คุณหนูตระกูลขุนนางคนหนึ่งแต่ได้พบกับบัณฑิตจนๆ ที่
วัดก็ร่ าร้องจะแต่งงานกับเขา ไม่สนใจพ่อแม่ที่เลี้ยงดูตวั เองมาสิ บ
กว่าปี เลย ทิ้งเงินแล้วหนีไปอยูก่ บั บัณฑิตคนนั้น สมองมีปัญหาแน่!
ท่านพ่อท่านแม่ของนางเลี้ยงมาด้วยเงินทองและสมบัติพสั ถาน แต่
กลับอุทิศตัวเองให้กบั บัณฑิตจนๆ ที่เพิ่งพบหน้า ผูห้ ญิงอย่างนี้ใคร
จะเลี้ยงดูเล่า”
“แล้วตอนหลังบัณฑิตยากจนยังเอาเครื่ องประดับนางไปขายเพื่อ
สอบจนได้ตาแหน่งมีชื่อเสี ยง ถูกลาภยศลวงตาจนมืดบอด แต่
คุณหนูคนนั้นกลับไม่ดุด่ากล่าวโทษ ไม่ถือที่หญิงอื่นจะมานอนกับ
สามีตวั เอง นางไม่กลัวต้องแปดเปื้ อนหรื อยังไง แล้วยังถือเอาศัตรู
เป็ นเหมือนพี่สาวน้องสาวเสี ยอีก มันใช่เรื่ องไหม หา สมองของ
คุณหนูนี่มนั มีแต่หญ้าหรื ออย่างไร ยอมให้คนอื่นมานอนข้างเตียง
ั ฑิตยากจนเหลืออยูค่ นเดียว
ตัวเองได้อย่างไร! หากในโลกนี้มีบณ
นางมิสู้ผกู คอตายใต้ตน้ ไม้ไม่ดีกว่าหรื อ นางควรจะเหยียบชายผูน้ ้ นั
เสี ยให้จมดิน เผาบ้านของเขาให้มอดไหม้ ยึดทรัพย์สินเขามาให้
หมดแล้วหาความรักครั้งใหม่เสี ยยังดีกว่า”
“แล้วดูนี่ ยังมีหนังสื อเล่มนี้ คุณหนูตระกูลร่ ารวยพบกับบัณฑิต สาว
ใช้ขา้ งกายคอยเจ้าจี้เจ้าการ ใช้จดหมายเป็ นสื่ อ ยัว่ ยุให้คุณหนูของ
ตัวเองอ่อนไหว เอาล่ะ บ้านไหนจะกล้าจ้างสาวใช้ไม่รู้กาลเทศะ
เช่นนี้ นายหน้าคนใดขายออกมา จะไม่ถูกคนขุดรากถอนโคนหรื อ
ไร อีกอย่าง ทุกครั้งที่นดั พบนั้นจะต้องเป็ นที่วดั แปดในสิ บต้องเป็ น
เช่นนี้ วัดคนอื่นต้องมาแปดเปื้ อน เป็ นสถานที่บริ สุทธิ์ศกั ดิ์สิทธิ์ถึง
เพียงนี้แต่กลับกลายเป็ นเตียงอุ่นของชายหญิงที่มวั เมาในราคะตั้งแต่
เมื่อไร พวกบัณฑิตที่รู้หนังสื อหนังหานั้นไม่เห็นมีคนดีสกั คน ตัวเอง
ไม่อยากเผชิญหน้ามักหาทางเลี่ยงอยูเ่ สมอ ใช้ผหู ้ ญิงเป็ นบันไดใน
การปี นป่ ายขึ้นไป แม้จะใช้ผหู ้ ญิงในการยกสถานะขึ้นมาก็ควรจะทา
ตัวดีๆ แต่ดูเขาซี เมื่อประสบความสาเร็ จแล้วกลับทาเป็ นไม่รู้จกั เป็ น
จิ้งจอกตาขาวชัดๆ ”
โอ้โห ความคิดของนางช่างแปลกใหม่ ช่างกล้าหาญนัก! สวีโย่วไม่รู้
เลยว่าดวงตาของตนเต็มไปด้วยรอยยิม้
นางสัง่ สอนสาวใช้ของตัวเองเช่นนี้ “เหอฮวา เจ้าจาไว้นะ ต่อไปเมื่อ
แต่งงานออกไปแล้วอย่าใช้ชีวิตเหมือนยายแก่ๆ ล่ะ หากเจ้ากล้าทา
ตัวน่าสมเพชเหมือนคุณหนูตระกูลขุนนางเหล่านี้ ข้าจะตีเจ้าให้ตาย
ปล่อยเจ้าไว้กข็ ายหน้าเปล่าๆ”
เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ชัว่ ขณะก็ทาให้หญิงสาวที่เลือกซื้อ
หนังสื ออยูต่ กใจ ยามนางเห็นว่าเป็ นเขาก็คล้ายอึดอาใจ ดวงตาเบิก
กว้างเหมือนหนูตวั น้อยที่น่ารัก ปฏิเสธคาเชิญของเขาแล้วรี บวิ่งหนี
มองแผ่นหลังของนาง เขาก็หวั เราะอย่างรื่ นเริ ง
เป็ นหญิงสาวที่น่าสนใจจริ งๆ!
ใช่แล้ว ในสายตาของเขานั้น เสิ่ นเวยเป็ นสาวน้อยที่น่าสนใจเสมอมา
อายุเพียงสิ บห้า อายุนอ้ ยกว่าเขาถึงเจ็ดปี เต็มๆ
ตอนที่เขาเพิ่งกลับมาจากการทาภารกิจ เจียงไป๋ รายงานว่าคุณชาย
น้อยแห่งจวนเสนาบดีฉินต้องการที่จะบังคับนางให้หมั้นหมาย เรื่ อง
นี้โด่งดังไปทัว่ เมืองหลวง
ชัว่ วินาทีน้ นั คิ้วของเขาก็ขมวดมุ่น เขารู ้จกั ลูกชายคนเล็กของท่าน
เสนาบดีฉิน เป็ นลูกคนรวยที่ไม่เอาไหน ไหนเลยจะคู่ควรกับนาง
ดังนั้นเขาจึงไปที่จวนองค์หญิงใหญ่ เพื่อขอร้องให้เสด็จอาช่วยเหลือ
นางเรื่ องงานหมั้นอีกทาง เพราะอย่างไรนางก็เป็ นผูม้ ีพระคุณที่
ช่วยชีวิต แต่เหตุใดนับตั้งแต่ตอนที่ออกมาจากจวนองค์หญิงใหญ่ใจ
ของเขาจึงไม่สงบเอาเสี ยเลย
สวีโย่วต้องการที่จะช่วยเหลือนาง แต่ยงั ไม่ทนั ได้ทาอะไรสาวน้อย
คนนั้นก็จดั การแก้ปัญหาได้เสี ยแล้ว ได้ยนิ บ่าวไพร่ รายงาน สวีโย่วก็
ต้องตื่นตะลึง
หญิงสาวผูน้ ้ นั ไฉนนจึงกล้าหาญชาญชัยถึงเพียงนั้น ถึงขนาดกล้าเข้า
ไปคุกคามเสนาบดีฉินที่จวนเสนาบดีในยามดึกสงัด! ช่างเป็ นแมว
น้อยที่มีเขี้ยวเล็บแหลมคมเสี ยเหลือเกิน!
สวีโย่วรู ้ความรู ้สึกของตัวเองอย่างกระจ่างก็เมื่อครั้งที่โดนลอบ
สังหารครั้งนั้น ตอนที่เขาทราบว่ามีบุคคลไม่หวังดีได้บุกเข้าไปถึง
หมู่บา้ นของนางนั้นก็สายเกินไปเสี ยแล้ว นางเลือดไหลทัว่ ร่ าง
ใบหน้าขาวซีดอยูท่ ี่อกของเขา ในวินาทีน้ นั เขาเจ็บปวดที่หวั ใจ และ
รู ้สึกว่าเขาไม่ไว้ใจให้ใครมาดูแลหญิงสาวคนนี้ ต้องเห็นนางอยูใ่ น
สายตาของเขาเองเท่านั้นจึงจะวางใจได้
ความคิดนี้ราวกับเป็ นต้นอ่อนที่ถูกบ่มเพาะ ค่อยๆ เติบโตกลายเป็ น
ต้นไม้ตน้ ใหญ่เสี ยดฟ้า ดังนั้นเขาจึงเข้าไปไปทูลขอสมรส
พระราชทาน แม้วา่ หญิงสาวผูน้ ้ นั จะไม่ยนิ ดีเป็ นอย่างยิง่ แต่เขาก็
อยากที่จะแต่งงานกับนาง
เมื่อก่อนเขาไม่เคยอยากมีครอบครัว ทว่าตอนนี้พอเขาคิดว่าตัวเขาจะ
ได้เป็ นสามีของนาง ก็อดไม่ได้ที่จะยินดีปรี ดา
เมื่อก่อนเขาไม่เคยสนใจชีวิตของตัวเอง นับแต่ทูลขอสมรส
พระราชทาน เขากลับระมัดระวังตัวทุกครั้งที่ออกไปปฏิบตั ิภารกิจ
เขาคอยบอกตัวเอง ‘ต้องมีชีวิตรอดกลับไป รอดกลับไปแต่งงานกับ
นาง’
วันคืนที่ซีเจียง ทาให้เขายิง่ เข้าใจเสิ่ นเวยได้ลึกซึ้งยิง่ ขึ้น ใครจะคิดเล่า
ว่าคุณชายสี่ ตระกูลเสิ่ นที่งดงามชวนตะลึงเป็ นหญิง เสิ่ นเวยผูน้ ้ นั ทั้ง
เจ้าเล่ห์ ฉลาด เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว และยังกล้าหาญมาก เสิ่ นเวยที่
เป็ นเช่นนี้ยงิ่ ทาให้เขาเลื่อมใส อดใจไม่ไหวที่จะเข้าไปใกล้ เข้าไป
ใกล้อีกสักหน่อย
เวยเวยของเขาช่างจิตใจดีนกั ปากบอกจะทิ้งเขา จะทิ้งขว้างจวนจิ้
นอ๋ องที่เลวร้ายป่ าเถื่อน แต่กลับไม่อาจทนมองคนอื่นปฏิบตั ิตวั แย่ๆ
กับเขาได้ ไม่วา่ จะมาจากเสด็จพ่อ หรื อมาเจตนาร้ายของจิ้นหวังเฟย
นางล้วนแล้วแต่ขวางอยูข่ า้ งหน้าเขา หากเป็ นฝ่ าบาทเอง นางก็คงไม่
มีความกลัวเกรงใดๆ
นางชอบที่จะบอกเขาว่า “ใครใช้ให้ขา้ ชอบหน้าของท่านกันเล่า”
นางยังพูดอีกว่า “คุณชายใหญ่ ใครบอกให้ท่านไม่สบายใจกัน ไปไป
ไป ข้าจะไปฆ่ามันให้ตาย”
นางยังขมขู่เขาอีกด้วย “รับภรรยาน้อย ท่านอยากให้ขา้ ตีท่านให้ขา
หักหรื ออย่างไร”
เสิ่ นเวยที่เป็ นเช่นนี้เขาจะไม่รักได้อย่างไร ไม่รักได้อย่างไรกัน ใครก็
บอกว่าเขากลัวภรรยาเสี ยแรงเป็ นสามี แต่ใครจะรู ้เล่าว่าเขายอมให้
มันเป็ นเช่นนี้เอง
ใครๆ ก็บอกว่าจยาฮุ่ยจวิน้ จู่น้ นั โชคดี มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้วา่ เป็ นตัว
เขาเองที่โชคดีที่สุดแล้ว เขาตัวคนเดียวมาตั้งแต่เล็ก มีเพียงเวยเวยที่
เป็ นของเขา เวยเวยเป็ นความอบอุ่นของเขา เป็ นแสงตะวันดวงเดียว
ในชีวิตของเขา เป็ นส่ วนเติมเต็มในชีวิตที่สวรรค์ประทานให้ เป็ น
เหมือนพระผูไ้ ถ่ของเขา เป็ นความกล้าหาญที่ทาให้เขามีชีวิตอยู่
มองไปทางเสิ่ นเวยที่นงั่ อยูบ่ นเก้าอี้ไม้ไผ่ใต้ตน้ ไม่ สายตาของสวีโย่ว
ดูอ่อนโยน เขารู ้สึกว่าความโชคดีที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาก็คือ
การได้มีเวยเวยเป็ ยภรรยา
ห่างออกไปไม่ไกล บุตรธิดาหนึ่งคู่ของพวกเขากาลังนัง่ อยูบ่ นพื้น
กระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง
ใช่แล้ว สวีโย่วและเสิ่ นเวยมีลูกสาวหนึ่งลูกชายหนึ่ง ตอนนี้กย็ งั มีอีก
คนอยูใ่ นท้อง
ลูกสาวของพวกเขาอายุเจ็ดขวบ หน้าตาน่ารักขาวนวลเหมือนหิมะ
ซุกซนเหมือนแม่ของนาง ลูกชายอายุหา้ ขวบ กลับมีนิสยั เหมือนเขา
มีสีหน้าเงียบขรึ มตั้งแต่อายุยงั น้อย
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนพิเศษ 2-2 สวีโย่ ว (ปลาย)
“ท่านอ๋ อง จิ้นอ๋ องมาอีกแล้วเจ้าคะ” หลีฮวาเข้ามารายงาน นางแต่ง
กายอย่างหญิงแต่งงานแล้ว เมื่อสี่ ปีก่อนนางแต่งงานกับเจียงเฮย ส่ วน
เจียงไป๋ แต่งงานกับเถาจือ แต่พวกนางยังไม่ยา้ ยออกไป ยังคงอยูค่ อย
รับใช้ขา้ งกายเสิ่ นเวย
สวีโย่วได้ยนิ ดังนั้นก็ตีหน้าเคร่ ง “ใครกล้าปล่อยให้เขาเข้ามา”
น้ าเสี ยงแสดงออกอย่างเห็นได้ชดั ว่าไม่อยากเห็นหน้า นับตั้งแต่ตอน
ที่เสด็จแม่ของเขาเสี ยชีวิต เขาก็ไม่อยากจะพบหน้าพ่อคนนั้น แม้ฝ่า
บาทจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ เฮอะ แค่คาว่าเสี ยใจแค่
คาเดียวจะสามารถกาจัดความเจ็บปวดทั้งหมดออกไปได้หรื อ
อย่างไร ขอโทษเถอะ ตอนนี้เขาเลยวัยที่จะต้องการพ่อแล้ว
“มาแล้วก็นาไปที่เรื อนนอก ยกชามาให้ดื่มด้วย” สวีโย่วเอ่ยอย่าง
ราคาญใจที่สุด
หลีฮวากลับแสดงสี หน้าลาบากใจ “ท่านอ๋ อง จิ้นอ๋ องต้องการพบนาย
หญิงน้อยเจ้าค่ะ”
“อย่าหวังเลย” สวีโย่วกล่าวอย่างเย็นชา อยากพบหน้าลูกสาวของเขา
มีสิทธิ์อะไร ที่ให้เขาเข้ามาดื่มชาถึงในจวนก็ถือว่าไว้หน้าพอแล้ว ยัง
อยากที่จะพบลูกสาวเขาอีกหรื อ เฮอะ พูดจาน่าขันอะไรเช่นนี้
เสิ่ นเวยเห็นสวีโย่วไม่ชอบใจ รี บกุมมือเขาเพื่อปลอบใจ “เอาเถิด
ท่านบอกว่าให้แล้วกันไปมิใช่หรื อ จะโกรธอยูอ่ ีกทาไม” ในเวลา
เดียวกันก็ส่งสายตาให้หลีฮวา เพื่อให้นางถอยออกไป
เยว่เป่ าและนัว่ เป่ าที่กาลังนัง่ เล่นอยูก่ บั พื้นส่ งสายตาหากัน
“เจ้าไม่ใช่คิดจะทรยศใช่ไหม อย่าได้คิดว่าตาเฒ่านัน่ น่าสงสาร หรื อ
เพราะเป็ นท่านปู่ เชียว ข้าจะบอกให้ เมื่อก่อนเขาไม่ได้ทาดีต่อท่าน
พ่อของพวกเรา หากเจ้าลอบไปพบเขา ท่านพ่อจะต้องตีเจ้าจนก้น
ลายแน่” พี่สาวเย่วเป่ าจ้องน้องชาย
น้องชายนัว่ เป่ าขมวดคิ้ว ทว่ากลับกังวลใจที่พี่สาวพูดจาหยาบคาย
เป็ นสาวเป็ นนาง เหตุใดถึงพูดคาว่าก้นได้ พี่สาวของเขาจะแต่งงาน
ออกอีกหรื อ
“เงิน!” นัว่ เป่ ามองเหยียดพี่สาว “ท่านแม่สอนไว้ ‘เสี ยอะไรอย่าได้
เสี ยเงิน’” ครั้งที่แล้วชายชราคนนั้นมอบป้ายหยกให้หนึ่งชิ้นที่นอก
จวน มีค่าน่าจะหลายพันตาลึง
เย่วเป่ าตีนอ้ งชายไปหนึ่งที “เจ้าเด็กบ้องตื้น ยังเป็ นผูช้ ายอยูไ่ หม หุบ
ปากไปเลยนะเจ้า อยากให้ท่านพ่อได้ยนิ หรื ออย่างไร ห่ะ!” นางพูด
ไปพลางเหลือบตามองไปทางพ่อของนาง
“ท่านพ่อเชื่อฟังท่านแม่” นัว่ เป่ าไม่สนใจคาขู่ของพี่สาวแม้แต่นอ้ ย
ท่านแม่บอกว่าจะต้องเรี ยนรู ้ทุกอย่างในชีวิต ยุงตัวเล็กแต่กม็ ีเนื้อ
รวมหลายตัวก็ได้หลายตัว หากเป็ นพี่สาวที่ใช้เงินไม่รู้หน้ารู ้หลัง คง
จะใช้เงินของตระกูลเสี ยจนหมดแน่
ใช้หมดก็คือใช้หมดไป แต่ท่านพ่อของเขาบอกว่าเขาเป็ นบุตรชาย
เอกของจวนอ๋ อง พีส่ าวของเขารวมไปถึงพี่นอ้ งที่ตามมาทีหลังนั้น
เขาต้องรับผิดชอบ
ถ้าอย่างนั้นจะใช้ชีวิตอยูอ่ ย่างไร ในเมื่อพี่สาวของเขาเป็ นเช่นนี้ เงิน
ที่ได้แต่ละเดือนนั้นพี่สาวเขาใช้หมดภายในสามวันเท่านั้น พี่สาว
ของเขาสามารถล้มตระกูลได้เช่นนี้ เขาจะไม่คิดวิธีเก็บเงินเอาไว้ได้
หรื อ
หรี่ ตามองไปทางท้องที่นูนป่ องของท่านแม่ นัว่ เป่ าก็รู้สึกกลัดกลุม้
เพียงพี่สาวของเขาคนเดียวเขาก็หนักใจแล้ว หากท่านแม่คลอด
ออกมาเพิม่ อีกจะทาอย่างไร เขาไม่เหนื่อยตายหรื อ แต่อย่างไรเสี ยก็
ไม่อาจห้ามไม่ให้ท่านแม่คลอดลูก เพราะเขาเคยบอกกับท่านพ่อเขา
เช่นนี้ ท่านพ่อของเขากลับขังเขาให้คดั ตัวอักษรในห้องตั้งครึ่ งเดือน
คัดจนมือน้อยๆ ของเขาเกือบจะเสี ย สุ ดท้ายเพราะท่านแม่ขอร้องเขา
จึงได้ออกมาจากห้อง
นัว่ เป่ าแสดงสี หน้าเย็นชาเหมือนพ่อของเขาไม่มีผดิ น่าสนุกนักหรื อ
อย่างไร!
ไม่ได้ เงินที่อุตส่ าห์มาถึงหน้าประตูน้ นั จะละเลยไม่ได้ ไม่อาจพลาด
จากโอกาสนี้ได้เลย ตาเฒ่าคนนั้นเหมือนจะชอบเขามาก ไปรับเงิน
แล้วกลับมาได้หรื อไม่
ดวงตาเล็กของนัว่ เป่ าฉายแววตั้งใจ พูดเสี้ ยมพี่สาวของเขาว่า “ได้ยนิ
มาว่าขนมโก๋ ใสใส่ ดอกไม้ที่ถนนตงต้าเจียออกสิ นค้าใหม่แล้ว”
ทาไมต้องยุยงพี่สาวของเขาน่ะหรื อ ก็เป็ นเพราะท่านพ่อของเขารัก
พี่สาวมากที่สุดมิใช่หรื อ บ้านอื่นเขารักลูกชาย แต่บา้ นเขากลับ
ตรงกันข้าม ท่านพ่อของเขารักท่านแม่มากที่สุด จากนั้นก็พี่สาวของ
เขา แม้พี่สาวทาผิดใหญ่โตแค่ไหนท่านพ่อของเขาก็ไม่แตะนาง
แม้แต่ปลายเล็บ
ส่ วนเขาเล่า เกิดมาก็เหนื่อยแล้ว ทาให้เขาสงสัยว่าเขาเป็ นลูกของ
ท่านพ่อท่านแม่จริ งๆ หรื อเปล่า เหตุใดถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้
เฮ้อ ไม่อยากคิดแล้ว อยากจะร้องไห้เป็ นสายเลือด!
เยว่เป่ าสนใจขึ้นมา “พวกเราไปหยิบเงินแล้วกลับกันไหม ค่อยๆ
แอบไป อย่าให้ท่านพ่อท่านแม่รู้” เหลือบมองไปทางน้องชาย สายตา
ฉายแววกระจ่างทันที
เฮอะ เจ้าเด็กน้อย อย่าคิดว่าข้าไม่รู้วา่ เจ้าคิดอะไรอยู่ พี่สาวอย่างข้า
นั้นฉลาด ท่านแม่พดู ไว้ ลูกสาวต้องคมในฝัก อย่างนั้นจะทาตัว
ฉลาดไปทาไม ใต้ร่มไม้ซีถึงจะร่ มเย็น ให้ผชู ้ ายออกหน้าไปเถิด
“เจ้าตัวเล็กทั้งสอง!” สวีโย่วว่าเสี ยงดัง เขาเป็ นคนอย่างไรจะไม่ได้
ยินเสี ยงเจ้าหมาน้อยทั้งสองกระซิบกระซาบได้อย่างไร
เสิ่ นเวยลูบท้องด้วยท่าทีรื่นเริ ง ในใจรู ้สึกสมใจยิง่ นัก! เมื่อเห็นลูก
สาวลูกชายของนางวางแผนการ ยังเล็กแค่น้ ีแต่รู้จกั ที่จะหาเงินเข้า
บ้านเช่นนี้ การสัง่ สอนประสบความสาเร็ จนัก!
“เจ้าก็เบาๆ หน่อยได้ไหม แปดเดือนแล้วนะ” ดวงตาของสวีโย่วฉาย
แววกังวลใจ “ลมมาแล้ว เข้าห้องกันเถิด” เขาค่อยๆ ประคองเสิ่ นเวย
จากนั้นก็ออกคาสัง่ กับเจียงไป๋ “เจ้าคอยดูพวกเขาไว้”
เสิ่ นเวยกรอกตาอย่างเบื่อหน่าย “เจ้ายังกลัวพวกเขาถูกลักพาตัวอีก
หรื อ” ลูกชายของนางมีความคิดรับผิดชอบตั้งแต่ยงั เล็ก ส่ วนลูกสาว
ของนางนั้นเป็ นคนฉลาดเฉลียว ทว่ากลับทาตัวเหมือนแม่เสื อห่ม
หนังแกะ ทาให้ลูกชายของนางเอาแต่คิดว่าพี่สาวของเขาโง่เขลา
เหลือเกิน ทาให้ตอ้ งวิตกกังวล แต่ไม่รู้เอาเสี ยเลยว่าเขานัน่ เองที่เป็ น
ตัวช่วยเหลือให้เก็บเงินได้
ฮี่ฮี่ ยิง่ คิดก็ยงิ่ สนุก!
สี หน้าของจิ้นอ๋ องที่นงั่ อยูใ่ นห้องยิง่ ดูแย่ลงเรื่ อยๆ นึกอยากจะโมโห
แต่กต็ อ้ งกลั้นเอาไว้ ไม่ง่ายเลยที่เขาจะเข้ามาในจวนผิงอ๋ องได้ หาก
ไปยัว่ โมโหลูกชายคนโตของเขาเข้า เขาก็คงจะโดนไล่ออกไปแน่
ไม่ผดิ เจ้าลูกอกตัญญูนนั่ ต้องทาแน่ เมื่อคิดว่าลูกตัวเองนั้นอกตัญญู
จิ้นอ๋ องก็รู้สึกไม่พอใจอยูล่ ึกๆ แต่เมื่อคิดถึงหลานสาวหลานชายทั้งคู่
ที่แสนฉลาดเฉลียว เขาก็พยายามอดทนอย่างที่ไม่เคยเป็ นมาก่อน
เจ้าลูกอกตัญญูคนนั้น ทั้งๆ ที่เป็ นหลานสาวหลานชายของเขาแท้ๆ
แต่กลับกีดกันไม่ให้เขาพบ! น่าโมโหนัก!
จิ้นอ๋ องถอนหายใจยาว ดวงตาเต็มไปด้วยความสานึกผิด!
ใช่แล้ว เขาสานึกตั้งนานแล้ว สานึกเสี ยใจซึมลึกเข้าไปถึงกระดูก
เมื่อย้อนกลับไป เขาเองก็แปลกใจว่าทาไมต้องหลงใหลในตัวหญิง
สาวที่มีจิตใจเต็มไปด้วยแผนร้ายจนทาลายอนาคตตัวเองและ
ครอบครัวตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อเห็นซ่งซื่อที่โดนขังอยูใ่ นเรื อนพักที่
มีโฉมหน้าร้ายกาจเหมือนนางมารร้าย เขาเคยชอบสตรี เช่นนั้นจริ งๆ
หรื อ เพื่อนางแล้ว เขาโกรธเกรี้ ยวใส่ ภรรยาจนตาย ทอดทิ้งลูกชาย
คนโต เมื่อคิดดูแล้ว ช่างเหมือนกับตกลงสู่ ฝันร้ายตื่นหนึ่ง!
ตอนนี้เขารู ้สึกผิดจริ งๆ บรรยากาศในจวนจิ้นอ๋ องที่กว้างใหญ่แสน
เหน็บหนาว ลูกชายกล่าวโทษเขา ลูกชายคนรองและลูกชายคนที่
สามก็ไม่ยกโทษให้เขา ลูกชายคนที่สี่กเ็ อาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ลูก
อนุเพียงคนเดียวก็วางแผนที่จะรับราชการข้างนอกแล้ว
จวนจิ้นอ๋ องที่กว้างใหญ่สงบนิ่ง แม้แต่เสี ยงหัวเราะของเด็กๆ ก็ไม่มี
เขารู ้สึกว่าทุกวันนี้เขาอาศัยอยูใ่ นหลุมศพที่กดทับเสี ยจนหายใจแทบ
ไม่ออก
ลูกชายรอง ลูกชายสามและลูกชายสี่ ลว้ นไม่มีทายาท เขาไม่อาจอุม้
หลานได้ ในจวนของเขาเหลือเพียงหลานสาวหลานชายคู่น้ ี แต่
ตอนนี้พวกเขาก็โตแล้ว ไม่รู้วา่ จะถูกเลี้ยงดูอย่างไรและไม่ได้สนิท
ชิดเชื้ออะไรกับเขาเลยแม้แต่นอ้ ย
ตอนที่เขารู ้วา่ สะใภ้ใหญ่คลอดลูกชายออกมา แต่กต็ ื่นเต้นเสี ยจน
นอนไม่หลับทั้งคืน เตรี ยมของขวัญล้ าค่าเอาไว้เต็มคันรถ แต่เจ้าลูก
อกตัญญูผนู ้ ้ นั กลับไม่ยอมให้เขาเข้าไปดูหลานในจวน
เขานอนคิดอยูท่ ้ งั คืน นอนไม่หลับทั้งคืน เอาแต่เดินเต่เข้ามาใกล้กบั
จวนผิงอ๋ องทั้งๆ ที่ไม่มีธุระ สุ ดท้ายก็ได้พบกับหลานชายหญิงทั้งคู่
เมื่อปี ก่อน เด็กทั้งสองหน้าตาดีนกั ทั้งฉลาดทั้งคล่องแคล่ว เขา
ตื่นเต้นเสี ยจนมือสัน่
ทว่าหลานชายหลานสาวของเขากลับจ้องมองเขาตาใส “ท่านผูเ้ ฒ่า
ท่านเป็ นใครกัน”
ในวินาทีน้ นั ดวงใจของเขาก็เจ็บปวดเหมือนถูกเข็มทิ่มแทงไม่มีผดิ
ความเศร้าเสี ยใจวนเวียนอยูใ่ นหัวใจของเขาราวกับงูพิษ นี่คือ
หลานสาวหลานชายแท้ๆ ของเขาแต่กลับถามว่าเขาเป็ นใครอย่างคน
แปลกหน้า!
นับแต่น้ นั มาเขาก็มาถึงจวนผิงอ๋ องทุกวัน แม้วา่ จะมีโอกาสได้พบ
หน้าหลานสาวหลานชายเพียงหนึ่งในสิ บ แม้วา่ เจ้าลูกอกตัญญูจะไม่
ยอมพบหน้า เขาก็ยงั มาอยูท่ ุกๆ วัน!
ชีวิตที่เหลืออยูข่ องเขาก็คงจะต้องทาเช่นนี้!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนพิเศษ 3-1 อาจารย์ ซู
ฝั ง จิ่ น ไม่ ไ ด้ใ ส่ ใ จว่า ภรรยาจะมี ส ถานะต่ า ต้อ ย เจ้า สาวที่ แ ต่ ง งาน
ฉับพลันเพื่อปั ดเสนี ยดจัญไรจะมีสักกี่คนที่มีสถานะสู งส่ ง อีกอย่าง
เขาก็เป็ นเพียงบุตรอนุเท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับสตรี สูงศักดิ์
เหวินเหนียงนิสยั ดี และยังรู ้หนังสื อ เขาพึงพอใจมาก
ความเจ็บปวดจากไม้พลองที่ตีลงมาบนร่ างทาให้เขาได้สติกลับคืน
มา “ท่านพ่อ ลูกผิดไปแล้ว เป็ นเพราะลูกดื่มจนเมา ไม่รู้ตวั จริ งๆ ว่า
ไปถึงเรื อนของฮวาอี๋เหนี ยงได้อย่างไร ท่านพ่อ ท่านต้องเชื่ อลูกนะ
ขอรับ ลูกไม่มีทางทาเรื่ องไม่ถูกทานองคลองธรรมเช่นนี้ ได้” ข่มขืน
อนุ ของบิดา เขาอ่านหนังสื อคุณธรรมของท่านนักปราชญ์ผูย้ ิ่งใหญ่
ไหนเลยจะทาเรื่ องเสี ยเกียรติเช่นนี้ได้ เรื่ องนี้จะต้องมีขอ้ ผิดพลาดแน่
คนที่ทาให้บ่าวของเขาหมดหนทางจนต้องทรยศต่อเจ้านายตัวเองได้
จะมี ใครอี ก แม่ ใหญ่ แม่ ใหญ่ ที่เขาเคารพนับถื อนั่นไง! เขาไม่ เคย
ต้องการที่ จะแย่งชิ งของของน้องชายเลยแม้แต่ น้อย! ทาไม ทาไม
ทาไม ทาแบบนี้ทาไม
พวกเขาทาลายเขาแล้วลูกสาวของเขาจะปล่อยเอาไว้หรื อ ตอนที่เขา
ถูกขังในวันที่เจ็ด ลูกสาวของเขาก็ตกน้ าเสี ยชีวิต ร่ างเล็กๆ ของนาง
นอนเปี ยกไปทั้งร่ างอยู่ตรงนั้น ไม่อาจลื มตาขึ้ นมาพูดจาออดอ้อน
เรี ยกเขาว่าท่านพ่อได้อีกต่อไป
แต่ ซู ห ย่ ว นก็ รู้ ว่ า ตอนนี้ ตระกู ล ฝั ง ก าลัง อยู่ ใ นช่ ว งรุ่ ง เรื อ งสุ ด ขี ด
ตอนนี้ บิดาของเขาก็กลายเป็ นเสนาอามาตย์ในกลุ่มเสนาบดีที่สาคัญ
ที่น่าเย้ยหยันที่สุดก็คือบิดาทอดทิ้งเขาแต่เก็บน้องชายที่มีสติปัญญา
ด้อยค่าเอาไว้ต้ งั สามคน อย่างมากสุ ดก็ได้เป็ นเพียงขุนนางขั้นหก ที่
หรื อคือจุดจบที่ท่านอามาตย์ต้ งั ตารอ ฮ่าฮ่า ค่อยคลายความโกรธแค้น
ได้บา้ ง
ชาระความแค้นด้วยคุณธรรม แล้วจะเอาอะไรมาตอบแทนคุณธรรม
เล่า เขานาพาทหารหนุ่ มจากจวนผิงจวิ้นอ๋ องไปช่ วยเหลือให้แต่ละ
จวน เหลือเพียงตระกูลฝังเท่านั้น เขาตั้งใจให้เป็ นเช่นนั้น!
หลายปี มานี้ เขาอยู่ขา้ งกายสาวน้อย เขาไม่ได้ตอ้ งการที่จะแก้แค้น
เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เขาปล่อยวางแล้ว เขามักจะคิดว่า สาวน้อย
ของเขาเป็ นย่วนย่วนกลับชาติมาเกิด
เด็กหญิ งเยว่เป่ าฉี กยิ้ม “พวกเราไปก่ อเรื่ องที่ ไหนกัน เป็ นท่านพ่อ
ต่างหาก! เราแค่ไปเอาเงินคืนจากคนแก่คนนั้น ท่านพ่อก็ลงโทษเรา
จริ งๆ เลย” ไม่เคยเห็นพ่อคนไหนใจแคบขนาดนี้เลย
เด็กชายตัวเล็กกว่านัว่ เป่ าพยักหน้าเห็นพ้อง เอ่ยขึ้นอย่างเป็ นจริ งเป็ น
จังว่า “ท่านพ่อจะลงโทษข้า!” พี่สาวของเขาได้รับความรักใคร่ เอ็นดู
ขนาดนั้น ท่ านพ่อคงตัดใจลงโทษนางไม่ ลงหรอก คงมี แต่ เขาคน
เดียวที่โดนลงโทษนี่แหละ
ตั้งแต่ที่ฮ่องเต้มีพระราชโองการมอบสมรสพระราชทานให้ เขาก็
บอกเล่าเรื่ องราวทั้งหมดของตัวเอง ไม่คิดว่าฝ่ าบาทจะยังจาได้ เมื่อ
คิดเช่นนี้ ในใจของเซี่ ยหมิงผูก่ ร็ ้อนเหมือนไฟเผา
เมื่ อคิ ดถึ งเจี ยงหนานที่ กาลังจะไปถึ ง เมื่ อคิ ดถึ งตระกูลเซี่ ย สายตา
ของเขาก็ค่อยๆ เย็นชาลงไป
เซี่ ย ม่ า นเอ๋ อร์ ช้อ นตัว หลานชายขึ้ น มาอุ ้ม อยู่ ใ นอก พลางพู ด ว่ า
“พี่สะใภ้ ข้าคิดมาตลอดว่าบ้านสกุลเซี่ ยคงไม่ค่อยสบายนัก”
“แต่ ท่า นพ่อ …” เซี่ ย ม่ า นเอ๋ อ ร์ ย งั คงมี สี ห น้า เคร่ ง เครี ย ด จะพูด ได้
อย่างไรว่านัน่ ก็คือบ้านนางเหมือนกัน แม้แม่รองของนางจะเป็ นคน
ไม่ดี แต่ญาติคนอื่นๆ ของสกุลเซี่ ยก็ยงั อยู่ ไม่ได้พบหน้ามาหลายปี
นางไม่รู้จริ งๆ ว่าจะต้องทาหน้าอย่างไรยามพบหน้า
“เจ้า หรื อ ” องค์ห ญิ ง สามจิ้ ม ศี ร ษะน้อ งสะใภ้ “เจ้า เติ บโตข้า งกาย
พี่สะใภ้จยาฮุ่ยแท้ๆ ไม่ได้เรี ยนรู ้การปล่อยวางมาจากนางบ้างหรื อ เจ้า
จะสนใจทาไมว่าสกุลเซี่ ยจะว่าอย่างไร เดี๋ยวพอไปถึงพวกเขาก็จะเข้า
มาประจบประแจงเจ้าเองนัน่ แหละ”
บางคนอิจฉาตาร้อน บางคนเหยียดหยาม
ผูท้ ี่ อิจฉาก็คิดว่าข้าหลวงเซี่ ยผูท้ ี่ จะเข้ามารั บตาแหน่ งท่ านนี้ โชคดี
เหลือเกิ น คนอื่นยังต้องอายุถึงห้าสิ บหกสิ บก็ยงั ไม่แน่ ว่าจะได้เป็ น
เสนาบดี มีตาแหน่ งใหญ่ แต่เขากลับได้ตาแหน่ งมาได้อย่างง่ายดาย
ในราชสานักยังมีขุนนางดีขนาดนี้ อยู่ ใครบอกให้เขาเป็ นเขยรักของ
ฮ่องเต้เล่า
ตอนนี้พอ่ ลูกทั้งห้ำคนกำลังพูดคุยกันในห้องหนังสื อ
“อะไร เป็ นเสี่ ย วผู่ จ ริ งๆ หรื อ” เซี่ ย จิ้ น อัน เซี่ ย จิ้ น เหนี ย นและ
เซี่ ยจิ้นหรงที่ได้ยนิ ข่ำวก็รีบตำมกันมำ โดยเฉพำะเซี่ ยจิ้นอัน ใบหน้ำ
ฉำยควำมตื่นตะลึงและยินดี
เจ้าบ้านสกุลหลิวเห็นหลานชายมีใบหน้าเหมือนลูกสาวของเขาอยู่
สองส่ วน ดวงตาก็เปี ยกซึ ม ตบไหล่ของเขาอย่างตื่นเต้น “ดี ดี เจ้ายัง
มี ชี วิ ต อยู่ก็ ดี ข่ า วดี ข่ า วดี แม่ ข องเจ้า ในปรภพจะได้น อนตายตา
หลับ”
ท่านน้าทั้งสองแห่งสกุลหลิวเองก็มองหลานชายด้วยสายตาแรงกล้า
มีท่าทีอึดอัดอยู่บา้ ง ก็ใช่ ที่สกุลหลิวเองก็เป็ นสกุลขุนนาง พวกเขา
เองก็กว้างขวางรู ้จกั คนไปทัว่ แต่ได้เป็ นขุนนางตาแหน่งสู งทั้งที่อายุ
ยังน้อย แน่ นอนว่าความกดดันจากผูบ้ งั คับบัญชาก็เป็ นเรื่ องยากที่
พวกเขาจะรับไว้ได้
น้า สะใภ้ท้ งั สองเมื่ อ เห็ น ดัง นั้น ก็ ม องสบตากัน แล้ว พากัน มอบ
เครื่ องประดับล้ าค่าบนร่ างของตัวเองให้เซี่ ยม่านเอ๋ อร์ เป็ นของขวัญ
วันแรกพบ ไม่ใช่เพียงเพราะว่าสถานะของหลานสาวในตอนนี้ ไม่
ธรรมดา นางยังเป็ นหลานสาวแท้ๆ ของแม่สามี อีกด้วย พวกนาง
ล้วนแล้วแต่มีลูกสาว ต่อไปหากม่านเอ๋ อร์ ออกมาเยีย่ มเยียนใครจะดู
หมิ่นได้ ผูกมิตรกับญาติอย่างไรก็เป็ นผลดี
แม้จะมีหลักฐานแล้วว่าท่านข้าหลวงใหญ่คนใหม่เป็ นบุตรชายคน
โตสกุลเซี่ ย เซี่ ยหมิงผู่ แต่แรงต่อต้านก็ไม่ได้นอ้ ยลงเลย เพราะเป็ น
ขุ น นางตระกู ล สู งทั้ งๆ ที่ อ ายุ ย ัง น้ อ ยใครเล่ า จะยอมเชื่ อ ฟั ง
โดยเฉพาะพวกขุนนางไม่เอาไหน ต่อหน้ายิม้ แย้มแจ่มใส เพียงหมุน
ตัวก็ไม่เผาผี สร้างความวุน่ วายให้กบั เซี่ ยหมิงผูไ่ ม่นอ้ ย
จ้า วซื่ อ คิ ด ในแง่ ดี ยิ่ง นัก แต่ นางกลับ คิ ด ไม่ ถึ ง ว่า เซี่ ย จิ้ นอันจะ
ไม่ได้เข้าแม้แต่ประตูใหญ่จวนข้าหลวงใหญ่ องครักษ์ที่หน้าประตู
ได้รับคาสั่งเอาไว้ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ห้ามให้เข้ามา ทาไมหรื อ
เจ้า บอกว่ า เจ้า เป็ นบิ ด าของท่ า นข้า หลวงใหญ่ ข องเราหรื อ อย่า
ล้อเล่นไปหน่อยเลย บิดามารดาของใต้เท้าของเขานั้นเสี ยชีวิตไปตั้ง
นานแล้ว มี น้องสาวเพียงคนเดี ยว ไหนเลยจะมี บิดา แอบอ้างเป็ น
บิดาของท่านข้าหลวงนั้นมีโทษหนัก อย่างนั้นก็เท่ากับเดินไปเข้าคุก
มิใช่หรื อ
“ท่ านปู่ ทาอะไร ไม่ มีเหตุ ผลเลยที่ จะให้ผูอ้ าวุโสคุ กเข่ าเคารพ
หลานชาย” เข่าของเซี่ ยเหยียนฮว๋ ากาลังจะโค้งลงพื้นเซี่ ยหมิ งผู่ก็
ประคองเขาเอาไว้
เพียงแค่ประโยคธรรมๆ เช่นนี้ เซี่ ยเหยียนฮว๋ าก็ตาแดง “เสี่ ยวผู่
เป็ นเพราะปู่ ทาตัวไม่ดีกบั เจ้า” เป็ นเพราะเขาไม่คุม้ ครองหลานชาย
ให้ดี