You are on page 1of 2273

ตอนที 191-1 จวนตระกูลเหอเมืองอวินโจว

 
เสินเวยนําคนมุง่ หน้าไปยังเมืองอวินโจว การเดินทางครังนี
ไม่ยงใหญ่
ิ เกรียงไกรเหมือนครังก่อนทีไปซีเจียง นอกจาก 
โอวหยางไน่คนขับรถทีจําเปนต้องพามาและพ่อบ้านรองทีปู
นางยัดเยียดเข้ามาเพือให้จัดการเรืองเล็กๆ น้อยๆ ระหว่าง
ทางแล้ว คนทีเหลือส่วนมากก็เปนสาวใช้หญิงชรารับใช้  
เถาจือ เหอฮวา เถอฮวา รวมถึงเย่ว์ก้ย
ุ ทีรักษาอาการบาดเจ็บ
ดีแล้ว อ้อจริงสิ แม้แต่แม่นมมัวยังตามนางออกมาด้วยกัน 
 
เหตุผลยังเปดเผยอย่างยิง ‘ตามไปปรนนิบต
ั ิขา้ งกายคุณหนู 
เพือทีจะทําตัวเปนแบบอย่างทังคําพูดและการกระทํา’ 
สําหรับในจวน แม่นมมัวก็แนะนําแม่นมฝกอบรมผูห
้ นึง ขอ
เพียงแค่สอนกฎระเบียบบุตรสาวไม่ให้พฒ
ั นาล่าช้า ฮูหยิน
จ้าวก็ไม่ได้คัดค้านแม้แต่นด
ิ เดียว 
 
ออกมาครังนีเสินเวยยังคงแต่งกายเปนชาย ยังคงใช้ชอ

คุณชายสีแซ่เสิน นีทําให้เสินเวยหงุดหงิดยิงนัก ในยุคโบราณ
สตรีจะทําเรืองอะไรหน่อยล้วนยากอย่างยิง แม้แต่ออกจาก
จวนไปหนุนหลังท่านอายังต้องแสดงตัวเปนผูช
้ าย 
 
ขณะทีเสินเวยกําลังมุง่ หน้าไปยังเมืองอวินโจว เรือนหลังจวน
ตระกูลเหอเมืองอวินโจวก็กําลังเกิดสถานการณ์ตึงเครียด  
เหอจังหมิงไม่อ่อนโยนเหมือนแต่ก่อน ถามเสินหย่าด้วย
สีหน้าเกลียดชัง “สัญญาขายทาสเล่า สัญญาทาสของ 
พวกนางสามคนเล่า” ขอเพียงแค่มส
ี ญ
ั ญาขายทาสเขาก็
สามารถขายพวกนางออกไปไกลๆ ได้ทันที ยังมีอวินหรง
หญิงชัวผูน
้ น
ั ไม่ใช่หนีไปแล้วหรือ เช่นนันก็ใช้ขอ
้ อ้างบ่าวหนี
มาเจรจา ยังเพ้อฝนว่าจะกลับเมืองหลวงไปฟองร้อง เหอะ 
ไม่แน่ว่าระหว่างทางคงจะถูกคนพาไปขายเสียแล้วกระมัง 
 
เสินหย่ามองสามีทีทังใบหน้าดุรา้ ย ในใจสับสนมากเปน
พิเศษ นีคือสามีทีนางเลือกมาดีแล้วหรือ บางทีเมือก่อนนาง
อาจจะยังเพ้อฝน คิดว่าสามีเพียงแค่ถก
ู หลอกลวง ตอนนีนาง
รูแ
้ ล้วว่านางควรตืนจากฝน นางตายก็ดีมช
ี ว
ี ิตอยูก
่ ็ดีกลับไม่มี
อะไรติดค้างแล้ว ชีวิตเช่นนีนางใช้มาพอแล้ว ตายก็ถือว่าได้
หลุดพ้นแล้ว 
 
แต่นางยังมีหลินเจียเอ๋อร์ หลินเจียเอ๋อร์เพิงจะอายุสบ
ิ สามป 
ยังไม่ถึงวัยออกเรือน ชีวิตดีๆ ของนางเพิงจะเริมต้น นางไม่
อาจทําให้คนใจร้ายใจดําผูน
้ ทํ
ี าลายลูกสาวทีนางทะนุถนอม
ราวกับของลาค่าได้ ต่อให้จะต้องทําเพือหลินเจียเอ๋อร์นางก็
ต้องดินรนมีชว
ี ิตอยูต
่ ่อไปให้ได้ 
 
เสินหย่าเบือนหน้าหนีไม่พด
ู จา นางกําลังคิดว่าตอนนี 
อวินหรงจะถึงเมืองหลวงแล้วหรือยัง พบท่านพ่อหรือไม่ ตน
จะต้องทําให้ท่านพ่อรูส
้ ก
ึ ขายหน้าอย่างยิงใช่หรือไม่ ในจวน
จะมีคนมาอวินโจวหรือไม่ จะเปนพีใหญ่พรองพี
ี สามหรือเปน
เพียงผูด
้ แ
ู ลหนึงคน 
 
“พูดสิ เจ้าพูดสิ!” เหอจังหมิงเห็นความเหยียดหยามใน 
แววตาของเสินหย่า ความโกรธก็พงุ่ ขึนจากจิตใจ ก้าวขึนไป
ผลักเสินหย่าหนึงคราอย่างอดไม่ได้ “เจ้าคิดว่าอวินหรง 
หญิงชัวผูน
้ นออกจากจวนเหอแล้
ั วจะไปถึงเมืองหลวงได้หรือ 
เหอะ ผูห
้ ญิงตัวคนเดียวเช่นนาง ไม่แน่ว่าอาจจะถูกคนขาย
ไปถึงหุบเหวไหนแล้ว เจ้ายังหวังว่านางจะขนกองทัพมาช่วย
เจ้า ฝนไปเสียเถอะ!” ต่อให้จวนโหวส่งคนมาแล้วอย่างไร 
หลายปมานีไม่มบ
ี ุตรชายให้เขาแม้แต่คนเดียว เขาไม่ขบ
ั นาง
ออกไปก็เพราะยังเห็นแก่จวนโหวหรอกนะ  
 
“หลายปเพียงนีแล้ว หากจวนจงอู่โหวคิดจะสนใจก็คงสนใจ
ไปนานแล้ว เจ้าเปนเพียงบุตรอนุภรรยาทีไม่ได้รบ
ั ความ
โปรดปราน ใครจะสนใจว่าเจ้าจะเปนตายร้ายดีอย่างไร  
ตอนนันข้าตาบอดไปจริงๆ เหตุใดถึงแต่งงานกับตัวนํา 
โชคร้ายทีไร้ประโยชน์เช่นเจ้า มิเช่นนันตอนนีข้าก็คงจะไม่
ต้องขดตัวอยูใ่ นเมืองเล็กๆ อย่างอวินโจวแห่งนี ฉลาดหน่อย
เจ้าก็เอาสัญญาขายทาสของพวกนางสามคนออกมา เห็นแก่
ทีเจ้าคลอดหลินเจียเอ๋อร์ขา้ จะยอมให้เจ้าใช้ชว
ี ิตบันปลาย
อย่างสงบสุขในเรือนแห่งนี มิเช่นนัน เหอะๆ!” 
 
เสินหย่าถูกเหอจังหมิงผลักลงบนโต๊ะ ท้องน้อยเจ็บแปลบ แต่
ต่อให้เจ็บก็เทียบกับความเจ็บปวดในใจไม่ได้ นางหันหน้า
เบิกตาโตมองบุรุษผูน
้ ตรงหน้
ี าอย่างเหลือเชือ เขาลงมือกับ
นางหรือ คาดไม่ถึงว่าเขาลงมือกับภรรยาของตนเองหรือ นี
ไหนเลยจะเปนคนดีทีมีกิรย
ิ างดงามเปนสุภาพบุรุษทีตนคิด
ในตอนแรก เห็นชัดๆ ว่าเปนหมาปา หมาปาในร่างมนุษย์ 
เหตุใดตอนนันนางถึงตาบอดได้ถึงขนาดนัน  
 
ในทีสุดนาตาแห่งความเคียดแค้นก็ไหลรินลงมา ไหลอาบ
แก้มทีเ**่ยวย่นของเสินหย่า เปยกเปอนส่วนหน้าของเสือ 
นางกล่าวเสียงแหบแห้ง “ไม่มี ไม่มส
ี ญ
ั ญาขายทาส แม้จะมี 
ก็ไม่มท
ี างให้เจ้าเปนอันขาด” นีคือยันต์ค้ม
ุ ภัยสุดท้ายของ
พวกนางแม่ลก
ู ไม่อาจถูกหมาปาใจเ**้ยมผูน
้ แย่
ี งไปได้ 
เด็ดขาด 
 
เหอจังหมิงแค่นเสียงหึหนึงครา จ้องมองเสินหย่าแล้วกล่าว  
“เจ้าแทบจะเอาตัวเองไม่รอดแล้วยังคิดจะปกปองพวกนาง
อยูอ
่ ีกหรือ เจ้าคิดว่าไม่มส
ี ญ
ั ญาขายทาสแล้วข้าจะทําอะไร
พวกนางไม่ได้งันหรือ อย่างไรเสียข้าก็เปนนายอําเภอเมือง 
อวินโจวแห่งนี!” ถึงตอนนันใช้อุบายเล็กน้อย ก็ยงั ทําได้มใิ ช่
หรือ 
 
“ไม่ เจ้าทําไม่ได้!” ความตืนตระหนกแวบผ่านใบหน้าของ
เสินหย่า นางโผเข้าไปคิดจะคว้าแขนเสือของเหอจังหมิงเพือ
ร้องขอ ทว่ากลับถูกเขาหลบออกอย่างรังเกียจ ชัวขณะ 
เสินหย่าหยุดฝเท้าไม่ทัน ล้มลงบนพืน 
เหอหลินหลินทีถูกแม่นมชรากอดไว้ภายในห้องได้ยน
ิ เสียง
การเคลือนไหว ออกแรงดินจนหลุดแล้วจึงวิงออกมา  
“ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านเปนอะไรไป” นางมองเห็นมารดาของ
ตนล้มอยูบ
่ นพืน ชัวขณะก็ตกใจหน้าถอดสี 
 
เหอหลินหลินเข้าไปพยุงมารดา มองเห็นฝามือของแม่นางมี
เส้นเลือดปูด สายตาทีมองพ่อนางก็มป
ี ระกายความดุรา้ ย  
 
เหอจังหมิงขลาดกลัวภายใต้การจ้องมองของลูกสาว  
“หลินเจียเอ๋อร์ แม่เจ้าล้มลงไปเอง เจ้าเปนเด็กรูป
้ ระสา  
โน้มน้าวนางหน่อยเถอะ พ่อวางแผนให้เจ้ามีค่ห
ู มันทีดี เจ้า
แต่งเข้าไปแล้วก็มแ
ี ต่ความสุข” แม้เขาจะไม่ค่อยมีความ
ผูกพันกับลูกสาวคนนี แต่อย่างไรเสียก็ยงั เปนเลือดเนือของ
เขา ยิงไปกว่านันเขายังต้องใช้ลก
ู สาวผูน
้ แลกผลประโยชน์
ี  
ย่อมต้องแสดงท่าทีเปนบิดาทีเมตตา 
 
“ท่านพี ท่านอย่าทําเช่นนี ทําเช่นนีไม่ได้! หลินเจียเอ๋อร์เพิง
จะอายุสบ
ิ สาม…” เสินหย่าได้ยน
ิ คําพูดของเหอจังหมิง 
ชัวขณะก็หมดหนทางแล้ว บุตรสาวแรกแย้มทีงดงามราวกับ
หยกของนางจะแต่งงานกับตาเฒ่าทีใกล้จะลงโลงได้อย่างไร 
 
เหอหลินหลินโกรธจนกําหมัดแน่น ในดวงตาเต็มไปด้วย
ความโมโห นางเกลียด นางเกลียดทีสุด! เหตุใดบุรุษทีขาย
ลูกสาวแลกชือเสียงทังยังหน้าด้านหน้าทนผูน
้ ตรงหน้
ี าถึงได้
เปนพ่อนาง  
 
“ออกไป ท่านออกไป ท่านออกไปเสีย!” เหอหลินหลิน
พยายามกลันนาตาตนเอง นางเงยหน้าขึนอย่างฝนทน มือชี
ประตูขา้ งหลังเหอจังหมิง “หลายปมานีท่านก้าวเข้ามาใน
เรือนนีนับครังได้ ในเมือสายตาท่านไม่มพ
ี วกข้าแม่ลก
ู อยู ่
เช่นนันก็หวังว่าภายหลังจะไม่มอ
ี ีก ท่านออกไป ทีนีไม่
ต้อนรับท่าน” 
ความอึดอัดแวบผ่านอยูบ
่ นใบหน้าเหอจังหมิง สีหน้า
เดือดดาล “หลินเจียเอ๋อร์ มารยาทเจ้าเล่า” จากนันก็ตะโกน
ใส่เสินหย่า “เจ้าสังสอนหลินเจียเอ๋อร์เช่นนีหรือ เจ้าดูสว
ิ ่า
นางไหนเลยจะมีความอ่อนน้อมอย่างสตรี เจ้า เจ้าทําให้ขา้
ผิดหวังจริงๆ” แววตาเขามีความเสียใจอย่างถึงทีสุด 
 
เสินหย่าทําหูทวนลม นางหมดหวังในตัวชายผูน
้ มานานแล้
ี ว 
ความสนใจของนางล้วนแต่อยูท
่ ีลูกสาว กลัวสามีจะทําให้
ลูกสาวลําบาก 
 
“ตอนนีเพิงจะมาสนใจการสังสอนของข้าไม่สายไปหน่อย
หรือ” บนใบหน้าเหอหลินหลินเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม 
ดึงปนบนศีรษะลงมาอย่างรวดเร็วแล้วจ่อไว้บนลําคอของตน 
“ท่านจะไปไม่ไป ท่านเองก็รูว
้ ่าอวินหรงไปเมืองหลวงแล้ว 
ท่านว่าหากท่านตารูว
้ ่าท่านบีบบังคับพวกข้าแม่ลก
ู จะทํา
อย่างไร หมวกขุนนางบนศีรษะท่านจะยังรักษาไว้ได้หรือไม่” 
ไม่เพียงแต่เหอจังหมิงทีตกใจจนสะดุ้งโหยง แม้แต่เสินหย่า
เองก็หวาดผวาไม่หยุด “หลินเจียเอ๋อร์อย่า เจ้าอย่าได้ทํา
เรืองโง่ๆ เด็ดขาด! วางลงเดียวนี เจ้าอย่าทําให้แม่กลัว!” นาง
มองลูกสาวนาตาไหลพราก คิดอยากจะเข้าไปก็กลัวจะ
เปนการกระตุ้นลูกสาว 
 
“หลินเจียเอ๋อร์เจ้าจะทําอะไร” เหอจังหมิงขมวดคิวมอง
ลูกสาว คิดอยากจะเข้าไปแย่งปนในมือลูกสาว เพียงแต่พอ
เท้าของเขาขยับ เหอหลินหลินก็กดปนปกผมลงทันที โลหิต
ไหลออกมาจากลําคอทีขาวกระจ่างของนางในชัวพริบตา  
“ท่านพ่อจะบีบบังคับลูกให้ตายหรือ” 
 
เหอจังหมิงผวาแล้ว หวาดกลัวแล้ว ยืนอยูท
่ ีเดิมไม่กล้าขยับ  
“พอแล้วๆ ข้าไปแล้ว ข้าไปแล้ว หลินเจียเอ๋อร์เจ้าคิดให้ดีๆ 
ข้าเปนพ่อเจ้า จะทําร้ายเจ้าได้อย่างไร” เขามองลูกสาวอย่าง
ลุ่มลึกปราดหนึง แววตาสับสนมากเปนพิเศษ 
พอเหอจังหมิงไป เรียวแรงทังร่างเหอหลินหลินก็ราวกับถูก
สูบ นางล้มพับลงบนพืน มือทีกุมปนอยูก
่ ็ตกลงมา 
 
เสินหย่าโผเข้าไปทันที ซับผ้าเช็ดหน้าลงบนลําคอของ
ลูกสาว ปากร้องตะโกนเรียก “แม่นม แม่นมรีบมาดู 
หลินเจียเอ๋อร์ทีว่าเปนอย่างไร” เสียงเด็ดขาดและ 
แหลมเปรียว 
 
แม่นมชราเองก็วิงเข้ามา เมือครูน
่ างเห็นคุณหนูนอ
้ ยถือปน
จ่อคอตัวเอง ตกใจอกสันขวัญหาย “ฮูหยินท่านหลบหน่อย
เจ้าค่ะ ให้บา่ วดูแผลคุณหนูหน่อย” 
 
เสินหย่ารีบหลบออกไปทันที มือทีกุมคอลูกสาวต่างก็สนเทา 

ความเสียใจดังงูหนึงตัวทีเลือยอยูใ่ นจิตใจของนาง ความผิด
นาง ความผิดนางทังหมด! หากนางไม่ได้อ่อนแอไร้ประโยชน์
เพียงนัน หลินเจียเอ๋อร์ก็คงจะไม่ต้องมาทนรับความยาก
ลําบากเช่นนี ความผิดนางทังหมด! 
 
“ข้าไม่เปนไร” เหอหลินหลินได้สติกลับมา เห็นแม่นางกับ
แม่นมชราต่างก็ยุง่ วุ่นวาย รีบเอ่ยปากปลอบขวัญ นางรับ
ผ้าเช็ดหน้าในมือแม่นางมาเช็ดลงบนลําคอ บนผ้าเช็ดหน้า
เต็มไปด้วยโลหิตสด นางขมวดคิวสูดลมหายใจเย็นเยียบ เจ็บ
จริงๆ  
 
“หลินเจียเอ๋อร์เจ้าอย่าขยับ!” เสินหย่ารีบตะโกนหยุดลูกสาว 
หันหน้าสังแม่นมชรา “บาดแผลของหลินเจียเอ๋อร์ต้องใส่ยา 
แม่นม ข้าจําได้ว่าเดือนก่อนอวินหรงบาดเจ็บทีมือยังเหลือยา
รักษาแผลอยูเ่ ล็กน้อย เจ้ารีบไปหามา”  
 
“เจ้าค่ะ” แม่นมชราเห็นโลหิตทีเต็มผ้าเช็ดหน้าก็หวาดกลัว
แล้ว พยักหน้าถีรับคําจากนันก็วิงไปยังห้องด้านใน ไม่ทัน
ระวังชนขอบโต๊ะเข้าก็ยงั ไม่รูต
้ ัวแม้แต่นด
ิ เดียว 
“ท่านแม่ ข้าไม่เปนไรจริงๆ เพียงแค่ดน
ู า่ กลัวก็เท่านันเอง 
เมือครูข
่ า้ ไม่ได้ใช้แรงเลย” เหอหลินหลิน เห็นใบหน้าของ 
แม่นางซีดขาวหมดแล้ว จึงรีบปลอบนาง  
 
เสินหย่าไหนเลยจะเชือ “เลือดออกเยอะเพียงนีจะไม่เปนไร
ได้อย่างไร เจ้าลูกคนนีเหตุใดถึงบุม
่ บ่ามเช่นนี หากเจ้าเปน
อะไรขึนมา แม่จะอยูอ
่ ย่างไร!” พูดไปพูดมานาตาของนางก็
ร่วงลงมาอีกครัง ไม่กล้านึกถึงเหตุการณ์นน 

 
เหอหลินหลินยิมเจือนในใจ หากนางไม่ทําเช่นนีแล้วพ่อนาง
จะเลิกราหรือ หากปล่อยให้พอ
่ นางขายคนใช้สามคนทีเหลือ
อยูข
่ องพวกนางสองแม่ลก
ู เช่นนันก็ไม่มใี ครช่วยพวกนางได้
แล้วจริงๆ  
 
ตอนนีความหวังเพียงหนึงเดียวของนางก็คืออวินหรง
สามารถไปถึงเมืองหลวงได้อย่างราบรืนแล้วขนกองกําลังมา
ช่วย นางคิดไว้ดีแล้ว หากถึงวันทีไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ นาง
จะยอมตายไปพร้อมกับแม่นาง ไม่ให้แผนการของพ่อนาง
สําเร็จ 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ตอนที 191-2 จวนตระกูลเหอเมืองอวินโจว
 
ผ่านความทรมานหนึงรอบบาดแผลบนลําคอของ 
เหอหลินหลินก็ใส่ยาพันแผลเรียบร้อยแล้ว ส่วนเสียวจวี 
สาวใช้แรงงานทีไปขายผ้าในโรงเย็บผ้าก็กลับมาแล้ว เมือ
นางเห็นผ้าบางสีขาวสะอาดบนลําคอของเหอหลินหลิน ก็
ตกใจทันที “คุณหนูนอ
้ ยเปนอะไรไปเจ้าคะ” 
 
หลังอวินหรงไปชีวิตของพวกนางก็ยงั ต้องดําเนินต่อ บ่าวใน
จวนเองต่างก็วางมาด พวกนางแม่ลก
ู ไม่ได้อยูเ่ ปนสุข แม้แต่
บ่าวยังดูถก
ู พวกนาง เสินหย่าคิดอยากจะทําอาหารอร่อยให้
ลูกสาวก็ยงั ต้องใช้เงิน สินเดิมของนางส่วนใหญ่อยูใ่ นมือ 
แม่สามี เครืองประดับไม่กีชินทีเหลืออยูก
่ ็หมดลงเรือยๆ แล้ว  
 
เมือหมดหนทางจริงๆ ก็ทําได้เพียงเย็บกระเปาเงินใบเล็ก
ผ้าเช็ดหน้าแลกเงินเบียเลียง ก่อนหน้านีคนทีออกไปส่งผ้าที
โรงเย็บผ้าล้วนแต่เปนอวินหรง ตอนนีอวินหรงไปแล้ว ทําได้
เพียงให้เสียวจวีไป  
 
“ไม่เปนไร ไม่ทันระวังเล็กน้อย” เหอหลินหลินกล่าวอย่าง
เรียบง่าย 
 
แม้เสียวจวีจะรูว
้ ่าเหตุการณ์จะต้องไม่เหมือนอย่างทีคุณหนู
น้อยพูดแน่นอน แต่ในเมือคุณหนูนอ
้ ยพูดเช่นนีแล้ว นางก็ไม่
กล้าถามอะไรมาก กลับล้วงกระเปาเงินใบเล็กในอกออกมา
อย่างระมัดระวังยืนให้เสินหย่า “คุณหนู ผ้าครังนีแลกเงินมา
ได้หนึงสองสามตําลึงเงิน อยูใ่ นนีหมดแล้วเจ้าค่ะ”  
 
เสินหย่ารับกระเปาเงินใบเล็กเข้ามา ส่งให้แม่นมชราข้างๆ 
อย่างไม่แม้แต่จะมอง “แม่นมเก็บไว้ดีกว่า” นางหัวเราะเยาะ
ตัวเองในใจ ตอนแรกทีจวนโจว แม้ว่านางจะไม่ใช่ลก
ู ทีได้รบ

ความโปรดปราน แต่ก็ไม่ได้ยากจนถึงขนาดนี เมือไรกับที
บุตรสาวจวนโหวเช่นนางตกตาจนต้องใช้ชว
ี ิตด้วยเงินไม่กี
ตําลึงทองไม่กีตําลึงเงินเช่นนี  
 
“ท่านแม่ ท่านว่าอวินหรงจะไปถึงเมืองหลวงได้อย่าง
ปลอดภัยหรือไม่ ท่านตาจะสนใจพวกเราหรือไม่” ในใจ 
เหอหลินหลินไม่รูอ
้ ะไรเลย 
 
เสินหย่าพยักหน้ากล่าวอย่างไม่แม้แต่จะคิด “ขอเพียงแค่ตา
เจ้ารูส
้ ถานการณ์ของพวกเรา เขาจะต้องไม่นงดู
ิ ดายแน่นอน
” นางไม่มนใจแม่
ั ใหญ่กับพีชายพีสะใภ้ทังหลาย แต่นางกลับ
รูว
้ ่าพ่อนางจะต้องสนใจนางแน่นอน 
 
พ่อนางผูน
้ นดู
ั เหมือนเข้มงวดน่าเกรงขาม แต่ความจริงแล้ว 
กลับดีต่อลูกๆ คําพูดนีอีเหนียงของนางเปนคนพูดกับนาง  
น่าแปลกยิงนัก ตอนทีอีเหนียงจากไปนางเพิงจะอายุได้หา้
ขวบ ตอนนีนางจําไม่ได้แม้แต่หน้าตาอีเหนียงของนาง แต่
กลับจําประโยคนีได้ขนใจ
ึ ดังนันตอนแรกทีนางชอบใจเหอ
จังหมิงจึงกล้าโวยวาย ส่วนบิดาของนางก็รก
ั ลูกจริงๆ แม้ว่า
จะไม่ยน
ิ ดีแต่ก็ยงั คงทําให้นางสมหวัง 
 
คิดถึงตรงนีในใจเสินหย่าก็เจ็บปวด ผูเ้ ปนลูกสาวเช่นนางเอง
ทีอกตัญ ู ไม่แสดงความกตัญ ูต่อหน้าพ่อ ซายังต้องทําให้
ท่านพ่อทีแก่แล้วมานังทุกข์ใจแทนนางอีก 
 
เหอหลินหลินกัดริมฝปากดวงตากะพริบวาบ “ท่านแม่ 
หากว่า หากว่าอวินหรง…” กําปนข้างลําตัวนางกําแน่น กล่าว
อย่างรวดเร็ว “ท่านแม่ พวกเราหนีกันเถอะ!” หนีจากจวน
ตระกูลเหอ หนีไปให้ไกลๆ 
 
เห็นแววตาทีจริงจังของบุตรสาว เสินหย่าก็ลบ
ู ศีรษะนางแล้ว
ฝนยิมเล็กน้อย “เด็กโง่พวกเราจะหนีออกไปได้อย่างไร แล้ว
จะหนีไปทีไหนได้” พวกนางเปนเพียงสตรีทีอ่อนแอแก่ชรา
ไม่กีคน แม้จะโชคดีหนีออกจากจวนตระกูลเหอได้ แต่ไหน
เลยจะออกไปจากเขตแดนเมืองอวินเหอได้ ตลอดเส้นทางนี
ไปจนถึงเมืองหลวงไกลกว่าพันลี พวกนางไม่มค
ี ่าใช้จ่ายใน
การเดินทาง ทังยังไม่มผ
ี ต
ู้ ิดตามทีมีอํานาจ จะไปเมืองหลวง
ได้อย่างไร 
 
เหอหลินหลินคิดครูห
่ นึงก็เข้าใจว่าความคิดของตนไร้เดียงสา
เกินไปแล้ว “หวังว่าอวินหรงจะไปถึงเมืองหลวงได้อย่าง
ปลอดภัย” 
 
ทําได้เพียงปลอบตัวเช่นนี! เสินหย่ากอดลูกสาวเข้ามาใน
อ้อมอก ในใจวิตกกังวลกว่าร้อยรอบ ทําอย่างไรดี จะทํา
อย่างไรกับลูกสาวดี ทําอย่างไรจึงจะให้คนชัวผูน
้ นปล่
ั อย
ลูกสาวของนางไป 
  
 
เสินเวยนอนอยูบ
่ นรถม้าพลิกอ่านข่าวทีทหารลับส่งกลับมา 
ตังแต่ทีซีเจียงครังนัน เสินเวยก็ใช้ทหารลับคล่องมือแล้ว ไม่
ว่าจะทําเรืองอะไรล้วนแต่ชอบใช้ทหารลับไปเปดทางข้าง
หน้าก่อน ประสิทธิภาพสูงอย่างยิง 
 
จุ๊ๆ อาเขยไม่แท้ผน
ู้ ของนางแปลกคนจริ
ี งๆ คาดไม่ถึงว่าเอา
ม้าซูบผอมมาเปนอีเหนียง อีกทังยังเปนอนุภรรยาศักดิสูงอีก
ต่างหาก เท่านียังไม่พอ อีเหนียงสามคนและสาวใช้ทีเลือน
ขันเปนอนุภรรยาสองคนในเรือนหลังของเขา หนึงในนันเปน
ม้าซูบผอม หนึงคนเปนหญิงขายศิลปะในหอนางโลม  
อีกหนึงคนเปนหญิงนางโลมผิดกฎหมาย ไม่มส
ี ตรีสกุลดี 
สักคน จะบอกว่าอาเขยไม่แท้มรี สนิยมพิเศษก็ไม่ได้ ตามข่าว
ทีทหารลับส่งกลับมา เขาถูกปดหูปดตาอย่างสินเชิง  
 
เหอๆๆ เสินเวยหัวเราะอยูเ่ งียบๆ นางกําลังคิดว่าจะประกาศ
เรืองนีให้อาเขยไม่แท้รูด
้ ีหรือไม่ สีหน้าของเขานันจะต้องตืน
ตะลึงเปนแน่! อยากเห็นจริงๆ 
 
เสินเวยยิงคิดก็ยงมี
ิ ความสุข กระทังได้อ่านข่าวว่าอาเขยไม่
แท้ผน
ู้ นบี
ั บบังคับญาติผน
ู้ อ
้ งนางจนต้องใช้ปนจ่อคอตัวเอง 
รอยยิมบนใบหน้าก็หยุดชะงักในชัวขณะ  
 
“เร่งทุกส่วนเดินทาง คืนนีพวกเราไม่ต้องพัก” เสินเวยสังคน
ทังหมด นางกลัวว่าหากเดินทางล่าช้าท่านอากับญาติผน
ู้ อ
้ ง
ของนางอาจจะถูกทรมานยิงกว่านี  
 
เร่งเดินทางไม่หยุดพัก ในทีสุดเสินเวยก็เข้าเมืองอวินโจวแล้ว 
นางไม่สนทัศนียภาพสองข้างทาง ตรงไปยังจวนตระกูลเหอ
ทันที  
 
ตอนทีเสินเวยไปถึงหน้าประตูเหอจังหมิงอยูใ่ นจวนพอดี 
ได้ยน
ิ รายงานของบ่าวรับใช้เขาก็ตกใจจนแก้วชาแทบจะร่วง
ลงบนพืน “อะไรนะ เจ้าพูดอีกรอบสิ ผูท
้ ีมาเปนใคร” มาเร็ว
เพียงนีเชียวหรือ 
 
บ่าวผูน
้ นรี
ั บกล่าว “เรียนนายท่าน เปนคุณชายวัยหนุม
่ บอก
ว่าเปนหลานชายบ้านฝงมารดาของฮูหยินพวกเรา” แววตา
บ่าวผูน
้ นเปนประกาย
ั ใครไม่รูบ
้ า้ งว่าฮูหยินเปนเพียงของ
ประดับ ผูท
้ ีเปนใหญ่ในจวนก็คือเถียนอีเหนียง ตอนนีแย่แล้ว 
หลานบ้านฝงมารดาของฮูหยินมาหาถึงหน้าประตูแล้ว ดูสว
ิ ่า
นายท่านจะทําเช่นไร  
 
ทว่าเหอจังหมิงกลับถอนหายใจอย่างโล่งอก ผูท
้ ีมาไม่ใช่
พ่อตาเขา และไม่ใช่พชายภรรยาสามคนนั
ี นของเขา แต่เปน
รุน
่ หลานวัยหนุม
่ เช่นนันเขาจะยังกลัวอะไร “เร็ว รีบไปเชิญ
เข้าจวนเถอะ” วางใจลงแล้ว จะทําอะไรก็สบายขึนมาก 
  
เถียนอีเหนียงดูแลจวนทุกระดับชัน เรืองทีประตูใหญ่มแ
ี ขก
มานางย่อมทราบแล้ว เมือนางได้ขา่ วก็รบ
ี ตามมา 
 
“นายท่าน ฟงว่าบ้านฝงมารดาฮูหยินมีคนมาหรือ ข้าต้อง 
เตรียมห้องรับแขกกับโต๊ะเลียงแขกหรือไม่” นางถามเสียง
เบา  
 
เหอจังหมิงเห็นเถียนอีเหนียงมุมปากก็อดยกขึนไม่ได้  
เถียนอีเหนียงปรนนิบต
ั ิเขามาสิบกว่าปแล้ว ว่ากันตามความ
จริงก็ไม่นา่ จะมีความสดใหม่หลงเหลืออยูน
่ านแล้ว แต่กลับ
กันเสียอย่างนัน เหอจังหมิงไม่เพียงแต่ไม่เบือนาง กลับยิง
หลงใหลมากขึน อันทีจริงเถียนอีเหนียงผูน
้ เปนหญิ
ี งงาม ลีลา
บนเตียงนัน ทุกครังก็ทําให้เหอจังหมิงมีความสุขราวกับว่ายัง
เปนเด็กหนุม
่   
 
“ไม่ต้องกังวลไป ผูท
้ ีมาเปนหลานชายของฮูหยิน  
ห้องรับแขกกับโต๊ะรับแขกเจ้าก็ไปจัดเตรียมเถอะ ลําบากเจ้า
แล้ว” เหอจังหมิงตบมือของเถียนอีเหนียง ท่าทางชืนชม
อย่างถึงทีสุด แม้ว่าฮูหยินจะใช้ไม่ได้ แต่เถียนอีเหนียงกลับ
จัดการเรือนหลังของเขาได้อย่างเปนระเบียบเรียบร้อย 
 
เถียนอีเหนียงเม้มปากยิม งดงามเปยมเสน่ห์ ชายตามอง 
เหอจังหมิงปราดหนึงอย่างเง้างอน “ลําบากอะไรกัน ข้าล้วน
ทําเพือนนายท่านมิใช่หรือไร” ท่าทางหว่านเสน่หน
์ น
ั เสียง
เล็กๆ ทีอ่อนนุม
่ แทบจะทําให้เหอจังหมิงสติแตกขึนมาตรง
นัน  
 
เสินเวยตามคนรับใช้จวนตระกูลเหอเข้ามาในจวนแล้ว  
ขีเกียจจะมองประเมิณทิวทัศน์รอบข้าง นางอยากจะรีบเจอ
อาและญาติผน
ู้ อ
้ งของนางเท่านัน  
 
เหอจังหมิงเห็นคุณชายวัยหนุม
่ ทีสวมชุดคลุมผ้าไหมรูปงาม
ดังหยกผูห
้ นึงเดินช้าๆ เข้ามาแต่ไกล ในใจก็อดชมว่าหน้าตา
ดีไม่ได้ เถียนอีเหนียงทีอยูข
่ า้ งๆ ก็ตกตะลึงเล็กน้อย ใครๆ ก็
บอกว่าเฉิงเกอเอ๋อร์ของนางหน้าตาโดดเด่น แต่เมือเทียบกับ
คุณชายสูงส่งผูน
้ แล้
ี ว เฉิงเกอเอ๋อร์กลับถูกบดบังลงไปทันที 
ในใจนางไม่สบายใจขึนมารางๆ  
 
“คนผูน
้ ก็
ี คือท่านอาเขยใช่หรือไม่ ในจวนโหวหลานมีลําดับที
สี ท่านอาเขยเรียกหลานว่าหลานสีก็ได้” เสินเวยทําความ
เคารพด้วยใบหน้ายิมแย้ม ในดวงตามองประเมินท่านอาเขย
ไม่แท้ผน
ู้ ี เห็นเพียงเขาสวมอาภรณ์สแ
ี ดงเข้ม หน้าตา 
ค่อนข้างดี ทังร่างเต็มไปด้วยกลินอายของปญญาชน ทําให้
เขามองดูแล้วยังเปนหนุม
่ แน่น ชวนให้คนเกิดความรูส
้ ก
ึ ดีใน
ชัวขณะ วัยกลางคนแล้วยังมีเสน่หเ์ ช่นนี มินา่ เล่าตอนยัง
หนุม
่ ถึงได้ทําให้ท่านอาตกหลุมรักตังแต่แรกพบ  
 
“อ้อ หลานสีเองหรือ รีบนังเถิด เดินทางมาไกล เหนือยหรือ
ไม่” เหอจังหมิงอัธยาศัยดี แต่ความหยังเชิงในแววตากลับ
หนีไม่พน
้ สายตาของเสินเวย 
 
เสินเวยเองก็ไม่เกรงใจ สะบัดชุดคลุมนังลงทันที กล่าวราวกับ
ตามอําเภอใจ “เหนือยอย่างยิง อากาศหนาวเหน็บ ออกมา
ข้างนอกทรมานยิงนัก แต่จะทําอย่างไรได้ท่านปูมีคําสัง 
หลานสีเองก็ทําได้เพียงวิงมาทีนีเทียวหนึง อ้อจริงสิ  
ท่านอาเขยคงยังไม่รูว
้ ่าหลานสีมาทําไม พวกเราต่างก็เปน
ญาติกัน หลานสีขอพูดตรงไปตรงมาแล้วกัน ฟงว่าท่านอากับ
ญาติผน
ู้ อ
้ งอยูท
่ ีจวนตระกูลเหอได้รบ
ั ความยากลําบากไม่
น้อย ท่านปูไม่สบายใจจึงส่งหลานสีมาเยียมทีอวินโจว  
ท่านอาเขย เหตุใดถึงไม่เห็นท่านอากับญาติผน
ู้ อ
้ งเล่า” ท่าที
ของเสินเวยจริงใจอย่างยิง! 
 
รอยยิมบนใบหน้าเหอจังหมิงแทบจะรักษาไว้ไม่อยูแ
่ ล้ว  
แววตากะพริบวาบกําลังจะเอ่ยปาก จู่ๆ ก็ได้ยน
ิ เถียนอีเหนียง
กล่าว “คุณชายสีช่างเปนหนุม
่ รูปงามจริงๆ! เรียนให้คณ
ุ ชาย
สีทราบ ตังแต่ทีท่านพีคลอดคุณหนูใหญ่ ร่างกายก็ไม่ค่อย
แข็งแรง ตลอดทังปรักษาตัวอยูใ่ นเรือน คุณชายสีเข้าห้องพัก
ให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยไปหาท่านพีกับคุณหนูใหญ่ดีหรือ
ไม่” 
 
บนใบหน้านางมีรอยยิมบางๆ ทีตนคิดไปเอง ซายังคิดว่าตน
ใส่ซอบริ
ื สทุ ธิ อืม อย่างน้อยเหอจังหมิงมองดูแล้วก็เปนเช่นนี 
เมือเห็นแววตาทีชืนชมของนายท่าน รอยยิมบนใบหน้าของ
เถียนอีเหนียงก็ยงกว้
ิ าง ในใจก็ยงพอใจ  

 
ทว่าเสินเวยกลับขมวดคิว เชิดคางไปทางเถียนอีเหนียง 
เล็กน้อย กล่าว “คนผูน
้ คื
ี อ?” 
 
“ข้าคืออีเหนียงของจวนตระกูลเหอ หลายปมานีทีท่านพี
นอนพักฟนร่างกาย ล้วนแต่เปนข้าทีช่วยจัดการกิจธุระใน
จวน” เถียนอีเหนียงภูมใิ จเล็กน้อย 
เสินเวยหน้าตึงทันที วางชาลงบนโต๊ะ สายตาทีมอง 
เหอจังหมิงก็เหยียดหยามขึนมา “ท่านอาเขย ก่อนหน้านี
หลานสีได้ยน
ิ ว่าท่านอาใช้ชว
ี ิตอยูใ่ นจวนตระกูลเหออย่าง
ยากลําบากก็ยงั ไม่เชือ แต่ตอนนีได้ยน
ิ เถียนอีเหนียงผูน
้ พู
ี ด 
หลานสีกลับเชือแล้ว…อีเหนียงเล็กๆ คนหนึง เปนเพียงคน
ต้อยตา นายพูดอยูม
่ ส
ี ท
ิ ธิให้เจ้าพูดแทรกหรือ ยังมีมารยาท
อยูห
่ รือไม่ มิหนําซายังจัดการเรืองในจวน ท่านอาเพียงแค่
สุขภาพไม่ดี ข้างกายนางยังมีแม่นมทีรูจ
้ ักระเบียบประเพณีที
นํามาจากจวนโหวด้วยไม่นอ
้ ย เหตุใดถึงต้องให้อีเหนียงคน
หนึงยืนมือวาดเท้าเล่า” สายตาเสินเวยเย็นเยียบ 
 
สีหน้าของเถียนอีเหนียงเปลียนฉับพลัน ประเดียวเขียว
ประเดียวม่วง เหอจังหมิงก็อดขมวดคิวไม่ได้ คุณชายสีแซ่
เสินผูน
้ ดู
ี ท่าทางเปนผูใ้ หญ่ เหตุใดถึงได้ประพฤติตัวเผด็จการ
เช่นนี 
 
“คุณชายสี ท่านเข้าใจข้าผิดแล้ว ไม่ใช่แบบทีท่านคิด ท่านพี
นาง…” เถียนอีเหนียงอดทนอดกลันคิดจะอธิบาย 
 
เสินเวยตัดบทพูดนางทันที “หุบปาก! ยิงพูดเจ้าก็ยงเหิ
ิ มเกริม
ใช่หรือไม่ ข้าโตมาขนาดนียังไม่เคยเห็นบ่าวทีเหยียบจมูกขึน
หน้าเช่นเจ้ามาก่อน เปนแค่คนต้อยตา ยังกล้าทะนงตน ยัง
รูจ
้ ักกฎระเบียบอยูห
่ รือไม่ เย่ว์ก้ย
ุ ตบปากให้ขา้ สังสอน 
อีเหนียงผูน
้ เสี
ี ยหน่อยว่าอะไรคือกฎระเบียบ” เสินเวยตังใจ
เรียกเย่ว์ก้ย
ุ ทีเปนยุทธ์ 
 
“เจ้าค่ะ คุณชาย” เย่ว์ก้ย
ุ ก้าวออกมา ออกมือดังสายฟา  
เถียนอีเหนียงกับเหอจังหมิงต่างก็ตอบสนองกลับมาไม่ทัน 
ถูกตบหน้าดังเพียะๆๆ ไปห้าหกครังแล้ว  
 
ใบหน้าของเถียนอีเหนียงแดงกาขึนมาในชัวพริบตา นางกุม
หน้าด้วยท่าทางเหลือเชือ “นายท่าน” นางนาตาคลอสะอืน
ไห้มองเหอจังหมิง น่าสงสารอย่างยิง ทว่าเสินเวยกลับมอง
เห็นความโกรธเกรียวทีแวบผ่านแววตานาง ยกยมุมปากขึน
อย่างอดไม่ได้ 
 
เหอจังหมิงทังตกใจทังโมโห ตะโกนกล่าวเสียงดัง “หลานสี 
เจ้ามีเจตนาอันใด ไม่เห็นอาเขยเช่นข้าอยูใ่ นสายตามากเกิน
ไปแล้ว!”  
 
เสินเวยยิมเยาะ “หลานสียังอยากถามท่านอาเขยอยูเ่ ลยว่ามี
เจตนาอันใด หลานชายบ้านฝงมารดามาถึงหน้าบ้าน แต่ท่าน
อากับญาติผน
ู้ อ
้ งแท้ๆ กลับไม่ปรากฏหน้า ท่านอาเขยพาอี
เหนียงออกมาไม่ไว้หน้าใคร คนตาช้าทีไม่รูจ
้ ักกฎระเบียบ
เช่นนีหากอยูท
่ ีจวนจงอู่โหวคงจะถูกฆ่าทิงไปนานแล้ว แต่ท่า
อาเขยยังโปรดปรานทะนุถนอมเปนของลาค่า อ้อ หลานสีรู้
แล้ว ท่านอาเขยโปรดอนุภรรยาทอดทิงภรรยาเอกสินะ 
ใต้เท้าผูต
้ รวจการทราบหรือไม่” 
เหอจังหมิงได้ยน
ิ ชือผูต
้ รวจการ แม้ว่าสีหน้าจะไม่แสดงออก 
แต่เบืองลึกในใจกลับเสมือนถูกทําลายชีวิตอันสงบสุข เขา
เปนขุนนางมาหลายป ย่อมต้องรูว
้ ่าการโปรดอนุภรรยา 
ทอดทิงภรรยาเอกเช่นนี หากถูกผูต
้ รวจการแจ้งคนในให้
กราบทูลรายงานองค์จักรพรรดิคงจะต้องรับผิดชอบผลที
ตามมาแน่นอน เดิมเขาก็ถก
ู เสินเวยเอ่ยต้อนด้วยเหตุผลแล้ว 
ตอนนีก็ยงพู
ิ ดไม่ออก อ้าปากอาอึงอยูห
่ ลายครัง จากนันจึง
กล่าว “อย่างไรเสียนางก็เปนอนุภรรยาของอาเขย หลานสีก็
ควรไว้หน้าสักหน่อยจึงจะถูก” 
 
ทว่าเสินเวยกลับแค่นเสียงหนึงคราลุกขึนยืน “คุยกันไม่
ถูกคอครึงคําก็มากเกิน ท่านอาเขยไม่ต้อนรับหลานสีด้วย
ความจริงใจ เช่นนันหลานสีก็จะไปเยียมท่านอาเดียวนี”  
นางยกเท้าเดินออกไปนอกประตู ทหารลับของนางสืบข่าว
อย่างดีมาก่อนแล้ว ท่านอากับญาติผน
ู้ อ
้ งของนางอาศัยอยู่
ในเรือนหลังนันทีโทรมทีสุดโดดเดียวทีสุดในจวนตระกูลเหอ 
อีกทังฝงนางยังมีอวินหรงผูท
้ ีคุ้นเคยจวนตระกูลเหอเปน
อย่างดี นางแอบไปทีเรือนของท่านอาแล้ว คาดว่าตอนนี 
ท่านอากับญาติผน
ู้ อ
้ งน่าจะรูว
้ ่านางมาถึงแล้ว 
 
เหอจังหมิงตกใจ เขาจะให้เสินเวยไปทีเรือนเสินหย่าตอนนี
ได้อย่างไร นันไม่เท่ากับเปนการบอกคนอืนหรือว่าเขาโปรด
อนุภรรยาทอดทิงภรรยาเอก เรือนแห่งนันก็คือหลักฐานอัน
โจ่งแจ้ง  
 
“หลานสี กลับมา กลับมา ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ ไม่ว่าอย่างไร
ก็ต้องดืมชาพักกายเสียหน่อย” ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสังคนให้
ไปจัดระเบียบเรือนทีทรุดโทรดหลังนันก่อน 
 
เสินเวยไม่สนใจเขาอย่างสินเชิง ข้างกายนางมีโอวหยางไน่
กับเถาฮวาเย่ว์ก้ย
ุ บ่าวจวนตระกูลเหอไหนเลยจะขัดขวาง
นางได้ 
และในตอนนีเอง ในเรือนของเสินหย่าก็กําลังชุลมุนวุ่นวาย
กันอยู ่
 
 
ตอนที 192-1 เปดฉากศึกบีบคันครังใหญ่
 
“ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านลืมตาสิ ท่านอย่าทําให้ลก
ู กลัว! ท่าน
ลืมตามองข้าสิ” เหอหลินหลินนังอยูบ
่ นพืนกอดมารดาราไห้
ปานใจจะขาด 
 
เสินหย่าทีนอนราบอยูบ
่ นพืนปดตาทังคู่สนิท ไม่ขยับแม้แต่
นิดเดียว บนลําคอมีรอยรัดทีน่าตกอกตกใจอยูห
่ นึงรอย 
 
แม่นมชราและเสียวจวีเองก็ล้อมวงราไห้ “คุณหนู เหตุใด
ท่านถึงโง่เพียงนัน ท่านตัดใจทิงคุณหนูนอ
้ ยไว้คนเดียวได้
อย่างไร คุณหนู ไม่ค้ม
ุ กันเลย ท่านโง่เกินไปแล้ว!” 
 
เหอหลินหลินได้ยน
ิ ดังนันนาตาก็ไหลหนักกว่าเดิม เขย่าร่าง
มารดานางไม่หยุด ตะโกนเรียกมารดาด้วยเสียงสะอึกสะอืน 
 
เช้าวันนีหลังทานข้าวเช้าเสร็จนางก็ทํางานเย็บปกอยูใ่ นห้อง 
ทําไปทํามาก็รูส
้ ก
ึ ว่าจิตใจไม่สงบสุข กระทังนิวมือยังถูกเข็ม
แทงไปหลายครา นางวางงานปกลงแล้วไปหามารดานางที
ห้องใหญ่ด้วยจิตใจกระวนกระวาย คาดไม่ถึงว่าจะเห็น 
มารดนางแขวนคออยูบ
่ นคานห้อง นางตกใจจนอกสัน 
ขวัญหายในชัวขณะ โผเข้าไปกอดขาทังคู่ของมารดานาง
แล้วร้องตะโกนเสียงดัง แม่นมชรากับเสียวจวีได้ยน
ิ เสียง
เรียกตะโกนก็วิงเข้ามา ตกใจจนขวัญแทบกระเจิง คนทังสาม
ร่วมแรงกันกว่าจะนําเสินหย่าลงมาได้ 
 
เหอหลินหลินคิดไม่ถึงเลยว่ามารดานางจะหมดหนทางจนคิด
สัน นางรูว
้ ่ามารดานางทิงนางไม่ลง ตอนนีในเมือมารดานาง
เลือกเส้นทางนีแล้ว เช่นนันก็แปลว่าจะต้องทําเพือนาง
แน่นอน 
 
 
เมือคิดภาพว่าหลังจากนีนางก็จะเปนลูกทีไม่มแ
ี ม่แล้ว ซายัง
ไม่มใี ครใช้สายตารักใคร่ทะนุถนอมมองนางอีกแล้ว  
เหอหลินหลินก็รูส
้ ก
ึ เจ็บปวดใจแทบตาย หายใจไม่ออก นาง
ร้องจนเสียงแหบเสียงแห้ง หายใจไม่เปนจังหวะ นาตาที 
ร้อนผ่าวหยดลงบนใบหน้าแม่นาง 
 
“คุณหนูนอ
้ ยอย่างเพิงเสียใจไป คุณหนูยงั มีลมหายใจเจ้าค่ะ
” จู่ๆ แม่นมชราทีวางนิวลงบนปลายจมูกของเสินหย่าก็
ตะโกนกล่าว 
 
เสียวจวีเองก็ตะโกนด้วยความดีใจ “ดูสิ ดูสิ คุณหนูขยับแล้ว 
ขยับแล้ว”  
 
เหอหลินหลินหยุดร้องไห้ทันที ก้มหน้ามองมารดาในอ้อมอก 
เห็นเพียงคิวของมารดานางขมวดมุน
่ ดังคาด ศีรษะเองก็ขยับ
เล็กน้อย นางดีใจอย่างยิง ร้องตะโกนไม่หยุด “ท่านแม่  
ท่านแม่ ท่านอย่าทิงข้าไปเด็ดขาดนะเจ้าคะ!” ตะโกนไป
ตะโกนมาก็อดเจ็บปวดหัวใจไม่ได้ นาตาบดบังทัศนวิสย
ั  
 
ดวงชะตาเสินหย่ายังไม่ถึงฆาต หลายวันมานีนางคิดมาโดย
ตลอดว่าทําอย่างไรจึงจะขัดขวางไม่ให้สามีผลัก 
หลินเจียเอ๋อร์เข้ากองไฟได้ คิดไปคิดมาก็มเี พียงวิธเี ดียว  
นันก็คือนางตาย 
 
นางตายแล้ว หลินเจียเอ๋อร์ทีเปนลูกสาวแท้ๆ ก็ต้องไว้ทก
ุ ข์
สามป ช่วงเวลาไว้ทก
ุ ข์ยอ
่ มไม่อาจแต่งงานได้ นางช่วยอะไร
ลูกสาวไม่ได้แล้ว หากการตายของนางสามารถแลกโอกาส
ชีวิตให้ลก
ู สาวได้ นางก็ยน
ิ ดี 
 
วันนีนางหาข้ออ้างไล่แม่นมชราและเสียวจวีออกไปอย่าง
ยากลําบาก หยิบผ้าขาวทีแอบเตรียมไว้แล้วมาแขวนไว้บน
คานห้อง แขวนคอขึนไปอย่างไม่ลังเล ก่อนทีจะหมดสตินาง
ยังเสียใจทีไม่สามารถจัดพิธป
ี กปน[1]ให้ลก
ู สาวได้ ไม่อาจ 
มองลูกสาวออกเรือนด้วยตาตัวเองได้ 
 
แต่นางก็ไม่คิดว่าลูกสาวจะเข้ามาหาเร็วถึงเพียงนัน เพราะ
ช่วงเวลาทีแขวนคอยังไม่นาน ถูกลูกสาวร้องไห้ตะโกนเขย่า
ตัวเช่นนี เสินหย่าก็ฟนอีกครัง 
 
“หลินเจียเอ๋อร์…อย่าร้อง!” เสินหย่าทีฟนขึนพยายามพูด 
คําไม่กีคํานีออกมาด้วยเสียงทีแหบแห้ง มือทีลูบแก้มของ
ลูกสาวสันระริก เช็ดนาตาออกไป “หลินเจียเอ๋อร์…เจ้า…เจ้า
ให้แม่…ตายเสียเถอะ! เช่นนี…พ่อเจ้า…ก็จะไม่…บังคับเจ้า…
ให้แต่งงานอีก”  
 
เหอหลินหลินร้องไห้ด้วยความเสียใจยิงขึน คว้ามือของแม่
นางมาแนบไว้ขา้ งแก้มตน “ท่านแม่ ท่านแม่ ข้าไม่ให้ท่าน
ตาย ข้ายอมฟงคําพูดท่านพ่อแต่งงานกับคนผูน
้ นยั
ั งดีกว่า
ท่านต้องตาย” 
 
ท่านตายแล้ว ก็จะไม่มใี ครรักข้าแล้ว! วินาทีนี ความไม่พอใจ
จํานวนหนึงทีเหอหลินหลินมีต่อแม่นางพลันหายวับไปกับตา 
แม้ว่าแม่นางจะอ่อนแอไร้ประโยชน์ลก
ุ ยืนไม่ขน
ึ พลอยให้
นางลําบากไปด้วยตังแต่เกิด แต่มารดาทีอ่อนแอไร้ประโยชน์
ผูน
้ กลั
ี บยอมตายเพือนาง!  
 
นางไม่โกรธ ไม่โกรธ ไม่โกรธอีกต่อไป ขอเพียงแค่มารดามี
ชีวิตต่อไปได้ แม้ว่าจะต้องใช้ชว
ี ิตทีลําบากกว่านีนางก็ยน
ิ ดี 
 
เห็นสองแม่ลก
ู ร้องไห้อย่างระงับอารมณ์ไม่ได้ แม่นมชราก็ดึง
แขนเสือเช็ดนาตา กล่าวตําหนิ “เหตุใดคุณหนูถึงโง่เพียงนี 
ท่านรูว
้ ่าหากบิดามารดาเสียชีวิตบุตรต้องไว้ทก
ุ ข์สามป  
เหตุใดถึงลืมว่ายังมีเรืองสมรสช่วงต้นของการไว้ทก
ุ ข์เล่า 
หากท่านไม่อยูแ
่ ล้ว ท่านเขยโกรธขึนมาจะต้องให้คณ
ุ หนูนอ
้ ย
แต่งงานภายในร้อยวันเปนแน่” 
 
เสินหย่าตะลึงงันในชัวขณะ จริงสิ ด้วยนิสย
ั ของสามี บวกกัน
การเปาหูของเถียนอีเหนียง จะต้องไม่ให้ลก
ู สาวรอถึงสามป
แน่นอน นางคิดไม่ถึงได้อย่างไร 
 
“เช่นนัน…จะทําอย่างไร..หลินเจียเอ๋อร์…ของข้า…จะทํา
อย่างไร บุตรสาว…ผูม
้ ช
ี ว
ี ิตขืนขมของข้า!” เสินหย่าทังร้อนใจ
ทังหมดหวัง นาตาไหลพรากลงมา 
 
แม่นมชรากับเสียวจวีก็ยงหมดหนทาง
ิ ทําได้เพียงร้องไห้ตาม 
 
ตอนทีอวินหรงเข้ามาในเรือนก็มองเห็นฉากๆ นีพอดี  
ยังคิดว่าคุณหนูของตนเปนอะไรไป ตืนตระหนกวิงเข้ามา
อย่างลืมตัว “คุณหนู คุณหนู ท่านอย่าได้เปนอะไรไปนะ 
เจ้าคะ คนของจวนโหวมาแล้ว หลานชายของท่านมา 
หนุนหลังท่านแล้ว” นางวิงไปพลางตะโกนไปพลาง โทษ 
ตัวเองในใจไม่หยุด ผิดทีนางเดินช้าเกินไป หากว่าคุณหนูเปน
อะไรไป เช่นนันนางก็คงอยูต
่ ่อไปไม่ได้แล้วเช่นกัน 
  
เสินหย่าและคนอืนๆ ได้ยน
ิ อวินหรงตะโกนเช่นนี ชัวขณะก็
หยุดร้องไห้ โดยเฉพาะเสินหย่าทีดินพล่านลุกขึนยืน มอง 
อวินหรงอย่าเหลือเชือ “จริงหรือ มีคนมาจากจวนโหวแล้ว
จริงๆ หรือ”  
 
“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ!” อวินหรงพยักหน้าไม่หยุด เช็ดนาตาบน
หน้าลวกๆ เบะปากแต่กลับเผยให้เห็นรอยยิมกว้าง “เปน
คุณชายสีบ้านนายท่านสาม หลานชายของท่าน เปนคุณชาย
สีทีสร้างชือเสียงอํานาจในสนามรบซีเจียง คุณหนู พวกเราไม่
ต้องกลัวอีกแล้ว!” นางเองก็ทราบว่าคุณชายสีผูน
้ คื
ี อคุณหนูส ี
คุณหนูสที
ี ฝาบาทพระราชทานบรรดาศักดิให้เปนจวินจู่ผน
ู้ น 

ตอนทีมานางยังกังวลเล็กน้อย แต่ผา่ นการเดินทางครังนี
จิตใจนางก็วางลงทังหมด คุณหนูสผู
ี น้ เก่
ี งกาจจริงๆ มินา่ เล่า
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวถึงให้นางมาอวินโจวเทียวนี 
 
หยาดนาตาของเสินหย่าก็ยงเปยมความสุ
ิ ข คว้ามือของ
ลูกสาวตะโกนอย่างดีใจ “หลินเจียเอ๋อร์…เจ้าได้ยน
ิ …หรือไม่
…ญาติผพ
ู้ …ของเจ้
ี า…มาแล้ว!” 
 
เหอหลินหลินสะอืน “อือ อือ ท่านแม่ ข้าได้ยน
ิ แล้ว ญาติผพ
ู้ ี
มาแล้ว พวกเราไม่ต้องกลัวแล้ว พวกเรารอดแล้ว” บน
ใบหน้าของนางเผยรอยยิมกว้าง  
 
ส่วนแม่นมชราและเสียวจวีเองก็เช็ดนาตาไปพลาง สวดมนต์
อมิตาพุทธไปพลาง  
 
ไม่รอให้เสินหย่าสองแม่ลก
ู รอนาน เร็วอย่างยิงเงาร่างของ
เสินเวยก็ปรากฎอยูห
่ น้าประตูเรือน 
ท่ามกลางความพร่าเลือนเสินหย่ามองเห็นเพียงคุณชายวัย
หนุม
่ ทีมีเรือนร่างสูงตระหง่านดังหนุม
่ รูปงามกําลังยิมน้อยๆ 
เดินเข้ามาหานางช้าๆ นีคือหลานของนางงันหรือ หน้าตาดี
จริงๆ! ไม่รูเ้ พราะเหตุใด เมือเห็นหลานผูน
้ หั
ี วใจซึงไร้ทีพึง
ของนางก็สงบลงทันที ดวงตาคู่นนของหลานชายเหมื
ั อนพ่อ
เขาอย่างยิง กระบอกตานางร้อนผ่าวอย่างไม่รูต
้ ัว โชคดีที
ไม่มน
ี าตาร่วงลงมาอีก  
 
เหอหลินหลินเองก็มองเสินเวยอย่างไม่ละสายตา นีคือญาติ 
ผูพ
้ ของนาง
ี คุณชายสูงส่งของจวนโหว ทีแท้แล้วก็มห
ี น้าตา
เช่นนี เปนนกกระเรียนในฝูงไก่ โดดเด่นสง่างามนัก 
 
“ท่านอา หลานสีมาเยียมท่านแล้ว!” เมือเสินเวยเข้ามาก็
ทําความเคารพอย่างนบนอบ อีกทังยังยิมน้อยๆ อย่างเปน
มิตรให้เหอหลินหลินอีกด้วย “นีก็คือญาติผน
ู้ อ
้ งหลินสินะ!” 
 
ความเปนมิตรทีออกมาจากใจจริงนันทําให้เหอหลินหลิน
แสบจมูกอย่างอดไม้ได้ ดีจริงๆ! ญาติผพ
ู้ ของนางไม่
ี ทะนงตน
และดูถก
ู พวกนางแม่ลก
ู แม้แต่นด
ิ เดียว นางเองก็ทําความ 
เคารพเสินเวยอย่างมีมารยาทอย่างยิง เรียกหนึงครา  
“ญาติผพ
ู้ ” 

 
เสินเวยมองดู ชัวขณะก็รูส
้ ก
ึ ว่าญาติผน
ู้ อ
้ งคนนียังนับว่า 
น่าเชือถือได้ รอยยิมบนใบหน้าก็จริงใจสามส่วน หันหน้ากลับ
มากําลังจะพูดกับท่านอา แต่พลันมองเห็นรอยรัดบนลําคอ
ของนาง รอยยิมบนใบหน้าก็หายไปทันที แววตาเย็บเยียบลง 
 
“เกิดเรืองอะไรขึน คนแซ่เหอผูน
้ นทํ
ั าอะไรอีก” ตอนนี 
เหอจังหมิงจากปากของเสินเวยกลายเปนคนแซ่เหอไปเสีย
แล้ว “ลงมือกับภรรยาของตนเอง หน้าไม่อายจริงๆ ข้าจะไป
หาเขา!” นางไม่แม้แต่จะคิดก็เอาบัญชีนไปชํ
ี าระที 
เหอจังหมิงแล้ว อย่างไรเสียชายชาติชวผู
ั น ้ ก็
ี มป
ี ระวัติไม่ดี 
ตามการสืบข่าวของทหารลับ เขาลงมือกับภรรยาก็ไม่ใช่แค่
ครังสองครัง 
 
เหอหลินหลินร้อนใจใหญ่ ไม่สนการถือตัวระหว่างชายหญิง
ใดๆ ก้าวขึนไปดึงแขนเสือของเสินเวยไว้ “ญาติผพ
ู้ ี ไม่ใช่
อย่างนัน ไม่ใช่อย่างนัน” นางส่ายหน้าอย่างรีบร้อน บน
ใบหน้ายังมีความอึดอัดหลายส่วน 
 
เสินเวยอดสงสัยไม่ได้ ละสายตามองอาของนาง เห็นนาง
อึดอัดไปทังใบหน้าเช่นกัน แม่นมมัวทีอยูข
่ า้ งๆ เสินเวยมอง
เห็นปญหาแล้ว กระซิบข้างหูเสินเวยหลายประโยค 
 
เสินเวยเผยสีหน้าเข้าใจ สายตาทีมองท่านอาของนางก็ 
ซับซ้อนเล็กน้อย ความรักของแม่ยงใหญ่
ิ จริงๆ คนอ่อนแอ
เช่นท่านอายอมตายเพือลูกสาวได้ นีทําให้นางนึกถึงฮูหยิน 
หร่วนมารดาเจ้าของร่างเดิมอย่างอดไม่ได้ ฟงว่านางตายไป
พร้อมความโศกเศร้า แต่จะมีอะไรสําคัญไปกว่าลูกอีก นาง
ไม่เคยคิดหรือว่านางไม่อยูแ
่ ล้วจะทิงลูกชายลูกสาวอายุนอ
้ ย
คู่นให้
ี มชี ว
ี ิตอยูอ
่ ย่างไร 
 
เหอจังหมิงเองก็วิงตามมาแล้ว “หลานน้อย หลานสี หลาน
น้อย เจ้าอยากเคารพอาเจ้า อาเขยพาเจ้ามาก็ได้แล้ว เจ้าจะ
รีบร้อนเพียงนีไปไย” อย่างไรเสียก็เปนเช่นนีแล้ว  
เหอจังหมิงกลับยอมเสียง แสดงท่าทีของอาเขยทีดีกล่าวติ
เตียนเสินเวย  
 
เสินเวยหัวเราะเยาะ “หลานสีร้อนใจทีไหนกัน ท่านอาเขย
ร้อนใจเองหรือเปล่า” บนใบหน้านางมีรอ
้ ยยิมอันแสนอบอุ่น 
แต่เมือมองดูให้ดี รอยยิมนันกลับไม่จริงใจอย่างสินเชิง  
“มาๆๆ ท่านอาเขย เชิญนัง วันนีพวกเรามาหารือกันดีๆ 
เถอะ” นางตังใจมาหาเรือง ย่อมต้องสะสางบัญชีก่อนแล้ว
ค่อยว่ากัน 
“ดูหลานน้อยพูดเขา พวกเราเปนญาติกันแท้ๆ มีอะไรให้
ต้องหารือหรือ อากับญาติผน
ู้ อ
้ งเจ้าก็พบแล้ว ตอนนีไปคุย
กับอาเขยทีห้องหนังสือเถอะ จัดกับข้าวไว้เรียบร้อยแล้ว 
พวกเราสองคนไปดืมสุรากันหน่อยดีกว่า” เหอจังหมิงทํา
ราวกับว่าไม่รูเ้ จตนาในคําพูดของเสินเวย 
 
ทว่าเสินเวยกลับไม่ขยับ แต่หน
ั มองเย่ว์ก้ย
ุ ปราดหนึง  
เย่ว์ก้ย
ุ ก้าวขึนมาพยุงแขนของเหอจังหมิงอย่างกระตือรือร้น
ทันที “นายท่านเขย ให้บา่ วช่วยพยุงท่านนังเถอะเจ้าค่ะ” ไม่
สนว่าเหอจังหมิงจะยอมหรือไม่ มือก็ออกแรงกดเขาลงไปบน
เก้าอีแล้ว 
 
เสินเวยยกมุมปาก ส่งแววตาชืนชมให้เย่ว์ก้ย
ุ พยุงท่านอา
ของนางให้นงลงอี
ั กฝงด้วยตัวเอง 
  
 
ในใจเหอจังหมิงก็ยงไม่
ิ ยน ิ ยอม แต่กลับทําได้เพียงปนหน้า
ยิม “หลานน้อยมีเรืองอะไรก็รบ
ี พูดเถอะ พูดเสร็จแล้ว 
พวกเราสองคนไปดืมสุรากัน” 
 
เสินเวยยังคงยิม ถอนหายใจในใจ หนังหน้าท่าอาเขยไม่แท้ 
ผูน
้ หนาจริ
ี งๆ! ยางอายยังมีอยูห
่ รือไม่ ในเมือเจ้าไม่เห็น 
โลงศพไม่หลังนาตา เช่นนันข้าก็จะเปดโลงศพให้เจ้าเห็น 
ข้างในเอง! 
 
“ก่อนหน้านีหลานสีจัดการเถียนอีเหนียง ท่านอาเขยยัง
ตําหนิทีข้าไม่ไว้หน้าท่าน ท่านอาเขย ข้าไว้หน้าท่าน แต่ท่าน
ไว้หน้าจวนจงอู่โหวของพวกข้าบ้างหรือไม่” เสินเวยถามด้วย
ความตังใจมากเปนพิเศษ “คุณหนูสงู ส่งของจวนโหวทีใหญ่
โตโอ่อ่า อาศัยอยูใ่ นเรือนโทรมๆ เช่นนีหรือ ไม่ใช่บอกว่า
ท่านอาข้าพักรักษาตัวหรอกหรือ อยูใ่ นสถานทีแย่ๆ แบบนี
จะรักษาโรคอะไรได้ อีเหนียงคนหนึง คนต้อยตาทีซือมาได้
ด้วยเงินไม่กีตําลึง กินดีอยูด
่ ียงกว่
ิ าภรรยาเอก นีคือสิงทีท่าน
อาเขยเรียกว่าไว้หน้าจวนจงอู่โหวของพวกข้าหรือ”  
เสินเวยถามอย่างต่อเนือง 
 
สีหน้าเหอจังหมิงเดียวเขียวเดียวม่วง เสียใจอย่างยิงทีเหตุใด
ตนถึงดึงดันจะตามมา ตามมาเพืออะไร หาเรืองใส่ตัวหรือ 
 
“ไม่ใช่อย่างนัน ไม่ใช่อย่างนัน…” เหอจังหมิงร้อนใจจนเหงือ
ท่วมศีรษะ แต่กลับพูดเถียงไม่ออกสักคําเดียว ความจริงอยู่
ตรงหน้า ไม่ยอมให้เขาเล่นลิน  
 
“อะไรไม่ใช่ ท่านอาเขยโปรดอนุภรรยาทอดทิงภรรยาเอก 
โยนศักดิศรีจวนโหวของพวกข้าทิงเหยียบยาติดพืนแล้วใช่
หรือไม่” เสินเวยกล่าวช้าๆ ชายตามองเหอจังหมิงทีนังไม่ติด
ปราดหนึง กล่าวต่อ “ฟงว่าท่านอาเขยยังคิดจะแต่งญาติ 
ผูน
้ อ
้ งให้ตาเฒ่าทีใกล้จะลงโลงเปนภรรยาคนทีสองอีกด้วย 
จุ๊ๆ ไม่ใช่ว่าหลานว่าท่าน ท่านไม่สนใจท่านอาก็พอแล้ว แต่
ญาติผน
ู้ อ
้ งเปนบุตรสาวแท้ๆ ของท่าน เหตุใดท่านถึงใจดําได้
ลงคอเช่นนี” เสินเวยไม่อยากไว้หน้าเขาแม้แต่นด
ิ เดียว 
สําหรับชายชาติชวเช่
ั นนี ต้องถอดเสือผ้าทีปกคลุมตัวเขา
ออกให้หมด ให้เขาเปลือยกายล่อนจ้อนจึงจะดี 
 
ทว่าเหอจังหมิงกลับไม่คิดเช่นนี “หลานน้อยพูดผิดแล้ว  
หลินเจียเอ๋อร์เปนบุตรสาวแท้ๆ ของข้า ข้าจะไม่วางแผนเพือ
นางได้อย่างไร หลินเจียเอ๋อร์แต่งเข้าไปแล้วก็จะได้เปน 
ฮูหยินขันสี นีเปนเกียรติมากเพียงใด ผูช
้ ายทีโตหน่อยมีอะไร
ไม่ดี โตหน่อยจึงจะรูจ
้ ักรักผูอ
้ ืน” 
 
“พูดเช่นนีแสดงว่าท่านอาเขยหวังดีต่อญาติผน
ู้ อ
้ งสินะ” 
เสินเวยแค่เสียงในใจหนึงครา เห็นชายชาติชวแซ่
ั เหอ 
พยักหน้าอย่างมันอกมันใจ นางก็แทบจะโมโหแล้ว “เหตุใด
หลานสีถึงได้ยน
ิ ว่าท่านอาเขยทําเพือปูทางให้ลก
ู ชายคนโต
บุตรอนุภรรยาผูน
้ นเล่
ั า เฮ้อ ท่านอาเขยคิดถึงอนาคตแทน
บุตรชายก็เปนเรืองสมควร เพียงแต่ญาติผน
ู้ อ
้ งเพิงจะอายุ 
สิบสาม แต่งเข้าไปแล้วจะดีหรือ หลานสีคิดว่าเถียนอีเหนียง
ผูน
้ นกลั
ั บเปนตัวเลือกทีดี ด้วยอุบายของนางจะต้องมัดใจ
ใต้เท้าเฉวียนผูน
้ นได้
ั แน่ อีกทังลูกชายคนโตผูน
้ นของท่
ั าน
ไม่ใช่ลก
ู ชายแท้ๆ ของนางหรอกหรือ เพืออนาคตของลูกชาย
นางจะต้องพยายามแน่นอน ดีกว่าญาติผน
ู้ อ
้ งทีไม่ยน
ิ ยอม
พร้อมใจ ถึงตอนนันทําเสียเรืองท่านอาเขยขึนมาก็คงจะไม่
งาม” เสินเวยเสนอความคิดเห็นจากใจจริง คนทีอยูต
่ รงนัน
ต่างก็ก้มหน้ากลันหัวเราะ คุณหนูสร้ี ายกาจจริงๆ เหอหลิน
หลินเองก็รูส
้ ก
ึ โล่งใจ สายตาทีมองเสินเวยเลือมใสยิงนัก  
 
[1] พิธป
ี กปน เปนพิธข
ี องเด็กสาวทีมีอายุครบสิบห้าป  
เด็กสาวจะรวบมวยผมไว้กลางศีรษะ ผูใ้ หญ่ฝายเด็กสาวจะ
เชิญแขกผูห
้ ญิงมาช่วยปกปนให้เด็กสาว แสดงให้เห็นว่า 
เด็กสาวผูน
้ นได้
ั เติบโตเปนผูใ้ หญ่และพร้อมจะออกเรือนแล้ว 
ตอนที 192-2 เปดฉากศึกบีบคันครังใหญ่
 
สีหน้าของเหอจังหมิงไม่ค่อยดีแล้ว แม้จะบอกว่าเปนการ 
ซือขายภรรยา แต่ก็ไม่เคยมีหลักการนํามารดาแท้ๆ ของ 
บุตรชายคนโตไปให้คนอืน ปากหลานสีผูน
้ ร้ี ายจริงๆ นีไม่
เท่ากับว่าตบหน้าเขาอยูห
่ รือ เขากําลังจะเอ่ยปากก่นด่า ก็ได้
ยินเสียงดังเข้ามาจากหน้าประตู “เด็กเหิมเกริมไร้มารยาท
ทีไหนกัน”  
 
“ท่านแม่ ท่านมาได้อย่างไร” เหอจังหมิงมองเห็นพีสะใภ้
ใหญ่ของเขาประคองแม่เขาเดินเข้ามา ก็ตกใจเล็กน้อยอย่าง
อดไม่ได้  
 
มารดาแซ่เหอปรายตามองลูกชายอย่างไม่พอใจปราดหนึง
ก่อน “คนมากลันแกล้งถึงบ้าน แม่จะไม่มาได้อย่างไร”  
เถียนอีเหนียงวิงมาร้องทุกข์ต่อหน้านาง บอกว่าจวนจงอู่โหว
ส่งคนมาแล้ว ไม่พด
ู พราทําเพลงก็ตบหน้านางไปหลายที  
 
มารดาแซ่เหอเห็นใบหน้านางปูดบวมจริงๆ รอยฝามือก็ยงั
ชัดเจนแจ่มแจ้ง จากนันก็คิดได้ว่าตระกูลใหญ่โตมักจะใช้
อํานาจบาตรใหญ่จึงเชือทันที ในใจนางไม่พอใจแล้ว แม้ 
เถียนอีเหนียงจะเปนอนุภรรยา แต่อย่างไรเสียก็มห
ี ลานชาย
คนโตให้นาง เห็นแก่หลานชายคนโต นางจึงไม่อาจปล่อยให้
เถียนอีเหนียงถูกคนตบเช่นนีได้ ฟงว่าเปนเพียงเด็กหนุม
่ คน
หนึง นางกลับอยากเห็นว่าจวนจงอู่โหวจะน่าเกรงขามมาก
เพียงใดเชียว  
 
“คนผูน
้ คื
ี อคุณชายจวนโหวหรือ หน้าตาก็ดีใช้ได้ แต่เหตุใด
จิตใจถึงโหดเ**้ยมเพียงนัน” แม้ว่ามารดาแซ่เหอจะ
ประหลาดใจเล็กน้อย แต่เมือนึกถึงหน้าบวมๆ ใบนันของ 
เถียนอีเหนียง นางก็รูส
้ ก
ึ ว่าเสินเวยหน้าตาน่าเกลียดขึนมา
ทันที  
เสินเวยเองก็ไม่โกรธ เพียงแค่กระตุกมุมปาก “คนผูน
้ ก็
ี คือ 
แม่เฒ่าของท่านอาใช่หรือไม่ ดูใจดียงนั
ิ ก แต่เหตุใดถึงเปน
คนโง่เขลาเบาปญญาเล่า” เสินเวยตอบกลับเหมือนเดิมไม่
เปลียน “อนุภรรยาผูห
้ นึงไหนเลยจะควรค่าให้คณ
ุ ชาย 
โต้เถียงด้วย เพียงแค่เห็นนางไม่รูจ
้ ักกฎระเบียบเกินไป จึง
ชีแนะสักหน่อยก็เท่านันเอง”   
 
มารดาแซ่เหอแทบจะโกรธจนหน้าบิดเบียวแล้ว “ใครบอกว่า
เถียนอีเหนียงไม่รูจ
้ ักกฎระเบียบ เถียนอีเหนียงปฏิบต
ั ิตามกฎ
ระเบียบดี” กินดีอยูด
่ ีก็เพราะเคารพนางก่อน อีกทังยังส่ง
เครืองประดับไปให้บอ
่ ยๆ รูจ
้ ักอ่านสถานการณ์ทีสุด  
 
“อ้อ ข้าก็ว่า ทีแท้แล้วกฎระเบียบจวนตระกูลเหอของ 
พวกท่านก็เปนเช่นนีนีเอง! ทิงขว้างฮูหยินภรรยาเอก ยกย่อง
อีเหนียงให้ทําหน้าทีของภรรยาแทน เปนกฎทีดีจริงๆ! เอ๋ 
เหตุใดกําไลหยกชินนันบนข้อมือแม่เฒ่าถึงได้ค้น
ุ ตาเพียงนี
เล่า อ้อจริงสิ นีไม่ใช่สน
ิ เดิมของท่านอาข้าหรือ ยังมีปน
ทองบนศีรษะของพีสะใหญ่ผน
ู้ อี
ี ก ดูเหมือนว่าจะเปนของ
ท่านอาข้าเหมือนกันนีนา แม่ยายกับพีสะใภ้แบ่งสินเดิมของ
ลูกสะใภ้ พีน้อง ฮ่าๆๆ เปนกฎทีดีจริงๆ! ท่านอาเขย เรืองนี
ใต้เท้าผูต
้ รวจการรูห
้ รือไม่” เสินเวยไม่กลัวหรอก เจ้าพูดมา 
ข้าก็ตอกกลับได้ หึ! ดูสว
ิ ่าใครจะกลัว   
 
สีหน้าของเหอจังหมิงปรากฏความหวาดผวาหลายส่วนดัง
คาด เขาเองก็เข้าใจว่าในจวนมีกฎหลายข้อทีไม่ถก
ู ต้อง แต่
เขาก็เพียงแค่ปดบังไม่ให้ผต
ู้ รวจการรูก
้ ็เท่านันเอง  
 
ทว่ามารดาแซ่เหอกลับไม่กลัว นางเปนเพียงหญิงชราใน
ชนบทคนหนึง ไหนเลยจะรูว
้ ่าผูต
้ รวจการทําอะไรได้บา้ ง เห็น
นางกวาดสายตามองลูกสะใภ้รองอย่างเหยียดหยามปราด
หนึง กล่าวอย่างรังเกียจ “ในเมือเสินซือแต่งเข้ามาในตระกูล
เหอของพวกข้า นางก็คือคนในตระกูลพวกข้าแล้ว นับ
ประสาอะไรกับสินเดิมเล่า เคารพแม่ยายให้เครืองประดับไม่
กีชินจะเปนอะไรไป” นางกลับมันอกมันใจอย่างยิง “นาง
แต่งเข้าตระกูลเหอมาสิบกว่าปแล้ว คลอดแค่เด็กผูห
้ ญิงหนึง
คน แม้แต่ลก
ู ผูช
้ ายยังให้พวกข้าไม่ได้ ตระกูลพวกข้าไม่ขบ

นางออกก็เมตตาพอแล้ว” นางไม่พอใจเต็มที  
 
“ขับหรือ ท่านอาข้าผิดกฎเจ็ดขับ[1]ข้อไหนหรือ” เสินเวย
เลิกคิว แววตาเย็นเยียบ  
 
“ไม่มบ
ี ุตร!” มารดาแซ่เหอเอ่ยปากกล่าวทันที  
 
เสินเวยยิมแล้ว “บุตรอนุภรรยาหลายคนนันในจวนไม่ใช่
ลูกชายของท่านอาหรือไร”   
 
“นันไม่ใช่ลก
ู ทีนางคลอด” มารดาแซ่เหอแสยะปากโต้เถียง 
นางจ้องมองหลานสาวทีอยูข
่ า้ งๆ เสินหย่า สีหน้าก็ยงรั
ิ งเกียจ
ไปทังใบหน้า  
 
“พวกเขาล้วนเปนลูกของอีเหนียงทังหลายงันหรือ  
ท่านอาเขยก็คิดเช่นนีหรือ” เสินเวยมองเหอจังหมิง   
 
อย่างไรเสียเหอจังหมิงก็รบ
ั ราชการมาหลายป มีความรูก
้ ว่า
มารดามาก ปจจุบน
ั บุตรภรรยาหลวงและบุตรอนุภรรยายัง
คงเข้มงวดอย่างยิง บุตรทีอนุภรรยาคลอดเปนนาย แต่
อนุภรรยากลับยังคงเปนบ่าว อย่างมากก็เปนเพียงกึงนาย 
ย่อมไม่มส
ี ท
ิ ธิเลียงดูลก
ู ทีตนให้กําเนิด ยิงไม่อาจให้ลก
ู ของตน
เรียกว่าแม่ได้ แม่ของพวกเขามีเพียงฮูหยินภรรยาเอกเท่านัน  
 
ทําลายกฎระเบียบลูกภรรยาหลวงลูกอนุภรรยา หากถูก 
ผูต
้ รวจการจับหลักฐานและนําขึนกราบทูลจักรพรรดิ ก็รอ
ถอดถอนตําแหน่งค้นบ้านยึดทรัพย์ได้เลย  
 
เห็นท่าทางอยากพูดแต่พด
ู ไม่ออกเช่นนันของเหอจังหมิง 
เสินเวยจะไม่รูค
้ วามคิดในใจเขาได้อย่างไร ก่นด่าด้วยความ
เคียดแค้นหนึงครา แล้วกล่าวทันที “แม่เฒ่า วันนีพวกเรามา
พูดกันอย่างตรงไปตรงมาดีกว่า! จวนสูงศักดิละทิงท่านอากับ
ญาติผน
ู้ อ
้ งแบบนี เช่นนันก็หย่าเถอะ ข้าจะพาท่านอากลับ
เมืองหลวง แม่เฒ่าท่านเห็นบุตรสาวตระกูลใดดีงาม ก็รบ

หมันหมายให้ใต้เท้าเหอเสีย ใต้เท้าเหออายุก็ยงั ไม่มาก ยัง
คล่องแคล่วปราดเปรียวไม่แน่ว่าอาจจะยังมีบุตรภรรยาหลวง
ได้อีกหลายคน”   
 
มารดาแซ่เหอผูน
้ เปนคนที
ี ไม่มค
ี วามรูเ้ ถียงคําไม่ตกฟาก 
รบเร้ากับนางต่อไปเช่นนีก็ไม่มป
ี ระโยชน์ เสินเวยขีเกียจจะ
เปลืองนาลายกับนางแล้ว รอท่านอาหย่าแล้วค่อยมาจัดการ
คนชัวตระกูลนี  
  
 
“หย่าก็หย่า!” เหอจังหมิงกําลังจะบอกว่าข้าไม่เห็นด้วย ก็ถก

แม่ของเขาแย่งพูดแล้ว  
 
มารดาแซ่เหอสนใจข้อเสนอของเสินเวย แม้ว่าลูกชายคนเล็ก
จะมีหลานชายหลายคน แต่ก็เปนบุตรอนุภรรยาทังหมด นาง
คิดว่าไม่เปนไร ไม่สนว่าใครจะให้กําเนิด ต่างก็เปนลูกชาย
ของลูกชายนาง เปนหลานชายของนางเหมือนกัน  
 
แต่เมือได้ยน
ิ ว่าในแวดวงขุนนางมีการลําดับความสําคัญ 
อย่างไรเสียบุตรอนุภรรยาก็ไม่สงู ส่งเท่าบุตรภรรยาหลวง 
เพือลูกชายแล้วนางก็ยน
ิ ดีจะให้ลก
ู ชายมีบุตรภรรยาหลวง 
ในเมือเสินซือให้กําเนิดลูกชายไม่ได้ เช่นนันก็เลิกยึดครอง
ตําแหน่งภรรยาเอก ถอยให้ผอ
ู้ ืนเสีย! ข้อเสนอของเสินเวยก็
ตรงใจนางมิใช่หรือ  
 
 
“ในเมือแม่เฒ่าเห็นด้วย เช่นนันก็ดีจริงๆ อ้อ นีคือใบสินเดิม
ของท่านอาข้าในตอนแรก พวกท่านลองดู รีบรวบรวม 
สินเดิมของท่านอามา ข้าจะนํากลับไปพร้อมกัน” เสินเวย 
กล่าวอย่างมีความสุขทีสุด  
 
“อะไรนะ ยังต้องเอาสินเดิมกลับไปด้วยหรือ” นีคือเสียงทีสูง
และดังของมารดาแซ่เหอ “ฝนไปเถอะ!” ของทีเข้ากระเปา
นางแล้วจะยังให้นางคายออกมาได้อย่างไร ไม่มท
ี างเสีย
หรอก ยิงไปกว่านันใจวนล้วนอาศัยสินเดิมของเสินซือ 
ประคับประคองไว้ สินเดิมยึดไปแล้ว พวกเขาไม่ต้องกิน
แกลบกันเลยหรือไร ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด  
 
เสินเวยไม่แม้แต่จะสนใจนาง มองเหอจังหมิง “ใต้เท้าเหอ
คงจะไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ หย่ากันแล้ว ยังยึดสินเดิมฝายหญิง
ไว้ไม่ปล่อย หากเรืองนีดังออกไปใต้เท้าเหอจะยังมีหน้าไป
พบเพือนร่วมงานอีกหรือ”  
สีหน้าร้อยแปดพันเก้าบนใบหน้าของเหอจังหมิงแปรเปลียน
อย่างรวดเร็ว สูดหายใจเข้าลึกแล้วกล่าว “หลานน้อยไยจะ
ต้องพูดจาข่มขูด
่ ้วยเล่า ว่ากันว่าเปนสามีภรรยากันวันเดียว
ความสัมพันธ์กลับแน่นแฟนไปเนินนาน ข้ากับอาเจ้าอยูก
่ ัน
มาเกือบยีสิบปแล้ว สามีภรรยาแก่เฒ่ามาพูดให้หย่าเปนการ
ทําร้ายความรูส
้ ก
ึ มากเพียงใด ยิงไปกว่านันพวกข้ายังมี 
หลินเจียเอ๋อร์ อาเขยรูว
้ ่าเมือก่อนปฏิบต
ั ิตัวไม่ดีต่ออาเจ้า แต่
ตอนนีอาเขยสํานึกผิดแล้ว หลังจากนีจะชดเชยให้พวกนาง
แม่ลก
ู เปนอย่างดี” เปนถึงคนทีทํางานอยูใ่ นแวดวงขุนนาง 
ย่อมสามารถปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์  
 
มารดาแซ่เหอได้ยน
ิ คําพูดของลูกชาย ชัวขณะก็ตอบสนอง
กลับมา ตะโกนกล่าวเสียงดัง “ใช่ ไม่หย่าแล้ว ก็แค่ให้นาง
เปนภรรยาเอกเช่นนีต่อไป” เจตนาในคําพูดก็คือสินเดิมไม่
อาจคืนให้เปนอันขาด  
 
เสินเวยหงุดหงิดแล้ว กล่าวอย่างรําคาญใจ “ขออภัยใต้เท้า
เหอ จวนโหวไม่เชือคําสาบานของท่านแล้ว อีกทังการหย่าก็
เปนเจตนาของท่านปูข้า ท่านกับท่านอาจะต้องหย่ากัน”  
 
จากนันจึงหันหน้าถามท่านอานาง “ท่านอาคิดว่าอย่างไร” 
เห็นอานางสีหน้าลังเล เสินเวยจึงรีบกล่าว “ท่านไม่ต้องเปน
ห่วงชีวิตหลังจากนี ท่านปูอยูป
่ กปองท่านทุกวัน ท่านปูไม่อยู่
ก็ยงั มีขา้ หลานสี หากข้าเปนอะไรไป ในจวนข้ายังมีนอ
้ งชาย
แม่เดียวกัน” เจตนาในคําพูดก็คือท่านไม่ต้องเปนห่วงชีวิต
หลังหย่าร้างอย่างสินเชิง   
 
เสินหย่ายังคงสองจิตสองใจ ทว่าเหอหลินหลินกลับตัดสินใจ
แล้ว “ขอบคุณญาติผพ
ู้ ยิ
ี งนัก ทําตามทีญาติผพ
ู้ ว่
ี าเถิด  
พวกข้าแม่ลก
ู ไม่ขด
ั ขืน” แม่นางอยูใ่ นจวนตระกูลเหอต่อไป
จะต้องไม่มจ
ี ุดจบทีดีแน่นอน ไม่สห
ู้ ย่าแล้วตามญาติผพ
ู้ กลั
ี บ
เมืองหลวง ต่อให้จวนโหวไม่สนใจพวกนาง พวกนางแม่ลก
ู ก็
สามารถใช้ชว
ี ิตทํางานเย็บปกถักร้อยอยูต
่ ่อไปได้  
 
“เช่นนันก็ได้ ว่าตามนีแล้วกัน” เสินเวยพยักหน้า “เย่ว์ก้ย
ุ  
เหอฮวา เจ้าสองคนนําคนอยูป
่ รนนิบต
ั ิขา้ งกายท่านอากับ
ญาติผน
ู้ อ
้ งชัวคราว พ่อบ้านรองเจ้านําเด็กรับใช้อยูท
่ ีนี
จัดแจงงานตามคําสังของโหวกูไหน่ไนกับคุณหนูญาติผน
ู้ อ
้ ง 
และถือโอกาสเฝาประตูดเู รือนส่งข่าวต่างๆ จวนตระกูลเหอ
แห่งนีข้าอยูไ่ ม่ลงแล้ว โชคดีทีตระกูลพวกเรามีคฤหาสน์หลัง
หนึงอยูใ่ นเมืองอวินเหอพอดี ข้าจะพาคนไปจัดแจงทีพัก
ก่อน” สังเสร็จแล้วเสินเวยก็กําลังจะพาคนเดินออกไปข้าง
นอก  
 
“หยุด ห้ามไป!” มารดาแซ่เหอร้อนใจแล้ว “ขวางพวกเขาไว้
เดียวนี” โชคดีทีนางนําคนรับใช้มาเปนพยานจํานวนมาก ดูส ิ
ตอนนีไม่ใช่ว่ามีประโยชน์แล้วหรือ บนใบหน้ามารดาแซ่เหอ
พอใจยิงนัก  
เห็นคนรับใช้สบ
ิ กว่าคนล้อมกรูเข้าไป เสินเวยก็อยากจะ
กลอกตามองฟาจริงๆ สายตามองไปยังมารดาแซ่เหออย่าง
น่าสะพรึงกลัว “แม่เฒ่าหมายความว่าอย่างไร ขวางไม่ให้ไป
งันหรือ เหอะๆ ท่านเองก็ไปสืบข่าวบ้างก็ดี ข้าคุณชายสี 
แซ่เสินเปนบุคคลทีเข่นฆ่าไล่ฟนอยูใ่ นกองทัพใหญ่ซเี หลียง
นับหมืนนาย เพียงแค่ทหารซีเหลียงทีตายในมือข้าไม่หนึง
พันศพก็แปดร้อยศพแล้ว บ่าวรับใช้ไม่กีคนแค่นยั
ี งคิดจะ
ขวางข้า น่าขันจริงๆ”  
 
เสินเวยมองมารดาแซ่เหอถอยหลังอย่างหวาดกลัวด้วยความ
พอใจ จากนันจึงมองเหอจังหมิง กล่าวอย่างแฝงความนัย  
“แม่เฒ่าไม่รูช
้ อเสี
ื ยงของคุณชายสีแซ่เสิน แต่ใต้เท้าเหอ 
น่าจะต้องได้ยน
ิ มาบ้างใช่หรือไม่ ใครก็ได้ แสดงฝมือให้
ใต้เท้าเหอดูหน่อย!”  
 
“คุณชาย คุณชาย ข้าเอง!” เถาฮวาก้าวออกมาทันที ยืนมือ
อย่างรวดเร็วก็หวบ่
ิ าวรับใช้จวนตระกูลเหอทีอยูใ่ กล้นางทีสุด
ขึนมาแล้ว ชูขนเหนื
ึ อศีรษะราวกับลูกไก่แล้วหมุนหลายๆ 
รอบ มือเหวียงออก คนก็ลอยไปแล้ว ตกลงไกลอย่างยิง  
ฝุนดินฟุงกระจาย   
 
“ไอ๊หยา พีเย่ว์ก้ย
ุ ท่านอย่างมาแย่งข้าสิ!” เถาฮวาเห็นเย่ว์ก้ย

เดินเข้ามาเช่นกัน ชัวขณะก็รอ
้ นใจแล้ว มือหนึงคว้าคนหนึง
ขึนมาโยนออกไปข้างนอก ได้ยน
ิ เพียงเสียงตุบดังอย่างต่อ
เนือง บ่าวรับใช้จวนตระกูลเหอสิบกว่าคนถูกเถาฮวาโยน 
ออกไปหกเจ็ดคนแล้ว ทีเหลืออยูก
่ ็วิงหนีออกไปไกล แต่ละ
คนสีหน้าซีดเผือด  
 
“คุณชาย คุณชาย เถาฮวาเก่งหรือไม่” เถาฮวาเท้าเอวอย่าง
ห้าวหาญ หันหน้าขอคําชมอย่างน่าเอ็นดู  
 
 
เสินเวยกลันหัวเราะ ชูนวโปงขึ
ิ นมา “เก่ง เถาฮวาของข้าเก่ง
ทีสุดแล้ว”  
 
เมือครูน
่ างสังให้เย่ว์ก้ย
ุ ตบหน้าเถียนอีเหนียงเถาฮวาก็ไม่
พอใจแล้ว นางกล่าว “คุณหนู ท่านควรจะให้ขา้ ไป ข้ารับรอง
ว่าจะตบหญิงตัวเหม็นผูน
้ นไปถึ
ั งกําแพงทิศใต้เลย”   
 
เสินเวยพูดจาดีปลอบนางไปพลาง กล่าวในใจไปพลาง ด้วย
แรงของเจ้า คงจะไม่ใช่แค่ตบคนไปถึงกําแพงทิศใต้ เกรงว่า
จะตบเข้าไปในกําแพงทิศใต้จะขุดก็ขุดไม่ออกกระมัง   
 
“พูดดีๆ ไม่ฟงต้องให้ใช้กําลังบังคับ เฮ้อ เกรงใจมามาก
พอแล้ว ไยจะต้องทําลายมิตรภาพให้ได้ ใช่หรือไม่ ใต้เท้าเหอ
” เสินเวยเชิดคางเบาๆ ท่าทางทะนงตนอย่างถึงทีสุด นําคน
เดินวางท่าออกไปภายใต้สภาพปากอ้าตาค้างของเหอจังหมิง   
 
[1] เจ็ดขับ คือการทีฝายสามีสามารถขับภรรยาออกจากบ้าน
หากมีพฤติกรรมตรงกับข้อใดข้อหนึงในเจ็ดขับ ซึงได้แก่ ไม่
ปรนนิบต
ั ิพอ
่ แม่สามี ไม่มบ
ี ุตร คบชู้ อิจฉาริษยา มีโรคร้าย
แรง พูดมาก และลักขโมย  
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ตอนที 193-1 สงครามมติมหาชน
 
ให้ตายเถอะ เทพสังหารนีมาจากไหนกัน! มารดาแซ่เหอตบ
อกแทบจะเปนลมล้มพับไปกับพืน ยังดีทีถูกสะใภ้ใหญ่พยุงไว้
จึงไม่ได้ขายหน้า  
 
สะใภ้ใหญ่ของมารดาแซ่เหอมีแซ่เดิมว่าจาง แต่งเข้าตระกูล
เหอได้ยสิ
ี บปแล้ว มีบุตรชายสามคนบุตรสาวสองคน  
บุตรชายสามคนและบุตรสาวคนโตมีครอบครัวหมดแล้ว มี
เพียงลูกสาวคนเล็กซึงอายุเท่าเหอหลินหลินทียังอยูข
่ า้ งกาย 
เพราะว่านางมีบุตรชายสามคนให้แก่ตระกูลเหอ ดังนันไม่ว่า
จะเปนบุตรชายคนโตของตระกูลเหอ หรือว่ามารดาแซ่เหอ
ต่างก็ปฏิบต
ั ิต่อนางดีอย่างยิง  
 
เมือครูจ
่ างซือเองก็ตกใจไม่นอ
้ ย แม้จะบอกว่าคนในชนบท
เพียงพูดไม่เข้าหูก็ลงไม้ลงมือมีเยอะถมไป แต่อย่างมากก็แค่
ตบตีเตะต่อย ไหนเลยจะเหมือนคุณชายสีจวนโหวผูน
้ น 

เมือครู่ ดาบในมือส่องแสงเย็นวาบ ราวกับว่าวินาทีถัดมาจะ
แทงลงบนร่างนาง ยังมีสาวใช้ตัวเล็กๆ ผอมๆ ผูน
้ น
ั มือข้าง
เดียวก็สามารถโยนชายฉกรรจ์ออกไปได้ โหดเ**้ยมเกินไป
แล้ว 
 
ไม่คิดว่าเบืองหลังน้องสะใภ้ทีแต่ไหนแต่ไรอ่อนแอจะยังมีที
พึงทีใหญ่ถึงเพียงนี นางนึกถึงเครืองประดับและเงินทองที
เอามาจากมือน้องสะใภ้หลายปมานี จากนันจึงนึกถึงร้านค้า
ทีครอบครัวดูแลอยู่ จิตใจก็ตืนตระหนก กังวลว่าคุณชายสี
จวนโหวจะมาคิดบัญชีกับนาง หลังจากนันก็นก
ึ ได้ว่าคุณชาย
สีผูน
้ นบอกว่
ั าจะเอาสินเดิมของน้องสะใภ้กลับไปทังหมด 
เช่นนันครอบครัวนางใช่จะต้องเปลียนกลับไปเปนสภาพ
ยากจนอย่างเช่นทีแล้วมาหรือไม่ นีเปนการเฉือนเนือนาง
อย่างแท้จริง 
  
ทําอย่างไร ทําอย่างไรดี จริงสิ ไม่หย่าก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ ขอ
เพียงแค่นอ
้ งสามีกับน้องสะใภ้หย่ากันไม่สาํ เร็จ สินเดิมของ
น้องสะใภ้ยอ
่ มสามารถรักษาไว้ในจวนตระกูเหอต่อไปได้ อยู่
ในจวนตระกูลเหอต่างอะไรจากอยูใ่ นมือนาง พ่อสามีแม่สามี
รักลูกชายทังสามของบ้านนางมากกว่า มักจะมีเบียเลียงอยู่
เสมอ มิเช่นนันเหตุใดนางจะต้องวิงมาโน้มน้าวยายแก่ทีไม่มี
ความรูเ้ ช่นนีด้วยเล่า  
 
คิดถึงตรงนีนางก็ก้มกระซิบข้างหูแม่สามีหลายประโยค 
สีหน้าบนใบหน้ามารดาแซ่เหอก็ลังเลเล็กน้อย จะให้แม่สามี
เช่นนางลดตัวลงมานอบน้อมกับลูกสะใภ้ทีไม่มแ
ี ม้แต่ลก
ู ชาย 
นางจะยอมได้อย่างไร  
 
จางซือร้อนใจแล้ว กล่าวเสียงตา “ท่านแม่ คิดถึงสินเดิมของ
น้องสะใภ้ แล้วคิดถึงหลานชายบ้านใหญ่สามคนนันของท่าน
สิ”  
คราวนีมารดาแซ่เหอยอมแล้ว หลานชายบ้านใหญ่สามคน
ของนาง หลานชายคนโตฉลาด เรียนหนังสือมาสิบกว่าป 
เปนบัณฑิตแล้ว สอบอีกครังก็เปนซิวไฉแล้ว เรียนหนังสือ
ผลาญเงินทีสุด ตอนแรกครอบครัวพวกนางกินน้อยใช้นอ
้ ย
กว่าจะส่งเสียลูกชายคนเล็กออกไปได้ หากไม่มเี งิน อนาคต
ของหลานชายคนโตก็จะล่าช้าออกไป 
 
หลานชายคนรองก็มไี หวพริบตังแต่เล็ก แม้ว่าจะไม่ใช่บุคคล
ทีเรียนหนังสือ แต่กลับมีฝมือในการหาเงิน อายุสบ
ิ สอง 
สิบสามปก็ชว
่ ยพ่อเขาดูแลร้านค้า ครังแรกก็ได้เงินไปซือ
ขนมหร่วนเกา[1]บนถนนใหญ่ฝงตะวันตกให้ตัวเองได้แล้ว 
 
หลานคนทีสามก็กตัญ ู ห้าหกขวบก็ตืนแต่เช้ามาเคารพนาง 
ตกเย็นเลิกเรียนก็ไปพูดคุยเปนเพือนทีเรือนของตน เด็กดี
เช่นนีกลับสุขภาพไม่ดี ทุกเดือนต้องปวยสักสองครัง ดืมยา
นาขมๆ นันบ่อยยิงกว่ากินข้าวเสียอีก ลําบากยิงนัก 
สําหรับหลานชายหลายคนของบ้านลูกชายคนเล็ก หนึงคือ
พวกเขาอายุยงั น้อย มารดาแซ่เหออายุมากแล้ว เลียงเด็กไม่
ไหวแล้ว ลูกชายคนเล็กเองก็ไม่ต้องการให้นางเลียงลูก ดังนัน
จึงไม่ได้มค
ี วามผูกพันระหว่างย่าหลานมากนัก สองคือ 
ลูกชายคนเล็กเปนขุนนาง อนาคตในภายหน้าของหลานชาย
หลายคนนีก็ไม่หา่ งไปไหนไกล มารดาแซ่เหอก็ไม่ได้ทก
ุ ข์ใจ
เพียงนันแล้ว ดังนันผูท
้ ีมารดาแซ่เหอเปนห่วงมากทีสุดใน
ตอนนียังคงเปนหลานชายทังสามของลูกชายคนโต 
 
มารดาแซ่เหอเปนแม่เฒ่าในชนบทธรรมดาๆ สายตาสันก็ม ี
เห็นแก่ตัวก็มี แต่กับลูกหลานแล้วยังคงรักใคร่อย่างยิง เพือ
ลูกหลานแล้วจะให้นางทิงชีวิตของตัวเองก็ยอม นับประสา
อะไรกับการก้มหัวให้ลก
ู สะใภ้  
 
“ยังยืนนิงอยูต
่ รงนันทําไม ยังไม่รบ
ี ไปเตรียมอาหารมา
ปรนนิบต
ั ิผช
ู้ ายของตัวเองอีก เปนภรรยาของผูอ
้ ืน ไหนเลย
จะแอบอู้เช่นเจ้าได้ ละทิงบุรุษสงบจิตใจตนเองมาสิบกว่าป
แล้ว ตอนนีหลินเจียเอ๋อร์ก็โตแล้ว เจ้าไม่อาจดือรันต่อไปได้
แล้ว อย่าได้เปนเช่นนีอีกเลย อีกประเดียวก็จัดระเบียบเรือน
ใหญ่นเสี
ี ยหน่อย คืนนีผูช
้ ายของเจ้าจะย้ายเข้ามา!” มารดา
แซ่เหอวางมาดแม่สามี ท่าทางชีแนะจากใจจริง  
 
เสินหย่าแทบจะปากอ้าตาค้างอยูแ
่ ล้ว คําพูดกลับดําเปนขาว
นีมารดาแซ่เหอพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคําจริงๆ หากเปนคน
ทีแยกแยะความจริงไม่ได้ ยังคิดจริงๆ ว่าเสินหย่าวางมาด 
คุณหนูสงู ศักดิจวนโหวดูถก
ู ครอบครัวสามี 
 
เย่ว์ก้ย
ุ เหอฮวาและคนรับใช้จวนโหวทีอยูใ่ นเรือนก็ประหลาด
ใจกับความหน้าหนาของมารดาแซ่เหอ หากไม่ใช่ว่าได้เห็น
นางบันดาลโทสะก่อนหน้านีกับตา ยังคิดจริงๆ ว่านางเปน 
แม่สามีทีใจดีมเี หตุมผ
ี ลผูห
้ นึง 
 
ทว่าเสินหย่ากลับไม่ขยับ จางซือเห็นท่าทีก็รบ
ี ก้าวขึนไป 
โน้มน้าว “น้องสะใภ้ สองสามีภรรยาทะเลาะกันชัวครูห
่ ว
ั ถึง
หมอนก็คืนดีแล้ว ไหนเลยจะต้องหย่าเพียงเพราะเรือง 
เล็กน้อย น้องสามีก็สาํ นึกผิดแล้ว เจ้าจงใจกว้างให้อภัยเขา
ครังนีสักครังเถอะ! ไม่เห็นแก่หน้าภิกษุสงฆ์ก็เห็นแก่หน้า
พระพุทธรูปหน่อย พวกเจ้ายังมีหลินเจียเอ๋อร์อยูม
่ ใิ ช่หรือ 
หากหย่าแล้ว เจ้าจะให้หลินเจียเอ๋อร์ทําอย่างไร ภายหลังจะ
เอ่ยเรืองบ้านสามีอีกได้อย่างไร”  
 
ความลังเลวาบผ่านหน้าของเสินหย่า ชัวขณะจางซือก็รูส
้ ก
ึ มี
ช่องทาง กําลังจะโน้มน้าวต่อ เหอฮวาก็มาขวางอยูข
่ า้ งหน้า
นางเงียบๆ “สะใภ้ใหญ่ท่านนี ท่านพูดเช่นนีข้าไม่ยน
ิ ดีแล้ว  
กูไหน่ไนของพวกเราเปนคุณหนูสงู ศักดิจวนจงอู่โหว ลูกสาว
ของนางย่อมเปนคุณหนูญาติผน
ู้ อ
้ งของจวนโหว ด้วยสถานะ
ครอบครัวของจวนจงอู่โหว ย่อมไม่ต้องกังวลเรืองคู่สมรสทีดี
แน่นอน เหตุใดจึงเอ่ยถึงบ้านสามีไม่ได้เล่า” 
หลายปมานีทีกุมสินเดิมและเงินทองของเสินหย่าไว้ จางซือ
ย่อมไม่ใช่สตรีชนบททีหวาดกลัวไม่มค
ี วามรูเ้ ช่นนันอีก 
เพราะว่ามีลก
ู ชายเคียงข้างกายจึงมีความมันใจพอ นางกลับ
เคยใช้ชว
ี ิตอันสุขสบายเรียกบ่าวเรียกคนใช้มาก่อน จู่ๆ  
ตอนนีกลับถูกสาวใช้คนหนึงตอกกลับไปบนหน้า ในใจกลับ
ไม่พอใจเล็กน้อย แต่แม้ว่าจะไม่พอใจนางก็ไม่กล้าแสดงออก
มา เด็กผูห
้ ญิงตัวผอมบางผูน
้ นเมื
ั อครูย
่ งั ร้ายกาจเพียงนัน 
ใครจะรูว
้ ่าคนผูน
้ ตรงหน้
ี าจะมีความสามารถอะไรอีก  
 
จางซือหน้าเหยเก บ่นพึมพํา “ข้าหวังดีต่างหาก! สุภาษิตว่า
ไว้พงั ศาลเจ้าสิบหลังยังดีกว่าพังชีวิตคู่ น้องสะใภ้ก็อายุเท่านี
แล้ว ซายังไม่มบ
ี ุตรชาย หย่าแล้วจะมีบนปลายที
ั ดีอะไรได้ 
ไม่แน่ว่าผ่านไปอีกร้อยปก็อาจจะไม่มแ
ี ม้แต่คนจะให้พก
ั พิง”  
 
เหอหลินหลินโมโหแล้ว “ท่านปาสะใภ้ใหญ่โปรดระวังคําพูด
ด้วย!” 
“ระวังคําพูดอะไรกัน ผูใ้ หญ่พด
ู อยูเ่ ด็กเช่นเจ้าพูดแทรกได้
ด้วยหรือ เหล่าเอ้อร์ เจ้าเองก็สนใจลูกสาวคนนีของเจ้าบ้าง 
ตระกูลเหอของพวกเราไม่มล
ี ก
ู สาวทีไร้มารยาทเช่นนี” 
มารดาแซ่เหอไม่พอใจขึนมาในชัวขณะ ขูล
่ ก
ู ชายให้สงสอน

หลานสาว “ยิงไปกว่านันปาสะใภ้ใหญ่ของเจ้าก็พด
ู ความจริง 
ละแวกแปดหมูบ
่ า้ นสิบลีเจ้าก็ลองไปถามดู สตรีหย่าร้าง
ทีไหนมีบนปลายที
ั ดีบา้ ง”  
 
นางมองลูกสะใภ้ทีสีหน้าเรียบเฉยด้วยแววตาดูถก
ู ปราดหนึง 
กล่าว “คําพูดไม่ดีเจ้าก็วางไว้ตรงนีก่อน หากเจ้ายังยืนกราน
จะหย่าจริงๆ จวนโหวของพวกเจ้ามีอํานาจมาก ตระกูลเหอ
ของพวกเราทําอะไรไม่ได้ แต่หลินเจียเอ๋อร์เปนบุตรสาว 
ตระกูลเหอ กลับต้องอยูท
่ ีตระกูลเหอ เจ้าพาไปด้วยไม่ได้ 
เรืองนีต่อให้จะไปถึงตําหนักจินหลวนให้ฝาบาทตัดสินข้าก็ไม่
กลัว” 
 
นางมองลูกสะใภ้หน้าเปลียนสีด้วยความพอใจอย่างยิง นาง
เชิดหน้าสูงในใจก็ยงพอใจ
ิ “ควรจะทําอย่างไรเจ้าก็คิดให้ดีๆ 
แล้วกัน เหล่าเอ้อร์ พวกเราไปกัน” จางซือรีบก้าวขึนไปพยุง
แขนของแม่สามี  
 
เหอจังหมิงมองเสินหย่าด้วยสีหน้าสับสน ถอนหายใจหนึง
คราแล้วกล่าว “หย่าเอ๋อร์ ไยจะต้องทําถึงเพียงนี เจ้าสงบ 
จิตใจค่อยๆ คิดดูเถอะ” เห็นเสินหย่าไม่สนใจเขา จึงทําได้
เพียงจากไปพร้อมความผิดหวัง  
 
“กูไหน่ไน ตอนนีใกล้จะถึงเวลาอาหารแล้ว พวกเรามีกฎ
อย่างไร รอครัวในจวนส่งมา หรือว่าเตรียมกันเอง” เหอฮวา
หันหน้าถาม  
 
พ่อบ้านรองก็ก้าวเข้ามาประสานมือทําความเคารพ  
“กูไหน่ไน บ่าวคารวะท่าน ท่านยังจําบ่าวได้หรือไม่ บ่าวคิด
ว่า พวกเราเตรียมกับข้าวเองดีกว่าขอรับ” ทะเลาะกับจวน
ตระกูลเหอจนเปนเช่นนีแล้ว กินอาหารทีจวนตระกูลเหอส่ง
มาอีก เขาไหนเลยจะวางใจได้ ในมือมีเงิน ยังจะต้องกลุ้มใจ
ว่าจะไม่มข
ี า้ วให้กินอีกหรือ 
 
เสินหย่าหรีตามองพ่อบ้านรองผูน
้ อย่
ี างละเอียด ครูใ่ หญ่จึง
กล่าว “ทีแท้แล้วก็เปนเจ้า อันหราน พ่อเจ้าสบายดีหรือไม่” 
 
พ่อบ้านรองทีชืออันหรานผูน
้ ี เสินหย่ายังคงจําได้เล็กน้อย 
พ่อเขาเปนผูม
้ ค
ี วามสามารถข้างกายบิดาของนาง อีกทังยัง
เคยรับดาบแทนบิดาของนางอีกด้วย ตอนทีนางยังไม่ 
ออกเรือนอันหรานผูน
้ ยั
ี งเปนเด็กรับใช้ทีวิงซุกซนอยูเ่ ลย  
ชัวพริบตาเขาก็กลายเปนพ่อบ้านรองของจวนตระกูลโหว
แล้ว เสือผ้าบนร่างยังมีราศีอย่างยิง แล้วตัวเองเล่า ตกตาจน
เทียบไม่ได้แม้แต่บา่ วคนหนึง! บนใบหน้าของเสินหย่าเผย
สีหน้างงงวย ในใจมักจะรูส
้ ก
ึ อึดอัด ยังคงเปนเหอหลินหลินที
ดึงแขนเสือพยายามจะเรียกสติเขากลับมา รีบกล่าว “เอา
ตามทีเจ้าว่าเถอะ” 
 
“พ่อบ่าวสุขภาพยังแข็งแรงอยูข
่ อรับ ขอบคุณกูไหน่ไนทีเปน
ห่วง” พ่อบ้านรองกล่าวด้วยความเคารพ คิดครูห
่ นึงแล้วจึง
เสริมหนึงประโยค “กูไหน่ไนโปรดวางใจ มีคณ
ุ ชายสีของ
พวกเราอยู่ ท่านไม่ต้องกังวลสิงใดทังนัน” จากนันจึงพา 
เด็กรับใช้ไปเตรียมการ 
 
  
 
[1] ขนมหร่วนเกา ขนมโบราณเนือนุม
่ ทําจากแปงปรุงกลิน
ด้วยใบสาระแหน่ โรยหน้าด้วยงาและนาตาลทรายเล็กน้อย 
 
 
 
ตอนที 193-2 สงครามมติมหาชน
 
ส่วนเย่ว์ก้ย
ุ เหอฮวาก็นาํ สาวใช้ไปวิงวุ่นทํางานอยูก
่ ่อนแล้ว 
จัดโต๊ะจัดเก้าอี เช็ดฝุนบนข้าวของเครืองใช้ คล่องแคล่ว
ปราดเปรียว เหอหลินหลินมองแล้วก็อ้าปากค้างอย่างตก
ตะลึง ทีแท้แล้วคนรับใช้ในจวนโหวก็เปนเช่นนี! คนรับใช้ใน
จวนตระกูลเหอเทียบกับพวกนางแล้ว ถูกโยนออกไปแปด
สายถนนทันที   
 
เสินหย่าถอนหายใจหนึงครา พาลูกสาวเข้ามาในห้องด้านใน
ด้วยสีหน้าสับสน นางกําลังจะเรียกหลินเจียเอ๋อร์ ก็ถก
ู  
เหอหลินหลินตัดบท “ท่านแม่ คงไม่ใช่ว่าท่านไม่อยากหย่า
หรอกนะ จวนตระกูลเหอกับท่านพ่อควรค่าให้ท่านอาลัย
อาวรณ์เพียงนันหรือไร” คําถามนีนางอยากถามตังแต่ทีอยู่
ข้างนอกเมือครูแ
่ ล้ว  
  
“หลินเจียเอ๋อร์ เจ้าไม่เข้าใจ” เสินหย่ามองใบหน้าเล็กๆ ที 
ไร้เดียงสาของลูกสาว ในใจเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู   
 
เหอหลินหลินร้อนใจแล้ว “ท่านแม่ ท่านอย่าได้ทําเรืองโง่ๆ 
เชียวนะ! ท่านย่ากับท่านปาสะใภ้ใหญ่หลอกท่าน ตอนนี 
พวกนางพูดจาดี นันก็เพราะว่าญาติผพ
ู้ สี
ี มาหนุนหลังให้ 
พวกเรา เมือญาติผพ
ู้ ไป
ี ยังไม่รูว
้ ่าพวกนางจะทรมานท่าน
อย่างไร ท่านอย่าได้ตกหลุมพรางเปนอันขาด!”   
 
เห็นท่าทางร้อนใจของลูกสาว หัวใจของเสินหย่าก็อบอุ่น นาง
ลูบใบหน้ารูปไข่ของลูกสาวแล้วกล่าว “หลินเจียเอ๋อร์ จวน
ตระกูลเหอแห่งนี รวมถึงพ่อเจ้า แม่เลิกอาลัยอาวรณ์ณม
์ า
นานแล้ว แต่แม่ไม่วางใจเจ้า หากแม่กับพ่อเจ้าหย่าร้าง พ่อ
เจ้าคงจะไม่ให้แม่พาเจ้ากลับไปด้วยกันเปนแน่ เจ้าเปน
แก้วตาดวงใจของแม่ แม่ไหนเลยจะทิงเจ้าลง” เพือลูกสาว
แล้วนางยอมตายได้ ไหนเลยจะยอมทิงลูกสาวให้อยูใ่ นจวน
ตระกูลเหอเพียงคนเดียวเล่า  
 
ทว่าเหอหลินหลินกลับส่ายหน้าอย่างสุดชีวิต “ท่านแม่ ไม่
เอาๆ ลูกไม่อยากให้ท่านเสียสละเช่นนี หากไม่หย่า พวกเรา
แม่ลก
ู อยูท
่ ีจวนตระกูลเหอต่อไปไม่ชา้ ไม่เร็วก็ต้องตาย ท่าน
ยังมองไม่เห็นความทะเยอทะยานของเถียนอีเหนียงหรือ 
ญาติผพ
ู้ สั
ี งสอนนางแล้ว นางจะยอมวางมือหรือ เมือญาติ 
ผูพ
้ ไป
ี นางจะไม่ระบายอารมณ์กับพวกเราแทนหรือ”   
 
นางหยุดครูห
่ นึงจึงกล่าวต่อ “ท่านเองก็ได้ยน
ิ ญาติผพ
ู้ กล่
ี าว
แล้ว เรืองหย่าเปนเจตนาของท่านตา หากท่านไม่ปฏิบต
ั ิตาม 
ท่านตาก็จะผิดหวังต่อท่านอย่างยิง หลังจากนีก็ขเกี
ี ยจจะ
สนใจท่านแล้ว เช่นนันพวกเราก็จะไร้ซงที
ึ พึงต้องยอมให้คน
กดขีแล้วจริงๆ”  
 
 
“แต่แม่ทิงหลินเจียเอ๋อร์ไม่ลง!” เสินหย่ายังคงไม่ยน
ิ ยอม  
ต่อให้จะต้องใช้ชว
ี ิตลําบากนางก็ไม่กลัว ขอเพียงแค่ได้อยู่
ข้างกายลูกสาวก็พอ   
 
“ท่านแม่ เหตุใดท่านถึงไม่เข้าใจ” เหอหลินหลินยิงร้อนใจ
แล้ว ขึนเสียงสูงอย่างอดไม่ได้ “ขอเพียงแค่ท่านมีชว
ี ิตทีดีใน
จวนโหว ต่อให้ลก
ู จะต้องอยูใ่ นจวนตระกูลเหอ พวกเขาก็ไม่
กล้าปฏิบต
ั ิไม่ดีต่อข้า ยิงไปกว่านันลูกคิดว่าญาติผพ
ู้ มี
ี  
จุดประสงค์ ไม่แน่ว่าอาจจะคิดหาวิธพ
ี าลูกกลับเมืองหลวงไป
พร้อมกันไว้แล้ว”   
 
“จริงหรือ” ดวงตาของเสินหย่าเปนประกายในชัวขณะ หาก
สามารถพาหลินเจียเอ๋อร์กลับไปพร้อมกันได้ นางจะยังลังเล
อะไรอีก รีบหย่าแล้วกลับเมืองหลวงโดยเร็วทีสุด  
 
 
เหอหลินหลินหยุดชะงัก นางเพียงแค่พด
ู ออกไปเช่นนี ไหน
เลยจะรูว
้ ่าญาติผพ
ู้ มี
ี วิธห
ี รือไม่  
 
ในตอนนีเองก็ได้ยน
ิ เพียงเสียงๆ หนึงดังขึนทีหน้าประตู  
“จริงเจ้าค่ะ”  
 
เสินหย่าสองแม่ลก
ู หันหน้ากลับไปมองพร้อมกัน เห็นเพียง
สาวใช้ทีพูดก่อนหน้านียืนอยูห
่ น้าประตูหอ
้ งด้านใน   
 
เสินหย่าสองแม่ลก
ู สนทนาโดนไม่ได้ปดประตู เหอฮวาทํางาน
อยูข
่ า้ งนอกย่อมต้องได้ยน
ิ บทสนทนาของพวกนาง อดไม่ได้
พูดแทรกเข้ามา   
 
อย่างไรเสียนางก็พด
ู แทรกแล้ว เหอฮวาก็ถือโอกาสเดินเข้า
มาเสีย โค้งตัวทําความเคารพเสินหย่ากับเหอหลินหลิน กล่าว 
“กูไหน่ไนกับคุณหนูญาติผน
ู้ อ
้ งโปรดให้อภัยบ่าวทีบุม
่ บ่าม 
คุณหนูญาติผน
ู้ อ
้ งกล่าวถูกแล้ว ตอนทีมาคุณชายของ 
พวกเราตังใจจะพากูไหน่ไนกับคุณหนูญาติผน
ู้ อ
้ งกลับ 
เมืองหลวงพร้อมกัน ทังยังยืนยันกับนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวว่าจะ
ปฏิบต
ั ิหน้าทีจนสําเร็จ ส่วนคุณชายจะใช้วิธใี ด บ่าวก็ไม่
ทราบแล้ว แต่บา่ วรูว
้ ่าขอเพียงแค่เปนเรืองทีคุณชายคิดจะ
ทําก็ไม่มท
ี างทําไม่ได้ ดังนันกูไหน่ไนท่านโปรดวางใจเถอะ” 
หลังจากนันก็เปลียนเรือง “พ่อบ้านรองสังคนไปเชิญหมอมา
แล้ว อีกประเดียวจะเข้ามาดูบาดแผลบนลําคอของกูไหน่ไน
เจ้าค่ะ”  
 
เสินหย่าสองแม่ลก
ู ได้ยน
ิ ดังนันก็ดีใจแล้ว “ท่านแม่ ท่าน
ได้ยน
ิ แล้วใช่หรือไม่ ญาติผพ
ู้ บอกว่
ี าจะไม่ทิงพวกเราไม่สนใจ
พวกเรา ท่านจะต้องยืนหยัดความตังใจของท่านไว้ อย่าได้ถก

พวกนางพูดจาดีเกลียกล่อมไม่กีประโยคก็เปลียนความตังใจ
”  
 
เสินหย่าพยักหน้าไม่หยุด “แม่จะจําไว้ แม่จะจําไว้” ส่วน
ประโยคหลังของเหอฮวานางไม่ได้ฟงเข้าหูอย่างสินเชิง   
 
เหอหลินหลินยังคงไม่วางใจ คนเลวเมือหมดทางถอยอะไรก็
ล้วนทําได้ทังนัน ใครจะรูว
้ ่าพวกนางจะเล่นลูกไม้อะไรออก
มาอีก นางอยูข
่ า้ งกายแม่นางไม่ให้หา่ งจะดีกว่า  
 
เหอจังหมิงทีออกจากเรือนเสินหย่าแล้วก็ตําหนิแม่เขาอย่าง
ไม่พอใจเล็กน้อย “ท่านแม่ เหตุใดท่านถึงรับปากหย่าตาม
อําเภอใจเช่นนันเล่า หากตัดความสัมพันธ์กับตระกูลนีแล้ว 
งานการของลูกก็คงจะจบสินเปนแน่” เขารูต
้ ัวเองดี ด้วย
อํานาจของจวนจงอู่โหวในตอนนีจะจัดการนายอําเภอเล็กๆ 
เช่นเขา เพียงแค่กระดิกนิวมือเล็กน้อยก็ได้แล้ว กระทังไม่
ต้องให้จวนโหวลงมือเอง เพียงแค่จวนโหวเผยเจตนาเงียบๆ 
ก็จะมีคนจํานวนมากวิงเข้ามาเหยียบยาเขาไปเลียแข้งเลียขา
จวนโหว  
ทว่ามารดาแซ่เหอกลับถลึงตาใส่ “แม่เจ้าไม่ได้โง่ เรืองขัด
อนาคตของเจ้าแม่จะทําได้หรือ เจ้าน่ะ อย่ามองว่าเจ้าเปน
ขุนนาง แม่เปนเพียงยายแก่ชนบททีไม่มค
ี วามรูไ้ ม่มี
ประสบการณ์ แต่ความคิดของผูห
้ ญิงคนนีแม่เข้าใจดีกว่าเจ้า
” นางมองลูกชายคนเล็กทีทําให้นางภูมใิ จอย่างถึงทีสุดผูน
้  ี
กล่าวจากใจจริง “ผูห
้ ญิงน่ะ ไม่ว่าปากจะร้ายเพียงใด เพียง
แค่มบ
ี ุตรเปนแม่คน จิตใจก็อ่อนลงแล้ว ภรรยาของเจ้าก็มี
หลินเจียเอ๋อร์หนึงคน นางทิงหลินเจียเอ๋อร์ไม่ลงหรอก วางใจ
เถอะ นางจะต้องไม่กล้าหย่า ขอเพียงแค่พวกเรารับมือกับ
คุณชายสีผูน
้ นให้
ั ได้ก็พอแล้ว”  
 
เหอจังหมิงคล้ายกําลังครุน
่ คิด รูส
้ ก
ึ ว่าแม่เขาพูดถูกจริงๆ 
จิตใจก็วางลงช้าๆ “แต่คณ
ุ ชายสีแซ่เสินผูน
้ นไหนเลยจะ

รับมือได้ง่ายๆ ไม่อ่อนข้อ ดือรัน เมือครูท
่ ่านเองก็เห็นแล้ว” 
จนถึงตอนนีเขาก็ยงั หวาดกลัวอยู่ คุณชายสีแซ่เสินผูน
้ น

สุภาพมีมารยาท แต่เหตุใดการกระทําถึงได้โหดเ**้ยมดุรา้ ย
เพียงนันเล่า  
 
มารดาแซ่เหอทนมองท่าทางหวาดผวาเช่นนีของลูกชายไม่
ได้ “สองมือหรือจะสูส
้ มื
ี อ อย่างไรเสียอวินโจวก็เปนเขตแดน
ของเจ้ามิใช่หรือ ยังกลัวว่าจะจัดการเด็กคนหนึงไม่ได้อีกหรือ
” ลูกชายคนนีดีหมดทุกอย่าง ฉลาดเรียนหนังสือเก่ง เพียง
แต่ขขลาด
ี ตอนเด็กๆ พอฟามืดก็ไม่กล้าไปเข้าห้องนา 
คนเดียว ทุกครังต้องให้พชายเขาพาไป 
ี  
 
หยุดครูห
่ นึงนางจึงกล่าวต่อ “แม่ตริตรองดีแล้ว เรืองนีขึนอยู่
กับภรรยาของเจ้า ขอเพียงแค่นางไม่ยอมหย่า คุณชายสีแซ่
เสินผูน
้ นจะยื
ั นกรานตัดสินใจแทนนางได้อยูห
่ รือ ช่วงนีเจ้าก็
โน้มน้าวภรรยาเจ้าสักหน่อย ผูห
้ ญิงน่ะ ใจอ่อนเสมอ เรือง
รักๆ ใคร่ๆ ทีเรือนหลังเจ้าก็ทําให้นอ
้ ยหน่อย ดูสช
ิ ว
่ งนีเจ้า
ผอมหมดแล้ว”  
 
เหอจังหมิงถูกมารดาพูดเช่นนีต่อหน้าก็อึดอัดอย่างอดไม่ได้ 
“ดูท่านแม่พด
ู เข้า ลูกเปนคนไม่รูล
้ ําดับความสําคัญหรือ
อย่างไร ช่วงนีลูกงานยุง่ เหนือยก็ต้องมีบา้ ง” ไม่ต้องเอ่ยถึง
เถียนอีเหนียง เพียงแค่อีเหนียงอีกสองคนก็รูจ
้ ักอ่าน
สถานการณ์ ทุกครังต่างก็ทําให้เขาพอใจได้ หากบุรุษหมด
ความสนใจแม้แต่เรืองนี เช่นนันชีวิตจะยังมีความน่าสนใจ
อะไรอีก   
 
มารดาแซ่เหอชายตามองลูกชายปราดหนึง กลับไม่พด
ู อะไร
แล้ว นางคิดมาดีอย่างยิง เดาความกังวลของเสินหย่าได้ แต่
นางไหนเลยจะรูว
้ ่าเสินเวยเตรียมการมาก่อน ตอนทีนางรูว
้ ่า
เสินหย่าใจแข็งต้องการหย่า ไม่สนแม้กระทังลูกสาว นางก็
โมโหจนแทบจะหายใจไม่ออก ตบต้นขาสาปแช่งเสินหย่า 
บ้างก็ว่าโหดร้าย บ้างก็ว่าใจเ**้ยม บ้างก็ว่าชัวช้า…และคําไม่
น่าฟงอีกมากมาย  
 
หลังจากนันท่าทีของจวนตระกูเหอก็เปลียนไปแล้ว ไม่เอ่ยถึง
เรืองหย่าแม้แต่ประโยคเดียว แต่ยน
ื กรานจะขับภรรยาให้ได้ 
เพราะเหตุใดน่ะหรือ หย่าต้องคืนสินเดิมฝายหญิง แต่ขบ

ภรรยากลับไม่ต้อง  
 
ขับภรรยาก็ขบ
ั ภรรยา อย่างไรเสียก็มเี หตุผลทีเหมาะสมมิใช่
หรือ จวนตระกูลเหอกลับแย้งไม่ได้ จึงยืนกรานจะขับภรรยา
อย่างเปนนัยๆ   
 
เสินเวยโมโหแล้ว คนพวกนีหน้าไม่อายไม่มจ
ี ุดสินสุดจริงๆ 
ขับภรรยาอะไร ก็แค่ต้องการยึดครองสินเดิมของท่านน้ามิใช่
หรือ เหอะๆ ในเมือเจ้าต้องการให้ได้ เช่นนันข้าก็ยงไม่
ิ ให้ 
ดวงตาเสินเวยกะพริบวาบ เกิดความคิดดีๆ แล้ว   
 
วันทีสอง เด็กขอทานทัวทังเมืองอวินโจวต่างก็รอ
้ งเพลง 
พืนบ้านทีแปลกใหม่หนึงเพลง เนือหามีดังนี ‘น่าแปลก  
น่าแปลก น่าแปลกจริง อวินโจวมีนายอําเภอเหอผูห
้ นึง  
นายอําเภอเหอ เรือนหลังวุ่น ยกอีเหนียงผูเ้ ปนม้าซูบผอมขึน
หิง ทิงขว้างฮูหยินภรรยาเอก สิบกว่าป สิบกว่าป ภรรยาเอก
เดิมเปนบุตรสาวจวนโหว ลดตัวลงแต่งงานกับนายอําเภอ 
ใครจะรูน
้ ายอําเภอใจโลเลแล้วยังลืมบุญคุณ แย่งสินเดิม
ภรรยาเอกทรยศ ภรรยาเอกหญิงอ่อนแอผูน
้ า่ สงสาร ขังอยู่
ในเรือนหลังเจ็บปวดจนพูดไม่ออก ทนลําบากเลียงดูลก
ู สาว 
กลับถูกหญิงชัววางแผนลวง เดิมเปนหญิงงามเยาว์วัย ถูกกด
จนผมหงอกหัวขาว เจ้าว่าเปนเพราะเหตุใด เพราะเหตุใด 
ภรรยาเอกร้องไห้จนเหือดแห้ง ทําอย่างไรเมือใจสามีเย็นชา
ดังเหล็ก ภรรยาเอกจนใจไปผูกคอตาย ดวงแข็งจึงยังรอดอยู่
…’  
 
เพลงพืนบ้านติดปาก ภาพลักษณ์สดใสซายังเปดเผย 
เรืองราวของคุณหนูผส
ู้ งู ศักดิกับชายชัวผูล
้ ืมบุญคุณผูห
้ นึงที
ดวงชะตาไม่ราบรืน เพราะว่าแพร่กระจายเปนวงกว้าง ไม่ถึง
ครึงวัน ในเมืองอวินเหอตังแต่ขุนนางสูงส่งจนถึงคนต้อยตา
ทีสุดต่างก็รูจ
้ ักเพลงพืนบ้านบทนีแล้ว ในเหลาสุรา ในโรง 
นาชา ข้างถนนใหญ่ ผูค
้ นล้วนแต่ถกเถียงถึงเพลงพืนบ้านบท
นีอย่างให้ความสนอกสนใจ สายตาต่างก็มองไปยังประตูที
ว่าการอําเภอรางๆ   
 
ไอ๊หยา ไม่คิดว่านายอําเภอจะเปนคนแบบนี เหตุใดก่อนหน้า
นีถึงมองไม่ออกเลยเล่า  
 
ได้ยน
ิ เรืองนันแล้วใช่หรือไม่ เจ้าว่าเหตุใดจิตใจคนผูน
้ ถึ
ี งได้
ดําขนาดนีเล่า กินของคนอืน ดืมของคนอืน ใช้ของคนอืน พอ
ก้าวหน้าแล้วก็ทรมานเขาแทบตาย นียังเปนคนอยูห
่ รือไม่  
 
นีๆๆ อะไรคือม้าซูบผอม ม้าทีผอมๆ แบบนันน่ะหรือ หรือว่า
คนผูน
้ เปนคนโง่
ี ชอบอะไรแบบนีงันหรือ  
 
ชูๆ
่ ๆ ไม่มค
ี วามรูส
้ ท
ิ ่า ม้าผอมๆ อะไรกัน ข้าจะบอกเจ้าให้ 
ไม่ใช่มา้ เปนคน คนซูบผอม!   
 
ทุกๆ วันเสินเวยพาคนออกไปเดินเล่น ทุกครังทีได้ยน

ข้อความเหล่านีนางก็อดมีความสุขไม่ได้ ไอ๊หยา สติปญญา
ของทุกคนนีดูถก
ู ไม่ได้จริงๆ เหอจังหมิง นายอําเภอเหอ  
ใต้เท้าเหอ ท่านค่อยๆ รับของขวัญชินใหญ่ทีข้าส่งให้ท่าน
เถอะ ใช่รูส
้ ก
ึ สบายอารมณ์อย่างยิงหรือไม่  
 
เพลงพืนบ้านทีมีพลังสังหารแข็งกล้าบทนีย่อมเปนฝมือของ
เสินเวยเอง นางเองก็เปนคนทีเคยได้รบ
ั การศึกษาชันสูง แต่ง
เพลงติดปากเพลงหนึงไม่ใช่เปนเรืองง่ายดายหรอกหรือ เคย
เห็นสงครามนาลายนับไม่ถ้วนในวงการบันเทิงยุคปจจุบน
ั  
เสินเวยรูถ
้ ึงพลังของมติมหาชนเปนอย่างดี ในเมือพวกเจ้า
หน้าไม่อายขนาดนัน เช่นนันข้าก็จะเปดฉากสงคราม
มติมหาชนกับพวกเจ้าก่อน เจ้าก็คอยประคองร่างเล็กๆ ที
บอบบางนันของเจ้าให้ได้แล้วกัน  
 
กว่าเหอจังหมิงจะรูเ้ รืองนีก็ตกบ่ายแล้ว เหตุใดเขาถึงรูช
้ า้  
เช่นนีน่ะหรือ ไม่ใช่มค
ี ําพูดหรือว่า ไม่ว่าเรืองใดก็ตามคนต้น
เรืองมักจะเปนคนสุดท้ายทีรูห
้ รอกหรือ   
 
และผิดทีปกติแล้วเหอจังหมิงประพฤติตัวไม่ถก
ู มักจะคิดว่า
ตนเปนผูร้ ูผ
้ ม
ู้ ค
ี วามสามารถ แม้แต่ขุนนางชันสูงเขายังไม่
ยอมก้มหัวให้ จะผูกมิตรแท้ในทีทํางานได้หรือไร ดังนันเมือ
เพือนร่วมงานทังหลายได้ยน
ิ เพลงพืนบ้านบทนี ต่างก็มอง
เขาเปนตัวตลกอยูเ่ งียบๆ ไม่มใี ครเล่าให้เขาฟงเลยแม้แต่คน
เดียว  
 
ท้ายทีสุดยังเปนพีใหญ่เขาทีวิงมาบอกเรืองนีกับเขา เขาโมโห
แทบตาย เส้นเลือดดําบนดําคอปูดนูน ดวงตาถลึงจนแดงไป
ด้วยโลหิต ไม่ต้องคิดเขาก็รูว
้ ่าเรืองนีเปนฝมือของใคร แต่ใน
มือเขาไม่มห
ี ลักฐาน   
 
“โธ่เอ๊ย เสียหน้าบรรพบุรุษหมดแล้ว เหล่าเอ้อร์เจ้ายังรอ
อะไรอีก รีบไปจัดการเสีย!” มารดาแซ่เหอรูเ้ รืองนีแล้วก็อาย
จนไม่กล้าแม้แต่จะออกจากบ้าน  
 
ใบหน้าของเหอจังหมิงเหยเก จัดการหรือ พูดเหมือนง่าย 
ห้ามปากประชาชนนันยากยิงกว่าห้ามสายนาไม่ให้ไหล 
ประชาชนทัวทังเมืองอวินเหอ ไหนเลยจะหยุดได้ เขาคงไม่
อาจฆ่าคนทังหมดได้กระมัง  
 
ตอนที่ 194-1 ฉีกหน้าอย่างต่อเนื่อง

เสิ่นหย่าเองก็ได้ยินเพลงพื้นบ้านที่ดังไปทัว่ เมืองบทนี้แล้วเช่นกัน
นางไม่ได้ดีใจเหมือนกับอวิน๋ หรงเสี่ยวจวี๋ ความรู้สึกของเสิ่นหย่า
ซับซ้อนมากเป็นพิเศษ แม้เพลงพื้นบ้านบทนี้จะเปิดโปงความชั่วร้าย
ของเหอจังหมิง วางนางอยู่ในตำแหน่งที่น่าสงสารน่าเห็นใจ แต่นางก็
ยอมที่จะไม่ต้องเป็นคนที่น่าสงสารน่าเห็นใจเช่นนี้

สตรีที่ไหนบ้างที่ไม่อยากแต่งงานกับคนดีๆ มีแต่ความสุข แต่นางเล่า


ความดื้อรั้นเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิตนี้กลับทำลายตัวเองไปครึ่งชีวิต
ท่านพ่อเคยบอกแล้วว่าเหอจังหมิงไม่ใช่คนดี แต่ตนเองที่ถูกความรัก
บังตาไหนเลยจะเชื่อฟัง ร้องห่มร้องไห้โวยวายขอร้องจะแต่งงานให้
ได้ ผลสุดท้ายเล่า ไม่ฟังคำเตือนของผู้อาวุโส ความลำบากอยู่
ตรงหน้า
เดิมนางคิดว่าตนหาเรื่องเองก็ต้องทนรับเอง หลายปีมานีน้ างเองก็
ทำเช่นนี้ ต่อให้จะยากลำบากเพียงใดก็ต้องกัดฟันทน ข่าวแม้แต่นิด
เดียวก็ไม่ส่งกลับจวนโหว ทนเอาเสีย ทนจนบุตรสาวออกเรือนนางก็
จะหลุดพ้นแล้ว แต่จังเหอหมิงกลับทำลายแม้แต่ความหวังอันน้อย
นิดนี้ เพื่อลูกสาว แม้จะต้องตายนางยังไม่กลัว นับประสาอะไรกับ
การหย่าเล่า

นางเองก็รู้ว่าการที่นางหย่าส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของลูกสาว แต่
ตอนนี้นางไม่สนใจเรื่องมากมายเพียงนั้นแล้ว นางเองก็ไม่คิดจะให้
ลูกสาวแต่งเข้าตระกูลสูงศักดิ์ มีจวนโหวค้ำจุนอยู่ตรงนัน้ ลูกสาวก็
น่าจะแต่งงานกับบัณฑิตที่กำลังจะก้าวหน้าได้กระมัง ดีกว่าไปเป็นฮู
หยินขั้นสี่นนั่ มาก ตอนนี้นางคิดอยากจะพาลูกสาวหนีไปจากถ้ำสัตว์
ร้ายนี้เต็มทนแล้ว
เหอจังหมิงบุกเข้ามาในเรือนของเสิ่นหย่าด้วยความโมโหเดือดดาล ชี้
หน้าเสิ่นหย่าแล้วกล่าวอย่างกระหืดกระหอบ “เจ้า เจ้า รีบให้
หลานชายคนเก่งผู้นนั้ ของเจ้าวางมือเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่
เกรงใจ” เขาเอ่ยวาจาข่มขู่

“วางมืออะไรกัน หลานสี่ทำอะไรให้ท่านเดือดดาลถึงเพียงนี้ ท่านพี่


ท่านต้องอธิบายมาก่อน” บนใบหน้าเสิน่ หย่ามีความประหลาดใจ
ท่าทางไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เหอจังหมิงจุกแน่นในหน้าอก เห็นสายตาของเสิ่นหย่างุนงง เขาพูด
ได้หรือว่าหลานเจ้าป่าวประกาศเพลงพื้นบ้านหนึ่งบทให้ร้ายข้าเพื่อ
ทวงความยุติธรรมให้เจ้า พูดถึงเพลงพื้นบ้านขึ้นมาก็จะต้องถาม
เนื้อหาของเพลงแน่นอน เขาจะมีหน้ามาพูดได้หรือ อีกทั้งเขายังไม่
เชื่อว่าเสิ่นหย่าจะไม่รู้เรื่องนี้เลย ข้างในข้างนอกเรือนแห่งนี้ของนาง
ต่างก็เป็นบ่าวรับใช้ที่คุณชายสีแ่ ซ่เสิ่นผู้นนั้ พามา การส่งข่าวจะไม่ใช่
เรื่องง่ายหรือ

เสิ่นหย่าสบสายตาของเหอจังหมิงอย่างไร้กังวล นางมั่นใจว่าด้วย
นิสัยห่วงศักดิ์ศรีของเขาจะต้องเล่าเรื่องเพลงพื้นบ้านไม่ได้แน่ นาง
ชนะแล้วจริงๆ แต่ในใจของเสิ่นหย่ากลับไม่มีความรูส้ ึกดีใจในชัย
ชนะแม้แต่นิดเดียว ชายผู้ที่นางเคยสุขใจผู้นี้ เหตุใดถึงเปลี่ยนไปเป็น
คนที่น่ารังเกียจอย่างเช่นทุกวันนี้ บางทีเขาอาจจะเป็นแบบนีม้ าโดย
ตลอด แต่ตนมองเห็นไม่ชัดก็เท่านั้นเอง เสิ่นหย่าทอดถอนใจไม่หยุด
บางทีสายตาของนางอาจจะใสซื่อเกินไป เหอจังหมิงหงุดหงิดอย่าง
ถึงที่สุดแล้ว “ข้าไม่สนว่าเจ้าจะไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้ ไปบอก
หลานชายคนดีผู้นนั้ ของเจ้าเสีย เล่นละครหน้าไม่อายเหล่านีใ้ ห้น้อย
หน่อย แค่ข่าวลือเล็กน้อยคิดว่าจะโจมตีข้าได้หรือ ฝันไปเถอะ! คิด
ยั่วโมโหข้าหรือ เหอะๆ!” ในแววตาเขามีประกายดุร้ายแวบผ่าน

หัวใจของเสิ่นหย่าจมดิ่ง ถอยไปข้างหลังหนึ่งก้าวอย่างอดไม่ได้ เย่ว์


กุ้ยก้าวขึ้นมาทันที “อะไรกัน เป็นถึงนายอำเภอใหญ่โตแต่จะลงมือ
กับสตรีหรือไร ไม่กลัวขายหน้าหรือ!” คุณหนูบอกแล้วว่า จะต้อง
ปกป้องกูไหน่ไนกับคุณหนูญาติผู้น้องให้ดี สำหรับใต้เท้าเหอผู้นี้
ช่วงเวลาที่จำเป็นจะบังเอิญทำร้ายเขาสักสองหมัดก็อนุญาต ดังนั้น
ความมั่นใจของเย่ว์กุ้ยจึงมากพอ

เมื่อถูกบ่าวเอ่ยเสียดสี เหอจังหมิงก็โกรธจนเบื้องหน้าดำมืดไปหมด
หากไม่ใช่ว่าเด็กรับใช้ที่ตามเขามาพยุงเขาไว้ก็คงจะล้มลงไปเป็นแน่

“ได้ ได้ พวกเจ้าคอยดูแล้วกัน!” เหอจังหมิงกระฟัดกระเฟียด


หลังจากนัน้ ก็หันหลังกลับออกไปจากเรือนของเสิ่นหย่า
คิดจะหย่าหรือ ฝันไปเถอะ! แม้ตายเขาก็จะไม่รับปาก หากพูดว่า
ก่อนหน้านี้ทำเพื่อสินเดิมของเสิ่นหย่า เช่นนั้นตอนนี้ก็ทำเพราะว่า
เกลียด ต่อให้ต้องตาย เขาก็จะต้องลากเสิ่นหย่าให้ตายอยู่ในจวน
ตระกูลเหอให้ได้

เหอจังหมิงออกมาจากเรือนของเสิ่นหย่าแล้วก็ไปที่เรือนของเถียนอี๋
เหนียง เถียนอี๋เหนียงได้ยินคำรายงานของสาวใช้ก็ออกมาต้อนรับแต่
ไกล ความกระตือรือร้นทั่วทั้งใบหน้าทำให้เหอจังหมิงรู้สึกสบายใจ
อย่างยิ่ง ไฟโกรธเต็มอกในเรือนของเสิ่นหย่าก็ลดลงครึ่งหนึ่ง เขาคว้า
มือของเถียนอี๋เหนียง กล่าวเสียงอ่อน “เหตุใดถึงไม่สวมเสื้อเพิ่ม
อากาศยังหนาวอยู่เลย ร่างกายเจ้าอ่อนแอ ต้องระวังหน่อย”
มุมปากเถียนอี๋เหนียงเผยรอยยิม้ ชดช้อย กล่าวเสียงนุ่ม “ไม่ใช่ว่าข้า
อยากเจอนายท่านเร็วๆ หรือไร”

“เจ้านี่นะ” เหอจังหมิงยิ้มอย่างชอบใจ โอบเถียนอี๋เหนียงเดินเข้าไป


ในห้อง

เข้าห้องแล้วสาวใช้ก็นำชาหอมเข้ามา เหอจังหมิงรับมาดื่มหนึง่ อึกก็


วางลงข้างๆ เถียนอี๋เหนียงเห็นทีท่าก็นั่งลงบนตักของเขา สองมือ
โอบคอของเขาไว้ กล่าวเสียงหวาน “วันนี้นายท่านเป็นอะไรไปหรือ
ใช่ข้าทำอะไรให้ท่านไม่มีความสุขหรือไม่”
เหตุใดเหอจังหมิงถึงอารมณ์ไม่ดีเถียนอี๋เหนียงย่อมรู้อยู่แก่ใจ นาง
ดูแลงานในจวน ในจวนมีเรื่องอะไรนางจะไม่รู้หรือ ได้ยินว่าคุณชาย
สี่จวนโหวผูน้ ั้นเอ่ยเรื่องหย่า นางก็ประหลาดใจอย่างยิ่ง หลัง
ประหลาดใจแล้วก็แอบดีใจ นายท่านกับฮูหยินหย่ากันแล้ว เช่นนั้น
นางใช่จะมีโอกาสเป็นภรรยาเอกหรือไม่ อีกทั้งยังไม่ต้องเปลือง
ความคิดกำจัดเสิ่นซื่อคนไร้ประโยชน์ผู้นั้นแล้ว

เหอจังหมิงอ่านความเป็นห่วงในคำพูดของเถียนอี๋เหนียงได้ ในใจก็
อบอุ่น ถอนหายใจ “ยังคงเป็นเถียนอี๋เหนียงที่รู้ร้อนรู้หนาว” เขาเงย
หน้าขึ้นตรงกับใบหน้าที่ยังบวมเล็กน้อยใบนั้นของเถียนอี๋เหนียงพอดี
ไม่ได้รังเกียจ แต่ในใจกลับรูส้ ึกผิด “ยังเจ็บอยู่หรือไม่” มือของเขา
ลูบใบหน้าของนางเบาๆ
เถียนอี๋เหนียงถอนหายใจโล่งอก นางรู้ว่านายท่านชอบความสวย
ความงาม กลัวว่านายท่านจะรังเกียจที่หน้าของนางน่าเกลียด นาง
ทุ่มแรงรักษาอย่างยิ่งแล้ว แต่มอื แรงของสาวใช้ผู้นั้นมากอย่างยิ่ง
ไหนเลยจะหายบวมได้เร็วเพียงนั้น ต่อให้ใช้ผงไข่มุกที่ดีที่สุดก็ยังคง
ปกปิดไม่ได้

แววตาของเถียนอี๋เหนียงปรากฏความซาบซึ้ง ส่ายหน้า “ไม่เจ็บแล้ว


ไม่เจ็บนานแล้ว แต่ข้าเจ็บปวดใจ” นางจับมือของเหอจังหมิงมากุม
ไว้ที่อกตน “ข้าปวดใจแทนนายท่าน คุณชายสี่แซ่เสินสั่งสอนข้าก็
ไม่ได้เป็นอะไรมิใช่หรือ ข้าเป็นเพียงคนต้อยต่ำ หากไม่พบนายท่านก็
อาจจะลำบากอยู่ที่ไหนแล้วก็ได้ แต่คุณชายสี่แซ่เสิ่นก็ไม่ควรไม่ไว้
หน้านายท่านเช่นนี้ เขายังต้องเคารพนายท่านเป็นอาเขย ไหนเลย
จะมีอย่างที่ชนรุ่นหลังจะบังอาจทำเช่นนี้ต่อหน้าผู้อาวุโส จวนจงอู่
โหวของพวกเขากลั่นแกล้งคนเกินไปแล้วจริงๆ” สีหน้านางมีความ
เศร้าโศก ดวงตามีน้ำตากะพริบวาบ ดูเหมือนรู้สึกได้รบั ความไม่เป็น
ธรรมแทนนายท่าน แต่ความจริงแล้วกลับยั่วยุอย่างถึงที่สุด

แววตาเหอจังหมิงมีบางอย่ากะพริบผ่านอย่างรวดเร็ว ทว่าหลังจาก
นั้นกลับถอนหายใจ “หากฮูหยินมีสติปัญญาเช่นเจ้าก็ดี” เขากอด
เถียนอี๋เหนียงด้วยความสงสาร ในใจก็ยิ่งไม่พอใจเสิ่นหย่า เสิ่นเวย
และจวนจงอู่โหวมากขึ้น
ใช้อำนาจระรานคน เหอะ คอยดูเถอะ ต้องมีสักวันหนึ่งที่ข้าจะ
เหยียบจวนจงอู่โหวให้จมดิน

ทว่าเถียนอี๋เหนียงกลับตีเหอจังหมิงอย่างอ่อนโยน “หึ นายท่านก็แค่


พูดจาดีๆ ปลอบข้า ข้าเป็นเพียงคนต้อยต่ำ ฮูหยินเป็นบุตรสาวจวน
โหวผู้สูงส่ง ข้าไหนเลยจะเทียบฮูหยินได้ ข้ารู้ตวั ดีว่าฐานะต่ำต้อย
ท่านพ่อเป็นเพียงบัณฑิตยากจน ไม่กล้าเปรียบเทียบกับฮูหยิน ข้าขอ
เพียงแค่นายท่านสามารถมาหาข้าได้บ่อยๆ ไม่ลืมข้าก็พอแล้ว”

เถียนอี๋เหนียงพูดประโยคนี้โดยมีเจตนาหยั่งเชิง ข่าวลือตามท้อง
ถนนบอกว่านางมีฐานะเป็นม้าซูบผอมทำให้นางกลัวแทบตาย นาง
ไม่แน่ใจว่าคนทีป่ ล่อยข่าวลือแต่งขึ้นมั่วๆ หรือว่าหาสืบหาข้อมูลของ
นางเจอแล้วจริงๆ ดังนัน้ นางจึงอยากดูว่านายท่านมีท่าทีต่อเรื่องนี้
อย่างไร

เหอจังหมิงเองก็นึกถึงประโยคนี้ในข่าวลือก็ยิ่งโมโหแล้ว “หลานสี่แซ่
เสิ่นผู้นี้ ไหนเลยจะเป็นคุณชายสูงศักดิ์จวนโหว เป็นคนพาลไม่เอา
ไหนต่างหาก ม้าซูบผอมหญิงนางโลมอะไรกัน เป็นผู้มีความรู้
ต่างหากเล่า” เขาเหอจังหมิงจะเอาม้าซูบผอมมาเป็นอนุภรรยาได้
อย่างไร อีกทั้งเหออี๋เหนียงยังมีคุณธรรมดีงามอ่อนโยน ไหนเลยจะ
เป็นม้าซูบผอมยัว่ สวาทอะไรนัน่

เถียนอี๋เหนียงวางใจในชั่วขณะ แต่ใบหน้ากลับกลับปัน้ สีหน้าตกใจ


อุทานกล่าว “อะไรนะ ข่าวลือคุณชายสี่แซ่เสิ่นเป็นคนปล่อยหรือ
เขาต้องการจะทำอะไร ฮูหยิน…” พูดถึงตรงนี้ชั่วขณะนางก็ตระหนัก
ได้ว่าไม่ควร รีบปิดปาก ทว่าดวงตาคู่งามกลับจ้องมองเหอจังหมิงอ
ย่างปราดเปรียว ข้างในนัน้ มีความรู้สึกร้อยแปดพันเก้าทำให้เหอจังห
มิงใจอ่อน อยากจะกดร่างไว้แล้วปลุกปล้ำนางอย่างรุนแรงสักรอบ
หนึ่ง แต่ในความเป็นจริงเขาก็ทำเช่นนี้จริงๆ

เมื่อเสร็จเรื่อง เถียนอี๋เหนียงก็ซบอยู่ในอ้อมอกของเหอจังหมิงราว
กับแมวหนึ่งตัว กล่าวเสียงเบา “เหตุใดข้าถึงได้ยินว่าฮูหยินจะหย่า
เล่า เฮ้อ พูดจาเกินไป แท้จริงแล้วในใจฮูหยินคิดอย่างไรกันแน่ นาย
ท่านไม่เคยปฏิบัติไม่ดีต่อฮูหยินเสียหน่อย หลายปีเพียงนี้ฮูหยินก็ไม่
สามารถมีบุตรชายให้นายท่านได้ นายท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรมิใช่หรือ มี
แต่ข้า ต้องการให้ฮูหยินสงบจิตใจพักฟื้นร่างกายให้เพียงพอ จึง
รับภาระเหน็ดเหนื่อยกายใจในจวนมาแทนมิใช่หรือ ฮูหยินยังมีอะไร
ไม่พอใจอีก”
หึ ไม่ใช่คนในครอบครัวไม่อาจอยู่บ้านร่วมกันได้จริงๆ ความสามารถ
ในการกลับดำเป็นขาวก็เก่งเช่นเดียวกัน

แต่ว่าคำพูดนี้ของเถียนอี๋เหนียงกลับพูดตรงใจของเหอจังหมิง เสิ่น
ซื่อไม่ออกไปร่วมงานเลี้ยงนอกจวน ทั้งยังไม่จัดการเรื่องในบ้าน ทุก
วันก็ว่างอย่างยิ่ง ยังมีอะไรไม่พอใจอีก

เห็นเหอจังหมิงไม่พูด เถียนอี๋เหนียงก็โน้มน้าวต่อ “นายท่านวางแผน


อย่างไร ข้าว่า แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน ในเมื่อฮูหยินตั้งใจ
จะไป นายท่านจะไม่ทำให้นางสมหวังหรือ อีกทั้งจะได้ลดความกลัด
กลุ้มเมื่อท่านมองเห็นเรือนหลังนั้นอีกด้วย” นายท่านกับฮูหยินหย่า
ร้างเป็นผลดีต่อนางที่สุด มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะไม่สนับสนุน

ทว่าเหอจังหมิงกลับถอนหายใจ ก้มหน้าลูบศีรษะนุ่มสลวยของเถียน
อี๋เหนียง “เจ้ามีจิตใจดีงาม แต่ไหนเลยจะง่ายเพียงนั้น หากหย่า สิน
เดิมของฮูหยิน…” แววตาเขากะพริบวาบ ไม่ได้กล่าวต่อ

แต่เถียนอี๋เหนียงกลับเข้าใจแล้ว นางเองก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ต้อง
คืนสินเดิมของฮูหยินกลับไป นางดูแลเรื่องในจวน ไหนเลยจะไม่รู้ว่า
รายได้มากกว่าครึ่งในจวนมาจากร้านค้าสินเดิมของฮูหยิน หากคืน
กลับไปแล้ว นางกับลูกคงไม่ตอ้ งกินแกลบกันเลยหรือ ไม่ ไม่ได้
เด็ดขาด

จู่ๆ ดวงตานางก็กะพริบวาบ เกิดความคิดดีๆ “นายท่าน คุณหนู


ใหญ่ยังอยู่ที่จวนมิใช่หรือ ฮูหยินรักคุณหนูใหญ่เพียงนั้น จะต้องยอม
ทิ้งสินเดิมไว้ให้คณ
ุ หนูใหญ่เป็นแน่ คุณหนูใหญ่อายุยังน้อง สินเดิม
เหล่านี้ยังต้องให้นายท่านช่วยดูแลมิใช่หรือ”

เหอจังหมิงตาลุกวาวในชั่วขณะ ใช่แล้ว นี่เป็นความคิดที่ดี


“ยังคงเป็นชิงชิง[1]ที่ฉลาด!” มือใหญ่ๆ ของเขาลูบหน้าอกที่ขาว
เนียนของเถียนอี๋เหนียงหนึ่งครา หูก็ได้ยินเสียงคราง
หวานของเถียนอี๋เหนียง อารมณ์ของเขาสบายใจมากอย่างยิ่ง

[1] ชิงชิง มีความหมายว่าที่รัก ใช้เรียกระหว่างสามีภรรยาหรือคน


สนิทในภาษาจีนโบราณ
ตอนที่ 194-2 ฉีกหน้าอย่างต่อเนื่อง

เหอจังหมิงคิดว่าหาทางแก้ไขปัญหาได้แล้ว จึงขลุกตัวอยู่ในเรือน
เถียนอี๋เหนียงอย่างวางใจไร้กังวล แต่ตอนที่เขาเดินออกจากจวน
ตระกูลเหอไปยังที่ว่าการกลับพบว่าตนดีใจเร็วเกินไป

เมื่อเหอจังหมิงก้าวออกจากจวนตระกูลเหอ ก็เห็นคนจำนวนมาก
ข้างนอกชี้ไม้ชี้มือมาที่เขา เขากระทั่งได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของ
พวกเขา “ดูเร็ว นั่นก็คือนายอำเภอเหอ จุ๊ๆ หน้าตาก็เหมือนคนแต่
การกระทำเหมือนสุนัข ไม่เหมือนคนลืมบุญคุณเหล่านั้นงัน้ หรือ”
อีกคนหนึ่งก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที “หรือว่าบนหน้าคนเลวจะสลัก
อักษรไว้เล่า ว่ากันว่าคนหน้าตาดีมักประพฤติตัวแย่ หน้าตา
นายอำเภอเหอก็ดีจริงๆ นั่นแหละ”

เหอจังหมิงเดินไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย หวังว่าจะเข้าที่ว่าการ
ได้เร็วขึ้น น่าเสียดายที่เรื่องไม่เป็นอย่างที่หวัง ยังเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็
มีขอทานหนึ่งกลุ่มที่ไม่รวู้ ่าโผล่ออกมาจากไหน ตบมือร้องเพลงอยู่
ข้างหลังเขา ร้องเพลงพื้นบ้านบทนั้น โดยเฉพาะประโยค
‘นายอำเภอเหอผู้ลืมบุญคุณ’ ประโยคนั้นร้องดังกังวานมากเป็น
พิเศษ
ใบหน้าของเหอจังหมิงดำแล้ว ไม่ต้องให้เขาสั่ง ผู้ติดตามข้างกายเขา
ก็ไล่เด็กขอทานออกไปเอง “ออกไป รีบออกไป อยากกินข้าวแดง
หรือไร”

เด็กขอทานว่องไว ฝั่งนี้ไล่จับ ฝัง่ นั้นก็ไม่รู้ว่าโผล่ออกมาจากไหนอีก


แล้ว วิ่งไปพลางกล่าวไปพลาง “นายอำเภอเหอตีคนไร้สาเหตุ
นายอำเภอเหอรังแกประชาชน!” เสียงทั้งแหลมทั้งดัง ทำให้คน
จำนวนมากหันมามองเหอจังหมิง

เหอจังหมิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว เขากล้ายืนยันว่านี่คือฝีมอื ของ


คุณชายสี่แซ่เสิ่นอีกแน่นอน เล่นลูกไม้นี้กบั ข้าในอาณาเขตของข้า
คิดว่าข้าจะกลัวเจ้าหรือ เขาก้าวเร็วเดินไปหลายก้าว คิดอยากจะเข้า
ที่ว่าการไประดมคนให้เร็ว แต่ใบไม้ผักเปื่อยกับไข่ไก่เน่าทีไ่ ม่รวู้ ่าลอย
มาจากไหน กลับกระแทกลงบนศีรษะและร่างของเหอจังหมิงพอดี
เยี่ยม ตอนนี้ก็ไปทีว่ ่าการไม่ได้แล้ว

เหอจังหมิงโมโห แต่มองดูเด็กขอทานที่วิ่งออกไปไกล เขาไม่มี


หนทางแม้แต่นิดเดียว

เหอจังหมิงแบกร่างจนตรอกกลับจวน เด็กขอทานที่วิ่งไปไกลฝั่งนี้
กลับกำลังรับเงินทองแดงอย่างมีความสุข แต่ละคนได้ยี่สบิ กว่า
เหรียญ ซื้อหมั่นโถวได้ไม่น้อย เด็กขอทานทั้งหลายดีใจอย่างยิ่ง พา
กันรับปากว่าจะจับตามองจวนตระกูลเหอเป็นอย่างดี
เหอจังหมิงกลับไปถึงจวนแล้ว เสิ่นเวยก็พาคนมาถึงหน้าบ้านทันที
ผลักคนรับใช้จวนตระกูลเหอทีข่ วางทางออกไป เดินเข้ามาอย่างไร้
อุปสรรคขัดขวาง

“ใต้เท้าเหอคิดได้แล้วหรือยัง” เสิ่นเวยนั่งลงบนเก้าอี้อย่าง
ตรงไปตรงมา ท่าทางนั้นเหมือนเจ้าของบ้านเสียยิ่งกว่าเจ้าของบ้าน
เอง
เหอจังหมิงกดไฟโกรธในใจไว้ กล่าว “หลานสี่ อย่างไรเสียข้าเองก็
เป็นผู้อาวุโสของเจ้า ก่อนหน้านี้ที่เจ้าโวยวายข้าก็จะไม่ถือสา แต่ไหน
เลยจะมีอย่างที่ชนรุ่นหลังเร่งรัดผู้อาวุโสให้หย่าร้าง หากว่าเรื่องนี้ดัง
ออกไป จวนจงอู่โหวจะยังมีเกียรติอยู่อีกหรือ สตรีในจวนจะแต่ง
ออกเรือนได้หรือ” ทั้งใบหน้าเขาเศร้าโศก ราวกับว่าเสิ่นเวยทำเรื่อง
ผิดมหันต์

เสิ่นเวยถือพัดพับได้ตลี งในฝ่ามือ “ใต้เท้าเหอ เรื่องวุ่นวายจนถึงขั้นนี้


แล้วคงไม่ต้องหลอกตัวเองแล้วกระมัง ท่านโปรดปรานอนุภรรยา
ทอดทิ้งภรรยาเอก เอาบุตรสาวภรรยาเอกไปปูทางให้บุตรชายลูก
อนุภรรยา ท่านยังไม่กลัวคนเอาไปพูดลับหลัง แล้วข้าจะกลัวอะไร
สำหรับสตรีจวนโหวหรือ”
นางเปลี่ยนเรื่อง กล่าว “จวนจงอู่โหวของพวกข้ามีฐานะเดิมมาจาก
ทหาร ไม่เข้าใจธรรมเนียมเหล่านั้นเช่นบัณฑิตอย่างพวกท่าน มี
เกียรติไม่มีเกียรติอะไร พวกข้ารู้เพียงแค่ว่าไม่อาจให้คนกลั่นแกล้งกู
ไหน่ไนที่ออกเรือนได้ มิเช่นนั้นจะมีลูกหลานเช่นนีไ้ ว้ทำไม วางไว้
ประดับเฉยๆ หรือ ขอเพียงแค่พี่น้องของพวกข้าทำคุณงามความดี
ยังต้องกังวลอีกหรือว่าสตรีในจวนจะออกเรือนไม่ได้”

ความดูถูกในแววตานัน่ ยัว่ ยุจนเหอจังหมิงเกือบทนไม่ไหวโพล่งคำ


หยาบออกมา “พูดเช่นนี้หลานสี่ยืนยันจะทำเช่นนี้ใช่หรือไม่
“ใบหน้าของเขาเย็นชาลง นี่คือจวนตระกูลเหอ เขาไม่เชื่อว่าอีกฝ่าย
จะทำอะไรเขาได้
เสิ่นเวยพยักหน้า “ยืนยันหรือไม่ยืนยันอะไร เจตนาในการมาของข้า
ชัดเจนอย่างยิ่งมาโดยตลอด นัน่ ก็คือการหย่า กูไหน่ไนที่เติบโตมาบ
นกองเงินกองทองของพวกข้า ในเมื่อใต้เท้าเหอไม่ทะนุถนอม
เช่นนั้นพวกข้าก็จะรับกลับไปเลี้ยงดูเอง ใครให้นี่เป็นสายโลหิตใน
ครอบครัวเล่า พวกข้ายอมรับว่าดูคนผิด ยอมรับความโชคร้ายยังไม่
พออีกหรือ ดูสิ พวกข้ามีเหตุมีผลยิ่ง ไม่ได้เอาอำนาจจวนโหวมา
กดดันเลยแม้แต่นดิ เดียวไม่ใช่หรือ”

ท่าทีของเสิ่นเวยดีอย่างยิ่ง เม้มปากกล่าวต่อ “กลับเป็นท่านใต้เท้าเห


ออ้างนู่นอ้างนี่หมายความว่าอย่างไร ทำร้ายจนถึงแก่ความตายแล้ว
ยังไม่ยอมหย่า ไม่ต้องมาเอ่ยถึงความผูกพันอะไรให้ข้าฟังอีก คนใจ
ดำเช่นท่านรู้จักความผูกพันด้วยหรือ คิดดูว่าใครบ้างที่ไม่รู้แผนการ
ลับๆ นัน่ ของพวกท่าน ก็แค่อยากได้สินเดิมของท่านอาไม่ใช่หรือ ข้า
ว่านะใต้เท้าเหอ ท่านมีเจตนาดีจริงๆ หรือ ครอบครองสินเดิมบ้าน
ภรรยา ชื่อเสียงนี้หากว่าแพร่ออกไป ลูกชายหลายคนของท่านจะยัง
แต่งภรรยาได้อยู่อีกหรือ” เสิ่นเวยตอกหน้ากลับไป

เหอะๆ พวกเรามาลองดูกันสิว่าคุณหนูจวนโหวของพวกข้าจะออก
เรือนไม่ได้ หรือว่าลูกชายของชายชั่วแซ่เหอเช่นเจ้าที่จะแต่งภรรยา
ไม่ได้

“เจ้า เจ้าบังอาจนัก!” เหอจังหมิงถูกทักษะการพูดของเสิ่นเวยทำให้


โกรธจนตัวสัน่ ไปทั่วทั้งร่าง
ดวงตาของเสิ่นเวยเฉียบแหลม มองปราดเดียวก็เห็นรองเท้าปักที่
โผล่ออกมาจากใต้ฉากกั้น ก็รู้แล้วว่ามีคนซ่อนอยู่หลังฉากกั้น ส่วน
คนผู้นี้จะเป็นใคร ฮ่าๆ นั่นยังต้องถามอีกหรือ ด้วยเหตุนี้เสิ่นเวยจึง
เกิดความคิดดีๆ

“ใต้เท้าเหอเองก็ได้ยินเพลงพื้นบ้านบทนั้นแล้วใช่หรือไม่ ในนัน้ มี
ประโยคหนึ่งทีห่ ลานสี่จำได้แม่นอย่างยิ่ง! ยกอี๋เหนียงที่เป็นม้าซูบ
ผอมขึ้นหิ้ง เป็นม้าซูบผอมใช่หรือไม่” เสิ่นเวยยังเอียงหน้าถาม
เถาจือที่ยืนอยู่ข้างหลังนาง
“จุ๊ๆ ใต้เท้าเหอท่านเก่งจริงๆ เป็นถึงขุนนางราชสำนัก ไม่เพียงแต่
เลี้ยงดูม้าซูบผอม ซ้ำยังยกเป็นอนุภรรยาศักดิ์สูงอย่างโจ่งแจ้ง ท่าน
ต้องการจะท้าทายกฎหมายต้ายงหรือ ช่างเป็นผู้กล้าเสียจริงๆ!” เสิ่น
เวยกล่าวชื่นชมเกินจริง

ใบหน้าของเหอจังหมิงโกรธจนม่วงแล้ว “เจ้าใส่ร้ายป้ายสีคน! เถียน


อีเ๋ หนียงเป็นสตรีมีความสามารถ ไม่ใช่ม้าซูบผอมอะไรอย่างที่เจ้าว่า
ต่อให้จวนจงอู่โหวของเจ้าจะมีอำนาจมาก แต่ก็ไม่อาจกลับขาวเป็น
ดำเช่นนี้ได้”

เสิ่นเวยหลุดหัวเราะหนึ่งครา คนที่กลับขาวเป็นดำมาโดยตลอดคือ
พวกท่านไม่ใช่หรือ
“สตรีมีความสามารถงั้นหรือ ยังเป็นคนแก่มีความสามารถที่ยากจน
จนต้องขายลูกสาว สามารถเลีย้ งเถียนอี๋เหนียงจนเป็นเช่นนีไ้ ด้ จะใช้
คำว่าอะไรดีเล่า” เสิ่นเวยขมวดคิ้วท่าทางราวกับลำบากใจอย่างยิ่ง

“ใต้เท้าไม่เคยสังเกตสักนิดเลยหรือ ท่านไม่รสู้ ึกว่าบนเตียงเถียนอี๋


เหนียงเก่งเรื่องนั้นสักนิดเลยหรือ สตรีตระกูลดีจะเป็นแบบนัน้ หรือ
อ้อ เกือบลืมไปแล้ว นอกจากท่านอาของข้า ใต้เท้าเหอไหนเลยจะ
เคยเห็นสตรีตระกูลดีๆ คนอื่น เถียนอี๋เหนียงมีฐานะเดิมเป็นม้าซูบ
ผอม หวังอี๋เหนียงเป็นหญิงขายศิลปะในหอนางโลม ส่วนหลีอ่ ี๋เหนียง
ผู้นั้นก็มีที่มาดียิ่งกว่า ต่อให้ท่านคิดก็คิดไม่ถึง นางเป็นนางโลมบน
เรือสำราญ ฮ่าๆ ทั้งสามคนต่างก็ได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดี ใต้เท้า
เหอคงจะมีความสุขมากใช่หรือไม่ เรื่องนั้นใต้เท้าเหอนับว่ามีวาสนา
ดียิ่งนัก” เสิ่นเวยกล่าวอย่างไม่สนใจ จ้องมองข้างล่างฉากกั้นปราด
หนึ่ง เห็นรองเท้าปักข้างนั้นหายไปแล้ว

“ว่าอย่างไรนะ ใต้เท้าเหอไม่เชื่อหรือ ข้าหวังดีมาบอกกับท่าน ท่าน


ยังไม่เชื่ออีก หรือว่าชอบเก็บไว้เป็นความลับ อะไรนะ ท่านบอกว่า
หลักฐานงั้นหรือ ย่อมมีแน่นอน โอวหยางไน่ เอาหลักฐานมาให้ใต้
เท้าเหอดู” มุมปากเสิ่นเวยยกสูง โดยเฉพาะตอนที่หลักฉากกั้นมี
เสียงดังสนั่นดังเข้ามา คล้ายเสียงของบางอย่างตกลงพื้น

เสิ่นเวยหัวเราะเยาะกล่าว “ใต้เท้าเหอ หนูในจวนท่านใจกล้าจริงๆ!”


เหอจังหมิงพลิกดูหลักฐานที่โอวหยางไน่ส่งมา เงยหน้าขึ้นดวงตาทั้ง
คู่เต็มไปด้วยสีแดงโลหิต จ้องมองเสิ่นเวย “เจ้าปลอมแปลงหลักฐาน
ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว” สองมือของเขาออกแรง จากนั้น
จึงฉีกหลักฐานที่เสิ่นเวยให้เขาออกเป็นชิ้นๆ ราวกับว่าฉีกทิ้งแล้ว
เรื่องนี้จะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ปลอมหรือไม่ในใจเหอจังหมิงรูด้ ี แต่เขาจะยอมรับได้หรือไม่ เขา


ยอมที่จะหลอกตัวเองดีกว่าจะต้องยอมรับ! เพราะเมื่อยอมรับแล้ว
เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
เสิ่นเวยยักไหล่ไม่ถือสาแม้แต่นดิ เดียว นางเองเพียงหวังดีเตือนเขาก็
เท่านั้นเอง ส่วนเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ไม่ใช่เรื่องที่นางจะยุ่งด้วย
แล้ว

“ใต้เท้าเหอไม่เชื่อก็ช่าง พวกเรามาเข้าเรื่องเดิมเถอะ เมื่อวานใต้


เท้าหลี่ข้าหลวงประจำจังหวัดมาเยี่ยมเยียนที่เรือน พอได้ยินเรื่อง
ของท่านอาก็โมโหอย่างยิ่ง เขียนหนังสือหย่าแทนท่านอาตอนนั้น
เลย อยู่ตรงนี้ ใต้เท้าเหอลงนามเถอะ” เสิ่นเวยบอกเป็นนัยให้โอวห
ยางไน่ส่งหนังสือหย่าไปให้
เหอจังหมิงตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี เขาไม่รู้ได้อย่างไรว่าใต้เท้าหลี่ไป
เยี่ยมเยียนถึงเรือน แม้แต่ข้าหลวงประจำจังหวัดผู้ยิ่งใหญ่ยังไปเอาใจ
เด็กคนหนึ่งได้ อำนาจของจวนจงอู่โหวรุ่งเรืองเพียงนั้นเชียวหรือ

ยังมี หนังสือหย่าฉบับนี้คืออะไรกัน เหอจังหมิงถลึงตามองกระดาษ


บางๆ แผ่นนีต้ รงหน้า แววตาปรากฎความหวาดกลัว คว้าไว้กำลังจะ
ฉีก แต่กลับถูกเสียงที่เย็นเยียบของเสิ่นเวยห้ามไว้ “ท่านกล้าหรือ!”

เสิ่นเวยมองเหอจังมิงอย่างเฉยชา เสียงๆ นั้นประหนึ่งดังมาจากนรก


“ท่านลองฉีกดูสิ หากท่านฉีก ข้าจะลงดาบกับลูกๆ ของท่านเสีย”
“ท่านพ่อ ท่านพ่อ!” บุตรอนุภรรยาทั้งสามของเหอจังหมิง รวมถึง
เหอเทียนเฉิงบุตรของเถียนอี๋เหนียงต่างก็ถูกคนจับไว้ในมือ
โดยเฉพาะคนเล็กที่สุด เพิ่งจะอายุสี่ขวบ กลัวจนร้องไห้ลนั่

“เจ้า เจ้ารีบปล่อยพวกเขาเดี๋ยวนี้” เหอจังหมิงทั้งตกใจทั้งโมโห อีก


ทั้งยังหวาดกลัว ลูกชายของเขาตกอยู่ในมือคนอื่นตั้งแต่เมื่อไร เขา
ลุกขึ้นกำลังจะเข้าไป แต่กลับพะว้าพะวง ไม่กล้าเข้าไป เพียงแค่มอง
เสิ่นเวยด้วยสายตาโกรธแค้น
แต่เสิ่นเวยกลับยังคงสบายอารมณ์ “ตกลงใต้เท้าเหอจะลงนาม
หรือไม่ ลงนาม ลูกๆ ของท่านก็ยังคงเป็นของท่าน ไม่ลงนาม ขอ
อภัย ท่านก็รอสิ้นบุตรหลานสืบสกุลได้เลย!”

เถียนอี๋เหนียงที่หลบอยู่ข้างหลังฉากกั้นก็ทนไม่ไหวแล้ว วิ่งออกมา
ร้องห่มร้องไห้มองลูกชายของตน “เฉิงเกอเอ๋อร์ เฉิงเกอเอ๋อร์”
จากนั้นจึงหันไปหาเหอจังหมิง อ้อนวอนไม่หยุด “นายท่าน ท่านช่วย
ลูกของพวกเราเถิด ข้าขอร้องท่านล่ะ ข้ามีลูกชายเพียงคนเดียว ข้า
คุกเข่าขอร้องท่านแล้ว ท่านลงนามเถิด”

เหอจังหมิงปากสั่น หมัดกำแน่น เสิ่นเวยนั่งอยู่อย่างสุขุม รอเขา


ตัดสินใจครั้งสุดท้าย
“ได้ ลงนาม ข้าลงนาม!” คุณชายสี่แซ่เสิ่นผู้นี้เป็นปีศาจ เขามองออก
ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล้อเล่น เขากล้าฆ่าลูกชายของเขาจริงๆ จวนของเขา
นั้นไม่เลว แต่คนรับใช้ในจวนตระกูลเหอไหนเลยจะสู้ชายฉกรรจ์ที่
คุณชายสี่แซ่เสิ่นพามาได้ ในสถานการณ์ที่ด้อยกว่าผู้อื่น นอกจาก
น้อมรับคำสั่งแล้วเขาจะยังทำอะไรได้อีก

เสิ่นหย่ากับลูกๆ เหอจังหมิงยังคงเลือกอย่างหลัง เขายกพู่กัน


ประหนึ่งหนักพันจิน มือสั่นระริกอยู่นานก็เขียนไม่ได้สักที
เสิ่นเวยเลิกคิ้วกล่าว “โอวหยางไน่ เจ้าไปช่วยใต้เท้าเหอหน่อย”

โอวหยางไน่ขานรับ เหอจังหมิงเห็นชายน่ากลัวทีบ่ นใบหน้ามี


แผลเป็นเช่นนี้ ชั่วขณะมือก็ไม่สั่นแล้ว ลงนามชื่อของตนในกระดาษ
อย่างคล่องแคล่ว

โอวหยางไน่หยิบหนังสือหย่าส่งให้เสิ่นเวยด้วยความเคารพ เสิ่นเวยม
องชื่อข้างบนก่อน จากนั้นจึงส่งให้โอวหยางไน่อย่างระมัดระวัง “เอา
ไปให้ที่ว่าการบันทึกคดี”

นางลุกขึ้นยืนกล่าวกับเหอจังหมิง “ไม่รบกวนใต้เท้าเหอแล้ว สินเดิม


ของท่านอาพวกท่านจัดการเรียบร้อยแล้วหรือยัง พรุ่งนี้ข้าจะสั่งคน
มาขนย้าย เถาฮวา ไปเชิญกูไหน่ไน พวกข้ากลับแล้ว”
ตอนที่ 195-1 จับแยกเข้าคุก

เสิ่นหย่ามาเร็วอย่างยิ่ง กระทั่งบ่าวรับใช้ที่เสิ่นเวยทิ้งไว้ก่อนหน้านี้ก็
ล้อมตัวนางไว้ กรูเข้ามาเป็นหนึ่งกลุ่มใหญ่ ดูกระตือรือร้นมากเป็น
พิเศษ

เหอจังหมิงมองภรรยาที่เดินเข้ามาช้าๆ ความยากลำบากหลายปี
เพียงนี้ไม่ได้ทำให้นางลืมการอบรมที่ดีงามเลย กระโปรงไม่ขยับปิ่น
ไม่สั่นไหว หลังยืดตรง ฝีเท้าไม่กว้างไม่แคบ ไม่เร็วไม่ช้า สง่าผ่าเผย
แต่ทุกๆ ย่างก้าวเสมือนเหยียบย่ำลงในหัวใจของเหอจังหมิง
ความรู้สึกของเขาซับซ้อนอย่างถึงที่สุด จำต้องยอมรับว่าความ
แตกต่างของภรรยากับเถียนอี๋เหนียงต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆ ใน
ใจเขาประหนึ่งมีมือเล็กๆ ข้างหนึ่งกำลังสะกิดอยู่ ไม่สบายอย่างยิ่ง
“หย่าเอ๋อร์!” เหอจังหมิงเดินขึ้นไปข้างหน้าสองก้าวอย่างไม่รตู้ ัว ยื่น
มือออกไปคิดจะจับแขนของเสิ่นหย่าไว้

ทว่าเสิ่นหย่ากลับหยุดเท้าห่างจากเขาออกไปสองก้าว โค้งคำนับต่ำๆ
“วันนี้เราสองจากลากันด้วยดี หลังจากนี้ไม่มีอะไรให้ต้องเกี่ยวข้อง
กันอีก”

สีหน้านางเรียบเฉย น้ำเสียงนิ่งเรียบ แววตาไร้ซึ่งระลอกคลื่นใดๆ


เสิ่นเวยอยู่ข้างๆ กระดกมุมปาก ชื่นชมท่านอาของนาง สมกับที่เป็น
สตรีตระกูลสูงศักดิ์ ไม่ทำให้ท่านปู่ขายหน้า แม้แต่แม่นมมัว่ เองก็
พยักหน้าในใจ กูไหน่ไนตระกูลเสิ่นผู้นี้กลับไม่ได้ไร้ประโยชน์เกินไป

“ท่านอา พวกเรากลับกันเถอะ หลานมารับท่านกลับบ้านแล้ว” เสิ่น


เวยก้าวขึ้นมาอย่างยิ้มแย้ม

หนึ่งประโยคแทบจะทำให้น้ำตาของเสิ่นหย่าร่วงลงมา กลับบ้าน ใช่


แล้ว ในที่สดุ นางก็กลับบ้านได้แล้ว กลับบ้านแล้วควรจะมีความสุข
จึงจะถูก นางสูดหายใจเข้าลึก กะพริบตาบังคับให้น้ำตากลับไป ยิ้ม
น้อยๆ ที่งามสง่าตอบเสิ่นเวย
เหอหลินหลินที่อยู่ข้างๆ เสิ่นหย่าก็โค้งคำนับให้พ่อของนาง หลังจาก
นั้นก็หมุนตัวเดินออกไปพร้อมกัน

เหอจังหมิงเอ่ยปากแล้ว “หยุดก่อน! เสิ่นซื่อไปได้ แต่หลินเจี่ยเอ๋อร์


เป็นบุตรสาวตระกูลเหอ นางไปไม่ได้”

“ใช่ ใช่ หลินเจี่ยเอ๋อร์ห้ามไป” มารดาแซ่เหอที่ตามเสียงมาก็


ขวางทางเหอหลินหลินไว้ กำลังจะคว้ามือนางไว้ เย่ว์กุ้ยก็วิ่งพรวดมา
บังอยู่ข้างหน้านาง “พูดก็พูดดีๆ ลงไม้ลงมือเพื่ออะไร”
มารดาแซ่เหอเห็นว่าเป็นสาวใช้คนนี้ก็ตกใจจนถอยไปข้างหลังหลาย
ก้าว เมื่อได้สติกลับมาก็รสู้ ึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “หลินเจี่ยเอ๋อร์
แซ่เหอ ตามคนแซ่เสิ่นไปไม่ได้เด็ดขาด” นางถลึงตามองเสิ่นหย่า
ปราดหนึ่ง ในแววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เหอะ ไปก็ดี สตรีที่
นำหายนะมาให้ครอบครัวผู้นไี้ ปแล้วนางจะแต่งคนใหม่ที่ดีกว่านี้ให้
ลูกชาย

เห็นคนรับใช้จวนตระกูลเหอทีถ่ ือกระบองขวางอยู่ข้างหน้า เสิ่นเวยก็


พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ดาบจริงทวนจริงในสนามรบต่างก็ขวางนาง
ไม่ได้ กระบองไม่กี่อันเล็กๆ ยังจะทำอะไรนางได้
“ไม่มีใครบอกว่าญาติผู้น้องไม่ใช่บุตรสาวของตระกูลเหอนี่ เพียงแค่
วันนี้ข้าอารมณ์ดี อยากรับญาติผู้น้องไปดูบ้านคฤหาสน์ อย่างไรเสีย
หลังจากนี้คฤหาสน์ของอวิ๋นโจวแห่งนี้ก็จะเป็นสินเดิมของญาติผู้
น้อง” เสิ่นเวยกล่าวอย่างไม่สนใจ

“นั่นก็ไม่ได้ เจ้าจะไปแล้วไม่ใช่หรือ เช่นนั้นก็ไปแค่คนเดียว หลินเจี่ย


เอ๋อร์ต้องอยู่ที่จวนตระกูลเหอ ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” เหอจังหมิงจ้องม
องเสิ่นเวยราวกับงูพิษที่ดุร้ายตัวหนึ่ง
เสิ่นหย่าเลิกคิ้ว ละสายตามองมารดาแซ่เหอที่ตาลุกวาว “แม่เฒ่าเห
อเองก็คิดเช่นนี้หรือ”

มารดาแซ่เหอหน้าเหยเก กำลังจะเอ่ยปากก็ถูกลูกชายแย่งพูดขึ้น
ก่อน “เจตนาของท่านแม่ย่อมต้องเหมือนข้า หลินเจี่ยเอ๋อร์ รีบมาหา
พ่อเถอะ” ท่าทางจะเป็นจะตายก็ไม่ยอมให้เหอหลินหลินเดินออก
จากจวนตระกูลเหอ

“เหล่าเอ้อร์” มารดาแซ่เหอร้อนใจในชั่วขณะแล้ว จ้องมองลูกชาย


แล้วกล่าวแนะ “เจ้าเด็กคนนี้เหตุใดถึงไม่รู้ประสีประสาเช่นนี้ แม้เจ้า
จะหย่ากับแม่ของหลินเจีย่ เอ๋อร์แล้ว แต่อย่างไรเสียหลินเจี่ยเอ๋อร์ก็
ยังคงเป็นหลานสาวของจวนตระกูลเหอ ญาติผู้พี่นางรับนางไปเที่ยว
เล่นไม่กี่วันไม่ใช่เรื่องปกติหรือไร”

นางพยายามส่งสายตาให้ลูกชาย นั่นคือคฤหาสน์เชียวนะ มูลค่า


มหาศาล จวนโหวใจกว้างยกให้หลินเจี่ยเอ๋อร์ เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเป็น
ของตระกูลเหอของนางด้วยมิใช่หรือ เด็กสาวไม่ช้าไม่เร็วก็ต้องเป็น
คนของตระกูลอื่นแล้ว ต่อให้นำสินเดิมไปมากก็เป็นการเสียเปรียบ
ผู้อื่น ถึงตอนนั้นทำกระเป๋าไม่กี่ใบ เย็บเสื้อผ้าไม่กี่ชุดก็พอแล้ว
คฤหาสน์หลังนัน้ เหลือไว้ให้หลายชายคนโตดีกว่า
เหตุใดสมองของเหอจังหมิงถึงได้ทึบจนสื่อสารกับมารดาแซ่เหอไป
คนละทาง ไม่เข้าใจความพยายามบากบั่นของมารดาเขา ดวงตา
ที่ถลึงจนแดงก่ำก็ยังคงแสดงออกว่าไม่ยอมให้บุตรสาวของเขาไป

เสิ่นเวยหัวเราะเบาๆ หนึ่งครา ไม่เอ่ยขอร้อง “ในเมื่อใต้เท้าเหอไม่


ยอมเช่นนั้นก็ช่างเถอะ ญาติผู้น้อง เจ้าเองก็อย่าตำหนิที่พี่ไร้เมตตา
เลยนะ คฤหาสน์หลังนัน้ บอกว่าจะให้เจ้าก็เพราะว่าเจ้าเป็นคุณหนู
ญาติผู้น้องของจวนจงอู่โหวของพวกเรา เป็นหลานสาวตาเพียงคน
เดียวของท่านปู่ ทุกคนรักเจ้าจึงอยากชดเชยให้เจ้าสักเล็กน้อย
ตอนนี้ใต้เท้าเหอยืนกรานจะตัดญาติตระกูลนี้ เช่นนั้นพี่ก็ทำได้เพียง
ขออภัย อย่างไรเสียคฤหาสน์หลังนั้นก็มีมูลค่าพันตำลึงเป็นอย่าง
น้อย เงินของจวนจงอู่โหวของพวกเราก็ไม่ได้หอบมากับสายลม ไหน
เลยจะมอบให้คนนอกได้ตามอำเภอใจ” นางกล่าวกับเหอหลินหลิ
นด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
เหอหลินหลินสีหน้าเรียบเฉย โค้งคำนับเสิ่นเวยหนึ่งครา “ญาติผู้พี่
พูดมีเหตุผล น้องหลินไม่โกรธ” หลังจากนั้นก็ก้าวเท้าเดินไปหาพ่อ
นาง

ชั่วพริบตาคฤหาสน์ที่อยู่ในมือกำลังจะลอยออกไป อย่าว่าแต่มารดา
แซ่เหอที่ร้อนใจ แม้แต่ภรรยาบุตรคนโตแซ่เหอกับเถียนอี๋เหนียงที่อุ้ม
ลูกชายมาดูพร้อมกันต่างก็โกรธแค้นเหอจังหมิง นัน่ คือคฤหาสน์
มูลค่าหนึ่งพันตำลึงเชียวนะ แม้จะไม่อยู่อาศัยเพียงปล่อยให้เช่า
หนึ่งปีก็มีรายได้เป็นเงินไม่น้อยแล้ว คนจวนโหวจะรับหลินเจีย่ เอ๋อร์
ไปแค่ไม่กี่วันไม่ใช่หรือ ไม่ได้พดู ว่าจะไม่กลับมาเสียหน่อย มิหนำซ้ำ
ยังไม่ได้ออกจากเมืองอวิ๋นโจวแห่งนี้ เขาจะตื่นตระหนกทำไมกัน
มารดาแซ่เหอเห็นคุณชายจวนตระกูลโหวผู้นนั้ และลูกสะใภ้คนก่อน
ไม่สนใจหลินเจี่ยเอ๋อร์แล้วจริงๆ ก็ยิ่งร้อนใจ ก้าวขึ้นไปสองก้าวดึงเห
อหลินหลินเข้ามา ผลักนางไปอยู่ข้างๆ เสิ่นหย่าแม่ของนาง “เจ้าเด็ก
คนนี้เหตุใดถึงใสซื่อเพียงนั้น พ่อเจ้าพูดออกมาด้วยความโมโหก็ฟัง
ไม่ออกหรือ แยกกันครั้งนี้ไม่รู้วา่ จะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ หลินเจี่ย
เอ๋อร์ผู้น่าสงสาร ไปเถอะ ตามแม่เจ้ากับญาติผู้พี่เจ้าไปเที่ยวเล่นสัก
วันสองวัน อีกสองวันค่อยให้พอ่ เจ้าไปรับเจ้า” นางดึงแขนเสือ้ แสร้ง
เช็ดน้ำตา ท่าทางอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด

เหอหลินหลินยังคงไม่พูดจา คำนับมารดาแซ่เหอแล้วจึงกลับไปยืน
ข้างกายแม่นางด้วยสีหน้าเรียบเฉย มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยเผย
ความเย็นชาหลายส่วน ย่านางไหนเลยจะคิดแทนนาง ชัดเจนว่าตัด
ใจทิ้งคฤหาสน์หลังนั้นไม่ได้ต่างหาก
เพื่อคฤหาสน์หลังนัน้ แล้ว มารดาแซ่เหอเมื่อลงมือทำอะไรแล้วต้อง
ทำให้สุด ฉวยโอกาสตอนที่ลูกชายยังไม่ได้สติกลับมา ‘ไล่’ กลุ่มคน
ของเสิ่นเวยออกไปเสียเลย “ในเมื่อหย่ากันแล้ว เช่นนัน้ คุณชายสี่กับ
แม่หลินเจีย่ เอ๋อร์ก็รีบไปเถอะ เหล่าเอ้อร์เขาลำบากใจ พวกเจ้าก็
อย่าได้อยู่ที่นี่ให้เขาเห็นหน้าเลย”

ฮ่าๆๆ ช่างมีไหวพริบจริงๆ เสิน่ เวยคิดไม่ถึงว่าจะออกจากจวน


ตระกูลเหอได้ง่ายถึงเพียงนี้ นางยังคิดว่าต้องต่อสู้ออกมาเสียอีก
อย่างน้อยที่สุดก็ต้องใช้กำลังข่มขู่คนสักรอบ ตอนนี้คาดไม่ถึงว่าถูก
พวกเขา ‘ไล่’ ออกมาอย่างไม่รีรอ มารดาแซ่เหอแม่เฒ่าผู้นี้น่ารัก
จริงๆ ไม่ใช่หรือ เหมือนกลุ่มหมูโง่ไม่ใช่หรือ เสิ่นเวยวิพากษ์วจิ ารณ์
อยู่ในใจเงียบๆ จิตใจเบิกบานมีความสุข

กว่าเหอจังหมิงจะได้สติกลับมากลุ่มของเสิ่นเวยก็เหลือเพียงแต่เงา
แล้ว เขาไต่ถามแม่เขาอย่างไม่พอใจ “ท่านแม่ ท่านปล่อยหลินเจี่ย
เอ๋อร์ไปได้อย่างไร” ไม่จับหลินเจี่ยเอ๋อร์ไว้ในมือในใจเขามักจะรู้สึก
ไม่ปลอดภัย

มารดาแซ่เหอกลอกตามองลูกชาย กล่าวอย่างหงุดหงิด “เจ้าไม่ได้


ยินคุณชายสีผ่ ู้นั้นกล่าวหรือ หากหลินเจี่ยเอ๋อร์ตัดญาติกับจวนโหว
เช่นนั้นก็จะไม่ได้รับผลประโยชน์แม้แต่นิดเดียว คฤหาสน์มูลค่าพัน
ตำลึงไม่อยากได้หรือไร เจ้าน่ะ ไม่ดูแลบ้านก็ไม่รู้หรอกว่าข้าวยาก
หมากแพง เจ้าตัดใจได้ แต่มารดาเจ้าจะตัดใจได้หรือไร”

สีหน้าเหอจังหมิงแข็งทื่อ เอ่ยถึงเงินทองเขาเองก็ยิ่งไม่มีความมั่นใจ
อย่างมาก แต่เขากังวลยิ่งกว่าหากเสิ่นซื่อแอบพาหลินเจี่ยเอ๋อร์กลับ
เมืองหลวงขึ้นมาจะทำอย่างไร

มารดาแซ่เหอเห็นท่าทีก็ไม่โมโหแล้ว กล่าวด้วยคำชี้แนะจากใจจริง
“เหล่าเอ้อร์ หลินเจี่ยเอ๋อร์เพียงแค่ไปคฤหาสน์ เจ้ากังวลอะไร
อย่างไรเสียเจ้าเองก็เป็นนายอำเภอ อวิ๋นเหอแห่งนี้พวกเราคุ้นเคยดี
ยิ่งกว่าพวกเขามิใช่หรือ แม่ว่า หลินเจีย่ เอ๋อร์ตามไปสิดี หากเสิ่นซื่อ
ใจร้ายไม่สนใจหลินเจีย่ เอ๋อร์จริงๆ พวกเราก็คงจะไม่ได้อะไรเลยมิใช่
หรือ ตอนนี้คอยกระตุ้นนางทุกวันๆ นางยังจะใจร้ายได้ลงคออีกหรือ
อย่างน้อยก็ต้องวางแผนอนาคตให้หลินเจี่ยเอ๋อร์บ้าง หลินเจีย่ เอ๋อร์
ได้ผลประโยชน์ ก็เท่ากับพวกเราได้รับผลประโยชน์เช่นกันมิใช่หรือ”

“ใช่ๆ ยังคงเป็นท่านแม่ที่มองการณ์ไกล มีเหตุผล” ภรรยาบุตรคน


โตแซ่เหอรีบประจบประแจงมารดาแซ่เหอ บุตรคนโตแซ่เหอไอหนึ่ง
ครา กล่าวกับเหอจังหมิง “เหล่าเอ้อร์ เจ้าเชื่อฟังท่านแม่ของเราไม่มี
ผิดพลาดหรอก”

ในใจมารดาแซ่เหอพอใจ ชื่นชมภรรยาลูกชายคนโตที่เชื่อฟังกตัญญู
แม้ว่านางจะเป็นหญิงชราในชนบท แต่กลับแต่งงานกับสามีที่ป่วย
ออดแอด ดังนั้นนางจึงมีอำนาจตัดสินใจในตระกูลเหอ สิ่งที่นา่ พอใจ
ที่สุดในชีวิตของนางก็คือการตัดสินใจส่งบุตรชายคนเล็กไปเรียน
หนังสือ ตอนแรกเพื่อนบ้านต่างก็หัวเราะเยาะที่นางใฝ่สูง ดูสิว่า
ตอนนี้นางกลายเป็นแม่ของใต้เท้านายอำเภอแล้วมิใช่หรือ ซ้ำยังใช้
ชีวิตที่ดีมีบ่าวให้เรียกใช้อีกด้วย

นึกถึงตรงนี้นางก็กล่าวต่อ “พวกเราไม่ใช่ว่ายังต้องคืนสินเดิมอีกหรือ
มีหลินเจีย่ เอ๋อร์ลดความตึงเครียดอยู่ตรงกลาง พวกเขาจะยังบีบ
บังคับเจ้าจนหมดหนทางได้อีกหรือ”

มารดาแซ่เหอไม่คิดจะคืนสินเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่มีแม้แต่ประโยค
เดียว ทั้งหมดล้วนใช้หมดแล้ว พวกเขาจะทำอะไรนางได้อีก
ก่อนหน้านี้เหอจังหมิงยังคงลังเล เมื่อได้ยินเหตุผลแล้วเขาก็ผอ่ น
คลายลง ใช่แล้ว อย่างไรเสียเขาก็เป็นบิดาของหลินเจี่ยเอ๋อร์ หลิน
เจี่ยเอ๋อร์มีความสัมพันธ์อันดีกบั บ้านฝั่งมารดา หากเห็นแก่หลินเจี่ย
เอ๋อร์ก็ต้องไว้หน้าตนบ้างใช่หรือไม่

เหอจังหมิงกับมารดาแซ่เหอคิดไว้ดียิ่งนัก ทว่าพวกเขากลับคิดไม่ถึง
ว่าเสิ่นเวยจะเป็นคนที่ไม่ไว้หน้าคนอื่น จากมุมมองของเสิ่นเวย ต่างก็
หย่ากันแล้ว เช่นนั้นย่อมต้องเอาของของข้าที่กินเข้าไปคายออกมา
ให้หมด เอาของของข้าคืนกลับมาให้ข้า ไว้หน้าหรือ นั่นเป็นสิง่ ใดกัน
เสิ่นเวยไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ตอนที่ 195-2 จับแยกเข้าคุก

วันที่สอง คนทั้งหมดในจวนตระกูลเหอเห็นชายร่างกำยำชุดดำ
เหมือนกันทั้งหมดหลายสิบคนนี้ต่างก็ตะลึงงันแล้ว นี่…นี่จะมาทำ
อะไรกัน ค้นบ้านหรือ

มารดาแซ่เหอใจเต้นรัว ร้องตะโกนเสียงแหลมเปรียว “ปิดประตู ปิด


ประตู รีบปิดประตู” พยายามจะกีดกันเสิ่นเวยไว้ข้างนอก

เถาฮวาก้าวขึ้นมาข้างหน้าทันที มือทั้งสองเพียงแค่ผลักเบาๆ ประตู


ใหญ่บานนั้นก็เปิดออกแล้ว กลับกลายเป็นคนรับใช้จวนตระกูลเหอสี่
คนที่ปิดประตูล้มระเนระนาดลงไปกับพื้น
เสิ่นเวยยิ้ม รอยยิ้มนั้นส่องแสงแยงตาเช่นนั้นท่ามกลางช่วงเช้าตรู่ที่
ดวงอาทิตย์เพิ่งจะโผล่ขึ้นมา นางเอามือไพล่หลังเดินเข้ามาในจวน
ตระกูลเหอช้าๆ “แม่เฒ่าเหอจะทำอะไร เมื่อวานพวกเราก็พูดกันดี
แล้วไม่ใช่หรือว่าวันนีจ้ ะมาขนสินเดิม คาดว่าในจวนคงจะเตรียมการ
เรียบร้อยดีแล้วใช่หรือไม่ พ่อบ้านรอง แม่นมมั่ว เอาใบรายการสิน
เดิมของท่านอาไปตรวจดูกับแม่เฒ่าเหอ ของที่ไม่ใช่ของพวกเรา
อย่าได้แตะ” ความหมายในคำพูดก็คือของที่เป็นของนางแม้ว่าจะ
เป็นหญ้าเพียงต้นเดียวก็ต้องเอาไปด้วย

“แม่เฒ่าเหอเชิญเถิด!” แม่นมมั่วก้าวไปหามารดาแซ่เหอช้าๆ
พ่อบ้านรองฝั่งนั้นเองก็เดินไปหาเหอจังหมิง “ใต้เท้าเหอ นี่คือใบ
รายการสินเดิมในตอนแรกของกูไหน่ไนของพวกเรา ฝ่ายราชการก็มี
ข้อมูลสำรอง ท่านจะอ่านสักหน่อยหรือไม่”

สินเดิมของเสิ่นหย่าเหอจังหมิงย่อมเคยเห็นแล้ว ตอนนั้นเขายังตก
ตะลึงในความร่ำรวยของจวนจงอู่โหว เพียงแค่บุตรสาวอนุภรรยายัง
มีสินเดิมเยอะถึงเพียงนี้ ยังเคยแอบดีใจกับตัวเอง

ทว่าตอนนี้เผชิญหน้ากับใบรายการสินเดิมที่พ่อบ้านรองส่งเข้ามานี้
เขาจะรับก็ไม่ได้ ไม่รับก็ไม่ได้ กล่าวจากใจจริง เขาเป็นบัณฑิต เรียก
ตัวเองว่าเป็นสุภาพบุรุษ ก็ไม่อยากครอบครองสินเดิมของภรรยาที่
หย่ากันแล้ว แต่จะให้เขาคืนกลับไป ในใจเขาก็ไม่ยินยอมอย่างถึง
ที่สุด ต่อให้เขาจะไม่ชำนาญงานในจวนนักแต่ก็รู้ว่าหากไม่มีสนิ เดิม
ของเสิ่นซื่อประคับประคอง จวนตระกูลเหอก็จะไม่เหลืออะไรเลย

มารดาแซ่เหอมองแม่นมมั่วที่เดินเข้ามาหานาง ราวกับเห็นผีร้าย
ถอยหลังไปพลางตะโกนไปพลาง “สินเดิมอะไร ไม่มี ไม่มีสินเดิม!
เสิ่นซื่อแต่งเข้ามาจะยี่สิบปีแล้ว เพราะนางจะกินรังนกวันนี้ พรุ่งนี้จะ
ตุ๋นอุ้งตีนหมีใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ต่อให้จะมีกองเงินกองทองก็ใช้หมดไป
นานแล้ว” จะให้คืนสินเดิมเช่นนั้นก็คงต้องเฉือนเนื้อนางอย่างไม่ต้อง
สงสัย นางจะยอมได้อย่างไร

แม่นมมั่วกล่าว “ตอนแรกกูไหน่ไนของพวกเราแต่งเข้ามามีขบวน
สินสอดยาวสิบลี้ เพียงแค่ร้านค้าที่ได้กำไรดีก็มีห้าหกแห่งแล้ว เพียง
แค่กำไรของร้านค้าห้าหกแห่งก็เพียงพอให้กูไหน่ไนของพวกเรากิน
อุ้งตีนหมีรังนกทุกวันก็ใช้ไม่หมด แม่เฒ่าเหอหมายความว่าจะไม่
ยอมคืนสินเดิมหรือ”

สีหน้ามารดาแซ่เหอเปลี่ยนแล้ว มองแม่นมมั่วด้วยความตื่นตัวราว
กับป้องกันตัวจากคนร้าย ปากตะคอกกล่าว “ร้านค้าห้าหกร้านอะไร
กัน ข้าไม่เคยเห็น ครอบครัวของพวกข้าไม่มีสินเดิมของเสิ่นซื่อ เจ้า
ออกไป อย่ามาบ้านพวกข้า ออกไป ออกไป”

เหอจังหมิงเห็นท่าทีสหี น้าก็ยิ่งแย่ เขารู้สึกลำบากใจมากเป็นพิเศษ


แม้ความยากจนในตอนแรกที่ไม่สามารถหาเงินเข้าเมืองหลวงไป
สอบราชการจะเทียบไม่ได้กับตอนนี้ก็ตาม เขาอยากจะตะโกน
ออกไปจริงๆ ว่า ‘ขนไป ขนไป ขนไปให้หมด’ แต่ในลำคอกลับคล้าย
ถูกอะไรบางอย่างอุดไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ส่งเสียงไม่ออก

เสิ่นเวยไหนเลยจะไม่รู้ความละโมบของคนแซ่เหอสองแม่ลูก มุมปาก
เผยรอยยิ้มเหยียดหยาม ใบหน้าที่งามราวกับหยกก็เย็นเยียบลง “ดู
ท่าแล้วจะพูดดีๆ ไม่ฟัง ต้องใช้กำลังบังคับ ยังรออะไรอีก ขนไป!”

เสิ่นเวยโบกมือ ชายกำยำชุดดำก็กรูเข้าไปในเรือนราวกับเสือหิว
“พวกเจ้าทำอะไร ทำอะไร ออกไป ออกไป ห้ามเข้ามา” มารดาแซ่
เหอร้องเสียงแหลมโถมตัวเข้าไปขวาง แต่นางไหนเลยจะขวางอยู่
กลับถูกชายกำยำหนึ่งคนในนัน้ ถือโอกาสผลักออกไปหนึ่งครา ล้มนั่ง
ลงบนพื้น

สีหน้าของเหอจังหมิงเองก็เปลี่ยนไปอย่างยิ่ง เดินเข้าไปหลายก้าว
พยุงแม่ของเขาขึ้น สายตาที่ดุรา้ ยสาดยิงไปยังเสิ่นเวย “พวกเจ้าบุก
รุกบ้านคนอื่นโดยพลการ ข้าจะยื่นสาน์สกราบทูลจักรพรรดิ จวนจง
อู่โหวใช้อำนาจระรานคน ข้าจะต้องหาที่ฟ้องร้อง”
เสิ่นเวยหัวเราะเยาะหนึ่งครา “บ้านคนอื่นหรือ ใต้เท้าเหอ นี่คือจวน
ขุนนาง! เหตุใดถึงวุ่นวายจนเป็นเช่นนี้ท่านรู้ดีอยู่แก่ใจ หากท่านยอม
มอบสินเดิมออกมาโดยดี ข้าก็จะพาคนไปทันที แต่น่าเสียดายที่ท่าน
ตัดใจไม่ได้ เช่นนั้นข้าก็ทำได้เพียงไปเอาเอง เอาของที่เป็นของข้าไป
ไม่ใช่เป็นสัจธรรมอันถูกต้องแล้วหรือ”

ต่อให้ข้าจะใช้อำนาจระรานผู้อื่นแล้วเจ้าจะทำไม นั่นก็เพราะว่าข้ามี
อำนาจ เจ้าคอยดูข้าไว้แล้วกัน!

ยังจะยื่นสาส์นกราบทูลจักรพรรดิอีกงั้นหรือ นายอำเภอเล็กๆ คน
หนึ่งยังเพ้อฝันว่าโอรสสวรรค์จะรับฟัง รับราชการมาเกือบยี่สิบปียัง
ไร้เดียงสาเช่นนี้ มิน่าเล่าถึงเลื่อนขั้นไม่ได้เสียที
การเคลื่อนไหวของชายชุดดำเร็วอย่างยิ่ง พวกเขาต่างก็เป็นคนที่เสิ่น
เวยใช้เงินจ้างมา เดิมก็จ่ายเงินไปแพง บวกกับชื่อเสียงอันโด่งดังของ
จวนจงอู่โหว ย่อมต้องเชื่อฟังอย่างถึงที่สุด อีกทั้งยังเป็นการยึดสิน
เดิมคืนจากนายอำเภอแซ่เหอในข่าวลือ ตอนนี้ในเมืองอวิ๋นโจวมีใคร
บ้างที่ไม่รู้ว่านายอำเภอแซ่เหอเป็นคนต่ำช้าหน้าไม่อายที่อาศัยฮู
หยินสร้างอำนาจแต่กลับโปรดปรานอนุภรรยาทอดทิ้งภรรยาเอก ไม่
ต้องสนว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร ในใจล้วนแต่เหยียดหยามเขา ลง
มือขึ้นมาย่อมไร้ความเมตตา

ทุกอย่างที่บันทึกลงในใบรายการสินเดิมต่างก็ขนไปหมดแล้ว เครื่อง
เรือนขนาดใหญ่เหล่านั้นที่ขนไปไม่สะดวก เช่นนั้นก็ทบุ ทำลายเป็น
ฟืนเสีย ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเสียเปรียบให้กบั คนต้อยต่ำหน้าไม่อาย
ได้ ในขั้นตอนการขนย้ายสินเดิม พวกเขายังไม่ระมัดระวังทำของพัง
ไปไม่น้อย

มารดาแซ่เหอเจ็บใจอย่างถึงที่สุด วิ่งพุ่งไปหาเสิ่นเวยราวกับคนบ้า
“เจ้าคนโฉดชั่ว ข้าจะสู้กับเจ้า”

แม้แต่ชายเสื้อของเสิ่นเวยยังแตะไม่ได้ถึงก็ถูกเถาฮวาคว้าแขนแล้ว
พับไปด้านหลังจับตัวมาไว้ข้างๆ มารดาแซ่เหอเจ็บจนกรีดร้องโอด
โอย
“เจ้า หลานสี่แซ่เสิ่นเจ้ารีบปล่อยแม่ข้าเดี๋ยวนี้!” เหอจังหมิงมองเสิ่น
เวยด้วยความโมโห พยายามจะพุ่งเข้ามา มีโอวหยางไน่ผู้คุ้มกันที่
มีวรยุทธ์สูงส่งผูน้ ี้อยู่ เหอจังหมิงย่อมทำได้แค่เพียงร้อนใจจนกระทืบ
เท้าอยู่กับที่ “หากแม่ข้าเป็นอะไรไป ข้าเอาเรื่องเจ้าแน่” แม้ว่าเขา
จะทำอะไรไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่กลับเป็นลูกกตัญญู กตัญญูตอ่
บุพการีอย่างถึงที่สุด

“ท่านเรียกว่าหลานสี่แซ่เสิน่ หรือ” สายตาของเสิ่นเวยน่าสะพรึงกลัว


ยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เจ้าเป็นลูกเขยของจวนโหว ย่อมต้องพูดดีทำดีด้วย
ตอนนี้ต่างก็หย่ากันแล้ว ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ แล้ว ใครอนุญาตให้
เจ้าเรียกว่าหลานสี่แซ่เสิ่น เจ้ามีคุณสมบัตนิ ั้นหรือ
“ใต้เท้าเหอหลับหูหลับตาพูดเหลวไหลเก่งเสียจริง ไม่เห็นหรือว่าแม่
เฒ่าตระกูลท่านพุ่งเข้ามาโจมตีข้าก่อน ข้าไม่ต่อยนางจนฟันร่วงก็ถือ
ว่าให้เกียรติมากแล้ว เหอะ!”

สีหน้าเหอจังหมิงแข็งทื่อ ถูกดักทางจนพูดไม่ออก แต่เห็นทั่วทั้งจวน


ถูกชายกำยำชุดดำทำลายจนไม่เหลือซาก เขาก็อยากจะเข้าไปห้าม
อย่างยิ่ง ทว่าสติปัญญาที่ยังเหลืออยู่กลับบอกเขาว่าทำเช่นนั้นไปก็ไร้
ประโยชน์ เขาทำได้เพียงใช้สายตาที่เคลือบพิษประหารเสิน่ เวย
“นี่มันอะไรกัน ขโมย โจร ข้าจะไปที่ว่าการฟ้องร้องพวกเจ้า! ปล่อย
เดี๋ยวนี้ เจ้าจะแย่งของของข้าไปไม่ได้” สะใภ้ใหญ่ตระกูลเหอกรีด
ร้องผมยุ่งกระเซิงแย่ง**บเครื่องประดับในมือกลับไป

ชายกำยำชุดดำที่ถือ**บเครื่องประดับอีกฝั่งหนึ่งไว้หวั เราะเยาะหนึ่ง
ครา “ของของเจ้าอะไรกัน นี่คือสินเดิมของกูไหน่ไนจวนโหว” จุ๊ๆๆ
หน้าไม่อายเสียจริงๆ แม้แต่สนิ เดิมของน้องสะใภ้ก็ยังย้ายมาไว้ใน
ห้องตน เหตุใดถึงได้มีคนแบบนี้อยู่ได้นะ

**บเครื่องประดับย่อมตกลงในมือของชายกำยำชุดดำ สะใภ้ใหญ่
ตระกูลเหอปวดใจจนกรีดร้องเสียงดัง ละสายตาไปเห็นแม่สามีกับ
น้องสามีถูกจับอยู่ข้างๆ ชั่วขณะก็ตื่นกลัวขึ้นมา “อย่า อย่าตีข้า ข้า
ไม่รู้อะไรทั้งนั้น เรื่องทั้งหมดพวกเขาเป็นคนทำ อย่าจับข้า อย่าจับ
ข้า” นางหันหน้ากำลังจะวิ่งกลับไป แต่กลับไม่ทนั ระวังล้มลงกับพื้น
สองมือกุมศีรษะขดตัวอยู่บนพื้นด้วยความหวาดกลัวไม่กล้าลุกขึ้นยืน

ไม่แปลกที่สะใภ้ใหญ่จะหวาดกลัวเช่นนี้ เพราะว่าปกติแล้วน้องสามี
เป็นนายอำเภอ นางเดินออกไปข้างนอกภรรยาพ่อค้าจำนวนมาก
เคารพนาง มอบของดีๆ ให้นาง เวลานานเข้านางก็ยิ่งรู้สึกว่าน้อง
สามีคือฮ่องเต้ท้องถิ่นของอวิ๋นโจวแห่งนี้ แต่ใครจะรูว้ ่าน้องสามีขุน
นางที่สูงส่งในใจนางตอนนี้กลับถูกคนจับไว้ข้างๆ นางจะไม่
หวาดกลัวตื่นตระหนกได้อย่างไร
ไม่นานเจ้านายคนอื่นๆ ในจวนตระกูลเหอต่างก็วิ่งเข้ามาด้วยสภาพ
จนตรอก พวกเขาไหนเลยจะเคยเห็นเหตุการณ์โดนค้นบ้านเช่นนี้
ต่างก็ทำตัวไม่ถูกเช่นเดียวกับสะใภ้ใหญ่ตระกูลเหอ กระวนกระวาย
ใจประหนึ่งวิหคตื่นเกาทัณฑ์

เสิ่นเวยมองดูอย่างเย็นชา เสมือนมองดูมดที่ดิ้นพล่านอยูบ่ นพื้น นาง


ไม่เห็นใจพวกเขาแม้แต่นิดเดียว

ประสิทธิภาพของเหล่าชายกำยำชุดดำยังคงสูงอย่างยิ่ง เพียงแค่หนึ่ง
ชั่วยามก็เก็บกวาดสินเดิมทั้งหมดของเสิ่นหย่าเรียบร้อยแล้ว เสิ่นเวย
ใช้พัดพับชี้ไปที่เหอจังหมิง “ใต้เท้าเหอ ขุนเขามิแปรเปลี่ยน สายน้ำ
มิไหลย้อนกลับ ข้าขอตัวลา ท่านระวังตัวไว้ให้ดีล่ะ!” นางยิ้มอย่าง
แปลกประหลาดให้เหอจังหมิง พาคนยกสินเดิมเรียงแถวยาวเหยียด
ออกจากจวนตระกูลเหอ

เมื่อเสิ่นเวยออกไป มารดาแซ่เหอก็คลานขึ้นมาจากพื้นแล้วพุง่ ไปที่


เรือนของตน พุ่งเข้าไปในห้องนอน วิ่งตรงไปยังห้องด้านใน นางเปิด
ไม้กระดานเตียงออกลูบคลำข้างใน ชั่วขณะหัวใจก็เย็นเยียบไป
ครึ่งหนึ่ง จบแล้ว โลงศพที่เก็บมาทั้งชีวิตของนางหมดแล้ว! เงินห้า
พันตำลึง!

นางไม่ยอมแพ้ มุดเข้าไปใต้เตียง ค้นไหออกมา ข้างในก็ว่างเปล่า


เช่นเดียวกัน นางทนรับความสะเทือนใจไม่ไหวล้มนั่งลงบนพืน้ ส่ง
เสียงคล้ายร้องไห้คล้ายหัวเราะออกมา กำไลหยกปิ่นทอง ต่างหูทอง
ต่างๆ ที่นางเตรียมจะเอาเข้าโลงศพไปด้วยหายไปหมดแล้ว พวกชั่ว
เหล่านี้

จากนั้นนางจึงมองภายในห้องที่ถูกค้นจนกระเจิดกระเจิง ของมูลค่า
เล็กน้อยล้วนหายไปแล้ว แม้แต่โต๊ะน้ำชาที่ทำจากไม้หวงฮวาหลี (ไม้
พะยูงหอม) ตัวนั้น เก้าอี้ไม้หยาง (ไม้ทิวลิป) ที่เหลืออยู่ไม่กี่ตวั ก็ล้ม
ระเนระนาดอยู่บนพื้น จบแล้ว จบหมดแล้ว สมบัติทนี่ างเก็บมาทั้ง
ชีวิตหมดแล้ว ชีวิตหลังจากนี้จะผ่านไปอย่างไร มารดาแซ่เหอร้องไห้
ขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ไม่เพียงแต่เรือนมารดาแซ่เหอที่เป็นเช่นนี้ เรือนของเหอจังหมิง
เรือนของบุตรคนโตแซ่เหอ กระทั่งเรือนอี๋เหนียงหลายคนของเห
อจังหมิงก็เป็นเช่นนี้ ชั่วขณะทุกคนในจวนต่างก็ตกใจร้องไห้ฟูมฟาย

“ท่านแม่ เหล่าเอ้อร์ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” บุตรคนโตแซ่เหอและลูก


ชายคนรองเหอเทียนฮุยพยุงกันวิ่งโซซัดโซเซกลับจวนมา เมื่อเห็นทั่ว
ทั้งจวนประหนึ่งถูกโจรปล้น ชัว่ ขณะก็ตกตะลึง “เหล่าเอ้อร์ เกิด
อะไรขึ้น ท่านแม่พวกเราเล่า”

เหอจังหมิงส่ายหน้าไม่พูด เขาเห็นว่าบนเสื้อผ้าของพี่ใหญ่กับ
หลานชายมีรอยเลือด ก็รีบถาม “พวกท่านเป็นอะไร”
บุตรคนโตแซ่เหอได้สติกลับมาในชั่วขณะ ตบเข่าฉาดแล้วกล่าว
“เหล่าเอ้อร์ คนจากบ้านฝั่งแม่ของน้องสะใภ้มายึดร้านค้า ไล่
ผู้จัดการกับเด็กในร้านออกไปจนหมด ข้าไม่ยอม เข้าไปเถียงอยู่สัก
พักก็ถูกพวกเขาตีจนเป็นเช่นนี้ หลานเจ้าเข้ามาปกป้องข้า เกือบจะ
ถูกตีจนขาหัก เหล่าเอ้อร์ จะทำอย่างไรดี ไม่มีกำไรในร้านค้า
ครอบครัวใหญ่ของพวกเราจะใช้ชีวิตอย่างไร”

เหอจังหมิงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าหลานชายคนรองเดินขากระเผลก
ถามอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้ “ฮุยเกอเอ๋อร์ไม่เป็นไรใช่หรือไม่”
เหอเทียนฮุยส่ายหน้า “ท่านอารอง ข้าไม่เป็นไร ให้หมอข้างทางดู
แล้ว ไม่ได้รับบาดเจ็บถึงกระดูก” ดวงตากะพริบวาบถามอย่าง
ระมัดระวัง “ท่านอารอง คนจากบ้านฝั่งมารดาของอาสะใภ้รองมาที่
จวนหรือ” หากไม่ใช่ ในจวนคงจะไม่เกลี้ยงถึงขนาดนี้

เหอจังหมิงหน้าดำคร่ำเครียด พยักหน้าอย่างรวดเร็ว ตอนนีบ้ ุตรคน


โตแซ่เหอที่เข้าไปดูข้างในมาหนึ่งรอบก็ออกมาแล้ว สีหน้าตื่นตะลึง
อย่างเหลือเชื่อ “เหล่าเอ้อร์ เหล่าเอ้อร์ ฟังว่าหลานชายฝั่งมารดา
ของน้องสะใภ้นำคนมาขนย้ายสินเดิมของน้องสะใภ้ออกไปหมดแล้ว
หรือ เช่นนั้นชีวิตหลังจากนี้ของพวกเราจะเป็นอย่างไร”
หลังจากนัน้ ก็ตำหนิขนึ้ มา “ข้าบอกแล้วว่าเจ้าทำเช่นนี้จะเกิดเรื่องได้
ยกเถียนอี๋เหนียงขึ้นหิ้ง อย่างไรเสียน้องสะใภ้ก็เป็นภรรยาเอก ความ
เคารพการให้เกียรติอย่างไรเสียก็ต้องมีบ้าง แต่เจ้าดันไม่ฟัง เหอะ
ชีวิตหลังจากนีจ้ ะทำอย่างไร อีกไม่นานภรรยาหลานชายคนโตของ
เจ้าก็จะคลอดบุตรแล้ว นี่…นี่…เหอะ!” บุตรคนโตแซ่เหอถอนหายใจ
หนึ่งคราก่อนจะนั่งยองๆ ลงบนพื้น

สีหน้าของเหอจังหมิงดำขึ้นกว่าเดิม เขามองแจกันดอกไม้ที่แตก
ละเอียด โต๊ะเก้าอี้ที่ล้มเกลื่อน แค้นจนกัดฟันกรอด จวนจงอู่โหว
เสิ่นซื่อ คุณชายสี่แซ่เสิ่น พวกเจ้ารอข้าก่อนเถอะ ข้าจะร้องเรียน
ฮ่องเต้ ร้องเรียนฮ่องเต้!
น่าเสียดายที่เอหจังหมิงยังไม่ทนั จะได้เขียนสาส์นฟ้องร้องก็มีขุนนาง
ตรวจการมาหาถึงหน้าบ้านแล้ว บอกว่ามีคนฟ้องว่าเขาใช้อำนาจใน
ตำแหน่งครอบครองร้านค้าผู้อนื่ ข่มขู่ผู้อื่น ใต้เท้าข้าหลวงประจำ
จังหวัดรับคำร้องแล้ว ส่งเขามาไถ่ถาม

คราวนี้มารดาแซ่เหอก็ไม่เศร้าโศกต่อเงินทองเครื่องประดับของนาง
แล้ว ดึงแขนเสื้อลูกชายคนเล็กร้องไห้ขอร้องไม่ให้ขุนนางพาตัวเขา
ไป ทว่าท้ายทีส่ ุดเหอจังหมิงก็ยงั คงต้องตามขุนนางไป กระทั่งยังถูก
ขังอยู่ในคุก
บุตรคนโตแซ่เหอมีส่วนทำให้นอ้ งชายถูกจับเข้าคุก คนทั้งหมดใน
ตระกูลเหอก็ยิ่งตื่นตระหนกไม่สบายใจ มารดาแซ่เหอเดี๋ยวก็รำ่ ไห้
เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็ก่นด่าไม่หยุดราวกับคนวิกลจริต เพียงหนึ่งวัน
สั้นๆ นางก็แก่ลงไปหลายปี

“เหล่าต้าเอ๋ย เจ้ารีบไปดูอีกทีวา่ น้องชายเจ้าถูกทรมานหรือไม่ ถาม


เขาว่าพวกเราจะช่วยเขาออกมาได้อย่างไร” หลังจากที่มารดาแซ่
เหอร่ำไห้เสร็จแล้วก็กล้ำกลืนความเจ็บปวดนี้แล้วลุกขึ้นยืน ความรู้
อย่างอื่นนางไม่มี นางรู้เพียงแค่ลูกชายคนรองเป็นเสาหลักของบ้าน
ต่อให้ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนนางก็ต้องพาลูกชายคนรอง
ออกมาให้ได้
ทว่าบุตรคนโตแซ่เหอกลับเผยสีหน้าลำบากใจ “ท่านแม่ เรื่องนี้หมด
หนทางแล้ว”

“เหตุใดเล่า อย่างไรเสียน้องชายเจ้าก็เป็นขุนนาง จะไม่มีหวังเลยได้


อย่างไร” มารดาแซ่เหอกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย

บุตรคนโตแซ่เหอกล่าว “ท่านแม่ เรื่องนี้แปลกประหลาดนัก ข้าร้อง


ขอผู้คุมผู้นั้นอยู่เนิน่ นาน แต่เขาก็ยังไม่ให้ข้าเข้าไปเยี่ยมแม้แต่นิด
เดียว บอกว่าใต้เท้าข้าหลวงจังหวัดสั่งไว้โดยเฉพาะว่าห้ามเยี่ยม ข้า
ต้องใช้จี้หยกติดตัวหนึ่งอันติดสินบนผู้คุม เขาจึงบอกข้าสองประโยค
บอกว่าน้องรองน่าจะล่วงเกินใครสักคน หากมีวธิ ีก็จะพยายามให้
เบื้องบนหาทางช่วยเหลือ”
“เสิ่นซื่อ จะต้องเป็นเสิ่นซื่อแน่นอน! เหตุใดจิตใจนางถึงได้โหดเ**้ยม
เพียงนี้ อย่างไรเสียเหล่าเอ้อร์ก็เป็นสามีภรรยากับนาง ลูกผู้น่า
สงสารของข้า!” ชั่วขณะมารดาแซ่เหอก็เอ่ยสาปแช่ง

ทว่าบุตรคนโตแซ่เหอกลับขมวดคิ้ว ไม่ค่อยเชื่อนัก “ไม่ใช่กระมัง


น้องสะใภ้ไม่ใช่คนแบบนั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหลินเจี่ยเอ๋อร์อยู่ด้วย”
“เหตุใดจะไม่ใช่นาง นอกจากนางแล้ว น้องรองของเจ้าเคยล่วงเกิน
ใครอีก ข้าบอกแล้วว่านางใจเ**้ยมใจดำ ดูสิว่านางทำลายตระกูล
เหอของพวกเรา สวรรค์ ท่านได้โปรดเมตตา เหตุใดถึงไม่เสกให้
ฟ้าผ่าสตรีที่เ**้ยมโหดผูน้ ั้นตายเสียเลยเล่า” มารดาแซ่เหอชี้ฟ้าด่า
ดิน ท่าทางเหมือนกับสตรีชนบทที่โง่เขลาเบาปัญญาผู้หนึ่ง
ตอนที่ 196 จุดเริมต
่ ้นความยากลําบากของตระกูลเหอ

“คุ ณ หนู หญิ งชราตระกู ล เหอผู น ้ ้ั นนั่ งโวยวายร ้องทุ ก ข อ์ ยู่ ท่ี
ประตู ห ลัง เรือนจวนตระกู ล เหอเจ า้ ค่ ะ” เถาจือรีบเข า้ มารายงาน สี
หน้ามีความกังวลหลายส่วน

เสิ่นเวยกวาดสายตามองนางปราดหนึ่ งก็ รู ้ความคิด ในใจนาง


แลว้ สีหน้าเผยความเหยียดหยาม เพียงแค่ห ญิงชราไม่ มีความรู ้ผู ้
หนึ่ งเรียกร ้องความสนใจ จะทําอะไรจวนจงอู่โหวได้ “นางร ้องอะไร”

เถาจือกล่าวอย่างเหยียดหยัน “จะยังร ้องอะไรได้อีก ย่อมต้อง


ร ้องว่าจวนจงอู่โหวของพวกเขาใช ้อํานาจระรานผูอ้ น ื่ บอกว่าพวก

เราตังใจจะแก ้แค้น ปฏิบต
ั ต
ิ ่อลูกชายนางอย่างไม่เป็ นธรรม”

้ บมีสติปัญญาหลายส่วน แต่น่าเสียดายที่
มารดาแซ่เหอผูน้ ี กลั
นางร ้องช ้าไป ประชามติต่างก็เป็ นรูปเป็ นร่างแลว้ ข่าวลือที่คนพู ด

มากเข า้ ก็ ก ลายเป็ นเรืองจริ
ง ต่ อให้จ ะเรียกร ้องความสนใจ ก็ เสีย
แรงเปล่าๆ
เหอะ แค่ นี้ ก็ ม าร อ้ งทุ ก ข แ์ ล ว้ หรือ นี่ เพิ่ งจะเริม
่ วัน คื น ที่ ต้อ ง
ร ้องไห้ยงั มาไม่ถงึ เลย “ไป พวกเราไปดูกน ่
ั หน่ อย” จู่ๆ เสินเวยก็ เกิด
ความคิด แม้ไม่ได้บอกว่าจะเหยียบซําคนล ้ ม้ แต่ซมึ ซับผลลัพธ ์ของ
ชยั ชนะก็ยงั ทําได้มใิ ช่หรือ

ประตูหลังจวนตระกูลเหอหันเขา้ หาถนนหนึ่ งสาย ถนนสายนี มี ้


้ ย ดังนั้ นการเคลื่อนไหวครังนี
ประชาชนพักอยู่ อาศัยไม่ นอ ้ ที้ ่ประตู
หลังจวนตระกูลเหอจึงดึงดูดคนจํานวนไม่นอ้ ยให้ออกมาดู

มารดาแซ่เหอสมกับ เป็ นแม่ เฒ่ า ที่ คลานออกมาจากชนบท


จริง ๆ ใจกล า้ บ า้ บิ่ นจริง ๆ เป็ นแม่ เฒ่ า มาหลายปี เพี ย งนี ้ ยัง ไม่ ลื ม
ความสามารถในการโวยวายดินพล่ ้ านตบขาหนึ่ งร ้องไห้สองสร ้าง

เรืองสามผู กคอตายของสตรีชนบทไปอีก

เสิ่นเวยหาโรงนํ ้ าชาใกล บ
้ า้ นแห่ งหนึ่ ง นั่ งข า้ งหน้าต่ างดื่มชา
แทะเมล็ ด แตงโมไปพลาง ดู ก ารแสดงของมารดาแซ่ เหออย่ า ง
สนุ กสนานไปพลาง


มารดาแซ่เหอร ้องขึนมาประหนึ ่ งร ้องงิว้ สะอึ ก สะอืนไห้
้ ้ ง
ซ ํายั
้ ่พูดถึงความเสียใจยังขึนเสี
ลากเป็ นทํานอง แต่ละครังที ้ ยงสูง ไม่ต่าง
อะไรจากระดับเสียงร ้องไห้ในศาลางานศพชนบท เสินเวยเลื ่ ่
อมใส

ในฝี มือของมารดาแซ่เหอจริงๆ เป็ นเช่นนี นางก็ วางใจแลว้ มีทก
ั ษะ
้ างน้อยๆ ก็สามารถร ้องไห้ในศาลางานศพหาเงินแทนคน
เช่นนี อย่

อืนได้ ไม่มท
ี างหิวตายแน่ นอน

“สตรีสูงส่งใจดําผูน้ ั้น น่ าสงสารลูกชายคนเล็กทีชะตาขื


่ ่
นขมผู ้
นั้นของขา้ เหตุใดถึงไม่เอ่ยกล่าวความรักฉันสามีภรรยาแม้แต่นอ้ ย
่ อร ์ หลานสาวคนดีของขา้ พ่อเจ า้ ก็ เขา้ คุกแล ว้
เลยเล่า หลินเจียเอ๋
เจ ้ารีบไปร ้องขอแม่เจ ้าเถิด! ลูกขา้ เจา้ ลําบากหรือไม่ ไม่มใี ครบอก
แม่ ส ัก คนเดี ย ว หากเจ า้ เป็ นอะไรไป จะให้แ ม่ ทํ า อย่ า งไร ฮื อ …”
มารดาแซ่เหอเช็ดนํ ้ามูกเช็ดนํ ้าตาร ้องทุกข ์ นางเองก็อายุปูนนี แล ้ ว้
นั่งอยู่บ นพืน้ เสือผ้
้ า ขาดวิน ่ ผมขาวพลิวไหวอยู
้ ่ในสายลม มองดู
แลว้ น่ าสงสารเล็กน้อยจริงๆ

คนทีมุ่ งดูรอบด้านก็ทนไม่ไหวเล็กน้อย ยังมีสตรีใจดีผห ู ้ นึ่ งเขา้


้ เสิ่นเวยขมวดคิ ว้ เรีย กเถาจือออกคํ า สั่งเสีย งตํ่ า
มาพยุ ง นางขึ น
หลายประโยค เถาจือพยักหน้าแลว้ จึงหมุนตัวออกจากโรงนํ ้าชาไป

มารดาแซ่เหอเห็ นว่ามีคนเขา้ มาพยุงนางก็ร ้องดังกว่าเดิม บา้ ง


ก็ว่าลูกสะใภ้หย่าแลว้ ยังแย่งหลานสาวไป บา้ งก็ว่าคุณชายจวนโหว
พาคนมาทํ าลายบ า้ นนาง แม้แต่โ ต๊ะกินข า้ วก็ ยงั ไม่ เวน ้ ถูก ฟั นจน
้ บ า้ งก็ ว่ า ลู ก ชายนางขีกลั
ไม่ เหลือชินดี ้ ว มาตังแต่
้ เล็ ก จะต้องถู ก
ปฏิบต ั อ
ิ ย่างไม่เป็ นธรรมแน่ นอน
เถาจือเบียดเขา้ ไปในฝูงชนยังต้องใช ้แรงเล็กน้อย “แม่เฒ่าเหอ
ฟั ง ว่าลู กสะใภ้ท่หย่ ้ ้ั นของท่ านอยู่ ในเรือนโทรมๆ มาสิบกว่า ปี
ี า ผูน

เป็ นเรืองจริงหรือไม่” นางยืนอยู่ในฝูงชนกล่าวถามเสียงสูง

มารดาแซ่เหอไม่ คิดว่ าจะมีใครเรียกร ้องความยุ ติธรรมให้เสิ่น


่ ช ่วขณะก็
ซือ ั ไม่ พ อใจ กัด ฟั น กล่ า ว “จริง ไม่ จ ริง อะไร เสิ่นซื่อก็
เหมือนไก่ที่ออกไข่ไม่ได้ แม้แต่ลูกชายยังไม่มี ให้เรือนโทรมๆ นาง
อยู่ก็ถอ
ื ว่าไม่เลวแลว้ ”

้ ตอ้ งให้เถาจือเอ่ยปากก็มีคนถามแลว้ “ลูกสะใภ้ผน


คราวนี ไม่ ู ้ ้ั น
ของท่านก็ให้กําเนิ ดบุตรสาวแลว้ มิใช่หรือ”

้ ญิงจะไปมีประโยชน์อะไร ไม่ช ้าไม่เร็วก็เป็ นนํ ้า


“เพียงแค่เด็กผูห
ที่ต้องสาดออกไป ลู กชายผูน ้ ่ าสงสารของขา้ มีบุ ตรอนุ ภรรยาสาม
คน ข ้า งก าย ไม่ มี บุ ต รภ รรย าเอก แม้แ ต่ ค น เดี ย ว เสิ่ น ซื่ อไร ้
ความสามารถนัก!” มารดาแซ่เหอก่นด่า

เดิมหน้าตาของมารดาแซ่เหอก็ใจร ้ายเล็กน้อยอยู่แลว้ ตอนที่


้ ยงมี
พูดประโยคนี ก็ ิ่ ท่าทางดุร ้าย เต็มไปด้วยความดูถูกลูกสะใภ้และ
หลานสาว คนทีมุ ่ งดูก็ชลุ มุนในชวขณะ
่ั มีบุตรอนุ ภรรยาถึงสามคน
เห็นภาพได้เลยว่าภรรยาเอกสองแม่ลูกมีชวี ต ่
ิ เช่นไร เมือหวนนึ กถึง
้ า้ นที่ร ้องต่อกันก่อนหน้านี ก็
เพลงพืนบ ้ เกิดขอ้ สงสัยต่อคําร ้องทุกข ์
ของมารดาแซ่เหอทันที หากภรรยาเอกผูน ้ ้ันเป็ นคนร ้ายกาจ จะยัง
มีโ อกาสให้บุต รอนุ ภรรยาสามคนนี ้ได้เกิด มาอีก หรือ กลับ ดู ออก
เลยว่าแม่สามีทรี่ ้องทุกข ์ผูน้ ี เป็
้ นคนร ้ายกาจทีมี ่ อุบาย

มารดาแซ่เหอด่าฟ้ าด่าดินอยู่ครูห ่ นึ่ ง คนที่ยังเห็นใจนางก่อนที่


จะรู ้ตัวต่ า งก็ถ อยออกไปหมดแลว้ กลับ ชีไม้ ้ ช มื
ี ้ อมาที่นาง ตัวนาง
เองก็รู ้สึกไม่ดีแลว้ จึงถ่มนํ ้าลายใส่ฝูงชน ไล่คนออกไปจนหมดราว
กับชาวบา้ นชนบทเวลาทะเลาะเบาะแวง้ กัน

เถาฮวาฉวยโอกาสชุลมุนกลับไปยังโรงนํ ้าชา

่ มารดาแซ่
เหอจังหมิงเขา้ คุกกับเรืองที ่ เหอโวยวายร ้องทุกข ์ก็ดงั
ไปถึ ง หู ข องเสิ่ นหย่ า สองแม่ ลู ก เช่ น กัน เสิ่ นหย่ า ไม่ ส บายใจใน
่ั
ช วขณะ นางมองลู ก สาวที่ สีห น้า เรีย บเฉยปราดหนึ่ ง กล่ า วด้ว ย
่ อร ์ อย่างไรเสียนั่นก็เป็ นพ่อเจ ้า…”
ความลังเล “หลินเจียเอ๋

นางถู ก เสีย งหัวเราะเยาะของเหอหลินหลินตัด บททันที “ท่ า น


แม่ ก่ อนหน้า นี ้ที่เขาคิด จะผลัก ลู ก ออกไปปู ท างให้ลู ก ชายของอี๋
เหนี ยงเหตุใดถึงไม่คด ิ ว่าเขาเป็ นพ่อลูกเล่า ท่านแม่ กว่าพวกเราจะ
ออกจากรังหมาป่ านั่นมาได้ ท่านอย่าได้ทําเรืองโง่ ่ เขลาเลย ญาติผู ้
พี่ทําเช่นนี ก็
้ เพื่อระบายความแค้นแทนพวกเรา ท่ านอย่า ได้เข า้ ไป
ขอร ้องเด็ดขาด มิเช่นนั้นญาติผพ ่ี
ู ้ จะเสี
ยใจเพียงใด”


เสินหย่ าตกตะลึงดั่งคาด แม้ว่าสีหน้าจะมีความลังเล แต่ก็ยงั คง
พยักหน้า

่ นึ่ งยังคงพู ดเสริมสองสาม


เหอหลินหลินไม่ วางใจนั ก คิก ครู ห

ประโยค “ท่ า นแม่ ลู ก จะตามท่ า นกลับ เมื อ งหลวง เรืองนี ้ ยัง ต้อ ง
อาศัยญาติผพ ่ี
ู ้ คอยจั
ดการให้”

เสิ่ นหย่ า ได้ฟั ง ก็ ว างเรืองเหอจั


่ ่
ง หมิ ง ลงทัน ที ไม่ มี เรืองอะไร
สําคัญไปกว่าหลินเอ๋อร ์ของนางอีกแลว้

“ย่ า เจ า้ เป็ นคนไม่ ก ลัว อะไรทั้งสิ น ้ แม่ ก ลัว ว่ า นางจะทํ า ลาย


่ ยงของจวนจงอู่โหวและญาติผพ
ชือเสี ี่ ้าขา้ งนอกนั่น”
ู ้ เจ

่ ย งของจวนโหวกับ ญาติผูพ
เหอหลินหลินไม่ เห็ นด้วย “ชือเสี ้ ี่
ถูกทําลายได้ง่ายเพียงนั้นเชียวหรือ ท่านวางใจเถอะ ในใจญาติผูพ้ ่ี
มีแผนการ พวกเราแม่ลูกอยู่อย่างซือสั ่ ตย ์ ไม่เพิ่มภาระให้ญาติผูพ ้ ่ี
ก็พอแลว้ ” นางเองก็รู ้ว่าแม่นางใจอ่อน คนอืนร่ ้องไห้ร ้องขอนางก็ใจ
อ่อนแลว้ จึงตัดสินใจเงียบๆ ว่าจะต้องดูแม่ นางให้ดี ไม่อาจหาเรือง ่
มาให้ญาติผูพ ่ี
้ ได้

เสิ่ นเวยดู ก ารแสดงที่ ยอดเยี่ ยมของมารดาแซ่ เหอจบแล ว้


กลับ ไปถึงคฤหาสน์ก็ เรียกพ่ อบ า้ นรองมา “คดีเรียบร ้อยแล ว้ หรือ
ยัง”

ตอนนี พ่ ้ อบ า้ นรองเคารพเสินเวยอย่
่ างยิ่ง แม้จ ะรู ้ว่า ความจริง
แล ว้ คนผู น้ ี ้คือ คุ ณ หนู แต่ ก ลับ ไม่ ก ล า้ ดู ถู ก เลยแม้แต่ น้อย “เรีย น
คุ ณ ชาย พยานหลัก ฐานครบแล ว้ ไม่ ย อมรับ คํ า ปฏิเสธของผู แ้ ซ่
เหอผูน้ ั้น ใต้เท้าขา้ หลวงประจําจังหวัดบอกว่าอีกไม่กวั่ี นก็จะตัดสิน
ได้แลว้ เรียนถามคุณชายมีวธิ ล ี งโทษใด”


เสินเวยพยักหน้า กล่าว “อย่างไรเสียก็เป็ นพ่อแท้ๆ ของญาติผู ้
น้อง จะเอาชีวิต เขาจริงๆ ได้อย่ างไร เนรเทศเสีย !” เนรเทศเขาไป
สามพันลี ้ บัณฑิตอ่อนแอเช่นเขา เพียงแค่เดินทางก็เพียงพอให้เขา
ิ ไปถึงสถานที่ทีถู
ได้รบั ความลําบากแลว้ ต่อให้มีชวี ต ่ กเนรเทศ สิงที
่ ่
รอเขาอยู่ก็คอื ความทรมานเท่านั้น
ความตายน่ ะไม่ น่ากลัว มีช วี ิตออยู่ไม่สู ต
้ ายต่างหากจึงจะเป็ น
่ จริง เป็ นคนเหนื อคนอยู่ดๆี ไม่ชอบ เช่นนั้นก็
ความยากลําบากทีแท้
ไปเป็ นคนล่างคนเอาเถอะ

“ขอรับ คุณชาย” ในใจพ่อบา้ นรองหนาวสั่น สีหน้าก็ยงเคารพ


ิ่
นบนอบ

อันที่จริงเรืองนี
่ เสิ ้ นเวยเองก็
่ ไม่ได้ไร ้ความเป็ นธรรมต่อเหอจังห
มิง แย่งร ้านค้าคนอืน ่ บีบบังคับคนจนตาย นี่ กลับเป็ นเรืองจริ
่ ง ทว่า
ตัวละครหลักไม่ใช่เหอจังหมิง แต่เป็ นพีใหญ่ ่ ของเขาต่างหาก

ในร ้านค้าสินเดิมของเสินซื ่ อมี


่ ร ้านผ้าไหมอยู่หนึ่ งแห่ง ธุรกิจไม่
เลวอย่ า งยิ่ง ข า้ งๆ ร ้านผ้า ไหมก็ ข ายผ้า บุ ต รคนโตแซ่เหอก็ เกิด
ความสนใจ อยากซือเข ้ า้ มารวมกันเป็ นร ้านเดียว

แต่ ค นไม่ ย อม ทั้งยัง ไม่ ร บ


ี ใช เ้ งิน ใครจะโง่ ข ายร า้ นที่ กํ า ลัง
รุง่ เรืองให้คนอืน ่

้ ตรคนโตแซ่เหอก็ทะเลาะกับเขา หลายปี มานี ้


เป็ นเช่นนี ไปมาบุ
เพราะว่าอาศัยอํานาจของน้องชาย บุตรคนโตแซ่เหอจึงเรียกตัวเอง
ว่านายท่าน ใช ้ชีวต ่
ิ ราบรืนไร ่
้อุปสรรคจนเคยตัวไหนเลยจะรับเรือง
้ จงึ ใช ้อุบายลับๆ แย่งร ้านค้ามาเสีย
นี ได้

เถ้าแก่ร ้านนั้นก็เป็ นคนอารมณ์ร ้อน เมือโกรธขึ


่ ้
นมาแล ว้ ก็ป่วย
ไม่นานก็จากไป ภรรยาเถ้าแก่ก็ สูค้ น สินเดิมสู่ขอบุตรสาวของลู ก
ชายลว้ นแต่เป็ นร ้านค้าหลังนั้น ตอนนี ร้ ้านถูกคนแย่งไปแลว้ สามีก็
โมโหจนตัวตาย ไหนเลยจะวางมือได้ ยื่นคําร ้องฟ้ องบุตรคนโตแซ่

เหอ คําร ้องตกลงในมือเหอจังหมิง เขาย่อมเขา้ ขา้ งพีชายแท้ ๆ ของ
ตนแน่ นอน

้ ง ถู ก เฆี่ ยนตี
ภรรยาเถ้า แก่ ไ ม่ เพี ย งแต่ ฟ้ องร อ้ งไม่ ช นะ ซํ ายั
กลับไปก็ผูกคอตาย ทิงลู ้ กชายลูกสาวสามคนเอาไว ้ คนโตสุดเพิ่ง
จะอายุได้เพียงสิบสามปี


เรืองนี ้ เสิ่ นเวยได้ยิ น ทหารลับ รายงานระหว่ า งการเดิ น ทาง
ดังนั้นตอนทีตั ่ ดสินใจเรืองเหอจั
่ ่ ขึ
งหมิงนางจึงนึ กถึงเรืองนี ้ นมาทั
้ นที

ตอนทีนางส่ งคนไปเจรจากับบุตรคนโตตระกูลนั้น เขาก็เกลียดแค้น
ครอบครัวเหอจังหมิงอยู่นานแลว้ เพียงแต่ไม่มอ ี ํานาจอับจนหนทาง
ตอนนี เสิ ้ นเวยสั
่ ญญาว่าจะช่วยเขาแก ้แค้น เขาก็รบั ปากทันที
อันที่จริง แม้ว่ าจะไม่ มีเรืองนี
่ ้เสิ่นเวยก็ มีวิธ ีจ ด
ั การเขา ขุนนาง
คนใดบ า้ งที่ขาวสะอาด หากตังใจสื ้ บ หาก็ มีจํ านวนมากมายที่ไม่
ขาวสะอาด เหอจังหมิงที่เกิด ในโคลนตมจะไม่ เปื ้ อนสิ่งสกปรกได้

อย่างไร เสินเวยไม่ ่ แต่นิดเดียว
เชือแม้

ยิ่งไปกว่า นั้ นไม่ เพีย งแต่ เหอจังหมิง เพีย งคนเดียว บุ ต รคนโต



แซ่เหอทังครอบครั ว มารดาแซ่เหอและเถียนอีเหนี ๋ ยงพวกนางต่างก็
ฉกฉวยผลประโยชน์จ ากคนอื่นมาไม่ น้ อ ย โดยเฉพาะเถี ย นอี๋
เหนี ยง ละโมบโลภมากยิงนั ่ ก หากไม่มค ่
ี นตรวจสอบ ย่อมไม่มเี รือง
แต่ ข อเพีย งแค่ มีค นสืบ นี่ ก็ คื อหลัก ฐานในการจัด การและเอาผิ ด
เพียงพอให้เหอจังหมิงทุกข ์ทรมานได้แลว้

ตระกูลเหอฝั่งนั้นยังกอดความหวังว่าอีกประเดี๋ยวเหอจังหมิงก็
จะออกมาแล ว้ ความตระหนั ก รู ข ้ องตระกู ล เหอที่ มี ต่ อ เรื่องนี ้ ก็
เหมือนกัน แม้บุตรคนโตแซ่เหอจะโลภมากเห็นแก่ตวั แต่กลับรู ้ดีว่า
้ ี ้ เป็ นที่ พึ่ งแล ว้ ต่ อ ให้เขามี อุ บ ายก็ ไ ร ้
ไม่ มี น้ อ งรองนายอํ า เภอผู น
ประโยชน์ มารดาแซ่เหอก็ยิ่งไม่ต อ้ งเอ่ยถึง นี่ คือลูก ชายแท้ๆ ของ
นาง ทังยั ้ งเป็ นลูกชายทีนํ
่ าความรุง่ เรืองมาให้นางนับไม่ถว้ น นางรัก
่ าใครๆ
ยิงกว่

สํ า หรับ อี๋ เหนี ยงหลายคนนั้ นในเรือ นหลัง ข องเหอจัง หมิ ง


นอกจากคนที่ ไม่ ไ ด้ร บ ้ ้ั นแล ว้ ต่ า งก็ ห วัง ว่ า เขาจะ
ั การศึ ก ษาผู น
กลับมาได้อย่างปลอดภัย อย่างไรเสียเหอจังหมิงก็เป็ นที่พึ่งในชีวิต
พวกนาง

“เป็ นอย่างไร รับปากแลว้ หรือยัง” มารดาแซ่เหอเห็ นหลานชาย



คนโตทีออกไปขอความช่ ่
วยเหลือจากเพือนกลั บมาก็รบ ี เขา้ ไปถาม
ไถ่

ทว่าสีหน้าของเหอเทียนเสียงกลับไม่ดีอย่างมาก เห็นสายตาที่
เฝ้ ารอของท่านย่าเขาก็อดทนพูดความจริงไม่ได้ “ท่านย่า เพื่อนผู ้
นั้นของขา้ ไม่อยู่ ในจวน บอกว่าไปบา้ นตาแลว้ หลานค่ อยไปใหม่
พรุง่ นี ”้

ไหนเลยจะไม่อยู่จวน เห็ นชดั ๆ ว่าไม่ยอมออกมาเจอเขาก็เท่ า


นั้นเอง เขาวิงอยู
่ ่ขา้ งนอกทังวั้ น เพือนสหายร่
่ ั้ ยนทีเรี
วมชนเรี ่ ยกเขา
ว่าพี่ว่าน้องเหล่านั้นเมื่อก่อนไม่หลบหน้าเขา ก็พูดกับเขาตรงๆ ว่า
ไม่อาจช่วยอะไรได้ ทําให้เขาได้รู ้จักความไร ้นํ ้าใจในสังคมจริงๆ

มารดาแซ่เหอมองท่าทีของหลานชายคนโตมีหรือจะไม่เขา้ ใจ
หน้า เปลี่ยนสีท น
ั ที เป็ นห่ วงหลานชายคนโตจึงไม่ ได้พู ด อะไรต่ อ

หน้า เมือหลานชายคนโตไปแล ้
ว้ นางจึงตบขาก่นด่าขึนมาทั
นที
“ตาเฒ่าหนังเหนี ยว เขาบอกว่าแต่งงานกับบุรุษ มีเสือผ้ ้ าให้ใส่
ิ แต่นี่อะไร ขา้ แต่งกับเจ ้าไม่มส
มีขา้ วให้กน ั วันที่อยู่อย่างสบาย ซํา้
ี ก
ยังต้องอุทิศ ตนเพื่อตระกู ลเหอของเจา้ ตอนนี ้เหล่าเอ้อร ์ถูกจับ เข า้
คุกแลว้ เจ ้าต้องคิดหาวิธม ๋
ี าเดียวนี ้ นางทุบตีตําหนิ โทษผูเ้ ฒ่าเหอ
!”
ตอนที่ 197 ถูกขับ

ผูเ้ ฒ่าเหอพิงหัวเตียงจนปัญญาอย่างถึงทีสุ ่ ด “เมียขา้ ต้องโทษ



เจา้ ทังหมดมิ ้ ้ันของเหล่าเอ้อร ์
ใช่ห รือ ข า้ บอกเจา้ แลว้ ว่าภรรยาผูน
เป็ นสตรีในตระกูลสูงศักดิ ์ ไม่เหมือนเด็กสาวในชนบทอย่างพวกเรา
แต่ เจา้ ก็ดนั ไม่ ฟัง จะวางมาดแม่ยายอะไรให้ได้ ดูสิ บา้ นฝั่ งแม่ของ
นางไม่พอใจแลว้ ใช่หรือไม่” เขาเองก็ไม่พอใจอยู่เต็มทรวง ลูกชาย
ดีๆ ของเขา ลว้ นถูกภรรยาแก่ๆ ผูน้ ี เลี ้ ยงออกมาเป็
้ นเช่นนี ้

มารดาแซ่เหอหยุดร ้องทันที “มีอย่างหรือที่เจา้ มาโทษข า้ เจ า้


มันไร ้สํ า นึ ก หลายปี มานี ้หากไม่ ใ ช่ข า้ เจ า้ ไหนเลยจะมี ค รอบครัว
ใหญ่ เช่ น นี ้ สิ บ ลี แปดหมู
้ ่ บ า้ น มี บ า้ นไหนบ า้ งที่ ให้ส ตรีม าดู แ ล
ตระกู ล ไม่ ใช่เพราะเจ า้ ไร ้ประโยชน์ห รือไร ตอนนี ้เจ า้ กลับ มาโทษ
ขา้ แลว้ หรือ เจ ้ายังมีสํานึ กอยู่หรือไม่” แต่ละประโยคตอกกลับไปบน
หน้าผูเ้ ฒ่าเหอ

มารดาแซ่ เหอแข็ ง กร า้ วเช่ น นี ้ ผู เ้ ฒ่ า เหอก็ เบาแรงลงในช ่วั


พริบ ตา “พอแล ว้ ๆ เจ า้ บ่ น อะไร ไม่ อ ายคนหรือ ข า้ เพี ย งแค่ พู ด
ออกไปตามปาก หลายปี มานี ในบ ้ า้ นก็เชือฟั่ งเจ ้ามิใช่หรือ เพียงแต่
ภรรยาเหล่าเอ้อร ์…”
“ภรรยาเหล่ าเอ้อร ์ทํ าไม ต่ อให้นางจะเป็ นบุต รสาวของฮ่องเต้
ในเมื่อเข า้ บ า้ นตระกู ล เหอของพวกเราแลว้ ก็ ค วรจะทํ า หน้า ที่ของ
ภรรยาที่ดี ปรนนิ บต ั ิแม่ยาย มีบุตรอบรมลูกสาว นี่ ไม่ใช่เรืองที
่ ่นาง
ควรทํ าหรือไร เหล่ าเอ้อร ์ของพวกเราหน้าตาดี ทังยั ้ งมีก ารศึก ษา

สิบลีแปดหมู ่บา้ นมีบา้ นไหนบ า้ งที่ไม่ชนชม
ื่ เขาเองก็คู่ค วรกับนาง
เช่นเดีย วกัน ร่า งกายที่ บอบบางเช่น นั้ น แม้แต่ บุ ต รยัง ให้กํ า เนิ ด

ไม่ได้ ขา้ ไม่ทอดทิงนางก็ นับว่าดีเท่าไรแลว้ พ่อตาเช่นเจา้ ออกหน้า
แทน คงไม่ ใ ช่ ว่ า ตาแก่ เช่ น เจ า้ เห็ น นางสวย เลยเกิ ด ความคิ ด

สกปรกขึนมาหรอกนะ” ้
มารดาแซ่เหอเกรียวกราดยิ ่งนัก ถลึงตา
จ ้องมองผูเ้ ฒ่าเหอ ประหนึ่ งจะกินเขาได้แลว้

“เจ า้ เจ า้ พู ด เหลวไหลอะไร เจ า้ มันหญิ งแก่ ไร ้เหตุ ผล” ผู เ้ ฒ่ า



เหอโกรธจนหน้าเขียวจัด กําเสือตรงหน้ าอกไอถีๆ่ ออกมาพักหนึ่ ง

อัดอันจนใบหน้ าแดงกํ่า


มารดาแซ่เหอเห็ นท่าทีก็ตืนตระหนกทั นที “ตาเฒ่า พ่อ เจา้ ไม่

เป็ นไรใช่หรือไม่ เร็ว รีบดืมชาให้ คล่องคอก่อน” นางตบหลังและยก
ชารินนํ ้า กลัวว่าผูเ้ ฒ่าเหอจะเป็ นอะไรไป

อย่ามองว่าในบา้ นนางเป็ นคนตัดสินใจ นั่นก็เพราะว่ามีผูเ้ ฒ่ า


เหออยู่นางจึงมั่นใจ หากผูเ้ ฒ่าเหอไม่อยู่แลว้ ใครจะสนใจหญิงชรา
เป็ นหม้ายเช่นนาง
ท่ า มกลางสายตาที่ เป็ นห่ ว งของมารดาแซ่เหอเสีย งไอของผู ้
เฒ่าเหอก็ค่อยๆ หยุดลง เขาพิงหัวเตียงด้วยท่าทางไร ้เรียวแรง่ ถอน
หายใจยาวหนึ่ งคราแลว้ จึงกล่าว “เจา้ น่ ะ ก็อารมณ์ร ้อนเช่นนี ้ เหตุ
ใดถึงแกไ้ ม่ได้แลว้ เจา้ หาว่าขา้ ว่าเจา้ หรือ หากตอนนั้นเจ ้าทําดีกบ


ภรรยาเหล่าเอ้อร ์สักหน่ อย จะมีเรืองหายนะอย่ ้ อ”
างเช่นวันนี หรื

ในชนบทมี สุ ภ าษิ ต กล่ า วไว ว้ ่ า สตรีดู แลตระกู ล กํ า แพงถล่ ม


เรือนทลาย เป็ นตนเองที่ไร ้ประโยชน์ บีบบังคับ ให้ภรรยาต้องออก

หน้าดูแลตระกูลจึงทําให้เกิดเรืองหายนะครั ้ ้
งนี

มารดากลัวว่าผูเ้ ฒ่าเหอจะโมโหอีก กลับ ไม่ กลา้ เถียงเขาแล ว้


เพี ย งแค่ ก ล่ า วพึ ม พํ า “ใครจะคิ ด ว่ า แม่ ห ลิ น เจี่ยเอ๋ อ ร ์จะมี จ ิ ต ใจ
โหดเ**◌้ยมเช่นนั้นเล่า จวนโหวอะไรนั่นก็ไม่รู ้ว่าเป็ นบา้ อะไรหลาย
้ ว้ ยังยืนกรานจะหย่าร ้าง ไม่ละอายใจจริงๆ”
ปี เพียงนี แล

ความคิดในใจมารดาแซ่เหอยิ่งใหญ่ เจา้ บอกว่ าจวนโหวของ


เจ ้าจะหนุ นหลังบุตรสาว เหตุใดถึงไม่ออกหน้าให้เร็วกว่านี เล่ ้ า หาก
ออกหน้าเร็วกว่านี ้ นางไหนเลยจะยังกลา้ ปฏิบต ั ิต่อภรรยาของเหล่า
เอ้อ ร ์อย่ า งไม่ เป็ นธรรม ยิ่ งไม่ ต อ้ งเอ่ ย ถึง การแย่ ง สิ นเดิม ของนาง
เพราะว่านางเห็นลูกสะใภ้ทนรับความยากลําบากได้ บา้ นฝั่งแม่ก็ไม่
้ อยๆ
มีใครมายุ่ง ความกลา้ จึงมากขึนเรื ่

ผูเ้ ฒ่าเหอจ ้องมองภรรยาปราดหนึ่ ง “เจา้ น่ ะ!” เขาส่ายหน้าไม่รู ้


ว่าจะพูดอะไรดี ต่อให้ภรรยาเหล่าเอ้อร ์จะเป็ นคนอ่อนแอ เจา้ ที่เป็ น
แม่ ยายก็ไม่ อาจทรมานนางเช่นนี ้ได้ เพราะว่าบา้ นฝั่ งแม่อยู่ ไกลจึง
ไม่รู ้ หากเป็ นชนบท ไม่ช ้าไม่เร็วก็มาหาถึงหน้าประตูแลว้

“พ่ อเอ้ย อย่ า พู ด เรืองไร ่ ้ประโยชน์เหล่ า นั้ นเลย ตอนนี ้จะทํ า


อย่า งไรดี” มารดาแซ่เหอร ้อนใจแทบตายแล ว้ สินเดิมของเสินซื ่ อ่
ถูกขนออกไปแม้นางจะเจ็บใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่อาจทนรับได้ เพราะ
นางรู ้ว่ า เพี ย งแค่ ลู ก ชายยัง รับ ราชการอยู่ ในบ า้ นก็ ไม่ มีท างขาด
แคลนเงินใช ้ ทว่ าตังแต่ ้ ท่ีลู ก ชายเข า้ คุ ก หัว ใจนางก็ ไม่ ส งบเสีย ที
“ตอนนี ทรั้ พย ์สินทังหมดของครอบครั
้ วเราเหลือเพียงสามร ้อยตําลึง
สองวันนี วิ้ งหาทางก็
่ ใช ้เงินไปส่วนหนึ่ งแลว้ เหลือเพียงสองร ้อยกว่า
ตําลึง ไม่ใช ้ก็ไม่ได้” ครอบครัวใหญ่เช่นนี ต้ ้ องอาศัยเงินเพียงเท่านี ้


คิวของผู เ้ ฒ่ า เหอขมวดจนสามารถหนี บ ยุ ง ตายได้แล ว้ “ให้
เหล่าต้าพาหลานชายทังหลายไปผู้ กสัมพันธ ์ โดยเฉพาะหลานคน
โต เขารู ้จัก เพื่ อนคุ ณ ชายตระกู ลขุนนางไม่ น้อยมิใ ช่ห รือ ตอนนี ้
พวกเราไม่ เหมือนเมื่อก่ อนแลว้ ลดตัว ลงหน่ อย อย่ากลัวเสีย หน้า
่ า คนทังหมดจะวางมาดเช่
ขา้ ไม่ เชือว่ ้ นนั้ นกันหมด คงจะต้องมีส ก

คนสองคนทีช่ ่ วยเหลือได้บา้ ง”

เขาหยุดครูห่ นึ่ งจึงกล่าวต่อ “เจ ้าไปบา้ นต้านิ วเทียวหนึ


่ ่ ง ยืมเงิน
มาสักเล็กน้อย เหล่ าเอ้อร ์เองก็เป็ นน้องชายแท้ๆ ของนาง หลายปี
้ าเอ้อร ์ก็ชว่ ยครอบครัวนางไวไ้ ม่นอ้ ย”
มานี เหล่

“ได้ เอาตามที่เจา้ ว่ า ขา้ จะไปเย็ นนี ้” มารดาแซ่เหอพยักหน้า


กล่าว

แต่ ว่ า ไม่ ต อ
้ งรอให้ม ารดาแซ่ เ หอไปบ า้ นลู ก สาวตอนเย็ น
บุตรสาวคนโตแซ่เหอก็มาหาถึงหน้าบา้ นด้วยท่าทางเศร ้าตรมแลว้
่ั
มารดาแซ่เหอเห็ นเข า้ ก็ ต กใจในช วขณะ “ต้านิ ว เจ า้ เป็ นอะไรไป
ทะเลาะกับลูกเขยเขา้ แลว้ หรือ”

ปกติบุตรสาวคนโตแซ่เหอกลับ บา้ นก็มก ั จะสวมเสือผ้้ างดงาม


หรู ห ราเสมอ ปั ก มุ ก ปั ก หยกเต็ มศี รษะ บนข อ้ มือก็ ส วมกํ า ไลทอง
บนนิ ้ วมื อ ก็ ส วมแหวนทอง เชิ ด หน้ า สู ง นํ าข องมาเต็ ม คั น รถ
เรียกใช ้ลูกเขยนางจนวิงวุ ่ ่น วางมาดเป็ นสตรีสูงศักดิ ์
แต่ ต อนนี ้เล่า เสือผ้
้ าสวยหรูห ายไปแล ว้ ที่สวมอยู่บ นร่า งเป็ น
้ า เก่ าๆ ที่ซักจนซีดหนึ่ งตัว บนศีรษะก็โล่ ง ผมใช ้ปิ่ นไม้ปักไว ้
เสือผ้
้ อ ผ้า เล็ ก ๆ อยู่ ต ัว คนเดี ย ว ไม่ เห็ น รถม้า ไม่ เห็ น ลู ก เขย
ในมือ หิ วห่
ท่าทางเหมือนสตรีทถู ี่ กกลั่นแกลง้

ได้ยินมารดาแซ่เหอถามเช่นนี ้ เหอต้านิ วก็ ร ้องไห้โฮหนึ่ งครา


“ท่านแม่ ท่านแม่ เกิงเถียนขับขา้ แลว้ ”

“อะไรนะ ขับหรือ เพราะเหตุใด” เสียงของมารดาแซ่เหอตะเบ็ ง


สูงทันที “เจา้ คลอดหลานชายให้ตระกูลจา้ วแลว้ ตระกูลเขามีสิท ธิ ์
อะไรมาขับเจ ้า”

มารดาแซ่ เหอตกใจอย่ า งยิ่ ง ครอบครัว ลู ก เขยนางเป็ นคน


่ ต ย ม์ ี ค วามรับ ผิ ด ชอบ ลู ก สาวแต่ ง เข า้ ไปเพราะว่ า พี่ ชายฝั่ ง
ซือสั
มารดาเป็ นขุนนาง ทังยั ้ งให้กําเนิ ดหลานชายอวบอ้วนแก่บา้ นสามี
ดังนั้นจึงอยู่ในบา้ นสามีอย่างสบายอกสบายใจมาโดยตลอด เหตุใด
จู่ๆ ถึงถูกขับเล่า

ไม่ เอ่ ย ถึงลู ก ชายยัง ดี เมื่อเอ่ ย ถึงลู ก ชายเหอต้า นิ ว ก็ ร ้องด้ว ย


ความเสีย ใจยิ่งกว่ าเดิม กล่ า วอย่ า งสะอึก สะอืน ้ “จินเป่ าหายไป…
ร ้านค้า ก็ ข ายหมดแล ว้ …น้อ งรอง น้องรอง พวกเขากล่ า วโทษที่
ตระกูลเราทําตัวขายหน้า จึงขับข า้ ออกไป จินเป่ าของขา้ …” นาง
ร ้องไห้ล่น

“อะไรนะ จินเป่ าหายหรือ จินเป่ าหายแลว้ เหตุใดถึงขับเจา้ เล่ า


เจา้ ทําหายหรือ เจา้ ยังจะร ้องไห้อะไร ยังไม่รบ
ี ไปหาอีก” มารดาแซ่
เหอร ้อนใจแลว้ ดึงบุตรสาวกําลังจะผลักออกไปขา้ งนอก

้ อ
“หา หาเจอแลว้ ” เหอต้านิ วไม่ขยับ สะอืนต่

มารดาแซ่ เหอปล่ อ ยมื อ ลง “หาเจอแล ว้ ยั ง ขั บ เจ า้ อี ก หรือ



ตระกู ลเจ า้ ไร ้เหตุผลเกินไปแล ว้ ข า้ จะไปคุ ย กับ บา้ นเขาให้รู ้เรือง”
ไฟโกรธของมารดาแซ่เหอพุ่งขึนมาในช ้ ่ั
วขณะ

เหอต้านิ วกลับยืนนิ่ งไม่ข ยับ กม้ หน้าไม่พู ดไม่จา ร ้องไห้เพีย ง


อย่างเดียว

มารดาแซ่เหอก็ยงโมโห่ิ ้
จิมหน้ าผากของบุตรสาวก่นด่า “เจา้
มัน น่ าผิด หวัง นั ก ปกติก็ เก่ งนั ก ไม่ ใช่ห รือ ตอนนี ้เป็ นอะไรไปแล ว้
เล่า เจ ้าพูดสิ!”
ถามอยู่นานเหอต้านิ วก็ ยงั ไม่ พู ด อะไรออกมา ยังคงเป็ นสะใภ้

ใหญ่ตระกูลเหอทีตามเข ่ “ท่านแม่ ต้านิ วก็
า้ มาก ้าวเขา้ ไปไกล่เกลีย
มาแลว้ เขา้ ไปลา้ งหน้าลา้ งตาก่อนแลว้ ค่อยว่ากันดีกว่า”

มารดาแซ่ เหอกระทื บ เท้า อย่ า งเคี ย ดแค้น กล่ า วด้ว ยความ


ี่ ว้ ขา้ ก่อกรรมอะไรไว ้ ชาตินีพวกเจ
หงุ ดหงิด “ชาติทแล ้ า้ แต่ละคนถึง
ได้เป็ นผีทวงเวรมาเกิด ไปสิ ยังรอใครมาเชิญเจ ้าอีก”

ความสัมพันธ ์ของสะใภ้ใหญ่ ต ระกู ล เหอกับ น้องสาวสามียงั ดี


อย่างยิ่ง ช่วยกันพาเหอต้านิ วเขา้ ไปขา้ งในพร ้อมกัน เตือนเสียงตํ่า
“รีบเดิน อย่าทําให้ท่านแม่โกรธ”


ผ่ า นการซัก ถามซํ าแล ้ า ของมารดาแซ่ เหอและสะใภ้
ว้ ซํ าเล่

ใหญ่ตระกูลเหอ เหอต้านิ วก็เล่าเรืองราวทั ้
งหมดให้
ฟัง

เหอต้านิ วแต่งงานกับตระกูลจา้ ว ตระกูลนี ยั ้ งนับว่าไม่เลวจริงๆ



ทังครอบครั ว เป็ นคนมีค วามรับ ผิด ชอบ แม้จ ะพู ด ไม่ ได้ว่ ามีช วี ิต ที่
รํ่ ารวย แต่ ก็ มี ก ิ น มี ใ ช ้ โดยเฉ พ าะลู ก เข ยจ า้ วเกิ ง เถี ย น เป็ น
้ ายที่ขยันมีคุ ณ ธรรม ตอนแรกที่หมันหมาย
เด็ ก ผู ช ้ ผู เ้ ฒ่ าตระกู ล
จา้ วชอบใจน้องชายคนรองของต้านิ วที่เป็ นบัณ ฑิต เมื่อมีผลงาน
่ ยงแลว้ ก็จะได้ชว่ ยเหลือลูกชายของน้องสาวได้
ชือเสี

ตอนที่ แต่ ง งาน ชีวิ ต ผ่ า นไปด้ว ยความสงบสุ ข สองท้อ งแรก


ของเหอต้านิ วล ว้ นแต่ เป็ นบุ ต รสาว ตระกู ล จา้ วก็ ไม่ได้ร งั เกีย จ แต่
หลังจากทีน้่ องรองฝั่งมารดาสอบเป็ นขุนนางได้ ท่าทีของเหอต้านิ ว

ก็เปลียนไป ไม่เพียงแต่ตนไม่ทํางานบา้ นอีก ยังจูจ้ จุี ้ กจิกกับพ่อแม่
้ า ซัก ให้น างเสีย หาย
สามี บ า้ งก็ ว่ า กับ ข า้ วกินยาก บ า้ งก็ ว่ า เสือผ้
เห็นพ่อแม่สามีเป็ นคนใช ้

สองสามีภ รรยาตระกู ล จ า้ วเห็ น แก่ ลู ก ชายและหลานชายจึง


อดทนต่ อไป แต่ เหอต้านิ วไม่ เพียงแต่ไม่ สํ านึ ก บุ ญคุ ณ กลับ ยังได้
คืบเอาศอก

เดิมบ า้ นเก่ า ของพวกเขาอยู่ ท่ีสู่ จ ง เหอจังหมิง มารับ ราชการ


่ นโจวพาพ่
ทีอวิ ๋ อแม่กบ ่
ั พีชายของตนมาด้ วยก็พอจะเขา้ ใจได้ แต่ไม่
เขา้ ใจว่าต้องตามมาแม้กระทั่งครอบครัวของพีสาวที ่ ่
ออกเรื อน

่ นนี ้ ยืนกรานจะตาม
เหอต้านิ วมีความสามารถในการทําเรืองเช่
น้องรองมาเสวยสุ ขให้ได้ บิด ามารดาตระกู ลจ า้ วสองคนอายุมาก
แลว้ ไม่ ยอมย้าย บอกว่ าให้พวกเจา้ สองคนตามไป พวกขา้ ที่เป็ น
พ่อแม่จะอยู่ดูลูกๆ แทนพวกเจ ้า เหอต้านิ วไม่ยอม นางฉลาดอย่าง
ยิง่ มีบิดามารดาตระกูลจา้ วไปด้วย นางทําอะไรไม่เป็ นรอแต่คนมา
ปรนนิ บ ต ั ิ แม้แต่ ลู กยังไม่ เคยถามไถ่ ชีวิต สุข สบายมากขึนเรื ้ อยๆ ่
อะไรนะ เจ ้าบอกว่าให้ซอคนใช ื้ ้
้มาก็ได้ไม่ใช่หรือ ซือคนใช ้ก็ตอ้ งใช ้
เงินมิใช่หรือ คนทีมี ่ อยู่ตอนนี ไม่
้ รู ้จักใช ้ โง่นัก!

เมื่อเป็ นเช่นนี เหอต้


้ ่
านิ วก็ก่อเรืองในบ ่ ด ก่อเรือง
า้ นอย่างถึงทีสุ ่
จนจา้ วเกิงเถียนโมโหอยากหย่า แต่บด ิ ามารดาตระกูลจา้ วไหนเลย
จะยอมให้หย่า ไม่ตอ้ งเอ่ยถึงว่าอย่างไรเสียเหอต้านิ วก็ให้กําเนิ ดลูก
ชายสามคนแก่ ตระกูล จา้ ว เพีย งแค่น้องรองบ า้ นมารดาของนางผู ้
นั้นเป็ นนายอําเภอ ขยับนิ วนิ
้ ดหน่ อยก็ยงั มีหนทางการดํารงชีพให้
พวกเขาได้ไม่ ใ ช่ห รือ สุ ด ท้า ยยังคงเป็ นบิด ามารดาตระกู ล เหอที่
ยอมจํานน ลงกลอนประตูใหญ่ในบา้ น จากบา้ นไกลไปยังอวินโจว ๋
ด้วยอายุปูนนี ้

่ ว ยครึงปี
เริมด้ ่ นั้ นเพราะว่ า ไม่ เคยชินกับ สภาพแวดล อ้ ม บิด า
มารดาตระกู ล เหอเกือบจะป่ วยตาย เมื่อดี ขึนแล ้ ว้ คนก็ ผ อมลงไป
มาก ไม่มีชวี ิตชีวาเหมือนแต่ก่อน รู ้สึกผิดต่อลูกชายจ ้าวเกิงเถียน
แอบเช็ด นํ ้ าตาเงีย บๆ ท่ า ทีท่ีมีต่ อเหอต้า นิ ว ก็ เย็ นชาลง วันคืนกิน
นอนอยู่ท่รี ้านค้า เดิมเขาก็ขยัน ทําการค้าด้วยความซือสั ่ ตย ์ ครึงปี

้ ก็ขยายร ้านได้ การค้าขายในร ้านค้าก็รุง่ เรือง
สันๆ
เหอต้านิ วพอใจอย่างยิ่ง ดูสิ คิดถูกแลว้ ทีมาอวิ ่ ๋นโจว อยู่ท่สู
ี ่จง
คิด ว่า ที่นาไม่ กผื
ี่ นนั่ นจะทํ าให้มีช วี ิต ที่ดีเช่นตอนนี ้ได้ห รือไร ด้ว ย
เหตุนี้นางจึงกําเริบเสิบ สาน วันทังวั ้ นสวมทองใส่ เงิน วาดคิวบางๆ ้
เรีย กคนนั้ นมาบ า้ นที เรีย กคนนี ้มาบ า้ นที ชอบฟั งคํ า ยกย่ องของ
ื่ แม้แต่ลูกก็ไม่เลียงแล
ผูอ้ น ้ ว้

้ น
บิดามารดาตระกูล จา้ วย่อมไม่กล า้ พูดอะไรทังสิ ้ ขอเพีย งแค่
่ พอแลว้
นางไม่หาเรืองก็

พู ด ได้ว่ า การเปลี่ ยนแปลงเริ่มต้น มาจากเพ ลงพื ้นบ า้ นที่


แพร่ห ลายอยู่ ใ นเมื องอวิ๋ นโจวบทนั้ น ตระกู ล จ า้ วเองก็ ได้ยิน แล ว้
เดิมจา้ วเกิงเถียนก็รู ้สึกว่าบา้ นภรรยาก็ทําไม่เหมาะสม เหตุใดถึงได้
ประพฤติตนลืมบุ ญคุ ณ เช่นนี ้ หากไม่ ใช่ว่า ภรรยาบัง คับ เขาก็ไม่
อยากแม้แต่จะไปเยียมบ่ า้ นภรรยาแลว้

วันนี จ้ า้ วเกิงเถียนกําลังยุ่งกับงานอยูที่ร ้านค้า พ่อเขาวิงเข


่ า้ มา
ด้ว ยความตื่นตระหนก บอกว่ า จินเป่ าหายตัวไป ภายหลังก็ มีเด็ ก
ขอทานส่งกระดาษมาให้

ผูเ้ ฒ่ าแซ่จา้ วไม่รู ้หนั งสือ ตกใจสติไม่อยู่กบ


ั ตัว ทําได้เพีย งมา
หาลูกชาย
จ ้าวเกิงเถียนเห็ นกระดาษ ชวพริ ่ั บตาก็เขา้ ใจแลว้ ลูกชายเขา
ถู ก คนจับ ตัว ไป ในกระดาษเขีย นว่ า นายอํ า เภอเหอเป็ นคนหน้า
ด้า นไร ้ยางอาย ตระกู ล จ า้ วที่ เป็ นพี่เขยก็ ต อ้ งเป็ นคนไม่ ดีเช่นกัน
เขาก็แค่ ออกหน้าช่วยเหลือผูไ้ ด้รบั ความไม่เป็ นธรรม อยากได้ลู ก
ชายกลับไปย่อมได้ เอาเงินสามร ้อยตําลึงมาไถ่ตวั คน

จ ้าวเกิงเถียนอ่านกระดาษเสร็จแลว้ ก็ถอนหายใจยาวหนึ่ งครา


่ าเพลงก็หาคนรู ้จักขายร ้านค้าเสียวันนั้นเลย เหอต้านิ
ไม่พูดพรําทํ

วเองก็ตืนตระหนก ้ ก แต่กลับรู ้ดีว่าลูกคือ
แม้ว่านางไม่ค่อยได้เลียงลู
หลัก ประกัน และที่ พึ่ งพิ ง ในอนาคตของตน เห็ น สามี ข ายแม้แ ต่

ร ้านค้า นางก็ เก็ บ รวบรวมเครืองประดั บ เงิน ทองของตนไปจํ า นํ า
เช่นกัน แม้ในใจจะกระอักเลือด แต่อย่างไรเสียลูกชายก็สําคัญกว่า
มิใช่หรือ

ทรัพย ์สินในบา้ น บวกกับเงินที่ขายร ้านค้าจํานํ าเครืองประดั


่ บ
รวบรวมเงินมาได้สามร ้อยตําลึงอย่างยากลําบาก โจรเรียกค่าไถ่ผู ้
นั้นเองก็รกั ษาคําพูด รับเงินแลว้ ก็ส่งจินเป่ าคืนมา

เหอต้านิ วกอดลูกชายที่หายไปและกลับมาไม่วางมือ ทว่าจา้ ว


่ ่ งเงียบมาโดยตลอดกลับยื่นหนังสือขับภรรยาหนึ่ งฉบับ
เกิงเถียนทีนิ
ให้นางทันที “เจ ้าไปเถอะ เจา้ เป็ นความหายนะ พวกเราตระกูลจา้ ว
ไม่ ต อ้ งการสตรีเช่ น เจ า้ ” เขาไม่ ส นใจความกลัด กลุ ม
้ ของบิ ด า
มารดาก็ขบ ั เหอต้านิ วออกไปเสียแลว้

้ ้
เหอต้า นิ วตะลึงงัน ร ้องไห้ต ะโกนโวยวายไม่ ยอมไป แต่ ค รังนี

จา้ วเกิงเถีย นใจแข็ ง ผ่ านเรืองนี ้ไปเขาก็ เขา้ ใจแล ว้ เขายอมครอง
ตัวเป็ นโสดดีกว่าจะต้องให้ห ญิงสาวเช่นนี มาส่ ้ งผลกระทบต่อลูก ๆ
ของเขา เขาคิดดีแลว้ อีกไม่กวัี่ นก็จะพาพ่อแม่และลูกๆ กลับไปสู่จง
หลังจากนี ก็้ ครอบครัวก็ใช ้ชีวต ิ อย่างสงบสุข

เหอต้า นิ ว มองลู ก ชายลู ก สาวสามคนของตน แต่ ก ลับ พบว่ า


สายตาที่ พวกเขามองตนเย็ น ชาผิ ด ปกติ ก็ ใ ช่น่ ะสิ นางเพี ย งแค่

คลอดพวกเขา แต่กลับไม่เคยเลียงพวกเขาอย่ ้ ง จะมีความ
างสินเชิ
ผูกพันอะไรได้

เหอต้า นิ วถู กผลักออกจากเรือนตระกู ลจา้ ว ไม่ ว่านางจะทุบ ตี


ประตูอย่างไรก็ไม่มใี ครสนใจ เหอต้านิ วจนปัญญา ทําได้เพียงเดิน
ออกไปอย่ างอาลัยอาวรณ์ อวิ๋นโจวแห่ งนี ้นางเองก็ไม่มีท่ีจะไป ทํ า

ได้เพียงกลับมาหามารดาทีตระกู ลเหอ
ตอนที่ 198-1 เพียงแค่ต ้องการทําให ้พวกเขาสินหวั
้ ง

“จ ้าวเกิงเถียนคนไม่ตายดีผูน ้ ี ้ เขามีสิทธิอะไรมาขั
์ บลูกสาวขา้
ขา้ จะไปคิดบัญชีเขา” มารดาแซ่เหอฟังคําร ้องของลูกสาวจบ ใกล ้

จะระเบิ ด ขึ นมาแล ว้ บ่ น พึ ม พํ า “ลื มบุ ญ คุ ณ ครอบครัว อกตัญ �ู
น้องรองเจ า้ เป็ นขุนนางครอบครัว เขาได้ผลประโยชน์ไปตังเท่ ้ าไร
หากไม่ ใ ช่ว่ ามีเจ า้ ครอบครัวเขาจะมี ช วี ิต เช่นทุ ก วันนี ้ได้ห รือ ไม่
รู ้จักขุดดินเก็ บตัวอยู่ ในมุม ตอนนี ้เห็ นครอบครัวพวกเราลําบากก็
หักหลังทรยศทันที ใจร ้ายใจดํา ขอให้ฟ้าผ่าตาย” คําสาปแช่งของ
มารดาแซ่เหอคล่องแคล่วยิงนั ่ ก

เหอต้านิ วกุมหน้าร ้องไห้มาโดยตลอด “ท่านแม่ ท่านแม่ ขา้ ไม่


อยากถูกขับ ขา้ คิดถึงจินเป่ า ขา้ คิดถึงลูกสาวคนโตลูกสาวคนรอง
ท่านแม่ ท่านแม่ ขา้ จะทําอย่างไรดี ท่านแม่ท่านรีบคิดหาทางให้ขา้
ที” นางร ้องไห้จนนํ ้าตานํ ้ามูกไหล ในใจเสียใจอย่างถึงที่สุด เสียใจ

ทีตนกุ ้
มหัวใจลูกๆ ทังสามไว ไ้ ม่อยู่ มิเช่นนั้นพวกแก่หนังเหนี ยวสอง
คนนั้นจะกลา้ ขับนางได้อย่างไร


“ร ้องๆๆ เจา้ ยังมีหน้ามาร ้องอีก ปกติเจา้ เก่งนักมิใช่หรือ วิงจน
ตรอกกลับมาเช่นนี เสี ้ ยแลว้ ” มารดาแซ่เหอมองบุตรสาวที่ร ้องไห้ไม่

หยุด ในใจก็เริมหงุ ่
ด หงิด “เคยบอกเจา้ แลว้ ว่า อย่าเอาแต่วิงไปนู ่น
ไปนี่ ทังวั
้ น ต้องกุมหัวใจผูช ้ ายของเจ ้าให้อยู่ แต่เจา้ ก็ดน
ั ไม่ฟัง เจา้
เจา้ เจ ้าจะให้ขา้ พูดอะไรดี” นางแสดงท่าทางเจ็บใจที่ไม่อาจหลอม
เหล็กให้กลายเป็ นเหล็กกลา้ ได้


“ไม่ ใช่เป็ นเพราะน้องรองทังหมดหรื อไร!” เหอต้านิ วยังคงร ้อง
ความไม่เป็ นธรรม “ปกติก็ดๆี อยู่ เกิงเถียนเชือฟั่ งขา้ ตลอด คนแก่
หนั งเหนี ย วสองคนนั้ นก็ไม่ก ลา้ หาเรืองข
่ า้ ไม่ ใช่เพราะว่าน้องรอง
เขา้ คุก เกิง

เถียนจึง รังเกีย จที่ครอบครัว เราประพฤติตวั ไม่เหมาะสม บอก


้ ก แย่ ท่ านแม่ เป็ นเพราะน้องรองพาข า้ ซวย ท่ านต้อง
ว่าข า้ เลียงลู
ช่วยขา้ นะ!”

“เจ ้า ขา้ จะตีลูกอกตัญ�ูเช่นเจ ้าให้ตาย คนนอกพูดก็ชา่ ง แต่


นั่นคือน้องชายแท้ๆ ของเจา้ เจ ้าไม่รกั เขาแลว้ ยังโทษว่าเขาพาเจา้
ซวย ก่อนหน้านี เจ ้ ้าอาศัยอํานาจของเขารับผลประโยชน์เหตุใดถึง
ไม่พูดเล่า” มารดาแซ่เหอโมโหจนเจ็บใจ มองบุตรสาวออกแรงทุบ
หลังหลายครา

เหอต้านิ ว หลบไปพลางร ้องโอดโอยไปพลาง “เดิมก็ เป็ นน้อง



รองทีพาข า้ ซวย ท่านแม่ ขา้ ไม่สน ท่านต้องคิดหาทางให้ขา้ ขา้ ไม่
อาจออกจากตระกู ล จ า้ วได้ ไม่ อ าจจากจิน เป่ าได้ ข า้ ต้อ งการ
เกิงเถียนของพวกเรา” สูญเสียไปแลว้ ถึงได้รู ้ว่าเสียใจ เกิงเถียนดียิ่ง
นัก หน้าตาครบเครือง ่ ทังยั้ งขยัน มีความสามารถ ดีกบ ั นาง นางจะ
ไปหาผูช ่ เช่นนี ได้
้ ายทีดี ้ ทไหนอี
ี่ ก

“เจ า้ เกลีย ดแม่ ก บ


ั น้องชายเจ า้ มิใช่ห รือ คิด หาทางเอง แม่ ไม่
สนแลว้ ” มารดาแซ่เหอเองก็เดือดดาล นางถู กบุตรสาวคนนี ทํ ้ าให้
โมโหจริงๆ นางหวังเสียวชุ ่ ย
่ เฉลียวฉลาดมาทังชี ้ วต ิ เหตุใดถึงได้มี
บุตรสาวไร ้ประโยชน์ทเอาแต่ ี่ ใช ้อํานาจบาตรใหญ่กบ ั คนในบา้ นเล่า
ลูก ชายลู ก สาวต่ างก็เป็ นหนี ้ นี่ มันลู กชายลู ก สาวที่ไหน เห็ นช ดั ๆ
ว่าเป็ นผีทวงเวร

“ท่ า นแม่ ท่ า นโปรดระงับ โทสะ น้องสาวกํ า ลัง เสี ย ใจ อาจจะ


พู ด จาไม่ มี ส ติ ท่ า นอย่ า ได้ต่ อ ปากต่ อ คํ า กับ นางเลย” สะใภ้ใ หญ่
ตระกูล เหอรีบพยุงแม่ สามีไปนั่ งลงบนเก า้ อี ้ จากนั้นก็ส่งสายตาให้
เหอต้านิ ว “ต้า นิ ว เจา้ ดูสิว่าเจา้ ทําท่ านแม่ พ วกเราโกรธแล ว้ ท่า น
่ ด ยังไม่เขา้ มาขอโทษท่านแม่อก
แม่รกั เจ ้าทีสุ ี ”

่ งสะใภ้ใหญ่ผูน
เหอต้านิ วกลับเชือฟั ้ างยิง่ เดินเขา้ ไปดึงแขน
้ ี อย่

เสือแม่ นางตามคําบอก กล่าว “ท่านแม่ ท่านแม่ เป็ นความผิดของ
ขา้ เอง ท่านอย่าได้เก็บมาใส่ใจเลย”
มารดาแซ่เหอพเยิดหน้า แม้ว่าสีหน้าจะเรียบเฉย แต่ในใจกลับ
อ่อนลงแลว้ สะใภ้แซ่เหอช่วยพูดดีๆ อีกสองสามประโยค มารดาแซ่
เหอก็ เผยรอยยิมออกมา ้ “พอแล ว้ ในเมื่ อกลับ มาแล ว้ ก็ พ ัก ก่ อ น
เถอะ พรุ ง่ นี ้ค่ อ ยให้พ่ี ชายพี่ สะใภ้เจ า้ กลับ ไปเป็ นเพื่ อนเจ า้ ” ปาก
บอกว่าไม่สน แต่จะไม่สนได้หรือ ต่อให้บุตรสาวจะทําให้ตนผิดหวัง

ก็ยงั เป็ นเลือดเนื อจากร่ างกายนางอยู่ดี


เคราะห ์ซํากรรมซั ้ บจนหนทางแลว้ จริงๆ
ด วันนี อั

้ บุ ต รคนโตแซ่เหอสองสามีภ รรยาก็ ไปยัง เรือ นเล็ ก


วัน รุ ง่ ขึน
ตระกู ล จ า้ วพร ้อมเหอต้า นิ ว ตอนที่ไปไปอย่ า งมีค วามสุ ข ตอนที่
กลับ รํ่าไห้ก ลับ มา ในใจมารดาแซ่ เหอก็ มี ล างสัง หรณ์ไ ม่ ดี ท ัน ที
“เป็ นอะไรไป ตระกูลจ ้าวไม่ยอมรับหรือ หรือว่าตระกูลจา้ วจะตังตน ้
เป็ นศัตรูกบ ั ตระกูลพวกเรา” ให้เกียรติไม่รบั เกียรติจริงๆ เดี๋ยวขา้ จะ
จัดการตระกูลเขาเสียให้ราบคาบ

“ตระกูลจา้ ว ตระกูลจา้ วหนี ไปแลว้ เกิงเถียนหนี ไปแลว้ จินเป่ า


หนี ไปแลว้ ลูกสาวคนโตลูกสาวคนรองก็หนี ไปแลว้ พวกเขาทิงข ้ า้
ไวค้ นเดียว” เหอต้านิ วร ้องไห้ดว้ ยความเสียใจอย่างยิ่ง จบแลว้ จบ
แลว้ เกิงเถียนไม่ตอ้ งการนางแลว้ จริงๆ นางกลายเป็ นสตรีทถู ี่ กสามี
้ ว้
ทิงแล
“หนี ห รือ หนี ไปไหน” มารดาแซ่เหอไม่ เข า้ ใจเล็ กน้อย รีบ ไต่
ถาม

บุตรคนโตตระกูลเหอรีบกล่าวอธิบาย “ท่านแม่ ตอนที่พวกขา้


ไปเรือนเล็กหลังนั้นของตระกูลจ ้าวก็เปลียนคนอยู
่ ่แลว้ บอกว่าจา้ ว
เกิงเถียนพาพ่อแม่กบ ้ เมือวานแล
ั ลูกๆ กลับชนบทตังแต่ ่ ว้ ”


คราวนี มารดาแซ่ เหอตะลึงงันแลว้ ตระกูลจา้ วกลับชนบทแล ว้
บุตรสาวจะทํ าอย่างไรเล่า เห็ นบุต รสาวที่ร ้องไห้ไม่หยุ ดกับลูกชาย
คนโตและภรรยาที่ นิ่ งเงี ย บไม่ พู ด มารดาแซ่ เหอก็ คิ ด อะไรไม่

ออกเป็ นครังแรก

่ แลว้ ตระกูลจ ้าวก็ตด


ทีแท้ ั สินใจจะกลับสู่จงมาก่อนแลว้ อย่างไร
เสียนั่นก็คือบา้ นเก่า แม้ว่าเมืองอวิ๋นโจวจะเจริญรุง่ เรือง แต่อย่างไร
เสียก็เป็ นที่แปลกถิน!
่ บิดามารดาตระกูลจา้ วอายุมากแลว้ ก็ยงหวั ิ่ ง
ว่ า จะกลับ ไปตายที่ บ า้ นเกิ ด เมื อ งนอนได้ จ า้ วเกิ ง เถี ย นเป็ นลู ก
กตัญ�ู ก่อนหน้านี ห่ ้ วงแต่บา้ นฝั่งภรรยาของเขา ตอนนี ขั ้ บภรรยา
แล ว้ เขาก็ เตรีย มตัว จะพาพ่ อ แม่ แ ละลู ก ๆ กลับ บ า้ นเกิด กลัว ว่ า
ตระกูลเหอรู ้แลว้ จะมารบเร ้า จึงรอให้เหอต้านิ วไปก่อน พวกเขาจึง
หอบขา้ วหอบของออกเดินทางทันที
เห อ เที ย น เสี ย ง นั่ ง อ ยู่ ใน ห้ อ ง ห นั ง สื อ น อ ก ข อ งต ระกู ล
ปลัดอําเภอด้วยใจทีร่ ้อนดังไฟสุม มีเด็กรับใช ้เขา้ มาเปลียนชา ่ เขา
้ ก ครัง้ “คุ ณ ชายของเจา้ จะกลับ มาเมื่อไรกันแน่ ” ตอนนี ้
ถามขึนอี
เขาไหนเลยจะมีอารมณ์ดมชา ื่

เด็กรับใช ้มีสีหน้าลําบากใจ “คุณชายใหญ่ เหอท่านอย่าได้ทํา



ให้บ่าวลํ าบากใจเลย เรืองของนาย บ่า วไหนเลยจะทราบ” เติมชา
เสร็จแลว้ เขาก็ถอยออกไปทันที พูดในใจ คุณชายใหญ่เหอผูน ้ น
้ ี เป็
คนอ่ า นสถานการณ์ไม่ ออก คุ ณ ชายไม่ ได้ออกจากจวน อยู่ ใ น
เรือนดีๆ อยู่เลย เพียงแค่ไม่อยากเจอเขาก็เท่านั้นเอง

่ วยาม
ผ่ า นไปอีก กว่ า ครึงช ่ั ่ั
ช วพริบ ตาก็ กํ า ลัง จะตกบ่ า ยแล ว้
่ ณชายใหญ่ตระกูลปลัดอําเภอสหายคนสนิ ทของตนยังคง
จ ้าวชิงคุ
ไม่เห็นเงา เด็กรับใช ้ยังคงพูดประโยคเดิมคือ ไม่รู ้

เหอเที ย นเสีย งไหนเลยจะดู พิ รุธ ไม่ ออก ไม่ อยู่ บ า้ นที่ไหนกัน


เห็นชดั ๆ ว่าไม่อยากเจอตนก็เท่านั้นเอง เขาทังโมโหทั
้ ้
งจนปั ญญา

่ อนตอนทีท่
เมือก่ ่ านอารองยังไม่เขา้ คุก เหอเทียนเสียง
สนิ ทกับหลานชายปลัดอําเภอผูน ้ างยิ่ง เขามักจะเชิญตนมาดืม
้ ี อย่ ่
สุราแต่งกลอนในบา้ นบ่อยๆ ปลัดอําเภอจ ้าวอัธยาศัยดีต่อตนอย่าง
ถึงที่สุ ด ชืนชมลู
่ กชายเพื่อนไม่ หยุ ด ปาก แต่ต อนนี ้เล่า ตนมาขอ

พบถึงหน้าบา้ น ไม่ตอ้ งพูดถึงเรืองจะช่ วยหรือไม่ก่อน แต่ ปล่อยให้
ตนรออยู่ ใ นห้อ งหนั ง สื อ ด้า นนอก ไม่ ใ ห้พ บแม้แต่ ห น้า สัง คมไร ้
นํ ้าใจยิงนั
่ ก

เหอเที ย นเสีย งออกจากบ า้ นปลัด อํ า เภอด้ว ยความเศร ้าโศก


เมื่อเขาออกไปจา้ วชิงก็ ่ ได้ข่าวแลว้ จึงถอนหายใจยาวออกมาอย่าง
้ กในใจก็ รู ้สึกผิดเล็ก น้อย แต่ ไม่ใช่ว่ าเขาไม่ อยาก
อดไม่ ได้ เบืองลึ

ช่ว ยจริง ๆ แต่ ช ่ว ยไม่ ได้ต่ า งหาก พ่ อ เขาเคยเตื อ นเขาแล ว้ เรือง
นายอําเภอเหอนี มี ้ ลบ
ั ลมคมใน ไม่อนุ ญาตให้เขาเจอคนของตระกูล
เหออีก มิเช่นนั้นจะตัดขาเขาทิงเสี ้ ย จา้ วชิงกลั
่ วพ่อเขาที่สุด อีกทัง้
ต่ อ ให้เจอหน้า เขาก็ ช ่ว ยอะไรไม่ ได้ มี แต่ จ ะทํ า ให้ลํ า บากใจ ไม่ สู ้
หลบหน้าไปเสียดีกว่า

เหอเทียนเสียงวิงวุ ่ ่นอยู่ขา้ งนอกอีกสองวัน ท้ายที่สุดยังคงเป็ น


คุณชายตระกูลพัศ ดีสวีที ่ ่ทนดู ไม่ ได้จงึ บอกความจริงแก่เขา “น้อง
เทียนเสีย ง เห็ นแก่ มิตรภาพเมื่อก่ อนของพวกเราข า้ จะบอกความ
จริงแก่ เจ า้ ให้ เจา้ เองก็ อย่ าได้ตํ าหนิ พ วกเราที่ถือตัวเลย อันที่จริง
่ พวกเรายื
เรืองนี ้ ่นมือเขา้ ไปไม่ได้ อย่าว่าแต่พ วกเราเลย ต่อให้เป็ น
พ่อข า้ และคนอืนๆ ่ ก็ ยงั ไม่ ได้ พ่ อขา้ บอกข า้ ว่า คดีของอาเจ า้ เป็ น
คดีที่ใต้เท้าข า้ หลวงประจําจังหวัด จัด การเอง เป็ นคดีที่มีห ลัก ฐาน
มัดตัวนานแลว้ อีกทังยั ้ งคลา้ ยกับว่าเบืองบน…”
้ ้ ขึ้ นฟ้
เขาใช ้นิ วชี ้ า

“ตระกูล เจา้ อย่ าได้สินเปลื องความคิดอีก เลย ของที่มีค่ า ในบา้ นก็
เก็บไวใ้ ห้ดี ใช ้ชีวต ่ ต่อไปเถอะ”
ิ ทีดี

เหอเทียนเสียงได้ยินดังนั้นร่างทังร่
้ างก็มึนงง เขาเดินยังไม่รู ้ว่า
ตนเดินออกมาจากบ า้ นพัศดีส วี่ได้อย่ างไร ในใจมีเพีย งความคิด
เดียว ท่านอารองจบแลว้ ตระกูลเหอจบแลว้ !


“ไปแลว้ หรือ” พัศดีสวีมองลู ่ นเขา้ มาถามเสียงเรียบ
กชายทีเดิ

คุ ณ ชายสวี่พยัก หน้า “ไปแลว้ ขอรับ ” บนใบหน้าเต็ มไปด้ว ย


ความท้อใจ เมื่อก่ อนเหอเที ย นเสี ย งเป็ นคนที่ มีอิส ระทํ า อะไรตาม
อําเภอใจ ตอนนี วิ้ งหาความช่
่ วยเหลือไปทั่ว ร่างทังร่ ้ างก็รู ้สึก หดหู่

ขึนมา


พัศดีส วีไหนเลยจะไม่ เข า้ ใจความคิด ในใจลูก ชาย แค่ นเสีย ง
หนึ่ งคราแลว้ กล่าว “แกว่งเท้าหาเสียน ้ เรืองนี่ ้
ของตระกู ลเหอไม่ใช่
่ พวกเขาสร
เรืองที ่ ้
้างขึนเองหรื อ เจ ้ารู ้จักเหอเทียนเสียงมานานเพียง
นี ้ เคยได้ยน ิ เขาเอ่ยถึงฮูหยินนายอําเภอเหอบา้ งหรือไม่ หากไม่ใช่

ว่าเกิดเรืองนี ้ พวกเราไหนเลยจะรู ้ว่าฮูหยินนายอําเภอเหอเป็ นสตรี

สูงศักดิของจวนโหว เห็นเขายกย่องเชิดชูอเหนี ี๋ ยงเช่นนี ้ ยังคิดว่าฮู
หยินภรรยาเอกตระกู ล เขาเป็ นหญิ งชนบทไม่ มีค วามรู ้เสีย อีก เห
อจังหมิงคนผูน ้ เป็ นคนเขลา มีของที่ดีเพียงนี ไม่
้ ี ก็ ้ รู ้จักใช ้ประโยชน์
ขอเพียงแค่ประจบประแจงบา้ นภรรยาให้ดี เขาแบ่งเศษเงินเศษทอง
ให้เจ า้ ก็ ส บายแล ว้ หากเป็ นคนอื่นก็ ค งจะยกย่ อ งฮู ห ยิ น ใครจะ
เหมื อนตระกู ล เขา ทรมานนางจนเกือบตาย เหอะๆ คิ ด ไปเองว่ า
ตระกูลสูงส่งเหล่านั้นทําอะไรไม่ได้! เขาขยับนิ วนิ ้ ดเดียวครอบครัว
เจ ้าก็พงั ทลายได้แลว้ ”

่ ยดหยามทังใบหน้
สีหน้าพัศดีสวีเหยี ้ า เห็ นลูกชายคลา้ ยเขา้ ใจ
อะไรขึ นมาก็้ ก ล่ าวต่ อ “กับ ภรรยา ต้องรัก ใคร่ซ งกั ึ่ นและกัน การ
สมรสเป็ นการตกลงปลงใจกันทังสองฝ่ ้ าย ต่อให้ในใจจะไม่ชอบ ไม่
ว่าอย่า งไรภรรยาเอกก็ ตอ้ งให้ค วามเคารพ โปรดปรานอนุ ภรรยา

ทอดทิงภรรยาเอก นั่นคือลางร ้ายทําลายครอบครัว เจา้ เองก็โตแลว้
อีกสามเดือนคุณหนู ตระกูลหลิวจะมาที ่ ่ า้ น เจ ้าก็เตรียมใจให้ดี คน

ไม่ ก ี่คนข า้ งกายนั้ นก็ ส่ งไปที่หมู่ บ า้ นให้ห มด ไม่ อาจทํ า ให้ภรรยา
ขุ่น เคื อ งใจได้ ถ้า หากเจ า้ …พ่ อ เจ า้ ไม่ ได้ใ จดี เหมื อ นตระกู ล เหอ
เช่นนั้นนะ!”

่ั
ช วขณะคุ ณ ชายสวี่ก็ ห วาดกลัว ในใจ “ขอรับ ลู ก เข า้ ใจแล ว้
ลูกขอบคุณท่านพ่อทีชี่ แนะ”
้ แม้ว่าเขาจะเป็ นบุตรคนโตของภรรยา
เอกในบา้ น แต่หลังจากเขาก็ยงั มีนอ้ งชายสองคนและน้องชายบุตร
อนุ ภรรยาอีกสองคน พ่ อเขาไม่ขาดแคลนลูก ชาย หากเขาทําผิด
พ่อเขาก็สามารถไล่เขาออกไปได้ทน ั ที
เหอเทียนเสีย งกลับ มาถึง บา้ นด้วยสติที่หลุ ด ลอย พบหน้าแม่
เขา สะใภ้ใหญ่ตระกูลเหอก็ตกใจ “เป็ นอะไร เป็ นอะไรไป”

“จบแล ว้ ท่ า นอารองจบแล ว้ ตระกู ล เหอจบแล ว้ ข า้ ก็ จ บแล ว้


เช่นกัน” ดวงตาเหอเทียนเสียงนิ่ งงัน ปากบ่นพึมพํา

สะใภ้ใหญ่ ตระกู ลเหอร ้อนใจแลว้ ลู กถู กอะไรเข า้ สิงมา ปี ศาจ


้ งพูด ว่าน้องสามีไม่มีทางช่ว ยเหลือแล ว้ นางดึงลู ก
หรือ มิห นํ าซํายั
ชายเขา้ ห้องทันที “อะไรจบ เสียงเกอเอ๋อร ์เจ ้าค่อยๆ พูด”


เหอเทียนเสียงเพิงจะได้ สติกลับมา บอกข่าวที่สืบได้ สะใภ้ใหญ่
ตระกูลเหอไม่สบายใจแลว้ นางยังหวังว่าน้องสามีจะออกมาเสวยสุข
ต่อได้ ตอนนี น้ ้ องสามีออกมาไม่ได้แลว้ ร ้านค้ากับของมีค่าในบา้ น
ก็ไม่มแี ลว้ ชีวต ้ าอย่างไรเล่า
ิ หลังจากนี จะทํ

“เสียงเกอเอ๋อร ์ เจา้ รีบเอาข่าวไปบอกท่านปู่ ท่านย่าเจา้ ” สะใภ้


ใหญ่ ตระกู เหอได้ส ติก ลับมาก็ออกคํ าสั่งทันที เหอเทียนเสีย งพยัก

หน้าวิงไปที ่ อนของปู่ ย่าเขาแลว้
เรื
ตอนที่ 198-2 เพียงแค่ต ้องการทําให ้พวกเขาสินหวั
้ ง

เมื่อลูกชายไป สะใภ้ใหญ่ ตระกูลเหอก็คิดคํานวณ ก่อนหน้านี ้


ไม่รู ้ว่าน้องสามีไม่มีทางช่วย ดังนั้นสามีและลูกชายทังสามคนของ

นางจึงออกไปหาความช่วยเหลือผูกสัมพันธไมตรี ลงเงินลงแรงนาง
ก็ไม่ได้ขด ้ องสามีออกมาไม่ได้แลว้ เช่นนั้นก็ไม่มี
ั ขวาง แต่ตอนนี น้
ความจํ า เป็ นต้องเปลื องเงินอี ก ต่ อไป เงิน ที่เหลื ออยู่ ในครอบครัว
พวกเขาก็ ไม่ เยอะแล ว้ ยัง มี ค รอบครัว ใหญ่ ให้ต อ้ งเลี ยงอี้ ก จะไม่
ประหยัดได้อย่างไร


ไม่ ต อ้ งเอ่ ย ถึ งว่ า มารดาแซ่เหอได้รบั ข่ า วแล ว้ ผิ ด หวัง สินหวั ง
เพี ย งใด ฝั่ งของเสิ่นเวย พ่ อบ า้ นรองกับ สาวใช ้หลายคนข า้ งกาย
นางต่างก็ไม่เขา้ ใจอย่างถึงทีสุ ่ ด เห็นชดั ๆ ว่าคดีนีสามารถตั
้ ดสินได้
ในเร็ว วัน แต่ เหตุ ใดคุ ณ หนู ถึง ยังรออยู่ อีก รีบ ตัด สินรีบ เสร็จ เรือง่
พวกเขาเองก็จะได้กลับเมืองหลวงเร็วขึนมิ ้ ใช่หรือ

พวกเขาไหนเลยจะรู ค้ วามคิ ด ในใจเสิ่ นเวย นางเพี ย งแค่


ต้องการมองดู ต ระกู ล เหอวิ่งวุ่ น เฉยๆ เช่นนี ้ มองดู ต งแต่
ั้ พ วกเขา
กอดความหวัง จนผิด หวัง กระทั่งสินหวั ้ ง นางต้องการให้ทุ ก ๆ วัน
ของพวกเขามีชวี ติ อยู่อย่างทรมานและไม่ปลอดภัย

อ่านข่าวทีทหารลั บส่งมาในมือ มุมปากนางก็ยกขึน ้ สูญเสียเห
้ ร่ี่ วมแบ่งปันผลประโยชน์ผน
อจังหมิงผูท ้ สะใภ้ใหญ่ตระกูลเหอก็
ู ้ ี ไป
มีแ ผนการเล็ ก ๆ ของตนเองทัน ที มารดาแซ่เหอจะยัง เป็ นนผู น ้ ํา

ตระกูลเหอได้อยู่อีกหรือ ในเมือออกมาจากโคลนตม เช่นนั้นก็กลิง้
กลับไปเสียเถอะ

คดีของเหอจังหมิงตัดสินแลว้ โทษไม่ได้มเี พียงแค่ประพฤติผิด


ในหน้ า ที่ ยัง มี ค ดี ใ หญ่ ค ดี เล็ ก ยิ บ ย่ อ ยนั บ ไม่ ถ ว้ นอี ก สิ บ กว่ า คดี
ตัด สินให้เนรเทศไปยังเหลีย วตง ไม่ ถึงสามพันลีแต่ ้ ถึงสองพันลีก็ ้
มากแลว้ หากไม่ได้นิรโทษกรรมชีวิตนี ก็ ้ อย่าได้คด ิ ว่าจะกลับมาอีก
เลย


เดิมคดียงั เกียวเนื่ องไปถึงบุ ตรคนโตตระกู ลเหอ อย่างไรเสีย ก็

เป็ นร ้านค้าทีเขาแย่ ่
งคนอืนมา เหอ

จังหมิง กลับ ฉลาด รู ้ว่ า ตนไปไม่ ร อดจึงรับ โทษทั้งหมดไว เ้ อง


ตระกูลเหอมีลูกชายสองคน ไม่อาจให้ตกหลุมพรางทังหมดได้ ้ มใิ ช่
หรือ เขาเพี ย งแต่ ห วัง ว่ า พี่ ใหญ่ เขาจะเห็ น แก่ ท่ี เขารับ โทษไว เ้ อง
้ ลูกชายหลายคนของเขาให้เป็ นผูเ้ ป็ นคนได้
สามารถเลียงดู
่ ่เขาคิดมากทีสุ
เรืองที ่ ดตอนที่อยู่ในคุกก็คอื เขาเดินมาจนถึงจุด
้ อย่างไร เขาเลอะเลือนจนเมินเฉยภรรยาเอกแลว้ ยกย่องม้าซูบ
นี ได้
ผอมตํ่ าช า้ คนหนึ่ งได้อย่ า งไร เขาเองก็ เคยอยากทํ า ให้อีก ฝ่ ายมี
ความสุข แต่เหตุใดถึงกลายเป็ นนักโทษอย่างในวันนี ได้ ้ เขาเสียใจ
เสีย ใจอย่ างถึงที่สุ ด แม้แต่ ฝันยัง เป็ นภาพของเสินซื
่ อในตอนแรก

เด็ ก สาวที่ขาวผ่ อง เรือนร่า งที่อวบอิ่ม ดวงหน้าที่ราวกับภาพวาด
่ นอายเปี่ ยมรักเวลาทีมองเขา
ยังมีแววตาทีเขิ ่ เมื่อตืนขึ
่ นมากลั
้ บพบ
ความหนาวเย็ น เหอจังหมิงตีศีรษะด้ว ยเองด้ว ยความเจ็ บ ปวด ส่ ง
เสียงร ้องคํารามราวกับสัตว ์ป่ าออกมา

เมื่อตระกูลเหอได้รบั ข่าว นอกจากบิดามารดาแซ่เหอแลว้ คน


่ อต่างก็น่ิ งเงียบอย่างมาก เตรียมใจไวก้ ่อนแลว้ มิใช่หรือ
ทีเหลื

เหอจังหมิงถูกลงโทษ จวนก็ย่อมอยู่ไม่ได้แลว้ พวกเขาต้องรีบ


หาบา้ นย้ายออกไป คนรับใช ้ก็ขายหมดไปนานแลว้ แม้แต่อเหนี ี๋ ย ง
สามคนข องเหอจั ง หมิ ง ก็ ถู ก ข ายทั้ งหมด เหลื อ เพี ย งส าวใช ้
่ อสั
อนุ ภรรยาทีซื ่ ตย ์ผูน้ ั้น แต่ครอบครัวทีใหญ่
่ ่ บคนก็ไม่อาจ
เกือบยีสิ
อยู่ ในเรือนเล็ ก ๆ ได้ ในมือพวกเขามีเงิน เพี ย งสองสามร ้อยตํ าลึ ง
้ า้ นเสร็จแลว้ ก็เหลือเงินอยู่ไม่มาก ยังต้องเหลือไวเ้ ป็ นต้นทุนทํา
ซือบ
การค้าอีก
เดิมทีตามเจตนาของผู เ้ ฒ่ าเหอก็ คืออยากกลับ สู่จง ใช ้เงินใน
มือซ่อมแซมบ า้ นหลังใหญ่ ใ นชนบท ซือที ้ ่นาจํ านวนหนึ่ ง ชีวิต ก็
สามารถผ่านไปได้ดว้ ยดี

ทว่าบุตรคนโตแซ่เหอกับลูกๆ ต่างก็ไม่เห็ นด้วย เคยเห็ นความ


เจริญรุง่ เรืองในเมืองแลว้ จะยอมกลับไปใช ้ชีวต ิ ลําบากในชนบทได้
อีกอย่างไร บุตรคนโตแซ่เหออวดตนว่าเคยดูแลร ้านค้ามาหลายปี

มีป ระสบการณ์มีค นรู ้จัก ไม่ นานก็ สามารถผงาดขึนมาได้ อีก ครัง้
เหอเทีย นเสียงก็ รู ้สึก ว่าตนมีค วามรู ้ความสามารถ อยากอยู่ แสดง
ความมุง่ มาดปรารถนาทีอวิ ่ นโจว

่ี นโจวต่
ผูเ้ ฒ่าแซ่เหอขัดลูกหลานไม่ได้ ทําได้เพียงอยู่ทอวิ ๋ อ


อ้อ ตระกู ลเหอยังเคยถกเถียงเรืองการกลั
บมาของเหอหลินห
ลิน มารดาแซ่เหอยืนกรานจะเอาเหอ

หลินหลินกลับมาให้ได้ นางยังคิดถึงคฤหาสน์มูลค่าสูงหลังนั้น
อยู่ อี ก ทั้งยัง มี ค วามแค้น ต่ อ หลานสาวผู น
้ ี ้อยู่ ด ว้ ย เกลี ย ดนางที่
มองดู พ่ อ นางถู ก เนรเทศหน้ า ตาเฉย มี สิ ท ธิ อะไรถึ ์ ง ปล่ อ ยให้
ครอบครัวขา้ เผชิญความลําบากแต่เจ ้ากลับสุขสบายรํารวยได้ ่
ไม่ ไ ด้ ต้อ งเอานางกลั บ มา ในบ า้ นกํ า ลั ง ขาดเด็ ก สาวให้
เรีย กใช ้อยู่ พ อดี เมื่ออายุ ถึงแล ว้ ค่ อยหาตระกู ล ที่มีเงิน ส่ งออกไป
ยังคงได้สน ิ สอดก ้อนใหญ่อยู่

สะใภ้ใหญ่ ต ระกู ล เหอเองก็ เห็ น ด้ว ยกับ การตัด สิ นใจของแม่


สามี เหตุ ผลก็ ไม่ ต่ า งกัน นั ก เป็ นสตรีอายุ สิบ สามปี แล ว้ สามารถ
เป็ นผู ใ้ หญ่ ให้เรีย กใช ไ้ ด้แ ล ว้ อี ก ทั้ งหลิ น เจี่ ยเอ๋ อ ร ก์ ็ ห น้ า ตาดี
ส่งออกไปสมรสจะต้องนํ าผลประโยชน์มาให้ลูกชายแน่ นอน

แต่ ผูเ้ ฒ่ าเหอกับบุ ต รคนโตต่ างไม่เห็ นด้ว ย ผู เ้ ฒ่ าเหอถลึงตา


มองมารดาแซ่เหอ “หลินเจียเอ๋ ่ อร ์ก็เป็ นบุตรสาวแท้ๆ ของเหล่าเอ้อร ์
มิใช่ห รือ เจ า้ เอานางกลับมาสามารถหาขา้ วดีๆ ให้นางกินหรือว่ า
้ า ดี ๆ ให้น างใส่ ได้ห รือ อย่ า งไรเสี ย นางก็ เป็ นเลื อ ดเนื ้ อ
หาเสื อผ้
ตระกูลเหอของพวกเรา เจ ้าไม่เห็ นค่านางเพียงนี เลยหรื ้ อ หญิงชรา
หนั งเหนี ยวเช่นเจ า้ อย่าหลอกข า้ เสียให้ยาก ไม่ ให้ไป ให้หลินเจี่ย
เอ๋ อร ์อยู่ ก บ
ั แม่ นาง ทํ าอะไรต้องเหลือทางหนี ทีไล่ วันหน้า จะได้ไม่
ลําบาก”

่ อร ์จะอยู่กบ
ผูเ้ ฒ่าเหอไม่โง่ ไม่ว่าหลินเจียเอ๋ ั ใครก็หนี ความจริง
ทีว่่ านางเป็ นคนตระกูลเหอไม่ได้ นางอยู่กบ ั แม่นางจึงจะมีชวี ติ ที่ดีมี
คู่สมรสที่ดีได้ รอหลานชายคนโตทังหลายเข ้ า้ เมืองหลวงสอบขุน
นางแล ว้ ค่ อ ยไปขอร อ้ งนางที่ หน้ า ประตู เป็ นพี่ น้ อ งครอบครัว
เดียวกัน นางคงจะไม่ไล่คนออกมากระมัง

บุ ต รคนโตแซ่ เหอเองก็ ก ล่ า ว “สงบเสงี่ ยมกัน หน่ อย ได้ร บั


บทเรียนยังไม่พ ออีกหรือไร คนอ่ อนแอสูค้ นแข็ งแกร่งไม่ ได้ ดึงดู ด
สายตาคุณชายจวนโหวผูน้ ้นอี
ั กที ครอบครัวพวกเราจะยังมีชวี ต ิ อยู่
อีกหรือ”


เสินเวยไม่ สนว่าตระกูลเหอจะคิดเห็ นเช่นไร อย่างไรเสียนางก็
รู ้สึกว่าตระกูลเหอยังน่ าเวทนาไม่พอ ความโกรธของนางยังระบาย
ออกไม่ ห มด ด้ว ยเหตุ นี้พ่ อบ า้ นรองจึงได้ร บ ั หน้าที่ ใหม่ คุ ณ หนู สี่
บอกว่า ไม่ว่าเจา้ จะใช ้วิธใี ด ขโมยมาก็ดี แย่งมาก็ดี อย่างไรเสียเจา้
้ ข า้ จะทํ า ให้พ วก
ก็ ต อ้ งตัด กํ า ลัง ทรัพ ย ใ์ นมือตระกู ล เหอให้เกลียง
เขาไม่เหลือเงินสักแดงเดียวจนต้องขอทานไสหัวกลับ บา้ นเก่ าที่สู่
จง นางอยากดูว่ามารดาแซ่เหอทีเลี ่ ยงดู
้ ใต้เท้านายอําเภอขึนมาจะ


เลียงหลานต่ อไปได้อก ี หรือไม่

หน้าที่นี กลั
้ บไม่ยาก ทว่าพ่อบา้ นรองกลับตืนตั่ วขึนมา
้ คุณหนู
่ นิสยั เจ ้าคิดเจา้ แค้นเช่นนี เขาต้
สีมี ้ ้
องตังใจปฏิ บต
ั งิ าน ห้ามทําให้คน
้ พอใจเป็ นอัดขาด อุบายเจ ้าเล่ห ์กลับกลอกนี ้ พ่อบา้ นรองเก่ง
ผูน้ ี ไม่
จริงๆ!
ประสิท ธิภาพการจัดการของพ่อบา้ นรองสู งอย่างยิ่ง เพียงแค่
วางกับดักง่ายๆ สองแห่ง คนตระกูล

เหอที่กระหายผลประโยชน์ก็ต กลงไปแล ว้ ผลประโยชน์ไม่ ได้


รับ แต่กลับเทเงินกว่าสองร ้อยตําลึงที่เหลืออยู่ลงไปหมดแลว้ คราว

นี พวกเขาไม่ อยากกลับชนบทก็ตอ้ งกลับแลว้

เห็นคนตระกูลเหอทีเสื่ อผ้้ าขาดวินสี


่ หน้าด้านชาขา้ งถนน เสิน่
เวยก็อารมณ์ดม ้
ี ากขึนแล ว้ ท้ายที่สุดก็จด
ั การคนน่ ารําคาญเหล่านี ้
หมดแลว้ ก็ถงึ เวลากลับเมืองหลวงแลว้

ส่วนเหตุ ผลที่ไม่ฆ่ าคนตระกูลเหอให้ต าย เสินเวยคิ


่ ด ว่าอยาก
แก ้แค้นคนคนหนึ่ งแต่ไหนแต่ไรไม่ใช่ความตาย ตายแลว้ ก็เสียเปล่า
ไม่รบั รู ้อะไรทังสิ้ น้ กลับเป็ นการเสียเปรียบพวกเขา มีชวี ต
ิ อยู่จงึ จะดี
มีช วี ิต อยู่ จ ึงจะสามารถรับโทษที่สมควรจะรับ ได้ มีช วี ิต ดีก ว่ าตาย
่ าให้คนมีความสุขไม่ใช่หรือ
ยิงทํ

เสิ่นหย่ า สองแม่ ลู ก รู ้ว่ า เหอจัง หมิง ถู ก ตัด สิน ให้เนรเทศไปยัง


เหลียวตงก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่ว่าจะพูดอย่างไร นี่ ก็คือพ่ อ
แท้ๆ ของหลินเจี่ยเอ๋ อร ์ หากตายอยู่ ใ นมือของคนตระกู ล นาง แค่

นางคิดภาพนี ในใจก็ อด ึ อัดแลว้

เหอหลิ นหลิน เองก็ เหมื อนกัน ในขณะที่ เคี ย ดแค้น พ่ อนางก็


ไม่ได้หวังให้เขาตาย ผลลัพธ ์เช่นนี กลั ้ บไม่เลว อย่างน้อยยังไวช ้ วี ิต
นางไม่เลอะเลือนเหมือนแม่ของนาง นางรู ้ว่าญาติผูพ ้ ่นางจะฆ่
ี าพ่ อ

นางเป็ นเรืองที ่ง่ายเพียงแค่ ดีดนิ ้ว ตอนนี พ่
้ อนางสามารถมีชวี ิตอยู่
ได้ ลว้ นแต่เป็ นญาติผพ ี่ คิ
ู ้ ที ่ ดแทนนาง

ด้ว ยเหตุ นี้ เหอหลิ น หลิ น จึ ง คํ า นั บ เสิ่ นเวยหนึ่ งครา “ท่ า นพี่
ขอบคุณท่าน”

เสิ่นเวยรับ การคํ า นั บ จากนางอย่ า งไร ก้ งั วล ชืนชมอย่


่ า งยิ่ ง
ญาติผน ้ นคนฉลาด เชือว่
ู ้ อ้ งคนนี เป็ ่ านางจะมีชวี ิตอยู่ในจวนโหวได้
ไม่เลว เช่นนั้นนางก็เบาใจไปได้ไม่นอ้ ย

่ อวิ
เรืองที ่ นโจวจั
๋ ดการเสร็จแลว้ ควรกลับเมืองหลวงได้แลว้

บัง เอิ ญ อย่ า งยิ่ ง วัน นั้ นที่ ออกเดิ น ทางเหอจัง หมิ ง ถู ก คุ ม ตัว
ออกมาพอดี บนคอเขาสวมเครืองลงโทษที ่ ่หนั ก อึง้ ศีรษะยุ่ งเหยิง
หนวดเครารุงรัง ไหนเลยจะยังเป็ นใต้เท้าเหอที่งามสง่าอยู่อีก แทบ
ไม่ต่างอะไรจากคนเร่รอ่ นในคูนํ้า

ขบวนรถยาวเหยียดของเสินเวยผ่่ านสายถนน นํ าหน้าโดยรถ


ม้าที่หรูหรามากเป็ นพิเศษหนึ่ งคัน ดึงดูด สายตาคนบนถนน เสีย ง
ถกเถียงดังเซ็งแซ่

“นี่ คือตระกูลใด เหตุใดถึงมีอํานาจเพียงนี ”้

“ตระกูลใครอะไรเล่า เมืองอวิ๋นเหอของพวกเราไม่เคยเห็ นการ


เดินทางรู ป แบบเช่นนี ้มาก่ อน ไม่ เห็ นหรือว่ า พวกเขาออกมาจาก
คฤหาสน์ตระกูล เสิน ่ ตระกู ลเสิ่นรู ้จัก หรือไม่ บา้ นฝั่ งมารดาของฮู
หยินนายอําเภอเหอผูน้ ้ันของพวกเราอย่างไรเล่า ไม่ใช่ว่าหย่าแลว้
หรือ วัน นี ้ นางจึง กลับ เมื อ งหลวง” ในนํ ้ าเสี ย งเต็ ม ไปด้ว ยความ
อิจฉา

เสีย งวิพ ากษ์วิจ ารณ์ ด งั ไปถึ ง หู ข องเหอจัง หมิง บนใบหน้า ที่


สับ สนมึนงงของเขาก็ตื่นตัว ขึนมาในช
้ ่ั
วขณะ หย่า เอ๋ อร ์ หลินเจี่ย
เอ๋อร ์ รีบมาช่วยขา้ เร็ว! เขาหันหลังกลับกําลังจะไล่ตาม แต่กลับถูก
ขุนนางตรวจการณ์ที่คุมตัวเขาดึงกลับมา “ไปไหน ยังคิดจะหนี อีก
หรือ”

เหอจังหมิง ดินพล่ าน ดวงตาจอ้ งมองขบวนรถยาวเหยียดนั้ น
แน่ นิ่ง ริมฝี ปากสั่นระริก กระทั่งขบวนรถออกไปไกลแลว้ ก็ไม่ได้พูด
ออกมาแม้แต่คําเดียว แววตาของเขามืดลง ราวกับไม่มป ี ราณชีวิต
แลว้

มีข ุนนางที่เข า้ ใจสถานการณ์ห วั เราะเยาะคราหนึ่ ง “ไปเถอะ


ใต้เท้าเหอ นั่นมันจวนจงอู่โหว ไม่ใช่สงที ิ่ นั
่ กโทษเช่นเจ ้าจะปี นป่ าย
้ ไม่ควรทําตังแต่
ได้ หากรู ้ว่าเป็ นเช่นนี ก็ ้ แรก รีบไป รีบไป ยังต้องเร่ง
เดินทางอีก” เขาผลักเหอจังหมิงจนสะดุด เกือบจะลม้ ลงบนพืน้

เสิ่นหย่า ที่นั่ งอยู่ ในรถม้าหรูห ราแสนสบายเกิด ความรู ้สึก ร ้อย


แปดพันเก า้ นางมองลู ก สาวที่แววตาเต็ ม ไปด้ว ยความแปลกใหม่
ในใจก็ พ อใจอย่ า งยิ่ง “หลินเจียเอ๋่ อร ์ ประเดี๋ยวพวกเรากลับ ไปถึง
จวนโหวก็ดีแลว้ ตาเจา้ เป็ นคนที่มีความสามารถมากเป็ นพิเศษ ไม่
อาจมีใครมากลั่นแกลง้ พวกเราได้อีก ตาเจา้ ชอบเด็ก ที่ฉลาดกล า้
หาญ เจา้ อย่าได้อ่อนแอเหมือนแม่เจ ้า” นางชีแนะลู ้ กสาวด้วยความ
จริงใจ

“เหมือนญาติผูพ ้ ี่สี่ใช่ห รือไม่ ” เหอหลินหลินถาม แม้นางกับ


้ ่ี สี่จะรู ้จัก กันมาไม่ นาน แต่ ในใจนางญาติ ผูพ
ญาติผูพ ้ ี่สี่ก็ คือคนที่
เก่ ง กาจมี ค วามสามารถที่ สุ ด ผู น
้ ้ั น ช่ว ยพวกนางสองแม่ ลู ก จาก
ความลําบากยากแค้น มิน่าเล่าท่านตาถึงได้ให้เขามาอวินโจว ๋


เสินหย่ าพยักหน้า “ใช่ ตาเจา้ ชอบเด็กแบบญาติผูพ ี่ ของเจ
้ สี ่ า้
ไม่ชอบคนที่ร ้องไห้งอแงที่สุด รอได้พ บท่านผูเ้ ฒ่ า ความกลา้ หาญ
่ นแน่
ของเจ ้าจะต้องเพิมขึ ้ นอน”

“อืม ข า้ ทราบแลว้ ท่านแม่ ” เหอหลินหลินดวงตาเป็ นประกาย


เต็มไปด้วยการรอคอยชีวต ิ ในภายหน้า

ขณะที่ กํ า ลัง เดิ น ทาง จู่ ๆ รถม้า ก็ ห ยุ ด เสิ่ นหย่ า สองแม่ ลู ก


ประหลาดใจ จากนั้นก็เห็นเสินเวยขึ
่ ้
นมาบนรถม้ า

“หลานสี่ มีเรืองอั
่ นใดหรือ” เสินเวยถามด้
่ ว ยใบหน้า ที่เต็มไป
ด้วยรอยยิม้ นางรู ้สึกสนิ ทกับหลานชายคนนี แล
้ ว้


เสินเวยลู บ จมูก กล่าวด้วยความเคอะเขินหลายส่วน “ท่านอา

หลานสีมายอมรั บผิดกับท่าน หลานสีไม่ ่ ใช่หลานชายของท่าน แต่
เป็ นหลานสาวของท่าน ก่ อนหน้า นี เพื ้ ่อที่จะจัด การเรืองได้
่ สะดวก
จึง ต้อ งทํ า เช่ น นี ้ ปิ ดบัง ท่ า นกับ ญาติ ผู น
้ ้ อ งมานานเพี ย งนี ้ เป็ น
ความผิ ด ของหลานสี่จริงๆ” อย่ า งไรเสีย ไม่ ช ้าไม่ เร็ว ก็ ต อ้ งรู ้ ไม่ สู ้

บอกความจริงไปเสียตอนนี เลยดีกว่า

“อะไรนะ หลานสาวหรือ” เสิ่นหย่างงงวยแล ว้ “เจา้ บอกว่ าเจ า้


ั้
เป็ นสตรีง นหรื อ” จะเป็ นไปได้อย่ า งไร หลานสี่ไหนเลยจะเหมือ น
สตรี เห็นอยู่ชดั ๆ ว่าเป็ นคุณชายสูงส่งงามสง่าต่างหากเล่า

สบสายตาที่สงสัย ของเสินหย่ ่ าสองแม่ ลูก เสิ่นเวยก็พ ยักหน้า


“อืม หลานสีมี ่ ชอว่
ื่ าเสินเวย
่ ่ ่ พ่อขา้ คือพีสาม
ในจวนอยู่ในลําดับทีสี ่
ของท่ าน แม่ ขา้ ก็คือพี่สะใภ้ส ามของท่ าน นางไม่ อยู่ แล ว้ ตอนนี ้ฮู
หยินสามในจวนแซ่ห ลิว เป็ นหลานสาวฝั่ งมารดาของท่ านย่ า อ้อ
จริง สิ ข า้ ยังมี น้องชายแม่ เดี ย วกัน อีก หนึ่ งคน ปี นี ้ก็ อ ายุ สิ บ เอ็ ด ปี

แลว้ ” เสินเวยอธิ ่
บายทีละเรืองๆ

เสิ่ นหย่ า ยัง คงไม่ อ ยากเชื่อ หลานชายที่ มี ค วามสามารถมี


อุบ ายเช่นนี ้จะกลายเป็ นหลานสาวได้อย่า งไร สตรีตระกูล ใดกันที่

นํ าคนวิงมาพั ้ อหนุ
นลีเพื ่ นหลังให้อา นี่ มันเหลือเชือเกิ
่ นไปแลว้

เย่ ว ์กุ ย้ ที่ปรนนิ บ ตั ิอยู่ข า้ งๆ ก็ก ล่า ว “กู ไหน่ ไน คุณ หนู ญ าติผู ้
น้อง นี่ เป็ นเรืองจริ
่ งเจา้ ค่ะ นี่ คือคุณหนู สีของพวกเราจริ
่ งๆ ไม่กวั่ี น

ก่อนเพิงจะได้ รบั พระราชทานบรรดาศักดิให้ ์ เป็ นจวินจู
้ ่ เจ ้านายท่าน
อืนๆ่ ในจวนต่างก็มีภาระแยกตัวออกมาไม่ได้ นายท่านผูเ้ ฒ่ าโหว
จึงให้คุณ หนู สี่มาเที่ยวนี ้แทน คุ ณ หนู สี่ของพวกเราเก่ งมาก นาย

ท่านผูเ้ ฒ่าโหวยังพู ดอยู่บ่อยๆ ว่าลูกหลานทังจวนยั งเทียบคุณหนู
ของพวกเราไม่ ได้แม้แต่ ค นเดีย ว” นางมีท่ าทางได้รบั เกีย รติอย่า ง
ยิง่

“ท่านอา ญาติผน ่ ได้ตงใจจะปิ


ู ้ อ้ ง หลานสีไม่ ั้ ดบัง พวกท่านอย่า

โกรธขา้ นะ” เสินเวยขอโทษอี กครัง้

“ไม่ โ กรธๆ” เหอหลินหลินแย่ งพู ด ขึนก่ ้ อน สายตาที่มองเสิ่น


ิ่
เวยก็ยงสนิ ทชิดเชือ้ ทีแท้
่ แลว้ นี่ ก็ไม่ใช่พชายสี
ี่ ่ แต่เป็ นพีสาวสี
่ ่ ชอบ

จริงๆ เลือมใสจริ งๆ


รู ้ว่าเสินเวยไปแล ่
ว้ เสินหย่ ่ ่ในความตกใจ นางไม่
ายังคงจมดิงอยู
รู ้มาก่อนว่ าที่แท้แลว้ สตรีก็ เก่ งกาจขนาดนี ได้
้ มิน่าเล่ าท่ านพ่อถึง
วางใจให้นางมาอวินโจว ๋

ส่วนเหอหลินหลินก็ดีใจทังอกทั ้ ้
งใจ ่
เดิมนางก็เลือมใสญาติ ้ ี่
ผูพ
่ น
สีผู ้ ่แลว้ ตอนนี รู้ ้ว่านางเป็ นพีสาว
้ ี อยู ่ ่
ความรู ้สึกเลือมใสก็ เพิ่มมาก
ขึน้ ญาติผูพ ้ ี่สีใช
่ ้ชีวิตได้อย่างสง่าผ่าเผยจริงๆ นางเองก็อยากเป็ น
เหมือนญาติผพ ี่ ่ ดูสวิ ่าใครจะยังกลา้ กลั่นแกลง้ นางได้อก
ู ้ สี ี
ตอนที่ 199-1 คนไม่ดูตาม้าตาเรือระหว่างทางกลับ
เมืองหลวง

เดือนสามต้นฤดูใบไม้ผลิ สายลมอุ่นพัดผ่านหน้า


เสินเวยยื นอยู่บ นดาดฟ้ าเรือทอดสายตาออกไปไกล ผืนนํ ้าที่
สงบนิ่ งเสมือนกระจกเงินบานใหญ่ ส่องแสงสีขาวแวววับออกมาใต้
เงาสะท้อนของแสงอาทิตย ์ ต้นหลิวเขียวชอุ่มขนาบชายฝั่ ง กิงไม้
่ ท ี่

โอนอ่อนพลิวไหวท่ ามกลางสายลมโชย ลมพัดผ่านหน้าราวกับมือ
่ อนโยนขา้ งหนึ่ ง ทําให้ความรู ้สึกของคนเปรมปรีดไปตามกั
ทีอ่ ิ์ น

“ท่ า นพี่ ที่ แท้แล ว้ ท่ านก็ อยู่ ที่นี่ เอง” เหอหลินหลิ นเดินเข า้ มา
้ งเปื ้อนรอยยิม้
คิวโค้


เสินเวยยิ ้ อยๆ “ออกมาทําไม ท่านอาดีขนแล
มน้ ึ้ ว้ หรือ”

ขากลั บ พ วกนางเดิ น ทางทางนํ ้ า อย่ า งไรเสี ย เรือ ก็ มี แ รง


กระแทกน้อยกว่า รถม้า มาก อันที่จริง เดินทางโดยนั่งรถม้าเหน็ ด
เหนื่ อยจริงๆ เพียงหนึ่ งวันก็ปวดไปทั่วทังร่
้ าง
ร่า งกายของท่ า นอาเสิ่นหย่ า ไม่ ดีอย่ า งยิ่ง เพื่อที่ จะให้น างได้

สบายขึ นหน่ อยเสิ่นเวยจึง เลื อกเดิ นทางทางนํ ้ า แต่ ปั ญ หาใหม่ ก็
้ งเมาหนั ก ยิ่งนั ก แม้แต่ ดื่มนํ ้ าเปล่ า ยัง
ตามมา ท่ า นอาเมาเรือ ทังยั
อาเจียน โชคดีที่มีห มออยู่ บนเรือ ฝี มือการรักษาไม่อาจเทียบเท่ า
หมอหลิว่ แต่ดูแลอาการเมาเรือถูกลมต่างๆ ก็ยงั พอใช ้ได้


เสินหย่ ่ ้าแกงยาที่หมอสั่งให้ จึงดีขนเล็
าดืมนํ ึ ้ กน้อย เพียงแต่ใน
หนึ่ งวันยังต้องนอนอยู่บ นเตียงเป็ นส่วนใหญ่ ออกจากห้องใต้ทอ้ ง
เรือน้อยอย่างยิ่ง เหอหลินหลินที่เป็ นลูกสาวย่อมต้องเป็ นห่วงอย่าง
่ ด มักจะอยู่เป็ นเพือนในห้
ถึงทีสุ ่ องใต้ทอ้ งเรือ

“ท่ า นแม่ ท านบ๊ว ยดองผลไม้แ ช่ อิ่ มไปหลายลู ก แล ว้ ดี ขึ น



เล็กน้อย เย่ว ์กุ ้ยกําลังนวดศีรษะให้นางอยู่” เหอหลินหลินเดินมายืน

ขา้ งๆ เสินเวย ทอดสายตาไปไกลตามนาง รู ้สึกเพียงแค่ฟ้าดินกวา้ ง
ใหญ่ ทรวงอกก็กวา้ งโล่งไม่นอ้ ย

“ท่ านอาทานแล ว้ เดี๋ยวก็ ดีขึ น


้ อีก ไม่ ก ่ช ่ั
ี วยามพวกเราก็ จ ะถึ ง
ท่ า เรือทงโจวแล ว้ ถึง ตอนนั้ นพวกเราขึนฝั ้ ่ งไปกิน ข า้ วก่ อ น แล ว้

ค่อยไปซือของสวยๆ งามๆ หากท่านอากับน้องชอบพวกเราจะพัก
บนฝั่งสักคืนก็ย่อมได้” เสินเวยกล่
่ าว
ดวงตาแม่ นางน้อยเหอหลิน หลิน เป็ นประกายทันที “ดีจ ริง ๆ”
นางโตมาเพี ย งนี ้แต่ มีโ อกาสได้ออกจากเรือนหลังจวนตระกู ล เห
อน้อยอย่างถึงที่สุด เด็กผูห้ ญิงไหนเลยจะไม่ชอบเทียวเล่
่ ้ ท ี่
น ตังแต่
ออกจากเมื อ งอวิ๋นโจวดวงตาของนางก็ ท อดมองไปข า้ งนอกอยู่
บ่อยครัง้ แม้ว่าจะเป็ นเพียงต้นไม้ก็มองได้เนิ่ นนาน เสินหย่
่ าสงสาร
ลูกสาว จึงปล่อ ยนาง บางครังยั ้ งมองทิวทัศน์และสิงต่
่ างๆ ขา้ งทาง

เป็ นเพือนนาง

“คุณหนู คุณ หนู ข า้ ด้ว ย ขา้ ก็ อยากกินของอร่อยๆ” เถาฮวา


ไม่ รู ้ว่าโผล่มาจากไหน วิงเข่ า้ มาด้วยใบหน้า ที่ร ้อนใจ ราวกับกลัว

ว่าเสินเวยจะไม่ พานางไปด้วย


เสินเวยหลุ ดหัวเราะ “วางใจ ไม่ทงเจ ิ ้ า้ หรอก” กินขา้ วเช ้าเสร็จ
แล ว้ ก็ ไม่ เห็ น หัว คน ไม่ รู ้ว่ า วิ่งไปหลบที่ มุ ม ไหนแล ว้ ตอนนี ้ได้ยิ น

เรืองกิ ่
นก็ วิงมาเร็ ว อย่ างยิ่ง ไม่เสีย ชือที
่ ่เป็ นปรมาจารย ์จอมตะกละ
น้อย

เถาฮวาตะโกนอย่างดีใจ “คุณหนู ดีจริงๆ คุณหนู ดท ี่ ดเลย” มี


ี สุ
ความสุขราวกับเด็กตัวน้อยๆ
เสิ่นเวยมองลู ก ผู น
้ ้องและเถาฮวาที่ ยิมเหมื
้ อนดอกทานตะวัน
สองดอก ดวงตาของนางก็โค้งขึนมาเช่้ นกัน จิตใจผ่อนคลาย เบิก
บานมีความสุข สมกับทิวทัศน์ฤดูใบไม้ผลิทดี ่ี เช่นนี ้


เรือเทียบท่าแลว้ เสินเวยกั ่
บเหอหลินหลินช่วยกันพยุงเสินหย่ า
้ ่ ง เดิมเสิ่นหย่ า ไม่ อยากลงเรือ ร่างกายนางอ่ อนแอ ทังยั
ขึนฝั ้ งเมา
เรือ ถึ ง ฝั่ งแล ว้ จะต้อ งรบกวนหลานสาวและลู ก สาวแน่ นอน แต่
หลานสาวกับ ลู ก สาวต่ า งก็ ยื น กราน บอกว่ า ลงเรือ ไปเดิ น เล่ น
อารมณ์จะได้ดี จะได้ไม่รู ้สึกพะอืดพะอมอีก

เมืองทงโจวเป็ นเมืองที่ค่อนข า้ งเจริญ เสิ่นเวยเดินนํ า แถวคน


สิบกว่าคนอย่างยิ่งใหญ่ มีสาวใช ้มีแม่นม มีพ่อบา้ นมีเด็กรับใช ้ ซํา้

ยังมี องครัก ษ์ เพี ย งแค่ ดู จ ากเครืองแต่ ง กายและท่ า ทางก็ รู ้แล ว้ ว่ า

รํารวยสู ่
งส่ง เมือลงเรื
อก็ดงึ ดูดสายตาคนเดินถนนไม่นอ้ ย

เป็ นเวลาเที่ยงตรงพอดี พ่ อบา้ นรองนํ าเสินเวยและคนอื


่ นๆ่ ไป

ทานขา้ วทีเหลาสุ ่
ราซึงจองไว ก้ ่อนหน้านี ้

สือเหวยเทีย น (อาหารเทียมฟ้ า) อัก ษรตัวใหญ่ ท าสีท องสาม


ตัวส่องแสงประกายทองภายใต้แสงสะท้อนของดวงอาทิตย ์ ลักษณะ

การเขียนยิงใหญ่ มพ ้ งเรียบง่ายสามส่วน เสินเวยแอบชื
ี ลังทังยั ่ ่
นชม

ในใจว่าอักษรดี เพียงแค่เห็ นป้ ายร ้านนี เหลาสุ ้ ควรค่าให้
ราแห่งนี ก็

เขา้ ไปแลว้ เสินเวยอดมองพ่ ่
อบา้ นรองด้วยความชืนชมปราดหนึ ่ง
ไม่ได้

แม้ว่าสีหน้าพ่อบา้ นรองจะไม่แสดงอาการอะไร แต่ในใจกลับดี


ใจอย่างยิ่ง เดินนํ าทางด้วยความกระตือรือร ้น “กูไหน่ ไน คุณชายสี่
คุณหนู ญาติผน ้ ง เชิญขอรับ บ่าวจองห้องโยวหลานห้องส่วนตัวที่
ู้ อ
ั้
ชนสองไว แ้ ลว้ ขอรับ”

ห้องโยวหลานอยู่ ฝ่ ั งถนนพอดี เปิ ดหน้า ต่ า งออกก็ ม องเห็ น


ทัศนี ยภาพบนถนนได้ เหอหลินหลินวิงเข ่ า้ ไปอย่างดีใจ เกาะขอบ
หน้า ต่ างมองออกไปข า้ งนอก หลัง จากนั้นก็ ห น ั หน้ากลับมาเรีย ก
“ท่านแม่ ท่านพี่ รีบมาดูเร็ว ขา้ งล่างนี่ น่ าสนใจยิงนั
่ ก”

้ ่ ” เสิ่นหย่ ามองลู กสาวด้วยความเอ็ นดู “เจ า้ คิดว่ า


“เด็ กคนนี นี
ใครจะเหมื อ นเจ า้ ที่ เห็ น อะไรก็ แ ปลกใหม่ ไปหมด สตรีเกาะขอบ
หน้าต่างเหมือนอะไรดี รีบนั่งเร็วเขา้ ”


เสินเวยฝั ่ งนี ไล่
้ พ่อบา้ นรองออกไปแลว้ เดินเขา้ มายืนอยู่อีกฝั่ ง
้ บ
ของหน้า ต่า ง “ไม่เป็ นไร น้องยัง เล็ ก กฎมารยาทอะไรเหล่า นี กลั
เมืองหลวงไปแลว้ ค่อยเรียนก็ ยงั ไม่ สาย ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ คือทงโจว
ไม่มใี ครรู ้จักพวกเรา ให้นอ้ งได้ผ่อนคลายสักหน่ อยเถอะ”


เสินหย่ าไม่ยอมเอากฎระเบียบมาผูกตัวลูกสาว แต่อย่างไรเสีย
สังคมนี ก็ ้ โหดร ้ายกับสตรีเล็กน้อย กลับเมืองหลวงครังนี ้ ้ แม้จะบอก
ว่ากลับบา้ น แต่ชอเสี ่ื ยงทีหย่่ าร ้างไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ดี หลินเอ๋อร ์พ่อ
นางก็ เป็ นคนแบบนั้ น สายตาที่ คนทั่วไปมองหลิ น เอ๋ อ ร ์ก็ อ าจจะ
จุ ก จิ ก ยิ่ งขึ น
้ เพื่ อที่ หลิ น เอ๋ อ ร ์จะได้มี อ นาคตที่ ดี กฎระเบี ย บจึ ง
จําเป็ นต้องเขม้ งวด


แต่เห็ นรอยยิมบนหน้ าลูกสาวแลว้ หัวใจของเสินหย่ ่ าก็อ่อนลง
“เจ า้ เด็ ก คนนี ้เริงร่านั ก ลูก ผู พ
้ ี่เจ า้ เอ็ นดูเจ า้ ” ท้า ยที่สุ ด ก็ ไม่ ได้เอ่ ย

เรืองกฎระเบี ยบ

“ท่านพี่ ท่านดูนํ้าตาลปั้นรูปคนนั่นสิ เหมือนจริงๆ ท่านพี่ ท่าน


พี่ ทีแดงๆ
่ นั่นคือผลไม้เคลือบนํ ้าตาลใช่หรือไม่ มันมีรสเปรียวหรื้ อ

หวาน” เหอหลิ น หลิ น ชีไปบนถนนพู ด ไม่ ห ยุ ด ปาก ทั้ งใบหน้ า
่ นดีใจ
ตืนเต้
เสิ่นเวยอดยิมไม่
้ ได้ เด็ ก น้อยจริง ๆ เป็ นเด็ ก ที่ ทํ า ให้ค นเอ็ น ดู
อายุสิบสามแล ว้ ยังไม่เคยกินผลไม้เคลือบนํ ้ าตาล มิน่าเล่า ถึงได้ขี ้
สงสัยเพียงนี ้


“เหอฮวา เย่ ว ก์ ุ ย้ เจ า้ สองคนไปซือของที ่คุ ณ หนู ญ าติ ผู น
้ ้อ ง
ชอบมาให้ห มด” เสิ่นเวยสั่งโดยไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับ นางชอบ
ลูกผูน้ อ ้
้ งคนนี มากจริ งๆ หนึ่ งเพราะลูกผูน ้ สยั ไม่เลว ไม่ทํา
้ อ้ งคนนี นิ
ให้ค นรํา คาญ สองก็ คื อ ลู ก ผู น ้ ้ อ งคนนี ้ ถู ก ทรมานอยู่ ใ นตระกู ล
เหอจนเศร ้าซึมเล็ ก น้อย ไม่ เริงร่า มีช วี ิต ชีว าเหมือนเด็ ก ผู ห ้ ญิ งรุ น

ราวคราวเดียวกัน เผยนิ สยั ของเด็กผูห ้ ญิงที่ถูกกดเก็บไวเ้ นิ่ นนาน
เล็กน้อย นางก็ทําใจบีบบังคับไม่ได้

“ขอบคุ ณ เจ า้ ค่ ะท่ า นพี่” เหอหลินหลินแลบลิน


้ ท่ า ทางใสซือ

้ งมีความเกรงใจอยู่มาก
น่ ารัก ทังยั

เสิ่นเวยลู บศีรษะของนาง ส่ งรอยยิมปลอบใจให้้ นาง เสิ่นหย่ า



ปากก็ ตํ า หนิ แต่ ร อยยิ มบนใบหน้ า กลับ ไม่ หุ บ ลงเลย แม่ น มมั่วที่
้ งวดกับ กฎระเบี ย บที่ สุ ด ก็ ยื น อยู่ ข า้ งๆ อย่ า งสงบเสงี่ยม ทํ า
เข ม
เหมือนมองไม่เห็นอะไรทังสิ ้ น้ นี่ ทําให้เสินเวยรู
่ ้สึกพอใจมาก
สายลมเบาๆ พัดผ่านหน้า แม้แต่ในอากาศยังคลา้ ยมีหลินหอม ่
ของดอกไม้ใ นวสัน ตฤดู คุ ณ ชายวัย หนุ่ ม ผู ห้ นึ่ งกับ แม่ น างน่ ารัก
้ นึ่ ง ทังสองคนพู
อ่อนหวานผู ห ้ ด คุย กันอย่างสนิ ทชิด เชือ้ ภาพๆ นี ้

ตกอยู่ในสายตาของใครลว้ นแต่เป็ นภาพทีงดงามภาพหนึ ่ง

“นายท่ านสาม ท่ านมองอะไรหรือขอรับ ” บนเหลาสุราฝั่ งตรง


่ งเอวผูห้ นึ่ งขมวดคิวถามเจ
ขา้ มเด็กรับใช ้ทีโค้ ้ ้านาย

ชายวัยกลางคนที่ถู กเรีย กว่านายท่ านสามดู เหมือนอารมณ์ดี


้ ดพับได้ไปยังฝั่งตรงขา้ ม กล่าว “ดูคู่รกั คู่น้นสิ
ชีพั ั ”

เด็ กรับใช ้มองไปตามทิศทางที่ชี ้ กล่าวอย่ างยิมแย้


้ ม “บ่าวคิด
ว่าไม่เหมือนคู่รกั นะขอรับ กลับเหมือนพี่น้องคู่หนึ่ ง ท่านดู หน้าตา
ของพวกเขาคล า้ ยกัน เล็ ก น้ อ ย ไม่ รู ้เหมื อ นกัน ว่ า เป็ นคุ ณ ชาย
คุณหนู ตระกูลใด หน้าตาดีจริงๆ”

นายท่านสามตกตะลึง มองดูอย่างละเอียด อืม หน้าเหมือนกัน


เล็กน้อยจริงๆ “เอ้อร ์กุย้ เจา้ กลับตาดี ขา้ คุน
้ เคยกับเมืองทงโจว แต่
กลับไม่เคยเห็ นตระกูลใดมีบุตรที่โดดเด่นเพียงนี ้ คงจะผ่านทางมา
สินะ”
เอ้อ ร ์กุ ย้ เด็ ก รับ ใช ห้ ัว เราะแหะๆ สองครา “ไม่ ใ ช่ว่ า นายท่ า น
สอบมาดีหรอกหรือ” ประจบประแจงจนนายท่ านสามอารมณ์ดีย่ิง
กว่าเดิม


เอ้อร ์กุ ้ยลอบมองรอยยิมบนใบหน้ านายท่านอย่างระมัดระวัง จู่ๆ
ก็เกิดความคิดขึนมา ้ เขาเดินไปขา้ งหน้าสองกา้ วเบาๆ กล่าวเสียง
เบา “นายท่านสาม ในเมื่อพวกเขาผ่านทางมา เช่นนั้นพวกเรา…”
สองมือของเขาทําท่ากําราบ เจตนาไม่ตอ้ งบอกก็รู ้ “นายท่านสาม
บ่าวเห็ นว่าหน้าตาของคุณชายผูน ้ ้นคล
ั า้ ยโดดเด่นกว่าใคร ท่านว่า
หากส่งเขาไปให้เบืองบน ้ จะมีประโยชน์บา้ งหรือไม่ ถึงตอนนั้นนาย
ท่ า นใหญ่ น ายท่ า นรองพวกเขาก็ ไม่ มี คุ ณ สมบัติม าแข่ ง กับ ท่ า น
แลว้ ”

นายท่ านสามฟั งแล ว้ ก็ ใ จเต้น อืม เป็ นความคิดที่ไม่ เลวจริง ๆ


“เอาสิเจา้ หนุ่ ม ในที่สุดก็ มีอนาคตแลว้ เรืองนี
่ ้ า้ พาคนไปทําด้ว ย
เจ
่ าอะไรหลุดออกไปได้
ตัวเอง เก็บหางให้เรียบร ้อยอย่าให้มเี งือนงํ

“ขอรับ นายท่า นสามวางใจ บ่า วจัก ต้องจัดการให้เรีย บร ้อย”


่ นทังใบ
เอ้อร ์กุ ้ยถอยออกไปด้วยสีหน้าตืนเต้ ้
เหอหลิ น หลิน เห็ น ของที่ เหอฮวาเย่ ว ก์ ุ ย้ ซือมาก็
้ ดี ใ จอย่ า งยิ่ ง
หากไม่ ใ ช่เสิ่นเวยบอกว่ า กิน ข า้ วก่ อ น นางก็ ค งจะยัด ลู ก ซานจา
(พุทราจีน) สีแดงๆ นั้นเขา้ ไปในปากทันที

ทานขา้ วเทียงเสร็่ จแลว้ ความตืนเต้ ่ นของเหอหลินหลินก็ยงั คง


สูงอย่า งยิ่ง แต่ เสินเวยกลั
่ บเห็ นความเหนื่ อยลา้ บนใบหน้าท่ านอา
นาง คิ ด ครู ห่ นึ่ งแล ว้ จึง กล่ า ว “ท่ า นอา พวกเราไปพัก ที่ โรงเตี ยม


ก่อนดีกว่า” เสินหย่ าเองก็เหนื่ อยจริงๆ จึงไม่ได้ปฏิเสธ


โรงเตียมเองก็ มีพ่ อบา้ นรองเป็ นคนจอง ห่ า งจากเหลาสุร าไม่
ไกล เดินเพียงหนึ่ งเค่อก็ถึงแลว้ พ่อบา้ นรองจองเรือนข า้ งหลังเล็ ก
ไว ้ ไม่ใหญ่ แต่กลับได้ความเงียบสงบ

หลังจากที่เสิ่นหย่ าพัก ผ่ อนแล ว้ เหอหลินหลินก็ ย งั คงกะพริบ



ตาปริบๆ อยู่ขา้ งหลังเสินเวย แววตาเต็มไปด้วยความหวัง เสิ่นเวย
จะไม่ รู ้ความคิด ของนางได้อย่ า งไร สั่งแม่ น มมั่วหนึ่ งครา “ข า้ จะ
ออกไปเดินเล่ นเป็ นเพื่อนลู ก ผู น
้ ้อง กลับ มาท่ านอาตื่นแล ว้ ก็ บ อก
นางเสียหน่ อย ไม่ให้นางต้องเป็ นห่วง”

เหอหลินหลิ นได้ยิน ดังนั้ นดวงตาก็ โ ค้งขึ นอี


้ ก ครัง้ “ขอบคุ ณ
เจ ้าค่ะท่านพี”่

เสินเวยโบกมื อ ไม่เก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่นอ ้ ย อย่างไรเสียนาง
เองก็ เหนื่ อย ได้ถือโอกาสดู ว่า เมืองทงโจวแห่ ง นี ้มีข องอะไรให้ซ อื้
กลับ ไปบ า้ ง ออกมาเที่ยวนี ้ อย่างไรเสีย ก็ค วรนํ าของขวัญกลับไป
่ องทังหลายบ
ให้ญาติผใู ้ หญ่และพีน้ ้ า้ งไม่ใช่หรือ

้ า ลัง คนจํ านวนหนึ่ งไวใ้ นโรงเตียม


ทิงกํ ๊ คนที่ตามเสิ่นเวยออก
มามีเพียงโอวหยางไน่ กบ ั เหอฮวา นอกจากนี ยงั มีเด็กรับ ใช ้ที่ดูแล
่ ป าถะสองคน เถาฮวาเด็กคนนั้นกินอิมแล
เรืองจิ ่ ว้ ก็ นอนเหมือนกับ
หมู


เสินเวยพาเหอหลิ นหลินเดินไปพลางดูไปพลาง ซือของมาไม่้
น้อย ในมือเด็กรับใช ้ต่างก็ถอ ๊
ื ไม่ไหวแลว้ กลับโรงเตียมไปสองรอบ

แล ว้ แต่ ค วามต้องการซือของของเหอหลิ นหลินก็ ยงั ไม่ ล ดลงเลย
แม้แ ต่ น้อ ย เห็ น อะไรก็ ต าลุ ก วาวไปหมด เสิ่นเวยเองก็ ขี เกี ้ ย จจะ

เตือนนาง อย่างไรเสียก็ใช ้เงินเพียงไม่เท่าไร ถือเสียว่าซือความสุ ข
ให้นาง
ตอนที่ 199-2 คนไม่ดต
ู าม้าตาเรือระหว่างทางกลับเมืองหลวง

“คุณชาย เหมือนกับว่ามีคนตามพวกเราอยู่” ฉวยโอกาสตอนที่


คุณหนู ญาติผน ้
ู ้ อ้ งตังใจเลื ่
อกของ โอวหยางไน่ ก็กล่าวกับเสินเวยอ
ย่างรวดเร็ว

ี่
“มีกคน” ่
เสินเวยมองโอวหยางไน่ ถามเงียบๆ


“สองคน” โอวหยางไน่ ทํานิ วสองนิ ้ เสินเวย
วให้ ่ หลังจากนั้นก็เสริม
อีกหนึ่ งประโยค “ตังแต่
้ ทพวกเราออกจากเหลาสุ
่ี ราก็ตามมาแลว้ ”

นี่ ก็หมายความว่าจ ้องมองพวกนางมานานแลว้ สินะ “ดูคุณหนู ญาติ


่ ่งเป้ ามาทีนางจึ
ผูน้ อ้ งไว”้ สําหรับตัวนางเอง เหอๆ คนทีมุ ่ งจะเป็ น
พวกเบือชี ่ วต ่
ิ …รนหาทีตาย

“แขกทังสองท่ านโปรดรอสักครู ่ ผูจ้ ด
ั การร ้านของเราไปเอาสินค้า
้ าทีสุ
ลําค่ ่ ดในร ้านมาแลว้ ไม่อาจทําให้พวกท่านผิดหวังแน่ นอน”
เด็กในร ้านส่งชาเขา้ มาอย่างกระตือรือร ้น ท่าทางเคารพอย่างยิง่


เสินเวยไม่ ได้สนใจ โบกมือไล่เด็กในร ้านออกไป หากไม่ใช่ว่าเหอห
้ ย นางไหนเลยจะสนใจสินค้าลําค่
ลินหลินขีสงสั ้ าทีสุ่ ดในร ้านอะไร
นั่น ของดีๆ ใน**บเครืองประดั
่ บนางเยอะจะตายไป ไหนเลยจะ
้ าทีสุ
สนใจสินค้าลําค่ ่ ดของร ้านเครืองประดั
่ บแห่งนี ้ ในเมือลู
่ กผูน้ อ้ ง
สนใจ เช่นนั้นก็ดูสก
ั หน่ อยเถอะ ถือเสียว่าพักเท้า


เสินเวยยกแก ้วชาขึน้ เพิงจะจรดริ
่ มฝี ปากก็หยุดชะงัก ทันใดนั้นก็
กลับเป็ นปกติ เม้มปากเบาๆ หลังจากนั้นนางก็ใช ้ฝาแก ้วเกลียฟอง

ชา จากนั้นก็เม้มปากอีกครา หางตาของนางมองเห็นเด็กในร ้านที่
้ า้ ยถอนหายใจอย่างแรงคราหนึ่ ง จึง
ส่งชาเขา้ มาก่อนหน้านี คล
มั่นใจได้ว่าในนํ ้าชาผิดปกติจริงๆ

นางวางแก ้วชาลงด้วยสีหน้าเรียบเฉย แสร ้งมองไปรอบๆ ตาม


่ นชมทิ
อําเภอใจ อาศัยตอนทีชื่ วทัศน์ โยนถุงถักหนึ่ งใบตรงเอวลง
ไปเงียบๆ ในใจนางคิดคํานวณว่าน่ าจะเขา้ มาในร ้านมืดแลว้ หรือ

ว่าร ้านค้าแห่งนี จะเป็ นคนเดียวกับคนที่แกะรอยตามนางก่อนหน้านี ้

ขณะทีกํ่ าลังคิด ก็เห็นลูกผูน้ อ้ งเหอหลินหลินดึงชายเสือของนาง



เบาๆ กล่าวเสียงเล็ก “ท่านพี่ ขา้ ขา้ …” ใบหน้าของนางแดง
เล็กน้อย ขยับตัวอย่างไม่เป็ นธรรมชาติ


เสินเวยเข ่ นอยู่ขา้ งๆ “เหอฮวา พา
า้ ใจในทันที กล่าวกับเหอฮวาทียื
คุณหนู ญาติผูน้ อ้ งไปเขา้ ห้องนํ ้า”

่ั
ชวขณะเหอหลิ นหลินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ยิมให้ ้ เสินเวยอย่
่ าง
เคอะเขิน เดินตามเหอฮวาออกไป เสินเวยเห็่ นชาแก ้วนั้นของเหอห
ลินหลินหมดไปครึงหนึ่ ่ งแลว้ คิวก็
้ อดขมวดมุ่นไม่ได้ เสียดายเงียบๆ
ในใจ ตนสะเพร่าไป ควรจะให้เย่ว ์กุ ้ยตามไปมากกว่า ตัวนางเองไม่
กลัว แต่หากลูกผูน้ อ้ งเป็ นอะไรไป ท่านอาคงจะเป็ นกังวลแย่
่ ดเช่นนี ้ เสินเวยก็
เมือคิ ่ อยากลุกขึน้ เพิงจะลุ ่ ้ รู ้สึกมึนศีรษะพัก
กขึนก็
หนึ่ ง คลา้ ยกับยังได้ยน
ิ เสียงอุทานตกใจ นางมองไปทางเหอหลินห
ลินกับเหอฮวา มองเห็นเงาร่างทีคุ ่ น้ เคยกะพริบวาบ ด้วยเหตุนีเสิ้ น

เวยจึงกระโดดกลับไปทีเก ่ ้าอี ้ ศีรษะโอนเอนหลายครา ไม่ขยับแลว้

่ งนํ ้าชาก่อนหน้านี ก็
เด็กในร ้านทีส่ ้ วงเข
ิ่ า้ มาอย่างรวดเร็ว “คุณชาย
คุณชาย คุณชายตืน” ่ แต่ไม่ว่าเขาจะเขย่าอย่างไร คนผูน้ ี บนเก
้ ้าอี ้
ก็ยงั คงหายใจช ้ายาว หลับสนิ ทแลว้

หนึ่ งในเด็กในร ้านทังสองกล่


้ าว “ไม่ตอ้ งเขย่าแลว้ หมดสติไปนาน
แลว้ นี่ เป็ นของดีคุณภาพสูง ใช ้เพียงนิ ดเดียวก็สลบแลว้ เมือครู
่ ข
่ า้
เห็นเต็มๆ ตา เด็กคนนี ดื้ มไปสองอึ
่ กใหญ่” ในนํ ้าเสียงของคนผูน้ ี ้
พออกพอใจ

“เช่นนั้นยังจะรออะไร รีบพาคนไปเถอะ นายท่านยังรออยู่ ไม่รู ้


เหมือนกันว่าฝั่งนั้นจัดการได้แลว้ หรือยัง” เด็กในร ้านทีส่
่ งนํ ้าชา
กล่าวเสียงตํ่า
“ยังต้องคิดอีกหรือ เพียงแค่เด็กผูห้ ญิงสองคน ย่อมต้องจัดการได้
อยู่แลว้ ”


ทังสองมั ่
ดเสินเวย ่ งหนึ่ งด้วยความรวดเร็ว
พาออกไปยังทีแห่

ี่ ่ขา้ งล่างได้รบั ข่าวทีเสิ


โอวหยางไน่ ทอยู ่ นเวยส่
่ ิ่ นไปข
งมาก็วงขึ ้ า้ งบน

แต่น่าเสียดายทีสายไปแล ว้ ทันช่วยเพียงคุณหนู ญาติผูน้ อ ้ ง ส่วน
คุณหนู ของเขากับเหอฮวากลับหายไปไม่เห็นแม้แต่เงาแลว้

โอวหยางไน่ มองคุณหนู ญาติผูน ่ อยู่ในอ้อมอก คิว้


้ อ้ งทีหมดสติ
ขมวดเล็กน้อย ลังเลครูห่ นึ่ งยังคงตัดสินใจส่งคุณหนู ญาติผน ู ้ อ้ ง

กลับโรงเตียมก่ อนแลว้ ค่อยออกมาหาคุณหนู
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ภก ้ งความสามารถคุณหนู ของตน
ั ดี แต่เขารู ้ซึงถึ
คุณหนู ส่งข่าวให้เขาได้ เช่นนั้นก็จะต้องพบว่าผิดปกติก่อนแลว้
ภายใต้สถานการณ์ทคุ ี่ ณหนู เตรียมการไวแ้ ลว้ สามารถคํานวณได้
ว่าคนของนางไม่มจี ริงๆ คาดว่าคุณหนู น่าจะเกิดความคิด วางแผน
ซ ้อนแผนแฝงตัวเขา้ ไปในรังโจรของพวกเขาแลว้

เป็ นห่วงคุณหนู ไม่สูเ้ ป็ นห่วงคนไม่ดูตาม้าตาเรือพวกนั้น คุณหนู



เพียงแค่อยากทานขา้ วพักผ่อนทีทงโจวหนึ ่ งคืน ใครกันทีโชคดี
่ ดนั
มายุแหย่หญิงปี ศาจอย่างคุณหนู ของเขาผูน้ ี ้

โอวหยางไน่ เดาไม่ผด ิ เลยแม้แต่นอ้ ย ชาแก ้วนั้นเสินเวยดู


่ เหมือนดืม ่
ไปสองอึก อันทีจริ ่ งนางไม่ได้ดมแม้
ื่ แต่อก ้ งกินยาถอน
ึ เดียว อีกทังยั
พิษไปหนึ่ งเม็ดด้วยความระมัดระวังอย่างยิง่ ดังนั้นตังแต่ ้ ตน้ จนจบ

เสินเวยจึ งมีสติอยู่ตลอด นางเพียงแค่อยากดูว่าใครทีตาดี ่ เช่นนี ้

เหตุใดถึงเล็งเป้ ามาทีนาง คงไม่ใช่เห็นว่านางหน้าตาหล่อเหลา
อยากจับนางไปขายในทีแบบนั ่ ้นหรือ ไม่ได้สิ ตอนนี นางเป็
้ นลูก
ท่านหลานเธอ จะขายเป็ นนายโลมได้อย่างไร ให้ตายเถอะ ใครตา
ดีเช่นนี ้ มุมปากของเสินเวยกระตุ
่ กเล็กน้อย จู่ๆ ในใจก็เกิด
ความคิดแปลกประหลาด หากคุณชายสวีรู ้ว่ามีคนคิดจะขายนาง
ให้หอนายโลม จะขังนางไวใ้ นจวนไม่ให้ออกมา หรือว่าจะปาดคอ

คนทังหมดที ่ ่งร ้ายนาง ไม่รู ้เหมือนกันว่าคุณชายใหญ่สวีทปฏิ
มุ ี่ บ ต
ั ิ
่ ่ขา้ งนอกจะสบายดีหรือไม่ เหตุใดถึงมานั่งคิดถึงเขาได้
หน้าทีอยู

่ าลังนํ าคนเดินป่ าก็จามอย่างแรงสามครัง้ เขาลูบหูทเริ


สวีโย่วทีกํ ่ี ม่
ร ้อน ความรู ้สึกในใจแปลกประหลาดยิงนั ่ ก คงไม่ใช่ว่าน้องสีแซ่
่ เสิน ่
คนใจดําคนนั้นด่าเขาอีกแลว้ หรอกนะ

่ งกัน
ดูสิ อีกไม่นานก็จะเป็ นสามีภรรยากันแลว้ ไหนบอกว่าใจสือถึ
มิใช่หรือ ไปไหนแลว้ เล่า ไปไหนแลว้ ไปไหนแลว้ ใครอนุ ญาตให้
เจ ้าออกจากบา้ นกัน

โอวหยางไน่ อม ่
ุ ้ คุณหนู ญาติผูน้ อ้ งทีหมดสติ ๊
กลับไปถึงโรงเตียม
พ่อบา้ นรองตกใจแทบแย่ “คุณชาย คุณชายเล่า”

“คุณชายหายไปแลว้ ” โอวหยางไน่ ตอบอย่างตรงไปตรงมา



พ่อบา้ นรองตืนตระหนกในช ่ั
วขณะ “อะไรนะ หายไปแลว้ หรือ” เสียง
ของเขาขึนสู ้ งทันที “แลว้ เจ ้ายังไม่รบ
ี ไปหาอีกเล่า” ใครๆ ก็บอกว่า
คุณหนู สเก่ี่ งกาจ แต่ต่อให้เก่งกาจนางก็เป็ นสตรีเช่นกัน หาก
คุณหนู สเป็ี่ นอะไรไป นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวจะไม่ถลกหนังเขาหรือ อ้อ
ไม่ ไม่ตอ้ งให้นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวลงมือ เขาจะเอาหัวโขกจนตัวตาย
เอง

่ ไม่อยู่กบ
เทียบกับพ่อบา้ นรองทีสติ ้ บตัว โอวหยางไน่ ก็สงบสติ
ั เนื อกั
อารมณ์ได้มากแลว้ เขาเรียกเย่ว ์กุ ้ยกับเถาจือเขา้ มา “คุณหนู ญาติ
ผูน้ อ้ งเพียงแค่ถูกยาสลบ นอนพอแลว้ ย่อมฟื ้น เรืองนี
่ อย่
้ าได้ทําให้

กูไหน่ ไนตืนตกใจ บอกเพียงแค่คุณหนู ญาติผูน ้ อ้ งเหนื่ อยจึงมาพัก
ก่อน ขา้ จะไปหาคุณหนู พวกเจ ้าสองคนกับแม่นมมั่วดูแลกูไหน่ ไน
กับคุณหนู ญาติผูน้ อ้ งให้ด”ี

เย่ว ์กุ ้ยกับเถาจือไม่เห็ นคุณหนู ของตนแม้ว่าจะเป็ นกังวลอย่างถึง


่ ด แต่กลับไม่มท
ทีสุ ี างเป็ นเหมือนพ่อบา้ นรอง พวกนางต่างก็เคย
เห็นความสามารถของคุณหนู ดว้ ยตาตัวเองแลว้ แม้แต่มือสังหารยัง
ทําอะไรนางไม่ได้ นับประสาอะไรกับโจรกระจอก สําหรับเหอฮวา
ไม่ใช่ว่าพวกนางไม่เป็ นห่วง แต่ก็ทราบดีว่า ขอเพียงแค่คุณหนู ไม่
่ นแน่
เป็ นอะไร เหอฮวาก็ไม่อาจเกิดเรืองขึ ้ นอน


เสินเวยถู กคนแบกไปก่อน หลังจากนั้นก็โยนขึนไปบนรถม้
้ า รถม้า
แข็งอย่างยิง่ คนทีแบกนางไม่
่ ทะนุ ถนอมเลยแม้แต่นอ้ ย โยนนางขึน้
ไปตรงๆ เจ็บจนนางเกือบจะแสร ้งต่อไม่ได้ ให้ตายเถอะ อย่างไรเสีย

เจ ้าก็วางเบาๆ หน่ อยไม่ได้หรือ ไม่ใช่ว่าพวกเจ ้าชอบเนื อหนั งของ
ขา้ หรือไร หากผิวเป็ นรอยขีดข่วน ดูสวิ ่าพวกเจ ้าจะบอกนาย
อย่างไร หึๆ


เสินเวยกั ๋
ดฟันบ่นในใจ สาบานเงียบๆ ว่าอีกประเดียวจะต้
องเอาคืน

คนทีโยนนางผู น้ ั้น


รถม้าเคลือนตั ี ไม่ร ้อน หลังจากนั้นก็หยุดลง ต่อมาก็มี
วอย่างไม่รบ

คนแบกเสินเวยออกมา โยนเขา้ ไปในห้องๆ หนึ่ ง

เสินเวยลื ้ กน้อย เห็นว่าฟางบนพืนยั
มตาขึนเล็ ้ งมีเด็กหนุ่ มผูห้ นึ่ ง
นอนอยู่ กําลังหมดสติ เขาหันหลังให้เสินเวย่ มองไม่เห็นว่าเขา
หน้าตาเช่นไร แต่ดูจากเสือผ้ ้ าทีเขาใส่
่ และปิ่ นที่รวบผม เด็กหนุ่ ม
คนนี น่้ าจะมีฐานะไม่ตํ่าต้อย ไม่ใช่คุณชายตระกูลขุนนาง ก็เป็ น
บุตรในตระกูลทีรํ่ ารวย


เสินเวยเพิ ่
งจะลุ ้
กขึนขยั
บเท้าเล็กน้อย ก็ได้ยน
ิ เสียงเท้าดังเขา้ มา
นางนอนลงแกลง้ ตายทันที

ประตูเปิ ดออก อีกคนผนึ่ งถูกโยนเขา้ มา หลังจากนั้นเสินเวยก็ ่ ได้


ยินพวกเขาพูด “เหตุใดถึงโยนสตรีผน ้ ใ้ นห้องนี เล่
ู ้ ี ไว ้ า”

อีกคนหนึ่ งกล่าว “จับผิดคนแลว้ นี่ มันสาวใช ้ วางไวไ้ หนก็


เหมือนกันมิใช่หรือ”

เสินเวยใจเต้ น สาวใช ้หรือ หรือว่าจะเป็ นเหอฮวา เช่นนั้นดูท่าแลว้
ลูกผูน้ อ้ งจะถูกโอวหยางไน่ ชว่ ยไวแ้ ลว้ นางถอนหายใจอย่างอด
ไม่ได้ ลูกผูน ้ อ้ งไม่เป็ นอะไรก็ดี มิเช่นนั้นนางคงจะไม่มห
ี น้าไปเจอ
ท่านอาแลว้ จริงๆ

“ใครสนว่านางจะเป็ นสาวใช ้หรือคุณหนู ขอเพียงแค่หน้าตาดีก็


พอแลว้ อย่างไรเสียพวกเราก็รบั เงินจากหน้าตา ยิงไปกว่่ านั้นบน
้ ไม่ได้เขียนอะไรไว ้ เปลียนเสื
หน้าของคุณหนู สาวใช ้ผูน้ ี ก็ ่ ้ า ใคร
อผ้
่ อนนางเป็ นใคร”
จะรู ้ว่าเมือก่

“นั่นก็ถูก คนผูน้ ี เจ
้ ้าต้องดูให้ดี คนผูน
้ ั้นก่อนหน้านี เป็
้ นของดี ไม่
อาจให้เป็ นอะไรไปได้”


“เหอะ ดูนอ้ งพูดเขา้ ขา้ ทําหน้าทีบกพร่ ้ เมือไรกั
องตังแต่ ่ น วางใจ

เถอะ เพียงแค่ลูกท่านหลานเธอไร ้เรียวแรงเป็ นไก่อ่อน แม้เจ ้าจะให้

เขาวิงเขาจะวิ ่
งไปไหนได้ นับประสาอะไรกับหมดสติ ขา้ ว่าไม่ถงึ
้ ้าก็คงไม่ตนขึ
พรุง่ นี เช ื่ นมาหรอก”

“พอแลว้ ขา้ ไปแลว้ อย่างไรเสียเจ ้าก็ระมัดระวังหน่ อยแลว้ กัน หาก

เกิดเรืองจริ ้ ใช่สงที
งๆ ผลลัพธ ์หลังจากนี ไม่ ิ่ เจ
่ ้าขา้ จะแบกรับได้”
ตอนที่ 200-1 เล่นหยอกลอ้ ในคฤหาสน์ระหว่างทางกลับเมืองหลวง

เสินเวยได้ ยน ิ เสียงฝี เท้าค่อยๆ ไกลออกไป จึงลืมตาขึน้ นางมองไป
ขา้ งๆ เอ๋ เป็ นเหอฮวาจริงๆ ด้วย กําลังปิ ดตานอนหลับสนิ ทอยู่
เหอฮวาไม่ได้ดืมชาที่ ่
วางยา ดูท่าแลว้ น่ าจะถูกคนตีสลบ

่ เสินเวยผลั
“เหอฮวา ตืน” ่ กเหอฮวาเรียกเสียงเบา


ครูใ่ หญ่เหอฮวาเพิงจะลื ้ ้าๆ แวบแรกที่เห็นคุณหนู ของตน
มตาขึนช

นางทังตกใจทั ้ ใจ “คุณ…” ทันใดนั้นก็คลา้ ยตระหนักอะไรได้จงึ
งดี

รีบปิ ดปากทันที เหลือเพียงสายตาทีประหลาดใจคู ่หนึ่ ง


เสินเวยทํ าท่า ‘ชูว่ ’ ให้นาง เหอฮวาพยักหน้าอย่างเขา้ ใจ “คุณชาย
ท่านไม่เป็ นไรใช่หรือไม่ ร ้านค้าแห่งนั้นเป็ นร ้านมืด คุณหนู ญาติผู ้
น้องถูกอาจารย ์โอวหยางช่วยไว”้ เหอฮวากล่าวเสียงเบา นางมอง
ไปรอบด้าน “คุณชาย ทีนี ่ ่ คือทีไหน”
่ เมื่อเห็นคุณหนู ของตน หัวใจ
นางก็สงลบลง มีคุณหนู ของนางอยู่ พวกนางจะต้องไม่เป็ นอะไร
แน่ นอน

เสินเวยส่ ่ ่ มันทีบ
ายหน้า “ไม่รู ้” ใครจะรู ้ว่าทีนี ่ า้ อะไรกัน นางลุกขึน้

ยืนเดินไปขา้ งๆ ประตู เสินเวยรวบรวมสติ คลา้ ยกําลังครุน
่ คิด

้ งมีอก
“คุณชาย ตรงนี ยั ี หนึ่ งคน” เมือครู
่ เ่ อาแต่ตกใจ เหอฮวาเพิงจะ่
เห็นว่าในห้องนอกจากพวกนางนายบ่าวแลว้ ยังมีอก ี หนึ่ งคน ดูจาก
การแต่งตัวเหมือนคุณชายตระกูลใหญ่


เสินเวยพยักหน้า เดินเขา้ ไปกล่าวเสียงเบา “เหมือนพวกเรา น่ าจะ
ถูกจับตัวมา”

“เช่นนั้น?” เหอฮวาตาลุกวาว มองคนผูน้ ั้นทีนอนอยู


่ ่ขา้ งๆ จากนั้น
จึงมองคุณหนู ของตน

เสินเวยเข า้ ใจเจตนาของเหอฮวา แต่นางยังคงส่ายหน้า “ไม่ควร”

เหอฮวาใจอ่อน แต่นางกลับใจอ่อนไม่ได้ ใครจะรู ้ว่าคนผูน้ ี นิ ้ สยั เป็ น


เช่นไร หากว่าไม่ใช่คนทีจิ ่ ตใจแข็งแกร่ง ปลุกเขาตืนแล ่ ว้ ร ้องไห้

งอแงขึนมา ไม่ใช่วา่ จะเป็ นภาระนางหรือไร ไม่สป ู ้ ล่อยให้เขาสลบ
ไปก็หมดเรือง่ อีกทังจากบทสนทนาของทั
้ ้
งสองคนเมื ่
อครู ก
่ ็ได้รู ้ว่า

ยาสลบทีพวกเขาใช ้
้แรงมากเป็ นพิเศษ ตอนนี คนตื ่ อนเวลาจะ
นก่
เป็ นอะไรหรือไม่ ทําให้พวกเขาเกิดความสงสัยก็ไม่ใช่เรืองดี ่


ความคิดทีอดไม่ ได้ในใจเหอฮวาก็ผ่านมาเพียงแวบเดียว ในเมือ ่

คุณหนู บอกว่าไม่ควร นางก็เปลียนความสนใจทั นที “คุณชาย

ตอนนี พวกเราจะทํ าอย่างไรดี” เหอฮวากังวลเล็กน้อย นางดีใจทีคน ่
่ กจับตัวเป็ นตน หากว่าเป็ นคุณหนู ญาติผน
ทีถู ู้ อ
้ ง กูไหน่ ไนจะไม่
้ งหงุ ดหงิดตัวเองทีไม่
เป็ นกังวลแย่หรือ ซํายั ่ สามารถวิงให้่ เร็วกว่านี ้
่ วกว่านี ้ อาจารย ์โอวหยางก็สามารถช่วย
ได้ ขอเพียงแค่นางวิงเร็
นางไปพร ้อมกันได้แลว้ จะได้ลดภาระคุณหนู ในตอนนี ้
สําหรับความคิดโง่เขลาเช่นการเสียงอั ่ นตรายเป็ นเพือนคุ
่ ณหนู นาง
้ ครังก่
ไม่มเี ลยแม้แต่นิดเดียว ตังแต่ ้ อนที่ผ่านการลอบสังหารที่
้ นพวกนางก็มค
หมู่บา้ น สาวใช ้ขา้ งกายคุณหนู เหล่านี เช่ ี วาม
คิดเห็นตรงกัน นั่นก็คอ ่
ื เมือเจออั นตรายจะต้องคิดหาวิธปี กป้ อง
่ า้ ไปหาคมดาบ ไม่มพ
ตัวเองให้ได้ อย่าได้อวดเก่งวิงเข ี วกนางเป็ น
ตัวถ่วง คุณหนู จะหลบหนี ได้ง่ายอย่างยิง่ ส่วนการรับดาบรับกระบี่
แทนคุณหนู เหอๆ รู ้ตัวบา้ งก็ดี คุณหนู ของพวกนางไม่ตอ้ งการ
้ ง
อย่างสินเชิ


เสินเวยครุ น ่ นึ่ ง หลังจากนั้นก็ก ้มลงกระซิบขา้ งหูเหอฮวา
่ คิดครูห
หลายประโยค เหอฮวาพยักหน้าอย่างหนักแน่ น “คุณชาย บ่าว
ทราบแลว้ ”


เสินเวยกระตุ กมุมปากนอนลงบนฟางแกลง้ ตายต่อ ในห้องมีเสียง
ร ้องตกใจของเหอฮวาดังขึน้ “คุณชาย คุณชาย ท่านเป็ นอะไรไป
รีบฟื ้นสิ ทีนี
่ ่ ทีไหน
่ ใครก็ได้ รีบมาช่วยที มีคนอยู่หรือไม่” เหอฮวา

โผเขา้ ไปทีประตู ออกแรงทุบตี

การเคลือนไหวใหญ่ อย่างยิง่ คนทีคุ
่ มพวกนางอยู่ย่อมได้ยินแลว้
เดินสถบเขา้ มา “โวยวาย โวยวายอะไร เงียบหน่ อยยังเหลืออีก
หลายวัน มิเช่นนั้นแลว้ ล่ะก็ หึๆ”

ทว่าเหอฮวากลับไม่กลัว ทุบประตูตะโกนต่อ “มีคนอยู่หรือไม่ รีบ



เปิ ดประตู คุณชายขา้ เกิดเรืองแล ื่ หมอ รีบ
ว้ เหตุใดถึงเรียกไม่ตน
ไปเชิญหมอมาให้คุณชายของขา้ ”


คนคุมนึ กสนุ กขึนมาในช ่ั
วขณะ เสียงดังปังเปิ ดประตูออก เขาเห็น
เหอฮวาทีล ่ ม้ นั่งอยู่บนพืนตื
้ นตระหนกจนทํ
่ าอะไรไม่ถูก อารมณ์ก็ดี
อย่างยิง่

้ อึงๆ
เหอฮวาราวกับถูกทําให้ตกใจ ลูกตาหดเล็ก กล่าวอําๆ ้ “ค…
ื่
คุณชายช ้าของขา้ เรียก…เรียกไม่ตน”
ื่ ถูกแลว้ นี่ มันยาสลบทีซื
“เรียกไม่ตนก็ ่ อมาด้
้ วยเงินก ้อนใหญ่

พอแลว้ ในเมือมาถึ งตรงนี แล ้ ว้ ก็อยู่ให้มน
ั นิ่ งๆ หน่ อย พรุง่ นี เช
้ ้า
ื่
คุณชายเจ ้าก็ตนแล ว้ ” คนคุมยื่นมือคิดจะจับใบหน้าเล็กๆ ของ
เหอฮวา

เหอฮวาแสร ้งทําเป็ นตกใจ ถอนหลังไปหนึ่ งก ้าวอย่างรวดเร็ว มือที่


น่ าเกลียดขา้ งนั้นก็ตกลงในความว่างเปล่า

่ มตาเล็กน้อย มองเห็นคนผูน้ ี รู้ ปร่างสูงใหญ่ อายุประมาณ


เสินเวยลื
สามสิบปี ใบหน้าขา้ งขวามีปานดําขนาดไม่เล็กหนึ่ งแห่ง

คนผูน้ ้ันเองก็ไม่ได้หงุ ดหงิด “ไอหยา เด็กน้อยนิ สยั แข็งกร ้าวใช ้ได้


เลย หงกูของพวกเราชอบจัดการสตรีแบบนี ที ้ สุ
่ ดเลย” เขาหันหลัง
กลับเตรียมจะลงกลอนประตู
่ ชาย”
“พี…พี ่ ชายมีปานหันหน้ากลับมา เห็นเด็กผูห้ ญิงมองเขา
อย่างน่ าสงสาร มือเล็กๆ ดึงชายกางเกงของเขาอยู่ “ว่ามา มีอะไร”

เหอฮวาได้ยน ิ ดังนั้นก็เหมือนกระต่ายน้อยทีตกใจ
่ ่ บชาย
มือทีจั

กางเกงก็ปล่อยออกทันที ดวงหน้าทีงดงามแดงกํ ่าอย่างขลาดกลัว
“ขา้ …ขา้ อยาก…” นางกุมท้องน้อย ท่าทางเขินอายแทบตาย

“พีชายช่ วยพาไปทําธุระหน่ อย”

ชายมีปานเขา้ ใจในใจ สีหน้าลังเลหลายส่วน “เจ ้าจัดการในห้อง


้ ่งไวแ้ ลว้ ให้เขาดูให้ดี ห้ามให้คนออกจากห้อง
เอาเถอะ” เบืองบนสั


“แต่…แต่ว่า…” เหอฮวาหันหน้ามองคนทังสองที่
นอนอยู ่บนพืน้
่ าเดิม “พีชายช่
หน้าแดงยิงกว่ ่ วยทีเถอะ” บนใบหน้างดงามเต็มไป
ด้วยการร ้องขอ
ชายมีปานยังคงใจอ่อนเล็กน้อยจริงๆ “ก็ได้ๆ เจา้ รีบออกมา พวก

เจ ้าตระกูลใหญ่โตเช่นนี แหกกฎเยอะ ขา้ จะบอกอะไรเจ ้าให้ ทําตัว
่ ตย ์หน่ อย ห้ามมองไปรอบด้าน ได้ยน
คล่องแคล่วหน่ อย ซือสั ิ

หรือไม่” เพียงแค่เด็กผูห้ ญิง จะเกิดเรืองอะไรได้

บนใบหน้าเหอฮวาเต็มไปด้วยความรีบร ้อน “ขอบคุณพีชาย ่ ่


พีชาย
เป็ นคนดีจริงๆ” นางกุมท้องน้อยมือหนึ่ ง อีกมือหนึ่ งยันพืนคลาน


ขึนมา


ชายมีปานมีความสุขแลว้ “ใช่ๆ พีชายเป็ ๋
นคนดี เดียวเจ ้าก็รู ้”

เหอฮวาเดินก ้มหน้าก ้มตาตามหลังคนผูน้ ี ้ ดูเหมือนซือสั


่ ตย ์ อันที่

จริงหางตากลับมองประเมินการตกแต่งทีงามประณี ตในลานบา้ นไม่
หยุด จําไวใ้ นใจเงียบๆ
“เอาล่ะ นั่นคือห้องนํ ้า เจ ้าเขา้ ไปเถอะ” ชายมีปานชี ้ เห็นเหอฮวา
เขา้ ไปแลว้ ตนก็เฝ้ าอยู่ขา้ งนอก ได้ยน ิ เสียงนํ ้าติงๆ
๋ ขา้ งในเขาก็
แสยะปากหัวเราะหึๆ หลายครา ความอดทนเพิมมากขึ ่ ้
นอย่ างไม่
เคยเป็ นมาก่อน


“พ…พีชาย” ่
ในขณะทีชายมี ิ เสียงที่
ปานคิดไปไกล จู่ๆ ก็ได้ยน
ขลาดกลัวของเด็กผูห้ ญิงดังออกมาจากขา้ งใน

“มีอะไรอีก” ชายมีปานปากพูดอย่างหงุ ดหงิด แต่ในใจกลับรู ้สึก


สบายอารมณ์อย่างยิง่

ในห้องนํ ้าเกิดความเงียบ เด็กผูห้ ญิงคลา้ ยถูกทําให้ตกใจ “มีเรือง



อะไรกันแน่ รีบพูด ชกั ช ้าอยู่ไย” ชายมีปานเร่งรัด
เสียงเบาๆ ของเหอฮวาจึงดังขึนมา้ ่ ชาย
“พี…พี่ ช่วยหยิบกระดาษ
ฟางให้ขา้ หน่ อยได้หรือไม่” เสียงสั่นเครือ ประหนึ่ งจะร ้องไห้ออก
มาแลว้

่ ยงนั้น” ชายมีปานหงุ ดหงิดแลว้


“เหตุใดเจ ้าถึงเรืองเยอะเพี


“พีชายช่ ่
วยหน่ อยเถอะ พ…พีชายคนดี
ของขา้ ” เหอฮวาร ้องขอต่อ

ชายมีปานไม่ยอมก่อน แต่ทนการร ้องขอของเหอฮวาไม่ไหว เกิด


ความคิดว่า เด็กน้อยไม่กลา้ ออกมา กระดาษฟางก็ยงั ต้องให้ตนส่ง
เขา้ ไปให้ เช่นนั้นตนก็สามารถ… “ก็ได้ ใครให้พชายใจอ่
ี่ อนเล่า รอ
ก่อน”

่ บหลังหัน มือทีว่่ องไวหนึ่ งคู่ก็สบ


เขาเพิงจะกลั ั ลงบนคอเขาทันที
ความตกใจกลัวยังคงอยู่ในดวงตาเขาก็ไปเขา้ เฝ้ าพญายมแลว้

“เหอฮวา” เสินเวยที
จั่ ดการชายมีปานเสร็จแลว้ ก็กล่าวเรียกเสียง
เบา

เหอฮวาขา้ งในห้องนํ ้าก็แทรกตัวออกมาทันที “คุณชาย ท่าน


ออกมาได้อย่างไร แลว้ เขาเป็ นใคร เหอฮวามองชายมีปานทีล ่ ม้ ลง

บนพืนปราดหนึ ่ ง จากนั้นก็เห็นว่าขา้ งกายคุณหนู ยงั มีคุณชายวัย
หนุ่ มผูห้ นึ่ งยืนอยู่ดว้ ย ชวขณะก็
่ั ื่ วขึนมา
ตนตั ้

“เป็ นคนเดียวกับคนทีถู ่ กขังอยู่กบ ่


ั พวกเรา” เสินเวยกล่ าวด้วย
นํ ้าเสียงไม่ค่อยดีนัก “ทําตามทีบอกไว
่ ๋
้ อีกประเดียวเจ ้ากลับไปที่
ห้องนั้น แลว้ ก็ซอ่ นตัว อืม ไปซ่อนใต้เตียง” นางจําได้ว่ามุมห้อง
ห้องนั้นมีเตียงเก่าๆ อยู่ตวั หนึ่ ง

“เจ ้าค่ะ บ่าวทราบแลว้ ” เหอฮวาพยักหน้า วิงออกไปไกลอย่ าง
รวดเร็ว ผ่านการลอบสังหารครังนั ้ ้นมา แม้เหอฮวาจะฝึ กร่างกาย
ให้คล่อแคล่วเท่าเย่ว ์กุ ้ยไม่ได้ แต่ก็เก่งกว่าคนทั่วไปไม่นอ้ ยแลว้

มองแผ่นหลังทีวิ่ งออกไปไกลของเหอฮวา
่ ่
เสินเวยก็ หน
ั หน้ากลับมา
่ าประตูเรือน ทําท่าทางให้เหมือน
กล่าว “เจ ้า แบกเขาไปทีหน้
สัปหงก”


คุณชายทีตามเสิ ่
นเวยออกมาผู น้ ั้นชีจมู
้ กตัวเอง “ขา้ หรือ” ท่าทาง
เหลือเชือ่ “พีชายท่
่ านนี ้ ขา้ น้อยร่างกายอ่อนแอ จะแบกรับหน้าทีที ่ ่
้ อย่างไร คุณชายทําเองเถิด”
หนักเพียงนี ได้


เสินเวยมองประเมิ ้ ศรี ษะจรดปลายเท้าอย่างเย็นชาปราด
นเขาตังแต่
หนึ่ ง มุมปากยกขึน้ “เจ ้าจะไม่ทําก็ได้” รอยยิมบนใบหน้
้ าคุณชาย
ป่ าวประกาศว่าตนอ่อนแอเพิงจะยิ ่ ้
มไปได้ ่ ยว ก็ได้ยน
ครึงเดี ิ ประโยค

ถัดไปของเสินเวย ๋
“อีกประเดียวปลุ ่ อในลานบา้ นแห่งนี ้
กคนทีเหลื
จนแตกตืน ่ ก็ไม่รู ้ว่าพีชายที
่ ร่่ างกายอ่อนแอผูน้ ี จะหนี
้ ออกมาอย่าง

ปลอดภัยได้หรือไม่” เสินเวยแสร ้งทําท่าทีจะเดินหนี ท่าทางไม่ยุ่ง

เรืองของคนอื ่ ดขาด
นเด็


“ช ้าก่อนๆ พีชายอย่ ่
าเพิงไป อย่างไรเสียพวกเราก็ผ่านหายนะมา

ด้วยกัน พีชายจะทิ ้ า้ น้อยไวค้ นเดียวได้อย่างไร” คุณชายอ่อนแอ
งข
ตะโกนกล่าวอย่างลนลาน เสินเวยเห็ ่ ่
นสัญญาณทีลอยขึ ้ าไม่
นฟ้
่ น้
ไกล ฝี เท้าก็ก ้าวเร็วยิงขึ

คุณชายอ่อนแอผูน ้ ั้นเห็นเสินเวยใจแข็
่ งไม่สนใจเขา ก็จ ้องมองชาย

ฉกรรจ ์ทีนอนอยู ่บนพืน้ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ แต่
กลับทําได้เพียงก ้มตัวลงไปแบกคนขึนมา ้ เดินไปพลางส่ายหน้าไป
พลางทอดถอนใจ “ใจคนยากแท้หยั่งถึง ยากแท้หยั่งถึง”


หางตาของเสินเวยเห็ นฉากๆ นี ้ ในใจก็แค่นเสียงอย่างเย็นชา มือ
ขา้ งหนึ่ งยกชายฉกรรจ ์ร่างใหญ่ขนมา
ึ้ ่ นก็ยงั สบาย
ระหว่างทีเดิ
่ ด ร่างกายอ่อนแอบา้ อะไร นี่ มันเจ ้านายทีทํ
อารมณ์อย่างถึงทีสุ ่ าตัว
่ นแมวนอนหวด ไม่คด
ซือเป็ ่
ิ จริงๆ ว่าเสินเวยจะมี วน ่
ั ทีมองพลาดไป

ก่อนหน้านี ชายมี ่
ปานกับเหอฮวาออกไป เสินเวยก็ ้
ตะกายขึนมา
กําลังจะใช ้ปิ่ นงัดกลอนออกก็รู ้สึกว่าไหล่ถูกตบ เสินเวยไม่
่ แม้แต่จะ
คิดก็จบั มือขา้ งนั้นบนไหล่ไว ้ ร่างถอยไปอย่างรวดเร็ว ปิ่ นในมืออีก
ขา้ งหนึ่ งก็แทงออกไป

“ช ้าก่อนๆๆ อย่าใจร ้อน ขา้ เอง” คนผูน้ ั้นพลางไอพลางหลบอย่าง


จนตรอก


แม้เสินเวยจะหยุ ่ วขึนมา
ดจู่โจม แต่ในใจกลับตืนตั ้ ้
คนผูน้ ี สามารถ
่ ตอ้ งเอ่ย
มายืนอยู่ขา้ งหลังนางเงียบๆ ได้ก็ทําให้นางตกใจแลว้ ยิงไม่

ถึงทีเขาหลบการจู ่โจมของนางได้ ดูเหมือนจนตรอก แต่ในความ
จนตรอกกลับค่อนขา้ งมีลําดับขันตอน้ ้ นศัตรูหาใช่
หากคนผูน้ ี เป็
มิตร เช่นนั้นผลลัพธ ์เล่า เสินเวยคิ
่ ดแลว้ ก็ยงั หวาดกลัวอยู่พก ั หนึ่ ง

คนผูน้ ้ันเห็นท่าทีระมัดระวังตัวของเสินเวย
่ จึงถือโอกาสนั่งลงบน
พืน้ ปากก็บ่นอย่างไม่พอใจ “ขา้ ว่าพีชายผู
่ ้ ใจร ้ายเกินไปหน่ อย
น้ ี ก็

แลว้ กระมัง หากไม่ใช่ว่าขา้ น้อยโชคดี เมือครู ท
่ ่านก็คงจะทําลาย
ใบหน้าอันงดงามของขา้ น้อยแลว้ ต่อให้เคียดแค้นมากเพียงใด

อย่างไรเสียตอนนี พวกเราก็ ลงเรือลําเดียวกันแลว้ ” เขาลูบหน้า
ตัวเอง ท่าทางหลงตัวเองอย่างยิง่


เสินเวยกระตุ กมุมปาก กล่าวในใจ หากคนผูน้ ี ไม่ ้ ใช่คนโง่ เช่นนั้นก็
เป็ นคนยากแท้หยั่งถึง นางจ ้องมองเขาอยู่นานจึงเก็บปิ่ นแลว้ เดิน
ออกไปนอกประตู ใครจะรู ้คนผูน ้ ั้นขา้ งหลังกลับตามมาด้วย
ตอนที่ 200-2 เล่นหยอกล้อในคฤหาสน์ ระหว่ างทางกลับเมืองหลวง

“คุณชาย คุณชาย ส่ ง สัญญาณแล้ว ” เหอฮวาวิ่ง หอบกลับมา นาง


กาลังจะกลับไปที่ห้องนั้น ถูกเสิ่ นเวยห้ามไว้ “ไม่ตอ้ งไปแล้ว เจ้า
ตามข้าไปแล้วกัน” ไม่ได้ออกจากเรื อน แต่ดึงเหอฮวาหลบเข้าไปใน
ภูเขาจาลอง

ทหารลับที่ตามหาคนในเมืองทงโจวเห็นพลุสัญญาณที่ลอยขึ้นฟ้า
ทางทิศตะวันออกเฉี ยงใต้ ทั้งหมดก็กม้ หน้าก้มตาวิ่งไปยังทิศทาง
นั้น อย่า งรวดเร็ ว โอวหยางไน่ ไ ต่ ส วนเด็ก ในร้ า นค้า แห่ ง นั้นได้
ครึ่ งหนึ่ง เห็นสัญญาณนั้นจากนอกหน้าต่าง ก็ถือโอกาสผลักเด็กใน
ร้านแล้วจึงวิง่ พุง่ ออกไป หัวใจก็วางลงกว่าครึ่ ง

พลุสัญญาณนั้นไม่เพียงแต่มีโอวหยางไน่ และทหารลับที่มองเห็น
แล้ว คนจานวนหนึ่ ง ในเมื อ งทงโจวก็มองเห็ นแล้วเช่ นกัน คนที่
คุน้ เคยตาแหน่ งนั้นจานวนหนึ่ งชั่วขณะสายตาก็เฉี ยบแหลม “แย่
แล้ว คฤหาสน์เกิดเรื่ องแล้ว รี บนากาลังคนไป”
ส่ วนคนที่คนุ ้ เคยตาแหน่งนั้นอีกจานวนหนึ่งก็หวั เราะบนความทุกข์
ของผูอ้ ื่น “เหอะๆ คราวนี้ หมิ่นเหล่าซานเจอตัวฉกาจเข้าให้แล้ว ”
ศรสัญญาณยิงออกไป สหายหมื่นพันก็ปรี่ ไปช่วย คนทัว่ ไปไหนเลย
จะมีของชนิ ดนั้น อยากจะเห็นหมิ่นเหล่าซานล้มยิ่งนัก กาแหง ให้
เจ้ากาแหงไป สักวันก็ตอ้ งมีคนมาเก็บเจ้า

ภาพสั ญ ญาณระเบิ ด ออกบนท้อ งฟ้ า ดึ ง ดู ด ความสนใจคนใน


คฤหาสน์ พวกเขาพากันวิ่งออกไปตรงที่ที่สัญญาณจุดขึ้นฟ้ า “เกิด
อะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ใครส่ งสัญญาณ คนเล่า คนอยูไ่ หนแล้วเล่า”
ไม่ว่าพวกเขาจะค้นหาในละแวกนั้นเท่าไร ก็หาผูต้ อ้ งสงสัยไม่เจอ
เลยสักคนเดียว

คนผูน้ ้ นั ที่บญั ชาการก็ตอบสนองกลับมา “เร็ ว แยกกันไปค้นเรื อน


แต่ละแห่ งให้ละเอียด ส่ งหนึ่ งคนกลับไปรายงาน ระวังตัวให้ดี ดูว่า
มีคนในเรื อนไหนหนี ออกไปได้หรื อไม่ ปฏิบตั ิงานให้คล่องแคล่ว
เกิดข้อผิดพลาดแล้วนายท่านถลกหนังพวกเจ้าแน่”

ทัว่ ทั้งเรื อนแตกตื่นขึ้นมา เสิ่ นเวยพิงภูเขาจาลอง ฟั งเสี ยงฝี เท้าและ


เสี ยงเอะอะโวยวายข้างนอก เบื้ อ งลึ กในใจนางเกิ ดความดี ใ จขึ้น
เงียบๆ ส่ วนเหอฮวาก็ตื่นเต้นจนจับเสื้ อด้านหน้าไว้กระวนกระวาย
ใจ

เสิ่ นเวยชะโงกหน้ามองไปข้างนอกเล็กน้อยปราดหนึ่ ง มองไม่เห็น


คนโง่ผนู ้ ้ นั แต่กลับเห็นว่ามีคนเดินเข้ามาที่ลานบ้านฝั่งนี้ เสิ่ นเวยรี บ
หลบกลับมา

“ลูกพี่ ลูกพี่ เจ้าคนขี้เกี ยจ กี่ โมงกี่ ยามแล้วยังนอนหลับสบายใจอยู่


อีก ตื่นเร็ ว อีกประเดี๋ยวพ่อบ้านหวังเห็นเข้าเจ้าก็ได้โดนหรอก” คน
ผูน้ ้ นั ตะโกนเสี ยงเบา

น่ าเสี ยดายลูกพี่ที่เขาเรี ยกพิง บานประตูอ ยู่ ก้มหน้าต่ ากาลัง หลับ


สนิท ไม่ตอบสนองเลยแม้แต่นิดเดียว

“ไว้ใจไม่ได้จริ งๆ เมื่อคืนไปทาอะไรมา” คนผูน้ ้ นั พลางพูดพลาง


เดินเข้ามาสองก้าว “ลูกพี่ ตื่นเร็ ว เกิ ดเรื่ องแล้ว” เขาใช้มือไปผลัก
ลูกพี่ แต่กลับเห็นร่ างลูกพี่แข็งทื่อล้มลงไปข้างๆ คนผูน้ ้ นั ตกใจจน
ร้องอุทานถอยไปข้างหลังหนึ่งก้าวใหญ่ สบเข้ากับสายตาตกใจกลัว
ที่เบิกจนกลมโตคู่น้ นั ลูกพี่ผนู ้ ้ ี ไหนเลยจะนอนหลับอยู่ เห็นชัดๆ ว่า
ตายแล้วต่างหาก

“ใครก็ ไ ด้ช่ว ยที เกิ ด เรื่ อ งแล้ว ลู ก พี่ ถู ก คนฆ่า ตายแล้ว ” คนผูน้ ้ ัน
ตะโกนเสี ยงดังอย่างตื่นตระหนกขึ้นมา

ผ่านไปครู่ หนึ่ งก็มีคนหลายคนวิ่งเข้ามา หนึ่ งในนั้นดูเหมือนเป็ น


พ่อบ้าน เขานัง่ ยองลงมองดูอย่างละเอียด ย่อมมองเห็นรอยนิ้วมือที่
ชัดเจนนั้นบนลาคอ คิว้ ขมวดมุ่นเล็กน้อย “เร็ ว เข้าเรื อนไปดู”

หากเขาทายไม่ผิด คนที่ ฆ่าน่ าจะเป็ นหนึ่ ง ในสองคนนั้นที่เพิ่งพา


กลับมาวันนี้ เป็ นดัง่ คาด หนึ่ ง เค่อ ต่อ มาก็มีคนวิ่งกลับมารายงาน
“คนในห้องฝั่งตะวันออกหนีไปหมดแล้วขอรับ”

“รี บตามไป พวกเขาจะต้อ งหนี ไปได้ไม่ไกลแน่ ๆ ” พ่อ บ้านหวัง


ตัดสิ นใจทันที ไม่คิดจะเข้าไปหาในเรื อนอย่างสิ้ นเชิง

ส่ วนเสิ่ นเวยก็กาลังใช้จิตวิทยาจุดบอดใต้แสงไฟชนิ ดนี้ กบั พวกเขา


ที่ที่อนั ตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ใครจะคิดว่าพวกเขาวิ่งหนี
ออกมาอย่างยากลาบากแต่ไม่หนี ออกไปข้างนอก กลับยังหลบอยู่
ในลานบ้านแห่งนี้

เมื่อครู่ ตอนที่คนผูน้ ้ นั เข้ามาในลานบ้านเหอฮวาตื่นเต้นจนใจเต้นขึ้น


มาถึงคอหอย ตอนนี้เห็นพวกเขาไปแล้ว ร่ างทั้งร่ างก็ไหลลงตามหิน
นัง่ ลงบนพื้น แผ่นหลังเต็มไปด้วยเหงื่อ

เสิ่ นเวยมองนางปราดหนึ่ง สั่งเสี ยงต่า “เจ้าหลบอยูท่ ี่นี่ ข้าจะออกไป


ดูหน่อย”

ทว่าเหอฮวากลับดึง แขนเสื้ อของนางไว้ “คุณหนู บ่าวกลัว” นาง


อยากตามคุณหนูไปด้วย นางไม่อยากอยูท่ ี่นี่คนเดียว

เสิ่ น เวยตบมื อ ของนางคล้า ยต้อ งการปลอบขวัญ “ไม่ เ ป็ นไร


ประเดี๋ยวข้าก็กลับมา” นางออกไปเองกลับหลบสายตาของพวกเขา
ได้ แต่หากพาเหอฮวาไปด้วยกลับไม่ได้

เหอฮวาทาได้เพียงสะกดกลั้นความกลัวในใจปล่อยมือลง

เสิ่ นเวยเพิ่งจะคลาทางไปถึงหน้าประตูก็หลบกลับมาแล้ว แยกแยะ


อย่างละเอียดครู่ หนึ่ง รื้ อห้องดู โชคยังดี ไม่เพียงแต่หาคบไฟเจอ ยัง
หาสุ ราหนึ่ งไหเจออีกด้วย เสิ่ นเวยราดสุ ราลงบนกองฟาง หลังจาก
นั้นก็จุดไฟ

“วิ่งเร็ ว” ฉวยโอกาสตอนที่ไฟยังไม่ลุกลาม เสิ่ นเวยดึงเหอฮวาวิ่ง


ออกมาจากลานบ้าน

ทัว่ ทั้ง คฤหาสน์วุ่นวายอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่คนที่ ถูกขังอยู่ในเรื อน


อื่นๆ ถูกปล่อยออกมา ยังมีหลายแห่ งที่ไฟไหม้ คนชัว่ ในคฤหาสน์
ทั้งต้องวิ่งวุน่ ดับไฟ ทั้งยังต้องคอยจับคน ผลลัพธ์น่ะหรื อ หึ ๆ นัน่ ยัง
ต้องพูดอีกหรื อ

“คุณหนู ใช่ คนของพวกเรามาถึงแล้วหรื อไม่ ” ตอนนี้ เหอฮวาไม่


กลัวแล้ว เห็นคนวิง่ วุน่ ในเรื อนรอบด้านก็มีสีหน้าก็ดีใจ

“ไม่ ใ ช่ ” เสิ่ นเวยจ้อ งมองข้า งหน้ า นี่ ไ ม่ เ หมื อ นลัก ษณะการ


ปฏิบตั ิงานของโอวหยางไน่และทหารลับ หากเป็ นโอวหยางไน่และ
ทหารลับ พวกเขาจะต้องจับคนแล้วบีบบังคับถามเบาะแสของตน
หลังจากนั้นก็ฆ่าคนปิ ดปาก ช่วยตนออกมาเงียบๆ ไม่ใช่เล่นหยอก
ล้อประหนึ่งแมวไล่จบั หนูเช่นนี้ หากนางเดาไม่ผดิ นี่น่าจะเป็ นฝี มือ
ของคนโง่ผนู ้ ้ นั ที่ถูกขังอยูก่ บั นาง เอ๋ เวลาเพียงชัว่ ครู่ การเคลื่อนไหว
ของคนโง่ผนู ้ ้ นั กลับเร็ วอย่างยิง่

เสิ่ นเวยกลอกตามอง อืม เห็นแก่ที่ถูกขังไว้ในห้องเดียวกันช่วยเขา


อีกแรงก็ได้ นางยัดคบเพลิงไว้ในมือเหอฮวา “ถือโอกาสจุดไฟเพิ่ม
อีกหลายๆ แห่ง พวกเราคอยดูสิวา่ พวกเขาจะยังวิง่ ได้เร็ วกว่านี้ได้อีก
หรื อไม่”

“เจ้า ค่ ะ ” เหอฮวาพยัก หน้า อย่า งตื่ น เต้น ตอนนี้ ทุ ก หนแห่ ง ใน


คฤหาสน์เต็มไปด้วยคนวิ่งไปวิ่งมา ความกล้าหาญของนางก็มากขึ้น
แล้ว เหมือนอย่างที่คุณหนูได้พดู ไว้ เปี ยกน้ าจึงจะจับปลาง่าย

เสิ่ นเวยสั่งเหอฮวาเสร็ จแล้วก็ขยับตัวขึ้นมา นางเองวิ่งวุ่นอย่างไม่


เป็ นระเบียบตาม ฉวยโอกาสตีคนชัว่ สลบไปหลายคน พาชายหญิง
เหล่านั้นที่ถูกจับตัวมาวิ่งไปยังประตูใหญ่ประตูขา้ ง ไม่นานนักนาง
ก็จดั การคนชัว่ ที่เฝ้าประตูได้แล้ว เปิ ดประตูที่เปิ ดออกได้ทุกบาน
“รี บหนีเถอะ อีกประเดี๋ยวเพื่อนพวกเขามาก็หนีไม่ได้แล้ว”
ฉวยโอกาสระหว่างที่ประตูเปิ ดเสิ่ นเวยก็มองไปข้างนอกครู่ หนึ่ ง
ลานบ้านแห่งนี้ เปลี่ยวจริ งๆ สร้างความวุ่นวายมากเพียงนี้แล้วยังไม่
มีใครมา หรื อว่านี่ จะเป็ นนอกเมือง เร็ วอย่างยิ่งเสิ่ นเวยก็ปฏิเสธการ
คาดเดานี้

ระหว่ า งทางกลับ ไปเสิ่ น เวยได้ยิ น เสี ย งแกะร้ อ ง ชั่ว ขณะก็ เ กิ ด


ความคิดใหม่ นางเดินตามเสี ยงแกะไป โห ไม่เพียงแต่มีแกะสิ บกว่า
ตัว ยังมีมา้ เจ็ดแปดตัวอีกด้วย

เสิ่ นเวยดีใจใหญ่ คลายเชือกบังเหี ยนอย่างรวดเร็ ว จูงม้าต้อนแกะวิ่ง


ออกมา มี การเข้ามาของม้าและแกะแล้ว ในคฤหาสน์ก็ยิ่งวุ่นวาย
เสิ่ นเวยมองคนชัว่ กลุ่มนี้วงิ่ วุน่ ราวกับแมลงวันหัวขาด มีความสุ ขจน
หัวเราะตัวโก่งอย่างอดไม่ได้

สิ่ งที่โอวหยางไน่กบั ทหารลับเห็นเมื่อมาถึงก็คือท่าทางชัว่ ร้ายเช่นนี้


ของเจ้านายพวกเขา อดตะลึงงันไม่ได้ พวกเขากังวลแทบตาย แต่
เจ้านายกลับเล่นจนสนุกสนานเช่นนี้ หากรู ้ก่อน พวกเขาจะวิง่ มาที่นี่
อย่างสุ ดชีวิตเพื่ออะไร อย่างไรเสี ยนายเล่นพอแล้วก็กลับเองได้
“อ้าว พวกเจ้ามากันแล้วหรื อ ไป ไป ที่ นี่ไม่มีอ ะไรแล้ว พวกเรา
กลับ กันเถอะ” เสิ่ น เวยปาดน้ า ตาตรงหางตา กล่ า วด้ว ยมาดขรึ ม
หลังจากนั้นก็ทอดมองไปรอบด้านคล้ายนึ กอะไรออก “อ้อจริ งสิ
เหอฮวาเล่า เด็กคนนั้นคงไม่เล่นจนลืมแล้วหรอกนะ”

ขณะที่กาลังพูด ก็เห็ นเหอฮวาวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ ว ใบหน้าเล็กๆ


แดงก่า ดวงตาเป็ นประกายแวววาว “คุณหนู บ่าววิ่งเร็ วยิ่งนัก พวก
เขาจับข้าไม่ได้เลย”

เหล่าทหารลับตะลึง งันอีกครา มี นายเช่ นไรก็มีบ่าวเช่นนั้นจริ งๆ


ปกติเหอฮวาเด็กคนนี้ก็เรี ยบร้อยน่ารักมิใช่หรื อ เพียงแค่ครึ่ งวัน เหตุ
ใดถึงห้าวหาญเหมือนเถาฮวาแล้วเล่า

“พอแล้ว ไฟไหม้ครั้งนี้ พวกเขาต้องดับอีกสักพัก พวกเราควรกลับ


ได้แล้ว กลับไปกินข้าวเย็นกับท่านอา” เสิ่ นเวยมองเรื อนที่ไฟไหม้
รอบด้านปราดหนึ่ง คาดว่าเรื อนนี้ คงจะพังหมดแล้ว ไม่ตอ้ งบอกว่า
ในใจนางสบายอารมณ์มากเพียงใด เหอะ แม้แต่ขา้ ยังกล้ามาหาเรื่ อง
สมควรแล้ว
เสิ่ นเวยรับเชือกบังเ**ยนที่โอวหยางไน่ส่งเข้ามา เหยียบโกลนขึ้น
ม้า กาลังจะสะบัดบังเ**ยนวิ่งออกไป ก็ได้ยินม้าข้างล่างยกกีบเท้า
อย่างไม่เป็ นสุ ข หันหน้ากลับไปมอง ชัว่ ขณะก็โมโหแล้ว “ปล่อย”
คนโง่ผนู ้ ้ นั กาลังดึงหางม้าของนางไว้อยู่

“ไม่ปล่อย” คุณชายคนโง่ส่ายหน้า ใบหน้าที่งามประหนึ่ งหยกเต็ม


ไปด้วยเม็ดเหงื่อ มวยผมก็บิดเบี้ยว แต่คาที่พูดออกจากปากกลับยึด
มัน่ ในความเป็ นธรรม “มีชะตากรรมเดียวกัน พี่ชายจะทิ้งข้าน้อ ย
แล้วหนีไปคนเดียวได้อย่างไร ทาลงได้อย่างไร”

เสิ่ นเวยยิ้มเยาะ “ขออภัย ข้าไม่มีขอ้ ดี อ ะไร มี แ ต่ใ จเข็ง ปล่อ ยมือ


เดี๋ยวนี้”

“ไม่ปล่อย พี่ชายเห็นคนกาลังจะตายจะไม่ช่วยจริ งๆ หรื อ” คุณชาย


คนโง่เปลี่ยนท่าทีพูดจากปลิ้นปล้อน “ท่านยอมพาข้าน้อยไปด้วย
ข้าน้อ ยก็จะปล่อ ยมื อ มิ เช่ นนั้นพวกเราก็อ ยู่ดว้ ยกันทั้ง หมดเถอะ
อย่างไรเสี ยพวกเราก็มีวาสนาร่ วมกันแล้ว ไม่ขอมีชีวิตร่ วมกันในวัน
เดียว ก็ขอตายพร้อมกันในวันเดียว”
“หุ บปาก” เสิ่ นเวยตะโกนเสี ยงเย็นเยียบอย่างอดไม่ได้ ตระกูลไหน
เลี้ ย งคนโง่ ผูน้ ้ ี กัน ปล่ อ ยออกมาท าอัน ตรายต่ อ โลกเช่ นนี้ รี บ จู ง
กลับไปเสี ย

ชายตาเห็นเงาร่ างที่วิ่งเข้ามาไกลๆ เสิ่ นเวยก็ไม่ยอมเปลืองน้ าลายกับ


คุณชายคนโง่อีกแล้ว สั่งโอวหยางไน่ทนั ที “เจ้าพาเขาไปด้วย เร็ ว
กาลังหนุนพวกเขามาแล้ว”

โอวหยางไน่ พยักหน้า แขนยาวยื่นออกมา ยกคุณชายคนโง่ข้ ึนไป


บนม้าเขาแล้ว ทาเอาคุณชายคนโง่ร้อยเอ่ยชมไม่หยุดปาก

นายท่านสามแซ่ หมิ่นนาคนมาถึงคฤหาสน์ก็เห็ นกลุ่มของเสิ่ นเวย


ออกไปอย่างรวดเร็ ว เขามองแผ่นหลังที่ออกไปไกลของพวกเขา
หลบตาเล็กน้อย หลังจากเข้าไปดูในคฤหาสน์แล้ว ใบหน้าของเขาก็
อึมครึ มราวกับสามารถบีบน้ าออกมาได้ สิ นค้าที่เขาลาบากลาบน
เปลืองแรงหามาหายไปหมดยังไม่พอ ยังทาคฤหาสน์หนึ่ งหลังพัง
ยับเยิน เขาเคยเสี ยหายมากเช่นนี้เมื่อไหร่ คนที่ตอ้ งการจัดการเขาใน
อาณาเขตของเขา จะง่ายเพียงนี้เลยหรื อ
“นายท่านสาม เป็ นผูน้ อ้ ยที่ทางานสะเพร่ า นายท่านสามโปรดอภัย”
พ่อบ้านหวังยอมรับผิดด้วยร่ างที่สนั่ เทิม้

นายท่านสามแซ่หมิ่นมองเขาอย่างเย็นชา มุมปากปรากฏรอยยิม้ อัน


น่าสะพรึ งกลัว ไร้ประโยชน์สิ้นดี แม้แต่คุณชายคุณหนูไก่อ่อนไม่กี่
คนยังดูไม่ได้ จะเอาพวกเจ้าไว้ทาไม แต่วา่ ตอนนี้ยงั ไม่ใช่เวลามาไต่
ถาม

“ดับไฟไม่ได้ก็ไม่ตอ้ งเสี ยเวลาแล้ว คฤหาสน์หลังนี้ ทิ้งไปเสี ย เก็บ


กวาดให้เรี ยบร้อย อย่าทิ้งร่ องรอยอะไรไว้ มิเช่นนั้น…” นายท่าน
สามแซ่ หมิ่นกวาดตามองพ่อบ้านหวังอย่างมีเลศนัย เพียงแค่มอง
เช่นนี้ กลับทาให้พอ่ บ้านหวังรู ้สึกเหมือนตกลงไปในถ้ าน้ าแข็ง
ตอนที่ 201-1 นายท่านสามแซ่หมิ่นระหว่างทางกลับเมืองหลวง

บริเวณทีห่ ่างไกลจากเมืองหลวงสองร้อยกว่าลี้มีภูเขาใหญ่ที่
ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางอย่างถึงที่สุดอยู่หนึ่งลูก ชื่อว่าเขาชิงลั่ว
ลึกเข้าไปในเขาลูกใหญ่มีวัดจยาหลานวัดเก่าแก่อยู่หนึ่งแห่ง ย้อนไป
เมื่อรัชสมัยก่อน นับๆ ดูแล้วก็มีประวัติศาสตร์มาห้าหกร้อยปีได้แล้ว
ทั่วทั้งวัดมีกลิน่ อายของความเก่าแก่และความยาวนานชนิดหนึ่ง

เช้าตรู่ ใต้แสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านเงาไม้ ระฆังโบราณในวัดก็ส่ง


เสียงดัง เสียงที่ทุ้มหนักดังออกไปไกลอย่างยิ่ง หลวงจีนแต่ละกลุ่มทำ
วัตรเช้าอย่างเป็นระเบียบ ทุกองค์ต่างก็สงบและไม่รีบร้อนเช่นนั้น
แม้ว่าวัดจยาหลานจะตั้งอยู่ลึกในภูเขาชิงลั่ว แต่ตะเกียงธูปกลับแน่น
ขนัดอย่างยิ่ง ประชาชนในบริเวณร้อยกว่าลี้ข้างล่างเขาชิงลั่วต่าง
สามารถไปกราบไหว้พระทีว่ ัดจยาหลานเพื่อสร้างบุญกุศลได้ ปกติ
พวกเขาจะออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เดินผ่านเส้นทางภูเขาที่ขรุขระ
ทีละก้าวๆ คุกเข่าหน้าพระพุทธรูปด้วยความเคารพไหว้พระขอพร
ต่อให้จะเป็นชายที่หยาบโลนทีส่ ุดเมื่อมาถึงที่นี่ก็ยังต้องสำรวมกิริยา
อย่างรู้สำนึก

แต่ใครจะคิดได้ว่าวัดทีผ่ ู้คนเลื่อมใสแห่งนี้กลับซ่อนสิ่งชั่วร้ายให้
กลายเป็นสถานที่สะสมกองกำลังส่วนตัวของใครบางคน
สวีโย่วได้รบั พระราชโองการของจักรพรรดิยงเซวียนก็แฝงตัวเข้าไป
สืบความลับในที่มืด ตามข้อมูลจำนวนหนึ่งทีจ่ ักรพรรดิยงเซวียนพระ
ราชทานมา จากเมืองหลวงไปทางตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากนั้น
เบาะแสก็ขาดหายไป ใช้เวลาอยู่สองวันจึงสืบหาเงื่อนงำบางอย่างได้
ทิศทางกลับชี้ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ พวกเขาก็มุ่งไปทาง
ตะวันตกเฉียงเหนืออย่างไม่หยุดพัก เริ่มต้นก็ราบรื่นดีอย่างยิ่ง
ท้ายที่สุดเบาะแสไม่มีอีกแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้สวีโย่วจึงพาคนวิ่งอ้อม
ในที่สุดก็กำหนดเป้าหมายได้ทวี่ ัดจยาหลานบนเขาชิงลั่ว

แม้แต่สวีโย่วยังรูส้ ึกเหลือเชื่อ หากที่นี่เป็นทีฝ่ ึกกองกำลังส่วนตัวของ


อ๋องเคียงบ่าผู้นั้นจริงๆ เช่นนั้นความกล้าหาญและการวางแผนของ
เขาก็ทำให้คนเลื่อมใสจริงๆ ตั้งแต่ยี่สิบปีก่อน หลังจากที่เฉิงอ๋องหลบ
ซ่อนตัวจากสาธารณะ ไม่ใช่ว่าไม่มีคนทายว่าเขาไปไหน บ้างก็บอก
ว่าเขานั่งเรือออกทะเล บ้างก็บอกว่าเขาไปทางตอนเหนือ ปราบ
แคว้นเล็กที่ชายแดน ตนสถาปนาตัวเป็นเจ้าแคว้น อีกทั้งยังว่าไม่ใช่
บอกว่าเขาหลบอยู่ที่เจียงหนาน ในมือดูแลการค้าขายขนาดใหญ่
แม้แต่จักรพรรดิยงเซวียนยังเดาไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วเขาไปไหน แต่
ใครจะคิดได้ว่าเขาไม่ได้ไปไหนทั้งสิ้น แต่กลับเก็บตัวอยู่ใต้ตา
จักรพรรดิ

สองร้อยลี้ เหอะๆ ช่างเป็นระยะห่างที่น่าสนใจยิ่งนัก

“เหมือนหรือไม่” มือสวีโย่วสะบัดพัดพับได้ ก้มหน้ามองเสื้อผ้าคนร่ำ


คนรวยที่ตนสวมอยู่ วันนี้เขาต้องไปวัดจยาหลาน ส่วนฐานะในวันนี้
ของเขาก็คือลูกคุณชายตระกูลพ่อค้าที่ผ่านทางมา
“ไม่เหมือน” เจียงเฮยกับเจียงไป๋กล่าวขึน้ พร้อมกัน ไม่ได้บอกว่า
แต่งตัวแบบนี้ไม่ได้ แต่คณ
ุ ชายของพวกเขาแต่งตัวเช่นนี้มักจะทำให้
คนรู้สึกขัดแย้ง พลังของผู้สูงศักดิ์ชนิดนั้นที่ออกมาจากร่างคุณชาย
ทำให้คนไม่มีทางเมินเฉยได้

มีสำนวนว่าไว้ไม่ใช่หรือว่า ‘แม้จะสวมชุดฮ่องเต้ก็ยังไม่เหมือนรัช
ทายาท’ ส่วนคุณชายของพวกเขาสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งก็ยังไม่เหมือน
ขอทาน

“หากคุณหนูสี่แซ่เสิ่นอยู่ก็คงจะดี” จู่ๆ เจียงไป๋ก็กล่าว


เจียงเฮยเองก็ใจเต้น ทันใดนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วยเงียบๆ จำต้อง
ยอมรับว่าคุณหนูสี่แซ่เสิ่นผู้นี้เก่งกาจจริงๆ กายเป็นหญิงแต่แต่งตัว
เหมือนชายได้ก็ไม่เลวแล้ว แต่นางน่ะ กลับแต่งอะไรก็เหมือน
คุณชายตระกูลขุนนางที่สูงส่ง ปัญญาชนผู้ยึดมั่นในคุณธรรม นักเลง
หัวไม้ข้างถนน เด็กหนุ่มลูกชาวนาผู้ซื่อสัตย์ กระทั่งขอทานที่ขอทาน
อยู่ข้างถนน นางยังทำได้ง่ายๆ สมจริงอย่างยิ่ง

ได้ยินเจียงเฮยเจียงไป๋เอ่ยถึงเสิ่นเวย ดวงตาของสวีโย่วก็ปรากฏ
รอยยิ้มหลายส่วน ใช่แล้ว นั่นมันเด็กสาวเจ้าเล่ห์กลับกลอก มีนางอยู่
ตนก็ไม่ต้องกลุ้มใจอย่างตอนนี้ ตนโรคเก่ากำเริบ เลื่อนงานสมรส
ออกไป เด็กน้อยคนนั้นจะดีใจหรือว่าโมโห เป็นห่วงเขาหรือไม่ …อยู่
ในจวนรอตนไปสู่ขอที่หน้าประตูอย่างเชื่อฟังหรือไม่
“ช่างเถอะ คุณชายท่านกลับไปเป็นตัวเองเถิด ท่านไม่เหมือนลูก
คุณชายตระกูลเศรษฐีที่ไม่เอาไหน เจียงเฮยเจียงไป๋เองก็ไม่เหมือน
สุนัขรับใช้ พวกเราต้องเปลี่ยน” ซังหลิ่งกล่าว เขาก็คือผู้จัดการร้าน
หนังสือผูน้ ั้นที่เสิน่ เวยเคยเห็น “เจียงเฮยเจียงไป๋เป็นทหารคุ้มกัน
ของท่านดีกว่า ส่วนท่านก็เป็นคุณชายตระกูลขุนนางที่ปว่ ยออดแอด
ที่บ้านไม่วางใจ ข้างกายมีทหารคุ้มกันติดตามหลายคนก็เป็นเรื่อง
ปกติอย่างยิ่งมิใช่หรือ”

สวีโย่วคิดครู่หนึ่ง ตอบรับแล้ว ความรู้สึกที่ผู้อื่นมีต่อเขาเดิมก็


ผ่ายผอมอ่อนแออยู่แล้ว ไม่ต้องพยายามแสดงก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนขี้
โรค หากไอบ่อยครั้งก็ยิ่งเหมือนเข้าไปอีก อีกทั้งยังมีเหตุผลไปวัดจ
ยาหลานได้พอดี ‘ร่างกายไม่ดี มาไหว้พระขอพร’
เมื่อเสิ่นเวยกลับไปถึงโรงเตี๊ยมก็ขอน้ำอุ่น ยุ่งอยู่ครึ่งวัน เหงื่อออก
เยอะอย่างยิ่ง เสื้อผ้าด้านหลังเปียกชุ่มหมดแล้ว เหนียวติดร่างกาย
ไม่สบายอย่างมาก

พ่อบ้านรองเห็นเสิ่นเวยกลับมาแล้ว หัวใจทั้งดวงก็นับได้ว่าวางลง
แล้ว หากคุณหนูสี่เป็นอะไรไปข้างนอก เขาเองก็ไม่ต้องกลับจวนจงอู่
โหวแล้ว หาต้นไม้ที่มีกิ่งโน้มเอียงแล้วผูกคอตายได้เลย

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ทหารลับก็เข้ามารายงานข่าวด้วย
ตัวเอง “ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหลายสืบหาแล้ว ผู้มีอำนาจในเมืองทง
โจวก็คือตระกูลหมิ่น ครอบครองพื้นที่ทางตะวันออกของเมือง
คฤหาสน์หลังนัน้ ที่คุณชายอยู่กอ่ นหน้านี้เป็นคฤหาสน์ภายใต้ชื่อ
พ่อบ้านใหญ่ข้างกายนายท่านสามตระกูลหมิ่น ผู้น้อยคิดว่าเรื่องนี้
น่าจะหนีไม่พน้ ต้องเกี่ยวข้องกับนายท่านสามตระกูลหมิน่ ”

เสิ่นเวยพยักหน้า “นายท่านสามแซ่หมิ่นมีประวัติอย่างไร”

“บุตรภรรยาเอกตระกูลหมิ่นมีสามคน แม้ว่านายท่านสามแซ่หมิ่น
จะถูกเรียกว่านายท่านสาม แต่กลับเป็นบุตรภรรยาเอกคนโต คนผู้นี้
ค่อนข้างแผนสูง ฝีมือก็โหดเ**้ยม การค้าในมือก็มีส่วนเกี่ยวเนื่องถึง
ขอบเขตมากมาย ฮูหยินที่เขาแต่งงานก็มีฐานะในตระกูลดี หลายปี
มานี้บ้านใหญ่ได้เปรียบมาโดยตลอด” ทหารลับกล่าว
เสิ่นเวยพยักหน้าอีกครั้ง แววตาคล้ายกำลังครุ่นคิด “คืนนี้พวกเจ้า
ตื่นตัวไว้”

พลลับหนึ่งตกใจ “นายท่านคิดว่าพวกเขาจะ? เช่นนั้นพวกเราขึ้นเรือ


กลับดีกว่าหรือไม่” พวกเขามีคนเพียงเท่านี้ อีกทั้งยังอยู่ในอาณาเขต
ของคนอืน่ ต่อให้นายท่านจะเป็นมังกรที่แข็งแกร่ง อ้อไม่ หงส์ที่
แข็งแกร่ง ก็สู้พวกอิทธิพลท้องถิ่นไม่ได้หรอก ขึ้นเรือกลับตอน
กลางคืนยังดีเสียกว่า

เสิ่นเวยชายตามองเขาปราดหนึ่ง “เจ้าคิดว่านายท่านสามแซ่หมิ่น
เสียหายมากเพียงนี้แล้วจะยังกล้ำกลืนฝืนทนหรือ ทำได้หรือ ข้าจะ
บอกพวกเจ้าให้ ไม่ว่าเรื่องในวันนี้จะเป็นฝีมือของนายท่านสามแซ่
หมิ่น หรือเป็นฝีมือของคนใต้บังคับบัญชาเขา ล้วนแต่ไม่ใช่เจตนา
เพียงชั่วครู่ เกรงว่าพวกเขาจะจับตาดูข้ากับลูกผู้น้องอยู่นานแล้ว
พวกเราไปที่ไหนพวกเขาก็รู้ได้อย่างชัดเจน มิเช่นนั้นจะรออยู่ในร้าน
เครื่องประดับร้านนั้นพอดีได้อย่างไร”

นายท่านสามแซ่หมิ่นผู้นนั้ จะต้องไม่ใช่คนดีอะไร มิเช่นนั้นจะทำเรื่อง


ล่อลวงคนไปขายได้หรือ วันนี้เผาคฤหาสน์ของเขาทั้งหลัง ก็นบั ว่าได้
ระบายความแค้นแล้ว มิเช่นนัน้ เสิ่นเวยคงได้จัดการเขาแล้วจริงๆ

พลลับหนึ่งและคนอื่นๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อย “นายท่าน เช่นนัน้ พวก


เราก็ยิ่งควรขึ้นเรือกลับนะขอรับ”
ทว่าเสิ่นเวยกลับส่ายหน้า “ไม่ควร พวกเขาเป็นพวกอิทธิพลท้องถิ่น
ต่อให้เจ้ากลับขึ้นเรือกลับแล้วเขาจะหมดหนทางหรือ ไม่แน่วา่ พวก
เราอาจจะตายเร็วกว่าเดิม ไม่เป็นไร แม้ว่าตระกูลหมิน่ จะมีอำนาจ
ในท้องถิ่น แต่ก็ไม่ได้มีมือค้ำฟ้า ตอนกลางคืนพวกเจ้าตื่นตัวกัน
หน่อยก็พอแล้ว พวกเขาเองก็ไม่กล้าทำโจ่งแจ้ง ทำได้อย่างมากที่สุด
ก็แค่เป่าควันสลบลอบสังหารทำนองนี้ ขอเพียงแค่ผ่านคืนนี้ไป
พรุ่งนี้เช้าพวกเราก็ไปแล้ว พวกเขาคงจะไม่ตามไปถึงเมืองหลวง
หรอก” นางยังหวังว่าพวกเขาจะตามไปถึงเมืองหลวง นั่นเป็นอาณา
เขตของข้า จะฆ่าเจ้าไม่ได้เชียวหรือ

เห็นทหารลับทั้งหลายยังคงมีสหี น้าเคร่งขรึม เสิ่นเวยก็กล่าว “หาก


ไม่วางใจจริงๆ พลลับหนึ่ง เจ้าเอาเทียบเชิญนี้ไปขอยืมกำลังพลที่
ที่ว่าการทงโจว” นางไม่ได้กังวล แต่ไม่ใช่ว่ายังมีท่านอากับลูกผู้น้อง
รวมถึงสาวใช้ทั้งหมดอยู่หรอกหรือ โดยเฉพาะท่านอา ท่านปูย่ ังรอ
อยู่เลย ไม่อาจให้เป็นอะไรในมือนางได้แม้แต่นิดเดียว
พลลับหนึ่งรับเทียบเชิญมา เห็นว่าเป็นของนายท่านผู้เฒ่าโหว หัวใจ
ที่เป็นกังวลก็วางลงครึ่งหนึ่ง ด้วยบารมีของนายท่านผู้เฒ่าโหว
ข้าหลวงเมืองทงโจวก็คงจะให้เกียรติหลายส่วนมิใช่หรือ

เทียบเชิญนี้ตอนที่ออกมาเสิ่นเวยยัดไว้ในอกลวกๆ เดิมคิดว่าไปอวิ๋น
โจวอาจจะได้ใช้ ไม่คิดว่าจะได้ใช้มันที่เมืองทงโจวจริงๆ

เสิ่นเวยไปดูลูกผูน้ ้องรอบหนึ่ง เห็นฤทธิ์ยาในร่างนางยังไม่หมดไป ก็


ไม่ได้ฝนื ปลุกนางตื่น อย่างไรเสียพรุ่งนี้เช้านางก็ตื่นเองได้ หลังจาก
นั้นนางก็ไปหาท่านอา บอกนางว่าลูกผู้น้องเหนื่อย หลับไปแล้ว
เสิ่นหย่าไม่วางใจ ตั้งใจมาดูลูกสาว เห็นลูกสาวนอนหลับสนิทอยู่บน
เตียง นางก็ลูบหน้าผากของลูกสาวด้วยความรักจากนัน้ ก็ถอย
ออกมา “ดูท่าเด็กคนนี้จะเหนื่อย ช่างเถอะ ให้นางนอน ให้ครัว
เตรียมของว่างไว้ ประเดี๋ยวหลินเอ๋อร์ตื่นมากลางดึกจะได้มีของกิน
รองท้อง”

เสิ่นเวยทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนท่านอา หลังจากนัน้ ก็กลับไปทีห่ ้อง


ของตน

เหอฮวากำลังเล่าคุณูปการความกล้าหาญของตัวเองให้คนหลายคน
ฟังอย่างตื่นเต้นดีใจ “เสียดายพวกเจ้าไม่เห็น คนชั่วผู้นั้นสูงเพียงนี้
แข็งแรงเพียงนี้ น่าจะจัดการข้าได้สามคน เขายิ้มเยาะกำลังจะเข้ามา
จับข้า ข้าหมอบลงไป เพียงแค่ก้มตัวก็หลบได้แล้ว ข้าวิ่งเร็วมาก เขา
ตามข้าอยู่นานก็ยังตามไม่ทัน ฮ่าๆ ไฟในคฤหาสน์หลังนั้นข้าคนเดียว
ก็จุดไปสามแห่งแล้ว ใช่ไหมคุณชาย” เหอฮวาถามเสิ่นเวยอย่าง
คาดหวัง ภูมิใจยิ่งนัก

เสิ่นเวยยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง วันนี้เหอฮวาของพวกเราสร้าง


คุณูปการใหญ่แล้ว กลับจวนไปจะปูนบำเหน็จให้สิบตำลึง”

ทว่าปากของเถาฮวากลับเบะสูงอย่างยิ่ง “คุณชายลำเอียง ท่านไม่


พาข้าไปด้วย เชอะ”
“ไอหยา เถาฮวาของพวกเรารู้จักฟ้องร้องก่อนแล้ว ตอนที่ข้าออกไป
เด็กน้อยคนไหนหลับเป็นลูกหมูอยู่เล่า” เสิ่นเวยบีบแก้มของเถาฮวา
หยอกล้อ

สาวใช้ในห้องต่างก็หัวเราะ เถาฮวาเองก็เขินอายหลายส่วน เกาหัว


บ่นพึมพำ “เช่นนั้นครั้งหน้าคุณชายจะต้องตะโกนเรียกข้า แค่ท่าน
ตะโกนข้าก็ตื่นแล้ว”

เห็นความจริงจังบนใบหน้าเถาฮวา เสิ่นเวยรู้สึกหวานชื่นในใจอย่าง
ไม่มีเหตุผล “ได้ ครั้งหน้าข้าจะตะโกนเรียกเถาฮวา เถาฮวาของพวก
เราเก่งที่สุด”
ตอนที่ 201-2 นายท่านสามแซ่หมิ่นระหว่างทางกลับเมืองหลวง

“คุณชาย คุณชายผู้นั้นทีต่ ามท่านกลับมามาขอพบท่าน” เถาจือเข้า


มารายงาน

เสิ่นเวยหันหลังกลับ มองเห็นคุณชายคนโง่ผู้ที่อยู่ข้างหลังเถาจือ บน
ร่างยังคงสวมชุดสีฟ้าอ่อนตัวนัน้ อยู่ ยับย่นสกปรก มวยผมก็ยงั บิด
เบี้ยว แต่ใบหน้ากลับล้างสะอาดแล้ว คิ้วตรงยาว ตาดำเป็นประกาย
นับได้ว่าหน้าตาดี มิน่าเล่าจึงถูกคนชอบใจจับตัวไป

เพียงแต่คนโง่ผู้นี้ดูเหมือนบุตรหลานตระกูลร่ำรวย เด็กรับใช้ที่
ติดตามข้างกายเล่า คงจะไม่ได้หนีออกจากบ้านมาใช่หรือไม่ เสิ่นเวย
กำลังวิจารณ์ในใจ ก็เห็นคุณชายคนโง่กล่าวอย่างน่าสงสาร “ช่วยคน
ก็ช่วยให้ถึงที่สุด ส่งพระพุทธเจ้าก็ส่งให้ถึงฟ้า พี่ชาย สามารถเปลี่ยน
ชุดให้ข้าน้อยได้หรือไม่ ชุดนี้แปดเปื้อนพลังอันสง่างามองอาจของ
ข้าน้อย” เขาใช้นิ้วสองนิ้วคีบชุดที่ตนสวมอยู่ด้วยความรังเกียจ

ยังคิดว่าเขาจะเอาอะไร เพียงแค่อยากได้ชุด นางยังนับว่าให้ได้


“โอวหยางไน่ ชุดที่พวกเจ้าเตรียมมาไม่ต่างจากเขามากใช่หรือไม่
แบ่งชุดให้เขาเสีย”

“ไม่ ข้าน้อยต้องการผ้าไหมหางโจว” คุณชายคนโง่มองชุดบนร่าง


โอวหยางไน่ เอ่ยความต้องการของตน
เสิ่นเวยแบมือ “ขออภัย ร้านขายเสื้อผ้าปิดไปนานแล้ว เจ้าใส่เท่าที่มี
เถอะ” ยังกล้ามาร้องขอ แบ่งให้เจ้าได้หนึ่งชุดก็ไม่เลวแล้ว

“ไม่ ข้าน้อยใส่แต่ผ้าไหมหางโจว ข้าน้อยใส่ผ้าชนิดอื่นแล้วบนร่างจะ


มีผื่นแดง คันเกินทน เงินทั้งหมดที่ใช้ข้าน้อยจะคืนให้พี่ชาย”
คุณชายคนโง่กล่าวด้วยใบหน้าจริงจัง

เสิ่นเวยจ้องมองสีหน้าของเขา เห็นว่าไม่ได้เสแสร้ง มุมปากก็กระตุก


อย่างอดไม่ได้ เป็นลูกคนรวยจริงๆ มิหนำซ้ำเขายังบอกว่าจะคืนเงิน
เช่นนั้นไยนางจะต้องใจแคบไม่ให้ชุดผ้าไหมหางโจวหนึ่งชุดด้วย
“โอวหยางไน่ เจ้าไปดูที่ร้านขายเสื้อเป็นเพื่อนคุณชายท่านนี้ ใช้เงิน
เยอะหน่อยก็ไม่เป็นไร จะต้องให้คุณชายท่านนี้พอใจ” เสิ่นเวยกล่าว
สั่ง

ทว่าคุณชายคนโง่กลับไม่ขยับ เสิ่นเวยเลิกคิ้ว “ยังมีเรื่องอะไรอีก”

บนใบหน้าคุณชายคนโง่ปรากฏความเคอะเขินหลายส่วน “พี่ชาย
ช่วยหาสาวใช้ให้ข้าน้อยหน่อย ข้าน้อย ข้าน้อยหวีผมไม่เป็น”
“ได้ เถาจือ เจ้าไปปรนนิบัติคณ ุ ชายท่านนี้” เสิ่นเวยรับปากอย่าง
สบายอารมณ์ยิ่งนัก นางก็ว่าคนโง่ผู้นสี้ นใจในรูปลักษณ์ภายนอกของ
ตนเช่นนี้ เหตุใดผมถึงยุ่งเล่า ทีแ่ ท้แล้วก็หวีผมไม่เป็น เหอะๆ โรคคน
รวย ลูกคนรวย

“อะไร เจ้ายังมีอะไรอีก รบกวนช่วยพูดมาทีเดียวได้ไหม” เสิน่ เวย


เห็นคนโง่ยังคงไม่ไป ก็หงุดหงิดเล็กน้อยแล้ว นางไม่อยากสนทนากับ
คนผู้นี้เลยแม้แต่นิดเดียว หน้าตาไม่มีพิษไม่มีภัย ความจริงแล้วในใจ
เต็มไปด้วยแผนร้าย นางกดดันอย่างยิ่ง
คุณชายคนโง่ดูเหมือนถูกนิสยั ใจร้อนของเสิ่นเวยทำให้ตกใจสะดุ้ง
กล่าวอ้ำๆ อึ้งๆ “ข้าน้อยอยากถามว่าสามารถกินอะไรก่อนได้
หรือไม่” เขากดท้องของตัวเอง สีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด

เสิ่นเวยโบกมือให้เขารีบไปทันที “เถาจือ พาเขาไปกินข้าว”

รีบพาไปเลย อย่าอยู่ทนี่ ี่ให้ขวางหูขวางตาได้หรือไม่ ตีสองหน้าเช่นนี้


นางเห็นแล้วเหนื่อยใจจริงๆ รูห้ รือไม่ ลูกผู้ชายเช่นเจ้า ซ้ำยังเป็น
ลูกผู้ชายที่มีวิทยายุทธ์ อย่าทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมตลอดเวลาได้
หรือไม่ ทำเช่นนี้ก็ไม่ถูก
เถาจือเห็นนายตนหงุดหงิดแล้ว ก็ดึงแขนเสื้อคุณชายรองเดินไปข้าง
นอกทันที แต่เขาก็ยังหันหน้ามาตะโกนเสียงดัง “ข้าน้อยจะคืนเงิน
ให้”

ไม่เอาเงินแล้วก็ได้ ขอแค่รีบพาไปเถอะ

หอซิ่งชุน หมิ่นซือเหนียนหน้าดำคร่ำเครียด แม่เล้าฉินแม่เล้าใน


หอซิ่งชุนปรนนิบัติอยู่ข้างๆ อย่างระมัดระวัง เอ้อร์กุ้ยคุกเข่าอยู่บน
พื้นร้องไห้น้ำตานอง “นายท่านสาม เป็นผู้น้อยที่ไม่ได้เรื่อง เป็น
ผู้น้อยที่ไร้ประโยชน์ ท่านโปรดระงับโทสะ” พูดหนึ่งประโยคก็ตบ
หน้าตัวเองหนึ่งที ไม่นานนักใบหน้าของเขาก็แดงบวมขึ้นมา มองดู
แล้วน่ากลัวอย่างยิ่ง
ตอนนี้ในใจเขาเสียใจอย่างถึงที่สุด เขาไม่ควรประจบนายท่านสาม
ด้วยการเสนอความคิดเห็นเช่นนั้นออกมา ตอนนั้นเขาถูกหลอกได้
อย่างไร คุณชายผู้นั้นดูเหมือนอ่อนแออย่างยิ่ง ใครจะรู้ว่าจะ
กลายเป็นจุดแข็งได้ ตอนนี้แย่แล้ว ไม่เพียงแต่คฤหาสน์พังทลาย
สินค้าจำนวนมากยังหายไปอีก ด้วยนิสัยอารมณ์ร้อนของนายท่าน
สามจะไว้ชีวิตเขาได้อย่างไร

“นายท่านสาม จิตใจที่จงรักภัคดีต่อท่านของผู้น้อยฟ้าดินเป็นพยาน
ได้ หากท่านเห็นแก่ความจงรักภัคดีของผู้น้อยก็โปรดไว้ชีวติ ผูน้ ้อย
ครั้งนี้ด้วยเถอะ นายท่านสาม ผู้น้อยโขกศีรษะให้ท่านแล้ว” ขณะที่
พูด ศีรษะนั้นก็โขกลงบนพื้นดังตุบๆๆ โลหิตสดสีแดงฉานนั้นก็ไหล
ลงมาตามแก้ม
ทว่าหมิ่นซือเหนียนกลับไม่ขยับ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย คล้ายกำลัง
หลับอยู่ แต่อันที่จริงตอนนีไ้ ฟโกรธในใจเขาพุ่งพล่าน กี่ปีแล้ว ตั้งแต่
ที่เขาใช้อุบายโหดเ**้ยมสั่นคลอนบ้านรองและบ้านสาม จนไม่มีใคร
กล้ามาระรานเขาอีก แต่เด็กสองคนที่ยังไม่โตกลับต้มเขาจนเปื่อย
เขาจะกล้ำกลืนความโกรธนีล้ งได้อย่างไร

แม่เล้าฉินเห็นใบหน้าเอ้อร์กุ้ยเต็มไปด้วยโลหิต ในใจก็ทนไม่ไหว
หลายส่วน ผลักหมิ่นซือเหนียนเบาๆ “นายท่านสาม ไม่มีใคร
สมบูรณ์แบบทุกคนล้วนเคยผิดพลาด เอ้อร์กุ้ยเองก็ติดตามท่านมา
หลายปีแล้ว ไม่ได้สร้างคุณูปการแต่ก็ทำงานอย่างหนักมิใช่หรือ ท่าน
เป็นเจ้าคนนายคนต้องใจกว้าง ให้อภัยเขาสักครั้งเถอะ”
อันที่จริง แม่เล้าฉินพูดประโยคขอความเมตตานี้ออกมาในใจก็พะว้า
พะวงเช่นกัน แม้ว่าหอซิ่งชุนแห่งนี้จะเป็นของนาง แต่เงินที่ทำงาน
แลกมาครึ่งหนึ่งกลับตกอยู่ในมือของหมิ่นซือเหนียน แม้แต่ตวั นาง
เองยังเป็นของที่หมิ่นซือเหนียนหวงแหน แต่นางเองก็หมดหนทาง
ไม่พึ่งเขา หอซิ่งชุ่นแห่งนี้ก็ประคับประคองไม่ไหวหรอก

แม่เล้าฉินติดตามหมิน่ ซือเหนียนมาสิบกว่าปีแล้ว รู้นิสัยของเขาเป็น


อย่างดี แม่นางในหอซิ่งชุนแห่งนี้ไม่มีใครไม่กลัวเขา เมื่อเจ้าทำผิด
เขาก็จะใช้แส้โบยทันที โบยจนเจ้าอยากตายไปเสียยังดีกว่า

“ลุกขึ้นเถอะ” ในขณะที่แม่เล้าฉินอดสั่นระริกไม่ได้ หมิ่นซือเหนียน


ก็เอ่ยปาก
เอ้อร์กุ้ยราวกับได้รับนิรโทษกรรม กล่าวอย่างประหลาดใจ
“ขอบคุณนายท่านสามที่เมตตา ขอบคุณนายท่านสามที่เมตตา” ดี
จริงๆ ในที่สุดก็ไม่ต้องถูกโบยแล้ว แส้ของนายท่านสามไม่เหมือนแส้
ทั่วไป บนแส้ของนายท่าสามมีหนาม โบยลงไปบนตัวก็สามารถดึง
เนื้อของคนออกมาด้วย แส้โบยลงมาพักหนึ่ง ใครบ้างไม่ต้องนอนพัก
ฟื้นอยู่บนเตียงครึ่งปี ครึ่งปีหายดีแล้ว ข้างกายนายท่านสามก็มีคน
ใหม่ไปนานแล้ว ไหนเลยจะมีทขี่ องเจ้าอยู่

ตอนนี้ชายสวมชุดจอมยุทธ์ผหู้ นึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เรียกนาย


ท่านสามหนึ่งครา จากนั้นจึงกล่าว “ผูน้ ้อยไปสืบมาแล้วขอรับ เด็ก
หนุ่มสองคนนั้นพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมหรงฝู ข้างกายคล้ายมีทหารคุ้มกันที่
มีความสามารถอย่างยิ่งติดตามอยู่หลายคน”
ในดวงตาของหมิ่นซือเหนียนมีแสงเย็นเยียบกะพริบผ่าน เด็กน้อย
คิดว่ามีที่พึ่งแล้วจึงไม่กลัวงั้นหรือ ทำลายเกียรติข้าแล้ว ไม่หนี แต่
กลับลอยหน้าลอยตาอยู่ต่อ คิดจริงๆ หรือว่าตนเป็นมังกรเก่งกาจ
ในอาณาเขตเมืองทงโจวแห่งนี้ ข้าเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ไม่ว่าเจ้า
จะเป็นอะไร เป็นมังกรเจ้าก็ต้องก้มหัวให้ข้า เป็นเสือเจ้าก็ต้องหมอบ
ลงให้ข้า กล้ามายุแหย่ข้า คิดว่าข้าฆ่าเจ้าไม่ได้หรือ

“รู้ภูมิหลังของพวกเขาหรือไม่” หมิ่นซือเหนียนถาม

“คนที่จับกลับมาคนแรกดูเหมือนจะเป็นคุณชายตระกูลร่ำรวย ไม่
เคยออกจากบ้านมาก่อน คนก็โง่เขลา” ผู้ใต้บังคับบัญชานึกถึง
เหตุการณ์ที่คนโง่ผนู้ ั้นให้เงินจำนวนมากแก่ขอทานข้างถนน ทำให้
คนมาแย่งชิง ส่วนเขาที่ไร้ประสบการณ์ก็เข้าไปไกล่เกลี่ยจนแทบจะ
ถูกตีพักหนึ่ง

“สำหรับเด็กคนหลังคล้ายเป็นบุตรหลานขุนนาง ได้ยินเด็กใน
โรงเตี๊ยมหรงฝูบอกว่าพวกเขามีนายสามคน ญาติผู้พี่ ญาติผนู้ ้อง
และกูไหน่ไนอีกหนึ่งคน คล้ายจะกลับเมืองหลวงไปเยีย่ มญาติ นาย
ท่านสาม ท่านคิดว่า?” ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้นั้นกล่าวไปพลาง สีหน้าก็
มีความลังเลหลายส่วน

ตระกูลหมิ่นไม่มีใครในทงโจวกล้ายุแหย่ แม้แต่ใต้เท้าข้าหลวงก็ต้อง
ให้เกียรติหลายส่วน แต่อย่างไรเสียเด็กคนนั้นก็เป็นบุตรหลาน
ตระกูลขุนนาง แต่ไหนแต่ไรมาประชานชนสู้ขุนนางไม่ได้ ใครจะรู้ว่า
เบื้องหลังเด็กคนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ยุ่งยากซับซ้อนอะไรหรือไม่

ทว่าหมิ่นซือเหนียนกลับไม่คิดเช่นนี้ เป็นบุตรหลานขุนนางแล้ว
อย่างไร คุณชายคุณหนูตระกูลขุนนางที่ส่งผ่านมือเขาออกไปมีน้อย
หรือไร ถึงตอนนั้นทิ้งศพไว้ที่กน้ แม่น้ำ ลบร่องรอยทั้งหมด ใครจะสืบ
สาวมาถึงตัวเขาได้อีก ต่อให้สบื มาถึงตัวเขาเขาก็ไม่กลัว หลักฐาน
หลักฐานเล่า ไม่มีหลักฐานแล้วจะทำอะไรเขาได้

“คืนนี้เจ้าพาคนฝีมือดีไปให้มากหน่อย ให้คนในเมืองทงโจวได้เห็น
จุดจบของคนที่ยุแหย่นายท่านสามแซ่หมิ่นเช่นข้า” หมิ่นซือเหนียน
วางแก้วชาลงบนโต๊ะอย่างแรง ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุร้าย
ตอนนี้ใต้เท้าอวี๋ข้าหลวงเมืองทงโจวถือเทียบเชิญของจวนจงอู่โหว
ลำบากใจไม่สิ้นสุด นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน คุณชายจวนจงอู่โหววิ่ง
มาถึงเมืองทงโจวได้อย่างไร ซ้ำยังไปสร้างความแค้นให้หมิ่นเหล่า
ซานตัวปัญหาผู้นนั้ อีก ตระกูลเจ้าสองคนผูกพยาบาทก็ผูกพยาบาท
ไปสิ เหตุใดต้องลากข้าเข้าไปเกี่ยวด้วย

คุณชายสี่แซ่เสิ่นมาขอยืมคนจากเขา เขาจะให้ยืมหรือไม่ให้ยืมดี
หากให้ยืม ผิดใจหมิน่ เหล่าซาน ตระกูลหมิ่นเป็นผู้มีอำนาจใน
ท้องถิ่น ไปขัดขาเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการได้ง่ายๆ หลายปีมานี้เขา
กับตระกูลหมิ่นต่างคนต่างอยู่ กลับไม่มีปัญหาอะไร แม้ว่าเขาจะไม่
กลัวตระกูลหมิน่ แต่ขอเพียงแค่เขายังดำรงตำแหน่งข้าหลวงเมืองทง
โจวอยู่ ก็ไม่ควรผิดใจตระกูลหมิ่นมากเกินไป
หากไม่ให้ยืม ผิดใจจวนจงอู่โหว ภูมิหลังนี้ใหญ่เสียยิ่งกว่า มีใครไม่รู้
บ้างว่านายท่านผู้เฒ่าเสิ่นโหวผูน้ ั้นเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่จักรพรรดิ
โปรดปราน หากคุณชายสี่แซ่เสิ่นเกิดเรื่องขึ้นในอาณาเขตเมืองทง
โจว เช่นนั้นตำแหน่งข้าหลวงของเขาก็อยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่แน่ว่า
อาจจะนำหายนะมาสู่คนในครอบครัวอีกด้วย

ให้ยืมหรือว่าไม่ให้ยืม ข้าหลวงอวี๋ขมวดคิ้วเดินไปเดินมา ท้ายที่สุดก็


ยังตัดสินใจไม่ได้

ตอนนี้นอกประตูมีเสียงฝีเท้าดังเข้ามา ตามมาด้วยเสียงของฮูหยิน
คิ้วของข้าหลวงอวี๋ก็ยิ่งขมวดมุน่ “ฮูหยินมาได้อย่างไร”
อวี๋ฮูหยินมองค้อนสามีปราดหนึ่ง “ไม่ใช่กลัวว่านายท่านจะตัดสินใจ
ผิดหรือไร” ที่เรือนหน้านางเองก็มีคนสนิท ย่อมรู้เรื่องที่คุณชายสี่
จวนจงอู่โหวมายืมคนแล้ว นางจึงรีบตามมาทันที

ข้าหลวงอวี๋โบกมือ “สตรีเช่นเจ้าจะรู้อะไร อยู่นิ่งๆ ในเรือนหลังก็


พอแล้ว ข้าว้าวุ่นใจอยู่ เจ้าอย่ามากวนข้า”

อวี๋ฮูหยินร้อนใจแล้ว “ข้าว่านะนายท่าน ท่านอย่าได้ทำเรื่องโง่เขลา


เลย ในเมื่อคุณชายสี่จวนจงอู่โหวมาขอยืมกำลังคน เช่นนั้นก็
หมายความว่าเขาชอบท่าน โอกาสผูกสัมพันธ์อันดีเช่นนี้ท่านอย่าได้
โง่ปฏิเสธเลย นัน่ เป็นถึงจวนโหว หากเป็นเวลาปกติ เขาจะเห็นหัว
พวกเราหรือ นายท่านดำรงตำแหน่งมาสามสมัยแล้ว เหตุใดถึงไม่
เลื่อนขั้นเสียที ไม่ใช่เพราะว่าพวกเราไม่มีหนทางหรอกหรือ ตอนนี้
โอกาสที่ส่งมาตรงหน้าท่านต้องคว้าไว้” นางจับแขนของสามี กลัวว่า
เขาจะพลาดโอกาสอันดี

ข้าหลวงอวี๋ยังคงสนใจเล็กน้อยจริงๆ จริงอย่างที่ฮูหยินว่า เขาดำรง


ตำแหน่งข้าหลวงอยู่ที่อวิ๋นโจวมาสามสมัยแล้ว อยากจะเลื่อนขั้นมา
นานแล้ว แต่จนปัญญาไร้หนทาง จึงต้องปล่อยเวลาผ่านไปอย่างไร้
ประโยชน์เช่นนี้มาโดยตลอด

หากอาศัยจวนจงอู่โหวที่พึ่งนี้ มีนายท่านผู้เฒ่าโหวผูน้ ั้นช่วยตนพูด


สักประโยคสองประโยค เช่นนัน้ ตนก็คงจะ…
“แต่ว่าตระกูลหมิน่ เล่า” นางลังเลอีกครั้ง

“ไอหยา นายท่านผู้โง่เขลาของข้า ท่านเป็นใต้เท้าข้าหลวง ตระกูล


หมิ่นจะทำอะไรท่านได้ จะยังทำร้ายท่านได้หรือ อย่างมากก็แค่สร้าง
ความรำคาญให้ท่าน แต่ตำแหน่งนี้ท่านก็เหลืออีกเพียงครึ่งปี สร้าง
ความรำคาญจะสร้างได้ถึงไหน หากท่านไม่สบายใจจริงๆ ก็แอบส่ง
จดหมายให้หมิ่นเหล่าซาน ให้เขาหาวิธีเอง หากเขายอม นายท่านก็
จะกลายเป็นผู้ไกล่เกลี่ย สองฝ่ายไกล่เกลี่ยกันแล้ว เปลีย่ นจาก
สงครามสู่สนั ติภาพ ก็เป็นผลดีของทั้งสองฝ่ายมิใช่หรือ”

ข้าหลวงอวี๋ตาลุกวาวในชั่วขณะ ใช่แล้ว ความคิดนี้ดี เหตุใดเขาถึง


คิดไม่ได้เล่า “ยังคงเป็นฮูหยินที่มคี วามคิดเหนือชั้น” เขายื่นหัวแม่
มือออกไปกล่าวชม
ตอนที่ 202-1 การปะทะระหว่างทางกลับเมืองหลวง

หลังจากใต้เท้าไปแล้ว หมิ่นซือเหนียนก็คว้าแก้วชาบนโต๊ะขึ้นมาแล้ว
ขว้างลงบนพื้นอย่างแรง คนทีย่ ืนรับใช้อยู่ภายในห้องต่างก็ใจสั่น ก้ม
หน้างุดอยากจะให้ตัวเองหายไปจากตรงนี้

“นายท่านสาม ท่านว่าใต้เท้าอวี๋มีเจตนาอันใด” ชายสวมชุดจอม


ยุทธ์เป็นคนสนิทอันดับหนึ่งของหมิ่นซือเหนียน เขาส่งสายตาให้แม่
เล้าฉิน รั้นจะถามกลับ
แม่เล้าฉินเองก็เป็นคนฉลาด ไม่เรียกคนใช้ แต่เก็บกวาดเศษแก้วบน
พื้นด้วยตัวเอง การเคลื่อนไหวเบายิ่งนัก กลัวว่าหากมีเสียงแม้แต่นิด
เดียวจะยั่วยุไฟโกรธของหมิ่นซือเหนียน

หมิ่นซือเหนียนยิ้มเยาะ “เจตนาอันใดงั้นหรือ เพียงแค่เตือนข้าว่านั่น


ไม่ใช่คนที่ข้าจะผิดใจได้ก็เท่านั้น” อวี๋เซวียนตาเฒ่านั่นกลับเอาตัว
รอดได้ ไม่กล้าผิดใจตนเอง แต่ก็ไม่อยากผิดใจคุณชายจวนจงอู่โหว
อะไรนั่น เหอะ ใต้หล้าไหนเลยจะมีเรื่องที่ง่ายเพียงนั้น

แต่ว่าเด็กนั่นคือคุณชายจวนจงอู่โหวในเมืองหลวง นี่กลับทำให้เขา
ประหลาดใจ แต่หลังจากนัน้ เมื่อคิดดูแล้วก็เข้าใจ จวนจงอู่โหวตั้ง
ตระกูลจากการทหาร ข้างกายคุณชายจวนโหวจะไร้คนติดตามหลาย
คนได้อย่างไร มิน่าเล่าเร็วเพียงนั้นถึงได้หาคฤหาสน์เจอแล้ว

ภูมิหลังค่อนข้างใหญ่ แม้ว่าหมิ่นซือเนียนจะไม่กลัว แต่ก็รู้สึกจัดการ


ยากเล็กน้อย

“นายท่าสาม เช่นนั้นคืนนี้พวกเรา?” ชายในชุดจอมยุทธ์ถามต่อ ใน


ใจเขาเองก็ยังคงหวาดกลัวอยูห่ ลายส่วน ให้ตายเถอะ นั่นคือคุณชาย
จวนโหว คืนนี้ผู้ที่เขาต้องพาคนไปจูโ่ จมคาดไม่ถึงว่าเป็นคุณชายจวน
โหว ปู่เขากระดิกนิ้วก็บดขยี้ตนได้แล้วมิใช่หรือ โชคดีที่ใต้เท้าอวี๋นำ
ข่าวนี้มาบอก ไม่เหมือนหมิน่ ซานเหนียนที่เดือดดาล เขากับรู้สึกดีใจ
อย่างยิ่ง
“ถูกคนเปิดเผยตัวแล้ว ยังจะไปทำไมอีก” หมิ่นซือเนียนกล่าวอย่าง
อารมณ์ไม่ดี “ไม่ใช่ใต้เท้าอวี๋พูดหรือว่า เขาส่งกำลังคนไปแล้ว พวก
เราไปจะยังได้อะไรขึ้นมา” อวีเ๋ ซวียนสมควรตายผู้นี้

ชายในชุดจอมยุทธ์ถอนหายใจยาวโล่งอกอยู่เงียบๆ ในใจ

เสิ่นเวยทราบว่าพลลับหนึ่งไปยืมคนจากใต้เท้าข้าหลวงมาได้สำเร็จ
เข้าใจเรื่องราวที่ผ่านมาแล้ว มุมปากนางก็ยกขึ้น ดูท่าแล้วคืนนี้จะ
หลับสบายได้แล้ว สำหรับจิตใจของใต้เท้าข้าหลวงผู้นั้นนางกลับเดา
ได้หลายส่วน นางไม่ถือสาเลยแม้แต่นิดเดียว เรื่องบนโลกก็เป็น
เช่นนี้ แวดวงขุนนางก็เป็นเช่นนี้ ขอเพียงแค่ใต้เท้าข้าหลวงผูน้ ี้ไม่ใช่
คนเลอะเลือน นางก็ไม่ถือสาที่จะผูกพันธมิตรเพิ่มอีกหนึ่งคน
หลายปีมานี้ที่ใช้ชีวิตมา รวมกลุ่มกันจึงจะไปได้ไกล สู้เพียงลำพัง
เรี่ยวแรงยังคงไม่พอ

หมิ่นซือเหนียนไม่มีอารมณ์กินอาหารชั้นดีที่วางอยู่เต็มโต๊ะเลยแม้แต่
นิดเดียว ก้มหน้าดื่มสุราแก้วแล้วแก้วเล่า แม่เล้าฉินที่รินสุราอยู่ข้างๆ
ก็อกสั่นขวัญแขวน แม้จะรู้ว่าหมิ่นซือเหนียนคอแข็ง แต่ก็ไม่อาจดื่ม
หนักเช่นนี้ได้ ดื่มจนเมาแล้วยังไม่รู้ว่าจะทรมานตัวเองอย่างไร นึกถึง
นิสัยของหมิ่นซือเหนียน สีหน้าแม่เล้าฉินก็ซีดลงหลายส่วนอย่างอด
ไม่ได้
“นายท่านสาม เอาแต่ดื่มสุราเช่นนี้จะไปสนุกอะไร ให้ข้าเรียกแม่
นางหลายคนมาขับเพลงให้ท่านอารมณ์ดีดีหรือไม่ ช่วงนี้ซูซูเรียน
เพลงบทใหม่หลายบท ท่านยังไม่เคยฟังมิใช่หรือ ไม่สู้เรียกนางมา…”

พูดยังไม่ทันจบก็ถูกหมิ่นซือเหนียนตัดบท “ขับเพลงอะไร หนวกหู


ข้ากลุ้มใจ เจ้านั่งลง ดื่มเป็นเพื่อนข้าสองแก้ว”

“เจ้าค่ะ ข้ารับคำสั่ง” ต่อให้แม่เล้าฉินจะไม่ยินยอมก็ต้องดื่มสุราเป็น


เพื่อนอย่างยินดี
หมิ่นซือเหนียนยิ่งดื่มตาก็ยิ่งเป็นประกาย แม่เล้าฉินยิ่งดื่มจิตใจก็ยิ่ง
เต้น กล่าวด้วยความกล้าหาญ “นายท่านสาม พอได้แล้วกระมัง ข้า
ไม่ไหวจริงๆ” สุราออกฤทธิ์ ทัง้ ใบหน้าของแม่เล้าฉินก็แดงก่ำ

ทว่าหมิ่นซือเหนียนไม่สนใจนาง กลับขึ้นเสียงเรียก “เอ้อร์กุ้ย เข้า


มา”

เอ้อร์กุ้ยที่ยืนรับใช้อยู่ข้างนอกวิ่งเข้ามาทันที รอยเลือดบนศีรษะเขา
ล้างสะอาดแล้ว ศีรษะทั้งศีรษะพันผ้าขาวไว้หนึ่งรอบ มองไปแล้วดู
ตลกอย่างถึงที่สุด
“นายท่านสาม ท่านมีอะไรรับสั่งหรือขอรับ” บนใบหน้าเขามีรอยยิ้ม
สอพลอ ท่าทางเป็นสุนัขรับใช้

มือที่ถือแก้วของหมิ่นซือเหนียนหยุดชะงัก จากนั้นจึงจรดแก้วสุราไว้
ตรงมุมปาก เงยหน้า สุราในแก้วก็ลงท้องไปทั้งหมด “ไปเชิญ
อาจารย์เฮ่อมา” ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งไม่ยินยอม หากปล่อยให้จบเช่นนี้ใน
ภายหน้าเขาก็คงจะต้องกินไม่ได้นอนไม่หลับไปอีกนาน

เอ้อร์กุ้ยตกตะลึง ทันใดนั้นก็กล่าวด้วยความเคารพ “ขอรับ บ่าวจะ


ไปเดี๋ยวนี้”
เอ้อร์กุ้ยติดตามหมิ่นซือเหนียนมาหลายปีแล้ว ย่อมต้องเข้าใจเจตนา
ในการเรียกอาจารย์เฮ่อผู้นี้ อาจารย์เฮ่อเป็นบุคคลพิเศษอย่างยิ่งข้าง
กายนายท่านสาม จัดการปัญหายุ่งยากจำนวนหนึ่งให้นายท่าน
โดยเฉพาะ ปกติก็อยู่แต่ในเรือนของตน ไม่ชอบออกจากบ้าน เรือน
หลังนัน้ ของเขาคนอื่นไม่ก็ชอบเข้าไป เหตุใดน่ะหรือ เอ้อร์กุ้ยก็บอก
ไม่ถูก แต่มักจะรู้สึกว่าเรือนของอาจารย์เฮ่อมืดทะมึน เมื่อเข้าไปก็
รู้สึกหวาดกลัวอย่างไม่มีเหตุผล

อาจารย์เฮ่อมาเร็วอย่างยิ่ง “นายท่านสาม” เขาประสานมือคารวะ


หมิ่นซือเหนียน ท่าทางตามอำเภอใจอยางถึงที่สุด มีความสง่างามที่
บอกไม่ถูก เสียงคาดไม่ถึงว่าไพเราะอย่างถึงที่สุด ไม่เข้ากับ
ภาพลักษณ์ภายนอกของเขาอย่างสิ้นเชิง
อาจารย์เฮ่อดูไม่มีความกลุ้มใจเลยแม้แต่น้อย กลับเหมือน
นักปราชญ์ที่มีความรู้ผู้หนึ่ง ในดวงตาที่ลุ่มลึกหนึ่งคู่เต็มไปด้วยความ
เมตตาและรอยยิ้ม

หมิ่นซือเหนียนเองก็ไม่ได้ถือสาที่เขาไม่ถ่อมตน แต่กลับกล่าวอย่าง
สุภาพ “ครั้งนี้ต้องรบกวนอาจารย์ออกมือแล้ว”

“ไม่เป็นไร นายท่านสามเชิญรับสั่ง” อาจารยเฮ่อกล่าว


หมิ่นซือเหนียนตาลุกวาว เล่าเรื่องให้ฟังหนึ่งรอบ อาจารย์เฮ่อก็
กล่าวต่อ “นายท่านสามหวังจะให้ทำถึงระดับใด”

หมิ่นซือเหนียนครุ่นคิดครูห่ นึ่งจากนั้นก็กล่าวอย่างไม่ยนิ ยอม “ให้


บทเรียนเสียหน่อย ไม่ต้องเอาชีวิตก็พอ” เด็กโง่คนนั้นเผาคฤหาสน์
ของเขา ทั้งยังปล่อยสินค้าที่เขาหามาด้วยความยากลำบากหนึ่งกลุ่ม
ใหญ่ หากปล่อยเขาไปอย่างไม่มีบาดแผลเลยแม้แต่นิดเดียว เขาจะ
กล้ำกลืนความแค้นนี้ได้อย่างไร
คุณชายจวนจงอู่โหวแล้วอย่างไร เอาชีวิตเจ้าไม่ได้แล้วยังจะคิด
ดอกเบี้ยให้ข้าไม่ได้อีกหรือ มิหนำซ้ำใครจะรู้ว่าเรื่องนี้ข้าเป็นคนทำ
คนของข้าไม่ได้ขยับอย่างสิ้นเชิง

ดังเช่นตระกูลใหญ่ทรงอำนาจ ตระกูลใดบ้างไม่มีไพ่ลับหลายๆ ใบ
และอาจารย์เฮ่อก็คือไพ่ลับหนึง่ ใบที่ดีที่สุดในมือหมิ่นซือเหนียน อัน
ที่จริงเขาเองก็ไม่รู้ว่าอาจารย์เฮ่อเป็นใครมาจากไหน กระทั่งไม่รู้ว่า
แท้จริงแล้วเขาแซ่เหอ หรือว่าในชื่อมีอักษรเฮ่ออยู่ เขาเพียงแค่
บังเอิญช่วยชีวิตเขาไว้หนึ่งครั้ง เขาจึงติดตามเขามาตระกูลหมิ่น
หลายปีมานี้ช่วยเขาจัดการเรื่องที่เขาไม่สะดวกออกมือไม่น้อย ทำให้
ฐานะในตระกูลหมิ่นของตนมัน่ คงยิ่งขึ้น ความระมัดระวังตัวในตอน
แรกที่เขามีต่ออาจารย์เฮ่อก็กลายเป็นความเชื่อใจและเคารพ
อย่างเช่นในตอนนี้
ราตรีมืดมิดสายลมกรรโชก ควรค่าแก่การสังหารวางเพลิง อาจารย์
เฮ่อยืนอยู่บนหลังคาเงยหน้ามองนภาที่ดำมืด ดวงจันทร์ในคืนนี้ราว
กับสัมผัสได้ถึงความไม่สงบ มักจะหลบเข้ากลีบเมฆอยู่เสมอ ดวง
ดาราก็ไม่มากเช่นกัน ประหนึ่งง่วงนอน กะพริบตาอย่างโรยแรง
หากเป็นกลางวัน เจ้าจะต้องมองเห็นความทุกข์ตรมในแววตาของ
อาจารย์เฮ่อ เสมือนพระพุทธเจ้าที่โปรดสรรพสิ่งอยู่บนตำหนัก

แม้เสิ่นเวยจะบอกว่าโหยหาการนอนหลับสนิท แต่ความตืน่ ตัวที่


ฝึกฝนมาในหลายปีนี้ก็ยังคงอยู่ แทบจะในทันทีที่อาจารย์เฮ่อจรด
เท้าลงที่นอกประตูนางก็รู้สึกตัวแล้ว นางนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับ แต่
มือกลับคลำไปใต้หมอน
เสิ่นเวยลืมตาอยู่ กุมกริช ร่างทั้งร่างกระชับตึง เตรียมพร้อมโจมตีทุก
เมื่อ

รออยู่นานแล้วก็ยังไม่มีควันสลบ ซ้ำยังไม่มีการจู่โจม ในห้องกลับมี


เสียงถอนหายใจดังขึ้นมา “คุณชายท่านนี้ตนื่ แล้วสินะ”

เสิ่นเวยตกใจ แต่กลับไม่ได้ส่งเสียง กระทั่งลมหายใจก็ไม่เปลีย่ น นาง


ไม่แน่ใจว่าคนที่มาหลอกนางหรือไม่ ทำได้เพียงเตรียมระวังอยู่
เงียบๆ
หึ เสียงหัวเราะเบาๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นอีกครั้ง “กลับเป็นคนรอบคอบ
ดีนี่ มีสหายเดินทางไกลมาหา ไม่ใช่ควรลุกจากเตียงมาต้อนรับหรอก
หรือ”

คนผู้นสี้ ติไม่ดี นี่คือความคิดแรกของเสิ่นเวย กลางดึกยามสามเข้ามา


ในห้องคนอื่น นี่ไหนเลยจะเป็นเรื่องที่สหายทำกัน ศัตรูสไิ ม่ว่า
ตอนนี้ เสิ่นเวยเพิ่งจะมั่นใจได้วา่ ผู้ที่มารู้ว่านางตืน่ แล้ว ลมปราณของ
นางก่อนหน้านี้กห็ ลุดไปเล็กน้อย คาดว่าถูกคนสังเกตเห็นแล้ว

“บนโต๊ะมีคบไฟ รบกวนสหายจุดเทียนไขที พวกเราจะได้นั่งสนทนา


กันยามค่ำคืน” เสิ่นเวยเอ่ยปากกล่าว
หึ เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นอีกครั้ง “เช่นนั้นพวกเราจะคุยอะไรกันดี
เล่า” ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความสนใจ ราวกับว่าเสิ่นเวยเล่าเรื่อง
ตลกอย่างยิ่ง

“ย่อมต้องพูดคุยเรื่องชีวิตเอยความคิดเอยต่างๆ นานา จะได้ถือ


โอกาสพูดคุยว่ากลางดึกสหายไม่หลับไม่นอนแอบเข้ามาหาข้าทำไม
นิสัยเช่นนี้ไม่ดีเลย” พูดยังไม่ทนั ขาดคำ คนก็จู่โจมเข้ามาแล้ว กริช
ในมือแทงไปยังผู้ที่มาอย่างโหดเ**้ยม

ผู้ที่มาคล้ายรูว้ ่าเสิ่นเวยจะทำเช่นนี้ เท้าก้าวหนึ่งจังหวะก็หลบกริช


ของเสิ่นเวยได้แล้ว ระหว่างนัน้ เสิ่นเวยก็แทงเข้ามาอีกสี่ห้าครั้ง ล้วน
แต่ถูกผู้ที่มาหลบได้ทั้งสิน้
ปังๆๆ ชั่วพริบตาทั้งสองก็ผลัดกันโจมตี ท่ามกลางความดำมืดก็ผ่าน
ไปสิบกว่ากระบวนท่าแล้ว แต่กลับไม่มีใครยอมใคร เสิ่นเวยกล่าวใน
ใจ แย่ล่ะ นี่มันยอดฝีมือ คนผูน้ ี้หลบทหารลับได้ จะต้องมี
ความสามารถมากแน่ๆ เขาติดอยู่กับนางที่นี่ ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ห้อง
ท่านอาและลูกผู้น้องจะมีคนหรือไม่ หากมี เช่นนั้นก็แย่แล้วจริงๆ

อาจารย์เฮ่อที่มาก็ประหลาดใจเช่นกัน ไอหยา คุณชายจวนโหวที่ว่า


ผู้นี้เก่งอย่างยิ่งจริงๆ มิน่าเล่าหมิ่นเหล่าซานถึงได้เสียเปลี่ยนในมือ
เขา ตอนที่มาเขาคิดไว้แล้วว่า ในเมื่อหมิ่นเหล่าซานบอกว่าให้ไว้ชีวิต
เช่นนั้นเขาตัดขาเขาไปข้างหนึ่งก็พอแล้ว คุณชายจวนโหวที่ขาด้วน
จะต้องน่าสนใจอย่างยิ่ง ตอนนีด้ ูท่าแล้วคงจะไม่ง่ายยิ่งนัก
ชั่วพริบตาก็ผ่านไปอีกสิบกว่ากระบวนท่า แม้เสิ่นเวยจะไม่
เสียเปรียบ แต่นางก็รู้ว่าสู้ต่อไปเช่นนี้ก็ไม่ได้ ในเมื่อรีบรบรีบจบไม่ได้
เช่นนั้นก็ต้องหาคนช่วยแล้ว

เมื่อเกิดความคิดนี้ เสิ่นเวยก็ถีบโต๊ะอย่างแรง กระแทกไปกับประตู


ส่งเสียงดังสนัน่ อย่างยิ่ง

“แย่แล้ว รีบไปคุ้มกันนายท่าน” ในที่สุดโอวหยางไน่กับทหารลับก็ได้


ยินการเคลื่อนไหว นอกจากคนที่คุ้มกันเสิ่นหย่าสองแม่ลูกจะไม่ขยับ
คนทั้งหมดที่เหลือก็วิ่งไปทางห้องของเสิ่นเวย แม้แต่คุณชายคนโง่ผู้
นั้นก็มาแล้วเช่นกัน
“พี่ชายไม่ต้องกลัว ข้าน้อยมาช่วยท่านแล้ว” คุณชายคนโง่ อ้อไม่
เขาบอกเสิ่นเวยเองว่าเขาแซ่ฟู่ คุณชายฟู่ตะโกนเสียงดังโผเข้ามาหา
อาจารย์เฮ่อทันที

มุมปากของเสิ่นเวยกระตุกเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าหมอนี่ถือเทียนมา
ด้วย ห้องที่เขาอยู่ห่างจากห้องของเสิ่นเวยระยะหนึ่ง ไม่รู้เหมือนกัน
ว่าเขาปกป้องไฟไม่ให้ดับทั้งยังวิ่งมาเร็วเพียงนั้นได้อย่างไร
ตอนที่ 202-2 การปะทะระหว่างทางกลับเมืองหลวง

คุณชายฟู่โยนเทียนในมือไปบนร่างอาจารย์ฟู่ ยกหมัดขึ้นแล้วต่อย
ออกไป ท่ามกลางแสงไฟเสิ่นเวยมองเห็นโฉมหน้าของอาจารย์เฮ่อ
ประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ มือสังหารไม่ใช่หน้าตาโหดเ**้ยมดุร้ายน่า
กลัวหรอกหรือ เหตุใดมือสังหารผู้นี้ถึงได้เหมือนนักปราชญ์เลยเล่า

มีคุณชายฟู่กับทหารลับเข้ามา ชั่วขณะเสิ่นเวยก็ผ่อนคลายลง
โดยเฉพาะคุณชายฟู่ผู้นั้น ต่อยไปทางขวา เตะไปทางซ้าย อีกทั้งยัง
ร้องฮือๆ ไม่หยุด ประหนึ่งจนตรอกอย่างยิ่ง แต่เสิ่นเวยสังเกตเห็นว่า
เขาสามารถหลบกระบวนท่าสังหารในอันตรายซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ทุก
ครั้ง อย่าเห็นว่าเขาร้องโวยวาย ความจริงแล้วไม่ได้ถูกโจมตีเลย
นี่ทำให้เสิ่นเวยยิ่งมัน่ ใจว่าหมอนี่ทำซื่อเป็นแมวนอนหวด จึงปล่อยให้
เขาร้องตวาดไป ทำให้มือสังหารสับสนวุน่ วายจึงจะดี น่าเสียดายที่
เป้าหมายที่นางปรารถนากำลังจะล้มเหลวแล้ว อาจารย์เฮ่อสีหน้าไม่
สะทกสะท้าน กระบวนท่าก็ดุดนั ไม่ได้รบั ผลกระทบจากโลก
ภายนอกอย่างสิ้นเชิง

อาจารย์เฮ่อรู้ว่าวันนี้โจมตีไม่ได้แล้ว ต่อให้วรยุทธ์เขาจะสูงก็ยากจะ
ต่อสู้กับศัตรูหลายคน โดยเฉพาะเด็กที่โวยวายผูน้ ี้ เขาจะจัดการเขา
อย่างไร ปลายกระบี่อยู่ห่างจากเขาตั้งไกลก็ร้องจนห่างออกไปสิบลี้ก็
ยังได้ยิน แต่ว่าที่เด็กคนนี้ทำเป็นศิลปะการป้องกันตัวของตระกูลฟู่
เขาเป็นอะไรกับฟู่เซิ่งเทียนกัน
อาจารย์ฟู่คาดการณ์ได้ว่าไม่ดแี ล้ว เก็บพิรุธแล้วใช้กระบวนท่าหนึ่ง
กระโดดออกมาจากวงล้อม ประหนึ่งลูกนกนางแอ่นที่โผบินเข้าป่า
ขึ้นๆ ลงๆ ไม่กี่ครั้งก็หายไปในแสงยามราตรีที่ไร้ขอบเขตแล้ว

ทหารลับจะตามไป ถูกเสิ่นเวยห้ามไว้ “ไม่ต้องตามแล้ว” ตามไป


แล้วอย่างไร อย่าได้ตกหลุมพรางกลยุทธ์ล่อเสือออกจากถ้ำของเขา
เด็ดขาด ปกป้องโรงเตี๊ยมให้ดีก่อน อย่าให้เขาได้มีโอกาสอีก

เสิ่นหย่าตกใจตืน่ แล้ว ตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่ทำก็คือวิ่งไปที่ห้องลูกสาว


เห็นลูกสาวยังคงนอนหลับสนิท ก็วางใจลง ตอนนี้เห็นเสิน่ เวยเข้ามา
นางก็จับมือของเสิ่นเวยไว้ทนั ที “หลานสี่ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่
นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น” นางถูกเยว่ว์กุ้ยคุ้มกันไว้ในห้อง แต่นางได้ยิน
เสียงดาบกระบี่ปะทะกันข้างนอก นางกลัวยิ่งนัก แม้ว่าหลานสี่จะมี
ความสามารถ แต่อย่างไรเสียก็เป็นเพียงสตรีคนหนึ่ง

“ท่านอา ข้าไม่เป็นไร เพียงแค่โจรขโมยของคนหนึ่ง ไล่เขาหนีไป


แล้ว ท่านรีบไปพักเถอะ พรุ่งนี้เช้าพวกเราก็ขึ้นเรือแล้ว ท่านต้อง
พักผ่อนให้เพียงพอ” เสิ่นเวยกล่าวอย่างเรียบง่าย ทั้งยังปลอบขวัญ
ท่านอานางอยู่พักหนึ่งจึงกล่อมให้นางกลับไปได้

โอวหยางไน่พาคนไปตรวจดูรอบหนึ่ง ส่ายหน้าให้เสิ่นเวย “ไม่มี


ความผิดปกติ คาดว่ามาแค่ผู้นผี้ ู้เดียว” เสิ่นเวยพยักหน้าเบาๆ วางใจ
ลงแล้ว
ส่วนกำลังคนหนึ่งกลุ่มที่ยืมมาจากใต้เท้าอวี๋ตอนนี้ต่างก็เข้ามาแล้ว
คนผู้นนั้ ที่นำมาสีหน้าเหยเก เจ้าว่านี่มันเรื่องอะไรกัน ใต้เท้าอวี๋ส่ง
พวกเขามาปกป้องคุณชายหนุ่มผู้นี้ ผลสุดท้ายเล่า โรงเตี๊ยมมีมือ
สังหารมาพวกเขาไม่รู้ตัวเลย จนกระทั่งพวกเขาได้ยินการเคลื่อนไหว
คนก็ไล่มือสังหารหนีไปแล้ว กลับไปจะรายงานใต้เท้าอย่างไร

“คุณชายเสิ่น” คนผู้นนั้ ที่นำมาเอ่ยปากด้วยสีหน้าอึกอัก แต่กลับถูก


เสิ่นเวยแย่งพูดขึ้นก่อน “การตรวจตราครึ่งคืนหลังจากนี้ก็รบกวนทุก
ท่านแล้ว”

คนผู้นนั้ ที่นำมาถอนหายใจในชั่วขณะ ตอบรับเต็มปากเต็มคำ “ควร


เป็นเช่นนั้น ควรเป็นเช่นนั้น คุณชายเสิ่นวางใจเถิด มีพวกข้าพี่น้อง
อยู่ ไม่อาจเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแน่นอน” เขาตบอกรับประกัน นำคน
ลงไปจัดระเบียบ

เสิ่นเวยโบกมือให้คนทั้งหมด ไม่มีอารมณ์จะพูดแม้แต่นิดเดียว ในใจ


นางรู้ดีอย่างยิ่ง คนผู้นนั้ ในคืนนี้จะต้องเป็นคนที่หมิน่ ซือเหนียนส่งมา
แน่นอน แต่ว่าในมือนางไม่มหี ลักฐาน เฮ้อ นี่ก็ดึกมากแล้ว ไปนอน
ก่อนดีกว่า นอนตื่นแล้วจึงจะมีอารมณ์มาคิดแก้ปัญหา เรื่องที่ใหญ่
เท่าฟ้าพรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันแล้วกัน

เสิ่นเวยเตะคุณชายฟู่ที่โวยวายว่านางได้ผลประโยชน์แล้วทิ้งผูน้ ั้น
ออกไป เดินหาวคลานขึ้นเตียง
คราวนี้โอวหยางไน่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่ยอมออกห่างแล้ว เฝ้าอยู่
นอกประตูห้องคุณหนูของเขาราวกับเสาหนึ่งต้น ส่วนทหารลับก็พา
กันซ่อนตัว

เช้าวันที่สอง กลุ่มของเสิ่นเวยเพิ่งจะทานข้าวเช้าเสร็จ ข้าหลวงอวี๋


กับหมิ่นซือเหนียนก็รีบตามมา

“คุณชายเสิ่น ฟังว่าเมื่อคืนมีมือสังหารมา พวกท่านไม่เป็นอะไรใช่


หรือไม่” ข้าหลวงอวี๋ถามไถ่ทันที เมื่อเช้าได้รับข่าวเขาก็กลัดกลุ้มใจ
กลัวว่าคุณชายท่านนี้จะเกิดอะไรขึ้นในอาณาเขตของเขา
หมิ่นซือเหนียนเองก็มีสีหน้าเป็นกังวล “ใช่แล้ว ใช่แล้ว คุณชายไม่
เป็นอะไรใช่หรือไม่ ผู้แซ่หมิ่นได้ยินใต้เท้าอวี๋พูดขึ้นมา ตกใจแทบแย่
เหตุใดถึงพบมือสังหารได้” เห็นเสิ่นเวยยืนอยู่ตรงหน้าอย่างแข็งแรง
ปลอดภัย ในใจเขาก็เต็มไปด้วยความเสียดาย แต่ทนั ใดนั้นก็นึกขึ้นได้
ทำร้ายเจ้าไม่ได้ เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าเกลียด ขอเพียงแค่สร้าง
ความรำคาญใจให้เจ้า เช่นนั้นข้าก็มีความสุขแล้ว ดังนัน้ เช้าวันนี้เขา
จึงมาสร้างความรำคาญใจให้เสิ่นเวย

“คนผู้นี้คือ?” เสิ่นเวยตั้งใจถามด้วยความสงสัย ในใจกลับฝากความ


คิดถึงไปให้บรรพบุรุษแปดชั่วโคตรของหมิ่นซือเหนียนหนึ่งรอบแล้ว
บนใบหน้าของหมิ่นซือเหนียนผะอืดผะอมขึ้นมา ความโกรธแวบผ่าน
ดวงตาเขาไป ข้าหลวงอวี๋แอบดีใจเงียบๆ สำหรับเรื่องมือสังหารเมื่อ
คืนเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ ดังนั้นจึงไม่พอใจหมิ่นซือเหนียนอย่างมาก อุส่า
ตั้งใจไปบอกก่อนแล้ว เจ้าก็ยังจะเลื่อนขาเก้าอี้ข้างั้นหรือ

“มาๆ ให้ข้าแนะนำให้คุณชายเสิ่น คนผู้นี้คือนายท่านสามตระกูล


หมิ่นเมืองทงโจวของพวกเรา ก่อนหน้านีน้ ายท่านสามแซ่หมิน่
ล่วงเกินคุณชายเสิ่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขามาของให้ข้าเป็นผู้ไกล่เกลี่ย
ใต้เท้าคุณชายเสิ่นมีอำนาจมาก คงไม่คิดเล็ดคิดน้อยกับนายท่าน
สามหรอกกระมัง หืม? ฮ่าๆ” ข้าหลวงอวีห๋ ัวเราะฮ่าๆ อยากลบเรื่อง
นี้ออกไป ไม่ใช่ว่าเขาจิตใจดี แต่เขากลัวว่าทั้งสองคนทะเลาะกัน จะ
ลามมาถึงตัวเขาด้วย
หมิ่นซือเหนียนเองก็รีบก้าวขึ้นไปข้างหน้า “เป็นพวกบ่าวที่ไม่รู้
ประสา ล่วงเกินคุณชายเสิน่ หวังว่าคุณชายเสิ่นจะเมตตา ปล่อยผู้แซ่
หมิ่นไป” เขาโบกมือ ก็เห็นเด็กรับใช้สิบกว่าคนยกของขวัญก้าวเข้า
มา “ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ หวังว่าคุณชายเสิ่นจะให้อภัย”

ปากก็พูดจาน่าฟัง แต่สีหน้าท่าทางในแววตากลับโองหังยิ่งนัก ราว


กับว่าได้รบั คำขอโทษจากเขาหนึ่งประโยคก็เป็นเกียรติมากแล้ว

ให้อภัยย่าเจ้าสิ เสิ่นเวยบ่นคำหยาบในใจหนึ่งประโยค ทว่าบน


ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความจริงใจและซาบซึ้ง ปากเองก็พูดจาน่า
ฟัง “ดูนายท่านสามพูดเข้า ล่วงเกินไม่ล่วงเกินอะไร พวกเราเองก็
นับว่าไม่ทะเลาะก็ไม่ได้รู้จัก อันที่จริงจะว่าไปแล้วกลับเป็นข้าที่ผิด
ข้าอายุยังน้อยใจร้อน ไม่รู้ว่านัน่ คือการธุรกิจของนายท่านสามแซ่
หมิ่น มิเช่นนั้นก็คงจะไม่จุดไฟ…เฮ้อ คฤหาสน์ดีๆ หนึ่งหลัง หรือว่า
ให้ข้าชดเชยคฤหาสน์หลังใหม่ให้นายท่านสามดี”

ไม่เอยถึงคฤหาสน์ยังดี เมื่อเอ่ยถึงคฤหาสน์แล้วแววตาของหมิ่น
ซือเหนียนก็มีความดุร้ายแวบผ่าน เขามั่นใจมากว่าคุณชายจวนโหวผู้
นี้ตรงหน้าจะต้องตั้งใจ เขาตั้งใจอยากยั่วโมโหตน เหอะ อายุยังน้อย
ก็เล่นอุบายต่อหน้าข้าแล้ว ไม่ดูบ้างว่าเจ้ามีความสามารถนัน้ หรือไม่

ด้วยเหตุนี้หมิ่นซือเหนียนจึงหัวเราะฮ่าๆ “เข้าใจผิด เข้าใจผิด เป็น


เรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด คุณชายเสิ่นพูดถูก พวกเราไม่ทะเลาะก็ไม่ได้
รู้จักกัน ข้าชอบเด็กหนุ่มมากความสามารถเช่นคุณชายเสิ่นทีส่ ุด อ้อ
จริงสิ คุณชายเสิ่นนั่งเรือกลับเมืองหลวงใช่หรือไม่ นั่งเรือดียิ่งนัก
มั่นคง ปลอดภัย” เขากล่าวอย่างมีเลศนัย

ไม่รู้เหมือนกันว่าเสิน่ เวยรูส้ ึกไปเองหรือไม่ นางมักจะรู้สึกว่า ‘มั่นคง


ปลอดภัย’ สี่คำนีห้ มิ่นซือเหนียนเน้นนักเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนนี้ างจึง
ตาลุกวาว เคารพกลับอย่างไม่เกรงใจ “พูดถึงความปลอดภัยข้าก็นึก
ถึงมือสังหารผู้นั้นเมื่อคืน ใต้เท้าอวี๋ เหตุใดพื้นที่เมืองทงโจวถึงได้มีผู้
ที่เก่งกาจเช่นนี้ ใต้เท้าต้องเพิ่มการป้องกันให้มากๆ จึงจะถูก
โรงเตี๊ยมหรงฝูแห่งนี้ห่างจากทีว่ ่าการไม่ไกล” พูดกับข้าหลวงอวี๋
ทว่าสายตากลับมองหมิ่นซือเหนียน
สีหน้าข้าหลวงอวี๋ก็ยิ่งไม่ดีแล้ว มองหมิ่นซือเหนียนเงียบๆ ปราดหนึ่ง
เห็นเขายืนนิ่งไม่ขยับ บนใบหน้าไม่มีความผิดปกติใดๆ ในใจก็อด
เคียดแค้นไม่ได้

เดิมเขายอมให้ยืมกำลังคนก็เพื่อที่จะผูกมิตรกับคุณชายจวนจงอู่โหว
ผู้นี้ ไม่คิดว่าหมิ่นเหล่าซานชายผู้นี้จะไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่นิดเดียว นี่
ไม่ใช่ว่าเป็นการตบหน้าเขาอย่างจังหรอกหรือ อย่างไรเสียเขา
ต่างหากที่เป็นใต้เท้าข้าหลวงเมืองทงโจวแห่งนี้ ตระกูลหมิ่นกลั่น
แกล้งคนเกินไปแล้วจริงๆ ความไม่พอใจที่เขามีต่อตระกูลหมิ่น มีต่อ
หมิ่นซือเหนียนก็เลื่อนขึ้นหลายขั้นในชั่วพริบตา
“ขอบคุณคุณชายเสิ่นที่ตักเตือน ข้าเองก็กำลังสงสัย ตั้งแต่ที่ข้าเข้า
มาดำรงตำแหน่ง เมืองทงโจวแห่งนี้ก็สงบสุขยิ่งนัก เหตุใดเมื่อคืน
คุณชายสี่ถึงพบมือสังหารเข้าได้ เป็นข้าที่บกพร่องต่อหน้าที่ โชคดีที่
คุณชายไม่เป็นอะไร มิเช่นนั้นข้าก็ละอายใจอย่างยิ่งจริงๆ คุณชาย
วางใจ ในเมื่อข้าเป็นขุนนางปกครองเมืองทงโจว จะไม่ให้เกิดเรื่อง
เช่นนี้ขึ้นอีกเด็ดขาด” ใต้เท้าอวี๋สีหน้าจริงจัง พูดด้วยเสียงดังกังวาน
วางมาดขุนนางโปร่งใสเป็นธรรมที่คิดแทนราษฎร

มุมปากเสิ่นเวยปรากฏรอยยิ้ม เหอะ นี่ก็เป็นตาแก่ปลิ้นปล้อน


เหมือนกัน
จำต้องบอกว่าลูกไม้นี้ของเสิ่นเวยยุยงได้ดีจริง อันที่จริงนี่เองก็ไม่
เหมือนการยุยง ที่เสิ่นเวยพูดล้วนแต่เป็นความจริง นี่คือแผนเปิดโปง
ที่ตรงไปตรงมา

หมิ่นซือเหนียนย่อมฟังการยุยงในคำพูดของเสิ่นเวยและความไม่
พอใจในวาจาของข้าหลวงอวี๋ออกแล้ว แต่แล้วอย่างไรเล่า หลักฐาน
ล่ะ หลักฐานเล่า เจ้าพูดปากเปล่าว่ามือสังหารเป็นข้าที่ส่งมา ข้าก็
พูดได้ว่าเจ้ามีเจตนาร้ายสาดสีใส่ข้าเช่นกัน

สำหรับข้าหลวงอวี๋ ฮ่าๆ ยิ่งไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ เจ้าเป็นข้าหลวง


เมืองทงโจวก็จริง ดังนั้นก็ต้องเห็นสีหน้าการกระทำของตระกูลหมิ่น
ข้าเหมือนกันมิใช่หรือ ข้าไม่ขัดขาเจ้าก็ถือว่าไว้หน้าเจ้ามากแล้ว
เหอะๆ ยั่วโมโหนายท่านสาม นายท่านสามจะทำให้เจ้านั่งอยู่ใน
ตำแหน่งข้าหลวงนี้ไม่ติด

เห็นความเหยียดหยามแวบผ่านใบหน้าหมิ่นซือเหนียน ในใจ
ข้าหลวงอวี๋ก็ยิ่งแค้น เสิน่ เวยเห็นท่าทีแล้ว ก็ยกมุมปากอย่างอดไม่ได้

ภายใต้การส่งของข้าหลวงอวี๋และหมิ่นซือเหนียน เสิ่นเวยก็ขึ้นเรือ
เดินทางต่อ เสิ่นเวยยืนอยูบ่ นดาดฟ้าเรือ เมื่อมองไม่เห็นเงาคนบนฝั่ง
แล้วจึงเข้าไปในห้องใต้ท้องเรือของลูกผู้น้อง เมื่อวานนางถูกทำให้
ตกใจ เสิ่นเวยยังต้องชี้แนะนางสักหน่อย
เรือลำใหญ่เดินทางในน้ำมาสองวันแล้ว คืนวันนี้เสิน่ เวยเปลีย่ นชุด
ขึ้นเรือลำเล็กเงียบๆ คนที่ติดตามมีเพียงโอวหยางไน่กับพลลับหนึ่ง
แม้แต่เถาฮวานางก็ไม่พาไปด้วย แม้เถาฮวาจะห้าวหาญ แต่กลับ
ไม่ใช่คนชำนาญการลอบสังหาร

หากไม่มีการลอบสังหารครั้งนัน้ เสิ่นเวยก็อาจจะปล่อยหมิ่น
ซือเหนียนไป แต่ตอนนีน้ างจะต้องชำระแค้นนี้ให้ได้
ตอนที่ 203-1 ชำระหนี้แค้น

นั่งเรือลำเล็กกลับทางเดิมเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะว่าช้าเกินไป กลุ่ม


เสิ่นเวยสามคน อ้อไม่ใช่สิ กลุ่มสี่คนจึงขึ้นฝั่งขี่ม้าเดินทาง

เหตุใดถึงเปลี่ยนเป็นสี่คนน่ะหรือ คนที่เพิ่มเข้ามาแน่นอนว่าเป็น
คุณชายฟู่คนโง่ผู้นนั้ คืนนัน้ เสิน่ เวยเพิ่งจะลงเรือลำเล็ก คุณชายฟู่ก็
กระโดดลงมาจากข้างบน เชิดหน้ายิ้มซื่อๆ ยียวน “พี่ชายจะไปหา
เรื่องคนแซ่หมิ่นหรือ ข้าน้อยจะไม่ไปด้วยได้อย่างไร พวกเราเป็นพี่
น้องที่ร่วมตกทุกข์ได้ยากมาด้วยกัน” เสิ่นเวยชายตามองเขาปราด
หนึ่งก็อนุญาตโดยนัยแล้ว
ตอนที่เมืองทงโจวอยู่ตรงหน้าก็เข้าสู่บ่ายวันทีส่ องแล้ว พวกเขาไม่ได้
เข้าเมืองทันที แต่เข้าโรงเตี๊ยมเล็กๆ แห่งหนึ่งเพื่อกินข้าวพักเท้าให้
พอแล้วจึงถือโอกาสเข้าเมืองในช่วงที่อาทิตย์ตกดิน แน่นอนว่ามีคน
คอยช่วยเหลือ สามวันก่อนเข้ามาก็เช่าเรือนหลังเล็กไว้เรียบร้อยแล้ว
ต่างฝ่ายต่างเข้าห้องนอนพักเอาแรง

“เจ้ามั่นใจหรือว่าคลังลับของหมิ่นซือเหนียนอยู่ทนี่ ี่” คุณชายฟู่ชี้


คฤหาสน์ที่เคยขังเขาไว้แล้วถามด้วยความสงสัย

ดูผิดหรือไม่ คลังลับไม่ใช่ว่าต้องคุ้มกันอย่างเข้มงวดหรอกหรือ
คฤหาสน์หลังนี้ถูกไฟไหม้แล้วก็กลายเป็นคฤหาสน์ร้างหนึ่งหลัง พวก
เขาเข้ามานานแล้ว แม้แต่เงาผียังมองไม่เห็น หมิ่นซือเหนียนจะเก็บ
คลังลับไว้ที่นหี่ รือ คุณชายฟู่แสดงท่าทีไม่เชื่อ

เสิ่นเวยเองก็มองเสี่ยวตี๋ที่อยู่สบื ข่าวอยู่ที่เมืองทงโจว ในใจนางก็ไม่


มั่นใจ ตามวิธีจดั การของคนทั่วไป ในเมื่อรังแห่งนี้ถูกเปิดเผยแล้ว
เพื่อป้องกันคนอื่นมาสืบสวน คฤหาสน์หลังนี้ก็ต้องกำจัดทิ้งทันที
หมิ่นซือเหนียนเองก็คล้ายจะทำเช่นนี้เหมือนกัน มิเช่นนั้นก็คงมีช่าง
เข้ามาซ่อมแซมแล้ว แต่คลังลับที่สร้างไว้ที่นี่เขาไม่เอาแล้วหรือไร

เสี่ยวตี๋กล่าว “ไม่ผิดเจ้าค่ะ อยูท่ ี่นี่” นางกล่าวอย่างมั่นใจ “เพราะว่า


เวลากระชั้นชิด ผู้น้อยจึงสืบหาได้แค่เพียงคลับลับสองแห่งของหมิ่น
ซือเหนียน แห่งหนึ่งอยู่ที่นี่ อีกหนึ่งแห่งอยู่ในจวนตระกูลหมิ่น หมิ่น
ซือเหนียนไม่ได้ลืมทีน่ ี่ เขากำลังสั่งคนให้มาขนย้ายอย่างลับๆ อยู่
เพียงแต่ที่หอซิ่งชุนคล้ายเกิดเรื่องอะไรขึ้น จึงถูกพวกเราเจาะหา
โอกาสนี้ได้”

เสิ่นเวยพยักหน้า กล่าวในใจ หมิ่นซือเหนียนชายผู้นี้ยังนับได้วา่ มี


สมอง ที่ที่อันตรายที่สุดก็คือทีท่ ี่ปลอดภัยที่สดุ ใครจะคิดได้วา่ ใน
เรือนแห่งนี้ซึ่งขัง ‘สินค้า’ ที่หามาด้วยวิธีต่างๆ นานา ใต้ดินกลับ
สร้างคลังลับเอาไว้

“เอาล่ะ คลังลับอยู่ไหน เจ้านำทางไปเถอะ” เสิ่นเวยกวาดสายตา


มองคุณชายฟู่ปราดหนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดกับเสี่ยวตี๋
เสี่ยวตี๋นำทุกคนมายังเรือนข้างเรือนหลักหลังหนึ่ง เสิ่นเวยมองดู ดี
จริงๆ นี่ไม่ใช่เรือนหลังนั้นที่ขังนางไว้หรอกหรือ คลังลับสร้างอยู่ข้าง
ใต้นี้เองหรือ ช่างบังเอิญจริงๆ

ไม่ได้เข้าไปในห้อง เสี่ยวตี๋เดินไปยังภูเขาจำลองลูกหนึ่งในลานบ้าน
กดลงบนผนังหินหลายครา ในท้องภูเขาจำลองก็ปรากฎเส้นทาง
เล็กๆ ที่ลงไปข้างล่างหนึ่งสาย เดินลงไปตามเส้นทางสายเล็กก็จะ
เป็นคลังลับของหมิน่ ซือเหนียน
“โห คนแซ่หมิน่ นี่มีเงินจริงๆ ครั้งนี้พวกเรารวยแล้ว” คบไฟจุดขึ้นมา
คุณชายฟู่ก็มองเห็น**บที่เต็มไปด้วยเงินทองแต่ละใบๆ ดวงตาก็
ตะลึงงัน

ทว่าเสิ่นเวยกลับมีสหี น้าเรียบเฉย ไร้ซึ่งอารมณ์ เรื่องพวกนี้นางทำมา


เยอะแล้ว ไม่ได้ตื่นเต้นดีใจเหมือนตอนแรกแล้ว

“เร่งมือ ขนของออกไปให้หมด ลงมือเบาๆ อย่าทำให้เกิดการ


เคลื่อนไหวที่มากเกินไป” เสิ่นเวยออกคำสั่งทันที เวลากระชั้นชิด
จัดการเรื่องนี้เสร็จแล้วยังมีเรื่องใหญ่ให้ต้องไปทำอีก
“คุณชายวางใจเถอะ คนที่เฝ้าเวรกลางดึกหลายคนนัน้ ถูกควันสลบ
ของพวกเราแล้ว นอนหลับเหมือนหมูตาย” พลลับสามกล่าว

“นั่นก็ต้องระวังไว้ก่อนเหมือนกัน” เสิ่นเวยกำชับอย่างจริงจัง
ระมัดระวังจึงจะประสบความสำเร็จได้

กลุ่มของเสิ่นเวยมีคนสิบกว่าคน ไปๆ มาๆ ไม่กี่รอบก็ขนคลังลับ


ออกไปหมดเกลี้ยงแล้ว พวกเขาไม่ได้ขนเงินกลับไปที่เรือนหลังเล็ก
ชั่วคราว แต่กลับกระจายเงินทองเหล่านี้ออกไปทั้งหมด หา
ครอบครัวที่มีชีวิตยากจนนั้น โยนเงินทองเข้าไปในบ้านของคน คนที่
ไม่มีบ้านก็วางไว้ข้างประตู

เรื่องเหล่านี้มีทหารลับไปทำ เสิ่นเวยกับคุณชายฟู่ รวมถึงโอวหยาง


ไน่และเสี่ยวตี๋ก็ไปยังหอซิ่งชุน

หอซิ่งชุนในคืนนี้จุดไฟสว่างไสว ร้องรำทำเพลงสนุกสนาน ในขณะที่


กำลังครึกครื้น เสิ่นเวยและคนอื่นๆ ก็ไม่ได้เข้าไปทางประตูใหญ่ แต่
ปีนเข้าทางเปลี่ยวไปยังที่พักของแม่เล้าฉิน
แม่เล้าฉินเคยมีชื่อที่ไพเราะอย่างยิ่ง ชื่อว่าฉินฟังฟัง นางเองก็เป็น
สตรีในตระกูลดี แต่ชีวิตตกระกำลำบากจนต้องเข้ามาในหอโคมเขียว
หลังจากผ่านความยากลำบากมาก็ไม่มีกระจิตกระใจจะหนีแล้ว นาง
หน้าตาดี คนก็ยังฉลาด เรียนรู้เร็ว ค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมา แขกผู้
ร่ำรวยที่ตามชื่อเสียงมาก็เยอะอย่างยิ่ง ในช่วงที่อายุยังน้อยนางก็
กอบโกยรายได้จำนวนมาก

คิดถึงอนาคตแม่เล้าฉินก็เกิดหวาดกลัวในใจ คนเช่นพวกนางจุดจบที่
ดีที่สุดก็คือการเป็นอนุภรรยาของคนร่ำคนรวย แต่แม่เล้าฉินไม่ยอม
ไปถูกเปรียบเทียบกับภรรยาหลวง จึงถือโอกาสไถ่ตัวเอง ใช้เงินเก็บ
ซื้อหอซิ่งชุนแห่งนี้ จากนั้นก็ซื้อเด็กสาวที่ท่าทางดีจำนวนหนึ่ง
ประกอบอาชีพเดิม ส่วนตนเองก็เป็นแม่เล้า
หมิ่นซือเหนียนก็คือที่พึ่งของแม่เล้าฉิน นางอยู่กับเขามาเกือบยี่สิบปี
แล้ว ไม่ใช่สามีภรรยาก็ยิ่งกว่าสามีภรรยา หอซิ่งชุนแห่งนี้พูดในอีก
ความหมายหนึ่งก็คือคฤหาสน์อีกหลังของหมิ่นซือเหนียน อีกทั้งยัง
เป็นคฤหาสน์ที่นำความมั่งคั่งมาให้เขา อย่างไรเสียกำไรครึ่งหนึ่งของ
หอซิ่งชุนในทุกๆ ปีต่างก็เข้ากระเป๋าเขา ดังนั้นหมิ่นซือเหนียนจึงให้
ความสำคัญกับแม่เล้าฉินอย่างยิ่ง

เรือนหน้าเต็มไปด้วยเสียงออดอ้อนอ่อนหวาน ดนตรีบรรเลงอย่าง
ต่อเนื่อง ทว่าในเรือนเล็กของแม่เล้าฉินกลับมีบรรยากาศคุกรุ่น
“หนีสิ กล้านักเจ้าก็หนีไปแล้วอย่าถูกจับกลับมา นางแพศยาให้หน้า
ไม่เอาหน้า ต่อให้เจ้าหนีออกไปแล้วก็ยังเป็นนางแพศยาอยู่ดี” หมิ่น
ซือเหนียนบีบคางของสตรีที่ถูกมัดไว้กับเสาผู้นั้น กล่าวด้วยใบหน้าดุ
ร้าย

“เหอะ” สตรีผู้นั้นก็เป็นคนดื้อรั้นเช่นกัน พยายามส่ายหน้าคิดจะดิ้น


ให้หลุดจากการบีบบังคับของหมิ่นซือเหนียน ครู่ใหญ่ก็ยังไม่เป็นดั่ง
หวัง นางจ้องมองหมิ่นซือเหนียน ในปากเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
“ยังไม่ยอมแพ้อีกหรือ ข้าจ่ายเงินก้อนใหญ่ซื้อเจ้ามา ทั้งยังจ่ายเงิน
อีกก้อนใหญ่เพื่ออบรมเลี้ยงดูเจ้า ไม่ได้ให้เจ้ามายั่วโมโหข้า ในเมื่อไม่
เชื่อฟัง เช่นนั้นข้าก็จะตีจนกว่าเจ้าจะเชื่อฟัง” หมิ่นซือเหนียนหรี่ตา
ลง พร้อมด้วยปราณที่อันตราย

แม่นมฉินเห็นท่าทีแล้วก็รบี ส่งสายตาให้สตรีผู้นนั้ “ลูกข้า รีบสำนึก


ผิดกับพ่อเจ้าเสีย เร็วเข้า มิเช่นนั้นพ่อเจ้าจะตีเจ้าตาย” นางเองก็เข้า
มาเช่นนี้ ตอนนี้แม้ว่าตนจะเป็นแม่เล้า แต่ก็ยังดีกับเหล่าสตรีในหอ
ทั้งหมด หากมีแขกยินดีไถ่ตัวสตรี ปกติแล้วนางก็จะปล่อย บางครั้ง
แม้แต่ค่าตัวก็ยังไม่เอา
สำหรับนิสยั ที่โหดเ**้ยมของหมิ่นซือเหนียนนางเข้าใจดีที่สุด ดังนั้น
นางจึงเป็นกังวล ตีแม่นางจนยับเยินแล้วไม่ใช่นางที่ขาดทุนหรือไร

“ถุย ใครเป็นลูกเจ้า เลิกคิดเอาเองฝ่ายเดียวได้แล้ว พ่อแม่ข้านอน


อยู่ใต้ดิน ในเมื่อถูกพวกเจ้าจับกลับมาแล้ว คุณหนูเช่นข้าก็ไม่คิดจะมี
ชีวิตอยู่แล้ว” สตรีผนู้ ั้นบ้วนน้ำลายใสหน้าหมิ่นซือเหนียน

หมิ่นซือเหนียนเดือดดาล “ข้าว่าเจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ในเมื่อ


เจ้าอยากตาย เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าสมปรารถนา เอาแส้มา” เขา
ตะโกนเสียงดัง
แส้โบยลงบนหลังของสตรีผู้นั้น ไม่ทันไรเสื้อผ้าก็ถูกโบนจนขาดวิ่น
บนหลังเป็นรอยเลือดแต่ละขีดๆ สตรีผนู้ ั้นกัดฟันกรอด ไม่ส่งเสียง
เลยแม้แต่นิดเดียว

“หึ อดทนเก่งดีนี่ วันนี้ข้าจะดูสิว่ากระดูกของเจ้าจะแข็งหรือว่าแส้ที่


แข็งกว่า” หมิ่นซือเหนียนพูดไปพลาง แส้ในมือก็ออกแรงเพิ่มขึ้น

แม่เล้าฉินขมวดคิ้ว ทนดูไม่ได้ นางอยากเข้าไปร้องขอ แต่เห็นหมิ่น


ซือเหนียนทุ่มแรงเช่นนั้นแล้วก็ลังเล วิธีทรมานคนของหมิ่น
ซือเหนียนไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพื่อสตรีที่วิ่งหนีคนหนึ่งเอาตัวเองเข้าไป
ยุ่งเกี่ยวจะคุ้มกันหรือไม่

เพียงแค่ลังเลเช่นนี้ สตรีผู้นนั้ ก็ถูกโบยจนสลบแล้ว หมิ่นซือเหนียน


โยนแส้ลงบนพืน้ อย่างแรง “ลากไปที่ห้องเก็บฟืน ปล่อยให้หิวสาม
วัน ดูสวิ ่าหลังจากนี้จะยังกล้าหนีไปไหนได้อีก”

“นายท่านสามเหนื่อยแล้วสิท่า ไปเถอะ ข้าจะดื่มสุราเป็นเพื่อน


ท่าน” แม่เล้าฉินแย้มยิ้มดุจบุปผาเข้ามาควงแขนหมิ่นซือเหนียนไว้
ทันที สีหน้าของหมิ่นซือเหนียนจึงผ่อนคลายลง “ยังคงเป็นชิงชิงที่
เข้าใจ”
เสิ่นเวยและคนอื่นๆ ในมุมมืดก็ตะลึงงันกับการโบยลงโทษครั้งนี้
หากไม่ใช่ว่าเสิ่นเวยห้ามไว้ คนโง่แซ่ฟู่ก็คงจะพุ่งออกไปแล้ว รอหมิ่น
ซือเหนียนและแม่เล้าฉินไป เสิน่ เวยจึงจะบอกเป็นนัยให้โอวหยางไน่
ปล่อยคนโง่แซ่ฟู่

เมื่อปากของคนโง่แซ่ฟู่เป็นอิสระก็บ่นพึมพำอย่างไม่พอใจ “เจ้า คาด


ไม่ถึงว่าทหารคุ้มกันของเจ้าจะปิดปากข้า ใจดำจริงๆ ถุยๆๆ” เขา
พยายามถ่มน้ำลาย
“ไม่ปิดปากเจ้าไว้แล้วจะยอมให้เจ้าโวยวายหรือ เจ้าอยากตายแต่ข้า
ยังไม่อยากนี่” เสิ่นเวยกำลังจะพ่ายแพ้ให้ตาทึ่มผู้นี้แล้วจริงๆ จะ
บอกว่าเขาเชื่อถือไม่ได้ เขาก็ดันแก้ไขปัญหาได้ จะบอกว่าเขาเชื่อถือ
ได้ เขาก็ทำเรื่องสมองกลวง เจ้าบอกว่าเจ้ามาลอบสังหาร เปิดเผย
ตำแหน่งตัวเองล่วงหน้า นีไ่ ม่ใช่ว่ารนหาที่ตายหรือไร

“เจ้า” คนโง่แซ่ฟู่สำลัก “เมตตาคนอ่อนแอเห็นใจคนจนเป็น


คุณลักษณะของสัตบุรุษรุน่ ข้า แม่นางผู้นั้นน่าสงสารยิ่งนัก พีช่ ายไม่
สงสารบ้างเลยหรือ” เขากล่าวเสียงเบา
“น่าสงสารหรือ ใต้หล้านี้คนน่าสงสารมีเยอะถมไป เจ้าจะดูแลได้
หมดหรือ” เสิ่นเวยมองเขาอย่างเย็นเยียบปราดหนึ่ง “เวลามีคนน่า
สงสาร เจ้าสงสารตัวเจ้าเองก่อนจะดีกว่า เจ้าคิดเองว่าติดหนีข้ ้าอยู่
เท่าไร” ตอนที่ออกจากเมืองทงโจวขึ้นเรือ คนโง่แซ่ฟู่ผู้นี้ก็ดึงดันจะ
ตามไปด้วย บอกว่าเขาผ่านทางมาพอดี เขาจะไปหาญาติที่เมือง
หลวง สำหรับค่าเรือและค่าข้าว แม้แต่เสื้อผ้าทุกตัวที่เขาเปลีย่ นล้วน
แต่เป็นสิ่งที่เสิ่นเวยให้ เขาผู้ไม่มีอะไรเลยย่อมต้องติดหนี้ไว้ก่อน

คนโง่แซ่ฟู่นึกถึงเรื่องนี้ ชั่วขณะก็หยุดเถียงทันที ไม่โวยวายว่าเสิ่น


เวยไม่รู้จักเมตตาแล้ว อันที่จริงก็ไม่กล้า อดแค้นใจตัวเองเงียบๆ
ไม่ได้ เงินทองแต่ละ**บๆ เมื่อครู่ เหตุใดเขาถึงไม่เก็บมาสักนิดเล่า
ไม่ได้ ไม่ได้ เขาเป็นสัตบุรุษ จะยึดติดอยู่กับเงินทองได้อย่างไร ต้อง
เห็นเงินทองเป็นของไร้ประโยชน์จึงจะถูก
การลอบสังหารของเสิ่นเวยเงียบเชียบไร้เสียง แต่ก็ยังคงทำให้หมิ่น
ซือเหนียนรู้ตวั เขาดึงแม่นมฉินข้างๆ เข้ามาบังไว้หน้าตัวเอง ตนกลิ้ง
ไปหลบอยู่ข้างๆ “มีมือสังหาร” เสียงที่แหลมเปรียวดังกังวาลเป็น
พิเศษในราตรีที่เงียบสงัด

อันที่จริงไม่ต้องให้หมิ่นซือเหนียนตะโกน คนที่คุ้มกันเขาซึ่งหลบอยู่
ในที่มืดก็สัมผัสได้ถึงเสียงอาวุธทลายอากาศอยู่ก่อนแล้ว คนสามคน
กระโดดออกมาต่อสู้กับเสิ่นเวยและคนอื่นๆ หลังจากนั้นก็มีผคู้ ุ้มกัน
เรือนที่พักอยู่ห้องข้างๆ อีกสามคนออกมา หมิ่นซือเหนียนเห็นแล้วก็
วางใจลง ทั้งตกใจทั้งโกรธอย่างอดไม่ได้ บนพื้นที่ในทงโจวยังมีใคร
กล้าลงมือกับเขา รนหาที่ตายจริงๆ
ฝั่งเสิ่นเวยสี่คนสู้กับคนหกคนของฝั่งหมิ่นซือเหนียน แม้ว่าจะ
เสียเปรียบในด้านจำนวนคน แต่ฝั่งเสิ่นเวยก็ล้วนแต่เป็นมือดีอันดับ
หนึ่ง ชั่วขณะกลับไม่เสียเปรียบ อีกทั้งเสิ่นเวยยังไม่ได้คิดจะเอาชีวิต
ของหมิ่นซือเหนียนอย่างสิน้ เชิง ตายแล้วจะเป็นการเสียเปรียบเขา
มิใช่หรือ ไม่ใช่ว่าเขาอยากได้ขานางหนึ่งข้างหรือ เช่นนั้นก็ดี นางขอ
ขาของเขาสองข้างก็พอ ข้างหนึ่งเป็นของนาง อีกข้างหนึ่ง อืม ให้คน
โง่แซ่ฟู่แล้วกัน อย่างไรเสียเขาก็ออกแรง ไม่แบ่งผลประโยชน์ให้
หน่อยก็คงจะไม่เหมาะ

ดูสิ เสิ่นเวยเป็นคนที่ยตุ ิธรรมเที่ยงตรงถึงเพียงนี้


ตอนที่ 203-2 ชำระหนี้แค้น

สองฝั่งกำลังสู้รบ ดูเหมือนไม่มใี ครยอมใคร แต่อันที่จริงฝั่งเสิ่นเวยอ


อมแรงมาโดยตลอด หมิ่นซือเหนียนก็ยิ่งตกใจขึ้นเรื่อยๆ นานเพียงนี้
แล้วยังจัดการมือสังหารไม่ได้ ดูท่าแล้วมือสังหารกลุ่มนีจ้ ะมี
ความสามารถไม่น้อยเลย ใครกัน ใครที่คิดจะเอาชีวิตเขา เป็นพี่ใหญ่
หรือว่าน้องสาม หรือว่าทั้งสองร่วมมือกัน พวกเขาอดทนรอไม่ได้
แล้วหรือ

ขณะที่หมิ่นซือเหนียนคิดเช่นนี้ ก็อยากรีบออกไปจากที่เกิดเหตุนี้
เขารู้ดีอยู่แก่ใจ แม้ตนจะเลื่องชื่อว่าบุ๋นบู๊ไม่เป็นรองใคร แต่ความจริง
แล้วกลับเตะต่อยได้แค่ไม่กี่กระบวนท่า ขู่ขวัญคนนอกแสร้งทำให้ดู
น่ากลัวก็เท่านั้นเอง เมื่อเจอยอดฝีมือที่แท้จริง เขาก็เป็นคนไร้
ประโยชน์
เขากระโดดลงจากเตียงเพิ่งจะยกขา ก็รู้สึกว่าร่างกายขยับไม่ได้ หัน
หน้ามอง เป็นแม่เล้าฉินคนรักเก่าที่ดึงเสื้อของเขาไว้ “นายท่านสาม
ท่านพาข้าไปด้วยเถิด” นางหมอบอยู่บนเตียง ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วย
ความร้องขอ

หมิ่นซือเหนียนนึกถึงการกระทำก่อนหน้านี้ที่ดึงนางมารับดาบ บน
ใบหน้าก็มีความอึดอัดแวบผ่าน กล่าวเสียงเบาอย่างไม่รู้ตวั “ชิงชิง
รออยู่ที่นี่ ข้าออกไปดูสถานการณ์ เจ้าได้รับบาดเจ็บ อย่าขยับตัว
มากจะดีกว่า”
แม่เล้าฉินไหนเลยจะเชื่อ อ้อนวอนต่อ “นายท่านสาม ท่านช่วยข้า
ด้วยเถิด อย่าทิ้งข้าไว้คนเดียว”

หมิ่นซือเหนียนเห็นว่าถูกคนรักเก่าเดาความคิดได้ ก็ฉุนเฉียว
เล็กน้อย เสียงเย็นเยียบลงอย่างอดไม่ได้ “จงฟัง สงบสติรออยู่ที่นี่
ปล่อยมือ” น่าขัน เขาคนเดียวยังแทบจะเอาตัวไม่รอด จะพาตัวถ่วง
ไปด้วยได้อย่างไร

เขาออกแรงสะบัดมือของคนรักเก่าออก ไม่มองความเศร้าโศกบน
ใบหน้าของคนรัก ก้าวยาวเดินไปยังผนังฝั่งขวา ประตูหลังตรง
ภาพวาดภาพนั้นบนผนังทางขวามีกลไกอยู่
หมิ่นซือเหนียนเป็นคนที่ตระหนักได้ถึงหายนะอย่างยิ่งคนหนึง่ มิ
เช่นนั้นจะสร้างกลไกแม้แต่ในหอซิ่งชุนได้อย่างไร น่าเสียดายที่คน
กระทำไม่สู้ฟ้าลิขิต เสิ่นเวยจะปล่อยให้เขาหนีไปได้อย่างไร

รู้สึกว่าพอประมาณแล้ว เสิ่นเวยก็ส่งสายตาให้โอวหยางไน่ โอวหยาง


ไน่เข้าใจแล้ว ทั้งสองก็กระโดดออกจากวงต่อสู้เดินไปในห้องพร้อม
กัน
คนของหมิ่นซือเหนียนเห็นดังนั้นก็ตื่นตระหนกในชั่วขณะ คิด
อยากจะเข้าไปห้าม แต่กลับถูกเสี่ยวตี๋กับคนโง่แซ่ฟู่พัวพันอย่างแนบ
แน่น คนโง่แซ่ฟู่ยอดเยี่ยมจริงๆ เรือนร่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ไป
ทางซ้ายที ไปทางขวาที กันหกคนนั้นไว้ข้างนอก ทำได้เพียงตะลึงงัน
มองเสิ่นเวยและโอวหยางไน่เข้าห้องไป

มือของหมิ่นซือเหนียนเพิ่งจะกดลงบนกลไก ก็ถูกเสิ่นเวยดึงคอเสื้อ
กลับมา มือออกแรงก็หมุนชายร่างใหญ่อยู่กับที่สองรอบทันที

หมิ่นซือเหนียนเองก็ไม่สนว่าตนจะมึนศีรษะ รีบร้องขอชีวิต “นาย


คนใดใช้ผู้กล้ามาเอาชีวิตผู้แซ่หมิ่น ผู้แซ่หมิน่ ยอมตอบแทนให้เป็น
สองเท่า ขอเพียงแค่ผู้กล้าปล่อยผู้แซ่หมิน่ ไป ราคาต่อรองกันได้”
เขาคิดว่าเป็นสองคนนั้นในตระกูลจ้างคนมาฆ่าเขาจริงๆ

เสิ่นเวยได้ยนิ ดังนัน้ ก็เลิกคิ้ว แต่กลับไม่ได้เอ่ยปากพูด หมิ่น


ซือเหนียนก็คิดว่าสองคนนี้สนใจ ในใจก็ดีใจ “สามเท่า อ้อไม่ ห้าเท่า
ผู้แซ่หมิ่นยอมให้ราคาห้าเท่า หวังว่าผู้กล้าจะปล่อยผู้แซ่หมิน่ ครั้งนี้”
ขอเพียงแค่ครั้งนี้ไม่ตาย ต่อให้จะต้องขุดดินสามฉื่อเขาก็จะต้องหา
มือสังหารกลุ่มนี้ออกมา สับจนเป็นหมื่นท่อน

เสิ่นเวยยังคงไม่พูด เพียงแค่ส่งสายตาให้โอวหยางไน่ ก็เห็นโอวหยาง


ไน่พยักหน้าน้อยๆ ออกมือเร็วดั่งสายฟ้า หมัดทั้งสองต่อยลงไปบน
ขาทั้งคู่ของหมิ่นซือเหนียนด้วยความรวดเร็วและโหดเ**้ยม
เสียงร้องโอดครวญราวกับหมูถกู เชือดของหมิ่นซือเหนียนดังขึน้ ใน
ชั่วขณะ เสิ่นเวยปล่อยมือ ชั่วพริบตาเขาก็อ่อนแรงล้มลงกับพื้น
ประหนึ่งสุนัขขี้เรื้อนที่ไร้กระดูก

ในใจเสิ่นเวยพอใจ เผยรอยยิ้มเย็นยะเยือกน้อยๆ ให้หมิ่นซือเหนียน


ตบหน้าเขาสองสามครา กล่าวอย่างมีมารยาท “นายท่านสามแซ่
หมิ่น ลาก่อน” จากนัน้ จึงหันหลังกลับเดินออกไปข้างนอก
เสี่ยวตี๋กับคนโง่แซ่ฟู่ข้างนอกได้ยินเสียงร้องโอดครวญ ก็รู้ได้ว่าสำเร็จ
แล้ว ทั้งสองเองก็ไม่อยากต่อสู้อีก ถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว คน
ของหมิ่นซือเหนียนได้ยินเสียงร้องของเจ้านาย ก็ไม่มีอารมณ์จะต่อสู้
วิ่งเข้าไปในห้องพร้อมกัน ไหนเลยจะยังสนใจว่าสองคนนัน้ จะหนีไป
แล้วหรือยัง

ระหว่างทางกลับ เสิ่นเวยยังถือโอกาสวางเพลิง พวกเขาไปรวมตัว


กับพลลับหนึ่งและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างนอกหอซิ่งชุน วิ่งออกไปนอก
เมืองด้วยความรวดเร็ว
หมิ่นซือเหนียนข้างในห้องล้มฟุบอยู่บนพื้น ในดวงตาเต็มไปด้วย
ความหวาดกลัว เป็นเขา เป็นคุณชายเสิ่นจวนจงอู่โหวผูน้ ั้น แม้เขา
จะปิดใบหน้า แต่เสียงของเขา อีกทั้งแววตาคู่นั้นก่อนจากไปของเขา
เหมือนกันกับแววตาที่เขาออกจากทงโจวแล้วหันหน้ากลับมามองตน
เมื่อสามวันก่อน

ความเสียใจลุกลามไปทั่วร่างเขา เหตุใดเขาถึงไปยั่วยุดาวหายนะที่
แก้แค้นกระทั่งเรือ่ งเล็กๆ เช่นนี้ เพียงแค่พลาดจับเขามามิใช่หรือ
เขายังเผาคฤหาสน์หนึ่งหลังของตน ทำลาย ‘สินค้า’ หนึ่งกลุม่ ใหญ่
ของตน หากรู้ว่าเขามีนิสัยโหดเ**้ยมเช่นนี้ ตนไหนเลยจะยังกล้าส่ง
อาจารย์เฮ่อไปหาเรื่องเขา
หลังจากเสียใจแล้วก็โมโห ดูจากรอยยิ้มตอนที่เด็กชั่วแซ่เสิ่นผูน้ ั้นไป
แล้วเขาก็รู้ว่าขาทั้งคู่ของตนจะต้องพิการ นายท่านสามตระกูลหมิ่น
ที่พิการขาทั้งสองไม่สู้ตายไปยังดีกว่า เจ้าก็แค่อาศัยจวนจงอู่โหวข้าง
หลังมิใช่หรือ คิดว่าจะใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างไม่มีขื่อไม่มีแปเช่นนี้
ได้หรือ มีสิทธิอะไร มีสิทธิอะไร

จวนจงอู่โหว ชีวิตนี้ของข้าหมิ่นเหล่าซานจะไม่ขออยู่ร่วมโลกกับเจ้า
โลหิตร้อนพ่นออกมาจากปากเขา ฉากๆ นี้ตกอยู่ในสายตาของเหล่า
ทหารคุ้มกันที่เพิ่งจะจุดไฟพอดี ตกใจวิ่งเข้ามาพร้อมกัน “นายท่าน
สาม นายท่านสาม นายท่านสามท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่”
หมิ่นซือเหนียนกัดฟันทนความเจ็บปวดแสนสาหัส ครู่ใหญ่จึงกล่าว
“ไม่เป็นไร แค่ขาหัก อย่าแตะขาข้า ไปเชิญหมอ หมอที่รักษาแผล
ภายนอกที่ดีที่สุดในทงโจว” เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงมาจากใบหน้าเขา
เสียงของเขาก็เย็นเยียบเพียงนั้น หมัดทั้งคู่ที่กำแน่นค้ำยันร่างกาย
ของตน ไม่ให้ตนล้มลงไป

ล้มไม่ได้ ต่อให้จะต้องพิการขาทั้งสองเขาก็ไม่อาจล้มได้ เขาคือหมิ่น


ซือเหนียน นายท่านสามตระกูลหมิ่น บุตรชายภรรยาเอกบ้านใหญ่
ตระกูลหมิ่น บ้านรองบ้านสามกำลังจ้องมองตาเป็นมัน เขาไม่อาจ
ล้มลงได้เป็นอันขาด
แม่เล้าฉินที่หมอบอยู่บนเตียงหน้าอกปักกระบี่หนึ่งเล่มย่อมได้ยิน
คำพูดของหมิ่นซือเหนียน แปลกยิ่งนัก ในใจของนางสงบนิ่งอย่างถึง
ที่สุด ไม่มีคลืน่ ลมแม้แต่นิดเดียว มีเพียงความเสียใจและความ
อ้างว้างที่ไม่มีที่สิ้นสุด

หมิ่นซือเหนียนเป็นชายคนแรกของนาง แม้ว่าระหว่างนั้นนางจะ
รับแขกผู้มีพระคุณคนอื่นๆ ทว่าตั้งแต่วันนัน้ ที่ตนตัดสินใจจะติดตาม
หมิ่นซือเหนียน นางก็ไม่ให้แขกผู้มีพระคุณคนอื่นเข้าใกล้นางอีก
ยี่สิบปีแล้ว ยี่สิบปีแล้ว นางคิดว่าต่อให้จะไม่มีชื่อหรือฐานะ นาง
ติดตามหมิ่นซือเหนียนมาก็นบั ได้ว่าเป็นสามีภรรยากันแล้ว หลายปี
มานี้หมิ่นซือเหนียนปฏิบัติต่อนางดีอย่างยิ่ง ช่วยงานในหอซิ่งชุนไม่
น้อย ดังนั้นนางจึงมีภาพลวงตาชนิดนี้ใช่หรือไม่
นางไหนเลยจะเป็นภรรยาของหมิ่นซือเหนียน แม้แต่อนุภรรยาคน
หนึ่งยังเทียบไม่ได้เลยกระมัง นางเป็นเพียงของตายที่เขาสามารถ
โยนทิ้งเมื่อไรก็ได้ก็เท่านั้น ความเจ็บปวดทีป่ ลายกระบี่แทงเข้าเนื้อ
ยังเจ็บปวดไม่เท่าวินาทีนนั้ ที่เขาดึงตนเองมาบังไว้ข้างหน้า

ถ้าหากพูดว่าหมิ่นซือเหนียนดึงนางมารับดาบนางก็เจ็บปวดแล้ว
เช่นนั้นต่อมาที่หมิ่นซือเหนียนทิ้งนางเอาตัวรอดเพียงคนเดียวก็ทำให้
นางผิดหวัง เหอๆ อายุปูนนี้แล้วยังฝันลมๆ แล้งๆ เช่นนี้อยู่อีก ควร
ตื่นได้แล้ว สำหรับหมิ่นซือเหนียนนางก็เป็นเพียงแค่ของเล่น ของ
เล่นที่ทำกำไรให้เขาได้ ที่เขาดีกับตนก็เป็นเพียงสิ่งที่ตนคิดไปเอง
เท่านั้น
นางเป็นตัวอะไร ก็แค่แม่เล้าทีช่ ่วยเขาดูแลหอซิ่งชุนได้ก็เท่านัน้ ไม่มี
นางก็ยังมีคนอื่น เพียงแค่เขาใช้ตนคล่องมือ อีกทั้งยังมีความรู้สึกอัน
น้อยนิดเพียงนั้นด้วย มิหนำซ้ำตนยังเชื่อฟัง ไม่โวยวายขอเข้าเรือน
หลังตระกูลหมิน่ ให้ได้ เขาจึงไม่ทิ้งตนมาโดยตลอดก็เท่านั้นเอง

คิดถึงตัวนางเอง อายุมากแล้ว ทั้งยังไม่มีทายาท ต่อให้ได้เงินมาแล้ว


จะใช้อย่างไร ร้อยปีต่อจากนี้ทรัพย์สินเหล่านี้ของตนก็ต้องตกอยู่ใน
มือของหมิ่นซือเหนียนเหมือนกันมิใช่หรือ เหตุผลที่ทุกปีหมิน่
ซือเหนียนถือเงินเพียงแค่ครึ่งหนึ่ง ก็เป็นเพราะมั่นใจว่าเงินครึ่งหนึ่ง
ของตนนี้กต็ ้องเป็นของเขามิใช่หรือ เพียงแค่เก็บไว้ที่ตนก่อนก็เท่า
นั้นเอง
โง่ ช่างโง่จริงๆ ใบหน้าของแม่เล้าฉินแนบติดผ้านวม น้ำตาในดวงตา
ไหลไม่หยุด ในใจว่างเปล่า เสมือนถูกควักออกไปจนหมด

หาหมอรักษาบาดแผลภายนอกที่ดีที่สุดในทงโจวมารักษาบาดแผล
ให้หมิ่นซือเหนียนได้แล้ว อีกทัง้ ยังวุ่นอยู่กับการดับไฟ ชุลมุนเช่นนี้
จนกระทั่งฟ้าสาง รอจนหมิ่นซือเหนียนมีแรงสั่งให้ติดตามจับกุม เสิ่น
เวยและคนอื่นๆ ก็ออกจากเมืองขี่ม้าเร็วออกไปแล้ว คนของหมิ่น
ซือเหนียนสืบหาอยูส่ องวันก็ไร้ซึ่งเบาะแส โมโหจนหมิ่นซือเหนียน
ทุบหมอนอย่างสุดชีวติ
คนข้างนอกต่างก็รู้ว่าหมิ่นซือเหนียนเสียหายมหาศาลแล้ว แม้จะไม่รู้
ว่าขาของเขาที่บาดเจ็บแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร แต่ก็ดีใจบนความ
ทุกข์ผู้อื่นเห็นเขาเป็นตัวตลก

ขากลับไม่ต้องเร่งเพียงนั้นแล้ว ยามอาทิตย์ตกดินวันที่สามเสิน่ เวยก็


เพิ่งจะกลับขึ้นเรือ สำหรับเหตุผลที่จู่ๆ เสิน่ เวยก็ออกไปนางอธิบาย
เช่นนี้ ‘ท่านปู่ส่งนางไปเยี่ยมสหายเก่าระหว่างทาง ถือโอกาสไปส่ง
จดหมายให้’

เสิ่นหย่าสองแม่ลูกที่ไร้เดียงสาย่อมต้องเชื่อ เพราะว่าพวกนางไม่เคย
คิดว่าเสิ่นเวยจะพูดปด และเพราะว่าเสิ่นเวยนำของกลับมาไม่น้อย
จริงๆ บอกว่าเขาส่งของขวัญกลับมาให้
เสิ่นเวยรับลมกลางคืน รอยยิ้มคืบคลานขึ้นมาบนแก้มของนาง
อารมณ์ของนางในตอนนี้ดีอย่างยิ่ง ฮ่าๆ หมิ่นซือเหนียนที่พิการขา
สองข้างจะยังกดหัวบ้านรองบ้านสามตระกูลหมิน่ ได้อยูห่ รือไม่ การ
ต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดของตระกูลหมิ่นกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว น่าเฝ้ารอ
จริงๆ เลย
ตอนที่ 204-1 เช้าตรู่วันหนึ่ง

ผีซ้ำด้ำพลอยที่ว่าก็คือหมิน่ ซือเหนียน หาหมอรักษาบาดแผล


ภายนอกมาสิบกว่าคน ไม่มีใครไม่พูดว่าขาของเขารักษาไม่ได้แล้ว
กระดูกขาแตกไหนเลยจะยังรักษาได้ หากว่าขาหัก ก็อาจจะยังต่อได้
แต่แตกแล้ว ต่อให้เป็นจะเป็นเทพเทวดาก็ไม่มีทางรักษา

แม้ก่อนหน้านี้จะรูว้ ่าขาของตนอาจจะไม่ดีแล้ว แต่เมื่อได้ยนิ คำ


วินิจฉัยของหมอทั้งหลาย หมิน่ ซือเหนียนก็ยังคงเจ็บใจอย่างถึงที่สุด
เขาเดือดดาลราวกับสัตว์ร้ายทีร่ ้องคำรามตัวหนึ่ง บ่าวทั่วทั้งเรือน
ต่างก็หดศีรษะไม่กล้าปริปาก ทั่วทั้งลานบ้านต่างก็ตลบอบอวลไป
ด้วยกลิน่ ยาสุมนไพร ห่างออกไปไกลอย่างยิ่งก็ยังได้กลิ่น
เหนียนซื่อภรรยาของหมิ่นซือเหนียนมาถึงเรือนนอกด้วยความไม่
ยินยอมภายใต้คำโน้มน้าวของแม่นมคนสนิท สามีได้รับบาดเจ็บที่
หอซิ่งชุนสถานที่แบบนั้น นี่จะให้นางเป็นสุขได้อย่างไร ทีบ่ ้านฝั่ง
มารดานางเองก็ได้รับความโปรดปรานร้อยเท่าพันเท่า ไหนเลยจะ
เคยได้รับความอัดอั้นเช่นนี้มาก่อน

แม่นมที่พามาจากบ้านฝั่งมารดาโน้มน้าวนาง “ฮูหยินเจ้าคะ ดวงตา


ทั่วทั้งจวนล้วนแต่จบั จ้องอยู่ นายท่านได้รบั บาดเจ็บ ท่านที่เป็นถึง
ภรรยาหากว่าไม่ดไู ม่แล มิใช่จะทำให้คนติฉินนินทาได้หรอกหรือ
ท่านแต่งเข้ามาหลายปีเพียงนี้ นายท่านเองก็เคารพท่านอย่างถึง
ที่สุด บุรุษน่ะ ไม่ใช่ว่าชอบมักมากในกามกันทั้งหมดหรือ ต่อให้จะ
เป็นของใหม่นายท่านก็ไม่เคยพาเข้ามาในบ้านให้ขวางหูขวางตาท่าน
มิใช่หรือ ประนีประนอมกันสักหน่อย ต่อให้จะต้องทำเพื่อคุณชาย
คุณหนูของท่าน ท่านก็ต้องไปดูสักหน่อย เลีย่ งไม่ให้ถูกคนหน้าไม่
อายบางคนเจาะหาโอกาสได้”
โน้มน้าวเช่นนี้เหนียนซื่อก็ไม่ขัดขืนอีก แม่นมพูดถูก นางสามารถเมิน
เฉยนายท่านได้ แต่นางต้องคิดเพื่อลูกๆ ของนาง ลูกๆ ของนางยังไม่
โตเป็นผู้ใหญ่ ยังออกจากการคุ้มครองของนายท่านไม่ได้ เพื่อลูกๆ
แล้วนางเองก็ต้องมัดใจนายท่านให้อยู่

เหนียนซื่อเดินอยู่บนทางที่ไปยังเรือนนอก หมิ่นซือเหนียนก็กำลังบัล
ดาลโทสะ “เจ้าว่าอะไรนะ คลังลับว่างเปล่าหมดเลยหรือ” เขาตกใจ
จนชั่วขณะก็ลืมขาที่เจ็บอยู่ของตนคิดอยากจะลุกขึ้นยืน ร้องโอดโอย
ล้มกลับลงไปอย่างเจ็บปวด พ่อบ้านหวังที่มาบอกข่าวก็รบี พยุงเขา
ขึ้น “นายท่านสามท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่” ในใจร้องทุกข์เงียบๆ แต่
ใครให้เขาเป็นพ่อบ้านเล่า เขาไม่มารับหายนะนี้แล้วใครจะมา
หมิ่นซือเหนียนสะบัดมือของเขาออก กัดฟันกรอดกล่าว “ว่ามา
แท้จริงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”

พ่อบ้านหวังกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่นในใจก็หวาดกลัว “เรียนนายท่าน
สาม เช้าวันนี้ตื่นมาแล้วบ่าวรู้สกึ ผิดปกติอย่างยิ่ง หลายวันมานี้บ่าว
ไม่ค่อยสบายใจนัก ทุกคืนมักจะต้องพลิกไปพลิกมานอนไม่หลับ แต่
เมื่อคืนบ่าวกลับหลับสบายอย่างยิ่ง รู้สึกตัวอีกทีก็ฟ้าสางแล้ว ถาม
คนอื่นๆ ต่างก็พูดว่าเมื่อคืนหลับสบาย บ่าวก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติ เมื่อ
ตรวจสอบก็พบว่าคลังลับถูกขนออกไปจนเกลี้ยง นายท่านสาม บ่าว
บ่าวไม่ทราบจริงๆ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” ตอนนี้เขายังจับต้นชน
ปลายไม่ถูก นี่มนั โจรย่องเบาที่ไหนถึงได้เก่งเพียงนี้ ไม่เผยพิรธุ
ออกมาแม้แต่นิดเดียวก็ขนของในคลังลับจนเกลี้ยงแล้ว

พ่อบ้านหวังจับต้นชนปลายไม่ถูก ทว่าหมิ่นซือเหนียนเจ้านายของ
เขากลับรู้ดีแก่ใจ เขากำหมัดแน่น บนใบหน้ามีความดุร้ายอันน่ากลัว
แวบผ่าน กล่าวทีละคำ “คนแซ่เสิ่น” จักต้องเป็นฝีมือของเด็กแซ่
เสิ่นคนนัน้ แน่นอน

คลังลับแห่งนั้นที่คฤหาสน์แม้วา่ จะไม่ได้ใหญ่เท่าในจวน แต่ก็เก็บทุน


ทรัพย์ของเขาไว้ สามส่วนสิบ หายไปเปล่าๆ เช่นนี้จะไม่ทำให้เขา
เจ็บใจได้อย่างไร คฤหาสน์พังแล้ว เขาวางแผนจะขนของในคลังลับ
แห่งนั้นกลับมา แต่ใครจะรู้ว่าเด็กแซ่เสิ่นผู้นนั้ จะชั่วร้ายเช่นนี้ ไม่
เพียงแต่สืบข่าวได้ ลงมือก็ยังเร็วเพียงนั้น ทำให้เขาโมโหอย่างยิ่ง
จริงๆ

พ่อบ้านหวังที่คุกเข่าอยู่ข้างล่างก็พึมพำในใจ คนแซ่เสิ่นหรือ หรือว่า


จะเป็นโจรย่องเบาแซ่เสิ่นผู้นั้น นายท่านสามรูจ้ ักด้วยหรือ เขาสงสัย
อยู่เต็มอกแต่กลับไม่กล้าถามออกไปสักคำเดียว

แม้จะรู้ว่าเรื่องในคลังลับเด็กแซ่เสิ่นเป็นคนทำ แต่หมิ่นซือเหนียน
กลับไม่มีหนทางแม้แต่นิดเดียว ไม่เพียงแค่ในมือเขาไม่มีหลักฐาน
ต่อให้มีหลักฐาน เด็กคนนั้นก็คงวิ่งหนีไปนานแล้ว เขาจะไปหาจาก
ไหนได้ เขากล้าเข้าเมืองหลวงหรือ กล้าไปฟ้องร้องคุณชายจวนจงอู่
โหวหรือ เขาไม่ใช่เด็กสามขวบ ที่จะแยกแยะความหนักเบาแค่นี้
ไม่ได้

ดังนั้นนอกจากกล้ำกลืนความเสียหายนี้เงียบๆ แล้วเขาก็ไม่มีหนทาง
อื่นอีก และเพราะว่าหมดหนทางเขาจึงยิ่งโมโห แต่ไหนแต่ไรเขา
หมิ่นซือเหนียนรังแกผู้อื่น เมื่อไรกันที่ถึงตาเขาถูกคนรังแกบ้าง เขา
กลับลืมว่ากรรมใดใครก่อ กรรมนั้นตามสนอง ผู้ที่รังแกคนอื่นย่อม
เป็นเช่นนี้ หลักการแห่งสวรรค์ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

เช้าตรู่ ฟ้าเพิ่งจะสาง ดวงอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นฟ้า บนใบหญ้ายังมี


หยาดน้ำค้างเกลี้ยงกลมประดับอยู่
บ้านเตี้ยๆ หลังหนึ่งทางฝั่งตะวันตกของเมืองมีเสียงไอที่ทำให้คนฟัง
แล้วเศร้าใจดังขึ้นมาพักหนึ่ง หลังจากนั้นก็มีเสียงที่ใสซื่อเสียงหนึ่งดัง
ขึ้นมา “ท่านแม่ ท่านอย่าลุกเลย ข้างนอกยังหนาวอยู่ ลูกจะไปต้ม
น้ำร้อนให้ท่าน”

จากนั้นก็เป็นเสียงสวบๆ สาบๆ สวมเสื้อผ้าลงจากเตียง ประตูเปิด


ออกแล้ว เด็กหนุ่มอายุสิบหกสิบเจ็ดปีเดินออกมา แต่กลับสะดุดของ
บางอย่างข้างประตู เกือบจะหกล้ม เด็กหนุ่มหันหน้ากลับมามอง
ดวงตาก็เบิกกว้างในชั่วขณะ “ท่านแม่ ท่านแม่” เขาตะโกนด้วย
ความตกใจกลัว
“อะไร ลูกเป็นอะไร” มารดาที่อยู่ในห้องก็ตกใจกลัว ทั้งส่งเสียงไอ
อันน่าเศร้าออกมาอีกพักหนึ่ง

“ท่านแม่ ไม่มีอะไร” เด็กหนุ่มรีบตะโกนเข้าไปในบ้าน เขามองไป


รอบด้านไม่มีคน มือสัน่ ระริกเก็บเงินที่เกือบจะทำให้เขาสะดุดนั้น
ขึ้นมา เขาหยิกแขนตัวเองอย่างแรงหนึ่งครา เจ็บจนแยกเขี้ยวยิงฟัน
แต่เขากลับยิ้มออกมา ไม่ได้ฝันไป เป็นเงินจริงๆ ไม่ใช่ฝัน สวรรค์
รับรู้ถึงความกตัญญูของเขา ตั้งใจประทานเงินมาช่วยเขาใช่หรือไม่
ดีจริงๆ คราวนี้ดีแล้ว อาการป่วยของท่านแม่มีทางช่วยแล้ว
เด็กหนุ่มวิ่งกลับไปในบ้านด้วยความดีใจบ้าคลั่ง “ท่านแม่ ท่านดูสิว่า
นี่อะไร เงิน เงินก้อนใหญ่” เขาถือเงินที่เพิ่งเก็บได้ขึ้นมาให้แม่ของ
เขาดูราวกับยกสิ่งของล้ำค่า

มารดาที่พิงหัวเตียงอยู่ก็ตกใจจนสะดุ้งโหยง “ลูกเอ๋ย เจ้าไปเอาเงิน


มากมายเพียงนี้มาจากไหน เจ้าคงไม่ได้ทำเรื่องโง่ๆ อะไรใช่หรือไม่
ลูกเอ๋ย แม่จะบอกเจ้าให้ เจ้าไม่อาจเดินทางผิดได้ มิเช่นนั้น มิ
เช่นนั้นแม่ยอมตายเสียตอนนี้ยงั ดีกว่า” สตรีผนู้ ี้บนเตียงแก้มตอบ
อย่างยิ่ง บนใบหน้ามีสีแดงก่ำอย่างผิดปกติ เมื่อมองดูก็รู้ว่าป่วยมา
นานแล้ว
เด็กหนุ่มเห็นมารดาโมโห ก็รีบกล่าว “ท่านแม่ ท่านแม่ ไม่ใช่ เงินนี้
ลูกเก็บได้ที่ข้างประตูเมื่อครู่”

“อะไรนะ เก็บได้หรือ ข้างประตูบ้านพวกเราหรือ ลูกเจ้าอย่าหลอก


แม่” สายตามารดาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

เด็กหนุ่มออกแรงพยักหน้า ร้อนใจแล้ว “เก็บได้จริงๆ ลูกเป็นคน


อย่างไรท่านแม่ยังไม่เชื่ออีกหรือ”
เด็กหนุ่มยืนยันอีกครั้ง มารดาจึงกึ่งเชื่อกึ่งสงสัย “เก็บได้จริงๆ หรือ
ไม่ใช่ว่าเจ้าขโมยของคนอื่นมาหรือ”

“อืมๆ จริงๆ จริงๆ ลูกเก็บได้จริงๆ ท่านแม่ ตอนนี้ดีแล้ว พวกเรามี


เงินแล้ว อาการป่วยของท่านแม่ก็จะได้รับการรักษาแล้ว” เด็กหนุ่ม
ดีใจยิ่งนัก

ทว่ามารดากลับส่ายหน้า “ลูกเอ๋ย ในเมื่อเงินเป็นเจ้าที่เก็บมา


เช่นนั้นก็หมายความว่ามีคนทำหล่น เงินนี้พวกเราเก็บไว้ไม่ได้ ต้อง
คืนให้คนอื่น ตอนที่พ่อเจ้ายังอยู่ก็มักจะบอกว่าคนจนไม่อาจหมด
อุดมการณ์ แม่ยอมที่จะไม่รักษายังดีกว่าจะต้องให้เจ้าทำเรื่องที่ทำ
ให้พ่อเจ้าละอายใจ” ขณะที่พูดก็ไอถี่ๆ อีกพักหนึ่ง

เด็กหนุ่มเห็นท่าที ก็รีบตบหลังแม่เขาเบาๆ ในใจเศร้าโศกอย่างถึง


ที่สุด เขาเองก็รู้ว่าเก็บเงินได้ต้องคืนเจ้าของ แต่เขาตัดใจไม่ลง ไม่ใช่
ว่าเขาโลภ แต่ในบ้านต้องการเงินก้อนนี้จริงๆ มีเงินก้อนนี้อาการ
ป่วยของแม่ก็จะได้รับการรักษา เขาก็จะไม่ต้องกังวลอยู่บ่อยๆ ว่า
มารดาจะจากไปเหมือนกับพ่อเขา

คิดถึงตรงนี้ เด็กหนุ่มก็กัดริมฝีปากกล่าว “ท่านแม่ ลูกคิดว่าเงินก้อน


นี้ไม่ได้มีใครทำหล่น ท่านลองคิดดู วันคืนของพวกเราต่างก็ย่ำแย่
ใครจะมีเงินก้อนใหญ่เพียงนี้ ทั้งยังบังเอิญทำหล่นที่หน้าประตูบ้าน
พวกเรา ลูกคิดว่านี่จะต้องเป็นเพราะสวรรค์เห็นว่าพวกเราสองแม่
ลูกมีชีวิตที่ยากลำบาก สงสารพวกเรา จึงตั้งใจประทานให้พวกเรา”
ยิ่งพูดถึงประโยคหลังเด็กหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นเช่นนี้

มารดาคิดๆ ดูแล้วก็ถูก บริเวณที่พวกเขาอยู่ต่างก็เป็นบ้านคนจน ไม่


หิวได้ก็ดีเท่าไรแล้ว ไหนเลยจะมีเงินก้อนใหญ่เพียงนี้มาหล่นอยู่ ฟัง
ลูกพูดว่าสวรรค์ประทานให้พวกเขาสองแม่ลูก นางก็เชื่อเล็กน้อย
แต่ก็ยังรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้นัก

ในตอนนี้เอง สองแม่ลูกก็ได้ยินเสียงร้องอุทานดังเข้ามาจากเรือนฝั่ง
ตะวันออก เด็กหนุ่มเปิดประตูออกไปทันที เห็นในมือลุงเหมาเรือน
ตะวันออกกำลังถือของแวววาวอยู่ คล้ายเป็นเงินหนึ่งก้อนเช่นกัน
เด็กหนุ่มมองดูแล้วก็ถอยกลับเข้าห้อง ดีใจกล่าวเสียงเล็ก “ท่านแม่
ท่านทายสิว่าลูกเห็นอะไร ท่านลุงเหมา ท่านลุงเหมาที่เรือนฝั่ง
ตะวันออกของพวกเราก็เก็บเงินหนึ่งก้อนได้เช่นกัน ลูกบอกแล้วว่า
สวรรค์สงสารพวกเราคนจนทีม่ ีชีวิตไม่ดี ตั้งใจช่วยเหลือพวกเรา”

“สาธุ ขอบคุณฟ้าขอบคุณดินจริงๆ” มารดาเองก็ดีใจยิ่งนัก “ลูกเอ๋ย


นี่จะต้องเป็นเพราะพ่อเจ้าคุ้มครองพวกเราอยู่ตรงนั้นเป็นแน่
กลับไปก็อย่าลืมจุดธูปไหว้พ่อเจ้า ลูกเอ๋ย พยุงแม่ขึ้นหน่อย พวกเรา
ไปขอบคุณสวรรค์กัน”
“อืม” เด็กหนุ่มตอบรับ พยุงมารดา แม่และลูกชายนั่งคุกเข่าอยู่ใน
ลานบ้านโขกศีรษะเสียงดังสามครั้ง พึมพำในปาก “ขอบคุณสวรรค์ที่
คุ้มครอง” บนใบหน้าเต็มไปด้วยความศรัทธา
ตอนที่ 204-2 เช้าตรู่วันหนึ่ง

นี่เป็นเช้าตรู่ที่มีความสุขและทำให้คนรู้สึกเปี่ยมล้นไปด้วยความหวัง
จริงๆ ชาวบ้านยากจนนับไม่ถ้วนในเมืองทงโจวต่างก็เปิดประตูหรือ
ว่าในลานบ้าน หรือว่าข้างประตูบ้าน เก็บก้อนทองหรือว่าก้อนเงิน
ขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ คนที่มีความรู้ก็เข้าใจว่านี่คือขโมยผู้ชอบ
ธรรมในเมือง ประชาชนที่เยอะยิ่งกว่าก็คิดว่าเป็นสวรรค์
พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์กวนอิมที่คอยปกปักรักษา พากันคุกเข่า
โขกศีรษะในลานบ้าน น้อมคำนับขอบคุณพระกรุณาของสวรรค์
พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์กวนอิม

ยังคงเป็นเช้าตรู่เช่นเดียวกัน สวีโย่วนั่งอยู่บนรถเข็นโดยมีเจียงเฮย
เจียงไป๋ยกขึ้นเขาชิงลั่ว ศาสนิกชนที่บังเอิญพบระหว่างทางก็พากัน
ส่งสายตาสงสารมายังคุณชายวัยหนุ่มผู้นี้ มีผู้อาวุโสอายุมากยัง
ปลอบด้วยความหวังดี “พ่อหนุ่มเอ๋ย อย่าได้ท้อใจไป พระที่วัดจยา
หลานของพวกเราศักดิ์สิทธิย์ ิ่งนัก เจ้าจุดธูปบูชาให้เยอะหน่อย
พระองค์ก็จะรักษาอาการป่วยของเจ้าให้หายดี” เกิดในตระกูล
ร่ำรวยแล้วอย่างไร ไม่มีร่างกายที่แข็งแรงก็สู้พวกเขาไม่ได้ เด็กหนุ่ม
คนนี้มองดูก็รู้ว่าอ่อนแอมีโรครุมเร้า เกิดมาดีเช่นนี้ น่าเสียดายยิ่งนัก

สวีโย่วมาถึงหน้าวัดจยาหลานท่ามกลางสายตาสงสารตลอดทาง
เช่นนี้ เงยหน้าขึ้นมอง วัดจยาหลานทั้งหลังก็อาบอยู่ในแสงแรกอรุณ
เงียบสงบและขลัง หากไม่ใช่ว่าได้แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ สวีโย่วเองก็
ไม่เชื่อว่าพื้นที่ห่างไกลแห่งนีจ้ ะกลายเป็นที่ซ่อนมลทิน

“คุณชาย ท่านวางใจ รอไหว้พระเสร็จแล้วอาการป่วยของท่านก็จะดี


ขึ้นเอง” เจียงไป๋กล่าว พยุงสวีโย่วขึ้นมากับเจียงเฮย ช่วยกัน
ประคองเขาเดินไปยังวิหารใหญ่ คนอื่นๆ ที่ตามมาย่อมรออยู่นอก
วิหาร

สวีโย่วสีหน้าขาวซีด เดินได้ไม่กี่ก้าวก็เหนื่อยหอบ หน้าผากก็มีเม็ด


เหงื่อแน่นขนัดผุดออกมา เจียงเฮยกับเจียงไป๋ไร้หนทาง ทำได้เพียง
หยุดพัก หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อให้เขา

ระยะทางสั้นๆ สวีโย่วหยุดไปสามรอบ ท่าทางอ่อนแอเช่นนี้ไม่


เพียงแต่ศาสนิกชนที่ทนมองไม่ได้ แม้แต่หลวงจีนในวัดก็ยังมีสหี น้า
สงสาร
สวีโย่วถูกเจียงเฮยเจียงไป๋พยุงคุกเข่าอยู่บนเบาะทรงกลมกราบไหว้
สามครั้ง เจียงเฮยจุดธูปแทนเขา ทั้งยังถวายเงินทำบุณเพิ่มอีกห้า
ร้อยตำลึง เจียงไป๋อธิษฐานเสียงเบา “ข้าแต่พระพุทธเจ้า ขอให้ท่าน
จงรักษาอาการป่วยคุณชายของข้าให้หายโดยเร็ว คุณชายผู้นา่
สงสารของข้ามีความรู้ความสามารถ ท่านต้องรักษาให้เขาดีขึ้น
โดยเร็ว หากสมปรารถนา คุณชายของข้าจะหล่อพระพุทธรูปถวาย
แด่พระพุทธองค์”

บอกว่าเสียงเบา แต่อันที่จริงแล้วหลวงจีนในวิหารใหญ่แห่งนีก้ ลับได้


ยินทั้งหมด พวกเขามองคุณชายปวดออดแอดนั่งหลับตาสนิทอยู่บน
เบาะปราดหนึ่ง สายตาปรากฏความสงสารหลายส่วน เกิดมาดีเช่นนี้
ทั้งยังฉลาด แต่กลับไม่มสี ุขภาพที่แข็งแกร่ง โชคชะตาเล่นตลกจริงๆ
หลวงจีนวัยกลางคนที่ยนื อยู่ข้างๆ พวกเขาก็กล่าวอมิตาพุทธครา
หนึ่ง “โยมผูน้ ี้ อาตมาเห็นโยมสีหน้าไม่ดี เกรงว่าจะป่วยอยู่ใช่หรือไม่
อาจารย์อาเต้ากวงในวัดอาตมาชำนาญการแพทย์ หากโยมไม่ถือสา
จะไปให้อาจารย์อาเต้ากวงดูหน่อยก็ย่อมได้”

“จริงหรือ เช่นนั้นก็ดียิ่งนัก พระอาจารย์โปรดชี้แนะ” เจียงไป๋


ตื่นเต้นดีใจทั้งใบหน้า หันหน้ามองเจ้านายของตนที่นิ่งเฉย อ้อนวอน
อย่างอดไม่ได้ “คุณชาย พวกเราไปให้พระอาจารย์เต้ากวงดูสัก
หน่อยเถอะ ท่านเองก็ได้ยินแล้ว พระอาจารย์เต้ากวงชำนาญ
การแพทย์ ไม่แน่ว่าอาจจะรักษาอาการป่วยของท่านได้”
สวีโย่วเพิ่งจะลืมตาขึ้นช้าๆ ทั้งใบหน้าสงบนิ่ง “เสี่ยวไป๋ อย่าเปลือง
ความคิดเลย โรคนี้ของข้าเป็นมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์แล้ว หมอเทวดา
หมอหลวงตั้งเท่าไรล้วนรักษาไม่หาย ข้าตายใจไปนานแล้ว สามารถ
อาบแสงศักดิ์สิทธิ์จากพระพุทธองค์ได้ในวันสุดท้าย หาสถานที่สงบ
จิตใจ ข้าก็อิ่มใจอย่างยิ่งแล้ว เพียงแค่ลำบากพวกเจ้าที่ติดตามข้ามา
ตั้งแต่เด็กเหล่านี้” ท่าทางเข้าใจชีวิตความเป็นตายอย่างถ่องแท้

เจียงไป๋อ้อนวอนต่อ “คุณชายท่านจะคิดเช่นนี้ไม่ได้ ท่านยังหนุ่ม


เพียงนี้จักต้องรักษาได้แน่ ท่านให้พระอาจารย์เต้ากวงดูสักหน่อย
เถอะ ท่านลำบากตรากตรำเรียนหนังสือมาหลายปีเพียงนั้น ยังไม่ได้
แสดงความมุ่งมาดปรารถนาเลย ท่านยอมหรือ ท่านไม่เห็นแก่สิ่งนี้
แต่ก็ต้องคิดแทนฮูหยินด้วยสิขอรับ ฮูหยินมีท่านเป็นลูกชายเพียงคน
เดียว หากท่านเป็นอะไรไป ท่านจะให้ฮูหยินไปพึ่งพาใคร คุณชาย
รองคุณชายสามในจวนไม่อาจทำดีต่อฮูหยินแน่นอน ท่านทนเห็น
ภาพฮูหยินระทมทุกข์ได้หรือ คุณชาย ผู้น้อยขอร้องท่านล่ะ ท่าน
อย่าเพิ่งท้อใจ พวกเราออกมาก็เพื่อค้นหาหมอชื่อดังมิใช่หรือ ไม่แน่
ว่าพระอาจารย์เต้ากวงอาจจะรักษาท่านหายก็ได้ ใช่หรือไม่พระ
อาจารย์ใหญ่” เจียงเฮยมองขอความช่วยเหลือจากหลวงจีนวัย
กลางคนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

หลวงจีนวัยกลางคนผูน้ ั้นประกบมือแล้วสวดอมิตาพุทธหนึ่งครา
“โยมน้องผู้นี้พูดมีเหตุผล สัตว์เล็กๆ ยังโหยหาชีวิต นับประสาอะไร
กับมนุษย์เล่า ในเมื่อโยมมีความปรารถนา อีกทั้งในใจยังมีห่วง
เช่นนั้นก็ตั้งสติมารักษาโรคดีกว่า อาจารย์อาเต้ากวงศึกษาการแพทย์
มาหลายปี ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นคนที่มีวาสนากับโยม”
“ใช่ๆๆ คุณชาย วันนี้ตอนที่ออกมานกกางเขนร้องจิ้บๆ ไม่หยุด นี่
เป็นลางดี ไม่แน่ว่าพระอาจารย์เต้ากวงอาจจะรักษาอาการป่วยของ
ท่านได้” เจียงไป๋กล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น

สวีโย่วราวกับถูกกระตุ้น มือทั้งคู่ประกบพยักหน้าน้อยๆ ให้หลวงจีน


วัยกลางคนผูน้ ั้น “เช่นนัน้ ก็รบกวนพระอาจารย์แล้ว”

“พระพุทธองค์เมตตา โยมไม่ต้องเกรงใจ” หลวงจีนวัยกลางคน


คำนับกลับ “เชิญโยมทางนี้”
สวีโย่วถูกเจียงไป๋เจียงเฮยพยุงกลับไปนั่งลงบนรถเข็น ตามหลังหลวง
จีนวัยกลางคนไปหาพระอาจารย์เต้ากวงอะไรนั่นเพื่อดูอาการป่วย

ในกุฏิหลังหนึ่ง หลวงจีนสององค์กำลังวางหมาก คนหนึ่งก็คอื หลวง


จีนเต้ากวงที่หลวงจีนวัยกลางคนในวิหารใหญ่เอ่ยถึงผู้นั้น ส่วนอีกคน
หนึ่งก็คือหลวงจีนเต้าเสวียน

หลวงจีนเต้ากวงวางหมากลง มองศิษย์พี่ฝั่งตรงข้ามปราดหนึง่ แล้ว


กล่าว “เพียงแค่คนขี้โรคคนหนึ่ง ศิษย์พี่หวาดผวาเกินไปหรือไม่”
หลวงจีนเต้าเสวียนฝั่งรงข้ามก็วางหมากลง กล่าว “ดูท่าทีก่อน
ดีกว่า” หยุดครูห่ นึ่งแล้วจึงกล่าวต่อ “ศิษย์พี่เจ้าอาวาสบอกแล้วว่า
ราชสำนักคล้ายมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ซ้ำที่นี่ก็ยังเป็นวัด คนไป
คนมา ใครจะรู้ว่าจะมีสายลับแฝงตัวเข้ามาหรือไม่ พวกเราต้อง
ระมัดระวัง ทำนายท่านเสียเรือ่ งขึ้นมาจะแย่เอา”

หลวงจีนเต้ากวงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง “สถานการณ์ในวัดหลายวันมา
นี้ก็เป็นปกติดีไม่ใช่หรือ เพียงแค่วันนี้คุณชายขี้โรคมา เจ้าไม่ได้ยิน
ข่าวที่หมิงเจวี๋ยส่งกลับมาหรือ แม้แต่จะเดินยังต้องให้คนพยุง จะ
เป็นสายลับของราชสำนักได้อย่างไร ศิษย์พี่น่ะ เจ้าอย่ากดดันตัวเอง
นักเลย”
เต้าเสวียนยังคงยืนกราน “ข้ามักจะรู้สึกไม่วางใจอย่างยิ่ง ดูให้ดีๆ
หน่อยแล้วกัน ศิษย์น้อง พวกเขามาแล้ว ข้าไปหลบก่อน” เขายืนขึ้น
เข้าไปในห้องลับ

หลวงจีนวัยกลางคนเข้ามาในกุฏิก่อน ชั่วขณะก็เดินออกมาอีกครั้ง
“โยม อาจารย์อาเต้ากวงเชิญเข้าไป”
รถเข็นย่อมเข็นเข้ามาไม่ได้ เจียงเฮยเจียงไป๋ก็พยุงสวีโย่วเดินเข้ามา
ในกุฎิ “พระอาจารย์เต้าหวง ผู้น้อยรบกวนแล้ว”

“โยมเชิญนั่ง” หลวงจีนเต้ากวงสวดอมิตาพุทธหนึ่งครา จากนั้นจึง


ยื่นมือออกมาวางไว้บนข้อมือของสวีโย่ว เขาหลับตาลง คล้ายตั้งใจ
วินิจฉัยโรค

นานอย่างยิ่งจึงค่อยๆ ลืมตาขึน้ เห็นคนทั้งสามตรงหน้ามองเขาอย่าง


เฝ้ารอคอย จากนั้นจึงถอนหายใจส่ายหน้า กล่าวด้วยความเสียใจ
อย่างถึงที่สุด “โรคนี้ของโยมมีมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ต่อมาก็ไม่ทันได้
รักษา อีกทั้งยังเหมือนกินของสำแดงเข้าไป หากเร็วกว่านีส้ ักสามถึง
ห้าปี อาตมาก็ยังมั่นใจห้าส่วนสิบ แต่ตอนนี้กลับเหลือเพียงสามส่วน
สิบแล้ว”

เดิมคิดว่าคนทั้งสามตรงหน้าจะผิดหวังอย่างถึงที่สุด กลับเห็นบ่าวรับ
ใช้ผู้นั้นด้านขวากล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น “คุณชายท่านได้ยินหรือไม่
พระอาจารย์บอกว่ามั่นใจสามส่วนสิบ เยอะกว่าหมอหลวงจำนวน
มากที่นายท่านผูกสัมพันธ์ทุ่มเทกายใจกว่าจะเชิญมาได้ตั้งสองส่วน
คุณชาย ผู้น้อยบอกแล้วว่าท่านจะดีขึ้นได้ ท่านจะต้องหาย พวกเรา
จะไม่ไปไหน พวกเราจะอยู่ที่วดั จยาหลาน มีพระอาจารย์เต้ากวง
ออกมือ ท่านจะต้องดีขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน”
จากนั้นก็โผเข้าไปคุกเข่าให้หลวงจีนเต้ากวง “พระอาจารย์ ขอร้อง
ท่านล่ะ ท่านต้องช่วยคุณชายของพวกเรานะขอรับ คุณชายของพวก
เราเป็นคนดี มีคุณธรรมมีสติปญ ั ญา จิตใจก็ดี ไม่เคยดุด่าบ่าวเช่น
พวกข้าเลย ผู้น้อยขอให้ท่านช่วยคุณชายของพวกเราด้วยเถิด”
ปังๆๆ โขกศีรษะขึ้นมา

หลวงจีนเต้ากวงรีบห้าม “พอแล้วๆๆ ได้พบกันถือเป็นวาสนา ในเมื่อ


โยมมากราบไหว้ต่อพระพุทธองค์ อาตมาจะยืนมองดูเฉยๆ ได้
อย่างไร เพียงแต่อาการป่วยของโยมอาจจะไม่ได้ดีขึ้นได้ภายในเวลา
สั้นๆ โยมต้องเตรียมใจไว้ด้วย”
“ไม่กลัว ไม่กลัว ขอเพียงแค่รักษาอาการของคุณชายได้ ต่อให้ต้อง
อยู่ในวัดแห่งนีส้ ามปีห้าปีพวกข้าก็ยินดี” บ่าวรับใช้ผู้นนั้ ทางซ้ายก็
เอ่ยปากด้วยสีหน้าตื่นเต้นเช่นกัน

หลวงจีนเต้ากวงมองสวีโย่ว สวีโย่วพยักหน้า “เช่นนั้นอาการป่วย


ของผู้น้อยก็รบกวนพระอาจารย์แล้ว”

หลวงจีนเต้ากวงก็ลูบหนวดกล่าว “โยมไม่ต้องเกรงใจ นี่เองก็เป็น


เพราะอาตมากับโยมมีวาสนาต่อกัน”
สวีโย่วและคนอื่นๆ ตามหลวงจีนวัยกลางคนที่พาพวกเขามาออกไป
จัดแจงที่พักในวัด เมื่อพวกเขาไปแล้วหลวงจีนเต้าเสวียนก็เดิน
ออกมาจากห้องลับ “เป็นอย่างไร” เขากล่าวถาม

หลวงจีนเต้ากวงกล่าว “คนผู้นไี้ ม่มีปัญหา ข้าบอกแล้วว่าศิษย์พี่คิด


มากเกินไป”

“หรือว่าป่วยจริงๆ หรือ” หลวงจีนเต้าเสวียนยังคงไม่เชื่อนัก ในใจ


เขามักจะมีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง
“ไหนเลยจะป่วย ชัดเจนว่าเป็นพิษ พิษที่มีมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์”
หลวงจีนเต้ากวงมีความรู้ด้านการแพทย์อยู่หลายส่วนจริงๆ “มีพิษ
แต่กำเนิด ต่อมาก็ถูกวางพิษอีก ต่อให้ข้าออกมือ ก็เป็นเพียงแค่การ
ต่อชีวิตไปอีกสิบปีแปดปีเท่านัน้ คิดอยากจะแก่ตาย ยากนัก” เขา
ส่ายหน้า บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียดาย คุณชายทีส่ ง่างามล้ำ
เลิศเช่นนี้กลับมีชะตาชีวิตสั้น ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องรู้สึกเสียดาย

“พิษหรือ” หลวงจีนเต้าเสวียนตกใจ บนใบหน้ามีสีหน้างุนงง


หลวงจีนเต้ากวงเห็นท่าที ก็หวั เราะจุปากกล่าว “ศิษย์พี่คงจะไม่ได้
เป็นหลวงจีนนานจนลืมเรื่องโสมมเหล่านั้นอย่างการตบตีของภรรยา
เอกอนุภรรยาในสังคมไปแล้วหรอกกระมัง” สามารถถูกวางยาพิษ
ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ได้ ย่อมต้องมาจากคนผู้นนั้ ที่ตั้งท้องเขา เรือนหลัง
ก็คือสถานที่ที่ฆ่าคนไม่เห็นเลือดอย่างไรเล่า เพียงแต่เสียดายเด็ก
หนุ่มที่รูปร่างหน้าตาโดดเด่นเช่นนี้

หลวงจีนเต้าเสวียนคิดอย่างละเอียด จากนั้นก็เข้าใจแล้ว

ระหว่างทางกลับเจียงไป๋พูดไม่หยุดปาก “คุณชายในที่สดุ ครั้งนี้พวก


เราก็มาถูกที่หาถูกคนแล้ว ตอนนี้ดีแล้ว รอท่านหายป่วย พวกเรา
กลับไปฮูหยินจะต้องดีใจแน่นอน สิบกว่าปีมานี้นางสวดมนต์ขอพร
ทุกวัน ไม่ง่ายเลย เฮ้อ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยูท่ ี่นั่น
พระพุทธองค์จะต้องเห็นแก่ฮูหยินของพวกเราเป็นแน่…” สาธยายไม่
หยุดตลอดทางเต็มๆ สวีโย่วไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแท้จริงแล้วเจียงไป๋พูดเก่ง
เพียงนี้

หลวงจีนวัยกลางคนนำกลุ่มของสวีโย่วไปยังเรือนหลังเล็กที่เงียบสงบ
แห่งหนึ่ง เจียงไป๋เจียงเฮยขอบคุณอย่างซึ้งอกซึ้งใจพลางส่งคน
ออกไป เมื่อเข้าห้องแล้ว เจียงเฮยเจียงไป๋ก็มองไปรอบด้านด้วย
ความระมัดระวังปราดหนึ่ง ไม่พบอะไรผิดปกติจึงวางใจลง “คุณชาย
วัดจยาหลานแห่งนี้ดูเหมือนผิดปกติมากจริงๆ” เจียงเฮยกล่าวเสียง
เบา
“ผิดปกติตรงไหน เหตุใดข้าถึงมองไม่ออกเล่า” เจียงไป๋เองก็ลดเสียง
ต่ำ

เจียงเฮยกล่าวในใจ ก็เจ้าเอาแต่เล่นละครสมจริง ไหนเลยจะยัง


สังเกตสิ่งอื่นได้

“หลวงจีนในวัดแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเณรที่กวาดพื้น หรือว่าพระ


อาจารย์หมิงเจวี๋ยผู้นั้นทีน่ ำทางเรา กระทั่งพระอาจารย์เต้ากวงที่ดู
อาการให้คุณชาย พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นผูฝ้ ึกยุทธ์” เจียงเฮยพูด
สิ่งที่เขาสังเกตเห็นออกมา
สวีโย่วพยักหน้าเบาๆ เขาเองก็สังเกตเห็นจุดนี้ เป็นเพียงวัด แต่ทุก
คนกลับเป็นยุทธ์ จะไม่ทำให้คนคิดมากได้อย่างไร พระนักรบ รัช
สมัยก่อนก็มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว

“สงบจิตใจอยู่ไปก่อน คอยหาโอกาสไปดูที่เขาด้านหลัง” สวีโย่วก


ล่าว เขาคล้ายได้ยนิ ว่ามีคนเอ่ยถึงเขาด้านหลังรางๆ

“คุณชายจะบอกว่าเขาด้านหลังซ่อนคนไว้หรือขอรับ” เจียงเฮยเจียง
ไป๋กล่าวขึน้ พร้อมกัน
สวีโย่วพยักหน้า “ถูกต้อง” หลวงจีนวัดจยาหลานจะมีกี่คนกัน อย่าง
มากก็แค่ไม่กี่ร้อย จากข่าวที่ฝ่าบาทพระราชทานมา คนกลุ่มนีม้ ี
หลายพันคน นอกจากเขาด้านหลังแล้วจะยังซ่อนไว้ที่ไหนได้อีก

สวีโย่วหรีต่ าลง เขากำลังคิดว่าจะปราบคนหลายพันคนที่ซ่อนอยู่


ด้านหลังเขาได้อย่างไร กองทัพใหญ่ขึ้นเขาจะเป็นการแหวกหญ้าให้งู
ตื่นได้ ถึงตอนนัน้ พวกเขาทะลุเข้าไปในเขา ทั้งยังชำนาญพื้นที่ จะไป
หาเจอจากที่ไหน
หากว่าน้องสี่แซ่เสิน่ อยู่ก็คงดี เด็กคนนั้นมีแผนร้ายเยอะอย่างยิ่ง ไม่
แน่ว่าอาจจะออกความคิดดีๆ ให้เขาได้จริงๆ

มองนายท่านที่จมอยู่ในความคิดอย่างชัดเจน เจียงเฮยเจียงไป๋สองพี่
น้องก็สบตากันปราดหนึ่ง ไอเบาๆ หนึ่งครา ถามอย่างเป็นห่วง
“นายท่าน ร่างกายของท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่” สุขภาพขอคุณชาย
ไม่ดี แต่ถูกหมอเทวดาหลี่รักษาจนเกือบหายดีแล้ว ตอนนีท้ ี่มที ่าทาง
ป่วยหนักจนเกิดเยียวยาเช่นนีอ้ ันที่จริงเป็นเพราะกินยาลับเข้าไป
พวกเขากังวลอย่างยิ่งว่ายาลับจะทำลายสุขภาพของคุณชาย

สวีโย่วส่ายหน้า จะเป็นอะไรได้อย่างไร เขาเองก็ใกล้จะเป็นคนที่มี


ครอบครัวแล้ว จะล้อเล่นกับร่างกายตนเองได้อย่างไร
ตอนที่ 205 ญาติพี่น้องพบหน้ า

เสิ่ นเวยผูเ้ ต็มไปด้วยแผนร้ายที่ถกู สวีโย่วนึกถึง ผ่านมาหนึ่งเดือนใน


ที่สุดก็พาเสิ่ นหย่าสองแม่ลูกกลับเมืองหลวงแล้ว ตอนที่ไปยังไม่ถึง
เดือนสาม ตอนที่กลับมาต้นไม้ใหญ่สองข้างทางก็มีใบไม้อ่อนผลิ
บานแล้ว

อาจจะเป็ นเพราะจากบ้านไปนาน ตั้งแต่เข้าประตูเมืองเสิ่ นหย่าก็เริ่ มตื่น


ตระหนก กาผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น เมื่อไปถึงหน้าประตูจวนจงอู่โหว
นางก็ยงิ่ กระวนกระวาย เหอหลินหลินเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน นัง่ ติดแม่
นาง ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่รู้อนาคต

เสิ่ นเวยพยุงนางลงรถ สังเกตเห็ นว่ามือของนางสั่นระริ ก “ท่านอา


พวกเราถึงบ้านแล้ว”

“ถึงบ้านแล้ว” เสิ่ นหย่าอ้ าอึ้ง ปล่อยให้เสิ่ นเวยพยุงนางลงรถ แสงแดด


ข้างนอกกาลังดี นางเงยหน้ามองอักษรใหญ่ที่เปล่งประกายสี ทองอยู่
บนซุม้ ประตูสูงใหญ่ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ถึงบ้านแล้ว
นี่ คือบ้านของนาง บ้านที่นางจากไปเกือบยีส่ ิ บปี ดวงตาของเสิ่ นหย่า
มีประกายหยดน้ าตารางๆ

เสิ่ นเวยเข้าใจความรู ้สึกของท่านอา กล่าวอย่างเริ งร่ า “ท่านอา พวก


เรารี บเข้า ไปกัน เถอะ ท่ า นปู่ ท่ า นย่ า และคนอื่ น ๆ ต่ า งก็ ร ออยู่
ลู ก ผูน้ ้อ งกลับบ้า นแม่ เ ป็ นครั้ งแรก ท่ า นปู่ ท่ า นย่า จะต้อ งดี ใ จมาก
แน่ๆ” พูดประโยคนี้ จบตนก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ ท่านปู่ ดีใจเป็ นเรื่ อง
จริ ง ส่ วนท่านย่า เหอะๆ นางไม่ชกั สี หน้าก็ไม่เลวแล้ว

ประตูกลางเปิ ดออกกว้าง น่าขัน จวิน้ จู่กลับจวนไม่เปิ ดประตูกลางได้


หรื อ คุณหนูสี่ก่อนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่ก็เป็ นคน
ที่ไม่อาจยุแหย่ได้แล้ว ตอนนี้พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่แล้ว
พวกเขาก็ยิ่งไม่กล้าเมินเฉยแม้แต่นิดเดียว ยิ่งไปกว่านั้นคนผูน้ ้ ี ยงั ใจ
ป้ า ขอเพียงแค่ประจบนางดี เช่ นนั้นเงิ นบาเหน็ จก็จะเยอะอย่างยิ่ง
เช่นกัน

“คุ ณ หนู สี่ ท่ านกลับ จวนแล้ว” พ่อ บ้า นเล็กหน้า ประตู โค้ง เอว ทั้ง
ใบหน้าคนชรายิม้ ราวกับบุปผาที่เบ่งบาน
เสิ่ นเวยพยักหน้าอย่างทะนงตน ริ มฝี ปากสี ชมพูเปิ ดออกน้อยๆ “รี บ
ไปรายงานข้างใน บอกว่ากูไหน่ไนกับคุณหนูญาติผนู ้ อ้ งมาถึงแล้ว”
กวาดสายตามองคนรับใช้ท้ งั หมดที่หน้าประตูปราดหนึ่ งแล้วกล่าว
“เห็นแล้วใช่หรื อไม่ นี่ คือกูไหน่ไนกับคุณหนูญาติผนู ้ อ้ งในจวนของ
พวกเรา เจ้านายที่แท้จริ ง แต่ละคนเบิกตาให้กว้าง ไม่เคารพเจ้านาย
ไม่วา่ ใครหน้าไหนก็ไม่เอาไว้ท้ งั สิ้ น” เสิ่ นเวยเตือนสติข้ ึนมาลอยๆ

เห็ นชัดๆ ว่าเป็ นน้ าเสี ยงที่อ่อนโยน พ่อบ้านเล็กรวมถึงคนรับใช้ที่


ทางานอยูห่ น้าประตูต่างก็ใจสั่น บนหน้าผากของพ่อบ้านเล็กยังมีเม็ด
เหงื่อผุดออกมา “ขอรับ ขอรับ พวกบ่าวจะจาไว้ เสี่ ยวซานจื่อเจ้าวิ่ง
เร็ ว รี บไปรายงานที่ประตูรอง”

เสิ่ นเวยยกมุมปากอย่างพอใจ กล่าวลอยๆ ต่อ “เอาล่ะ ความจงรักภักดี


ของพวกเจ้าข้าเห็ นแล้ว เถาจือ เอาเงิ นให้พ่อบ้านผูน้ ้ ี เสี ย กูไหน่ ไน
กลับจวนครั้งแรก ปูนบาเหน็จเงินดื่มสุ ราแก่ทุกคน”

เถาจือตอบรับแล้วออกมา หยิบเศษเงินหนึ่งกาออกมาจากกระเป๋ าเงิน


ใบเล็กไม่แม้แต่จะนับก็ยนื่ ให้พอ่ บ้านเล็กแล้ว ดวงตาของพ่อบ้านเล็ก
ต่างก็เป็ นประกายขึ้นมาในชัว่ ขณะ “ขอบคุณกูไหน่ไนที่ปูนบาเหน็จ
ขอบคุณคุณหนูสี่ คุณหนูญาติผนู ้ อ้ ง” พูดในใจ จากนี้ไปเจอกูไหน่ไน
กับคุณหนู ญาติผนู ้ ้องผูน้ ้ ี จะต้องเคารพให้มากหน่อยแล้ว เบื้องหลัง
พวกนางมีคุณหนูสี่คอยหนุนหลังอยู่

หลังกลุ่มเสิ่ นเวยเดินไปไกล คนรับใช้ที่ทางานอยูห่ น้าประตูก็พากัน


กรู เข้ามา “ท่านอาพ่อบ้าน เท่าไร เท่าไร กูไหน่ ไนของพวกเราปูน
บาเหน็ จเท่าไร” แต่ละคนต่างก็มองมื อ ของพ่อ บ้านเล็กด้วยความ
ตื่นเต้น ใครไม่รู้บา้ งว่าคุณหนูสี่ผนู ้ ้ นั ร่ ารวยทั้งยังใจป้ าอีกด้วย

“ออกไปหน่อย จะไม่มีให้พวกเจ้าได้อย่างไร” พ่อบ้านเล็กยิม้ ก่นด่า


หนึ่ งครา เขาก้มหน้านับเศษเงิ นในมือ แววตาปรากฏความดี ใ จบ้า
คลัง่ ให้ตายเถอะ คาดไม่ถึงว่ามีกว่าเจ็ดแปดตาลึง เขาเก็บไว้เองสอง
ตาลึง ที่เหลือยังพอแบ่งให้ทุกคนได้เกื อบหนึ่ งตาลึง พ่อบ้านเล็กที่
ประตูใหญ่ผหู ้ นึ่ งเช่นเขาก็มีเงินเดือนเพียงหนึ่ งตาลึง นี่ ถือเป็ นกาไร
ก้อนใหญ่อย่างยิง่

เป็ นดังคาด เมื่อพ่อบ้านเล็กพูดจานวนเงินออกไปทุกคนต่างก็ตื่นเต้น


ดีใจ พ่อบ้านเล็กถือโอกาสเตือนสติ “หลังจากนี้หากพบนายสามท่าน
นี้ก็พดู จากหวานๆ หน่อย วิง่ ให้เร็ วหน่อย”
“ท่านอาพ่อบ้าน นี่ ยงั ต้องให้ท่านกาชับอีกหรื อ พวกเราไม่ใช่คนโง่
เสี ยหน่อย” ใครจะโง่ไม่เห็นแก่เงินบ้าง ได้ทางานที่หน้าประตูใหญ่
ใครบ้างที่ไม่ใช่คนปราดเปรี ยว

“เวยเจี่ยเอ๋ อร์ ” เสิ่ นหย่าเข้าใจว่าเมื่อครู่ หลานสาวสร้างอานาจให้ตน


สองแม่ลูก ดวงตาปรากฏความซาบซึ้ งหลายส่ วน

ทว่าเสิ่ นเวยกลับตบมือของท่านอาเบาๆ กล่าวอย่างตั้งใจ “ท่านอา


เกรงใจเช่นนี้ทาให้หลานไม่สบายใจ พวกเราเป็ นครอบครัวเดียวกัน
ท่ า นกับลูกผูน้ ้อ งก็เป็ นข้าที่ ไ ปรั บกลับมาเอง หากบ่ าวในจวนไม่
เคารพท่าน หลานจะไม่เสี ยเกียรติแย่หรื อ ครอบครัวใหญ่ ยากจะเลี่ยง
ไม่ให้มีบ่าวที่ปฏิบตั ิตวั ไม่เหมาะสมหลายคน หลังจากนี้ ท่านอาต้อง
แข็งข้อจึงจะดี ท่านยิ่งอ่อนข้อพวกเขาก็ยงิ่ เหยียบจมูกขึ้นหน้า แม้แต่
ผียงั กลัวคนโหด ท่านลุกขึ้นสู ้จึงจะปกป้องลูกผูน้ อ้ งได้ แม้จะทาเพื่อ
ลูกผูน้ อ้ ง แต่ท่านก็ตอ้ งวางมาดของกูไหน่ไนด้วย”

เสิ่ นเวยเอ่ยเตือน นางใกล้จะต้องออกเรื อนแล้ว ช่วงเวลาที่อยูใ่ นจวน


โหวก็ไม่เยอะแล้ว ตอนที่ นางอยู่ยงั สามารถดูแ ลสองแม่ลูกคู่น้ ี ได้
หากนางไม่อยูใ่ นจวน ท่านปู่ กับเจวี๋ยเอ๋ อร์อย่างไรเสี ยก็เป็ นผูช้ าย มา
เรื อ นหลังบ่อยๆ ก็ไม่ค่อยดี นัก ดัง นั้นท่านอายังต้องลุกขึ้นยืนด้วย
ตัวเองจึงจะถูก นางรับพวกนางกลับมาจากอวิ๋นโจวไม่ใช่มาให้พวก
นางถู ก รั ง แก นางที่ ติ ด ป้ า ยชื่ อ เสิ่ น เวยไว้คงจะต้อ งจุ ด ธู ป ขอพระ
คุม้ ครองให้มากหน่อย

บนใบหน้าของเสิ่ นหย่าปรากฏความลาบากใจหลายส่วนก่อน กูไหน่ไน


สตรี ที่ แ ต่ ง งานแล้ว เช่ น นางกลับ มาบ้า นฝั่ ง มารดา อี ก ทั้ง แม่ใ หญ่ยงั
ไม่โปรดปราน อี๋ เหนี ยงก็ไม่อยู่แล้ว พี่ชายแท้ๆ ก็ไม่มีความก้าวหน้า
นางจะมี อ านาจแข็ ง ข้อ ได้อ ย่า งไร แต่ เ มื่ อ ได้ยิ น หลานสาวเอ่ ย ถึ ง
หลินเจี่ยเอ๋ อร์ หัวใจนางก็สั่น ใช่แล้ว นางจะเป็ นอย่างไรก็ไม่สาคัญ แต่
ลูกสาวเล่า ลูกสาวโตเพียงนี้ แต่กลับไม่มีชีวิตที่ดีเลยสักวันเดียว กลับมา
จวนโหวแล้วยังต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังระแวงผูอ้ ื่นอีกหรื อ

ไม่ ไม่ได้ เวยเจี่ยเอ๋ อร์พดู ถูก ต่อให้จะต้องทาเพื่อลูกสาว ตนก็ตอ้ งลุก


ขึ้ นยืนให้ได้ หลิ นเจี่ ยเอ๋ อร์ ไม่มีพ่อให้พ่ ึงพาแล้ว ตนผูเ้ ป็ นแม่ผนู ้ ้ ี ก็
ต้องค้ าฟ้าเพื่อนางให้ได้

แววตาของเสิ่ นหย่า ปรากฏความแน่ วแน่ เหอหลิ น หลิ นก็ยิ่ง มอง


ลูกผูพ้ ี่ของนางด้วยสายตาที่ร้อนแรง เมื่อครู่ ลูกผูพ้ ี่น่าเกรงขามยิง่ นัก
เมื่อไรนางจะเป็ นแบบลูกผูพ้ ี่ได้ นางเลียนแบบท่าทางของเสิ่ นเวย
อย่างไม่รู้ตวั ยืดหลังตรง ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมัน่ คง

ข้างประตูกลาง ฮูหยินสวี่กบั ฮูหยินจ้าวและคุณหนูหลายคนกาลังรอ


อยู่ที่นี่ แม้เสิ่ นหย่าจะเป็ นเพียงบุตรสาวอนุ ภรรยา ซ้ าพวกนางล้วน
เป็ นสะใภ้ ว่ า กัน ตามเหตุ ผ ลแล้ว ไม่ ม าต้อ นรั บ ก็ ไ ม่ เ ป็ นไร แต่
ฮูหยินสวี่คิดว่าอย่างไรเสี ยน้องสาวสามีผนู ้ ้ ี ก็เป็ นบุตรสาวเพียงคน
เดียวของพ่อสามี ต่อให้จะเป็ นการทาให้พ่อสามีเห็ นนางก็ตอ้ งให้
เกียรติสักหน่อยมิใช่หรื อ

ฮูหยินสวี่ที่เป็ นถึงโหวฮูหยินยังออกมาต้อนรับน้องสาวสามี ตนที่


เป็ นพี่สะใภ้แท้ๆ ยังมีเหตุใดอะไรให้ตอ้ งหลบหน้า

ตอนที่เสิ่ นหย่าออกเรื อนฮูหยินสวี่กบั ฮูหยินจ้าวต่างก็แต่งเข้ามาใน


จวนแล้ว ไม่ได้แ ปลกหน้ากับน้องสามี ผูน้ ้ ี แต่ตอนนี้ พวกนางเห็ น
สตรี ที่ใบหน้าเหี่ ยวแห้งมีความชราผูน้ ้ ี เดินเข้ามาช้าๆ ก็อดมองหน้า
กันปราดหนึ่ งไม่ได้ ในแววตามีความเข้าใจเหมือนกัน ดูท่าแล้วชีวิต
ที่จวนตระกูลเหอของน้องสามีผนู ้ ้ ีจะยากลาบากจริ งๆ
“คารวะพี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้รอง” อาจเพราะได้พบญาติ บนใบหน้า
เสิ่ นหย่าจึงมีความตื่นเต้นที่ยากจะควบคุมตัวเองได้

ฮูหยินสวี่กบั ฮูหยินจ้าวรี บเข้ามาประคอง ตบมือของนางแล้วกล่าว


“น้องกลับมาแล้ว กลับมาแล้วก็ดี” แม่นางที่เคยงามดัง่ บุปผาดัง่ หยก
กลายเป็ นสตรี ที่ดูแก่ยงิ่ กว่าตนในวันนี้ แม้แต่ฮูหยินจ้าวที่ใจดามาแต่
ไหนแต่ไรก็น้ าตาไหลตามหลายหยด บุรุษกลัวหลงผิดทาง สตรี กลัว
สมรสผิดคน หลังจากนี้เลือกลูกเขยให้บุตรสาวยังต้องระมัดระวังให้
มากจึงจะถูก

เสิ่ นเวยเห็นพวกนางร้องห่มร้องไห้กนั พอแล้ว จึงรี บกล่าว “ท่านป้ า


สะใภ้ใหญ่ ท่านป้ าสะใภ้รอง พวกท่านเห็นแต่ท่านอา เหตุใดถึงลืม
หลานกับลูกผูน้ อ้ งไปเสี ยเล่า”

ฮู หยินสวี่เช็ดหางตา ถลึ ง ตามองเสิ่ นเวยอย่างเคื องแค้นปราดหนึ่ ง


“เจ้าน่ ะ ใจร้ายเช่นนี้ แต่เด็ก ไปตั้งหนึ่ งเดือน ไม่รู้จกั ส่ งข่าวกลับมา
บ้าง ตอนนี้มีหลานสาวตามาเอาใจ ป้าก็ลืมเจ้าไปนานแล้ว” ยืน่ มือไป
ดึงเหอหลินหลินเข้ามา มองนางด้วยความเมตตา “นี่คือหลินเจี่ยเอ๋ อร์
ใช่หรื อไม่ หน้าตาดีจริ งๆ ดีกว่าตอนที่แม่เจ้ายังเยาว์วยั เสี ยอีก มาจวน
โหวแล้วก็คิดเสี ยว่าเป็ นบ้านตัวเอง ไม่ตอ้ งเกรงใจ กลับไปก็ไปเล่น
กับลูกผูพ้ ี่ลูกผูน้ อ้ งทั้งหลายของเจ้าเสี ย”

เหอหลิ น หลิ น ถูก สตรี สู ง ศักดิ์ ตรงหน้า จับ มื อ ไว้ แม้ว่า จะตื่ น เต้น
เล็กน้อย แต่ก็ยงั คงทาความเคารพอย่างเป็ นธรรมชาติ “หลินเจี่ยเอ๋ อร์
คารวะท่านป้าสะใภ้ใหญ่ ท่านป้าสะใภ้รอง”

“ดีๆๆ เด็กดีจริ งๆ” ฮูหยินสวี่กล่าวชื่นชม ถอดกาไลหยกหนึ่งอันบน


ข้อมือออกมาสวมลงบนมือของเหอหลินหลิน บนใบหน้ายังมีความ
ชื่นชมสามส่ วนจริ งๆ นิ สัยมารยาทเด็กคนนี้ดูแล้วยังไม่เลวเลยจริ งๆ
ดีกว่าแม่นางไม่นอ้ ย

ฮูหยินจ้าวเองก็มอบปิ่ นทองให้หนึ่งอัน เหอหลินหลินเหลือบตามอง


แม่นางปราดหนึ่ง เห็นแม่นางพยักหน้าน้อยๆ ก็รับของขวัญพบหน้า
มา หน้าแดงซ่านกล่าวขอบคุณ

หลังจากนั้นเสิ่ นเซวียนและคนอื่นๆ ก็เข้ามาทาความเคารพท่านอา


เสิ่ นหย่าเองก็มอบของขวัญพบหน้าให้พวกนางเช่นกัน
เสิ่ นเวยแทรกบทหยอกล้ออีกครั้ง “ท่านป้ าสะใภ้ใหญ่ หลานเสี ยใจ
นัก ท่านลื มหลานแล้ว ดูท่าแล้วของขวัญที่หลานลาบากลาบนขน
กลับมาคงจะต้องทิ้งเสี ยแล้ว”

ท่ า ทางกุม อกของนางท าให้ฮู หยิน สวี่ หัว เราะขึ้ น มาอี กครั้ ง “อย่า
แม้แต่จะคิด อีกประเดี๋ยวเอาไปส่ งที่เรื อนสี่ ประสานให้ป้าทั้งหมด
เจ้าน่ะ ชอบหยอกล้อคนเล่น”

ฮู ห ยิน จ้า วที่ อ ยู่ขา้ งๆ ก็ ต าลุ ก วาว กล่ า วอย่า งคล้า ยยิ้ม คล้ายไม่ ยิ้ม
“เวยเอ๋ อร์ มีแต่ของขวัญของป้าสะใภ้ใหญ่เจ้าหรื อ”

เสิ่ นเวยรี บกล่าว “จะเป็ นไปได้อย่างไร ลืมของใครก็ไม่อาจลืมของ


ท่านป้ าสะใภ้รองได้ หลานเห็ นเครื่ องประดับที่ไม่มีในเมืองหลวง
ของพวกเราชิ้นหนึ่ งข้างนอก ชื่อผ้าชิงหลิงอะไรสักอย่าง สี สดใสยิง่
นัก เนื้ อผ้าก็เบาบาง หลานเห็นครั้งแรกก็นึกถึงท่านป้าสะใภ้รอง ใน
จวนของพวกเราก็มีแต่ท่านป้ าสะใภ้รองที่เหมาะกับผ้าสี สดเช่นนั้น
หากท่านเอาผ้าชิงหลิงไปทาเป็ นเสื้ อผ้า ท่าลุงรองคงจะต้อง…คิกๆ”
เสิ่ นเวยปิ ดปากหัวเราะ
ฮู หยินจ้าวติ นางหนึ่ ง ครา แต่สีหน้าแววตากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
พอใจ “ป้ าสะใภ้ใหญ่พูดไว้ไม่มีผิด เจ้าชอบหยอกล้อคนเล่น แม้แต่
ป้ายังกล้าแกล้ง เจ้านี่มนั เจ้านี่มนั …” นางหัวเราะอย่างมีความสุ ข พูด
ต่อไม่ได้แล้ว

เสิ่ นเวยแสดงท่าทีนอ้ ยใจ “ที่ไหนกัน ที่ไหนกัน ข้าแค่พูดความจริ ง


มิใช่หรื อ ท่านให้ท่านป้ าสะใภ้ใหญ่กบั ท่านอาตัดสิ น รู ปร่ างหน้าตา
ท่านป้ าสะใภ้รองเป็ นอันดับหนึ่ งในจวนเราไม่ใช่หรื อ ก่อนหน้านี้
คนต่างก็ชมว่าหลานหน้าตาดี แต่พอได้เห็นท่านป้าสะใภ้รอง หลาน
จึงรู ้วา่ ตัวเองเป็ นกบในกะลา”

ท่าทางขับร้องเล่นละครนี้หยอกล้อจนคนในลานหัวเราะขึ้นมา ยังคง
เป็ นฮูหยินสวี่ที่กา้ วออกมาแล้วกล่าว “พวกเราเข้าไปกันเถอะ ท่าน
พ่อท่านแม่ยงั รออยูเ่ ลย”

เมื่อเข้าไปยังห้องหลักเรื อนซงเฮ่อแล้วเสิ่ นหย่าก็โถมตัวเข้าไปคุกเข่า


“ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกอกตัญญูกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” เหอหลินหลินเห็น
มารดาคุกเข่า ก็รีบคุกเข่าตามอยูข่ า้ งๆ
นายหญิงผูเ้ ฒ่ามองบุตรสาวอนุภรรยาที่ไม่ค่อยประทับใจนักผูน้ ้ ี เห็น
ว่าแม้เสื้ อผ้าที่นางสวมอยูจ่ ะไม่เลว แต่ใบหน้ากลับเหี่ ยวแห้งผิดปกติ
ในใจก็มีความสุ ขใจแวบผ่าน หรงเหนียงนะหรงเหนียง เหตุใดเจ้าถึง
จากไปเร็ วเพียงนั้นเล่า ดูลูกชายลูกสาวเจ้าคู่น้ ี สิ จุๆ ข้าสิ จึงจะเป็ นผู ้
ชนะในตอนสุ ดท้าย

แต่มาดก็ยงั คงต้องวางอยู่ นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวยังมองอยูข่ า้ งๆ นางถือ


ผ้าเช็ดหน้ากดลงบนตา “รี บลุกขึ้ นเถิด เด็กน้อยผูน้ ่ าสงสาร ได้รับ
ความทุกข์ยากที่ตระกูลเหอมากน้อยเพียงใด คนแซ่ เหอสมควรตาย
ใจร้ายใจดา ลูกสาวคนเล็กดีๆ ของข้าถูกทรมานจนเป็ นเช่นนี้แล้ว”

เสิ่ นเวยหน้าเหยเก อยากจะพูดจริ งๆ ท่านย่า ท่านรี บเอาผ้าเช็ดหน้าลง


เถอะ ท่านไม่ได้เช็ดน้ าตาแม้แต่ครึ่ งหยด ปลอมเกินไปแล้ว ท่านไม่
เห็นหรื อว่าท่านปู่ ราคาญแล้ว

นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวปรายตามองภรรยาปราดหนึ่ง กล่าวอย่างหงุดหงิด


“ลูกเพิง่ จะกลับมา เจ้าจะพูดเรื่ องเหล่านี้ทาไม” จากนั้นก็หนั หน้ามอง
บุตรสาวของตน แววตามีความรั กใคร่ แวบผ่าน “เอาล่ะ กลับมาก็ดี
แล้ว หลังจากนี้ก็ใช้ชีวิตที่ดีในจวนเสี ย เรื อนเหลียนอีทาความสะอาด
เรี ยบร้อยแล้วใช่หรื อไม่ จากนี้ เจ้าก็อยู่ที่นั่น ขาดเหลืออะไรก็บอก
พี่สะใภ้ใ หญ่พี่สะใภ้รองของเจ้าได้เลย ข้าเสิ่ นผิงยวนเลี้ยงลูกสาว
ไหว”

ฮูหยินสวี่ฮูหยินจ้าวรี บก้าวออกมาแสดงท่าที “ท่านพ่อพูดถูก เรื อน


เหลียนอีทาความสะอาดเรี ยบร้อยแล้ว อีกประเดี๋ยวน้องไปดูว่ายังมี
ตรงไหนไม่ชอบใจ พวกเราค่อยเปลี่ยนให้”

นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวพยักหน้าอย่างพอใจ มองแม่นางน้อยที่อยูข่ า้ งๆ


ลูกสาว “นี่ คือหลินเจี่ยเอ๋ อร์ใช่หรื อไม่ โตเพียงนี้ แล้ว เจอตาครั้งแรก
ไม่มีของดีอะไรให้เจ้าเลย จี้หยกอันนี้เจ้าเอาไปเล่นแล้วกัน” พูดจบก็
ดึงจี้หยกที่เอวส่ งให้เหอหลินหลิน

เหอหลินหลินมองแม่นางอย่างตื่นตระหนก เสิ่ นหย่าเองก็ไม่ได้ดีไป


กว่ากัน ท่านพ่อไม่ตาหนิ นาง ซ้ าท่านพ่อยังรักนาง ความพะว้าพะวง
ก่อนหน้านี้กลายเป็ นความอัดอั้นเต็มอก น้ าตาไหลริ นลงมา

ในน้ าตาที่พร่ าเลือนนางมองเห็นผมของท่านพ่อขาวหมดแล้ว ในใจก็


เกิดความละอายขึ้นมา ท่านพ่อแก่แล้ว อายุปูนนี้ ยงั เป็ นทุกข์แทนตน
นางเช็ดน้ าตาบนใบหน้า พยายามเค้นรอยยิม้ ออกมา พยักหน้าให้ลูก
สาว “ในเมื่อตาเจ้าให้เจ้า ก็รับไว้เถอะ”

ด้วยเหตุน้ ีเหอหลินหลินจึงยืน่ มือทั้งคู่ไปรับจี้หยกอย่างตั้งใจ จากนั้น


จึงคุกเข่าลงโขกศีรษะสามครั้ง “ขอบคุณท่านตาที่มอบให้”

นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวพยักหน้า สี หน้าก็ยงิ่ อ่อนโยน “เด็กดี หลังจากนี้ก็


อยูใ่ นจวนอย่างสบายใจ ว่างๆ ก็ไปเล่นกับลูกผูพ้ ี่สี่ของเจ้า” พูดพลาง
เหลือบมองเสิ่ นเวยปราดหนึ่ง เสิ่ นเวยย่อมหัวเราะคิกคักรับ

ทว่ า ฮู ห ยิ น สวี่ ก ลับ ใจสั่ น กล่ า วในใจ พ่ อ ตาให้ ค วามส าคัญ กับ
บุตรสาวที่หย่ากลับมาผูน้ ้ ี กว่าที่นางคิดไว้เสี ยอีก เช่ นนั้นต่อจากนี้
นางต้องใส่ ใจให้มากขึ้นหลายส่ วนจึงจะถูก

ไม่นานนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็ออกมาแล้ว ทิ้งสตรี ท้ งั หลายให้พดู คุยกัน


ในห้อง
ตอนที่ 206-1 เรืองจุ
่ กจิกในเมืองหลวง

เรือนเหลียนอีคอ ่ นหย่
ื เรือนทีเสิ ่ ่ งไม่ออกเรือน
าพักอาศัยอยู่ตอนทียั
้ ว้ เรือนเหลียนอีในตอนนี เปลี
เทียบกับตอนนี แล ้ ยนไปนานแล
่ ว้ ทาสี
กําแพงลานบา้ นใหม่ สีนํ้ามันบนช่องหน้าต่างก็มน ั วาว บนราวจับ
ตรงระเบียงทางเดินก็ทานํ ้ามันขัดเงา ยิงไม่
่ ตอ้ งเอ่ยถึงการตกแต่ง
ภายในห้อง ย่อมต้องหรูหราโอ่อ่าแน่ นอน


เสินหย่ ่
ามองลานบา้ นทีแพรวพราวเหมื อนใหม่ แทบจะนํ ้าตาตก
สายตาของนางกวาดมองหญ้าทุกใบต้นไม้ทุกต้นในลานบา้ น ตอน

ทีมองเห็ นต้นกุ ้ยฮวา (ต้นหอมหมืนลี ่ )้ ทีมี
่ ขนาดใหญ่เท่าสองคน
กอด ดวงตานางก็ปรากฏประกายแห่งความคิดถึง ตอนนั้นนาง
ชอบนั่งเย็นปักถักร ้อยอยู่ใต้ตน้ กุ ้ยฮวาต้นนั้น เมือสายลมพั
่ ด ทั่วทัง้

ลานบา้ นก็เต็มไปด้วยกลินหอม

“ท่านแม่ นี่ คือเรือนทีท่่ านอยู่เมือก่


่ อนหรือ” เหอหลินหลินประหลาด
ใจอย่างถึงทีสุ่ ด ให้ตาย เรือนหลังนี ใหญ่
้ ่ิ ก พอๆ กับจวนตระกูล
ยงนั

เหอทังจวนเลย ลานบา้ นแห่งนี ดี ้ งามโอ่โถงยิงนั
่ ก เทียบกับมันแลว้

เรือนทีพวกนางอยู ่ี นโจวกลายเป็
่ทอวิ ๋ ่ แลว้
นกรงสุนัขไปเลย ทีแท้
้ านแม่ก็มช
ก่อนหน้านี ท่ ี วี ต ้ ่ เอง ไม่เขา้ ใจจริงๆ ว่าท่านแม่
ิ เช่นนี นี
แต่งงานกับท่านพ่อแลว้ เหตุใดถึงมีชวี ต ่
ิ ทีขมขื ่ ก
นนั


คนทีประหลาดใจเหมื อนเหอหลินหลินยังมีเสียวจวี ่ ๋ นางเป็ นบ่าวที่

เสินหย่ ้
าซือมาในภายหลั ง สถานทีที ่ โอ่
่ โถงทีสุ
่ ดทีเคยเห็
่ นก็คอื จวน
้ เมื่อครูท
ตระกูลเหอ ตังแต่ ่ี า้ มาใจวนโหวนางก็มน
่ เข ึ ศีรษะงุ นงง
ตอนนี เข้ า้ มาในเรือนเหลียนอีแม้แต่เดินยังเดินไม่ถูกแลว้ สวรรค ์ นี่
่ ่ของเทพหรือไม่ หลังจากนี นางจะอยู
คือทีอยู ้ ่กบ ั คุณหนู และคุณหนู
น้อยด้วยกันทีนี ่ ่ ได้จริงๆ หรือ นี่ ไม่ใช่ฝันใช่หรือไม่


อวินหรงกั บแม่นมก็มส ี ห ้
ี น้าดีใจทังใบหน้
า ทอดมองหญ้าทุกใบ
ต้นไม้ทุกต้นในลานบา้ นอย่างไม่รู ้จักพอ ไม่คด ิ จริงๆ ว่าชีวต ้
ิ นี จะได้
่ ่ อีก น่ าเสียดายคนทีเคยออกเรื
กลับมาทีนี ่ อนพร ้อมคุณหนู ตอนนี ้
เหลือเพียงแค่พวกนางสองคน คนทีเหลื ่ อไม่ตายก็ถูกขายออกไป
ไกลแลว้
“ถูกต้อง นี่ คือเรือนที่แม่อาศัยอยู่เมื่อก่อน หลังจากนี หลิ
้ นเจียเอ๋
่ อร ์
ั แม่ดว้ ยกันที่นี่ หลินเจียเอ๋
ก็อยู่กบ ่ อร ์ชอบหรือไม่” เสินหย่
่ ามองลูก
สาวด้วยความรัก

เหอหลินหลินพยักหน้าด้วยใบหน้าทีเต็ ่ มไปด้วยความสุข “ชอบ


ชอบ ท่านแม่ ลูกชอบยิงนั ่ ก” อาศัยอยู่ในเรือนทีงดงามเช่
่ นนี ้ อีกทัง้
ยังไม่มใี ครมาก่นด่ารังแกพวกนาง ซํายั ้ งได้เรียนร่วมกับพีน้
่ องใน
จวน ไม่มช ี วี ต ่ ไปมากกว่านี อี
ิ ทีดี ้ กแลว้

เห็นรอยยิมกว ้ า้ งบนใบหน้าลูกสาว หัวใจของเสินหย่


่ าก็เต็มไปด้วย
ความอ่อนโยน นางลูบศีรษะของลูกสาว กล่าวเสียงนุ่ ม “หลังจากนี ้
เจ ้าก็อยู่ในห้องฝั่งตะวันออก รีบไปดูสวิ ่าชอบหรือไม่ หากไม่ชอบ

เจ ้าก็เปลียนได้ ่
ตามใจ เจ ้าอยากเปลียนเป็ ้ ได้ทงสิ
นแบบนี ก็ ้ั น”

่ิ ก” ดวงตาของเหอหลินหลินก็ยงเป็
“จริงหรือ ดียงนั ิ่ นประกาย นาง

ยกขาวิงไปยั งห้องฝั่งตะวันออกแลว้ เร็วจนเย่ว ์กุ ้ยตะโกนดังอยู่ขา้ ง
หลัง “คุณหนู ญาติผน ู ้ อ้ งช ้าหน่ อย ช ้าหน่ อยเจา้ คะ”

เสินหย่ าเองก็หลุดหัวเราะ “เด็กคนนี นี้ ่ ” แต่กลับไม่ได้พูดต่อ ตอนที่
อยู่ในจวนตระกูลเหอก่อนหน้านี หลิ ้ นเจียเอ๋ ่ อร ์มีเวลาร่าเริงเช่นนี ้
น้อยอย่างยิง่ แม้แต่ยมยั
ิ ้ งไม่ค่อยยิม้ ตอนนี ในที
้ ่สุดนางก็เผยนิ สยั
ธรรมชาติของเด็กผูห้ ญิงออกมาแลว้ นางจะใจแข็งว่ากล่าวได้
อย่างไร


เย่ว ์กุ ้ยไม่ได้กลับเรือนเฟิ งหวา เสินเวยให้ ่ี ่ เพือช่
นางอยู่ทนี ่ วยเหลือ
ก่อน รอบ่าวรับใช ้ประจํากายท่านอาและลูกผูน้ อ ้ งจัดการงานได้เอง
แลว้ ค่อยกลับมา

่ ส่งสาวใช ้ใหญ่สคนและสาวใช
ตกบ่ายฮูหยินสวีก็ ี่ ั้
้ชนรองแปดคนมา
้ั
ให้ สําหรับสาวใช ้และหญิงชราใช ้แรงงานชนสาม ้ เขา้
ก่อนหน้านี ก็
มาในเรือนเหลียนอีเรียบร ้อยแลว้

่ งมาพร ้อมกับสาวใช ้ยังมีสญ


ทีส่ ั ญาทาสของพวกนาง “น้องลองใช ้
ก่อน คนทีดื่ อรั
้ นความคิ
้ ดไม่ตรงกันเหล่านั้นก็ค่อยเปลียน”
่ ฮู
่ ดเช่นนี ้
หยินสวีพู

เสินหย่ าย่อมปฏิเสธร ้อยแปดพันเก ้า ปฏิเสธไม่ได้ก็ฝืนใจรับไว ้ อัน
่ งนางคิดจะออกเงินไปซือข
ทีจริ ้ า้ งนอกเอง นางเป็ นกูไหน่ ไนทีหย่
่ า
กลับมา ไม่อาจเอาเปรียบตระกูลฝั่งมารดาได้ พีชายทั
่ ้
งหลายไม่

สนใจ แต่เหล่าพีสะใภ้ จะไม่พูดได้หรือ


จากมุมมองของเสินเวยเรื ่ เป็
องนี ้ นการคิดมากไปแลว้ จวนจงอู่โหว
ี่ หาก
มีทรัพย ์สินมหาศาล ใครจะคิดเล็กคิดน้อยกับสาวใช ้ไม่กคน

ต้องให้กูไหน่ ไนออกเงินซือคนเองจริงๆ เช่นนั้นจวนโหวก็ไม่มี
เกียรติแลว้

สุดท้ายสาวใช ้ใหญ่สคนทีี่ ่ งมาเสินหย่


ส่ ่ าเก็บไวเ้ พียงคนเดียว อีก
่ อยกให้ลูกสาวทังหมด
สามคนทีเหลื ้ ๋
ขา้ งกายนางยังมีอวินหรงกั บ
แม่นมอยู่ ไม่จําเป็ นต้องการคนมากเพียงนั้นจริงๆ สาวใช ้ชนรอง ั้
แปดคนแม่ลูกแบ่งกันคนละสีคน ่ นอกจากนี เสิ ้ นหย่
่ ายังขอแม่นม
หนึ่ งคนจากพีสะใภ้
่ ใหญ่มาไวข ้ า้ งกายลูกสาว ลูกสาวอายุสบ ิ สามปี
แลว้ ควรจะเรียนกฎมารยาทบา้ งแลว้
สาวใช ้ใหญ่ประจํากายเสินหย่่ าผูน้ ั้นเปลียนชื
่ ่ นชุนเฟิ น อีกสาม
อเป็
คนประจํากายเหอหลินหลินก็ตงชื ั้ อตามว่
่ าชุนฟัง ชุนอิงและชุนหล
ั้
วน ส่วนแปดคนชนรองทั ้
งหมดล ้ นด้วยอักษรชิว ชิวเฟิ ง ชิ
ว้ นขึนต้
วอวี่ ชิวอวิน
๋ ชิวซย่า ชิวฮวา ชิวกัว่ ชิวสือและชิวเยีย่


เสินเวยเปลี ่
ยนชุดและไปยังห้องหนังสือของปู่ นางทีเรื ่ อนนอกทันที
รายงานเรืองที่ อวิ
่ นโจวก่
๋ อน “หลานคิดว่าต่อให้คนแซ่เหอผูน้ ั้นจะ
น่ ารังเกียจแต่เขาก็ยงั เป็ นพ่อแท้ๆ ของลูกผูน้ อ้ ง ท่านอาตัด
ความสัมพันธ ์ฉันสามีภรรยากับเขาได้ แต่สายสัมพันธ ์ทาง
สายเลือดของพ่อลูกกลับตัดไม่ขาด หากพวกเราออกมือเอาชีวต ิ
เขา ขา้ งนอกก็จะบอกว่าครอบครัวของเราไร ้เมตตา และชือเสี ่ ยง
ของลูกผูน้ อ้ งก็จะมีอุปสรรค หากลูกผูน้ อ้ งเป็ นแค่เด็กอายุสามขวบ
ห้าขวบเช่นนั้นก็ไม่เป็ นไร กว่าลูกผูน้ อ้ งจะถึงวัยปักปิ่ นทุกคนก็ลม ื
่ ไปหมดแล
เรืองนี ้ ้ กผูน
ว้ แต่ตอนนี ลู ้ อ้ งอายุสบ
ิ สามปี แลว้ อย่างมาก
่ ดอีกสองสามปี ก็ควรจะแต่งงานได้แลว้ เก็บชือเสี
ทีสุ ่ ยงดีๆ ไวจ้ ะ
ดีกว่า ดังนั้นหลานจึงตัดสินใจเองว่าจะเนรเทศคนแซ่เหอออกไปยัง
เหลียวตง คนแซ่เหอฝ่ าฝื นกฎต้ายงเอง อีกทังใต้ ้ เท้าขา้ หลวงยังไต่
สวนคดีดว้ ยตัวเอง ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่เกียวข ่ อ้ งกับจวนจงอู่
โหวของพวกเราแม้แต่นิดเดียว ส่วนเขาจะไปถึงเหลียวตงได้อย่าง
ปลอดภัยหรือไม่ จะใช ้ชีวต ิ อยู่ในเหลียวตงได้หรือไม่ นั่นก็ไม่
เกียวกั่ บพวกเราแลว้ ”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวพยักหน้า ดวงตาปรากฏประกายความชืนชม ่
่ อร ์เจ ้าทําถูกยิงนั
“อืม เวยเจียเอ๋ ่ ก ต่อให้ปู่ไปเองก็ยงั ทําไม่ได้เท่านี ”้


เสินเวยกล่ าวต่อ “คนอืนๆ ่ ในตระกูลเหอ หลานก็ไม่ได้เอาชีวต ิ เขา
เพียงแค่ลงโทษเล็กๆ น้อยๆ ก็เท่านั้นเอง ตระกูลเหอใช ้สินเดิมของ
ท่านอาแลว้ ยังปฏิบต ี ่อท่านอา เช่นนั้นก็ไล่พวกเขากลับไปอยู่
ั ไิ ม่ดต
จุดเดิมก็พอ คนบางคนก็ต่าช ํ ้า ท่านทําดีกบั เขา เขากลับเหยียบ

จมูกขึนหน้ าคิดว่าถูกต้องแลว้ ต้องให้ท่านหยิบแสโ้ บยภายหลังจึง
จะได้ พวกเรารอดูสวิ ่าคนตระกูลเหอทีหล่ ่ นจากเมฆลงมาสู่โคลน
ไม่มกี ารสนับสนุ นจากสินเดิมของท่านอาแลว้ จะใช ้ชีวต ิ อยู่อย่างไร”


แม้เสินเวยจะกล่ าวอย่างเรียบเฉย แต่นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็ได้ฟัง
การรายงานของพ่อบา้ นรองก่อนหน้านี แล ้ ว้ เขาคิดถึงแผนการจาก

สิงหนึ ่ งไปสู่อก ่ ่ งนั้น อุบายทีพลิ
ี สิงหนึ ่ กมือเป็ นเมฆควํ่ามือเป็ นฝน
นั้นของหลานสาว ในใจก็เกิดความรู ้สึกร ้อยแปดพันเก ้า หากเชียน
เกอเอ๋อร ์มีฝีมืออย่างหลานสีบ ่ า้ งเขายังจะต้องกลุม้ ใจอะไรอีก แม้แต่
ตําแหน่ งราชครูของรัชทายาทอะไรนั่นเขาก็จะปฏิเสธ พาทหารคน
สนิ ทสองคนออกไปเยียมสหายท่ ่ องดินแดนแลว้
้ บไม่ได้ เชียนเกอเอ๋อร ์ยังไม่มรี ากฐานมั่นคงในซีเจียง
ทว่าตอนนี กลั
่ งเกียรติ
เขายังต้องอยู่ในราชสํานัก อยู่ขา้ งพระองค ์จักรพรรดิเพือชิ
จวนโหวแทนชนรุง่ หลัง ความปรารถนาทีอยากจะท่่ องดินแดนไม่รู ้
เหมือนกันว่าชีวต ้ งเป็ นจริงได้หรือไม่ เฮอ้
ิ นี จะยั


นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวรู ้สึกสลดใจขึนมา กล่าวถามอย่างคลา้ ยนึ ก

อะไรขึนได้ ่
“ไม่ใช่ว่ากันว่าพวกเจ ้าเจอเรืองระหว่ างทางหรือ เกิด
อะไรขึน้ พ่อบา้ นรองเองก็ไม่ได้บอกชดั เจน หายตัวอะไร ลอบ

สังหารอะไร ทําให้เขาเป็ นกังวลขึนมา

่ ้นน่ ะหรือ” เสินเวยกล่


“อ้อ ท่านหมายถึงเรืองนั ่ าวอย่างเฉยเมย “ขา
กลับพวกขา้ กลับทางนํ ้าใช่หรือไม่ ท่านอาเมาเรือ ตอนที่ผ่าน
เมืองทงโจวหลานก็พานางขึนฝั ้ ่ งเพือผ่
่ อนคลาย ถือโอกาสกินขา้ ว
เดินเล่นพักหนึ่ งคืน ใครจะรู ้มีคนไม่ดูตาม้าตาเรือเห็นใบหน้าที่
งดงามของหลานท่าน อยากขายหลานท่านให้ทีนั ่ ่ น อืม ทีที
่ ผู
่ ช
้ าย

ชืนชอบไม้ ป่าเดียวกันชอบไปเรียกว่าอะไร อ้อใช่แลว้ เรียกหอนาย
โลม วางแผนกับคนทีไม่ ่ ทนั ระวังตัว ซํายั ้ งอยู่ในอาณาเขตของคน
่ หลานก็เลยถูกลักพาตัว” เสินเวยแบมื
อืน ่ ้
อทังสอง ท่าทางไร ้
เดียงสาอย่างยิง่


นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกระตุกมุมปาก เด็กคนนี ปราดเปรี ่ าลิง
ยวยิงกว่
จะถูกคนลักพาตัวได้ง่ายๆ หรือ คงจะแกลง้ สลบวางแผนว่าไม่เขา้
้ อใยจะได้เสือสิท่า ไม่พูดไม่ได้ว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวคิดถูก
ถําเสื
แลว้ ส่วนหอนายโลมอะไรนั่น นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเพียงแค่ทาํ เป็ น
ไม่ได้ยน

จากนั้นก็ได้ยน ่
ิ เสินเวยกล่ าวต่อ “คิดว่าขา้ เป็ นใครกัน อย่างไรเสีย
ก็เคยขลุกอยู่ในสนามรบมาแลว้ ครังหนึ ้ ่ ง พวกเราไหนเลยจะ

เสียเปรียบได้ ด้วยเหตุนีหลานจึ ่ อนคนของผูน้ ั้น ปล่อย
งเผารังทีซ่
่ กลักพาตัวทังหมดออกมา
คนทีถู ้ จากนั้นขา้ ก็กลับโรงเตียมอย่
๊ างมี

ความสุข” เสินเวยเล่ ้ แต่กลับไม่ต่างจากเรืองจริ
าสันๆ ่ งนัก

“หลังจากนั้นเล่า ไม่ใช่บอกว่ามีมอ
ื สังหารมาหรือ” นายท่าผูเ้ ฒ่า
โหวถามต่อ
“หลานกลับไปถึงโรงเตียมก็ ๊ รู ้สึกไม่สบายใจอย่างยิง่ ผูม้ อ ี ํานาจยังสู ้
คนในท้องถินไม่่ ได้ เขาเป็ นผูม้ อ ี ท
ิ ธิพลท้องถิน่ เสียหายมากเพียงนี ้
จะยอมเลิกราได้ที่ไหนกัน เพือความปลอดภั
่ ย ขา้ เลยให้คนเอา
เทียบเชิญของท่านไปขอความช่วยเหลือจากใต้เท้าขา้ หลวงท้องที่
ขา้ หลวงอวีผู๋ น้ ้นยั
ั งนับว่าไม่เลว ให้ยม ื กําลังพลหนึ่ งกลุ่มอย่าง
ง่ายดาย คืนนั้นก็มม ี อื สังหารมาจริงๆ วิทยายุทธ ์คนผูน้ ั้นสูงอย่างยิง่
ท่านปู่ ท่านไม่เห็น หากไม่ใช่ว่าหลานท่านยุทธ ์ดี ท่านคงจะไม่ได้

เห็นขา้ แลว้ ” เสินเวยกล่ าวเกินจริงพอควร

่ หากจบลงเช่
“เรืองนี ้ ้ คงไม่เป็ นไร แต่ท่านไม่รู ้ คนทีปองร
นนี ก็ ่ ้าย
หลานผูน้ ั้นน่ ารําคาญยิงนั ่ ก เขาลากขา้ หลวงอวีมาเป็๋ นผูไ้ กล่เกลีย่
ต่อหน้าก็ขอโทษขอโพยมอบของขวัญให้ขา้ แต่ท่าทางกลับหยิง่
ผยองสินดี ้ ซํายั
้ งใช ้คําพูดเบียดเบียนขา้ โมโหจนขา้ ทนแลว้ ทนอีก
จึงไม่ถบ ี เขาลงแม่นํ้า พอขึนเรื
้ อ ขา้ ยิงคิ
่ ดก็ยงโกรธ
ิ่ เจ ้าบอกว่าเจ ้า
เป็ นผูท้ รงอํานาจท้องถิน ่ แม้แต่ขน ุ นางยังไม่ใช่ คาดไม่ถงึ ว่ากลา้
มาวัดกับคุณชายจวนโหว นี่ ไม่ใช่ว่ารนหาทีตายหรอกหรื่ อ หาก
หลานไม่ใช่วธิ โี หดเ**◌้ยมขู่ขวัญเสียหน่ อย คนอืนก็ ่ จะมองว่าพวก
เราจวนจงอู่โหวรังแกง่าย” พูดถึงตรงนี เสิ ้ นเวยก็
่ ั้
ตงใจหยุ ดครูห่ นึ่ ง
กะพริบตาปริบๆ มองปู่ นาง เห็นปู่ นางสีหน้าสงบนิ่ ง ก็ทําได้เพียง
แสยะปากพูดต่อไป

“เพราะเหตุนีหลานจึ งพาคนนั่งเรือเล็กขึนฝั
้ ่ ง ขีม้ ่ ากลับไปทีเมื
่ องทง
โจวอีกครัง้ ปลน้ คลังลับหนึ่ งแห่งของคนชวผู ่ ั น้ ้นจนเกลี
ั ้ อน
ยงก่
จากนั้นก็ต่อยขาทังสองของคนผู
้ น้ ั้นจนพิการ”

“เงินเล่า” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวถาม เขาจําไม่ได้ว่าหลานนํ าเงินกลับ


จวน คงไม่ได้ซอ่ นเอาในซอกมุมเช่นนั้นอีกหรอกนะ

่ กคิว้ “แจกจ่ายออกไป หลานให้ทหารลับไปแจกจ่ายเงิน


เสินเวยเลิ
ทองแก่ชาวบา้ นยากจนตอนกลางคืน นี่ เป็ นเงินสกปรก คนทีมี่
คุณธรรมสูงส่งเช่นหลานจะเก็บไวไ้ ด้อย่างไร” นางกล่าวอย่างห้าว

หาญเด็ดเดียว


นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวไม่รู ้ว่าจะพูดอะไรดี หากหลานคนนี ของเขาไป
ิ อยู่ในราชสํานัก เช่นนั้นก็คงจะต้องเป็ นขุนนางสพลอขุน
ใช ้ชีวต

นางคุมอํานาจ เรืองอย่ างการกลับผิดเป็ นถูกจะต้องทําออกมาได้
แน่ ๆ ไหนจะเงินสกปรก ไหนจะคุณธรรมสูงส่ง เงินของรังโจรนั้นไม่
ว่าใครก็แย่งได้ไม่เร็วเท่านาง
ิ ้ องรอยอะไรไวใ้ ช่หรือไม่” ขอเพียงแค่หลานสาวไม่
“ไม่ได้ทงร่
เสียหาย นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็ขเกีี ้ ยจจะสนว่าใครจะขาพิการ


เสินเวยส่ ายหน้า กล่าวอย่างไม่สนใจ “ไม่มี ท่านปู่ วางใจเถอะ แม้ว่า
จะเป็ นผูท้ รงอํานาจในท้องถิน่ ต่อให้จะรู ้ว่าเป็ นขา้ ก็ไม่มห
ี ลักฐาน

อยู่ดี เขากลา้ วิงมากั
ดขา้ ถึงเมืองหลวงหรือ หึๆ ยิงไปว่่ านั้นตอนนี ้
เขายังดูแลตัวเองไม่ได้ดว้ ยซํา้ การทะเลาะภายในยังตามไม่ทน ั ไหน
เลยจะมีเวลาว่างมาหาเรืองข่ า้ ”

“เช่นนั้นก็ด”ี นายท่านผูเ้ ฒ่าโหววางใจลง “ในเมือกลั


่ บมาแลว้ ก็
พักผ่อนดีๆ เถอะ รอคุณชายใหญ่สวีกลับมา อีกไม่ช ้าเจ ้าก็
แต่งงานแลว้ เจ ้าก็ถอ ้
ื โอกาสตังสมาธิ อย่างไรเสียก็เป็ นสตรี อย่า
ิ่ นขา้ งนอกทังวั
เอาแต่วงเล่ ้ น คุณชายใหญ่สวีไม่อยู่ในเมืองหลวง
เจ ้าอย่าออกไปดึงดูดสายตาใคร หากดังไปถึงหูฝ่าบาท อย่างไรเสีย
ก็ไม่ดน ้
ี ัก” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวชีแนะด้
วยความจริงใจ

เสินเวยตาลุ กวาว ร่างโน้มไปขา้ งหน้า “ท่านปู่ สรุปแลว้ คุณชาย
ใหญ่สวีไปทําอะไรกันแน่ ”

นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวชายตามองหลานสาวเขาปราดหนึ่ ง ส่ายหน้า


แต่กลับไม่พูดเลยแม้แต่ประโยคเดียว


เสินเวยลู บลูบจมูกแสยะปาก นี่ หมายความว่าพูดไม่ได้หรือไม่รู ้ เอา

เถอะ ลึกลับใช ้ได้ ชิ อยากทําอะไรก็ทํา ขา้ ไม่อยากรู ้หรอกนะ เสิน
เวยเชิดหน้าออกมาด้วยความทะนงตน
ตอนที่ 206-2 เรืองจุ
่ กจิกในเมืองหลวง

หลิวรุย่ ฟังนั่งถักเชือกอยู่ในห้อง ก็ได้ยน


ิ สาวใช ้เล็กสองคนกระซิบ
กระซาบกันอยู่ตรงระเบียงทางเดินขา้ งนอก

คนหนึ่ งพูด “เอ๋ พีสาวในลานบ


่ ่ นแลว้
า้ นไปไหนหมดแลว้ เล่า ครึงวั
เหตุใดยังไม่เห็นใครอีก”

อีกคนหนึ่ งกล่าว “ไปทีเรื


่ อนเหลียนอีของกูไหน่ ไนอย่างไรเล่า ใน
จวนพวกเรามีคุณหนู ญาติผูน้ อ ้ งท่านหนึ่ งมาใหม่ ฟังว่าคุณหนู
ญาติผูน้ อ้ งท่านนั้นใจปํ ้ าอย่างยิง่ วิงไปประจบกั
่ นหมดแลว้ ”

คนก่อนหน้ากล่าว “คุณหนู ญาติผน ู้ อ ่


้ งทีมาใหม่ อะไรกัน คนผูน้ ั้น
จึงจะเป็ นคุณหนู ญาติผน ่ กต้องในจวนพวกเรา คนผูน้ ี …”
ู ้ อ้ งทีถู ้
เสียงของนางเบาลง อีกทังยั ้ งเหลือบมองไปในห้องปราดหนึ่ งด้วย
ความระมัดระวัง หันหน้ากลับมาทํารูปปากกับเพือน ่ “คุณหนู
ปลอม”
“เอ๋” อีกคนหนึ่ งปิ ดปากตกใจ คลา้ ยเหลือเชืออย่ ่ างยิง่ “คุณหนู
ญาติผน ้ ได้เป็ นทีโปรดปรานของนายหญิ
ู ้ อ้ งแซ่ฟังผูน้ ี ไม่ ่ งผูเ้ ฒ่า

อย่างยิงหรอกหรื อ” เหตุใดถึงเป็ นคุณหนู ปลอมได้เล่า

คนก่อนหน้าเหลือบมองในห้องครูหนึ่ งอีกครัง้ จากนั้นจึงเขา้ ไปใกล ้


นางแลว้ กล่าวเสียงเบา “กูไหน่ ไนผูน้ ั้นที่เพิงมาเป็
่ นบุตรสาวแท้ๆ
ของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวของเรา ลูกสาวของนางไม่ใช่คุณหนู ญาติ
่ กต้องของพวกเราหรอกหรือ มิเช่นนั้นจะอาศัยอยู่ในเรือน
ผูน้ อ้ งทีถู
่ เพียงนั้นมีอํานาจเพียงนั้นได้อย่างไร คนผูน้ ี น่
ทีดี ้ ะ เป็ นเพียง
หลานสาวบา้ นฝั่งมารดาของนายหญิงผูเ้ ฒ่า ไม่มค ี วามสัมพันธ ์
อะไรกับนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวของเรา ความสัมพันธ ์กับนายท่าน
คุณชายหลายท่านก็ห่างไกลนัก เป็ นเพียงญาติจนๆ ทีมาเกาะกิ ่ นก็
เท่านั้นเอง” แววตาของนางปรากฏความเหยียดหยามหลายส่วน

กล่าวต่อราวกับเพิมแรงโน้ มน้าว “คนผูน ้
้ ี มานานเพี ้ ว้ เจ ้า
ยงนี แล
เห็นนางเคยปูนบําเหน็ จให้บ่าวหรือ มีบางครัง้ ก็เป็ นเพียงแค่ผลไม้
เล็กๆ น้อยๆ นั่นไม่ใช่ของในจวนเราหรือไร”
้ นคนผูน้ ี เอาแต่
“จริงด้วย ขา้ ก็ว่าวันทังวั ้ วางมาดเป็ นเจ ้านาย ทําอยู่
่ นทีแท้
ครึงวั ่ แลว้ ก็เป็ นคุณหนู ปลอม” อีกคนหนึ่ งอุทานอย่างตกใจ

คนก่อนหน้ากล่าวต่อ “จะบอกว่าปลอมก็ไม่ได้ปลอมขนาดนั้น
่ นึ่ งจึงเม้มปากยิม้
เพียงแค่สายสัมพันธ ์ห่างไกลเล็กน้อย” หยุดครูห
้ อ้ งสองคนในจวนนี ้ ภายหลังจะต้องมีเรืองสนุ
“คุณหนู ญาติผูน ่ กๆ
ให้ดูแน่ เลย”

บทสนทนาตอนท้ายเสียงของพวกนางก็ยงเบา ิ่ หลิวรุย่ ฟังได้ยน


ิ ไม่
้ านางก็แดงกํ่าแลว้ นํ ้าตาแทบจะ
ค่อยชกั นัก แม้จะเป็ นเช่นนี บนหน้
ไหลลงมา

ในจวนมีกูไหน่ ไนกับคุณหนู ญาติผน ่ นางเองก็


ู ้ อ้ งมา เรืองนี ้ ทราบดี
แต่กลับไม่มใี ครบอกให้นางไปพบ ก่อนหน้านี นางอาศั ้ ยความรัก
ความเอาใจของนายหญิงผูเ้ ฒ่าสามส่วน ทว่าตอนนี กลั ้ บไม่ได้แลว้
ลูกผูพ ่ี ที
้ สี ่ ได้
่ รบั พระราชทานบรรดาศักดิให้ ์ เป็ นจวินจู้ ่ผน
ู ้ ั้นกลับ
มาแลว้ อีกทังลู ้ กผูพ
้ สีี่ ผู
่ น้ ี ยั
้ งคลา้ ยไม่เหลียวแลนาง นางไม่กลา้ ไป

หาเรืองใส่ ตวั นางรู ้ดีว่า หากนางทําให้ลูกผูพ ่ี พอใจ นางก็
้ ไม่
สามารถให้คนส่งนางกลับจวนตระกูลหลิวได้ทน ั ที หลายวันมานี ้
นางได้ยน ่ าวหาญของลูกผูพ
ิ นิ สยั ทีห้ ่ี มาเยอะอย่
้ สี ่ างยิง่ แม้แต่นาย
หญิงผูเ้ ฒ่าก็ยงั จัดการนางไม่ได้ นางไหนเลยจะยังกลา้ ไปยุ่แหย่
ลูกผูพ ่ี ผู
้ สี ่ น้ ี ้


นางต้องไปเยียมเยี ้ อไม่ ฟังว่าคุณหนู ญาติผน
ยนกูไหน่ ไนผูน้ ี หรื ู ้ อ้ ง
คนนั้นแซ่เหอ อายุพอๆ กับนาง หากนางสามารถสานสัมพันธ ์เป็ น
่ องทีดี
พีน้ ่ ได้ ในจวนจะให้ความสําคัญกับนางหรือไม่ คิดถึงตรงนี ้
ความน้อยใจหนึ่ งกลุ่มก็จู่โจมหัวใจ เป็ นคุณหนู นอ้ ยเหมือนกัน

สตรีคนอืนขอเพี ิ ผ่านไปวันๆ แต่ตนเล่า อยากจะได้ป่ิ น
ยงแค่ใช ้ชีวต
เงินหนึ่ งอันยังต้องคิดหาทางเอง นางเพียงแค่อยากได้คู่สมรสทีดี ่
ไปทําเวรทํากรรมอะไรไวก้ น ั

้ เล็กนางก็รู ้ดีว่า ชีวต


ตังแต่ ้
ิ นี ของสตรี หากคิดจะมีหน้ามีตา ไม่กลับ
ชาติมาเกิด ก็ตอ้ งแต่งงานดี อย่างแรกนางหมดหนทางแก ้ไขแลว้ ที่
สามารถพยายามได้ก็มเี พียงแค่อย่างหลัง นางจะต้องแต่งเขา้

ตระกูลสูงให้ได้ ให้บ่าวรับใช ้ทีตาตํ ่าเหยียดหยามคนเหล่านั้นดู

นางหลิวรุย่ ฟังไม่ใช่ญาติจนๆ ทีมาเกาะกิ น

ใช่ เป็ นเช่นนี แหละ ขอเพียงแค่แต่งงานเขา้ ตระกูลสูง ต่อให้จะ

อัปยศและลําบากกว่านี นางก็ ทนได้ หลิวรุย่ ฟังกําเชือกถักในมือ
แน่ น ดวงตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความแน่ วแน่


เสินเวยพั กอยู่ในจวนสองวัน จากนั้นก็กระโดดโลดเต้นออกจาก

เรือนแลว้ ไปเยียมเยี ยนตาของนางทีจวนแม่ ่ ทพ
ั ใหญ่หร่วน หลังพ่อ

นางเสินหงเซวี ยนรู ้ข่าวก็มค
ี วามรู ้สึกซับซ ้อนเป็ นพิเศษ ส่วนนาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็เพียงแค่หลับตาขา้ งหนึ่ งปล่อยไป


หร่วนเหมียนเหมียนเห็ นลูกผูพ ี่
้ นางย่ ่ ด แต่ว่า
อมดีใจอย่างถึงทีสุ
ตอนนี กลั ้ บกําลังเรียนมารยาทอยู่ ครังก่
้ อนจวนโหวเชิญแม่นมอบ

รม เสินเวยก็ ไหวว้ านให้ท่านป้ าสะใภ้ใหญ่ชว่ ยเชิญมาให้ลูกผูน้ อ้ ง
หนึ่ งคน ดังนั้นหร่วนเหมียนเหมียนยั ่ งพูดกับลูกผูพ ี่ ไม่กคํ
้ ได้ ี่ า สาว
ใช ้ขา้ งกายก็มาเร่งรัดนางไปเรียนมารยาทแลว้ แม้ว่านางจะตัดใจ
ไม่ได้ แต่กลับทําได้เพียงเดินไปอย่างอาลัยอาวรณ์ ท่าทางตัดใจไม่
ลงนั้นเสินเวยเห็
่ นแลว้ ก็อยากหัวเราะออกมา

เสินเวยพู ่
ดคุยเป็ นเพือนท่ านตาในห้องหนังสือ นางหยิบสม้ บนโต๊ะ

ขึนมาปอกเปลื อก วางแต่ละกลีบๆ ไวใ้ นถาด ใช ้ไม้เสียบลูกชิน้

เสียบแลว้ ยืนให้ท่านตา

้ ยนชิมแลว้ เปรียวก็
หร่วนเจินเที ้ ไม่ยอมกินอีก กลับกลายเป็ นเสินเว

ยกอดถาดกินอย่างแฮปปี ้ หร่วนเจินเที
้ ยนเห็นนางกินอย่างมี
ความสุข ในใจก็ดใี จ แต่ปากกลับกล่าว “อะไร จวนโหวให้เจ ้ากิน
น้อยได้ดว้ ยหรือ” เขาเคยได้ยน ่ งยวนตาเฒ่าผู ้
ิ หลานบอกว่า เสินผิ
นั้นชอบหลานสาวผูน้ ี ของตนมากเพี
้ ยงใด นางอยู่ในจวนโหวแทบ
จะยกแห่

“ไหนเลยจะไม่มี ไม่ใช่ว่าสม้ ในจวนท่านตาอร่อยหรือไร หวานจริงๆ


ท่านตา พวกเราคุยกันแลว้ รอขา้ กลับไปท่านส่งไปให้ขา้ เยอะ

หน่ อย” เสินเวยไม่ ้ ง เอ่ยปากขออย่าง
รู ้จักคําว่าเกรงใจอย่างสินเชิ
ตรงไปตรงมา


ท่าทางเช่นนี เอาอกเอาใจหร่ ้ ยนอย่างยิง่ เขาหัวเราะฮ่าๆ
วนเจินเที
กล่าว “นี่ เป็ นของผูใ้ ต้บงั คับบัญชาทีนํ
่ ามาให้ลก
ู ผูพ ่ี ้า มีหนึ่ ง
้ เจ
ตะกร ้าเต็มๆ ขา้ กับลูกผูพ ี่ ้าไม่ชอบกิน เหมียนเอ๋อร ์ก็กน
้ เจ ิ ไม่เยอะ
่ อเจ ้าก็เอากลับไปได้เลย” ทุกครังที
เจ ้าเหลือไวใ้ ห้นางหน่ อย ทีเหลื ้ ่
่ อร ์กลับมาก็จะนํ ารถคันเล็กคันใหญ่มาส่งของทีนี
เวยเจียเอ๋ ่ ่ ยากจะ

เห็นของทีนางชอบกิ น เขาจะใจแคบได้อย่างไร


“ได้เลย ขา้ ไม่เกรงใจท่านตาแลว้ นะเจ ้าค่ะ” เสินเวยโยนส ม้ หนึ่ ง
กลีบเขา้ ปาก กล่าวด้วยตาเป็ นประกาย “ดูท่าแลว้ ลูกผูพ ่ี
้ จะใช ้ชีวต

อยู่ในกองทัพองครักษ์ได้ไม่เลวเลย งานสมรสของเขาท่านตา
วางแผนไวว้ ่าอย่างไร”

่ ยน เดิมเขาก็อยากอยู่สร ้างคุณูปการทีซี
หร่วนเหิงไม่เหมือนเสินเชี ่
เจียงฟื ้นฟูจวนแม่ทพ ึ้
ั ใหญ่ขนมาอี กครัง้ แต่ถูกเสินเวยปฏิ
่ เสธ ซี
เจียงอย่างน้อยสิบปี กย ้
็ งั ไม่อาจมีสงครามครังใหญ่ ได้ ไม่มก
ี ารต่อสู ้
แลว้ จะสร ้างคุณูปการอะไรได้ เสียเวลาเปล่าอยู่ทซี ่ี เจียงไม่สก ู ้ ลับ
เมืองหลวงมาหาหนทางอืน ่


แม้ว่าซีเจียงจะมีสงคราม เสินเวยก็ ไม่อาจปล่อยเขาไวไ้ ด้ เขาคือต้น
อ่อนเพียงต้นเดียวของตระกูล
่ สํ
หร่วน หน้าทีที ่ าคัญทีสุ
่ ดก็คอ ้
ื สืบเชือสายตระกู ล ส่วนการฟื ้นฟู
จวนแม่ทพ ้ ใ้ ห้รน
ั ใหญ่ ทิงไว ุ ่ ลูกรุน
่ หลานทําเถอะ ลูกผูพ ่ี
้ สามารถมี
หลานอ้วนท้วนสมบูรณ์ให้ท่านตาได้หลายๆ คนหน้าทีก็ ่ นับว่าเสร็จ
สมบูรณ์แลว้

้ วนเหิงจึงกลับเมืองหลวง เขา้ กองทัพองครักษ์ ไปเฝ้ า


ด้วยเหตุนีหร่
ประตูให้ฮ่องเต้ผชู ้ รา ตําแหน่ งขุนนางอย่างละเอียดนางจําไม่ได้ จํา
้ า ดูท่าแลว้ ฮ่องเต้จะเห็นแก่หน้าท่านตานางจึง
ได้เพียงขันห้
ช่วยเหลือเป็ นพิเศษ


มีตําแหน่ งขุนนางแลว้ ย่อมต้องทุกข ์ใจเรืองแต่ งงาน เด็กหนุ่ มมาก
ความสามารถขันห้ ้ า ในเมืองหลวงก็มห ี น้ามีตาอย่างยิง่ อีกทังห ้
ร่วนเหิงก็หน้าตาไม่ได้ดอ้ ย ดังนั้นตระกูลทีจั ่ บจอ้ งเขาก็มไี ม่นอ้ ย
ั้
เลยจริงๆ แต่ทงหมดล ว้ นเป็ นขุนนางเล็กขันตํ้ ่า หรือไม่ก็เป็ นเศรษฐี
ี่ มีภูมห
ใหม่ทไม่ ่
ิ ลัง อย่าว่าแต่ไม่เขา้ ตาเสินเวย แม้แต่หร่วนเจิน้
เทียนเองก็ไม่สบายใจ
้ ยนมีอํานาจ หากหลานชายเขาเป็ นคนไม่ได้
ไม่ใช่ว่าหร่วนเจินเที
่ เขาก็จะไม่ขอมาก แต่ตอนนี หลานชายเขาเป็
เรือง ้ นถึงชายหนุ่ มใน
อุดมคติ หากสมรสกับภรรยาทีไม่่ ดี เขาก็รู ้สึกไม่เป็ นธรรมแทน
หลานชาย

“ไม่กวั่ี นก่อนมีคนหลุดปาก ขา้ รู ้สึกว่าเหมาะสมใช ้ได้” หร่วนเจิน้


เทียนกล่าว


“ตระกูลไหน” เสินเวยรี
บถาม

“ตระกูลราชบัณฑิตสวี่ คนทีพู
่ ดถึงคือบุตรสาวคนโตของตระกูล
ราชบัณฑิตสวี”่ หร่วนเจินเที
้ ยนกล่าว
่ อ ดวงตาเสินเวยเป็
แซ่สวีหรื ่ นกระกายอีกครัง้ “แซ่เดียวกับ

เสนาบดีสวีเลย”

้ ยนพยักหน้า “เป็ นบา้ นเดียวกัน แต่สายสัมพันธ ์ห่าง


หร่วนเจินเที
่ั
กันเล็กน้อย แทบจะออกจากญาติสนิ ทห้าชวคนแล ว้ ”


“อ้อ” เสินเวยพยั
กหน้า คลา้ ยกําลังครุน ่ คิด “เช่นนั้นเหตุใดตระกูล
พวกเขาถึงได้สนใจลูกผูพ ่ี า ขา้ ไม่ได้บอกว่าลูกผูพ
้ เล่ ่ี ดี แต่แม่
้ ไม่
ทัพเช่นพวกเราในสายตาตระกูลใหญ่ตระกูลโตทีมี ่ ภูมห ิ ลังเหล่านั้น
แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ค่อยอยู่ในสายตา ราชบัณฑิตสวีสนใจลู ่ กผูพ ี่
้ ได้
อย่างไร”

้ ยนเองก็รู ้ว่าหลานสาวพูดความจริง กลับไม่ได้โกรธ


หร่วนเจินเที

เช่นกัน เขาส่ายหน้ากล่าว “ไม่แน่ ใจนัก หรือว่าราชบัณฑิตสวีเคย
เห็นเหิงเอ๋อร ์”
่ น
“หรือว่าคุณหนู ใหญ่สวีผู ้ อะไรไม่ดห
้ ี มี ่
ี รือไม่” เสินเวยเองก็ คาดเดา

้ ยนส่ายหน้า กล่าวอธิบาย “ไม่ใช่ คนผูน้ ้ันบอกแลว้ ว่า


หร่วนเจินเที
คุณธรรมในสตรีของบุตรสาวคนโตตระกูลราชบัณฑิตสวีผู ่ น้ ี ล
้ ว้ นดี
หมด อายุสบ ิ สองสิบสามก็เรียนการจัดการบา้ นกับแม่นางแลว้
ี่
เพียงแต่ถงึ อายุทสมควรแต่ งงานพ่อแม่ในบา้ นกลับลาโลก ไวท้ ุกข ์

ล่าช ้าออกไป ปี นีนางอายุ สบ
ิ แปดแลว้ อายุมากกว่าลูกผูพ ่ี ้า
้ เจ
เล็กน้อย สองสามีภรรยาราชบัณฑิตสวีรั่ กบุตรสาว ไม่ยอมให้
บุตรสาวแต่งงานมั่วซัว่ ดังนั้นจึงสนใจลูกผูพ
้ ”ี่


“ในเมือสองสามี ่
ภรรยาราชบัณฑิตสวีสามารถคิ ่ ตรสาว
ดเพือบุ
้ นิ สยั ใจคอคนผูน
เช่นนี ได้ ้ ั้นจะต้องไม่เลวแน่ นอน ท่านตาท่านอย่า
รีบตอบรับ ขา้ กลับไปสืบถามท่านป้ าสะใภ้ใหญ่ถงึ ตระกูลพวกเขา
ก่อน ดูว่าเป็ นความจริงหรือไม่ หากเป็ นความจริง พวกเราก็ผูก
สัมพันธ ์แต่งงานกันอย่างมีความสุข หากในนั้นมีความจริงทีปกปิ ่ ด
พวกเราก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ ไม่ทําให้ลูกผูท้ ่ได้ี รบั ความไม่เป็ น

ธรรม” เสินเวยเสนอความคิ ดเห็น
ตอนที่ 207-1 พระชายาจินอ๋
้ องมีคาํ เชิญ


พูดเรืองสมรสของหร่ ้ ยนก็เปลียนเรื
วนเหิงจบแลว้ หร่วนเจินเที ่ ่ ก
องอี
ครัง้ “ไม่ใช่ว่ากันว่าเจ ้าไปวัดต้าเจวียมาอี
๋ กแลว้ หรือ” เขามอง
ประเมิณหลานสาวตังแต่ ้ ศรี ษะจรดปลายเท้าปราดหนึ่ ง รู ้สึกว่า
้ องเป็ นฉากบังตาอีกแน่ นอน คราวก่อนวิงไปกระโดด
คราวนี จะต้ ่
โลดเต้นทีซี่ เจียงเทียวหนึ
่ ่ ง คราวนี ไปไหนมาอี
้ กเล่า


เสินเวยก็ ไม่คด ๋
ิ จะปิ ดบังท่านตานาง “ไปอวินโจวมาเที ่
ยวหนึ ่ ง” ไม่
รอให้ตานางไต่ถามนางก็เล่าให้ฟังด้วยตัวเอง “ขา้ มีท่านอาอยู่คน
หนึ่ งใช่หรือไม่ ตอนนั้นไม่ใช่ว่าแต่งงานกับเด็กยากจนหรอกหรือ
เด็กยากจนผูน้ ี กั้ บครอบครัวของเขาเป็ นพวกจอมปลอม ใช ้สินเดิม
ของท่านอามีชวี ต ่ แต่กลับรังเกียจท่านอาที่ไร ้ประโยชน์ ไม่
ิ ทีดี
สามารถให้ตําแหน่ งขุนนางทีใหญ่ ่ ้ เขาได้ ชีวต
กว่านี แก่ ิ ของท่านอา
่ งให้วงไปอวิ
ไปต่อไม่ได้แลว้ ท่านปู่ รู ้เรืองจึ ิ่ ๋
นโจวเที ่
ยวหนึ ่ งพาท่าน
อากับลูกผูน้ อ้ งกลับมา เลียงไม่่ ให้พวกนางตรอมใจตาย”

้ ยนเลิกคิวขึ
“หย่าหรือ” หร่วนเจินเที ้ น้
้ ้นแลว้ จะยังเหลือความสัมพันธ ์ฉันสามีภรรยา
“ก็แน่ น่ะสิ มาถึงขันนั
อะไรอีก ตัดขาดเสีย ขา้ กลับจวนโหวไปเป็ นสตรีสูงศักดิของข ์ า้
เหมือนเดิม พวกเจ ้าก็กลับไปยังทีดิ ่ นสองหมู่[1]นั่นทีบ
่ า้ นเก่าพวก
ี่
เจ ้าต่อ ผืนฟ้ ากวา้ งแผ่นดินกวา้ ง หย่ากันแลว้ ใครกันแน่ ทจะอยู ่

ไม่ได้” เสินเวยกล่ าวอย่างไม่สนใจ

้ ยนเหลือบมองหลานสาวปราดหนึ่ ง กล่าว “ดูไม่ออกว่า


หร่วนเจินเที
เจ ้าเป็ นคนถือหางให้ทา้ ย”

่ นเวยได้
เมือเสิ ่ ยน
ิ ดังนี ก็ ้ ไม่พอใจแลว้ วางถาดผลไม้ลงบนโต๊ะ
วางมาดเตรียมจะถกเถียงกับตานาง “ดูท่านตาพูดเขา้ ถือหางให้
ท้ายแลว้ อย่างไร ญาติของตัวเอง จะไม่ถอ ื หางได้อย่างไร ถือหางให้
ท้ายถือเป็ นขอ้ ดีของขา้ ! ลูกผูพ ี่ กผูน้ อ
้ ลู ้ งคนไหนบา้ งทีข ่ า้ ไม่ถอ

หาง นึ กถึงตอนนั้นทีลู ่ กผูน้ อ้ งถูกเด็กแซ่ฉินผูน ้ ั้นรังแกขา้ งถนน
เดิมขา้ ไม่คด ่
ิ จะยุ่งเรืองคนอื น่ ต่อมาได้ยน ิ ว่านี่ คือลูกผูน้ อ้ ง ขา้ ก็ส่งั
คนไปจัดการเด็กคนนั้นทันทีไม่ใช่หรือ ยังมีลูกผูพ ้ ี่ ทีซี
่ เจียงมีครัง้

ไหนบา้ งทีเขาออกรบแล ว้ ขา้ ไม่ตามไป ไม่ใช่ว่ากลัวเขาเป็ นอะไรไป
แลว้ จะส่งผลกระทบต่อการสืบสกุลตระกูลหร่วนหรอกหรือ อย่าว่า
่ าบาก ต่อให้เป็ นแม่ขา้ ก็ตอ้ งวิงกลั
แต่ท่านทีลํ ่ บมากลางดึกพูดคุย
กับขา้ ! คิดว่าง่ายนักหรือ”

สาธยายยืดยาว แต่สงที ิ่ พู่ ดก็ดน ่


ั เป็ นเรืองจริ ่ั
ง ชวขณะหร่ วนเจิน้
เทียนก็รู ้สึกปวดหัว รีบหัวเราะตัดบทนาง “พอๆๆ เป็ นตาทีพู ่ ดผิดไป
เอง เจ ้าถือหางลูกผูพ้ ลูี่ กผูน้ อ้ ง ตาซาบซึงบุ ้ ญคุณเจ ้า”


เสินเวยกล่ าวอย่างจริงจัง “พูดว่าซาบซึงบุ ้ ญคุณก็เหินห่างไปหน่ อย
ใครให้พวกเราเป็ นญาติแท้ๆ เล่า ไม่ไวห้ น้าใครก็ยงั ต้องไวห้ น้าแม่

ขา้ บา้ ง นางอุส่าให้กําเนิ ดขา้ บุญคุณทีใหญ่ เท่าฟ้ า ยังไม่รอขา้ โต
ตอบแทนบุญคุณนางนางก็ไม่อยู่แลว้ ผูท้ เป็ ่ี นลูก ขา้ ก็ตอ้ งทําอะไร
ให้นางบา้ งมิใช่หรือ นอกจากน้องชายทีนางวางใจไม่่ ี่ ดตอนที่
ได้ทสุ
ยังมีชวี ต ื บา้ นท่านตานี่ แหละ ขา้ จึงต้องพยายามปกป้ อง
ิ อยู่ก็คอ
แทนนางบา้ ง”

้ ดจนหร่วนเจินเที
คําพูดเหล่านี พู ้ ยนคนใจแข็งผูน ้
้ ี แทบจะนํ ้าตาไหล
คิดอยู่เสมอว่าบุตรสาวโชคร ้ายเกินไป ให้กําเนิ ดลูกสาวทีดี ่ เพียงนี ้
แลว้ แต่กลับไม่มสี ก ่ เสพสุข หากนางยังมีชวี ต
ั วันทีได้ ิ อยู่จนถึง
ตอนนี ้ แม้ว่านิ สยั จะอ่อนแอ สุขภาพจะไม่ดี แต่มเี วยเจียเอ๋ ่ อร ์ลูก
้ ่ ไม่ว่าใครก็แตะต้องตําแหน่ งเรือนหลังของนางไม่ได้
สาวคนนี อยู

เสินหงเซวี ยนหลานชวผู ่ ั น้ ้นจะกล
ั า้ ปฏิบต
ั ิไม่ดต
ี ่อบุตรสาวเขาแม้แต่
นิ ดเดียวเชียวหรือ ไม่ตอ้ งให้เขาออกหน้า เวยเจียเอ๋ ่ อร ์ก็จด
ั การเขา
ได้อย่างเสร็จสรรพ

ชะตาเอ๋ย นี่ ลว้ นเป็ นชะตา! บุตรสาวทีชะตาขมขื


่ ่
นไม่ มช ่
ี ะตาทีได้
เสพสุขเลย!

้ ยนเศร ้าสลด แววตาทีเหลื


ในใจหร่วนเจินเที ่ อบมองเสินเวยก็
่ ยงิ่

เมตตา เขาลูบหนวดแลว้ กล่าว “ขา้ เลือมใสปู่ เจ ้าก็ตรงนี ้ หากเป็ น
่ อย่าว่าแต่หย่า เกรงว่ายังจะกดดันบุตรสาวของตนให้
ตระกูลอืน
่ อเสี
อดทนด้วยตัวเอง ก็เพือชื ่ ยงทีว่่ านั่น” บนใบหน้าเขาเผยความ
เหยียดหยัน

้ นเวยเองก็
จุดนี เสิ ่ เห็นด้วยอย่างยิง่ กล่าวด้วยสีหน้าภูมใิ จ “ถูกต้อง
สติปัญญาของปู่ ขา้ เทียบกับคนทั่วไปได้หรือ หากไม่ใช่พวกขา้ ปู่
้ อก
หลานจะมีใครนิ สยั ตรงกันเช่นนี ได้ ี ท่านตา ขา้ จะบอกท่านให้
หากไม่ใช่ปู่ขา้ สายตาดีเพียงนี ้ ไม่หวั โบราณ ไม่ครําครึ
่ ไม่ดูถูก
สตรี ขา้ จะคงจะปลดระวางไปนานแลว้ ขา้ จะสนหรือว่าซีเจียงของ
ท่านจะปกป้ องไวไ้ ด้หรือไม่ จะสนหรือว่าท่านจะเป็ นจะตาย ขา้ จะ
สนหรือว่าจวนจงอู่โหวของท่านจะมีอํานาจคําฟ้ ้ าหรือล่มสลายเป็ น
ู ้ นึ่ งเช่นขา้ ไหนเลยจะส่งผลกระทบถึงชีวต
ฝุ่ นผง สตรีผห ิ แต่จะว่าไป
หากไม่ใช่ท่านปู่ ก็ไม่มใี ครยอมให้ขา้ ออกหน้าหรอก!”


ชืนชมปู่ นางรอบหนึ่ ง เสินเวยก็
่ ่
เปลียนเรื ่
องเปิ ดฉากเสียดสี “ขา้
เกลียดตระกูลใหญ่ตระกูลโตทีสุ ่ ด พูดให้น่าฟังว่านั่นคือกฎระเบียบ
เคร่งครัด อันทีจริ่ งก็ไร ้ความปรานี บุตรสาวเจอคนชวทํ ่ ั าร ้ายไม่
อยากลงโทษคนชว่ ั กลับแต่งบุตรสาวเขา้ ไปเพือชื ่ อเสี
่ ยงอะไรนั่น
ไม่ก็ส่งไปทีวั่ ด ยังมีคนทีใจร
่ ้ายยิงกว่
่ าต้องการจะเอาชีวต ิ บุตรสาว
บุตรสาวถูกรังแกทีบ ่ า้ นสามี แทบจะเอาชีวต ิ ไม่รอด บา้ นฝั่งมารดา
กลับกดดันไม่ยอมให้หย่า แม้ว่าจะหย่าก็ไม่ให้เขา้ บา้ น กฎบา้ อะไร
กัน! ยังมีอะไรสําคัญกว่าชีวต ิ ของบุตรสาวอีก ไม่เห็นบุตรสาวเป็ น
คน บุตรสาวทีแต่ ่ งออกไปแลว้ ก็เหมือนนํ ้าทีสาดออกไปอะไรกั
่ น ไม่
มีสตรีแลว้ ใครจะให้กําเนิ ดเจ ้า”

้ ยนจะไม่ครําครึ
แม้ว่าหร่วนเจินเที ่ แม้แต่นิดเดียว ทังยั
้ งไม่ดูถูกสตรี

แต่เขาก็ยงั คงถูกคําพูดนี ของหลานสาวทํ าให้ตกตะลึงจนพูดไม่
ออก เนิ่ นนานกว่าจะกล่าวด้วยสีหน้าซับซ ้อน “เวยเจียเอ๋
่ อร ์ เอ่อ
้ ้าพูดต่อหน้าตาก็พอ อย่าได้พูดขา้ งนอกเชียวล่ะ!”
คําพูดนี เจ


เสินเวยกรอกตาขาว ่
“แน่ นอนอยู่แลว้ ” นางเองก็บ่นต่อหน้าทีคน
ั นั้น อยู่ขา้ งนอกปากของนางปิ ดสนิ ท นางไม่โง่
สนิ ทและไวใ้ จก็ทน
จนไปท้าทายกฎระเบียบในยุคสมัยนี หรอก ้

“ขา้ เลยรู ้สึกโชคดีอย่างยิงที่ ตั่ วเองเป็ นหลานสาวของท่านปู่ ตอนนี ้


ท่านปู่ หนุ นหลังให้ท่านอาได้ ไม่สนคําวิพากย ์วิจารณ์ของมวลชน
สนับสนุ นให้นางหย่า ทังยั ้ งรับกลับมาดูแลในจวนอย่างดี เช่นนั้น
ในภายหน้าหากขา้ มีชวี ต ่ ดี เขาเองก็สามารถหนุ นหลังให้ขา้
ิ ทีไม่
ได้” นี่ เองก็เป็ นเหตุผลสําคัญทีเสิ ่ นเวยยอมทุ
่ ่มเทแรงให้จวนจงอู่
โหว หากเจอผูอ้ าวุโสทีเชื ่ อใจไม่
่ ได้ นางหลบไปไกลได้เท่าไรก็คง
จะหลบไปไกลเท่านั้น

“นั่นกลับไม่จําเป็ น” หร่วนเจินเที
้ ยนมองหลานสาวของเขาปราด
หนึ่ งแลว้ กล่าว “เจ ้ายังบอกเองเลยว่าคนทีอาเจ ่ ้าแต่งงานด้วยเป็ น
่ ปู่่ เจ ้าสั่งได้มใิ ช่หรือ แต่เจ ้าไม่
เด็กยากจน จะหย่าก็เป็ นเรืองที
เหมือนกัน ทีเจ ่ ้าแต่งด้วยคือราชนิ กลุ นั่นคือหลานชายแท้ๆ ของฝ่ า
บาท แม้ว่าปู่ เจ ้าจะอยากออกหน้าแทนเจ ้า แต่ก็ทําไม่ได้! เขาจะเป็ น

ใหญ่ไปกว่าราชนิ กุลได้อย่างไร ยิงไปกว่ านั้นนี่ ยังเป็ นการสมรส
พระราชทานจากฝ่ าบาท การหย่าเป็ นเรืองที ่ ไม่ ่ ตอ้ งแม้แต่จะคิดเลย
เจ ้าคิดว่าจะใช ้ชีวต
ิ ให้ผ่านไปได้ดว้ ยดีอย่างไรจึงจะถูก”

เห็นหลานสาวไม่พูด หร่วนเจินเที ้ ยนก็กล่าวต่อ “ได้ข่าวคุณชายส


วีโย่วบา้ งหรือไม่ อาการป่ วยเป็ นอย่างไรบา้ งแลว้ ไม่ใช่บอกว่าดีขน ึ้
แลว้ หรือ เหตุใดโรคเก่าถึงกําเริบอีกแลว้ เล่า” ดวงตาของเขามี
ความกังวลแวบผ่าน คู่หมันผู ้ น้ ี ของเวยเจี
้ ่ อร ์ดีทุกอย่าง อย่าง
ยเอ๋
่ ดก
เดียวทีไม่ ี ็คอ
ื สุขภาพของคุณชายใหญ่สวีไม่ดี ก่อนหน้านี ได้ ้ ยน ิ
ว่าคุณชายใหญ่สวีสร ้างคุณูปการทีซี ่ เจียงได้รบั พระราชทาน
บรรดาศักดิเป็ ์ นจวินอ๋
้ อง หลานชายของเขาก็บอกเช่นกันว่า
คุณชายใหญ่สวีนอกจากจะดูผอมไปหน่ อยนอกจากนั้นก็ไม่มอ ี ะไร

ไม่ดี หัวใจดวงนี ของเขาเพิ ่
งจะวางลง คุณชายใหญ่สวีก็มโี รคเก่า
กําเริบ หากว่าเขา…เช่นนั้นชวชี ่ ั วต ้
ิ หลานสาวผูน้ ี ของเขาใช่ จะต้อง
พังทลายหรือไม่

่ อสม้ ของเสินเวยหยุ
มือทีถื ่ ดชะงัก หลังจากนั้นก็กล่าวราวกับไม่เป็ น
ปัญหา “ไม่มี ขา้ เองก็ไม่รู ้ว่าเขาเป็ นอย่างไร น่ าจะไม่เป็ นไรหรอก
กระมัง” สุดท้ายนางก็ไม่ได้บอกว่าคุณชายใหญ่สวีนําพระราชการ

โองการลับออกไปทํางานขา้ งนอก ไม่ใช่ว่าไม่เชือใจท่ านตา แต่ไม่
จําเป็ นต้องให้เขารู ้แลว้ เป็ นกังวล

ความกังวลในแววตาของหร่วนเจินเที ้ ยนก็ยงมากขึ
่ิ น้ “ไม่ได้สบ

้ องหรือ ทางฝ่ าบาทจะต้องมีข่าวบา้ งสิ เขาไม่ได้
ถามกับจวนจินอ๋
หลุดปากบอกปู่ เจ ้าบา้ งเลยหรือ”


เสินเวยส่ ้
ายหน้า “ไม่มี ท่านปู่ ไม่ได้พูดอะไร” ใครจะรู ้ว่าตอนนี เขา
ี่ มไหน
ไปซ่อนตัวอยู่ทมุ

้ ยนยังคิดว่าคุณชายใหญ่สวีป่วยหนัก ถอนหายใจ
หร่วนเจินเที

ขึนมา ่ อร ์ เจ ้าต้องเตรียมใจไวบ้ า้ ง หากว่า
กล่าวเตือน “เวยเจียเอ๋
หากว่าคุณชายใหญ่สวี…” เขามองดวงตาทีใสกระจ่ ่ างของ
หลานสาว พูดไม่ออกแลว้ ถุยๆๆ ต้องเป็ นเขาที่คิดมากไปแน่ ๆ
หลานสาวเขาคงไม่โชคร ้ายเพียงนั้นหรอก

ทว่าเสินเวยกลั บกล่าวอย่างปลอบโยน “ท่านตา ไม่เป็ นไร ฟังว่าบน
เขาลูกนั้นทีคุ
่ ณชายใหญ่สวีไปรักษามีหมอเทวดาอาศัยอยู่ เขา
จะต้องไม่เป็ นไรแน่ นอน

ในใจกลับไม่ยอมรับ อย่าว่าแต่สวีโย่วคนโรคจิตผูน้ ั้นไม่ได้มโี รค


้ ง ต่อให้เขาจะมีชะตาไม่ดต
เก่ากําเริบอย่างสินเชิ ี ายม่องเท่งจริงๆ
แลว้ อย่างไร จากประสบการณ์ในวันเวลาเหล่านี ้ นางรู ้ดีว่าต่อให้

ตอนนี นางจะไม่ ได้แต่งเขา้ ไป แต่มพ
ี ระราชโองการพระราชทาน
สมรสอยู่ นางก็คอ ่ แม้สวีโย่วจะไม่
ื สะใภ้ราชนิ กุลอย่างไม่อาจเลียง

อยู่แลว้ แต่นางก็ไม่อาจเปลียนคู ่สมรสได้ ต้องครองตัวเป็ นหม้ายไป
ตลอดชีวต ิ

หลังจากเขา้ ใจสถานะของสะใภ้ราชนิ กุลแลว้ นางก็ไม่คด ั ค้านแม้แต่


้ ่อยู่แลว้ แต่ง
นิ ดเดียว เหมือนอย่างเช่นนาง เดิมทีนางก็เป็ นจวินจู
้ งเฟย ตําแหน่ งนับว่าสูงอย่างยิง่ บวกกับทีนาง
เขา้ ไปก็เป็ นจวินหวั ่
ครองตัวเป็ นหม้าย ราชวงศ ์ก็จะให้อภิสท ์
ิ ธิมากเป็ นพิเศษไม่ใช่หรือ
ด้วยเหตุนี้ การเลียงดู
้ มแี ลว้ ฐานะมีแลว้ นางก็สามารถใช ้ชีวต ิ ไป
วันๆ ตามแต่ใจต้องการได้ เป็ นอนาคตทีดี ่ งามยิงนั
่ ก!
่ วอยู่ในวัดจยาหลานกลับไม่รู ้ว่าเด็กเนรคุณของเขา
ทว่าสวีโย่วทีตั
กําลังคาดการณ์ถงึ ชีวต ้
ิ อันดีงามหลังจากเขาไม่อยู่แลว้ ตอนนี เขา
กําลังเดินเล่นอยู่ในลานวัดภายใต้การประคองของเจียงเฮยเจียงไป๋
พระอาจารย ์เต้ากวงบอกว่าร่างกายเขาอ่อนแอเกินไป แนะนํ าให้
เขาขยับตัวเยอะๆ นี่ ตรงกับความคิดของเขา เขากําลังกังวลทีไม่ ่ มี
ขอ้ อ้างไปเดินเล่นในวัดอยู่พอดี

้ กวันหลังทานขา้ วเสร็จหลวงจีนวัดจยาหลานก็จะเห็น
ด้วยเหตุนีทุ
คุณชายสูงศักดิที์ มารั
่ กษาผูน้ ั้นเดินอย่างช ้าๆ ภายใต้การพยุงของ
บ่าวรับใช ้ ผ่านไปหลายวันพวกเขาก็เห็นเงาร่างของพวกเขาในวัด

จนชินแลว้ บางครังเจอหน้ าพวกเขาก็ยงั หลบไปขา้ งๆ ให้คุณชาย
้ นก่อน น่ าสงสารเขายิงนั
ท่านนี เดิ ่ ก


สวีโย่วเดินเล่นอยู่ในวัดเช่นนี หลายต่ อหลายวัน กลับไม่เห็นอะไร
ผิดปกติ แต่มีอยู่เย็นวันหนึ่ งเขาเห็ นชายชุดดําสองคนอยู่ทางฝั่งป่ า
่ ั บตาก็หายไปแลว้ และทีบั
ไผ่เพียงชวพริ ่ งเอิญก็คอ
ื กุฏข
ิ องพระ
่ กษาสวีโย่วผูน้ ้นก็
อาจารย ์เต้ากวงทีรั ั อยู่ละแวกนั้นพอดี
สวีโย่วเดินเขา้ ไปใกลๆ้ ป่ าไผ่ภายใต้การพยุงของเจียงเฮยเจียงไป๋
อยู่หลายรอบก็ไม่เห็ นชายชุดดําสองคนนั้น แต่หลวงจีนเต้ากวงที่
นั่งสมาธิอยู่ในกุฏก
ิ ลับถูกรบกวนแลว้ “อมิตาพุทธ คารวะโยม”

่ี พระอาจารย ์
สวีโย่วรีบคํานับกลับ “มิบงั อาจ มิบงั อาจ โชคดีทได้
ออกมือ อาการป่ วยของผูน้ อ ้ ยก็ดข ึ้
ี นแล ้ น้ อ
ว้ หลายวันมานี ผู ้ ยทํา

ตามคําชีแนะของพระอาจารย ์ ออกมาเดินทุกวัน กําลังวังชากลับดี

ขึนกว่ ่ อนมาก” พูดจบก็คํานับให้หลวงจีนเต้ากวงอีกครัง้
าเมือก่

หลวงจีนเต้ากวงยิมน้้ อยๆ “พระพุทธองค ์เมตตา ช่วยคนตายพยุง


คนเจ็บคือหลักธรรมคําสอน นี่ เองก็เพราะโยมกับอาตมามีวาสนา
่ ขอบเขต อาการป่ วย
ต่อกัน เพียงแต่โยมยังต้องรู ้ไวว้ ่า ทุกเรืองมี
ของโยมไม่อาจหายได้โดยง่าย ยังต้องเป็ นไปตามลําดับขันตอน้
เดินทุกวันมีส่วนช่วยในการฟื ้นฟูรา่ งกายของโยม แต่ไม่อาจทําจน
เหนื่ อยเกินไปได้ เช่นนั้นผลลัพธ ์จะกลับกัน”

่ อนสติ
สวีโย่วกล่าวขอบคุณอย่างจริงจัง “ขอบคุณพระอาจารย ์ทีเตื
ผูน้ อ้ ยจะจําไว”้
สวีโย่วมั่นใจว่าตนไม่ได้ตาฝาด สองคนนั้นสวมชุดดํา ศีรษะมีผม
แตกต่างจากหลวงจีนทีหั ่ วโลน้ ในวัดอย่างยิง่ ตนไม่มท
ี างดูผิด
แน่ นอน

แต่ชายสองคนไม่อาจหายไปอย่างไร ้ร่องรอยได้กระมัง ขา้ งนอกไม่


มี คงไม่ใช่ว่าเขา้ ไปขา้ งในห้องแลว้ หรอกนะ สวีโย่วอ้างว่ากระหาย
นํ ้า ขอชากับหลวงจีนเต้ากวงอย่างหน้าหนา ชาสองแก ้วดืม ่
หมดแลว้ ก็ยงั ไม่พบร่องรอยใดๆ ทําได้เพียงกลับไปอย่างไม่ยน ิ ดี

้ ของจี
[1] หมู่ หน่ วยวัดขนาดพืนที ่ น หนึ่ งหมู่เท่ากับ 666.67 ตาราง
เมตร
ตอนที่ 207-2 พระชายาจินอ๋
้ องมีคาํ เชิญ

้ ได้แลว้ ต้องมีคนไปสืบข่าว
สวีโย่วคิดว่าเขาเดินเตร่ไปมาเช่นนี ไม่
จากหลวงจีนเต้ากวง และกุฏข ิ องเจ ้าอาวาสจึงจะถูก ให้ใครไปดีเล่า
แม้ว่าหลวงจีนในวัดจยาหลานจะเป็ นมิตรกับพวกเขาอย่างยิง่ แต่
เขาก็รู ้ว่าพวกเขาไม่ได้ลดการเฝ้ าติดตามพวกเขามาโดยตลอด
ดังนั้นเขากับเจียงเฮยเจียงไป๋ จึงลงมือไม่ได้ กระทั่งคนอืนๆ
่ ทีขึ
่ น้
เขามาพร ้อมกับเขาก็ไม่ได้เช่นกัน เช่นนั้นก็ทําได้เพียงหาคนกลาง
จากขา้ งนอก สวีโย่วขมวดคิว้ นิ วมื ้ อเคาะโต๊ะเบาๆ ในสมองคิด

อย่างรวดเร็วว่าจะพาคนกลางขึนเขาอย่ างไร สืบข่าวอย่างไร

เรือนส่วนในจวนจินอ๋ ้ อง พระชายาจินอ๋ ้ องปรนนิ บต ิ ้ องถอดเสือ้


ั จิ นอ๋
คลุมตัวนอกออก ร ้อนอกร ้อนใจไปพลาง “นี่ ก็ผ่านมาหลายเดือน
แลว้ ไม่รู ้เหมือนกันว่าอาการป่ วยของโย่วเกอเอ๋อร ์ดีขนแล ึ้ ว้ หรือยัง
ไม่มแี ม้แต่ข่าว ขา้ ร ้อนใจจะแย่แลว้ ”

้ องทีหมุ
ฝี เท้าของจินอ๋ ่ นตัวพลันหยุดชะงัก ทันใดนั้นก็กล่าว “บน
เขามีหมอเทวดาเก่าแก่อยู่ หลายปี มานี โย่้ วเกอเอ๋อร ์ก็ป่วยมาหลาย

รอบแลว้ ครังไหนบ ่ ร ้ายแรงแต่ไม่มอ
า้ งทีไม่ ี น
ั ตราย เจ ้าวางใจลง
เถอะ ไม่เป็ นไรหรอก”
้ องยังคงกระวนกระวาย “ขา้ ไหนเลยจะวางใจได้ เมือ
พระชายาจินอ๋ ่
คิดภาพว่าโย่วเกอเอ๋อร ์ทรมานอยู่บนเขา หัวใจของขา้ ก็เจ็บราวกับ
ถูกเข็มแทง ท่านอ๋อง ต้องเป็ นบนเขาเท่านั้นหรือ พวกเราไม่อาจ
เชิญหมอเทวดากลับจวนอ๋องหรือ ขา้ ได้เห็นโย่วเกอเอ๋อร ์จิตใจก็จะ

ได้สบายขึนหน่ อย”


สบสายตาทีมองมาของหวั ้ องก็ส่ายหน้า “ยอดฝี มอ
งเฟย จินอ๋ ื
เหล่านั้นต่างก็มน ้ น้ เจ ้าคิดว่าเสด็จพีไม่
ี ิ สยั ประหลาดดือรั ่ เคยคิดจะ
เชิญหมอเทวดาลงเขาหรือ จะทําอย่างไรได้ในเมือเขาไม่ ่ ยน
ิ ยอม
คงไม่อาจฆ่าเขาได้กระมัง เช่นนั้นใครจะรักษาโรคให้โย่วเกอเอ๋อร ์
เล่า”

พระชายาจินอ๋้ องกล่าวในใจ ฆ่าเสียก็ดี ลูกบุญธรรมขีโรคผู ้ น้ ั้นควร



จะตายไปตังนานแล ว้ ก่อนหน้านี ยั้ งดีหน่ อย ตังแต่
้ ครังก่ ้ อนที่
กลับมาจากเขาก็สร ้างความรําคาญให้ตนมาโดยตลอด เริมที ่ ่
สมรสพระราชทานอย่างไม่มป ี ี่ ไม่มขี ลุ่ย ต่อมาก็ได้รบั พระราชทาน
บรรดาศักดิเป็์ นจวินอ๋
้ องอะไรนั่น เป็ นหลานแท้ๆ เหมือนกัน ฝ่ า
บาทช่างลําเอียง
อ้อ ยังมี ตนหวังดีเสนอให้เขาแต่งฮุ่ยเอ๋อร ์เป็ นอนุ ภรรยา เขาไม่
ซาบซึงก็ ้ ไม่เป็ นไร แต่กลับกระแทกกระทันบอกว่ ้ าตนมีเจตนาไม่ดี
เพียงแค่วางคนของตัวเองไวข ้ า้ งกายเขาเพือให้ ่ วางใจก็เท่านั้น เจ ้า

คนขีโรคที ่ แต่เรืองร่
แม้ ่ วมรักยังไม่รู ้ว่าทําเป็ นหรือไม่ ขา้ จะวางแผน
ร ้ายอะไรเจ ้าได้ เหอะ ช่างเป็ นสุนัขทีแว ่ ง้ กัดคนให้อาหารจริงๆ ไม่
รู ้จักความหวังดีของคนอืน ่ สมนํ ้าหน้าทีเจ ่ ้าป่ วย สมนํ ้าหน้าทีเจ
่ ้า
ทนทรมาน

ในใจพระชายาจินอ๋ ้ องคิดอย่างสบายใจ แต่สห ี น้าบนใบหน้ากลับ


ไม่มพี ริ ุธแม้แต่นิดเดียว “ท่านอ๋อง พวกเราเป็ นพ่อแม่ยงั กระวน
กระวายใจเช่นนี ้ คุณหนู สจวนจงอู
ี่ ่ าหรือไม่
่โหวใช่จะเป็ นกังวลยิงกว่
เฮอ้ น่ าสงสาร ใกลจ้ ะแต่งเขา้ บา้ นอยู่แลว้ โย่วเกอเอ๋อร ์ดันมาป่ วย
ฝ่ าบาทก็ออกพระราชโองการเลือนวั ่ นสมรส แม่นางผูน้ ั้นอายุยงั
น้อยอาจจะตกใจกลัวก็เป็ นได้” สีหน้านางมีความเห็นใจ

้ องได้ยน
จินอ๋ ิ หวังเฟยพูดเช่นนี ้ เมือคิ
่ ดตามอย่างละเอียดยังรู ้สึกว่า
้ งๆ จึงกล่าว “หากหวังเฟยไม่สบายใจ ก็ถอ
เป็ นปัญหาเช่นนี จริ ื
โอกาสเรียกคุณหนู สีผู ่ น้ ้ันมาปลอบขวัญหวังเฟยสักหน่ อย อย่างไร
เสียไม่ช ้าไม่เร็วก็ตอ้ งเป็ นสะใภ้ของตระกูลเราอยู่ด”ี

พระชายาจินอ๋ ้ องแอบดีใจในใจ แต่ใบหน้ากลับแสดงสีหน้าลังเล


้ หรือ จะทําให้เกิดการนิ นทาหรือไม่ จะเป็ นการขู่ขวัญ
“เช่นนี จะดี
คุณหนู ผูน้ ั้นหรือไม่”

้ องไม่เห็นด้วย “นี่ ไม่ใชเรืองฝ่


จินอ๋ ่ าฝื นกฎอะไร เพียงแค่คนทีเป็
่ น
แม่สามีพบลูกสะใภ้ล่วงหน้า ใครอยากนิ นทานก็ปล่อยให้เขานิ นทา
่ ดไปเรือยเปื
ไป ก็แค่ฮูหยินทีพู ่ ่ อยไม่มห ี่
ี น้าออกงานสังคมไม่กคน
เท่านั้นเอง หวังเฟยไม่ตอ้ งไปสนใจ”

พระชายาจินอ๋ ้ องพยักหน้าด้วยความดีใจ “เช่นนั้นขา้ ก็วางใจแลว้ ”


ดวงตาลุกวาวกล่าว “ขา้ ฟังว่าคุณหนู สผู ี่ น้ ี เป็
้ นคนดี โย่วเกอเอ๋อร ์
ของพวกเราป่ วยวันแรก วันทีสองคุ่ ณหนู สผู ี่ น ้ ไปสวดมนต ์ขอพร
้ ี ก็
ให้เขาทีวั่ ดต้าเจวีย
๋ ถือศีลกินเจเป็ นเดือนกว่าจะกลับมา เฮอ้ ไม่รู ้ว่า
จะซีดเซียวจนเป็ นเช่นไรแลว้ พอคิดดูแลว้ ขา้ ก็ปวดใจ”
่ ด้
“มีเรืองนี ้ วยหรือ เช่นนั้นครังนี
้ เสด็
้ จพีกลั
่ บหาภรรยาทีดี
่ ให้โย่วเกอ
้ องประหลาดใจหลายส่วน
เอ๋อร ์ได้จริงๆ” จินอ๋

ทว่าพระชายาจินอ๋ ้ องกลับลอบมองเขาปราดหนึ่ ง “ดูจนอ๋ ิ ้ องพูดเขา้


ฝ่ าบาทรักโย่วเกอเอ๋อร ์เพียงใด จะหาคนไม่ดม ี าให้เขาได้อย่างไร
หากไม่ดจี ะได้รบั พระราชทานบรรดาศักดิเป็ ์ นจวินจู
้ ่หรือ อย่าว่าแต่
ฝ่ าบาทชอบ แม้แต่ขา้ เองก็ชอบสตรีทมีี่ เมตตามีคุณธรรมเช่นนี ้
เหมือนกัน!”

พูดถึงตรงนี ้ นางก็ชะโงกหน้าออกไปตะโกนกับขา้ งนอก “หวา



เยียน หวาเยียน รีบหา**บเครืองประดั บมาให้ขา้ ” จากนั้นก็หน ั
กลับมาอธิบายกับท่านอ๋องต่อ “ขา้ ต้องเลือกของขวัญพบหน้าให้
ี่ เสินดี
คุณหนู สแซ่ ่ ๆ เสียแลว้ อ้อจริงสิ ยังมีเสือผ้
้ า ท่านอ๋อง วันนั้น
ขา้ ใส่ชด ้ องท่าทาง
ุ ไหนดี ท่านอ๋องรีบช่วยขา้ เลือกเร็ว” นางดึงจินอ๋
ดีอกดีใจ
้ องเห็นหวังเฟยยุ่งอยูก
จินอ๋ ่ บ
ั การเลือกของขวัญพบหน้าทังยั ้ งเลือก

เครืองแต่ งกายด้วยความเริงร่าเช่นนี ้ ก็หลุดหัวเราะอย่างอดไม่ได้
้ ว้ เจ ้ายังจะทําอะไรอีก เจ ้าเป็ นแม่สามีเพียงแค่น่ งั
“ดึกเพียงนี แล
วางมาดก็พอแลว้ นางเป็ นชนรุน ่ หลังจะมาจับผิดเจ ้าได้อย่างไร”

“ไม่ใช่ว่าขา้ รีบร ้อนจนลืมไปแลว้ หรือ” พระชายาจินอ๋ ้ องเหลือบมอง


้ องด้วยความออดอ้อนปราดหนึ่ ง หันหน้ากลับมาบนใบหน้าก็มี
จินอ๋
ความกังวล “นี่ เป็ นครังแรกที
้ ่ า้ เจอคุณหนู สแซ่
ข ี่ เสิน ่ ไม่อาจทําให้
คุณหนู รู ้สึกว่าขา้ เป็ นแม่สามีใจร ้ายได้กระมัง ไม่รู ้เหมือนกันว่า
คุณหนู สแซ่ี่ เสินจะชอบทานอะไรชอบเล่
่ นอะไร”

้ องหัวเราะขึนมา
จินอ๋ ้ กล่าวหยอกลอ้ นาง “เจ ้าเป็ นแม่สามีมาสอง
้ ว้ เหตุใดถึงยังไม่เลิกตืนเต้
ครังแล ่ นอีก ตอนทีสะใภ้
่ ่ อร ์
ของเยียเอ๋
เขา้ เรือนก็ไม่เห็นเจ ้าเป็ นเช่นนี ้

ทว่าพระชายาจินอ๋้ องกลับกล่าวอย่างมีเหตุผล “จะเหมือนกันได้


้ องของพวกเรา
อย่างไร โย่วเกอเอ๋อร ์เป็ นบุตรชายคนโตในจวนจินอ๋
้ งได้รบั พระราชทานบรรดาศักดิเป็
ซํายั ์ นจวินอ๋
้ อง มีอนาคตกว่าเยีย

เอ๋อร ์เหยียนเอ๋อร ์เสียอีก เขาแต่งงานขา้ ย่อมต้องเอาจริงเอาจัง
หน่ อย”


รอยยิมบนใบหน้ ้ องกลับจางลง “พอแลว้ ไม่ตอ้ งหาเรือง
าของจินอ๋ ่
ใส่ตวั สงบอารมณ์เสีย” แม้ว่าบุตรคนโตจะได้รบั พระราชทาน
บรรดาศักดิเป็ ์ นจวินอ๋
้ องนานแลว้ แต่เมือจิ
่ นอ๋
้ องได้ยนิ หวังเฟยพูด
ว่าบุตรคนโตมีอนาคตกว่าบุตรทังสามเสี ้ ยอีก ในใจเขาก็ไม่สบ
อารมณ์อย่างยิง่ เป็ นบุตรชายเขาเหมือนกัน สุขภาพก็ยงั ดีกว่าคน

ขีโรคมิ ่ อร ์บุตรคนรอง อายุสบ
ใช่หรือ โดยเฉพาะเยียเอ๋ ิ สามสิบสีก็่
ตามเขาไปทํางานแลว้ ช่วยเขาไปมากเพียงใด เหตุใดถึงเทียบคนขี ้

โรคทีตลอดปี รกั ษาตัวอยู่บนเขาไม่ได้ ก็แค่ฝ่าบาทลําเอียงเท่า
นั้นเอง

ตอนนี ้ จินอ๋
้ องไม่พอใจเสด็จพีของเขาขึ
่ ้
นมาแล ว้

้ องลอบมองสีหน้าบนใบหน้าจินอ๋
พระชายาจินอ๋ ้ อง ย่อมโอนอ่อน
ผ่อนตามอย่างว่าง่าย
้ องเชิญนางไปพูดคุยทีจวนหรื
อะไรนะ พระชายาจินอ๋ ่ ่
อ เสินเวยได้
ยินคําพูดของท่านป้ าสะใภ้ใหญ่นางก็แทบจะพ่นชาในปากออกมา
ความคิดแรกในสมองก็คอ ้ องจะเล่นลูกไม้อะไร
ื พระชายาจินอ๋

่ นเวยคิ
ไม่แปลกทีเสิ ่ ดเช่นนี ้ อันทีจริ
่ งจังหวะทีพระชายาจิ
่ ้ องเลือก
นอ๋
ก็ไม่ถูกจริงๆ คุณชายใหญ่สวียงั รักษาตัวอยู่บนเขา ว่าทีแม่่ เลียง


สามีของเจ ้าเรียกนางไปทีจวนทํ าไม มัดใจด้วยอุบาย เตือนสติ หรือ
่ ั บตาเสินเวยก็
ว่าแสดงอํานาจ ชวพริ ่ คด
ิ ไปต่างๆ นานา

่ บกล่าวอย่างดีอกดีใจ “คนทีมาบอกข่
ทว่าฮูหยินสวีกลั ่ าวคือแม่
นมซือประจํากายพระชายาจินอ๋ ้ อง ฟังจากเจตนาในคําพูดของนาง
้ องให้ความสําคัญกับเจ ้ามากเป็ นพิเศษ คุณชาย
พระชายาจินอ๋
ใหญ่สวีไม่ใช่กลับมาป่ วยอีกแลว้ หรือ หวังเฟยเป็ นห่วงว่าเจ ้าจะคิด
มาก อยากรับเจ ้าเขา้ จวนไปพูดคุย ถือโอกาสปิ ดปากคนเหล่านั้น
ขา้ งนอกอีกด้วย”

เสินเวยตาลุ กวาว ลางสังหรณ์บอกว่าไม่เชือ่ แม่เลียงสามี
้ ปลอบ

ขวัญว่าทีสะใภ้ ้ั
งนหรื ้ ว่าจะคิดอย่างไรก็ผด
อ ภาพๆ นี ไม่ ิ ปกติ หาก
พระชายาจินอ๋ ้ องผูน้ ี เป็
้ นคนใจกวา้ งเมตตาจริงๆ เช่นนั้นสวีโย่วคน
โรคจิตผูน้ ้ันจะมีนิสยั เย็ นชาเช่นนั้นหรือ ยิงไปกว่
่ านั้นตําแหน่ ง
่ อจวนจิ
ซือจื ่ ้ องยังตกอยู่ในมือลูกชายแท้ๆ ของหวังเฟยผูน้ ี ้ แม้
นอ๋
ทุกคนต่างก็พูดว่าเพราะร่างกายสวีโย่วไม่ดี เหอะ หลอกใครหรือ

เสินเวยไม่ ่
เชืออย่ ่ าในนั้นจะไม่มีฝีมอ
างยิงว่ ื ของหวังเฟยผูน้ ั้น

่ บมือของเสินเวยอธิ
ฮูหยินสวีจั ่ บายต่างๆ นานา “วันกําหนดไวเ้ ป็ น
้ นมซือผูน้ ั้นยังมารับ ถึงตอนนั้นเจ ้าแต่งตัวสวยๆ
วันหลัง อีกทังแม่
งามๆ สร ้างความประทับให้หวังเฟย อืม ให้แม่นมมั่วไปเป็ นเพือน ่
เจ ้าด้วย นางมาจากในวัง คุน้ เคยกับกฎมารยาทราชนิ กุล มี
ตรงไหนทีไม่ ่ เขา้ ใจนางจะได้เตือนเจ ้าได้” นางสาธยายยืดยาว กลัว

ว่าเสินเวยทํ าไม่ดตี รงไหนจะเป็ นการยั่วโมโหว่าทีแม่
่ สามี


เสินเวยพยั ่ ง “อืม อืม ท่านป้ าสะใภ้ใหญ่ หลาน
กหน้าอย่างเชือฟั
ทราบแลว้ จะไม่ทําให้จวนโหวของพวกเราเสียหน้าแน่ นอน”
ฮูหยินสวีลู ่ บศีรษะของเสินเวย
่ ถอนหายใจเบาๆ หนึ่ งคราแลว้ กล่าว
่ อร ์ ป้ ากลับไม่ได้สนใจว่าเจ ้าจะทําจวนโหวเสียหน้า เจ ้า
“เวยเจียเอ๋
้ อง พระชายาจินอ๋
ต้องรู ้ไวว้ ่า ในภายหน้าเจ ้าแต่งเขา้ จวนจินอ๋ ้ องก็
คือแม่สามีของเจ ้า คุณชายใหญ่สวีไม่ ่ ใช่คนที่นางให้กําเนิ ด ทีนาง

ปฏิบต ั ต
ิ ่อพวกเจ ้าเป็ นเพียงภายนอก เจ ้าต้องเอาใจนาง ชีวต ิ จึงจะดี
เจ ้ายังเล็ก ไม่เขา้ ใจ หากคนทีเป็่ นแม่สามีมเี จตนาอยากทําร ้าย
ลูกสะใภ้ เจ ้าก็จะไม่มห ี นทางแม้แต่นิดเดียว อย่างไรเสียนางก็ถอ ื
ครองกฎในตระกูล”

่ งใจเช่นนี ก็
คําพูดทีจริ ้ มเี พียงแม่แท้ๆ ทีจะพู
่ ่
ดกับบุตรสาวได้ เสินเว
ยย่อมซาบซึง้ “ท่านป้ าสะใภ้ใหญ่วางใจ หลานจะรับปากอย่างดี”

ไปจวนจินอ๋ ้ องล่วงหน้าก็ดเี หมือนกัน อย่างไรเสียนั่นก็เป็ นสถานที่


ใช ้ชีวต ้
ิ ต่อจากนี ของนาง พบหน้าพระชายาจินอ๋้ องผูน้ ั้นล่วงหน้า

จะได้เลียงไม่ ่
ให้แต่งเขา้ ไปแลว้ ตืนตระหนกไม่ ใช่หรือ
เหอะๆ คุณชายใหญ่สวี อีกประเดียวข ๋ ้
า้ ก็จะไปพบแม่เลียงแสนดี ผู ้
นั้นของเจ ้าแลว้ เจ ้าคิดว่าอย่างไร ให้ขา้ ถือโอกาสช่วยเจ ้าระบาย
ความแค้นดีหรือไม่
ตอนที่ 208-1 ไปจวนจินอ๋
้ อง


เดิมเสินเวยก็ ่
อยากไปสืบข่าวเรืองตระกู ่
ลราชบัณฑิตสวีจากป้ า
สะใภ้ใหญ่ ตอนนี ถู ้ กนางดึงไวพ ้
้ ูดเรือยเจื ้
อยไม่ หยุดปาก กลับลืม

เรืองหลั กไปเสียแลว้ เมื่อป้ าสะใภ้ใหญ่นางออกจากเรือนเฟิ งหวาไป

เสินเวยก็ ่
เพิงจะนึ ้
กขึนได้ ตบหน้าผากด้วยหงุ ดหงิดอย่างอดไม่ได้
ช่างมัน ช่างมัน อย่างไรเสียก็ไม่เกินวันสองวันนี ้ รอนางไปรับมือกับ
พระชายาจินอ๋้ องก่อนแลว้ ค่อยว่ากัน

้ องเชิญคุณหนู สไปสนทนา
พระชายาจินอ๋ ี่ ้
ข่าวๆ นี แพร่
กระจายไป
ทั่วทังจวนโหวราวกั
้ ้ งมี
บกระพือปี ก มีคนอิจฉา มีคนริษยา ทังยั
ใบหน้าบางคนทีมี่ ความดุร ้ายและโกรธแค้นแวบผ่าน

่ จฉาก็คอ
คนทีอิ ่
ื ฮูหยินจ ้าวบา้ นรอง นางลากเสินเซวี
ยนมาขา้ งหน้า
่ สนใจนั้นของลูกสาว ก็เจ็บใจทีไม่
ตน เห็นท่าทางทีไม่ ่ อาจหลอม
เหล็กให้กลายเป็ นเหล็กกลา้ ได้
“ดูชะตาพีสี ่ เจ
่ ้าสิ ทังได้
้ รบั พระราชทานสมรสทังได้้ รบั พระราชทาน
บรรดาศักดิเป็ ์ นจวินจู
้ ่ ตอนนี ยั
้ งถูกพระชายาจินอ๋
้ องเรียกไป
สนทนา จุๆๆ ในเมืองหลวงยังนับได้ว่าเป็ นครังแรก้ เซวียนเอ๋อร ์ เจ ้า

ตังใจฟั ่ พูดหรือไม่” ฮูหยินจ ้าวเห็นว่าลูกสาวใจลอย ชวขณะก็
งทีแม่ ่ั
โมโหอย่างยิง่

่ ก” เสินเซวี
“ท่านแม่ ฟังอยู่ ฟังอยู่ เจ็บยิงนั ่ ่ นางใช ้
ยนกุมบริเวณทีแม่
้ ม้ พูดด้วยความไม่พอใจ
นิ วจิ

ฮูหยินจ ้าวถลึงตามองลูกสาวปราดหนึ่ ง “แม่ให้เจ ้าไปเล่นกับพีสี ่ เจ


่ ้า
้ นเจ ้าเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องจะได้
บ่อยๆ ไม่ใช่หรือ วันทังวั
ประโยชน์อะไร ไม่ใช่ว่าแม่หวังดีกบ ั เจ ้าหรือ ขา้ จะบอกอะไรเจ ้า
ให้…”

เห็นแม่นางกําลังจะร่ายยาวไม่หยุดอีกครัง้ เสินเซวี
่ ยนก็อด
ึ อัดจน
้ นตัดบท “ท่านแม่ ลูกต้อง
ลําไสแ้ ทบจะบิดเป็ นเกลียว รีบลุกขึนยื
กลับเรือนแลว้ ตอนบ่ายแม่นมเหยาจะทดสอบกฎมารยาท ลูกยัง
ไม่ได้ฝึกให้ดเี ลย”

มองแผ่นหลังทีออกไปราวกั ่
บวิงหนี ของลูกสาว ฮูหยินจ ้าวก็ตบโต๊ะ
้ วยความเคียดแค้น “เด็กคนนี นี
หลายครังด้ ้ ่ ไม่คด
ิ บา้ งหรือว่าแม่
ั เจ ้า หนึ่ งคนสองคน ลว้ นแต่ทําให้แม่กลัดกลุม้ หากนางมี
หวังดีกบ
่ ่ งของเวยเอ๋อร ์ ขา้ จะยังต้องกลุม้ ใจอะไรอีก”
โชคได้ครึงหนึ


ช่วงนี นางกํ ่
าลังดูเรืองสมรสให้
เซวียนเอ๋อร ์มาโดยตลอด ส่วนใหญ่
ในนั้นนางลว้ นแต่ไม่ชอบ มีเพียงสองสามตระกูลทียั ่ งนับว่าไม่เลว
แต่ก็ยงั ห่างจากความต้องการในใจนางอยู่ดี เป็ นคุณหนู จวนจงอู่
โหวเหมือนกัน แม้เซวียนเอ๋อร ์จะไม่อาจเทียบเวยเอ๋อร ์ได้ แต่ก็ไม่
อาจด้อยกว่าเกินไปมิใช่หรือ


ชุย่ หนงสาวใช ้ใหญ่เองก็รู ้ว่าฮูหยินของตนกําลังเป็ นทุกข ์เรือง
สมรสของคุณหนู อยู่ จึงลอบมองสีหน้านางอย่างระมัดระวังแลว้
กล่าวเสียงเบา “ฮูหยิน มะรืนนี คุ ้ ณหนู สไปจวนจิ
ี่ ้ อง หากคุณหนู
นอ๋
ของพวกเราตามไปได้ ถึงตอนนั้นเขา้ ตาพระชายาจินอ๋ ้ อง ขอเพียง
้ องพูดถึงคุณหนู ของเราดีๆ ที่ขา้ งนอก เช่นนั้น
แค่พระชายาจินอ๋

เรืองสมรสของคุ ณหนู ยงั จะต้องเป็ นกังวลไปไยอีก”
ิ ดังนั้นก็คลา้ ยครุน
ฮูหยินจ ้าวได้ยน ่ นึ่ งกลับส่าย
่ คิด ตริตรองอยู่ครูห
หน้า “ไม่ควร เวยเอ๋อร ์ไปจวนจินอ๋้ องเป็ นครังแรก
้ ตนเองก็ตอ้ ง
รวบรวมสติให้ดี ไหนเลยจะแบ่งความสนใจมาดูแลเซวียนเอ๋อร ์ได้
อีก ไม่ควร ไม่ควร”

้ ว่าฮูหยินจ ้าวจะสนใจอย่างถึงทีสุ
ขอ้ เสนอนี แม้ ่ ด แต่นางก็ไม่ได้

สายตาสันจนไม่ ้ น้ เวยเอ๋อร ์ไปจวนจินอ๋
ใส่ใจอะไรทังสิ ้ องเป็ นครัง้
่ นมากอยู่แลว้ เซวียนเอ๋อร ์อย่าไปสร ้าง
แรก ตนเองก็ตอ้ งตืนเต้

ปัญหาเพิมจะดี ่ ย่ หนงพูดกลับเตือนสตินางได้ ตอนนี ้
กว่า แต่ว่าทีชุ
ไปไม่ได้ รอเวยเอ๋อร ์แต่งเขา้ ไปแลว้ เซวียนเอ๋อร ์จะไปไม่ได้หรือไร
อืม ต้องกําชบั เซวียนเอ๋อร ์ให้ผูกมิตรกับเวยเอ๋อร ์ไวจ้ ะดีกว่า

เรือนเหลียนอี หลิวรุย่ ฟังกําลังนั่งเย็บปักถักร ้อยกันสองคนในห้อง


เหอหลินหลิน

หลิวรุย่ ฟังมาเยียมเยี ่ วยตัวเอง เสินหย่
ยนถึงทีด้ ่ าย่อมไม่อาจไล่คน

ไปขา้ งนอกได้ บวกกับทีนางปากหวานรู ้จักพูดจา อายุก็พอๆ กับ
บุตรสาวของตน นางเองก็หวังว่าบุตรสาวจะไปมาหาสู่กบ ั แม่นาง
น้อยรุน ่ ราวคราวเดียวกัน ดังนั้นจึงเป็ นมิตรกับหลิวรุย่ ฟังมากเป็ น
พิเศษ ทังยั้ งให้ของขวัญพบหน้าเป็ นเครืองประดั
่ บศีรษะแก่นางหนึ่ ง
ชิน้

หลิวรุย่ ฟังถอนหายใจเฮือกใหญ่หนึ่ งครา นับแต่นั้นมาก็มาเล่นกับ


เหอหลินหลินอยู่บ่อยครัง้ ทังสองทํ
้ างานเย็บปักไม่ก็เล่นแต่งหน้า
ด้วยกัน แม้หลิวรุย่ ฟังจะเป็ นเพียงบุตรสาวขุนนางยศเล็ก แต่
อย่างไรเสียก็เติบโตมาในเมืองหลวง ความรู ้ประสบการณ์ย่อมสูง
กว่าเหอหลินหลินทีถู ่ กขังอยู่ในเรือนหลังมาตังแต่
้ เล็ก กลับสอนเห
อหลินหลินได้ไม่นอ้ ยเลยจริงๆ


เสินหย่ ่ อนเหลียนอีแลว้ ไปๆ
าเห็นท่าทีก็ไม่หา้ มให้หลิวรุย่ ฟังมาทีเรื

มาๆ เด็กทังสองกลั บสนิ ทกันหลายส่วนจริงๆ
“น้องหลินได้ยน ้
ิ หรือไม่ วันนี จวนจิ ้ องมีคนมา” หลิวรุย่ ฟังกล่าว
นอ๋
อย่างแสร ้งทําทีไม่สนใจ

เหอหลินหลินสนใจขึนมาดั ้ งคาด “ใช่จวนจินอ๋ ้ องว่าทีบ


่ า้ นสามีของ
ญาติผพ ่ี หรื
ู ้ สี ่ อไม่ ผูใ้ ดมา มีเรืองอะไรหรื
่ ่
อ” เสินหย่ าสองแม่ลูกคิด
เพียงแต่จะอาศัยจวนโหวใช ้ชีวต ิ อย่างสงบสุข ย่อมไม่เหมือนหลิว

รุย่ ฟังทีกระโดดโลดเต้ ้
นขึนลงเช่ นนี ้ ดังนั้นข่าวในเรือนเหลียนอีจงึ
ไม่รวดเร็วทีสุ ่ ด เรืองที
่ จวนจิ
่ ้ องส่งคนมาเหอหลินหลินยังคงไม่รู ้
นอ๋
จริงๆ


หลิวรุย่ ฟังกล่าว “ฟังว่าคนทีมาคื อแม่นมประจํากายพระชายาจิ ้
นอ๋อง มาเชิญญาติผพ ี่ ไปสนทนาที
ู ้ สี ่ ่
จวนจิ ้ อง” ดวงตาของนางมี
งอ๋
ความอิจฉาแวบผ่าน นั่นคือจวนจินอ๋ ้ อง จวนอ๋องจะต้องทรงอํานาจ
กว่าจวนโหวใช่หรือไม่ หากตามไปดูสก ่ิ ก
ั หน่ อยได้ก็คงดียงนั

“เหตุใดเล่า ญาติผูพ ี่ ยั
้ สี ่ งไม่แต่งเขา้ เรือนเลยมิใช่หรือ เขา้ บา้ น
้ หรือ” อย่างไรเสียความคิดของเหอหลินหลินก็ใสซือ่ บน
เช่นนี จะดี
ใบหน้านางมีความกังวลแวบผ่าน
ในใจหลิวรุย่ ฟังร ้อนผ่าว ก ้มหน้ากัดปลายด้ายบนผ้าเช็ดหน้า “จะ
เป็ นอะไรไป คุณชายใหญ่สวีไม่อยู่มใิ ช่หรือ ขา้ คิดว่าเป็ นเพราะ
คุณชายใหญ่สวีไม่อยู่ พระชายาจินอ๋ ้ องจึงให้เกียรติญาติผพ ่ี ่
ู ้ สี
เช่นนี ้ พระชายาจินอ๋
้ องดีต่อญาติผพ ี่ จริ
ู ้ สี ่ งๆ” ในนํ ้าเสียงเต็มไปด้วย
ความอิจฉา


เมือเหอหลิ นหลินได้ฟังก็ดใี จ “นั่นก็เพราะว่าญาติผพ ี่ เป็
ู ้ สี ่ นคนดี
อย่างไรเล่า” ในใจนาง ญาติผพ ี่ เป็
ู ้ สี ่ นคนทีนอกจากแม่
่ นางแลว้ ก็ดี
่ ด ทังสวยทั
ต่อนางทีสุ ้ ้ ความสามารถ พระชายาจินอ๋
งมี ้ องดีต่อนางก็

เป็ นสิงสมควรแล ว้ เหอหลินหลินดีใจแทนนางจากใจจริง

โง่นัก ในสายตาของหลิวรุย่ ฟังมีบางอย่างแวบผ่านไปอย่างรวดเร็ว


้ องทรงอํานาจอย่างยิง่ หากได้เห็นกับตาก็คงจะดี
“ฟังว่าจวนจินอ๋

น่ าเสียดายทีพวกเราไม่ ได้โชคดีเหมือนญาติผูพ ่ี ”่ นางเท้าคาง ทัง้
้ สี
ใบหน้าเฝ้ าใฝ่ ฝั น
่ ้ จากมุมมองของนาง
เหอหลินหลินกลับไม่ได้รู ้สึกสนใจต่อเรืองนี
จวนโหวก็ทรงอํานาจมากแลว้ ต่อให้จวนจินอ๋ ้ องจะรํารวยทรง

้ งเป็ นเพียงทีอยู
อํานาจแลว้ อย่างไร มิหนํ าซํายั ่ อ ่ าศัย เห็นจนชินแลว้

ก็เหมือนกันทังหมด

การตอบสนองของเหอหลินหลินจากมุมมองของหลิวรุย่ ฟังก็คอ ื คํา


ว่า ‘โง่’ เพียงคําเดียว ไม่มพ ี ฒ
ั นาการเกินไปแลว้ ดวงตานาง
กะพริบวาบ แสร ้งกระแทกแขนเหอหลินหลินอย่างมีเลศนัย “น้อง
หลิน ไม่ใช่ว่าเจ ้ามีความสัมพันธ ์อันดีกบ ั ญาติผพ ี่ หรอกหรื
ู ้ สี ่ อ เจ ้า
ไม่อยากตามญาติผพ ี่ ไปเปิ
ู ้ สี ่ ่
ดหูเปิ ดตาทีจวนจิ ้ องหรือ”
นอ๋

เหอหลินหลินปฏิเสธตามจิตใต้สํานึ กทันที “ขา้ จะไปทําไม คนที่


้ า้ ยังเรียนไม่ครบแม้แต่กฎมารยาท ไป
นางเชิญก็ไม่ใช่ขา้ อีกทังข
แลว้ ไม่ใช่จะไปทําให้ญาติผพ ี่
ู ้ ขายหน้ าหรอกหรือ ขา้ ไม่ไปหรอก”

่ เป็ นคนโง่จริงๆ นี่ จะให้นางพูดอะไรต่อดี


หลิวรุย่ ฟังสีหน้าแข็งทือ
ตอนนี ้ เบืองลึ
้ กในใจนางมีความริษยาเปี่ ยมลน ้ หนึ่ งกลุ่มพุ่งขึนมา
้ มี
สิทธิอะไร นางเทียบญาติผพ ี่ ไม่
ู ้ สี ่ ได้ก็ไม่เป็ นไร ทว่าแม้แต่คนโง่เช่น
เหอหลินหลินก็ยงั โชคดีกว่านาง อย่างน้อยนางก็เป็ นหลานสาวตา
แท้ๆ ของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหว ภายหลังคู่หมันที ้ ่ดีก็คงหนี ไม้พน้ อีก
้ งมีมารดาทีรั
ทังยั ่ กนาง แม่นางมีนางเพียงคนเดียว สินเดิมมหาศาล

ก็ตอ้ งเป็ นของนางคนเดียวทังหมดมิ ใช่หรือ ไหนเลยจะเหมือนนาง
พ่อไม่รกั แม้แต่แม่แท้ๆ ก็ยงั ใส่ใจน้องชายทีสํ่ าคัญยิงกว่
่ านาง

ต่อมาหลิวรุย่ ฟังก็ใจลอยเล็กน้อย นางไม่พูด เหอหลินหลินก็ก ้ม



หน้าตังใจปั กกระเป๋ าเงินใบเล็ก ญาติผูพ ่ี ช่
้ สี ่ วยพวกนางแม่ลูกเยอะ
เพียงนี ้ นางไม่มส ิ่ นที
ี งอื ่ จะตอบแทนได้
่ ่
ทําได้เพียงเย็บปักสิงของ

เล็กน้อยเพือแสดงความจริ ้ เล็กแม่ก็สอนนางว่า ‘เป็ นคน
งใจ ตังแต่
ต้องรู ้จักตอบแทนคุณ’


เมือหลิ
วรุย่ ฟังไป เหอหลินหลินก็เก็บ**บเข็มด้ายไปยังห้องของแม่
้ รุ่ี ย่ ฟัง”
นาง “ท่านแม่ ขา้ ไม่ชอบญาติผูพ


เสินหย่ าเห็นท่าทางไม่มค
ี วามสุขของลูกสาว ก็กล่าวอย่างอ่อนโยน

“เป็ นอะไรไปเล่า ทะเลาะกันหรือ ใช่เจ ้าขีงอนหรื
อไม่”
เหอหลินหลินเขยิบเขา้ ไปนั่งใกลแ้ ม่นาง “เปล่าเจ ้าค่ะ ก็ญาติผพ ู ้ รุ่ี ย่
ฟังน่ ะสิ นางเอาแต่พูดว่าญาติผูพ ่ี โชคดี
้ สี ่ ต่างๆ นานา แลว้ ยังยุงยง
ให้ลูกตามญาติผพ ี่ ไปจวนจิ
ู ้ สี ่ ้ อง นาง นางเป็ นเช่นนี ไปได้
นอ๋ ้
อย่างไร” เหอหลินหลินเบป้ าก ท่าทางน้อยใจอย่างถึงทีสุ ่ ด

นางเพียงแค่ไร ้เดียงสา ไม่ได้โง่จริงๆ เจตนาในคําพูดนอกคําพูด


ของญาติผพ ี่ วรุย่ ฟังนางจะฟังไม่ออกได้อย่างไร เดิมนางคิดว่า
ู ้ หลิ

ทุกวันทีญาติ ู ้ รุ่ี ย่ ฟังมาหานางก็เพราะว่าชอบนาง ไม่นึกว่าเพียง
ผพ
ิ ว่านางโง่ตอ้ งการใช ้ประโยชน์จากนางก็เท่านั้น นี่ ทําให้จต
แค่คด ิ ใจ
เด็กผูห้ ญิงตัวเล็กๆ อย่างเหอหลินหลินเสียใจยิ่งนัก


ในดวงตาเสินหย่ ามีความเขา้ ใจแวบผ่าน นางลูบศีรษะของลูกสาว

กล่าวชีแนะจากใจจริ ่
ง “หลินเอ๋อร ์ เรืองมากมายบางเรื ่ อนหน้า
องก่
้ ก็ไม่เคยสอนเจ ้า จึงเลียงให้
นี แม่ ้ ่ ้เดียงสาเช่นนี ้ แม่หวัง
เจ ้ามีนิสยั ทีไร
เสมอว่าเจ ้าจะมีชวี ต ่ ยบง่ายมีความสุข ตอนนี พวกเรากลั
ิ ทีเรี ้ บมา
เมืองหลวงแลว้ แม่ก็เสียใจเล็กน้อย นิ สยั ทีไร ่ ้เดียงสาของเจ ้านี เดิ
้ น
ออกไปขา้ งนอกจะไม่ถูกคนหลอกแย่หรือ นี่ เป็ นความผิดของแม่
เอง แม่ควรจะสอนเจ ้าให้มากกว่านี ”้
แม้นางจะมีชวี ต ่
ิ ทียากลํ ้ าทีสะอาด
าบาก แต่กลับพยายามคิดจะคําฟ้ ่
ฟากหนึ่ งให้ลูกสาว ไม่อยากให้มลทินเรือนหลังกับอุบายทีโสมม

แปดเปื ้อนจิตใจทีดี ่ งามของลูกสาว

“ท่านแม่” นํ ้าเสียงทีสํ
่ านึ กผิดของมารดาทําให้เหอหลินหลินรู ้สึกไม่
สบายใจเล็กน้อย ขยับตัวเงยหน้ามองแม่นางอย่างอดไม่ได้


เสินหย่ ้
ายิมอย่
างปลอบประโลมให้ลูกสาว ตบแขนของนางแลว้

กล่าว “แต่ว่าตอนนี พวกเรากลั ่ านวนมาก
บเมืองหลวงแลว้ เรืองจํ
เจ ้าเองก็ควรจะเรียนรู ้ได้แลว้ ไม่ตอ้ งรีบร ้อน แม่จะค่อยๆ สอนเจ ้า”

หยุดครูห ่ นึ่ งนางจึงกล่าวต่อ “เจ ้าสามารถสังเกตเห็นแผนการของ


้ งนิ่ งเฉย แม่ดใี จยิงนั
ฟังเอ๋อร ์ได้ อีกทังยั ่ ก หลินเอ๋อร ์เจ ้าต้องจําไว ้
แม่เป็ นสตรีทหย่ ี่ ากลับมา ตาเจ ้าเป็ นห่วงความผูกพันในสายโลหิต
จึงให้พวกเราอาศัยอยู่ในจวนโหว แต่พวกเราก็ตอ้ งสงบเสงียมเจี ่ ยม
ตัว ไม่อาจสร ้างปัญหาให้ในจวนได้ ไม่ว่าใครจะพูดอะไรกับเจ ้า เจ ้า
ก็ตอ้ งคิดในสมองหลายๆ รอบ โดยเฉพาะเรืองที ่ เกี
่ ยวกั
่ บญาติผพ ่ี ่
ู ้ สี
ของเจ ้า ญาติผพ ่ี ของเจ
ู ้ สี ่ ้ามีบุญคุณใหญ่หลวงกับพวกเรา พวกเรา
ไม่อาจถูกคนใช ้ประโยชน์เพือทํ ่ าร ้ายจิตใจญาติผพ ี่ ของเจ
ู ้ สี ่ ้าได้” สี
หน้าบนใบหน้าเสินหย่ ่ ้
าจริงจังขึนมา

เหอหลินหลินรีบพยักหน้า “ท่านแม่ ลูกทราบแลว้ วันนี ตลอดเวลา ้



ทีญาติ ้ รุ่ี ย่ ฟังพูด ขา้ ไม่ได้พูดอะไรเลย” ญาติผพ
ผูพ ี่ ดี
ู ้ สี ่ ทสุ่ี ด นางไม่
มีทางช่วยคนนอกวางแผนให้ร ้ายญาติผูพ ี่ หรอก
้ สี ่

สีหน้าท่าทางของเสินเวยจึ ่ งอ่อนโยนลงเล็กน้อย พูดต่อ “สําหรับ


ฟังเอ๋อร ์ ในใจเจ ้ารู ้ว่านางเป็ นคนเช่นไรก็พอแลว้ ไม่ตอ้ งถอยห่าง
จากนางฉับพลัน ก่อนหน้านี เป็ ้ นเช่นไร หลังจากนี ก็
้ ยงั คงเป็ น
เช่นนั้น เจ ้าต้องรู ้ไวว้ ่า ขา้ วสวยเหมือนกันยังเลียงคนให้
้ มน ี ิ สยั ร ้อย
แปดพันเก ้า เจ ้าไม่อาจขอให้คนอืนเป็ ่ นเหมือนเจ ้าได้ทงหมด ั้ ฟังว่า
ฟังเอ๋อร ์อยู่ในจวนหลิวไม่ค่อยน่ าพอใจนัก พ่อนางรักอีเหนี ๋ ยงและ
บุตรสาวอนุ ภรรยา น้องชายแม่เดียวกันของนางก็มส ี ุขภาพไม่ค่อย
ั้ เล็ก แม่นางก็ไม่ใส่ใจนาง นางถือโอกาสหาช่องทางคิดเพือ
ดีตงแต่ ่
ตัวเองเช่นนี ก็้ ไม่อาจตําหนิ มากได้ ต่อจากนี นางมาหาเจ
้ ้า เจ ้าก็
ปฏิบต ั ต
ิ ่อนางเหมือนเดิม อย่าได้เผยพิรุธเชียว”

แม้เสินหย่ าจะมีนิสยั อ่อนแอ อย่างไรเสียก็ใช ้ชีวต ิ มามากกว่าลูก
สาวหลายปี เพียงนั้น สายตาทีมองคนและประสบการณ์
่ ชวี ต
ิ ยังนับ
่ นฟังเอ๋อร ์ก็รู ้แลว้ ว่านี่ คือคนทีมี
ได้ว่ามี แวบแรกทีเห็ ่ แผนการเต็ม
สมอง นางเองก็เคยลังเลว่าควรจะให้ลูกสาวเล่นกับนางหรือไม่ แต่
แม่นมโน้มน้าวนาง แม่นมพูดมาหนึ่ งประโยค ‘คุณหนู ท่านไม่อาจ
ติดตามคุณหนู นอ้ ยไปได้ตลอดชีวต ิ นะเจ ้าคะ’

ถูกต้อง ลูกสาวต้องเติบโต ต้องแต่งงาน นางไม่อาจอยู่กบ ั ลูกสาว


ไปตลอดชีวต ่
ิ ได้ แทนทีจะปกป้ องนางเป็ นอย่างดี ไม่สใู ้ ห้นาง
ออกไปเรียนรู ้ด้วยตัวเอง แม้ว่าจะเสียเปรียบถูกทําร ้าย นั่นก็ถอ ื เป็ น
ประสบการณ์

้ กสาวแสดงออกมาได้ดอ
ดูสิ ตอนนี ลู ่ ใช่หรือ ดวงตาของ
ี ย่างยิงมิ

เสินหย่ ้
ามีความภูมใิ จปรากฎขึนมา

“ญาติผพ ู ้ รุ่ี ย่ ฟังน่ าสงสารจริงๆ” เหอหลินหลินได้ยน


ิ ว่าพ่อของญาติ
้ รุี่ ย่ ฟังโปรดปรานอีเหนี
ผูพ ๋ ยงและบุตรสาวอนุ ภรรยา ก็นึกถึงตัวเอง
ทันที บนใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสารและเห็ นใจ

เสินหย่ ่ิ นดู ลูกสาวของนางดี
าเห็นสีหน้าท่าทางของลูกสาวก็ยงเอ็
เพียงใด น่ าสงสาร คนทีน่ ่ าสงสารบนโลกนี มี้ มากแลว้ หลินเอ่อร ์
ของนางไม่น่าสงสารหรือ แต่น่าสงสารก็ไม่ใช่ขอ้ อ้าง นางไม่มวี น ั

ปล่อยให้ลูกสาวใช ้ขอ้ อ้างว่าน่ าสงสารไปทําเรืองวางแผนให้ ร ้าย
ผูอ้ นื่

“ดังนั้นหลังจากนี หลิ
้ นเอ๋อร ์จึงต้องปฏิบต ั ติ ่อฟังเอ๋อร ์ให้เหมือนปกติ
่ นางพู
สิงที ่ ่ ดี
ดหรือทําเจ ้าคิดว่าไม่ใช่เรืองที ่ ก็ไม่ตอ้ งไปสนใจ

กลับมาเล่าให้แม่ฟัง ให้แม่สอนเจ ้า” เสินหย่ าฉวยโอกาสชีแนะลู ้ ก
สาว อย่างไรเสียก็อดใจทําลายความดีงามในจิตใจลูกสาวไม่ได้
ช่างเถอะ เพียงแค่ให้หลินเอ๋อร ์รู ้สึกว่าฟังเอ๋อร ์เป็ นคนทีให้ ่ อภัยได้ก็
พอ ชีวต ิ ยังอีกยาวไกล นางจะต้องเห็นกับตาตัวเองสักวัน
ตอนที่ 208-2 ไปจวนจิน้ อ๋อง
ถ้าหากหลินรุ่ ยฟังริ ษยา เช่นนั้นฮูหยินหลิวที่อยูใ่ นห้องพระเล็กผูน้ ้ นั
ก็คงเกลียดชังคับแค้นแล้ว
เสิ่ นเสวี่ยออกเรื อนฮูหยินหลิวยังออกไปไม่ได้ ตอนนั้นนางท้อแท้ใจ
จริ ง ๆ ภายหลังเสิ่ นเสวี่ยไปเยีย่ มนาง นาของกินของใช้และเงินไม่
น้อยมาให้นาง ชีวติ ของนางก็ค่อย ๆ ดีข้ ึนเล็กน้อย ไม่กี่วนั ก่อนหน้า
นี้แม่นมจางที่หกล้มขาหักก็กลับจวนมาเยีย่ มนาง ร้องทุกข์ถึงชีวิตที่
ลาบากในบ้าน ทั้งสองสาปแช่งคนร้ายด้วยกัน “ฮูหยิน ท่านอย่าได้
ถอดใจ บ่าวยังรอให้ท่านออกไปเป็ นนายอยู่ ท่านยังมีคุณชายหก ชัว่
พริ บตาคุณชายหกก็จะโตแล้ว นายท่านจะขังท่านไว้ตลอดชีวิตได้
จริ ง ๆ หรื อ ก่อนหน้านี้บ่าวแอบไปเยีย่ มคุณชายหกมาแล้ว เรี ยน
หนังสื อมีพฒั นาการแล้ว หลังจากนี้เขาแต่งภรรยามีบุตรยังต้องให้
ท่านเป็ นห่วง ฮูหยินท่านควรจะลุกขึ้นสู ้ ท่านทาร้ายตนเองจนตาย
มิใช่วา่ จะเป็ นการเสี ยเปรี ยบคนนอกหรอกหรื อ บ่าวอยูข่ า้ งนอกจุด
ธูปวันละสามครั้ง ขอพระคุม้ ครองให้ท่านออกมาโดยเร็ ว”
ฮูหยินหลิวเปลี่ยนความคิด ใช่แล้ว นางยังมีอ้ ีเอ๋ อร์อยู่ ไม่มีนางดูแลอี้
เอ๋ อร์จะไม่ถูกคนชัว่ สองคนนั้นกลัน่ แกล้งตายหรื อ นางจะยอมรับ
ชะตาชีวิตไม่ได้ นางต้องวางแผน นางต้องออกไป ไม่เพียงแต่ทาเพื่อ
อี้เอ๋ อร์ ยังมีเสวี่ยเอ๋ อร์ ยายแก่ฮูหยินอวี้จวนจงอู่โหวผูน้ ้ นั มีสิทธิอะไร
มารังแกเสวี่ยเอ๋ อร์ของนาง นางต้องคิดหาวิธีออกไปหนุนหลังเสวี่ย
เอ๋ อร์
ได้ยนิ ว่าลูกเลี้ยงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่นางก็เคียด
แค้นอย่างถึงที่สุดแล้ว ตอนนี้ได้ยนิ ว่าพระชายาจิ้นอ๋ องเชิญนางไป
สนทนาที่จวน นางก็ยงิ่ แค้นจนดึงปิ่ นปั กผมบนศีรษะปั กลงบน
กาแพงอย่างแรง เด็กชัว่ เหตุใดชะตาเจ้าถึงได้ดีเพียงนั้น พระชายาจิ้
นอ๋ องไม่ใช่แม่เลี้ยงสามีของนางหรื อ มีสิทธิ์อะไรถึงใจดีให้เกียรติ
นางเพียงนี้ นางมีสิทธิ์อะไรถึงโชคดีได้พบแม่สามีที่ดีเพียงนี้ ส่ วน
เสวี่ยเอ๋ อร์ของตัวเองกลับต้องเจอแม่สามีใจร้ายอย่างฮูหยินอวี้
นางสาปแช่ง สาปแช่งให้นางไม่มีจุดจบที่ดี สาปแช่งให้คุณชายใหญ่
จวนจิ้นอ๋ องผูน้ ้ นั มีชีวิตอยูไ่ ม่ถึงหนึ่งปี ให้นางแต่งเข้าไปแล้วก็ตอ้ ง
ครองตัวเป็ นหม้าย อ้อไม่ คุณชายใหญ่ผนู ้ ้ นั น่าจะตายเสี ยตอนนี้ ให้
นางไม่ได้แต่งงานไปจนตายจึงจะลดความเคียดแค้นในจิตใจของ
นางลงได้
หน้าพระพุทธรู ปที่เมตตาสรรพสิ่ ง ฮูหยินหลิวใบหน้าดุร้าย ราวกับ
ปี ศาจที่โผล่ออกมาจากนรก
ชัว่ พริ บตาวันมะรื นก็มาถึงแล้ว เหล่าสาวใช้เรื อนเฟิ งหวายุง่ กันตั้งแต่
เช้าตรู่ ที่เตรี ยมน้ าก็เตรี ยมน้ า ที่เร่ งทาอาหารก็เร่ งทาอาหาร ที่หา
เสื้ อผ้าก็หาเสื้ อผ้า ที่ขนชาดขนแป้งก็ขนชาดขนแป้ง นับไปนับมาก็
นับได้วา่ เจ้านายเสิ่ นเวยว่างที่สุด นางขอเพียงแค่นงั่ หาวอยูต่ รงนั้น
ปล่อยให้เหล่าสาวใช้จดั การก็พอแล้ว
แม้แต่แม่นมกูท้ ี่ไปเรื อนเจวีย๋ เอ๋ อร์แล้วก็ยงั วิ่งมาหาอย่างอดไม่ได้ จับ
มือของแม่นมมัว่ ไหว้วานแล้วไหว้วานอีก “ท่านพี่ ท่านเก่งยิง่ นัก
ท่านมีความสามารถ คุณหนูของพวกเราก็ฝากท่านไว้แล้วกัน” น้ าตา
หยดลงมาด้วยความดีใจ ปากก็พึมพาว่าคุณหนูผา่ นทุกข์ผา่ นสุ ขกว่า
จะมีชะตาที่ดีบา้ ง ในที่สุดฮูหยินก็สามารถสบายใจได้แล้วต่าง ๆ
นานา
ทุกคนต่างก็รู้ดีวา่ ความสัมพันธ์ของแม่นมกูก้ บั คุณหนูแน่นแฟ้น พา
กันโน้มน้าวนาง
เสิ่ นเวยปล่อยให้เหล่าสาวใช้จดั การตนเองอย่างสะลึมสะลือ เมื่อเปิ ด
ตาขึ้นมามองเห็นหญิงงามสว่างต้องตาผูน้ ้ ีในกระจกก็ตกใจจนสะดุง้
โหยง คิ้วขมวด กล่าว “รี บล้างออก”
หลีฮวากับเถาจือและคนอื่น ๆ ก็รีบปลอบนาง “คุณหนู บ่าวรู ้วา่ ท่าน
ไม่ชอบแต่งหน้า แต่ครั้งนี้ไปจวนจิ้นอ๋ อง หากท่านไปด้วยใบหน้า
เรี ยบ ๆ พระชายาจิ้นอ๋ องจะต้องคิดว่าท่านไม่เคารพนางเป็ นแน่ บ่าว
ว่า ท่านควรแต่งตัวสวย ๆ ให้จิ้งหวังเฟยเห็นว่าท่านไม่ดอ้ ยเลย
แม้แต่นิดเดียว”
เสิ่ นเวยกลอกตาขาว กล่าว “พวกเจ้าเคยเห็นคนถือศีลกินเจบาเพ็ญ
เพียรอยูใ่ นวัดหนึ่งเดือนกว่าแล้วไม่ซีดเซียวแต่กลับมีชีวิตชีวาสดใส
หรื อไม่ นี่ไม่ใช่จะทาให้คนสงสัยหรื อไร ข้าสวยมาตั้งแต่เกิด ต่อให้
ไม่แต่งอะไรพวกนี้กด็ ูดีเหมือนกัน เร็ ว ๆ ล้างให้หมด ล้างให้หมด”
ดวงตาของแม่นมมัว่ ที่ยนื สงบเงียบอยูข่ า้ ง ๆ ก็มีความชื่นชมแวบ
ผ่าน คุณหนูสี่ผนู ้ ้ ียงั คงเป็ นคนรอบคอบจริ ง ๆ
สาวใช้ท้ งั หมดต่างก็งงงัน “ต้องล้างออกจริ ง ๆ หรื อ คุณหนูแบบนี้ดู
ดีอย่างยิง่ ” แม้จะรู ้วา่ คุณหนูพดู ถูก แต่กต็ ดั ใจลบเครื่ องประทินโฉม
ที่ดูดีเช่นนี้ไม่ลง
ท่าทีของเสิ่ นเวยแข็งกร้าวอย่างถึงที่สุด “ต้องล้าง” วันนี้ขา้ จะไปสื บ
สถานการณ์ศตั รู ความงามที่มีลกั ษณะรุ กรานเช่นนี้ไม่ค่อยเหมาะสม
นัก ดอกไม้ขาวดอกเล็ก ๆ ที่อ่อนแอซีดเซียวจึงจะเป็ นตัวเลือกที่ดี
ที่สุดในวันนี้
เสิ่ นเวยล้างหน้าแล้วก็หนั กลับไปหน้ากระจกอีกครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้น
ก็สบสายตาของแม่นมมัว่ ใจเต้นอย่างอดไม่ได้ กล่าว “รบกวนแม่
นมมัว่ มาแต่งหน้าให้ขา้ หน่อย”
แม่นมมัว่ สวามิภกั ดิ์กบั นาง นางเองก็เห็นด้วย ระหว่างทางที่ไปอวิน๋
โจวนางพอใจอย่างยิง่ กับท่าทีของแม่นมมัว่ แต่ความสามารถด้านอื่น
ๆ ของแม่นมมัว่ นางยังอยากจะขุดค้นอีกหน่อย
“บ่าวน้อมรับคาสัง่ ” แม่นมมัว่ ไม่เล่นตัว ก้าวขึ้นไปหยิบแป้งละเอียด
ขึ้นมาเติมลงบนหน้าของเสิ่ นเวย
มือของแม่นมมัว่ เบายิง่ นัก แต่งหน้าก็เร็ วอย่างยิง่ เช่นกัน “คุณหนู
ท่านดูสิวา่ พอใจหรื อไม่” แม่นมมัว่ ถอยไปข้าง ๆ กล่าวด้วยความ
เคารพ
เสิ่ นเวยจ้องมองไปยังกระจก เห็นเพียงใบหน้าของเด็กสาวในกระจก
ลดความหนักแน่นลงไปหลายส่ วน มีความอ่อนโยนเพิ่มขึ้นหลาย
ส่ วน ไม่วา่ จะมองอย่างไรก็งามยิง่ นัก เมื่อตั้งใจมอง กลับมองเห็น
ความซีดเซียวบนใบหน้า มุมปากของเสิ่ นเวยยกขึ้นน้อย ๆ พอใจจน
ยิม้ ออกมา
ในความงามมีความซีดเซียวและอ่อนแอ แสดงผลลัพธ์ที่นางต้องการ
ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ “แม่นมมัว่ มีฝีมือนี่นา” เสิ่ นเวยกล่าว
ชม “เช่นนั้นก็รบกวนแม่นมมัว่ เลือกเครื่ องประดับพร้อมกันเลย”
“มิบงั อาจรับคาชมคุณหนูหรอกเจ้าค่ะ นี่ลว้ นแต่เป็ นงานส่ วนในของ
บ่าว” แม่นมมัว่ ไม่ประจบไม่วางก้าม ในใจเข้าใจดีวา่ นี่คือ
แบบทดสอบอีกอย่างหนึ่งของคุณหนู ดวงตาของนางกวาดผ่าน**
บเครื่ องประดับปราดหนึ่ง หยิบปิ่ นปักผมที่เลี่ยมดอกเหมยเล็ก ๆ
ใหญ่ ๆ สามดอกเสี ยบเข้าไประหว่างผมเสิ่ นเวย จากนั้นจึงเลือกหวี
สับที่งามประณี ตหนึ่งอัน พูร่ ะย้าไข่มุกห้าพวงที่หอ้ ยลงมาจากหวีสบั
กระจายอยูบ่ นผมงดงามที่แผ่อยูด่ า้ นหลังของเสิ่ นเวยอย่างเป็ น
ธรรมชาติ เปล่งประกายระยิบระยับ จับตาอย่างถึงที่สุด สุ ดท้ายนางก็
หยิบต่างหูไข่มุกทรงหยดน้ าหนึ่งคู่มาใส่ ลงบนหูของเสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยส่ ายหน้าเบา ๆ ต่างหูไข่มุกก็แกว่งไกวเบา ๆ เสิ่ นเวยกะพริ บ
ตา พอใจอย่างถึงที่สุด
“วันนี้แม่นมมัว่ หลีฮวา เถาจือตามข้าไปแล้วกัน” เสิ่ นเวยเรี ยกชื่อ
กล่าว “เห็นปากน้อย ๆ ที่เบ้ลงของเถาฮวาก็อดใจเต้นไม่ได้ แก้คา
กล่าว “หลีฮวา เจ้าอยูท่ ี่นี่ ให้เถาฮวาไปแล้วกัน” วันนี้นางไปแสดง
ท่าทีอ่อนข้อ พาเถาฮวาเด็กโง่ผนู ้ ้ ีไปด้วยไม่แน่วา่ อาจจะมีผลสาเร็ จที่
คาดไม่ถึงก็ได้
เถาฮวาได้ยนิ ว่าคุณหนูยอมพานางไปด้วย ก็แย้มยิม้ อย่างดีใจทันที
หลีฮวาถูกเปลี่ยนตัวก็ไม่ผดิ หวัง เพราะนางรู ้วา่ คุณหนูจดั การเช่นนี้
จะต้องมีเหตุผลของคุณหนูแน่นอน ช่วงเวลาที่รับใช้อยูข่ า้ งกาย
คุณหนูยงิ่ นานก็ยงิ่ เข้าใจ ไม่ตอ้ งแย่งความรัก ไม่จาเป็ นต้องแย่ง
ความรัก ขอเพียงแค่ทาเรื่ องทุกเรื่ องที่คุณหนูสงั่ ให้ดี เชื่อฟังคุณหนู
สายตาของคุณหนูน้ นั ก็จะมองเห็นเจ้า
“ไม่ใช่บอกว่าแม่นมผูน้ ้ นั ประจากายพระชายาจิ้นอ๋ องมาถึงแล้วหรื อ
ไปเถอะ อย่าให้นางรอนานแล้วบอกว่าจวนจงอู่โหวของเราไม่มี
มารยาท” เสิ่ นเวยยกย่างก้าว เดินไปข้างนอกอย่างสง่าผ่าเผย
“ท่านย่า ท่านป้าสะใภ้ใหญ่” เสิ่ นเวยทาความเคารพอย่างสุ ภาพ
นายหญิงผูเ้ ฒ่ามองประเมิณเสิ่ นเวยปราดหนึ่ง เห็นว่าไม่ได้แต่งหน้า
ไม่เหมาะสมอะไร บนใบหน้าก็มีรอยยิม้ จาง ๆ ชี้สตรี แปลกหน้าผู ้
นั้นแล้วแนะนา “เวยเอ๋ อร์ นี่คือแม่นมซือประจากายพระชายาจิ้
นอ๋ อง”
เสิ่ นเวยยิม้ บาง ๆ เล็กน้อย โค้งตัวทาความเคารพแม่นมซือกึ่งหนึ่ง
“อรุ ณสวัสดิ์แม่นมซือ” เสี ยงไพเราะเสนาะหูราวกับลาธารที่ไหล
ผ่านระหว่างภูเขานั้น
แม่นมซือไหนเลยจะกล้ารับการคารวะจากเสิ่ นเวย รี บหลบทันที
จากนั้นจึงเคารพกลับ กล่าวด้วยความประหลาดใจ “มิกล้า มิกล้า
บ่าวไหนเลยจะกล้ารับการคานับจากคุณหนู”
นายหญิงผูเ้ ฒ่ากล่าว “นางเป็ นเด็ก เจ้าเป็ นคนเก่าคนแก่ที่มี
ความสามารถข้างกายพระชายาจิ้นอ๋ อง รับการคานับกึ่งหนึ่งของนาง
ก็เป็ นสิ่ งสมควร”
แม่นมซือยังคงโบกมือ “มิกล้า มิกล้า” ทว่าสายตากลับมองประเมิณ
คุณหนูสี่ที่เลื่องชื่อผูน้ ้ ีตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ท่าทีสง่างามผ่าเผย
หน้าตาดัง่ ภาพวาด ดูดีจริ ง ๆ มิน่าเล่าคุณชายใหญ่ที่เย็นชาผูน้ ้ นั ใน
จวนถึงได้ชอบใจ
“สายแล้ว พระชายาจิ้นอ๋ องในจวนยังรอคุณหนูสี่อยู่ บ่าวขอตัวก่อน”
แม่นมซือกล่าวอย่างจริ งใจกับนายหญิงผูเ้ ฒ่าและสวี่ซื่อ
นายหญิงผูเ้ ฒ่าพยักหน้าช้า ๆ “ไปเถอะ เวยเอ๋ อร์ตามแม่นมซือไป
ถึงจวนจิ้นอ๋ องแล้วก็อย่าได้ซุกซน”
“เจ้าค่ะ ข้าจะปฏิบตั ิตามคาสัง่ สอนของท่านย่า” เสิ่ นเวยคานับหนึ่ง
ครา แล้วจึงหันหลังจากไป ท่านป้าสะใภ้ใหญ่สวี่ซื่อจับมือของนาง
ไปส่ งนางถึงประตูใหญ่ตลอดทาง
รถม้าของจวนจิ้นอ๋ องหรู หราอย่างถึงที่สุด ไม่รู้เหมือนกันว่าข้างใน
จะสบายหรื อไม่
แม่นมซือเปิ ดม่านอย่างกระตือรื อร้น ทาท่าเชิญเสิ่ นเวย “คุณหนูสี่
เชิญขึ้นรถ”
เสิ่ นเวยกล่าวลาบากแล้วคราหนึ่ง จากนั้นก็ข้ ึนรถม้าภายใต้การพยุง
ของเถาจือเถาฮวา แม่นมซือเองก็ตามขึ้นไป แม่นมมัว่ ข้าง ๆ พูด
“ท่านพี่ซือ คงไม่ถือสานัง่ เบียดกับน้องในรถหรอกกระมัง”
แม่นมซือเพิง่ จะสังเกตเห็นแม่นมมัว่ ตกใจในใจอย่างอดไม่ได้ แม่
นมมัว่ เคยเป็ นแม่นมในวังสมัยฮ่องเต้องค์ก่อน นางเป็ นแม่นมที่มี
เกียรติขา้ งกายพระชายาจิ้นอ๋ อง ย่อมต้องเคยเห็นแม่นมมัว่ เพียงแต่
ไม่คิดว่าตอนนี้แม่นมมัว่ ผูน้ ้ ีจะอยูป่ ระจากายคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นแล้ว
แม่นมซือย่อมปฏิเสธไม่ได้ ทาได้เพียงขึ้นรถคันหลังกับแม่นมมัว่
เพียงแต่ตลอดทางนางดูเหมือนจิตใจไม่อยูก่ บั เนื้อกับตัวเล็กน้อย
ตอนที่ 209-1 ปะทะพระชายาจิน้ อ๋องครั้งแรก
เมื่อลงจากรถม้าหน้าประตูใหญ่จวนจิ้นอ๋ อง ก็ข้ ึนเกี้ยวเล็กหนึ่งตัว
แน่นอนว่านี่คือสิ ทธิพิเศษที่เสิ่ นเวยได้รับเพียงคนเดียว คนทั้งสามที่
รับใช้ขา้ งกายนางรวมถึงแม่นมซือทาได้เพียงเดินอยูข่ า้ ง ๆ เกี้ยว
เดินไปตลอดทางจนกระทัง่ ถึงประตูกลางเกี้ยวเล็กจึงหยุดลง มีสาว
ใช้ใหญ่สวมชุดสี ฟ้าอ่อนรออยูต่ รงนี้แล้ว ทาความเคารพให้เสิ่ นเวย
ยิม้ ก่อนเอ่ยปาก “คารวะคุณหนูสี่ตระกูลเสิ่ น ท่านมาเสี ยที พระชายา
ให้บ่าววิ่งมาแปดรอบแล้ว ท่านก็ยงั ไม่มา พระชายาแทบจะออกมา
รอท่านเองแล้ว”
นี่หมายความว่าอย่างไร ให้ความสาคัญแก่นางหรื อว่านางวางมาดทา
ให้ผใู ้ หญ่รอนาน ความคิดนี้อยูใ่ นใจเสิ่ นเวยเพียงชัว่ แวบหนึ่ง
จากนั้นนางก็ตดั สิ นอย่างมีความสุ ขมากว่าพระชายาหมายความแบบ
แรก หากไม่ได้เห็นความสาคัญของนางก็คงจะไม่รับนางเข้าจวนมา
สนทนามิใช่หรื อ
ด้วยเหตุน้ ีบนใบหน้าเสิ่ นเวยจึงมีความประหลาดใจที่ได้รับความ
โปรดปรานหลายส่ วน “พระชายาดีกบั อาเวยจริ ง ๆ ” เห็นชัด ๆ ว่า
นางตื่นแต่เช้าตรู่ มาทรมานตัวเอง ไม่สายแม้แต่ครึ่ งเค่อ ทว่าพระ
ชายากลับใช้คนวิง่ มารับนางรอบที่แปดแล้ว แสดงว่าร้อนใจอยาก
พบนางอย่างยิง่ ! คนที่ไม่รู้ ยังคิดว่าพวกนางเป็ นแม่ลูกที่ไม่ได้พบ
หน้ากับหลายปี
รอยยิม้ บนใบหน้าหวาเยียนอึกอักเล็กน้อย หลังจากนั้นก็กลับเป็ น
ปกติ “คุณหนูสี่ตระกูลเสิ่ นรี บเข้าไปข้างในเถิดเจ้าค่ะ” นางหา
ช่องว่างส่งสายตาให้แม่นมซือ คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีไม่เข้าใจจริ ง ๆ
หรื อว่าตั้งใจกันแน่
แม่นมซือเหลือบมองนางปราดหนึ่ง แต่กลับไม่ได้บอกเป็ นนัยใด ๆ
ทาให้หวาเยียนไม่มีความมัน่ ใจเลยแม้แต่นิดเดียว
เสิ่ นเวยทาความเคารพอย่างสง่างาม เรื อนร่ างยืดตรง ฝี เท้าอ่อนช้อย
ทาให้คนไม่เห็นจุดบกพร่ องเลยแม้แต่นอ้ ย หวาเยียนเห็นท่าที ในใจ
ก็รู้สึกประหลาดใจ ไม่ใช่วา่ กันว่าคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีเติบโตใน
ชนบทหรอกหรื อ ทว่าดูไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว! ดูท่าแล้วข่าวลือ
จะเชื่อไม่ได้เสมอไป ความเคารพบนบนใบหน้าหวาเยียนเพิ่มขึ้น
สองส่ วน
เข้าไปในลานบ้านของพระชายาจิ้นอ๋ องแล้ว สายตาของเสิ่ นเวยก็
ยังคงไม่วอกแวก หากอยากมองทิวทัศน์ภายหลังก็ยงั มีโอกาสอีก
มาก แค่เวลาสั้น ๆ นี้ไม่เป็ นไรหรอก
“ในที่สุดก็มาแล้ว บ่าวคารวะคุณหนูสี่ตระกูลเสิ่ น เชิญเข้ามา คอพระ
ชายาของพวกเรายืดยาวหมดแล้ว” สาวใช้ใหญ่ที่ตากลมโตเหมือน
ผลซิ่งผูห้ นึ่งหน้าประตูเปิ ดม่านขึ้นพลาง คานับเสิ่ นเวยไปพลาง ดู
จากความสบาย ๆ ในคาพูดของนางก็รู้แล้วว่าได้รับความโปรด
ปรานจากพระชายาจิ้นอ๋ อง
เสิ่ นเวยก้าวเข้าไปช้า ๆ แวบแรกก็เห็นสตรี สูงศักดิ์ที่นงั่ ตัวตรงอยู่
บนที่นงั่ เจ้าภาพ สวมชุดสี เขียวไข่กาทอลายอย่างกลมกลืน ทั้งศีรษะ
โอบล้อมไปด้วยมุกหยก บนใบหน้าที่งดงามก็แต่งหน้าได้อย่าง
เหมาะสมพอดี ผิวพรรณขาวกระจ่าง หางตาไม่มีแม้แต่ริ้วรอย ดูแล้ว
น่าจะอายุประมาณสามสิ บ มุมปากนางอมยิม้ ในความสุ ภาพสู งส่ ง
ยังมีความเป็ นมิตรอีกหลายส่ วน แตกต่างจากท่าทีสูงส่ งเย็นชาใน
ตอนที่มามอบสิ นสอดทองหมั้นที่จวนโหวครั้งก่อนอย่างสิ้ นเชิง!
“คุณหนูสี่มาแล้วหรื อ ครั้งก่อนเห็นไม่ชดั วันนี้เห็นแล้วช่างเป็ น
หญิงงามจริ ง ๆ ข้าเห็นแล้วก็รู้สึกชอบใจ” พระชายาจิ้นอ๋ องแย่งพูด
ขึ้นก่อน สายตาที่มองเสิ่ นเวยอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด เสมือนกับมอง
บุตรสาวแท้ ๆ ของตนเอง
“ขอบพระคุณพระชายาที่ชื่นชมเพคะ ผูน้ อ้ ยมิกล้า” เสิ่ นเวยรี บคานับ
“เสิ่ นซื่ออาเวยถวายความเคารพพระชายาเพคะ” กระโปรงไม่ขยับ
ปิ่ นไม่ส่าย เอวบางขยับเบา ๆ ประหนึ่งบุปผางามท่ามกลางสายลม
ฤดูใบไม้ผลิ ต้องตาต้องใจยิง่ นัก
ในดวงตาพระชายาจิ้นอ๋ องมีความชื่นชมแวบผ่าน ปากก็กล่าวซ้ า ๆ
“ลุกขึ้นเถิด ลุกขึ้นเถิด รี บลุกขึ้น คุณหนูสี่จะสุ ภาพกับข้าไปไย มา
ที่นี่แล้วก็ทาตัวให้เหมือนอยูบ่ า้ นตัวเองเถิด” นางมองเสิ่ นเวยกล่าว
ด้วยความหมายลึกซึ้ง
เสิ่ นเวยเพียงแค่ทาเป็ นฟังคาหยอกล้อในคาพูดนางไม่ออก เม้มปาก
ยิม้ อย่างเหนียมอาย “ขอบพระคุณพระชายาที่เมตตา ผูน้ อ้ ยนาม
ว่าเวย พระชายาเรี ยกผูน้ อ้ ยว่าอาเวยก็ได้เพคะ”
“อาเวย ชื่อนี้ดีจริ ง ๆ ! ชื่อดี คนเองก็งาม มิน่าเล่าคุณชายใหญ่ของ
พวกเราถึงอยากรี บแต่งกลับบ้าน” พระชายาจิ้นอ๋ องเอ่ยชมอีกครั้ง
แต่กลับไม่เอ่ยให้เสิ่ นเวยนัง่ ลงสนทนาเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่รู้
เหมือนกันว่าดีใจจนลืมหรื อว่าตั้งใจ
เสิ่ นเวยเองก็ไม่รีบไม่ร้อน ยืนอยูใ่ นห้องโถงอย่างอ่อนหวานเช่นนี้
สบายอกสบายใจ ราวกับอยูใ่ นห้องของตัวเอง “ก่อนมาอาเวยยังพะ
ว้าพะวง กลัวว่าตัวเองจะไม่รู้ประสาทาให้พระชายาไม่พอใจ ตอนนี้
เห็นพระชายาใจกว้างเมตตาเพียงนี้ จิตใจของอาเวยก็วางลงได้แล้ว”
การพูดต่อหน้าคนเสิ่ นเวยก็นบั ได้วา่ พูดเป็ น นึกถึงปี นั้นที่นาง
ควบคุมและรวบรวมอานาจใหญ่มกั จะต้องคบค้าสมาคมกับพวกเสื อ
สิ งห์กระทิงแรด ฝึ กฝนเอาไว้นานแล้ว
“ดูสิเด็กคนนี้ซื่อสัตย์ยงิ่ นัก! ข้าน่ะชอบคนนิสยั ตรงไปตรงมา ชอบ
แม่นางที่จริ งใจเช่นอาเวยที่สุด มีอะไรก็พดู ไม่ตอ้ งอ้อมไปอ้อมมา
ทาให้คนจับต้นชนปลายไม่ถูก พวกเราสองคนเพิ่งจะทาความรู ้จกั
ภายหลังรู ้จกั กันนานเข้าอาเวยก็จะรู ้วา่ ข้าเป็ นคนชอบพูดที่สุด” พระ
ชายาจิ้นอ๋ องหยุดครู่ หนึ่งแล้วจึงกล่าวต่อ “เจ้ามาจวนอ๋ องเป็ นครั้ง
แรก กาไลหยกมันแพะอันนี้ขา้ ใส่ มาหลายสิ บปี แล้ว วันนี้กใ็ ห้อาเวย
เอาไปเล่นแล้วกัน”
เสิ่ นเวยโบกมือถี่ ๆ “อาเวยจะกล้าแย่งของรักของพระชายาได้
อย่างไร พระชายาเพียงแค่เลือกปิ่ นแหวนธรรมดานัน่ มามอบให้
อาเวยก็พอแล้ว”
พระชายาจิ้นอ๋ องแสร้งปั้นหน้าขรึ มกล่าว “ผูอ้ าวุโสให้ของอย่าได้
ปฏิเสธ อาเวยถูกชะตาข้านัก รี บมารับไปเถิด”
เสิ่ นเวยปฏิเสธซ้ าแล้วซ้ าเล่าจึงทาท่าทีซาบซึ้งยืน่ มือทั้งคู่ออกมารับ
“อาเวยขอบพระคุณของขวัญของพระชายาเพคะ” คานับอย่างตั้งใจ
จริ ง จากนั้นจึงกล่าว “พระชายาดีกบั อาเวยจริ ง ๆ !” รับแล้วก็นา
กาไลมาสวมลงบนข้อมือตนด้วยความดีใจ ทั้งยังยกให้พระชายาดู
หัวเราะแหะ ๆ ราวกับเด็กที่ได้ของล้ าค่า
บนใบหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องจึงปรากฎรอยยิม้ “นี่สิถึงจะเป็ นเด็กดี”
จากนั้นก็ก่ายหน้าผากคล้ายนึกอะไรขึ้นได้กล่าว “ดูขา้ สิ เอาแต่ดีใจ
จนลืมเชิญอาเวยนัง่ ลงคุย เร็ ว หวาเยียน เอาเก้าอี้มาให้คุณหนูสี่”
จากนั้นก็กล่าวตาหนิแม่นมซือและคนอื่น ๆ “พวกเจ้าแต่ละคนก็
เหมือนกัน ข้าลืมแล้ว เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่เตือนข้าสักคา” แม่นมซือ
และคนอื่น ๆ ย่อมขอโทษไม่หยุดหย่อน
เสิ่ นเวยเพียงแค่ยมิ้ บาง ๆ ไม่พดู มองพระชายาจิ้นอ๋ องแสดงละคร
อยูต่ รงนั้นเงียบ ๆ นางตอบสนองเช่นนี้ทาให้พระชายาจิ้นอ๋ องเกือบ
เผยพิรุธ คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีเป็ นคนโง่หรื อไร ไม่ใช่วา่ นางควรพูด
ขอความเมตตาอะไรสักหน่อยหรื อ เอาแต่ยมิ้ คงไม่ใช่วา่ …
พระชายาจิ้นอ๋ องตาลุกวาว รู ้สึกว่าตนคล้ายหาข้อเท็จจริ งได้แล้ว ก็
ใช่ คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีเติบโตในชนบท หน้าตาได้มาแต่กาเนิด แต่
การอบรมกฎมารยาทกลับหลอกไม่ได้ ต่อให้นางจะฉลาดกว่านี้กไ็ ม่
อาจถอดรู ปเปลี่ยนร่ างได้ในระยะเวลาอันสั้น คาดว่าคงจะเลียนแบบ
การวางท่าทางเพื่อข่มคนเท่านั้น ไม่รู้วา่ จะตอบสนองอย่างไรก็แค่ยมิ้
ไว้มิใช่หรื อ
เมื่อคิดเช่นนี้ รอยยิม้ บนใบหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องก็เด่นชัดขึ้นหลาย
ส่ วน เหอะ ได้รับพระราชทานเป็ นจวิน้ จู่แล้วอย่างไร ไม่ใช่เป็ นหญิง
งามสมองขี้เลื่อยหรอกหรื อ เหมาะสมกับคนขี้โรคผูน้ ้ นั พอดี
ตอนที่พระชายาจิ้นอ๋ องเห็นเถาฮวากลืนน้ าลายกับขนมบนโต๊ะก็ยงิ่
มัน่ ใจว่าเสิ่ นเวยเป็ นคนสมองขี้เลื่อย ดูสิ แม้แต่สาวใช้ขา้ งกายยังโง่
เขลา ผูเ้ ป็ นนายจะฉลาดกว่าสักเท่าไร
เมื่อมัน่ ใจเช่นนี้ ท่าทีของพระชายาจิ้นอ๋ องก็ยงิ่ สบายใจ ถามเสิ่ นเวย
ว่าชอบอะไร วันปกติทาอะไร เสิ่ นเวยล้วนแต่ตอบตามคาตอบ
มาตรฐาน อีกทั้งยังเผยความจริ งด้วยความเขินอายอย่างยิง่ แม้วา่ จะ
ชอบงานเย็บปักถักร้อยมาก แต่ฝีมือกลับธรรมดา ความหมายของ
เสิ่ นเวยก็คือ ข้าบอกให้เจ้ารู ้ล่วงหน้า ในภายหน้าหากเจ้าให้ขา้ แสดง
ความกตัญญูขา้ ก็จะหลอกได้
ทว่าพระชายาจิ้นอ๋ องกลับเข้าใจผิดแล้ว คิดว่าท่าทีสนิทสนมของนาง
ชนะความเชื่อใจของเสิ่ นเวย มิเช่นนั้นจะเผยจุดอ่อนของตนได้
อย่างไร “จะเป็ นอะไรไป คนอย่างพวกเราไหนเลยจะต้องลงมือเย็บ
เสื้ อผ้าด้วยตัวเอง อาเวยไม่ตอ้ งกลัว ไม่มีใครตาหนิเจ้าเรื่ องนี้หรอก”
นางยังปลอบขวัญเสิ่ นเวยหนึ่งครา พูดจนใบหน้าของเสิ่ นเวยลอยขึ้น
ไปบนชั้นเมฆ ดูดีอย่างถึงที่สุด
พระชายาจิ้นอ๋ องมองเสิ่ นเวยที่กม้ หน้าเล็กน้อยนัง่ นิ่งอยูต่ รงนั้น ยิง่
มองก็ยงิ่ มีความสุ ข งดงามก็ดี งดงามจึงจะสามารถมัดใจคนชัว่ ที่มี
นิสยั เย็นชาผูน้ ้ นั ได้ อ่อนข้อก็ดี อ่อนข้อจึงจะเชื่อฟังนาง สมองขี้เลื่อย
ก็ยงิ่ ดี เช่นนั้นจึงจะครอบงาง่ายมิใช่หรื อ
ด้วยเหตุน้ ีคาพูดของพระชายาจิ้นอ๋ องยิง่ พูดจึงยิง่ เผยธาตุแท้ “จุ ๆ ๆ
คนดีเช่นอาเวยแม้แต่ขา้ ที่เป็ นสตรี เห็นแล้วก็ยงั รัก มิน่าเล่าคุณชาย
ใหญ่ของพวกเราจึงไปขอให้ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้ได้” นาง
ปิ ดปากหัวเราะ ทว่าดวงตาทั้งคู่กลับจ้องมองเสิ่ นเวยนิ่ง นางรู ้สึกมา
โดยตลอดว่าการสมรสพระราชทานนี้มีที่มาแปลกประหลาด
ดวงตาของเสิ่ นเวยกะพริ บวาบเล็กน้อย นี่จะบอกว่าสวีโย่วคนโรค
จิตผูน้ ้ นั เจ้าชู ้ หรื อว่าจะดูถูกที่นางมีความสัมพันธ์ลบั ๆ กับชายอื่น
เสิ่ นเวยไม่แม้แต่จะคิดก็โยนความผิดไปที่สวีโย่ว ในความเป็ นจริ งก็
เป็ นเช่นนี้ เดิมการสมรสพระราชทานครั้งนี้กเ็ ป็ นฝี มือของสวีโย่วคน
โรคจิตผูน้ ้ นั
ด้วยเหตุน้ ีเสิ่ นเวยจึงก้มหน้าอย่างเขินอาย กล่าวเสี ยงเบา “ก่อนหน้านี้
ได้มีวาสนาพบหน้าคุณชายใหญ่ที่จวนองค์หญิงใหญ่ ตอนนั้น ตอน
นั้นอาเวยเพิ่งจะกลับเมืองหลวง ไม่รู้วา่ นัน่ คือคุณชายใหญ่ ยังคงเป็ น
ฝ่ าบาทที่ออกพระราชโองการพระราชทานสมรส อาเวยจึงได้รู้วา่
นัน่ คือคุณชายใหญ่”
ที่แท้แล้วก็เป็ นเช่นนี้! พระชายาจิ้นอ๋ องพยักหน้าเงียบ ๆ ในใจ แรก
พบก็ขอพระราชทานสมรส ที่แท้แล้วคนชัว่ ผูน้ ้ นั ก็ชอบคนงาม
เช่นนี้! นางใจเต้น เรี ยกหวาเยียนเข้ามากาชับสองสามประโยค หวา
เยียนพยักหน้าถอยออกไป ตอนที่ถอยออกไปคล้ายยังมองเสิ่ นเวย
ปราดหนึ่ง
เสิ่ นเวยเดาว่านี่คงเกี่ยวข้องกับนางใช่หรื อไม่ แต่สีหน้ากลับเรี ยบเฉย
ก็แค่ทหารมาใช้ขนุ พลต้าน น้ ามาใช้ดินต้าน พลิกแพลงตาม
สถานการณ์กเ็ ท่านั้นเอง
พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าวอธิบายกันเสิ่ นเวย “บ้านฝั่งมารดาข้ามี
หลานสาวคนหนึ่งพักอยูใ่ นจวนชัว่ คราว พวกเจ้าอายุรุ่ นราวคราว
เดียวกัน น่าจะเข้ากันได้ดี ข้าเรี ยกนางมาให้พวกเจ้าได้พบหน้ากัน
เสี ยหน่อย”
เสิ่ นเวยพูดในใจว่าคงไม่ใช่แค่พบหน้ากันหรอกกระมัง จากนั้นก็ได้
ยินเสี ยงของพระชายาจิ้นอ๋ องดังขึ้นอีกครั้ง “จะว่าไปนี่กเ็ ป็ น
ความเห็นแก่ตวั เล็กน้อยของข้า คุณชายใหญ่ของพวกเราสุ ขภาพไม่ดี
ตั้งแต่เล็ก ซ้ าเขายังขึ้นเขาไปพักฟื้ นอยูบ่ ่อย ๆ แม้วา่ พวกเราจะเป็ น
ห่วงแต่กลับเหนือบ่ากว่าแรง หลานสาวฝั่งแม่ขา้ คนนี้นิสยั อ่อนโยน
ละเอียดอ่อนที่สุด ข้าคิดว่าจะให้แต่งนางให้เป็ นอนุภรรยาของ
คุณชายใหญ่ ติดตามข้างกายเขาปรนนิบตั ิเขา ก่อนหน้านี้ไม่กี่วนั เคย
เอ่ยปากไป แต่คุณชายใหญ่สวีกงั วลว่าอาเวยยังไม่เข้าเรื อน จึงไม่
ยินยอมอย่างยิง่ ”
ดวงตาของนางจ้องมองเสิ่ นเวย “ตระกูลเช่นพวกเรา สามภรรยาสี่ อนุ
ก็เป็ นเรื่ องที่เลี่ยงไม่ได้ ฮุ่ยเอ๋ อร์นิสยั ดี ไม่ใช่คนดื้อรั้นเช่นนั้น ไม่มี
ทางทะเลาะกับเจ้าแน่นอน อีกทั้งข้างกายคุณชายใหญ่มีคนเพิ่มขึ้นมา
ก็จะได้ช่วยเจ้าได้มิใช่หรื อ อาเวยคิดว่าอย่างไร”
นี่จะบังคับให้ตนหาจังหวะแต่งอนุภรรยาให้สวีโย่วคนโรคจิตผูน้ ้ นั
หรื อ นางยังอึดอัดที่เหตุใดพระชายาจิ้นอ๋ องถึงได้สุภาพอ่อนโยนกับ
นางเช่นนี้ ที่แท้แล้วก็รอโอกาสนี้อยู่
ช่วยนางหรื อ นางพูดได้หรื อว่าไม่ตอ้ งการความช่วยเหลือ สวีโย่
วนะสวีโย่ว เจ้ายังไม่แต่งงาน แม่เลี้ยงเจ้าก็ยนื่ มือเข้ามาจะแต่ง
อนุภรรยาให้เจ้าแล้ว เสน่ห์แรงจริ ง ๆ ! ในใจเสิ่ นเวยเคียดแค้นจนกัด
ฟันกรอด หากว่าสวีโย่วอยูต่ รงหน้า นางจะต้องถีบเขาหลายครั้ง
แน่นอน
ในสมองเสิ่ นเวยมีความคิดหมื่นพันแวบผ่าน อันที่จริ งจากมุมมอง
คนนอกก็เป็ นเพียงแค่ชวั่ พริ บตา นางเพิ่งจะเอ่ยปาก ก็ได้ยนิ เถาฮวา
ข้างหลังตะโกนเสี ยงดัง “ไม่ได้!”
“บังอาจนัก นายพูดอยูบ่ ่าวเล็ก ๆ เช่นเจ้าพูดแทรกได้อย่างไร ลาก
ไปตบปากเสี ยง” แม่นมซือสี หน้าเคร่ งขรึ มตะคอกด่า
เสิ่ นเวยรี บลุกขึ้นขอความเมตตา “พระชายาโปรดระงับโทสะ สาวใช้
ผูน้ ้ ีของอาเวยไม่ค่อยปราดเปรื่ องนัก นางเติบโตมาพร้อมกับอาเวยที่
บ้านเก่า ใจร้อนชัว่ ขณะ หวังว่าพระชายาจะให้อภัยนางครั้งนี้”
พระชายาจิ้นอ๋ องมองออกว่าเถาฮวาเป็ นคนโง่ท่ ึม คิดเล็กคิดน้อยกับ
คนโง่ไม่ใช่เป็ นการลดตัวลงหรอกหรื อ นางไม่ได้โกรธ ห้ามแม่
นมซือ ถามเถาฮวาด้วยความสนใจใคร่ รู้ “เหตุใดถึงไม่ได้เล่า”
เสิ่ นเวยปาดเหงื่อแทนเถาฮวา นางเองก็ไม่รู้วา่ เถาฮวาที่แต่ไหนแต่ไร
ในสายตามีแต่ของกินผูน้ ้ ีวนั นี้เป็ นบ้าอะไรขึ้นมา
จากนั้นก็ได้ยนิ เถาฮวากล่าว “ไม่ได้กค็ ือไม่ได้ คุณชายใหญ่หา้ มแต่ง
อนุภรรยา มารดาของคุณหนูพวกเราก็ถูกอนุภรรยาทาให้โกรธจน
ตาย คุณหนูดีต่อเถาฮวา เถาฮวาไม่อาจปล่อยให้คุณหนูถูกคนทาให้
โกรธจนตายได้ ใครเป็ นอนุภรรยาเถาฮวาจะตีคนผูน้ ้ นั ให้ตาย แรง
เถาฮวาเยอะ”
นางกล่าวอย่างจริ งจัง มิหนาซ้ ายังกลัวว่าพระชายาจะไม่เชื่อ ดวงตา
เหลือบมอง วิ่งตรงเข้าไปที่ฉากกั้น คาพูดห้ามปรามของเสิ่ นเวยยังอยู่
ในลาคอ นางก็ยกขาเหยียบยา่ ฉากกั้นที่มองดูแล้วราคาไม่นอ้ ยฉาก
นั้นจนแหลกละเอียด
เสิ่ นเวยเห็นสี หน้าพระชายาจิ้นอ๋ องไม่พอใจแล้ว บ่าวที่รับใช้ในห้อง
ต่างก็ปากอ้าตาค้าง ในใจแอบสบายใจ แต่สีหน้ากลับละอาย “พระ
ชายา เอ่อ…คือ…” นางร้อนใจจนดวงตาแดงก่า ตาหนิเถาฮวา “เถาฮ
วา ดูสิวา่ เจ้าทาอะไรลงไป ยังไม่รับคุกเข่าขอโทษพระชายาอีก”
เถาฮวากลับคุกเข่าลงอย่างเชื่อฟัง “พระชายา ขออภัยจริ ง ๆ เพคะ
เหยียบฉากกั้นของท่านพังหมดแล้ว จะให้ขา้ ชดใช้อนั ใหม่ให้ท่าน
หรื อไม่ ข้ามีเงินเดือน ทั้งหมดเก็บออมอยูท่ ี่คุณหนู น่าจะพอ”
ยังกล้าพูดอีก! พระชายาจิ้นอ๋ องแทบจะกระอักโลหิ ต ฉากกั้นอันนี้
เป็ นไม้จินซือหนาน (ไม้ไหมทอง) ราคากว่าหมื่นตาลึง เงินเดือนสาว
ใช้เช่นเจ้าจะชดใช้ได้หรื อไร
ตอนที่ 209-2 ปะทะพระชายาจิน้ อ๋องครั้งแรก
เถาฮวาไม่เข้าใจ แต่เสิ่ นเวยกลับรู ้มูลค่าของฉากกั้นอันนี้ นางหน้า
แดงกล่าว “พระชายา เป็ นอาเวยที่สอนบ่าวไม่ดี ฉากกั้นนี้อาเวยจะ
หามาชดใช้ให้ พระชายาบอกราคามา อาเวยกลับจวนแล้วจะส่ งเงิน
มาให้ ขอเพียงพระชายาอย่าได้โกรธอาเวยเลย” เสี ยงยิง่ พูดก็ยงิ่ ต่า
หน้ายิง่ ก้มก็ยงิ่ ต่า ท่าทางน่าสงสาร
พระชายาจิ้นอ๋ องจะทาอะไรได้ นางรับเงินจากว่าที่ลูกสะใภ้ได้หรื อ
ข่าวดังออกไปจะไม่ถูกคนหัวเราะแย่หรื อ ยิง่ ไปกว่านั้นนี่กไ็ ม่ใช่
ความผิดของเสิ่ นเวย นางเป็ นถึงพระชายาผูย้ งิ่ ใหญ่ จะไปหาเรื่ องเด็ก
โง่ ๆ คนหนึ่งได้อย่างไร ต่อให้ตีนางจนตายฉากกั้นก็เอากลับมา
ไม่ได้ ไม่สู้ใจกว้างไม่คิดเล็กคิดน้อยแสดงความอ่อนโยนเมตตาของ
นางดีกว่า
ด้วยเหตุน้ ีนางจึงเก็บความหงุดหงิดในใจลง กล่าวเสี ยงเรี ยบ “เด็กดี
ลุกขึ้นเถิด คงตกใจแย่เลยสิ นะ เรื่ องนี้ไม่โทษเจ้าหรอก! เพียงแค่ของ
นอกกาย พังแล้วก็พงั ไป บอกว่าจะชดใช้กด็ ูเป็ นคนนอกเกินไป
แล้ว” นางเปลี่ยนเรื่ องแล้วกล่าว “แต่วา่ สาวใช้คนนี้ของเจ้ากลับต้อง
อบรมให้ดีจึงจะถูก!”
เสิ่ นเวยคล้ายยิง่ ละอายใจ มองพระชายาจิ้นอ๋ อง บนใบหน้าเล็ก ๆ
เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง “เพคะ เพคะ ขอบพระคุณพระชายาที่ไม่ถือ
โทษ ต่อไปนี้อาเวยจะต้องอบรมเถาฮวาให้ดี ไม่ให้นางออกมาง่าย ๆ

ทว่าคาพูดของเจ้าตัวเถาฮวายังพูดไม่จบ “พระชายา หลานสาวบ้าน
แม่ของท่านใช่แต่งไม่ออกจึงต้องแต่งเป็ นอนุภรรยาของคุณชายใหญ่
หรื อไม่ ในจวนพวกเรากลับมีตวั เลือกดี ๆ ไม่นอ้ ย เหมือนอย่างพี่
ใหญ่โอวหยาง พี่ใหญ่หู่โถว ยังมีอาจารย์ซู ท่านอย่ามองว่าบนหน้าพี่
ใหญ่โอวหยางมีแผลเป็ น เขามีกาลังมาก พอ ๆ กับเถาฮวาเลย แม้
อาจารย์ซูจะอายุมากเล็กน้อย แต่เขาก็มีความรู ้ ความรู ้มากมายอย่าง
ยิง่ …”
ตอนที่ซ่งจยาฮุ่ยเข้ามาก็ได้ยนิ เถาฮวาแนะนาบ้านสามีให้คนพอดี บน
ใบหน้านางมีไฟโกรธกระพริ บผ่าน อยากจะตบหน้าเถาฮวาออกไป
อย่างไรเสี ยนางก็เป็ นสตรี ตระกูลขุนนาง จะคู่ควรกับทาสรับใช้ได้
อย่างไร
สี หน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องก็ไม่ดีเช่นกัน เปรี ยบเทียบหลานสาวของ
นางกับบ่าวรับใช้นางจะยังมีเกียรติอยูไ่ ด้อย่างไร เพียงแต่เป็ นห่วง
เสิ่ นเวย นางจึงไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับคนโง่กเ็ ท่านั้นเอง
เสิ่ นเวยเองก็รู้วา่ ควรหยุดก่อนที่เรื่ องจะไปไกล รี บดึงเถาฮวาไปข้าง
หลัง แสร้งว่ากล่าว “หุบปาก พูดจาโง่ ๆ อะไร ดูสิวา่ กลับจวนแล้ว
ข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร” นางมองตาขวาง เถาฮวาก็ปิดปากสนิท
ทันที เสิ่ นเวยเห็นแล้วก็รีบส่ งสายตาให้นาง เถาฮวาก็เข้าใจทันที อ้อ
คุณหนูกาลังเล่นละครกับนาง
คุณหนูเคยสอนนางไว้ หากนางสร้างเรื่ องข้างนอก คนอื่นตามมา
ฟ้องร้องถึงบ้าน คุณหนูกจ็ ะทาเป็ นตาหนินางต่อหน้าคนนอก
กลับไปถึงจวนแล้วก็จะให้คนทาของอร่ อย ๆ ให้นางกิน คุณหนู
บอกว่า ตาหนินางเพียงแค่ทาให้คนนอกเห็น อันที่จริ งในใจคุณหนู
ยังคงชอบนางอยู่
เถาฮวาได้รับสัญญาณลับจากคุณหนู ก็ปิดปากอย่างดีใจทันที คิด
เงียบ ๆ ในใจว่ากลับจวนไปแล้วคุณหนูจะทาของอร่ อยอะไรให้นาง
กิน
ตอนที่ซ่งจยาฮุ่ยมาก็รู้เจตนาของท่านอาแล้ว นางทาความเคารพช้า ๆ
“หลานถวายความเคารพท่านอา” จากนั้นจึงหมุนตัวคานับเสิ่ นเวย
“คุณหนูสี่ตระกูลเสิ่ น”
พระชายาจิ้นอ๋ องโมโหกล่าว “เรี ยกคุณหนูสี่อะไรกัน เป็ นคนนอก
คนไกลไปได้ ฮุ่ยเอ๋ อร์เจ้าเรี ยกอาเวยว่าพี่สิ”
บนใบหน้าซ่งจยาฮุ่ยมีความดีใจแวบผ่าน คานับจากใจจริ งให้เสิ่ นเวย
“จยาฮุ่ยคารวะท่านพี่”
อะไรนะ นี่คือบังคับให้ตนยอมรับฐานะอนุภรรยาของซ่งจยาฮุ่ยหรื อ
จะเป็ นไปได้อย่างไร! เสิ่ นเวยเบี่ยงตัวหลบการคานับของซ่องจยาฮุ่ย
กล่าวเสี ยงเรี ยบ “คุณหนูซ่งสุ ภาพเกินไปแล้ว อาเวยอายุนอ้ ย ให้
คุณหนูซ่งเรี ยกท่านพี่ไม่ได้หรอก”
น่ารังเกียจจริ ง ๆ คิดจะเป็ นอนุภรรยาเจ้าก็พยายามเองสิ มาบีบ
บังคับผูห้ ญิงอ่อนแอเช่นข้าจะนับว่ามีความสามารถอะไร นางเคย
บอกแล้วว่าการสมรสครั้งนี้ไม่คุม้ ทุน ดูสิ ยังไม่ทนั แต่งเข้ามา ปั ญหา
ก็มาถึงที่แล้ว สวีโย่ว สวีโย่วเจ้าคนโรคจิตไปตายที่ไหนแล้ว เจ้ามานี่
ข้ารับปากว่าจะไม่ตีเจ้าตาย
ซ่งจยาฮุ่ยคานับได้ครึ่ งหนึ่ง ก็แข็งทื่ออยูต่ รงนั้น อึดอัดอย่างถึงที่สุด
“ทาไมเล่า อาเวยไม่เห็นด้วยหรื อ” รอยยิม้ บนใบหน้าพระชายาจิ้
นอ๋ องหายไปแล้ว
ทว่าเสิ่ นเวยกลับกล่าวอย่างจริ งจัง “ทูลพระชายา ไม่ใช่วา่ อาเวยไม่
ยินยอม แต่ผอู ้ าวุโสในตระกูลสัง่ สอนมาตั้งแต่เล็ก อยูใ่ นบ้านเชื่อฟัง
บิดา ออกเรื อนเชื่อฟังสามี อย่าว่าแต่อาเวยยังไม่ได้เข้าเรื อน ต่อให้
เข้าเรื อนแล้ว อาเวยก็ตอ้ งเชื่อฟังคุณชายใหญ่ หากคุณชายใหญ่
ยินยอม อาเวยย่อมต้องยินยอม คุณชายใหญ่ไม่ยนิ ยอม อาเวยย่อมไม่
กล้าตัดสิ นใจเองโดยพลการ”
ได้ยนิ คาพูดของเสิ่ นเวย สี หน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องก็ดีข้ ึนเล็กน้อย
กาลังจะโน้มน้าวต่อ ก็ได้ยนิ เสิ่ นเวยกล่าวขึ้นอีก “พระชายาถาม
เจตนาของอาเวยจริ ง ๆ อาเวยทาได้เพียงบอกให้พระชายาไปถาม
ความคิดเห็นของท่านพ่อ ท่านปู่ ในตระกูล หากพวกเขาเห็นด้วย
อาเวยย่อมไม่อาจคัดค้าน”
พระชายาจิ้นอ๋ องคล้ายถูกคนตบหน้าในชัว่ ขณะ บุตรสาวผูอ้ ื่นยังไม่
เข้าเรื อน นางก็วิ่งไปบอกผูอ้ าวุโสของสตรี ผนู ้ ้ นั ว่าขอแต่งอนุภรรยา
นี่ไม่ใช่การตบหน้าหรอกหรื อ นี่ไหนเลยจะเป็ นการผูกสัมพันธ์ ผูก
อริ น่ะสิ ไม่วา่ สมองนางยังดีอยู่ จะทาเรื่ องโง่เขลาเช่นนี้ได้อย่างไร
นางเพียงแค่เห็นเสิ่ นเวยอายุนอ้ ย หลอกง่าย อยากใช้คาพูดควบคุม
นางก็เท่านั้นเอง เรื่ องเช่นนี้นางไหนเลยจะกล้าไปพูดต่อหน้าผู ้
อาวุโสของคนอื่น หากนางกล้าเอ่ยปาก นายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวก็คง
จะเข้าวังคุกเข่าขอให้ฝ่าบาทถอนหมั้นทันที เจ้าหมายความว่า
อย่างไร บุตรสาวตระกูลข้ายังไม่ทนั เข้าบ้าน เจ้าก็ใจคดใจดาคิดจะ
ทาอะไร ทาให้จวนจงอู่โหวไม่พอใจ ก็เท่ากับทาให้ฝ่าบาทไม่พอใจ
มิใช่หรื อ
มือที่กาผ้าเช็ดหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องกาแน่น เค้นรอยยิม้ น้อย ๆ
ออกมา “เรื่ องเล็กเพียงนี้ไหนเลยจะต้องรบกวนนายท่านผูเ้ ฒ่าโหว
และใต้เท้าเสิ่ น หากอาเวยไม่ยนิ ยอมก็คิดเสี ยว่าข้าไม่เคยเอ่ยขึ้นมา
ก่อน ข้าเองก็เพียงแค่เห็นคุณชายใหญ่สุขภาพไม่ดี อาเวยลาบากอยู่
คนเดียว อยากหาผูช้ ่วยมาให้เจ้าก็เท่านั้นเอง อาเวยไม่ยนิ ยอมเช่นนั้น
ก็ช่างเถิด”
ไอหยา มาถึงตอนนี้แล้วยังคิดจะสาดน้ าสกปรกมาให้ขา้ อีกหรื อ
คุณชายใหญ่เพิ่งจะร่ างกายไม่ดีได้วนั สองวันหรื อไร เหตุใดตอนนี้
เจ้าเพิ่งคิดจะแต่งอนุภรรยาให้เขาเล่า เจ้าเห็นข้าไม่เข้าตาจึงอยาก
สร้างปัญหาให้ขา้ หรื อไร ยังมีผชู ้ ่วย เหตุใดลูกชายสองคนนั้นของเจ้า
ถึงไม่ตอ้ งการผูช้ ่วยบ้างเล่า
เหอะ เจ้าไม่ให้ขา้ มีความสุ ข เช่นนั้นเจ้าก็อย่าได้คิดจะสบายใจเลย
เสิ่ นเวยคล้ายจู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้ กล่าว “เมื่อวานท่านปู่ รู ้วา่ อาเวย
จะมาเข้าเฝ้าพระชายา ก็ต้ งั ใจเรี ยกอาเวยไปสัง่ สอนที่หอ้ งหนังสื อ
เที่ยวหนึ่ง ท่านปู่ เตือนอาเวยว่าต้องมีคุณธรรมรู ้จกั โอนอ่อนผ่อน
ตาม เคารพผูใ้ หญ่รักเด็ก อาเวยจาได้วา่ ท่านอ๋ องไม่มีอนุภรรยาใช่
หรื อไม่ พระชายาคนเดียวคงจะลาบากจริ ง ๆ อาเวยยินดีแสดงความ
กตัญญูแทนคุณชายใหญ่ อนุภรรยาผูน้ ้ ีให้ท่านอ๋ องแต่งก่อนเถิด”
พระชายาจิ้นอ๋ องได้ยนิ ดังนั้นก็แทบจะโมโหจนชี้หน้าด่าเสิ่ นเวย อา
หลานมีสามีคนเดียวกัน นี่ไม่ใช่ขดั หลักศีลธรรมหรอกหรื อ บน
ใบหน้าซ่งจยาฮุ่ยที่อยูข่ า้ ง ๆ ก็มีความอับอายแวบผ่าน “เจ้า เจ้า เจ้า
พูดเกินไปแล้ว”
เสิ่ นเวยไม่สนใจนางอย่างสิ้ นเชิง ราวกับเพิ่งจะตอบสนองกลับมาได้
ยิม้ ให้พระชายาจิ้นอ๋ องอย่างเคอะเขิน “ดูขา้ สิ ช่างโง่เขลา ท่านอ๋ อง
กับคุณหนูซ่งอายุห่างกันเป็ นรุ่ น กลับไม่ควรแต่งกับคุณหนูซ่ง เอ๋
คุณชายรองคุณชายสามก็ยงั ไม่มีอนุภรรยาทั้งคู่มิใช่หรื อ พวกเขา
กลับอยูใ่ นรุ่ นเดียวกันกับคุณหนูซ่ง จะแต่งงานก็ไม่เป็ นไร” เสิ่ นเวย
ตาเป็ นประกาย มองพระชายาจิ้นอ๋ องอย่างคาดหวัง “พระชายา บ้าน
ฝั่งมารดาของท่านยังมีหลานสาวอีกใช่หรื อไม่ คุณชายรองแต่งหนึ่ง
คน คุณชายสามแต่งหนึ่งคน จากนั้นค่อยแต่งให้คุณชายใหญ่อีกหนึ่ง
คน โห เท่านี้กม็ ีความสุ ขกันถ้วนหน้าแล้ว หากหลานสาวไม่พอก็ไม่
เป็ นไร คุณชายใหญ่สามารถถอยให้ได้ ใครให้คุณชายใหญ่เป็ นพี่คน
โตเล่า เป็ นพี่คนโตจะแย่งน้องชายทั้งหลายได้อย่างไร พระชายาท่าน
คิดเหมือนกันหรื อไม่”
นี่จะให้พระชายาจิ้นอ๋ องตอบอย่างไร จู่ ๆ หลานสาวบ้านฝั่งมารดาก็
ไม่มีค่าเพียงนี้ ทั้งหมดล้วนกลายเป็ นอนุภรรยาให้คนอื่น เช่นนั้น
พี่สะใภ้ฝั่งมารดานางจะไม่แค้นนางจนตายหรื อไร
ไม่ นางผิดแล้ว คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีไหนเลยจะเป็ นคนโง่ที่ครอบงา
ได้ เห็นชัด ๆ ว่าเป็ นคนที่ร้ายกาจ! แต่พระชายาจิ้นอ๋ องจ้องมอง
ใบหน้าของนางมองอยูเ่ นิ่นนานก็รู้สึกว่าไม่เหมือน เห็นใบหน้าเล็ก
ๆ ที่จริ งจังของนางกับแววตาที่คาดหวังจนมัน่ ใจได้ เห็นได้ชดั ว่าคิด
เช่นนั้นจริ ง ๆ อันที่จริ งเบื้องลึกในใจพระชายาจิ้นอ๋ องก็ไม่ยอมรับ
ว่าตนมองผิดไป เช่นนั้นก็ชดั เจนแล้วว่าคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีโง่
เกินไป โง่จนทาให้คนเจ็บใจ มิน่าเล่าถึงได้วา่ กันว่าคนฉลาดคบค้า
ง่าย แต่คนโง่กลับตรงกันข้าม เพราะว่าเจ้าไม่มีวนั รู ้วา่ วินาทีต่อไป
เขาจะทาอะไรออกมา
พระชายาจิ้นอ๋ องหมดแรงอย่างถึงที่สุด อุบายทั้งหมดที่มี แผนการ
ทั้งหมดในสมองกลับนาออกมาใช้ไม่ได้แม้แต่นิดเดียว กลับถูกเสิ่ น
เวยทาให้โมโหจนปวดหัว ส่ วนคนที่ทาให้โมโหก็ยงั ประคอง
ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ไร้เดียงสา คิดว่าตนพูดดีทาดี พระชายาจิ้นอ๋ องหา
ข้ออ้างออกไปอย่างรวดเร็ว นางยังโง่เขลาคิดจริ ง ๆ ว่าพระชายาจิ้
นอ๋ องไม่สบายตรงไหนอยากตามไปดูแล ถูกแม่นมซือและคนอื่น ๆ
โน้มน้าวอยูน่ านกว่าจะอยูน่ ิ่ง ๆ ได้
ในห้องเหลือเพียงเสิ่ นเวยกับซ่งจยาฮุ่ยเจ้านายสองคน ซ่งจยาฮุ่ยมอง
เสิ่ นเวย ในใจเหยียดหยัดอย่างถึงที่สุด เป็ นแค่เด็กสาวชนบท คาดไม่
ถึงว่าได้แต่งงานกับลูกผูพ้ ี่ใหญ่ ตนด้อยกว่านางตรงไหน! เป็ น
ภรรยาเอกไม่ได้ แม้แต่อนุภรรยาก็ยงั เป็ นไม่ได้ นี่จะให้นางยอมได้
อย่างไร
“ฟังว่าคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นเติบโตในชนบทหรื อ” ซ่งจยาฮุ่ยสี หน้าดูถูก
ปิ ดปากหัวเราะ ท่าทางเต็มไปด้วยเจตนาร้าย
เสิ่ นเวยพยักหน้าด้วยความเปิ ดเผยอย่างยิง่ กล่าวอย่างไร้กงั วล “ใช่
แล้ว! บ้านเก่าของจวนจงอู่โหวของข้าอยูท่ ี่หมู่บา้ นตระกูลเสิ่ น ข้า
สุ ขภาพไม่ค่อยดี ผูอ้ าวุโสในบ้านสงสาร จึงส่ งข้าไปรักษาร่ างกายที่
บ้านเก่า กระทัง่ ถึงวัยปักปั่นก็เพิ่งจะกลับเมืองหลวง”
สี หน้าซ่งจยาฮุ่ยแข็งทื่อ เดิมคิดว่าเอ่ยถึงชนบทแล้วจะทาให้คุณหนู
แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีนอ้ ยเนื้อต่าใจ ไม่คิดว่านางไม่เพียงแต่จะไม่นอ้ ยเนื้อต่าใจ
แต่ยงั สบายใจอย่างยิง่ นี่ทาให้ซ่งจยาฮุ่ยรู ้สึกเหมือนต่อยหมัดลงไป
บนฝ้าย ไร้เรี่ ยวแรง
แต่เสิ่ นเวยกลับมีความสุ ขอย่างยิง่ ชายตามองเด็กสาวที่กดั ฟันกรอด
คับแค้นเสี ยใจพักหนึ่งผูน้ ้ ีตรงหน้า กล่าวในใจ ขนาดอาเจ้า ข้ายัง
รับมือได้ง่าย ๆ คนทักษะอ่อน ๆ เช่นเจ้า ข้าก็ยงิ่ ไม่กลัว
นางเหลือบมองบนโต๊ะปราดหนึ่ง มุมปากเบ้ลง จวนจิ้นอ๋ องขี้เหนียว
จริ ง ๆ แม้แต่ผลไม้สด ๆ ยังไม่ให้กิน แค่ขนมแห้ง ๆ หนึ่งจานนั้น
เห็นแล้วไม่อยากอาหาร ของว่างกินมากเข้าก็ตอ้ งกินชามิใช่หรื อ
ใครจะรู ้วา่ ในชาใส่ อะไรเพิ่มลงไปหรื อไม่ ไม่แปลกที่เสิ่ นเวยคิดมาก
ในนิยายล้วนแต่เขียนไว้เช่นนั้น ไม่กลัวหมื่นแต่กลัวหนึ่งในหมื่น
ระวังไว้ก่อนดีกว่า
“เด็กสาวชนบทเช่นเจ้ามีอะไรดีถึงได้แต่งงานกับลูกผูพ้ ี่ใหญ่ เหอะ
คงไม่ใช่วา่ เข้ามาสามวันก็ถูขบั หรอกนะ” ซ่งจยาฮุ่ยเอ่ยปากว่าร้าย
เสิ่ นเวยไม่โกรธเลยแม้แต่นิดเดียว กล่าวด้วยความตั้งใจมากเป็ น
พิเศษ “ข้าโชคดีอย่างไรเล่า! มิเช่นนั้นจะได้แต่งงานกับคุณชายใหญ่
หรื อ คุณหนูซ่งอิจฉามากใช่หรื อไม่ จะอิจฉากันก็ไม่ได้ จะต้องเป็ น
เพราะชาติที่แล้วข้าทาดีไว้แน่ ๆ ” ปากก็กล่าวเช่นนี้ แต่ในใจกลับ
บ่น ชาติที่แล้วคงจะไปขุดหลุมฝังศพของใครเข้า มิเช่นนั้นจะมา
เจอสวีโย่วคนโรคจิตผูน้ ้ ีได้อย่างไร
“คุณหนูซ่งวางใจเถิด ข้ากับคุณชายใหญ่ได้รับพระราชทานสมรส
จากฝ่ าบาท คุณชายใหญ่ไม่เพียงแต่ไม่อาจขับข้าได้ แม้แต่หย่าก็ยงั
ทาไมได้” ท่าทางแม้วา่ ข้าจะไม่ตอ้ งการแต่กข็ อบคุณที่เจ้าคิดแทนข้า
ใครคิดแทนเจ้า ซ่งจยาฮุ่ยโกรธจนแทบจะระเบิดแล้ว เหตุใดถึงมีคน
ที่โง่เพียงนี้ได้ แม้แต่คาเหยียดหยามชัดแจ้งยังฟังไม่ออก ซ่งจยาฮุ่ย
พ่ายแพ้ยอ่ ยยับ
อารมณ์ของเสิ่ นเวยดียงิ่ กว่าเดิม เด็กน้อย ฝี มือเป็ นแมวสามขา
[1]เช่นนี้ยงั คิดจะมาสู ้กบั ข้า น้อย ๆ หน่อย! กระทัง่ ออกจากจวนจิ้
นอ๋ องมุมปากของนางก็ยกขึ้นมาโดยตลอด สวีโย่ว เห็นหรื อยัง
ความสามารถในการต่อสู ้ของข้ายอดเยีย่ ม เลื่อมใสข้าบ้างหรื อไม่
อย่าทาตัวขี้ขลาดไปหน่อยเลย รางวัลในการทางานคราวนี้ส่งไปที่
คลังส่ วนตัวของข้าให้หมด
[1] แมวสามขา เปรี ยบคนไร้ความสามารถเป็ นแมวสามขาที่จบั หนู
ไม่ได้
ตอนที่ 210-1 พลเงาหนึ่ง
พระชายาจิ้นอ๋ องในจวนจิ้นอ๋ องกาลังพิงอยูบ่ นพนักพิงตัง่ ยาว สาว
ใช้เล็กสองคนนวดขาให้นาง สาวใช้ใหญ่หวาอวิ๋นนวดศีรษะให้นาง
“พระชายา” แม่นมซือเดินเข้ามาเงียบ ๆ
“ส่ งกลับไปแล้วหรื อ” พระชายาจิ้นอ๋ องไม่แม้แต่จะลืมตา เสี ยงก็
เกียจคร้าน
“ทูลพระชายา ส่ งกลับไปแล้วเพคะ” แม่นมซือกล่าวด้วยความ
เคารพ
“แม่นมคิดว่าคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีเป็ นคนเช่นไร” เสี ยงของพระชายาจิ้
นอ๋ องยังคงเฉื่อยชา
แม่นมซือคิดครู่ หนึ่งแล้วจึงกล่าว “บ่าวมองคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีไม่
ออกนักเพคะ บ่าวรู ้สึกว่าไม่เจ้าเล่ห์มาก ก็โง่มาก บ่าวโน้มเอียงไป
ทางแบบแรก”
“ฮ่า ๆ ” พระชายาจิ้นอ๋ องหัวเราะเสี ยงเบาหนึ่งครา “แม่นมคงจะให้
เกียรตินางเกินไปแล้วกระมัง ข้าว่านางก็เป็ นเพียงคนเขลาที่ถูกสอน
ให้โง่ มิหนาซ้ ายังคิดว่าตนฉลาด ฮ่า ๆ น่าขาจริ ง ๆ ”
แม้แต่นยั ที่แฝงอยูใ่ นคาพูดยังฟังไม่ออก ซ้ ายังเอาแต่พดู ถึง
กฎระเบียบ หลักการสาคัญแต่ละชุด ๆ แม้แต่ประจบคนก็ยงั ทาไม่
เป็ น เป็ นเช่นนี้จะอยูใ่ นเรื อนหลังได้สกั กี่ปี
เมื่อคิดถึงตรงนี้ในใจพระชายาจิ้นอ๋ องก็มีความสุ ขอย่างถึงที่สุด
ความโมโหที่ถูกเสิ่ นเวยยัว่ ยุจนแน่นหน้าอกก่อนหน้านี้กส็ บายขึ้น
“ยังคงเป็ นพระชายาที่มีสายตาเฉียบแหลม บ่าวไหนเลยจะเทียบพระ
ชายาได้” แม่นมซือคล้อยตามคาพูดของพระชายาจิ้นอ๋ องราวกับ
กระแสน้ าไหล คนเป็ นบ่าวนายพูดอะไรย่อมต้องทาเช่นนั้น แสดง
ท่าทีตรงข้ามกับนายไม่ใช่เป็ นการหาเรื่ องใส่ ตวั หรอกหรื อ
เป็ นดังคาด พระชายาจิ้นอ๋ องถูกประจบจนมีความสุ ข ทัว่ ทั้งห้องต่าง
ก็เต็มไปด้วยเสี ยงหัวเราะที่พึงพอใจของนาง
เสิ่ นเวยกลับไปถึงจวนย่อมต้องไปรายงานสถานการณ์ให้ท่านย่ากับ
ท่านป้าสะใภ้ใหญ่นางที่เรื องซงเฮ่อก่อน นอกจากจะตัดเรื่ องเถาฮวา
ออกไปเรื่ องอื่น ๆ กลับไม่ได้ปิดบัง รวมถึงเรื่ องที่พระชายาจิ้นอ๋ อง
บังคับให้นางยินยอมแต่งอนุภรรยาให้สวีโย่วก็เล่าด้วยเช่นกัน ให้
พวกนางได้เห็นใบหน้าที่แท้จริ งของพระชายาจิ้นอ๋ องแต่เนิ่น ๆ
เลี่ยงไม่ให้ทุกคนคิดว่าพระชายาจิ้นอ๋ องดีต่อนางอย่างยิง่ ภายหลัง
นางมีเรื่ องกลับจวนฟ้องร้องต่างก็ไม่มีใครเชื่อนาง
ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ฮูหยินสวี่ได้ยนิ ดังนั้นสี หน้าก็เป็ นกังวลหลายส่ วน
“พระชายาจิ้นอ๋ องหมายความว่าอย่างไร เวยเอ๋ อร์ยงั ไม่เข้าเรื อนก็คิด
จะแต่งอนุภรรยาก่อนแล้ว นี่ไม่ได้เป็ นการตบหน้าพวกเราหรื อ ไม่
ว่าตระกูลใดก็ไม่มีกฎเช่นนี้”
นางมองหลานสาวที่ยนื เงียบอยูข่ า้ ง ๆ ทั้งสงสารทั้งลาบากใจ หาก
เปลี่ยนเป็ นตระกูลอื่น นางเองก็กล้าไปหนุนหลังแทนเวยเอ๋ อร์ถึงที่
แต่นี่ดนั เป็ นจวนจิ้นอ๋ อง จิ้นอ๋ องผูน้ ้ นั เป็ นน้องชายมารดาเดียวกันกับ
ฝ่ าบาท อานาจยิง่ ใหญ่กดทับคนตาย โหวฮูหยินเล็ก ๆ เช่นนางไหน
เลยจะกล้าไปตาหนิติเตียนที่จวนจิ้นอ๋ อง เฮ้อ นี่กค็ ือข้อเสี ยของ
บุตรสาวที่แต่งเข้าตระกูลสู ง บุตรสาวได้รับความไม่เป็ นธรรมที่บา้ น
สามี บ้านฝั่งมารดาทาไม่ได้แม้แต่จะหนุนหลัง โชคดีที่ซวงเอ๋ อร์ของ
ตนไม่ได้แต่งเข้าตระกูลสู ง มิเช่นนั้นนางจะไม่สงสารตายเลยหรื อ
ทว่านายหญิงผูเ้ ฒ่ากลับไม่เห็นด้วย “บุรุษน่ะ ใครบ้างที่ไม่มีสาม
ภรรยาสี่ อนุ ไม่วา่ จะเป็ นอย่างไร เวยเอ๋ อร์เจ้าก็เป็ นภรรยาเอก ต้อง
เอาอานาจของภรรยาเอกออกมา อย่าไปเลียนแบบนิสยั ขี้แยขี้หึงขี้
หวง ต่อให้เป็ นอนุภรรยาก็เป็ นเพียงแค่สิ่งไร้ประโยชน์ ขอเพียงแค่
เจ้าแต่งเข้าไปแล้วให้กาเนิดบุตรชาย ได้ใจสามี ใครก็แตะต้อง
ตาแหน่งของเจ้าไม่ได้ ตอนนี้ไม่ควรยัว่ โมโหพระชายาจิ้นอ๋ อง
อย่างไรเสี ยนางก็เป็ นแม่สามีของเจ้า”
เสิ่ นเวยไม่แม้แต่จะเหลือบตาขึ้น ตอบรับทันที “หลานทราบแล้ว”
มุมมองทั้งสาม[1]ของพวกนางแต่ไหนแต่ไรก็ไม่ได้อยูใ่ นชั้น
เดียวกันอยูแ่ ล้ว เสิ่ นเวยขี้เกียจจะเปลืองน้ าลายกับย่านาง
เสิ่ นเวยกับฮูหยินสวี่ออกจากเรื อนซงเฮ่อพร้อมกัน ฮูหยินสวี่ตะโกน
เรี ยกนางด้วยสี หน้าซับซ้อน “เวยเอ๋ อร์” ในใจมีคาพูดมากมายแต่
กลับพูดไม่ออกแม้แต่คาเดียว
ทว่าเสิ่ นเวยกลับเข้าใจความรู ้สึกของฮูหยินสวี่อย่างยิง่ ยิม้ เหยเกให้
นางแล้วกล่าว “ท่านป้าสะใภ้ใหญ่วางใจ อย่างไรเสี ยข้าก็เป็ นจวิน้ จู่ที่
ฝ่ าบาทพระราชทานให้ดว้ ยตัวพระองค์เอง ไม่เสี ยเปรี ยบหรอก เรื่ อง
อนุภรรยาถูกข้าปฏิเสธไปแล้ว ข้าบอกเพียงแค่วา่ เรื่ องนี้ตอ้ งฟังความ
คิดเห็นคุณชายใหญ่ ซ้ าข้าก็ยงั ไม่เข้าเรื อน ไหนเลยจะตัดสิ นใจแทน
คุณชายใหญ่ได้”
“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี” ฮูหยินสวี่วางใจลง ตบมือของเสิ่ นเวย กล่าว
ด้วยความจริ งใจ “เวยเอ๋ อร์ ไม่ใช่วา่ ป้าไม่หนุนหลังให้เจ้า แต่เจ้าก็
แต่งเข้าตระกูลที่สูงเกินไปจริ ง ๆ พวกเรา พวกเราเหลือบ่ากว่าแรง!
เจ้าอย่าได้โทษป้าเลย!”
เสิ่ นเวยพยักหน้าอย่างเฉลียวฉลาด “ข้าเข้าใจดี ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ดี
ต่อหลานมากแล้ว หลานไม่ใช่คนไม่รู้คุณ” ดวงตากะพริ บวาบ นึก
ถึงเรื่ องที่ตอ้ งสื บถามตระกูลราชบัณฑิตสวี่ “ท่านป้าสะใภ้ใหญ่
หลานอยากถามท่านเรื่ องหนึ่ง เป็ นเช่นนี้…” นางเล่าเรื่ องลูกผูพ้ ี่นาง
สู่ ขอภรรยาให้ฟังรอบหนึ่ง
“อ้อ เจ้าหมายถึงตระกูลเขาน่ะหรื อ! ที่วา่ มากลับเป็ นเรื่ องจริ ง
ตระกูลนั้นเป็ นคนเมตตา จะว่าไปแล้วราชบัณฑิตสวี่กอ็ ยูใ่ นรุ่ น
เดียวกันกับป้า ข้ายังเรี ยกเขาว่าญาติผพู ้ ี่ ตั้งแต่เล็กก็เรี ยนเก่ง เขามี
วันนี้กเ็ พราะตัวเองขยันหมัน่ เพียร ฮูหยินที่เขาแต่งงานคือลูกผูน้ อ้ ง
บ้านฝั่งน้าห่าง ๆ ของเขา ฐานะไม่สูง แต่มีคุณธรรมเพียบพร้อม
จัดการงานบ้านดีเยีย่ ม ลูกสาวคนโตตระกูลเขาชื่อฉู่ถง โตกว่าพี่รอง
เจ้าหนึ่งปี ตอนเด็กยังเคยมาเล่นกับพี่รองเจ้าอยูเ่ ลย เป็ นเด็กผูห้ ญิงที่
สุ ขมุ ฉลาด หน้าตางดงามราวกับบุปผา ภายหลังตระกูลเขาไว้ทุกข์
จึงไม่เคยพบหน้าอีก ฟังว่าแม่นางผูน้ ้ นั อายุได้สิบสามสิ บสี่ ปีก็เรี ยนรู ้
การจัดการงานบ้านกับแม่นางแล้ว เป็ นคนที่โดดเด่น”
ขณะที่ฮูหยินสวี่เล่าเรื่ องที่นางรู ้ ก็นึกได้วา่ เรื่ องที่จวนจิ้นอ๋ องนาง
ช่วยไม่ได้ เรื่ องนี้นางกลับสามารถช่วยได้ “อย่างไรปากว่าก็ไม่เท่าตา
เห็น หรื อไม่กเ็ อาเช่นนี้ อีกสองวันเวยเอ๋ อร์ตามข้าไปบ้านฝั่งมารดา
เที่ยวหนึ่ง เชิญฉู่ถงกลับมาด้วยกัน เวยเอ๋ อร์จะได้เห็นเองกับตา”
“เช่นนั้นก็ดีอย่างยิง่ ขอบคุณท่านป้าสะใภ้ใหญ่จริ ง ๆ เจ้าค่ะ” เสิ่ นเว
ยกล่าวขอบคุณด้วยความดีใจ อันที่จริ งนางมาสื บข่าวจากป้าสะใภ้
ใหญ่กว็ างแผนไว้เช่นนี้ ต่อให้คนอื่นจะพูดดี แต่ได้ไปเห็นด้วยตา
ตัวเองก็วางใจกว่า อย่างไรเสี ยนี่กเ็ กี่ยวข้องกับความสุ ขชัว่ ชีวิตของ
ลูกผูพ้ ี่นาง
เสิ่ นเวยฝั่งนี้อยากไปดูตวั สวีฉ่ ู่ถงให้เห็นกับตา สวี่ฉู่ถงฝั่งนั้นก็กาลัง
ครุ่ นคิดว่าจะไปดูหร่ วนเหิงอยูเ่ ช่นกัน
“ลูกเอ๋ ย เจ้าก็สิบแปดแล้ว ไม่อาจล่าช้าไปมากกว่านี้ได้แล้ว กว่าจะ
เจอคนที่เหมาะสม เจ้าคิดอย่างไรกันแน่ คนอื่นเชื่อไม่ได้แต่เจ้าจะไม่
เชื่อแม้แต่พอ่ เจ้าหรื อ ชนรุ่ นหลังผูน้ ้ นั พ่อเจ้าเห็นมากับตา บอกว่าไม่
เลว แม้ตอนนี้จวนแม่ทพั ใหญ่หร่ วนจะตกต่า แต่ชนรุ่ นหลังของเขาก็
พัฒนา!” จางซื่อฮูหยินราชบัณฑิตสวี่โน้มน้าวเกลี้ยกล่อมบุตรสาว
สวี่ฉู่ถงเพียงแค่หลุบตา เม้มริ มฝี ปากแน่น ไม่พดู แม้แต่ประโยคเดียว
จางซื่อมองท่าทางดื้อรั้นของลูกสาว ในใจก็สงสารเล็กน้อย ถงเอ๋ อร์
เป็ นลูกคนแรกของนาง แม้วา่ จะเป็ นลูกสาว แต่เมื่อคลอดออก
มาแล้วก็น่ารักน่าเอ็นดู สามี รวมถึงพ่อแม่สามีต่างก็รักอย่างถึงที่สุด
ตั้งแต่เล็กก็เฉลียวฉลาด อายุสามขวบก็สามารถท่องกลอนกับพ่อนาง
ได้แล้ว พิณหมากพูก่ นั วาดภาพล้วนแต่มีความสามารถ ในด้าน
ความรู ้กเ็ ก่งกว่าน้อยชายนางหลายส่ วน ฝี มือเย็นปั กถักร้อยก็ดีเยีย่ ม
อายุสิบสี่ กส็ ามารถช่วยตนดูแล้วบ้านได้แล้ว
บุตรสาวที่ไม่วา่ อะไรก็ดีไปหมดเช่นนี้กลับโชคไม่ดี อายุที่ควร
สมรสพ่อแม่สามีกล็ าโลกตามกันไป ไป ๆ มา ๆ ก็ทาให้นางล่าช้า
ทุกครั้งที่ได้ยนิ คนในวงศ์ตระกูลวิจารณ์วา่ ถงเอ๋ อร์ของนางเป็ นสตรี
อายุมากที่แต่งไม่ออก นางก็อยากจะข่วนหน้าสตรี ข้ ีนินทาไม่กี่คน
นั้นอย่างยิง่
“ลูกเอ๋ ย แม่รู้วา่ ลูกน้อยใจ แต่นี่กค็ ือชะตา คนทาอะไรไม่ได้” จางซื่อ
ถอนหายใจ อย่าว่าแต่ลูกสาวน้อยใจ นางเองก็นอ้ ยใจเช่นกัน สตรี ที่
เทียบถงเอ๋ อร์ไม่ได้จานวนมากในวงศ์ตระกูลต่างก็แต่งกับเขยดี
ตระกูลสู ง ถงเอ๋ อร์ของนางเรี ยนหนังสื อมามากอย่างยิง่ ย่อมหวังว่า
ว่าที่สามีจะเป็ นผูม้ ีความสามารถ แต่ผมู ้ ีความสามารถแบบนั้นส่ วน
ใหญ่กแ็ ต่งงานกันหมดแล้ว คนสองคนที่เหลืออยูก่ ลับรังเกียจที่ถง
เอ๋ อร์อายุมากแล้ว คนมาสู่ ขอถึงบ้านส่ วนใหญ่ลว้ นเป็ นอนุภรรยา
หรื อภรรยาคนที่สอง หรื อไม่กเ็ ป็ นลูกหลานคนรวยเหล่านั้น นี่จะให้
จางซื่อตอบรับได้อย่างไร เพื่อคู่หมั้นของลูกสาวนางกลัดกลุม้ จน
นอนไม่หลับทั้งวันทั้งคืน
สวี่ฉู่ถงเองก็เข้าใจว่าแม่นางทุกข์ใจเรื่ องคู่หมั้นของนาง กัดริ มฝี ปาก
กล่าว “อย่างไรเสี ยงก็ลากมาจนถึงตอนนี้แล้ว คงล่าช้าไปมากกว่านี้
ไม่ได้ ลูกเองก็ไม่ใช่คนโลภเงินโลภทอง ขอเพียงแค่เป็ นคนดี มี
พัฒนา ไม่ใช่พวกเจ้าชูป้ ระตูดินไร้กฎเกณฑ์ ลูกก็ไม่เลือกลาดับศักดิ์
ในวงศ์ตระกูล”
จางซื่อได้ยนิ ดังนั้นก็ลูบหลังของลูกสาว กล่าว “เจ้าวางใจ พ่อแม่จะ
ทาร้ายเจ้าได้อย่างไร ชนรุ่ นหลังตระกูลหร่ วนผูน้ ้ ีพอ่ เจ้าดูมาดีแล้ว
แม้จะบอกว่าจวนแม่ทพั ใหญ่หร่ วนตกต่า แต่ชนรุ่ นหลังผูน้ ้ นั ก็ชิง
ตาแหน่งขุนนางขั้นห้ามาได้ นับได้วา่ มีพฒั นาการ ฟังว่าหน้าตาก็
ยอดเยีย่ ม เรี ยนหนังสื อตั้งแต่เล็ก ไม่ใช่ชายฉกรรจ์หยาบคาบ
เช่นนั้น”
ดวงตาสวีฉ่ ู่ถงมีความลังเลแวบผ่าน “ไม่ใช่วา่ ลูกไม่เชื่อสายตาของ
ท่านพ่อ เพียงแค่อย่างไรเสี ยนี่กเ็ ป็ นเรื่ องชัว่ ชีวิตของลูก ลูกอยาก
อยากเห็นคนผูน้ ้ นั ด้วยตาตัวเอง” เด็กสาวมีความรัก ใครบ้างไม่อยาก
แต่งงานกับสามีดีเลิศ อย่างไรเสี ยนางก็อายุสิบแปดแล้ว ต่อให้ล่าช้า
ก็ไม่อาจล่าช้าไปมากกว่านี้แล้ว คนผูน้ ้ นั ที่ท่านพ่อบอกฟังดูแล้วไม่
เลว แต่ไม่เห็นกับตานางก็ยงั ไม่เชื่อมัน่ นางไม่อยากน้อยใจตัวเองอีก
แล้ว
“ลูกเอ๋ ย ตนไหนเลยจะพบสามีตวั เองได้” บนใบหน้าจางซื่อมีความ
ไม่เห็นด้วยหลายส่ วน แต่เมื่อสบสายตาที่ด้ือรั้นของลูกสาว หัวใจก็
อ่อนลงอย่างอดไม่ได้ “ช่างเถอะ ๆ ตามใจเจ้า กลับไปให้นอ้ งเจ้า
ปกป้องเจ้าออกจากเรื อน ดูอยูไ่ กล ๆ ก็พอ”
สวี่ฉู่ถงแย้มยิม้ ออกมา ซบไหล่จางซื่อ “ลูกรู ้วา่ ท่านแม่จะต้อง
รับปาก”
จางซื่อตบลูกสาวเบา ๆ อย่างขุ่นเคือง “เจ้าน่ะ แม่กม็ ีเจ้าเป็ นลูกสาว
คนเดียว ไม่รักเจ้าแล้วจะให้รักใคร ไม่ใช่แค่แม่ที่รักเจ้า พ่อเจ้าก็รัก
เจ้ายิง่ กว่า เพื่อคู่หมั้นของเจ้า เขาที่แต่ไหนแต่ไรไม่ชอบคบค้า
สมาคมก็ลากเพื่อนพ้องไปดื่มสุ รา ไปสื บถามทัว่ ทุกที่วา่ ตระกูลใดมี
ชนรุ่ นหลังที่อายุพอ ๆ กันบ้าง” ทุกครั้งที่กลับจวนก็อาเจียนราวกับ
อะไรดี ลาบากนายท่านเสี ยจริ ง ๆ
ดวงตาของสวี่ฉู่ถงก็มีไอน้ าเอ่อขึ้นมาหนึ่งชั้น ช่างโชคดีเสี ยกะไร
นางถึงได้เกิดเป็ นบุตรสาวของพ่อแม่
[1] มุมมองทั้งสาม ได้แก่ทศั นคติต่อโลก ชีวิตและคุณค่า
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 210-2 พลเงาหนึ่ง
ตกดึก เงาดาหนึ่งสายกระโดดเข้ามาในเรื อนหลังเล็กที่สวีโย่วอาศัย
อยู่ ถูกเจียงเฮยที่รอรับอยูพ่ าเข้ามาในห้องสวีโย่วทันที “เจ้าได้รับ
บาดเจ็บแล้ว” สวีโย่วได้กลิ่นคาวโลหิตหนึ่งกลุ่ม
เงาดาก็คือคนที่สวีโย่วพามาจากล่างเขา เป็ นหนึ่งในสมาชิกทหารเงา
พลเงาหนึ่ง
พลเงาหนึ่งก้มหน้ามองไหล่ซา้ ยของตัวเอง พยักหน้า กล่าวอย่าง
รวดเร็ ว “คุณชาย ผูน้ อ้ ยถูกพบแล้ว คาดว่าอีกไม่นานพวกเขาก็จะค้น
ลานวัด ผูน้ อ้ ยพบว่าใต้ดินในกุฎิหลวงจีนเต้ากวงคล้ายมีอุโมงค์ใต้
ดิน ผูน้ อ้ ยอยากลงไปตรวจดู ไม่คิดว่าหลวงจีนเต้ากวงจะรู ้ตวั ถูกเขา
ทาร้าย โชคดีที่ผนู ้ อ้ ยหนีไว มิเช่นนั้นคงจะถูกตัดศีรษะอยูใ่ นนั้นเป็ น
แน่”
พูดยังไม่ทนั ขาดคา ก็ได้ยนิ เสี ยงเอะอะโวยวายข้างนอก อีกทั้งยังมี
เสี ยงตบประตูดงั ขึ้นมา
“แย่แล้ว พวกเขาไล่มาแล้ว คุณชายท่านรักษาตัว ผูน้ อ้ ยจะหนีไป
เดี๋ยวนี้ ไม่อาจเป็ นภาระท่านได้” พลเงาหนึ่งพูดพลางกาลังจะ
ออกไปทางหน้าต่างด้านหลัง
ทว่าสวีโย่วกลับห้ามเขาไว้ “ไม่ทนั แล้ว เร็ ว หลบไปในห้องลับล่าง
เตียง” ในเมื่อพวกเขาตามมาถึงที่นี่ได้ เช่นนั้นข้างนอกก็จะต้องวาง
กับดักไว้เรี ยบร้อยแล้ว ตอนนี้ขอเพียงแค่พลเงาหนึ่งออกไป เช่นนั้น
ก็จะติดกับดักเอง
หลังจากพลเงาหนึ่งซ่อนตัวเสร็ จแล้ว เจียงเฮยก็โยนถ้วยยาลงบนพื้น
อย่างรวดเร็ ว ชัว่ พริ บตาภายในห้องก็เต็มไปด้วยกลิ่นยาจีน เจียงไป๋ ก็
ขานรับเสี ยงดังออกไปเปิ ดประตู “มาแล้วๆ”
เจียงไป๋ เปิ ดประตูเรื อนออก ชัว่ ขณะก็ตกใจกลัว ข้างนอกมีหลวงจีน
ชูคบไฟจานวนมากยืนอยู่ คนที่อยูข่ า้ งหน้าสุ ดเจียงไป๋ เองก็รู้จกั คือ
หลวงจีนเต้าเสวียนศิษย์พี่ของหลวงจีนเต้ากวง เจียงไป๋ ไม่ชอบหลวง
จีนเต้าเสวียนแม้แต่นิดเดียว เขามักจะมองคุณชายของพวกเขาด้วย
สายตาที่มีลบั ลมคมนัย ทาให้เขาไม่สบายใจยิง่ นัก
“พระอาจารย์เต้าเสวียนนี่เอง เกิดอะไรขึ้นหรื อ” เจียงไป๋ ทาท่าทางอก
สันขวัญแขวน
หลวงจีนเต้าเสวียนมองเจียงไป๋ ปราหนึ่ง “ในวัดมีขโมย ทาร้ายศิษย์
น้องเต้ากวง ขอโมยของล้ าค่าชิ้นหนึ่งในวัดไป อาตมาไล่ตามมาแถว
นี้กย็ งั ไม่เห็นแม้แต่เงา โยมเห็นบ้างหรื อไม่”
“ไม่มีนี่ ไม่ปิดบังพระอาจารย์ คืนนี้คุณชายพวกเราป่ วยอีกแล้ว ไอ
ไม่หยุด ยาก็กินไม่ลง ผูน้ อ้ ยกลุม้ ใจใกล้จะตายอยูแ่ ล้ว กาลังจะไป
เชิญพระอาจารย์เต้ากวงมาดูเสี ยหน่อย ไม่ได้สงั เกตสถานการณ์ขา้ ง
นอกจริ งๆ” เจียงไป๋ กล่าวอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด บนใบหน้ามีความ
เป็ นห่วงหลายส่ วนพอดิบพอดี “พระอาจารย์ พระอาจารย์เต้ากวง
บาดเจ็บสาหัสหรื อไม่ ท่านคิดว่ายังมาตรวจดูอาการคุณชายพวกเรา
ได้หรื อไม่”
หลวงจีนเต้าเสวียนจ้องมองเจียงไป๋ ปราดหนึ่ง เห็นสี หน้าบนใบหน้า
เขาไม่เหมือนโกหก ก็ส่ายหน้ากล่าว “ศิษย์นอ้ งบาดเจ็บหนักเล็กน้อย
เกรงว่าจะมาดูอาการคุณชายของเจ้าไม่ได้ ขออภัยจริ งๆ!”
หน้าเจียงไป๋ ก็เหยเกขึ้นมา กระทืบเท้าสาปแช่ง “หัวขโมยสมควรตาย
ผูน้ ้ ี หากข้าจับเขาได้จะสับเขาเป็ นหมื่นชิ้นเลยคอยดู น่าสงสาร
คุณชายของเรายิง่ นัก!”
ดวงตาของหลวงจีนเต้าเสวียนกะพริ บวาบ กล่าว “แม้วา่ ศิษย์นอ้ งจะ
ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อาตมาก็พอจะชานาญการแพทย์อยูบ่ า้ ง กลับ
สามารถจับชีพจรคุณชายของเจ้าให้ได้ ยิง่ ไปกว่านั้นอาตมาเองก็เป็ น
ห่วงว่าขโมยผูน้ ้ นั จะกระโดดเข้ามาในเรื อนของพวกเจ้า หากทาร้าย
คุณชายพวกเจ้าก็คงจะไม่ดี หมิงเจวี๋ย เจ้าพาคนเข้าไปค้นให้ทวั่ ”
เจียงไป๋ ดีใจเหนือความคาดหมายทันที “พระอาจารย์พูดถูก เร็ ว รี บ
เข้ามาหา ทุกซอกทุกมุมต้องหาให้ละเอียดสักหน่อย อย่าได้ซ่อนอยู่
ในเรื อนของพวกเราจริ งๆ เลย กลับไปทาร้ายคุณชายของพวกเราอีก
จะไม่ดี พระอาจารย์ เชิญ รี บไปดูคุณชายของเรา เขาไอจนปอดจะ
ทะลุแล้ว” เขาเปิ ดประตูออกให้กว้างกว่าเดิมเล็กน้อย เชิญหลวงจีน
เต้าเสวียนเข้ามาอย่างกระตือรื อร้น
หลวงจีนเต้าเสวียนเหลือบมองเจียงไป๋ ปราดหนึ่ง จากนั้นจึงนาเข้า
ไปข้างใน อยูห่ ่างไกลแต่ยงั ได้ยนิ เสี ยงไอที่แหบแห้งหมดแรงดัง
ออกมาจากข้างในห้อง ชัว่ ขณะเจียงไป๋ ก็เร่ งฝี เท้าหลายก้าว “คุณชาย
คุณชาย ท่านไม่เป็ นไรใช่หรื อไม่ ในวัดมีขโมย ขโมยของไปแล้ว ซ้ า
ยังทาร้ายพระอาจารย์เต้ากวงอีก พระอาจารย์เต้าเสวียนเองก็ชานาญ
การแพทย์ ผูน้ อ้ ยเชิญเขามาดูอาการท่าน” พูดไปพลางเปิ ดประตูไป
พลาง
หลวงจีนเต้ากวงเข้ามาในห้องแล้ว กลิ่นยาจีนที่เข้มข้นหนึ่งกลุ่มก็
ปะทะเข้ามาทันที เขากวาดสายตามองถ้วยยาที่แตกละเอียดบนพื้น
ปราดหนึ่ง บนใบหน้ามีความเข้าใจแวบผ่าน ส่ วนเจียเฮยก็กาลังโน้ม
น้าวให้ทานยาอีกหนึ่งถ้วย “คุณชาย ท่านดื่มหน่อยเถิด ดื่มยาแล้ว
อาการของท่านจะได้ดีข้ ึน”
สวีโย่วยังคงไอ เสี ยงบีบเค้น “ไม่…ไม่ดื่มแล้ว ไร้…ไร้ประโยชน์”
เขาเบือนหน้าหนีอย่างรังเกียจ มือปิ ดปาก ไอประหนึ่งจิ้งหรี ดเฒ่าตัว
หนึ่งในปลายฤดูใบไม้ร่วง “พระ…พระอาจารย์ นัง่ …นัง่ ก่อน”
“แค่ก!” เสี ยงไอของสวีโย่วดังลัน่ พักหนึ่ง เจียงเฮยส่ งผ้าเช็ดหน้าเข้า
มาทันที สวีโย่วรับผ้าเช็ดหน้ามาปิ ดปากไว้ ไออยูห่ ลายคราจึงเอา
ผ้าเช็ดหน้าออก ร่ างทั้งร่ างราวกับใช้เรี่ ยวแรงจนหมดพิงหัวเตียง
หายใจหอบถี่กระชั้น
“เอ๋ คุณชาย ท่านไอเป็ นเลือดอีกแล้วหรื อ พระอาจารย์ ท่านช่วยดู
คุณชายของพวกเราหน่อยเถิด” เจียงไป๋ รับผ้าเช็ดหน้าสี ขาวสะอาดที่
เปื้ อนเต็มไปด้วยรอยเลือดเข้ามาแล้วโยนทิ้งลงในถังทองแดงข้างเท้า
ตรงนั้นคล้ายยังมีผา้ เช็ดหน้าที่เปื้ อนรอยเลือดอีกสองก้อน
ในดวงตาหลวงจีนเต้าเสวียนมีความเข้าใจแวบผ่าน เขาก็วา่ เหตุใดใน
ห้อถึงมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ “อาตมาขอจับชีพจรโยมหน่อย” เขาก้าว
เข้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
“ลาบากพระอาจารย์แล้ว” สวีโย่วยืน่ แขนออกไป ส่ วนเจียงเฮยกับ
เจียงไป๋ ก็จอ้ งมองด้วยสี หน้าตื่นตระหนก
หลวงจีนเต้าเสวียนจับชีพจรแล้ว หยิบผ้าเช็ดหน้าที่เปื้ อนโลหิ ต
ขึ้นมาดู หลังจากนั้นจึงกล่าว “โยมถูกลมบนเขาจึงทาให้เป็ นไข้
ร่ างกายของโยมอ่อนแอกว่าคนปกติ ลมบนเขาลูกนี้แรงเกินไป โยม
ออกไปเดินเล่นให้นอ้ ยหน่อยจะดีกว่า แม้จะออกไปก็ตอ้ งใส่ เสื้ อเพิ่ม
หลายๆ ชั้น”
“ขอบคุณพระอาจารย์ที่เตือน ผูน้ อ้ ยจะจาไว้” สวีโย่วรี บกล่าว
ขอบคุณ
“พระอาจารย์ คุณชายของเรายังไอเป็ นเลือดเยอะเพียงนั้น” เจียงเฮย
เอ่ยปากถาม
หลวงจีนเต้าเสวียนลูบหนวดกล่าว “นี่กลับไม่เป็ นไร ลมบนเขาทา
ให้เลือดลมไหลย้อนกลับ ตอนนี้ไอปนเลือดออกมาก็ไม่เป็ นไร”
“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี ขอบคุณฟ้าขอบคุณดินขอบคุณพระพุทธเจ้า
ที่คุม้ ครองจริ งๆ” เจียงไป๋ พนมมือ ถอนหายใจเฮือกใหญ่หนึ่งครา
“คุณชาย ผูน้ อ้ ยบอกแล้วว่าให้ท่านสวมเสื้ อคลุมออกไป ท่านก็ไม่ฟัง
ดูสิวา่ ทรมานยิง่ นัก เฮ้อ! พระอาจารย์เต้าเสวียน ขอบคุณท่านจริ งๆ!”
ในตอนนี้เอง หมิงเจวี๋ยก็เดินเข้ามา “อาจารย์อา ดูทวั่ แล้ว ไม่พบเงา
ขโมย น่าจะวิ่งหนีไปที่อื่นแล้ว”
ดวงตาหลวงจีนเต้าเสวียนกะพริ บวาบ กล่าว “เช่นนั้นพวกเราก็รีบ
ไปหาที่อื่นต่อ ไม่รบกวนโยมแล้ว” เหตุใดเขาถึงหนีไปได้ง่ายเพียง
นั้น อันที่จริ งภายในห้องสวีโย่วกวาดตามองปราดเดียวก็เห็นทุก
อย่าง ไม่มีที่ซ่อนคนได้อย่างสิ้ นเชิง แต่เขากลับไม่รู้ ตั้งแต่วนั นั้น
ที่สวีโย่วเข้ามาพัก เตียงหลังนั้นก็ถูกสร้างใหม่ ใต้ไม้กระดานเตียงก็
คือชั้นลับที่สามารถซ่อนคนได้หนึ่งคนพอดี
หลวงจีนเต้าเสวียนพาคนไปแล้ว เจียงไป๋ ยืนอยูบ่ ริ เวณประตูเรื อน
มองพวกเขาถือคบไฟออกไปไกลช้าๆ จึงจะปิ ดประตูเรื อนกลับมาที่
ห้อง
“คุณชาย พวกเขาไปแล้ว” เจียงไป๋ พูดพลางกาลังจะไปเปิ ดแผ่นไม้
กระดานเตียงออก ถูกเจียงเฮยจับไว้ “เจ้ารี บไปไย รออีกหน่อย ไป
ต้มยาให้คุณชาย”
ฝี เท้าเจียงไป๋ หยุดชะงัก สบสายตากับพี่ชายเขาเล็กน้อย หันหลัง
กลับไปหยิบยาในตู ้ เพิ่งจะเดินไปถึงระเบียงทางเดินก็ได้ยนิ เสี ยงตบ
ประตู “มาแล้วๆ” เขาไม่แม้แต่จะวางถุงยาก็วิ่งออกไปเปิ ดประตูแล้ว
“พระอาจาร์ ท่านยังมีเรื่ องอันใด” คนที่จู่ๆ ก็ยนื อยูน่ อกประตูกค็ ือ
หลวงจีนเต้าเสวียนที่กลับมาอีกครั้ง “ในใจเจียงไป๋ กล่าวในใจว่า
เกือบไปแล้ว
จากนั้นก็ได้ยนิ หลวงจีนเต้าเสวียนกล่าว “อาตมานึกได้วา่ ใช้เข็มเงิน
จะบรรเทาความเจ็บปวดของคุณชายพวกเจ้าได้ จึงกลับไปเอาเข็ม
เงินมา”
เจียงไป๋ ดีใจใหญ่ รี บเชิญหลวงจีนเต้าเสวียนเข้ามา “พระอาจารย์
ขอบคุณท่านอย่างยิง่ จริ งๆ ท่านก็คือพระพุทธเจ้าที่ช่วยให้พน้ ทุกข์ผู ้
นั้น!”
หลวงจีนเข้ามาในห้องแล้ว สายตาเฉี ยบแหลมกวาดมองปราดหนึ่ง
จากนั้นก็พบว่าเศษถ้วยยาบนพื้นถูกเก็บกวาดแล้ว ภายในห้องยังคง
เป็ นเช่นเมื่อครู่ ไม่เปลี่ยนไปแม้แต้นิดเดียว คราวนี้จึงวางใจลงใน
ที่สุด
สวีโย่วถูกเจียงเฮยพยุงนอนบนเตียง หลวงจีนเต้าเสวียนใช้เข็มเงิน
แทงจุดบนศีรษะและหลังของเขา ยังคงหยุดการไอของเขาได้จริ งๆ
นายบ่าวสามคนย่อมกล่าวขอบคุณไม่ขาดสาย
คราวนี้หลังจากหลวงจีนเต้าเสวียนจากไปแล้วเจียงเฮยเจียงไป๋ จึง
พยุงพลเงาหนึ่งที่อยูใ่ นช่องลับออกมา เขาหมดสติไปเล็กน้อยแล้ว
เจียงไป๋ ถือไฟ เจียงเฮยดูบาดแผลให้เขา
บาดแผลอยูบ่ นไหล่ซา้ ย คล้ายถูกอาวุธประเภทกริ ชทาร้าย ที่ร้ายแรง
ก็คือบริ เวณบาดแผลเป็ นสี ดา มองดูกร็ ู ้วา่ ถูกพิษ แต่ในมือพวกเขา
กลับมียา เพราะว่าอาการป่ วยของสวีโย่ว ปกติแล้วเจียงเฮยเจียงไป๋
สองคนจึงสับเปลี่ยนกันลงเขาไปหายา ถือโอกาสทายารักษา
บาดแผลภายนอกและยาลูกกลอนถอนพิษไว้จานวนหนึ่ง เพียงแต่ไม่
รู ้วา่ ที่พลเงาหนึ่งถูกคือพิษอะไร นี่กลับเป็ นปั ญหาเล็กน้อย
“คุณชาย ทาอย่างไรดี” เจียงเฮยเจียงไป๋ เห็นพลเงาหนึ่งกึ่งสลบไสลก็
ร้อนใจอย่างยิง่
หากหมอเทวดาหลี่อยูก่ ค็ งจะดี แต่สวี่โย่วเป็ นคนที่ป่วยมานานแล้ว
ด้านการแพทย์กพ็ อจะเข้าใจอยูห่ ลายส่ วน จึงกล่าว “ใช้ยาลูกกลอน
ถอนพิษก่อน ถอนได้เท่าไรก็เท่านั้น เจียงไป๋ เจ้าไปต้มยามาอีก ใช้ยา
ชนิดนั้นที่ขา้ ดื่มเป็ นประจา” อย่างไรเสี ยข้างในก็มีส่วนขับความร้อน
ถอนพิษระงับอาการอยู่ น่าจะช่วยได้บา้ ง
อันที่จริ งสิ่ งที่ควรทาในทันทีคือส่ งพลเงาหนึ่งลงเขาไปรักษา แต่
ตอนนี้ในวัดจะต้องป้องกันเข้มงวดแน่นอน ส่ งออกไปไม่ได้อย่าง
สิ้ นเชิง! จะทาอย่างไรดี
ป้อนยาให้พลเงาหนึ่งแล้ว ทาแผลแล้ว ก็ส่งเขากลับไปในช่องลับอีก
ครั้ง
นายบ่าวทั้งสามภายในห้องต่างก็นิ่งเงียบไม่พดู จา นอกจากเป็ นห่วง
อาการบาดเจ็บของพลเงาหนึ่งแล้ว สวีโย่วก็กาลังไตร่ ตรองถึงข่าวที่
ได้มา ในกุฏิของหลวงจีนเต้ากวงมีอุโมงค์ใต้ดิน จะไปโผล่ที่ไหน มี
แค่กฏุ ิเต้ากวงที่มีอุโมงค์ใต้ดินหรื อ ที่อื่นยังมีอีกหรื อไม่ มีเยอะ
เพียงใด ใช่เชื่อมกับเขาด้านหลังหรื อไม่
หากจะทาลายกองกาลังหลายพันนายนั้นที่เขาด้านหลัง ยังต้อง
ตั้งเป้าหมายจากวัดจยาหลาน! ล่อศัตรู ใช่ ล่อศัตรู ! เขาด้านหลังใหญ่
เกินไป ป่ าเขาลึกเกินไป ในเมื่อหาไม่เจอเช่นนั้นก็ไม่ตอ้ งหาเสี ยเลย
ต้องคิดหาวิธีล่อพวกเขาเข้ามา
จะล่ออย่างไรเล่า นิ้วมือของสวีโย่ววาดไปมาบนเสื้ อเบาๆ หาก
ควบคุมหลวงจีนในวัดจยาหลานได้ พวกเขาจะมาช่วยหรื อไม่ แต่จะ
ควบคุมวัดจยาหลานอย่างเงียบๆ ได้อย่างไร
ตอนนี้สวีโย่วคิดถึงเสิ่ นเวยอย่างถึงที่สุด เด็กคนนั้นมีความคิดชัว่ ร้าย
เยอะที่สุดแล้ว แต่เขากลับไม่รู้วา่ เสิ่ นเวยได้ไปกระโดดโลดเต้นที่
บ้านเขารอบหนึ่งแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 211-1 สนามรบของสวีโย่ ว
เห็นศิษย์พี่ที่ผลักประตูเข้ามา หลวงจีนเต้ากวงที่ขดั สมาธินงั่ สมาธิอยู่
บนเบาะกลมก็ลืมตาขึ้น “คราวนี้วางใจแล้วหรื อ” ไม่เข้าใจจริ งๆ ว่า
เหตุใดศิษย์พี่ถึงได้จอ้ งมองคนขี้โรคผูน้ ้ นั ไม่วางตา สื บค้นรอบหนึ่ง
แล้วก็ยงั ไม่วางใจ ไปจู่โจมโดยไม่ให้อีกฝ่ ายรู ้ตวั ต่อ แต่กไ็ ม่ได้อะไร
กลับมาเลยมิใช่หรื อ
เขาบอกแล้วว่านัน่ คือคุณชายธรรมดา แต่ศิษย์พี่กร็ าวกับถูกผีสิง
ข้อเท็จจริ งได้รับการพิสูจน์แล้ว เป็ นศิษย์พี่ที่หวาดระแวงเกินไปเอง
“ศิษย์นอ้ ง ระวังหน่อยก็ไม่เสี ยหาย” หลวงจีนเต้าเสวียนนัง่ ลงตรง
ข้ามเขา ถามด้วยความเป็ นห่วง “อาการบาดเจ็บเจ้าไม่เป็ นไรใช่
หรื อไม่” สายตาของเขาตกลงบนแขนขวาที่โค้งงอของหลวงจีนเต้าก
วง ในดวงตามีความกังวลกะพริ บผ่าน
“ไม่เป็ นไร เพียงแค่บาดเจ็บภายนอก” หลวงจีนเต้ากวงเองก็มอง
แขนขวาของตน คิดครู่ หนึ่งแล้วจึงกล่าว “เขาน่าจะได้รับบาดเจ็บ
สาหัสกว่าข้า บนกริ ชข้าชุบยาพิษ ดังนั้นเขาจะต้องหนีไปได้ไม่ไกล
ก่อนฟ้าสางจะต้องหาคนเจอ”
หากเป็ นเพียงขโมยทัว่ ไปก็ดี แต่หากเป็ นสายลับของราชสานักก็เป็ น
ปัญหาแล้ว อีกทั้งดูจากฝี มือของคนผูน้ ้ นั เขาโน้มเอียงไปทางอย่าง
หลัง
หลวงจีนเต้าเสวียนพยักหน้าช้าๆ “หมิงเจวี๋ยนาคนไปหาต่ออยู่ ศิษย์
น้อง ในใจข้ามักมีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง มักจะรู ้สึกใจเต้นไม่เป็ น
สุ ข คล้ายมีเรื่ องใหญ่บางเรื่ องกาลังจะเกิดขึ้น”
เต้ากวงไม่เห็นด้วยเล็กน้อย “จะมีเรื่ องใหญ่อะไรได้ วัดจยาหลาน
ของพวกเราสงบสุ ขไร้คลื่นลมมายีส่ ิ บปี แล้ว ไม่ปิดบังศิษย์พี่ ตอนนี้
ศิษย์นอ้ งเคยชินกับชีวิตแบบนี้แล้ว คืนวันฆ่าๆ ฟันๆ เหล่านั้น เฮ้อ
เมื่อไตร่ ตรองดูให้ดี เป็ นหลวงจีนละทางโลกอยูบ่ นเขาลูกนี้กไ็ ม่ได้มี
อะไรไม่ดี”
“ศิษย์นอ้ งคิดเช่นนี้ได้อย่างไร” ดวงตาหลวงจีนเต้าเสวียนมีความ
ประหลาดใจแวบผ่าน “หรื อว่าเจ้าลืมนายท่านไปแล้ว ชีวิตของพวก
เราได้นายท่านช่วยไว้ ตอนนั้นก็สาบานว่าจะซื่อสัตย์ภกั ดีต่อนาย
ท่าน”
“แต่นายท่านอยูไ่ หนเล่า ศิษย์พี่ เจ้านับดูสิวา่ พวกเราไม่เห็นนายท่าน
มากี่ปีแล้ว ตอนนั้นพวกเราได้รับคาสัง่ มาวัดจยาหลาน ครั้งสุ ดท้ายที่
ได้รับคาสัง่ ลับของนายท่านก็เมื่อเจ็ดปี ก่อนที่มีคนหนึ่งกลุ่มนั้นเพิ่ม
เข้ามาที่ภูเขาด้านหลัง ต่อมาก็ไม่เคยเห็นนายท่านพูดอีกแม้แต่คา
เดียว การเคลื่อนไหวของคนเหล่านั้นที่ภูเขาด้านหลังก็ไม่อนุญาตให้
พวกเราถามไถ่ แต่ค่าเลี้ยงดูกลับเป็ นพวกเราที่ออก อีกทั้งยังเรี ยกใช้
พวกเราตามอาเภอใจ ศิษย์พี่ยอมได้หรื อ แท้จริ งแล้วนายท่านมี
เจตนาอย่างไรกันแน่” หลวงจีนเต้ากวงกล่าวกับศิษย์พี่
หลายปี มานี้เขาชินกับฐานะพระอาจารย์ที่ได้รับการเคารพจากคน
แล้ว หากไม่ใช่วา่ คนเหล่านั้นบนเขาด้านหลังมักจะมาเตือนสติอยู่
บ่อยครั้ง เขาก็คงลืมนายท่านอะไรนัน่ คาสัง่ ลับอะไรนัน่ แผนการ
ยิง่ ใหญ่อะไรนัน่ ไปนานแล้ว เขาไม่โง่ ใต้หล้านี้สงบสุ ขนานแล้ว
จักรพรรดิยงเซวียนก็ครองบัลลังก์มนั่ คงนานแล้ว อาศัยคนสามพัน
ห้าพันคนนั้นบนเขาด้านหลังก็คิดจะโค่นล้มดินแดนต้ายงได้หรื อ
อย่าได้ฝันกลางวันเลย แม้วา่ ในมือนายท่านจะยังมีกาลังพล แต่ก็
เป็ นไปไม่ได้อยูด่ ี ก่อกบฏไหนเลยจะเป็ นเรื่ องที่ง่ายเพียงนั้น
“ศิษย์นอ้ งเจ้า! เจ้าคงจะไม่เป็ นคนตระบัดสัตย์คืนคาหลงลืมบุญคุณ
เช่นนั้นใช่หรื อไม่” ดวงตาของหลวงจีนเต้าเสวียนเบิกกว้างในชัว่
พริ บตา เห็นศิษย์นอ้ งมองเขาอย่างสงบนิ่งไร้กงั วล ก็หลับตาด้วย
ความห่อเ**่่ยวอย่างอดไม่ได้ ครู่ ใหญ่จึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง “ศิษย์
น้อง ข้ารู ้วา่ เจ้าไม่อยากรับแรงแค้นของคนกลุ่มนั้นที่เขาด้านหลัง แต่
พวกเราก็ทาเพื่อนายท่านทั้งนั้นมิใช่หรื อ เจ้าจะสนใจคาพูดของพวก
เขาทาไม พวกเราทาเรื่ องภายในของตัวเองให้ดีกพ็ อแล้ว นี่กย็ สี่ ิ บปี
แล้ว นายท่าน นายท่านน่าจะปรากฏตัวเร็ วๆ นี้แล้ว…” ยิง่ พูดเขาก็ยงิ่
ไม่มนั่ ใจ แม้แต่ตวั เองเขาก็เกลี้ยกล่อมไม่ได้ แล้วจะเกลี้ยกล่อมศิษย์
น้องได้อย่างไร ส่ วนลึกภายในใจเขาก็กาลังคาดเดาว่านายท่านเดิน
ทางไกล เจอเหตุไม่คาดคิดอะไรหรื อไม่ อย่างไรเสี ยอายุของนาย
ท่านก็ไม่ใช่นอ้ ยๆ แล้ว!
“อย่างไรเสี ย อย่างไรเสี ยข้าก็ไม่ทรยศนายท่าน” ท้ายที่สุดหลวงจีน
เต้าเสวียนก็ทิ้งท้ายไว้เช่นนี้ หลวงจีนเต้ากวงถอนหายใจในใจ สวดอ
มิตาพุทธในใจ จากนั้นจึงหลุบตาเล็กน้อยนัง่ สมาธิต่อ
ช่างเถอะ ฟังคาบัญชาจากสวรรค์เอาแล้วกัน!
ไพ่ลบั ที่ใหญ่ที่สุดในมือสวีโย่วไม่ใช่ทหารเงา แต่เป็ นทหารคุม้ มังกร
ในมือของเขากุมทหารคุม้ มังกรห้าร้อยนายหนึ่งกลุ่ม ความลับนี้
แม้แต่จกั รพรรดิยงเซวียนก็ยงั ไม่ทราบ
เห็นชื่อก็พอจะรู ้ความหมาย ทหารคุม้ มังกรเป็ นทหารลับที่คุม้ กัน
จักรพรรดิ เป็ นทหารที่จกั รพรรดิผสู ้ ถานปนาแคว้นต้ายงสร้างขึ้นเอง
กับมือ เพียงแต่หลังจากจักรพรรดิองค์ก่อน จักรพรรดิยงเซวียนก็ไม่
รู ้วา่ ทหารคุม้ มังกรกลุ่มนี้ตกอยูใ่ นมือใคร เขาสื บเสาะค้นหาอยูห่ ลาย
ปี ก็ไม่ได้อะไรเลย ทหารคุม้ มังกรกลุ่มนี้ราวกับสาบสู ญไป ไม่ทิ้ง
เบาะแสไว้แม้แต่นิดเดียว เขาจึงเดาว่าก่อนพ่อเขาจากไปได้กระจัด
กระจายทหารคุม้ มังกรกลุ่มนี้หรื อไม่ มิเช่นนั้นไม่วา่ อย่างไรก็ควรส่ ง
ต่อให้เขา เขาหารู ้ไม่วา่ ทหารคุม้ มังกรถูกพ่อเขามอบเป็ นของขวัญ
ให้สวีโย่วหลานชายคนนี้อยูน่ านแล้ว
ทหารเงาเก่งกาจอย่างยิง่ แล้ว ทหารคุม้ มังกรก็ยงิ่ เป็ นราชันในกลุ่ม
ทหารลับ ครั้งนี้สวีโย่วเคลื่อนพลทหารคุม้ มังกรออกมาทั้งหมด แฝง
ตัวเข้ามาในวัดจยาหลานเงียบๆ กลางดึก รี บรบรี บจบ เขาไม่อยากให้
ยืดเยื้ออีกต่อไปแล้ว ออกมาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว หากเขายังไม่กลับไป
อีก คาดว่าน้องสี่ แซ่เสิ่ นคงจะลืมหน้าตาเขาไปแล้ว ไม่ได้ เขาต้องรี บ
กลับไปแต่งงานกับน้องสี่ แซ่เสิ่ น
ทหารคุม้ มังกรออกมา ใต้หล้าใครจะสู ้ชนะ! ครึ่ งชัว่ ยาม เพียงแค่ครึ่ ง
ชัว่ ยาม ทหารคุม้ มังกรก็ควบคุมวัดจยาหลานทั้งหลังไว้ได้ และอีก
ครึ่ งชัว่ ยาม อุโมงค์ใต้ดินล่างวัดจยาหลานก็ถูกทาลายจนหมด
นักบวชวัดจยาหลาน นอกจากคนที่ฆ่าตายอย่างไม่ได้ต้ งั ใจแล้ว
ทั้งหมดก็ถูกมัดมือมัดเท้าโยนเข้ามาในวิหารใหญ่ อ้อ เต้ากวงเต้า
เสวียนและผูท้ ี่อาวุโสอีกสิ บกว่าคนไม่ได้ถูกมัดมือเท้า เพียงแต่พวก
เขาคล้ายถูกพิษสลายกล้ามเนื้อ มือเท้าอ่อนแรง สามารถฝื นลุกขึ้นยืน
ได้ แต่กลับใช้ยทุ ธ์ไม่ได้ ส่ วนเจ้าอาวาสที่ถูกใช้เป็ นสิ่ งนาโชคสร้าง
ขึ้นมาคุม้ กัน เพราะว่าถูกใช้ยาควบคุมมาเป็ นระยะเวลานาน ร่ างกาย
อ่อนแอลงจากเตียงไม่ได้อยูน่ านแล้ว ย่อมไม่อาจปรากฏตัวอยูใ่ น
วิหารใหญ่ได้
หลวงจีนเต้ากวงมองสวีโย่วที่เดินเข้ามาช้าๆ ในใจรู ้สึกสับสนมาก
เป็ นพิเศษ ส่ วนหลวงจีนเต้าเสวียนก็อยากจะโผเข้าไปฉีกเขาออกเป็ น
ชิ้นๆ ด้วยความโกรธแค้น แม้หมิงเจวีย๋ และคนอื่นๆ จะไม่เปิ ดปาก
ก่นด่า แต่กลับใช้สายตาที่เคียดแค้นมองเขาอยู่
“พระอาจารย์เต้าเสวียน เต้ากวง ผูน้ อ้ ยเสี ยมารยาทแล้ว” สวีโย่วยืน
นิ่งอยูต่ รงกลางวิหารใหญ่ เจียงเฮยเจียงไป๋ ยืนขนาบข้างหลังเขา ฝี เท้า
เขาแข็งแรง เรื อนร่ างสู งตระหง่านดัง่ ต้นสน ไหนเลยจะยังมีท่าทาง
อ่อนแอเดินหนึ่งก้าวหอบสามครั้งอย่างเช่นก่อนหน้านี้อยูอ่ ีก ภายใต้
แสงสะท้อนของคบไฟ ดวงหน้าที่งามดัง่ หยกของเขาก็ยงิ่ ชัดเจน
ดวงตาที่ดาเงาราวกับบ่อน้ าที่สงบนิ่งไร้คลื่นนั้น นี่ไหนเลยจะเป็ น
คนขี้โรค เห็นชัดๆ ว่าเป็ นคุณชายสู งส่ งที่มีรูปร่ างหน้าตางดงามผู ้
หนึ่ง
“เป็ นเจ้าดังคาด! ข้าบอกแล้วว่าคนชัว่ ผูน้ ้ ีซ่อนแผนการร้ายเอาไว้
ศิษย์นอ้ งก็ยงั ไม่เชื่อ ไอเด็กชัว่ คนนั้น รี บบอกชื่อมา ในเมื่อตกอยูใ่ น
มือเจ้าแล้ว ก็ให้ขา้ ได้ตายไปเป็ นผีที่ไร้ขอ้ แคลงใจ” หลวงจีนเต้า
เสวียนมองสวีโย่วอย่างเคืองแค้น กัดฟันกรอดร้องตะโกน
สวีโย่วเลิกคิ้วเล็กน้อย กล่าวหนึ่งประโยค “ผูน้ อ้ ยแซ่สวี”
“เจ้าเป็ นคนของราชสานัก” หลวงจีนเต้ากวงใจเต้น เขากลับไม่ได้
โมโหอย่างหลวงจีนเต้าเสวียน กลับกัน ส่ วนลึกภายในใจเขากลับมี
ความรู ้สึกหลุดพ้นบางอย่าง คล้ายหลายปี มานี้เขาเฝ้ารอผลลัพธ์น้ ีมา
โดยตลอด “อาตมาอยากรู ้วา่ อาการป่ วยของโยมปลอมแปลงได้
อย่างไร” เรื่ องที่เขาสนใจยิง่ กว่าคือเรื่ องนี้ ก่อนที่เขาจะเข้ามาในวัดจ
ยาหลานก็เป็ นหมอ ยีส่ ิ บปี นี้กต็ ้ งั ใจศึกษาตาราแพทย์ ถ้าถามตัวเอง
แล้วก็ไม่ดอ้ ยไปกว่าหมอหลวงในวัง แต่เขากลับมองไม่ออกแม้แต่
นิดเดียวว่าอาการป่ วยของสวีโย่วเป็ นการเสแสร้ง นี่ทาให้เขาไม่
เข้าใจยิง่ นัก
มุมปากสวีโย่วยกขึ้น ไม่ปิดบังเขา “พระอาจารย์ตรวจไม่ผดิ ร่ างกาย
ผูน้ อ้ ยเดิมก็มีโรคอยูแ่ ล้ว เพียงแต่ไม่ได้หนักเพียงนั้นก็เท่านั้นเอง
ข้างกายผูน้ อ้ ยก็มีหมอชื่อดัง”
“ที่แท้แล้วก็เป็ นเช่นนี้ อมิตาพุทธ ขอบคุณโยมยิง่ นักที่ไขข้อสงสัย
ให้อาตมา” หลวงจีนเต้ากวงคลายความสงสัยในใจแล้วก็ไม่เอ่ยปาก
อีก
ทว่าสวีโย่วกลับมองเขาแล้วกล่าว “ในเมื่อพระอาจารย์เต้ากวงเดาได้
ว่าผูน้ อ้ ยเป็ นคนในราชสานัก เช่นนั้นก็ยอ่ มรู ้เช่นกันว่าผูน้ อ้ ยมา
ทาไม ถูกต้อง ผูน้ อ้ ยมาเพราะกาลังพลกลุ่มนั้นที่เขาด้านหลัง พระ
อาจารย์เป็ นนักพรต มีจิตเมตตากรุ ณา คงไม่อยากเห็นประชาชนตก
ทุกข์ได้ยากหรอกกระมัง” สวีโย่วกล่าวโน้มน้าว
“ถุย เจ้าพูดจาไพเราะน่าเลื่อมใสให้นอ้ ยหน่อย จะฆ่าจะฟันก็รีบทา
เยิน่ เย้อทาไม” ดวงตาทั้งคู่ของหลวงจีนเต้าเสวียนมีไฟโกรธ หาก
ไม่ใช่ศิษย์นอ้ งดึงเขาไว้ เขาก็คงจะโผเข้าไปนานแล้ว “ศิษย์นอ้ งอย่า
ถูกคาพูดไพเราะของเขาหลอก ในราชสานักจะมีคนดีได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้เขายังหลอกเราเลย เจ้าอย่าได้ฟังเขา เหอะ เก่งนักก็
หาทางไปจับเขาที่เขาด้านหลังเองสิ ”
ประโยคสุ ดท้ายพูดกับสวีโย่ว บนใบหน้าเขามีความพอใจ ป่ าเขา
กว้างเพียงนั้น นอกจากกองทัพแสนนายจะค้นเขาแล้ว ก็อย่าได้คิดจะ
จับกาลังพลกลุ่มนั้นที่เขาด้านหลังได้ง่ายๆ
สวีโย่วไม่สนใจเขา โน้มน้าวพระอาจารย์เต้ากวงต่อ “พระอาจารย์
เป็ นคนฉลาด ย่อมเข้าใจว่ากาลังพลที่เขาด้านหลังผูน้ อ้ ยจาเป็ นต้อง
จับมาให้ได้ มีความช่วยเหลือจากพระอาจารย์หรื อไม่ ไม่ได้ส่งผล
กระทบต่อสถานการณ์โดยรวมนัก เพียงแค่เสี ยเวลาก็เท่านั้นเอง
ดังนั้นผูน้ อ้ ยจะให้โอกาสพระอาจารย์ เพียงเพราะระลึกถึงจิตใจ
เมตตาของพระอาจารย์ก่อนหน้านี้กเ็ ท่านั้น ผูน้ อ้ ยสามารถให้คามัน่
สัญญาได้วา่ ขอเพียงแค่พระอาจารย์ยอมช่วยผูน้ อ้ ยอีกแรง เช่นนั้น
ผูน้ อ้ ยก็จะไม่แตะต้องนักบวชในวัดจยาหลาน พระอาจารย์ยงั คงเป็ น
พระอาจารย์เต้ากวงที่มีคุณธรรมสู งส่ งอยู”่
นักบวชในวัดจยาหลานส่ วนใหญ่ต่างก็ไม่รู้เรื่ องราว แม้ทุกวันจะฝึ ก
ยุทธ์ แต่ก็เป็ นนักบวชธรรมดาทัว่ ไปจริ งๆ สวีโย่วเองก็ไม่คิดจะฆ่า
พวกเขาทั้งหมด
ปฏิเสธไม่ได้วา่ ข้อเสนอนี้ของสวีโย่วทาให้หลวงจีนเต้ากวงสนใจ
อย่างมาก เขารู ้ดีวา่ ที่สวีโย่วพูดคือความจริ ง กาลังพลสามพันห้าพัน
นายเผชิญหน้ากับกองทัพใหญ่ราชสานักก็เป็ นไม้ซีกที่งดั ไม้ซุงอย่าง
ไม่ตอ้ งสงสัย ถูกเก็บกวาดจนเรี ยบได้ทุกเมื่อ เพียงแค่จะช้าจะเร็ วก็
เท่านั้นเอง เขาเองก็เบื่อหน่ายแล้วจริ งๆ คิดจะหลบอยูใ่ นดินแดน
ห่างไกลแห่งนี้ใช้ชีวิตสงบสุ ขสักหน่อย ชนรุ่ นหลังวัยหนุ่มผูน้ ้ ีกลับ
เป็ นคนที่มีสายตาเฉียบแหลมมองทะลุจิตใจคน! เพียงแค่น้ ีเขาก็ไม่
กอดความหวังใดๆ กับแผนการการยิง่ ใหญ่ที่วา่ ของนายท่านอีกแล้ว
ไม่เพียงแต่หลวงจีนเต้ากวงที่สนใจ ผูอ้ าวุโสรุ่ นหมิงก็มีหลายคนที่
สนใจเช่นกัน พวกเขาต่างก็เป็ นศิษย์ที่เต้ากวงและเต้าเสวียนเลี้ยงดู
ไม่เคยเห็นนายท่านอะไรนัน่ อย่างสิ้ นเชิง ย่อมไม่ตอ้ งพูดถึงความ
จงรักภักดี อีกทั้งวัดจยาหลานก็เจริ ญ ชีวิตของพวกเขาผ่านไปอย่าง
ชื่นมื่น มีชีวิตที่ดีแล้วใครจะยอมทางานที่อนั ตรายนัน่ เล่า ยิง่ ไปกว่า
นั้นไม่มีคนกลุ่มนั้นบนเขาด้านหลัง พวกเขาก็ยงิ่ เป็ นอิสระได้มาก
กว่าเดิม
ดังนั้นนอกจากเต้าเสวียนที่เคียดแค้นจนตาแดงก่า ด่าทอไม่จบไม่สิ้น
นักบวชคนอื่นๆ ในวิหารใหญ่ต่างก็นิ่งเงียบไม่พดู จา ในใจสวีโย่วก็
เข้าใจดี
“โยมสวีพดู จริ งหรื อ” หลวงจีนเต้ากวงถอนหายใจถามด้วยท่าที
จริ งจัง
“แน่นอน” สวีโย่วตอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช้วิธีนองเลือดได้เขา
ก็พยายามจะไม่ใช้ ก่อนหน้านี้กลับไม่รู้สึก ตอนนี้มีนอ้ งสี่ แซ่เสิ่ นเด็ก
คนนั้นแล้ว หัวใจของเขาก็อ่อนลงอย่างไม่มีเหตุผล
“อาตมายังมีคาขอที่ไม่เหมาะสมนัก” หลวงจีนเต้ากวงพูดพลางมอง
ศิษย์พี่ที่ถูกยัดเศษผ้าไว้ในปาก “หลังเรื่ องสาเร็ จ หวังว่าโยมสวีจะไว้
ชีวิตศิษย์พี่ของอาตมา”
สวีโย่วมองหลวงจีนเต้าเสวียนที่ถูกจับตัวอยูข่ า้ งๆ ปราดหนึ่ง เห็น
เพียงเขาพยายามดิ้นรน สายตาปรากฏความอาฆาต ในปากส่ งเสี ยง
ร้องอูอ้ ้ ีออกมา
“ได้ ขอเพียงแค่พระอาจารย์สามารถดูพระอาจารย์เต้าเสวียนให้ดีได้
ผูน้ อ้ ยไม่ใช่คนที่ชอบฆ่าใคร” สวีโย่วตอบด้วยความสบายใจอย่างถึง
ที่สุด ขอเพียงแค่ทาลายกาลังพลกลุ่มนั้นบนเขาด้านหลังให้หมด
หลวงจีนเต้าเสวียนเพียงคนเดียวกลับสร้างหายนะอะไรไม่ได้ อีกทั้ง
วัดจยาหลานเขายังมีแผนการอื่นอยู่
“อมิตาพุทธ ขอบคุณโยมสวียงิ่ นัก” หลวงจีนเต้ากวงประสานมือ
คานับให้สวีโย่ว ไม่เอ่ยปากอีกแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 211-2 สนามรบของสวีโย่ ว
มีคนเข้ามารายงานสถานการณ์ “คุณชาย อีกประเดี๋ยวกองทัพใหญ่ก็
จะมาถึงแล้ว เป็ นผูบ้ ญั ชาการใหญ่สวีเวย”
สวีโย่วพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวหนึ่งประโยค “ถอยทัพ” จากนั้นจึง
เห็นทหารคุม้ มังกรที่ลึกๆ ลับๆ ห้าร้อยนายจมหายไปท่ามกลางแสง
ในยามราตรี ที่ดามืดทันที ราวกับปรากฏตัวฉับพลัน จากนั้นก็หายไป
ไร้เงาฉับพลัน คนที่มาแทนที่พวกเขาก็คือทหารเงา
ขอเพียงแค่สวีโย่วขยับ ทหารเงาทั้งหมดก็ขยับตาม แสงไฟในวัดจยา
หลานพวยพุง่ ขึ้นฟ้า เสี ยงตะโกนฆ่าดึงกึกก้องทัว่ สารทิศ
“พระอาจารย์ทุกท่านตามผูน้ อ้ ยไปชมนอกวิหารเถิด” สวีโย่วเดิน
นาออกไปนอกวิหาร ทุกคนมองไปยังหลวงจีนเต้ากวงอย่างพร้อม
เพียง บนใบหน้าหลวงจีนเต้ากวงนิ่งเรี ยบ “ไปเถอะ ไปดูสกั หน่อย”
คนอื่นเป็ นมีดตนเป็ นเนื้อบนเขียง จะไม่ปฏิบตั ิตามคาสัง่ ได้หรื อ
ทุกคนพากันพยุงเดินออกไปข้างนอก รู ้สึกได้วา่ อยูห่ ่างจากสวีโย่ว
ห้าก้าวก็หยุดฝี เท้าลง พวกเขามองเห็นทัว่ ทั้งบริ เวณลานวัดที่ตน
คุน้ เคยไฟไหม้โหม ทหารเงาแต่ละกลุ่มกุมมีดกุมกระบี่สู้รบกันอยู่
เสี ยงตะโกน เสี ยงเข่นฆ่า ดังทัว่ พื้นที่ แม้ในใจพวกเขาจะรู ้วา่ นี่คือ
การแสดง แต่กย็ งั คงรู ้สึกเสี ยวสันหลังอย่างอดไม่ได้ เหงื่อซึมออกมา
จากเสื้ อ
อดส่ งสายตาไปมองคุณชายวัยหนุ่มผูน้ ้ นั ที่ยนื อยูต่ รงหน้าไม่ได้ มือ
ทั้งคู่ของเขาไพล่อยูข่ า้ งหลัง หลังยืดตรง ราวกับทวนเล่มยาว
ท่ามกลางราตรี อนั มืดมิด แสดงฝี มือออกมา เขาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย
ราวกับไม่สนใจสนามรบตรงหน้าอย่างสิ้ นเชิง เขายืนสบายใจ
เช่นนั้น เรื อนร่ างสู งตระหง่าน ทาให้คนอดเกิดความสวามิศกั ดิ์ในใจ
ไม่ได้
ผ่านไปหนึ่งเค่อ สวีโย่วยกมือ ก็เห็นหลวงจีนที่สวมจีวรแบบเดียวกับ
วัดจยาหลานแวบออกมา “คุณชาย” พวกเขาก้มศีรษะลงเล็กน้อยยืน
อยูต่ รงหน้าสวีโย่วรอฟังคาสัง่
สวีโย่วหันหลังกลับ มองหลวงจีนเต้ากวง “พระอาจารย์ ท่านควรจะ
ไปขอความช่วยเหลือที่เขาด้านหลังได้แล้ว เส้นทางภูเขาขรุ ขระเดิน
ลาบาก ผูน้ อ้ ยหาผูช้ ่วยสองคนมาให้ท่าน” บอกเป็ นนัยเล็กน้อย
หลวงจีนสองคนนั้นก็ยนื ขนาบข้างหลวงจีนเต้ากวง
นี่หมายความว่าไม่ไว้ใจตน หลวงจีนเต้ากวงมองผูช้ ่วยที่เตรี ยมให้
ตนปราดหนึ่ง ผืนหัวเราะในใจ ไม่มีทางหันหลังกลับนานแล้ว แม้วา่
ข้างหน้าจะเป็ นหน้าผาก็ทาได้เพียงกระโดดลงไป
แสงเพลิงและการเคลื่อนไหวในวัดจยาหลานย่อมดังไปถึงเขา
ด้านหลังแล้ว “หัวหน้า แย่แล้ว ทหารล้อมเขาไว้แล้ว พวกเรารี บไป
กันเถอะ”
หัวหน้ายืนอยูบ่ นหินก้อนใหญ่หนึ่งก้อน หรี่ ตามองแสงเพลิงในวัดจ
ยาหลาน บนใบหน้ามีความเคร่ งขรึ ม “ไปไหนเล่า หากไม่มีวดั จยา
หลานแล้ว พวกเราพี่นอ้ งหลายพันคนนี้ยงั จะมีชีวิตอยูต่ ่อไปได้หรื อ”
ไม่มีการเลี้ยงดูของวัดจยาหลาน ข้าวของเครื่ องใช้ของพวกเขาจะไป
หามาจากไหน “ไม่ได้ พวกเราต้องปกป้องวัดจยาหลาน”
“หัวหน้า ท่านต้องคิดให้ดีๆ! พวกเรารู ้อยูแ่ ล้วว่านี่เป็ นการพุง่ เป้ามา
ที่พวกเรา ท่านไม่อาจตกหลุมพรางพวกเขาได้! สุ ภาษิตว่าไว้ ตราบ
ใดที่ยงั มีชีวิตย่อมต้องมีความหวัง ไม่มีวดั จยาหลานแล้ว ไม่ใช่วา่ ยัง
มี…” ภายใต้สายตาที่เย็นเยียบของหัวหน้าคนผูน้ ้ นั ก็ไม่กล้าพูดต่อ
แล้ว
หัวหน้าสี หน้าเรี ยบเฉย ทาให้คนทายไม่ถูกว่าเขากาลังคิดอะไรอยู่
ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาหลายคนต่างก็กระวนกระวายใจ เงียบเป็ นเป่ าสาก
เสี ยงตะโกนฆ่าในวัดจยาหลานก็ยงิ่ ชัดเจนขึ้นเรื่ อยๆ โจมตีหวั ใจคน
ทุกคน
“ข้าจะพาคนครึ่ งหนึ่งไปหนุนวัดจยาหลาน พวกเจ้าอยูท่ ี่เขาด้านหลัง
คอยหาโอกาสลงมือ” มือของหัวหน้าโบกบัญชาหนักๆ ตัดสิ นใจ
ด้วยความรวดเร็ ว
“หัวหน้า ให้พวกข้าไปหนุนวัดจยาหลานดีกว่า และไม่จาเป็ นต้องใช้
กาลังพลครึ่ งหนึ่ง ห้าร้อยก็พอแล้ว ฟังจากเสี ยงจานวนทหารน่าจะมี
ไม่เยอะ” หัวหน้าเล็กผูห้ นึ่งกล่าว
หัวหน้าโบกมือ “ทาตามคาสัง่ ”
หัวหน้าพาคนครึ่ งหนึ่งวิ่งไปยังวัดจยาหลานด้วยความเร่ งรี บ
ระหว่างทางก็เจอหลวงจีนเต้ากวงที่มาของความช่วยเหลือที่เขา
ด้านหลัง
หลวงจีนเต้ากวงและคนทั้งสองสภาพจนตรอก บนจีวรเปรอะเปื้ อน
รอยเลือด ราวกับวิง่ ฆ่าออกมาจากกองทัพใหญ่ เมื่อเห็นหัวหน้า
ดวงตาก็ลุกวาว ตะโกนกล่าวด้วยความตื่นเต้นดีใจ “เร็ ว รี บไปช่วย
คน ทหารเยอะยิง่ นัก มีถึงสองสามพันคน ในวัดแทบจะประคองไม่
อยูแ่ ล้ว” เขาหายใจหอบกล่าว
แววตาของหัวหน้านิ่งงัน สองสามพันหรื อ กาลังพลครึ่ งหนึ่งนี้ของ
ตน บวกกับนักบวชหลายร้อยในวัด ก็ทาได้เพียงสู ้รบไล่เลี่ยกัน แต่
ฝ่ ายตนมีขอ้ ดี นัน่ ก็คือคุน้ เคยภูมิประเทศ อืม อัตราชนะยังคงสู งอย่าง
ยิง่
“รี บไป ยังรออะไรอีก” หัวหน้าพาคนวิ่งไปยังวัดจยาหลานด้วยความ
รวดเร็ ว
หลวงจีนเต้ากวงถอนหายใจอย่างโล่งอก กาลังจะเดินตามกลับไป
ถูกผูช้ ่วยหนึ่งขวางไว้ จับแขนหลวงจีนเต้ากวงกับผูช้ ่วยสองหลบเข้า
ไปในป่ า
หัวหน้ากาลังรี บไปช่วยคน ไม่ทนั ได้สงั เกตว่าหลวงจีนเต้ากวง
ตามมาหรื อไม่ ยังคิดว่าเขาอยูข่ า้ งหลังกองทัพอยูเ่ ลย
กว่าหัวหน้าจะตระหนักถึงความผิดปกติได้ เขาก็ถูกสวีโย่วตัดทาง
หนีทีไล่หนั กลับไม่ได้แล้ว เขาเห็นคุณชายสู งส่ งที่สง่าผ่าเผยผูน้ ้ นั ยืน
อยูน่ อกวิหารใหญ่ จากนั้นจึงเห็นนักบวชที่ยนื อยูข่ า้ งหลังเขา
ท้ายที่สุดก็ส่งสายตาไปยังชายฉกรรจ์ชุดดาที่ตะโกนฆ่าสู ้รบกันอยู่
ยังมีอะไรไม่เข้าใจอีก
“ท่านเป็ นใคร” ดวงตาหัวหน้ามีความรู ้สึกอาฆาตแค้นแวบผ่าน
สวีโย่ววางท่าทีสบายๆ “ข้าเป็ นใครสาคัญด้วยหรื อ ในเมื่อมาแล้ว
เช่นนั้นก็อยูท่ ี่นี่ให้หมดเถอะ”
“เหอะ ท่าทางการพูดของท่านโอ้อวดยิง่ นัก ไม่รู้เหมือนกันว่าฝี มือ
จะเป็ นอย่างไร คิดจะฆ่าพวกข้าหรื อ เช่นนั้นก็ลองดูเถอะ” หัวหน้า
กล่าวอย่างเย็นเยียบ “ฆ่า!” เขาชักมีดคู่ออกมาจากนั้นก็วิ่งไปยังทหาร
เงาที่อยูใ่ กล้เขาที่สุด
สวีโย่วเองก็ขยับแล้ว เขาไม่ได้ใช้กระบี่ แต่จบั ทวนยาวที่เจียงเฮยส่ ง
มาให้เขา ตกลงสู่ มืออย่างหนักหน่วง “ทวนดี!” เขาเอ่ยชมหนึ่ง
ประโยค วันนี้เขาอยากลองราชันอาวุธที่ถูกน้องสี่ แซ่เสิ นเทิดทูนมาก
เป็ นพิเศษดูบา้ ง
เขากระโดดออกไปราวกับนกใหญ่สยายปี ก ทวนยาวในมือแทงติดๆ
กัน ประหนึ่งมังกรคะนองน้ าที่โผล่ออกมาจากน้ าลึก บีบรัดพลังที่มิ
อาจหลบหลีกหนึ่งกลุ่ม เขาลอยขึ้น หมุนตัวกลางอากาศ โบกม่าน
แสงแวววับหนึ่งผืน ดุจดวงดาราระยิบระยับที่ตกลงท่ามกลางนภา
ในยามราตรี ม่านแสงหายไป สวีโย่วยืนอย่างมัน่ คง รอบด้านเขามี
คนหนึ่งวงล้มลง
เขากุมทวนยืนตรง ปลายทวนชี้ออกข้างหน้า สายตากวาดไปทัว่ ทุก
แห่ง ทหารกบฏบนเขาด้านหลังถอยทัพพร้อมกัน “ทวนดี!” สวีโย่วก
ล่าวชมอีกครั้ง ในสนามรบแห่งนี้ ยังคงเป็ นทวนยาวที่ใช้ได้คล่อง
มือ! มิน่าเล่าน้องสี่ แซ่เสิ่ นถึงได้ชอบใช้ดาบหมื่นโลหิ ตเพียงนั้น สวี
โย่วแหงนหน้าผิวปากยาว ในใจฮึกเหิ มอย่างยิง่ กระโดดเข้าวงรบอีก
ครั้ง
แทบจะหนึ่งทวนหนึ่งคน สวีโย่วฆ่าอย่างมีความสุ ข ส่ วนนักบวชที่
ยืนมองดูอยูน่ อกวิหารใหญ่กแ็ ทบจะอกสัน่ ขวัญแขวน น…นี่คือ
คุณชายอ่อนแอที่ทุกวันถูกคนพยุงแม้แต่ถนนก็เดินไม่ได้ผนู ้ ้ นั หรื อ
เห็นชัดๆ ว่าเป็ นเทพสังหาร! บางคนที่ข้ ีขลาด ก็ขาอ่อนสัน่ ระริ กนัง่
ลงไปบนพื้นอยูน่ านแล้ว แม้วา่ จะเป็ นคนที่กล้าหาญ ทัว่ ทั้งร่ างก็เย็น
ชืด รู ้สึกว่ามือเท้าต่างก็คล้ายกับชาไปหมดแล้ว
สวีโย่วกับหัวหน้าสู ้รบด้วยกัน หัวหน้าเป็ นชายอายุประมาณสามสิ บ
ร่ างสู งแปดฉื่อ รู ปร่ างกายา สวีโย่วอยูต่ ่อหน้าเขาก็เหมือนกับไก่อ่อน
ตอนแรก หัวหน้าไม่เห็นสวีโย่วอยูใ่ นสายตาเลยด้วยซ้ า แต่ยงิ่ รบ
หัวใจเขาก็ยงิ่ เย็น เสื้ อของตนถูกฝ่ ายตรงข้ามแทงจนเป็ นรู นบั ไม่ถว้ น
แล้ว ส่ วนตนเองกลับแตะไม่ได้แม้แต่ชายเสื้ อของฝ่ ายตรงข้าม
นอกประตูวดั มีเสี ยงตะโกนฆ่าดังขึ้น สวีโย่วก็รู้วา่ กองทัพใหญ่ของ
ราชสานักมาแล้ว การเคลื่อนไหวในมือก็เร็ วยิง่ ขึ้น ส่ วนหัวหน้าก็ตื่น
ตระหนกยิง่ ขึ้น
สวีเวยคือผูบ้ ญั ชาการใหญ่ของกองทัพรักษาพระองค์ และเป็ นคน
สนิทที่จกั รพรรดิยงเซวียนไว้ใจที่สุด ตอนนี้เขาถือพระราชโองการ
ลับนากองทัพรักษาพระองค์หา้ พันนายมาสมทบกับคุณชายใหญ่ เขา
วิง่ เข้ามาในวัดจยาหลาน เห็นคุณชายใหญ่ผนู ้ ้ นั แทงคนที่แต่งตัวเป็ น
หัวหน้าติดอยูก่ บั พื้น มุมปากก็กระตุกอย่างอดไม่ได้ คนนอกต่างก็
กล่าวว่าคุณชายใหญ่เป็ นคนขี้โรค แต่จะมีใครรู ้บา้ งว่าเขากล้า
หาญเ**่้ยมโหดเพียงนี้
สวีโย่วเองก็มองเห็นสวีเวยแล้ว พยักหน้าบอกเป็ นนัยให้เขาเล็กน้อย
ปากก็ส่งเสี ยงผิวปากที่แหลมเปรี ยวเสี ยงหนึ่งออกมา ทหารเงาที่
กาลังสู ้รบก็มารวมตัวข้างกายสวีโย่วทันที เมื่อรวมตัวได้เกือบครบ
แล้ว เขาก็พาคนไปยังเขาด้านหลัง ส่ งสนามรบในวัดจยาหลานให้ส
วีเวยรับมือต่อ
หลวงจีนเต้ากวงที่ถูกทหารเงาคุมตัวไปจับต้นชนปลายไม่ถูก
เล็กน้อย เดิมเขาคิดว่าสวีโย่วกลับคาคิดจะเอาชีวิตเขา แต่ทหารเงา
สองคนนี้เพียงแค่คุมตัวเขาไปข้างๆ ไม่ได้ทาให้เขาลาบาก แต่กไ็ ม่
พูดอะไรกับเขาเช่นกัน
“โยมทั้งสอง หากไม่มีอะไรก็โปรดพาอาตมาออกไป ก่อนหน้านี้
โยมสวีรับปากไว้แล้ว” หลวงจีนเต้ากวงพูดอีกครั้ง
คราวนี้ทหารเงาตอบกลับแล้ว “ไม่รีบ เขาด้านหลังยังมีกาลังพลอีก
ครึ่ งมิใช่หรื อ ไปเถอะ หน้าที่ของพระอาจารย์ยงั ไม่เสร็ จเลย”
สบสายตาที่คล้ายยิม้ คล้ายไม่ยมิ้ ของทหารเงา หัวใจของหลวงจีน
เต้ากวงก็พลันเต้น คาดไม่ถึงว่าพวกเขารู ้แม้แต่เรื่ องที่เมื่อครู่ มีกาลัง
พลไปเพียงครึ่ งหนึ่ง คิดว่าตนโชคดี คิดว่าอย่างไรเสี ยก็ปกป้องกาลัง
พลครึ่ งหนึ่งให้นายท่านได้
ช่างเถอะๆ มาถึงขั้นนี้แล้ว ไหนเลยจะยังต้องห่วงนายท่านอะไรอีก
ปกป้องชีวิตตัวเองเถอะ
หลวงจีนเต้ากวงไปขอความช่วยเหลือที่เขาด้านหลังต่อ เดิมยังกังวล
ว่าโน้มน้าวพวกเขายังต้องเปลืองน้ าลายมากกว่านี้ ไม่นึกว่าเมื่อพวก
เขาได้ยนิ ว่าสถานการณ์ในวัดจยาหลานไม่ดี ก็นากาลังพลครึ่ งหนึ่งที่
เหลือไปทันที
ไม่ไปได้หรื อ หัวหน้ายังอยูใ่ นวัดจยาหลาน ไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งช่วย
หัวหน้ากลับมา ไม่มีหวั หน้าพวกเขาก็จะถูกตัดความสัมพันธ์กบั
เบื้องบน
ยังไปไม่ถึงวัดจยาหลาน ก็ถูกสวีโย่วนาคนมาซุ่มโจมตีระหว่างทาง
เห็นทหารกบฏบนเขาด้านหลังที่ถูกธนูยงิ ล้มอย่างต่อเนื่อง มุมปาก
ของสวีโย่วก็เผยรอยยิม้ กระหายเลือดออกมา
มีทหารเงาสมทบกับกองทัพรักษาพระองค์ ทหารกบฏบนเขา
ด้านหลังก็หนีไปไม่ได้แม้แต่คนเดียว ถึงรุ่ งสางสนามรบก็ถูกเก็บ
วาดจนเรี ยบร้อย ทัว่ ทุกหนทุกแห่งในวัดจยาหลานต่างก็เผาไม้จนั ทร์
จึงกลบกลิ่นคาวเลือดได้
เรื่ องหลังจากนี้สวีโย่วไม่คิดจะยุง่ แม้แต่นิดเดียว ทั้งหมดโยนให้ส
วีเวยผูบ้ ญั ชาการใหญ่ ตอนนี้ใจเขาอยากกลับบ้านเต็มทน ทั้งสมอง
คิดแต่เพียงจะแต่งน้องสี่ แซ่เสิ่ นเด็กคนนั้นกลับบ้าน
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 212-1 วันสมรสกาหนดแล้ว
เสิ่ นเวยกาลังตามฮูหยินสวี่ป้าสะใภ้ใหญ่ของนางไปเป็ นแขกที่บา้ น
ฝั่งมารดา
สวี่เหลิ่งเหมยเห็นเสิ่ นเวยมาแต่ไกลก็ยกกระโปรงวิ่งเข้ามาแล้ว
“ท่านพี่เวย” ตะโกนเรี ยกเสิ่ นเวยเสร็ จแล้วก็เพิ่งจะทาความเคารพฮู
หยินสวี่ขา้ งๆ “ท่านอา”
ฮูหยินโหลวมารดาของสวี่เหลิ่งเหมยอยูข่ า้ งหลังมองท่าทางโง่เขลา
ของบุตรสาวตัวเอง อดไม่ได้ที่จะทาหน้ากลุม้ ใจ นี่บุตรสาวโง่เขลา
ตระกูลใดกัน ตีให้ตายก็ไม่ยอมรับว่าเป็ นบุตรสาวตระกูลตน หิ้วไป
หิ้วไป รี บหิ้วไปให้ไว
โชคดีที่ฮูหยินสวี่รู้นิสยั ของหลานสาวเป็ นอย่างดี จึงไม่ได้โกรธ ยิม้
แย้มมองนางจับมือของเวยเอ๋ อร์แล้วกล่าว
“ท่านพี่เวย เหตุใดท่านถึงไม่มาเล่นกับข้าเล่า ข้าอยูค่ นเดียวในจวน
แทบจะอึดอัดตายอยูแ่ ล้ว ข้าอยากไปหาท่านที่จวนโหว ท่านแม่กไ็ ม่
อนุญาต บอกว่าท่านยุง่ อยู่ ท่านพี่เวยท่านยุง่ อะไรหรื อ” สวี่เหลิ่ง
เหมยมองเสิ่ นเวยด้วยดวงตาเป็ นประกาย
คราวนี้ไม่เพียงแต่ฮูหยินโหลวอยากก่ายหน้าผาก แม้แต่ฮูหยินสวี่ก็
อดหัวเราะไม่ได้ “เด็กโง่ แม่เจ้าไม่ได้หลอกเจ้า พี่เวยของเจ้ายุง่
จริ งๆ”
สวี่เหลิ่งเหมยเด็กคนนี้ยงั ถามอีกว่ายุง่ อะไร
ฮูหยินโหลวจิ้มหน้าผากลูกสาวด้วยความเจ็บใจที่ไม่อาจหลอมเหล็ก
ให้กลายเป็ นเหล็กกล้าได้ “พี่เวย
ของเจ้าหมั้นหมายแล้ว อีกประเดี๋ยวก็จะออกเรื อนแล้ว เจ้าคิดว่าวัน
ทั้งวันจะว่างไม่มีอะไรทาเหมือนเจ้าหรื อไร”
ส่ วนสวี่เหลิ่งเหมยก็กมุ หน้าผากหัวเราะใสซื่อ มีความสุ ขมากเป็ น
พิเศษ ฮูหยินโหลวโมโหจะตายอยูแ่ ล้ว บุตรสาวเช่นนี้จะแต่งออก
เรื อนได้จริ งๆ หรื อ แต่งออกไปแล้วจะดีจริ งๆ หรื อ หรื อว่าจะ
ปรึ กษากับนายท่าน ดูวา่ เขามีศตั รู การเมืองในราชสานักหรื อไม่ ให้
บุตรสาวแต่งเข้าไปทาลายตระกูลเขาเสี ย
เสิ่ นเวยทาความเคารพฮูหยินโหลว “คารวะท่านน้าสะใภ้ใหญ่” ยัง
ไม่ทนั จะย่อขาก็ถูกฮูหยินโหลวดึงขึ้นมาแล้ว “ดูเด็กคนนี้สิ ยัง
เกรงใจน้าอยูเ่ ลย ยิง่ โตยิง่ สวยจริ งๆ ไม่เจอกันเดือนกว่า เวยเอ๋ อร์สวย
ขึ้นแล้ว” นางจับมือของเสิ่ นเวยกล่าวชม รอยยิม้ บนใบหน้าเป็ นมิตร
อย่างยิง่
เสิ่ นเวยยิม้ ทักทายพี่รองของนาง ลูกสะใภ้คนโตของฮูหยินโหลว
ตามสามีออกไปทางานราชการข้างนอกแล้ว ไม่อยูใ่ นจวน ดังนั้นคน
ที่อยูข่ า้ งกายฮูหยินโหลวจึงเป็ นลูกสะใภ้รองของนาง ก็คือเสิ่ นซวงพี่
รองของเสิ่ นเวย
เสิ่ นซวงประคองแขนของฮูหยินโหลว ท่าทางสนิทสนมอย่างยิง่ ฮู
หยินสวี่มองบุตรสาวตนปราดหนึ่ง เห็นนางมีท่าทางผ่อนคลาย สี
หน้าดีอย่างยิง่ จึงวางใจลง แม้จะรู ้วา่ พี่สะใภ้ใหญ่ดีต่อบุตรสาวนาง
แต่อย่างไรเสี ยมาเห็นด้วยตาตัวเองจึงจะเชื่อ
ฮูหยินอาวุโสในจวนสวี่อายุมากแล้ว ก่อนหน้านี้กก็ าชับว่าไม่ตอ้ ง
ตั้งใจมากเยีย่ มเยียนเป็ นพิเศษ อีกทั้งฮูหยินสวี่กก็ ลับบ้านฝั่งมารดา
ไม่ถือว่าเป็ นคนนอก อยากเจอมารดาเมื่อไหร่ กย็ อ่ มได้ ด้วยเหตุน้ ีคน
หนึ่งแถวจึงไปพูดคุยที่เรื อนฮูหยินโหลวก่อน
ฮูหยินโหลวลากฮูหยินสวี่มาพูดคุย “ฉู่ถงเอ๋ อร์ที่นอ้ งพูดถึงคือ
บุตรสาวคนโตบ้านน้องกวง เป็ นเด็กดี ในตระกูลเป็ นคนที่มี
ความสามารถยอดเยีย่ มไม่เป็ นรองใคร เพียงแต่เรื่ องสมรสไม่คอ่ ย
สมหวังนัก นี่เองก็โทษบุตรสาวตระกูลเขาไม่ได้ อันที่จริ งแล้วไว้
ทุกข์จนล่าช้า” นางหยุดครู่ หนึ่ง ละสายตามองเด็กสาวที่นงั่ ตัวตรงอยู่
ข้างๆ ปราดหนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวต่อ “ครอบครัวบ้านน้องกวงดีอย่าง
ยิง่ น้องสะใภ้ตระกูลเขาก็เป็ นคนเพียบพร้อม ทั้งตระกูลปรองดอง
รักใคร่ กนั ข้าว่า ก็แค่บุตรสาวอายุมากไปสองปี มิใช่หรื อ บุตรสาว
เป็ นคนดีสาคัญกว่าสิ่ งใดมิใช่หรื อ หากข้ามีลูกชายอีก ก็ยอมที่จะสู่
ขอฉู่ถงเอ๋ อร์เป็ นลูกสะใภ้ ดีกว่าสู่ ขอคนที่ไม่มีระเบียบแบบแผนเข้า
มา”
ฮูหยินสวี่กล่าวคล้อยตาม “พูดได้วา่ แต่งภรรยาแต่งสตรี มีคุณธรรม
อะไรก็สู้คนดีไม่ได้” ตอนที่พดู เช่นนี้นางก็มองเสิ่ นเวยปราดหนึ่ง
“ข้าพูดมากกว่านี้กเ็ หมือนเสแสร้ง อีกประเดี๋ยวน้องสะใภ้ตระกูล
น้องกวงกับฉู่ถงเอ๋ อร์มาเจ้าก็ดูเองแล้วกัน” ฮูหยินโหลวยิม้
ฮูหยินสวี่กล่าวด้วยความสนใจใคร่ รู้ “ก็จริ ง ข้าไม่ได้เจอฉู่ถงเอ๋ อร์มา
หลายปี แล้ว ฟังว่าเติบโตมาราวกับบุปผา อีกประเดี๋ยวจะต้องตั้งใจดู
ให้ดีแล้ว”
เสิ่ นเวยรี บลุกขึ้นยืนโค้งคานับขอบคุณฮูหยินโหลว “ขอบคุณท่านน้า
สะใภ้ใหญ่ที่เป็ นห่วง ไม่ปิดบังท่านน้าสะใภ้ใหญ่ ลูกผูพ้ ี่ของข้าที่
บ้านท่านตาข้าผูน้ ้ นั แม้วา่ ในตระกูลจะเทียบเมื่อก่อนไม่ได้ แต่ลูกผูพ้ ี่
ของข้าผูน้ ้ นั กลับเป็ นคนดีอย่างยิง่ ประพฤติตนซื่อสัตย์ยดึ มัน่ ใน
จริ ยธรรม ทั้งยังสร้างอนาคตได้ดว้ ยตัวเอง ตระกูลเขาก็ไม่ขออย่าง
อื่น เพียงแค่เป็ นคนดี กตัญญู ดูแลบ้านได้ ส่ วนรู ปร่ างหน้าตาต่างๆ
ขอเพียงแค่หน้าตาได้สดั ส่ วนก็พอแล้ว เหมือนอย่างที่ท่านน้าสะใภ้
ว่า แต่งภรรยาแต่งสตรี มีคุณธรรม ลูกผูพ้ ี่ขา้ เองก็ไม่ได้มีนิสยั เสเพล
เจ้าชูป้ ระตูดิน อายุมากหน่อยก็ไม่เป็ นไร นิทานพื้นบ้านยังบอกไว้วา่
‘แก่กว่าหุม้ ทอง 3 ก้อน[1]’ มิใช่หรื อ”
ดวงตาของเสิ่ นเวยมีความจริ งใจ “ท่านตาข้าไม่มีแม้แต่สตรี ใน
ครอบครัวที่สามารถออกหน้าได้ คาดหวังกับผูช้ ายสองคนในบ้านก็
ไม่ประสบความสาเร็ จ ข้าที่เป็ นหลานสาวจะช่วยเหลือสักเล็กน้อย
ไม่ได้เลยหรื อ เพียงแต่ตอ้ งลาบากท่านน้าสะใภ้ใหญ่ให้ตอ้ งเหนื่อย
ไปด้วย ในใจข้ารู ้สึกเสี ยใจจริ งๆ”
คาพูดหลายประโยคพูดได้อย่างรอบคอบไร้ช่องโหว่ พูดจนฮูหยิน
โหลวแย้มยิม้ ดีใจ “ดูเวยเอ๋ อร์พดู เข้า ยังจะเกรงใจน้าอยูท่ าไม น้าเห็น
เจ้าเป็ นเหมือนกับพี่รองของเจ้าและเหมยเอ๋ อร์ เด็กดี มีอะไรเจ้าก็มา
รบกวนน้าได้เลย น้ายินดี”
คาพูดนี้ฮูหยินโหลวพูดด้วยความสัตย์ซื่อจริ งใจ ไม่ตอ้ งเอ่ยถึงเรื่ องที่
เวยเอ๋ อร์ช่วยบุตรสาวนางไว้ เพียงแค่นิสยั ของเสิ่ นเวย ฐานะตาแหน่ง
กับบ้านว่าที่สามี ก็เพียงพอให้นางผูกมิตรอย่างยิง่ แล้ว
ขณะที่กาลังพูด ก็มีสาวใช้เข้ามารายงานว่ากวงต้าไหน่ไนตระกูล
นายท่านกวงมาถึงแล้ว ไม่นานนัก ก็เห็นสตรี วยั กลางคนผูห้ นึ่งพา
เด็กสาวชุดกระโปรงสี ม่วงผูห้ นึ่งเดินเข้ามา
“ไอหยา น้องสะใภ้มาเสี ยที ไม่เจอกันนานเลย ฉู่ถงเอ๋ อร์โตเป็ นสาว
แล้ว สวยจริ งๆ” ฮูหยินโหลวต้อนรับอย่างเป็ นมิตร
จางซื่อเองก็ยมิ้ ทักทาย “นางเพียงแค่มีหน้าตาได้สดั ส่ วนเล็กน้อย
ไหนเลยจะควรค่าให้พี่สะใภ้ใหญ่เชยชม ข้ากลับคิดว่าเหมยเอ๋ อร์ของ
พวกเราอ่อนหวานน่ารัก ภรรยาของหรงเอ๋ อร์กส็ ง่าผ่าเผย น้องใหญ่
กลับมาแล้ว ดูสีหน้าสิ เด็กลงกว่าเดิมอีก!” นางพูดถึงคนทั้งหมดใน
ลานรอบหนึ่งอย่างชาญฉลาด หลังจากนั้นสายตาก็ลุกวาว มอง
ใบหน้าของเสิ่ นเวย “เด็กสาวที่ราวกับนางฟ้าผูน้ ้ ีไม่ค่อยคุน้ หน้านัก!”
ฮูหยินสวี่ดึงเสิ่ นเวยมาแนะนา “นี่คือเวยเอ๋ อร์หลานสาวบ้านสามีของ
ข้า พ่อนางทางานอยูใ่ นกรมพิธีการ” จากนั้นก็กล่าวกับเสิ่ นเวย “เวย
เอ๋ อร์ นี่คือพี่สะใภ้บา้ นพี่ใหญ่กวงผูน้ ้ นั ของข้า ฮูหยินของท่านราช
บัณฑิต นี่คือบุตรสาวของนาง ชื่อฉู่ถง โตกว่าเจ้าเล็กน้อย เจ้าต้อง
เรี ยกนางว่าพี่”
เสิ่ นเวยโค้งตัวทาความเคารพ “เคารพฮูหยิน ท่านพี่ฉู่ถง”
จางซื่อยืน่ มือจับเสิ่ นเวยขึ้นมา “นี่กค็ ือเวยเอ๋ อร์ที่ได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์ให้เป็ นจวิน้ จู่ผนู ้ ้ นั ใช่หรื อไม่ เป็ นหญิงงามจริ งๆ! ว่ากัน
ตามจริ งข้าควรจะเคารพจวิน้ จู่เหนียงเหนียง วันนี้ขา้ อาศัยบารมีของ
น้องใหญ่ เรี บกเจ้าว่าเวยเอ๋ อร์ เวยเอ๋ อร์เองก็อย่าเรี ยกข้าว่าฮูหยินเลย
เรี ยกว่าน้าสะใภ้จะดูสนิทกว่า”
ฮูหยินสวี่รีบกล่าว “ดูพี่สะใภ้ใหญ่กวงพูดเข้า พวกเราไม่ใช่คนนอก
นางเป็ นเด็กผูห้ ญิงตัวเล็กๆ จะต้องเคารพอะไรกัน วันนี้พวกเราเพียง
มาพบปะญาติๆ”
เสิ่ นเวยย่อมเอ่ยปากเรี ยกจางซื่อว่าน้าสะใภ้อย่างว่าง่าย ได้รับปิ่ นปั ก
ผมเลี่ยมดอกเหมยหนึ่งอันเป็ นของขวัญพบหน้า จากนั้นก็พดู คุยกับ
ฉู่ถงและคนอื่นๆ เล็กน้อย
สายตาของเสิ่ นเวยมองประเมินสวี่ฉู่ถงอยูเ่ งียบๆ หากบอกว่าสวี่
เหลิ่งเหมยอ่อนหวานน่ารัก เช่นนั้นสวี่ฉู่ถงก็งดงามสุ ภาพ ดวงหน้า
แจ่มชัด เรี ยบร้อยเมตตา ดูก็รู้วา่ เป็ นคนที่มีความคิดเป็ นของตัวเอง
เสิ่ นเวยพยักหน้าเงียบๆ ในใจ ลูกผูพ้ ี่นางต้องการภรรยาคุณธรรมที่มี
ความคิดเป็ นของตัวเอง ดอกไม้เล็กๆ ที่อ่อนแอไหนเลยจะประคอง
จวนแม่ทพั ใหญ่ได้
ตอนที่เสิ่ นเวยมองประเมินสวี่ฉู่ถง สวี่ฉู่ถงเองก็มองประเมินนางอยู่
เช่นกัน เมื่อก่อนนางเคยพอใจในหน้าตาของตัวเอง แต่รูปร่ างหน้าตา
ของเด็กสาวผูน้ ้ ีตรงหน้ากลับดีกว่านางสามเท่า เมื่อมองอากัปกิริยา
นั้น ก็รู้วา่ มารยาทดีอย่างถึงที่สุด ดวงตาที่ยมิ้ แย้ม ง่ายอย่างยิง่ ที่จะทา
ให้คนเกิดความรู ้สึกดีในใจ
ตอนที่มา ท่านแม่หลุดปากบอกจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้กบั นาง
แล้ว นางเองก็รู้วา่ เด็กสาวผูน้ ้ ีกค็ ือลูกผูน้ อ้ งของชนรุ่ นหลังแซ่หร่ วน
ผูน้ ้ นั ตั้งใจมาดูตนเอง นึกถึงตรงนี้ในใจนางก็พะว้าพะวงหลายส่ วน
ไม่รู้เหมือนกันว่าการแสดงออกของตนจะทาให้เด็กสาวผูน้ ้ ีพอใจ
หรื อไม่ นิ้วมือก็บิดผ้าเช็ดหน้าอย่างไม่รู้ตวั
จางซื่อสังเกตเห็นการกระทาเล็กๆ ของลูกสาว ก็รู้สึกขบขันในใจ
อย่างอดไม่ได้
ก่อนหน้านี้ลูกสาวดึงดันจะไปดูชนรุ่ นหลังแซ่หร่ วนผูน้ ้ นั กับตา ตน
ทนนางรบเร้าไม่ไหว จึงรับปาก ใครจะรู ้หลังจากที่นอ้ งชายนางพา
นางไปดูรอบหนึ่ง กลับมานางก็พยักหน้าตอบรับแล้ว ใบหน้างามทั้ง
ใบแดงซ่าน
จางซื่อรู ้สึกประหลาดใจ ลูกชายบอกนางว่า ถงเอ๋ อร์มองดูอยูไ่ กลๆ
ปราดหนึ่ง ไม่ได้กระทาการเกินเลยแม้แต้นิดเดียว เช่นนั้นบุตรสาว
หน้าแดงได้อย่างไร
หลังจากไต่ถามซ้ าแล้วซ้ าเล่า บุตรสาวก็เผยต้นสายปลายเหตุดว้ ย
ความเขินอาย ที่แท้แล้วหลายเดือนก่อน ระหว่างทางที่ถงเอ๋ อร์กลับ
มาจากการกราบไหว้บูชาก็บงั เอิญเจออันธพาลเสเพล ทาให้มา้
แตกตื่น ชนรุ่ นหลังแซ่หร่ วนที่ผา่ นทางมาช่วยคุมม้าตื่นไว้ให้ จัดการ
คนเสเพลหลายคนนั้น ทั้งยังคุม้ กันนางเข้าเมืองด้วยตัวเอง ภายหลัง
ไม่ทิ้งไว้แม้แต่ชื่อแซ่กจ็ ากไปแล้ว
เรื่ องนี้จางซื่อเองก็ทราบ หลังกลับจวนบ่าวรับใช้กเ็ ล่าเรื่ องนี้ให้นาง
ฟัง นางยังกอดลูกสาวรู ้สึกโชคดีไปพลางหวาดกลัวไปพลาง ว่ากัน
ตามตรงบุตรสาวโชคดีได้พบบุคคลผูท้ รงเกียรติ ไม่คิดว่าบุคคลผู ้
ทรงเกียรติน้ ีจะเป็ นชนรุ่ นหลังแซ่หร่ วนผูน้ ้ นั ช่วยคนไม่ทวงบุญคุณ
เห็นได้วา่ เป็ นคนนิสยั ดี อย่าว่าแต่บุตรสาวยินยอม แม้แต่ตน ก็
ยินยอมเช่นกัน
“พอแล้ว เหมยเอ๋ อร์ เจ้าไม่ตอ้ งเบ้ปากแล้ว รี บพาพี่เวย พีถ่ งของเจ้า
ไปเล่นที่สวนของเจ้ากับพี่สะใภ้รองเถอะ” ฮูหยินโหลวมองลูกสาว
อย่างขบขา
จางซื่อฮูหยินสวี่เองก็กล่าว “ไปเถอะ ไปเถอะ พวกข้าคุยกันพวกนาง
จะเบื่อเอา ไม่บงั คับกัน พวกเจ้าไปเล่นกันเองเถอะ”
สวี่เหลิ่งเหมยลุกขึ้นยืนด้วยความดีใจทันที “ท่านพี่สะใภ้รอง ท่านพี่
เวย ท่านพี่ถง พวกเรารี บไปกันเถอะ ข้ายังมีของดีให้พวกท่านดู” มือ
แต่ละข้างจูงเสิ่ นเวยกับสวี่ฉู่ถงจากนั้นก็วงิ่ ไปข้างนอก ทาให้คนเป็ น
แม่ท้ งั สามหัวเราะไม่หยุด
[1] แก่กว่าหุม้ ทอง 3 ก้อน หมายถึงภรรยาที่แก่กว่าสามี มีขอ้ ดี 3
ประการ ได้แก่ ดูแลสามีประดุจสามีเป็ นลูกชาย ให้คาปรึ กษาประดุจ
สามีเป็ นน้องชาย และต่อหน้าสังคมเคารพเชื่อฟังสามีเหมือนภรรยา
ทัว่ ไป
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 212-2 วันสมรสกำหนดแล้ว
สวีโย่วรี บกลับเมืองหลวงด้วยความร้อนอกร้อนใจ เข้าวังกลางดึก
รายงานหน้าที่ เล่าเรื่ องสื บสาวกวาดล้างทหารกบฏก่อนหนึ่งรอบ
จากนั้นก็คุกเข่าลงบนพื้นไม่ลุกขึ้นอีกทันที “เสด็จลุง หลานเองก็อายุ
ไม่นอ้ ยแล้ว ท่านคิดว่างานสมรสของหลานควรจัดได้แล้วหรื อยัง
วันที่ยสี่ ิ บหกเดือนสี่ เป็ นวันดี หลานคิดว่าวันนั้นก็ไม่เลว”
จักรพรรดิยงเซวียนมองหลานชายที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้น เขายังจมดิ่งอยู่
ในความดีใจในชัยชนะ ยังคิดจะปูนบาเหน็จให้หลานชายอีกหน่อย
ไม่นึกว่าท่าทีของหลานชายจะเปลี่ยนไปเร็ วเพียงนี้ ชัว่ ขณะก็
เปลี่ยนไปพูดเรื่ องสมรสแล้ว
นิ้วมือจักรพรรดิยงเซวียนชี้สวีโย่วอยูน่ านก็พดู ไม่ออกแม้แต่
ประโยคเดียว เคยได้ยนิ คนเกลียดการแต่งงาน แต่ไม่เคยได้ยนิ คนที่
ร้อนใจอยากจะแต่งงานเช่นนี้ วันที่ยสี่ ิ บหกเดือนสี่ วันนี้กว็ นั ที่ยสี่ ิ บ
เอ็ดเดือนสี่ แล้วมิใช่หรื อ เวลาสี่ หา้ วันจะพอให้ทาอะไร
ทว่าสวี่โย่วกลับมีเหตุผลอย่างยิง่ “เตรี ยมการหรื อ ไม่มีอะไร
จาเป็ นต้องเตรี ยม เดิมหลานก็ควรแต่งงานตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนแล้ว
ก่อนหน้านี้กเ็ ตรี ยมเสร็ จสมบูรณ์อย่างยิง่ แล้ว ตอนนี้ล่าช้าอยูน่ าน
เพียงนี้ ก็ยงิ่ ควรจะเตรี ยมเสร็ จเรี ยบร้อยแล้ว หลานคิดว่าต่อให้จะ
กาหนดวันเป็ นพรุ่ งนี้ กรมพิธีการกับจวนอ๋ องก็สามารถวางลาดับพิธี
ได้แล้ว”
น่าขัน เขาจะไม่รีบได้อย่างไร หากยังไม่แต่งน้องสี่ แซ่เสิ่ นมาไว้ใน
มือนางก็คงจะหนีไปแล้ว ระหว่างทางกลับเขาก็ได้รับข่าว บอก
ว่าจิ้นหวังเฟยเชิญน้องสี่ แซ่เสิ่ นไปสนทนาที่จวนอ๋ อง หลานสาวคน
ดีผนู ้ ้ นั ที่บา้ นฝั่งมารดานางก็เปิ ดตัว แม้วา่ น้องสี่ แซ่เสิ่ นจะไม่ถูกเอา
เปรี ยบ ทั้งยังทาจิ้นหวังเฟยโกรธจนหงายหลัง
แต่สวีโย่วก็เป็ นกังวล น้องสี่ แซ่เสิ่ นไม่ใช่คนใจเย็น ทั้งยังราคาญ
ปัญหาจุกจิกที่น่าเบื่อเหล่านี้ เขากลัวอย่างยิง่ ว่านางจะกลับคาหนีไป
ถึงตอนนั้นนางใช้ไม้ตายอะไรออกมา เชิดหน้าออกไปท่องยุทธภพ
ด้วยตัวเอง แล้วเขาจะไปหานางจากไหน รี บแต่งกลับมาให้สบายใจ
ดีกว่า!
“พรุ่ งนี้หรื อ เจ้าคิดว่าเสนาบดีกรมพิธีการของเราเป็ นเทวดาหรื อ
อาโย่ว เจ้าอยากแต่งภรรยาเพียงนี้เลยหรื อ” จักรพรรดิยงเซวียนยิม้
ก่นด่าหนึ่งครา หลังจากนั้นก็หยอกล้อหลานชายขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณหนูตระกูลเสิ่ นผูน้ ้ นั ดีเพียงนั้นเชียวหรื อ”
ทว่าสวีโย่วกลับพยักหน้าอย่างจริ งจัง “เสด็จลุง หลานคิดว่าคุณหนูสี่
แซ่เสิ่ นดี อยูก่ บั นางหลานจึงรู ้สึกมีความสุ ข”
เดิมจักรพรรดิยงเซวียนคิดจะบอกว่าอย่างน้อยก็ตอ้ งเตรี ยมงานสัก
ครึ่ งเดือน แต่เห็นท่าทางห่อเ**่่ยวกับสี หน้าจริ งจังบนใบหน้าของ
หลานชาย หัวใจเขาก็อ่อนลงอีกครั้ง ช่างเถอะ ตั้งแต่เล็กหลานชาย
คนนี้กเ็ ย็นชา ตลอดทั้งปี ไม่เคยเห็นเขายิม้ สักครั้ง ทั้งยังไม่เคยเห็น
เขาชอบอะไรหรื อชอบใครมาก่อน ยากจะเห็นว่าเขาสนใจสตรี เพียง
นี้ ซ้ ายังเป็ นคู่หมั้นของตนเอง เช่นนั้นก็ทาให้เขาสมหวังเถอะ
จักรพรรดิยงเซวียนตัดสิ นใจว่าแม้กรมพิธีการจะทางานล่วงเวลาก็
ต้องทาให้หลานชายสมปรารถนา
สวีโย่วปฏิเสธพระกรุ ณาธิคุณที่จกั รพรรดิยงเซวียนให้เขาค้างคืนใน
วัง หนึ่งก็เพื่อหลีกเลี่ยงการสงสัย อย่างไรเสี ยเขาก็ไม่ใช่พระราชบุตร
ซ้ ายังเป็ นผูใ้ หญ่แล้ว ที่สาคัญที่สุดก็คือเขายังอยากไปปี นกาแพงจวน
จงอู่โหวเยีย่ มเยียนหญิงงามอยูด่ ว้ ย
เมื่อสวีโย่วเข้าไปใกล้หอ้ งของเสิ่ นเวยนางก็รู้สึกตัวแล้ว แอบเตรี ยม
ป้องกันตัวเงียบๆ เมื่อเห็นศีรษะงดงามศีรษะนั้นชะโงกเข้ามาจาก
หน้าต่าง เสิ่ นเวยไม่แม้แต่จะคิดก็ปาเหรี ยญทองแดงออกไปแล้ว
“เอ๋ คุณชายใหญ่สวี สี หน้าไม่เลว หายป่ วยแล้วหรื อ” เสิ่ นเวยกอดอก
กระแทกกระทั้นส่ อเสี ยดสวีโย่ว
ดูสิ โกรธจริ งๆ ด้วย สวีโย่วรู ้ตวั ดีวา่ ตนผิด ลูบจมูกวางเหรี ยญ
ทองแดงที่รับไว้เมื่อครู่ ลงบนโต๊ะให้นาง “หายแล้ว หายดีแล้ว
แข็งแรงฮึกเหิม กาลังวังชาดีข้ ึนร้อยเท่าเลย”
เขายกเท้าเดินเข้ามาหาเสิ่ นเวย แต่กลับถูกเสิ่ นเวยถีบออกไป “ท่าน
อยูห่ ่างข้าหน่อย แม่เลี้ยงผูน้ ้ นั ของท่านไม่ใช่เตรี ยมอนุภรรยาในจวน
ไว้ให้ท่านหรื อ ท่านไม่กลับจวนอ๋ องไปปลอบขวัญหญิงงาม วิง่ มา
หาข้าที่นี่ทาไม” เดิมเสิ่ นเวยก็ไม่ได้เก็บเรื่ องนี้มาใส่ ใจ แต่เมื่อเห็น
หมอนี่ นางก็โมโหอย่างถึงที่สุด ชีวิตที่สงบสบายและมีความสุ ขของ
นางถูกหมอนี่ทาพังแล้ว ความฝันจะเป็ นเศรษฐีนีอนั ดับหนึ่งของนาง
ความฝันท่องยุทธจักรของนาง สู ญสลายหายไปหมดแล้ว
แย่แล้ว โมโหแรงยิง่ นัก สวีโย่วร้องทุกข์เงียบๆ ในใจ แต่บนใบหน้า
กลับแสร้งไม่มีความผิด “อนุภรรยาอะไร คุณหนูสี่แซ่เสิ่ น เจ้าอย่า
โทษช้า ข้าไม่มีแม้แต่สาวใช้สตรี ดว้ ยซ้ า ไหนเลยจะมีอนุภรรยาได้
เจ้าต้องเข้าใจผิดเป็ นแน่”
“หึ!” เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะหนึ่งครา “ท่านแสร้งทาเป็ นไม่รู้เรื่ องให้
น้อยหน่อย ท่านกล้าพูดหรื อว่าท่านไม่รู้แผนการของแม่เลี้ยงท่าน
ซ่งจยาฮุ่ยผูน้ ้ นั ท่านอย่าบอกว่าท่านไม่รู้จกั ! ไอหยา หน้าตานัน่ ก็ อืม
หน้ารู ปไข่นนั่ รู ปร่ างนัน่ ทรวดทรงองเอวนัน่ ยังมีขาวยาวๆ นัน่ อีก
คุณชายใหญ่สวีมีบุญตายิง่ นัก!”
“ซ่งจยาฮุ่ยหรื อใคร” จู่ๆ สวีโย่วก็ถามกลับด้วยท่าทีจริ งจัง
เสิ่ นเวยตกตะลึง ทันใดนั้นก็แค่นเสี ยงกล่าว “อนุภรรยาที่แม่เลี้ยง
ท่านหามาให้ท่านอย่างไรเล่า! ท่านไม่รู้หรื อ ไม่ตอ้ งมาแสร้ง แสร้ง
ไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
“ไม่รู้จริ งๆ” ทั้งใบหน้าสวีโย่วไร้กงั วล “หวังเฟยเคยเอ่ยเรื่ อง
อนุภรรยา แต่ขา้ ปฏิเสธไปนานแล้ว เจ้าวางใจ ไม่อาจมีอนุภรรยา
อะไรแน่ ข้าไม่อาจเอาคนไม่รู้หวั นอนปลายเท้าอะไรมาสร้างความ
ราคาญใจแก่เจ้า” เขากล่าวอย่างตั้งใจ
เสิ่ นเวยเห็นท่าทีของสวีโย่วไม่เหมือนเสแสร้ง เบื้องลึกในใจก็ดีใจ
เล็กน้อย แต่ปากกลับยังคงไม่ให้อภัย “ใครสร้างความราคาญใจให้
ใครยังไม่รู้แน่ชดั เลย” ข้างเตียงนอนของตัวเอง จะยอมให้คนอื่นมา
นอนสบายได้อย่างไร อนุภรรยาบ้าอะไร ขอแค่กล้ามา นางก็กล้า
ทาลาย กล้าแย่งผูช้ ายกับเสิ่ นเวย ใช่รนหาที่ตายหรื อไม่
เสิ่ นเวยกลอกตาหนึ่งครา เหลือบมองเหรี ยญทองแดงบนโต๊ะ
ชัว่ ขณะก็เกิดความคิด “ท่านจะแต่งอนุขา้ ก็ไม่หา้ มท่าน เพียงแค่ก่อน
หน้านั้นท่านต้องเข้าใจกฎของข้า ท่านแต่งอนุข้ ึนอยูก่ บั เหรี ยญ
ทองแดงของข้า” เสิ่ นเวยโยนเหรี ยญทองแดงในมือ ชายตามองสวี
โย่วด้วยเจตนาชัว่ ร้าย
“อะไรนะ” สวีโย่วไม่เข้าใจ
เสิ่ นเวยโยนเหรี ยญทองแดงครู่ หนึ่ง เสี ยงดังกังวาน “เห็นแล้วหรื อยัง
ด้านหน้าหันขึ้น ฆ่าท่านตาย ด้านหลังหันขึ้น ฆ่าอนุตาย ตั้งพอดี ขอ
อภัย ท่านทั้งสองถูกฆ่าตาย” เสิ่ นเวยยิงฟันขาวซี่เล็กๆ ท่าทาง
โหดเ**่้ยมดุร้าย
สวีโย่วอารมณ์ดีแล้ว รักเสิ่ นเวยเด็กที่อามหิ ตผูน้ ้ ีจริ งๆ! ดวงตาของ
เขามีความโปรดปรานแวบผ่าน ให้คาสัญญา “วางใจ เจ้าไม่มีโอกาส
นี้หรอก”
ไอหยา อยากจะแต่งน้องสี่ แซ่เสิ่ นกลับบ้านจริ งๆ ได้เห็นนาง
กระโดดโลดเต้นในจวนจิ้นอ๋ อง เหตุการณ์น้ นั จะต้องสนุกมากเป็ น
แน่
“นัน่ ก็ไม่แน่!” เสิ่ นเวยจ้องมองดวงตาทั้งคู่ของสวีโย่ว ไม่เชื่ออย่าง
สิ้ นเชิง “ข้าได้ยนิ เขาพูดกันเช่นนี้ ยอมที่จะเชื่อว่าโลกนี้มีผี ดีกว่า
จะต้องเชื่อคาพูดจากปากผูช้ าย ข้าเห็นด้วยอย่างยิง่ ”
สวีโย่วลูบจมูกต่อ ความรู ้สึกพ่ายแพ้ในใจก็ยงิ่ ชัดเจน อยากจะกอด
เด็กคนนี้ไว้บนขาแล้วตีสกั ป้าบ เฉลียวฉลาดหัวไวเช่นนี้ดีจริ งๆ หรื อ
เห็นนางทาผูอ้ ื่นโมโห ตนก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารักยิง่ นัก แต่พอถึงตา
ตัวเอง เหตุใดความรู ้สึกนี้ถึงได้…ถึงได้สบายใจเช่นนี้เล่า
ราตรี ดึกสงัด นอกหน้าต่างมีแสงจันทร์สลัว คืนที่เงียบสงัดและดีงาม
เช่นนี้ หัวข้อสนทนาเรื่ องอนุภรรยาของเสิ่ นเวยกับสวีโย่วได้เข้าสู่
การไต่ถามเชิงลึก ท้ายที่สุดก็เบี่ยงประเด็นไปเป็ นหัวข้อ ‘ผูช้ ายล้วน
เชื่อถือไม่ได้’ แทน ในระหว่างนั้น เสิ่ นเวยใช้เหรี ยญทองแดง
คุกคามสวีโย่ว
วันรุ่ งขึ้น ข่าวคุณชายใหญ่จวนจิ้นอ๋ องหายป่ วยกลับเมืองหลวงก็ดงั
ออกไป ที่ตามมาพร้อมกันยังมีพระราชโองการหนึ่งฉบับ พระราช
โองการกาหนดวันพระราชพิธีเสกสมรสของสวีโย่วเสิ่ นเวยในวันที่
ยีส่ ิ บหกเดือนสี่
เมื่อพระราชโองการฉบับนี้ประกาศออกไป กรมพิธีการก็สบั สนมึน
งง คุณชายใหญ่จวนจิ้นอ๋ องกับคุณหนูสี่จวนจงอู่โหว คนหนึ่งได้รับ
พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ อ๋ อง คนหนึ่งได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่ พิธีสมรสของพวกเขาล้วนแต่มีระเบียบ
ประเพณี แน่นอน ต้องเดินพิธีท้ งั หมดหนึ่งรอบภายในห้าวัน แม้วา่ จะ
ทาทั้งวันทั้งคืนก็เสร็ จไม่ทนั หรอก!
จวนจิ้นอ๋ องกับจวนจงอู่โหวเองก็มึนงงเช่นกัน สองตระกูลนี้ตระกูล
หนึ่งแต่งออกตระกูลหนึ่งรับเข้ามา ต้องจัดลานบ้าน ต้องคัดเทียบ
เชิญส่ งเทียบเชิญ ต้องหารื อเรื่ องโต๊ะอาหารเลี้ยงแขก แล้วยังต้อง
จัดการสิ นเดิมส่ งสิ นเดิม เรื่ องเล็กๆ ใหญ่ๆ เยอะแยะมากมาย เวลาห้า
วันไหนเลยจะพอ
แต่พระราชโองการประกาศออกมาแล้ว ต่อให้ฝ่าบาทจะบอกว่า
พรุ่ งนี้จะจัดพิธีสมรส พวกเขาก็ตอ้ งเชื่อฟัง! ห้าวันก็หา้ วัน ลดได้ก็
ลด เรี ยบง่ายได้กพ็ ยายามทาให้เรี ยบง่าย พิถีพิถนั มากเพียงนั้นไม่ได้
แล้ว บ่าวรับใช้ในจวนจงอู่โหวยุง่ อย่างถึงที่สุด วิ่งกันขวักไขว่ตลอด
ทาง
เสิ่ นเวยเองก็โมโหอย่างยิง่ กัดฟันกรอดตะโกนเรี ยกชื่อสวีโย่ว นาง
กลับไม่ได้โมโหที่เวลากระชั้นชิดพิธีสมรสจะไม่ยงิ่ ใหญ่ แต่นาง
โมโหเพราะเรื่ องคู่หมั้นของลูกผูพ้ ี่นางต่างหาก
ครั้งก่อนหลังกลับมาจากการพบหน้าสวี่ฉู่ถง ความประทับใจที่เสิ่ น
เวยมีต่อนางก็ดีอย่างยิง่ ฉลาด สวย มีความสามารถดูแลบ้านได้ มี
ความคิดเป็ นของตัวเอง ทั้งหมดนี่กเ็ พื่อเตรี ยมการวัดตัวให้ลูกผูพ้ ี่
นาง! จวนแม่ทพั ใหญ่ตอ้ งการนายหญิงเช่นนี้ ลูกผูพ้ ี่นางต้องการ
แม่บา้ นมีคุณธรรมเช่นนี้
มิหนาซ้ าไม่เพียงแต่สตรี ที่ดี ครอบครัวก็ยงั ดี บิดาเป็ นราชบัณฑิต
ยิง่ ใหญ่ สู งส่ งที่สุดแล้ว ช่วยเหลือลูกผูพ้ ี่ได้มากอย่างยิง่ ใน
ครอบครัวยังมีนอ้ งชายอีกสามคน เรี ยนหนังสื อมีพฒั นาการ ตอนนี้
แม้จะมองไม่ออกว่าในภายหน้าจะมีอนาคตมากเพียงใด แต่อย่าง
น้อยก็ไม่อาจเป็ นภาระ บ้านพ่อตาแม่ยายแบบนี้ต่อให้ส่องไฟก็ไม่ใช่
ว่าจะหาเจอ!
สาหรับอายุที่มากกว่าสองปี ไอหยา เสิ่ นเวยที่เห็นคู่รักที่ผหู ้ ญิงอายุ
มากกว่าผูช้ ายมาจนชินแล้วไม่ได้มองว่าเป็ นปั ญหาแม้แต่นิดเดียว
สตรี ที่ดีเช่นนี้ ชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรี ยบ พากลับมาเรื อนที่บา้ น
ตนเองจึงจะวางใจได้ เสิ่ นเวยพูดเรื่ องนี้กบั ท่านตานาง ท่านตานางก็
รู ้สึกว่าควรหาแม่สื่อไปสู่ ขอทันที
แต่จะหาใครเป็ นแม่สื่อดีเล่า คิดไป คิดมา เสิ่ นเวยก็รู้สึกว่าขอช่วย
หนึ่งคนแล้วไม่ควรไปรบกวนคนที่สอง ท้ายที่สุดก็ยงั คงไปหาฮู
หยินสวี่ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ของนาง หนึ่งคือฐานะเพียงพอ เป็ นการ
ให้ความสาคัญแก่ฝ่ายหญิง สองคือเป็ นคนสนิท พูดขึ้นมาแล้วก็
สบายใจ
ท่านป้าสะใภ้ใหญ่เองก็ตอบตกลง กาลังเตรี ยมจะไปเยีย่ มบ้าน
ตระกูลราชบัณฑิตสวี่ พระราชโองการก็ประกาศออกมา ดีจริ งๆ ฮู
หยินสวี่จึงจัดการเรื่ องออกเรื อนของเสิ่ นเวยทันที ไหนเลยจะยังมี
เวลาว่างไปสู่ ของแทนลูกผูพ้ ี่ของนาง
นี่ทาให้เสิ่ นเวยไม่พอใจอย่างยิง่ เมืองหลวงใหญ่เพียงนั้น คนตาดี
ไม่ได้มีแค่นางเพียงคนเดียว นางกังวลอย่างยิง่ ว่าจะมีคนแย่งว่าที่
สะใภ้ญาติผพู ้ ี่ของนางไป
สวีโย่วคล้ายรู ้สึกได้ถึงความเคียดแค้นของเสิ่ นเวย ซ่อนตัวอยูห่ ่างๆ
ไม่กล้าปรากฎตัวต่อหน้านางอย่างสิ้ นเชิง ทุกวันปั้นหน้าตายสัง่ คน
รับใช้ตกแต่งเรื อนหอ อันที่จริ งในใจกลับมีความสุ ขยิง่ นัก
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 213-1 พระรำชพิธีเสกสมรส
โหวฮูหยินฮูหยินสวี่ยงุ่ จนเท้าแทบไม่ติดพื้นแล้ว นอกจากจะเตรี ยม
ธุระปะปังต่างๆ ยังต้องจัดการสิ นเดิมของเสิ่ นเวยออกมา วันงานคือ
วันที่ยสี่ ิ บหก วันแรกก็ตอ้ งหามสิ นเดิมแล้ว ไม่ใช่เรื่ องง่าย
คนที่มามอบของขวัญแต่งงานให้เสิ่ นเวยมีไม่นอ้ ย นอกจากพี่สาว
น้องสาวญาติๆ ตระกูลตนแล้ว ที่นางรู ้จกั ก็มีท่านน้าสะใภ้ใหญ่จวน
เสนาบดีสองแม่ลูก จังเข่อจงเพื่อนสนิทของนางจากจวนแม่ทพั อู่เลี่ย
อ้อ ยังมีสวี่ฉู่ถงที่เพิ่งรู ้จกั ก็มาด้วยเช่นกัน
มากกว่านี้เป็ นคนที่เสิ่ นเวยไม่รู้จกั ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ของนางจูงมือ
แนะนาตัวให้นาง คนนี้คือฮูหยิน คนนั้นคือท่านย่า ทาเอาเสิ่ นเวยมึน
ศีรษะหลงทิศ จาใครไม่ได้อยางสิ้ นเชิง จึงทาได้เพียงปั้นหน้ายิม้
ทักทายอย่างเชื่อฟัง
เมื่อส่ งเหล่าฮูหยินคุณหนูที่มามอบของขวัญแต่งงานไปแล้ว เสิ่ นเวย
ก็เหนื่อยจนนอนแผ่อยูบ่ นเตียงปักลายไม่อยากขยับตัว ผูกมิตรกับ
เหล่าสตรี เรื อนในเหล่านี้ไม่ใช่งานถนัดจริ งๆ เหนื่อยกว่านางฆ่าศัตรู
ในสนามรบสามเท่า เลื่อมใสท่านป้าสะใภ้ใหญ่จริ งๆ หากอยูใ่ นยุค
ปัจจุบนั จะต้องเป็ นคนเก่งในที่ทางานแน่นอน
ฮูหยินสวี่มองใบรายการสิ นเดิมของหลานสาวร่ างทั้งร่ างก็รู้สึกไม่ดี
แล้ว ใบรายการนี้นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเพิ่งจะใช้คนมาส่ ง ยาวสิ บหน้า
กว่า นอกจากเงินเดือนในจวนแล้ว นายท่านผูเ้ ฒ่ายังยกมรดกของ
ตัวเองให้เวยเอ๋ อร์ท้ งั หมดจริ งๆ ฮูหยินสวี่คิดว่าตอนแรกนายท่านผู ้
เฒ่าโหวเพียงแค่พดู เล่น ไม่คิดว่าเขาจะทาจริ ง
เห็นทรัพย์สินล้ าค่านับไม่ถว้ นที่เขียนอยูบ่ นใบรายการสิ นเดิม ยังมี
เงินสิ นสอดสองแสนตาลึงที่เด่นชัดนั้น ความรู ้สึกของฮูหยินสวี่ก็
ซับซ้อน บัญชีจวนโหวทั้งจวนมีเงินได้ถึงสองแสนตาลึงหรื อ นี่ยงั
ไม่ใช่ท้ งั หมด ด้วยสติปัญญาของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวจะต้องไม่เขียน
เงินทั้งหมดลงบนในใบรายการสิ นเดิมเป็ นแน่ ที่ให้เวยเอ๋ อร์เป็ นการ
ส่ วนตัวใช่ยงั มีอีกเยอะหรื อไม่
เงินเหล่านี้ เห็นชัดๆ ว่าควรตกทอดสู่ พวกเขาบ้านใหญ่ แต่ตอนนี้
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกลับยกให้หลานสาวที่แต่งออกข้างนอกผูน้ ้ ี
ทั้งหมด ในใจนางสงบสุ ขได้กแ็ ปลกแล้ว
ในใจฮูหยินสวี่สับสนกระวนกระวายต่างๆ นานา กัดฟันก็แล้วถอน
หายใจก็แล้วกลับอันจนหนทางอยูด่ ี แม้จะบอกว่าสามีของนางรับ
ตาแหน่งจงอู่โหวแล้ว แต่ผทู ้ ี่เป็ นใหญ่ในจวนยังคงเป็ นนายท่านผู ้
เฒ่าโหว ทั้งจวนโหวเป็ นเขาที่สร้างขึ้นกับมือ เขาจะยกมรดกให้ผอู ้ ื่น
ย่อมไม่กล้าว่าอะไร
ช่างๆๆ คิดเสี ยว่าทั้งหมดเป็ นการลงทุนล่วงหน้า ไม่อาจคิดต่อไปได้
แล้ว ยิง่ คิดจิตใจนางก็ยงิ่ เจ็บปวด
ตอนนี้เสิ่ นเวยกาลังอยูใ่ นห้องหนังสื อของท่านปู่ นาง กาลังอ่านใบ
รายการสิ นเดิมนี้อยูเ่ ช่นเดียวกัน ปู่ นางยังพูดอยูข่ า้ งๆ “เจ้าดูสิวา่ น้อย
ไปหรื อไม่ จะให้เพิ่มอีกหน่อยหรื อไม่”
เสิ่ นเวยได้ยนิ ดังนั้นก็อดกระตุกมุมปากไม่ได้ สิ นเดิมนี้แทบจะ
เทียบเท่าฮ่องเต้แต่งองค์หญิงแล้ว อีกอย่าง เหล่าองค์หญิงของฝ่ าบาท
จะไม่มองนางด้วยความอาฆาตตายหรื อ สิ นเดิมขององค์หญิงราชนิ
กุลเทียบไม่ได้แม้แต่ขนุ นางหญิง คาพูดนี้ดงั ออกไปจะฟังได้หรื อ ฝ่ า
บาทเองก็คงไม่ยนิ ดีนกั ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและเพื่อ
ไว้หน้าเหล่าองค์หญิงราชนิกลุ ถ่อมตนสักหน่อยคงดีกว่า
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเองก็ไม่บีบบังคับ กล่าวต่อ “นอกจากเงินสิ นสอด
สองแสนตาลึงที่เขียนอยูใ่ นใบรายการแล้ว ยังมีเงินแสนตาลึงที่เจ้า
เก็บไว้ส่วนตัว ของเหล่านั้นที่ยงั เหลืออยูใ่ นคลังเจ้าจะเปลี่ยนเป็ นเงิน
หรื อว่าจะวางไว้ก่อน ปู่ บอกว่าให้เจ้าก็คือให้เจ้า อยากจัดการอย่างไร
เจ้าตัดสิ นใจเอง”
เสิ่ นเวยก็ไม่พดู อ้อมค้อมบอกปัดอีก คิดครู่ หนึ่งแล้วจึงกล่าว “วางไว้
ในเรื อนท่านปู่ ก่อนดีกว่า สิ นเดิมนี้ของหลานก็มากพอแล้ว เกิดก็
ไม่ได้เอามาตายก็เอาไปไม่ได้ พอประมาณก็ได้แล้ว ของเหล่านี้
รวมถึงสิ นเดิมที่ยงั เหลืออยูข่ องท่านแม่กท็ ิ้งไว้ให้เจวี๋ยเอ๋ อร์แต่ง
ภรรยาเถอะ”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเองก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ ความใส่ ใจที่
หลานสาวมีต่อเจวีย๋ เอ๋ อร์เขาเองก็มองเห็น จะไม่ทิ้งของไว้ให้เขาได้
อย่างไร ส่ วนที่หลานสาวไม่เอ่ยถึงอี้เอ๋ อร์แม้แต่ประโยคเดียว เขาก็
ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ หลานสาวกับฮูหยินหลิวต่างก็ฉีกหน้ากัน
แล้ว ไม่ได้ต่างจากศัตรู คู่แค้น นางไม่โกรธจนพาลใส่ เสวี่ยเอ๋ อร์อ้ ี
เอ๋ อร์กถ็ ือว่าเมตตาแล้ว ด้วยฝี มือของเวยเอ๋ อร์จดั การเสวี่ยเอ๋ อร์กบั อี้
เอ๋ อร์ไม่ใช่เรื่ องง่ายๆ หรอกหรื อ ยิง่ ไปกว่านั้นเวยเอ๋ อร์สองพี่นอ้ ง
ปฏิบตั ิต่ออี้เอ๋ อร์กไ็ ม่ได้แย่ ด้านค่าใช้จ่ายก็ไม่ขาด ทั้งยังไม่ปล่อยให้
บ่าวข้างล่างกลัน่ แกล้งนาย ยิง่ ไม่ใช้วิธีสกปรกมาล่อลวงให้เขาเสี ย
กาเรี ยน จากมุมมองของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวนี่ถือว่าหาได้ยากอย่างยิง่
แล้ว นี่เองก็ทาให้นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวให้ความสาคัญกับเวยเอ๋ อร์สอง
พี่นอ้ ง
หยุดครู่ หนึ่งเสิ่ นเวยก็นึกอะไรขึ้นได้ “ท่านปู่ เรื อนเฟิ งหวานี้ตอ้ งเก็บ
ไว้ให้หลาน” เรื อนนี้นางทุ่มเทแรงซ่อมแซม ยังอยูไ่ ด้ไม่ถึงปี นางก็
ออกเรื อนแล้ว นางตัดใจทิ้งให้คนอื่นเข้ามาอยูไ่ ม่ได้
“ได้ เก็บไว้ให้เจ้า เจ้ากลับมาเมื่อไรก็มาพักได้” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวต
อบด้วยความสบายใจอย่างยิง่
เสิ่ นเวยดีใจแล้ว “ขอบคุณท่านปู่ ที่เมตตา” นางวางแผนไว้ดีแล้ว
เรื อนเฟิ งหวาแห่งนี้เก็บไว้ให้นางพักชัว่ คราว อีกไม่กี่ปีเจวี๋ยเอ๋ อร์ก็
ควรจะแต่งภรรยาได้แล้ว ถึงตอนนั้นก็ให้เรื อนเฟิ งหวาเป็ นเรื อนหอ
เขาแล้วกัน
ชัว่ พริ บตาก็ถึงวันที่ยสี่ ิ บห้าเดือนสี่ แล้ว วันรุ่ งขึ้นก็จะเป็ นวันที่เสิ่ นเว
ยออกเรื อน ทานอาหารเช้าเสร็ จก็เริ่ มหามสิ นเดิมจากจวนจงอู่โหว
ไปจวนจิ้นอ๋ อง สิ นสอดของหมั้นของสวีโย่วไม่ทิ้งไว้ที่จวนจงอู่โหว
แม้แต่นิดเดียว ทั้งหมดเก็บรวบรวมไปไว้ในสิ นเดิมของเสิ่ นเวย
ดังนั้นขบวนสิ นเดิมของเสิ่ นเวยอลังการยิง่ กว่าของแม่นางเสี ยอีก
หนึ่งร้อยยีส่ ิ บคานหามเต็มๆ แต่ละคานหามต่างก็ใส่ จนอัดเต็ม
กระทัง่ สอดมือเข้าไปไม่ได้
เมื่อสิ นเดิมหามออกไปก็สร้างความตื่นตกใจ แม้ทุกคนจะไม่เห็น
ของให้**บ แต่สีหน้าท่าทางของเหล่าชนรุ่ นหลังที่หามสิ นเดิมกลับ
หลอกคนไม่ได้ บุตรสาวตระกูลอื่นออกเรื อนมีคนหามสิ นเดิมสอง
คนต่อหนึ่งคานหาม บุตรสาวจวนจงอู่โหวก็ใช้ชายหนุ่มสี่ คนหาม
สิ นเดิมหนึ่งคานหาม หากทาเช่นนี้ยงั กินแรงอย่างถึงที่สุด ก็สามารถ
นึกภาพได้วา่ **บใหญ่เพียงใด บรรจุของเต็มเพียงใด
ขณะที่ผคู ้ นวิจารณ์ในความร่ ารวยของจวนจงอู่โหว ก็ยงั วิจารณ์วา่
เจ้าสาวผูน้ ้ ีได้รับความโปรดปรานในจวน มีคนที่สนใจคานวณ
เงียบๆ ในใจ สิ นเดิมของคุณหนูจวนจงอู่โหวผูน้ ้ ีอย่างน้อยที่สุดก็มี
มูลค่าหลายแสนตาลึง สถิติน้ ีอย่างน้อยภายในสิ บปี ข้างหน้าก็ไม่มี
ใครสามารถทาลายได้
สิ นเดิมใช้เวลาหามหนึ่งวันเต็มๆ กระทัง่ อาทิตย์ตกดินจึงขนเข้าไป
ในจวนจิ้นอ๋ องจนหมด เพื่อที่จะวางสิ นเดิม สวีโย่วยังตั้งใจรื้ อห้อง
จานวนมาก แม้วา่ จะทาเช่นนี้กย็ งั วางไม่หมด ในลานบ้านยังวางอยู่
อีกเยอะ
คนทุกระดับชั้นในเรื อนสวีโย่วต่างก็ดีอกดีใจ สิ นเดิมว่าที่นายหญิง
มากมายเช่นนี้ พวกเขาที่เป็ นคนรับใช้เหล่านี้กร็ ู ้สึกเป็ นเกียรติ แต่ละ
คนยืดอกเชิดหน้าช่วยคนที่มาจากจวนโหวเฝ้าสิ นเดิมด้วยกันอย่างมี
ความสุ ข
จะไม่เฝ้าได้หรื อ คนที่ผา่ นมาดูสินเดิมแต่ละกลุ่มๆ สิ นเดิมของว่าที่
นายหญิงทั้งเยอะทั้งมีราคาแพง ถูกคนไม่ดูตาม้าตาเรื อที่ไหนหยิบ
ไปชิ้นสองชิ้นก็ไม่งามแล้ว
พระชายาจิ้นอ๋ องฟังการรายงานของคนใช้แล้ว ดวงตาก็ลุกวาว
สวดอมิตาพุทธกับหวังเฟยฮูหยินเต็มห้อง “ไอหยา ข้าบอกแล้วว่า
คุณชายใหญ่ของพวกเรามีวาสนา ดูสิไม่ใช่วา่ แต่งเทพแห่งโชคลาภ
เข้ามาหรอกหรื อ ข้าน่ะในที่สุดก็วางใจได้บา้ งแล้ว” นางวางท่าทาง
เป็ นแม่เลี้ยงผูร้ ักลูกเลี้ยง
จากนั้นก็มีฮูหยินที่หูตาไวผูน้ ้ นั หยอกล้อสอพลอ นอกจากชมคุณชาย
ใหญ่แล้ว ก็ยงิ่ ชื่นชมจิ้น
หวังเฟย พูดจาน่าฟังอย่างเช่นมารดาผูเ้ มตตาต่างๆ แน่นอนว่ายังมีคน
ที่ไม่เห็นด้วย เพียงแต่ใครบ้างในนี้ไม่ใช่ผมู ้ ีปัญญา วันมงคลของ
จวนจิ้นอ๋ องย่อมไม่อาจพูดจาไม่รู้กาลเทศะได้ ทาได้เพียงวางมาดดื่ม
ชา
พระชายาจิ้นอ๋ องสงบอารมณ์ได้ ลูกสะใภ้ท้ งั สองของนางอู๋ซื่อกับหู
ซื่อกลับไม่มีความสามารถนี้ ทั้งสองหาโอกาสไปดูสินเดิมของว่าที่
พี่สะใภ้ใหญ่ผนู ้ ้ ีกบั ตาตัวเอง เห็น**บที่วางอย่างเป็ นระเบียบ
เรี ยบร้อยในลานบ้าน เครื่ องประดับที่เปล่งประกายแพรวพราวนั้น
อัญมณี ที่ถูกเลี่ยมไว้ใหญ่พอๆ กับไข่นกพิราบ เพียงแค่ชิ้นเดียวเกรง
ว่าจะมีมูลค่ามากกว่าหมื่นตาลึงแล้ว ยิง่ ไปกว่านั้นเครื่ องประดับ
ศีรษะเช่นนี้มีถึงเจ็ดแปดชิ้น อู๋ซื่อกับหูซื่อมองจนตาร้อนแล้ว
บ้านฝั่งมารดาของอู๋ซื่อคือจวนกัว๋ กง นางเป็ นบุตรสาวคนโตที่ได้รับ
ความโปรดปรานที่สุดในจวน ตอนนั้นที่ได้ซื่อจื่อจวนจิ้นอ๋ องเป็ น
คู่หมั้น พี่สาวน้องสาวทั้งหลายในจวนต่างก็อิจฉานาง ในครอบครัว
ก็ทุ่มเทสิ นเดิมส่ งตัวนาง หวังเฟยกับซื่อจื่อก็ให้ความสาคัญแก่นาง
นางเองก็เคยภูมิใจในสิ นเดิมจานวนมากของตน แต่ตอนนี้เทียบกับ
พี่สะใภ้ใหญ่ผนู ้ ้ ีแล้ว สิ นเดิมสิ บลี้ของนางเป็ นเพียงเรื่ องน่าขัน
“เสด็จแม่พดู ถูกจริ งๆ พี่สะใภ้ใหญ่ผนู ้ ้ ีของพวกเราเป็ นเทพแห่งโชค
ลาภจริ งๆ แต่งภรรยาเช่นนี้ได้ คุณชายใหญ่กไ็ ม่มีอะไรให้ตอ้ งกังวล
แล้ว” อู๋ซื่อกล่าวอย่างมีเลศนัย
บนใบหน้าหูซื่อก็คล้ายกาลังครุ่ นคิด กล่าวด้วยความอิจฉา “ใครว่า
ไม่ใช่เล่า น่าอิจฉาเสี ยจริ งๆ ข้าอดทนรอเจอพี่สะใภ้ใหญ่คนดีของ
พวกเราไม่ไหวแล้ว”
ทั้งสองคนมองหน้าแล้วยิม้ ในแววตามีบางอย่างแวบผ่าน ดูเหมือน
ทาข้อตกลงอะไรบางอย่างเสร็ จเรี ยบร้อยแล้ว
ตกค่า ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ฮูหยินสวี่มาที่หอ้ งเสิ่ นเวย จับมือนางพูด
คาพูดมากมาย ท้ายที่สุดก็ลว้ งหนังสื อเล่มเล็กหนึ่งเล่มยัดใส่ มือเสิ่ น
เวยด้วยสี หน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไอเบาๆ หลายคราแล้วจึงกล่าว
“เวยเอ๋ อร์ คืนเข้าหอเป็ นขั้นตอนที่เจ้าสาวทุกคนจะต้องผ่าน ถึงตอน
นั้นเจ้าก็ฟังสามีเจ้าก็พอแล้ว อาจจะเจ็บหน่อย เจ้า เจ้าอดทนไว้
ประเดี๋ยวก็ผา่ นไป ผ่านคืนพรุ่ งนี้ไปก็จะดีข้ ึน”
การชี้แนะลูกๆ ในคืนก่อนพิธีสมรสเดิมควรจะเป็ นเรื่ องของมารดา
แต่นอ้ งสามีสามที่น่าสงสารผูน้ ้ นั ของนางตายก่อนวัยอันควร ฮู
หยินหลิวก็…ช่างเถอะ วันมงคลอย่าได้เอ่ยถึงนางเลย ด้วยเหตุน้ ีเรื่ อง
นี้จึงตกมาอยูท่ ี่นางผูเ้ ป็ นป้าสะใภ้ใหญ่ผนู ้ ้ ี อย่างไรเสี ยเวยเอ๋ อร์ก็
ไม่ใช่บุตรสาวแท้ๆ ของนาง นางก็ยงั ไม่กล้าพูดละเอียดจริ งๆ
แรกเริ่ มเสิ่ นเวยยังไม่ค่อยเข้าใจนัก อะไรเจ็บไม่เจ็บ ทนไม่ทน นาง
แต่งงาน ไม่ได้ลงสู่ สนามรบ แต่เมื่อได้เห็นความอึดอัดบนใบหน้า
ของท่านป้าสะใภ้ใหญ่ จากนั้นก็เห็นปกหนังสื อเล่มเล็กในมือ
ชัว่ ขณะก็เข้าใจแล้ว
อ้อ นี่คือการสอนเรื่ องในเรื อนหอก่อนแต่งงานฉบับโบราณสิ นะ
เสิ่ นเวยเป็ นใคร จะไม่เข้าใจเรื่ องนี้ได้อย่างไร ไม่เคยกินเนื้อก็ไม่ได้
หมายความว่าจะไม่เคยเห็นหมูวิ่งมิใช่หรื อ โดยเฉพาะยุคปั จจุบนั
หนังต่างประเทศเหล่านั้นเผยแพร่ อยูท่ วั่ ไป
เสิ่ นเวยอยากจะถามคาถามละเอียดหลายคาถาม แต่เห็นท่านป้าสะใภ้
ใหญ่เอ่ยเพียงแค่สองประโยคสั้นๆ เช่นนั้นก็อึดอัดไปทั้งใบหน้า ได้
นางจะทาตัวเป็ นลูกคุณหนูตวั ปลอมโดยดี ไม่ทาให้คนตกใจ
ด้วยเหตุน้ ีเสิ่ นเวยก็เกร็ งหน้าตัวเองจนแดงซ่าน ก้มหน้าทาท่าทาง
เขินอาย แม้แต่เสี ยงก็เบาราวกับยุง “ทราบแล้ว ท่านป้าสะใภ้ใหญ่”
ฮูหยินสวี่เห็นท่าที ในที่สุดก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ตบไล่ของเสิ่ น
เวยแล้วกล่าว “เวยเอ๋ อร์รีบพักผ่อนเถอะ พรุ่ งนี้ยงั ต้องเหนื่อยทั้งวัน”
ส่ งท่านป้าสะใภ้ใหญ่ไปแล้ว เสิ่ นเวยกลับไปถึงห้องก็เปิ ดหนังสื อ
เล่มเล็กออก จุ๊ๆ คนสองคนในภาพราวกับขนมเกลียว ภาพนับได้วา่
ชัดเจนอย่างยิง่ ดูไม่ออกว่าคนโบราณที่หวั เก่าแก่จะมีดา้ นที่เปิ ดเผย
เช่นนี้ เสิ่ นเวยพลิกหน้าแล้วหน้าเล่า บ้างก็ตกใจ บ้างก็ถอนหายใจ ดู
ด้วยความสนใจใคร่ รู้
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 213-2 พระรำชพิธีเสกสมรส
“อ่านอะไรอยูถ่ ึงได้ต้ งั ใจเพียงนั้น” จู่ๆ ข้างหูกไ็ ด้ยนิ เสี ยงๆ หนึ่ง เสิ่ น
เวยซ่อนหนังสื อเล่มเล็กไว้ใต้แขนเสื้ ออย่างลนลานตามจิตใต้สานึก
“ไม่…ไม่ได้อ่านอะไร”
เมื่อเห็นว่าคนที่มาคือสวีโย่ว ชัว่ ขณะก็โมโหอย่างถึงที่สุด ไม่ใช่บอก
ไว้หรื อว่าก่อนวันแต่งงานคนทั้งสองไม่ควรพบหน้ากัน กลางดึก
หมอนี่วิ่งมาหานางที่นี่ทาไม ทั้งยังทานางสะดุง้ ตกใจ เสิ่ นเวยทาหน้า
ดีๆ ใส่ เขาได้กแ็ ปลกแล้ว นางหยิบหมอนบนเตียงโยนออกไปทันที
กล่าวอย่างโมโห “ท่านรู ้หรื อไม่วา่ ทาคนตกใจแทบตาย ท่านเป็ นผี
หรื อมาไม่ให้สุ้มให้เสี ยง ท่านไม่อยูใ่ นจวนวิ่งมาที่นี่ทาไม ท่านไม่
อยากได้ชื่อเสี ยงแต่ขา้ ยังมีศกั ดิ์ศรี ลูกผูห้ ญิงอยู”่
เสิ่ นเวยกล่าวอย่างมีเหตุผลและสัจธรรม อันที่จริ งในใจกาลังคิด
ศักดิ์ศรี ลูกผูห้ ญิง นัน่ มันอะไรกัน ใครเคยเห็นช่วยเอามาให้นางดู
หน่อย
สวีโย่วหมดความมัน่ ใจเล็กน้อย กล่าวอย่างอึกอัก “ก็แค่มาดูเจ้ามิใช่
หรื อ”
พูดยังไม่ทนั ขาดคาก็ถูกเสิ่ นเวยกดเสี ยงต่าตะโกนแล้ว “ข้ามีอะไรให้
น่าดู พรุ่ งนี้กไ็ ด้เจอแล้วไม่ใช่หรื อ ท่านรี บกลับไปดีกว่า หากทาคน
อื่นแตกตื่นจะแย่เอา”
สวีโย่วคิดๆ แล้วก็ถูก เขาอยูใ่ นจวนเพียงแค่คิดถึงพิธีสมรสแล้วดีใจ
จนนอนไม่หลับ จึงมาดูเสิ่ นเวย ตอนนี้คนก็เห็นแล้ว ความต้องการ
ได้รับการสนอง เขาย่อมไม่ยดื เยื้อเสี ยเวลา
“อ้อจริ งสิ เมื่อครู่ เจ้าอ่านอะไรอยูก่ นั แน่” สวีโย่วเดินไปแล้วสองก้าว
คล้ายจู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้จึงหันหลังกลับมาถาม
เสิ่ นเวยใจเต้น ชูหนังสื อเล่มเล็กขึ้นอย่างไม่สนใจ “ท่านหมายถึงเล่ม
นี้หรื อ ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่านี่คืออะไร ท่านป้าสะใภ้ใหญ่เพิง่ จะ
ให้ขา้ มา ให้ขา้ อ่านให้ดี บอกว่าต้องใช้ แปลกใจจริ งๆ เหตุใดคนใน
รู ปนี้เหมือนกาลังพัวพันกันอยูเ่ ลย คุณชายใหญ่สวีท่านรู ้หรื อไม่คน
ที่เปลือยก้นผูน้ ้ ีกาลังทาอะไรอยู”่ ท่าทางของเสิ่ นเวยสงสัยอย่างยิง่
ท่าทางไม่รู้สึกอายที่จะถาม
สายตาของสวีโย่วมองเห็นคนในหนังสื อเล่มเล็ก ชัว่ ขณะใบหน้าก็
ร้อนราวกับไฟเผา กล่าวในใจ นี่กค็ ือการพัวพันกับราคะอยูม่ ิใช่หรื อ
เขาโตกว่าเสิ่ นเวยหลายปี ซ้ ายังเป็ นผูช้ าย ย่อมต้องเข้าใจว่าหนังสื อ
เล่มนั้นคืออะไร ไม่ใช่หนังสื อภาพเปลือยหรอกหรื อ เขาพูดได้หรื อ
ว่าอันที่จริ งเขาก็เคยซ่อนไว้หลายเล่ม
ยิง่ สวีโย่วอึดอัด เสิ่ นเวยก็ยงิ่ ไล่ถาม “คุณชายใหญ่ นี่คืออะไรกันแน่”
ท่าทางเหมือนเด็กโง่ข้ ีสงสัย อันที่จริ งในใจหัวเราะหงายหลังแล้ว
สวีโย่วกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างยิง่ ละสายตาออกไปอย่างอึดอัด
แม้แต่ดวงตาของเสิ่ นเวยก็ไม่กล้ามอง กล่าวอย่างคลุมเครื อ “ไม่มี
อะไร ของเหล่านี้ขา้ เองก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก รออีกไม่นานเจ้าก็รู้เอง”
พูดจบ ก็หนีไปราวกับว่าข้างหลังมีคนไล่ตามเขา
เสิ่ นเวยชายตามองหัวเราะเยาะ พ่อหนุ่ม ข้าไม่เชื่อว่าจะจัดการเจ้า
ไม่ได้ นางโบกหนังสื อเล่มเล็กในมือ คิดครู่ หนึ่ง จากนั้นก็ยดั มันลง
ก้น**บ เข้านอนเร็ วหน่อยดีกว่า ฟังว่าแต่งงานเหนื่อยยิง่ นัก
เดิมคิดว่าจะนอนไม่หลับ ไม่คิดว่าเสิ่ นเวยจะนอนหลับจนฟ้าสาง อ้อ
ไม่ วันนี้นางไม่มีโอกาสได้นอนจนฟ้าสาง ฟ้ายังไม่สาง หลีฮวาก็
เรี ยกนางแล้ว เสิ่ นเวยง่วงจนลืมตาไม่ข้ ึน ปากขานรับแต่คนกลับไม่
ขยับ ดึงดันจะนอนต่ออีกครึ่ งชัว่ ยาม หลีฮวาและคนอื่นๆ ร้อนใจจน
อยากจะเข้าไปแบกนางขึ้นมา
เสิ่ นเวยลงจากเตียงอย่างสะลึมสะลือ ปล่อยให้สาวใช้หลายคน
อาบน้ าแต่งตัวให้นาง จากนั้นก็กินข้าว ทรมานต่อไปจนนาง
กระปรี้ กระเปร่ าเล็กน้อย
“เรี ยบร้อยแล้วหรื อยัง เก็บกวาดเรี ยบร้อยแล้วหรื อยัง” ข้างนอกมี
เสี ยงของป้าสะใภ้ใหญ่ฮูหยินสวี่ดงั เข้ามา
เสิ่ นเวยตื่นตัว ได้สติกลับมาทันที จากนั้นก็ได้ยนิ หลีฮวาขานรับ
“เรี ยนฮูหยิน เตรี ยมเสร็ จเรี ยบร้อยแล้วเจ้าค่ะ รอหวีผมอยู”่
ไม่นานนัก ก็เห็นป้าสะใภ้ใหญ่เดินเข้ามาพร้อมฮูหยินมีหน้ามีตาผู ้
หนึ่ง เสิ่ นเวยก็เข้าใจว่าคนผูน้ ้ ีคือผูม้ ีวาสนาครบที่มาหวีผมให้นาง
สมัยโบราณ สตรี ออกเรื อนต้องหาผูม้ ีวาสนาครบมาช่วยกวาดเกี้ยว
จุดธูปในเกี้ยว วางกระจกในเกี้ยว ผูม้ ีวาสนาครบก็ไม่ใช่วา่ จะหาใคร
มาก็ได้ ต้องเป็ นสตรี ผมู ้ ีวาสนาครบที่ในบ้านพ่อแม่ยงั อยู่ สามีภรรยา
รักใคร่ มีท้ งั ลูกชายลูกสาว พี่นอ้ งปรองดองกลมเกลียวจึงจะได้
“เวยเอ๋ อร์ นี่คือจ้าวฮูหยินจวนเจี้ยนอั้นโหว พีจ่ า้ ว วันนี้รบกวนท่าน
แล้ว” ฮูหยินสวี่มองจ้าวฮูหยินแล้วอมยิม้ กล่าว
เสิ่ นเวยรี บทาความเคารพ จ้าวฮูหยินผูน้ ้ นั คล้ายมีความสัมพันธ์ไม่
เลวกับท่านป้าสะใภ้ใหญ่ เห็นนางจับมือของเสิ่ นเวยด้วยท่าทีเอ็นดู
ยิม้ อย่างสบายๆ “ได้หวีผมหญิงที่สวยเพียงนี้ ข้าก็ดีใจ ข้าน่ะยังต้อง
ขอบคุณเจ้าที่ให้โอกาสนี้แก่ขา้ ให้ขา้ ได้สมั ผัสความสุ ขจากจวิน้ จู่
เหนียงเหนียงของพวกเรา” นางกล่าวหยอกล้อ
บุตรสาวออกเรื อน ล้วนแต่เป็ นมารดาที่ช่วยหวีผม หร่ วนซื่อไม่อยู่
แล้ว ถือโอกาสให้จา้ วฮูหยินผูม้ ีวาสนาครบรับหน้าที่หวีผมแทน
เสี ยเลย
เสิ่ นเวยนัง่ ตัวตรงหน้ากระจก จ้าวฮูหยินหวีผมจากยอดศีรษะลงมา
ช้าๆ หวีไปพลางเอื้อนเอ่ยไปพลาง “หนึ่งหวีหวีถึงต้น ร่ ารวยไร้
กังวล สองหวีหวีถึงต้น ไม่บาดเจ็บไม่ทุกข์ใจ สามหวีหวีถึงต้น มี
บุตรมากอายุยนื อีกหวีหวีถึงปลาย เคารพกันซึ่งสามีภรรยา สองหวี
หวีถึงปลาย ไม่มีวนั แยกจากกัน สามหวีหวีถึงปลาย รักใคร่ กลม
เกลียวชัว่ นิจนิรันดร์ มีตน้ มีปลาย ร่ ารวยเงินทอง”
ในคาพูดอวยพรแต่ละครั้ง เสิ่ นเวยรู ้สึกเศร้าอย่างไม่มีสาเหตุ นาง
กาลังคิด หากหร่ วนซื่อยังอยู่ ได้เห็นนางออกเรื อนก็คงจะดียงิ่ นัก
จากนั้นจึงคิดถึงแม่ที่อยูไ่ กลออกไปในอีกมิติ วันนี้เป็ นวันที่ลูกออก
เรื อน ท่านเห็นหรื อไม่
ไม่เพียงแต่เสิ่ นเวยเสี ยใจ แม่นมกูก้ ป็ าดน้ าตาอยูน่ านแล้ว กลัวคน
เห็นแล้วจะไม่ดี จึงหลบไปอยูข่ า้ งๆ เงียบๆ ฮูหยิน ท่านเห็นแล้วหรื อ
ยัง คุณหนูโตแล้ว วันนี้ออกเรื อนแล้ว หากท่านมีชีวิตอยูถ่ ึงตอนนี้ก็
คงจะดียงิ่ นัก
จ้าวฮูหยินมองเด็กสาวโฉมงามที่เบ้าตาแดงก่าในกระจก ดวงตามี
ความสงสารแวบผ่าน กล่าวเกลี้ยกล่อมอย่างเป็ นมิตร “วันนี้เป็ นวันดี
ของคุณหนูสี่ ไม่อาจร่ าไห้เป็ นเม็ดถัว่ ทองคาได้ หากจะร้องไห้เป็ น
ถัว่ ทองคาก็ตอ้ งรอพี่นอ้ งเจ้าหาเครื่ องเรื อนมารับก่อน”
คาพูดติดตลกทาให้เสิ่ นเวยยกมุมปากเบาๆ ยิม้ ให้นางด้วยความซึ้งใจ
แต่งหน้าแน่นอนว่ามีผชู ้ านาญการ เรื่ องนี้มีสี่เหนียง[1]มาทา ก่อน
หน้านี้เสิ่ นเวยบอกนางแล้ว ไม่ตอ้ งแต่งหน้าเข้มจนเหมือนก้นลิง
เดิมนางก็มีพ้นื ฐานดีอยูแ่ ล้ว แต่งเบาๆ ก็พอ ภายใต้การชี้แนะของ
เสิ่ นเวย สี่ เหนียงแต่งหน้าแบบธรรมชาติให้นาง มองไม่เห็นร่ องรอย
การแต่งหน้า แต่กลับรู ้สึกว่างามไปหมดทุกส่ วน
เมื่อเสิ่ นเวยหันหน้ากลับมา ทุกคนก็รู้สึกเพียงในห้องสว่างไสวสาม
ส่ วนในชัว่ พริ บตา เสิ่ นเวยที่สวมชุดแต่งงานสี แดงฉานแต่งหน้า
แต่งตัว งดงามจนราวกับนางฟ้าตกลงมาจากสวรรค์ช้ นั เก้า ทาให้คน
ละสายตาไม่ได้
“ท่านพี่สี่งามเกินไปแล้วจริ งๆ เป็ นเจ้าสาวที่สวยที่สุดที่ขา้ เคยเห็น”
เหอหลินหลินอ้าปากกล่าวอย่างโง่เขลา
ทุกคนพากันพยักหน้า นี่คือเสี ยงในใจของคนทั้งหมด ในใจเสิ่ น
เสวี่ยที่ยนื อยูต่ รงมุมอิจฉามากเป็ นพิเศษ เทียบกับความเย็นชาใน
วันที่ตนออกเรื อน เสิ่ นเวยออกเรื อนกลับครื้ นเครงอย่างถึงที่สุด นี่จะ
ให้นางสงบจิตสงบใจได้อย่างไร นางกาหมัดแน่น แค่นเสี ยงหึ หมุน
ตัวออกจากห้องไป
นางกลับอยากพูดจาถากถางหลายประโยค แต่นางไม่กล้า ก่อนหน้า
นี้นางแค่ปรายตามองเสิ่ นเวย
สองครา ท่านป้าสะใภ้ใหญ่กเ็ ตือนให้นางอยูน่ ิ่งๆ มิเช่นนั้นจะส่ งนาง
กลับจวนหย่งติ้งโหว อีกทั้งยังให้พี่รองดูนางไว้ นางในตอนนี้ไม่
อยากบุ่มบ่ามเหมือนเช่นแต่ก่อน นางรู ้ดีวา่ หากนางเสี ยบ้านฝั่ง
มารดาที่พ่ งึ นี้ไป อวี้ซื่อแม่สามีผชู ้ วั่ ร้ายคนนั้นของนางก็สามารถกัด
นางได้ ดังนั้นต่อให้นางจะไม่ยนิ ดี ก็ไม่กล้าก่อเรื่ องก่อราวที่นี่
ทุกคนออกมาหมดแล้ว ในห้องมีเพียงแม่นมมัว่ กับหลีฮวาและสาว
ใช้คนอื่นๆ อยูเ่ ป็ นเพื่อนเสิ่ นเวย เสิ่ นเวยนัง่ อยูห่ น้าเตียง ในใจเคียด
แค้นอย่างถึงที่สุด พิธีแต่งงานของคนโบราณเหตุใดจะต้องจัดขึ้น
ตอนพลบค่าให้ได้ เช้าตรู่ ปลุกนางมาทรมานไม่ใช่เป็ นทุกข์หรอก
หรื อ นางไม่ตอ้ งตื่นเช้าเพียงนั้นก็ยงั ได้
“คุณหนู ท่านหิวแล้วหรื อยัง บ่าวไปทาอะไรท่านกินเสี ยหน่อย พอ
ท่านเขยมาท่านก็กินไม่ได้แล้ว” หลีฮวาพูดพลางถอยออกไป
ผ่านไปอีกครู่ หนึ่ง นอกประตูกม็ ีเสี ยงฝี เท้าพักหนึ่ง เสิ่ นเวยคิดว่า
หลีฮวากลับมาแล้ว เงยหน้ามอง กลับเห็นเสิ่ นเจวี๋ยน้องชายแม่
เดียวกันยืนอยูต่ รงหน้านาง เห็นเพียงเขาก้มศีรษะต่า ดวงตาแดงก่า
“เป็ นอะไร น้องเจวีย๋ ” เสิ่ นเวยกวักมือเรี ยกเสิ่ นเจวี๋ยเข้ามา
“ท่านพี่ ข้าไม่อยากเสี ยท่านไป” เสิ่ นเจวี๋ยกอดเอวของเสิ่ นเวยด้วย
ความอาลัย แนบศีรษะลงบนขานาง ในจวนนี้มีเพียงท่านพี่ที่ดีต่อเขา
ที่สุด เขาไม่อยากให้ท่านพี่ออกเรื อน
หนึ่งประโยคทาให้หวั ใจของเสิ่ นเวยอ่อนลง “เด็กโง่ มีอะไรให้อาลัย
จวนจิ้นอ๋ องก็อยูไ่ ม่ไกล เจ้าคิดถึงข้าก็ไปหาข้าสิ ”
“จริ งหรื อ” เสิ่ นเจวี๋ยเงยหน้าขึ้นฉับพลัน ในดวงตาเต็มไปด้วยความดี
ใจ ทันใดนั้นบนใบหน้าก็มีความไม่แน่ใจหลายส่ วนปรากฎอยู่ “จวน
จิ้นกัว๋ กงจะไม่วา่ ใช่หรื อไม่” แม้เขาจะอายุนอ้ ย แต่กลับรู ้วา่ เป็ นพี่
น้องบ้านฝั่งมารดาก็ไม่ควรไปเยีย่ มบ้านบ่อยๆ
ทว่าเสิ่ นเวยกลับไม่สนใจ “จะเป็ นอะไรไป พีไ่ ม่ได้อยูจ่ วนจิ้นอ๋ อง
ไปตลอด พี่เขยเจ้าได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ อ๋ อง อย่าง
มากสามถึงห้าเดือนก็ยา้ ยไปที่จวนจวิน้ อ๋ องแล้ว พี่เป็ นเจ้านายดูแล
บ้าน ต่อให้เจ้าจะเข้าไปพักก็ยงั ได้ ไม่มีใครว่า”
“อืมๆ” เสิ่ นเจวี๋ยพยักหน้าตาลุกวาวไม่หยุด จากนั้นจึงวางศีรษะลง
บนขาของพี่สาว ในใจอาวรณ์อย่างถึงที่สุด
หลีฮวาเข้ามาแล้ว ในมือถือเกี๊ยวหนึ่งถ้วย แต่ละชิ้นต่างก็มีขนาดเล็ก
เสิ่ นเวยอ้าปากก็กินได้หนึ่งตัว “คุณหนู เหลือเวลาไม่มากแล้ว บ่าว
คาดว่าท่านเขยใกล้ถึงแล้ว ท่านรี บกินเถอะ” หลีฮวาคีบเกี๊ยวตัวเล็ก
ส่ งเข้ามาในปากเสิ่ นเวย
เพิ่งจะกินไปได้สองชิ้น ก็เห็นเถาฮวาวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ ว “คุณหนู
คุณหนู ท่านเขยมาแล้ว ใกล้จะถึงหน้าประตูใหญ่แล้ว”
เสิ่ นเวยมองเกี๊ยวตัวเล็กในชามปราดหนึ่ง ชัว่ ขณะก็ร้อนใจเล็กน้อย
ผลักเสิ่ นเจวี๋ยกล่าว “น้องเจวี๋ยรี บไปกั้นประตู พี่จะกินอิ่มหรื อไม่
ขึ้นอยูก่ บั เจ้าแล้ว” จากนั้นก็สงั่ เถาฮวา “เถาฮวาเด็กดี เจ้าแรงเยอะ ไป
ดันประตูอย่าให้ปิดออก ขอเงินอัง่ เปาพวกเขา พอเมื่อไรก็เปิ ดประตู
เมื่อนั้น”
เสิ่ นเจวี๋ยกับเถาฮวาไปกั้นประตูดว้ ยความกระตือรื อร้น เสิ่ นเวยพอ
ใจอย่างยิง่ พ่อหนุ่ม ให้เจ้าปี นกาแพงบ้านข้าอยูบ่ ่อยๆ วันนี้ไม่ให้เจ้า
ฝ่ าห้าด่านสังหารหกขุนพลก็อย่าได้คิดจะเข้ามาเลย
เสิ่ นเวยกินเกี๊ยวตัวเล็กของนางอย่างไม่รีบไม่ร้อน สวีโย่วข้างนอก
สวมชุดสี แดงขี่มา้ ตัวสู งใหญ่นาขบวนรับเจ้าสาวมาถึงหน้าประตู
ใหญ่จวนจงอู่โหว สวีโย่วที่แต่ไหนแต่ไรเย็นชา วันนี้บนใบหน้ามี
ความสุ ขจางๆ ทาให้เขามองดูแล้วไม่ได้สูงส่ งเกินเอื้อมเพียงนั้น
เขามองเห็นประตูใหญ่จวนโหวที่ปิดอย่างรวดเร็ วมีศีรษะเล็กๆ ทั้ง
สองชะโงกออกมา จาได้วา่ เป็ นน้องภรรยาที่เจอไม่บ่อยนักกับเถาฮ
วา ในใจก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีข้ ึนมาในชัว่ ขณะ พิธีวนั นี้คล้ายใหญ่
เล็กน้อย แต่ไม่วา่ จะยากลาบากเพียงใดเขาก็จะต้องรับคุณหนูสี่แซ่
เสิ่ นกลับจวนให้จงได้
[1] สี่ เหนียง สตรี ที่คอยทาหน้าที่ช้ ีแนะเจ้าสาว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 214-1 รับตัวเจ้ ำสำวและกรำบไหว้ ฟ้ำดิน
เสิ่ นเจวี๋ยยืนอยูบ่ นบันไดเอ่ยคาขอต่างๆ เสี ยงดัง เหล่าลูกพี่ลูกน้อง
ข้างกายเขารวมถึงชนรุ่ นหลังหมู่บา้ นตระกูลเสิ่ นก็ตะโกนเรี ยกร้อง
ขึ้นมาเช่นกัน
สวีโย่วมองเห็นอาจารย์ซูขา้ งกายเสิ่ นเวยในฝูงชนกาลังหัวเราะหึๆ
มองเขา ก็รู้สึกท่าไม่ดีทนั ที แม้อาจารย์ซูผนู ้ ้ ีจะเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อย
ปรากฎหน้า แต่จากที่เสิ่ นเวยไปซีเจียงให้เขาดูแลความมัน่ คงในเมือง
หลวงก็เห็นแล้วว่านางให้ความสาคัญต่อเขา ใต้บงั คับบัญชาแม่ทพั
แข็งแกร่ งไร้ทหารอ่อนแอ อาจารย์ซูผนู ้ ้ ีไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
เป็ นดังคาด ขณะที่เสิ่ นเจวี๋ยใช้อุบายจนหมดแล้วอาจารย์ซูผนู ้ ้ ีกเ็ ข้ามา
ช่วย คาถามเจ้าเล่ห์แต่ละข้อๆ เปล่งเสี ยงดังออกมาจากปากของเสิ่ น
เจวี๋ย สวีโย่วอดรู ้สึกจนปัญญาไม่ได้ นี่จะให้เป็ นนักกวีหรื อว่าจะให้
สอบแปลความหมายบทความ ยากยิง่ กว่าสอบขุนนางเสี ยอีก จะดี
จริ งๆ หรื อ
คนที่ตามสวีโย่วมารับตัวเจ้าสาวนอกจากบุตรหลานในราชสานัก
แล้วยังมีบุตรหลานขุนนางสู งศักดิ์ หากเป็ นเรื่ องกินดื่มสังสรรค์กลับ
เชี่ยวชาญกันทุกคน แม้จะเป็ นการพนัน พวกเขาก็สามารถช่วยเจ้าได้
ไม่มากก็นอ้ ย แต่ความสามารถด้านตาราการเรี ยนกลับอ่อนอย่างถึง
ที่สุด ในนั้นมีหลายคนที่แม้แต่อกั ษรยังเขียนเหมือนกับไก่เขี่ย ก่อน
หน้านี้ยงั โห่ร้องครื้ นเครง ตอนนี้กลับถูกคนอื่นทาเอาตกตะลึงแล้ว
สวีโย่วหวังพึ่งพวกเขาไม่ได้ ทาได้เพียงพยายามฝ่ าอุปสรรคไปด้วย
ตัวเอง เขากลับอ่านหนังสื อมาไม่นอ้ ย การบ้านยังเคยได้รับคาชม
จากฝ่ าบาท แต่สองมือยากจะสู ้สี่มือ เขาคนเดียวเผชิญหน้ากับคน
หนึ่งกลุ่ม เสี ยเปรี ยบยิง่ นัก! โชคดีที่ตอนมาเขาดึงผูช้ ่วยคนหนึ่งมา
จากสานักราชบัณฑิต มิเช่นนั้นด่านนี้เขาก็คงผ่านไปไม่ได้จริ งๆ
ผูช้ ่วยที่ถูกสวีโย่วลากมาก็คือเจียงเฉิน กระทัง่ ตอนนี้เขาก็ยงั สับสน
งุนงง เขาเพียงแค่ตามไปดื่มสุ รามงคลสมทบที่จวนจิ้นอ๋ อง เห็นชัดๆ
ว่าคุณชายใหญ่สวีผนู ้ ้ ีไม่รู้จกั เขา เพียงแต่ได้ยนิ คนตะโกนเรี ยกเขาว่า
ราชบัณฑิตเจียงหนึ่งครา ก็หนั หลังกลับสัง่ ให้เขาตามมารับตัว
เจ้าสาวด้วย
โชคดีที่อาจารย์ซูรู้จกั ความหนักเบาอย่างยิง่ เมื่อเจียงเฉิ นท่องกลอน
ไม่รู้กี่บทจบ เห็นว่าพอได้แล้ว ก็บอกเป็ นนัยให้ผา่ นด่านนี้ สวีโย่
วถอนหายใจอย่างโล่งอก บอกเป็ นนัยให้เจียงไป๋ ให้ซองแดงแก่เหล่า
น้องชายภรรยาของเขา เสิ่ นเจวี๋ยน้องภรรยาที่ซื่อสัตย์ที่สุดย่อมได้
เยอะที่สุด
ทว่าเถาฮวาที่เฝ้าประตูกลับไม่ยอมเปิ ดประตูเด็ดขาด โวยวายเสี ยงดัง
“ให้ซองแดง ให้ซองแดง คุณหนูของเราบอกว่าหากให้ซองแดงไม่
มากพอก็จะไม่เปิ ดประตูให้”
ทุกคนหัวเราะร่ าพร้อมกัน สวีฉงั่ คุณชายสี่ จวนจิ้นอ๋ องม้วนแขนเสื้ อ
ขึ้นอย่างไม่เชื่ออาสาเดินเข้าไปผลักประตู ก็แค่เด็กผูห้ ญิงไม่ใช่หรื อ
จะแรงเยอะเพียงใดกัน
ใครจะรู ้เขากระทัง่ ใช้แรงทั้งหมดที่มี ประตูใหญ่บานนั้นก็ยงั คงไม่
ขยับแม้แต่นิดเดียว ทุกคนก็หวั เราะครื้ นเครงอีกครั้ง เถาฮวาข้างใน
ยังคงตะโกนขอซองแดง ขอซองแดงใหญ่ๆ
สวีฉงั่ อัดอั้นจนหน้าแดงก่าแล้วก็ยงั ผลักประตูไม่ออก เขาเคยชินกับ
ชีวิตคุณชายแล้ว ไม่รู้สึกขายหน้า หันหลังกลับไปถลึงตามองสหาย
ที่หวั เราะเขา “พวกใจร้ายใจดา เห็นข้าขายหน้าแล้วพวกเจ้ายังมี
เกียรติอยูอ่ ีกหรื อ ยังไม่รีบมาช่วยอีก”
ในกลุ่มคนมีสหายสี่ คนเดินเข้ามาทันที แต่พวกเขาร่ วมกันออกแรง
ประตูใหญ่จวนจงอู่โหวก็ยงั แน่นิ่งไม่ขยับ เสี ยงหัวเราะข้างในก็ยงิ่
ดัง “เถาฮวาน้อยของพวกเราแรงเยอะ พวกท่านรี บให้ซองแดงเถอะ
พยานรู ้เห็นย่อมมีส่วน ให้หลายๆ ซองหน่อย”
สวีโย่วยืนมือไพล่หลังมองพวกเขาหัวเราะสนุกสนาน ตอนนี้จึงบอก
เป็ นนัยให้เจียงไป๋ ให้ซองแดง งานมงคล งานมงคล ก็ตอ้ งสร้างความ
ครื้ นเครงและเสี ยงหัวเราะจึงจะได้บรรยากาศ ไม่อาจจืดชืดเย็นชา
เหมือนกับอะไรดี
เจียงไป๋ แจกจ่ายซองแดงออกไปทั้งหมดสิ บกว่าซองจากนั้นจึงเคาะ
ประตู ในอ้อมอกเถาฮวากอดซองแดงเจ็ดแปดซองยิม้ จนตาปิ ด
“เร็ วเข้าๆ ท่านเขยเข้ามาในจวนแล้ว รี บไปรายงานด้านใน” พ่อบ้าน
ใหญ่ตะโกนเสี ยงดัง
สวีโย่วนาขบวนรับตัวเจ้าสาวเดินเข้าไปในจวน ทว่าเขาดีใจเร็ ว
เกินไป หน้าประตูเรื อนเฟิ งหวาเหล่าชนรุ่ นหลังของหมู่บา้ นตระกูล
เสิ่ นยืนวางมาดรออยูน่ านแล้ว พวกเขาสวมชุดสี ดา ช่วงเอวมัดผ้า
คาดเอวสี แดง ในมือถือทวนยาวเหมือนกัน บนทวนยาวก็มีผา้ สี แดง
สดผูกอยูเ่ ช่นกัน
โอวหยางไน่ยนื อยูข่ า้ งๆ ด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย โบกมือบัญชา ชนรุ่ ง
หลังเหล่านี้ของหมู่บา้ นตระกูลเสิ่ นก็ต้ งั แนวรบทันที ตะโกนเสี ยงดัง
ก้องโสตประสาท พลังที่พงุ่ ออกมานั้น เหล่าสหายที่มารับตัวเจ้าสาว
ต่างก็อา้ ปากค้าง พากันส่ งสายตาเห็นใจไปยังเจ้าบ่าว
ทว่าสวีโย่วกลับไม่ประหลาดใจเลยแม้แต่นิดเดียว น้องสี่ แซ่เสิ่ นเด็ก
ชัว่ ผูน้ ้ นั จะให้เขาอุม้ หญิงงามกลับง่ายๆ ได้อย่างไร
หลีฮวายืนทาความเคารพอย่างงดงามอยูบ่ ริ เวณประตูลานบ้าน “ท่าน
เขย คุณหนูของเรารออยูใ่ นห้องเจ้าค่ะ” ความหมายนั้นไม่ตอ้ งบอกก็
รู ้ อยากแต่งคุณหนูของพวกข้าเช่นนั้นก็ตอ้ งแสดงความสามารถ
ออกมา
เถาฮวาแทรกตัวผ่านช่องว่างอย่างคล่องแคล่ว วิ่งไม่กี่กา้ วก็เข้าไปใน
ลานบ้านแล้ว ยังไม่ลืมที่จะหันหน้ากลับมาแลบลิ้นให้เหล่าสหาย
ที่มารับตัวเจ้าสาวที่ยนื ตะลึงงันอยู่
“คุณหนู คุณหนู ดูสิวา่ ข้าได้ซองแดงมาเยอะเลย” เถาฮวาหยิบซอง
แดงในอ้อมอกให้เสิ่ นเวยดูอย่างดีใจ ดวงตาเปล่งประกาย ราวกับเด็ก
ที่รอคาชม
เสิ่ นเวยย่อมชมนางอย่างไม่งกเลยแม้แต่นิดเดียว “ทาดีมาก คราวนี้
เถาฮวาก็รวยแล้ว” ไม่ตอ้ งยืน่ มือไปจับเสิ่ นเวยก็รู้วา่ นี่เป็ นซองใหญ่
เถาฮวาเป็ นคนที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดข้างกายนาง ขอเพียงแค่
ตาไม่บอดใครบ้างจะกล้าปฏิบตั ิอย่างไม่เป็ นธรรม
ถวาฮวามีความสุ ขมากกว่าเดิม “คุณหนู คุณหนู ข้ากั้นท่านเขยอยูพ่ กั
ใหญ่ เขาอยูน่ อกเรื อนของพวกเรา จะให้ขา้ ไปปิ ดประตูอีกหรื อไม่
เสิ่ นเวยลูบศีรษะของเถาฮวา กล่าว “ไม่ตอ้ งแล้ว เถาฮวาอยูเ่ ป็ นเพื่อน
ข้าในห้องเถอะ มีอาจารย์โอวหยางอยู่ เขาไม่มีทางเข้ามาได้ง่าย
ขนาดนั้นหรอก” มุมปากของเสิ่ นเวยยกสู ง อารมณ์ดียงิ่ นัก
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวและคนอื่นๆ ในจวนรู ้เรื่ องแนบรบหน้าประตู
เรื อนเฟิ งหวาแล้ว ลุงทั้งสองของเสิ่ นเวยตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
เช่นเดียวกับเหล่าสหายที่มารับตัวเจ้าสาว สี หน้าของพ่อนางก็ไม่ดี
อย่างยิง่ เช่นกัน “สร้างเรื่ อง เวยเอ๋ อร์สร้างเรื่ องเกินไปแล้ว” หันหลัง
กลับกาลังจะเดินไปข้างนอก
“เจ้าจะไปไหน” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเหลือบตาขึ้น
“ลูกจะไปดูเสี ยหน่อย ให้ผชู ้ ่วยเด็กซนเหล่านั้นรี บๆ ออกไป” เวย
เอ๋ อร์ด้ือรั้นเอาแต่ใจเช่นนี้ หากท่านเขยโมโหขึ้นมาจะทาอย่างไร วัน
มงคล วุน่ วายแล้วคงจะไม่ดีอย่างยิง่
“กลับมา” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหววางแก้วชาลงบนโต๊ะทันที ชายตามอง
ลูกคนที่สามปราดหนึ่งอย่างไม่ยนิ ดีนกั กล่าวเสี ยงเรี ยบ “เวยเอ๋ อร์
ไหนเลยจะทาไม่ดี หลานสาวของข้าเสิ่ นผิงยวนจะแต่งงานได้ง่ายๆ
เพียงนั้นเชียวหรื อ ไม่แสดงความสามารถออกมาก็คิดจะแต่งไข่มุก
ล้ าค่าในมือของข้าเสิ่ นผิงยวนไปหรื อ เหอะ!”
เสิ่ นหงเซวียนมองใบหน้าโกรธเกรี้ ยวของพ่อเขา สุ ดท้ายก็ไม่กล้า
ออกไป
สหายที่มารับตัวเจ้าสาวแม้วา่ ด้านการเรี ยนจะไม่ปราดเปรื่ องนัก แต่
อย่างน้อยๆ ก็พอจะเป็ นยุทธ์อยูบ่ า้ ง ด้วยเหตุน้ ีหลังคนหนึ่งกลุ่มหาย
ตกใจแล้วก็ถูฝ่ามืออยากลงประลอง วิ่งเข้าไปในลานบ้านทันที ยังไม่
ทันได้แสดงหมัดมวย ก็ถูกชนรุ่ นหลังหมูบา้ นตระกูลเสิ่ นโยน
ออกไปทีละคนๆ แล้ว จนตรอกยิง่ นัก
สวีโย่วเองก็ไม่ได้หวังจะพึ่งพวกเขา เขาลูบจมูก ก้าวไปข้างหน้าช้าๆ
โอวหยางไน่ประจันหน้าเข้ามาทันที อันที่จริ งในใจเขาก็จนปั ญญา
คุณหนูบอกแล้วว่า หากเขากล้าปล่อยให้เข้ามา เขาก็ตอ้ งรับผิดชอบ
ด้วยตัวเอง เพื่อที่จะไม่รับผิดชอบเขาจึงจาเป็ นต้องขวาง!
ทว่าสวีโย่วกลับไม่ได้ต้ งั รับกระบวนท่าของโอวหยางไน่ แต่กวาด
สายตามองเจียงไป๋ และคนอื่นๆ ปราดหนึ่ง เจียงไป๋ และคนอื่นๆ
กระโดดออกไปก่อตัวเป็ นบันไดคน สวีโย่วใช้พลังที่รวดเร็ วไม่อาจ
ตั้งตัวเหยียบบันไดคนอาศัยแรงคนหลายขั้นก็ขา้ มผ่านยอดศีรษะ
ของชนรุ่ นหลังหมู่บา้ นตระกูลเสิ่ นแล้ว เหล่าชนรุ่ นหลังหมู่บา้ น
ตระกูลเสิ่ นยังไม่ทนั ได้สติกลับมา สวีโย่วก็กางปี กใหญ่อนั งามสง่า
ตกลงบนพื้นแล้ว เขาหมุนตัวยกมุมปากเบาๆ ให้ทุกคน ชุดแดงทั้ง
ร่ างไม่ยบั เลยแม้แต่นิดเดียว เดินเข้าไปในเรื อนด้วยความผ่าเผย
ทุกคนตกใจจนคางแทบจะหล่นลงมาแล้ว ไม่ใช่วา่ กันว่าคุณชาย
ใหญ่เป็ นคนขี้โรคหรอกหรื อ คนขี้โรคสามารถใช้วิชาตัวเบาที่ยอด
เยีย่ มเป็ นอันดับหนึ่งเพียงนี้ได้ดว้ ยหรื อ เจ้าเชื่อหรื อไม่ ทุกคนมอง
หน้ากันไปมา พากันส่ ายหน้า
ไม่ใช่บอกว่าคุณชายใหญ่เป็ นคนหน้าตายยิม้ ไม่เป็ นหรื อ เมื่อครู่ คน
ที่ยมิ้ จนพวกเขาสัน่ สะท้านผูน้ ้ นั คือใคร
“เข้ามาแล้ว เข้ามาแล้ว ท่านเขยเข้ามาแล้ว” เหล่าสาวใช้ร้องตะโกน
ฮูหยินสวี่กบั ฮูหยินจ้าวที่รอต้อนรับอยูข่ า้ งนอกก็เร่ งฝี เท้าเข้ามา “ผ้า
คลุมหน้าเล่า รี บคลุมให้เวยเอ๋ อร์!”
แม่นมมัว่ สวมมงกุฎหงส์ลงบนศีรษะของเสิ่ นเวยอย่างรวดเร็ ว หลีฮ
วาคลุมผ้าคลุมหน้าสี แดงฉานบนศีรษะนางทันที เสิ่ นรู ้สึกเพียงคอ
ถูกกด ดวงตาแดงก่า เอาล่ะ เหตุใดถึงไม่มีใครบอกนางว่ามงกุฎหงส์
หนักเพียงนี้ แทบจะกดจนลาคอเล็กๆ ที่บอบบางของนางหักอยูแ่ ล้ว
ตอนที่สวีโย่วเข้ามาก็มองเห็นเสิ่ นเวยยืนอยูอ่ ย่างดงามตรงนั้น สี แดง
ที่สะท้อนเข้ามาในม่านตาทาให้หวั ใจของเขาอบอุ่น เขาก้าวเข้ามาหา
เสิ่ นเวยช้าๆ “ข้ามาแล้ว”
คาสามคาง่ายๆ ถูกสวีโย่วพูดออกมาได้อย่างอ่อนโยนที่สุด ใช่ ข้า
มาแล้ว ข้ามเขาข้ามน้ าพันหมื่นลี้เพื่อมาแต่งเจ้า! แม่นางผูเ้ ป็ นที่รัก
ข้าจะเอาความรักและชีวิตของข้ามอบให้ดว้ ยสองมือ ท่ามกลางความ
งามนับพันหมื่นเจ้าจะยอมออกไปเผชิญพร้อมกับข้าหรื อไม่ นับจาก
นี้ไปน้ าค้างยามเช้าจะเฝ้ารอเจ้า อาทิตย์อสั ดงจะร้องเพลงให้เจ้าฟัง
แม่นางผูเ้ ป็ นที่รักของข้า ชัว่ ชีวิตนี้พวกเราจะจับมือกันเดินไปบน
เส้นทางธุลีแดง
เสี ยงประทัดข้างนอกดังขึ้น เสิ่ นเวยกับสวีโย่วถูกทุกคนติดตามไป
กราบลาญาติที่เรื อนใหญ่
นายท่านผูเ้ ฒ่ากับนายหญิงผูเ้ ฒ่านัง่ ตัวตรงอยูใ่ นห้องโถง เสิ่ นเวยคุก
เข่าลงกับพื้นโขกศีรษะสามครั้งอย่างตั้งใจจริ ง สวีโย่วเป็ นจวิน้ อ๋ อง
ไม่จาเป็ นต้องคุกเข่าไหว้ แต่เขาก็ยงั คงเลิกชุดคลุมนัง่ คุกเข่าลง
ตรงหน้านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเป็ นเพื่อนเสิ่ นเวย เขารู ้วา่ นายท่านผูเ้ ฒ่า
โหวเป็ นคนที่ภรรยาของเขาเคารพที่สุด
นายหญิงผูเ้ ฒ่ารู ้สึกมีเกียรติมากเป็ นพิเศษ รอยยิม้ บนใบหน้าก็จริ งใจ
ขึ้นหลายส่ วน กล่าวกับเสิ่ นเวยว่าหลังแต่งงานต้องเคารพผูอ้ าวุโส
เชื่อฟังสามี รักใคร่ กบั น้องสะใภ้ต่างๆ นานาหลายประโยคด้วย
ใบหน้าเมตตาอ่อนโยน
ทว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกลับมีสีหน้าเคร่ งขรึ มไม่พดู จา เขาไม่ยนิ ดี ไม่
ยินดีเลยแม้แต่นิดเดียว คุณชายใหญ่สวีคุกเข่าให้เขาเขาเองก็ไม่ยนิ ดี
ไข่มุกในมือที่ล้ าค่าของเขาถูกเด็กชัว่ ผูน้ ้ ีแต่งไปแล้ว เขาจะทาหน้าดีๆ
ให้เขามองได้อย่างไร
“ท่านพ่อ วันนี้เป็ นวันมงคลของเวยเอ๋ อร์ ท่านสัง่ เสี ยเวยเอ่อร์สกั
หน่อยเถิด” เสิ่ นหงเหวินสามพี่นอ้ งข้างๆ เป็ นกังวลยิง่ นัก ท่านเขยสี่
จวิน้ อ๋ องผูย้ งิ่ ใหญ่ให้เกียรติขนาดนี้แล้ว แต่ท่านพ่อกลับยังหน้าดา
คร่ าเครี ยด พวกเขากลัวว่าท่านพ่อจะทาอะไรที่ไม่เหมาะสมออกมา
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวมองลูกชายสามคนอย่างไม่พอใจปราดหนึ่ง กล้ า
กลืนอยูน่ านจึงกล่าวกับหลานสาวหนึ่งประโยค “หากชีวิตไม่ราบรื่ น
ก็กลับจวน เรื่ องที่ใหญ่เท่าฟ้าปู่ ก็แบกรับแทนเจ้าได้”
หนึ่งประโยคแทบจะทาให้เสิ่ นเวยน้ าตาไหล นางกัดริ มฝี ปากกล่าว
เสี ยงเบา “เจ้าค่ะ หลานทราบแล้ว” นางโขกศีรษะด้วยความเคารพ
นบนอบให้ท่านปู่ อีกครั้งจึงลุกขึ้น
“ท่านปู่ วางใจ ไม่มีวนั นั้นหรอก” สวีโย่วมองคนข้างกาย สาบาน
อย่างหนักแน่น
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวมองเขาอย่างเย็นชา แค่นเสี ยงอยูใ่ นจมูกไม่เปล่ง
ออกมา สายตาถลึงมองหลานเขยที่ฉกฉวยผลประโยชน์อย่างไม่ยนิ ดี
กล่าวเตือน “จาคาเจ้าไว้แล้วกัน”
สวีโย่วเลิกคิ้ว ถือเป็ นคาตอบ
กราบลาปู่ ย่าแล้ว ต่อไปก็กราบลาพ่อแม่ เสิ่ นเวยกับสวีโย่วโขกศีรษะ
ให้ท่านพ่อและแท่นบูชาท่านแม่สามครั้ง เทียบกับความรู ้สึกที่
ซับซ้อนของเสิ่ นหงเซวียน ความรู ้สึกของเสิ่ นเวยสงบนิ่งยิง่ กว่า เดิม
นางก็ไม่ได้มีความผูกพันกับบิดาผูน้ ้ ีอยูแ่ ล้ว หวังจะเห็นนางร้องห่ม
ร้องไห้เป็ นเรื่ องที่เป็ นไปไม่ได้
ข้างนอกมีเสี ยงครึ กครื้ นดังขึ้น ประทัดที่งานแต่งจุดขึ้นสามครั้งแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 214-2 รับตัวเจ้ ำสำวและกรำบไหว้ ฟ้ำดิน
“ท่านพ่อ ควรส่ งเวยเอ๋ อร์ออกเรื อนแล้ว หากคลาดฤกษ์จะไม่ดี” ฮู
หยินสวี่ยมิ้ พลางก้าวขึ้นมา นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวจึงพยักหน้าน้อยๆ
เพิ่งจะก้าวออกจากธรณี ประตู ไม่รอพี่รองเสิ่ นซงย่อตัวลง สวีโย่วก็
อุม้ เสิ่ นเวยขึ้นมาแล้ว ก้าวยาวเดินออกไปข้างนอกท่ามกลางความตื่น
ตะลึงของทุกคน
ปกติสตรี ออกเรื อนจะมีพี่นอ้ งแบกขึ้นเกี้ยว ไม่มีพี่นอ้ งแท้ๆ หรื อว่า
พี่นอ้ งแท้ๆ เด็กเกินไปเช่นนั้นก็จะหาลูกพี่ลูกน้อง เสิ่ นเจวี๋ยยังไม่
บรรลุนิติภาวะ ดังนั้นจึงต้องให้เสิ่ นซงบ้านรองแบกนางขึ้นเกี้ยว
แต่ท่านเขยสี่ หมายความว่าอย่างไร ไม่เคยได้ยนิ ว่ามีเจ้าบ่าวอุม้
เจ้าสาวขึ้นเกี้ยวด้วยตัวเอง แต่วา่ เนื่องจากสวีโย่วมีอานาจตาแหน่ง
ทุกคนก็ไม่กล้าพูดอะไร อีกทั้งสวีโย่วยังเดินเร็ วอย่างยิง่ กว่าทุกคน
จะได้สติกลับมาเขาก็ออกจากเรื อนไปแล้ว
เสิ่ นเวยเองก็ไม่คิดว่าสวีโย่วจะมาไม้น้ ี ตกใจจนมือทัง่ คู่กอดคอของ
เขาไว้แน่น ถลึงตามองเขาปราดหนึ่งผ่านผ้าคลุมหน้า ทว่าสวีโย่วก
ลับยกมุมปากอย่างพอใจ ภรรยาของเขาย่อมต้องให้เขาอุม้ ขึ้นเกี้ยว
เอง จะให้ชายอื่นมาแบกได้อย่างไร ต่อให้จะเป็ นพี่นอ้ งก็ไม่ได้
สี่ เหนียงกับหลีฮวาสับขาวิ่งจึงจะตามเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปหน้าประตู
จวนโหวทัน เจียงไป๋ เปิ ดม่านเกี้ยว สวีโย่ววางเสิ่ นเวยเข้าไปอย่าง
ระมัดระวัง หันหน้ากลับมามองสี่ เหนียงที่ตะลึงงันปราดหนึ่ง สี่
เหนียงผูน้ ้ นั รู ้สึกเพียงหัวใจเย็นเยียบ รี บวิ่งมาข้างเกี้ยวโบก
ผ้าเช็ดหน้าตะโกนดัง “ขึ้นเกี้ยว ขึ้นเกี้ยว เจ้าสาวออกเรื อนแล้ว!”
สวีโย่วกระตุกมุมปากอย่างพอใจ พลิกตัวขึ้นม้านาทางอยูข่ า้ งหน้า
เสิ่ นเวยนัง่ เกี้ยวน้อยอย่างถึงที่สุด ออกจากบ้านไม่ขี่มา้ ก็นงั่ รถม้า ฟัง
ว่านัง่ เกี้ยวจะทาให้เวียนหัว แต่เสิ่ นเวยไม่รู้สึกเลยแม้แต่นิดเดียว
เกี้ยวหามอย่างมัน่ คง ไม่โคลงเคลงเลยแม้แต่นอ้ ย
นางกลับไม่รู้วา่ คนหามเกี้ยวเป็ นคนที่สวีโย่วตั้งใจเลือกมาจาก
กองทัพคุม้ มังกร ไม่เพียงแต่มีกาลังวังชา ส่ วนสู งปกติ อีกทั้งกาลังใน
มือยังดีอย่างยิง่ ยอดฝี มือเช่นนี้หามเกี้ยวย่อมนิ่งราวกับเดินบนพื้น
เรี ยบแน่นอน
เกี้ยวหยุดลงแล้ว สวีโย่วเตะประตูเกี้ยวตามธรรมเนียม หลังจากนั้นก็
เปิ ดม่านเกี้ยวประคองเสิ่ นเวยออกมา สี่ เหนียงกับหลีฮวาพยุงขนาบ
ข้างนาง ผ้าไหมสี แดงสดส่ งมาที่มือเสิ่ นเวย ปลายอีกด้านหนึ่งก็อยู่
ในมือสวีโย่ว เขาจูงเสิ่ นเวยเดินเข้าไปในจวนช้าๆ ก้าวข้ามกระถาง
ไฟ จากนั้นก็ตรงเข้าโถงหลัก
มีขนุ นางกรมพิธีการและคนอื่นๆ รออยูท่ ี่นี่นานแล้ว “เร็ วๆๆ เจ้าบ่าว
เจ้าสาวกราบไหว้ฟ้าดิน!”
เสิ่ นเวยไม่ค่อยเข้าใจธรรมเนียมพิธีแต่งงานโบราณนัก โชคดีที่มีสี่
เหนียง นางคอยกระซิบเตือนอยูข่ า้ งๆ เสิ่ นเวย นางว่าอย่างไรเสิ่ นเวย
ก็ทาตามนั้น
สายตาแขกทั้งห้องต่างก็ตกอยูบ่ นร่ างคู่บ่าวสาวในชุดแดง งานมงคล
ทาให้ผคู ้ นมีชีวิตชีวา บนร่ างคุณชายใหญ่ถอดความเย็นชาห่างเหิ น
ในวันปกติออกไปแล้ว แม้แต่ใบหน้าที่ขาวซีดนั้นยังมีสีแดงระเรื่ อ
ประดับอยูห่ ลายส่ วน เจ้าสาวยืนอยูข่ า้ งกายเขาอย่างโอนอ่อนผ่อน
ตาม ทั้งสองมองดูแล้วเหมาะสมกันเพียงนั้น
“หนึ่งคานับฟ้าดิน สองคานับบุพการี สามีภรรยาคานับซึ่งกันและ
กัน ส่ งตัวเข้าเรื อนหอ!”
หลังจากเสี ยงๆ นี้พดู จบ เสิ่ นเวยก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เอา
ล่ะ หน้าที่เสร็ จแล้ว ไม่มีอะไรให้นางต้องทาแล้ว นางไปนัง่ พักใน
ห้องหอได้แล้ว
สวีโย่วจูงเสิ่ นเวยเข้าเรื อนหอ สี่ เหนียงชี้แนะให้เสิ่ นเวยนัง่ ลงบน
เตียง ยิม้ แย้มเอ่ยปากกล่าว “คุณชายใหญ่เลิกผ้าคลุมเถิดเจ้าค่ะ”
สวีโย่วรับคันชัง่ เข้ามาเลิกผ้าคลุมหน้าบนศีรษะของเสิ่ นเวยออก เสิ่ น
เวยเงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่งามเลิศใบนั้นทาให้คนทั้งหมดที่ลอ้ มห้อง
หอต่างก็ประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ ในดวงตาสวีโย่วมีความตะลึง
แวบผ่าน น้องสี่ แซ่เสิ่ นหน้าตาดี แต่ไม่คิดว่าน้องสี่ แซ่เสิ่ นที่แต่งหน้า
แต่งตัวจะงดงามเพียงนี้
เสิ่ นเวยย่อมเห็นความตกตะลึงในดวงตาของสวีโย่วแล้ว ยิม้ แย้ม
อย่างอดไม่ได้ วินาทีน้ นั ทุกคนรู ้สึกเพียงเบื้องหน้างามตระการตา
ราวกับบุปผางามพันหมื่นผลิบานอีกครั้ง ฟ้าดินจึงดับมืดไร้สีสนั
“เจ้าสาวสวยจริ งๆ ดูสิ คุณชายใหญ่ตกตะลึงแล้ว” อู๋ซื่อฮูหยินของส
วีเยีย่ หยอกล้อกล่าวด้วยรอยยิม้ ทัว่ ใบหน้า
มีนางนา คนอื่นๆ ในห้องหอก็คล้อยตาม ยังมีคนที่ทาตัวเสเพลจน
เคยชินหยอกเล่นอย่างตรงไปตรงมา บ้างก็วา่ ขาวนวลเหมือนดอกฝู
หรง (ดอกพุดตาน) บ้างก็วา่ ฝ่ ายชายมีวาสนาได้หญิงงามเป็ นภรรยา
เสิ่ นเวยเพียงแค่นงั่ ก้มหน้าน้อยๆ ไม่สนใจ แสร้งทาท่าทางเขินอาย
ชีวิตคนก็เหมือนละคร ทั้งหมดต้องการอาศัยการแสดง วันนี้นางเป็ น
เจ้าสาว ย่อมต้องสวมบทบาทนี้ให้ดี
เสิ่ นเวยไม่สนใจ แต่สวีโย่วกลับไม่ยนิ ดีแล้ว สายตาเย็นเยียบกวาด
ผ่านออกไป คนไม่กี่คนนั้นต่างก็สั่นสะท้านในใจ ปิ ดปากหน้าเจื่อน
แอบหนีออกไปเงียบๆ ตอนที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ไปถึงข้างนอกแล้ว
ก็ยงั ลูบอกหวาดกลัว แอบเกลียดตัวเองที่เหตุใดถึงลืมตัวทาตาม
อาเภอใจชัว่ ขณะ
นัน่ คือพญามาร สาหรับคนที่ไม่ได้เรื่ องเช่นพวกเขาเหล่านี้กถ็ ือเป็ น
การดารงอยูท่ ี่เสมือนเขาสู งมหาสมุทรกว้าง พญามารไม่เพียงแต่
ได้รับความโปรดปรานจากฝ่ าบาท อีกทั้งยังเป็ นแบบอย่างในสายตา
บิดาของจวนต่างๆ มักจะชี้พวกเขาแล้วกล่าวอย่างเจ็บใจที่ไม่อาจ
หลอมเหล็กให้กลายเป็ นเหล็กกล้าได้ ‘ดูโย่วเอ่อร์สิ ร่ างกายไม่ดี แต่
ความรู ้ความสามารถยังได้รับคาชมจากฝ่ าบาท เจ้ากายาล่าสัน แต่
ท่องไม่ได้แม้แต่คมั ภีร์สามอักษร ขายหน้าบรรพบุรุษจะแย่’
ไม่ก็ ‘ดูกิริยามารยาทโย่วเอ๋ อร์ แล้วดูเจ้าสิ ยืนยังยืนไม่เหมือน นัง่ ยัง
นัง่ ไม่เหมือน อ่อนปวกเปี ยกราวกับหนอนไม่รู้จกั อาย เหตุใดข้าถึง
ได้มีลูกไม่เอาไหนแบบเจ้า’
สรุ ปแล้ว สวีโย่วคือดอกไม้ที่สูงส่ ง ไผ่เขียวที่ทรงพลัง เมฆขาวบน
ท้องฟ้า นอกจากสุ ขภาพไม่ดี ไม่วา่ อะไรต่างก็ดี พวกเขาเล่า เป็ นดัง่
โคลนตมบนพื้นดิน เป็ นสุ นขั ที่ปีนกาแพงไม่ได้ เป็ นคนไร้ค่า นี่ยงั
เป็ นสิ่ งที่พอ่ แท้ๆ ของพวกเขาพูดเอง
ตอนที่ยงั ไม่รู้ประสี ประสาก็เคยมีความคิดที่จะกลัน่ แกล้งสวีโย่ว
หนึ่งคือสวีโย่วไม่คอ่ ยอยูเ่ มืองหลวง สองต่อให้เขาอยูใ่ นเมืองหลวง
ไม่อยูใ่ นจวนก็อยูใ่ นพระราชวัง พวกเขาหาโอกาสไม่ได้ กว่าจะได้
โอกาสมา เพิ่งคิดจะปล่อยวาจาเสี ยดแทงสองประโยค ก็ถูกแววตา
รังเกียจที่เยือกเย็นของเขาจ้องมอง ราวกับมองสิ่ งสกปรกบางอย่าง
พวกเขาก็ขลาดกลัวละอายแก่ใจแล้ว ยิง่ ไปกว่านั้นยังถูกทหารคุม้ กัน
ข้างกายเขาตีจนลุกไม่ข้ ึน กลับบ้านไปก็ถูกบิดาตีอีก บวกกับคุกเข่า
ในศาลบรรพบุรุษ
นับตั้งแต่น้ นั มา พวกเขาก็ไม่กล้ายัว่ ยุพญามารอีกเลย ต่อให้เขาจะไม่
อยูใ่ นเมืองหลวง ในเมืองหลวงก็ยงั คงมีข่าวลือเกี่ยวกับเขา
สตรี ในห้องหอเองก็อึดอัดเล็กน้อย โชคดีที่สี่เหนียงเข้ามาทาพิธี นาง
คีบเกี๊ยวส่ งไปที่ปากเสิ่ นเวยให้นางกิน อีกทั้งยังถามนางว่ามีบุตร
หรื อไม่ เสิ่ นเวยถูกทาให้ตกใจจนงงงัน แต่กย็ งั คงฝื นใจบอกว่ามี
สี่ เหนียงออกไปพูดคามงคลนั้นข้างนอกราวกับไม่ตอ้ งการเงิน สตรี
ในห้องก็หยอกล้อพูดจาประเภทขอให้มีบุตรโดยเร็ วต่างๆ นานาก็ยงั
เชื่อฟัง
ดาเนินไปจนถึงพิธีสุดท้าย หลังดื่มสุ รามงคลสมรสแล้ว สวีโย่วก็
ควรออกไปดื่มสุ ราอวยพร เขากล่าวกับเสิ่ นเวยด้วยเสี ยงอ่อนโยน
“เจ้าพักก่อน ข้าไปครู่ เดียวประเดี๋ยวจะกลับมา”
เสิ่ นเวยหน้าแดงพยักหน้า
เมื่อสวีโย่วไปแล้วก็มีคนกล่าวหยอก “มิน่าเล่าพี่ใหญ่ถึงไม่อยากไป
หญิงงามอ่อนหวานชดช้อยเพียงนี้ ใครบ้างจะตัดใจได้”
“นัน่ สิ เทียบกับภรรยาของโย่วเอ๋ อร์แล้ว พวกเราก็กลายเป็ นหมัน่
โถวไหม้ไปเลย”
“ดูเจ้าเด็กนี่พดู เข้า หากเจ้าเป็ นหมัน่ โถวไหม้ อาสะใภ้เช่นข้าจะเป็ น
อะไร”
“ท่านน่ะหรื อ ย่อมเป็ นเทพแห่งอายุขยั อย่างไรเล่า!”
“ฮ่าๆ เจ้าเด็กนี่ปากหวานจริ งๆ วันหลังต้องไปคุยกับแม่สามีเจ้าจริ งๆ
เสี ยแล้ว”
ในห้องหอเต็มไปด้วยเสี ยงพูดคุยและเสี ยงหัวเราะที่ฟังไม่ศพั ท์ อู๋ซื่อ
กับหูซื่อสบตากันปราดหนึ่ง จากนั้นจึงมองเจ้าสาวที่เขินอายจนก้ม
หน้างุด อู๋ซื่อก็แย้มยิม้ กล่าว “ข้าว่าท่านป้าสะใภ้ท่านอาสะใภ้พี่สะใภ้
น้องสะใภ้ทุกท่าน พวกท่านอย่าได้หยอกล้อเจ้าสาวอยูเ่ ลย หากยัง
พูดต่อไป เจ้าสาวคงจะเขินอายจนมุดแผ่นดินหนีแล้ว ไปๆๆ พวกเรา
ออกไปนัง่ ในงานเถอะ”
เจ้าสาวก็เห็นแล้ว อีกอย่างอู๋ซื่อก็เป็ นฮูหยินซื่อจื่อ ทุกคนย่อมต้องไว้
หน้านาง พากันจูงมือเดินออกไปข้างนอก
อู๋ซื่อกับหูซื่อออกไปทีหลังสุ ด “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้ากับน้องสะใภ้สาม
ไม่กวนท่านแล้ว ท่านก็พกั ผ่อนเถิด ต้องการอะไรก็เรี ยกได้ สาวใช้
คอยปรนนิบตั ิอยูข่ า้ งนอกทั้งหมด”
เสิ่ นเวยพยักหน้า กล่าวหนึ่งครา “ลาบากแล้ว”
รอยยิม้ บนใบหน้าอู๋ซื่อก็ยงิ่ กว้าง “คนบ้านเดียวกันจะเกรงใจไป
ทาไม” เสิ่ นเวยจึงไม่พดู อีก
ทุกคนไปแล้ว ไหล่ของเสิ่ นเวยก็ตกลงทันที “หลีฮวา หลีฮวา รี บเอา
มงกุฎหงส์ออกไป คอข้าจะหักอยูแ่ ล้ว”
หลีฮวาลังเลเล็กน้อย มองสี่ เหนียง เอามงกุฎหงส์ออกตอนนี้จะดีหรื อ
สี่ เหนียงยังไม่ทนั ได้พดู เสิ่ นเวยก็เร่ งรัดแล้ว “เร็ วหน่อย ข้าจะแบก
ไม่ไหวแล้ว” นางไม่สนว่าอะไรจะเป็ นมงคลไม่เป็ นมงคล เป็ นกฎ
ไม่เป็ นกฎ นางรู ้เพียงมงกุฎหงส์บนศีรษะหนักเกินไป นางใส่ แล้ว
ทรมานยิง่ นัก
เมื่อหลีฮวาได้ยนิ ก็ไม่มองสี่ เหนียงแล้ว วิ่งเข้าไปช่วยเสิ่ นเวยถอด
มงกุฎหงส์ลง “คุณหนู ท่านไม่เป็ นไรใช่หรื อไม่” นางถามด้วยความ
เป็ นห่วง
เสิ่ นเวยหมุนคอ ใช้มือนวด “ในที่สุดก็หายใจได้แล้ว”
สี่ เหนียงอ้าปาก ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พดู อะไร ด้วยความโปรดปรานที่
คุณชายใหญ่มีต่อคนผูน้ ้ ี นางยอมโอนอ่อนผ่อนตามเล็กน้อยดีกว่า
เสิ่ นเวยพอใจต่อท่าทีของสี่ เหนียงอย่างถึงที่สุด บอกเป็ นนัยให้หลีฮ
วาปูนบาเหน็จนางหนักๆ หลังจากนั้นก็ไล่นางออกไป
เดิมสี่ เหนียงยังลังเลเล็กน้อย แต่นางเห็นแม่นมผูน้ ้ นั ที่ติดตามอยูข่ า้ ง
กายเสิ่ นเวยแล้ว ก็ยงั คงถอยออกไปอย่างเชื่อฟัง
ภายในห้องล้วนแต่เป็ นคนของตน เสิ่ นเวยรู ้สึกเป็ นตัวของตัวเองขึ้น
มากในชัว่ พริ บตา “หลีฮวา มีของกินหรื อไม่ ข้าหิ วแล้ว” ก่อนหน้านี้
กินเกี๊ยวตัวเล็กหนึ่งถ้วยนั้น ตอนนี้ฟ้าก็มืดแล้ว ย่อยหมดไปนานแล้ว
หลีฮวากล่าว “คุณหนูท่านรอสักครู่ บ่าวจะออกไปดู”
“เดี๋ยว ไม่ตอ้ งไปแล้ว” เสิ่ นเวยกวาดสายตามองเห็นมุมหนึ่งของห้อง
วางโต๊ะอาหารไว้หนึ่งโต๊ะ วิง่ เข้าไปทันที “ไม่ตอ้ งทาให้ยงุ่ ยาก ข้า
กินอันนี้กไ็ ด้”
“คุณหนู นี่ไม่ดีกระมัง บ่าวออกไปทาอะไรรองท้องให้ดีกว่า โต๊ะ
อาหารนี้รอท่านเขยมาแล้วท่านค่อยกินพร้อมกันกับเขา” หลีฮวา
โน้มน้าว
ทว่าเสิ่ นเวยกลับโบกมือ “เขาอยูข่ า้ งนอกคงกินอิ่มไปนานแล้ว” เหตุ
ใดนางจะต้องทนหิวรอเขา ฝันไปเถอะ!
เสิ่ นเวยหยิบตะเกียบขึ้นมาก็กิน นางหิวจริ งๆ กินแม้กระทัง่ ขาหมู
หลายชิ้น “เถาฮวาเล่า” จู่ๆ เสิ่ นเวยก็ถาม เถาฮวาชอบกินเนื้อที่สุด
หลีฮวาย่อมเข้าใจเจตนาของคุณหนู มุมปากกระตุก คุณหนูกินเองไม่
รอท่านเขยก็ไม่เป็ นไร แต่ยงั คิดจะให้เถาฮวามากินด้วย มันช่าง
ช่าง…เฮ้อ! หลีฮวาถอนหายใจอย่างหนักหน่วงหนึ่งครา “ใครจะรู ้
เด็กคนนั้นวิง่ ไปก่อเรื่ องที่ไหนแล้ว คุณหนูวางใจเถิด นางมีเนื้อให้
กินแน่นอน”
เสิ่ นเวยพยักหน้าเล็กน้อย กินต่อ กินอิ่มแล้วนางก็บิดขี้เกียจรู ้สึกง่วง
ตื่นเช้าเพียงนั้น ทั้งยังทนทรมานทั้งวัน จะไม่ง่วงได้อย่างไร
นางปี นขึ้นเตียง โผลงบนหมอนทั้งชุดที่ใส่ อยู่ “หลีฮวา ข้านอนแปป
เดียว มีคนมาแล้วเรี ยกข้าด้วย”
หลีฮวากระวนกระวายใจแล้ว คุณหนูของนางยังเป็ นเจ้าสาวอยู่
หรื อไม่ ท่านเขยยังไม่กลับมานางก็นอนก่อนแล้ว จะดีจริ งๆ หรื อ
หลีฮวาอยากปลุกคุณหนูของนางขึ้นมา แต่กลับถูกแม่นมมัว่ ห้ามไว้
“คุณหนูเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ให้นางนอนสักพักเถอะ สัง่ คนไปดูขา้ ง
นอก ท่านเขยมาแล้วค่อยปลุกคุณหนูกพ็ อ”
นางที่มีชีวิตมาจนถึงอายุเท่านี้กลับมองโลกออกแล้ว กฎระเบียบ
อะไรคือกฎระเบียบ บุรุษรักเจ้าหลงเจ้า เจ้าทาอะไรล้วนเป็ น
กฎระเบียบ หากบุรุษราคาญเจ้า ต่อให้เจ้าเคารพกฎเพียงใดเขาก็ไม่
มองเจ้าอยูด่ ี
ตอนที่สวีโย่วผลักประตูเข้ามาก็มองเห็นน้องสี่ แซ่เสิ่ นของเขานอน
ขดตัวอยูบ่ นเตียงห้องหอ หลีฮวาลุกขึ้นยืนอย่ารวดเร็ วกาลังจะเรี ยก
คุณหนู แต่กลับถูกสวีโย่วห้ามไว้ นางกัดริ มฝี ปากอย่างแค้นเคือง
หากท่านเขยทาคุณหนูโกรธจะทาอย่างไร ท่านเขยก็เข้ามาแล้ว เหตุ
ใดถึงไม่ส่งข่าวล่วงหน้า
สาวใช้เล็กเองก็อดั อั้นอย่างยิง่ นางไหนเลยจะไม่อยากรายงาน
เห็นชัดๆ ว่า ท่านเขยไม่อนุญาต! พี่ใหญ่ผเู ้ ป็ นบ่าวตัวสู งๆ ผูน้ ้ นั กด
ไล่นางไว้เบาๆ นางก็ขยับไม่ได้แล้ว
“เอาล่ะ พวกเจ้าออกไปให้หมด” สวีโย่วโบกมือไล่คนทั้งหมด
ออกไป
หลีฮวาลังเลยืนอยูอ่ ย่างไม่ขยับ ยังคงเป็ นแม่นมมัว่ ที่ดึงนาง “แม่นม
มัว่ หากท่านเขยทาคุณหนูโกรธจะทาอย่างไร” นางกระวนกระวาย
ใจ
“เช่นนั้นเจ้าอยูใ่ นห้องไปจะมีประโยชน์อะไร” แม่นมมัว่ กล่าวตรง
ประเด็น “ดูเจ้าสิ ปกติกเ็ ป็ นคนฉลาด เหตุใดตอนนี้ถึงเลอะเลือนแล้ว
เล่า ท่านเขยไม่ทาคุณหนูโกรธหรอก ท่านเขยดีต่อคุณหนูของพวก
เรา” นางใช้ชีวิตถึงอายุปูนนี้แล้ว จะมองไม่เห็นแววตารักใคร่ ที่ท่าน
เขยมองคุณหนูได้อย่างไร
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 215-1 คืนเข้ าหอ
สวีโย่วเท้าคางมองใบหน้าตอนหลับของเสิ่ นเวย เสิ่ นเวยตะแคงตัว
นอน ผมดาปรกอยูล่ ่างใบหน้า ดวงหน้าแดงระเรื่ อ ริ มฝี ปากเล็กๆ สี
ชมพู ขนตาที่ยาวงอนราวกับพัดอันเล็กสะท้อนเงาดาอยูใ่ ต้ตา จมูก
ส่ งเสี ยงหายใจเบาๆ ออกมา สวีโย่วมองจนจิตใจตื้นตัน น้องสี่ แซ่
เสิ่ น เวยเวย นางผูเ้ ป็ นที่รักของเขา ในที่สุดเขาก็แต่งงานกับนางแล้ว
สวีโย่วมองคนที่หลับสนิทอยูข่ า้ งกายด้วยความรักใคร่ เกิดความคิด
ซุกซน เอาผมหนึ่งช่อของนางมาปัดป่ ายไปบนหน้านาง ชัว่ ขณะคิ้ว
งามของคนข้างๆ ก็ขมวดมุ่น ถูหน้าไปมาบนหมอน มุมปากสวีโย่
วอมยิม้ จากนั้นก็แกล้งนางอีกเล็กน้อย ครั้งนี้คิ้วของเด็กน้อยขมวด
มุ่นยิง่ กว่าเดิม ศีรษะก็ขยับอย่างไม่สบายตัว คล้ายอยากสะบัดสิ่ งที่
สร้างความน่าราคาญออกไป
ท่าทางน่ารักนั้นทาให้สวีโย่วอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เหตุใดเด็กน้อย
คนนี้ถึงได้น่ารักเพียงนี้ สวีโย่ว
ตะแคงตัวหอมลงไปบนแก้มเสิ่ นเวยอย่างแรง ทาให้เสิ่ นเวยตื่นทันที
เสิ่ นเวยลืมตาที่สะลึมสะลือขึ้น ยังคิดว่าอยูใ่ นห้องตัวเอง เมื่อได้
เห็นสวีโย่วที่ยมิ้ สดใสราวกับดอกไม้ผลิบาน ก็ตระหนักได้ฉบั พลัน
ว่าตนแต่งงานแล้ว นี่ไม่ใช่หอ้ งของตัวเอง แสดงว่าเมื่อครู่ คนโรคจิต
ผูน้ ้ ีกาลังก่อกวนตนอยูห่ รื อ เมื่อเห็นว่าบนมือสวีโย่วกาลังจับผมช่อ
หนึ่งของตนอยู่ เสิ่ นเวยก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ตนก็อายุยสี่ ิ บสองแล้ว
อายุเท่านี้แล้ว ยังเล่นอะไรที่ปัญญาอ่อนเช่นนี้อยูอ่ ีก จะดีจริ งๆ หรื อ
สวีโย่วเห็นใบหน้าที่ฉลาดปราดเปรื่ องของเสิ่ นเวยจนชินแล้ว ตอนนี้
เห็นท่าทางสะลึมสะลือของนาง รู ้สึกแปลกใหม่ยงิ่ นัก! พลิกตัวกอด
นางไว้ในอ้อมอกตนทันที ส่ วนสี หน้ารังเกียจที่เด่นชัดบนใบหน้า
เสิ่ นเวย เขาทาเป็ นว่าตัวเองตาบอดมองไม่เห็นไปเสี ย
“เด็กดื้อ ไม่รอข้าก็หลับก่อนแล้ว” สวีโย่วจิ้มจมูกเสิ่ นเวยฟ้องร้อง
อย่างไม่พอใจ
เสิ่ นเวยไม่เคยสัมผัสกับผูช้ ายระยะใกล้เช่นนี้มาก่อน ตอนนี้ซบอยู่
บนร่ างของสวีโย่ว รู ้สึกทาตัวไม่ถูกยิง่ นัก อดขยับตัวอยากลุกขึ้น
ไม่ได้ แต่อบั จนหนทางมือทั้งคู่ของสวีโย่วกอดหลังนางไว้แนบแน่น
ไม่ให้นางหนี “ปล่อยมือ ให้ขา้ ลุก” กลิ่นสุ ราทั้งร่ างเหม็นจะตายอยู่
แล้ว เสิ่ นเวยปิ ดจมูกดิ้นพล่านคิดจะออกห่างจากเขาเล็กน้อย
“ไม่ปล่อย” ในดวงตาสวีโย่วอมยิม้ พอใจยิง่ นัก! หญิงงามในอ้อมอก
ที่เฝ้ารอมาเนิ่นนาน เขาจะยอมปล่อยมือได้อย่างไร
“จะปล่อยไม่ปล่อย” เสิ่ นเวยแยกเขี้ยวใส่ สวีโย่ว ดวงตามีความข่มขู่
ท่าทางกางกรงเล็กนัน่ ทาให้รอยยิม้ ในดวงตาของสวีโย่วลุ่มลึกยิง่ ขึ้น
“ไม่ปล่อย!”
“จะไม่ปล่อยจริ งๆ ใช่หรื อไม่” เสิ่ นเวยหรี่ ตาลง ดวงตามีประกาย
ความชัว่ ร้ายกะพริ บผ่าน
สวีโย่วส่ ายหน้า “ไม่ปล่อย!” เขากลับอยากดูวา่ เด็กน้อยคนนี้จะเล่น
ลูกไม้อะไร
“ข้าให้ท่านปล่อยไม่ปล่อย ให้ท่านปล่อยไม่ปล่อย!” ปากเสิ่ นเวยกล่า
วอย่างโหดเ**้้ยมดุร้าย มือขาวนวลก็จู่โจมใบหน้าที่หล่อเหลาดัง่
หยกใบนั้นของสวีโย่ว ดึงแก้มเขาบิดไปมาจนเป็ นรู ปร่ างแปลก
ประหลาดต่างๆ นานา
แรกเริ่ มเป็ นเพียงแค่การระบายอารมณ์ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็ นความ
สนุกสนาน หัวเราะคิกคักพลางขยุม้ หน้าของสวีโย่ว
เสิ่ นเวยเล่นอย่างสนุกสนาน สวีโย่วรู ้สึกเพียงจนปั ญญาเต็มทรวง
“เด็กดื้อ” เขาเพียงพลิกตัวเบาๆ ก็กดเสิ่ นเวยไว้ขา้ งใต้แล้ว ดวงตามี
ประกายอันตราย “เวยเวยอยากให้ขา้ พาเข้าเรื อนหอเลยหรื อไม่” พูด
พลางคร่ อมตัว
“ไม่เอา” ร่ างของเสิ่ นเวยแข็งทื่อในชัว่ พริ บตา ของแข็งๆ ที่ดนั นาง
อยูน่ นั่ ก็คือของอย่างว่าใช่หรื อไม่ ให้ตายเถอะ อันตรายนัก! รี บเอา
ออกไปได้หรื อไม่
“ไม่เอาหรื อ เวยเวยทาร้ายจิตใจข้าเก่งจริ งๆ” สวีโย่วมองเสิ่ นเวยที่ก
ลายเป็ นลูกแมวน่ารัก น่าสงสาร ในใจก็ยงิ่ พอใจ ทว่าบนใบหน้า
กลับแสดงท่าทีเจ็บปวดออกมา ซ้ ายังตั้งใจดันนางเล็กน้อย
“ท่าน ท่านอย่าเข้ามา!” เสิ่ นเวยหาเสี ยงของตัวเองกลับมาอยูน่ าน
ก่อนหน้านี้หมอนี่กป็ กติมาโดยตลอด เหตุใดถึงกลายเป็ นผีทะเลใน
ชัว่ พริ บตา เมื่อเห็นความหยอกล้อในดวงตาของสวีโย่ว เสิ่ นเวยก็
โมโหแล้ว หยิกเอวของอย่างแรงหนึ่งครา
“ท่าน ลุกให้ขา้ เดี๋ยวนี้” เสิ่ นเวยกัดฟันกรอด แทบจะกล่าวหนึ่งคา
หยุดหนึ่งหน ความขายหน้าในใจมากยิง่ กว่าความเขินอาย แม้วา่ จะ
ไม่เคยสู ้รบจริ งๆ มาก่อน แต่ไม่วา่ อย่างไรนางก็เป็ นคนที่ผา่ นสังคม
สกปรกโสมมในยุคปัจจุบนั มาแล้ว เหตุใดถึงได้ถูกคนโบราณ
ลวนลามเอาได้ จะลวนลามก็ควรเป็ นนางที่ลวนลามเขา!
สวีโย่วเห็นสุ นขั จิ้งจอกน้อยโกรธเกรี้ ยวแล้ว ก็ปล่อยนางอย่างเชื่อฟัง
มือใหญ่ๆ ลูบไปตามผมสลวยของนาง กล่าวปลอบ “พอแล้วๆ ไม่
แกล้งเจ้าแล้ว เป็ นความผิดข้าเอง”
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหึหนึ่งครา กลอกตาขาวมองเขาปราดหนึ่ง แน่นอน
ว่าเป็ นความผิดของเขา ตนนอนอยูด่ ีๆ ไม่ได้ไปหาเรื่ องเขาเลย
เสิ่ นเวยพลิกตัวลงจากเตียง เห็นว่าในห้องไม่มีคนรับใช้อยูแ่ ม้แต่คน
เดียว ก็ขมวดคิ้วจัดแจงชุดแต่งงานและผมให้เรี ยบร้อยด้วยตัวเอง
เทียนสี แดงที่ใหญ่เท่าแขนสองเล่มลุกไหม้อยูเ่ งียบๆ ส่ องให้ภายใน
ห้องสว่างราวกับกลางวัน
“โกรธจริ งๆ หรื อ” สวีโย่วมองเสิ่ นเวยที่กม้ หน้าไม่พดู ด้วยเสี ยง
อ่อนโยน
เสิ่ นเวยชายตามองเขาปราดหนึ่ง “ขี้เกียจจะสนใจท่านแล้ว”
สวีโย่วหัวเราะเบาๆ “ขอบคุณใต้เท้าฮูหยินที่ใจกว้าง” สายตากวาด
มองโต๊ะอาหารโต๊ะนั้นที่ถูกแตะแล้วปราดหนึ่ง กล่าว “ฮูหยินกินอิ่ม
แล้ว ข้ายังหิวอยูเ่ ลย ข้าช่างน่าสงสาร ฮูหยินกินเป็ นเพื่อนข้าหน่อย
เถอะ” เขากล่าวด้วยสี หน้าน้อยใจทั้งใบหน้า แต่เจ้าพูดก็พดู ไปสิ จะ
เลียมริ มฝี ปากทาไม ลูกผูช้ ายโตมาในตระกูลสู งศักดิ์เช่นนั้นเลียริ ม
ฝี ปากเหมือนกับอะไรดี ไม่รู้หรื อว่าจะทาให้เกิดอาชญากรรมได้ เสิ่ น
เวยอดทนเก็บความคิดที่จะผลักหมอนี่ให้ลม้ เบะปากเดินเข้าไป
สวีโย่วจูงมือของเสิ่ นเวย ดึงนางมานัง่ บนตักตน เสิ่ นเวยกลุม้ ใจ มาร
ตนนี้คงไม่คิดจะกินแบบนี้ใช่หรื อไม่ สวีโย่วหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้ว
เฮ้ เขาคิดจะกินแบบนี้จริ งๆ ด้วย
เสิ่ นเวยเพิ่งจะขยับได้เล็กน้อย สวีโย่วก็ตบหัวนางเบาๆ “เด็กดี ข้าหิ ว
จริ งๆ กินไปแต่สุรา”
เสิ่ นเวยเบ้ปาก ใครจะเชื่อ! ร่ างกายอ่อนแอเช่นนั้นของเขาใครจะกล้า
ริ นสุ ราให้เขาดื่ม แต่วา่ หัวใจเสิ่ นเวยก็อ่อนลงแล้ว กอดก็กอดเถอะ
อย่างไรเสี ยพวกเขาก็เป็ นสามีภรรยากันแล้ว “กับข้าวเย็นหมดแล้ว
ให้คนเอาไปจัดการใหม่เถอะ”
สวีโย่วมองคนที่ยอมอยูใ่ นอ้อมอกโดยดี ถอนหายใจออกเสี ยงด้วย
ความพอใจ “ไม่ตอ้ ง ดึกแล้วไม่ตอ้ งทาให้ยงุ่ ยาก กินเท่าที่มีเถอะ”
คาพูดนี้เขาที่เป็ นคนพูดเองยังไม่เชื่อ จะมีคนใช้ไว้ทาไม ไม่ใช่
ปรนนิบตั ินายได้ทุกเวลาหรื อ ขอเพียงแค่นายบอกว่าจะกิน ต่อให้
เป็ นกลางดึกครัวก็ตอ้ งก่อไฟทันที กินเท่าที่มีอะไรกัน เพียงแค่อยาก
รี บกินให้ทอ้ งอิ่มจะได้ลิ้มรสหญิงงามก็เท่านั้นเอง
ขณะที่สวีโย่วกาลังกิน ก็ไม่ลืมที่จะป้อนเสิ่ นเวยไปหลายคา เสิ่ นเวย
ปฏิเสธไม่ได้กท็ าได้เพียงกินเข้าไป กินไปพลางเสี ยดสี ไปพลาง มาร
ตนนี้ไม่ใช่วา่ เย็นชาสันโดษหรอกหรื อ คิดจะเปลี่ยนนิสยั หรื อไร
กินอิ่มดื่มพอแล้ว สวีโย่วก็สะกิดเสิ่ นเวยกล่าวอย่างมีเลศนัย “ดึกแล้ว
ควรจะอาบน้ าเตรี ยมตัวได้แล้ว เจ้าก่อน หรื อข้าก่อน หรื อว่าพวกเรา
สองคนอาบน้ าพร้อมกันดี” แววตาเขามีไฟปรารถนา มองออกว่าเขา
ค่อนข้างโน้มเอียงไปทางตัวเลือกสุ ดท้าย
เสิ่ นเวยยืน่ มือผลักเขาออกไป “ไม่ตอ้ งแม้แต่จะคิด” แค่นเสี ยงหึหนึ่ง
คราเดินเข้าไปในห้องด้านใน
สวีโย่วหัวเราะร่ าฮ่าๆ อยูข่ า้ งหลัง “ดูท่าแล้วฮูหยินจะอดทนรอไม่
ไหว วางใจ ข้าจะทาให้เจ้าพอใจแน่นอน”
ใบหน้าของเสิ่ นเวยแตกระแหงในชัว่ ขณะ นางอดทนรอไม่ไหวงั้น
หรื อ เขาต่างหากที่อดทนรอไม่ไหวไม่ใช่หรื อ
หลีฮวาและคนอื่นๆ ข้างนอกได้ยนิ เสี ยงหัวเราะของท่านเขย จิตใจที่
พะว้าพะวงก็วางลง เมื่อได้ยนิ คุณหนูของตนเดินเข้าไปในห้องด้าน
ใน นางก็อยากเข้าไปรับใช้ แต่กเ็ ป็ นกังวลท่านเขย ขณะที่นางกาลัง
ลังเลไม่แน่ใจก็ได้ยนิ คุณหนูเรี ยกชื่อนาง นางจึงรี บผลักประตูเข้าไป
ทาความเคารพท่านเขยแล้วจึงเข้าไปในห้องด้านใน
เดิมเสิ่ นเวยไม่คิดจะเรี ยกหลีฮวา แต่ไม่มีใครรับใช้แม้แต่ชุดแต่งงาน
ที่ซบั ซ้อนบนร่ างนั้นนางก็ยงั จัดการไม่ได้
สวีโย่วนอนอยูบ่ นเตียง หูฟังเสี ยงน้ าที่ดงั มาจากห้องด้านใน ทั้งจิตใจ
รอคอย
เสิ่ นเวยแช่น้ าจนร่ างทั้งร่ างสบายขึ้นแล้ว ก็สวมชุดป้ายตัวในเดิน
ออกมา ผมสี ดาทิ้งตัวลงบนหัวไหล่ สวีโย่วมองใบหน้าเล็กๆ ที่ถูกน้ า
ร้อนรมจนแดงนั้น ก็ถีบขาทั้งคู่ลุกขึ้นจากเตียง เร่ งฝี เท้าเดินเข้าไปใน
ห้องด้านใน
“เดี๋ยวๆ เปลี่ยนน้ า…” เสิ่ นเวยยังพูดไม่ทนั จบเขาก็หายไปไม่เห็นเงา
แล้ว ข้างในมีเสี ยงที่มีความสุ ขของเขาดังออกมา “ไม่เป็ นไร ข้า
อาบน้ าที่เหลือจากฮูหยินก็ได้แล้ว”
“ผูช้ ายหน้าไม่อาย” ใบหน้าของเสิ่ นเวยแดงขึ้นกว่าเดิม ไม่รู้
เหมือนกันว่าเพราะโกรธหรื อเขิน คงจะเป็ นทั้งสองอย่าง!
เสิ่ นเวยนัง่ ลงริ มเตียง หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนเดินวนในห้อง เดินวน
เสร็ จแล้วก็นงั่ ลงอีกครั้ง แม้วา่ บนหน้านางจะพยายามสงบ แต่กย็ งั คง
ปิ ดบังความจริ งที่จิตใจนางว้าวุน่ ไม่ได้ ว่ากันว่าต้องหาประสบการณ์
ความรู ้ แต่อย่างไรเสี ยนี่กเ็ ป็ นคืนแต่งงานครั้งแรกในชีวิตทั้งสองภพ
ของนาง นางไม่มีประสบการณ์จริ งๆ!
ตอนที่สวีโย่วออกมาก็เห็นเสิ่ นเวยนิ่วหน้าเล็กๆ ท่าทางโมโหเคียด
แค้น ก็อดหัวเราะไม่ได้ เสี ยงหัวเราะนี้ทาเสิ่ นเวยตกใจ นางเงยหน้า
ขึ้น ก็เห็นท่อนบนที่เปลือยของสวีโย่ว จากนั้นก็เห็นนางถอยไปข้าง
หลังราวกับกระต่ายน้อยที่แตกตื่น ถอยไปได้หนึ่งก้าวก็ได้สติ
กลับมา กล่าวอย่างระมัดระวัง “ท่านจะทาอะไร” ในใจแอบด่าคน
เสเพล แต่ดวงตากลับจ้องมองอย่างอดไม่ได้ จุๆๆ มารตนนี้ดูผอม
อย่างยิง่ ไม่คิดว่าเรื อนร่ างจะน่าทึ่งเช่นนี้ น่าลูบสักทีจริ งๆ!
สวีโย่วมองเด็กน้อยที่ปากไม่ตรงกับใจ เบื้องลึกในใจก็อารมณ์ดี
อย่างอดไม่ได้ ก้าวยาวเข้าไปอุม้ เสิ่ นเวยเข้ามาในอ้อมอก เลิกม่าน
เตียงแล้วโยนลงบนเตียง เสิ่ นเวยยังไม่ทนั ได้ร้องอุทาน เขาก็กดตัว
ลงมาแล้ว “ฮูหยิน หนึ่งเค่อในราตรี งามล้ าค่าดัง่ เงินทอง อย่าได้
ทาลายค่าคืนอันงดงามเช่นนี้เลย!”
เสิ่ นเวยมองใบหน้ามารที่เข้ามาใกล้เรื่ อยๆ ใบนั้น ใบหน้างามก็แดง
อย่างไม่รักดีอีกครั้ง ทาให้สวีโย่วหัวเราะเสี ยงดังขึ้นมาอีก ในใจเสิ่ น
เวยคับแค้นอย่างถึงที่สุด เห็นชัดๆ ว่านางมาจากยุคปั จจุบนั เหตุใด
คนที่เขินอายถึงได้เป็ นนาง ไม่ได้ นางต้องจู่โจมกลับ! เสิ่ นเวยใจเต้น
ไม่สู้ขยับกาย อุง้ มือลูบตรงไปที่แผงอกของสวีโย่ว หนึ่งครั้ง สอง
ครั้ง ความรู ้สึกที่มือนับว่าไม่เลวอย่างยิง่
เสิ่ นเวยจมดิ่งอยูใ่ นโลกของตัวเอง ไม่ทนั ได้รู้สึกตัวเสื้ อผ้าก็ถูกสวีโย่
วถอดออกไปหมดแล้ว นางร้องอุทานหนึ่งคราก็เอื้อมมือไปดึงผ้าห่ม
แต่กลับถูกสวีโย่วกดไว้แนบแน่นขยับไม่ได้ “ฮูหยิน เรื อนร่ างของข้า
น่าลูบไล้ใช่หรื อไม่”
เสิ่ นเวยเก็บอุง้ มือกลับมาทันที แต่ถูกสวีโย่วคว้าไว้ได้ กดลงบนอก
ของตน ดวงตาของเขามีเปลวไฟเล็กสองลูกกะพริ บวาบ เสี ยงก็แหบ
พร่ าขึ้นมา “ดูท่าแล้วเวยเวยจะพอใจกับเรื อนร่ างของข้ายิง่ นัก”
ลมหายใจที่อุ่นร้อนของเขาเป่ าลงข้างหูของเสิ่ นเวย คันๆ ชาๆ เสิ่ นเว
ยเบี่ยงตัวหลบไปข้างๆ อย่างอดไม่ได้ “จัก๊ จี้”
“ยังมีจกั๊ จี้กว่านี้อีก” สวีโย่วพูดพลางก้มหน้าประกบริ มฝี ปากสี ชมพู
ของนาง ร้อนแผดเผาและรุ นแรง เสิ่ นเวยรู ้สึกว่าตนหายใจไม่ออก
สมองมึนเมา ทาได้เพียงขยับไปตามความสามารถของร่ างกาย ลุ่ม
หลง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 215-2 คืนเข้ าหอ
ตอนที่ของอย่างว่าสัมผัสแนบชิดเสิ่ นเวย นางเจ็บจนอยากฆ่าคน
จริ งๆ บ้าเอ้ย นางรู ้วา่ จะต้องเจ็บ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเจ็บแบบนี้ ความ
เจ็บนั้นไม่เหมือนกันความเจ็บจากการได้รับบาดเจ็บเลยสักนิดเดียว
คนไม่กลัวเจ็บเช่นเสิ่ นเวยยังอดสู ดลมหายใจไม่ได้ ไม่ใช่บอกว่า
เรื่ องนี้ประเดี๋ยวเดียวก็จะมีความสุ ขหรอกหรื อ เหตุใดนางถึงเหลือ
แต่ความเจ็บเล่า
เพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวในยุคปัจจุบนั ของนางเคยหัวเราะที่
นางอายุเท่านี้แล้วยังไม่เคย บอกกับนางว่า ไม่เป็ นไร ไม่เจ็บ เหมือน
โดนมดกัดนิดเดียว
จะบ้าหรื อ นี่หรื อคือมดกัด นี่ไม่ต่างจากโดนงูพิษกัด อีกทั้งยังเป็ นงู
พิษหน้าตาดีอีกต่างหาก
“ท่านออกไป” เสิ่ นเวยพยายามผลักสวีโย่ว เจ็บจนเสี ยงเปลี่ยน
กว่าสวีโย่วจะได้รับสิ่ งที่ปรารถนา ไหนเลยจะยอมถอยได้ เขามอง
ใบหน้าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของเสิ่ นเวย สงสารอย่างถึง
ที่สุด ปลอบนางด้วยความรัก “เด็กดี อดทนหน่อย อีกประเดี๋ยวก็ไม่
เจ็บแล้ว เวยเวย เด็กดี เด็กดี!”
“ทนไม่ไหวแล้ว” ก็คนที่เจ็บไม่ใช่เจ้านี่! เสิ่ นเวยพยายามควบคุมกรง
เล็บของตน ไม่ให้ยนื่ ออกไปข่วนหน้าของสวีโย่ว
“ผ่อนคลาย เวยเวยเด็กดี เจ้าทาได้ อีกประเดี๋ยวก็จะดีแล้ว” สวีโย่วป
รับองศาตัวเล็กน้อย มือใหญ่ลูบหลังขาวเนียนของนางซ้ าแล้วซ้ าเล่า
ทว่าร่ างกายกลับยิง่ แนบชิดนางมากขึ้น
อันที่จริ งสวีโย่วเองก็ไม่ได้รู้สึกดีนกั ธนูอยูบ่ นคันแล้วแต่กลับเป็ น
ห่วงความรู ้สึกของเสิ่ นเวยจึงไม่กล้าขยับตัว โอ๊ย ให้เขาตายยังดีกว่า
เหงื่อเม็ดใหญ่หยดลงมาจากใบหน้าของสวีโย่ว ดวงหน้าที่ราวกับ
เทพของเขาปรากฏตัณหาราคะ ท่ามกลางความสลัวเลือนราง ส่ วน
ลึกในร่ างกายของเสิ่ นเวยเกิดความรู ้สึกบางอย่างขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
คล้ายความเจ็บนั้นไม่ได้ชดั เจนเพียงนั้นแล้ว
แขนทั้งคู่ของเสิ่ นเวยโอบคล้องลาคอของสวีโย่ว ร่ างขยับอย่างไม่
รู ้ตวั สวีโย่วคล้ายสัมผัสได้ถึงแรงปลุกเร้า ขยับเล็กน้อยอย่างหยัง่ เชิง
ทว่าดวงตากลับจ้องมองคนใต้ร่างอย่างแน่นิ่ง เห็นนางเพียงแค่ขมวด
คิว้ น้อยๆ ก็พยายามต่ออย่างมีความสุ ข
ร่ างกายที่ยงั เด็กของเสิ่ นเวยค่อยๆ ถูกเปิ ดออก สวีโย่วออกแรงเผด็จ
ศึก คนทั้งสองเกาะเกี่ยวอยูด่ ว้ ยกันเป็ นเกลียว เสิ่ นเวยราวกับดอกอิง
ซู่ (ดอกฝิ่ น) สวยงามที่ผลิบานในยามราตรี สงัด ส่ งกลิ่นหอมที่น่า
หลงใหลออกไป นางรู ้สึกว่าตนเหมือนเรื อเล็กๆ หนึ่งลาท่ามกลาง
มหาสมุทรใหญ่ กระเพื่อมขึ้นลงตามคลื่นลม แต่ไม่อาจไปถึงฝั่งได้
เสี ยที
การเคลื่อนไหวภายในห้องย่อมดังออกไปข้างนอก แม่นมมัว่ ยังดี แต่
หลีฮวาและคนอื่นๆ ที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์บนโลกก็หน้าแดง
ซ่าน แต่ละคนปิ ดหูอยากจะกลายเป็ นคนหูหนวกอย่างยิง่
ดวงจันทร์นวลผ่องหนึ่งดวงนอกหน้าต่าง มันหาวอย่างเกียจคร้าน
หลบเขากลีบเมฆเงียบๆ ราวกับเขินอาย
โบกสะบัดพลิ้วไหวเช่นนี้ต่อไปเรื่ อยๆ เสิ่ นเวยไม่รู้เหมือนกันว่าเวลา
ผ่านไปนานเพียงใดแล้ว นางอ้าปากกว้างหายใจหอบ รู ้สึกเพียง
ตัวเองเป็ นปลาเล็กที่ใกล้จะขาดน้ าตาย แต่ความเป็ นจริ งในปากของ
นางส่ งเสี ยงเล็กๆ ออกมา เสี ยงๆ นั้นทาให้สวีโย่วยิง่ ถูกกระตุน้
อยากจะตายอยูบ่ นร่ างเสิ่ นเวยเช่นนี้เสี ยเลย
เมื่อคลื่นลมสงบลง เสิ่ นเวยก็เหนื่อยจนไม่อยากขยับแม้แต่นิ้วเท้า
หลับตาลงปล่อยให้สวีโย่วช่วยนางชาระสะสาง สะลึมสะลือนอน
หลับไปแล้ว ก่อนหลับยังคิดว่า เรี่ ยวแรงของมารตนนี้ดีจริ งๆ
หลังจากนี้นางก็โชคดีแล้ว
ทว่าสวีโย่วกลับกระปรี้ กระเปร่ าจนดวงตาเป็ นประกาย ไม่ง่วงแม้แต่
นิดเดียว เขามองเสิ่ นเวยที่เหนื่อยจนหลับ ในแววตามีความรักใคร่ ที่
เขามองไม่เห็น เขากอดเสิ่ นเวยไว้ในอ้อมอก ให้แก้มของนางแนบ
แผงอกตน หลับตาลงด้วยความพอใจ
มีภรรยาดีจริ งๆ มิน่าเล่าปุถุชนถึงได้ลุ่มหลงเช่นนี้
เช้าวันรุ่ งขึ้น เสิ่ นเวยตื่นขึ้นมา เมื่อเงยหน้าขึ้นก็สบสายตาที่เปล่ง
ประกายของสวีโย่ว นึกถึงเรื่ องเมื่อคืนทันที ใบหน้าก็ร้อนผ่าวอย่าง
อดไม่ได้ นางขยับด้วยอย่างเคอะเขิน จากนั้นจึงพบว่านางไม่ได้สวม
ชุดป้ายตัวในซุกอยูใ่ นอ้อมอกของสวีโย่ว ขาของคนทั้งสองเกี่ยวพัน
กันอยู่ ของแข็งๆ นั้นกาลังดันต้นขานางอยู่
ให้ตาย อายจะแย่อยูแ่ ล้ว! เสิ่ นเวยมุดหน้าเข้าไปในอกของสวีโย่ว
เช้าตรู่ คนงามก็ตกอยูใ่ นอ้อมกอด อารมณ์ของสวีโย่วสบายใจยิง่ นัก
โอบคนในอ้อมอกแนบแน่น หัวเราะเสี ยงต่ากล่าว “หรื อว่า พวกเรา
มาทาอีกสักรอบ”
เสิ่ นเวยถอนตัวออกจากอ้อมกอดของเขาทันที ผีทะเลคนนี้ ติดใจ
อยากจะลิ้มรสอีกแล้ว “รี บลุกเถอะ วันนี้ตอ้ งทาพิธียกน้ าชาไม่ใช่
หรื อ” นึกถึงพิธียกน้ าชาเสิ่ นเวยก็ลุกขึ้นนัง่ ทันที “กี่โมงกี่ยามแล้ว
หลีฮวาเล่า แม่นมมัว่ เล่า เหตุใดถึงไม่เรี ยกข้า” หลังจากนั้นก็เพิง่ รู ้ตวั
ว่าตนไม่ได้สวมเสื้ อผ้า รี บดึงผ้านวมขึ้นมาห่อตัว
ทิวทัศน์งดงามถูกปิ ดบัง สวีโย่วก็เสี ยดายเล็กน้อย “ข้าให้พวกนางไม่
ปลุกเจ้าเอง ยังเช้าอยู่ หากเจ้าง่วงก็นอนต่ออีกสักพักเถอะ ยกน้ าชาก็
แค่พิธี ในจวนไม่ได้เคร่ งกฎเพียงนั้น อีกทั้งฝ่ าบาทยังตรัสแล้วว่า
พวกเราค่อยเข้าวังน้อมสานึกพระมหากรุ ณาธิคุณตอนบ่ายก็ได้”
ยังเช้าอยูห่ รื อ เสิ่ นเวยเปิ ดม่านเตียงมองออกไปข้างนอก ไม่เชื่อคาพูด
ของเขาอย่างสิ้ นเชิง “รี บตื่นเถอะ ให้ผใู ้ หญ่รอไม่ดีนกั ” จวนอ๋ องไม่
เคร่ งกฎเพียงนั้นหรื อ นางเชื่อก็โง่แล้ว แม้วา่ จะไม่เคร่ งจริ งๆ ดูจาก
ท่าทางของพระชายาจิ้นอ๋ อง ก็สามารถตั้งกฎออกมาให้นางได้ทนั ที
ทว่าสวีโย่วกลับไม่ขยับ เพียงแค่มือค้ าศีรษะยิม้ แย้มมองนาง
เสิ่ นเวยกัดฟันกรอดในชัว่ ขณะ ถลึงตามองสวีโย่วอย่างอารมณ์ไม่ดี
เหอะ คิดว่านางไม่รู้ความคิดเขาหรื อไร มารตนนี้ยงั เปลือยอยู่ นาง
ไม่กล้าเรี ยกหลีฮวาเข้ามารับใช้ แต่เสื้ อผ้าของนางกลับอยูใ่ น**บฝั่ง
นั้น ดูท่าทางคุณชายผูน้ ้ ีแล้วคงไม่คิดจะช่วยนางหยิบ เหอะ คิดว่าทา
เช่นนี้แล้วนนางจะไม่มีวิธีง้ นั หรื อ
เสิ่ นเวยดึงปลอกหมอนออกมาพันรอบตัวเอง ก้าวข้ามเท้าและขา
ยาวๆ ทั้งสองที่เปลือยเปล่าของ
สวีโย่วกระโดดลงจากเตียง นางหันหลังให้สวีโย่วรื้ อเสื้ อผ้าของ
ตนเองออกมา
น่าแปลกยิง่ นัก ผ่านการมองเห็นที่เปิ ดเผยเมื่อคืนแล้ว เสิ่ นเวยล่อน
จ้อนต่อหน้าสวีโย่วก็ไม่รู้สึกเขินอายเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว อาจจะ
เกี่ยวกับที่นางไม่ใช่คนในท้องที่กเ็ ป็ นได้
เสิ่ นเวยสวมชุดป้ายตัวในด้วยความรวดเร็ วอย่างยิง่ จากนั้นจึงหาชุด
ป้ายตัวในของสวีโย่วแล้วโยนขึ้นไปบนเตียง ถือโอกาสเก็บชุดที่
โยนไว้บนพื้นเมื่อคืนมาวางไว้ขา้ งๆ เมื่อหันหน้ากลับไปก็เห็นสวี
โย่วยังคงนอนอยูบ่ นเตียง “ยังไม่รีบลุกอีก ท่านรออะไรอยู”่
ทว่าสวีโย่วกลับกล่าวอย่างมัน่ ใจ “ย่อมต้องรอฮูหยินมาปรนนิบตั ิ
สวมเสื้ อผ้าให้ขา้ ”
“ท่านสวมเองไม่เป็ นหรื อ มีมือไว้ทาไม” เสิ่ นเวยกลอกตาขาวให้เขา
“ข้าแต่งภรรยาแล้ว” สวีโย่วกล่าวด้วยเหตุผล แสดงท่าทางว่าข้าปั ด
วามรับผิดชอบให้เจ้าแล้ว
เสิ่ นเวยโมโหจนกัดฟันกรอด หากไม่ใช่เป็ นห่วงว่านี่คือวันแรกของ
การแต่งงาน นางจะต้องตีเขาจนฟันร่ วงทัว่ พื้นแน่นอน ให้เขาเข้าใจ
ว่าอะไรที่เรี ยกว่ากฎของสามี
เสิ่ นเวยรับคาสัง่ เดินเข้าไป หยิบเสื้ อป้ายตัวในมาสวมลงบนร่ าง
ของสวีโย่ว “มาๆๆ ท่านชาย เชิญลุกขึ้นมาสวมเสื้ อเถอะ” ยังต้องไป
ยกน้ าชาเคารพอีก นางไม่วา่ งมาเสี ยเวลากับมารตนนี้ที่นี่
เสิ่ นเวยไม่เคยปรนนิบตั ิคนมาก่อน ตลอดขั้นตอนการสวมเสื้ อผ้าต่าง
ก็ลนลานทาอะไรไม่ถูก แต่สวีโย่วไม่โมโหเลยแม้แต่นอ้ ย กลับมี
ความสุ ขอย่างถึงที่สุด
เสื้ อผ้าสวมเสร็ จแล้ว บนหน้าผากของเสิ่ นเวยก็มีเหงื่อผุดออกมา นาง
ผลักสวีโย่วลงข้างๆ ขึ้นเสี ยงตะโกนเรี ยกหลีฮวากับแม่นมมัว่ และ
คนอื่นๆ ที่รออยูข่ า้ งนอกนานแล้ว
“คารวะท่านเขย คุณหนู” ทุกคนเคารพพร้อมกัน
เสิ่ นเวยไม่ได้รู้สึกอะไร แต่แม่นมมัว่ กลับพูดแก้ “เรี ยกคุณหนูไม่ได้
แล้ว ต่อไปนี้ตอ้ งเรี ยกฮูหยิน”
เสิ่ นเวยปรายตามองสวีโย่วปราดหนึ่ง กล่าว “ได้ เช่นนั้นตั้งแต่วนั นี้
เป็ นต้นไปก็เรี ยกฮูหยิน” นางเพิง่ จะอายุสิบห้าก็ได้เป็ นฮูหยินแล้ว
รู ้สึกแก่ยงิ่ นัก “อืม แล้วก็ไม่ตอ้ งเรี ยกท่านเขย ตามจวนอ๋ อง เรี ยกว่า
คุณชายใหญ่กพ็ อ” เสิ่ นเวยคิดคู่หนึ่งแล้วกล่าวเสริ ม อยูใ่ นอาณาเขต
ของคนอื่นเรี ยกท่านเขย คล้ายเป็ นการตบหน้าเล็กน้อย!
ทุกคนพากันตอบรับ เร่ งมือทางานอย่างเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย
เถาจือสัง่ สาวใช้เล็กที่ยกน้ าร้อนให้เข้าไปในห้องด้านใน แม่นมมัว่
ช่วยเสิ่ นเวยหาเสื้ อผ้าที่จะสวมในวันนี้ หลีฮวาก็ประคองเสิ่ นเวยไป
อาบน้ า
“แม่นมมัว่ รี บมาแต่งตัวให้ขา้ ” เสิ่ นเวยออกมาจากห้องด้านในแล้วก็
นัง่ หน้ากระจกกล่าวเร่ งรัด
แม่นมมัว่ ย่อมเข้าใจความสาคัญของพิธียกน้ าชาให้ผอู ้ าวุโสในวัน
แรกของการแต่งงาน ไม่พดู พร่ าทาเพลงก็หวีผมแต่งหน้าให้เสิ่ นเวย
แม่นมมัว่ เข้าใจนิสัยของเสิ่ นเวยอยูน่ านแล้ว ไม่ตอ้ งใช้แป้ง เพียงแค่
เขียนคิ้ว แต้มริ มฝี ปากชมพู จากนั้นก็แต้มชาดเล็กน้อยบนแก้ม ตบ
แต่งอย่างเรี ยบง่ายเช่นนี้ใบหน้าของเสิ่ นเวยก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
เครื่ องประดับยังคงเรี ยบง่ายดูดี ทั้งศีรษะปั กเพียงปิ่ นหยกสี เขียวหนึ่ง
อัน แต่กลับไม่ได้ดูซอมซ่อเลยแม้แต่นิดเดียว ต่างหูยงั คงเป็ นไข่มุก
เพียงแต่เปลี่ยนเป็ นรู ปดอกไม้
หลีฮวากอบเสื้ อผ้ารออยูข่ า้ งๆ แล้ว ยังคงเป็ นชุดสี แดง ข้างบนใช้ดา้ ย
ทองปักลายมงคลและนกกระจอก
ตอนที่สวีโย่วออกมา เสิ่ นเวยเพิ่งจะแต่งตัวเสร็ จ นางยิม้ หวานให้สวี
โย่ว ถาม “เหมาะสมหรื อไม่”
ในดวงตาสวีโย่วเต็มไปด้วยความตกตะลึง คิว้ เลิกขึ้น กล่าว “ย่อม
ต้องเหมาะสมที่สุด ฮูหยินของข้าผูแ้ ซ่สวีจะไม่เหมาะสมได้อย่างไร”
ท่าทางภาคภูมิใจนั้น ทาให้เสิ่ นเวยอดยิม้ ไม่ได้
ในห้องโถงเล็กจัดวางอาหารเช้าไว้เรี ยบร้อยแล้ว สวีโย่วพาเสิ่ นเวย
มานัง่ “กินให้อิ่มก่อนแล้วค่อยไป”
เสิ่ นเวยย่อมไม่มีความเห็นอื่น ในแผ่นการของนางไม่เคยบัญญัติไว้
ว่าต้องปล่อยให้ทอ้ งหิว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 216-1 คลื่นยักษ์ ในพิธียกน้าชา
คุณภาพอาหารของจวนจิ้นอ๋ องยังนับได้วา่ สู งอย่างยิง่ เสิ่ นเวยชิมไป
ไม่กี่คาก็พยักหน้าอย่างพอใจ กินไปได้ครึ่ งหนึ่ง แม่นมซือประจา
กายพระชายาจิ้นอ๋ องก็เดินเข้ามา “คารวะคุณชายใหญ่ ฮูหยินใหญ่เจ้า
ค่ะ พระชายาให้บ่าวมาดูวา่ เตรี ยมตัวเสร็ จเรี ยบร้อยแล้วหรื อยัง”
นี่เป็ นการตาหนิที่พวกเขาล่าช้าจึงมาเร่ งรัดหรื อไม่ ดวงตาเสิ่ นเวย
กะพริ บวาบ วางตะเกียบลงลุกขึ้นกล่าว “ทาเสด็จแม่เป็ นห่วงแล้ว
เสด็จแม่ร้อนใจแล้วหรื อ พวกข้า พวกข้าจะไปเดี๋ยวนี้” บนใบหน้ามี
ความรี บร้อน มองสวีโย่วที่ยงั คงนัง่ ตัวตรงกินข้าว
สวีโย่วไม่แม้แต่จะเหลือบตาขึ้นมอง เหล่าคนรับใช้ก็ยงิ่ ก้มหน้าไม่
กล้าส่ งเสี ยงสักนิดเดียว ความเงียบสงัดแผ่กระจายทัว่ ห้องโถงเล็ก
กดดันยิง่ นัก
เสิ่ นเวยที่ยนื อยูก่ ลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างถึงที่สุด นางเป็ นเจ้าสาว
หน้าบาง สามีกย็ งั ไม่ไว้หน้าเพียงนี้ ดวงตาของนางก็แดงทันที เอ่ย
ปากด้วยความกล้าหาญแต่สีหน้ากลับลาบากใจ “ท่าน…ท่านพี่ เสด็จ
พ่อ เสด็จแม่รออยู่ พวกเรารี บไปดีกว่า” ทว่าเท้าใต้โต๊ะกลับเตะสวี
โย่วหนึ่งครา สักนิดก็ได้แล้ว รี บเอ่ยปากสักหน่อย แสดงเกินบทบาท
จะไม่ดีเอา
จากนั้นก็เห็นสวีโย่ววางถ้วยลงบนโต๊ะดัง ‘ปั ง’ กล่าวกับเสิ่ นเวยอ
ย่างไม่พอใจ “โวยวายอะไร จะให้คนกินข้าวเช้าดีๆ หรื อไม่ นัง่ ลง
กินข้าวของเจ้า ยกน้ าชาเป็ นพิธีที่ตอ้ งใช้แรง ไม่กินให้อิ่มอีก
ประเดี๋ยวจะขายหน้าข้า”
จากนั้นก็ตาหนิหลีฮวาและคนรับใช้ที่ยนื ปรนนิบตั ิคนอื่นๆ “แต่ละ
คนไม่มีตาดีสกั นิด ไม่เห็นหรื อว่าฮูหยินพวกเจ้าเพิง่ จะจับตะเกียบ
ยืนบื้ออยูท่ าไม ยังไม่รีบมารับใช้ฮูหยินกินข้าวอีก เก็บพวกเจ้าไว้
ทาไมกัน แต่ละคนวางมาดสูงกว่านายเสี ยอีก” ใครบอกว่าคุณชาย
ใหญ่สวีเย็นชา เขาเองก็ช้ ีหน้าด่าเป็ น เห็นสี หน้าของแม่นมซือเหยเก
ขึ้นมาแล้ว
นายท่านเจ้าบ้านก็พดู เช่นนี้แล้ว เสิ่ นเวยที่เป็ นเจ้าสาวที่เพิ่งเข้าเรื อน
มาย่อมต้องเชื่อฟังสามี นางยิม้ ขอโทษให้แม่นมซือเล็กน้อย สัน่
ระริ กนัง่ ลงกินข้าวเช้าต่อ อืม หมันโถวลูกเล็กเนื้อนุ่มนี้ทาได้ไม่เลว
ต้องกินอีกลูก ผักดองจากนนี้กช็ ุ่มคอยิง่ นัก ต้องกินอีกหน่อย เสิ่ นเว
ยกวาดสายตา ตะเกียบของหลีฮวาก็ยนื่ ไปทางนั้น นายบ่าวทั้งสองรู ้
ใจกันยิง่ นัก
สวีโย่วเพิง่ จะมองแม่นมซือ “หากข้าจาไม่ผดิ น้องสะใภ้รองกับ
น้องสะใภ้สามต่างก็ยกน้ าชายามซื่อ ตอนนี้เพิ่งจะยามเฉิ น เสด็จแม่ก็
ร้อนใจแล้วหรื อ”
แม่นมซือพูดอะไรได้หรื อ แม้วา่ นายท่านผูน้ ้ ีจะเป็ นคุณชายใหญ่ใน
จวน แต่นางกับนายท่านผูน้ ้ ียงั ไม่เคยผูกมิตรกันจริ งๆ เลย นางไหน
เลยจะคิดว่านายท่านผูน้ ้ ีไม่ไว้หน้านางเลยแม้แต่นิดเดียว อย่างไรเสี ย
นางก็เป็ นแม่นมที่มีเกียรติที่สุดประจากายพระชายา เมื่อคิดถึงท่าทีที่
เขาตาหนิฮูหยินใหญ่ แม่นมซือก็เข้าใจเล็กน้อย แม้แต่ฮูหยินใหญ่ที่
เพิง่ เข้าเรื อนยังถูกตาหนิ นับประสาอะไรกับนางที่เป็ นบ่าว มิน่าเล่า
พระชายาถึงแอบพูดว่าคุณชายใหญ่มีนิสยั แปลกๆ ผิดมนุษย์มนา
ทัว่ ไป
“ได้อย่างไรกัน พระชายาเป็ นห่วงว่าคุณชายใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่อายุ
น้อย กลัวว่าจะมีตรงไหนไม่เข้าใจ สัง่ ให้บ่าวมาช่วยเหลือ” แม่นมซื
อกล่าวพร้อมรอยยิม้
สวีโย่วพยักหน้าเล็กน้อย บอกเป็ นนัยว่าเข้าใจแล้ว “ทาให้เสด็จแม่
เป็ นกังวลแล้ว” ทว่ากลับเปลี่ยนเรื่ อง “เสด็จแม่กเ็ ป็ นกังวลเกินไป ข้า
กับฮูหยินไม่รู้เรื่ อง ไม่ใช่ยงั มีแม่นมมัว่ อยูห่ รื อ นางเป็ นคนเก่าคนแก่
ในวัง จะไม่เข้าใจได้อย่างไร”
ประโยคเรี ยบๆ หนึ่งประโยคกลับพูดจนแม่นมซือเหงื่อแตกไปทัว่
ทั้งร่ าง คุณชายใหญ่หมายความว่าอย่างไร ไม่ใช่ตาหนิพระชายาที่ยงุ่
เรื่ องผูอ้ ื่นมากไปหรื อ แต่นางเป็ นแค่บ่าวก็ทาได้เพียงรับฟัง ยิม้ เจื่อน
ยืนอยูท่ ี่เดิมด้วยความอึดอัด
ท่ามกลางความทรมานของแม่นมซือในที่สุดสวีโย่วก็กินเสร็ จแล้ว
เขาลุกขึ้นยืนมือไพล่หลังเดินออกไปข้างนอก “ไปเถอะ ไปยกน้ าชา
ให้เสด็จแม่” เสิ่ นเวยเร่ งฝี เท้าเล็กๆ ตามอยูข่ า้ งๆ เขาราวกับสตรี ตวั
น้อยทันที
แม่นมซือไปรายงานก่อน สวีโย่วพาเสิ่ นเวยเดินยุรยาตรเข้าไปใน
เรื อนหลัก เดินไปพลางแนะนาทัศนียภาพในจวนให้นางไปพลาง
ข้างหลังตามมาด้วยสาวใช้ที่ถือ**บของขวัญหนึ่งกลุ่ม
อันที่จริ งสวี่โย่วอยากจูงมือเล็กๆ ของเสิ่ นเวยอย่างยิง่ กลับถูกนาง
ปฏิเสธ ในเมื่อจะเล่นละครก็ตอ้ งเล่นให้สมจริ ง แม้จะรู ้วา่ ไม่ชา้ ไม่
เร็ วก็ตอ้ งถูกเปิ ดโปง แต่ตอนนี้กย็ งั ไม่ใช่เวลาที่จะถูกเปิ ดโปงไม่ใช่
หรื อ นางเพิ่งจะมาถึง สงบเสงี่ยมหน่อยดีกว่า โวยวายข่มขู่คนที่จริ ง
แล้วไม่ใช่นิสยั ของนาง นางเป็ นคนรักสันติ รักชีวิต
ดังนั้นคนรับใช้ในจวนอ๋ องมองดูไกลๆ แล้ว จึงคิดว่าคุณชายใหญ่
กาลังตาหนิฮูหยินเจ้าสาวคนใหม่อยู่ ส่ วนฮูหยินใหญ่ที่เพิ่งแต่งเข้ามา
ผูน้ ้ นั ก็พยักหน้าเล็กน้อย ยังคิดว่าคุณชายใหญ่แต่งฮูหยินแล้วจะมี
นิสยั อ่อนโยนขึ้น ไม่คิดว่า… เหอะ ฮูหยินใหญ่น่าสงสารยิง่ นัก
“มาแล้วๆ คุณชายใหญ่ ฮูหยินใหญ่มาแล้ว รี บเข้ามาด้านในเถิดเจ้า
ค่ะ” หวาเยียนที่ยนื รอต้อนรับอยูห่ น้าประตูสงั่ คนให้ไปรายงานด้าน
ในไปพลาง ต้อนรับเข้ามาอย่างกระตือรื อร้นไปพลาง โค้งตัวคานับ
กล่าว “คารวะคุณชายใหญ่และฮูหยินใหญ่” จากนั้นจึงนาสวีโย่วและ
เสิ่ นเวยเข้าไปข้างในด้วยตัวเอง
ก้าวเข้าธรณี ประตู เสิ่ นเวยก็เห็นสามีภรรยาวัยกลางคนหนึ่งคู่ที่นงั่ ตัว
ตรงอยูบ่ นที่นงั่ เจ้าภาพ จิ้น
พระชายานางเคยเจอแล้ว เพียงแต่วนั นี้เห็นนางสวมชุดตัวใหญ่สีแดง
เข้มปักลายเมฆและนกกระจอก บนศีรษะปั กปิ่ นระย้าทองสลักลาย
เฟิ่ งหวงสองอัน บนใบหน้าแต่งหน้าบางๆ ท่าทางสง่างามสู งส่ ง เมื่อ
เห็นพวกเขาเข้ามา บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิม้ “โย่วเอ๋ อร์กบั ภรรยา
โย่วเอ๋ อร์มาแล้ว เด็กดี ไหนมาให้แม่ดูสิ” คนที่ขานเรี ยกก็คือเสิ่ นเวย
“เหตุใดถึงมาช้าเพียงนี้ ปล่อยให้ผใู ้ หญ่รอ เหมือนกับอะไรดี” ทว่าจิ้
นอ๋ องกลับมีสีหน้าไม่พอใจ เขารอมาครึ่ งชัว่ ยามแล้ว ลูกชายคนโต
เพิ่งจะพาเจ้าสาวเดินกรี ดกรายมา เขาจะมีความสุ ขได้อย่างไร หาก
ไม่ใช่พระชายาโน้มน้าวไว้ เขาก็คงจะสะบัดแขนเสื้ อออกไปนาน
แล้ว
เสิ่ นเวยชายตามองจิ้นอ๋ องอย่างรวดเร็ ว เป็ นคุณอารู ปงามวัยกลางคน
ที่ดูแลตัวเองดีอย่างถึงที่สุด หน้าตาเหมือนสวีโย่วสามส่ วน เพียงแค่
สี หน้าไม่พอใจนัน่ ทาให้เสิ่ นเวยรู ้สึกไม่ดีกบั เขาทันที
สวีโย่วไม่รีบไม่ร้อน กล่าวถามพระชายาจิ้นอ๋ องด้วยความประหลาด
ใจ “ในจวนเปลี่ยนกฎตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดถึงไม่มีใครแจ้งลูกเลย
น้องสะใภ้รองน้องสะใภ้สามยกน้ าชาต่างก็เป็ นยามซื่อ เหตุใดพอ
เป็ นลูกถึงได้เปลี่ยนเล่า”
คิว้ ของจิ้นอ๋ องขมวดมุ่นทันที สายก็คือสาย ยังมัวพูดมากหาเหตุผม
อยูอ่ ีก ช่างไม่รู้กาลเทศะเสี ยจริ งๆ กาลังจะอ้าปากตาหนิ พระชายา
ข้างกายก็กระแทกแขนของเขา “ท่านอ๋ องก็พดู ให้นอ้ ยหน่อย ลูกก็
มาแล้วมิใช่หรื อ” นางเป็ นคนตั้งใจปลุกท่านอ๋ องมาตั้งแต่เช้าตรู่
พระชายาจิ้นอ๋ องหันไปทางสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันที่ยนื อยู่
ตรงหน้า บนใบหน้าเปี่ ยมล้นไปด้วยรอยยิม้ กล่าวอย่าเป็ นมิตร “อย่า
ถือสาพ่อเจ้าเลย เขาก็ใจร้อนเช่นนี้ จะเร็ วจะสายอะไรกัน เป็ นคน
บ้านเดียวกันใครจะมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่ องนี้ มาๆๆ รี บยกน้ าชาเถอะ
ชาของลูกสะใภ้แก้วนี้ขา้ เฝ้ารอมาหลายปี แล้ว”
หวาเยียนที่เตรี ยมการอยูน่ านแล้วก็ส่งแก้วชาเข้ามาทันที “ฮูหยิน
ใหญ่ เชิญท่านยกน้ าชา”
เสิ่ นเวยลังเลครู่ หนึ่งจึงรับแก้วชาเข้ามา แต่เนิ่นนานกลับไม่ได้ยกให้
พระชายาจิ้นอ๋ อง ในตอนที่รอยยิม้ บนใบหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องแทบ
จะประคองไว้ไม่อยูแ่ ล้ว เสิ่ นเวยก็ร้อง ‘ฮือ’ ออกมา
คนในห้องต่างก็ตกตะลึง นี่ นี่มนั อะไรกัน
พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็คลายสะดุง้ ตกใจ ไล่ถามซ้ าไปซ้ ามา “เป็ น
อะไร เป็ นอะไร ภรรยาโย่วเอ๋ อร์เป็ นอะไรไป ได้รับความไม่เป็ น
ธรรมอะไรหรื อ โย่วเอ๋ อร์ใช่เจ้ารังแกภรรยาเจ้าหรื อไม่ ไม่ตอ้ งกลัว
ไม่ตอ้ งกลัว เด็กดี มีอะไรไม่พอใจก็บอกแม่ แม่กบั พ่อจะช่วยเจ้าเอง”
หลังจากนั้นสายตาที่จิ้นอ๋ องมองลูกชายคนโตก็ยงิ่ ขรึ มเคร่ ง น่าขาย
หน้า เจ้าสาวที่แต่งเข้ามาวันแรกก็ถูกรังแกร้องไห้ต่อหน้าผูอ้ าวุโส
มันช่าง มันช่าง…เขามือสัน่ ชี้สวีโย่ว โกรธจนพูดไม่ออกแล้ว
“ไม่ ไม่เกี่ยวกับท่านพี่ ท่านพี่ดีต่อลูกอย่างยิง่ ” เสิ่ นเวยสะอึกสะอื้น
ไห้ เนิ่นนานภายใต้การปลอบโยนของพระชายาจิ้นอ๋ องกว่าจะหยุด
ร้องไห้ได้ เสิ่ นเวยที่เพิ่งร้องไห้กย็ งิ่ มีท่าทางน่าสงสาร “เสด็จแม่ไม่
ชอบลูกใช่หรื อไม่” นางเช็ดน้ าตาถามเสี ยงเบา แม้วา่ เสี ยงจะเบา แต่
คนทั้งห้องก็ได้ยนิ กันถ้วนหน้า
นอกจากสวีโย่วที่ยนื สี หน้าเรี ยบเฉยอยูต่ รงนั้น คนที่เหลือก็จบั ต้น
ชนปลายไม่ถูกอย่างยิง่ เช่นเดียวกับพระชายาจิ้นอ๋ อง “ภรรยาโย่ว
เอ๋ อร์ไปเอาคาพูดมาจากไหนกัน”
เสิ่ นเวยกัดริ มฝี ปาก ครู่ ใหญ่จึงกล่าว “เสด็จแม่ให้ลูกยกน้ าชา แม้แต่
เบาะก็ยงั ไม่มี นี่ไม่ได้หมายความว่าไม่ชอบลูกหรอกหรื อ” นางเม้ม
ปาก ใช้ดวงตาที่ดูเหมือนขลาดกลัวลอบมองพระชายาจิ้นอ๋ องปราด
หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าว “ตอนที่ลูกยังไม่ออกเรื อนก็ได้ยนิ คนพูดกันว่า
มีแม่สามีใจร้ายเหล่านั้นที่ต้ งั ใจกลัน่ แกล้งตอนที่สะใภ้ยกน้ าชา ชาที่
ยกเป็ นน้ าร้อนจัดบ้างล่ะ ไม่วางเบาะปล่อยให้สะใภ้คุกเข่าลงบนพื้น
บ้างล่ะ ในเบาะซ่อนเศษกระเบื้องและเข็มแหลมไว้บา้ งล่ะ แสร้งมือ
ลื่นถือแก้วชาไม่ได้ทาหกใส่ สะใภ้บา้ งล่ะ”
เสิ่ นเวยยิง่ พูดเสี ยงก็ยงิ่ สัน่ ท่าทางหวาดกลัวอย่างยิง่ “เสด็จแม่ เสด็จ
แม่ ลูกรู ้วา่ ตนโง่ ท่านอย่าได้รังเกียจลูก ลูกจะกตัญญูต่อท่านและ
เสด็จพ่อเป็ นอย่างดี” ขณะที่พดู นางก็ดึงแขนเสื้ อของพระชายาจิ้
นอ๋ อง น้ าตาไหลพรั่งพรู ลงมาอีกครั้ง ร้องไห้ดว้ ยความเสี ยใจ
คนในห้องนอกจากสวีโย่วที่ยกมุมปากอยูเ่ งียบๆ สายตาคนอื่นๆ ที่
มองเสิ่ นเวยก็คล้ายเห็นตัวประหลาด พูดความคิดออกมาตรงๆ เช่นนี้
คนผูน้ ้ ีโง่หรื อ เป็ นคนโง่หรื อ หรื อว่าเป็ นคนโง่
คุณชายสี่ สวีฉงั่ ก็ยงิ่ พ่นน้ าชาออกมา แทบจะตกลงจากเก้าอี้ จ้องมอง
พี่สะใภ้ใหญ่คนใหม่ผนู ้ ้ ีของเขา หลังจากนั้นก็ดีใจแล้ว ใครๆ ก็บอก
ว่าเขาสมองกลวง ดูท่าแล้วพี่สะให้ใหญ่คนใหม่ผนู ้ ้ ีจะสมองกลวงยิง่
กว่าเขาเสี ยอีก
ใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องดามืดแล้ว แต่กลับยังแสร้งทาท่าทีเอ็นดู
ปลอบขวัญเสิ่ นเวย “ดูสิทาภรรยาโย่วเอ๋ อร์ตกใจหมดแล้ว เป็ น
ความผิดของแม่เอง เป็ นแม่ที่สะเพร่ า…”
พูดยังไม่ทนั ขาดคา หวาอวิน๋ ข้างๆ ก็คุกเข่าลง “ฮูหยินใหญ่ นี่ไม่
เกี่ยวกับพระชายา พระชายาสัง่ บ่าวแต่เช้าแล้ว แต่บ่าวสะเพร่ าลืมไป
ชัว่ ขณะ ฮูหยินใหญ่ บ่าวสมควรตาย ท่านลงโทษบ่าวเถิดเจ้าค่ะ”
“นี่…ทาอะไรกัน” เสิ่ นเวยสะดุง้ ตกใจจนถอยหลังไปหนึ่งก้าวใหญ่
“เจ้า เจ้ารี บลุกขึ้น” นางลนลานไม่รู้จะวางมือวางเท้าไว้ตรงไหน
มองพระชายาจิ้นอ๋ องราวกับขอความช่วยเหลือ “เสด็จแม่ นี่คือสาว
ใช้ใหญ่ยอดเยีย่ มประจากายท่าน ท่านรี บสัง่ นางให้ลุกขึ้นเถิด”
คราวนี้พระชายาจิ้นอ๋ องไม่ทาโทษหวาอวิ๋นก็ไม่ได้แล้ว “ปกติเจ้าก็
ปราดปเรี ยว เหตุใดวันนี้ถึงได้สะเพร่ าเช่นนี้ หากวันนี้ขา้ ไม่ลงโทษ
เจ้า คุณชายใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่กค็ งไม่ได้รับความเป็ นธรรม เด็กๆ
ลากออกไป โบยห้าครั้ง ตัดเงินเดือนสามเดือน”
แววตาสวีโย่วนิ่งงัน ถีบคนที่มาลากหวาอวิ๋นออกไปข้างๆ ทันที
“หากเสด็จแม่จะลงโทษก็กลับไปลงโทษที่เรื อนของท่าน วันนี้เป็ น
วันแรกของการแต่งงานของลูก อย่าสร้างความราคาญใจให้ลูกที่นี่
เป็ นลางไม่ดี”
เสิ่ นเวยเองก็รีบร้องขอ “เหตุใดเสด็จแม่ถึงบันดาลโทสะเล่า นาง
สานักผิดแล้ว แก้ไขก็พอแล้ว ไม่ตอ้ งลงโทษอีกหรอกกระมัง แม้จะ
ลงโทษตัดเงินเดือนก็พอแล้ว โบยจนเจ็บไม่ใช่จะทาให้เสด็จแม่
เสี ยใจหรื อ”
พระชายาจิ้นอ๋ องแทบจะเป็ นลม คาดไม่ถึงว่าคนชัว่ สมควรตายผูน้ ้ ี
จะพูดว่านางเป็ นลางไม่ดี “ในเมื่อฮูหยินใหญ่ขอร้องแทนเจ้าแล้ว จะ
ยังคุกเข่าอยูต่ รงนี้ทาไม ยังไม่รีบลุกขึ้นยืนอีก” ไฟโกรธทั้งทรวงอก
ของพระชายาจิ้นอ๋ องหาที่ระบายไม่ได้ ทาได้เพียงพาลใส่ หวาอวิ๋น
ความรู ้สึกที่ขโมยไก่ไม่ได้ซ้ ายังเสี ยข้าวสารช่างน่าอึดอัดอย่างถึง
ที่สุด
หวาอวิ๋นโขกศีรษะให้เสิ่ นเวยอย่างรี บร้อน “ขอบคุณพระชายาที่
เมตตา ขอบคุณฮูหยินใหญ่” ลุกขึ้นยืนตัวสัน่ หลบไปข้างหลังแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 216-2 คลื่นยักษ์ ในพิธียกน้าชา
“ดูสิ เด็กคนนี้คิดมากยิง่ นัก เพียงแค่ความสะเพร่ าของคนใช้เจ้าก็คิด
เยอะเพียงนั้น หลังจากนี้หา้ มทาแบบนี้อีก” พระชายาจิ้นอ๋ องสู ด
หายใจเข้าลึกหนึ่งครา เผยรอยยิม้ เอ็นดูให้เสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยหยุดร้องไห้แล้วยิม้ หน้าแดงกล่าวเสี ยงเบา “เป็ นความผิด
ของลูกที่ข้ ีขลาด เข้าใจเสด็จแม่ผดิ เสด็จแม่ไม่รังเกียจลูกก็ดีแล้ว”
นางแสดงท่าทางรู ้สึกผิด
จิ้นอ๋ องกลับหงุดหงิดแล้ว “พอแล้ว รี บยกน้ าชาเถอะ” ภรรยาของ
โย่วเอ๋ อร์ข้ ีขลาดเกินไปไม่อาจพาออกงานสังคมได้กระมัง หน้าตาดี
แล้วจะมีประโยชน์อะไร แต่เขาก็ทาได้เพียงคิดเช่นนี้ หลังจากนั้นก็
โยนทิ้งไป
“ท่านอ๋ องพูดถูก ยกน้ าชา รี บยกน้ าชา” พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าวคล้อย
ตาม
เบาะทรงกลมถูกแม่นมซือวางลงก่อนแล้ว ชาเองก็เปลี่ยนแก้วแล้ว
เสิ่ นเวยคุกเข่าลงบนเบาะ มือทั้งคู่ส่งแก้วชาออกไปด้วยความเคารพ
“เสด็จแม่เชิญดื่มชา”
“เด็กดี” พระชายาจิ้นอ๋ องรับแก้วชามาด้วยความดีใจ เปิ ดฝาออกแล้ว
ดื่มหลายอึกจึงวางลงบนโต๊ะ กล่าวด้วยท่าทางอ่อนโยน “หลังจากนี้
ก็เป็ นครอบครัวเดียวกันแล้ว โย่วเอ๋ อร์อารมณ์ค่อนข้างร้อน เจ้าก็ให้
อภัยเขาหน่อย พวกเจ้าสองคนรักใคร่ ปรองดองกัน ข้ากับพ่อก็วางใจ
แล้ว ขาดเหลืออะไร หรื อมีอะไรไม่เข้าใจก็มาขอแม่ แม่จะช่วยเหลือ
เจ้าเอง”
นางมอบผ้าคลุมหน้าหนึ่งชุดให้เสิ่ นเวย เลี่ยมอัญมณี สีฟ้า ข้างบนยัง
มีขนนกยูงหนึ่งกระจุกเล็กอยูด่ ว้ ย มองดูกร็ ู ้วา่ มูลค่าไม่ธรรมดา
“ขอบคุณเสด็จแม่เจ้าค่ะ” เสิ่ นเวยรับมาด้วยความเคารพแล้วส่ งให้
สาวใช้ขา้ งหลัง จากนั้นก็หยิบของขวัญแสดงความกตัญญูของนาง
มาจากมือหลีฮวา กล่าวอย่างรู ้สึกผิดเล็กน้อย “เสด็จแม่เป็ นถึงชิน
พระชายา มีของดีๆ อะไรบ้างที่ไม่เคยเห็น ลูกเป็ นคนโง่ คิดไม่ออก
ว่าควรแสดงความกตัญญูต่อเสด็จแม่อย่างไรดี จึงทารองเท้าหนึ่งคู่
ด้วยตัวเอง แม้วา่ จะไม่ดีนกั แต่กเ็ ป็ นเจตนาอันดีของลูก”
นี่คือรองเท้าปักลายด้ายทองพื้นเขียวหนึ่งคู่ บนหน้ารองเท้าประดับ
ไข่มุกเม็ดใหญ่ ฝี มือไม่ถึงกับดีมาก แต่กไ็ ม่นบั ว่าแย่ รอยเย็บกลับ
ละเอียดถี่ พระชายาจิ้นอ๋ องถือดูอยูใ่ นมือ กล่าวชม “ภรรยาโย่วเอ๋ อร์
มีน้ าใจ แม่ดีใจยิง่ นัก”
เสิ่ นเวยพูดในใจ เจ้าดีใจบ้าอะไร มุมปากเบ้ลงเรี ยกดีใจหรื อ แต่เจ้า
ไม่ดีใจก็ถูกแล้ว ข้าดีใจ รองเท้าหนึ่งคู่แลกกับผ้าคลุมหน้าราคาสู ง
คุม้ ค่า
“เสด็จแม่ไม่รังเกียจก็พอแล้ว” บนใบหน้าของเสิ่ นเวยเต็มไปด้วย
รอยยิม้
ต่อมาก็ถึงตายกน้ าชาให้จิ้นอ๋ อง เสิ่ นเวยคุกเข่าลงสองข้าง มือทั้งคู่ยก
แก้วจรดศีรษะ “ลูกยกน้ าชาแด่เสด็จพ่อ”
จิ้นอ๋ องรับชามาจิบหนึ่งคราจากนั้นก็วางลง หยิบซองแดงหนึ่งซองที่
ยังอยูบ่ นถาด พูดหนึ่งประโยคอย่างเรี ยบเฉย “ชักจูงโย่วเอ๋ อร์ดีๆ ใช้
ชีวิตให้ดี”
“เพคะ ลูกจะปฏิบตั ิตามคาสัง่ สอนของเสด็จพ่อ” ของขวัญแสดง
ความกตัญญูของเสิ่ นเวยยังคงเป็ นรองเท้าหนึ่งคู่ เพียงแต่สีต่าง
ออกไปก็เท่านั้นเอง จิ้นอ๋ องก็ไม่ได้สนใจ บอกเป็ นนัยให้บ่าวรับใช้
ข้างหลังเก็บไป
พิธีมอบของขวัญพบหน้าต่อไปไม่จาเป็ นต้องให้เสิ่ นเวยคุกเข่าแล้ว
เพราะว่าต่างก็อายุนอ้ ยกว่าสวีโย่ว
เดิมพิธียกน้ าชามอบของขวัญพบหน้าในวันแรกของการแต่งงาน
เป็ นสิ่ งสาคัญอย่างยิง่ ผูอ้ าวุโสจานวนมากในวงศ์ตระกูลควรอยูก่ นั
ทั้งหมด แต่จวนจิ้นอ๋ องเป็ นราชนิกลุ ญาติในวงศ์ตระกูลมีเยอะ
เกินไป หากมากันทั้งหมด ในห้องโถงก็คงจะนัง่ ไม่พอ จึงถือโอกาส
ไม่เชิญเสี ย อย่างไรเสี ยภายหลังก็มีโอกาสได้พบหน้า
“นี่คือน้องสะใภ้รองและน้องสะใภ้สาม” สวีโย่วพาเสิ่ นเวยลุกขึ้นยืน
อยูข่ า้ งหน้าสวีเยีย่ สองสามีภรรยาแล้วกล่าวแนะนา
สวี่เยีย่ กับอู๋ซื่อทาความเคารพสวีโย่วกับเสิ่ นเวยก่อน “คารวะพี่ใหญ่
พี่สะใภ้” อู๋ซื่อมองประเมินเสิ่ นเวย แอบถอดทอนใจในใจที่พี่สามี
โชคดีได้ภรรยางาม หน้าตาของพี่สะใภ้ใหญ่ผนู ้ ้ ีดีจริ งๆ
เสิ่ นเวยคารวะกลับ มอบของขวัญที่เตรี ยมมา ปิ่ นระย้าพันด้ายทอง
หนึ่งอันกับจี้หยกสลักลายมงคลหนึ่งชิ้น อู๋ซื่อรับของขวัญแล้วกล่าว
ขอบคุณ แววตากะพริ บวาบ แต่กลับไม่ได้พดู อะไรต่อ
ของขวัญที่มอบให้สวีเหยียนและหูซื่อก็เป็ นปิ่ นระย้าและจี้หยก
เช่นกัน เพียงแค่แตกต่างกันที่ลวดลายก็เท่านั้นเอง แววตาหูซื่อมี
ความผิดหวังแวบผ่าน สิ นเดิมของคนผูน้ ้ ีนางเห็นมาแล้ว แต่
ของขวัญพบหน้ากลับนับได้วา่ ธรรมดา ดูท่าแล้วจะเป็ นคนตระหนี่
ของขวัญที่มอบให้คุณชายสี่ สวีฉงั่ กลับเป็ นดาบหนึ่งเล่ม ก่อนหน้านี้
เสิ่ นเวยทาการบ้านมา คุณชายสี่ ผนู ้ ้ ีเป็ นคนชอบเที่ยวเล่น กินดื่มเล่น
พนันจนเชี่ยวชาญ ในด้านศิลปะการต่อสู ้กห็ ละหลวมอย่างยิง่ แต่
กลับมีงานอดิเรก นัน่ ก็คือชอบดาบ เก็บสะสมส่ วนตัวไว้ไม่นอ้ ย
บังเอิญว่าเสิ่ นเวยก็มีดาบเยอะ ในคลังวางดาบอยูเ่ กือบร้อยเล่ม
ทั้งหมดเป็ นดาบที่พวกจางสยงมอบให้ดว้ ยความกตัญญู เสิ่ นเวยก็
เลือกเล่มที่งามประณี ตและนับว่าแหลมคมมาหนึ่งเล่มส่ งเป็ น
ของขวัญให้สวี่ฉงั่
“ดาบดี” สวีฉงั่ ชักตัวดาบออกมาทันที ในแววตามีความดีใจ กล่าว
ชมเสี ยงดัง “น้องขอบคุณพีส่ ะใภ้ใหญ่ยงิ่ นัก” ความประทับใจที่เขามี
ต่อเสิ่ นเวยก็ดีข้ ึนมา พี่สะใภ้ใหญ่ผนู ้ ้ ีไม่เพียงแต่หน้าดี อีกทั้งยังรู ้เรื่ อง
รู ้ราว เพียงแค่ข้ ีขลาด อืม สตรี กเ็ ป็ นเช่นนั้นกันหมดมิใช่หรื อ กลับ
ไม่นบั ว่าเป็ นจุดอ่อนอะไรนัก
เสิ่ นเวยเม้มปากยิม้ “น้องชอบก็ดีแล้ว”
สวีฉงั่ รู ้สึกเพียงเบื้องหน้ามีดอกไม้งามพัดพลิ้ว ดวงตามองจนตะลึง
งัน ยังคงเป็ นสวีโย่วที่แค่นเสี ยงเย็นชาหนึ่งครา เขาจึงได้สติกลับมา
เขามีความกล้ามาก ยังล้อพี่ใหญ่ของเขาเล่นหลายประโยค “พี่สะใภ้
ใหญ่ดูกร็ ู ้วา่ เป็ นคนอ่อนโยนอ่อนหวาน พี่ใหญ่โชคดีได้ภรรยางาม
น้องอิจฉาแล้ว”
สุ ดท้ายก็เป็ นบุตรชายบุตรสาวอนุภรรยาหนึ่งคู่ในจวนจิ้นอ๋ อง
บุตรชายอนุภรรยาชื่อสวีสิง อายุเท่ากับคุณชายสี่ สวีฉงั่ แต่เด็กกว่า
เขาสามเดือน ถูกคนเจาะหาโอกาสตอนที่พระชายาจิ้นอ๋ องตั้งครรภ์ส
วีฉงั่ กว่านางจะรู ้ครรภ์ของอี๋เหนียงผูน้ ้ นั ก็ใหญ่แล้ว พระชายาจิ้
นอ๋ องเคียดแค้นยิง่ นัก เพื่อที่จะสัง่ สมบุญให้ลูกในครรภ์ นางอดทน
แล้วอดทนอีกจึงห้ามตัวเองไม่ให้ลงมือได้ ปล่อยให้สวีสิงเกิดมา แต่
แค่คิดก็รู้แล้วว่าสวีสิงมีชีวิตเช่นไรในจวน
บุตรสาวอนุภรรยาชื่อสวีเจียนจยา มีมารดาเดียวกับสวีสิง จะว่าไป
จางอี๋เหนียงที่คลอดสวีสิงกับสวีเจียนจยาก็เป็ นผูม้ ีความสามารถ
จริ งๆ คาดไม่ถึงว่านางสามารถคลอดบุตรชายบุตรสาวหนึ่งคู่ออกมา
ภายใต้การป้องกันอย่างสุ ดชีวิตของพระชายาจิ้นอ๋ อง แม้จะไม่ได้รับ
ความโปรดปราน แต่กลับล้มลุกคุกคลานเลี้ยงมาจนโตได้อย่าง
ปลอดภัย
เดิมจางอี๋เหนียงคิดจะอาศัยบารมีลูกชายเลื่อนขั้นเป็ นเช่อเฟย (ชายา
รอง) แต่พระชายาจิ้นอ๋ องเกลียดนาง จะให้นางสมปรารถนาได้
อย่างไร ดังนั้นจนกระทัง่ ตอนนี้นางก็ยงั เป็ นเพียงอี๋เหนียงเล็กๆ อยู่
อย่าว่าแต่เช่อเฟยเลย แม้แต่ฮูหยินนางยังเป็ นไม่ได้
เสิ่ นเวยรู ้เรื่ องเหล่านี้ ล้วนแต่เป็ นอาจารย์ซูผมู ้ ีความสามารถสารพัด
อย่างของนางเป็ นคนบอกนาง บางครั้งเสิ่ นเวยก็สงสัยจริ งๆ
อาจารย์ซูของนางเป็ นบุคคลที่มีคุณธรรมสู งส่ งเพียงนั้น เหตุใดถึง
ชอบนินทาเรื่ องผิดๆ ถูกๆ ในเรื อนหลังของคนอื่นเช่นนั้นเล่า
ของขวัญที่เสิ่ นเวยมอบให้สวีสิงคือสี่ สิ่งล้ าค่าในห้องหนังสื อ[1]หนึ่ง
ชุด ของไม่นบั ว่าดีแต่กไ็ ม่แย่ ของขวัญที่มอบให้สวีเจียนจยาคือ
กาไลหินปะการังหนึ่งคู่ ทั้งสองคนกล่าวขอบคุณด้วยความเกรงใจ
ถึงตอนนี้พิธีมอบของขวัญพบหน้าของเสิ่ นเวยก็จบสิ้ นลงแล้ว จิ้
นอ๋ องเดินนาหน้าออกไป ต่อมาท่านซื่อจื่อ คุณชายสาม คุณชายสี่
และคุณชายห้าก็หาข้ออ้างออกไปเช่นกัน ภายในห้องเหลือเพียงสตรี
และสวีโย่วผูห้ นึ่ง
พระชายาจิ้นอ๋ องยิม้ กล่าว “ให้นายท่านทั้งหลายไปทางานเถิด พวก
เราสตรี กม็ านัง่ สนทนากัน”
สวีโย่วได้ยนิ ดังนั้นสี หน้าก็เคร่ งขรึ ม แค่นเสี ยงหนักๆ หนึ่งครา ร่ าง
ของเสิ่ นเวยก็สนั่ น้อยๆ ทันที หันหน้ากลับไปกล่าวกับพระชายาจิ้
นอ๋ องด้วยความลาบากใจ “เสด็จแม่ พรุ่ งนี้ลูกค่อนมาสนทนากับ
ท่านได้หรื อไม่ ในเรื อนยังมีงานอยูอ่ ีกกองมิใช่หรื อ ตอนบ่ายลูกยัง
ต้องเข้าวังไปน้อมสานึกพระมหากรุ ณาธิคุณอีกด้วย”
ดวงตาของพระชายาจิ้นอ๋ องกะพริ บวาบเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ยมิ้
กล่าว “ดูสิแม่ลืมไป เจ้าเพิ่งจะมาถึง มีเรื่ องมากมายให้ตอ้ งจัดการ
มิใช่หรื อ คนรับใช้พอหรื อไม่ หากไม่พอ แม่ให้เจ้าเพิ่มสองคน หวา
ฉังหวาลู่ ต่อจากนี้เจ้าทั้งสองไปรับใช้คุณชายใหญ่ฮูหยินใหญ่”
“เพคะ” สาวใช้โฉมหน้างดงามทั้งสองขานรับเดินออกมา
ไอหยา พระชายาจิ้นอ๋ องฉวยโอกาสเก่งจริ งๆ เพิ่งจะวันแรกก็ยดั คน
เข้ามาข้างกายนางแล้ว
“ลูกขอบคุณในความเห็นใจของเสด็จแม่ คนข้างกายของเสด็จแม่
ล้วนดีอย่างยิง่ แม่นางสองคนนี้ดูกร็ ู ้แล้วว่ามีความสามารถ เพียงแต่
เพียงแต่…” เสิ่ นเวยละสายตาลอบมองสี หน้าของสวีโย่ว ไม่กล้าพูด
ต่อ เจตนานั้นชัดเจนอย่างยิง่ ‘เสด็จแม่คนที่ท่านมอบให้ดีอย่างยิง่ ลูก
เองก็ยนิ ดีจะรับไว้ เพียงแต่ลูกเป็ นคนตัดสิ นใจไม่ได้ ทั้งหมดต้องดู
ความคิดเห็นของสามี’
สวีโย่วขมวดคิ้วมุ่น “เจตนาดีของเสด็จแม่ลูกต้องขอปฏิเสธ ลูกไม่
ขาดแคลนคนใช้ สองคนนี้เสด็จแม่เก็บไว้เองดีกว่า” เขาชายตามอง
หวาฉังกับหวาลู่ปราดหนึ่ง ความรังเกียจบนใบหน้านั้นชัดเจนอย่าง
ยิง่ “ตัวเปื้ อนอะไรมา เหม็นจะตายชัก สวมเสื้ อผ้าเช่นนี้จะทางาน
เป็ นหรื อ เอาไว้ที่เรื อนเสด็จแม่ดีกว่า อย่าได้ทาให้ภรรยาของลูกเสี ย
คนเลย”
หวาฉังกับหวาลู่ที่ถูกเรี ยกชื่อวิจารณ์เช่นนี้ต่างก็มีสีหน้าอับอายอย่าง
ยิง่ นางทั้งสองหน้าตาดี ย่อมมีความทะนงตนสู ง วันนี้ถูกคนรังเกียจ
เช่นนี้ อยากจะแทรกแผ่นดินหนีเสี ยยิง่ นัก
พระชายาจิ้นอ๋ องโมโหจนแทบจะเป็ นลมแล้ว รอยยิม้ บนใบหน้าก็
จางลงสามส่ วน “ในเมื่อโย่วเอ๋ อร์ไม่รับน้ าใจ เช่นนั้นก็คิดเสี ยว่าแม่
คิดไปเองแล้วกัน”
เสิ่ นเวยเห็นพระชายาจิ้นอ๋ องโกรธ ก็หวาดกลัวขึ้นมา อ้ าอึ้งขอความ
เมตตา “เสด็จแม่ ท่านพี่พดู ไม่เก่ง อันที่จริ งในใจไม่ได้ตาหนิที่ท่าน
ก้าวก่ายเกินไป ท่านอย่าโกรธ ลูกขออภัย” นางก้มหน้า ท่าทาง
ลาบากใจอย่างถึงที่สุด
พระชายาจิ้นอ๋ องสูดหายใจหนึ่งครา กล่าวอย่างจริ งใจ “เด็กดีไม่ตอ้ ง
กลัว แม่ไม่ได้โกรธ คนเป็ นแม่ไหนเลยจะโกรธลูกตัวเองได้ ไปเถอะ
ตามโย่วเอ๋ อร์กลับไปพักผ่อน เมื่อวานก็ยงุ่ มาทั้งวันแล้ว เหนื่อยแย่
เลยใช่หรื อไม่”
“เสด็จแม่” เสิ่ นเวยซาบซึ้งอย่างถึงที่สุด น้ าตาสัน่ คลออยูใ่ นเบ้า พระ
ชายาจิ้นอ๋ องเห็นแล้วก็สงสาร ตบมือของนางปลอบขวัญไม่หยุด
ทว่าสวีโย่วกลับหงุดหงิดแล้ว “ไปสิ เจ้าจะยืนบื้ออยูต่ รงนั้นทาไม”
พูดจบก็ไม่รอเสิ่ นเวย หันหน้าเดินออกไปข้างนอก
เสิ่ นเวยกะพริ บตา คารวะพระชายาจิ้นอ๋ อง “ลูกขอตัวก่อน” จากนั้นก็
ไล่ตามสวีโย่วไปด้วยความร้อนรน
[1] สี่ สิ่งล้ าค่าในห้องหนังสื อ ได้แก่ กระดาษ หมึก พูก่ นั และแท่นฝน
หมึก.
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 217-1 เข้ าวังน้ อมสานึกพระมหา
กรุณาธิคุณ
สวีโย่วกับเสิ่ นเวยเดินเข้าเรื อนกันตามลาดับ ทั้งสองคนเพิ่งจะถอน
หายใจอย่างโล่งอก สวีโย่วยืน่ มือออกไปหาเสิ่ นเวย เสิ่ นเวยถลึงตา
มองเขาปราดหนึ่งฝ่ ามือข้างหนึ่งปัดออก “ตอนนี้นึกถึงข้าแล้วหรื อ
เมื่อครู่ ยงั ถลึงตาใส่ ขา้ อยูเ่ ลย เหอะ สายไปแล้ว” นางบิดตัวเดินเข้าไป
ในห้องหอ
สวีโย่วลูบจมูกยิม้ เดินตามหลังนางอย่างไม่สนใจเลยแม้แต่นอ้ ย “ฮู
หยิน ข้าผิดไปแล้วได้หรื อไม่ หรื อว่า ฮูหยินก็ถลึงตาใส่ ขา้ สักหลายๆ
ครั้ง”
เสิ่ นเวยหันหน้ายิม้ เยาะ “คิดว่าข้าไร้เดียงสาเหมือนท่านหรื อไร เหอะ
ข้าขี้เกียจจะสนใจท่านแล้ว” สวีโย่วหน้าหนาเดินตามหลังนางเข้าไป
ในห้องต่อ
เมื่อเสิ่ นเวยเข้าห้องไปก็ตรงไปยังเตียงหลังใหญ่ เหนื่อยเกินไปแล้ว
นางต้องงีบสักพัก ตอนบ่ายยังมีงานดุเดือดให้ตอ้ งสู ้อีก เมื่อเงยหน้า
ขึ้นก็เห็นว่าสวีโย่วเองก็ตามมา ก็โบกมืออย่างราคาญใจ “ท่าน
ออกไปทางานเถอะ ข้าจะหลับสักตื่น ไม่มีเวลาว่างมาเล่นกับท่าน”
สวีโย่วอารมณ์ดียงิ่ นัก “ข้าไม่ยงุ่ ให้ขา้ นอนเป็ นเพื่อนฮูหยินเถอะ”
“ไม่ตอ้ ง” เสิ่ นเวยกล่าวปฏิเสธ คิดว่านางไม่รู้หรื อว่าเขาคิดอะไรอยู่
ผีทะเลจิตใจชัว่ ร้าย เมื่อคืนทรมานนางครึ่ งค่อนคืน ตอนนี้นางไม่มี
กระจิตกระใจจะคิดบัญชีเขา เหอะ รอก่อนเถอะ
“ข้ารับปากจากใจจริ ง จะไม่รบกวนฮูหยินแน่นอน” สวีโย่วรี บ
รับปาก
เสิ่ นเวยเชื่อเขาก็บา้ แล้ว คิ้วงามตั้งขึ้น กล่าวด้วยความโมโห “ข้าจะ
บอกอะไรท่านให้สวีโย่ว แต่งข้าได้กถ็ ือเป็ นบุญสู งสุ ดในชีวิตท่าน
แล้ว ด้วยปัญหาจุกจิกมากมายในจวนท่าน นอกจากข้าแล้วยังจะมี
ใครทนอยูใ่ นนรกนี้ของท่านได้อีก หลังจากนี้ท่านก็ทาดีกบั ข้าหน่อย
ได้ยนิ แล้วหรื อยัง มิเช่นนั้น หึ!” ท่าทางแก้มป่ องของนางเหมือน
กระรอกน้อยอย่างถึงที่สุด
สวีโย่วอารมณ์ดีแล้ว เหตุใดเวยเวยของเขาถึงน่ารักเพียงนี้ “ได้ยนิ
แล้ว ได้ยนิ แล้ว ข้ารับปากว่าจะทาดีต่อฮูหยิน เมื่อคืนฮูหยินสัมผัสได้
ถึงความจริ งใจของข้าได้แล้วมิใช่หรื อ” สวีโย่วกล่าวอย่างจริ งจัง
“หากว่าไม่พอ ข้ายังสามารถทุ่มเทแรงได้อีก” พูดพลางก็กาลังจะ
ถอดสายคาดเอวของตน
เสิ่ นเวยเหลือบมองเขาปราดหนึ่ง สะบัดรองเท้าบนเท้าออกไปทันที
กระแทกอกของสวีโย่วพอดี “เล่นลูกไม้ให้นอ้ ยหน่อย ตอนบ่ายยัง
ต้องเข้าวังไปน้อมสานึกพระกรุ ณาธิคุณ อ้อจริ งสิ ฝ่ าบาทผูอ้ าวุโสคง
จะไม่สมองกลวงเหมือนพ่อท่านหรอกนะ ในวังหลังมีใครคิดจะขุด
หลุมฝังท่านเหมือนแม่เลี้ยงท่านหรื อไม่”
มุมปากสวีโย่วกระตุก เด็กคนนี้ปากร้ายจริ งๆ แต่วา่ สิ่ งที่พดู กลับเป็ น
เรื่ องจริ ง เสด็จพ่อของเขาสมองกลวงจริ งๆ มิใช่หรื อ แม่เลี้ยงเขาก็คิด
จะขุดหลุมฝังเขาอยูท่ ุกเมื่อมิใช่หรื อ ฮูหยินฉลาดปราดเปรื่ องจริ งๆ
เข้าเรื อนวันแรกก็รู้ธาตุแท้ของคนทั้งสองนี้อย่างชัดเจนแล้ว
“ฮูหยินวางใจเถิด ในวังไม่มีคนไม่ดูตาม้าตาเรื อเหล่านั้นหรอก ฝ่ า
บาทก็ยงิ่ ไม่ตอ้ งเป็ นกังวล” สวี
โย่วกล่าว บางครั้งเขาก็ประหลาดใจอย่างยิง่ ชัดเจนว่าเสด็จพ่อเขา
เป็ นพี่มารดาเดียวกับฝ่ าบาท ฝ่ าบาททรงมีพระปรี ชาสามารถมีบุคลิก
ของฮ่องเต้เช่นนั้น เสด็จพ่อของเขาเทียบฝ่ าบาทไม่ได้ แต่กไ็ ม่ควรจะ
ด้อยไปกว่ามากนักมิใช่หรื อ ครึ่ งหนึ่งก็ควรจะเทียบได้มิใช่หรื อ
แต่ในความเป็ นจริ งเล่า เสด็จพ่อของเขาไม่เพียงแต่มีความรู ้ดา้ น
ราชการพื้นๆ สามัญ ซ้ ายังหูเบา ถูกสตรี ควบคุมอยูใ่ นมือหลายสิ บปี
เขาทาได้เพียงคาดเดาว่าตอนที่เสด็จย่าคลอดเสด็จพ่อออกมาเกิดเหตุ
ไม่คาดคิดอะไรหรื อไม่ หรื อว่าเด็กถูกคนสับเปลี่ยน
คราวนี้เสิ่ นเวยจึงวางใจแล้ว นางไม่อยากฉี กหน้าจวนอ๋ องเสร็ จแล้ว
ยังต้องไปฉีกหน้าพระราชวังอีก เรื่ องฉี กหน้าข่มขู่พรรณ์น้ นั น่า
ราคาญที่สุด นางยกขาถีบรองเท้าอีกข้างให้หลุด จากนั้นจึงดึงปิ่ น
หยกเขียวบนศีรษะส่ งให้หลีฮวา มุดเข้าไปนอนต่อในผ้าห่มอย่าง
รวดเร็ ว
สวีโย่วถูกนางกั้นไว้นอกม่านก็คบั แค้นใจ เขาคิดเพียงแค่จะนอนเป็ น
เพื่อนเฉยๆ จริ งๆ เด็กคนนี้ก็คิดมาก แต่เมื่อด้ยนิ เสี ยงลมหายใจ
สม่าเสมอของเสิ่ นเวยที่ดงั ออกมาจากในม่าน มือที่ยกขึ้นของสวีโย่ว
ก็วางลงอีกครั้ง ช่างเถอะ ปล่อยให้เด็กคนนี้นอนหลับสักตื่นเถอะ
เมื่อคืนทานางเหนื่อยเกินไปจริ งๆ
ไม่รู้เหมือนกันว่าหลับไปนานเพียงใด เสิ่ นเวยตื่นแล้ว นางบิดขี้เกียจ
ถูหน้าอยูบ่ นหมอน รู ้สึกสบายตัวยิง่ นัก
“กี่ยามแล้ว” นางลุกขึ้นมองไปข้างนอกแล้วกล่าวถาม เสี ยงมีความ
อ่อนนุ่มอย่างคนเพิ่งตื่นนอน
“ตื่นแล้วหรื อ” เสี ยงของสวีโย่วดังขึ้นมา
เสิ่ นเวยเปิ ดม่านเตียงออกชะโงกหน้าออกไปมองข้างนอก เห็นว่าใน
ห้องไม่มีแม้แต่คนรับใช้เลยสักคนเดียว สวีโย่วนัง่ อยูข่ า้ งหน้าต่าง
กาลังไขว่หา้ ง ในมือถือหนังสื อหนึ่งเล่ม แสงอาทิตย์นอกหน้าต่าง
เคลือบแสงทองหนึ่งชั้นลงบนผิวของสวีโย่ว ใบหน้าด้านข้างของสวี
โย่วท่ามกลางแสงและเงางดงามราวกับเทพเทวดา ความรู ้สึกของ
เสิ่ นเวยก็ลอยขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ ยังดีที่มารตนนี้มีหน้าตาที่ดูดี มิ
เช่นนั้นนางก็คงจะขาดทุนตาย
“ท่านไม่ได้ออกไปนี่” เสิ่ นเวยกล่าวอย่างประหลาดใจ ดูท่าทางนัน่
ของเขาน่าจะนัง่ อยูใ่ นห้องนานแล้ว
สวีโย่วไม่ตอบ แต่กลับกล่าว “ลุกขึ้นเถอะ ควรกินข้าวเที่ยงได้แล้ว”
เขาวางหนังสื อลงข้างๆ ลุกขึ้นช่วยเสิ่ นเวยเรี ยกสาวใช้เข้ามา
ปรนนิบตั ิ
กินข้าวเที่ยงเสร็ จแล้ว เสิ่ นเวยก็อาบน้ าเปลี่ยนเสื้ อผ้า นางเป็ นจวิน้ จู่ที่
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ของราชสานัก เข้าวังน้อมสานึกพระ
มหากรุ ณาธิคุณย่อมต้องสวมชุดของจวิน้ จู่ แม้แต่เครื่ องประดับที่
สวมศีรษะก็ตอ้ งพิถีพิถนั โชคดีที่มีแม่นมมัว่ เสิ่ นเวยไม่ตอ้ งกังวล
แม้แต่นิดเดียว
เสิ่ นเวยที่อยูใ่ นเครื่ องแต่งกายชุดใหญ่ของจวิน้ จู่ดูงดงามตระการตา
ท่าทีน่าสงสารที่นางแสดงออกมาอย่างสุ ดความสามารถก่อนหน้านี้
ก็ลดลงสามส่ วน เสิ่ นเวยรู ้สึกไม่ดี เมื่อไรก็ตามที่อ่อนแอเปราะบาง
จึงจะไม่ขวางหูขวางตาผูอ้ ื่น วังหลังเป็ นสถานที่ที่ผลิตโรคประสาท
ด้วยเหตุน้ ีนางจึงเก็บพลังที่ออกมาจากร่ าง แล้วจึงลุกขึ้นยืนด้วย
ความพอใจ
จวนจิ้นอ๋ องอยูห่ ่างจากพระราชวังระยะทางหนึ่ง สวีโย่วนัง่ รถม้าไป
กับเสิ่ นเวย ความจริ งแล้วนอกจากวันที่รับตัวเจ้าสาววันนั้น สวีโย่วก็
ไม่เคยขี่มา้ ในเมืองหลวงมาก่อน
ในรถม้าเสิ่ นเวยนิ่งเงียบไม่พดู จา ดวงตาที่ดาสนิทเหลือบมองสวีโย่ว
แวบหนึ่งแล้วจึงละสายตาออกมา นางกาลังคิดว่าเหตุใดนางถึง
หลงใหลสวีโย่วคนชัว่ ผูน้ ้ ีเข้าแล้ว คิดเหตุผลนับไม่ถว้ นสุ ดท้ายก็
กลับมาที่ขอ้ แรก หมอนี่หน้าตาดี สองชาติรวมกันแล้วนางยังไม่เคย
เห็นใครหน้าตาดีกว่าสวีโย่ว นางสามารถรับปากได้วา่ การสมรสครั้ง
นี้เหตุผลใหญ่อย่างยิง่ ยังคงเป็ นเพราะนางชอบหน้าใบนั้นของสวีโย่ว
สวีโย่วยังคิดว่านางตื่นเต้น กล่าวปลอบ “พวกเราไปนัง่ ในตาหนัก
ฮองเฮาก่อนสักครู่ ฮองเฮาเป็ นคนใจกว้างที่สุด ไม่อาจทาให้เจ้า
ลาบากใจ หากฝ่ าบาทว่าง พวกเราก็เข้าไปน้อมสานักพระมหา
กรุ ณาธิคุณ หากไม่วา่ งเรี ยกพวกเราเข้าเฝ้า เช่นนั้นพวกเราก็กลับจวน
ได้เลย
เสิ่ นเวยพยักหน้าบอกเป็ นนัยว่าเข้าใจ
ไม่นานนักก็ถึงหน้าประตูพระราชวัง สวีโย่วประคองเสิ่ นเวยลงจาก
รถม้า แม้ทหารองครักษ์หน้าประตูวงั จะไม่รู้จกั สวีโย่วและเสิ่ นเวย
แต่สญ
ั ลักษณ์จวนจิ้นอ๋ องบนรถม้ายังคงรู ้จกั ยิง่ ต้องรู ้จกั เครื่ องแต่ง
กายของจวิน้ อ๋ องและจวิน้ จู่บนร่ างพวกเขา มิหนาซ้ าเร็ วอย่างยิง่ ข้าง
ในก็มีขนั ทีอว้ นหนึ่งคนรี บเข้ามา ต้อนรับคนทั้งสองด้วยรอยยิม้ ทัว่
ทั้งใบหน้า “คุณชายใหญ่ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ เหนียงเหนียงให้บ่าวออกมา
ต้อนรับท่านทั้งสอง”
จริ งสิ ราชทินนามของเสิ่ นเวยก็คือจยาฮุ่ย มีราชทินนามแต่กลับไม่มี
ที่ดินพระราชทาน เพียงเท่านี้เสิ่ นเวยก็พอใจอย่างยิง่ แล้ว จวิน้ จู่น่า
เกรงขามกว่าขุนนางหญิงขั้นสี่ มาก ในเมื่อแต่งงานกับสวีโย่วแล้ว
ภายหลังก็ตอ้ งคบค้าสมาคมกับผูม้ ีตาแหน่งสู งอย่างไม่อาจเลี่ยง
ตาแหน่งขุนนางของพ่อนางไม่เพียงพอจริ งๆ ที่นางต้องการเป็ นเพียง
ชื่อเสี ยงที่โด่งดัง สาหรับที่ดินพระราชทานทรัพย์สินแค่นนั้นนางไม่
เห็นอยูใ่ นสายตาจริ งๆ
ตาแหน่งจวิน้ อ๋ องของสวีโย่วนี้กลับมีที่ดินพระราชทานหนึ่งแห่ง
เป็ นเมืองเล็กๆ ชื่อ ‘ซาผิง’ ทางตอนใต้ แม้ที่ดินพระราชทานจะไม่
ใหญ่ แต่กใ็ กล้ท่าเรื อ เรื อที่ไปมามีเยอะอย่างยิง่ เจริ ญอย่างถึงที่สุด
จักรพรรดิยงเซวียนทรงมีพระกรุ ณาต่อหลานชายผูน้ ้ ีจริ งๆ
“หลินกงกงนี่เอง! เหนียงเหนียงสบายดีหรื อไม่” สวีโย่วพยักหน้าให้
ขันทีผนู ้ ้ นั
“ดี ดี ฮองเฮาเหนียงเหนียงสบายดี ช่วงนี้อาการป่ วยของท่านไท่จื่อดี
ขึ้นแล้ว เหนียงเหนียงดีใจยิง่ นัก” ดวงตาของขันทีหลินยิม้ จนเป็ นขีด
ขันทีหลินผูน้ ้ ีเป็ นขันทีที่มีเกียรติประจาองค์ฮองเฮา แม้จะไม่ได้จดั
อยูใ่ นลาดับที่หนึ่ง แต่สามอันดับแรกก็มีตาแหน่งของเขาอยู่
องครักษ์เห็นว่าเป็ นขันทีใหญ่ในตาหนักฮองเฮาเหนียงเหนียงมารับ
ด้วยตัวเอง ชัว่ ขณะก็นึกได้วา่ นี่คือใคร ย่อมไม่กล้าขวางทาง สวีโย่ว
กับเสิ่ นเวยจึงเดินตามหลังขันทีหลินเข้าไปยังตาหนักฮองเฮา
พระมารดาของจักรพรรดิยงเซวียน ก็คือเสด็จย่าของสวีโย่วที่จากไป
ก่อนวัยอันควร ปี ที่จกั รพรรดิยงเซวียนราชาภิเษกก็สวรรคตแล้ว
ดังนั้นในวังหลังจึงมีฮองเฮาเป็ นใหญ่
ฮองเฮาแซ่เวย ฐานะไม่สูงนัก อย่างน้อยก็เทียบเหยียนกุย้ เฟยที่มี
ฐานะเดิมอยูใ่ นจวนแม่ทพั ใหญ่ผงิ หนานและฉินซูเฟยที่มีฐานะเดิม
ในจวนเสนาบดีไม่ได้
ตอนที่สวีโย่วกับเสิ่ นเวยมาถึงตาหนักคุนหนิง ก็เห็นว่าในตาหนัก
ไม่ได้มีเพียงฮองเฮาเหนียงเหนียงพระองค์เดียว ยังมีหญิงงามผูส้ ุ ภาพ
สู งส่ งสองคนนัง่ อยูด่ ว้ ย
“ถวายความเคารพฮองเฮาเหนียงเหนียง ถวายความเคารพกุย้ เฟย
เหนียงเหนียง ซูเฟยเหนียงเหนียง” เสิ่ นเวยโขกศีรษะอยูข่ า้ งหลังสวี
โย่ว ฮองเฮานางเคยเห็นแล้ว ครั้งก่อนที่พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ น
จวิน้ จู่นางตามท่านป้าสะใภ้ใหญ่เข้าวังมาน้อมสานึกพระมหา
กรุ ณาธิคุณก็ได้พบฮองเฮาหนึ่งครั้งแล้ว คนแปลกหน้าสองคนนี้
ข้างๆ แท้จริ งแล้วก็คือเหยียนกุย้ เฟยและฉิ นซูเฟยนี่เอง เพียงแต่ไม่รู้
ว่าใครเป็ นใคร
“ลุกขึ้นเถิด ลุกขึ้นเถิด เป็ นคนบ้านเดียวกัน จะเกรงใจไปไย” ฮองเฮา
เรี ยกซ้ าไปซ้ ามา ปากก็กล่าวหยอกล้อ “ในที่สุดก็ได้เห็นคุณชายใหญ่
ของพวกเราแต่งภรรยาแล้ว จยาฮุ่ยมานี่ ให้ป้าดูหน่อย”
“เพคะ ฮองเฮาเหนียงเหนียง จยาฮุ่ยรับคาสัง่ ” ฮองเฮาสามารถเรี ยก
ตัวพระองค์เองว่าเสด็จป้าได้ แต่เสิ่ นเวยกลับไม่โง่จนเรี ยกเช่นนั้น
จริ งๆ ความน่าเกรงขามของราชนิกลุ ไม่อาจดูหมิ่นได้ ไม่แน่วา่ นาง
อาจจะพูดไปตามมารยาทก็เท่านั้น หากนางคิดเป็ นจริ งเช่นนั้นก็คง
สมองกลวงแล้วจริ งๆ
“ดูสิ ดูสิ จยาฮุ่ยเด็กคนนี้หน้าตางดงามจริ งๆ อาโย่วสายตาดียงิ่ นัก”
ฮองเฮาเหนียงเหนียงดึงเสิ่ นเวยเข้ามาเอ่ยปากชมไม่หยุด
เสิ่ นเวยแสดงท่าทีเขินอายออกมาอย่างถูกกาลเทศะ กล่าวเสี ยงเบา
“เหนียงเหนียงกล่าวชมเกินไปแล้วเพคะ ผอมแห้งอย่างจยาฮุ่ย ไหน
เลยจะสง่างามสู งศักดิ์เช่นเหนียงเหนียงทั้งหลาย เหนียงเหนียง
อย่าได้ชมจยาฮุ่ยเลยเพคะ”
“โห เด็กคนนี้พดู จากเป็ นยิง่ นัก จวนจงอู่โหวไม่ใช่ต้ งั ตระกูลจาก
กองทัพหรื อ ฟังว่าคุณหนูแต่ละคนในจวนต่างก็เป็ นศิลปะการต่อสู ้
น้องชายผูน้ ้ นั ของข้ายังโชคดีที่ลูกน้องจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ให้อภัย” หญิง
งามผูน้ ้ นั ที่นงั่ อยูท่ างฝั่งขวามองเสิ่ นเวยกล่าวอย่างคล้ายยิม้ คล้ายไม่
ยิม้
เสิ่ นเวยเข้าใจทันทีวา่ คนผูน้ ้ ีคือฉินซูเฟย เพียงแต่นางหมายความว่า
อย่างไร ระบายอารมณ์ให้นอ้ งชายตนกับตัวเองงั้นหรื อ เลือกวันนี้
ใช่ไม่เอาสมองมาด้วยหรื อไม่
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 217-2 เข้ าวังน้ อมสานึกพระมหา
กรุณาธิคุณ
ความคิดนี้อยูใ่ นสมองเสิ่ นเวยเพียงแค่ชวั่ วูบ เหลือบมองสวีโย่วอย่าง
เงียบๆ ปราดหนึ่ง เจตนานั้นไม่พดู ก็รู้ ไม่ใช่บอกว่าในวังหลังไม่มี
คนไม่ดูตาม้าตาเรื อหรอกหรื อ แล้วคนตรงหน้าผูน้ ้ ีคืออะไร
“ขอบคุณซูเฟยเหนียงเหนียงที่ชื่นชม กราบทูลเหนียงเหนียงให้
ทราบว่า แม้จวนจงอู่โหวจะตั้งตระกูลจากกองทัพ แต่พี่สาวน้องสาว
ในตระกูลนอกจากจยาฮุ่ยแล้วก็มีทกั ษะหมัดเท้าปั กบุปผาหลาย
กระบวนท่า พวกนางไม่ชานาญวิทยายุทธ์ ผูอ้ าสุ โสกล่าวแล้วว่า คน
ปกป้องแว่นแคว้นมีบุรุษก็เพียงพอแล้ว สตรี สุภาพคงความงามไว้จะ
ดีกว่า จยาฮุ่ยฝึ กยุทธ์กเ็ พราะว่าตั้งแต่เล็กสุ ขภาพไม่ดี ผูอ้ าวุโสใน
บ้านสงสารจึงอนุญาตให้จยาฮุ่ยฝึ กเล็กน้อย”
เสิ่ นเวยกล่าวด้วยความตั้งใจมากเป็ นพิเศษ “ส่ วนน้องชายของเหนียง
เหนียง เหนียงเหนียงท่านทราบข่าวลือในเมืองหลวงของน้องชาย
ท่านหรื อไม่ ทัว่ ทั้งเมืองหลวงต่างก็พดู ว่าคุณชายน้อยตระกูล
เสนาบดีฉินศีรษะมีหนองไหลเท้ามีรอยแผลยาว จากต้นตอก็เละจน
ไม่มียารักษา แต่ศกั ดิ์ศรี ของพ่อแม่พนี่ อ้ งถูกทาให้เสื่ อมเสี ยแล้ว จยา
ฮุ่ยเคยบังเอิญพบเขาลวนลามหญิงสาวชาวบ้านข้างถนน จยาฮุ่ยคิดว่า
คุณชายน้อยฉินอย่างไรเสี ยก็เป็ นคุณชายน้อยของเสนาบดีฉิน
เสนาบดีฉินก็เป็ นขุนนางร่ วมราชสานักกับผูอ้ าวุโสทั้งหลายของจยา
ฮุ่ย ไม่วา่ อย่างไรก็มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันหลายส่ วนมิใช่หรื อ
ดังนั้นจยาฮุ่ยจึงสัง่ คนให้ตีบ่าวทั้งหลายที่ยยุ งคุณชายน้อย ไม่ได้แตะ
ต้องคุณชายน้อยแม้แต่นิ้วเดียว ซูเฟยเหนียงเหนียงอันที่จริ งแล้วท่าน
ต้องขอบคุณจยาฮุ่ยนะเพคะ”
พูดถึงตรงนี้สีหน้าบนใบหน้านางก็จริ งใจยิง่ นัก ขมวดคิว้ อย่างคล้าย
นึกอะไรขึ้นได้ “แต่วา่ ซูเฟยเหนียงเหนียงน้องชายท่านไม่ค่อยกล้า
หาญจริ งๆ ไม่ได้แตะต้องเขาแม้แต่ปลายนิ้วเขาก็หวาดกลัวจนป่ วย
แล้ว ห่างไกลจากคุณชายสี่ จวนอ๋ องของพวกเรานัก เป็ นคุณชาย
ตระกูลร่ ารวยเหมือนกัน คุณชายสี่ ของพวกเราเก่งยิง่ นัก เมื่อวันก่อน
ไม่รู้วา่ ถูกใครต่อยตีมา บาดเจ็บสาหัส พักรักษาตัวอยูส่ ามวันในจวน
ก็กระโดดโลดเต้นออกจากบ้านไปแก้แค้นคนแล้ว เช้าวันนี้จยาฮุ่ยม
อบดาบให้เขาหนึ่งเล่ม เขาไม่ตกใจ ซ้ ายังดีใจยิง่ นัก! คุณชายน้อยฉิ น
ต้องเลียนแบบคุณชายสี่ ของพวกเราเสี ยแล้วจริ งๆ!”
ในตาหนักเงียบสงัดอย่างถึงที่สุด มีเพียงเสี ยงดีใจของเสิ่ นเวยดัง
สะท้อนอยูใ่ นหูของคนทุกคน ฮองเฮาเหนียงเหนียงมองจยาฮุ่ยจวิน้ จู่
ด้วยดวงตาโตที่กะพริ บวาบ สี หน้าบนใบหน้าซับซ้อนอย่างยิง่ ! ครั้ง
ก่อนที่เจอแม่นางผูน้ ้ ีกป็ กติดีนี่!
ซูเฟยเหนียงเหนียงโมโหจนควันขึ้นศีรษะ ชี้เสิ่ นเวยพูดไม่ออก
แม้แต่ประโยคเดียว
เหยียนกุย้ เฟยผูน้ ้ นั ที่นงั่ อยูท่ างด้านซ้ายกลับหลุดหัวเราะออกมาหนึ่ง
ครา “เป็ นเด็กที่ซื่อสัตย์จริ งๆ เหมือนบุตรสาวโง่เขลาผูน้ ้ นั ของเขา
ถูกใจข้ายิง่ นัก มาๆๆ กาไลมุกเคลือบเงาเส้นนี้ขา้ ใส่ มาหลายปี แล้ว
วันนี้มอบให้เจ้าแล้วกัน”
เสิ่ นเวยรับเข้ามาด้วยความเคารพ “จยาฮุ่ยขอบคุณกุย้ เฟยเหนียง
เหนียงเพคะ”
ฮองเฮาเหนียงเหนียงด้านบนก็ได้สติกลับมา กล่าวกับกุย้ กูกนู าง
กานัลใหญ่ติดตัวประจาพระองค์ “รี บไปเอาของขวัญที่ขา้ เตรี ยมไว้
ให้จยาฮุ่ยจวิน้ จู่มา” จากนั้นจึงหันหน้ากล่าวกับเสิ่ นเวยด้วยความ
ตาหนิ “แม้จะพูดความจริ ง แต่กไ็ ม่อาจพูดเช่นนี้ ดูสิเจ้าทาซูเฟยตก
ใจแล้ว ยังไม่รีบเข้าไปขอโทษอีก”
ฮองเฮาเหนียงเหนียงตั้งใจเปลี่ยนคาว่าโกรธเป็ นตกใจ นางดีใจอย่าง
ยิง่ ที่ได้เห็นซูเฟยเสี ยหน้า หลายปี มานี้ซูเฟยอาศัยพ่อผูเ้ ป็ นท่าน
เสนาบดีของนาง ต่อหน้าลับหลังขัดขาตนไปมากน้อยเพียงใด องค์
ชายรองที่นางให้กาเนิดแย่งรัศมีไท่จื่อของตนไปมากน้อยเพียงใด
ประโยคเดียวของจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ช่างทาให้คนมีความสุ ขมากจริ งๆ!
สายตาที่ฮองเฮาเหนียงเหนียงมองเสิ่ นเวยก็ยงิ่ เมตตามากขึ้น
เสิ่ นเวยย่อมรับฟังความคิดเห็นของผูอ้ ื่น “ซูเฟยเหนียงเหนียงท่าน
อย่าได้โมโห จยาฮุ่ยโง่เขลา พูดจาดีๆ ไม่เป็ น ท่านอย่าได้โกรธจ
ยาฮุ่ยเลยเพคะ! แต่จยาฮุ่ยพูดล้วนเป็ นความจริ งทั้งหมด ไม่พดู เท็จ
แม้แต่ประโยคเดียว แม้นอ้ งชายของท่านจะไม่ได้ความ แต่ฟังว่าองค์
ชายรองมีอนาคตอย่างยิง่ ว่ากันว่าเขามีความสามารถยิง่ กว่าท่าน
ไท่จื่อเสี ยอีก”
ใครบอกว่าจยาฮุ่ยของพวกเราพูดจาไม่เป็ น ดูสิ ประโยคเดียวไม่
เพียงแต่ทาให้ซูเฟยเหนียงเหนียงตกใจ ยังทาให้ฮองเฮาเหนียงเหนียง
พูดไม่ออกอีกด้วย แต่คนก่อเรื่ องยังมีท่าทางจริ งใจอย่างถึงที่สุดอยู่
เลย
“เจ้า เจ้าบังอาจนัก! องค์ชายรองกับท่านไท่จื่อเป็ นคนที่เจ้าจะวิจารณ์
ได้หรื อ” ซูเฟยเหนียงเหนียงตะโกนเสี ยงต่า
เสิ่ นเวยตกใจในชัว่ ขณะ เบ้าตาแดงก่าทันที “ข้า ข้า จยาฮุ่ยไม่ได้
วิจารณ์ เพียงแค่พดู ความจริ งเท่านั้นเอง” นางหลบไปอยูข่ า้ งหลังสวี
โย่วทันที ก้มหน้าไม่กล้าออกมาแล้ว
คิ้วของฮองเฮาขมวดมุ่นแล้ว “ซูเฟยทาอะไร เจ้าถือสาอะไรกับเด็ก
คนหนึ่ง จยาฮุ่ยเพียงแค่พดู ความจริ ง เจ้าขู่นางทาไม”
สวีโย่วเองก็ไม่มีความสุ ขแล้ว แม้จะรู ้วา่ ภรรยาของเขาเล่นละคร แต่
ดวงตาที่แดงก่า ท่าทางขลาดกลัวนั้นยังคงทาให้เขาสงสารอย่างถึง
ที่สุด
“ซูเฟยเหนียงเหนียงทะนงตนยิง่ นัก! ทูลถามฮูหยินของกระหม่อม
พูดผิดตรงไหน แม้วา่ องค์ชายรองกับท่านไท่จื่อจะสู งศักดิ์ แต่ในทาง
ส่ วนตัวแล้วก็ยงั ต้องเรี ยกกระหม่อมว่าพี่มิใช่หรื อ ภรรยาของ
กระหม่อมเป็ นถึงพี่สะใภ้พดู ความจริ งหนึ่งประโยคเหตุใดถึง
กลายเป็ นวิจารณ์ไปเสี ยเล่า ข้อกล่าวหานี้ใหญ่เกินไปเล็กน้อย
กระหม่อมคงทาได้เพียงให้ฝ่าบาทเป็ นผูต้ ดั สิ น”
แววตาที่เย็นเยียบของสวีโย่วทาให้ซูเฟยได้สติกลับมาอย่างว่องไว
คิดว่าหากเรื่ องนี้วนุ่ วายไปจนถึงหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท ด้วยระดับ
ความโปรดปรานที่คุณชายใหญ่ผนู ้ ้ ีได้รับ ตนจะต้องไม่มีจุดจบที่ดี
แน่นอน แต่หากจะให้นางก้มหัว นางก็ลดตัวไม่ลง ตกอยูใ่ น
สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างไม่อาจเลือก เสี ยใจขึ้นมา
เงียบๆ ต้องโทษแม่นางคนเดียว เข้าวังมาร้องทุกข์วา่ น้องชายถูก
รังแกมากเพียงใด ทาให้ตนโมโหจนขาดสติไปชัว่ ขณะ
ฮองเฮาหวังว่าจะให้เรื่ องวุน่ วายไปถึงหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท จะได้
ฆ่าความกาแหงของซูเฟยเสี ย อย่างดีที่สุดก็จะได้โยงไปถึงตัวองค์
ชายรอง
“เอ๋ คุยอะไรถึงได้เสี ยงดังเพียงนี้ บ่าวถวายความเคารพฮองเฮาเหนียง
กุย้ เฟยเหนียงเหนียง ซูเฟยเหนียงเหนียงพะยะค่ะ” จางเฉวียนขันที
ใหญ่ประจาองค์จกั รพรรดิยงเซวียนยิม้ แย้มเดินเข้ามา คล้ายมองไม่
เห็นบรรยากาศตึงเครี ยดในตาหนัก “คุณชายใหญ่ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ บ่าว
คารวะท่านทั้งสอง”
แววตาของฮองเฮากะพริ บวาบ กล่าวถามด้วยสี หน้ายิม้ แย้ม “ฝ่ าบาท
มีเรื่ องอันใดหรื อไม่”
“มีสิพะยะค่ะ ฝ่ าบาทร้อนใจอยากดื่มชาของภรรยาหลานชาย จึงให้
บ่าวมาเร่ งรัด ให้ฮองเฮาเหนียงเหนียงปล่อยคนเร็ วหน่อย” จาว
เฉวียนกล่าวพลางหัวเราะ
“ตายจริ ง ฝ่ าบาทใจร้อนยิง่ นัก อาโย่ว จยาฮุ่ย พวกเจ้ารี บไปเถอะ”
ฮองเฮากล่าวกับสวีโย่วเสิ่ นเวย
ด้วยเหตุน้ ี สวีโย่วกับเสิ่ นเวยจึงคานับแล้วกล่าวลา ตามจางเฉวียนไป
พบจักรพรรดิยงเซวียนแล้ว
เมื่อเขาไป คิว้ ของฮองเฮาก็ขมวดมุ่น มองซูเฟยแล้วกล่าว “ซูเฟย
ไม่ใช่ขา้ ว่าเจ้า นิสยั ใจร้อนของเจ้าก็ควรแก้ได้แล้ว เจ้าว่าพระชายาที่
ยิง่ ใหญ่เช่นเจ้า โมโหเด็กคนหนึ่งทาไมกัน จยาฮุ่ยเพิ่งจะอายุสิบห้า
เด็กกว่าองค์ชายรองหลายปี เจ้าคิดว่าเจ้า… เฮ้อ!” นางถอนหายใจ
อย่างหนักหน่วง
ซูเฟยลุกขึ้นอย่างรวดเร็ ว เชิดหน้า “ขออภัยท่านพี่ฮองเฮา ในวังข้ายัง
มีเรื่ องให้ตอ้ งจัดการ ขอตัวลา” พูดจบก็หนั หลังกลับเดินออกไป
ทาฮองเฮาโมโห หายใจหอบถี่กระชั้น
มุมปากเหยียนกุย้ เฟยปรากฏรอยยิม้ เหยียดหยาม ลุกขึ้นกล่าวลา
เช่นกัน “ไม่มีอะไรแล้ว ข้าเองก็ขอตัวลา” ประคองมือนางกานัล บิด
สะโพกเดินออกไปแล้ว
ฮองเฮาโกรธจนกัดฟันกรอด แต่ละคนวางมาดใหญ่ยงิ่ นัก ต้องมีสกั
วัน ต้องมีสกั วัน! นางกาหมัดแน่น
“เด็กคนนั้นพูดเช่นนั้นจริ งๆ หรื อ” จักรพรรดิยงเซวียนที่เดินไปเดิน
มาในห้องหนังสื อส่ วนพระองค์หยุดฝี เท้า
“พะยะค่ะ!” ทหารลับขานรับเสี ยงเบา
มุมปากของจักรพรรดิยงเซวียนกระตุก คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีเป็ นคนที่
เสี ยเปรี ยบไม่ได้ ดูสิพดู เช่นนั้น ราวกับเหล็กแหลม แทงเข้าไปใน
จิตใจคน ซูเฟยก็เหมือนกัน อาโย่วพาภรรยาเข้ามาในวังครั้งแรกนาง
ก็สร้างความราคาญใจให้แล้ว โตเพียงนี้แล้วยังไปทาให้เด็กลาบาก
ใจ ถูกตอกกลับเป็ นอย่างไรเล่า สมน้ าหน้า!
เทียบกับฮองเฮาเหนียงเหนียงและคนอื่นๆ จักรพรรดิยงเซวียนรู ้ธาตุ
แท้ของเสิ่ นเวย นัน่ คือเด็กน้อยที่ฉลาดซุกซน มิเช่นนั้นหลานชายที่
ไม่เห็นใครในสายตาผูน้ ้ นั ของเขาจะให้ความสาคัญจนอดใจรอแต่ง
กลับบ้านไม่ได้เช่นนั้นหรื อ สตรี ใสซื่อไร้เดียงสางั้นหรื อ เหอะๆ เด็ก
คนนี้แสดงเก่งจริ งๆ
เข้าห้องหนังสื อส่ วนพระองค์แล้ว สวีโย่วก็พาเสิ่ นเวยไปโขกศีรษะ
คานับจักรพรรดิยงเซวียน ยกน้ าชาหนึ่งแก้ว หลังจากนั้นจักรพรรดิ
ยงเซวียนก็โบกมือให้พวกเขาลุกขึ้น
“จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ ฟังว่าเจ้าไปเล่นซนที่ตาหนังคุนหนิงมาหรื อ ทาซูเฟย
โมโหแล้ว ทั้งยังวิจารณ์องค์ชายรองกับไท่จื่อของเราอีก ควรลงโทษ
อย่างไรดี” จักรพรรดิยงเซวียนกล่าวด้วยสี หน้าเคร่ งขรึ ม
เสิ่ นเวยใจเต้นเล็กน้อย โอ้โห เรื่ องที่เกิดที่ตาหนักคุนหนิงฝั่งนั้น ฝ่ า
บาทฝั่งนี้กท็ ราบแล้ว ดูท่าแล้วจักรพรรดิยงเซวียนจะไม่เหมือนพ่อ
ของมารตนนี้ที่ไอคิวต่ากว่าระดับตลอดทั้งปี เช่นนั้นจริ งๆ
นางลอบมองสี หน้าของจักรพรรดิยงเซวียนอย่างระมัดระวังปราด
หนึ่ง เห็นว่าแม้เขาจะทาหน้าดุ แต่ในแววตากลับมีรอยยิม้ เล็กน้อย
จึงวางใจลง กล่าวด้วยความมัน่ ใจ “นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณชายใหญ่
หรอกหรื อ ก่อนเข้าวังเขาก็รับปากซ้ าแล้วซ้ าเล่าว่าเหนียงเหนียงแต่
ละคนในวังหลังนิสยั ดีอย่างยิง่ ประพฤติตนเมตตาเฉลียวฉลาด ไม่มี
คนที่หวั ใหญ่ไร้สมองเหล่านั้น ใครจะรู ้วา่ จู่ๆ ซูเฟยเหนียงเหนียงจะ
ก่อกบฏ จยาฮุ่ยไหนเลยจะทานางโกรธ เห็นชัดๆ ว่าพูดความจริ ง
แม้วา่ ฝ่ าบาทจะอยูต่ ่อหน้าจยาฮุ่ยก็จะพูดเช่นนี้ น้องชายของซูเฟย
เป็ นคนหื่นกามรังแกบุรุษข่มขู่สตรี จยาฮุ่ยเองก็ไม่ได้ตีเขาจริ งๆ ท่าน
ก็รู้ความสามารถของจยาฮุ่ย หากอยากฆ่าเขาให้ตาย หญ้าหน้าหลุม
ศพของเขาก็คงยาวหมดแล้ว”
เสิ่ นเวยเบ้ปากกล่าวต่อ “จยาฮุ่ยต้องโต้เถียงก็เพราะว่าหลานชายท่าน
ปกป้องภรรยาไม่ได้มิใช่หรื อ เขาพูดจาโง่เขลา ในใจมีคาพูดแต่พดู
ไม่ออก ทาได้เพียงใช้สายตาถลึงมองคน มีประโยชน์อะไร ดูสิ ดูสิ
ร่ างกายก็ผอมแห้ง หลายปี มานี้ไม่รู้วา่ ได้รับความไม่เป็ นธรรมาก
น้อยเพียงใด แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว คุณชายใหญ่แต่งงานกับ
ข้าจยาฮุ่ย ท่านก็รู้ จยาฮุ่ยร้ายกาจ ทั้งยังรักพวกพ้อง คุณชายใหญ่
ปกป้องภรรยาไม่ได้ เช่นนั้นภรรยาก็จะปกป้องเขาเอง! ฝ่ าบาทวางใจ
มีจยาฮุ่ยอยู่ ไม่วา่ ใครก็กลัน่ แกล้งคุณชายใหญ่ไม่ได้”
เสิ่ นเวยรับปากสาบาน จักรพรรดิยงเซวียนแทบจะพ่นชาออกมา ชี้
เสิ่ นเวย ครู่ ใหญ่กว่าจะหาเสี ยงตัวเองกลับมาได้ “เจ้ามันเด็กแก่น
คุณชายใหญ่ปกป้องภรรยาไม่ได้อะไรกัน เขาปกป้องเจ้าไม่ได้หรื อ”
แม้ปากจะพูดเช่นนี้ ในใจกลับชื่นชมยิง่ นัก ดี! ภรรยาผูน้ ้ ีของอาโย่ว
นับได้วา่ แต่งมาไม่เสี ยเปล่า รู ้จกั ปกป้องผูช้ ายของตัวเองจึงจะถือว่า
เป็ นภรรยาที่ดี!
ดวงตาจักรพรรดิยงเซวียนกะพริ บวาบ นึกถึงภรรยาคนแรกขึ้นมา
ชัว่ พริ บตานางก็จากไปสิ บกว่าปี แล้ว!
บนใบหน้าของสวีโย่วสะเทือนใจเล็กน้อย หลายปี เพียงนี้แล้ว มีใคร
คิดจะทาอะไรเพื่อเขาบ้าง
มีเพียงนาง มีนางผูเ้ ดียวเท่านั้น!
ปากบอกรังเกียจ บอกว่าราคาญเขา ให้เขาออกไปห่างๆ แต่ทุกครั้งที่
มีเรื่ องกลับแยกเขี้ยวยิงฟันพุง่ ขึ้นมาข้างหน้า ปกป้องเขา!
ในใจสวีโย่วร้อนผ่าว ไม่รู้วา่ ควรจะแสดงความรู ้สึกของตนอย่างไร
เขารู ้สึกว่า ชัว่ ชีวิตนี้หากไม่มอบของดีๆ ทั้งหมดไว้ตรงหน้านาง ใน
ใจตนก็คงจะไม่สงบสุ ข
น้องสี่ แซ่เสิ่ น เวยเวย เจ้าก็คือผูก้ อบกูท้ ี่เทพเทวัญทั้งสวรรค์ส่งมาให้
ข้าใช่หรื อไม่
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 218-1 ตื่นเช้ าไปเคารพ
“สวีโย่ว ตอนนี้เจ้าก็แต่งงานแล้ว ใช่ควรจะเริ่ มทางานได้แล้วหรื อไม่
เจ้าอยากไปกรมโยธาหรื อกรมพระคลัง หรื อว่ากรมอาญา หกกรม
หรื อที่วา่ การต่างๆ ในเมืองหลวงของลุงเจ้าอยากไปตรงไหนก็ได้
ทั้งสิ้ น” จักรพรรดิยงเซวียนมองสวีโย่วแล้วตรัส ท่าทางใจกว้าง
เช่นนี้คาดว่าเหล่าองค์ชายรู ้เข้าคงจะอิจฉาตาร้อน ดีต่อหลานชายยิง่
กว่าลูกชายแท้ๆ จะดีจริ งๆ หรื อ
ทว่าสวีโย่วกลับปฏิเสธ กล่าวเสี ยงเรี ยบ “ขอบคุณเสด็จลุงที่ให้
ความสาคัญ หลานสุ ขภาพไม่ค่อยดี นัก อยูร่ ักษาตัวในจวนจะดีกว่า”
จักรพรรดิยงเซวียนเบิกตาโต สุ ขภาพไม่ดีง้ นั หรื อ ใช้ขอ้ อ้างนี้ปิดบัง
ผูอ้ ื่นได้ แต่ไหนเลยจะปิ ดบังเขาได้ ตอนนั้นยังเป็ นเขาที่เตรี ยมส่ งเขา
ขึ้นไปบนภูเขาด้วยตัวเอง สารพิษในร่ างกายเขาหายไปเกือบหมด
นานแล้ว หลายปี เพียงนี้กใ็ ช้ท่าทีของคนป่ วยแสดงตนมาโดยตลอด
เพียงเพื่อปิ ดหูปิดตาก็เท่านั้นเอง ลับหลังก็ช่วยตนจัดการงานที่ราช
สานักไม่สะดวกออกหน้าอยูไ่ ม่นอ้ ย
“สุ ขภาพเจ้าดีหรื อไม่ลุงยังไม่รู้อีกหรื อ อายุยงั น้อยคิดจะอูง้ านไม่ได้
แม้บุตรหลานราชนิกลุ จะเยอะ แต่ที่ได้ความกลับมีไม่กี่คน ลุงก็อายุ
ปูนนี้แล้ว เจ้าจะแบ่งเบาภาระลุงไม่ได้เชียวหรื อ” จักรพรรดิยงเซวีย
นทรงเรี ยกร้องความเห็นใจ
แต่เขาพูดประโยคนี้ไม่เพียงแต่สวีโย่วที่ไม่เชื่อ แม้แต่เสิ่ นเวยที่อยู่
ข้างๆ เป็ นตัวประกอบอย่างซื่อสัตย์กย็ งั รู ้สึกตกใจ จักรพรรดิยงเซ
วียนอายุเพียงสี่ สิบปี กาลังอยูใ่ นยุคทองของการทางาน ไม่วา่ อย่างไร
ก็ไม่อาจพูดได้วา่ อายุปูนนี้!
“เสด็จลุงอย่าทาให้หลานลาบากใจเลยพะยะค่ะ หลานไม่มีปณิ ธาน
ยิง่ ใหญ่อะไร ได้รับพระมหากรุ ณาธิคุณจากเสด็จลุง หลานได้เป็ น
จวิน๋ อ๋ องแล้ว ชาติน้ ีกเ็ พียงพอแล้ว” สวีโย่วไม่หลงกลเลยแม้แต่นอ้ ย
ชีวิตคนบนโลกก็มีเพียงอานาจและความร่ ารวย สองอย่างนี้เขาไม่
ขาดตกบกพร่ อง ไยจะต้องแสวงหาช่องทางประจบผูม้ ีอานาจให้ได้
“ยิง่ ไปกว่านั้นหลานเพิง่ แต่งงานหมาดๆ ไม่มีกระจิตกระใจจริ งๆ”
เพิ่งจะแต่งภรรยา ยังออดออ้นไม่พอเลย ตัดใจทิ้งภรรยาที่งดงามดัง่
บุปผาไว้ในจวนไม่ได้
ความเจ็บป่ วยรุ มเร้าร่ างกายทาให้สวีโย่วมองเห็นเรื่ องราวบนโล่งจน
ทะลุปรุ โปร่ งแล้ว เขาคิดว่าชีวิตในอุดมคติที่สุดก็คือการมีภรรยา
บุตรปราศจากเรื่ องทุกข์ใจ พาน้องสี่ แซ่เสิ่ นไปท่องเที่ยวพเนจร
เช้าตรู่ ข้ ึนเขา ตกบ่ายล่องเรื อ แค่คิดก็พอใจอย่างถึงที่สุดแล้ว
“เจ้ามันคนไม่มีอนาคต” จักรพรรดิยงเซวียนชี้จมูกของสวีโย่วแล้ว
ยิม้ ด่า ยังไม่ทนั เข้าราชสานักก็ปฏิเสธงานแล้ว ไหนเลยจะมีเรื่ อง
เช่นนี้
จักรพรรดิยงเซวียนยังอยากจะพูดอะไรอีก ก็ได้ยนิ เสี ยงขององค์ชาย
รองดังเข้ามาจากนอกห้องหนังสื อส่ วนพระองค์ รอยยิม้ บนใบหน้า
เขาก็หุบลงทันที “เหล่าเอ้อร์มาแล้วหรื อ เข้ามาเถิด”
จากนั้นจึงเห็นองค์ชายรองที่สง่าผ่าเผยอมยิม้ เดินเข้ามา ผูท้ ี่เข้ามา
พร้อมกับเขายังมีองค์ชายสี่ เขาเป็ นพระราชบุตรของฮองเฮา หลายปี
ก่อนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็ นไท่จื่อ
จักรพรรดิยงเซวียนประหลาดใจเล็กน้อย บุตรสองคนนี้มาด้วยกัน
ได้อย่างไร
“พวกลูกถวายบังคมเสด็จพ่อ ลูกทราบมาว่าวันนี้เสด็จพี่พาพี่สะใภ้
คนใหม่มาเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ ลูกจึงตั้งใจมาร่ วมยินดี ระหว่างทาง
บังเอิญพบไท่จื่อ จึงมาพร้อมกัน” องค์ชายรองอธิบายเหตุผลที่เขามา
พร้อมกับไท่จื่อ
ไท่จื่อเองก็กล่าว “ตอนที่เสด็จพี่โย่วสมรส ลูกร่ างกายไม่ค่อยสบาย
นัก จึงไม่อาจไปแสดงความยินดีดว้ ยตัวเองได้ ลูกไม่ได้เจอเสด็จ
พี่โย่วนานแล้ว ในใจก็คิดถึง วันนี้เสด็จพี่โย่วเข้าวังมาเข้าเฝ้า ลูกจึง
ร้อนใจอยากมาหา”
แม้วา่ องค์ชายรองกับไท่จื่อจะเรี ยกสวีโย่วว่าเสด็จพี่ แต่อย่างไร
ราชวงศ์และขุนนางก็มีความแตกต่าง สวีโย่วยังคงนาเสิ่ นเวยทา
ความเคารพพวกเขา ทั้งสองคนย่อมเลี่ยงการเคารพด้วยความเกรงใจ
อย่างยิง่
เสิ่ นเวยชายตามองคนทั้งสองปราดหนึ่งอย่างรวดเร็ ว เห็นองค์ชาย
รองและไท่จื่อหน้าตาดีใช้ได้ ก็ใช่ ราชนิกลุ จะมีคนขี้เหร่ ได้อย่างไร
เพียงแต่เทียบกับองค์ชายรองที่องอาจผ่าเผย ท่านไท่จื่อก็อ่อนแอกว่า
มาก ไม่เพียงแต่ส่วนสู งเตี้ยกว่าสองสามชุ่น แม้แต่พลังที่ออกมาจาก
ร่ างก็อ่อนกว่าสามส่ วน
มีองค์ชายที่โดเด่นผูห้ นึ่งเช่นนี้อยูข่ า้ งกาย มิน่าเล่าความยโสโอหัง
ของของซูเฟยจึงสู งเพียงนั้น
มีองค์ชายสองคนเพิม่ เข้ามา บทสนทนาที่ถูกตัดไปย่อมไม่อาจพูด
ขึ้นได้อีก เสิ่ นเวยก็เป็ นตัวประกอบฉากต่อ เดิมสวีโย่วก็พดู ไม่เยอะ
อยูแ่ ล้ว ตอบรับประโยคสองประโยคเป็ นบางครั้ง คนที่พดู เยอะกลับ
เป็ นจักรพรรดิยงเซวียนสามพ่อลูก
เสิ่ นเวยมองดูอย่างเย็นชา องค์ชายรองไม่เพียงแต่องอาจผ่าเผยกว่า
ไท่จื่อ แต่ยงั พูดจาเป็ นยิง่ กว่าเขา บนใบหน้าเขามีรอยยิม้ น้อยๆ ที่
อบอุ่น ท่าทางสุ ภาพมีมารยาท แต่ละประโยคที่พดู คล้ายทาให้
จักรพรรดิยงเซวียนยิม้ ในใจได้ เขาเทียบไท่จื่อไม่ได้ ไท่จื่ออยูต่ ่อ
หน้าพระพักตร์จกั รพรรดิยงเซวียนอึดอัดเล็กน้อย ไม่เป็ นธรรมชาติ
เหมือนองค์ชายรอง แม้เขาจะพยายามซ่อนจุดๆ นี้ แต่เสิ่ นเวยก็ยงั คง
สังเกตเห็น
เมื่อคิดดูให้ดีเรื่ องนี้กไ็ ม่แปลก องค์ชายรองอายุมากกว่าไท่จื่อห
ลายปั ลาดับก็อยูห่ น้าๆ ความสัมพันธ์ที่มีต่อจักรพรรดิยงเซียนก็
ลึกซึ้ง อีกทั้งแม้วา่ เขาจะเป็ นบุตรของจักรพรรดิยงเซวียน แต่คนหนึ่ง
เป็ นองค์ชาย อีกคนหนึ่งเป็ นไท่จื่อ อย่างไรเสี ยฐานะก็ไม่เหมือนกัน
จักรพรรดิยงเซวียนอาจจะมีใจเมตตาต่อลูกมากกว่าหลายส่ วน แต่
กลับสัง่ สอนไท่จื่อเข้มงวดอย่างถึงที่สุด จึงเป็ นเหตุผลที่ไท่จื่ออยูต่ ่อ
หน้าพระพักตร์จกั รพรรดิยงเซวียนแล้วอึดอัดอย่างยิง่
ดวงตาของเสิ่ นเวยกะพริ บวาบ จู่ๆ ก็นึกได้วา่ องค์ชายที่อายุสิบห้าปี
ขึ้นไปของจักรพรรดิยงเซวียน
คล้ายมีหกเจ็ดคน ตอนนี้นางเพิ่งจะเห็นเพียงแค่สองคน องค์ชายคน
อื่นๆ องอาจผ่าเผยเหมือนองค์ชายรอง หรื อจะอ่อนแอเหมือนอย่าง
ไท่จื่อ แม้วา่ ไท่จื่อจะได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์แล้ว แต่เป็ นลูก
ชายของจักรพรรดิยงเซวียนเหมือนกันพวกเขาจะยินยอมได้อย่างไร
องค์ชายที่ไม่อยากเป็ นฮ่องเต้ไม่ใช่องค์ชายที่ดี จักรพรรดิยงเซวียน
ไม่กลัวพวกเขาทะเลาะกันเองในหมู่พี่นอ้ งหรื อ
ความคิดนี้อยูใ่ นสมองเสิ่ นเวยเพียงแค่ชวั่ แวบหนึ่ง แม้จะทะเลาะกัน
ในหมู่พี่นอ้ งแล้วอย่างไร เกี่ยวอะไรกับนางสักทองแดงเดียวหรื อไม่
นางแทะถัว่ รอชมอย่างมากก็ขนม้านัง่ เล็กมานัง่ ชมความสนุกอยู่
ข้างๆ ก็พอแล้ว
เร็ วอย่างยิง่ สวีโย่วก็พาเสิ่ นเวยกราบลาออกมา ตอนที่กลับไปถึงจวน
จิ้นอ๋ องฟ้าก็มืดพอดี สวีโย่วมองโคมไฟสี แดงที่แขวนอยูห่ น้าเรื อน
ในใจก็อบอุ่น กุมมือเสิ่ นเวยข้างกายแน่นอย่างอดไม่ได้ เสิ่ นเวยมอง
เขาปราดหนึ่งด้วยความประหลาดใจ ไม่ได้สะบัดออกอย่างเชื่อฟัง
อาหารมื้อเย็นยังคงกินในเรื อน กลับไม่ใช่เสิ่ นเวยที่ทะนงตน แต่พระ
ชายาจิ้นอ๋ องเข้าใจความรู ้สึกมากเป็ นพิเศษ ตั้งแต่พวกเขากลับมาจาก
วังพระชายาจิ้นอ๋ องก็ส่งคนมาบอกว่าเห็นใจพวกเขาสองสามีภรรยา
ที่เหน็ดเหนื่อยมาอย่างยิง่ ไม่จาเป็ นต้องไปเคารพแล้ว
เสิ่ นเวยย่อมเชื่อฟังอย่างยิง่ วันนี้นางเหนื่อยจริ งๆ จึงไม่สนว่าพระ
ชายาจิ้นอ๋ องจะพูดจากใจจริ งหรื อว่าเสแสร้ง เพียงแค่พายเรื อตามน้ า
ส่ งแม่นมมัว่ ไปรายงานสถานการณ์เข้าวังน้อมราลึกพระมหา
กรุ ณาธิคุณ และถือโอกาสฝากความซาบซึ้งนับไม่ถว้ นของนางไป
ด้วย
ทานข้าวเย็นเสร็ จแล้ว เสิ่ นเวยก็หยิบบันทึกการท่องเที่ยวหนึ่งเล่มพิง
ตัง่ อ่านอย่างผ่านๆ หลีฮวาพาเด็กรับใช้สองคนมานวดไหล่ทุบขาให้
นาง สบายยิง่ นัก เสิ่ นเวยสะลึมสะลือจะหลับอยูแ่ ล้ว
ภาพที่สวีโย่วมองเห็นตอนที่เดินออกมาจากห้องด้านในก็คือภาพ
หญิงงามสะลึมสะลือภาพนี้ เขาโบกมือไล่หลีฮวาและคนอื่นๆ พวก
นางลังเลเล็กน้อยแต่กย็ งั คงถอยออกไปเงียบๆ
มือของสวีโย่ววางลงบบ่าเสิ่ นเวยนางก็รู้สึกตัวแล้ว แรงมือไม่
เหมือนกันอย่างสิ้ นเชิง “เป็ นท่านนี่เอง!” เสิ่ นเวยลืมตามองเขาปราด
หนึ่ง จากนั้นก็หรี่ ตาเสพสาราญต่อไป
สวีโย่วยกมุมปาก นวดไปนวดมามือใหญ่หนึ่งคู่กเ็ ลื่อนลงไปข้างล่าง
ตามไหล่ของเสิ่ นเวย ถูกอุง้ มือของเสิ่ นเวยปั ดออก “ดีๆ หน่อย”
เสิ่ นเวยถลึงตาใส่ เขาอย่างไม่พอใจ สวีโย่วเลิกคิ้ว ไม่ได้พดู อะไร มือ
ใหญ่ๆ เลื่อนกลับไปตามไหล่ลงมือนวดต่อ แต่ผา่ นไปไม่นานเขาก็
เล่นลูกไม้เดิม ทาเสิ่ นเวยโมโหอยูพ่ กั หนึ่งจนลุกขึ้นนัง่ ในช่องฟันมี
คาไม่กี่คาเค้นออกมา “ให้คนนอนดีๆ ได้หรื อไม่” ฤดูใบไม้ผลิ
เหนื่อยง่ายฤดูใบไม่ร่วงก็ง่วงง่าย ตอนนี้นางง่วงยิง่ นักรู ้หรื อไม่
ทว่าสวีโย่วกลับแสดงท่าทีไร้เดียงสาอย่างสิ้ นเชิง “เจ้าก็นอนไปสิ ข้า
ก็ช่วยเจ้านวดไหล่อยูม่ ิใช่หรื อ”
เสิ่ นเวยถลึงตาใส่ สวีโย่วอย่างสุ ดชีวิต นัน่ เจ้านวดไหล่หรื อ เจ้ามัน่ ใจ
หรื อว่าที่เจ้านวดคือไหล่
เสิ่ นเวยปัดมือสวีโย่วออก โยนบันทึกการท่องเที่ยวทิ้ง โมโหเดือด
ดาลเดินไปที่เตียงใหญ่ ยังไม่ลืมหันหน้ากลับมาเตือน “ท่าน ห้ามเข้า
มา”
สวีโย่วอารมณ์ดีทนั ที น้องสี่ แซ่เสิ่ นโง่แล้วหรื อ นัน่ คือเตียงห้องหอ
ของพวกเขา เขาไม่เข้าไปแล้วจะไปไหน แต่เพราะว่าเด็กน้อยโมโห
แล้ว เขารออีกสักพักค่อยเข้าไปดีกว่า
พระชายาจิ้นอ๋ องได้ยนิ คารายงานของแม่นมมัว่ ในปากก็สวดอมิตา
พุทธ กล่าวด้วยความดีใจทั้งใบหน้า “ข้าบอกแล้วว่าภรรยาโย่วเอ๋ อร์
เป็ นเด็กที่มีวาสนา ดูสิ ไม่เพียงแต่ฮองเฮาเหนียงเหนียงชอบ แม้
แต่กยุ้ เฟยเหนียงเหนียงกับซูเฟยเหนียงเหนียงต่างก็ชอบนางเช่นกัน
ขอบคุณฟ้าดิน ในที่สุดจิตใจของข้าก็เบาลงแล้ว”
แม่นมซือที่อยูข่ า้ งๆ ก็กล่าวหยอกล้อ “ตั้งแต่ที่องค์หญิงใหญ่กบั ฮู
หยินใหญ่ออกจากประตูใหญ่จวนอ๋ อง พระชายาของพวกเราก็เป็ น
ห่วงแล้ว ประเดี๋ยวเดียวก็ถามว่าคุณชายใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่กลับ
มาแล้วหรื อยัง ตอนนี้รู้วา่ ฮูหยินใหญ่ได้ความโปรดปรานจากคนสู ง
ศักดิ์ในวัง จิตใจที่เป็ นกังวลของพระชายาก็เบาลงได้เสี ยที”
“เฮ้อ พูดเรื่ องนี้ทาไมกัน โย่วเอ๋ อร์สองสามีภรรยากลับมาอย่าง
ปลอดภัยก็ดีแล้ว” พระชายาจิ้นอ๋ องโบกมือห้ามคาพูดของแม่นมซือ
จู่ๆ ก็ถอนหายใจหนึ่งครา “คนเป็ นพ่อเป็ นแม่กเ็ ป็ นเช่นนี้มิใช่หรื อ
ภรรยาโย่วเอ๋ อร์เป็ นคนโอนอ่อนผ่อนตาม ข้าก็ตอ้ งใส่ ใจนางให้มาก
มิใช่หรื อ ลาบากเด็กคนนี้มาทั้งวันยังจะคิดให้นางมาบอกข้าอีกหรื อ
ข้าว่า พรุ่ งนี้ค่อยมาก็เหมือนกัน”
แม่นมมัว่ เป็ นใครกัน จะฟังความหมายในคาพูดของพระชายาจิ้
นอ๋ องไม่ออกได้อย่างไร ต่อหน้าพูดว่าฮูหยินใหญ่คิดรอบคอบ แต่
อันที่จริ งลับหลังกลับตาหนิวา่ เคารพแม่สามีไม่พอ ส่ งแม่นมมาได้
แต่ตนมาเองไม่ได้ง้นั หรื อ เหนื่อยหรื อ คนเป็ นภรรยาที่ไหนบ้างไม่
เหนื่อย
ทว่าแม่นมมัว่ กลับมีสีหน้าเรี ยบเฉย “ฮูหยินของพวกเราอยากมา
พูดคุยกับพระชายาด้วยตัวเอง แต่กก็ ลัวจะรบกวนการพักผ่อนของ
พระชายา คุณชายใหญ่เองก็บอกว่าให้เชื่อฟังพระชายาค่อยมาพรุ่ งนี้
อีกทั้งยังบอกว่าพระชายาใจกว้างเมตตาต่อชนรุ่ นหลังที่สุด ไม่อาจ
คิดเล็กคิดน้อยกับนางได้”
เจ้าพูดมา ข้าก็พดู กลับ กตัญญูเชื่อฟัง กตัญญูเชื่อฟัง ไม่เพียงแต่
กตัญญู ซ้ ายังเชื่อฟังอีกด้วย อะไรที่เรี ยกว่าเชื่อฟังงั้นหรื อ นัน่ ก็คือทา
ตามที่ผอู ้ าวุโสบอก ท่านดูสิ คาพูดที่ท่านพูดฮูหยินของพวกเราต่างก็
เชื่อฟัง
รอยยิม้ บนใบหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องจางลงเล็กน้อย นางชายตามอง
แม่นมมัว่ เห็นความตื้นตันบนใบหน้านาง ท่าทางเคารพ ในใจก็ผอ่ น
คลายลงเล็กน้อย จากนั้นก็กาชับอีกไม่กี่ประโยคก็ไล่นางออกไป
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 218-2 ตื่นเช้ าไปเคารพ
หลังแม่นมมัว่ กลับไป สี หน้าบนใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องก็เก็บ
จนหมดจด นางพิงลงบนเก้าอี้ ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง คิ้วขมวดมุ่น ดู
ดุดนั ขึ้นหลานส่ วน
“แม่นมคิดว่าฮูหยินผูน้ ้ ีของพวกเราเป็ นคนอย่างไร” แม่นมซือกาลัง
ตกตะลึง ก็ได้ยนิ พระชายาถาม
แม่นมซือรี บตั้งสติกา้ วขึ้นมา ในใจนางเข้าใจว่าพระชายาถามอะไร
“ทูลพระชายา บ่าวคิดว่าฮูหยินใหญ่น่าจะไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น
ฐานะอยูท่ ี่นนั่ จะรู ้ประสี ประสาอะไรได้ ยิง่ ไปว่านั้นคุณชาย
ใหญ่…” นางลอบมองสี หน้าของพระชายาไม่ได้พดู ต่อ
พระชายาจิ้นอ๋ องพยักหน้า เข้าใจเจตนาของนาง หลุบตาลงคล้าย
กาลังครุ่ นคิด อันที่จริ งนางเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน เสิ่ นซื่อเป็ น
บุตรสาวที่เติบโตในชนบท ไม่เคยเรี ยนกฎมารยาทมาก่อน ช่วงเวลา
ที่แม่นมมัว่ มาอยูข่ า้ งกายนางก็มีจากัด ต่อให้นางจะฉลาดมีความรู ้ก็
ไม่อาจเก่งขึ้นมาในภายในช่วงเวลาสั้นๆ ยิง่ ไปกว่านั้นนางก็ไม่ใช่คน
ฉลาด เพียงแค่หน้าตาสละสลวยก็เท่านั้นเอง
อีกทั้งคุณชายใหญ่คนชัว่ ผูน้ ้ นั ก็ไม่รู้จกั เคารพคนที่เด็กกว่า เขาพูด
หนึ่งประโยคนางจะไม่ฟังได้หรื อ คาดว่าเขาคงจะห้ามไม่ให้มา
คนเป็ นภรรยาย่อมต้องไปเคารพแม่สามี เสิ่ นเวยเองก็ไม่คิดจะท้าทาย
ประเพณี นางใช้ชีวิตในจวนจงอู่โหวอย่างสุ ขสบาย นั้นล้วนเป็ น
เพราะใครบางคนทาออกมาด้วยตัวเอง อันที่จริ งนางยังเคารพผู ้
อาวุโสรักเด็กมีใจกตัญญูรู้จกั กฎระเบียบมีมารยาทอย่างยิง่ …เป็ นคน
ดีต่างๆ นานา
ช่วงเวลาเคารพจิ้นหวังเวยเป็ นยามเฉิ น นี่เป็ นข่าวที่เหอฮวาไปสื บ
ถามกลับมา เพราะว่านอนเร็วแต่หวั วัน วันรุ่ งขึ้นเสิ่ นเวยจึงตื่นเช้า
อย่างยิง่ เมื่อนางหวีผมล้างหน้าแต่งตัวเสร็ จเดินออกมาจากห้อง บน
โต๊ะข้างนอกก็มีอาหารเช้าวางอยูเ่ รี ยบร้อยแล้ว สวีโย่วนัง่ ไขว่หา้ งรอ
นางอยู่
เสิ่ นเวยประหลาดใจอย่างยิง่ ลูกสะใภ้ในยุคโบราณเคารพแม่สามี
ต่างก็ทอ้ งว่างมิใช่หรื อ หลังจากนั้นก็มีแม่สามีใจร้ายเหล่านั้นก็ต้ งั ใจ
ถ่วงเวลาเพื่อที่จะทรมานลูกสะใภ้ ให้ลูกสะใภ้ปรนนิบตั ิตวั เองทาน
อาหารเช้าขณะที่ทอ้ งหิวอยู่
สวีโย่วย่อมมองความคิดของเสิ่ นเวยออก กล่าวด้วยท่าทีจริ งจัง “รี บ
เข้ามาทานข้าวเถอะ พระชายาเมตตา ไม่อาจทารุ ณสะใภ้หรอก” เขา
ไม่ใช่คนโง่ จะให้ภรรยาของตัวเองท้องหิ วไปเคารพพระชายาจิ้
นอ๋ องได้
อย่างไร เขาบอกว่าจะดูแลภรรยาให้ดีไม่ใช่คาพูดส่ งเดช
เสิ่ นเวยก้าวฝี เท้าที่เบาเร็ วเดินเข้าไป ในเมื่อนายท่านผูด้ ูแลบ้านก็พดู
แล้ว เสิ่ นเวยย่อมไม่อยากหิวแต่เช้า กินอิ่มแล้วจึงจะมีพลังไปเคารพ
มิใช่หรื อ ตอนแรกที่เพิง่ กลับจวนไปเคารพท่านย่าและหลิวซื่อนาง
เองก็กินจนท้องอิ่ม คนโง่เท่านั้นที่จะทาให้ตวั เองหิ วท้องร้อง
เพราะว่าอารมณ์ดี ดังนั้นความอยากอาหารของเสิ่ นเวยก็ดีเช่นกัน
เช้าตรู่ มีน้ าแกงหนึ่งถ้วยเพิ่มขึ้นมาจากเมื่อคืน
“ไปเถอะ” สวีโย่วเห็นเสิ่ นเวยวางตะเกียบลงจึงกล่าว
เสิ่ นเวยประหลาดใจอีกครั้ง “ท่านจะไปกับข้าหรื อ ไม่ตอ้ งหรอก
ท่านไปทาธุระของท่านเถอะ ข้าไปคนเดียวได้” ก็แค่เคารพไม่ใช่
หรื อ ไม่ได้จะไปบุกถ้ าเสื อมังกร ใช้เวลาไม่นานนางก็จดั การได้แล้ว
สี หน้าบนใบหน้าสวีโย่วจริ งจัง “ฮูหยินพูดผิดแล้ว แคว้นต้ายงของ
เราให้ความสาคัญกับความกตัญญูที่สุด คนเป็ นลูกจะไม่ไปเคารพผู ้
อาวุโสได้อย่างไร ฮูหยิน พวกเราไปกันเถอะ”
เห็นท่าทางเด็ดเดี่ยวแน่วแน่เช่นนั้นของสวีโย่ว เสิ่ นเวยก็แสยะปาก
อย่างไม่เห็นด้วย หมอนี่กแ็ ค่พดู จาน่าฟังใช่หรื อไม่ เมื่อวานนางเห็น
ชัดเจนแจ่มแจ้ง เขาไม่มีจิตใจกตัญญูต่อพ่อของเขาเลย แล้ว
นับประสาอะไรกับแม่เลี้ยง เขาจะไปสร้างความราคาญใจให้แม่เลี้ยง
มากกว่ากระมัง
นอกจากนี้เสิ่ นเวยยังไม่แน่ใจว่าผูช้ ายยุคโบราณใช่ตอ้ งเคารพผู ้
อาวุโสหรื อไม่ ตอนที่นางอยูท่ ี่จวนโหวก็ไปเคารพท่านย่าเพียงไม่กี่
ครั้ง บางครั้งก็บงั เอิญเจอเหล่าพี่ชายน้องชาย ส่ วนพ่อนางและท่าน
ลุงทั้งหลายของนาง ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน หรื อว่าช่วงเวลาเคารพของ
ผูช้ ายเช้ากว่า เสิ่ นเวยไม่แน่ใจจริ งๆ
แต่วา่ ในเมื่อสวีโย่วยินดีไปเป็ นเพื่อนนางเช่นนั้นก็ยงิ่ ดี พระชายาจิ้
นอ๋ องคงจะไม่ทาให้นางลาบากใจต่อหน้าลูกเลี้ยงหรอกกระมัง
เช้าตรู่ ในต้นฤดูร้อนยังคงเย็นสบายอย่างยิง่ เสิ่ นเวยรับลมเย็นสบาย
ใจยิง่ นัก ตอนที่เดินไปได้ครึ่ งทางก็พบฮูหยินซื่อจื่ออู๋ซื่อที่ไปเคารพ
เหมือนกันพอดี ทั้งสองคนหยุดทักทาย
อันที่จริ งอู๋ซื่อเห็นพี่ใหญ่สามีขา้ งกายพี่สะใภ้ใหญ่มาแต่ไกลแล้ว ใน
แววตาก็มีความประหลาดใจแวบผ่าน ในจวนอ๋ องใครบ้างไม่รู้วา่ พี่
ใหญ่สามีไม่เคยเคารพพระชายามาก่อน คราวนี้กลับไปเป็ นเพื่อน
ภรรยาที่เพิ่งแต่งงาน ดูท่าแล้วพี่สะใภ้ใหญ่จะกุมหัวใจของพี่ใหญ่
สามีได้ดีอย่างยิง่ ! กลัวว่าพีส่ ะใภ้ใหญ่จะได้รับความไม่เป็ นธรรมที่
เรื อนพระชายา เมื่อคิดอีกมุม พี่สะใภ้ใหญ่น่าตาดีเพียงนั้น นิสยั ก็
อ่อนโยน อายุยงั น้อยกว่าพี่ใหญ่สามีเจ็ดแปดปี หากเป็ นนางก็คงไม่
วางใจเช่นกัน
อู๋ซื่อกล่าวอย่างเป็ นมิตร “บังเอิญจริ งๆ พบพี่สะใภ้พี่ใหญ่แล้ว พี่
ใหญ่ยงั มาเคารพเสด็จแม่เป็ นเพื่อนพีส่ ะใภ้ใหญ่ดว้ ย ความรักใคร่ น้ ี
ช่างน่าอิจฉาจริ งๆ” นางปิ ดปากหัวเราะหยอกเล่น
“น้องสะใภ้รองอย่าหยอกล้อเลย” เสิ่ นเวยหน้าแดงเหลือบมองสวี
โย่วปราดหนึ่งอย่างรวดเร็ ว หลุบตาลงด้วยใบหน้าหวานเยิม้ ทั้งใบ
ท่าทางเขินอายอย่างถึงที่สุด
เดิมหน้าตาก็ดีอย่างถึงที่สุด จู่ๆ ก็ดูดีข้ ึนสามส่ วนอย่างไม่มีเหตุผล อู๋
ซื่อมองจนละสายตาไม่ได้ ถอนหายใจในใจ อายุนอ้ ยดียงิ่ นัก!
พี่สะใภ้ใหญ่อ่อนหวานราวกับดอกไม้งามบนกิ่งไม้ ใบหน้าเล็กๆ
นั้นหวานจนแทบจะบีบน้ าออกมาได้แล้ว ยิง่ เป็ นหญิงงามที่ไม่รู้
ประสานัก พี่ใหญ่สามีจะไม่รักไม่หลงแย่เลยหรื อ
หลังจากนั้นมือของนางก็ลูบหน้าตัวเองอย่างไม่รู้ตวั ซื่อจื่ออายุเท่าพี่
ใหญ่สามี เพียงแต่เด็กกว่าสามเดือน ตนก็อายุนอ้ ยกว่าซื่อจื่อหนึ่งปี
โตกว่าพี่สะใภ้ใหญ่นอ้ ยตรงหน้าหกเจ็ดปี เต็มๆ ไม่ตอ้ งตบแป้งทา
ชาดใบหน้านั้นก็มองไม่ได้แล้ว ไหนเลยจะเหมือนพีส่ ะใภ้ใหญ่นอ้ ย
เพียงแค่เขียนคิ้วลวกๆ แต้มชาดที่ปากก็งดงามจนทาให้คนตกตะลึง
แล้ว
แก่แล้ว แก่แล้ว! แม้วา่ ซื่อจื่อจะปฏิบตั ิต่อนางด้วยความเคารพ แต่
อย่างไรเสี ยก็ยงั เทียบไม่ได้กบั คนตรงหน้า
อู๋ซื่อถอนหายใจอย่างเจ็บปวด ประคองแขนของเสิ่ นเวยเดินไปที่
เรื อนของพระชายาจิ้นอ๋ องด้วยกัน
ตอนที่พวกนางเข้าไปพระชายาจิ้นอ๋ องกาลังหวีผมอยู่ แม่นมซือถาม
เสี ยงเบาว่าวันนี้นางจะใช้เครื่ องประดับชิ้นไหน เสิ่ นเวยกับอู๋ซื่อย่อ
ตัวเคารพนาง นางยังยิม้ ถามหนึ่งประโยค “พวกเจ้าพี่สะใภ้
น้องสะใภ้มาด้วยกันได้อย่างไร”
ฟังว่าพวกนางเจอกันระหว่างทาง พระชายาจิ้นอ๋ องก็พยักหน้า กล่าว
ด้วยใบหน้ายิม้ แย้ม “พวกเจ้าพี่สะใภ้นอ้ งสะใภ้เข้ากันได้ดีขา้ ก็วางใจ
ภรรยาเยีย่ เอ๋ อร์เจ้าเข้าเรื อนมาเร็ วกว่าหน่อย ทั้งยังช่วยข้าจัดการเรื่ อง
ครัวในจวน ต้องช่วยพี่สะใภ้เจ้าให้มากหน่อย นางอายุยงั น้อย แต่
อย่างไรเสี ยก็เป็ นพี่สะใภ้ เจ้ากับภรรยาของสิ งเอ๋ อร์ตอ้ งเคารพนาง
ครอบครัวพวกเรารักใคร่ ปรองดอง ข้ากับเสด็จพ่อของพวกเจ้าก็ไม่มี
ความปรารถนาอื่นแล้ว”
เสิ่ นเวยกับอู๋ซื่อย่อมขานรับพร้อมกัน
พระชายาจิ้นอ๋ องเหลือบมองตัวเองในกระจกปราดหนึ่ง เปลี่ยนเรื่ อง
กล่าว “ภรรยาโย่วเอ๋ อร์มานี่ ช่วยแม่เลือกเครื่ องประดับสักชิ้น”
เสิ่ นเวยจับต้นชนปลายไม่ถูกเล็กน้อย ยังคงเป็ นอู๋ซื่อที่ผลักนาง
เล็กน้อยนางจึงได้สติกลับมา ใบหน้างามแดงระเรื่ อก่อน “เสด็จแม่
ลูกไม่มีความรู ้ หากเลือกชิ้นที่ท่านไม่ชอบ ท่านอย่าได้โกรธลูกนะเพ
คะ!”
ท่าทางเด็กผูห้ ญิงตัวน้อยที่ไร้เดียงสาทาให้พระชายาจิ้นอ๋ องหัวเราะ
ออกมาในชัว่ พริ บตา “ไม่โกรธ ไม่โกรธ นี่เป็ นชิ้นที่ลูกสะใภ้ใหญ่
ของข้าเลือกให้กบั มือ ต่อให้เจ้าเลือกไม้มาแม่กม็ ีความสุ ข”
ใบหน้าของเสิ่ นเวยแดงก่ากว่าเดิม อู๋ซื่อเองก็หยอกล้อ โวยวายบอก
ว่าเสด็จแม่ลาเอียง มีลูกสะใภ้ใหม่แล้วไม่ตอ้ งการลูกสะใภ้เก่าเช่น
นางแล้ว พระชายารี บปลอบนาง “ต้องการสิ สะใภ้ที่เก่งเช่นนี้จะไม่
ต้องการได้อย่างไร” แม่สามีลูกสะใภ้เล่นลูกไม้คารมกันพักหนึ่ง
เสิ่ นเวยก้าวขึ้นไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ เลือกอยูใ่ น**บเครื่ อง
ประดับของพระชายาจิ้นอ๋ องอยูน่ าน จึงเลือกปิ่ นระย้าทองที่หนัก
อย่างถึงที่สุดออกมาหนึ่งอัน ยกไปตรงหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องราวกับ
มอบสิ่ งของล้ าค่า “เสด็จแม่ ลูกเลือกได้แล้ว ท่านว่าอันนี้เป็ นอย่างไร
ลูกคิดว่ามีเพียงปิ่ นระย้าที่หรู หราอันนี้จึงจะเหมาะสมกับฐานะที่
สู งส่ งของท่าน ชิ้นอื่นเหล่านั้นต่างก็จืดชืดเกินไป”
บนใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องมีบางอย่างแวบผ่านไปอย่างรวดเร็ ว
ทันใดนั้นก็ยกยิม้ “ดี ดี ภรรยาโย่วเอ๋ อร์ตาดี เร็ ว ช่วยเสี ยบไว้บนผม
แม่เร็ ว”
อู๋ซื่อที่ยนื อยูข่ า้ งหน้าแทบจะปากอ้าตาค้างแล้ว เครื่ องประดับเต็ม**
บแต่กลับเลือกปิ่ นระย้าทองชิ้นนี้ที่ไม่มีรสนิยมงั้นหรื อ พี่สะใภ้ใหญ่
เป็ นคนอย่างไร แต่เมื่อคิดถึงฐานะเดิมของนางก็เข้าใจแล้ว จวนจงอู่
โหวเป็ นตระกูลเศรษฐีใหม่มิใช่หรื อ มุมปากแสยะ ในใจก็เหยียด
หยามขึ้นมา
เสิ่ นเวยปักปิ่ นระย้าทองไว้ในผมของพระชายาจิ้นอ๋ องด้วยความ
เคารพนอบน้อม มองพระชายาจิ้นอ๋ องในกระจกที่มีเสน่ห์ลดลงสอง
เท่าในชัว่ ขณะ อารมณ์ของเสิ่ นเวยก็ดีอย่างยิง่ กล่าวชม “เสด็จแม่สง่า
ผ่าเผยจริ งๆ!”
พระชายาจิ้นอ๋ องเป็ นทุกข์จนไม่อาจพูด เพราะว่าเอ่ยปากไว้ก่อนแล้ว
ต่อให้ไม่พอใจก็ไม่อาจว่าอะไรได้ ยังคงฝื นใจชมเสิ่ นเวยว่าตาดี นาง
อัดอั้นจะตายอยูแ่ ล้ว
ไม่พอใจแต่ทาอะไรไม่ได้ นางถือโอกาสเบนหน้าหนีไม่มองตัวเอง
ในกระจกเสี ย
เสิ่ นเวยไม่สนว่าความรู ้สึกของพระชายาจิ้นอ๋ องจะเป็ นเช่นไร ตาม
หลักการเจ้าไม่พอใจข้าจึงจะพอใจ เสิ่ นเวยตัดสิ นใจว่าจะทางาน
สร้างความราคาญใจให้พระชายาจิ้นอ๋ องไปจนถึงที่สุด
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 219-1 สร้ างความราคาญใจต่ อเนื่อง
“เคารพพระชายา” สวีโย่วที่รออยูข่ า้ งนอกกล่าวเสี ยงเรี ยบ ช่วงเวลา
ส่ วนใหญ่เขายังคงเรี ยกจิ้น
พระชายาว่าพระชายา ไม่ใช่เสด็จแม่ เสด็จแม่ของเขาคือคนอื่น แม้
นางจะจากไปนานแล้ว ซ้ ายังให้ร่างกายที่ทรุ ดโทรมแก่เขาไว้ แต่เขา
ก็ยงั ไม่คิดจะเปลี่ยนเสด็จแม่คนใหม่
พระชายาจิ้นอ๋ องเดินออกมาจากห้องด้านใน ก็เห็นลูกเลี้ยงนัง่ ดื่มชา
อยูข่ า้ งนอก ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ ต้องรู ้วา่ คุณชายใหญ่ท่านนี้ไม่
เคยเคารพตนมาก่อน นางไม่ใช่ไม่เคยคิดจะร้องทุกข์เรื่ องนี้ แต่นาง
เพิ่งจะเอ่ยปากก็ถูกองค์หญิงใหญ่เปลี่ยนคาพูด ขึ้นเสี ยงสู งชื่นชมนาง
ว่าเป็ นสตรี มีสติปัญญา บอกว่านางเห็นใจคุณชายใหญ่ที่ร่างกาย
อ่อนแอ ยังตั้งใจเลี่ยงการเคารพของเขา เป็ นสตรมีคุณธรรมที่หาได้
ยากในราชสานัก คนอื่นๆ ย่อมพากันเห็นด้วย นางถูกดักทางแล้ว
ย่อมไม่กล้าเอ่ยเรื่ องคุณชายใหญ่ไม่เคยเคารพนางขึ้นมาอีก และ
ตั้งแต่ตอนนั้นเอง นางกับองค์หญิงใหญ่กไ็ ม่ถูกกันมากขึ้นเรื่ อยๆ
บางครั้งเจอหน้าก็ยงั นิ่งเฉย
ตอนนี้คุณชายใหญ่ผนู ้ ้ ีคาดไม่ถึงว่ามาเคารพนางเป็ นครั้งแรก นาง
มองเสิ่ นซื่อที่นอบน้อมเชื่อฟังปราดหนึ่ง คล้ายคิดอะไรอยู่ บน
ใบหน้าก็มีรอยยิม้ ที่เป็ นมิตรปรากฏขึ้นอีกครั้ง กล่าวหยอกล้อ “เฮ้อ
อย่างไรเสี ยก็เป็ นคู่ขา้ วใหม่ปลามัน เพียงจากกันครู่ หนึ่ง คุณชาย
ใหญ่กต็ ดั ใจไม่ได้ จึงมาเป็ นเพื่อนเสี ยเลย” สายตาของนางทอดมอง
ออกไปด้วยความอ่อนโยน “พวกเจ้าสองสามีภรรยารักใครกลม
เกลียวกัน ข้าก็วางใจแล้ว”
“เสด็จแม่” เสิ่ นเวยเรี ยกอย่างงอนง้อหนึ่งครา หน้าแดงก้มศีรษะงุด
ราวกับดอกบัวที่เหนียมอายหนึ่งดอก
ทว่าสวีโย่วกลับสี หน้าเรี ยบเฉย “เสิ่ นซื่อเป็ นคนโง่ มาเคารพพระ
ชายาครั้งนี้หากเดินหลงทางก็จะไม่ดี”
“ดูคุณชายใหญ่พดู เข้า อยูใ่ นจวนตัวเองจะเดินหลงทางได้อย่างไร
บ่าวรับใช้ทวั่ ทั้งจวนมีไว้ทาไมกัน” พระชายาจิ้นอ๋ องแสร้งโมโหต่อ
ว่าสวีโย่วหนึ่งประโยค
สวีโย่วกระตุกมุมปากไม่พดู ความหมายลึกซึ้งที่ปรากฏอยูใ่ นแววตา
กลับทาให้พระชายาจิ้นอ๋ องใจเต้นอย่างอดไม่ได้
ในตอนนี้เองฮูหยินสามหูซื่อก็มาถึงแล้ว นางมองเห็นสวีโย่วอยูด่ ว้ ย
ก็ประหลาดใจเช่นกัน ทันใดนั้นก็ยกยิม้ ทั้งใบหน้า กล่าว “พี่สะใภ้
ใหญ่กบั พี่สะใภ้รองมาถึงแล้ว ดูท่าแล้วข้าจะมาช้าที่สุด เสด็จแม่ เช้า
นี้ร่างกายลูกไม่ค่อยสบายเล็กน้อย จึงล่าช้าไปพักหนึ่ง ท่านโปรด
อภัย” ขณะที่นางพูดมือขวาก็ค้ าเอวอย่างอดไม่ได้
พระชายาจิ้นอ๋ องตื่นตระหนกดังคาด รี บถาม “ไม่สบายอย่างไร เชิญ
หมอแล้วหรื อยัง ตอนนี้เจ้าเป็ นคนสองชีวิตแล้ว ไม่อาจสะเพร่ าเป็ น
อันขาด เจ้าเองก็เหมือนกัน ไม่สบายก็นอนพักอยูบ่ นเตียง จะวิ่งมา
ที่นี่ทาไม ข้าจะตาหนิเจ้าได้อย่างไร เฝ่ ยชุ่ย ยังไม่รีบพยุงฮูหยินของ
เจ้านัง่ ลงอีก หวาเยียน ไปเอาหมอนหนุนหลังมาให้ฮูหยินสาม”
หูซื่อตั้งครรภ์ จิ้นหวังเผยราพึงราพันอยากอุม้ หลานชายอยู่ ดังนั้นจึง
ให้ความสาคัญกับครรภ์น้ ีของนางเป็ นอย่างมาก
หูซื่อชายตามองเสิ่ นเวยกับอู๋ซื่อปราดหนึ่ง จากนั้นก็ยดื ท้องตรง ทั้ง
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิม้ ภูมิใจ “เสด็จแม่เมตตา ลูกก็ยงิ่ ไม่อาจ
สะเพร่ า เสด็จแม่วางใจ หมอตรวจดูแล้ว ไม่เป็ นไรแล้วลูกจึงมา”
เหอะ พวกเจ้ามาเช้าแล้วอย่างไร ต้องคลอดบุตรชายได้จึงจะถูก
ขณะที่นางคิดเช่นนี้ มือก็ลูบท้องที่นูนป่ องของตัวเอง หมอหลวง
บอกแล้วว่า ครรภ์น้ ีแปดเก้าในสิ บน่าจะเป็ นลูกชาย
หากเสิ่ นเวยรู ้ความคิดในใจหูซื่อ จะต้องเหยียดหยามแน่นอน สตรี
ขอเพียงแค่ให้กาเนิดได้กส็ ามารถให้กาเนิดบุตรชายได้ เป็ นเรื่ องที่ไม่
ช้าไม่เร็ วก็ตอ้ งเกิดมิใช่หรื อ ต่อให้อ๋ ูซื่อคลอดบุตรชายไม่ได้ ซื่อจื่อก็
สามารถแต่งอนุภรรยาได้มิใช่หรื อ ถึงตอนนั้นก็อยูภ่ ายใต้นามของอู๋
ซื่อ เลี้ยงดูเหมือนบุตรภรรยาเอกเช่นเดียวกัน สะใภ้บา้ นหนึ่งบ้าน
สามเช่นเจ้าตั้งครรภ์แล้วจะได้อะไร เจ้ารับรองได้หรื อว่าในท้องเจ้า
จะเป็ นลูกชาย ช่างไม่รู้อะไรเสี ยเลยจริ งๆ
“นัน่ ก็ไม่อาจประมาทได้ แม่รู้วา่ เจ้าเป็ นเด็กกตัญญู แต่บุตรชาย
สาคัญที่สุด ตั้งแต่พรุ่ งนี้ไปเจ้าไม่ตอ้ งมาเคารพอีก สงบจิตใจบารุ ง
ครรภ์อยูใ่ นเรื อน ให้กาเนิดหลานชายอ้วนพีคนหนึ่งให้แม่จึงจะถูก”
จิ้น
พระชายากล่าว จากนั้นก็หนั หน้าสัง่ แม่นมซือ “อีกประเดี๋ยวเจ้าไป
เลือกยาบารุ งชั้นดีในคลังส่ วนตัวของข้าแล้วส่ งไปที่เรื อนของฮูหยิ
นสาม”
หูซื่อประหลาดใจที่ได้รับความโปรดปราน “ลูกขอบคุณเสด็จแม่ที่
เมตตา ยาบารุ งเสด็จแม่เก็บไว้ใช้เถิด ที่เรื อนลูกมี”
ทว่าพระชายาจิ้นอ๋ องกลับกล่าว “ให้เจ้าเจ้าก็รับไว้ แม่จะขาดยาบารุ ง
กินได้อย่างไร ที่ขา้ ยังมี เจ้าใช้หมดแล้วก็มาเอาไปได้ เจ้ามีสองชีวิต
แล้ว ต้องบารุ งให้ดี ถึงตอนนั้นก็คลอดหลานชายอ้วนๆ ให้ขา้ ”
หูซื่อยิม้ อย่างภูมิใจยิง่ กว่าเดิม เป็ นฮูหยินสามในจวนจิ้นอ๋ อง จะขาด
ยาบารุ งกินได้อย่างไร นางเองก็ไม่ใช่คนโง่เขลาเบาปั ญญาเช่นนั้น
พระชายาจิ้นอ๋ องยอมให้เช่นนั้นก็ชดั เจนว่าเห็นความสาคัญของนาง
ประโยชน์ของร่ างกายสาคัญยิง่ กว่ายาบารุ งมากนัก
เสิ่ นเวยสังเกตเห็น ตอนที่พระชายาจิ้นอ๋ องเอ่ยถึงหลานชายตัวอ้วนพี
มือของอู๋ซื่อข้างๆ นางก็กาผ้าเช็ดหน้าแน่น สี หน้าก็ไม่ค่อยดีนกั
ใคร่ ครวญเล็กน้อยก็เข้าใจแล้ว ลูกๆ ของอู๋ซื่อมีเพียงบุตรสาวสองคน
จนถึงวันนี้กย็ งั ไม่มีบุตรชายข้างกาย แม้แต่บุตรอนุภรรยาก็ยงั ไม่มี
พระชายาจิ้นอ๋ องทาเช่นนี้ไม่ใช่เป็ นการแทงใจดานางหรื อ
อาหารเช้าจัดวางเรี ยบร้อยแล้ว คนเป็ นลูกสะใภ้ตอ้ งปรนนิบตั ิแม่
สามีกินข้าว หมายความว่าแม่สามีกินข้าว ลูกสะใภ้กจ็ ะยืนปรนนิบตั ิ
คีบกับข้าวส่ งจานให้เป็ นต้น
เมื่อพระชายาจิ้นอ๋ องนัง่ ลงแล้ว อู๋ซื่อก็ไปยืนอยูข่ า้ งหลังนางตาม
ความเคยชิน เสิ่ นเวยเองก็ลุกขึ้นยืนตาม หูซื่อเห็นท่าทีกแ็ สร้งกาลัง
จะลุกขึ้นยืน ถูกพระชายาจิ้นอ๋ องห้ามไว้ “เจ้ามีสองชีวติ แล้ว ไหน
เลยจะยังปรนนิบตั ิขา้ ได้อยู่ รี บนัง่ ลงกินข้าวเถอะ” จากนั้นก็หนั หน้า
บอกอู๋ซื่อกับเสิ่ นเวย “เจ้าสองคนก็นงั่ ลงกินข้าวด้วย ข้าไม่ใช่คนแก่
อายุแปดสิ บ ไม่ตอ้ งให้พวกเจ้ามาปรนนิบตั ิ ไม่ใช่วา่ ยังมีสาวใช้
หรอกหรื อ”
อู๋ซื่อไหนเลยจะยอม นางไม่มีบุตร ซ้ ายังไม่ยอมให้แต่งอนุภรรยาคน
อื่น พระชายาก็ตาหนินางเล็กน้อยแล้ว นางไหนเลยจะกล้าละเลยการ
ปรนนิบตั ิ “ลูกปรนนิบตั ิเสด็จแม่ทานอาหารเป็ นสิ่ งสมควรมิใช่หรื อ
เสด็จแม่ท่านให้ลูกได้ใช้โอกาสแสดงความกตัญญูเถิด”
เสิ่ นเวยเองก็พยักหน้าคล้อยตาม
พระชายาจิ้นอ๋ องหัวเราะ “กตัญญูกไ็ ม่ตอ้ งขนาดนี้ นัง่ เถอะ นัง่ เถอะ
ภรรยาโย่วเอ๋ อร์กบั ภรรยาเยีย่ เอ๋ อร์นงั่ ลงให้หมด ไม่จาเป็ นต้องทาพิธี
เหล่านี้เอาหน้าแม่ โดยเฉพาะภรรยาโย่วเอ๋ อร์ เจ้าเพิ่งแต่งเข้าเรื อน มา
ชิมกับข้าวในเรื อนแม่เสี ยหน่อย”
อู๋ซื่อเองก็กล่าว “ใช่แล้วพี่สะใภ้ใหญ่ ท่านนัง่ เถิด เสด็จแม่ให้ขา้
ปรนนิบตั ิคนเดียวก็พอแล้ว”
เสิ่ นเวยไม่ตกหลุมพรางนี้ “น้องสะใภ้รองนัง่ เถอะ เจ้าปรนนิบตั ิ
เสด็จแม่มานานเพียงนั้นแล้ว วันนี้โอกาสนี้ให้ขา้ ทาเถอะ” พูดพลาง
ผลักอู๋ซื่อให้นงั่ ลงบนเก้าอี้ขา้ งๆ ตนเองกลับไปยืน หยิบตะเกียบบน
โต๊ะส่ งให้พระชายาจิ้นอ๋ องด้วยความเคารพ “เสด็จแม่ ท่านอยากกิน
จานไหน ให้ลูกช่วยท่าน” นางเบียดหวาเยียนออกไปข้างๆ
“นี่…นี่…ดูเจ้าเด็กคนนี้สิ” พระชายาจิ้นอ๋ องแสดงท่าทีฝืนใจอย่างถึง
ที่สุด แต่มุมปากกลับยกขึ้นมา พอใจต่อการปรนนิบตั ิที่กระตือรื อร้น
ของเสิ่ นเวยเป็ นอย่างมาก นางมองลูกเลี้ยงที่นงั่ อยูต่ รงมุมปราดหนึ่ง
เงียบๆ เห็นเขาหลุบตาดื่มชา ไม่ได้มองมาทางฝั่งนี้อย่างสิ้ นเชิง ในใจ
ก็ยงิ่ มีความสุ ข
ไม่ใช่วา่ เจ้ามีฝีมือมากนักหรื อ เสิ่ นซื่อไม่ใช่ยนื ปรนนิบตั ิขา้ พระชายา
ทานข้าวหรื อ อืม ดูท่าแล้วเด็กชัว่ คนนี้คล้ายใส่ ใจเสิ่ นเวยยิง่ นัก หาก
ควบคุมเสิ่ นซื่อได้… ดวงตาของพระชายาจิ้นอ๋ องเป็ นประกาย
แต่ไม่ทนั ไรพระชายาจิ้นอ๋ องก็ดีใจไม่ออกแล้ว ไม่ใช่อื่นใด ถูกเสิ่ น
ซื่อสะใภ้โง่ผนู ้ ้ ีทาให้โมโหแล้ว เห็นชัดๆ ว่าสายตาของนางมอง
แตงกวา แต่ที่เสิ่ นซื่อช่วยนางคีบกลับมาคือเต้าหูจ้ านข้างๆ หากครั้ง
นี้ครั้งเดียวก็ยงั ดี แต่กบั ข้าวที่เสิ่ นซื่อคีบกลับมาทุกครั้งล้วนแต่ไม่ใช่
อาหารที่นางต้องการ นี่จะให้นางกินอย่างไร
มิหนาซ้ าเสิ่ นซื่อยังโน้มน้าวด้วยความกระตือรื อร้นอยูข่ า้ งๆ บ้างก็วา่
เต้าหูน้ ้ ีเคี้ยวง่าย บ้างก็วา่ กับข้าวนั้นมีคุณค่าทางสารอาหาร บ้างก็วา่
จานนี้กินแล้วดีต่อสุ ขภาพของผูอ้ าวุโส…
นางแก่มากนักหรื อ แก่มากนักหรื อ แก่มากนักหรื อ
อาหารที่ถูกบ่าวรับใช้นามาวางได้ ย่อมเป็ นอาหารที่พระชายาจิ้นอ๋ อง
ชอบทาน แต่กต็ อ้ งแบ่งเป็ นลาดับสามห้าหกเก้ามิใช่หรื อ แต่
เผชิญหน้ากับใบหน้ายิม้ แย้มที่กระตือรื อร้นของเสิ่ นซื่อ นางสามารถ
พูดได้หรื อ ด้วยนิสยั ขี้ขลาดนั้นของเสิ่ นซื่อคงจะไม่ร้องไห้ให้นางดู
เลยหรื อ ฝั่งนั้นยังมีเทพเจ้าแห่งกาฬโรคนัง่ อยูห่ นึ่งองค์
พระชายาจิ้นอ๋ องกัดฟัน กินเข้าไป
เสิ่ นเวยก็ดีใจแล้ว ราวกับได้รับการยืนยัน คีบกับข้าวจานวนมากเข้า
มาอีกครั้ง “ในเมื่อเสด็จแม่ชอบทานจานนี้ เช่นนั้นก็ทานเยอะๆ
หน่อย เมื่อครู่ ลูกยังกังวลว่าตัวเองจะเลือกผิด คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญ
ทาได้จริ งๆ ฮ่าๆ เสด็จแม่ท่านทานเยอะๆ นะเพคะ” มือของเสิ่ นเว
ยเร็ วอย่างยิง่ หนึ่งอย่าง สองอย่าง สามอย่าง คีบกับข้าวที่พระชายาจิ้
นอ๋ องไม่ชอบกลับมาทั้งหมด อีกทั้งยังมองดูดว้ ยความคาดหวัง
“เสด็จแม่ ท่านรี บกินสิ เพคะ”
พระชายาจิ้นอ๋ องอัดอั้นใจจริ งๆ รอยยิม้ บนใบหน้ากลับก็แทบจะ
ประคองไม่อยูแ่ ล้ว “พอแล้วๆ ภรรยาโย่วเอ๋ อร์รีบไปนัง่ เถอะ มีน้ าจิต
น้ าใจก็พอแล้ว เจ้าเองก็หิวมาทั้งเช้า รี บกินรองท้องสักหน่อยเถอะ”
ทว่าเสิ่ นเวยกลับไม่ขยับ โบกมือกล่าว “ไม่เป็ นไรลูกไม่หิว วันนี้ลูก
ตื่นเช้า กินอาหารเช้ามาแล้ว เสด็จแม่ ลูกเพิ่งเข้าเรื อน ท่านต้องชี้แนะ
ลูกให้มากหน่อย” สี หน้าบนใบหน้าของนางจริ งใจยิง่ นัก!
เบื้องลึกในจิตใจของเสิ่ นเวยมีคนตัวเล็กกระโดดโลดเต้น ลาลาลา ข้า
กินอิ่มมาแล้ว ไม่กลัวเจ้าถ่วงเวลาหรอก ลาลาลา ข้าแข็งแรง อย่าว่า
แต่ยนื ทั้งเช้า ให้ยนื ทั้งวันก็ไม่มีปัญหา ลาลาลา…
พระชายาจิ้นอ๋ องหน้าดาคร่ าเครี ยดแล้ว รู ้สึกเพียงแค่นางค่อนข้างไม่
ถูกกับเสิ่ นซื่อผูน้ ้ ี เสิ่ นซื่อเล่นงานนาง นางกินลวกๆ ไม่กี่คาก็วาง
ตะเกียบแล้ว
เสิ่ นเวยกล่าวด้วยความเป็ นกังวล “เสด็จแม่ เหตุใดท่านถึงกินน้อย
เพียงนี้ ร่ างกายไม่สบายหรื อ แม่นมซือ รี บไปเชิญหมอ เสด็จแม่
ร่ างกายไม่สบาย” นางหันหน้าสัง่
แม่นมซือย่อมไม่กล้ามองข้าม นางเองก็รู้สึกว่าพระชายามีตรงไหน
ผิดปกติ มิเช่นนั้นเหตุใดถึงไม่อยากอาหารเช่นนี้ เมื่อก่อนพระชายา
ไม่เคยเป็ นเช่นนี้มาก่อน
พระชายาจิ้นอ๋ องรี บห้ามนาง “กลับมา ข้าไม่เป็ นไร” หันหน้าตบมือ
ของเสิ่ นเวยกล่าวอธิบาย “ข้าสบายดี เพียงแค่ตอนนี้ไม่หิวแล้วก็เท่า
นั้นเอง”
เสิ่ นเวยยังคงไม่วางใจทั้งใบหน้า “เสด็จแม่ท่านไม่เป็ นไรจริ งๆ หรื อ
ปกปิ ดอาการป่ วยเพราะกลัวการรักษาไม่ได้นะเพคะ อาหารป่ วย
ส่ วนใหญ่กเ็ กิดจากการเจ็บป่ วยเล็กๆ น้อยๆ ทั้งนั้น ท่านไม่อยาก
อาหารเพียงนี้ ลูกเป็ นห่วงจริ งๆ”
“ไม่เป็ นไร ไม่เป็ นไร ร่ างกายของตัวเองแม่จะไม่รู้ได้อย่างไร” พระ
ชายาจิ้นอ๋ องแทบจะกัดฟัน เช้าตรู่ วนั นี้ เริ่ มที่วา่ นางแก่ ตอนนี้กม็ า
สาปแช่งว่านางป่ วย เสิ่ นซื่อผูน้ ้ ีจะมีสมองหน่อยได้หรื อไม่
อู๋ซื่อที่อยูข่ า้ งๆ พอจะทายได้วา่ เหตุใดพระชายาถึงไม่อยากอาหาร
แต่นางไม่อาจพูดออกไปโง่ๆ ได้ ผิดใจพี่สะใภ้ใหญ่ยงั ไม่เท่าไร แต่
นางไม่อยากผิดใจพี่ใหญ่สามีที่แปลกประหลาดผูน้ ้ นั ยิง่ ไปกว่านั้น
เพราะว่านางไม่มีบุตร ต่อหน้าลับหลังแม่สามีกโ็ จมตีนางหลายต่อ
หลายครั้ง กาลังจ้องจะส่ งคนมาที่เรื อนนาง นางปรารถนาจะได้เห็น
แม่สามีไม่มีความสุ ข
เช้าวันนี้พระชายาจิ้นอ๋ องโมโหเต็มทรวงอก กระทัง่ พวกนางกล่าวลา
ก็เพียงแค่โบกมืออย่างไร้เรี่ ยวแรง เสิ่ นเวยตามสวีโย่วกลับไปอย่างมี
ความสุ ข
ตอนที่ 219-2 สร ้างความรําคาญใจต่อเนื่ อง

ออกจากเรือนของพระชายาจินอ๋ ้ องแลว้ สวีโย่วก็มองเสินเวยปราด



หนึ่ ง กล่าวหนึ่ งประโยค “ทําได้ไม่เลว”


“ขอบคุณสําหรับคําชม” เสินเวยกะพริ ่
บตาดวงโตทีใสวาว “วางใจ
ได้ ขา้ ยังทําได้ดก ้ ก ต่อไปนี ข
ี ว่านี อี ้ า้ จะปกป้ องท่านเอง” นาง
รับปากด้วยความสบายใจอย่างถึงทีสุ ่ ด

้ ทังสองสบตากั
ดวงตาของสวีโย่วก็โค้งเป็ นจันทร ์เสียว ้ นปราดหนึ่ ง
่ ก
ต่างก็รู ้สึกพอใจยิงนั


สวีโย่วคิด เด็กน้อยของเขาไม่ใช่นายทีสามารถอยู ่นิ่งๆ ในเรือน
หลังได้ ต้องหาอะไรสนุ กๆ มาให้นางเล่นเสมอ มิเช่นนั้นจะอึดอัดแย่

เสินเวยเองก็ คด ่
ิ แต่งงานไม่สนุ กเลยแม้แต่นิดเดียว น่ าเบือจะตาย
้ งออกจากจวนไปเทียวไม่
อยู่แลว้ ซํายั ่ ได้ โชคดีทยัี่ งมีพระชายาจิ ้
นอ๋อง แกลง้ นางหาความสนุ กฆ่าเวลา มิเช่นนั้นชีวต ้ เงียบเหงา
ิ นี ก็
เกินไปจริงๆ!

้ องของพวกเขาสร ้างเสร็จแลว้
อืม ไม่ใช่บอกไวห้ รือว่าจวนจวินอ๋
เช่นนั้นเมื่อไรจะย้ายไปอยู่ได้เล่า พรุง่ นี หรื
้ อ พรุง่ นี ไม่
้ ได้ พรุง่ นี ต้
้ อง
กลับบา้ น เช่นนั้นวันมะรืนหรือ คาดว่าก็คงไม่ได้เหมือนกัน พวก

เขาเพิงจะแต่ ่ ตนมีเกียรติ ท่านจินอ๋
งงาน เพือให้ ้ องสองสามีภรรยา
ไม่มท
ี างปล่อยคนแน่ นอน

่ บมาถึงเรือน แม่นมมั่วก็มาขอคําสั่ง “ฮูหยิน สินเดิมของ


เมือกลั
ท่านจะให้เก็บอย่างไรเจ ้าคะ”

่ บตา มองสวีโย่วแลว้ กล่าว “พวกเราคงไม่ได้อยู่ท่นี


เสินเวยกะพริ ี ่ ไป
ตลอดใช่หรือไม่”

สวีโย่วมองท่าทางของเสินเวยที ่
บอกว่ าขอเพียงแค่เจ ้ากลา้ พยัก
ั ที จากนั้นก็ยมพลางส่
หน้าขา้ ก็ข่วนเจ ้าได้ทน ิ้ านหน้า “ไม่หรอก
ผ่านเดือนแต่งงานไปพวกเราก็จะหาเหตุผลย้ายออกไป”


เสินเวยถอนหายใจหนึ ่ งคราอย่างโล่งอกในชวขณะ
่ั กล่าวกับแม่นม
มั่ว “ไม่ตอ้ งเก็บ วางในไวห้ อ้ งลงกลอนไวเ้ ถอะ รอไปจวนจวินอ๋
้ อง
แลว้ ค่อยเก็บ” อย่างไรเสียถึงตอนนั้นก็ตอ้ งยกไปอยู่ดี

แม่นมมั่วออกไปแลว้ สวีโย่วก็กล่าว “บ่าวในเรือนเจ ้าพบหมดแลว้


ใช่หรือไม่”


เสินเวยงงงั
น ถามอย่างไม่เขา้ ใจ “ขา้ จะไปพบบ่าวทําไม”

สวีโย่วทังขบขั ้
นทังโมโห ้
จิตใจเด็กคนนี ใหญ่ จริงๆ เจ ้าสาวคนอืน่
แต่งเขา้ มาก็ตอ้ งกุมอํานาจก่อนมิใช่หรือ ไม่ใช่ว่าปรารถนาให้สามี
เอ่ยประโยคนี ขึ ้ นมาเองหรอกหรื
้ อ มีแต่เด็กสาวคนนี ที ้ ยั
่ งถามด้วยสี

หน้างุ นงงทังใบหน้ าว่าทําไม คิดถึงนิ สยั ของนาง สวีโย่วก็อดทน
อธิบายให้นางฟัง “เพราะขา้ ไม่ได้อยู่ในจวนบ่อยๆ บ่าวในเรือนของ
พวกเราก็มเี ยอะ หลายปี มานี มี ้ เจียงปั
่ ๋ วดูแล ถือเป็ นพ่อบา้ นใหญ่
ของขา้ เจียงเฮยเจียงไป๋ ขา้ งกายข ้าเจ ้าก็รู ้จักแลว้ คนทีเหลื ่ อ อืม
ช่างเถอะ กลับไปขา้ จะให้เจียงปั ่ ๋ วมาเคารพเจ ้า คนทีเหลื่ อไม่สําคัญ
เจ ้าก็ไม่ตอ้ งไปพบ มีอะไรเรียกเจียงปั ่ ๋ วก็ได้แลว้ ”


เสินเวยพยั ่
กหน้า ไม่เก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว แม้แต่เรืองใน
เรือนของตนนางก็โยนให้หลีฮวาและคนอืนๆ ่ จัดการ ตนไม่เคย
ทุกข ์ใจเลยแม้แต่นอ้ ย ฝั่งสวีโย่วนางก็ยงไม่
่ิ มที างสอดมือเขา้ ไปยุ่ง

“หลีฮวา ไปเรียกเถาจือ เหอฮวา เถาฮวาพวกนางมาหาขา้ ทังหมด” ้



จู่ๆ เสินเวยก็ ออกคําสั่ง แต่งเขา้ มาสองวันนี วุ้ ่นวายโกลาหล นางเอง
ก็ไม่ทน ่
ั ได้ถามว่าสาวใช ้ทีตามนางมาเหล่ านี เป็ ้ นอย่างไรบา้ ง
โดยเฉพาะเถาฮวากับฉาฮวา สองคนนี อายุ ้ ยงั น้อย อีกทังเถาฮวา

ยังโง่เขลา อย่าได้ถูกใครกลั่นแกลง้ จึงจะดีทสุ ่ี ด

“ท่านยังไม่ออกไปอีกหรือ” เสินเวยชายตามองคนบางคนที ่ งคง
ยั
นั่งบือเฉยเมยอยู
้ ่ในห้องไม่มค
ี วามคิดจะออกไปเลยแม้แต่นิดเดียว

สวีโย่วกล่าวด้วยความไร ้เดียงสาอย่างยิง่ “ไปไหนหรือ เจ ้าไม่ใช่ว่า


้ ่ าคัญทีสุ
ไม่รู ้ ขา้ เป็ นคนว่างงาน ตอนนี งานที
สํ ่ ดก็คอ
ื การอยู่กบ
ั ฮู
หยิน”


เสินเวยถลึ งตาใส่เขาปราดหนึ่ ง “ขา้ จะไปจัดการธุระแลว้ ท่านคิด
ี่ ่ จะดีหรือ”
ว่าท่านอยู่ทนี


สวีโย่วยืนหน้ ากล่าว “พวกเราไม่ใช่สามีภรรยาร่างเดียวหรอกหรือ

ไม่เป็ นไร เจ ้าจัดการเรืองเจ ้าไป ขา้ จะไม่รบกวนเจ ้า”

“ตามใจท่าน” เสินเวยกลอกตาขาว ่
หยิบบันทึกท่องเทียวเล่ มนั้น
ื เขา “ไป ไปอยู่ตรงนั้น”
บนโต๊ะยัดใส่มอ


สวีโย่วถือบันทึกการท่องเทียวเดิ ่ นเวยชี
นไปอยู่ตรงมุมทีเสิ ่ ้ างเชือ่
อย่
ฟัง ภาพๆ นั้นทําให้เจียงเฮยเจียงไป๋ ทีอยู
่ ่นอกประตูแทบจะตาถลน
สามีกลัวภรรยา คุณชายของพวกเขาเป็ นสามีกลัวภรรยาไปแลว้ !

“คารวะฮูหยิน” ไม่นานนักเหล่าสาวใช ้ก็เขา้ มาแลว้


หางตาของเสินเวยกระตุ ้ ได้
ก ทุกครังที ่ ยน ้
ิ คําว่าฮูหยินสองคํานี นาง
ก็ไม่สบอารมณ์ทุกครัง! ้ นางยังอายุไม่ถงึ สิบหกปี เต็มเลย สาวใช ้
เรียกเช่นนี ้ นางรู ้สึกว่าตัวเองแก่แลว้


“เป็ นอย่างไร คุน้ ชินแลว้ หรือยัง” เสินเวยเอ่ ่
ยปากถาม คนทีนาง
นํ ามามีไม่เยอะ เพราะรู ้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่จวนอ๋องนาน นางจึงให้คน
่ี อนเฟิ งหวา คิดว่าอีกไม่กวัี่ นค่อยให้พวกเขาไปอยู่
ส่วนใหญ่อยู่ทเรื

ทีจวนจวิ ้ องโดยตรง
นอ๋

คนหลายคนมองหน้ากันปราดหนึ่ ง เถาจือก ้าวออกมาก่อน มอง


ใครบางคนทีมุ ่ มห้องปราดหนึ่ งแลว้ จึงกล่าว “ทูลฮูหยิน พวกบ่าว
สบายดียงนั ่ิ ก คนฝั่งนี ของคุ
้ ณชายใหญ่ต่างก็เป็ นมิตรมาก บ่าว
รู ้สึกไม่ต่างอะไรกับการอยู่ทเรื่ี อนเฟิ งหวาของพวกเรา”

เหอฮวาเย่ว ์กุ ้ยเองก็คลอ้ ยตาม “ดีอย่างยิง่ คนในเรือนคุณชาย


ใหญ่ค่อนขา้ งเคารพพวกบ่าว อีกทังยั ้ งช่วยเหลือพวกบ่าวด้วย
ความกระตือรือร ้น”


เสินเวยย่ ่
อมสังเกตเห็ นการเคลือนไหวของเถาจื อแลว้ ถลึงตามอง
่ มห้องด้วยความไม่พอใจปราดหนึ่ ง “พูดความจริง พวกเจ ้า
ไปทีมุ
ต่างก็เป็ นคนทีข่ า้ พามา ในเมือติ
่ ดตามนายเช่นขา้ ขา้ ก็สามารถ
ปกป้ องพวกเจ ้าได้ หากได้รบั ความไม่เป็ นธรรมก็อย่าเก็บไวก้ บั

ตัวเอง คนทีออกจากเรื อนเฟิ งหวาของพวกเราไม่มกี ฎขอ้ นี ”้
่ี
สาวใช ้ไม่กคนมองหน้ ากันและกัน ไม่รู ้ว่าคุณหนู หมายความว่า
่ มห้องกลับใช ้หนังสือปิ ดใบหน้า ในดวงตา
อย่างไร ทว่าสวีโย่วทีมุ
เต็มไปด้วยรอยยิม้

“ฮูหยิน พวกบ่าวสบายดีจริงๆ เจ ้าค่ะ ไม่ถูกกลั่นแกลง้ ใดๆ” คราวนี ้


เย่ว ์กุ ้ยก ้าวออกมาแลว้


คิวของเสิ ่
นเวยขมวดมุ ่
่น ยังคงไม่เชืออย่ างยิง่ นางคิดว่าจะต้องเป็ น
เพราะสวีโย่วอยู่พวกนางจึงไม่กลา้ พูดความจริง ในละครต่างก็มี

เหล่าสาวใช ้ทีตามเจ ้าสาวออกเรือนทะเลาะเบาะแวง้ กับเหล่าสาวใช ้
ในเรือนนายผูช ่
้ ายไม่ใช่หรือ แม้ว่าจะเป็ นพีรองที ่ งเขา้ บา้ นฝั่ง
แต่
มารดาก็ยงั เตือนนางว่าต้องระวังจุดนี ้

ยังคงเป็ นเถาฮวาทีเบ่ ป้ าก กล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจทังใบ ้ “คุณหนู



เหตุใดท่านถึงเปลียนเป็ นฮูหยินแลว้ เล่า ใช่หลังจากนี ท่้ านจะไม่ใช่
คุณหนู ของขา้ แลว้ หรือไม่”

เสินเวยหน้ าเหยเก นางเองก็ไม่อยากเป็ นฮูหยินบา้ อะไรนี่
เหมือนกัน! ทว่าแต่ละคนต่างก็เรียกนางฮูหยิน นางจะไม่รบั ได้
อย่างไร เห็นท่าทีสบ ้
ั สนและเป็ นกังวลทังใบหน้ าของเถาฮวา ในใจ

เสินเวยก็ ้ ดี
อบอุ่น เฮอ้ ยังคงเป็ นเด็กโง่คนนี ที ่

“คุณหนู แต่งงานแลว้ ก็ตอ้ งเป็ นฮูหยินสิ! ถ้าเถาฮวาไม่ชนิ ก็เรียก



คุณหนู ก็ได้ เถาฮวาของพวกเรายอดเยียมขนาดนั ้น คุณหนู ไป

ไหนก็ตอ้ งพาเจ ้าไปด้วยแน่ นอน” เสินเวยกล่ าวปลอบนาง

“จริงหรือ ดีจริงๆ” ใบหน้าเล็กๆ ทียั่ บยู่ของเถาฮวาเบิกบานทันที



ตบมือร ้องดีใจ ทําให้เสินเวยอิ ่ ด มีความสุขก็ยม
จฉาอย่างถึงทีสุ ิ ้ ไม่
มีความสุขก็ร ้องไห้ นี่ ไม่ใช่วาสนาอย่างหนึ่ งหรอกหรือ


“แต่ว่าพีเถาจื
อไม่ให้ขา้ ออกจากเรือน แลว้ ยังไม่ให้ขา้ มาหาคุณหนู

อีกด้วย” เถาฮวายิมเสร็ ้
จแลว้ ก็ฟ้องขึนมา

เสินเวยมองเถาฮวาปราดหนึ ่ ง เห็นความจนใจบนใบหน้าของนาง

ย่อมต้องเขา้ ใจว่าเกิดเรืองอะไรขึ น้ นางบีบแก ้มเล็กๆ ของเถาฮวา

กล่าว “พีเถาจื อของเจ ้าหวังดีต่อเจ ้า นี่ ไม่ใช่เรือนเฟิ งหวาของพวก

เรา หากเจ ้าวิงออกไปก่ ่
อเรืองจะถู ่
กโบยเอาได้” เสินเวยขู ่นางหนึ่ ง
ประโยคก่อน แลว้ จึงกล่าว “แต่ว่าพวกเราก็อยู่ทนี ่ี ่ อีกไม่นาน รอไป
้ องแลว้ เจ ้าอยากเล่นซนอะไรก็ย่อมได้ ตอนนี ก็
จวนจวินอ๋ ้ ทนไป
ก่อน”

เห็นเถาฮวายังคงไม่มค ่
ี วามสุขเล็กน้อย เสินเวยก็ ้
เกลียกล่ อมนาง
้ บบา้ น เถาฮวาก็ตาม
อีก “เอาล่ะ เลิกเบะปากได้แลว้ พรุง่ นี กลั
คุณหนู กลับจวนโหวด้วยกันดีหรือไม่ พวกเราไม่พาพีเถาจื ่ อของ

เจ ้าไป ลงโทษให้นางอยู่ดูแลเรือนทีจวนอ๋ องแทน”


เถาฮวาดีใจขึนมาอีกครัง้ จากนั้นเสินเวยก็
่ ่ นึ่ ง
ถามฉาฮวาครูห
จากนั้นจึงไล่พวกนางออกไป

เสินเวยเดินไปตรงหน้าสวีโย่วด้วยความโมโห ดึงบันทึกท่องเทียว ่
ในมือเขาออกแลว้ โยนไปบนโต๊ะ “ดูสิ ดูสิ เพราะท่านคนเดียวเลย
ท่านอยู่ในห้องสาวใช ้ของขา้ เลยไม่กลา้ พูดความจริง ขา้ จะบอก
ท่านให้ หากสาวใช ้ใหญ่ในเรือนท่านรังแกพวกเขา ขา้ ไม่ยอมแน่ ”

่ ดเด้งของเสินเวยหนึ
“เด็กโง่!” สวีโย่วบีบแก ้มเล็กๆ ทีดี ่ ่ งครา กล่าว
“ในเรือนขา้ ไหนเลยจะมีสาวใช ้ใหญ่ นอกจากหญิงชราใช ้แรงงาน
่ี ทีเหลื
ไม่กคน ่ อลว้ นแต่เป็ นบ่าวรับใช ้ผูช ่
้ าย จะเอาทีไหนมารั งแก
สาวใช ้ของเจ ้าได้ เจ ้าวางใจได้เลย พวกเขายังไม่แต่งภรรยาทังสิ ้ น้
ยังไม่ทนั ได้เอาใจพวกนางด้วยซํา้ จะเอาทีไหนมารั
่ งแกได้”


เสินเวยไม่ ่
เชืออย่ างยิง่ กล่าวอย่างระแวง “ท่านไม่ได้โกหกขา้ หรือ
ขา้ งกายคุณชายตระกูลใดบา้ งไม่มส ี าวใช ้ปรนนิ บต
ั ต
ิ ด
ิ ตัว แลว้ ดู

จากแม่เลียงของท่ ้
าน จะปล่อยโอกาสอันดีนีไปได้ อย่างไร”

มุมปากสวีโย่วปรากฎความเหยียดหยาม “นางไม่ยอม หลายปี ก่อน


่ ก ต่อมาถูกขา้ หาโอกาส
หญิงสาวมากมายในเรือนขา้ วุ่นวายยิงนั
ลงโทษหนึ่ งครัง้ พวกนางก็เชือฟั
่ งแลว้ เพราะว่าขา้ อยู่บนเขาตลอด
้ สาวใช ้ทีมี
ทังปี ่ ปณิ ธานเหล่านั้นจึงหาหนทางเดินออกไปเกือบ
หมดแลว้ หลังขา้ กลับมาก็ถอ ้
ื โอกาสขับไล่ออกไปทังหมด

เปลียนเป็ นหญิงชราและเด็กรับใช ้แทน”


แม้ว่าสวีโย่วจะพูดอย่างเรียบง่าย แต่เสินเวยก็ ยงั คงได้ยน
ิ ความ
ลําบากจากในนั้นได้ สวีโย่วมองแววตาเล็กๆ ทีเห็ ่ นอกเห็นใจของ

เสินเวย รู ้ว่านางคิดมากอีกแลว้


เฮอ้ ความสงสารของภรรยาทีชอบคิ
ดว่าตนได้รบั ความไม่เป็ น
ธรรมต้องแก ้อย่างไรกันนะ
ตอนที่ 220-1 ก่อนกลับบา้ น

เสินเวยเห็ ่ นึ่ ง จู่ๆ ก็นึกเรืองบางเรื
นใจสวีโย่วครูห ่ ่ นได้
องขึ ้ “ขา้ ต้อง
ไปหาเสด็จแม่หรือไม่ เอ่อ ทีข ่ า้ หมายถึงคือต้องไปจุดธูปกราบไหว ้
เสด็จแม่แท้ๆ ของพวกเราหรือไม่” แม้ว่าจะเสียชีวต ิ แลว้ แต่น่ นก็
ั คอื
ี่ จริงของนาง
แม่สามีทแท้

่ จริ
สวีโย่วยังคิดไม่ถงึ เรืองนี ้ งๆ ตังแต่
้ เล็กเขาก็ไม่เคยเห็นแม่แท้ๆ มา
ก่อน มารดาสําหรับเขาแลว้ เป็ นเพียงสัญลักษณ์ทแปลกหน้ ่ี า
เท่านั้น ย่อมไม่ตอ้ งเอ่ยถึงความผูกพันใดๆ ตอนเด็กๆ ยังคิด
ว่า หากแม่ยงั อยู่ เสด็จพ่อก็คงจะไม่เฉยชาต่อเขาเพียงนั้น

กระมัง เมือโตขึ ้ งได้รู ้ว่าตนไร ้เดียงสา ต่อให้แม่เขาจะยังมีชวี ต
นจึ ิ
อยู่ คาดว่าก็คงจะถูกเสด็จพ่อของเขากับพระชายาคนปัจจุบน ั ทีช ่ ว่ ั
ช ้าคู่นั้นทําให้โกรธจนอกแตกตาย

“เช่นนั้นก็ไปเถอะ” สวีโย่วคิด รู ้สึกเหมือนกันว่าควรไปจุดธูปให้แม่


ของเขาบา้ ง อย่างไรเสียนั่นก็คอื ผูใ้ ห้กําเนิ ดเขา เขาแต่งงานแลว้ จะ
ไม่บอกนางสักคําได้อย่างไร

สวีโย่วพาเสินเวยไปยั งศาลบรรพบุรุษในจวน เมือเดิ ่ นเขา้ ไปกลิน่
่ ามืดสลัวก็โผเขา้ มา เสินเวยยั
อายทีดํ ่ งคิดว่าจะเหมือนกับศาล
บรรพบุรุษในจวนโหวทีวางเบี่ ยดเสียดแน่ นขนัดไปด้วยแท่นบูชา
ใครจะรู ้มองเห็นแท่นบูชาหนึ่ งแท่นของแม่สามีวางอยู่ตรงนั้นอย่าง
โดดเดียว่ เมือคิ
่ ดๆ ดูก็เขา้ ใจแลว้ ตระกูลพวกเขาคือราชวงศ ์ มี
บรรพบุรุษเดียวกันกับฝ่ าบาท บรรพบุรุษรุน ่ ก่อนรวมถึงฮ่องเต้องค ์
ก่อนและไทเฮาจะต้องมีทบู ี่ ชาโดยเฉพาะเป็ นแน่

่ อมากราบไหว
“ยายหรู ขา้ พาเสินซื ่ เ้ สด็จแม่” สวีโย่วกล่าวกับหญิง
ชราผูด้ ูแลศาลบรรพบุรุษเพียงหนึ่ งเดียว หลังจากนั้นก็หน ั หน้า

อธิบายให้เสินเวยฟั ื คนรับใช ้ขา้ งกายเสด็จแม่ ตอนที่
ง “ยายหรูคอ
ขา้ เด็กๆ ก็ยงั เคยดูแลขา้ ต่อมาก็มาดูแลแท่นบูชาของเสด็จแม่ทนี ่ี ่ ”


เสินเวยพยั กหน้า คํานับหญิงชราทีมี่ รอยย่นทั่วใบหน้า ผมขาวทั่ว
ศีรษะผูน้ ั้นด้วยความจริงใจหนึ่ งครา นางรู ้ว่าคนทีสามารถทํ
่ าให้สวี
้ จะต้องเป็ นคนที่เขาเคารพ
โย่วแนะนํ าอย่างจริงจังเช่นนี ได้
หญิงชราผูน้ ั้นรีบหลบไปอยู่ขา้ งๆ “มิบงั อาจรับการคํานับของฮูหยิน
ใหญ่หรอกเจ ้าค่ะ”


ทว่าเสินเวยกลั บยืนกรานคํานับจนเสร็จ หญิงชราผูน้ ั้นขมุบขมิบ
ริมฝี ปาก ครูใ่ หญ่จงึ เอ่ยคําดีๆ สามคํา ในดวงตาชราภาพทีขุ่ ่นมั่วคู่
นั้นมีประกายความเมตตาปรากฎขึน้

่ ชาพระชายาจินอ๋
โต๊ะทีบู ้ องคนก่อนถูกปัดกวาดจนสะอาดอย่างยิง่
ขา้ งบนวางของไหวไ้ วจ้ ํานวนหนึ่ ง ธูปหนึ่ งดอกในกระถางธูปกําลัง
จุดไฟลุกโชน ท่ามกลางควันธูปทีวนเป็่ ่
นเกลียวเสินเวยมองเห็ นบน
่ นสุ่ย เสินเวยคุ
แท่นบูชาเขียนไวว้ ่าสุสานของต้วนซือเฉิ ่ กเข่าหน้า
แท่นบูชากราบด้วยความเคารพสามครา กล่าวเสียงเบา “เสด็จแม่
ขา้ คือลูกสะใภ้ของท่าน หากท่านอยู่บนฟ้ าก็ของให้ท่านกลับให้
สบาย หลังจากนี ลู้ กจะดูแลคุณชายใหญ่ให้เป็ นอย่างดี”

สวีโย่วจ ้องมองแท่นบูชา นิ่ งเงียบไม่พูด ยายหรูมองฮูหยินใหญ่วยั


่ กเข่าอยู่บนเบาะกลมด้วยเคารพ หันหลังกลับไปเช็ดนํ ้าตา
เยาว ์ทีคุ
เงียบๆ

จุดธูปให้แม่สามีเสร็จแลว้ เสินเวยก็ ออกไปพร ้อมกับสวีโย่ว ยายหรู
ยืนอยู่หน้าประตูศาลบรรพบุรุษ รู ้ว่ามองไม่เห็ นเงาร่างของพวกเขา
อีกแลว้ จึงหันหลังกลับมา นางเดินเขา้ ไปในศาลบรรพบุรุษทีมื ่ ดทึบ
จ ้องมองแท่นบูชาด้วยสายตาอ่อนโยน “คุณหนู ท่านเห็นแลว้ หรือ
ยัง คุณชายใหญ่แต่งงานแลว้ ฮูหยินใหญ่ดูเป็ นเด็กดีรู ้ประสา ท่าน
วางใจเถิด! ขา้ เคยรับปากท่านว่าจะดูแลคุณชายใหญ่ให้ดี ตอนนี ้
ิ่
มีฮูหยินใหญ่แลว้ ท่านก็ยงวางใจได้ แลว้ มิใช่หรือ บุญคุณย่อมต้อง
ตอบแทน ขา้ รู ้ว่าท่านไม่ยน ิ ยอม ขา้ จะคอยสอดส่องแทนท่าน ท่าน
วางใจเถิด”


ควันดําในกระถางธูปลอยวนขึนมา ่
แท่นบูชาของต้วนซือคล า้ ย
ผลุบคลา้ ยโผล่

้ องกุมอกนั่งพิงอยู่บนตั่งนุ่ ม รู ้สึกเพียงเสน้ เลือดดํา


พระชายาจินอ๋
บนศีรษะกําลังเต้น แววตาแม่นมซือทีอยู่ ่ขา้ งๆ มีความกังวลแวบ
ผ่าน กล่าวโน้มน้าว “พระชายา เรียกหมอเถอะเจ ้าค่ะ ท่านไม่อาจ
เมินเฉยร่างกายของตัวเองได้นะเจ ้าค่ะ!”
“ไม่ตอ้ ง” พระชายาโบกมือ เหตุใดนางถึงเจ็บหน้าอกในใจนางรู ้ดี
แต่กลับพูดออกมาไม่ได้ก็เท่านั้นเอง

้ น้ คนเป็ นบ่าวย่อมต้องเกลียกล่
นายดือรั ้ อม แม่นมซือกล่าวต่อ
“บ่าวทราบว่าท่านคิดแทนคุณชายใหญ่สองสามีภรรยา แต่รา่ งกาย
้ ”
ของท่านไม่สบายก็ไม่อาจทนเช่นนี ได้

้ องก็ใจเต้น ถอนหายใจหนึ่ งครากล่าว “ช่างเถอะ


จู่ๆ พระชายาจินอ๋

ไปเชิญหมอมา จําไวว้ ่าทําเงียบๆ” คุณชายใหญ่เพิงจะพาฮู หยินคน
ใหม่มาเคารพ เรือนของพระชายาก็เชิญหมอมา อย่าว่าแต่ความ
่ ก็
จริงเป็ นเช่นไร ตัวเรืองนี ้ เพียงพอทีจะดึ
่ งดูดความสนใจจากผูอ้ น
ื่
แลว้

เร็วอย่างยิงหมอก็ ้ อง พูด
มาถึงแลว้ จับชีพจรให้พระชายาจินอ๋

ทํานองว่าจุกอยู่ในอก เกิดภาวะร ้อนขึนปอดไม่ ี่
กประโยค จากนั้นก็
เขียนใบสั่งยา


หมอเพิงจะไปหวาอวิ ๋ เขา้ มาแลว้ ท่าทางอยากพูดแต่ไม่กลา้ พูด
นก็
้ องก็เขา้ ใจว่านางมีเรืองจะบอก
พระชายาจินอ๋ ่ ่
“ว่ามาเถอะ เกิดเรือง

อะไรขึน”

๋ งเลครูห
หวาอวินลั ่ นึ่ ง จากนั้นจึงกล่าวเสียงเบา “สาวใช ้เบืองล่
้ าง
รายงานว่าคุณชายใหญ่พาฮูหยินใหญ่ไปศาลบรรพบุรุษเจ ้าค่ะ”

พูดประโยคนี จบศีรษะของนางก็ก ้มตํ่าลงไป ไม่กลา้ มองสีหน้าของ
พระชายา

“เขากลับกตัญ�ู” ดวงตาพระชายาจินอ๋ ้ องมีความน่ าสะพรึงกลัว


แวบผ่าน ฟันในปากกัดดังกึกๆ คนชว่ ั คนอกตัญ�ูเลียงไม่ ้ ่ ต้
เชือง
่ าเปื่ อยจนไม่เหลือแม้แต่เถ้ากระดูกไปนานแลว้ เขากลับยัง
วนซือเน่
จําได้ว่านั่นคือแม่ของเขา! หากรู ้อย่างนี ้ หากรู ้อย่างนี ตอนนั
้ ้นนาง
หยิกเขาให้ตายก็จบแลว้
นางยังมีชวี ต ้ ยจมา แต่กลับพาฮูหยิน
ิ อยู่ดๆี แม้แต่เคารพเขายังขีเกี
คนใหม่ไปกราบไหวค้ นตาย นี่ ไม่ใช่เป็ นการตบหน้านางหรือ เสิน ่
่ น้ ั้นก็ไร ้คุณธรรม ไม่โน้มน้าว ซํายั
ซือผู ้ งตามไปอีกด้วย ดวงซวย
่ กถึงเรืองเมื
จริงๆ! ยิงนึ ่ ่
อเช ้ องก็รู ้สึกว่าเสินซื
้า พระชายาจินอ๋ ่ อผู
่ น ้ ้นั
หน้าตาน่ าเกลียดขึนมาแล้ ว้

นางโมโหจนกระทั่งดึงปิ่ นระย้าบนศีรษะโยนทิงไป้ ของผุพงั อะไรยัง


กลา้ เอามาเสียบบนผมนาง คนไม่มค ี วามรู ้ตาไม่มแี ววเช่นนี ้ ต่อให้
้ าแพงไม่ได้ คนโง่ คนไร ้ประโยชน์!
ยกนางก็ยงั ประคองขึนกํ


สาวใช ้ทีปรนนิ บต
ั ภ
ิ ายในห้องต่างก็ตกใจจนไม่กลา้ แม้แต่จะหายใจ
แรง แม้พวกนางจะอายุนอ้ ย แต่ตงแต่ ้ั เขา้ เรือนของพระชายามาก็
ื่ รู ้ว่าพระชายาคนก่อนหน้านั้นเป็ นบุคคล
ได้รบั คําเตือนจากผูอ้ น
ต้องห้ามในใจของพระชายา ไม่มใี ครกลา้ เอ่ยขึนมา ้
แม่นมซือมองใบหน้าทีดุ ่ ร ้ายน่ ากลัวของพระชายาปราดหนึ่ งด้วย

ความระมัดระวัง โบกมือไล่คนในห้องทังหมดออกไป “พระชายา
โปรดระงับโทสะ ท่านจะคิดเล็กคิดน้อยกับคนตายไปไย เหมือน
อย่างทีท่่ านว่า นางเน่ าเปื่ อยจนไม่เหลือแม้แต่เถ้ากระดูกไปนาน
แลว้ แต่ท่านกลับนั่งเสพสุขสําราญ ขา้ งกายยังมีคุณชายทังสาม ้

อยู่ขา้ งๆ ท่านชนะตังนานแล ว้ ”


“ขา้ แค่กลํากลื ้ ลง นางตายแลว้ แต่กลับทิงหนี
นความโกรธนี ไม่ ้ ไว ้ ้
สร ้างความรําคาญใจให้ขา้ ” จิน้

พระชายาท่าทางเคียดแค้นยากจะบรรเทา ครังนี ้ นางเจ็


้ บใจจริงๆ
เสน้ เลือดดําบนหน้าผากเต้นตุบๆ ทําให้นางวา้ วุ่นใจ อยากขวา้ งปา

ของตรงหน้าทังหมด


แม่นมซือรีบก ้าวขึนไป นวดศีรษะของให้พระชายาด้วยความ

ชําชอง “หากท่านเห็นพวกเขาขวางหูขวางตาก็ไล่ออกไปสิเจ ้าค่ะ
้ องแลว้
อย่างไรเสียคุณชายใหญ่ก็ได้รบั พระราชทานจวนจวินอ๋
ท่านไม่อยากเห็นพวกเขาก็ให้พวกเขาย้ายออกไป”
“หยุดคิดเลย!” พระชายาจินอ๋้ องลุกขึนนั
้ ่ งทันที ดวงตาประหนึ่ ง
เคลือบยาพิษ “เขาอยากย้ายออกไปมีชวี ต ้
ิ ของตัวเองงันหรื
อ ฝันไป
เถอะ! ขา้ ไม่ปล่อยเขาก็อย่าได้คิดจะย้ายออกจากจวนอ๋องเลย”

ย้ายออกจากจวนอ๋องนางก็เหนื อบ่ากว่าแรงแลว้ มีเพียงอยู่ใน


่ ั น้ ้นไร
สายตานางจึงวางใจได้ จึงจะสามารถเห็นคนชวผู ั ้ผูส้ บ
ื ทอด ต้
วนซือ่ เจ ้าคอยดู เจ ้าคอยดูขา้ เถอะ

แม่นมซือเห็นท่าทีก็ถอนหายใจเบาๆ ในใจ พระชายาคนก่อน


กลายเป็ นหนามยอกอกของพระชายาแลว้ พระชายากระวน
กระวายจิกไวไ้ ม่ปล่อยเช่นนี ้ ไม่ใช่เพราะตนไม่ปล่อยวางเองหรอก
่ นคุณชายใหญ่ขวางหูขวางตา ก็แยกออกไป
หรือ นางว่า ในเมือเห็

เสีย ไม่เห็นก็ทําอะไรไม่ได้ ไยจะต้องให้อยู่ในสายตาเพือสร ้างความ
รําคาญใจให้ตนเพิมด้ ่ วยเล่า
แต่อย่างไรเสียนางก็เป็ นเพียงคนใช ้ แม้ว่าจะมีสม
ั พันธไมตรีกบ
ั พระ
ชายาหลายส่วน แต่กลับไม่กลา้ ล่วงเกินพระชายาอยู่ด!ี

่ ่ งนั้นก็รู ้เรืองของต้
เสินเวยฝั ่ ่
วนซือแม่ สามีนางแลว้


ต้วนซือพระชายาจิ ้ องคนก่อนนามว่าเฉิ นสุ่ย เป็ นคนทีฮ่
นอ๋ ่ องเต้
องค ์ก่อนทรงพากลับมาจากการเสด็จเยียมเยี่ ยนประชาชนในปี
หนึ่ ง ว่ากันว่าเป็ นบุตรสาวของสหายเก่า สหายเก่าฝากฝังไวก้ ่อน
ตาย ปี นั้นต้วนซือเพิ
่ งจะอายุ
่ ได้แปดปี

แม้ฮ่องเต้องค ์ก่อนจะบอกว่าเป็ นบุตรสาวของสหายเก่า แต่แทบจะ


่ อ้ อ้างนี ้ ต่างก็คด
ไม่มใี ครเชือข ้ าในหมู่ประชาชน
ิ ว่าเป็ นไข่มุกลําค่
ของฮ่องเต้องค ์ก่อน ฮ่องเต้องค ์ก่อนปฏิบต ั ต ่ อย่างถึง
ิ ่อต้วนซือดี
่ ด เงินเดือนสวัสดิการลว้ นเหมือนกับองค ์หญิง อีกทังยั
ทีสุ ้ งมักจะ
เจียดเวลามาเสวยพระกระยาหารเป็ นเพือน ่ นี่ ก็ยงทํ
่ิ าให้ทุกคน
มั่นใจว่าต้วนซือเป็
่ นบุตรสาวลับๆ ของฮ่องเต้องค ์ก่อน
่ ั บตาก็ผ่านไปอีกแปดปี ต้วนซืออายุ
ชวพริ ่ สบ
ิ หกปี แลว้ ควรจะเลือก
เขยออกเรือนได้แลว้ ฮ่องเต้องค ์ก่อนตัดใจให้นางแต่งออกจากวัง
ไม่ได้ จึงอยากให้เลือกหนึ่ งคนจากลูกชายทังหลายของพระองค
้ ์
ถามความคิดเห็นของต้วนซือ่ ด้วยเหตุนีพระราชโองการหนึ
้ ่ งฉบับ
่ อกจินอ๋
จึงประกาศว่าต้วนซือเลื ้ องสวีจงิ่ คิดว่ามีการดูแลของตน

แลว้ ต้วนซือจะสามารถมี ความสุขได้ ไหนเลยจะรู ้ว่านี่ จะกลายเป็ น
่ นชะตาทีเศร
จุดเริมต้ ่ ้าโศกของต้วนซือ่

่ งๆ ว่าต้ว
พระราชโองการสมรสประกาศออกมา ทุกคนจึงเชือจริ
่ ใช่บุตรสาวฮ่องเต้ อิจฉา
นซือไม่

้ องทีโชคดี
จินอ๋ ่ ่ รบั ความโปรดปรานจาก
อย่างอดไม่ได้ มีภรรยาทีได้
ฝ่ าบาทผูน้ ี ้ ก็เท่ากับได้รบั ความช่วยเหลือทีใหญ่
่ ่
อย่างยิง!

้ องสวีจงที
ทว่าจินอ๋ ิ่ ถู
่ กคนอิจฉาริษยาโกรธเกลียดกลับตกใจราวกับ
ถูกฟ้ าผ่า เพราะเขามีนางในใจอยู่ก่อนแลว้ กําลังรอโอกาสที่

เหมาะสมจะเอ่ยต่อพระบิดา พระราชโองการสมรสฉบับนี ประกาศ
ออกมาก็โจมตีเขาจนมึนงง

นางในใจของจินอ๋ ้ องก็คอ ื ซ่งหลินหลาง บิดานางคืออธิการบดี


ประจําสํานักราชบัณฑิตหลวง ว่ากันตามเหตุผลในด้านฐานะก็
้ องแลว้ เหตุใดจินอ๋
คู่ควรกับจินอ๋ ้ องถึงไม่กลา้ เอ่ยต่อฮ่องเต้องค ์
ก่อนเสียที นั่นก็เพราะว่าสองปี ก่อนอธิการบดีซง่ ป่ วยตาย หนึ่ งคือ
ซ่งหลินหลางยังอยู่ในช่วงไวท้ ุกข ์ สองคือหลังจากอธิการบดีซง่ ป่ วย
ตายฐานะของซ่งหลินหลางก็ไม่ค่อยคู่ควรกับจินอ๋ ้ องแลว้

้ องรู ้อยู่แก่ใจว่าพ่อเขาไม่อาจตอบรับง่ายๆ จึงไม่


และเพราะว่าจินอ๋
กลา้ เอ่ยปาก ดังนั้นจึงมีพระราชโองการสมรสฉบับนี ขึ้ นมา

้ องสวีจงผู
พูดได้ว่าจินอ๋ ิ่ น้ ี ไม่
้ ใช่คนทีมี
่ ความรับผิดชอบ แม้จะ
คิดถึงซ่งหลินหลาง แต่กลับไม่มค ี วามกลา้ พอจะคัดค้านพระราช

โองการ แม้แต่จะอธิบายกับพ่อเขาเรืองนางในใจยั งไม่กลา้ ทุกวัน
เอาแต่ถอนอกถอนใจดืมสุ ่ ราคลายทุกข ์
เป็ นเช่นนี ้ ต้วนซือยกขบวนสิ
่ ้ งเป็ นพระชายาจินอ๋
นสอดสิบลีแต่ ้ อง
้ องปฏิบต
จินอ๋ ั ต ่ ผ่าน
ิ ่อนางไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ไม่นับว่าแย่มาก ครึงปี
ไป ต้วนซือตั ่ งครรภ
้ ่ ก ของขวัญส่งไปที่
์ ฮ่องเต้องค ์ก่อนดีใจยิงนั
พระชายาจินอ๋ ้ องราวกับสายนํ ้า ทังยั ้ งทรงมีพระเมตตาให้จนอ๋
ิ ้ อง
เขา้ ไปฝึ กงานในกรมพระคลังเป็ นพิเศษ นี่ แทบจะทําให้พน้ ี่ อง

ทังหมดของจิ ้ องอิจฉาตาร ้อน แม้ว่าจะเป็ นจักรพรรดิยงเซวียน
นอ๋
ในปัจจุบน ่
ั พีชายแม่ เดียวกันของเขาก็ยงั เจ็บปวดใจ

้ องผูน้ ี เป็
ใครจะรู ้จินอ๋ ้ นคนไร ้ประโยชน์ ช่วงทีต้
่ วนซือตั
่ งครรภ
้ ์ไม่รู ้ว่า
ื ้ ้นรักในอดีตกับซ่งหลินหลางผูน
เหตุใดถึงได้รอฟื ้ ั้น ซํายั
้ งมี
ความสัมพันธ ์ลับๆ ตอนทีต้ ่ วนซือตั
่ งครรภ
้ ์ได้หกเดือน ซ่งหลิน
หลางก็ใกลจ้ ะตังท้ ้ องได้สามเดือนแลว้

่ องนี
ตอนทีเรื ่ แดงขึ้ ้
นมา ทุกคนตกตะลึง ฮ่องเต้องค ์ก่อนทรงพิโรธ ต้

วนซือแพ ท้ อ้ งกะทันหัน หากไม่ใช่ว่าหมอหลวงมาทันเวลา เกรงว่า
ทารกในครรภ ์ก็คงจะไม่รอด
้ องลุ่มหลงอยู่ทใด
ไม่รู ้ว่าท่านจินอ๋ ี่ จะเป็ นจะตายก็ตอ้ งแต่งซ่งหลิน
หลางเขา้ จวนเป็ นชายารองให้ได้ ฮ่องเต้องค ์ก่อนทรงพิโรธ หาก
ไม่ใช่ว่าเป็ นลูกแท้ๆ ของเขาเขาก็คงจะให้คนลากออกไปฟันทิงแล ้ ว้
เขาไม่ได้คด ั ค้านไม่ให้ลูกชายแต่งชายารอง แต่ก็ไม่อาจใช ้วิธน ้
ี ี ได้
ท้องก่อนแต่ง เห็นได้ถงึ นิ สยั ของซ่งหลินหลางผูน้ ั้น เดิมเขาคิดจะ
ประหารชีวต ิ ้ อง
ิ ซ่งหลินหลางให้สนเรื ่ แต่จนอ๋
ิ ้ องยืนกรานจะปกป้ อง
้ งโวยวายว่าหากซ่งหลินหลางเป็ นอะไรไปเขาก็จะไม่อยู่
ซํายั
เช่นเดียวกัน แม้ฮ่องเต้องค ์ก่อนจะเป็ นกษัตริย ์ แต่ก็ทนเห็ นลูกชาย
ไปตายไม่ได้ ภายใต้ความโกรธจึงถือโอกาสไม่สนใจ ตรัสเพียงแค่
‘ซ่งหลินหลางจะไม่ตายก็ได้ แต่ไม่อาจแต่งเขา้ จวนจินอ๋ ้ องด้วย
ฐานะชายารองได้เป็ นอันขาด เป็ นได้เพียงอนุ ภรรยาเท่านั้น’

ฐานะอนุ ภรรยาต้อยตํ่ายิงนั ่ ก ซ่งหลินหลางย่อมไม่ยอม นางทุ่มเท


ความคิดไม่ใช่เพือที ่ จะไปเป็
่ นอนุ ภรรยาต้อยตํ่าคนหนึ่ งในจวนจิ ้
นอ๋อง เดิมนางก็พุ่งไปยังตําแหน่ งพระชายาจินอ๋ ้ องแลว้ นางคิด
คํานวณมาดีแลว้ ต้วนซือตั ่ งครรภ
้ ์ได้หกเดือน ครรภ ์เองก็ไม่ค่อยดี
มีอุบต
ั เิ หตุเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถคร่าได้สองชีวิต น่ าเสียดายทีนาง ่
โชคดี คาดไม่ถงึ ว่ารอดพน้ ไปได้
ซ่งหลินหลางด้านหนึ่ งก็เสแสร ้ง อีกด้านหนึ่ งก็ถ่วงเวลาเขา้ จวนอ๋อง
นางรู ้ดีแก่ใจ ขอเพียงแค่นางเขา้ จวนอ๋องในฐานะอนุ ภรรยา
เช่นนั้นชวชี
่ ั วต ้
ิ นี ของนางก็ จบเห่แลว้ นางจะยอมได้อย่างไร

ภายใต้นํ้าตาและการโจมตีอย่างอ่อนโยนของซ่งหลินหลาง จินอ๋ ้ อง
่ มลุ่มหลงอยู่แลว้ ก็ยงเสี
ทีเดิ ิ่ ยสติ คาดไม่ถงึ ว่าบีบบังคับต้วนซือ่ บีบ
ให้นางไปขอฮ่องเต้อง ์ก่อน อนุ ญาตให้ซง่ หลินหลางเขา้ จวนด้วย
ฐานะชายารอง ต้วนซือมี ่ นิสยั อ่อนแอ แต่นางกลับไม่โง่ จะไปขอ
ฮ่องเต้องค ์ก่อนได้อย่างไร

้ องทีอั
จินอ๋ ่ บอายจนโมโหก็ผลักต้วนซือหนึ ่ ่ งครา ชนกําแพงพอดี
ตอนนั้นทารกในท้องนางกําลังจะเก ้าเดือน เมือกระแทกเช่
่ นนี ้ ก็ตก
เลือดทันที ทรมานอยู่หนึ่ งวันหนึ่ งคืนคลอดคุณชายใหญ่ออกมา
ก่อนกําหนด เสียงร ้องไห้นั้นอ่อนแอยิงกว่
่ าลูกแมวด้วยซํา้

หมอหลวงวินิจฉัย คุณชายใหญ่ไม่เพียงแต่รา่ งกายอ่อนแอเพราะ


่ ่
คลอดก่อนกําหนด ภายในร่างกายยังมีสารพิษอีกด้วย ต้วนซือที
่ วต
เดิมก็หมดไปครึงชี ิ ดังนั้นก็ยงถู
ิ แลว้ ได้ยน ่ิ กโจมตีอย่างหนัก ไม่ก ่ี
วันก็ลาโลกไป

ฮ่องเต้องค ์ก่อนทรงพิโรธอีกครัง้ ตรวจสอบคนทีปรนนิ


่ บตั อ
ิ ยู่ขา้ ง

กายต้วนซือตรวจแล ว้ ตรวจอีกก็ตรวจหาอะไรไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่เคย
ั้ ตน้ จนจบนางไม่เคยคบค้า
สงสัยซ่งหลินหลาง เพียงแต่ตงแต่
สมาคมกับ


ต้วนซือเลย ไม่มห
ี ลักฐานจะจับนางได้อย่างไร


ว่ากันตามเหตุผลต้วนซือเองก็ นับว่าเสียชีวต
ิ เพราะซ่งหลินหลาง
ิ่ อนุ ญาตให้นางเขา้ มาในราชวงศ ์แลว้ แต่
ฮ่องเต้องค ์ก่อนก็ยงไม่
ไม่ใช่ว่ายังมีคนปัญญาอ่อนทีลุ ่ ่มหลงในความรักผูน้ ั้นอย่างจินอ๋
้ อง
อยู่หรือ จะเป็ นจะตายก็โวยวายจะแต่งนางในฐานะชายาเอกให้ได้
บวกกับในท้องซ่งหลินหลางก็มท ี ายาทของราชวงศ ์อยู่ ทุกคนก็
ช่วยกันร ้องขอ ฮ่องเต้องค ์ก่อนก็ประนี ประนอม
ได้ เจ ้าอยากแต่งมิใช่หรือ เช่นนั้นก็แต่งสิ! เพียงแต่ชวชี
่ ั วต ้ ง
ิ นี ซ่
หลินหลางอย่าได้คด ิ จะเขา้ พระราชวัง หมายความว่าซ่งหลินหลาง

มีเพียงชือพระชายาจิ ้ องเท่านั้น แต่ไม่มค
นอ๋ ี ุณสมบัตเิ ขา้ ร่วม

เทศกาลงานเลียงฉลองทั ้
งหมดของราชวงศ ์

้ องรู ้จักซ่งหลินหลางดีไม่ใช่หรือ ได้ ทําให้เจ ้าสมปรารถนา


เจ ้าจินอ๋
งานในกรมพระคลังก็ไม่ตอ้ งทําแลว้ กลับจวนจินอ๋ ้ องของเจ ้าไปอยู่
กับดวงใจของเจ ้าเถอะ แม้ว่าขา้ จะทําให้เจ ้าตายไม่ได้ แต่เจ ้าก็
อย่าได้ออกมาขวางหูขวางตาขา้ ขา้ มีลูกเยอะ ขาดเจ ้าคนเดียวก็
ไม่เป็ นไร
ตอนที่ 220-2 ก่อนกลับบา้ น

เสินเวยฟั งอย่างออกรสออกชาติ ไอหยาให้ตายเถอะ แต่ละเรืองๆ ่ นี ้
เป็ นแผนการหญิงงามฉบับแท้จริงๆ จวนจินอ๋ ้ องเป็ นตัวร ้าย อายุสบ

หกสิบเจ็ดปี ก็วางแผนคร่าชีวต ิ คนแลว้ เก่งกว่านางมาก ยังมีพ่อ
สามีผูน้ ี ้ ควรว่าทีเขาลุ
่ ่มหลงในความรักหรือเหยียดหยามทีเขาเป็่ น
ชายชาติชวดี ่ั

“เหตุใดพระชายาจินอ๋ ้ องเขา้ จวนอ๋องแลว้ ถึงไม่อม ุ ้ ท่านไปเลียงเล่้ า”


้ ใช่หรือ ภรรยาใหม่อม
ในนิ ยายลว้ นแต่เขียนแบบนี ไม่ ้
ุ ้ ลูกเลียงของ
้ ขา้ งกาย ไม่เลียงให้
คนก่อนมาเลียงดู ้ พก ้
ิ ารก็เลียงให้ ปัญญาอ่อน

บา้ งก็เลียงให้
ตายเสียเลย

“นางกลับเคยคิดแลว้ ฮ่องเต้องค ์ก่อนไม่อนุ ญาต” ดวงตาสวีโย่วมี


ความเหยียดหยาม แม้ว่าขา้ งกายเขาจะมีคนของฮ่องเต้องค ์ก่อน
สถานการณ์ตอนเด็กก็ไม่ค่อยดีนัก

“เรืองพิ ่
ษในครรภ ์ของท่านไม่เคยสืบได้เลยใช่หรือไม่” จู่ๆ เสินเวยก็
่ อี
นึ กถึงเรืองนี ้ กครัง้ นางไม่เชือว่
่ าจะสืบหาออกมาไม่ได้ ห่านป่ าเดิน
ผ่านยังมีเสียง ขอเพียงแค่เคยทําก็จะต้องทิงร่้ องรอยเอาไว ้ จะ
ตรวจสอบไม่เจอได้อย่างไร เกรงว่าความจริงจะพูดออกไปขา้ งนอก
ไม่ได้กระมัง

เป็ นดังคาดเห็นบนใบหน้าสวีโย่วมีความเย็นเยียบแวบผ่าน ครูใ่ หญ่


จึงกล่าว “ฮ่องเต้องค ์ก่อนน่ าจะรู ้อยู่บา้ ง แต่กระทั่งก่อนเขาจากไปก็
ยังไม่บอกขา้ ขา้ เดาว่าน่ าจะมีส่วนเกียวข ่ อ้ งกับสองคนนั้น” เมือ

้ ความสามารถแลว้ ปี น้นคนรั
เขาโตขึนมี ั บใช ้ขา้ งกายเสด็จแม่ของ
เขานอกจากยายหรูก็หาไม่เจอเลยแม้แต่คนเดียว

ท่านจินอ๋้ องร่วมกันวางแผนฆ่าชายาเอกคนก่อนกับชูหรื ้ อ ไอหยา


นี่ เกินไปแลว้ จริงๆ ความประทับใจทีเสิ่ นเวยมี
่ ้ องตํ่าลง
ต่อท่านจินอ๋
ไปในฝุ่ นละอองทันที นางตบบ่าของสวีโย่วแลว้ กล่าวปลอบ “ไม่
เป็ นไร มีโอกาสพวกเราค่อยสืบต่อ คนเป็ นลูกจะต้องทวงความ
ยุตธิ รรมให้ผใู ้ หญ่ ท่านวางใจก็ดแี ลว้ ขา้ จะช่วยท่านแน่ นอน”

สวีโย่วกอดเสินเวยเข า้ มาในอ้อมอก กอดนางอยู่นานไม่เอ่ยปาก
ความแค้นฆ่ามารดา เขาต้องใจกวา้ งเพียงใดจึงจะลืมได้


วันทีสามเป็ ่ นเวยกลั
นวันทีเสิ ่ ่
บบา้ น ตอนทีเคารพพระชายาจิ ้ องก็
นอ๋
บอกนางว่าของขวัญกลับบา้ นเตรียมใส่รถไวด้ แี ลว้ ให้นางกลับไป
อย่างสบายใจ ไม่ตอ้ งรีบกลับมา


เสินเวยจมดิ ่ ่ท่ามกลางความดีใจ ตอนทีอยู
งอยู ่ ่ในจวนโหวไม่รู ้สึก

ตอนนี ออกมาเพี ยงแค่สามสีวั่ นก็คด
ิ ถึงแทบแย่แลว้ ไม่รู ้เหมือนกัน

ว่าท่านปู่ กับน้องเจวียจะคิดถึงนางบา้ งหรือไม่ ใช่แลว้ ทั่วทังจวนจง

อู่โหวคนทีเสิ่ นเวยคิ
่ ่ ดก็คือปู่ กับน้องชายนาง หากจะพูดว่า
ดถึงทีสุ
ยังมีใครอีก เช่นนั้นก็คงจะเป็ นท่านอากับลูกผูน ่ อเล่า
้ อ้ ง คนทีเหลื
ไม่ทน ั ได้เกิดความผูกพันใดๆ อย่างสินเชิ ้ ง

ของขวัญกลับบา้ นโดยทั่วไปแลว้ ลว้ นเป็ นผูอ้ าวุโสของฝ่ ายชายที่



จัดเตรียม เสินเวยเองก็ ไม่ได้สนใจ ส่วนสําคัญเป็ นเพราะนางคิดว่า
ด้วยสติปัญญาของพระชายาจินอ๋ ้ องไม่น่าจะเล่นลูกไม้เรืองนี
่ ้ ไม่
้ อง
คิดว่าความเป็ นจริงจะตบหน้า นางยังคงประเมิณพระชายาจินอ๋
สูงไปจริงๆ


แม้ของขวัญกลับบา้ นจะขนขึนรถเรี ยบร ้อยแลว้ แต่แม่นมมั่วเป็ น
คนรอบคอบ จึงพาหลีฮวาและคนอืนๆ ่ ไปตรวจดูรอบหนึ่ ง ตรวจดู
้ พบปัญหาแลว้ ของขวัญทีเตรี
รอบนี ก็ ่ ยมกลับบา้ นโดยทั่วไปลว้ น
เป็ นจํานวนคู่ ความหมายแฝงก็คอ ื เป็ นคู่ครอง เหมือนเช่นไก่เป็ น
โดยทั่วไปลว้ นมีสองตัว แทนความหมายสิรมิ งคลสมปรารถนา แต่
่ ้าเตรียมถึงมีชนเดี
เหตุใดของทุกอย่างทีเจ ิ ้ ยว หมายความว่าอย่างไร

ตอนทีเรื ่ องนี
่ รายงานไปถึ
้ ่
งหูเสินเวยนางก็ โมโหแลว้ นี่ ไม่ใช่การ
กลั่นแกลง้ หรือไร นี่ ไม่ใช่การดูถูกจวนจงอู่โหวหรือไร จวนจินอ๋ ้ อง

แห่งนี ของเจ ่
้าอาศัยพีชายแท้ ่ นฮ่องเต้ถงึ ได้มท
ๆ ทีเป็ ี รัพย ์สิน
เกียรติยศมิใช่หรือ พอฝ่ าบาทเสด็จสวรรคตฮ่องเต้องค ์ใหม่ขน ึ้
ครองบัลลังก ์จะยังมีใครสนใจท่านอ๋องว่างงานเช่นท่านอยู่อก ี แต่
จวนจงอู่โหวของขา้ กลับสามารถอาศัยคุณูปการสงครามตัง้
ตระหง่านหลายสิบปี ก็ไม่ลม้
แววตาชวร ่ ั ้ายของเสินเวยจ
่ ้องมองสวีโย่ว ความหมายนั้นชดั เจน
อย่างยิง่ ‘วันนี หากเจ
้ ้าไม่อธิบายให้ขา้ ฟัง พวกเราไม่จบแน่ ’

่ มแน่ นของสวีโย่วเห็นความโกรธของเขาชดั เจน เขา


ริมฝี ปากทีเม้
ยกขาเดินออกไปขา้ งนอก “ของขวัญกลับจวนอยู่ไหน เอากลับไป
่ อนท่านอ๋องเดียวนี
ทีเรื ๋ ”้ เขาจะไปคิดบัญชีกบ
ั พ่อเขา


หลังสวีโย่วไปไปแลว้ เสินเวยก็ คด ่ นึ่ ง ร ้องไห้ตามทางไปยัง
ิ ครูห
เรือนของของจวนจินอ๋้ อง ร ้องไห้ไปพลางตะโกนไปพลาง “เสด็จแม่
ท่านโปรดไวห้ น้าลูกสักหน่ อยเถิด ท่านไม่พอใจลูกตรงไหน ลูกจะ
แก ้”

เย่ว ์กุ ้ยกับเหอฮวาโน้มน้าวตามอยู่ขา้ งหลัง “ฮูหยินท่านอย่าได้


เสียใจไปเลย ท่านปล่อยวางหน่ อย พระชายาจะต้องไม่ได้ตงใจ ั้

แน่ นอน” เสียงสูงจนแม้แต่ครึงจวนอ๋ องก็ยงั ได้ยิน
คนรับใช ้ตามทางชีไม้้ ชมื
ี ้ อ เสินเวยไม่
่ กลัวเสียหน้า อย่างไรเสียนาง
ก็เป็ นชนรุน ่
่ หลัง หากคนอืนจะวิ จารณ์ก็ตอ้ งวิจารณ์ผอู ้ าวุโสก่อน
พ่อแม่รกั ลูกลูกกตัญ�ูต่อพ่อแม่ ใครอยู่หน้าใครอยู่หลัง มองดูก็รู ้
แลว้ !

้ องได้ยน
พระชายาจินอ๋ ่
ิ เสียงร ้องไห้ของเสินเวยมาแต่ ไกล ก่าย
หน้าผากโดยไม่รู ้ตัว “รีบไปดูว่าเกิดอะไรขึน”้

สาวใช ้ยังไม่ทน ่
ั เดินออกจากห้อง เสินเวยก็ มาถึงแลว้ นางโผเขา้ มา
กอดขาของพระชายาจินอ๋ ้ องทันที บนใบหน้าเล็กๆ ทีเงยขึ
่ ้
นมี
หยาดนํ ้าตา “เสด็จแม่ ท่านต้องช่วยลูก ลูกไม่มห
ี น้าจะอยู่แลว้ ”

“เป็ นอะไร เป็ นอะไร เหตุใดถึงร ้องไห้เช่นนี ้ วันนี เป็


้ นวันกลับบา้ น
มิใช่หรือ ทะเลาะกับโย่วเอ๋อร ์หรือ เด็กดีหยุดร ้อง ดูสน ิ ่ าสงสารนัก
ตาบวมหมดแลว้ ไม่ร ้องๆ แม่จะทําโทษโย่วเอ๋อร ์แทนเจ ้าเอง” พระ
้ องอดทนไม่ดงึ ขาออก
ชายาจินอ๋

“ไม่ใช่คุณชายใหญ่ เป็ นเรืองของขวั ่
ญกลับบา้ น” เสินเวยก ้มหน้า
เช็ดนํ ้าตากับชุดของพระชายาจินอ๋ ้ อง “เสด็จแม่เหตุใดท่านถึงทํา
้ า ลูกโง่หน่ อย แต่ลูกก็เชือฟั
กับลูกเช่นนี เล่ ่ ง ลูกเคารพท่านเป็ นแม่
ด้วยความจริงจังและจริงใจ ท่านทําเช่นนี ลู ้ กเสียใจยิงนั
่ ก”

หางตาพระชายาจินอ๋ ้ องกระตุก ถามด้วยสีหน้าสงสัย “ภรรยาโย่ว


่ ให้
เอ๋อร ์เจ ้าพูดให้ชดั เจน ของขวัญกลับบา้ นมีอะไรหรือ ของทีแม่
คนเตรียมลว้ นแต่เป็ นของดีทงนั ั้ ้น!”


เสินเวยร ้องไปพลางพูดไปพลาง “ของเป็ นของดี แต่จาํ นวนผิด
ของขวัญกลับบา้ นลว้ นแต่เป็ นคู่ แต่ของขวัญกลับบา้ นทีเสด็ ่ จแม่
ให้กลับมีอย่างละชิน้ นี่ ไม่ใช่เป็ นการสาปแช่งลูกหรือ นี่ หมายความ
ว่าลูกแช่งคุณชายใหญ่ หรือว่าคุณชายใหญ่แช่งลูก ลูกยังอายุ
น้อย วันเวลาดีๆ ยังใช ้ไม่พอ ยังไม่อยากตายและยังไม่อยากเป็ นแม่
่ าของขวัญกลับบา้ นนี กลั
หม้าย! เมือนํ ้ บไป จวนโหวจะไม่ไล่ลูก
ออกมาพร ้อมคุณชายใหญ่หรือ เสด็จแม่ท่านมีเจตนาเช่นไร”
ร ้องไห้ไปพลางก็เช็ดนํ ้าตาลงบนตัวนางเงียบๆ อีกครัง้
่ ด้
“อะไรนะ มีเรืองนี ้ วยหรือ” พระชายาจินอ๋ ้ องท่าทางตกใจไม่เชือ่
“แม่นมซือ ของขวัญกลับบา้ นของคุณชายใครเป็ นคนเตรียม เหตุ

ใดถึงเกิดเรืองสะเพร่ ่
าทีใหญ่ ้ รีบตรวจสอบเดียวนี
ถงึ เพียงนี ได้ ๋ ้ คิด
ว่าขา้ ไม่กลา้ ถลกหนังนางหรือ”

“เสด็จแม่ท่านอย่าโกหกลูกเลย จะต้องเป็ นท่านทีสั ่ ่งแน่ นอน ไม่มี


คําสั่งของท่าน คนรับใช ้ทั่วทังจวนไหนเลยจะกล
้ ่ ณชาย
า้ หาเรืองคุ

ใหญ่” เสินเวยร ้องไห้ต่อ

“เสด็จแม่ ท่านไม่ชอบลูกตรงไหนกันแน่ ท่านพูดมาตรงๆ เถอะ!


้ อย่างไรเสียลูกก็เป็ นจวินจู
แต่ท่านก็ไม่อาจตบหน้าลูกเช่นนี ได้ ้ ่ท ี ่
ฝ่ าบาทพระราชทานบรรดาศักดิ ์ อีกทังยั
้ งเป็ นฝ่ าบาทที่
พระราชทานสมรส ลูกเสียหน้าก็เท่ากับฝ่ าบาทเสียหน้า ฝ่ าบาท
เสียหน้า ท่านกับเสด็จพ่อก็เสียหน้า ท่านกําลังตบหน้าตนเองและ
เสด็จพ่ออยู่!”
พระชายาจินอ๋ ้ องพยายามจะพูด เสินเวยไม่
่ ให้โอกาสนางอย่าง
้ ง นางตะโกนเสียงดัง ทั่วทังเรื
สินเชิ ้ อนต่างก็ได้ยน ้ ท ี่
ิ ชดั เจน “ตังแต่
ลูกเขา้ เรือนมาก็เคารพท่าน ท่านใช่เพราะว่าคุณชายใหญ่ไม่ใช่
บุตรแท้ๆ ของท่านจึงดูถูกลูกด้วยหรือไม่ แต่ลูกกับคุณชายใหญ่ก็
เคารพท่านอย่างยิง! ่ คุณชายใหญ่ยงั มาเคารพท่านอยู่เลย ไม่เห็ น
คุณชายสามคนของท่านจะมาบา้ งเลย คนเขาพูดถูกจริงๆ ไม่ใช่

ลูกแท้ๆ จึงแตกต่างกัน สวรรค ์ เหตุใดชะตาของลูกถึงขืนขมเพี ยงนี ้

ฝ่ าบาท เหตุใดท่านถึงพระราชทานคู่หมันตระกู ้ หม่อมฉัน”
ลนี ให้

้ องทีรี่ บตามมาเมือเข
ท่านจินอ๋ ่ า้ มาก็ได้ยินคําร ้องประโยคนี ้ เท้าเขา
่ แทบจะลม้ ลงกับพืน้ สวีโย่ว
ลืน

่ ่ขา้ งหลังมองเขาอย่างเย็นชา คลา้ ยกําลังพูดว่า ‘ดูสิ ขา้ พูดไม่


ทีอยู
ผิดใช่หรือไม่’
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 221-1 กลับบ้ าน
จิ้นอ๋ องปวดใจจริ งๆ ตั้งแต่ที่บุตรคนโตผูน้ ้ ีกลับมาในจวนจากเขาเมื่อ
ปี ที่แล้วก็ไม่เคยมีชีวิตที่สงบสุ ขเลย วันนี้กย็ งิ่ เกินคาด ลูกชัว่ ผูน้ ้ ี
กระทัง่ ให้คนเอารถมาปิ ดทางเข้าห้องหนังสื อของเขา กล่าวด้วยเสี ยง
น่าสะพรึ งกลัว “ดูสิวา่ พระชายาคนดีของท่านทาอะไรไว้” สายตาที่ดุ
ร้ายนั้นราวกับสามารถกลืนกินเขาได้
จิ้นอ๋ องโมโหอย่างถึงที่สุด ก่นด่าด้วยความโกรธ “เจ้าลูกชัว่ มีเรื่ อง
อะไรอีกแล้ว เพื่อพระชายาคนใหม่ของเจ้าก็ยงุ่ ทั้งข้างนอกข้างใน
ข้างหน้าข้างหลังก็ลาบากอยูห่ ลายเดือน เจ้ายังมีอะไรไม่พอใจอีก”
สี หน้าสวีโย่วเหยียดหยามทั้งใบ “ลูกไม่มีอะไรไม่พอใจ ท่านลองดู
ของขวัญกลับบ้านที่พระชายาเตรี ยมให้ลูก แล้วค่อยมาถามว่าลูกมี
อะไรไม่พอใจ”
จิ้นอ๋ องลังเลไม่แน่ใจ ก้าวขึ้นไปรื้ อดูของขวัญบนรถ ยิง่ ดูกย็ งิ่ โกรธ ชี้
จมูกสวีโย่วแล้วก่นด่า “นี่ลว้ นแต่เป็ นของดีท้ งั นั้นมิใช่หรื อ พระ
ชายาไม่ได้ไร้ความเป็ นธรรมต่อเจ้าแม้แต่นิดเดียว ยังจะเอาอะไรอีก”
“ของกลับเป็ นของดี แต่ของขวัญกลับบ้านเตรี ยมไว้เช่นนี้หรื อ เสด็จ
พ่อไม่ทราบ จะลองถามคนรับใช้ขา้ งกายดูกไ็ ด้ พวกเขาจะต้องทราบ
แน่นอน” สายตาที่อึมครึ มของสวีโย่วมองบ่าวรับใช้ที่ยนื อยูข่ า้ งหลัง
พ่อเขา
ภายใต้การจ้องมองของสองพ่อลูกคู่น้ ี บ่าวรับใช้จาใจต้องก้าวออก
มา “ทูลท่านอ๋ อง ของขวัญกลับบ้านล้วนแต่เป็ นจานวนคู่ แฝงความ
หมายถึงคู่ครอง…” ประโยคที่เหลือเขาก็พดู ไม่ออกแล้ว แอบพูดใน
ใจ ไม่แปลกที่คุณชายใหญ่จะโกรธเพียงนี้ ของขวัญกลับบ้านจานวน
คี่ส่งไปถึงจวนจงอู่โหวจะเป็ นการผูกพยาบาทมิใช่หรื อ
“คราวนี้เสด็จพ่อเข้าใจแล้วใช่หรื อไม่ พระชายาคนดีของท่านหวังให้
ลูกผูกพยาบาทกับตระกูลพ่อตาแม่ยาย นางบีบบังคับให้นายท่านผู ้
เฒ่าเสิ่ นโหวไปร้องทุกข์ต่อฝ่ าบาทว่าจวนจิ้นอ๋ องรังแกคน ถึงตอน
นั้นเกียรติของท่านก็คงไม่เหลือ” น้ าเสี ยงสวีโย่วมีความเสี ยดสี
สี หน้าจิ้นอ๋ องแข็งทื่อ คิ้วขมวดมุ่น “พระชายาเป็ นคนรอบคอบเพียง
นั้นจะผิดพลาดเช่นนี้ได้อย่างไร จะต้องเป็ นบ่าวชั้นล่างที่แอบเล่น
ลูกไม้ประมาทสะเพร่ าเป็ นแน่”
ฮ่าๆ สวีโย่วอยากจะหันหลังเดินออกไปจริ งๆ พระชายาไม่ผดิ ที่ผิด
ล้วนเป็ นบ่าวชั้นล่าง แม้แต่ของขวัญกลับบ้านเรื่ องใหญ่เช่นนี้ยงั เกิด
ข้อผิดพลาดได้ ตระกูลไหนจะกล้าใช้บ่าวที่ไม่มีความรอบคอบ
เช่นนี้
“พระชายาดูแลจวนอ๋ องมายีส่ ิ บปี แล้ว น้อยนักที่จะเกิดข้อผิดพลาด
ได้ นางเองก็ผดิ พลาดเพียงแต่เรื่ องของลูก เสด็จพ่อที่ท่านพูด
น่าสนใจยิง่ นัก!” สายตาของสวีโย่วเย็นเยียบยิง่ ขึ้น “หากเสด็จพ่อไม่
ชอบหน้าลูก เช่นนั้นพรุ่ งนี้ลูกก็จะย้ายไปจวนจวิน้ อ๋ อง เลี่ยงไม่ให้
ต้องเป็ นหนามยอกอกของท่านอีก”
“เจ้า เจ้าลูกอกตัญญู!” จิ้นอ๋ องด่าลูกชายขึ้นมาต่อหน้าคนรับใช้ท้ งั
เรื อน “ไป ไปที่เรื อนพระชายา” ในเมื่อลูกชัว่ คนนี้เอาแต่พดู ว่าเป็ น
ความผิดของพระชายา เช่นนั้นเขาก็จะไปถามสักหน่อย เหอะ อีก
ประเดี๋ยวตบหน้าจะได้เห็นดีกนั !
เพิ่งจะเข้าไปในเรื อนของพระชายา ก็ได้ยนิ เสี ยงร้องไห้ที่สูงเปรี ยว
นัน่ ของเสิ่ นซื่อแล้ว ใบหน้าของเขากดลงมาในชัว่ พริ บตา เหตุใด
ภรรยาผูน้ ้ ีของโย่วเอ๋ อร์ถึงได้เหมือนกับสตรี ปากคอเราะร้าย หันหน้า
กลับมองบุตรคนโตปราดหนึ่งอย่างอดไม่ได้
สวีโย่วมองกลับไปด้วยแววตาที่เย็นเยียบ “ได้รับความไม่เป็ นธรรม
แล้วยังไม่ให้พดู อีกหรื อ เสด็จพ่อจิตใจท่านลาเอียงเกินไปแล้ว
หรื อไม่” เอียงไปจนถึงใต้รักแร้แล้ว
จิ้นอ๋ องถูกเขาทาให้โมโหอีกครั้ง แค่นเสี ยงหึ หนึ่งคราเดินเข้าไปข้าง
ใน
พระชายาจิ้นอ๋ องกับเสิ่ นเวยได้ยนิ เสี ยงเคารพของบ่าวข้างนอก ต่างก็
ถอนหายใจอย่างโล่งอก พระชายาจิ้นอ๋ องเพราะว่ามีที่พ่ งึ แล้ว ส่ วน
เสิ่ นเวยก็เพราะว่านางเหนื่อยจนอยากพักแล้ว
“ท่านอ๋ อง!” ดวงตาคู่งามของพระชายาจิ้นอ๋ องละออกไป ในดวงตามี
ความน้อยใจหลายส่ วน จิ้นอ๋ องเห็นแล้วหัวใจก็บีบแน่นเร่ งฝี เท้าเดิน
เข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่ได้
“เสด็จพ่อ ท่านต้องช่วยลูกนะเพคะ!” เสิ่ นเวยไหนเลยจะยอมให้พระ
ชายาจิ้นอ๋ องทาแผนชัว่ สาเร็ จ แผดเสี ยงโวยวายเข้าไป ขวางอยู่
ข้างหน้าจิ้นอ๋ อง กล่าวอย่างเศร้าโศก “เสด็จพ่อ ท่านช่วยลูกขอความ
เมตตาจากเสด็จแม่ได้หรื อไม่ ไว้หน้าลูกสักนิดเถอะ หากเสด็จแม่ไม่
พอใจลูกจริ งๆ ลูกก็จะขอให้สามีขบั ลูกเอง อย่างไรเสี ยจวนโหวก็
เลี้ยงลูกมา ลูกไม่อาจตบหน้าบ้านฝั่งมารดาได้”
“นี่ นี่ ภรรยาโย่วเอ่อร์เจ้าลุกขึ้นก่อน” จิ้นอ๋ องอึดอัดแล้ว เขาเป็ นพ่อ
สามี ด่าทอทุบตีลูกชายได้ แต่กบั ลูกสะใภ้เขากลับไม่มีหนทางเลย
แม้แต่นิดเดียว
เสิ่ นเวยไม่ยอมลุกขึ้น เอาแต่พดู ว่า ‘เสด็จพ่อช่วยด้วย’ ทาให้จิ้นอ๋ อง
ว้าวุน่ จนร้อนขึ้นปอด สายตาที่มองพระชายาก็หงุดหงิดขึ้นมา เป็ น
พระชายาที่ดูแลคนใช้ไม่ดี จึงนาภาระมาให้ตนต้องเหนื่อยสอดมือ
เข้ามายุง่ เรื่ องจุกจิกเช่นนี้ในเรื อนหลัง
เมื่อพระชายาจิ้นอ๋ องเห็นสี หน้าของจิ้นอ๋ องก็รู้แล้วว่าต้องแย่ ไม่
สนใจกิริยาอะไรทั้งสิ้ นแล้ว เข้าไปพยุงเสิ่ นเวยขึ้นด้วยตัวเอง
“ภรรยาโย่วเอ๋ อร์รีบลุกขึ้นเถิด เรื่ องนี้แม่จะต้องมีคาอธิบายให้เจ้า”
เดิมนางคิดว่าของขวัญกลับบ้านต่างก็ขนขึ้นรถแล้ว เสิ่ นซื่อน่าจะไม่
ดูอย่างละเอียด ต่อให้ดูออกแล้วอย่างไร ด้วยนิสยั ขี้ขลาดนัน่ ของเสิ่ น
ซื่ออย่างมากก็ไปเตรี ยมเองต่างหาก ใครจะรู ้เสิ่ นซื่อคนโง่ผนู ้ ้ ีคาดไม่
ถึงว่าจะโวยวายทาให้เป็ นเรื่ องใหญ่ ซ้ าคนชัว่ ผูน้ ้ นั ยังเรี ยกท่านอ๋ อง
มาอีก
“จริ งหรื อ เช่นนั้นลูกขอขอบคุณเสด็จแม่ก่อนเลย” เสิ่ นเวยเห็นว่าได้
ทีแล้วก็หยุด นางยังต้องกลับบ้าน จะให้โวยวายไปทั้งวันก็ไม่ได้
สร้างความราคาญก็ตอ้ งทาให้พวกเขาราคาญจนตาย
เสิ่ นเวยสะอึกสะอื้นนัง่ ลงข้างๆ ดวงตาแดงก่าราวกับกระต่าย น่า
สงสารยิง่ นัก จิ้นอ๋ องเห็นแล้ว ความไม่พอใจในตอนแรกก็หายไป
สามส่ วน อย่างไรเสี ยอายุยงั น้อย ได้รับความไม่เป็ นธรรมที่มาก
เช่นนี้กท็ าได้เพียงร้องไห้ ช่างเถอะ เขาเป็ นถึงท่านอ๋ องยิง่ ใหญ่จะคิด
เล็กคิดน้อยกับชนรุ่ นหลังไปทาไม
“พระชายา ของขวัญกลับบ้านของโย่วเอ๋ อร์ใครเป็ นคนเตรี ยม” จิ้
นอ๋ องถามด้วยสี หน้าจริ งจัง
สี หน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องดูไม่ดีอย่างยิง่ แต่กย็ งั คงใช้สายตาที่
อ่อนโยนและไร้กงั วลมองจิ้นอ๋ องกลับไป “ท่านอ๋ อง เรื่ องนี้ขา้ เป็ น
คนจัดการเอง ข้าคิดว่าโย่วเอ๋ อร์เป็ นบุตรชายคนโตในจวนอ๋ องของ
เรา ยังตั้งใจสัง่ ให้เตรี ยมของขวัญกลับบ้านเยอะๆ ไหนเลยจะรู ้วา่ …”
พระชายาจิ้นอ๋ องพูดไปพลางเสี ยงก็กดต่าลง ซับผ้าเช็ดหน้าที่หางตา
ถอนหายใจครู่ หนึ่งจึงกล่าวต่อ “ท่านอ๋ อง เรื่ องนี้อย่าโทษภรรยาโย่ว
เอ๋ อร์ เป็ นข้าที่ดูแลไม่ดีเอง”
ยอมรับว่าตนดูแลไม่ดี สาหรับพระชายาจิ้นอ๋ องที่แข็งแกร่ งแล้วถือ
เป็ นเรื่ องที่ลาบากใจมากเพียงใด สี หน้าของนางก็ดูไม่ดีเล็กน้อย
จิ้นอ๋ องมองนางปราดหนึ่ง แม้ในใจจะไม่พอใจ แต่สีหน้ากลับไม่
แสดงออกมา ถามต่อ “เรื่ องนี้บ่าวคนไหนจัดการ”
“ทูลท่านอ๋ อง เป็ นจางอี้จดั การเพคะ” แม่นมซือรี บตอบ
คิ้วของจิ้นอ๋ องก็ยงิ่ ขมวดมุ่น “เขาสะเพร่ าเช่นนี้ได้อย่างไร” จางอี้
เป็ นคนเก่าคนแก่ของจวนอ๋ อง ความสามารถในการจัดการเชื่อถือได้
อย่างยิง่ มาโดยตลอด คราวนี้เกิดอะไรขึ้น
ใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องก็ยงิ่ ดูไม่ดี แม้วา่ จางอี้จะจัดการเรื่ องข้าง
นอกในจวน แต่ความจริ งแล้วก็เป็ นคนของนาง!
ดวงตาที่หลุบลงของเสิ่ นเวยกะพริ บวาบ นี่จะผลักโทษไปให้แพะรับ
บาปตัวไหน เสิ่ นเวยไม่ได้ส่งเสี ยง นางเคยเห็นข้อมูลคนรับใช้ใน
จวนอ๋ องที่สวีโย่วให้นางแล้ว รู ้วา่ จางอี้ผนู ้ ้ ีถือได้วา่ เป็ นปลาตัวใหญ่
ข้างกายพระชายาจิ้นอ๋ อง
“จางอี้เล่า เรี ยกเขาเข้ามา” จิ้นอ๋ องย่อมไม่สนใจบ่าวรับใช้คนหนึ่ง
แน่นอน
“บ่าวเคารพท่านอ๋ องพระชายา คุณชายใหญ่ ฮูหยินใหญ่ขอรับ เรี ยน
ถามนายทั้งหลายเรี ยกบ่าวมามีเรื่ องอันใดหรื อขอรับ” จางอี้เป็ นชาย
วัยกลางคนที่มีใบหน้าซื่อตรง แต่ในแววตาที่กะพริ บวาบเป็ นครั้ง
คราวของเขายังคงมองเห็นความเฉลียวฉลาดของคนผูน้ ้ ีได้
เรื่ องของขวัญกลับบ้านต่างก็วนุ่ วายจนทราบกันทัว่ ทั้งจวนแล้ว คน
จัดการเช่นเขายังแสร้งไร้เดียงสาอยูต่ รงนี้ เหอๆ เป็ นผูม้ ี
ความสามารถคนหนึ่งเหมือนกัน
“ของขวัญกลับบ้านของคุณชายใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่เจ้าจัดการใช่
หรื อไม่ เหตุใดถึงมีแต่จานวนคี่ เจ้าเองก็ทางานมานานแล้ว เหตุใดถึง
เกิดความสะเพร่ าเช่นนี้ได้ นี่ไม่ใช่เป็ นการสร้างความไม่เป็ นธรรม
ให้พระชายาหรอกหรื อ” จิ้นอ๋ องตาหนิ
จางอี้ใจเต้น มองพระชายาด้วยความรวดเร็ วปราดหนึ่ง เห็นนางมีสี
หน้านิ่งเฉยไร้การแสดงออก ก็รู้แล้วว่าจาใจต้องโยนความผิดให้เขา
“นึกไม่ถึงว่ามีเรื่ องเช่นนี้ดว้ ย” จางอี้มีท่าทีตกใจอย่างยิง่ ตบศีรษะ
กล่าวอย่างเสี ยใจ “บ่าวสมควรตาย หลายวันมานี้ลูกคนเล็กใน
ครอบครัวบ่าวป่ วยหนัก บ่าวจึงทางานประมาทไปเล็กน้อย ท่านอ๋ อง
พระชายาโปรดเมตตา คุณชายใหญ่ฮูหยินใหญ่โปรดเมตตา บ่าว
ไม่ได้ต้ งั ใจจริ งๆ” เขาคุกเข่าลงบนพื้นโขกศีรษะไม่หยุด
“เจ้า เหอะ! จะให้ขา้ พูดอะไรดี” จิ้นอ๋ องโมโหจนสะบัดแขนเสื้ อ นึก
ถึงเรื่ องเรื่ องวุน่ วายกระเจิดกระเจิงแต่เช้านี้กป็ วดศีรษะทันที โบกมือ
กล่าว “ในเมื่อทาผิดก็ตอ้ งได้รับโทษ พระชายาคิดว่าจะลงโทษ
อย่างไร” เหตุผลที่ให้พระชายาลงโทษ เพียงเพราะคิดจะคลี่คลาย
ความสัมพันธ์ระหว่างพระชายากับลูกชายคนโตและภรรยาก็เท่านั้น
พระชายาจิ้นอ๋ องเห็นท่านอ๋ องยังคงยอมนาง ในใจก็โล่งอก เม้มปาก
กล่าว “บ่าวเช่นเจ้าก็แย่จริ งๆ ทางานล้มเหลว ทาให้ขา้ ถูกฮูหยินใหญ่
เข้าใจผิด หากไม่ลงโทษเจ้าให้เด็ดขาด ข้าก็ยากจะระบายความโกรธ
แค้น แต่เห็นแก่ที่เจ้ามีลูกที่ป่วยอยูใ่ นบ้าน น่าเห็นอกเห็นใจ ปลด
หน้าที่ดูแลของเจ้าออก ไปทางานที่หน้าประตูใหญ่แทนแล้วกัน”
จางอี้ถอนหายใจใหญ่ดว้ ยความโล่งอก โขกศีรษะขอบคุณไม่หยุด
“ขอบคุณท่านอ๋ องพระชายาที่เมตตา หลังจากวันนี้บ่าวจะทางาน
อย่างดี ไม่ทรยศต่อบุญคุณของท่านอ๋ องพระชายา”
จิ้นอ๋ องพยักหน้า รู ้สึกเหมือนกันว่าจัดการเช่นนี้สมเหตุสมผลอย่าง
ยิง่
ทว่าเสิ่ นเวยกลับไม่ยนิ ดี ผ้าเช็ดหน้าปิ ดหน้าร้องไห้ฮือๆ ขึ้นมา
“เสด็จแม่ดีต่อบ่าวยิง่ กว่าลูกเสี ยอีก เกิดข้อผิดพลาดที่ชดั เจนเช่นนี้
เพียงแค่ปลดหน้าที่ไปยังประตูใหญ่แทน ใครไม่รู้บา้ งว่างานที่หน้า
ประตูใหญ่ได้ผลประโยชน์มากมาย เสด็จแม่ ท่านไม่เห็นแก่ลูกเพียง
นี้เลยหรื อ”
สวีโย่วเองก็ใบหน้าเคร่ งขรึ มลุกขึ้นยืน “ร้องไห้อะไร ในเมื่อเขาไม่
เห็นก็อยูข่ วางหูขวางตาที่นี่ให้นอ้ ยหน่อย กลับเรื อนไปเก็บของ วันนี้
กลับบ้านไปแล้วก็ยา้ ยไปจวนจวิน้ อ๋ องเลย” ยกเท้าเดินออกไปข้าง
นอกทันที เสิ่ นเวยกุมหน้ารี บตามออกไป
จิ้นอ๋ องลนลานแล้ว “หยุด! เจ้าลูกอกตัญญูหยุดเดี๋ยวนี้!” เขากลับ
อยากไล่ลูกชายคนโตที่สร้างความราคาญผูน้ ้ ีออกจากจวนยิง่ นัก แต่
เสด็จพี่ในวังยังจับตามองอยู่ ลูกชัว่ ผูน้ ้ ียา้ ยออกไปเมื่อไร เสด็จพี่กจ็ ะ
ตาหนิเขาทันที
พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็กระวนกระวายใจ นางอยากสร้างความลาบาก
ใจให้คนชัว่ ผูน้ ้ ีอีกสักหน่อย กลับยังไม่คิดจะให้พวกเขาออกจากจวน
ตอนนี้ หากออกจากจวนก็ตอ้ งรอวันที่พวกเขาไม่เหลืออะไรทั้งสิ้ น
ชื่อเสี ยงย่อยยับถูกขับไล่ออกไปเสมือนหมาขี้เรื้ อน
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 221-2 กลับบ้ าน
“ภรรยาโย่วเอ๋ อร์ชา้ ก่อน” พระชายาจิ้นอ๋ องรี บสัง่ คนไปห้าม “มี
อะไรก็พดู กันดีๆ ดูสิทาเสด็จพ่อของพวกเจ้าโมโหแล้ว! ในเมื่อ
ภรรยาโย่วเอ๋ อร์คิดว่าแม่จดั การไม่เหมาะสม เช่นนั้นเจ้าคิดว่าจัดการ
เช่นไรจึงจะเหมาะสม”
เสิ่ นเวยหยุดฝี เท้าด้วยความลังเลใจ คล้ายกับตัดสิ นใจแน่วแน่แล้ว
กล่าว “หากเป็ นจวนจงอู่โหวของพวกข้าทาความผิดพลาดที่ใหญ่
หลวงเช่นนี้แล้วจะต้องโบยยีส่ ิ บครั้งก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยขายทั้ง
ครอบครัวออกไป บ่าวที่ไม่จงรักภักดีทางานไม่ต้ งั ใจเช่นนี้ จวนจงอู่
โหวของพวกข้าไม่ใช้เป็ นอันขาด”
“นี่จะโหดร้ายเกินไปหน่อยหรื อไม่” พระชายาจิ้นอ๋ องหนังตากระตุก
จางอี้ที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้นก็ยงิ่ ตกใจจนหน้าซีดเผือด ส่ งสายตาอ้อน
วอนไปยังพระชายาจิ้นอ๋ อง
จิ้นอ๋ องเองก็เผยสี หน้าไม่เห็นด้วย ทั้งโบยทั้งขายออกไป ดูจะ
โหดเ**้้ยมเกินไปหน่อย นี่กไ็ ม่ได้เกิดเรื่ องอะไรมิใช่หรื อ อายุแค่น้ ี
แต่วิธีการรุ นแรงเช่นนั้น ทาให้คนไม่สบายใจจริ งๆ!
“เสด็จพ่อเองก็คิดว่าโหดร้ายเกินไปงั้นหรื อ บ่าวสมควรตายผูน้ ้ ี
ได้รับความไว้ใจจากเสด็จแม่ แต่กลับสร้างความไม่เป็ นธรรมให้
เสด็จแม่ ดังนั้นจึงเห็นได้วา่ เป็ นคนไม่รู้จกั บุญคุณ คนแบบนี้ยงั เก็บ
ไว้ในจวน คิดดูแล้วก็ทาให้คนรู ้สึกหวาดกลัว วันนี้ละเลยทา
ผิดพลาดเรื่ องของขวัญกลับบ้านของลูกได้ พรุ่ งนี้กส็ ามารถละเลย
เชิญหมอมาล่าช้าได้ เสด็จแม่ ในท้องของน้องสามีสามตั้งครรภ์
ทารกอยู่ หากเกิดการสู ญเสี ยเพราะเหตุน้ ีจะเสี ยใจก็ไม่ทนั แล้ว” เสิ่ น
เวยกล่าวอย่างมีเหตุผล “วันนี้ท่านเห็นอกเห็นใจ พรุ่ งนี้เขาเองก็
ได้รับอภัย จะมีชีวิตอยูอ่ ย่างไร เพราะว่าเสด็จแม่เมตตา บ่าวรับใช้จึง
เหยียบจมูกขึ้นหน้า ลืมที่ต่าที่สูง”
พระชายาจิ้นอ๋ องถูกเสิ่ นเวยพูดถึงหมอ พูดถึงทารกในครรภ์จนตื่น
ตระหนกตกใจ ประหนึ่งครรภ์ของหูซื่อเกิดเรื่ องขึ้นแล้วจริ งๆ จิ้
นอ๋ องข้างๆ ก็โบกมืออย่างหงุดหงิด “พอแล้ว พอแล้ว ทาตามที่
ภรรยาโย่วเอ๋ อร์วา่ เถอะ โบยก็ไม่ตอ้ งโบยแล้ว ขายออกไปให้หมด
ทั้งครอบครัวเถอะ”
จางอี้แข็งงทื่ออยูบ่ นพื้นทันที ขายออกไปทั้งครอบครัว อย่าว่าแต่ไม่
มีอนาคต จะปกป้องชีวิตได้หรื อไม่ยงั ไม่รู้เลย เขาคลานไปข้างหน้าจิ้
นอ๋ อง “จิ้นอ๋ องโปรดไว้ชีวติ บ่าวไม่กล้าอีกแล้ว พระชายาช่วยบ่าว
ด้วย บ่าวเพียงแค่…อื้อๆๆ…” ผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนอุดปากเขาไว้พอดี
เด็กรับใช้สองคนเข้ามาลากเขาออกไปแล้ว จิตใจที่เป็ นกังวลของ
พระชายาจิ้นอ๋ องก็วางลงเช่นกัน
“ขอบคุณเสด็จพ่อที่ตดั สิ นใจแทนลูก วันนี้ลูกยังต้องกลับบ้าน ไม่
รบกวนแล้ว ลูกขอลา” เสิ่ นเวยรี บทาความเคารพ เดินไปสองก้าวก็
หันหน้ากลับมา กล่าวอย่างขลาดกลัว “เสด็จแม่ ของขวัญกลับบ้าน
ยังต้องรบกวนท่านเติมให้ครบด้วย” ไม่เอาก็เสี ยดาย โวยวายแล้ว
สร้างเรื่ องแล้วเพิ่มความราคาญใจแล้ว แต่กไ็ ม่อาจทิ้งของได้ นัน่
ล้วนแต่เป็ นเงิน!
พระชายาจิ้นอ๋ องย่อมตอบรับเต็มปากเต็มคา
สวีโย่วกับเสิ่ นเวยออกไปแล้ว จิ้นอ๋ องก็หนั หน้ากลับมามองพระ
ชายา คิ้วก็ขมวดขึ้นมาอีกครั้ง “หากเจ้าเหนื่อยเกินไป ก็ให้เสิ่ นซื่อกับ
อู่ซื่อแบ่งเบาภาระเจ้าไปสักหน่อยก็ได้ หูซื่อไม่ใช่ต้ งั ท้องอยูห่ รื อ เจ้า
ดูแลนางให้มากหน่อย” เขาห่วงใยท้องนี้ของหูซื่อเป็ นอย่างมาก เขา
มีลูกชายห้าคน แต่ไม่มีสกั คนที่ให้หลานชายแก่เขาได้ อย่าว่าแต่
หลานชาย แม้แต่หลานของอนุภรรยายังไม่มีเลยสักคนเดียว เห็น
จวนอ๋ องตระกูลอื่นอุม้ หลานแล้ว เขาก็ร้อนใจยิง่ นักรู ้หรื อไม่
หัวใจของพระชายาจิ้นอ๋ องจมดิ่ง นี่เป็ นครั้งแรกที่ท่านอ๋ อง
แสดงออกต่อนางว่าไม่พอใจ อู่ซื่อเองก็ไม่เป็ นไร แต่เสิ่ นซื่อ นางไม่
มีทางให้นางสอดมือเข้ามาดูแลเรื่ องในจวนอ๋ องแน่นอน
ด้วยเหตุน้ ีนางจึงลูบหน้าผากกล่าว “ข้าเชื่อฟังท่านอ๋ อง” จากนั้นก็
ถอนหายใจกล่าว “ช่วงนี้ขา้ อาจจะเหนื่อย มักจะรู ้สึกว่ากาลังวังชาไม่
เต็มที่เหมือนเมื่อก่อน อู่ซื่อกลับมีความสามารถ ช่วยข้าจัดการเรื่ อง
ในจวนมาโดยตลอด เสิ่ นซื่อใช่อายุนอ้ ยไปหน่อยหรื อไม่ สอดมือ
เข้ามาจัดการงานในจวนอย่างประมาทจะไม่ค่อยเหมาะสมหรื อไม่
อีกทั้งพวกเขาเพิ่งจะแต่งงาน กาลังอยูใ่ นช่วงข้าวใหม่ปลามัน อีกสัก
สามเดือนค่อยให้เสิ่ นซื่อมาเรี ยนรู ้ขา้ งกายข้าก็ได้” นางกระทัง่
ยืดเวลาออกไปหลังสามเดือน
จิ้นอ๋ องคิดๆ ดูแล้วช่วงนี้จวนอ๋ องก็จดั งานมงคล พระชายาคงลาบาก
จริ งๆ จึงไม่ได้ตาหนินางอีก “เรื่ องนี้เอาตามที่พระชายาเห็นชอบ
เถอะ เพียงแค่อย่าให้เกิดการสะเพร่ าเช่นนี้อีก” จิ้นอ๋ องไม่อยากจะยุง่
เรื่ องนี้ เขาเอ่ยถึงเสิ่ นเวยได้กเ็ พียงแค่พดู ไปตามใจปาก ขอเพียงไม่
เอาเรื่ องขี้หมูราขี้หมาแห้งมารบกวนเขา เขาก็ข้ ีเกียจจะสนใจ
หลังจิ้นอ๋ องออกไปแล้ว พระชายาจิ้นอ๋ องก็รีบเรี ยกแม่นมซือเข้ามา
“แม่นมรี บไป สื บมาว่าครอบครัวจางอี้ถูกขายไปที่ใด ซื้อพวกเขาไว้
เงียบๆ ให้พวกเขาไปอยูท่ ี่หมู่บา้ นชานเมืองของข้าก่อน” หลายปี มา
นี้จางอี้ทางานแทนนางไม่นอ้ ย ขายออกไปเช่นนี้นางไม่วางใจ
เสิ่ นเวยเองก็สงั่ เย่วก์ ยุ้ “หาคนซื้อครอบครัวจางอี้ไว้” ลางสังหรณ์
บอกนางว่าจางอี้ผนู ้ ้ ีน่าจะมีประโยชน์เล็กน้อย
ครั้งนี้แม้วา่ จะไม่สามารถทาอะไรพระชายาจิ้นอ๋ องได้ เพียงแค่อาศัย
เรื่ องนี้กไ็ ม่อาจทาอะไรนางได้อยูแ่ ล้ว แต่กไ็ ม่ใช่วา่ จะไม่ได้ดอกผล
เลย อย่างน้อยก็ตดั กาลังของนางไปได้หนึ่งคน
ณ จวนจงอู่โหว สวีซ่ ื่อตื่นแต่เช้ามาจัดการงาน เสิ่ นหงเหวินสามพี่
น้องก็ลางานรอเขยคนใหม่มาเยีย่ มบ้านอยูใ่ นจวน เสิ่ นเจวี๋ยเองก็หยุด
เรี ยน วิ่งไปหน้าประตูใหญ่ไม่หยุด ชะเง้อคอยาว นายท่านผูเ้ ฒ่าโหว
สวมเสื้ อผ้าชุดใหม่ของเขา แม้ใบหน้าจะเรี ยบเฉย อันที่จริ งในใจ
กลับร้อนรนอยูน่ านแล้ว หากไม่ใช่วา่ ห่วงศักดิ์ศรี เขาเองก็คง
อยากจะออกไปรออยูน่ อกประตูใหญ่อย่างยิง่
เสิ่ นซวง เสิ่ นอิงและเสิ่ นเสวี่ยเองก็จูงมือสามีกลับจวนโหวอยูก่ ่อน
แล้ว ในหมู่พวกนางพี่นอ้ งมีเสิ่ นเวยที่แต่งงานดีที่สุด ท่านเขยสี่ ผนู ้ ้ ี
ไม่เพียงแต่เป็ นคุณชายใหญ่จวนจิ้นอ๋ อง แต่ยงั เป็ นจวิน้ อ๋ องที่ได้รับ
ความโปรดปรานจากฮ่องเต้ บ้านสามีของเสิ่ นซวงและคนอื่นๆ
ต้องการให้ลูกชายของตนมีความสัมพันธ์อนั ดีกบั คนผูน้ ้ ี แม้แต่
หย่งหนิงโหวที่ยดึ มัน่ ในคุณธรรมที่สุดยังสัง่ สอนลูกชายว่า ‘พวกเจ้า
เป็ นสามีของพี่สาว ต้องสนิทสนมกันไว้จึงจะถูก’
ทว่าในใจเว่ยจิ่นอวี้กร็ ู ้สึกอึดอัด อย่างไรเสี ยนัน่ ก็เคยเป็ นคู่หมั้นของ
เขา จิตใจที่คลุมเครื อเช่นนี้กไ็ ม่มีทางเอ่ยปาก เขาทาได้เพียงมาที่จวน
จงอู่โหวด้วยความไม่สบายใจทั้งใจ
“มาแล้ว มาแล้ว คุณหนูสี่กบั ท่านเขยสี่ ใกล้มาถึงหน้าประตูแล้ว” มี
เด็กรับใช้ตะโกนด้วยความดีใจ
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวลุกขึ้นยืนทันที บนใบหน้ามีความตื่นเต้นแวบผ่าน
กาลังจะเดินออกไปข้างนอก จากนั้นจึงได้สติกลับมา จึงแสร้งจัด
ระเบียบเสื้ อผ้า ไอเบาๆ หนึ่งคราสัง่ “เจวี๋ยเอ๋ อร์วิ่งไปไหนอีกแล้ว ยัง
ไม่รีบไปรับพี่สาวเขาอีก”
ทหารอาวุโสคนสนิทข้างๆ ก้มหน้ากลั้นหัวเราะ “นายท่านผูเ้ ฒ่าโหว
วางใจ คุณชายห้าไปต้อนรับคุณหนูสี่นานแล้ว อ้อ ยังมีท่านเขยสี่
ด้วย”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวถลึงตาใส่ ความหมายนั้นชัดเจนอย่างยิง่ เอ่ยถึง
เด็กคนนั้นทาไม หากจะบอกว่านายท่านผูเ้ ฒ่าไม่ชอบหน้าใครมาก
ที่สุด ก็คงจะเป็ นหมาป่ าดุร้ายตัวนี้ที่คาบหลานสาวแสนดีของเขาไป
ผูน้ ้ ีอย่างไม่ตอ้ งสงสัย
“ท่านพี่!” เห็นรถม้ามาแต่ไกล เสิ่ นเจวี๋ยก็วิ่งเข้าไปทันที ร้องตะโกน
ด้วยความดีใจ
“น้องเจวี๋ย” เสิ่ นเวยมองเห็นน้องชายก็มีความสุ ขอย่างถึงที่สุด
เช่นกัน ถือโอกาสลงรถม้าทันที
สวีโย่วเองก็ตามมาแล้ว เสิ่ นเจวี๋ยเรี ยกเสี ยงหวานหนึ่งครา “พี่เขย”
สวีโย่วที่เดิมยังหึงอยูเ่ ล็กน้อยได้ยนิ คาว่าพี่เขยสองคาคิ้วก็เลิกขึ้น
ทันที “น้องเจวี๋ยวันนี้ไม่ไปโรงเรี ยนหรื อ”
“ไม่ไป ข้าขออาจารย์หยุด วันนี้ท่านพี่กลับบ้าน” เสิ่ นเจวี๋ยตอบอย่าง
ซื่อสัตย์ มองดูสีหน้าพี่สาวเขาก็เสริ มอีกหนึ่งประโยค “การบ้านที่สงั่
ไว้ขา้ จะทาตอนกลางคืน”
เสิ่ นเวยยิม้ เดิมคิดจะลูบศีรษะเขา เปลี่ยนความคิดในชัว่ ขณะ
เปลี่ยนเป็ นตบบ่าของเขาแทน “ไม่ตอ้ งบีบบังคับตัวเองเกินไป เรี ยน
ให้สมดุลกับพักผ่อนจึงจะถูก” สัง่ สอนจอมอันธพาลลูกคุณหนูให้
กลายเป็ นเด็กเรี ยนเก่งอย่างตอนนี้ได้ เสิ่ นเวยทั้งภูมิใจทั้งดีใจ
ประตูกลางจวนจงอู่โหวเปิ ดกว้าง สองฝั่งประตูใหญ่แขวนโคมแดง
สี สดไว้สูง เสี ยงประทัดทัว่ ฟ้าดังขึ้นมา สองข้างประตูใหญ่มีคนรับ
ใช้ยนื อยูอ่ ย่างเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย “เคารพคุณหนูสี่และท่านเขยสี่ ”
เสี ยงดังพร้อมเพรี ยงและดีอกดีใจ
สวีโย่วและเสิ่ นเวยก้าวเข้าไปในจวนโหว หลีฮวานาคนโปรยเงิน
รางวัล กระเป๋ าเงินใบเล็กที่งามประณี ตของแต่ละคน ข้างในบรรจุ
ก้อนเงินที่เป็ นรู ปถัว่ ลิสงน้ าเต้าต่างๆ ทาให้ทุกคนดีใจอย่างยิง่ ต้องรู ้
ว่ากระเป๋ าเงินใบเล็กนี้ราคาเท่าเงินเดือนสองเดือนของพวกเขา
จงอู่โหวเสิ่ นหงเหวินสามพีน่ อ้ งก็ออกมาต้อนรับเช่นกัน ว่ากันตาม
เหตุผลพวกเขาต่างก็เป็ นผูอ้ าวุโส สงบจิตใจรออยูใ่ นห้องหนังสื อก็
ได้ แต่จะทาอย่างไรเมื่อสวีโย่วฐานะสู ง เสิ่ นหงเหวินก็มีนิสัย
รอบคอบ ไตร่ ตรองอยูค่ รึ่ งวันก็ยงั คงตัดสิ นใจออกมาต้อนรับ
มีเพียงนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวแค่นเสี ยงขึ้นจมูก เด็กคนนั้นเป็ นชินอ๋ อง
แต่กอ็ ย่าได้คิดว่าเขาจะถูกชะตาเลย
สวีโย่วไปเคารพนายหญิงผูเ้ ฒ่าที่เรื อนซงเฮ่อกับเสิ่ นเวยก่อน จากนั้น
ก็ถูกเด็กรับใช้พาไปเรื อนนอก
เหล่าสตรี รวมตัวกันสนทนาอยูใ่ นเรื อนของนายหญิงผูเ้ ฒ่า หลังทา
ความเคารพเสร็ จแล้ว สวี่ซื่อก็มองประเมิณสี หน้าการแต่งตัวของ
เสิ่ นเวย “เวยเอ๋ อร์สบายดีหรื อไม่” เดิมนางอยากถามว่าท่านเขย
ปฏิบตั ิต่อนางดีหรื อไม่ แต่คนเยอะเกินไปจึงไม่ได้ถาม แต่วา่ ดูจากสี
หน้าของหลานสาวก็รู้คาตอบแล้ว
เสิ่ นเวยยิม้ พลางพยักหน้า “ดียงิ่ นัก เพียงแต่จวนโหวของพวกเขา
ตอนที่อยูบ่ า้ นก็ไม่รู้สึก จากไปแค่คืนเดียวก็คิดถึงจนร้อนใจแล้ว
จริ งๆ”
รอยยิม้ บนใบหน้าสวี่ซื่อก็ยงิ่ กว้าง “สตรี ที่เพิ่งแต่งงานคนใดบ้างไม่
คิดถึงบ้าน เจ้าลองถามพี่รองและคนอื่นๆ ของเจ้าดู ค่อยๆ คุน้ ชิน
ประเดี๋ยวก็ดีข้ ึน”
“ถูกต้อง เพิ่งจะกราบไหว้ฟ้าดินเสร็ จข้าก็อยากกลับบ้านแล้ว” เสิ่ น
ซวงยิม้ กล่าว มองประเมิณเสิ่ นเวยตั้งแต่บนลงล่างรอบหนึ่ง กล่าว
หยอกล้อ “ดูจากสี หน้าน้องสี่ กร็ ู ้แล้วว่าใช้ชีวิตในจวนจิ้นอ๋ องดีอย่าง
ยิง่ น้องเขยสี่ ดูแลเจ้าดีมากใช่หรื อไม่”
หวังว่าเสิ่ นเวยจะเขินอายงั้นหรื อ นัน่ เป็ นไปไม่ได้ นางตายิม้ ถาม
กลับ “พูดราวกับว่าพี่เขยรองดูแลท่านไม่ดี เมื่อครู่ ขา้ เห็นหมดแล้ว
พี่เขยรองยังพยุงท่านเดินด้วย ใช่…?” ดวงตาของนางมองไปที่ทอ้ ง
ของเสิ่ นซวง
ใบหน้าของเสิ่ นซวงแดงขึ้นทันที “เจ้ามันร้ายกาจจริ งๆ เด็กแสบ”
นางมองท้องน้อยๆ ของตนด้วยสายตาอ่อนโยน แต่กลับไม่ได้
ปฏิเสธ
นายหญิงผูเ้ ฒ่ากับสวี่ซื่อดีใจทั้งใบหน้าพร้อมกัน “ซวงเอ๋ อร์ต้ งั ครรภ์
แล้วหรื อ นานเพียงใดแล้ว เจ้าเด็กคนนี้กจ็ ริ งๆ เลย เหตุใดถึงปิ ดบัง
ไม่พดู หู่พวั่ รี บไปเอาเบาะพิงมาให้กไู หน่ไนรองพิง”
เสิ่ นซวงอมยิม้ บนใบหน้าเต็มไปด้วยรสชาติแห่งความสุ ข “ท่านย่า
ท่านแม่ เพิง่ จะเดือนเดียวเอง อายุเดือนยังน้อย”
ทว่านายหญิงผูเ้ ฒ่ากลับทาหน้าดุ “สามเดือนแรกอ่อนแอที่สุดแล้ว
เหตุใดเจ้าเด็กคนนี้ถึงได้กล้าหาญเพียงนั้น ตั้งท้องแล้วยังวิ่งไปไหน
ต่อไหน วันนี้เจ้าห้ามไปไหนทั้งสิ้ น พักอยูใ่ นห้องย่าก็พอ”
สวี่ซื่อเองก็กล่าว “ใช่ ฟังย่าเจ้าไม่ผดิ แน่ เจ้าเด็กคนนี้ หรงเอ๋ อร์เองก็
เหมือนกัน ตามใจเจ้าเช่นนี้” นางคิดๆ ดูแล้วก็ยงั คงหวาดกลัว
เล็กน้อยจริ งๆ หากไม่ใช่วา่ เวยเอ๋ อร์เปิ ดโปง เด็กคนนี้ก็ยงั คิดจะ
ปิ ดบังพวกนางอยู่ อดถลึงตาใส่ ลูกสาวอย่างแรงไม่ได้
“ยินดีกบั พี่รองด้วยจริ งๆ วันนี้จวนโหวของพวกเรามีเรื่ องมงคลสอง
เรื่ องมาถึงบ้านเลย” เสิ่ นเวยยกยิม้ กล่าว ยืน่ มือลูบท้องของเสิ่ นซวง
เบาๆ ครู่ หนึ่ง “พี่รองท่านต้องบารุ งดีๆ พยายามคลอดหลานชายอ้วน
พีให้ขา้ ”
หนึ่งประโยคสร้างเสี ยหัวเราะของทุกคนขึ้นมา มีเพียงเสิ่ นเสวี่ยที่
สายตาน่าสะพรึ งกลัว แค่นเสี ยงเบาๆ หนึ่งครา เสิ่ นเวยย่อมได้ยนิ
แล้ว นางอดทนไม่กลอกตาขาว กระทัง่ คิดว่านางเป็ นอากาศ วันนี้
อารมณ์ดี ขี้เกียจจะคิดเล็กคิดน้อยกับนาง
สวี่ซื่อที่อยูใ่ กล้เสิ่ นเสวี่ยก็ได้ยนิ แล้วเช่นกัน แม้ในใจจะไม่พอใจ
อย่างยิง่ แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกเลยแม้แต่นิดเดียว หลานสาวคน
นี้ไม่มีเหตุผล วันมงคลใหญ่จะสนใจนางทาไม
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 222-1 สองปู่ หลานซุบซิบ
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเห็นสวีโย่วเข้ามาคนเดียว บนใบหน้าก็มีความ
ผิดหวังหลายส่ วน ใครอยากเจอเจ้าเด็กคนนี้ ที่เขาอยากเจอคือ
หลานสาวแสนดีของเขาต่างหากเล่า
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวปั้ นหน้าตายรับการคานับจากลูกชายและหลายเขย
สี่ เห็นคุณชายใหญ่ที่แต่ไหนแต่ไรเย็นชายิม้ บางๆ เป็ นธรรมชาติ
อย่างคาดไม่ถึง แม้จะพูดไม่เยอะ แต่กลับควบคุมสถานการณ์
ทั้งหมดไว้ได้เงียบๆ
หลานเขยคนอื่นๆ ไม่เป็ นไร ยังพูดได้วา่ พวกเขาอายุนอ้ ย
ประสบการณ์นอ้ ย แต่ลูกชายคนโง่ท้ งั สามที่คลุกคลีอยูใ่ นแวดวงขุน
นางกว่าครึ่ งชีวิตนั้นของเขาคาดไม่ถึงว่าจะถูกเด็กที่ยงั ไม่สิ้นกลิ่น
น้ านมผูห้ นึ่งจูงจมูกไปด้วย ซ้ ายังพยักหน้าด้วยความชื่นชมทั้ง
ใบหน้า
นี่ทาให้นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเจ็บใจอย่างถึงที่สุด เห็นลูกชายผูน้ ้ นั ของ
คนอื่น แล้วกลับมามองลูกชายเหล่านี้ของตนเอง อยากจะยัดพวกเขา
กลับไปในครรภ์มารดาแล้วหลอมใหม่อีกครั้งจริ งๆ
ทัว่ ทั้งเมืองหลวงมีใครไม่รู้บา้ งว่าจิ้นอ๋ องเป็ นคนโง่ หากไม่ติดที่เขา
เป็ นน้องชายแท้ๆ ของฝ่ าบาท ก็คงจะถูกฝังตายไปนานแล้ว ไผ่แย่
แตกหน่อออกมาดี เหตุใดคนโง่เช่นนั้นถึงได้มีบุตรที่ยอดเยีย่ มเพียง
นี้เล่า ช่างทาให้คนตาร้อนจริ งๆ!
ด้วยเหตุน้ ีนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวจึงยิง่ ไม่ชอบหน้าลูกชายของตน มองส
วีโย่วก็ยงิ่ ไม่เข้าตา ทัว่ ทั้งจวนมีหลานสี่ ที่ถูกชะตาเพียงคนเดียว ซ้ ายัง
ถูกทิ้งไว้ที่เรื อนหลังเจอไม่ได้ ทาให้เขาโมโหอย่างยิง่ จริ งๆ
ไม่ได้ เขาต้องไปพูดคุยกับหลานสาวแสนดีของเขา เด็กผูช้ ายหนึ่ง
กลุ่มมีอะไรให้น่าดู
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวออกจากเรื อนไปอย่างรวดเร็ ว เรี ยกพ่อบ้านมาถาม
ว่าเวยเอ๋ อร์อยูไ่ หน ไม่นานนักพ่อบ้านก็มารายงาน “เรี ยนนายท่านผู ้
เฒ่าโหว กูไหน่ไนสี่ กลับเรื อนเฟิ งหวาไปพักผ่อนแล้วขอรับ”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวไม่พอใจแล้ว “กูไหน่ไนสี่ อะไร ไม่น่าฟังเลย
เรี ยกคุณหนูสี่เหมือนเมื่อก่อนยังดีเสี ยกว่า”
พ่อบ้านตอบรับด้วยสี หน้าเคารพ ทว่าในใจกลับวิจารณ์ นายท่านผู ้
เฒ่าโหวท่านลาเอียงเช่นนี้จะดีจริ งๆ หรื อ ท่านไม่ชอบเรี ยกว่ากูไหน่
ไนสี่ เพราะไม่น่าฟัง ท่านเคยใคร่ ครวญความรู ้สึกของกูไหน่ไนรอง
และคนอื่นๆ บ้างหรื อไม่
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวไม่ใคร่ ครวญความรู ้สึกใครทั้งสิ้ น หลานสี่ ของเขา
จึงจะไม่ใช่กไู หน่ไน หลานสี่ ของเขาคือคุณหนูของจวนจงอู่โหวต
ลอดกาล หากเสิ่ นเวยอยูท่ ี่นี่ จะต้องแสยะปากอย่างเหยียดหยาม
อาการใจแคบของปู่ นางกาเริ บอีกแล้ว
เสิ่ นเวยกลับไปถึงเรื อนเฟิ งหวา ไม่วา่ มองไปทางใดก็สบายตามาก
เป็ นพิเศษ อันที่จริ งจะว่าไปแล้วนางกลับจวนโหวมายังไม่ถึงหนึ่งปี
ช่วงเวลาที่อยูใ่ นจวนก็ยงิ่ มีจากัด แต่นางก็ยงั รู ้สึกว่าเรื อนเฟิ งหวาเป็ น
ความสบายใจ แม้แต่โต๊ะหินที่หกั ไปมุมหนึ่งในลานบ้านยังดูดีกว่าที่
อื่น
ได้ยนิ สาวใช้รายงานว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวมาแล้ว เสิ่ นเวยก็ยงั
ประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อได้เห็นว่าเขามาเพียงคนเดียวก็ยงิ่
ประหลาดใจ
“มองอะไร มองแล้วจะมีดอกไม้บานออกมาหรื อ” นายท่านผูเ้ ฒ่า
โหวมองหลานสาวที่มองไปข้างหลังเขาไม่ละสายตา กล่าวด้วย
ความไม่พอใจอย่างถึงที่สุด เพิ่งจะแยกกันได้ไม่นานก็หาแล้วหรื อ
นางแต่งออกไปหลายวันแล้วยังไม่เห็นนางคิดถึงปู่ ผูน้ ้ ีของตนสัก
เท่าไรเลย นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวปวดใจยิง่ นัก ราวกับลูกท้อที่ลาบากลา
บนปลูกมา ตนยังไม่ทนั ได้กินก็ถูกคนเด็ดไปแล้ว
เสิ่ นเวยมองใบหน้าที่แทบจะดองหัวไช้เท้าได้ใบนั้นของปู่ นาง สนุก
แล้ว ไอหยา ปู่ นางหึงงั้นหรื อ ด้วยเหตุน้ ีนางจึงกระโดดเข้าไป
ประคองแขนของเขาอย่างสนิทสนมกล่าว “ท่านปู่ ท่านมาแล้ว!
หลานคิดถึงท่านจะแย่แล้ว”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวแค่นเสี ยงอย่างเหยียดหยามหนึ่งครา “คิดถึงข้า
หรื อ คิดถึงข้าแต่ไม่รู้จกั ไปหาข้า! ยังต้องให้คนชราเช่นข้าลากขา
แก่ๆ มาหาเจ้า อกตัญญู เจ้ามันอกตัญญู”
เสิ่ นเวยก็ยงิ่ สนุก ไอหยา เหตุใดปู่ นางถึงช่างอดทนเพียงนี้ “หลาน
กาลังจะไปหาพอดี ไม่ใช่วา่ ถูกท่านปู่ แซงหน้าแล้วหรื อ นี่
หมายความว่าอย่างไร หมายความว่าพวกเราปู่ หลานมีใจเดียวกัน
อย่างไรเล่า แหะๆ ยังคงเป็ นท่านปู่ ที่รักข้าที่สุด” เสิ่ นเวยตั้งใจ
ประจบ ปั้นหน้ายิม้ แย้มแจ่มใส
“เจ้าโกหกข้า! เด็กเช่นเจ้าอ้าปากก็ข่ขู วัญคนได้แล้ว” นายท่านผูเ้ ฒ่า
เป่ าหนวดถลึงตา แต่แววตากลับมีรอยยิม้ ลึกซึ้ งชัดเจน ยังคงเป็ น
หลานสี่ ที่ดี ไม่วา่ เมื่อไรก็ปฏิบตั ิต่อเขาอย่างสนิทสนม ใส่ ใจยิง่ กว่า
ลูกสาวลูกชายแท้ๆ เสี ยอีก
เสิ่ นเวยแสดงท่าทีนอ้ ยใจ “ที่หลานพูดเป็ นความจริ งทั้งนั้น! ท่านปู่
หากท่านตัดใจทิ้งหลานไม่ได้จริ งๆ วันนี้หลานก็ไม่กลับไปแล้ว อยู่
ที่จวนโหวเป็ นเพื่อนท่านอีกหลายๆ วันเลย” เสิ่ นเวยเสนอด้วย
ดวงตาที่เป็ นประกาย ยิง่ คิดก็ยงิ่ รู ้สึกว่าความคิดนี้ดี ลักพาตัวสวีโย่ว
มารตนนั้นให้อยูท่ ี่จวนโหวด้วยกัน อย่างดีที่สุดก็จะได้ยวั่ โมโหพระ
ชายาจิ้นอ๋ องนางมารแก่ตนนั้นให้อกแตกตายได้
เฮ้อ ฟังว่ามีบางพื้นที่กลับบ้านฝั่งมารดาได้เป็ นเดือน แต่เมืองหลวง
ดันไม่มีกฎข้อนี้ คิดๆ ดูแล้วนางก็รู้สึกเสี ยดาย
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวชายตามองนาง “สามีเจ้าเล่า”
“ไล่เขาออกไปสิ !” เสิ่ นเวยแบมือทั้งคู่ พูดอย่างสบายใจ
“ไร้สาระ!” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวถูกหลานสาวหยอกเล่นจนหัวเราะ
“อยูอ่ ะไรกัน อยูใ่ นจวนยัว่ โมโหข้างั้นหรื อ รี บไสหัวตามสามีเจ้าไป
ไม่แน่วา่ ปู่ เจ้ายังมีชีวิตอยูไ่ ด้อีกสองปี ”
อะไรที่เรี ยกว่าปากอย่างใจอย่าง ก็คือแบบที่ปู่นางเป็ น วันนี้เสิ่ นเวย
นับว่าได้เห็นแล้ว เห็นชัดๆ ว่าคิดถึงนาง คิดถึงก็คิดถึงสิ นางไม่
หัวเราะเขาหรอก ยังจะทาสี หน้ารังเกียจเสี ยให้ได้ เสแสร้งเกินไป
แล้ว! เสิ่ นเวยตาหนิในใจ
“ท่านปู่ หลานคิดถึงท่านจริ งๆ” เสิ่ นเวยบุย้ ปากกล่าวเสี ยงเบา ใน
จวนนี้คนที่นางคิดถึงที่สุดก็คือปู่ กับน้องชายนาง สาหรับพ่อของนาง
หากพูดแบบไม่มีความกตัญญู ปล่อยให้เขาไปอยูใ่ นที่ที่สบายใจ
เถอะ
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวมองหลานสาวแสนสวยที่ราวกับบุปผางาม ในใจ
ก็อบอุ่น ระหว่างมนุษย์กบั มนุษย์เป็ นบุพเพสันนิวาส ลูกหลานของ
เขารวมถึงหลานสาวของเขานอกจากจะเคารพยาเกรงแล้ว ก็ไม่สนิท
สนมเลย มีเพียงเวยเอ๋ อร์หลานสี่ ที่เห็นเขาเป็ นปู่ อย่างคนธรรมดา
ทัว่ ไป อยูต่ ่อหน้าเขาควรร้องไห้กร็ ้องไห้ ควรหัวเราะก็หวั เราะ มี
อะไรก็พดู ต่อให้จะยืน่ มือขอสิ่ งของก็มีเหตุมีผล เจอปั ญหายากๆ
สร้างเรื่ องอะไรมาก็รู้จกั วิ่งมาหาปู่
“อยูท่ ี่จวนจิ้นอ๋ องสบายดีหรื อไม่” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวนัง่ ลงบนเก้าอี้
สานพูดกับเสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยท่าทางเกียจคร้าน เท้าข้างหนึ่งเตะม้านัง่ ตรงหน้า ไม่มีมาด
ของสตรี เลยแม้แต่นิดเดียว ส่ วนนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็ทาเป็ นมองไม่
เห็น
เหตุผลที่ไม่ถามว่าเด็กหนุ่มดูแลนางดีหรื อไม่ ก็เพราะนายท่านผูเ้ ฒ่า
โหวรู ้วา่ เด็กหนุ่มนัน่ หวงแหนหลานสาวของเขา ครั้นอยูท่ ี่ซีเจียงก็
จับจ้องตลอดทั้งวัน จะปฏิบตั ิต่อนางไม่ดีได้อย่างไร อีกทั้งนายท่าน
ผูเ้ ฒ่าโหวก็เชื่อมัน่ ในฝี มือการคุมสามีของหลานสาวอย่างยิง่ อย่า
มองว่าเด็กหนุ่มนัน่ เย็นชาท่าทางหยิง่ ผยอง เหอะ เอาจริ งขึ้นมาแล้วก็
ยังเชื่อฟังหลานสาวเขามิใช่หรื อ สาหรับเรื่ องนี้ นายท่านผูเ้ ฒ่าโหว
พอใจยิง่ นัก!
“ยังพอได้! ก็เป็ นแบบนั้น ท่านจิ้นอ๋ องเป็ นคนโง่ จิ้นหวงเฟยหน้า
เนื้อใจเสื้ อ อู๋ซื่อฉลาดแต่ทะนงตน หูซื่ออวดตนว่าฉลาดขี้เหนียว
จิตใจคับแคบ คุณชายสี่ เป็ นลูกคุณหนูจริ งๆ คุณชายห้าเป็ นคนพูด
จริ งทาจริ ง ซื่อจื่อกับคุณชายสามตอนนี้เห็นเพียงแค่ดา้ นเดียว มอง
ไม่ค่อยออกนัก” เสิ่ นเวยเท้าคางวิจารณ์ทีละคนๆ
“คุณชายใหญ่เล่า” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวมองหลานสาวปราดหนึ่ง
“คุณชายใหญ่หรื อ” เสิ่ นเวยตาลุกวาว กล่าว “คุณชายใหญ่เป็ นคน
หน้าตาดี” อย่างน้อยจนถึงตอนนี้กเ็ ป็ นผูช้ ายที่หน้าตาดีที่สุดที่นาง
เคยเห็น นางคิดว่าเพียงแค่มีใบหน้านั้นนางก็สามารถใช้ชีวิตที่เหลือ
ได้แล้ว
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวแทบพ่นชาออกจากปาก “เจ้าเด็กคนนี้! อย่าได้
พูดจาเหลวไหล” ผูช้ ายมักมากในกาม หลานสาวเขาเป็ นเด็กผูห้ ญิง
คาดไม่ถึงว่าจะพูดจาตรงไปตรงมาเช่นนี้ได้
ทว่าเสิ่ นเวยกลับแสยะปาก โบราณก็ไม่ดีตรงนี้ ยากที่นางพูดความ
จริ งแล้วจะมีคนเชื่อ
“สามีเจ้าบอกหรื อไม่วา่ จะย้ายไปจวนจวิน้ อ๋ องเมื่อไร สวนชิงหยวน
นั้นไม่ใช่ซ่อมเสร็ จนานแล้วหรื อ” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวถามต่อ เรื อน
หลังจวนจิ้นอ๋ องไม่ค่อยสงบสุ ขนัก หลานสาวของเขาเป็ นเหยีย่ วที่
โผบินอยูบ่ นท้องฟ้า ขังอยูใ่ นเรื อนหลังมานานแล้ว ยากจะเลี่ยง
ไม่ให้กระทบต่อมุมมองของนาง นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวไม่อยากให้
หลานสาวของเขาหักปี กกลายเป็ นนกกระจอก
เสิ่ นเวยกล่าว “เขาเคยพูดครั้งหนึ่ง รอให้เดือนสมรสผ่านไปก่อนแล้ว
ค่อยย้ายเข้าไป แต่ขา้ คิดว่าน่าจะย้ายไม่ได้ พระชายาจิ้นอ๋ องไม่ยอม
ปล่อยคนไปง่ายๆ เพียงนั้นหรอก” นางแต่งเข้าไปได้เพียงกี่วนั ก็
ปะทะกับนางไม่รู้กี่รอบแล้ว ดังนั้นจึงเห็นได้วา่ พระชายาจิ้นอ๋ องผู ้
นั้นไม่ได้เป็ นคนแบบที่นางแสดงออกมา จะยอมปล่อยพวกเขา
ออกไปใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างไร
“เช่นนั้นเจ้าวางแผนไว้วา่ อย่างไร” คิ้วของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวขมวด
มุ่น เขาไม่พอใจคู่สมรสของเวยเอ๋ อร์กต็ รงนี้ หากหาตระกูลธรรมดา
ให้เวยเอ๋ อร์ หรื อว่าหาคู่หมั้นที่พอ่ แม่ตายหมดแล้วให้เสี ย ชีวิตก็จะ
หมดความยุง่ ยากไปมาก แต่วา่ นี่เป็ นการสมรสพระชาทานจากฝ่ า
บาท เขาอับจนหนทาง
“ทหารมาใช้ขนุ พลต้านน้ ามาก็ใช้ดินต้านสิ ท่านปู่ วางใจ อย่างไรเสี ย
ข้าก็ไม่เสี ยเปรี ยบ” เสิ่ นเวย
กล่าวอย่างไม่สนใจ หลายครั้งที่ปะทะนางไม่เสี ยหายเลยแม้แต่นิด
เดียว กลับเป็ นพระชายาจิ้นอ๋ องที่โยนหิ นทับเท้าตัวเอง ทาให้ในใจ
นางสบายอารมณ์อย่างยิง่
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนอย่างเสิ่ นเวย “เจ้าเอง
ก็อย่าประมาท น้ ามือของสตรี เรื อนหลังเลวร้ายยิง่ กว่าที่เจ้า
จินตนาการ มีแต่เจ้าจะคิดไม่ถึง ไม่มีอะไรที่พวกนางทาไม่ได้
อันตรายยิง่ กว่าสนามรบ อย่างไรเสี ยเจ้าก็อายุนอ้ ย อย่าได้ตก
หลุมพรางคนอื่น”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวยิง่ พูดก็ยงิ่ ไม่วางใจ “นางเป็ นแม่สามีเจ้า
ครอบครองความชอบธรรมต่างๆ ทั้งยังถืออานาจในเรื อนจวนอ๋ อง
ทัว่ ทั้งจวนล้วนแต่เป็ นคนของนาง หากนางอยากทาอะไรกับเจ้า เจ้า
ก็ยากจะปกป้อง! ในเมื่อพวกเจ้าไม่อาจย้ายไปจวนจวิน้ อ๋ องได้
ชัว่ คราว วันนี้เจ้ากลับไปก็นากาลังคนกลับไปให้มากหน่อย
โดยเฉพาะของที่ทางเข้า ต้องระมัดระวัง” แม้เขาจะเป็ นผูช้ าย แต่
อย่างไรเสี ยประสบการณ์ชีวิตก็มีอยู่ เพียงแค่เรื่ องลับที่มองดูอยูข่ า้ งๆ
ก็มีไม่นอ้ ยแล้ว
เขาเห็นหลานสาวไม่ค่อยเก็บคาพูดของเขามาใส่ ใจ อดกล่าวอย่าง
จริ งจังไม่ได้ “ข้างกายเจ้ามีเพียงหมอหลิวคนเดียวไม่ได้ อย่างไรเสี ย
เขาก็เป็ นผูช้ าย ไม่อาจตามอยูข่ า้ งกายเจ้าตลอดเวลาได้ ต้องมีสาวใช้
ชานาญแพทย์ดว้ ยจึงจะถูก เจ้าถามสามีเจ้า ใต้บงั คับบัญชาเขามีคน
แบบนี้หรื อไม่ หากไม่มี ปู่ จะช่วยเจ้าหาสักหนึ่งคน เจ้าอย่าเมินเฉย
อาจารย์ซูผนู ้ ้ นั ข้างกายเจ้าก็เป็ นตัวอย่างที่เห็นได้ชดั แล้ว หากไม่ใช่
อุบายลับเรื อนหลัง ด้วยความรู ้ความสามารถของเขาอย่างน้อยก็คง
ได้เป็ นอธิการบดีสานักราชบัณฑิตแล้ว”
ในใจเสิ่ นเวยซาบซึ้งแล้วจริ งๆ คาพูดเหล่านี้ควรจะเป็ นผูอ้ าวุโสเพศ
หญิงที่กาชับนาง แต่ตอนนี้ ชายฉกรรจ์ที่นาทัพสู ้รบผูห้ นึ่งเช่นปู่ นาง
กลับสัง่ สอนเรื่ องลับภายในบ้านแก่นาง จะไม่ให้นางซาบซึ้งได้
อย่างไร
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 222-2 สองปู่ หลานซุบซิบ
เมื่อได้ยนิ ท่านปู่ เอ่ยถึงอาจารย์ซู เสิ่ นเวยก็สนใจขึ้นมาในชัว่ ขณะ
“ท่านปู่ ๆ ท่านรู ้จกั อาจารย์ซูดว้ ยหรื อ เขามีที่มาอย่างไรกันแน่ เล่าให้
หลานฟังหน่อย!” นางเห็นอาจารย์ซูแวบแรกก็รู้สึกแล้วว่าเขามีที่มา
ไม่ธรรมดา ความรู ้สึกนี้กระทัง่ เข้าเมืองหลวงมาแล้วก็ยงิ่ ชัดเจน ให้
ตายเถอะ อาจารย์ซูของนางเข้าใจเมืองหลวงดียงิ่ นัก ตระกูลไหน
จวนไหนเป็ นใครบ้าง ชานาญประหนึ่งเป็ นสมบัติที่อยูใ่ นบ้าน ยังมี
กิริยาของอาจารย์ซู นัน่ ไม่ใช่กิริยาที่ตระกูลธรรมดาจะบ่มเพาะ
ออกมาได้
ดวงตานายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกะพริ บวาบ “อาจารย์ซูไม่ได้บอกเจ้าหรื อ
ล้วนแต่เป็ นเรื่ องเก่าผ่านมาหลายปี แล้ว ไม่เอ่ยก็ไม่เป็ นไร ไม่เอ่ยก็
ไม่เป็ นไร” เขาโบกมือ ท่าทางไม่อยากเอ่ยมากเท่าไร
เสิ่ นเวยเห็นปู่ นางไม่ยอมพูด ไหนเลยจะยอมหยุด รบเร้าเขา
“อาจารย์ซูพูดเพียงแค่ให้ขา้ เลี้ยงดูเขาวัยเกษียณ ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่ องของ
ตัวเองเลย ก่อนหน้านี้ขา้ เองก็เคยถาม เขาก็พดู ทานองว่าร่ อนเร่
พเนจร เสี ยใจจนละทางโลกต่างๆ เพื่อหลอกข้า ท่านปู่ ใจดี ท่านบอก
หลานหน่อยสิ ดูจากเจตนาในคาพูดของท่านแล้วเขาจะต้อง
เสี ยเปรี ยบจากสวตรี เรื อนหลังมาก่อนแน่นอน อีกทั้งฐานะเดิม
จะต้องไม่รรมดา ไม่แน่วา่ วันไหนหลานอาจจะพบเข้า ท่านเล่าให้
หลานฟังหน่อย หลานจะได้เตรี ยมป้องกันล่วงหน้า” อันที่จริ งนาง
สนใจเรื่ องเล่าในอดีตของอาจารย์ซูอย่างยิง่ จริ งๆ
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวคิดครู่ หนึ่ง กล่าว “รู ้จกั มุขมนตรี ฟังหัวหน้าคณะ
เสนาบดีใช่หรื อไม่ อาจารย์ซูของเจ้าก็คือบุตรคนโตของเขา ข้างนอก
ต่างก็พดู ว่าเขาเป็ นบุตรคนโตของอนุภรรยา แต่ความจริ งแล้วเขาเป็ น
บุตรภรรยาเอก บุตรภรรยาเอกที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่วา่ มารดา
เขามีฐานะเดิมต้อยต่า สู ้คนหลังไม่ได้กเ็ ท่านั้นเอง”
“ให้ตาย มุขมนตรี ฟัง!” เสิ่ นเวยปิ ดปากร้องอุทานหนึ่งครา แม้นางจะ
ไม่สนใจราชสานัก แต่กลับรู ้จกั มุขมนตรี ฟังผูน้ ้ ี อันที่จริ งคนผูน้ ้ ีก็
ยอดเยีย่ มอย่างยิง่ ไม่ต่างจากปู่ ของนางนัก ซ้ ายังไม่ใช่บุคคลที่มี
ความรู ้โดดเด่ดอะไร เพราะว่าบ้านยากจน อายุได้ยสี่ ิ บห้ายีส่ ิ บหกปี ก็
สอบได้บณั ฑิตชั้นสู ง แต่เขามีอีคิวสู งอย่างยิง่ คาดไม่ถึงว่าดันตัวเอง
จากชั้นล่างเข้าไปในคณะเสนาบดีได้ ลูกศิษย์มีอยูท่ วั่ ทุกหนทุกแห่ง
จะพูดเช่นนี้กไ็ ด้ เพียงเขาชูมือเรี ยก ปั ญญาชนใต้หล้าก็ตอบรับกัน
นับไม่ถว้ น
“เอ๋ ไม่น่าใช่ อาจารย์ซูแซ่ซูไม่ได้แซ่ฟัง อีกทั้งลูกทั้งสามของมุข
มนตรี ฟังล้วนไม่โดเด่น หากอาจารย์ซูเป็ นบุตรคนโตของเขา เหตุใด
ถึงปล่อยให้เขาเร่ ร่อนอยูข่ า้ งนอกเล่า ไม่ใช่ควรจะเลี้ยงดูให้ดีเพื่อ
เป็ นผูส้ ื บทอดหรอกหรื อ” เสิ่ นเวยสงสัยอย่างถึงที่สุด
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวหัวเราะเยาะหนึ่งครา “นี่กค็ ือผลกรรมที่แซ่ฟัง
อย่างไรเล่า ลูกทั้งสามเทียบไม่ได้แม้แต่พอ่ เจ้าลุงเจ้าด้วยซ้ า ทว่าคน
ที่โดดเด่นที่สุดผูน้ ้ ีกลับถูกตัดชื่อไล่ออกจากบ้าน สมน้ าหน้าที่เขาไม่
มีผสู ้ ื บทอด ใครให้เขาลดขั้นภรรยาเอกเป็ นอนุภรรยาเล่า เหอะ
สมน้ าหน้ากรรมตามสนอง!” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวยินดีบนความโชค
ร้ายของผูอ้ ื่น
“เรื่ องนั้นของอาจารย์ซูของเจ้าพูดขึ้นมาแล้วก็ผา่ นมาเกือบยีส่ ิ บกว่า
ปี แล้ว นัน่ ยังคงเป็ นตอนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนดารงตาแหน่งอยู่ ตอนนั้น
เขายังอายุนอ้ ยเป็ นผูส้ อบได้จอหงวน ความรู ้น้ นั กิริยานั้น ความสุ ขมุ
นั้น คุณชายยอดเยีย่ มในเมืองหลวงตอนนี้หากไปอยูต่ ่อหน้าเขายังสู ้
ไม่ได้เลย แต่จู่ๆ วันหนึ่งก็เกิดเรื่ องเขาข่มขืนอนุภรรยาของบิดา อีก
ทั้งยังอยูภ่ ายใต้สายตาที่จบั จ้องของทุกคน ตอนนั้นทัว่ ทั้งเมืองหลวง
ต่างก็ตกตะลึง ภายใต้ความโกรธมุขมนตรี ฟังก็ลงโทษเขากับมือด้วย
การโบยเขาเกือบตาย จากนั้นก็เปิ ดศาลบรรพบุรุษลบชื่อของเขาออก
จากตระกูล ภายหลังก็ไม่มีใครเห็นเขาอีก” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวทอด
ถอนใจ
“ตอนแรกที่เห็นเขาที่หมู่บา้ นตระกูลเสิ่ นปู่ ก็รู้สึกว่าเขาคุน้ หน้าหลาย
ส่ วน ก่อนหน้านี้บงั เอิญเจอมุขมนตรี ฟังในวังจึงนึกขึ้นได้วา่ เขาเป็ น
ใคร หน้าตาของเขาเหมือนมุขมนตรี ฟังตอนหนุ่มห้าส่ วน”
“ท่านปู่ เป็ นไปไม่ได้กระมัง อาจารย์ซูเป็ นผูม้ ีคุณธรรมสู งส่ งเช่นนั้น
จะข่มขืนอนุภรรยาของบิดาได้อย่างไร จะต้องถูกคนใส่ ร้ายแน่นอน
ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ในคณะเสนาบดีคนหนึ่งคาดไม่ถึงว่าแม้แต่ละคร
ฉากนี้กด็ ูไม่ออก เขาจะไม่เชื่อใจลูกชายของตัวเองเลยหรื อ ข้าไม่
เชื่อ” เสิ่ นเวยส่ ายหน้า ไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว หากมุขมนตรี ฟังเป็ นคน
เลอะเลือนเช่นนี้จริ งๆ จะเข้าไปในคณะเสนาบดีได้อย่างไร
“เจ้าไม่เชื่อก็คิดเสี ยว่าปู่ ไม่เคยพูด อย่างไรเสี ยตอนนั้นมุขมนตรี ฟังก็
จัดการเช่นนั้นจริ งๆ” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวยกมุมปาก เผยรอยยิม้ เหยียด
หยาม “แต่วา่ ต่อมาก็คล้ายมีข่าวลือว่าเป็ นแผนการของฮูหยินมุข
มนตรี ฟัง เพื่อที่จะกาจัดหนามยอกอกให้ลูกชาย แต่วา่ นี่กเ็ ป็ นเพียง
ข่าวลือ คนที่เชื่อมีไม่เยอะ เพราะว่าชื่อเสี ยงของฮูหยินฟังดียงิ่ นัก ไม่
เพียงแต่ทุกปี แจกจ่ายข้าวสารอาหารแห้งช่วยเหลือคนยากคนจน อีก
ทั้งอาจารย์ซูของเจ้าก็ถูกเลี้ยงดูโดยฮูหยินฟังผูน้ ้ ี ความสัมพันธ์แม่ลูก
ดียงิ่ นัก หลังจากที่เรื่ องนี้เกิดขึ้นแล้ว นางก็คุกเข่าขอความเมตตาจาก
มุขมนตรี ฟังด้วยตัวเอง”
“อะไรนะ ความสัมพันธ์แม่ลูกงั้นหรื อ” คราวนี้เสิ่ นเวยตะลึงงันแล้ว
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเห็นหลานสาวของเขามีท่าทางมึนงงยากจะเห็น
เช่นนั้น ก็กล่าวอย่างแฝงความนัย “เจ้าก็เห็นแล้ว ชัดเจนว่าอาจารย์ซู
ของเจ้าถูกคนใส่ ร้าย แต่กลับตกต่าจนสู ญเสี ยจุดยืนและชื่อเสี ยง ทา
ได้เพียงเปลี่ยนชื่อเดินทางไกลหลบหนีไปยังชนบท ส่ วนคนที่ทาร้าย
เล่า กลับถูกปุถุชนสรรเสริ ญเสพสุ ขสาราญ จึงเป็ นเหตุผลว่าเจ้า
อย่าได้ชะล่าใจ อย่าคิดว่าตนมียทุ ธ์ติดตัวไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน ส่ วน
ใหญ่เวลาฆ่าคนไหนเลยจะใช้ดาบ”
หยุดครู่ หนึ่ง นายท่านผูเ้ ฒ่าก็กล่าวต่อ “แต่วา่ อาจารย์ซูของเจ้ากลับ
เป็ นคนใจกว้าง เจอเรื่ องหนักหนาสาหัสเช่นนี้ หากเป็ นคนอื่นคงซึม
เซาไปนานแล้ว แต่เขากลับใช้ชีวิตได้อย่างสบายเช่นนี้ เห็นได้วา่ เป็ น
คนฉลาดหลักแหลม เจ้ามีเรื่ องอะไรไม่เข้าใจก็ไปถามเขาได้เลย
ความสามารถเขาเยอะ”
เสิ่ นเวยพยักหน้า คิดว่าจะหาโอกาสไปสื บเรื่ องอาจารย์ซูให้แน่ชดั จง
ได้
คนหลายคนที่พดู คุยกันอยูใ่ นห้องหนังสื อเรื อนนอกกาลัง
สนุกสนาน บรรยากาศดีอย่างยิง่ แรกเริ่ มทุกคนยังกังวลว่าสวีโย่ว
เป็ นจวิน้ อ๋ อง อึดอัดเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ค่อยๆ ค้นพบว่าท่านเขยคน
ใหม่ผนู ้ ้ ีแม้วา่ จะพูดไม่เยอะ แต่กลับถ่อมตัวมีมารยาทอย่างยิง่ ไม่
วางมาดราชนิกลุ เลยแม้แต่นิดเดียว โดยเฉพาะกับผูอ้ าวุโส ตั้งใจฟังที่
พวกเขาพูด มีน้ าอดน้ าทนยิง่ นัก!
ไม่เพียงแต่จิตใจทะนงตนของเสิ่ นหงเซวียนที่พึงพอใจอย่างถึงที่สุด
แม้แต่เสิ่ นหงเหวินกับเสิ่ นหงอู่สองพี่นอ้ งก็ยงั พยักหน้าชมไม่หยุด
รู ้สึกว่าเวยเอ๋ อร์แต่งงานกับสามีที่ดี
สวี่หรง เหวินเทาและเว่ยจิ่นอวี้เองก็ค่อยๆ ผ่อนคลาย พวกเขาอายุ
เท่ากัน ย่อมต้องมีปัญหาเหมือนกัน สวี่หรงและคนทั้งสองต่างก็เป็ น
ปัญญาชน เอ่ยถึงบทกลอนบทความขึ้นมาได้อย่างเป็ นธรรมชาติ
หลังจากนั้นพวกเขาก็คน้ พบอย่างประหลาดใจว่า น้องเขยสี่ ที่เลื่อง
ลือว่าสุ ขภาพไม่ดีผนู ้ ้ ีในด้านการเรี ยนไม่ได้ดอ้ ยไปกว่าพวกเขาเลย
ไม่วา่ พวกเขาจะพูดคุยอะไร เขาก็จะร่ วมวงสนทนา ทั้งยังสามารถ
เสนอความคิดเห็นของตัวเองได้ และความคิดความอ่านนี้ยงั ทาให้
ทุกคนเปิ ดมุมมองใหม่ได้อีกด้วย
สวี่หรงกับเหวินเทาราวกับหาเพื่อนเจอแล้ว พูดคุยก็ยงิ่ สนิทสนม เว่ย
จิ่นอวี้ที่มีความรู ้ดีที่สุดกลับรู ้สึกสับสนมากเป็ นพิเศษ!
เสิ่ นเวยที่กลับบ้านวันนี้เคยเป็ นคู่หมั้นของเขา ตอนเด็กๆ ไม่รู้ประสา
รู ้เพียงแค่วา่ ตนมีคู่หมั้นคนหนึ่ง เมื่อโตขึ้นรู ้เรื่ องชายๆ หญิงๆ แล้ว
ทุกๆ ครั้งที่อ่านบทกลอน ‘นกจวีจิวขันร้องเรี ยกหาคู่ อยูบ่ นเกาะแก่ง
กลางแม่น้ า หญิงงามอรชร เป็ นที่หมายปองของชายหนุ่ม’ ใน
‘คัมภีร์ซือจิง’ ในสมองก็วาดภาพเงาของหญิงงามผูห้ นึ่งอย่างอด
ไม่ได้ แม้ใครๆ ต่างก็พดู ว่าแต่งภรรยาให้แต่งหญิงที่มีคุณธรรม แต่
เขาก็ยงั คงหวังว่าว่าที่ภรรยาของเขาจะเป็ นหญิงงามอรชร
ครั้งนั้นที่ไปงานเลี้ยงที่จวนองค์หญิงใหญ่ เขาตั้งใจวิ่งตามไปที่หน้า
ประตูใหญ่เพื่อดูคูห่ มั้นปราดหนึ่ง หญิงที่งดงามอ่อนโยนผูน้ ้ นั ตรง
กับคนที่เขาคิดในใจพอดี ด้วยเหตุน้ ี เงาร่ างของเสิ่ นเวยจึงประทับลง
ในใจเขาทันที
แต่เกิดข้อผิดพลาด พวกเขาไม่มีวาสนาให้เป็ นสามีภรรยากัน
ท้ายที่สุดเขาแต่งงานกับน้องสาวของนางกลายเป็ นน้องเขยของนาง
แทน ส่ วนนางก็แต่งงานกับอีกคน
วันนี้เป็ นวันที่นางกลับบ้าน มองเงาร่ างที่เดินเคียงบ่าเคียงไหล่กนั
ของนางกับสามีนาง เขารู ้สึกว่าหัวใจของตนราวกับแหว่งไปหนึ่งมุม
เดิมคิดว่าแต่งงานกับคนขี้โรคทาให้นางไม่สมปรารถนา แต่เมื่อเห็น
รอยยิม้ ที่เหนียมอายบนใบหน้าของนาง ไม่วา่ อย่างไรเขาก็หลอก
ตัวเองไม่ได้
ซ้ าพี่เขยสี่ ผนู ้ ้ ียงั ไม่ใช่คนขี้โรคที่ไร้ประโยชน์อย่างที่เขาคิด ใบหน้า
งามดัง่ หยก เรื อนร่ างสู งตรง เพียงแค่ดา้ นความรู ้กไ็ ม่ได้ดอ้ ยไปกว่า
ตนแล้ว นี่จะไม่ให้เขาริ ษยาได้อย่างไร เขาเองก็รู้วา่ สุ ภาพบุรุษทา
เช่นนี้ไม่ดี แต่ไม่วา่ อย่างไรก็ไม่อาจควบคุมความคิดที่เกิดขึ้นมาใน
ใจไม่หยุดได้
งานเลี้ยงตอนเที่ยงแยกกันนัง่ โต๊ะฝ่ ายญาติผหู ้ ญิงตั้งอยูท่ ี่เรื องซงเฮ่อ
ของนายหญิงผูเ้ ฒ่า โต๊ะของเหล่าบุรุษก็ต้ งั อยูท่ ี่เรื อนนอก เสิ่ นเวยยัง
ตั้งใจบอกปู่ นางว่าสวีโย่วดื่มสุ ราไม่ได้ ให้เขาคอยดูอย่าให้ใครริ น
สุ ราให้เขา นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็กดั ฟันรับปาก
อันที่จริ งเสิ่ นเวยก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสวีโย่วดื่มสุ ราได้หรื อไม่ แต่นาง
ไม่อยากดมกลิ่นสุ รานัน่ เช่นนั้น
สวีโย่วก็อย่าดื่มเสี ยเลยดีกว่า
งานเลี่ยงยามเที่ยงเสิ่ นเวยกินด้วยความเปรมปรี อย่างยิง่ อืม ยังคงเป็ น
อาหารในจวนโหวที่ถูกปาก เรื่ องที่ทาให้เสิ่ นเวยประหลาดใจก็คือ
ไม่เพียงแต่นายหญิงผูเ้ ฒ่าที่ยมิ้ แย้มให้นาง เสิ่ นเสวี่ยคาดไม่ถึงว่า
ไม่ได้หาเรื่ องนางเช่นกัน เมื่อก่อนนางเห็นตนก็จะต้องเสี ยดสี หลาย
ประโยคอย่างอดไม่ได้ แม้วา่ จะทาอะไรไม่ได้ แต่กไ็ ม่รู้สึกเหนื่อย
เสิ่ นเวยคิดว่านางเป็ นเด็กปี ศาจที่ขาดการสัง่ สอน ไม่จดั การไม่ได้
วันนี้เป็ นอะไรไปเล่า อาทิตย์ข้ ึนทางตะวันตกหรื อ หรื อว่าจวนหย่งห
นิงโหวถูกกระตุน้ อะไรมา นึกถึงอวี้ซื่อที่ยากจะจัดการผูน้ ้ นั แล้ว
เบื้องลึกในใจเสิ่ นเวยก็จุดเทียนให้นางหนึ่งเล่มเงียบๆ น้องห้า ขอให้
เจ้าโชคดี!
ความคิดนี้ผา่ นมาเพียงแค่แวบเดียวก็ถูกเสิ่ นเวยวางไว้ขา้ งๆ คนที่ไม่
ต้องให้ความสาคัญ จะสนใจนางไปทาไม อย่างไรเสี ยนางเองก็เล่น
ลูกไม้อะไรไม่ได้อยูแ่ ล้ว
กินเลี้ยงตอนเที่ยงเสร็ จสวีโย่วก็ตามเสิ่ นเวยไปพักผ่อนที่เรื อนเฟิ ง
หวา ปี นกาแพงมานับครั้งไม่ถว้ น ในที่สุดคราวนี้กเ็ ดินเล่นได้อย่าง
เปิ ดเผยเสี ยที เสิ่ นเวยมองท่าทางสวี่โย่วที่สนใจแม้แต่ตน้ หญ้า
หัวเราะเยาะหนึ่งครา
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 223-1 วางแผนเอาสิ นเดิม
ในใจสวีโย่วตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด ปี นกาแพงมานับครั้งไม่ถว้ น ใน
ที่สุดวันนี้กส็ ามารถยืนอยูใ่ นห้องนอนของน้องสี่ ได้อย่างเปิ ดเผยแล้ว
โดยเฉพาะวันเหล่านั้นหลังนายท่านผูเ้ ฒ่ากลับจวน มาตรการป้องกัน
ของจวนจงอู่โหวก็เข้มงวด หากไม่ใช่วา่ วิชาตัวเบาของเขาดี ก็คงจะ
ถูกนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวจับได้แล้ว เฮ้อ ไม่คิดแล้ว ล้วนแต่เป็ นน้ าตา
แห่งความเศร้า!
เข้าไปในห้องนอนแล้วสวีโย่วก็มองประเมิณด้วยความสนใจ มาก็มา
หลายครั้งแล้ว แต่ลว้ นเป็ นกลางคืน มืดสนิทไม่มีแม้แต่แสงไฟ อีก
ทั้งตอนนั้นในสายตาเขายังมองเห็นเพียงน้องสี่ แซ่เสิ่ น ไหนเลยจะ
สนใจเครื่ องเรื อนที่จดั วางอยูภ่ ายในห้อง
ม่านไหมบางสี ฟ้าหลังฝนทอลายดอกไม้ใบหญ้า ข้างเตียงมีโต๊ะ
เครื่ องแป้งไม้หวงฮวาหลีหนึ่งตัว ข้างบนมีหนังสื อที่เปิ ดอยูห่ นึ่งเล่ม
สามารถหยิบมาได้ทนั ที ราวกับวันเจ้าของเพียงแค่ออกไปชัว่ คราว
ประเดี๋ยวก็กลับมา
สวีโย่วเดินอยูภ่ ายในห้องหนึ่งรอบ ทันใดนั้นใจก็เต้น วิ่งตรงไปยัง
ใต้หมอนบนเตียงใหญ่ เปิ ดหมอนที่มีกลิ่นหอมออกแต่กลับพบว่า
ข้างใต้ไม่มีอะไร จากนั้นก็ได้ยนิ เสี ยงที่หยอกล้อของเสิ่ นเวยข้างหลัง
“ท่านหานี่อยูห่ รื อ”
ในมือของเสิ่ นเวยถือเหรี ยญทองแดงหนึ่งเหรี ยญ มือซ้ายมือขวาโยน
ไปมาเช่นนี้ ส่ งเสี ยงกระทบที่กงั วานออกมา
สวีโย่วหันตัวทันที ทาให้เสิ่ นเวยหัวเราะคิกคัก เหรี ยญทองแดง
เหล่านี้ถูกนางใช้เป็ นอาวุธกับสวีโย่ว ไม่รู้วา่ แตะโดนตัวเขามากี่ครั้ง
แล้ว
“เจ้าวางพวกมันไว้ที่ไหน รี บเก็บขึ้นมา” ที่สวีโย่วคิดกลับเป็ น
ความสัมพันธ์ของเหรี ยญทองแดงกับการแต่งอนุภรรยา ความคิด
แวบขึ้นมา กล่าวถาม “หากข้าแต่งอนุภรรยาจริ งๆ เจ้าจะทาอย่างไร”
ดวงตาของเสิ่ นเวยกะพริ บครู่ หนึ่ง “ไม่ใช่บอกแล้วหรื อว่าขึ้นอยูก่ บั
เหรี ยญทองแดง”
“เอาความจริ ง” สวีโย่วสงสัยอย่างยิง่ จริ งๆ ผูห้ ญิงคนอื่นแม้วา่ ในใจ
จะไม่พอใจที่สามีแต่งอนุภรรยา แต่กลับไม่กีดกันเช่นนาง บางคน
กระทัง่ แต่งหน้าสาวใช้ขา้ งกายส่ งให้สามีดว้ ยตัวเอง เด็กน้อยคนนี้
กลับดี ไม่เพียงแต่จะฆ่าอนุภรรยา แม้แต่เขาก็ยงั ไม่ปล่อย ขี้หึงมาก
จริ งๆ! แต่วา่ เขาชอบ!
“ความจริ งหรื อ” เสิ่ นเวยกลอกตาขาว กล่าว “จะฆ่าพวกท่านจริ งๆ ก็
คงจะไม่ได้ อย่างไรเสี ยอนุภรรยาก็ไม่มีความผิด ตัวต้นเหตุคือท่าน
ฆ่าท่านกลับยังพอจะเป็ นไปได้ แต่วา่ ผลที่ตามมารุ นแรงเล็กน้อย
หรื อจะแขวนท่านบนต้นไม้ ข้าไม่เชื่อว่าเดินทางไกลทัว่ พันหุบเขา
หมื่นย่านน้ าจะหาคนที่หน้าตาดีกว่าท่านไม่เจอ”
หลังจากนั้นก็จอ้ งมองสวีโย่วอย่างชัว่ ร้ายแล้วกล่าว “แต่วา่ ก่อนจะ
ไปข้าจะตอนต้นเหตุความชัว่ ร้ายของท่าน ท่านก็รู้วา่ ข้ามีนิสยั ไม่
ยอมเสี ยเปรี ยบเช่นนี้ คอยดูท่านไร้ทายาทสื บทอด ส่ วนข้าก็โอบชาย
หนุ่มซ้ายขวาอยูข่ า้ งนอก เท่านั้นข้าก็มีความสุ ขแล้ว”
สวีโย่ว “อย่าแม้แต่จะคิด” คิดจะทิ้งเขาไปมีชีวิตอิสระงั้นหรื อ ฝันไป
เถอะ!
“ชีวิตนี้เจ้าเป็ นคนของข้าแล้ว คิดจะทิ้งข้าหรื อ หึ รี บเก็บความคิด
เหลวไหวนี้ไปเสี ย” สวีโย่วกล่าวขู่
เสิ่ นเวยถลึงตามองเขาแล้วพูด “ก็ท่านถามข้าไม่ใช่หรื อ ข้าเพียงแค่
พูดความคิดจริ งๆ ที่อยูใ่ นใจออกมา มีอะไรผิดหรื อ รี บลุกขึ้นเดี๋ยวนี้
ท่านหนักจะตายอยูแ่ ล้วรู ้ตวั หรื อไม่ ยัว่ โมโหข้า หึ แม้วา่ ข้าจะไม่
ชอบปัญหาวุน่ วาย แต่ถา้ ปัญหามาหาเองข้าก็ไม่กลัวเหมือนกัน” เสิ่ น
เวยกางกรงเล็บขู่กลับ
กระทัง่ ยามเซิน หมดหนทางจะถ่วงเวลาแล้วเสิ่ นเวยจึงจากไปพร้อม
สวีโย่วด้วยความอาลัยอาวรณ์ เสิ่ นเจวี๋ยวิ่งตามหลังรถม้าออกไปไกล
เสิ่ นเวยเปิ ดม่านมองไปข้างหลัง ไม่รู้เหตุใดความรู ้สึกถึงได้เศร้าโศก
ราวกับในใจถูกยัดอะไรบางอย่างไว้ อึดอัดอย่างถึงที่สุด
สวีโย่วเห็นนางไม่มีความสุ ข ก็กล่าวปลอบ “อยูไ่ ม่ไกลมาก ตัวข้า
เองก็ไม่มีงาน เจ้าอยากกลับเมื่อไรข้าจะกลับมาเป็ นเพื่อนเจ้า” เห็น
เด็กคนนี้กระโดดโลดเต้นจนชิน พอเห็นนางนิ่งเงียบไม่มีความสุ ข
เช่นนี้ สวีโย่วก็รู้สึกปวดใจยิง่ นัก
เสิ่ นเวยได้ยนิ แล้วในใจก็สบายอย่างยิง่ แต่ปากกลับกล่าว “ด้วยนิสยั
สร้างความลาบากใจให้คนอื่นอย่างแม่เลี้ยงของท่าน จะปล่อยพวก
เราออกจากจวนง่ายๆ สิ แปลก”
“วางใจ” นางยุง่ ได้ไม่เยอะเพียงนั้นหรอก” สวีโย่วกล่าวอย่างสบายๆ
ไม่ได้เห็นพระชายาจิ้นอ๋ องอยูใ่ นสายตาแม้แต่นิดเดียว
ดวงตาของเสิ่ นเวยลุกวาวในชัว่ ขณะ พี่ชายจะเปลี่ยนมาเดินบน
เส้นทางเจ้านายเผด็จการแล้วหรื อ ฮ่าๆ ข้าชอบนัก
“เช่นนั้นพวกเราตกลงกันแล้วนะ ท่านต้องพาข้าออกจวนไปเล่น
บ่อยๆ” เสิ่ นเวยดึงแขนเสื้ อของสวีโย่วพูดอย่างร้อนใจ ก่อนหน้านี้ที่
จวนโหวนางอยากออกจวนเมื่อไหรก็ออกจวนเมื่อนั้น
สวีโย่วละสายตามอง กล่าวอย่างแฝงความนัย “ขอเพียงแค่เจ้าทาให้
ข้าพอใจ ข้าย่อมทาให้เวยเวยพอใจแน่นอน”
เสิ่ นเวยไม่เข้าใจก่อน เมื่อสบสายตาของสวีโย่ว ชัว่ ขณะก็โมโหอย่าง
ถึงที่สุด เจ้านายเผด็จการอะไร เห็นชัดๆ ว่าเป็ นคนหน้าไม่อาย
ต่างหาก
ให้ตายเถอะ หรื อว่านี่จะเป็ นอาการตกหลุมรักหัวปั กหัวปาในคาเล่า
ลือ มิเช่นนั้นเหตุใดหมอนี่ถึงได้คิดแต่เรื่ องนี้ท้ งั วันทั้งคืน
กลับไปถึงจวนจิ้นอ๋ อง เสิ่ นเวยก็ไปที่เรื อนพระชายาจิ้นอ๋ องก่อน
เป็ นถึงลูกสะใภ้ นี่คือมารยาทที่จาเป็ นต้องทา เสิ่ นเวยไม่อยากถูกคน
จับจุดอ่อน
พระชายาจิ้นอ๋ องถามด้วยความเป็ นมิตรพักหนึ่ง รู ้วา่ พี่รองของเสิ่ น
เวยตั้งครรภ์ รอยยิม้ บนใบหน้าก็ยงิ่ กว้าง “ช่างมีวาสนาจริ งๆ ภรรยา
โย่วเอ๋ อร์กต็ ้ งั ใจให้มากๆ รี บมีทายาทให้โย่วเอ๋ อร์ในเร็ ววัน”
เพิ่งจะแต่งงาน พระชายาจิ้นอ๋ องก็เอ่ยถึงทายาทแล้ว รี บเกินไปหน่อย
หรื อไม่ ความคิดแวบเข้ามาในใจเสิ่ นเวย หน้านางแดงเขินอาย
“เสด็จแม่อย่าหยอกล้อลูกสิ เพคะ”
ท่าทางอยากจะมุดแผ่นดินหนีน้ นั ทาให้พระชายาจิ้นอ๋ องยิม้ กว้าง จับ
มือของเสิ่ นเวยแล้วกล่าว “ดูสิทาภรรยาโย่วเอ๋ อร์เขินแล้ว อย่างไร
เสี ยก็ยงั อายุนอ้ ย หน้าบาง มีบุตรสื บสกุลคือเรื่ องใหญ่ มีอะไรให้อาย
หรื อ ภรรยาโย่วเอ๋ อร์ตอ้ งเพิม่ แรง ให้แม่ได้อุม้ หลานคนโตในเร็ ว
วัน”
“เสด็จแม่ ท่านพูดอะไรกัน” เสิ่ นเวยกระทืบเท้าแค้นเคืองจากความ
เขินอาย ทาให้พระชายาจิ้นอ๋ องหัวเราะร่ าอีกครั้ง หัวเราะไปพลาง
ปลอบไปพลาง “เอาล่ะๆ แม่ไม่พดู แล้ว ไม่พดู แล้ว”
พระชายาจิ้นอ๋ องให้เสิ่ นเวยอยูก่ ินข้าวเย็นในเรื อนนาง เสิ่ นเวย
ปฏิเสธ อย่าว่าแต่กินข้าวเลย แม้แต่น้ าชาในเรื อนพระชายาจิ้นอ๋ อง
นางยังไม่กล้าแตะ เหมือนอย่างที่ปู่นางพูด ระวังไว้ก่อนดีกว่า
เสิ่ นเวยกลับไปถึงเรื อน เถอจือที่อยูเ่ ฝ้าก็เข้ามารายงาน “ฮูหยิน วันนี้
ทั้งหมดเป็ นปกติ เพียงแต่หลังจากที่ท่านตามคุณชายใหญ่ไปแล้วอิง
เกอในเรื อนฮูหยินสามก็มาพูดคุยกับบ่าว บอกว่าอยากให้บ่าวสอน
เย็บปักถักร้อย แต่พดู วกไปวนมาล้วนแต่สืบถามเรื่ องของท่านฮูหยิน
ซ้ ายังเอ่ยถึงสิ นเดิมของท่าน ราวกับสนใจสิ นเดิมของท่านยิง่ นัก ถูก
บ่าวเปลี่ยนเรื่ องเบี่ยงประเด็น นางสื บไม่ได้อะไร ตอนที่ไปก็คล้าย
ไม่พอใจหลายส่ วน”
เสิ่ นเวยพยักหน้า แววตาคล้ายครุ่ นคิด อิงเกอเป็ นสาวใช้ใหญ่ขา้ งกาย
หูซื่อ เป็ นผูท้ ี่ฉลาดหลักแหลมที่สุดในมือนาง ฝี มือเย็บปักถักร้อย
เป็ นอันดับหนึ่ง มาขอให้เถาจือสอนเย็บปั กงั้นหรื อ เกรงว่าจะมี
เจตนาอื่นมากกว่ากระมัง
สิ นเดิมหรื อ หูซื่อสื บถามสิ นเดิมของนางทาไมกัน ฐานะเดิมของนาง
เป็ นถึงจวนไหวเซียงโหว แม้จะเทียบสิ นสอดทองหมั้นสิ บลี้ของนาง
ไม่ได้ แต่กไ็ ม่เลวแล้วเช่นกัน พระชายาจิ้นอ๋ องไม่มีทางหาบ้าน
พ่อตาแม่ยายที่ไม่มีแรงสนับสนุนให้ลูกชายแท้ๆ ของตนแน่นอน ไม่
ว่าจะเป็ นจวนอู๋กวั๋ กงฐานะเดิมของฮูหยินซื่อจื่ออู๋ซื่อหรื อว่าจวนไหว
เซียงโหวฐานะเดิมของหูซื่อ ในเมืองหลวงก็นบั ว่าร่ ารวยมีเกียรติ หู
ซื่อไม่ควรสายตาสั้นขนาดนี้!
“ช่างนางปะไร พวกเราไม่ได้อยูท่ ี่จวนอ๋ องตลอด ไม่ตอ้ งกลัวจะผิด
ใจพวกนาง อีกอย่าง คุณชายใหญ่จึงจะเป็ นบุตรคนโตของภรรยาเอก
ในจวน พวกเราไม่ตอ้ งกลัวพวกนาง กลับไปเจ้าไปบอกทุกคนให้
หมดว่า เพียงแค่มนั่ อกมัน่ ใจเต็มเปี่ ยมก็พอ ไม่วา่ เมื่อไรก็ตามฮูหยินข
องพวกเจ้าก็ไม่มีทางทนเห็นพวกเจ้าเสี ยเปรี ยบได้” เสิ่ นเวยกาชับ
ด้วยความเด็ดขาดอย่างถึงที่สุด
เถาจือถอนหายใจในใจอย่างโล่งอก “เจ้าค่ะ ฮูหยิน บ่าวทราบแล้ว”
นางรู ้วา่ ฮูหยินเป็ นคนเก่งที่สามารถปกป้องคนได้ แต่อย่างไรเสี ยที่นี่
ก็เป็ นเรื อนของพระชายาจิ้นอ๋ อง ฮูหยินเพิ่งจะแต่งเข้ามา ไม่มี
รากฐานใดๆ พวกนางที่เป็ นบ่าวเหล่านี้เกรงว่าจะผิดใจคนอื่นสร้าง
ความเดือดร้อนให้ฮูหยิน ตอนนี้ฮูหยินพูดเช่นนี้นางก็เข้าใจแล้ว ทา
เหมือนกับที่อยูใ่ นจวนโหวก่อนหน้านี้แล้วกัน ไม่หาเรื่ องก่อน แต่ก็
ไม่อาจขลาดกลัวได้เป็ นอันขาด
เสิ่ นเวยไม่รู้วา่ คนที่สนใจสิ นเดิมของนางไม่ได้มีเพียงแค่หูซื่อคน
เดียว พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็สนใจสิ นเดิมของนางเป็ นอย่างมาก
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 223-2 วางแผนเอาสิ นเดิม
“ต่างก็วา่ กันว่าสิ นเดิมของภรรยาโย่วเอ๋ อร์เป็ นเท่านี้ในเมืองหลวง
เจ้าไปดูแล้วหรื อยัง” พระชายาจิ้นอ๋ องยืน่ นิ้วโป้งออกมาเทียบ
แม่นมซือกาลังทาเล็บให้นางด้วยความระมัดระวัง ได้ยนิ แล้วก็กล่าว
“ยังเจ้าค่ะ วันนั้นที่สินเดิมของฮูหยินใหญ่ยกเข้ามาในจวนบ่าวยุง่ อยู่
ไหนเลยจะมีเวลาว่างไปดูสินเดิมอะไร แต่ได้ยนิ บ่าวรับใช้ช้ นั ล่าง
ถกเถียงกัน บอกว่าเยอะอย่างยิง่ แต่บ่าวตริ ตรอง นี่น่าจะเป็ นคาพูด
เกินจริ งของบ่าวชั้นล่าง ต่อให้เยอะแล้วจะเยอะสักเท่าไรเชียว เทียบ
ฮูหยินซื่อจื่อกับฮูหยินสามได้หรื อ อย่างไรเสี ยพื้นฐานของจวนจงอู่
โหวก็เห็นๆ กันอยู่ เพิ่งจะรุ่ งเรื องขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีนี้ ห่างไกลจาก
จวนอู๋กวั๋ กงกับจวนไหวเซียงโหวยิง่ นัก จะมีของดีอะไรได้”
พระชายาจิ้นอ๋ องหาวกล่าว “คราวนี้แม่นมพูดผิดแล้ว ใบรายการสิ น
เดิมของภรรยาโย่วเอ๋ อร์ท่านอ๋ องดูให้ขา้ แล้ว ไม่เพียงแต่สินสอดจวน
อ๋ องของเราถูกนากลับมาทั้งหมดตามจานวนเดิม เพียงแค่หมู่บา้ น
มากกว่าพันหมู่ที่ชานเมืองก็มีเจ็ดแปดแห่งแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็ น
ที่ดินชั้นดี เป็ นหมู่บา้ นดีที่ต่อให้เจ้ามีเงินก็หาไม่ได้ ยิง่ ไม่ตอ้ งพูดถึง
ของล้ าค่าหายากต่างๆ ดูท่าแล้วจวนจงอู่โหวจะรุ่ งเรื องแล้ว มิเช่นนั้น
คงไม่อาจให้ลูกสาวออกเรื อนด้วยสิ นเดิมหลายแสนตาลึง” สิ นเดิม
ส่ วนนั้นเยอะยิง่ กว่าของอู๋ซื่อกับหูซื่อรวมกันเสี ยอีก
“เป็ นไปไม่ได้กระมัง” แม่นมซือไม่เชื่ออย่างยิง่ แม้จวนจงอู่โหวจะ
ร่ ารวย แต่ตระกูลใดบ้างจะตัดใจให้สินเดิมบุตรสาวหลานแสนตาลึง
ไม่ใช่ควรเก็บไว้ในลูกชายหรื อ ฮูหยินใหญ่ยงั มีนอ้ งชายมารดา
เดียวกันหนึ่งคนไม่ใช่หรื อ
“จะเป็ นไปไม่ได้ได้อย่างไร แม่นมอย่าลืมว่าตอนแรกหร่ วนซื่อก็แต่ง
เข้าจวนจงอู่โหวด้วยสิ นสอดยาวสิ บลี้ หร่ วนซื่อไม่อยูแ่ ล้ว ฟังว่า
หลิวซื่อฮูหยินแม่เลี้ยงผูน้ ้ นั หันเข้าหาพระธรรมละเรื่ องทางโลก สิ น
เดิมของหร่ วนซื่อนั้นก็ตอ้ งตกอยูใ่ นมือภรรยาโย่วเอ๋ อร์มิใช่หรื อ”
พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าวอย่างไม่สนใจ
“นัน่ ก็เป็ นไปไม่ได้ ฮูหยินใหญ่ไม่ใช่ยงั มีนอ้ งชายมารดาเดียวกันอยู่
หรื อ สิ นเดิมของหร่ วนซื่อจะให้นางครอบครองเพียงคนเดียวได้
อย่างไร” แม่นมซือยังคงรู ้สึกว่าเป็ นไปไม่ได้ หากเป็ นนาง อย่างมาก
ก็ส่งให้นอ้ ยกว่าครึ่ ง ส่ วนใหญ่ยงั ต้องเก็บไว้ให้ลูกชาย อย่างไรเสี ย
ลูกชายจึงจะเป็ นที่พ่ งึ ในการสื บทอดทายาท
ได้ยนิ พระชายาจิ้นอ๋ องหัวเราะเยาะหนึ่งครา “น้องภรรยาผูน้ ้ นั เพิ่งจะ
อายุเท่าไรเอง ของอยูใ่ นมือภรรยาโย่วเอ๋ อร์ ไม่ใช่วา่ นางเป็ นผู ้
ตัดสิ นใจหรื อ คนยังมีความเห็นแก่ตวั ใครบ้างที่ไม่คิดเพื่อตัวเอง”
เรื่ องนี้ภรรยาโย่วเอ๋ อร์กลับฉลาด
แม่นมซือคิดๆ ดูก็ถูก หากนางมีของเยอะเพียงนั้น ก็ตดั ใจแบ่งให้
ผูอ้ ื่นไม่ได้เหมือนกัน อย่าว่าแต่พี่นอ้ ง แม้แต่พอ่ แม่กไ็ ม่ได้ ต่อให้พอ่
แม่จะสนิทไหนเลยจะสนิทเท่าเงิน
“เช่นนั้นฮูหยินใหญ่กท็ าไม่ถูก” แม่นมซือขมวดคิ้วมุ่น กล่าวอย่าง
จริ งจัง “หากในมือไม่มีกไ็ ม่เป็ นไร สิ นเดิมของฮูหยินใหญ่เยอะเพียง
นั้น ของล้ าค่าหายากในมือเยอะเพียงนั้น คาดไม่ถึงว่าไม่คิดจะแสดง
ความกตัญญูต่อพระชายาสักชิ้นสองชิ้น ไม่วา่ จะพูดอย่างไรท่านก็
เป็ นแม่สามีของนาง”
พระชายาจิ้นอ๋ องตาลุกวาว โบกมือกล่าว “สิ นเดิมภรรยาโย่วเอ๋ อร์
เยอะ ข้าเองก็ดีใจกับพวกเขาสองสามีภรรยา ข้าเป็ นแม่สามี ไหนเลย
จะขอสิ่ งของจากชนรุ่ นหลังได้ หากดังออกไปทุกคนคงหัวเราะแย่
เจ้ารี บปิ ดปากเสี ย พระชายาของเจ้ายังไม่สายตาสั้นเพียงนั้น ข้าเป็ น
ใครรู ้ไว้เสี ยบ้าง”
“พระชายากล่าวผิดแล้ว จะเป็ นการขอได้อย่างไร ชนรุ่ นหลังแสดง
ความกตัญญูต่อผูอ้ าวุโสไม่ใช่สิ่งสมควรหรอกหรื อ พระชายาไม่
ต้องการ นัน่ ก็หมายความว่าพระชายาเมตตา ฮูหยินใหญ่ไม่
แสดงออก นัน่ ก็หมายความว่านางทาไม่ถูก ฮูหยินซื่อจื่อกับฮูหยิ
นสามแต่งเข้ามาแรกๆ ก็แสดงความกตัญญูต่อพระชายาด้วยของดีๆ
หลายชิ้นมิใช่หรื อ” แม่นมซือกล่าวโน้มน้าว
หวาอวิ๋นข้างๆ เองก็กล่าวคล้อยตาม “พระชายา แม่นมพูดมีเหตุผล
บ่าวคิดว่า ฮูหยินใหญ่ไหนเลยจะสู งศักดิ์กว่าฮูหยินซื่อจื่อกับฮูหยิ
นสาม อย่างไรเสี ยจวนจงอู่โหวก็หยาบกระด้างเกินไป”
วันนั้นที่ยกน้ าชานางถูกเสิ่ นเวยตบหน้าต่อหน้าทุกคน ในใจกาลัง
เคียดแค้นอยู่ ตอนนี้เห็นโอกาสจะไม่พยายามใส่ ความได้อย่างไร
พระชายาจิ้นอ๋ องโบกมือต่อ “พอแล้วๆ รู ้แล้วว่าพวกเจ้าคิดแทนข้า
ข้ายังขาดของชิ้นสองชิ้นนั้นหรื ออย่างไร ขอเพียงแค่โย่วเอ๋ อร์สอง
สามีภรรยามีชีวิตที่ดีได้ จะแสดงความกตัญญูดว้ ยการให้ของข้า
หรื อไม่กไ็ ม่สาคัญ ภรรยาโย่วเอ๋ อร์อายุยงั น้อย ต้องค่อยๆ เรี ยนรู ้
พวกเจ้าน่ะพูดให้นอ้ ยหน่อย ปิ ดปากให้สนิท หากหลุดพูดอะไร
ออกไปข้าไม่ปล่อยไว้แน่”
แม่นมซือกับหวาอวิ๋นก็ประจบขึ้นมา บ้างก็วา่ พระชายาเป็ นคนใจ
กว้าง ได้เป็ นแม่นมของพระชายาเป็ นวาสนาอันดีในชัว่ ชีวิตนาง บ้าง
ก็วา่ พระชายาโอบอ้อมอารี เกินไป บ่าวรู ้สึกไม่เป็ นธรรมแทนท่าน
ต่างๆ นานา ประจบจนรอยยิม้ บนใบหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องกว้างขึ้น
เรื่ อยๆ
แม้ปากพระชายาจิ้นอ๋ องจะบอกว่าไม่ตอ้ งการ อันที่จริ งในใจกาลัง
วางแผนอยู่ สิ นเดิมจานวนมากเพียงนั้น นางจะไม่สนใจได้อย่างไร
“แม่นมยังจาภาพวาดโบราณตกปลาใต้จนั ทราภาพนั้นได้หรื อไม่”
จู่ๆ พระชายาจิ้นอ๋ องก็เปลี่ยนเรื่ อง
แม่นมซือขมวดคิว้ อยูน่ านจึงกล่าว “ที่พระชายาจิ้นอ๋ องพูดหมายถึง
ผลงานของจางเต้าจื่อชื่อดังในรัชสมัยที่แล้วใช่หรื อไม่”
“ใช่ๆๆ ถูกต้องแล้ว” พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าวด้วยความดีใจ “ข้าจาได้
ว่าภาพตกปลาใต้จนั ทราภาพนั้นโด่งดังยิง่ นัก ปั ญญาชนใต้หล้าต่างก็
แย่งกันมาดู ฉบับคัดลอกยังทาเงินได้ถึงห้าพันตาลึง ของแท้กย็ งิ่ มีคน
เสนอให้ถึงหนึ่งแสนตาลึง อ้อจริ งสิ ขา้ คล้ายจาได้ลางๆ ว่าของแท้อยู่
ในมือใคร” นางเท้าศีรษะพยายามหวนนึก
แม่นมซือตาลุกวาว กล่าวเสี ยงเบา “เรื่ องนี้บ่าวจาได้ ของแท้น้ ีอยูท่ ี่
จวนแม่ทพั ใหญ่หร่ วน เป็ นสิ นเดิมของฮูหยินแม่ทพั ใหญ่ ภายหลัง
เป็ นสิ นเดิมส่ งให้ลูกสาว ตอนนั้นที่หร่ วนซื่อเปิ ดเผยสิ นเดิมก็สร้าง
ความตกตะลึง ปั ญญาชนกวีจานวนไม่นอ้ ยไปขอเยีย่ มชมที่จวนจงอู่
โหว เพียงอยากจะเห็นของแท้กบั ตาตัวเอง”
“อ้อ ข้านึกออกแล้ว มีเรื่ องเช่นนี้จริ งๆ ท่านอ๋ องของพวกเราก็เคยไป
เยีย่ มจวนจงอู่โหว หลังกลับมาก็ชื่นชมไม่หยุดปาก กลางดึกไม่หลับ
ไม่นอนคัดลอกอยูใ่ นห้องหนังสื อ ราวกับถูกผีสิง ขนาดนั้นเชียว
หรื อ เฮ้อ ความคิดของปัญญาชนนี้พวกเราสตรี เรื อนหลังเหล่านี้ไหน
เลยจะเข้าใจ” พระชายาจิ้นอ๋ องหวนราลึกกล่าว
แม่นมซือลอบมองสี หน้าของพระชายาจิ้นอ๋ อง กล่าว “พระชายา ฟัง
ว่าไม่กี่วนั ก่อนพ่อบ้านรองจวนเสนาบดีฉินยังตามหาฉบับคัดลอก
ของภาพๆ นี้อยูข่ า้ งนอก บอกว่าท่านเสนาบดีฉินสัง่ มา พระชายา
หากพวกเราสามารถส่ งภาพของแท้น้ ีไปให้เสนาบดีฉินได้ เช่นนั้นคู่
สมรสของคุณชายสี่ กเ็ ป็ นไปได้อย่างยิง่ ”
ในดวงตาพระชายาจิ้นอ๋ องมีประกายแวบผ่านไปอย่างรวดเร็ ว ถอน
หายใจกล่าว “ใครว่าไม่ใช่เล่า เพื่อฉัง่ เอ๋ อร์ ผมบนหัวข้าขาวไปไม่รู้กี่
เส้นแล้ว ฉัง่ เอ๋ อร์ไม่ได้กา้ วหน้าเหมือนพี่ชายทั้งสองของเขา ข้าก็ยงิ่
ต้องหาบ้านพ่อตาที่มีแรงสนับสนุนให้เขา แม้คุณหนูผนู ้ ้ นั ของจวน
เสนาบดีฉินจะไม่ใช่บา้ นนายท่านเสนาบดีฉิน แต่กเ็ ป็ นลูกพี่ลูกน้อง
ของซูเฟยเหนียงเหนียง หลานสาวแท้ๆ ของเสนาบดีฉิน! หากฉัง่
เอ๋ อร์แต่งงานกับคุณหนูฉินผูน้ ้ ี อย่างไรเสี ยองค์ชายรองก็สามารถ
ช่วยเขาได้อีกแรง”
“พระชายามีจิตใจของผูเ้ ป็ นแม่จริ งๆ เจ้าค่ะ! คุณชายสี่ เป็ นคนกตัญญู
รู ้คุณ จะต้องเข้าใจความลาบากของพระชายาแน่นอน” แม่นมซือ
ตั้งใจประจบสอพลอ
พระชายาจิ้นอ๋ องดูเรื่ องสมรสให้ลูกชายคนเล็กสวี่ฉงั่ อยู่ เลือกไป
เลือกมาก็เลือกจวนเสนาบดีฉิน แม้จะเสี ยดายที่ท่านเสนาบดีฉินไม่มี
บุตรสาวที่อายุเหมาะสม แต่สามารถแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของ
ซูเฟยเหนียงเหนียงได้กด็ ีเหมือนกัน! นางไหว้วานคนไปปล่อยข่าว
มาแล้ว แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็ นดัง่ ที่นางหวัง แม้จะไม่ได้พดู อะไร แต่
เจตนาการปฏิเสธอ้อมๆ นัน่ ไม่ใช่ชดั เจนอย่างยิง่ หรอกหรื อ
พระชายาจิ้นอ๋ องโมโหแล้วครั้งหนึ่ง แต่กย็ งั คงไม่ยอมลดละ องค์
ชายรองของซูเฟยได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ที่สุด ผูกสัมพันธ์
ไมตรี กบั นาง ไม่เพียงแต่ลูกชายคนเล็กจะมีอนาคต แม้แต่เยีย่ เอ๋ อร์เห
ยียนเอ๋ อร์กไ็ ด้รับผลประโยชน์ไปด้วยเช่นกัน
“หากสามารถทาให้ท่านเสนาบดีฉินพูดอะไรได้ เรื่ องสมรสนี้ของฉัง่
เอ๋ อร์กส็ าเร็ จแล้ว เพียงแต่ขา้ ก็เป็ นแค่เพียงสตรี คนหนึ่ง เฮ้อ!” พระ
ชายาจิ้นอ๋ องถอนหายใจอย่างหนักหน่วงหนึ่งครา
แม่นมซือเป็ นคนฉลาดหลักแหลม ไหนเลยจะไม่เข้าใจเจตนาของ
พระชายาจิ้นอ๋ อง “พระชายา ใกล้ๆ ไม่ใช่มีโอกาสดีอยูห่ รื อ ท่าน
เสนาบดีฉินหาภาพวาดตกปลาใต้จนั ทราอยู่ พวกเราส่ งให้เขาเสี ยก็
สิ้ นเรื่ อง น้ าใจยิง่ ใหญ่เพียงนี้ยงั ไม่พออีกหรื อไร”
“แต่ในมือพวกเราไม่มีภาพๆ นั้น!” พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าวด้วยความ
กลัดกลุม้
“พวกเราไม่มี แต่ที่ฮูหยินใหญ่มี สิ นเดิมของหร่ วนซื่ออยูท่ ี่นาง
ทั้งหมดมิใช่หรื อ” แม่นมซือกล่าวอย่างสุ ขมุ
พระชายาจิ้นอ๋ องดวงตาเป็ นประกายทันที ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วอีก
ครั้ง “นี่คงไม่ดีกระมัง อย่างไรเสี ยนัน่ ก็เป็ นสิ นเดิมของภรรยาโย่ว
เอ๋ อร์ ทั้งยังเป็ นเงินมหาศาล ภรรยาโย่วเอ๋ อร์จะไม่พอใจหรื อไม่”
“มีอะไรให้ไม่พอใจ นี่ลว้ นแต่เป็ นอนาคตคุณชายสี่ ของพวกเรา
คุณชายสี่ เป็ นพี่นอ้ งกับคุณชายใหญ่ ช่วยพี่นอ้ งสักแรงไม่ใช่สิ่ง
สมควรหรื อ” แม่นมซือโน้มน้าว
พระชายาจิ้นอ๋ องนิ่งเงียบอยูน่ าน จึงพยักหน้าเบาๆ กล่าว “ก็ใช่
พรุ่ งนี้ขา้ จะลองถามภรรยาโย่วเอ๋ อร์ดู”
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 224-1 ฝันไปเถอะ
“เคารพฮูหยินใหญ่” หลีฮวาพาหวาเหยียนเดินเข้ามา เห็นเพียงนาง
แก้มชมพูดวงตากลมโต ท่อนบนสวมเสื้ อปี๋ เจี่ยสี เขียวอ่อน ท่อนล่าง
สวมกระโปรงสี ชมพูอ่อนลายดอกเหมย เดินอรชรอ้อนแอ้นเข้ามา
บอกว่าเป็ นสาวใช้ แต่กลับไม่ต่างอะไรจากคุณหนูตระกูลเล็กๆ ข้าง
นอกนัน่
เสิ่ นเวยประหลาดใจเล็กน้อย หวาเยียนผูน้ ้ ีคือสาวใช้ใหญ่ที่ถูกใช้ให้
ทาหน้าที่สาคัญที่สุดข้างกายพระชายาจิ้นอ๋ อง นางมาทาอะไรกัน
“แม่นางหวาเยียนเองหรื อ พระชายามีเรื่ องอะไรหรื อ สัง่ สาวใช้เล็ก
มาก็ได้แล้ว ทาไมจะต้องลาบากเจ้ามาเอง แม่นางหวาเยียนมาเรื อน
ของพวกเราครั้งแรก หลีฮวา ยังไม่รีบไปเอาขนมดีๆ มารับใช้พี่หวา
เยียนของพวกเจ้าอีก” บนใบหน้าเสิ่ นเวยมีรอยยิม้ น้อยๆ ที่เหมาะสม
พอดี
หวาเยียนกล่าวด้วยท่าทีเคารพ “บ่าวเป็ นเพียงคนรับใช้ ฮูหยินใหญ่
ให้เกียรติบ่าวเกินไปแล้ว ฮูหยินใหญ่ไม่ตอ้ งลาบาก พระชายาสัง่ ให้
บ่าวมาเชิญฮูหยินใหญ่ไปเที่ยวหนึ่ง ขนมอะไรบ่าวไว้คอ่ ยลองชิม
ครั้งหน้าเจ้าค่ะ”
“นี่ไหนเลยจะเสี ยเวลาสักครู่ ไม่ได้ แม่นางหวาเยียนมาทั้งที ในเมื่อ
ไม่ชอบกินขนม เช่นนั้นก็เอากระเป๋ าเงินนี้ไปเล่นเถอะ” เสิ่ นเวยบอก
เป็ นนัย หลีฮวาก็ยดั กระเป๋ าเงินใบเล็กทอลายดอกบัวไว้ในมือของ
หวาเยียน “นี่เป็ นน้ าใจเล็กๆ น้อยๆ ของฮูหยินพวกเรา พี่หวาเยียน
อย่าได้รังเกียจ”
“บ่าวขอบคุณฮูหยินที่มอบของให้” หวาเยียนกลับรับไว้ดว้ ยความใจ
กว้างอย่างยิง่ เมื่อเสิ่ นเวยจะสื บถามว่าพระชายาจิ้นอ๋ องเชิญนางไปมี
เรื่ องอันใด หวาเยียนกลับยิม้ เพียงเท่านั้น
เสิ่ นเวยเองก็ไม่ทาให้นางลาบากใจ คนเป็ นบ่าวก็มีความลาบากของ
บ่าว หากนางถามแล้วหวาเยียนพูดออกมาทั้งหมด เช่นนั้นนางก็จะดู
ถูกสาวใช้ใหญ่ผนู ้ ้ ีขา้ งกายพระชายาจิ้นอ๋ อง อย่างไรเสี ยอีกประเดี๋ยว
ก็ได้รู้แล้ว เพียงแค่น้ ีไม่เป็ นไรหรอก
เสิ่ นเวยไม่ได้ไล่ถามต่อ หวาเยียนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกในใจ
เบื้องลึกในใจอดเคารพฮูหยินใหญ่ที่เข้าเรื อนมาใหม่ผนู ้ ้ ีเพิม่ ขึ้นสอง
ส่ วนไม่ได้
“เคารพเสด็จแม่ เสด็จแม่กาลังทาอะไรอยูห่ รื อเพคะ” เสิ่ นเวยยกยิม้
หวานทัว่ ใบหน้า มองเห็นในมือพระชายาจิ้นอ๋ องถือเข็มกับด้ายอยู่
อดเขยิบเข้าไปถามด้วยความสงสัยไม่ได้
“ภรรยาโย่วเอ๋ อร์มาแล้ว!” พระชายาจิ้นอ๋ องเงยหน้าขึ้น ถือโอกาส
วางชุดที่กาลังเย็บอยูไ่ ว้ขา้ งๆ “ไม่มีอะไร ว่างไม่มีงานทาจึงเย็บชุด
ให้ท่านอ๋ อง” แววตาของนางอ่อนโยนและอบอุ่น เสมือนกับนัน่
ไม่ใช่แค่ชุด แต่เป็ นท่านจิ้นอ๋ องยืนอยูต่ รงหน้านาง
“ความรักใคร่ ของเสด็จพ่อเสด็จแม่ช่างทาให้คนอิจฉายิง่ นัก! เสด็จ
แม่งานยุง่ เพียงนั้นยังเย็บชุดให้เสด็จพ่อกับมือ ท่านดีต่อเสด็จพ่อ
จริ งๆ มิน่าเล่าหลายปี เพียงนี้เสด็จพ่อจึงมีแต่เสด็จแม่อยูใ่ นใจ” บน
ใบหน้าเสิ่ นเวยเต็มไปด้วยความอิจฉา ยืน่ มือหยิบชุดขึ้นดู “ชุดนี้เย็บ
ได้ประณี ตจริ งๆ เสด็จแม่ฝีมือท่านดีจริ งๆ หากลูกมีพ้นื ฐานได้สกั
ครึ่ งหนึ่งของท่าน คุณชายใหญ่กค็ งจะไม่รังเกียจที่ลูกโง่”
พระชายาจิ้นอ๋ องหลุดหัวเราะ “เจ้าเด็กซื่อคนนี้ คุณชายใหญ่หยอก
ล้อเจ้าเล่นแล้ว เขาไหนเลยจะรังเกียจเจ้า เสด็จพ่อของพวกเจ้ามีนิสยั
เรื่ องมาก ไม่ชอบสวมเสื้ อผ้าที่หน่วยเย็บปั กถักร้อยทา ข้าจึงทาได้
เพียงเจียดเวลาทุกๆ ฤดูมาเย็บให้เขาสองชุด เยอะกว่านี้กไ็ ม่มีแรง
แล้ว” มุมปากนางอมยิม้ ท่าทางอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด
เสิ่ นเวยได้เปิ ดมุมมองใหม่จริ งๆ อืม จะทาอย่างไรให้ผชู ้ ายทาดีต่อ
ตนทั้งจิตทั้งใจ วันนี้ได้เรี ยนรู ้อีกหนึ่งข้อแล้ว หรื อว่าจะกลับไปเย็บ
ชุดให้สวีโย่วใส่ บา้ ง แต่วา่ ด้วยความช้าของนางคาดว่าคงต้องใช้เวลา
มากกว่าสามเดือน ไม่รู้เหมือนกันว่าสวีโย่วจะรอได้หรื อไม่
“ภรรยาสวีว วันนี้แม่เชิญเจ้ามาไม่ได้มีเรื่ องอะไร เพียงแค่แม่เจอ
ปัญหาหนึ่งเข้าแล้ว อยากเชิญเจ้ามาช่วยหน่อยได้หรื อไม่” พระชายา
จิ้นอ๋ องกล่าวอย่างยิม้ แย้ม
ดวงตาของเสิ่ นเวยกะพริ บเล็กน้อย นี่หมายความว่าจะวางแผนทา
อะไรนางอีกแล้ว ทว่าบนใบหน้ากลับไม่แสดงอารมณ์ กล่าวด้วย
ความประหลาดใจ “เสด็จแม่อย่าหยอกล้อลูก ช่วยไม่ช่วยอะไร ท่าน
มีอะไรก็สงั่ มาตรงๆ ได้เลย”
สายตาที่พระชายาจิ้นอ๋ องมองนางก็ยงิ่ อ่อนโยน “เรื่ องเป็ นเช่นนี้
ข้าน่ะดูคู่สมรมให้ฉงั่ เอ๋ อร์แล้ว ฐานะและหน้าตาของแม่นางผูน้ ้ นั
เหมาะสมกับฉัง่ เอ๋ อร์”
พูดถึงตรงนี้นางก็หยุด เสิ่ นเวยรี บกล่าวต่ออย่างรู ้งาน “สายตาเสด็จ
แม่จะไม่ดีได้อย่างไร ดูนอ้ งน้องสะใภ้รองกับน้องสะใภ้สามก็รู้แล้ว
เสด็จแม่ถูกใจคุณหนูตระกูลใดเล่า”
รอยยิม้ บนใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องก็ยงิ่ กว้าง “จะว่าไปแล้วก็
ไม่ใช่คนนอก คุณหนูผนู ้ ้ นั คือคุณหนูเจ็ดบ้านสาม จวนท่านเสนาบดี
ฉิน เดิมบ้านรองกลับมีคุณหนูผหู ้ นึ่ ง แต่วา่ คู่สมรสของนางหมั้น
หมายไว้แล้ว” ในใจพระชายาจิ้นอ๋ องเสี ยดายเล็กน้อย เพราะเดิมคน
ที่นางดูไว้กค็ ือคุณหนูหา้ บ้านรองผูน้ ้ นั นางยังไม่ทนั ได้ลงมือ ก็มี
ข่าวหมั้นหมายของเขาออกมาแล้ว นางทาได้เพียงหาคนใหม่กค็ ือ
คุณหนูเจ็ดบ้านสาม
คุณหนูเจ็ดบ้านสามท่านเสนาบดีฉินหรื อ นัน่ ไม่ใช่ฉินอิงอิงหรื อ นัน่
คือคู่อริ ของนาง เบื้องลึกในใจเสิ่ นเวยเกิดความรู ้สึกแปลกประหลาด
ขึ้นมา นางพูดได้หรื อว่าสายตาพระชายาจิ้นอ๋ องร้ายกาจ เลือกใครไม่
เลือก ดันเลือกศัตรู ตวั ฉกาจที่สุดของนาง
“คนที่เสด็จแม่พดู ถึงก็คือคุณหนูเจ็ดนามว่าอิงอิงผูน้ ้ นั ใช่หรื อไม่ จะ
บอกว่าเสด็จแม่สายตาไม่ดีได้อย่างไร คุณหนูเจ็ดแซ่ฉินงามดัง่ บุปผา
นิสยั ก็กระฉับกระเฉง เป็ นคู่สร้างคู่สมกับคุณชายสี่ ของพวกเรา
จริ งๆ” เสิ่ นเวยปากก็กล่าวชม แต่ในใจกลับวิจารณ์ ก็งามดัง่ บุปผา
จริ งๆ ไม่ใช่หรื อ อกเป็ นอก ก้นเป็ นก้น เอวก็เล็กบาง อายุเท่านางก็
เจริ ญเติบโตประหนึ่งลูกท้อที่สุกเต็มที่
ส่ วนนิสยั กระฉับกระเฉงน่ะหรื อ ปากนางร้ายเพียงนั้น ทั้งยังอาฆาต
คนอย่างไม่มีเหตุผล ไม่ใช่นิสยั กระฉับกระเฉงหรื อไร
“อ้อ ภรรยาโย่วเอ๋ อร์สนิทกับนางหรื อ ดีจริ งๆ! พี่สาวน้องสาว
กลายเป็ นพี่สะใภ้นอ้ งสะใภ้ช่างยอดเยีย่ ม” พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าว
ด้วยความดีใจ
ทว่าเสิ่ นเวยกลับขวยเขินเหนียมอายขึ้นมา “ไม่ปิดบังเสด็จแม่ ลูก
เพียงแค่เคยพบหน้าคุณหนูเจ็ดแซ่ฉิน หากจะบอกว่าสนิทก็คงไม่ได้
เพราะว่ามีการเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ข้าสองคนยังเคยทะเลาะกันด้วย
ภายหลัง ภายหลังก็เข้าใจกันแล้ว” เสิ่ นเวยพูดกึ่งจริ งกึ่งโกหก
พระชายาจิ้นอ๋ องตกตะลึง ทันใดนั้นก็ยมิ้ “เฮ้อ ข้าก็คิดว่ามีเรื่ องใหญ่
ก็แค่ทะเลาะกันเล็กน้อยมิใช่หรื อ คุณหนูอายุนอ้ ยอยูด่ ว้ ยกันมีใคร
บ้างไม่เคยทะเลาะ ตอนแม่ยงั เด็กก็เคยทะเลาะกับพี่นอ้ ง ตอนที่
ทะเลาะก็อยากจะเลิกคบเสี ยให้ได้ แต่ผา่ นไปไม่ถึงสองวันก็ดี
เหมือนเป็ นคนละคนเลย คิดๆ ดูแล้วช่วงเวลาตอนนั้นใช้ชีวิตได้
อย่างไร้ความกังวลที่สุด!”
พูดแล้วว่าไม่สนิท แต่พอมาถึงปากพระชายาจิ้นอ๋ องกลับกลายเป็ นพี่
น้อง คาพูดนี้เสิ่ นเวยพูดต่อไม่ได้จริ งๆ เพียงแค่เม้มริ มฝี ปากยิม้
พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าวต่อ “หาคนที่เหมาะสมไปเจรจาถึงบ้าน แต่เขา
กลับไม่ยนิ ดีนกั รังเกียจที่ฉงั่ เอ๋ อร์ไม่มีงานเป็ นทางการ” นี่
หมายความว่าพระชายาจิ้นอ๋ องพยายามปิ ดทองบนหน้าฉัง่ เอ๋ อร์อยู่
จริ งๆ อาศัยอยูใ่ นเมืองหลวง ใครบ้างไม่รู้ คนอื่นไม่เพียงแต่รังเกียจที่
ฉัง่ เอ๋ อร์ไม่มีงานเป็ นทางการ ทุกคนยังรังเกียจที่ฉงั่ เอ๋ อร์เป็ นลูก
คุณหนูเล่นพนันเที่ยวผูห้ ญิง นัน่ คือบุตรสาว ไม่ใช่ศตั รู ใครจะยินดี
โยนบุตรสาวเข้ากองไฟเล่า
เสิ่ นเวยแย้งอย่างแค้นเคืองต่อความไม่เป็ นธรรม “ตระกูลของพวก
เราเป็ นราชนิกลุ ต่อให้ไม่หางานก็ร่ ารวยไปทั้งชีวิตแล้ว ไยจะต้อง
แข่งขันเหมือนปัญญาชนที่มีชีวิตอย่างลาบากเหล่านั้นด้วย คุณชาย
ใหญ่ของพวกเราก็ไม่มีงานเหมือนกันมิใช่หรื อ” เสิ่ นเวยวางท่าทาง
เข้าข้าง ลืมเรื่ องที่จกั รพรรดิยงเซวียนเคยขอให้คุณชายใหญ่ของนาง
เข้าราชสานักไปแล้ว
พระชายาจิ้นอ๋ องตบมือของเสิ่ นเวย “ก็ใช่น่ะสิ ฉัง่ เอ๋ อร์ไม่ใช่วา่ ไม่มี
ความสามารถ เขาเพียงแค่ชอบเที่ยวเล่นเล็กน้อย นิสยั ยังไม่แน่นอน
ตระกูลพวกเรามีเยีย่ เอ๋ อร์กบั เหยียนเอ๋ อร์เข้าราชสานักทางานก็
พอแล้ว โย่วเอ๋ อร์ร่างกายอ่อนแอ ฉัง่ เอ๋ อร์ชอบเที่ยวเล่น ข้าไหนเลย
ตัดใจบังคับพวกเขาได้”
นางเปลี่ยนเรื่ อง กล่าวต่อ “พวกเราเป็ นคนบ้านเดียวกันย่อมรู ้เรื่ องใน
บ้านตัวเอง แต่คนนอกไม่รู้! แต่ละคนยังคิดว่าฉัง่ เอ๋ อร์เป็ นลูกคุณหนู
ไม่พฒั นา พูดจาถือดี พี่ชายพวกเขาหลายคนข้าก็ดูแลเข้มงวดมา
ตั้งแต่เด็ก ไหนเลยจะกลายเป็ นลูกคุณหนูได้”
“อืมๆๆ เสด็จแม่พดู ถูก วิถีจวนจิ้นอ๋ องของพวกเราบริ สุทธิ์เช่นนี้
ท่านกับเสด็จพ่อก็ไม่ใช่คนตามใจลูก คุณชายสี่ เพียงแค่ติดเพื่อน จะ
เกี่ยวข้องกับลูกคุณหนูได้อย่างไร ทั้งหมดล้วนเป็ นคาพูดไร้สาระ
ของคนข้างนอก” เสิ่ นเวยมองพระชายาจิ้นอ๋ องด้วยสี หน้าเลื่อมใสทั้ง
ใบหน้า
“ยังคงเป็ นภรรยาโย่วเอ๋ อร์ที่ดูออก” พระชายาจิ้นอ๋ องชมเสิ่ นเวยหนึ่ง
ประโยค “พวกเราเป็ นตระกูลเมตตา ไม่ได้ไปตามอธิบายทีละคนๆ
แต่คู่สมรสนี้หมายปองไว้ดีแล้ว ข้าจึงอยากไหว้วานคนไปเจรจาอีก
ครั้ง เฮ้อ ลูกๆ ล้วนแต่เป็ นหนี้ เพื่อฉัง่ เอ๋ อร์ ข้าเองก็ทาได้เพียงออก
หน้าแทน”
เสิ่ นเวยพูดในใจ เอาแล้ว
เป็ นดังคาด ไม่ตอ้ งให้เสิ่ นเวยเอ่ยปากถาม พระชายาจิ้นอ๋ องก็พดู เอง
“ข้ากาลังไตร่ ตรอง คนอื่นพูดก็ไม่มีน้ าหนักอะไร กลับเป็ นคาพูด
ของท่านเสนาบดีฉินพวกเขาจึงจะเชื่อถือ ท่านเสนาบดีฉินเป็ นขุน
นางคนสาคัญในราชสานัก สตรี เรื อนหลังเช่นพวกเราเหล่านี้กไ็ ม่
พอจะเจรจา! ท่านอ๋ องกลับไปพูดกับเขาได้ แต่เรื่ องช่วยคนนี้ไม่วา่
อย่างไรก็รบกวนท่านอ๋ อง ข้าฟังว่าท่านเสนาบดีฉินชอบภาพวาด
บังเอิญว่าเขากาลังสัง่ คนให้ไปหาภาพผลงาน ‘ตกปลาใต้จนั ทรา’
ของจางเต้าจื่อในรัชสมัยก่อนอยูพ่ อดี หากพวกเราส่ งภาพวาดนี้ไป
ให้เขาได้ แล้วค่อยเชิญเขามาเจรจาก็ไม่ใช่เรื่ องง่ายแล้วหรื อ ภรรยา
โย่วเอ๋ อร์คิดว่าอย่างไร” นางจ้องมองดวงตาของเสิ่ นเวย
อ้อ นี่คือวางแผนจะเอาสิ นเดิมของนางแล้ว! ในใจเสิ่ นเวยเข้าใจดี แต่
สี หน้ากลับแสร้งไม่รู้เรื่ อง “แต่พวกเราจะไปช่วยเขาหาภาพผืนนั้น
จากไหนเล่า”
เมื่อเสิ่ นเวยพูดประโยคนี้ออกไป รอยยิม้ บนใบหน้าของพระชายาจิ้
นอ๋ องก็จางลงหลายส่ วน “คนอื่นไม่รู้ ภรรยาโย่วเอ๋ อร์จะไม่รู้ได้
อย่างไร ภาพ ‘ตกปลาใต้จนั ทรา’ ภาพนั้นเคยเป็ นสิ นเดิมของแม่เจ้า”
ภรรยาโย่วเอ๋ อร์ผนู ้ ้ ี อย่ามองว่าพูดจาน่าฟัง อันที่จริ งกลับเป็ นคนเจ้า
เล่ห์เหมือนกัน ตนก็พดู ชัดเจนเพียงนั้นแล้ว นางไม่พดู ว่าเอาภาพ
ออกมาเองซ้ ายังแสร้งโง่ เหอะ ช่างเป็ นคนเนรคุณจับไม่อยูจ่ ริ งๆ
“เสด็จแม่จะบอกว่าตอนนี้ภาพผืนนั้นอยูใ่ นมือลูกงั้นหรื อ” ทั้ง
ใบหน้าเสิ่ นเวยตกใจจริ งๆ “เสด็จแม่อย่าโกรธ ลูกไม่รู้จริ งๆ ท่านเอง
ก็ทราบ ลูกเติบโตในชนบท ในด้านกวีหละหลวมจริ งๆ ยิง่ ไม่เข้าใจ
อักษรภาพวาดอะไร ลูกจะกลับไปหาให้ หากมีภาพผืนนี้จริ งๆ ลูกจะ
ส่ งมาให้ท่าน อย่างไรเสี ยนี่กเ็ กี่ยวข้องกับเรื่ องมงคลสมรสของ
คุณชายสี่ ภาพนี้อยูใ่ นมือลูกก็ไม่มีประโยชน์ คิดเสี ยว่าเป็ นของขวัญ
แสดงความกตัญญูของลูกต่อเสด็จแม่” เสิ่ นเวยกล่าวอย่างจริ งใจ
“ดีๆๆ ข้าบอกแล้วว่าเจ้าเป็ นคนดี รอฉัง่ เอ๋ อร์แต่งงานแล้ว ข้าจะให้
พวกเขาสองสามีภรรยาไปขอบคุณเจ้า” สายตาที่พระชายาจิ้นอ๋ อง
มองเสิ่ นเวยก็อ่อนโยนขึ้นมาอีกครั้ง
เสิ่ นเวยรี บโบกมือปฏิเสธ “ขอบคุณไม่ขอบคุณอะไร พวกเราต่างก็
เป็ นคนบ้านเดียวกัน เสด็จแม่พดู เช่นนี้ห่างเหิ นเกินไปแล้ว ลูกน่ะ
หวังเพียงแค่เสด็จแม่จะไม่รังเกียจก็พอแล้ว”
ท่าทางรู ้ประสานั้นทาให้พระชายาจิ้นอ๋ องพอใจนางมากขึ้นสามส่ วน
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 224-2 ฝันไปเถอะ
ตอนที่เสิ่ นเวยกลับไปถึงเรื อนสวีโย่วก็เพิ่งจะออกไปพอดี ถามคนที่
รับใช้ขา้ งกายเขา บอกว่าไปวัง เสิ่ นเวยขมวดคิ้ว ในราชสานักเกิด
เรื่ องอะไรอีกแล้วหรื อ มิเช่นนั้นฝ่ าบาทจะเรี ยกเขาทาไม ช่วงนี้นาง
เองก็ค่อยๆ รู ้ฐานะลับๆ ของสวีโย่วแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือเป็ นหัวหน้า
สายลับ ช่วยฝ่ าบาทจัดการเรื่ องลับที่เปิ ดเผยไม่ได้จานวนหนึ่ง
มิน่าเล่าลูกน้องเขาจึงมักจะมีคนลอยไปลอยมาเยอะเพียงนั้น
ครั้นอยูท่ ี่ซีเจียงนางยังขอยืมคนจากเขามาใช้หลายต่อหลายครั้ง คน
เหล่านั้นใช้แล้วคล่องมือจริ งๆ! ที่แท้แล้วก็เป็ นทหารลับที่ราชสานัก
อบรมมา มิน่าเล่า
เสิ่ นเวยคิดเพียงเท่านี้กโ็ ยนเรื่ องไว้ขา้ งๆ นางพาคนไปที่หอ้ งเก็บสิ น
เดิม หา**บเก็บภาพวาดที่มีเพียงฉบับเดียว รื้ ออยูน่ านก็หาภาพ ‘ตก
ปลาใต้จนั ทรา’ ภาพนั้นเจอแล้ว นางจับแกนภาพวาดแล้วค่อยๆ คลี่
ออก จันทร์เต็มดวงลอยสู งอยูบ่ นท้องฟ้า เรื อลาเล็กหนึ่งลาเทียบท่า
อยูบ่ นคลื่นหมอกควันอันกว้างใหญ่ไพศาล บนเรื อมีชายชราผูห้ นึ่ง
กาลังนัง่ ตกปลาอยู่
สิ่ งแวดล้อมในภาพวาดสามารถใช้คาสองคามาอธิบายได้ นัน่ ก็คือ
‘เงียบสงัด’ ฝี มือการวาดก็ช่าชองล้ าลึก แต่เสิ่ นเวยมองซ้ายมองขวาก็
มองไม่ออกว่าเหตุใดภาพๆ นี้ถึงมีมูลค่าหลายเมือง หรื อว่าสายตา
นางจะใช้ไม่ได้
เสิ่ นเวยคิดแล้วคิดอีก ม้วนภาพใหม่อีกครั้ง เรี ยกเย่วก์ ยุ้ เข้ามาแล้ว
กล่าว “ส่ งภาพผืนนี้ไปที่จวนจวิน้ อ๋ องมอบให้อาจารย์ซู ให้เขา
คัดลอกอีกผืน”
เย่วก์ ยุ้ พยักหน้าเพิง่ จะหันหลังกลับ เสิ่ นเวยก็ตะโกนเรี ยกนางอีกครั้ง
“เก็บของให้ดี อย่าให้คนอื่นเห็น”
เย่วก์ ยุ้ พยักหน้าอีกครั้ง ม้วนภาพแล้วม้วนภาพอีก ยัดเข้าไปในแขน
เสื้ อตัวหลวมของตน เมื่อครู่ พี่หลีฮวากับพี่เถาจือล้วนแต่มีงาน นาง
กับเหอฮวาจึงเป็ นคนตามฮูหยินไปที่เรื อนพระชายา ดังนั้นเมื่อฮูหยิน
สัง่ นางก็เข้าใจเจตนาทันที เบื้องลึกในใจนางเองก็กาลังกระวน
กระวาย พระชายาพูดคาสองคาก็คิดจะวางแผนเอาของของฮูหยิน
เหตุใดถึงวาดฝันสวยเพียงนั้น
แม้แต่นางที่เป็ นบ่าวยังรู ้วา่ ภาพผืนนี้มีมูลค่ามหาศาล ภาพที่แม้แต่
ท่านเสนาบดีฉินยังอาลัยอาวรณ์จะไม่มีมูลค่าได้อย่างไร พระชายาที่
สวยแต่รูปจูบไม่หอมเช่นนี้ขอของจากฮูหยินไป แต่ไม่พดู ว่าจะ
ชดเชยให้ฮูหยินแม้แต่นิดเดียว เหอะ เป็ นถึงพระชายาผูย้ งิ่ ใหญ่ ดู
ความขี้งกนัน่ สิ !
สวีโย่วเพิง่ จะกลับมาก็ตอนพลบค่า ตอนที่เขาเข้าห้องเสิ่ นเวยกาลัง
ลากแม่นมมัว่ กับหลีฮวาและคนอื่นๆ มาเลือกผ้าด้วยกัน นางจะเย็บ
ชุดให้สวีโย่ว เมื่อนางพูดความคิดนี้ออกไป ก็ได้รับความเห็นพ้อง
ต้องกันของแม่นมมัว่ และคนอื่นๆ โดยเฉพาะหลีฮวา ดูจากสี หน้า
ปลื้มใจบนใบหน้านาง ก็บอกชัดเจนแล้วว่า ในที่สุดฮูหยินก็รู้จกั คิด
แล้ว
เสิ่ นเวยแสยะปาก นางผูเ้ ป็ นนาย แย่งงานบ่าวในหน่วยเย็บปั กถักร้อย
ทาจะดีจริ งๆ หรื อ
แม้วา่ สวีโย่วจะผอมเล็กน้อย แต่กลับมีหุ่นที่ได้มาตรฐาน ใส่ สีอะไร
ก็ดูดี เสิ่ นเวยเลือกอยูน่ านในที่สุดก็เลือกผ้าสี ฟ้าอมเขียวผืนนั้น เขา
สวมชุดสี ฟ้าอมเขียวทอลายไผ่เขียวแล้วอบอุ่นดัง่ หยก ทาให้คน
อยากกระโจนเข้าหาเขาอย่างอดไม่ได้
อันที่จริ งเสิ่ นเวยคิดว่าสวีโย่วใส่ ชุดสี แดงดูดีที่สุด กิริยาท่าทางน่า
หลงใหล คืนวันแต่งงานเขาสวมชุดมงคลมารับเจ้าสาว เสิ่ นเวยยังตก
ตะลึงเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ หากไม่ใช่วา่ นางมีภูมิคุม้ กันมาก ก็คงจะ
หลงเขาจนหัวปักหัวปาไปแล้ว
“กลับมาแล้ว! ฝ่ าบาทเรี ยกท่านทาไมหรื อ” เสิ่ นเวยเงยหน้ามองสวี
โย่ว สัง่ เสี ยงต่าบอกให้หลีฮวาเอาผ้าเต็มโต๊ะออกไป เหลือไว้เพียงแต่
ผ้าสี ฟ้าอมเขียวผืนนั้นเพียงผืนเดียว “นี่ ท่านชอบสี น้ ีหรื อไม่”
ไหวพริ บสวีโย่วกะพริ บวาบ “นี่คือ?” ดวงตาของเขามีความคาดหวัง
เล็กน้อย ทั้งยังมีความเหลือเชื่ออีกหลายส่ วน เวยเวยคงไม่ได้จะเย็บ
ชุดให้เขาใช่หรื อไม่ นี่ช่าง ช่างดีจริ งๆ เลย สายตาก็ยงิ่ มองไปทาง
เสิ่ นเวยด้วยความแรงกล้า
เสิ่ นเวยละสายตาอย่างไม่เป็ นธรรมชาติ กล่าวอย่างเรี ยบง่าย “ว่างไม่
มีอะไรทา เลยช่วยเย็บเสื้ อให้ท่าน แต่น่าสงสาร แต่งงานกับภรรยาที่
เป็ นเพียงร่ ายรากระบี่กระบอง ฝี มือข้าแย่ ความเร็ วก็ชา้ อาจจะต้อง
รอนานมาก ท่านอย่ารี บร้อนล่ะ”
“ไม่รีบ ไม่รีบ เวยเวยเจ้าทาช้าๆ ไม่ตอ้ งเหนื่อย” สวีโย่วพูดเสี ยงอ่อน
ความสุ ขแผ่คลุมทั้งใบหน้า “ขอเพียงแค่เวยเวยทาเองกับมือ ข้าก็
ชอบทั้งนั้น”
เห็นคนอื่นสวมเสื้ อผ้าที่ภรรยาในบ้านทาเองกับมือโอ้อวดอยูต่ รงนั้น
อันที่จริ งเขาก็อิจฉายิง่ นัก ตั้งแต่เล็กจนโต นอกจากตอนเด็กที่ยายหรู
เย็บเสื้ อผ้าให้เขาแล้ว เสื้ อผ้าของเขาล้วนแต่เย็บโดยหน่วยเย็บปั กถัก
ร้อย เดิมคิดว่าชีวติ นี้จะไม่ได้สวมชุดที่เวยเวยเย็บให้เขาแล้ว แม้เขา
จะเสี ยดายแต่กลับไม่ตาหนิ อย่างไรเสี ยก็ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เขา
ไม่อาจคาดหวังให้เวยเวยทาเป็ นทุกอย่าง ไม่คิดว่าวันนี้เวยเวยจะทา
ให้เขาประหลาดใจมากเพียงนี้
เห็นท่าทางตกตะลึงที่ดีใจแทบบ้าของสวีโย่ว เสิ่ นเวยก็แอบแสยะ
ปาก ขนาดนี้เลยหรื อ ก็แค่ชุดหนึ่งชุดไม่ใช่หรื อ ทาราวกับนางปฏิบตั ิ
ต่อเขาอย่างไม่เป็ นธรรม
“จริ งสิ ท่านยังไม่บอกข้าเลยว่าฝ่ าบาทเรี ยกท่านไปทาไม” เสิ่ นเว
ยนึกถึงคาถามเมื่อครู่ ข้ ึนได้
“ดื่มชา วางหมาก” สวีโย่วตอบอย่างเรี ยบง่าย
เสิ่ นเวยไม่เชื่อ ชายตามองเขาแล้วกล่าว “ฝ่ าบาทว่างเพียงนี้เลยหรื อ”
อาชีพฮ่องเต้น้ ีไม่ใช่นอนกลางดึกยามห้าวันทั้งวันงานยุง่ เหน็ด
เหนื่อยหรอกหรื อ จากมุมมองของเสิ่ นเวย ฮ่องเต้เป็ นงานที่ลาบาก
ที่สุดในใต้หล้าแล้ว ไม่มีสิ่งใดเทียบ ไม่เข้าใจจริ งๆ ว่าเก้าอี้พงั ๆ
หนึ่งตัวยังจะพยายามแย่งชิงกันมาให้ได้เพื่ออะไร
“ดื่มชาวางหมากจริ งๆ” สวีโย่วกล่าวซ้ าอีกครั้ง อันที่จริ งนอกจากดื่ม
ชาวางหมาก ฝ่ าบาทยังพูดเรื่ องกองทัพส่ วนตัวที่เขาชิงลัว่ อีกด้วย แต่
ว่าเรื่ องนี้ซบั ซ้อนเล็กน้อย ไม่ใช่วา่ ประโยคสองประโยคก็จะอธิบาย
ได้ชดั เจน จึงถือโอกาสไม่พดู เสี ยเลย
“เวยเวยเล่า พระชายาเรี ยกเจ้ามีเรื่ องอะไรหรื อ” สวีโย่วเปลี่ยนหัวข้อ
สนทนา
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหึหนึ่งครา จากนั้นจึงกล่าว “นางจะมีเรื่ องอะไรได้
วางแผนจะเอาสิ นเดิมข้าน่ะสิ ” จากนั้นก็เล่าเรื่ องตั้งแต่ตน้ จนจบหนึ่ง
รอบ สุ ดท้ายก็พดู สรุ ป “คิดจะเอาของของข้า ได้ ไม่เอาเงินมาแลก ก็
เอาของมีค่ามาแลก คิดจะจับเสื อมือเปล่า ฝันไปเถอะ! ดังนั้นข้าเลย
ให้เย่วก์ ยุ้ เอาภาพไปให้อาจารย์ซูคดั ลอก” ดวงตาของนางเผยความ
เจ้าเล่ห์ราวกับลูกสุ นขั จิ้งจอกออกมา
สวีโย่วยกมุมปาก “เจ้ามีความสุ ขก็ดีแล้ว”
ความตามใจในคาพูดทาให้ความสุ ขของเสิ่ นเวยสู งขึ้นอีกชั้น “แม่
เลี้ยงท่านชอบใจจวนเสนาบดีฉิน อยากสู่ ขอหลานสาวท่านเสนาบดี
ฉินเป็ นภรรยาของสวีฉงั่ รู ้หรื อไม่วา่ เป็ นใคร ฉิ นอิงอิง เด็กคนนั้นไม่
เพียงแต่ปากหาเรื่ องคน ยังชอบลงมือกับคนอื่นอีกด้วย น้องสี่ เจ้ามี
วาสนายิง่ นัก! หึ ๆ แม่เลี้ยงท่านจะก่อกบฏล่วงหน้าหรื อ เสด็จพ่อ
ท่านรู ้หรื อไม่ เห็นด้วยหรื อไม่” เสิ่ นเวยดีใจบนความทุกข์ของผูอ้ ื่น
เจตนาแฝงของพระชายาจิ้นอ๋ องไม่วา่ ใครก็ดูออก ลูกชายชินอ๋ องผู ้
ยิง่ ใหญ่แต่งงานกับลูกสาวขุนนางเล็กๆ ขั้นห้า เสี ยดายที่นางยังโง่ใจ
ดีพดู ว่าเหมาะสม เหมาะสมกับผีน่ะสิ ! ภรรยาของสวีเยีย่ กับสวี่เห
ยียนคนหนึ่งเป็ นบุตรสาวของท่านกัว๋ กง คนหนึ่งเป็ นบุตรสาวของ
ท่านโหว แต่งฉินอิงอิงให้สวีฉงั่ เป็ นเพียงเพราะชอบที่นางเป็ น
ลูกพี่ลูกน้องของซูเฟยเหนียงเหนียง อาศัยซูเฟยเหนียงเหนียงกับองค์
ชายรองในวังมาเชื่อมสัมพันธ์กเ็ ท่านั้นเอง
ช่วงนี้องค์ชายรองที่เป็ นบุตรซูเฟยเหนียงเหนียงค่อนข้างทางานที่
เปิ ดเผยหลายเรื่ อง จักรพรรดิยงเซวียนชมเขาหลายครั้งแล้ว ความ
เฉียบแหลมของเขาก็เหนือกว่าไท่จื่อมานานแล้ว
ภายนอกมีจวนเสนาบดีสนับสนุน ภายในซูเฟยเหนียงเหนียงก็ได้รับ
ความโปรดปราน ตนเองก็มีความสามารถ กาจัดไท่จื่อเข้าแทนที่นี่
ไม่ใช่เรื่ องที่ง่ายดายอย่างถึงที่สุดหรื อ พระชายาจิ้นอ๋ องตัดสิ นใจ
ล่วงหน้าหรื อไร
“ปล่อยให้นางทรมานไป!” สวีโย่วเลิกคิ้ว ก้มหน้าดื่มชา
แม้วา่ พระชายาจิ้นอ๋ องจะรื้ อจวนจิ้นอ๋ อง ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย
สักทองแดงเดียว จวนจิ้นอ๋ องไม่มีแล้วก็ดี เขาจะได้ยา้ ยไปจวนจวิน้
อ๋ องได้อย่างเปิ ดเผย
เสิ่ นเวยคิดๆ ดูแล้วก็ถูก ฟ้าถล่มลงมาก็ยงั ค้ าได้อยู่ นางจะร้อนใจมาก
เพียงนั้นทาไมกัน
พระชายาจิ้นอ๋ องรอแล้วรออีก รอติดต่อกันมาหลายวันแล้วก็ยงั ไม่
เห็นเสิ่ นเวยส่ งภาพมาด้วยตัวเอง ในใจก็ไม่พอใจขึ้นมา ใคร่ ครวญว่า
ใช่เสิ่ นซื่อผูน้ ้ นั เปลี่ยนใจแล้วหรื อไม่ เหอะ คิดว่านางเอามาให้เอง
ไม่ได้แล้วตนจะไม่มีหนทางหรื อ แสร้งโง่กบั นางหรื อ ฝี มือยังต่าไป
หน่อย
เช้าตรู่ วนั นี้ เสิ่ นเวยไปเคารพที่จวนจิ้นอ๋ อง ก็เห็นท่านจิ้นอ๋ องอยูด่ ว้ ย
เช่นเดียวกัน ในใจเสิ่ นเวยมีความเข้าใจแวบผ่าน เคารพด้วยความนบ
นอบ
เสิ่ นเวยเพิ่งจะนัง่ ลงบนเก้าอี้ทอลาย พระชายาจิ้นอ๋ องก็เอ่ยปากแล้ว
“ภรรยาโย่วเอ๋ อร์ ภาพผืนนั้นที่เจ้าเอ่ยถึงเมื่อหลายวันก่อนเจ้าหาเจอ
แล้วหรื อยัง เหตุใดถึงไม่เอามาเลยเล่า ใช่เจ้าทิ้งไม่ลงจึงเปลี่ยนใจ
หรื อไม่”
เมื่อคาพูดนี้ออกไป สี หน้าท่านจิ้นอ๋ องที่นงั่ อยูข่ า้ งๆ ก็ไม่ค่อยดีนกั
“เพียงแค่ภาพวาด มีอะไรให้ทิ้งไม่ลง ยิง่ ไปกว่านั้นที่ให้ยงั ทาเพื่อ
การสมรสของน้องชายพวกเขา”
แท้จริ งแล้วรากฐานของจวนจงอู่โหวก็ไม่ได้เรื่ อง แม้แต่เสิ่ นซื่อผูน้ ้ ี
ยังขี้เหนียวใจแคบ ไม่มีกิริยาของหญิงสู งศักดิ์เลยแม้แต่นอ้ ย โย่ว
เอ๋ อร์ คิดถึงลูกชายคนโตผูน้ ้ นั ของเขา ท่านจิ้นอ๋ องก็ยงิ่ หงุดหงิด
“ไม่ ไม่ใช่ เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ท่านฟังลูกพูดก่อน คือว่า คือว่า…”
เสิ่ นเวยรี บลุกขึ้นจากเก้าอี้ทอลาย ระมัดระวัง ขลาดกลัว
กระอึกกระอักอยูน่ านก็พดู ต้นสายปลายเหตุไม่ออก ใบหน้างามทั้ง
ใบกลับร้อนรนจนแดงก่า
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 225-1 สวีโย่ วออกมือ
เสิ่ นเวยร้อนรนจนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว จิ้นอ๋ องเห็นแล้วก็ยงิ่
หงุดหงิด ทว่าพระชายาจิ้นอ๋ องกลับมีท่าทางอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด
“ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูด ในเมื่อภรรยาโย่วเอ๋ อร์ไม่ยนิ ดีกไ็ ม่เป็ น
แม่ค่อยคิดหาวิธีอื่น ภรรยาโย่วเอ๋ อร์รีบสงบอารมณ์ อีกประเดี๋ยวโย่ว
เอ๋ อร์เห็นเข้า คงจะไม่พอใจข้ากับเสด็จพ่อ” นางกล่าวหยอกล้อหนึ่ง
ประโยค
จิ้นอ๋ องที่เดิมคิดจะเอ่ยปากได้ยนิ คาพูดนี้แล้ว ก็แค่นเสี ยงหึ หนึ่งครา
แต่กลับไม่ได้พดู อะไรต่อ
“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ภาพ ภาพวาดผืนนั้นเป็ นของปลอม” เสิ่ นเวยที่
อ้ าอึ้งอยูเ่ นิ่นนานในที่สุดก็กล้ ากลืนพูดออกมา ใบหน้าของนางแดง
ก่า ในดวงตาโตๆ มีไอน้ า ฟันขาวกัดริ มฝี ปากเบาๆ ราวกับว่าวินาที
ถัดไปจะร้องไห้ออกมาแล้ว
“จะเป็ นของปลอมได้อย่างไร ภาพผืนนั้นปี นั้นข้าเคยไปชื่นชม
มาแล้ว” ดวงตาจิ้นอ๋ องมีความสงสัยแวบผ่าน
พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็กล่าว “ภรรยาโย่วเอ๋ อร์ คาพูดนี้พดู สุ่ มสี่ สุ่มห้า
ไม่ได้ แม่เพียงแค่ปรึ กษาเจ้า ไม่ได้บีบบังคับเจ้า เจ้าไม่ยนิ ดีกพ็ ดู
ตรงๆ ได้ แต่ไม่อาจพูดโกหกเช่นนี้!” เสิ่ นซื่อผูน้ ้ ีไม่รู้อะไรจริ งๆ
แม้แต่ขอ้ อ้างเช่นนี้กย็ งั หามาได้ โง่นกั
เสิ่ นเวยร้อนใจยิง่ กว่าเดิม บิดผ้าเช็ดหน้ารี บอธิบาย “เป็ นของปลอม
จริ งๆ ลูกจะกล้าหลอกลวงเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ได้อย่างไร วันนั้น
หลังกลับไปลูกก็ไปหาภาพตกปลาใต้จนั ทราภาพนั้นในคลังทันที
มองดูแล้วก็ไม่มีตรงไหนแปลกใหม่ เหตุใดถึงถึงมีชื่อเสี ยงเช่นนี้เล่า
ลูกกลัวว่าจะเข้าใจผิด จึงเอาภาพนี้ไปให้คนตรวจสอบรอบหนึ่ง ใคร
จะรู ้ ใครจะรู ้วา่ ภาพผืนนี้คาดไม่ถึงว่าเป็ นของปลอม” เสิ่ นเวยเสี ยใจ
อย่างถึงที่สุด น้ าตาเม็ดใหญ่กร็ ่ วงลงมา ท่าทางลาบากใจอย่างยิง่
“ในมือลูกไม่มีของแท้ กลัวว่าจะผิดใจเสด็จแม่ ก็เลย ก็เลย…” เสิ่ น
เวยสะอื้นเสี ยงเบา พูดไม่ออกแล้ว
จิ้นอ๋ องกับพระชายาจิ้นอ๋ องสบตากันปราดหนึ่ง มองหน้าพร้อมกัน
ทัว่ ทั้งเมืองหลวงต่างก็รู้วา่ ภาพวาด ‘ตกปลาใต้จนั ทรา’ ของแท้ของ
จางเต้าจื่อในรัชสมัยก่อนอยูใ่ นมือหร่ วนซื่อ จู่ๆ จะกลายเป็ นของ
ปลอมได้อย่างไร เชื่อไม่ได้ แต่เห็นท่าทางของเสิ่ นเวยก็ไม่เหมือน
หลอกลวง แท้จริ งแล้วเกิดเรื่ องอะไรขึ้นกันแน่
พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าวอย่างหยัง่ เชิง “ภรรยาโย่วเอ๋ อร์เจ้าไม่ตอ้ งกลัว
ภาพวาดผืนนั้นแม่ไม่เอาแล้ว เจ้าเก็บไว้ดีๆ เถอะ”
เสิ่ นเวยลนลานในชัว่ ขณะ ดึงแขนเสื้ อของพระชายาจิ้นอ๋ องกล่าว
“เสด็จแม่ ลูกไม่ได้โกหกท่านจริ งๆ ลูกไม่รู้ภาพวาดอักษร เก็บมันไว้
แล้วจะมีประโยชน์อะไร ยิง่ ไปกว่านั้นเพื่อการสมรสของคุณชายสี่
แม้ลูกเพิง่ จะแต่งเข้ามา แต่กลับอยากช่วยแบ่งเบาภาระเสด็จแม่อย่าง
ถึงที่สุด หากท่านไม่เชื่อ ลูกจะเอาภาพวาดมาให้ท่านดูตอนนี้” พูด
แล้วก็รีบสัง่ เย่วก์ ยุ้ “เจ้ารี บไป ไปเอาภาพวาดผืนนั้นในห้องข้ามา”
เย่วก์ ยุ้ ทาความเคารพ ถอยออกจากห้องแล้วก็ยกกระโปรงวิ่งออกไป
อย่างรวดเร็ ว จิ้นอ๋ องกับพระชายาจิ้นอ๋ องเห็นแล้ว สี หน้าก็ดีข้ ึน
เล็กน้อย
เสิ่ นเวยก้มหน้าสะอึกสะอื้นไห้ ทว่าในดวงตาที่หลุบลงกลับเต็มไป
ด้วยความเหยียดหยาม หึ อยากได้ของของนาง ของแท้ไม่มี ของ
ปลอมอยากได้เท่าไรก็มีเท่านั้น ขอเพียงแค่เจ้ากล้ารับ ข้าก็กล้า
ประกาศออกไปข้างนอก
จิ้นอ๋ องถูกเสี ยงสะอื้นของเสิ่ นเวยทาให้หงุดหงิดราคาญใจ กวาด
สายตามองหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องปราดหนึ่ง พระชายาจิ้นอ๋ องรี บ
กล่าว “เด็กดี หยุดร้องก่อน พูดออกมาชัดเจนก็พอแล้ว แม่ไม่ได้โทษ
เจ้ามิใช่หรื อ หวาเยียน รี บพยุงฮูหยินใหญ่ไปเช็ดหน้า”
“ลูกขอบคุณเสด็จแม่” เสิ่ นเวยกุมหน้าก้มศีรษะตามหวาเยียนไป
จัดการตัวให้เรี ยบร้อย ตอนที่นางกลับมาอีกครั้งเย่วก์ ยุ้ ก็นาภาพ
กลับมาพอดี
“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ท่านทั้งสองเชิญดู” เสิ่ นเวยประคองภาพด้วยมือ
ทั้งคู่ที่ยนื่ ออกไป
จิ้นอ๋ องรับม้วนภาพ กางออก มองอยูค่ รู่ ใหญ่กไ็ ม่พบว่ามีตรงไหน
ผิดปกติ เขาเคยไปตรวจดูภาพวาดชื่อดังภาพนี้ที่จวนจงอู่โหวแล้ว
แม้วา่ จะผ่านมานานหลายปี แต่ความทรงจาของเขาก็ยงั คงลึกซึ้ง
ชัดเจนว่าภาพที่เห็นในตอนนั้นไม่มีอะไรต่างจากภาพผืนนี้ตรงหน้า
เลย เหตุใดเสิ่ นซื่อถึงบอกว่าภาพผืนนี้เป็ นของปลอมเล่า ใช่ตอนนั้น
ก็เป็ นของปลอมอยูแ่ ล้ว หรื อว่าภายหลังถูกคนใช้กลอุบายมาแอบ
เปลี่ยนแล้วเขาดูไม่ออก
“ภรรยาโย่วเอ๋ อร์ เจ้าให้ใครตรวจสอบ” จิ้นอ๋ องถาม เขาเริ่ มสงสัยว่า
เสิ่ นซื่อผูน้ ้ ีใช่ถูกคนหลอกแล้วหรื อไม่
“ทูลเสด็จพ่อ เป็ นผูจ้ ดั การใหญ่ของเรื อนเจี้ยนเป่ า” เสิ่ นเวยตอบด้วย
ความเคารพรอบคอบ ดวงตาจ้องมองภาพในมือจิ้นอ๋ อง ผ้าเช็ดหน้า
ในมือก็บิดอีกครั้งอย่างไม่รู้ตวั
จิ้นอ๋ องพยักหน้า ความสงสัยในใจก็ยงิ่ เพิ่มขึ้น เรื อนเจี้ยนเป่ าเลื่องชื่อ
ด้านการตีราคาของมีค่า ในเมืองหลวง กระทัง่ ใต้กล้าล้วนแต่โด่งดัง
ไปทัว่ เชี่ยวชาญเชิงลึก ในเรื อนมีผจู ้ ดั การเจ็ดคน แต่ละคนต่างก็เป็ น
ผูม้ ีความสามารถในการวิเคราะห์ราคา โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผูจ้ ดั การ
ใหญ่ อาทิเช่นภาพวาดพูก่ นั หายากที่มีเพียงฉบับเดียว ไม่มีสิ่งไหนที่
เขาไม่รู้ที่มา ตั้งแต่ทางานมาหลายสิ บปี ก็ไม่เคยพลาด ในเมื่อเขาบอก
ว่านี่คือของปลอมเช่นนั้นก็เป็ นของปลอมอย่างไม่ตอ้ งสงสัย
เพียงแต่ของปลอมนี้กท็ าได้เหมือนเกินไปหรื อไม่
ในใจจิ้นอ๋ องเสี ยดายอย่างถึงที่สุด เขายังคิดว่าจะได้เห็นผลงานชื่อดัง
ของจางเต้าจื่ออีกครั้ง ไม่คิดว่ากลับเป็ นของปลอม แม้วา่ เขาจะดูไม่
ออก แต่นี่กค็ ือของปลอม! ต่อให้จะเหมือนก็ไม่ใช่ของจริ ง มูลค่านั้น
ลดลงไปมหาศาล
“ท่านอ๋ อง ภาพผืนนี้เป็ นของปลอมจริ งๆ หรื อ” พระชายาจิ้นอ๋ อง
จ้องมองใบหน้าของจิ้นอ๋ องอย่างแน่นิ่ง เห็นความเปลี่ยนแปลงในสี
หน้าบนใบหน้าเขาอย่างชัดเจน!
“ในเมื่อผูจ้ ดั การใหญ่เรื อนเจี้ยนเป่ าบอกว่าเป็ นของปลอม เช่นนั้นก็
คงจะเป็ นของปลอม” ท่านจิ้นอ๋ องหมดความสนใจ ถือโอกาสส่ ง
ม้วนภาพให้พระชายาจิ้นอ๋ องข้างๆ “ข้ายังมีงาน พวกเจ้าทั้งสองคุย
กันตามสบาย”
หลังจิ้นอ๋ องไปแล้ว เสิ่ นเวยก็ขานเรี ยกด้วยท่าทีน่าสงสาร “เสด็จแม่”
ดวงตามีน้ าตาคลอ ประหนึ่งลูกสุ นขั ตัวเท่าอุง้ มือตัวนั้นที่หลานสาว
คนโตของนางเลี้ยงไว้
พระชายาจิ้นอ๋ องเพ่งมองภาพในมือ เมื่อครู่ นางเห็นสี หน้าของท่าน
อ๋ องชัดเจนแจ่มแจ้ง ดูจากท่าทางนั้นของท่านอ๋ องก็รู้แล้วว่ามองไม่
ออกว่านี่คือของปลอม แม้แต่ท่านอ๋ องที่เคยชื่นชมของจริ งมาแล้วยัง
แยกไม่ออก ก็เห็นได้วา่ ภาพวาดผืนนี้เหมือนจริ งมาก มาถึงขั้นนา
ของปลอมมาแทนของจริ งแล้ว
นางกลับไม่สงสัยว่าตอนแรกภาพนี้จะเป็ นของปลอม แม่ทพั ใหญ่ห
ร่ วนเพียบพร้อมทั้งบุ๋นและบู๊ จะเอาของปลอมออกมาแสดงแก่ผคู ้ น
ได้อย่างไร นางคิดว่าน่าจะถูกคนสับเปลี่ยนในภายหลัง อย่างไรเสี ย
หร่ วนซื่อก็ตายไปนานแล้ว ใครจะรู ้วา่ สิ นเดิมของนางถูกหลิวซื่อ
ภรรยาคนใหม่ทาอุบายไว้หรื อไม่
และแน่นอน พระชายาจิ้นอ๋ องยังคาดการณ์ไว้อีกอย่าง นัน่ ก็คือภาพ
ผืนนี้ตรงหน้าก็คือของแท้ ผูจ้ ดั การใหญ่เรื อนเจี้ยนเป่ ามองผิดไป
เสื อยังมีเวลางีบ นางไม่เชื่อว่าผูจ้ ดั การใหญ่ผนู ้ ้ นั จะไม่เคยผิดพลาด
มาก่อน หรื อว่าผูจ้ ดั การใหญ่ผนู ้ ้ นั เกิดความคิดละโมบ คิดอยากจะ
วางแผนคอบครองภาพนี้จึงตั้งใจบอกว่าเป็ นของปลอม ใจคนยาก
แท้หยัง่ ถึง ใครจะรู ้วา่ ใครคิดดีใครคิดร้าย
คิดถึงตรงนี้ จู่ๆ พระชายาจิ้นอ๋ องก็ใจเต้น มองม้วนภาพในมือ คล้าย
กาลังครุ่ นคิด เมื่อเงยหน้าขึ้นก็สบสายตาที่ขลาดกลัวของเสิ่ นซื่อ
พอดี อดยิม้ ไม่ได้ “เจ้าเป็ นเด็กซื่อสัตย์ เรื่ องนี้เจ้าน่าจะบอกแม่ก่อน
แม่จะบีบบังคับให้เจ้าเอาของแท้ออกมาได้อย่างไร ของปลอมก็ของ
ปลอม ไว้แม่ค่อยหาวิธีอื่น เพียงแต่ภาพผืนนี้…” พระชายาจิ้นอ๋ อง
มองเสิ่ นเวย
“หากเสด็จแม่ชอบก็ส่งให้เสด็จแม่ดูเล่น อย่างไรเสี ยก็เป็ นของปลอม
ลูกเองก็ไม่รู้เรื่ องพวกนี้ เก็บไว้กไ็ ม่มีประโยชน์” เสิ่ นเวยถอนหายใจ
อย่างโล่งอกหนึ่งครา ท่าทางในที่สุดก็ส่งเผือกร้อนออกไปได้แล้ว
ทันใดนั้นก็เม้มปากกล่าวเสี ยงเบาด้วยความเขินอาย “ลูกขี้ขลาด
หลังจากรู ้วา่ เป็ นของปลอมก็ตกใจแทบแย่ นอนหลับไม่สนิทหลาย
ต่อหลายคืน ไม่กล้าบอกเสด็จแม่ หากรู ้วา่ เสด็จแม่ไม่ตาหนิลูก ลูกก็
คงจะเอาภาพมาให้เสด็จแม่ตดั สิ นใจนานแล้ว”
พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็ยมิ้ ท่าทางอารมณ์ดีอย่างยิง่ “เจ้าน่ะ! รอพวก
เราสองคนสนิทกันมากกว่านี้แล้วเจ้าก็จะรู ้เอง ข้าใจดีที่สุด มีเรื่ อง
อะไรที่ตดั สิ นใจไม่ได้กม็ าถามแม่ได้เสมอ”
“อืมๆ ลูกทราบแล้ว” เสิ่ นเวยพยักหน้าทันทีราวกับลูกเจี๊ยบจิก
ข้าวเปลือก สี หน้าเชื่อใจทั้งใบหน้า นี่ทาให้อารมณ์ของพระชายาจิ้
นอ๋ องดีข้ ึนอีก
ออกจากเรื อนพระชายาจิ้นอ๋ องแล้วสี หน้าบนใบหน้าของเสิ่ นเวยก็
หายเกลี้ยงทันที เสี ยใจลาบากใจอะไร ไหนเลยจะยังมีร่องรอย
หลงเหลือแม้แต่นิดเดียว
ดวงตาทั้งคู่ของเสิ่ นเวยเหม่อมองฟ้า กดความร้อนใจในจิตใจลง วัน
คืนนี้เหล่านี้ไม่ใช่ชีวิตของมนุษย์จริ งๆ กลัน่ แกล้งพระชายาจิ้นอ๋ อง
เป็ นเพียงการชดเชยส่ วนที่ขาด เป็ นความสนุกสนาน แต่การทา
ติดต่อกันเช่นนี้กท็ าให้คนราคาญใจอย่างยิง่ รู ้หรื อไม่ ดูท่าแล้วยังต้อง
คิดหาวิธีรีบย้ายออกไปให้เร็ วจึงจะถูก
เสิ่ นเวยส่ งภาพของปลอมที่อาจารย์ซูคดั ลอกไปให้พระชายาจิ้นอ๋ อง
แน่นอนว่าต้องสังเกตความก้าวหน้าของเหตุการณ์ พ่อบ้านซ่งที่
ติดตามออกเรื อนของพระชายาจิ้นอ๋ องเพิ่งจะออกจากประตูใหญ่
จวนอ๋ อง เสิ่ นเวยก็รู้เรื่ องแล้ว คนที่ติดตามเขากลับมารายงานว่า พ่อ
บ้านซ่งผูน้ ้ นั ไปจวนเสนาบดีฉินดังคาด
เรื่ องนี้เสิ่ นเวยไม่ได้ปิดบังสวีโย่ว คนรับใช้รายงานก็รายงานต่อหน้า
เขา เสิ่ นเวยกระทัง่ กล่าวเองว่า “อ้อ ข้าขุดหลุมให้แม่เลี้ยงท่าน รอดู
ว่านางจะเลือกอ้อมไปหรื อกระโดดเข้าไป ตอนนี้ดูท่าแล้วแม่เลี้ยง
ของท่านจะอ่านสถานการณ์ออกจริ งๆ!” เสิ่ นเวยลากเสี ยงยาว
ท่าทางภูมิใจอย่างถึงที่สุด
“ขุดหลุมลึกหรื อไม่ จะให้ขา้ เพิ่มเสี ยมให้อีกสักสองอันหรื อไม่” สวี
โย่วถามด้วยสี หน้าจริ งจัง หลังจากนั้นก็กล่าวอย่างแฝงความนัย “ข้า
ละอายใจ! เรื่ องเล็กน้อยเช่นนี้ยงั ต้องให้เวยเวยออกมือ ลาบากเวย
เวยจริ งๆ”
เสิ่ นเวยเชิดหน้าอย่างทะนงตน ยืดขาออกไป อุง้ มือก็จู่โจมไปที่
ใบหน้าหล่อเหลาของสวีโย่ว “ใครให้ท่านมีใบหน้าที่ทาให้ขา้ ชอบ
เล่า ข้าน่ะใจอ่อนกับคนรู ปงามเสมอ” ดวงตาของเสิ่ นเวยมีความ
หลงใหลแวบผ่าน เหตุใดหน้าใบนี้ถึงได้ดูดีเพียงนั้นเล่า
หากเปลี่ยนเป็ นคนอื่นที่ลุ่มหลงในใบหน้างดงามใบนี้ของเขา สวี
โย่วก็คงจะทาหน้าตายใส่ ไปนานแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับภาคภูมิใจอยู่
เงียบๆ โชคดีที่ตนเกิดมามีหน้าตาหล่อเหลา เขายืน่ มือไปบีบขาของ
นาง “เช่นนั้นหลังจากนี้ขา้ ต้องให้เวยเวยปกป้องแล้ว”
ถูกหญิงสาวปกป้อง สวีโย่วไม่รู้สึกละอายเลยแม้แต่นิดเดียว กลับยัง
มัน่ อกมัน่ ใจอย่างถึงที่สุด
เสิ่ นเวยถูกสวีโย่วบีบจนหัวเราะคิกคัก “วางใจเถอะ อยูก่ บั ข้ามีเนื้อ
ให้กิน เชื่อฟังก็พอ หลังจากนี้ขา้ จะคุม้ ครองท่าน” เสิ่ ยเวยลูบหน้าสวี
โย่วสองครั้งด้วยทีท่าอันธพาลอย่างยิง่ ท่าทางผึ่งผายราวกับราชินี
สวีโย่วเองก็ยมิ้ แล้ว เสมือนสายลมโชยพัดผ่านเนินเขา น้องสี่ ของเขา
น่าเกรงขามเกินไปแล้วหรื อไม่ อยากจะอุม้ นางขึ้นเตียงเสี ยตอนนี้!
เขาจ้องมองความใสซื่อในดวงตาของเสิ่ นเวย ท้ายที่สุดก็ยงั คงเกลี้ย
กล่อมตัวเองให้ลม้ เลิกความคิด
ตั้งแต่ที่พอ่ บ้านซ่งออกไปจวนเสนาบดีฉิน พระชายาจิ้นอ๋ องก็มี
ความสุ ขอย่างยิง่ โดยเฉพาะวันนี้ ยังเตรี ยมตัวจะไปไหว้พระที่วดั ซี
ซาน
เสิ่ นเวยรู ้ต้ งั แต่แวบแรกแล้ว ไหว้พระเป็ นข้ออ้าง แต่ไปพบฉิ นอิงอิง
เป็ นเรื่ องจริ ง
เป็ นดังคาด พระชายาจิ้นอ๋ องกลับมาจากวัดซีซานแล้วก็อารมณ์ดี
มากเป็ นพิเศษ คืนนั้นยังเพิ่มกับข้าวที่เรื อนของเสิ่ นเวยให้อีกสอง
อย่าง นี่หมายความว่าการหมั้นหมายของสองตระกูลสาเร็ จแล้วงั้น
หรื อ เสิ่ นเวยลูบคางคิดเช่นนี้
ไม่ได้ หากว่าการหมั้นหมายสาเร็ จ เช่นนั้นนางก็จะเสี ยแรงขุดหลุม
เปล่าไม่ใช่หรื อ อีกทั้งฉินอิงอิงกับนางยังเป็ นคู่อริ หากนางแต่งเข้า
มาตนเห็นแล้วจะต้องอึดอัดใจแน่นอน ไม่ได้ ไม่อาจให้การหมั้น
หมายนี้สาเร็ จได้เป็ นอันขาด
แม้สองตระกูลจะตกลงกันอย่างลับๆ แต่เมืองหลวงยังคงไม่ผมู ้ ี
สายตาเฉี ยบแหลม ทุกคนค่อยๆ รู ้เรื่ องจวนจิ้นอ๋ องจะผูกสัมพันธ์
ทางการแต่งงานกับจวนเสนาบดีฉินแล้ว จากนั้นก็ถกเถียงกันถึงชาย
หญิงที่มีอายุเหมาะสมของจวนทั้งสองต่อ เจ้าตัวก็ลอยขึ้นมาเหนือ
ผิวน้ า
นี่เองก็เดาไม่ยาก ผูท้ ี่มีอายุเหมาะสมยังไม่แต่งงานฝั่งจวนเสนาบดี
ฉินก็มีเพียงคุณหนูหา้ บ้านรองกับคุณหนูเจ็ดบ้านสาม คุณหนูหา้
หมั้นหมายไว้แล้ว เช่นนั้นก็เหลือเพียงคุณหนูเจ็ด
ฝั่งจวนจิ้นอ๋ องเล่า ในจวนกลับมีคุณชายที่อายุเหมาะสมสองคนคน
หนึ่งเป็ นบุตรภรรยาเอกคนหนึ่งเป็ นบุตรอนุภรรยา แต่คนในสมัย
นั้นให้ความสาคัญกับเรื่ องลาดับอาวุโส คุณชายสี่ ยงั ไม่พดู เรื่ อง
แต่งงานจะตกไปถึงตาคุณชายห้าได้อย่างไร ยิง่ ไปกว่านั้นคุณชายสี่
เป็ นบุตรแท้ๆ ของพระชายาจิ้นอ๋ อง นางเองก็ไม่อาจยอมให้บุตร
อนุภรรยาคนหนึ่งนาหน้าลูกชายของตัวเองได้ เช่นนั้นก็เป็ นได้แค่
เพียงคุณชายสี่
มิหนาซ้ ายังมีคนที่ฉลาดกังขาในใจ จวนจิ้นอ๋ องจะพึ่งองค์ชายรองงั้น
หรื อ
ฮองเฮาเหนียงเหนียงในวังรู ้เรื่ องนี้แล้ว โมโหจนเจ็บใจ “ซ่งซื่อผูน้ ้ ี
ซ่งซื่อผูน้ ้ ี” เพียงแค่หญิงชัว่ ตาแหน่งสู งที่ใช้อุบายลับๆ ล่อๆ ก็เท่า
นั้นเอง คาดไม่ถึงว่ากล้าเป็ นศัตรู กบั นางอย่างเปิ ดเผย น่าโมโห
เกินไปแล้วจริ งๆ
จะว่าไปแล้ว ฮองเฮาเหนียงเหนียงกับพระชายาจิ้นอ๋ องก็มีบุญคุณ
ความแค้นหลายส่ วนกันอยูแ่ ล้ว ฮองเฮาเหนียงเหนียงอยูใ่ นวัง เป็ น
ตัวอย่างที่ดีของพระมเหสี ท้ งั หมด ย่อมไม่ชอบพระชายาจิ้นอ๋ องที่ใช้
อุบายแน่นอน อีกทั้งฮองเฮาเหนียงเหนียงยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลว
กับต้วนซื่อมารดาของสวีโย่วก็ยงิ่ เห็นพระชายาไม่เข้าตา ไม่ใช่แค่
ครั้งเดียวที่ไม่ไว้หน้านางต่อหน้าสาธารณะ กลายเป็ นศัตรู กนั ด้วย
เหตุน้ ี
ตอนที่ 225-2 สวีโย่วออกมือ

“เหนี ยงเหนี ยงโปรดระงับโทสะ เพือคนแบบนั ้นแลว้ ไม่ควรค่าให้เสีย
สุภาพ” กุ ้ยกูกูรบ ้
ี เกลียกล่ อม “เพียงแค่การสมรสก็เท่านั้นเอง ไม่
แน่ ว่าอาจจะเป็ นเจตนาของจินอ๋้ อง บ่าวว่า คุณชายสีเที่ ยบคุณชาย
ใหญ่ไม่ได้หรอกเพคะ”

ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงคลา้ ยครุน ่ คิด ครูใ่ หญ่จงึ พยักหน้า ความ


โกรธบนใบหน้าหายหมดจด “เจ ้าพูดถูก ขา้ ร ้อนใจเกินไปเอง” ทั่ว

ทังจวนจิ ้ องผูท้ ี่ได้รบั ความโปรดปรานจากฮ่องเต้ทสุ
นอ๋ ี่ ดก็คอ

คุณชายใหญ่ผน ู ้ ั้น แม้แต่จนอ๋
ิ ้ องยังต้องถอยหลังให้ หากคุณชาย
ใหญ่ยนื อยู่ฝ่ ังไท่จอ่ื เช่นนั้นนางยังจะกลัวอะไร

ื่ า ไปดูสวิ ่าไท่จอทํ
“ไท่จอเล่ ่ื าอะไรอยู่ หากว่างก็ถอ
ื โอกาสไปเยียม่
้ องสักหน่ อย มีสายโลหิตบรรพบุรุษเดียวกัน อย่าทํา
เยียมจวนจินอ๋
ตัวเหินห่างจึงจะถูก” ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงออกคําสั่ง คิดครูห
่ นึ่ งก็
เสริมอีกหนึ่ งประโยค “ไปเชิญไท่จอเฟยมา”
่ื
“เหนี ยงเหนี ยงทรงพระปรีชาญาณ” กุ ้ยกูกูเอ่ยชมหนึ่ งประโยค
้ ่”
กล่าวเตือน “เหนี ยงเหนี ยง ยังมีจยาฮุ่ยจวินจู

ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงพยักหน้า “ใช่ ยังมีจยาฮุย ้ ่ กุ ้ยกูกู


่ จวินจู
่ ยวหนึ
ลําบากเจ ้าวิงเที่ ่ งแทนขา้ แลว้ ” เจ ้าซ่งซืออยากแต่
่ งคุณหนู
จวนเสนาบดีออ ๋ งเป็ นลูกสะใภ้มใิ ช่หรือ เช่นนั้นขา้ ก็จะให้เกียรติจยา
้ ่เยอะๆ ทําเจ ้าอกแตกตายไม่ได้ก็ทําให้เจ ้าหงุ ดหงิดตายได้
ฮุ่ยจวินจู

ฝั่งฉิ นซูเฟยเองกลับมีความสุขยิงนั ่ ก “ชวพริ


่ ั บตาอิงเอ๋อร ์ก็โตเป็ น
สาวแต่งงานได้แลว้ ตอนนั้นที่แม่เขา้ วังอาสามยังไม่แต่งงานเลย อวี ้

เอ๋อร ์ พรุง่ นี หากเจ ่
้าไม่ยุ่งก็ไปเยียมตาเจ ่
้าทีจวนเสนาบดี เสีย ไป
พูดคุยกับตาเจ ้าเยอะๆ มีแต่จะเป็ นประโยชน์กบ ั เจ ้าไม่มข
ี อ้ เสีย ยังมี

น้าทังหลายของเจ ้าด้วย แม้ว่าเจ ้าจะสูงศักดิเป็ ์ นองค ์ชาย แต่น่ี ลว้ น
แต่เป็ นญาติจริงๆ สนับสนุ นลูกได้”


“เสด็จแม่ ลูกทราบแลว้ พรุง่ นี จะไปเยี ่
ยมท่ านตา ลูกเองก็ไม่ได้
พูดคุยกับท่านตามาสักพักแลว้ ยังคิดถึงเขาอยู่บา้ งจริงๆ ยังมีท่าน
น้า วันก่อนเสด็จพ่อชมท่านน้า บอกว่าเขามีความรู ้แข็งขัน
ความคิดก็ปราดเปรียว” องค ์ชายรองสวีอวียิ้ มพลางพู
้ ด

“จริงหรือ เช่นนั้นก็ดจี ริงๆ” รอยยิมบนใบหน้


้ าฉิ นซูเฟยกวา้ งขึน้
้ เล็กน้าเจ ้าก็ไม่ชอบพูด แม่เป็ นห่วงว่าเขาโตไปแลว้ จะเป็ น
“ตังแต่
หนอนหนังสือเสียอีก ตอนนี แม่ ้ ก็วางใจแลว้ จริงๆ” ท่านพ่อมี
่ องก็มานะบากบั่น ด้วยเหตุนี้ ฝ่ าบาทจึงให้
ตําแหน่ งอํานาจ พีน้
ความสําคัญแก่นาง นางจะไม่ดใี จได้อย่างไร

องค ์ชายรองก็มค ่ ด เขาเป็ นคนทีมี


ี วามสุขอย่างถึงทีสุ ่ ปณิ ธานแรง
กลา้ บา้ นฝั่งมารดามีอํานาจมีอท
ิ ธิพล ฝั่งเสด็จพ่อก็ยงั พอพูดได้
กําลังสนับสนุ นของเขาเยอะอย่างถึงทีสุ่ ด

“เสด็จแม่ หากการสมรสครังนี ้ สํ
้ าเร็จ ญาติผน ้ งฉั่งก็จะโตกว่าลูก
ู้ อ
หนึ่ งรุน
่ ” องค ์ชายรองพลันกล่าว
ฉิ นซูเฟยคิดๆ ดูแลว้ ก็ถูก อิงเอ๋อร ์เป็ นบุตรสาวของอาสาม ญาติผู ้
น้องของตน แม้ว่าจะอายุนอ้ ยกว่าลูกชาย แต่ลูกชายก็ตอ้ งเรียก
นางว่าน้าเล็ก หากสองตระกูลแต่งงานเชือมสั ่ มพันธ ์สําเร็จจริงๆ ฉั่ง
เอ๋อร ์ก็จะกลายเป็ นน้าเขยเล็กของลูกชายมิใช่หรือ

“พวกเจ ้าต่างก็วเิ คราะห ์กันไปต่างๆ ความจริงแลว้ ในเมืองหลวง


ตระกูลใดบา้ งไม่ใช่ญาติกบ ั ญาติ” ฉิ นซูเฟยกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย

“ถูกต้อง” องค ์ชายรองพยักหน้า กล่าวต่อ “เสด็จแม่ ท่านควรรับ



น้าเล็กมาอยู่เป็ นเพือนท่ านในวังสามสีวั่ นหรือไม่”

สองตระกูลผูกสัมพันธ ์หากว่าสําเร็จ จวนจินอ๋ ้ องก็จะยืนอยู่ฝ่ ังตน


้ องจะไม่ค่อยยุ่งเกียวกั
แม้ว่าท่านน้าจินอ๋ ่ บราชสํานัก แต่เสด็จพ่อก็
ยังคงปฏิบตั ต ิ่ ก ญาติผพ
ิ ่อเขาดียงนั ่ี ยญาติ
ู ้ เยี ่ ผูพ ี่ ยนต่างก็
้ เหยี
ค่อนขา้ งมีความสามารถ ในหมู่บุตรหลานราชนิ กุลน้อยนักทีจะมี ่

คนพัฒนา แม้แต่เสด็จพ่อยังชืนชม
อ้อ ยังมีญาติผพ ี่ ว ฝ่ าบาทโปรดปรานยิงกว่
ู ้ โย่ ่ าพวกเขาองค ์ชาย
้ ยอีก หากไม่ใช่ว่าเขาร่างกายไม่ดี เกินครึงปี
เหล่านี เสี ่ พกั รักษาตัว
อยู่บนเขา แม้แต่เขายังอดคิดมากไม่ได้

ฉิ นซูเฟยชายตามองลูกชายปราดหนึ่ ง กล่าวอย่างเคืองๆ “นี่ ต้องให้


เจ ้าสอนหรือ ก่อนเจ ้ามาแม่ก็ส่งคนไปจวนเสนาบดีฉินแลว้ ”

องค ์ชายรองยิม้ “ลูกเองก็เพียงแค่พูดไปตามปากก็เท่านั้นเอง แต่


ไหนแต่ไรเสด็จแม่ทําอะไรก็ไวใ้ จได้เสมอ หากมีเวลาว่างท่านก็ส่งั
่ มากหน่ อย”
สอนหลานซือให้

หลานซือก็ ่ คอื พระชายาองค ์ชายรอง มีฐานะเดิมอยู่ในจวนหลาน


กั๋วกง เป็ นพระชายาองค ์ชายทีฉิ
่ นซูเฟยเลือกให้ลูกชายเป็ นอย่างดี
ไม่ว่าอะไรก็ดี ฉลาดมีความสามารถ ใส่ใจองค ์ชายรอง อย่าเดียวที่
ไม่ดกี ค
็ อ ่
ื หึงหวง ยอมให้องค ์ชายรองเขา้ ใกลส้ ตรีคนอืนไม่ ได้
ฉิ นซูเฟยมองลูกชายทีงามสง่ ่ า ในใจก็เต็มไปด้วยความภาคภูมใิ จ
จึงกล่าวอย่างแฝงความนัย “อวีเอ๋ ้ อร ์ ตอนนี เจ
้ ้าก็ไม่ขาดเหลืออะไร

แลว้ ทีขาดเพี ยงอย่างเดียวคือ ลูกชาย โดยเฉพาะลูกภรรยาเอก
เสด็จพ่อเจ ้าให้ความสําคัญกับเรืองนี ่ ที ้ สุ
่ ด พวกเราเป็ นราชนิ กุล สิง่
่ าคัญทีสุ
ทีสํ ่ ดก็คอ
ื ทายาทสืบทอด หลานซือหึ ่ งหวงมากเกินไป
หน่ อย แต่เจ ้าก็คด ิ ถึงหลานกั๋วกงบิดานาง แรงสนับสนุ นส่วนนี ใช่ ้

สตรีคนอืนในเรื อนหลังของเจ ้าจะให้เจ ้าได้หรือไม่ เจ ้าต้องรีบให้

หลานซือคลอดบุ ตรภรรยาเอกจึงจะถูกต้อง”

่ สํ
องค ์ชายรองเองก็รู ้ว่าเรืองนี ้ าคัญ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เสด็จ
แม่วางใจ ในใจลูกมีหนทาง”


ฉิ นซูเฟยตบมือของลูกชายเบาๆ ท่าทางชืนชมอย่ างยิง่

จู่ๆ ในเมืองก็มข
ี ่าวลือ บอกว่าท่านเสนาบดีฉินได้ภาพวาดใหม่มา

ดีใจจนขังตัวเองอยู่ในห้องหนังสือชืนชมหนึ ่ งวันเต็ม รู ้หรือไม่ว่า
ภาพวาดของใคร บอกไปแลว้ เจ ้าจะต้องสะดุง้ ตกใจ จางเต้าจือ่
่ งในรัชสมัยก่อนรู ้จักหรือไม่ ใช่แลว้ ก็คอ
ศิลปิ นชือดั ื ภาพตกปลา
ใต้จน ่ งดังทีสุ
ั ทราผลงานทีโด่ ่ ดของเขา

จากนั้นก็มคี นถาม ภาพๆ นั้นไม่ใช่ถูกแม่ทพั ใหญ่หร่วนให้เป็ นสิน


เดิมแก่ลูกสาวหรือ เหตุใดถึงไปอยู่ในมือท่านเสนาบดีฉินได้เล่า

หลังจากนั้นก็มค
ี นขยิบตาอย่างลับๆ ย่อมต้องมีคนส่งให้แน่ นอน

ใครเป็ นคนส่งเล่า นอกจากเจ ้าของภาพแลว้ ยังมีใครได้อก


่ กคนคิดถึงเจ ้าของภาพ ก็นึกถึงจยาฮุ่ยจวินจู


เมือทุ ้ ่คุณหนู สแซ่
ี่ เสิน

่ นขบวนสินสอดสิบลีไปยั
จวนจงอู่โหวทีเดิ ้ งจวนจินอ๋
้ องเมือไม่
่ กวั่ี น
ก่อน นางเป็ นหลานสาวตาของแม่ทพ ั ใหญ่หร่วน สินเดิมของหร่วน
่ ถูกทิงไว
ซือก็ ้ ใ้ ห้นางทังหมดมิ
้ ใช่หรือ

เมือหวนนึ ่
กถึงเรืองจวนจิ ้ องกับจวนเสนาบดีฉินกําลังจะแต่งงาน
นอ๋

เชือมสั มพันธ ์ ทุกคนก็มองหน้ากันไปมา ต่างก็รู ้สึกว่าตนเห็น
่ แลว้ ก็เป็ นเช่นนี นี
ขอ้ เท็จจริงแลว้ ไอหยา ทีแท้ ้ ่ เอง!

้ ศทางของข่าวลือจึงเปลียนแล
ด้วยเหตุนีทิ ่ ว้ จากภาพตกปลาใต้
่ กลายเป็ นจวนจินอ๋
จันทราของจางเต้าจือก็ ้ องวางแผนแย่งสินเดิม

ของสะใภ้ลูกเลียงไปเป็ ้ กชายตัวเอง
นของหมันลู

่ าวลือนี ดั
เมือข่ ้ งออกไป การแพร่ขยายก็เร็วอย่างยิง!เพี ่ ยงแค่ชว่ ง

เช ้า เหลาสุราโรงเตียมแต่ ละแห่งต่างก็รู ้ทั่วแลว้ ผูค้ นก็เห็ นใจจยา
้ ่ทถู
ฮุ่ยจวินจู ี่ กแย่งสินเดิมกับคุณชายใหญ่จวนจินอ๋ ้ องทีร่่ างกาย

อ่อนแอขีโรคเป็ ่ อจะได้
นอย่างมาก ดูสิ ดูสิ ต่อให้เสินซื ่ รบั พระราช
บรรดาศักดิเป็ ์ นจวินจู
้ ่ นางเองก็เป็ นลูกสะใภ้ ผูเ้ ป็ นแม่สามีคด ิ จะหา

เรืองนางก็ ทําได้ง่ายๆ มิใช่หรือ

ยังมีคุณชายใหญ่ เห็นชดั ๆ ว่าเป็ นบุตรภรรยาเอกคนโตของจวนจิ ้


นอ๋อง แต่กลับป่ วยออดแอดกระทั่งอายุยสิ ี่ บกว่าปี กว่าจะแต่งภรรยา
่ อก็
ได้ แม้แต่ตําแหน่ งซือจื ่ ถูกแย่งไป หากไม่ใช่ว่าฝ่ าบาทสงสาร
พระราชทานบรรดาศักดิจวิ ์ นอ๋
้ องให้เขา ก็ไม่รู ้ว่าทุกวันนี จะใช
้ ้ชีวต

่ ก!
อย่างไร น่ าสงสาร น่ าสงสารยิงนั

เห็นใจจยาฮุ่ยจวินจู ้ ่กบ ่
ั คุณชายใหญ่เสร็จแลว้ ก็มเี รืองใหญ่ กระทั่ง
้ องในอดี
รือเรื ่ ตทีน่ ่ าอับอายของพระชายาจินอ๋ ้ องซ่งซือเมื่ อยี
่ สิ่ บกว่า

ปี ก่อนขึนมา ่
เรืองของนางแต่ ่ พอๆ กับนางต่างก็ทราบ
ละจวนทีอายุ

ใครให้เรืองในปี นั้นวุ่นวายจนดังกระฉ่ อนไปทั่วเล่า แม้ว่าทุกคนจะ
ไม่ถกเถียงเสียงดังกันออกนอกหน้า แต่ในทีลั ่ บก็ยงั คงแอบกระซิบ
กระซาบ ไม่ว่าอย่างไรก็ปิดกันจิ ้ ตใจขีนิ้ นทาดวงนั้นของผูค้ นไม่ได้
หรอก!


ผ่านไปอีกหลายวัน ข่าวลือก็เปลียนอี
กแลว้ เพราะว่าจู่ๆ ผูจ้ ด
ั การ
้ าเปิ ดเผยว่าภาพตกปลาใต้จน
ใหญ่ของเรือนเจียเป่ ั ทราในมือท่าน
เสนาบดีฉินเป็ นของปลอม ทุกคนต่างก็ตกตะลึง

ให้ตายเถอะ หน้าไม่อายเกินไปแลว้ แย่งสินเดิมของสะใภ้ยงั ไม่พอ


้ กชายตนก็ยงั ไม่พอ คาดไม่
เอาสินเดิมของสะใภ้ไปเป็ นของหมันลู
่ี วเอง ของทีมอบให้
ถึงว่ายังหน้าไม่อายเก็บของแท้ไวท้ ตั ่ ท่าน
เสนาบดีฉินเป็ นของปลอมทีคั่ ดลอกมา สายตาสันเกิ ้ นไปแลว้
หรือไม่

้ งมีคนแสดงท่าทีสงสัย ต่อให้จะเป็ นพระชายา แต่ก็เป็ นเพียง


อีกทังยั
สตรีเรือนหลัง กลา้ เอาของปลอมไปหลอกท่านเสนาบดีฉินหรือ คง
้ องเห็นสัตว ์ล่าจิตใจก็เบิกบานจึงเก็บของแท้ภาพนั้นไว ้
ไม่ใช่ว่าจินอ๋
เองหรอกกระมัง จินอ๋้ องหลงใหลผลงานภาพวาดของจางเต้าจืออ ่
่ ดมิใช่หรือ
ย่างถึงทีสุ

มีคนกระโดดออกมาคัดค้านทันที อย่างไรเสียจินอ๋ ้ องก็เป็ นท่านอ๋อง


คนหนึ่ ง ไม่อาจทําเรืองไร
่ ้ คงจะเป็ นพระชายาจิ ้
้คุณธรรมเช่นนี ได้
่ นลูกไม้ นางบอกว่านางไม่กลา้ หลอกท่านเสนาบดีฉินงัน
นอ๋องทีเล่ ้
หรือ เช่นนั้นเจ ้าก็คด
ิ ผิดแลว้ คิดดูสวิ ่านางเป็ นพระชายาจินอ๋้ องได้
อย่างไร แม้แต่ฮ่องเต้องค ์ก่อน แม้แต่ราชวงศ ์นางยังกลา้ วางแผน
จะกลัวอะไรกับท่านเสนาบดีฉินคนหนึ่ ง

้ ยนไปทุ
สรุปแลว้ ข่าวลือนี เปลี ่ ่
กวัน ลว้ นแต่เกียวข ้ อง
อ้ งกับจวนจินอ๋

เสินเวยประหลาดใจยิ ่ ก นางยังไม่ทน
งนั ั ได้ลงมือ เหตุใดข่าวลือถึง
ออกมาแลว้ เป็ นเทวดาตนไหนทีทํ ่ าเรืองดี
่ ่ ่ งไขว ้
นางมองสวีโย่วทีนั
ห้างสบายใจอยู่บนตั่งนุ่ ม ชวขณะก็
่ั เขา้ ใจแลว้

หมอนี่ มีฝีมือยิงนั
่ ก! ในเมือเรื
่ องเจ ่ ั การแลว้ เช่นนั้นขา้ ก็ลาก
้าก็จด
ม้านั่งมานั่งดูละครดีกว่า! ปี นีนั
้ ่ งกินเผือกคงเป็ นเรืองที
่ สนุ่ กทีสุ่ ด
แลว้ !


เสินเวยดู ละครอย่างมีความสุขมาก พระชายาจินอ๋ ้ องทีเป็
่ นบุคคล

หลักในข่าวลือโมโหแทบแย่อยู่แลว้ นางดูแลเรืองภายในจวนอ๋ อง
สั่งสมอํานาจไวม้ ากอย่างยิง่ บ่าวรับใช ้ข ้างล่างได้ยน ิ ข่าวลือก็ไม่
กลา้ บอกนาง คนสนิ ทขา้ งกายนางก็ไม่ค่อยกลา้ ออกจากจวนอ๋อง

ยังคงเป็ นพีสะใภ้ ใหญ่ของนางเห็นข่าวลือยิงดั ่ งยิงไปกั
่ นใหญ่ ในใจ
ก็เป็ นห่วง อดไม่ได้มาปรึกษาหนทางแก ้ไขกับนางถึงบา้ น นางจึง
ได้รู ้ว่ามีข่าวลือเช่นนี ้ แต่ก็สายไปเสียแลว้
ตอนที่ 226-1 การเคลือนไหวของแต่
่ ละฝ่ าย

พระชายาจินอ๋ ้ องโมโหจนพังโต๊ะเครืองแป้
่ ง “สืบ ไปสืบมาให้ขา้ !”

ชดั เจนว่าพุ่งเป้ ามาทีจวนจิ ้ อง อันทีจริ
นอ๋ ่ งแลว้ ก็คอ ่
ื พุ่งเป้ ามาทีนาง

แม้เนื อหาในข่ าวลือจะพัวพันไปถึงท่านอ๋อง แต่ส่วนใหญ่ก็ยงั

เกียวข ่
อ้ งกับนาง โดยเฉพาะเรืองในอดี ตเหล่านั้นเมือยี
่ สิ ่ บกว่าปี
ก่อน

พระชายาจินอ๋้ องสูดหายใจเขา้ ลึก พยายามระงับไฟโกรธในใจ


ทว่าแววตากลับมีพายุโหมกระหนํ่ า อดีตอันน่ ารังเกียจทีตั ่ วนางเอง
้ บถูกคนเปิ ดโปงอีกครังหลั
ยังแทบจะลืมไปแลว้ เหล่านี กลั ้ งผ่านไป
่ บกว่าปี ซํายั
ยีสิ ้ งพูดได้อยากมีเค้ามีมูล นี่ จะไม่ให้นางตกใจและยิง่
สงสัยได้อย่างไร

่ งตั
ใครกัน ใครทีตั ้ วเป็ นศัตรูกบ ้
ั นาง หากนางหาคนผูน้ ี ออกมาได้
นางจะต้องเฉื อนคนผูน ้ นหมื่นเป็ นพันชิน้ เช่นนี จึ
้ ี เป็ ้ งจะทําให้ความ
เคียดแค้นในใจนางสงบลงได้
แม่นมซือกับหวาอวินกลั๋ ี่ มด้วยสีหน้าลําบากใจ ข่าวลือ
บยืนอยู่ทเดิ
แพร่ขยายมาหลายวันแลว้ ขอบเขตก็กวา้ งเพียงนั้น พวกนางจะเริม่

สืบจากตรงไหน ทังสองสบตากั นปราดหนึ่ ง ยังคงเป็ นแม่นมซือที่

ก ้าวขึนมาข า้ งหน้าแลว้ กล่าว “พระชายา สืบจากขา้ งนอกหรือสืบ
จากในจวนอ๋อง”

เล็บของพระชายาจินอ๋ ้ องแทบจะจิกเขา้ ไปในฝ่ ามือ ถอนหายใจ


อย่างหนักหน่ วงหนึ่ งครา กัดฟันกล่าว “สืบภายในจวนอ๋อง” นางยัง
ไม่เสียสติ ข่าวลือลุกลามไปทั่วตรอกซอกซอยแลว้ จะต้องสืบอะไร
ไม่ได้แน่ นอน แต่ในจวนกลับยังสืบได้ ดูว่าใครเป็ นคนปล่อยข่าวลือ
คนแรก สืบหาเบาะแส ดูว่าจะสามารถสืบอะไรออกมาได้บา้ งหรือไม่

่ งผูต้ อ้ งสงสัยในใจพระชายาจินอ๋
อันทีจริ ้ องก็คอ ้ เป็
ื ลูกเลียงที ่ นหนาม
ยอกอกผูน ้ ั้นของนาง อย่างไรเสียทั่วทังจวนอ๋
้ ่ ถูกกับนาง
องคนทีไม่
ก็คอ ้ ลึ
ื ลูกเลียงที ่ กลับแปลกประหลาดผูน้ ี ้ ภาพผืนนั้นก็เป็ นสินเดิม
ของภรรยาเขา แม้ว่าจะเป็ นของปลอม แต่ก็ไม่เป็ นอุปสรรคให้เขา
เอามาสร ้างสถานการณ์
ทันใดนั้นนางก็ปฏิเสธขอ้ สงสัยนี ้ อย่างไรเสียเรืองอั
่ ปยศในบา้ นไม่
้ องเสียเกียรติ คุณชายใหญ่จวนอ๋อง
อาจแพร่สู่ขา้ งนอก จวนจินอ๋

เช่นเขาจะยังเหลือเกียรติอะไรได้ มิหนํ าซําหากคนช ่ ั น้ ี จะแพร่
วผู ้
ข่าวลือก็คงจะแพร่ไปนานแลว้ จะยังรอถึงวันนี ได้้ หรือ

พระชายาจินอ๋ ้ องกลับไม่ได้สงสัยเสินเวย่ ่
ในสายตานาง เสินเวยก็
ี้
คือคนโง่ขขลาดผู ห้ นึ่ ง อย่างนางน่ ะหรือ จัดการเรือนตัวเองได้ก็ไม่
เลวแลว้ ยังจะวางแผนปล่อยข่าวลืออีกหรือ ประเมิณนางสูงเกินไป
จริงๆ!


หากเสินเวยรู ้ความคิดของพระชายาจินอ๋ ้ อง จะต้องแขวะสวีโย่วอ
ย่างภูมใิ จสุดขีดแน่ นอน ‘ดูสิ บอกแลว้ ว่าเจ ้าทําหน้าตายทังวั้ นราว
กับคนอืนติ่ ดหนี เจ
้ ้าไม่ได้ ไม่เอือต่
้ อการสามัคคีปรองดองให้จวน
่ ของขา้ ฝัง
อ๋องสงบสุข! เจ ้าต้องเรียนรู ้จากขา้ จุๆ ดูสวิ ่าตัวอย่างทีดี
ลึกเขา้ ไปในใจคนมากเพียงใด!’

ฝังลึกในใจคนจริงๆ เห็นชดั ๆ ว่าทําให้คนแตกแยก แต่ทุกคนกลับ


ไม่คด ้
ิ ว่าเป็ นนาง แต่ว่าจินหวั

เฟยเองก็ไม่ได้อคติกบ ้ ใช่ว่าออกมาจากหมอนี่
ั สวีโย่ว ข่าวลือนี ไม่
หรอกหรือ

แม่นมซือกับหวาเยียนต่างก็ถอนหายใจหนึ่ งคราอย่างโล่งอก สืบใน


จวนง่ายกว่าสืบนอกจวนเยอะ

้ บข่าวลือแลว้ แต่จนอ๋
สองคนนี ไปสื ิ ้ องกลับเดินเขา้ มาด้วยความ
โมโหเดือดดาล พระชายาจินอ๋ ้ องเพิงจะยกยิ
่ ้ ถูกความโกรธบน
มก็
ใบหน้าของท่านอ๋องทําให้สะดุง้ ตกใจ “ท่านอ๋องเป็ นอะไรไป เหตุใด
ถึงโมโหเพียงนี ”้ นางก ้าวเขา้ ไปปรนนิ บต
ั อ
ิ ย่างอ่อนโยน

้ องกลับสะบัดมือของนางออก ชีพระชายาจิ
ทว่าจินอ๋ ้ ้ องกล่าว
นอ๋
ด้วยสีหน้าซับซ ้อน “เจ ้าถามขา้ ว่าเหตุใดถึงโมโห พระชายาไม่ใช่รู ้
ดีอยู่แก่ใจหรือ”
พระชายาจินอ๋้ องงุ นงงทังใบหน้
้ า จากนั้นก็นอ้ ยใจเล็กน้อย “ดูท่าน
อ๋องพูดเขา้ หรือว่าขา้ ทําให้ท่านอ๋องไม่พอใจหรือ” ทว่าในใจกลับ

เต้นแรงขึนมา

้ องมองพระชายาจินอ๋
จินอ๋ ้ องนิ่ งๆ มองจนนางแทบจะประคับประคอง
ต่อไปไม่ได้ก็แค่นเสียงหึหนึ่ งครา “เจ ้ากลา้ พูดหรือไม่ว่าภาพตก
ปลาใต้จนั ทราภาพนั้นเจ ้าไม่ได้ส่งคนส่
ั งไปให้ท่านเสนาบดีฉิน นั่น
เป็ นของปลอม! นั่นเป็ นของปลอม! เจ ้ารู ้อยู่แก่ใจว่านั่นเป็ นของ
้ องโมโหจน
ปลอมก็ยงั จะส่งไปให้ท่านเสนาบดีฉิน เจ ้า เจ ้า!” จินอ๋
้ อนหน้าหนี
สะบัดแขนเสือเบื

ไม่กวั่ี นก่อนเขาก็รู ้สึกว่าสายตาทีคนอื่ ่


นมองเขาค่ อนขา้ งผิดปกติ

วันนี ไปดื ่ รากับสหายทีเหลาสุ
มสุ ่ ่ เขาเขา้
รา ก็บงั เอิญเจอเสด็จพีกง
มาทักทายตน ซํายั ้ งถามเขาอย่างยิมแย้ ้ มว่าขอไปชมภาพตกปลา
ใต้จน
ั ทราของแท้ทจวนได้ ี่ หรือไม่
เขาไม่สบายใจ เขาไหนเลยจะมีภาพตกปลาใต้จน ั ทราของแท้ ที่
สะใภ้ใหญ่กลับมีภาพหนึ่ ง แต่น่าเสียดายที่เป็ นของปลอม


เมือเขาพู ดเช่นนี ้ เสด็จพีหวั
่ งก็ไม่เชือ่ ยังพูดจาไร ้ต้นสายปลายเหตุ
ทํานองว่าเขาเก็บไวค้ นเดียว ก่อนไปรอยยิมที ้ แฝงเลศนั
่ ่ิ าให้
ยก็ยงทํ
เขาจับต้นชนปลายไม่ถูก

ผูม้ ค
ี วามสามารถเช่นเขาก็รู ้สึกผิดปกติแลว้ หมดอารมณ์ดมสุ ื่ รา
เรียกบ่าวรับใช ้เขา้ มาถามไถ่ บ่าวรับใช ้มีสห ้
ี น้าลําบากใจ อําๆ อึงๆ
่ าวลือให้ฟัง เขาจึงเขา้ ใจแลว้ ว่าเหตุใดเสด็จพีกงจึ
เล่าเรืองข่ ่ งมี
ท่าทางเช่นนี ้ คิดว่าภาพตกปลาใต้จน ั ทราของแท้อยู่ในมือเขางัน้
หรือ

้ องโมโหจนจมูกเบียว
จินอ๋ ้ ซ่งซือผู
่ น้ ี !้ สามารถแต่งงานเชือม ่
สัมพันธ ์กับจวนเสนาบดีฉินได้เขาเองก็ยน ิ ว่าซ่งซือ่
ิ ดี แต่เขาไม่คด
จะกลา้ ถึงเพียงนั้น รู ้อยู่แก่ใจว่าภาพในมือภรรยาโย่วเอ๋อร ์เป็ นของ
ปลอมก็ยงั กลา้ ส่งไปให้ท่านเสนาบดีฉิน นางคิดว่าท่านเสนาบดีฉิน
หลอกง่ายหรือไร
่ ดถึงเนื อหาในข่
เมือคิ ้ าวลือ เขาก็หงุ ดหงิดจนอยากฆ่าคน บอกว่า
้ั
ของจริงถูกเขาเก็บไวง้ นหรื ิ่
อ ท่านอ๋องผูย้ งใหญ่ เช่นเขาเป็ นคน
้ นนั้นหรือไร แย่งสินเดิมลูกสะใภ้ตอ้ งถูกคนนิ นทาลับ
สายตาสันเช่
หลัง ต่อให้เขาจะชอบภาพของจางเต้าจือก็ ่ รู ้จักความหนักเบาของ

เรือง!

ซ่งซือ่ เป็ นเพราะซ่งซือ่ ดูท่าแลว้ หลายปี มานี เขาจะโปรดปรานนาง



เกินไปแลว้ กระทั่งนางลืมกฎระเบียบและลําดับความสําคัญ

่ องนี
เพือเรื ่ จริ ้ งๆ ด้วย! ในใจพระชายาจินอ๋ ้ องกลับถอนหายใจหนึ่ ง
คราอย่างโล่งอก สูดหายใจเขา้ ลึกหนึ่ งครัง้ แสร ้งทําท่าทางเศร ้า
ระทม “ท่านอ๋อง ขา้ อยู่กบ ั ท่านมาหลายปี เพียงนี ้ ท่านยังไม่รู ้จัก
นิ สยั ขา้ อีกหรือ แม้ว่าจะมีหนทางอืน ่ ขา้ จะทําเรืองเช่
่ ้ หรือ
นนี ได้
่ ่ งเอ๋อร ์ทังนั
ไม่ใช่ว่าทําเพือฉั ้ ้นหรือ”
้ ยงของพระชายาจินอ๋
พูดถึงตรงนี เสี ้ องก็ส่นเครื
ั อ “ฉั่งเอ๋อร ์ไม่ได้
มานะบากบั่นเท่าพีชายทั่ ้
งหลายของเขา แต่น้นก็ ้
ั เป็ นเลือดเนื อของ

ขา้ ยังคงเป็ นขา้ ทีพยายามคลอดออกมา ขา้ จะไม่คด ่
ิ เรืองอนาคต

เพือเขาได้ อย่างไร คุณหนู เจ็ดตระกูลฉิ นเป็ นญาติผน ู ้ อ้ งของซูเฟย
เหนี ยงเหนี ยง ในภายหน้ามีองค ์ชายรองดูแล ขา้ เองก็วางใจแลว้
่ ่ งเอ๋อร ์ของพวกเรา!”
ท่านอ๋อง ขา้ ลว้ นแต่ทําเพือฉั

ท่านอ๋องได้ยน ิ พระชายาเอ่ยถึงฉั่งเอ๋อร ์ ในใจก็รู ้สึกอึดอัดเล็กน้อย


ฉั่งเอ๋อร ์คลอดก่อนกําหนด เร็วกว่าวันทีหมอหลวงคาดการณ์
่ ี่ บ
ยสิ

วัน สําหรับเหตุผลน่ ะหรือ เกียวข อ้ งกับเขา หากไม่ใช่ว่าเขา
่ั
ควบคุมไม่ได้ในชวขณะ พระชายาตังท้ ้ องแก่ปรนนิ บต ั เิ ขา ก็คงไม่
ถึงกับเจ็บท้องคลอดทําให้ฉ่ งเอ๋
ั อร ์คลอดก่อนกําหนด หวัง

เฟยเองก็แทบจะเสียสละชีวต ิ ดังนั้นลูกคนนี เขาเองก็


้ ตามใจหลาย
ส่วน คิดถึงตรงนี ้ ความโกรธบนใบหน้าเขาก็ลดลงเล็กน้อย

้ องลอบมองความเปลียนแปลงในสี
พระชายาจินอ๋ ่ ้ อง
หน้าของจินอ๋
กล่าวต่อ “ขา้ เองก็ไม่ได้บอกว่าเป็ นของแท้ พูดเพียงแค่ว่าได้ภาพ

ของจางเต้าจือมาหนึ ่ งภาพ ไม่รู ้ว่าแท้หรือปลอม ส่งไปให้ท่าน
เสนาบดีฉินชมเล่น นั่นเองก็ไม่ใช่ว่าขา้ แย่งมา ภรรยาโย่วเอ๋อร ์
แสดงความกตัญ�ูมอบให้ขา้ ด้วยตัวเอง เพียงแค่ภาพผืนหนึ่ ง เหตุ
้ ขา้ ว่า นี่ จะต้องมีผูไ้ ม่หวังดีใส่ร ้าย
ใดถึงเกิดข่าวลือมากเพียงนี ได้
้ องของเรา อิจฉาทีพวกเรากั
ใช ้อุบายกับจวนจินอ๋ ่ บจวนเสนาบดีฉิน

แต่งงานเชือมสั มพันธ ์ คิดจะก่อกวนการสมรสครังนี ้ ้ ท่านอ๋อง พวก
เราอย่าได้ตกหลุมพรางคนไม่ด!ี ”

้ องใจเต้นอย่างอดไม่ได้ ใช่แลว้ เหตุใดเขาถึงคิดถึงจุดนี ไม่


จินอ๋ ้ ได้
เล่า แม้ว่าตัวเขาจะไม่มห ่ าคัญ แต่อย่างไรเสียก็เป็ นผูช
ี น้าทีสํ ้ าย
มักจะอยู่ขา้ งนอก ในด้านความรู ้ย่อมมีมากกว่าพระชายาจินอ๋ ้ องที่
อยู่แต่เรือนหลัง


เมือพระชายาจิ ้ องเอ่ยว่ามีคนตังใจใส่
นอ๋ ้ ้ อง เขาก็นึก
ร ้ายจวนจินอ๋
ถึงองค ์ชายหลายคนในหมู่พน้ ี่ องของเขา หรือว่าจะมีคนคิดว่าเขา
ยืนอยู่ฝ่ ังองค ์ชายรองขัดขวางผลประโยชน์ของเขา เหอะ แต่งงาน

เชือมสั มพันธ ์กับจวนเสนาบดีฉินเป็ นเพียงแค่การหาบา้ นพ่อตาทีมี ่
กําลังสนับสนุ นให้ฉ่ ังเอ๋อร ์ก็เท่านั้น เขาไม่ได้โง่ เขาเป็ นน้องชาย
มารดาเดียวกันกับฝ่ าบาทองค ์ปัจจุบน ั เป็ นอาขององค ์ชายทังหมด้
่ ่ในตําแหน่ งนั้นลว้ นแต่ตอ้ งเคารพเขา ชีวต
ไม่ว่าใครทีอยู ิ ดีๆ ของ
เขาไยจะต้องไปลุยนํ ้าขุ่นนี ด้ ้ วย
“ท่านอ๋อง ท่านต้องสืบให้ดๆี ! นี่ เกียวข
่ ้ องทังหมด
อ้ งกับจวนจินอ๋ ้
้ นใคร เหตุใดจิตใจถึงได้เ**◌้ยม
ของเรา ไม่รู ้เหมือนกันว่าคนผูน้ ี เป็
โหดเพียงนี ”้ พระชายาจินอ๋้ องมองจินอ๋ ้ องอย่างกระตือรือร ้น หางตา
มีประกายกะพริบวาบ

้ องแค่นเสียงหนึ่ งครา สืบเขาต้องสืบแน่ นอน แต่วา่ คราวนี ซ่


จินอ๋ ้ ง
่ ทําไม่เหมาะสมเกินไปจริงๆ ต้องสั่งสอนเสียหน่ อย เขาเหลือบ
ซือก็
ตาขึน้ ชายตามองสาวใช ้ใหญ่สองคนทียื ่ นอยู่ขา้ งๆ ถือโอกาสชี ้
กล่าว “ห้องหนังสือนอกของขา้ ขาดสาวใช ้ปรนนิ บต ั ห
ิ มึกพู่กน
ั สอง
คน เอาเป็ นพวกเจ ้าสองคนแลว้ กัน”

้ ยน
สาวใช ้ใหญ่สองคนนี ได้ ิ ดังนั้นก็เงยหน้าขึนอย่
้ างเหลือเชือ่
ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ นั่นก็คอ ื หวาลู่กบ ่ ง
ั หวาฉังทีส่
้ อนแลว้ ถูกปฏิเสธ
ให้สวีโย่วครังก่
หวาลู่กบ ่
ั หวาฉังเป็ นคนทีพระชายาจิ ้ องตังใจเลื
นอ๋ ้ อกออกมาคิดจะ
่ อนของลูกเลียง
ส่งไปทีเรื ้ หน้าตาและเรือนร่างย่อมต้องดีเลิศ ครัง้
ก่อนส่งออกไปไม่ได้ ในใจหวาลู่กบ ั หวาฉังก็กงั วลเล็กน้อย กลัวว่า
จะถูกพระชายาโมโหตําหนิ ไม่คด ้ านอ๋องจะสั่งให้พวกนาง
ิ ว่าวันนี ท่
ไปปรนนิ บต ั ท ี่ องหนังสือนอก นี่ ก็คอ
ิ ห้ ่
ื โชคทีตกลงจากสวรรค ์


บอกว่าเป็ นสาวใช ้ทีปรนนิ บต
ั หิ มึกพู่กน
ั แต่ใครบา้ งไม่รู ้ว่าปรนนิ บต
ั ิ
หมึกพู่กน ่
ั เป็ นเรืองรอง ปรนนิ บตั ท ่
ิ ่านอ๋องจึงจะเป็ นเรืองจริ ง หาก
ได้รบั ความชอบใจจากท่านอ๋อง สามารถให้กําเนิ ดบุตรได้ เช่นนั้น

ความรํารวยมี เกียรติในภายหลังก็อยู่ไม่ไกลแลว้


ทังสองคนคิ ดถึงตรงนี ้ ในใจก็ตนเต้
ื่ นขึนมา
้ ่
สายตาทีมองจิ ้ องก็
นอ๋

ยิงแรงกล า้ ไม่ปิดบัง
ตอนที่ 226-2 การเคลือนไหวของแต่
่ ละฝ่ าย

พระชายาจินอ๋้ องเองก็ตกใจ ทันใดนั้นสีหน้าก็เหยเก นางไม่คด


ิ ว่า
ท่านอ๋องจะตบหน้านางเช่นนี ้ “ท่านอ๋อง” นางมองออกไป ในดวงตา
มีความร ้องขอ นํ ้าตาเม็ดใหญ่กลิงอยู
้ ่ในดวงตาคู่สวยของนาง แต่
กลับฝื นไม่ยอมให้ไหลลงมา

้ องนึ กถึงเด็กสาวทีถู
จินอ๋ ่ กเขาหักหลังถูกคนอืนส่
่ งไปบําเพ็ญตนที่
อารามชีผน ู ้ ั้นเมือยี
่ สิ่ บกว่าปี ก่อน นางเองก็มองตนด้วยความ
น้อยใจอย่างเช่นวันนี ้ เกือบจะทําให้หวั ใจของเขาอ่อนลง แต่เขาก็
นึ กถึงแววตาทีคล ่ า้ ยยิมคล
้ ิ้
า้ ยไม่ยมของเสด็ จพี่กง จากนั้นจึง
พยายามแข็งใจ “ทําไม พระชายาตัดใจไม่ได้หรือ”

หวาลูก่ บ
ั หวาฉังเองก็ได้สติกลับมาแลว้ เหลือบมองไปทางพระ
ชายาด้วยความหวาดกลัวปราดหนึ่ ง พวกนางเป็ นสาวใช ้ขา้ งกาย
พระชายา ย่อมต้องรู ้วิธก ่
ี ารทีพระชายาใช ้กับอนุ ภรรยาเรือนหลัง

เป็ นอย่างดี แต่หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เทียบความรํารวยมี เกียรติ

ไม่ได้ ทังสองก ้มหน้าคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพระชายาจินอ๋ ้ อง
ใบหน้าของพระชายาจินอ๋ ้ องก็ยงเหยเก
ิ่ ่ั
หญิงชวสองคนนี ้ หญิงชว่ ั

เกลือเป็ นหนอน! พกนางคิดว่าไปห้องหนังสือนอกแลว้ จะเลือนขั ้


ได้ในวันเดียวงันหรื
อ หึ อย่าฝัน

่ านอ๋องถูกใจพวกเจ ้าสองคน นี่ ก็เป็ นวาสนาของพวกเจ ้า


“ในเมือท่

ทังสอง ไปห้องหนังสือนอกรับใช ้ท่านอ๋องให้ดี อย่าให้เสียหน้าขา้ ”
้ องกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
พระชายาจินอ๋

“บ่าวจะจําคําสั่งสอนของพระชายา ไม่ทําให้พระชายาผิดหวังเพ

คะ” ทังสองพากั นแสดงความจงรักภัคดี ทว่าความดีใจในแววตาไม่
ว่าอย่างไรก็เก็บไวไ้ ม่อยู่

นี่ ทําให้พระชายาจินอ๋
้ องยิงแค้
่ นเคือง อยากจะฆ่าเด็กสองคนนี ทั ้ นที

จริงๆ “จําคําพูดทีพวกเจ ้ ดี ลุกขึนเถอะ
้าพูดวันนี ให้ ้ ยังคุกเข่าอยู่
ทําไม กลับไปเก็บของแลว้ ตามท่านอ๋องไปทํางานทีห้ ่ องหนังสือ

นอกเสีย” โบกมือไล่สองคนนี ออกไป
่ นอ๋
เมือจิ ้ องไปแลว้ พระชายาจินอ๋ ้ องก็บน
ั ดาลโทสะอีกครัง้ คนรับใช ้
ทั่วทังเรื
้ อนต่างก็น่ิ งเงียบด้วยความหวาดกลัว

้ าให้อู๋ซอกั
ข่าวๆ นี ทํ ่ื บหูซอที
่ื กํ ่ าลังมาทางนี ตั ้ ดสินใจถอยทัพกลับไป
่ื ารุงครรภ ์อยู่ท่เรื
หูซอบํ ี อนของตน รู ้ข่าวนี ช ้ ้าเล็กน้อย แต่ก็ยงั เร็ว
กว่าพระชายาจินอ๋ ้ อง อู๋ซอรู
่ื ้ข่าวเร็วอย่างยิง่ บา้ นฝั่งแม่นางส่งข่าว
มาบอกนาง


ทังสองคนรู ้แลว้ ก็แสร ้งทําเป็ นไม่รู ้โดยไม่ได้นัดหมาย หนึ่ งคือข่าว
ลือพัวพันไปถึงพ่อสามี พวกนางเป็ นลูกสะใภ้ไม่ควรเปิ ดปาก สอง
คือแผนการก่อกวนเล็กๆ ในใจพวกนาง แม่สามีท่านไม่ใช่แสดงตน
ว่าเป็ นสตรีมค ี ุณธรรมมาโดยตลอดหรอกหรือ เหตุใดถึงยังมีอดีตที่
อัปยศเช่นนี ได้้ เหตุใดถึงยังทําเรืองอดสู
่ เช่นการแย่งสินเดิม
ลูกสะใภ้ได้อก ี แม้ว่าจะเป็ นแม่สามี แต่ก็ไม่เป็ นอุปสรรคต่อจิตใจที่
อยากจะเห็นความสนุ กสนานของพวกนาง มิเช่นนั้นจะพูดกันได้
อย่างไรว่าแม่ยายลูกสะใภ้เป็ นศัตรูกน ั แต่กําเนิ ด
ื่
อู๋ซอกลั บไปถึงเรือนก็อารมณ์ไม่ดีอย่างมาก ท่านย่าฝั่งมารดาของ

นางป่ วย เมือวานนางกลั บจวนอู๋ก๋วกงไปเยี
ั ่ สายตาทีพี
ยม ่ สาว


น้องสาวและพีสะใภ้ ั้
ทงหลายมองนางก็ แปลกประหลาด ท่ามกลาง
ความยินดีบนความทุกข ์ของผูอ้ นยั ื่ งแฝงไปด้วยความเห็นใจรางๆ

เมือสบสายตานางก็ หน ั มองไปทางอืนทั่ นที ทําให้นางอึดอัดยิงนั
่ ก

โดยเฉพาะน้องสาวของนาง คาดไม่ถงึ ว่าถามนางต่อหน้าทุกคนว่า


สินเดิมของนางใช่มอบแสดงความกตัญ�ูให้แม่สามีหมดแลว้
หรือไม่ แต่ไม่ว่านางจะอธิบายอย่างไรก็ไม่มใี ครเชือ่


เดิมพีสาวน้ ้
องสาวทังหมดในบ า้ นก็มน ่ งงานดีทสุ
ี างทีแต่ ี่ ด เป็ นคนที่
พวกนางอิจฉาตาร ้อน นางเคยมีความสุขกับเกียรติยศนี อย่ ้ างยิง่
แต่วน ้ สาวน้
ั นี พี ่ ่
องสาวของนางทีเคยอิ จฉาตาร ้อนเหล่านั้นกลับมี
ความสุขบนความทุกข ์ของผูอ้ น ื่ ไม่ก็ส่งสายตาเห็นอกเห็นใจมอง
นาง ราวกับกําลังบอกว่า ‘แต่งงานกับตระกูลสูงแลว้ อย่างไร ไม่ใช่
ว่าต้องถูกแม่สามีกลั่นแกลง้ แม้แต่สินเดิมของตนยังปกป้ องไวไ้ ม่ได้
หรอกหรือ’ จะไม่ทําให้นางอัดอันได้้ อย่างไร
่ งหมดนี
ส่วนคนต้นเรืองทั ้ ้ คอ
ก็ ื พระชายาจินอ๋้ องแม่สามีของนาง แม่
สามีเอาสินเดิมของสะใภ้ใหญ่ส่งเป็ นของขวัญจึงทําให้เกิดเรือง ่ นี่
ื่
ทําให้ในใจอู๋ซอเหยี ยดหยามการกระทําของแม่สามีอย่างถึงทีสุ ่ ด
สินเดิมของสตรีทไหนบ ี่ า้ งไม่ใช่ทรัพย ์สินส่วนตัวของตน แม้แต่สามี
ยังไม่มส
ี ท ์
ิ ธิแตะ ้
แม่เลียงสามี เช่นท่านกลับเอาสินเดิมของลูกสะใภ้
ใครจะยังกลา้ ให้บุตรสาวแต่งเขา้ มาในจวนจินอ๋ ้ องอีก

สินเดิมของสะใภ้ใหญ่เจ ้าจะเอาก็เอาไป เก็บไวใ้ นคลังส่วนตัวของ


ตนก็ได้แลว้ เจ ้าดันเอาไปส่งเป็ นของขวัญ นี่ ไม่ใช่เป็ นการหาเรือง

ใส่ตวั อย่างชดั เจนหรือ

ื่ ชอบแม่สามีผน
อู๋ซอไม่ ้ างถึงทีสุ
ู ้ ี อย่ ่ ด แต่กลับอับจนหนทาง ใครให้
นางแต่งงานกับสามีผเู ้ ป็ นลูกชายคนโตของแม่สามีเล่า

ื่ งตั่งนอนโมโหโกรธา เมือรู
อู๋ซอพิ ่ ้ว่าลูกสาวสองคนวิงเข
่ า้ มาเรียก

ท่านแม่ดว้ ยเสียงเจือยแจ ้
้วจึงเผยรอยยิมออกมา ้
มองลูกสาวทังสอง
่ อนนุ่ มราวกับไข่มุก ความไม่พอใจต่อแม่สามีในใจอู๋ซอก็
ทีอ่ ื่
่ นอี
เพิมขึ ้ กขัน้
ลูกสาวของนางน่ ารักเช่นนี ้ ทังรู
้ ้ประสาทังเชื
้ อฟั่ ง แต่แม่สามีกลับไม่
้ นพรําเพ
ชอบ วันทังวั ่ อ้ ถึงแต่หลานชาย หลานชาย ท้องนั้นของ
น้องสะใภ้สามยังดูไม่ออกว่าท้องนางก็ดูแลประหนึ่ งไข่หงส ์แลว้
เหอะ ขา้ จะคอยดูว่าถึงตอนนั้นจะคลอดอะไรออกมาได้ หากเป็ น
บุตรสาวเหมือนกันเช่นนั้นก็คงมีความสุขยิงนั่ ก

ฝั่งหูซอแม้
ื่ ว่าจะไม่อด ้
ั อันใจเหมื อนเช่นอู๋ซอื่ แต่ฮูหยินไหวเซียงโหว
แม่นางก็มากระซิบกระซาบสั่งสอนนางถึงบา้ น ให้นางตังใจดู ้ แลสิน
เดิมให้ดี


การเคลือนไหวของข่ าวลือวุ่นวายจนใหญ่โตเช่นนี ้ จวนจงอู่โหวที่
เป็ นบา้ นฝั่งมารดาของเสินเวย

ย่อมไม่อาจนิ่ งดูดายได้ ไม่เห็นหรือว่า เขามาหนุ นหลังบุตรสาวถึง


บา้ นแลว้

คนทีมาไม่ ่ อ่ แต่เป็ นนายท่านผูเ้ ฒ่าเสินโหวท่
ใช่ฮูหยินสวีซื ่ านปู่

ของเสินเวย เขาไม่ได้ไปหาพระชายาจินอ๋ ้ อง แต่เขาส่งเทียบเชิญ
่ อของจินอ๋
ไปทีมื ้ องโดยตรง อ้าปากก็ถาม “ท่านอ๋อง ใช่ค่าใช ้จ่าย
ของจวนอ๋องไม่พอใช่หรือไม่!” ทําเอาจินอ๋ ้ องอับอาย อยากจะ
แทรกแผ่นดินหนี อย่างยิง่

อย่ามองว่าจินอ๋ ้ องเป็ นท่านอ๋อง เมือเขาอยู


่ ่ต่อหน้านายท่านผูเ้ ฒ่า

เสินโหวผู ่ ไม่น่าเกรงขามอย่างยิงจริ
ป้ ราดเปรืองก็ ่ งๆ ท่าทีของนาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวดียงนั ิ่ ก บนใบหน้ามีรอยยิมที ้ เป็
่ นมิตรตังแต่
้ ตน ้ จน
จบ แต่คําพูดทีพู ่ ดออกมากลับสามารถทําให้คนสําลักตายได้ บา้ ง

ก็ว่า ‘เจ ้าสีของพวกเราไม่ รู ้ประสา จะให้แม่สามีเอ่ยปากขอได้
อย่างไร ควรมอบให้ดว้ ยตัวเองจึงจะแสดงความกตัญ�ูได้’ บา้ งก็
ว่า ‘ท่านอ๋อง พวกเราก็เป็ นญาติกน ั แลว้ หากจวนอ๋องมีปัญหาท่าน
ก็เอ่ยปากได้ไม่ตอ้ งเกรงใจ ขา้ ยังมีทองสอง**บทีฝ่่ าบาท
พระราชทานให้ยงั ไม่ได้แตะ’ …

้ องอยากจะคุกเข่าให้นายท่านผูเ้ ฒ่าเสินโหวยิ
จินอ๋ ่ ่ ก ขอเพียงแค่
งนั

ให้เขาหยุดพูด ส่งนายท่านผูเ้ ฒ่าเสินโหวไปแล ้ องก็วงไป
ว้ จินอ๋ ิ่
บันดาลโทสะอย่างรุนแรงทีเรื่ อนของพระชายาจินอ๋
้ องอีกครัง้ คืน
นั้นก็ใช ้หาวลู่หวาฉังสองคน

พระชายาจินอ๋้ องทีได้
่ ข่าวแลว้ ก็โมโหอย่างเลียงไม่
่ ้ น
ได้ มิหนํ าซําเสิ ่

เวยยังวิงมาสร ้างความรําคาญใจเพิม ่ ทังขอโทษ
้ ้ านึ กผิด ปาด
ทังสํ
นํ ้าตาสาบานด้วยความบริสุทธิใจ ์ บอกว่าไม่ใช่นางทีปล่
่ อยข่าวใน
่ ท่านปู่ มาบา้ นจริงๆ
บา้ นจริงๆ ไม่ใช่นางทีให้

้ องอัดอัน
ในใจพระชายาจินอ๋ ้ แต่จําใจต้องเค้นรอยยิมออกมาปลอบ


นาง อัดอันจนแม้แต่ความคิดอยากตายนางก็มีแลว้

การทํางานของแม่นมซือกับหวาเยียนมีประสิทธิภาพสูงอย่างยิง่ ไม่
นานนักก็สบ
ื ได้ว่าข่าวลือออกมาจากครัวใหญ่ หญิงชรารับใช ้แซ่ห
่ นคนพูดคนแรก
ลีเป็
ยายหลีถู่ กพามาตรงหน้าพระชายาจินอ๋ ้ องก็รู ้สึกได้รบั ความไม่เป็ น
ธรรม “พระชายาโปรดไวช ิ ! ไม่มใี ครสั่งบ่าว บ่าวเพียงแค่ออก
้ วี ต
้ กก็ได้ยน
จากเรือนไปซือผั ิ คําไม่กคํ ่ี า จึงเล่าให้ทุกคนฟัง เป็ นบ่าวที่
ปากไม่ดี พระชายา บ่าวไม่กลา้ อีกแลว้ ท่านไวช ้ วี ต ้ ได้
ิ บ่าวครังนี ้
หรือไม่” นางร ้องห่มร ้องไห้พยายามตีปากตัวเอง

้ องใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตามีประกายเลือนรางแวบ
พระชายาจินอ๋
ผ่าน โบกมือ “ลากออกไป ลากออกไป บ่าวขีนิ้ นทาเช่นนี จะเก็
้ บไว ้
้ ย” คําพูดหนึ่ งประโยคทีเรี
ทําอะไร ขายทิงเสี ่ ยบง่ายก็ตด
ั สินชะตา
ชีวต ่ ว้
ิ ของยายหลีแล

พระชายาจินอ๋ ้ องก่ายหน้าผาก รู ้สึกวา้ วุ่นใจนิ่ งนัก อดคิดไม่ได้ ใช่


นางมีดวงไม่สมพงกับเสินซื ่ อหรื
่ อไม่ มิเช่นนั้นเหตุใดตังแต่้ วน ่
ั ทีนาง
่ ่นวายโกลาหล ไม่มส
เขา้ จวนมาก็มแี ต่เรืองวุ ี ก ่
ั วันทีสบายใจ อืม
ต้องไปหาพระอาจารย ์เสียหน่ อยแลว้ นางคิดคํานวณเงียบๆ ในใจ
่ งเรืองที
อันทีจริ ่ นางเป็
่ ่ ดยังคงเป็ นเรืองแต่
นกังวลทีสุ ่ งงานกับจวน
เสนาบดีฉิน
ก่อนข่าวลือจะแพร่ออกไป พวกเขาสองตระกูลก็นับได้ว่าตกลงกัน
้ มควรเป็ นวันดูดวงสมพงษ์คู่หมัน
เรียบร ้อยแลว้ วันนี เดิ ้ ทว่าจวน
เสนาบดีฉินสั่งคนมามาเลือนวั
่ ่
น ไม่รู ้ว่าเลือนวั ้ จะเป็
นครังนี ้ นการ

เลือนจริ งๆ หรือว่ายกเลิกการสมรสเสียเลย เพื่อการสมรสครังนี ้ ้
้ อนทังหลั
แลว้ ทังก่ ้ งนางทุ่มเทแรงกายแรงใจไปมากเพียงใด หากไม่
สําเร็จ เฮอ้ นางทุบขา มีความรู ้สึกเหมือนโยนหินใส่เท้าตัวเองอยู่
เสมอ

้ องนางกลับไม่เป็ นกังวล นางใช ้ชีวต


สําหรับจินอ๋ ิ ร่วมกับเขามา
หลายปี เพียงนั้น รู ้นิ สยั เขาเป็ นอย่างดี เขาโมโหเพียงเพราะอับอาย
ก็เท่านั้นเอง อันทีจริ
่ งเขาเป็ นคนหูเบา รอให้ผ่านไปหลายวันเขา
หายโกรธแลว้ ตนค่อยพูดจาหวานๆ หว่านลอ้ มเขาสองสาม
ประโยคก็ไม่เป็ นไรแลว้

่ั
หวาลู่หวาฉังเด็กชวสองคนนั ้น เชือฟั
่ งก็พอแลว้ หากไม่เชือฟั
่ ง

เหอะ ทีนางมีคอื วิธจี ดั การพวกนางให้ตาย ในบ่อนํ ้าเรือนหลัง
ตระกูลใดบา้ งไม่มผี อ ี าฆาต
องค ์ชายรองสวีอวีหน้้ านิ่ งนั่งอยู่ในห้องหนังสือของเสนาบดีฉินท่าน
ตาของเขา “ท่านตาท่านว่าตัวการเบืองหลั ้ ้ อใคร” เดิม
งข่าวลือนี คื
ตระกูลฝั่งมารดากับจวนจินอ๋ ้ องจะแต่งงานเชือมความสั
่ มพันธ ์เขาดี
ใจอย่างยิง่ ไม่คด ่ ยวกั
ิ ว่าจู่ๆ ข่าวลือทีเกี ่ ้ องจะลือกันไปทั่ว
บจวนจินอ๋

แม้จะไม่ได้เอ่ยถึงเขาโดยตรง แต่แววตาคลุมเครือทีมองมาทางเขา
เหล่านั้นก็ยงั คงทําให้เขากระวนกระวายใจ

ท่านเสนาบดีฉินมององค ์ชายรองปราดหนึ่ ง กล่าวช ้าๆ “สืบออกมา



ว่าเป็ นใครบงการแลว้ มีเจตนาใดงันหรือ องค ์ชายรองควรจะมอง
การณ์ไกลกว่านี ”้ ท่าทางผ่อนคลายนั้นไม่สนใจข่าวลืออย่าง
้ ง “ห้ามปากประชาชนยิงกว่
สินเชิ ่ าห้ามสายนํ ้า ปล่อยพวกเขาพูด
ไป พูดจนพอพูดจนเบือย่ ่ อมต้องไม่พูดต่อเอง”

“แต่คนพูดมากเขา้ ก็ทําลายลา้ งได้!” องค ์ชายรองยังคงไม่วางใจ


เล็กน้อย

เสนาบดีฉินลูบหนวดยิม้ “เกียวอะไรกั
่ ่ อเสี
บพวกเราเล่า คนทีชื่ ยง
้ อง คือจิน้
ถูกทําลายคือจวนจินอ๋
้ อง ไม่แน่ ว่านี่ อาจจะเป็ นเรืองดี
พระชายากับจินอ๋ ่ เมืออิ
่ งเอ๋อร ์แต่งเขา้
ไป”

้ งดําเนิ นต่อ
องค ์ชายรองตกใจเล็กน้อย “ท่านตา การสมรสนี ยั
หรือ”

“แน่ นอน สองตระกูลตกลงกันแลว้ เหตุใดจะไม่ทําต่อเล่า จวน


เสนาบดีไม่ใช่คนไม่รกั ษาคําพูด” ท่านเสนาบดีฉินเลิกคิว้ “จวนจิ ้
นอ๋องไม่ทําให้องิ เอ๋อร ์เสียหน้าหรอก” เขากล่าวอย่างแฝงความนัย

องค ์ชายรองใคร่ครวญอยู่ครูห ่ นึ่ ง จากนั้นก็ยมแล


ิ ้ ว้ กล่าวกับท่าน
เสนาบดีฉินด้วยความจริงใจ “ยังคงเป็ นท่านตาทีรอบคอบ ่ มิน่าเล่า
เสด็จแม่ถงึ ให้ลูกมาเรียนรู ้จากท่านเยอะๆ”
ท่านเสนาบดีฉินยิมอี ้ กครัง้ ใบหน้าเมตตาสิบสองส่วน “องค ์ชาย
้ ไม่เลวอย่างยิงแล
รองอายุเท่านี ก็ ่ ว้ เก่งกว่าน้าเจ ้าเสียอีก”

เขามองหลานชายทีสง่่ าผ่าเผยผูน้ ี ้ กล่าวในใจ จะต้องไม่เสียดายที่


้ ่ ่ งสูงนั่น ตระกูลฉิ นเองก็จะได้รารวยไปอี
จะส่งเขาขึนไปบนที
นั ํ่ ก
หลายสิบปี

ส่งองค ์ชายรองไปแลว้ ท่านเสนาบดีฉินก็หลุบตายิมเยาะ ้ ่


คนอืนไม่
ื ของคุณหนู สี่
รู ้ว่าข่าวลือเป็ นมาอย่างไร แต่เขากลับรู ้ดี ไม่ใช่ฝีมอ
่ เข
แซ่เสินที ่ า้ มาสืบจวนเสนาบดียามดึกจยาฮุ่ยจวินจู ้ ่ทฝ่ี่ าบาท
พระราชทานบรรดาศักดิให้ ์ หรอกหรือ เด็กคนนั้นยอมเสียเปรียบ
ไม่ได้ พระชายาจินอ๋ ้ องรนหาทีตายเอาสิ
่ นเดิมของนางไป นางไม่
ตอบแทนสักหน่ อยสิแปลก

้ ้ ไม่ว่าอย่างไรตนก็ไม่
แต่ว่านางคิดจะขัดขวางการแต่งงานครังนี
อาจทําให้นางสมปรารถนาได้เช่นกัน
ตอนที่ 227-1 เก็บหน้าตายของท่านหน่ อย

่ าวลือโด่งดัง ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงในวังก็มค


เมือข่ ี วามสุขแลว้ ดูสิ
่ ถูกชะตากับซ่งซือไม่
คนทีไม่ ่ ได้มีนางเพียงคนเดียว นางไม่ตอ้ งออก
มือก็มคี นแย่งนางจัดการแลว้ ทุกวันนางส่งขันทีในวังออกจากวังไป
สืบข่าว ข่าวลือหนึ่ งวันหนึ่ งฉบับ ทุกวันฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงก็ยม
ิ้
แย้มดีใจ โดยเฉพาะเมือเห็่ นใบหน้าทีดํ ่ าครําเครี
่ ยดใบนั้นของซูเฟย
อาหารคํ่านางก็ทานเพิมอี ่ กหนึ่ งถ้วย


อาศัยโชคดีของข่าวลือ เสินเวยถู กฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงเรียกเขา้
้ ว้ ครังแรกกุ
วังสองครังแล ้ ้ยกูกูมานางยังจับต้นชนปลายไม่ถูก

ไม่ใช่เพิงจะน้ อมสํานึ กพระมหากรุณาธิคุณหรือ สําหรับขอ้ อ้างที่
ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงอยากพบนางนางไม่เชืออย่ ่ ้ ง ยังคง
างสินเชิ
่ ดกับนางด้วยความสุขม
เป็ นสวีโย่วทีพู ุ “เจ ้าไปก็พอแลว้ ”


สําหรับสวีโย่ว เสินเวยยั ่
งคงเชือใจอย่ างยิง่
่ งตําหนักคุนหนิ งแลว้ ท่าทีของฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงก็
เมือถึ
่ ก ชมนางตังแต่
กระตือรือร ้นยิงนั ้ ศรี ษะจรดปลายเท้ารอบหนึ่ ง ทํา

เอาคนหน้าหนาเช่นเสินเวยยั งรู ้สึกเขินอาย

หลังจากนั้นฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงก็เปลียนเรื


่ อง่ มองนางด้วยความ
สงสาร ถามไถ่ชวี ต
ิ ในจวนอ๋องของนาง บอกเป็ นนัยว่าหากได้รบั
ความไม่เป็ นธรรมใดๆ นางสามารถช่วยนางได้


เสินเวยรี
บลุกขึนด้ ้ วยความประหลาดใจบอกว่านางอยู่ในจวนอ๋อง
ทุกอย่างลว้ นดี พ่อแม่สามีรกั ใคร่ น้องสะใภ้รกั กันฉันมิตร สามี
เคารพ บ่าวชนล่ ั้ างก็ปฏิบต
ั ต ่
ิ ามกฎ ขอบคุณฝ่ าบาททีพระราชทาน
การสมรสทีดี ่ เช่นนี ให้
้ นาง


ท่าทางของสตรีอายุนอ้ ยทีกระวนกระวายใจนั ้นฮองเฮาเหนี ยง
เหนี ยงเห็นแลว้ ก็ยงั รู ้สึกไม่สบายใจ กล่าวในใจ นี่ คือคนจริงใจทีใส

่ สุทธิ ์
ซือบริ

ในเมือบอกเป็ นนัยไม่ได้ผล เช่นนั้นก็บอกตรงๆ แลว้ กัน ฮองเฮา
เหนี ยงเหนี ยงเอ่ยถึงข่าวลือในเมืองหลวงต่อ ถามนางว่าภาพวาด
ตกปลาใต้จน ั ทราภาพนั้นเกิดอะไรขึน้


เสินเวยย่ อมพูดความจริง นางบอกว่าภาพผืนนั้นเป็ นนางมอบให้

แม่สามีดว้ ยตัวเอง อีกทังภาพผื นนั้นยังเป็ นของปลอมจริงๆ

ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงไหนเลยจะเชือ่ ปี น้นใครบ


ั า้ งไม่รู ้ว่าผลงาน
ภาพวาดชือดั ่ งของจางเต้าจือในรั
่ ชสมัยก่อนถูกแม่ทพ ั ใหญ่หร่วน
ส่งเป็ นสินเดิมให้ลูกสาว และผูจ้ ด
ั การใหญ่เรือนเจียนเป่ ้ าก็
ตรวจสอบด้วยตาตัวเองว่าเป็ นของแท้ เหตุใดจู่ๆ ถึงกลายเป็ นของ
ปลอมได้เล่า เด็กโง่คนนี ้ คนอืนหลอกเจ
่ ้าก็ยงั ไม่รู ้

ิ่ เหตุผลอย่างยิง่ คนมีอุบาย
สําหรับการมอบให้ดว้ ยตัวเองก็ยงมี
เช่นนั้นอย่างซ่งซือไหนเลยจะขอสิ
่ ่
งของกั
บนางตรงๆ พูดอ้อมค้อม
่ นลูกสะใภ้เช่นเจ ้าก็ตอ้ งถวายให้เอง
บอกเป็ นนัยเล็กน้อย คนทีเป็
่ งมิใช่หรือ
อย่างเชือฟั
ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงถุยนํ ้าลายใส่พระชายาจินอ๋ ้ องซ่งซือครั
่ งหนึ
้ ่ง
่ ้สึกว่าจยาฮุ่ยจวินจู
ในใจ ยิงรู ้ ่ผน ้ นคนโง่ สายตาทีมองนางก็
ู ้ ี เป็ ่ ยง่ิ

อ่อนโยน ตอนทีลายั งใจปํ ้ าให้บําเหน็ จจํานวนมาก


เสินเวยนํ าบําเหน็ จของฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงกลับจวนจินอ๋ ้ อง

สายตาทีคนรั บใช ้ในจวนมองนางก็ไม่เหมือนเดิมในชวขณะ ่ั ดูท่า
แลว้ ฮูหยินใหญ่ผูน ้
้ ี จะเข า้ ตาฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงแลว้ หลังจากนี ้
ใครจะกลา้ ดูแคลนอีก

ื่ บหูซอก็
แม้แต่อู๋ซอกั ่ื ยงั คับแค้นใจ นางทังสองเข
้ า้ จวนมาก่อน แต่
ไม่เคยเห็ นฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงเรียกไปเขา้ เฝ้ าเลยสักครัง้ ยิงไม่

ต้องเอ่ยถึงบําเหน็ จ

้ สองฮองเฮาเหนี
ครังที ่ ่
ยงเหนี ยงเรียกพบอีกเสินเวยก็ มป
ี ระสบการณ์
มากขึนแล ้ ว้ อย่างไรเสียนางก็เพียงแค่แสดงท่าทางสตรีอายุนอ้ ย
ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงถามอะไรก็ตอบไปตามตรงก็ได้แลว้ หากว่า
ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงถามถึงพระชายาจินอ๋ ้ อง นางเพียงแค่ยมก็
ิ ้ พอ

หากเลียงไม่ ได้จริงๆ ก็พูดถึงแม่สามีดีๆ ทํานองว่าใจกวา้ งเมตตา
ปฏิบต
ั ต
ิ ่อนางดี

แม้ในใจฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงจะไม่สบายใจ แต่กลับไม่อาจพาล


่ นเวยได้
โมโหลงทีเสิ ่ เพียงแค่คด ่
ิ ว่าซ่งซือใช ้อุบายสูงหลอกจยาฮุ่ย
้ ่ เช่นนี ก็
จวินจู ้ ดี นิ สยั เช่นนี จึ
้ งจะผูกมิตรง่าย


เสินเวยนํ าเงินบําเหน็ จจํานวนมากของฮองเฮาเหนี ยงกลับจวนอีก
ครัง้ ในใจก็ม่นใจแล
ั ว้ ว่าฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงไม่ถูกกับพระชายาจิ ้
นอ๋อง เดิมหลักการศัตรูของศัตรูก็คอ ่ เสินเวยรู
ื เพือน ่ ้สึกว่าฮองเฮา
่ งนี
เหนี ยงเหนี ยงทีพึ ่ ยั้ งคงต้องเล่นละครตบตาต่อไป แม้ว่าจะเห็นแก่
บําเหน็ จก็ตาม


เสินเวยถู กฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงเรียกพบสองครัง้ อีกทังยั
้ งได้
้ องทีเดิ
บําเหน็ จมาไม่นอ้ ย พระชายาจินอ๋ ่ มหงุ ดหงิดอยู่แลว้ ก็ยงไม่
ิ่

พอใจ เมือไรกั ่ นซื
นทีเสิ ่ อผู
่ น้ ี ตามราวี
้ อยูใ่ นจวนเงียบๆ ไม่ได้หรือไร
ฐานะเดิมไม่ดก ้
ี ็สายตาสันหลงใหลในเกี ยรติยศอันจอมปลอม

่ ยินคนรับใช ้ในจวนเอ่ยด้วยความอิจฉาว่าฮูหยินได้รบั ความ


เมือได้
โปรดปรานจากฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยง ได้บําเหน็ จมากน้อยเพียงใด
้ กในใจพระชายาจินอ๋
ไฟโกรธเบืองลึ ้ องก็เก็บไวไ้ ม่อยู่อก
ี ต่อไป
กระทั่งหน้ามืดใช ้อุบาย ลดเงินเดือนของเรือนลูกเลียงเสี
้ ยเลย


เสินเวยเห็ ่ งมา ก็ลูบจมูกหัวเราะ เถาจือทีไป
นกับขา้ วหร็อมแหร็มทีส่ ่
นํ าอาหารมาโมโหแทบตายอยู่แลว้ “ฮูหยินท่านยังหัวเราะอยู่อก ี
พวกนางกลั่นแกลง้ คนเกินไปแลว้ ”


เมือวานนางไปรั ่ วใหญ่ คนของครัวใหญ่ยงั
บอาหารทีครั
่ บห่านให้นางหนึ่ งจาน ใครจะรู ้วันนี ไปอี
กระตือรือร ้น เพิมตั ้ กใบหน้า
ฝี ปากนั้นกลับเปลียนแล
่ ้
ว้ ชีลวกๆ อย่างไม่แยแส “นั่น อาหารของ
คุณชายใหญ่กบ ั ฮูหยินใหญ่อยู่ตรงนั้น”
เถาจือมองดู กับขา้ วธรรมดาสีอย่ ่ าง ลว้ นแต่เป็ นผัก ไม่มน
ี ํ ้าแกง
แม้แต่ถว้ ยเดียว ปกติสาวใช ้ใหญ่หลายคนเช่นพวกนางยังกินดีกว่า
นี ้ สีหน้าของนางก็ไม่ดท ี น ่ งเขา้ มา นางจึงยก
ั ที คิดว่าฮูหยินเพิงแต่

ยิมถามหนึ ่ งประโยค “ใช่เขา้ ใจผิดแลว้ หรือไม่” ดวงตาจ ้องมอง
อาหารชนดี ั้ เต็มโต๊ะอีกฝั่งหนึ่ ง

แม่บา้ นหม่าในครัวชายตามองปราดหนึ่ ง กล่าวด้วยนํ ้าเสียงแปลก


ประหลาด “แม่นางเถาจือไม่ตอ้ งมองหรอก ไม่ผด ิ อาหารของ
คุณชายใหญ่กบ ั ฮูหยินใหญ่ก็คอ ื ชุดนี ้ เจ ้าเองก็รู ้ ช่วงนี แห้
้ งแลง้

เก็บเงินไวห้ มดซืออะไรไม่ ได้ ทําอาหารเหล่านี ได้ ้ ก็ไม่ง่ายอย่างยิง่
แลว้ คุณชายใหญ่กบ ั ฮูหยินใหญ่เป็ นคนมีเหตุผลเพียงนั้น จะต้อง
เห็นใจความลําบากของบ่าวเช่นพวกเราแน่ นอน”

้ งแลง้ แต่ก็ไม่ถงึ ขันต้


เถาจือโมโหแทบแย่ ช่วงนี แห้ ้ องเก็บเงินจนซือ้
่ บา้ นหม่าว่า! นี่ มันเจตนาชดั ๆ
อะไรไม่ได้อย่างทีแม่
“เช่นนั้นอาหารเหล่านี เล่
้ า อย่าบอกว่าเป็ นเงินเดือนของพวกท่าน

แม่บา้ นหม่า” เถาจือชีอาหารช ั้ บนโต๊ะอีกฝั่งหนึ่ งแลว้ ถามอย่าง
นดี
เย็นชา

แม่บา้ นผูน้ ั้นหัวเราะเยาะเหยียดหยาม กล่าวอย่างไม่สนใจ “ดูแม่


นางเถาจือพูดเขา้ อาหารเหล่านี ย่้ อมต้องเป็ นเงินเดือนของพระ
ชายา คุณชายใหญ่กบ ั ฮูหยินใหญ่เป็ นชนรุน
่ หลังไม่อาจแย่งผู ้
อาวุโสมิใช่หรือ”

“คุณชายใหญ่กบ ั ฮูหยินใหญ่ของพวกเราย่อมกตัญ�ูต่อท่านอ๋อง
พระชายา เพียงแต่ท่านอ๋องกับพระชายาเพียงแค่สองคน จะทาน

อาหารทีเยอะเพี ้
ยงนี หมดได้ อย่างไร” เถาจือถามกลับ แม่บา้ นหม่า
้ นชดั ๆ ว่าหาขอ้ อ้างมาปฏิเสธ ท่านอ๋องพระชายาเป็ นผูอ้ าวุโส
ผูน้ ี เห็
อะไร คาดว่านายทังจวนต่ ้ างก็กนิ อาหารอันโอชะ กลั่นแกลง้ แต่
เรือนของพวกนางมากกว่ากระมัง

้ ่ “นี่ ไม่ใช่ว่ายังมีฮูหยินซือจื
แม่บา้ นหม่ากลอกตาทังคู ่ อกั
่ บฮูหยิ
่ อมี
นสามอีกหรือ ฮูหยินซือจื ่ คุณหนู อายุนอ ้ ยสองคน ฮูหยินสาม

ตังครรภ ้ ไม่
์ อาหารมือนี ้ ว่าอย่างไรก็ตอ้ งละเอียดหน่ อยมิใช่หรือ ขา้
คิดว่าฮูหยินใหญ่คงไม่ถงึ กับแย่งอาหารของหลานสาวกับหญิง

ตังครรภ ์หรอกกระมัง”

เถาจือโมโหจนตัวสั่นไปทั่วทังร่
้ าง ตังใจแกล
้ ง้ เรือนพวกนางจริงๆ

ด้วย ฮูหยินเพิงจะแต่ งเขา้ มาได้ไม่กวั่ี นก็ถูกยํ่ายีเช่นนี แล
้ ว้ หรือ
เถาจืออยากจะตบหน้าแม่บา้ นหม่าสักฉาดจริงๆ ทนแลว้ ทนอีกจึง
ควบคุมตัวเองไวไ้ ด้ เพราะนางรู ้ว่าแม่บา้ นหม่าเป็ นเพียงแม่บา้ นใน
ครัวใหญ่คนหนึ่ ง ให้ความกลา้ มหาศาลแก่นางก็ไม่กลา้ เหยียด
หยามนาย ขา้ งหลังนางจะต้องมีคนหนุ นหลังแน่ นอน คนผูน้ ี เป็ ้ น
ใครในใจเถาจือย่อมรู ้ดี

เพราะว่ารู ้ดีนางจึงอดทนไม่กอ ่ แม้ฮูหยินจะบอกว่าขอเพียงแค่


่ เรือง
่ แต่อย่างไรเสียนั่นก็คอ
มีเหตุผลก็ไม่ตอ้ งกลัวจะก่อเรือง ื แม่สามีของ
ฮูหยิน!
ี่
“ได้ แม่บา้ นหม่าพูดเองนะ” เถาจือวางกับขา้ วจืดชืดไม่กจานนั ้น
เขา้ ไปในถาดแลว้ ถือออกไปอย่างรวดเร็ว นางกลัวว่าอยู่ต่อไปนาง
จะอดทําลายครัวใหญ่ไม่ได้

“ฮูหยิน ท่านไม่เห็นสีหน้าฝี ปากของคนใช ้กลุ่มนั้น นายทังจวนมี



แต่เรือนพวกเราทีถู่ กลดเงินเดือน เห็นชดั ๆ ว่ากลั่นแกลง้ ท่าน บ่าว
บ่าวอดโมโหไม่ได้” เถาจือยังคงฉุ นเฉี ยว


เสินเวยมองสวี ้ านเป็ นบา้ อะไรขึนมา
โย่วอย่างอดไม่ได้ “แม่เลียงท่ ้
้ เหมือนขา้ ไม่ได้หาเรืองนางนี
ช่วงนี ดู ่ ่ ” ทันใดนั้นก็กล่าวอย่างคลา้ ย

นึ กอะไรขึนได้ “หรือว่าฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงเรียกขา้ เขา้ วังเลยขัด
ตานาง”


เห็นสวีโย่วพยักหน้า เสินเวยก็ อดก่ายหน้าผากไม่ได้ “ใจแคบ
เกินไปแลว้ !” อุบายแค่นี้ อนุ ภรรยาเหล่านั้นทีเรื
่ อนหลังจวนจินอ๋
้ อง
ก็ไร ้ประโยชน์เกินไปหน่ อยแลว้ กระมัง
ทั่วทังร่
้ างสวีโย่วถูกความเย็นเยียบแผ่ซา่ น ถือถาดอาหารกําลังจะ

เดินออกไปขา้ งนอก เสินเวยรี บเรียกเขาไว ้ “เดี๋ยวๆๆ ท่านจะไป
ไหน”

สวีโย่วชะงักฝี เท้า แต่ไม่หน ้


ั หน้ากลับมา “เอาอาหารนี ไปมอบให้

เสด็จพ่อทาน” เขารู ้สึกว่าบนใบหน้าร ้อนผ่าว เพิงจะพู ดไปว่าจะทํา
ให้เวยเวยมีชวี ต ่
ิ ทีสงบสุ ้ บถูกตบหน้าแลว้
ข วันนี กลั

่ ้
“กลับมา กลับมา” เสินเวยจนใจทั
งใบหน้ ิ ่านใจร ้อนแบบนี ้
า “ดูสท
ต้องแก ้”


สวีโย่วไม่ขยับ เสินเวยทํ าได้เพียงก ้าวเขา้ ไปดึงเขากลับมา แย่ง
ถาดอาหารในมือเขามาวางไวบ้ นโต๊ะ “ท่านเอาแต่จะไปทะเลาะกับ
เสด็จพ่อไม่ได้ แสดงความกตัญ�ูไม่ได้มเี พียงวิธน ี ี วิ้ ธเี ดียว”
่ นเล่า ให้นางพาคนสองคนออกจวนไปเลือกซือวั
“พีเฉิ ้ ตถุดบ ิ แม่
นมมั่ว เจ ้าไปสั่งอาหารดีๆ สีชุ
่ ดทีเหลาสุ
่ ราด้วยตัวเอง หากมีคน
ถามก็บอกว่าจวนจินอ๋ ้ องลดค่าใช ้จ่าย ขา้ ฮูหยินเป็ นห่วงผูอ้ าวุโส
สงสารหลานสาวอายุนอ้ ยกับน้องสะใภ้สามทีตั ่ งครรภ
้ ์อยู่ ควักเงิน

สินเดิมมาจ่ายเอง” เสินเวยขึ ้ ยงสั่ง
นเสี


สวีโย่วเขา้ ใจเจตนาของนางทันที คิวขมวดมุ ่น “เหตุใดถึงไม่ส่งอี
ั ก
ชุดเล่า” เขาชายตามองถาดอาหารบนโต๊ะ บนใบหน้าเต็มไปด้วย
ความรังเกียจ


เสินเวยกล่ าว “ท่านคงไม่คด ้
ิ ว่าขา้ จะกินของพวกนี หรอกกระมัง
ไม่ใช่ว่าสั่งไวส้ ชุ
ี่ ดแลว้ หรือ พอให้เรือนของพวกเรากินได้พอดี
ส่วนเรือนอืนๆ่ เลือกกับขา้ วอย่างสองอย่างส่งไปเป็ นพิธก ี ็พอแลว้ ”
ใครจะโง่ส่งไปจริงๆ เล่า


ใบหน้าทีเฉยชาของสวี โย่วกระตุกเล็กน้อย ใช่แลว้ เขาลืมไปได้
้ ยอมเสียเปรียบทีสุ
อย่างไรว่าเด็กคนนี ไม่ ่ ด หลังจากนั้นก็ได้ยน ่
ิ เสิน
เวยกล่าวต่อ “คุณชายใหญ่ ตอนทีข ่ า้ กลับจวนโหวแรกๆ ก็เจอ

เรืองแบบนี ้ อนกัน รู ้หรือไม่ว่าขา้ จัดการอย่างไร ดวงตาของนาง
เหมื
เต็มไปด้วยความเจ ้าเล่ห ์ “ขา้ พังครัวใหญ่ บ่ายวันนั้นนายทังหมด

ในจวนจงอู่โหวไม่ได้กน ้ า้ ไม่ได้คด
ิ ขา้ วตรงเวลา แต่ว่าคราวนี ข ิ จะ
พังครัวใหญ่ ขา้ คิดว่าให้พระชายาจัดการด้วยตัวเองตรงกับเจตนา
ของขา้ มากกว่า”

่ งมาถึงหน้าประตู เช่นนั้นขา้ ก็ไม่ถอ


ในเมือส่ ื สาจะตัดแขนเจ ้าอีก
ขา้ ง ยายหม่าผูน้ ั้นเป็ นผูจ้ งรักภัคดีของพระชายาจินอ๋
้ องนี่ !
ตอนที่ 227-2 เก็บหน้าตายของท่านหน่ อย

สวีโย่วเห็นเสินเวยบั ญชาการอย่างมีความสุข จิตใจทีว่ า้ วุ่นก็สงบ
ลงในชวขณะ ่ั ่ ด “เดือดร ้อน
กล่าวด้วยความสํานึ กผิดอย่างถึงทีสุ
เจ ้าแลว้ ”


เสินเวยโบกมื ี่ า้ มีอารมณ์
ออย่างไม่ถือสา “พูดดี พูดดี ยังดีทข
จัดการ แต่ว่าคุณชายใหญ่ วันนี มี้ งานให้ท่านทํา” จ ้องมองขา้ ง
นอกตะโกนเสียงสูง “เจียงไป๋ เขา้ มา ถือถาดอาหารนี ้ นายของ

พวกเจ ้าจะไปกินขา้ วเป็ นเพือนเสด็ จพ่อ ถือโอกาสกระชบั
ความสัมพันธ ์ระหว่างพ่อลูก”

เจียงไป๋ เดินเซ แทบจะหกลม้ ฮูหยินกลา้ พูดจริงๆ ระหว่างคุณชาย


กับท่านอ๋องไหนเลยจะมีความสัมพันธ ์พ่อลูก ต่างฝ่ ายต่างไม่ถูก
ิ่ ดอัดใจ ราวกับเป็ นคู่แค้น
ชะตากัน เห็นหน้ากันก็ยงอึ

เสินเวยแกล ้ าไรแลว้
ง้ ถลึงตาใส่เจียงไป๋ อย่างโหดเ**◌้ยม “โตตังเท่
แม้แต่เดินยังเดินไม่เป็ น เพราะว่าคุณชายใหญ่ไม่ค่อยสนิ ทกับท่าน
อ๋องนัก เลยต้องกระชบั ความสัมพันธ ์ในแน่ นแฟ้ นมิใช่หรือ”

หันหน้ากล่าวกับสวีโย่วต่อ “ไปถึงเรือนนอกแลว้ เก็บหน้าตายของ


ท่านหน่ อย ท่านบอกไปว่าแต่งงานแลว้ รู ้ว่าอะไรควรไม่ควรแลว้
ระลึกถึงบุญคุณสอนสั่งของเสด็จพ่อ เด็กทีร่ ้องไห้เป็ นจึงจะมีลูกอม
กินรู ้หรือไม่ นั่นคือพ่อของท่าน เขาจะตีท่านตายได้หรือ ท่านก็
บอกว่าค่าใช ้จ่ายจวนอ๋องคับขันท่านเขา้ ใจได้ หากจําเป็ น ในมือ
ภรรยาท่านยังมีหมู่บา้ นสินเดิมอยู่หลายหลัง หากไม่ไหวจริงๆ ก็
ขายสักสองแห่งมาช่วย หลังจากนั้นก็บอกว่ากลัวเสด็จพ่อกิน

อาหารเทียงไม่ ้
ดี เลยตังใจเอาเงิ
นของตัวเองมามอบให้…”


เสินเวยแนะนํ าทีละประโยคๆ แต่เห็นสีหน้าที่ไร ้อารมณ์ใบนั้นองสวี
โย่ว นางก็ไม่อยากพูดต่อทันที “ช่างเถอะ หวังให้ท่านพูดจา

อ่อนหวานพระอาทิตย ์คงขึนทางตะวั นตก เจียงไป๋ ถึงตอนนั้นก็ชว่ ย
นายพวกเจ ้าพูด บอกว่าคุณชายใหญ่เป็ นห่วงเสด็จพ่อยิงนั ่ ก
เพียงแต่เขินอายไม่กลา้ แสดงออก หรือบอกว่าทุกครังที ้ คุ
่ ณชาย
ของพวกเราอารมณ์ไม่ดก ี ็จะไปเดินวนอยู่ขา้ งนอกเรือนท่านอ๋อง
เพียงแต่กลัวเสียหน้าไม่กลา้ เขา้ มาต่างๆ สรุปแลว้ เจ ้าแสดง
ความสามารถตามสบาย ประโยคไหนโจมตีท่านอ๋องได้ก็พูด
ประโยคนั้น”

่ั
ใบหน้าของเจียงไป๋ แทบจะร่วงลงมาในชวขณะ “ฮูหยิน นี่ นี่ !” จะให้
สุภาพบุรุษเช่นเขาพูดจากสะอิดสะเอียนเช่นนี ้ เขาพูดไม่ออก
้ งๆ คาดว่าคงจะไม่ได้โจมตีท่านอ๋อง
หรอก! หากเขาพูดเช่นนี จริ
แลว้ ท่านอ๋องต้องสะอิดสะเอียนจนขย้อนอาหารเมือคื่ นออกมาเป็ น
แน่


เสินเวยถลึ งตาหนึ่ งครา “นี่ อะไรของเจ ้า ปกติเจา้ พูดเก่งนักไม่ใช่
หรือ ช่วงเวลาสําคัญกลับทําไมได้หรือ เจ ้ารู ้สึกสะอิดสะเอียน
เช่นนั้นท่านอ๋องก็ตอ้ งรู ้สึกสะอิดสะเอียนด้วยไม่ใช่หรือ เจ ้าไม่ลอง

คิดดูบา้ ง ทีเขาทํ ากับนายของพวกเจ ้า ขา้ จะให้คุณชายใหญ่ไป
แสดงความกตัญ�ูต่อเขาอีกหรือ ไม่มส ี มอง รู ้จักแต่ต่อยตี เจ ้าต้อง
หัดเรียนด้านนี บ้ า้ ง” เสินเวยชี
่ ศี้ รษะ สั่งสอนด้วยความเจ็บใจทีไม่ ่
อาจหลอมเหล็กให้กลายเป็ นเหล็กกลา้ ได้
่ ั บตาเจียงไป๋ ก็เขา้ ใจแลว้ “ฮูหยิน หากท่านพูดเช่นนี บ่
ชวพริ ้ าวก็
เขา้ ใจแลว้ !” เพียงแค่ไปสร ้างความรําคาญใจมิใช่หรือ ต่อให้จะ
สะอิดสะเอียนจนขย้อนอาหารเมื่อคืนออกมาเขาก็จะทําภารกิจให้
สําเร็จ


เสินเวยจึ
งพยักหน้าด้วยความพอใจ “ไปเถอะ ทําให้ดี เจ ้ายังไม่

แต่งงานไม่ใช่หรือ หากทําดีขา้ จะหาภรรยาดีๆ มาให้เจ ้า” เสินเวย
รับปากอย่างใจกวา้ ง

่ั
ดวงตาของเจียงไป๋ ลุกวาวในชวขณะ ตบอกรับปาก “ฮูหยิน บ่าว
่ ให้
จะต้องจัดการเรืองนี ้ ท่านอย่างดี” เขามองสาวใช ้ใหญ่หลายคนที่
ยืนอยู่ขา้ งกายฮูหยิน พูดในใจ ต่อให้จะต้องขย้อนอาหารเมือหลาย่
วันก่อนออกมาก็จะต้องทํางานให้ดี ภรรยา ภรรยาทีอ่ ่ อนนุ่ ม
้ นเห็นคุณชายใหญ่แสดงความรักออกนอกหน้า
ร ้อนแรง วันทังวั
พวกเขาคนโสดเหล่านี อิ ้ จฉาจนตาร ้อนผ่าวแลว้ ตอนนี ฮู้ หยินเอ่ย
ปาก ต่อให้เป็ นผามีดทะเลเพลิงเขาก็ตอ้ งพุ่งไปขา้ งหน้า!
่ โย่วถือถาดอาหารเดินออกไปทีเรื
ตอนทีสวี ่ อนนอก ไปทันจินอ๋้ อง

กินขา้ วเทียงพอดี ฟังคํารายงานของคนรับใช ้ เขาก็ขมวดคิวตาม ้
ความเคยชิน ลูกอกตัญ�ูผน ้ เรืองอะไรอี
ู ้ ี มี ่ กแลว้ แต่ว่าเขาก็ยงั คง
วางตะเกียบลง

่ โย่วเขา้ มาจินอ๋
ตอนทีสวี ้ องก็ยงประหลาดใจ
ิ่ ื่
ไม่ใช่อนใด ลูกชาย
่ นชาจนเคยชินผูน้ ั้นของเขาคาดไม่ถึงว่าถือถาดอาหาร
คนโตทีเย็
อยู่

ิ ้ องเอ่ยปาก สวีโย่วก็แย่งพูดขึนก่
ไม่รอให้จนอ๋ ้ อน “อย่าคิดว่าลูก
่ อผู
อยากมา ไม่ใช่เสินซื ่ น้ ้นหรอกหรื
ั อ บังคับให้ลูกมาทานขา้ วกับ
ท่าน บอกว่าต้นไม้หวังอยู่น่ิ งแต่สายลมกลับไม่หยุดพัก ลูกอยาก
้ แต่พ่อแม่กลับไม่อยู่รอ ลูกเห็นท่านร่างกายแข็งแรงดี ไม่แน่
เลียงดู
ว่าอาจจะมีชวี ต
ิ อยู่นานกว่าลูกอีก”

หลายประโยคทีแข็ ่ งกระด้างยั่วโมโหจินอ๋
้ องทันที เด็กอันธพาลคน
นี ้ มายั่วโมโหเขาหรือ
เจียงไป๋ รีบเสริม “ท่านอ๋อง ท่านอ๋องอย่าได้โมโห คุณชายใหญ่
่ งคุณชายใหญ่เป็ นห่วงท่านยิงนั
พูดจาไม่เป็ น อันทีจริ ่ ก พอฮูหยิน
ใหญ่พูดเขาก็มาทันที ท่านอ๋องท่านเห็นแก่จต ิ ใจกตัญ�ูของ
คุณชายใหญ่ก็อย่าได้โกรธเคือง” ทว่าในใจกลับตําหนิ คุณชาย
ใหญ่ของขา้ ไม่ใช่ว่าไม่ให้ท่านเปิ ดปากหรือ ท่านทําให้บ่าวกลัว
แทบตาย!

ิ ้ องจะสงสัย แต่กลับไม่ได้โกรธเพียงนั้น แค่นเสียงหนึ่ งครา


แม้จนอ๋
กล่าว “ไม่กลา้ หวังให้เจ ้ามาเป็ นห่วง อย่าทําให้ขา้ โมโหมากไปกว่า
้ พอ”
นี ก็

สวีโย่วเองก็แค่นเสียงหนึ่ งครัง้ “ใครเป็ นห่วงท่าน ลว้ นแต่เป็ นเสิน



่ เรื
ซือที่ องมากรบเร
่ ้าจนขา้ หงุ ดหงิด ขา้ ไม่ได้เป็ นห่วงท่านเสีย
หน่ อย!”

ความโกรธทีลดลงของจิ ้ องพุ่งขึนฉั
นอ๋ ้ บพลัน ชีสวี
้ โย่วกําลังจะก่น
่ วส่งของชินหนึ
ด่า ก็เห็นสวีโย่ ้ ่ งเขา้ มา กล่าวด้วยความเย็นชา “ให้
ท่าน”

“นี่ คืออะไร” จินอ๋


้ องขมวดคิวไม่
้ รบั

สวีโย่วโยนลงบนโต๊ะทันที “ตั๋วเงิน เสด็จลุงให้ลก


ู มา”

้ องหยิบขึนมาดู
จินอ๋ ้ เป็ นตั๋วเงินห้าพันตําลึงจริงๆ ก็ยงสงสั
ิ่ ย “เสด็จ
ลุงเจ ้าให้เจ ้าเจ ้าก็เก็บไวเ้ อง ให้ขา้ ทําไม ขา้ มีเงินเหลือใช ้” เขาไม่
ยอมรับว่าเบืองลึ้ กในใจเขามีความสุขเล็กน้อย

สวีโย่วแค่นเสียงหนึ่ งครัง้ “ท่านอย่าพยายามอวดตนเลย ขา้ ไม่


หัวเราะท่านหรอก จวนอ๋องไม่ใช่ค่าใช ้จ่ายคับขันหรอกหรือ ตั๋วเงิน
้ านเก็บไวใ้ ช ้เถอะ ลว้ นแต่เป็ นเสินซื
ใบนี ท่ ่ อผู
่ น
้ ้ัน บอกว่าจะขาย
หมู่บา้ นสินเดิมมาสมทบค่าใช ้จ่ายในจวน น่ าขัน ลูกเป็ นบุรุษผู ้

ยิงใหญ่ จะใช ้สินเดิมของภรรยาได้อย่างไร”


“ภรรยาเจ ้าจะขายหมู่บา้ นมาสททบค่าใช ้จ่ายในจวนงันหรื อ ใคร
้ องสัมผัสได้ว่าเหตุการณ์
บอกเจ ้าว่าค่าใช ้จ่ายในจวนคับขัน” จินอ๋
ผิดปกติแลว้ จวนอ๋องอันโอ่อ่าของเขาซอกมุมไหนบา้ งทีมี ่ เงินไม่
พอใช ้ ยังต้องให้สะใภ้เอาสินเดิมมาสมทบ

“พระชายาบอกไม่ใช่หรือ เงินเดือนแต่ละเรือนลว้ นแต่ถูกลดมิใช่



หรือ สะใภ้คนดีของท่านกลัวท่านเป็ นทุกข ์ใจ ยังตังใจไล่ ขา้ มาทาน
ขา้ วกับท่าน แต่ว่าดูจากสีหน้าท่าทางของท่านแลว้ ยังเกินควร
่ อยั
่ งออกเงินไปสั่งอาหารที่เหลาสุรามาด้วย
จริงๆ อ้อจริงสิ เสินซื

ตัวเอง คาดว่าอีกประเดียวก็ น่าจะมาส่งแลว้ ” สวีโย่วชายตามอง นั่ง
้ อง
ลงตรงขา้ มจินอ๋

“พระชายาสั่งลดเงินเดือนค่าใช ้จ่ายเรือนพวกเจ ้าหรือ” จินอ๋


้ อง

ยังคงไม่เชืออย่ างยิง่
สวีโย่วหัวเราะเยาะหนึ่ งครา “ไม่เพียงแต่เรือนพวกเรา แม้แต่ทง้ั
เรือนเองก็เป็ นเช่นนี ้ เอาล่ะท่านพ่อ ท่านไม่ตอ้ งปกปิ ดแลว้ พรุง่ นี ้
ลูกจะเขา้ วัง ขอร ้านค้าหมูบ ่ า้ นจํานวนหนึ่ งกับเสด็จลุง จวนอ๋อง

ยิงใหญ่ ลดค่าใช ้จ่าย ดังออกไปคงไม่น่าฟังนัก เจียงไป๋ ยังไม่รบ ี ยก
กับขา้ วออกมาอีก ขา้ จะดืมเป็ ่ นเพือนเสด็
่ จพ่อสองแก ้ว”

เจียงไป๋ รีบจัดโต๊ะอาหาร ยกกับขา้ วขา้ งในออกมาวางบนโต๊ะ ความ



เลือมใสต่ อคุณชายใหญ่ของพวกเขาในใจประหนึ่ งสายนํ ้าซัดสาด
ใครบอกว่าคุณชายพูดจาไม่เป็ นเล่า ดูคุณชายพูดเขา้ สิ ทําท่าน
อ๋องสําลักแทบตาย แต่กลับไม่ได้บน ั ดาลโทสะ แต่ว่าเป็ นเช่นนี ้
คุณชายแย่งงานของเขา ไม่รู ้เหมือนกันว่าฮูหยินจะยังหาภรรยาให้
เขาอีกหรือไม่

้ องถลึงตามองกับขา้ วสีอย่
จินอ๋ ่ างทีวางลง
่ ครูใ่ หญ่กว่าจะพูดออก
้ อ”
“เจ ้ากับภรรยาเจ ้าทานของพวกนี หรื
“ใช่แลว้ !” สวีโย่วตอบอย่างเป็ นธรรมชาติ “เมือวานยั่ งไม่ได้กน

้ นมือแรก
วันนี เป็ ้ นี่ ไม่ใช่เพราะในจวนลดค่าใช ้จ่ายหรอกหรือ เป็ น
่ หมดหนทาง
เรืองที ่ ทุกคนลว้ นแต่กน ่
ิ ได้ ลูกมีเหตุผลอะไรให้เรือง
มาก เพียงแค่ขา้ วมือเดี้ ยว ทีซี่ เจียงลูกยังเคยกินอาหารทีแย่
่ กว่านี ้
อีก”

่ั
ชวขณะใบหน้ ้ องก็เหยเกขึนมา
าของจินอ๋ ้ คิดอยากจะบันดาลโทสะ
แต่กลับสะกดกลันไว ้ ้ สวีโย่วไม่สนใจเขา หยิบตะเกียบกินเรียบร ้อย

แลว้ ไม่รู ้เหมือนกันว่าเขาตังใจหรือเสแสร ้ง เห็ นชดั ๆ ว่าเป็ นกับขา้ ว
ของคนใช ้ แต่สวีโย่วกลับกินอย่างเอร็ดอร่อยมาก ไม่รงั เกียจแม้แต่
นิ ดเดียว นี่ ทําให้ใบหน้าของท่าน

้ องเคร่งขรึมยิงขึ
จินอ๋ ่ น้

ตอนทีกิ่ นไปได้ครึงหนึ
่ ่ ง อาการทีสั
่ ่งไวท้ เหลาสุ
่ี ราก็มาส่งแลว้ เป็ น
่ี
กับขา้ วชุดใหญ่ทประณี ่ าง สวีโย่วลากข ้าวสวยหนึ่ งถ้วยเขา้
ตสีอย่
มา ในระหว่างนั้นก็คบ ี อาหารให้พ่อเขาสองครา
เทียบกับลูกชายทีกิ ่ นอย่างเอร็ดอร่อย จินอ๋
้ องถือชามไวแ้ ต่กลับ
้ องก็เรียก
ยากจะกลืนลง กว่าสวีโย่วจะกินขา้ วเสร็จออกไปได้ จินอ๋
บ่าวรับใช ้มาสั่งเสียงเบาหลายประโยค บ่าวรับใช ้พยักหน้าออกไป
แลว้ เขานั่งอยู่ในห้องหนังสือแต่เนิ่ นนานอารมณ์กลับไม่อาจสงบ
ลงได้

ผ่านไปสองเค่อ บ่าวรับใช ้ก็กลับมาแลว้ “ท่านอ๋อง”

้ องกล่าวถาม
“เป็ นอย่างไร” จินอ๋

บ่าวรับใช ้ผูน้ ้นก


ั ้มหน้ากล่าวเสียงเบา “มีเพียงเงินเดือนค่าใช ้จ่าย
ของเรือนคุณชายใหญ่ทถู ี่ กลด ทีเรื
่ อนพระชายา ท่านซือจื ่ อและ

คุณชายสามต่างก็เป็ นปกติ ฮูหยินใหญ่เองก็ส่งคนให้ั ส่งอาหารข
ั า้ ง
นอกมาจริงๆ ส่งไปทีเรื ่ อนนายทุกเรือน เรือนตนเองกลับเลือกซือ้
เพียงวัตถุดบิ ธรรมดาๆ” ยิงพู ่ ดเสียงของเขาก็ยงเบาิ่ แม้จะก ้มหน้า
แต่เขาก็สมั ผัสได้ถงึ ความโกรธบนร่างท่านอ๋อง
“ท่านอ๋องนี่ อาจจะเป็ นฝี มือของบ่าวชนล่
ั้ าง…” เขาพูดยังไม่ทน ั จบ
้ องก็ลุกขึนเดิ
จินอ๋ ้ นออกไปขา้ งนอกฉับพลัน เดินไปถึงหน้าประตูก็
หันกลับมาอีกครัง้ กวาดแขนเสือปั ้ ดของบนโต๊ะทังหมดลงพื
้ น้


“บ่าวหรือ บ่าวกลา้ ได้เพียงนี เลยหรื
อ บ่าวต้องฟังนายหมดไม่ใช่
้ องตะโกนด้วยความเดือดดาล
หรือ” จินอ๋

บ่าวรับใช ้สะดุง้ จนใจสั่น ยืนอยู่ตรงนั้นไม่กลา้ ปริปากอีก

ซ่งซือ่ เจ ้าซ่งซือ!
่ ครังก่
้ อนภาพวาดตกปลาใต้จน ั ทรานั้นเจ ้าบอก
ว่าภรรยาสวีโย่วมอบให้เจ ้าเอง ตนก็เชือ่ ไม่คดิ ว่าหันหลังกลับมา
นางจะปฏิบต ั ต
ิ ่อโย่วเอ๋อร ์อย่างโหดร ้าย
้ เห็
่ นเขา เขาก็จะ
ใช่ เขาไม่ค่อยใส่ใจโย่วเอ๋อร ์นัก เพราะทุกครังที
่ ถู
นึ กถึงต้วนซือที ่ กเขาผลักลม้ จนคลอดก่อนกําหนด แต่ต่อให้เขา
จะไม่ใส่ใจนั่นเองก็เป็ นลูกชายของเขา เป็ นลูกชายคนโตของเขา

แต่เจ ้าซ่งซือกลั บโหดร ้ายต่อลูกชายของขา้ เช่นนี ้ เจ ้าหมายความ
ว่าอย่างไร

่ วใหญ่ให้ขา้ ขา้ กลับอยากดูว่าเป็ นบ่าวโง่คนไหน


“ไป ไปสืบทีครั
้ องกัดฟันกล่าว
กัน” จินอ๋

พระชายาจินอ๋ ้ องเห็นเรือนของลูกเลียงไม่
้ มก ่
ี ารเคลือนไหว ่ อ่
เสินซื
ผูน้ ้นก็
ั ยงั โง่ส่งอาหารมาแสดงความกตั
ั ิ่
ญ�ูให้ตน ในใจก็ยงพอใจ
่ เรื
หารู ้ไม่ว่าเขาเปิ ดโปงเรืองที ่ อนจินอ๋
้ องแลว้ อีกทังจิ
้ นอ๋
้ องก็ยงั

สะกดกลันไฟโกรธทั ้
งทรวงอกรอชํ าระกับนาง
ตอนที่ 228-1 ความซือตรงของท่
่ านเล่า

ฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงในวังยังดีใจไม่ถงึ สองวันก็มข ้ อง


ี ่าวจวนจินอ๋
กับจวนเสนาบดีฉินดูดวงสมพงษ์คู่หมันออกมา้ ้
คราวนี นางเพียงแค่
เลิกคิว้ กลับไม่ได้โมโหมากนัก

เห็นบันทึกวันเดือนปี เกิดของคุณหนู เจ็ดแซ่ฉินในมือ ในทีสุ ่ ดหัวใจ


ของพระชายาจินอ๋ ้ องก็สงบลงแลว้ กล่าวกับแม่นมซือ “ไม่เสียชือที ่ ่
เป็ นบา้ นฝั่งมารดาของซูเฟยเหนี ยงเหนี ยง มีความรู ้มากกว่าตระกูล
่ มิน่าเล่าท่านเสนาบดีฉินถึงได้รบั ความเชือใจเช่
อืน ่ ้
นนี จากฝ่ าบาท
เพียงแค่จต ้ พอจะเห็นได้แลว้ คุณหนู เจ็ดแซ่ฉินมีฐานะอยู่
ิ ใจส่วนนี ก็
้ องไม่ดอ้ ยไปกว่าแน่ นอน”
ในวงศ ์ตระกูลเช่นนี จะต้


แม่นมซือเองก็กล่าวอย่างหยอกลอ้ “คราวนี พระชายาก็ วางใจได้

แลว้ ใช่หรือไม่ ท่านรอดืมชาสะใภ้ เถิด! บ่าวเห็ นหน้าตามารยาท
ของคุณหนู เจ็ดผูน้ ั้นแลว้ เทียบฮูหยินใหญ่ไม่ได้เลย จะต้อง
ปรองดองและรักใคร่กบ ่ างถึงทีสุ
ั คุณชายสีอย่ ่ ดแน่ นอน”

“เทียบกับนางทําไม” แม่นมซือเอาว่าทีสะใภ้ ี่
สมาเที ่ อ่ นี่
ยบกับเสินซื
ทําให้ในใจของพระชายาจินอ๋้ องไม่พอใจเล็กน้อย เสินซื
่ อเป็
่ นคนโง่
่ บโตในชนบท หากไม่ใช่ว่ามีวาสนาหลายส่วน สามารถ
เขลาทีเติ
้ ได้
แต่งกับครอบครัวขุนนางขันสี ่ ก็ไม่เลวแลว้ จะเทียบสตรีสูงศักดิที์ ่
มีฐานะในจวนเสนาบดีได้อย่างไร

แม่นมซือเห็นสีหน้าของพระชายาจินอ๋ ้ องก็รู ้แลว้ ว่าตนพูดผิด รีบ


กล่าวเสริม “ดูสบ ่ อผู
่ น้ ้ันจะเทียบฮูหยินสีข
ิ ่าวเลอะเลือนจริงๆ เสินซื ่
องพวกเราได้อย่างไร คนหนึ่ งอยู่บนฟ้ า คนหนึ่ งอยู่บนดิน ไม่ใช่คน
ั้ ยวกันเลย!”
บนชนเดี

กําลังจะพูดต่อ ถูกพระชายาจินอ๋้ องโบกมือตัดบท ในใจนางมี


ความสุข ทว่าปากกลับตําหนิ “พอแลว้ พอแลว้ เสินซื ่ อก็
่ มด
ี ข
ี อง
่ อ่ คุณหนู เจ็ดก็มด
เสินซื ี ข
ี องคุณหนู เจ็ด ใช ้ชีวต
ิ อยู่ในครอบครัว
เดียวกัน มีอะไรให้เทียบ”

“เพคะ เพคะ พระชายาพูดถูก” แม่นมซือโค้งตัวคลอ้ ยตาม


พระชายาจินอ๋ ้ องกําลังดีใจอยู่ ก็เห็นจินอ๋้ องเดินมือไพล่หลังเขา้ มา
พระชายาจินอ๋ ้ องก็ตกใจในใจ เหตุใดถึงไม่มค ี นรายงานเล่า
หลังจากนั้นก็ยมแย้
ิ ้ มเขา้ ไปต้อนรับ “ท่านอ๋องมาได้อย่างไร ขา้

กําลังมีเรืองมงคลใหญ่ กําลังจะบอกท่านอ๋อง ฉั่งเอ๋อร ์ของพวกเรา

หมันหมายกั บคุณหนู เจ็ดแซ่ฉินแลว้ ! บุคลิกหน้าตาคุณหนู เจ็ดผู ้
นั้นลว้ นดี จะต้องมัดใจฉั่งเอ๋อร ์ เร่งให้เขาพัฒนาได้แน่ นอน”

้ องมองพระชายาทีใบหน้
จินอ๋ ่ าเต็มไปด้วยรอยยิม้ ความรู ้สึกในใจก็
ซับซ ้อน จู่ๆ ก็นึกถึงเหตุการณ์สมรสพระราชทานของลูกชายคน

โตขึนมา ้
แม้ว่าพระชายาจะยิมเหมื อนกัน แต่ก็คลา้ ยไม่ได้ดใี จ
เหมือนอย่างตอนนี ้ ตามหาสาเหตุ จินอ๋้ องไม่ได้โง่จริงๆ ย่อมเขา้ ใจ
ได้หลายส่วน


ตอนนี เขาจํ าใจต้องยอมรับ พระชายาของเขา คนเคียงคู่ทเขาเชื่ี อ่
้ งโปรดปรานมาตลอดยีสิ
ใจทังยั ่ บกว่าปี คลา้ ยกับว่าไม่ได้ปฏิบต ั ต
ิ ่อ

โย่วเอ๋อร ์ด้วยความใส่ใจเหมือนอย่างทีนางแสดงออกมา ่
เมือได้
ค้นพบ ก็ทําให้เขาโมโห ละอายใจ แต่กลับอับจนหนทาง
“ท่านอ๋อง ท่านไม่ดใี จหรือ ใช่ฝ่าบาทพูดอะไรอีกหรือไม่” พระ
้ องพูดอยู่นานเห็นท่านอ๋องไม่พูดแม้แต่ประโยคเดียว ก็
ชายาจินอ๋
หยุดชะงักอย่างอดประหลาดใจไม่ได้ ยังคิดว่าฝ่ าบาทตําหนิ อะไร
เขาอีก “ท่านอ๋อง ในทางการ ฝ่ าบาทเป็ นกษัตริย ์ ท่านเป็ นขุนนาง
ในส่วนตัว ฝ่ าบาทเป็ นพี่ ท่านเป็ นน้อง ฝ่ าบาทพูดอะไรก็หวังดีต่อ
้ น”
ท่านทังสิ ้ นางโน้มน้าวเสียงอ่อนโยน

่ นอ๋
สายตาทีจิ ้ องมองพระชายาก็ยงซั ิ่ บซ ้อน พระชายาจินอ๋
้ องย่อม
สังเกตได้แลว้ กล่าวอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูกเล็กน้อย “ท่านอ๋อง
้ าไม ทําคนตกใจยิงนั
ท่านมองขา้ เช่นนี ทํ ่ ก”

“ใช่เจ ้าสั่งลดเงินเดือนค่าใช ้จ่ายเรือนโย่วเอ๋อร ์หรือไม่” จินอ๋


้ องถาม
เขา้ ประเด็น

พระชายาจินอ๋ ้ องตกใจ ทันใดนั้นก็เขา้ ใจ ดีจริงๆ นางก็ว่าเหตุใด


้ านอ๋องถึงได้ผด
วันนี ท่ ิ ปกติอย่างยิง่ ทีแท้
่ แลว้ เด็กชวก็
่ ั ไปฟ้ อง ใน
ดวงตาของนางมีความเดือดดาลแวบผ่าน ทว่าใบหน้ากลับมีสห ี น้า
น้อยใจ “ท่านอ๋อง มีคนพูดพล่ามต่อหน้าท่านหรือ เฮอ้ นี่ เองก็เป็ น
ความคิดของขา้ ทีไม่่ ได้อธิบายให้ภรรยาโย่วเอ๋อร ์ฟัง จวนอ๋องของ

พวกเราเพิงจะจั ดงานสมรส บวกกับผลเก็บเกียวปี่ ้ ไม่ค่อยดีนัก
นีก็
ค่าใช ้จ่ายในจวนก็ตงึ เล็กน้อย ขา้ ตัดสินใจลดค่าใช ้จ่ายแต่ละเรือน
่ ดไม่รอบคอบ ลืมไปว่าเขา
โย่วเอ๋อร ์ไม่พอใจหรือ ขา้ ผิดเองทีคิ
ร่างกายอ่อนแอ กลับไปขา้ จะเอาเงินส่วนตัวสมทบค่าใช ้จ่ายเรือน
เขา”

่ อน ซ่งซือพู
หากเป็ นเมือก่ ่ ดเช่นนี เขาจะต้
้ ่
องเชือแน่ นอน แต่ตอนนี ้

เขานึ กถึงคําให้การทีเขาไต่ สวนได้จากยายหม่าในครัวใหญ่ดว้ ย

ตัวเอง เขาก็ไม่กลา้ เชือเลยแม้ แต่นิดเดียว “เหตุใดตามทีข ่ า้ รู ้มาทั่ว

ทังจวนมี ่ กลดเล่า เรือนอืนๆ
เพียงค่ายใช ้จ่ายของเรือนโย่วเอ๋อร ์ทีถู ่
้ องกล่าวเสียงเรียบ
ยังคงเป็ นปกติ” จินอ๋

่ ด้
“เอ๋ นึ กไม่ถงึ ว่ามีเรืองนี ้ วย” พระชายาจินอ๋
้ องท่าทางตกใจอย่างถึง
่ ด “เป็ นไปไม่ได้ ขา้ สั่งทังจวนเองว่
ทีสุ ้ าให้ลดค่าใช ้จ่าย นอกจาก
เรือนท่านอ๋องแลว้ แม้แต่เรือนขา้ เองก็ยงั ลด”
้ องกลับไม่ได้มองนาง แต่ก ้มหน้ากล่าวกับบ่าว
“จริงหรือ” ทว่าจินอ๋

รับใช ้ “เสียวเฉวี ่
ยน รายงานใบรายการอาหารเทียงของเรื อนพระ
ชายา ซือจื่ อและฮู
่ ้ พระชายาฟัง”
หยินสามในสามวันนี ให้


บ่าวรับใช ้รีบกลันใจก ้
้าวขึนมาข า้ งหน้า รายงานรายการอาการ

ของเรือนทังสามนี ้ างชดั เจนและถูกต้องรอบหนึ่ ง
อย่

“รายงานรายการของเรือนคุณชายใหญ่ให้พระชายาฟังต่อ” จิ ้
นอ๋องสั่งเสียงเรียบ

บ่าวรับใช ้ผูน้ ั้นเองก็รายงานตามจริง


ตอนนี หากพระชายาจิ ้ องไม่เขา้ ใจอีกว่าท่านอ๋องเกณฑ ์คนมา
นอ๋
ประณามเช่นนั้นนางก็คงเป็ นคนโง่แลว้ นางไม่คด ่
ิ ว่าท่านอ๋องทีแต่
่ กจิกเรือนหลังจะสืบสาวเรืองราวได้
ไหนแต่ไรไม่สนใจเรืองจุ ่ อย่าง
ชดั เจนเช่นนี ้ ในใจอดก่นด่ายายหม่าไม่ได้ ไม่เป็ นงาน ไม่เป็ นงาน
เกินไปแลว้

“พระชายาเจ ้าบอกขา้ มา ลดค่าใช ้จ่ายเหมือนกัน เหตุใดเรือนของ


่ อร ์กับเหยียนเอ๋อร ์ถึงได้กน
เยียเอ๋ ิ อย่างโอชะ แต่โย่วเอ๋อร ์กับภรรยา
ของเขากลับกินอย่างเทียบไม่ได้แม่แต่คนรับใช ้ทีมี ่ เกียรติ หรือว่า
้ งศักดิไม่
โย่วเอ๋อร ์บุตรคนโตผูน้ ี สู ์ เท่าน้องสองคนของเขา เจ ้าใช่ลม ื
ไปแลว้ หรือไม่ว่าเขาสองคนคนหนึ่ งฝ่ าบาทพระราชทาน
บรรดาศักดิเป็ ์ นจวินอ๋
้ อง อีกคนหนึ่ งเป็ นจวินจู
้ ่” ใบหน้าของจินอ๋้ อง
้ อยๆ
เย็นเยียบขึนเรื ่

่ ดั
หากเพียงแค่ไม่เป็ นธรรมต่อบุตรภรรยาเอกก็ไม่เป็ นไร แต่เรืองนี ้ ง
ออกไปนอกจวนแลว้ ตอนนี เนื ้ อหาข่
้ ่
าวลือขา้ งนอกเปลียนแล ว้ ไม่
พูดถึงภาพตกปลาใต้จน ั ทราภาพนั้นแลว้ แต่พูดว่าพระชายาจวน
จิน้
อ๋องไร ้คุณธรรม บีบบังคับให้ลูกสะใภ้ควักเงินสินเดิมออกไปซือ้
วัตถุดบ ้ องจวินจู
ิ จวินอ๋ ้ ่ผย ิ่
ู ้ งใหญ่ แม้แต่ขา้ วยังไม่มก ิ นี่ จะต้องถูก
ี น
ทรมานมากเพียงใด

้ าวลือนี ยั
มิหนํ าซําข่ ้ งดังไปถึงหูของเสด็จพีเขา ่ ่
เสด็จพีเขาไม่ เรียก
เขาเขา้ วังมาหลายปี แลว้ คราวนี เรี ้ ยกเขาเขา้ ไปด่าใส่หน้าโครมๆ
ขวา้ งของใส่เขาต่อหน้าขันทีขน ุ นางทั่วทังห้ ้ อง หากไม่ใช่ว่าเขา
กลับเร็ว จะต้องถูกปาใส่จนหัวแตกเลือดไหลแน่ นอน สุดท้ายก็ช ี ้

จมูกเขาแลว้ กล่าว ‘ลูกคนนี หากเจ ้าไม่อยากได้แลว้ ก็ส่งมาให้เรา
่ ตรเยอะ อ๋องผูย้ งใหญ่
เราไม่รงั เกียจทีบุ ่ิ ถูกสตรีหลอกลวง เราอับ
อายแทนเจ ้าเสียจริง’

้ องอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี โดยเฉพาะสายตาทีแปลก
จินอ๋ ่
่ องเหล่านั้นในหมู่ราชนิ กุล มองจนเขาหายใจไม่
ประหลาดของพีน้
ออก

กาลเวลาหมุนผ่านไป เห็นพีน้ ่ อง ลูกพีลู


่ กน้องทีตอนแรกเที
่ ยบเขา
่ น
ไม่ได้แต่ละคนๆ ต่างก็สร ้างคุณูปการในราชสํานัก มีเพียงเขาทีเป็
ท่านอ๋องว่างงาน ทุกวันว่างไม่มอ ้ กใน
ี ะไรทํา กลางดึกไร ้ฝัน เบืองลึ
ใจเขาก็ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจ

แต่นี่ก็เป็ นสิงที
่ ตนเลื
่ อก ทําได้เพียงกัดฟันข่มไวใ้ นใจ ความชืนใจ่
เพียงหนึ่ งเดียวก็คอ ื เขามีพระชายาทีเข ่ า้ ใจผูอ้ ืนอ่
่ อนโยนใจดี รู ้จัก
เขา เขา้ ใจเขา เคารพเขา รักเขา ซํายั ้ งให้บุตรชายสามคนแก่เขา
เขาเองก็รู ้สึกว่าไม่เสียใจเพียงนั้นแลว้


แต่ตอนนี ความดี ้
งามส่วนนี เผยใบหน้าแท้จริงอันอัปยศอดสูออกมา
่ กอย่างจริงๆ ไม่มใี ครรู ้ว่าเขา
เขาก็โกรธจนอยากจะทําลายทุกสิงทุ
ใช ้แรงมากมายเพียงใดจึงจะควบคุมตัวเองไวไ้ ด้

พระชายาจินอ๋้ องกระวนกระวายแลว้ นางรู ้จักจินอ๋ ้ องดีอย่างยิง่ หาก


เขาบันดาลโทสะกับตน นางกลับไม่กลัว เพราะว่าท่านอ๋องบันดาล
โทสะก็หมายความว่าเรืองนี่ ผ่ ้ านไปแลว้ แต่ตอนนี ท่ ้ านอ๋องนิ่ งเงียบ
เพียงนั้น กระทั่งไม่ว่านางสักคํา นางก็รู ้แลว้ ว่าครังนี
้ ท่้ านอ๋องโกรธ
แลว้ จริงๆ
“ท่านอ๋อง ขา้ ไม่รู ้จริงๆ เห็นชดั ๆ ว่าขา้ สั่งให้ลดค่าใช ้จ่ายทังจวน

หรือว่าบ่าวในครัวใหญ่จะหลอกลวงเบืองบน ้ ยายหม่า เรียกยาย

หม่ามาถามว่าเกิดเรืองอะไรขึ ้ พระชายาจินอ๋
น” ้ องกล่าวอย่าง
แยกแยะ นางตัดสินใจว่าเรืองนี ่ ไม่
้ อาจยอมรับได้ เช่นนั้นก็ทําได้
เพียงโยนออกไปให้คนในครัวใหญ่ดบ ั ความโกรธของท่านอ๋อง

“ยายหม่า เหอะๆ ไม่ตอ้ งเรียกนางหรอก นางถูกขา้ ลงโทษแลว้ โยน


่ สานแลว้ นางรับสารภาพว่าพระชายาสั่งให้นางทําเช่นนี ”้
ไปทีสุ
ดวงตาจินอ๋้ องเต็มไปด้วยนํ ้าเย็ นทีเย็
่ นยะเยือก “พระชายาบอกว่า

ค่าใช ้จ่ายในจวนตึงงันหรื อ ขา้ จําได้ว่าเดือนก่อนขา้ ให้เจ ้าไปหนึ่ ง
่ าลึง นี่ เพิงจะผ่
หมืนตํ ่ านไปไม่กวัี่ นก็ใช ้หมดแลว้ หรือ หากเจ ้าดูแล
จวนอ๋องไม่ดี ขา้ ก็ไม่ถือสาจะหาคนมารับหน้าทีแทนเจ ่ ้า”

ยายหม่าถูกโบยตายแลว้ หรือ เหตุใดนางถึงไม่ได้ข่าวแม้แต่นิด


เดียวเล่า พระชายาจินอ๋ ้ องใจเต้นตึกๆ ทันใดนั้นก็ตะโกนร ้องขอ
ความเป็ นธรรม “ท่านอ๋อง ขา้ จะทําเรืองเช่ ่ ้ อย่างไร ท่านต้อง
นนี ได้
่ า้ ! ยีสิ
เชือข ่ บกว่าปี แลว้ ท่านยังไม่รู ้อีกหรือว่าขา้ ปฏิบต
ั ต
ิ ่อโย่วเอ๋อร ์
้ เล็กเขาก็สุขภาพไม่ดี ขา้ ตังท้
อย่างไร ตังแต่ ้ องแก่ดูแลเขาทังคื ้ น! มี
ของดีๆ ขา้ ก็ให้เขาก่อน ต่อให้จะเป็ นเยียเอ๋ ่ อร ์ลูกชายสามคนของ
ขา้ ก็ยงั เป็ นรอง ขา้ ใกลช้ ด
ิ กับคุณชายใหญ่ยงกว่ ่ิ าลูกแท้ๆ เสียอีก

จะทําเรืองเช่ ้ อย่างไร ท่านอ๋อง ขา้ ได้รบั ความไม่เป็ นธรรม”
นนี ได้
พระชายาร ้องทุกข ์

ยังมีประโยคนั้นของท่านอ๋องหมายความว่าอย่างไร หาคนมารับ

หน้าทีแทนนาง ่
คนทีสามารถรั บหน้าที่แทนนางได้ก็มเี พียงชายา
รอง หรือว่าท่านอ๋องจะแต่งชายารอง หรือคิดจะยกฐานะเรือนหลัง
คนไหน

่ งนางก็ได้รบั ความไม่เป็ นธรรมจริงๆ นางเพียงแค่ทนเห็น


อันทีจริ

เสินเวยได้ รบั ความสําคัญจากฮองเฮาเหนี ยงเหนี ยงไม่ได้ คิดจะ
กลั่นแกลง้ นาง ทีนางบอกว่
่ าลดเงินเดือนก็ลดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทํามากเกินไปกลับไม่กลา้ ใครจะรู ้ยายหม่าผูน้ ้ันในครัวใหญ่คด ิ ว่า
ตัวเองฉลาด คิดว่าพระชายาเกลียดคุณชายใหญ่ฮูหยินใหญ่
่ จะเอาใจพระชายา
เพือที ่ จึงยํ่ายีพวกเขาสุดแรงมิใช่หรือ

้ องเสียใจยิงนั
พระชายาจินอ๋ ่ ก เสียใจทีไม่
่ ได้ส่งยายหม่
ั าให้ชดั เจน
กระทั่งยายหม่าคิดว่าตัวเองฉลาดเอาภาระมาให้นาง สมควรตาย
ิ ้ องไม่ลงโทษนาง ตนก็ยอมให้นางมี
สมควรตายจริงๆ ต่อให้จนอ๋
ชีวต
ิ อยู่ไม่ได้เช่นกัน
ตอนที่ 228-2 ความซือตรงของท่
่ านเล่า
้ องมองด้วยสายตาเย็นชา เห็นนางร ้องไห้อย่างปวดใจ ในใจก็
จินอ๋
อ่อนลงอย่างอดไม่ได้ นึ กถึงโย่วเอ๋อร ์ตอนเด็กๆ พระชายาก็ดูแล
เขาดีจริงๆ มีครังหนึ ้ ่ งโย่วเอ๋อร ์ไขข ึ ้ ง พระชายาตังท้
้ นสู ้ องอยู่ก็ไป
เฝ้ าเขาสองวันหนึ่ งคืน ด้วยเหตุนีจึ ้ งเจ็บท้องคลอด และเพราะว่า
ดูแลโย่วเอ๋อร ์ทีป่่ วย พระชายาจึงละเลยเยียเอ๋ ่ อร ์และเหยียนเอ๋อร ์
กระทั่งเด็กซนสองคนนี ตกลงไปในสระนํ
้ ้า หากไม่ใช่ว่าคนรับใช ้พบ
เห็นก็คงจะเสียชีวต ิ ไปนานแลว้


เรืองราวแต่ ่
ละเรืองๆ ้
แวบผ่านเบืองหน้ ้ องก็ลงั เลแลว้ แต่
าเขา จินอ๋
นึ กถึงคําตักเตือนของเสด็จพี่ หัวใจของเขาก็แข็งขึนมาอี
้ กครัง้ ซํา้
่ งซือทั
เขายังไม่กลา้ เชือซ่ ่ งหมด
้ เขาแยกแยะไม่ได้ว่าประโยคไหน
ของนางเป็ นจริง ประโยคไหนเป็ นเท็จ

“หลังจากนี เรื ้ องในเรื


่ อนโย่วเอ๋อร ์สองสามีภรรยาเจ ้าก็ไม่ตอ้ งยุ่ง
้ องพูดการตัดสินใจของเขาออกมา ฝั่งหนึ่ งเป็ นภรรยา
แลว้ ” จินอ๋
ฝั่งหนึ่ งเป็ นลูกชาย เขาเองก็ลําบากใจอย่างยิงเช่
่ นกัน!
หัวใจของพระชายาจินอ๋ ้ องดิงลึ
่ ก แต่กลับได้ยน ้ องพูดต่อ
ิ จินอ๋
่ ้าดูแลได้ไม่ดเี ช่นนั้นก็ให้ภรรยาโย่ว
“สําหรับครัวใหญ่ ในเมือเจ
เอ๋อร ์มาดูแลแทนแลว้ กัน ไม่มธี รุ ะเจ ้าก็ไม่ตอ้ งออกจากเรือนแลว้ ”
พูดจบ ไม่แม้แต่จะมองพระชายาสักปราดเดียว ก ้าวยาวเดินออกไป
แลว้

พระชายาจินอ๋้ องลม้ นั่งลงบนพืนทั


้ นที หัวใจหนึ่ งดวงจมดิงถึ ่ งก ้น
ิ ้ องจะไม่ได้พูดตรงๆ แต่นางก็รู ้ว่าท่านอ๋องกักบริเวณ
เหว แม้จนอ๋
นางแลว้ สําหรับนายหญิงผูห้ นึ่ งแลว้ นี่ เป็ นเรืองอั
่ ปยศอดสูงมาก
เพียงใด! นางยังจะมีหน้าไปเจอลูกสะใภ้กบ ั คนรับใช ้ในจวนอีกหรือ
หากข่าวดังออกไป จวนเสนาบดีฉินจะถอนหมันด้ ้ วยเหตุนีหรื
้ อไม่
นางไม่กลา้ คิดต่อไปแลว้

ี ําไรที่สุด หลายปี มานี ้


ยังมีครัวใหญ่ ใครไม่รู ้บา้ งว่าครัวใหญ่มก
เพราะว่านางดูแลครัวใหญ่ ทรัพย ์สินส่วนตัวในมือจึงเพิมขึ ่ นที้ ละ
น้อยๆ
ตอนแรก นางพูดจาน่ าฟังว่าเป็ นบุตรสาวอธิการบดีสํานักราช
่ งกลับตัวเปล่าเขา้ จวนจินอ๋
บัณฑิต อันทีจริ ้ อง ไม่มส
ี น
ิ เดิมแม้แต่นิด
เดียว นางเองก็เคยวางแผนจะแย่งสินเดิมของต้วนซือ่ แต่สน ิ เดิม
่ กฮ่องเต้องค ์ก่อนเก็บกลับไปนางจึงทําไม่ได้ หมด
ของต้วนซือถู
หนทางนางจึงวางแผนส่วนงานบา้ นในจวน ดูแลจวนอ๋องมาหลายปี

เพียงนี นางสะสมทรัพย ์สินส่วนตัวได้เป็ นกอบเป็ นกํา

ทว่าตอนนี กลั้ บเอาครัวใหญ่ทมี


่ี รายรับมากทีสุ
่ ดไป มิหนํ าซําคนที
้ ่
ให้ยงั เป็ นหนามยอกอกของนาง นี่ จะให้นางยอมได้อย่างไร

“ท่านอ๋อง เหตุใดจิตใจของท่านถึงได้เ**◌้ยมโหดเพียงนี ”้ พระ


้ องหัวเราะเหอๆ ขึนมา
ชายาจินอ๋ ้ แววตาเต็มไปด้วยความเหน็ บแนม

ความรักไม่ทําให้คนทังสองหวาดระแวงบ า้ อะไร หลอกลวง
้ ้น
หลอกลวงทังนั


เห็นพระชายาทีราวกั บถูกผีสงิ เหล่าคนรับใช ้ก็ตกใจแทบแย่ ยังคง
เป็ นแม่นมซือกับหวาเยียนหวา
๋ กล
อวินที ่ า้ หาญเขา้ ไปพยุง “พระชายา ท่านอย่าได้เสียใจไปเลย
่ั
ท่านอ๋อง เอ่อท่านอ๋องจะต้องถูกคนชวลวงหลอกแน่ นอน ท่าน
อย่าได้ทอ้ ใจ อีกไม่กวั่ี นท่านอ๋องหายโกรธ ท่านก็ค่อยอธิบายกับ
เขาใหม่”

้ องกลับหัวเราะเหอๆ เพียงเท่านั้น ราวกับว่าไม่ได้


ทว่าพระชายาจินอ๋
้ น เพิงจะเดิ
ยิน นางโซเซลุกขึนยื ่ นไปได้ก ้าวเดียวก็โผลม้ ลงบนพืน้
หมดสติไปแลว้

แม่นมซือและคนอืนๆ่ ตืนตกใจ
่ “พระชายา พระชายา พระชายา
ท่านเป็ นอะไรไป เร็ว รีบไปเชิญหมอมา!” ทั่วทังเรื
้ อนแตกตืน

วุ่นวาย

้ องทีกลั
จินอ๋ ่ บไปถึงเรือนนอกในใจก็รู ้สึกไม่ดี เดิมเขาไม่อยากเป็ น

คนเด็ดขาด วันนี ลงโทษพระชายาแล ว้ ในใจเขาก็หนักอึง้ อย่างไร
เสียนั่นก็คอ ้
ื พระชายาของเขา มารดาของลูกทังสามของเขา คนที่
้ แรกพบ! พวกเขาอยู่เป็ นคู่ครองกันมายีสิ
เขาตกหลุมรักตังแต่ ่ บกว่า
่ บกว่าปี !
ปี ยีสิ

่ ั บตาใบหน้างามเคลา้ นํ ้าตาใบหน้าของพระชายากับอาหารที่
ชวพริ
จืดชืดหลายอย่างนั้นก็วนเวียนปรากฎอยู่ตรงหน้าเขา ก่อกวนจน
จิตใจของเขาไม่อาจสงบนิ่ งได้ในชวขณะ ่ั เขากระทั่งคิดว่า เหตุใด
โย่วเอ๋อร ์ถึงต้องกลับมา หากเขาไม่กลับมา พระชายาจะยังเป็ นพระ
ชายาทรงคุณธรรมผูน ้ ั้น เขาเองก็ไม่อาจมีเรืองวุ
่ ่นวายใจมากเพียง
้ แต่สติปัญญาก็บอกเขาว่าเขาคิดเช่นนี ผิ
นี ได้ ้ ดแลว้ ไม่ถูกต้อง
โย่วเอ๋อร ์เป็ นบุตรคนโตของเขา เหตุใดเขาถึงจะกลับมาไม่ได้

ข่าวพระชายาจินอ๋ ้ องหมดสติดงั มาถึงเรือนของจินอ๋


้ องแลว้ คนรับ
้ องได้ยน
ใช ้ย่อมไม่กลา้ เมินเฉย รายงานไปขา้ งในทันที จินอ๋ ิ แลว้ ก็
้ นออกไปขา้ งนอก เดินไปได้สองก ้าวก็ชะงักฝี เท้า กล่าว
ลุกขึนเดิ
อย่างอารมณ์ไม่ดี “หมดสติก็ตามหมอ มาตามขา้ ได้ประโยชน์อน ั
ใด”
เดินกลับมาอย่างฉุ นเฉี ยว ชนขอบโต๊ะในชวขณะ่ั โมโหจนถีบโต๊ะ
อย่างแรงหลายครัง้ ไม่รู ้เหมือนกันว่าระบายความโกรธใคร

บ่าวภายในห้องต่างก็ห่อไหล่ พยายามลดการมีอยู่ของตัวเอง ไม่


กลา้ ไปเป็ นตัวโชคร ้ายของท่านอ๋อง

้ องเสมือนมีหญ้าขึน้ รําคาญสุดขีด “เสียวเฉวี


หัวใจของจินอ๋ ่ ยน
เอาสุรามา เอาสุรามาให้ขา้ !” เขาตะโกนเสียงดัง

่ ดก็ยงั คงนํ าสุราไปให้จนอ๋


บ่าวรับใช ้ลังเลเล็กน้อย ท้ายทีสุ ิ ้ อง

ใช ้สุราดับทุกข ์ความทุกข ์ก็ยงเพิ ่ิ ม ่ ทีหมายถึ


่ งก็คอ ้ องนี ้
ื อย่างจินอ๋

เขาดืมแก ่
้วแลว้ แก ้วเล่า ไม่รู ้ว่าดืมไปมากน้ อยเพียงใด แต่จต ิ ใจ

กลับยิงกระจ่ าง ไม่เมาแม้แต่นิดเดียว โมโหจนเขาอยากจะขวา้ ง
แก ้วสุรา
บ่าวรับใช ้ยืนมองอยู่ขา้ งๆ อย่างอกสั่นขวัญแขวน ท่านอ๋องดืมสุ
่ รา
ไปสองไหแลว้ หากดืมต่ ่ อไปอีก…

“ท่านอ๋อง หากท่านไม่วางใจพวกเราไปดูทเรื ี่ อนพระชายาก็ย่อม


ได้” บ่าวรับใช ้กล่าวด้วยความระมัดระวัง

้ องกลับถลึงตาใส่เขา “ดูอะไรกัน มีอะไรให้น่าดู ไม่วางใจ


ทว่าจินอ๋
่ รา ขา้ จะดืมสุ
หรือ ขา้ มีอะไรให้ไม่วางใจ ดืมสุ ่ รา”

บ่าวรับใช ้ไม่กลา้ พูดต่อแลว้ แต่ก็ไม่กลา้ ปล่อยท่านอ๋องดืมต่่ อไป



หากท่านอ๋องดืมจนเป็ นอะไรไป ต่อให้เขามีสบ ิ ชีวต
ิ ก็รบั ผิดชอบไม่
ไหว!
่ อกั
ซือจื ่ บคุณชายสามต่างก็ไปทํางานทีที ่ ว่่ าการ คุณชายสีชอบ


เทียวเล่ น ไม่อยู่ในจวนเช่นกัน มีเพียงคุณชายใหญ่ทอยู ี่ ่ในจวน ได้
ไปหาคุณชายใหญ่มาโน้มน้าวแลว้ กัน

ฝั่งสวีโย่วได้ข่าวก็ไม่อยากไปอย่างยิง่ โน้มน้าวอะไรกัน ดืมให้


่ ตาย

ไปเลยสิ! ดืมตายแล ว้ จะได้รบ
ี แยกบา้ น!


เสินเวยอ่ านความคิดสวีโย่วได้ทนั ที แอบกลอกตาขาวให้เขา โน้ม
น้าวบ่าวรับใช ้พูดนั้น “คุณชายใหญ่นิสยั ดือรั
้ นเล็
้ กน้อย ขา้ จะลอง

เกลียกล่ ่
อมเขา พ่อบา้ นเสียวเฉวี ๋
ยนกลับไปก่อน อีกประเดียว
คุณชายใหญ่จะตามไป”

้ หยินใหญ่
บ่าวรับใช ้ไหนเลยจะไม่รู ้นิ สยั ของคุณชายใหญ่ ตอนนี ฮู
ยอมโน้มน้าว เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก กลับไปด้วยความ

ซาบซึงขอบคุ ณ
่ าวรับใช ้ไปแลว้ เสินเวยก็
เมือบ่ ่ ิ ้ วสวีโย่วอย่างไม่เกรงใจ “ท่านโง่
จมหั
่ ราตายแลว้ ท่านก็แยกบา้ นไม่ได้แลว้ มีพ่อท่าน
หรือไ พ่อท่านดืมสุ
้ นอยู่ พระชายาจึงไม่กลา้ ทําอะไร หากพ่อท่านไม่อยู่ พระชายา
คํายั
ก็จะเป็ นใหญ่เพียงผูเ้ ดียวในจวนจินอ๋ ้ อง ไม่แน่ ว่าอาจจะเล่นลูกไม้
อะไรอีก นางถือความชอบธรรมในการเป็ นผูอ้ าวุโส แม้ว่าพวกเรา
จะไม่กลัว แต่ก็ยุ่งยากทีสุ่ ดน่ าเบือที
่ สุ
่ ด!”

“ไม่ไป!” สวีโย่วนั่งนิ่ งไม่ขยับ “เขายังมีลูกกตัญ�ูอก


ี หลายคนมิใช่
หรือ มาหาลูกอกตัญ�ูเช่นขา้ ทําไม”

“โอ้โห ท่านกลา้ แลว้ ใช่หรือไม่ ใครกันทีบอกว่ ่ ้


าหลังจากนี จะเชื ่ ง
อฟั

ขา้ ขา้ เพิงจะแต่ งเขา้ มาได้ไม่กวั่ี นท่านก็เปลียนไปแล
่ ว้ หรือ หรือว่า

จะหลอกคนมาอยู่ในกํามือหรือ ความซือตรงและการรั กษาสัตย ์

ของท่านเล่า” เสินเวยกอดอกชายตามองเขา “ไม่ไปก็ตอ้ งไป มิ
เช่นนั้นตังแต่
้ วน ้
ั นี ไปท่ านไปนอนในห้องหนังสือ” เสินเวยข่ ่ มขู่

สวีโย่วได้รบั ความไม่ธรรมอย่างยิง่ “คาดไม่ถงึ ว่าฮูหยินปฏิบต


ั เิ ช่นนี ้

กับขา้ เพียงเพือคนนอกคนหนึ ่ ง”

เสินเวยถลึ งตาใส่เขาอย่างอารมณ์ไม่ดี “คนนอกอะไร นั่นคือพ่อ
เจ ้าไม่ใช่หรือ”

“ไม่ใช่ นั่นคือพ่อเรา!” สวีโย่วแก ้ไขด้วยสีหน้าจริงจัง ฟังเด็กคนนี ้


พูดคําก็พ่อท่านสองคําก็พ่อท่าน เขารู ้สึกไม่สบอารมณ์ยงนั ่ิ ก!


เสินเวยแค่ นเสียงหนึ่ งคราไม่ได้พูดอะไร จินอ๋
้ องไม่ใช่พ่อนางเสีย
หน่ อย นางมีพ่อกากๆ คนหนึ่ งแลว้ นั่นก็คือพ่อแท้ๆ หมดหนทาง
้ บไวใ้ ห้มารแซ่สวี
ไม่รบั ไวไ้ ม่ได้ แต่นางไม่อยากมีอีกคน วาสนานี เก็
ใช ้ดีกว่า

“ไปเถอะ ไปเถอะ พ่อท่านเป็ นคนหูเบา อ่อนไหว ท่านไม่ไปแสดง


ความกตัญ�ูแลว้ จะให้คนอืนไปหรื ่ อ ท่านไม่ตอ้ งพูดอะไร ท่านไป
นั่งตรงนั้นพ่อท่านก็รู ้สึกได้ว่าในใจท่านมีเขาแลว้ มีการอยู่เป็ น

เพือนแบบหนึ ่ งเรียกว่าอยู่ดว้ ยเงียบๆ รู ้หรือไม่ ตอนนี พ่
้ อท่านกระวน

กระวายใจ กําลังต้องการอยู่ ท่านหลอกให้เขาดีใจ เมือเขาเปิ ดใจ
้ องเลย คิดถึงชีวต
ไม่แน่ ว่าอาจจะให้พวกเราย้ายไปจวนจวินอ๋ ่ น
ิ ทีเป็

อิสระหลังออกไปสิ ไปเถอะ ไปเถอะ” เสินเวยพู ดหลอกล่อ

้ อนหลังเจียงไป๋ กลับมาก็รายงานสถานการณ์ตงแต่
ครังก่ ั้ ต น ้ จนจบ
นางประหลาดใจมาก แท้จริงแลว้ ทุกคนก็มองผิดไป คุณชายใหญ่
ของนางไหนเลยจะสงวนท่าที เห็นชดั ๆ ว่าเป็ นคนเจ ้าเล่ห ์พูดจาเป็ น
ดูสิ ดูสิ พูดแต่ละประโยคลว้ นทําให้คนสําลักตายได้ แต่พ่อเขาคาด
ไม่ถงึ ว่ายังตกหลุมพรางเขา ไม่เพียงแต่ไม่ไล่เขาออกไป ยังสั่งคน
ไปสืบครัวใหญ่ดว้ ยตัวเอง ไอหยา ท่านพีมี ่ สามารถยิงนั
่ ก! หลังจาก
นั้นก็สามารถหลบอยู่ใต้ตน้ ไม้ใหญ่ตากอากาศได้แลว้ เสินเวยมี

ความสุขนัก!

“หรือว่า ท่านก็พูดจายั่วโมโหคนเยอะๆ เหมือนครังที ้ แล


่ ว้ ให้เขา

เอือมระอา ตอนนี เขากํ าลังตกอยู่ในช่วงเสียอกเสียใจ ท่านไม่ไปดู
้ มต่างๆ นานา” ดวงตาของเสินเวยมี
หน่ อยหรือ ถือโอกาสซําเติ ่
ประกายกะพริบวาบ กะพริบแสงชวร ่ ั ้าย

สวีโย่วมองเด็กน้อยทีพยายามโน้ มน้าว ในใจก็อยากหัวเราะ แต่
้ อ เช่นนั้นเจ ้าก็
ใบหน้ากลับแน่ นตึง “อยากให้ขา้ ไปเพียงนี เลยหรื
่ นประกายกวาดมองริม
ต้องมีรางวัลหน่ อยแลว้ กระมัง” ดวงตาทีเป็
ฝี ปากแดงสวยของนาง


เสินเวยย่ ่
อมสังเกตเห็ นการเคลือนไหวของเขาแล ว้ ถลึงตามองเขา

อย่างแรง ก่นด่าคนผีทะเลในใจ ริมฝี ปากนางเพิงจะหายบวม ไม่
อาจถูกเขาทําให้เสียหายได้อก ี

แต่เห็นท่าทางไม่ยนิ ดีประหนึ่ งท่านชายนั่นของสวีโย่ว เสินเวยก็


่ ทํา
ได้เพียงเขย่งปลายเท้าจูบลงบนริมฝี ปากของเขาเล็กน้อย “เอ้า
รางวัล! ไปได้แลว้ ไปได้แลว้ ”

สวีโย่วจะพอใจได้อย่างไร กําลังจะจับเด็กน้อยมาจูบใหม่อก ี ครัง้



เสินเวยก็ บด ่
ิ ตัววิงหนี ไปก่อนแลว้ สวีโย่วกระทืบเท้าอย่างเคียดแค้น
เจตนานั้นชดั เจน เด็กแสบ รอก่อนเถอะ ค่อยกลับมาจัดการเจ ้าที
หลัง

เสินเวยแลบลิ ้ เขา ยิมอย่
นใส่ ้ างเบิกบานใจ เหอะ ไม่กลัวเจ ้าหรอก!
มาสิ มาสิ! มากัดขา้ สิ!

ท่าทางพึงพอใจนั้นทําให้สวีโย่วอยากจะกดนางไวใ้ ต้รา่ งแลว้


ลงโทษเสียทันที
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 229-1 ดูแลคนป่ วย
หมอมาเร็วอย่างยิง่ จับชีพจรให้พระชายาจิ้นอ๋ อง จากนั้นก็ฝังเข็ม
พระชายาจิ้นอ๋ องจึงค่อยๆ ฟื้ นขึ้นมา เหล่าคนรับใช้ที่ลอ้ มนางอยูจ่ ึง
ถอนหายใจอย่างโล่งอก โดยเฉพาะแม่นมซือ ดีใจจนน้ าตาไหล
“พระคุม้ ครอง พระชายาท่านฟื้ นแล้ว ทาบ่าวกลัวแทบแย่”
พระชายาจิ้นอ๋ องคิดจะลุกขึ้นนัง่ แต่กลับไม่มีแรงแม้แต่จะโบกมือ
นางหันหน้ามองข้างนอก “ท่านอ๋ องเล่า”
เห็นความคาดหวังในแววตาของพระชายา แม่นมซือกับหวาเยียนก็
อดก้มหน้าไม่ได้ “ท่าน…ท่านอ๋ องออกจากจวนไปแล้วเพคะ” แม่
นมซือโกหกด้วยเจตนาดี “พระชายาท่านอย่าได้ร้อนใจ ส่ งคน
ออกไปหาแล้ว ท่านไม่ตอ้ งเป็ นห่วงท่านอ๋ อง ดูแลร่ างกายตนเองให้
ดีจะดีกว่า อยูด่ ีๆ ถึงเป็ นลมไปได้อย่างไร ทาพวกบ่าวตกใจแทบแย่”
หวาเยียนเองก็กล่าว “นัน่ สิ เพคะพระชายา หมอบอกว่าท่านเครี ยด
เกินไป ตอนนี้การสมรสของคุณชายสี่ กก็ าหนดแล้ว ท่านก็อย่าเป็ น
กังวลเกินไปนัก” หมอยังบอกว่าโมโหจนความดันโลหิตพุง่ สู ง หวา
เยียนก็ไม่ได้พดู ถึง เป็ นสาวใช้ใหญ่ที่ได้รับความไว้ใจที่สุดข้างกาย
พระชายาจิ้นอ๋ อง หาผลประโยชน์เลี่ยงอันตรายกลายเป็ น
ความสามารถชนิดหนึ่งแล้ว
เดิมพระชายาจิ้นอ๋ องก็เป็ นคนฉลาด จะฟังคาปลอบใจในคาพูดของ
แม่นมซือกับหวาเยียนไม่ออกได้อย่างไร “ข้ารู ้วา่ ท่านอ๋ องตาหนิขา้ ”
บนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความผิดหวัง ลมหายใจที่ข่มเอาไว้
ปล่อยออกมา รู ้สึกเพียงในสมองมีเสี ยงดังหึ่ งๆ ในใจเองก็อดั อั้น
อย่างยิง่
แม่นมซือกาลังจะเอ่ยปากอีกครั้ง ถูกพระชายาจิ้นอ๋ องส่ ายหน้าห้าม
นางหลับตารู ้สึกเพียงแค่เหนื่อยและหมดหวัง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จิ้นอ๋ องบันดาลโทสะกับนาง แต่กลับเป็ นครั้งแรก
ที่ท่านอ๋ องรู ้วา่ นางเป็ นลมแต่กลับไม่ได้มาดูนางทันที เมื่อก่อนต่อให้
นางจะไอหรื อปวดหัว ท่านอ๋ องก็จะตื่นตระหนกอย่างยิง่ ดูท่าแล้ว
ครั้งนี้ท่านอ๋ องจะโกรธนางแล้วจริ งๆ เหอๆ นางอยูข่ า้ งกายเขามา
ยีส่ ิ บกว่าปี คลอดบุตรดูแลจวนอ๋ องเพื่อเขา นางทาเพื่อเขามามาก
เพียงนั้น ท้ายที่สุดยังเทียบคนชัว่ ผูน้ ้ นั ไม่ได้ ในใจพระชายาจิ้นอ๋ อง
รู ้สึกเหยียดหยามอย่างถึงที่สุด นางควรจะทาให้ท่านอ๋ องหายโกรธ
แล้วกลับมาเชื่อใจนางใหม่อย่างไร
แม่นมซื่อและคนรับใช้คนอื่นๆ มองเห็นเพียงมีน้ าตาหนึ่งหยดไหล
ลงมาจากหางตาของพระชายาจิ้นอ๋ อง ต่างก็มองหน้ากันและกัน แต่
กลับไม่กล้าเกลี้ยกล่อมอะไรง่ายๆ อีก
พระชายาจิ้นอ๋ องหมดสติและนางได้อานาจดูแลครัวใหญ่สองข่าวนี้
ดังมาถึงหูเสิ่ นเวยพร้อมกัน หลังจากนั้นนางก็หวั เราะด้วยความใจ
แคบอย่างยิง่ เกรงว่าเป็ นเพราะเหตุการณ์อย่างหลังจึงทาให้เกิดอย่าง
หน้าใช่หรื อไม่ ก็แค่อานาจดูแลครัวใหญ่มิใช่หรื อ พระชายาจิ้นอ๋ อง
ถึงขนาดทรมานตัวเองจนหมดสติเลยหรื อ ประสบการณ์นอ้ ยเกินไป
แล้ว ความอดทนก็ไม่มากเช่นกัน!
แต่วา่ จิ้นอ๋ องก็ดีต่อพระชายาจริ งๆ มอบอานาจดูแลครัวใหญ่ให้นาง
ก็ไม่ใช่เพื่อปลอบใจหรอกหรื อ นางได้อานาจดูครัวใหญ่กไ็ ม่อาจพูด
อะไรได้อีกไม่ใช่หรื อ อีกทั้งนางยังต้องย้ายตามสวีโย่วไปจวนจวิน้
อ๋ องอีก ได้อานาจดูแลนี้แล้วจะดูแลได้สกั เท่าไร ท้ายที่สุดครัวใหญ่ก็
ต้องกลับไปอยูใ่ นมือพระชายาจิ้นอ๋ องอยูด่ ีไม่ใช่หรื อ
จิ้นอ๋ องทาเช่นนี้ลว้ นแต่เป็ นการคิดเพื่อพระชายา! ไม่รู้วา่ พระชายา
จะเข้าใจความพยายามของท่านอ๋ องหรื อไม่ คาดว่าคงจะไม่เข้าใจ มิ
เช่นนั้นจะโกรธจนเป็ นลมไปได้อย่างไร
สาหรับอานาจดูแลครัวใหญ่ กระทัง่ งานในจวนจิ้นอ๋ อง เสิ่ นเวย
ไม่ได้เห็นอยูใ่ นสายตา ไม่ชา้ ไม่เร็ วนางก็ตอ้ งย้ายตามสวีโย่วไปจวน
จวิน้ อ๋ อง ต่อให้จะได้อานาจดูแลงานในจวนจิ้นอ๋ องแล้วอย่างไร นาง
จะดูแลได้สกั กี่วนั ไม่ใช่วา่ ยังต้องมอบออกไปอีกไม่ใช่หรื อ เรื่ อง
โง่ๆ เช่นการลาบากกายใจทางานเพื่อคนอื่นนางไม่ทาหรอก
แต่วา่ ในเมื่อจิ้นอ๋ องพูดแล้วนางก็ไม่อาจผลักไสอย่างโง่เขลา คุมครัว
ใหญ่ อย่างน้อยนางก็สามารถกินได้อย่างสบายใจหน่อย
“ฮูหยิน คราวนี้ดีแล้ว ในที่สุดพวกเราก็ไม่ตอ้ งเป็ นห่วงเรื่ องอาหาร
แล้ว” สาวใช้หลายคนข้างกายเสิ่ นเวยดีใจอย่างถึงที่สุด
เสิ่ นเวยเลิกคิ้ว กล่าว “พวกเจ้าอย่าดีใจเร็ วเกินไป พวกเราเพิ่งเข้ามา
ฐานยังไม่มนั่ คง ครัวใหญ่มีแต่คนแก่ที่กลับกลอก จะเชื่อฟังฮูหยินข
องเจ้าเพียงนั้นเลยหรื อ
เหอฮวาเด็กสาวที่ดุดนั ผูน้ ้ ีก็ตบอกเสนอตัวทันที “ฮูหยิน บ่าวไปช่วย
ท่านจัดการครัวใหญ่เอง คนไหนไม่เชื่อฟังบ่าวจะโบยนาง รับรองว่า
จะทาให้พวกนางว่านอนสอนง่าย”
คนหลายคนที่เหลือต่างก็พากันพยักหน้า ท่าทางเห็นด้วยกับเหอฮวา
ตนเองก็กระตือรื อร้นอยากจะลองด้วย
เสิ่ นเวยก่ายหน้าผาก ดูสิ ดูสิ เหตุใดนับวันสาวใช้เหล่านี้ขา้ งกายนาง
ถึงได้หา้ วหาญขึ้นเรื่ อยๆ เล่า นายเช่นนางอ่อนหวานว่าง่ายจะตาย
ไป!
“เจ้า อยูข่ า้ งๆ ข้าให้นิ่งก็พอ! พวกเราจะอยูใ่ นจวนอ๋ องอีกสักกี่วนั ไม่
คุม้ จะไปผิดใจใคร ครัวใหญ่ดูแลตามเดิมทั้งหมด เลื่อนตาแหน่งรอง
เดิมเป็ นแม่บา้ น พวกนางเคยทาเช่นไรตอนนี้กท็ าเช่นนั้น ส่ วนพวก
เรา ไม่หวังคุณงามความดีขอแค่ไม่ทาผิดก็พอ” เสิ่ นเวยกล่าวเสี ยง
เรี ยบ
“ฮูหยิน เช่นนั้นพวกเราจะไม่เข้าไปยุง่ แม้แต่คนเดียวเลยหรื อ” เหอฮ
วาเบะปากไม่ยนิ ยอมเล็กน้อย
เสิ่ นเวยชายตามองนางปราดหนึ่ง กล่าว “แน่นอนว่าไม่ใช่ ข้าเตรี ยม
จะให้พี่เฉินพาสาวใช้เล็กคนหนึ่งไป พี่เฉิ นรับตาแหน่งรองไม่ตอ้ ง
สอดมือเข้าไปยุง่ เรื่ องครัวใหญ่ ขอเพียงแค่รับผิดชอบอาหารของข้า
กับคุณชายใหญ่กพ็ อแล้ว” ของที่เข้ามาในบ้านต้องผ่านคนของตนจึง
จะวางใจได้!
หยุดครู่ หนึ่งนางจึงกล่าวต่อ “หากเจ้าชอบดูแลครัวใหญ่จริ งๆ รอ
พวกเราย้ายไปจวนจิ้นอ๋ องแล้ว ครัวใหญ่ส่วนนี้กย็ กให้เจ้าดูแล”
เหอฮวาปฏิเสธทันที กระทืบเท้าแค้นเคือง “ฮูหยิน บ่าวเพียงแค่อยาก
แบ่งเบาภาระท่าน ใครทนเหนื่อยทนดูแลครัวใหญ่กนั เล่า บ่าวไม่ไป
ไหนทั้งนั้น จะอยูร่ ับใช้ขา้ งกายฮูหยิน”
คนทั้งหมดในครัวใหญ่กระวนกระวายราวกับวิหคตื่นเกาทัณฑ์
แม่บา้ นหม่าที่มีหน้ามีตามาสิ บกว่าปี จบชีวิตในชัว่ พริ บตา สื บหา
เหตุผลพวกนางต่างรู ้ดีแก่ใจ ก็แค่ช่วยพระชายากดดันคุณชายใหญ่ฮู
หยินใหญ่ไม่ใช่หรื อ ตอนนี้ครัวใหญ่ตกอยูใ่ นมือฮูหยินใหญ่ ยังไม่รู้
ว่านางจะจัดการพวกนางอย่างไร
แต่สิ่งที่ทาให้พวกนางคิดไม่ถึงก็คือ ฮูหยินใหญ่คาดไม่ถึงว่าไม่มา
พบพวกนาง แต่เลื่อนแม่บา้ นรองของพวกนางเป็ นแม่บา้ นใหญ่ทนั ที
สัง่ เพียงแค่ให้พวกนางทาหน้าที่ให้ดี ครัวใหญ่ยงั คงจัดการแบบเดิม
ส่ งหญิงแซ่เฉินผูห้ นึ่งมารับผิดชอบเพียงแค่อาหารของฮูหยินใหญ่
กับคุณชายใหญ่ ทั้งหมดที่เหลือไม่ยงุ่ เกี่ยว
แรกเริ่ มพวกนางยังไม่กล้าเชื่อ ฮูหยินตระกูลใดบ้างได้อานาจดูแล
ครัวใหญ่แล้วไม่แทรกคนสนิทของตัวเองเข้ามาขูดรี ดผลประโยชน์
อย่างกาเริ บเสิ บสาน ฮูหยินใหญ่จะเป็ นข้อยกเว้นได้อย่างไร แม้วา่
แม่บา้ นซุนจะได้เลื่อนขั้นให้เป็ นแม่บา้ นใหญ่ แต่กลับไม่กล้า
ตัดสิ นใจเอง ไม่วา่ เรื่ องใดๆ ล้วนไปปรึ กษาพี่เฉิ น ทว่าพี่เฉิ นกลับไม่
ออกความเห็นใดๆ เหมือนอย่างที่นางได้พดู ไว้
เวลานานเข้า ทุกคนก็ดูออกแล้วว่าพี่เฉินไม่ยงุ่ เกี่ยวกับเรื่ องในครัว
ใหญ่จริ งๆ ส่ วนฮูหยินใหญ่กไ็ ม่ได้เห็นผลประโยชน์ของครัวใหญ่
อยูใ่ นสายตาอย่างสิ้ นเชิง ในขณะที่วางใจก็เกรงใจพี่เฉิ นมากยิง่ ขึ้น มี
ผลประโยชน์อะไรล้วนแต่แบ่งให้นางด้วยตัวเอง อีกทั้งอาหารที่
ส่ งไปยังเรื อนเสิ่ นเวยก็ยงั ตั้งใจทาอย่างถึงที่สุด
แน่นอน นี่ลว้ นแต่เป็ นเรื่ องที่เกิดขึ้นในภายหลัง
พูดเรื่ องครัวใหญ่เสร็ จเสิ่ นเวยเองก็ไม่ได้วา่ ง พระชายาจิ้นอ๋ องเป็ น
ลมแล้ว ลูกสะใภ้เช่นนางย่อมต้องไปดูแลคนป่ วย มิเช่นนั้นจะไม่มี
ความกตัญญูอย่างมาก
ตอนที่เสิ่ นเวยไปถึงเรื อนพระชายาจิ้นอ๋ อง อู๋ซื่อกับหูซื่อก็อยูก่ ่อน
แล้ว กาลังล้อมพระชายาจิ้นอ๋ องถามไถ่อาการอยู่
“น้องสะใภ้รอง น้องสะใภ้สามมาเร็ วเพียงนี้เลยหรื อ เสด็จแม่ท่าน
เป็ นอะไรไป อยูด่ ีๆ เป็ นลมไปได้อย่างไร หาหมอแล้วหรื อยัง ว่า
อย่างไรบ้าง ลูกได้ข่าวช้าเล็กน้อย มาช้าไปเล็กน้อย ท่านแม่ท่านอย่า
ตาหนิ” เสิ่ นเวยกล่าวด้วยสี หน้าเป็ นห่วง
เมื่อได้ยนิ เสี ยงของเสิ่ นเวย พระชายาจิ้นอ๋ องก็หนังตากระตุกอย่างไม่
มีเหตุผล เค้นรอยยิม้ ที่อ่อนเพลียกล่าว “ไม่เป็ นไร คาดว่าคงจะ
เหนื่อยเกินไป เมื่อคืนพักผ่อนไม่พอ ลุกจากเตียงเร็ ว ดูพวกเจ้าแต่ละ
คนทาราวกับเป็ นเรื่ องใหญ่ หมอบอกว่าพักผ่อนไม่กี่วนั ก็หายแล้ว”
อู๋ซื่อขมวดคิ้ว ไม่เห็นด้วย “ดูหน้าเสด็จแม่ซีดเผือด ไหนเลยจะไม่
เป็ นไร เสด็จแม่ท่านต้องพักผ่อนให้ดีตามที่หมอว่า” นางดูแลงาน
ส่ วนหนึ่งในจวน รู ้มารางๆ ว่าก่อนแม่สามีเป็ นลมคล้ายมีปากเสี ยง
กับท่านอ๋ อง
เสิ่ นเวยเองก็ยน่ ใบหน้าเล็กๆ พยักหน้าคล้อยตาม “ใช่แล้วๆ
น้องสะใภ้รองพูดถูกต้อง พักผ่อนเพียงพอแล้วจะไม่เป็ นไรได้
อย่างไร เสด็จแม่อย่าคิดว่าร่ างกายตนไม่เป็ นไร เกิดเรื่ องอะไรขึ้นมา
จะเสี ยใจทีหลัง” นางกล่าวอย่างตั้งใจ
หูซื่อที่อยูบ่ ารุ งครรภ์ในเรื อนเพียงผูเ้ ดียวไม่รู้อะไรทั้งสิ้ น ยังคิดว่าแม่
สามีเหนื่อย กล่าวด้วยความละอายใจ “ผิดที่ลูกร่ างกายไม่ดี ไม่อาจ
ช่วยเสด็จแม่แบ่งเบาภาะระได้ กลับทาให้เสด็จแม่เหนื่อยจนเป็ นลม”
หูซื่อกาลังตั้งครรภ์ อีกทั้งครรภ์ยงั ไม่ค่อยแข็งแรงนัก ตั้งแต่ที่ต้ งั ท้อง
มาจนตอนนี้กเ็ กือบจะสามเดือนแล้ว ตกเลือดมาสองครั้งแล้ว ยังดีที่
ไม่มีอนั ตราย พระชายาจิ้นอ๋ องคาดหวังกับท้องนี้ของนางอย่างมาก
ย่อมต้องสัง่ ให้นางพักผ่อนอยูใ่ นเรื อน ไม่ให้นางทุกข์ใจใดๆ ทั้งสิ้ น
แม้แต่การเคารพทุกวันก็ยงั ให้นางเลี่ยง
ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็ นภาพหลอนของพระชายาจิ้นอ๋ องหรื อว่าอะไร
นางมักจะรู ้สึกว่าตอนที่เสิ่ นซื่อพูดคาว่าพักผ่อนสองคานี้ไม่เข้าหูมาก
เป็ นพิเศษ ท่านอ๋ องลงโทษนางไม่ให้ออกจากเรื อนหากไม่มีธุระ ก็
ต้องพักผ่อนมิใช่หรื อ หรื อว่าเสิ่ นซื่อรู ้อะไรเข้าแล้ว เมื่อฟังคาพูด
ของนางต่อ อะไรคือเสี ยใจทีหลัง นี่ไม่ได้เป็ นการสาปแช่งให้นาง
เป็ นอะไรหรื อ แม้แต่พดู ยังพูดไม่เป็ น โชคร้ายนัก
“ภรรยาโย่วเอ๋ อร์เป็ นห่วงแล้ว ข้าป่ วยคราวนี้คงต้องพักหลายวัน งาน
อื่นๆ ในจวนก็มีภรรยาเยีย่ เอ๋ อร์แล้ว ข้าไม่เป็ นห่วง มีแต่ครัวใหญ่ที่
ข้าไม่วางใจ เจ้าเป็ นคนฉลาด งานในครัวใหญ่น้ ีกล็ าบากเจ้าแล้ว”
พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าวหยัง่ เชิง
พี่สะใภ้ใหญ่ดูแลครัวใหญ่ง้นั หรื อ หัวใจของอู๋ซื่อกับหูซื่อเต้นพร้อม
กัน โดยเฉพาะอู๋ซื่อ นางมองเสิ่ นเวยปราดหนึ่งก็หลุบตาลง ดู
ความรู ้สึกในแววตาของนางไม่ออก
เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะในใจ เห็นชัดๆ ว่าท่านอ๋ องสัง่ ให้นางดูแลครัว
ใหญ่ เหตุใดถึงกลายเป็ นพระชายาไหว้วานนางแล้วเล่า ปิ ดทองหน้า
ตัวเองเก่งจริ งๆ
“เฮ้อ ลูกไหนเลยจะเคยทางาน แต่เพื่อแบ่งเบาภาระเสด็จแม่แล้ว ทา
ให้เสด็จแม่สบายใจพักฟื้ นได้ ลูกก็ทาได้เพียงพยายามรับงานนี้ต่อ
ลูกไม่รู้เรื่ องอะไรเลย ยังต้องให้เสด็จแม่ช้ ีแนะเยอะๆ” เสิ่ นเวยพูด
อย่างจริ งจัง หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่าว “ยายหม่าผูน้ ้ นั ในครัวใหญ่ทา
ผิดพลาดถูกท่านอ๋ องลงโทษแล้ว ลูกจึงเลื่อนขั้นแม่บา้ นรองขึ้นมา
เติมที่วา่ งของนาง งานทั้งหมดในครัวใหญ่ยงั คงจัดการเหมือนตอนที่
เสด็จแม่ดูแล ใครควรทาอะไรก็ทาเช่นนั้น ตรงไหนเกิดข้อผิดพลาด
ข้าก็จะหาเพียงแค่คนผูน้ ้ นั ที่รับผิดชอบ อ้อจริ งสิ ลูกยังส่ งพี่เฉิ นข้าง
กายไปด้วย นางรับใช้ขา้ งกายลูกมาหลายปี แล้ว รู ้รสนิยมของข้า ลูก
จึงให้นางดูแลอาหารของลูกกับคุณชายใหญ่เป็ นพิเศษ”
หนังตาของพระชายาจิ้นอ๋ องกระตุกอีกครั้ง เหตุใดนางถึงรู ้สึกว่าใน
คาพูดของเสิ่ นซื่อมีเจตนาอยูเ่ ล่า หรื อว่าเสิ่ นซื่อผูน้ ้ ีจะซื่อเป็ นแมว
นอนหวด หรื อว่าจะดวงชะตาของเสิ่ นซื่อจะขัดกับนางเล็กน้อย
เหมือนอย่างที่แม่นมซือพูดไว้จริ งๆ เสิ่ นซื่อดีแล้วแต่นางกลับดีไม่ได้
ดูสิ ตั้งแต่นางเข้าจวนมา ชีวติ ของตนก็ไม่ราบรื่ น เช่นนั้นหากเสิ่ นซื่อ
โชคร้ายนางก็จะโชคดีใช่หรื อไม่
พระชายาจิ้นอ๋ องคิดว่าน่าจะเป็ นอย่างหลัง ใช่แล้ว ดวงชะตาของเสิ่ น
ซื่อไม่ถูกกับนาง ตอนที่พระราชทานสมรสไม่ใช่วา่ กันว่าเสิ่ นซื่อดวง
แข็งหรอกหรื อ นางคิดถึงตรงนี้ ในใจก็ตดั สิ นใจได้แล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 229-2 ดูแลคนป่ วย
ตอนที่แม่นมซือเชิญเสิ่ นเวยอย่างนุ่มนวลว่าให้อยูด่ ูแลไข้พระชายา
ตอนกลางคืน เสิ่ นเวยก็เตรี ยมใจไว้นานแล้ว แม่นมซือผูน้ ้ นั กลัวนาง
จะคิดมาก ยังพยายามอธิบายต่อ “ข้างกายฮูหยินซื่อจื่อยังต้องเลี้ยง
คุณหนูสองคน ปลีกตัวมาไม่ได้จริ งๆ ฮูหยินสามก็ต้ งั ครรภ์อยู่ ไม่
ควรออกแรงเยอะ ทาได้เพียงลาบากฮูหยินใหญ่อยูช่ ่วยยกน้ าชาส่ ง
ของให้พระชายาแล้ว”
เสิ่ นเวยโบกมืออย่างไม่สนใจ กล่าวด้วยท่าทีจริ งจัง “ดูแม่นมซือพูด
เข้า ดูแลไข้เสด็จแม่เป็ นหลักกตัญญูที่ลูกควรมี น้องสะใภ้รอง
น้องสะใภ้สามคนหนึ่งปลีกตัวไม่ได้ คนหนึ่งตั้งครรภ์อยู่ คนไม่มี
ภาระเช่นลูก ทั้งยังเป็ นสะใภ้คนโต จะไม่ทาตัวเป็ นแบบอย่างที่ดีได้
อย่างไร หลีฮวา เจ้ากลับไปที่เรื อนพวกเราเที่ยวหนึ่ง บอกคุณชาย
ใหญ่วา่ คืนนี้ขา้ ไม่กลับเรื อนแล้ว อยูท่ ี่นี่ดูแลเสด็จแม่ จากนั้นเจ้าก็ไม่
ต้องกลับมาแล้ว ที่นี่ขา้ มีเย่วก์ ยุ้ ก็พอแล้ว เจ้าพักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่ งนี้
มาแทนเย่วก์ ยุ้ ”
ข้าวเย็นกินที่เรื อนพระชายาจิ้นอ๋ อง พระชายาจิ้นอ๋ องนอนอยูบ่ น
เตียงย่อมลุกขึ้นไม่ได้ ทัว่ ทั้งเรื อนก็มีเพียงเสิ่ นเวยที่เป็ นนายที่ถูกต้อง
นางใช้พี่เฉินให้ส่งกับข้าวมาด้วยตัวเอง มีความสุ ขยิง่ นัก!
พระชายาจิ้นอ๋ องตัดสิ นใจจะกลัน่ แกล้งเสิ่ นเวยแล้ว เพียงแค่เสิ่ นซื่อ
ไม่สมปรารถนาดวงของนางจึงจะดีข้ ึน
เสิ่ นเวยกินข้าวเย็นเสร็ จแล้วก็เลี้ยวเข้ามาในห้องด้านใน พระชายาจิ้
นอ๋ องกาลังพิงหัวเตียง บนโต๊ะข้างเตียงวางข้าวต้มเนื้อแดงไว้หนึ่ง
ถ้วย ไม่รอให้พระชายาจิ้นอ๋ องเอ่ยปากเสิ่ นเวยก็แย่งพูดขึ้นก่อน “แม่
นางหวาเยียนยังชักช้าอยูไ่ ย กี่โมงกี่ยามแล้ว ยังไม่รีบปรนนิบตั ิเสด็จ
แม่ทานอาหารอีก”
หวาเยียนที่ยนื อยูข่ า้ งๆ กาลังจะยกชามขึ้น ถูกแววตาของพระชายาจิ้
นอ๋ องหยุดไว้ แม่นมซือที่รู้ใจนางก็รีบกล่าว “ฮูหยินใหญ่ รบกวน
ท่านปรนนิบตั ิพระชายาทานอาหารเถิด เช่นนี้จะได้แสดงความ
กตัญญูของท่านได้”
“ได้สิ!” เสิ่ นเวยยิม้ มองแม่นมซือปราดหนึ่ง ตอบด้วยความสบายใจ
อย่างยิง่ แต่กก็ ล่าวเตือน “เสด็จแม่ อันที่จริ งลูกอยากปรนนิบตั ิท่าน
ทานอาหาร เพียงแต่อย่างไรเสี ยลูกก็ไม่ใช่คนรับใช้ ไม่เคยทางาน
ปรนนิบตั ิคนจริ งๆ หากทาตรงไหนไม่ดีท่านก็อย่าได้ถือสาเลย”
พระชายาจิ้นอ๋ องย่อมต้องบอกว่าไม่ถือสา ปากบอกว่าลาบากภรรยา
โย่วเอ๋ อร์แล้ว แต่ที่จริ งในใจกลับพอใจยิง่ นัก
แต่วา่ ความพอใจของพระชายาจิ้นอ๋ องกลับประคองไปได้เพียงแค่
ชัว่ ครู่ เหตุใดน่ะหรื อ ข้าวต้มเนื้อแดงหนึ่งถ้วยป้อนได้ไม่ถึงครึ่ งก็หก
ลงเสื้ อผ้าบนร่ างพระชายาและผ้าไหมที่ห่มอยู่
ใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องดาราวกับก้นหม้อแล้ว เสิ่ นซื่อผูน้ ้ ีต้ งั ใจ
ใช่หรื อไม่ นางเห็นชัดเจนอย่างยิง่ ช้อนคันนั้นยืน่ มาทางปากนาง
เหตุใดถึงดันหกลงบนเสื้ อ บนผ้าห่มของนางได้เล่า นี่ยงั ดี มีสอง
ช้อนที่หกลงบนจมูกนาง ทาให้หน้าของนางเหนียวหนึบไม่สบาย
อย่างถึงที่สุด
“พอแล้ว พอแล้ว เจ้าวางลงเถอะ หวาเยียนเข้ามาปรนนิบตั ิ” พระ
ชายาจิ้นอ๋ องผลักเสิ่ นเวยหนึ่งครา น้ าเสี ยงกลายเป็ นหยาบกระด้าง
ขึ้นมาทันที
ทว่าเสิ่ นเวยกลับน้อยใจอย่างถึงที่สุด “เสด็จแม่ ลูกบอกแล้วว่า
ปรนนิบตั ิคนไม่เป็ น ไม่มีประสบการณ์ ท่านบอกเองว่าท่านไม่ถือ
สา”
พระชายาจิ้นอ๋ องมองสี หน้าที่ร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อนัน่ ของเสิ่ น
เวย ในใจก็เสมือนยัดตะกัว๋ หนึ่งก้อนใหญ่เอาไว้ อย่าว่าแต่อึดอัดใจ
เลย “พอแล้ว ข้าไม่ได้วา่ เจ้า นัง่ พักอยูข่ า้ งๆ เถอะ” หวาเยียนหวาอวิ๋น
เข้ามาปรนนิบตั ิ” ตีไม่ได้วา่ ไม่ได้ ซ้ ายังต้องใจกว้างเมตตาบอกว่าไม่
ถือสา ความรู ้สึกของพระชายาจิ้นอ๋ อง หึๆ เจ้าสามารถหาคามา
อธิบายได้หรื อไม่
เสิ่ นเวยนัง่ ลงบนเก้าอี้ราวกับถูกยกภูเขาออกจากอก อันที่จริ งนางคิด
จะนัง่ บนตัง่ อย่างไรเสี ยตัง่ ก็นุ่ม นัง่ สบาย แต่เสิ่ นเวยมองอยูน่ าน ที่ที่
วางตัง่ นุ่มไว้แต่เดิมกลับว่างเปล่า ชัว่ ขณะนางก็เข้าใจเจตนาของพระ
ชายาจิ้นอ๋ องแล้ว
เหอะ แม้แต่ตงั่ นุ่มก็ยา้ ยออกไป คิดจะบังคับให้นางไม่นอนทั้งคืนงั้น
หรื อ หึ อย่าได้คิด! เสิ่ นเวยกาชับเสี ยงต่าข้างหูเย่วก์ ยุ้ หลายประโยค
เย่วก์ ยุ้ พยักหน้าถอยออกไปแล้ว
หวาเยียนหวาอวิ๋น กระทัง่ แม่นมซือพยุงพระชายาจิ้นอ๋ องไปล้าง
หน้าด้วยกัน เปลี่ยนชุด จากนั้นก็เปลี่ยนผ้าห่ม ทาเยอะแยะมากมาย
เช่นนี้ ข้าวต้มเนื้อแดงชามนั้นก็เย็นชืดนานแล้ว ทาได้เพียงสัง่ ให้ครัว
ใหญ่ส่งมาอีกหนึ่งถ้วย
ของที่เข้าเรื อนนายล้วนแต่ตอ้ งตรวจสอบ แม้วา่ จะไม่ทานก็ตอ้ งทา
ก่อน เพียงแต่ระหว่างทางไปกลับก็ตอ้ งใช้เวลาแล้ว ตอนที่รอข้าวต้ม
เนื้อแดงชามที่สองส่ งมา พระชายาจิ้นอ๋ องก็หิวจนท้องร้อง นางให้
หวาเยียนป้อนกินอย่างเอร็ ดอร่ อย!
พระชายาจิ้นอ๋ องกินข้าวต้มเนื้อแดงเสร็ จแล้วยังรู ้สึกว่าไม่พอ กาลัง
จะเอ่ยปากขออีก เสิ่ นเวยที่นงั่ อยูข่ า้ งๆ ก็กล่าว “เสด็จแม่ ท่านยังป่ วย
อยู่ ค่าเพียงนี้แล้วทานเยอะเดี๋ยวอาหารจะไม่ยอ่ ย”
แม่นมซือเองก็โน้มน้าว “ฮูหยินใหญ่พดู ถูก หากพระชายาชอบทาน
ข้าวต้มนี้ พรุ่ งนี้เช้าค่อยให้ครัวใหญ่ทาอีกก็ได้” แม้แต่หวาเยียน
หวาอวิ๋นก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้นางกินเยอะ พระชายาป่ วยแล้ว หากยัง
กินอีก เช่นนั้นก็จะเป็ นความผิดของคนเป็ นบ่าวเหล่านี้เช่นพวกนาง
พระชายาจิ้นอ๋ องอัดอั้นใจยิง่ นัก นางยังหิวอยูเ่ ลย จะอาหารไม่ยอ่ ย
ได้อย่างไร นางโวยวายจะกินอีกถ้วย
เสิ่ นเวยอดทนเกลี้ยกล่อม “เสด็จแม่ ท่านอย่าละเลยร่ างกายตนเอง
ท่านกินไปหนึ่งถ้วยแล้ว อีกประเดี๋ยวก็ตอ้ งดื่มยา ไม่อาจทานได้อีก
แล้ว หากท่านอยากทานจริ งๆ รออีกสองชัว่ ยามได้หรื อไม่”
แม่นมซือและคนอื่นๆ เองก็คิดว่าพระชายาป่ วยอารมณ์ไม่ดีหงุดหงิด
จึงพูดเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด แต่ไม่วา่ อย่างไรก็ไม่ให้นางกินอีก ทา
เอาพระชายาจิ้นอ๋ องโมโห หน้าเขียวจัดแล้ว
เมื่อเป็ นเช่นนี้พระชายาจิ้นอ๋ องจึงยิง่ เห็นเสิ่ นเวยไม่เข้าตา หากบอก
ว่าก่อนหน้านี้เป็ นเพียงแค่กลัน่ แกล้งนางให้ตนเปลี่ยนชะตา แต่
ตอนนี้น่ะหรื อ เหอๆ ต่อให้จะเปลี่ยนชะตาไม่ได้พระชายาจิ้นอ๋ องก็
ต้องทรมานเสิ่ นเวยอย่างโหดเ**้้ยม
“ภรรยาโย่วเอ๋ อร์ เสด็จแม่อยากเปลี่ยนเสื้ อผ้า เจ้าเข้ามาปรนนิบตั ิแม่
หน่อย” พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าวด้วยเจตนาร้าย ป้อนข้าวไม่ได้ คง
ไม่ใช่วา่ จะทาไม่เป็ นแม้แต่พยุงคนกระมัง อ้อ ที่บอกว่าเปลี่ยนเสื้ อก็
ต้องไปห้องน้ าอย่างไรเล่า!
“ได้สิๆ เสด็จแม่ ให้ลูกช่วยพยุงท่าน ท่านระวังหน่อย!” เสิ่ นเวยเดิน
เข้าไปอย่างเชื่อฟัง ประคองจิ้นพระชายาลงจากเตียง
เมื่อเท้าของพระชายาจิ้นอ๋ องแตะพื้นก็กดแรงทั้งร่ างลงไปบนตัวเสิ่ น
เวยทั้งหมด เสิ่ นเวยดีใจในชัว่ ขณะ เอ๋ พระชายาจิ้นอ๋ องคิดจะทา
อะไร เป็ นคนสองภพ คนที่สนิทกับนางทั้งหมดต่างก็ไม่มีทางเล่น
ลูกไม้น้ ีต่อหน้านาง จาใจต้องบอกว่าพระชายาจิ้นอ๋ องเป็ นผูไ้ ม่รู้จึง
ไม่กลัว!
มา จุดเทียนให้คนฉลาดไม่หวาดกลัวอย่างพระชายาจิ้นอ๋ อง
ดวงตาเสิ่ นเวยมีประกายเจ้าเล่ห์แวบผ่าน ขาอ่อน เท้าโซเซ ร่ างทั้ง
ร่ างก็ลม้ ตามลงไปข้างๆ ด้วยฝี มือของนางล้มลงไปได้สิแปลก แม่
นมซือและคนอื่นๆ เห็นนางล้มลงบนพื้น อันที่จริ งนางเพียงแต่แตะ
พื้นเบาๆ กลับเป็ นพระชายาจิ้นอ๋ องที่ถูกนางพยุงถูกนางดึงจนล้มลง
บนพื้นอย่างแรง
“โอ๊ย เสด็จแม่ท่านหนักจริ งๆ ทาลูกล้มเลย หวาเยียน หวาอวิน๋ ยัง
ยืนบื้ออยูท่ าไม ยังไม่รีบมาช่วยพยุงพระชายาขึ้นอีก ข้าคนเดียวพยุง
นางไม่ไหว” เสิ่ นเวยคลานขึ้นมาจากพื้นไปดึงพระชายาจิ้นอ๋ องอย่าง
รวดเร็ ว เรี่ ยวแรงนั้น ดึงจนแขนพระชายาจิ้นอ๋ องแทบจะหักแล้ว
“เสด็จแม่ ท่านไม่เป็ นไรใช่หรื อไม่”
พระชายาจิ้นอ๋ องเจ็บจนพูดไม่ออก ครู่ ใหญ่จึงถอนหายใจหนึ่งครา
ถลึงตามองเสิ่ นเวยอย่างแรงปราดหนึ่ง ไม่กล้าให้นางพยุงอีกแล้ว
เสิ่ นเวยลูบจมูกไม่โกรธ กลับไปนัง่ บนเก้าอี้ต่ออย่างอารมณ์ดี ซ้ ายัง
พูดกับเย่วก์ ยุ้ “พระชายาป่ วยอารมณ์ไม่ดี ข้าเป็ นชนรุ่ นหลังไหนเลย
จะคิดเล็กคิดน้อยกับนางได้”
พระชายาจิ้นอ๋ องเปลี่ยนชุดออกมาได้ยนิ นางพูดประโยคนี้พอดี แทบ
จะสะดุดล้มอีกครั้ง
พระชายาจิ้นอ๋ องพยายามใช้ลูกไม้ท้ งั หมดที่มี ประเดี๋ยวก็อยากดื่มน้ า
ประเดี๋ยวก็อยากเปลี่ยนเสื้ อ ประเดี๋ยวก็เจ็บเอว…ไม่วา่ อย่างไรก็เอา
ลูกไม้ท้ งั หมดที่คิดได้ออกมาใช้ เสิ่ นเวยนัง่ นิ่งอยูบ่ นเก้าอี้ไม่ขยับเลย
แม้แต่นอ้ ย เพียงแค่ใช้แม่นมซือ หวาเยียนหวาอวิ๋นจนวิง่ กันชุลมุน
หากพระชายาจิ้นอ๋ องเรี ยกนางไปรับใช้ นางเองก็ไม่หงุดหงิด เข้าไป
ด้วยความยินดี เพียงแต่มกั จะเกิดสถานการณ์เล็กน้อย ไม่ชาหกบน
ตัวนาง ก็นวดนางจนร้องโอดโอย
ผ่านไปสองครั้งพระชายาจิ้นอ๋ องก็ไม่กล้าให้นางมารับใช้อีก แต่กย็ งั
ไม่ถอดใจ คิดว่าในเมื่อรับใช้ไม่ได้เช่นนั้นเจ้าก็อย่าได้นอนเสี ยเลย
ความคิดนี้ของนางยังไม่ทนั แวบผ่านสมอง ก็เห็นหญิงชราใช้
แรงงานสองคนยกตัง่ นุ่มหนึ่งตัวเข้ามาแล้ว “ฮูหยินใหญ่ ท่านจะให้
วางไว้ตรงไหน”
เสิ่ นเวยชี้มือ “อ้อ ตรงนั้นแล้วกัน” ตาแหน่งที่นางชี้ตรงกับตาแหน่ง
ที่วางตัง่ นุ่มก่อนหน้านี้พอดี
“เสด็จแม่ ลูกของงีบครู่ หนึ่ง สะสมแรงตอนกลางคืนจะได้รับใช้ท่าน
มีอะไรท่านก็เรี ยกลูกได้” พูดจบก็ปีนขึ้นตัง่ นุ่มอย่างมีความสุ ข เย่วก์ ุ้
ยดึงผ้าห่มเย็นคลุมให้นาง ไม่นานนักเสี ยงหายใจที่เสมอกันก็ดงั
ขึ้นมา
พระชายาจิ้นอ๋ องโมโหแล้ว ทุบผ้าห่มอย่างแรงสองครั้ง ยิง่ ไม่
ยินยอม
คืนนี้ พระชายาจิ้นอ๋ องไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยามก็กลัน่ แกล้งเสิ่ นเวยครั้งหนึ่ง
เสิ่ นเวยเป็ นใครกัน เวลาปฏิบตั ิหน้าที่สามวันสามคืนไม่นอนยังได้
หากง่วงมากจริ งๆ ยืนเงียบครู่ หนึ่งก็สบายขึ้นแล้ว ยังจะกลัวพระ
ชายาจิ้นอ๋ องกลัน่ แกล้งอีกหรื อ
นางถูกปลุกตื่นก็ไม่ลุกขึ้น เท้าศีรษะนอนอยูบ่ นตัง่ สัง่ หวาเยียน
หวาอวิน๋ ให้ทางานโดยตรง ส่ วนเย่วก์ ยุ้ นางไม่มีอะไรให้ตอ้ งเรี ยกใช้
อย่างสิ้ นเชิง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 230-1 ฉีกหน้ าจนถึงที่สุด!
เช้าตรู่ วนั ที่สอง เสิ่ นเวยลงมาจากตัง่ นุ่มอย่างมีชีวิตชีวา นางแสร้งทา
เป็ นยืดเส้นยืดสาย กล่าวอย่างขัดเคือง “ปรนนิบตั ิเสด็จแม่ท้ งั คืน
เหนื่อยแทบตายเลยจริ งๆ”
พระชายาจิ้นอ๋ องที่ใต้ตาดาคล้ าเป็ นดวงใหญ่ ท่าทางหมดอาลัยตาย
อยากได้ยนิ ประโยคนี้แล้วก็แทบจะหายใจไม่ออก หวาเยียนกับ
หวาอวิ๋นที่ซีดเซียวทั้งใบหน้าก็มีท่าทางประหนึ่งเห็นผี
ฮูหยินใหญ่ ท่านพูดประโยคนี้ได้รู้มโนธรรมของตนเองหรื อไม่
ท่านได้ปรนนิบตั ิพระชายาด้วยหรื อ ท่านเพียงแค่พิงอยูบ่ นตัง่ นุ่ม
ขยับปาก งานล้วนแต่เป็ นพวกข้าที่ทา พวกข้าจึงจะเป็ นคนที่ไม่ได้
หลับตาเลยทั้งคืน
ส่ วนแม่นมซือ นางอายุมากแล้ว อยูไ่ ม่ไหว กลางดึกก็หาข้ออ้าง
ออกไปงีบแล้ว งานที่รับใช้พระชายาล้วนแต่ทิ้งไว้ให้หวาเยียน
หวาอวิ๋นสองคน ทรมานมาตลอดทั้งคืน แม่นางที่งดงามสดใสสอง
คนประหนึ่งบุปผาที่ขาดน้ า ไร้ชีวิตชีวา
หากเสิ่ นเวยรู ้คาพูดในใจของหวาเยียนหวาอวิ๋นจะต้องแสยะปากเป็ น
แน่ ใครบอกว่านางไม่ลาบาก เจ้าขยับปากไม่เหนื่อยหรื อ ยิง่ ไปกว่า
นั้นทุกครั้งที่นางกาลังจะหลับก็ถูกปลุกตื่น ไม่มีใครรู ้วา่ นางที่มี
อาการหงุดหงิดตอนตื่นทรมานมากเพียงใด นางอยากจะฆ่าคนแล้วรู ้
หรื อไม่
ตอนที่พระชายาจิ้นอ๋ องง่วงจนหนังตาลืมไม่ข้ ึนแล้ว ไม่มีแรงทรมาน
เสิ่ นเวยต่อแล้วเช่นกัน นี่ทาให้หวาเยียนหวาอวิน๋ ที่ยนื อยูข่ า้ งๆ ต่างก็
ถอนหายใจอย่างโล่งอกหนึ่งครา ตลอดทั้งคืนนี้พวกนางนับว่าได้
เห็นแจ่มแจ้งแล้ว พระชายาคิดจะทรมานจัดการฮูหยินใหญ่ แต่ฮู
หยินใหญ่เองก็ไม่รู้วา่ มีความสามารถเหนือชั้นหรื อว่าเป็ นคนโง่ที่มี
วาสนาของคนโง่ อย่างไรเสี ยสุ ดท้ายแล้วฮูหยินใหญ่ก็ไม่เหนื่อยเลย
แม้แต่นิดเดียว กลับทรมานพวกนางสองสาวใช้ไม่เบา ตอนนี้พระ
ชายาหยุดแล้ว พวกนางเองก็สามารถพักผ่อนได้สกั งีบแล้ว!
เสิ่ นเวยไม่สนใจว่าพวกนางจะคิดอย่างไร สายตาของนางกวาดมอง
บนร่ างของสาวใช้ท้ งั สองรอบหนึ่ง ในใจสงสารสุ ดขีด จุ๊ๆๆ น่า
สงสารยิง่ นัก เพียงแค่คืนเดียวก็แห้งเ**้่ยวจนเป็ นเช่นนี้ ดูท่าแล้ว
ข้างกายพระชายาจิ้นอ๋ องจะไม่ได้อยูง่ ่ายเพียงนั้น!
มองสาวใช้เสร็ จก็มองพระชายาจิ้นอ๋ อง อย่างไรเสี ยนางก็มีอายุแล้ว
ไม่ใช่สตรี อายุนอ้ ยเช่นหวาเยียนหวาอวิ๋น เอ๋ รอยย่นบนใบหน้าของ
จวิน้ พระชายาปรากฏออกมาแล้ว ใต้ตาดาคล้ า ชัว่ พริ บตาก็แก่ลงสิ บ
ปี เป็ นอย่างต่า อารมณ์ของเสิ่ นเวยดีอย่างยิง่ มุมปากยกขึ้นสู ง กล่าว
ด้วยความเคารพและสนิทสนม “เสด็จแม่ ให้ลูกพาท่านไปล้างหน้า
บ้วนปากเถอะ ท่านอยากดื่มชาก่อนหรื อว่าอยากไปเปลี่ยนชุดก่อน”
พระชายาจิ้นอ๋ องพยายามรวบรวมกาลัง อยากจะฉี กใบหน้ายิม้ แย้ม
ขัดหูขดั ตาใบนี้ตรงหน้ายิง่ นัก กล่าวในใจ ข้าไม่อยากทาอะไรทั้งสิ้ น
แค่อยากนอน ทรมานตลอดทั้งคืนนี้ นางเองก็เหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุด
ผ่านคืนนี้ไป นางนับได้วา่ เห็นแจ่มแจ้งแล้ว เสิ่ นซื่อผูน้ ้ ีไหนเลยจะ
อ่อนแอควบคุมง่ายเล่า เห็นชัดๆ ว่าเป็ นคนเจ้าเล่ห์กลับกลอก! คาด
ไม่ถึงว่าแม้แต่นางก็ยงั เคยถูกหลอก มิน่าเล่าถึงสามารถเข้าตาเด็กชัว่
ผูน้ ้ นั ได้ ท่านอ๋ องยังคิดว่านางเป็ นคนดีอยูเ่ ลย หึ คิดว่านางไม่กล้า
ถลกหน้ากากของนางหรื อ
พระชายาจิ้นอ๋ องโมโหจนพูดไม่ออก เสิ่ นเวยก็ยงิ่ สบายใจ ยังคิดจะ
ยัว่ ยุนางอีกหลายประโยค หวาเยียที่เป็ นกังวลก็รีบกล่าว “ไหนเลย
จะต้องให้ฮูหยินใหญ่ลงมือด้วยตัวเอง มีพวกบ่าวอยูท่ ้ งั คน” ฮูหยิน
ใหญ่ ท่านรี บไปเถิด ท่านไปแล้ว พระชายาก็จะหยุด บ่าวทั้งหลายจึง
จะสงบจิตใจได้เสี ยที!
หากให้ฮูหยินใหญ่ลงมือจริ งๆ ไม่แน่วา่ อาจจะเกิดเรื่ องอะไรขึ้นอีก
ท้ายที่สุดคนที่ตอ้ งโทษลาบากก็ยงั คงเป็ นพวกนางบ่าวรับใช้เหล่านี้
หวาเยียนฉลาดกว่าหวาอวิ๋นมาก ไหนเลยจะดูไม่ออกว่าฮูหยินใหญ่
ตั้งใจ เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดหายนะซ้ าซ้อนนางไหนเลยจะกล้าให้ฮูหยิน
ใหญ่ลงมืออีก!
พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็พยายามเอ่ยปาก เสี ยงแหบพร่ าคลุมเครื อ ราว
กับฉินห้าสายที่ไม่เคยบรรเลง “เจ้าไปพักเถิด มีหวาเยียนหวาอวิ๋นอ
ยู”่ นางไม่กล้าให้เสิ่ นซื่อปรนนิบตั ิอีกแล้ว เมื่อคืนหกล้มไปคราวนั้น
กระดูกสันหลังของนางยังเจ็บจนถึงตอนนี้
เสิ่ นเวยยกมุมปากเบาๆ อธิบายอย่างดีวา่ อะไรที่เรี ยกว่า ‘ได้รับ
ผลประโยชน์แล้วไม่รู้จกั ขอบคุณ’ “ในเมื่อเสด็จแม่เห็นใจลูกเช่นนี้
เช่นนั้นลูกก็ซาบซึ้งในพระคุณของเสด็จแม่”
ในดวงตาที่มองกันและกันของสองแม่ยายลูกสะใภ้มองเห็นความ
แหลมคมทั้งสองฝ่ าย
ในตอนนี้เองอู๋ซื่อก็เข้ามาเคารพพอดี ดวงตาเสิ่ นเวยกะพริ บวาบ ถือ
โอกาสกล่าว “น้องสะใภ้รองมาแล้ว กลางวันก็ให้เจ้าดูแลเสด็จแม่
แล้วกัน ข้าอยูไ่ ม่ไหวจริ งๆ กลับไปพักพ่อสักครู่ ตอนค่าข้าจะมา
แทนเจ้าใหม่”
อู๋ซื่อเห็นพี่สะใภ้ใหญ่ขยี้ตาหาว ถูกสาวใช้ประคองท่าทางกาลังจะ
หกล้ม ก็รีบกล่าว “พี่สะใภ้ใหญ่วางใจกลับไปนอนพักเถิด เสด็จแม่มี
ข้าดูแล”
อันที่จริ งแล้วนางจึงจะเป็ นสะใภ้ลูกชายคนโตของแม่สามี หากยัง
กตัญญูไม่เท่าภรรยาลูกเลี้ยง อาจถูกคนติฉินนินทาเอาได้ อู๋ซื่อผูท้ ี่
ห่วงทุกด้านเช่นนี้จะปล่อยให้เรื่ องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่เห็น
หรื อว่า เช้าตรู่ นางไม่กินแม้แต่ขา้ วเช้าก็รีบเข้ามาดูแลแล้ว
ส่ งพี่สะใภ้ใหญ่ออกจากระเบียงทางเดิน อู๋ซื่อก็กลับไปในห้องด้าน
ในเห็นความซีดเซียวบนใบหน้าของแม่สามี ชัว่ ขณะก็ตกใจจนสะดุง้
โหยง “เสด็จแม่เป็ นอะไรไป เมื่อคืนอาการป่ วยกาเริ บหนักหรื อ เร็ ว
รี บไปส่ งข่าวให้ท่านซื่อจื่อ ให้เขาเชิญหมอหลวงจากในวังมา”
พระชายาจิ้นอ๋ องรี บโบกมือ เคลื่อนไหวแรงเกินไปเล็กน้อย นางรู ้สึก
เพียงมึนหัวตาลาย เบื้องหน้าดามืด ร่ างอ่อนแรงล้มลงไปบนหมอน
อู๋ซื่อยิง่ ร้อนใจแล้ว ถลึงตามองหวาเยียนหวาอวิ๋นที่ยนื นิ่งไม่ขยับ “ยัง
ยืนบื้อทาอะไรอยู่ ไม่ได้ยนิ ที่นายพูดหรื อ” พลางเข้าไปพยุงแม่สามี
หากแม่สามีเป็ นอะไรไปจะทาอย่างไร คิดๆ แล้วนางก็กล่าวต่อ “ไป
ไปส่ งข่าวให้ท่านอ๋ องด้วย”
“ไม่ ไม่ตอ้ งไป” พระชายาจิ้นอ๋ องปวดหัวแทบจะระเบิด ดึงแขนเสื้ อ
ของอู๋ซื่อแน่น พยายามพูดคาไม่กี่คานี้ออกมา
อู๋ซื่อรี บหมุนตัวโน้มน้าวนาง “เสด็จแม่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาโกรธ
เสด็จพ่อ ท่านป่ วยจนเป็ นเช่นนี้แล้ว เลิกดื้อดึงเพียงนั้นได้แล้ว อีก
อย่าง หากเสด็จพ่อทราบว่าลูกๆ ดูแลท่านไม่ดี จะไม่บนั ดาลโทสะ
หรื อไร”
“อย่าไป” พระชายาจิ้นอ๋ องยังคงดึงแขนเสื้ อของอู๋ซื่อ ท่าทียนื กราน
สุ ดขีด ทั้งยังบอกเป็ นนัยแก่หวาเยียนหวาอวิน๋
ทั้งสองหมดหนทาง ทาได้เพียงรวบรวมความกล้าก้าวขึ้นมากล่าว “ฮู
หยินซื่อจื่อ พระชายาไม่ได้เป็ นอะไรมาก เพียงแค่เมื่อคืนนอนหลับ
ไม่ดี ตอนนี้จึงอ่อนแรง ท่านออกไปก่อน ให้บ่าวปรนนิบตั ิพระชายา
นอนหลับสักตื่นก็คงจะดีข้ ึนแล้ว”
อู๋ซื่อลังเล “จริ งหรื อ” บ่าวหนึ่งกลุ่มปรนนิบตั ิจะหลับไม่ดีได้อย่างไร
เพียงแต่เห็นใต้ตาแม่สามีเป็ นสี เขียวคล้ ายังมีท่าทางเหมือนนอนหลับ
ไม่ดีจริ งๆ
เมื่อนางมองเห็นสี หน้าของหวาเยียนหวาอวิ๋น ก็ตกใจอีกครั้ง
ต้องรู ้ไว้วา่ สาวใช้ที่ถูกเลือกมาทางานข้างกายพระชายาจิ้นอ๋ องได้
อย่าว่าแต่มีใบหน้าเช่นไร อย่างน้อยๆ ก็ตอ้ งหน้าตาสวยสดงดงาม
มิใช่หรื อ หวาเยียนกับหวาอวิ๋นล้วนแต่เป็ นหญิงงาม แม้จะเทียบหวา
ลู่กบั หวาฉังไม่ได้ แต่ในหมู่สาวใช้ท้ งั หมดก็นบั ว่าเป็ นบุคคลชั้นดี
แล้ว
แต่ตอนนี้หวาเยียนหวาอวิ๋นที่มีโฉมหน้างดงามกลับสี หน้าโรยรา ซีด
เซียวอย่างกับอะไรดี นี่มนั เกิดเรื่ องอะไรขึ้น
หวาเยียนหวาอวิ๋นไหนเลยจะมองไม่เห็นความสงสัยในแววตาของฮู
หยิน แต่พวกนางพูดอะไรได้หรื อ นายท่านทั้งสองประมือกัน แม่
สามีประมือกับลูกสะใภ้ ซ้ าแม่สามียงั พ่ายแพ้ คาพูดเช่นนี้จะพูด
ออกไปต่อหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องได้อย่างไร นี่ไม่ใช่เป็ นการตบหน้า
พระชายาหรอกหรื อ
ตอนที่เสิ่ นเวยกลับไปถึงเรื อนสวีโย่วก็นงั่ รอนางอยูข่ า้ งโต๊ะอาหาร
แล้ว เห็นสี หน้าของนางยังดีอยูจ่ ึงวางใจลง เมื่อคืนเขาได้ยนิ ว่าพระ
ชายาจิ้นอ๋ องให้นางอยูด่ ูแลกลางคืนก็เดือดดาลทันที น้องสะใภ้รอง
น้องสะใภ้สามไม่ดูแล ให้ภรรยาของเขาอยูด่ ูแลเพียงคนเดียว
ต้องการจะกลัน่ แกล้งคนอ่อนแอหรื อไร เขาอายุยสี่ ิ บกว่าปี แล้วกว่า
จะแต่งภรรยาที่ถูกใจได้ มิใช่ให้คนมาทาลาย
ยังคงเป็ นหลีฮวาที่ถ่ายทอดเจตนาของเสิ่ นเวยได้ทนั เวลา บอกว่าฮู
หยินให้เขาสงบจิตใจรออยูใ่ นเรื อน นางมีแผนการของนาง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 230-2 ฉีกหน้ าจนถึงที่สุด!
สวีโย่วหยุดฝี เท้าชะงัก แม้วา่ เขาจะตัดใจปล่อยให้เสิ่ นเวยลาบาก
ไม่ได้ แต่กร็ ู ้นิสยั ของเด็กคนนั้นเช่นกัน ในเมื่อนางพูดเช่นนี้แล้ว
เช่นนั้นก็จะต้องมีแผนการแน่นอน หากตนดึงดันตามอาเภอใจทา
เด็กคนนั้นเสี ยเรื่ อง นางก็จะกางกรงเล็บใส่ ตน
ทนแล้วทนอีกสวีโย่วจึงยอมไม่ไปเรื อนของพระชายาจิ้นอ๋ อง นอน
อยูบ่ นเตียงห้องหอของคนทั้งสองหลังนั้น ไม่วา่ อย่างไรเขาก็นอน
ไม่หลับ ปลายจมูกล้วนแต่เป็ นกลิ่นหอมที่น่าหลงใหลของนาง แต่
กลับรู ้สึกว่าทั้งห้องเงียบเหงา ข้างกายขาดหายไปหนึ่งคน ในใจกลับ
คล้ายขาดหายไปหนึ่งช่องใหญ่ แม้แต่จนั ทร์ดวงนั้นบนฟากฟ้ายังดู
เกียจคร้าน
สวีโย่วยิม้ เจื่อนอย่างอดไม่ได้ นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วนั น้องสี่ แซ่เสิ่ นก็ยดึ
ครองตาแหน่งที่สาคัญเพียงนั้นในใจเขาไปแล้ว แต่ไหนแต่ไรเขาที่
ตัวคนเดียวจนเคยตัวคาดไม่ถึงว่าไม่ชินกับการอยูค่ นเดียวแล้ว นึกถึง
น้องสี่ แซ่เสิ่ นที่บางครั้งก็ฉลาด บางครั้งก็เกียจคร้าน บางครั้งก็ไร้
เหตุผล บางครั้งก็เจ้าเล่ห์ผนู ้ ้ นั ดวงตาของสวีโย่วก็มีความรักใคร่ ที่ตวั
เขาเองยังไม่รู้ตวั ปรากฏขึ้นมา น้องสี่ เวยเวย สตรี ที่เดินเคียงคู่เขาไป
ตลอดชีวิตผูน้ ้ ี!
เขาคิดนู่นคิดนี่พลิกกลับไปกลับมาเช่นนี้ท้ งั คืน ฟ้าเพิ่งจะสางเขาก็
ลุกจากเตียงแล้ว เรี ยกเจียงไป๋ เข้ามาก่อน ให้เขาไปบอกครัวใหญ่ สัง่
ข้าวเช้าที่เสิ่ นเวยชอบทานมาหนึ่งชุด หลังจากนั้นก็เดินไปเดินมาอยู่
ในห้องรอคอยด้วยความร้อนใจ หากไม่ใช่เพราะห่วงศักดิ์ศรี จริ งๆ
เขาก็คงจะไปต้อนรับคนที่หน้าประตูเรื อนแล้ว
คนที่นอนหลับไม่สนิทเหมือนกันยังมีหลีฮวา ฮูหยินสัง่ ให้นางกลับ
จวนมารายงานและไม่อนุญาตให้นางกลับไปอีก ต่อให้ในใจนางจะ
ไม่ยนิ ยอมก็ไม่อาจขัดขืนคาสัง่ ของนายท่านได้ แต่เมื่อนางคิดว่าฮูหยิ
นต้องดูแลพระชายา แม้แต่นอนหลับยันเช้ายังอาจจะไม่ได้นอน
ไหนเลยจะยังมีอารมณ์นอนหลับอยูอ่ ีก นอนอยูบ่ นเตียงพลิกไปมา
ราวกับปิ้ งขนมปัง ทาให้เหอหวาที่อยูห่ อ้ งเดียวกับนางเป็ นกังวลไป
ด้วย กระทัง่ หลังระฆังยามสามตีบอกเวลาจึงนอนหลับไปอย่าง
สะลึมสะลือ เช้าตรู่ ตื่นขึ้นมาใต้ตาก็ลว้ นแต่เหนื่อยล้าหนักหน่วง
“โอ้โห ของอร่ อยมากมายขนาดนี้ ข้าหิวจะตายแล้วจริ งๆ คุณชาย
ใหญ่ ท่านดีต่อข้าจริ งๆ ข้าซาบซึ้งยิง่ นัก!” เสิ่ นเวยเห็นว่าทั้งโต๊ะล้วน
แต่เป็ นอาหารที่นางชอบกิน ชัว่ ขณะก็เข้าใจความตั้งใจอันแรงกล้า
ของสวีโย่ว ในใจพอใจยิง่ นัก! นางหยิบตะเกียบคีบฮะเก๋ าไส้กงุ้ หนึ่ง
ชิ้นเข้าปาก ยิม้ แย้มเบิกบาน “เรื่ องที่มีความสุ ขที่สุดในชีวิตคนก็คือ
การได้กินฮะเก๋ าไส้กงุ้ ทุกเช้า เรื่ องที่มีความสุ ขที่สุดในชีวิตคนก็คือ
ไม่เพียงแต่ได้กินฮะเก๋ าไส้กงุ้ ทุกเช้า แต่ยงั มีชายหนุ่มรู ปงามอยูเ่ คียง
ข้าง” นางคุยโวโอ้อวดด้วยสี หน้าจริ งจัง ดวงตาจ้องมองสวีโย่ว
ท่าทางลึกซึ้งจริ งใจ
สวีโย่วมองเสิ่ นเวยออดอ้อน จิตใจที่ร้อนรนเปล่าเปลี่ยวก็ร้อนรุ่ มขึ้น
ทันที “รี บไปล้างหน้าบ้วนปากเถอะ ข้ารอกินข้าวกับเจ้า” ร่ างกาย
เด็กคนนี้มกั จะมีแรงดึงดูดชนิดหนึ่ง ขอเพียงแค่เป็ นที่ที่นางอยูก่ ็
มักจะมีพลังเช่นนั้น แม้นางจะนอนหลับอยูบ่ นตัง่ อย่างเกียจคร้าน
แต่มองนางแล้ว ในใจก็รู้สึกสบายอย่างไม่อาจเทียบ
เสิ่ นเวยบ่นพึมพา “รอก่อน รอก่อน ให้ขา้ กินอีกชิ้น” นางคีบฮะเก๋ า
ไส้กงุ้ อีกหนึ่งชิ้นเข้าปากจากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องด้านใน
ส่ วนเหล่าสาวใช้ที่ยนื อยูข่ า้ งๆ ก็เห็นฮูหยินของพวกนางทาตัว
อันธพาลใส่ คุณชายใหญ่อยูบ่ ่อยครั้งจนชินตาแล้ว แม่นมมัว่ บอกว่า
นี่เองก็เป็ นความรักใคร่ ของสามีภรรยาชนิดหนึ่งเช่นกัน ฮูหยินกับ
คุณชายใหญ่รักใคร่ กลมเกลียวกับคุณชายใหญ่ได้ เป็ นสิ่ งพวกนาง
ปรารถนาที่สุด
กินข้าวเช้าเสร็ จแล้ว สวีโย่วก็ไปเดินย่อยในลานบ้านเป็ นเพื่อนเสิ่ น
เวย เสิ่ นเวยสาธยายด้วยความร่ าเริ งเบิกบานว่าเมื่อคืนนางฝึ กสมอง
ประลองปัญญากับพระชายาจิ้นอ๋ องอย่างไร “ท่านไม่เห็นสี หน้าของ
พระชายา ซีดเซียวราวกับดอกไม้สีเหลืองเมื่อวาน ข้าคิดว่าท่านอ๋ อง
เห็นนางก็คงจะจาไม่ได้แล้ว”
แขวะพระชายาจิ้นอ๋ องรหนึ่งอบแล้ว เสิ่ นเวยก็หนั หน้ายกยอตัวเอง
อย่างหน้าไม่อาย “เฮ้อ จะไปหาลูกสะใภ้ที่กตัญญูเช่นข้าได้อีกที่ไหน
สะใภ้ตระกูลใดจะดูแลแม่สามีท้ งั คืนได้ ข้าคิดว่าการกระทานี้ควรค่า
ให้ป่าวประกาศยกย่อง คุณชายใหญ่ท่านคิดว่าอย่างไร” เสิ่ นเวยจ้อง
มองสวีโย่วตาเขม็ง เสมือนกับว่าขอเพียงแค่เขากล้าปฏิเสธแม้แต่คา
เดียวนางก็จะหยิกเขาตายทันที
สบสายตาที่ดุร้ายของเสิ่ นเวย สวีโย่วก็กระแอมหนึ่งครา กล่าวด้วยสี
หน้าจริ งจัง “ข้าเองก็คิดว่าฮูหยินสามารถเป็ นแบบอย่างของสตรี มี
คุณธรรมในเมืองหลวงได้ เจียงไป๋ ได้ยนิ ที่นายพูดแล้วหรื อยัง ยังไม่
รี บไปจัดการอีก!”
เจียงไป๋ ที่อยูห่ ่างออกไปสิ บก้าวแทบจะร้องไห้แล้ว คุณชายใหญ่ ใคร
กันที่รังเกียจบ่าวที่ขวางหูขวางตาให้บ่าวเดินห่างออกไปหน่อย
ตอนนี้กลับหาว่าบ่าวไม่ได้ยนิ ที่นายพูด คุณชายใหญ่ ท่านช่างรับใช้
ยากเสี ยจริ ง โชคดีที่หูเขาดี มิเช่นนั้นคงจะไม่ได้ยนิ ที่นายท่านพูด
จริ งๆ “ขอรับ บ่าวจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
ก็แค่ไปแพร่ ข่าวไม่กี่ประโยคข้างนอกมิใช่หรื อ เรื่ องพรรณ์น้ ีตอนนี้
เขาทาจนชานาญแล้ว!
พระชายาจิ้นอ๋ องนอนหลับทั้งวัน แม้แต่ขา้ วยังทานบนเตียง ตอน
พลบค่าในที่สุดนางก็มีกาลังวังชาแล้ว สัง่ สาวใช้ “ไปดูสิวา่ ฮูหยิน
ใหญ่มาแล้วหรื อยัง ให้นางรี บมาดูแลข้าได้แล้ว” ในน้ าเสี ยงมีความดี
ใจแฝงอยู่ เด็กชัว่ ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าแข็งแกร่ ง ดูสิวา่ คืนนี้ขา้ จะทรมาน
เจ้าตายได้หรื อไม่
สาวใช้ยงั ไม่ทนั ออกจากห้อง เสี ยงของเสิ่ นเวยก็ดงั ขึ้นมาแล้ว “เสด็จ
แม่ ลูกมาดูแลท่านแล้ว! ท่านรู ้สึกดีข้ ึนบ้างหรื อยัง”
พระชายาจิ้นอ๋ องเห็นเสิ่ นเวยที่กา้ วเท้าเข้ามาช้าๆ ทันใดนั้นก็ราวกับ
พ่อไก่ที่เข้าสู่ สถานะเตรี ยมรบ ขนทัว่ ทั้งร่ างก็ลุกชัน เค้นคาสองคา
ออกมาจากช่องฟัน “ไม่ดีแล้ว”
เสิ่ นเวยถามอย่างมีน้ าจิตน้ าใจ “เสด็จแม่ท่านไม่สบายตรงไหนหรื อ”
“ข้าไม่สบายไปทัว่ ทั้งร่ าง เวียนหัว ปวดเอว ขาก็เจ็บ เสิ่ นซื่อยังไม่รีบ
มาทุบขาให้ขา้ อีก” พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็ไม่แต่งหน้าแล้ว เรี ยกเสิ่ น
ซื่อเข้ามาทันที
เสิ่ นกล่าวในใจ อยูด่ ีๆ ก็นอนหลับทั้งวันจนปวดหลังปวดเอว เจ้าไม่
สบายก็ถูกแล้วมิใช่หรื อ
“เสด็จแม่แน่ใจหรื อว่าจะให้ลูกช่วยทุบขา ลูกไม่เคยปรนนิบตั ิคนมา
ก่อน แรงที่มือไม่เบาไม่หนัก ท่านต้องให้อภัยด้วยนะเพคะ” เสิ่ นเว
ยกล่าวเตือนอย่างหวังดี
“ครั้งแรกเพิ่งเริ่ มครั้งที่สองชานาญ ฝึ กหลายๆ ครั้งก็เป็ นแล้ว วางใจ
แม่ไม่ตาหนิเจ้าหรอก” พระชายาจิ้นอ๋ องกัดฟันกล่าว นางไม่ยมอป
ล่อยโอกาสหยามหน้าเสิ่ นเวยไปจริ งๆ
“เสด็จแม่พดู มีเหตุผล ลูกฝึ กให้มากแล้วกัน เมื่อฝึ กดีแล้วจะได้ไป
ปรนนิบตั ิคุณชายใหญ่ของพวกข้า” เสิ่ นเวยยิม้ หวาน
มองเสิ่ นเวยที่ค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ พระชายาจิ้นอ๋ องก็หวาดกลัวใน
ใจอย่างไม่มีสาเหตุ “ช่างเถอะ ไม่ตอ้ งให้เจ้าทุบแล้ว เลี่ยงไม่ให้
คุณชายใหญ่หาว่าข้าไม่เห็นใจเจ้า หวาเยียน เจ้ามาทุบขาให้ขา้ แทน”
นางไม่ลืมว่าเมื่อคืนเสิ่ นซื่อเกือบจะนวดจนกระดูกนางหักแล้ว
เสิ่ นเวยไม่อยากล้มเลิก “เสด็จแม่ ให้ลูกช่วยท่านทุบดีกว่า แม้ลูกจะ
ไม่มีประสบการณ์ แต่กจ็ ริ งใจยิง่ นัก”
“ไม่ตอ้ ง” พระชายาจิ้นอ๋ องปัดมือที่ยนื่ เข้ามาของนางออกอย่าง
อารมณ์ไม่ดี “ให้หวาเยียนมาทุบดีกว่า”
“เช่นนั้นก็ขอบคุณเสด็จแม่ยงิ่ นักที่เห็นใจ” สี หน้าบนใบหน้าเสิ่ นเวย
เสี ยดายยิง่ นัก ซ้ ายังบ่นพึมพาเสี ยงเบาอีกหนึ่งประโยค “ยังคิดว่าจะ
ได้ฝึกฝนกลับไปเอาใจคุณชายใหญ่เสี ยอีก” แม้เสี ยงจะเบา แต่คน
ทั้งหมดภายในห้องล้วนได้ยนิ หมดแล้ว
มือที่วางอยูข่ า้ งลาตัวของพระชายาจิ้นอ๋ องกาแน่นทันที เด็กชัว่ เจ้า
คอยดูเถอะ ค่าคืนยังอีกยาวไกล เจ้าสบายใจได้ นางคิดว่าตนนอนมา
ทั้งวันสะสมกาลังวังชาเต็มเปี่ ยมกาลังชูมีดฉับพลันอยู่ แต่ไม่เคยคิด
ว่าเสิ่ นเวยเองก็บารุ งกาลังวังชามารับศึกเช่นเดียวกัน
“สาวใช้ผนู ้ ้ ีไม่คุน้ หน้าเล็กน้อย เหตุใดเจ้าถึงไม่พาเย่วก์ ยุ้ กับหลีฮวา
มา” พระชายาจิ้นอ๋ องเห็นว่าสาวใช้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนผูห้ นึ่งยืนอยู่
ข้างหลังเสิ่ นเวย ท่าทางอายุสิบสามสิ บสี่ ปี สวมชุดกระโปรงสี ส้มอม
แดง หน้าตาก็งดงาม หากโตกว่านี้อีกสองสามปี ก็งามไม่ต่างจากหวา
เยียนข้างกายนางเลย
เสิ่ นเวยกล่าว “เรี ยนเสด็จแม่ เมื่อวานเย่วก์ ยุ้ อดนอนมาทั้งคืนแล้ว ลูก
จึงให้นางไปพักผ่อน บ่าวรับใช้กเ็ ป็ นคนเหมือนกัน พวกเราเป็ นนาย
ไม่อาจปฏิบตั ิอย่างทารุ ณเกินไปได้ใช่หรื อไม่ กลางวันหลีฮวากับ
เหอฮวาทางานลาบากยิง่ นัก มีเพียงลัว่ เหมยที่ไม่มีงาน ลูกจึงพานาง
มา ลูกมาที่เรื อนเสด็จแม่ท้ งั ที จะขาดสาวใช้เรี ยกใช้ไปได้อย่างไร”
อันที่จริ งหลีฮวากับเหอฮวาไม่ได้มีงานอะไร ไม่ใช่เพราะนางสอง
คนนอนหลับไม่ดีเหมือนกันหรอกหรื อ ตามนางมาก็ตอ้ งอดนอนอีก
หนึ่งคืน นางจึงเลือกลัว่ เหมยที่ฉลาดหัวดีสามารถอดหลับอดนอน
ได้ผนู ้ ้ ีมาแทน
คาพูดหนึ่งชุดทาให้พระชายาจิ้นอ๋ องสาลักจนไม่สบายตัว และยังทา
ให้หวาเยียนกับหวาอวิ๋นอัดอั้นในใจจนสับสน อดตาหนิไม่ได้
ฮูหยินใหญ่รู้จกั เห็นอกเห็นใจคนรับใช้ พระชายากลับไม่ เรี ยกใช้
พวกนางทั้งสองราวกับเป็ นคนเหล็ก กลางวันแม้วา่ นางทั้งสองจะ
สับเปลี่ยนกันนอนพัก แต่ขอเพียงพระชายาตื่นก็จะเรี ยกพวกนางมา
รับใช้ บวกกับงานในเรื อนก็รอพวกนางไปดูแล ด้วยเหตุน้ ีพวกนางที่
อดหลับอดนอนมาตลอดทั้งคืน กลางวันก็ตอ้ งยุง่ ทั้งวัน จนถึงตอนนี้
พระชายาก็ยงั ไม่เอ่ยปากให้พวกนางบ่าวรับใช้ไปพักผ่อนเลย ดูท่า
แล้วคืนนี้คนที่รับใช้กย็ งั คงเป็ นพวกนางสองคน
สาหรับแม่นมซือ หึ วันนี้ยายแก่ผนู ้ ้ นั ลาป่ วยแต่เช้าแล้ว บอกว่าถูก
ลมเย็น กลัวว่าจะทาให้พระชายาติดหวัด จึงไม่มาเสี ย คิดว่าใครไม่รู้
บ้างว่านางแกล้งป่ วย โชคดีที่พระชายาเชื่อใจนางเพียงนั้น ทั้งสองจึง
คับแค้นในความไม่เป็ นธรรม
เป็ นสาวใช้รับใช้คนเหมือนกัน แต่เหตุใดชีวิตของเย่วก์ ยุ้ ถึงได้ดีเพียง
นั้น หวาเยียนหวาอวิ๋นสบตากันปราดหนึ่ง มองเห็นความกลัดกลุม้
ในดวงตาสองฝ่ ายพร้อมกัน
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 230-3 ฉีกหน้ าจนถึงที่สุด!
พระชายาจิ้นอ๋ องชูมีดฉับพลันคิดอยากจะทรมานเสิ่ นเวย แต่นาง
ไหนเลยจะเป็ นคู่ต่อสู ้ของเสิ่ นเวย ไม่เห็นหรื อว่า พระชายาจิ้นอ๋ อง
โยนหินใส่ เท้าตัวเองอีกแล้ว ทรมานเสิ่ นเวยไม่ได้ กลับทรมาน
ตัวเองจนซีดเซียวเป็ นอย่างยิง่ อ้อ คนที่ซีดเซียวเหมือนกันยังมีหวา
เยียนกับหวาอวิ๋น ในดวงตาคนทั้งสองนี้เต็มไปด้วยเส้นเลือด ร่ าง
ซวนเซ ท่าทางอ่อนแรงคล้ายในไม่ชา้ ก็จะยืนไม่อยูแ่ ล้ว เสิ่ นเวยเห็น
แล้วก็สงสารพวกนางยิง่ นัก
จากนั้นจึงมองสาวใช้ลวั่ เหมยของตัวเอง นอกจากคนจะดูเหนื่อยล้า
เล็กน้อย สภาพก็ยงั ดีกว่าหวาเยียนหวาอวิ๋นหลายร้อยเท่า แม้จะเป็ น
เช่นนี้เสิ่ นเวยก็ยงั เสี ยใจ ลัว่ เหมยเด็กคนนี้ดูตวั สู ง แต่ความจริ งแล้ว
ยังเหลืออีกสองเดือนก็เพิง่ จะอายุครบสิ บสาม ยังเป็ นเด็กอยูเ่ ลย อยู่
ในวัยเจริ ญเติบโตจาเป็ นต้องนอนหลับให้เพียงพอ อดนอนเป็ น
เพื่อนตนทั้งคืน มันช่าง…เฮ้อ!
“เจ้าคงเหนื่อยแย่เลย เด็กดี กลับไปจะเพิ่มเงินเดือนให้เจ้า” เสิ่ น
เวยตบบ่าลัว่ เหมยรับปาก
ทว่าลัว่ เหมยกลับยิม้ อย่างซื่อๆ ในดวงตามีความดีใจ “ฮูหยิน บ่าวไม่
เหนื่อยแม้แต่นิดเดียว” นางพูดความจริ ง ตอนที่อยูใ่ นบ้าน พ่อแม่รัก
น้องชายคนเล็กมากกว่า งานทั้งหมดล้วนเป็ นพวกนางสามพี่นอ้ งที่
ทา กินไม่อิ่ม เสื้ อผ้าไม่อุ่น ฟ้ายังไม่สางก็ตื่นขึ้นมาทางานแล้ว ฤดู
หนาวหนาวจัดที่ทาให้คนหนาวตายได้กย็ งั ต้องไปซักเสื้ อผ้าใน
แม่น้ า เป็ นเช่นนี้พอ่ แม่กย็ งั ไม่พอใจยังต้องเฆี่ยนตีดุด่า
ภายหลังพ่อหกล้มขาหัก น้องชายคนเล็กก็ถูกลมเย็น แม่นางก็ขาย
พวกนางสามพี่นอ้ งทั้งหมด พี่สาวสองคนอายุมากหน่อย ถูกนายซื้อ
ไปแต่เนิ่นๆ แล้ว เพราะว่านางอายุนอ้ ยกว่า อีกทั้งช่วงวัยเจริ ญเติบโต
ก็กินไม่พอ ตัวเล็กผอมซูบ ตลอดมาก็ไม่สามารถขายออกได้ นายทุน
รังเกียจนาง ทุกวันให้กินเพียงขนมปังหน้าไหม้หนึ่งชิ้น ซ้ ายังให้นาง
ทางานตั้งแต่เช้ายันค่า ไม่นานนักก็ป่วย ป่ วยจนใกล้ตาย นายทุนตัด
ใจเชิญหมอให้นางไม่ได้ จึงโยนนางลงในทุ่งหญ้า
หากไม่ใช่ฮูหยินบังเอิญผ่านมาเก็บนางกลับมา นางก็คงจะตายไป
นานแล้ว
ฮูหยินเชิญหมอมาให้นาง จ่ายเงินจานวนมากเพื่อแย่งชีวิตนี้ของนาง
กลับมาจากพญายม นับตั้งแต่น้ นั มาชีวิตของนางก็ราวกับภาพฝัน มี
เสื้ อผ้าอย่างดี กินดี ซ้ ายังได้เงินเดือน ทุกวันทาเพียงแค่งานเล็กๆ
น้อยๆ เพียงนั้น และยังไม่ตีคนด่าคน มิหนาซ้ ายังได้รับบาเหน็จ
บ่อยครั้ง เพียงแค่หนึ่งปี ส่ วนสู งของนางก็ค่อยๆ พุง่ พรวดขึ้นไป
ใบหน้าก็ขาวแล้ว หน้าตาก็งดงามแล้ว แตกต่างกับเด็กผูห้ ญิงชนบท
ที่ป่วนจนใกล้ตายผูน้ ้ นั ราวฟ้ากับเหว
แม่นมกูท้ ี่สงั่ สอนกฎระเบียบพวกนางมักจะพูดอยูบ่ ่อยๆ เป็ นบ่าวรับ
ใช้สิ่งที่สาคัญที่สุดคือความจงรักภักดี อย่าลืมว่าใครให้พวกเจ้ามีชีวิต
ที่ดีเช่นนี้
คนอื่นจะคิดอย่างไรนางไม่รู้ แต่นางกลับรู ้วา่ ฮูหยินมอบชีวิตใหม่ให้
นาง ชัว่ ชีวิตนี้ของนางแม้วา่ จะตายก็ไม่อาจทรยศฮูหยินได้ ดังนั้น
นางจึงพยายามทางานอย่างสุ ดความสามารถ เรี ยนรู ้กฎระเบียบจาก
พี่สาวทั้งหลาย หวังว่าตนเองจะมีประโยชน์ข้ ึนบ้าง หากมีประโยชน์
ขึ้นบ้าง เช่นนี้กจ็ ะสามารถรับใช้อยูข่ า้ งกายฮูหยินได้แล้ว
เป็ นดังคาด ความพยายามอยูท่ ี่ไหนความสาเร็ จอยูท่ ี่นนั่ เพราะว่านาง
เรี ยนรู ้ไวเชื่อฟังกฎระเบียบ พี่หลีฮวาจึงเลือกนางเข้ามาในกลุ่มสาว
ใช้ช้ นั รอง ในที่สุดนางก็ได้เห็นฮูหยินทุกวันทุกเวลาแล้ว วันนั้นนาง
ดีใจจนนอนไม่หลับทั้งคืน คุกเข่าหน้าเตียงกราบไหว้นอกหน้าต่าง
ซ้ าๆ
เมื่อวานฮูหยินเลือกนางมารับใช้ นางดีใจแทบแย่ ก็แค่อดนอนทั้งคืน
มิใช่หรื อ สบายยิง่ กว่างานในบ้านทั้งวันเสี ยอีก
“เด็กโง่!” เสิ่ นเวยลูบศีรษะของลัว่ เหมยพลางหัวเราะ
ส่ วนในใจหวาเยียนกับหวาอวิ๋นก็ไม่พอใจยิง่ ขึ้นแล้ว
เสิ่ นเวยรู ้สึกว่าพระชายาจิ้นอ๋ องจะต้องมีแนวโน้มเป็ นมาโซคิสม์
แน่นอน มิเช่นนั้นเสี ยเปรี ยบนางสามครั้งแล้วเหตุใดถึงไม่รู้จกั จา
บทเรี ยนเล่า สามคืนติดกันพระชายาจิ้นอ๋ องล้วนแต่ไม่สมปรารถนา
แต่นางคล้ายเป็ นศัตรู กบั เสิ่ นเวยแล้ว รบทุกครั้งแพ้ทุกครั้ง ไม่เห็น
หรื อว่า สัง่ สาวใช้มาเชิญนางไปดูแลอีกแล้ว
เสิ่ นเวยกลับไม่ได้สนใจ นางเพียงแค่เปลี่ยนที่นอนหลับก็เท่านั้นเอง
นางไม่ถือสาทรมานจิ้นหวังอีกหลายรอบ แต่กเ็ ป็ นห่วงว่าหากพระ
ชายาจิ้นอ๋ องบังเอิญทรมานจนชีวิตหาไม่ข้ ึนมาจะทาอย่างไร ผูท้ ี่เป็ น
ลูกเลี้ยงคล้ายกับว่าจะต้องไว้ทุกข์ใช่หรื อไม่ เมื่อคิดถึงว่าต้องไว้ทุกข์
ให้ปีศาจเฒ่าผูน้ ้ นั ในใจเสิ่ นเวยก็สะอิดสะเอียนอย่างถึงที่สุด
สวีโย่วหมดความอดทนนานแล้ว เขาแต่งภรรยาแล้วแต่กลับต้องอยู่
คนเดียวในห้องว่างๆ หมายความว่าอย่างไร ปี ศาจเฒ่าผูน้ ้ นั สร้าง
ความหงุดหงิดใจให้เขาทุกวัน หากไม่ใช่เสิ่ นเวยห้ามเขาไว้อย่างสุด
ชีวิตเขาก็คงจะพุง่ ไปทุบเรื อนของพระชายาจิ้นอ๋ องนานแล้ว
เช้าตรู่ วนั นี้ พระชายาจิ้นอ๋ องที่ทรมานตัวเองทั้งคืนอีกครั้งก็ทน
ต่อไปไม่ได้แล้วเช่นกัน คว้าหมอนหยกบนเตียงขึ้นมาขว้างไป
ยังเสิ่ นเวย บนใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ “เสิ่ นซื่อ เจ้ามันจิตใจดา
เจ้ามาดูแลคนป่ วยหรื อว่ามายัว่ โมโหให้ขา้ ตาย ข้ายังคิดว่าเจ้าเป็ นคน
ดี ดูสิหางจิ้งจอกโผล่ออกมาแล้ว”
เสิ่ นเวยไม่คิดว่าจู่ๆ พระชายาจิ้นอ๋ องจะก่อกบฏ รู ้สึกเพียงแค่มีของ
บางอย่างร้องคารามมาทางตน การตอบสนองของร่ างกายเร็ วกว่า
สมอง หลบไปข้างๆ ด้วยความว่องไว หมอนหยกกระแทกลงบน
กาแพงอย่างพนักหน่วง เสิ่ นเวยเห็นชัดเจว่าสิ่ งที่ปาเข้ามาคือหมอน
หยก ดวงตาก็มีความแหลมคมแวบผ่าน พระชายาจิ้นอ๋ องคิดจะเอา
ชีวิตของนาง โชคดีที่เป็ นนาง หากเป็ นสตรี ทวั่ ไป หมอนหยกใบนี้
กระแทกศีรษะ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
สบสายตาที่เย็นยะเยือกของเสิ่ นเวย ลูกตาดาในดวงตาพระชายาจิ้
นอ๋ องก็หดเล็กลง แต่กลับยังคงแข็งคอเอ็ดตะโร “ทาไม ข้าพูดผิด
หรื อ ทิ้งแม่สามีที่ป่วยไม่ดูแล ตนนอนหลับสบายใจ เจ้าเสิ่ นซื่อดูแล
ข้าเช่นนี้หรื อ”
เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะหนึ่งครา ทันใดนั้นบนใบหน้าก็มีความโมโห
และความเสี ยใจปรากฎขึ้น “ที่แท้แล้วเสด็จแม่กเ็ กลียดชังลูกเช่นนี้!
ในที่สุดเสด็จแม่ท่านก็พดู ความในใจออกมาแล้วไม่ลวงหลอกลูกอีก
แล้วใช่หรื อไม่ ท่านมีเรี่ ยวแรงทาร้ายลูก ดูท่าแล้วอาการป่ วยนี้จะเส
แสร้งกระมัง ลูกอุส่าวิง่ มาดูแลท่าน อดหลับอดนอนคืนแล้วคืนเล่า
ท่านยังมีอะไรไม่พอใจอีก เสด็จแม่ ท่านต้องการจะเอาเปรี ยบลูกจน
ตายหรื อ ท่านไม่ชอบลูกก็พดู มาได้ตรงๆ ลูกรับรองว่าจะไม่มาขวาง
หูขวางตาท่าน แต่ท่านทรมานลูกเช่นนี้เพื่ออะไร! อย่างไรเสี ยลูกก็
เป็ นจวิน้ จู่ที่ฝ่าบาททรงพระราชทานบรรดาศักดิ์ ท่านจะให้ลูกมีหน้า
อยูไ่ ด้อย่างไร” เสิ่ นเวยพูดเสี ยงดังปิ ดปากเดินออกไปข้างนอก
เพิ่งจะเดินออกจากระเบียงทางเดิน ตรงหน้าก็บงั เอิญเจอกับจิ้นอ๋ อง
เสิ่ นเวยกลอกตา น้ าตาไหลริ นนองหน้า สะอื้นไห้กล่าว “เสด็จพ่อ
ลูกดูแลเสด็จแม่ที่ป่วย อดนอนห้าคืนเต็มๆ ห้าคืนเชียว! ไหนเลยจะรู ้
ว่าเสด็จแม่แกล้งป่ วย เพียงเพื่อที่จะทรมานลูก นาง เมื่อครู่ นางไม่
เพียงแต่ด่าลูก ซ้ ายังคว้าหมอนหยกปาใส่ ลูก ชัดเจนว่าต้องการจะบีบ
บังคับให้ลูกตาย! ลูกไม่มีหน้าจะอยูต่ ่อไปแล้ว” ผ้าเช็ดหน้าปิ ดหน้า
สับขาวิ่งออกไป เย่วก์ ยุ้ ก็วิ่งตามอยูข่ า้ งหลัง “ฮูหยิน ฮูหยินท่าน
อย่าได้เสี ยใจไป พระชายาไม่ได้ต้ งั ใจจะทาร้ายท่าน”
จิ้นอ๋ องหน้าเปลี่ยนสี “เร็ ว เสี่ ยวเฉวียนรี บไปดูฮูหยินใหญ่ อย่าให้
นางคิดสั้นเป็ นอันขาด”
บ่าวรับใช้รีบวิ่งตามไปแล้ว จิ้นอ๋ องขมวดคิ้วมุ่น กระทืบเท้าเดินไป
ข้างใน
หากจะบอกว่าจิ้นอ๋ องมาได้อย่างไร นี่ยงั ต้องให้อ๋ ูซื่อเป็ นคนบอก ทุก
วันตอนเช้าพระชายาจิ้นอ๋ องล้วนแต่มีสภาพอ่อนระโหยโรยแรง
อย่างยิง่ หนึ่งคืนบอกว่าหลับไม่ดียงั พูดได้ ไหนเลยจะนอนหลับไม่
สนิททุกคืน
อู๋ซื่อเกิดความสงสัย เรี ยกหวาเยียนหวาอวิ๋นมาไต่ถาม หวาเยียนกับ
หวาอวิ๋นเห็นว่าปิ ดบังไม่ได้ จึงทาได้เพียงอ้ าๆ อึ้งๆ เล่าความจริ ง
เมื่ออู๋ซื่อได้ฟัง แม่สามีเรี ยกพี่สะใภ้ใหญ่ไปดูแลกลางคืนก็เพื่อที่จะ
ทรมานนาง ชัว่ ขณะก็ตกใจจนอ้าปากค้าง ท้ายที่สุดก็เหยียดหยาม
เป็ นอย่างมาก
แม่สามีผนู ้ ้ ีของนางตอนแรกเองก็เป็ นสตรี สูงศักดิ์ตระกูลดัง เหตุใด
อุบายและการมองโลกถึงได้น่ารังเกียจมากขึ้นเรื่ อยๆ เล่า โดยเฉพาะ
ทรมานผูอ้ ื่นกลับกลายเป็ นการขุดหลุมฝังตัวเอง นี่จะให้อ๋ ซู ื่อที่มี
ฐานะเดิมอยูใ่ นจวนอู๋กวั๋ กงมองอย่างไร
แต่วา่ พระชายาจิ้นอ๋ องก็เป็ นแม่สามีของนาง แม้วา่ นางอยากคิดหาวิธี
กลับไม่อาจแสดงออกมาได้ ทาได้เพียงเอ่ยขึ้นต่อหน้าท่านซื่อจื่อส
วีเยีย่ อย่างคลุมเครื อ ‘เสด็จแม่ป่วยมาหลายวันแล้ว ไม่กี่วนั ก่อนหมอ
ก็บอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็ นห่วง ข้าคิดว่าเสด็จแม่คงจะยังโกรธเสด็จ
พ่ออยู่ ข้าว่าระหว่างสามีภรรยาไหนเลยจะมีความแค้นข้ามคืนต่อกัน
เสด็จแม่อาจจะกลัวเสี ยหน้า ข้าเป็ นสะใภ้ไม่อาจโน้มน้าวมาก ท่านพี่
ท่านเป็ นลูกชาย ถือโอกาสไปพูดกับเสด็จพ่อสักหน่อย เสด็จแม่ป่วย
เช่นนี้ท้ งั บ้านต่างก็ไม่สบายใจ พี่สะใภ้ใหญ่ดูแลติดต่อกันห้าคืนแล้ว
พี่สามีใหญ่ใช่จะตาหนิหรื อไม่’
สวี่เยีย่ คิดๆ ดูแล้ว หลังไปเยีย่ มพระชายาเสร็ จก็ตรงไปพูดกับพ่อเขา
ที่เรื อนนอก ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาพูดกับจิ้นอ๋ องอย่างไร สุ ดท้ายเช้า
วันรุ่ งขึ้นจิ้นอ๋ องก็มาเยีย่ มพระชายาจิ้นอ๋ องแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 231-1 พ่อลูกคุมเชิง
ตอนที่จิ้นอ๋ องมาถึงในห้องก็กาลังวุน่ วายอลหม่านอยู่ ไม่วา่ ใครก็คิด
ไม่ถึงว่าจู่ๆ พระชายาจะบันดาลโทสะ ซ้ ายังใช้หมอนหยกปาใส่ ฮู
หยินใหญ่ กว่าพวกนางจะได้สติกลับมาจากความตื่นตกใจฮูหยิน
ใหญ่กว็ ิ่งออกไปแล้ว คิดจะตามไปก็สายแล้ว หรื อจะบอกว่าพวก
นางไม่กล้าตามไปอย่างสิ้ นเชิง ไม่เห็นหรื อว่าพระชายากับฮูหยิน
ใหญ่ต่างก็ฉีกหน้ากันแล้ว พวกนางเป็ นสาวใช้ของพระชายา หากไป
ไล่ตามฮูหยินใหญ่ ตกอยูใ่ นสายตาของพระชายาใช่จะเป็ นการกิน
บนเรื อนขี้บนหลังคาหรื อไม่
พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็โมโหจนฉุนเฉียว ตบผ้าห่มอย่างแรงสาปแช่ง
เสี ยงดัง
ภาพที่จิ้นอ๋ องมองเห็นเป็ นสิ่ งแรกก็คือหมอนหยกใบนั้นที่ตกอยูบ่ น
พื้น คิดถึงคาพูดของเสิ่ นซื่อเมื่อครู่ สี หน้าก็แย่ยงิ่ กว่าเดิม เขามองไป
บนเตียง หวาเยียนหวาอวิ๋นกาลังล้อมพระชายาเกลี้ยกล่อมอยู่
“ท่านอ๋ อง!” ยังคงเป็ นหวาอวิ๋นที่สงั เกตเห็นจิ้นอ๋ องก่อน ร้องอุทาน
รี บทาความเคารพ “บ่าวเคารพท่านอ๋ อง” สาวใช้คนอื่นๆ ก็พากันโค้ง
คานับ
พระชายาจิ้นอ๋ องมองเห็นจิ้นอ๋ องที่ยนื มือไพล่หลังอยูห่ น้าประตู
ตกใจเช่นกัน หลังจากนั้นความรู ้สึกต่างๆ นานาก็จู่โจมหัวใจ “ท่าน
อ๋ อง ในที่สุดท่านก็มาดูขา้ แล้วหรื อ”
น้ าเสี ยงที่เสี ยใจนั้นทาให้ความทุกข์ทวั่ ทั้งใจของจิ้นอ๋ องหายไป
เล็กน้อย นึกได้วา่ เย็นชาต่อนางมาหลายวันแล้ว ถอนหายใจอย่างอด
ไม่ได้ “ป่ วยแล้วก็รักษาตัวดีๆ ทรมานตนทาไม”
เมื่อพระชายาจิ้นอ๋ องได้ยนิ คาพูดนี้ ก็นอ้ ยใจขึ้นมาทันที “ท่านอ๋ องยัง
จาได้อีกหรื อว่าข้าป่ วย ข้ายังคิดว่าท่านอ๋ องโกรธข้า ไม่ยอมเจอหน้า
ข้าแล้วเสี ยอีก”
จิ้นอ๋ องถอนหายใจอีกครั้ง แต่ไหนแต่ไรซ่งซื่อหยิง่ ในศักดิ์ศรี ตั้งแต่
ยังไม่แต่งงานก็ทะนงตน เคยเห็นนางเป็ นเช่นนี้เมื่อไรกัน อดนึกถึง
ความรักในวันวานไม่ได้ ก้าวเท้าเดินเข้ามาแล้ว
“พระชายาจ้าเป็ นอะไรไป” จิ้นอ๋ องเห็นใบหน้าของพระชายาชัดเจน
ชัว่ ขณะก็ตกใจอย่างยิง่ เพียงแค่ไม่กี่วนั สั้นๆ ที่ไม่ได้เจอ พระชายาที่
สุ ขมุ สู งศักดิ์เหตุใดถึงแก่ลงมากเพียงนี้ ราวกับหญิงชราที่อายุครึ่ ง
ร้อย
จากนั้นจึงหันหน้าตาหนิสาวใช้ “พวกเจ้ารับใช้พระชายากันอย่างไร
พระชายาป่ วยหนักเช่นนี้แล้วเหตุใดถึงไม่รายงานให้ขา้ ทราบ เชิญ
หมอท่านใดมา เรี ยกหมอหลวงมาแล้วหรื อยัง” ส่ วนที่เสิ่ นเวยบอกว่า
พระชายาแกล้งป่ วย คาดว่าเขาคงไม่ได้ยนิ อย่างสิ้ นเชิง หรื อไม่เขาก็
ได้ยนิ แต่ไม่เชื่อ อันที่จริ งหน้าใบนี้ของพระชายาจิ้นอ๋ องมองดูกร็ ู ้
แล้วว่าป่ วยหนัก
หวาเยียนหวาอวิน๋ และสาวใช้คนอื่นๆ คุกเข่ายอมรับผิดทันที “บ่าว
สมควรตาย เป็ นความผิดของบ่าวทั้งสิ้ น”
ยังคงเป็ นหวาเยียนที่มีความกล้าหาญกล่าว “ทูลท่านอ๋ อง ผูท้ ี่เชิญมา
คือหมออาวุโสหวังแห่งโรงหมอเชียนจินเพคะ” นางแอบมองสี หน้า
ของท่านอ๋ องปราดหนึ่ง ไม่กล้าพูดคาวินิจฉัยของหมออาวุโสหวัง
ใบหน้าของจิ้นอ๋ องตึงลงทันที “เหตุใดถึงไม่เชิญหมอหลวง” ฝี มือ
การรักษาของหมออาวุโสหวังแห่งโรงหมอเชียนจินไม่เลวอย่างยิง่
แต่จะเทียบหมอหลวงในวังได้อย่างไร
หวาเยียนกัดริ มฝี ปากไม่กล้าพูด และไม่กล้ามองพระชายา นางพูดได้
หรื อว่าพระชายาไม่ให้เชิญ เพียงแค่กม้ หน้าต่าๆ
คนรับใช้ที่คุกเข่าวอยูภ่ ายในห้องต่างก็ไม่กล้าหายใจแรง จิ้นอ๋ องก็ยงิ่
โมโห “พวกเจ้ารับใช้นายเช่นนี้หรื อ สมควรตาย สมควรตาย
ทั้งหมด”
ในตอนนี้เอง พระชายาจิ้นอ๋ องก็เอ่ยปากเงียบๆ “ท่านอ๋ องจะโทษก็
โทษข้าเถิด ไม่เกี่ยวกับพวกนาง เป็ นข้าที่ไม่ให้พวกนางไปเชิญเอง”
มือที่ยกขึ้นของจิ้นอ๋ องหยุดชะงักกลางอากาศทันที ครู่ ใหญ่จึงค่อยๆ
วางลง มองพระชายาจิ้นอ๋ องด้วยสี หน้าซับซ้อน กล่าวอย่างกลัดกลุม้
“เจ้า เจ้าจะกลุม้ ใจไปไย ไม่วา่ อย่างไรก็ไม่อาจทรมานร่ างกายตัวเอง
ได้ เจ้า เฮ้อ!”
น้ าตาของพระชายาจิ้นอ๋ องไหลลงมาทันที นางเบือนหน้าหนี “ท่าน
อ๋ องโกรธข้า ข้ามีชีวิตอยูจ่ ะยังมีความหมายอะไร ไม่สูต้ ายไปเสี ย
ดีกว่า”
จิ้นอ๋ องได้ยนิ ประโยคนี้ บวกกับสี หน้าป่ วยไข้ของพระชายาจิ้นอ๋ อง
เขาก็เจ็บปวดใจทันที นัง่ ลงข้างเตียงโอบพระชายาไว้ในอ้อมอก
“ตายอะไรอยูอ่ ะไร อย่าพูดจาเหลวไหล! อายุปูนนี้แล้วยังอารมณ์
ร้อนเพียงนี้ นี่ไม่ใช่วา่ ข้ามาดูเจ้าแล้วหรื อ”
น้ าตาบนใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องยิง่ ไม่หยุดไหล กัดริ มฝี ปาก
กล่าวเสี ยงสัน่ “ข้าก็มีนิสยั เช่นนี้ ท่านอ๋ องยังไม่รู้อีกหรื อ” นางถือ
โอกาสพิงไปในอ้อมอกของจิ้นอ๋ อง แนบใบหน้าลงบนไหล่ของเขา
จิ้นอ๋ องรู ้สึกเพียงบนลาคอเปี ยกชื้น ร้อนผ่าว ในใจก็ยงิ่ ไม่สบอารมณ์
ตั้งแต่ที่รู้จกั ซ่งซื่อมา นอกจากอุปสรรคช่วงนั้นในตอนแรก พวกเขา
ร่ วมทุกข์ร่วมสุ ขกันมามากกว่ายีส่ ิ บปี ไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน
แม้แต่หน้ายังไม่เคยแดง ยีส่ ิ บกว่าปี มานี้ ซ่งซื่อดูแลจวนอ๋ องและชีวิต
ของเขาเขาได้อย่างเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย ไม่เคยทาให้เขาทุกข์ใจมา
ก่อน
“เอาล่ะ ถือว่าข้าผิดก็แล้วกัน เจ้าก็เหมือนกัน ทาตัวราวกับเด็ก
มิหนาซ้ ายังโมโห เป็ นแม่ของลูกแล้ว ไม่กลัวถูกหลานสาวหัวเราะ
เยาะหรื อ” น้ าเสี ยงของจิ้นอ๋ องอ่อนลง คิดแล้วก็กล่าวต่อ “เมื่อครู่ ขา้
เห็นเสิ่ นซื่อร้องไห้วิ่งออกไปแล้ว เกิดเรื่ องอะไรขึ้น เจ้าตาหนินาง
หรื อ นางเพิง่ แต่งเข้ามา มีอะไรที่ไม่ถูกเจ้าสอนนางดีๆ ก็ได้แล้ว จะ
เข้มงวดเพียงนั้นเพื่ออะไร”
เมื่อได้ยนิ ท่านอ๋ องเอ่ยถึงเสิ่ นซื่อ ชัว่ ขณะพระชายาจิ้นอ๋ องก็โมโห
ขึ้นมา “ท่านอ๋ อง ข้าไหนเลยจะกล้าตาหนินาง นาง นาง ท่านยังคิดว่า
นางเป็ นคนดีอยูอ่ ีก วันนี้ขา้ เห็นใบหน้าที่แท้จริ งของนางกับตาแล้ว
มาดูแลข้าแต่ไม่ยนิ ยอมพร้อมใจ เอาแต่นอนหลับ ข้าอยากดื่มน้ านาง
ก็ไม่ยนื่ มือให้ นี่ไหนเลยจะมาดูแลข้า ตั้งใจมายัว่ โมโหข้ามากกว่า
กระมัง ว่านางแค่ประโยคเดียวก็ไม่ได้ง้ นั หรื อ หรื อว่าข้าต้องบูชา
นางเป็ นบรรพบุรุษตระกูล” พูดไปพลางอารมณ์ของนางก็เดือดดาล
อีกครั้ง ไออย่างแรงขึ้นมา
“มีอะไรก็พดู กันดีๆ เจ้าเดือดดาลเพียงนั้นทาไม” จิ้นอ๋ องรี บช่วยนาง
ตบหลัง รับชาที่หวาเยียนส่ งเข้ามาแล้วส่ งไปที่ริมฝี ปากนาง “มา ดื่ม
ชาสักหน่อย”
เสี ยงไอของพระชายาจิ้นอ๋ องสงบลงแล้ว จิ้นอ๋ องจึงกล่าว “เช่นนั้น
เจ้าก็ไม่อาจปาหมอนหยกใส่ นางได้! นัน่ คือสะใภ้ใหม่ ซ้ ายังเป็ น
จวิน้ จู่ที่ฝ่าบาททรงพระราชทานบรรดาศักดิ์ ท่านปู่ ก็ยงั เป็ นราชครู
ของรัชทายาท เจ้า ไม่วา่ อย่างไรเจ้าก็ตอ้ งให้เกียรตินางสักหน่อย
หรื อไม่” มิหนาซ้ ายังทาต่อหน้าสาวใช้ท้ งั ห้อง นี่จะให้เสิ่ นซื่อเอา
หน้าไปไว้ที่ไหน ไม่แปลกใจที่เสิ่ นซื่อวิ่งร้องไห้ออกไปเช่นนั้น
“ไม่ใช่วา่ ปาไม่โดนหรอกหรื อ” พระชายาจิ้นอ๋ องพึมพาปากแข็ง
หนึ่งครา อันที่จริ งในใจนางเองก็ข้ ีขลาด แอบดีใจที่หมอหยกใบนั้น
ปาไม่โดนตัวเสิ่ นซื่อ มิเช่นนั้นเรื่ องนี้คงไม่อาจลงเอยด้วยดีได้
ตอนนี้นางคิดได้วา่ เสิ่ นซื่อคือจวิน้ จู่ คิดได้วา่ เสิ่ นซื่อมีฐานะดั้งเดิม
จากจวนจงอู่โหว แม้นางจะสู งศักดิ์เป็ นพระชายา แต่ในใจนางก็รู้ดี
ว่าฝ่ าบาทไม่ชอบนางเท่าไรนัก หากเสิ่ นซื่อหรื อว่านายท่านผูเ้ ฒ่า
เสิ่ นโหวไปร้องทุกข์ต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท เช่นนั้นนางก็จะต้อง
ถูกเตือนแน่นอน ศักดิ์ศรี น้ นั ก็เสี ยไปอย่างใหญ่หลวง
จิ้นอ๋ องไหนเลยจะฟังไม่ออกว่าพระชายาไม่พอใจ ส่ ายหน้าอย่างจน
ปัญญา “เจ้าน่ะ หากไม่ชอบเสิ่ นซื่อจริ งๆ ก็ไม่ตอ้ งพบนางสิ ไย
จะต้องมาคิดเล็กคิดน้อยกับชนรุ่ นหลังคนหนึ่ง อย่างไรเสี ยนางก็เป็ น
ภรรยาของโย่วเอ๋ อร์ เจ้าให้อภัยให้มากหน่อย”
“ท่านอ๋ องคิดเพียงแต่วา่ เสิ่ นซื่อได้รับความไม่เป็ นธรรม ไม่เคยคิด
บ้างเลยหรื อว่าข้าเองก็ได้รับความไม่เป็ นธรรม ไม่วา่ จะพูดอย่างไร
ข้าก็เป็ นแม่สามี หรื อจะต้องให้ขา้ ไปเอาอกเอาใจลูกสะใภ้ผนู ้ ้ ีเช่น
นาง” พระชายาจิ้นอ๋ องไม่พอใจเต็มทรวง ห้าคืนเต็มๆ นางไม่ได้
เปรี ยบเลยแม้แต่นิดเดียว ซ้ ายังทรมานตัวเองจนเป็ นเช่นนี้ นี่จะให้
นางยอมได้อย่างไร
จิ้นอ๋ องยังไม่คิดจริ งๆ ว่าพระชายาได้รับความไม่เป็ นธรรม เสิ่ นซื่อดู
ก็รู้วา่ เป็ นคนหัวอ่อน ไหนเลยจะกล้ากระด้างกระเดื่องกับคนเป็ นแม่
สามี พระชายาคงอยากบังคับนางมากกว่ากระมัง มิเช่นนั้นเสิ่ นซื่อ
เองก็คงไม่วงิ่ ร้องไห้ออกไป
แต่เมื่อคิดว่าตอนนี้พระชายายังไม่สบายอยู่ จิ้นอ๋ องก็ไม่กล้ายัว่ ยุนาง
แล้ว จึงกล่าว “นางเป็ นเด็กไม่รู้ประสา เจ้าอย่าได้คิดเล็กคิดน้อยกับ
นางเลย”
พระชายาจิ้นอ๋ องยังคงกระหืดกระหอบ ในตอนนี้เองก็มีเด็กรับใช้วิ่ง
เข้ามาอย่างลุกลี้ลุกลน “ท่าน ท่านอ๋ อง แย่แล้ว! คุณชายใหญ่จะ จะ
พาฮูหยินใหญ่ยา้ ยออกจากจวนอ๋ อง” เขากุมอกหายใจหอบกล่าว
“อะไรนะ” จิ้นอ๋ องตกใจจนลุกขึ้นยืนในชัว่ ขณะ “เสี่ ยวเฉวียนเล่า
เจ้าค่อยๆ พูด เกิดเรื่ องอะไรขึ้นกันแน่” ในใจมีลางไม่ดีแล้ว เสิ่ นซื่อ
วิ่งร้องกลับไป โย่วเอ๋ อร์จะยอมวางมือยุติเรื่ องราวได้อย่างไร
เด็กรับใช้คนนั้นพยายามกลืนน้ าลาย แล้วกล่าว “พ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียน
กาลังเกลี้ยกล่อมอยูท่ ี่เรื อนคุณชายใหญ่ ฮูหยินใหญ่ร้องไห้กลับเรื อน
ก็โวยวายจะเอาหัวชนกาแพง คุณชายใหญ่ถามแม่นางเย่วก์ ยุ้ ทราบ
ว่าฮูหยินใหญ่ได้รับความไม่เป็ นธรรมใหญ่หลวงที่เรื อนพระชายา
จึงออกคาสัง่ ให้บ่าวรับใช้ผกู ม้าเข้ารถเทียมม้าทันที บอกว่า บอกว่า
ในเมื่อพระชายาไม่ชอบพวกเขา พวกเขาก็จะย้ายออกไป เลี่ยงไม่ให้
ต้องอยูข่ วางหูขวางตาในจวนทาให้คนรังเกียจเดียดฉันท์” เขาลอบ
มองสี หน้าพระชายาอย่างระมัดระวังแล้วจึงกล่าว “พ่อบ้านเสี่ ยว
เฉวียนเกลี้ยกล่อมไม่ได้ จึงสัง่ ให้ผนู ้ อ้ ยมารายงานท่านอ๋ องพ่ะย่ะค่ะ”
“คุณชายใหญ่จะย้ายออกจากจวนอ๋ องหรื อ ยังไม่ผา่ นเดือนสมรสเลย
นี่ไม่ใช่จะทาให้คนข้างนอกนินทาข้าลับหลังหรื อ ท่านอ๋ อง ข้าบอก
แล้วว่าเสิ่ นซื่อผูน้ ้ นั ไม่ใช่คนดี ท่านยังไม่เชื่อ ตอนนี้เชื่อแล้วหรื อยัง”
บนใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องมีความโกรธปรากฏอีกครั้ง
คิ้วของจิ้นอ๋ องขมวดมุ่น มองพระชายาปราดหนึ่ง กล่าว “พอแล้ว เจ้า
พักก่อนเถิด อย่างลืมเชิญหมอหลวงมาดูเจ้าด้วย ข้าไปดูที่เรื อนโย่ว
เอ๋ อร์ก่อน” พูดจบก็กา้ วยาวจากไป
พระชายาจิ้นอ๋ องโมโหจนทุบเตียงอย่างแรง เด็กชัว่ เอาข้ออ้างย้าย
ออกจากจวนมาขู่ตน กล้านักเจ้าก็ออกไปแล้วอย่าได้กลับมาอีกเลย
“ถอยไป!” สวีโย่วถลึงตามองพ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนที่ขวางหน้าเขาอยู่
กล่าวอย่างเย็นเยียบ
พ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนฉีกยิม้ ร้อนใจจนเหงื่อท่วมศีรษะ “คุณชายใหญ่
มีอะไรก็ปรึ กษากันดีๆ ท่านจะย้ายออกจากจวนไม่วา่ อย่างไรก็รอให้
ท่านอ๋ องมาก่อน ท่านรอสักครู่ อีกประเดี๋ยวท่านอ๋ องก็มาถึงแล้ว
ท่านกล่าวลาท่านอ๋ องก่อนแล้วค่อยไปก็ได้ขอรับ”
รอยยิม้ บนใบหน้าเขาแทบจะแข็งทื่อแล้ว ในใจสวดมนต์ไม่หยุด
ท่านอ๋ องท่านรี บมาเร็ วๆ บ่าวใกล้จะไม่ไหวแล้ว ต่อให้จะไม่ไหว
ท่านอ๋ องยังมาไม่ถึงเขาเองก็ไม่กล้าปล่อยไป! มิเช่นนั้นท่านอ๋ อง
จะต้องตาหนิวา่ เขาทางานไม่ได้เรื่ องเป็ นแน่ “คุณชายใหญ่ ท่านอย่า
ทาให้บ่าวลาบากใจเลย” เขาหน้าเจื่อน แทบจะร้องไห้ออกมาอยูแ่ ล้ว
“ตอนนี้เป็ นเจ้าต่างหากที่ทาให้ขา้ ลาบากใจ! ถอยไป!” แววตาของส
วีโย่วเย็นเยียบยิง่ นัก พระชายาจิ้นอ๋ องยายแก่ตายยากผูน้ ้ นั วันนี้คาด
ไม่ถึงว่าปาหมอนหยกใส่ ภรรยาของเขา นี่จะให้เขาทนได้อย่างไร
“หากเจ้ายังไม่ถอยไปอีกก็อย่าหาว่าข้าไร้ความปราณี ” เขาบอกเป็ น
นัยให้เจียงเฮยลากคนออกไปข้างๆ
ตอนที่จิ้นอ๋ องมาถึงก็เห็นเหตุการณ์คุมเชิงนี้เข้าพอดี “หยุดเดี๋ยวนี้!”
เขาตะโกนเสี ยงดัง ฝี เท้าข้างใต้เท้าเร่ งความเร็ ว “ยังไม่รีบปล่อยเสี่ ยว
เฉวียนอีก”
เจียงเฮยได้ยนิ ดังนั้น มุมปากยกขึ้น โยนพ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนที่จบั ไว้
ในมือลงไปบนพื้นทันที เดินกลับมาอยูข่ า้ งกายนายของเขาด้วยสี
หน้าเมินเฉย
“โอ๊ย!” พ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนถูกผลักล้มก้นกระแทก เจ็บจนเขาแยก
เขี้ยวยิงฟันครู่ ใหญ่จึงจะคลานขึ้นมา
สี หน้าจิ้นอ๋ องก็ยงิ่ ไม่ดี ถลึงตาใส่ สวีโย่ว “เจ้าจะทาอะไร”
“เสด็จพ่อก็เห็นแล้วมิใช่หรื อ ลูกจะย้ายออกจากจวนอ๋ อง จวนจวิน้
อ๋ องบูรณะเสร็ จนานแล้ว ลูกมีจวนของตัวเอง ไยจะต้องอยูท่ นรับ
ความคับแค้นใจที่นี่ดว้ ยเล่า” สวีโย่วกล่าวอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ
“เหลวไหล! กลับมาเดี๋ยวนี้!” จิ้นอ๋ องตาหนิเสี ยงดัง “คับแค้นใจอะไร
กัน ไหนเลยจะมีใครทาให้เจ้าได้รับความคับแค้นใจ เจ้าเป็ นลูกของ
ข้า ข้ายังอยูท่ ี่นี่ เจ้าจะย้ายไปไหน”
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 231-2 พ่อลูกคุมเชิง
แม้จะบอกว่าฝ่ าบาทพระราชทานจวนจวิน้ อ๋ องแล้ว แต่หากสวีโย่
วจะย้ายเข้าไปไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งรอหลังหนึ่งปี ครึ่ งปี หากแม้แต่
เดือนสมรสยังไม่พน้ ก็ยา้ ยออกไปจวนจวิน้ อ๋ องแล้ว อย่าว่าแต่ขา้ ง
นอกจะพูดนินทา แม้แต่ฝ่าบาทเขาเองก็ไม่กล้าบอกเหตุผล!
บนใบหน้าสวีโย่วปรากฎความเหยียดหยาม “เสด็จพ่อออกมาจาก
เรื อนพระชายาใช่หรื อไม่ ได้รับความคับแค้นใจอะไรท่านไม่ใช่รู้ดี
อยูแ่ ก่ใจหรื อ ทุบตีก่นด่าลูกสะใภ้ที่อดหลับอดนอนดูแลนางต่อหน้า
บ่าวรับใช้ท้ งั ห้อง นี่ไม่ใช่หมายความว่าไม่ชอบลูกอยากไล่ลูกออก
จากจวนอ๋ องหรื อ ได้! ลูกจะทาให้นางสมปรารถนา ลูกจะไปเดี๋ยวนี้
อยูร่ ่ วมกันไม่ได้แล้วจะหลบหน้าไม่ได้เชียวหรื อ” เขาไม่อยากอยูใ่ น
จวนอ๋ องแม้แต่วินาทีเดียว
เผชิญหน้ากับคาตาหนิของลูกชาย จิ้นอ๋ องก็พดู ไม่ออก อ้าปากอยูค่ รู่
ใหญ่จึงกล่าว “นี่ลว้ นแต่เป็ นการเข้าใจผิด พระชายาไม่สบาย อารมณ์
ไม่ดีอย่างเลี่ยงไม่ได้ พวกเจ้าเป็ นชนรุ่ นหลังก็ตอ้ งให้อภัยมากหน่อย
มิใช่หรื อ”
ความเหยียดหยามบนใบหน้าสวีโย่วยิง่ ชัดเจน “เอ๋ เสด็จพ่อยังรู ้จกั
เข้าข้างพระชายา หรื อว่าลูกจะสงสารภรรยาไม่ได้เลย ลูกอายุยสี่ ิ บ
กว่าปี แล้วเพิ่งจะได้แต่งภรรยา เตียงหอยังนอนไม่ชินก็ตอ้ งไปดูแล
พระชายาแล้ว ลูกสะใภ้ของพระชายาจิ้นอ๋ องมีเสิ่ นซื่อคนเดียวหรื อ
น้องสะใภ้รองน้องสะใภ้สามตายหมดแล้วหรื อ ไม่ใช่วา่ ตัดใจใช้
ลูกสะใภ้ของตัวเองไม่ได้หรื อไร บ่าวรับใช้ทวั่ ทั้งห้องรับใช้อยูย่ งั
จะต้องให้ลูกสะใภ้ไปเฝ้านางตอนกลางคืนให้ได้ มีดว้ ยหรื อที่ตอ้ ง
ทรมานคนเช่นนี้ มิหนาซ้ ายังเฝ้าติดต่อกันห้าคืน! เสด็จพ่อท่านลอง
ไปสื บถามทัว่ ทั้งเมืองหลวงดู แม่สามีตระกูลใดบ้างที่ไร้เมตตาเพียง
นี้” เสี ยงของสวีโย่วดังอย่างยิง่ แม้แต่คนสวนที่ทางานอยูใ่ นสวน
ดอกไม้เล็กห่างออกไปห้าก้าวสิ บก้าวก็ยงั ได้ยนิ
ท่านจวิน้ อ๋ องถูกพูดจนหูแดงจัด อยากจะหยิกลูกอกตัญญูผนู ้ ้ ีให้ตาย
ยิง่ นัก เขาเองก็รู้วา่ พระชายาเป็ นฝ่ ายผิด แต่อย่างไรเสี ยนัน่ ก็คือพระ
ชายาของเขา ต่อให้จะผิดนางก็เป็ นผูอ้ าวุโส โย่วเอ๋ อร์เป็ นชนรุ่ นหลัง
จะให้อภัยสักหน่อยไม่ได้เชียวหรื อ โดยเฉพาะเสิ่ นซื่อ ไม่รู้จกั โน้ม
น้าวเสี ยบ้าง ชัว่ ขณะจิ้นอ๋ องก็รู้สึกว่าเสิ่ นซื่อไม่ใช่คนที่มีเหตุผลแล้ว
“เสิ่ นซื่อเจ้าว่าอย่างไร”
เสิ่ นเวยยืนอยูข่ า้ งหลังสวีโย่ว ก้มหน้ามาโดยตลอด ถูกจิ้นอ๋ อง
เรี ยกชื่อ นางบิดผ้าเช็ดหน้าในมือ เสี ยงมีความสะอื้นไห้ “ลูก ลูกไม่
กล้าพูด เสด็จแม่ปาหมอนหยกใส่ ลูก หากไม่ใช่เย่วก์ ยุ้ ดึงลูกไว้
ตอนนี้ลูกก็คงจะนอนอยูบ่ นเตียงขยับไม่ได้แล้ว ลูกกลัว ลูกไม่กล้า
อยูใ่ นจวนอ๋ องแล้ว ลูกเชื่อฟังคุณชายใหญ่” เสิ่ นเวยเองก็ไม่อยากอยู่
ในจวนอ๋ องแล้วเช่นกัน ด้วยเหตุน้ ีจึงใส่ ไฟเพิม่ อีก
ไฟกองนี้แผดเผาให้ความโกรธของสวีโย่วลุกโชนยิง่ ขึ้น ดูสิวา่ ทาให้
น้องสี่ ของเขาเสี ยขวัญ จวนจิ้นอ๋ องแห่งนี้อยูไ่ ม่ได้แล้ว ต้องรี บย้าย
ออกไปทันที!
“เสด็จพ่อ ลูกไว้หน้าท่านแล้ว เก็บความโกรธของลูก ไม่ไปหาเรื่ อง
ที่เรื อนพระชายาก็เป็ นการเห็นแก่หน้าท่านแล้ว หากท่านเห็นแก่
ความกตัญญูของลูกก็อย่าขวางลูก ให้ลูกย้ายออกไป เลี่ยงไม่ให้วนั นี้
เกิดเรื่ องนี้ พรุ่ งนี้เกิดเรื่ องนั้น เกิดความวุน่ วายไม่จบไม่สิ้น” สวีโย่
วกล่าวอีกครั้ง
จิ้นอ๋ องอับอายจนโมโห กล่าวด้วยความเดือดดาล “ข้าบอกว่าย้าย
ไม่ได้กค็ ือย้ายไม่ได้ เดือนสมรสยังไม่ทนั จะผ่านไป เจ้าลูกทรพี
อยากให้ขา้ งนอกหัวเราะเยาะหรื ออย่างไร ข้าเป็ นพ่อเจ้า เจ้าต้องฟัง
ข้า”
สวีโย่วยิม้ เยาะ “หัวเราะเยาะใคร หัวเราะเยาะพระชายาใช่หรื อไม่
มาถึงตอนนี้แล้วคนที่เสด็จพ่อคิดถึงอยูใ่ นใจยังคงเป็ นพระชายาแสน
ดีของท่าน ท่านคิดเพื่อนางทุกอย่าง ท่านเอาลูกวางไว้ที่ใด ท่านเองก็
ลาเอียงเกินไปแล้ว ฝ่ าบาทมีพระราชโองการนานแล้ว จวนจวิน้ อ๋ อง
แห่งนั้นคือจวนของลูก ย้ายเร็ วย้ายช้าแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ลูกยืน
กรานจะไป เสด็จพ่อท่านห้ามลูกไม่ได้หรอก”
“ข้าบอกว่าไม่ได้กค็ ือไม่ได้!” ใบหน้าของจิ้นอ๋ องโมโหจนแดงก่า
“หากเจ้าจะย้ายอย่างน้อยก็ตอ้ งให้ผา่ นเดือนสมรสไปก่อน ว่ามา ขอ
เพียงแค่เจ้าไม่ยา้ ย มีขอ้ แลกเปลี่ยนอันใดเจ้าจงเสนอมา” หมด
หนทางจริ งๆ จิ้นอ๋ องทาได้เพียงถอยหลังนึ่งก้าว ลูกทรพีคนนี้ เกิดมา
ก็ยวั่ โมโหเขา ไม่อยากจะให้เขาเกิดมาแต่แรกจริ งๆ
“ไม่ได้ จักต้อง…”ตอนนี้ท้ งั จิตทั้งใจสวีโย่วต้องการจะย้ายออกจาก
จวนจิ้นอ๋ อง ทว่าเสิ่ นเวยข้างหลังกลับดึงแขนเสื้ อของเขา เขาเปลี่ยน
ความคิดในชัว่ ขณะ ในเมื่อภรรยาเขามีอะไรอยากจะพูด เช่นนั้นก็ฟัง
ดูก่อนว่าภรรยาเขาจะพูดอย่างไร
“เสิ่ นเวยกล่าวด้วยความขลาดกลัว “เสด็จพ่อ คุณชายใหญ่เองก็ไม่ได้
ต้องการจะย้ายให้ได้ เขาโกรธอย่างยิง่ จริ งๆ ใครบ้างไม่รู้วา่ ใต้ตน้ ไม่
ใหญ่เย็นสบายเพียงใด แต่วา่ …” นางสะอื้นหนึ่งครา กล่าวต่อ “ลูกรู ้
ว่าคุณชายใหญ่ตดั สิ นใจเช่นนี้กเ็ พราะกลัวว่าลูกจะได้รับความไม่
เป็ นธรรมอีก ลูกตื่นตกใจยิง่ นัก แต่วา่ ลูกเองก็กลัวยิง่ นัก ลูกกลัว
เสด็จแม่ ลูกไม่กล้า ไม่กล้า…”
สวีโย่วเข้าใจในทันที กล่าวต่อ “เสด็จพ่อไม่ใช่ให้ลูกเสนอข้อ
แลกเปลี่ยนหรื อ เสิ่ นซื่อกลัวเสด็จแม่เพียงนี้ เช่นนั้นก็งดการเคารพ
ของนางไปเสี ย เลี่ยงไม่ให้พระชายาเห็นนางแล้วไม่สบอารมณ์ ไม่ดี
ต่อการพักฟื้ น ถึงตอนนั้นน้ าสกปรกอ่างนี้กไ็ ม่ตอ้ งสาดลงบนหัวเสิ่ น
ซื่ออีก พระชายามีสะใภ้สองคนแล้ว อีกไม่ชา้ ก็จะมีสะใภ้คนที่สาม
แล้ว เพียงพอให้นางวางมาดแม่สามีได้แล้ว ปล่อยให้เสิ่ นซื่อใช้ชีวิต
อย่างสงบสุ ขต่อไปเถิด”
“ได้!” จิ้นอ๋ องเค้นคาสองคานี้ออกมาจากช่องฟัน ทั้งใบหน้าเขียวจน
ม่วง ม่วงจนดา ยา่ แย่อย่างยิง่ ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ
“เช่นนั้นลูกจะค่อยย้ายออกไปหลังผ่านเดือนสมรส เสด็จพ่ออย่าลืม
บอกพระชายา เลี่ยงไม่ให้นางป่ าวประกาศไปทัว่ อีกว่าเสิ่ นซื่อ
อกตัญญู” สวีโย่วไม่สนใจไฟโกรธของพ่อเขาอย่างสิ้ นเชิง พยุงเสิ่ น
เวยหมุนตัวกลับเรื อน บ่าวข้างหลังเองก็เฮโลกันกลับไป
เดินไปได้สองก้าวเขาก็หยุดฝี เท้าอีกครั้ง กล่าวอย่างทรงพลังสุ ดขีด
“คุณชายใหญ่ฮูหยินใหญ่อะไร ไม่น่าฟังจะตายชัก! เปลี่ยนใหม่
หลังจากนี้เรี ยกว่าจวิน้ อ๋ องกับจวิน้ จู่ให้หมด”
จิ้นอ๋ องมองประตูเรื อนที่ปิดตามมา อยากจะถีบลงไปสักสองครายิง่
นัก ลูกอกตัญญูผนู ้ ้ ี ลูกอกตัญญูผนู ้ ้ ี! เขาโมโหจนหายใจถี่กระชั้น
“เสี่ ยวเฉวียนเจ้าไปบอกพระชายา ให้นางงดการเคารพของเสิ่ นซื่อ”
ส่ วนตัวเขาเอง กลับไปเรื อนนอกเสี ยดีกว่า!
เสี่ ยวเฉวียนแอบร้องทุกข์ในใจ มิหนาซ้ าจะไม่ไปก็ไม่ได้ ทาได้เพียง
รวบรวมความกล้าเดินไปยังเรื อนพระชายา เตรี ยมใจถูกพระชายา
ทุบศีรษะเลือดไหลไว้เรี ยบร้อยแล้ว
เมื่อจิ้นอ๋ องกับพ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนออกไป เหล่าคนรับใช้รอบด้านก็
รวมตัวกัน ทุกคนไม่กล้าถกเถียง แต่กลับไม่เป็ นอุปสรรคให้พวกเขา
ส่ งสายตาคุยกัน
“นี่ ได้ยนิ แล้วหรื อยัง พระชายาปาหมอนหยกใส่ ฮูหยินใหญ่ อ้อไม่
ปาใส่ จวิน้ จู่ นัน่ คือหมอนหยกเชียว พลาดไปเพียงนิดเดียว ก็เอาชีวิต
คนได้ พระชายาเกลียดจวิน้ จู่มากนัก!”
“เกลียดจวิน้ จู่อะไรกัน ไม่ชอบจวิน้ อ๋ องต่างหากเล่า! อย่าไรเสี ยนี่ก็
ไม่ใช่ลูกที่ออกมาจากท้องนาง”
“พวกเจ้าไม่รู้ พระชายาอยากให้จวิน้ อ๋ องแต่งงานกับหลานสาวบ้าน
ฝั่งมารดานางมาโดยตลอด จึงทาให้เกลียดจวิน้ จู่ข้ ึนมามิใช่หรื อ”
“จวิน้ จู่เองก็น่าสงสาร เพิ่งจะเข้าเรื อนมาได้ไม่กี่วนั ก็ถูกทรมานเช่นนี้
แล้ว เฮ้อ อย่างไรเสี ยก็ห่างกันหนึ่งชั้น! นี่ พวกเจ้ารู ้หรื อไม่
หลานสาวบ้านฝั่งมารดาที่พระชายาแนะนาให้จวิน้ อ๋ องเป็ นบุตรสาว
อนุภรรยา”
“เป็ นไปไม่ได้หรอกกระมัง ฐานะของจวิน้ อ๋ องไหนเลยจะคู่ควรกับ
บุตรสาวอนุภรรยาเล็กๆ ต่อให้จะเป็ นอนุภรรยาสู งศักดิ์กต็ อ้ งดูความ
สมัครใจของจวิน้ อ๋ อง นับประสาอะไรกับภรรยาเอก บ้านฝั่งมารดา
พระชายาไม่ใช่ยงั มีหลานสาวภรรยาเอกหรอกหรื อ ฟังว่าหน้าตา
สวยสดงดงาม ซ้ ายังมีความสามารถมีชื่อเสี ยง เพียงแต่ไม่รู้วา่ เทียบ
กับจวิน้ จู่แล้วจะเป็ นอย่างไร”
“ที่เจ้าว่าคือคุณหนูอี๋หนิงใช่หรื อไม่ ข้ากลับเคยเห็นมาแล้ว สวยก็
สวย แต่ยงั อยูห่ ่างชั้นกับจวิน้ จู่ ฟังว่ามารดาผูใ้ ห้กาเนิดจวิน้ จู่เคยเป็ น
หญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง”
พูดไปพูดมาก็เปลี่ยนประเด็นแล้ว
พระชายาจิ้นอ๋ องได้ยนิ คาที่พอ่ บ้านเสี่ ยวเฉวียนถ่ายทอด ชัว่ ขณะก็
ล้มลงบนเตียง คราวนี้นางป่ วยจริ งๆ แล้ว ปากเบี้ยวตาเข สมองขาด
เลือดฉับพลัน โชคดีที่หมอหลวงมาทันเวลา ฝังเข็มให้นางจึง
ช่วยชีวิตไว้ได้ ดังนั้นนางจึงต้องพักฟื้ นหลายวันกว่าจะเปิ ดปากพูด
ได้อีกครั้ง
โชคดีที่พระชายาจิ้นอ๋ องรักษาตัวอยู่ ไม่ได้ยนิ ข่าวลือข้างนอก มิ
เช่นนั้นนางคงจะโมโหเจียนตาย
คนจานวนมากต่างก็แอบเดาว่าจวนจิ้นอ๋ องปี นี้ดวงตกใช่หรื อไม่ ช่วง
นี้มีแต่ข่าวลือของจวนพวกเขา ต่อจากที่พระชายาจิ้นอ๋ องวางแผน
แย่งสิ นเดิมลูกสะใภ้ ประวัติการรับตาแหน่งของพระชายาจิ้นอ๋ อง
พระชายาจิ้นอ๋ องลดค่าใช้จ่ายเรื อนลูกเลี้ยงก็เกิดเนื้อหาใหม่ข้ ึนมา
‘พระชายาจิ้นอ๋ องให้สะใภ้ลูกเลี้ยงดูแลไข้ท้ งั คืนทรมานลูกสะใภ้’
โดยเฉพาะข่าวลือสุ ดท้าย ผูค้ นพูดคุยกันอย่างสนอกสนใจ บ้างก็
บอกว่า ‘เสิ่ นซื่อผูน้ ้ ีจะต้องโชคไม่ดีแน่นอน เหตุใดนางเข้าจวนจิ้
นอ๋ องไปแล้ว จวนจิ้นอ๋ องก็เกิดเรื่ องมากมายเพียงนี้ข้ ึนเล่า’
บ้างก็วา่ ‘น่าจะเป็ นเพราะเสิ่ นซื่อแต่งเข้าจวนจิ้นอ๋ อง ใบหน้าเสแสร้ง
เป็ นคนดีของพระชายาจิ้นอ๋ องจึงเผยออกมามิใช่หรื อ ไอหยา นาง
กล้าหาญจริ งๆ จวิน้ จู่ผยู ้ งิ่ ใหญ่ยงั ต้องให้นางเฝ้าไข้ท้ งั คืน ไม่ได้ดงั่ ใจ
ก็ท้ งั ตีท้ งั ด่า นี่ไหนเลยจะเป็ นพระชายาผูส้ ู งศักดิ์ เห็นชัดๆ ว่าเป็ น
สตรี ปากคอเราะร้ายตามตลาด ช่างเปิ ดโลกคนจริ งๆ’
บ้างก็วา่ ‘เฝ้าไข้ผอู ้ าวุโวก็เป็ นสิ่ งสมควรมิใช่หรื อ ตบมือข้างเดียวไม่
ดัง เสิ่ นซื่ออาจจะบีบบังคับจนพระชายาจิ้นอ๋ องลงมือทาร้ายคน ก็
เป็ นตัวสร้างปัญญาเหมือนกัน’
ยังมีบางคนว่า ‘เจ้าไม่ตอ้ งคิดแล้ว แต่ไหนแต่ไรล้วนแต่เป็ นแม่ยาย
ทรมานสะใภ้ เสิ่ นซื่อเป็ นเจ้าสาวที่เพิง่ จะเข้าเรื อนไหนเลยจะกล้า
ทะเลาะกับพระชายาจิ้นอ๋ องเล่า’
ทุกคนพูดกันไปต่างๆ นานา บ้างก็เห็นใจเสิ่ นเวย บ้างก็ช่วยพระ
ชายาจิ้นอ๋ องพูด สรุ ปแล้วทัว่ ทั้งเมืองหลวงคึกคักขึ้นมาอีกครั้งเพราะ
จวนจิ้นอ๋ อง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 232-1 พายุก่อตัว
“เวยเวย ลาบากเจ้าแล้ว” เมื่อเข้าห้องมาสวีโย่วก็กล่าวกับเสิ่ นเวยอ
ย่างรู ้สึกผิด
เสิ่ นเวยยักไหล่ กล่าวอย่างไม่สนใจ “ไม่เป็ นไร รู ้อยูแ่ ล้ว อย่างไรเสี ย
ก็ฉีกหน้ากันแล้ว อีกทั้งยังไม่ตอ้ งไปเคารพทุวนั แล้ว อยูใ่ นจวนอ๋ อง
หรื อย้ายออกไปก็ไม่ต่างอะไรนัก” มารเฒ่าตนนั้นทรมานมาหลาย
คืนแล้ว ร่ างกายคงจะทนไม่ไหวแล้ว ไม่มีแรงเล่นลูกไม้อีก เหลืออีก
ไม่กี่วนั ก็แต่งงานครบเดือนแล้ว อีกไม่นานพวกเขาก็สามารถย้าย
ออกไปได้
สวีโย่วยังคงรู ้สึกทุกข์ใจ เวยเวยใช้ชีวิตอยูใ่ นจวนจงอู่โหวอย่าง
อิสระตามอาเภอใจมากนัก นี่เพิ่งจะแต่งเข้าจวนอ๋ องมาได้ไม่กี่วนั ก็
เกิดเรื่ องน่าอับอายเยอะเพียงนี้ มันช่าง มันช่าง เฮ้อ! สวีโย่วมองเสิ่ น
เวยด้วยความรู ้สึกผิดอย่างถึงที่สุด
“หรื อว่า ให้ขา้ พาเจ้าออกไปเดินเล่นดี” สวีโย่วนึกได้วา่ เด็กน้อยคนนี้
ชอบเที่ยวเล่น จึงคิดหาวิธีชดเชยทันที
เสิ่ นเวยเกิดความสนใจดังคาด “เอาสิ พวกเราไปกินของอร่ อย แล้วก็
ไปเดินซื้อของที่ถนนใหญ่ฝั่งตะวันออก เหนื่อยแล้วพวกเราก็ไปฟัง
นิทานที่โรงน้ าชา อ้อจริ งสิ เถาฮวาล่ะ ต้องพานางไปด้วย” ส่ วนท่าน
อ๋ องพระชายาจะพอใจหรื อไม่ ใครสนพวกเขากันเล่า
“ได้ ตามแต่เจ้าต้องการ” สวีโย่วเห็นเสิ่ นเวยมีความสุ ข มุมปากของ
เขาก็ยกขึ้นเบาๆ
ฉินอิงอิงคุณหนูเจ็ดจวนเสนาบดีฉินที่รอแต่งงานช่วงนี้กก็ ระวน
กระวายใจอยูต่ ลอด สาหรับคู่หมั้นของจวนจิ้นอ๋ องนางก็เริ่ มไม่
พอใจแล้ว ใครไม่รู้บา้ งว่าสวีฉงั่ คุณชายสี่ จวนจิ้นอ๋ องเป็ นลูกคุณชาย
งานการไม่ทา วันๆ เอาแต่ติดเพื่อนทาตัวเสเพล เด็กสาวที่กาลังมี
ความรักคนใดบ้างไม่หวังให้วา่ ที่สามีของตนเป็ นคนก้าวหน้ามี
อนาคต โดยเฉพาะศัตรู ตวั ฉกาจของนางคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นจวนจงอู่
โหวที่แต่งงานกับคุณชายใหญ่จวนจิ้นอ๋ อง หากตนแต่งเข้าไปจริ งๆ
ใช่จะถูกนางกดหัวหรื อไม่ นี่จะให้นางยินยอมได้อย่างไร
ยังคงเป็ นแม่นางที่อ่านใจนางออก โน้มน้าวนาง “เด็กโง่ บุรุษกลัว
ประพฤติผดิ สตรี กลัวได้สามีไม่ดี สตรี แต่งงานก็เปรี ยบเหมือนได้
เกิดใหม่ แต่งงานดีตลอดชีวิตก็ไร้กงั วล คนทัว่ ไปให้ความสาคัญกับ
การแต่งภรรยาสู งต่า การหมั้นหมายกับจวนจิ้นอ๋ องนี้พวกเราถือว่า
ไม่อาจเอื้อมแล้ว คุณชายสี่ แซ่สวีผนู ้ ้ นั เป็ นหลานชายแท้ๆ ของฝ่ า
บาท แม้ตระกูลพวกเราจะเป็ นจวนเสนาบดี แต่อย่างไรเสี ยพวกเราก็
เป็ นบ้านสาม อาศัยตาแหน่งขุนนางนั้นของพ่อเจ้าเจ้าคิดว่าจะแต่ง
เข้าจวนจิ้นอ๋ องได้หรื อ ไม่ใช่วา่ เขาเห็นแก่ลุงเจ้ากับซูเฟยเหนียง
เหนัยงในวังหรื ออย่างไร”
เห็นลูกสาวไม่พดู มารดาตระกูลฉินก็กล่าวต่อ “คุณชายสี่ จวนจิ้
นอ๋ องผูน้ ้ นั หน้าตาดีมีความสามารถ เพียงแค่ชอบเที่ยวเล่นเล็กน้อย
ชายวัยหนุ่มคนใดบ้างไม่ชอบเที่ยวเล่น พี่นอ้ งเจ้าเองก็เป็ นเช่นนี้มิใช่
หรื อ ประเดี๋ยวแต่งงานแล้วก็จะค่อยๆ เก็บความคิดเอง อีกทั้งเขายัง
เป็ นลูกชายคนเล็กของพระชายาจิ้นอ๋ อง จะไม่ถูกตามใจได้อย่างไร
นางน่ะเป็ นคนที่มีฝีมือที่สุด ดูแลเรื อนหลังจวนจิ้นอ๋ องมายีส่ ิ บกว่าปี
ข้างกายจิ้นอ๋ องก็มีเพียงแค่นางคนเดียว ของดีในมือเยอะแยะยิง่ นัก
ทาตกมาให้พวกเจ้านิดๆ หน่อยๆ ก็เพียงพอให้พวกเจ้าร่ ารวยไปทั้ง
ชีวิตแล้ว เจ้าแต่งเข้าไป คลอดหลายชายคนโตให้นาง ยังต้องกลัว
นางไม่ยกยอเจ้าไม่ตามใจเจ้าอีกหรื อ”
ฉินอิงอิงหวัน่ ไหวเล็กน้อย คนที่นางอิจฉาที่สุดในจวนเสนาบดีกค็ ือ
ซูเฟยเหนียงเหนียงพี่สาวคนโต ดารงตาแหน่งเป็ นนางสนม ซ้ ายังมี
องค์ชายอยูข่ า้ งกาย ได้รับเกียรติยศความร่ ารวย ส่ วนบุตรหลานใน
จวนจิ้นอ๋ องนางพอใจเป็ นอย่างยิง่ แล้ว เพียงแต่เทียบกับคุณชายสาม
ท่านก่อนหน้า นางก็ไม่ยนิ ดีเล็กน้อย เทียบอู๋ซื่อฮูหยินซื่อจื่อกับหูซื่อ
ฮูหยินสามไม่ได้กไ็ ม่เท่าไร แต่นางจะเทียบคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นที่เติบโต
ในชนบทไม่ได้เชียวหรื อ แม้จะบอกว่าคุณชายใหญ่ผนู ้ ้ นั สุ ขภาพไม่
ดี แต่เขาก็เป็ นบุตรภรรยาหลวง อีกทั้งคนยังหน้าตาดี เด็กสาวดรุ ณี
คนใดบ้างไม่ชอบชายหล่อเหลา
มารดาตระกูลฉินพอจะได้ยนิ มาว่าลูกสาวมีบุญคุณความแค้นกับ
คุณหนูสี่จวนจงอู่โหว เห็นคิ้วที่ขมวดเล็กน้อยของลูกสาวก็อดพูด
ไม่ได้ “เจ้าโง่แล้วหรื อ คุณชายใหญ่ผนู ้ ้ นั ได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ อ๋ องแล้ว ต้องย้ายออกจากจวนอ๋ อง จะอยูข่ วางหู
ขวางตาเจ้าได้อย่างไร”
ฉินอิงอิงแสยะปากอย่างไม่พอใจ “ข้าก็แค่ไม่เต็มใจ นางมีอะไรดี
นึกไม่ถึงว่าจะแต่งงานกับคุณชายใหญ่ผทู ้ ี่มีความสามารถเช่นนั้น
ได้”
มารดาตระกูลฉินทั้งโมโหทั้งขบขัน จิ้มลูกสาวหนึ่งครา กล่าว “เด็ก
น้อยเช่นเจ้าอย่างไรเสี ยก็คิดตื้นๆ เจ้าเพียงแค่เห็นว่าคุณชายใหญ่
หน้าตาดัง่ เทพเซียน เหตุใดถึงได้ลืมไปว่าเกินครึ่ งปี เขาล้วนแต่รักษา
ตัวอยูบ่ นเขาเล่า ก่อนวันสมรสไม่ใช่โรคเก่ากาเริ บจนต้องเลื่อนงาน
แต่งหรอกหรื อ ร่ างกายนัน่ ของเขาจะมีทายาทได้หรื อไม่ยงั พูดยาก
เลย ไม่มีผสู ้ ื บสกุลต่อให้จะร่ ารวยก็เป็ นเพียงคนนอกตระกูลมิใช่
หรื อ ตอนนี้คุณหนูสี่ตระกูลเสิ่ นผูน้ ้ นั ดูเหมือนมีหน้ามีตา หลังจากนี้
ยังไม่แน่วา่ จะเปล่าเปลี่ยวเพียงใด เจ้าลองคิดดู หากคุณชายใหญ่
สมบูรณ์แบบ ฝ่ าบาทจะพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้นางเป็ นจวิน้ จู่
หรื อ แม้จะบอกว่าในนี้อาจจะมีสาเหตุมาจากนายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหว
แต่คุณหนูจวนโหวก็มีต้ งั หลายคน เหตุใดถึงตกมาถึงคุณหนูบา้ น
สามคนหนึ่งเล่า อิงเอ๋ อร์เจ้าฟังแม่ แม่ไม่มีทางทาร้ายเจ้า การสมรส
ครั้งนี้เลือกมาอย่างดีที่สุดสาหรับเจ้าแล้ว”
ฉินอิงอิงได้ยนิ คาพูดของมารดา จินตนาการถึงสภาพตกอับในภาย
หน้าของศัตรู ตวั ฉกาจ บนใบหน้าก็ปรากฎรอยยิม้ ส่ วนมารดา
ตระกูลฉิ นก็ถอนหายใจหนึ่งคราอย่างโล่งอก การสมรสครั้งนี้ไม่
เพียงแต่นายท่านที่ให้ความสาคัญ แม้แต่ท่านเสนาบดีกบั ซูเฟย
เหนียงเหนียงในวังก็ให้ความสาคัญเช่นกัน ไม่อาจปล่อยให้อิงเอ๋ อร์
ดื้อรั้นได้
กว่ามารดาตระกูลฉินจะโน้มน้าวลูกสาวได้ ยังไม่ทนั ได้โล่งอก ข่าว
ลือว่าพระชายาจิ้นอ๋ องทรมานภรรยาลูกเลี้ยงก็ดงั เข้ามา สาวใช้มา
รายงานถึงความกระวนกระวายใจของลูกสาวที่เรื อนนางก่อนแล้ว
นางทาได้เพียงวางงานในมือลงแล้วไปที่เรื อนของลูกสาว
“ท่านแม่!” ฉินอิงอิงมองมารดา ในสี หน้าเต็มไปด้วยความน้อยใจ
“พระชายาจิ้นอ๋ องผูน้ ้ นั ร้ายกาจเช่นนี้ ลูกแต่งเข้าไป…” นางกัดริ ม
ฝี ปากสี แดง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ย่านางก็เป็ นคนที่
ชอบกลัน่ แกล้งลูกสะใภ้ แม้จะบอกว่าตอนนี้อายุมากแล้วไม่ค่อยทา
ให้แม่นางและป้านางลาบากแล้ว แต่ฟังว่าป้ารองคนก่อนของนางก็
ถูกทรมานจนตาย อุม้ ท้องปรนนิบตั ิผอู ้ าวุโสในฤดูหนาวที่หนาวจัด
ตกเลือด ไม่สามารถอุม้ ท้องผ่านด่านคลอดไปได้
อย่างไรเสี ยฉินอิงอิงก็เป็ นคุณหนูที่ยงั ไม่เคยออกเรื อน คิดแล้วก็รู้สึก
ประหวัน่ พรั่นพรึ ง
มารดาตระกูลฉินมองความหวาดกลัวบนใบหน้าลูกสาว จิตใจก็อ่อน
ลงก่อน กอดลูกสาวแล้วกล่าว “ก็แค่ข่าวลือ ส่ วนใหญ่ลว้ นเชื่อถือ
ไม่ได้ เจ้าไม่ตอ้ งเป็ นกังวล”
“เช่นนั้น เช่นนั้นหากว่าเป็ นเรื่ องจริ งเล่า” ฉิ งอิงอิงยังคงไม่สบายใจ
“อิงเอ๋ อร์ เจ้าต้องรู ้ไว้วา่ การสมรสครั้งนี้เป็ นพระชายาจิ้นอ๋ องที่สู่ขอ
ด้วยตัวเอง อย่างน้อยนางก็ไม่อาจปฏิบตั ิต่อเจ้าไม่ดีได้ อีกอย่าง
เบื้องหลังเจ้ายังมีจวนเสนาบดีกบั ซูเฟยเหนียงเหนียงยืนอยู่ มิหนาซ้ า
เจ้าก็ได้ยนิ แล้วว่าทรมานภรรยาลูกเลี้ยง เหตุใดถึงไม่ใช่ลูกสะใภ้สอง
คนนั้นเล่า เจ้าวางใจแต่งงานเถิด หากนางกล้าปฏิบตั ิไม่ดีต่อเจ้า ต่อ
ให้แม่จะต้องยอมออกหน้าก็จะต้องทวงความยุติธรรมให้เจ้าจงได้”
มารดาตระกูลฉินลูบใบหน้าเล็กๆ ที่เกลี้ยงเกลาของลูกสาวแล้วกล่าว
ด้วยความรักใคร่ แม้วา่ ลูกสาวคนนี้จะอารมณ์ร้อนไปหน่อย ดื้อรั้น
ไปหน่อย แต่ไม่วา่ อย่างไรก็เป็ นบุตรสาวเพียงคนเดียวของนาง! นาง
รักและเอ็นดูราวกับแก้วตาดวงใจ จะยอมให้คนอื่นมาทรมานได้
อย่างไร
ฉินอิงอิงมองใบหน้าที่อ่อนโยนของมารดา อดพยักหน้าไม่ได้
เมื่อออกจากจวนจิ้นอ๋ องแล้วเสิ่ นเวยก็กระโดดโลดเต้นราวกับนก
น้อยที่ออกจากกรง คนที่กระโดดโลดเต้นเช่นเดียวกันยังมีเถาฮวา
ช่วงนี้เถาฮวาอึดอัดจะแย่อยูแ่ ล้ว หมดหนทางเสิ่ นเวยก็ให้คนสร้าง
ชิงช้าให้นางในลานบ้าน นางกล้าหาญมาก แกว่งสู งอย่างยิง่ หลาย
ต่อหลายครั้งเสิ่ นเวยคิดว่านางเหมือนกระสุ นปื นใหญ่อีกไม่ชา้ ก็
สามารถยิงออกไปนอกกาแพงลานบ้านได้
“ฮูหยิน อีกประเดี๋ยวข้าจะไปซื้อปิ่ นปักผมหนึ่งอัน เอาแบบที่มีผเี สื้ อ
บินอยูข่ า้ งบน” เถาฮว่ากล่าวกับเสิ่ นเวยด้วยท่าทีลึกลับอย่างยิง่
“เอ๋ เช่นนี้เจ้าไม่ซ้ือลูกอมกุย้ ฮวาแล้วหรื อ เมื่อวานข้ายังได้ยนิ เจ้าบ่น
อยูเ่ ลย” เสิ่ นเวยหยอกล้อนาง ต้องรู ้วา่ เรื่ องสาคัญอันดับแรกใน
สายตาเถาฮวาเด็กคนนี้กค็ ือเรื่ องกิน
บนใบหน้าเฮวาปรากฏความขัดแย้งออกมาดังคาด คล้ายไม่สามรถ
เลือกระหว่างปิ่ นปักผมกับลูกอมกุย้ ฮวาได้ แต่ทา้ ยที่สุดก็ยงั คงกล่าว
“ซื้อปิ่ นปักผมก่อน”
เสิ่ นเวยเลิกคิ้ว หยอกนางต่อ “เอ๋ เถาฮวาโตเป็ นสาวแล้ว รู ้จกั รักสวย
รักงามแล้ว! เช่นนั้นเจ้าเอาเงินมาพอหรื อไม่”
เถาฮวาพยักหน้าอย่างรดวเร็ ว “ข้าเอาเงินมาเยอะมาก ฮูหยินท่านดู!”
นางกวักมือเรี ยกเสิ่ นเวย เปิ ดกระเป๋ าเงินใบเล็กให้เสิ่ นเวยดูอย่าง
ระมัดระวัง
เสิ่ นเวยมองดูแล้วก็เป็ นเช่นนั้นจริ งๆ กระเป๋ าเงินตุง เถาฮวาเอาเงิน
ทั้งหมดที่นางมีออกมาแล้ว เสิ่ นเวยมองเถาฮวาที่กาลังมองตนเองราว
กับมอบสิ่ งของล้ าค่า อดหัวเราะไม่ได้ “เด็กโง่ ใช้เงินหมดแล้วเจ้าจะ
เอาอะไรไปซื้อขนมเล่า เก็บไว้เถิด เจ้าอยากได้อะไรฮูหยินจะซื้อให้
เจ้าเอง”
“ไม่เอา ข้ามีเงินของตัวเอง ข้าจะซื้อปิ่ นปั กผมเอง” เถาฮวาปฏิเสธ
ด้วยท่าทีเด็ดขาด
นี่ทาให้เสิ่ นเวยรู ้สึกประหลาดใจ “ทาไมเล่า ก็เหมือนกันไม่ใช่หรื อ ฮู
หยินซื้อปิ่ นปักผมให้เจ้าใช้ เงินของเจ้าก็เก็บไว้ซ้ือของอร่ อย”
“ปิ่ นปักผมอันนี้ขา้ ไม่ได้ใช้เอง” เถาฮวาแย้งเสี ยงดัง ทันใดนั้น
ใบหน้าก็มีความดีใจหลายส่ วน “ข้าซื้อปิ่ นปั กผมให้ฮูหยินต่างหาก
เล่า ย่อมต้องใช้เงินของข้าเอง”
ให้นางงั้นหรื อ เสิ่ นเวยประหลาดใจยิง่ ขึ้น ชี้จมูกตัวเองกล่าว “เถาฮ
วา เจ้าบอกว่าเจ้าซื้อปิ่ นปักผมให้ขา้ หรื อ”
“อื้มๆ” เถาฮวาพยักหน้า “ข้าได้ยนิ พวกพี่หลีฮวาบอกว่าใกล้จะถึงวัน
เกิดของฮูหยินแล้ว วันเกิดข้าทุกปี ฮูหยินจะให้ของขวัญข้า ข้าเองก็
ต้องให้ของขวัญฮูหยินบ้าง” บนใบหน้าเล็กๆ ของเถาฮวาเต็มไปด้วย
ความจริ งใจ
จิตใจของเสิ่ นเวยคล้ายถูกอะไรโจมตีในชัว่ ขณะ อ่อนนุ่มราวกับใย
ฝ้ายหนึ่งก้อน “วันเกิดของข้าอีกตั้งนาน” นางเกิดเดือนหก ตอนนี้
เพิง่ จะเข้าเดือนห้า ยังเหลืออีกตั้งหนึ่งเดือน
“เช่นนั้นก็ซ้ือไว้ก่อนสิ รอให้ถึงวันเกิดฮูหยินข้าจะให้ฮูหยินเป็ นคน
แรก” เถาฮวาพูดเสี ยงดัง
สวีโย่วที่อยูข่ า้ งๆ กล่าวในใจ เด็กน้อยเช่นเจ้าจะให้ของขวัญเป็ นคน
แรก ข้าที่เป็ นสามีจะทาอย่างไรเล่า
“ดี เช่นนั้นข้าขอบคุณเจ้าไว้ก่อนเลย” เสิ่ นเวยลูบผมของเถาฮวาแล้ว
กล่าวด้วยเสี ยงอ่อนโยน เบื้องลึกในใจของนางยังเกิดความปลื้มใจ
ของคนเป็ นพ่อแม่ข้ ึนมาจริ งๆ แม้จะบอกว่านางห่างกับเถาฮวาเพียง
สามสี่ ปี ทว่าแต่ไหนแต่ไรก็เลี้ยงดูนางเป็ นลูก เป็ นน้องสาว ในเรื อน
ใครบ้างไม่รู้วา่ เถาฮวาเป็ นคนที่พิเศษที่สุด แม้จะเป็ นสาวใช้ แต่
สวัสดิการที่ได้รับกลับเทียบเท่าคุณหนู
สวีโย่วพาเสิ่ นเวยออกมาก็อยากอยูใ่ นโลกของสองคน เสิ่ นเวยเองก็
ไม่ชอบให้มีคนเดินตามเป็ นกลุ่ม ด้วยเหตุน้ ีขา้ งกายจึงเหลือเพียง
หลีฮวาและเถาฮวา คนที่เหลือก็แจกเงินให้พวกนางไปเดินเล่น
กันเอง เจียงเฮยเจียงไป๋ สองพี่นอ้ งที่ฝั่งสวีโย่วพาออกมาก็ตามอยู่
ไกลๆ สวีโย่วไม่อนุญาตให้พวกเขาขึ้นมาข้างหน้าอย่างสิ้ นเชิง
อาจเป็ นเพราะไม่ได้ออกมาเดินเล่นนานแล้ว ความสนใจของเสิ่ นเว
ยสู งมากเป็ นพิเศษ ตลอดทางทาได้เพียงใช้คาสามคามาอธิบาย นัน่ ก็
คือซื้อซื้อซื้อ เห็นอะไรเข้าตาก็เก็บเข้ากระเป๋ าหมด นางไม่ขาดเงิน
สวีโย่วก็ไม่หา้ มนาง เพียงแค่ครึ่ งชัว่ ยาม ในมือเจียงเฮยเจียงไป๋ ก็หิ้ว
เต็มไปด้วยของ
เสิ่ นเวยเห็นท่าทีกโ็ บกมือกล่าว “ส่ งไปที่จวนจงอู่โหว” จากนั้นก็สงั่
อย่างละเอียดว่าของแบบนี้เอาให้ปู่นาง ของแบบนั้นเอาให้เหล่า
พี่สาวน้องสาว
เจียงเฮยกับเจียงไป๋ เผยสี หน้าลังเล พวกเขาคุม้ กันคุณชายใหญ่อยู่ จะ
ออกไปพร้อมกันได้อย่างไร
สวีโย่วเหลือบมองด้วยสายตาเย็นชา หัวใจทั้งสองก็สนั่ กลัวทันที
กล่าวด้วยความเคารพ “ฮูหยินวางใจ บ่าวจะไม่ทาผิดพลาดแน่นอน”
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 232-2 พายุก่อตัว
หลังจากเขาทั้งสองออกไป มีคนซึ่งไม่รู้วา่ มาจากไหนแต่งตัวไม่ต่าง
จากเจียงเฮยเจียงไป๋ เดินตามอยูข่ า้ งหลังพวกเขาไม่ใกล้ไม่ไกล เสิ่ น
เวยแสยะมุมปาก แสร้งทาเป็ นมองไม่เห็น
วันนี้เสิ่ นเวยเที่ยวเล่นอย่างมีความสุ ขมาก ซื้อของ กินของอร่ อย อีก
ทั้งยังใช้เวลายามบ่ายอยูท่ ี่โรงน้ าชา เรื่ องที่นกั เล่านิทานในโรงน้ าชา
พูดเป็ นเรื่ องคุณูปการความห้าวหาญของผูอ้ าวุโสจงอู่โหวที่สยบซีเห
ลียงพอดี บ้างก็วา่ นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นอายุมากแต่แข็งแรง
ใช้ทวนยาวแปดจั้ง อยูใ่ นกองหน้าเปล่งเสี ยงตะโกนใส่ แม่ทพั ใหญ่ซี
เหลียง ประหนึ่งฟ้าร้องปะทุ
เสิ่ นเวยฟังอย่างสนอกสนใจไปพลาง แขวะในใจไปพลาง ปู่ นาง
ไหนเลยจะมีทวนยาวแปดจั้ง เห็นชัดๆ ว่าเขาใช้ดาบ และเขาเองก็
ไม่ได้ร้องตะโกนอยูใ่ นกองหน้า อย่างมากก็ตรวจดูการรบอยูบ่ นยอด
กาแพงเมืองก็เท่านั้น อีกทั้งแม่ทพั เล็กชุดเงินจากปากนักเล่านิทาน
คือใครกัน ไม่วา่ จะเป็ นนางหรื อพี่ใหญ่ของนางก็ไม่มีใครเคยใส่ ! ฆ่า
ศัตรู ในสนามรบเจ้าสวมชุดเกราะสี อ่อนไป ไม่ใช่จะเป็ นการเปิ ดเผย
ตัวเองอยูใ่ นสายตาของศัตรู ดว้ ยตัวเองหรอกหรื อ
แม้จะบอกว่าศิลปะมาจากชีวิตและเหนือกว่าชีวิต แต่นี่กห็ ่างไกล
ความจริ งเกินไปหรื อไม่ อย่างไรเสี ยเสิ่ นเวยฟังก็ไม่รู้สึกอินเลยแม้แต่
นิดเดียว กลับรู ้สึกว่านัน่ คือเรื่ องเล่าของคนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับนาง
อย่างสิ้ นเชิง
อ้อ ตอนที่ฟังนิทานอยูท่ ี่โรงน้ าชาเสิ่ นเวยยังเห็นราชบัณฑิตเซี่ยเฟยที่
เคยพบหนึ่งครั้ง เขามาคนเดียว นัง่ อยูท่ างมุมฝั่งตะวันออกเฉี ยงใต้
ฟังไปสักพักก็ลุกขึ้นออกไป
กลับไปถึงจวนจิ้นอ๋ อง พ่อบ้านเจี่ยงปั๋วก็ส่งจดหมายหนึ่งฉบับมาให้
“นี่เป็ นจดหมายที่ขอทานน้อยผูห้ นึ่งส่ งมาเมื่อเที่ยงวันนี้ บอกว่าให้
ท่านฮูหยิน”
เสิ่ นเวยเห็นว่าบนซองจดหมายวาดดอกท้อหนึ่งกิ่งไว้ ก็เดาได้ทนั ที
ว่าเป็ นใคร ภายใต้การจ้องมองที่สงสัยของสวีโย่วเสิ่ นเวยก็รับมาและ
ฉีกออกอย่างไร้กงั วล ดวงตาทั้งคู่กวาดอ่านเนื้อหาข้างใน ท่าทีคล้าย
กาลังครุ่ นคิด
“ช่วงนี้ในราชสานักใช่เกิดเรื่ องอะไรหรื อไม่” เสิ่ นเวยมองสวีโย่ว
แล้วถาม
สวีโย่วยืนอยูข่ า้ งๆ นาง ย่อมต้องเห็นเนื้อหาที่เขียนอยูใ่ นจดหมาย
แล้ว ในจดหมายเขียนว่าเห็นใต้เท้าเสิ่ นพ่อตาเขาดื่มสุ ราที่หอไท่ไป๋
ด้วยกันกับจางจี้จ่างสื่ อประจาจวนองค์ชายรอง มิหนาซ้ ายังไม่ใช่
เพียงครั้งสองครั้ง ดูท่าแล้วคนทั้งสองจะมีความสัมพันธ์หลายส่ วน
อย่างยิง่ ลายมืออ่อนหัดและยุง่ เหยิง ไม่ใช่ผเู ้ ริ่ มเรี ยนก็ต้ งั ใจปกปิ ด
สวีโย่วโน้มเอียงไปอย่างหลัง
สวีโย่วกาลังคิด พ่อตาเขาไปสนิทกับจางจี้ผนู ้ ้ ีต้ งั แต่เมื่อไรกัน ได้ยนิ
เสิ่ นเวยถามเขา ชัว่ ขณะก็คล้ายครุ่ นคิด
“ทาไม พูดไม่ได้หรื อ ไหนใครบอกว่าสามีภรรยาต้องตรงไปตรงมา
ต่อกันเล่า” เสิ่ นเวยเห็นสวีโย่วไม่ตอบ ก็ชายตามองเขา
สวีโย่วจนใจยิง่ นัก เด็กคนนี้เหตุใดถึงได้ใจร้อนเพียงนี้ เขาพูดตอน
ไหนว่าพูดไม่ได้ เพียงแต่ในเมื่อเด็กน้อยพูดเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่ควร
ยอมรับชื่อเพียงแค่ในนามใช่หรื อไม่ จึงเชิดคางชี้จดหมายในมือนาง
เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะหนึ่งครา แค่นเสี ยงกล่าว “ใจแคบ!” แต่วา่ การ
ติดต่อของนางกับเจียงเฉินก็ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถให้เขารู ้ได้ “เจียง
เฉินราชบัณฑิตเจียงแห่งสานักราชบัณฑิตรู ้จกั หรื อไม่ เขาส่ งมา”
นางโบกจดหมายในมือพลางกล่าว
สวีโย่วประหลาดใจอย่างยิง่ ราชบัณฑิตเจียง ไม่ใช่คนผูน้ ้ นั ที่ช่วยเขา
แต่งกลอนวันรับตัวเจ้าสาวหรอกหรื อ ไม่คิดว่าน้องสี่ แซ่เสิ่ นจะรู ้จกั
เขาด้วย “เจ้าสนิทกับเขาหรื อ” เขาถามเสี ยงเรี ยบ
เสิ่ นเวยภูมิใจยิง่ นัก “ใช่แล้ว สนิทสุดๆ ข้าเป็ นผูม้ ีพระคุณช่วยชีวิต
ของเจียงเฉิน หากไม่ใช่ขา้ อย่าว่าแต่เขาสอบได้ที่สามเป็ นนายท่าน
ราชบัณฑิตผูส้ ู งส่ งเลย หญ้าบนหลุมศพก็คงจะยาวหมดแล้ว”
จากนั้นก็สาธยายที่มาระหว่างพวกเขา
ตอนที่ได้ยนิ ว่านางชนะบ่อนพนันของเขาหนึ่งหมื่นตาลึง มุมปากสวี
โย่วก็กระตุก เป็ นเรื่ องที่นอ้ งสี่ แซ่เสิ่ นสามารถทาได้จริ งๆ
“ข้าช่วยเขาเยอะเพียงนั้น ตอนนี้เขาเป็ นขุนนางแล้ว มีความสามารถ
แล้ว ย่อมต้องช่วยข้าบ้าง สหายพี่นอ้ งก็ควรช่วยเหลือซึ่งกันแหละ
กันมิใช่หรื อ” เสิ่ นเวยกล่าวสรุ ป
มุมปากของสวีโย่วกระตุกอีกครั้ง สหายพี่นอ้ งงั้นหรื อ น้องสี่ แซ่เสิ่ น
คิดว่าตนเองเป็ นผูช้ ายหรื อไร
“เจ้าคิดว่าพ่อตาสนิทกับจางจี้น่าแปลกหรื อ” สวีโย่วถาม
เสิ่ นเวยกลอกตาขาว “ย่อมต้องแปลก พ่อข้าเป็ นใคร ก็แค่ขนุ นางที่
รับหน้าที่ในกรมพิธีการ ไม่ใช่ขนุ นางสลักสาคัญอะไร จางจี้ผนู ้ ้ ีเป็ น
ถึงจ่างสื่ อในจวนองค์ชายรอง คนสองคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
แม้แต่นอ้ ย รู ้จกั กันได้กไ็ ม่เลวแล้ว ซ้ ายังไปดื่มสุ ราพูดคุยกันบ่อยครั้ง
ไม่วา่ จะมองอย่างไรก็แปลก”
ปู่ นางเป็ นปลาตัวใหญ่ เหล่าองค์ชายที่มีความคิดสู งชั้นใครบ้างไม่
อยากดึงมาเป็ นพวก แต่เสิ่ นเวยรู ้วา่ ปู่ นางต้องการเป็ นขุนนางผู ้
บริ สุทธิ์จงรักภัคดีเพียงแค่ฝ่าบาท แม้จะบอกว่าเขาเป็ นราชครู ของรัช
ทายาท แต่ในใจเขาก็ให้ความสาคัญแก่ฝ่าบาทและราชสานัก
สาหรับไท่จื่อก็เพียงแค่รับหน้านี้สงั่ สอน หากจะบอกว่ายืนอยูฝ่ ั่ง
ไท่จื่อ บอกได้เลยว่าไร้สาระ
องค์ชายรองหมดหนทางลงมือกับปู่ นางจึงใช้ทางอ้อมโดยการหันมา
หาพ่อนางงั้นหรื อ เหตุใดคนที่หนั หาถึงเป็ นพ่อนางไม่ใช่ลุงใหญ่นาง
ที่รับตาแหน่งจงอู่โหวคนปัจจุบนั เล่า เหตุผลง่ายดายอย่างยิง่ แม้วา่
ลุงใหญ่นางจะไม่ได้สร้างความดีความชอบอะไร แต่ขอ้ ดีหนึ่งข้อที่
พ่อนางเทียบไม่ติด ก็คือรอบคอบระมัดระวัง อืม พูดตรงๆ ก็คือขี้
ขลาด เขาไม่กล้าผูกสัมพันธ์กบั เหล่าองค์ชายเด็ดขาด ไม่แน่วา่ อาจจะ
ยังไปขอคาแนะนาจากนายท่านผูเ้ ฒ่าโหว นี่ไม่ใช่เป็ นการบอกปู่ นาง
หรอกหรื อ
อีกทั้งตาแหน่งที่ลุงใหญ่นางรับช่วงต่อยังเป็ นจงอู่โหว ซ้ ายังรับ
หน้าที่ในกรมกลาโหม นับได้วา่ เป็ นนายพล ส่ วนจางจี้ผเู ้ ป็ นจ่างสื่ อ
จวนองค์ชายรองเป็ นขุนนางฝ่ ายบุ๋น ขุนนางฝ่ ายบุ๋นกับนายพลคุยกัน
ไม่รู้เรื่ องหรอก!
สาหรับเหตุผลว่าทาไมถึงไม่ได้หาลุงรองของนาง คาดว่าเขาคงจะ
รังเกียจที่เขาไร้ประโยชน์เกินไป ไม่เข้าตากระมัง
“บางทีจางจี้อาจจะชื่นชมการวางตัวและความรู ้ความสามารถของ
พ่อตาเพียงเท่านั้นก็ได้” สวีโย่วพยายามพูดจาเข้าข้างใต้เท้าพ่อตา
ของเขาหนึ่งประโยค
เสิ่ นเวยแทบจะสาลักน้ าลาย แทบจะพ่นคาหยาบออกมา การวางตัว
และความสามารถบ้าอะไร เขามีของพรรณ์น้ นั ด้วยหรื อ
“ท่านปิ ดทองบนหน้าเขาเก่งจริ งๆ ความสามารถเขายังพอมีบา้ ง แต่
เขาเป็ นคาคร่ าครึ ไม่ควรค่าให้จางจี้ชื่นชม ส่ วนการวางตัว ข้ากล้า
บอกท่านเลยว่า เขาไม่มีอะไรแบบนั้น ที่คนอื่นคบค้าสมาคมกับเขาก็
เพียงเพราะเห็นเขาโง่หลอกง่ายก็เท่านั้นเอง”
เสิ่ นเวยเหยียดหยาม หลังจากนั้นก็ถอนหายใจอีกครั้ง “ปู่ ข้าก็ลาบาก
ยิง่ นัก ลูกชายไม่ได้เรื่ อง เขาอายุปูนนี้แล้วยังต้องทุ่มแรงกายใจเพื่อ
อนาคตของลูกชายอยูอ่ ีก ดังนั้นจึงมีสุภาษิตว่าภรรยาดีสามีประสบ
หายนะน้อย ภรรยาดีเจริ ญไปสามชัว่ โคตร ปู่ ข้าไม่ได้แต่งภรรยาดี ย่า
ข้านาหายนะมาให้พอ่ ข้าลุงใหญ่ขา้ ทั้งสิ้ น คุณชายใหญ่ ภรรยาดีมี
เหตุมีผลทั้งยังมีความสามารถเช่นข้าทัว่ ทั้งเมืองหลวงต่อให้ส่องโคม
ก็หาไม่เจอแล้ว ท่านต้องรักษาข้าดีๆ นะ” พูดพลางเสิ่ นเวยก็เปลี่ยน
ประเด็น
สวีโย่วมีความสุ ขทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความรักใคร่ “ใช่ๆๆ ข้า
จะต้องรักษาเวยเวยดัง่ มุกดัง่ หยก”
เสิ่ นเวยลูบจมูกยิม้ “ท่านยังไม่บอกเลยว่าช่วงนี้ราชสานักใช่เกิดเรื่ อง
ใหญ่อะไรหรื อไม่ มิเช่นนั้นองค์ชายรองคงไม่ถึงกับร้อนใจดึงปู่ ข้า
ไปเป็ นพวกเช่นนี้” ลางสังหรณ์ต่อการบริ หารบ้านเมืองของเสิ่ นเวย
ปราดเปรี ยวมากเป็ นพิเศษ นางมักจะรู ้สึกว่าในราชสานักจะต้องเกิด
เรื่ องหรื อกาลังจะเกิดเรื่ องใหญ่อะไรสักอย่าง
สวีโย่วเก็บสายตาคิดครู่ หนึ่ง จึงกล่าว “เมื่อสี่ ปีก่อนเกิดคดีแม่ทพั อัน
ลักลอบขายม้าทุจริ ตเงินกองทัพนอกด่านทางตอนเหนือ ระหว่าง
ทางคุมตัวกลับเมืองหลวงเพื่อรับการตัดสิ นแม่ทพั อันก็กลัวโทษจน
ฆ่าตัวตาย ทว่าตอนนี้กลับมีคนแอบไปบอกฝ่ าบาทว่าแม่ทพั อัน
ไม่ได้กระทาผิด อันที่จริ งเขาถูกกล่าวโทษ ซ้ ายังถวายหลักฐานส่ วน
หนึ่งให้อีกด้วย ฝ่ าบาทตกพระทัยใหญ่ ออกพระราชโองการลับให้
ผูต้ รวจการโจวไปค้นหาหลักฐานที่นอกด่าน ผูท้ ี่รู้เรื่ องนี้มีไม่เยอะ
ทั้งราชสานักรวมกันแล้วนับนิ้วไม่เต็มมือ” สวีโย่วไม่ได้บอกว่าฝ่ า
บาทคิดจะให้เขาไปปฏิบตั ิการด้วยเช่นกัน เขาเพิ่งจะแต่งงานเป็ นคู่
ข้าวใหม่ปลามัน ตัดใจจากเสิ่ นเวยดินแดนที่อบอุ่นแห่งนี้ไม่ได้ ย่อม
ต้องปฏิเสธทันที เพียงแค่ให้ยมื ทหารเงาหนึ่งกลุ่มคุม้ กันความ
ปลอดภัยของผูต้ รวจการโจว
เสิ่ นเวยไม่แปลกใจเลยแม้แต่นิดเดียว ราชวงศ์ใดรัชสมัยใดบ้างที่ไม่
มีคดีแพะรับบาป วัดใดบ้างไม่มีผที ี่ถูกใส่ ร้ายจนตาย เพียงแต่เรื่ องนี้มี
ความเกี่ยวข้องกับการที่องค์ชายรองดึงจวนจงอู่โหวเข้าเป็ นพวกด้วย
หรื อ น่าจะไม่มีกระมัง อย่างไรเสี ยสี่ ปีก่อนองค์ชายรองก็เพิ่งจะอายุ
สิ บสามสิ บสี่ ปีเอง
เสิ่ นเวยคิดครู่ หนึ่ง จับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก จึงถือโอกาสวางลง
ข้างๆ จากนั้นก็ได้ยนิ สวีโย่วถามนาง “เรื่ องพ่อตาเจ้าวางแผนจะทา
อย่างไร” เขารู ้วา่ น้องสี่ แซ่เสิ่ นไม่ค่อยชอบพ่อนางนัก เป็ นห่วงว่า
นางจะวิง่ พุง่ กลับบ้านฝั่งมารดาไปทะเลาะกับพ่อตา
“ข้าจะทาอย่างไรได้ ย่อมไม่ทาอะไรน่ะสิ ” เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหนึ่ง
ครา “ข้าเป็ นน้ าที่สาดออกไปแล้ว ใครจะทนยุง่ เรื่ องมากมายเพียงนั้น
ได้ ย่อมต้องบอกท่านปู่ ลูกของเขาให้เขาจัดการเอง”
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 233-1 สั่ งสอนจางจ่ างสื่ อ
จวนองค์ชายรอง
องค์ชายรองสวีอวี้และจ่างสื่ อจางจี้กาลังสนทนากันอยูใ่ นห้อง
หนังสื อ
“จางจ่างสื่ อติดต่อกับเสิ่ นหงเซวียนมาได้รยะหนึ่งแล้ว คิดว่าคนผูน้ ้ ี
เป็ นอย่างไร” องค์ชายรองวางแก้วชาแล้วถาม
จางจี้อายุประมาณสี่ สิบปี หน้าขาวมีหนวด ให้ความรู ้สึกเป็ นมิตร
อย่างมาก ในดวงตาทั้งคู่มีประกายแวบผ่านเป็ นบางครั้งคราวทาให้
คนไม่มีทางมองข้ามความฉลาดเฉียบแหลมของเขาไปได้
เห็นเพียงเขาส่ ายหน้าเบาๆ บนใบหน้าคล้ายมีความเสี ยดายอย่างยิง่
“ความรู ้ของใต้เท้าเสิ่ นผูน้ ้ ีกลับไม่เลว การวางตัวซื่อสัตย์
ตรงไปตรงมา เพียงแต่เขากลับไม่ค่อยรู ้เรื่ องของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหว
ตระกูลเสิ่ นเท่าไรนัก” หรื อว่าเก็บไว้ไม่บอก ไม่เพียงแต่ไม่ค่อยรู ้ แต่
ไม่รู้เลยแม้แต่นิดเดียว
พูดถึงกวีและบทเพลง ใต้เท้าเสิ่ นผูน้ ้ ีกลับเชี่ยวชาญ แต่เมื่อเกี่ยวข้อง
กับการบริ หารงานราชสานัก ใต้เท้าเสิ่ นผูน้ ้ ีกลับไร้เดียงสายิง่ กว่าที่
เขาคาดการณ์ไว้ เขาลองหยัง่ เชิงอยูห่ ลายครั้ง ท้ายที่สุดจึงมัน่ ใจว่า
เขาไม่ได้แกล้ง แต่กลับไม่รู้จริ งๆ
องค์ชายรองกลับไม่ผดิ หวัง หากนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวสามารถดึงมา
เป็ นพวกได้ง่ายเพียงนั้น เสด็จพ่อก็คงจะไม่เชื่อใจมอบหน้าหน้าที่
สาคัญให้เขา นัน่ คือจิ้งจอกที่เจ้าเล่ห์กลับกลอก มิเช่นนั้นจะปี นจาก
โคลนตมขึ้นมาบนตาแหน่งสู งอย่างทุกวันนี้ได้อย่างไร เดิมทีเป็ น
นายพล แต่กลับนัง่ ครองตาแหน่งหัวหน้าขุนนางฝ่ ายบุ๋นตาแหน่ง
ราชครู รัชทายาท แม้จะบอกว่าเป็ นเพียงตาแหน่งไม่มีอานาจแท้จริ ง
แต่กส็ ู งส่ งมีเกียรติยศ รับหน้าที่อบรมรัชทายาท ทั้งยังสามารถพูดคุย
กับเสด็จพ่อได้ทุกเมื่อ คนเช่นนี้หากยืนอยูฝ่ ั่งเขาได้ ไม่ตอ้ งคิดก็รู้
แล้วว่าเป็ นแรงสนับสนุนยิง่ ใหญ่เพียงใด
“จางจ่างสื่ อคิดว่าเรื่ องนั้นนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นจะสอดเท้า
เข้ามาหรื อไม่” องค์ชายรองถาม เสด็จพ่อออกพระราชโองการลับส่ ง
ผูต้ รวจการโจวไปนอกด่านทางตอนเหนือ ในความลับใครบ้างไม่รู้
ว่าเสด็จพ่อยังเหลือทางหนีทีไล่ไว้อยูห่ รื อไม่ อย่างไรเสี ยนายท่านผู ้
เฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นก็เป็ นนายพล นาทัพมาทั้งชีวิต มีชื่อเสี ยงบารมี
ในกองทัพ มีเครื อข่ายด้วยเช่นเดียวกัน
“ไม่แน่ใจเท่าไรนัก” จางจี้ส่ายหน้า ความคิดและวิธีการของฝ่ าบาท
ไหนเลยจะถูกคนล่วงรู ้ได้ง่ายๆ
บนใบหน้าองค์ชายรองมีความผิดหวังหลายส่ วน คิดครู่ หนึ่งจึงกล่าว
“ในเมื่อเสิ่ นหงเซวียนไร้ประโยชน์ จ่างสื่ อก็ไม่ตอ้ งเสี ยเวลาแล้ว
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นเป็ นคนฉลาด หากถูกเขาสังเกตได้จะ
แย่เอา”
จนถึงตอนนี้ แม้วา่ นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นจะไม่รับสันติภาพ
จากเขา แต่กไ็ ม่ได้ถือหางไท่จื่อหรื อองค์ชายคนอื่นๆ จิ้งจอกเฒ่า
แบบนี้ไม่อาจเป็ นปฏิปักษ์ได้ง่ายๆ เขากังวลว่าการเคลื่อนไหวฝั่งตน
จะสร้างความไม่พอใจให้นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นมากเกินไป
หากบีบบังคับจนเขาเข้าค่ายทหารของผูอ้ ื่นเช่นนั้นก็ได้ไม่คุม้ เสี ย
แล้ว
“นัน่ อาจไม่จาเป็ น ผูน้ อ้ ยกับใต้เท้าเสิ่ นสนิทสนมกับจากเรื่ องบุ๋น แม้
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นรู ้แล้วจะพูดอะไรได้” จางจี้กล่าวช้าๆ
“บางครั้งความสู ญเสี ยอาจจะได้มาซึ่งสิ่ งที่ใหญ่กว่า ไม่แน่วา่ พวกเรา
อาจหาช่องโหว่จากเขาได้” ตั้งแต่มนั่ ใจในนิสัยของเสิ่ นหงเซวียนผูน้ ้ ี
เขาก็วางแผนไว้แล้ว แม้จะต้องบีบบังคับ เขาก็ตอ้ งบีบให้นายท่านผู ้
เฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นมาอยูฝ่ ั่งองค์ชายรองให้ได้ เขาไม่เชื่อว่านายท่าน
ผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นจะทิ้งลูกชายไปเฉยๆ โดยที่ไม่สนใจใยดีได้
ดวงตาองค์ชายรองกะพริ บวาบ ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดอะไรได้แล้ว
บนใบหน้าปรากฏรอยยิม้ น้อยๆ สายตาที่มองจางจี้อบอุ่นยิง่ ขึ้น
“เช่นนั้นก็ลาบากจ่างสื่ อแล้ว”
จางจี้ประสานมือกล่าว “นี่ลว้ นแต่เป็ นหน้าที่ของผูน้ อ้ ย” หยุดครู่
หนึ่งแล้วจึงกล่าวอย่างทีเล่นทีจริ ง “ฟังว่าผูต้ รวจการโจวผูน้ ้ นั ถูก
ลอบสังหารเจ็ดแปดรอบแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถไปถึง
นอกด่านได้อย่างปลอดภัยหรื อไม่”
รอยยิม้ บนใบหน้าองค์ชายรองกว้างยิง่ ขึ้น “ใครจะรู ้เล่า เพียงแต่
หลายปี มานี้ผตู ้ รวจการโจวก็โชคไม่ค่อยดีจริ งๆ ขุนนางทัว่ ราช
สานักก็มีเขาที่ถูกลอบสังหารเยอะที่สุด ไม่รู้เหมือนกันว่าตาแหน่ง
สุ สานตระกูลเขาไม่ดีหรื อไม่” ทั้งใบหน้าองค์ชายรองมีความสุ ขบน
ความทุกข์ของผูอ้ ื่น
จะว่าไปแล้วเขาก็ไม่มีความรู ้สึกดีกบั ผูต้ รวจการโจวผูน้ ้ ีเลยแม้แต่นิด
เดียว เจ้าว่าเจ้าอายุปูนนี้แล้ว ก็ควรอยูท่ าตัวดีๆ ในเมืองหลวง
วางแผนอนาคตลู่ทางให้ลูกหลานในตระกูล เขากลับไม่ทา วันๆ เอา
แต่กล่าวโทษผูน้ ้ ีกล่าวโทษผูน้ ้ นั ในไข่ไก่ยงั หากระดูกออกมาได้ ขุน
นางบุ๋นบู๊ทวั่ ราชสานักล้วนแทบจะถูกเขากล่าวโทษหมดแล้ว ราวกับ
ว่าในพระตาหนักจินหลวนมีแต่ขนุ นางทุจริ ตมีเพียงเขาคนเดียวที่
ขาวสะอาด เหอะ ข้าจะคอยดูวา่ เจ้าจะมีจุดจบที่ดีอะไรได้
อันที่จริ ง องค์ชายรองคิดเช่นนี้กไ็ ม่เป็ นธรรมจริ งๆ ผูต้ รวจการโจ
วเพิ่งจะอายุสี่สิบหกปี เทียบกับใต้เท้าอาวุโสที่อายุเจ็บสิ บแปดสิ บ
แล้วแต่กย็ งั ยึดครองตาแหน่งอยูจ่ านวนมากก็นบั ได้วา่ อายุนอ้ ยมี
พละกาลังจริ งๆ อีกทั้งตาแหน่งของเขาก็คือผูต้ รวจการ งานที่ทาก็คือ
งานหากระดูกออกมาจากไข่ไก่ หากวันๆ เขาเอาแต่นิ่งเงียบไม่ส่ง
เสี ยงในท้องพระโรง ฮ่องเต้ยงเซวียนคงจะไม่พอพระทัย
เหตุผลที่องค์ชายรองเอ่ยถึงผูต้ รวจการโจวแล้วอยากจะกัดสักสองคา
ก็เป็ นเพราะว่าผูต้ รวจการโจวทาเรื่ องใหญ่เขาพัง สามปี ก่อน ผูต้ รวจ
การโจวรับพระราชโองการไปตรวจตราที่เจียงหนาน แวดวงขุนนาง
เจียงหนานเกิดการสัน่ สะเทือน เขาฆ่าขุนนางทุจริ ตหนึ่งกลุ่มในเจียง
หนาน ในนั้นก็มีคนของเขา อย่างเช่นขุนนางยกกระบัตรหลี่ซูเสวียน
จวนเซวียนหมิงกับตระกูลหู นี่เป็ นถุงเงินของเขา ถูกผูต้ รวจการโจ
วถอนรากถอนโคน แม้จะบอกว่าเขารับมือได้ทนั กาล ไม่ได้โยง
มาถึงตัวเขา แต่กลับตัดรายได้ของเขา เงินที่ถวายให้สองแสนตาลึง
ต่อปี หายไปเฉยๆ นี่จะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไร
อย่ามองว่าแม้เขาจะสู งส่ งเป็ นองค์ชาย คนนอกเห็นว่ายิง่ ใหญ่ อันที่
จริ งสภาพการเงินของเขาขัดสน ขัดสนได้อย่างไร ไม่ใช่เห็นอยูช่ ดั ๆ
หรื อ ดารงตาแหน่งเป็ นองค์ชายผูม้ ีปณิ ธานยิง่ ใหญ่ผหู ้ นึ่ง ต้องเคารพ
เสด็จพ่อเขาเสด็จแม่เขาและนางสนมขันทีที่มีหน้ามีตาในวังหลัง ซ้ า
ยังต้องดึงขุนนางมาเป็ นพรรคพวก เจ้าไม่ให้ผลประโยชน์แก่เขาแล้ว
ใครจะสนใจเจ้า อนึ่งเขายังต้องแสดงอานาจส่ วนตัวของตน ไม่มีเงิน
อย่าว่าแต่เลี้ยงทหารกล้าตาย แม้แต่ทหารในค่ายก็เลี้ยงไม่ได้! หวัง
พึ่งอนาคตอันน้อยนิดนั้นในจวนองค์ชายไม่เพียงพออย่างสิ้ นเชิง
ดังนั้นเขาจึงยืน่ มือไปยังเจียงหนาน กระทัง่ ยืน่ ไปยังตอนเหนือ นอก
ด่าน
ั ฑิตผูเ้ ฉลียวฉลาดผูน้ ้ ีจงรักภัคดีต่อเขา
นี่เองก็เป็ นเหตุผลที่จางจี้บณ
อย่างสุ ดจิตสุ ดใจ สี่ ปีก่อนองค์ชายรองเพิ่งจะอายุกี่ปีเอง เพียงแค่สิบ
สามสิ บสี่ ปี ยังไม่รับราชการหรื อสมรส ก็กล้าหาญเด็ดเดี่ยวเช่นนี้
แล้ว นี่ไม่มีทางห้ามไม่ให้จางจี้คนกลับกลอกในแวดวงขุนนางที่
แสวงหาช่องทางเพื่อครึ่ งชีวิตที่เหลือเลื่อมใส เทียบกับองค์ชายที่
เหลือของฝ่ าบาท องค์ชายรองเป็ นผูท้ ี่โดดเด่นที่สุดและมีความกล้า
หาญเด็ดขาดที่สุดอย่างไม่ตอ้ งสงสัย ดังนั้นจางจี้จึงเดิมพันด้วยชีวิต
ครอบครัวของตนเอง หากสาเร็ จ เช่นนั้นก็จะได้รับความโปรดปราน
ดารงตาแหน่งในลาดับที่สูงที่สุด ความดึงดูดนี้มากเสี ยเหลือเกิน
ฮ่องเต้ยงเซวียนบิดาขององค์ชายรองเองก็กาลังว้าวุน่ ใจ ตั้งแต่ที่
ได้รับรายงานลับเขาก็โมโหเดือดดาล ลอบสังหาร ลอบสังหารอีก
แล้ว! ยังไม่ทนั ออกจากเขตเมืองหลวงก็ถูกลอบสังหารแล้ว เห็นว่า
เขาเป็ นคนตายหรื อไร เห็นชัดๆ ว่าผูต้ รวจการโจวออกจากเมือง
หลวงอย่างลับๆ เร็ วเพียงนี้กถ็ ูกลอบสังหารแล้ว ใครกันที่ปล่อยข่าว
ลือ หรื อว่าข้างกายเขาไม่สะอาด สายตาที่น่าสะพรึ งกลัวของเขามอง
ไปยังขันทีที่ยนื อยูล่ ่างระเบียงทางเดิน กาปั้นข้างกายแน่นแล้วแน่น
อีก ทาให้ขนั ทีหลายคนนั้นเห็นแล้วเสี ยวสันหลัง แทบจะยืนไม่อยู่
นานอย่างยิง่ ฮ่องเต้ยงเซวียนก็เก็บสายตากลับมา เดินไปเดินมาอยูใ่ น
ห้องหลายก้าว หมุนตัวสัง่ “เรี ยกตัวราชครู เสิ่ นเข้าวัง”
ราชครู เสิ่ น หรื อว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นแห่งจวนจงอู่โหว
มาถึงเร็ วอย่างยิง่ “กระหม่อมถวายบังคมฝ่ าบาทพะยะค่ะ”
“ขุนนางเสิ่ นรี บลุกขึ้นเถิด” ฮ่องเต้ยงเซวียนรี บกล่าว อย่ามองว่าก่อน
หน้านี้นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นตั้งมัน่ ดูแลซีเจียงไม่ค่อยกลับ
เมืองหลวงมาโดยตลอด แต่ฮ่องเต้ยงเซวียนก็เชื่อใจเขาอย่างถึงที่สุด
เป็ นเขาเพียงคนเดียว เพราะว่าฮ่องเต้ยงเซวียนสามารถขึ้นครอง
บัลลังก์ได้นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นทุ่มเทเรี่ ยวแรงไปมากอย่าง
ยิง่
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นน้อมสานึกในพระมหากรุ ณาธิคุณแล้ว
จึงลุกขึ้นยืน ฮ่องเต้ยงเซวียนไม่เอ่ยปากเขาก็รออยูด่ ว้ ยความเคารพ
ฮ่องเต้ยงเซวียนกวาดสายตามองขันทีใหญ่จางเฉวียนปราดหนึ่ง จาง
เฉวียนเข้าใจ โบกมือ เหล่าขันทีที่ยนื อยูใ่ นตาหนักก็เรี ยงแถวออกไป
ทั้งหมดถอยออกไปหมดแล้ว จางเฉวียนเองก็ถอยออกไป ยืนอยูล่ ่าง
ระเบียงทางเดินคุม้ กันด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด ท่าทางเชื่อฟัง
“ขุนนางลองอ่านดูเถิด” ฮ่องเต้ยงเซวียนส่ งรายงานลับที่ได้รับมาให้
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ น
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นยืน่ สองมือไปรับด้วยความเคารพ อ่าน
จบแล้วคิว้ ก็ขมวดมุ่น กล่าวหนึ่งประโยค “ฝ่ าบาท เรื่ องนี้ตอ้ ง
ตรวจสอบจนแน่ชดั คนผูน้ ้ ีจาต้องขจัด เป็ นอันตรายต่อต่อดินแดน
บ้านเมืองต้ายง!”
คาพูดนี้พดู แทนใจฮ่องเต้ยงเซวียน เขายังไม่ตายก็ลอบสังหารขุนนาง
คนสาคัญของราชสานักอย่างเปิ ดเผยโจ่งแจ้งเช่นนี้ นี่หมายความว่า
ไม่เห็นเขาอยูใ่ นสายตา ใครกันที่กล้าหาญถึงเพียงนี้
เมื่อแรกเริ่ มฮ่องเต้ยงเซวียนยังคิดว่าเป็ นอ๋ องเคียงบ่าที่หนีไปไกลผู ้
นั้น ความคิดนี้ผดุ ขึ้น เขาก็หวาดกลัวในใจ สี่ ปีก่อนพวกเขาก็เริ่ ม
วางแผน เหตุใดถึงได้ลงมือกับแม่ทพั อันอันอี้เล่า หรื อว่าอันอี้
ขัดขวางพวกเขา แท้จริ งแล้วพวกเขาต้องการทาอะไรที่นอกด่านกัน
แน่ นี่เป็ นเรื่ องที่ตนรู ้ เรื่ องที่ยงั ไม่ถูกเปิ ดโปงออกมาเหล่านั้นใช่จะยัง
มีอีกหรื อไม่ เมื่อคิดถึงทหารที่ซ่อนตัวอยูบ่ นเขาชิงลัว่ ฮ่องเต้ยงเซ
วียนก็รู้สึกกระวนกระวาย ชัว่ ขณะไม่อาจสงบจิตใจได้
“ขุนนางคิดว่าเรื่ องนี้ใช่เกี่ยวข้องกับ…หรื อไม่” ฮ่องเต้ยงเซวียนใช้
มือทาท่านทาง
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นเป็ นผูท้ ี่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังเรื่ องในปี
นั้นเช่นกัน ได้ยนิ ดังนั้นชัว่ ขณะในใจก็หวาดกลัว ใคร่ ครวญครู่ หนึ่ง
กลับกล่าว “ฝ่ าบาท เกรงว่าท่านจะหวาดระแวงเกินไป กระหม่อมคิด
ว่านี่ไม่เหมือนฝี มือของคนผูน้ ้ นั ” อ๋ องเคียงบ่าเฉิ งอี้ให้ความสาคัญ
กับคุณธรรมน้ ามิตรที่สุด รักทหารดัง่ ลูก ไม่มีทางใช้วิธีเห็นแก่ตวั มา
ปั้นเรื่ องสังหารแม่ทพั เช่นนี้แน่นอน
เพื่อยืนยันความคิดเขาจึงกล่าว “สี่ ปีก่อนกระหม่อมยังอยูท่ ี่ซีเจียงได้
ยินเรื่ องนี้กป็ ระหลาดใจอย่างถึงที่สุด กระหม่อมไปมาหาสู่ กบั แม่ทพั
อันหลายครั้ง เขามีนิสยั ตรงไปตรงมา รักและดูแลทหารใต้บงั คับ
บัญชาอย่างดีที่สุด ไม่น่าจะทาเรื่ องทุจริ ตเงินกองทัพได้”
การตายของแม่ทพั อันเป็ นความเสี ยใจในใจของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหว
ตระกูลเสิ่ น เขาอายุนอ้ ยกว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเกือบยีส่ ิ บปี ในด้าน
การทหารก็ค่อนข้างมีฝีมือ ทั้งสองยังเคยร่ วมมือกันหนึ่งครั้ง นาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวชื่นชมเขาอย่างถึงที่สุด เมื่อเกิดเรื่ องขึ้นกับเขา นาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็คิดด้วยสัญชาตญาณว่ามีคนวางแผนใส่ ร้าย แต่เขาอยู่
ซีเจียง กว่าจะส่ งคนไปสื บข่าว เรื่ องนี้กจ็ บลงแล้ว แม้แต่สายเลือด
ของแม่ทพั อันก็ไม่เหลือเลยแม้แต่นิดเดียว
“เป็ นเราที่คิดพลาดไป” ฮ่องเต้ยงเซวียนใคร่ ครวญคาพูดของนาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหว รู ้สึกว่ามีเหตุผลอย่างมาก แม้จะยืนอยูใ่ นจุดตรงข้าม
แต่ฮ่องเต้ยงเซวียนก็จาใจต้องยอมรับว่านัน่ ไม่ใช่ฝีมือของอ๋ องเคียง
บ่า เขาไม่ใช่คนเลวทรามต่าช้าเช่นนั้น
ในเมื่อไม่ใช่ฝีมือของอ๋ องเคียงบ่า เช่นนั้นก็ทาได้เพียงเป็ นใครสักคน
ในราชสานัก คนรู ้จกั นี้ทาให้ฮ่องเต้ยงเซวียนยิง่ โมโห เงินเดือน
มหาศาลของเขาที่เลี้ยงพวกเขา พวกเขากลับตอบแทนเขาเช่นนี้หรื อ
“สื บ สื บให้เราจนถึงที่สุด เราอยากดูวา่ ใครหน้าไหนที่มนั กาเริ บเสิ บ
สานเช่นนี้”
เผชิญหน้ากับไฟโกรธของฮ่องเต้ยงเซวียนนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูล
เสิ่ นก็นิ่งเงียบ สื บคดีแม่ทพั อันที่นอกด่านนี้เบื้องหน้ามีผตู ้ รวจการ
โจว เบื้องหลังยังมีกรมอาญา ศาลต้าหลี่กบั สานักตรวจตรา ราชครู
รัชทายาทเช่นเขามีหน้าที่หลักคืออบรมไท่จื่อ ฝ่ าบาทไม่เรี ยก เขาก็
ไม่ตอ้ งลุยน้ าขุ่นเที่ยวนี้
สิ่ งสาคัญที่สุดในการเป็ นขุนนางก็คือเชื่อฟัง เชื่อฟังใครน่ะหรื อ ใคร
นัง่ อยูบ่ นตาแหน่งนั้นเขาก็ตอ้ งเชื่อฟังคนผูน้ ้ นั คิดถึงข่าวที่เวยเอ๋ อร์
สัง่ คนส่ งกลับมา เขาทั้งโกรธทั้งหมดแรง ไม่ตอ้ งพูดถึงเขาที่จงรักภัค
ดีต่อฝ่ าบาท เพียงแค่สถานการณ์ในตอนนี้ ฝ่ าบาทยังอยูใ่ นช่วงอายุที่
ดีที่สุด จะทนให้ขนุ นางเบื้องล่างเป็ นปฏิปักษ์แต่เนิ่นๆ ได้อย่างไร
ลูกที่โง่เขลาของเขาผูน้ ้ นั คาดไม่ถึงว่าไปสนิทสนมกับจางจี้ ไม่หดั ดู
เสี ยบ้างว่าเขาเป็ นคนของใคร องค์ชายรองปฏิบตั ิต่อเขาดีหลายครั้ง
เขาทราบ ล้วนถูกเขาปฏิเสธอย่างสุ ภาพไปแล้ว จวนจงอู่โหวตั้ง
ตระหง่านไม่โค่นล้มเป็ นเพราะอาศัยคุณูปการทางทหาร จงรักภัคดี
ต่อฝ่ าบาท เขาไม่ได้อยากลงเรื อนลาขององค์ชายองค์ใด
แผนการของจางจี้คานวณไว้ดีอย่างยิง่ เตรี ยมจะเปิ ดทางจากนายท่าน
สามจวนจงอู่โหวเสิ่ นหงเซวียน จากนั้นก็ลากนายท่านผูเ้ ฒ่าโหว
ตระกูลเสิ่ นมาลงเรื อรบขององค์ชายรอง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 233-2 สั่ งสอนจางจ่ างสื่ อ
วันนี้จางจี้กบั เสิ่ นหงเซวียนเพิ่งจะก้าวเข้าหอไท่ไป๋ เสิ่ นเวยก็ได้รับ
ข่าวทันที เหตุใดถึงเร็ วเพียงนั้นน่ะหรื อ ก็เพราะว่านางไม่วางใจพ่อ
นางคนสมองกลวงผูน้ ้ นั ท่านปู่ อายุมากแล้ว ไม่มีเรี่ ยวแรงมากเพียง
นั้นแล้ว ไม่วา่ อย่างไรนัน่ ก็เป็ นบิดาเจ้าของร่ างกายนี้ของนาง หาก
เกิดเรื่ องหายนะอะไรขึ้นมา สร้างปัญหาให้ท่านปู่ เป็ นเรื่ องเล็ก แต่
น้องชายของนางเจวี๋ยเอ๋ อร์ยงั เล็ก ไม่อาจเสี ยที่พ่ งึ เช่นจวนจงอู่โหวนี้
ไปได้
หากไม่ใช่ทาเพื่อสองคนนี้ นางจะสนหรื อว่าพ่อนางจะเป็ นจะตาย
ด้วยเหตุน้ ีวนั นั้นหลังกลับไปแล้วนางจึงให้คนไปสะกดรอยตามพ่อ
นาง ไม่เพียงแต่พอ่ นาง แม้แต่ท่านลุงใหญ่ท่านลุงรองของนาง
กระทัง่ ข้างกายพี่รองและคนอื่นๆ นางก็สงั่ คนไปดูเช่นกัน
เสิ่ นเวยโมโหแล้ว ท่านปู่ เคยตักเตือนแล้ว ไม่คิดว่าพ่อนางจะยังไป
มาหาสู่ กบั จางจี้อยูอ่ ีก สมองคนผูน้ ้ ีไปอยูท่ ี่กน้ หรื อไร ยังมีจางจี้ เจ้ามี
ความสามารถนักก็ไปพยายามกับปู่ ข้าสิ เก็บลูกพลับนิ่มมาบีบ ซ้ ายัง
บีบแล้วบีบอีก บีบจนติดแล้วใช่หรื อไม่ คนชัว่ ไม่ชา้ ไม่เร็ วก็ตอ้ งถูก
กรรมตามสนอง วันนี้หากกูไหน่ไนไม่สงั่ สอนเจ้าข้าก็คงไม่แซ่เสิ่ น
สวีโย่วเห็นเสิ่ นเวยมีท่าทางโมโหกัดฟันกรอดเป็ นพักๆ รู ้สึกสงสัย
อย่างยิง่ จึงถาม “ใครยัว่ โมโหเจ้าเข้าแล้ว”
“นอกจากพ่อที่โง่ของข้าจะยังมีใครอีก” เสิ่ นเวยกล่าวอย่างอารมณ์
ไม่ดี เหลือบมองเขาปราดหนึ่ง “ยังมีลูกผูน้ อ้ งตัวดีของท่านด้วย”
สวีโย่วเข้าใจในทันที คราวก่อนราชบัณฑิตเจียงส่ งจดหมายมาน้องสี่
แซ่เสิ่ นไม่ได้ปิดบังเขาแม้แต่นิดเดียว องค์ชายรองผูน้ ้ นั ก็เป็ น
ลูกผูน้ อ้ งของเขาจริ งๆ แม้วา่ ทั้งสองจะไม่สนิทกันก็ตาม
“เจ้าคิดจะทาอย่างไร” สวีโย่วกล่าวด้วยสี หน้าเหยเกเล็กน้อย จิตใจ
ลูกผูน้ อ้ งคนนี้ของเขาก็รีบร้อนเกินไปแล้วหรื อไม่ ฝ่ าบาทยังอยู่
ในช่วงอายุที่ดีที่สุดเขาก็นงั่ ไม่ติดแล้วหรื อ แต่วา่ เขาไม่หาเรื่ องใคร
ดันมาหาเรื่ องนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ น ไม่รู้หรื อว่าเขามี
หลานสาวที่ถือหางทั้งยังเจ้าคิดเจ้าแค้นอยูค่ นหนึ่ง
เห็นท่าทางนี้นอ้ งสี่ ของเขากาลังโกรธแล้ว ใครบางคนจะต้องซวย!
สวีโย่วจุดเทียนให้องค์ชายรองเงียบๆ ไม่รู้สึกเสี ยใจเลยแม้แต่นิด
เดียว
“ไป ท่านไปหอไท่ไป๋ เป็ นเพื่อนข้าเที่ยวหนึ่ง” เสิ่ นเวยกล่าว
จางจี้ใช่หรื อไม่ จ่างสื่ อจวนองค์ชายรองใช่หรื อไม่ เสื อไม่คารามคาด
ไม่ถึงว่าเจ้าเห็นจวนจงอู่โหวของข้าเป็ นแมวป่ วย ดูสิวา่ กูไหน่ไนจะ
จัดการเจ้าอย่างไร!
สวีโย่วย่อมต้องรับปากอย่างไม่รีรอ ต่อให้นอ้ งสี่ ของเขาอยากฆ่าคน
เขาก็จะต้องตามไปยืน่ ดาบให้ขา้ งๆ สามีภรรยาร่ วมแรงร่ วมใจ ใคร
ให้เขาหวงแหนน้องสี่ แซ่เสิ่ นเล่า
หอไท่ไป๋ เป็ นกิจการขององค์ชายรอง เรื่ องนี้มีเพียงคนไม่กี่คนที่รู้
เพราะว่ามีสวีโย่วหัวหน้าภารกิจลับที่ใหญ่ที่สุดในต้ายงผูน้ ้ ีอยู่ เสิ่ นเว
ยย่อมต้องรู ้ มิน่าเล่าจางจี้ถึงกล้านัดพบพ่อนางที่นี่อย่างโจ่งแจ้ง
เปิ ดเผย
ผูจ้ กั การหอไท่ไป๋ ย่อมรู ้จกั สวีโย่ว เมื่อเห็นเขาพาภรรยาเข้ามา ก็
ตกใจวิง่ เข้ามาอย่างกระตือรื อร้นทันที “ผูน้ อ้ ยเคารพผิงจวิน้ อ๋ อง
ท่านนี้คือจวิน้ จู่เหนียงเหนียงใช่หรื อไม่ ผูน้ อ้ ยขอคารวะ วันนี้ท่าน
ทั้งสองมาเยีย่ มเยียน ร้านเล็กๆ ช่างเป็ นเกียรติจริ งๆ!” บนใบหน้าเขา
มีรอยยิม้ ไมตรี จิต “เชิญ ท่านทั้งสองเชิญที่หอ้ งส่ วนตัวชั้นบนขอรับ”
เสิ่ นเวยกวาดสายตามองคนผูน้ ้ ีปราดหนึ่งอย่างคล้ายยิม้ คล้ายไม่ยมิ้
กลับเป็ นคนที่ปราดเปรี ยวจริ งๆ!
“นาทางไป” สวีโย่วเอามือไพล่หลังด้วยสี หน้าเมินเฉย
ขึ้นไปถึงชั้นสองก็เห็นห้องส่ วนตัว เสิ่ นเวยตรงไปยังห้องข้างที่พอ่
นางอยูท่ นั ที ผูจ้ ดั การเห็นแล้วก็ร้อนใจ “จวิน้ จู่เหนียงเหนียงจะไป
ไหนหรื อ ห้องข้างนั้นมีแขกแล้วขอรับ”
เสิ่ นเวยหันหน้า เชิดคางสู ง “ทาไม ตัวข้าจวิน้ จู่จะทาอะไรยังต้อง
รายงานเจ้าด้วยหรื อ” เบนสายตา “ข้ารู ้วา่ มีแขก หากไม่มีแขกข้าก็คง
ไม่ไปหรอก”
้ ผูน้ อ้ ย…” ผูจ้ ดั การอ้ าๆ อึ้งๆ พูดไม่ออก เขารู ้วา่ ในห้องข้างห้อง
“ผู…
นั้นคือจางจ่างสื่ อกับบิดาของจวิน้ จู่เหนียงเหนียงผูน้ ้ ี คงไม่ใช่วา่ จวิน้
จู่เหนียงเหนียงผูน้ ้ ีไม่ได้มากินข้าวแต่มาหาเรื่ องหรอกกระมัง
สวีโย่วกวาดสายตามองผูจ้ ดั การที่เหงื่อแตกอย่างเย็นชา “สงบจิตใจ
ทางานของเจ้าให้ดี ไม่ใช่ตอ้ งแนะนาอาหารของหอไท่ไป๋ ให้ตวั ข้า
จวิน้ อ๋ องหรอกหรื อ พูดต่อเถิด” หนึ่งประโยคดึงผูจ้ ดั การกลับมาที่
เดิม
เสิ่ นเวยเหลือบมองสวีโย่วด้วยความพอใจ มุมปากยกขึ้นเดินไปยัง
ห้องข้างห้องนั้นต่อ
เมื่อเสิ่ นเวยเข้าไปใกล้ เด็กรับใช้หน้าประตูก็ขดั ขวางทันที “ฮูหยิน
ท่านนี้เดินผิดทางแล้วหรื อไม่”
มุมปากเสิ่ นเวยกระตุก เย่วก์ ยุ้ ก้าวไปข้างหน้า แย้มยิม้ ดัง่ บุปผา
“พี่ชายน้อยผูน้ ้ ี จวิน้ จู่ของข้าไม่ได้มาเดินผิดทาง นายท่านของพวก
ข้ากาลังดื่มสุ รากับจางจ่างสื่ ออยูข่ า้ งในมิใช่หรื อ จวิน้ จู่ของพวกเรา
กตัญญู นี่ไม่ใช่วา่ มาเคารพหรอกหรื อไร”
ปากกล่าวอธิบาย มือก็ไม่ได้วา่ ง บิดแขนของเด็กรับใช้ผลักไปอีกฝั่ง
หนึ่งทันที หมุนตัวถีบประตูหอ้ งเปิ ดออก “จวิน้ จู่ เชิญ!”
เสิ่ นเวยยืดตัวตรง ก้าวเท้าเดินเข้าไปประหนึ่งราชินีทะนงตน
การเคลื่อนไหวนี้ยอ่ มต้องรบกวนเสิ่ นหงเซวียนกับจางจี้ที่กาลังดื่ม
สุ ราสนทนากันอยู่ “ใครกันบังอาจเช่นนี้” จางจี้หนั หน้าตะโกนถาม
หนึ่งครา เมื่อเห็นว่าผูท้ ี่เข้ามาเป็ นสตรี อายุนอ้ ย ก็อดตกใจไม่ได้
เสิ่ นหงเซวียนเองก็ตกใจสุ ดขีด “เวยเอ๋ อร์ เหตุใดถึงเป็ นเจ้า เจ้ามาทา
อะไรที่นี่”
เสิ่ นเวยยิม้ น้อยๆ กล่าวเสี ยงเบา “ลูกกับท่านพี่ออกมาเดินเล่น เดิน
มาถึงละแวกนี้กเ็ หนื่อย ท่านพี่บอกว่าหอไท่ไป๋ เป็ นกิจการขององค์
ชายรอง ต่างก็เป็ นคนตระกูลเดียวกัน จึงขึ้นมาพักเท้าเสี ยหน่อย
บังเอิญเห็นท่านพ่ออยูท่ ี่นี่ จึงเข้ามาเคารพ”
ไม่รอให้เสิ่ นหงเซวียนพูดนางก็กล่าวต่อ “ท่านพ่อ ใต้เท้าท่านนี้คือ
ใคร ดูบุคลิกสู งสง่า จักต้องเป็ นขุนนางชั้นผูใ้ หญ่สกั คนในราชสานัก
แน่เลยใช่หรื อไม่ ท่านพ่อไปมาหาสู่ ดว้ ยจะต้องมีผลประโยชน์เป็ น
แน่ ท่านปู่ รู ้วา่ ท่านก้าวหน้าเช่นนี้จะต้องดีใจอย่างถึงที่สุดแน่นอน”
บนใบหน้าของเสิ่ นเวยเต็มไปด้วยรอยยิม้ สี หน้าท่าทางมีความชื่น
ชม คล้ายกับดีใจแทนพ่อนางอย่างยิง่
ทว่าสี หน้าของเสิ่ นหงเซวียนกลับอึดอัดเล็กน้อย เกิดความ
หวาดระแวงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ แม้เขาจะไม่เข้าใจลูกสาวคนนี้
มากนัก แต่กลับรู ้สึกได้รางๆ ว่าตอนนี้ลูกสาวไม่ค่อยพอใจ เพราะว่า
นางไม่เคยแสดงความเคารพเช่นนี้ต่อหน้าเขามาก่อน ยิง่ ไปกว่านั้น
ยังยิม้ แย้มแจ่มใสเช่นนี้อีก
เขาไอเบาๆ หนึ่งคราอย่างอดไม่ได้ กล่าวอย่างไม่เป็ นธรรมชาติ “เวย
เอ๋ อร์ คนผูน้ ้ ีคือจางจ่างสื่ อแห่งจวนองค์ชายรอง เป็ นสหายของพ่อ”
บนใบหน้าของเสิ่ นเวยปรากฏความประหลาดใจหลายส่ วน “ที่แท้
แล้วก็เป็ นจ่างสื่ อจวนองค์ชายรองนี่เอง! มิน่าเล่าถึงได้พดู คุยถูกคอ
กับท่านพ่อ” หันหน้ามองพ่อนาง “เอ๋ ก่อนหน้านี้เหตุใดถึงไม่เคยได้
ยินท่านพ่อเอ่ยถึงมาก่อน ในเมื่อเป็ นสหาย ไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งรู ้จกั
กันมาหลายปี แล้วใช่หรื อไม่ ไม่นึกว่าลูกจะไม่รู้วา่ ท่านพ่อมีสหายผู ้
นี้ดว้ ย” บนใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่พอใจ
คราวนี้อย่างว่าแต่เสิ่ นหงเซวียน แม้แต่สีหน้าของจางจี้เองก็อึดอัด
เล็กน้อย ลุกขึ้นยืนประสานมือกล่าว “ท่านผูน้ ้ ีกค็ ือจยาฮุ่ยจวิน้ จู่
บุตรสาวที่รักของพี่เสิ่ นใช่หรื อไม่ ผูช้ ราขอคารวะ เรี ยนให้จวิน้ จู่
ทราบ แม้ผชู ้ รากับพี่เสิ่ นจะรู ้จกั กันได้ไม่นาน แต่กเ็ ลื่อมใสในการ
วางตัวและความสามารถของพี่เสิ่ นมากเป็ นพิเศษ”
“ใช่ๆๆ พ่อกับพี่จางเข้ากันได้ดีเป็ นพิเศษ” เสิ่ นหงเซวียนรี บกล่าว
คล้อยตาม
เสิ่ นเวยหลุดหัวเราะหนึ่งครา “จะไม่เข้ากันได้อย่างไร ท่านพ่อท่าน
ติดนิสยั ปัญญาชน ตรงไปตรงมาเกินไปจริ งจังเกินไป ยังไม่ค่อย
เหมาะกับแวดวงขุนนางจริ งๆ ลูกเป็ นห่วงอยูเ่ สมอว่าท่านอยูข่ า้ ง
นอกจะผิดใจคนอื่น ยังคงเป็ นท่านปู่ ที่บอกว่าท่านอยูใ่ นกรมพิธีการ
ไม่ได้มีหน้าที่สาคัญมากนัก เหล่าผูม้ ีประสบการณ์กลุ่มนั้นเพียงแค่
เห็นแก่หน้าของท่านปู่ จึงไม่กล้าขุดหลุมวางกับดักท่าน มีตาแหน่ง
ว่างให้ท่านก็ยงั ดีกว่ายัว่ โมโหเขาเหมือนอย่างท่านลุงรอง คราวก่อน
ฝ่ าบาทจะเลื่อนตาแหน่งให้ท่าน ท่านปู่ รี บปฏิเสธ มีหวั มากเท่าใดก็
ต้องสวมหมวกมากเท่านั้น บอกว่านิสยั ของท่านไม่เหมาะจะรับ
ตาแหน่งขุนนางชั้นสู ง ลาดับสี่ กถ็ ือว่าฝ่ าบาททรงพระกรุ ณามากเป็ น
พิเศษแล้ว เลื่อนขึ้นอีกจะทาให้การงานเสี ยหาย…
…ฝ่ าบาทยังทอดถอนใจ ชื่นชมว่าท่านปู่ มีคุณธรรมสู งส่ ง บอกว่า
หากขุนนางบุ๋บู๊ทวั่ ราชสานักรู ้สานึกเช่นท่านปู่ ไยจะต้องกังวลอีกว่า
ดินแดนต้ายงจะไม่เจริ ญ ท่านปู่ ก็บอกว่า นี่เป็ นความเห็นแก่ตวั ของ
คนเป็ นพ่อเช่นเขา ลูกชายไม่มีความสามารถเช่นนั้นก็อยูอ่ ย่างสงบ
ดีกว่า อย่าขวนขวายความทะเยอทะยานอะไรนัน่ เลย สงบเสงี่ยม
เจียมตัวก็สามารถร่ ารวยมีเกียรติได้ ไม่ถึงกับต้องหาเรื่ องใส่ ตวั จาง
จ่างสื่ อ ท่านว่าท่านปู่ ของข้าพูดถูกหรื อไม่”
เสิ่ นเวยชายตามองจางจี้ ในดวงตามีประกายที่ไร้ตน้ สายปลายเหตุ
กะพริ บวาบ จางจี้เห็นแล้วในใจก็อดเต้นไม่ได้ จวิน้ จู่เหนียงเหนียงผู ้
นี้พดู แฝงความนัย!
อย่างไรเสี ยจางจี้กส็ ุ ขมุ ต่อให้ในใจจะตกใจ แต่สีหน้ากลับยิม้ แย้ม
“คาพูดของราชครู เสิ่ นย่อมรู ้ชดั เห็นแจ้ง ความประพฤติของราชครู
เสิ่ นพวกข้าไม่อาจเทียบได้ สู ้ไม่ได้จริ งๆ!”
เสิ่ นเวยยิม้ อีกครั้ง “จางจ่างสื่ อเฉียบแหลมจริ งๆ มิน่าเล่าถึงพูดคุยถูก
คอกับท่านพ่อข้า ท่านพ่อข้าชอบความสวยงามที่สุด หลงใหลในกวี
ภาพวาดพูก่ นั ในภายหน้าหากองค์ชายรองต้องออกไปประจาพื้นที่
ในศักดินา เป็ นฟานอ๋ อง ก็ถือว่าสู งศักดิ์อย่างถึงที่สุดแล้ว ไม่ใช่วา่ ทิ้ง
ผลประโยชน์มากมายไว้ให้หรื อ เป็ นจ่างสื่ อจวนองค์ชายรอง ต้อง
เชื่อฟังเจ้านายอย่างเลี่ยงไม่ได้ ว่างแล้วไม่มีอะไรทาไม่ศึกษาบทกวี
แล้วจะไปทาอะไรได้”
เสิ่ นเวยแทบจะพูดอย่างตรงไปตรงมา ในภายหน้าองค์ชายรองต้อง
ออกไปประจาพื้นที่ ราชสานักไม่หวังให้เขามีความสามารถมี
อนาคต จางจ่างสื่ อเจ้าก็ไม่ตอ้ งวิ่งเต้นกระโดดไปมา กลับบ้านไป
ศึกษาบทกวีบทประพันธ์กพ็ อ
“จวิน้ จู่พดู ถูกอย่างยิง่ ” ในใจจางอี้อึดอัดอย่างมาก แต่ใบหน้ากลับไม่
เผยอารมณ์เลยแม้แต่นิดเดียว
นี่ทาให้เสิ่ นเวยด่าเขาว่าจิ้งจอกเฒ่าในใจอย่างเคียดแค้น เมื่อเทียบกับ
พ่อนาง อารมณ์กย็ งิ่ ไม่ดี คนอื่นเป็ นพ่อคนปกป้องบุตรสาว แต่บา้ น
นางกลับไม่ใช่ ยังต้องให้นางผูเ้ ป็ นบุตรสาวมาจัดการปั ญหาวุน่ วาย
แทนพ่อ
เมื่อคิดเช่นนี้ แววตานางก็มีความเย็นเยียบกะพริ บผ่าน “ท่านพ่อ ลูก
ฟังว่าเมื่อคืนท่านปู่ ถูกลมหนาว เช้าวันนี้ตื่นขึ้นมาแล้วไม่ค่อยดีนกั
ลูกกาลังเตรี ยมจะกลับไปเยีย่ มเขา ท่านจะกลับไปพร้อมกันกับลูก
เลย หรื อว่าท่านจะพูดคุยกับจางจ่างสื่ อต่อ สองคนดื่มสุ รากันจะไป
สนุกอะไร ข้าจะทิ้งสาวใช้ไว้ที่นี่ถือการิ นสุ ราแทนพวกท่าน”
“อะไรนะ ท่านพ่อไม่สบายหรื อ” เสิ่ นหงเซวียนลุกขึ้นยืนทันที “เหตุ
ใดพ่อถึงไม่รู้เล่า”
เสิ่ นเวยคล้ายยิม้ คล้ายไม่ยมิ้ ใบหน้าชราภาพของเสิ่ นหงเซวียนก็แดง
ทันที กล่าวกับจางจี้ “พี่จาง พ่อข้าไม่สบาย พวกเราค่อยพบกันวัน
หลังเถิด” บนใบหน้ามีความกังวล
จางจี้เองก็มีท่าทางกังวลเช่นกัน “พี่เสิ่ นรี บกลับไปดีกว่า สุ ขภาพ
ราชครู เสิ่ นสาคัญ”
เสิ่ นหงเซวียนประสานมือให้เขา “ขอบคุณพีจ่ างที่เข้าใจ”
เสิ่ นเวยกับพ่อนางเดินไปข้างนอกพร้อมกัน เดินไปได้สองก้าวเสิ่ น
เวยก็พลันหันหน้ากลับมา มองจางจี้อย่างแน่นิ่งครู่ หนึ่ง แย้มยิม้
จากนั้นจึงเดินไปข้างนอกต่อ
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 234-1 สั่ งสอนพ่อไม่ ได้ ความ
มองแผ่นหลังของสองพ่อลูกคู่น้ นั ที่หายไปจากนอกประตู ใบหน้า
ของจางจี้กเ็ ย็นเยียบลง ขว้างแก้วสุ ราในมือลงพื้นอย่างแรง แววตา
เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง
เด็กรับใช้นอกประตูใจสัน่ อย่างอดไม่ได้ ขาอ่อนแทบจะล้มนัง่ ลงบน
พื้น
ผ่านไปครู่ หนึ่งผูจ้ ดั การร้านก็รีบเข้ามา เห็นแก้วที่แตกละเอียดบน
พื้น หัวใจก็เต้นเช่นกัน “ใต้เท้าจ่างสื่ อ นี่…นี่”
จางจี้กวาดสายตามองเขาปราดหนึ่ง ในใจไม่พอใจเขาอย่างยิง่ “รู ้อยู่
แก่ใจว่าข้าอยูท่ ี่นี่ เหตุใดเจ้าถึงไม่หา้ มสักหน่อย” ถูกสตรี พงั ประตู
เข้ามาในอาณาเขตของตนเอง ไร้ประโยชน์จริ งๆ แม้จะห้ามไม่ได้ ก็
รายงานสักหน่อยไม่ได้หรื อไร
ผูจ้ ดั การรู ้สึกไม่ได้รับความเป็ นธรรมอย่างมาก “ผูน้ อ้ ยไหนเลยจะ
กล้าขวาง ท่านหนึ่งเป็ นจวิน้ จู่ท่านหนึ่งเป็ นจวิน้ อ๋ อง ผูใ้ ดบ้างที่ผนู ้ อ้ ย
จะผิดใจได้” เมื่อนึกถึงสายตาที่ผงิ จวิน้ อ๋ องมองเขาเมื่อครู่ น้ ี ตอนนี้
เขาก็ยงั คงหวาดกลัวอยู่
จางจี้อดั อั้นอย่างอดไม่ได้ แม้จะรู ้วา่ ที่ผจู ้ ดั การพูดเป็ นความจริ ง แต่
ในใจก็ยงั อยากพาลอย่างเลี่ยงไม่ได้ “พอแล้ว เรื่ องนี้กป็ ล่อยให้เป็ น
เช่นนี้เถิด ข้ากลับก่อน”
นึกถึงคาพูดเสี ยดสี แต่ละประโยคนั้นของจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ เบื้องลึกใน
จิตใจจางจี้กโ็ มโหอย่างห้ามไม่อยู่ ก็แค่สตรี คนหนึ่ง ยังกล้ามาชี้มือชี้
ไม้กบั เขา ช่างเจ็บใจเสี ยจริ งๆ
แม้เขาจะไม่กลัวจวิน้ จู่ต่างเพศผูน้ ้ ี แต่ผงิ จวิน้ อ๋ องข้างหลังนางกลับ
ยังคงหวาดกลัว นัน่ คือหลานชายที่ฝ่าบาทโปรดปรานที่สุด! ดูท่า
แล้วแผนการที่จะลงมือจากเสิ่ นหงเซวียนคงจะดาเนินต่อไปไม่ได้
แล้ว ในใจจางจี้รู้สึกเสี ยใจยิง่ นัก
หลังจางจี้ไป ผูจ้ ดั การก็บว้ นน้ าลายใส่ หลังเขา รับใช้องค์ชายรอง
เหมือนกัน ทาเหมือนตนสู งส่ งเป็ นอันดับหนึ่งไปได้ มาอยูใ่ นอาณา
เขตของเขาแล้วยังชี้ไม้ช้ ีมือกับเขา ไม่ทนั ไรก็วา่ กล่าว คิดว่าเขาเป็ น
สวะหรื อไร แม้เจ้าจางจี้จะเป็ นใต้เท้าจ่างสื่ อ ข้าเหล่าหลี่ดอ้ ยกว่าหรื อ
ไร ทุกปี หาเงินจานวนมากให้องค์ชายรอง มีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าข้า
อยูต่ ่ากว่าเจ้า ช่างน่าโมโหจริ งๆ!
กลับไปถึงจวนองค์ชายรอง จางจี้กไ็ ปเข้าเฝ้าองค์ชายรอง
“เป็ นอย่างไร เหตุใดถึงถูกจยาฮุ่ยจวิน้ จู่พบเข้าแล้วเล่า” องค์ชายรอง
ได้รับข่าวที่จางจี้ส่งกลับมาล่วงหน้าแล้ว
“คงจะบังเอิญกระมัง” จางจี้ขมวดคิ้วกล่าว “เรื่ องในวันนี้จะต้องดัง
ไปถึงหูนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นแน่นอน ดูท่าแล้วเสิ่ นหงเซวีย
นคงจะติดต่อต่อไปไม่ได้แล้ว มิเช่นนั้นจะเป็ นการยัว่ โมโหนายท่าน
ผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ น” บนใบหน้าของจางจี้มีความไม่ยนิ ดีหลาย
ส่ วน เส้นๆ นี้เขาวางมานานแล้ว ทุ่มเทกาลังประจบประแจงเสิ่ นหง
เซวียนมากมายอย่างยิง่ ตอนนี้ท้ งั หมดที่ทามาก่อนหน้านี้สูญเปล่า
หมดแล้ว เขาดีใจสิ ถึงแปลก
องค์ชายรองพยักหน้า “ล้มเลิกเถิด พวกเราค่อยคิดหาวิธีอื่น” สาหรับ
แผนการนี้ของจางจี้เดิมทีเขาไม่ได้ต้ งั ความหวังไว้มากอยูแ่ ล้ว สาเร็ จ
ก็ชื่นชม ล้มเหลวก็ไม่รู้สึกผิดหวัง หากนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูล
เสิ่ นลงเรื อรบของเขาได้ง่ายเพียงนั้น เขาก็คงไม่ใช่ตวั จริ ง
“จางจ่างสื่ อคิดว่าจยาฮุ่ยจวิน้ จู่เป็ นคนอย่างไร” จู่ๆ องค์ชายรองก็ถาม
“นางหรื อ” คิ้วของจางจี้ขมวดมุ่นยิง่ ขึ้น บนใบหน้ามีความรังเกียจ
หลายส่ วน “เป็ นคนร้ายกายไร้มารยาท” สตรี ตระกูลใดบ้างไม่รับใช้
สามีเลี้ยงลูกอยูใ่ นบ้าน มีแต่นางที่เสนอหน้าสร้างความวุน่ วายไปทัว่
เห็นชายอื่นก็ไม่หลบ กลับเขยิบเข้าไปข้างหน้า วาจาที่พดู ทาให้คน
สาลักตายได้ ราวกับหญิงบ้านนอกในชนบท เหตุใดผูท้ ี่สง่าผ่าเผย
เช่นผิงจวิน้ อ๋ องถึงได้คู่กบั คนแบบนี้ ช่างเสี ยคนดีไปเปล่าๆ จริ งๆ
องค์ชายรองประหลาดใจเล็กน้อย ร้ายกาจหรื อ เขาเคยพบจยาฮุ่ยจวิน้
จู่เพียงครั้งเดียว จาได้เพียงแค่วา่ นางหน้าตาสละสลวยอย่างยิง่ เดิน
ตามอยูข่ า้ งหลังท่านอาจิ้นอ๋ องกับลูกผูพ้ ี่ใหญ่เงียบๆ ก้มหน้า ไม่พดู
มาก เขายังคิดว่านางเป็ นคนขี้ขลาดเสี ยอีก
แต่เมื่อหวนคิด องค์ชายรองก็เข้าใจเล็กน้อยแล้ว ฟังว่าจยาฮุ่ยจวิน้ จู่
เติบโตในชนบท ยากจะเลี่ยงไม่ให้ติดนิสยั คนในชนบทมาด้วย เมื่อ
คิดเช่นนี้ เขาก็โยนเรื่ องนี้ทิ้งไป เปลี่ยนมาหารื อเรื่ องอื่นกับจางจี้ต่อ
เสิ่ นเวยกับสวีโย่ว รวมถึงเสิ่ นหงเซวียนกลับจวนจงอู่โหวพร้อมกัน
ไปยังเรื อนของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นทันที นายท่านผูเ้ ฒ่า
โหวตระกูลเสิ่ นกาลังรามวยอยูใ่ นลานบ้าน ได้ยนิ คนรับใช้รายงาน ก็
รู ้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
สวีโย่วรู ้วา่ ภรรยาของเขาจะต้องบันดาลโทสะเป็ นแน่ เพื่อเลี่ยงไม่ให้
พ่อตาเขาลาบากใจ จึงไม่ได้เข้าไปในลานบ้าน แต่กลับเดินไปยัง
เรื อนเฟิ งหวาแทน
เสิ่ นหงเซวียนมองเห็นพ่อเขาถือกระบี่ล้ าค่ายืนอยูใ่ นลานบ้าน ก่อน
อื่นใดก็ประหลาดใจขึ้นมาก่อน “ท่านพ่อ ไม่ใช่บอกว่าท่านป่ วย
หรอกหรื อ เหตุใดถึงไม่พกั อยูใ่ นห้องแต่กลับลุกขึ้นมาเสี ยแล้วเล่า”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเลิกคิว้ “เจ้าลูกเนรคุณ พูดจาดีๆ ไม่เป็ นใช่หรื อไม่
ใครบอกเจ้าว่าข้าป่ วย พ่อเจ้าร่ างกายแข็งแรง เจ้าตั้งใจสาปแช่งข้า
หรื อ” หลายวันมานี้นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเห็นลูกชายคนเล็กผูน้ ้ ีไม่เข้า
ตานัก ดังนั้นตอนนี้จึงหงุดหงิด ส่ งกระบี่ล้ าค่าให้บ่าวรับใช้ขา้ งๆ ทัก
ทายเสิ่ นเวย “เวยเอ๋ อร์วนั นี้เหตุใดเจ้าถึงมีเวลาว่างกลับมาได้ สามีเจ้า
เล่า”
เสิ่ นเวยยิม้ แย้มกล่าว “คิดถึงท่านปู่ น่ะสิ หลานเขยท่านก็มา
เหมือนกัน อ้อ บอกว่าจวนพวกเราทิวทัศน์สวย เขาจึงไปเดินเล่น
ก่อนแล้ว อีกประเดี๋ยวค่อยมาเคารพท่าน”
สายตาที่เสิ่ นหงเซวียนมองเสิ่ นเวยมีความไม่พอใจ “เวยเอ๋ อร์เจ้า
ไม่ได้บอกหรื อว่าปู่ เจ้าป่ วย เจ้าพูดโกหกได้อย่างไร”
เสิ่ นเวยกลอกตาขาว “หากข้าไม่บอกว่าท่านปู่ ป่ วย ท่านพ่อจะ
กลับมาหรื อ คงจะยังดื่มสุ ราพูดคุยกับจางจ่างสื่ อผูน้ ้ นั ของจวนองค์
ชายรองอยูส่ ิ ท่า ท่านพ่อท่านจะต้องสร้างหายนะให้จวนโหวให้ได้
เลยใช่หรื อไม่”
“เวยเอ๋ อร์ เหตุใดเจ้าถึงพูดกับพ่อเช่นนี้” สี หน้าเสิ่ นหงเซวียนไม่ดี
อย่างยิง่
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงสองครา เมินเขา
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นจะยังไม่เข้าใจอะไรอีก ใบหน้าเคร่ ง
ขรึ มลงในชัว่ ขณะ “เจ้าลูกอกตัญญู ตามข้าเข้ามา” พูดจบก็เดินนาเข้า
ไปในห้อง
เสิ่ นหงเซวียนไม่กล้าขัดคาสัง่ ของบิดา ถลึงตามองเสิ่ นเวยปราดหนึ่ง
จากนั้นจึงตามเข้าไปในห้อง
เสิ่ นเวยไม่คิดจะหลบเลี่ยงใดๆ อย่างสิ้ นเชิง ปู่ นางสัง่ สอนลูกชาย
ละครถึงอกถึงใจเช่นนี้ นางไม่อยากพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว ไอหยา
ลืมไปเลย ระหว่างทางกลับมานางน่าจะซื้อเมล็ดแตงโมสักสองจิน
แทะเมล็ดแตงโมไปพลางชมการแสดงไปพลาง
“ว่ามา เกิดเรื่ องอะไรขึ้น” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเอ่ยปากมาดเคร่ ง
แต่ไหนแต่ไรเสิ่ นหงเซวียนกลัวบิดาเขา บวกกับตอนนี้กใ็ จฝ่ อ
เล็กน้อย ความมัน่ ใจก็ยงิ่ มีไม่พอ “ท่านพ่อ ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไร
วันนี้ลูกไปพบปะกับสหาย บังเอิญเจอเวยเอ๋ อร์เข้า เวยเอ๋ อร์บอกว่า
เมื่อคืนท่านถูกลมหนาว ลูกร้อนใจจึงกลับมา เห็นท่านพ่อยังสบายดี
อยู่ ลูกก็วางใจแล้วขอรับ” เขาหัวเราะแห้งสองครา
“ใช่แล้วๆ ท่านปู่ ตอนที่หลานเจอท่านพ่อเขากาลังดื่มสุ ราพูดคุยกับ
ผูอ้ ื่นอยู่ พูดคุยกันถูกคนยิง่ นัก อีกทั้งสหายผูน้ ้ นั ของท่านพ่อยังเป็ น
ใต้เท้าจางจี้จ่างสื่ อจวนองค์ชายรองอีกด้วย” เสิ่ นเวยกล่าวเสริ มอย่าง
อารมณ์ดี
“เวยเอ๋ อร์” เสิ่ นหงเซวียนรี บตะโกน
เสิ่ นเวยเบิกตาโตไร้เดียงสา “ท่านพ่อ หรื อว่าลูกพูดผิดหรื อ หรื อว่า
คนที่พบปะท่านพ่อไม่ใช่จางจ่างสื่ อจวนองค์ชายรอง เห็นอยูช่ ดั ๆ ว่า
ท่านแนะนาเช่นนี้”
“เวยเอ๋ อร์เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้” เสิ่ นหงเซวียนถูกลูกสาวโต้เถียง
ใบหน้าก็เก็บอารมณ์ไม่อยูเ่ ล็กน้อย
ทว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกลับตบโต๊ะอย่างแรง “ข้าว่าคนที่ควรหุบปาก
ก็คือเจ้ามิใช่หรื อ” เขามองลูกชายคนเล็กของตน ในดวงตาเต็มไป
ด้วยความผิดหวัง “พ่อไม่ใช่สงั่ เจ้าแล้วหรื อว่าอย่าผูกมิตรมัว่ ซัว่ เหตุ
ใดเจ้าถึงยังไปคบค้าสมาคมกับจางจ่างสื่ อผูน้ ้ นั อยูอ่ ีก”
สี หน้าเสิ่ นหงเซวียนเหยเก “ท่านพ่อ ลูกกับจางจ่างสื่ อเพียงแค่ผกู
มิตรจากบุ๋น เป็ นเพียงความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ราบเรี ยบ” ปากกล่าว
อธิบาย แต่ในใจกลับไม่ยอมรับ คิดว่าบิดาเขาทาเรื่ องเล็กให้เป็ นเรื่ อง
ใหญ่ จางจ่างสื่ อเป็ นขุนนางใต้บงั คับบัญชาของจวนองค์ชายรองแล้ว
อย่างไร หรื อว่าจะไม่สามารถสร้างสัมพันธ์ผกู มิตรได้เลย
“ใช่แล้ว ผูกมิตรจากบุ๋น หากเป็ นด้านบู๊จะผูกได้หรื อไร” เสิ่ นเวย
ประชดประชัน ผูกมิตรจากบุ๋นคาสี่ คานี้ลากเสี ยงยาวอย่างยิง่ “ท่าน
พ่อท่านเองก็แค่อ่านบทกลอนหลายเล่ม คนอื่นยกยอท่าน หยอกท่าน
เล่น ท่านยังคิดจริ งๆ หรื อว่าตัวเองมีความรู ้ความสามารถมาก” หาก
ไม่ใช่ท่านโชคดี ข้างหลังมีท่านปู่ ผูอ้ าวุโสค้ ายันอยู่ ใครจะรู ้จกั ว่า
ท่านเป็ นใคร
บางทีความเหยียดหยามบนใบหน้าของเสิ่ นเวยอาจจะชัดเจนเกินไป
เสิ่ นหงเซวียนทั้งอึดอัดทั้งโมโห มือที่ช้ ีเสิ่ นเวยสัน่ ระริ ก “เจ้า เจ้าลูก
อกตัญญู มีอย่างหรื อมาพูดกับผูอ้ าวุโสเช่นนี้”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวไม่พอใจแล้ว คว้าไม้เกาหลังบนโต๊ะตีเสิ่ นหงเซ
วียนทันที “เจ้าบอกว่าใครอกตัญญู พ่อว่าเจ้านัน่ แหละที่เป็ นลูก
อกตัญญู เจ้าใส่ ใจคาพูดของพ่อบ้างหรื อไม่ เจ้า เจ้ายังอยูห่ ่างชั้น
กับเวยเอ๋ อร์” กล้าพูดว่าหลานสาวแสนดีของเขาอกตัญญูง้ นั หรื อ ลูก
คนนี้จดั การไม่ได้แล้วจริ งๆ
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวปาไม้เกาหลังนี้เจ็บจริ งๆ เสิ่ นหงเซวียนกุมแขน
แทบจะสะดุง้ ขึ้นมา มองพ่อเขาด้วยความไม่พอใจ “ท่านพ่อ ท่านดูสิ
ว่าเวยเอ๋ อร์เปลี่ยนไปเช่นไร ท่านยังตามใจนาง เป็ นสตรี ที่ออกเรื อน
แล้ว ยังไม่เคารพบิดาตนเช่นนี้อีก ช่าง ช่างไร้มารยาทเกินไปแล้ว”
เขาตาหนิเสี ยงดัง
สี หน้านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็ยงิ่ ไม่ดี อยากจะตีลูกชายคนเล็กที่สร้าง
ความราคาญใจผูน้ ้ ีให้ตายจริ งๆ “เจ้าตาหนิวา่ ก่อนหน้านี้เวยเอ๋ อร์ไม่
เคยพิจารณาตัวเองงั้นหรื อ แล้วที่เจ้าเสี ยงดังโวยวายต่อหน้าข้า
เรี ยกว่ามีมารยาทนักหรื อ ข้ามองว่าเวยเอ๋ อร์ไม่ผดิ คนที่ผดิ ก็คือเจ้า
เวยเอ๋ อร์เจ้าพูดต่อ”
เสิ่ นเวยย่อมคล้อยตาม มองพ่อนางอย่างเย็นชาแล้วกล่าว “ท่านพ่อ
ท่านคงไม่ได้คิดว่าจางจ่างสื่ อผูกมิตรกับท่านจากใจจริ งใช่หรื อไม่
ท่านรับราชการไม่ถึงยีส่ ิ บปี แต่กร็ ับมาสิ บกว่าปี แล้ว เหตุใดถึงได้ไร้
เดียงสาเพียงนั้น ต่อให้มดั ท่านรวมกันสิ บคนก็ยงั ไม่ใช่คู่ต่อสู ้ของ
จางจ่างสื่ อผูน้ ้ นั ลูกจะบอกท่านตรงๆ เขาเป็ นจ่างสื่ อจวนองค์ชาย
เรื่ องที่ตอ้ งทามีเยอะอย่างยิง่ เหตุใดถึงยังวิง่ มาดื่มสุ ราสนทนาบท
กลอนกับท่าน ไม่ใช่คิดจะลงมือกับท่าน จากนั้นก็บีบบับคับท่านปู่
หรื อไร…
…ท่านปู่ แสดงตนชัดเจนแล้วว่ายืนอยูฝ่ ั่งฝ่ าบาท ท่านกลับไม่สานึก
ไปผูกมิตรตีสนิทกับจ่างสื่ อจวนองค์ชายรอง ท่านกาลังเลื่อยขาเก้าอี้
ท่านปู่ ซ้ ายังคิดจะตบหน้าท่านปู่ อีกหรื อ เรื่ องเหล่านี้ลว้ นไม่สาคัญ
สิ่ งสาคัญก็คือท่านจะให้ฝ่าบาทมองท่านปู่ อย่างไร มองจวนจงอู่โหว
ของพวกเราอย่างไร…
…ท่านพ่อ ท่านเองก็อย่าได้อา้ งความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ราบเรี ยบ
พูดจาไม่เข้าท่าหลอกคนเหล่านั้นอีกเลย เป็ นเพียงความสัมพันธ์
ส่ วนตัวแล้วเหตุใดพวกท่านถึงได้พบกันที่หอไท่ไป๋ เล่า ไม่ใช่เป็ น
เพราะว่าหอไท่ไป๋ เป็ นกิจการของจวนองค์ชายรองหรอกหรื อ ทาตัว
ลับๆ ล่อๆ เช่นนี้ไม่ใช่กนั ไม่ให้ท่านปู่ ได้ข่าวหรอกหรื อ แม้แต่การ
เปิ ดเผยตัวยังทาไม่ได้ บอกว่าผูกมิตรจริ งใจใครจะเชื่อเล่า มีเพียง
ท่านพ่อนัน่ แหละที่เชื่อ เขาพูดสรรเสริ ญความสามารถ การวางตัว
ของท่าน ท่านก็หลงทิศแล้วหรื อ ในใจภูมิใจในตัวเองก็ดีใจสุ ดขีด
แล้วใช่หรื อไม่ มิน่าเล่าเขาถึงได้หลอกท่านได้ หลิวซื่อคนหนึ่งก็
หลอกท่านมาสิ บกว่าปี นับประสาอะไรกับผูม้ ีประสบการณ์ในแวด
วงขุนนางที่เฉลียวฉลาดคนหนึ่งเล่า” เสิ่ นเวยเสี ยดสี อย่างไร้ความ
ปรานี
“เวยเอ๋ อร์!” เสิ่ นหงเซวียนโมโหจนหน้าแดงคอแข็งแล้ว
เสิ่ นเวยไม่สนว่าเขาเป็ นผูอ้ าวุโสอะไร นางยิง่ พูดก็ยงิ่ โมโห เจ้าว่า
เหตุใดพ่อนางถึงได้โง่เขลาเพียงนี้ พ่อที่โง่เช่นนี้หาเรื่ องมาให้นางได้
อย่างไร ชาติที่แล้วนางทากรรมอะไรไว้
คนโง่กไ็ ม่เท่าไร แต่ตนจะอยูน่ ิ่งๆ หน่อยไม่ได้หรื อ ยังจะทาตัวอวด
ฉลาด แม้คาตักเตือนของปู่ นางยังไม่ใส่ ใจ ช่าง ช่างรนหาที่ตาย
จริ งๆ!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 234-2 สั่ งสอนพ่อไม่ ได้ ความ
“ท่านพ่อคิดว่าลูกอยากพูด อยากยุง่ หรื อไร หากไม่ใช่เห็นว่าท่านปู่
อายุมากแล้ว หากไม่ใช่วา่ เห็นแก่นอ้ งเจวี๋ย ข้าก็ไม่สนว่าท่านจะเป็ น
ตายร้ายดีอย่างไรหรอก! ท่านพ่อ ท่านสร้างความลาบากใจให้ท่านปู่
น้อยหน่อยได้หรื อไม่ ชิงบัลลังก์เรื่ องใหญ่เช่นนี้ท่านคิดว่าท่านมี
สมองคิดแผนการได้หรื อ ลูกพูดกับท่านตรงๆ องค์ชายรองอยากดึง
ท่านปู่ เข้าเป็ นพวก ถูกท่านปู่ ปฏิเสธแล้ว ดังนั้นเขาจึงมาหาท่าน หาก
ท่านไม่เชื่อ ยังอยากดื่มสุ ราพูดคุยกับมิตรสหายของท่าน ก็ได้ มาๆๆ
พวกเรามาตัดความสัมพันธ์กนั ก่อน ขอเพียงแค่ท่านไม่ใช่นายท่าน
สามแห่งจวนจงอู่โหว ท่านจะไปไหนก็เรื่ องของท่าน แต่วา่ หลุดออก
จากตาแหน่งนี้แล้ว เขาจะรู ้หรื อไม่วา่ ท่านเป็ นใคร! ท่านพ่อ หรื อว่า
ท่านต้องให้หายนะมาอยูต่ รงหน้าก่อนจึงจะสานึกได้”
ถูกลูกสาวพูดฉีกหน้าเช่นนี้ เสิ่ นหงเซวียนจะยังมีหน้าอยูไ่ ด้อย่างไร
อยากจะมุดแผ่นดินหนีอย่างยิง่ เสี ยจริ งๆ
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกล่าวต่อ “เวยเอ๋ อร์พดู ถูกต้อง ลูกหลานมีวาสนา
ของลูกหลานเอง พ่อแก่แล้ว พูดอะไรไปก็ไม่มีใครฟัง ไม่ไหวจริ งๆ
ก็แยกบ้านเถิด หากเจ้าเผชิญหายนะก็เป็ นเพียงแค่ตระกูลเจ้าที่
เผชิญหน้า ไม่อาจโยงมาถึงจวนโหวได้”
เสิ่ นหงเซวียนได้ฟังก็ลนลานแล้ว โถมตัวคุกเข่าลง “ท่านพ่อโปรด
ระงับโทสะ ลูกสานึกผิดแล้ว พ่อแม่ยงั อยู่ จะแยกบ้านได้อย่างไร
ข้างนอกจักต้องก่นด่านินทาลูกลับหลังว่าอกตัญญูเป็ นแน่!” ตอนนี้
บ้านสามไม่มีแม้แต่นายหญิงโดยชอบธรรม แยกบ้านแล้วจะใช้ชีวิต
อย่างไร อยูใ่ นจวนตนไม่จาเป็ นต้องกังวลเรื่ องร้อยแปดพันเก้า สบาย
ใจยิง่ นัก เสิ่ นหงเซวียนไม่อยากแยกบ้านเลยแม้แต่นิดเดียว
ทว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกลับกล่าว “ต้นไม้ใหญ่แตกกิ่ง นี่เป็ นหลัก
ทานองคลองธรรม เจ้าวางใจเป็ นข้าเองที่ตดั สิ นใจแยก ข้างนอกไม่
อาจพูดถึงเจ้าได้”
เสิ่ นหงเซวียนย่อมต้องคุกเข่าขอร้องอ้อนวอน แยกบ้านเขาก็เป็ น
เพียงบ้านสามตระกูลเสิ่ น ความสัมพันธ์กบั จวนจงอู่โหวก็ห่างไกล
อีกชั้น เขายังไม่โง่ถึงขั้นนั้น
เสิ่ นเวยคิดว่าพ่อนางก่อกรรมใดไว้กรรมนั้นย่อมตามสนอง แต่นึกถึง
น้องเจวี๋ย ยังจาใจต้องเอ่ยปากขอร้อง “ท่านปู่ ในเมื่อท่านพ่อสานึก
ผิดแล้ว ท่านก็ให้โอกาสเขาอีกครั้งเถิด! ไม่เห็นแก่ท่านพ่อ ท่านก็
ต้องเห็นแก่หลานและน้องเจวี๋ยหน่อยหรื อไม่ มีอะไรท่านก็พดู กับ
ท่านพ่อดีๆ แม้เขาจะไม่ฉลาดนัก ท่านก็แยกย่อยอธิบายให้เขาฟังที
ละเล็กทีละน้อย เขายังคงเข้าใจได้ ท่านค่อยๆ พูด หลานไปเคารพ
ท่านย่ากับท่านป้าสะใภ้ใหญ่ที่เรื อนในก่อน”
เรื่ องที่ควรพูดก็พดู หมดแล้ว ที่ควรระบายก็ระบายหมดแล้ว พ่อนาง
คุกเข่าเช่นนั้นอยูต่ รงนั้นนางเห็นแล้วบาดตายิง่ นัก ออกมาเสี ยดีกว่า
สวีโย่วเดินเอ้อระเหยไปตามทาง ในจวนต่างก็รู้วา่ คนผูน้ ้ ีคือท่านเขย
สี่ พากันทาความเคารพอย่างนอบน้อม
หลิวรุ่ ยฟังที่ออกมาจากเรื อนเหลียนอีเห็นเงาร่ างสู งสง่าชื่นชม
ทิวทัศน์อย่างสบายใจมาแต่ไกลๆ เห็นโฉมหน้าที่งดงามโดดเด่นใบ
นั้น ในดวงตานางก็มีความหลงใหลกะพริ บผ่าน หากตนสามารถ
แต่งสามีที่โดดเด่นเช่นนี้ได้ ต่อให้อายุขยั จะสั้นก็ยนิ ดี
“พี่เขยสี่ !” หลิวรุ่ ยฟังทาความเคารพอย่างอ่อนหวานนอบน้อม ใน
น้ าเสี ยงเต็มไปด้วยความเขินอายของเด็กสาว บนใบหน้าที่กม้ ลง
น้อยๆ เต็มไปด้วยสี แดงระเรื่ อ หัวใจหนึ่งดวงเต้นตึกตักไม่หยุด
ไหนเลยจะรู ้วา่ สวีโย่วเดินตรงผ่านนางไป ไม่มองนางแม้แต่ปราด
เดียว
หลิวรุ่ ยฟังประหนึ่งตกลงในถ้ าน้ าแข็ง ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าล้วน
เย็นยะเยือก รอยยิม้ บนใบหน้าก็แข็งทื่อ นางมองแผ่นหลังที่จากไป
ไกลของสวีโย่วด้วยน้ าตาที่คลอเบ้า นานอย่างยิง่ จึงกัดริ มฝี ปากวิ่ง
กลับเรื อนของตน เมื่อสายลมพัด น้ าตาของนางก็ไหลลงมาไม่หยุด
วินาทีน้ ีนางตัดสิ นใจแล้ว จะต้องแต่งเข้าตระกูลสู งส่ ง จะต้องทาให้
คนที่ดูถูกนางเหล่านั้นได้เห็นจงได้
อันที่จริ งหลิวรุ่ ยฟังเข้าใจสวีโย่วผิดไปจริ งๆ เขาไม่ได้มีเจตนาดูถูก
นางอย่างสิ้ นเชิง เพียงแต่หลานสาวสองคนนั้นของพระชายาจิ้นอ๋ อง
ทาให้ในใจเขามีเงามืด นอกจากน้องสี่ ของเขาแล้ว ไม่วา่ สตรี คนใดก็
ตามล้วนแต่เป็ นนางมารปี ศาจร้าย เขาล้วนแต่เคารพอยูห่ ่างๆ
เสิ่ นเวยเคารพท่านย่ากับท่านป้าสะใภ้ใหญ่เสร็ จแล้วก็ไปหาสวีโย่วที่
เรื อนเฟิ งหวา เดินไปได้ครึ่ งทางก็ได้ยนิ เรื่ องนี้ แม้นางจะออกเรื อน
แล้ว แต่อานุภาพก็ยงั คงอยู่ คนรับใช้ที่ประจบประแจงนางยังมีอยู่
เยอะ
เสิ่ นเวยกลับไม่ได้โกรธมาก หลิวรุ่ ยฟังเป็ นคนฉลาดมีแผนสู ง คน
เช่นนี้ส่วนใหญ่มีเป้าหมายชัดเจน บอกว่านางยัว่ ยวนสวีโย่วกลับ
เป็ นไปไม่ได้นกั คาดว่าคงจะเป็ นอารมณ์แรกรักของเด็กสาว ใคร
ให้สวีโย่วมีหน้าตาเป็ นอัปมงคลเช่นนั้นเล่า ครั้นนางเห็นเขาครั้งแรก
ก็ยงั ตกตะลึงเลยมิใช่หรื อ
ตอนที่เสิ่ นเวยเห็นสวีโย่วก็มองประเมิณเขาตั้งแต่บนลงล่างหน้าไป
หลังหนึ่งรอบ มองจนสวีโย่วขนลุก “ทาไมหรื อ มีอะไรผิดปกติ”
เสิ่ นเวยไม่ตอบ มือที่เรี ยวยาวบีบหน้าของสวีโย่ว “ไม่มีอะไรเพียงแต่
หน้าตาดีเช่นนี้ไปเพื่ออะไร ดึงดูดสตรี อื่น” โชคดีที่สวีโย่วเย็นชาไม่
น่าเข้าใกล้ มิเช่นนั้นจะต้องมีหญิงโง่แมงเม่าบินเข้ากองไฟมากน้อย
เพียงใด ต้องนาปัญหามาให้นางมากน้อยเพียงใด
สวีโย่วงุนงง ทันใดนั้นในแววตาก็ปรากฏความหยอกล้อ “เวยเวยก็
ชอบหน้าใบนี้ของข้ามิใช่หรื อ”
เสิ่ นเวยชายตามองเขาปราดหนึ่ง “ท่านรู ้กด็ ีแล้ว!” จากนั้นก็แค่น
เสี ยงหนึ่งครา “ดึงดูดสตรี อื่นให้นอ้ ยหน่อย มิเช่นนั้นข้าจะทาลาย
ใบหน้าที่งามล่มเมืองนี้ของท่าน” มือเล็กๆ ของเสิ่ นเวยลูบไล้อยูบ่ น
ใบหน้าของสวีโย่ว
มุมปากสวีโย่วกระตุกเล็กน้อย งามล่มเมืองหมายถึงสตรี มิใช่หรื อไร
แต่วา่ เห็นประกายในดวงตาน้องสี่ ของเขาแล้ว เขาก็เลือกที่จะปิ ด
ปากอย่างชาญฉลาด กล่าวเพียง “เจ้าตัดใจได้หรื อ”
“ท่านแน่ใจหรื อว่าข้าชอบใบหน้านี้ของท่าน” เสิ่ นเวยออกแรงที่มือ
ชัว่ ขณะก็บีบกรามของสวีโย่วไว้ ประหนึ่งบุตรหลานลูกคุณชาย
“กล้านักท่านก็ลองดู ดูสิวา่ ข้าจะตัดใจได้หรื อไม่”
สวีโย่วยืน่ มือคว้าอุง้ มือที่อยูไ่ ม่สุขของเสิ่ นเวย กุมและลูบไล้อยูใ่ น
มือ ออกแรงเล็กน้อยก็ดึงเสิ่ นเวยเข้ามาอยูใ่ นอ้อมอก แนบชิดหูนาง
แล้วกระซิบ “เวยเวยวางใจ ข้าขี้ขลาดยิง่ นัก ไม่กล้าเจ้าชูป้ ระตูดิน
หรอก”
เสิ่ นเวยถูกลมหายใจของเขาเป่ าจนจักจี้ เอียงหน้าหลบอย่างอดไม่ได้
แค่นเสี ยงสองคราเป็ นการคัดค้าน แต่อยูใ่ นหูสวีโย่วแล้วกลับไม่มี
อานุภาพอย่างสิ้ นเชิง เพราะว่าริ มฝี ปากที่ร้อนผ่าวของเขาแนบอยูบ่ น
ลาคอของนางแล้ว
สวีโย่วจูบอยูเ่ นิ่นนานจึงปล่อยเสิ่ นเวยออก สายตาของเขาปรายผ่าน
เตียงใหญ่หลังนั้นในห้องด้านใน ดวงตาเต็มไปด้วยความเสี ยดาย
ตั้งแต่คืนนั้นที่ปีนกาแพงจวนจงอู่โหวมาเยือนห้องนอนเสิ่ นเวยยาม
ดึก ในใจเขาก็มีความคิดคลุมเครื อ เขาคิด เมื่อไรจะได้สุขสมกับน้อง
สี่ ของเขาบนเตียงใหญ่หลังนั้น รสชาติน้ นั จักต้องดีงามที่สุดแน่นอน
คราวก่อนกลับบ้านสี หน้าน้องสี่ ของเขาเหนื่อยล้า วันนี้ดูท่าแล้วก็ยงั
ไม่ใช่โอกาสที่ดีนกั เช่นกัน
สวีโย่วเสี ยดายนัก! คิดแล้วคิดอีก เขาก็กระซิบข้างหูเสิ่ นเวยหลาย
ประโยค
ใบหน้าของเสิ่ นเวยร้อนผ่าวทันที หันหน้ามองสายตาของเขาก็ท้ งั
ตกใจทั้งแปลกใจ หมอนี่ต่างหากที่ทะลุมิติมา มิเช่นนั้นแล้วเหตุใด
ถึงได้ใจกล้ายิง่ กว่านาง ยังคิดจะทาบนเตียงนางให้นห้องนอนของ
นาง ที่แท้แล้วมารสวีกช็ อบเรื่ องแบบนี้! มิน่าเล่าคนที่เย็นชาถึงได้
ซ่อนเก็บอารมณ์ไว้ขา้ งใน
ฮ่าๆ คุณชายใหญ่สวีเป็ นคนเก็บอารมณ์เก่งดีๆ นี่เอง! เสิ่ นเวย
ประหนึ่งค้นพบความลับอะไรเข้าแล้ว ดวงตาเป็ นประกาย มี
ความสุ ขยิง่ นัก
มื้อเที่ยงทานร่ วมกับนายท่านผูเ้ ฒ่าโหว ตอนที่เสิ่ นเวยกับสวีโย่วเข้า
มาพ่อนางไม่อยูแ่ ล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าอับอายจนไปหลบอยูท่ ี่ไหน
แล้ว หรื อว่าอัดอั้นตันใจจนไปหาที่ดื่มสุ ราขจัดความทุกข์ใจ
เสิ่ นเวยยักไหล่ บอกเป็ นนัยว่าไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว! พ่อผูน้ ้ ีกค็ ือ
พวกโง่เขลา นอกจากจะสร้างปัญญาเป็ นตัวถ่วงของนางแล้ว ก็ไม่มี
ประโยชน์อะไรเลย นางต้องการเพียงปู่ และน้องชายก็พอแล้ว
เสิ่ นเวยสะกิดสวีโย่ว บอกเป็ นนัยให้เขาริ นสุ ราให้ท่านปู่ ตัวนางเอง
ก็ดื่มสุ ราหลายแก้วเป็ นเพื่อนท่านปู่
เห็นผมขาวหงอกของปู่ นางแล้ว เสิ่ นเวยก็รู้สึกเหนื่อยแทนเขาจริ งๆ
“ท่านปู่ ท่านเองก็ไม่ตอ้ งทุกข์ใจไป พ่อข้าโง่หน่อย หรื อว่าท่านส่ ง
บ่าวรับใช้ฉลาดๆ สักคนหนึ่งให้เขา อืม ข้างกายท่านลุงใหญ่กบั ท่าน
ลุงรองส่ งไปด้วยสักคนก็ดีเหมือนกัน เลี่ยงไม่ให้ติท่านว่าเลือกที่รัก
มักที่ชงั ”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวมองหลานสาวปราดหนึ่ง หัวเราะเยาะกล่าว “เจ้า
คิดว่าบ่าวรับใช้ที่ฉลาดเช่นนี้หาง่ายเหมือนหยิบผักกาดขาวหรื อไร”
เสิ่ นเวยยักไหล่ กล่าวอย่างไม่สนใจเลยแม้แต่นอ้ ย “หากท่านหาคนที่
เหมาะสมไม่ได้กใ็ ห้หลานเขยท่านรับใช้ชวั่ คราวเสี ย ใช่หรื อไม่ท่าน
พี่” นางหันหน้ามองสวีโย่ว ความคกุคามในดวงตาทาให้คนไม่อาจ
มองข้ามได้
สวีโย่วรี บแสดงท่าที “เวยเวยพูดถูก บางเรื่ องท่านปู่ เพียงแค่กาชับก็
พอแล้ว” ทว่ามือใต้โต๊ะกลับลูบขาเสิ่ นเวยหนึ่งครา
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวย่อมเห็นการเคลื่อนไหวเล็กๆ ของหลานคู่น้ ีอยูใ่ น
สายตา ในใจรู ้สึกชื่นใจอย่างถึงที่สุด ลูกชายไม่ได้เรื่ อง โชคดีที่เขายัง
มีหลานสาวที่ดี!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 235-1 หาเรื่ องตาหนิอกี แล้ว
เสิ่ นเวยทานข้าวกับนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเสร็ จแล้ว จากนั้นก็ไล่สวีโย่ว
ไปข้างๆ ตนกระซิบกระซาบกับท่านปู่ ในห้องในช่วงครึ่ งบ่าย ทว่า
ตอนที่เสิ่ นเวยออกมา บนใบหน้าของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็มีรอยยิม้ นี่
ทาให้คนรับใช้ในเรื อนต่างก็สงสัยว่าคุณหนูสี่พดู อะไรกับนายท่านผู ้
เฒ่าโหว
อันที่จริ งเสิ่ นเวยเองก็ไม่ได้พดู อะไร เพียงแค่เอ่ยเตือนปู่ นางว่าอย่า
ลืมไปแถลงต่อหน้าฝ่ าบาท ไม่วา่ อย่างไรองค์ชายรองก็เป็ นบุตรของ
เขา ผูเ้ ป็ นลูกได้รับความไม่เป็ นธรรมที่นี่ ก็ตอ้ งไปฟ้องบิดาว่าได้รับ
ความไม่เป็ นธรรมมิใช่หรื อ
จากนั้นก็ไปร้องทุกข์กบั ฝ่ าบาทบ่อยๆ บุตรในบ้านไม่ได้ความ ไร้
ทายาทสื บทอด ชีวิตผ่านไปด้วยความลาบาก ไม่สู้ลงสนามรบฆ่า
ศัตรู ยงั มีความสุ ขมากกว่า
จิตใจมนุษย์มีความรู ้สึก แม้ฝ่าบาทจะเป็ นจักรพรรดิ แต่เขาก็เป็ น
มนุษย์เช่นกัน เป็ นบิดาเช่นกัน ตามอายุของเหล่าองค์ชายที่ค่อยๆ โต
ขึ้น เขาน่าจะเข้าใจความรู ้สึกของคนเป็ นพ่อดี
เสิ่ นเวยโบกมือลาปู่ นางด้วยความอาลัยอาวรณ์ รถม้าเพิ่งจะจอดอยู่
หน้าประตูใหญ่จวนจิ้นอ๋ อง พ่อบ้านเจี่ยงปั๋ วก็ยดื พุงอ้วนๆ นัน่ วิง่ เข้า
มาแล้ว มือหนึ่งปาดเหงื่อบนหน้าผาก กล่าวอย่างรี บร้อน “จวิน้ อ๋ อง
จวิน้ จู่ ท่านกลับมาแล้ว! พระชายาหาท่านอยูค่ รึ่ งค่อนวันแล้ว”
เสิ่ นเวยกับสวีโย่วสบตากันปราดหนึ่ง รู ้สึกประหลาดใจเหมือนกัน
หลังจากฉีกหน้าเมื่อคราวก่อน พระชายาจิ้นอ๋ องก็สงบนิ่งไปเจ็ดแปด
วันแล้ว นางน่าจะพักฟื้ นรักษาตัว ไร้กาลังวังชา ตอนนี้ร้อนใจหา
พวกเขา ดูท่าคงจะหายป่ วยแล้วกระมัง
“กลับไปที่เรื อนก่อนแล้วค่อยว่ากัน” สวีโย่วเม้มปาก กล่าวด้วยสี
หน้าเฉยชา
เสิ่ นเวยพยักหน้า อย่างไรเสี ยก็รอมาครึ่ งวันแล้ว รออีกชัว่ ครู่ คงไม่
เป็ นไรหรอก อีกทั้งยังฉีกหน้ากันไปแล้ว นางอย่าได้คิดว่าตนจะ
เรี ยกก็มา จะไล่กไ็ ปอีก ให้นางรอไปเถอะ
สวีโย่วกับเสิ่ นเวยเดินกลับเรื อนของพวกเขาอย่างเอ้อระเหย ส่ วนฝั่ง
พระชายาจิ้นอ๋ องก็ร้อนใจจนควันออกหูแล้ว “ไปดู ไปดู คุณชาย
ใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่กลับมาแล้วหรื อยัง ออกจวนไปทั้งวันแล้วยังไม่
กลับมาอีก ทาตัวอย่างกับอะไรดี ทั้งเมืองหลวงไม่มีเจ้าสาวตระกูล
ใดวิง่ วุน่ ไปทัว่ ไป ไปรอที่หน้าประตูใหญ่” น้ าเสี ยงของพระชายาจิ้
นอ๋ องไม่พอใจอย่างถึงที่สุด
จิ้นอ๋ องที่นงั่ ดื่มชาอยูข่ า้ งๆ ก็อดขรึ มเคร่ งไม่ได้ อารมณ์ไม่ดีเท่าไร
นัก แม้จะบอกว่าน้ าเสี ยงของพระชายาจิ้นอ๋ องไม่ค่อยดี แต่ที่พดู กลับ
ถูก สตรี น่ะ ควรจะอยูร่ ับใช้สามีอบรมบุตรในเรื อนหลังเงียบๆ วัน
ทั้งวันวิ่งอยูน่ อกจวนอย่างกับอะไรดี ศักดิ์ศรี จวนจิ้นอ๋ องยังต้องการ
อยูอ่ ีกหรื อไม่
เสิ่ นซื่อผูน้ ้ ี เห็นตอนแรกยังเป็ นคนดี ผ่านไปไม่กี่วนั ก็กาเริ บเสิ บสาน
แล้วหรื อ คงไม่ได้เสแสร้งอย่างที่พระชายาพูดจริ งๆ ใช่หรื อไม่
“มาแล้ว มาแล้ว คุณชายใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่กลับมาแล้วเจ้าค่ะ” มี
สาวใช้เล็กเข้ามารายงาน
พระชายาจิ้นอ๋ องนัง่ ตัวตรงทันที ชะโงกหน้ามองออกไปข้างนอก
“มาถึงไหนแล้ว อยูไ่ หน”
สบสายตาของพระชายาจิ้นอ๋ อง สาวใช้ผรู ้ ายงานก็อดหดตัวไม่ได้
“หน้า…หน้าประตูใหญ่เจ้าค่ะ คุณชายใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่มาถึงหน้า
ประตูใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”
อารมณ์โกรธของพระชายาจิ้นอ๋ องแทบจะพุง่ ขึ้นมา ถลึงตากล่าวกับ
สาวใช้อย่างหงุดหงิด “ยังไม่รีบไปเร่ งอีก ยืนบื้ออยูต่ รงนี้ทาไม ตาไม่
มีแวว”
สาวใช้ตวั สัน่ สับเท้าวิ่งออกไป พระชายาจิ้นอ๋ องระบายอารมณ์แล้วก็
เอนตัวพิงเก้าอี้ ท่าทางเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุด
เสิ่ นเวยกับสวีโย่วเท้าเพิ่งจะก้าวเข้าเรื อน สาวใช้ของพระชายาจิ้
นอ๋ องก็มาถึงแล้ว เสิ่ นเวยได้ยนิ สาวใช้ถ่ายทอดคาพูดของพระชายาจิ้
นอ๋ อง คิ้วก็เลิกขึ้น ไม่พดู อะไรทั้งสิ้ นก็เข้าห้องด้านในไปแล้ว
สาวใช้ยนื อยูด่ ว้ ยใบหน้าวิตกกังวลทั้งใบ ไม่รู้เหมือนกันว่าฮูหยิน
ใหญ่หมายความว่าอย่างไร ลัว่ เหมยลอบมองพีส่ าวหลายคนล้วนไม่
มีเจตนาจะสนใจสาวใช้ผนู ้ ้ ี จากนั้นจึงมองเครื่ องแต่งกายที่สาวใช้ผนู ้ ้ ี
สวมอยู่ ก็เข้าใจในทันที นางล้วงกระเป๋ าเงินใบเล็กออกมาจาก**
บเงิน ยกยิม้ ยัดเข้าไปในมือของสาวใช้ผนู ้ ้ ี “ทาพี่สาวลาบากแล้ว
มาๆๆ กินขนมดื่มชาพักสักหน่อย” จับแขนของนางลากคนไปยัง
ห้องข้างแล้ว
สาวใช้ผนู ้ ้ ีไหนเลยจะมีกระจิตกระใจกินขนมดื่มชาอยูอ่ ีก แต่
เผชิญหน้ากับน้ าใจไมตรี ของลัว่ เหมยก็ไม่กล้าปฏิเสธ อีกทั้งในมือยัง
ถือกระเป๋ าเงินของผูอ้ ื่นอยู่ จึงทาได้เพียงอดทนรอ ทว่าดวงตากลับ
จ้องมองไปข้างนอกนิ่งๆ แม้ลวั่ เหมยจะพูดกับนางก็ยงั ใจลอย
เพียงแค่ครู่ เดียวลัว่ เหมยก็ลว้ งคาพูดออกมาจากปากสาวใช้ได้ “ฮูหยิ
นสามแพ้ทอ้ งพระชายาจิ้นอ๋ องจึงมาเชิญพวกข้าไปงั้นหรื อ” เสิ่ นเวย
รู ้สึกแปลกใจในชัว่ ขณะ หูซื่อแพ้ทอ้ งเกี่ยวอะไรกับพวกเขา หรื อว่า
พระชายาจิ้นอ๋ องยังคิดว่าเป็ นฝี มือนาง เหอๆ จินตนาการกว้างไกล
เกินไปแล้วกระมัง
ลัว่ เหมยพยักหน้า บอกข่าวที่ได้ยนิ มาจากปากสาวใช้อย่างจริ งจัง
“เจ้าค่ะ สาวใช้ผนู ้ ้ นั พูดเช่นนี้ บอกว่าเมื่อเช้าทานอาหารเช้าเสร็ จ
ออกไปเดินเล่น กลับมาก็รู้สึกไม่สบายตัวแล้ว”
เสิ่ นเวยคิดอยูค่ รู่ ใหญ่กย็ งั จับต้นชนปลายไม่ถูก จึงกล่าว “เอาล่ะ ข้ารู ้
แล้ว เจ้าออกไปก่อน”
ลัว่ เหมยทาความเคารพแล้วจึงถอยออกไป เสิ่ นเวยล้างหน้าเปลี่ยน
ชุดอย่างไม่รีบร้อน จากนั้นก็ดื่มชาหอมหนึ่งแก้ว แล้วจึงออกไป
อย่างช้าๆ
สาวใช้ที่รออยูใ่ นห้องข้างเพิ่งจะถอนหายใจอย่างโล่งอก “ฮูหยิน
ใหญ่เจ้าคะ พระชายายังรออยู่ พวกเรารี บไปเถิดเจ้าค่ะ”
เสิ่ นเวยยังไม่ทนั พูด เถาจือก็ป้ ันหน้าตาย กล่าวตาหนิ “ฮูหยินใหญ่
อะไรกัน เมื่อไม่กี่วนั ก่อนก็ให้เปลี่ยนไปเรี ยกว่าจวิน้ จู่แล้ว จาไว้ ใน
เรื อนแห่งนี้มีเพียงจวิน้ จู่กบั จวิน้ อ๋ องเท่านั้น”
แม้สาวใช้ผนู ้ ้ นั จะเป็ นสาวใช้ช้ นั รอง แต่กไ็ ม่ได้รับความโปรดปราน
หากได้รับความโปรดปรานไหนเลยจะถูกผลักออกมาวิ่งทางานเที่ยว
นี้ พระชายากับฮูหยินใหญ่ อ้อไม่สิ กับจวิน้ จู่ทะเลาะกันแล้ว คนฝั่ง
พระชายามาที่นี่ยอ่ มไม่ได้รับการต้อนรับแน่นอน
“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ จวิน้ จู่เหนียงเหนียง บ่าวทราบแล้ว” สาวใช้ตกใจกลัว
จนหน้าถอดสี ขาทั้งคู่สนั่ ระริ ก
ทว่าเสิ่ นเวยกลับมองเถาจืออย่างไม่พอใจปราดหนึ่ง “เรี ยกอะไรก็
เหมือนกันมิใช่หรื อ” จากนั้นก็ปลอบสาวใช้ “ไม่ตอ้ งกลัวไป พี่
เถาจือของเจ้าเป็ นคนปากร้ายใจดี นางเองก็กลัวว่าข้าที่เป็ นนายจะถูก
คนดูถูก ไม่ได้ต้ งั ใจจะว่าเจ้า ดูสิทาเจ้ากลัวหมดแล้ว เถาจือ ยังไม่รีบ
เอาปิ่ นฉานซือที่เจ้าได้มาใหม่ไปชดเชยให้นอ้ งผูน้ ้ ีอีก”
เถาจือแค่นเสี ยงหนึ่งครา “จวิน้ จู่ท่านใจดีเกินไปแล้ว นี่ถึงได้ถูกคนขี่
คอรังแก บ่าวว่า ในจวนอ๋ องนอกจากท่านอ๋ อง พระชายากับท่านจวิน้
อ๋ อง ลาดับของท่านก็สูงที่สุดแล้ว ท่านสนใจแต่เพียงวางมาดหลัง
ตรงก็พอ ดูสิวา่ บ่าวคนไหนยังกล้าดูถูกท่านอีก” แม้ปากจะบ่น แต่
มือกลับส่ งปิ่ นฉานซืออันนั้นเข้าไปให้ “น้องไม่ตอ้ งถือสา ข้าก็มี
นิสยั ตรงไปตรงมาเช่นนี้ เอ้า ปิ่ นอันนี้ถือว่าชดใช้ให้เจ้าก็แล้วกัน”
“ไม่…ไม่เป็ นไร พีเ่ ถาจือเองก็เกรงใจกันเกินไปแล้ว” สาวใช้โบกมือ
ถี่อย่างลนลาน ไหนเลยจะกล้ารับปิ่ นปั กผมของเถาจือ
ทว่าเถาจือกลับยัดไว้ในมือนางแล้ว “บอกว่าให้เจ้าก็ให้เจ้า เก็บไว้
เถอะ! ข้าเถาจือไม่ใช่คนพูดอย่างทาอย่าง”
สาวใช้ผนู ้ ้ นั มองปิ่ นปักผมงามประณี ตที่ถูกยัดเข้ามาในมือ ไม่กล้า
เชื่อว่านี่คือเรื่ องจริ ง ปิ่ นปักผมที่งดงามเช่นนี้ให้นางเช่นนี้เลยหรื อ
นางเองก็เคยเห็นปิ่ นปักผมที่งดงามเช่นนี้บนศีรษะของพี่หวาเยียน
เช่นกัน นางอยากซ่อนปิ่ นปักผมอันนี้ตามจิตใต้สานึก
เสิ่ นเวยเห็นท่าที มุมปากก็ยกขึ้นเบาๆ กวาดตามองเถาจือปราดหนึ่ง
เถาจือก็กล่าวอย่างหงุดหงิดอีกครั้งทันที “ยังไม่รีบนาทางไปอีก
ประเดี๋ยวชักช้าแล้วจะมีใครนินทาอีก”
สาวใช้ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติอย่างสิ้ นเชิง รี บกล่าวคล้อยตาม
“ใช่ๆๆ จวิน้ จู่เชิญท่าน” บนใบหน้ามีรอยยิม้ ท่าทีกระตือรื อร้นอย่าง
ยิง่
เพิ่งจะเดินไปได้สองก้าว สวีโย่วก็เข้ามาแล้ว คราวนี้สาวใช้ผนู ้ ้ นั
ปราดเปรี ยวแล้ว ทาความเคารพอย่างจริ งจังแล้วกล่าว “บ่าวคารวะ
จวิน้ อ๋ อง เคารพจวิน้ อ๋ อง”
สวีโย่วกล่าวอืมหนึ่งครา จูงมือเสิ่ นเวยเดินไปข้างนอก “ไปเถอะ ฮู
หยิน อย่าปล่อยให้พระชายารอจนร้อนใจเลย”
พระชายาจิ้นอ๋ องในเรื อนหลักสาปแช่งสองคนนี้ในใจพันรอบร้อย
รอบแล้ว แม้แต่สาวใช้ที่ไปเชิญคนผูน้ ้ นั ก็หนีไม่พน้ “ไปดูสิวา่ เสี่ ยว
หรงสาวใช้คนนั้นใช่ตกน้ าแล้วหรื อไม่ เชิญคนยังทาได้ไม่ดี ยังจะมี
ประโยชน์อะไรอีก”
หวาเยียนเพิ่งเตรี ยมจะส่ งคนไปเชิญอีก ก็เห็นคุณชายใหญ่กบั ฮูหยิน
ใหญ่เข้ามาแล้ว
“เคารพเสด็จพ่อและพระชายา” เสิ่ นเวยกล่าวอย่างอ่อนข้อ สวีโย่วก็
ยิง่ เรี ยบง่าย เพียงแค่ประสานมือตามอาเภอใจ แม้แต่พดู ยังขี้เกียจจะ
พูด
สี หน้าจิ้นอ๋ องกับพระชายาจิ้นอ๋ องย่อมไม่ดีแน่นอน แต่นึกถึงเรื่ องที่
ต้องพูดหลังจากนี้ ก็ยงั คงกัดฟันอดทนต่อไป
พระชายาจิ้นอ๋ องยังไม่ทนั เอ่ยปาก จิ้นอ๋ องก็พดู ขึ้นก่อน “ไปไหนกัน
มาทั้งวัน ในจวนอยูไ่ ม่ได้ใช่หรื อไม่ มีเรื่ องอยากตามพวกเจ้าก็ไม่มีที่
ให้ตาม”
พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็กล่าวคล้อยตาม “เสด็จพ่อของพวกเจ้าพูดถูก
โดยเฉพาะภรรยาโย่วเอ๋ อร์ แต่งเข้าจวนอ๋ องไม่เหมือนอยูใ่ นชนบท
เป็ นสตรี แต่งงานแล้ววันๆ จะห่วงแต่ไปวิ่งเล่นข้างนอกจวนได้
อย่างไร อย่าให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอาได้!”
“ทูลเสด็จพ่อและพระชายา ลูกไม่ได้ห่วงแต่ไปวิ่งเล่นข้างนอกจวน
ทั้งวัน ตั้งแต่ที่ลูกแต่งเข้ามาก็เกือบหนึ่งเดือนแล้ว วันนี้เพิ่งจะออก
จากจวนเป็ นครั้งที่สอง อีกทั้งยังมีจิ้นอ๋ องไปด้วย ลูกไม่ได้ประพฤติ
ผิดในคุณธรรมของสตรี ออกไปวิ่งเล่นข้างนอกคนเดียวอย่างที่พระ
ชายาพูด” เสิ่ นเวยกล่าวด้วยความชัดเจนแจ่มแจ้ง
สวีโย่วเองก็กล่าวอย่างหงุดหงิดใจ “ทาไมเล่า เสด็จพ่อกับพระชายา
เรี ยกลูกเข้ามาก็เพื่อสัง่ สอนลูกหรื อ ตั้งแต่เล็กลูกก็สุขภาพไม่ดีไม่ได้
มีร่างกายแข็งแรงเหมือนน้องรองน้องสามน้องสี่ แม้วา่ จะอยูใ่ นเมือง
หลวงแต่กลับไม่เคยเดินชมเมืองดีๆ กว่าจะแต่งภรรยามีความสุ ขได้
ให้เสิ่ นซื่อออกจากจวนไปเดินเล่นเป็ นเพื่อนแล้วอย่างไร ไปขวางหู
ขวางตาใครเข้าอีกแล้ว ข้าไปใช้เงินเขาหรื อไร มิใช่ยงุ่ เรื่ องไม่เป็ น
เรื่ องหรื อไร”
มองพระชายาจิ้นอ๋ องด้วยสายตาไม่พอใจ “พระชายาหายดีแล้วหรื อ
งานสมรสของน้องสี่ ยงั ทาให้ท่านทุกข์ใจไม่พอหรื อไร ยังมีเวลาว่าง
มาจับตาดูพวกข้าสามีภรรยาอีก ลูกพูดได้หรื อไม่วา่ ซาบซึ้งยิง่ นัก”
ความเหยียดหยามในดวงตาของเขาชัดเจนเพียงนั้น
จิ้นอ๋ องกับพระชายาจิ้นอ๋ องจุกอกทั้งคู่ โดยเฉพาะพระชายาจิ้นอ๋ อง
ถูกโต้เถียงเช่นนี้ต่อหน้า จะกล้ ากลืนความโกรธนี้ลงได้อย่างไร แถม
เสิ่ นซื่อผูน้ ้ นั ยังชิงพูดก่อนนาง “พระชายาอย่าได้โกรธเคือง จิ้นอ๋ อง
ของพวกเราก็อารมณ์ร้อนเช่นนี้ ท่านอยูใ่ นจวนเดียวกับเขามายีส่ ิ บ
กว่าปี แล้ว ยังจะไม่เข้าใจได้หรื อ”
เจ้าว่าพระชายาจิ้นอ๋ องจะโมโหหรื อไม่ หรื อว่าจะไม่โมโห
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 235-2 หาเรื่ องตาหนิอกี แล้ว
“เจ้าพูดดีๆ ไม่เป็ นหรื อไร เย้ยหยันถากถางวางอานาจอะไรกัน ยังจะ
มาเรี ยกจิ้นอ๋ องอยูอ่ ีก เจ้าจะแข่งวางอานาจต่อหน้าข้างั้นหรื อ” จิ้
นอ๋ องตาหนิอย่างไม่พอใจ
สวีโย่วขมวดคิ้วมุ่น กล่าวโต้แย้งอย่างตั้งใจ “ที่ลูกพูดล้วนแต่เป็ น
ความจริ ง หรื อว่าลูกไม่ใช่ผิงจวิน้ อ๋ องที่ฝ่าบาทพระราชทาน
บรรดาศักดิ์ให้ดว้ ยตัวพระองค์เอง ส่ วนข้ออ้างว่าแข่งวางอานาจ
อะไร เป็ นเสด็จพ่อที่คิดมากไปเองทั้งสิ้ น ท่านคือชินอ๋ อง ลูกเป็ น
เพียงจวิน้ อ๋ อง อยูต่ ่ากว่าท่านหนึ่งขั้น มีเพียงท่านที่วางอานาจต่อหน้า
ลูก ลูกไหนเลยจะมีอานาจอะไรมาแข่งต่อหน้าท่านได้” ปากพูด
อย่างจริ งจัง แต่คนที่นงั่ อยูล่ ว้ นฟังคาเสี ยดสี ในคาพูดของเขาออก
ชัว่ ขณะจิ้นอ๋ องก็โมโหแล้ว ชี้สวีโย่วก่นด่า “เจ้าลูกอกตัญญู วันๆ ไม่
ยัว่ โมโหข้าเจ้าจะไม่สบายใจหรื อไร ข้าว่าเจ้าหนึ่งประโยค เจ้ากลับมี
สิ บประโยคแปดประโยครอข้าอยูใ่ ช่หรื อไม่ ข้า ข้าให้กาเนิดลูก
อกตัญญูเช่นเจ้าได้อย่างไร!”
“เสด็จพ่อพูดผิดแล้ว เห็นชัดๆ ว่าเสด็จแม่ให้กาเนิดลูก ไม่ได้คลาน
ออกมาจากท้องของท่าน” สวีโย่วกล่าวอย่างเย็นชา เสิ่ นเวยที่กม้ หน้า
อยูแ่ ทบจะหัวเราะออกมา คุณชายใหญ่เอ๋ ย เหตุใดท่านถึงพูดความ
จริ งเล่า หากท่านสามารถคลานออกมาจากท้องพ่อท่านได้จริ งๆ หึๆ
คาดว่าพ่อท่านก็คงจะถูกฝ่ าบาทฆ่าด้วยตัวเอง!
“หากพวกท่านเพียงต้องการตาหนิลูก เช่นนั้นด่าก็ด่าแล้ว ลูกขอพา
เสิ่ นซื่อกลับไปก่อน เดินเล่นมาทั้งวัน ร่ างกายของลูกยังคงอ่อนเพลีย
จริ งๆ กลับไปพักก่อนดีกว่า เลี่ยงไม่ให้ป่วยจนต้องกินยาทาลายงาน
มงคลของน้องสี่ ประเดี๋ยวพระชายาจะหาว่าลูกเป็ นเสนียดจังไรอีก”
สวีโย่วลุกขึ้นยืนทาท่าทีจะไป
ฉากสาคัญยังไม่ทนั ได้แสดง พระชายาจิ้นอ๋ องจะยอมให้คนไปเช่นนี้
ได้อย่างไร รี บกล่าวเรี ยก “โย่วเอ๋ อร์กบั ภรรยาโย่วเอ๋ อร์ชา้ ก่อน”
สายตาของสวีโย่วมองเข้ามาอย่างรวดเร็ ว “พระชายายังมีอะไรกาชับ
อีก” เสี ยงเกียจคร้าน ราวกับไม่เห็นนางอยูใ่ นสายตาเลยแม้แต่นิด
เดียว
พระชายาจิ้นอ๋ องโมโหอย่างถึงที่สุด แต่กลับยังพยายามข่มไว้ “เช้า
วันนี้ภรรยาเหยียนเอ๋ อร์แพ้ทอ้ ง แม้แต่หมอหลวงในวังก็ยงั ตกใจ สัง่
คนไปเชิญคนที่เรื อนของพวกเจ้า บ่าวรับใช้บอกว่าพวกเจ้าออกจาก
จวนไปแล้ว รอจนถึงตอนนี้กว่าพวกเจ้าจะกลับมา” ในน้ าเสี ยงเต็ม
ไปด้วยการกล่าวโทษ
เสิ่ นเวยประหลาดใจแล้ว “พระชายา น้องสะใภ้สามแพ้ทอ้ งเชิญหมอ
เชิญหมอหลวงก็ถูกแล้ว ลูกกับจวิน้ อ๋ องไม่รู้การแพทย์ ช่วยอะไร
ไม่ได้เช่นกัน! หรื อพระชายาคิดว่าน้องสะใภ้สามแพ้ทอ้ งเป็ นฝี มือ
ของพวกข้าหรื อ”
ไม่รอให้พระชายาจิ้นอ๋ องโต้แย้ง เสิ่ นเวยก็ร้องทุกข์ข้ ึนมา “พระชายา
ทนเห็นลูกใช้ชีวิตอย่างสงบสุ ขสองวันนี้ไม่ได้หรื อ สาดน้ าสกปรก
แต่ละอ่างๆ นี้ ไม่คิดจะให้ร่างของลูกสะอาดบ้างหรื อไร ลูกเติบโต
ในชนบท ไหนเลยจะรู ้จกั อุบายเหล่านี้ของเรื อนหลังตระกูลใหญ่
ตระกูลโต ยิง่ ไปกว่านั้นลูกกับน้องสะใภ้สามก็ไม่ได้มีความแค้นต่อ
กัน ซ้ ายังลงมือกับทารกในครรภ์ มีเพียงคนที่โหดเ**้้ยมอามหิ ต
เท่านั้นที่จะทาได้ลงคอ! พระชายาโปรดอย่าเอ่ยวาจาว่าร้าย ให้ทาง
หนีทีไล่แก่ลูกบ้างเถิด”
“ไปๆๆ รี บไป สถานที่เน่าเฟะเช่นนี้ อยูต่ ่อไปไม่ได้แม้แต่ชวั่ ขณะ
เดียว” สายตาที่สวีโย่วมองท่านจิ้นอ๋ องอึมครึ มขึ้นมา “เสด็จพ่อยังจะ
ห้ามไม่ให้ลูกย้ายไปจวนจวิน้ อ๋ อง ดูสิวา่ เขาซาบซึ้งในบุญคุณท่าน
หรื อไม่ ในเมื่อพระชายารังเกียจพวกข้าเพียงนั้น เช่นนั้นพวกข้าก็ไป
เสี ยดีกว่า รังเงินรังทองก็ยงั สู ้รังหญ้าของตัวเองไม่ได้ บรรพบุรุษไม่
เคยโกหกข้า”
สวีโย่วจูงเสิ่ นเวยเดินออกไปข้างนอกด้วยความเดือดดาล คราวนี้ทา
ให้จิ้นอ๋ องโกรธจนหน้าหงายแล้ว “เจ้าลูกทรพีเจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้ ย้าย
อะไรกัน ยังไม่ครบหนึ่งเดือนข้าจะคอยดูวา่ เจ้าจะกล้าย้ายหรื อไม่”
สวีโย่วไม่ถูกพ่อเขาคุกคามอย่างสิ้ นเชิง “เสด็จพ่อคาสัญญาของท่าน
ยังทาไม่ได้ เหตุใดลูกจะไม่กล้าย้าย เสด็จพ่อท่านอย่าบังคับลูก หาก
บังคับจนร้อนใจลูกจะป่ าวประกาศเรื่ องข้างนอกของท่านออกมา
ทั้งหมด”
จิ้นอ๋ องร้องตะโกนอย่างเดือดดาลทันที “คาดไม่ถึงว่าเจ้ากล้าขู่ขา้ งั้น
หรื อ ข้าจะมีเรื่ องอะไรได้ จะมีเรื่ องอะไรได้”
สวีโย่วสบตาเขาอย่างน่าสะพรึ งกลัว มุมปากเต็มไปด้วยความเหยียด
หยาม “มีเรื่ องหรื อไม่เสด็จพ่อท่านรู ้ดีอยูแ่ ก่ใจมิใช่หรื อ อยากให้ลูก
พูดออกมาตอนนี้หรื อไม่”
จิ้นอ๋ องสบสายตากับลูกชายอยูพ่ กั หนึ่ง ยอมแพ้อย่างกลืนไม่เข้าคาย
ไม่ออก ละสายตาอย่างไม่มนั่ ใจเล็กน้อย “เจ้าลูกอกตัญญู เจ้าลูก
อกตัญญู”
ไม่วา่ ใครก็ดูออกว่าตอนนี้เขาแข็งนอกอ่อนใน สวีโย่วยกยิม้ อย่าง
เย็นชา
พระชายาจิ้นอ๋ องใจเต้น ในใจเกิดความระแวง ท่านอ๋ องมีเรื่ องข้าง
นอกปิ ดบังนางอยู!่ สายตาที่สงสัยมองไปยังจิ้นอ๋ องอย่างอดไม่ได้
คราวนี้จิ้นอ๋ องก็ยงิ่ โมโหแล้ว กระทืบเท้ากล่าว “มองอะไร ข้าบอก
แล้วว่าไม่มีอะไร เจ้ายังไม่เชื่อข้าอีกหรื อ” สายตาหรี่ ลงวางมาดโกรธ
ทันที
สวีโย่วหัวเราะเยาะต่อ ไม่ใช่รักซ่งซื่อผูน้ ้ ียงิ่ กว่าทองจนไม่เสี ยดายแม้
จะยัว่ โมโหเสด็จแม่เขาจนตายก็ตอ้ งพาซ่งซื่อเข้าจวนให้ได้หรอก
หรื อ ท่านก็อย่าเลี้ยงภรรยาน้อยข้างนอกสิ ! ใบหน้านี้ตบจนดังเพี๊ยะๆ
จริ งๆ!
พระชายาจิ้นอ๋ องมัน่ ใจยิง่ ขึ้นว่าเขามีเรื่ องปิ ดบังตนอยูแ่ น่นอน ทว่า
บนใบหน้ากลับไม่แสดงอารมณ์ “เชื่อสิ ข้าใช้ชีวิตอยูก่ บั ท่านอ๋ องมา
ยีส่ ิ บกว่าปี แล้ว ไหนเลยจะไม่เชื่อท่านอ๋ อง”
จากนั้นจึงละสายตาไปยังสวีโย่ว กล่าวอย่างเป็ นมิตร “โย่วเอ๋ อร์สอง
สามีภรรยาอย่าเพิ่งร้อนใจไป ข้าบอกเมื่อไรว่าน้องสะใภ้สามของ
พวกเจ้าแพ้ทอ้ งเป็ นฝี มือของพวกเจ้า ความหมายของข้าคือภรรยาเห
ยียนเอ๋ อร์แพ้ทอ้ งทาข้ากลัวแทบแย่ หากพวกเจ้าอยูใ่ นจวน จิตใจข้าก็
มีที่พ่ งึ มิใช่หรื อ พวกเจ้าไม่อยู่ จิตใจดวงนี้ของข้าก็วา่ งเปล่า”
พูดจาไพเราะยิง่ กว่าร้องเพลงเสี ยอีก ราวกับว่าพวกเขาสาคัญมาก
เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะในใจหนึ่งครา กล่าวขยายความให้นางทันที “ดู
พระชายาพูดเข้า เสด็จพ่อก็ยงั อยูใ่ นจวนมิใช่หรื อ ไม่พอจะเป็ นที่พ่ งึ
ให้ท่านหรื อ ไม่ใช่ยงั มีนอ้ งรองน้องสามน้องสี่ นอ้ งห้าอยูห่ รื อ ก่อน
หน้านี้ท่านจวิน้ อ๋ องของพวกเราก็อยูใ่ นจวนน้อยอย่างยิง่ พระชายามี
ปัญหาแล้วจัดการอย่างไร กว่าท่านจวิน้ อ๋ องจะกลับมาจากเขาก็สาย
ไปแล้วกระมัง อีกทั้งน้องสะใภ้แพ้ทอ้ ง เขาผูเ้ ป็ นลุงใหญ่คนหนึ่งไป
เยีย่ มนับเป็ นเหตุผลด้านใด”
“ดูภรรยาโย่วเอ๋ อร์พดู เข้า พูดจาเก่งเสี ยจริ งๆ” พระชายาจิ้นอ๋ องไม่
โมโห กลับยิม้ แย้ม นางกาลังจะพูดอะไร ก็ถูกสวีโย่วตัดบทแล้ว
“เรื่ องแค่น้ ีหรื อ ได้ อีกประเดี๋ยวเสิ่ นซื่อให้คนเตรี ยมของขวัญไป
เยีย่ มน้องสะใภ้สาม”
รอยยิม้ บนใบหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องแข็งทื่อในชัว่ ขณะ กาหมัดแล้ว
จึงยกยิม้ อีกครั้ง “ไม่ใช่แค่เรื่ องนี้ ที่เชิญพวกเจ้ามาเพราะมีเรื่ องอยาก
ขอให้พวกเจ้าช่วย”
สวีโย่วกับเสิ่ นเวยต่างก็ไม่ได้พดู ต่อ พระชายาจิ้นอ๋ องจนใจ ทาได้
เพียงกล่าวต่อไป “เป็ นเช่นนี้ ภรรยาเหยียนเอ๋ อร์แพ้ทอ้ งใช่หรื อไม่
ครั้งนี้นบั ได้วา่ เป็ นครั้งที่สี่แล้ว หมอหลวงก็บอกว่าครรภ์น้ ีของนาง
ไม่ค่อยดีนกั เว้นเสี ยแต่หมอเทวดาจะช่วยบารุ งครรภ์ได้ มิเช่นนั้นก็
ยากยิง่ ที่จะปลอดภัย”
พูดถึงตรงนี้นางก็เหลือบมองสวีโย่วปราดหนึ่ง เห็นเขาไม่แยแส ก็
กล่าวต่อ “พูดถึงหมอเทวดาข้าก็ใคร่ ครวญได้แล้ว โย่วเอ๋ อร์รักษาตัว
อยูท่ ี่เขาหลงหู่มิใช่มีหมอเทวดาดูแลร่ างกายหรอกหรื อ ข้าอยากรู ้วา่
โย่วเอ๋ อร์จะช่วยเชิญหมอเทวดาลงจากเขามาดูแลครรภ์นอ้ งสะใภ้
สามของพวกเจ้าได้หรื อไม่ ไม่วา่ จะมีขอ้ แม้อะไรพวกข้าล้วนยินดี”
อ้อ ที่แท้แล้วก็มีเจตนาเช่นนี้! เสิ่ นเวยเข้าใจแล้ว เพียงแต่ไม่รู้วา่ สวีโย่
วจะรับปากหรื อไม่รับปาก นางมองสวีโย่วอย่างอดไม่ได้
“เรื่ องแค่น้ ีหรื อ” สวีโย่วเลิกคิว้ ไม่ออกความคิดเห็น สบสายตาของ
เสิ่ นเวย เขาส่ งแววตาปลอบโยนกลับไป จากนั้นก็มองพ่อเขา “เสด็จ
พ่อเองก็มีเจตนาเช่นนี้หรื อ”
จิ้นอ๋ องลังเลครู่ หนึ่ง ยังคงพยักหน้ากล่าว “เจ้าช่วยได้กช็ ่วยหน่อย
เถิด อย่างไรเสี ยก็เป็ นลูกคนแรกของน้องสามเจ้า”
สวีโย่วมองจิ้นอ๋ องนิ่งๆ มองจนพ่อเขาอึดอัดไปทัว่ ทั้งร่ าง จากนั้นสวี
โย่วจึงละสายตา มุมปากปรากฏรอยยิม้ แฝงความนัย “เสด็จพ่อ พระ
ชายา พวกท่านช่างกล้าเสี ยจริ งๆ!”
เมื่อได้ยนิ ประโยคนี้ เสิ่ นเวยก็อดไม่ได้อีกครั้ง หลุดหัวเราะออกมา
เพื่อที่จะปกปิ ด จึงทาได้เพียงพยายามแสร้งไอ
สวีโย่วชายตามองนางปราดหนึ่งอย่างไม่พอใจ กล่าวต่อ “แม้แต่ฝ่า
บาทยังเชิญคนลงมาไม่ได้ คาดไม่ถึงว่าพวกท่านให้ลูกไปเชิญ ทะนง
ตนยิง่ นัก! ตอนแรกที่ลูกป่ วยเหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุ ดท้าย ก็ทา
เพียงถูกทหารองครักษ์แบกขึ้นเขา ตอนนั้นเสด็จปู่ ยังอยู่ เขารับปาก
เงื่อนไขของหมอเทวดานับไม่ถว้ น หมอเทวดาจึงออกมือรักษาลูก
อย่างเสี ยไม่ได้ หรื อว่าน้องสะใภ้สามสาคัญกว่าลูกงั้นหรื อ หมอ
เทวดาละทางโลกนานแล้ว ต่อให้นอ้ งสะใภ้สามขึ้นเขาไปด้วยตัวเอง
เขาก็อาจจะไม่ออกมือด้วยซ้ า นับประสาอะไรกับลงเขา”
“พูดเช่นนี้โย่วเอ๋ อร์จะไม่ยอมช่วยใช่หรื อไม่” ใบหน้าของพระชายาจิ้
นอ๋ องเคร่ งขรึ ม “นัน่ คือน้องชายของเจ้า เจ้าจะทนมองน้องชายเจ้า
เสี ยลูกไปเฉยๆ งั้นหรื อ เหตุใดจิตใจเจ้าถึงได้เ**้้ยมโหดเพียงนั้น”
“ต่อให้เป็ นพ่อข้าก็ไม่มีประโยชน์” สวีโย่วเสมือนมองไม่เห็นความดุ
ร้ายบนใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ อง “พระราชโองการยังสัง่ ให้คน
ลงมาไม่ได้ เสด็จพ่อพวกท่านให้ลูกไปเชิญ นี่ไม่ใช่เป็ นการฝื นใจคน
หรื อไร”
เสิ่ นเวยเองก็ถือโทษโกรธศัตรู เดียวกัน กล่วคล้อยตาม “ใช่แล้วๆ
พระชายามิใช่ขืนใจท่านจวิน้ อ๋ องของพวกข้าหรื อ หรื อว่าเกียรติของ
เขาสู งส่ งยิง่ กว่าฝ่ าบาทงั้นหรื อ แทนที่จะบีบบังคับท่านจวิน้ อ๋ องของ
พวกข้า ไม่สู้ไปจุดธูปไหว้พระในวัด ขอพระโพธิสตั ว์คุม้ ครองเสี ย
ยังดีกว่า มนุษย์ทากรรม สวรรค์คอยมอง เหนือศีรษะยังมีเทพเทวดา
ท่านทาดีสร้างบุญกุศล พระพุทธเจ้าย่อมมองเห็น กลับกัน หากท่าน
ทาชัว่ สร้างบาปกรรม เช่นนั้นก็ตอ้ งชดใช้ผลกรรม กรรมไม่ตาม
สนองตนเองก็ตอ้ งตามสนองที่ลูกหลานชนรุ่ นหลัง ส่ งผลให้เห็น
แน่นอน”
เสิ่ นเวยกล่าวตามอาเภอใจ ใครจะรู ้วา่ คาพูดจะกลายเป็ นจริ งหรื อไม่
แน่นอน นัน่ ย่อมเป็ นเรื่ องในภายหลัง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 236-1 ท่ านพูดความจริง ข้ ารับปากว่าจะ
ไม่ ตีท่านตาย
“บอกมาเร็ ว พ่อท่านทาเรื่ องอะไรไว้ขา้ งนอกกันแน่” เมื่อกลับไปถึง
เขตแดนของตนเองเสิ่ นเวยก็ดึงแขนเสื้ อของสวีโย่ว ในดวงตาเต็มไป
ด้วยประกายความอยากนินทา “บอกมาเร็ ว บอกมาเร็ ว” ระหว่างทาง
นี้นางอึดอัดจะแย่อยูแ่ ล้ว
สวีโย่วมองตาคู่โตที่เป็ นประกายแวววับคู่น้ นั ของเสิ่ นเวย อดยืน่ มือ
ไปบีบแก้มเล็กๆ ของนางคราหนึ่งไม่ได้ เหตุใดน้องสี่ ของเขาถึงได้
น่ารักเพียงนี้
หัวเราะเสร็ จแล้ว มุมปากของสวีโย่วก็ยกสู ง กล่าวด้วยความเหยียด
หยันอย่างถึงที่สุด “บุรุษจะยังมีเรื่ องอะไรที่ไม่อาจให้พระชายารู ้ได้
อีกเล่า”
ดวงตาของเสิ่ นเวยเบิกโต ไม่ใช่หรอกกระมัง ไม่ใช่อย่างที่นางคิด
หรอกกระมัง พระชายาจิ้นอ๋ องไม่ใช่รักแท้ของจิ้นอ๋ องหรื อ
สบสายตาที่สงสัยของเสิ่ นเวยสวีโย่วก็พยักหน้าอย่างมัน่ ใจ “ถูกต้อง
เขาเลี้ยงภรรยาน้อยอยูข่ า้ งนอก ให้กาเนิดบุตรสาวอายุสามปี แล้ว ใน
ท้องสตรี ผนู ้ ้ นั ก็อุม้ ครรภ์อยูอ่ ีกหนึ่งคน เกือบห้าเดือนแล้ว”
ดวงตาของเสิ่ นเวยเบิกโตยิง่ ขึ้น ว่าไงนะ นางไม่ได้ฟังผิดใช่หรื อไม่
จิ้นอ๋ องไม่เพียงแต่เลี้ยงภรรยาน้อยไว้ขา้ งนอก แต่ยงั มีบุตรด้วยกัน
อีกหรื อ หากพระชายาจิ้นอ๋ องรู ้เข้า นี่จะทาให้นางทนรับได้อย่างไร
ฮ่าๆ เช่นนั้นก็สนุกแล้วสิ เสิ่ นเวยนึกสภาพพระชายาจิ้นอ๋ องหลังจาก
รู ้เรื่ อง หัวเราะคิกคักขึ้นมา
สวีโย่วเองก็นึกถึงจุดนี้เช่นกัน แววตาปรากฏความเหยียดหยาม เขา
ยังคิดว่าพ่อเขารักใคร่ ลึกซึ้งกับพระชายามากมาย ที่แท้แล้วก็เป็ น
เช่นนี้ สตรี ขา้ งนอกผูน้ ้ นั เขาเคยเห็นภาพวาด เยาว์วยั กลับเยาว์วยั
อย่างยิง่ ตอนที่อยูก่ บั เสด็จพ่อของเขาเพิ่งจะอายุสิบสี่ ปี ตอนนี้กเ็ พิ่ง
จะอายุสิบแปดปี อายุมากกว่าน้องสาวลูกอนุภรรยาผูน้ ้ นั ของเขา
เพียงแค่สองสามปี ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นเสด็จพ่อของเขาลงมือ
ทาได้อย่างไร
เสิ่ นเวยจ้องมองสวีโย่ว กลอกดวงตาจากนั้นสี หน้าก็เคร่ งขรึ มลง
“ท่านเพิง่ จะบอกว่าบุรุษยังจะมีเรื่ องอะไรได้อีก เช่นนั้นท่านที่เป็ น
บุรุษใช่แอบเลี้ยงหวานใจอะไรคนรู ้ใจอะไรไว้ขา้ งนอกลับหลังข้า
หรื อไม่ หืมม์” มือทั้งคู่เท้าเอว คิ้วงามตั้งขึ้น ท่าทางเหมือนกาน้ าชา
สวีโย่วตกใจ ทันใดนั้นในดวงตาก็มปรากฏแววตาที่แปลกออกไป
“เรื่ องนี้ไม่มีจริ งๆ ข้าเป็ นคนเช่นไรเวยเวยยังไม่รู้อีกหรื อ” มือที่เรี ยว
ยาวอดลูบแก้มของเสิ่ นเวยอีกครั้งไม่ได้
เสิ่ นเวยแสยะปากปัดมือของเขาออก เขย่งปลายเท้าชี้จมูกเขากล่าว
“ท่านพูดความจริ งมา ข้ารับปากว่าจะไม่ตีท่านตาย!” ท่าทางโหดเ**
้้ยมทาให้สวีโย่วอยากจะกดนางจมอกแล้วกอดรัดฟัดเหวี่ยงเสี ย
จริ งๆ อืม ดีที่สุดก็คือสามารถกดไว้ใต้ร่างแล้วปู้ยปี่ ู้ยาสักหนึ่งรอบ
“เวยเวยต่อให้เจ้าตีขา้ ตายจริ งๆ ข้าก็ไม่มี!” ท่าทีของสวีโย่วไร้
ความผิด “เจ้าไม่รู้หรื อไร ข้ากลัวภรรยา ไหนเลยจะกล้าเลี้ยงหวาน
ใจหญิงรู ้ใจอะไรลับหลังเวยเวย เจ้าจะไม่แทงข้าพันรอบหมื่นรอบ
เลยหรื อ” เขาทาท่าทีหวาดกลัว
เสิ่ นเวยแทบจะหมดแรง กลัวภรรยางั้นหรื อ มารตนนี้ยงั กล้าพูด
จริ งๆ ซ้ ายังพูดด้วยความมัน่ อกมัน่ ใจเช่นนั้น แต่วา่ การพูดเช่นนี้เหตุ
ใดนางถึงได้ชอบเพียงนั้นเล่า แววตาของเสิ่ นเวยปรากฏรอยยิม้ วาง
ท่าทางว่าเจ้ารู ้ไว้กด็ ีแล้ว “หึๆ เชื่อท่านชัว่ คราวก็ได้”
ท่าทีพอใจนั้นทาให้มุมปากสวีโย่วกระดกขึ้น ชัว่ ขณะก็ดึงเสิ่ นเวย
เข้ามาในอ้อมอก ลูบไล้อย่างออกแรง กลิ่นหอมรัญจวนที่ฟ้งุ กระจาย
ทัว่ ปลายจมูกทาลายหมอกดาในใจเขา เวยเวย แม่นางที่เข้าอกเข้าใจ
เขา! เวยเวยของเขาจะต้องดูออกว่าเข้าไม่พอใจ จึงพูดติดตลกทาให้
เขามีความสุ ขเช่นนี้
หลังสวีโย่วกับเสิ่ นเวยไปแล้ว พระชายาจิ้นอ๋ องก็เช็ดน้ าตาร้องทุกข์
กับจิ้นอ๋ อง “ท่านอ๋ อง ท่านเห็นกับตาแล้ว ไม่ใช่ขา้ ที่ปฏิบตั ิต่อโย่ว
เอ๋ อร์สองสามีภรรยาไม่ดี แต่เห็นชัดๆ ว่าพวกเขาไม่เห็นข้าอยูใ่ น
สายตาแม้แต่นิดเดียว อย่างไรเสี ยข้าก็เป็ นแม่เลี้ยงของพวกเขา ข้าจะ
เอาหน้าไปวางไว้ที่ไหน!”
จิ้นอ๋ องเองก็เคร่ งขรึ มไม่พอใจ “พอแล้ว โย่วเอ๋ อร์สองสามีภรรยา
อายุยงั น้อย เจ้าก็ให้อภัยหน่อยเถิด” จุดอ่อนของตนอยูใ่ นกามือลูก
ชาย เขาไหนเลยจะมีความกล้าไปหนุนหลังพระชายา “รอพวกเขามี
ลูกของตัวเองแล้วก็จะรู ้ถึงความลาบากของผูเ้ ป็ นพ่อแม่” เขาปลอบ
พระชายาจิ้นอ๋ องเช่นนี้
ทว่าในใจกลับคิดเงียบๆ โย่วเอ๋ อร์รู้ได้อย่างไรว่าเขาเลี้ยงภรรยาน้อย
ไว้ขา้ งนอก รู ้เยอะเพียงใด ไม่ได้ ตรอกอวี๋ซู่ไม่อาจอยูไ่ ด้แล้ว พรุ่ งนี้
ต้องเปลี่ยนเรื อนให้มนั่ เอ๋ อร์
เสี ยงร้องไห้ของพระชายาจิ้นอ๋ องดังไม่ขาดสาย ฟันกรามด้านในบด
กระทบกัน “ข้ายังให้อภัยไม่มากพออีกหรื อ พวกเขาบอกว่าไม่
เคารพ ข้าก็ยกเว้นการเคารพของพวกเขา พวกเขาบอกว่าไม่ให้ขา้ ยุง่
เรื่ องในเรื อนพวกเขา ข้าก็ตามใจพวกเขา ต้องให้ขา้ ทาเช่นไรอีก ใช่
ข้าต้องคว้านหัวใจออกมายกให้พวกเขาตรงหน้าพวกเขาถึงจะพอใจ
หรื อไม่”
“พูดจาโทสะอันใด ข้ารู ้วา่ เจ้าลาบาก แต่ขา้ ก็ยนื อยูฝ่ ั่งเจ้ามิใช่หรื อ
กับลูกของเรามีอะไรให้คิดเล็กคิดน้อย กลับไปข้าจะไปพูดกับโย่ว
เอ๋ อร์ให้” จิ้นอ๋ องตบบ่าพระชายาอย่างขอไปที
ทว่าพระชายาจิ้นอ๋ องกลับยิง่ ถูกกระตุน้ ดึงแขนเสื้ อของจิ้นอ๋ อง “จาก
เรื่ องในวันนี้ แม้เสิ่ นซื่อจะเพิง่ เข้าจวน แต่นางก็เป็ นสะใภ้คนโต
น้องสะใภ้แพ้ทอ้ งนางก็ควรช่วยดูแลมิใช่หรื อ นางกลับไม่ทา ตน
ออกจากจวนไปเดินเล่น ยังมีโย่วเอ๋ อร์ ข้าคิดว่าเขาอยูบ่ นเขาหลงหู่
หลายปี เพียงนั้น ไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งสนิทกับผูเ้ ฒ่าหมอเทวดาหลาย
ส่ วนมิใช่หรื อ ยังไม่สามารถเชิญหมอเทวดาลงเขามาช่วยได้อีกหรื อ
เพียงแค่เรื่ องที่เอ่ยไปตามใจปาก เหตุใดถึงหลายเป็ นการฝื นใจเขา
แล้วเล่า เขาไม่ยอมช่วย ซ้ ายังหาข้ออ้างมากมาย นัน่ คือลูกคนแรก
ของน้องชายเขา ข้าคิดแล้วก็รู้สึกเจ็บปวด เหตุใดจิตใจของโย่วเอ๋ อร์
สองสามีภรรยาถึงได้เ**้้ยมโหดเพียงนั้น ไร้เมตตาเพียงนั้น” นาง
กุมหน้าสะอึกสะอื้นไห้
จิ้นอ๋ องจนปัญญาอย่างมาก ซ้ ายังถูกพระชายาจิ้นอ๋ องร้องไห้ใส่ จน
หงุดหงิดหลายส่ วน “พอแล้ว นิสยั ของโย่วเอ๋ อร์ไม่ใช่วา่ เจ้าไม่รู้ เป็ น
คนแปลกประหลาดที่สุด พรุ่ งนี้ขา้ จะเข้าวังไปขอให้เสด็จพี่ส่งหมอ
หลวงที่ชานาญด้านนี้มาดูแลที่จวน คราวนี้เจ้าก็วางใจได้แล้วใช่
หรื อไม่” เขาคาดหวังต่อทารกในครรภ์น้ ีของลูกสะใภ้สามเป็ นอย่าง
มาก
กว่าจะปลอบพระชายาให้สงบลงได้ จิ้นอ๋ องก็กลับไปยังเรื อนนอก
ประหนึ่งวิ่งหนี คิดแล้วคิดอีกก็ยงั คงไม่วางใจ เรี ยกบ่าวรับใช้เข้ามา
สัง่ ให้เขาไปหาเรื อนที่เหมาะสมแห่งใหม่พรุ่ งนี้เช้า มัน่ เอ๋ อร์อยูท่ ี่
ตรอกอวี้ซู่เขาไม่วางใจจริ งๆ!
หลังจากที่เสิ่ นเวยกับสวีโย่วออกจากจวนจงอู่โหว เสิ่ นเสวี่ยก็มาถึง
ทันที ก้มหน้างุด ดูท่าแล้วน่าจะทะเลาะกลับบ้านฝั่งมารดา
เมื่อเสิ่ นเสวี่ยเข้าประตูใหญ่จวนจงอู่โหวแล้วก็วิ่งตรงไปยังเรื อนซง
เฮ่อของย่านางทันที นายหญิงผูเ้ ฒ่าเห็นหลายสาวกลับมาเวลานี้ ก็
ตกใจสะดุง้ โหยง “เสวี่ยเอ๋ อร์ เกิดอะไรขึ้น สามีเจ้าไม่ได้กลับมา
พร้อมเจ้าหรื อ”
นายหญิงผูเ้ ฒ่าเพิ่งจะพูดจบ น้ าตาของเสิ่ นเสวี่ยก็หยดลงมา
“เป็ นอะไรไปเสวี่ยเอ๋ อร์ ทะเลาะกับสามีเจ้ามาหรื อ” คราวนี้นายหญิง
ผูเ้ ฒ่าก็ยงิ่ ลนลาน
เสิ่ นเสวี่ยเพียงแค่ส่ายหน้า ไม่พดู แม้แต่ประโยคเดียว นายหญิงผูเ้ ฒ่า
ร้อนใจแทบแย่แล้ว ชี้สาวใช้อี่ชุ่ยที่กลับมาพร้อมเสิ่ นเสวี่ยแล้วกล่าว
“เจ้าพูดมา แท้จริ งแล้วเกิดเรื่ องอะไรขึ้นกันแน่ นายเจ้าถูกใครรังแก
มา”
อี๋ชุ่ยโถมตัวคุกเข่า กล่าวด้วยความโมโห “นายหญิงผูเ้ ฒ่า อันที่จริ ง
แล้วเป็ นฮูหยินหย่งหนิงโหวที่รังแกคนเกินไปแล้ว นาง…นางไม่
แยกแยะผิดถูกก็ตบหน้าคุณหนูของพวกเราแล้วเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ ตบหน้าเสวี่ยเอ๋ อร์ง้ นั หรื อ” นายหญิงผูเ้ ฒ่าตกใจจนลุก
พรวดขึ้นมา ดึงหลานสาวเข้ามาดูหน้านางอย่างละเอียด มองเห็นรอย
ฝ่ ามือสี จางจริ งๆ นี่ตอ้ งใช้แรงมากเพียงใด! เรื่ องที่รับไม่ได้เช่นนี้
มิน่าเล่าเสวี่ยเอ๋ อร์ถึงไม่ยอมพูด
นายหญิงผูเ้ ฒ่าทั้งตกใจทั้งโมโห ฮูหยินหย่งหนิงโหว นี่ไหนเลยจะ
ตบหน้าเสวี่ยเอ๋ อร์ เห็นชัดๆ ว่าตบหน้าจวนจงอู่โหวต่างหาก “ไป
เชิญฮูหยินใหญ่มา” นางสัง่ ด้วยมาดขรึ ม เรื่ องเช่นการออกหน้าหนุน
หลังหลานสาวเช่นนี้ยอ่ มต้องตกเป็ นหน้าที่ของโหวฮูหยินสวี่ซื่อ
“ท่านย่า หลานไม่มีหน้าจะอยูต่ ่อไปแล้ว” เสิ่ นเสวี่ยโผเข้ามาในอ้อม
อกนายหญิงผูเ้ ฒ่าโหว ร่ าไห้อย่างเสี ยอกเสี ยใจ นางเสี ยใจจริ งๆ แม่
สามีปกป้องหญิงชัว่ ผูน้ ้ นั ยังไม่เท่าไร ทว่าแม้แต่สามีกไ็ ม่เรี ยกร้อง
ความยุติธรรมให้นางเลยสักคาเดียว นี่จะไม่ทาให้นางเสี ยใจได้
อย่างไร
“เด็กโง่ พูดจาเหลวไหลอะไร เจ้าวางใจ มียา่ อยูช่ ่วยเจ้า ไม่อาจทาให้
เจ้าได้รับความไม่เป็ นธรรมใดได้” นายหญิงผูเ้ ฒ่าลูบหลานสาวใน
อ้อมอกปลอบขวัญ
เสิ่ นเสวี่ยสะอื้นพูดจาออกมาไม่เป็ นประโยค เพียงแค่ซุกหน้าลงใน
อ้อมอกนายหญิงผูเ้ ฒ่า น้ าตาไหลเป็ นสาย
ช่วงนี้สวีซ่ ื่อยุง่ จริ งๆ เพิ่งจะส่ งหลานสี่ ออกจากเรื อน ก็จดั การเรื่ อง
สมรสให้ลูกชายของตนแล้ว ปี นี้ลูกชายอายุสิบเก้าปี แล้ว คนที่อายุ
เท่าเขาในเมืองหลวงแทบจะเป็ นพ่อคนกันหมดแล้ว ลูกก็วิ่งออกข้าง
นอกได้แล้ว แต่เขายังอยูต่ วั คนเดียว จะไม่ทาให้สวี่ซื่อทุกข์ใจได้
อย่างไร
นางวางแผนไว้ดีแล้ว แม้เชียนเอ๋ อร์จะอยูไ่ กลถึงซีเจียง ทว่าตั้งแต่
โบราณกาลเรื่ องมงคลสมรสก็เป็ นคาสัง่ ของพ่อแม่เป็ นวาจาของแม่
สื่ อ นางเห็นสมควรแล้วก็เป็ นคนกาหนด จากนั้นก็เชิญพ่อสามีหรื อ
สามียนื่ สาส์นกราบทูลต่อฝ่ าบาท ลูกชายเพียงแค่กลับมาสิ บวันครึ่ ง
เดือนก็สามารถจัดงานสมรสให้เสร็ จสรรพได้ แต่งงานแล้วนางก็ไม่
ต้องให้ลูกสะใภ้อยูร่ ับใช้ขา้ งกาย สองสามีภรรยากลับซีเจียงด้วยกัน
จึงจะถูกต้อง นางไม่ใช่แม่สามีที่ไม่มีความรู ้เหล่านั้น เก็บลูกสะใภ้ไว้
รับใช้ขา้ งกายจะให้กาเนิดบุตรได้อย่างไร ลูกชายแต่งงานก็ชา้ แล้ว
ทายาทจะช้าอีกไม่ได้ สองสามีภรรยารักใคร่ ปรองดองกันเป็ นเรื่ องดี
ยิง่ กว่าอะไรมิใช่หรื อ
ตอนที่หู่พวั่ เข้ามาเชิญนางนางกาลังหารื อถึงบุตรสาวที่ยงั ไม่ได้
แต่งงานของจวนต่างๆ ในเมืองหลวงกับแม่นมคนสนิท แม้นางจะ
ไม่ค่อยชอบหลานห้าผูน้ ้ ีนกั แต่กโ็ มโหตกใจอย่างถึงที่สุดเช่นกัน
เหนือสิ่ งอื่นใดก็คือศักดิ์ศรี ! ต่อให้เสวี่ยเอ๋ อร์จะไม่ดี นัน่ ก็คือคุณหนู
ที่ออกจากจวนจงอู่โหว จวนหย่งหนิงโหวของเจ้าหมายความว่า
อย่างไร ไม่เห็นจวนจงอู่โหวอยูใ่ นสายตาหรื อ
อีกอย่าง ผูเ้ ป็ นแม่สามีสามารถสัง่ สอนลูกสะใภ้ได้ แต่ทวั่ เมืองหลวง
ก็ไม่เคยได้ยนิ ว่ามีแม่สามีตระกูลใดตบหน้าลูกสะใภ้ อย่าว่าแต่
ตระกูลสู งศักดิ์ แม้แต่ชาวบ้านธรรมดาที่มีเหตุมีผลก็ทาเรื่ องเช่นนี้
ไม่ได้ ในใจสวี่ซื่อเต็มไปด้วยความเหยียดหยามฮูหยินหยงหนิง
โหวอวี้ซื่อ
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 236-2 ท่ านพูดความจริง ข้ ารับปากว่าจะ
ไม่ ตีท่านตาย
สวี่ซื่อเร่ งฝี เท้ามายังเรื อนซงเฮ่อ เสิ่ นเสวี่ยล้างหน้าล้างตาใหม่อีกรอบ
แล้ว แต่ร่องรอยการร้องไห้กย็ งั คงเห็นได้ชดั เจน
“ท่านแม่ เกิดเรื่ องอะไรขึ้น อวี้ซื่อผูน้ ้ นั ก็โหดเ**้้ยมจริ งๆ” สวี่ซื่อ
เห็นรอยฝ่ ามือบนใบหน้าของเสิ่ นเสวี่ย คิ้วก็ขมวดมุ่นขึ้นก่อน
เสิ่ นเสวี่ยร้องเรี ยกท่านป้าสะใภ้ใหญ่หนึ่งคราจากนั้นก็สะอื้นไห้พดู
ไม่ออกแล้ว นางเบือนหน้าหนี ปล่อยให้น้ าตาไหลลงเงียบๆ
“อี่ชุ่ย เจ้ามาพูด แท้จริ งแล้วเป็ นเพราะเหตุใดฮูหยินหย่งหนิงโหวผู ้
นั้นถึงได้เกรี้ ยวกราดใส่ เสวี่ยเอ๋ อร์ เพิ่งแต่งเข้าไปได้ไม่กี่เดือน เสวีย่
เอ๋ อร์กผ็ อมลงไปมาก หากอยูต่ ่อไปเช่นนี้จะไม่ถูกทรมานจนตาย
หรื อไร” นายหญิงผูเ้ ฒ่าตบพนักเก้าอี้ พูดอย่างเคียดแค้น
อี่ชุ่ยรี บกล่าวตอบ “นายหญิงผูเ้ ฒ่า ฮูหยิน ตั้งแต่คุณหนูแต่งเข้าจวน
หย่งหนิงโหว ท่านเขยก็ปฏิบตั ิต่อคุณหนูดีอย่างยิง่ ไม่วา่ เรื่ องอะไรก็
มาปรึ กษาหารื อกับคุณหนู แม้วา่ ฮูหยินจะเห็นคุณหนูไม่เข้าตานัก
แต่เริ่ มแรกก็ยงั ดี เพียงแค่พดู จาไม่เข้าหูเล็กน้อย ทานองว่าสตรี ที่แต่ง
เข้ามาตระกูลนั้นตระกูลนี้มีสินเดิมเท่าไร คุณหนูลว้ นแต่กดั ฟัน
อดทน ไม่กล้าบอกท่านเขย ผ่านไปเรื่ อยๆ ฮูหยินน่าจะคิดว่าคุณหนู
นิสยั ดี จึงกาเริ บเสิ บสานขึ้นมา วันทั้งวันให้คุณหนูไปยืนปรนนิบตั ิ
อยูใ่ นห้องนาง ตั้งแต่เช้าตรู่ จนกลางดึกจึงจะปล่อยคุณหนูกลับเรื อน
อีกทั้งนางยังแต่งตั้งสาวใช้ใหญ่ขา้ งกายท่านเขยขึ้นเป็ นอี๋เหนียง
คุณหนูไม่เห็นด้วย นางก็เอะอะโวยวาย บอกว่าคุณหนูริษยา
มิหนาซ้ ายังบอกว่าจวนโหวของพวกเราสัง่ สอนมาอย่างไร คุณหนู
เพียงแค่พดู สองประโยค นางก็ตาหนิวา่ คุณหนูอกตัญญู ทั้งยังใส่ ร้าย
ว่านางเถียงตนต่อหน้าท่านเขย ทาให้ท่านเขยเข้าใจคุณหนูผดิ โชคดี
ที่ภายหลังทาความเข้าใจกันแล้ว ท่านเขยเองก็ขอโทษกับคุณหนูจาก
ใจจริ ง…
…คุณหนูเห็นแก่หน้าของท่านเขยจึงอดทนทุกอย่าง เพียงแต่ครั้ง
นี้…” อี่ชุ่ยพูดอึกๆ อักๆ ขึ้นมา คล้ายกับว่าลาบากอย่างถึงที่สุด
“เจ้าพูดความจริ งมาก็พอ นี่คือจวนของเรา ยังจะมีใครมาทาอะไรเจ้า
ได้อีก” สวี่ซื่อเองก็โมโหแล้ว ช่างเปิ ดโลกจริ งๆ โหวฮูหยินงั้นหรื อ
ความจริ งแล้วก็เป็ นแค่แม่ยายอามหิตในชนบทก็เท่านั้นเอง
อี่ชุ่ยรวบรวมความกล้าเล่าต่อไป
ที่แท้แล้วเรื่ องในวันนี้กเ็ กี่ยวข้องกับจ้าวเฟยเฟยลูกน้องสาวของอวี้
ซื่ออย่างไม่น่าเชื่อ
ปี ที่แล้ว จ้าวเฟยเฟยวิ่งมาหาที่พ่ งึ เพื่อที่จะหาคู่หมั้นคู่หมายที่ดี
อวี้ซื่อปฏิบตั ิต่อหลานสาวผูน้ ้ ีไม่เลวอย่างยิง่ ขอเพียงแค่ออกไปเป็ น
แขกก็จะพานางไปด้วย จ้าวเฟยเฟยอยูใ่ นช่วงวัยที่ควรหมั้นหมาย
คนเองก็หน้าตาดี ดูท่าทางเป็ นเด็กดีเชื่อฟัง ย่อมต้องมีฮูหยินตระกูล
ต่างๆ เข้ามาถามไถ่
เมื่อได้ยนิ ว่าแม่นางผูน้ ้ ีเป็ นเพียงลูกน้องสาวของอวี้ซื่อ บิดาก็เป็ น
เพียงขุนนางเล็กๆ ไม่สาคัญ ฮูหยินที่ถามไถ่ส่วนใหญ่กไ็ ม่สนใจ
ส่ วนคนที่สนใจ ไม่เป็ นบุตรชายในตระกูลที่ไม่ได้เรื่ อง ก็เป็ นบุตร
อนุภรรยาที่อยากหมั้นหมายแต่ไม่มีอนาคต
จ้าวเฟยเฟยไม่ชอบ อวี้ซื่อก็ยงิ่ ไม่ชอบ จากมุมมองของนาง ลูกน้อง
สาวผูน้ ้ ีของนางทั้งฉลาดทั้งปราดเปรี ยว ซ้ าหน้าตาก็โดดเด่น หน้าที่
ของภรรยาก็ทาได้ นางยังหวังว่าลูกน้องสาวผูน้ ้ ีจะแต่งเข้าตระกูลสู ง
เพื่อเป็ นแรงสนับสนุนแก่ลูกชายของนางได้
จ้าวเฟยเฟยสตรี ผนู ้ ้ ีอย่าว่าแต่อายุนอ้ ย แต่ยงั ฉลาดเฉี ยบแหลม
มองเห็นความเป็ นจริ งยิง่ กว่าป้านางเสี ยอีก นางรู ้วา่ ด้วยฐานะใน
ตระกูลของนางคิดอยากจะแต่งสามีสูงศักดิ์เป็ นเรื่ องยากอย่างยิง่ นาง
จึงจับจ้องลูกผูพ้ ี่ของนาง…ซื่อจื่อจวนหยงหนิงโหวเว่ยจิ่นอวี้
นางวางแผนในใจไว้แล้ว แต่งกับบุตรอนุภรรยาถูกแม่เลี้ยงบีบบังคับ
ทรมานเคียดแค้นไปตลอดชีวิต แต่งงานกับบุตรภรรยาหลวงที่ไม่ได้
ความก็ตอ้ งโมโหกับเรื่ องไม่เป็ นเรื่ องไปทั้งชีวิต แทนที่จะเป็ นเช่นนี้
ไม่สู้เป็ นอยุภรรยาของลูกผูพ้ ี่เสี ย
ลูกผูพ้ ี่หน้าตาโดดเด่น ซ้ ายังมีความรู ้ความสามารถ จวนหย่งหนิง
โหวมีเขาเป็ นบุตรภรรยาหลวงเพียงคนเดียว ในภายหน้าจวนหย่งห
นิงโหวทั้งหมดล้วนต้องตกเป็ นของเขา
นางกับญาติผพู ้ ี่เป็ นลูกพี่ลูกน้อง มีความสัมพันธ์ข้ นั นี้ นางจะต้อง
เป็ นอนุภรรยาศักดิ์สูงได้แน่นอน แม้จะบอกว่าเป็ นภรรยาเอกไม่ได้ก็
น่าเสี ยดายเล็กน้อย แต่ฮูหยินหย่งหนิงโหวเป็ นป้านาง อีกทั้งท่านป้า
ยังวางท่าทีชดั เจนว่าไม่ชอบภรรยาลูกผูพ้ ี่ ถึงตอนนั้นก็จะต้องถือหาง
นางมิใช่หรื อ ขอเพียงแค่นางสามารถมีบุตรก่อนภรรยาลูกผูพ้ ี่ได้
อาศัยท่านป้า ไม่แน่วา่ จวนหย่งหนิงโหวแห่งนี้กจ็ ะตกอยูใ่ นมือลูก
นางได้เช่นกัน
เมื่อคิดเช่นนี้ ไม่วา่ อย่างไรก็คุม้ ค่า ด้วยเหตุน้ ีจา้ งเฟยเฟยจึงเริ่ ม
ปฏิบตั ิการ วันนี้ปักผ้าเช็ดหน้าให้ลูกผูน้ ้ ี พรุ่ งนี้ส่งน้ าแกงบารุ ง
ร่ างกายให้ลูกผูพ้ ี่ วันมะรื นเอาบทกลอนไปให้ลูกผูพ้ ี่สอนที่หอ้ ง
หนังสื อ
ทาเสิ่ นเสวี่ยรังเกียจแทบแย่ นางเป็ นภรรยา ไหนเลยจะไม่เข้าใจ
เจตนาของจ้าวเฟยเฟย แพศยาน้อยผูน้ ้ นั แทบจะแสดงอานาจในเรื อน
นางอยูแ่ ล้ว แม่สามีไม่ชอบนางเช่นนั้น ในนั้นก็มีฝีมือของลูกผูน้ อ้ ง
คนนี้ดว้ ยเช่นกัน
เสิ่ นเสวี่ยเอ่ยเรื่ องนี้กบั สามีสองประโยคอย่างเป็ นนัย เว่ยจิ้นอวี้ยงั
หัวเราะบอกว่านางคิดมากไปแล้ว บอกว่าเฟยเฟยยังเป็ นเด็ก บอกว่า
แม่เขากาลังดูคู่หมั้นให้นางอยู่
เสิ่ นเสวี่ยอดโมโหไม่ได้ ยังเป็ นเด็กงั้นหรื อ เป็ นหญิงสาวอายุสิบสี่
แล้ว ในจวนใครบ้างมองเจตนาของญาติผนู ้ อ้ งคนนี้ไม่ออก มีแค่แม่
สามีกบั สามีนางต่างหากที่ตาบอดทั้งคู่
บ่ายวันนี้กว่านางจะปลีกตัวออกมาจากเรื อนแม่สามีได้ ตั้งใจต้มน้ า
แกงบารุ งร่ างกาย จากนั้นก็แต่งหน้าแต่งตัว เตรี ยมจะไปสร้างความ
ประหลาดใจให้สามีที่หอ้ งหนังสื อ
แต่เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ นางเห็นอะไร นางเห็นสามีของนางกาลังจับมือ
ของจ้าวเฟยเฟยลูกผูน้ อ้ งคนนี้เขียนหนังสื อ รอยยิม้ บนใบหน้านั้น
บาดจนดวงตานางเจ็บปวด ในใจบีบแน่น นางอยากจะหันหลัง
กลับไปจริ งๆ อยากจะมองไม่เห็นฉากนี้เสี ยดีกว่า
แต่เมื่อย้อนคิดดู นางกับสามีจึงจะเป็ นสามีภรรยาที่ถูกต้อง เหตุใด
นางจะต้องใจฝ่ อถอยออกไป ไม่ใช่จะเป็ นการเสี ยเปรี ยบนังมาร
น้อยหน้าไม่อายผูน้ ้ ีหรื อ
เข้าห้องมาแล้วเสิ่ นเสวี่ยย่อมเห็นจ้าวเฟยเฟยไม่เข้าตา เพิง่ จะเสี ยดสี
นางไปสองประโยค นังมารน้อยตนนั้นก็ร้องห่มร้องไห้บอกว่านาง
เกลียดตน ใส่ ร้ายป้ายสี ตน ตั้งใจจะทาลายชื่อเสี ยงของนาง แม้แต่
สามีกย็ งั ใช้สายตาไม่เห็นด้วยมองนาง
ทาให้เสิ่ นเสวี่ยโมโหแทบแย่ นางต้องโทษนางหรื อ หรื อไม่ใช่วา่
ลูกผูน้ อ้ งหน้าไม่อายผูน้ ้ ีวิ่งแจ้นเข้ามาในห้องหนังสื อของบุรุษ ใช้
ข้ออ้างสอนหนังสื อบังหน้า เมื่อครู่ ร่างกายนั้นแทรกเข้าไปในอ้อม
อกสามีนางแล้ว ยังเป็ นคุณหนูสูงศักดิ์อะไรอีก ใจกล้ายิง่ กว่าหญิง
ขับเพลงเหล่านั้นข้างนอกเสี ยอีก ขายหน้าคนยิง่ นัก
เสิ่ นเสวี่ยโมโหจนพูดไม่ออก จ้าวเฟยเฟยผูน้ ้ นั ก็ตอ้ งการให้นาง
โวยวายขึ้นมา จึงใส่ ไฟพูดจายุยงเล็กน้อย ชัว่ ขณะเสิ่ นเสวี่ยก็ลงมือ
ผลักนางหนึ่งคราอย่างทนไม่ได้
คราวนี้กแ็ ย่แล้ว จ้าวเฟยเฟยร้องไห้วิ่งออกไป ผ่านไปไม่นานสาวใช้
ข้างกายอวี้ซื่อแม่สามีผนู ้ ้ นั ของนางก็มาเชิญนางไปแล้ว ซ้ ายังไม่ถาม
เหตุผลก็ฟังแต่ความข้างเดียวของจ้าวเฟยเฟย ตินางว่าไร้คุณธรรม
แม้แต่ญาติกย็ อมรับไม่ได้ ไม่เห็นผูเ้ ป็ นแม่สามีผนู ้ ้ ีอยูใ่ นสายตา
เสิ่ นเสวี่ยอธิบายสองประโยอย่างอดไม่ได้ อวี้ซื่อผูน้ ้ นั ก็ไม่ฟังไม่พดู
ซ้ ายังยกมือตบหน้านางคราหนึ่ง นางเองก็ถูกเลี้ยงมาอย่างตามอก
ตามใจ ไหนเลยจะเคยได้รับความไม่เป็ นธรรมเช่นนี้ ไม่เพียงแต่
ได้รับความไม่เป็ นธรรมซ้ ายังอัปยศอดสู อีกด้วย ส่ วนตัวต้นเรื่ องผู ้
นั้นกลับยืนอยูห่ ลังคนอื่นส่ งสายตายัว่ ยุมาให้นาง ตอนนั้นสมองของ
เสิ่ นเสวี่ยเกิดเสี ยงดังซ่าหนึ่งคราจากนั้นก็ขาวโพลน เบื้องหน้าดามืด
ไม่รับรู ้อะไรทั้งสิ้น ก่อนตกอยูใ่ นความดามืดนางยังได้ยนิ เสี ยงที่
ประชดประชันของแม่สามีนาง ‘ทาผิดแล้วคิดว่าแสร้งเป็ นลมจะหนี
พ้นหรื อ อย่าแม้แต่จะคิด’
ยังมีจา้ วเฟยเฟยที่พดู ปลอบใจอย่างเสแสร้ง ‘ท่านป้า ลูกผูพ้ ี่ ล้วนเป็ น
ความผิดของเฟยเฟย หากพี่สะใภ้ยอมรับเฟยเฟยไม่ได้ เฟยเฟยกลับ
บ้านคงดีกว่า’
จากนั้นก็เป็ นเสี ยงพูดจาปลอบขวัญของสามีผอู ้ ่อนโยนดัง่ หยกผูน้ ้ นั
ของนาง
สิ่ งที่ทาให้เสิ่ นเสวี่ยผิดหวังก็คือตอนที่นางฟื้ นขึ้นมา ในห้องมีเพียงอี่
ชุ่ยอี่หงสาวใช้ออกเรื อนสองคนที่นางพามาจากบ้านฝั่งมารดา สามี
ของนางไม่มาดูนางแม้แต่ปราดเดียว นางเอ่ยถาม อี่ชุ่ยจึงกล่าวอย่าง
อึกๆ อักๆ ‘ท่านซื่อจื่ออยูใ่ นเรื อนฮูหยินเจ้าค่ะ’ นางยังมีอะไรไม่
เข้าใจอีก
นางล้มกลับลงไปบนเตียงด้วยร่ างทั้งร่ างที่อ่อนแรง จ้องมองม่าน
เตียงด้วยแววตาที่วา่ งเปล่า ยิง่ คิดก็ยงิ่ ไม่ยนิ ยอม เป็ นเพราะจ้าวเฟย
เฟยคนเดียว เป็ นเพราะนังมารน้อยหน้าไม่อายผูน้ ้ ีที่ล่อลวงสามีของ
นาง
ด้วยเหตุน้ ีภายใต้ความโกรธนางจึงพาอี่ชุ่ยกลับบ้านฝั่งมารดา ส่ วนอี่
หง ย่อมต้องทิ้งไว้เฝ้าเรื อน เลี่ยงไม่ให้ยามที่นางไม่อยู่ ปี ศาจป้า
หลานคู่น้ นั มาขนของในเรื อนนางออกไปจนหมด
“มีอย่างนี้ที่ไหนกัน หน้าไม่อายเกินไปแล้วจริ งๆ” นายหญิงผูเ้ ฒ่าฟัง
จนหน้าเขียวจัด ไม่รู้กฎระเบียบจริ งๆ ญาติผนู ้ อ้ งที่ขออาศัยกับญาติ
เช่นเจ้าไม่สงบเสงี่ยมเจียมตัว ไม่เพียงแต่วางแผนล่อลวงญาติผพู ้ ี่ ซ้ า
ยังเสี้ ยมเขาควายให้ชนกัน สมกับที่เป็ นลูกน้องสาวตระกูลตกอับนัน่
“เสวี่ยเอ๋ อร์ไม่ตอ้ งกลัว วันนี้เจ้าอยูใ่ นจวน หากจวนหย่งหนิงโหวไม่
มาขอโทษถึงที่ล่ะก็ เหอะ!” ความหมายนั้นไม่พดู ก็รู้ หันหน้าตาหนิ
ลูกคนเล็กของตน “พ่อเจ้าก็เหมือนกัน หาคู่สมรสอะไรมาให้เจ้า ไร้
กฎระเบียบเกินไปแล้ว”
นางลืมไปอย่างสิ้ นเชิงว่าคู่สมรสนี้ไหนเลยจะเป็ นเสิ่ นหงเซวียนที่หา
มาให้เสิ่ นเสวี่ย เห็นชัดๆ ว่าเป็ นเสิ่ นเสวี่ยที่ใช้อุบายแย่งชิงมา
บนใบหน้าของเสิ่ นเสวี่ยมีความกลืนไม่เข้าคายไม่ออก กัดริ มฝี ปาก
ไม่พดู จา
แม้วา่ โหวฮูหยินสวี่ซื่อจะรู ้สึกว่าไม่อาจฟังความหลานสาวข้างเดียว
แต่เบื้องลึกในใจนางก็โมโหเป็ นอย่างยิง่ ไม่วา่ อย่างไรก็ตาม เรื่ อง
เช่นลูกผูพ้ ี่ลูกผูน้ อ้ งนี้กถ็ ือเป็ นข้อห้ามของนางจริ งๆ คิดถึงตอนที่นาง
เพิ่งจะแต่งเข้ามาในจวนจงอู่โหว บ้านฝั่งมารดาของแม่สามีกม็ ี
ลูกผูน้ อ้ งมาขอเป็ นอนุภรรยาของสามี อุบายนั้นออกมาเรื่ อยๆ ทาให้
นางอัดอั้นจนมีแม้กระทัง่ ความคิดจะแขวนคอตาย ท้ายที่สุดแม้จะส่ ง
ลูกผูน้ อ้ งที่น่ารังเกียจผูน้ ้ นั ออกไปได้ แต่ในใจนางก็มีเงาดาทิ้งไว้ ทน
เห็นลูกผูพ้ ี่ลูกผูน้ อ้ งมีความสัมพันธ์กนั ไม่ได้ที่สุด
“เสวี่ยเอ๋ อร์สงบจิตใจอยูใ่ นจวนเถิด เรื่ องนี้มียา่ กับป้าสะใภ้ใหญ่
ช่วยเหลือเจ้า กูไหน่ไนจวนจงอู่โหวของพวกเราเองก็ไม่อาจรังแกได้
ง่ายเพียงนั้น” สวี่ซื่อเองก็ลุกขึ้นแสดงจุดยืน “เสวี่ยเอ๋ อร์ยงั ไม่ทาน
ข้าวเย็นใช่หรื อไม่ ลัว่ สยา รี บไปบอกครัวใหญ่ เตรี ยมอาหารดีๆ
หนึ่งโต๊ะมาต้อนรับกูไหน่ไนห้าของพวกเรา”
เสิ่ นเสวี่ยขอบคุณท่านป้าสะใภ้ใหญ่แล้ว กลับไปยังเรื อนที่ตนเคยอยู่
ก่อนออกเรื อนภายใต้การพยุงของสาวใช้ นัง่ อยูใ่ นห้องที่อยูม่ าสิ บ
กว่าปี นางกลับรู ้สึกว่าของยังอยูเ่ หมือนเดิมแต่คนกลับไม่อยูแ่ ล้ว
จิตใจล่องลอย ตอนนี้นางเพิ่งจะเข้าใจ ไม่ใช่วา่ นางแต่งออกไปแล้ว
จะสามารถตัดความสัมพันธ์กบั บ้านฝั่งมารดาได้ หากไม่ใช่วา่ มีบา้ น
ฝั่งมารดาที่มีอานาจ นางจะต้องไปที่ใด
เพราะว่าในใจนางเข้าใจ นางจึงยิง่ รู ้สึกเลื่อนลอย!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 237-1 กองทหารเด็กมาหาแล้ว
เว่ยจิ่นอวี้กลับมาจากเรื อนมารดากลับพบว่าทัว่ ทั้งเรื อนเงียบสงัด เขา
เดินวนอยูใ่ นห้องหนึ่งรอบไม่พบเสิ่ นเสวี่ย อดประหลาดใจไม่ได้
“ซื่อจื่อฮูหยินเล่า”
อี่หงที่เป็ นกังวลอยูก่ ร็ ี บเข้ามาบอก “เรี ยนท่านซื่อจื่อ ซื่อจื่อฮูหยิน ฮู
หยินกลับบ้านฝั่งมารดาแล้วเจ้าค่ะ” พูดประโยคนี้จบนางก็กม้ หน้า
ลง ในใจกระวนกระวาย กลัวจะถูกท่านซื่อจื่อพาลโมโหใส่
เป็ นดังคาด เว่ยจิ่นอวี้ได้ยนิ แล้วก็ขมวดคิ้วมุ่น แต่กลับไม่ได้พาล
โมโห เพียงแค่โบกมือให้อี่หงถอยออกไป
เว่ยจิ่นอวี้นงั่ ลงบนเก้าอี้ รู ้สึกว่าทัว่ ทั้งห้องเงียบอย่างถึงที่สุด ในใจ
ตาหนิเสิ่ นเสวี่ยขึ้นมาเงียบๆ เขาทุ่มเทแรงไปมากว่าจะปลอบท่านแม่
และญาติผนู ้ อ้ งได้ ทว่าภรรยากลับกระฟัดกระเฟี ยดวิง่ กลับบ้านฝั่ง
มารดา ท่านแม่ตบหน้านางก็เกินไปเล็กน้อย แต่นางเป็ นลูกสะใภ้
เหตุใดถึงไม่อดทนเสี ยหน่อยเล่า ไม่คิดบ้างหรื อว่าเขาลาบากใจยิง่
นัก ช่างไม่รู้ประสาเกินไปแล้วจริ งๆ
ยังมีเรื่ องในวันนี้ เป็ นภรรยาของเขาที่ก่อเรื่ องทั้งสิ้ น ญาติผนู ้ อ้ ง
เด็กผูห้ ญิงคนหนึ่ง เพียงแค่ไปขอคาแนะนาจากเขาที่หอ้ งหนังสื อ
ตนเห็นอักษรที่นางเขียนดูไร้พลังเล็กน้อย จึงถือโอกาสสอนนาง
ชัว่ ขณะ พวกเขาบริ สุทธิ์ใจ ไหนเลยจะทาตัวน่ารังเกียจเหมือนอย่าง
ที่ภรรยาของเขาพูด
ญาติผนู ้ อ้ งเป็ นเด็กผูห้ ญิง หน้าบาง ไหนเลยจะทนรับคาสบประมาท
เสี ยดสี ของอาเสวีย่ ได้ เพียงแค่อธิบายไม่กี่คา เสิ่ นซื่อก็เดือดดาลลง
มือผลักคน อย่าว่าแต่ญาติผนู ้ อ้ งรับไม่ได้ แม้แต่เขาที่เป็ นสามีเองก็
หน้าร้อนผ่าวเช่นกัน
ภรรยาลูกผูพ้ ี่ลงมือกับญาติผนู ้ อ้ ง คาพูดนี้พดู ง่ายแต่ไม่น่าฟัง!
มิน่าเล่าเสด็จแม่ถึงได้โมโหเพียงนั้น แต่เขาจะทาอย่างไรได้ ฝั่งหนึ่ง
เป็ นมารดากับญาติผนู ้ อ้ ง ฝั่งหนึ่งเป็ นคนที่นอนอยูข่ า้ งเขา เขาทาได้
เพียงเลือกที่จะปลอบมารดาก่อน คิดว่าปลอบมารดาเสร็ จแล้วค่อย
กลับไปปลอบขวัญภรรยา ใครจะรู ้เมื่อเขากลับมาภรรยากลับดื้อรั้น
วิ่งกลับบ้านฝั่งมารดาแล้ว
เมื่อคิดว่าต้องไปรับคนที่จวนจงอู่โหว เว่ยจิ่นอวี้กป็ วดหัวอย่างถึง
ที่สุด พ่อตาผูน้ ้ นั ของเขายังดี เป็ นมิตรอ่อนโยนต่อเขา ทว่านายท่านผู ้
เฒ่าโหวกับน้องชายคนเล็กของภรรยาผูน้ ้ นั ของเขากลับทาให้รู้สึก
อึดอัดอย่างยิง่ แม้ปากนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวจะไม่ได้พดู อะไร ดูคล้าย
ปฏิบตั ิต่อเขาเหมือนกับหลานเขยคนอื่นๆ แต่เขาก็สมั ผัสได้อย่าง
ชัดเจนว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวไม่ค่อยชอบเขานัก ยังมีนอ้ งชายคนเล็ก
ของภรรยาผูน้ ้ นั สายตาที่มองเขาน่าสะพรึ งกลัว ราวกับมองกากเดน
ทาให้เขาเกิดความรู ้สึกไม่ชอบในใจ
ภรรยาโมโหกลับบ้านฝั่งมารดา นี่ทาให้เว่ยจิ่นอวี้ท้ งั โกรธทั้งรู ้สึก
เสี ยหน้า แต่เรื่ องนี้กไ็ ม่อาจปกปิ ดความจริ งได้ เว่ยจิ่นอวี้ลุกขึ้นอีก
ครั้งไปยังเรื อนมารดาของเขา ตลอดทางใคร่ ครวญในใจว่าพูด
อย่างไรจึงจะเหมาะสม เขายังไม่รู้วา่ มารดาของเขาได้ข่าวเรี ยบร้อย
แล้ว
ในเรื อนหลังอวี้ซื่อโกรธจนแทบจะคว่าโต๊ะ “หญิงตัวซวยหน้าไม่
อายผูน้ ้ ี นางยังมีหน้ากลับบ้านฝั่งมารดา ดี ดี ดี นางเก่งนักมิใช่หรื อ
เช่นนั้นก็อยูท่ ี่บา้ นฝั่งมารดาไปตลอดชีวิตเสี ย จวนหย่งหนิงโหวของ
ข้าไม่ตอ้ งการสะใภ้ที่สูงศักดิ์เช่นนี้”
จ้าวเฟยเฟยรู ้สึกผิดทั้งใบหน้า “ท่านป้า ข้ากลับบ้านดีกว่าเจ้าค่ะ ข้ารู ้
ว่าท่านกับลูกผูพ้ ี่ต่างก็รักข้า แต่พี่สะใภ้คล้ายไม่ชอบข้านัก อย่าให้
ท่านต้องลาบากใจเพราะข้าเลย พี่สะใภ้เป็ นคนดี เฟยเฟยเองที่ไม่ดี
ทาให้พี่สะใภ้โมโหตลอด” นางกล่าวด้วยท่าทีน่าสงสาร ราวกับว่า
อีกไม่ชา้ ก็จะร้องไห้ออกมาแล้ว
อวี้ซื่อตบมือลงบนโต๊ะ “จะไปไหน ตระกูลนี้ยงั ไม่ถึงตานางดูแล ป้า
เจ้ายังไม่ตาย เจ้าวางใจเถิด ข้าจะดูสิวา่ คนไหนกล้าไล่เจ้าไป” เดิมอวี้
ซื่อก็เห็นเสิ่ นเสวี่ยไม่เข้าตาอยูแ่ ล้ว ตอนนี้กย็ งิ่ ไม่ชอบนางมากขึ้น
ไม่ใช่อาศัยบ้านฝั่งมารดากุมอานาจหรอกหรื อ เหอะ ยังคิดว่าจะเป็ น
เหมือนเมื่อก่อนหรื อ หลิวซื่อเข้าห้องพระเล็กแล้ว ข้าจะดูสิวา่ ใครจะ
มาหนุนหลังให้เจ้า
“ท่านป้า ท่านดีกบั เฟยเฟยจริ งๆ! หลังจากนี้เฟยเฟยจะเชื่อฟังท่าน
แน่นอน” ใบหน้าเล็กๆ เท่าฝ่ ามือของจ้าวเฟยเฟยเต็มไปด้วยความ
ซาบซึ้ง “แต่เพราะว่าท่านป้าดีต่อเฟยเฟย ในใจเฟยเฟยเลยยิง่ ลาบาก
ใจ อย่างไรเสี ยก็เป็ นเพราะเฟยเฟยพี่สะใภ้ถึงได้โมโหกลับบ้านฝั่ง
มารดา”
อวี้ซื่อจับมือจ้าวเฟยเฟยปลอบโยน “เด็กดี ยังคงเป็ นเจ้าที่รู้ประสา
หากพี่สะใภ้ผนู ้ ้ นั ของเจ้ามีเหตุผลได้สกั ครึ่ งหนึ่งของเจ้า ข้าก็คง
โมโหน้อยลงได้บา้ ง”
ตอนที่เว่ยจิ่นอวี้เข้ามาได้ยนิ ประโยคนี้ของมารดาเขาพอดี อดทาหน้า
เหยเกไม่ได้ “ท่านแม่ ท่านทราบแล้ว”
อวี้ซื่อปรายตามองลูกชายปราดหนึ่ง กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เจ้าเอง
ก็ไม่รู้จกั ดูแลภรรยา ดูสิทาให้ญาติผนู ้ อ้ งเจ้าได้รับความไม่เป็ นธรรม
นางยังมีหน้ากลับบ้านฝั่งมารดาอีก เพ่ย!”
เว่ยจิ่นอวี้รีบปั้นหน้ายิม้ “เสิ่ นซื่อไม่รู้ประสา ท่านแม่โปรดให้อภัย
ทั้งหมดลูกจะรับไว้เอง กลับไปลูกจะให้นางมาริ นน้ าชาขอโทษ
ท่าน”
อวี้ซื่อแค่นเสี ยงหนึ่งครา “มิบงั อาจ คนเป็ นถึงสตรี สูงศักดิ์จวนจงอู่
โหว ไหนเลยจะเห็นแม่สามีเช่นข้าอยูใ่ นสายตา อีกอย่าง นางจะขอ
โทษข้าหรื อไม่ไม่ใช่เรื่ องสาคัญ ครั้งนี้คนที่นางล่วงเกินก็คือญาติผู ้
น้องเจ้า ญาติผนู ้ อ้ งเจ้าเป็ นสตรี ที่ยงั ไม่ออกเรื อน วาจาเช่นนั้นของ
เสิ่ นซื่อไม่ใช่ทาลายชื่อเสี ยงของนางหรื อ จิตใจอามหิ ตเกินไปแล้ว”
สี หน้าของเว่ยจิ่นอวี้ไม่ดียงิ่ ขึ้น เสิ่ นซื่อเอ่ยวาจาเหล่านั้นเขาเองก็ได้
ยินแล้ว ยัว่ ยวนเอย หญิงชัว่ เอย นังมารน้อยต่างๆ นานาเอย หยาบ
คายจนเขาที่เป็ นบุรุษอยากจะปิ ดหูอย่างยิง่ นับประสาอะไรกับญาติผู ้
น้องที่อ่อนโยนเล่า
“ญาติผนู ้ อ้ ง เป็ นพีท่ ี่ผดิ เอง พี่ขอโทษแทนเจ้าด้วย เจ้าเป็ นผูใ้ หญ่ใจ
กว้าง ก็ให้อภัยนางครั้งนี้เถิด” เว่ยจิ่นอวี้กม้ ศีรษะต่าให้จา้ วเฟยเฟย
ขอโทษจากใจจริ ง
จ้าวเฟยเฟยรี บเบี่ยงตัวหลบ โบกมือกล่าวอย่างร้อนใจ “มิบงั อาจ เฟย
เฟยจะให้ท่านพี่ขอโทษแทนได้อย่างไร ไม่โทษพี่สะใภ้ เป็ น
ความผิดของเฟยเฟยเอง เฟยเฟยมีเพียงน้องชาย ไม่มีพชี่ าย ตั้งแต่เล็ก
ก็หวังจะมีพี่ชายที่รักตัวเอง หลังจากมาจวนหย่งหนิงโหว ท่านพี่กด็ ี
กับเฟยเฟยเพียงนั้น เฟยเฟยเห็นท่านพี่เป็ นพี่ชายแท้ๆ จริ งๆ อาจ
เพราะว่าเป็ นเช่นนี้พี่สะใภ้จึงเข้าใจผิด หลังจากนี้เฟยเฟยจะพยายาม
ไม่ไปรบกวนท่านพี่แล้ว”
เสี ยงของนางลดต่า แต่ละประโยคพูดกระทบจิตใจของเว่ยจิ่นอวี้ เขา
คิดว่าเทียบกับเสิ่ นซื่อแล้ว ญาติผนู ้ อ้ งรู ้ประสากว่ามาก
“ไม่ตอ้ ง ไม่ตอ้ ง เมื่อก่อนเป็ นเช่นไร ต่อจากนี้กย็ งั คงเป็ นเช่นนั้น
หากมิได้ทาผิดก็มิตอ้ งกลัว ข้าเองก็เห็นญาติผนู ้ อ้ งเป็ นน้องสาวแท้ๆ
เช่นกัน” เว่ยจิ่นอวี้กล่าว
คาพูดนี้เขากลับไม่ได้เสแสร้ง จวนหย่งหนิงโหวย่อมมีบุตรสาว แต่ก็
เป็ นบุตรสาวอนุภรรยา ถูกอวี้ซื่อกลัน่ แกล้งราวกับเป็ นตุ๊กตาดิน
เหนียว ไม่มีความรู ้สึกของการมีอยูเ่ ลยแม้แต่นิดเดียว อวี้ซื่อมีเว่ยจิ่
นอวี้เพียงคนเดียว ย่อมต้องดูแลอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้เขาไป
สนิทสนมกับบุตรอนุภรรยาบุตรสาวอนุภรรยาในจวน บุตร
อนุภรรยายังเจอหน้าเพียงไม่กี่ครั้ง นับประสาอะไรกับบุตรสาว
อนุภรรยาเล่า เว่ยจิ่นอวี้จาไม่ได้แม้แต่หน้าตาของพวกนาง
ตั้งแต่เล็กเว่ยจิ่นอวี้กต็ วั คนเดียว อิจฉาคนอื่นที่มีพี่นอ้ งมากเป็ นพิเศษ
ตอนนี้คาดไม่ถึงว่ามีญาติผนู ้ อ้ งที่อ่อนหวานน่ารักผูห้ นึ่งมาที่จวน ทั้ง
ฉลาดทั้งรู ้ประสา ซ้ ายังเต็มใจสนิทสนมกับเขา ไม่ใช่เติมเต็มความ
ภาคภูมิใจของการได้เป็ นพี่ชายของเขาหรอกหรื อ เขารักจ้าวเฟยเฟย
เหมือนน้องสาวแท้ๆ จริ งๆ
“เจ้าพูดเช่นนี้กถ็ ูกต้องจริ งๆ” อวี้ซื่อพยักหน้าด้วยความชื่นชม “เฟย
เฟยเป็ นเด็กรู ้ประสา ตั้งแต่ที่นางมา วันๆ ก็กตัญญูหยอกเล่นกับข้า
ทุกวันนี้ขา้ สบายใจยิง่ กว่าเมื่อก่อนมาก ซ้ าเฟยเฟยยังปลอบใจข้าอยู่
บ่อยๆ มิเช่นนั้นด้วยนิสยั ความประพฤติของภรรยาเจ้า ข้าก็คงจะ
โมโหตายไปนานแล้ว” นางต่อว่าอย่างไม่พอใจ
เว่ยจิ่นอวี้เองก็รู้วา่ แม่เขากับภรรยาเขาไม่ลงรอยกัน ได้ยนิ ดังนั้นก็
รู ้สึกผิดเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ “ท่านแม่วางใจ ลูกจะสัง่ สอนเสิ่ นซื่อ
เอง” ไม่วา่ อย่างไรนี่เองก็เป็ นมารดาที่ให้กาเนิดเขาเลี้ยงดูเขาห่วงใย
เขา ต่อให้จะมีบางที่ที่ทาไม่ค่อยเหมาะสม แต่พวกเขาที่เป็ นชนรุ่ น
หลังก็ควรจะเคารพ นี่คือหลักกตัญญูที่ผเู ้ ป็ นบุตรควรมี
จ้าวเฟยเฟยเห็นป้านางคลายความโมโหลงช้าๆ แล้ว ดวงตาก็เป็ น
กระกายกล่าว “ท่านป้า ท่านพี่พรุ่ งนี้ไปรับพี่สะใภ้ที่จวนจงอู่โหว
ดีกว่าหรื อไม่ ฟังว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวจวนจงอู่โหวมีความสามารถ
หากพวกเขาพาลโมโหใส่ ท่านพี่เพราะเรื่ องนี้ เช่นนั้นก็ไม่ดีแล้ว อืม
หากว่า หากว่าพี่สะใภ้ไม่ยอมกลับมา เฟยเฟยก็ยนิ ดีไปขอโทษที่หน้า
ประตูพร้อมท่านพี”่ นางแสดงท่าทางเข้าอกเข้าใจ
คาพูดหนึ่งประโยคยัว่ โมโหอวี้ซื่อได้สาเร็ จ “ไม่กลับมาก็ช่าง เดิม
นางก็ทาผิดต่อเจ้า จะให้เจ้าไปขอโทษนางได้อย่างไร ข้าว่าอวี้เอ๋ อร์
พรุ่ งนี้เจ้าเองก็ไม่ตอ้ งไปรับ ปล่อยนางไว้สองวันให้นางได้สติ ต่อให้
จวนจงอู่โหวจะมีอานาจมาก ก็คงไม่ไร้เหตุผลหรอกกระมัง ยิง่ ไป
กว่านั้นจวนหยงหนิงโหวของพวกเราก็เป็ นจวนโหวเหมือนกัน
ไม่ได้ดอ้ ยไปกว่าตระกูลพวกเขา”
คาพูดนี้แม้แต่ตวั นางเองก็ยงั รู ้สึกไม่มนั่ ใจ เป็ นจวนโหวเหมือกัน แต่
จวนหย่งหนิงโหวอยูห่ ่างชั้นจากจวนจงอู่โหวมาก จวนจงอู่โหว
ได้รับความชื่นชมจากฮ่องเต้ นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็ยงิ่ ได้รับความเชื่อ
ใจจากฝ่ าบาทอย่างยิง่ ส่ วนจวนหย่งหนิงโหวเล่า เริ่ มตกต่าลงนาน
แล้ว หากไม่ใช่เพราะมีเว่ยจิ่นอวี้ที่มีพรสวรรค์ดา้ นการเรี ยนหนังสื อ
คาดว่าคงจะจมลงไปในฝุ่ นนานแล้ว
เห็นชัดๆ ว่าอวี้ซื่อพูดจาด้วยโทสะ ทว่าเว่ยจิ่นอวี้กลับรู ้สึกว่ามี
เหตุผล เด็กหนุ่มรักศักดิ์ศรี เขาเว่ยจิ่นอวี้เกิดมาก็ทะนงตน เดินไปที่
ใดล้วนแต่เป็ นบุคคลที่ทุกคนยกย่อง จะให้เขาลดตัวลงไปขอโทษ
ภรรยากับบ้านพ่อตา เขาเสี ยหน้าเช่นนั้นไม่ได้หรอก
จ้าวเฟยเฟยเห็นท่าที ยังถามด้วยสี หน้าที่เป็ นกังวลทั้งใบหน้า “แบบ
นี้จะดีหรื อ พี่สะใภ้ใช่จะยิง่ โกรธหรื อไม่” ดวงตาที่หลุบลงกลับมี
ความดีใจแวบผ่าน นางอยากให้ลูกผูพ้ ี่ไม่ตอ้ งไปรับพี่สะใภ้ตลอด
ชีวิต ทางที่ดีที่สุดก็คือส่ งจดหมายขับภรรยาหนึ่งฉบับขับนางออกไป
เช่นนั้นนางก็จะมีโอกาสได้เป็ นภรรยาเอกของลูกผูพ้ ี่
อันที่จริ งจ้าวเฟยเฟยคิดผิดแล้วจริ งๆ แม้วา่ เว่ยจิ่นอวี้จะขับเสิ่ นเสวี่ย
จริ งๆ ตาแหน่งฮูหยินหย่งหนิงโหวซื่อจื่อนั้นก็ไม่ตกมาถึงมือนาง
อย่าว่าแต่คนอื่น เพียงแค่ป้าของนางก็ไม่เห็นด้วยแล้ว นางยังคิดจะ
แต่งภรรยาตระกูลสู งให้ลูกชายเป็ นแรงสนับสนุนอยูเ่ ลย จ้าวเฟยเฟย
เช่นนางมีอะไรดี ต่อให้อวี้ซื่อจะรักก็หลานสาวก็ไม่อาจฝังลูกชายทั้ง
เป็ นได้!
เก็บความคิดของแต่ละคนในจวนหย่งหนิงโหวไว้ก่อน พวกเราไปดู
เสิ่ นเวยที่จวนจิ้นอ๋ องกันดีกว่า
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 237-2 กองทหารเด็กมาหาแล้ว
เช้าวันนี้ตื่นขึ้นมาเสิ่ นเวยอารมณ์ดีอย่างถึงที่สุด เหตุใดน่ะหรื อ ก็
เพราะว่าเป็ นวันใหม่แล้ว วันที่พวกเขาจะย้ายไปจวนจวิน้ อ๋ องใกล้
เข้ามาเรื่ อยๆ แล้ว อืม ยังเหลืออีกสี่ วนั อีกสี่ วนั พวกเขาก็สามารถย้าย
ออกจากสถานที่ที่ทาให้คนไม่สบายใจแห่งนี้ได้แล้ว เสิ่ นเวยนับนิ้ว
รอวันแล้ว
ทานอาหารเช้าเสร็ จ เสิ่ นเวยก็พาเหล่าสาวใช้ไปตรวจดูสินเดิม สิ น
เดิมของนางเยอะเกินไป หากย้ายภายในวันเดียวการเคลื่อนไหวจะ
ใหญ่เกินไป แบ่งประเภทส่ งไปจวนจวิน้ อ๋ องจะดีกว่า นางวางแผนว่า
จะเริ่ มขนตั้งแต่วนั นี้
ขนกลุ่มของที่ใหญ่และหนักเหล่านั้นไปก่อน เสิ่ นเวยสัง่ พ่อบ้าน
เจี่ยงปั๋วทีละอย่างๆ ขณะที่กาลังพูด สวีโย่วก็ส่งคนมาตามนาง บอก
ว่าน้องเจวี๋ยมาหา
ในขณะที่เสิ่ นเวยดีใจก็ประหลาดใจเล็กน้อย น้องเจวี๋ยไม่เคยมาเยีย่ ม
ที่บา้ นเลยสักครั้ง หรื อว่าจวนโหวเกินเรื่ องแล้ว เป็ นท่านปู่ หรื อว่า
ท่านพ่อโง่เขลาผูน้ ้ นั ของนาง เมื่อคิดถึงตรงนี้เสิ่ นเวยก็นงั่ ไม่ติดแล้ว
ก้าวเท้าเดินไปยังเรื อนหลัก
“ท่านพี่” เสิ่ นเจวี๋ยเห็นพี่สาวของเขาก็ดีใจมากเป็ นพิเศษ ลุกขึ้นวิ่งเข้า
มาหานาง
“น้องเจวี๋ยมาได้อย่างไร ในจวนเกิดเรื่ องอะไรขึ้นหรื อ” ไม่ผดิ ที่เสิ่ น
เวยจะกังวล ตอนที่กลับไปคราวก่อนนางบอกปู่ นางแล้ว อยูท่ ี่จวนจิ้
นอ๋ องจนครบเดือนแต่งงานพวกเขาก็จะย้ายไปยังจวนจวิน้ อ๋ อง คน
ในครอบครัวไปเยีย่ มนางที่จวนจวิน้ อ๋ องจะสะดวกกว่ามาที่จวนจิ้
นอ๋ องมาก เหลืออีกไม่กี่วนั ก็ครบเดือนแต่งงานแล้ว ไม่มีเรื่ องสาคัญ
น้องเจวี๋ยไม่มาถึงบ้านตอนนี้หรอก
“ไม่มีอะไรๆ ในจวนเรี ยบร้อยดี” เสิ่ นเจวี๋ยรี บส่ ายหน้าปฏิเสธ
สาหรับเรื่ องที่พี่หา้ ของเขาโมโหกลับบ้านฝั่งมารดาไม่นบั ว่าเป็ น
เรื่ องใหญ่อย่างสิ้ นเชิง “ข้าก็แค่อยากมาเยีย่ มท่านพี่”
แม้ท่านพีจ่ ะออกเรื อนได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน แต่เขาก็รู้สึกว่าท่านพี่คล้าย
จากไปนานอย่างยิง่ แล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่ท่านพี่ยงั อยูใ่ นจวนโหว
บางครั้งก็เป็ นเวลาหลายวันกว่าพวกเขาพี่นอ้ งจะพบหน้ากันหนึ่ง
ครั้ง แต่ตอนนั้นจิตใจเขาก็สงบ เมื่อคิดว่าท่านพี่อยูใ่ นเรื อนเฟิ งหวา
เรื อนในรอเขาอยู่ เขาก็รู้สึกสบายใจอย่างถึงที่สุด ทว่าตอนนี้ไม่วา่ เขา
จะทาอะไรก็มกั จะรู ้สึกว่าจิตใจว่างเปล่า
เสิ่ นเวยวางใจลง จับมือของเสิ่ นเจวี๋ยเดินเข้าห้องด้วยกัน “น้องเจวี๋ย
ยังไม่ได้เคารพพระชายาใช่หรื อไม่ ให้พี่เขยเจ้าพาเจ้าไปคารวะนาง
สักหน่อย เลี่ยงไม่ให้คนอื่นบอกว่าจวนโหวของพวกเราไร้มารยาท”
ชนรุ่ นหลังมาเยีย่ มจวนต้องเคารพผูอ้ าวุโส นี่คือธรรมเนียม เสิ่ นเว
ยไม่อยากทิ้งจุดอ่อนให้คนนินทา วันนี้นางอารมณ์ดี ไม่อยากไป
เจอนังมารเฒ่าที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจผูน้ ้ นั จริ งๆ ให้สวีโย่วพาน้อง
เจวี๋ยไปดีกว่า
เดิมสวีโย่วมองเห็นภรรยาที่รักของเขาจูงมือน้องชายคนเล็กก็ไม่
พอใจเล็กน้อย แต่หลังจากที่ได้ยนิ น้องชายคนเล็กของภรรยาเรี ยกเขา
ว่าพี่เขยอย่างสนิทสนม สี หน้าก็ดีข้ ึนมาอีกครั้ง พาน้องชายคนเล็ก
ของภรรยาไปคารวะพระชายาสักหน่อยตามคาพูดของภรรยาด้วย
ความสบายใจอย่างยิง่
คาดว่าสวีโย่วคงจะพาน้องเจวี๋ยไปคารวะพระชายาสักหน่อยจริ งๆ
เพราะว่าพวกเขากลับมาเร็ วอย่างยิง่ อีกทั้งสี หน้าของสวีโย่วก็มี
ความสุ ขมาก เสิ่ นเวยเดาว่าเขาน่าจะยัว่ โมโหพระชายาจิ้นอ๋ องอีก
แล้ว
เสิ่ นเวยทายถูกจริ งๆ สวีโย่วไปยัว่ โมโหพระชายาอีกแล้วมิใช่หรื อ
เขาไปถึงเรื อนพระชายาแล้วก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมา ‘วันนี้นอ้ ง
เจวี๋ยมาเยีย่ มพี่สาวเขา ข้าพาเขามาเคารพพระชายา เลี่ยงไม่ให้มีคน
เล่นอุบายบอกว่าน้องชายคนเล็กของภรรยาข้าไม่มีมารยาทไม่เคารพ
ผูอ้ าวุโส’
จากนั้นก็สงั่ เสิ่ นเจวี๋ย ‘รี บคารวะพระชายาเสี ย พี่เจ้ายังรอพวกเรา
กลับไปอยู’่
ท่าทางไม่อยากอยูน่ านแม้แต่วินาทีเดียวนั้นประหนึ่งพระชายาจิ้
นอ๋ องเป็ นน้ าเหนือและสัตว์ร้าย เจ้าว่าพระชายาจิ้นอ๋ องมีความสุ ขสิ
ถึงแปลก
“น้องเจวี๋ยว่ามาเถอะ มีเรื่ องอะไรกันแน่” เสิ่ นเวยมองเสิ่ นเจวี๋ยแล้ว
พูด หากไม่มีธุระเด็กคนนี้คงไม่กล้าไม่ไปโรงเรี ยน นางตั้งกฎที่นนั่
ให้เขานานแล้ว กล้าโดดเรี ยนหรื อ ตีเขาให้ตาย!
เสิ่ นเจวี๋ยลูบจมูกยิม้ กล่าว “ปิ ดบังท่านพี่ไม่ได้จริ งๆ ด้วย” ชัว่ ขณะ
เขาก็เหลือบมองสวีโย่วปราดหนึ่ง
เสิ่ นเวยดีดหน้าผากเขาหนึ่งครา “มองเขาทาไม ว่ามา”
เสิ่ นเจวี๋ยลูบบริ เวณที่ถูกพี่เขาดีด หัวเราะอย่างซื่อๆ จากนั้นจึงกล่าว
“ไม่ใช่เรื่ องในจวนโหว เป็ นเรื่ องที่ซีเจียง เมื่อวานในจวนพวกเรามี
คนมาหาสองคน คนหนึ่งชื่อฟังจงหลี่ คนหนึ่งชื่อหลี่จ้ือ พูดซ้ าไปซ้ า
มาว่ามาหาคุณชายสี่ แต่ท่านพี่ไป่ บอกว่าไม่รู้จกั พวกเขา สุ ดท้ายแล้ว
ก็รบกวนไปถึงท่านปู่ ท่านปู่ บอกว่าพวกเขาเป็ นกองทหารที่ซีเจียง
มาหาท่านพี่ เมื่อคืนดึกแล้ว คิดจะให้พวกเขาพักที่จวนหนึ่งคืน เช้า
วันนี้ค่อยพาพวกเขามาหาท่านพี่ แต่สองคนนั้นยืนกรานไม่ยนิ ยอม
บอกว่ากองทหารเด็กของพวกเขามาเมืองหลวงหมดแล้ว คนที่เหลือ
ต่างก็รออยูข่ า้ งนอก พวกเขาสองคนมาสื บข่าว”
เสิ่ นเจวี๋ยยิง่ พูดก็ยงิ่ ตื่นเต้น “ท่านพี่ พวกเขาเป็ นกองทหารเก็กที่ท่าน
ตั้งขึ้นกับมือจริ งๆ หรื อ ข้าเห็นพวกเขาไม่ได้อายุมากกว่าข้าสัก
เท่าไร! ท่านไม่รู้วา่ ตอนที่พวกเขารู ้วา่ คุณชายสี่ ตระกูลเสิ่ นเป็ น
คุณหนูซ้ ายังออกเรื อนแล้ว ก็มึนงงไปทั้งร่ าง ทั้งยังถามข้าซ้ าแล้วซ้ า
เล่า สุ ดท้ายพวกเขาก็บอกว่า แม้คุณชายสี่ ตระกูลเสิ่ นจะเป็ นคุณหนูสี่
ตระกูลเสิ่ น พวกเขาก็ยอมรับ ท่านปู่ ให้พวกเขามาพักในจวนโหว
ก่อนพวกเขาก็ไม่ยอม ตัดสิ นใจติดตามท่านพีแ่ ล้ว ท่านพี่ ท่านเก่ง
จริ งๆ! หากข้าได้สกั ครึ่ งหนึ่งของท่านก็พอแล้ว” เสิ่ นเจวี๋ยมองพีส่ าว
ของเขา บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเลื่อมใส
“อะไรนะ เจ้าไม่ได้พดู ผิดใช่หรื อไม่ เป็ นฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือจริ งๆ
หรื อ แล้วกองทหารเด็กทั้งหมดก็มาเมืองหลวงแล้วหรื อ” เสิ่ นเวยต
กใจอย่างถึงที่สุด เหตุใดเรื่ องนี้นางถึงไม่ได้รับข่าวเลยแม้แต่นิดเดียว
เล่า จู่ๆ พวกเขาก็ไม่ฝึกฝนอยูท่ ี่ซีเจียง วิง่ มาทาอะไรที่เมืองหลวง
พวกเขามาเมืองหลวง พี่ใหญ่รู้หรื อไม่ อนุญาตหรื อไม่ หรื อว่าพวก
เขาแอบหนีออกมา ครู ฝึกของกองทหารเด็กล้วนเป็ นนางที่สงั่ เอง
เหตุใดถึงไม่ส่งข่าวให้นางเลยเล่า หรื อว่าครู ฝึกเองก็ตามพวกเขา
กลับมาพร้อมกัน
“จริ งแท้แน่นอน ไม่ผดิ แม้แต่นิดเดียว ท่านพี่ เขาสองคนตามข้ามา
ด้วยเช่นกัน กาลังรออยูข่ า้ งนอกจวนอ๋ อง” เสิ่ นเจวี๋ยตบหน้าอกกล่าว
“เอ๋ เช่นนั้นเหตุใดเจ้าไม่พาพวกเขาเข้ามาด้วยเล่า” เสิ่ นเวยถลึงตา
มองน้องชายของนางปราดหนึ่งอย่างไม่พอใจเล็กน้อย
ทว่าเสิ่ นเจวี๋ยกลับร้องทุกข์ “ข้าคิดจะพาพวกเขาเข้ามา แต่พวกเขาไม่
ยอม! บอกว่าไม่อาจสร้างปัญหาให้ท่านได้ ไม่วา่ อย่างไรก็จะรออยู่
นอกจวน”
เสิ่ นเวยจ้องมองสวีโย่วปราดหนึ่ง เจตนานั้นสวีโย่วเข้าใจดี เขาถูก
พาลโมโหอีกแล้ว รี บแสดงท่าทีกล่าว “หรื อว่า ให้เจียงไป๋ ไปเรี ยก
พวกเขาเข้ามาดีหรื อไม่” พวกเขากับเจียงไป๋ ก็รู้จกั กันดี
เสิ่ นเวยพยักหน้ากล่าว “พวกเขาเองก็คิดมากเกินไปแล้ว บอกว่าเป็ น
พี่นอ้ งในตระกูล ประตูใหญ่ยงั กล้าห้ามไม่ให้เข้าอีกหรื อ ได้ ให้เสี่ ยว
ไป๋ ไปเรี ยกพวกเขาเข้ามา ถือโอกาสดูคุณชายสี่ ของพวกเขาแต่หญิง”
ฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือสองคนข้างนอกจวนกาลังนัง่ กระซิบกระซาบกัน
อยูใ่ ต้ตน้ ไม้ใหญ่ “อาจื้อ แม้นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวจะบอกว่าอันที่จริ ง
คุณชายสี่ เป็ นหลานสาวเขา แต่ขา้ ก็ยงั ไม่กล้าเชื่อนัก คุณชายสี่
เก่งกาจเพียงนั้น ไม่มีความเป็ นสตรี เลยแม้แต่นอ้ ย จะเป็ นคุณหนูได้
อย่างไร” แม้จะผ่านไปหนึ่งคืนแล้ว แต่ฟังจงหลี่กย็ งั ประหนึ่งอยูใ่ น
ฝัน
หลี่จ้ือเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เพียงแต่เขาไม่เหมือนฟังจงหลี่ เขาไม่
สนว่าคุณชายสี่ จะเป็ นชายหรื อหญิง คุณชายสี่ ช่วยชีวิตน้องชาย
น้องสาวของเขาไว้นี่ไม่ใช่ความจริ งที่ไม่อาจเถียงงั้นหรื อ คุณชายสี่
เป็ นผูช้ ายก็ดี เป็ นผูห้ ญิงก็ไม่เป็ นไร อย่างไรเสี ยเขาก็จะต้องติดตาม
ให้จงได้
“น่าจะเป็ นเรื่ องจริ ง นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวไม่จาเป็ นต้องหลอกพวกเรา”
หลี่จ้ือจ้องมองประตูใหญ่จวนจิ้นอ๋ องแล้วกล่าว
“เช่นนั้นพวกเราจะทาอย่างไรกันดี” ฟังจงหลี่ร้อนใจเล็กน้อยอย่าง
อดไม่ได้
“ทาอย่างไรอะไร” หลี่จ้ือไม่เข้าใจ
“พวกเราเดินทางไกลมาเมืองหลวงเพือ่ ขอพึ่งพาคุณชายสี่ แต่ตอนนี้
คุณชายสี่ เป็ นคุณหนู อีกทั้งยังแต่งงานแล้ว ไหนเลยจะดูแลพวกเรา
ได้ พวกเราใช่มาเสี ยเที่ยวหรื อไม่” เสี ยงของฟังจงหลี่สูงขึ้นหลาย
ส่ วนอย่างทนไม่ได้ เขาไม่อยากกลับซีเจียงเลยแม้แต่นิดเดียว แม้วา่ ที่
อยูจ่ ะเป็ นสถานที่น้ นั ของกินก็เป็ นข้าวเหมือนกัน กระทัง่ เนื้อหาใน
การฝึ กซ้อมทุกวันก็เป็ นคุณชายสี่ ที่เตรี ยมไว้เรี ยบร้อยก่อนจะไป แต่
เขากับเหล่ากองทหารเด็กยังคงไร้เรี่ ยวแรง มักจะรู ้สึกว่าขาดอะไรไป
บางอย่าง คล้ายตั้งแต่คุณชายสี่ กลับเมืองหลวงพวกเขาก็สูญเสี ย
เป้าหมายข้างหน้าไป
เขากับหลี่จ้ือและอีกหลายคนปรึ กษากัน ได้ มาเมืองหลวงขอที่พ่ งึ
คุณชายสี่ แล้วกัน ด้วยเหตุน้ ีพวกเขาจึงฉวยโอกาสตอนที่ออกจาก
เมืองฝึ กซ้อมทิ้งหนังสื อไว้แล้วจากไป
คิ้วของหลี่จ้ือเองก็ขมวดมุ่น คิดครู่ หนึ่งจึงกล่าว “เจ้าเองก็อย่าท้อใจ
ไป ในเมื่อคุณชายสี่ สามารถแต่งกายเป็ นชายลงสนามรบฆ่าศัตรู
ปกป้องแว่นแคว้นได้ เช่นนั้นก็ไม่ใช่สตรี ตระกูลสู งศักดิ์ทวั่ ไป พวก
เราเป็ นนางที่ก่อตั้งขึ้นมากับมือ นางจะต้องไม่ทิ้งพวกเราแน่นอน”
หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่าวต่อ “คุณชายเสิ่ นเจวี๋ยบอกไม่ใช่หรื อว่านาง
แต่งงานกับคุณชายใหญ่สวีแล้ว อีกทั้งยังได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์ให้เป็ นจวิน้ จู่ นางจักต้องมีวิธีช่วยพวกเราแน่นอน เจ้า
วางใจเถิด”
ปากบอกแน่นอน แต่ความจริ งแล้วในใจเขาไม่มนั่ ใจ เขาเตรี ยมใจไว้
แล้ว แม้วา่ คุณชายสี่ จะไม่มีวิธีช่วยพวกเขา เขาก็จะอยูข่ า้ งกายคุณชาย
สี่ อยูด่ ี ต่อให้ตอ้ งออกจากกองทหารเด็กเขาเองก็จะอยูใ่ นเมืองหลวง
เป็ นมนุษย์ตอ้ งรักษาสัตย์ ไม่วา่ คุณชายสี่ จะเป็ นใคร ชัว่ ชีวิตนี้เขาห
ลี่จ้ือก็จะติดตามนาง เป็ นดาบที่แหลมคมที่สุดในมือนาง
เจียงไป๋ รี บตามมาถึงหน้าประตูใหญ่ มองซ้ายมองขวาจึงเห็นคนทั้ง
สองใต้ตน้ ไม้ใหญ่ กวักมือเรี ยกพวกเขา “มานี่!”
จากนั้นก็เห็นเด็กสองคนนั้นเบือนหน้าหนี ไม่สนใจเขาอย่างสิ้ นเชิง
เจียงไป๋ อดโมโหไม่ได้ เดินเข้าไปดีดนิ้วใส่ พวกเขาที่ละคน “นี่
วางมาดยิง่ นัก ยังต้องให้ขา้ มาเชิญพวกเจ้าด้วยตัวเองหรื อ”
ฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือหัวเราะอย่างเคอะเขิน ตะโกนอย่างเขินอายหนึ่ง
ครา “พี่ใหญ่เจียงไป๋ ”
เจียงไป๋ เป็ นบ่าวรับใช้คนสนิทและทหารองครักษ์ขา้ งกายคุณชาย
ใหญ่สวี พวกเขาคบค้าสมาคมกับเขามาไม่นอ้ ย
“ตามข้าเข้าไปเถอะ คุณชายสี่ ยงั รอพบพวกเจ้าอยู”่ เจียงไป๋ ดึงมือแต่
ละคน
ฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือต่างก็ดีใจ ทว่าเท้ากลับไม่ขยับ กล่าวอย่างลังเล “พี่
ใหญ่เจียงไป๋ พวกข้าไม่เข้าไปดีกว่า ประเดี๋ยวจะสร้างปั ญหาให้
คุณชายสี่ ”
เจียงไป๋ หันหน้ามอง ชัว่ ขณะก็เข้าใจความกังวลของเด็กสองคนนี้ อด
หัวเราะไม่ได้ กางแขน โอบพวกเขาไว้ กล่าวประหนึ่งเป็ นสหายพี่
น้อง “เฮ้อ นี่พวกเจ้าคิดไกลไปถึงไหนแล้ว! นิสัยของคุณชายสี่ พวก
เจ้ายังไม่รู้อีกหรื อ แอบบอกพวกเจ้าให้ อย่ามองว่าคุณชายสี่ เป็ นร่ าง
หญิง ซ้ ายังแต่งงานแล้ว นายของพวกเราเองก็ได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ อ๋ องเช่นกัน แต่กย็ งั เหมือนตอนอยูท่ ี่ซีเจียง เขา
ยังคงต้องฟังคุณชายสี่ ของพวกเจ้าอยู่ ไปเถอะๆ ไม่มีอะไรหรอก”
ฟังจงหลี่หบั หลี่จ้ือสบตากันปราดหนึ่ง จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
ตามเขาเข้าประตูใหญ่จวนจิ้นอ๋ อง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 238-1 เสแสร้ งไปเถอะ!
ตลอดทางฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือต่างก็ระมัดระวังอย่างยิง่ หลังตรงอกตั้ง
สายตาจ้องมองไปข้างหน้า ไม่เหลือบมองซ้ายขวา แม้บนใบหน้าจะ
พยายามแสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างสุ ดชีวิต ทว่าในใจกลับสัน่ อย่างถึง
ที่สุด
แม้ฟังจงหลี่จะถือได้วา่ เป็ นคุณชาย แต่ซีเจียงไหนเลยจะเทียบเมือง
หลวงได้ เขาโตเพียงนี้แล้วยังเพิ่งเคยเห็นจวนอ๋ องที่งดงามโอ่อ่า
เช่นนี้เป็ นครั้งแรก ฟังจงหลี่ยงั เป็ นเช่นนี้ นับประสาอะไรกับหลี่จ้ือที่
เป็ นยาจกเล่า
ทั้งสองกลัวว่าตนจะทาตัวขายหน้า ทาให้คนรับใช้ในจวนอ๋ องดูถูก
คุณชายสี่ ของพวกเขา อ้อไม่ ต้องเป็ นจวิน้ จู่ต่างหาก จึงพยายาม
ควบคุมตัวเอง แสดงสี หน้าเรี ยบเฉยออกมา
เจียงไป๋ ที่เดินอยูข่ า้ งๆ เห็นดังนั้น ในใจก็อดพยักหน้าอย่างชื่นชม
ไม่ได้
เข้าไปในเรื อนแล้ว ฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือก็เห็นเงาร่ างที่คุน้ เคยยืนอยูบ่ น
ระเบียงทางเดินไกลๆ แม้จะสวมเครื่ องแต่งกายสตรี แต่ใบหน้านั้น
พวกเขาก็คุน้ เคย หัวใจอดร้อนรุ่ มไม่ได้ เร่ งฝี เท้าสองก้าว “คุณชาย
สี่ !” คาเรี ยกนี้แทบจะพลั้งปากออกไป
เสิ่ นเวยมองเด็กหนุ่มสองคนเดินเข้ามาหานาง ยิม้ เย้มเบิกบาน “อาห
ลี่ อาจื้อ ไม่เจอกันนาน”
คาทักทายที่เรี ยบง่ายหนึ่งประโยคทาให้เบ้าตาคนทั้งสองร้อนผ่าว
อย่างอดไม่ได้ ลาคอประหนึ่งถูกอุดเอาไว้ ทั้งสองคุกเข่าข้างเดียว
คารวะอย่างทหาร “คุณชายสี่ ผูน้ อ้ ยนากองทหารเด็กมาขอที่พ่ งึ ท่าน
ขอรับ” จากนั้นก็เห็นคุณชายใหญ่สวีที่ยนื อยูข่ า้ งกายคุณชายสี่ รี บ
เสริ มหนึ่งประโยค “คารวะคุณชายใหญ่ขอรับ”
ดูคาเรี ยกนี้สิ เสิ่ นเวยเป็ นคุณชายสี่ สวีโย่วเป็ นคุณชายใหญ่ คนที่ไม่รู้
ข้อเท็จจริ งยังคิดว่านี่คือสองพี่นอ้ งเสี ยอีก ใครจะรู ้วา่ อันที่จริ งพวก
เขาเป็ นสามีภรรยากันเล่า
สวีโย่วคงจะคิดถึงจุดนี้ มุมปากกระตุกกล่าว “หลังจากนี้เรี ยกว่าจวิน้
อ๋ องกับจวิน้ จู่เถิด คุณชายสี่ ของพวกเจ้าได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์เป็ นจยาฮุ่ยจวิน้ จู่แล้ว”
ฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือสบตากันปราดหนึ่ง ตอบรับเสี ยงดังทันที “ขอรับ
ผูน้ อ้ ยคารวะจวิน้ จู่ คารวะจวิน้ อ๋ อง”
มุมปากของสวีโย่วกระตุกอีกครั้ง ส่ วนเสิ่ นเวยก็ปรายตามองเขา
อย่างโอ้อวด ได้ยนิ หรื อไม่ จวิน้ จู่อยูห่ น้าจวิน้ อ๋ องเสี ยอีก
เสิ่ นเวยเกิดความรู ้สึกร้อยแปดพันเก้าในจิตใจ ตอนแรกนางก่อตั้ง
กองทหารเด็กเพียงเพื่ออยากวางเชื้อเพลิงเล็กๆ ไว้ที่ซีเจียง ตัวนางเอง
ยังไม่คิดว่านางจะได้รับความจงรักภัคดีจากพวกเขา เด็กๆ กลุ่มนี้
สามารถเดินทางไกลมาเมืองหลวงเพือ่ พบนางได้ นางซาบซึ้งอย่าง
ไม่ตอ้ งสงสัย
“ลุกขึ้นเถิด ยังรอให้ขา้ ไปพยุงพวกเจ้าหรื อไร” เสิ่ นเวยยิม้ ด่า เมื่อ
พวกเขาลุกขึ้นยืน เสิ่ นเวยก็ถือโอกาสหักกิ่งไม้หนึ่งกิ่ง “มา ให้ขา้ ดูสิ
ว่าพวกเจ้าฝึ กฝนถึงระดับไหนแล้ว”
ฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือสบตากันปราดหนึ่งอีกครั้ง ต่างก็มองเห็นความดี
ใจและความรู ้ใจในแววตาของกันและกัน ยกหมัดขึ้นจู่โจมไปยังเสิ่ น
เวย เสิ่ นเวยหลบได้อย่างรวดเร็ ว กิ่งไม้ในมือหวดออกไปเสี ยงดัง
ขวับ บีบบังคับให้หลี่จ้ือข้างหลังทาได้เพียงถอยหลัง
ฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือเจ้าโจมตีขา้ งบน ข้าก็จะโจมตีขา้ งล่าง เจ้าโจมตี
ทางซ้าย เช่นนั้นข้าจะโจมตีทางขวา ร่ วมมือด้วยความรู ้ใจกันอย่างยิง่
เสิ่ นเวยย่อมเห็นการพัฒนาของพวกเขา ในใจดีใจอย่างถึงที่สุด แต่
ต่อให้พวกเขาจะร่ วมมือกันอย่างรู ้ใจเพียงใด ก็ไม่สามารถเอื้อมแตะ
ชายเสื้ อของเสิ่ นเวยได้ เสิ่ นเวยกระทัง่ ยืนอยูท่ ี่เดิมไม่ขยับ มือเพียง
ข้างเดียวใช้กิ่งไม้หวดจนพวกเขาสับสนอลหม่าน
ก่อนที่เสิ่ นเวยจะพูดสวีโย่วก็บอกเป็ นนัยให้เจียงไป๋ เจียงเฮยเก็บ
กวาดลานแล้ว ด้วยเหตุน้ ีคนที่เหลืออยูใ่ นลานบ้านตอนนี้จึงมีแต่คน
ที่สนิทที่สุด
เสิ่ นเจวี๋ยมองอย่างไม่ละสายตา สองมือกาแน่น ตื่นเต้นยิง่ นัก! ท่านพี่
เก่งจริ งๆ ไม่เสี ยชื่อที่เป็ นพี่สาวของเขาจริ งๆ นึกถึงวิธีการเหล่านั้นที่
พี่สาวใช้จดั การตน ขาแข้งเขาก็อดสัน่ ไม่ได้
เทียบกับเสิ่ นเจวี๋ยที่ตื่นเต้นดีใจ สวีโย่วสบายใจกว่ามาก แทบจะมอง
ระดับของเด็กหนุ่มสองคนนั้นออกในแวบแรก โดดเด่นกว่าคน
ทัว่ ไปมากอย่างยิง่ แต่เทียบกับเสิ่ นเวยที่ฝึกฝนมาจากกองกาลังเป็ น
หมื่นเป็ นพันแล้ว ก็เทียบชั้นไม่ได้อย่างสิ้ นเชิง
ประมาณหนึ่งเค่อ เสิ่ นเวยก็หวดกิ่งไม้ลงบนร่ างฟังจงหลี่และหลี่จ้ื
อเสี ยงดังขวับๆ เก็บกระบวนท่า มองพวกเขาด้วยความพอใจแล้ว
กล่าว “ไม่เลว ฝี มือต่อสู ้ไม่ตก”
ฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือปาดเหงื่อบนหน้าผาก เทียบกับเสิ่ นเวยที่สงบนิ่ง
ไม่มีเหงื่อแม้แต่เม็ดเดียว ก็อดอับอายไม่ได้ “เทียบกับจวิน้ จูแล้ว
ผูน้ อ้ ยยังอยูห่ ่างไกล”
จวิน้ จู่เพิ่งจะอายุสิบห้าสิ บหกปี โตกว่าพวกเขาสองสามปี อีกทั้งพวก
เขายังเป็ นผูช้ าย สองต่อหนึ่งล้วนถูกจวิน้ จู่บีบบังคับจนถอยพ่ายซ้ า
แล้วซ้ าเล่า นี่ทาให้พวกเขาละอายใจอย่างยิง่ และเลื่อมใสจวิน้ จู่ยงิ่ ขึ้น
พวกเขาต่างก็เป็ นบุรุษที่เติบโตในเมืองชายแดนซีเจียง ฝั่งนั้นเดิมที
วิถีชีวิตก็หา้ วหาญอยูแ่ ล้ว ข้อจากัดของสตรี กไ็ ม่ได้เข้มงวดเหมือน
เหมืองหลวง พวกเขาจึงไม่สนว่าจวิน้ จู่จะเป็ นชายหรื อหญิง ขอเพียง
แค่มีความสามารถ พวกเขาก็เลื่อมใส
เสิ่ นเวยมองสองคนนี้ ในใจนึกขาเล็กน้อย สองคนนี้ยงั คิดจะชนะ
นาง ปณิ ธานกว้างไกลจริ งๆ! นางพูดได้วา่ หากไม่พบเหตุบงั เอิญที่
ใหญ่อย่างยิง่ ชัว่ ชีวิตนี้พวกเขาก็คงไม่มีทางชนะนางได้หรอกกระมัง
“เจียงไป๋ เจ้าพาเขาสองคนไปล้างหน้าล้างตา กลับมาพวกเราค่อยคุย
กัน” เสิ่ นเวยออกคาสัง่ คิดครู่ หนึ่งก็เสริ มอีกหนึ่งประโยค “คิดให้ดี
ล่ะว่าจะบอกข้าอย่างไร หากข้ารู ้วา่ พวกเจ้าเด็กน้อยเหล่านี้เข้าเมือง
หลวงโดยพลการ เช่นนั้นผลลัพธ์พวกเจ้าก็รู้ดี” เสิ่ นเวยขู่ขวัญด้วย
ความอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด
ฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือขนลุกทันที มัน่ ใจอีกครั้งว่านี่คือคุณชายสี่ ของ
พวกเขา คุณชายสี่ ที่ลงมืออามหิต ฆ่าคนตายไม่ชดใช้ชีวิต จริ งแท้
แน่นอน! สบสายตาที่คล้ายยิม้ คล้ายไม่ยมิ้ ของเสิ่ นเวย สองคนนี้จึง
ตระหนักได้วา่ พวกเขาเพียงแค่ใช้ความกล้าของตัวเองมาเมืองหลวง
คล้ายมองข้ามนิสัยของคุณชายสี่ ไป
เด็กสองคนนี้ไปล้างหน้าตาอย่างกระวายกระวายใจ เสิ่ นเจวี๋ยก็กระ
โดดเข้ามาทันที ดึงแขนเสื้ อของเสิ่ นเวยกล่าวอ้อนวอน “ท่านพี่ๆๆ
ท่านเก่งเกินไปแล้วจริ งๆ ข้าเลื่อมใสท่านยิง่ นัก ท่านเองก็สองข้าบ้าง
สิ ! หากข้าขี้ขลาดเกินไป ไม่ใช่จะเสี ยหน้าท่านหรื อ” เมื่อครู่ เขาเห็น
ชัดเจนแจ่มแจ้งแล้ว แม้ทหารเด็กสองคนนั้นจะไม่ใช่คู่ต่อสู ้ของท่าน
พี่ แต่เทียบกับเขาแล้วกลับแข็งแกร่ งกว่ามากอย่างยิง่ เป็ นเด็กหนุ่ม
อายุพอๆ กัน นี่จึงกระตุน้ จิตใจที่อยากเอาชนะของเสิ่ นเจวี๋ย
เสิ่ นเวยไหนเลยจะไม่เข้าใจความคิดของน้องชาย ยกริ มฝี ปากกล่าว
“ช่วงนี้โอวหยาวไน่กฝ็ ึ กเจ้าอยูม่ ิใช่หรื อ เขาสองคนก็มีโอวหยางไน่
ฝึ กออกมาเช่นกัน หากเจ้าเทียบคนอื่นไม่ได้ เช่นนั้นก็ตอ้ งโทษตัวเจ้า
เองที่พยายามไม่มากพอ อีกทั้งเจ้าเสี ยหน้าก็เสี ยเพียงแค่หน้าเจ้า ข้า
หน้าหนา ไม่กลัวหรอก!”
แม้ปากจะบอกว่าไม่ถือสา แต่สายตาที่มองประเมิณนั้นทาให้เสิ่ น
เจวี๋ยขนหัวลุก กล้านักเจ้าก็เสี ยหน้าให้ขา้ ดูสิ คิดหรื อว่าข้าไม่กล้า
จัดการเก็บศพเจ้า
“ข้าเป็ นน้องชายแท้ๆ ของท่าน สอนเป็ นพิเศษหน่อยไม่ได้หรื อ”
เสิ่ นเจวี๋ยบ่นพึมพาอย่างไม่ตายใจ
คราวนี้เสิ่ นเวยกลับรับปากง่ายดายอย่างยิง่ “ได้สิ รอย้ายไปจวนจวิน้
อ๋ องก่อน เจ้ามีเวลาว่างก็มา ถือโอกาสประลองฝี มือกับกองทหารเด็ก
ด้วย อย่าคิดว่าตนเรี ยนไม่กี่กระบวนท่าแล้วจะเก่งเป็ นอันดับหนึ่งใต้
หล้า เจ้าน่ะ ยังอ่อนหัดอยูเ่ ลย”
เสิ่ นเวยวางแผนไว้เรี ยบร้อยแล้ว ในเมืองกองทหารเด็กมาขอที่พ่ งึ
นางทั้งหมด นางก็คงไม่อาจเมินเฉยได้กระมัง จวนจวิน้ อ๋ องใหญ่
เพียงนั้น สร้างลานประลองยุทธ ถือโอกาสย้ายกองทหารเด็กทั้งหมด
ไปยังจวนจวิน้ อ๋ อง เช่นนี้ก็สามารถลดทหารองค์รักษ์ลงได้ไม่นอ้ ย
ส่ วนจะให้กองทหารเด็กเปิ ดเผยงบทั้งหมดที่นางใช้ดูแลพวกเขา
อย่างไร นี่ไม่ใช่ปัญหา เบื้องหน้าก็โยนให้สามีผเู ้ ป็ นที่โปรดปราน
ของฮ่องเต้ เบื้องหลังน่ะหรื อ หึหึ ทรัพย์สินจานวนมากเช่นนี้ของ
นางจะเลี้ยงทหารเด็กแค่สี่ร้อยคนไม่ได้หรื อไร
ฟังจงหลี่และหลี่จ้ือที่ลา้ งหน้าล้างตาเสร็ จแล้วเข้ามาในห้องก็ยอมรับ
ผิดด้วยตนเอง “จวิน้ จู่ พวกข้าผิดไปแล้ว” ทั้งสองปรึ กษากันดีแล้ว
จวิน้ จู่เป็ นใครกัน ครั้นอยูท่ ี่ซีเจียงนาคนพันคนกวาดล้างซีเหลียงเข้า
เมืองหลวง ซ้ ายังจับกษัตริ ยซ์ ีเหลียงกับขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ท้ งั หมด
กลับมาอีกด้วย
ต่อหน้าจวิน้ จู่ยงั คงยอมรับผิดอย่างซื่อสัตย์จริ งใจดีกว่า มีอะไรก็พดู
จึงจะเป็ นแผนที่ดี ต่อให้พวกเขาแต่งเรื่ องคุยโวโอ้อวด จวิน้ จู่กไ็ ม่เชื่อ
หรอก!
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหนึ่งครา กล่าว “เรื่ องนี้ใครเป็ นคนนา ครอบครัว
พวกเจ้ารู ้หรื อไม่ พี่ใหญ่ขา้ รู ้หรื อไม่ อาหลี่แม่ทพั ฟังพ่อเจ้ารู ้หรื อไม่”
“พวกข้า!” ทั้งสองก้มหน้า เผชิญหน้ากับคาถามยาวเหยียดชุดนี้ พวก
เขาทาได้เพียงส่ ายหน้าแล้วส่ ายหน้าอีก ในใจบ่นพึมพา ไหนเลยจะ
กล้าให้พวกเขารู ้ หากรู ้ พวกเขาจะมาได้หรื อ
“พวกเจ้าสองคนกลับมีความสามารถ พูดมาเถอะ พวกเจ้าคิดอย่างไร
อยูใ่ นจวนโหวซีเจียงก็ดีแล้วมิใช่หรื อ เหตุใดถึงคิดจะมาเมืองหลวง
เล่า พวกเขาฟังพวกเจ้าสองคนหรื อ หรื อว่าเจ้าสองคนหลอกล่อทุก
คนมา” เสิ่ นเวยถามต่อ
ทั้งสองสบตากันปราดหนึ่ง ฟังจงหลี่กล่าวตามความจริ ง “จวิน้ จู่
หลังท่านไป แม้วา่ ทุกคนจะฝึ กฝนเหมือนเมื่อก่อน แต่กลับไม่มี
จุดหมายอย่างถึงที่สุด คล้ายสู ญเสี ยเป้าหมายไป ก่อนหน้านี้ยงั พูดถึง
การลงสนามรบฆ่าศัตรู สร้างคุณูปการได้ ตอนนี้ตา้ ยงกับซีเหลียงพัก
รบแล้ว ต่อให้พวกเราฝึ กฝนดีกว่านี้แล้วจะมีประโยชน์อนั ใด ไม่
เพียงแต่ขา้ กับอาจื้อสองคนที่เลื่อนลอยเช่นนี้ ทุกคนก็รู้สึกเหมือนกัน
ดังนั้นเมื่อข้ากับอาจื้อเสนอว่าจะมาเมืองหลวง ทุกคนต่างก็เห็นด้วย”
“อืม พวกข้ามาเมืองหลวงก็เพราะคิดถึงจวิน้ จู่ท่านด้วยเช่นกัน พวก
ข้าเป็ นท่านที่ก่อตั้งกับมือ ท่านพาพวกข้าไปสัง่ สมประสบการณ์ ลง
สนามรบฆ่าศัตรู พวกข้ายอมรับท่านเพียงผูเ้ ดียว อีกทั้งโอกาสใน
เมืองหลวงก็เยอะกว่ามิใช่หรื อ อันที่จริ งแล้วทุกคนต่างก็คิดว่าจะ
สามารถสร้างอนาคตได้” หลี่จ้ือชิงพูดแก้ตวั
“ใช่แล้วๆ พวกข้าต่างก็คิดถึงจวิน้ จู่ ช่วงเวลาที่ท่านอยูท่ ี่ซีเจียงเป็ น
ช่วงเวลาที่พวกข้ามีความสุ ขที่สุด อย่างไรเสี ยตอนนี้พวกข้าก็เป็ น
เพียงลูกเจี๊ยบสาหรับซีเจียง มีพวกเราก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ขาดพวก
เราไปก็ยอ่ มไม่กระทบภาพรวม ดังนั้นทุกคนจึงช่วยกันวางแผน ถือ
โอกาสตอนที่ออกเมืองไปฝึ กซ้อมเดินทางมายังเมืองหลวง
เสิ่ นเวยเลิกคิว้ หลี่จ้ือยืนกรานกล่าวต่อ “พวกข้าปิ ดบังการมาเมือง
หลวง หากว่าพูดไป คาดว่าคงจะมาไม่ได้ แต่วา่ พวกข้าก็ทิ้งจดหมาย
เอาไว้ ส่ วนเหล่าครู ฝึก เริ่ มแรกพวกข้าก็ปิดบังทั้งหมด พวกข้าหนีมา
เงียบๆ ถูกพวกเขาจับสังเกตและตามมา พวกข้าจึงทาได้เพียงบอก
ความจริ ง พวกเขาถูกพวกข้าพูดจนสนใจ จึงตามมาด้วยกัน”
“อืม ตลอดทางพวกข้าหมอบซุ่มกลางวันออกเดินทางกลางคืน
พยายามไม่ดึงดูดความสนใจผูอ้ ื่น แม้จะมีบางครั้งที่จาใจต้อง
เดินทางตอนกลางวัน แต่พวกข้าก็ปลอมตัวเป็ นสานักคุม้ ภัย ตอนนี้
ครู ฝึกพาทุกคนตั้งค่ายอยูท่ ี่เนินเขาเล็กๆ แห่งหนึ่งนอกเมือง พวกข้า
สองคนเข้าเมืองมาหาจวิน้ จู่”
คนทั้งสองผลัดกันเล่าเรื่ องทั้งหมด จากนั้นก็กม้ ศีรษะต่ารอคาตัดสิ น
ของเสิ่ นเวย ในใจทั้งสองเตรี ยมใจไว้นานแล้ว แม้จะถูกจวิน้ จู่ถลก
หนัง พวกเขาก็ไม่เสี ยดาย
เสิ่ นเวยพยักหน้า กล่าว “ยังรู ้วา่ พวกเจ้าคนเยอะเพียงนั้นรวมตัวกัน
แล้วดึงดูดสายตา ยังรู ้จกั ปลอมตัว กลับไม่คืนสิ่ งที่ขา้ สอนให้ขา้ เอา
ล่ะ ไม่ตอ้ งก้มหน้าแล้ว มาก็มาแล้ว ข้าจะไล่พวกเจ้ากลับไปอีกหรื อ
ไร พวกเจ้าต่างก็วิ่งมาหาข้า ข้าย่อมไม่อาจเมินเฉยพวกเจ้า เอาเช่นนี้
แล้วกัน พวกเจ้าไปพักที่จวนจวิน้ อ๋ องก่อน นัน่ คือจวนของข้ากับ
จวิน้ อ๋ อง แต่วา่ จะเข้าเมืองโดยไม่ดึงดูดความสนใจอย่างไร นัน่ ก็เป็ น
เรื่ องที่พวกเจ้าต้องคิดเอง อย่างไรเสี ยก็ให้อาทิตย์ตกดินเป็ น
ตัวกาหนดเวลา ก่อนอาทิตย์ตกดินพวกเจ้าทั้งหมดต้องคิดหาวิธีไป
จวนจวิน้ อ๋ อง ถึงตอนนั้นข้าจะส่ งอาจารย์โอวหยางของพวกเจ้าไป
รอนับคนอยูท่ ี่หน้าประตูจวนจวิน้ อ๋ อง หากขาดไปคนหนึ่งล่ะก็ หึ
หึ!” เสิ่ นเวยส่ งสายตาว่าพวกเจ้ารู ้ดีออกไป
ฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือดีใจใหญ่ “จริ งหรื อ พูดคาไหนคานั้น!” ระยะทาง
หลายพันลี้พวกเขาก็เดินมาแล้ว เข้าเมืองหาจวนจวิน้ อ๋ องให้เจอ
ไม่ใช่เรื่ องเล็กหรอกหรื อ บททดสอบสุ ดท้ายของจวิน้ จู่ไม่ยากเลย
แม้แต่นิดเดียว “เหล่าผูน้ อ้ ยรับปากว่าจะไม่ขาดตกแม้แต่คนเดียว”
พวกเขาทั้งสองตบอกกล่าว
เสิ่ นเวยพยักหน้าอีกครั้ง “ดี เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไปเถอะ จาไว้ล่ะ
อาจารย์โอวหยางจะรอพวกเจ้าอยูถ่ ึงอาทิตย์ตกดินเท่านั้น” เสิ่ นเวยก
ล่าวเตือนอีกรอบ เจตนาชัว่ ร้ายในน้ าเสี ยงนั้นทาให้ฟังจงหลี่กบั ห
ลี่จ้ือใจเต้น หรื อว่าจวิน้ จู่จะใช้อุบายอะไรมาสร้างความลาบากใจให้
พวกเขา
เสิ่ นเวยไม่สนว่าพวกเขาจะเกิดลางสังหรณ์อะไรในใจ หลังสองคน
นั้นถูกเจียงไป๋ ส่ งออกไป นางก็จอ้ งมองสวีโย่ว เพียงแค่จอ้ งมอง ไม่
พูดแม้แต่ประโยคเดียว
สวีโย่วถูกนางจ้องจนอึดอัดอย่างยิง่ ทาได้เพียงกล่าว “รู ้แล้ว รู ้แล้ว
ข้าเข้าใจเจตนาของเวยเวยแล้ว ข้ากาลังจะเข้าวังไม่ได้หรื อไร”
ชัว่ ขณะเสิ่ นเวยก็เผยรอยยิม้ ดึงแขนเสื้ อของสวีโย่วออดอ้อน “ท่านพี่
ดีจริ งๆ!” หากไม่ใช่เพราะเห็นน้องชายอยูใ่ นลาน ก็คงจะหอมให้
รางวัลไปนานแล้ว
เพียงเท่านี้ เสิ่ นเจวี๋ยก็อิจฉาแล้ว บนใบหน้าแดงซ่าน เขินอายยิง่ กว่า
ตัวต้นเรื่ องที่หน้าหนาสองคนนี้เสี ยอีก
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 238-2 เสแสร้ งไปเถอะ!
สวีโย่วเข้าวังไปปูทางให้ภรรยาของนางแล้ว เสิ่ นเวยเพิ่งจะมีเวลาว่าง
พูดคุยกับน้องชาย ทราบเรื่ องเสิ่ นเสวี่ยถูกแม่สามีตบหน้าโมโหกลับ
บ้านฝั่งมารดา นางก็ไม่ประหลาดใจเลยแม้แต่นิดเดียว
อวี้ซื่อหย่งหนิงโหวฮูหยินผูน้ ้ นั เป็ นคนบ้าอานาจไร้เหตุผล ตอนแรก
ที่สลับตัวเจ้าสาวก็เป็ นนางที่เสนอขึ้นมา เพียงแค่เห็นว่าเสิ่ นเสวี่ย
เป็ นลูกสาวของหลิวซื่อ สามารถนาสิ นเดิมจานวนมหาศาลเข้าไปได้
ผลสุ ดท้ายเกิดเรื่ องเหนือความคาดหมาย สิ นเดิมของเสิ่ นเสวี่ย
ธรรมดา ไม่ทาให้นางพอใจ นางจึงเผยโฉมหน้าแม่สามีใจร้ายมิใช่
หรื อ
เสิ่ นเสวี่ยเองก็ไม่ใช่ไฟที่ไร้น้ ามัน มีหลิวซื่อปกป้องอยู่ มีนายหญิงผู ้
เฒ่าถือหาง ช่วงชีวติ สิ บห้าปี แรกของเสิ่ นเสวี่ยผ่านมาด้วยความ
สบายใจไร้กงั วล นี่เองก็บ่มเพาะนิสยั ใช้อานาจบาตรใหญ่ของนาง
วันสองวันนางอาจจะยังอดทนได้ แต่นานวันเข้า อวี้ซื่อแรงมานางก็
จะต้องแรงกลับแน่นอน
เพียงแต่ไม่คิดว่าอวี้ซื่อผูน้ ้ นั จะไร้สติปัญญาเพียงนี้ คาดไม่ถึงว่าตบ
หน้าลูกสะใภ้ แม้แต่เหนียงเหนียงทั้งหลายในวังลงโทษขันทีนาง
กานัลยังไม่ตบหน้าเลย อวี้ซื่อผูน้ ้ ีกล้าหาญจริ งๆ! พระชายาจิ้นอ๋ อง
เทียบกับนางแล้วมีมารยาทกว่ามาก
“จะบอกว่าหย่งหนิงโหวซื่อจื่อไม่ได้มารับตัวเสิ่ นเสวีย่ ในจวนพวก
เขาก็ไม่มีใครมาขอโทษที่จวนเลยหรื อ” เสิ่ นเวยค่อนข้างประหลาด
ใจกับเรื่ องนี้
พูดจาโอ้อวดสักหนึ่งประโยค จวนจงอู่โหวแข็งแกร่ งกว่าจวนหย่งห
นิงโหวไม่ใช่แค่นิดๆ หน่อยๆ ด้วยอานาจของอวี้ซื่อ ไม่ควรทา
เช่นนี้! อย่าว่าแต่เรื่ องนี้เสิ่ นเสวี่ยมีส่วนผิดไม่มาก ต่อให้ท้ งั หมดจะ
เป็ นความผิดของเสิ่ นเสวี่ย เพื่ออนาคตของลูกชายอวี้ซื่อก็ควรจะมา
ขอโทษถึงหน้าประตูมิใช่หรื อ
หรื อว่าสมองของอวี้ซื่อฟั่นเฟื อนแล้ว หวังลมๆ แล้งๆ ว่าทาเช่นนี้
แล้วจะบีบบังคับเสิ่ นเสวี่ยหรื อจวนจงอู่โหวได้ อย่างไรเสี ยวิธีคิด
ของหญิงชัว่ ทั้งหลายก็ต่างจากคนทัว่ ไป ใครจะรู ้วา่ ในใจพวกนางมี
ความคิดสกปรกโสมมอะไรบ้าง
เสิ่ นเจวี๋ยพยักหน้า “อืม สองวันแล้ว ท่านย่ากับท่านป้าสะใภ้ใหญ่
โมโหสุ ดขีดแล้ว ฟังว่าพี่หา้ ก็พงั ห้องอีกด้วย” บนใบหน้าของเขาเผย
สี หน้าดีใจบนความทุกข์ของผูอ้ ื่น
เสิ่ นเวยเห็นท่าที มือที่ยกขึ้นก็หยุดชะงักอยูก่ ลางอากาศ กล่าว
“เช่นนั้นเจ้าคิดเห็นต่อเรื่ องนี้อย่างไร”
เสิ่ นเจวี๋ยกล่าว “เรื่ องนี้ชดั เจนว่าเป็ นความผิดของฝั่งจวนหย่งหนิง
โหว ตบหน้าพวกเราเช่นนี้ ย่อมไม่อาจจบเรื่ องง่ายๆ ได้” เสิ่ นเจวี๋ย
แสดงท่าทีสมเหตุสมผล แม้เขาจะไม่ค่อยชอบพี่หา้ ซ้ ายังดีใจที่เห็น
นางโชคร้าย แต่เรื่ องนี้กเ็ กี่ยวข้องกับศักดิ์ศรี ของจวนจงอู่โหวเช่นกัน
แม้วา่ เขาไม่อยากหนุนหลังพี่หา้ แต่กต็ อ้ งตบกลับไปเช่นกัน เหอะ
คิดว่าจวนจงอู่โหวรังแกง่ายเพียงนั้นเชียวหรื อ
เสิ่ นเวยชื่นใจอย่างยิง่ พยักหน้าให้เสิ่ นเจวี๋ยด้วยความชื่นชม “เจ้าคิด
เช่นนี้ได้กถ็ ูกแล้ว พวกเราไม่ถูกกับน้องเสวี่ย แต่เจ้าก็ตอ้ งจาไว้ ไม่วา่
พวกเราจะทะเลาะกันเช่นไร ก่อเรื่ องเช่นไร นัน่ ก็ลว้ นอยูใ่ นจวน
เป็ นเรื่ องของพวกเราเอง แต่หย่งหนิงโหวฮูหยินปฏิบตั ิต่อน้องเสวี่ย
ไม่เป็ นธรรมกลับไม่เหมือนกัน เจ้าเป็ นน้องชายนาง หากไม่หนุน
หลังนางทาตัวไม่สะทกสะท้าน เช่นนี้จะให้คนนอกมองอย่างไร ข้าง
นอกยังคิดว่าจวนจงอู่โหวของพวกเราอ่อนแอน่ากลัน่ แกล้ง จะทาศึก
ภายนอกยังต้องสงบศึกภายในก่อน ตระกูลใหญ่ตระกูลโตจานวน
มากต่างก็ตกอับจากภายใน หลังจากเจ้ากลับไปก็ถือโอกาสไปหาเว่ย
ซื่อจื่อผูน้ ้ นั ถามเขาว่าไม่เห็นจวนโหวของเราอยูใ่ นสายตาใช่หรื อไม่
พี่หา้ เจ้าแต่งไปเป็ นนายที่จวนพวกเขา เป็ นซื่อจื่อฮูหยิน ไม่ใช่บ่าวรับ
ใช้ที่จะตีจะด่าได้ตามอาเภอใจ ถามเขาว่าใช่ตอ้ งการจะหย่าหรื อไม่”
เสิ่ นเจวี๋ยพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ท่านพี่ ข้าทราบแล้ว”
เสิ่ นเวยยิม้ เล็กน้อย ตบบ่าของเขา “เจ้าเองก็ไม่เด็กแล้ว อย่างไรเสี ย
เรื่ องนี้กย็ งั เป็ นเรื่ องของบ้านสามเรา พ่อเราพึ่งพาไม่คอ่ ยได้ ท่านปู่ ก็
อายุมากแล้ว เรื่ องเล็กๆ เช่นนี้อย่าไปรบกวนเขาเลย เจ้าที่เป็ นบุตร
ภรรยาเอกคนโตบ้านสามของเราจะออกหน้ามิได้หรื อ เจ้าอย่า
เลียนแบบคนคร่ าครึ เหล่านั้น เรื่ องเรื อนหลังบางครั้งก็ก่อให้เกิด
หายนะได้ แม่เราก็เป็ นตัวอย่างให้เห็นอยูม่ ิใช่หรื อ เจ้าต้องรู ้วา่ อุบาย
ทรมานคนฆ่าคนในเรื อนหลังเยอะมากนัก เจ้าเข้าใจให้มากหน่อยใน
ภายหน้าแต่งภรรยาก็ไม่ถูกคนหลอกง่ายๆ แล้ว” เสิ่ นเวยกล่าวจากใจ
จริ ง
เสิ่ นเจวี๋ยพยักหน้าอีกครั้ง “ท่านพี่ ข้าทราบแล้ว” เขาจะต้อง
กลายเป็ นบุคคลเช่นปู่ เขา ไม่ใช่คนทึ่มทื่ออย่างเช่นพ่อเขา
หลังจากที่เสิ่ นเสวี่ยระบายอารมณ์เสร็ จแล้วก็เหลือเพียงความเสี ยใจ
ดวงตาทั้งคู่บวมราวกับลูกท้อ เป็ นสามีภรรยาเพียงวันเดียวแต่
ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นตลอดกาล นางไม่คิดว่าสามีจะไร้ความ
ปรานีเช่นนี้ นางอยูบ่ า้ นฝั่งมารดามาสองวันแล้ว คาดไม่ถึงว่าสามีจะ
ไม่มารับนางเลย แม้แต่ส่งหญิงชรารับใช้มาก็ยงั ไม่มี นี่จะให้นางเอา
หน้าไปไว้ที่ไหน ทุกครั้งที่สบสายตาเห็นใจของพี่สาวน้องสาวใน
จวน นางก็อยากจะแทรกแผ่นดินหนี
ไม่ นางไม่เชื่อว่าสามีจะทาเช่นนี้ต่อนาง ต้องเป็ นแม่สามีนางที่หา้ ม
สามีไว้ไม่ให้เขามา ใช่ ต้องเป็ นเช่นนี้ เมื่อคิดแบบนี้ หัวใจเสิ่ นเสวี่ยก็
ดีข้ ึนเล็กน้อย ทันใดนั้นหัวใจหนึ่งด้วงก็เป็ นกังวลขึ้นมาอีกครั้ง นาง
ไม่อยูใ่ นจวน หญิงสาวยัว่ ยวนหลายคนนั้นในจวนใช่จะยิง่ ไม่เกรง
กลัวสิ่ งใดหรื อไม่
โดยเฉพาะจ้าวเฟยเฟยผูน้ ้ นั วางท่าทางใสซื่อไร้เดียงสากายใจ
บริ สุทธิ์ หลอกใครกันเล่า ไม่ใช่อยากเป็ นอนุภรรยาของสามีหรื อ
ตนกลับบ้านฝั่งมารดา ไม่ใช่เป็ นการเสี ยเปรี ยบเด็กชัว่ หน้าไม่อายผู ้
นั้นหรื อ
เสิ่ นเสวี่ยกาผ้าเช็ดหน้า กัดฟันกรอด ไม่ได้ นางต้องรี บกลับไปจวน
หย่งหนิงโหวให้เร็วที่สุด! แต่สามีไม่มารับนางจะกลับไปอย่างซึม
เซาได้อย่างไร แม่สามีหยาบช้าไร้เหตุผลผูน้ ้ นั ของนางใช่จะยิง่ ดูถูก
นางหรื อไม่ ตอนนี้นางอับจนปัญญา จิตใจทรมานยิง่ นัก!
นายหญิงผูเ้ ฒ่ากับสวี่ซื่อเองก็โมโหจนเดือดดาล เดิมพวกนางคิดว่า
วันรุ่ งขึ้นเขยห้าก็จะมารับคนที่บา้ นแล้ว ถึงตอนนั้นผูอ้ าวุโสเหล่านี้
เช่นพวกนางก็พดู จากับเขาดีๆ ให้เขาขอโทษเสวี่ยเอ๋ อร์ เรื่ องนี้ก็
เรี ยบร้อยแล้ว
ใครจะรู ้รอมาสองวัน เขยห้าก็ไม่มา จวนหย่งหนิงโหวหายไปไม่
เห็นแม้แต่เงา เจ้าทาเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ลูกสะใภ้ไม่ตอ้ งการ
แล้วหรื อ หรื อว่าดูถูกจวนจงอู่โหวของพวกข้า ตั้งแต่สวี่ซื่อเข้าประตู
จวนจงอู่โหวมาก็ไม่เคยถูกตบหน้าเช่นนี้มาก่อน
“ท่านแม่ พวกเรารอเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว พรุ่ งนี้ลูกจะส่ งคนไปไต่
ถามที่จวนหย่งหนิงโหว ถามพวกเขาว่าเสวี่ยเอ๋ อร์ของพวกเราทาผิด
ที่ไม่อาจได้รับการอภัยอะไร อวี้ฮูหยินถึงกับเอ่ยปากก็ด่ายกมือก็ตบ
หากอธิบายออกมาไม่ได้ ก็อย่าหาว่าพวกเราใช้อานาจรังแกคน” สวี่
ซื่อขมวดคิว้ กล่าวกับนายหญิงผูเ้ ฒ่า
อันที่จริ งสวี่ซื่อเองก็ไม่อยากยุง่ เรื่ องนี้นกั เสวี่ยเอ๋ อร์เป็ นเพียง
หลานสาวของนาง ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของนาง แต่นายหญิงบ้านสาม
ไม่ใช่เข้าห้องพระเล็กไปแล้วหรื อ นางที่เป็ นโหวฮูหยินไม่จดั การ
แล้วใครจะจัดการ ไม่อาจปล่อยให้คนมองจวนจงอู่โหวเป็ นตัวตลก
ได้กระมัง
“ดี พรุ่ งนี้เจ้าให้แม่นมฉินไปเสี ย” นายหญิงผูเ้ ฒ่าเองก็โมโหอย่างยิง่
ไม่เคยเห็นตระกูลที่หน้าไม่อายไร้มารยาทเช่นนี้มาก่อน เว่ยซื่อจื่อก
ลับเป็ นเด็กดี เหตุใดถึงมีแม่เช่นนี้เล่า”
นายหญิงผูเ้ ฒ่าคิดเหมือนกันกับเสิ่ นเสวี่ย ต่างก็คิดว่าอวี้ซื่อห้ามเว่ยจ
วิ่นอวี้
ส่ วนนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็กาลังตาหนิลูกชายอยูใ่ นเรื อนนอก “ดู
คู่หมั้นที่เจ้าหาให้ลูกสาวเจ้าสิ ไม่ใช่ตระกูลที่รู้จกั หลักทานองคลอง
ธรรม ไม่ใช่วา่ จวนจงอู่โหวข้าดูถูกคน แต่จวนหย่งหนิงโหวนี้ดอ้ ย
กว่าตระกูลเหวินและตระกูลสวี่ไม่ใช่นอ้ ยๆ”
เสิ่ นหงเซวียนสี หน้าเหยเก “แม้ลูกจะผูกมิตรกับจวนหย่งหนิงโหว
แต่คู่หมั้นนี้เป็ นหยวนซื่อที่ตกลงหมั้นหมายตอนนั้นมิใช่หรื อ”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวยิง่ โมโหแล้ว “เจ้ายังมีหน้ามาพูด นี่เดิมทีกเ็ ป็ น
คู่หมั้นของเวยเอ๋ อร์ ถูกหลิวซื่อใช้อุบายเปลี่ยนให้เสวี่ยเอ๋ อร์แทน
คาดไม่ถึงว่าเจ้ายังยอมรับโดยดุษดี มีพอ่ ที่ลาเอียงเช่นเจ้าด้วยหรื อ
หากคนที่แต่งเข้าไปเป็ นเวยเอ๋ อร์ เจ้าว่านางจะร้องไห้กลับบ้านฝั่ง
มารดาหรื อไม่ มีศีรษะมากก็ตอ้ งสวมหมวกมาก ไม่มีฝีมือ
ความสามารถนั้นก็หาคนที่สบายใจแต่งสิ เสวี่ยเอ๋ อร์วางแผนจะแย่ง
ของของผูอ้ ื่นแล้วยังดูแลไม่ได้ ขายหน้า”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวยิง่ พูดก็ยงิ่ โมโห ลูกชายโง่ยงั ไม่พอ หลานสาวก็
เป็ นเช่นนี้ ต้องการจะยัว่ โมโหเขาให้ตายหรื อไร
“ทัว่ ทั้งเมืองหลวงเจ้ายังจะหาคนที่น่าโมโหเพียงนี้ได้อีกหรื อ คน
เป็ นแม่สามีตบหน้าลูกสะใภ้ แม่เจ้าผิดปกติเพียงนั้นยังไม่เคยทาเรื่ อง
เช่นนี้เลย ตอนที่นางก่นด่าเสวี่ยเอ๋ อร์นางเห็นจวนจงอู่โหวอยูใ่ น
สายตาบ้างหรื อไม่”
สี หน้าของเสิ่ นหงเซวียนก็ยงิ่ ไม่ดี ลังเลครู่ หนึ่งจึงกล่าว “ใช่เสวี่ย
เอ๋ อร์ทาเรื่ องไม่เหมาะสมอะไรหรื อไม่ ลูกเขยห้ายังถือว่าเป็ นคนที่
ไม่เลวอย่างยิง่ ” เขาพยายาแพก้ตวั แทนจวนหย่งหนิงโหว
คราวนี้ไปแหย่รังแตนเข้าแล้ว นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวอยากจะหยิกลูกคน
นี้เสี ยให้ตาย “ไม่เลวกับผี ข้างนอกสุ กใสข้างในเป็ นโพรง วางมาดดู
ดี แม่เขาเป็ นสตรี ไม่มีความรู ้ เขาที่เป็ นผูส้ ื บทอดจวนหย่งหนิงโหว
ในภายหน้ายังไม่รู้จกั มาขอโทษที่บา้ นพ่อตาอีกหรื อ อย่าว่าแต่เสวี่ย
เอ๋ อร์ไม่ได้ทาเรื่ องไม่เหมาะสมอะไร ต่อให้ทา คนเป็ นแม่สามีกไ็ ม่มี
สิ ทธิ์ไปตบหน้าลูกสะใภ้ นี่คือการตบหน้า ตบหน้าเสวี่ยเอ๋ อร์ ตบ
หน้าจวนจงอู่โหว ตบหน้านายท่านสามตระกูลเสิ่ นเช่นเจ้า แล้วยัง
ตบหน้าข้าเสิ่ นผิงยวนอีกด้วย!”
น้ าเสี ยงของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเด็ดขาดขึ้นเรื่ อนๆ “เร็ วๆ ให้จวน
หย่งหนิงโหวรับเสวี่ยเอ๋ อร์กลับไป ข้าเห็นแล้วหงุดหงิด หากพวกเขา
ไม่อยากรับเช่นนั้นก็หย่า หลานสาวของข้าเสิ่ นผิงยวนไม่กลัวว่าจะ
ออกเรื อนไม่ได้”
“ขอรับ ขอรับ ลูกทราบแล้ว” แม้เสิ่ นหงเซวียนจะรู ้สึกว่าพ่อเขาทา
เช่นนี้ไม่เหมาะสมนัก แต่เห็นพ่อเขาโกรธจนเป็ นเช่นนี้ คาพูด
ทั้งหมดในใจก็ไม่กล้าพูดแม้แต่ประโยคเดียวแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 239-1 ตบหน้ าเพีย๊ ะๆๆ
เมื่อจวนจงอู่โหวออกมือ จวนหย่งหนิงโหวก็ประสบหายนะแล้ว
รวมถึงนายหลายคนในจวนหย่งหนิงโหวก็วา้ วุน่ ใจแล้ว
ก่อนอื่นใดแม่นมจวนจงอู่โหวไปไต่ถามถึงหน้าบ้าน แม่นมอาวุโส
แต่งกายสมศักดิ์ศรี สองคนนั้นวางมาดด้วยความหยิง่ ยโส แววตาเต็ม
ไปด้วยความดูถูก วาจาที่เอ่ยออกมาก็เสี ยดแทงใจ “ทัว่ ทั้งเมืองหลวง
ก็หาแม่สามีบา้ นหลังที่สองตบหน้าลูกสะใภ้ไม่ได้ คุณหนูจวนจงอู่
โหวของพวกเราก็ไม่ใช่วา่ แต่งไม่ออก ตอนแรกหากรู ้วา่ จวนหย่งห
นิงโหวไร้กฎระเบียบเช่นนี้ ไม่วา่ นายท่านพูดอะไรก็ไม่อาจยินยอม
ให้กไู หน่ไนห้าแต่งเข้ามาเป็ นอันขาด!”
อีกคนหนึ่งก็กล่าว “น่าสงสาร คุณหนูจวนโหวที่น่ารักอ่อนหวาน
เพิ่งแต่งเข้ามาได้ไม่กี่เดือนก็ถูกทรมานจนผอมเห็นกระดูก ฮูหยิ
นสามของพวกเราตั้งใจรับใช้พระพุทธองค์ ยังไม่ทราบเรื่ องเลย หาก
ทราบแล้ว สวดมนต์หลายประโยคต่อหน้าพระพุทธรู ป คนที่ทรมาน
คุณหนูหา้ ของพวกเราคงจะต้องถูกฟ้าผ่า”
เห็นแล้วหรื อยัง นี่กค็ ือความสามารถของแม่นมที่มีหน้ามีตาใน
ตระกูลใหญ่ตระกูลโต พูดฉีกหน้าคนไม่จาเป็ นต้องใช้คาหยาบสัก
คา ก็สามารถยัว่ โมโหจนเจ้าอกแตกตายได้
อี้ซื่อถูกยัว่ โมโหจนมือไม้สนั่ ตั้งใจคิดอยากจะกล่าวโทษลูกสะใภ้
แต่กลับพูดไม่ออก แม้จะบอกว่าเสิ่ นซื่อผูน้ ้ นั มีท่าทีไม่เข้าตานาง แต่
ก็ไม่ใช่ความผิดใหญ่หลวงจริ งๆ เรื่ องวุน่ วายเมื่อวันก่อนก็เกี่ยวพัน
กับชื่อเสี ยงสตรี ของเฟยเฟย ดังนั้นนางจึงทาได้เพียงเอะอะโวยวาย
“นี่น่ะหรื อกฎระเบียบจวนจงอู่โหวของพวกเจ้า อยูด่ ีๆ ก็วิ่งกลับบ้าน
ฝั่งมารดา เสิ่ นซื่อน่ะ ให้นางกลับมา มีหรื อสะใภ้ที่ทาตัวเช่นนาง”
แม่นมฉินเชิดคางขึ้น “กฎระเบียบจวนจงอู่โหวของพวกข้าต่างจาก
กฎระเบียบจวนหย่งหนิงโหวของท่านจริ งๆ พวกข้าที่เป็ นแม่นมใน
จวนโหวไม่เคยตีไม่เคยด่าลูกสะใภ้ ต่อให้จะมีเรื่ องไม่เหมาะสมก็พดู
เตือนดีๆ กูไหน่ไนในจวนพวกข้าได้รับความไม่เป็ นธรรมก็ไม่เคย
ก้มหน้ารับไม่ปริ ปากบ่น สตรี ที่ไม่ปริ ปากเหล่านั้นล้วนแต่มีบา้ นฝั่ง
มารดาที่อ่อนแออานาจ หมดหนทางจึงเก็บไว้ในใจ นายท่านผูเ้ ฒ่า
ของพวกข้าพูดแล้วว่า กูไหน่ไนในจวนพวกเราไม่จาเป็ นต้องทา
เช่นนี้เลย เพียงแค่ยดื หลังตรงเชิดหน้า เหล่านายท่านในจวนพยายาม
อย่างเอาเป็ นเอาตายอยูข่ า้ งนอก ก็เพื่อให้กไู หน่ไหนเหล่านี้สามารถ
ใช้ชีวิตอย่างสบายใจในบ้านสามีได้มิใช่หรื อ”
คาพูดที่ใช้อานาจบาตรใหญ่เช่นนี้โจมตีอวี้ซื่อจนเบื้องหน้าดามืด
แทบจะเป็ นลม จ้าวเฟยเฟยลูกน้องสาวที่พยุงนางอยูเ่ ป็ นกังวลอย่าถึง
ที่สุด ก้าวขึ้นมาอธิบายกับแม่นมทั้งสองของจวนจงอู่โหวด้วยความ
อ่อนโยน “คารวะแม่นมทั้งหลาย พี่สะใภ้สบายดีหรื อไม่ จวนท่าน
อาจจะเข้าใจผิดแล้ว ท่านป้าดีต่อพี่สะใภ้ พี่สะใภ้เป็ นลูกสะใภ้แท้ๆ
ของท่านป้า จวนหย่งหนิงโหวต่อจากนี้ยงั ต้องส่ งมอบให้พี่สะใภ้
ท่านป้ายังชื่นชมว่าพี่สะใภ้กตัญญูอยูเ่ ลย ท่านป้าไหนเลยจะปฏิบตั ิ
ต่อนางอย่างไม่เป็ นธรรม ท่านป้าคิดจะไปรับพี่สะใภ้กลับมานาน
แล้ว เพียงแต่ร่างกายไม่สบายจึงล่าช้ามิใช่หรื อ พี่สะใภ้คงไม่โกรธ
หรอกกระมัง”
ท่าทางกระวนกระวายใจทั้งยังเป็ นห่วงอย่างยิง่ แสดงภาพลักษณ์
คุณหนูฝั่งมารดาที่เข้าใจหลักเหตุผลออกมาได้อย่างดีเยีย่ มสุ ดขีด แต่
แม่นมสองคนนี้เป็ นใครกัน มองแวบแรกก็ดูออกแล้วว่าคุณหนูฝั่ง
มารดาผูน้ ้ ีเป็ นคนเช่นไร อี๋เหนียงอนุภรรยาเหล่านั้นในเรื อนหลังก็
เป็ นเช่นนี้กนั หมดมิใช่หรื อ
แม่นมผูน้ ้ นั ข้างกายสวี่ซื่อกลอกตา “เอ๋ คนผูน้ ้ ีคือใครอีก บ่าวจาได้วา่
จวนหย่งหนิงโหวไม่มีนายท่านผูน้ ้ ีนี่!” ก็แค่คนหวังพึ่งใบบุญผูอ้ ื่น
เสแสร้งอะไรกัน นางเป็ นแม่นมที่ติดตามสวี่ซื่อออกเรื อน
เหมือนกับเจ้านายของนาง โดยเฉพาะนิสัยเกลียดชังญาติผนู ้ อ้ ง
ใบหน้าจ้าวเฟยเฟยแดงก่าในชัว่ ขณะ ในดวงตาโตๆ เอ่อไปด้วย
น้ าตา แต่กลับกัดริ มฝี ปากอย่างฝื นใจ คล้ายได้รับความอัปยศอย่างยิง่
ทาให้อวี้ซื่อสงสาร ตะโกนด้วยความโกรธ “นี่คือลูกน้องสาวของตัว
ข้าฮูหยิน ย่อมต้องเป็ นนายในจวนแห่งนี้ ใช่คนที่บ่าวเช่นพวกเจ้า
รังแกได้หรื อ”
แม่นมผูน้ ้ นั ไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว ยังยืดหลังตรง “หย่งหนิง
โหวฮูหยินพูดเช่นนี้บ่าวมิกล้ารับ บ่าวพูดจารังแกลูกน้องสาวผูส้ ู ง
ศักดิ์สกั ประโยคแล้วหรื อยัง โทษนี้มิอาจยัดเยียดได้ตามอาเอภใจนะ
เจ้าค่ะ!” นายบ้าอะไร ไม่ใช่อยากปี นขึ้นเตียงท่านซื่อจื่อผูน้ ้ นั หรื อไร
แม้จะยกตนเป็ นอี๋เหนียงก็เป็ นนายแค่ก่ ึงเดียวเท่านั้น เหอะ เป็ น
คุณหนูฝั่งมารดาดีๆ ไม่เป็ น จะไปเป็ นบ่าวให้ได้ เปิ ดโลกจริ งๆ แม่
นางผูน้ ้ ีสมองกลับแล้วหรื อ
ต้องรู ้วา่ ขอเพียงแค่จา้ วเฟยเฟยผูน้ ้ ีเป็ นอนุภรรยาของเว่ยซื่อจื่อ
เช่นนั้นก็ไม่อาจใช้ขอ้ อ้างว่าเป็ นญาติมาตัดสิ นลงโทษได้ ถึงตอนนั้น
หึๆ ก็น่าสนุกแล้ว
สายตาที่โหดเ**้้ยมของแม่นมมัว่ กวาดผ่านร่ างของจ้าวเฟยเฟย
กล่าวต่อ “นี่กค็ ือคุณหนูฝั่งมารดาผูน้ ้ นั ในจวนท่านใช่หรื อไม่ ได้ยนิ
ชื่อเสี ยงมานานจริ งๆ! ชายหญิงเจ็ดปี มิอาจร่ วมโต๊ะอาหาร คุณหนูฝั่ง
มารดาก็อายุสิบสามปี แล้ว อยูใ่ นห้องกับชายอื่นอย่างไม่เลี่ยงให้ตอ้ ง
สงสัยเช่นนี้ เป็ นกฎข้อใดกัน จวนจงอู่โหวของพวกข้าไม่มีกฎข้อนี้
ไม่แปลกใจที่กไู หน่ไนของพวกข้าจะโมโหจนกลับบ้านฝั่งมารดา”
สายตาที่เหยียดหยาม วาจาที่ตาหนิติโทษ แม้จา้ วเฟยเฟยจะฉลาดอยู่
เล็กน้อย แต่อย่างไรเสี ยอายุกย็ งั น้อย ไหนเลยจะทนรับความไม่เป็ น
ธรรมนี้ได้ รู ้สึกเพียงอึดอัดใจอย่างถึงที่สุด กุมหน้าวิ่งร้องไห้ออกไป
แล้ว
คราวนี้อวี้ซื่อโมโหอกระเบิดแล้วจริ งๆ ชี้แม่นมสองคนก่นด่าด้วย
ความโกรธ “พวกเจ้าสองคนสมควรตาย วิง่ มาวางมาดวางอานาจถึง
จวนหย่งหนิงโหวของพวกข้า ใครก็ได้ ลากออกไปให้ขา้ ที ลาก
ออกไป” ยัว่ โมโหนางแทบตายจริ งๆ จวนหย่งหนิงโหวตกต่าเป็ น
เรื่ องจริ ง แต่กไ็ ม่ถึงกับต้องให้บ่าวสองคนมาชี้มือชี้ไม้ นี่ทาให้อวี้ซื่อ
ที่มนั่ ใจในตัวเองอย่างถึงที่สุดรับไม่ได้แล้ว แม้แต่ผลที่จะตามมาก็
ไม่สนแล้ว สัง่ คนให้ลากพวกนางออกไปทันที
“ช้าก่อน!” แม่นมมัว่ หัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยันหนึ่งครา “ไม่ตอ้ ง
ให้หย่งหนิงโหวฮูหยินลงมือ สถานที่เช่นจวนหย่งหนิงโหวของท่าน
บ่าวยังรังเกียจที่จะเหยียบยา่ เรื่ องกูไหน่ไนห้าของพวกข้าท่านจง
ตัดสิ นใจ หากไม่ชอบจวนจงอู่โหวของพวกข้าก็พดู มาตรงๆ พวกข้า
ไม่ใช่คนชอบรบเร้า นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวของพวกข้าบอกแล้วว่าหาก
จวนท่านรังเกียจกูไหน่ไนห้าของพวกข้าจริ งๆ เช่นนั้นก็หย่าเสี ย
เถอะ หลานสาวของเขาไม่ใช่จะแต่งไม่ออก”
“หย่าหรื อ อย่าแม้แต่จะคิด!” เสี ยงของอวี้ซื่อสู งขึ้นมาอย่างรวดเร็ ว
บันดาลโทสะ “เสิ่ นซื่อยังคิดจะหย่า นางไม่ภคั ดีอกตัญญูไร้คุณธรรม
เช่นนี้ยงั คิดจะหย่า ไม่ตอ้ งแม้แต่จะคิด หนังสื อขับ หนังสื อขับ
เท่านั้น”
สี หน้าแม่นมฉินไม่เปลี่ยน วางกิริยาทะนงตน “ได้สิ ไม่ตอ้ งสนว่าจะ
เป็ นหนังสื อหย่าหรื อหนังสื อขับ ขอเพียงแค่จวนหย่งหนิงโหวกล้า
มอบ จวนจงอู่โหวของพวกข้าก็กล้ารับ รบกวนอวี้ฮูหยินรี บหน่อย!”
แม่นมสองคนเชิดหน้าออกไปแล้ว อวี้ซื่อโมโหจนเป็ นลมไปพักๆ
“กลัน่ แกล้งกันเกินไปแล้ว กลัน่ แกล้งกันเกินไปแล้ว ข้าทากรรมไว้
ในชาติไหน ถึงได้แต่งสตรี ที่สร้างความวุน่ วายให้ตระกูลเช่นนี้
ซื่อจื่อเล่า ซื่อจื่อกลับมาแล้วหรื อยัง รี บไปบอกให้เขาเขียนหนังสื อ
ขับ วัดเล็กๆ ของเรามิอาจเก็บพระพุทธรู ปองค์ใหญ่เช่นนางไว้ได้
หรอก”
“ฮูหยินโปรดระงับโทสะ ฮูหยินโปรดสงบอารมณ์” สาวใช้กบั แม่
นมที่มีความสามารถข้างกายอวี้ซื่อรี บกล่าวโน้มน้าว พวกนางไหน
เลยจะกล้าไปตามท่านซื่อจื่อ เห็นชัดๆ ว่าฮูหยินเอ่ยวาจาด้วยความ
โกรธ ซื่อจื่อฮูหยินขับง่ายเพียงนั้นเชียวหรื อ บ้านฝั่งมารดาของซื่อจื่
อฮูหยินเป็ นถึงจวนจงอู่โหว ใหญ่โตกว่าจวนหย่งหนิงโหวที่ตกอับ
เช่นนี้ของพวกนางมาก ดังนั้นหลังของซื่อจื่อฮูหยินจึงยืดตรงเพียง
นั้นได้ แม้ฮูหยินจะเป็ นแม่สามี แต่แล้วอย่างไร ขับหรื อไม่ขบั ซื่อจื่
อฮูหยินอย่าว่าแต่ฮูหยินตัดสิ นใจไม่ได้ ต่อให้เป็ นท่านซื่อจื่อก็
ตัดสิ นใจไม่ได้เช่นกัน เรื่ องนี้ยงั ต้องให้ท่านโหวเป็ นผูต้ ดั สิ นใจ
“ฮูหยินท่านรี บระงับโทสะเถิดเจ้าค่ะ คนหยาบคายเหล่านี้ในจวนจง
อู่โหวจะมีบ่าวที่รู้จกั มารยาทได้อย่างไร ท่านคิดเล็กคิดน้อยกับพวก
นางไม่ใช่เป็ นการลดตัวเองลงเปล่าๆ หรื อ มา ฮูหยินดื่มชาคลาย
อารมณ์เสี ยหน่อย” แม่นมคนสนิทยกถ้วยชาส่ งไปที่มืออวี้ซื่อ
ตอนนี้อวี้ซื่อไหนเลยจะมีอารมณ์ดื่มชา มือสะบัดปั ดถ้วยชาตกลงบน
พื้น น้ าชาและเศษกระเบื้องแตกกระจายทัว่ สารทิศ อวี้ซื่อเองก็ไม่
สนใจ ยังคงกล่าวด้วยความเดือดดาล “นี่ไหนเลยจะเป็ นลูกสะใภ้
เห็นชัดๆ ว่าเป็ นบรรพบุรุษต่างหาก! ข้าเป็ นแม่สามี ยังต้องพลิกหน้า
สะใภ้มาดู ชีวิตช่วงนี้อบั จนหนทางจริ งๆ”
หญิงชัว่ ในเมื่อมีความสามารถกลับบ้านฝั่งมารดาได้ เช่นนั้นก็อยูไ่ ป
ตลอดเถิด หวังว่านางจะไปขอโทษ ไปรับหรื อ อย่าได้คิด!
แม่นมคนสนิทที่สงั่ สาวใช้เก็บกวาดเศษบนพื้นเสี ยงเบาพูดในใจ
ตั้งแต่อดีตแม่สามีลูกสะใภ้เป็ นศัตรู แต่กาเนิด แม่สามีไม่ทรมาน
ลูกสะใภ้ ลูกสะใภ้กว็ างอานาจไม่เห็นแม่สามีอยูใ่ นสายตา
ฮูหยินกับซื่อจื่อฮูหยินแม่สามีลูกสะใภ้คู่น้ ีกเู หมือนจะเป็ นอย่างหลัง
แต่ที่วนุ่ วายมาจนถึงวันนี้กเ็ ป็ นฮูหยินที่ทาขึ้นมาเอง นึกถึงตอนแรก
ที่ซื่อจื่อฮูหยินแต่งเข้ามาก็เคารพกตัญญูต่อฮูหยินอย่างถึงที่สุด แต่ฮู
หยินกลับเห็นซื่อจื่อฮูหยินไม่เข้าตา นานวันเข้า ก็ขดั หัวใจของซื่อจื่
อฮูหยินให้เย็นชามิใช่หรื อ
อันที่จริ งบ่าวเหล่านี้เช่นพวกนางมองเห็นชัดเจน ฮูหยินเพียงแค่
รังเกียจที่สินเดิมของซื่อจื่อฮูหยินที่นอ้ ยเกินไปมิใช่หรื อ
“ฮูหยินเอ่ยวาจาโทสะออกมาได้อย่างไร ท่านซื่อจื่อกับซื่อจื่อฮูหยิน
กตัญญูต่อท่านอย่างถึงที่สุด” แม้จะรู ้วา่ แม่สามีลูกสะใภ้ไม่ถูกกัน แต่
คนเป็ นบ่าวกลับไม่โน้มน้าวไม่ได้
“อวี้เอ๋ อร์ของข้าย่อมกตัญญูอย่างถึงที่สุด ส่ วนเสิ่ นซื่อ เหอะ นางไม่
ยัว่ โมโหข้าตายก็ไม่เลวแล้ว” อวี้ซื่อตบที่วางแขนเก้าอี้ นึกถึงลูกน้อง
สาวที่วิ่งร้องไห้ออกไป “ไปดูสิวา่ เฟยเฟยเป็ นอย่างไรแล้ว เด็กที่น่า
สงสารถูกข้าพาให้โชคร้ายโดยที่ไม่รู้เรื่ องอะไรเลย”
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 239-2 ตบหน้ าเพีย๊ ะๆๆ
อวี้ซื่อสาปแช่งอยูใ่ นห้องครู่ ใหญ่จึงสงบอารมณ์ลงได้ ในตอนนี้เอง
หย่งหนิงโหวก็เดินมือไพล่หลังเข้ามา อวี้ซื่อตกใจ “ท่านโหวกลับมา
ได้อย่างไร มีเรื่ องอะไรหรื อ” นี่ยงั ไม่ถึงเวลาเลิกงานเลย!
หย่งหนิงโหวใบหน้าเคร่ งขรึ ม จ้องมองอวี้ซื่อก่อน จากนั้นจึงโบก
มือไล่คนรับใช้ในห้องทั้งหมดออกไป อวี้ซื่อก็ยงิ่ ประหลาดใจ “ท่าน
โหว เกิดเรื่ องแล้วจริ งๆ หรื อ” บนใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
หย่งหนิงโหวเพิ่งจะมองอวี้ซื่อแล้วกล่าว “ภรรยาอวี้เอ๋ อร์กลับบ้าน
ฝั่งมารดาเหตุใดเจ้าถึงไม่ส่งคนไปรับ”
อวี้ซื่อใจเต้น ท่านโหวรู ้แล้วหรื อ ท่านโหวที่แต่ไหนแต่ไรไม่ใส่ ใจ
เรื อนหลังรู ้ได้อย่างไรว่าเสิ่ นซื่อกลับบ้านฝั่งมารดา หญิงชัว่ หน้าไม่
อายคนไหนปากมาก ความคิดแรกของอวี้ซื่อก็คือสตรี หลายคนนั้น
ในเรื อนหลังอยูไ่ ม่สุขแล้ว
“ท่านโหวไปฟังมาจากไหน ภรรยาอวี้เอ๋ อร์เพียงแค่กลับบ้านฝั่ง
มารดาไปพักสองวันจะรบกวนท่านโหวได้อย่างไร!” อวี้ซื่อยกยิม้
กล่าว “ท่านโหวเองก็เหมือนกัน เรื่ องเล็กเท่านี้รอตกกลางดึกค่อย
ถามไม่ได้ ท่านโหวถึงกับต้องออกจากที่วา่ การกลับจวนก่อนเชียว
หรื อ” นางไม่พอใจ
หย่งหนิงโหวได้ยนิ ดังนั้น คิว้ กลับขมวดมุ่น ยังคงจ้องมองใบหน้า
ของอวี้ซื่อ “เพียงแค่กลับบ้านฝั่งมารดาไปพักสองวันงั้นหรื อ เหตุใด
ข้าถึงได้ยนิ ว่าแม่สามีเช่นเจ้าตบหน้าภรรยาอวี้เอ๋ อร์เล่า นางอับอาย
รับไม่ได้จึงวิ่งกลับบ้านฝั่งมารดา”
รอยยิม้ บนใบหน้าของอวี้ซื่อหายวับฉับพลัน “ไหนเลยจะจริ งจัง
อย่างที่ท่านโหวพูด เพียงแค่ภรรยาอวี้เอ๋ อร์ไม่รู้ประสา ข้าจึงลงโทษ
นางเล็กๆ น้อยๆ…”
“ดังนั้นเจ้าเลยตบหน้านางต่อหน้าบ่าวรับใช้ท้ งั ห้องงั้นหรื อ” หย่งห
นิงโหวพูดแทรก
เผชิญหน้ากับสายตาที่บีบบังคับของท่านโหวของตน ชัว่ พริ บตาอวี้
ซื่อก็ใจฝ่ อขึ้นมา ตะโกนอย่างแข็งนอกอ่อนใน “ข้าเป็ นแม่สามี สัง่
สอนกฎระเบียบลูกสะใภ้แล้วอย่างไร เสิ่ นซื่อกาเริ บเพียงนั้น เอ่ย
ปากก็ทาลายชื่อเสี ยงเฟยเฟย ข้าอบรมนางเล็กน้อยแล้วอย่างไร อยู่
ดีๆ ก็กระฟัดกระเฟี ยดวิ่งกลับบ้านฝั่งมารดา นี่หมายความไม่เห็นข้า
แล้วยังไม่เห็นจวนหย่งหนิงโหวของพวกเราอยูใ่ นสายตา”
คิว้ ของหย่งหนิงโหวขมวดมุ่นยิง่ ขึ้น กล่าวอย่างไม่พอใจนัก “เหตุใด
เรื่ องนี้ถึงได้มีเรื่ องของเฟยเฟยเด็กคนนั้นด้วยเล่า”
อวี้ซื่อถือโอกาสราดน้ ามันบนไฟเล่าเรื่ องหนึ่งรอบ กล่าวอย่างเดือด
ดาล “อย่างไรเสี ยเสิ่ นซื่อผูน้ ้ นั ก็มีเจตนาให้ร้าย เฟยเฟยเพิ่งจะอายุ
เท่าไรเอง เป็ นเพียงเด็กคนหนึ่ง สนิทกับอวี้เอ๋ อร์เหมือนเป็ นพี่ชาย
แท้ๆ เหตุใดพอเสิ่ นซื่อพูดถึงได้กลายเป็ นความคิดสกปรกโสมมเล่า”
อวี้ซื่อตาหนิอย่างไม่พอใจ
นางวางแผนอื่นไว้ให้ลูกน้องสาวผูน้ ้ ีแล้ว เฟยเฟยเด็กคนนั้นหน้าตา
สะสวย เป็ นคู่สมรสที่ดีอย่างยิง่ บุตรอนุภรรยาหลายคนในจวน หนึ่ง
คือไม่ค่อยเหมาะสมนัก สองคือนางไม่ถูกชะตา ให้เกียรติพวกนาง
ไม่สู้ให้เกียรติเฟยเฟย อย่างน้อยภายหลังนางมีอานาจแล้วก็ไม่มีทาง
ลืมนางผูเ้ ป็ นป้าได้
ดังนั้นนางจึงไม่เคยคิดจะแต่งลูกน้องสาวเป็ นอนุภรรยาของลูกชาย
ทว่าหย่งหนิงโหวกลับกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย “ภรรยาของอวี้เอ๋ อร์พดู
ถูก เฟยเฟยโตเป็ นสาวแล้ว วิง่ ไปห้องอวี้เอ๋ อร์บ่อยๆ เช่นนี้อย่างกับ
อะไรดี เจ้าเองก็ไม่พดู บ้างนางกลับทาตัวตามใจ ไม่ได้เรื่ องเลย
จริ งๆ”
อวี้ซื่อสะอึก กล่าวอย่างไม่ยอม “ท่านโหว อวี้เอ๋ อร์กบั เฟยเฟยเป็ น
ลูกพี่ลูกน้องแท้ๆ เฟยเฟยไปหาอวี้เอ๋ อร์กเ็ พียงแค่ให้สอนบทกลอน”
“ต่อให้เป็ นพี่นอ้ งแท้ๆ เจ็ดปี ยังไม่อาจร่ วมโต๊ะอาหาร” หย่งหนิง
โหวกล่าวเสี ยงต่า เขาเป็ นปัญญาชนที่สุภาพเรี ยบร้อยที่สุด “นางเป็ น
เด็กผูห้ ญิงคนหนึ่ง อ่านหนังสื อข้อปฏิบตั ิสตรี หลักกตัญญูเล็กน้อยก็
พอแล้ว สอนบทกลอนอะไรกัน นี่ไม่ใช่ทาให้อวี้เอ๋ อร์เสี ยเวลา
ทบทวนบทเรี ยนหรอกหรื อ วุน่ วาย วุน่ วายเกินไปแล้ว!”
เห็นสี หน้าของอวี้ซื่อไม่ดีนกั หย่งหนิงโหวคิดแล้วคิดอีกจึงกล่าว
“ลูกน้องสาวผูน้ ้ นั ของเจ้าหากอยากเรี ยนกลอนกวีจริ งๆ เจ้าก็เชิญ
อาจารย์หญิงมาให้นางก็ได้แล้ว ค่าใช้จ่ายแค่น้ ีจวนหย่งหนิงโหวของ
ข้ายังรับผิดชอบได้”
หากจ้าวเฟยเฟยอยูต่ รงนี้ คงจะต้องว้าวุน่ ใจมากเป็ นพิเศษ ใครจะบ้า
อยากเรี ยนกลอนกวีกนั ความปรารถนาของข้าไม่ได้อยูท่ ี่บทกลอน
แต่อยูท่ ี่ญาติผพู ้ ี่ต่างหาก
“เช่นนั้นข้าก็ขอขอบคุณท่านโหวก่อนเลย” อวี้ซื่อได้ยนิ แล้วก็สนใจ
ขึ้นมาทันที เฟยเฟยฉลาดเพียงนั้น หากได้เรี ยนสักหนึ่งปี ครึ่ งปี ถึง
ตอนนั้นได้ชื่อว่าเป็ นสตรี ผมู ้ ีความสามารถใดๆ การหมั้นหมายก็ยงิ่
ง่ายดาย
หย่งหนิงโหวพยักหน้า จากนั้นจึงกล่าว “แม้จะบอกว่าเสิ่ นซื่อ
อารมณ์ร้อนไปหน่อย แต่อย่างไรเสี ยเรื่ องนี้กเ็ ป็ นความผิดของเจ้า
ไม่ตอ้ งให้ถึงพรุ่ งนี้ วันนี้เลยแล้วกัน เจ้าพาอวี้เอ๋ อร์ไปรับเสิ่ นซื่อ
กลับมาจากจวนจงอู่โหว ให้อวี้เอ๋ อร์ขอโทษภรรยาของเขาดีๆ”
ดวงตาของอวี้ซื่อเบิกโตอย่างรวดเร็ ว ประหนึ่งแมวถูกเหยียบหาง
“ให้ขา้ ไปรับเสิ่ นซื่อหรื อ นางเป็ นใครกัน! ท่านโหวท่านไม่รู้ ก่อน
หน้านี้แม่นมจวนจงอู่โหวมาโอ้อวดเหิมเกริ มที่จวนของพวกเราแล้ว
มีหรื อที่กลัน่ แกล้งคนเช่นนี้ ข้าว่า ในเมื่อวุน่ วายจนเป็ นเช่นนี้แล้ว
ไม่สู้ขบั เสิ่ นซื่อผูน้ ้ นั ให้สิ้นเรื่ อง อวี้เอ๋ อร์ของพวกเรามีความรู ้
ความสามารถ…”
ยังพูดไม่ทนั จบก็ถูกเสี ยงขว้างถ้วยชาของหย่งหนิงโหวตัดบทแล้ว
“ขับเสิ่ นซื่องั้นหรื อ เจ้าบังอาจนัก เจ้ามันหญิงโง่ เจ้าไม่ดูเสี ยบ้างว่า
ตอนนี้จวนจงอู่โหวเป็ นเช่นไร นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเป็ นราชครู ไม่
เพียงแต่เป็ นหัวหน้าขุนนางฝ่ าบบุ๋น ซ้ ายังได้รับความเชื่อใจจากฝ่ า
บาทอย่างยิง่ เจ้าจะขับหลานสาวของเขา เจ้าจะนาหายนะมาให้จวน
หย่งหนิงโหวหรื อ”
สี หน้าของหย่งหนิงโหวไม่ดีอย่างยิง่ แล้ว “เจ้าคิดว่าจวนหย่งหนิง
โหวยังเป็ นเหมือนยีส่ ิ บปี ก่อนหรื อ เจ้าเชื่อหรื อไม่วา่ ฝั่งเจ้าขับเสิ่ นซื่อ
ฝั่งเขาก็สามารถแต่งเข้าตระกูลสู งส่ งได้ทนั ที ทัว่ ทั้งเมืองหลวงอยาก
เชื่อมสัมพันธ์ทางการสมรสกับจวนจงอู่โหวเยอะถมไป หากไม่ใช่
ข้าสนิทสนมกับพี่เสิ่ น เขาจะวางใจให้บุตรสาวแต่งเข้าจวนพวกเรา
หรื อ เจ้าที่เป็ นแม่สามียงั คิดจะบังคับบุตรสาวพวกเขา ข้าเห็นพี่เสิ่ นก็
รู ้สึกหายใจไม่ทวั่ ท้องแล้ว”
เดิมทีวนั นี้เขาทางานที่ที่วา่ การ พี่เสิ่ นมาหาด้วยตัวเอง ภายใต้ความ
ประหลาดใจเขาจึงต้อนรับอย่างกระตือรื อร้น ไหนเลยจะรู ้วา่ พี่เสิ่ น
พูดอ้ าๆ อึ้งๆ บอกเขาว่าบุตรสาวได้รับการปฏิบตั ิอย่างไม่เป็ นธรรม
จากแม่สามีในบ้านสามี กลับบ้านไปสองวันแล้ว อีกทั้งยังบอกเป็ น
นัยว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวโมโหแล้ว แม้แต่คาพูดว่าหย่าก็เอ่ยออก
มาแล้ว
หย่งหนิงโหวตกใจใหญ่ เรื่ องนี้เขาไม่เคยได้ข่าวเลยแม้แต่นิดเดียว!
ด้วยอานาจในตอนนี้ของจวนจงอู่โหว พี่เสิ่ นตกลงแต่งบุตรสาวเข้า
มาเขาก็ซาบซึ้งอย่างยิง่ แล้ว ไม่วา่ จะเป็ นบุตรสาวคนใดก็ตาม
อย่างไรเสี ยเป็ นบุตรสาวของพี่เสิ่ นก็พอแล้ว
แม้ชวั่ ชีวติ นี้ของเขาจะไม่ค่อยประสบความสาเร็ จนัก แต่กย็ งั หวังว่า
ลูกชายจะได้ดี หาบ้านพ่อตาที่มีอานาจเช่นนี้ให้ลูกชายได้เขาก็พอใจ
อย่างยิง่ แล้ว เดิมลูกชายก็มีความรู ้ความสามารถ บ้านพ่อตาช่วยอีก
แรง วันที่จวนหย่งหนิงโหวพัฒนาก็อยูไ่ ม่นานเกินรอแล้ว! ทุกครั้งที่
เขานึกถึงตรงนี้เขาก็รู้สึกว่าชีวิตมีความหวัง
แม้วา่ เสิ่ นซื่อลูกสะใภ้ผนู ้ ้ ีเขาจะเห็นไม่บ่อยนัก แต่ความประทับใจก็
ไม่เลว เคารพเชื่อฟังมีมารยาทฟังว่ายังเชี่ยวชาญบทกลอน เทียบกับ
ความประพฤติของภรรยาตนแล้ว หย่งหนิงโหวไม่เชื่อคาพูดของอวี้
ซื่อแม้แต่นิดเดียว
“เจ้าไม่ไปรับหรื อ หรื อจะให้ขา้ ไป” หย่งหนิงโหวกล่าวถาม “หญิง
โง่เช่นเจ้าอยากทาลายอวี้เอ๋ อร์ใช่หรื อไม่ เจ้าเองก็ไม่คิดบ้างว่านาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวเป็ นขุนนางคนสนิทของฝ่ าบาท ขอเพียงแค่เขาบอก
เป็ นนัยต่อหน้าฝ่ าบาทเล็กน้อยว่าอวี้เอ๋ อร์ครอบครัวแตกหัก อวี้เอ๋ อร์
จะยังมีอนาคตอะไรได้”
อวี้ซื่อตกใจอย่างยิง่ ทันที “ร้าย…ร้ายแรงเพียงนี้เลยหรื อ”
หย่งหนิงโหวหายใจแรง “ร้ายแรงกว่าที่เจ้าคิดไว้มาก สร้างความ
ประทับใจที่ไม่ดีให้แก่ฝ่าบาท อวี้เอ๋ อร์จะดีได้อย่างไร เจ้าลองทาสิ
ทาลายอนาคตของลูกเจ้าเอง” หย่งหนิงโหวว้าวุน่ ใจยิง่ นัก เหตุใดเขา
ถึงได้แต่งงานกับหญิงโง่เช่นนี้ ก่อนหน้านี้กบ็ ีบบังคับอนุภรรยา
ตอนนี้กบ็ ีบบังคับลูกสะใภ้ นางทาเรื่ องถูกต้องได้บา้ งหรื อไม่
“ท่านโหว ข้าจะไป ข้าจะไปขอโทษเสิ่ นซื่อผูน้ ้ นั ด้วยตัวเอง” อวี้ซื่อ
รี บตะโกนกล่าว ตอนนี้นางไม่ห่วงศักดิ์ศรี อะไร แม่สามีอะไรอีก
แล้ว ลูกชายคือสิ่ งสาคัญของนาง ทั้งยังเป็ นที่พ่ งึ ในช่วงชีวิตครึ่ งหลัง
ของนาง เพื่อลูกชายแล้วอย่าว่าแต่ให้นางไปขอโทษ แม้จะต้อง
คุกเข่านางก็กลั้นใจทาได้!
สี หน้าของหย่งหนิงโหวดีข้ ึนเล็กน้อย กล่าวกาชับ “ไปดูสิวา่ ซื่อจื่ออ
ยูใ่ นจวนหรื อไม่ หากไม่อยูก่ ไ็ ปหาที่ราชวิทยาลัยกัว๋ จื่อ” เลี่ยงไม่ให้
นานไปยิง่ แย่ รี บไปรับเสิ่ นซื่อกลับมาเสี ยจะดีกว่า
หย่งหนิงโหวสองสามีภรรยาไม่รู้วา่ ลูกชายของพวกเขาร้อนใจยิง่
กว่าพวกเขาเสี ยอีก
แม้เว่ยจิ่นอวี้จะยังคงเป็ นนักเรี ยนของราชวิทยาลัยกัว๋ จื่อ แต่เรี ยน
มาถึงระดับนี้เขาก็ไม่จาเป็ นต้องมาราชวิทยาลัยกัว๋ จื่อทุกวัน วันนี้เขา
นาบทความหลายเล่มที่ตนเขียนในช่วงนี้มาขอคาแนะนาจากอาจารย์
ที่ราชวิทยาลัยกัว๋ จื่อ ถือโอกาสแลกเปลี่ยนความรู ้กบั เพื่อนร่ วมชั้น
เรี ยนด้วยเล็กน้อย ขณะที่กาลังถกเถียงกันอย่างออกรถออกชาติ
น้องชายคนเล็กของภรรยาเขาก็เข้ามาหา เอ่ยปากก็ถามว่าเขาใช่
ต้องการหย่ากับพี่หา้ ของเขาหรื อไม่
คาพูดเดิมของเสิ่ นเจวี๋ยพูดเช่นนี้ “พี่เขย แท้จริ งแล้วตระกูลพวกท่าน
คิดเช่นไรกันแน่ หากตระกูลพวกท่านไม่ชอบพี่หา้ ของข้าจริ งๆ ท่าน
ปู่ ก็บอกว่าสามารถหย่าได้ แม่สามีทรมานพี่หา้ ของข้าเช่นนี้เพื่ออะไร
ตบหน้าลูกสะใภ้ เรื่ องนี้อย่าว่าแต่ตระกูลใหญ่ตระกูลโตไม่มี ต่อให้
เป็ นครอบครัวชาวนายังหายากเลย! นายท่านจวนจงอู่โหวของพวก
ข้ายังไม่ตาย พี่หา้ กลับบ้านมาสองวันแล้ว จวนท่านไม่ถามไม่ไถ่
หมายความว่าอย่างไรท่านบอกได้หรื อไม่”
ให้ตายเถอะ เรื่ องนี้ใหญ่จริ งๆ! เว่ยจิ่นอวี้รู้สึกเพียงสายตาที่เพื่อนร่ วม
ชั้นมองเขาแปลกขึ้นมาทันที ถูกน้องชายภรรยามาหาถึงราชวิทยาลัย
ใบหน้าของเขาก็ร้อนผ่าว เขาคิดจะหาที่ลบั ตาพูดคุย แต่นอ้ งภรรยาผู ้
นั้นดันไม่ยอม “คนของจวนจงอู่โหวของพวกข้าต่างก็มีนิสยั
ตรงไปตรงมา ไม่มีเรื่ องใดที่ไม่พดู ต่อหน้าคนไม่ได้ มีอะไรพวกเราก็
พูดออกมาอย่างเปิ ดเผยบริ สุทธิ์ใจสิ ! พี่เขยห้า เหตุใดแม่สามีถึงตบพี่
ห้าของข้าเล่า” เสิ่ นเจวี๋ยถามด้วยใบหน้าจริ งจัง “แม้พี่หา้ ของข้าจะ
โมโหง่าย ทว่าแต่ไหนแต่ไรก็รักษากฎระเบียบดีอย่างยิง่ กตัญญูต่อผู ้
อาวุโส คนที่ท่านย่ารักที่สุดในจวนก็คือนาง”
เว่ยจิ่นอวี้รู้สึกว่าสายตาที่สาดมาบนร่ างเขาร้อนผ่าวยิง่ ขึ้น ทาได้เพียง
อดทนอธิบาย “น้องเจวี๋ย เจ้าเข้าใจผิดแล้ว พี่กบั พี่หา้ ของเจ้าทะเลาะ
กันเพียงไม่กี่ประโยค ไม่เกี่ยวกับท่านแม่จริ งๆ” ภายใต้สายตาที่จบั
จ้อง เว่ยจิ่นอวี้ไม่โง่ จะยอมรับว่าแม่เขาตบหน้าภรรยาเขาได้อย่างไร
ย่อมต้องรับความผิดไว้เอง ระหว่างสามีภรรยาคู่ใหม่มีปากเสี ยงกันก็
เป็ นเรื่ องที่ธรรมดาอย่างยิง่ มิใช่หรื อ
ทว่าเสิ่ นเจวี๋ยกลับไม่คิดจะทาให้เขาสมปรารถนา “ผูอ้ าวุโสใน
ตระกูลถามพี่หา้ แล้ว พี่หา้ เอาแต่ร้องไห้ ไม่ยอมพูดแม้แต่ประโยค
เดียว ยังคงเป็ นท่านย่าที่เห็นรอยฝ่ ามือบนใบหน้าของนางจึงไต่ถาม
สาวใช้ขา้ งกายนาง ฟังว่าแม่สามีไม่พอใจสิ นเดิมของพี่หา้ ข้าอย่างยิง่
พี่เขยห้ามีเรื่ องเช่นนี้หรื อไม่”
ไม่รอให้เว่ยจิ่นอวี้ตอบเขาก็กล่าวต่อ “สิ นเดิมของพี่หา้ ข้าก็ไม่ได้
น้อยมิใช่หรื อ แม้จะพูดไม่ได้วา่ ดีที่สุด แต่กเ็ ยอะกว่าสิ นเดิมทัว่ ไป
แล้ว! แม่สามีอยากได้เท่าไรกัน พี่เขยห้าท่านบอกจานวนมาก ข้าจะ
กลับไปพูดกับผูอ้ าวุโส เพิ่มเติมให้พี่หา้ อีกหน่อย ไม่อาจปล่อยให้
ของนอกกายมาทาให้ท่านพี่ถูกทรมานที่บา้ นสามีได้กระมัง”
“ไม่…ไม่มีเรื่ องเช่นนี้…” เว่นจิ่นอวี้ที่ปกติพดู จากคล่องแคล่วอย่าง
ยิง่ กลับเค้นประโยคนี้ออกมาอย่างอ้ าอึ้ง น่าขายหน้าเกินไปแล้ว อึด
อัดใจเกินไปแล้ว เขากระทัง่ ได้ยนิ เสี ยงกระซิบกระซาบของเพื่อน
ร่ วมชั้นเรี ยนข้างหลัง เขาอยากหนีไปให้เร็ ว แต่นอ้ งภรรยาผูน้ ้ นั ของ
เขาก็ขวางอยูข่ า้ งประตู เขาหนีไปไม่ได้อย่างสิ้ นเชิง “น้องเจวี๋ย เจ้า
เอาที่ไหนมาพูด แต่ไหนแต่ไรสิ นเดิมของสตรี เป็ นทรัพย์สินส่ วนตน
ของตัวเอง สิ นเดิมของพี่เจ้ามากน้อยพวกข้าย่อมไม่สนใจอยูแ่ ล้ว ยิง่
ไปกว่านั้นข้าเว่ยจิ่นอวี้เป็ นสุ ภาพบุรุษจะคานวณสิ นเดิมของภรรยา
ทาไมกัน” เขากล่าวอย่างมีเหตุผลและสัจธรรม
เสิ่ นเจวี๋ยแสยะปาก “มีเรื่ องนี้หรื อไม่กม็ ีเพียงจวนพวกท่านที่รู้ดี
อย่างไรเสี ยคาพูดนี้ท่านย่าก็บีบบังคับออกมาจากปากสาวใช้ขา้ งกาย
ของพี่หา้ อ้อ ฟังว่าในจวนพวกท่านยังมีคุณหนูฝั่งมารดาที่สร้าง
ความวุน่ วายผูห้ นึ่ง พี่หา้ ข้าเห็นแล้วไม่ชอบใจจึงว่านางไม่กี่ประโยค
จากนั้นแม่สามีกห็ นุนหลังคุณหนูฝั่งมารดาตบหน้าพีห่ า้ ของข้า เป็ น
เช่นนี้ใช่หรื อไม่”
คนอื่นๆ ในห้องเรี ยนได้ยนิ คุณหนูฝั่งมารดาอะไรนัน่ สายตาที่มอง
เว่ยจิ่นอวี้กล็ ุกวาวในชัว่ ขณะ บ้างก็อิจฉา บ้างก็ดูถูก
ส่ วนเว่ยจิ่นอวี้กอ็ ึดอัดจนหน้าแดงก่า “หวังว่าน้องเจวี๋ยจะปรานีบา้ ง
เหตุใดถึงทาลายเชื่อเสี ยงสตรี ต่อหน้าผูอ้ ื่นเล่า”
เสิ่ นเจวี๋ยเก็บสี หน้าท่าทางของคนทั้งหมดไว้ในสายตา ไม่สนใจเว่ยจิ่
นอวี้ผนู ้ ้ นั อย่างสิ้ นเชิง “หรื อว่าข้าไม่ได้พดู ความจริ ง คุณหนูฝั่ง
มารดาผูน้ ้ นั ในจวนท่านไม่ใช่อายุสิบสามสิ บสี่ ปี แต่อายุสามสี่ ปีหรื อ
ไร ไม่น่าใช่ คราวก่อนพี่หา้ ข้ากลับมาแม่สามียงั ให้คุณหนูฝั่งมารดา
มาเยีย่ มด้วยอยูเ่ ลย” เสิ่ นเจวี๋ยแสดงท่าทีสบั สนงุนงง ทาให้มีคน
หัวเราะคิกคัก
“ข้าต้องติพี่เขยสักหน่อย สตรี น่ะต่างก็ชอบมีนิสัยหึงหวง หวงแหน
คุณหนูฝั่งมารดาไม่รู้ประสา พี่เขยท่านก็ไม่รู้ประสาด้วยหรื อไร ชาย
หญิงอยูร่ ่ วมกันในห้องสองต่อสองเช่นนั้น พี่หา้ ข้าเห็นแล้วจิตใจจะ
รับได้อย่างไร พี่หา้ ข้าใส่ ใจท่าน ท่านทาเช่นนี้ต่อนางได้อย่างไร นาง
โมโหจนกลับบ้านฝั่งมารดาสองวันแล้ว ท่านยังไม่ได้ดูนางเลยสัก
นิดเดียว ท่านเองก็ไร้เมตตาเกินไปหน่อยหรื อไม่”
เสิ่ นเจวี๋ยไม่สนว่าเว่ยจิ่นอวี้จะลาบากใจหรื อไม่ อย่างไรเสี ยเขามี
อะไรก็พดู ออกมา หนุนหลังพี่นอ้ งในจวน ก็ตอ้ งพูดความผิดของ
ฝ่ ายตรงข้ามออกมา แล้วจึงพูดความไม่เป็ นธรรมที่พี่นอ้ งของตน
ได้รับออกมามิใช่หรื อ
เว่ยจิ่นอวี้อยากวิ่งหนีออกไปจริ งๆ เขาหมดหนทางจะพูดอธิบาย
ความรู ้สึกในตอนนี้ของตน คนมีหน้ามีตาเช่นนี้ถูกคนขวางไว้ใน
ห้องชี้จมูกด่า ซ้ ายังทาต่อหน้าเพื่อนร่ วมชั้น ต่อจากนี้จะให้เขาเงย
หน้าขึ้นอย่างไร
โชคดีที่เด็กรับใช้ที่จวนหย่งหนิงโหวส่ งมาช่วยเขาไว้ได้พอดี “ท่าน
ซื่อจื่อ ท่านโหวหาท่านอยู่ รี บกลับจวนเถิดขอรับ”
ดวงตาเว่ยจิ่นอวี้เป็ นประกายทันที นี่เป็ นคาพูดที่ดีที่สุดที่เขาได้ยนิ มา
ตลอดชีวิตแล้ว
เสิ่ นเจวี๋ยเห็นว่าที่ควรพูดก็พดู ไปหมดแล้ว จึงรี บกล่าว “พี่เขยห้ารี บ
กลับไปเถิด ไปปรึ กษากับท่านโหวและแม่สามีให้ดีๆ น้องจะกลับ
จวนไปรอข่าวจากท่านก่อน” ประสานมือหันหลังจากไปด้วยความ
สง่าผ่าเผย
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 240-1 ความร้ าวฉานก่อตัว
เสิ่ นเจวี๋ยหันหลังเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย เว่ยจิ่นอวี้ไม่มีแม้กระทัง่
ความกล้าหาญจะหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับเพื่อนร่ วมชั้นของ
ตนเอง แต่ไหนแต่ไรเขาให้ความสาคัญต่อภาพลักษณ์ ตั้งแต่วนั นี้
ผูอ้ ื่นจะมองเขาเช่นไร
ใช้กาลังมหาศาลเขาจึงควบคุมอารมณ์ตนเองไว้ได้ หันหลังกลับก้ม
หน้า “ทาให้ทุกท่านหัวเราะเยาะแล้ว” ไม่กล้าแม้กระทัง่ เงยหน้ามอง
สี หน้าของพวกเขา จากนั้นก็กา้ วยาวออกไปแล้ว
เดือนห้าอากาศร้อน ทว่าเว่ยจิ่นอวี้กลับหนาวไปทัว่ ทั้งร่ าง คุณชายผู ้
งามสง่า เกิดเรื่ องในวันนี้เขาเกรงว่าเขาจะต้องกลายเป็ นตัวตลกใน
เมืองหลวงแล้วกระมัง ไหนเลยจะเป็ นคุณชายผูง้ ามสง่าอะไรได้อีก
แต่วา่ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ท่านแม่หรื อ เสิ่ นซื่อหรื อ เขาควร
จะโทษใคร
“พี่เว่ย พี่เว่ย!” เว่ยจิ่นอวี้กาลังเดินไปข้างหน้าอย่างมึนงง ข้างหลังก็มี
เสี ยงเรี ยกของสหายหงเทาดังขึ้น เขาหยุดฝี เท้าอย่างอดไม่ได้
หงเทาวิ่งตามมาอย่างกระหืดกระหอบ บนใบเน้าเต็มไปด้วยความ
กังวล “พี่เว่ย เหตุใดเจ้าถึงเลอะเลือนเช่นนั้นเล่า”
“หืมม์” เว่ยจิ่นอวี้ยงั คงมีท่าทางงุนงง
“พี่เว่ย ไม่ใช่ขา้ ว่าเจ้า เรื่ องนี้เป็ นตระกูลเจ้าที่ทาไม่ถูกจริ งๆ ฮูหยิน
พี่สะใภ้เป็ นคุณหนูของจวนโหว ท่านป้าลงมือได้อย่างไร ลงมือ…
เหตุใดเจ้าถึงไม่หา้ มสักหน่อยเล่า” หงเทาไม่กล้าพูดคาว่าตบหน้า
สองคานี้ออกมา เรื่ องนี้น่าตกใจเกินไปแล้วจริ งๆ แม่สามีลูกสะใภ้ไม่
ถูกกันมีเยอะถมไป แต่ไม่เคยได้ยนิ ว่ามีแม่สามีที่ไหนไม่ให้เกียรติ
ลูกสะใภ้เช่นนี้ ใครจะยังกล้าแต่งบุตรสาวเข้าไปอีก!
เพราะว่าชื่อเสี ยงในเมืองหลวงของเสิ่ นเสวี่ยไม่เลวมาโดยตลอด หง
เทาจึงมีความประทับใจต่อนางดีอย่างยิง่ “แม้สตรี จะมีนิสยั หึ งหวง
หากฮูหยินพี่สะใภ้โมโหกลับบ้านฝั่งมารดาเพราะเรื่ องอื่นยังพอว่า
สองวันเจ้าค่อยไปรับก็ไม่เป็ นไร แต่เป็ นเพราะเรื่ องนี้กลับไม่ได้ เจ้า
จะให้บา้ นพ่อตามองเจ้าอย่างไร เขาทาได้เพียงคิดว่าเจ้าดูถูกเขา พี่เว่ย
เรื่ องนี้เจ้าทาผิดมหันต์แล้ว” หงเทาร้อนใจแทนเพื่อนสนิทของ
ตนเอง
“ผิดหรื อ” เว่ยจิ่นอวี้กล่าวตามจิตใต้สานึก เหตุใดถึงเป็ นความผิดเขา
เล่า ไม่ใช่ท่านแม่กบั เสิ่ นซื่อที่ก่อเรื่ องหรอกหรื อ
“ผิดสิ ” หงเทาพยักหน้าอย่างมัน่ ใจ “พี่เว่ยวันนั้นเจ้าก็ควรไปรับที่
หน้าประตูแล้ว วางท่าทางถ่อมตัว ยอมโดนตียอมโดนด่า อย่างไร
เสี ยฮูหยินพี่สะใภ้กไ็ ด้รับความไม่เป็ นธรรมอย่างยิง่ ท่านมีท่าที
จริ งใจ ในใจผูอ้ าวุโสก็ยอมรับได้แล้ว! เกียรติกใ็ ห้แล้วความรู ้สึกก็
ปรับแล้ว เรื่ องนี้กจ็ บแล้วมิใช่หรื อ” หงเทาอธิบายแก่สหาย
ทว่าเว่ยจิ่นอวี้กลับยังคงไม่เข้าใจนัก น้องชายภรรยาตาหนิวา่ เขาผิด
สหายคนสนิทก็บอกว่าเขาผิดเช่นกัน เขาเองก็รู้สึกว่าตนคล้ายกับผิด
เพียงแต่เขาไม่เข้าใจว่าตนผิดตรงไหน
อันที่จริ งนี่เองก็โทษเขาไม่ได้ เริ่ มร่ าเรี ยนตั้งแต่อายุสามปี เขาก็ต้ งั ใจ
เรี ยนมาโดยตลอด ไม่ได้รับรู ้เรื่ องเหล่านี้ในเรื อนหลังอย่างสิ้ นเชิง
หงเทากลับไม่เหมือนกัน เขาเป็ นลูกคนเล็ก ในตระกูลยังมีพี่ชาย
มารดาเดียวกันสองคน มารดาเขาไม่ถูกกับพี่สะใภ้สองคนของเขา
วันทั้งวันทะเลาะบ้านแตกสาแหรกขาดเพราะเรื่ องเล็กๆ เขาที่เป็ นลูก
ชายคนเล็กจึงต้องไปปลอบขวัญมารดา ฟังเหล่าพี่ชายระบายความ
ทุกข์มิใช่หรื อ เรื่ องเหล่านี้เขาเห็นจนชินแล้ว นานวันเข้าก็ค่อยๆ
เข้าใจ
หงเทาเห็นท่าทีกถ็ อนหายใจอย่างอดไม่ได้ รู ้วา่ สหายเป็ นบุตรชาย
เพียงคนเดียวในจวน ไม่เข้าใจเรื่ องซับซ้อนเหล่านี้ในเรื อนหลัง จึง
กล่าว “เรื่ องอื่นไม่ตอ้ งพูดถึงแล้ว พี่เว่ยเจ้ารี บกลับจวนไปปรึ กษา
ท่านโหวแล้วรับฮูหยินพี่สะใภ้กลับมาเถิด”
เว่ยจิ่นอวี้พยักหน้า “ขอบคุณพี่หงที่แนะนาอย่างจริ งใจ” หันหลัง
กลับล่องลอยไปข้างหน้าด้วยความสับสนอย่างยิง่ ต่อ หงเทาที่มองอยู่
ข้างหลังเป็ นกังวลยิง่ นัก
ในห้องหนังสื อส่ วนพระองค์ ฮ่องเต้ยงเซวียนนัง่ อยูห่ น้าโต๊ะส่ วน
พระองค์ต้ งั ใจอ่านสาส์นกราบทูล บางครั้งก็เหลือบมองหลานชายที่
สี หน้าเรี ยบเฉย ภายในห้องเงียบสงัดอย่างถึงที่สุด มีเพียงเสี ยงเปิ ด
อ่านสาส์นกราบทูลของฮ่องเต้ยงเซวียน
“พูดมา วันนี้เจ้ามีเรื่ องอันใด” ด้วยนิสยั ของหลานชายเขาสามารถนัง่
อยูท่ ี่นี่ท้ งั วันได้ ฮ่องเต้ยงเซวียนทาได้เพียงเอ่ยปากก่อน
สวีโย่วเหลือบตาขึ้นมองฮ่องเต้ยงเซวียน “เป็ นเรื่ องเล็กน้อย” หยุดครู่
หนึ่งจึงกล่าว “เกี่ยวกับหลานสะใภ้ของท่าน”
“คุณหนูสี่ตระกูลเสิ่ นหรื อ ทาไมเล่า นางเล่นลูกไม้อะไรอีกแล้ว”
ฮ่องเต้ยงเซวียนอดขึ้นเสี ยงสู งไม่ได้ ทว่าในดวงตากลับมีความสนใจ
ไม่ผดิ ที่ฮ่องเต้ยงเซวียนจะคิดเช่นนี้ ช่วงนี้ข่าวลือกับเรื่ องตลกใน
จวนจิ้นอ๋ องดังออกมาไม่ขาดสาย ฮ่องเต้ยงเซวียนกระทัง่ ไม่ตอ้ งส่ ง
คนไปสื บก็รู้วา่ นี่ลว้ นเป็ นฝี มือหลานสะใภ้ผนู ้ ้ นั ของเขา
คุณหนูสี่ตระกูลเสิ่ นเป็ นใคร สามารถคว่าแคว้นซีเหลียงได้ พระ
ชายาจิ้นอ๋ องหญิงโง่ผนู ้ ้ นั ยังคิดจะบีบบังคับนางงั้นหรื อ ดูสิ ถูกเปิ ด
โปงอดีตเผยโฉมหน้าแล้วมิใช่หรื อ
ฮ่องเต้ยงเซวียนทอดถอนใจไปพลางดูความสนุกไปพลาง ในใจรู ้สึก
ดีอย่างยิง่ ! หากจะพูดถึงสตรี ที่ฮ่องเต้ยงเซวียนรังเกียจที่สุดก็คงจะ
ขาดพระชายาจิ้นอ๋ องซ่งซื่อไปไม่ได้ เพราะหญิงคนนี้ น้องชายแท้ๆ
ของเขาจึงเหลวแหลก อ้อ ยังมีตว้ นซื่อ แม้เขาจะไม่มีความคิดเห็น
อะไรกับต้วนซื่อ แต่อย่างไรเสี ยก็มีมิตรภาพที่เติบโตมาด้วยกัน ต้วน
ซื่อเองก็นบั ว่าตายในน้ ามือของซ่งซื่อ ฮ่องเต้ยงเซวียนจะมีความรู ้สึก
ดีต่อซ่งซื่อได้อย่างไร
เขาเป็ นฮ่องเต้แห่งรัชสมัย ซ่งซื่อก็กลายเป็ นน้องสะใภ้ของเขา เขา
ย่อมไม่อาจลดตัวลงไปจัดการนาง แต่เห็นหลานสะใภ้จดั การนาง
เห็นซ่งซื่อเสี ยหน้า เขาก็ยงั คงดีใจอย่างยิง่
ใบหน้าหล่อเหลาของสวีโย่วอดกระตุกไม่ได้ อะไรคือเล่นลูกไม้อีก
แล้ว น้องสี่ ของเขาเป็ นเด็กดีที่สุดรู ้หรื อไม่
“เรื่ องเป็ นเช่นนี้ หลานสะใภ้ท่านก่อตั้งกองทหารเด็กสี่ ร้อยกว่าคน
หนึ่งกลุ่มที่ซีเจียงมิใช่หรื อ ตอนนี้กองทหารเด็กเหล่านั้นมาเมือง
หลวงขอพี่พ่ งึ คุณชายสี่ ของพวกเขาแล้ว เรื่ องใหญ่เช่นนี้ หลานก็ควร
มารายงานท่านสักคามิใช่หรื อ ถือโอกาสขอความคิดเห็น” สวีโย่วก
ล่าวอย่างสงบนิ่ง
“อ้อ มีเรื่ องนี้ดว้ ยหรื อ” ฮ่องเต้ยงเซวียนประหลาดใจเล็กน้อย และ
สงสัยเล็กน้อย เรื่ องกองทหารเด็กตอนแรกเขาก็ทราบเช่นกัน ซ้ ายัง
เคยชื่นชมอีกด้วย “มาจริ งหรื อ แอบมาหรื อ เป็ นคนเช่นไรก็นาทัพ
เช่นนั้นจริ งๆ” ฮ่องเต้ยงเซวียนเดาได้วา่ กองทหารเด็กกลุ่มนี้ไม่ได้มา
อย่างเปิ ดเผยโจ่งแจ้ง
สวีโย่วมองฮ่องเต้ยงเซวียนปราดหนึ่ง อะไรคือเป็ นคนเช่นไรก็นา
ทัพเช่นนั้น นี่ไม่ใช่หมายความว่าน้องสี่ ของเขาสร้างความไม่พอใจ
หรอกหรื อ แม้นอ้ งสี่ ของเขาจะชอบเล่นไปหน่อย แต่กฉ็ ลาดอย่างยิง่
เสด็จลุงกาลังมีอคติกบั ภรรยาของเขา!
“มาหมดแล้วพะยะค่ะ อยูท่ ี่นอกเมือง คาดว่าก่อนอาทิตย์ตกจะ
สามารถมาถึงจวนจวิน้ อ๋ องได้ หลานคิดว่า หลานกับหลานสะใภ้
ของท่านคนหนึ่งเป็ นจวิน้ อ๋ อง คนหนึ่งเป็ นจวิน้ จู่ ใต้บงั คับบัญชาไม่
อาจไม่มีคนได้กระมัง ตอนนี้กองทหารเด็กมาแล้วไม่ใช่หรื อ ด้วย
นิสยั ใจอ่อนเช่นนั้นของหลานสะใภ้ท่านไม่อาจไม่สนใจไต่ถาม จึง
ถือโอกาสดูแลดีกว่า เฝ้าบ้านดูแลเรื อนอย่างไรเสี ยก็ตอ้ งทาได้ เสด็จ
ลุงท่านก็ไม่ตอ้ งเพิม่ คนให้อีก” สวีโย่วบอกแผนการของตนออกมา
ทว่าฮ่องเต้ยงเซวียนกลับมีสีหน้าเคร่ งขรึ ม ตาหนิอย่างอารมณ์ไม่ดี
“หรื อว่าในใจเจ้าลุงใจแคบเพียงนั้นเชียวหรื อ เด็กยังไม่โตสี่ ร้อยคน
จะไปทาอะไรได้ ตามกฎระเบียบควรใช้คนเท่าไรก็ใช้เท่านั้น ลุง
กลับไปจะเพิม่ ให้เจ้า”
พูดยังไม่ทนั ขาดคาก็ตอบสนองกลับมาทันทีเขาหลงกลหลานชาย
หน้าตายผูน้ ้ นั ของเขาแล้ว อดชี้สวีโย่วยิม้ ด่าไม่ได้ “เจ้าเด็กนี่ เดี๋ยวนี้
เก่งแล้วหรื อ” ไม่ได้สงั เกตเพียงนิดเดียวคาดไม่ถึงว่าถูกเด็กคนนี้
หลอกแล้ว นี่ไปเรี ยนมาจากคุณหนูสี่ตระกูลเสิ่ นเด็กเจ้าเล่ห์ผนู ้ ้ นั ใช่
หรื อไม่ จริ งๆ เลย…ฮ่องเต้ยงเซวียนหัวเราะตัวเอง ในขณะเดียวกัน
เบื้องลึกในใจก็ชื่นใจเล็กน้อย ดีเหมือกัน อาโย่วเป็ นเช่นนี้กด็ ี ดีกว่า
เมื่อก่อนที่ไม่วา่ อะไรก็เห็นดีเห็นงามไปหมด เขาเองก็นบั ได้วา่
สามารถทาตามคาฝากฝังของเสด็จพ่อได้แล้ว
สวีโย่วเลิกคิว้ ไม่ได้เก็บคาพูดของฮ่องเต้ยงเซวียนมาใส่ ใจเลยแม้แต่
น้อย “เสด็จลุง พวกเราตกลงเช่นนี้แล้วใช่หรื อไม่ หลานไม่รบกวน
ท่านอ่านสาส์นแล้ว หลานสะใภ้ท่านยังรออยูท่ ี่จวน” เขาลุกขึ้นยืน
แล้วกล่าวลา
ฮ่องเต้ยงเซวียนโบกมืออย่างหงุดหงิด “ไปเถิดๆ รู ้อยูแ่ ล้วว่าเจ้าไม่มี
เรื่ องอะไรก็ไม่มาหาถึงพระตาหนักหรอก กลับไปเถิด รี บไปขอ
ความดีความชอบจากภรรยาเจ้า” เขาหยอกล้อหนึ่งประโยค
มุมปากสวีโย่วกระตุกอีกครั้ง ตัดสิ นใจเพิกเฉยประโยคสุ ดท้ายของ
เสด็จลุงเขา หันหลังกลับกล่าว “หลานว่างแล้วจะมาวางหมากกับ
ท่านอีก”
มือของฮ่องเต้ยงเซวียนโบกถี่ยงิ่ ขึ้น ท่าทางไม่ตอ้ นรับ
หลังสวีโย่วไป ฮ่องเต้ยงเซวียนก็เรี ยกผูบ้ ญั ชาการใหญ่สวีเวยเข้ามา
สัง่ ให้เขาเลือกทหารออกมาจากกองทหารรักษาพระองค์แล้วส่ งไป
ยังจวนจวิน้ อ๋ อง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 240-2 ความร้ าวฉานก่อตัว
ซื่อจื่อฮูหยินจวนจิ้นอ๋ องอู๋ซื่อกาลังร้อนใจดังไฟสุ มทรวง เห็นซือห
นงเข้ามาก็เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ ว “หมอหลวงเล่า เหตุใดถึงไม่เชิญ
มา”
ซือหนงกัดริ มฝี ปาก ท่าทางลาบากใจอย่างยิง่
ใบหน้าของอู๋ซื่อดึงต่าลงในชัว่ ขณะ ตะโกนเสี ยงเด็ดขาด “รี บพูดมา
เกิดเรื่ องอะไรขึ้นกันแน่”
ซือหนงจึงกล่าวด้วยสี หน้าอึดอัดใจทั้งใบ “ฮูหยินสามแพ้ทอ้ ง หมอ
หลวงหวังจึงมาไม่ได้เจ้าค่ะ”
“แพ้ทอ้ งอีกแล้วหรื อ ไม่ใช่มีหมอหลวงสองคนหรื อ นางยึดตัวไป
หมดเลยหรื อ” อู๋ซื่อกัดฟันกรอด นางเห็นท่าทางอยากพูดแต่พดู
ไม่ได้ของซือหนง ยังมีอะไรไม่เข้าใจอีก “นางตั้งครรภ์สูงส่ งแล้ว
อย่างไร ลูกสาวคนโตของข้ายังคงเป็ นบุตรภรรยาเอกคนโตในจวน
อยูด่ ี”
“ท่านแม่ ไม่ไหวแล้ว” เสี ยงเล็กๆ ของเม่าเอ๋ อร์บุตรสาวคนโตของอู๋
ซื่อดังขึ้นมา
อู๋ซื่อหันหน้ากลับไปมองลูกสาวที่แม่นมอุม้ ไว้ในอ้อมอกปราดหนึ่ง
เห็นเพียงมือเล็กๆ ของนางพยายามจะเกาใบหน้า บนใบหน้าเต็มไป
ด้วยผืน่ สี แดงหนึ่งชั้น ชัว่ พริ บตาทั้งสงสารทั้งโมโห รี บไปกดมือลูก
สาวไว้ กล่าวปลอบ “เม่าเอ๋ อร์เด็กดี อย่าเกา เกาแล้วจะไม่สวยเอา
นะ”
ทว่าเม่าเอ๋ อร์กลับมีท่าทางทนไม่ได้อย่างยิง่ “ท่านแม่ ท่านแม่ ไม่
ไหวแล้ว คัน”
ใบหน้าเล็กๆ ขมวดมุ่น ผืน่ แดงบนใบหน้าก็ยงิ่ น่ากลัว จิตใจคนเป็ น
แม่ของอู๋ซื่อก็กงั วลขึ้นมา “เม่าเอ๋ อร์รอหน่อย อีกประเดี๋ยวหมอหลวง
ก็มาแล้ว พวกเรากินยาก็จะดีข้ ึน”
หันหน้าตาหนิซือหนง “ไปเชิญมาอีก ต้องเชิญกลับมาให้ขา้ จงได้
รี บไป หากเม่าเอ๋ อร์เป็ นอะไรไป ตัวข้าฮูหยินจะขายพวกเจ้าเข้าตรอก
โคมแดงเสี ย”
ซือหนงและสาวใช้ที่รับใช้อยูใ่ นห้องคนอื่นๆ ต่างก็ขนหัวลุก
โดยเฉพาะซือหนง เพราะว่าท่านซื่อจื่อชอบมองนาง ตอนนี้ฮูหยินจึง
เห็นนางไม่เข้าตา หากฉวยโอกาสนี้ขายนาง…นางหนาวสัน่ เร่ งฝี เท้า
ไม่กล้าคิดต่อ ทาดีแล้วต่อให้ตอ้ งคุกเข่าโขกศีรษะก็ตอ้ งเชิญหมอ
หลวงมาให้ได้
แม่นมที่อมุ ้ เม่าเอ๋ อร์ไว้กลับกล่าวด้วยสี หน้ากังวลทั้งใบหน้า “ฮูหยิน
พระชายากับท่านอ๋ องเห็นครรภ์น้ ีของฮูหยินสามสาคัญยิง่ นัก!”
เจตนาในคาพูดก็คือหากครรภ์น้ ีของฮูหยินสามเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
เนื่องจากเม่าเอ๋ อร์จะทาอย่างไร
ไฟโกรธของอู๋ซื่อแผดเผาขึ้นมาแล้ว “ครรภ์น้ ีของนางยังไม่รู้วา่ จะ
รอดหรื อไม่ ก็แค่เลือดเนื้อหนึ่งก้อน มีค่าเท่าเม่าเอ๋ อร์ของข้าหรื อไร
นางคนเดียวยึดตัวหมอหลวงสองคน วันนี้แพ้ทอ้ ง พรุ่ งนี้แท้ทอ้ ง
ฟุ่ มเฟื อยยิง่ กว่าเหนียงเหนียงในวังเสี ยอีก นางทรมานเช่นนี้คลอด
ออกมาได้กแ็ ปลกแล้ว” นางกล่าวอย่างเคียดแค้น
ก่อนหน้านี้อ๋ ูซือยังแค่ไม่พอใจเล็กน้อย ตอนนี้เกี่ยวพันมาถึงเม่าเอ๋ อร์
ของนาง ความไม่พอใจที่นางมีต่อหูซื่อก็มาถึงขีดสุ ดแล้ว แม้แต่แม่
สามีกเ็ คียดแค้นขึ้นมาแล้วเช่นกัน หากไม่ใช่นางตามใจ หูซื่อจะ
กาเริ บเสิ บสานเช่นนี้ได้หรื อ
“ฮูหยิน ท่านเบาเสี ยงหน่อยเจ้าค่ะ” แม่นมรี บมองซ้ายมองขวา “หาก
ดังไปถึงหูของพระชายา…” นึกถึงนิสยั ของพระชายา นางก็สนั่ กลัว
อู๋ซื่อกาลังโมโหเลือดขึ้นหน้า “ต่อให้พระชายารู ้แล้วอย่างไร หรื อว่า
เม่าเอ๋ อร์ไม่ใช่หลานสาวนาง” แต่กย็ งั คงมองซ้ายขวางปราดหนึ่ง
หน้าดาคร่ าเครี ยดกล่าว “หากข้ารู ้วา่ ใครคิดทรยศ อย่าหาว่าข้าไม่
ปรานีกแ็ ล้วกัน”
“บ่าวมิบงั อาจ!” สาวใช้ท้ งั หมดย่อมคุกเข่าแสดงความจงรักภัคดี
อู๋ซื่อแค่นเสี ยงหนึ่งครา คิ้วขมวดมุ่นอีกครั้ง มองออกไปหน้าประตู
ไม่หยุด “เหตุใดถึงยังไม่กลับมาอีก ซือหนงผูน้ ้ ีไร้ประโยชน์ แม้แต่
เรื่ องนี้กท็ าไม่ได้ ซืออวี่เจ้าไปดูอีกที”
สาวใช้ที่ชื่อซืออวี่ขานรับรี บออกไป
แม่นมเห็นผืน่ แดงบนใบหน้าของเม่าเอ๋ อร์เพิม่ ขึ้นเรื่ อยๆ ก็รีบเลิกเสื้ อ
ของนางขึ้น ตายล่ะ แม้แต่บนตัวก็มีผื่นแดง ชัว่ ขณะก็ลนลาน “ฮู
หยิน พวกเรารอแต่ฮูหยินสามฝั่งนั้นไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ รี บสัง่ คนไป
เชิญหมอข้างนอกมาเถิด คุณหนูใหญ่ล่าช้าไม่ได้แล้ว”
เม่าเอ๋ อร์มีแม่นมเลี้ยงมาจนโต ย่อมต้องผูกพันเป็ นอย่างยิง่ เห็นเด็ก
ตัวเล็กๆ มีผนื่ เต็มหน้า บนร่ างเล็กๆ ก็บิดไปบิดมาอย่างไม่สบายตัว
นางสงสารไม่ต่างจากอู๋ซื่อเลยแม้แต่นิดเดียว
“จริ งสิ ฮูยนิ ใหญ่ ฮูหยิน เรื อนฮูหยินใหญ่กม็ ีหมอเช่นกัน บ่าวได้ยนิ
เหล่าคนใช้บอกว่าฝี มือการรักษาไม่เลวอย่างยิง่ ” จู่ๆ แม่นมก็นึกเรื่ อง
นี้ข้ ึนได้ ดวงตามองอู๋ซื่อด้วยความกระตือรื อร้น
อู๋ซื่อลังเลเพียงชัว่ ครู่ จากนั้นก็ออกคาสัง่ “ไป รี บไปเชิญหมอที่เรื อน
ฮูหยินใหญ่มา” นางรู ้วา่ แม่สามีไม่ถูกกับพี่ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่
เพื่อที่จะเอาใจแม่สามี นางย่อมไปมาหาสู่ กบั ฝั่งนั้นน้อย แต่ตอนนี้
เพื่อลูกสาวนางไม่สนใจอะไรทั้งสิ้ นแล้ว
ท่ามกลางการรอคอยที่ร้อนใจของอู๋ซื่อในที่สุดหมอก็มาแล้ว ไม่ใช่
หมอหลวง แต่เป็ นเสิ่ นเวยกับหมอหลิว อู๋ซื่อส่ งคนไปรายงาน
สถานการณ์ เสิ่ นเวยก็ไม่ล่าช้าแม้แต่วินาทีเดียวสัง่ หมอหลิวเข้า
มาแล้ว ตัวนางเองไม่วางใจก็ตามมาด้วยเช่นกัน
“พี่สะใภ้ใหญ่มาได้อย่างไร รบกวนท่านแล้วจริ งๆ” ตอนที่อ๋ ูซื่อเห็น
เสิ่ นเวยก็ประหลาดใจในชัว่ พริ บตา หลังจากนั้นก็กลับเป็ นปกติ
เสิ่ นเวยโบกมือ “อย่างอื่นไว้ค่อยพูด ให้หมอหลิวตรวจเม่าเอ๋ อร์ก่อน
เถอะ โห เม่าเอ๋ อร์ของเราอาการหนักยิง่ นัก” เสิ่ นเวยเห็นผืน่ แดงบน
หน้าบนมือของเม่าเอ๋ อร์แล้วก็ตกใจ เด็กตัวเล็กแค่น้ ีจะทนไหวได้
อย่างไร “หมอหลิวเจ้ารี บตรวจเถิดว่าเม่าเอ๋ อร์เป็ นอย่างไร”
หมอหลิวก้าวยาวขึ้นไปข้างหน้า ตรวจดูผนื่ แดงบนใบหน้าและลาตัว
ของเม่าเอ๋ อร์ก่อน แล้วจึงตรวจดูตาจมูกปากนาง จากนั้นก็ไถ่ถามแม่
นมเสี ยงเบาหลายคาถาม ท้ายที่สุดก็ยนื่ นิ้วมือสองนิ้วแตะลงบน
ข้อมือเล็กๆ ของเม่าเอ๋ อร์
ในระหว่างนี้ อู๋ซื่อก็ร้อนใจนแทบจะฉีกผ้าเช็ดหน้าขาดแล้ว เสิ่ นเวย
เห็นท่าทีกป็ ลอบนาง “น้องสะใภ้รองวางใจเถิด ฝี มือการรักษาของ
หมอหลิวของข้าดีเยีย่ ม ปู่ ข้าถูกยิงธนูพิษที่ซีเจียงก็ได้เขารักษา ไม่
ต่างอะไรจากหมอหลวง เม่าเอ๋ อร์จะต้องไม่เป็ นไรแน่นอน”
อู๋ซื่อมองเสิ่ นเวยด้วยความซาบซึ้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดอะไรดี
ทว่าจิตใจที่เป็ นกังวลกลับวางลงช้าๆ
ภายใต้การจ้องมองอย่างแรงกล้าของอู๋ซื่อและเสิ่ นเวย ในที่สุดหมอ
หลวก็เก็บมือกลับมาแล้ว “เป็ นอย่างไร ร้ายแรงหรื อไม่” อู๋ซื่อเอ่ย
ปากทันที
ทว่าสี หน้าหมอหลิวกลับผ่อนคลาย “ซื่อจื่อฮูหยินไม่ตอ้ งเป็ นกังวล
ไม่ใช่ปัญญาใหญ่อะไร” หยุดครู่ หนึ่งจึงอธิบายต่อ “สุ ขภาพร่ างกาย
ของคุณหนูใหญ่พิเศษเล็กน้อย ผืน่ แดงนี้เกิดจากการกินหรื อแตะของ
ผิดสาแดงอะไร ผูช้ ราจะเขียนใบสัง่ ยาให้คุณหนูทาน หลังหนึ่งชัว่
ยามผืน่ แดงก็จะหายดี”
อู๋ซื่อได้ยนิ ว่าไม่มีอะไรร้ายแรงมาก ร่ างทั้งร่ างก็เบาลง จากนั้นก็ได้
ยินว่าผืน่ แดงของเม่าเอ๋ อร์เกิดจากการกินหรื อแตะของผิดสาแดง
สายตาที่มองแม่นมก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที
แม่นมรี บเรี ยกร้องความเป็ นธรรม “ฮูหยินเจ้าคะ บ่าวไม่ได้ให้
คุณหนูใหญ่ทานของผิดสาแดงอะไรนะเจ้าค่ะ ล้วนเหมือนเดิม
ทั้งสิ้ น” เช็ดน้ ามูกน้ าตา แทบจะสาบานต่อฟ้าแล้ว
อู๋ซื่อไหนเลยจะเชื่อ แต่เสิ่ นเวยกลับเข้าใจดี ฟังคาของหมอหลิว เม่า
เอ๋ อร์น่าจะเกิดอาการแพ้ ของจานวนมากที่ปกติสาหรับคนอื่นแต่
กลับเป็ นอันตรายต่อนาง แม่นมผูน้ ้ ีได้รับความไม่เป็ นธรรมจริ งๆ ไม่
รู ้วา่ เม่าเอ๋ อร์แพ้อะไร หรื อว่าแพ้ของประเภทใดบ้าง หากหาไม่เจอ
ภายหลังเม่าเอ๋ อร์กอ็ าจจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ด้วยเหตุน้ ีเสิ่ นเวยจึงห้ามปรามอู๋ซื่อ ถามหมอหลิว “หมอหลิว เม่า
เอ๋ อร์ไม่เหมือนคนอื่นใช่หรื อไม่ ใช่ของจานวนหนึ่งที่ธรรมดา
สาหรับคนอื่นเป็ นอันตรายต่อเม่าเอ๋ อร์หรื อไม่”
หมอหลิวเขียนใบสัง่ ยาไปพลาง พยักหน้ากล่าวไปพลาง “จวิน้ จู่
กล่าวถูกต้อง ร่ างกายคุณหนูใหญ่ผดิ จากคนทัว่ ไปเล็กน้อย ซ้ ายังเป็ น
เด็ก ภูมิคุม้ กันไม่เท่าผูใ้ หญ่ ของบางอย่างพวกเราแตะก็ไม่เป็ นไร แต่
สาหรับคุณหนูใหญ่แล้วกลับมอันตรายถึงแก่ชีวิต”
อู๋ซื่อได้ยนิ คาว่าถึงแก่ชีวิตสองคานี้ทวั่ ทั้งร่ างก็ร้อนรนแล้ว ไม่สนใจ
ไต่ถามความรับผิดชอบของแม่นมแล้ว รี บถาม “หมอหลิว ของแบบ
ไหนที่เม่าเอ๋ อร์ของข้าไม่อาจแตะได้หรื อ” หากหาออกมาไม่ได้
จิตใจของนางจะสงบได้อย่างไร
หมอหลิวส่ งใบสัง่ ยาเข้าไป แต่กลับส่ ายหน้า “นี่ตอ้ งค่อยๆ ตรวจหา
ดูวา่ วันนี้คุณหนูใหญ่กินอะไรหรื อว่าแตะอะไรไป”
อู๋ซื่อถือโอกาสส่ งใบสัง่ ยาให้สาวใช้ที่ปรนนิบตั ิอยูข่ า้ งกาย “รี บไป
ต้มยา” จากนั้นจึงมองแม่นมแล้วกล่าว “ไม่ได้ยนิ ที่หมอหลิวพูดหรื อ
วันนี้เม่าเอ๋ อร์กินอะไรไปบ้าง แล้วเจ้าพานางไปเล่นที่ไหนไปแตะ
อะไรบ้าง”
“ตอนเที่ยงคุณหนูใหญ่งอแงไม่ยอมกินข้าว บ่าวเกลี้ยมกล่อมจนยอม
ดื่มนมวัวไปครึ่ งถ้วย นมวัวนี้กก็ ินเป็ นปกตินะเจ้าค่ะ!” แม่นมรี บพูด
กลัวซื่อจื่อฮูหยินตาหนิติโทษนาง
“เจ้ามัน่ ใจหรื อว่าเม่าเอ๋ อร์ดื่มเพียงนมวัวไม่ได้กินของอย่างอื่น” อู๋ซื่อ
จ้องมองนางอย่างแน่นิ่ง
แม่นมพยักหน้าไม่หยุด รี บอธิบาย “ไม่มีเจ้าค่ะ ฮูหยินโปรดเชื่อ บ่าว
ไม่ได้โกหกจริ งๆเจ้าค่ะ! คุณหนูใหญ่ดื่มนมวัวแล้วงอแงจะมาหาฮู
หยินให้ได้ บ่าวจึงอุม้ นางมา ไม่ได้ไปที่อื่นจริ งๆ เจ้าค่ะ! จริ งสิ ยังมี
เสี่ ยวฝู เสี่ ยวฝูอยูก่ บั บ่าวตลอด นางสามารถเป็ นพยานให้บ่าวได้”
เสี่ ยวฝูที่ถูกแม่นมเรี ยกชื่อก็กา้ วออกมาอย่างขลาดกลัว “เรี ยนฮูหยิน
บ่าวอยูก่ บั แม่นมตลอด ตอนเที่ยงคุณหนูใหญ่ดื่มนมวัวครึ่ งถ้วย
จากนั้นก็มาหาฮูหยินที่นี่ ไม่ได้ไปที่อื่นจริ งๆ เจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นผืน่ แดงนี้บนตัวเม่าเอ๋ อร์มาได้อย่างไร ข้าว่าพวกเจ้าไม่เห็น
โลงศพไม่หลัง่ น้ าตา ไม่ลงโทษก็ไม่พดู ความจริ งใช่หรื อไม่” อู๋ซื่อ
ตะโกนเสี ยงต่า “ใครก็ได้ ลากสองคนนี้ออกไปตีเดี๋ยวนี้ พูดความ
จริ งเมื่อไหร่ ค่อยหยุดเมื่อนั้น” เรื่ องเกี่ยวข้องกับลูกสาวของตน อู๋ซื่อ
ไม่กล้าประมาทเลยแม้แต่นิดเดียว
“ช้าก่อน” เสิ่ นเวยรี บห้าม สบสายตาที่ไม่พอใจของอู๋ซื่อ นางกล่าว
“น้องสะใภ้รองอย่ารี บร้อน ข้าถามพวกนางอีกสักหน่อย”
อู๋ซื่อไม่อาจไม่ไว้หน้าได้ “ฮูหยินใหญ่ถามพวกเจ้าแล้ว ก็ตอบความ
จริ งข้ามา”
เสิ่ นเวยกล่าว “ระหว่างทางที่พวกเจ้าพาเม่าเอ๋ อร์มาหาซื่อจื่อฮูหยิน
ไปแตะอะไรเข้าหรื อไม่”
“ระหว่างทางหรื อ” แม่นมกับเสี่ ยวฝูนึกย้อนทันที “ดอกเฉี ยงเวย
(กุหลาบพันธุ์ไม้เลื้อย)” ดวงตาคนทั้งสองเป็ นประกายกล่าวขึ้น
พร้อมกัน “เรี ยนฮูหยิน ระหว่างทางมา คุณหนูใหญ่เห็นดอกเฉียงเวย
ผลิดอกอยูใ่ นสวนดอกไม้เล็ก งอแงจะเอา บ่าวจึงไปเด็ดมาให้นาง
หลายดอก”
“ใช่ๆๆ ตอนที่มาในมือเม่าเอ๋ อร์กาดอกเฉียงเวยหลายดอก ซ้ ายังให้
ข้าหาแจกันเสี ยบ อ้อ อยูต่ รงนั้น!” อู๋ซื่อเองก็รีบกล่าว “แต่ก่อนหน้า
นี้เม่าเอ๋ อร์กเ็ คยแตะดอกเฉียงเวยแล้ว ไม่เคยเห็นนางเป็ นอะไรนี่” สี
หน้าท่าทางไม่เข้าใจอย่างยิง่
“มีเรื่ องอื่นอีกหรื อไม่” เสิ่ นเวยถามต่อ
“ทั้งสองส่ ายหน้าพร้อมกัน “ไม่มีแล้วเจ้าค่ะ หากบ่าวโกหกก็ขอให้
ฟ้าผ่าตาย”
คนโบราณเชื่อเรื่ องภูตผีเวรกรรม คาสาบานนี้ไม่อาจโกหกได้ เสิ่ นเว
ยมองสี หน้าพวกนางแม้วา่ จะลุกลน แต่แววตากลับไม่คลุมเครื อ จึง
ตัดสิ นว่าพวกนางไม่ได้โกหก อดมองหมอหลิวไม่ได้ “หมอหลิวว่า
อย่างไร”
หมอหลิวคิดครู่ หนึ่งจึงกล่าว “ของที่เป็ นอันตรายต่อคุณหนูใหญ่ไม่
เหมือนกัน สัมผัสนมวัวและดอกเฉียงเวยเพียงอย่างเดียวไม่เป็ นไร
หากสัมผัสสองอย่างนี้พร้อมกันจะทาให้เกิดอาการหายใจลาบาก
ร่ างกายเต็มไปด้วยผืน่ แดง กรณี น้ ีผชู ้ ราก็เคยเห็นมาก่อน”
“อมิตาพุทธ ที่แท้แล้วก็เป็ นเช่นนี้! ความหมายของหมอหลิวก็คือขอ
เพียงแค่เม่าเอ๋ อร์ไม่สมั ผัสนมวัวและดอกเฉี ยงเวยพร้อมกันก็ไม่
เป็ นไรใช่หรื อไม่” อู๋ซื่อถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่กลับมองหมอ
หลิวอย่างไม่มนั่ ใจเล็กน้อย
หมอหลิวไตร่ ตรองครู่ หนึ่งจึงกล่าว “ถูกต้องแล้ว เพียงแต่ผชู ้ ราไม่รู้
ว่าคุณหนูใหญ่ใช่แตะดอกไม้อื่นไม่ได้ดว้ ยหรื อไม่” เห็นอู๋ซื่อตื่น
ตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง รี บกล่าว “ขอเพียงแค่ไม่ดื่มนมวัวพร้อมกันก็
ไม่เป็ นไร! แม้จะเกิดเหตุการณ์เช่นวันนี้อีก ขอเพียงแค่กินยาทันเวลา
ก็จะไม่เกิดอันตราย กลับไปผูช้ ราจะเปลี่ยนแกงยานี้เป็ นยาลูกกลอน
เตรี ยมไว้ติดตัวคุณหนูทุกเมื่อ”
อู๋ซื่อนับได้วา่ สบายใจลงแล้ว “ขอบคุณหมอหลิวอย่างยิง่ จริ งๆ”
จากนั้นก็จบั มือเสิ่ นเวยขอบคุณไม่หยุด “พี่สะใภ้ ครั้งนี้ขอบคุณท่าน
มากจริ งๆ ท่านช่วยชีวิตเม่าเอ๋ อร์ของข้าไว้!” แววตาเต็มไปด้วยความ
ซาบซึ้ง
เสิ่ นเวยรี บโบกมือ ตบมือของนางปลอบขวัญ “น้องสะใภ้รองเกรงใจ
เกินไปแล้ว เม่าเอ๋ อร์เองก็เป็ นหลานสาวของข้ามิใช่หรื อ คนบ้าน
เดียวกันยังต้องเกรงใจอะไรอีก”
เทียบกับน้องสะใภ้สามหูซื่อ ความประทับใจที่อ๋ ูซื่อมีต่อเสิ่ นเวยก็ดี
ขึ้นในชัว่ พริ บตา
เม่าเอ๋ อร์กินยาแล้ว เพียงครึ่ งชัว่ ยาม ผืน่ แดงบนใบหน้าก็เริ่ มหาย
หนึ่งชัว่ ยามผ่านไปก็หายไปเกินครึ่ ง อู๋ซื่อจึงถอนหายใจยาวหนึ่งครา
จับมือของเสิ่ นเวยส่ งนางออกจากเรื อนไปไกล
ส่ วนแม่นมและเสี่ ยวฝู อู๋ซื่ออยากลงโทษ แต่เมื่อย้อนคิดอีกครั้ง ปกติ
แม่นมก็ดูแลเม่าเอ๋ อร์ดว้ ยความใส่ ใจอย่างยิง่ หากเปลี่ยนแล้วจะ
เหมาะสมกับลูกสาวหรื อไม่ไม่วา่ นางเองก็ไม่กล้ารับรองว่าคนที่มา
ใหม่จะใส่ ใจได้เท่าเดิม อีกทั้งเม่าเอ๋ อร์สุขภาพร่ างกายต่างจากคนอื่น
โชคดีที่พบอาการล่วงหน้า ทาให้นางเตรี ยมการล่วงหน้าได้ หาก
ตอนนี้ไม่รู้ ภายหลังป่ วยขึ้นมานอกจวน ไหนเลยจะบังเอิญเชิญหมอ
ที่มีประสบการณ์ดา้ นนี้มาได้ทนั เช่นนั้นเม่าเอ๋ อร์กต็ อ้ งเป็ นอันตราย
มิใช่หรื อ
เมื่อคิดเช่นนี้ อู๋ซื่อจึงไม่ได้ลงโทษแม่นมและเสี่ ยวฝูอีก ถือว่าเป็ นการ
ชดใช้เวรกรรม
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 241-1
เมื่ออู๋ซื่อส่ งเสิ่ นเวยกับหมอหลิวไปแล้ว ซือหนงกับซืออวี่กเ็ พิ่งจะนำ
หมอหลวงเข้ำมำอย่ำงรวดเร็ว “ซื่อจื่อฮูหยิน” เขำปำดเหงื่อบนหน้ำ
ทำควำมเคำรพ
หมอหลวงแซ่หนั ผูน้ ้ ี หมอหลวงหันเดิมเป็ นหมอหลวงที่ฝ่ำบำทเห็น
ใจสวีโย่วส่ งมำที่จวนจิ้นอ๋ อง อยูม่ ำสิ บกว่ำปี เช่นนี้ จึงกลำยเป็ นหมอ
หลวงประจำจวนจิ้นอ๋ องไปแล้ว แม้วำ่ ภำยหลังสุ ขภำพของสวีโย่
วจะดีข้ ึนแล้ว แต่ฝ่ำบำทก็ยงั คงลืมตำข้ำงหนึ่งปิ ดตำข้ำงหนึ่งไม่ได้
เรี ยกหมอหลวงหันกลับไป ไม่วำ่ อย่ำงไรท่ำนจิ้นอ๋ องก็เป็ นน้องชำย
แท้ๆ ของเขำ
ครำวนี้ฮูหยินสำมหูซื่อตั้งครรภ์ สภำพครรภ์ไม่ดีมำกเป็ นพิเศษ สำม
วันห้ำวันก็แพ้ทอ้ ง จิ้นอ๋ องไม่เพียงแต่ขอหมอหลวงหวังที่เชี่ยวชำญ
ด้ำนนรี เวชจำกในวังมำหนึ่งคน พระชำยำจิ้นอ๋ องก็ยงั คงไม่วำงใจ จึง
ส่ งหมอหลวงหันผูน้ ้ ีเข้ำไปด้วย
สำยตำของอู๋ซื่อเย็นเยียบลงในชัว่ พริ บตำ “หมอหลวงหันมำเสี ยที”
เมื่อเห็นรอยแดงบนหน้ำผำกของสำวใช้ใหญ่สองคน สำยตำของนำง
ก็ยงิ่ เย็นยะเยือก หูซื่อสมควรตำย ไม่ใช่อำศัยกำรตั้งครรภ์หรอกหรื อ
ไม่เห็นซื่อจื่อฮูหยินเช่นนำงอยูใ่ นสำยตำแบบนี้ น่ำรังเกียจ น่ำ
รังเกียจ! ไฟโกรธหนึ่งกลุ่มของนำงแทบจะพุง่ ออกมำแล้ว
หมอหลวงหันร้องทุกข์ในใจเงียบๆ “เป็ นควำมผิดของบ่ำวเอง
ขอรับ”
วันนี้ฮูหยินสำมแพ้ครรภ์จริ ง ตอนที่สำวใช้ขำ้ งกำยซื่อจื่อฮูหยินไป
เชิญเขำก็อยำกมำ แต่จนใจฮูหยินสำมยืนกรำนไม่ยอมปล่อยคน ซ้ ำ
ยังอ้ำงพระชำยำขึ้นมำ แม้จะบอกว่ำเขำเป็ นหมอหลวงของสำนัก
หมอหลวง แต่ทำ้ ยที่สุดก็เป็ นเพียงแค่บ่ำว คำสัง่ ของนำยไม่ฟัง
ไม่ได้!
ลำกไปลำกมำเช่นนี้ กระทัง่ สถำนกำรณ์ของฮูหยินสำมสงบลงเขำจึง
สำมำรถปลีกตัวเข้ำมำได้ เผชิญหน้ำกับไฟโกรธของซื่อจื่อฮูหยินเขำ
เองก็ทำได้เพียงพยำยำมทนรับ
โชคดีที่อูซื่อยังไม่เสี ยสติ รู ้วำ่ ตนกำลังจะพำลโมโห จึงสู ดหำยใจเข้ำ
แล้วกล่ำว “ก่อนหน้ำนี้เชิญหมอหลวงข้ำงกำยพี่สะใภ้ใหญ่มำตรวจ
แล้ว หมอหลวงหันมำแล้วก็ตรวจอีกรอบเถิด”
หมอหลวงหันได้ยนิ ดังนั้นก็รำวกับถูกยกภูเขำออกจำกอก กล่ำว
“ฝี มือกำรรักษำของหมอหลิวไม่ดอ้ ยกว่ำผูน้ อ้ ย มีเขำออกมือจักต้อง
รักษำได้ทนั ท่วงทีแน่นอน” ในใจก็ถอนหำยใจอย่ำงโล่งอก หำก
คุณหนูใหญ่เป็ นอะไรไปจริ งๆ แม้จะไม่เกี่ยวกับตน เกรงว่ำตนเองก็
คงจะหนีไม่พน้ โทษนี้ หมอหลิวช่วยชีวิตเขำไว้
ไม่วำ่ หมอหลวงจะตรวจอำกำรเช่นไร อย่ำงไรเสี ยเขำก็ชื่นชมหมอ
หลิวยกใหญ่ ไฟโกรธในใจอู๋ซื่อก็ลดลงไปมำกกว่ำครึ่ ง
ส่ วนฮูหยินสำมหูซื่อฝั่งนี้ นำงพิงหัวเตียง สี หน้ำขำวซีด ลูบท้องของ
ตนเป็ นพักๆ สำวใช้เฝ่ ยชุ่ยยกแกงไก่หนึ่งชำมเข้ำมำ “ฮูหยิน ท่ำน
ทำนเสี ยหน่อยเจ้ำค่ะ”
แววตำหูซื่อปรำกฏควำมสะอิดสะเอียน หน้ำนิ่ว “ยกออกไป ข้ำไม่
อยำกอำหำร” ได้กลิ่นก็อยำกอำเจียน จะทำนลงได้อย่ำงไร
เฝ่ ยชุ่ยจนใจอย่ำงยิง่ โน้มน้ำว “ฮูหยิน ท่ำนอดทนทำนหน่อยเถิดเจ้ำ
ค่ะ คิดเสี ยว่ำทำเพื่อคุณชำยน้อยในท้อง”
อิงเกอเองก็เกลี้ยกล่อม “ใช่แล้วเจ้ำค่ะฮูยนิ ในแกงไก่ชำมนี้มี
สมุนไพรล้ ำค่ำหลำยชนิด หมอหลวงหวังบอกแล้วว่ำเป็ นประโยชน์
ต่อท่ำนและคุณชำยน้อย ท่ำนดื่มสักหน่อยเถิด บ่ำวเตรี ยมผลไม้เชื่อม
ไว้ให้ท่ำนแล้ว”
โน้มน้ำวอยูน่ ำน หูซื่อจึงบีบจมูกทำนไปได้ไม่ถึงครึ่ งก็ไม่ยอมทำน
ต่อแล้ว ในปำกนำงอมผลไม้เชื่อมปิ ดตำนอนพิงอยูต่ รงนั้น ใน
กระเพำะอำหำรปั่นป่ วนอย่ำงยิง่ รำวกับคลื่นโหมกระหน่ำ ทำให้คิ้ว
ของนำงขมวดมุ่นยิง่ ขึ้น
เฝ่ ยชุ่ยกับอิงเกอสบตำกันปรำดหนึ่ง ไม่กล้ำโน้มน้ำวอีก หำกทำให้ฮู
หยินโมโห คนที่ซวยก็จะเป็ นพวกนำง เฝ่ ยชุ่ยส่ งชำมให้สำวใช้ช้ นั
สองข้ำงๆ บอกเป็ นนัยให้นำงยกออกไป ในห้องไม่มีกลิ่นที่ทำให้คน
อยำกอำเจียนแล้ว คิ้วที่ขมวดมุ่นของหูซื่อจึงคลำยลงเล็กน้อย
“ต้องทรมำนเช่นนี้ไปถึงเมื่อไร!” หูซื่อลืมตำมองท้องที่ยงั ไม่ป่อง
กลุม้ ใจเป็ นอย่ำงยิง่ คนอื่นตั้งครรภ์ลว้ นแต่ปลอดภัยรำบรื่ น มีเพียง
นำง ระวังแล้วระวังอีก ก็ยงั ตกเลือดแพ้ทอ้ งอยูบ่ ่อยครั้ง ตนลำบำกยัง
ไม่เท่ำไร นำงกังวลจริ งๆ ว่ำจะทนได้ไม่ถึงสิ บเดือนนี้
เฝ่ ยชุ่ยกับอิงเกอสบตำกันปรำดหนึ่ง ฮูหยินกังวล พวกนำงที่เป็ นบ่ำว
ก็ยงิ่ กังวลไปด้วย ตั้งแต่ฮูหยินตั้งครรภ์ นำงสองคนก็ระมัดระวัง
ตลอดเวลำ กลัวว่ำจะประมำทจุดใดไป
“ฮูหยินวำงใจ ท่ำนไม่ได้ยนิ หมอหลวงหวังบอกหรื อ มีสตรี ไม่นอ้ ย
ตั้งครรภ์เช่นนี้ สำมเดือนแรกมักจะทรมำนเล็กน้อย ผ่ำนสำมเดือน
แรกไปก็จะค่อยๆ ดีข้ ึน”เฝ่ ยชุ่ยปลอบขวัญเสี ยงเบำ
อิงเกอเองก็กล่ำว “พี่เฝ่ ยชุ่ยพูดถูก อย่ำงแม่ของบ่ำวเอง ตอนที่ต้ งั ท้อง
น้องชำยคนเล็กผูน้ ้ นั ของบ่ำวสำมเดือนแรกก็ทรมำนต่ำงๆ นำนำ
เช่นกัน กินอะไรก็อำเจียนออกมำเป็ นสิ่ งนั้น แม้แต่ดื่มน้ ำยังอำเจียน
ออกมำได้ แต่สำมเดือนผ่ำนไป ก็เปลี่ยนเป็ นคนละคน กินได้ทุก
อย่ำง ซ้ ำควำมอยำกอำหำรยังดีอย่ำงยิง่ หนึ่งวันกินห้ำหกมื้อ
น้องชำยคนเล็กผูน้ ้ นั ของบ่ำวคลอดออกมำแล้วตัวข้ำวอ้วนพี ทำให้
คนรักและเอ็นดูยงิ่ นัก”
เม้มปำกแล้วจึงกล่ำวต่อ “มิหนำซ้ ำบ่ำวยังได้ยนิ คนแก่คนเฒ่ำบอกว่ำ
ยิง่ เป็ นเด็กที่ทรมำนอยูใ่ นท้องแม่คลอดออกมำก็จะยิง่ ฉลำด ยิง่ มี
อนำคต ในภำยหน้ำคุณชำยน้อยของพวกเรำจะต้องมีควำมสำมำรถ
แน่นอน” นำงประจบหูซื่อเล็กน้อย
ถูกสำวใช้สองคนยกยอปอปั้นเช่นนี้ สี หน้ำของหูซื่อก็ดียงิ่ ขึ้น ลูบ
ท้องกล่ำว “ข้ำน่ะ ไม่หวังให้เขำมีควำมสำมำรถล้นฟ้ำ ใช้ชีวิตสงบ
สุ ขได้กพ็ อแล้ว” ทว่ำในใจกับภูมิใจอย่ำงถึงที่สุด
“หมอหลวงหวังกับหมอหลวงหันเล่ำ สองคนนี้พวกเจ้ำต้องรับใช้ให้
ดี ครรภ์น้ ีของข้ำยังต้องพึ่งพวกเขำ” จู่ๆ หูซื่อก็กล่ำว
เฝ่ ยชุ่ยกับอิงเกอพยักหน้ำไม่หยุด “ฮูหยินวำงใจเถิดเจ้ำค่ะ หลักกำร
แค่น้ ีบ่ำวจะยังไม่เข้ำใจได้อย่ำงไร” เฝ่ ยชุ่ยคล้ำยนึกอะไรขึ้นมำได้ คิว้
ขมวดมุ่น กล่ำวอย่ำงกระวนกระวำยเล็กน้อย “ฮูหยิน ซื่อจื่อฮูหยินจะ
ติโทษหรื อไม่”
ใบหน้ำของหูซื่อดำดิ่งลงในชัว่ ขณะ แค่นเสี ยงหนึ่งครำกล่ำว “ติโทษ
หรื อ นำงติโทษใครได้ ไม่ใช่วำ่ ข้ำอยำกแพ้ทอ้ งเสี ยหน่อย นี่ไม่ใช่
เรื่ องบังเอิญหรอกหรื อ หมอหลวงหวังกับหมอหลวงหันก็เป็ นคนที่
พระชำยำส่ งมำให้ช่วยข้ำบำรุ งครรภ์เอง ไม่วำ่ นำงจะติโทษใครก็ไม่
อำจลำกมำถึงข้ำได้”
“อย่ำงไรเสี ยคุณหนูใหญ่กป็ ่ วย ซื่อจื่อฮูหยินยำกจะเลี่ยงไม่ให้ร้อนใจ
บ่ำวกลัวซื่อจื่อฮูหยินจะพำลโมโหมำถึงพวกเรำ” เฝ่ ยชุ่ยยังคงกังวล
อย่ำงยิง่ ตอนที่ซือหนงเข้ำมำเชิญนำงก็คิดว่ำมีหมอหลวงหวังคน
เดียวก็พอแล้ว ให้หมอหลวงหันไปดูเสี ยหน่อย แต่ฮูหยินไม่อนุญำต
ยืนกรำนจะให้หมอหลวงสองคนรับใช้เบื้องหน้ำให้ได้ นำงผูเ้ ป็ น
บ่ำวจะทำอะไรได้
“บ่ำวเองก็เป็ นห่วงว่ำซือหนงกับซืออวี่จะกลับไปพูดใส่ สีตีควำม
ซื่อจื่อฮูหยินโมโหพวกเรำแล้ว หำกท่ำนซื่อจื่อกับนำยท่ำนของพวก
เรำเกิดควำมบำดหมำงขึ้นมำอีกจะไม่ดีนกั ” เฝ่ ยชุ่ยพูดควำมกังวลใจ
ของนำงออกมำ ซือหนงกับซืออวี่น้ นั เป็ นสำวใช้ใหญ่ที่มีหน้ำมีตำ
ที่สุดข้ำงกำยซื่อจื่อฮูหยิน ทั้งสองคนคุกเข่ำโขกศีรษะลงตรงหน้ำฮู
หยิน ฮูหยินยังไม่อนุญำตให้หมอหลวงหันไป นี่ไม่ใช่เป็ นกำรตบ
หน้ำซื่อจื่อฮูหยินหรื อ
ตอนนี้ฮูหยินตั้งครรภ์ พระชำยำก็ให้ควำมสำคัญแก่ฮูหยินสำมส่ วน
แต่จวนอ๋ องแห่งนี้อย่ำงไรเสี ยก็เป็ นของท่ำนซื่อจื่อกับซื่อจื่อฮูหยิน!
ตอนนี้ซื่อจื่อฮูหยินกล้ ำกลืนควำมโกรธนี้ แต่หลังจำกนี้เล่ำ เฝ่ ยชุ่ยไม่
กล้ำคิดต่อแล้ว แม้แต่อิงเกอเองก็มีสีหน้ำไม่สบำยใจทั้งใบหน้ำ
สำมำรถอยูใ่ นตำแหน่งสำวใช้ใหญ่ขำ้ งกำยนำยท่ำนได้ เรื่ องเช่นกำร
รอโอกำสล้ำงแค้นจะยังไม่เข้ำใจได้อย่ำงไร
มีเพียงหูซื่อที่ไม่สนใจ “ตัวข้ำฮูหยินให้พวกนำงคุกเข่ำหรื อ ไม่ใช่
พวกนำงคุกเข่ำเองหรื อ คิดจะใช้เรื่ องนี้มำข่มขู่ขำ้ งั้นหรื อ เหอะ ฝัน
ไปเถอะ! เม่ำเอ๋ อร์เด็กตัวเล็กๆ ข้ำงกำยก็มีบ่ำวเจ็ดแปดคนรับใช้ จะ
เป็ นโรคร้ำยแรงอะไรได้ ไหนเลยจะรอหน่อยไม่ได้ ก็แค่เด็กผูห้ ญิง
มีค่ำอะไร รอข้ำคลอดทำรกในท้องออกมำก่อนเถอะ หึ !”
ซื่อจื่อฮูหยินแล้วอย่ำงไร ยังไม่มีบุตรอนุภรรยำเอกเลยมิใช่หรื อ
พี่สะใภ้รองตัวดีผนู ้ ้ นั ของนำงก็มีนิสยั โหดร้ำย แม้จะไม่มีอี๋เหนียง
เลยสักคนเดียว แต่สำวใช้อนุภรรยำกลับมีสี่คน ก็ยงั ไม่มีบุตรเลยสัก
คนมิใช่หรื อ คงจะไม่มีดวงมีบุตร ขอเพียงแค่นำงคลอดบุตรได้
สำเร็ จ ภำยหลังจวนจิ้นอ๋ องแห่งนี้กย็ งั ไม่แน่วำ่ จะเป็ นของใคร
เฝ่ ยชุ่ยกับอิงเกอสบตำกันปรำดหนึ่ง ควำมกังวลในแววตำก็ยงิ่ มำก ฮู
หยินเดินเข้ำไปในทำงตันออกมำไม่ได้แล้ว ต่อให้ท่ำนซื่อจื่อจะไม่มี
บุตร ก็ไม่ใช่วำ่ ยังรับลูกบุญธรรมได้หรื อ ในจวนก็ยงั มีคุณชำยห้ำ พี่
น้องมำรดำเดียวกันกับท่ำนซื่อจื่อนอกจำกคุณชำยสำมของพวกนำง
แล้ว ก็ยงั มีคุณชำยสี่ อยู่ มิหนำซ้ ำคนที่พระชำยำรักที่สุดก็คือคุณชำย
สี่ !
แต่เห็นสี หน้ำของฮูหยิน เฝ่ ยชุ่ยกับอิงเกอก็ไม่กล้ำโน้มน้ำวต่อ
หูซื่อพอใจแล้ว อู๋ซื่อโกรธจนแทบจะกัดฟันแตกแล้ว ตีหมำก็ตอ้ งดู
เจ้ำของด้วย ซือหนงซืออวีส่ ำวใช้ใหญ่ขำ้ งกำยนำง ต่อให้อยูต่ ่อหน้ำ
พระชำยำก็ยงั ต้องไว้หน้ำนำงสำมส่ วน ทว่ำหูซื่อกลับเหยียดหยำม
พวกนำงเช่นนี้ นี่ไหนเลยจะเหยียดหยำมสำวใช้ ชัดเจนว่ำไม่เห็น
พี่สะใภ้ผนู ้ ้ ีอยูใ่ นสำยตำต่ำงหำก ยังไม่ทนั ไรก็ไม่เห็นใครอยูใ่ น
สำยตำเช่นนี้แล้ว หำกปล่อยให้นำงคลอดหลำนชำยภรรยำเอกคนโต
ในจวนจริ งๆ เช่นนั้นจะยังมีที่ให้นำงยืนอีกหรื อ
ดวงตำของอู๋ซื่อมีปประกำยโหดเ**้้ยมแวบผ่ำน กำชับสำวใช้ “ไป
ดูสิวำ่ แม่นมอู๋กลับมำแล้วหรื อยัง” นำงต้องปรึ กษำหำรื อกับแม่นมอู๋
ให้ดีจึงจะถูก
อู๋ซื่อโมโหหูซื่อหนึ่งรอบ อดเคียดแค้นแม่สำมีข้ ึนมำด้วยไม่ได้ นำง
แต่งเข้ำมำก็หลำยปี แล้ว แม้วำ่ แม่สำมีจะบอกว่ำมอบอำนำจดูแลบ้ำน
ส่ วนหนึ่งให้นำง เริ่ มแรกนำงยังซำบซึ้งอย่ำงยิง่ ใครจะรู ้เมื่อเริ่ มดูแล
จึงได้รู้ จวนจิ้นอ๋ องแห่งนี้ถูกแม่สำมีควบคุมประหนึ่งถังเหล็กมำ
นำนแล้ว ทัว่ ทุกแห่งล้วนเป็ นคนของนำง ตนจะทำอะไรก็ทำไมได้
อย่ำงสิ้ นเชิง ได้ชื่อว่ำดูแลบ้ำนเพียงแค่ในนำม
นำงไม่เชื่อว่ำกำรเคลื่อนไหวที่ใหญ่เพียงนี้แม่สำมีจะไม่รู้ ในเมื่อรู ้
แล้วแต่กลับเพิกเฉย นี่กห็ มำยควำมว่ำไม่ได้สนใจเม่ำเอ๋ อร์หลำนสำว
คนนี้เลย เมื่อคิดถึงตรงนี้นำงก็เกลียดแค้นทั้งจิตทั้งใจ รู ้สึกไม่ได้รับ
ควำมเป็ นธรรมแทนลูกสำว ไม่ได้รับควำมเป็ นธรรมแทนตนเอง
เหมือนอย่ำงที่อ๋ ูซื่อคิด พระชำยำจิ้นอ๋ องรู ้จริ งๆ ว่ำเรื อนสะใภ้ท้ งั สอง
เกิดเรื่ องนี้ข้ ึน แม้กระทัง่ อู๋ซื่อไปเชิญหมอจำกเรื อนเสิ่ นซื่อมำก็รู้ สี
หน้ำของนำงก็ยงิ่ ดูไม่ดี
อู๋ซื่อผูน้ ้ ี เมื่อก่อนเห็นนำงประพฤติตนหนักแน่นอย่ำงยิง่ เหตุใดถึง
ใจร้อนเช่นนี้เล่ำ” พระชำยำจิ้นอ๋ องกล่ำวอย่ำงไม่พอใจ
แม่นมซือรี บเกลี้ยกล่อม “ซื่อจื่อฮูหยินเองก็เป็ นห่วงคุณหนูใหญ่
ชัว่ ขณะสะเพร่ ำไปก็เป็ นธรรมดำ”
ทว่ำพระชำยำจิ้นอ๋ องยังคงปั้นหน้ำนิ่ง “รู ้อยูแ่ ก่ใจว่ำน้องสะใภ้แพ้
ท้องนำงไม่เอ่ยปำกช่วยเหลือสักแรง แต่กลับยังเพิม่ ปั ญหำ เม่ำเอ๋ อร์
จะเป็ นอะไรไปได้ ไม่วำ่ อย่ำงไรก็รอสักหน่อยมิได้หรื อ เรื่ องแค่น้ ีก็
ลนลำน จะให้ขำ้ วำงใจมอบจวนอ๋ องไว้ในมือนำงได้อย่ำงไร”
ไม่เคยคิดเลยว่ำนำงที่เป็ นแม่สำมียงั ไม่ไปช่วย แล้วเหตุใดจะต้อง
ให้อ๋ ูซื่อที่เป็ นพี่สะใภ้ไปช่วย ยิง่ ไปกว่ำนั้นบุตรสำวนำงยังป่ วย นี่
ไม่ใช่แบบอย่ำงของกำรเคร่ งครัดต่อผูอ้ ื่น โอบอ้อมอำรี ต่อตนเอง
หรื อ
แม่นมซือรู ้วำ่ พระชำยำพะว้ำพะวงใจที่ซื่อจื่อฮูหยินไม่มีบุตรชำย
ภรรยำเอกให้นำงมำโดยตลอด แม้แต่หลำนสำวสองคนก็ไม่ชอบ
ปกติแล้วก็พบหน้ำพวกนำงน้อยอย่ำงถึงที่สุด ต่อให้พบก็เย็นชำใส่
แม้นำงจะคิดว่ำพระชำยำเย็นชำต่อซื่อจื่อฮูหยินเช่นนี้ไม่ดีนกั แต่กท็ ำ
ได้เพียงโน้มน้ำวอย่ำงนิ่มนวล อย่ำงไรเสี ยต่อให้นำงมีหน้ำมีตำก็เป็ น
เพียงคนใช้ พระชำยำต้องมีสกั วันที่ไม่อยู่ ท้ำยที่สุดจวนจิ้นอ๋ องก็ยงั
ต้องตกเป็ นของซื่อจื่อฮูหยิน นำงทำตัวดีไว้ก่อน ภำยหลังซื่อจื่อฮูห
ยินเห็นแก่กำรวำงตัวของนำงจะได้ปฏิบตั ิต่อนำงอย่ำงดี!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 241-2 คืนนี้ คืนนีท้ ำไมหรื อ
นึกถึงตรงนี้แม่นมซือก็โน้มน้ำวต่อ “ซื่อจื่อฮูหยินอำยุยงั น้อย พระ
ชำยำท่ำนสัง่ สอนอีกสักสองปี ก็ได้แล้ว ไม่เห็นแก่หน้ำภิกษุกค็ วร
เห็นแก่หน้ำพระพุทธรู ปมิใช่หรื อ หมำยควำมว่ำเห็นแก่หน้ำท่ำน
ซื่อจื่อท่ำนก็ตอ้ งให้เกียรตินำงหลำยส่ วนด้วยมิใช่หรื อ อย่ำงไรเสี ย
เม่ำเอ๋ อร์กเ็ ป็ นบุตรสำวคนโตของท่ำนซื่อจื่อ หำกท่ำนไม่แสดงท่ำที
ท่ำนซื่อจื่อจะไม่เสี ยใจหรื อ”
พระชำยำจิ้นอ๋ องกลอกตำ “พอแล้วๆ คนแก่เช่นเจ้ำใจอ่อน หำกนำง
มีหลำนชำยภรรยำเอกให้ขำ้ ได้ ข้ำจะไม่ยกยอนำงไปเสี ยทุกเรื่ อง
หรอกหรื อ ต้องโทษที่นำงเองไม่มีควำมสำมำรถ”
แม้ปำกพระชำยำจิ้นอ๋ องจะพร่ ำบ่น แต่อย่ำงไรเสี ยก็ยงั คงส่ งคนไปดู
เม่ำเอ๋ อร์ ซ้ ำยังส่ งของบำรุ งจำนวนหนึ่งและของเล่นที่งำมประณี ต
หลำยชิ้นไปให้อีกด้วย
ตอนที่ของส่ งมำถึงอู๋ซื่อกำลังพูดคุยอยูก่ บั แม่นมอู๋ แม่นมอู๋คือแม่นม
ที่อ๋ ูซื่อพำมำจำกบ้ำนฝั่งมำรดำ เดิมทีรับใช้อยูข่ ำ้ งกำยมำรดำของอู๋ซื่อ
อู๋ซื่อแต่งเข้ำจวนจิ้นอ๋ อง มำรดำตระกูลอู๋ไม่วำงใจ จึงส่ งแม่นมที่
เชื่อถือได้ที่สุดข้ำงกำยตนมำช่วยเหลือลูกสำว สองวันมำนี้หลำนสำว
คนเล็กของแม่นมอู๋ไม่ค่อยดี แม่นมอู๋จึงลำกลับบ้ำนไปดูหลำนสำว
ใครจะรู ้เมื่อนำงไปในเรื อนก็เกิดเรื่ อง
อู๋ซื่อเล่ำเรื่ องหนึ่งรอบ แม่นมอู๋โมโหอย่ำงยิง่ “กลัน่ แกล้งกันเกินไป
แล้ว! ฮูหยินวำงแผนอย่ำงไร”
ดวงตำอู๋ซื่อกะพริ บวำบ ผ้ำเช็ดหน้ำในมือกำแน่น กล่ำว “แม่นม ข้ำ
ไม่ยอม เม่ำเอ๋ อร์ซินเอ๋ อร์ของข้ำมีคนรักและเอ็นดูมำกนัก เหตุใดถึง
ไม่เข้ำตำนำงเล่ำ ท่ำนซื่อจื่อยังไม่ได้พดู อะไรนำงกลับเมินเฉยแล้ว
เนื้อก้อนนั้นในท้องหูซื่อยังไม่รู้เลยว่ำเป็ นตัวอะไร เหตุใดถึงสำคัญ
กว่ำเม่ำเอ๋ อร์ของข้ำแล้วเล่ำ แม่นมเจ้ำไม่เห็น วันนี้เม่ำเอ๋ อร์ตกอยูใ่ น
อันตรำยอย่ำงยิง่ เกือบจะ เกือบจะหมดลมหำยใจแล้ว หำกไม่ใช่ไป
เชิญหมอหลิวมำจำกเรื อนพี่สะใภ้ใหญ่ เม่ำเอ๋ อร์ของข้ำคงจะรักษำไม่
ทันกำรณ์”
ขณะที่พดู น้ ำตำของอู๋ซื่อก็ร่วงลงมำ ลูกเป็ นแก้วตำดวงใจของนำง
หำกเม่ำเอ๋ อร์เป็ นอะไรไป ไม่ใช่เป็ นกำรพรำกหัวใจของนำงไปหรื อ
“ในเมื่อนำงกำเริ บเสิ บสำนเพียงนี้ เช่นนั้นก็อย่ำคลอดเลยเสี ยดีกว่ำ”
แววตำอู๋ซื่อคล้ำเคลือบยำพิษไว้
แม่นมอู๋เข้ำใจเจตนำของอู๋ซื่อทันที กำลังจะพูดอะไร ข้ำงนอกหวำ
เยียนที่พระชำยำจิ้นอ๋ องส่ งมำเยีย่ มเม่ำเอ๋ อร์กม็ ำถึงแล้ว ทั้งสองมอง
กันปรำดหนึ่ง อู๋ซื่อส่ งเสี ยงให้คนเข้ำมำ
หวำเยียนพูดทำนองว่ำพระชำยำเป็ นห่วงคุณหนูใหญ่มำกต่ำงๆ
นำนำหลำยประโยค วำงของลงจำกนั้นก็ขอตัวออกไป
อู๋ซื่อมองของที่แม่สำมีสงั่ คนส่ งเข้ำมำก็ยงิ่ โมโห อยำกจะโยนของ
เหล่ำนี้ออกไปให้หมด “แม่นม เจ้ำเห็นแล้วหรื อยัง ใช้ของแค่น้ ีมำไล่
ข้ำ ข้ำจะเป็ นซื่อจื่อฮูหยินไปทำไมอีก” นำงโกรธจนหน้ำอก
กระเพื่อมขึ้นลงอย่ำงรวดเร็ว
แม่นมอู๋กลัวว่ำนำงจะโกรธจนเป็ นอะไรไป รี บทำให้นำงใจเย็นลง
“ฮูหยินรี บสงบอำรมณ์ ไม่ควรค่ำให้ควำมโกรธทำลำยสุ ขภำพตน”
หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่ำว “เจตนำของฮูหยินบ่ำวเข้ำใจเจ้ำค่ะ เพียงแต่ฮู
หยินฟังบ่ำวพูดสักประโยค รอก่อน!”
“รองั้นหรื อ” สี หน้ำอู๋ซื่อคล้ำยครุ่ นคิด “แม่นมหมำยควำมว่ำ?”
แม่นมอู๋พยักหน้ำ กล่ำวเสี ยงเบำ “บ่ำวว่ำฮูหยินสำมตั้งครรภ์น้ ีไม่
ค่อยปกตินกั แม้จะบอกว่ำฮูหยินเองก็ทรมำนในช่วงสำมเดือนแรก
แต่กไ็ ม่ได้ทรมำนเหมือนนำงเช่นนี้ แพ้ทอ้ งอยูบ่ ่อยครั้ง นี่ผดิ ปกติ!
บ่ำวคิดว่ำครรภ์น้ ีน่ำจะไม่รอด ฮูหยินท่ำนรอดูเถิด ใยจะต้องให้มือ
ตัวเองสกปรกด้วยเล่ำ”
“จะไม่รอดจริ งๆ หรื อ” อู๋ซื่อถำมเพื่อควำมมัน่ ใจอีกครั้ง
แม่นมอู๋พยักหน้ำอย่ำงหนักแน่น “บ่ำวเองก็ใช้ชีวิตมำเกินครึ่ งแล้ว
สตรี มีครรภ์แบบใดบ้ำงที่ไม่เคยเห็น ฮูหยินสำมเป็ นเช่นนี้แน่นอนว่ำ
ผิดปกติ”
“เช่นนั้นก็ดี” อู๋ซื่อถอนหำยใจยำวออกมำหนึ่งครำ “ข้ำจะได้วำงใจ
เสี ยที ปล่อยให้นำงกำเริ บเสิ บสำนไปเถิด ข้ำจะคอยดูวำ่ นำงจะมีจุด
จบที่ดีอะไรได้” เบื้องลึกในจิตใจอู๋ซื่อสบำยอำรมณ์ข้ ึนมำก
ดวงตำแม่นมอู๋กะพริ บวำบ กล่ำวต่อ “ฮูหยิน เรื่ องสำคัญที่ตอ้ งรี บ
จัดกำรยังคงเป็ นกำรมีบุตรภรรยำเอกโดยเร็ วเท่ำนั้น อีกชัว่ พริ บตำ
แม้แต่คุณชำยสี่ กจ็ ะแต่งงำนแล้ว”
อู๋ซื่อใบหน้ำขื่นขม กล่ำวบ่น “แม่นม ข้ำไม่อยำกมีบุตรภรรยำเอกให้
ท่ำนซื่อจื่อหรื อไร ยำน้ ำรสขมนั้นดื่มไปกี่ขวดแล้วก็ไม่รู้ แต่ทอ้ งข้ำก็
ยังไม่เอำไหน”
แม่นมอู๋ไหนเลยจะไม่เข้ำใจ ควำมไม่เป็ นธรรมทั้งหมดที่ซื่อจื่อฮูห
ยินได้รับนำงล้วนเห็นอยูใ่ นสำยตำ นำงคิดแล้วคิดอีกจึงกล่ำว “บ่ำว
ไปให้คนไต่ถำมมำแล้ว บอกว่ำสำมสิ บลี้ทำงตอนเหนือนอกเมืองมี
สำนักชีอยูห่ นึ่งแห่ง สองปี ก่อนมีแม่ชีเฒ่ำผูห้ นึ่งมำ ค่อนข้ำงมีฝีมือ
โดยเฉพำะในด้ำนกำรมีบุตรของสตรี ได้ผลอย่ำงถึงที่สุด รอให้ผำ่ น
ไปอีกสักพักแล้วบ่ำวจะไปขอแทนฮูหยิน”
“จะได้หรื อ” อู๋ซื่อดีใจก่อน หลังจำกนั้นจึงเผยสี หน้ำลังเล สองปี มำนี้
นำงไม่เพียงแต่ใช้ตำรำยำสมุนไพรไม่นอ้ ย เรื่ องไหว้พระขอพรก็ทำ
มำไม่นอ้ ยแต่ควำมปรำรถนำก็ยงั ไม่เป็ นจริ งมิใช่หรื อ
“ฮูหยินวำงใจ ครำวนี้ไม่พลำดแน่นอน เรื่ องนี้บ่ำวไปไต่ถำมมำจำกพี่
น้องที่คบหำกันมำนำนหลำยปี ผูห้ นึ่ง นำงยังพำบ่ำวไปดูสตรี ที่
ตั้งครรภ์ผนู ้ ้ นั กับตำ เป็ นเรื่ องจริ งเจ้ำค่ะ” แม่นมอู๋กล่ำวสำบำนอย่ำง
จริ งใจ จึงทำให้เบื้องลึกในใจอู๋ซื่อเกิดควำมหวังขึ้นมำ “เช่นนั้นก็
ลำบำกแม่นมแล้ว หำกข้ำตั้งครรภ์สำเร็ จ แม่นมจะเป็ นผูส้ ร้ำง
คุณูปกำรอันดับหนึ่ง”
แม่นมอู๋โบกมือ “ผูส้ ร้ำงคุณูปกำรอะไรกัน ฮูหยินท่ำนเป็ นคนที่บ่ำว
เห็นมำตั้งแต่เล็กจนโต บ่ำวอยำกเห็นท่ำนได้ดี” หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่ำว
ต่อ “ข้ำงกำยท่ำนซื่อจื่อท่ำนเองก็ควรเพิ่มอีกสักคนหนึ่ง บ่ำวคิดว่ำซื
อหนงไม่เลว นำงเป็ นสำวใช้ที่ตำมออกเรื อน สัญญำขำยตัวเป็ นทำส
ทั้งตระกูลอยูใ่ นมือท่ำน ไม่อำจสร้ำงอุบำยอะไรได้ พวกเรำลงมือ
สองฝ่ ำย หำกท่ำนมีบุตรได้สำเร็ จก็ไม่เป็ นไร หำกไม่ได้ ไม่ใช่ยงั มีซื
อหนงอยูห่ รื อ ถึงตอนนั้นท่ำนก็อุม้ เด็กมำเลี้ยงตรงหน้ำ ต่ำงอะไร
จำกบุตรภรรยำเอกเล่ำ” แม่นมอู๋ถือโอกำสโน้มน้ำว
ครำวนี้อ๋ ซู ื่อไม่โต้แย้งเหมืนเมื่อก่อนแล้ว วันนี้ถูกกระตุน้ จริ งๆ ทำให้
นำงเข้ำใจ หำกไม่มีลูกชำย ตำแหน่งซื่อจื่อฮูหยินของนำงก็ไม่มนั่ คง
แม้แต่บุตรสำวสองคนของนำงก็จะได้รับควำมไม่เป็ นธรรมไปด้วย
“ได้ เช่นนั้นก็จดั กำรตำมที่แม่นมว่ำเถิด” อู๋ซื่อกัดฟันพยักหน้ำ
ตกดึก อู๋ซื่อก็บีบน้ ำตำต่อหน้ำสำมีสวีเยีย่ อีกครั้ง “ท่ำนซื่อจื่อ ไม่ใช่
ว่ำข้ำควำมอดทนต่ำ อันที่จริ งแล้ว…” นำงสะอื้นพูดไม่ออก เช็ดหำง
ตำแล้วกล่ำวต่อ “ท่ำนไม่เห็นสภำพเม่ำเอ๋ อร์ของเรำ ข้ำตกใจจนแทบ
หมดสติ หำกไม่ใช่หมอหลิวที่มีฝีมือสู งในเรื อนพี่สะใภ้ใหญ่ ท่ำนก็
อำจจะไม่ได้เห็นเม่ำเอ๋ อร์แล้ว” พูดไปพลำงก็สะอื้นไห้ข้ ึนมำ
มือข้ำงกำยสวีเยีย่ กำแน่น ท้ำยที่สุดก็ตบหลังของอู๋ซื่อกล่ำวปลอบ
“เจ้ำลำบำกแล้ว” จำกนั้นจึงเสริ มอีกหนึ่งประโยค กลับไปต้อง
ขอบคุณพี่ใหญ่พสี่ ะใภ้ใหญ่ให้ดี”
นี่ทำให้ในใจอู๋ซื่อไม่พอใจอย่ำงถึงที่สุด แต่กลับทำได้เพียงซบหน้ำ
ลงบนบ่ำของสำมี ร้องไห้เงียบๆ
ในที่ที่อ๋ ูซื่อมองไม่เห็น สวีเยีย่ เม้มปำกแน่น แววตำเต็มไปด้วย
พยับเมฆ เม่ำเอ๋ อร์เป็ นบุตรสำวคนโตของเขำ ซ้ ำยังมีผวิ ขำวผ่อง
หน้ำตำน่ำรัก เขำที่เป็ นพ่อคนครั้งแรกย่อมรักอย่ำงถึงที่สุด
แต่เสด็จแม่ของเขำกลับไม่ชอบลูกสำวสองคนของเขำนัก เขำเองก็รู้
ดี แต่เป็ นลูกชำย เขำพูดไม่ได้ จึงคิดว่ำ เสด็จแม่ไม่ชอบก็ไม่เป็ นไร
อย่ำงไรเสี ยก็มีเขำผูเ้ ป็ นพ่อที่รัก แต่เขำไม่คิดว่ำเสด็จแม่จะมองข้ำม
เม่ำเอ๋ อร์ขนำดนี้ บุตรสำวเป็ นๆ ของเขำเทียบไม่ได้แม้แต่เลือดเนื้อที่
ไม่รู้เรื่ องอะไรทั้งสิ้ น นี่จะไม่ให้เขำโมโหเดือดดำลได้อย่ำงไร
ลูกชำย เขำจะต้องมีลูกชำยให้ได้! สวีเยีย่ กำหมัดแน่น แววตำแน่นิ่ง
อย่ำงไม่เคยเป็ นมำก่อน
ค่ำคืนนี้ สวีเยีย่ กลิ้งตลบกับอู๋ซื่ออยูค่ รึ่ งคืน ก็เพื่อให้มีบุตรภรรยำเอก
ตอนที่เสิ่ นเวยกลับไปถึงจวนสวีโย่วก็กลับมำแล้ว นำงโผเข้ำไปรำว
กับนกน้อยบินถลำใส่ ตน้ ไม้ ยิม้ แย้มหอมลงบนแก้มเขำสองข้ำง “นี่
คือรำงวัลของท่ำน”
คนงำมมอบจูบ สวีโย่วย่อมรับไว้อย่ำงเต็มใจ แต่วำ่ เขำก็ยงั คงเลิกคิ้ว
“เวยเวยรู ้ได้อย่ำงไรว่ำทำสำเร็ จ”
เสิ่ นเวยวำงท่ำทำงว่ำข้ำคำดเดำได้ออกมำ ตบก้นสวีโย่ว “นี่ มีท่ำน
จวิน้ อ๋ องของพวกเรำออกโรง ก็ไม่มีเรื่ องที่ทำไม่สำเร็ จ เป็ นอย่ำงไร
ข้ำพูดถูกหรื อไม่”
สวีโย่วมองท่ำทำงภูมิใจของเสิ่ นเวย ในใจก็รู้สึกจักจี้ข้ ึนมำใน
ชัว่ ขณะ ดึงนำงมำไว้บนขำแล้วกอดทันที “ใช่ ถูกต้องแล้ว ไม่
เพียงแต่สำเร็ จ ยังขอคนเพิม่ มำไม่นอ้ ยอีกด้วย”
“จริ งหรื อ” เสิ่ นเวยประหลำดใจ
สวีโย่วพยักหน้ำกล่ำว “จริ งแน่นอน อีกทั้งยังเลือกมือดีออกมำจำก
กองทหำรรักษำพระองค์อีกด้วย”
“ดีจริ งๆ!” เสิ่ นเวยร้องดีใจ กำลังจะกระโดดขึ้นมำ แต่กลับถูกสวีโย่ว
รัดไว้แนบแน่น ริ มฝี ปำกที่อุ่นร้อนประชิดเข้ำมำ “เวยเวยคิดว่ำจะให้
รำงวัลข้ำอย่ำงไรดี”
เสิ่ นเวยกะพริ บตำดวงโตที่ใสซื่อ “ท่ำนอยำกได้อะไรล่ะ”
ท่ำทำงบริ สุทธิ์น่ำรักนั้นยัว่ ยวนยิง่ นัก สวีโย่วรู ้สึกว่ำบำงส่ วนของ
ร่ ำงกำยเกิดกำรเปลี่ยนแปลงแล้ว “ข้ำอยำกได้อะไรเวยเวยยังไม่รู้อีก
หรื อ คืนนี้…” เขำจับมือของเสิ่ นเวยลูบไปบนร่ ำงตน
เสิ่ นเวยยิม้ ด่ำในใจว่ำช่ำงเป็ นผีทะเลจริ งๆ ทว่ำดวงตำกลับยังกะพริ บ
ปริ บๆ “คืนนี้? คืนนี้ทำไมหรื อ”
ท่ำทำงซุกซนเช่นนั้นทำให้สวีโย่วอยำกจะกดนำงไว้ขำ้ งล่ำงทันที
เขำคิดเช่นนี้ แล้วก็ทำเช่นนี้เหมือนกัน ในที่สุดเสิ่ นเวยรับผิดชอบไฟ
ที่นำงจุดขึ้นมำ
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 242-1 ฉินมู่หรำนคนห่ วยแตก
อีกสองวันก็จะย้ำยไปจวนจวิน้ อ๋ องได้แล้ว เสิ่ นเวยนับวันรอ
ประหนึ่งกระรอกที่ดีใจ นำงยืนอยูล่ ่ำงระเบียงทำงเดินมองท้องฟ้ำ
สู งๆ รู ้สึกเพียงฟ้ำดินกว้ำงใหญ่ไพศำล ทุกสิ่ งทุกอย่ำงล้วนดีงำม
อย่ำงถึงที่สุด
ขณะที่เสิ่ นเวยกำลังเฝ้ำรอที่จะได้ยำ้ ยออกจวกจวนจิ้นอ๋ องทั้งจิตทั้ง
ใจ ในเมืองหลวงกลับเกิดเรื่ องใหญ่ข้ ึน มีคนฟ้องร้องฉิ นมู่หรำน
คุณชำยเล็กตระกูลท่ำนเสนำบดีฉินแล้ว ฟ้องร้องว่ำเขำฉุดตัวหญิง
ชำวบ้ำน อีกทั้งศำลต้ำหลี่ยงั รับคำฟ้องอีกด้วย
ครำวนี้ในเมืองหลวงอึกทึกขึ้นมำแล้ว พำกับสื บสำวว่ำตระกูลใดที่
ไม่กลัวอำนำจเช่นนั้น คำดไม่ถึงว่ำแม้แต่ลูกคนเล็กของท่ำนเสนำบดี
ฉินก็กล้ำฟ้องร้อง ฉินมู่หรำนเป็ นคนไม่เอำไหน แต่เบื้องหลังเขำก็
แข็งแกร่ ง! พ่อเขำเป็ นอัครเสนำบดีในรำชสำนัก พี่สำวเขำคือซูเฟย
เหนียงเหนียงในพระรำชวัง หลำนชำยเขำคือองค์ชำยรองผูเ้ ป็ นที่น่ำ
จับตำมองที่สุดในรำชสำนัก
มีคนใหญ่คนโตที่มีกำลังเหล่ำนี้ปกป้อง ใครจะกล้ำผิดใจเขำกัน รู ้อยู่
แก่ใจว่ำเขำชอบรังแกชำยลวนลำมหญิง ทุกๆ แห่งที่เดินผ่ำนทุกคน
ยังต้องพยักหน้ำโค้งตัวยิม้ แย้มสรรเสริ ญ แต่ตอนนี้ดนั มีคนไม่กลัว
ตำยฟ้องเขำแล้ว จะไม่ให้คนจับตำมองได้อย่ำงไร พำกันทำยว่ำ
เบื้องหลังตระกูลที่ฟ้องร้องนี้แข็งแกร่ งกว่ำหรื อไม่
ตอนที่เสิ่ นเวยได้ยนิ ข่ำวนี้กอ็ ำ้ ปำกค้ำง ฮ่ำ หมอนี้ออกมำสร้ำง
หำยนะอีกแล้วหรื อ ไม่ใช่วำ่ ถูกนำงขู่จนหำงหดไปแล้วหรื อ ไม่กี่วนั
บำดแผลหำยก็ลืมควำมเจ็บไปแล้วหรื อ ซ้ ำยังพัฒนำ เมื่อก่อนแค่
ลูบๆ คลำๆ พูดจำลวนลำมอยูข่ ำ้ งถนน ตอนนี้ฉุดคนเข้ำจวนแล้ว
เด็กเลวสมควรตำยคนนี้
“แม่นำงที่ถูกฉุดเป็ นคนในตระกูลใด” เสิ่ นเวยถำมเสี่ ยวตี๋ เสี่ ยวตี๋เป็ น
คนสื บข่ำวในกลุ่มทหำรลับโดยเฉพำะ ช่วงนี้ข่ำวลือต่ำงๆ ข้ำงนอกที่
เกี่ยวกับจวนจิ้นอ๋ องล้วนเป็ นนำงที่ดูแล เรื่ องนี้ถำมนำงไม่ผดิ
แน่นอน
เสี่ ยวตี๋กล่ำว “เป็ นบุตรสำวคนเล็กของตระกูลจำงซิ่วไฉทำง
ตะวันออกของเมือง ชื่อจำงย่วนเหนียง ปี นี้เพิง่ จะอำยุสิบหกปี มี
พี่ชำยสองคน นำงเป็ นลูกคนสุ ดท้อง อยูใ่ นจวนได้รับควำมรักควำม
โปรดปรำนอย่ำงยิง่
“หน้ำตำเป็ นอย่ำงไร ใช่สวยอย่ำงยิง่ หรื อไม่” เสิ่ นเวยถำมต่อ แววตำ
เต็มไปด้วยควำมสนใจ
เสี่ ยวตี๋พยักหน้ำ “แม้จะพูดไม่ได้วำ่ งำมล่มเมือง แต่กน็ บั ได้วำ่ เป็ น
คนงำมสะสวย” ตำมที่ลูกน้องบอกในพื้นที่ทำงฝั่งตะวันออกของ
เมืองจำงย่วนเหนียงผูน้ ้ ีเป็ นสตรี ที่โดดเด่นที่สุด หน้ำตำดี นิสยั ดี คน
ขยันทั้งยังรู ้อกั ษร
เสิ่ นเวยคิดดูแล้วก็ใช่ หำกขี้เหร่ เหมือนยักษ์ ก็คงไม่ถูกฉิ นมู่หรำน
เด็กคนนั้นฉุดเข้ำจวนหรอก
“สิ บหกแล้ว หมั้นหมำยแล้วหรื อยัง” จู่ๆ เสิ่ นเวยก็นึกถึงปั ญหำข้อนี้
“หมั้นแล้ว เป็ นลูกชำยของสหำยจำงซิ่วไฉ คนผูน้ ้ นั แซ่ซงั่ บิดำ
ตระกูลซัง่ เองก็เป็ นซิ่วไฉ นับว่ำเป็ นคู่กิ่งทองใบหยก สองตระกูล
อำศัยอยูบ่ นถนนสำยหนึ่ง จำงย่วนเหนียงกับชนรุ่ นหลังผูน้ ้ นั มีใจให้
กันมำตั้งแต่เด็ก ปี ก่อนหมั้นหมำยกำรสมรส ฤกษ์สมรสคือวันที่หก
เดือนหน้ำ อีกแค่สิบกว่ำวัน” เสี่ ยวตี๋เล่ำเหตุกำรณ์ที่สืบถำมมำอย่ำง
ละเอียด
“ทำกรรมจริ งๆ นี่ไม่ใช่ทำลำยสองตระกูลหรื อ ผูแ้ ซ่ฉินสมควรถูก
ฟ้ำผ่ำตำย” แววตำเสิ่ นเวยเต็มไปด้วยควำมรังเกียจ เสี ยใจที่ครำวก่อน
ไม่ได้ทำให้เขำพิกำร “จริ งสิ แม่นำงผูน้ ้ นั จะแต่งงำนเดือนหน้ำแล้ว
ไม่ใช่หรื อ เหตุใดถึงไม่เตรี ยมตัวอยูใ่ นบ้ำนเล่ำ ออกมำได้อย่ำงไร”
สตรี ที่หมั้นหมำยแล้วไม่ใช่ควรปักสิ นเดิมอยูใ่ นบ้ำนหรอกหรื อ
เสี่ ยวตี๋กล่ำว “คนตระกูลเล็กตระกูลน้อยไม่ได้เคร่ งครัดเพียงนั้น ทั้ง
ยังเป็ นเรื่ องบังเอิญ แม่นำงผูน้ ้ นั ไปซื้อด้ำยที่ร้ำยขำยด้ำย ระหว่ำงทำง
กลับมำถูกฉินมู่หรำนพบเข้ำ ฉิ นมู่หรำนก็เป็ นคนบ้ำตัณหำ เห็นแม่
นำงหน้ำตำดี ก็หยอกเย้ำหลำยประโยค แม่นำงผูน้ ้ นั มีนิสยั รุ นแรง
ก่นด่ำเขำไปหลำยประโยค ฉินมู่หรำนเห็นสตรี สุภำพเรี ยบร้อยจน
ชิน เห็นคนผูน้ ้ ีนิสยั รุ นแรงแวบแรกก็รู้สึกสนใจ ชัว่ ขณะก็เกิดควำม
ต้องกำร ฉุดคนเสี ย ยังคงเป็ นตระกูลจำงที่เห็นว่ำอำทิตย์ตกดินแล้ว
บุตรสำวยังไม่กลับบ้ำน จึงออกไปหำ หำทัว่ ทุกหนทุกแห่งแล้วก็ไม่
เห็นเงำบุตรสำว แทบจะไปแจ้งที่วำ่ รำชกำรแล้ว ท้ำยที่สุดยังคงเป็ น
พ่อค้ำที่วำงแผงขำยของข้ำงถนนนั้นเห็นคุณชำยจวนเสนำบดีฉินฉุด
คนจึงไปบอกตระกูลเขำ มำรดำแซ่จำงเป็ นลมไปทันที”
ตอนนั้นเสี่ ยวตี๋ได้รับข่ำวที่ลูกน้องส่ งกลับมำก็รีบตำมไปทันที เบียด
อยูใ่ นฝูงชนมองเห็นได้ ภำพเหตุกำรณ์น้ นั น่ำเวทนำยิง่ นัก มำรดำ
ตระกูลจำงหลังจำกถูกช่วยจนฟื้ นก็ร้องไห้หำลูกสำว คนที่มุงดูต่ำงก็
วิจำรณ์กนั เซ็งแซ่ สงสำรจำงย่วนเหนียงและตระกูลจำงตระกูลซัง่ ทั้ง
สองตระกูล ทอดถอนใจว่ำบุตรสำวดีเพียงใด ถูกทำลำยเช่นนี้
บุตรชำยบุตรสำวเหมำะสมกันเพียงใด ถูกแยกออกจำกกันเสี ยอย่ำง
นั้น
คู่หมั้นผูน้ ้ นั ของจำงย่วนเหนียง ตอนนี้ดวงตำแดงก่ำถือดำบจะวิ่งไป
จวนเสนำบดีฉินอย่ำงสุ ดชีวติ ถูกคนในตระกูลห้ำมไว้อย่ำงแทบเป็ น
แทบตำย เด็กหนุ่มที่มีท่ำทำงเป็ นปัญญำชนสุ ภำพเรี ยบร้อยโมโหจน
ทุบพื้น บนมือเลือดเนื้อพร่ ำเลือน กุมศีรษะนัง่ อยูบ่ นพื้นจิกผมตัวเอง
ภำพนั้นทำให้คนฟังปวดใจ คนเห็นน้ ำตำไหลจริ งๆ!
“เช่นนั้นใครเสนอควำมคิดเห็นให้พวกเขำไปฟ้องร้องศำลต้ำหลี่เล่ำ”
จู่ๆ เสิ่ นเวยก็กล่ำวถำม ชำวบ้ำนธรรมดำจะฟ้องร้องล้วนแต่ไปยัง
ที่วำ่ กำรเมืองหลวง เหตุใดตระกูลจำงถึงคิดไปที่ศำลต้ำหลี่เล่ำ ซิ่วไฉ
เล็กๆ คนหนึ่ง ไม่น่ำจะมีควำมรู ้เช่นนี้ได้ น่ำจะมีคนไปชี้ทำงให้
ตระกูลเขำ
เป็ นดังคำด เสี่ ยวตี๋ยมิ้ กล่ำวอย่ำงเคอะเขินเล็กน้อย “เริ่ มแรกตระกูล
จำงไปที่วำ่ กำรเมืองหลวงมำแล้ว แต่ที่วำ่ กำรเมืองหลวงเห็นว่ำคนที่
พวกเขำฟ้องคือคุณชำยเล็กตระกูลท่ำนเสนำบดีฉิน ไหนเลยจะกล้ำ
รับเรื่ อง ผูน้ อ้ ยเห็นพวกเขำน่ำสงสำรจริ งๆ และรู ้วำ่ ใต้เท้ำจ้ำวผู ้
พิพำกษำศำลต้ำหลี่เป็ นขุนนำงดีที่ซื่อสัตย์ จึงสัง่ คนไปชี้แนะให้พวก
เขำเล็กน้อย”
“ข้ำก็วำ่ อยูแ่ ล้วเชียว ด้วยตระกูลของพวกเขำจะต้องคิดถึงศำลต้ำหลี่
ไม่ได้แน่ๆ ที่แท้แล้วเสี่ ยวตี๋เจ้ำก็ช้ ีทำงนี่เอง ทำดีมำก” เสิ่ นเวยเข้ำใจ
ถ่องแท้ “ใต้เท้ำจ้ำวเป็ นคนที่ไม่กลัวอำนำจที่สุด ครำวนี้ท่ำนเสนำบดี
ฉินมีปัญหำแล้ว!” บนใบหน้ำเสิ่ นเวยเต็มไปด้วยควำมดีใจบนควำม
ทุกข์ของผูอ้ ื่น เสนำบดีฉินตำเฒ่ำนัน่ เห็นท่ำทำงสุ ภำพเรี ยบร้อย ไม่รู้
ว่ำเหตุใดนำงถึงเห็นเขำไม่เข้ำตำนัก ไม่มีควำมรู ้สึกดีเลยแม้แต่นิด
เดียว
“ใช่แล้วๆ พรุ่ งนี้สำส์นกรำบทูลยืน่ เรื่ องไม่ไว้วำงใจท่ำนเสนำบดีฉิน
ของผูต้ รวจกำรคงจะกองสู งเท่ำนี้” เสี่ ยวตี๋เทียบด้วยควำมตื่นเต้นดีใจ
นำงเองก็ชอบดูเรื่ องสนุกไม่กลัวอำนำจ มิหนำซ้ ำเด็กหื่นกำมผูน้ ้ นั
ของตระกูลพวกเขำยังคิดเพ้อฝันถึงจวิน้ จู่มิใช่หรื อ บัญชีเก่ำนี้นำงยัง
ไม่ลืม
เสิ่ นเวยกะพริ บตำ กระดิกนิ้วเรี ยวเสี่ ยวตี๋อย่ำงมีลบั ลมคมนัย “เรื่ องนี้
พวกเรำก็แกว่งเท้ำเข้ำไปหน่อยดีหรื อไม่ พัดลม เติมไฟ รำดน้ ำมัน
เข้ำไปอีก พวกเรำจุดไฟให้ลุกโชน” อย่ำงไรเสี ยคู่อริ ทำงกำรเมืองใน
รำชสำนักของท่ำนเสนำบดีฉินก็น่ำจะเยอะ พวกนำงหลบอยูห่ ลัง
ม่ำน ท่ำนเสนำบดีฉินจะรู ้หรื อว่ำเป็ นใคร
เสี่ ยวตี๋เองก็ตื่นเต้นทั้งใบหน้ำ “ได้เจ้ำค่ะ” ช่วงนี้กลับเมืองหลวงมำ
ทุกวันมีแต่เรื่ องเล็กน้อยหยุมหยิม นำงอัดอั้นจะแย่อยูแ่ ล้ว ไหนเลย
จะฮึกเหิมสนุกสนำนอย่ำงตอนที่อยูซ่ ีเจียงที่ท้ งั ปรำบโจรทั้งเข่นฆ่ำ
ตอนนี้จวิน้ จู่อุส่ำเกิดควำมสนใจพำนำงไปเล่นสนุก นำงจะโง่ปฏิเสธ
ได้อย่ำงไร
“มำๆๆ พวกเรำมำวำงแผนกันก่อน” เสิ่ นเวยกับเสี่ ยวตี๋หนั หัวชนกัน
ปรึ กษำหำรื อ
สวีโย่วที่นงั่ อ่ำนหนังสื ออยูใ่ ต้หน้ำต่ำงก็มองหญิงสำวที่อยูใ่ กล้กนั
แม้แต่ฟ้ำก็กล้ำพลิกด้วยควำมจนใจ ช่ำงเถอะ น้องสี่ เองก็อดั อั้นจะแย่
แล้ว ให้นำงได้เล่นสนุกเถอะ อย่ำงมำกเขำก็ช่วยเก็บหำงให้เรี ยบร้อย
ก็พอ อีกทั้งเมื่อคืนเขำคล้ำยผิดใจนำง ตั้งแต่เช้ำเด็กคนนี้กไ็ ม่ทำหน้ำ
ดีๆ ให้เขำเลย
เสิ่ นเวยกับเสี่ ยวตี๋กำลังกระซิบกระซำบเสี ยงเบำ
“จวนเสนำบดีฉินยังมีคนของพวกเรำหรื อไม่” เสิ่ นเวยถำม
เสี่ ยวตี๋พยักหน้ำ “ยังมีอยูส่ ำมคน คนหนึ่งเป็ นคนสวน คนหนึ่งเป็ น
สำวใช้เล็กทำควำมสะอำดเรื อนนอก อีกคนหนึ่งดูแลเครื่ องหอมใน
เรื อนฉินมู่หรำนพอดี”
เยอะเพียงนี้เชียวหรื อ เสิ่ นเวยประหลำดใจเล็กน้อย เดิมทีนำงคิดว่ำ
แฝงตัวเข้ำไปได้คนเดียวก็ไม่เลวแล้ว ไม่คิดว่ำจะมีถึงสำมคน ยอด
เยีย่ มอย่ำงยิง่ จริ งๆ เสิ่ นเวยยกนิ้วโป้งให้เสี่ ยวจี๋
“กลับไปเจ้ำก็ไปส่ งข่ำว ให้พวกเขำใส่ ใจหน่อย อย่ำให้แม่นำงผูน้ ้ นั
ตำย หำกคนถูกบีบบังคับจนตำย ใครจะกล่ำวหำฉิ นมู่หรำนเล่ำ ถึง
ตอนนั้นท่ำนเสนำบดีฉินกับซูเฟยเหนียงเหนียงลงมืออีกรอบ ไม่แน่
ว่ำอำจจะทำให้ฉินมู่หรำนพ้นผิด อืม ทำงที่ดีคือสำมำรถเปลี่ยนตัว
แม่นำงผูน้ ้ นั ออกมำได้ ในกลุ่มทหำรลับของพวกเจ้ำมียอดฝี มือ
เปลี่ยนโฉมหรื อไม่” เสิ่ นเวยเสนอควำมคิดเห็นของตนเอง
“มีเจ้ำค่ะ” เสี่ ยวตี๋พยักหน้ำถี่ บนใบหน้ำเล็กๆ ที่ปกติเรี ยบเฉยเต็มไป
ด้วยประกำยควำมตื่นเต้น “จวิน้ จู่ควำมคิดนี้ดี ผูน้ อ้ ยจะไปจัดกำร”
ให้ตำยเถอะ ช่ำงฮึกเหิมดีจริ งๆ หำกไม่ใช่วำ่ นำงยังต้องกลับมำฟัง
คำสัง่ ของจวิน้ จู่ นำงก็อยำกจะลงสนำมเปลี่ยนตัวเป็ นจำงย่วนเหนียง
ผูน้ ้ นั เองจริ งๆ
หลังเสี่ ยวตี๋ไปแล้ว เสิ่ นเวยก็ลุกขึ้นยืนหำว สำยตำสบกับสวีโย่วที่อยู่
ใต้หน้ำต่ำงพอดี เสิ่ นเวยกลอกตำเขำใส่ เขำอย่ำงไม่เกรงใจ บวกกับ
แค่นเสี ยงหนึ่งครำ คนผูน้ ้ ีจะต้องเป็ นผีทะเลกลับชำติมำเกิดแน่นอน
เมื่อคืนไม่สนว่ำนำงจะคัดค้ำนทรมำนนำงทั้งคืน นำงมีแรงมำกเช่นนี้
ยังถูกหมอนี่ทรมำนจนทนไม่ไหวต้องร้องขอ หลังจำกนี้หำกใคร
บอกนำงอีกว่ำหมอนี่ร่ำงกำยอ่อนแอ นำงจะต้องถุยน้ ำลำยใส่ หน้ำ
เขำแน่นอน
สวีโย่ววำงหนังสื อลงเดินเข้ำมำ กล่ำวอย่ำงเอำใจ “เหนื่อยหรื อ ข้ำ
นวดให้เจ้ำ”
เสิ่ นเวยปัดมือของเขำออก บิดตัวหันหลังให้เขำ ทำอะไรไว้เล่ำ เมื่อ
คืนตอนที่นำงขอให้เขำหยุดเขำทำอะไร ตอนนี้เพิ่งจะมำเอำอกเอำใจ
สำยไปแล้ว!
สวีโย่วเองก็ไม่ถอดใจ กล่ำวต่อ “หรื อให้ขำ้ พำเวยเวยออกไปเดินเล่น
เจ้ำซื้ออะไรก็จดไว้ในบัญชีขำ้ ให้หมดเลยดีหรื อไม่”
เสิ่ นเวยตำลุกวำว ใจเต้นเล็กน้อย หลังจำกนั้นก็คิดอีก ทรัพย์สมบัติ
ของหมอนี่อยูท่ ี่นำงหมดแล้ว จดไว้ในบัญชีเขำตนก็ตอ้ งคืนมิใช่หรื อ
ดังนั้นนำงจึงแค่นเสี ยงหนึ่งครำหันหลังให้เขำต่อ
สวีโย่วลูบจมูกพยำยำมต่อ “เวยเวยไม่ใช่สนใจจวนเสนำบดีฉินยิง่ นัก
หรื อ หรื อว่ำคืนนี้พวกเรำไปหำเรื่ องเล่นดีหรื อไม่”
ดวงตำเสิ่ นเวยเป็ นประกำยทันที ยังคงนิ่งเฉย บ่นเสี ยงเบำ “ไปหำ
เรื่ องเล่นข้ำไปคนเดียวก็ได้ ใครจะให้ท่ำนไปด้วย”
สวีโย่วทำได้เพียงโยนเหยือ่ ออกไป “หรื อว่ำข้ำให้เวยเวยใช้คนใต้
บังคับบัญชำอีกดี”
“จริ งหรื อ” ครั้งนี้ในที่สุดเสิ่ นเวยก็ตอบสนองแล้ว เหยือ่ ล่อนี้ดึงดูด
ใจคนจริ งๆ หมอนี้เป็ นพระรำชำแห่งรำตรี มืด ผูใ้ ต้บงั คับบัญชำเขำก็
เป็ นรำชำแห่งรำชำควำมมืด แข็งแกร่ งกว่ำทหำรลับที่ท่ำนปู่ ให้นำง
มำก
“จริ งสิ ๆ ข้ำก็เป็ นของเวยเวยมิใช่หรื อ เรี ยกตำมสบำย ใช้ตำมสบำย”
เพื่อที่จะเอำใจภรรยำ อย่ำว่ำแต่ให้ยมื ทหำรเงำ แม้แต่ทหำรมังกรเขำ
ก็ไม่ข้ ีเหนียว
“เช่นนั้นก็ได้ ข้ำจะฝื นใจให้อภัยท่ำน หำกมีอีกครั้ง นู่น หันหลัง เดิน
ไป ออกประตู เดินต่อ เดินไปให้ไกลๆ ห้ำมกลับมำอีก” เสิ่ นเวยเชิด
คำงสู ง ท่ำทำงเป็ นรำชินีเผด็จกำรอย่ำงถึงที่สุด
“ขอรับ ขอรับ ขอบคุณจวิน้ จู่เหนียงเหนียงที่เมตตำ ผูน้ อ้ ยจะจำไว้”
เพื่อเอำใจภรรยำ คุณชำยสู งส่ งที่เย็นชำกลำยเป็ นคุณชำยเจ้ำชู่กะล้อน
ในชัว่ พริ บตำ
ท่ำนเสนำบดีฉินเพิ่งจะรู ้วำ่ ลูกชำยคนเล็กของตนฉุดหญิงสำว
ชำวบ้ำนเข้ำจวนก็ตอนที่เจ้ำหน้ำที่จำกศำลต้ำหลี่มำจับตัวคนถึงที่
ชัว่ ขณะก็โมโหใหญ่ “ลูกทรพีนนั่ เล่ำ ให้เขำมำหำข้ำเดี๋ยวนี้”
ท่ำนเสนำบดีฉินสัง่ ด้วยตัวเอง ย่อมมีเด็กรับใช้วิ่งไปหำฉิ นมู่หรำนอ
ย่ำงรวดเร็ว
เจ้ำหน้ำที่ศำลต้ำหลี่กลืนไม่เข้ำคำยไม่ออกอย่ำงยิง่ หำกเป็ นไปได้
ใครจะยอมผิดใจอัครเสนำบดีของรำชสำนักที่มีอำนำจค้ ำฟ้ำเล่ำ
“ท่ำนเสนำบดีโปรดอภัย ผูน้ อ้ ยทั้งหลำยต้องทำตำมคำสัง่ ในตระกูล
เจ้ำทุกข์ยนื่ คำร้อง ใต้เท้ำพวกข้ำเองก็ลำบำกใจยิง่ นัก!”
หันหลังกลับมำท่ำทีของท่ำนเสนำบดีฉินเป็ นมิตรอย่ำงถึงที่สุด
“ควำมประพฤติของใต้เท้ำจ้ำวข้ำเองก็ทรำบดี ไม่มีทำงปล่อยให้คนดี
ถูกเอำเปรี ยบ และไม่มีทำงปล่อยคนชัว่ ไปได้แม้แต่คนเดียว บุตรข้ำ
เรื่ องนี้ขำ้ ไม่ทรำบจริ งๆ รอข้ำถำมเขำก่อน หำกมีเรื่ องนี้จริ ง ไม่ตอ้ ง
ให้พวกเจ้ำลงมือ ข้ำจะลำกเขำไปศำลต้ำหลี่เอง”
คำพูดหลำยประโยคพูดได้อย่ำงเด็ดเดี่ยวและห้ำวหำญ ในขณะที่
เจ้ำหน้ำที่ถอนหำยใจอย่ำงโล่งอกก็ยอ่ มกล่ำวเห็นด้วยถี่ๆ เขำเป็ น
อัครเสนำบดีของรำชสำนัก ต่อให้ขดั ขวำงไม่ให้พวกเขำจับคน พวก
เขำก็หมดหนทำงเช่นกัน
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 242-2 ฉินมู่หรำนคนห่ วยแตก
ตอนที่เด็กรับใช้วิ่งไปถึงเรื อนของฉิ นมู่หรำน ฉิ นมู่หรำนกำลังโอบ
สำวใช้ทำตัวเสเพลอยู่ ถูกขัดจังหวะย่อมอำรมณ์ไม่ดี “ใครมันบังอำจ
กล้ำมำขัดจังหวะข้ำ อยำกตำยหรื อไร”
สุ นขั รับใช้ของฉินมู่หรำนสี หน้ำขื่นขมรวบรวมควำมกล้ำก้ำวขึ้นมำ
“คุณชำย ท่ำนเสนำบดีเรี ยกท่ำน รี บไปเถิดขอรับ!”
ฉินมู่หรำนได้ยนิ ว่ำพ่อเขำเรี ยกเขำ ชัว่ ขณะก็ลนลำน ผลักสำวใช้ที่
โอบอยูอ่ อกไปข้ำงๆ อย่ำงรวดเร็ ว กระโดดลงจำกเตียงรื้ อเสื้ อผ้ำ
ขึ้นมำจำกพื้น “ยังไม่รีบเข้ำมำเปลี่ยนชุดให้ขำ้ อีก” หำกไปช้ำ พ่อเขำ
อำจจะจัดกำรเขำได้
บ่ำวรับใช้นอกประตูจึงกล้ำผลักประตูเข้ำมำ ช่วยฉิ นมู่หรำนเปลี่ยน
เสื้ ออย่ำงรี บร้อน “รู ้หรื อไม่วำ่ เหตุใดพ่อข้ำถึงเรี ยกข้ำ” คงไม่ใช่ฉุก
คิดขึ้นมำว่ำจะทดสอบควำมรู ้ของเขำหรอกกระมัง เขำทอดทิ้งตนไป
แล้วมิใช่หรื อ ส่ วนที่พอ่ เขำด่ำเขำว่ำไม่เข้ำเรี ยนไม่ขวนขวำยควำมรู ้
แต่ไหนแต่ไรเขำไม่เคยสนใจอยูแ่ ล้ว ในตระกูลมีพี่ใหญ่ที่มี
ควำมสำมำรถยังไม่พอหรื อ เขำเกิดในตระกูลเช่นนี้กเ็ พื่อเสวยสุ ข
ใครจะอดทนท่องหนังสื ออะไรให้ลำบำก
“คุณชำย ครำวนี้เกิดเรื่ องใหญ่แล้วขอรับ เมื่อวำนท่ำนพำแม่นำงผู ้
หนึ่งกลับมำมิใช่หรื อ ตระกูลแม่นำงผูน้ ้ นั ฟ้องท่ำนแล้ว เจ้ำหน้ำที่
ของศำลต้ำหลี่มำจับตัวถึงที่ นำยท่ำนเดือดดำล ให้มำเรี ยกท่ำนไป
ขอรับ” เด็กรับใช้คนหนึ่งกล่ำวด้วยจิตใจที่เต้นรัว
“อะไรนะ เจ้ำว่ำอะไรนะ ฟ้องข้ำหรื อ ใครกันบังอำจฟ้องข้ำเช่นนี้ ซ้ ำ
ยังมำจับตัวถึงที่ เหตุใดถึงไม่ไล่ออกไปเล่ำ” ฉิ นมู่หรำนตกใจอย่ำง
ยิง่ ทัว่ ทั้งเมืองหลวงใครไม่รู้บำ้ งว่ำบิดำของเขำฉินมู่หรำนเป็ น
เสนำบดี พี่สำวคือซูเฟยเหนียงเหนียง ลูกพี่สำวคือองค์ชำยรอง คำด
ไม่ถึงว่ำยังมีคนไม่กลัวตำยฟ้องเขำ ไม่รู้หรื อว่ำที่วำ่ กำรทำตำมคำสัง่
ตระกูลเขำ
ทันใดนั้นเขำก็ตบศีรษะ กล่ำว “จริ งสิ แม่นำงผูน้ ้ นั ที่ขำ้ พำกลับมำ
เมื่อวำนเล่ำ”
เด็กรับใช้อีกคนหนึ่งกล่ำว “ขังอยูใ่ นห้องข้ำงขอรับ”
ฉินมู่หรำนนึกขึ้นได้แล้ว เมื่อวำนเขำเห็นสำวงำมที่สะสวยผูห้ นึ่ง
ระหว่ำงทำง ชัว่ ขณะก็คนั ไม้คนั มือเข้ำไปหยอกเย้ำหลำยประโยค ไม่
คิดว่ำหญิงงำมผูน้ ้ นั จะมีนิสยั รุ นแรง ใบหน้ำเล็กๆ ที่แดงก่ำเพรำะ
ควำมโกรธ คิ้วงำมที่ต้ งั ขึ้นนั้น ยิง่ ทำให้เขำคันไม้คนั มือมำกขึ้น จึง
ถือโอกำสฉุดแม่นำงผูน้ ้ นั กลับจวนเสี ย
กลับมำถึงจวนเขำก็ลวนลำมหญิงงำมอย่ำงไม่รีรอ ใครจะรู ้แม่นำงผู ้
นั้นทั้งจิกทั้งเตะ จะเป็ นจะตำยก็ไม่ยอม คอยหำโอกำสคิดจะชน
กำแพงหำที่ตำย ทำให้ควำมปรำรถนำของเขำหมดสิ้ น สัง่ คนให้มดั
นำงแล้วโยนไว้ในห้องข้ำงทันที
ฉินมู่หรำนสวมเสื้ อผ้ำเสร็ จแล้วก็วิ่งตรงไปยังเรื อนย่ำเขำ ไม่สนใจ
เสี ยงเรี ยกของเด็กรับใช้ขำ้ งหลังอย่ำงสิ้ นเชิง เขำไม่โง่ เจ้ำหน้ำที่มำ
จับคนถึงที่แล้ว ด้วยนิสยั ไม่สนไมตรี จิตนัน่ ของพ่อเขำจะต้องส่ งเขำ
ไปแน่นอน เขำไม่อยำกเข้ำคุก ตอนนี้คนที่สำมำรถปกป้องเขำได้
เพียงคนเดียวในจวนก็คือท่ำนย่ำ
“ท่ำนย่ำช่วยด้วย ช่วยด้วย! ท่ำนพ่อจะจับข้ำเข้ำคุกแล้ว!” ฉิ นมู่หรำน
วิง่ ไปพลำงตะโกนไปพลำง
นำยหญิงผูเ้ ฒ่ำฉินได้ยนิ ก็รับไม่ได้ ปกป้องฉิ นมู่หรำนไว้ในอ้อมอก
ทันที “พ่อเจ้ำทำอะไรอีกแล้ว เด็กดีไม่ตอ้ งกลัว มียำ่ อยู่ ข้ำจะดูวำ่ ใคร
กล้ำแตะปลำยนิ้วเจ้ำ ไป เรี ยกท่ำนเสนำบดีของพวกเจ้ำมำ ข้ำอยำก
ถำมว่ำเขำเกิดบ้ำอะไรขึ้นมำอีกแล้ว หลำนข้ำไปทำอะไรให้เขำ”
ฉินมู่หรำนก็ซบอยูใ่ นอ้อมอกย่ำเขำยิม้ อย่ำงพอใจ หึ ยังคงเป็ นข้ำที่
ฉลำด
ท่ำนเสนำบดีฉินมำเร็ วอย่ำงยิง่ เพิ่งจะเคำรพนำยหญิงผูเ้ ฒ่ำฉิ นมำรดำ
เขำเสร็ จ ก็เผชิญหน้ำกับคำด่ำของแม่เขำ “เจ้ำถูกใครยัว่ โมโหในรำช
สำนักอีกแล้ว หรำนเอ๋ อร์เป็ นเด็กดีเช่นนี้ เจ้ำจะขู่ให้เขำกลัวทำไม มี
เจ้ำเป็ นพ่อเช่นนี้ ขู่หลำนข้ำจนเป็ นอะไรขึ้นมำ ข้ำก็ไม่อยูแ่ ล้ว เจ้ำใช่
จะยัว่ โมโหข้ำจนตำยให้ได้หรื อไม่”
ส่ วนฉินมู่หรำนที่ซบอยูใ่ นอ้อมอกนำงก็แสร้งทำท่ำทีสนั่ ระริ ก
ออกมำตำมคำพูด เสมือนกลัวอย่ำงถึงที่สุด นี่ยงิ่ ทำให้นำยหญิงผูเ้ ฒ่ำ
ฉินสงสำร “ดูเจ้ำสิ ทำหรำนเอ๋ อร์กลัวหมดแล้ว ตอนเจ้ำเด็กๆ ข้ำกับ
พ่อเจ้ำทำเช่นนี้กบั เจ้ำหรื อไร”
ท่ำนเสนำบดีฉินแทบจะโมโหตำยแล้ว ลูกชัว่ ผูน้ ้ ีคิดว่ำหำที่พ่ งึ แล้ว
เขำจะทำอะไรไม่ได้ง้ นั หรื อ “ท่ำนแม่ ท่ำนรู ้หรื อไม่วำ่ ลูกทรพีผนู ้ ้ ีทำ
เรื่ องอันใดไว้”
นำยหญิงผูเ้ ฒ่ำฉินถลึงตำโมโหใส่ เขำ “หรำนเอ๋ อร์เด็กตัวน้อยๆ จะ
ทำเรื่ องอะไรได้ อย่ำงมำกก็แค่ซุกซนเท่ำนั้น ตอนเจ้ำเด็กๆ เจ้ำซน
กว่ำเขำเสี ยด้วยซ้ ำ ข้ำกับพ่อเจ้ำเคยตีเจ้ำหรื อไร เด็กทำผิดค่อยๆ สอน
ก็ได้แล้ว นิดๆ หน่อยๆ ก็ตีก็ด่ำ มิน่ำเล่ำหรำนเอ๋ อร์เห็นเจ้ำถึงได้
เหมือนหนูกลัวแมว จะไปเบ่งอำนำจก็ไปเบ่งที่รำชสำนัก มำเบ่ง
อำนำจอะไรต่อหน้ำแม่เจ้ำ วันนี้ไม่วำ่ เจ้ำจะพูดอะไร ข้ำก็ไม่ยอมให้
เจ้ำแตะปลำยนิ้วหรำนเอ๋ อร์แม้แต่นิ้วเดียว”
ได้ยนิ คำพูดถือหำงที่ไม่มีเหตุผลแม้แต่นิดเดียวของแม่เขำ ท่ำน
เสนำบดีฉินก็สะกดควำมโกรธในใจไว้ กล่ำว “เขำไหนเลยจะซุกซน
เขำกล้ำมำกต่ำงหำก กล้ำฉุดหญิงชำวบ้ำน ตระกูลนำงไปฟ้องร้องถึง
ศำลต้ำหลี่ เจ้ำหน้ำที่ยงั รอจับตัวอยูข่ ำ้ งนอกอยูเ่ ลย”
นำยหญิงผูเ้ ฒ่ำฉินได้ยนิ คำพูดของลูกชำยก็ตกใจเล็กน้อย อดมอง
หลำนที่แสนดีในอ้อมอกไม่ได้ “หรำนเอ๋ อร์เจ้ำฉุดสตรี เข้ำจวนจริ งๆ
หรื อ”
ฉินมู่หรำนพยักหน้ำอย่ำงไม่แม้แต่จะเงยหน้ำขึ้น กล่ำวเสี ยงพึมพำ
“เมื่อวำนข้ำดื่มสุ รำเล็กน้อย ชัว่ ขณะควบคุมไม่ได้”
ท่ำนเสนำบดีฉินก็ยงิ่ โมโห รู ้จกั หำข้ออ้ำงด้วยหรื อ “ท่ำนแม่ ท่ำนได้
ยินกับหูแล้วใช่หรื อไม่ ท่ำนปล่อยมือให้ลูกทรพีผนู ้ ้ นั มำ เจ้ำหน้ำที่
ข้ำงนอกยังรออยู”่
เดิมทีนำยหญิงผูเ้ ฒ่ำฉินก็ตกใจเล็กน้อย เมื่อได้ยนิ ลูกชำยบอกว่ำจะ
ส่ งหลำนชำยออกไป ชัว่ ขณะก็ไม่เห็นด้วย “ไม่ได้ ใครก็จบั หลำนไป
ไม่ได้”
ต่งซื่อที่ได้ยนิ ข่ำวรี บตำมมำก็ตะโกนดัง “นำยท่ำน หรำนเอ๋ อร์เป็ น
ลูกชำยท่ำน ท่ำนจะส่ งเขำเข้ำคุกได้อย่ำงไร ท่ำนกำลังจะส่ งเขำไป
ตำย!”
ท่ำนเสนำบดีฉินโมโหจนกระทืบเท้ำ “คุณธรรมสตรี คุณธรรมสตรี
ก็เพรำะว่ำพวกเจ้ำตำมใจเขำปกป้องเขำ เขำจึงได้สร้ำงหำยนะใหญ่
เช่นนี้ แม้แต่หญิงชำวบ้ำนเขำก็กล้ำฉุด ยังมีอะไรที่เขำทำไมได้อีก
คนอื่นไปฟ้องที่ศำลต้ำหลี่แล้ว ใต้เท้ำจ้ำวผูพ้ ิพำกษำศำลต้ำหลี่รัก
ควำมเป็ นธรรม ส่ งเจ้ำหน้ำที่มำจับตัวถึงที่เขำไม่ไปได้ดว้ ยหรื อ”
“ท่ำนย่ำ ข้ำกลัว ข้ำไม่ไป ข้ำสำนึกผิดแล้ว ไม่กล้ำทำอีกแล้ว ข้ำไม่
อยำกเข้ำคุก! ท่ำนย่ำ ช่วยข้ำ ช่วยข้ำด้วย!” ฉิ นมู่หรำนกลัวจะถูกพ่อ
เขำจับไป กอดย่ำเขำไว้แน่นยิง่ ขึ้น
หัวใจนำยหญิงผูเ้ ฒ่ำฉินกับต่งซื่อต่ำงก็เจ็บจนบีบรัด ตบหลังของ
ฉินมู่หรำนกล่ำวปลอบ “เอำล่ะๆๆ เด็กดีไม่ตอ้ งกลัว มียำ่ อยูไ่ ม่ตอ้ ง
กลัว!”
เงยหน้ำมองท่ำนเสนำบดีฉิน กล่ำว “เจ้ำเป็ นถึงอัครเสนำบดีในรำช
สำนัก แม้แต่ศกั ดิ์ศรี น้ ีกไ็ ม่มีหรื อ หำกหรำนเอ๋ อร์ถูกเจ้ำหน้ำที่พำไป
ขังคุกใหญ่ ศักดิ์ของท่ำนเสนำบดีเช่นเจ้ำจะยังมีอยูอ่ ีกหรื อ”
“ถูกต้อง ถูกต้อง นำยท่ำนท่ำนเป็ นอัครเสนำบดี แม้แต่เรื่ องเล็กแค่น้ ี
ก็จดั กำรไม่ได้หรื อ ถ้ำไม่ได้ขำ้ จะเข้ำวังไปหำซูเฟยเหนียงเหนียง ไป
ขอองค์ชำยรอง ไม่วำ่ ใครก็หำ้ มพำตัวหรำนเอ๋ อร์ของข้ำไป” ต่งซื่อก
ล่ำวตำม
ท่ำนเสนำบดีฉินทุกข์ใจอย่ำงอดไม่ได้ หรื อว่ำในสำยตำพวกนำงเขำ
เป็ นคนสร้ำงที่วำ่ กำร แม้เขำจะสู งศักดิ์เป็ นถึงอัครเสนำบดี แต่กไ็ ม่
สำมำรถปิ ดฟ้ำมือเดียวได้ เหล่ำผูต้ รวจกำรในสำนักผูต้ รวจกำรนั้น
วำงท่ำดีหรื อไร คำดไม่ถึงว่ำยังคิดจะดึงซูเฟยเหนียงเหนียงกับองค์
ชำยรองเข้ำมำด้วย สตรี ไว้ผมยำวแต่สำยตำสั้นจริ งๆ
แต่สตรี ผนู ้ ้ ีตรงหน้ำคนหนึ่งเป็ นภรรยำของตน คนหนึ่งเป็ นมำรด
ของตน ต่อให้เขำโมโหแล้วจะทำอะไรได้ “ท่ำนแม่ ลูกทรพีผนู ้ ้ ีทำ
ผิดกฎหมำย แม่นำงผูน้ ้ นั กำลังถูกขังอยูใ่ นห้องข้ำงเรื อนเขำ นี่เป็ น
เรื่ องที่ขำ้ ปกปิ ดได้หรื อ”
ต่งซื่อกล่ำวอย่ำงไม่เห็นด้วย “ก็แค่ฉุดสตรี มิใช่หรื อ แค่หญิงชำวบ้ำน
คนหนึ่ง หรำนเอ๋ รอ์แต่งนำงตั้งยศนำง ให้ตระกูลนำงยกเลิกคำฟ้องก็
ได้แล้วมิใช่หรื อ”
นำยหญิงผูเ้ ฒ่ำฉินเองก็คล้อยตำม “ใช่ๆๆ หญิงชำวบ้ำนผูห้ นึ่ง
สำมำรถเข้ำมำในจวนเสนำบดีได้กเ็ ป็ นวำสนำที่ยงิ่ ใหญ่แล้ว เจ้ำไป
ให้ตระกูลพวกเขำยกเลิกคำฟ้อง พวกเรำยกแม่นำงผูน้ ้ นั เข้ำจวน”
ต่อให้ท่ำนเสนำบดีฉินจะพูดจนปำกแห้ง นำยหญิงผูเ้ ฒ่ำฉิ นกับต่งซื่อ
ก็ไม่อ่อนข้อเลยแม้แต่นอ้ ย จะเป็ นจะตำยก็ไม่ส่งฉิ นมู่หรำนให้
สุ ดท้ำยเขำก็ตอ้ งถอยทัพ เจ้ำหน้ำที่ยอ่ มจับตัวคนไม่ได้เช่นกัน
ท่ำนเสนำบดีฉินนัง่ ถอนหำยใจสั้นๆ ยำวๆ อยูใ่ นห้องหนังสื อ
นำยทหำรผูช้ ่วยคนสนิทเดินเข้ำมำเสนอควำมคิดเห็น “ท่ำนเสนำบดี
ควำมคิดของนำยหญิงผูเ้ ฒ่ำกับฮูหยินกลับเป็ นทำงออกที่ดีนะ
ขอรับ!”
ท่ำนเสนำบดีฉินขมวดคิ้วกล่ำว “ใต้เท้ำจ้ำวผูพ้ ิพำกษำศำลต้ำหลี่
ไม่ใช่คนที่จะพูดด้วยง่ำย”
ลูกชำยคนเล็กสร้ำงเรื่ อง เมื่อเขำโมโหเสร็ จแล้วกลับยังคงเป็ นห่วง
แม้วำ่ จะไม่ดีอย่ำงไร นัน่ ก็คือเลือดเนื้อของเขำ ยิง่ ไปกว่ำนั้นในนี้ยงั
มีมำรดำของเขำและต่งซื่ออยูด่ ว้ ย หรำนเอ๋ อร์เป็ นแก้วตำดวงใจของ
มำรดำ หำกหรำนเอ๋ อร์เป็ นอะไรไป เขำกลัวว่ำแม่เขำจะรับไม่ไหว
นำยทหำรผูช้ ่วยยิม้ น้อยๆ “ต่อให้ใต้เท้ำจ้ำวรักควำมเป็ นธรรม จะยัง
ไม่อนุญำติให้ยกฟ้องด้วยตัวเองหรื อ”
ท่ำนเสนำบดีฉินถอนหำยใจ กล่ำว “ก็มีเพียงทำงนี้แล้ว เจ้ำไปปรึ กษำ
ตระกูลนั้นเถิด ไม่วำ่ พวกเขำจะเสนออะไรก็รับปำก หำกต้องกำรเงิน
ก็ให้พวกเขำ จะต้องปิ ดเรื่ องนี้ให้ได้”
“ท่ำนเสนำบดีวำงใจเถิด ข้ำน้อยจะต้องช่วยท่ำนจัดกำรให้เรี ยบร้อย”
นำยทหำรผูช้ ่วยตบอกยืนยัน
หลังนำยทหำรผูช้ ่วยไป ท่ำนเสนำบดีฉินยิง่ คิดก็ยงิ่ รู ้สึกโชคไม่ดี เขำ
กลับไม่ได้ถูกลูกชำยคนเล็กยัว่ โมโหจริ งๆ เรื่ องเช่นกำรรังแกชำย
ข่มขู่หญิงนี้ลูกคุณชำยตระกูลใดบ้ำงที่ไม่เคยทำ ในเมืองหลวงเดือน
หนึ่งเกิดขึ้นตั้งกี่ครั้ง มีเพียงหรำนเอ๋ อร์ของเขำที่ถูกคนฟ้อง ซ้ ำยัง
ฟ้องถึงศำลต้ำหลี่ เกรงว่ำในนี้จะมีคนช่วยผสมโรงกระมัง
ใครกัน ใครที่ไม่ถูกกับจวนเสนำบดีฉิน ไม่หำคนผูน้ ้ ีออกมำเขำก็ไม่
มีทำงสบำยใจได้!
จำงย่วนเหนียงที่ถูกฉินมู่หรำนฉุดเข้ำจวนเสนำบดีระหว่ำงทำงซื้อ
ด้ำยกลับบ้ำน ทั้งหวำดกลัวทั้งโมโห นำงคิดแล้ว ต่อให้ตำยก็ไม่อำจ
ขอโทษต่อพี่จ้ือได้ ตอนที่ฉินมู่หรำนบีบบังคับนำงต่อให้ตำยนำงก็
ไม่ยอม จึงวิ่งชนกำแพงเสี ย ใครจะรู ้วำ่ ดวงแข็ง ฆ่ำตัวตำยไม่สำเร็ จ
แต่กลับกระแทกศีรษะจนหัวแตกเลือดไหล
ฉินมู่หรำนผูน้ ้ นั หมดควำมสนใจ จึงสัง่ ให้คนมัดนำงไว้ นำงตกใจ
และโมโห บวกกับเสี ยเลือดมำกเกินไปจึงหมดสติ เมื่อนำงฟื้ นขึ้นมำ
ก็พบว่ำบำดแผลบนศีรษะพันแผลเรี ยบร้อยแล้ว มีแสงอำทิตย์ส่อง
เข้ำมำจำกหน้ำต่ำง คำดว่ำน่ำจะเที่ยงแล้ว นำงขยับร่ ำงกำยที่ถูกมัด
จนชำ จึงสังเกตเห็นว่ำริ มฝี ปำกแห้งอย่ำงรุ นแรง ท้องก็ร้องดังขึ้นมำ
นำงพิงผนังเริ่ มคิด ตนหำยตัวไปแล้ว ในตระกูลยังไม่รู้วำ่ จะวุน่ วำย
เพียงใด ต่อให้จะมีคนเห็นว่ำตนถูกคุณชำยจวนเสนำบดีฉินฉุด แต่
ในตระกูลจะช่วยอะไรได้ พ่อนำงเป็ นเพียงซิ่วไฉ จะเทียบจวน
เสนำบดีฉินที่อำนำจค้ ำฟ้ำได้อย่ำงไร
ยังมีตระกูลซัง่ เดิมทีเดือนหน้ำนำงก็จะต้องแต่งเข้ำตระกูลซัง่ แล้ว
ตอนนี้นำงไม่มีวำสนำนั้นแล้ว ต่อให้จวนเสนำบดีฉินจะเป็ นคนดี
ปล่อยนำงกลับบ้ำน แต่นำงก็เป็ นคนเสี ยบริ สุทธิ์แล้ว จะคู่ควรกับพี่จ้ื
อได้อย่ำงไร เมื่อคิดถึงคู่หมั้นที่รักกันมำตั้งแต่เล็กผูน้ ้ นั ของนำง จำงย่
วนเหนียงก็อดเสี ยใจไม่ได้ น้ ำตำที่ร้อนผ่ำวไหลพรำกลงมำ รู ้สึก
เพียงอับจนหนทำง อยำกจะตำยไปเช่นนี้เสี ยเลย
แน่นอนว่ำจำงย่วนเหนียงตำยไม่ได้ ไม่เพียงแต่ตำยไม่ได้ ยังถูกคน
ฉวยโอกำสช่วยออกมำแล้ว เพรำะว่ำเจ้ำหน้ำที่ศำลต้ำหลี่มำจับตัวถึง
ที่ ท่ำนเสนำบดีฉินและคนอื่นๆ ต่ำงก็รวมตัวกันอยูใ่ นเรื อนของนำย
หญิงผูเ้ ฒ่ำฉิน ในเรื อนฉินมู่หรำนไม่มีคนแม้แต่คนเดียว สำวใช้ที่
ดูแลเครื่ องหอมผูน้ ้ นั จึงฉวยโอกำสช่วยจำงย่วนเหนียงออกมำ
เดิมทีคำสังที่นำงได้รับคือดำเนินกำรตอนกลำงคืน สำวใช้ผนู ้ ้ ีเองก็
ฉลำด เมื่อเห็นโอกำสหำได้ยำกก็ชิงลงมือก่อน แผนเดิมคือเปลี่ยนตัว
จำงย่วนเหนียง สำวใช้ผนู ้ ้ ีคิด ไยจะต้องทำเช่นนี้ จำงย่วนเหนียงหำย
ตัวไป ก็สำมำรถยัดโทษฆ่ำคนปิ ดปำกให้ฉินมู่หรำนได้แล้วมิใช่หรื อ
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 243-1 สำรวจจวนเสนำบดีฉินอีกครั้ง
ตอนที่ท่ำนเสนำบดีฉินรู ้วำ่ แม่นำงที่ถูกลูกชำยคนเล็กฉุดเข้ำจวนหำย
ตัวไป ก็ยงิ่ มัน่ ใจว่ำเรื่ องนี้ผดิ ปกติ หำกบอกว่ำมีคนพุง่ เป้ำมำที่ลูก
ชำยคนเล็กของเขำวำงกับดักกลับไม่แน่ อย่ำงไรเสี ยก็ไม่มีเรื่ องที่
บังเอิญเพียงนั้น คำดว่ำหลังจำกเกิดเรื่ องนี้ข้ ึนคงจะมีคนจับปลำใน
น้ ำขุ่น ผลักอยูข่ ำ้ งหลัง ส่ วนจะเป็ นใคร ท่ำนเสนำบดีฉินละทิ้งกำร
สื บหำแล้ว อย่ำงไรเสี ยศัตรู ทำงกำรเมืองของเขำก็มีไม่นอ้ ย ใครจะรู ้
ว่ำเป็ นผูใ้ ด
เหอะ เรื่ องตลกของจวนเสนำบดีฉินน่ำดูเพียงนั้นเลยหรื อ แววตำ
ของท่ำนเสนำบดีฉินมีประกำยแหลมเปรี ยวแวบผ่ำน
“ไป ไสหัวออกไป ตระกูลเล็กๆ ของพวกข้ำ ไม่มีวำสนำเกำะจวน
เสนำบดีฉินหรอก” เผชิญหน้ำกับพ่อบ้ำนจวนเสนำบดีฉินที่มำไกล่
เกลี่ยถึงหน้ำบ้ำน บิดำของจำงย่วนเหนียงก็โมโหจนมือไม้สนั่ เป็ น
อนุภรรยำหรื อ บุตรสำวเขำเป็ นภรรยำเอกดีๆ ไม่เป็ น ไยจะต้องยอม
ลดตัวเองลงไปเป็ นอนุภรรยำให้ลำบำกด้วยเล่ำ ตระกูลจำงของเขำ
ไม่ใช่ตระกูลขำยสตรี สร้ำงเกียรติเช่นนั้น
พี่ชำยทั้งสองของจำงย่วนเหนียงก็โมโหมำกเป็ นพิเศษ กระบองที่ถือ
อยูใ่ นมือก็ยกขึ้นมำทันที “น้องสำวข้ำเล่ำ รี บปล่อยน้องสำวข้ำ
กลับมำ จวนอัครเสนำบดีเก่งนักหรื อ ข้ำไม่เชื่อว่ำแผ่นดินที่ใหญ่เช่น
เมืองหลวงจะไม่มีสถำนที่ที่มีเหตุมีผลเลย ยังจะให้เป็ นอนุภรรยำ ต่อ
ให้พวกเจ้ำหำมเกี้ยวใหญ่แปดคนแบกน้องข้ำเข้ำจวนเป็ นภรรยำเอก
พวกข้ำก็ไม่ยนิ ยอม”
พ่อบ้ำนผูน้ ้ นั ตอนที่มำยังคุยโวโอ้อวดต่อหน้ำอำจำรย์เริ่ นอยูเ่ ลย
อำจำรย์เริ่ นก็คือนำยทหำรผูช้ ่วยคนสนิทผูน้ ้ นั ข้ำงกำยท่ำนเสนำบดี
ฉิน นำมว่ำเริ่ นหงซู ในจวนเรี ยกเขำว่ำอำจำรย์เริ่ น
ชำวบ้ำนเช่นเจ้ำสำมำรถเกำะจวนเสนำบดีฉินได้ นี่กน็ บั เป็ นวำสนำที่
ใหญ่ยงิ่ มหำศำลแล้ว ขอเพียงแค่ไม่โง่กไ็ ม่มีใครไม่รู้จกั เข้ำมำเกำะขำ
หรอก ใครจะรู ้พอ่ ลูกตระกูลจำงนี้ไม่รู้จกั ให้เกียรติ ไม่เห็นด้วยยังไม่
เท่ำไร ยังกล้ำลงมือกับเขำ ไม่มีควำมรู ้เสี ยจริ งๆ พ่อบ้ำนโมโหแทบ
แย่แล้ว
พ่อบ้ำนหลบกระบองไปพลำงถอยหลังไปพลำง ปำกร้องตะโกน
“ข้ำว่ำพวกเจ้ำพูดดีๆ ไม่ฟังต้องใช้กำลังบังคับแล้วกระมัง ยังกล้ำพูด
ว่ำภรรยำเอก พวกเจ้ำใหญ่นกั หรื อ กล้ำคิดจริ งๆ! ในเมื่อพวกเจ้ำไม่
รู ้จกั ใหเกียรติ เช่นนั้นก็คอยดูเถอะ อย่ำคิดว่ำพวกเจ้ำไปยืน่ คำ
ฟ้องร้องที่ศำลต้ำหลี่แล้วจะสำเร็ จ เหอะ ใต้เท้ำจ้ำวผูพ้ ิพำกษำศำลต้ำ
หลี่นนั่ มีควำมสัมพันธ์อนั ดีกบั ท่ำนเสนำบดีของพวกเขำ กูไหน่ไน
ของพวกข้ำคือซูเฟยเหนียงเหนียงในวัง มดตัวเล็กๆ ยังคิดจะเขย่ำ
ต้นไม้ใหญ่ คิดเพ้อฝันจริ งๆ ข้ำจะคอยดูวำ่ พวกเจ้ำจะมีจุดจบเช่นไร”
พ่อบ้ำนจำกไปด้วยสภำพจนตรอก จำงซิ่วไฉค้ ำประตูไอออกมำพัก
หนึ่ง พี่ชำยทั้งสองของจำงย่วนเหนียงรี บโยนกระบองลงแล้ววิ่งเข้ำ
มำ “ท่ำนพ่อ ท่ำนไม่เป็ นไรใช่หรื อไม่” บุตรคนโตตระกูลจำงถำม
ด้วยควำมเป็ นกังวล
คำตอบที่เขำได้รับคือเสี ยงไอที่รุนแรงอีกพักหนึ่งของจำงซิ่วไฉ บุตร
คนรองตระกูลจำงรี บช่วยเขำตบหลังเขำเบำๆ “ท่ำนพ่อ ท่ำนอย่ำ
ร้อนใจ น้องเล็กไม่อำจเป็ นอะไรไปได้” อันที่จริ งพูดประโยคนี้
ออกมำตัวเขำเองก็ไม่เชื่อ ลูกคุณชำยตระกูลขุนนำงทรงอำนำจ
เหล่ำนั้นจะดีได้อย่ำงไร น้องเล็กอำจจะถูกทรมำนก็ได้
จำงซิ่วไฉเพิ่งจะหยุดไอ หำยใจหอบกล่ำว “แม้จะบอกว่ำศำลต้ำ
หลี่รับคำร้องของพวกเรำแล้ว แต่ในแวดวงขุนนำงแต่ไหนแต่ไรขุน
นำงก็ปกป้องกันเอง ไม่รู้วำจะสำมำรถพำน้องสำวของพวกเจ้ำ
กลับมำได้หรื อไม่ ชัว่ ชีวิตนี้ของพ่อซื่อสัตยมำโดยตลอด ไม่เคยทำ
เรื่ องไม่ดีเลยสักเรื่ อง เหตุใดตระกูลพวกเรำถึงได้เจอเรื่ องหำยนะ
เช่นนี้”
ขณะที่พูดอำรมณ์ของเขำก็เดือดดำลขึ้นมำ สองพี่นอ้ งตระกูลจำงรี บ
ปลอบ “ท่ำนพ่อ ท่ำนอย่ำร้อนใจ อย่ำร้อนใจ ลูกสื บถำมมำแล้ว ใต้
เท้ำจ้ำวผูพ้ ิพำกษำศำลต้ำหลี่ผนู ้ ้ นั เป็ นขุนนำงดี รักควำมเป็ นธรรม
ที่สุด จะต้องช่วยพวกเรำทวงควำมยุติธรรมแน่นอน ท่ำนรักษำ
ร่ ำงกำยให้ดี อย่ำให้นอ้ งเล็กกลับมำแล้วท่ำนกลับล้มป่ วย งำน
แต่งงำนเดือนหน้ำของน้องเล็กยังต้องให้ท่ำนออกหน้ำรับแขกอยู”่
ไม่เอ่ยถึงงำนแต่งงำนยังดี เมื่อเอ่ยถึงงำนแต่งงำนสี หน้ำของจำงซิ่ว
ไฉก็ยงิ่ เป็ นทุกข์ “เหล่ำต้ำ อีกประเดี๋ยวไปดูบำ้ นลุงซัง่ ของเจ้ำหน่อย
พ่อไม่มีหน้ำไปพบพี่ซงั่ แล้วจริ งๆ บอกลุงซัง่ ของเจ้ำว่ำ หำกพวกเขำ
อยำกถอนหมั้น พวกเรำไม่ถือแม้แต่นิดเดียว”
“ไม่ได้! ท่ำนพ่อ เดือนหน้ำก็ถึงฤกษ์แต่งงำนแล้ว จะถอนหมั้นได้
อย่ำงไร” บุตรคนรองตระกูลจำงคัดค้ำนทันที ถอนหมั้นชีวิตทั้งชีวิต
ของน้องเล็กก็พงั หมดแล้ว
บุตรคนโตตระกูลจำงก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน “ท่ำนพ่อ น้องเล็กกับ
อำจื้อโตมำด้วยกัน ควำมผูกพันของพวกเขำสองคนพวกเรำเห็นอยู่
ในสำยตำ อำจื้อไม่มีทำงยอมถอนหมั้น อีกทั้งถอนหมั้นแล้วน้องเล็ก
จะทำอย่ำงไรเล่ำ”
จำงซิ่วไฉยิม้ เจื่อน “คิดว่ำข้ำอยำกถอนหมั้นหรื อ อำจื้อเด็กคนนี้
ตั้งแต่เล็กก็รู้ประสำมีคุณธรรม ทั้งยังดีกบั ย่วนเหนียง เป็ นสำมีที่ดีที่
ต่อให้ส่องโคมก็หำได้ยำก แต่ตระกูลเรำเกิดเรื่ องนี้ข้ ึนแล้ว ไม่อำจทำ
ให้ตระกูลลุงซัง่ ของเจ้ำลำบำกได้! ต่อให้พวกเรำจะฟ้องร้องชนะ ย่
วนเหนียงปลอดภัยกลับมำ แต่อย่ำงไรเสี ย อย่ำงไรเสี ย…นำงยังจะ
แต่งงำนกับอำจื้อได้อยูอ่ ีกหรื อ คิดเสี ยว่ำพวกเขำไม่ได้เกิดมำคู่กนั ”
“ท่ำนพ่อ อำจื้อไม่ใช่คนแบบนั้น! ตระกูลซัง่ ก็ไม่ใช่ตระกูลแบบนั้น
ท่ำนพ่อ ท่ำนรู ้จกั ท่ำนลุงซัง่ มำครึ่ งชีวิตแล้ว ยังไม่รู้นิสยั ของเขำอีก
หรื อ พวกเขำไม่มีทำงทอดทิ้งน้องเล็ก” บุตรคนโตตระกูลจำงกล่ำว
เสี ยงดัง ตำมที่เขำรู ้ ตอนนี้อำจื้อยังถูกท่ำนลุงซัง่ มัดตัวอยูใ่ นห้องไม่
กล้ำปล่อยออกมำ กลัวว่ำเขำจะพุง่ ไปที่จวนเสนำบดีฉินสุ ดชีวิตทันที
บุตรคนรองตระกูลจำงรี บคล้อยตำม “ใช่แล้ว ตระกูลซัง่ ไม่ใช่คน
แบบนั้น อีกอย่ำง ต่อให้พวกเขำจะทอดทิ้งน้องเล็ก มีพวกข้ำสองพี่
น้องอยู่ ไม่อำจปล่อยให้นอ้ งเล็กไร้ที่พ่ งึ พิงได้”
จำงซิ่วไฉยังคงยิม้ เจื่อน แต่กลับไม่ได้พดู อะไรต่อ ตอนนี้พดู มำกไป
แล้วจะมีประโยชน์อนั ใด รอคำตัดสิ นของศำลต้ำหลี่ออกมำดีกว่ำ ย่
วนเหนียงเป็ นบุตรสำวที่เขำเลี้ยงอย่ำงทะนุถนอมมำกับมือ จะดีจะ
เลวเขำล้วนยอมรับ ขอเพียงแค่คนสำมำรถกลับมำได้อย่ำงปลอดภัย
ก็พอ
พ่อบ้ำนจวนเสนำบดีฉินจัดกำรไม่ได้ อยูต่ ่อหน้ำอำจำรย์เริ่ นแล้วย่อม
ต้องใส่ ร้ำยตระกูลจำงฉำกใหญ่ อำจำรย์เริ่ นฟังแล้วก็ไม่ได้พดู อะไร
จำกนั้นจึงไล่เขำออกไป คนก็ไม่อยูแ่ ล้วยังเอำปั ญหำเข้ำจวนอีก
ศำลต้ำหลี่คึกคักแล้ว จำงซิ่วไฉทำงฝั่งตะวันออกของเมืองฟ้องร้อง
ฉินมู่หรำนคุณชำยเล็กของตระกูลท่ำนเสนำบดีฉินว่ำฉุดบุตรสำว
ตระกูลเขำ เจ้ำหน้ำที่มำจับตัวถึงที่แต่กลับไม่สำเร็ จ วันรุ่ งขึ้นจวน
เสนำบดีฉินมีพอ่ บ้ำนผูห้ นึ่งออกมำฟ้องตระกูลจำงกลับ บอกว่ำ
ตระกูลจำงใส่ ร้ำยคุณชำยเล็กของพวกเขำ เรื่ องฉุดหญิงชำวบ้ำนไม่มี
อยูจ่ ริ งอย่ำงสิ้ นเชิง พูดด้วยน้ ำใสใจจริ ง ซ้ ำยังบอกว่ำหำกไม่เชื่อ
สำมำรถเข้ำจวนไปสื บสวนได้
ครำวนี้ทำให้ทุกคนสับสนแล้ว คุณชำยเล็กตระกูลฉิ นผูน้ ้ นั ฉุด
บุตรสำวตระกูลจำงไม่ใช่มีคนจำนวนมำกเห็นกับตำหรอกหรื อ เหตุ
ใดชัว่ พริ บตำถึงกลำยเป็ นใส่ ร้ำยป้ำยสี แล้วเล่ำ บุตรสำวตระกูลจำงผู ้
นั้นไปไหนแล้วเล่ำ คงไม่ใช่วำ่ ถูกฆ่ำปิ ดปำกไปแล้ว ทุกคนคิดถึง
ตรงนี้ ก็พำกันสัน่ ระริ ก
ถึงตอนเที่ยงตระกูลจำงก็ยนื่ คำร้องมำอีกหนึ่งใบแล้ว นอกจำกฟ้อง
ว่ำฉินมู่หรำนฉุดหญิงชำวบ้ำน ยังมีอีกหนึ่งเรื อง นัน่ ก็คือฆ่ำคนปิ ด
ปำก ในคำร้องเต็มไปด้วยอำรมณ์เศร้ำโศก ข้อให้ผผู ้ ดุงควำม
ยุติธรรมจึงตัดสิ นแทนประชำชน และบุตรสำวของพวกเขำ
ใต้เท้ำจ้ำวผูพ้ ิพำกษำศำลต้ำหลี่เห็นคำฟ้องสองฉบับที่วำงอยูต่ รงหน้ำ
นึกถึงท่ำทีโอหังของพ่อบ้ำนจวนเสนำบดีฉินผูน้ ้ นั บนใบหน้ำก็มี
ควำมโกรธแวบผ่ำน
สำหรับคดีน้ ีเขำรู ้อยูแ่ ก่ใจ นัน่ ก็คือลูกชำยคนเล็กของท่ำนเสนำบดี
ฉินผูน้ ้ นั ฉุดบุตรสำวของตระกูลจำง เมื่อวำนตอนที่เขำส่ งคนไปจับ
ตัวคนถึงที่เห็นชัดๆ ว่ำท่ำนเสนำบดีฉินไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแค่คืน
เดียวกลับพลิกหน้ำมือเป็ นหลังมือ ควำมลับลมคมนัยในนี้ไม่บอก
เขำก็รู้ ไม่ฆ่ำคนปิ ดปำก แม่นำงตระกูลจำงก็ถูกซ่อนไว้ ไม่วำ่ จะเป็ น
สถำนกำรณ์ใดก็ลว้ นแต่จดั กำรยำกอย่ำงถึงที่สุด
แม้แต่เด็กรับใช้และคนเดินถนนที่เห็นคุณชำยเล็กฉุดคนกับตำหลำย
คนนั้นยังปิ ดปำกเงียบ ไม่วำ่ จะไต่ถำมอย่ำงไรก็ส่ำยหน้ำบอกไม่รู้ นี่
ทำให้คนอึดอัดใจอย่ำงถึงที่สุด
รู ้ชดั ว่ำนัน่ คือมือสังหำร แต่เพรำะไม่มีหลักฐำนจึงไม่มีทำงจัดกำร
เขำได้ นี่จะให้ใต้เท้ำจ้ำวที่แต่ไหนแต่ไรใจซื่อมือสะอำดรักควำมเป็ น
ธรรมไม่โมโหได้อย่ำงไร โดยเฉพำะคุณชำยเล็กตระกูลฉิ นผูน้ ้ นั
ยังคงคุยโวโอ้อวดกับเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวของเขำในเหลำสุ รำแม้แต่
จ้ำวผดุงธรรมที่มีชื่อเสี ยงบังเอิญพบเขำยังต้อมก้มศีรษะ
คนไม่นอ้ ย รวมถึงที่ปรึ กษำส่ วนตัวที่เชื่อใจได้ที่สุดของเขำยังโน้ม
น้ำวให้เขำปิ ดคดี ไยจะต้องลำบำกไปผิดใจท่ำนเสนำบดีฉินด้วยเล่ำ
ผิดใจท่ำนเสนำบดีฉินก็เท่ำกับผิดใจซูเฟยเหนียงเหนียงกับองค์ชำย
รองในรำชสำนัก เอ่ยออกมำหนึ่งประโยคลวกๆ ก็เพียงพอให้เขำ
สำลักได้ ไยจะต้องทำเช่นนี้ ไยจึงไม่กม้ หัวให้ท่ำนเสนำบดีฉิน เจ้ำ
ปลอดภัย ข้ำปลอดภัย ทุกคนปลอดภัย ดียงิ่ นัก!
แต่ใต้เท้ำจ้ำวไม่ยนิ ยอม ในเมื่อเขำรับบตำแหน่งเป็ นผูพ้ ิพำกษำ
ศำลต้ำหลี่น้ ีแล้ว หำกไม่สำมำรถทวงควำมยุติธรรมให้ประชำชนได้
ตำแหน่งขุนนำงนี้ทำไปแล้วจะมีประโยชน์อนั ใด ด้วยเหตุน้ ีเขำจึง
ลำกคดีน้ ี วันๆ ส่ งคนไปเดินดูรอบนอกจวนเสนำบดีฉิน หวังว่ำจะ
พบเห็นอะไรได้
“จวิน้ จู่ พวกเรำใช่หวังดีแต่กลับกลำยเป็ นร้ำยหรื อไม่” เสี่ ยวตี๋มอง
เสิ่ นเวยอย่ำงไม่สบำยใจเล็กน้อย สำยลับที่แฝงตัวอยูใ่ นเรื อนฉิ นมู่
หรำนพำจำงย่วนเหนียงออกจำกจวนเสนำบดีโดยพลกำร กระทัง่ ทำ
ให้จวนเสนำบดีฉินฉวยโอกำสตักตวงผลประโยชน์ นี่ทำให้เสี่ ยวตี๋
ไม่สบำยใจอย่ำงมำก
เสิ่ นเวยเองก็ขมวดคิ้วมุ่น สำยลับพำจำงย่วนเหนียงออกมำโดย
พลกำรตอนนั้นนำงเองก็เห็นด้วย และคิดว่ำสำมำรถยัดเยียดโทษฆ่ำ
คนปิ ดปำกให้จวนเสนำบดีฉินได้ ไม่คิดว่ำจวนเสนำบดีฉินจะ
ตอบสนองเร็ วเพียงนี้ ถือโอกำสผลักภำระไม่ยอมรับอะไรทั้งสิ้ น
อย่ำงไรเสี ยนอกจำกเด็กรับใช้ขำ้ งกำยฉิ นมู่หรำนแล้วก็ไม่มีใครเป็ น
พยำนอีก หำกคิดจะบังคับฉินมู่หรำนเข้ำสู่ กระบวนกำรยุติธรรมก็ยงั
ไม่ง่ำยอย่ำงยิง่ จริ งๆ
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 243-2 สำรวจจวนเสนำบดีฉินอีกครั้ง
“คืนนี้เจ้ำพำคนหลำยคนแอบเข้ำไปสื บดูในจวนเสนำบดีฉิน ดูวำ่ พบ
เห็นอะไรได้บำ้ งหรื อไม่ สิ่ งสำคัญก็คือไปสำรวจที่เรื อนฉิ นมู่หรำน
ข้ำไม่เชื่อว่ำเขำสำมำรถเก็บหำงทั้งหมดจนเกลี้ยงได้” เสิ่ นเวยครุ่ นคิด
ครู่ หนึ่งจึงกล่ำว
“เจ้ำค่ะ ผูน้ อ้ ยทรำบแล้ว” เสี่ ยวตี๋ขำนรับอย่ำงจริ งจัง
เสิ่ นเวยเงยหน้ำถำมต่อ “จำงย่วนเหนียงผูน้ ้ นั จัดกำรเรี ยบร้อยแล้ว
หรื อยัง ซ่อนให้ดีหน่อย ถูกท่ำนเสนำบดีฉินพบเข้ำเป็ นเรื่ องเล็ก หำก
รั่วไหลออกไปพวกเรำจะแย่เอำ” อัครเสนำบดีของรำชสำนัก ทำ
เรื่ องไม่ดีในที่ลบั เพิ่มปัญหำให้เล็กน้อยก็พอแล้ว นำงยังไม่อยำก
เผชิญหน้ำกับเขำชัว่ ครำว
เสี่ ยวตี๋พยักหน้ำ กล่ำวอย่ำงภูมิใจ “จวิน้ จู่วำงใจเถิด ต่อให้ท่ำน
เสนำบดีฉินพลิกเมืองหลวงก็หำคนไม่เจอ” ควำมมัน่ ใจในจุดนี้เสี่ ยว
ตี๋ยงั คงมี มิเช่นนั้นพวกเขำพลลับเหล่ำนี้กค็ งจะอยูไ่ ม่ได้แล้ว ถูกคน
รื้ อรังเก่ำไปนำนแล้ว
คืนนั้น เสิ่ นเวยไม่ยอมนอนรอข่ำวของเสี่ ยวตี๋ตลอดคืน นำงนัง่ อยูใ่ ต้
โคมไฟในมือถือหนังสื อหนึ่งเล่ม เนิ่นนำนก็ไม่เห็นเปิ ดสักหน้ำ เมื่อ
มองดูกร็ ู ้วำ่ ควำมคิดไม่รู้วำ่ ลอยไปไหนแล้ว
สวีโย่วที่พิงหัวเตียงอยูเ่ คียดแค้นอย่ำงถึงที่สุด สำยตำที่มองเสิ่ นเวย
คับแค้นรำวกับดื่มน้ ำส้มสำยชูสิบจิน เห็นได้ชดั ว่ำภรรยำเขำใส่ ใจ
บุตรสำวซิ่วไฉผูน้ ้ นั ทำงฝั่งตะวันออกของเมืองมำกกว่ำเขำ นี่ทำให้
หัวใจดวงเล็กๆ ที่เปรำะบำงของเขำเจ็บปวดอย่ำงยิง่ เจ็บปวดมำก
เจ็บปวดมำกๆ กระทัง่ เขำคิดว่ำใช่จะคิดหำวิธีช่วยจ้ำวผดุงธรรมผูน้ ้ นั
สักหน่อย จับคุณชำยเล็กของเสนำบดีฉินเข้ำไปอยูใ่ นคุก เรื่ องนี้ไม่
จบสิ้ นภรรยำเขำก็จะทุกข์ใจ เมื่อภรรยำเขำทุกข์ใจไหนเลยจะยังมี
เวลำมำสนใจเขำอีก
ใช่ คุณชำยเล็กแซ่ฉินน่ำรังเกียจเกินไปแล้ว ขัดวำงไม่ให้เขำกอด
ภรรยำมำกเกินไปแล้ว สวีโย่วตัดสิ นใจในใจด้วยควำมเคียดแค้น
นอกห้องมีเสี ยงฝี เท้ำดัง เสิ่ นเวยลุกพรวดขึ้นฉับพลัน เห็นหลีฮวำพำ
เสี่ ยวตี๋เข้ำมำอย่ำงรวดเร็ ว นำงสวมชุดท่องรำตรี ดูท่ำแล้วออกมำจำก
จวนเสนำบดีฉินก็ตรงมำทันที “เป็ นอย่ำงไร สื บได้อะไรหรื อไม่”
เสิ่ นเวยรี บกล่ำวถำม
เสี่ ยวตี๋ส่ำยหน้ำ สี หน้ำบนใบหน้ำผิดปกติเล็กน้อย “จวิน้ จู่ พวกข้ำไม่
กล้ำเข้ำไปใกล้เรื อนหลักเลย เพิ่งจะเข้ำไปได้ไม่นำนก็เกือบจะถูกพบ
เห็น จวิน้ จู่ จวนเสนำบดีฉินผิดปกติ ครำวก่อนตอนที่พวกเรำไป กำร
ป้องกันของจวนเสนำบดีฉินไม่ได้เข้มงวดเท่ำนี้”
เสิ่ นเวยไม่เห็นด้วย “ครำวก่อนคงจะถูกพวกเรำบุกจวนจึงเพิ่มกำร
ตรวจตรำที่เข้มงวดขึ้นกระมัง” เปลี่ยนเป็ นนำงก็จะทำเช่นนี้
เหมือนกัน ในบ้ำนตนคนอื่นอยำกมำกก็มำ อยำกไปก็ไป จะได้
อย่ำงไรกัน
เสี่ ยวตี๋ยงั คงขมวดคิ้วมุ่น “จวิน้ จู่ ไม่ได้เป็ นเช่นนี้ ควำมสำมำรถของ
พวกเรำท่ำนก็ทรำบ แม้แต่พวกเรำยังแทบจะออกมำไม่ได้ เห็นได้วำ่
กำรป้องกันของจวนเสนำบดีเข้มงวดเพียงใด ต่อให้ท่ำนเสนำบดีฉิน
จะเป็ นขุนนำงคนสำคัญของรำชสำนักก็ไม่น่ำมีกำลังที่แข็งแกร่ งถึง
เพียงนั้น! เขำกำลังป้องกันใครอยู”่ เสี่ ยวตี๋พดู ข้อสงสัยของตัวเอง
ออกมำ
ได้ยนิ คำพูดของเสี่ ยวตี๋ เสิ่ นเวยก็อดให้ควำมสนใจไม่ได้ “กำร
ป้องกันของจวนเสนำบดีฉินเข้มงวดเพียงนั้นเชียวหรื อ” ครำวก่อน
นำงแอบเข้ำไปในห้องหนังสื อของท่ำนเสนำบดีฉินได้ง่ำยอย่ำงยิง่ !
ต่อให้จะเพิ่มควำมกวดขันในภำยหลัง แต่กไ็ ม่น่ำถึงขนำดที่เสี่ ยวตี๋ยงั
แทบจะตกหลุมพรำง! คนอื่นนำงไม่รู้ แต่วิชำตัวเบำของเสี่ ยวตี๋เรี ยก
ได้วำ่ เป็ นปี ศำจร้ำยจริ งๆ
เสี่ ยวตี๋พยักหน้ำ “จริ งแท้แน่นอน” นึกถึงควำมเสี่ ยงก่อนหน้ำนี้ เสี่ ยว
ตี๋ยงั คงหวำดกลัวอยูเ่ ลย
ครำวนี้เสิ่ นเวยเริ่ มสนใจมำกขึ้นแล้ว กำชับเสี่ ยวตี๋ “เอำล่ะ เรื่ องนี้ขำ้
ทรำบแล้ว เจ้ำกลับไปพักก่อนเถอะ” หำกจริ งอย่ำงที่เสี่ ยวตี๋วำ่
เช่นนั้นนำงก็ตอ้ งไปดูให้เห็นสักหน่อย
เสี่ ยวตี๋อำ้ ปำกคิดจะพูดอะไรต่อ ท้ำยที่สุดก็ไม่ได้พดู อะไรจึงจำกไป
เงำร่ ำงของนำงหำยไปตรงหน้ำประตู เสิ่ นเวยก็พงุ่ ไปข้ำงหน้ำสวีโย่ว
เอ่ยชวนด้วยท่ำทีจริ งจัง “คุณชำยใหญ่ ท่ำนจวิน้ อ๋ อง พระจันทร์คืนนี้
สวยเพียงนั้น พวกเรำออกไปเดินเล่นกันหน่อยเถอะ”
สวีโย่วหัวเรำะเยำะหนึ่งครำ ชี้ขำ้ งนอก บอกเป็ นนัยให้นำงดู เด็กคน
นี้ยงั หลับตำพูดคำบอดได้จริ งๆ ยังกล้ำบอกว่ำพระจันทร์สวยเพียง
นั้น เห็นชัดๆ ว่ำข้ำงนอกมืดสนิทไม่มีแม้แต่แสงจันทร์มิใช่หรื อไร
เสิ่ นเวยหันหน้ำมองนอกหน้ำต่ำง จำกนั้นก็กล่ำวอย่ำงแน่นิ่ง “อ้อ
เมื่อครู่ พระจันทร์ยงั อยู่ ตอนนี้คงหลบเขำกลีบเมฆไปแล้ว อีก
ประเดี๋ยวน่ำจะออกมำ”
ยังกล้ำพูดจริ งๆ วันนี้เป็ นวันที่มีเมฆมำก อย่ำงว่ำแต่ดวงจันทร์ บน
ฟ้ำไม่มีแม้แต่ดวงดำว แววตำสวีโย่วปรำกฎรอยยิม้ ไม่ได้เอ่ยปำก
เสิ่ นเวยโน้มตั้วไปข้ำงหน้ำ “ตอบมำ ไป หรื อไม่ไป” เสิ่ นเวยยิม้ สวย
ยิง่ นัก!
“ไป ไปแน่นอน ภรรยำสัง่ สำมีตำม เวยเวยไปไหนข้ำย่อมไปด้วย”
สวีโย่วกล่ำวอย่ำงมีเหตุมีผล ทว่ำในใจกลับบ่น ไม่ไปได้ดว้ ยหรื อ
มือจิกอยูบ่ นลำคอแล้วยังกล้ำไม่ไปหรื อ
ช่ำงเป็ นเด็กน้อยนิสยั เสี ยจริ งๆ ออดอ้อนหน่อยจะตำยหรื อไร จะต้อง
ใช้อำนำจข่มขู่ให้ได้ แต่วำ่ เขำก็ยงั ชอบอยูด่ ี
ในเมื่อจะไปสำรวจจวนเสนำบดี เสิ่ นเวยกับสวีโย่วต่ำงก็เปลี่ยนไป
สวมชุดท่องรำตรี เพื่อป้องกันอันตรำยเกิดขึ้น เสิ่ นเวยยังทำหน้ำกำก
สองอัน โยนให้สวีโย่วหนึ่งอัน ตนใส่ หนึ่งอัน สวีโย่วมองดู
หน้ำกำกของตนเป็ นหัวหมู ปำกอ้ำกว้ำงอย่ำงยิง่ น่ำเกลียดยิง่ นัก!
จำกนั้นจึงมองหน้ำกำกในมือภรรยำ เป็ นจิ้งจอกน้อยที่สะสวย
ชัว่ ขณะในใจก็รู้สึกไม่เท่ำเทียม เสิ่ นเวยปรำยตำมองเขำปรำดหนึ่ง
“ท่ำนเป็ นบุรุษจะใส่ อนั สวยๆ ไปทำไม ดึงดูดสำยตำหรื อ”
ได้ยนิ ประโยคแรกสวีโย่วไม่พอใจอย่ำงยิง่ บุรุษจะใส่ อนั สวยๆ
ไม่ได้หรื ออย่ำงไร ไม่ใช่เพรำะว่ำเขำหน้ำตำดีเด็กคนนี้ถึงได้ยอม
แต่งงำนกับเขำหรอกหรื อ แต่เมื่อได้ยนิ ประโยคหลังสวีโย่วก็ไม่
โกรธทันที ดึงดูดสำยตำอะไร เขำไหนเลยจะกล้ำ
เดินเล่นไปตำมทำงจนถึงจวนเสนำบดีฉิน มีสวีโย่วยอดฝี มือที่สุด
แห่งยุคผูน้ ้ ีอยู่ เสิ่ นเวยย่อมไม่ยนิ ยอมเปลืองแรง ยืน่ มือออกไปทันที
สวีโย่วก็โอบเอวนำงตำมคำสัง่ เท้ำแตะเล็กน้อย ก็ลอยเข้ำไปใน
กำแพงสู งประหนึ่งใบไม้ร่วง เท้ำแตะลงอีกครั้งก็อยูบ่ นหลังคำแล้ว
พวกเขำเองก็ไม่รีบไปเรื อนฉินมู่หรำน แต่รออยูบ่ นหลังคำก่อน เป็ น
ดังคำด ไม่นำนนักก็เห็นว่ำตรงภูเขำจำลองมีเงำดำเคลื่อนไหว
เล็กน้อย พวกเขำยังคงอดทนรอต่อไป สวีโย่วตบมือของเสิ่ นเวย ชี้
ต้นไม้ใหญ่ที่ก่อตัวเป็ นภูเขำจำลองเฝ้ำสังเกตสถำนกำรณ์บอกเป็ น
นัยให้นำงดู
เสิ่ นเวยจ้องมองเข้ำไป กิ่งไม้ใบไม้ของต้นไม้ใหญ่ตน้ นั้นไร้ลมพัด
แต่กลับขยับเล็กน้อย ดูท่ำแล้วบนต้นไม้น้ นั คงจะมีคนอยู่
ตอนนี้ ริ มฝี ปำกของเสิ่ นเวยเม้มแน่น ทัง่ ร่ ำงเตรี ยมป้องกันขึ้นมำ
กล่ำวในใจว่ำเสี่ ยวตี๋ไม่ได้พดู เกินเลยอย่ำงสิ้ นเชิง จวนเสนำบดีฉิน
ไม่ต่ำงจำกถ้ ำพยัคฆ์วงั มังกรเลย แต่วำ่ ต่อให้เป็ นถ้ ำพยัคฆ์วงั มังกร
คืนนี้นำงก็ตอ้ งบุกเข้ำไป ท่ำมกลำงควำมดำมืดดวงตำหนึ่งคู่ของนำง
เปล่งประกำยจนน่ำตกใจ โลหิตทัว่ ร่ ำงเดือดพล่ำนอย่ำงอดไม่ได้
มือของสวีโย่วที่วำงอยูบ่ นเอวเสิ่ นเวยตบเบำๆ เล็กน้อย กล่ำวเสี ยง
เบำข้ำงหูนำง “วำงใจ เวยเวยวำงใจ มีขำ้ อยู”่
เสิ่ นเวยคิดๆ ดูแล้วก็ใช่ ไม่ใช่ยงั มีชำยหนุ่มรู ปงำมแซ่สวีมำรฝื น
ชะตำผูน้ ้ ีอยูห่ รื อ นำงเองก็เพิ่งรู ้วำ่ มำรตนนี้ฝึกยุทธ์วิเศษแห่งยุคทั้ง
ภำยในและภำยนอกตั้งแต่เล็ก ยอดฝี มือสู งสุ ดแห่งยุทธภพที่วำ่
เหล่ำนั้นอยูต่ รงหน้ำเขำเทียบไม่ได้อย่ำงสิ้ นเชิง หำกไม่ใช่สำรพิษใน
ร่ ำงกำยเขำกำเริ บอยูบ่ ่อยๆ ครำวก่อนเขำก็คงไม่ได้รับบำดเจ็บแม้แต่
นิดเดียว
สวีโย่วพำเสิ่ นเวยหลบหน่วยสว่ำงหน่วยมืดหน่วยเคลื่อนไหวภำยใน
จวนเสนำบดีออกไปได้อย่ำงปรำดเปรี ยว มำถึงเรื อนของฉิ นมู่หรำน
ตำมแผนที่ที่สำยลับบอกมำ เพิ่งจะเจำะรู บนหน้ำต่ำงห้องเขำ เสิ่ นเวย
ก็แทบจะโมโหตำยแล้ว
ให้ตำยเถอะ ในห้องกำลังแสดงฉำกอนำจำรอยู่ เสิ่ นเวยหน้ำแดงหู
แดง สำปแช่งเงียบๆ ในใจ ฉินมู่หรำนคนน่ำไม่อำยผูน้ ้ ี ไม่ชำ้ ไม่เร็ วก็
คงจะตำยอยูใ่ นมือผูห้ ญิง พระพุทธเจ้ำ พระโพธิสัตว์ เทพสวรรค์ ได้
โปรดรี บสัง่ ฟ้ำผ่ำเขำให้ตำยเสี ยทีเถอะ
อันที่จริ งเสิ่ นเวยอยำกจะเข้ำไปแทงกระบี่จบชีวิตเขำอย่ำงยิง่ แต่
คิดถึงผลลัพธ์ของกำรทำเช่นนี้ เสิ่ นเวยก็ยงั คงอดทนไว้
“เวยเวยคิดอะไรอยู”่ สวีโย่วยืนอยูข่ ำ้ งหลังเสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยตกใจเล็กน้อย แทบจะร้องอุทำนออกมำ มือใหญ่ๆ ของสวี
โย่วปิ ดปำกนำงไว้ทนั พอดี
เสิ่ นเวยขยับไม่ได้ ทำได้เพียงใช้ศอกกระทุง้ เขำ บอกเป็ นนัยให้เขำ
ปล่อย แต่สวีโย่วกลับยิง่ ทวีควำมรุ นแรง
เสิ่ นเวยโมโหแทบตำยแล้ว เพิง่ จะบอกว่ำฉิ นมู่หรำนหน้ำไม่อำย คน
ผูน้ ้ ีขำ้ งหลังนำงจึงจะเป็ นคนที่หน้ำไม่อำยที่สุดในใต้หล้ำ
เสิ่ นเวยดิ้นไม่หลุด เกิดไหวพริ บขึ้นมำทันที ยกเท้ำเหยียบลงบนเท้ำ
เขำ บดขยี้อย่ำงแรง แต่กลับไม่เป็ นประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว
สวีโย่วรู ้สึกถูกปลุกเร้ำอย่ำงถึงที่สุด ยังจะสำรวจจวนเสนำบดีอะไร
อีก รี บกลับจวนจึงจะถูก สวีโย่วอุม้ เสิ่ นเวยขึ้นมำอย่ำงไม่ลงั เล แสดง
กระบวนท่ำที่แปลกประหลำดยิง่ กว่ำตอนเข้ำมำวิง่ ไปนอกจวนด้วย
ควำมรวดเร็ ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 244-1 ตลกร้ ำยก่อนออกจำกจวนอ๋อง
เช้ำตรู่ วนั ที่สองเสิ่ นเวยลืมตำขึ้นมำ สวีโย่วตื่นเรี ยบร้อยแล้ว กำลัง
เท้ำศีรษะมองนำงไม่ละสำยตำอยู่
เสิ่ นเวยกะพริ บตำอย่ำงสะลึมสะลือ ยิม้ ชัว่ ร้ำย มือที่ขำวดัง่ หยกเชย
คำงของสวีโย่วขึ้น “ปรนนิบตั ิได้ไม่เลว กลับไปข้ำจะตบรำงวัลให้
เจ้ำอย่ำงดี” ท่ำทำงเจ้ำเล่ห์น้ นั ประหนึ่งออกมำจำกบุตรหลำนลูก
คุณชำยตำมถนนใหญ่
“ปรนนิบตั ิได้ไม่เลวงั้นหรื อ หืมม์” สวีโย่วหรี่ ตำลงอย่ำงอันตรำย มือ
ใหญ่ๆ ก็ซุกซนขึ้นมำ นึกไม่ถึงว่ำเด็กน้อยคนนี้กล้ำหยอกล้อเขำ กล้ำ
หำญจริ งๆ ต้องสัง่ สอนเสี ยหน่อยแล้ว
ชัว่ ขณะเสิ่ นเวยก็ร้องเสี ยงแหลมอย่ำงไร้เรี่ ยวแรงมำก มือทั้งคู่บงั
หน้ำอกตนไว้ หลบซ้ำยหลบขวำ แต่ไม่วำ่ จะหลบอย่ำงไรก็หลบไม่
พ้นมือของสวีโย่ว นำงบิดตัวเป็ นเกลียวอยูบ่ นเตียง ท้ำยที่สุดก็กลิ้ง
เข้ำไปในอ้อมอกของเสี ยโย่ว “สวีโย่ว ท่ำนมันอันธพำล รี บหยุดมือ
เดี๋ยวนี้” นำงตะโกนอย่ำงหำยใจหอบ
ดวงตำของนำงใสกระจ่ำงรำวกับน้ ำ ทั้งยังแฝงรอยยิม้ ที่นุ่มนวล ริ ม
ฝี ปำกของนำงสี สดดุจบุปผำแรกแย้ม หอมรัญจวนจนทำให้คน
หลงใหล นำงอยูใ่ นอ้อมอกของเขำ เงยหน้ำขึ้นมองเขำ สวยหยำด
เยิม้ แต่กลับบริ สุทธิ์ เสมือนนำงฟ้ำตัวน้อยที่สบั สนอยูก่ ลำงลำธำร
ในหุบเขำ ทั้งยังเหมือนมำรที่คลุมผ้ำปิ ดหน้ำยัว่ ยวนท่ำมกลำงรำตรี
อันมืดมิด
ชัว่ ขณะหัวใจของสวีโย่วก็อ่อนยวบประหนึ่งพืชน้ ำ ร่ ำงทั้งร่ ำง
กลำยเป็ นน้ ำริ มหำด “ได้ เชื่อฟังฮูหยิน” กอดหญิงงำมอยูใ่ นอ้อมอก
สวีโย่วรู ้สึกว่ำตนมีครบทุกอย่ำงแล้ว ไม่ขำดอะไรแล้ว
“บอกมำ ท่ำนจะชดใช้ให้ขำ้ อย่ำงไร” เสิ่ นเวยชี้จมูกของสวีโย่วอย่ำง
น่ำรักไต่ถำมเขำอย่ำงโหดเ**้้ยม หำกไม่ใช่วำ่ เมื่อคืนผีทะเลตัวนี้
เกิดสัญชำตญำณหมำป่ ำฉับพลัน ไม่แน่วำ่ นำงอำจจะสื บข่ำวอะไรได้
บ้ำง ควำมสู ญเสี ยนี้มำกยิง่ นัก ไม่ได้ ต้องให้มำรตนนี้ชดใช้คืนมำให้
นำง
เสิ่ นเวยกระเง้ำกระงอดจนในที่สุดก็ออดอ้อนให้สวีโย่วสบำย
อำรมณ์ได้ มุมปำกของสวีโย่วยกสู ง กล่ำวเตือน “นี่จะยำกอะไร ข้ำง
กำยเด็กเดรัจฉำนแซ่ฉินไม่ใช่ยงั มีสุนขั รับใช้หลำยตัวหรื อไร จะปิ ด
ปำกได้สนิทเพียงนั้นทุกคนเลยหรื อ” ทำกำรลงโทษไต่ถำม เขำไม่
เชื่อว่ำจะยังงัดปำกของเขำไม่ได้
เด็กเดรัจฉำนหรื อ หำกฉินมู่หรำนเป็ นเด็กเดรัจฉำน เช่นนั้นท่ำน
เสนำบดีฉินย่อมต้องเป็ นตำเฒ่ำเดรัจฉำน ปำกของมำรแซ่สวีร้ำยกำจ
จริ งๆ เสิ่ นเวยตกใจจนพูดไม่ออก แต่วำ่ คำศัพท์คำนี้นำงชอบจริ งๆ
ฟังควำมคิดเห็นที่สวีโย่วเสนอ ดวงตำของเสิ่ นเวยก็ลุกวำวใน
ชัว่ ขณะ ตบหน้ำผำกด้วยควำมเสี ยดำย “จริ งสิ เหตุใดข้ำถึงคิดไม่
ออกเล่ำ!” ตำมกำรเคลื่อนไหวของนำง ภำพงดงำมด้ำนหน้ำก็เผย
ออกมำผืนใหญ่ สวีโย่วตักตวงบุญตำอย่ำงเต็มที่ ไม่มีควำมคิดจะ
เตือนเสิ่ นเวยเลยแม้แต่นิดเดียว
ยังคงเป็ นเสิ่ นเวยเองที่พบว่ำเหตุใดสำยตำของมำรแซ่สวีถึงได้ร้อน
ผ่ำวเช่นนั้นจึงสังเกตได้วำ่ โป๊ แล้ว อดถลึงตำใส่ เขำอย่ำงงอนง้อไม่ได้
ปิ ดภำพหน้ำอกไว้อย่ำงรวดเร็ ว นี่ทำให้สวีโย่วเสี ยดำยอย่ำงถึงที่สุด
เสิ่ นเวยได้ควำมคิดเห็นแล้วก็ลุกจำกเตียงอย่ำงมีควำมสุ ข แม้สวีโย่
วจะรู ้สึกเสี ยดำยแต่กล็ ุกขึ้นตำม แน่นอนว่ำขั้นตอนกำรลุกจำกเตียงก็
ไม่ได้รำบรื่ นเพียงนั้น ส่ วนสำคัญคือสวีโย่วมือบอน ยุแหย่เสิ่ นเวย
จนส่ ำยไปมำ ท้ำยที่สุดเสิ่ นเวยทนไม่ไหวจึงไล่เขำออกไปเสี ย
สวีโย่วเสนอควำมคิดเห็นดีๆ บวกกับพรุ่ งนี้กจ็ ะย้ำยไปจวนจวิน้ อ๋ อง
แล้ว ตอนนี้เสิ่ นเวยมีควำมสุ ขยิง่ นัก สั่งให้เด็กรับใช้และเด็กในร้ำน
ทั้งหลำยย้ำยสิ นเดิมไปข้ำงนอกด้วยตัวเอง ขบวนที่ใหญ่โตมโหฬำร
ทำให้บ่ำวรับใช้จวนอ๋ องพำกันอิจฉำตำร้อน สิ นเดิมของจวิน้ จู่เยอะ
จริ งๆ มิน่ำเล่ำถึงได้ใจป้ ำเพียงนั้น สำมำรถทำงำนให้นำยที่ใจกว้ำง
เช่นนี้ได้ช่ำงเป็ นวำสนำอย่ำงยิง่ จริ งๆ!
กำรเคลื่อนไหวที่ยงิ่ ใหญ่เช่นนี้นำยแต่ละเรื อนย่อมต้องได้รับข่ำว
แล้ว
จิ้นอ๋ องขมวดคิ้ว อ้ำปำกคิดจะพูดอะไร ท้ำยที่สุดกลับโบกมือไม่ได้
พูดอะไรแล้ว
สี หน้ำพระชำยำจิ้นอ๋ องเต็มไปด้วยควำมรังเกียจ “รอไม่ได้เพียงนี้เลย
หรื อ สิ นเดิมวำงไว้ในจวนอ๋ องใครจะยังขโมยของนำงได้ ใจแคบยิง่
นัก รู ้ไปที่ไหนก็อำยไปถึงนัน่ ”
ซื่อจื่อฮูหยินอู๋ซื่อได้รับควำมเมตตำจำกเสิ่ นเวย ฟังสำวใช้เอ่ยถึงสิ น
เดิมของฮูหยินใหญ่วำ่ มำกมำยเพียงใดด้วยควำมอิจฉำ ก็เพียงแค่เลิก
คิ้ว ไม่พดู จำจิกกัดเลยแม้แต้ประโยคเดียว ส่ วนในใจจะคิดอย่ำงไรก็
ไม่อำจทรำบได้
ฮูหยินสำมหูซื่อลูบท้องน้อยๆ ปำกอมบ๊วยแห้งเปรี้ ยวๆ คำพูดที่พดู
ออกมำก็เจ็บแสบ “ใครให้นำงเป็ นจวิน้ จู่ที่ฝ่ำบำทพระรำชทำน
บรรดำศักดิ์ดว้ ยตัวพระองค์เองเล่ำ ซ้ ำยังมีมำรดำที่มีสินเดิมมหำศำล
เหอะ เดิมทียงั คิดว่ำในท้องข้ำคลอดออกมำแล้วจะได้ผลประโยชน์
สักหน่อย ไม่คิดว่ำนำงจะไม่เห็นเรำอยูใ่ นสำยตำเลย เจ้ำน่ะ ไม่มี
วำสนำเสี ยเลย” นำงมองท้องน้อยๆ ของตัวเอง
สำวใช้ที่รับข้ำงกำยย่อมพูดจำกยกยอปอปั้น พูดจนใบหน้ำหูซื่อเต็ม
ไปด้วยควำมพอใจ
คุณชำยสี่ สวีฉงั่ ที่ไม่เคยอยูใ่ นจวนมำก่อนนัง่ ไขว่หำ้ งอิจฉำ “พี่ใหญ่มี
วำสนำจริ งๆ แค่สินเดิมส่ วนนี้ต่อให้พี่สะใภ้ใหญ่จะขี่เหร่ อปั ลักษณ์ก็
คุม้ ค่ำ ยิง่ ไปกว่ำนั้นพี่สะใภ้ใหญ่ยงั สวยรำวกับนำงฟ้ำ”
เด็กรับใช้ที่อยูข่ ำ้ งกำยกล่ำวประจบทันที “ไยคุณชำยสี่ จะต้องอิจฉำ
คุณชำยใหญ่ดว้ ยเล่ำ ว่ำที่ฮูหยินสี่ มีฐำนะเดิมอยูใ่ นจวนเสนำบดีฉิน
สิ นเดิมจักต้องไม่นอ้ ยแน่นอน”
“นำงหรื อ” สวีฉงั่ หัวเรำะเยำะหนึ่งครำ ไม่เห็นด้วยอย่ำงยิง่ ว่ำที่
ภรรยำผูน้ ้ ีของเขำบอกว่ำมีฐำนะเดิมในจวนเสนำบดีฉิน อันที่จริ งก็
เป็ นเพียงบุตรสำวบ้ำนสำมก็เท่ำนั้น เพียงแค่มีฐำนะเป็ นบุตรภรรยำ
เอก ว่ำที่พอ่ ตำของเขำเป็ นเพียงขุนนำงเล็กๆ ที่ไม่สลักสำคัญ จะมอบ
ของดีอะไรได้ ยังคิดจะเทียบกับพี่สะใภ้ใหญ่
เหตุใดเสด็จแม่ถึงหมั้นหมำยคู่หมั้นผูน้ ้ ีให้เขำ แม้เขำจะเป็ นลูก
คุณชำย แต่กไ็ ม่ใช่คนโง่ หำกไม่ใช่เห็นแก่ซูเฟยเหนียงเหนียงกับ
องค์ชำยรองควำมสัมพันธ์ช้ นั นี้ ซ้ ำฉิ นอิงอิงผูน้ ้ นั ก็หน้ำตำดี มิ
เช่นนั้นแล้วต่อให้พดู จนปำกแฉะเขำก็ไม่ยอมแต่งหรอก!
เขำอยูค่ นเดียวเป็ นอิสระยิง่ นัก อยำกไปไหนก็ไป อยำกทำอะไรก็ทำ
ไม่มีใครบังคับ ดียงิ่ นัก! ใครจะทนแต่งงำนได้ เอำสตรี ผหู ้ นึ่งมำอยู่
ข้ำงกำยบ่นนัน่ บ่นนี่ น่ำรำคำญจะตำยไป หำกฉิ นอิงอิงผูน้ ้ นั รู ้จกั
วำงตัว เขำกลับสำมำรถให้ควำมเคำรพนำงได้หลำยส่ วน หำกเป็ น
คนเจ้ำกี้เจ้ำกำรขี้หึงขี้หวง เหอะ ข้ำก็มีวิธีจดั กำรเจ้ำเช่นกัน!
ส่ วนบุตรชำยบุตรสำวอนุภรรยำที่เหลือในจวนจิ้นอ๋ องจะคิดเช่นไร
นัน่ ก็ยงิ่ ไม่สำคัญแล้ว
สิ นเดิมหำมออกไปจำกจวนจิ้นอ๋ อง มุ่งหน้ำไปยังจวนผิงจวิน้ อ๋ อง
แม้จะไม่ได้ตีฆอ้ งตีกลอง แต่กย็ งั คงดึงดูดคนเดินถนนนับไม่ถว้ นให้
มุงดู “ตระกูลใดสู่ ขออีกแล้ว สิ นเดิมนี้แทบจะเทียบจวิน้ จู่เหนียง
เหนียงผูน้ ้ นั ของจวนจงอู่โหวได้แล้ว”
ข้ำงๆ มีคนดูถูก “เทียบเท่ำอะไรกัน นี่กค็ ือสิ นเดิมของจวิน้ จู่เหนียง
เหนียงผูน้ ้ นั อย่ำงไรเล่ำ”
คนผูน้ ้ นั ที่พดู ก่อนหน้ำไม่เข้ำใจ “เช่นนั้นเหตุใดถึงหำมออกมำแล้ว
เล่ำ คงไม่ใช่วำ่ หย่ำ…”
พูดยังไม่ทนั จบก็ถูกคนปิ ดปำก เหลือบซ้ำยแลขวำ กล่ำวเสี ยงเบำ
“พี่ชำยผูน้ ้ ีอยำกตำยหรื อไร ไม่เห็นหรื อว่ำสิ นเดิมนัน่ กำลังหำมไป
จวนผิงจวิน้ อ๋ อง คุณชำยใหญ่ผนู ้ ้ นั ในจวนจิ้นอ๋ องได้รับพระรำชทำน
บรรดำศักดิ์ให้เป็ นจวิน้ อ๋ อง ผิงจวิน้ อ๋ อง ฝ่ ำบำทพระรำชทำนสวนชิง
หยวนให้ใช้เป็ นจวนของผิงจวิน้ อ๋ อง หลังจำกนี้ผงิ จวิน้ อ๋ องกับจวิน้ จู่
เหนียงเหนียงก็ตอ้ งอยูท่ ี่จวนผิงจวิน้ อ๋ อง สิ นเดิมย่อมต้องย้ำยเข้ำไป
จะวำงไว้ในจวนจิ้นอ๋ องทำไมกัน”
“ที่แท้แล้วก็เป็ นเช่นนี้ เข้ำใจแล้ว เข้ำใจแล้ว” คนผูน้ ้ นั ประสำนมือ
กล่ำว
บริ เวณริ มหน้ำต่ำงชั้นสองของเหลำสุ รำข้ำงถนน รำชบัณฑิตเจียง
เฉินและเซี่ยเฟยของสำนักรำชบัณฑิตเองก็กำลังมองดูขำ้ งนอกอย่ำง
สนอกสนใจ
“ขบวนสิ นสอดสิ บลี้กเ็ ป็ นเช่นนี้นี่เอง” เซียวเฟยตกใจจนพูดไม่ออก
ฟังว่ำบุตรสำวที่มีสินเดิมมหำศำลเช่นนี้นอกจำกจวนแม่ทพั ใหญ่
ตระกูลหร่ วนเมื่อยีส่ ิ บปี ก่อน ก็มีจวนจงอู่โหวนี่แหละ อีกทั้งนี่ยงั เป็ น
แม่ลูกกันอีกด้วย
“พี่เซี่ยอิจฉำแล้วหรื อ สนใจแล้วหรื อ ในรำชสำนักมีใต้เท้ำหลำย
ท่ำนที่ยนื่ กิ่งเชื่อมสัมพันธ์ให้พี่เซี่ย พี่เซี่ยไม่ลองพิจำรณำดูบำ้ งหรื อ
แม้สินเดิมของคุณหนูตระกูลพวกเขำจะเทียบจยำฮุ่ยจวิน้ จู่ท่ำนนี้
ไม่ได้ แต่กไ็ ม่ถือว่ำน้อยกระมัง พี่เซี่ยยังไม่รีบแต่งภรรยำ กลับบ้ำน
ไปจะได้ไม่ตอ้ งเผชิญหน้ำกับควำมเงียบเหงำทั้งห้อง” เจียงเฉิ นขยิบ
ตำกล่ำวหยอกล้อ
เซี่ยเฟยปรำยตำ โต้กลับอย่ำงไม่ลงั เล “คนที่จบั จ้องมองทัน่ ฮวำเช่น
เจ้ำในรำชสำนักก็มีไม่นอ้ ยเช่นกัน เจ้ำไม่สนใจใครบ้ำงหรื อ” ใบ
เสนอรำคำของทัน่ ฮวำผูน้ ้ ีขำยดีกว่ำเขำมำก เดือนก่อนยังมีแม่นำงมำ
ไล่ตำมเขำอยูท่ ี่หน้ำประตูสำนักรำชบัณฑิตอยูเ่ ลย
เจียงเฉินยิม้ น้อยๆ กล่ำวด้วยเหตุและผล “คำสัง่ ของพ่อแม่ วำจำของ
แม่สื่อ เรื่ องใหญ่เช่นกำรแต่งงำนใช่จะตัดสิ นใจคนเดียวได้อย่ำงไร”
ที่สำคัญเขำยังไม่อยำกมีครอบครัวจริ งๆ!
เซี่ยเฟยแค่นเสี ยงหนึ่งครำ เจ้ำก็รู้วำ่ เรื่ องใหญ่เช่นกำรแต่งงำนไม่อำจ
ตัดสิ นใจคนเดียวได้ แล้วข้ำเป็ นคนไม่รู้ธรรมเนียมเหล่ำนั้นหรื อไร
พูดถึงคำสัง่ ของพ่อแม่ ชัว่ ขณะเซี่ยเฟยก็นึกถึงบ้ำนเก่ำของเจียงเฉิ น
“ข้ำจำได้วำ่ บ้ำนเก่ำพี่เจียงอยูท่ ี่ผงิ หยำงใช่หรื อไม่ ภูมิลำเนำเดิมของ
ตระกูลเสิ่ นจวนจงอู่โหวก็คล้ำยอยูท่ ี่นนั่ ด้วยใช่หรื อไม่”
หัวใจของเจียงเฉินเต้นขึ้นมำทันที กล่ำวด้วยควำมประหลำดใจ
“ถูกต้อง ข้ำเป็ นคนบ้ำนเดียวกันกับนำยท่ำนผูเ้ ฒ่ำโหวตระกูลเสิ่ นผู ้
นั้น เขำเป็ นบุคคลสำคัญในตำนำนนั้นของพวกข้ำ เพียงแต่ผงิ หยำง
กว้ำงใหญ่ บ้ำนพวกข้ำอยูใ่ นอำเภอผิงหยำง ห่ำงจำกบ้ำนเดิมตระกูล
เสิ่ นตั้งร้อยกว่ำลี้ ทำไมหรื อ พี่เซี่ยสนใจตระกูลเสิ่ นหรื อ”
เซี่ยเฟยคีบกับข้ำวเข้ำปำกเคี้ยวอย่ำงสุ ภำพ กลืนลงไปแล้วจึงกล่ำว
“จงอู่โหวเมื่อก่อน รำชครู เสิ่ นในวันนี้ จำกเด็กหนุ่มตัวคนเดียวมำ
จนถึงประตูโหวที่มีชื่อเสี ยงอำนำจในวันนี้ ใครบ้ำงจะไม่สนใจ ไม่
ปิ ดบังพี่เจียง หำกจะพูดถึงคนที่ขำ้ เลื่อมใสที่สุด นำยท่ำนผูเ้ ฒ่ำโหว
ตระกูลเสิ่ นท่ำนนี้นบั ได้วำ่ เป็ นหนึ่งคนในนั้น”
“นำยท่ำนผูเ้ ฒ่ำโหวตระกูลเสิ่ นเป็ นวีรชนคนกล้ำ จงรักภัคดีต่อ
แคว้น ใครบ้ำงไม่เลื่อมใส” เจียงเฉินเอ่ยชมหนึ่งประโยค วำงใจลง
ทว่ำเซี่ยเฟยฝั่งตรงข้ำมยังคงกล่ำวต่อ “ไม่ใช่วำ่ กันว่ำจยำฮุ่ยจวิน้ จู่ผนู ้ ้ ี
เติบโตที่บำ้ นเดิมตระกูลเสิ่ นหรอกหรื อ ตอนที่พี่เจียงอยูบ่ ำ้ นเก่ำไม่
เคยเห็นโฉมหน้ำของจวิน้ จู่ผนู ้ ้ ีหรื อ”
คำพูดที่ดูคล้ำยไม่สนใจกลับทำให้หวั ใจของเจียงเฉิ นเป็ นกังวล
ขึ้นมำอีกครั้ง แต่สีหน้ำกลับตกใจอย่ำงถึงที่สุด “เหตุใดพี่เซี่ยถึงมี
ควำมคิดเหลวไหลเช่นนี้ คุณหนูจวนโหวกลับบ้ำนเดิมจะป่ ำว
ประกำศออกไปทัว่ ได้อย่ำงไร อีกทั้งคุณหนูสูงศักดิ์แต่ไหนแต่ไรก็
อยูแ่ ต่เรื อนใน ไหนเลยจะให้ชำยอื่นได้ยลโฉมได้ พี่เซี่ยกำลังมอง
ข้ำน้อยเป็ นคนเสเพลหรื อไร” เจียงเฉิ นกล่ำวอย่ำงไม่พอใจเล็กน้อย
ทว่ำเซี่ยเฟยกลับยิม้ แย้มหัวเรำะฮ่ำๆ “ดูพี่เจียงจริ งจังไปได้ ข้ำก็แค่
ล้อเล่นมิใช่หรื อ”
เจียงเฉินกลับปั้นหน้ำตำย กล่ำวอย่ำงตั้งใจ “เรื่ องเช่นนี้สำมำรถพูด
เล่นตำมอำเภอใจได้หรื อ ข้ำน้อยเป็ นบุรุษ สำหรับคนอื่นอย่ำงมำกก็
เป็ นเพียงข่ำวลือ แต่สำหรับสตรี แล้วนี่เป็ นเรื่ องใหญ่ที่เกี่ยวของกับ
ศักดิ์ศรี ของสตรี อีกทั้งสำมีของจยำฮุ่ยจวิน้ จู่ผนู ้ ้ นั ยังเป็ นจวิน้ อ๋ อง
พี่เซี่ยไม่ใช่ใส่ ร้ำยข้ำหรอกหรื อ”
เซี่ยเฟยรี บปลอบขวัญ “เอำล่ะๆๆ ข้ำพลั้งปำกไปแล้ว ข้ำผิดไปแล้ว
ผิดไปแล้ว”
เจียงเฉินแค่นเสี ยงหนึ่งครำ ทำทีไม่สนใจ ทว่ำในใจกลับระมัดระวัง
ขึ้นมำ ตัดสิ นใจแล้วว่ำหำกไม่มีเรื่ องคอขำดบำดตำยจะไม่ติดต่อ
กับเสิ่ นเวยอีก
เห็นสิ นเดิมถูกหำมออกไปทีละคำนๆ ควำมรู ้สึกของเสิ่ นเวยก็เกิน
กว่ำจะใช้คำว่ำมีควำมสุ ขมำอธิบำยได้
ในขณะที่สินเดิมหำบออกไปเกือบหมดแล้ว หวำเยียนข้ำงกำยพระ
ชำยำจิ้นอ๋ องก็เข้ำมำบอกว่ำพระชำยำเชิญตัว เสิ่ นเวยประหลำดใจ
ตอนนี้พระชำยำจิ้นอ๋ องจะเรี ยกนำงทำไม หรื อเพรำะรู ้วำ่ พรุ่ งนี้พวก
เขำจะย้ำยไปจวนจวิน้ อ๋ องจึงเรี ยกนำงไปสัง่ เสี ยหลำยประโยค
ช่ำงเถอะ ช่ำงเถอะ อย่ำงไรเสี ยพรุ่ งนี้กย็ ำ้ ยออกไปแล้ว ตอนนี้นำง
อำรมณ์ดี ให้เกียรติไปเยีย่ มเสี ยหน่อย
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 244-2 ตลกร้ ำยก่อนออกจำกจวนอ๋อง
มำถึงเรื อนของพระชำยำจิ้นอ๋ อง หวำเยียนก็เปิ ดม่ำนข้ำงหน้ำด้วย
ตัวเอง เสิ่ นเวยเข้ำไปแล้วก็มองดู หึ อู๋ซื่อกับหูซื่อก็อยูด่ ว้ ยเช่นกัน
เสิ่ นเวยคำรวะ “เคำรพพระชำยำ น้องสะใภ้รองน้องสะใภ้สำมก็อยู่
ด้วยหรื อ”
ซื่อจื่อฮูหยินรี บลุกขึ้นคำรวะกลับ “พี่สะใภ้ใหญ่มำแล้ว!”
ฮูหยินสำมหูซื่อกลับเพียงแค่โค้งตัวทำท่ำทำง ก้นนั้นไม่ยกขึ้นอย่ำง
สิ้ นเชิง ซ้ ำยังกล่ำวขอโทษอย่ำงเสแสร้ง “ข้ำตัวหนัก พี่สะใภ้ใหญ่คง
ไม่ถือสำธรรมเนียมเหล่ำนี้หรอกกระมัง”
เสิ่ นเวยแทบจะหัวเรำะออกมำ ตำมที่นำงทรำบหูซื่อตั้งครรภ์ยงั ไม่ถึง
สำมเดือนด้วยซ้ ำ ตัวก็หนักจนลุกไม่ข้ ึนแล้วหรื อ แค่น้ ีกก็ ำเริ บเสิ บ
สำนเช่นนี้แล้ว จุๆๆ เป็ นคนโง่เหมือนกัน
แต่บนใบหน้ำเสิ่ นเวยกลับมีควำมเป็ นห่วง “เจ้ำมีครรภ์แล้ว สงบ
จิตใจนัง่ เถิด ข้ำจะเคืองเจ้ำได้อย่ำงไร ฟังว่ำสองวันก่อนเจ้ำแพ้ทอ้ ง
อีกแล้วหรื อ เหตุใดถึงไม่พกั อยูใ่ นเรื อนเล่ำ วิง่ มำถึงเรื อนพระชำยำ
ทำไมกัน ทำงนี้ไกลยิง่ นัก หำกชนนู่นชนนี่เข้ำ จะให้พระชำยำสบำย
ใจได้อย่ำงไร”
รอยยิม้ บนใบหน้ำของหูซื่อชะงักทันที แท้จริ งแล้วคนผูน้ ้ ีพดู จำเป็ น
หรื อไม่ เจ้ำสิ ถึงจะชนนู่นชนนี่ นี่ไม่ใช่เป็ นกำรสำปแช่งนำงหรอก
หรื อ
สี หน้ำของพระชำยำจิ้นอ๋ องเองก็ไม่ค่อยดีนกั เช่นกัน ชำยตำมองเสิ่ น
เวยปรำดหนึ่งอย่ำงไม่พอใจ กล่ำว “เสิ่ นซื่อเจ้ำรี บนัง่ ลงเถิด สตรี
เรี ยบร้อยจึงจะงำม พูดมำกเพียงนั้นไปไย”
“ข้ำเป็ นห่วงน้องสะใภ้สำมไม่ใช่หรื อไร หำกพระชำยำไม่พอใจ
เช่นนั้นข้ำก็จะไม่พดู แล้ว” เสิ่ นเวยนัง่ ลงบนเก้ำอี้ปักอย่ำงไม่ได้สนใจ
พระชำยำจิ้นอ๋ องกับหูซื่อก็ยงิ่ อึดอัด มีเพียงอู๋ซื่อที่อำรมณ์ดีอย่ำงยิง่
บนใบหน้ำมีรอยยิม้ สดสวย “เสด็จแม่ น้องสะใภ้สำม พี่สะใภ้ใหญ่มี
เจตนำดี น้องสะใภ้สำมเดินเล่นอยูใ่ นเรื อนตัวเองไม่เท่ำไรก็แพ้ทอ้ ง
ได้ มำถึงเรื อนเสด็จแม่ระยะทำงนี้กไ็ กลมิใช่หรื อ ระวังไว้กด็ ีกว่ำ”
นำงอยำกจะให้หูซื่อชนนู่นชนนี่อย่ำงยิง่ ทำงที่ดีที่สุดคือแท้งไป
เสี ยเลย นำงจะได้ไม่ตอ้ งใช้เนื้อก้อนนั้นในท้องมำสร้ำงควำมรำคำญ
ใจให้นำงทั้งวันทั้งคืนอีก
นี่คือสะใภ้แท้ๆ ของพระชำยำจิ้นอ๋ อง ต่อให้ในใจนำงไม่พอใจก็ตอ้ ง
ไว้หน้ำหลำยส่ วน โดยเฉพำะอยูต่ ่อหน้ำเสิ่ นเวยสะใภ้ลูกเลี้ยงผูน้ ้ ี
นำงเองก็รู้วำ่ เพรำะเรื่ องของเม่ำเอ๋ อร์ในใจอู๋ซื่อจึงคับแค้นไม่พอใจ
จึงมองนำงปรำดหนึ่งไม่ได้พดู อะไร
อู๋ซื่อเองก็เก็บอำกำร แม้นำงจะไม่พอใจในควำมลำเอียงของแม่สำมี
แต่กลับไม่คิดจะยัว่ โมโหแม่สำมี นำงไม่โง่ จะทำเรื่ องได้ไม่คุม้ เสี ย
ไปเพื่ออะไร เช่นนั้นคนที่ได้ผลประโยชน์ก็ยงั คงเป็ นหูซื่อไม่ใช่หรื อ
“เสิ่ นซื่อ ข้ำคล้ำยได้ยนิ บ่ำวชั้นล่ำงบอกว่ำในเรื อนพวกเจ้ำหำมสิ น
เดิมออกไปข้ำงนอกอย่ำงโอ่อ่ำอลังกำรงั้นหรื อ” พระชำยำจิ้นอ๋ อง
เม้มปำกถำมเสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยกล่ำว “หำมสิ นเดิมกลับเป็ นเรื่ องจริ ง แต่จะบอกว่ำโอ่อ่ำ
อลังกำรกลับไม่จริ ง น้องสะใภ้สำมในจวนยังตั้งครรภ์อยู่ ข้ำกำชับ
ให้พวกเขำเคลื่อนไหวเบำๆ แล้ว อย่ำรบกวนกำรพักผ่อนของนำย
คนอื่นๆ ในจวน”
กะพริ บตำปริ บๆ แล้วกล่ำวต่อ “เดิมก็ไม่ควรฉุกละหุกเช่นนี้ สองวัน
ก่อนก็วำงแผนจะย้ำยไปจวนจวิน้ อ๋ องทีละน้อยๆ แล้ว นี่ไม่ใช่เพรำะ
น้องชำยข้ำมำเยีย่ มข้ำจึงล่ำช้ำหรื อ หำกทำลำยควำมสงบของพระ
ชำยำ ข้ำก็ขออภัย พระชำยำใจกว้ำงเมตตำเพียงนั้น ไม่น่ำคิดเล็กคิด
น้อยกับสะใภ้เช่นข้ำหรอกกระมัง” เสิ่ นเวยเองก็โน้มตัวเช่นนั้น
เหมือนกับหูซื่อ เพียงแค่พดู พอเป็ นพิธี
หนึ่งประโยคทำให้ควำมไม่พอใจของพระชำยำจิ้นอ๋ องจุกอก นำงกำ
หมัดกล่ำว “จวนอ๋ องดีๆ ไม่อยู่ เหตุใดถึงคิดจะย้ำยออกไปเล่ำ พวก
เจ้ำอำยุยงั น้อย ซ้ ำเพิ่งจะแต่งงำน ดูแลจวนหนึ่งจวนไหนเลยจะเป็ น
เรื่ องง่ำยเพียงนั้น ข้ำไม่วำงใจจริ งๆ หรื อว่ำพวกเจ้ำอยูใ่ นจวนอ๋ องอีก
สักพักหนึ่ง เจ้ำเองก็จะได้เรี ยนรู ้ดูแลจัดกำรงำนอยูข่ ำ้ งกำยข้ำ เมื่อ
เรี ยนรู ้ได้พอประมำณแล้วก็ค่อยไป” พระชำยำจิ้นอ๋ องแสดงท่ำทีวำ่
ข้ำล้วนแต่หวังดีกบั เจ้ำ คิดแล้วคิดอีกก็เสริ มหนึ่งประโยค “งำน
แต่งงำนน้องสี่ ของพวกเจ้ำก็กำหนดแล้ว ชัว่ พริ บตำก็ตอ้ งมอบของ
หมั้นแล้ว เจ้ำอยูใ่ นจวนก็สำมำรถช่วยข้ำแบ่งเบำภำระได้หน่อย”
อ้อ ที่แท้แล้วก็ไม่อยำกให้พวกเขำย้ำยออกไปนี่เอง บอกว่ำจะสอน
นำงดูแลจัดกำรงำนอะไร จิ้นพระชำยำหวังดีเพียงนั้นเลยหรื อ ถึง
ตอนนั้นนำงก็จะอ้ำงว่ำตนยังเรี ยนรู ้ที่จะจัดกำรได้ไม่ดีมำยืดเวลำ
เช่นนั้นพวกเขำจะต้องเสี ยเวลำอยูใ่ นจวนจิ้นอ๋ องอีกนำนเพียงใด
เสิ่ นเวยกำลังจะเอ่ยปำกปฏิเสธ ก็ได้ยนิ หูซื่อแย่งพูด “ใช่แล้ว พี่สะใภ้
ใหญ่ จวนอ๋ องดียงิ่ นัก สำรพัดเรื่ องก็มีเสด็จแม่คอยจัดกำร พวกเรำ
เพียงแค่ใช้ชีวิตอย่ำงสบำยใจก็พอแล้ว อีกทั้งพ่อแม่ไม่แยกบ้ำน นี่คือ
หลักกตัญญู”
อ้อ หูซื่อจะบอกเป็ นนัยว่ำนำงกับสวีโย่วไม่กตัญญูง้ นั หรื อ กตัญญู
หรื อไม่ตอ้ งให้สะใภ้บุตรคนรองเช่นนำงมำพูดด้วยหรื อ ดูท่ำทำงภูมิ
อกภูมิใจนัน่ ของนำงสิ ยังคิดว่ำตนมีเหตุผลอย่ำงยิง่ ก็แค่คนโง่คน
หนึ่งเท่ำนั้นเอง
เสิ่ นเวยคิดเช่นนี้ อู๋ซื่อก็ยงิ่ มีควำมเหยียดหยำม กะพริ บผ่ำนในแววตำ
ทว่ำตอนที่มองเสิ่ นเวยกลับจริ งใจหลำยส่ วน “หำกพี่สะใภ้ใหญ่ยำ้ ย
ไปจวนจวิน้ อ๋ องแล้ว พวกเรำพี่สะใภ้นอ้ งสะใภ้คงจะพบหน้ำกัน
น้อยลง เมื่อคืนเม่ำเอ๋ อร์ยงั พร่ ำบ่นว่ำอยำกไปเล่นกับพี่สะใภ้ใหญ่อยู่
เลย” คำพูดขัดขวำงกำรย้ำยออกจำกจวนอ๋ องไม่ได้พดู แม้แต่ประโยค
เดียว สำมำรถย้ำยออกไปดูแลบ้ำนของตัวเองได้ใครบ้ำงจะไม่ยนิ ดี
อีกทั้งพี่ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่ยงั อยูใ่ นจวนอ๋ องก็ไม่เป็ นผลดีต่อนำง แม้
สำมีนำงจะเป็ นซื่อจื่อ แต่อย่ำงไรเสี ยพี่ใหญ่กเ็ ป็ นบุตรภรรยำเอกคน
โต ฐำนะยังมีบรรดำศักดิ์ของจวิน้ อ๋ อง เช่นนั้นกำรดูแลกิจในจวน
อ๋ องแท้จริ งแล้วควรจะเป็ นใคร นำงจึงซำบซึ้งในควำมกรุ ณำของ
พี่สะใภ้ใหญ่ ไม่คิดจะหำเรื่ องนำง ตอนนี้พี่ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่ยอม
ย้ำยออกไปเอง จะไม่ยนิ ดีได้อย่ำงไร
มีเพียงน้องสะใภ้สำมคนโง่ผนู ้ ้ นั กับแม่สำมีคนลำเอียงผูน้ ้ นั ที่คิดจะ
รั้งพี่สะใภ้ใหญ่ให้อยูใ่ นจวนอ๋ อง
เสิ่ นเวยเดำควำมคิดคนหลำยคนออกได้เกือบหมด เม้มปำกยิม้ กล่ำว
“ย้ำยไปจวนจวิน้ อ๋ องเป็ นกำรอนุญำตจำกเสด็จพ่อ อันที่จริ งตำม
เจตนำของข้ำกับคุณชำยใหญ่กอ็ ยำกอยูใ่ นจวนอ๋ องแสดงควำม
กตัญญูต่อหน้ำเสด็จพ่อพระชำยำ แต่จวนผิงจวิน้ อ๋ องเป็ นฝ่ ำบำทที่
พระรำชทำนให้ พระรำชทำนจวนแล้วไหนเลยจะไม่เข้ำไปอยูไ่ ด้ นี่
เป็ นกำรไม่เคำรพอย่ำงใหญ่หลวงต่อฝ่ ำบำท ภัคดีกตัญญู ภัคดีกตัญญู
ควำมภัคดียงั มำก่อน คุณชำยใหญ่ของพวกเรำเป็ นคนให้ควำมสำคัญ
กับกฎระเบียบที่สุด ทำได้เพียงขอพระชำยำโปรดให้อภัย แต่วำ่ พระ
ชำยำวำงใจ แม้วำ่ ย้ำยออกไปจวนจวิน้ อ๋ องแล้ว ขอเพียงแค่มีเวลำว่ำง
ข้ำกับคุณชำยใหญ่จะกลับมำเยีย่ มท่ำนและเสด็จพ่อแน่นอน” เสิ่ นเว
ยกล่ำวอย่ำงมีเหตุมีผล
หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่ำวต่อ “ส่ วนงำนแต่งงำนของน้องสี่ ไม่ใช่มีพระ
ชำยำจัดกำรหรอกหรื อ พระชำยำจัดกำรเรื่ องในบ้ำนมำกว่ำครึ่ งชีวิต
แล้วเรื่ องเล็กแค่น้ ีไม่ใช่ยงิ่ ง่ำยหรอกหรื อ อีกอย่ำง ในจวนไม่ใช่ยงั มี
น้องสะใภ้รองหรื อ นำงมีฐำนะเดิมในจวนอู๋กวั๋ กง ควำมสำมำรถทุก
คนต่ำงก็ทรำบดี มีนำงช่วยพระชำยำก็เพียงพอแล้ว”
แม้แต่ฝ่ำบำทยังถูกเสิ่ นเวยใช้เป็ นข้ออ้ำง พระชำยำจิ้นอ๋ องจะยังพูด
อะไรได้อีก
“ช่ำงเถอะๆ ในเมื่อพวกเจ้ำอยำกย้ำยออกจำกจวนอ๋ องเช่นนั้นก็ยำ้ ย
เถอะ ขอเพียงแค่พวกเจ้ำมีควำมสุ ข ผูอ้ ำวุโสเช่นพวกข้ำเหล่ำนี้จะ
เป็ นเช่นไรก็ไม่ตอ้ งสนใจ เสิ่ นซื่ออย่ำงไรเสี ยเจ้ำก็ไม่เคยดูแลบ้ำนมำ
ก่อน ข้ำจะส่ งแม่นมที่มีควำมสำมำรถหลำยคนจำกจวนอ๋ องไปช่วย
เจ้ำ” พระชำยำจิ้นอ๋ องกล่ำวต่อ
ขัดขวำงไม่ได้จึงเปลี่ยนเป็ นยัดคนไว้ขำ้ งกำยนำงแทนงั้นหรื อ คน
ของพระชำยำจิ้นอ๋ องนำงไม่ตอ้ งกำร ไม่ใช่ไม่กล้ำ แต่กลัวเป็ น
ปัญหำ จัดกำรขึ้นมำแล้วก็วนุ่ วำยอย่ำงยิง่ ไม่ใช่หรื อ นำงเอำเวลำ
จัดกำรคนนั้น ไปประลองกระบวนท่ำกับกองทหำรเด็กในสนำมฝึ ก
ยุทธ์ให้มำกขึ้นไม่ดีกว่ำหรื อ
เสิ่ นเวยยิม้ กล่ำว “นี่กลับไม่ตอ้ งรบกวนพระชำยำ คุณชำยใหญ่บอก
แล้วว่ำ มีแม่นมมัว่ คนเดียวก็พอแล้ว คนเยอะปั ญหำก็เยอะ ยุง่ ยำก
จวนจวิน้ อ๋ องก็มีขำ้ กับคุณชำยใหญ่เป็ นนำยสองคน ไม่ตอ้ งใช้บ่ำว
รับใช้มำกมำยเพียงนั้น แม่นมข้ำงกำยพระชำยำล้วนแต่ใช้คล่องมือ
ให้พวกนำงอยูข่ ำ้ งกำยพระชำยำดีกว่ำ”
แผนกำรตักตวงผลประโยชน์ของพระชำยำจิ้นอ๋ องไม่สำเร็ จเลยสัก
อย่ำงเดียว ชัว่ ขณะในใจก็ไม่พอใจขึ้นมำ หน้ำดำคร่ ำเครี ยด ไม่มี
รอยยิม้ เลยแม้แต่นิดเดียว กล่ำวรำวกับว่ำเสี ยใจ “ก็ได้ ตำมใจพวกเจ้ำ
แล้วกัน ลูกโตแล้วย่อมไม่ตอ้ งกำรพ่อ! โบรำณว่ำไว้ไม่มีผดิ ”
เสิ่ นเวยขยี้ตำ แสร้งทำเป็ นไม่ได้ยนิ
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 244-3 ตลกร้ ายก่อนออกจากจวนอ๋อง
อู๋ซื่อดูพี่สะใภ้ใหญ่กบั แม่สามีตอบโต้กนั ไปมา ในใจอิจฉายิง่ นัก พี่
ใหญ่ของสามีไม่ใช่บุตรแท้ๆ ของแม่สามี แม่สามียงั เป็ นกังวลไม่
กล้าพูดเล็กน้อย หากเป็ นนาง จะปรึ กษานางหรื อ สัง่ คนไปที่เรื อน
นางโดยตรง เอาก็ตอ้ งเอา ไม่เอาก็ตอ้ งเอา ไหนเลยจะเหมือนพี่สะใภ้
ใหญ่ ไม่พอใจก็ปฏิเสธตรงๆ แม่สามีเองก็ไม่กล้าบีบบังคับ
ตอนนี้ หูซื่อพูดขึ้นแล้ว “พี่สะใภ้ใหญ่ น้องสะใภ้มีเรื่ องจะขอร้อง
ท่าน”
“อ้อ เรื่ องอะไรหรื อ มีเรื่ องเจ้าก็พดู มาตรงๆ เหตุใดต้องพูดว่าขอร้อง
พวกเราเป็ นพี่สะใภ้นอ้ งสะใภ้ พูดว่าขอร้องห่างเหิ นเกินไปแล้ว”
เสิ่ นเวยกล่าวด้วยท่าทีจริ งจัง ทว่าในใจกลับตาหนิ ยัยนี่คิดจะเล่น
ลูกไม้อะไรอีกแล้ว
หูซื่อลูบท้องน้อยๆ อย่างพอใจ กล่าว “ข้ามีครรภ์แล้วไม่ใช่หรื อ
ความอยากอาหารก็ไม่ค่อยเหมือนเมื่อก่อนนัก เมื่อก่อนของที่ชอบ
กินตอนนี้ลว้ นแตะไม่ได้ ได้กลิ่นก็อยากอาเจียน พี่สะใภ้ใหญ่ท่าน
ไม่รู้ ช่วงนี้ขา้ กินอะไรก็อาเจียนเป็ นสิ่ งนั้น ทาให้บ่าวทั้งหมดต้อง
ลาบากอย่างยิง่ ”
เสิ่ นเวยเผยท่าทีเห็นใจ “ลาบากน้องสะใภ้สามแล้ว ดูสิหน้าเล็กๆ
ของเจ้าซูบหมดแล้ว” แม้วา่ คาพูด ความทรมานจะเป็ นเรื่ องจริ ง กิน
อะไรไม่ลงก็เป็ นเรื่ องจริ ง แต่ใบหน้าของหูซื่อกลับไม่ซูบลงแม้แต่
นิดเดียว เหตุใดน่ะหรื อ เดิมทีนางก็มีหน้าที่อว้ นใหญ่อยูแ่ ล้วน่ะสิ
“นี่เองก็เป็ นเรื่ องที่หมดหนทาง ทั้งหมดก็เพื่อลูกที่อยูใ่ นท้อง” หูซื่อ
ทาท่าทีไม่สนใจ อันที่จริ งบนใบหน้าล้วนเป็ นความพอใจ “เหล่าสาว
ใช้เรี ยกได้วา่ ทุ่มกายทุ่มใจเพื่อที่จะให้ขา้ กินอะไรได้เยอะๆ แต่ขา้ กิน
อะไรก็ยงั คงอาเจียนเป็ นสิ่ งนั้น กลับเป็ นบะหมี่เย็นที่พี่เฉิ นในครัว
ใหญ่ทาข้าจึงพอทานได้ ข้ารู ้วา่ พี่ฉินผูน้ ้ ีเป็ นคนของพี่สะใภ้ใหญ่ ข้า
จึงมาปรึ กษากับพี่สะใภ้ใหญ่ ดูวา่ จะสามารถตัดใจส่ งคนให้ขา้ ได้
หรื อไม่” นางทาท่าทางว่าข้าเป็ นผูส้ ร้างคุณูปการใหญ่หลวง ในจวน
มีอะไรดีกค็ วรมอบให้ขา้ ก่อน
อ้อ ยัยนี่เหมือนเสิ่ นเสวี่ย ชอบใจคนของนางเช่นกัน นางคิดว่านาง
เป็ นใคร เอ่ยปากทีไรก็คิดจะเอาคนของนางไป พูดแบบไม่น่าฟัง
อย่างไรเสี ยเสิ่ นเสวี่ยก็ยงั มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับนาง แต่เจ้า
หูซื่อเป็ นใคร นางตั้งครรภ์กินอะไรไม่ลงเกี่ยวข้องอะไรกับตัวข้า
จวิน้ จู่หรื อ
หากเจ้าพูดจาร้องขอดีๆ ตัวข้าจวิน้ จู่อารมณ์ดีกอ็ าจจะทาให้เจ้าสม
ปรารถนา เจ้าน่ะขอคนอย่างมัน่ อกมัน่ ใจเช่นนี้ คิดว่าตัวข้าจวิน้ จู่
กลัน่ แกล้งง่ายนักหรื อ ให้เจ้า ให้กระบองเจ้าน่ะสิ !
เสิ่ นเวยเผยสี หน้าลาบากใจ ปฏิเสธตรงๆ “ไม่ได้น่ะสิ พี่เฉิ นเป็ นหญิง
รับใช้ออกเรื อนของข้า ข้ายังหวังให้นางไปช่วยข้าดูแลครัวที่จวน
จวิน้ อ๋ อง น้องสะใภ้ไม่ใช่ชอบกินบะหมี่เย็นของนางหรื อ เอาเช่นนี้
แล้วกัน น้องสะใภ้หาสาวใช้ที่มีฝีมือมาเรี ยนวิธีทาบะหมี่เย็นกับพี่
เฉิน หรื อว่า น้องสะใภ้อยากกินเมื่อไรก็ให้พี่เฉิ นทา แล้วเจ้าก็ส่งสาว
ใช้มาเอาไปก็ได้แล้ว”
แม้จะปฏิเสธ แต่เสิ่ นเวยก็ยงั คงเสนอทางเลือกให้หูซื่อสองทาง
เมื่อหูซื่อได้ยนิ ว่าเสิ่ นเวยปฏิเสธ ก็นอ้ ยใจทันที “พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ยอม
ช่วยแม้แต่เรื่ องเล็กๆ แค่น้ ีหรื อ อย่างไรเสี ยในท้องข้าก็เป็ นหลานชาย
ของท่าน! หรื อว่าข้าเอาคนมาแลกกับท่านดีหรื อไม่” หากพูดว่าก่อน
หน้านี้หูซื่อยังไม่สนใจว่าจะขอตัวพี่เฉิ นไปได้หรื อไม่ ตอนนี้เมื่อ
เสิ่ นเวยปฏิเสธ กลับปลุกความอยากชนะของนางขึ้นมา จะต้องเอาพี่
เฉินกลับไปที่เรื อนของนางให้ได้
“เสด็จแม่ ไม่ใช่วา่ ลูกไม่มีเหตุผลจริ งๆ แต่หลานชายท่านในท้อง
เรี ยกร้องต่างหากเล่า” นางมองพระชายาจิ้นอ๋ องด้วยความน้อยใจ
อย่างยิง่
เสิ่ นเวยอยากหัวเราะขึ้นมาทันที แค่เลือดเนื้อที่ยงั ไม่โตเต็มที่กอ้ นนั้น
นางก็รู้แล้วหรื อว่าเป็ นลูกชาย พูดในเรื อนตนเองก็ไม่เท่าไร อยูข่ า้ ง
นอกคาก็หลานชายสองคาก็หลานชาย หลานชาย หากคลอดออก
มาแล้วไม่ใช่จะเป็ นการตบหน้าหรื อไม่ แท้จริ งแล้วคนผูน้ ้ ีโง่
เพียงใด!
พระชายาจิ้นอ๋ องขมวดคิ้ว มองเสิ่ นเวยอย่างไม่เห็นด้วย “เสิ่ นซื่อ
น้องสะใภ้เจ้าตั้งครรภ์อยูม่ ิใช่หรื อ เพียงแค่คนใช้ เจ้าให้นางก็ได้
แล้ว” ตระหนี่เกินไปแล้ว จิตใจคับแคบจนน่าอับอายเสี ยจริ งๆ
เสิ่ นเวยส่ ายหน้า “เมื่อครู่ ขา้ พูดแล้วมิใช่หรื อ ให้สาวใช้ในเรื อน
น้องสะใภ้มาเรี ยกวิธีทาบะหมี่เย็นก็ได้ หรื อว่าจะให้พี่เฉิ นทาแล้ว
ส่ งไปให้กไ็ ด้ อย่างไรเสี ยขอเพียงแค่นอ้ งสะใภ้ได้กินบะหมี่เย็นก็พอ
เหตุใดจะต้องเอาคนไปให้ได้เล่า” นี่คือนิสยั ของตระกูลใหญ่ตระกูล
โตหรื อ เหอะ ตัวข้าจวิน้ จู่ทนเจ้าไม่ได้แล้ว
“คนอื่นทาไหนเลยจะรสชาติเหมือนที่พี่เฉิ นทาเล่า อีกทั้งจวนจิ้นอ๋ อง
กับจวนจวิน้ จู่ยงั อยูไ่ กลกัน วิ่งกลับไปกลับมาใช่จะวุน่ วายหรื อไม่ ข้า
รอได้ แต่คนในท้องข้าจะรอได้หรื อ” หูซื่อวางท่าทีคล้ายได้รับความ
ไม่เป็ นธรรมอย่างยิง่
สายตาที่มองเสิ่ นเวยของพระชายาจิ้นอ๋ องก็เย็นเยียบขึ้นทันที ออก
คาสัง่ อย่างแข็งกร้าว “เสิ่ นซื่อ ส่ งคนให้นอ้ งสะใภ้เจ้า หากเจ้าขาดคน
เรี ยกใช้ ข้าจะเพิ่มให้เจ้าอีกหลายคน”
หูซื่อได้ยนิ ดังนั้น ก็มองเสิ่ นเวยอย่างอ่อนโยนทันที ทว่าในแววตา
กลับมีความยัว่ ยุและพอใจ
อูซื่อที่นงั่ อยูข่ า้ งๆ หลุบตาลง เก็บความเหยียดหยามในนั้น หน้าไม่
อาย หน้าไม่อายเกินไปแล้ว! ไม่เคยเห็นหูซื่อหน้าไม่อายเช่นนี้มา
ก่อน ส่ วนความลาเอียงของแม่สามีนางก็ได้เห็นอีกครั้งแล้ว เพียงแต่
นางไม่คิดว่าหูซื่อจะได้คนจากมือพี่สะใภ้ใหญ่ไป แม้วา่ จะมีแม่สามี
ช่วยอยูก่ ไ็ ม่น่าสาเร็ จ
เดือนนี้นางนับว่าได้เห็นชัดเจนแล้ว พี่สะใภ้ใหญ่ไหนเลยจะอ่อนแอ
โง่เขลา เห็นชัดๆ ว่าเป็ นคนฉลาดมีอุบาย เพียงแค่แสร้งซื่อเป็ นแมว
นอนหวดก็เท่านั้นเอง
ดูสิ ตั้งแต่ที่นางเข้ามาเรื่ องแต่ละเรื่ องที่เกิดขึ้นนี้ แม่สามีไม่สามารถ
เอาเปรี ยบได้แม้แต่นิดเดียว มุมปากของอู๋ซื่อเผยรอยยิม้ หยัน
เสิ่ นเวยยิม้ แล้ว มองพระชายาจิ้นอ๋ องอย่างมีเลศนัย จากนั้นจึงมองหู
ซื่อ เอ่ยปากกล่าวอย่างเกียจคร้าน “อ้อ กินอะไรไม่ลงเป็ นเพียงแค่
ข้ออ้างสิ นะ ที่แท้แล้วน้องสะใภ้สามก็ชอบคนของข้า แต่คนที่เป็ น
น้องสะใภ้เช่นเจ้ามาเรี ยกร้องความสนใจจากข้าที่เป็ นพี่สะใภ้
เหมาะสมหรื อ เจ้าตั้งท้องจริ ง แต่คนทั้งจวนจะต้องหมุนรอบเจ้าหรื อ
ระวังทาอะไรเกินตัวแล้วกรรมจะตามสนอง อารมณ์ดีเจ้าเรี ยกข้าว่า
พี่สะใภ้ใหญ่สกั คาข้าก็ขานรับเจ้าแล้ว อารมณ์ไม่ดี เจ้าต้องเรี ยกข้าว่า
จวิน้ จู่เหนียงเหนียง หูซื่อ เจ้ากล้านักบังอาจคิดจะขอคนของตัวข้า
จวิน้ จู่ เจ้าเพียงแค่ต้ งั ท้อง ยังคิดว่าตัวเองยิง่ ใหญ่คบั ฟ้าหรื อ เจ้ามันให้
เกียรติไม่เอาเกียรติ!”
“วันนี้ขา้ จะพูดไว้ตรงนี้ คน ข้าให้เจ้าไม่ได้ บะหมี่เย็นก็ไม่มีแล้ว ข้า
ไม่เชื่อว่าขาดบะหมี่เย็นนี้ไปแล้วเจ้าจะตาย เจ้าอาศัยเนื้อก้อนนั้นใน
ท้องคิดจะทาอะไรข้าไม่ยงุ่ แต่วา่ อย่ามายัว่ โมโหข้า เจ้าลองทาสิ ทา
ไปเลย เมื่อไหรที่ทาจนทารกในครรภ์ไม่อยูแ่ ล้วเจ้าจะได้สบายใจ”
คาพูดนี้พดู จนคนทั้งหมดตระหนกตกใจ ดวงตาของหูซื่อแดงก่าใน
ชัว่ ขณะ ลุกขึ้นยืนคิดจะโผไปหาเสิ่ นเวย ถูกสาวใช้ขา้ งกายนางตาไว
มือไวจับไว้แล้ว “ฮูหยิน ฮูหยิน ท่านยังตั้งครรภ์คุณชายน้อยอยูน่ ะ
เจ้าค่ะ”
พระชายาจิ้นอ๋ องตกใจในการกระทาของหูซื่อจนอกสัน่ ขวัญหาย
ร้องเสี ยงแหลม “หูซื่อเจ้านัง่ ดีๆ เดี๋ยวนี้” ยกมือชี้เสิ่ นเวย ริ มฝี ปากสัน่
ระริ กก่นด่า “เสิ่ นซื่อเจ้าคิดอะไรอยู่ เจ้า เจ้า!”
เสิ่ นเวยมองนางกลับอย่างเย็นชา คาพูดที่เอ่ยออกมาเย็นเยียบมากเป็ น
พิเศษ “เหอะ เจ้ามีความสุ ข ข้ามีความสุ ข ครอบครัวพวกเรามี
ความสุ ข ดียงิ่ นัก! พวกเจ้าดันไม่ยอม จะบีบบังคับให้ขา้ โมโหฉี ก
หน้าให้ได้ เดิมทีวนั นี้ขา้ อารมณ์ดียงิ่ นัก ไม่คิดจะถือสาพวกเจ้า แต่
พวกเจ้ามีความสามารถทาให้ขา้ หมดอารมณ์ได้ เอ๋ พระชายามองข้า
ทาไมเล่า ทาไม รังเกียจที่ขา้ พูดจาไม่น่าฟังงั้นหรื อ แต่นี่กเ็ ป็ นเรื่ อง
จริ ง ด้วยนิสยั เช่นนี้ของหูซื่อ พระชายายังคิดจะอุม้ หลานชายอยูอ่ ีก
ฮ่าๆ คอยดูเถอะ”
“เอาล่ะ วันนี้กพ็ อแค่น้ ี ข้ากล่าวลาพระชายาล่วงหน้า พรุ่ งนี้เช้าข้ากับ
คุณชายใหญ่จะย้ายไปจวนจวิน้ อ๋ องแล้ว พวกท่านก็ไม่ตอ้ งไปส่ ง
หลังจากนี้ ทุกวันที่สิบห้าของเดือน หากข้าอารมณ์ดีกจ็ ะมาเคารพ
พระชายา หากอารมณ์ไม่ดี พระชายาท่านก็ไม่ตอ้ งรอล่ะ เสด็จพ่อ
บอกหมดแล้ว เรื่ องของข้ากับคุณชายใหญ่ที่ทาให้ท่านเป็ นทุกข์ ท่าน
จงเป็ นห่วงคุณชายรอง คุณชายสามและคุณชายสี่ ให้มากดีกว่า” เสิ่ น
เวยเชิดหน้าทิ้งท้ายประโยคนี้ไว้แล้วจึงหันหลังเดินจากไปอย่าง
เอ้อระเหย
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 245-1 ย้ ายบ้ านแล้ว
คืนนั้น ท่านจิ้นอ๋ องก็เรี ยกสวีโย่วเข้าไป เขามองดูลูกชายคนโตที่สูง
กว่าเขาสองชุ่น นึกถึงวันพรุ่ งนี้เขาก็จะย้ายจากจวนจิ้นอ๋ องเข้าไปยัง
จวนจวิน้ อ๋ องที่ฝ่าบาทพระราชทานแล้ว ตอนนี้เขาเพิง่ จะตระหนัก
ได้วา่ บุตรชายคนโตที่แต่ไหนแต่ไรเขามองข้ามได้เติบโตอยูใ่ นที่ที่
เขามองไม่เห็นแล้ว โตเป็ นต้นไม้ใหญ่สูงเสี ยดฟ้า ไม่ได้พ่ งึ พาความ
ช่วยเหลือจากบิดาเช่นเขาเลยแม้แต่นิดเดียวตนก็ฉกฉวยอนาคต
ออกมาได้แล้ว ในใจเขาเกิดความรู ้สึกต่างๆ นานา
เดิมคิดอยากจะพูดประโยคให้กาลังใจหลายประโยค แต่เมื่อเอ่ยปาก
กลับเปลี่ยนไป “เจ้าเองก็ดูแลภรรยาเจ้าหน่อย” เถียงแม่สามี ซ้ ายัง
ทะเลาะกับน้องสะใภ้ ไหนเลยจะต้องกาเริ บเสิ บสานเพียงนี้
ทว่าสวีโย่วกลับตอบหนึ่งประโยคด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย “เสด็จพ่อ ลูก
กลัวภรรยา”
ท่านจิ้นอ๋ องแทบจะสาลักตาย “เจ้า เจ้า!” เขาชี้สวีโย่ว พูดไม่ออก
แม้แต่ประโยคเดียว
กลัวภรรยางั้นหรื อ โย่วเอ๋ อร์จวิน้ อ๋ องที่ได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์จากฝ่ าบาทกลับบอกเขาอย่างเต็มปากเต็มคาว่ากลัว
ภรรยา ช่างน่าขันเสี ยจริ งๆ “เจ้ายังจะมีอนาคตได้อีกหรื อ”
ดวงตาสี ดาเป็ นประกายของสวีโย่วกลอกขึ้น “ลูกจะไม่มีอนาคตได้
อย่างไร ลูกกลัวภรรยาแล้วไปขวางตาใคร ลูกอายุยสี่ ิ บกว่าแล้วเพิ่ง
จะได้แต่งภรรยา ซ้ ายังงดงามราวบุปผาสิ นเดิมก็มากมายมหาศาล จะ
ไม่เชิดชูให้ความรักความโปรดปรานได้อย่างไร ใครกันที่มาฟ้องต่อ
หน้าเสด็จพ่ออีกแล้ว ไม่ชอบหน้าลูกเพียงนี้เลยหรื อ นี่ไม่ใช่เป็ นการ
ทาลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราพ่อลูกหรอกหรื อ”
จากนั้นจึงกล่าวต่อ “ยิง่ ไปกว่านั้นลูกเองก็เรี ยนรู ้จากท่าน ท่านปฏิบตั ิ
ต่อพระชายาก็ทะนุถนอมรักใคร่ ไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนกันมิใช่
หรื อ”
เสี ยดสี จนท่านจิ้นอ๋ องไม่รู้วา่ จะพูดอะไรดี โบกมือกล่าวเสี ย
“กลับไปเถอะ กลับไปเถอะ รี บกลับไป อย่าอยูย่ วั่ โมโหข้าที่นี่” หาก
ให้เขาอยูต่ ่อไป ตนก็คงจะถูกเขายัว่ โมโหจนตาย เขาเข้าใจแล้ว ลูก
คนนี้เกิดมาเพื่อยัว่ โมโหเขา
สวีโย่วผ่าเผยยิง่ นัก ไม่พดู พร่ าทาเพลงก็หนั หลังกลับเดินออกไป แต่
ละคนๆ ล้วนแต่รังแกภรรยาของเขา เขายังไม่ได้คิดบัญชีพวกนาง
เลย พวกนางกลับทาตัวน่ารังเกียจมาฟ้องก่อน เหอะ พวกคนโง่เขลา!
เดินไปได้สองก้าวสวีโย่วก็หยุดฝี เท้า กล่าวกับพ่อเขา “พรุ่ งนี้ลูกไม่
มาลาท่านแล้ว หากอยูจ่ วนอ๋ องจนเบื่อแล้ว ท่านจะไปพักผ่อนที่จวน
ลูกสักสองวันก็ยอ่ มได้”
ท่านจิ้นอ๋ องไม่มีแม้แต่อารมณ์จะพูด หรี่ ตาโบกมือ ไป รี บไป! คน
ขวางหูขวางตาผูน้ ้ ีไม่ชา้ ไม่เร็ วก็คงจะยัว่ โมโหเขาตาย
จ้าวเฉิงซวี่ผพู ้ ิพากษาศาลต้าหลี่กาลังปวดหัวอยูก่ บั คุณชายเล็กของ
จวนเสนาบดีฉินที่ถูกตระกูลจางฟ้องร้อง เจ้าหน้าที่ที่เขาส่ งออกไป
ไม่ได้อะไรกลับมาอย่างสิ้ นเชิง เบื้องบนยังคงสร้างความกดดันให้
เขาไม่หยุด เมื่อวานอาจารย์เริ่ นนายทหารผูช้ ่วยของจวนเสนาบดีฉิน
ก็มาเชิญเขาไปดื่มชา ในบทสนทนาล้วนเต็มไปด้วยการบอกเป็ นนัย
วันนี้ระหว่างทางมาทางานเขาก็บงั เอิญเจอจางจ่างสื่ อของจวนองค์
ชายรอง จางจ่างสื่ อพูดด้วยท่าทีเป็ นมิตรว่าปี หน้าลูกชายคนโตของ
เขาก็จะเข้าร่ วมการสอบคัดเลือกช่วงวสันตฤดูเช่นกัน
พวกเขามีเจตนาอันใดจ้าวเฉิงซวี่รู้ดีแก่ใจ นี่เองก็ทาให้เขายิง่ โมโห
แต่เขาสามารถลากคดีออกไปสามวันห้าวัน แต่จะลากออกไปสิ บวัน
ครึ่ งเดือนได้หรื อ หากหาหลักฐานไม่ได้จริ งๆ เขาเองก็ทาได้เพียงยุติ
คดีอย่างฝื นใจ
ใครจะรู ้วา่ เหตุการณ์จะเปลี่ยนผัน ในขณะที่เขาเตรี ยมถอดใจจากคดี
กลับมีการเปลี่ยนแปลง เขาเพิ่งจะมาถึงประตูที่วา่ การก็มี
ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาวิง่ เข้ามากล่าวกับเขาด้วยความตื่นเต้นดีใจ “ใต้เท้า
เรื่ องดี เรื่ องดีอย่างยิง่ มีพยานแล้ว อีกทั้งยังเป็ นเด็กรับใช้คนสนิทข้าง
กายฉินมู่หรานอีกด้วย”
จ้างเฉิงซวี่ตกใจครู่ หนึ่ง “รี บพูดมาว่าเกิดอะไรขึ้น” เด็กรับใช้ขา้ งกาย
ฉินมู่หรานทรยศนายได้อย่างไร คงไม่ใช่วา่ โกหกหรอกนะ หรื อว่า
เด็กรับใช้คนนี้มีความแค้นฆ่าบิดากับจวนเสนาบดีฉิน
ข้อเท็จจริ งจ้าวเฉิงซวี่เดาผิดทั้งหมด เด็กรับใช้คนนี้ถูกผูอ้ ื่นมัดตัว
โยนเข้ามาในศาลต้าหลี่ บนร่ างยังมีคาให้การหนึ่งฉบับ
“ไม่เห็นหรื อว่าผูใ้ ดส่ งเขาเข้ามา” จ้าวเฉิงซวี่กล่าวถาม
ผูใ้ ต้บงั บัญชาผูน้ ้ นั ส่ ายหน้า “ไม่เห็นขอรับ เด็กรับใช้ผนู ้ ้ นั ถูกโยนเข้า
มาจากนอกกาแพง ตอนนั้นผูน้ อ้ ยและคนอื่นๆ ต่างก็สะดุง้ ตกใจ กว่า
จะตามออกไปก็ไม่เห็นใครแล้ว”
“เด็กรับใช้ผนู ้ ้ นั ก็ไม่รู้เหมือนกันหรื อ” จ้าวเฉิ งซวี่ถามต่อ
ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาผูน้ ้ นั ยังคงส่ ายหน้า “ไม่รู้แม้แต่นิดเดียว”
จ้าวเฉิงซวี่ใคร่ ครวญเล็กน้อย ในใจเดาว่าใช่เป็ นคู่อริ ทางการเมืองสัก
คนของท่านเสนาบดีฉินหรื อไม่ แต่แม้จะไม่รู้วา่ เป็ นฝี มือของใคร
และไม่รู้วา่ จุดประสงค์ของคนผูน้ ้ ีคืออะไร แต่กช็ ่วยเขาได้มากจริ งๆ
“ไป เข้าไปดู” จ้าวเฉิงซวี่ท่าทีฮึกเหิม ก้าวยาวเดินเข้าไปข้างใน
“เร็ วๆๆ มาแล้ว มาแล้ว ยืนดีๆ ยืนกันดีๆ อีกประเดี๋ยวต้องเสี ยงดังฟัง
ชัดรู ้หรื อไม่” เจี่ยงปั๋วที่มาล่วงหน้ายืดพุงอ้วนๆ นัน่ ของเขาตะโกน
เสี ยงดัง
สวีโย่วประคองเสิ่ นเวยออกมาจากในรถ ทั้งสองเงยหน้ามองประตู
จวนที่กว้างขวางสู งใหญ่ อักษรสี ดาตัวใหญ่ที่ทรงพลังสี่ ตวั ข้าง
บนสุ ดเปล่งประกายแวววับอยูใ่ ต้แสงอาทิตย์ นี่กค็ ือบ้านวันข้างหน้า
ของนาง เป็ นสถานที่ที่นางจะใช้ชีวิตอยูน่ บั ตั้งแต่น้ ีไป ในใจเสิ่ นเวย
ตื่นเต้นขึ้นมาเงียบๆ
“ป้ายนี้ฝ่าบาทพระราชทานให้หรื อ อักษรไม่เลว” เสิ่ นเวยถามเสี ยง
เบา แววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม อักษรแทนตัวคน ดูจากอักษรนี้ก็
รู ้วา่ ปัจจุบนั ฝ่ าบาทเป็ นประมุขผูช้ าญฉลาดที่มีความมุ่งมาด
ปรารถนาและมีปณิ ธาน
สวีโย่วพยักหน้า มองเห็นความชื่นชมบนใบหน้าของเสิ่ นเวย กล่าว
หนึ่งประโยค “อักษรของข้าก็ไม่ได้ดอ้ ยกว่า”
เสิ่ นเวยแทบจะสาลักน้ า ปรายตามองสวีโย่วปราดหนึ่ง คนผูน้ ้ ีก็
จริ งๆ เลย แม้แต่เรื่ องเล็กๆ แค่น้ ีกค็ ิดเล็กคิดน้อย จิตใจเล็กยิง่ กว่ารู
เข็มเสี ยอีก
สวีโย่วลูบจมูกไม่สนใจ น้องสี่ เป็ นภรรยาของเขา จะส่ งสายตาชื่นชม
คนอื่นได้อย่างไร จะมองก็มองได้เพียงแต่เขา ต่อให้คนผูน้ ้ นั จะเป็ น
ฝ่ าบาทก็ไม่ได้ เขาติเสด็จลุงเขาที่พดู ถึงแต่คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นนานแล้ว
น้องสี่ แซ่เสิ่ นเป็ นของเขารู ้หรื อไม่
“ฮูหยิน จวิน้ จู่เหนียงเหนียง ได้โปรดตามข้าเข้าจวน” สวีโย่วทาท่า
เรี ยนเชิญ
เสิ่ นเวยยิม้ น้อยๆ เดินเคียงบ่าเคียงไหล่กบั สวีโย่ว มือกุมมือเดินเข้า
ไปในจวนผิงจวิน้ อ๋ อง
“ยินดีตอ้ นรับจวิน้ จู่ จวิน้ อ๋ องกลับจวน” ตามสัญญาณมือของเจี่ยงปั๋ ว
เสี ยงตะโกนที่กอ้ งโสตประสาทก็ดงั ขึ้นพร้อมกัน
สองฝั่งประตูใหญ่เรี ยงขบวนเป็ นสองแถวอย่างมีระเบียบเรี ยบร้อย
เลียบเส้นทางหลักตรงกลางตรงยาวไปข้างในจวน ข้างหน้าสุ ดคือ
อาจารย์ซูและคนอื่นๆ ตามด้วยทหารคุม้ กันเรื อนที่นาโดยโอวหยาง
ไน่และเหล่าชนรุ่ นหลังของหมู่บา้ นตระกูลเสิ่ น จากนั้นจึงเป็ นทหาร
เด็กที่เพิ่งมาจากซีเจียง ท้ายที่สุดจึงเป็ นบ่าวรับใช้ที่รับใช้ในจวน
พวกเขาต่างก็สวมชุดเหมือนกัน ในดวงตาของแต่ละคนมีความ
ตื่นเต้น มีแม่แบบมากเป็ นพิเศษ มีพลังมากเป็ นพิเศษ
“จวิน้ จู่ ท่านจวิน้ อ่อง เชิญ” อาจารย์ซูสวมชุดสี เขียวอมฟ้าปั กลายสี
เข้ม บนใบหน้ามีรอยยิม้ ที่อบอุ่น สง่างามโดดเด่นมากเป็ นพิเศษ
เสิ่ นเวยมองภาพๆ นี้ ชื่นอกชื่นใจเสี ยจริ งๆ จุๆๆ ล้วนแต่เป็ น
สายเลือดของนางทั้งสิ้ น นางอดยกมือโบกไม่ได้ “ลาบากทุกคน
แล้ว!”
“ไม่ลาบาก ยินดีตอ้ นรับจวิน้ จู่ จวิน้ อ๋ องกลับจวน” เสี ยงอึกทึกดังขึ้น
พร้อมกันอีกครั้ง
เสิ่ นเวยมีความสุ ขยิง่ นัก เหตุใดความรู ้สึกนี้ถึงได้เหมือนพิธีตรวจพล
สวนสนาม คิกคิก พวกเราก็น่าจะลองสวมบทบาทดูสกั ครั้ง
ความรู ้สึกของสวีโย่ว รวมถึงเจียงเฮยเจียงไป๋ ที่ถูกหลีฮวาเหอฮวา
เถาฮวาเบียดออกไปข้างๆ ก็ซบั ซ้อนอย่างยิง่ ได้ยนิ หรื อไม่ พวกเขา
ตะโกนว่า ‘ยินดีตอ้ นรับจวิน้ จู่ จวิน้ อ๋ องกลับจวน’ จวิน้ จู่มาก่อน
ท่านจวิน้ อ๋ องเช่นเขาอยูข่ า้ งหลัง หากไม่ใช่วา่ บนประตูใหญ่แขวน
ป้ายว่า ‘จวนผิงจวิน้ อ๋ อง’ เขายังคิดว่าเขามาผิดที่เสี ยอีก
น่าจะมาผิดที่แล้วกระมัง หรื อไม่กแ็ ขวนป้ายผิดแล้ว เห็นชัดๆ ว่านี่
คือจวนจวิน้ จู่ต่างหาก!
จากนั้นจึงมองคนเหล่านี้ที่เรี ยงแถวต้อนรับ สวีโย่วก็ยงิ่ อัดอั้นใจ
ส่ วนใหญ่ลว้ นแต่เป็ นคนของภรรยาเขา คนของเขาเพียงไม่กี่คน
ปะปนอยูใ่ นนั้น มองผ่านๆ ก็ยงั หาไม่เจอจริ งๆ นี่ นี่คือบ้านที่ภรรยา
เป็ นใหญ่นี่นา!
อยากจะลากทหารเงาและทหารมังกรออกมาให้หมดจริ งๆ!
สวีโย่วอดส่ งสายตาเคียดแค้นไปให้เจียงเฮยเจียงไป๋ ไม่ได้ ดู
อาจารย์ซูกบั โอวหยางไน่สิ มีความสามารถยิง่ นัก! แล้วดูพวกเจ้า
สองคน แม้ทหารเงากับทหารมังกรจะปรากฏตัวต่อหน้าผูค้ นไม่ได้
อย่างไรเสี ยเจ้าสองคนก็หาคนมาเป็ นหน้าตาให้ขา้ บ้างก็ได้! กวาด
สายตามองปราดเดียวล้วนแต่เป็ นคนของนายหญิงเช่นนี้ นายพวก
เจ้าไม่มีเกียรติ บ่าวเช่นพวกเจ้าจะยังมีเกียรติอยูอ่ ีกหรื อ เทียบไม่ได้
จริ งๆ เทียบแล้วน่าโมโหยิง่ นัก
เจียงเฮยเจียงไป๋ เองก็ได้รับความไม่เป็ นธรรมอย่างยิง่ เรื่ องนี้ลว้ นเป็ น
เจี่ยงปั๋วที่จดั การ มีพวกเขาสองพี่นอ้ งไว้ทาไม เจี่ยงปั๋ วก็จริ งๆ เลย
เจ้าบอกว่าเจ้าจัดพิธีที่ใหญ่เช่นนี้ได้ เหตุใดถึงไม่หาคนมาช่วยเป็ น
หน้าเป็ นตาให้ท่านจวิน้ อ๋ องหน่อยเล่า เจ้าก็อายุปูนนี้แล้ว เหตุใดถึง
ได้วงิ่ ไปเกาะขาจวิน้ จู่เล่า ไม่อายบ้างหรื อไร
เจี่ยงปั๋วก็ยงิ่ ไม่ได้รับความเป็ นธรรม เขาเองก็อยากให้เกียรติจวิน้ อ๋ อง
แต่คนที่อยูใ่ นจวนผิงจวิน้ อ๋ องล้วนแต่เป็ นคนของจวิน้ อ๋ อง ใต้บงั คับ
บัญชาของท่านจวิน้ อ๋ องมีใครบ้าง เขาเอาเด็กรับใช้กบั หญิงชราใน
เรื อนจวนจิ้นอ๋ องมาหมดแล้ว นัน่ ไง ไม่ใช่วา่ ยืนอยูข่ า้ งหลังหรื อไร
สวีโย่วมองไปตามสายตาของเจี่งปั๋ว อยากจะตาบอดไปเสี ยยังดีกว่า
เพียงแค่เด็กรับใช้สิบกว่าคนนั้น บวกกับหญิงชราใช้แรงงานเจ็ดแปด
คน แม้จะสวมชุดใหม่เอี่ยมเหมือนกัน แต่ดูจากท่าทางการยืนก็
อ่อนแอกว่าคนข้างๆ เท่าตัวแล้ว ถูกขับจนราวกับเป็ นไก่บา้ น สู ้พวก
เขายังไม่ได้
เสิ่ นเวยเก็บการฟ้องร้องทางสายตาของสวีโย่วนายบ่าวไว้ในดวงตา
ในใจพอใจยิง่ นัก บีบมือของสวีโย่ว หัวเราะเสี ยงเบากล่าว “หลังจาก
นี้ ท่านก็รับผิดชอบหน้าตาดี ส่ วนข้า ก็รับผิดชอบหาเลี้ยงครอบครัว”
มุมปากสวีโย่วกระตุก แต่กลับไม่ได้โต้เถียง ตอบกลับนางหนึ่ง
ประโยค “หลังจากนี้กล็ าบากฮูหยินแล้ว”
รากฐานเศรษฐกิจต้องอยูบ่ นยอดพีระมิด เห็นหรื อไม่ อานาจสาคัญ
มาก หนึ่งประโยคก็วางรากฐานตาแหน่งผูน้ าอย่างสมบูรณ์ในบ้าน
ของเสิ่ นเวยได้แล้ว
“เอาล่ะ ลาบากทั้งหมดแล้ว เดือนนี้ทุกคนเพิ่มเงินเดือนสองเดือน
เที่ยงวันนี้พวกเราสัง่ อาหารจากเหลาสุ ราข้างนอกมา ดื่มสุ ราทาน
อาหารกันให้พอ” เสิ่ นเวยประกาศอย่างสบายอกบายใจ
ทุกคนโห่ร้องดีใจทันที “ขอบคุณจวิน้ จู่เหนียงเหนียงที่เมตตา
ขอบคุณท่านจวิน้ อ๋ อง” ทุกคนต่างก็ดีใจเช่นนั้น ทัว่ ทั้งจวนผิงจวิน้
อ๋ องประหนึ่งขึ้นปี ใหม่
“ไป ไปดูเรื อนหลัก ข้าเลือกด้วยตัวเอง เวยเวยไปดูวา่ ชอบหรื อไม่
หากไม่ชอบพวกเราค่อยเปลี่ยน” สวีโย่วกล่าวกับเสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยพยักหน้า ตั้งตารอสวีโย่วสร้างความประหลาดใจให้นาง
อย่างยิง่
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 245-2 ย้ ายบ้ านแล้ว
ตอนที่ได้ยนื อยูน่ อกเรื อนหลักจริ งๆ บนใบหน้าของเสิ่ นเวยก็มีความ
ประหลาดใจและดีใจแวบผ่าน หอเฟิ งหวา เปลี่ยนจากเรื อนที่นางอยู่
ในจวนจงอู่โหวเพียงแค่ตวั อักษรเดียว ไม่ตอ้ งเข้าไป เพียงแค่ดูจาก
ประตูเรื อนที่เปิ ดกว้างก็มองออกแล้วว่าเรื อนหลังนี้เหมือนกันกับ
เรื อนที่นางเคยอยูม่ าก่อน
นี่กค็ ือความประหลาดใจที่สวีโย่วมอบให้นางหรื อ เช่นนั้นนางก็ท้ งั
ประหลาดใจทั้งดีใจจริ งๆ เสิ่ นเวยรู ้สึกว่าในใจมีบางอย่างเพ่นพ่าน
ไปมา ประหนึ่งอยากจะวิ่งออกมา ทะเลสาบหัวใจที่สงบนิ่งก็มีคลื่น
ซัดเข้ามา
เสิ่ นเวยพิงศีรษะลงบนบ่าของสวีโย่ว มุมปากอมยิม้ ดวงหน้าที่
งดงามประหนึ่งดอกท้อเดือนสาม “สวีโย่ว ข้าเคยบอกท่านหรื อไม่
ว่าหากท่านหมดรักข้าจะเลิก”
“เคย” สวีโย่วโอบเสิ่ นเวยทอดมองไปข้างหน้า ตอนที่นางพูด
ประโยคนี้ยงั อยูท่ ี่ซีเจียง นางถูกเขารบเร้าจนชี้จมูกเขากล่าว ‘อย่าคิด
ว่ามีพระราชทานสมรสแล้วข้าจะทาอะไรท่านไม่ได้ ท่านทาตัวดีกบั
ข้าก็ไม่เป็ นไร แต่ถา้ ไม่ดี หึ หากท่านหมดรักข้าจะเลิก’
“เช่นนั้นวันนี้ขอเพิ่มอีกหนึ่งประโยค หากท่านไม่เลิก ข้าก็ไม่ทิ้ง”
เสี ยงของเสิ่ นเวยดังขึ้น “สวีโย่ว หากท่านไม่ทรยศข้าก่อน เช่นนั้นชัว่
ชีวิตนี้ขา้ ก็จะเดินอยูเ่ คียงคู่ท่าน ดีหรื อไม่”
“ดี!” สวีโย่วกระชับแขนรวบเสิ่ นเวยเข้ามาในอ้อมอก คาตอบของ
เขาแน่วแน่และมีความสุ ข ในที่สุดเด็กน้อยคนนี้กย็ อมก้าวมาหาเขา
อีกหนึ่งก้าวแล้ว ไม่เสี ยแรงที่เขาทุ่มเทความคิดมากเพียงนั้น
แม้จะย้ายเข้าจวนจวิน้ อ๋ องแล้ว แต่เรื่ องจุกจิกร้อยแปดพันเก้าก็ยงั รอ
เสิ่ นเวยตัดสิ นใจอยู่ วิธีของเสิ่ นเวยง่ายดายอย่างยิง่ เลื่อนตาแหน่งให้
คนที่จดั การหลายคน โยนงานให้พวกเขา งานในชีวิตประจาวันพวก
เขาตัดสิ นใจเองก็ได้แล้ว ตัดสิ นใจไม่ได้กม็ ารายงานที่นาง เช่นนี้นาง
ก็สบายมากขึ้นแล้ว
พ่อบ้านใหญ่ของจวนจวิน้ อ๋ องยังคงเป็ นเจี่ยงปั๋ว เรื อนในก็มีแม่นม
มัว่ จัดการโดยรวม องครักษ์ในจวนมีโอวหยางไน่นา ใน
ขณะเดียวกันเขายังดูแลการฝึ กซ้อมของกองทหารเด็กให้เหมาะสม
อีกด้วย ทหารลับก็มีเสิ่ นเวยดูแลด้วยตนเอง เดิมทีก่อนออกเรื อนนาง
ก็อยากคืนทหารลับให้ปู่นาง บุตรสาวที่ยงั ไม่ออกเรื อนยังพาทหาร
ลับบ้านฝั่งมารดามาแสดงอานาจ ทว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวปฏิเสธ
บอกว่าให้นางแล้วก็เป็ นของนาง คิดเสี ยว่าเป็ นการเพิ่มสิ นเดิมให้
นาง
เสิ่ นเวยอดตกใจไม่ได้ ท่านปู่ ใจกว้างเกินไปน่ารักเกินไปแล้วหรื อไม่
ราคาของทหารลับกลุ่มนี้แพงกว่าทรัพย์สินส่ วนตัวที่ท่านปู่ ให้นาง
เสี ยอีก เดิมถือคติวา่ มีผลประโยชน์แต่ไม่รับเป็ นคนโง่ เสิ่ นเวยจึงรับ
ไว้ดว้ ยความถ่อมตนอย่างยิง่
สาหรับการจัดเตรี ยมที่ให้อาจารย์ซู ก็คือไม่มีการจัดเตรี ยม อาจารย์ซู
นับได้วา่ เป็ นกึ่งอาจารย์ของเสิ่ นเวย ทั้งยังเป็ นนายทหารผูช้ ่วยที่มี
มันสมองของนาง อ้อ ก่อนหน้านี้ตอนที่อยูใ่ นหมู่บา้ นตระกูลเสิ่ นเขา
ยังรับหน้าที่เป็ นพ่อบ้านชัว่ ขณะหนึ่ง เนื่องจากความสามารถที่
หลากหลายของอาจารย์ซู เสิ่ นเวยจึงให้เงินเดือนและตาแหน่งที่อยู่
เหนือข้อยกเว้นแก่เขา ดูเหมือนไม่ตอ้ งทาอะไรทั้งสิ้ น แต่ขอเพียงแค่
เป็ นเรื่ องที่เจี่ยงปั๋ วแม่นมมัว่ โอวหยางไน่ตดั สิ นใจไม่ได้กส็ ามารถไป
ปรึ กษาอาจารย์ซูได้
จ้าวเฉิงซวี่ได้พยานแล้วก็ส่งหนังสื อจับตัวทันที จะว่าไปแล้วฉิ นมู่
หรานเด็กคนนั้นก็ซวยจริ งๆ หากเขาอยูใ่ นจวนเสนาบดีเงียบๆ
เจ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่จะจับตัวเขาก็ไม่ง่ายจริ งๆ แต่เขาดันวิ่งไปพนัน
ไก่ชนบนถนน บังเอิญถูกเจ้าหน้าที่ที่ผา่ นทางมาเห็นเข้าพอดี คราวนี้
ก็ง่ายแล้ว แม้แต่จวนเสนาบดีกไ็ ม่ตอ้ งไป เข้าไปหิ้วคนกลับมาได้
ทันที
ฉินมู่หรานถูกส่ งไปยังคุกแล้วจวนเสนาบดีเพิ่งจะได้ข่าว นายหญิงผู ้
เฒ่าตระกูลฉินร้องไห้ฟูมฟายปาดน้ ามูกน้ าตาดึงท่านเสนาบดีฉินให้
เขารี บไปช่วยคน
“หลานรักข้า คราวนี้ตอ้ งโทษใหญ่แล้ว ผูแ้ ซ่จา้ วสมควรตายต้องไม่
ตายดี เหตุใดฟ้าถึงไม่ผา่ เขาตายเล่า” นายหญิงผูเ้ ฒ่าตระกูลฉิ น
สาปแช่ง จากนั้นก็ช้ ีท่านเสนาบดีฉินตาหนิ “เหล่าต้า มีพอ่ เช่นเจ้า
ด้วยหรื อ ลูกเข้าคุกไปแล้วเจ้ายังมีอารมณ์มาอ่านหนังสื อ เจ้าใช่จะยัว่
โมโหแม่ให้ตายหรื อไม่”
ต่งซื่อเองก็ใช้ผา้ เช็ดหน้าซับน้ าตา “นายท่าน ท่านรี บหาวิธีช่วยหราน
เอ๋ อร์ออกมาเถอะ ตั้งแต่เล็กเขาก็ไม่เคยทุกข์ยากเช่นนี้มาก่อน นี่จะดี
ได้อย่างไร! นายท่าน ท่านรี บคิดหาวิธีเถอะ”
“อย่าให้หลานรักข้านอนในคุกทั้งคืน ฟังว่าสถานที่น้ นั สกปรกอย่าง
ยิง่ เหล่าต้า เจ้าไม่ใช่ท่านเสนาบดีหรื อไร ขุนนางแซ่จา้ วผูน้ ้ นั ต่ากว่า
เจ้า ต้องฟังเจ้า ตอนนี้เจ้าไปพาหลานรักข้ากลับมาเถิด หากพา
กลับมาไม่ได้ เจ้าก็รอเก็บศพแม่เจ้าได้เลย หลานผูน้ ่าสงสารของข้า!”
นายหญิงผูเ้ ฒ่าตระกูลฉินใช้ไม้เท้าในมือกระทุง้ พื้นไม่ยอมเลิกรา
ท่านเสนาบดีฉินเองก็โมโหอย่างยิง่ ต่อให้ลูกเขาจะชัว่ ช้า เจ้าจ้าว
เฉิงซวี่ไม่พดู สักคาก็จบั คนไปแล้ว นี่ไม่ใช่เป็ นการดูถูกจวนเสนาบดี
ดูถูกท่านเสนาบดีเช่นเขาหรอกหรื อ
“เสด็จแม่วางใจ หรานเอ๋ อร์จะต้องไม่เป็ นไร ข้าให้พอ่ บ้านวิ่งไป
ศาลต้าหลี่เที่ยวหนึ่งแล้ว ดูวา่ เกิดเรื่ องอะไรขึ้น” ท่านเสนาบดีฉิน
พยุงนายหญิงผูเ้ ฒ่าตระกูลฉิน พยายามโน้มน้าว หันหน้ากล่าวกับต่
งซื่อต่อ “เจ้าก็ดูแลท่าแม่กลับเรื อนไปพักผ่อน ท่านแม่อายุมากแล้ว
เจ้าก็อย่าสร้างปัญหาเพิม่ ”
ทว่านายหญิงผูเ้ ฒ่าตระกูลฉินกลับดื้อรั้น ไม่วา่ อย่างไรก็ไม่ยอมไป
“ข้าไม่ไป ข้าจะอยูท่ ี่นี่รอหลานรักข้ากลับมา เจ้าจะว่าภรรยาเจ้า
ทาไม เจ้ารี บให้พอ่ บ้านไปพาหลานรักข้ากลับมาเถอะ”
ท่านเสนาบดีฉินเสี ยแรงไปมากอย่างยิง่ กว่าจะสงบอารมณ์มารดา
ของเขาได้ รับปากนางว่าหรานเอ๋ อร์กลับมาจะส่ งไปตรงหน้านาง
ทันที นายหญิงผูเ้ ฒ่าตระกูลฉินจึงกลับเรื อนในอย่างไม่ยนิ ดี
เมื่อนายหญิงผูเ้ ฒ่าตระกูลฉิ นไปแล้ว ท่านเสนาบดีฉินก็ปรึ กษากับ
นายทหารผูช้ ่วย “อาจารย์เริ่ นคิดเห็นอย่างไร”
เริ่ นหงซูใคร่ ครวญครู่ หนึ่งจึงกล่าว “ท่านเสนาบดี เรื่ องนี้แปลก
เล็กน้อย จ้าวเฉิงซวี่คนผูน้ ้ นั เป็ นคนรอบคอบที่สุด หากในมือไม่มี
หลักฐานก็ไม่กล้าเสี่ ยงอันตรายจับตัวคน ตอนนี้พวกเขาจับคุณชาย
เล็กเข้าคุก เกรงว่าในมือจะกุมหลักฐานอะไรอยู”่
ดวงตาท่านเสนาบดีฉินกะพริ บวาบ กล่าว “เจ้าจะบอกว่าศาลต้าหลี่
หาแม่นางผูน้ ้ นั เจอแล้วหรื อ”
เริ่ นหงซูกล่าว “เป็ นไปได้ แต่กเ็ ป็ นไปได้วา่ จะเป็ นหลักฐานอื่น
เช่นกัน”
ท่านเสนาบดีฉินคิดแล้วจึงกล่าว “จะเป็ นอะไรได้ ชาวบ้านไม่กี่คน
นั้นก็ส่งคนไปดูแล้ว พวกเขาไม่กล้าออกมาพูดจาเหลวไหล” ยังจะมี
จุดสะเพร่ าอะไรอีกที่เขานึกไม่ถึง
เริ่ นหงซูส่ายหน้า กล่าว “รอดูเถิด รอคุณชายเล็กกลับมาก็รู้แล้ว”
น่าเสี ยดายที่พวกเขาไม่สามารถรอฉิ นมู่หรานกลับมาได้ มีเพียง
พ่อบ้านที่วิ่งเหงื่อท่วมหัวกลับมาคนเดียว ร้องห่มร้องไห้กล่าว “ท่าน
เสนาบดี อาจารย์เริ่ น แย่แล้ว เด็กรับใช้ขา้ งกายคุณชายเล็กมีคนทรยศ
เขาเป็ นพยานว่าคุณชายเล็กฉุดแม่นางตระกูลจาง ศาลต้าหลี่ไม่ปล่อย
คนขอรับ”
“อะไรนะ ทรยศงั้นหรื อ คนไหนกัน” สี หน้าของท่านเสนาบดีฉิน
ยา่ แย่อย่างถึงที่สุด
พ่อบ้านปาดเหงื่อบนหน้าผาก “เอ้อร์หนิวจื่อขอรับ” เขากล่าวอย่าง
หวาดกลัวเล็กน้อย เด็กรับใช้คนสนิทข้างกายคุณชายเล็กส่ วนใหญ่
ล้วนเป็ นเขาที่จดั คนเข้าไป เขากลัวท่านเสนาบดีจะไต่ถามความ
รับผิดชอบ!
“เอ้อร์หนิวจื่อคือคนไหน เกิดในบ้านหรื อไม่ ครอบครัวของเขาเล่า
พ่อแม่เล่า” ท่านเสนาบดีฉินกล่าวถาม
สี หน้าของพ่อบ้านซีดหมดแล้ว กล่าวอย่างตะกุกตะกัก “เรี ยนท่าน
เสนาบดี เอ้อร์หนิวจื่อเกิดในบ้านขอรับ แต่ครอบครัวเขาไม่มีใคร
แล้ว”
“เหตุใดถึงไม่มีใครเล่า” ท่านเสนาบดีฉินขมวดคิ้วขึ้นเสี ยงสู ง
พ่อบ้านรวบรวมความกล้าตอบ “เรี ยนท่านเสนาบดีฉิน บิดาของเอ้
อร์หนิวจื่อเดิมทางานที่โรงม้าในจวน มีฝีมือเลี้ยงม้า แต่ติดนิสยั ชอบ
ดื่มสุ รา ฤดูหนาวปี หนึ่งเขาดื่มสุ ราเยอะไปตกลงไปในแม่น้ าจมน้ า
ตาย ปี นั้นเอ้อร์หนิวจื่อเพิ่งจะอายุได้สองขวบ แม่เขาทางานอยูใ่ น
ฝ่ ายเย็บผ้า สามปี ก่อนเสี ยชีวิตแล้ว เดิมเขายังมีพี่สาวอยูห่ นึ่งคน สอง
เดือนก่อนคลอดยาก ปกป้องไม่ได้ท้งั เด็กและผูใ้ หญ่ ครอบครัวเขา
เป็ นครอบครัวเดี่ยว ลุงน้าไม่มีสกั คน ตอนนี้ท้ งั ตระกูลเขาเหลือเขา
เพียงคนเดียว”
เสี ยงของพ่อบ้านยิง่ พูดก็ยงิ่ ต่า ท้ายที่สุดก็กดั ฟันถือโอกาสรายงาน
ด้วยตัวเอง “ท่านเสนาบดี เอ้อร์หนิวจื่อผูน้ ้ นั เป็ นคนที่บ่าวส่ งไปอยู่
ข้างกายคุณชายเล็ก บ่าวเห็นเขาเป็ นคนปราดเปรี ยว ใครจะรู ้วา่ เขาจะ
เนรคุณ เป็ นความผิดของบ่าวเอง บ่าวรู ้จกั คนไม่ดีพอ ท่านลงโทษ
บ่าวเถิด” เขาคุกเข่าลงบนพื้นเสี ยงดังโครม
เอ็อร์เหนียงจื่อกลับเป็ นคนปราดเปรี ยวจริ งๆ เพราะว่าพ่อเขาตายเร็ ว
แม่เขาเลี้ยงลูกสองคนเพียงคนเดียว ซ้ ายังต้องทางาน ยากจะเลี่ยง
ไม่ให้มองข้ามการสัง่ สอนเขา ตั้งแต่เล็กเขาก็บ่มเพาะนิสยั อันธพาล
แล้ว กินดื่มเที่ยวเล่นกลับเชี่ยวชาญ ไม่รู้เหมือนกันว่าเส้นประสาท
เส้นไหนของเขาผิดปกติ คาดไม่ถึงว่าถือกับข้าวหิ้วสุ ราเดินมาหาเขา
ขอทางานข้างกายคุณชายเล็ก
แม้วา่ พ่อบ้านจะไม่กลัวเอ้อร์หนิวจื่อ แต่กลับไม่อยากผิดใจเขา ตอน
นั้นเขาคิด คุณชายเล็กเป็ นคนชอบเที่ยว เอ้อร์หนิวจื่อก็ชอบเที่ยว ไม่
แน่วา่ เอ้อร์หนิวจื่ออาจจะเข้าตาคุณชายเล็กก็ได้ คนเช่นเขาก็จะมี
เกียรติมิใช่หรื อ นี่เองก็เป็ นน้ าใจอย่างหนึ่ง! ด้วยเหตุน้ ีเขาจึงลงมือ
ช่วย
เป็ นดังคาดไม่นานนักเอ้อร์หนิวจื่อก็เข้าตาคุณชายเล็ก กลายเป็ นคน
สนิทอันดับหนึ่งข้างกายคุณชายเล็กอย่างสมบูรณ์ พ่อบ้านก็ได้ผล
ประโยชน์ไปไม่นอ้ ย แต่ใครจะรู ้วา่ เอ้อร์หนิวจื่อผูน้ ้ ีจะทรยศนายเล่า
ท่านเสนาบดีฉินมองพ่อบ้านที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้น ในดวงตามีบางอย่าง
แวบผ่านอย่างรวดเร็ ว พูดเพียงหนึ่งประโยค “ลุกขึ้นเถิด คราวหน้าก็
ระวังหน่อย” เรื่ องก็เกิดขึ้นแล้ว ตาหนิพอ่ บ้านอีกก็ไม่มีประโยชน์ ยิง่
ไปกว่านั้นพ่อบ้านก็เพียงแค่ตรวจสอบบกพร่ องเท่านั้น
“ขอบคุณท่านเสนาบดี ขอบคุณท่านเสนาบดีที่เมตตา บ่าวจะจาไว้”
พ่อบ้านดีใจใหญ่ ลุกขึ้นจากพื้นช้าๆ มายืนข้างๆ มีความรู ้สึกรอดตาย
ชนิดหนึ่ง
“ท่านเสนาบดี เรื่ องนี้ยงุ่ ยากเล็กน้อย” เริ่ นหงซูขมวดคิ้วมุ่น หากเป็ น
พยานอื่นยังดี พยานคนนี้ดนั เป็ นคนข้างกายคุณชายเล็ก รู ้เรื่ องของ
คุณชายเล็กดีเป็ นพิเศษ หากเขารับสารภาพอะไรออกมาจะไม่เป็ น
ผลดีต่อคุณชายเล็กอย่างยิง่
“ก็แค่บ่าวคนหนึ่ง” ท่านเสนาบดีฉินแค่นเสี ยงหนึ่งครา เสื อไม่แสดง
อานาจก็คิดว่าข้าเป็ นแมวป่ วยเสี ยแล้ว “สัง่ คนนาข่าวไปให้เอ้อร์หนิ
วจื่อผูน้ ้ นั ให้เขาแก้ปากคา ยังมี เตรี ยมคุกเดี่ยวให้หรานเอ๋ อร์ สัง่
อาหารจากเหลาสุ ราส่ งเข้าไป” เขาจะทาให้จา้ วเฉิ งซวี่คนชัว่ ผูน้ ้ นั รู ้วา่
จับลูกเขาเข้าไปเช่นไร ก็ตอ้ งส่ งออกมาอย่างเคารพนบนอบเช่นนั้น
ให้เกียรติไม่เอาเกียรติ คิดว่าจวนเสนาบดีฉินของเขารังแกง่ายหรื อไร
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 246-1 ไท่ จื่อผู้ถูกถอดยศ
ตอนที่ฉินมู่หรานเพิ่งจะถูกพาไปถึงศาลต้าหลี่กก็ าเริ บเสิ บสาน เชิด
หน้าเอ็ดตะโร “รู ้หรื อไม่วา่ ข้าเป็ นใคร รู ้หรื อไม่วา่ พ่อข้าเป็ นใคร รู ้
หรื อไม่วา่ พี่สาวข้ากับลูกชายพี่สาวข้าเป็ นใคร ข้าว่าพวกเจ้าบังอาจ
เกินไปแล้ว นึกไม่ถึงว่ากล้าจับข้า จ้าวผดุงธรรมเล่า เรี ยกใต้เท้าจ้าว
ของพวกเจ้ามาหาข้าเดี๋ยวนี้”
พัศดีที่คุมห้องขังโมโหแล้ว เด็กโง่คนนี้เข้ามาในคุกศาลต้าหลี่แล้วยัง
กาเริ บเสิ บสานเช่นนี้ อย่างไรเสี ยใต้เท้าจ้าวก็เป็ นผูพ้ ิพากษาศาลต้าห
ลี่ เป็ นขุนนางคนสาคัญของราชสานักที่ฝ่าบาทพระราชทานตาแหน่ง
ด้วยตัวพระองค์เอง เป็ นคนที่เด็กไร้ยศเช่นเขาสามารถเรี ยกตาม
อาเภอใจได้หรื อ
“ตัวเจ้าเองยังไม่รู้เลยว่าพ่อเจ้าพี่สาวเจ้าลูกชายพี่สาวเจ้าเป็ นใคร ข้า
ไหนเลยจะรู ้” พัศดีกลอกตา ราวกับมองคนโง่ “ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็ น
ใคร เข้ามาในคุกศาลต้าหลี่แล้วก็มีเพียงฐานะเดียวเท่านั้น นัน่ ก็คือ
นักโทษ เข้าไปเถอะ อยูน่ ิ่งๆ เสี ย” เขาไม่สนว่าเจ้าจะเป็ นคุณชาย
ตระกูลใด มาถึงอาณาเขตของเขาก็ตอ้ งทาตามกฎของเขา
พัศดีผลักฉินมู่หรานเข้าไปในห้องขัง ลงกลอนประตูหอ้ งขังเสี ยงดัง
ครื นๆ
ฉินมู่หรานถูกผลักจนเซ หันหลังกลับโผเข้ามาที่ประตูหอ้ งขัง
ตะโกนเสี ยงดัง “เปิ ดประตู เปิ ดประตู ปล่อยข้าออกไป ทหาร เรี ยก
คนมาเดี๋ยวนี้ ปล่อยข้าออกไป”
ไม่วา่ เขาจะโก่งคอตะเบ็งเสี ยงเพียงใดก็ไม่มีใครสนใจ ฉิ นมู่หรานจึง
ร้อนรน มองห้องขังที่สกปรกแห่งนี้เบื้องลึกในใจเขาก็เกิดความ
หวาดกลัว ความหวาดกลัวชนิดนี้ค่อยๆ เพิม่ ขึ้นตามเวลาที่ผา่ นไป
กว่าคนที่ท่านเสนาบดีฉินบิดาเขาจัดเตรี ยมจะมาเปลี่ยนห้องขังให้เขา
ร่ างทั้งร่ างเขาก็ผดิ ปกติเล็กน้อย กอดเข่าหดตัวสัน่ ระริ กอยูท่ ี่มุม
กาแพง
ท่านเสนาบดีฉินที่ได้ข่าวก็ตบโต๊ะ ในดวงตาที่หลุบลงมีความอาฆาต
แวบผ่าน
เพราะการฟ้องร้องคดีครั้งนี้ สาส์นที่ยนื่ มติไม่ไว้วางใจท่านเสนาบดี
ฉิ นในราชสานักจึงกองราวกับผืนหิ มะ โทษก็คือสอนบุตรไม่
เข้มงวดปล่อยให้บุตรกระทาชัว่ แม้แต่ฮ่องเต้ยงเซวียนยังตกใจ ยัง
ตั้งใจเรี ยกท่านเสนาบดีฉินไปไต่ถาม
ท่านเสนาบดีฉินคุกเข่ารับโทษ “บุตร…บุตรชายคนเล็กผูน้ ้ นั ของ
กระหม่อมถูกสตรี ในบ้านตามใจจนเสี ยคน กระหม่อมละอายใจนัก!
แต่แม้บุตรชายกระหม่อมจะไม่ร่ าเรี ยนไร้ความสามารถเล็กน้อย
เรื่ องผิดกฎหมายกลับไม่กล้าทา”
ฮ่องเต้ยงเซวียนเองก็เป็ นพ่อคน ย่อมเข้าใจสิ่ งที่เสนาบดีฉินพูด เขา
นึกถึงฉินมู่หย่วนบุตรคนโตของเสนาบดีฉินอายุยงั ไม่ถึงยีส่ ิ บปี ก็มี
ความรู ้โดดเด่นแล้ว ยังมีซูเฟยในวังที่หลายปี มานี้กเ็ ชื่อถือได้อย่างถึง
ที่สุด ทัว่ ทั้งเมืองหลวงตระกูลใดบ้างที่ไม่มีบุตรไม่เอาอ่าว สี หน้า
ของเขาจึงดีข้ ึนเล็กน้อย ซ้ ายังปลอบขวัญเสนาบดีฉิน “เจ้าไม่ตอ้ ง
เป็ นกังวล จ้าวเฉิงซวี่ศาลต้าหลี่เป็ นผูม้ ีความสามารถ จักต้องสื บหา
ความจริ งคืนความยุติธรรมให้คุณชายได้โดยเร็ ว”
จ้าวเฉิงซวี่ในตอนนี้กาลังร้อนอกร้อนใจอยู่ ผ่านไปเพียงแค่คืนเดียว
ไม่เพียงแต่ฉินมู่หรานเปลี่ยนปากคา ไม่ยอมรับเรื่ องที่ตนฉุดแม่นาง
ตระกูลจางเข้าจวนก่อนหน้านี้ แม้แต่เด็กรับใช้ที่ชื่อเอ้อร์หนิวจื่อผู ้
นั้นยังแก้ปากคา บอกว่าสิ่ งที่สารภาพไปก่อนหน้านี้ถูกโบยให้
สารภาพ คุณชายของเขาไม่เคยฉุดแม่นางตระกูลจางอะไรอย่าง
สิ้ นเชิง
นี่ทาให้จา้ งเฉิงซวี่โมโหแทบแย่แล้ว คุกศาลต้าหลี่ป้องกันอย่าง
เข้มงวด อยูใ่ นสายตาเขาแล้วยังสามารถส่ งข่าวได้ เห็นได้วา่ เขาผูเ้ ป็ น
ผูพ้ ิพากษาศาลต้าหลี่ลม้ เหลวมากเพียงใด
ฉินมู่หรานผูน้ ้ นั มีกาลังวังชาขึ้นมาอีกครั้ง ร้องตะโกนให้เขาปล่อย
ตัว “ข้าบอกตั้งนานแล้วว่าแม่นางตระกูลจางอะไรนัน่ ข้าไม่รู้จกั มา
ก่อนเลย ข้าได้รับความไม่เป็ นธรรม ยังไม่รีบปล่อยข้ากลับจวนอีก!
สถานที่ผพุ งั อะไร ข้าไม่อยากอยูแ่ ม้แต่เสี้ ยวยามเดียว”
เด็กที่ยงั ไม่โตคนหนึ่งกล้าเอ็ดตะโรใส่ ขนุ นางคนสาคัญของราช
สานักเช่นเขา ไม่ตอ้ งบอกก็รู้วา่ จ้าวเฉิ งซวี่รู้สึกอย่างไร เขาโบกมือ
ด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย “พาเข้าไป”
ปล่อยคนหรื อ กว่าจะจับเขาเข้ามาได้ จะปล่อยไปง่ายๆ เช่นนี้หรื อ
ไม่ตอ้ งแม้แต่จะคิด “สื บ สื บเบาะแสให้ขา้ ต่อ” จ้าวเฉิ งซวี่กล่าวด้วย
ความเคียดแค้น ห่านป่ ายังทิ้งเสี ยง เขาไม่เชื่อว่าเขาจะหาพยานอื่น
ไม่ได้
เสิ่ นเวยสวมชุดเข้ารู ปตีคนอยูใ่ นสนามฝึ กยุทธ์ อ้อ ยังมีอีกสิ่ งที่
ยิง่ ใหญ่อย่างมากเรี ยกว่าการประลอง เสิ่ นเวยบอกแล้วว่า ไม่เจอกัน
หลายเดือนแล้ว ดูสิวา่ พวกเขาตั้งใจฝึ กซ้อมหรื อไม่
ตอนที่เสิ่ นเวยพูดประโยคนี้หน้าไม่แดงใจไม่เต้น แต่มนั่ อกมัน่ ใจ
อันที่จริ งนางก็แค่หาข้ออ้างตีคนก็เท่านั้นเอง ปี กแต่ละคนยังไม่แข็ง
ความคิดก็ใหญ่เพียงนี้แล้ว ยังกล้าวิง่ หนีจากซีเจียงมาถึงเมืองหลวง
แม้เสิ่ นเวยจะดีใจต่อการมาถึงของพวกเขาอย่างยิง่ แต่เสิ่ นเวยก็ยงั
รู ้สึกว่าพวกเขาขาดการฝึ กซ้อม เด็กแสบเหล่านี้ตอ้ งจัดการให้ดีสกั
หน่อย ต้องให้พวกเขารู ้วา่ แผ่นฟ้าสู งแผ่นดินหนาเพียงใด
มิเช่นนั้นแต่ละคนต่างก็คิดว่าสวรรค์เป็ นลูกคนโตตนเป็ นลูกคนรอง
ปล่อยออกไปแล้วจะไม่สร้างหายนะให้นางหรื อ ต้องรู ้วา่ ที่นี่คือเมือง
หลวง ป้ายประตูหล่นลงมาทับคนสามคนสองคนในนั้นก็คือผูม้ ี
ตาแหน่งสู ง อีกคนหนึ่งก็คือราชนิกลุ ของเมืองหลวง ดังนั้นนางต้อง
ตีความยโสโอหังของพวกเขาออกไป ให้พวกเขารู ้จกั ถ่อมเนื้อถ่อม
ตัว
ตอนที่เสิ่ นเวยพูดว่าจะประลองสี หน้ายังมีรอยยิม้ น้อยๆ เหล่าทหาร
เด็กนอกจากฟังจงหลี่กบั หลี่จ้ือที่ได้เห็นความร้ายกาจมาก่อนแล้วคน
ที่เหลือต่างก็รู้สึกสมเหตุสมผล คุณชายสี่ กลายเป็ นจวิน้ จู่เหนียง
เหนียง พวกเขาล้วนรู ้สึกไม่ค่อยเหมาะสมเล็กน้อย เห็นสตรี ที่อายุ
ไล่เลี่ยกับพวกเขายืนยิม้ แย้มอยูต่ รงนั้น ไม่วา่ อย่างไรก็เทียบคุณชายสี่
ที่ฉลาดกล้าหาญในความทรงจาไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงประมาท
ข้าศึก
มีเพียงโอวหยางไน่ที่ยนื กอดอกอยูข่ า้ งๆ กระตุกมุมปาก กล่าวในใจ
ความหน้าไม่อายของจวิน้ จู่เพิม่ ขึ้นทุกวันจริ งๆ! ชายห้าวหาญที่มี
ชื่อเสี ยงในกองทัพเมื่อวันวานผูน้ ้ ีเช่นเขายังไม่ใช่คู่ต่อสู ้ของนาง
นับประสาอะไรกับเด็กหนุ่มที่อ่อนวัยหนึ่งกลุ่ม สายตาที่มองกอง
ทหารเด็กของเขาเห็นใจอย่างยิง่ อืม ยังมีความดีใจบนความทุกข์ของ
ผูอ้ ื่นอยูอ่ ีกหลายส่ วน
เป็ นดังคาด แรกเริ่ มยังคงเป็ นการประลองหนึ่งต่อหนึ่ง จากนั้นจึง
ค่อยๆ เปลี่ยนเป็ นเสิ่ นเวยหนึ่งคนต่อสองคน สี่ คน แปดคน…
ท้ายที่สุดก็ขยับขยายเป็ นกองทหารเด็กทั้งหมดกรู เข้ามาพร้อมกัน
เสิ่ นเวยปราดเปรี ยวประหนึ่งผีเสื้ อบุกซ้ายจู่โจมขวาท่ามกลางการตี
โอบล้อมของกองทหารเด็ก ร่ างกายเคลื่อนย้ายราวกับสายฟ้า ออก
มือตรงไปตรงมาและคล่องแคล่ว แสดงฝี มืออันเชี่ยวชาญท่ามกลาง
กองทหารเด็กสี่ ร้อยคน
ไม่นานนัก เหล่ากองทหารเด็กก็ทยอยกันล้มลง มีเพียงเสิ่ นเวยที่
ยังคงยืนอยูใ่ นสนามอย่างสง่างาม
มองเหล่ากองทหารเด็กที่ร้องโอดโอยอยูท่ วั่ พื้น สี หน้าบนใบหน้า
เสิ่ นเวยก็เคร่ งขรึ ม “เป็ นอย่างไร ยังคิดว่าตัวเองเก่งมากอยูอ่ ีกหรื อไม่
หลายคนเพียงนี้ยงั สู ้ขา้ ที่เป็ นสตรี เพียงคนเดียวไม่ได้ ข้าไม่รู้วา่ พวก
เจ้าไปเอาความหยิง่ ยโสมาจากไหน เอาความทะนงตนมาจากไหน
ลุกขึ้น ลุกขึ้นตั้งแถวทั้งหมดเดี๋ยวนี้!”
ตามเสี ยงตะโกนของเสิ่ นเวย เหล่ากองทหารเด็กบนพื้นก็กระโดด
ขึ้นมาราวกับถูกไขลาน ตั้งแถวเป็ นแปดแถวยืนรับคาสัง่ สอนอยู่
ตรงหน้าเสิ่ นเวยด้วยความรวดเร็ ว ไม่มีใครกล้าส่ งเสี ยงเลยแม้แต่คน
เดียว
ในใจเสิ่ นเวยมีความพอใจแวบผ่าน แต่กลับยังคงปั้นสี หน้าเคร่ งขรึ ม
“กล้ามากใช่หรื อไม่ ความคิดใหญ่มากใช่หรื อไม่ กล้าไม่บอกไม่
กล่าวก็แอบหนีมาเมืองหลวงแล้ว หากระหว่างทางเกิดอะไรขึ้นมา
ใครจะมารับผิดชอบ ข้าสอนพวกเจ้าแล้ว เป็ นทหารผูห้ นึ่งสิ่ งที่
สาคัญที่สุดก็คือเชื่อฟังคาสัง่ พวกเจ้าลืมไว้ในท้องหมาแล้วใช่
หรื อไม่ บนตัวพวกเจ้าข้าทุ่มเทความตั้งใจไปมากน้อยเพียงใด พวก
จ้าตอบแทนข้าเช่นนี้หรื อ”
สายตาของเสิ่ นเวยกวาดผ่านใบหน้าของพวกเขาช้าๆ ถามพวกเขาจน
พากันก้มหน้างุด อับอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ตามคาตาหนิ
แต่ละคาๆ ของเสิ่ นเวย เหล่ากองทหารเด็กก็หาความรู ้สึกของ
คุณชายสี่ เจออีกครั้ง ใช่แล้ว ไม่วา่ จะเป็ นชายหรื อหญิง เป็ นคุณชายสี่
หรื อว่าจวิน้ จู่ คนผูน้ ้ ีกค็ ือคนที่พวกเขาเลื่อมใสที่สุด! ความคาดหวังที่
จวิน้ จู่มีต่อพวกเขาสู งเพียงนั้น พวกเขากลับบ่มเพาะความรู ้สึกทะนง
ตน ยังจะมีหน้ามาพบจวิน้ จู่อีก
“จวิน้ จู่ พวกข้าผิดไปแล้ว ท่านลงโทษพวกข้าเถิด!” ฟังจงหลี่กบั ห
ลี่จ้ือที่นาหน้าก้าวออกมาก่อน
เหล่ากองทหารเด็กที่เหลือก็กา้ วขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าวเช่นกัน
คุกเข่าข้างเดียว “จวิน้ จู่ ท่านลงโทษพวกข้าเถิด พวกข้าสานึกผิดแล้ว
ท่านจะลงโทษพวกข้าเช่นไรก็ได้”
เสิ่ นเวยมองพวกเขาเงียบๆ สายตากวาดผ่านร่ างของพวกเขาทุกคน
คนที่ถูกเสิ่ นเวยจ้องมองทั้งหมด ต่างก็ยดื หลังตรงอย่างอดไม่ได้ มุม
ปากของเสิ่ นเวยกระตูกขึ้น ครู่ ใหญ่จึงกล่าว “ทั้งหมดลุกขึ้นเถิด”
เมื่อพวกเขาลุกขึ้นยืนตั้งแถวใหม่เรี ยบร้อยแล้ว เสิ่ นเวยก็กล่าวต่อ
“ตอนยังเด็กใครบ้างไม่เคยทาผิด ข้าไม่กลัวพวกเจ้าทาผิด แต่
หลังจากทาผิดแล้วพวกเจ้าต้องรู ้วา่ ผิดตรงไหน ความผิดเดิมอย่าได้
ทาซ้ าเป็ นรอบสอง ครั้งนี้ขา้ ให้พวกเจ้าจาไว้ก่อน หลังจากนี้พวกเจ้า
อยูใ่ นเมืองหลวง อยูใ่ นจวนจวิน้ อ๋ อง พรุ่ งนี้ขา้ จะส่ งคนมาบันทึกชื่อ
พวกเจ้าก็จะอยูภ่ ายใต้นามของข้าอย่างเป็ นทางการ แต่พวกเจ้าต้องจา
ไว้วา่ ที่นี่คือเมืองหลวง พวกเจ้าทาอะไรต้องสงบเสงี่ยม ไม่อาจต่อสู ้
อย่างโจ่งแจ้งกับผูอ้ ื่นโดยไม่มีเหตุผลได้ ยิง่ ไม่อาจเกิดความคิดยโส
โอหังได้ คนที่ทาได้กอ็ ยูต่ ่อ คนที่ทาไม่ได้กก็ า้ วออกมาข้าจะส่ งเจ้า
กลับซีเจียง”
บนใบหน้าเหล่ากองทหารเด็กมีความตื่นเต้นแวบผ่าน แต่ละคนยืน
ตรงยิง่ ขึ้น ไม่มีใครก้าวออกมาเลยสักคนเดียว
เสิ่ นเวยพยักหน้าอย่างพอใจ กล่าว “ดีมาก ในเมื่อไม่มีใครก้าว
ออกมาเช่นนั้นก็อยูใ่ นจวนจวิน้ อ๋ องดีๆ ทุกวันขยันฝึ กฝน พวกเจ้าเอง
ก็รู้ดี ข้าเป็ นคนใจกว้าง ไม่วา่ จะเป็ นของกินหรื อว่าของใช้ที่ให้พวก
เจ้าล้วนดีที่สุด พวกเจ้าอย่าทาให้ขา้ ผิดหวังล่ะ”
“ไม่ทาให้จวิน้ จู่ผดิ หวังแน่นอนขอรับ” เหล่ากองทหารเด็กตะโกน
พร้อมกัน ใช้เสี ยงที่อ่อนวัยของพวกเขาตะโกนคาสาบานของพวก
เขาออกมา ยังมีความปรากรถนาอันแรงกล้าอีกด้วย
เสิ่ นเวยจึงวางใจจากไป มีกองทหารเด็กหนึ่งกลุ่มนี้อยูใ่ นจวน
ความรู ้สึกด้านความปลอดภัยของนางก็เพิ่มขึ้นไม่นอ้ ย โดยเฉพาะ
หลังจากที่เด็กรับใช้ขา้ งกายฉินมู่หรานผูน้ ้ นั ตายอยูใ่ นศาลต้าหลี่อ
ย่างน่าสงสัย ความไม่สบายใจของเสิ่ นเวยก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก นาง
ตระหนักถึงขุนนางผูม้ ีคุมอานาจได้อย่างตื่นตัวอีกครั้ง ตระหนักได้
ว่าท่านเสนาบดีฉินไม่ได้ไร้พิษภัยอย่างเช่นที่นางคิดแน่นอน คิดดู
แล้วก็ใช่ เป็ นถึงอัครเสนาบดีของราชสานัก บ้านภรรยาขององค์ชาย
จะไร้พิษภัยได้อย่างไร
อันที่จริ งนี่กโ็ ทษเสิ่ นเวยที่ประมาทข้าศึกไม่ได้ เป็ นเพราะการสารวจ
จวนเสนาบดีฉินครั้งนั้นง่ายดายเกินไปจริ งๆ กระทัง่ นางตัดสิ นท่าน
เสนาบดีฉินคนผูน้ ้ ีผดิ ไป
แต่ตอนนี้นางรู ้แล้ว ตั้งแต่คืนนั้นที่ไปสารวจจวนเสนาบดีฉินกับสวี
โย่วอีกครั้ง เสิ่ นเวยก็รู้สึกว่าจวนเสนาบดีฉินมีความรู ้สึกขัดแย้งชนิด
หนึ่ง ก่อนหน้านี้การป้องกันในจวนเสนาบดีหละหลวมเกินไป
ตอนนี้กเ็ ข้มงวดเกินไป เข้มงวดพอๆ กับส่ วนภายในพระราชวัง นี่
แปลกประหลาดเล็กน้อย!
ฝั่งตะวันตกของพระราชวังคือที่ต้ งั ของตาหนักเย็น เอาไว้ขงั นาง
สนมผูท้ าผิดจานวนหนึ่ง ปกตินอ้ ยอย่างยิง่ ที่จะมีคนก้าวเข้ามาที่นี่
สวีโย่ว หลานชายที่ฮ่องเต้ยงเซวียนโปรดปรานที่สุด คุณชายใหญ่
ของจวนจิ้นอ๋ อง ผิงจวิน้ อ๋ องที่เพิ่งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ครึ่ ง
ปี หลังกลับปรากฏตัวอยูท่ ี่นี่ ข้างกายเขาไม่ได้พาคนมาแม้แต่คนเดียว
สวมชุดผ้าไหมสี ฟ้าอ่อนดูขดั แย้งกับทัศนียภาพที่ทรุ ดโทรมนี้
สวีโย่วหยุดฝี เท้าอยูห่ น้าตาหนักแห่งหนึ่งบริ เวณริ มสุ ด เขาเงยหน้า
มองประตูตาหนักลายพร้อมเล็กน้อย
องครักษ์ที่เฝ้าประตูเข้ามาทาความเคารพ “คารวะผิงจวิน้ อ๋ องพ่ะย่ะ
ค่ะ”
สวีโย่วไม่ได้เอ่ยปาก แสดงป้ายคาสัง่ ในมือ ยกเท้าเดินเข้าไปข้าง
ในทันที องครักษ์ผนู ้ ้ นั ถอยกลับไปยืนอยูท่ ี่เดิม ไม่กล้าขัดขวางเลย
แม้แต่นอ้ ย
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 246-2 ไท่ จื่อผู้ถูกถอดยศ
แทนที่จะพูดว่านี่คือตาหนักแห่งหนึ่ง ไม่สู้พดู ว่านี่คือเรื อนที่ผพุ งั
ทรุ ดโทรมแห่งหนึ่ง ต้นไม้ใบหญ้าขึ้นรกไม่มีคนจัดการ บนพื้นเต็ม
ไปด้วยใบไม้ราวกับไม่ได้กวาดมาเป็ นเวลานาน ทุกหนทุกแห่งทัว่
ตาหนักต่างก็มีกลิ่นอายของความเสื่ อมโทรม
ได้ยนิ เสี ยงไอที่รุนแรงดังมาจากข้างในตาหนักหลักมาแต่ไกลๆ
หัวใจสวีโย่วก็บีบแน่นอดเร่ งฝี เท้าไม่ได้ เดินเข้าไปใกล้แล้ว จึงได้ยนิ
เสี ยงสนทนาข้างใน
“องค์ชาย ท่านดีข้ ึนหรื อไม่ ท่านไอมาครึ่ งเดือนแล้ว เป็ นเช่นนี้ต่อไป
ไม่ได้แล้ว ข้าจะไปขอองครักษ์หน้าประตูให้ผอ่ นผันสักหน่อย”
เสี ยงที่เป็ นกังวลของหญิงผูห้ นึ่ง
“ไม่…ไม่เป็ นไร ไม่ตอ้ งไปขอพวกเขา พวกเขาเองก็หมดหนทาง เจ้า
อยูห่ ่างข้าหน่อย ระวังจะติดโรค” นี่คือเสี ยงของชายหนุ่มวัยเยาว์ อาจ
เป็ นเพราะป่ วย จึงฟังดูไม่มีเรี่ ยวแรง
“ท่านพี่ไท่จื่อ!” สวีโย่วเรี ยกเสี ยงเบาอยูห่ น้าประตูตาหนัก
ชายหญิงท่าทางเป็ นสามีภรรยาคู่หนึ่งในตาหนักหันหน้าพร้อมกัน
ชายผูน้ ้ นั อายุประมาณยีส่ ิ บกว่าปี ซูบผอม ผิวขาวซีด ร่ างทั้งร่ างต่างก็
พิงอยูบ่ นตัง่ นุ่ม ดูท่าทางอ่อนล้า มีเพียงดวงตาหนึ่งคู่ที่ใสสะอาดเป็ น
ประกาย
หญิงที่ดูเหมือนสตรี ที่ออกเรื อนแล้วผูน้ ้ นั สวมชุดสี เลือดหมูก่ ึงเก่า
บนศีรษะรวมผมอย่างง่ายๆ นอกจากปิ่ นหนึ่งอันแล้ว ก็ไม่มี
เครื่ องประดับแม้แต่ชิ้นเดียว
“ไท่จื่อเฟย!” สวีโย่วประสานมือให้นาง หญิงผูน้ ้ นั รี บเคารพกลับ ใน
ดวงตามีความดีใจแวบผ่าน “คุณชายใหญ่นี่เอง!”
“ร่ อแร่ จนถึงก้าวนี้แล้ว อาโย่วเจ้าเปลี่ยนคาเรี ยกเถิด เป็ นแค่ไท่จื่อผู ้
ถูกถอดยศ ไม่อาจนาปัญหามาให้เจ้าได้” มุมปากชายบนตัง่ นุ่มยกยิม้
เสี ยดสี ทว่าสี หน้าลับสงบนิ่งอย่างมาก คล้ายกาลังพูดถึงเรื่ องของคน
อื่นไม่ใช่ตนเอง “ข้าอยูท่ ี่นี่เฉยๆ ก็ไม่มีใครมา มีเพียงอาโย่วที่ยงั นึก
มาเยีย่ มข้าได้ หลังจากนี้เจ้าก็ไม่ตอ้ งมาแล้ว ที่นี่อปั มงคล ผูใ้ ดเข้ามา
ผูน้ ้ นั จะโชคร้าย” ขณะที่พดู ก็ไอขึ้นมาอีกครั้ง
สวีโย่วเร่ งฝี เท้าเข้าไปนัง่ ข้างๆ เขา ยกมือวางลงบนข้อมือของเขา
ข้อมือข้างนั้นทั้งเล็กทั้งขาวซีด เส้นเลือดข้างในต่างก็เห็นได้อย่าง
ชัดเจน
“อย่าเสี ยแรงเปล่าเลย ร่ างกายที่ทรุ ดโทรมนี้ของข้าก็แค่ทุกข์ทรมาน
มานานแล้ว วันไหนทนต่อไปไม่ไหวจริ งๆ ก็หลุดพ้นแล้ว” ชาย
หนุ่มปิ ดปากหายใจหอบกล่าว
สวีโย่วไม่สนใจ เพียงตั้งใจจับชีพร ชายผูน้ ้ นั เห็นท่าที ก็ทาได้เพียง
ปล่อยเขาไปอย่างจนใจ หญิงผูน้ ้ นั ยืนมองอยูข่ า้ งๆ ด้วยสี หน้าเป็ น
กังวลมาโดยตลอด ตอนที่มองชายบนตัง่ ในดวงตาก็เต็มไปด้วย
ความรักและศรัทธา
“ท่านพี่ไท่จื่อถูกลมหนาว ดื่มยาไม่กี่วนั ก็หายแล้ว” สวีโย่วเก็บมือ
กล่าวเสี ยงเรี ยบ
ขันทีชราที่ยนื อยูต่ รงมุมห้องก็คุกเข่าลงเสี ยงดัง น้ าตารื้ นร้องขอ
“คุณชายใหญ่ ท่านโปรดคิดหาวิธี ไม่วา่ อย่างไรก็นายามาให้องค์ชาย
สักหน่อยเถิด องค์ชายไอมาครึ่ งเดือนแล้ว ล่าช้าไปมากกว่านี้ไม่ได้
แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“คาดไม่ถึงว่าพวกเขากล้าตัดยาท่าน!” สวีโย่วได้ยนิ ขันทีพดู บวกกับ
บทสนทนาที่ได้ยนิ ก่อนหน้านี้ เขายังจะมีอะไรไม่เข้าใจอีก “ฝ่ าบาท
ไม่ได้ตดั สิ นโทษท่าน พวกเขากลับยา่ ยีท่าน ไม่ได้ เรื่ องนี้ขา้ จะ
รายงานฝ่ าบาท” สวีโย่วกาหมัดแน่นด้วยความโกรธ
แม้วา่ จะตกอับ ต่อให้จะถูกฝ่ าบาทกักขัง แต่นนั่ ก็คือบุตรหลาน
ฮ่องเต้ เป็ นบุตรแท้ๆ ของฝ่ าบาท แต่กลับถูกบ่าวชั้นล่างยา่ ยีถึงขนาด
นี้ จะไม่ให้สวีโย่วโกรธได้อย่างไร
ทว่าชายวัยหนุ่มกลับดึงมือของสวีโย่วไว้ “เจ้าน่ะ ไม่ใช่ได้รับ
พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ อ๋ องแล้วหรื อไร เหตุใดยังใจร้อน
เช่นนั้นเหมือนตอนยังเด็กอยูอ่ ีกเล่า ไม่มีประโยชน์ เพียงแค่คนทน
เห็นข้าได้ดีไม่ได้กเ็ ท่านั้นเอง ข้าเป็ นเช่นนี้แล้ว ไยจะต้องยัว่ โทสะ
เสด็จพ่อเพื่อข้าด้วยเล่า” บนใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา
นี่ทาให้สวีโย่วยิง่ ลาบากใจ ข้างนอกใครบ้างไม่บอกว่าเขาสุ ขมุ มี
เพียงพี่ชายผูเ้ มตตาผูน้ ้ ีที่ยงั เห็นเขาเป็ นเด็กใจร้อนที่โดดเดี่ยวไร้ที่พ่ งึ
ผูน้ ้ นั “ได้ ข้าไม่ไป กลับไปข้าจะแอบหาวิธีส่งยามาให้ท่าน”
หญิงที่อยูข่ า้ งๆ ถอนหายใจใหญ่หนึ่งครา คารวะสวีโย่วอย่างตั้งใจ
จริ ง “ข้าขอบคุณคุณชายใหญ่ยงิ่ นัก” ช่วงนี้ ทุกครั้งที่ได้ยนิ เสี ยงไอ
ของสามีตน หัวใจของนางก็บีบแน่นขึ้นมา แม่นมข้างกายนางคิดหา
วิธีนบั ไม่ถว้ นแต่กไ็ ม่สามารถไปเอายามาได้ นางแทบจะหมดหวัง
แล้ว ยังดีที่คุณชายใหญ่มา จิตใจนางเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
สวีโย่วรี บหลบออกมา มองไปรอบด้าน กล่าวต่อ “กลับไปข้าจะหา
ของส่ งมาอีก ที่นี่ทรุ ดโทรมเกินไปแล้ว ท่านเองก็ไม่ตอ้ งกังวล ข้ามา
หาท่านฝ่ าบาททรงทราบ และอนุญาตแล้ว”
มองเห็นแววตาที่ด้ือรั้นของลูกผูน้ อ้ งคนนี้ ชายหนุ่มก็ถอนหายใจ
ไม่ได้ปฏิเสธ เขามองหญิงผูน้ ้ นั กล่าวเสี ยงอ่อนโยน “ดูแลข้ามาทั้ง
คืนเจ้าก็คงเหนื่อยแล้ว กลับห้องไปพักเถิด ข้าจะคุยกับอาโย่วสัก
หน่อย”
หญิงผูน้ ้ นั เข้าใจว่าพี่นอ้ งสองคนนี้ตอ้ งการจะพูดคุยกัน จึงถอย
ออกไปด้วยความเคารพ
“อาโย่ว ข้าคล้ายได้ยนิ ว่าเจ้าแต่งภรรยาแล้วหรื อ เป็ นบุตรสาว
ตระกูลใด” ชายวัยหนุ่มมองสวีโย่วด้วยแววตาอ่อนโยน ในดวงตา
เต็มไปด้วยความภูมิใจ
สวีโย่วนึกถึงเสิ่ นเวย อารมณ์กด็ ีข้ ึนมาเช่นกัน “เป็ นหลานสาวของผู ้
เฒ่าจงอู่โหว บุตรสาวคนโตบ้านสาม” วันนี้ก่อนเขาออกมายังได้ยนิ
นางบ่นว่าอยากจัดการกองทหารเด็กกลุ่มนั้น ไม่รู้วา่ จัดการถึงไหน
แล้ว
ชายวัยหนุ่มเห็นรอยยิม้ ที่มุมปากของสวีโย่ว ในใจก็รู้สึกปลงอนิจจัง
อย่างถึงที่สุด ชัว่ พริ บตาก็ผา่ นไปหลายปี เช่นนี้แล้ว ลูกผูน้ อ้ งที่เคย
หัวแข็งผูน้ ้ นั ก็แต่งภรรยาแล้ว “เช่นนั้นก็เป็ นหลานสาวตาของแม่ทพั
ใหญ่หร่ วนสิ นะ น้องสะใภ้คงจะงามล่มเมืองเป็ นแน่ใช่หรื อไม่” เขา
หยอกล้อหนึ่งประโยค
สวีโย่วลูบจมูก กล่าวอย่างตั้งใจ “งามอย่างยิง่ ที่สาคัญคือน้องอยูก่ บั
นางแล้วสบายใจ นางดีต่อน้องมากนัก”
ชายวัยหนุ่มยิม้ แล้ว “เช่นนั้นก็ยนิ ดีกบั เจ้าด้วย จักต้องมีชีวิตที่ดี
แน่นอน!” เหมือนเจียงซื่อ ปฏิบตั ิต่อตนด้วยความลึกซึ้งจริ งใจ ผ่าน
ความยากลาบากกว่าสิ บปี กับตนที่นี่ ตนรู ้สึกผิดต่อนางยิง่ นัก!
สวีโย่วพยักหน้า คิดแล้วจึงกล่าวต่อ “ท่านพี่ไท่จื่อท่านเองก็อย่างเพิ่ง
ท้อใจ ข้าว่าท่าทีสองปี นี้ของฝ่ าบาทผ่อนคลายลงเล็กน้อย ข้าจะคิด
หาวิธีขอความเมตตาแทนท่าน ดูวา่ จะสามารถให้ฝ่าบาทปล่อยท่าน
ออกมาได้หรื อไม่”
ชายวัยหนุ่มโบกมือ “เจ้าอย่าได้ทุ่มเทแรงเพียงนั้นเลย ต่อให้เสด็จพ่อ
จะยอมปล่อย คนเหล่านั้นก็ไม่อาจยอมอ่อนข้อได้ง่ายๆ ยิง่ ไปกว่านั้น
เสด็จแม่กไ็ ม่อยูแ่ ล้ว ข้าออกหรื อไม่ออกไปจะแตกต่างอะไร ตาหนัก
โยวหมิงเองก็ดียงิ่ นัก เงียบสงบ ข้าอยูจ่ นชินแล้ว”
หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่าวต่อ “แต่วา่ มีบางเรื่ องที่ยงั ต้องขอให้เจ้าช่วยจริ งๆ
เจียงซื่อมีครรภ์แล้ว ภายใต้สภาพแวดล้อมยา่ แย่เช่นนี้ต้ งั ครรภ์ได้ก็
ไม่ง่ายแล้ว บางทีชวั่ ชีวิตนี้ของพี่กม็ ีโอกาสนี้ที่จะได้เป็ นพ่อคนแล้ว
เจียงซื่อผ่านความยากลาบากกับข้ามาสิ บปี แม้ขา้ จะไม่อยูแ่ ล้ว ข้าเอง
ก็หวังว่าข้างกายนางจะมีลูกอยูเ่ ป็ นเพื่อนนาง อาโย่ว พี่ขอให้เจ้าช่วย
ปกป้องเด็กคนนี้ไว้ให้ได้” เสี ยงของเขาเบาอย่างยิง่ สี หน้าเต็มไปด้วย
ความภาวนา
สวีโย่วตกใจเล็กน้อย กุมมือของชายวัยหนุ่ม กล่าวอย่างตั้งใจจริ ง
“ท่านพี่ไท่จื่อวางใจเถิด ข้าจะต้องปกป้องลูกของท่านให้ได้ ท่านพี่
ไท่จื่อท่านลองคิดดูให้ดีอีกทีเถอะ เพื่อลูกท่านเองก็ฮึกเหิ มขึ้นมายิง่
นัก” เสี ยงของเขาเบาอย่างยิง่ เพราะเขารู ้วา่ สิ บปี นี้ไท่จื่อเฟยไม่
ตั้งครรภ์หนีไม่พน้ ฝี มือของคนเหล่านั้นข้างนอก พวกเขาทนเห็น
ท่านพี่ไท่จื่อมีทายาทไม่ได้ หากตอนนี้ถูกพวกเขารู ้วา่ ไท่จื่อเฟย
ตั้งครรภ์ เช่นนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาเขาก็ไม่กล้าคิดแล้ว
ดวงตาของชายวัยหนุ่มกะพริ บวาบ คล้ายกาลังครุ่ นคิด สวีโย่วเองก็
ไม่เร่ งเขา เพียงแต่รออย่างอดทน นานอย่างยิง่ จึงได้ยนิ เขาหัวเราะ
เสี ยงเจื่อนหนึ่งครา กล่าว “อาโย่ว ข้าจะพยายามแล้วกัน” แต่จะ
สามารถทนรอจนถึงวันนั้นที่จะได้เห็นแสงสว่างอีกครั้งได้หรื อไม่
เขาเองก็ไม่กล้ารับประกัน
ได้ยนิ ประโยคนี้สวีโย่วก็พอใจอย่างยิง่ แล้ว ขอเพียงแค่ท่านพี่ไท่จื่อ
ไม่ละทิ้ง เขาไปโน้มน้าวเกลี้ยกล่อมที่ฝ่าบาทอีก ให้ทหารมังกรดูแล
เงียบๆ อีก สถานการณ์กจ็ ะต้องดีข้ ึนเรื่ อยๆ แน่นอน ตอนนี้เขาโต
แล้ว ในมือมีอานาจแล้ว ไม่ใช่เด็กที่ถูกขังอยูใ่ นจวนจิ้นอ๋ องทนทุกข์
ทรมานจากอาการป่ วยอีกแล้ว ไม่ใช่เด็กอ่อนแอที่ถูกท่านพี่ไท่จื่อป
กป้องไว้ขา้ งหลังผูน้ ้ นั อีกแล้ว ควรจะถึงเวลาที่เขาต้องทาเพื่อท่านพี่
ไท่จื่อแล้ว
คล้ายนึกอะไรขึ้นได้ สวีโย่วกล่าว “ท่านพี่ไท่จื่อไม่ตอ้ งกังวล
กลับไปแล้วข้าจะหาวิธีส่งหมอเข้ามาตรวจอาการของท่านและ
พี่สะใภ้ไท่จื่อเฟย”
ทว่าชายวัยหนุ่มกลับโบกมือปฏิเสธ “เจ้าคิดหาวิธีส่งยาเข้ามาได้ก็
พอแล้ว หมอจะดึงดูดสายตาเกินไป”
บนใบหน้าของสวีโย่วมีความเหนียมอายปรากฏขึ้นหลายส่ วน “ไม่
เป็ นไร น้องสะใภ้ท่าน น้องสี่ ของข้ามีแผนเจ้าเล่ห์เยอะที่สุด นาง
จะต้องคิดหาวิธีได้แน่นอน” หยุดครู่ หนึ่ง ดวงตาเป็ นประกาย
ประหนึ่งเก็บของล้ าค่าไว้กบั ตัวร้อนใจอยากเอาออกมาโอ้อวดผูอ้ ื่น
“ท่านพี่ไท่จื่อท่านรู ้หรื อไม่วา่ น้องสี่ ของข้าเป็ นหญิงอัศจรรย์ ข้า
ได้รับระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ อ๋ องนี้ยงั มีคุณงามความดี
ครึ่ งหนึ่งของนางด้วย ซีเจียงได้รับชัยชนะยิง่ ใหญ่มิใช่หรื อ แคว้นซี
เหลียงถูกตีจนตอบโต้ไม่ได้ รังเก่าล้วนถูกพวกเราทาลายแล้ว อ๋ องซี
เหลียงกับขุนนางชั้นผูใ้ หญ่จานวนหนึ่งล้วนถูกจับเป็ นเชลย นี่ลว้ น
แต่เป็ นฝี มือน้องสี่ ของข้า ท่านพี่ไท่จื่อ ข้าจะบอกอะไรท่านให้…”
สวีโย่วโอ้อวดคุณูปการอันยิง่ ใหญ่ของน้องสี่ เขาราวกับสตรี ช่างพูด
ช่างคุย
ชายวัยหนุ่มบ้างก็ตกใจ บ้างก็ชื่นชม คนทั้งสองมักจะส่ งเสี ยงหัวเราะ
ที่รู้ใจกันออกมาบ่อยครั้ง
นอกตาหนัก เจียงซื่อที่เดิมควรพักผ่อนอยูใ่ นห้องกลับยืนอยูท่ ี่นี่ สี
หน้าของนางมีรอยยิม้ ที่ไม่ยนิ ดียนิ ร้าย ทว่าในแววตากลับเต็มไปด้วย
น้ าตา องค์ชายไม่ได้หวั เราะอย่างมีความสุ ขเช่นนี้มานานเท่าไรแล้ว
สังคมไร้ซ่ ึงน้ าใจ ตั้งแต่องค์ชายถูกถอดยศไท่จื่อกักขังตัวอยูท่ ี่นี่ คน
ที่เคยสรรเสริ ญพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่เห็นแม้แต่คนเดียว มีเพียง
คุณชายใหญ่ที่เป็ นคนจิตใจดี มีเพียงเขาที่ไม่กลัวว่าจะถูกพัวพันมา
เยีย่ มพวกเขา ขอเพียงแค่เขามา องค์ชายก็จะมีความสุ ขเช่นนี้ เพียงแต่
องค์ชายเองก็สุขภาพไม่ดี ช่วงเวลาส่วนใหญ่จึงรักษาตัวอยูบ่ นเขา
หนึ่งปี สามารถมาได้สองสามครั้งก็ถือว่าเยอะแล้ว
“เหนียงเหนียง เมื่อคืนท่านเหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว ควรไปพักสักหน่อย
นะเพคะ” แม่นมชราที่สนิทที่สุดข้างกายเจียงซื่อเกลี้ยกล่อมด้วยสี
หน้ากังวลทั้งใบหน้า ตอนนี้เหนียงเหนียงเป็ นสตรี มีครรภ์แล้ว ปั จจัย
ตรงนี้กเ็ ป็ นเช่นนี้ สะเพร่ าเพียงนิดเดียวสามารถถึงแก่ชีวิตได้เลย!
เจียงซื่อเช็ดน้ าตาพยักหน้า หันหลังกลับจากไปภายใต้การพยุงของ
แม่นมชรา
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 247-1 เรื่ องในปี นั้น
“กลับมาแล้ว” ได้ยนิ เสี ยงสาวใช้ขา้ งนอกเคารพสวีโย่ว เสิ่ นเวยก็วาง
หนังสื อในมือลง เพราะว่าอากาศร้อน ซ้ ายังอยูใ่ นห้อง นางสวมเสื้ อ
แขนกว้างอยูบ่ า้ นสี ม่วงอ่อน บนศีรษะไร้เครื่ องประดับ มีเพียงปิ่ น
หยกเขียวหนึ่งอันที่รวบผมขึ้น บนข้อมือสวมเพียงกาไลหยกหนึ่งชิ้น
สี เขียวมรกตขับให้ขอ้ มือขาวๆ ของนางกระจ่างใสมากยิง่ ขึ้น
สวีโย่วขานอืมหนึ่งคราจากนั้นจึงโบกมือไล่สาวใช้ในห้องออกไป
เขาเดินมาถึงข้างกายเสิ่ นเวยก็โอบนางเข้ามาในอ้อมอก ศีรษะวางลง
บนบ่านางไม่เอ่ยปากสักคา
แววตาเสิ่ นเวยกะพริ บวาบ เกิดอะไรขึ้น ได้รับความไม่เป็ นธรรม
หรื อว่าถูกปลุกเร้า “เป็ นอะไรไป ไม่มีความสุ ขหรื อ”
“อืม!” เสี ยงของสวีโย่วอุดอู ้
เสิ่ นเวยกะพริ บตาปริ บๆ ชัว่ ขณะก็กลายเป็ นอะไรไปแล้ว มือที่ขาว
ดุจหยกเชยหน้าของสวีโย่ว “ใครทาให้ท่านไม่พอใจ มา บอกตัวข้า
จวิน้ จู่มา ตัวข้าจวิน้ จู่จะระบายความแค้นแทนท่านเอง จะตีจนเขาหา
ฟันทัว่ พื้นเลย!” คางเล็กๆ เชิดขึ้น กาเริ บเสิ บสานมากเป็ นพิเศษ
แม้สวีโย่วจะรู ้วา่ เสิ่ นเวยหยอกให้เขาดีใจ แต่อารมณ์ที่ข่นุ มัวกลับดี
ขึ้นหลายส่ วนเพราะเหตุน้ ี มือใหญ่ๆ แตะจมูกของเสิ่ นเวย พยักหน้า
กล่าว “ได้ ข้าจะรอเวยเวยระบายความแค้นแทนข้า”
“ไปๆๆ ตัวข้าจวิน้ จู่กลับอยากเห็นว่าใครกันไม่ดูตาม้าตาเรื อ” เสิ่ น
เวยแสร้งทาทีจะดึงสวีโย่วไปหาคนอย่างสุ ดชีวิต ถูกสวีโย่วออกแรก
กดไว้ในอ้อมอกอีกครั้ง “เวยเวย” เสี ยงของเขาเหนื่อยล้าอย่างถึง
ที่สุด ซ้ ายังคล้ายปนความทุกข์ใจ
เสิ่ นเวยเลิกคิ้ว เหนื่อยหรื อ เป็ นทุกข์หรื อ หรื อว่าหมอนี้ทาอะไรผิด
ต่อนางมา เสิ่ นเวยกาลังจะโมโห ทันใดนั้นก็ปฏิเสธการคาดเดานี้ สวี
โย่วปฏิบตั ิต่อนางเช่นไรพูดได้จริ งๆ ว่าทะนุถนอมราวกับสิ่ งล้ าค่า
อีกทั้งช่วงเวลาส่ วนใหญ่เขาก็เดินไปเดินมาอยูใ่ นสายตานาง ต่อให้
คิดจะทาเรื่ องไม่ดีกไ็ ม่มีเวลา!
ดูท่าแล้วจะเป็ นเพราะเรื่ องอื่น! เสิ่ นเวยไม่ได้เร่ งเขา เพียงแค่อยูใ่ น
อ้อมอกเขาอย่างเชื่อฟัง อยูเ่ ป็ นเพื่อนเขาเงียบๆ
นานอย่างยิง่ สวีโย่วจึงทาลายความเงียบเอ่ยปากช้าๆ “วันนี้ขา้ ไป
เยีย่ มท่านพี่ไท่จื่อมา เขาป่ วยแล้ว ซ้ ายังไม่มียา สถานการณ์ไม่ดียงิ่
นัก”
“ท่านพี่ไท่จื่อหรื อ” เสิ่ นเวยงุนงง นางจาได้วา่ ไท่จื่อในราชสานักคือ
บุตรคนที่สี่ของฝ่ าบาท เด็กกว่าสวีโย่วหลายปี
สวีโย่วได้ยนิ ก็รู้วา่ เสิ่ นเวยเข้าใจผิดแล้ว กล่าวอธิบาย “ไม่ใช่ไท่จื่
อองค์ปัจจุบนั เป็ น เป็ นไท่จื่อองค์ก่อน องค์ชายคนโตของเฉิ ง
ฮองเฮา” สวีโย่วใช้คาว่าองค์ก่อน เขาพูดคาว่าไท่จื่อผูถ้ ูกถอดยศคานี้
ไม่ออกจริ งๆ
“อ้อ ท่านหมายถึงไท่จื่อองค์น้ นั ที่ถูกฝ่ าบาทกักขังเมื่อสิ บปี ก่อนน่ะ
หรื อ” ชัว่ ขณะเสิ่ นเวยก็นึกถึงความรู ้ทวั่ ไปที่อาจารย์ซูเคยบอกนาง
นางรู ้วา่ ฝ่ าบาทมีฮองเฮาองค์แรก อีกทั้งฮองเฮาผูน้ ้ ียงั ให้กาเนิด
บุตรชายคนโตแก่เขาอีกด้วย แต่วา่ ไท่จื่อองค์น้ นั ที่สวีโย่วบอก เมื่อ
สิ บปี ก่อน ในราชสานักคล้ายเกิดเรื่ องอะไรขึ้น เฉิ งฮองเฮาเสี ยชีวิต
กะทันหัน ท่านไท่จื่อผูน้ ้ ีกถ็ ูกฝ่ าบาทกักขัง นับแต่น้ นั มาราชสานักก็
ไม่มีใครเอ่ยถึงเขาอีก เสิ่ นเวยเองก็รู้เพียงแค่วา่ มีไท่จื่อผูถ้ ูกถอดยศผู ้
นี้อยูก่ เ็ ท่านั้นเอง
“อืม” สวีโย่วพยักหน้า “เขาถูกฝ่ าบาทกักขังไว้ที่ตาหนักโยวหมิง วัน
คืนไม่ดียงิ่ นัก ร่ างซูบผอมจนกลายเป็ นหนังหุม้ กระดูกแล้ว”
แววตาเสิ่ นเวยมีความเห็นใจแวบผ่าน กักขังน่ะหรื อ วันคืนจะดีได้
อย่างไร จากสวรรค์ตกลงมาสู่ นรก ความแตกต่างนี้เป็ นสิ่ งที่คนไม่มี
ทางรับได้อย่างสิ้ นเชิง บวกกับการยกย่องและยา่ ยีของขันทีนาง
กานัลชั้นล่าง สามารถทนมาได้สิบปี ก็ไม่เลวแล้ว หากเป็ นคนใจแคบ
หน่อย อารมณ์ร้อนหน่อย ก็คงจะทาตัวเองอัดอั้นตายไปนานแล้ว
“ท่านมีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างยิง่ กับท่านไท่จื่อผูน้ ้ ีหรื อ” เสิ่ นเวยค่อน
ข้างประหลาดใจจุดนี้ ต้องรู ้วา่ ตั้งแต่เล็กสวีโย่วก็ป่วยออดๆ แอดๆ
ออกจากเรื อนน้อยอย่างยิง่ โตขึ้นหน่อยก็ไปรักษาอาการบนเขา หนึ่ง
ปี ก็อยูใ่ นเมืองหลวงไม่กี่วนั ไม่มีเพื่อนไม่วา่ แม้แต่พี่นอ้ งในจวนยัง
เฉยชา จะไปสนิทกับท่านไท่จื่อผูน้ ้ ีได้อย่างไร
นิ่งเงียบครู่ หนึ่งสวีโย่วจึงกล่าว “ตั้งแต่เล็กข้าก็สุขภาพไม่ดี ก่อนอายุ
ห้าปี แทบจะไม่ได้ออกจากเรื อน ดื่มยาทั้งวัน แต่คล้ายไม่มีผลลัพธ์
อะไร ข้าจาได้วา่ ฤดูหนาวปี ที่ขา้ อายุหา้ ปี ข้าป่ วยจนใกล้ตายแล้ว แต่
คนที่เสด็จปู่ เตรี ยมไว้ในจวนล้วนถูกหวังเฟยไล่ออกไป แม้แต่ยายหรู
ยังไม่อยูเ่ พราะเหตุน้ ี ข้ากลิ้งตกลงมาจากเตียง…ท้ายที่สุดท่านพี่
ไท่จื่อที่มาเล่นในจวนก็เกิดความสงสัยจึงวิ่งเข้ามาพบเข้า ข้าจึงรอด
ตาย และเป็ นเพราะท่านพี่ไท่จื่อฟ้องเรื่ องนี้ต่อฝ่ าบาท ฝ่ าบาททรง
พิโรธ ตาหนิเสด็จพ่อ จากนั้นจึงส่ งข้าขึ้นเขาไปรักษาตัว”
เสมือนกาลังย้อนความทรงจา หยุดครู่ หนึ่งสวีโย่วจึงกล่าวต่อ “ท่าน
พี่ไท่จื่อโตกว่าข้าสามปี อาจเพราะเห็นข้าน่าสงสาร ท่านพี่ไท่จื่อจึงดี
ต่อข้ายิง่ นัก ทุกปี ข้ากลับมาจากเขาเขาก็จะวิ่งมาหาข้า เล่าเรื่ องในวัง
ให้ขา้ ฟัง ซ้ ายังนาบาเหน็จจานวนมากที่เขาได้มาให้ขา้ ”
เสิ่ นเวยพยักหน้าอย่างเข้าใจ เด็กที่ไร้ที่พ่ งึ พิงโดดเดี่ยวเดียวดายคน
หนึ่ง มีคนใส่ ใจดูแลเขาเช่นนี้ เป็ นดัง่ ดวงอาทิตย์หนึ่งดวงที่อบอุ่น
ที่สุดในใจเขาไม่ใช่หรื อ ที่แท้แล้วตอนยังเด็กสวีโย่วก็มี
ประสบการณ์เช่นนี้ น่าสงสารจริ งๆ! มิน่าเล่าเขาถึงไม่มีความผูกพัน
ใดๆ กับคนในจวนจิ้นอ๋ อง เสิ่ นเวยแขวะท่านจิ้นอ๋ องพ่อที่ไม่ได้เรื่ อง
ผูน้ ้ ีในใจอีกครั้ง พระชายาเป็ นแม่เลี้ยง แต่จวิน้ อ๋ องเป็ นถึงพ่อแท้ๆ!
เมินเฉยลูกชายเช่นนี้ได้ พอแล้วจริ งๆ!
“เช่นนั้นสิ บปี ก่อนเกิดเรื่ องอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดฝ่ าบาทถึงกักขัง
ท่านไท่จื่อเล่า” เสิ่ นเวยเอ่ยความสงสัยในใจตนออกมา ว่ากันตาม
เหตุผล ถอดยศไท่จื่อถือเป็ นเรื่ องใหญ่ โดยเฉพาะตอนนี้ท่านไท่จื่อผู ้
นี้กอ็ ายุสิบห้าปี แล้ว ศึกษารับราชการแล้ว อีกทั้งยังไม่เคยได้ยนิ ว่ามี
การกระทาที่ขาดคุณธรรมใดๆ เหตุใดถึงถอดยศง่ายๆ เล่า แล้วเฉิ ง
ฮองเฮาผูน้ ้ นั เสี ยชีวิตกะทันหันจริ งๆ หรื อ เหตุใดทุกคนถึงเลี่ยงที่จะ
พูดเรื่ องเหล่านี้เล่า
คาถามเหล่านี้วกวนอยูใ่ นหัวใจเสิ่ นเวย ทาให้นางไม่เข้าใจอย่าง
สิ้ นเชิง
ความนิ่งเงียบเข้าปกคลุมครู่ ใหญ่อีกครั้ง สวีโย่วกล่าว “ราชวงศ์น้ ีมี
อ๋ องเคียงบ่าผูห้ นึ่งเจ้ารู ้ใช่หรื อไม่”
เสิ่ นเวยพยักหน้า “ใช่อ๋องเคียงบ่าเฉิงอี้ที่ทรยศราชวงศ์นาทหาร
ออกไปหรื อไม่ เรื่ องนี้ขา้ ทราบ เหตุผลที่พวกเราเลื่อนฤกษ์แต่งงาน
ออกไปก็เพราะท่านไปสื บเรื่ องอ๋ องเคียงบ่าผูน้ ้ ีไม่ใช่หรื อ หรื อว่า
เรื่ องเมื่อสิ บปี ก่อนเกี่ยวพันกับอ๋ องเคียงบ่าผูน้ ้ ีดว้ ย” อ๋ องเคียงบ่านาม
ว่าเฉิงอี้ เฉิงฮองเฮาก็แซ่เฉิง หรื อว่า? เสิ่ นเวยเบิกตาโตมองสวีโย่ว
สบสายตาของเสิ่ นเวย สวีโย่วก็พยักหน้า “ถูกต้อง เฉิ งฮองเฮาคือ
บุตรสาวบุญธรรมของอ๋ องเคียงบ่าเฉิ งอวี้”
เสิ่ นเวยได้ยนิ ดังนั้น คิว้ ก็ขมวด “เพราะเหตุน้ ีหรื อ จิตใจของฝ่ าบาท
น่าจะไม่แคบขนาดนั้นกระมัง ไม่ใช่สิ เฉิงอี้ก่อกบฏต่อราชวงศ์ก่อน
หน้านั้นอีกไม่ใช่หรื อ ฝ่ าบาทยังพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เฉิ ง
ฮองเฮาที่มีความสัมพันธ์กบั อ๋ องเคียงบ่าและไท่จื่อบุตรของนาง
ไม่ใช่หรื อ เหตุใดหลายปี ให้หลังถึงได้ร้ื อบัญชีเก่าเล่า หรื อว่าตอน
นั้นล้วนทาเพื่อตั้งเป็ นอนุสรณ์ให้คนอื่นดู เช่นนั้นฝ่ าบาทก็ไม่เอา
ถ่านเกินไปแล้ว!” สละภรรยาคนแรกกับบุตรคนโตของตนเพื่อราช
สานัก เสิ่ นเวยไม่ชอบคนประเภทนี้ที่สุดเลย ถึงว่าท่านจิ้นอ๋ องเป็ น
พ่อไม่ได้เรื่ อง ที่แท้แล้วฝ่ าบาทก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาเลย สมกับที่เป็ นพี่
น้องท้องเดียวกันจริ งๆ
เห็นความเหยียดหยามที่ไม่มีการปกปิ ดบนใบหน้าเสิ่ นเวย มุมปาก
ของสวีโย่วก็กระตุก มีเพียงน้องสี่ ของเขาที่กล้าพูดว่าฝ่ าบาทไม่เอา
ถ่านอย่างมัน่ อกมัน่ ใจเช่นนี้
“ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด” สวีโย่วกล่าว “ฝ่ าบาทกับเฉิ งฮองเฮา
แต่งงานกันตั้งแต่ยงั อายุนอ้ ย ความผูกพันลึกซึ้งมากเป็ นพิเศษ แม้วา่
อ๋ องเคียงบ่าจะก่อกบฏต่อราชวงศ์ หลังจากฝ่ าบาทขึ้นครองบัลลังก์
แล้วก็ยงั แบกความกดดันพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ภรรยาและบุตร
คนโตเป็ นฮองเฮาและไท่จื่อ สิ บปี ก่อน ในราชสานักเกิดเรื่ องขึ้น
จานซื่อจวนจานซื่อตาหนักบูรพาเปิ ดโปงต่อราชสานักว่าท่านพี่
ไท่จื่อสมรู ้ร่วมคิดกับเฉิงอี้ พยายามยึดอานาจชิงบัลลังก์ ทั้งยังถวาย
จดหมายที่ติดต่อกันระหว่างท่านพี่ไท่จื่อและเฉิ งอี้ ลายมือนั้นคาดไม่
ถึงว่าเป็ นของจริ ง ท่านพี่ไท่จื่อหมดหนทางแก้ตวั ฝ่ าบาททรงพิโรธ
ขุนนางในราชสานักตกตะลึง ท่านพี่ไท่จื่อกับเฉิ งฮองเฮาต่างก็ถูกกัก
บริ เวณ เฉิงฮองเฮาฆ่าตัวตายเพื่อที่จะขอให้ฝ่าบาทไว้ชีวิตไท่จื่อ”
“จานซื่อจวนจานซื่อผูน้ ้ นั เล่า” เสิ่ นเวยใช้เวลาไม่นานก็หาจุดสาคัญ
ได้
สวีโย่วกล่าว “ตายแล้ว ชนเสาตายในพระตาหนักจินหลวน ณ ตอน
นั้น”
“วิธีน้ ีไม่ได้เหนือชั้นเลยจริ งๆ” แต่มีประโยชน์อย่างถึงที่สุด บน
ใบหน้าของเสิ่ นเวยปรากฎความเหยียดหยัน “ท่านพี่ไท่จื่อของท่าน
ถูกใส่ ร้ายสิ นะ”
“เจ้ารู ้ได้อย่างไร” สวีโย่วตกตะลึง “ตอนที่เรื่ องเกิดข้าอายุเพียงสิ บ
สองปี ซ้ ายังไม่อยูใ่ นเมืองหลวง กว่าข้าจะกลับมาจากเขาใช้วิธี
ทั้งหมดที่มีจึงได้พบหน้าท่านพี่ไท่จื่อ เขาก็บอกว่าเขาไม่เคยติดต่อ
กับอ๋ องเคียงบ่าเลยแม้แต่ครั้งเดียว ยิง่ ไม่เคยเขียนจดหมายเหล่านั้น
ส่ วนข้าก็เชื่อว่าท่านพี่ไท่จื่อถูกใส่ ร้าย แต่ขา้ เชื่อแล้วจะมีประโยชน์
อันใด เหล่าขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ไม่เชื่อ ฝ่ าบาทไม่เชื่อ”
“ใครบอกว่าฝ่ าบาทไม่เชื่อ” เสิ่ นเวยกลอกตา กล่าว “หากเขาไม่เชื่อ
ท่านพี่ไท่จื่อของท่านคงไม่ถูกกักขัง แต่คงจะถูกลดขั้นเป็ นสามัญชน
เนรเทศออกไปแล้ว เขาอาจจะไม่เชื่อตั้งแต่แรก แต่กไ็ ม่ใช่วา่ เขาไม่มี
สมอง หลังเรื่ องเกิดจะไม่สงสัยได้อย่างไร ต่อให้จะไม่ได้เชื่อ
ทั้งหมด แต่กค็ งมีสกั สี่ หา้ ส่ วนกระมัง” เสิ่ นเวยวิเคราะห์
“เหตุใดเล่า” สวีโย่วถาม “อีกทั้งเจ้ารู ้ได้อย่างไรว่าท่านพี่ไท่จื่อถูกใส่
ร้าย” แม้แต่ราชครู ที่เคยสอนไท่จื่อยังไม่กล้าพูดแทนท่านพี่ไท่จื่อเลย
เหตุใดน้องสี่ ที่ไม่เคบพบหน้าท่านพีไ่ ท่จื่อถึงเชื่อว่าเขาถูกใส่ ร้ายเล่า
“นี่กเ็ ห็นกันอยูช่ ดั ๆ ไม่ใช่หรื อ ท่านพี่ไท่จื่อของท่านเป็ นไท่จื่อแล้ว
ขอเพียงแต่อดทนรอต่อไป ไม่เกิดความผิดพลาดใหญ่หลวง ไม่ชา้ ไม่
เร็ วบัลลังก์กต็ อ้ งเป็ นของเขา เขาจะรวมหัวก่อกบฏชิงบัลลังก์ทาไม
อีกทั้งท่านเองก็บอกว่า อ๋ องเคียงบ่าผูน้ ้ นั เป็ นเพียงพ่อบุญธรรมของ
เฉิงฮองเฮา ไม่ใช่พอ่ แท้ๆ ตอนที่ท่านพี่ไท่จื่อของท่านยังเล็กมากๆ ก็
หนีไปแล้ว ท่านพี่ไท่จื่อของท่านน้ าเขาสมองถึงจะร่ วมมือกับคนที่
ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดทั้งยังไม่มีความผูกพันใดๆ เช่นนี้”
เสิ่ นเวยชายตามองสวีโย่ว
“ตอนนั้นท่านพี่ไท่จื่อของท่านอายุเท่าไรแล้ว สิ บห้าแล้วใช่หรื อไม่
เพิ่งจะแต่งงาน หากเขาอายุสิบสาม สิ บสี่ ปียังมีความเป็ นไปได้ที่จะ
ร้อนใจจึงเลือกก่อกบฏชิงบัลลังก์ สิ บห้าปี ฮ่าๆ มือใหม่ที่เพิง่ จะก้าว
เท้าเข้าราชสานัก กาลังถกแขนเสื้ อเตรี ยมจะสร้างภาพลักษณ์ดีๆ ให้
ฝ่ าบาทเห็นความสามารถของเขา เขาจะคิดก่อกบฏหรื อ…
…ยังมีจานซื่อผูน้ ้ นั เหตุใดเขาถึงตายแล้วเล่า ไม่ใช่ตายแล้วไม่อาจ
ให้การได้หรอกหรื อ ใครจะรู ้วา่ คาพูดของเขาเป็ นจริ งหรื อเป็ นเท็จ
คนผูน้ ้ ีเกรงว่าจะเป็ นม้ามืดของใครกระมัง อย่างไรเสี ยเขาก็เป็ นจาน
ซื่อตาหนักบูรพา ชีวิตครอบครัวล้วนผูกอยูก่ บั ตัวไท่จื่อ ไท่จื่อขึ้น
ครองบัลลังก์แล้วจะขาดชื่อเสี ยงเงินทองของเขาได้อย่างไร แต่เขา
ดันก้าวออกมาเปิ ดโปงว่าไท่จื่อก่อกบฏกับผูอ้ ื่น คนผูน้ ้ ีไม่มีสมอง
หรื อไร ต่อให้ไท่จื่อสมคบคิดกับผูอ้ ื่นจริ งๆ การตอบสนอง
โดยทัว่ ไปของผูท้ ี่เป็ นจานซื่อตาหนักบูรพาเช่นเขาไม่ช่วยปกปิ ด ก็
ควรออกห่างไท่จื่อช้าๆ เขากลับไม่ทา ไม่เพียงแต่เปิ ดโปงออกมาต่อ
หน้าขุนนางทั้งหมด ซ้ ายังชนเสาฆ่าตัวตาย หากไม่ได้รับคาสัง่
มาแล้วจะเป็ นอะไร”
สี หน้าบนใบหน้าของเสิ่ นเวยสดใสเป็ นอย่างยิง่ ! “จุ๊ๆๆ จานซื่อผูน้ ้ นั
ติดตามอยูข่ า้ งกายท่านพี่ไท่จื่อท่านมานานมาก คงเป็ นคนที่เขาไว้ใจ
ยิง่ นักใช่หรื อไม่ มิเช่นนั้นสิ่ งที่เขาพูดใครจะเชื่อเล่า ดังนั้นจึงเห็นได้
ว่าแผนการที่พงุ่ เป้าไปยังท่านพี่ไท่จื่อของท่านวางมาหลายปี แล้ว
เกรงว่าคงเริ่ มตั้งแต่อ๋องเคียงบ่าก่อกบฏต่อราชวงศ์กระมัง จุๆ
แผนการที่นานถึงเพียงนี้ ท่านพี่ไท่จื่อของท่านจะแพ้กไ็ ม่
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 247-2 เรื่ องในปี นั้น
เห็นสี หน้าของสวีโย่วไม่ดีเล็กน้อย เสิ่ นเวยจึงกล่าวต่อ “ฝ่ าบาท
อาจจะสังเกตอะไรได้หลังจากเรื่ องเกิด ดังนั้นเขาเพียงแค่
กักขังไท่จื่อ ไม่ได้ตดั สิ นโทษ ถอดยศไท่จื่อของเขาก็เพียงเพราะ
ต้องการปกป้องเขาก็เท่านั้นเอง”
สี หน้าของสวีโย่วดีข้ ึนเล็กน้อย ทันใดนั้นเขามองเสิ่ นเวยด้วยดวงตา
เป็ นประกาย ถอนหายใจกล่าว “เวยเวยเจ้าฉลาดจริ งๆ” ให้นาง
วิเคราะห์เช่นนี้ คดีก่อกบฏของท่านพีไ่ ท่จื่อปี นั้นก็เต็มไปด้วยช่อง
โหว่ทนั ที
เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะหนึ่งครา “คนนอกเห็นชัดรู ้หรื อไม่ อีกอย่าง ข้า
ไม่เชื่อว่าในกลุ่มขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ท้ งั ราชสานักจะไม่สงสัยเลย เพียง
แค่ดูท่าทีของฝ่ าบาทก็เท่านั้นเอง ฝ่ าบาทเชื่อทั้งหมดเลยหรื อ ก็ไม่แน่
เพียงเพราะว่าหลักฐานมัดตัว จาใจต้องรับผิดชอบต่อเหล่าขุนนางใน
ราชสานักก็เท่านั้นเอง เห็นแล้วหรื อยัง แม้วา่ วิธีการจะหยาบ แต่ใช้
ได้ผลก็พอแล้ว หรื อว่าหลังเรื่ องจบท่านไม่เคยตรวจสอบเลยหรื อ
จานซื่อผูน้ ้ นั ไม่มีครอบครัว หรื อว่าครอบครัวสู ญหายไปก่อนแล้ว”
สวีโย่วลูบจมุก กล่าวอย่างไม่สบายใจ “เป็ นเช่นนี้จริ งๆ นัน่ เป็ นครั้ง
แรกที่ขา้ ใช้กาลังทหารมังกร ภายในครึ่ งเดือนครอบครัวจานซื่อผูน้ ้ นั
ก็ไม่รู้วา่ หายไปไหนแล้ว”
เสิ่ นเวยยกยิม้ อย่างพอใจ วางท่าทางว่าดูสิ ข้าพูดไม่ผดิ ใช่หรื อไม่
“จดหมายเหล่านั้นน่าจะเป็ นของปลอมทั้งหมด เอาลายมือของไท่จื่อ
กับอ๋ องเคียงบ่ามา หาคนปลอมก็ง่ายดายไม่ใช่หรื อ” คนอื่นไม่รู้ แต่
นางกลับทาได้ อ้อยังมี อาจารย์ซูของนางทางานนี้ได้ช่าชองยิง่ กว่า
ดวงตาของสวีโย่วก็ยงิ่ เป็ นประกาย มองเสิ่ นเวยอย่างแรงกล้ายิง่ ขึ้น
นี่ทาให้เสิ่ นเวยอดระวังตัวขึ้นมาไม่ได้ “ทาไมถึงมองข้าอย่างนั้น น่า
ขนลุก!”
สวีโย่วยิม้ เอาใจ กระซิบเสี ยงเบาข้างหูเสิ่ นเวยหลายประโยค กล่าว
ร้องขอ “เวยเวยคนดี เจ้าฉลาดมากความสามารถเพียงนี้ ก็ช่วยข้า
หน่อยเถิด” มือใหญ่บีบไหล่ของเสิ่ นอย่างกระตือรื อร้น
“ท่านหาเรื่ องมาให้ขา้ เก่งจริ งๆ” เสิ่ นเวยถลึงตามองสวีโย่วอย่าง
อารมณ์ไม่ดีปราดหนึ่ง เพียงแค่ดูจากที่คนหลังม่านสามารถใช้
เวลานานเพียงนี้วางแผนเช่นนี้ได้ ก็รู้ถึงอานาจฝี มือของคนผูน้ ้ ีแล้ว
นางเผลอตัวเข้าไปมีส่วนร่ วมจะดีหรื อ
“เป็ นคนเก่งก็เหนื่อยหน่อย ใครให้ขา้ มีฮูหยินที่เก่งกาจเล่า แต่เจ้า
บอกไว้วา่ ข้าเพียงแค่รับผิดชอบหน้าตาดี เจ้ารับผิดชอบหาเลี้ยง
ครอบครัว” สวีโย่วคนหน้าไม่อายผูน้ ้ ีคาดไม่ถึงว่าแม้แต่ประโยคนี้ก็
ยกมาอ้างได้ จุๆ ควรจะให้ท่านพี่ไท่จื่อในตาหนักโยวหมิงมาดูฝีปาก
ที่น่าไม่อายของน้องชายเขาจริ งๆ
เสิ่ นเวยอยากตบหน้าใบนี้ตรงหน้าออกไปเสี ยจริ งๆ นี่มนั คนเสเพล
ไม่รู้จกั ทามาหากิน ก่อนแต่งนางยังถูกทาให้ซาบซึ้งจะเป็ นจะตายอยู่
เลย
คิดครู่ หนึ่ง เสิ่ นเวยจึงกล่าวอย่างสุ ดความสามารถ “เอาเถอะ ข้าจะคิด
หาวิธี เฮ้อ ใครให้ขา้ ชอบหน้าใบนี้ของท่านเล่า” นางบีบหน้าสวีโย่
วอย่างเคืองแค้น
อันที่จริ งเสิ่ นเวยไม่ได้ไม่ยนิ ยอมเหมือนอย่างที่นางแสดงออกมา ชัว่
พริ บตานางก็คิดไปมากอย่างยิง่ ตอนที่ฮ่องเต้ยงเซวียนครองบัลลังก์
สวีโย่วได้รับความโปรดปรานมากล้น ชีวิตของพวกเขาก็สบายยิง่ นัก
หลังฮ่องเต้ยงเซวียน หากไท่สื่อองค์ปัจจุบนั สื บทอดบัลลังก์ พวกเขา
ก็น่าจะยังเป็ นอิสระได้ แต่วา่ นางจับจ้องอยูเ่ งียบๆ ไท่จื่อองค์ปัจจุบนั
ไม่ค่อยเก่งเท่าองค์ชายรอง องค์ชายรองสื บทอดบัลลังก์ ไม่วา่
อย่างไรเสิ่ นเวยก็ไม่อยากเห็น
องค์ชายรองเป็ นคนถ่อมตัวอย่างยิง่ แต่เสิ่ นเวยรังเกียจคนข้างกายเขา
อย่างถึงที่สุด ท่านเสนาบดีฉินก็ผกู พยาบาทมานานแล้ว จางจ่างสื่ อผู ้
นั้น นางก็ไม่รู้สึกดีดว้ ย ส่ วนซูเฟยเหนียงเหนียง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ
ก็เยาะเย้ยเหยียดหยามนาง ไม่ตอ้ งพูดถึงเลย
หากให้องค์ชายรองขึ้นครองบัลลังก์ จวนเสนาบดีฉินก็จะเป็ นบ้าน
ฝั่งมารดาของฮ่องเต้ ซูเฟยก็จะกลายเป็ นไทเฮา จางจ่างสื่ อก็พลอยได้
ดีไปด้วย เพียงแค่ซูเฟยคนเดียวก็สามารถทาให้ชีวิตของนางลาบาก
ได้แล้ว
ดังนั้นเพื่อให้ชีวิตหลังจากนี้ของนางดี องค์ชายรองอย่าได้ข้ ึนครอง
บัลลังก์เสี ยเลยดีกว่า องค์ชายที่บรรลุนิติภาวะทั้งราชสานักปั ดไปปั ด
มา ก็เหลือเพียงไท่จื่อผูถ้ ูกถอดยศผูน้ ้ นั ในตาหนักโยวหมิง มี
ความสัมพันธ์อนั ดีกบั สวีโย่วพอดี อืม หากต้องเลือกฝั่งจริ งๆ
เช่นนั้นเป็ นเขาก็ดี
อ้อ จริ งสิ ยังมีอีกหนึ่งคน นอกจากไท่จื่อผูถ้ ูกถอดยศสวีเช่อแล้ว ยังมี
องค์ชายสามสวีเฉิง แต่วา่ องค์ชายสามเกิดมาขาก็พิการ เดินเป๋
เล็กน้อย ไม่มีคุณสมบัติในการชิงบัลลังก์
ทั้งสองคุยเรื่ องไท่จื่อผูถ้ ูกถอดยศเสร็ จแล้ว สวีโย่วก็เห็นหนังสื อที่ถูก
เสิ่ นเวยวางลงบนโต๊ะก่อนหน้านี้ หยิบขึ้นมาเปิ ดดูดว้ ยความสงสัย
“เจ้าอ่านพวกนี้ทาไม” นี่ไม่ใช่หนังสื ออะไร แต่เป็ นการแนะนา
ความสัมพันธ์ของจวนแต่ละจวนในเมืองหลวง
“ท่านคิดว่าข้าอยากอ่านหรื อ” เสิ่ นเวยแสยะปาก “แม่นมมัว่ เตือนข้า
พวกเราย้ายเข้ามาไม่ใช่หรื อ พิธีข้ ึนบ้านใหม่ไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งจัด
งานเลี้ยงฉลองสักหน่อยไม่ใช่หรื อ คนอื่นมาไม่มาข้าไม่รู้ อย่างไร
เสี ยบ้านฝั่งมารดากับบ้านท่านตาข้าก็ตอ้ งมาเยีย่ ม”
สวีโย่วเพิง่ จะนึกถึงเรื่ องนี้ได้ กล่าวอย่างไม่สนใจ “จัดงานเลี้ยง
เหนื่อยยิง่ นัก ไม่ตอ้ งจัดหรอก” อย่างไรเสี ยเขาก็ไม่ได้คบค้าสมาคม
กับตระกูลต่างๆ ในเมืองหลวงอยูแ่ ล้ว
เสิ่ นเวยปรายตามองสวีโย่วปราดหนึ่ง โห คนผูน้ ้ ีปล่อยวางยิง่ กว่า
นางเสี ยอีก! แต่มนุษย์เกิดมาบนโลก พึ่งพาตัวเองเกินไปก็ไม่ดีนกั
“เหลวไหล เราสองคนคนหนึ่งเป็ นจวิน้ อ๋ อง คนหนึ่งเป็ นจวิน้ จู่ ซ้ ายัง
ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้อย่างยิง่ ต้องให้โอกาสทุกคน
ประจบประแจงมอบของขวัญบ้างมิใช่หรื อ กฎระเบียบบางอย่างก็ยงั
ต้องปฏิบตั ิ อีกอย่าง ท่านอยากพาท่านพี่ไท่จื่อของท่านออกมาไม่ใช่
หรื อ ท่านไม่ผกู มิตรเชื่อมความสัมพันธ์กบั เหล่าขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ไว้
ใครจะช่วยท่านพูดเล่า”
เมื่อสวีโย่วได้ยนิ เสิ่ นเวยพูดเช่นนี้ ก็เห็นด้วยทันที “ได้ พวกเราจัด
งานเลี้ยงเถอะ เจ้าเองก็อย่ามองเป็ นเรื่ องสนุก อย่างไรเสี ยคนที่มา
ส่ วนใหญ่กต็ อ้ งเคารพเจ้า ในราชวงศ์ที่มาน่าจะมีศกั ดิ์เท่ากัน ไม่
น่าจะมีใครทาให้เจ้าลาบากใจ เตรี ยมงานเลี้ยงเจ้าก็ไม่ตอ้ งเป็ นกังวล
ให้แม่นมมัว่ จัดการก็ได้แล้ว อืม เชิญเสิ่ นซื่อท่านป้าสะใภ้ใหญ่ของ
เจ้ามาช่วยด้วยก็ได้” น้องสี่ ของเขาเก่งบุ๋นสร้างความสงบสุ ขให้ชาติ
ได้ เก่งบู๊สร้างความมัน่ คงให้แคว้นได้ ไยจะต้องยุง่ เรื่ องเล็กน้อยของ
เรื อนในด้วยเล่า
เสิ่ นเวยพยักหน้า กล่าวเสริ ม “เชิญน้องสะใภ้รองมาช่วยด้วย”
“เชิญนางมาทาไม” สวีโย่วไม่พอใจเล็กน้อย ย้ายออกจากจวนจิ้
นอ๋ องแล้ว เขาอยากจะตัดขาดความสัมพันธ์กบั ฝั่งนัน่ ได้อย่างยิง่
ไหนเลยจะยอมเชิญน้องสะใภ้รองมาช่วยจัดการงานเลี้ยง
เสิ่ นเวยเข้าใจความคิดของสวีโย่วเป็ นอย่างดี รู ้วา่ เขาไม่ชอบคนฝั่ง
นั้น จึงยักไหล่กล่าวสัง่ สอน “ท่านโง่แล้วหรื อ! กับฝั่งนั้นเป็ นเช่นไร
พวกเรารู ้ดีแก่ใจก็พอแล้ว ภายนอกยังต้องรักษาหน้าไว้บา้ ง พวกเรา
จัดงานเลี้ยง เชิญเพียงแต่คนฝั่งข้ามาช่วย แต่ไม่เชิญคนฝั่งท่านมาช่วย
ท่านจะให้คนข้างนอกมองพวกเราอย่างไร ท่านกาลังแสดงจุดอ่อน
ให้แม่เลี้ยงท่านเห็น อีกอย่าง แม้พอ่ ท่านจะไม่เอาไหน แต่อย่างไร
เสี ยเขาก็เป็ นน้องชายแท้ๆ ของฝ่ าบาท มีจวนจิ้นอ๋ องค้ าอยูต่ รงนั้น
พวกเราที่เป็ นชนรุ่ นหลังก็สามารถพึ่งพาได้ มีผลประโยชน์แต่ไม่เอา
ท่านโง่แล้วหรื อ”
สวีโย่วถูกเสิ่ นเวยสัง่ สอนจนหน้าเหยเก กล่าว “เอาตามที่เวยเวยว่า
ทั้งหมด”
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหนึ่งครา ซุกเข้าไปในอ้อมอกของสวีโย่วอีกครั้ง
ด้วยความพอใจอย่างถึงที่สุด
คดีของฉินมู่หรานยังคงคืบหน้าด้วยความลาบาก หลังจากที่เด็กรับ
ใช้เอ้อร์หนิวจื่อทรยศ เขาก็ตายอยูใ่ นคุกอย่างกะทันหัน ริ มฝี ปากสี
ม่วงดา มือทั้งคู่กาคอตัวเองแน่น มองดูกร็ ู ้วา่ ถูกพิษตาย
จ้าวเฉิงซวี่โมโหเดือดดาล ปากพึมพาว่ากลัน่ แกล้งเกินไปแล้ว กลัน่
แกล้งเกินไปแล้ว รู ้ท้ งั รู ้วา่ นี่คือฝี มือของจวนเสนาบดีฉิน ต้องการจะ
แสดงอานาจให้เขาเห็น แต่เขากลับไม่มีหนทางเลยแม้แต่นิดเดียว
วันนี้ ท่านเสนาบดีฉินลดตัวลงมาเยือนถึงศาลต้าหลี่ เขาเอามือไพล่
หลังเดินเข้าไปอย่างสบายอกสบายใจ ไปยังสถานที่ทางานของจ้าว
เฉิงซวี่โดยตรง
จ้าวเฉิงซวี่ลุกขึ้นยืน กล่าวด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย “แขกพิเศษจริ งๆ ลม
หอบไหนพัดท่านเสนาบดีฉินมาเล่า”
ท่านเสนาบดีฉินประสานมือ “ข้าอยากมาถามใต้เท้าจ้าวว่าจะปล่อย
ตัวบุตรข้ากลับบ้านเมื่อไร นายหญิงในบ้านคิดถึงหลานยิง่ นัก ร่ าไห้
ทั้งวัน ข้าผูเ้ ป็ นบุตร ละอายใจจริ งๆ! เฮ้อ ใต้เท้าจ้าวได้โปรดเข้าใจ
ด้วยเถิด”
“ขออภัย” จ้าวเฉิงซวี่ยงั คงมีสีหน้าเรี ยบเฉย “แม้พยานจะถูกพิษฆ่า
ตาย แต่คุณชายของท่านก็ยงั คงตกเป็ นที่ตอ้ งสงสัยอย่างหนีไม่พน้
คดีตดั สิ นไม่ได้ เกรงว่าคุณชายของท่านจะกลับบ้านไม่ได้ ท่าน
เสนาบดีฉินเป็ นขุนนางคนสาคัญของราชสานัก คงจะต้องเข้า
ใจความลาบากใจของข้าน้อยใช่หรื อไม่”
“ไม่ได้จริ งๆ หรื อ” ท่านเสนาบดีฉินมองจ้าวเฉิงซวี่ตรงๆ
“ไม่ได้จริ งๆ” จ้าวเฉิงซวี่เองก็สบสายตาของเขาอย่างไร้กงั วล ไม่
หวาดกลัวทั้งสิ้ น
“ดี เช่นนั้นข้าจะรอ” ท่านเสนาบดีฉินหันหลังกลับจากไป ทิ้งจ้าวเฉิ ง
ซวี่อยูก่ บั ความกลุม้ ใจอย่างยิง่
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 248-1 เลีย้ งแขก
คนที่มางานเลี้ยงของจวนผิงจวิน้ อ๋ องย่อมเยอะอย่างถึงที่สุด มีราชนิ
กุล มีขนุ นางผูส้ ร้างคุณูปการ และยังมีขนุ นางชั้นผูใ้ หญ่ในราชสานัก
ที่เยอะยิง่ กว่าคือขุนนางบุ๋นบู๊ระดับล่าง ถนนสายนี้ที่ต้ งั จวนผิงจวิน้
อ๋ องชัว่ ขณะก็เบียดเสี ยด ปิ ดถนนจนไม่อาจเคลื่อนตัว คนจานวน
มากยังห่างอยูอ่ ีกไกลก็ลงจากรถลงจากเกี้ยวลงจากม้า สัง่ ให้
ผูต้ ิดตามขับรถและม้ากลับไป ตนเดินเท้าเข้าไปเอง
แรกเริ่ มเสิ่ นเวยยังไม่คิดว่าคนจะเยอะเพียงนี้ ใคร่ ครวญเล็กน้อยก็
เข้าใจแล้ว สวีโย่วเป็ นหลานชายแท้ๆ ของฝ่ าบาท อีกทั้งยังได้รับ
ความโปรดปรานอย่างยิง่ เหล่าราชนิกลุ ต้องไว้หน้าเขาหน่อยมิใช่
หรื อ ตัวนางเองก็มีฐานะเดิมจากจวนจงอู่โหว ไม่ตอ้ งพูดถึง
บรรดาศักดิ์จวิน้ จู่ของนาง เพียงแค่ปู่นาง ขุนนางผูส้ ร้างคุณูปการ
และขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ในราชสานักก็ตอ้ งมาแล้ว และไม่ใช่วา่ จะได้
ผลประโยชน์อะไร แต่คนอื่นมาแล้วเจ้าก็ไม่อาจไม่ตอบแทนได้ นัน่
ไม่ใช่เป็ นการผิดใจคนหรอกหรื อ
สาหรับความคิดของขุนนางบุ๋นบู๊ระดับล่างเหล่านั้นก็เดาง่ายอย่างยิง่
ปกติกถ็ วายของขวัญอยากประจบประแจงผิงจวิน้ อ๋ องแต่เข้าประตู
ใหญ่ไม่ได้ นี่เป็ นโอกาสดียงิ่ นัก! แม้วา่ จะไปปรากฎตัวตรงหน้าผิง
จวิน้ อ๋ องกับจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ไม่ได้ อย่างไรเสี ยก็ยงั ได้พดู คุยสนทนากับ
ขุนนางคนอื่นๆ!
แขกผูช้ ายกับญาติผหู ้ ญิงแยกกันต้อนรับ ฝั่งแขกผูช้ ายมีอาจารย์ซู
กับเจี่ยงปั๋ วจัดการ ฝั่งญาติผหู ้ ญิงเพราะว่ามีป้าสะใภ้ใหญ่สวี่ซื่อผูม้ าก
ความสามารถและอู๋ซื่อซื่อจื่อฮูหยินจวนจิ้นอ๋ องช่วยเหลือ ทั้งหมดจึง
จัดการได้อย่างเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย ไม่ทาให้เสิ่ นเวยทุกข์ใจเลย
แม้แต่นิดเดียว นางเองก็พดู คุยเป็ นเพื่อนผูอ้ าวุโสที่สูงกว่านางไม่กี่
คนก็พอแล้ว
กูไหน่ไนหลายคนของจวนจงอู่โหวก็มาด้วยเช่นกัน ในนั้นมีเสิ่ น
ซวงที่ต้ งั ท้องใหญ่ โหลวซื่อแม่สามีของนางจ้องมองไม่ให้คลาด
สายตา เสิ่ นเวยเข้าไปพยุงนางทันที ขมวดคิว้ อย่างไม่เห็นด้วยกล่าว
“พี่รอง ท่านท้องโตเช่นนี้แล้วไม่พกั ผ่อนอยูใ่ นบ้านดีๆ แต่กลับวิ่ง
ออกมาข้างนอกได้อย่างไร น้องจะตาหนิท่านได้หรื อ”
เสิ่ นซวงยิม้ “ไม่เป็ นไร ผ่านสามเดือนแรกแล้ว หมอสัง่ แล้วว่าต้อง
ขยับตัวให้มากหน่อยจึงจะดี งานมงคลในจวนน้องสี่ ข้าที่เป็ นพี่สาว
จะไม่มาอวยพรด้วยตัวเองได้อย่างไร”
เสิ่ นเวยมองท้องที่นูนขึ้นของนาง ในดวงตาแฝงความกังวล “พี่รอง
ท่านยังตั้งครรภ์ไม่ถึงสี่ เดือนไม่ใช่หรื อ เหตุใดถึงท้องโตเพียงนี้แล้ว
เล่า ท่านอย่าบารุ งจนเกินไป ถึงตอนนั้นจะคลอดยาก!” นี่เป็ นยุค
โบราณ ซ้ ายังไม่มีการผ่าท้องคลอด ทารกในครรภ์ตวั ใหญ่เกินไป
คลอดออกมาไม่ได้จะทาให้เกิดภาวะคลอดยากได้ง่ายอย่างยิง่ ทาให้
พรากทั้งสองชีวิตไป
เสิ่ นซวงได้ยนิ ดังนั้นก็เม้มปากยิม้ โหลวซื่อข้างๆ ก็มีท่าทางยิม้ แย้ม
เบิกบาน “เรี ยนให้จวิน้ จู่เหนียงเหนียงทราบ หมอหลวงในวังตรวจดู
แล้ว ท้องนี้ของซวงเอ๋ อร์เป็ นท้องแฝด”
“จริ งหรื อ เช่นนั้นก็ดีจริ งๆ!” เสิ่ นเวยดีใจ ทันใดนั้นสายตาที่มองเสิ่ น
ซวงก็ยงิ่ ไม่เห็นด้วย “ท้องแฝดแล้ว ก็ยงิ่ ต้องระมัดระวัง หากท่าน
อยากเจอข้า ก็สงั่ บ่าวมาบอกก็ได้ ข้าจะไปเยีย่ มท่านที่จวนเลขาธิการ
ทันที ท่านดูท่านสิ หากท่านป้าสะใภ้ใหญ่รู้จะต้องว่าท่านอีก
แน่นอน”
“ก็วา่ น่ะสิ ” สวี่ซื่อที่ได้ข่าวรี บตามมาใบหน้าดาคร่ าเครี ยด นิ้วมือจิ้ม
หน้าผากของเสิ่ นซวง “เจ้าเด็กแสบของข้า เจ้าให้ขา้ ทุกข์ใจน้อย
หน่อยไม่ได้หรื อ เจ้าเองก็ถูกแม่สามีเจ้าตามใจเจ้า! พี่สะใภ้ใหญ่ หาก
นางไม่เชื่อฟังเช่นนี้อีกท่านก็หยิกนางให้ขา้ ที” ทว่าในแววตากลับ
ปิ ดบังความเป็ นห่วงไว้ไม่อยู่
“ข้าทาไมลงน่ะสิ ” โหลวซื่อยิม้ อย่างสบายใจ ทว่าดวงตากลับไม่ห่าง
ตัวเสิ่ นซวง “นางยอมขยับร่ างกายก็เป็ นเรื่ องดี หมอหลวงบอกแล้ว
ว่า ตอนที่ต้ งั ท้องแฝดเดิมก็ลาบากเล็กน้อย นางขยับเขยื้อนตัวให้มาก
ร่ างกายแข็งแรง ถึงตอนนั้นก็จะคลอดง่าย แขนขาแก่ๆ ของข้าเองก็
ได้โอกาสขยับบ้าง ดูแลนางให้มากหน่อย” ดูออกว่านางชอบ
หลานสาวลูกสะใภ้ผนู ้ ้ ียงิ่ นัก”
“พี่สะใภ้ท่านตามใจนางไปเถอะ! ดูสิวา่ นางถูกตามใจจนเป็ นเช่นไร
แล้ว” ปากสวี่ซื่อกล่าวตาหนิ แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความสุ ข
“ลูกสะใภ้ขา้ ข้าไม่ตามใจนางแล้วจะไปตามใจใคร” โหลวซื่อตอบ
กลับอย่างมีเหตุมีผล
เสิ่ นเวยเห็นท่าทีกร็ ี บกล่าว “อย่ามัวยืนกันอยูเ่ ลย รี บเข้าไปเถอะ พี่
รองข้ายังตั้งท้องอยู่ หลีฮวา หลีฮวา เจ้านาท่านน้าสะใภ้ใหญ่กบั พี่
รองเข้าไป หาที่เงียบๆ หน่อย อย่าให้รบกวนพี่รองข้า”
หลีฮวาสับขาวิ่งเข้ามานาเสิ่ นซวงกับโหลวซื่อไปนัง่ สวีซื่อมองแผ่น
หลังบุตรสาวของตน ถอนหายใจยาวๆ เสิ่ นเวยกล่าวปลอบ “วางใจ
เถิดท่านป้าสะใภ้ใหญ่ ท่านน้าสะใภ้ใหญ่ดีต่อพี่รองไม่ใช่เรื่ องดี
หรอกหรื อ ท้องแฝดลาบากหน่อย แต่สุขภาพพี่รองก็ดีมาโดยตลอด
ถึงตอนนั้นเชิญหมอหลวงมาอยูด่ ูแลในจวน จะต้องคลอดได้อย่าง
ปลอดภัยแน่นอน”
“ขอให้เป็ นอย่างที่เวยเอ๋ อร์บอก” สวี่ซื่อยังคงเป็ นกังวลอย่างยิง่ ฝื น
ยิม้ เล็กน้อยแล้วกล่าว ชัว่ ชีวิตนี้ของนางมีบุตรสาวสองคน เสิ่ นอิ่
งแต่งงานออกไปไกล ต่อให้นางเป็ นกังวลก็ทาอะไรไม่ได้ ซวงเอ๋ อร์
อยูใ่ กล้ แต่นางก็ยงั คงทุกข์ใจไม่เลิก เฮ้อ บุตรสาวบุตรชายล้วนแต่
เป็ นหนี้!
“เวยเอ๋ อร์รีบเข้าไปพูดคุยกับฮูหยินอาวุโสทั้งหลายเถิด ข้างนอกมีป้า
ดูแลอยู”่ สวี่ซื่อเก็บความกังวลบนใบหน้ากล่าวกับเสิ่ นเวย
“เช่นนั้นก็ลาบากท่านป้าสะใภ้ใหญ่แล้ว” บนใบหน้าเสิ่ นเวยมีความ
ซาบซึ้ง ไม่ใช่วา่ นางดูแลไม่ได้ เพียงแต่ไม่ชอบเรื่ องจุกจิกเช่นนี้
จริ งๆ มีท่านป้าสะใภ้ใหญ่ช่วย นางก็เบาลงไปเยอะ
“ดูเจ้าพูดสิ เกรงใจป้าทาไมกัน!” สวี่ซื่อบ่นเสิ่ นเวยหนึ่งประโยค
จากนั้นก็ติดลมใต้เท้าไปยุง่ งานต่อแล้ว
ญาติผหู ้ ญิงอยูด่ ว้ ยกันจะคุยอะไรได้ นอกจากเรื่ องมโนสาเร่ กช็ ื่นชม
เสิ่ นเวย ตั้งแต่หน้าตาไปจนถึงนิสยั กระทัง่ ยังมีวาสนา คนหน้าหนา
เช่นเสิ่ นเวยยังรู ้สึกหน้าร้อนผ่าว ที่พดู นี่หมายถึงนางหรื อ เป็ น
พระพุทธเจ้าในวัดมากกว่ากระมัง! คนที่เอาแต่ใจถือหางให้ทา้ ย
พรรคพวกทั้งยังไม่ยอมเสี ยเปรี ยบเช่นนางจะมีความเกี่ยวข้องกับ
สตรี ดีมีคุณธรรมได้อย่างไร ตาของทุกคนบอดแล้วใช่หรื อไม่
ที่นงั่ อยูย่ งั มีสองคนที่รู้สึกว่าตาของทุกคนบอดด้วยเช่นกัน คนหนึ่ง
คือฉินอิงอิง คนหนึ่งคือเสิ่ นเสวี่ย
นายหญิงผูเ้ ฒ่าฉินกับต่งซื่อฮูหยินเสนาบดีจวนเสนาบดีฉินไม่มี
ความรู ้สึกดีต่อเสิ่ นเวยเลยแม้แต่นิดเดียว กระทัง่ พูดได้วา่ เกลียดเข้า
กระดูกดา แต่อย่างไรเสี ยก็ไม่ได้ฉีกหน้าอย่างเป็ นทางการ จึงทาได้
เพียงปิ ดจมูกเอา
ฉินอิงอิงก็ยงิ่ ขัดแย้ง นางไม่อยากมาอวยพรที่จวนเลยแม้แต่นอ้ ย
อดทนเถียงแม่นางไม่ได้ มารดาตระกูลฉิ นพูดเช่นนี้ ‘เจ้าต้องแต่งเข้า
จวนจิ้นอ๋ อง ไม่วา่ อย่างไรนัน่ ก็คือว่าพี่ใหญ่ของสามีกบั พี่สะใภ้ใหญ่
ของเจ้า เป็ นคนตระกูลเดียวกัน งานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของพวกเขาเจ้า
ไปอวยพรถึงที่ คนนอกเห็นแล้วก็มีแต่จะพูดว่าเจ้ารู ้ประสา’ ส่ วน
การทะเลาะของลูกสาวกับจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ผนู ้ ้ นั นางไม่สนใจอย่าง
สิ้ นเชิง
ฉิงอิงอิงมองทุกคนยกยอเสิ่ นเวยด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย ในใจเหยียด
หยามอย่างยิง่ สตรี ดีมีคุณธรรมอะไร ฉลาดอ่อนโยนอะไร ก็แค่หญิง
ชัว่ ที่เติบโตในชนบทก็เท่านั้นเอง
มารดาตระกูลฉินที่อยูข่ า้ งๆ เห็นท่าที ก็รีบดึงแขนเสื้ อของลูกสาว
ถลึงตาใส่ นางปราดหนึ่ง
ฉินอิงอิงจึงเก็บสายตากลับมาหลุบตาลง ไม่วา่ อย่างไรก็ไม่ได้เสี ย
กิริยา นี่เองก็ทาให้มารดาตระกูลฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก คิดด้วย
ความโมโหอย่างอดไม่ได้ ลูกคนนี้นี่ นางพูดจนน้ าลายแห้งแล้ว เหตุ
ใดนางถึงยังไม่รู้ประสาเช่นนี้เล่า
ความรู ้สึกของเสิ่ นเสวี่ยก็ยงิ่ ซับซ้อนอย่างมาก ผ่านเรื่ องคราวก่อนมา
นางก็ตระหนักได้อย่างชัดแจ้งแล้วว่ามีบา้ นฝั่งมารดาที่มีอานาจ
สาคัญเพียงใด สามีมารับนางกลับจวนด้วยตัวเอง กลับไปถึงจวน
แล้วแม่สามีกย็ มิ้ แย้มให้นาง แม้แต่พอ่ สามีที่แต่ไหนแต่ไรเคร่ งขรึ มก็
ปลอบนางหลายประโยคด้วยสี หน้าอ่อนโยน
นางรู ้ดีแก่ใจ นี่ลว้ นเป็ นเพราะว่านางคือคุณหนูของจวนจงอู่โหว ปู่
นางคือราชครู ที่ฝ่าบาททรงให้ความสาคัญ
งานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของจวนผิงจวิน้ อ๋ องคราวนี้ ไม่ตอ้ งให้คนอื่น
เร่ งรัดนางก็กระตือรื อร้นเตรี ยมตัวด้วยตัวเอง นางไม่ถูกกับเสิ่ นเวย
แต่กลับจาใจต้องพึ่งพาอานาจของเสิ่ นเวย แม่สามีผนู ้ ้ นั ของนาง
หวาดกลัวอดทนต่อนางก็เพราะว่านางมีพี่สาวที่เป็ นจวิน้ จู่แต่งงาน
กับผิงจวิน้ อ๋ องไม่ใช่หรื อ ต่อให้ในใจสะอืดสะเอียนแทบตาย
ภายนอกก็ยงั ต้องแสดงท่าทียนิ ดีออกมา
หลักการเหล่านี้นางเข้าใจดี แต่เมื่อเห็นเสิ่ นเวยที่เป็ นดัง่ ดาวล้อม
เดือนจริ งๆ นางก็ยงั อดกระอักกระอ่วนในใจอย่างอดไม่ได้
มิหนาซ้ าหลี่ซินหรุ่ ยเพื่อนสนิทยังกระซิบข้างหูนางไม่หยุด บ้างก็วา่
อาเสวี่ยพี่สาวเจ้าสวยจริ งๆ บ้างก็วา่ พีส่ าวเจ้าวาสนาดีจริ งๆ ไม่
เพียงแต่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่แต่ยงั ได้แต่งสามีดี
ที่ใครๆ ต่างก็อิจฉา…
เสิ่ นเสวี่ยยิง่ ฟังก็ยงิ่ แค้น มีพอ่ เดียวกันแท้ๆ เหตุใดนางถึงต้องเจอแม่
สามีแบบนั้นใช้ชีวิตลาบากเช่นนั้น แต่เสิ่ นเวยกลับได้รับการยกยอ
ปอปั้นที่สูงลิ่วจากทุกคน
นางมาเช้าเล็กน้อย ก่อนหน้านี้กไ็ ด้เห็นกับตาแล้วว่าผิงจวิน้ อ๋ องผูน้ ้ นั
ปฏิบตั ิต่อเสิ่ นเวยเช่นไร ในดวงตาของเขามีความอบอุ่นและความรัก
แบบที่สามารถทาให้คนอกแตกตายได้! ส่ วนพีจ่ ิ่นอวี้ที่นางใช้ทุก
วิถีทางกว่าจะแต่งมาได้น่ะหรื อ ปฏิบตั ิต่อนางแย่ลงทุกวันๆ แม้เขา
จะยังพูดจากอ่อนโยนเช่นนั้น แต่เสิ่ นเสวี่ยกลับสัมผัสถึงความห่าง
เหิ นของเขาได้อย่างชัดเจน
นึกถึงตรงนี้เสิ่ นเสวี่ยก็อดกาผ้าเช็ดหน้าไม่ได้ แค่นเสี ยงหนึ่งครา
อย่างทนไม่ไหว
เสี ยงๆ นี้ดงั ชัดมากเป็ นพิเศษ ไม่เพียงแต่เสิ่ นเวยได้ยนิ ญาติผหู ้ ญิงที่
นัง่ อยูย่ งั ได้ยนิ ทั้งหมด อดมองจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ที่นงั่ เป็ นเจ้าภาพไม่ได้
จากนั้นจึงมองเสิ่ นเสวี่ยที่นงั่ อยูต่ ่ากว่า
พี่นอ้ งไม่ถูกกกันหรื อ นี่คือโอกาสที่จะต้องแปรพักตร์หรื อไม่ ใน
ดวงตาเหล่าญาติผหู ้ ญิงกะพริ บวาบ เบื้องลึกในใจตื่นเต้นอยูเ่ งียบๆ
เสิ่ นเวยไม่แม้แต่จะชายตามองเสิ่ นเสวี่ย เปลี่ยนเรื่ องคุยด้วยความเป็ น
ธรรมชาติอย่างยิง่ ญาติผหู ้ ญิงที่นงั่ อยูไ่ ม่มีใครโง่แม้แต่คนเดียว ย่อม
ต้องพูดไปตามหัวข้อสนทนาของเสิ่ นเวย แม้วา่ ในใจจะสงสัยก็ไม่
กล้าสื บถาม!
เสิ่ นเวยไม่เห็นเสิ่ นเสวี่ยอยูใ่ นสายตาอย่างสิ้ นเชิง วันนี้เป็ นวันขึ้น
บ้านใหม่ของพวกเขา นางไม่อาจทะเลาะกับเสิ่ นเสวี่ยให้คนอื่น
หัวเราะเยาะได้ ไม่วา่ อย่างไรพวกนางก็เป็ นพี่นอ้ ง หนึ่งโรจน์ลว้ น
โรจน์ หนึ่งร่ วงล้วนร่ วง แต่เสิ่ นเสวี่ยไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้นางเห็น
เสิ่ นเสวี่ยมาแต่เช้ายังคิดว่านางพัฒนาแล้ว ไม่คิดว่าจะยังคงมีนิสยั
ไม่ได้ความเช่นนี้อยู่
จากมุมมองของเสิ่ นเวย เสิ่ นเสวี่ยเป็ นเพียงแค่ตวั ตลก ไม่สนใจนางก็
กระโดดโลดเต้นไม่ได้ หากเกินไปจริ งๆ นางย่อมมีวิธีจดั การนาง
เช่นกัน
ฝั่งแขกผูช้ าย สวีโย่วกาลังทักทายเหล่าขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ในราชสานัก
อยู่ คนทั้งหมดตกใจเนื่องจากได้รับความโปรดปราน แม้จะบอกว่า
พวกเขาล้วนแต่เป็ นขุนนางระดับสามขึ้นไป แต่เมื่อก่อนผิงจวิน้ อ๋ อง
ผูน้ ้ ีกท็ ะนงตนยิง่ นัก เห็นพวกเขาแล้วก็เพียงแค่พยักหน้าให้เท่านั้น
ตอนนี้ดูแล้ว ใครกันบอกว่าผิงจวิน้ อ๋ องผูน้ ้ ีเย็นชา ดูความช่างพูดนัน่
สิ แม้การแสดงออกบนใบหน้าจะน้อยไปหน่อย แต่มีที่พ่ งึ ก็นามาซึ่ง
โอกาสมิใช่หรื อ
องค์ชายรองก็มาด้วยเช่นกัน เมื่อเขามาทุกคนก็พากันเข้าไปถวาย
ความเคารพ องค์ชายรองยังคงมีท่าทางถ่อมตัวและอบอุ่นเช่นนั้น
“ทุกท่านรี บลุกขึ้นเถิด วันนี้ขา้ เหมือนกับทุกท่าน เป็ นแขกที่มาเยีย่ ม
บ้าน ผิงจวิน้ อ๋ องยังคงเป็ นเจ้าภาพหลัก”
แม้เขาจะพูดเช่นนี้ แต่ขนุ นางในราชสานักที่ลอ้ มตัวเขาก็ยงั คงมีไม่
น้อย โดยเฉพาะขุนนางที่มีระดับล่างอย่างยิง่ เหล่านั้น วันปกติไหน
เลยจะเห็นองค์ชายรอง ตอนนี้กว่าจะมีโอกาส จะไม่กมุ ไว้ได้อย่างไร
องค์ชายรองยิม้ อย่างรู ้สึกผิดต่อสวีโย่ว “ยินดีกบั ญาติผพู ้ ี่ที่ได้ข้ ึนบ้าน
ใหม่” ทว่าในใจกับพอใจอย่างยิง่
สวีโย่วกระตุกมุมปากเล็กน้อย กล่าวด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย “ขอบคุณ
องค์ชายรองยิง่ นัก”
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 248-2 เลีย้ งแขก
ไท่จื่อไม่มา แต่ของขวัญกลับมาถึงแล้ว ส่ งมาโดยจานซื่อตาหนัก
บูรพา
องค์ชายสามสวีเฉิงเองก็ส่งของขวัญมาคนไม่มาเช่นกัน เรื่ องนี้ทุก
คนต่างก็ไม่แปลกใจ องค์ชายสามร่ างกายพิการ แต่ไหนแต่ไรอยูแ่ ต่
ในวังน้อยนักจะออกมา นอกจากโอกาสสาคัญของราชวงศ์เขาก็ไม่
อาจมาเข้าร่ วม
คนของจวนจงอู่โหวเยอะอย่างยิง่ ท่านโหวเสิ่ นหงเหวินสามพี่นอ้ ง
มาแล้ว นอกเหนือจากนี้ เสิ่ นซงเสิ่ นไป๋ และพีน่ อ้ งชนรุ่ นหลังหลาย
คนต่างก็อยูก่ นั พร้อมหน้า เสิ่ นเจวี๋ยช่วยสวีโย่วต้อนรับแขกราวกับ
เป็ นใต้เท้าน้อย ทาให้คนในที่น้ นั ต่างก็อดพยักหน้าชื่นชมไม่ได้
นายผูช้ ายในจวนจงอู่โหวที่ไม่ได้มานอกจากเสิ่ นเชียนที่อยูไ่ กลถึงซี
เจียง ก็คือนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตระกูลเสิ่ นเสิ่ นผิงยวน อันที่จริ งนาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวอยากมายิง่ นัก หลานสาวเขาบอกแล้วว่าจะเก็บเรื อน
ในจวนผิงจวิน้ อ๋ องไว้ให้เขา เขาอยากมาดูสวนชิงหยวนที่มีชื่อเสี ยง
โด่งดังแห่งนี้ที่ปัจจุบนั กลายเป็ นจวนผิงจวิน้ อ๋ องอย่างยิง่ ยิง่ อยากมา
ดูหลานสาวแสนดีของเขา อ้วนขึ้นหรื อว่าผอมลง มีใครรังแกหรื อไม่
แต่เมื่อคิดว่าหากเขามาแล้วจะต้องเผชิญหน้ากับท่าทาง
ประจบประแจงของขุนนางในราชสานัก เขาก็หมดความสนใจทันที
เพียงแค่สงั่ ให้ทหารเก่าคนสนิทของเขาส่ งของขวัญมาให้หลานสาว
เขา คนกลับไม่มา
ขณะที่กาลังครึ กครื้ น ก็เห็นเจี่ยงปั๋วเข้ามาอย่างรี บร้อน “ท่านจวิน้
อ๋ อง พระราชโองการมาถึงแล้วพะยะค่ะ”
คนทั้งหมด รวมถึงองค์ชายรองที่ถ่อมตัวผูกมิตรกับผูม้ ีปัญญาต่างก็
ตกใจ วันนี้จวนผิงจวิน้ อ๋ องจัดงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ ฝ่ าบาทมีพระ
ราชโองการย่อมต้องเป็ นการปูนบาเหน็จแน่นอน ชัว่ ขณะสายตาที่
มองสวีโย่วก็เต็มไปด้วยความอิจฉา ผิงจวิน้ อ๋ องท่านนี้ช่างได้รับ
ความโปรดปรานจริ งๆ!
สวีโย่วเองก็ตกตะลึง ทันใดนั้นก็ตอบสนองกลับมา “เปิ ดประตูกลาง
รี บเปิ ดประตูกลาง”
ประตูกลางจวนผิงจวิน้ อ๋ องค่อยๆ เปิ ดออกจนสุ ด ขันทีใหญ่จาง
เฉวียนที่ได้รับความไว้ใจที่สุดประจาพระองค์ฮ่องเต้ยงเซวียนก็เดิน
เข้ามาอย่างยิม้ แย้ม ในมือกอบพระราชโองการสี เหลืองสุ กใส ข้าง
หลังยังตามมาด้วยขันทีนอ้ ยหนึ่งกลุ่ม
ฝั่งเสิ่ นเวยเองก็ได้ข่าวแล้ว เหมือนอย่างท่านป้าสะใภ้ใหญ่สวี่ซื่อ
โหลวซื่อจวนเลขาธิการ เสิ่ นซวงเสิ่ นอิงและคนอื่นๆ ย่อมต้องดีใจ
แทนเสิ่ นเวย ส่ วนเหล่าญาติผหู ้ ญิงที่เหลือก็ยงิ่ อิจฉาริ ษยาเสิ่ นเวย
โดยเฉพาะคนที่มีอายุเหล่านั้น ความรู ้สึกซับซ้อนยิง่ นัก ดูจยาฮุ่ยจวิน้
จู่สิ ยังอายุไม่ถึงสิ บหกปี ก็เป็ นจวิน้ จู่ระดับรองชั้นเอก ซ้ ายังแต่งงาน
กับสามีที่โดดเด่นอย่างถึงที่สุด จัดงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ฝ่าบาทก็ยงั
ปูนบาเหน็จให้
เมื่อเปรี ยบเทียบกับตัวเอง อายุกเ็ ป็ นย่าจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ได้แล้ว ยังได้
บรรดาศักดิ์แค่ระดับสามระดับสี่ อายุปูนนี้แล้วยังต้องประจบเด็กที่
ยังไม่โตคนหนึ่ง มีเหตุผลที่ไหนกัน
แม้วา่ เหล่าญาติผหู ้ ญิงจะไม่ตอ้ งไปรับพระราชโองการ แต่ก็
จาเป็ นต้องคุกเข่ากราบไหว้หา้ มพูดจา
ชัว่ ขณะ ในห้องรับแขกก็คุกเข่าลงทัว่ พื้น จางเฉวียนเปิ ดพระราช
โองการอ่านประกาศเสี ยงดัง ทุกคนเดาไว้ไม่ผดิ ฝ่ าบาทออกพระ
ราชโองการก็เพื่อปูนบาเหน็จ ได้ยนิ สิ่ งของล้ าค่าหนึ่งชุดที่ออกมา
จากปากของจางเฉวียน ทุกคนก็อิจฉาความโปรดปรานที่ฝ่าบาททรง
มีต่อผิงจวิน้ อ๋ องอีกครั้ง
“ผิงจวิน้ อ๋ องรับพระราชโองการเถิด! พวกข้ายินดีกบั งานขึ้นบ้าน
ใหม่ของผิงจวิน้ อ๋ องด้วย” จางเฉวียนประสานมือให้สวีโย่ว ยืน่ พระ
ราชโองการไปข้างหน้า ท่าทีถ่อมเนื้อถ่อมตน คนอื่นไม่รู้ แต่ขนั ที
ใหญ่คนสนิทหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทเช่นเขารู ้ดี ความไว้ใจที่ฝ่าบาทมี
ต่อหลานชายคนนี้บางครั้งแม้แต่เหล่าองค์ชายก็เทียบไม่ได้เสี ยด้วย
ซ้ า
สวีโย่วรับพระราชโองการด้วยความเคารพ ประสานมือให้จาง
เฉวียนเช่นกัน บนใบหน้ามีรอยยิม้ บางๆ “ขอบคุณจางกงกงยิง่ นัก
เชิญด้านใน ดื่มสุ รารสจืดสักแก้วเถิด”
ทว่าจางเฉวียนกลับยิม้ กล่าว “ความหวังดีของผิงจวิน้ อ๋ องพวกข้า
ทราบแล้ว ครั้งหน้าเถิด พวกข้ายังต้องกลับวังไปรายงานพระราช
โองการ”
“มาแล้วอย่าให้เสี ยเที่ยว เจียงไป๋ ริ นสุ ราให้จางกงกง” สวีโย่วออก
คาสัง่
จางเฉวียนเองก็ไม่ได้ปฏิเสธอีก รับสุ ราจากเจียงไป๋ ดื่มลงไปเต็มๆ
หนึ่งแก้วใหญ่ “ยินดีกบั ผิงจวิน้ อ๋ องอีกครั้ง”
ทุกคนมองจนตะลึงงันแล้ว นัน่ คือจางเฉวียนขันทีใหญ่จาง ขันที
ใหญ่ที่มีหน้ามีตาที่สุดข้างกายฝ่ าบาท ขันทีจางที่แม้แต่ท่านเสนาบดี
ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ยงั ต้องไว้หน้าหลายส่ วน คาดไม่ถึงว่าเกรงใจผิง
จวิน้ อ๋ องเช่นนี้ ช่าง…ช่างน่าอิจฉาจริ งๆ!
สายตาที่ทุกคนมองสวีโย่วก็ยงิ่ ร้อนแรง นี่เป็ นที่พ่ งึ ที่ใหญ่ยงิ่ นัก หาก
สามารถเกาะได้กค็ งจะดี
กลับมาที่งานเลี้ยงอีกครั้ง ทุกคนแบ่งกลุ่มเล็กๆ ถกเถียงกัน บุคคลใน
หัวข้อสนทนาย่อมต้องเป็ นสวีโย่วผิงจวิน้ อ๋ องผูน้ ้ ี
แต่มีความคิดของคนสองคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่ องนี้ สายตาของ
พวกเขามองตามหลังของอาจารย์ซูแน่นิ่ง จิตใจไม่อยูก่ บั เนื้อกับตัว
เล็กน้อย สองคนนี้กค็ ือฝังหมิงและฝังจวินบุตรชายของอามาตย์ฝัง
“คนผูน้ ้ นั คือพี่ใหญ่ใช่หรื อไม่ เขากลับมาแล้วหรื อ” บนใบหน้าของ
ฝังจวินมีความตกตะลึง
ฝังหมิงเองก็มีท่าทางราวกับเห็นผี “ดูคล้าย น่าจะใช่!” ใช่พี่ใหญ่
จริ งๆ หรื อ พี่ใหญ่ที่ปัญญาเป็ นเลิศไหวพริ บโดดเด่น กดจนพวกเขา
หายใจไม่ออกผูน้ ้ นั หรื อ เขากลับมาแล้วหรื อ ความรู ้สึกของฝังหมิง
ซับซ้อนยิง่ นัก
ยังคงเป็ นฝังจวินที่ปราดเปรี ยว เรี ยกเด็กรับใช้ที่ปรนนิบตั ิผหู ้ นึ่งเข้า
มา ชี้แผ่นหลังที่อยูไ่ ม่ไกล กล่าวอย่างแสร้งไม่สนใจ “คนผูน้ ้ นั คือ
ใครหรื อ”
“ใต้เท้าท่านนี้ถามถึงผูท้ ี่สวมชุดสี เขียวผูน้ ้ นั ใช่หรื อไม่ นัน่ คือ
อาจารย์ซูในจวนพวกเราขอรับ” เด็กรับใช้ตอบด้วยความสุ ภาพอย่าง
ถึงที่สุด
“อาจารย์ซูหรื อ อยูใ่ นจวนพวกเจ้าหรื อ” ฝังจวินได้ยนิ แซ่ซู หัวใจก็
เต้นขึ้นมา มารดาที่ให้กาเนิดพี่ใหญ่ไม่ใช่แซ่ซูหรอกหรอกหรื อ
“อาจารย์ซูผนู ้ ้ ีเป็ นคนที่ใด ดูท่าทางคล้ายมีความรู ้ยงิ่ นัก”
บนใบหน้าเด็กรับใช้ผนู ้ ้ นั มีรอยยิม้ ภูมิใจแวบผ่าน ยืน่ หัวแม่มือ
ออกไปกล่าวชม “ใต้เท้าท่านนี้ตาดีจริ งๆ ความรู ้อาจารย์ซูของพวก
เราดียงิ่ นัก รู ้ต้ งั แต่โหราศาสตร์ยนั ภูมิศาสตร์ ไม่มีเรื่ องใดที่เขาไม่รู้
ใครมีปัญหาไปหาขอคาปรึ กษาเขาเชื่อถือได้แน่นอน ส่ วนเขาเป็ น
คนที่ใด ผูน้ อ้ ยไม่ทราบจริ งๆ รู ้เพียงแต่วา่ เขาเป็ นอาจารย์จวิน้ จู่
เหนียงเหนียงของพวกเรา ติดตามอยูข่ า้ งกายจวิน้ จู่เหนียงเหนียงมา
โดยตลอด”
ฝังหมิงกับฝังจวินสองพี่นอ้ งสบตากันปราดหนึ่ง ในแววตาต่างฝ่ าย
ต่างมองเห็นความมัน่ ใจ ใช่ อาจารย์ซูผนู ้ ้ ีกค็ ือพี่ใหญ่ของพวกเขา พี่
ใหญ่ที่ถูกตัดชื่อออกจากวงศ์ตระกูลผูน้ ้ นั ชัว่ พริ บตาก็ผา่ นไปยีส่ ิ บปี
แล้ว แม้หน้าตาของพี่ใหญ่จะเปลี่ยนไปไม่นอ้ ย แต่พวกเขาก็ยงั คงจา
ได้ต้ งั แต่แวบแรก พี่ใหญ่เหมือนบิดามากจริ งๆ และยังเป็ นเพราะฝัน
ร้ายที่พี่ใหญ่ผนู ้ ้ ีนามาให้พวกเขาฝั่งรากลึกเช่นกัน
เขากลับมาทาไม แก้แค้นหรื อ ในดวงตาฝังหมิงกับฝังจวินต่างก็มี
ความหวาดกลัวลุ่มลึกอยู่
แม้วา่ เรื่ องจะผ่านไปยีส่ ิ บปี แล้ว พี่ใหญ่เองก็ถูกบิดาไล่ออกจาก
ตระกูลแล้ว แต่ฝังหมิงกับฝังจวินที่รู้ขอ้ เท็จจริ งกลับไม่เคยวางใจได้
จริ งๆ สักที
หลังเรื่ องราวถูกเปิ ดโปง ใครๆ ต่างก็บอกว่าผูส้ อบได้จอหงวนที่มี
ปัญญาเป็ นเลิศ คุณชายงามสง่าแห่งตระกูลฝังเป็ นบุรุษจอมปลอมที่
ประพฤติตวั ชัว่ ช้า มิเช่นนั้นจะทาเรื่ องเช่นการข่มขืนอนุภรรยาของ
บิดาได้อย่างไร มิเช่นนั้นอามาตย์ฝังผูเ้ ที่ยงตรงเป็ นธรรมจะไล่เขา
ออกจากตระกูลได้อย่างไร
แต่ในความเป็ นจริ งทั้งหมดนี้เป็ นเพียงการใส่ ร้ายป้ายสี ของมารดา
พวกเขาก็เท่านั้นเอง พี่ใหญ่ที่ประพฤติตนสู งส่ งดัง่ ดวงจันทร์บนนภา
จะเป็ นคนระยาตาบอนเช่นนั้นได้อย่างไร
ฝังหมิงรู ้เรื่ องในปี นั้นดียงิ่ กว่า เพราะว่ามารดาลงมือกับพี่ใหญ่กเ็ พื่อ
เขา! เป็ นเขาที่ยอมรับไม่ได้วา่ ความกดดันที่มาจากพี่ใหญ่แทบจะทา
ให้หมดอาลัยตายอยาก มารดาก็ทนมองเขาหมดอาลัยตายอยากเฉยๆ
ไม่ได้จึงลงมือจัดการพี่ใหญ่
เขากับพี่ใหญ่ห่างกันเพียงแค่สองปี ไม่อาจเลี่ยงไม่ให้ถูกคนนามา
เปรี ยบเทียบ ตอนยังเด็ก เขาเองก็เคยภูมิใจที่มีพี่ใหญ่ประหนึ่งบุตร
ทวยเทพ เขาเองก็เคยเลื่อมใสพี่ใหญ่เช่นนั้นมาก่อน
แต่เมื่อเติบโตตามอายุ สิ่ งที่พี่ใหญ่นามาให้เขากลับไม่ใช่เกียรติยศอีก
ต่อไป แต่กลับเป็ นความกดดัน สายตาที่ผดิ หวังของบิดาทาให้เขาอับ
อาย คาพูดถากถางจากคนนอกทาให้เขารับไม่ไหว คนทั้งหมดต่างก็
พูดว่า ‘ดูสิ น้องชายของฝังจิ่น แม้จะเป็ นพี่นอ้ งกัน แต่ปัญญากลับ
ต่างกันราวฟ้ากับเหว’
เห็นชัดๆ ว่าเขาพยายามแล้ว ทบทวนบทเรี ยนจนถึงกลางดึกทุกวัน
แต่กย็ งั เทียบพี่ใหญ่ที่ประพันธ์กลอนปากเปล่าไม่ได้ พี่ใหญ่มนั่ ใจใน
ตนเองจึงเปล่งประกายเช่นนั้น ไม่วา่ เขาจะพยายามเช่นไรก็ไล่ตาม
ฝี เท้าของเขาไม่ทนั ด้วยเหตุน้ ีเขาจึงหมดอาลัยตายอยาก เขาทุบห้อง
หนังสื อ ฉีกหนังสื อ! เริ่ มออกนอกลู่ทาง ใช้ชีวิตสามะเลเทเมา…
มารดากดพี่ใหญ่จมดินก็เพื่อเขา ล้วนทาเพื่อเขาทั้งสิ้ น! ตอนนี้พี่ใหญ่
กลับมาแล้ว ใช่จะคิดบัญชีกบั เขาหรื อไม่ ฝังหมิงอดตัวสัน่ ขึ้นมา
ไม่ได้
บาเหน็จของฝ่ าบาทมอบไปได้เพียงสองเค่อ บาเหน็จของฮองเฮา
เหนียงเหนียงก็มาถึงแล้ว จากนั้นก็เป็ นเหยียนกุย้ เฟย ซูเฟยและสนม
ผูม้ ีหน้ามีตาในวัง
พระราชโองการของฝ่ าบาทก็คือทิศทางลม ฝ่ าบาทปูนบาเหน็จแล้ว
สามีภรรยาเป็ นหนึ่งเดียว ฮองเฮาเหนียงเหนียงจะไม่ปูนบาเหน็จตาม
ได้อย่างไร ฮองเฮาเหนียงเหนียงปูนบาเหน็จแล้ว เหล่านางสนมจะ
ไม่ทาตามได้อย่างไร ต่อให้ในใจจะไม่ยนิ ดี ก็ไม่อาจไม่ไว้หน้า
ฮองเฮาเหนียงเหนียงได้! ยิง่ ไปกว่านั้นฝ่ าบาทยังจับตามองอยู่ นาง
สนมวังหลังคนใดจะไม่ทุ่มเทแรงอยากสร้างความประทับใจให้ฝ่า
บาท แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีคุณสมบัติปูนบาเหน็จได้ หากเจ้า
ไม่มีชื่อเป็ นเหม่ยเหริ นเป่ าหลิน ใครจะรู ้วา่ เจ้าเป็ นใคร อยูน่ ิ่งๆ ไป
เถอะ อย่าออกมาให้ขายหน้าเลย!
ประจันหน้ากับบาเหน็จระลอกแล้วระลอกเล่า คนอื่นอิจฉา แต่เสิ่ น
เวยและสวีโย่วกลับรู ้สึกวุน่ วาย ก็แค่งานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ ฝ่ าบาทกับ
ฮองเฮาปูนบาเหน็จก็พอแล้ว สนมเหล่านี้เช่นพวกเจ้าจะเพิ่มความ
ยุง่ ยากทาไม จะไม่ให้คนกินข้าวดีๆ เลยหรื อ
การเคลื่อนไหวที่ใหญ่เพียงนี้ทาให้คนที่มาทั้งหมดต่างก็รู้สึกว่ามา
ครั้งนี้ไม่เสี ยเปล่า คาดการณ์ได้เลยว่าประเด็นร้อนในเมืองหลวงอีก
ครึ่ งเดือนข้างหน้าจะต้องเป็ นเรื่ องงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของจวนผิง
จวิน้ อ๋ องแน่นอน
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 249-1 เสี่ ยงอันตราย
องค์ชายรองสวีอวี้ออกมาจากจวนผิงจวิน้ อ๋ องก็ไปหาเสด็จแม่ของ
เขาในวังก่อน สาหรับการปูนบาเหน็จจวนผิงจวิน้ อ๋ องของเสด็จแม่
เขายังคงพอใจอย่างถึงที่สุด
ซูเฟยเห็นลูกชายมาหานางก็ดีใจอย่างถึงที่สุด ออกคาสัง่ ทางซ้าย
ทางขวากล่าว “เร็ วเข้า ไปยกแกงสร่ างเมาที่เตรี ยมไว้เข้ามา” นางรู ้วา่
วันนี้ลูกชายไปจวนผิงจวิน้ อ๋ องมา
“เสด็จแม่ ไม่เป็ นไร ลูกไม่ได้ดื่มสุ ราเยอะ” องค์ชายรองรี บห้าม
ซูเฟยมองเคืองลูกชายปราดหนึ่ง “ดื่มสุ ราไม่เยอะก็ตอ้ งทานแกง
สร่ างเมาสักหน่อย ดูสิหน้าเจ้าแดงก่า ยังบอกว่าดื่มสุ ราไม่เยอะอีก
เจ้าน่ะ จริ งใจเกินไปแล้ว ดื่มสุ รามากจักทาร้ายร่ างกาย เจ้าดื่มให้นอ้ ย
หน่อยไม่ได้หรื อ” ซูเฟยเป็ นห่วงอย่างยิง่
องค์ชายรองยิม้ อย่างรู ้สึกผิด “ยังคงเป็ นเสด็แม่ที่รักลูก”
ซูเฟยมองเคืองอีกครา “เหลวไหล! แม่มีเจ้าแค่คนเดียว ไม่รักเจ้าแล้ว
จะให้ไปรักใคร”
ซูเฟยมองลูกชายทานแกงสร่ างเมาหนึ่งถ้วย บนใบหน้าจึงมีรอยยิม้
ฟังลูกชายเล่าถึงความครึ กครื้ นในงานเลี้ยงจวนผิงจวิน้ อ๋ อง บน
ใบหน้านางก็เผยสี หน้าคล้ายครุ่ นคิด “เสด็จพ่อเจ้าดีต่อผิงจวิน้ อ๋ อง
จริ งๆ” ดีจนทาให้นางรู ้สึกผิดปกติอย่างยิง่ เป็ นหลานชายเหมือนกัน
แต่ไม่เคยเห็นฝ่ าบาทสนใจสวีเยีย่ สวีเหยียนพวกเขาเลย
ทว่าองค์ชายรองกลับไม่ได้สนใจ “จะมีอะไรได้ ไม่ใช่วา่ กันหรื อว่า
เสด็จพ่อเติบโตมาด้วยกันกับมารดาของผิงจวิน้ อ๋ อง อีกทั้งเสด็จพ่อ
ยังเป็ นประมุขของแว่นแคว้น สงสารคนอ่อนแอที่สุด ตั้งแต่เล็กผิง
จวิน้ อ๋ องก็สุขภาพไม่ดี เสด็จพ่อดูแลมากหน่อยก็เป็ นสิ่ งสมควร”
ซูเฟยกลับไม่เห็นด้วย กล่าวเตือน “ฟังว่าก่อนหน้านี้ผงิ จวิน้ อ๋ องไป
ตาหนักโยวหมิงอีกแล้ว เขาดูสนิทสนมกับคนผูน้ ้ นั ”
ดวงตาองค์ชายรองกะพริ บวาบ กล่าว “เรื่ องนี้ได้รับการอนุญาตจาก
เสด็จพ่อแล้ว เสด็จแม่ท่านอย่าได้สืบหาเลย ถูกเสด็จพ่อรู ้เข้า อาจจะ
โกรธก็เป็ นได้ ผิงจวิน้ อ๋ องสนิทกับพี่ใหญ่เป็ นเรื่ องที่รู้กนั ทัว่ อย่างไร
เสี ยก็มีบุญคุณช่วยชีวิตมิใช่หรื อ แต่แล้วอย่างไรเล่า พี่ใหญ่ถูกกักขัง
สิ บปี แล้ว คนก็ไร้ประโยชน์ไปนานแล้ว อีกทั้งยังมีคนร้อนใจยิง่ กว่า
พวกเรา พวกเรานัง่ รออยูข่ า้ งๆ ก็พอแล้ว”
ชัว่ พริ บตาซูเฟยก็เข้าใจความหมายของลูกชายแล้ว มุมปากเผย
รอยยิม้ เล็กๆ
องค์ชายรองกล่าวต่อ “เสด็จแม่ ในเมื่อเสด็จพ่อดูแลผิงจวิน้ อ๋ องมาก
ขึ้นเรื่ อยๆ ลูกย่อมต้องผูกมิตรกับเขา หากท่านว่างไม่มีอะไรทาก็
เรี ยกจยาฮุ่ยจวิน้ จู่เข้ามาพูดคุยให้มากหน่อย”
รอยยิม้ บนใบหน้าของซูเฟยหายไปทันที “หาได้ไม่ แม่ไม่ถูกชะตา
กับนาง เห็นนางแล้วก็ปวดหัว เจ้าไม่รู้วา่ เด็กชัว่ ผูน้ ้ นั เหิ มเกริ ม
เพียงใด สัง่ คนมาตีนา้ เล็กของเจ้าไม่พอ ซ้ ายังเยาะเย้ยเสี ยดสี แม่อีก
นาง…”
“เสด็จแม่” องค์ชายขมวดคิ้วตัดบทซูเฟย กล่าวอย่างจนใจ “เสด็จแม่
เรื่ องนี้กผ็ า่ นมานานแล้วท่านยังไม่ลืมอีก เมื่อน้าเจ็ดแต่งเข้าจวนจิ้น
อ๋ องจยาฮุ่ยจวิน้ จู่กย็ งั คงเป็ นพี่สะใภ้ใหญ่ของนาง เรื่ องของน้าเล็กก็
ยิง่ ตาหนินางไม่ได้ ใครให้นา้ เล็กไปหยอกเย้าลูกผูน้ อ้ งของนางเล่า
หากเป็ นข้าก็คงไม่ยอมวางมือยุติเรื่ องราวเช่นกัน” อีกทั้งคราว
ก่อนที่จยาฮุ่ยจวิน้ จู่เข้าวังเคารพ ก็เห็นชัดๆ ว่าเสด็จแม่หาเรื่ องก่อน
“เสด็จแม่ อย่าอื่นไม่วา่ แต่ท่านหวังดีต่อลูกใช่หรื อไม่ ไม่ใช่
ความแค้นมากมายอะไร เหตุใดท่านต้องเคืองแค้นจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ดว้ ย
เล่า”
“พอแล้ว พอแล้ว แม่รู้แล้ว” ซูเฟยโบกมืออย่างทนไม่ไหว “เพื่อเจ้า
แม่ยอมทนพอใจหรื อไม่”
องค์ชายรองถอนหายใจหนึ่งครา ปกติเสด็จแม่กม็ ีเหตุผลอย่างยิง่
เหตุใดพอเจอจยาฮุ่ยจวิน้ จู่แล้วถึงได้ใจร้อนเล่า “ลูกไม่ได้ให้เสด็จแม่
ทนใคร ท่านวางใจ ลูกจะพยายาม หลังจากนี้มีเพียงคนอื่นที่ตอ้ ง
อดทนต่อท่าน ไม่ใช่ท่านต้องอดทนต่อใคร” เขามองดวงตาของ
ซูเฟย กล่าวอย่างตั้งใจจริ ง
ซูเฟยปลื้มใจอย่างถึงที่สุด ตบแขนของลูกชายแล้วกล่าว “เพื่อความ
ตั้งใจนี้ของเจ้า แม่กจ็ ะไม่เป็ นภาระของเจ้า เจ้าวางใจเถิด”
หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่าวต่อ “จริ งสิ เรื่ องน้าเล็กของเจ้าเจ้าเองก็ใส่ ใจ
หน่อย จับน้าเล็กของเจ้าเข้าคุกโดยไม่มีหลักฐานพยานหมายความว่า
อย่างไรกัน ตากับยายทวดเจ้าร้องไห้จนตาแทบบอดอยูแ่ ล้ว จ้าง
เฉิงซวี่ผนู ้ ้ นั ก็ไม่ได้ความเกินไปแล้ว เห็นจวนเสนาบดีกบั วังข้าอยูใ่ น
สายตาบ้างหรื อไม่
พูดถึงเรื่ องนี้ซูเฟยก็โมโห เมื่อวานตอนเช้าท่านแม่เข้าวังมาฟ้องร้อง
ตน นางเองก็เดือดดาลอย่างถึงที่สุด อย่าว่าแต่ไม่มีหลักฐาน ต่อให้
น้องชายนางฉุดแม่นางเข้าจวนจริ งๆ แล้วอย่างไร เพียงแต่เด็กสาว
ชาวบ้านคนหนึ่ง ถูกใจนางถือเป็ นวาสนาของนาง ซ้ ายังเล่นตัวกล้า
ฟ้องร้องหรานเอ๋ อร์ บังอาจนัก!
จ้าวเฉิงซวี่เองก็ไม่ใช่คนดี ใครๆ ก็บอกว่าเขาซื่อตรงรักความเป็ น
ธรรม จากที่นางเห็นก็แค่คนคร่ าครึ ที่ไม่รู้จกั อ่านสถานการณ์กเ็ ท่า
นั้นเอง “เจ้าเองก็ไปทักทายผูแ้ ซ่จา้ วเสี ยหน่อย รี บให้เขาปล่อยน้าเล็ก
ของเจ้าได้แล้ว”
คิ้วขององค์ชายรองขวมดมุ่นทันที “เสด็จแม่ จ้าวเฉิงซวี่เป็ นผู ้
พิพากษาศาลต้าหลี่ เขาคือผูต้ ดั สิ นคดีความ แม้ลูกจะสู งศักดิ์เป็ นองค์
ชาย แต่ก็ไม่อาจบิดเบือนกฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตัว! หากรู ้ไป
ถึงหูเสด็จพ่อ เสด็จพ่อจะมองเช่นไร”
องค์ชายรองไม่อยากสอดมือเข้าไปยุง่ เรื่ องนี้อย่างยิง่ น้าเล็กของเขา
เป็ นคนเช่นไรเขายังไม่รู้อีกหรื อ เขาที่เป็ นองค์ชายรองของราชวงศ์
ยังไม่กล้าไปข่มขืนหญิงชาวบ้านเลย แต่คนที่ไม่มีชื่อเสี ยงผลงาน
อะไรสักอย่างเช่นเขากลับฉุดอย่างมัน่ อกมัน่ ใจ การงานไม่ทาสัก
อย่าง วันๆ สร้างแต่เรื่ อง นอกจากจะช่วยเขาไม่ได้แล้ว ยังเป็ นภาระ
เขาอีก จะให้ความประทับใจที่ตนมีต่อเขาดีได้อย่างไร
“บิดเบือนกฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตัวอะไรกัน น้าเล็กของเจ้าถูก
ใส่ ร้าย” ซูเฟยกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย “ก็แค่ผพู ้ ิพากษาศาลต้าหลี่ ยัง
กล้าไม่ไว้หน้าเจ้าอีกหรื อ อวี้เอ๋ อร์ อย่างไรเสี ยนัน่ ก็คือน้าเล็กของเจ้า
ลูกหลงของตาเจ้า เจ้าคิดดูสิวา่ ตากับยายเจ้ารักเจ้าเพียงใด! เรื่ องนี้ เจ้า
ไม่อาจยืนดูอยูข่ า้ งๆ ได้!” ซูเฟยใช้ความผูกพันมาแสวงหา
ผลประโยชน์จากลูกชาย
องค์ชายรองแสยะปากในใจ ใส่ ร้ายหรื อ จากความเข้าใจที่เขามีต่อน้า
เล็กผูน้ ้ นั ของเขา เรื่ องนี้คาดว่าคงเป็ นเรื่ องจริ ง เป็ นเรื่ องที่นา้ เล็กลูก
คุณชายผูน้ ้ นั ของเขาสามารถทาได้ลง แต่วา่ เมื่อย้อนคิดถึงท่านตา
ท่านเสนาบดีฉินกับน้าใหญ่ที่มากความสามารถของเขา เรื่ องนี้เขาก็
ไม่อาจไม่สนใจได้จริ งๆ คราวก่อนเขาให้จางจ่างสื่ อออกหน้าก็เพียง
เพื่อปิ ดปากเสด็จแม่ เช่นนั้นพรุ่ งนี้เขาจะไปพูดกับจ้าวเฉิ งซวี่ดว้ ย
ตัวเองสักหน่อย
“ก็ได้ๆๆ ลูกรับปากท่านพอใจแล้วหรื อยัง” องค์ชายรองแสร้ง
ประนีประนอมอย่างจนใจ “พรุ่ งนี้ลูกจะไปหาใต้เท้าจ้าว ให้เขา
ปล่อยน้าเล็กออกมา แต่เสด็จแม่ท่านเองก็ตอ้ งบอกท่านย่าด้วยว่า ให้
นางดูแลน้าเล็ก อย่าทาเรื่ องเหลวไหลเช่นจูงหมาชนไก่ไปวันๆ
พลอยให้ลูกไร้เกียรติไปด้วย”
ซูเฟยจึงเผยสี หน้าพอใจออกมา “ได้ พรุ่ งนี้แม่จะไปพูดกับย่าเจ้า ให้
นางดูแลหรานเอ๋ อร์ให้ดี”
เป็ นอีกคืนที่ไร้แสงจันทร์ เสิ่ นเวยใส่ ชุดท่องราตรี สวมหน้ากาก
จิ้งจอกแอบเข้าไปในจวนเสนาบดีฉิน บอกเหตุผลอะไรไม่ได้ เบื้อง
ลึกในใจเสิ่ นเวยมักจะมีความรู ้สึกชนิดหนึ่ง เรี ยกให้นางมาที่นี่ คล้าย
กับว่าที่นี่มีอะไรบางอย่างรอนางอยู่ ความรู ้สึกชนิดนี้ทาให้นางไม่
สบายใจและร้อนรน หลายปี มาแล้วที่ไม่เคยปรากฏขึ้น ดังนั้นจึงฉวย
โอกาสตอนที่สวีโย่วถูกฝ่ าบาทเรี ยกเข้าวังไปอภิปรายงานนางจึงมา
นึกย้อนถึงเส้นทางที่สวีโย่วพานางมาวันนั้น บวกกับการวิเคราะห์
คาดการณ์ของตัวนางเอง เสิ่ นเวยก็เข้าใกล้หอ้ งหนังสื อของท่าน
เสนาบดีฉินทีละนิดทีละน้อย ตอนที่ยงั ห่างอยูอ่ ีกระยะหนึ่งเสิ่ นเวยก็
ไม่กล้าเดินไปข้างหน้าต่อแล้ว เพราะนางพบว่าการป้องกันที่นี่
เข้มงวดยิง่ กว่าที่อื่น นางไม่มนั่ ใจว่าจะเข้าใกล้หอ้ งหนังสื อของท่าน
เสนาบดีฉินได้โดยไม่ทาให้คนที่อยูใ่ นความมืดรู ้ตวั
โชคดีที่เสิ่ นเวยมีความอดทน นางมองซ้ายมองขวาเล็กน้อยไม่เห็นว่า
มีที่ที่เหมาะสมกับการซ่อนตัวใดๆ เมื่อเงยหนาขึ้นชัว่ ขณะก็เกิด
ความคิด สู ดหายใจเข้าลึกแล้วจึงวิ่งขึ้นไปบนหลังคาอย่างรวดเร็ ว
นางหมอบตัวลง ร่ างทั้งร่ างหลอมรวมเป็ นหนึ่งเดียวกับสันหลังคา
เคลื่อนไปข้างหน้าช้าๆ ช้าๆ
มองเห็นแสงไฟที่ส่องออกมาจากห้องหนังสื อท่านเสนาบดีฉินได้แต่
ไกลๆ ดูท่าแล้วท่านเสนาบดีฉินคงจะยุง่ อยูย่ งั ไม่ได้นอน มุมปากเสิ่ น
เวยเผยรอยยิม้ หยัน ก็ใช่ ลูกชายยังอยูใ่ นคุกศาลต้าหลี่ คนเป็ นพ่อจะ
หลับลงได้อย่างไร
คดีของฉินมู่หรานเสิ่ นเวยสัง่ คนไปเฝ้าดูมาโดยตลอด นางไม่เพียงแต่
รู ้วา่ จ้าวเฉิงซวี่ไม่ไว้หน้าท่านเสนาบดีฉิน แม้แต่หน้าองค์ชายรองก็
ยังไม่ไว้ นี่ทาให้ในใจนางเกิดวามเลื่อมใสต่อจ้าวเฉิ งซวี่คนผูน้ ้ ีหลาย
ส่ วน ขุนนางที่สามารถแบกรักความกดดันที่มากเพียงนี้ยนื หยัด
ตัดสิ นใจไม่ละทิ้งความชอบธรรมเพื่อประชาชนมีไม่เยอะจริ งๆ
มิน่าเล่าต่อให้สาส์นที่ยนื่ มติไม่ไว้วางใจเขาจะปลิวว่อนทัว่ ฟ้า ฝ่ า
บาทก็ไม่สะทกสะท้าน ยังคงให้เขานัง่ อยูใ่ นตาแห่งผูพ้ ิพากษาศาลต้า
หลี่อย่างมัน่ คง
ในขณะที่เลื่อมใส เสิ่ นเวยก็ยงั คงเป็ นกังวลเล็กน้อย ไม่วา่ จะเป็ นท่าน
เสนาบดีฉินหรื อว่าองค์ชายรองต่างก็ไม่ใช่คนดี โดยเฉพาะองค์ชาย
รอง ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ท้ งั หลายในราชสานักใครบ้างที่ไม่ไว้หน้าเขา
หลายส่ วน จ้าวเฉิงซวี่ปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ แม้จะบอกว่า
เป็ นหน้าที่ แต่ใครจะรับรองได้วา่ องค์ชายรองจะไม่อบั อายจนโมโห
แล้วโจมตีแก้แค้นต่อ
การปัดแข้งปัดขาระหว่างขุนนาง ฝ่ าบาทยังสามารถตัดสิ นอย่าเป็ น
ธรรมได้ หากว่าองค์ชายเกิดความขัดแย้งกับขุนนางชั้นผูใ้ หญ่
อย่างไรเสี ยฝ่ าบาทก็ตอ้ งปกป้องลูกตัวเองหลายส่ วน แม้หลังเรื่ องจบ
จะตาหนิองค์ชายรองแล้วอย่างไร ไม่เจ็บไม่ปวด ส่ วนขุนนางก็ตอ้ ง
โชคร้ายมิใช่หรื อ
ความคิดเหล่านี้ค่อยๆ ผ่านเข้ามาในสมองเสิ่ นเวย นางกระทัง่
ใคร่ ครวญว่าจะคิดหาวิธีจากจางย่วนเหนียงได้หรื อไม่
สมองของเสิ่ นเวยไตร่ ตรองด้วยความรวดเร็ ว ทว่าการเคลื่อนไหว
ของร่ างกายก็ไม่ได้หยุดลง จู่ๆ นางก็รู้สึกว่ามือคล้ายกดลงบนของ
บางอย่างที่อ่อนนุ่ม คล้ายเป็ น คล้ายเป็ นขาของคน เสิ่ นเวยไม่แม้แต่
จะคิดก็ชกั ปิ่ นปั กผมบนศีรษะแทงลงไป
คนผูน้ ้ นั ก็ตอบสนองรวดเร็ว กลิ้งไปข้างๆ ปิ่ นปั กผมของเสิ่ นเวยก็
แทงอากาศ เสิ่ นเวยเขยิบตัวขึ้นไปอีก ถูกคนผูน้ ้ นั จับมือทั้งคู่ไว้อย่าง
แน่นหนา คนผูน้ ้ ีเองก็สวมหน้ากากหนึ่งอัน สวมชุดท่องราตรี สีดา
เช่นกัน ส่ วนสู งสู งกว่าเสิ่ นเวยประมาณครึ่ งศีรษะ
ดวงตาเสิ่ นเวยเย็นยะเยือก กาลังจะออกกระบวนท่าที่รุนแรง ก็เห็น
คนผูน้ ้ นั หัวเราะเบาๆ หนึ่งครา “ฟู่ ว์ สหายก็ได้ยนิ มาเหมือนกันหรื อ
ว่าจวนเสนาบดีซ่อนสมบัติไว้ เป็ นพวกเดียวกัน ไปด้วยกันเป็ น
อย่างไร”
สมบัติหรื อ มาขโมยสมบัติจวนเสนาบดีฉินที่ป้องกันเข้มงวดหรื อ
เหตุผลนี้จะหลอกใครได้ เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหนึ่งครา “ไม่สนใจ!” เท้า
เตะออกไป
ทั้งสองประมือกันอยูบ่ นสันหลังคา เพราะกลัวว่าการเคลื่อนไหวจะ
ดังเกินไปจนดึงดูดองครักษ์ในจวน ทั้งสองต่างก็ไม่กล้าปล่อยกล
อุบายออกไป ชัว่ ขณะไม่วา่ ใครก็ไม่ยอมใคร
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 249-2 เสี่ ยงอันตราย
“ข้าจะบอกอะไรให้นะสหาย พวกเราอย่าสู ้กนั เลยดีกว่า ไม่ยอมไป
ด้วยกันก็ไม่เป็ นไร ข้าขโมยสมบัติของข้า เจ้าก็ทางานของเจ้า พวก
เราต่างคนต่างอยู่ อีกประเดี๋ยวดึงดูดองครักษ์ในจวนขึ้นมา เราสอง
คนจะแย่กนั ทั้งคู่” คนผูน้ ้ นั สู ้ไปพลางกล่าวไปพลาง
เสิ่ นเวยไม่สนใจเขา ออกกระบวนท่าอย่างเงียบๆ ใครจะรู ้วา่ คนผูน้ ้ ี
มาจากไหน มีเขาอยูข่ า้ งๆ นางไม่วางใจเลยแม้แต่นิดเดียว หากเป็ น
ตอนที่นางกาลังทางานอยูแ่ ล้วเขาแทงมีดเข้ามาข้างๆ นางจะหาใคร
มาเป็ นพยาน วิธีที่มนั่ ใจได้ที่สุดก็คือจัดการคนผูน้ ้ ีเสี ย
ส่ วนจะทาให้องครักษ์ในจวนรู ้ตวั หรื อไม่ เสิ่ นเวยไม่ใส่ ใจเลยแม้แต่
นิดเดียว รู ้ตวั ก็รู้ตวั อย่างมากครั้งหน้านางก็ค่อยมาใหม่
ความสามารถในการหนีนางยังคงมี
คนผูน้ ้ นั ถูกเสิ่ นเวยกดดันจนลุกลี้ลุกลน ในใจกระอักกระอ่วนจะแย่
อยูแ่ ล้ว นี่มนั ท่อนไม้ที่ไหนกัน เหตุใดถึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่ อง เขา
สื บมาหลายคืนกว่าจะหลบด่านลับในจวนมาถึงที่นี่ได้ ไม่คิดว่าจะมา
เจอท่อนไม้ เหตุใดชีวิตของเขาถึงได้ลาบากเพียงนั้น
เสิ่ นเวยไม่สนเสี ยงร้องโหยหวนในใจเขา การโจมตีดุเดือดยิง่ ขึ้น
“หยุดก่อน ดูเร็ ว ท่านเสนาบดีฉินผลักประตูออกมาแล้ว” คนผูน้ ้ นั
กระโดดไปข้างหลัง พลันกล่าว
เสิ่ นเวยเองก็ถอยไปข้างหลังหนึ่งก้าวใหญ่ทนั ทีเช่นกัน มองคนผูน้ ้ นั
ปราดหนึ่งอย่างตื่นตัว เหอะ หางจิ้งจอกโผล่ออกมาแล้วสิ นะ ยังบอก
ว่ามาขโมยสมบัติ เหตุใดเขาถึงมัน่ ใจเช่นนั้นว่าคนที่ออกมาคือท่าน
เสนาบดีฉิน เกรงวว่าจะจ้องอยูน่ านแล้วสิ ท่า
แต่วา่ นี่เองก็ทาให้เสิ่ นเวยวางใจลงเล็กน้อย แม้ไม่รู้วา่ คนผูน้ ้ ีมี
จุดประสงค์อะไร แต่ขอเพียงแค่เขาเป็ นศัตรู กบั ท่านเสนบดีฉิน
เช่นนั้นนางก็ดีใจแล้ว เห็นท่าทางลับๆ ล่อๆ เหมือนหนูของคนผูน้ ้ ี
คาดว่าคงจะไม่ใช่มิตรด้วยเช่นกัน
“ดูสิ ท่านเสนาบดีฉินออกจากเรื อนแล้ว” คนผูน้ ้ นั ส่ งเสี ยงเตือนอีก
ครั้ง ราวกับไม่เห็นความตื่นตัวของเสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยจ้องมองตามไป เป็ นเช่นนั้นจริ งๆ ท่านเสนาบดีฉินกาลัง
ออกมาจากลานบ้าน ข้างกายมีคนถือโคมผูห้ นึ่งตามอยู่ ดูจากทิศทาง
ที่เขาเดินไม่ได้ไปยังเรื อนใน ดึกเพียงนี้แล้วเขาจะไปไหน
ดวงตาเสิ่ นเวยกะพริ บวาบ ร่ างพุง่ ออกไป ตามอยูข่ า้ งหลังเงียบๆ
คนผูน้ ้ นั ที่ประมือกับเสิ่ นเวยก่อนหน้านี้กไ็ ม่ยอมอ่อนข้อ เท้าแตะลง
ตามเข้าไปเงียบๆ เช่นกัน
เสิ่ นเวยหันหน้า ถลึงตาใส่ เขาปราดหนึ่งอย่างดุร้าย หลีกไปข้างๆ
หลีกห่างจากเขาให้ไกลเล็กน้อย
คนผูน้ ้ ีเห็นท่าทีกล็ ูบจมูก กลับไม่ได้เข้าไปใกล้ แขวะในใจ เขาเป็ นมี
ความสามารถยอดเยีย่ ม มนุษยสัมพันธ์กด็ ีอย่างถึงที่สุด เหตุใดคืนนี้
ถึงถูกรังเกียจเช่นนี้เล่า แต่วา่ วิทยายุทธ์ของคนพวกเดียวกันผูน้ ้ ีกลับดี
จริ งๆ ในดวงตาของเขาปรากฏความสนใจสามส่ วน เฮ้อ ช่วงนี้ชีวิต
จืดชืดเกินไปแล้ว เขาเองก็ตอ้ งการการกระตุน้ อย่างยิง่
“นี่ เจ้าว่าท่านเสนาบดีฉินจะไปไหนหรื อ” คนผูน้ ้ นั กล่าวเสี ยงเบา
เสิ่ นเวยไม่สนใจเขา เพียงแค่จอ้ งมองโคมนั้นตรงหน้านิ่ง ยังต้องแบ่ง
ความสนใจไประวังผูร้ ่ วมทางข้างๆ อีก นางวิเคราะห์ทิศทางครู่ หนึ่ง
นางพบว่าท่านเสนาบดีฉินเดินไปยังทิศทางฝั่งตะวันออกเฉี ยงใต้ ทิศ
ตะวันออกเฉียงใต้จวนเสนาบดีฉินคือเรื อนใด
เสิ่ นเวยกาลังคิด จู่ๆ ก็ได้ยนิ คนผูน้ ้ นั กล่าวเสี ยงเบาอีกครั้ง “เจ้าว่า
ท่านเสนาบดีฉินจะนับพบหญิงงามหรื อไม่ เขาแอบเลี้ยงหญิงงามไว้
ในเรื อนหลังไหนในจวน”
ชัว่ ขณะก็ขดั จังหวะความคิดของเสิ่ นเวยแล้ว นี่มนั คนพูดมากที่โผล่
ออกมาจากหลืบไหน ไม่พดู จะตายหรื อไร จะตายหรื อ จะตายหรื อ
ไม่ดูวา่ บ้างตอนนี้เป็ นเวลาอะไร ทาให้คนอื่นรู ้ตวั ขึ้นมาใครจะ
รับผิดชอบ ยังจะมาแอบเลี้ยงหญิงงามอะไรอีก ท่านเสนาบดีฉินน้ า
เข้าสมองสิ ถึงจะซ่อนหญิงสาวไว้ในจวน แท้จริ งแล้วคนผูน้ ้ ีเติบโต
อยูบ่ นเขาลูกไหนกันแน่
“หุบปาก!” เสิ่ นเวยกัดฟันอย่างเคียดแค้น ยกปิ่ นปักผมที่เป็ นเงาวาว
ในมือนางให้คนผูน้ ้ นั ดู หากคนผูน้ ้ ียงั ไม่หยุดอีก ก็อย่าหาว่านางช่วย
เขาปิ ดปากไปตลอดชีวิต
คนผูน้ ้ นั ทาท่าทางห่อไหล่หวาดกลัว ในใจแสยะปากเงียบๆ โหด
จริ งๆ โหดเกินไปแล้ว
ร่ างกายที่คล่องแคล่วของเสิ่ นเวยผุบๆ โผล่ๆ อยูท่ ่ามกลางแสงใน
ยามราตรี ติดตามแสงไฟข้างหน้าไม่ใกล้ไม่ไกล ทันใดนั้น แสงไฟ
ข้างหน้าก็พลันดับ เสิ่ นเวยตระหนักได้ทนั ที ร่ างกายชิงก้าวขึ้นไป
ข้างหน้าหนึ่งก้าว วิ่งหลบออกมา หนีออกไปนอกจวนด้วยความ
รวดเร็ ว
การตอบสนองของอีกคนหนึ่งก็ไม่ชา้ แทบจะหนีไปยังทิศทางฝั่ง
ตรงข้ามพร้อมกับเสิ่ นเวย ก่อนไปยังทิ้งของบ้างอย่างเอาไว้ดว้ ย
ในขณะที่เสิ่ นเวยกับคนผูน้ ้ นั หนีไป ในความดามืดก็มีคนหลายคน
ปรากฏตัวออกมา จู่โจมไม่โดน ก็แยกย้ายกันไล่ตามคนทั้งสองทันที
เสิ่ นเวยหยิบเลือกทักษะพิเศษออกมาเล่นซ่อนหากับทหารที่ไล่ตาม
หากประลองด้วยดาบจริ งทวนจริ ง เสิ่ นเวยอาจจะเสี ยเปรี ยบ
เนื่องจากไม่ชานาญกาลังภายใน แต่เทียบกับวิทยายุทธ์ในการหนี
และซ่อนตัว นัน่ ยังคงไม่มีใครเทียบนางได้ นางเพียงแค่ซ่อนตัวเอง
อยูใ่ ต้ชายคา ทหารที่ไล่ตามเหล่านั้นก็วิ่งผ่านหน้านางไปโดยไม่
สังเกตเห็น
“ท่านเสนาบดี ผูน้ อ้ ยไร้ฝีมือ คนหายไปแล้วขอรับ” คนสองกลุ่มที่
ไล่ตามออกไปถอยทัพด้วยความล้มเหลว
โคมไฟจุดสว่างอีกครั้งแล้ว ท่านเสนาบดีฉินโบกมือกล่าว “ไม่
เป็ นไร กลับไปเถอะ” ในเมื่อคนแอบเข้ามาในจวนของเขาได้อย่าง
เงียบเชียบแล้ว เช่นนั้นก็ยอ่ มหนีออกไปได้แน่นอน เหล่าองครักษ์
ตามคนไม่ทนั เขาไม่รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่นิดเดียว เดิมคิดว่าการ
ป้องกันในจวนเข้มงวดพอแล้ว ไม่คิดว่าจะยังไม่ได้!
แม้ท่านเสนาบดีฉินจะไม่ได้ติโทษ แต่ในใจหัวหน้าองครักษ์ผนู ้ ้ นั
กลับละอายใจอย่างถึงที่สุด บนใบหน้าร้อนผ่าว หมัดของผูอ้ ื่นต่อย
ลงมาบนหน้าแล้ว เขาไม่เพียงแค่รู้สึกเจ็บ แต่ยงั รู ้สึกขายหน้า
ตัดสิ นใจเงียบๆ แล้วว่าจะเพิม่ การแจ้งเตือนในจวน การป้องการใน
จวนเองก็ตอ้ งปรับเปลี่ยนใหม่ เรื่ องที่ตบหน้าเช่นนี้ครั้งเดียวก็เกิน
พอ
เมื่อทหารที่ไล่ตามเดินไปไกลแล้วเสิ่ นเวยก็พลิกตัวออกมาจากใต้
ชายคา นางยืนอยูบ่ นสันหลังคาเงียบๆ ไม่ได้ดีใจ และไม่ได้ผดิ หวัง
ส่ วนท่านเสนาบดีฉินจิ้งจอกเฒ่าตัวนั้น นางไม่ได้หวังว่าสื บคืนเดียว
จะพบอะไรได้ ความจริ งแล้วกาไรในคืนนี้นางก็พอใจอย่างยิง่ แล้ว
อย่างน้อยนางก็รู้วา่ ทิศทางฝั่งตะวันออกเฉี ยงใต้ของจวนเสนาบดีฉิน
มีเงื่อนงา มิเช่นนั้นท่านเสนาบดีฉินก็คงจะไม่ไปทางนั้นในเวลาดึก
สงัด อืม พรุ่ งนี้ค่อยส่ งข่าวให้สายลับในจวนเสนาบดี ให้พวกเขาจับ
ตามองว่าทิศนั้นมีอะไรบ้าง
เงาร่ างเงาหนึ่งปรากฏตัวเงียบๆ ห่างออกไปจากเสิ่ นเวยห้าก้าว “โห
เจ้าวิ่งเร็ วจริ งๆ!” เป็ นคนพวกเดียวกันผูน้ ้ นั ก่อนหน้านี้
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหนึ่งครา ชมเขากลับหนึ่งประโยค “เหมือนกันนัน่
แหละๆ” จากนั้นจึงหันหลังกลับก้าวขาเดินออกไป นางไม่อยากอยู่
กับคนโง่ที่เบาปัญญาผูน้ ้ ีเลยแม้แต่นิดเดียว นางสงสัยว่าท่านเสนาบดี
ฉินสังเกตเห็นพวกเขาก็เพราะว่าหมอนี่พดู มากเกินไป
“นี่ สหาย…” คนผูน้ ้ นั เห็นเสิ่ นเวยกาลังจะไป ก็รีบเรี ยก
เสิ่ นเวยหันหน้ากลับ กล่าวอย่างเย็นชา “อย่าเรี ยกข้า อย่าตามข้ามาอีก
มิเช่นนั้น หึ!” การข่มขู่ในวาจาน่าสะพรึ งกลัว
เท้าที่ยกขึ้นของคนผูน้ ้ นั ดึงกลับทันที ช่างเถอะ คนพวกเดียวกันผูน้ ้ ี
ไม่เพียงแต่โหดเ**้้ยม นิสยั ยังคล้ายไม่ดีอีกด้วย เขาก็อย่าได้ตามไป
หาเรื่ องใส่ ตวั เลย กลับไปนอนดีกว่า
ตอนที่เสิ่ นเวยปี นข้ามเรื อนตนไหล่กถ็ ูกตบ นางสะดุง้ อย่างแรง
วินาทีต่อมาก็ถูกรวมเข้าไปในอ้อมกอดที่คุน้ เคย “ไปเดินเล่นที่ไหน
มา” เสี ยงที่ทุม้ ต่าของสวีโย่วดังขึ้นข้างหูนาง
ร่ างที่เกร็ งแน่นของเสิ่ นเวยอ่อนลงทันที ทุบตีสวีโย่วอย่างไม่พอใจ
“ท่านเกือบทาข้าหัวใจวายแล้ว” หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่าวต่อ “ว่างไม่มี
อะไรทาเลยไปเดินเล่นที่จวนเสนาบดีฉินเที่ยวหนึ่ง” ความหวาดกลัว
ที่ถูกจับได้ไม่มีเลยแม้แต่นอ้ ย คิดแล้วคิดอีกจึงกล่าวเพิ่มหนึ่ง
ประโยค “เจอคนโง่ผหู ้ นึ่ง ถูกพบเห็นแล้ว”
คิว้ คู่งามของสวีโย่วขมวดเล็กน้อย กล่าวอย่างเด็ดขาด “คราวหน้าไป
อีกข้าจะไปกับเจ้า” ในเมื่อเวยเวยสนใจ ส่ วนเขาก็หา้ มไม่ได้ เช่นนั้น
ก็ไปเสี่ ยงอันตรายกับนางแล้วกัน
เสิ่ นเวยดีใจดังคาด เขย่งปลายเท้าหอมลงบนหน้าเขา “ดี! ท่าน
รับปากแล้วนะ” มีสวีโย่วยอดฝี มือผูน้ ้ ีไปด้วย ต่อให้เจอคนโง่อีกนาง
ก็มนั่ ใจว่าจะจับเขาได้
“จริ งสิ ฝ่ าบาทเรี ยกท่านไปทาไมหรื อ ดึกเพียงนี้แล้วเหตุใดถึงไม่ให้
ท่านค้างในวังเสี ยเลยเล่า” เสิ่ นเวยพลั้งปากถาม ถามเสร็ จก็รู้วา่ ตน
พูดจาโง่ๆ แล้ว แม้แต่องค์ชายที่บรรลุนิติภาวะยังไม่อาจค้างอยูใ่ น
พระราชวังได้ง่ายๆ นับประสาอะไรกับสวีโย่วที่เป็ นเพียงหลานชาย
เล่า
“ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไร เพียงแค่อยากให้ขา้ รับราชการในราชสานัก
เพื่อช่วยเขา” สวีโย่วเลี่ยงหนักเป็ นเบากล่าวกับเสิ่ นเวย ลังเลครู่ หนึ่ง
จึงกล่าวต่อ “ฝ่ าบาทอยากให้ขา้ บัญชาการกองปั ญจทิศรักษานคร ข้า
รับปากแล้ว” คาดว่าข่าวนี้พรุ่ งนี้เช้าราชสานักก็คงจะประกาศ แม้เขา
จะไม่พดู ถึงตอนนั้นเสิ่ นเวยก็รู้อยูด่ ี
“กองปัญจทิศรักษานครหรื อ” หน่วยงานนี้เสิ่ นเวยคล้ายรู ้มาบ้าง
เล็กน้อย พูดง่ายๆ ก็คือจัดการความสงบเรี ยบร้อย ป้องกันขโมย
ต่างๆ ลาดตระเวนตามถนนต่างๆ นานา ไม่ต่างจากสานักงานตารวจ
ในยุคปัจจุบนั นัก “เหตุใดฝ่ าบาทถึงอยากให้ท่านไปอยูใ่ นกองปั ญจ
ทิศรักษานครเล่า” ให้หวั หน้าสายลับที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นไปดูแล
เรื่ องจุกจิกที่ไม่เป็ นชิ้นเป็ นอัน ใช่ใช้คนไม่เหมาะกับงานหรื อไม่
สวีโย่วกอดร่ างหอมๆ ของเสิ่ นเวย สู ดลมหายใจเข้าลึกด้วยความลุ่ม
หลง กล่าว “ในกองปัญจทิศรักษานครของราชสานักส่ วนใหญ่เป็ น
ขุนนางผูส้ ร้างคุณูปการและบุตรหลานราชนิกลุ บ้างก็เป็ นลูกคุณหนู
คุณชาย บ้างก็สร้างบาปกรรมทาชัว่ คนที่ทางานจริ งจังมีอนาคตก็มี
ไม่มาก คนอื่นควบคุมพวกเขาไม่ได้ ฝ่ าบาทปวดหัวเพราะเรื่ องนี้มา
นานแล้ว และฐานะของข้าก็เหมาะสมพอดี” สวีโย่วอธิบาย
“เช่นนั้นทหารเงาเล่า” ดวงตาเสิ่ นเวยกะพริ บวาบ คิดถึงปั ญหาข้อนี้
“ยังคงเป็ นข้าที่กมุ อยู”่ สวีโย่วกล่าว
เสิ่ นเวยพยักหน้า วางใจลงไม่นอ้ ย แม้นางจะชอบหยอกเย้าล้อเลียนส
วีโย่วว่าเป็ นหัวหน้าสายลับ ทว่าในมือกุมอานาจของทหารเงาอยู่
ทางานส่ วนตัวขึ้นมาแล้วก็สะดวกมากนัก
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 250-1 สาวงามหรื อว่ าหวานใจ
ชีวิตช่วงนี้ของคนห้าร้อยคนที่ถูกฮ่องเต้ยงเซวียนบัญชาการอยูใ่ น
กองทหารรักษาพระองค์ถูกลากมายังจวนผิงจวิน้ อ๋ องอัดอั้นตันใจ
มากเป็ นพิเศษ เดิมฮ่องเต้ยงเซวียนบอกว่าจะเลือกคนหนึ่งพันคน
เห็นหรื อไม่ กฎข้อบังคับอะไร เพียงแค่พดู ให้น่าฟังก็เท่านั้นเอง ยัง
ต้องดูอีกว่าเจ้าได้รับความโปรดปรานหรื อไม่
แต่สวีโย่วไม่ตอ้ งการ จวนจวิน้ อ๋ องเล็กๆ ของเขาจะเอาทหารคุม้ กัน
จวนที่เยอะเพียงนั้นไปเพื่ออะไร เลี้ยงทหารต้องใช้เงินจานวนมาก
อีกทั้งเสี ยงนินทาของเหล่าผูเ้ ฒ่าปัญญาชนคร่ าครึ เหล่านั้นในราช
สานักก็น่าราคาญยิง่ นัก ทหารคุม้ กันจวนห้าร้อยนาย บวกกับกอง
ทหารเด็กสี่ ร้อยกว่าคน ก็แทบจะใช้ไม่หมดแล้ว
เพราะว่าฮ่องเต้ยงเซวียนบอกว่าจะเลือกอย่างดี สวีเวยจึงเลือกคนที่มี
ความสามารถดีเหล่านั้น แต่คนที่มีความสามารถก็ยากจะเลี่ยง
อวดอ้างฝี มือทาตัวตามอาเภอใจ บวกกับกองทหารรักษาพระองค์
กลายเป็ นทหารคุม้ กันจวน ในด้านความรู ้สึกก็ตกต่า ในใจย่อมไม่
พอใจ แต่ละคนเชิดหน้ามองฟ้า ไม่เห็นโอวหยางไน่หวั หน้าใหม่ผนู ้ ้ ี
อยูใ่ นสายตาอย่างสิ้ นเชิง
โอวหยางไน่เองก็ไม่โมโห ลากกองทหารเด็กออกมาเสี ยเลย บอกว่า
จะให้พวกเขาเจียระไน
กองทหารรักษาพระองค์แทบจะโกรธจมูกเบี้ยว เจียระไนอะไรกัน
ไม่ใช่ประลองหรอกหรื อ ให้คนใหญ่คนโตเช่นพวกเขามาประลอง
กับเด็กที่ยงั ไม่โต นี่ไม่ใช่เป็ นการดูถูกพวกเขาหรอกหรื อ
แต่เมื่อประมือจริ งๆ จึงได้รู้ ต่อสู ้เพียงลาพังกับกองทหารเด็กกลุ่มนี้
เทียบพวกเขาไม่ได้ แต่พวกเขาร่ วมมือกันได้อย่างโดดเด่นมากเป็ น
พิเศษ ลูกไม้อย่างแล้วอย่างเล่า ทาให้คนไม่ทนั ระวังตัว ผ่านไปหนึ่ง
ชัว่ ยามแล้ว พวกเขาคนใหญ่คนโตกลุ่มนี้กย็ งั จัดการเด็กยังไม่โตกลุ่ม
นี้ไม่ได้ ชัว่ ขณะกลับต่อสู ้เสมอกัน
โอวหยางไน่เห็นว่าพอประมาณแล้ว โบกธงเรี ยกให้หยุด
เหล่าทหารรักษาพระองค์อบั อาย แม้วา่ จะไม่มีผแู ้ พ้ผชู ้ นะ แต่อนั ที่
จริ งพวกเขาก็แพ้แล้ว กองทหารเด็กอายุมากที่สุดก็ไม่เกินสิ บห้าปี ฝั่ง
ตนอย่างน้อยที่สุดก็สิบห้าสิ บหกแล้ว ไม่สามารถชนะได้ ซ้ ายังถูก
พวกเขาหลอกจนสับสนวุน่ วาย บนใบหน้าแต่ละคนต่างก็ร้อนผ่าว
รู ้สึกขายหน้ายิง่ นัก
ตอนนี้โอวหยางไน่จึงกล่าว “ไม่ใช่คิดว่าตัวเองเก่งมากหรื อไร มาสิ !
ขอเพียงแค่ชนะทวนยาวเล่มนี้ในมือข้าได้ เช่นนั้นตาแหน่งหัวหน้า
ข้าก็จะยกให้เจ้าเป็ น หากชนะไม่ได้ เช่นนั้นก็อยูน่ ิ่งๆ เสี ย”
แม้เหล่าทหารรักษาพระองค์จะถูกโจมตี แต่ปณิ ธานอันยิง่ ใหญ่กไ็ ม่
เคยสู ญหาย โอวหยางไน่พดู ไม่ทนั ขาดคา ก็มีชายร่ างกายาสี่ คนวิง่
เข้ามาแล้ว “หัวหน้าโอวหยางพูดจริ งหรื อ”
โอวหยางไน่เลิกคิ้ว กล่าวเสี ยงต่า “แน่นอน”
คนทั้งสี่ มองหน้ากันเล็กน้อย กาหมัดคารวะ “เช่นนั้นผูน้ อ้ ยก็มาขอ
คาแนะนาก่อน”
คนที่สูงที่สุดในนั้นวิ่งเข้ามาแล้ว ในมือถือทวนยาวหนึ่งเล่ม
เช่นเดียวกัน ต่อสู ้ได้สิบเพลงก็ถูกโอวหยางไน่ใช้ทวนตีออกไปแล้ว
สามคนที่เหลือเห็นท่าไม่ดี คนที่ใช้ลูกตุม้ คู่ทางขวาสุ ดก็ปะทะเข้ามา
ปากส่ งเสี ยงตะโกน “ผูน้ อ้ ยมาขอคาแนะนาฝี มือของหัวหน้าโอวห
ยาง”
เสี ยงดังอย่างยิง่ แต่เขายังสู ้คนแรกไม่ได้ดว้ ยซ้ า ทาได้เพียงแค่เดินอยู่
ใต้เงื้อมมือของโอวหยางไน่เจ็ดแปดรอบ
สองคนที่เหลือก็มองหน้ากันเล็กน้อย จู่โจมเข้ามาหาโอวหยางไน่
ซ้ายขวาพร้อมกันด้วยความรู ้ใจอย่างถึงที่สุด
“เข้ามาได้ดี!” โอวหยางไน่ตะโกนเสี ยงดังหนึ่งครา ทวนยาวในมือ
จ้วงซ้ายแทงขวา ประหนึ่งมังกรเลื้อย เร็ วอย่างยิง่ ก็บีบบังคับจนสอง
คนนั้นด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชดั
“มาอีก!” โอวหยางไน่ยงิ่ สู ้กย็ งิ่ ฮึกเหิ ม ตะโกนด้วยความห้าวหาญ
อย่างถึงที่สุด
ในกลุ่มทหารรักษาพระองค์มีคนวิ่งออกมาอีกสองคน ล้อมโจมตี
โอวหยางไน่พร้อมกับสองคนนั้นก่อนหน้า ทวนยาวของโอวหยาง
ไน่ร่ายราโดยไม่เว้นช่องว่าง คนทั้งสี่ น้ ีประชิดตัวเขาไม่ได้อย่าง
สิ้ นเชิง กลับถูกเขากดดันจนแสดงฝี มือไม่ได้
“มาอีก!” โอวหยางไน่ตะคอกอีกครั้ง
คราวนี้คนที่ออกมามีสี่คน ชายร่ างกายาแปดคนล้อมโจมตีโอวหยาง
ไน่คนเดียวพร้อมกัน สองมือยากจะสู ้สี่มือ ต่อให้โอวหยางไน่
เก่งกาจก็มีเพียงคนเดียว กองทหารเด็กที่มุงดูอยูข่ า้ งๆ ต่างก็อดปาด
เหงื่อแทนเขาไม่ได้
แต่โอวหยางไน่เป็ นใครกัน เขาเคยเป็ นราชันนักรบที่แกร่ งกล้าที่สุด
ในกองทัพชายแดนซีเจียง มิเช่นนั้นจะเป็ นทหารคนสนิทข้างกาย
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวได้อย่างไร ทั้งยังติดตามเสิ่ นเวยฆ่าเข้าฆ่าออก
หลายรอบท่ามกลางกองทัพใหญ่ซีเหลียง หล่อหลอมดุจกระบี่ล้ า
ค่าที่แหลมเปรี ยวหนึ่งเล่มนานแล้ว
ศิลปะการต่อสู ้ของทหารรักษาพระองค์หลายคนนี้ไม่เลวอย่างยิง่
แล้ว แต่อย่างไรเสี ยพวกเขาก็ไม่เคยเห็นเลือดมาก่อน ประสบการณ์
การเผชิญหน้าต่อศัตรู กเ็ หือดแห้ง ต่อให้จะมาอีกหลายคนก็ตอ้ งถูก
โอวหยางไน่ทารุ ณเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังสู ้กนั แปดต่อหนึ่งแล้ว พวก
เขาเองก็ไม่มีหน้าจะเพิม่ คนอีกแล้ว
ผ่านไปสองเค่อ โอวหยางไน่กถ็ ีบคนสุ ดท้ายลอยออกไป จากนั้นจึง
เก็บท่าตั้งทวน เหล่ากองทหารเด็กก็ส่งเสี ยงร้องดีใจที่ดงั สนัน่ ลัน่ ฟ้า
ออกมา
แปดคนที่ลม้ ลงบนพื้นก็ลุกขึ้นมาช้าๆ เดินกระโผลกกระเผลกเข้ามา
ประสานมือคารวะโอวหยางไน่ กล่าวด้วยความชื่นชมจากใจจริ ง
“หัวหน้าโอวหยาง ผูน้ อ้ ยทั้งหมดยอมแพ้แล้ว” แม้วา่ พวกเขาจะหัว
รั้นหัวแข็ง แต่กเ็ ลื่อมใสยอดฝี มือที่สุด หัวหน้าโอวหยางต่อสู ้หนึ่งต่อ
แปดยังชนะพวกเขาได้ นี่ทาให้ในใจพวกเขาเลื่อมใสอย่างถึงที่สุด
คนหลายคนที่รับมือยากที่สุดล้วนถูกจัดการแล้ว คนเหล่านั้นที่เหลือ
ย่อมพูดอะไรไม่ได้อีก พากันคารวะโอวหยางไน่ สวามิภกั ดิ์
มุมปากของโอวหยางไน่ยกขึ้น รู ้สึกว่าความคิดจวิน้ จู่ของเขาดีจริ งๆ
จวิน้ จู่บอกว่า ‘ไม่เชื่อฟังหรื อ เช่นนั้นก็สู้สิ สู ้จนพวกเขาไม่มีแรง
ตอบโต้กเ็ ชื่อฟังแล้ว’ ก็เป็ นเช่นนี้ไม่ใช่หรื อ ดังนั้นก็พดู ได้วา่ คน
กลุ่มนี้เป็ นคนต่าช้าเช่นกัน เจ้าดีต่อพวกเขาพันเท่าหมื่นเท่า พวกเขา
ก็ยงั แข็งคอถลึงตาใส่ เจ้า จัดการให้โหดเ**้้ยมครั้งหนึ่ง พวกเขา
กลับซื่อสัตย์เชื่อฟังแล้ว
“พวกเจ้าสู ้ไม่ได้แม้แต่ขา้ ก็อย่าได้ทาตัวขายหน้าขายตาต่อหน้าจวิน้
อ๋ องจวิน้ จู่เลย พวกเจ้าอาจจะได้ยนิ ข่าวลือข้างนอก คิดว่าผิงจวิน้ อ๋ อง
ร่ างกายอ่อนแอไร้ประโยชน์ แต่พวกเจ้าล้วนมีสมองก็ไม่รู้จกั คิดดู
หากผิงจวิน้ อ๋ องเป็ นคนอ่อนแอไร้ประโยชน์จริ งๆ ฝ่ าบาทจะให้
ความสาคัญเช่นนี้หรื อ ดังนั้นใต้บงั คับบัญชาจวิน้ อ๋ องของพวกเรา
ล้วนต่อสู ้ได้หลายกระบวนท่า” โอวหยางไน่กล่าวด้วยใบหน้าเคร่ ง
ขรึ ม
ตีดว้ ยกระบองแล้ว ต่อไปก็ควรให้พทุ ราหวาน โอวหยางไน่ยนื อยู่
เบื้องหน้าพวกเขาราวกับพลสวรรค์ เสี ยงไม่ดงั แต่กลับกังวานมีพลัง
กึกก้องไปทัว่ ทั้งลาน “ข้ารู ้วา่ พวกเจ้าต่างก็เป็ นผูไ้ ด้รับความโปรด
ปรานในกองทหารรักษาพระองค์ ถูกย้ายมาที่จวนผิงจวิน้ อ๋ องในใจ
ยากจะเลี่ยงไม่ให้รู้สึกผิดหวัง ตรงนี้สามารถเข้าใจได้ ความกังวล
ของพวกเจ้า ข้ากับท่านจวิน้ อ๋ องจวิน้ จู่ต่างก็รู้ดี ตรงนี้ทุกคนวางใจได้
พวกเจ้าอยูใ่ นกองทหารรักษาพระองค์ได้รับเงินเดือนสวัสดิการเช่น
ไร อยูท่ ี่จวนผิงจวิน้ อ๋ องก็จะได้เงินเดือนสวัสดิการเช่นนั้น มีแต่ได้
ไม่มีเสี ย ส่ วนอนาคตน่ะหรื อ คาสาบานข้าไม่พดู แล้ว พวกเราตั้งตา
รอดูกแ็ ล้วกัน” โอวหยางไน่ยมิ้ อย่างมีเลศนัย รอยแผลเป็ นยาวบน
ใบหน้าขยับ ยิง่ ทาให้ดูน่ากลัว
ในกองทหารรักษาพระองค์มีคนสมองไวฉลาด ดวงตาเป็ นประกาย
อย่างอดไม่ได้ คนที่ธรรมดาหน่อยก็ถูกคาพูดที่ล่อลวงใจนี้ของโอวห
ยางไน่พดู จนเลือดร้อนพุง่ พล่าน นี่ทาให้เสิ่ นเวยที่แอบมองอยูอ่ ด
ตกใจไม่ได้ นางคิดว่ามีเพียงอาจารย์ซูกบั จางสยงที่มีฝีมือในการ
ทางานด้านความคิด ไม่คิดว่าโอวหยางไน่ชายกายาล่าสันที่ปกติแล้ว
กลัวดอกพิกลุ จะร่ วงผูน้ ้ ีจะปราดเปรื่ องเป็ นยอดหัวกะทิ ไม่อาจมอง
คนที่หน้าตาได้จริ งๆ!
เช้าวันที่สอง ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ท้ งั หมดตกใจสุ ดขีดเมื่อมองเห็นผิง
จวิน้ อ๋ องผูน้ ้ นั ปรากฎตัวอยูใ่ นพระตาหนักจินหลวน พึมพาในใจ
กระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กบั สหายข้างๆ ขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
และบุคคลในคาวิจารณ์กย็ นื อยูด่ ว้ ยสี หน้าเรี ยบเฉยไม่สนใจฟัง
ประหนึ่งต้นสนสี เขียวแก่ที่ต้ งั ตระหง่านต้นหนึ่ง
ฮ่องเต้ยงเซวียนที่ประทับอยูข่ า้ งบนมองเห็นภาพเหตุการณ์ขา้ งล่าง
อยูใ่ นสายตาทั้งหมด หลุบตาลงเงียบๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทรงคิด
อะไรอยู่
ตอนที่ขนั ทีลากเสี ยงแหลมเปรี ยวประกาศว่าผิงจวิน้ อ๋ องรับตาแหน่ง
เป็ นผูบ้ ญั ชาการกองปัญจทิศรักษานคร ขุนนางทั้งหมดก็เข้าใจโดย
พลัน อ้อ ที่แท้แล้วผิงจวิน้ อ๋ องที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้
อย่างยิง่ ผูน้ ้ ีกเ็ ข้าราชสานักแล้ว เมื่อคิดถึงตาแหน่งของเขา ผู ้
บัญชาการกองปัญจทิศรักษานคร บนใบหน้าของคนบางคนก็เผย
ท่าทางคล้ายกาลังครุ่ นคิดออกมา ในใจคนบางคนก็คิดด้วยเจตนาร้าย
ด้วยสุ ขภาพร่ างกายที่ไม่ทนั ได้ขยับก็ป่วยจนต้องขึ้นเขาไปรักษาตัว
ของคนผูน้ ้ ีจะการาบบุตรหลานลูกคุณชายที่มีคนหนุนหลังกลุ่มนั้น
ได้หรื อ แต่วา่ นี่กไ็ ม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา อย่างไรเสี ยเกิดเรื่ อง
วุน่ วายก็เป็ นเพียงเรื่ องของเหล่าราชนิกลุ และผูม้ ีคุณูปการสู งส่ ง ให้
ฝ่ าบาทปวดหัวไปคนเดียวก็พอ
เข้าเดือนหกแล้วชัว่ พริ บตาก็ถึงวันเกิดของเสิ่ นเวยแล้ว นางอายุสิบ
หกปี เต็ม ตั้งแต่ที่ทะลุมิติมาต้ายงก็ผา่ นมาสี่ ปีแล้ว ในสี่ ปีนี้เกิด
เรื่ องราวขึ้นมากมาย ชีวิตของนางก็ผา่ นไปอย่างเยีย่ มยอด บางครั้ง
ตัวนางเองยังทอดถอนใจ เด็กผูห้ ญิงที่ผอมแห้งขี้โรคใกล้ตายผูน้ ้ นั
ตอนที่ทะลุมิติมาแรกๆ ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
เมื่อตื่นขึ้นแล้ว แม่นมมัว่ กับหลีฮวาและสาวใช้หลายคนก็ยมิ้ แย้ม
อวยพรให้นาง เถาฮวาเองก็วิ่งเข้ามาเอาของขวัญที่เตรี ยมไว้ดีแล้ว
ส่ งไปถึงมือนางราวกับถวายของล้ าค่าด้วยตัวเอง
ต่อมา คนรับใช้ทวั่ ทั้งจวนต่างก็เข้ามากราบไหว้อวยพร ของขวัญ
ของชวีไห่จางสยงและคนอื่นๆ ส่ งเข้ามาตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว
ล้วนแต่เป็ นของล้ าค่าหายาก เสิ่ นเวยมองจนดวงตาทั้งคู่เป็ นประกาย
อย่างเช่นอาจารย์ซูที่ทุ่มเทกายใจมอบภาพเหมือนให้นางหนึ่งภาพ
ในม้วนภาพนางสวมชุดสี แดงตัวใหญ่ท้ งั ร่ าง ยืนอยูใ่ ต้ตน้ ท้อที่ผลิ
บาน ดอกท้อทั้งต้นเบ่งบานสวยสด ขับให้รอยยิม้ ที่งามวิจิตรของ
นางให้เด่นชัด
เสิ่ นเวยชอบยิง่ นัก! แต่บนใบหน้าสวีโย่วกลับบิดเบี้ยวเล็กน้อย หาก
ไม่ใช่วา่ เห็นอาจารย์ซูปฏิบตั ิต่อภรรยาของเขาเช่นบุตรสาวจริ งๆ แม้
จะรู ้อยูแ่ ก่ใจว่าภรรยาเขาจะโกรธเขาก็จะต้องเอาม้วนภาพมาทาลาย
ทิ้งเสี ย เป็ นเช่นนี้แล้วเขาก็ยงั ไม่ลืมที่จะกระซิบข้างหูเสิ่ นเวย “เจ้า
ชอบภาพเหมือนเหตุใดถึงไม่บอกให้เร็ วกว่านี้ ข้าเองก็วาดได้!” เขา
วาดก็ไม่ดอ้ ยไปกว่าอาจารย์ซูเช่นกัน
เสิ่ นเวยแพ้ให้สวีโย่วแล้วจริ งๆ คนที่โตเป็ นผูใ้ หญ่หนึ่งคนยังทาตัว
เป็ นเด็กเช่นนี้ แต่เมื่อนึกได้วา่ สวีโย่วรับปากว่าจะพานางออกไปล่อง
ทะเลสาบ นางก็ตดั สิ นใจว่าจะปลอบขวัญชายใจแคบผูน้ ้ ีให้เป็ น
อย่างดี
“ได้สิ รอฤกษ์ไม่สู้เลือกวันนี้ เช่นนั้นก็คืนนี้เลยแล้วกัน” เสิ่ นเวย
กะพริ บตาอย่างทะเล้น กระซิบเสี ยงเบาข้างหูสวีโย่วหลายประโยค
ท่าทางน่าหลงใหลที่หวานเยิม้ ทาให้สวีโย่วตัวแข็งอย่างอดไม่ได้
ส่ วนปี ศาจน้อยที่จุดไฟตนนั้นก็ไหลออกไปไกลประหนึ่งปลาแล้ว
เอียงหน้ายิม้ “ไปแล้วนะ ไปแล้วนะ!”
ชัว่ ขณะอามรมณ์ของสวีโย่วราวกับแสงอาทิตย์ที่อบอุ่นข้างนอก
พริ บตาเดียวก็สว่างจ้าขึ้นมา
ต้นหลิวริ มฝั่งพลิ้วไหว บนผิวแม่น้ ามีเรื อสาราญหนึ่งลาจอดอยู่
กาลังแล่นเข้ามาเทียบท่าช้าๆ คนที่ยนื อยูบ่ นหัวเรื อคือเจียงเฮยกับ
เจียงไป๋ สองพี่นอ้ ง ก่อนหน้านี้เสิ่ นเวยยังแปลกใจว่าสองคนนี้ไป
ไหน ที่แท้แล้วก็ถูกสวีโย่วสัง่ ให้มาที่นี่
“เชิญจวิน้ อ๋ องกับจวิน้ จู่ข้ ึนเรื อขอรับ” เมื่อเรื อสาราญจอดสนิท สอง
พี่นอ้ งเฮยไป๋ ก็กระโดดจากเรื อขึ้นฝั่ง
เรื อสาราญลานี้ใหญ่อย่างยิง่ มองดูแล้วใหญ่ยงิ่ กว่าห้องสามห้องเสี ย
อีก ราวกับพระราชวัง หรู หรายิง่ นัก เสิ่ นเวยเคยนัง่ เรื อ แต่เรื อสาราญ
ชนิดนี้ยงั ไม่เคยนัง่ มาก่อนจริ งๆ สี หน้าท่าทางก็อดตื่นเต้นไม่ได้
“เรื อสาราญลานี้ราคาคงไม่ธรรมดาสิ นะ ท่านไปยืมใครมา” เสิ่ นเว
ยดึงแขนเสื้ อของสวีโย่วกล่าวถาม
สวีโย่วถือโอกาสโอบเอวของนาง ออกแรงเล็กน้อยก็กระโดดขึ้นไป
บนเรื อสาราญ กล่าวด้วยความเป็ นเอกลักษณ์อย่างยิง่ “ยืมใครอะไร
กัน นี่เป็ นของครอบครัวพวกเรา” ก็แค่เรื อสาราญลาเล็กๆ ยังต้องไป
ยืมใครด้วยหรื อ “หรื อว่าในสายตาของเวยเวยข้าจนเพียงนั้นเชียว
หรื อ แม้แต่เรื อสาราญให้ฮูหยินท่องเที่ยวยังซื้อไม่ได้เชียวหรื อ” สวี
โย่วน้อยใจอย่างยิง่ อย่างไรเสี ยเขาก็เป็ นผิงจวิน้ อ๋ องที่ได้รับความ
โปรดปรานจากฮ่องเต้อย่างมาก!
เมื่อเสิ่ นเวยได้ยนิ ว่าเรื อสาราญลานี้เป็ นของครอบครัวตน ก็ยมิ้ แย้ม
ทันที วิ่งอยูบ่ นเรื อสาราญหนึ่งรอบอย่างไม่รีรอ ยิง่ มองก็ยงิ่ มี
ความสุ ข “ไม่เลว ไม่เลว วันไหนอากาศดีค่อยชวนพี่รองพี่สามกับ
น้องสาวทั้งหลายในจวนออกมาเที่ยวด้วยกัน จะต้องสนุกมาก
แน่นอน” หลังจากนั้นก็คล้ายนึกอะไรขึ้นได้ “พี่รองคงจะออกมา
ไม่ได้แล้ว นางตั้งท้องแฝด ท่านน้าสะใภ้ใหญ่ดูแลเข้มงวดยิง่ นัก”
สวีโย่วมองเสิ่ นเวยที่เหมือนนกกระจอกร่ าเริ งหนึ่งตัว มุมปากก็อด
ยกขึ้นไม่ได้
คนที่ดีใจเหมือนเสิ่ นเวยยังมีสาวใช้ที่ตามอยูข่ า้ งหลัง พวกนางดูตรง
นี้ ดูตรงนั้น แปลกใจเป็ นที่สุด มักจะส่ งเสี ยงหัวเราะที่เบิกบาน
หรื อไม่กเ็ สี ยงอุทานออกมาไม่หยุด เถาฮวาน้อยก็ยงิ่ ดีใจเป็ นลิงโลด
กลิ้งไปบนดาดฟ้าเรื อเสี ยเลย ราวกับว่าข้างใต้ปูไปด้วยพรมหนาๆ
หลังประหลาดใจแล้ว สวีโย่วก็จูงมือเสิ่ นเวยยืนเคียงคู่กนั เคลิบเคลิ้ม
ไปกับสายลมอ่อนๆ ชื่นชมความงามของสองฝั่ง สบายใจสุ ดขีด
จริ งๆ
เหล่าสาวใช้ต่างก็แบ่งหน้าที่กนั เจียงเฮยเจียงไป๋ สองพี่นอ้ งก็ควบคุม
ความเร็ วในการแล่นของเรื อสาราญ โอวหยางไน่กน็ าทหารคุม้ กัน
ทั้งหมดกระจายตัวอยูร่ อบข้าง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 250-2 สาวงามหรื อว่ าหวานใจ
“นี่กค็ ือของขวัญวันเกิดที่ท่านให้ขา้ หรื อ ขอบคุณท่านพี่!” เสิ่ นเวย
อารมณ์ดี คาพูดที่ออกจากปากก็ไพเราะ จากมุมมองของนางสวีโย่ว
ให้ปิ่นให้แหวนนาง ก็ไม่เท่าพานางออกมาเที่ยว
นี่ยงั เป็ นครั้งแรกที่สวีโย่วได้ยนิ เสิ่ นเวยเรี ยกเขาว่าท่านพี่ จิตใจทั้ง
ดวงก็อ่อนยวบ เขากุมมือที่นิ่มราวกับไร้กระดูกของเสิ่ นเวยแน่น
เอียงหน้ามองนาง “แค่น้ ีกม็ ีความสุ ขแล้วหรื อ”
เสิ่ นเวยพยักหน้าทันที “ท่านไม่ใช่ไม่รู้นิสยั ของข้า ทั้งชีวิตมี
ความชอบอยูส่ องอย่างใหญ่ หนึ่งคือเงิน อีกอย่างคือเที่ยว” เสิ่ นเวยก
ล่าวอย่างโอ้อวดไม่ละอายใจ
สวีโย่วหัวเราะเบาๆ หนึ่งครา พูดเสริ ม “ข้าคิดว่าเวยเวยยังมีอีกหนึ่ง
ความชอบมิใช่หรื อ”
เสิ่ นเวยหันหน้า ถามด้วยความสงสัย “อะไร”
“สร้างเรื่ อง” สวีโย่วกล่าวด้วยสี หน้าจริ งจัง ความสามารถในการ
สร้างเรื่ องเวยเวยของเขาเป็ นที่หนึ่ง เขาเพียงแค่ถูกฝ่ าบาทเรี ยกเข้าวัง
ครู่ เดียวนางก็วิ่งไปเดินเล่นที่จวนเสนาบดีฉินแล้ว มิหนาซ้ ายัง
ประมาทแหวกหญ้าให้งูตื่นอย่างยิง่ แม้จะบอกว่าสุ ดท้ายแล้วหลบมา
ได้ แต่กย็ งั คงทาให้เขาเป็ นกังวลอย่างถึงที่สุด!
เสิ่ นเวยย่นจมูก กล่าวอย่างไม่สนใจ “ข้าไม่ได้เต็มใจเสี ยหน่อย แต่
เรื่ องวิ่งเข้ามาหาเองต่างหาก”
เหมือนเรื่ องที่นางจับจ้องจวนเสนาบดีฉิน หากไม่ใช่วา่ ฉิ นมู่หราน
เด็กชัว่ คนนั้นมีเรื่ องกับน้องเจวี๋ยน้องชายของนางอยูก่ ่อน จวน
เสนาบดีพงุ่ เป้ามาที่นางอยูข่ า้ งหลัง นางก็ข้ ีเกียจจะสนใจพวกเขา
ยังมีหมิ่นซือเหนียนที่เจอระหว่างทางกลับเมืองหลวงจากอวิ๋นโจว
หากเขาไม่เกิดมีเจตนาร้ายลักพาตัวนางกลับไป นางก็คงจะไม่สนใจ
ว่าหมิ่นซือเหนียนจะใช้อานาจบาตรใหญ่ที่เมืองทงโจวอย่างไร
แม้แต่คนโง่ผนู ้ ้ นั ที่เจอคืนนั้นก็เข้ามาเอง นางไม่ได้หาเรื่ องเองเลย
“ใช่ๆๆ ล้วนแต่เป็ นเรื่ องที่เข้ามาหาเสิ่ นเวย” สวีโย่วเห็นเสิ่ นเวยเบ้
ปาก ก็เลิกประนีประนอมตามหลักการทันที ท่าทางทาสภรรยานั้น
ทาให้ใบหน้าที่เย็นชาใบนั้นของโอวหยางไน่ที่อยูข่ า้ งๆ กระตุกอย่าง
แรง ท่านจวิน้ อ๋ อง ท่านลุ่มหลงรักใคร่ เช่นนี้จะดีจริ งๆ หรื อ
โดยเฉพาะต่อหน้าสุ นขั รับใช้หนึ่งกลุ่ม ช่างปวดใจดีจริ งๆ!
สวีโย่วชี้ความงดงามข้างฝั่งแนะนาให้เสิ่ นเวยฟัง เสิ่ นเวยพูดแทรก
สองประโยคอยูบ่ ่อยๆ หลีฮวานาสาวใช้สองคนมาส่ งผลไม้สดของ
ว่างและชาหอมที่ชงมาอย่างดี สวีโย่วหยิบไม้เสี ยบผลไม้จิ้ม
สับปะรดหนึ่งชิ้นส่ งไปที่มุมปากของเสิ่ นเวย เสิ่ นเวยกัดหนึ่งคา น้ าที่
เปรี้ ยวหวานชัว่ ขณะก็กระฉูดอยูใ่ นโพรงปาก ริ มฝี ปากและฟันชุ่มฉ่ า
อดกัดอีกคาไม่ได้ กัดไปสองสามคาก็กินสับปะรดหนึ่งชิ้นลงท้องจน
หมด สวีโย่วเห็นนางชอบกินก็รีบจิ้มมาอีกหนึ่งชิ้น
คนหนึ่งกินคนหนึ่งป้อนเช่นนี้ ก็แสบตาจนทาให้ตาของทุกคนแทบ
บอดแล้ว
“เอ๋ เสี ยงฉินที่ไหนกัน” เสิ่ นเวยที่กาลังกินอย่างมีความสุ ขก็ลุกขึ้น
มองไปรอบด้าน มองเห็นบริ เวณที่ห่างจากด้านขวาของพวกเขา
ออกไปยีส่ ิ บจั้งมีเรื อสาราญลาหนึ่งเช่นกัน เสี ยงฉิ นกาลังดังออกมา
จากเรื อสาราญลานั้น
“นี่คือเรื อสาราญของใครกัน ดีดฉิ นได้ไม่เลว” เสิ่ นเวยเงี่ยหูฟังแล้ว
กล่าว กู่ฉินนางเองก็ดีดเป็ น เคยดีดได้ไม่เลวเช่นกัน แต่ไม่ได้แตะ
นานแล้ว ไม่ชานาญแล้ว แต่ความสามารถในการชื่นชมยังคงมีอยู่
สวีโย่วปรายตาไปทางขวาปราดหนึ่ง กล่าว “ใครจะรู ้เล่า ยังจะกินอีก
หรื อไม่ ตรงนี้ยงั มีอีกหนึ่งชิ้น หากไม่พอประเดี๋ยวให้หลีฮวาไปเอา
มาเพิ่มอีกถาด”
หนึ่งประโยคดึงความสนใจของเสิ่ นเวยกลับมาทันที นางมอง
สับปะรดชิ้นสุ ดท้ายในมือสวีโย่วด้วยความตกใจ ไม่ใช่แล้วกระมัง
สับปะรดถาดนี้อย่างน้อยๆ ก็ตอ้ งมีเจ็ดแปดชิ้น ถูกนางกินหมดแล้ว
งั้นหรื อ นางไหนเลยจะตะกละเพียงนั้น รี บส่ ายหน้า “ไม่เอาแล้ว”
หากยังกินอีกฟันของนางก็จะคงเปรี้ ยวจนหลุดแล้ว กลางวันพวกเขา
ยังต้องย่างเนื้อกินบนเรื อสาราญอีก นางต้องเก็บท้องไว้บา้ ง
สวีโย่วส่งสับปะรดชิ้นสุ ดท้ายเข้าไปในปากของตนเสี ย เคี้ยวสอง
สามครั้งก็หมด ในขณะนี้เอง เสิ่ นเวยก็มองเห็นเรื อสาราญทาง
ด้านขวาพวกเขาแล่นเข้ามา ตอนที่ยงั เหลืออีกสามสี่ จ้ งั ก็ได้ยนิ เด็ก
สาวที่เหมือนสาวใช้ยนื อยูบ่ นเรื อลานั้นตะโกน “เรี ยนถามข้างหน้า
ใช้ท่านจวิน้ อ๋ องหรื อไม่ คุณหนูของพวกเราอยูบ่ นเรื อสาราญ”
เสิ่ นเวยส่ งสายตามองสวีโย่วอย่างประหลาดใจทันที จากนั้นก็
เห็นสวีโย่วยกแก้วชาชิมชา ดวงตาไม่เหลือบขึ้นแม้แต่นิดเดียว เสิ่ น
เวยไม่ชอบท่าทางเย็นชาเช่นนี้ของเขาที่สุด เตะเขาจากใต้โต๊ะ “นี่
เรี ยกท่านน่ะ บอกมา นี่คือสาวงามหวานใจที่ไหนของท่าน” ตัวนาง
เองยังไม่รู้ตวั ว่าในน้ าเสี ยงของตนมีความหึ งหวงแฝงอยู่
สวีโย่วเพิง่ จะชายตามองฝั่งนั้นปราดหนึ่งอย่างไม่สนใจ จากนั้นก็
เก็บสายตากลับมาทันที “ไม่รู้จกั ”
ไม่รู้จกั หรื อ เสิ่ นเวยเชื่อก็แปลกแล้ว ไม่รู้แล้วเขาจะเรี ยกชื่อเรี ยกแซ่
มาหาถึงที่หรื อ ยังมีคุณหนูอะไรอีก ดูจากน้ าเสี ยงที่สนิทสนมของ
สาวใช้ผนู ้ ้ นั จะไม่รู้จกั ได้อย่างไร
สาวใช้ตะโกนอีกครั้ง “บ่าวเคยพบท่านจวิน้ อ๋ อง คุณหนูของพวกเรา
แซ่ซู ขอบคุณที่ครั้งก่อนท่านยืน่ มือมาช่วย อยากจะขอบคุณท่านต่อ
หน้าสักครั้ง”
“เอ๋ เป็ นวีรบุรุษช่วยหญิงงามนี่” ใบหน้าของเสิ่ นเวยเย็นเยียบใน
ชัว่ ขณะ กล่าวเสี ยดสี หันหน้าสัง่ หลีฮวา “เจ้าไปถามมาว่าเป็ น
คุณหนูตระกูลไหน”
“ไม่รู้จกั จริ งๆ” สวีโย่วเห็นเสิ่ นเวยโมโหแล้ว รี บกล่าวปฏิเสธ เขาเอง
ก็นอ้ ยใจยิง่ นัก เขาไม่รู้จกั คุณหนูแซ่ซูอะไรนัน่ จริ งๆ
ตอนนี้เสิ่ นเวยกาลังโกรธขึ้นหน้า สวีโย่วพูดอะไรนางก็ไม่เชื่อ “ไป
เรี ยกเจียงไป๋ มาให้ขา้ ” เจียงไป๋ อยูข่ า้ งกายเขาทั้งวันทั้งคืน เขาไม่รู้จกั
เจียงไป๋ จะไม่รู้จกั ได้หรื อ
เจียงไป๋ มาเร็ วอย่างยิง่ “จวิน้ จู่ ท่านเรี ยกบ่าวหรื อ” เสี ยงเรี ยกตะโกน
ของสาวใช้บนเรื อสาราญลานั้นเขาเองก็ได้ยนิ แล้ว กาลังร้องทุกข์อยู่
เงียบๆ จวิน้ จู่กส็ งั่ คนมาเรี ยกเขาดังคาด เขามองใบหน้าที่เย็นชาของ
จวิน้ อ๋ องอย่างระมัดระวัง เหงื่อเย็นชืดกาลังจะไหลลงมาแล้ว
เสิ่ นเวยมองท่าทางสอพลอนัน่ ของเจียงไป๋ ปราดหนึ่ง เพยิดคาง กล่าว
“พูดมาเถอะ นัน่ คือคุณหนูตระกูลใด นายพวกเจ้าลืมแล้ว ช้าเชื่อว่า
เจ้าจะต้องจาได้แน่นอน”
สบสายตาที่น่ากลัวของเสิ่ นเวย เจียงไป๋ ไหนเลยจะกล้าโกหก “นัน่
ไม่ใช่คุณหนูตระกูลไหน เป็ นแม่นางซูหว่านที่หอเสพสาราญ”
“หอเสพสาราญหรื อ” ได้ยนิ ชื่อแล้วก็ไม่น่าจะเป็ นสถานที่ทางการ
อะไร นัน่ คือ หอโคมเขียวหรื อ เสิ่ นเวยประหลาดใจ ทันใดนั้นก็ตบ
โต๊ะลุกขึ้นด้วยความเดือดดาล “ดีจริ งๆ สวีโย่ว รู ้จกั ไปเที่ยวเสพ
สาราญแล้ว”
เจียงไป๋ ตกใจแทบแย่แล้ว รี บกล่าว “ไม่ใช่ ไม่ใช่ จวิน้ จู่ท่านฟังบ่าว
พูดให้จบก่อน เรื่ องนี้ไม่เกี่ยวกับนายท่านจริ งๆ ขอรับ นี่เป็ นเรื่ องเมื่อ
ปี ก่อน ระหว่างทางที่นายท่านกลับจวนเจอแม่นางซูหว่านผูน้ ้ ีถูก
อันธพาลท้องถิ่นหลายคนล้อมลวนลาม ปิ ดถนนทั้งหมด นายท่าน
ราคาญใจ จึงลงจากรถเดินไปเองก่อน ทิ้งบ่าวจัดการพวกอันธพาล
ท้องถิ่น”
“จริ งหรื อ” เสิ่ นเวยยังคงสงสัย
“จริ งขอรับ จริ งขอรับ บ่าวกล้าสาบานด้วยชีวติ ” เจียงไป๋ พยักหน้า
ประหนึ่งตากระเทียม
สวีโย่วเองก็เอ่ยปากขึ้นมาพอดี “บอกแล้วว่าไม่รู้จกั เวยเวยเจ้ายังไม่
เชื่อข้า” ได้ยนิ เจียงไป๋ พูดเช่นนี้ สวีโย่วก็นึกเรื่ องนี้ข้ ึนได้แล้ว เขาจา
ได้เพียงแค่ถนนถูกปิ ด สาหรับซูหว่านหลี่หว่านอะไร ใครจะรู ้วา่
หน้าตาเป็ นเช่นไร
เสิ่ นเวยเห็นสี หน้าของพวกเขาไม่เหมือนเสแสร้ง จึงเชื่อเล็กน้อย
ตอนนี้เองหลีฮวาก็กลับมาแล้ว “จวิน้ จู่ ฝ่ ายตรงข้ามบอกว่าคุณหนู
ของพวกนางคือคุณหนูซูหร่ วนของหอเสพสาราญ ปี ก่อนได้รับ
ความเมตตาจากท่านจวิน้ อ๋ องออกมือช่วยชีวิต อยากจะมาขอบคุณ
ด้วยตัวเอง”
เมื่อเสิ่ นเวยได้ฟัง ใบหน้าก็เย็นเยียบลงสามส่ วนทันที ชี้สวีโย่วไม่พดู
แม้แต่ประโยคเดียวก็หมุนตัวเดินเข้าไปข้างในแล้ว
สวีโย่วรี บตามไป ยังไม่ลืมสัง่ เจียงไป๋ “ให้พวกนางไสหัวไปให้ไกล
ข้าหน่อย” เพราะซูหว่านอะไรนัน่ ผูเ้ ดียว หากไม่ใช่นาง เวยเวยจะ
โกรธได้อย่างไร
“เวยเวย เวยเวย ข้าไม่ได้ทาจริ งๆ ไม่เกี่ยวกับข้าจริ งๆ!” สวีโย่วรี บ
สับขาเดินไปดึงแขนของเสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยออกแรงสะบัด สะบัดไม่ออก รู ้สึกเพียงส่ วนลึกในจิตใจมี
เปลวเพลิงพวยพุง่ ออกมาข้างนอก “ไม่เกี่ยวกับท่าน ไม่เกี่ยวกับท่าน
แล้วเหตุใดนางต้องมาหาผิงจวิน้ จู่ดว้ ยเล่า เหตุใดถึงไม่มาหาข้าจยา
ฮุ่ยจวิน้ จู่เล่า สวีโย่ว วันนี้เป็ นวันเกิดของข้า ท่านฉลองให้ขา้ เช่นนี้
หรื อ” เสิ่ นเวยแสบจมูก น้อยใจอย่างยิง่ แล้ว
คราวนี้สวีโย่วลนลานแล้ว เขาเคยเห็นเสิ่ นเวยที่กาแหง เสิ่ นเวยที่เจ้า
เล่ห์ เสิ่ นเวยที่ปลิ้นปล้อน อย่างเดียวที่ไม่เคยเห็นก็คือเสิ่ นเวยที่
น้อยใจเช่นนี้ หัวใจของเขาเจ็บปวดราวกับถูกเข็มแทง บีบรัดไม่หยุด
“ใช่ๆๆ เป็ นความผิดของข้าคนเดียว ข้าให้เจียงไป๋ ไล่นางออกไปแล้ว
เวยเวยเจ้าอย่าโกรธ หรื อเจ้าจะตีขา้ ก็ได้” เขาเอามือของเสิ่ นเวยไปตี
ลงบนร่ างตัวเอง
เสิ่ นเวยยิง่ รู ้สึกน้อยใจ “ท่านไม่รู้หรื อว่าตัวเองมีใบหน้าดึงดูดสายตา
ท่านยังจะลงจากรถ ท่านนัง่ รอบนรถไม่ได้หรื อ รู ้อยูแ่ ก่ใจว่าข้าก็อยู่
บนเรื อ ยังตามมาขอบคุณบุญคุณช่วยชีวิตอีก นี่ไม่ใช่ยวั่ ยุขา้ หรื อ
แม้แต่ผหู ้ ญิงหอโคมเขียวคนหนึ่งยังกล้าหมายปองสามีของข้าซึ่งๆ
หน้าเช่นนี้ ท่าน ท่านสวีโย่วทาเช่นนี้ต่อข้าจริ งๆ หรื อ วันนี้เป็ นซู
หว่าน พรุ่ งนี้ใช่จะเป็ นจางหว่านหลี่หว่านหรื อไม่ ชีวิตนี้จะผ่านไป
อย่างไร เลิกกันไปเสี ยดีกว่า!”
แม้สติปัญญาของนางจะรู ้วา่ ไม่เกี่ยวกับสวีโย่ว แต่เสิ่ นเวยก็ควบคุม
ตัวเองไม่อยู่ นางรู ้สึกน้อยใจ น้อยใจอย่างถึงที่สุด เบื้องลึกในใจมีไฟ
โทสะที่มองไม่เห็นหนึ่งกลุ่มลุกโชนจนนางอึดอัดอย่างถึงที่สุด
สวีโย่วได้ยนิ เสิ่ นเวยพูดแม้แต่คาว่าเลิกกันออกมา ก็รู้แล้วว่าครั้งนี้
นางโกรธจริ งๆ ไม่สนเกียรติยศศักดิ์ศรี อะไรแล้ว กอดเสิ่ นเวยไม่
ปล่อยมือ “เวยเวย น้องสี่ พันความผิดหมื่นความผิดล้วนแต่เป็ น
ความผิดของข้า เจ้าวางใจ ข้าจะเปลี่ยนแปลง ครั้งหน้าหากเจอเรื่ อง
เช่นนี้อีกข้าจะไม่ลงจากรถเด็ดขาด เดินไปข้างหน้า ไม่สนเรื่ องของ
คนอื่นเด็ดขาด ดีหรื อไม่ ดีหรื อไม่”
“ปล่อย ท่านปล่อย” เสิ่ นเวยออกแรงดิ้นพล่าน หมดหนทางหวีโย่วก
อดนางแนบแน่น นางขยับไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
“เวยเวยทาอย่างไรเจ้าจึงจะไม่โกรธ ขอเพียงแค่ขา้ ทาได้ ไม่วา่ อะไร
ข้าก็รับปาก” สวีโย่วเสี ยใจยิง่ นัก วันเกิดดีๆ ถูกก่อกวน เขาตัดสิ นใจ
เงียบๆ แล้วว่าจะต้องโยนซูหว่านอะไรนัน่ ออกไปจากเมืองหลวงให้
ได้
“ได้ ท่านพูดเองนะ” เสิ่ นเวยดิ้นไม่หลุด ก็กดั ฟันชี้แม่น้ ากล่าว
“กระโดดลงไป อยูถ่ ึงหนึ่งชัว่ ยามข้าจะให้อภัยท่าน”
“ได้ ขอเพียงแค่เวยเวยไม่โกรธ ข้าอยูส่ องชัว่ ยามก็ไม่เป็ นไร” สวีโย่
วกล่าวอย่างตั้งใจ ดีดตัวคราหนึ่งก็กระโดดจากเรื อสาราญลงไปใน
แม่น้ าแล้ว
“ท่านจวิน้ อ๋ อง” เจียงเฮยเจียงไป๋ สองพี่นอ้ งตกใจหน้าถอดสี เหล่า
ทหารคุม้ กันก็ปากอ้าตาค้าง นี่ช่าง ช่างเชื่อฟังเกินไปแล้วหรื อไม่ มี
เพียงหลีฮวาและสาวใช้คนอื่นๆ กับโอวหยางไน่ที่ไม่สะทกสะท้าน
จวิน้ จู่ของพวกเขาโกรธจนเป็ นขนาดนี้แล้ว จะให้ท่านจวิน้ อ๋ องไป
สานึกในน้ าแล้วอย่างไร
ทหารคุม้ กันที่โอวหยางไน่พามาก็มีคนที่อยูใ่ นกองทหารรักษา
พระองค์ดว้ ย มองหน้ากันอย่างอดไม่ได้ อารมณ์ร้อนของจยาฮุ่ยจวิน้
จู่ผนู ้ ้ ีรุนแรงจริ งๆ! สตรี คนอื่นเจอเรื่ องเช่นนี้ไม่ใช่ควรอดทนหรอก
หรื อ ส่ วนผิงจวิน้ จู่กค็ าดไม่ถึงว่าปล่อยให้นางทาเรื่ องวุน่ วายเช่นนี้
ตนเองก็ยงั กระโดดลงไปในน้ าจริ งๆ นี่ ภาพนี้คล้ายผิดปกติเล็กน้อย!
เสิ่ นเวยน่ะหรื อจะอดทน นางจะระบายอารมณ์แล้วอย่างไร นาง
สร้างเรื่ องอย่างไม่มีเหตุผลแล้วอย่างไร นางจะไม่สบายใจในใจแล้ว
อย่างไร นางจะราคาญสตรี ท้ งั หมดที่หมายปองชายของนางแล้ว
อย่างไร
เพราะสวีโย่วคนเดียว เพราะสวีโย่วคนเดียว เรื่ องนี้ในวันนี้ลว้ นเป็ น
เพราะเขาคนเดียว! วันนี้เป็ นวันเกิดครบรอบอายุสิบหกปี ของนาง
ไม่ใช่หรื อ เสิ่ นเวยอึดอัดใจจนอยากจะรื้ อเรื อสาราญทั้งลาจริ งๆ
“ท่านไม่ดี ทาให้คุณหนูโมโห ตีท่าน ตีท่าน” เถาฮวาวิ่งเข้ามาหยิบ
ผลไม้สดในถาดปาไปที่สวีโย่วในน้ า ถูกหลีฮวาและคนอื่นๆ ลาก
ออกไปอีกฝั่งแล้ว
นายท่านทะเลาะกันพวกเราสาวใช้เหล่านี้อย่าเข้าไปมีส่วนร่ วมจะ
ดีกว่า ไม่เห็นหรื อว่าสี หน้าของเจียงเฮยเจียงไป๋ ดาหมดแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 251-1 ข่ าวดี
“จวิน้ จู่ ให้นายท่านขึ้นมาเถิด เรื่ องนี้ไม่เกี่ยวกับนายท่านจริ งๆ หาก
ท่านไม่หายโกรธ บ่าวจะไปแช่น้ าแทนนายท่าน” เจียงไป๋ มอง
เจ้านายที่จมๆ ลอยๆ อยูใ่ นแม่น้ า น่าสงสารยิง่ นัก
เสิ่ นเวยชายตามองเขาปราดหนึ่ง แค่นเสี ยงหนึ่งครา ไม่เอ่ยปาก
เจียงเฮยกับเจียงไป๋ ร้อนใจจนกระสับกระส่ าย อยากจะกระโดดลงน้ า
แทนเจ้านายของพวกเขาทันที แต่จวิน้ จู่ไม่เอ่ยปาก พวกเขาก็ไม่กล้า!
นิสยั ของจวิน้ จู่เหนียงเหนียง คนอื่นไม่รู้ แต่พวกเขาสองพี่นอ้ งเห็น
อยูใ่ นสายตาทั้งหมด ตั้งแต่พระราชโองการพระราชทานสมรส
ออกมา จวิน้ จู่กก็ ินเจ้านายของพวกเขาจนเรี ยบ ได้ทุกอย่างตามใจ
จริ งๆ!
“จวิน้ จู่ บ่าวขอท่านล่ะ รี บให้นายท่านขึ้นมาเถิด! ร่ างกายของนาง
ท่านไม่ค่อยแข็งแรงนัก หากโดนความหนาวโดนลมเย็น คนที่
สงสารก็ยงั คงเป็ นท่านมิใช่หรื อ ท่านวางใจ หลังจากนี้บ่าวจะจับตาดู
อย่าว่าแต่สตรี แม้แต่ยงุ ตัวเมียก็อย่าได้คิดจะเข้าใกล้นายท่าน” เจียง
ไป๋ ร้องขอ
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงอีกครา มองสวีโย่วที่ถีบขาอยูใ่ นน้ า
สวีโย่วเห็นเสิ่ นเวยมองมา ก็รีบส่ งรอยยิม้ เอาใจที่น่าสงสารกลับมา
ให้นาง ท่าทางจนตรอกนั้นทาให้จิตใจของเสิ่ นเวยอ่อนลงเล็กน้อย
ถลึงตาใส่ เจียงไป๋ อย่างอารมณ์ไม่ดี “ยังไม่รีบเอานายของเจ้าขึ้นมา
อีก รอข้าลงมือหรื อไร”
เจียงเฮยเจียงไป๋ ดีใจใหญ่ “บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้” ทั้งสองกระโดดลงไป
ในน้ าช่วยสวีโย่วขึ้นมา
สวีโย่วเปี ยกชุ่มไปทัว่ ทั้งร่ าง เขาเช็ดหยดน้ าบนใบหน้าหนึ่งครั้ง ขาน
ชื่อด้วยท่าทีน่าสงสาร “เวยเวย” คิดอยากจะเข้าไปแต่กลับกังวลว่าจะ
ทาให้เสื้ อผ้าของนางเปี ยก
เสิ่ นเวยถลึงตามองเขาปราดหนึ่ง ชี้ไปข้างใน กล่าวอย่างปากแข็ง
“ยังไม่รีบไปเปลี่ยนชุดอีก ไม่สบายขึ้นมาอย่าหวังว่าข้าจะเชิญหมอ
มาให้ท่าน”
“ที่แท้แล้วเวยเวยก็เป็ นห่วงข้าเช่นนี้นี่เอง!” สวีโย่วยิม้ อย่างซื่อๆ ใน
ใจดีใจยิง่ นัก! ยังคงเป็ นเจียงเฮยเจียงไป๋ สองพีน่ อ้ งที่กลัวว่าจะทาให้
เสิ่ นเวยเดือดดาลอีก จึงรี บพยุงเขาเดินเข้าไปข้างใน
เมื่อสวีโย่วแช่น้ าร้อนอาบน้ าเปลี่ยนเสื้ อผ้าออกมาแล้ว หลีฮวาก็ยก
น้ าขิงที่ตม้ ดีแล้วเข้ามาโดยไม่ตอ้ งสัง่ เสิ่ นเวยรับเข้ามาแล้วหยุดอยู่
ตรงหน้าสวีโย่ว กล่าวด้วยสี หน้าเฉยเมย “ดื่มซะ”
สวีโย่วไม่พดู พร่ าทาเพลงก็ยกน้ าขิงเข้ามาดื่มลงไปอย่างเชื่อฟัง
ประหนึ่งกินน้ าหวาน
“เวยเวย” สวีโย่วหน้าหนาเขิบเข้ามาใกล้เสิ่ นเวย หลังจากถูกเสิ่ นเวย
ผลักออกไปแล้วก็เขยิบเข้ามาอีก ผ่านไปหลายครั้ง เสิ่ นเวยก็ปล่อย
เขา ในที่สุดสวีโย่วก็กอดหญิงงามได้อย่างสมใจ “เวยเวย ไม่โกรธ
แล้วใช่หรื อไม่”
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหนึ่งครั้ง ชี้จมูกเขาแล้วกล่าว “ห้ามมีครั้งหน้าอีก”
หากมีอีกครั้งนางจะไม่ถือสาให้เขามองดูวิธีที่โหดเ**้้ยมยิง่ กว่านี้
สวีโย่วรับปากด้วยความตรงไปตรงมาอย่างยิง่ “เชื่อฟังเวยเวย เจ้าให้
ข้าไปขวา ข้าจะไม่ไปซ้าย เจ้าให้ขา้ ตีหมา ข้าจะไม่ไล่ไก่”
เหล่าทหารคุม้ กันได้ยนิ คาสัญญาที่ชดั เจนของท่านผิงจวิน้ อ๋ องผู ้
องอาจผ่าเผยที่ไม่กี่วนั ก่อนยังโหดเ**้้ยมจนพวกเขากลัว ร่ างทั้ง
ร่ างก็ลนลานทาตัวไม่ถูกอยูท่ ่ามกลางสายลม
ซูหว่านหญิงนางโลมหอเสพสาราญที่ถูกเจียงไป๋ ไล่ไปก็กดั ริ มฝี ปาก
แน่น เล็บยาวๆ จิกเข้าไปในฝ่ ามือ ดวงตาเต็มไปด้วยพยับเมฆที่
หนาแน่น
นึกถึงคาประณามที่ไม่เหลือเยือ่ ใยของบ่าวคนสนิทท่านจวิน้ อ๋ องเมื่อ
ครู่ น้ ี ดวงตาของซูหว่านก็แทบจะมีโลหิ ตหยดออกมา
อันที่จริ งนี่กโ็ ทษเจียงไป๋ ไม่ได้จริ งๆ เพราะว่าซูหว่านหอเสพสาราญ
อะไรผูน้ ้ ี จวิน้ จู่จึงบันดาลโทสะกับนายของเขา ต่อให้ซูหว่านผูน้ ้ ีจะ
สวยดัง่ นางฟ้า เจียงไป๋ ก็ไม่ไว้หน้านางอยูด่ ี!
อับอาย นางไม่เคยได้รับความอับอายเช่นนี้มาก่อน ขุนนางชั้นสู งผู ้
สู งศักดิ์มากน้อยกอบเงินมหาศาลเพียงเพื่อจะได้พบหน้านาง แต่
วันนี้บ่าวเล็กๆ คนหนึ่งยังดุด่านางตามอาเภอใจ ไล่นางไปไกลๆ ได้
นี่จะให้นางผูท้ ี่โอ้อวดทะนงตนยอมรับได้อย่างไร
“คุณหนู!” อวี้เอ๋ อร์สาวใช้ประจาตัวของซูหว่าน มองนางด้วยความ
กังวล คิดจะก้าวเข้าไป แต่กลับไม่กล้า “คุณหนู บ่าวว่าเรื อสาราญลา
นั้นจยาฮุ่ยจวิน้ จู่กอ็ ยู่ อาจจะไม่ใช่เจตนาของผิงจวิน้ อ๋ องก็ได้เจ้า
ค่ะ…”
สบสายตาที่น่ากลัวของคุณหนู อวี้เอ๋ อร์กข็ นหัวลุก พูดไม่ออกแล้ว
“ข้ารู ้ เพราะจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ผนู ้ ้ นั ใช้อานาจบาตรใหญ่เกินไป นางคิดว่า
ทาเช่นนี้แล้วข้าจะพบผิงจวิน้ อ๋ องไม่ได้ง้ นั หรื อ” ในดวงตาคู่งาม
ของซูหว่านมีความบ้าคลัง่ แวบผ่าน
เมื่อพบชายหนุ่มแซ่สวีกอ็ ยากจะอยูเ่ คียงคู่ไปชัว่ ชีวิต ตั้งแต่ปีก่อนที่
นางได้ยลโฉมหน้าอันโดดเด่นของผิงจวิน้ จู่ เบื้องลึกในใจก็มีเงาร่ าง
ที่งามสง่าเป็ นราศีเงานั้นคืบคลานเข้ามา ไม่วา่ อย่างไรก็ลืมไม่ลง เป็ น
ถึงนางโลมหอเสพสาราญ นางมีใบหน้าที่งามเพริ ศแพร้ว ฝี มือด้าน
ศิลปะโดดเด่น โดยเฉพาะดีดฉินได้ดีเป็ นที่หนึ่ง บุตรหลานผูม้ ี
อานาจในเมืองหลวงต่างก็เข้ายึดพื้นที่ในหอเสพสาราญกว่าครึ่ งปี
เพื่อที่จะฟังบทเพลงของนาง
ดังนั้นนางจึงมีคุณสมบัติที่จะทะนงตน นางคิดว่าภรรยาเอกของผิง
จวิน้ อ๋ องนางเป็ นไม่ได้ เป็ นอี๋เหนียงอนุภรรยาก็คงเกินพอ ขอเพียง
แค่นางสามารถเข้าใกล้ผงิ จวิน้ อ๋ องได้ นางก็มีวิธีทาให้ผงิ จวิน้ อ๋ อง
โปรดปรานนางเพียงคนเดียว เช่นนั้นเรื อนหลังของผิงจวิน้ อ๋ องไม่ใช่
นางที่เป็ นใหญ่หรอกหรื อ นี่ดีกว่าชีวิตที่ตอ้ งรับแขกส่ งแขกที่หอเสพ
สาราญของนางเป็ นหมื่นเท่า
สาหรับคุณหนูสี่แซ่นเสิ่ นของจวนจงอู่โหวผูน้ ้ นั ที่ได้รับ
พระราชทานสมรสกับผิงจวิน้ อ๋ อง นางเองก็สืบข่าวมาแล้ว ก็แค่หญิง
ชาวบ้านที่เติบโตในชนบท ไหนเลยจะมีบุคลิกมารยาทได้เท่านาง
แม้วา่ คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีจะได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็ น
จวิน้ จู่ แต่นางก็ไม่ได้เห็นนางอยูใ่ นสายตา
วันนี้นางอุส่าสื บได้วา่ ผิงจวิน้ อ๋ องจะมาล่องแม่น้ าไป๋ เหอ นางทุ่มเท
ความคิดมากมายกว่าจะกล่อมให้แม่นมหยางพาออกมาจากหอ กุม
หัวใจที่ตื่นเต้นดีใจหนึ่งดวงคิดจะถวายตัวเองให้ชายผูน้ ้ นั ที่เลื่อมใส
แต่ใครจะรู ้…นางคิดถึงสถานการณ์ที่ตอ้ งเจอนับไม่ถว้ น สิ่ งเดียวที่
ไม่ได้คาดการณ์กค็ ือผิงจวิน้ อ๋ องคาดไม่ถึงว่าจะสัง่ คนมาขับไล่นาง!
ไม่ นางไม่เชื่อ! นางไม่เชื่อเด็ดขาดว่าผิงจวิน้ อ๋ องจะไร้เยือ่ ใยเช่นนี้!
บุรุษผูม้ ีเรื อนร่ างที่สูงตระหง่านราวกับต้นสนเขียว ดวงตาดาลึก
สว่างราวกับดาราบนนภา ไม่มีทางทาเช่นนี้ต่อนางแน่นอน ไม่วา่
ชายคนใดที่เคยเห็นใบหน้าอันงดงามของนางล้วนไม่มีทางทาเช่นนี้
ต่อนาง
ใช่แล้ว เป็ นจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ที่หยาบคายผูน้ ้ นั ขวางผิงจวิน้
อ๋ องไม่อนุญาตให้เจอนาง สตรี ไร้คุณธรรมจริ งๆ! เหอะ นางขวางตน
ได้หนึ่งครั้ง แต่จะขวางตนไปได้ตลอดงั้นหรื อ
สาหรับผิงจวิน้ อ๋ องนางมีจิตใจปรารถนาแรงกล้า ดวงตาของซูหว่าน
มีประกายความแน่วแน่แวบผ่าน
“มา เวยเวยลองชิมนี่สิ!” สวีโย่วยืน่ เนื้อเสี ยบไม้ที่ยา่ งเสร็ จแล้วในมือ
ไปให้เสิ่ นเวยด้วยความกระตือรื อร้น เมื่อครู่ เห็นเสิ่ นเวยไม่มี
ความสุ ข เขาปวดใจยิง่ นัก วันนี้เป็ นวันเกิดของเสิ่ นเวย แต่กลับเป็ น
เพราะสตรี ไม่มีหวั นอนปลายเท้ามาทาให้เสิ่ นเวยอามรมณ์ไม่ดี ใน
ใจเขาเสี ยใจ
เสิ่ นเวยปรายตามองเขาปราดหนึ่ง กลับไม่ได้ปฏิเสธ หลังจาก
อารมณ์กลุ่มนั้นผ่านไป สติปัญญาของเสิ่ นเวยก็กลับมาอีกครั้ง รู ้ตวั
ว่าว่าเมื่อครู่ ตนงี่เง่าไร้เหตุผล แต่ตอนนั้นนางก็ควบคุมอารมณ์ตวั เอง
ไว้ไม่อยูจ่ ริ งๆ
สวีโย่วเห็นเสิ่ นเวยยอมสนใจเขาแล้ว ดีใจอย่างยิง่ ปรนนิบตั ิดว้ ย
ความกระตือรื อร้นยิง่ กว่าเดิม ส่ วนจิตใจที่เป็ นกังวลของเจียงเฮยกับ
เจียงไป๋ สองพี่นอ้ งในที่สุดก็วางลงแล้ว และไม่คิดว่าพฤติกรรมทาส
ภรรยาของนายท่านพวกเขาจะขัดหูขดั ตาอีกต่อไป รู ้สึกเพียงขอแค่
จวิน้ จู่ไม่ทรมานนายท่านพวกเขาอย่างสุ ดแรงเกิดก็พอแล้ว
กินเนื้อย่างเสร็ จเสิ่ นเวยก็พิงอยูบ่ นร่ างสวีโย่วอย่างเกียจคร้าน สายลม
เบาพัดโชย สะลึมสะลืออยากจะหลับ
สวีโย่วยกมือ หลีฮวาก็ส่งพรมหนาเข้ามาทันที สวีโย่วสะบัดออก
คลุมลงบนร่ างคนทั้งสอง เสิ่ นเวยลืมตามองเล็กน้อยจากนั้นจึงกลับ
ตาลงอีกครั้ง ไม่นานนัก เสี ยงลมหายใจที่เสมอกันก็ดงั เข้าไปในหูสวี
โย่ว สวีโย่วกอดหญิงงามในอ้อมอกแน่น สังเกตใบหน้าที่งดงามของ
นาง รู ้สึกว่าชีวิตที่ราวกับเทพเทวดาก็เป็ นเช่นนี้นี่เอง
เสิ่ นเวยนอนหลับคราวนี้กห็ ลับไปหนึ่งชัว่ ยามกว่า ตอนที่นางตื่น
ขึ้นมาก็พบว่าสวีโย่วยังคงอยูใ่ นท่านั้นก่อนหน้านี้ ดวงตาของนาง
กะพริ บวาบ เลียริ มฝี ปากกล่าว “เอาล่ะ ข้าให้อภัยท่านแล้ว” รู ้วา่ นาง
ใจอ่อนจึงใช้แผนทรมานร่ างกายกับนาง ไม่ใช่คนดีจริ งๆ! “วันนี้
โดยรวมแล้วข้ายังคงมีความสุ ขยิง่ นัก ออกมาเกินครึ่ งวันแล้ว
กลับกันเถอะ”
สวีโย่วพยักหน้า หอมแก้มเสิ่ นเวยเล็กน้อย “ได้ ตามใจเวยเวย” ขึ้น
เสี ยงสัง่ เจียงเฮยเจียงไป๋ สองพี่นอ้ งให้เปลี่ยนทิศหัวเรื อ
เรื อสาราญเปลี่ยนทิศแล้ว เพิ่งจะออกมาได้สิบกว่าจั้ง ก็ได้ยนิ ว่าข้าง
หลังมีเสี ยงคนตะโกนดัง “สวีโย่ว คนขี้โรค สวีโย่วเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้”
เสี ยงกระหืดกระหอบ
ใครกล้าเรี ยกสวีโย่วว่าคนขี้โรคเช่นนั้น เสิ่ นเวยมองไปข้างหลังอย่าง
อดสงสัยไม่ได้ เห็นเรื อสาราญหนึ่งลาข้างหลังกาลังไล่ตามมา หัว
เรื อมีชายวัยหนุ่มสวมชุดสี ฟ้าอ่อนยืนอยู่ ในมือโบกพัดพับได้ “นัน่
ใคร” เสิ่ นเวยถามสวีโย่ว
“ไม่ตอ้ งสนใจ” สวีโย่วสัง่ เจียงเฮยเจียงไป๋ ให้ขบั ไปข้างหน้าต่ออย่าง
ไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับ จากนั้นก็กม้ หน้าตอบคาถามของเสิ่ นเวย
“แค่คนไม่สาคัญก็เท่านั้น”
เสิ่ นเวยย่อมไม่เชื่อ แต่วา่ นางก็ไม่ได้เก็บมาใส่ ใจเช่นกัน ขอเพียงแค่
คนที่ตามมาข้างหลังไม่ใช่สตรี ที่หมายปองสามีนางก็พอแล้ว ส่ วน
ผูช้ ายน่ะหรื อ เสิ่ นเวยรู ้อยูแ่ ก่ใจว่าเจ้านัน่ ของสวีโย่วหันไปทางปกติ
จนไม่อาจปกติได้มากกว่านี้แล้ว
“หยุด หยุด เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้ได้ยนิ หรื อไม่” คนผูน้ ้ นั บนเรื อสาราญข้าง
หลังก็ยงิ่ กระหืดกระหอบ พลางสัง่ คนขับเรื อให้ไล่ตามโดยเร็ ว พลาง
โมโหจนกระทืบเท้า
ทว่าฝั่งสวีโย่วกลับทาหูทวนลม เรื อสาราญยังคงเคลื่อนไปข้างหน้า
อย่างมัน่ คง ราวกับคนที่ถูกตะโกนไม่ใช่เขา
“สวีโย่ว ตัวข้าซื่อจื่อเรี ยกเจ้าไม่ได้ยนิ หรื อ” ในที่สุดเรื อสาราญข้าง
หลังก็ตามทันแล้ว ขนาบข้างกับเรื อนสาราญลาที่เสิ่ นเวยอยู่ พัดพับ
ได้ในมือชายวัยหนุ่มผูน้ ้ นั ชี้ด่าสวีโย่ว
คราวนี้เสิ่ นเวยก็ยงิ่ เห็นชายวัยหนุ่มผูน้ ้ ีชดั เจนแล้ว นอกจากสวมชุดสี
ฟ้าอ่อนดึงดูดใจแล้ว บนสายรัดเอวยังเลี่ยมอัญมณี หยกงามที่เปล่ง
ประกาย บนศีรษะสวมกวนหยก มือข้างนั้นที่ถือพัดพับได้ยงั สวม
แหวนวงใหญ่ที่ทอประกายแวววับสามอัน
ไอ๊หยา คนผูน้ ้ ีเป็ นใครกัน รวยยิง่ นัก! เสิ่ นเวยมองใบหน้าเขาอีกครั้ง
หน้าตาไม่เลวอย่างยิง่ เพียงแต่ราศีไม่ค่อยดีนกั มองดูกร็ ู ้วา่ เมามายใน
รสสุ รามาเป็ นเวลานาน
สวีโย่วเพิง่ จะเหลือบตาขึ้นอย่างไม่สนใจ กล่าวอย่างไม่ยอมรับไม่
ปฏิเสธ “อ้อ เรี ยนถามญาติผพู ้ ี่เลี่ยมีเรื่ องอันใดหรื อ”
ญาติผพู ้ ี่เลี่ยหรื อ หูของเสิ่ นเวยจับใจความสาคัญได้ทนั ที สวีโย่วเรี ยก
เขาว่าญาติผพู ้ ี่ ดูท่าแล้วน่าจะเป็ นบุตรชายของท่านอ๋ องสักคนหนึ่ง
สวีโย่วเห็นดวงตาของเสิ่ นเวยกะพริ บ ก็กล่าวเสี ยงเบา “นัน่ คือสวีเลี่ย
ท่านซื่อจื่อจวนกงอ๋ อง”
สวีเลี่ยถูกท่าทางเฉยเมยนัน่ ของสวีโย่วยัว่ โมโหจนเป่ าหนวดถลึงตา
ในกลุ่มลูกพี่ลูกน้องทั้งหมด คนขี้โรคผูน้ ้ ีสร้างความราคาญใจให้เขา
มากที่สุด มักจะวางมาดสู งส่ ง เสมือนคนอื่นเทียบเขาไม่ได้
“สวีโย่ว คืนเรื อสาราญมาให้ขา้ ” สวีเลี่ยตะโกนด้วยเสี ยงโกรธ
เรื อสาราญหรื อ คืนหรื อ นี่หมายความว่าอย่างไร เรื อสาราญลานี้เป็ น
ของซื่อจื่อกงอ๋ องผูน้ ้ ีหรื อ ในดวงตาเสิ่ นเวยเต็มไปด้วยเครื่ องหมาย
คาถาม
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 251-2 ข่ าวดี
สวีโย่วตบเสิ่ นเวยเบาๆ บอกเป็ นนัยให้นางอย่าได้กงั วล หันหน้า
มองสวีเลี่ย ในน้ าเสี ยงเหยียดหยามเต็มที่ “เต็มใจเดิมพันยอมรับ
ความพ่ายแพ้ ญาติผพู ้ ี่เลี่ยต้องการจะเปลี่ยนใจหรื อ”
สี หน้าของสวีเลี่ยเหยเกขึ้นในชัว่ ขณะ “ข้าจะเปลี่ยนใจแล้วอย่างไร
เจ้ากล้าพูดหรื อว่านี่ไม่ใช่เรื่ องที่เจ้าวางแผนมาก่อนแล้ว” คนขี้โรค
น่าราคาญผูน้ ้ ีรู้อยูแ่ ก่ใจว่าเขาชอบพนัน ทั้งยังจับจ้องสวนชิงหยวน
หลังนั้นของเขาอยู่ คาดไม่ถึงว่ามาหาถึงที่เอาสวนชิงหยวนมาเป็ น
แต้มต่อเดิมพันกับเขา ผลลัพธ์เล่า ชนะเอาเรื อสาราญที่เขารักที่สุดไป
แล้ว
กว่าเขาจะได้สติกลับมา คนขี้โรคผูน้ ้ นั ก็วางก้ามเดินออกไปแล้ว
วันนี้บ่าวชั้นล่าวมารายงาน บอกว่าเห็นคนขี้โรคล่องแม่น้ าไป๋ เหออยู่
เขาจึงรี บตามมา เรื อสาราญลานี้ใช้เงินพ่อเขาไปจานวนมาก ซ้ ายังถูก
พ่อเขาก่นด่าอยูพ่ กั หนึ่ง ไม่วา่ อย่างไรเขาก็ตอ้ งเอาคืนกลับไปให้ได้
“ก็ไม่อย่างไร” สวีโย่วกล่าวเสี ยงเรี ยบ “แต่วา่ ท่านกลับพูดถูก ข้าจับ
จ้องเรื อสาราญลานี้ของญาติผพู ้ ี่เลี่ยอยู่ สารวจดูในเมืองหลวง ก็มีแต่
เรื อสาราญลานี้ของท่านที่หรู หราโอ่อ่าที่สุดแล้ว” ในเมื่อซื้อไม่ได้
เช่นนั้นเขาก็ทาได้เพียงคิดหาวิธีเอามันมา!
สวีโย่วไม่เพียงแต่ยอมรับ อีกทั้งยังยอมรับอย่างเต็มอกเต็มใจ นี่ยงิ่ ยัว่
ยุสวีเลี่ยอย่างไม่ตอ้ งสงสัย “คืนมา รี บคืนข้ามา!” เขาโมโหจนสัน่ ไป
ทัว่ ทั้งร่ าง เหตุใดถึงมีคนหน้าไม่อายเช่นนี้ มิหนาซ้ ายังยังอยูใ่ นวงศ์
ตระกูลเดียวกับเขาอีก ช่างน่าโมโหจริ งๆ
“ไม่คืน!” สวีโย่วปฏิเสธตรงๆ “เรื อสาราญลานี้ท่านแพ้ ข้าชนะ
ผลลัพธ์เขียนไว้ชดั เจน ข้างบนยังมีลายมือชื่อที่ญาติผพู ้ ี่เลี่ยลงนาม
ด้วยตัวเอง ต่อให้จะตัดสิ นต่อหน้าฝ่ าบาทกับเสด็จลุงกงอ๋ องข้าก็ไม่
กลัว”
คนโง่เท่านั้นที่จะคืนเขา เพื่อจะสร้างความประหลาดใจให้ภรรยาสุ ด
ที่รักของเขา เขาใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือนไปวางแผน ของที่ทุ่มเทแรง
มหาศาลจนชนะมาจะคืนกลับไปได้อย่างไร
สวีเลี่ยเดือดดาลขึ้นมาทันที “สวีโย่วเจ้าขี้โรคมีพอ่ ไม่มีแม่ เจ้ามันคน
ชัว่ เจ้าคนชัว่ น่าไม่อายปลิ้นปล้อนกลับกลอก เจ้ารี บคืนเรื อสาราญ
ของข้ากลับมาเดี๋ยวนี้” เขาก่นด่าราวกับสตรี ปากคอเราะร้าย
สวีโย่วยังคงมีท่าทีเฉยชาเช่นนั้น ทว่าสายตาที่มองสวีเลี่ยกลับน่า
กลัวอย่างถึงที่สุด “หากท่านด่าอีกประโยคเดียวข้าจะโยนท่านไปล้าง
ปากในน้ า”
สวีเลี่ยไม่สนใจคาขู่ของสวีโย่วอย่างสิ้ นเชิง ด่าจนหยาบคายยิง่ ขึ้น
“จะคืนไม่คืน ไม่คืนใช่ไหม ข้าซื่อจื่อขอสาปแช่งเจ้า สาปแช่งให้เจ้า
ออกจากบ้านแล้วถูกรถชนตาย…” ต่างๆ นานา ด่าไปพลาง ถกแขน
เสื้ อจะกระโดดมาทางฝั่งนี้ไปพลาง ระดับความหยาบคายนั้นต่ากว่า
ที่เสิ่ นเวยจะรู ้
โอวหยางไน่!” สวีโย่วเองก็ไม่พดู จาเหลวไหลกับสวีเลี่ย สัง่ โอวห
ยางไน่ให้ไปจัดการเขาโดยตรง
โอวหยางไน่ฟังคาสัง่ ก้าวขึ้นไป เพิ่งจะดึงแขนของสวีเลี่ยได้ ก็ได้
ยินสวีเลี่ยตะโกนราวกับหมูถูกเชือด “ปล่อยข้า เจ้าสุ นขั รับใช้ ใคร
อนุญาตให้เจ้าแตะตัวข้า ใครให้ความกล้าเจ้า ข้าคือท่านซื่อจื่อผู ้
ยิง่ ใหญ่ของจวนกงอ๋ อง” เขายังคงลาพองใจอย่างยิง่
โอวหยางไน่โมโหแทบแย่แล้ว สุ นขั รับใช้หรื อ ท่านเลี่ยซื่อจื่อผูน้ ้ ี
กล้าพูดจริ งๆ หรื อ วันนี้เขาจะโยนเขาแล้วอย่างไร อย่างไรเสี ยก็มี
ท่านจวิน้ อ๋ องค้ าอยูข่ า้ งหน้า
“ช้าก่อน ช้าก่อน อย่าเพิ่งใช้กาลัง” ในขณะที่โอวหยางไน่จบั สายรัด
เอวของสวีเลี่ยกาลังจะโยนเขาลงไปในแม่น้ า คนผูห้ นึ่งก็วิ่งออกมา
จากด้านในเรื อสาราญมาจับเขาไว้ ไม่เห็นเหมือนกันว่าเขา
เคลื่อนไหวอย่างไร มือที่จบั สายรัดเอวของโอวหยางไน่กถ็ ูกบีบให้
คลายออก สวีเลี่ยถูกช่วยเอาไว้
“ญาติผพู ้ ี่สวี ข้าขออภัยแทนพี่ใหญ่ เขาเป็ นคนไม่มีเหตุผล ท่านใต้
เท้าใจกว้าง อย่าได้ถือสาเขาเลย” คนผูน้ ้ ีประสานมือคารวะสวีโย่ว
กล่าวด้วยความถ่อมตัวมีมารยาทอย่างถึงที่สุด ยังไม่ลืมกระพริ บตา
มองเสิ่ นเวยราวกับเห็นผีอีกปราดหนึ่ง
คราวนี้เสิ่ นเวยก็มนั่ ใจแล้วว่าตนมองไม่ผดิ คนผูน้ ้ ี คนที่ขอโทษส
วีโย่วอย่างจริ งจังผูน้ ้ ีไม่ใช่คนโง่แซ่ฟทีู่ ่เจอที่ทงโจวหรอกหรื อ เขา
บอกว่ามาหาญาติที่เมืองหลวง ไม่คิดว่าญาติของเขาจะเป็ นจวนกง
อ๋ อง เช่นนั้นเขามีความสัมพันธ์กบั ซื่อจื่อกงอ๋ องอย่างไร พี่นอ้ งหรื อ
ดูจากสถานการณ์แล้วเขาเองก็รู้ฐานะของนางแล้วเช่นกัน
สวีโย่วแค่นเสี ยงหนึ่งครา ไม่ยอมรับไม่ปฏิเสธ ทว่าสวีเลี่ยที่ถูกช่วย
ไว้กลับไม่ซาบซึ้ง “ขอโทษอะไร หากขอโทษก็ควรจะเป็ นเขาที่ขอ
โทษข้า สวีหรานเจ้ามันก็แค่เด็กบ้านนอกบุตรอนุ ยังกล้ามาตัดสิ นใจ
แทนข้า เจ้าไปตายเดี๋ยวนี้ วันนี้ขา้ เห็นเขากล้าทาอะไรข้า ขอเพียงแค่
เขาแตะข้าแม้แต่นิ้วมือเดียว ข้าจะไปร้องทุกข์ต่อหน้าพระพักตร์ฝ่า
บาท” เขาไม่สนใจน้องชายบุตรอนุภรรยาที่เพิ่งจะกลับมาระหว่าง
ทางผูน้ ้ ีอย่างสิ้ นเชิง
คาพูดนี้หยาบคายจริ งๆ คิ้วของเสิ่ นเวยขมวดมุ่นอย่างอดไม่ได้ หาก
มีใครกล้าพูดเช่นนี้กบั นาง นางคงจะเดือดดาลโบยเขาไปนานแล้ว
ซื่อจื่อจวนกงอ๋ องผูน้ ้ ีไม่เพียงแต่ไร้คุณธรรม ยังเห็นแก่ตวั ใจแคบ
ความประทับใจที่เสิ่ นเวยมีต่อเขาต่าอย่างถึงที่สุด
คนโง่แซ่ฟู่ อ้อไม่ สวีหราน ทาราวกับไม่ได้ยนิ คาเหยียดหยามของพี่
บุตรภรรยาเอก กอดเขาไว้แน่น “พี่ใหญ่ เรื่ องนี้เดิมทีท่านก็เป็ นฝ่ าย
ผิด เอาเรื อสาราญลานี้มาเดิมพันก็เป็ นท่านที่ลงนามอักษรทองเอง
หากวุน่ วายไปถึงหน้าเสด็จพ่อจริ งๆ…” คาพูดที่เหลือเขาก็ไม่พดู
แล้ว
ร่ างกายที่ดิ้นพล่านของสวีเลี่ยแข็งทื่อ นึกถึงเสด็จพ่อเขาก็สนั่ ระริ ก
ขึ้นมาในชัว่ ขณะ สวีหรานถือโอกาสลากเขาเข้าไปในเรื อสาราญ สัง่
คนขับเรื อให้เคลื่อนเรื อต่อไปพลาง หันหน้ากล่าวกับสวีโย่วเสิ่ นเวย
ไปพลาง “เรื่ องนี้เป็ นความผิดของพวกข้าสองพี่นอ้ ง ญาติผพู ้ ี่โย่ว
เป็ นคนใหญ่คนโตไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคนต้อยต่า เรื่ องนี้กป็ ล่อยให้
ผ่านไปได้หรื อไม่ ข้ารับรองว่าหลังจากนี้พี่ใหญ่จะไม่หาเรื่ องญาติผู ้
พี่โย่วอีก”
สวีโย่วมองสวีหราน สวีหรานก็มองเขาอย่างไร้กงั วล จากนั้นสวีโย่ว
ก็พยักหน้า แม้วา่ เขาจะไม่กลัว แต่ลว้ นเป็ นบุตรหลานราชนิกลุ
เหมือนกัน ก่อเรื่ องจนน่าเกลียดเกินไปก็ไม่ดีนกั
เรื อสาราญลานั้นยิง่ แล่นก็ยงิ่ ไกล เสิ่ นเวยกะพริ บดวงตาที่เปล่ง
ประกายมองสวีโย่วด้วยความเลื่อมใสยิง่ นัก “เรื อสาราญลานี้ท่าน
ชนะได้มาจริ งๆ หรื อ”
สวีโย่วพยักหน้า “สวีเลี่ยคนผูน้ ้ นั แม้จะไร้เหตุผล แต่ทวั่ ทั้งเมือง
หลวงก็มีเพียงเรื อสาราญลานี้ในมือเขาที่ดีที่สุด”
“ท่านพี่เก่งจริ งๆ!” จุ๊บ เสิ่ นเวยเข้าไปหอม ไม่เสี ยเงินในบ้านสักแดง
เดียวก็เอาเรื อสาราญที่ดีเช่นนี้มาได้ จะไม่เก่งได้อย่างไร ขนมที่หล่น
ลงมาจากฟ้าเช่นนี้ นางชื่นชอบที่สุด!
สวีโย่วลูบบริ เวณที่ถูกเสิ่ นเวยหอม ยิม้ ออกมาแล้ว เขาคิดว่าเขาคล้าย
จับเคล็ดลับเอาใจภรรยาได้แล้ว
กลับไปถึงจวนจวิน้ อ๋ อง เสี่ ยวตี๋กน็ าข่าวดีข่าวหนึ่งมาให้เสิ่ นเวย
“จวิน้ จู่ จวิน้ จู่ คดีน้ นั ของฉินมู่หรานมีความคืบหน้าแล้ว ตัดสิ นแล้ว
ใต้เท้าจ้าวผูพ้ ิพากษาศาลต้าหลี่ตดั สิ นเนรเทศฉิ นมู่หราน” เสี่ ยวตี๋
กล่าวอย่างตื่นเต้นดีใจ
เสิ่ นเวยทั้งตกใจทั้งดีใจ “เหตุใดถึงตัดสิ นแล้ว หาพยานได้แล้วหรื อ
เนรเทศไปไกลเพียงใด ถึงสามพันลี้หรื อไม่” ทางที่ดีควรเนรเทศไป
ยังที่รกร้างกันดารยิง่ ดี ทรมานเขาให้ตาย
“ก็หาพยานได้แล้วน่ะสิ จวิน้ จู่ท่านจะต้องคิดไม่ถึงแน่วา่ เป็ นใคร”
เสี่ ยวตี๋ทาท่าทางลับๆ ล่อ “เป็ นแม่นางตระกูลจางที่ถูกปล้นผูน้ ้ นั !
จวิน้ จู่ ผูน้ อ้ ยคิดไม่ถึงเลยว่าจางหยวนเหนียงผูน้ ้ นั จะเป็ นสตรี ที่กล้า
หาญเช่นนี้ เมื่อนางได้ยนิ ว่าไม่มีพยานจึงตัดสิ นฉิ นมู่หรานเด็กชัว่
อันธพาลผูน้ ้ นั ไม่ได้ ก็ไม่พดู พร่ าทาเพลงขอร้องให้ผนู ้ อ้ ยปล่อยนาง
ไปเป็ นพยานที่ศาลต้าหลี่”
บนใบหน้าของเสี่ ยวตี๋เต็มไปด้วยความชื่นชม “แม่นมผูน้ ้ นั ไม่
เพียงแต่กล้าหาญ ซ้ ายังเป็ นคนฉลาดมีฝีมือจัดการ ไม่ตอ้ งให้ผนู ้ อ้ ย
ชี้แนะ ตนก็เอากริ ชกรี ดตัวเองจนทัว่ ทั้งร่ างเป็ นบาดแผล โผเข้าไปที่
กลองใหญ่หน้าประตูศาลต้าหลี่ดว้ ยสภาพกระซัดกระเซิงจนตรอก
อย่างถึงที่สุด ในศาลนางอ้าปากก็บอกว่าตนเป็ นคนที่หนีออกมาจาก
จวนเสนาบดี ฉวยโอกาสตอนที่ในเรื อนไม่มีคนแอบหนีออกไปจาก
ช่องสุ นขั แห่งหนึ่งที่มุมกาแพงจวนเสนาบดี เหตุใดถึงไม่มาเป็ น
พยานที่ศาลต้าหลี่ให้เร็ วกว่านี้น่ะหรื อ อันที่จริ งก็ถูกคนไล่ฆ่า
หลบหนีไปทัว่ ทุกหนทุกแห่ง แม้แต่หน้ายังไม่กล้าโผล่มา กว่าจะรอ
ให้คนไล่ฆ่าลดละ นางจึงปลอมตัวเป็ นขอทานเสี่ ยงตายมาตีกลอง
ใหญ่ที่หน้าประตูศาลต้าหลี่”
“จวิน้ จู่ ท่านไม่เห็น แม้วา่ จางหยวนเหนียงผูน้ ้ นั จะบอกว่าถูกคนไล่
ฆ่าอย่างไม่มีตน้ สายปลายเหตุ แต่ใครไม่รู้บา้ งว่าเรื่ องนี้เกี่ยวข้องกับ
จวนเสนาบดีอย่างหนีไม่พน้ ใบหน้านั้นของท่านเสนาบดีฉิน ดาจน
บีบน้ าหมึกออกมาได้แล้ว” เสี่ ยวตี๋กล่าวอย่างดีใจบนความทุกข์ผอู ้ ื่น
แต่นึกถึงการตัดสิ นของฉินมู่หราน รอยยิม้ บนใบหน้าเสี่ ยวตี๋กล็ ดลง
ไปมากกว่าครึ่ ง กล่าวอย่างเคียดแค้นเล็กน้อย “แม้จะตัดสิ นเนรเทศ
แต่กเ็ นรเทศไปเพียงแค่หา้ ร้อยลี้ มิหนาซ้ าที่นนั่ ยังเป็ นที่ที่คนใน
ตระกูลท่านเสนาบดีฉินรับราชการอยู่ ช่างน่าโมโหจริ งๆ”
ทว่าเสิ่ นเวยกลับไม่ประหลาดใจแม้แต่นิดเดียว สามารถมีผลลัพธ์น้ ี
ได้กเ็ ป็ นผลลัพธ์ที่จา้ วเฉิงซวี่รับความกดดันได้แล้ว ด้วยเหตุน้ ีนางจึง
ปลอบเสี่ ยวตี๋ “แม้วา่ จะเป็ นห้าร้อยลี้กเ็ พียงพอให้ฉินมู่หรานคนชัว่ ผู ้
นั้นได้รับความทุกข์ยากแล้ว” ต่อให้ระหว่างทางจะได้รับการดูแล
แต่ฉินมู่หรานไก่อ่อนที่ไม่เคยรับความลาบากแม้แต่นิดเดียวมาก่อน
คาดว่าเดินไปถึงที่เนรเทศก็คงจะหนังหลุดไปหนึ่งชั้น
เสี่ ยวตี๋คล้ายครุ่ นคิด “จวิน้ จู่ ผูน้ อ้ ยเข้าใจแล้ว” ส่ วนนางจะเข้าใจ
อะไร เสิ่ นเวยก็ไม่รู้แล้ว
หลังเสี่ ยวตี๋ถอยออกไป เสิ่ นเวยก็นึกขึ้นได้วา่ จะถามเรื่ องคนโง่แซ่ฟู่
ผูน้ ้ นั บนเรื อสาราญ สวีโย่วเลิกคิ้ว กล่าว “เขาเป็ นบุตรอนุภรรยาที่
เร่ ร่อนอยูข่ า้ งนอกของจวนกงอ๋ อง เพิ่งจะยอมกลับมา เป็ น
ความสัมพันธ์ชูส้ าวที่เกิดขึ้นข้างนอกตอนที่กงอ๋ องยังหนุ่มอยู”่
หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่าวต่อ “จวนกงอ๋ องวุน่ วายอย่างยิง่ ยุง่ กับพวกเขา
แต่นอ้ ย” สวีหรานบุตรอนุผนู ้ ้ นั ยักคิว้ หลิ่วตาให้ภรรยาของเขา คิดว่า
เขาตาบอดหรื อไร
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 252-1 สวีโย่ วเข้ าดารงตาแหน่ ง
เมื่อผลการตัดสิ นของฉินมู่หรานมาถึงจวนเสนาบดี น้ าตาของนาย
หญิงผูเ้ ฒ่าฉินกับต่งซื่อฮูหยินเสนาบดีฉินก็ไหลไม่ขาดสาย รื้ อบรรพ
บุรุษแปดชัว่ โคตรของผูพ้ ิพากษาศาลต้าหลี่จา้ วเฉิ งซวี่ออกมาด่าหนึ่ง
รอบ “คนแซ่เฮยจิตใจดาผูน้ ้ นั ผีอายุส้ นั ผูน้ ้ นั เหตุใดถึงได้เกลียด
หลานสุ ดรักของข้า ภรรยาเหล่าต้า เจ้าเข้าวังไปคุยกับเหนียงเหนียง
แล้วไม่ใช่หรื อ เหตุใดถึงยังตัดสิ นให้เนรเทศอีกเล่า ตั้งแต่เล็กหลาน
สุ ดรักของข้าก็ไม่เคยห่างจากสายตาของย่าอย่างข้าเลย นี่ไม่ใช่เป็ น
การทาลายชีวิตของข้าหรื อ”
ต่งซื่อก็เจ็บใจราวกับถูกมีดฟัน “เหนียงเหนียงของเราก็พดู อยูว่ า่
หรานเอ๋ อร์จะไม่เป็ นไร ลูกเองก็ไม่รู้วา่ เหตุใดถึงเปลี่ยน หรานเอ๋ อร์ผู ้
น่าสงสารของข้าต้องทนรับความลาบากมากเพียงใด!” นางไม่
เพียงแต่ปวดใจ ซ้ ายังเป็ นกังวล เส้นทางการเนรเทศเดินง่ายเพียงนั้น
หรื อไร ระหว่างการเดินทางคนมากน้อยเพียงใดที่เดินยังไม่ถึงครึ่ ง
ชีวิตก็หาไม่แล้ว
ไม่อาจตาหนิซูเฟยเหนียงเหนียงที่จดั การไม่ดี นายหญิงผูเ้ ฒ่าด่าจ้าว
เฉิงซวี่เสร็ จก็เปลี่ยนมาด่าลูกชายต่อ “ไป ไปดูสิวา่ ท่านเสนาบดีของ
พวกเจ้าทาอะไรอยู่ วันทั้งวันเอาแต่ยงุ่ ๆๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขายุง่
อะไร แม้แต่เรื่ องของลูกตัวเองยังไม่ใส่ ใจ เขาจะทาให้ขา้ โมโหตาย
ใช่หรื อไม่” อารมณ์ฮึกเหิมเกินไป นางไอออกมาอย่างแรง
ต่งซื่อรี บเข้าไปช่วยนางระบายความโกรธ “ท่านแม่ท่านต้องระงับ
โทสะให้ได้ หากท่านเป็ นอะไรไป ใครจะตัดสิ นใจให้หรานเอ๋ อร์เล่า
ท่านแม่ ลูกฟังว่าครั้งนี้แม่นางตระกูลจางที่หนีไปผูน้ ้ นั เป็ นพยาน
หรานเอ๋ อร์ในศาล ท่านเสนาบดีเองก็หมดหนทางเช่นกัน” เทียบกับ
นายหญิงผูเ้ ฒ่าฉิน ต่งซื่อรู ้มากกว่านางเล็กน้อย
เมื่อได้ยนิ คาพูดของต่งซื่อ นายหญิงผูเ้ ฒ่าฉิ นก็มีสีหน้าดุร้าย “แม่นาง
ตระกูลจางอะไรนี่กไ็ ม่ใช่คนดี ตระกูลพวกเรารับปากให้นางเข้าจวน
แล้ว นางจะเอาอย่างไรอีก หญิงชัว่ ให้เกียรติไม่เอาเกียรติ นางทาร้าย
หลานชายสุ ดรักของข้า เช่นนั้นนางก็อย่าได้คิดจะอยูอ่ ย่างสงบเลย”
นางตบพนักเก้าอี้อย่างหนักหน่วง “วันนี้ขา้ จะฝังพวกเขาทั้ง
ครอบครัวลงไปพร้อมกันหลานชายสุ ดรักของข้า ภรรยาเหล่าต้า เจ้า
สัง่ คนไปจัดการเรื่ องนี้เสี ย” ในเมื่อหรานเอ๋ อร์ตอ้ งถูกเนรเทศ
เช่นนั้นตระกูลจางก็ไม่จาเป็ นต้องอยูอ่ ีกต่อไป คิดว่าจวนเสนาบดี
รังแกง่ายหรื ออย่างไร
คาพูดนี้ตรงใจของต่งซื่อพอดี นางกัดฟันกล่าว “เจ้าค่ะ ท่านแม่
วางใจ ลูกทราบแล้ว”
“ไม่ตอ้ ง” ท่านเสนาบดีฉินที่ถูกเรี ยกเข้ามาได้ยนิ ประโยคนี้พอดี เอ่ย
ปากห้ามปราม
นายหญิงผูเ้ ฒ่าฉินกับต่งซื่อไม่เข้าใจ “เหล่าต้า หรานเอ๋ อร์ยงั เป็ นลูก
เจ้าอยูห่ รื อไม่ เจ้าทนความโกรธนี้ได้ แต่ขา้ ทนไม่ได้”
ต่งซื่อเองก็มองสามีของตนอย่างสะอึกสะอื้นไห้ “ท่านเสนาบดี ต่อ
ให้หรานเอ๋ อร์จะไม่ได้เรื่ องแต่นนั่ ก็เป็ นเลือดเนื้อที่ขา้ ตั้งครรภ์มาสิ บ
เดือนเพื่อคลอดออกมาให้ท่าน จิตใจของท่านเสนาบดีโหดเ**้้ยม
เกินไปแล้วหรื อไม่”
เห็นแม่เขาเสี ยใจจนแทบหมดสติ ท่านเสนาบดีฉินก็รีบพูด “ท่านแม่
อย่าเพิ่งร้อนใจ ลูกไม่ใช่ไม่อยากจัดการตระกูลจางนั้น วันนี้ออกมา
จากศาลต้าหลี่ ลูกก็แอบส่ งคนไปจับตาดูละแวกตระกูลจาง แต่คนที่
ส่ งไปกลับมารายงาน ตระกูลจางทั้งตระกูล แม้แต่ครอบครัวคู่หมั้น
ของจางหยวนเหนียงผูน้ ้ นั ต่างก็หายไปหมดแล้ว”
ตอนที่พดู เรื่ องนี้ข้ ึนมาดวงตาของนายท่านเสนาบดีฉินก็เคียดแค้น
ท่านเสนาบดีผยู ้ งิ่ ใหญ่เช่นเขาคาดไม่ถึงว่าเรื อคว่าในร่ องน้ าสายเล็ก
เรื่ องนี้หากบอกว่าไม่มีคนวางแผนอยูเ่ บื้องหลัง เขาก็คงจะปั กศีรษะ
ลงดินเป็ นลูกบอลให้เตะแล้ว
“อะไรนะ หายไปหมดแล้วหรื อ เหล่าต้า เรื่ องนี้มนั เกิดอะไรขึ้น”
เมื่อนายหญิงผูเ้ ฒ่าฉินได้ยนิ ก็จบั ลูกชายของนางแล้วถามทันที หาก
หาตระกูลจางนัน่ ไม่เจอแล้ว ความทุกข์ยากที่หลานสุ ดรักของนาง
ได้รับใช่จะเสี ยเปล่าหรื อไม่
ต่งซื่อเองก็กล่าว “ก็แค่สกุลชัว่ ทั้งตระกูล จะวิ่งหนีไปไหนได้ ท่าน
เสนาบดีไม่สงั่ คนให้หาหรื อ”
ดวงตาของท่านเสนาบดีฉินกะพริ บวาบ หาหรื อ เขาย่อมสัง่ คนไปหา
แล้ว แต่ไหนเลยจะหาเจอ! เขาควบคุมน้ าเสี ยงกล่าว “ท่านแม่วางใจ
เรื่ องนี้ลูกไม่ยอมให้จบแบบนี้แน่นอน” ต่อให้พวกเขาสองตระกูลจะ
หลบอยูใ่ นรู หนู เขาเองก็ตอ้ งจับคนออกมาให้ได้
จากนั้นก็กล่าวปลอบ “แม้จะบอกว่าเนรเทศ แต่กเ็ พียงแค่หา้ ร้อยลี้
หลานจื่อเฉินในตระกูลก็เป็ นข้าหลวงประจาจังหวัดอยูท่ ี่นนั่ ข้าเรี ยบ
เรี ยงหนังสื อหนึ่งฉบับให้คนส่ งไปแล้ว ให้เขาดูแลหรานเอ๋ อร์ให้ดี
ส่ วนระหว่างเดินทาง พวกเราก็เพิ่มเงินติดสิ นบนเจ้าหน้าที่คุมตัวให้
มากหน่อย ส่ งคนในตระกูลหลายคนติดตามไป หรานเอ๋ อร์ไม่
ลาบากอะไรหรอก” เขาวางแผนไว้ดีแล้ว
ได้ยนิ ท่านเสนาบดีฉินพูดเช่นนี้ สี หน้าของนายหญิงผูเ้ ฒ่าฉิ นกับต่
งซื่อก็ดีข้ ึนเล็กน้อย นายหญิงผูเ้ ฒ่าฉินก็ยงิ่ จับมือลูกชายแล้วกล่าว
“เหล่าต้า ไม่มีวิธีอื่นหรื อ หรานเอ๋ อร์ไม่ไปไม่ได้หรื อ พวกเราให้เงิน
เพิ่มอีก…” นางกระทัง่ เกิดความคิดโยนความผิดให้แพะรับบาป
ทว่ากลับถูกท่านเสนาบดีฉินปฏิเสธทันควัน “ท่านแม่ เกรงว่าจะ
ไม่ได้ ท่านต้องรู ้วา่ หรานเอ๋ อร์เพียงแค่ถูกตัดสิ นให้เนรเทศไปเพียง
ห้าร้อยลี้ อีกทั้งที่ที่ถูกเนรเทศยังเป็ นอาณาเขตของพวกเขา นี่ลว้ นแต่
เป็ นผลจากการที่ซูเฟยเหนียงเหนียงกับองค์ชายรองออกหน้าจึง
ได้มา” หากได้คืบจะเอาศอกอีก เขาเองก็กลัวจะยัว่ ยุคนที่ซ่อนตัวอยู่
เบื้องหลัง!
“เช่นนั้นเหล่าต้าเจ้าต้องส่ งคนในตระกูลสองคนที่มีความสามารถ
มากไปดูแล อย่าให้หลานสุ ดรักของข้าลาบาก” นายหญิงผูเ้ ฒ่าฉิ น
กาชับ “ต่อให้จะต้องใช้เงินมาก็ไม่เป็ นไร อีกประเดี๋ยวเหล่าต้าก็เอา
ทรัพย์สินส่ วนตัวหนึ่งหมื่นตาลึงนี้จากแม่ไป”
ท่านเสนาบดีฉินปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง “ท่านแม่ ไม่ตอ้ ง หรานเอ๋ อร์
เป็ นลูกข้า จะใช้เงินส่ วนตัวของท่านได้อย่างไร”
ทว่านายหญิงผูเ้ ฒ่าฉินกลับไม่ซาบซึ้ง ถลึงตากล่าว “ข้ายินดีให้เงิน
หลานสุ ดรักของข้าแล้วอย่างไร คนแก่อย่างข้าน่าสงสารไม่รู้
เหมือนกันว่าจะมีชีวิตอยูถ่ ึงวันที่หลานสุ ดรักกลับมาหรื อไม่” เบือน
หน้าไปเช็ดน้ าตาอีกครั้ง
ท่านเสนาบดีฉินทาสี หน้าเหยเกทันที กล่าวประนีประนอม “ขอรับๆ
แล้วแต่ท่านแม่” พลางส่ งสายตาให้ต่งซื่อข้างๆ บอกเป็ นนัยให้นาง
รี บปลอบนายหญิงผูเ้ ฒ่า
ไม่ตอ้ งพูดถึงเรื่ องอื่น ต่งซื่อกับนายหญิงผูเ้ ฒ่าฉิ นแม่สามีลูกสะใภ้คู่
นี้มีท่าทีลาเอียงต่อเรื่ องของฉินมู่หรานเหมือนกัน บ้านใหญ่เองก็เป็ น
เพราะฉินมู่หรานจึงได้รับผลประโยชน์ไม่นอ้ ย ต่งซื่อไม่อยาก
สู ญเสี ยที่พ่ งึ ที่สาคัญนี้ไป รี บยกมุมปากกล่าว “ท่านแม่ในใจท่าน
คิดถึงหรานเอ๋ อร์ ข้ากับท่านเสนาบดีกม็ ีเพียงความซาบซึ้งดีใจ ท่าน
อย่าได้เสี ยใจไปเลย บารุ งกาลังวังชาให้ดี รอวันที่หรานเอ๋ อร์ออก
จากเมืองหลวงพวกเราก็ไปส่ งเขา หากให้เขาเห็นท่านซีดเซียว เขาก็
คงจะไปด้วยความไม่สบายใจ!”
คาพูดนี้พดู กระทบส่ วนลึกในใจของนายหญิงผูเ้ ฒ่าแล้ว “ใช่ ใช่ ข้า
ยังต้องไปส่ งหลานสุ ดรักของข้า หลานสุ ดรักของข้าเป็ นเด็กที่มีจิตใจ
ดีที่สุดแล้ว ข้านอนไม่หลับแค่คืนเดียวเขาก็ดูออก” นึกถึงภาพที่
หลานชายอยูต่ รงหน้าเมื่อก่อน น้ าตาของนายหญิงผูเ้ ฒ่าฉิ นไหนเลย
จะเก็บได้อยู่
ท่านเสนาบดีฉินยังคิดจะตามหาตระกูลจางและตระกูลซัง่ ออกมาให้
ได้ เขาไหนเลยจะรู ้วา่ ภายใต้ความช่วยเหลือของเสิ่ นเวย ตระกูลจาง
กับตระกูลซัง่ ได้ทาหลักฐานการเดินทางและทะเบียนบ้านเรี ยบร้อย
เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่ยา้ ยออกไปพันลี้นานแล้ว
ปัญญาชนแซ่จางได้ยนิ ที่ลูกสาวเล่า ทั้งยังนึกถึงชายวัยกลางคนที่
ช่วยเหลือดูแลพวกเขาทุกอย่างและส่ งพวกเขาออกไป ในใจก็มนั่ ใจ
ว่าพวกเขาสองตระกูลได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลสู งส่ ง มิ
เช่นนั้น อย่าว่าแต่จากมาอย่าสงบ คาดว่าพวกเขาคงจะไม่เหลือแม้แต่
ชีวิตแล้ว
“ส่ งออกไปแล้วหรื อ” เสิ่ นเวยถามเสี่ ยวตี๋ที่กลับมารายงาน
เสี่ ยวตี๋พยักหน้า “คนของพวกเราเห็นตระกูลจางกับตระกูลซัง่ ขึ้นเรื อ
กับตา มุ่งไปทางตะวันตกแล้ว ส่ วนพวกเขาจะเลือกไปอยูท่ ี่ใด นัน่ ก็
เป็ นเรื่ องของพวกเขาเองแล้ว” สามารถช่วยถึงขั้นนี้ได้ ก็นบั ว่าจวิน้ จู่
เมตตาเป็ นพิเศษแล้ว
เสิ่ นเวยพยักหน้าบอกเป็ นนัยว่ารับรู ้ จากนั้นจึงถาม “ใช่แล้ว ฝั่ง
ตะวันออกเฉียงใต้ของจวนเสนาบดีฉินมีอะไร ศาลบรรพบุรุษหรื อ
เจ้ามัน่ ใจหรื อว่ามีเพียงแค่ศาล”
เสี่ ยวตี๋เม้มปากกล่าว “ถูกต้อง จวิน้ จู่ นอกจากศาลาริ มน้ าหนึ่งหลัง
แล้วก็มีเพียงศาลบรรพบุรุษ ข่าวที่คนสามคนส่ งออกมาล้วน
เหมือนกัน”
เสิ่ นเวยหลุบตา ท่าทางคล้ายครุ่ นคิด ครึ่ งเค่อจึงกล่าว “อืม ให้พวก
เขาจับตามองศาลาริ มน้ ากับศาลบรรพบุรุษ สังเกตการณ์เคลื่อนไหว
ของท่านเสนาบดีฉินให้มาก” ตั้งแต่ตน้ จนตอนนี้นางมีความสงสัย
ต่อการกระทาของท่านเสนาบดีฉินในคืนนั้น
ขุนนางใหม่สร้างปรากฎการณ์ สวีโย่วก็ไม่เว้นเช่นกัน หลังวันเกิด
ของเสิ่ นเวยผ่านไปคบไฟอันแรกของเขาก็ลุกไหม้โชติช่วงขึ้นมา
เริ่ มปรับปรุ งราชนิกลุ และบุตรหลานสู งศักดิ์ที่เกียจคร้านใน
กองปัญจทิศรักษานคร
ในอดีต แม้วา่ กองปัญจทิศรักษานครจะมีจานวนคนไม่นอ้ ย แต่ที่
ทางานจริ งๆ กลับมีไม่เยอะ บางคนก็มีเบื้องลึกเบื้องหลัง เพียงแค่มี
ชื่อไว้ประดับก็เท่านั้น หนึ่งปี โผล่หน้ามาได้สามถึงห้าครั้งก็นบั ว่าดี
แล้ว แต่เงินเดือนกลับรับเต็มจานวน
หลังจากที่สวีโย่วรับตาแหน่งผูบ้ ญั ชาการนี้ ก็ประกาศให้มาลงชื่อเข้า
งานทุกวัน คนที่ไม่ลาล่วงหน้า ลงชื่อไม่ถึงสามครั้งก็จะถูกถอนถอน
ตาแหน่งไล่กลับบ้าน ขออภัย ในเมื่อเจ้าเป็ นคนใหญ่คนโตแบบนี้
เช่นนั้นพวกเราก็เรี ยกใช้เจ้าไม่ได้ รี บกลับบ้านไปพักเสี ยดีกว่า
สวีโย่วสัง่ คนให้แจ้งกฎใหม่น้ ีไปยังทุกๆ คน เจ้าไม่มาทางานที่วา่
การมิใช่หรื อ ไม่เป็ นไร เราส่ งคนไปแจ้งเจ้าแล้ว ไม่วา่ เจ้าจะอยูใ่ น
จวน หรื อว่าขดตัวอยูใ่ นหอเสพสาราญบ่อนพนัน ต่อให้จะอยูใ่ น
คฤหาสน์ที่ซ่อนชูค้ นงามไว้ เราก็จะแจ้งข่าวไปถึงเจ้า เช่นนี้เจ้าก็ไม่
สามารถอ้างว่าไม่รู้ได้แล้วมิใช่หรื อ
ความสามารถของเจ้าธรรมดาไม่กลัว มิใช่สามารถเรี ยนรู ้ได้หรอก
หรื อ อย่างไรเสี ยไม่วา่ ใครก็ไม่สามารถทางานเป็ นตั้งแต่เกิด แต่ท้ งั ปี
เจ้าไม่รู้กระทัง่ ว่าประตูของกองปัญจทิศรักษานครเปิ ดไปทางไหน
เช่นนั้นก็ไม่สมควรแล้ว ในเมื่อข้าจวิน้ อ๋ องรับตาแหน่งผูบ้ ญั ชาการนี้
เช่นนั้นก็ไม่อนุญาตให้ทานิสยั เลวทรามอย่างแต่ก่อนได้
เมื่อกฎใหม่ออกมา คนที่ไม่มีเบื้องหลังคอยหนุน กระทัง่ บุตรหลาน
ลูกคุณชายที่ข้ ีขลาดส่ วนหนึ่งต่างก็มาลงชื่อฟังคาสัง่ อย่างว่าง่าย แต่ก็
ยังมีคนที่หวั แข็งหลายคนยังคงทาตามอาเภอใจตัวเอง ไม่เห็นสวีโย่
วอยูใ่ นสายตา หลานชายของฮองเฮาเหนียงเหนียง ญาติผพู ้ ี่ของท่าน
ไท่จื่อ ชีเว่ยคุณชายรองจวนเฉิงเอินกงก็เป็ นหนึ่งในนั้น
คนผูน้ ้ ีกเ็ ป็ นคนประเภทที่เอาแต่กินดื่มเที่ยวผูห้ ญิงติดพนันต่างๆ
ด้วยความที่ป้าของตนเป็ นฮองเฮา แต่ไหนแต่ไรก็ใช้
อานาจบาตรใหญ่ ไม่เห็นใครอยูใ่ นสายตา เมื่อเขารู ้กฎใหม่ที่สวี
โย่วประกาศ ก็แค่นเสี ยงขึ้นจมูก ยังคงทาตัวตามอาเภอใจ กระทัง่
ประกาศต่อสาธารณะ “ก็แค่คนขี้โรค เอาขนไก่มาเป็ นธนู ข้าไม่ไป
หรอก ข้าจะดูวา่ เขาจะทาอะไรข้าได้”
คาพูดนี้กด็ งั ไปถึงหูของสวีโย่วเช่นกัน หนังตาของเขาไม่แม้แต่จะ
เหลือบขึ้น บนใบหน้าก็ยงิ่ ดูไม่ออกว่าโมโหหรื อเดือดดาล ทาให้คน
เดาความคิดที่แท้จริ งในใจเขาไม่ออก
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 252-2 สวีโย่ วเข้ าดารงตาแหน่ ง
ลงชื่อวันแรกคนที่ไม่มามีเจ็ดแปดคน จางหู่หลี่หลงที่ได้รับคัดเลือก
มาใหม่กม็ องผูบ้ ญั ชาการคนใหม่ที่นงั่ อยูข่ า้ งๆ ด้วยความ
ระแวดระวัง แข็งใจรายงานชื่อของเจ็ดแปดคนที่หวั รั้นไม่มา
สวีโย่วพยักหน้า สัง่ ให้จาไว้ทนั ที จากนั้นจึงสัง่ คนให้รายงาน
ผลลัพธ์ไปยังเจ็ดแปดคนนี้
ลงชื่อวันที่สองมีหา้ คนไม่มา สวีโย่วยังคงไม่พดู อะไร เพียงแค่จาห้า
คนนี้ไว้ และตัดเงินเดือนสามเดือน
ลงชื่อวันที่สามคนที่ไม่มามีเพียงสองคน นอกจากชีเว่ยที่พดู ถึงก่อน
หน้านี้แล้ว ยังมีบุตรอนุภรรยาผูห้ นึ่งของจวนกงอ๋ อง
สวีโย่วยังไม่ได้พดู อะไร ก็ถอนคนทั้งสองออกจากตาแหน่งทันที แต่
ว่าก่อนถอดถอนก็โบยคนละสิ บครั้ง คนที่ลงโทษก็เป็ นคนของ
กองปัญจทิศรักษานคร ไหนเลยจะกล้าโบยราชนิกลุ สองคนนี้จริ งๆ
เพียงแค่เสแสร้งแกล้งทาก็เท่านั้นเอง หลังจากโบยสิ บครั้งแล้ว บน
ร่ างคนทั้งสองก็ไม่มีบาดแผลแม้แต่นิดเดียว โดยเฉพาะชีเว่ยคนผูน้ ้ นั
ตอนที่เขากระโดดขึ้นมา ชี้จมูกคนลงโทษก่นด่า ขึ้นเสี ยงจะเอาคืน
“เอ๋ ท่านไหวหรื อไม่ เด็กแซ่ชีผนู ้ ้ นั ร้ายจริ งๆ จะให้ฟังจงหลี่พาคนไป
จัดการเขาสักหน่อยหรื อไม่” เสิ่ นเวยกระทุง้ แขนของสวีโย่ว กล่าว
ด้วยความแค้นเคือง
มีความคิดนี้ได้อย่างไรกัน! ข้าคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นยังไม่ใช้อานาจระราน
ในเมืองหลวงเลย ลูกคุณชายที่เอาแต่กินดื่มเที่ยวผูห้ ญิงติดพนันคน
หนึ่งเช่นเจ้ากลับระรานไปทัว่ เมืองหลวง คาดไม่ถึงว่ายังประกาศ
ประจานสามีที่รักของนางอีก ข้าไม่ตีเจ้าจนเลือดออกจมูกเจ้าก็คงไม่
รู ้วา่ เหตุใดดอกไม้ถึงมีสีแดงเช่นนี้
เสิ่ นเวยถกแขนเสื้ อเตรี ยมจะสัง่ ฟังจงหลี่ไปซุ่มต่อยคนโง่ชีเว่ย
สวีโย่วรี บลากนางกลับมา กล่าวอย่างขบขัน “ในสายตาเวยเวย ข้าไร้
ประโยชน์เพียงนี้เลยหรื อ เศษสวะเช่นนี้ไหนเลยจะต้องให้เวยเวยอ
อกมือ รอดูเถอะ!” ไม่ตอ้ งให้เขาออกมือเอง ชีเว่ยผูน้ ้ นั ก็สามารถ
รนหาที่ตายเองได้
เสิ่ นเวยกะพริ บตา กล่าว “ได้ ท่านจัดการก่อน หากท่านไม่ไหว ข้า
จะออกมืออีกที เราเรี ยกนี่วา่ อะไรนะ สามีภรรยาใจเดียวกัน ตัดทอง
ให้ขาดได้” เสิ่ นเวยทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยค ทาให้สวีโย่วหัวเราะร่ า
ด้วยความสุ ข
หากเป็ นเพียงการถอดถอนจากตาแหน่ง การตอบสนองของชีเว่ย
อาจจะไม่ใหญ่เพียงนี้ อย่างไรเสี ยเขาก็ไม่ขาดเงิน ไม่ได้สนใจ
ตาแหน่งงานนี้ ถอดถอนก็ถอดถอนไปสิ
แต่สวีโย่วดันสัง่ คนมาโบยเขาสิ บครั้ง อีกทั้งยังโบยต่อหน้าแม่นางซู
หว่านในหอเสพสาราญที่เขาชื่นชม เป็ นความอัปยศอันใหญ่หลวง!
ขายหน้า ขายหน้าเกินไปแล้ว ขายหน้าไปถึงบ้านยายแล้วรู ้หรื อไม่
เขาจะกล้ ากลืนความโกรธนี้ได้อย่างไร
เขาจึงปรึ กษากับสหายสนิทผูเ้ ป็ นบุตรอนุภรรยาจวนกงอ๋ องผูน้ ้ นั คิด
อยากจะสัง่ สอนสวีโย่ว แต่น่าเสี ยดายวันที่สองที่เคลื่อนไหว บุตร
อนุภรรยาจวนกงอ๋ องผูน้ ้ นั กลับถูกพ่อเขาขังไว้ในจวน
ชีเว่ยสาปแช่งสหายสนิทว่าโง่เขลาต่างๆ นานา และทาได้เพียง
ปรึ กษากันให้ดีอีกครั้ง
วิธีลา้ งแค้นของชีเว่ยเรี ยบง่ายป่ าเถื่อนอย่างถึงที่สุด แตกต่างแต่มี
ผลลัพธ์เดียวกันกับความคิดของเสิ่ นเวยเล็กน้อย ก็คือนาคนไปปิ ด
ล้อมเส้นทางเลิกงานของสวีโย่ว คิดจะทุบตีสวีโย่วอย่างโหดเ**้้ยม
ในสายตาเขา สวีโย่วก็คือคนขี้โรคที่ร่างกายผอมบางผูห้ นึ่ง จัดการ
คนแบบนี้ไม่ใช่เรื่ องง่ายดายหรอกหรื อ
หึ ไม่ตอ้ งพูดถึงวิทยายุทธ์ที่สวีโย่วฝึ กจนสมบูรณ์แบบนัน่ เพียงแค่
เจียงเฮยเจียงไป๋ ที่ติดตามอยูข่ า้ งกายเขาก็ไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว ยิง่ ไม่
ต้องพูดถึงทหารคุม้ กันกล้าตายในที่ลบั
ชีเว่ยผูน้ ้ ียงั คงเป็ นคนโง่จริ งๆ เจ้าบอกว่าเจ้าอยากซุ่มตีผบู ้ ญั ชาการสวี
ขอเพียงแค่ขยับปากสัง่ คนไปทาก็ได้แล้ว แต่เขาไม่ เขาดันพาคนลง
สนามด้วยตัวเอง นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายเองหรื อ
ดูสิ บนร่ างสวีโย่วไม่เปื้ อนแม้แต่เศษดิน เพียงแค่เจียงเฮยเจียงไป๋ สอง
คนก็ตีชายแข็งแกร่ งหนึ่งกลุ่มที่ชีเว่ยพามาจนลุกไม่ข้ ึนแล้ว แม้แต่ชี
เว่ยเองก็ถูกตีเกือบตาย นอนอยูบ่ นพื้นร้องโอดโอย
เจียงเฮยเจียงไป๋ เกลียดชีเว่ยผูท้ ี่ใส่ ร้ายประณามนายของพวกเขายิง่ นัก
ดังนั้นลูกน้องจึงไม่เหลือเยือ่ ใย นอกจากบนตัว ก็มีบาดแผลบน
หน้าที่หนักที่สุด จมูกช้ าหน้าบวม ราวกับหัวหมู
คราวนี้แย่แล้ว ชีเว่ยกลับไปถึงจวนด้วยสภาพเหมือนผีเช่นนี้ จวนเฉิ ง
เอินกงก็ระเบิด ย่าเขาแม่เขาดึงเขาไปเช็ดหน้ าตา ซื่อจื่อเฉิ งเอินกงพ่อ
เขาก็ตกใจและโมโหมากเป็ นพิเศษ สี หน้าไม่ดีอย่างมาก แม้ลูกของ
ตนจะทาตัวเหลวไหล แต่เจ้าผิงจวิน้ อ๋ องก็ไม่อาจไม่ไว้หน้าเลยได้!
อย่างไรเสี ยจวนเฉิงเอินกงของพวกเขาก็เป็ นบ้านฝั่งมารดาของท่าน
ไท่จื่อ ฮองเฮาเหนียงเหนียงยังมีอานาจอยูใ่ นวัง ดูถูกจวนเฉิ งเอินกง
ของพวกเขา ก็เท่ากับไม่เห็นฮองเฮาเหนียงเหนียงกับไท่จื่ออยูใ่ น
สายตามิใช่หรื อ
ชีซื่อจื่อทั้งโมโหทั้งเดือดดาล วันที่สองก็เข้าวังไปร้องทุกข์กบั
น้องสาวของเขาแล้ว
เมื่อฮองเฮาเหนียงเหนียงกับไท่จื่อได้ฟังเรื่ องนี้ ก็ตกใจอย่างถึงที่สุด
“อะไรนะ ผิงจวิน้ อ๋ องตีเว่ยเอ๋ อร์หรื อ เพราะเหตุใดกัน”
ฮองเฮาเหนียงเหนียงกับไท่จื่อไม่ค่อยเชื่อเล็กน้อย ความสุ ขมุ ของสวี
โย่วเป็ นที่ประจักษ์ แม้แต่ฝ่าบาทยังเคยชม ไม่ได้มีนิสยั ทาชัว่ ต่อยตี
หาเรื่ องอย่างสิ้ นเชิง
“ท่านน้า ญาติผพู ้ ี่สร้างเรื่ องอีกแล้วหรื อ” ไท่จื่อถามอย่าง
ตรงไปตรงมา
สี หน้าของชีซื่อจื่อไม่ดีอย่างยิง่ เล่าเรื่ องตั้งแต่ตน้ จนจบหนึ่งรอบ
กล่าวอย่างเคียดแค้น “เหนียงเหนียง ไท่จื่อ เว่ยเอ๋ อร์มีความผิด แต่ผงิ
จวิน้ อ๋ องก็ถอดตาแหน่งของเขาแล้ว เหตุใดยังต้องโบยเขาอีกเล่า เว่ย
เอ๋ อร์เป็ นผูใ้ หญ่แล้ว หน้าไหนเลยจะยังประดับได้อยู่ ไม่เห็นแก่หน้า
ภิกษุสงฆ์กค็ วรเห็นแก่หน้าพระพุทธรู ป แม้จวนเฉิ งเอินกงจะไม่
ใหญ่อะไร แต่นี่ไม่เท่ากับว่าไม่เห็นเหนียงเหนียงกับซื่อจื่ออยูใ่ น
สายตาหรอกหรื อ”
เขามองสี หน้าของฮองเฮาเหนียงเหนียง กล่าวต่อ “ยกเรื่ องเมื่อวานมา
พูด เว่ยเอ๋ อร์เป็ นคนซื่อ แต่ผงิ จวิน้ อ๋ องต้องการสัง่ สอนก็เพียงแค่
ระบายอารมณ์กบั บ่าวก็พอ เหตุใดจะต้องตีเว่ยเอ๋ อร์จนเป็ นเช่นนั้น
ให้ได้ หมอบอกแล้วว่า บนร่ างนั้นไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งรักษาตัวครึ่ งปี
ต่อให้เว่ยเอ๋ อร์จะไม่ดี นัน่ ก็ยงั เป็ นบุตรของขุนนาง เป็ นญาติผพู ้ ี่ของ
ไท่จื่อ!”
อันที่จริ งอาการบาดเจ็บของชีเว่ยชีซื่อจื่อก็พดู เกินจริ งเล็กน้อย บน
ร่ างนั้นของเขาแม้วา่ จะดูน่ากลัว แต่ส่วนใหญ่กบ็ าดเจ็บที่เนื้อหนัง
อย่างมากรักษาตัวหนึ่งเดือนก็พอแล้ว ลูกน้องเจียงเฮยกับเจียงไป๋ รู ้
หนักเบาดีอย่างยิง่
“อาการบาดเจ็บของเว่ยเอ๋ อร์สาหัสเพียงนั้นจริ งหรื อ” คิ้วของฮองเฮา
เหนียงเหนียงขมวดมุ่น
ชีซื่อจื่อรี บกล่าวสาบาน “จริ งแท้แน่นอน ไหนเลยจะกล้าหลอก
เหนียงเหนียงกับไท่จื่อ”
“ผิงจวิน้ อ๋ องผูน้ ้ ี ปกติกด็ ูสุขมุ ยิง่ นัก เหตุใดถึงไม่รู้หนักเบาเช่นนี้เล่า
เว่ยเอ๋ อร์เด็กกว่าเขามาก สัง่ สอนทางวาจาก็เพียงพอแล้ว เหตุใดยัง
จะต้องลงไม้ลงมืออีก” ฮองเฮาเหนียงเหนียงฟังคาพูดของพี่ชายจบ
แล้ว ในใจก็ตาหนิสวีโย่วเล็กน้อยเช่นกัน
เว่ยซื่อจื่อเห็นว่ายัว่ ยุให้ฮองเฮาเหนียงเหนียงไม่พอใจผิงจวิน้ อ๋ อง
สาเร็ จ ก็แสดงท่าทีซื่อสัตย์ออกมา กล่าว “ไม่ใช่เพราะว่าจวนเฉิ งเอิน
กงไร้ประโยชน์หรอกหรื อ”
ฮองเฮาเหนียงเหนียงตาหนิทนั ที “ไร้ประโยชน์อะไรจวนเฉิงเอินกง
เป็ นบ้านฝั่งมารดาของไท่จื่อ จะไร้ประโยชน์ได้อย่างไร” ในใจก็ยงิ่
ไม่พอใจสวีโย่วมากขึ้น
อย่างไรเสี ยไท่จื่อก็เป็ นบุรุษผูม้ ีหน้าที่การงาน ไม่เหมือนเสด็จแม่
ของเขาที่อยูใ่ นวังหลังตบตาเก่ง เห็นเขามองน้าเขาด้วยความไม่
พอใจปราดหนึ่ง กล่าว “ท่านน้าเองก็น่าจะดูแลญาติผพู ้ ี่รองหน่อย
โตป่ านนี้แล้วยังเอาแต่ก่อเรื่ อง ผิงจวิน้ อ๋ องเป็ นผูบ้ ญั ชาการกองปั ญจ
ทิศรักษานครที่เสด็จพ่อสัง่ ด้วยตัวพระองค์เอง เขาปรับปรุ งกองปั ญจ
ทิศรักษานครก็เป็ นหน้าที่ที่รับผิดชอบ ญาติผพู ้ ี่รองลงชื่อไม่ถึงสาม
ครั้ง โบยเขาสิ บครั้งยังเบา มิหนาซ้ ายังกาแหงนาคนไปซุ่มต่อยผิง
จวิน้ อ๋ อง สมควรแล้วที่เขาถูกสัง่ สอน”
คาพูดของไท่จื่อไม่เหลือเยือ่ ใยเลยแม้แต่นิดเดียว เขาไม่มีความรู ้สึกดี
ต่อญาติผพู ้ ี่รองผูน้ ้ ีเลยแม้แต่นอ้ ย คนโง่ยงั ไม่พอ ยังไม่รู้จกั เก็บกระบี่
เหตุใดบุตรอนุภรรยาจวนกงอ๋ องผูน้ ้ นั ที่ถูกถอดถอนออกจาก
ตาแหน่งและโบยเหมือนกันยังไม่วงิ่ มาแก้แค้นผิงจวิน้ อ๋ องเลยเล่า
ท่านน้ายังมีหน้ามาฟ้องร้องเสด็จแม่อีก เห็นเลยว่าไม่มีเหตุผล ดังนั้น
ไท่จื่อจึงไม่พอใจจวนเฉิงเอินกงขึ้นมา
“ท่านน้าไม่ได้ยนิ เรื่ องคุณชายน้อยจวนเสนาบดีฉินหรื อ ฝ่ าฝื นกฎก็
โดนเนรเทศตามระเบียบ คุณชายจวนเสนาบดีผยู ้ งิ่ ใหญ่ น้าแท้ๆ ของ
องค์ชาย ถูกเนรเทศ พูดไปแล้วก็น่าขายหน้า ข้าไม่หวังให้ญาติผพู ้ ี่
รองช่วยข้า แต่กอ็ ย่าได้หาเรื่ องข้างนอกมาให้ขา้ ทั้งวัน!”
ชีซื่อจื่อถูกไท่จื่อบุตรน้องสาวของเขาตาหนิจนหูแดงจัด ฮองเฮา
เหนียงเหนียงเห็นท่าทีกร็ ี บหยุดลูกชาย “ไท่จื่อ!” จากนั้นจึงหันมา
ปลอบพี่ชาย “ช่วงนี้ไท่จื่อจัดการงานกับฝ่ าบาท เห็นเรื่ องฝ่ าฝื นกฎ
เหล่านี้ไม่ได้ที่สุด เขามีนิสยั ตรงไปตรงมา พี่ใหญ่อย่าได้ถือสาเขา
เลย”
ชีซื่อจื่อย่อมไม่พอใจ ไท่จื่อแค่นเสี ยงเบาหนึ่งครากลับไม่พดู อะไร
แล้ว แต่ท่าทางนั้นก็ทาให้ชีซื่อจื่ออึดอัดอย่างมาก
ส่ งชีซื่อจื่อไปแล้ว ฮองเฮาเหนียงเหนียงก็พดู กับลูกชาย “อย่างไรเสี ย
นัน่ ก็เป็ นน้าของเจ้า ตั้งแต่เล็กก็รักเจ้าเอาใจเจ้า เหตุใดเจ้าถึงไม่ไว้
หน้าเขาเลยเล่า”
ทว่าไท่จื่อกลับไม่คิดว่าตัวเองผิด “เสด็จแม่ ท่านไม่อาจตามใจท่าน
น้าพวกเขาแล้ว ดูเรื่ องที่ญาติผพู ้ ี่รองทานี่สิ หรื อว่าท่านเองก็หวังให้
ราชสานักเห็นลูกเหมือนที่เห็นพี่รองเป็ นตัวตลก”
ฮองเฮาเหนียงเหนียงเห็นซื่อจื่อไม่พอใจแล้ว ก็กล่าวปลอบ “เอา
ล่ะๆๆ แม่รู้แล้ว แม่จะคุมบ้านน้าของเจ้าแน่นอน ไม่ให้พวกเขามา
เป็ นภาระเจ้า”
ทว่าเปลี่ยนเรื่ องแล้วก็ยงั กล่าว “แต่คาพูของน้าเจ้าก็มีเหตุผล! ญาติผู ้
พี่รองของเจ้าผิด แต่ตีหมาก็ตอ้ งดูเจ้าของ ผิงจวิน้ อ๋ องตีญาติผพู ้ ี่รอง
ของเจ้า นี่หมายความว่าไม่เห็นข้ากับไท่จื่อเช่นเจ้าอยูใ่ นสายตา ดูท่า
แล้วผิงจวิน้ อ๋ องผูน้ ้ ีจะได้รับความโปรดปรานมากเกินไปแล้ว
กระทัง่ เกิดความรู ้สึกทะนงตน เจ้าเองก็คอยหาโอกาสพูดกับเสด็จ
พ่อเจ้าหน่อย”
ในใจไท่จื่อไหนเลยจะมีความสุ ข โมโหเพราะความเหลวไหลของ
ญาติผพู ้ ี่รองบ้านฝั่งมารดา ความรู ้สึกที่มีต่อสวีโย่วเองก็ไม่พอใจสอง
ส่ วน ญาติผพู ้ ี่รองก่อเรื่ อง เจ้าผิงจวิน้ อ๋ องก็ควรจับคนมาให้เขาตัดสิ น
เงียบๆ หรื อว่าเขาไม่สามารถตัดสิ นแทนเขาได้หรื อ ต้องลงไม้ลงมือ
ตีคนด้วยตัวเอง อย่างไรเสี ยก็ไม่เห็นไท่จื่อผูน้ ้ ีอยูใ่ นสายตาเลย!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 253-1 ห้ องลับกักขังผู้ใด
ไท่จื่อไม่ฟังเสด็จแม่ของเขา ฟ้องร้องผิงจวิน้ อ๋ องต่อหน้าเสด็จพ่อ นี่
ไม่ใช่การกระทาของสตรี หรอกหรื อ เขาคือไท่จื่อ มุมมองต่อ
สภาพการณ์จะน้อยเพียงนี้หรื อไร เช่นนั้นเสด็จพ่อจะมองเขาอย่างไร
ยิง่ ไปกว่านั้นผิงจวิน้ อ๋ องก็เป็ นญาติผพู ้ ี่ของเขา เขาจะโง่พดู เรื่ อง
เล็กน้อยของเขาต่อหน้าเสด็จพ่อได้อย่างไร
ฮองเฮาเหนียงเหนียงไม่มีความตระหนักรู ้น้ ี นางคิดว่าบ้านฝั่งมารดา
ของตนได้รับความไม่เป็ นธรรม พาให้ไท่จื่อเสี ยหน้าไปด้วย ต่อให้
ผิงจวิน้ อ๋ องจะได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้แต่กเ็ ป็ นเพียง
หลานชาย หลานชายจะใกล้ชิดกว่าลูกชายได้อย่างไร
ด้วยเหตุน้ ีเมื่อเห็นจังหวะที่ฮ่องเต้ยงเซวียนเสด็จเข้ามาในตาหนัก
นางนางก็พดู เรื่ องผิงจวิน้ อ๋ องเชื่อถือไม่ค่อยได้นกั หลายประโยค
อย่างคล้ายหยอกล้อ ฮ่องเต้ยงเซวียนที่เดิมมีความสุ ขอย่างยิง่ ก็ขมวด
คิ้วในชัว่ พริ บตา ความคิดที่เดิมจะบรรทมในพระตาหนักคุนหนิงก็
หมดไปทันที สะบัดมือของฮองเฮาเหนียงเหนียงยกเท้าเดินออกไป
ทิ้งให้ฮองเฮาเหนียงเหนียงโมโห แทบจะกัดจนฟันแตกเป็ นเสี่ ยง
ทุกๆ การกระทาของฮ่องเต้ยงเซวียนต่างก็ถูกวังหลังจับจ้อง ข่าว
ฮ่องเต้ยงเซวียนออกจากตาหนักคุนหนิงของฮองเฮาเหนียงเหนียง
กลางดึกดังไปถึงหูของเหยียนกุย้ เฟยกับฉิ นซูเฟยและคนอื่นๆ ด้วย
ความรวดเร็ วอย่างยิง่
เหยียนกุย้ เฟยเพียงแค่เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ แต่กลับไม่ได้พดู
อะไร ฉินซูเฟยก็ดีใจบนความทุกข์ของผูอ้ ื่นอย่างมาก สัง่ ขันทีคน
สนิทข้างกาย “พรุ่ งนี้ไปสื บมา ดูสิวา่ เป็ นเพราะเรื่ องอันใด” ไม่วา่ จะ
เป็ นเพราะเรื่ องใด ได้เห็นฝ่ าบาทไม่ไว้หน้าฮองเฮาเหนียงเหนียง
แม้แต่นิดเดียว จิตใจนางก็สบายอารมณ์ยงิ่ นัก
ทว่า เรื่ องที่ทาให้ฮองเฮาเหนียงเหนียงเดือดดาลยังตามมาทีหลัง
เช้าตรู่ วนั เดียวกัน ฮ่องเต้ยงเซวียนชมเชยผิงจวิน้ อ๋ องสวีโย่วต่อหน้า
ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ท้ งั ฝ่ ายบุ๋นและบู๊ทวั่ ท้องพระโรง เมื่อออกว่า
ราชการเสร็ จแล้ว บาเหน็จของฮ่องเต้ยงเซวียนก็มาถึงจวนผิงจวิน้
อ๋ อง
เดิมทุกคนก็มีท่าทีเฝ้าสังเกตการณ์เรื่ องที่ผงิ จวิน้ อ๋ องมีเรื่ องกับจวน
เฉิงเอินกง นอกจากผูต้ รวจการเล็กๆ ที่ไม่รู้จกั เปิ ดหูเปิ ดตาไม่กี่คน
กระโดดออกไปยืน่ มติไม่ไว้วางใจผิงจวิน้ อ๋ องแล้ว คนที่เหลือต่างก็
ปิ ดปากไม่พดู
ตอนนี้การกระทานี้ของฮ่องเต้ยงเซวียนทุกคนยังมีอะไรไม่เข้าใจอีก
คนที่รอดูเรื่ องสนุกก็รีบเก็บความคิด บ้านฝั่งมารดาของฮองเฮา
เหนียงเหนียง บ้านตาของไท่จื่อแล้วอย่างไร ยังคงได้รับความโปรด
ปรานไม่เท่าผิงจวิน้ อ๋ องด้วยซ้ า!
สี หน้าของไท่จื่อยา่ แย่อย่างมาก แม้เสด็จพ่อของเขาจะไม่เอ่ยถึง
ความผิดของจวนเฉิงเอินกงแม้แต่ประโยคเดียว และยังไม่ได้ลงโทษ
อะไร แต่เขาปูนบาเหน็จให้ผงิ จวิน้ อ๋ องมหาศาลไม่ใช่การแสดงท่าที
แล้วหรื อ
โดยเฉพาะไท่จื่อที่รู้วา่ เรื่ องนี้ยงั เป็ นฝี มือของเสด็จแม่เขา ก็ยงิ่ ลาบาก
ใจ บ้านตาเป็ นตัวถ่วงเขา เสด็จแม่ยงั สร้างปั ญหาเพิ่มอีก ไท่จื่อเช่น
เขาก็โชคร้ายอย่างมากจริ งๆ
ออกว่าราชการเสร็ จแล้วเขาก็ไปขอโทษต่อหน้าฮ่องเต้ยงเซวียนแทน
เสด็จแม่ของเขา ฮ่องเต้ยงเซวียนไม่ได้โมโห เขามองลูกชายที่เขา
เลี้ยงมากับมือผูน้ ้ ี กล่าวอย่างเรี ยบง่าย “เจ้าคือเจ้า เสด็จแม่เจ้าก็คือ
เสด็จแม่เจ้า เจ้าเป็ นมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่เล็กก็ได้รับการสัง่ สอนจาก
ขุนนางและปราชญ์ชื่อดังหนึ่งกลุ่ม ยังไม่เข้าใจแม้แต่หลักการเช่นนี้
หรื อ ไท่สื่อเจ้าจงจาไว้ เป็ นผูป้ กครองต้องมีจิตใจที่โอบอุม้ ใต้หล้า
ไม่อาจเลือกข้างแต่คนที่สนิทกับตน ใจแคบเหมือนไส้ไก่”
ผูต้ รวจการที่ยนื่ มติไม่ไว้วางใจผิงจวิน้ อ๋ องไม่กี่คนนั้นก็น่าขาจริ งๆ
เจ้าจะยืน่ มติไม่ไว้วางใจ ก็ตอ้ งหาโทษที่ถูกต้องตามกฎหมายมามิใช่
หรื อ ใช้อานาจแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน เหอๆ พวกเขายังกล้า
พูดจริ งๆ
ผิงจวิน้ อ๋ องเป็ นคนโหยหาอานาจหรื อ แม้แต่ตาแหน่งผูบ้ ญั ชาการ
กองปัญจทิศรักษานครนี้ยงั เป็ นตนที่ยนื กรานยัดให้เขา แสวงหา
ผลประโยชน์ส่วนตนหรื อ เขายังต้องแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน
อีกหรื อ ไม่ตอ้ งพูดถึงสิ นเดิมสิ บลี้นนั่ ของคุณหนูสี่แซ่เสิ่ น เพียงแค่
สิ นเดิมของต้วนซื่อแม่แท้ๆ ของผิงจวิน้ อ๋ องก็เพียงพอให้ใช้จ่ายไป
สามชาติแล้ว
คนอื่นไม่รู้ฐานะของต้วนซื่อ แต่ฮ่องเต้ยงเซวียนผูเ้ ป็ นฮ่องเต้ยอ่ มรู ้ดี
ฮ่องเต้องค์ก่อนตอนที่ยงั ทรงพระเยาว์มีหญิงงามหวานใจที่รักที่สุดผู ้
หนึ่ง ท้ายที่สุดแล้วทั้งสองไม่อาจลงเอยกันได้ สุ ดท้ายหญิงผูน้ ้ นั ก็
แต่งงานกับคนอื่นตามสามีออกไปอยูอ่ ย่างสันโดษ ภายหลังไม่รู้
เหมือนกันว่าเกิดเรื่ องอะไรขึ้น หญิงผูน้ ้ นั และสามีเสี ยชีวิตทั้งคู่
เหลือเพียงลูกสาวก็คือต้วนซื่อ ก่อนตายหญิงผูน้ ้ นั ฝากฝังลูกสาวไว้
ให้ฮ่องเต้องค์ก่อนดูแล
ฮ่องเต้องค์ก่อนเสี ยพระทัยอย่างยิง่ ดูแลต้วนซื่อเหมือนลูกสาวแท้ๆ
ตามคาสัญญา ตอนที่นางออกเรื อนสิ นเดิมที่ฮ่องเต้องค์ก่อนเตรี ยม
ให้อย่างน้อยก็ครึ่ งท้องพระคลัง ตอนนี้ท้ งั หมดอยูใ่ นมือของผิงจวิน้
อ๋ อง เขาไม่มีอะไรทาหรื อถึงต้องแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน
เหอะ ไม่มีผตู ้ รวจการโจวดูแลกรมตรวจการราชสานักไม่ได้เลย
จริ งๆ! ตอนนี้ฮ่องเต้ยงเซวียนคิดถึงผูต้ รวจการโจวที่ถูกเขาส่ งไปขัง
อยูท่ างตอนเหนืออย่างถึงที่สุด ไม่รู้เหมือนกันว่าคดีของแม่ทพั อัน
เขาตรวจสอบไปถึงไหนแล้ว
สบสายตาที่แฝงความนัยของเสด็จพ่อเหงื่อของไท่จื่อก็ไหลออกมา
เสด็จพ่อหมายความว่าอย่างไร ไม่พอใจเขาแล้ว หรื อว่ารังเกียจที่เขา
ใจกว้างไม่พอ ไม่วา่ จะเป็ นแบบไหนก็เพียงพอให้เขาอกสัน่ ขวัญ
แขวนได้ท้ งั สิ้ น อดเกลียดชีเว่ยตัวสร้างหายนะอีกครั้งไม่ได้
เร็ วอย่างยิง่ ฉินซูเฟยก็รู้แล้วว่าฮองเฮายัว่ โมโหฮ่องเต้ยงเซวียน มุม
ปากยกขึ้น กล่าวกับองค์ชายรองด้วยความเหยียดหยามอย่างถึงที่สุด
“เห็นแล้วหรื อยัง นัน่ ก็คือคนโง่” นางบอกเป็ นนัยไปยังทิศของ
ตาหนักคุนหนิง คนที่ทาให้นางไม่ยนิ ยอมก็คือคนที่โง่เพียงนี้แต่
ตลอดมากลับกดอยูบ่ นหัวนาง
อารมณ์ที่กลัดกลุม้ ขององค์ชายรองก็ดีข้ ึนเล็กน้อย ในที่สุดก็ไม่ได้มี
เพียงบ้านตาของเขาที่เป็ นตัวถ่วงแล้ว มีไท่จื่อรับโทษด้วย ความ
กดดันบนตัวเขาก็เบาลงไม่นอ้ ยในชัว่ พริ บตา
“เสด็จแม่ ท่านเห็นแล้วใช่หรื อไม่ เสด็จพ่อปกป้องผิงจวิน้ อ๋ องยิง่
นัก” องค์ชายรองฉวยโอกาสโน้มน้าวเสด็จแม่อีกครั้ง
ฉินซูเฟยที่กาลังอารมณ์ดีกห็ มดอารมณ์ในชัว่ ขณะ โบกมือกล่าว
อย่างหงุดหงิด “พอแล้ว พอแล้ว รู ้แล้ว เจ้าคิดว่าแม่เจ้าเป็ นคนโง่หรื อ
วางใจเถอะ ไม่เพิม่ ภาระให้เจ้าหรอก”
หยุดครู่ หนึ่งคล้ายนึกอะไรขึ้นได้จึงกล่าว “ภรรยาเจ้าไม่มีความ
คืบหน้าหรื อ แต่งงานมานานเพียงนี้แล้ว เสด็จพ่อเจ้าให้ความสาคัญ
กับทายาท เจ้าเองก็ใส่ ใจให้มากหน่อย อย่าเอาแต่ทุ่มเทให้งานทั้งวัน
หากเจ้ามีบุตรชายได้ ก็ดียงิ่ กว่าอะไรทั้งสิ้ น”
ดวงตาองค์ชายรองกะพริ บวาบ กลับไม่ได้คดั ค้าน “เสด็จแม่วางใจ
ลูกทราบแล้ว”
ทว่าฉินซูเฟยกลับเชิดคาง แค่นเสี ยงหนึ่งครา รู ้แล้วมีประโยชน์บา้
อะไร บอกเขาแล้วว่าทายาทสาคัญ มีครั้งไหนบ้างที่ไม่ใช่ตอบปาก
รับคาอย่างขอไปที นี่กผ็ า่ นมาหนึ่งปี แล้ว ในจวนเขายังไม่มีสกั คน
ที่ต้ งั ท้อง อู๋ซื่อ คิดถึงลูกสะใภ้ผนู ้ ้ นั ของนาง ซูเฟยก็อยากพูดอีกหลาย
ประโยคอย่างอดไม่ได้ แต่เมื่อนึกถึงพ่อที่เป็ นแม่ทพั ผูน้ ้ นั ของ
ลูกสะใภ้ นางอ้าปากแล้วก็ยงั คงอดทนไว้
เสิ่ นเวยพลิกดูบาเหน็จของฮ่องเต้ยงเซวียนรอบหนึ่ง หลังจากนั้นก็
มองสวีโย่วแล้วกล่าว “ความรู ้สึกของการมีคนหนุนหลังสบายใจ
จริ งๆ”
มุมปากสวีโย่วกระตุกเล็กน้อย เรื่ องนี้เขามีเหตุผลรู ้หรื อไม่ หากเขา
สลับตาแหน่งกับชีเว่ย ต่อให้ฝ่าบาทจะโปรดปรานเขาก็ไม่อาจหนุน
หลังเขาอย่างมีเหตุมีผลเช่นนี้ได้
เสิ่ นเวยกล่าวต่อ “ฟังว่าคบไฟอันที่สองกับอันที่สามของท่านก็จุด
แล้วงั้นหรื อ ทาเอาไก่อ่อนพวกนั้นร้องไห้หาพ่อหาแม่เลยทีเดียว”
สวีโย่วพยักหน้า “แม้จะบอกว่ากองปั ญจทิศรักษานครเทียบกอง
ทหารรักษาพระองค์กบั ค่ายใหญ่ซีซานไม่ได้ แต่กไ็ ม่อาจด้อยเกินไป
ได้ แม้แต่โจรกระจอกยังจับไม่ได้ ขายหน้ายิง่ นัก” อย่างไรเสี ยก็เป็ น
ดินแดนของพวกเขาตระกูลสวี ในเมื่อเขาได้รับหน้าที่น้ ีแล้ว ก็ตอ้ ง
ทุ่มเทแรงบ้าง อีกทั้งกองปัญจทิศรักษานครก็ควรจะปรับปรุ งได้แล้ว
แม้แต่เด็กรับใช้ในจวนเขายังเทียบไม่ได้ หวังจะให้พวกเขาดูแล
ความปลอดภัยในเมืองหลวงงั้นหรื อ ฝันไปเถอะ
เสิ่ นเวยเองก็รู้สึกขายหน้า มีครั้งหนึ่งนางเคยเห็นกับตาตัวเองว่า
เจ้าหน้าที่ของกรมปัญจทิศรักษานครจับคนไม่ได้แต่กลับถูกคนตี
ยังคงเป็ นนางที่สงั่ คนเข้าไปช่วย นี่เองก็เป็ นเหตุผลที่นางรู ้สึกตกใจ
ตั้งแต่แวบแรกที่ได้ยนิ ว่าสวีโย่วได้รับตาแหน่งผูบ้ ญั ชาการกองปั ญจ
ทิศรักษานคร สามีที่หาญกล้าและใจดาอย่างถึงที่สุดของนางจะนา
คนไร้ประโยชน์หนึ่งกลุ่มได้อย่างไร
วันนี้ตอนที่ฉินมู่หรานเดินทาง ท่านเสนาบดีฉินนาคนทั้งหมดใน
จวนมา พ่อบ้านหนึ่งคนเด็กรับใช้สี่คนที่ร่วมเดินทางไปพร้อมเขารอ
คาสัง่ อยูข่ า้ งๆ แล้ว
เป็ นถึงคุณชายน้อยของจวนเสนาบดี สวัสดิการของฉิ นมู่หรานดี
อย่างยิง่ มาโดยตลอด ไม่เพียงแต่ไม่ตอ้ งใส่ เครื่ องจองจา ก่อนออก
เดินทางยังอาบน้ าเปลี่ยนชุดใหม่ แม้แต่ผมก็ยงั หวีอย่างเป็ นระเบียบ
ที่สุด
แต่นายหญิงผูเ้ ฒ่าฉินกับต่งซื่อที่ลงมาจากรถยังคงเห็นตั้งแต่แวบแรก
ว่าเขาผอมลง จับแขนของเขาร้องไห้เงียบๆ ฉิ นมู่หรานเห็นแม่กบั ย่า
เขา ก็เหมือเห็นผูช้ ่วยชีวิต กอดคนทั้งสองอ้อนวอน “ท่านย่า ท่านแม่
ข้าอยากกลับจวน ข้าไม่อยากไปเจียงโจว ข้าเชื่อฟัง จะไม่ก่อเรื่ องอีก
แล้ว ท่านย่า ท่านให้ขา้ กลับจวนเถิด” คืนวันเหล่านี้ในคุกเขานับว่า
ทนทุกข์ทรมานมาพอแล้ว แม้พอ่ เขาจะเตรี ยมคนมาดูแล แต่ต่อให้
จะดูแลนัน่ ก็เป็ นห้องขัง เพียงแค่หนูที่ออกมาหาอาหารทุกคืนก็ทา
ให้เขากลัวจนอกสัน่ ขวัญหายแล้ว
หัวใจของนายหญิงผูเ้ ฒ่าฉิ นกับต่งซื่ อแทบจะแตกร้าว “หลานสุ ดรัก
หลานสุ ดรักของข้า!” นายหญิงผูเ้ ฒ่าฉินลูบใบหน้าของฉิ นมู่หราน
ในใจประหนึ่งถูกมีดกรี ด
ส่ วนต่งซื่อก็ร้องขอกับท่านเสนาบดีฉินอย่างอดไม่ได้แล้ว “ท่าน
เสนาบดี หรานเอ๋ อร์ไม่ไปแล้วได้หรื อไม่ เด็กรับใช้บ่าวรับใช้
มากมายเช่นนี้ เลือกมาแทนหรานเอ๋ อร์สกั คนไม่ได้หรื อ หากยังไม่
พอ ในจวนก็มีบุตรหลานไม่นอ้ ย พวกเรา ตระกูลพวกเราออกเงินให้
มากหน่อย จะต้องหา…”
“หุบปาก” พูดยังไม่ทนั จบก็ถูกท่านเสนาบดีตะโกนห้าม หญิงโง่
เป็ นหญิงโง่ที่สุดจริ งๆ ภายใต้สายตาที่จบั จ้องก็คิดจะให้บ่าวกับบุตร
หลานในตระกูลมาแทนที่หรานเอ๋ อร์ นี่ไม่ใช่การส่ งจุดอ่อนไปใน
มือผูอ้ ื่นหรื อ แผนที่เขาวางไว้อย่างดีถูกหญิงโง่ผนู ้ ้ ีเอ่ยปากทาลาย
แล้ว
เดิมทีท่านเสนาบดีฉินยังมีความคิดเช่นนี้จริ งๆ เพียงแต่ไม่ใช่ตอนนี้
แต่เป็ นระหว่างทาง ติดสิ นบนผูค้ ุมให้มากหน่อย ค่อยๆ เปลี่ยนตัว
หรานเอ๋ อร์ออกมาใครจะรู ้
ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ถูกต่งซื่อหญิงโง่ผนู ้ ้ ีเอ่ยปากเน่าๆ ทาลายแล้ว คน
ในที่ลบั จะต้องจับจ้องไม่ให้คลาดสายตาเป็ นแน่ หากคิดจะ
เปลี่ยนตัวหรานเอ๋ อร์อีกก็ยากแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 253-2 ห้ องลับกักขังผู้ใด
สายตาที่นิ่งขรึ มของท่านเสนาบดีฉินจ้องมองต่งซื่อ รู ้สึกเพียง
หงุดหงิดใจ กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “พอแล้ว อย่าเสี ยเวลาเลย ให้
หรานเอ๋ อร์เดินทางเถิด เส้นทางนี้กล็ าบากพี่ชายผูค้ ุมทั้งสองท่าน
แล้ว”
เจ้าหน้าที่ผคู ้ ุมตัวฉิ นมู่หรานทั้งสองคนนั้นตกใจที่ได้รับความโปรด
ปราน นี่คือท่านเสนาบดีฉินเชียวนะ ปกติพวกเขาไหนเลยจะเห็น
หน้าท่านเสนาบดีฉินได้ ตอนนี้ไม่เพียงแต่ได้เห็น ท่านเสนาบดีฉิน
ยังเป็ นมิตรกับพวกเขาอีก พวกเขาต่างก็ตื่นเต้นจนหน้าแดง ตบอก
รับปาก “ท่านเสนาบดีวางใจ มีพวกข้าสองคนอยู่ ไม่อาจลาบาก
คุณชายน้อยตระกูลฉินแน่นอน” แม้วา่ จะลาบากพวกเขาเองก็ไม่อาจ
สร้างความลาบากให้ลูกรักของท่านเสนาบดีฉินได้!
แม้ฉินมู่หรานจะไม่ยนิ ดีแต่กต็ อ้ งเดินทางตามเจ้าหน้าที่ไปอย่าง
อาลัยอาวรณ์ พ่อบ้านและเด็กรับใช้สี่คนโขกศีรษะให้ท่านเสนาบดี
ฉินแล้วก็กระชับผ้าห่อของบนหลังตามออกไป
กระทัง่ เงาร่ างของกลุ่มฉินมู่หรานหายไป ท่านเสนาบดีฉินจึงหัน
หลังกลับจวนด้วยความอาลัย นายหญิงผูเ้ ฒ่าฉิ นกับต่งซื่อถูกสาวใช้
พยุงขึ้นรถม้า เพราะว่าเสี ยใจมากเกินไป ทั้งสองแทบจะทรุ ด นี่ทาให้
ฉินมู่หย่วนบุตรคนโตของท่านเสนาบดีฉินกังวลอย่างถึงที่สุด
แม้จะบอกว่าเป็ นพี่นอ้ งท้องเดียวกัน แต่ความสัมพันธ์ของฉินมู่หย่
วนกับน้องชายผูน้ ้ ีกไ็ ม่ค่อยลึกซึ้งจริ งๆ ตอนที่นอ้ งชายเขาเกิดเขาก็
เป็ นปัญญาชนเรี ยนหนังสื อแล้ว ภายหลังน้องชายเขาถูกอุม้ ไปเลี้ยงที่
เรื อนของท่านย่า ทั้งสองก็ยงิ่ พบหน้ากันน้อยลง เขานิสยั ไม่เหมือน
น้องชายคนนี้ เขาชอบอ่านหนังสื อ และชอบพัฒนาการเรี ยน
น้องชายเขาเป็ นคนชอบเที่ยวเล่น หยิบหนังสื อขึ้นมาก็ปวดหัว เช่นนี้
ความสนิทของคนทั้งสองก็นอ้ ยลง นับประสาอะไรกับความผูกพัน
ลึกซึ้ง หากไม่ใช่วา่ ท่านแม่มกั จะราพึงราพันถึงน้องชายของเขาข้างหู
เขาบ่อยๆ เขาที่เป็ นพี่ชายจะต้องดูแลน้อง วันนี้เขาก็คงไม่คิดแม้แต่
จะมาแล้ว
ท่านเสนาบดีฉินกลับไปถึงจวนเสนาบดีอารมณ์กย็ งั คงดิ่ง นัง่ อยูใ่ น
ห้องหนังสื อคนเดียวอยูน่ านจึงค่อยๆ ลุกขึ้นเดินไปยังศาลบรรพบุรุษ
เห็นแผ่นหลังที่เดียวดายของท่านเสนาบดีฉิน จิตใจคนรับใช้ในจวน
ก็เต็มไปด้วยความเห็นใจ ต่อให้มีอานาจล้นฟ้าแล้วอย่างไร ก็ยงั
ปกป้องลูกชายคนเล็กไว้ไม่ได้
ตอนที่ข่าวดังไปถึงหูของนายหญิงผูเ้ ฒ่าฉิ น นางก็อดเสี ยงใจอีกรอบ
ไม่ได้ ถอนหายใจกล่าวกับแม่นมข้างกาย “เหล่าต้าเองก็ไม่ง่าย
หรานเอ๋ อร์เป็ นลูกที่เกิดตอนเขาอายุมากแล้ว แม้ปากจะไม่พดู แต่ใน
ใจกลับเจ็บปวด เฮ้อ เขาอยูใ่ นศาลบรรพบุรุษคนเดียวไม่รู้วา่ จะเสี ยใจ
เพียงใด”
ในความจริ งแล้วนายหญิงผูเ้ ฒ่าคิดมากไปแล้วจริ งๆ ผูก้ ระทาการณ์
ใหญ่ไม่ใส่ ใจกับเรื่ องเล็กน้อย ท่านเสนาบดีฉินเสี ยใจเพียงแค่ชวั่ ครู่
นั้น เมื่อเดินเข้าไปในศาลบรรพบุรุษริ มฝี ปากของเขาก็เม้มแน่นด้วย
ความเคยชิน
“ท่านเสนาบดี!” ผูด้ ูแลศาลบรรพบุรุษเป็ นชายชราหลังค่อมคนหนึ่ง
ผมและหนวดขาวหมดแล้ว สวมชุดสี ดาทั้งร่ าง ไม่รู้เหมือนกันว่า
ไม่ได้ซกั มานานเพียงใด คนมองดูแล้วสกปรกมอมแมม แต่หากเจ้า
มองท่าทางการเดินของเขาให้ดี กลับจะพบว่าขาทั้งคู่ของเขาแข็งแรง
ไม่สอดคล้องกับความชราภายนอกของเขาอย่างสิ้ นเชิง
ท่านเสนาบดีฉินขานอืมหนึ่งครา โบกมือ ชายชราผูน้ ้ นั ก็กระแอม
เดินออกจากศาลบรรพบุรุษมานัง่ ลงข้างประตู
ท่านเสนาบดีฉินยืนอยูใ่ นศาลบรรพบุรุษ มองแท่นบูชาบรรพบุรุษ
อย่างนิ่งงันครู่ ใหญ่ จากนั้นก็เดินเข้าไปหมนุแท่นบูชาของพ่อเขา ได้
ยินเพียงเสี ยง ‘แกรก’ เบาๆ หนึ่งครั้ง ตาแหน่งที่เขายืนอยูเ่ มื่อครู่ ก็
เปิ ดปากอุโมงค์กว้างหนึ่งเมตรออกมา ท่านเสนาบดีฉินเหยียบบันได
เดินลงไปจากปากอุโมงค์ ข้างล่างเป็ นห้องลับหนึ่งห้อง
“ฉินชังเสี่ ยวเอ๋ อร์ ไม่เจอกันนาน” เสี ยงที่แหบพร่ าเสี ยงหนึ่งดังขึ้น
“เจอปัญหามาอีกแล้วหรื อ” ในน้ าเสี ยงแฝงความดีใจ
ห้องลับใต้ดินนี้คาดไม่ถึงว่ามีคนผูห้ นึ่งอยู่ เป็ นชายชรา ผมขาว
หนวดขาวหมดแล้ว รอยย่นบนใบหน้าก็ลึกราวกับใช้มีดกรี ดเข้าไป
ทาให้คนรู ้สึกว่าเขาแก่มากๆ ดูจากที่เขาเรี ยกท่านเสนาบดีฉินว่าเสี่ ยว
เอ๋ อร์ (เด็กน้อย) อายุของเขาก็น่าจะมากอย่างยิง่
เขานัง่ อยูบ่ นเก้าอี้ที่ทาขึ้นเป็ นพิเศษหนึ่งตัว สองมือสองขาล้วนถูก
โซ่ล่ามไว้ คิดจะขยับเล็กน้อยล้วนไม่ง่ายดาย
ทว่าชายชราผูน้ ้ ีกลับมีท่าทีสูงสง่า หลังตรงอย่างยิง่ ประหนึ่งนัง่ อยู่
บนบัลลังก์ รอบตัวมีพลังน่าเกรงขามที่ทาให้คนไม่อาจประมาทหนึ่ง
กลุ่มกระจายอยู่
“ไยถึงพูดเช่นนี้” ท่านเสนาบดีฉินเลิกคิ้ว ไม่โมโห
ชายชราผูน้ ้ นั ก็หวั เราะเอิ๊กอ๊ากขึ้นมา เสี ยงแสบหูมากเป็ นพิเศษ “ครั้ง
ใดบ้างที่เจ้าฉินชังเสี่ ยวเอ๋ อร์มาหาข้าโดยที่ไม่ใช่เวลาที่เจ้าอารมณ์ไม่
ดี ดูความผิดหวังบนหน้าเจ้าก็รู้แล้ว ราวกับพ่อตาย อ้อไม่ใช่สิ พ่อเจ้า
ตายไปนานแล้ว คงไม่ใช่วา่ บุตรชายตายหรอกนะ”
ท่านเสนาบดีฉินส่ งลูกคนสุ ดท้องไปแล้ว ฟังคนเอ่ยถึงบุตรชายสอง
คานี้ไม่ได้อย่างสิ้ นเชิง ความโกรธแวบผ่านใบหน้า แม้วา่ จะเร็ วอย่าง
ยิง่ แต่กย็ งั คงถูกชายชราจับได้แล้ว
ชายชราหัวเราะร่ าฮ่าๆ “ฉินชังเสี่ ยวเอ๋ อร์ คงจะไม่ถูกข้าทายถูกจริ งๆ
หรอกกระมัง บุตรคนไหนของเจ้าตายเล่า ข้าจาได้วา่ บุตรคนโตผูน้ ้ นั
ของเจ้าปี นี้กน็ ่าจะอายุได้ยสี่ ิ บปี แล้ว ตอนเขายังเด็กข้ายังเคยเจอเขา
เป็ นคนฉลาดเฉียบแหลม คงไม่ใช่วา่ บุตรคนโตผูน้ ้ ีของเจ้าเป็ นอะไร
ไปหรอกนะ ฮ่าๆๆ เช่นนั้นก็ดีจริ งๆ! ฉินชังเสี่ ยวเอ๋ อร์ ข้าเฝ้ารอให้
เจ้าไร้ผสู ้ ื บสกุลอยู”่ ในดวงตาของชายชรามีรอยยิม้ ทว่าปากกลับพูด
วาจาที่โหดเ**้้ยมที่สุด
แต่ท่านเสนาบดีฉินกลับไม่ขยับ “เช่นนั้นก็ขออภัยจริ งๆ ต้องทาให้
ท่านผิดหวังแล้ว บุตรคนโตของข้ายังมีชีวิตอยูด่ ี ทั้งยังเป็ นคุณชาย
ยอดเยีย่ มที่มีชื่อในเมืองหลวง ได้รับความสาคัญจากฝ่ าบาทอย่าง
มาก แน่นอนว่าบุตรคนอื่นของข้าก็ลว้ นมีชีวติ อยูด่ ี มีจวนข้าอยู่ พวก
เขาย่อมมีอนาคตที่งดงาม กลับเป็ นท่าน!”
สายตาของเขาสาดยิงอยูบ่ นใบหน้าของชายชรา เหยียดหยามอย่างถึง
ที่สุด “กลับเป็ นบุคคลที่เคยเรี ยกลมฝนได้เช่นท่านตกต่าจนถูกขังอยู่
ในที่แคบๆ เพียงนี้ ราวกับหนูในท่อน้ า ต่อให้ขา้ ปล่อยท่านออกไป
ยังจะมีคนจาได้อีกหรื อว่าท่านเป็ นใคร”
“ถุย้ !” ชายชราแค้นเสี ยงหนักๆ หนึ่งครา “ข้าดูคนไม่ออกจึงมีจุดจบ
เช่นนี้ ข้ารู ้แล้ว แต่ธรรมะชนะอธรรม คนชัว่ ช้าเช่นเจ้าไม่อาจมีจุดจบ
ที่ดีได้ เจ้าปิ ดบังฝ่ าบาทได้ชวั่ คราว แต่หางจิ้งจอกของเจ้าไม่ชา้ ไม่เร็ ว
ก็ตอ้ งโผล่ออกมา ฝ่ าบาทไม่อาจปล่อยเจ้าไปแน่”
“เช่นนั้นท่านก็ตอ้ งเปิ ดตามองให้ชดั ๆ ฝ่ าบาทหรื อ เหอะ เขาสวีเซิ่น
เป็ นใครกัน เพียงแค่โชคดีมากกว่าคนอื่นก็เท่านั้น ใต้หล้านี้คนที่ควร
สมน้ าหน้าก็คือตระกูลสวีมิใช่หรื อ” วาจาที่ท่านเสนาบดีฉินพูด
ออกมาเนรคุณอย่างถึงที่สุด
“อะไรกัน เจ้ายังวางแผนจะยึดอานาจก่อกบฏอีกหรื อ” ในดวงตาชาย
ชรามีความดุดนั แวบผ่าน “อ้อ นึกออกแล้ว เจ้ายังมีบุตรสาวคนหนึ่ง
ที่ให้กาเนิดองค์ชายแก่ฝ่าบาท เจ้าต้องการจะประคองหลานชายของ
เจ้าให้ข้ ึนเป็ นหุ่นเชิดหรื อ ฮ่าๆ เจ้าไม่คิดบ้างหรื อว่า ครอบครัวฝั่ง
ภรรยาที่กมุ อานาจล้นฟ้าแต่ละยุคแต่ละสมัยมีจุดจบที่ดีหรื อไม่”
ทว่าท่านเสนาบดีฉินกลับยิม้ ไม่พดู สายตาที่มองชายชราสงสาร
ประหนึ่งเห็นมด “ท่านวางใจ ในเมื่อข้ารับอานาจในมือท่านมาแล้ว
ไม่วา่ อย่างไรก็ยงั จาครั้นจุดธูปสาบานได้สามส่ วน ข้าจะไม่ฆ่าท่าน
ข้าจะปล่อยให้ท่านดูวา่ ตระกูลฉินของข้าจะไต่ข้ ึนยอดผาแห่งอานาจ
อย่างไร”
พูดถึงตรงนี้เขาก็หยุดครู่ หนึ่ง คล้ายจู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้ “อ้อ ยังมีอีก
เรื่ องที่ลืมบอกท่าน กาลังพลหลายพันคนนั้นบนเขาชิงลัว่ ไม่เหลือ
แล้ว เฮ้อ ไม่คิดว่าจมูกของฝ่ าบาทจะดมกลิ่นได้วอ่ งไวอย่างยิง่ ข้า
เพียงแค่ออกมือกับตาเฒ่าเสิ่ นผิงยวนครั้งเดียวเขาก็สังเกตเห็น
ร่ องรอยได้แล้ว ไม่เหลือแล้วก็ไม่เป็ นไร ข้าเองก็ไม่หวังว่าคนไม่กี่
พันคนนั้นจะทาสาเร็ จได้”
“ฉินชังเสี่ ยวเอ๋ อร์เจ้า!” ดวงตาของชายชราเบิกกว้างฉับพลัน มือเท้า
ดิ้นพล่าน ดึงโซ่เสี ยงดังครื ดๆ “เห็นชีวิตคนเป็ นต้นหญ้า จะต้องไม่
ตายดี”
ท่านเสนาบดีฉินหัวเราะฮ่าๆ ชื่นชมความโกรธของชายชรา กล่าว
อย่างไม่สนใจ “ตายดีตายไม่ดีขา้ ไม่รู้ อย่างไรเสี ยข้าก็ตอ้ งตายหลัง
ท่าน” พูดจบก็หวั เราะร่ าเดินวางก้ามออกไป
เมื่อท่านเสนาบดีฉินออกไป ความโกรธบนใบหน้าชายชราก็หายไป
ทันที เขามองทิศทางที่แผ่นหลังของท่านเสนาบดีฉินหายไป ในใจก็
เสี ยใจอย่างถึงที่สุด นี่คือลูกสนัขจิ้งจอก ถอดแบบออกมาจากบิดา
ของเขาสุ นขั จิ้งจอกเฒ่าตัวนั้น เขายังไม่เอาไพ่ลบั ของเขาออกมาเลย!
ศีรษะของชายชราเงยขึ้นเล็กน้อย บนใบหน้าปรากฎสี หน้างงงวย
ถูกขังอยูใ่ นห้องลับที่มืดมิดไร้แสดงอาทิตย์น้ ีมานานเพียงใดแล้ว
แปดปี ? สิ บปี ? หรื อว่าสิ บห้าปี แล้ว ตัวเขาเองยังจาไม่ได้ หากไม่ใช้
ว่าอาศัยความสามารถในการอดทนที่น่าตกใจ เขาก็คงจะตายไปนาน
แล้ว
ในเมื่อตายไม่ได้ เช่นนั้นเขาก็จะพยายามมีชีวิตอยู่ มีชีวิตรอวันที่จะ
ได้ฆ่าศัตรู ดว้ ยมือตนเอง
สวีโย่วผูบ้ ญั ชาการกองปัญจทิศรักษานครผูน้ ้ ียงุ่ สุ ดขีด เสิ่ นเวยเองก็
ไม่ได้วา่ ง พาเถาฮวาไปทารุ ณกองทหารเด็กกับเหล่าทหารคุม้ กัน
จวนหนึ่งรอบ กองทหารเด็กต่างก็ถูกทารุ ณจนชินแล้ว ยิง่ ทารุ ณก็ยงิ่
กล้าหาญ ยิง่ ทารุ ณก็ยงิ่ มีกาลังวังชา ไม่กี่วนั สั้นๆ ก็พฒั นาจนยอด
เยีย่ มแล้ว
ความสามารถในการรับของเหล่าทหารคุม้ กันจวนด้อยกว่ามาก ถูก
กองทหารเด็กทารุ ณก็ไม่เท่าไร อย่างไรเสี ยนัน่ ก็เป็ นลูกหมาป่ าหนึ่ง
กลุ่ม แต่ถูกจวิน้ จู่เหนียงเหนียงที่หวานหยาดเยิม้ ของพวกเขาตีจนไม่
มีแรงตอบโต้ หนึ่งคนต่อสู ้กบั พวกเขาหนึ่งกลุ่มนี้ นี่มนั เรื่ องอะไรกัน
เจ็บใจนัก อยากตายไปเสี ยเดี๋ยวนี้!
เรื่ องที่ทาให้พวกเขาอยากตายยิง่ กว่าก็คือ เด็กผูห้ ญิงที่มองดูแล้ว
ผอมๆ โง่ๆ ผูน้ ้ นั คาดไม่ถึงว่าใช้มือเดียวก็โยนพวกเขาออกไปได้
ทันที หลังจากนั้นก็หิ้วเด็กรับใช้ผหู ้ นึ่งที่สามารถใช้กลอุบายได้
หลายอย่างออกมา ในจวนผิงจวิน้ อ๋ องแห่งนี้เป็ นคนประเภทใดกัน
แน่
ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าสี หน้าที่แฝงความนัยนัน่ ของ
หัวหน้าโอวหยางคืออะไร ต่างก็บ่นในใจ ให้ตายเถอะ หัวหน้าโอวห
ยางช่างหลอกลวงจริ งๆ จวิน้ จู่ไหนเลยจะเป็ นยุทธ์แค่สองสามท่า
เป็ นยอดฝี มือในยอดฝี มือต่างหากเล่า! ไม่แปลกใจที่เป็ นคุณหนูจาก
จวนจงอู่โหว มิน่าเล่าท่านจวิน้ อ๋ องถึงได้ถูกนางจับไว้ในกามือได้
ตั้งแต่น้ ีไป ต่างก็สงบจิตใจอยูใ่ นจวนผิงจวิน้ อ๋ อง นอบน้อมถ่อมตัว
เคารพรอบคอบ
วันนี้เสิ่ นเวยกลับจากสนามแสดงวิทยายุทธมาถึงเรื อน เพิ่งจะอาบน้ า
เปลี่ยนเสื้ อผ้า ก็เห็นเถาจือเข้ามารายงาน “จวิน้ จู่ แม่นมซือประจา
กายหวังเฟยมาขอพบเจ้าค่ะ”
แม่นมซือหรื อ นางมาทาไม คิ้วของเสิ่ นเวยเลิกขึ้น ความคิดแรกที่
แวบผ่านมาในสมองก็คือจิ้นหวังเฟยจะเล่นลูกไม้อะไรอีกแล้ว
ตั้งแต่ที่ยา้ ยมาจวนผิงจวิน้ อ๋ องก็เป็ นเวลากว่าครึ่ งเดือนแล้ว เสิ่ นเว
ยไม่กลับไปจวนจิ้นอ๋ องแม้แต่ครั้งเดียว อย่างไรเสี ยนางก็พดู ชัดเจน
อย่างยิง่ แล้ว วันแรกและวันที่สิบห้าของเดือนจะเคารพหรื อไม่ตอ้ งดู
อารมณ์ ประจวบเหมาะที่ช่วงนี้นางอารมณ์ไม่เลว จึงไม่ได้ไปหา
พระชายาจิ้นอ๋ องให้กระทบอารมณ์เล่น
ในเมื่อแม่นมซือมาหาถึงที่แล้ว ไม่พบก็ไม่ค่อยดีนกั เสิ่ นเวยจึงกล่าว
“เรี ยกนางเข้ามาเถอะ”
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 254-1 เลือกอนุเลือกความงาม
แม่นมซือมาตามคาสัง่ ตัวนางเองก็เป็ นคนฉลาดมีสายตาเฉี ยบแหลม
รู ้วา่ คุณชายใหญ่สองสามีภรรยาต่างก็ไม่ใช่คนที่ยวั่ ยุได้ง่ายๆ ด้วย
เหตุน้ ีจึงยิม้ แย้มวางท่าทางดี แต่หลังจากที่เข้ามาในจวนผิงจวิน้ อ๋ อง
แล้ว ตลอดทางที่เข้ามา คนรับใช้ท้ งั หมดมีมารยาทดีอย่างถึงที่สุด
เป็ นระเบียบเรี ยบร้อย ไม่เป็ นรองจวนจิ้นอ๋ องเลย ความดูถูกเล็กๆ
นั้นในเบื้องลึกจิตใจนางก็ถูกเก็บไป
เสิ่ นเวยกลับให้เกียรติแม่นมซืออย่างยิง่ ไม่เพียงแต่ให้ที่นงั่ ซ้ ายังสัง่
สาวใช้ยกชามาให้ ทาให้แม่นมซือประหลาดใจจนขอบคุณแล้ว
ขอบคุณอีก ก่อนมานางยังเตรี ยมใจว่าคงจะไม่ได้รับการปฏิบตั ิที่ดี
จากฮูหยินใหญ่ พระชายากับฮูหยินใหญ่นบั ได้วา่ ฉี กหน้ากันแล้ว
นางเป็ นแม่นมคนสนิทข้างกายพระชายาไม่ถูกฮูหยินใหญ่กลัน่ แกล้ง
สิ แปลก ไหนเลยจะคิดถึงว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ
เช่นนี้ นี่ทาให้ในใจแม่นมซือทั้งดีใจทั้งเป็ นกังวล
อันที่จริ งเสิ่ นเวยไม่มีเจตนาอื่นอย่างสิ้ นเชิง ไม่ใช่มีสุภาษิตว่าไว้หรื อ
ว่า ‘มีมารยาทต่อผูอ้ ื่น ผูอ้ ื่นไม่อาจกล่าวโทษ’ อีกอย่าง ต่อให้นางจะ
โกรธเกลียดพระชายาจิ้นอ๋ อง แต่นนั่ ก็เป็ นเรื่ องระหว่างนาย นาง
กลับไม่อาจพาลใส่ บ่าว อีกทั้งนางมองดูแล้ว แม่นมซือผูน้ ้ ียงั
ค่อนข้างรู ้จกั หนักเบา ตอนที่นางมีเรื่ องกับพระชายาจิ้นอ๋ องก็ไม่ได้
ฉวยโอกาสวางแผนร้ายอะไร
จุดประสงค์ในการมาของแม่นมซือเรี ยบง่ายอย่างยิง่ คุณหนูเจ็ดจวน
เสนาบดีฉิน ว่าที่ฮูหยินสี่ ของจวนจิ้นอ๋ องได้รับเชิญมาเป็ นแขกวัน
พรุ่ งนี้ นางที่เป็ นพี่สะใภ้คนโตย่อมต้องไปรับแขกที่จวน
เสิ่ นเวยตอบตกลงด้วยความง่ายดายอย่างถึงที่สุด ต่อหน้าลูกสะใภ้ที่
ยังไม่เข้าเรื อน พระชายาจิ้นอ๋ องต้องสารวมอาการหน่อยหรื อไม่ เสิ่ น
เวยคิดเช่นนี้ แน่นอน หากพระชายาจิ้นอ๋ องก่อเรื่ องอะไรอีกนางก็ไม่
กลัวเช่นกัน อย่างไรเสี ยถึงตอนนั้นคนที่เสี ยหน้าก็ไม่ได้มีแค่นาง
เพียงคนเดียว พระชายาจิ้นอ๋ องยังไม่กลัว นางที่เป็ นชนรุ่ นหลังจะ
กลัวอะไร
คบค้ากับคนเช่นพระชายาจิ้นอ๋ อง หน้าไม่หนาพอไม่ได้
วันรุ่ งขึ้น เสิ่ นเวยทานข้าวเช้าเสร็ จก็ไปจวนจิ้นอ๋ อง อาจจะอยูไ่ กล
เจอไม่บ่อย พระชายาจิ้นอ๋ องจึงต้อนรับนางด้วยความเป็ นมิตรอย่าง
ยิง่ ทักทายพอเป็ นพิธีหลายประโยค ดึงเข้ามาถามว่างานในจวน
จัดการดีหรื อไม่ บ่าวรับใช้เชื่อฟังหรื อไม่
เสิ่ นเวยย่อมไหลไปตามน้ า พระชายาจิ้นอ๋ องจะเป็ นแม่สามีที่ดี
เช่นนั้นนางย่อมเป็ นลูกสะใภ้ดีที่วา่ ง่ายเชื่อฟังที่สุด
บอกว่ารับแขก อันที่จริ งไม่ตอ้ งให้เสิ่ นเวยทาอะไรเลย เสิ่ นเวยเองก็
ไม่อาจโง่เข้าไปทาอะไรได้ นางแยกจวนออกมาแล้ว แน่นอนว่าไม่
อาจแย่งงานอู๋ซื่อสร้างความราคาญใจให้คนได้
เสิ่ นเวยนัง่ อยูไ่ ม่นาน สาวใช้ใหญ่หวาเยียนก็นาฉิ นอิงอิงเข้ามา เสิ่ น
เวยมองดูนิ่งๆ ครู่ หนึ่ง เห็นเพียงนางสวมชุดกระโปรงรัดอกสี เขียว
อ่อน ทาให้ดูสดชื่นอย่างถึงที่สุด บนใบหน้าแต้มชาดบางๆ จมูกโด่ง
เป็ นสันริ มฝี ปากสี แดงสด ดวงตาคู่โตเป็ นประกาย ความจริ งแล้ว ฉิ น
อิงอิงแม่นางผูน้ ้ ีนอกจากนิสยั สร้างความราคาญให้ผอู ้ ื่นแล้ว คนก็
ยังคงมีหน้าตาที่งดงามอย่างยิง่ จริ งๆ
“ผูน้ อ้ ยเคารพพระชายาเพคะ” ฉินอิงอิงเคารพได้เพียงครึ่ งเดียวก็ถูก
พระชายาจิ้นอ๋ องจับขึ้นมา นางมองประเมิณคนที่งดงามดัง่ หยกผูน้ ้ ี
ในแววตาเต็มไปด้วยรอยยิม้ “ไม่ตอ้ งมารยาทมาก ไม่ใช่คนอื่นคน
ไกล” ประโยคสุ ดท้ายพูดอย่างแฝงความนัยโดยเฉพาะ
แก้มทั้งสองของฉินอิงอิงแดงระเรื่ อ หลุบตาลงด้วยความเขินอาย
เล็กน้อย ทว่าปากกลับพูด “พระชายาเมตตา แต่กฎย่อมไม่อาจ
ละเมิด” ยืนกรานเคารพพระชายาจิ้นอ๋ องใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็
คานับเสิ่ นเวยและคนอื่นๆ
การกระทานี้ของฉินอิงอิงทาให้พระชายาจิ้นอ๋ องพอใจยิง่ ขึ้น ให้
ความสาคัญแก่นางเพิม่ ขึ้นหลายส่ วน กล่าวชมซ้ าๆ “เป็ นสตรี รู้จกั
มารยาท”
ก่อนหน้านี้พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็เคยเห็นฉิ นอิงอิงแล้ว ความพอใจ
ที่สุดที่มีต่อนางนอกจากจะมีฐานะเป็ นญาติผนู ้ อ้ งของซูเฟยเหนียง
เหนียงแล้ว ยังมีหน้าตาของนาง นางรู ้นิสัยลูกชายคนเล็กของนางดี
ชอบความงามที่สุด ฉินอิงอิงหน้าตาสละสลวยจะต้องมัดใจลูกชาย
ได้แน่นอน เลี่ยงไม่ให้เขาออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกบ่อยครั้ง
ตอนนี้เห็นมารยาทการอบรมของนางล้วนไม่เลว ก็ยงิ่ พอใจ
อันที่จริ งนางไม่รู้วา่ ฉินอิงอิงใช้ความพยายามมากเพียงใดจึงจะไม่ทา
ให้ตนเสี ยกิริยาได้ คานับอู๋ซื่อกับหูซื่อ นางมองดวงตาของของฝ่ าย
ตรงข้ามอย่างเปิ ดเผยสบายใจ คานับเสิ่ นเวย นางกลับหลุบสายตา
จ้องมองปลายเท้าตัวเอง ร่ างทั้งร่ างแข็งทื่ออย่างถึงที่สุด กลัวว่าจะ
สบสายตาที่เหยียดหยามของเสิ่ นเวยแล้วจะอดทนต่อไปไม่ได้
กระทาการที่เสี ยกิริยาใดๆ ออกมา
เสิ่ นเวยเองย่อมเห็นความอึดอัดของฉิ นอิงอิงแล้ว แต่ขอเพียงแค่ไม่
หาเรื่ องมาถึงนาง นางก็ไม่ใช่คนที่ชอบทะเลาะ ยิง่ ไปกว่านั้น
ระหว่างนางกับฉินอิงอิงด็ไม่ได้มีความแค้นฝังลึกอะไร เพียงแต่
ทะเลาะกันตามประสาเด็กผูห้ ญิงก็เท่านั้นเอง
“ดูสิ ดูสิ เสด็จแม่ลาเอียงจริ งๆ มีคุณหนูเจ็ดแซ่ฉินที่งดงามถูกใจแล้ว
ก็ทิ้งคนเก่าเหล่านี้เช่นพวกลูกไว้ขา้ งๆ เสด็จแม่ อย่างไรเสี ยท่านก็
สนใจลูกสักหน่อยได้หรื อไม่!” เห็นพระชายาจิ้นอ๋ องพูดกับฉิ นอิงอิง
ด้วยความสนิทสนม อู๋ซื่อก็กล่าวหยอกล้อ
หูซื่อเองก็บุย้ ปากคล้อยตาม “เสด็จแม่ ท่านได้ใหม่ลืมเก่าเร็ วเพียงนี้
ลูกไม่ยอมนะเพคะ”
“เฮ้อ ใครให้พวกเราไม่สวยเหมือนคุณหนูเจ็ดเล่า ดูคุณหนูเจ็ดของ
พวกเราสิ ให้ตาย ใบหน้าเล็กๆ นี้อ่อนนุ่มราวกับกลีบดอกไม้
เปรี ยบเทียบกันแล้ว พวกเราก็เป็ นหมันโถวที่เผาจนไหม้ เสด็จแม่ไม่
รังเกียจได้กไ็ ม่เลวแล้ว” อู๋ซื่อกล่าวด้วยท่าทีเสี ยใจ
คนทั้งสองแทรกมุขตลกเย้าหยอกให้พระชายาจิ้นอ๋ องหัวเราะจนไม่
อาจปิ ดปาก “พวกเจ้าก็ชอบหยอกคนอื่น วันนี้แม่ยงั ชอบใจคุณหนูสี่
อยู่ พวกเจ้าน่ะไปยืนอยูข่ า้ งๆ เสี ย” ยกมือไล่ ราวกับว่ารังเกียจมาก
ส่ วนฉินอิงอิงที่ถูกหยอกล้อก็กม้ หน้าอย่างเขินอาย ใบหน้าด้านข้าง
ราวกับเมฆหมอกที่แผดเผาอยูบ่ นขอบฟ้า น่าหลงใหลเหลือเกิน ทา
ให้พระชายาจิ้นอ๋ องยิง่ หัวเราะเสี ยดัง
มีเพียงเสิ่ นเวยผูเ้ ดียวที่อมยิม้ พูดแทรกประโยคครึ่ งประโยคบ้าง
ส่ วนใหญ่นางไม่พดู เป็ นเสมือนผูช้ ม
พระชายาจิ้นอ๋ องชายตามองมาทางนางปราดหนึ่ง ไม่รู้เหมือนกันว่า
คิดอะไรอยู่ กลับไม่ได้พดู อะไรออกมา
ในขณะนี้เอง ก็มีสาวใช้เข้ามารายงาน “พระชายา คุณหนูอี๋ฮุ่ยกับ
คุณหนูอี๋จยามาแล้วเพคะ”
ดวงตาของพระชายาจิ้นอ๋ องเป็ นประกาย “เด็กน้อยฮุ่ยยาโถ่วกับจยา
ยาโถ่วมาแล้ว รี บเชิญเข้ามา” จากนั้นก็หนั หน้าไปอธิบายให้ฉินอิง
อิงฟัง “อี๋ฮุ่ยกับอี๋จยาเป็ นหลานสาวตระกูลฝั่งมารดาของข้า อายุ
ไล่เลี่ยกับเจ้า พวกเจ้าจะต้องเข้ากันได้แน่นอน”
ฉินอิงอิงเม้มปากยิม้ พยักหน้า ท่าทางเชื่อฟังนี้ทาให้รอยยิม้ บน
ใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องกว้างยิง่ ขึ้น ในใจพอใจมากเป็ นพิเศษ
สะใภ้ท้ งั สามคนล้วนแต่เป็ นคนที่ตนเลือกเองกับมือ แต่ละคนต่างก็
ทาให้นางพอใจ
ม่านประตูเปิ ดออก แม่นางรู ปร่ างสู งโปร่ งสองคนเดินเข้ามาจากข้าง
นอก คนที่สวมชุดสี เหลืองอ่อนเสิ่ นเวยรู ้จกั คือซ่งอี๋ฮุ่ยที่นางเคยเจอ
ครั้งหนึ่ง อีกคนหนึ่งที่สวมชุดสี ม่วงอ่อนกลับแปลกหน้า คาดว่าคง
จะเป็ นซ่งอี๋จยา
“ท่านอา หลานเคารพท่าน” แม่นางทั้งสองเสี ยงใสกังวาน ทาความ
เคารพช้าๆ
จากนั้นก็คานับเสิ่ นเวยซ่งซื่อหูซื่อ “คารวะพี่สะใภ้ญาติผพู ้ ี่ท้ งั สาม
ท่าน”
ท้ายที่สุดจึงจะเป็ นฉินอิงอิง “คนผูน้ ้ ีคือคุณหนูเจ็ดจวนเสนาบดีฉิน
ใช่หรื อไม่ ญาติผพู ้ ี่สี่มีวาสนายิง่ นัก!” ซ่งอี๋จยาปิ ดปากหัวเราะคิกคัก
ซ่งอี๋ฮุ่ยเองก็ไม่ยอมน้อยหน้า “ก็ใช่น่ะสิ มิเช่นนั้นเหตุใดใครๆ ถึง
บอกว่าสายตาของท่านอาดีเล่า” เหลือบตามองซ่งอี๋จยาที่ปิดปาก
หัวเราะปราดหนึ่ง แล้วกล่าวต่อ “น้องเจ็ด ในหมู่พวกเราพี่นอ้ ง
หน้าตาของเจ้าโดดเด่นที่สุด วันนี้เห็นคุณหนูเจ็ดแซ่ฉินก็นบั ว่าได้
เข้าใจสุ ภาษิตเหนือคนยังมีคนเหนือฟ้ายังมีฟ้าแล้ว เจ้าถูก
เปรี ยบเทียบแล้ว” นางเองก็ปิดปากหัวเราะคิกคักเช่นกัน ในดวงตามี
ความสุ ขบนความทุกข์ของผูอ้ ื่น
ซ่งอี๋จยาอยากจะฉี กปากของซ่งอี๋ฮุ่ยยิง่ นัก แต่สีหน้ากลับยังคงยิม้ “ดู
พี่หกพูดเข้า น้องจะเทียบคุณหนูเจ็ดแซ่ฉินได้อย่างไร น้องเพียงแค่
หน้าตาพอๆ กันเท่านั้น จะโดดเด่นที่สุดได้อย่างไร หากจะนับว่า
โดดเด่น ท่านอาของพวกเราจึงจะเป็ นที่หนึ่ง” ไม่เพียงแต่โต้กลับซ่ง
อี๋ฮุ่ยเล็กๆ ซ้ ายังประจบพระชายาจิ้นอ๋ องอีกด้วย
เสิ่ นเวยเลิกคิ้ว ไอหย่า พี่นอ้ งสองคนนี้ยงั จิกกัดกันแล้วหรื อ พระ
ชายาจิ้นอ๋ องก็ไม่จดั การหรื อ
เสิ่ นเวยมองพระชายาจิ้นอ๋ องอย่างเงียบๆ ก็เห็นคิว้ ของนางขมวดมุ่น
อย่างรวดเร็ ว จากนั้นจึงยืน่ มือชี้ซ่งอี๋ฮุ่ยกับซ่งอี๋จยา ยิม้ ก่นด่า “พวก
เจ้าสองคนชอบเย้าแย่คนอื่น โดดเด่นอะไรกัน ที่หนึ่งอะไรกัน ไม่
อายคนหรื อไร คุณหนูเจ็ดแซ่ฉินหัวเราะพวกเจ้าแล้ว”
ฉินอิงอิงที่เป็ นคนต้นเรื่ องย่อมไม่กล้าไม่เอ่ยปาก “คุณหนูท้ งั สองพูด
ถูก หากจะพูดถึงหน้าตา ใครในที่น้ ีจะเทียบพระชายาได้! ผูน้ อ้ ยเพียง
แค่มีรูปร่ างหน้าตากลางๆ คุณหนูท้ งั สองชมเชยเช่นนี้ ผูน้ อ้ ยทาตัว
ไม่ถูกจริ งๆ” นางกล่าวอย่างตั้งใจจริ ง บนใบหน้าสัตย์ซื่อ เปลี่ยน
เรื่ องแล้วกล่าว “หน้าตาสวยไม่สวยอะไร ท่านแม่สงั่ สอนผูน้ อ้ ย
วาจาความประพฤติมีคุณธรรม คุณธรรมของสตรี จึงจะเป็ นสิ่ งที่
สาคัญที่สุด หน้าตาจึงจะเป็ นรอง”
คาพูดนี้ชนะจนพระชายาจิ้นอ๋ องชื่นชมทันที “ได้ยนิ หรื อไม่ ได้ยนิ
หรื อไม่ พวกเจ้าเด็กโง่สองคน นี่จึงจะเป็ นสิ่ งที่ควรจะเทียบจริ งๆ”
มีพระชายาจิ้นอ๋ องนา หลายคนที่เหลือก็ยอ่ มพากันเลียเท้า ฉิ นอิงอิงก็
โบกมืออย่างเขินอาย “ผูน้ อ้ ยเพียงแค่พดู ความจริ งก็เท่านั้นเอง ไหน
เลยจะควรค่าให้ทุกคนชื่นชมเช่นนี้ ผูน้ อ้ ยละอายยิง่ นัก”
แม้แต่เสิ่ นเวยยังอดมองฉินอิงอิงใหม่ไม่ได้ อ้อ ที่แท้แล้วเด็กเจ้า
อารมณ์ยงั มีดา้ นนี้ดว้ ยงั้นหรื อ ดูท่าแล้วในบ้านจะทุ่มเทสัง่ สอน
มาแล้ว
ขณะที่เสิ่ นเวยกาลังคิดเรื่ อยเปื่ อย ก็ได้ยนิ เพียงเสี ยงร้องอุทาน ‘อ้ะ’
หนึ่งครา เห็นสาวใช้คุกเข่าขอโทษอยูบ่ นพื้น “บ่าวสมควรตาย บ่าว
สมควรตาย คุณหนูเจ็ดแซ่ฉิน บ่าวไม่ได้ต้ งั ใจจริ งๆ เจ้าค่ะ” ใน
น้ าเสี ยงมีความตกใจกลัว
ฉินอิงอิงยืนอยูข่ า้ งๆ มองชุดที่ถูกน้ าชาหกใส่ สี หน้าค่อยข้างไม่ดี
เล็กน้อย นางสู ดหายใจเข้าลึกหนึ่งครั้งเค้นรอยยิม้ ออกมากาลังจะพูด
ว่าไม่เป็ นไร เสี ยงตาหนิของพระชายาจิ้นอ๋ องก็ดงั ขึ้น “เจ้าทาอะไร
ไม่รู้จกั ระมัดระวัง แม้แต่ยกชายังทาไม่ได้ เก็บเจ้าไว้ทาไม ไสหัว
ออกไป!”
จากนั้นก็มองฉินอิงอิงด้วยความเป็ นห่วง “ไม่เป็ นไรใช่หรื อไม่ ไม่
โดนลวกใช่หรื อไม่ รี บมาให้ขา้ ดูหน่อย”
ฉินอิงอิงส่ ายหน้า “ไม่เป็ นไรเพคะ น้ าชาอุ่นอยู”่ หยุดครู่ หนึ่งจึงมอง
สาวใช้ที่ร้องขอชีวิตไม่หยุดบนพื้น ในแววตามีบางอย่างแวบผ่าน
ร้องขอ “พระชายา ให้อภัยนางเถิด นางเองก็ไม่ได้ต้ งั ใจ อีกอย่างก็ไม่
เป็ นอะไรมิใช่หรื อ”
คราวนี้พระชายาจิ้นอ๋ องย่อมต้องไว้หน้า อีกทั้งนางตาหนิสาวใช้เป็ น
เพียงแค่การเสแสร้ง ไม่คิดจะลงโทษจริ งๆ อย่างสิ้ นเชิง ด้วยเหตุน้ ีจึง
ผลักเรื อตามน้ า “ในเมื่อคุณหนูเจ็ดแซ่ฉินขอร้องแทนเจ้าแล้ว ครั้งนี้ก็
อภัยให้เจ้าแล้วกัน ยังไม่รีบขอบคุณคุณหนูเจ็ดแซ่ฉินอีก”
สาวใช้คนนั้นคลานเข้าไปโขกศีรษะไม่หยุด “ขอบคุณพระชายาเพ
คะ ขอบคุณคุณหนูเจ็ดแซ่ฉิน”
“พอแล้ว เจ้าออกไปเถอะ คราวหน้าก็ระวังให้มากหน่อย” ฉิ นอิงอิง
สะกดกลั้นความไม่พอใจแล้วกล่าว นางมองชุดที่เปี ยกบนร่ างตัวเอง
มองพระชายาจิ้นอ๋ องด้วยความลาบากใจเล็กน้อย “พระชายา โปรด
อนุญาตให้ผนู ้ อ้ ยไปเปลี่ยนชุด” คุณหนูตระกูลใหญ่ออกมาเป็ นแขก
มักจะต้องเตรี ยมชุดสารองมาด้วยเสมอ
พระชายาจิ้นอ๋ องกล่าว “สมควรยิง่ นัก สมควรยิง่ นัก ฮุ่ยยาโถ่ว เจ้าพา
คุณหนูเจ็ดไปเปลี่ยนชุดที่หอ้ งข้าง”
“เจ้าค่ะ คุณหนูเจ็ดแซ่ฉินโปรดตามมา” ซ่งอี๋ฮุ่ยที่ถูกเรี ยกชื่อก็คล้าย
ไม่ค่อยดีใจเล็กน้อย
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 254-2 เลือกอนุเลือกความงาม
ดวงตาของเสิ่ นเวยกะพริ บวาบ นี่มนั ละครฉากไหน เมื่อครู่ นางเห็น
ชัดเจนแจ่มแจ้ง สาวใช้ผนู ้ ้ นั ตั้งใจคว่าน้ าชาหกใส่ ชุดของฉิ นอิงอิง
หากไม่มีคาสัง่ จากนายเบื้องบน สาวใช้ไม่กล้าทาเองโดยพลการ
อย่างแน่นอน พระชายาจิ้นอ๋ องคิดจะทาอะไร หรื อว่าฉวยโอกาสให้
ฉินอิงอิงได้พบหน้าสวีฉงั่ ระหว่างที่นางไปเปลี่ยนชุด จาเป็ นต้องเล่น
ใหญ่เพียงนี้เลยหรื อ
ขณะที่เสิ่ นเวยกาลังคิด ก็ได้ยนิ พระชายาจิ้นอ๋ องเรี ยกนาง เสิ่ นเวยได้
สติกลับมาทันที “พระชายามีอะไรหรื อเพคะ”
พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็เห็นว่าเสิ่ นเวยใจลอยแล้ว ในก็ไม่ค่อยพอใจ
นัก แต่คิดแล้วก็ยงั คงอดทนไว้ กล่าวด้วยท่าทีอ่อนโยน “ข้าจะถาม
เจ้าว่าข้อเสนอของข้าคราวก่อนเจ้าลองพิจารณาดูแล้วหรื อยัง”
“ขอเสนออะไรเพคะ” เสิ่ นเวยงงงัน
“ย่อมเป็ นข้อเสนอแต่งอนุให้คุณชายใหญ่อย่างไรเล่า! หากเจ้าไม่
ชอบอี๋ฮุ่ย นี่ไม่ใช่วา่ ยังมีอี๋จยาหรอกหรื อ” เสี ยงของพระชายาจิ้นอ๋ อง
สู งขึ้นสามส่ วนอย่างอดไม่ได้
คราวนี้เสิ่ นเวยก็เข้าใจแล้ว อ้อ ที่แท้แล้วพระชายาจิ้นอ๋ องก็ออ้ มใหญ่
เพียงนี้บีบให้ฉินอิงอิงออกไปก็เพื่อพุง่ เป้ามาที่นาง! “คราวก่อนลูก
ปฏิเสธไปแล้วมิใช่หรื อ กลับไปข้าก็ถามท่านจวิน้ อ๋ องของเราแล้ว
เขาไม่เห็นด้วยกันการแต่งอนุภรรยาอะไร” เสิ่ นเวยกล่าวอย่างเรี ยบ
ง่าย
คิว้ ของพระชายาจิ้นอ๋ องขมวดมุ่น กล่าวตาหนิ “เหลวไหล แต่ง
ภรรยาเป็ นเรื่ องของสตรี ผเู ้ ป็ นนาย บุรุษเช่นเขาจะเข้าใจอะไร เสิ่ น
ซื่อ ไม่ใช่ขา้ ว่าเจ้า เป็ นสตรี ตอ้ งมีคุณธรรมเมตตา เจ้าไม่อาจตั้งครรภ์
ยังไม่อนุญาตให้คนอื่นมาผลิดอกออกผลให้คุณชายใหญ่อีกหรื อ”
เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะออกมาหนึ่งครา นางแต่งงานกับสวีโย่วยังไม่ถึง
สามเดือนเลย พระชายาจิ้นอ๋ องดูจากไหนว่านางตั้งครรภ์ไม่ได้ หูซื่อ
สะใภ้สุดรักผูน้ ้ นั ของนางก็แต่งเข้ามาปี กว่าจึงจะตั้งท้องได้ไม่ใช่หรื อ
เหตุใดพอถึงตานางสมองของพระชายาจิ้นอ๋ องถึงได้ผดิ ปกติแล้วเล่า
ก่อนหน้านี้ยงั พูดจามีเหตุผลกับฉินอิงอิงอย่างยิง่ อยูเ่ ลยมิใช่หรื อ น่า
หงุดหงิดนัก!
“อันที่จริ ง ตัวข้าจวิน้ จู่ไม่อาจเทียบกับพระชายาได้ อย่างปี นั้น พระ
ชายาท่านแต่งเข้ามาในจวนจิ้นอ๋ องไม่ถึงสิ บเดือนก็คลอดองค์ชาย
รองท่านซื่อจื่อแล้ว แต่วา่ ข้าเคยได้ยนิ การคลอดก่อนกาหนดเจ็ด
เดือน แต่ยงั ไม่เคยได้ยนิ จริ งๆ ว่ามีการคลอดก่อนกาหนดห้าหก
เดือน อีกทั้งองค์ชายรองยังมีสุขภาพแข็งแรงมากเป็ นพิเศษ น่าแปลก
จริ งๆ” เสิ่ นเวยอ้าปากก็กล่าวเสี ยดสี เกือบจะพูดว่าสวีเยีย่ เป็ นบุตรที่
เกิดจากชูแ้ ล้ว
สี หน้าคนทั้งหมดภายในห้องต่างก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ท่าทีตกใจ
พระชายาจิ้นอ๋ องก็ยงิ่ หน้าซีดเผือด ทัว่ ทั้งร่ างสัน่ ระริ ก แววตามีความ
เดือดดาลที่ดุร้ายยิงออกมา อยากจะฉี กเสิ่ นเวยออกเสี ยตอนนี้ “เสิ่ น
ซื่อ เจ้ามันคนอกตัญญูเนรคุณ”
ซ่งอี๋จยาที่อยูใ่ กล้นางที่สุดเข้ามาพยุงพระชายาจิ้นอ๋ องทันที “ท่านอา
ท่านอย่าบันดาลโทสะ สุ ขภาพเป็ นสิ่ งสาคัญ” จากนั้นจึงหันหน้า
กล่าวกับเสิ่ นเวย “พี่สะใภ้ใหญ่ ดูสิท่านทาท่านอาโกรธแล้ว”
หูซื่อหลังจากที่ตกตะลึงแววตาหางคิ้วก็เต็มไปด้วยความยินดีบน
ความทุกข์ผอู ้ ื่น “พี่สะใภ้ใหญ่ ไม่ใช่ขา้ ที่เป็ นน้องสะใภ้จะว่าท่าน แต่
ท่านพูดเช่นนี้กบั เสด็จแม่ได้อย่างไร หากเสด็จแม่โมโหจนเป็ นอะไร
ไป ก็จะเป็ นอุปสรรคกับชื่อเสี ยงของท่านด้วย!”
มีเพียงฮูหยินซื่อจื่อที่ถือผ้าเช็ดหน้าไม่เอ่ยปาก แต่สายตาที่มองเสิ่ น
เวยมีความไม่พอใจแฝงอยู่ พี่สะใภ้ใหญ่มีปากเสี ยงกับแม่สามี ทว่า
กลับเอาสามีนางเป็ นข้ออ้าง อีกทั้งยังเป็ นเรื่ องที่สุดจะทนเพียงนั้น นี่
จะให้นางดีใจได้อย่างไร
ทว่ามุมปากของเสิ่ นเวยกลับยกสู ง ไม่ใส่ ใจคาว่ากล่าวของพวกนาง
อย่างสิ้ นเชิง สายตากวาดมองซ่งอี๋จยากับหูซื่อด้วยความเฉยเมย “ลุก
ผูน้ อ้ งตระกูลซ่ง นี่เรื่ องในตระกูลจวนอ๋ อง มีที่ให้แขกเช่นเจ้าพูดด้วย
หรื อ เข้ามาเป็ นอนุภรรยาให้คุณชายใหญ่ของพวกเราเช่นนี้ ใช่เจ้า
แต่งไม่ออกหรื อไม่ ฝ่ าบาทอนุญาตแล้วหรื อ จวนราชนิกลุ อนุญาต
แล้วหรื อ”
เห็นสี หน้าอับอายแทบตายของซ่งอี๋จยา เสิ่ นเวยก็กล่าวต่อ “หากข้ามี
ความสุ ข สามีของข้าก็คือท่านจวิน้ อ๋ อง หากข้าไม่มีความสุ ข สามี
ของข้าก็เป็ นเพียงอี๋ปิน รู ้หรื อไม่วา่ อี๋ปินหมายถึงอะไร บอกให้ก็ได้
ก็แค่ขา้ ทาสของจวิน้ จู่กเ็ ท่านั้นเอง” เสิ่ นเวยอธิบายอย่างอารมณ์ดี ได้
ยินเสี ยงสู ดหายใจในห้องสาเร็ จ
ทุกคนรู ้สึกเพียงเสิ่ นเวยกล้ามากเกินไปแล้ว อี๋ปิน นางกล้าพูดว่าบุตร
คนโตของจวนจิ้นอ๋ อง ผิงจวิน้ อ๋ องผูท้ ี่ฝ่าบาทพระราชทาน
บรรดาศักดิ์ดว้ ยตัวพระองค์เองว่าเป็ นอี๋ปินได้อย่างไร ไม่วา่ จะ
อย่างไรคุณชายใหญ่กเ็ ป็ นคนในราชนิกลุ สู งศักดิ์ไม่เท่าจวิน้ จู่ไร้
ประโยชน์ที่นอกคอกผูน้ ้ ีหรอก
เสิ่ นเวยมองหูซื่ออีกครั้ง “น้องสะใภ้สามลืมบทเรี ยนก่อนหน้านี้แล้ว
หรื อ ครรภ์น้ ีของเจ้าปลอดภัยแล้วหรื อ จุๆ หากข้าเป็ นเจ้า คงจะหาที่
นอนพักอย่างสงบไปนานแล้ว วิ่งเต้นไปมาเช่นนี้ เจ้านี่ไม่รู้จกั จา
เสี ยเลย!” ประโยคสุ ดท้ายที่แฝงคาขู่ทาให้เส้นเลือดบนใบหน้าหูซื่อ
หายเรี ยบ
พระชายาจิ้นอ๋ องเห็นเสิ่ นเวยเหมเกริ มยิง่ ขึ้น ก็ไม่สนใจสิ่ งใดแล้ว
ตบพนักเก้าอี้อย่างแรง ตะโกนเสี ยงแหลม “เสิ่ นซื่อ เจ้ายังมีมารยาท
อยูห่ รื อไม่ ผูใ้ หญ่ให้อย่าปฏิเสธ วันนี้ขา้ ต้องเป็ นผูต้ ดั สิ น อี๋จยายาโถ่
วจะต้องเป็ นอนุภรรยาของคุณชายใหญ่ให้ได้ อีกประเดี๋ยวเจ้าก็เอา
นางกลับไปด้วย อีกสองวันก็เลือกฤกษ์จดั การเรื่ องนี้เสี ย”
บนใบหน้าซ่งอี๋จยามีความดีใจแวบผ่าน ทันใดนั้นก็กม้ หน้าลงด้วย
ความเขินอาย
เสิ่ นเวยไม่โมโหเลยแม้แต่นอ้ ย เพียงแค่มองหน้าพระชายาจิ้นอ๋ อง
กล่าวอย่างตั้งใจ “ให้อภัยที่ขา้ มิบงั อาจทาตาม” ยังมีหน้ามายัดเยียด
ให้คุณชายใหญ่อีก นางคิดว่าตัวเองเป็ นเทพเจ้าหรื อไร
“เจ้า เจ้าอกตัญญู!” มือที่จบั พนักเก้าอี้ของพระชายาจิ้นอ๋ องมีเส้น
เลือดดาปูดนูน ดูท่าแล้วคงจะโมโหสุ ดขีด
เสิ่ นเวยยังคงมีท่าทางสบายๆ “อกตัญญูหรื อ แม่เลี้ยงเช่นท่านวันๆ
เอาแต่ยดั เยียดคนให้เรื อนหลังของลูกเลี้ยง ข้ายังไม่บอกว่าท่านไร้
เมตตาเลย ข้าว่านะพระชายาชีวิตของท่านใช่วา่ งเกินไปหรื อไม่ ว่าที่
ลูกสะใภ้คนเล็กที่มาเป็ นแขกท่านก็ยงั ไม่ลืมที่จะคิดวางแผนกับข้า”
ชายตามองซ่งอี๋จยาที่ตกใจจนแทบจะยืนไม่อยูป่ ราดหนึ่ง “ไม่ใช่วา่
กันไว้หรื อว่า เลือกภรรยาเลือกความดีเลือกอนุเลือกความงาม พระ
ชายาหน้าตาหลานสาวผูน้ ้ ีของท่านแม้แต่ตวั ข้าจวิน้ จู่ยงั เทียบไม่ได้
ท่านยังหวังดียดั เยียดให้คุณชายใหญ่ของพวกเรา คิดว่าจวนผิงจวิน้
อ๋ องของพวกเราเป็ นถังขยะหรื อ”
จวิน้ พระชายารู ้สึกเพียงเบื้องหน้าดามืด ร่ างหงายไปข้างหลัง ล้มลง
บนเก้าอี้
“ท่านอา!”
“เสด็จแม่!”
เสี ยงกรี ดร้องดังขึ้นพร้อมกัน แม้แต่หูซื่อยังพยุงท้องล้อมเข้ามา มี
เพียงเสิ่ นเวยที่ยงั นัง่ อยูบ่ นเก้าอี้จิบชาอย่างไม่สะทกสะท้าน ท่าทาง
สบายอารมณ์ ประหนึ่งพระชายาจิ้นอ๋ องไม่ได้ถูกนางยัว่ โมโห
“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านพูดให้นอ้ ยลงบ้างเถิด” อู๋ซื่ออดพูดกับเสิ่ นเวย
ไม่ได้ “ยืนบื้อทาอะไรอยู่ ยังไม่รีบไปเชิญหมอมาอีก”
ในตอนนี้เอง พระชายาจิ้นอ๋ องบนเก้าอี้กฟ็ ้ื นขึ้นแล้ว โบกมืออย่างไร้
เรี่ ยวแรง กล่าว “ไม่ตอ้ ง!” จากนั้นจึงยืน่ มือไปผลักซ่งอี๋จยาที่ขวาง
หน้านางอยู่ มองเสิ่ นเวยนิ่งๆ กล่าวหนึ่งคาหยุดหนึ่งคา “เจ้าจะยัว่
โมโหข้าให้ตายหรื อไร”
เสิ่ นเวยสบสายตากับนาง ไม่อ่อนข้อแม้แต่นิดเดียว “มิบงั อาจ! ขอ
เพียงแค่พระชายาไม่สร้างความลาบากใจให้ขา้ ไม่เว้นแต่ละวัน ไม่
คิดจะยัดเยียดคนไว้ขา้ งกายคุณชายใหญ่เช่นนี้ ตัวข้าจวิน้ จู่ยอ่ มหวัง
ให้พระชายามีชีวิตไปอีกพันปี หมื่นปี ส่ วนคุณชายรองที่ท่านคลอด
ก่อนกาหนดห้าหกเดือน ก็เพราะท่านคอลดคุณชายรองก่อนที่จะเข้า
มาในจวนอ๋ องก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า”
“พูดเช่นนี้ อนุคนนี้เจ้าจะไม่เอาใช่หรื อไม่” พระชายาจิ้นอ๋ องโมโห
อย่างถึงที่สุดแต่กลับสงบนิ่ง สายตาเย็นเยียบ เสี ยงเย็นยะเยือก
ประหนึ่งเกร็ ดน้ าแข็ง
“ไม่เอา” เสิ่ นเวยไม่ออ้ มค้อมอย่างสิ้ นเชิง เบนสายตาออกไป มุมปาก
ปรากฏรอยยิม้ ชัว่ ร้าย “ในเมื่อพระชายาทุกข์ใจที่พ่ งึ พิงของ
หลานสาวฝั่งมารดาเพียงนี้ เช่นนั้นตัวข้าจวิน้ จู่กจ็ ะช่วงแบ่งเบาภาระ
พระชายา หาที่ที่เหมาะสมให้นางแทน เถาฮวา พาคุณหนูอี๋จยาผูน้ ้ ี
ไป”
เถาฮวากระโดดขึ้นมาข้างหน้าทันที การเคลื่อนไหวเร็ วอย่างยิง่ เสี ยง
ร้องตกใจของซ่งอี๋จยาเพิง่ จะออกจากปากก็ถูกเถาฮวาคว้าเสื้ อไว้แล้ว
กาไว้ในมือราวกับกาลูกไก่ ขอความดีความชอบจากเสิ่ นเวยด้วย
ความดีใจ “คุณหนู พวกเราจะไปไหน” หลังจากครั้งนั้นที่เสิ่ นเวยพูด
เอาไว้ เถาฮวาก็เปลี่ยนกลับมาใช้คาเรี ยกเดิม นางยังคงรู ้สึกว่าเรี ยก
คุณหนูดีกว่า จวิน้ จู่จะต้องเรี ยกเหมือนคนอื่น ส่ วนข้างกายเสิ่ นเวย
คนที่ยงั เรี ยกนางว่าคุณหนูกม็ ีเพียงเถาฮวาคนเดียว
คนทั้งหมดก็ถูกสถานการณ์กะทันหันนี้ทาให้มึนงง ได้สติกลับมา
เสี ยงของพระชายาจิ้นอ๋ องก็แทบจะทาห้องถล่มลงมาได้ “เสิ่ นซื่อเจ้า
หยุดเดี๋ยวนี้ เจ้าจะพาอี๋จยาไปไหน”
เสิ่ นเวยหยุดฝี เท้า หันกลับมาช้าๆ กะพริ บตาอย่างทะเล้น เผยรอยยิม้
ที่หยาดเยิม้ ออกมา “ไม่ใช่บอกแล้วหรื อว่า หาที่พ่ งึ พิงที่ดีให้นาง! ตัว
ข้าจวิน้ จู่จะพานางไปดูที่เรื อนของเสด็จพ่อสักหน่อย” ในเมื่อจิ้นพระ
ชายาจะยัดเยียดคนให้สวีโย่ว เช่นนั้นไม่สู้ยดั เยียดคนให้จิ้นอ๋ องเสี ย
พระชายาจิ้นอ๋ องได้ยนิ ดังนั้นก็แทบจะเป็ นลม ฝื นจิกฝ่ ามือตนเอง
ไม่ให้ตนหมดสติ “เร็ ว รี บขวางพวกนางไว้!” รอยยิม้ นั้นของเสิ่ นเวย
ในสายตาของพระชายาจิ้นอ๋ องน่ากลัวยิง่ กว่าผีร้ายร้อยเท่า
เวรกรรม! จวนจิ้นอ๋ องแต่งสะใภ้ที่ไม่มีขื่อไม่มีแปเช่นนี้เข้ามาได้
อย่างไร หากรู ้ก่อนว่าเสิ่ นซื่อมีนิสยั เช่นนี้ นางคงจะเล่นลูกไม้อื่น ให้
คนชัว่ ผูน้ ้ นั แต่งภรรยาแต่เนิ่นๆ ก็ได้แล้ว สามคนนั้นที่หมั้นหมาย
ก่อนหน้านี้ ไม่วา่ คนไหนก็ดีกว่าคนร้ายกาจผูน้ ้ ีหมื่นเท่า!
พระชายาจิ้นอ๋ องเสี ยใจภายหลังยิง่ นัก!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 255-1 ตอบโต้ กลับไป
วันนี้สาวใช้สี่คนที่เสิ่ นเวยพามาคือเถาฮวา เหอฮวา เถาจือและเย่วก์ ยุ้
ตัวเถาฮวากับเย่วก์ ยุ้ เองก็เป็ นยุทธ์ แม้แต่เถาจือกับเหอฮวาก็ฝึกยุทธ์
มาพอประมาณ ร่ างกายปราดเปรี ยวกว่าสาวใช้ทวั่ ไป
แม้วา่ พระชายาจิ้นอ๋ องจะตะโกนให้ขวางเสิ่ นเวยไว้ แต่สาวใช้หนึ่ง
กลุ่มที่ลอ้ มเข้ามาก็ขวางไว้ไม่ได้ เถาฮวาลากซ่งอี๋จยาวิง่ นาหน้าไป
แล้ว เพียงแค่มือข้างเดียวก็ผลักสาวใช้หญิงชราที่ขวางอยูข่ า้ งหน้า
ออกไปข้างๆ ได้ เย่วก์ ยุ้ เถาฮวา เถาจือปกป้องอยูข่ า้ งกายเสิ่ นเวย เดิน
วางก้ามออกจากเรื อนพระชายาจิ้นอ๋ อง ออกไปนอกเรื อนแล้ว
พระชายาจิ้นอ๋ องร้อนรนอยูข่ า้ งหลัง โมโหจนกระทืบเท้า ถลึงตา
มองอู๋ซื่อ “ยังไม่รีบตามไปอีก รออะไรอยู”่ ภายใต้การพยุงของหวา
เยียนหวาอวิ๋นตนก็ไล่ตามไปด้วยความร้อนอกร้อนใจ เสิ่ นซื่อผูน้ ้ ี
สามารถฉีกหน้าได้ จะยังมีเรื่ องอะไรที่นางทาไมได้อีก หากนางยัด
เยียดอี๋จยาให้ท่านอ๋ องจริ งๆ หลานสาวเป็ นอนุภรรยาของอาเขย
เช่นนี้ นางจะยังมีหน้าใช้ชีวิตอยูอ่ ีกหรื อ
ฝี เท้าของกลุ่มเสิ่ นเวยเร็ วอย่างยิง่ บ่าวข้างทางยังคงมึนงงอยูพ่ วกนาง
ก็เดินผ่านไปราวกับสายลมหนึ่งหอบแล้ว หลังจากนั้นก็เห็นพระ
ชายากับฮูหยินซื่อจื่อไล่ตามอยูข่ า้ งหลังด้วยสี หน้ารี บร้อน คน
ทั้งหมดมองหน้ากัน นี่มนั เรื่ องอะไร!
ตลอดทางซ่งอี๋จยาดิ้นพล่านอย่างถึงที่สุด ปากก็ร้องตะโกนขอความ
ช่วยเหลือสาปแช่ง นางอยากเข้าจวนจิ้นอ๋ องเป็ นอนุภรรยา แต่ไม่
อยากเป็ นอนุภรรยาของจิ้นอ๋ อง หนึ่งคือจิ้นอ๋ องอายุมากแล้ว อายุ
มากกว่าพ่อนางสองปี ด้วยซ้ า สองคือท่านอาของนางสามารถฉี กนาง
เป็ นๆ ได้ อีกทั้งใต้หล้านี้นอกจากคนที่กาเริ บเสิ บสานจะมีหลานสาว
ตระกูลใดที่เป็ นอนุภรรยาของอาเขยบ้าง พ่อนางกับแม่นางยอมให้
นางตายดีกว่าจะต้องให้นางนาความอับอายมาสู่ ตระกูล
“หนวกหู อุดปากเสี ย” เสิ่ นเวยออกคาสัง่ เย่วก์ ยุ้ ก็ยดั ผ้าเช็ดหน้าเข้า
ไปในปากซ่งอี๋จยาอย่างแม่นยาทันที ชัว่ ขณะโลกก็กลับคืนสู่ ความ
สงบ เสิ่ นเวยจึงถอนหายใจอย่างสบายอารมณ์
การเคลื่อนไหวที่ดงั เช่นนี้ยอ่ มรบกวนจิ้นอ๋ องในห้องหนังสื อแล้ว
เขาวางแก้วชาในมือลงอย่างอารมณ์ไม่ดีเล็กน้อย “เสี่ ยวเฉวียน
ออกไปดูหน่อย เกิดอะไรขึ้น” ใครกันที่บงั อาจเพียงนี้กล้ามารบกวน
ถึงเรื อนนอก กล้าเกินไปแล้วจริ งๆ
“จยาฮุ่ยจวิน้ จู่” ฝี เท้าของพ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนเพิ่งจะก้าวออกจากธรณี
ประตู เสิ่ นเวยก็พาคนเข้ามาด้วยความเหิมเกริ มแล้ว พ่อบ้านเสี่ ยว
เฉวียนตกใจหน้าถอดสี “จวิน้ จู่ เกิดอะไรขึ้นหรื อ”
“เสด็จพ่อเล่า ตามเสด็จพ่อมาตัดสิ น” เสิ่ นเวยเดินผ่านพ่อบ้านเสี่ ยว
เฉวียนเข้าไปข้างใน แรกเริ่ มพ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนยังไม่ได้สติกลับมา
เมื่อเห็นคุณหนูอี๋จยาหลานสาวของพระชายาถูกสาวใช้ของจยาฮุ่ย
จวิน้ จู่จบั ไว้ในมือ ชัว่ ขณะก็รู้สึกว่าเหตุการณ์ไม่ดีแล้ว รี บตามเข้าไป
“จวิน้ จู่ จวิน้ จู่ท่านมีอะไรก็พดู ดีๆ เถิดขอรับ!” ลูกสะใภ้บุกเข้ามาใน
ห้องหนังสื อพ่อสามี นี่หมายความว่าอย่างไร
จิ้นอ๋ องเองก็ถูกสถานการณ์น้ ีทาให้สะดุง้ ตกใจ “เสิ่ นซื่อ เจ้าทา
อะไร” หน้าของเขาดาราวกับก้นหม้อ ไหนเลยจะมีอย่างที่คนเป็ น
ลูกสะใภ้ไม่สนสิ่ งใดบุกเข้ามาในห้องหนังสื อของพ่อสามี นี่ยงั มี
กฎระเบียบอยูห่ รื อไม่
เสิ่ นเวยถือโอกาสยืนนิ่ง “เสด็จพ่อโปรดอภัย เหตุการณ์คบั ขันต้อง
ปรับตามสถานการณ์ ลูกเองก็ถูกบีบบังคับจนหมดหนทาง ต้องมา
ให้ท่านตัดสิ นด้วยความยุติธรรมแทน”
จิ้นอ๋ องได้ยนิ ดังนั้นสี หน้าก็ดีข้ ึนเล็กน้อย แต่คิ้วก็ยงั คงขมวดมุ่น
“เรื่ องอันใด” ต่อให้จะมีเรื่ องที่ใหญ่เท่าฟ้าก็ไม่อาจบุกเข้ามาเช่นนี้ได้
เหมือนกัน!
“เสด็จพ่อท่านเคยสัง่ ไว้แล้วว่า เรื่ องของลูกกับองค์ชายใหญ่พระ
ชายาไม่อาจสอดมือเข้ามา พ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนเองก็ได้ยนิ เองกับหู นี่
เพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วนั พระชายาก็วนุ่ อยูก่ บั เรื่ องจะแต่งอนุภรรยา
ให้ท่านพี่ ไม่คิดถึงร่ างกายนัน่ ของท่านพี่บา้ ง นี่ไม่ใช่เป็ นการทาร้าย
ท่านพี่หรอกหรื อ หรื อว่าไม่ใช่ลูกที่คลานออกมาจากท้องนางนางจึง
ไม่สงสาร นางไม่สงสารแต่ลูกสงสาร ตั้งแต่ที่ลูกแต่งเข้ามา หมอ
ดียาดียาบารุ งราคาแพงก็เป็ นตัวดูแลร่ างกายเขา กว่าสี หน้าจะดูดีข้ ึน
ได้ พระชายาก็จะยัดเยียดอนุภรรยาไว้ขา้ งกายท่านพี่อีกแล้ว มีเจตนา
ใดกันแน่” ฝี ปากของเสิ่ นเวยคล่องแคล่วยิง่ นัก
“คราวก่อนก็เป็ นญาติผนู ้ อ้ งอี๋ฮุ่ยผูน้ ้ นั คราวนี้กเ็ ปลี่ยนเป็ นญาติผนู ้ อ้ ง
อี๋จยา ทั้งยังบอกว่าหน้าตาของญาติผนู ้ อ้ งอี๋จยาดีกว่า หรื อว่าใน
สายตาของพระชายาท่านพี่เป็ นคนตื้นเขินมักมากในกาม นิสยั คน
ตระกูลซ่งนี้เป็ นอะไรไป เหตุใดหนึ่งคนสองคนล้วนแต่จะรี บให้แต่ง
เป็ นอนุภรรยาคนอื่น เป็ นฮูหยินอันดับหนึ่งไม่ดีกว่าหรื อ ในเมื่อพระ
ชายาหวังจะส่ งหลานสาวออกไปเป็ นอนุภรรยาเช่นนี้ ลูกก็คิดแล้วว่า
แต่งอนุภรรยาให้ท่านพี่ ไม่สู้แต่งอนุภรรยาให้เสด็จพ่อ อย่างไรเสี ย
เสด็จพ่อท่านก็มีอานาจมากกว่า ก็ยงิ่ เติมเต็มจิตใจที่ฟ้งุ เฟ้อของ
เด็กผูห้ ญิงได้ มิหนาซ้ ายังทาให้พระชายาดูแลหลานสาวได้สะดวก
มิใช่หรื อ เถาฮวา ส่ งคนไปให้เสด็จพ่อ”
“เจ้าค่ะ!” เถาฮวาแสยะปากยิม้ ผลักซ่งอี๋จยาในมือไปให้จิ้นอ๋ อง
จิ้นอ๋ องไม่ทนั ระวัง ซ่งอี๋จยาถูกผลักเข้าไปในอ้อมอกเขาทันที ฉากๆ
นี้ตกอยูใ่ นสายตาของจิ้นพระชายาที่รีบตามเข้ามาพอดี นางแทบจะ
อกสัน่ ขวัญหาย “ท่านอ๋ อง!” เสี ยงแหลมเปรี ยวพุง่ ขึ้นชั้นเมฆ ทาเอา
นกที่พกั อยูบ่ นต้นไม้ในลานบ้านต่างก็กระพือปี กบินขึ้นมา
จิ้นอ๋ องเพิง่ จะเห็นว่าคนที่อยูใ่ นอ้อมอกคือหลานสาวของพระชายา
สี หน้าแดงจัด ชัว่ ขณะก็ผลักออกไปประหนึ่งถูกไฟเผา “เหลวไหล
เสิ่ นซื่อเจ้าไม่รู้กาลเทศะเกินไปแล้ว” เหตุใดถึงมีสตรี หน้าไม่อาย
เช่นนี้ จิ้นอ๋ องโมโหจนแทบจะหมดสติ
ซ่งอี๋จยาถูกลากมาตลอดทาง ซ้ ายังถูกผลักไปผลักมา ขาคู่น้ นั ก็ไม่ใช่
ของตัวเองอีกต่อไปแล้ว ล้มลงบนพื้นทันที แม้แต่ลุกยังลุกไม่ข้ ึน
โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีคนสนใจนางแล้ว
พระชายาจิ้นอ๋ องถูกหวาเยียนหวาอวิน๋ พยุงเดินเข้ามา “เสิ่ นซื่อ เจ้า
กาเริ บเสิ บสานเกินไปแล้ว เจ้าจะเอาเช่นไรกันแน่”
แววตาเสิ่ นเวยมีความเหยียดหยาม “ควรเป็ นข้าที่ถามพระชายาว่าจะ
เอาอย่างไรมากกว่าหรื อไม่ เรื่ องในวันนี้ไม่ใช่ท่านยืนกรานจะยัด
เยียดหลานสาวบ้านฝั่งมารดาของท่านมาให้จวนจวิน้ อ๋ องของพวก
ข้าหรอกหรื อ พูดถึงกาเริ บเสิ บสาน พระชายาน่าจะเป็ นคนนั้น
มากกว่ากระมัง วันทั้งวันแม่เลี้ยงเช่นท่านเอาแต่คิดว่าสามีของข้าทา
อะไร ลูกแท้ๆ สามคนของท่านยังทุกข์ใจไม่พอหรื อไร”
พระชายาจิ้นอ๋ องคิดไม่ถึงว่าต่อหน้าท่านอ๋ องเสิ่ นซื่อผูน้ ้ ีจะไม่สารวม
เลยแม้แต่นอ้ ย บนใบหน้าเดี๋ยวดาเดี๋ยวม่วง “เสิ่ นซื่อเจ้ากาลังอิจฉา
ทาผิดกฎเจ็ดขับ ข้างกายนายท่านตระกูลใดบ้างไม่มีอนุภรรยาหลาย
คน ข้าเป็ นแม่เลี้ยงของคุณชายใหญ่ หาคนมาปรนนิบตั ิขา้ งกายเขา
แล้วอย่างไร ท่านอ๋ อง ท่านว่าข้าทาผิดหรื อไม่”
บนใบหน้าจิ้นอ๋ องเองก็ไม่เห็นด้วย ก็แค่อนุภรรยามิใช่หรื อ ความหึ ง
หวงของเสิ่ นซื่อผูน้ ้ ีมากเกินไปแล้ว “เสิ่ นซื่อ เจ้าทาผิดแล้ว พระชายา
เองก็หวังดีต่อเจ้า มีคนปรนนิบตั ิโย่วเอ๋ อร์เพิ่มอีกคนไม่ใช่เป็ นการ
แบ่งเบาภาระเจ้าหรื อ”
ความคิดแปลกประหลาดนี้ทาให้เสิ่ นเวยอดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ถูกต้อง ข้าอิจฉา หากผูใ้ ดยัดเยียดคนไม่ดีเหล่านี้ไว้ขา้ งกายสามีของ
ข้าผูน้ ้ นั ก็คือศัตรู ของข้า! พระชายาบอกว่าข้าผิดกฎเจ็ดขับ เช่นนั้น
พวกท่านก็ขบั ข้าสิ !” เสิ่ นเวยกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ฝ่ าบาท
พระราชทานสมรส แม้แต่หย่ายังหย่าไม่ได้ ยังคิดจะโยนโทษเจ็ดขับ
อะไรนัน่ ให้นาง น่าขันจริ งๆ
เป็ นดังคาด จิ้นอ๋ องกับพระชายาจิ้นอ๋ องต่างก็นึกถึงเรื่ องนี้ได้ สี หน้า
ดาทะมึนพร้อมกัน
เสิ่ นเวยกล่าวต่อ “ในเมื่อพระชายาใจกว้างเมตตาเพียงนี้ ก็น่าจะไม่
ห้ามให้เสด็จพ่อแต่งอนุภรรยา เมื่อครู่ พระชายาเองก็เห็นแล้ว เสด็จ
พ่อแตะเนื้อต้องตัวญาติผนู ้ อ้ งอี๋จยาแล้ว พระชายาใจกว้างนักก็ทาให้
พวกเขาสมหวังสิ ! พระชายาพูดเองไม่ใช่หรื อว่าญาติผนู ้ อ้ งอี๋จยาเป็ น
คนที่เหมาะสมอย่างยิง่ จะต้องแบ่งเบาภาระท่านดูแลเสด็จพ่อได้เป็ น
อย่างดีแน่นอน”
หยุดครู่ หนึ่ง คิดแล้วคิดอีกก็กล่าว “อนุภรรยาหนึ่งคนก็นอ้ ยไป
หน่อย ข้างกายท่านอ๋ องผูย้ งิ่ ใหญ่ไม่มีบุปผารู ้ใจแปดคนสิ บคนหาก
พูดออกไปแล้วคงอายคนแย่ แม้จะบอกว่าเรื อนหลังยังมีอี๋เหนียงอีก
สองคน แต่สองคนนั้นก็อายุมากแล้ว เสด็จพ่อคงจะเห็นจนเบื่อแล้ว
ลูกกับท่านพี่เป็ นลูกกตัญญู จะต้องตั้งใจหามาให้เสด็จพ่ออีกหลายๆ
คน อืม ท่านพี่ไม่เพียงแต่เป็ นลูกกตัญญู แต่ยงั เป็ นพี่ชายที่รักน้องชาย
อีกด้วย องค์ชายรองยังไม่มีลูก น้องสะใภ้สามก็ต้ งั ครรภ์อยู่
น้องสะใภ้รองกับน้องสะใภ้สามไม่ตอ้ งการคนมาแบ่งเบาภาระให้
มากหน่อยหรื อ ส่ วนคุณชายสี่ ช่างเถอะ รอคุณชายสี่ แต่งงานก่อน
แล้วค่อยว่ากันดีกว่า ส่ งอนุภรรยาก่อนแต่งงานมีแต่คนไม่มีมารยาท
เท่านั้นที่จะทาได้” เสิ่ นเวยแฉอดีตอันน่ารังเกียจของพระชายาจิ้
นอ๋ องอย่างไม่มีเยือ่ ใยเลยแม้แต่นอ้ ย
“บังอาจ” จิ้นอ๋ องกับพระชายาจิ้นอ๋ องตะโกนด้วยความโกรธพร้อม
กัน
ทว่าเสิ่ นเวยกลับไม่สนใจอย่างสิ้ นเชิง “พระชายาคิดจะให้ญาติผนู ้ อ้ ง
อี๋จยาเข้าจวนเมื่อใด กาหนดวันแล้วก็แจ้งมา เสด็จพ่อแต่งอนุภรรยา
เป็ นชนรุ่ นหลังย่อมต้องมาดื่มสุ รามงคลด้วย วุน่ วายมากว่าครึ่ งเช้า
พระชายาควรไปดูวา่ ที่ลูกสะใภ้สี่หรื อไม่วา่ แต่งตัวเสร็ จหรื อยัง พระ
ชายาท่านว่าท่านเป็ นคนฉลาดเพียงนี้เหตุใดถึงเลือกวันนี้เล่า พวกเรา
เป็ นคนครอบครัวเดียวกัน ปิ ดประตูแล้วจะวุน่ วายอย่างไรย่อมได้
แต่อย่างไรเสี ยคุณหนูเจ็ดแซ่ฉินก็ยงั ไม่เข้าเรื อน ถูกคนอื่นเห็นเป็ น
เรื่ องตลกจะไม่ดีเอาได้! เอาล่ะ เสด็จพ่อกับพระชายาไม่ตอ้ งไปส่ ง
แล้ว ลูกขอลากลับจวนตรงนี้ อากาศร้อนยิง่ นัก พักอยูใ่ นจวนตัวเอง
สบายกว่าเยอะ!”
ไม่ได้สนใจว่าจิ้นอ๋ องสองสามีภรรยาจะมีสีหน้ายา่ แย่เพียงใด เสิ่ น
เวยก็พาสาวใช้ท้ งั สี่ ของนางเดินกรี ดกรายออกไปแล้ว
เมื่อออกจากประตูใหญ่จวนจิ้นอ๋ อง เสิ่ นเวยก็สงั่ เย่วก์ ยุ้ “ไป ไปเรี ยก
ท่านจวิน้ อ๋ องของพวกเจ้ากลับจวน”
สวีโย่วกาลังดูบุตรหลานลูกคุณชายกลุ่มนั้นฝึ กซ้อมอยูใ่ นสนามฝึ ก
กองปัญจทิศรักษานคร ได้ยนิ เจียงไป๋ รายงานว่าเสิ่ นเวยเรี ยกเขากลับ
จวน ก็ลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอกทันที
เขารู ้วา่ วันนี้เสิ่ นเวยกลับจวนอ๋ อง พระชายาเล่นลูกไม้ยวั่ โมโหเวยเว
ยของเขาอีกแล้วหรื อ สวีโย่วกังวลยิง่ นัก!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 255-2 ตอบโต้ กลับไป
เสิ่ นเวยกับสวีโย่วกลับจวนจวิน้ อ๋ องตามลาดับ “เกิดอะไรขึ้น” สวี
โย่วเดินเข้ามาหาเสิ่ นเวยด้วยสี หน้าเป็ นห่วง
อารมณ์ที่ไม่ดีของเสิ่ นเวยก็ดีข้ ึนเล็กน้อยทันที มองสวีโย่วแล้วกล่าว
ด้วยความน้อยใจ “วันนี้ขา้ ผิดใจเสด็จพ่อแม่เลี้ยงท่านทั้งคู่”
สวีโย่วได้ยนิ ดังนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกในชัว่ ขณะ “ไม่เป็ นไร
พวกเราไม่ตอ้ งใช้ชีวิตที่นนั่ ผิดใจก็ผิดใจเถอะ” เขายังคิดว่าเสิ่ นเวย
ได้รับความไม่เป็ นธรรมเสี ยอีก ขอเพียงแค่ไม่ได้รับความไม่เป็ น
ธรรม ไม่วา่ อะไรก็ดีท้ งั สิ้ น
เสี ยงของเสิ่ นเวยยังคงอัดอั้น “พระชายาจะส่ งซ่งอี๋จยามาเป็ น
อนุภรรยาของท่าน ข้าเลยส่ งไปให้เสด็จพ่อท่านแทน”
“ส่ งก็ส่งเถอะ ข้างกายเสด็จพ่อก็ไม่มีคนใหม่เข้ามาหลายปี แล้ว ได้มา
เพิ่มบ้างก็ดีเหมือนกัน” สวีโย่วยังคงไม่ใส่ ใจ
“ข้ายังบอกว่าท่านเป็ นอี๋ปิน” เสิ่ นเวยเงยหน้ามองดวงตาของสวีโย่ว
แล้วกล่าว
สวีโย่วนิ่งงัน จากนั้นก็เข้าใจความหมายของเสิ่ นเวยทันที ยกมุมปาก
ขึ้นเบาๆ ยิม้ แล้ว หันหน้าออกคาสัง่ “เจียงไป๋ ไปเชิญอาจารย์ซูมา
ช่วยข้าร่ างสาส์นหนึ่งฉบับ ทูลถามฝ่ าบาทว่าสามารถเปลี่ยนจวน
จวิน้ อ๋ องเป็ นจวนจวิน้ จู่ได้หรื อไม่” อี๋ปินก็อี๋ปิน ขอเพียงแค่ภรรยา
เขามีความสุ ข เขาจะเป็ นจวิน้ อ๋ องหรื ออี๋ปินก็ไม่ได้แตกต่างอะไร
เสิ่ นเวยจ้องมองสวีโย่วอย่างไม่ละสายตา “ชอบข้าขนาดนี้เลยหรื อ”
ในน้ าเสี ยงมีความไม่แน่ใจเ ล็กน้อย
สวีโย่วลูบผมของเสิ่ นเวย พยักหน้าอย่างไม่ลงั เลเลยแม้แต่นอ้ ย กล่าว
อย่างตั้งใจ “เจ้าไม่ใช่ไม่รู้ ตั้งแต่เล็กจนโตเสด็จพ่อก็ไม่เคยเห็นข้าอยู่
ในสายตา ทิ้งไว้ในเรื อนเล็กปล่อยให้ขา้ เอาตัวรอดเอง พอเห็นหน้าก็
ตาหนิดุด่า ส่ วนพระชายาน่ะหรื อ นางไม่ทาร้ายข้าต่อหน้าเสด็จพ่อก็
ดีเท่าไรแล้ว ใครๆ ก็บอกว่าฝ่ าบาทให้ความสาคัญกับข้า อันที่จริ ง
เหตุผลส่ วนใหญ่กย็ งั เป็ นเพราะว่าข้ามีประโยชน์ เวยเวย ข้าตัวคน
เดียวไม่มีญาติมิตรให้พ่ งึ พา มีเพียงเวยเวยที่เป็ นของข้า และมีเพียง
เจ้าที่ดีต่อข้าอย่างไม่มีขอ้ แม้ ปกป้องข้า ออกหน้าเพื่อข้า เวยเวย ข้า
รับรู ้ท้ งั หมดแล้ว” เพื่อที่จะเก็บความอบอุ่นนี้ ไว้เขายอมแลกทุก
อย่าง
เสิ่ นเวยย่นจมูก ไม่กลัวคนอื่นบอกว่าท่านกลัวภรรยาหรื อ ไม่กลัว
เสี ยศักดิ์ศรี หรื อ” ผูช้ ายไม่ใช่ตอ้ งรักษาศักดิ์ศรี อย่างยิง่ หรื อ
สวีโย่วหัวเราะเสี ยงเบาออกมา บีบจมูกเสิ่ นเวยเล็กน้อยแล้วกล่าว
“ตั้งแต่วนั ที่แต่งงานกับเจ้าข้าก็กลัวภรรยามาโดยตลอดมิใช่หรื อ
ส่ วนศักดิ์ศรี มีเพียงคนที่ไม่มีความมัน่ ใจมากพอจึงจะต้องการ
ศักดิ์ศรี ข้า รู ้อยูแ่ ก่ใจก็พอแล้ว” ยังมีอีกเล็กน้อยที่สวีโย่วไม่ได้พดู ก็
คือเขาโหยหาความอบอุ่นบนร่ างนาง มลทินนั้นที่เขาลากนางเข้ามา
ในจวนจิ้นอ๋ อง ทาให้เขาติดหนี้นาง
เสิ่ นเวยคลี่ยมิ้ มือทั้งคู่เกี่ยวลาคอของสวีโย่ว แนบหน้าลงบนแผงอก
ของเขา “สวีโย่ว ข้าว่าข้าชอบท่านมากกว่าเดิมอีก!” ชีวิตนี้มีสวีโย่ว
ผูร้ ับความรักของนางเช่นนี้ได้ ดูท่าแล้ววาสนาของนางจะดีจริ งๆ
สวีโย่วใจวาบหวิว กระชับแขนทั้งคู่กอดเสิ่ นเวยแนบแน่น กล่าวใน
ใจ ข้าต่างหากที่เป็ นคนโชคดีที่สุด เวยเวย ขอบคุณที่เจ้าเข้ามา ชีวิตนี้
ข้าไม่ตอ้ งเดียวดายอีกต่อไปแล้ว
“อ้อจริ งสิ ข้ายังบอกว่าจะส่ งหญิงงามไปให้เสด็จพ่อและน้องชาย
ของท่านด้วย” เสิ่ นเวยกล่าวเสริ ม
คางของสวีโย่วถูกไถอยูบ่ นศีรษะของเสิ่ นเวย “อืม ความคิดนี้ไม่เลว
เจ้าพักอยูใ่ นจวนเถอะ เรื่ องนี้ขา้ จัดการเอง ข้าเป็ นบุตรคนโตและ
พี่ชายคนโต ต้องดูแลพวกเขาให้มากหน่อย”
ไอหยา คุณชายใหญ่เฉียบแหลมจริ งๆ! เสิ่ นเวยอารมณ์ดีแล้ว!
หลังเสิ่ นเวยไป จิ้นอ๋ องก็บนั ดาลโทสะใส่ พระชายาจิ้นอ๋ อง พระชายา
จิ้นอ๋ องปาดน้ าตาร้องทุกข์ “ข้าทาเพื่อใคร ไม่ใช่ทาเพื่อคุณชายใหญ่
หรอกหรื อ ข้างกายเขามีเสิ่ นซื่อเพียงคนเดียว ทั้งยังมีนิสยั แบบนั้น
ไหนเลยจะดูแลคุณชายใหญ่ให้ดีได้ อี๋ฮุ่ยกับอี๋จยาต่างก็เป็ นหลานที่
ข้าเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต นิสยั อ่อนโยน สุ ขมุ หนักแน่น หากไม่ใช่
คุณชายใหญ่ ข้าก็คงจะตัดใจให้ไม่ได้หรอก”
จิ้นอ๋ องฟังนางร้องไห้จนราคาญ “พอแล้ว พอแล้ว พวกเขาไม่ชอบ
เจ้าก็ยงุ่ ให้นอ้ ยหน่อย ตามใจพวกเขาเถอะ เจ้าทุกข์ใจเรื่ องการสมรส
ของฉัง่ เอ๋ อร์กบั ลูกในท้องของภรรยาเหยียนเอ๋ อร์ให้มากจะดีกว่า”
วันทั้งวันมีแต่เรื่ องจุกๆ จิกๆ เหล่านี้ น่าราคาญจะตายชัก!
พระชายาจิ้นอ๋ องยังคิดจะพูดต่อ แต่จิ้นอ๋ องเดินมือไพล่หลังออกไป
อย่างหงุดหงิดแล้ว พระชายาจิ้นอ๋ องเอ่ยปากไม่ทนั การ สี หน้าก็แย่
อย่างยิง่
สาหรับซ่งอี๋จยาย่อมไม่อาจอยูใ่ จห้องหนังสื อของจิ้นอ๋ องต่อได้ ถูก
พระชายาจิ้นอ๋ องพากลับเรื อนในแล้ว
“ท่านอา!” ซ่งอี๋จยาน้ าตานองหน้า ทั้งน้อยใจทั้งอัดอั้น
พระชายาจิ้นอ๋ องนึกถึงภาพที่นางล้มลงในอ้อมอกของจิ้นอ๋ อง
ชัว่ ขณะหัวใจก็ร้อนรนทันที แม้รู้วา่ จะโทษหลานสาวไม่ได้ แต่ในใจ
กลับไม่อาจยอม “พอแล้ว กลับไปค่อยว่ากัน”
ซ่งอี๋จยาใจเต้นรัว ในดวงตามีความกลัวแวบผ่าน ไม่ นางไม่อยาก
ตาย ไม่อยากเดียวดายไปตลอดชีวิต ไม่อยากแม้แต่นิดเดียว!
จะจัดการหลานสาวคนนี้อย่างไร พระชายาจิ้นอ๋ องก็ปวดหัวอย่างถึง
ที่สุด อย่างไรเสี ยเรื่ องในวันนี้กว็ นุ่ วายจนบ่าวจานวนมากในจวน
เห็นหมดแล้ว นางออกคาสัง่ ปิ ดปากได้ แต่คนในเหตุการณ์ไม่ได้มี
เพียงบ่าวของจวนอ๋ อง ยังมีเสิ่ นซื่อนายบ่าวอยูด่ ว้ ย หากรั่วไหล
ออกไปแม้แต่นิดเดียว จวนอ๋ องกับตระกูลซ่งก็คงไม่เหลือศักดิ์ศรี
แล้ว
ไม่รอให้พระชายาจิ้นอ๋ องคิดแผนการ ก็เกิดเรื่ องแล้ว
เช้าวันรุ่ งขึ้น สะใภ้สามหูซื่อเจ็บครรภ์อีกแล้ว ตอนที่พระชายาจิ้
นอ๋ องมาถึง หูซื่อก็ร้องโอดโอยไปพลาง ร้องไห้ขอให้นางตัดสิ นไป
พลาง ลูกสามสวีเหยียนหน้าดาคร่ าเครี ยดยืนอยูข่ า้ งๆ ทว่าบนพื้นข้าง
เท้ากลับมีอี๋จยาหลานสาวของนางคุกเข่าอยู่
พระชายาจิ้นอ๋ องตกใจใหญ่ “เกิดเรื่ องอะไรขึ้นกันแน่ อี๋จยายาโถ่วอยู่
ที่นี่ได้อย่างไร” หัวใจของนางมีลางสังหรณ์ไม่ดีกลุ่มหนึ่งปรากฎ
ขึ้นมา
ซ่งอี๋จยาโผเข้าไปกอดขาของนางทันที เงยหน้าข้อร้อง “ท่านอา ท่าน
ต้องตัดสิ นให้หลาน เมื่อคืน เมื่อคืนญาติผพู ้ ี่สามจะครอบครอง
ร่ างกายของหลาน”
ตอนนี้ซ่งอี๋จยายอมสู ้สุดชีวิตแล้ว นางรู ้ดีวา่ ตนไม่อาจเป็ นอนุภรรยา
ของอาเขยได้แล้ว เพื่อรักษาหน้าของจวนทั้งสองเกรงว่าท่านอาจะ
เอาชีวิตของนางแล้วจริ งๆ แม้นางจะไม่รู้วา่ ตนอยูบ่ นเตียงญาติผพู ้ ี่
สามได้อย่างไร แต่ตอนนี้ลูกพี่สามก็เป็ นความหวังเพียงหนึ่งเดียว
ของนาง นางจะต้องคว้าไว้ให้ได้ จะต้องทาให้ได้
พระชายาจิ้นอ๋ องตกใจอีกครั้ง ส่ วนหูซื่อฝั่งนั้นก็ร้องโอดโอยก่นด่า
แล้ว “เจ้ามันหญิงชัว่ หน้าไม่อาย นังจิ้งจอกที่เอาแต่ยวั่ ยวนคน คิดจะ
เข้าประตูจวนจิ้นอ๋ อง ฝันไปเถอะ โอ๊ย โอ๊ย เสด็จแม่ ท่านต้องตัดสิ น
ให้ลูกนะเพคะ!”
พระชายาจิ้นอ๋ องทั้งเป็ นห่วงลูกในท้องของหูซื่อ ทั้งโมโหเรื่ องที่
หลานสาวทา ได้ยนิ หูซื่อยิง่ พูดก็ยงิ่ เหลวไหล ตะโกนกล่าวทันที “เจ้า
หุบปากเดี๋ยวนี้ หากเด็กเป็ นอะไรไป ข้าจะให้เจ้ารับผิดชอบ”
หูซื่อกาแหงเช่นนี้ได้ลว้ นแต่อาศัยก้อนเนื้อนั้นในท้อง ถูกพระชายาจิ้
นอ๋ องดุด่าเช่นนี้ ก็ไม่กล้าโวยวายอีก เพียงแค่สะอึกสะอื้นไห้ร้อง
โอดโอย
“เหยียนเอ๋ อร์ เกิดเรื่ องอะไรขึ้นกันแน่” ไม่วา่ อย่างไรพระชายาจิ้
นอ๋ องก็คิดไม่ออกว่าหลานสาวขึ้นมาบนเตียงลูกสามได้อย่างไร
เรื อนที่หลานสาวพักอยูไ่ กลจากที่นี่มาก หลานสาวเข้ามาในเรื อน
ของลูกสามทั้งยังขึ้นมาบนเตียงลูกสามได้อย่างไร
สี หน้าของเหยียนเอ๋ อร์ไม่ดีเลยแม้แต่นิดเดียว “เสด็จแม่ ลูกก็ไม่รู้
เช่นกัน เมื่อคืนลูกดื่มสุ ราเล็กน้อย ตื่นเช้ามาก็พบว่าญาติผนู ้ อ้ งอยูบ่ น
เตียงลูกแล้ว”
เมื่อคืนเขานอนหลับด้วยความสะลึมสะลือ รู ้สึกว่ามีร่างกายนุ่มๆ ซุก
เข้ามาในอ้อมอกเขา เขาคิดว่าเป็ นสาวใช้อนุภรรยา ไหนเลยจะคิดว่า
เป็ นญาติผนู ้ อ้ งอี๋จยา
“อี๋จยาเจ้าบอกมา เจ้าเข้ามาในเรื อนของญาติผพู ้ ี่สามเจ้าได้อย่างไร”
พระชายาจิ้นอ๋ องมองหลานสาวที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้นอีกครั้ง” บน
ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุร้าย
ซ่งอี๋จยายังไม่ทนั เอ่ยปาก ก็ได้ยนิ หูซื่อตะโกนลัน่ แล้ว “จะเข้ามาได้
อย่างไรเล่า ย่อมต้องติดสิ นบนคนใช้จึงจะเข้ามาได้ คนหน้าด้าน เจ้า
รอข้าก่อน”
“เจ้าเองก็พดู ให้นอ้ ยหน่อย” พระชายาจิ้นอ๋ องมองหูซื่อบนเตียงด้วย
ความไม่พอใจ จากนั้นก็ละสายตากลับมา “อี๋จยาเจ้าว่ามา”
ซ่งอี๋จยาที่คุกเข่าอยูต่ วั สัน่ ระริ กทันที น้ าตาไหลส่ ายหน้า “ท่านอา
หลานเองก็ไม่รู้เหมือนกัน! เมื่อคืนหลานจาได้แม่นว่าตัวเองอยูท่ ี่
เรื อนชิงอู๋ ไหนเลยจะรู ้วา่ ตื่นมากลับอยูบ่ นเตียงของญาติผพู ้ ี่สาม”
“เจ้าโกหก” เสี ยงที่แหลมเปรี ยวของหูซื่อดังขึ้นมาก่อน “กล้าทาก็
ต้องกล้ารับ โกหกเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ไม่รู้ง้ นั หรื อ หรื อว่า
ผีหลอกงั้นหรื อ”
พระชายาจิ้นอ๋ องเองก็ไม่เชื่อ “อี๋จยาเจ้าพูดมาตามตรงๆ เจ้าเข้ามาใน
เรื อนได้อย่างไร “ใครเปิ ดประตูเรื อนให้เจ้า”
ซ่งอี๋จยาร้องไห้ไม่หยุด ส่ ายหน้าถี่ๆ “ท่านอา หลานไม่ได้โกหก
จริ งๆ เจ้าค่ะ หลานตื่นมาก็พบว่าอยูท่ ี่นี่แล้วจริ งๆ หากหลานโกหก
ของให้หลานถูกฟ้าฝ่ าไม่ตายดี” นางสาบานอย่างมัน่ ใจ ในใจน้อยใจ
อย่างถึงที่สุด ที่นางพูดเป็ นความจริ ง เหตุใดถึงไม่มีใครเชื่อนางเล่า
“เสด็จแม่ ลูกคิดว่าญาติผนู ้ อ้ งอี๋จยาน่าจะพูดความจริ ง ก่อนหน้านี้ลูก
ไต่สวนบ่าวรับใช้แล้ว ประตูเรื อนนัน่ ไม่ได้เปิ ดออก” สวีเหยียน
กล่าวด้วยสี หน้าเคร่ งขรึ ม
“คาดไม่ถึงว่านายท่านจะปกป้องนังจิ้งจอกผูน้ ้ ี ข้าจะยังมีชีวิตอยูไ่ ป
ทาไม ข้าไม่อยูแ่ ล้ว ให้ขา้ ตายเถอะ” เมื่อหูซื่อได้ยนิ คาพูดของสวีเห
ยียนก็ไม่ยอมทันที กุมท้องร้องตะโกนอยากตาย เสี ยงแหลมจนทา
ให้มือของหมอหลวงที่ช่วยนางดูแลครรภ์อยูส่ นั่ ระริ ก
ใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋ องโมโหเป็ นอย่างยิง่ “หูซื่อ หูซื่อเจ้ารี บ
สงบอารมณ์เดี๋ยวนี้ได้ยนิ หรื อไม่ เด็ก เด็กสาคัญที่สุด” นางมองเหงื่อ
ท่วมศีรษะของหมอหลวง อยากจะฉี กหูซื่อยิง่ นัก หญิงล้างผลาญ
ครอบครัวสมควรตายผูน้ ้ ี ไม่หดั ดูตาม้าตาเรื อเสี ยบ้าง เอาแต่หึงหวง
ยัว่ โมโหนางแทบตายจริ งๆ!
สวีเหยียนเองก็ตื่นตระหนกทั้งใบหน้า “หมอหลวง ครรภ์ไม่เป็ นไร
ใช่หรื อไม่” นี่เป็ นลูกภรรยาเอกคนแรกของเขา เขาย่อมต้องใส่ ใจ
หมอหลวงตอบกลับหนึ่งประโยคด้วยความลาบากใจ “คุณชายสาม
ฮูหยินสามอารมณ์รุนแรงเกินไป ไม่สะดวกต่อการรักษา” ต่อให้เขา
มีความสามารถดังเทพก็ช่วยฮูหยินสามที่ทาเช่นนี้ไม่ได้!
เมื่อสวีเหยียนได้ยนิ ใบหน้าก็ดาคร่ าเครี ยดจนแทบบีบน้ าออกมาได้
ทั้งกังวลทั้งโมโห “หูซื่อ หากเจ้าลองดีอีก หากลูกเป็ นอะไรไปอย่า
หาว่าข้าไม่ไว้หน้าเจ้า”
ฝั่งสวีเหยียนยังไม่ทนั สงบ ในเรื อนของท่านซื่อจื่อสวีเยีย่ ก็เกิดเรื่ อง
แล้วเช่นกัน สาวใช้ใหญ่ที่เข้ามาเชิญคนกล่าว “เชิญพระชายาไป
ตัดสิ นความยุติธรรมให้ฮูหยินของพวกเราด้วยเพคะ เมื่อคืนคุณหนูอี๋
ฮุ่ยขึ้นมาบนเตียงของท่านซื่อจื่อ”
พระชายาจิ้นอ๋ องได้ยนิ ดังนั้นร่ างก็โซเซ แทบจะล้มลงไปกับพื้น เวร
กรรม นี่มนั เรื่ องอะไรกันแน่!
เช้าตรู่ วนั เดียวกัน เกิดเหตุการณ์หลานสาวสองคนของพระชายาจิ้
นอ๋ องปี นขึ้นเตียงลูกสองคนของนาง ซ้ าหลานทั้งสองยังยืนกรานว่า
ก่อนนอนพวกนางยังอยูใ่ นเรื อนตัวเอง ทว่าตื่นขึ้นมากลับพบว่าอยู่
บนเตียงของญาติผพู ้ ี่ ร้องขอความเป็ นธรรมให้นางตัดสิ น นางสื บอยู่
ครึ่ งวันก็สืบหาเงื่อนงาใดๆ ไม่พบ
พระชายาจิ้นอ๋ องนึกถึงความกาเริ บเสิ บสานของเสิ่ นซื่อเมื่อกลางวัน
เมื่อวาน ยังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอีก ในใจก็เกลียดแค้น แต่กลับอับจน
ปัญญา ทาได้เพียงกัดฟันกรอดกลืนเลือดลงไปในท้อง
พระชายาจิ้นอ๋ องคิดไม่ถึงอย่างสิ้ นเชิงว่านี่เพิ่งจะเริ่ มต้น ฝี มือของสวี
โย่วเพิ่งจะแสดงออกมา นี่เป็ นเพียงอาหารเรี ยกน้ าย่อย อาหารจาน
หลังยังมาไม่ถึง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 256-1 สวีโย่ วหลงภรรยา
เสิ่ นเวยคิดว่าสวีโย่วหลอกให้นางดีใจ ไม่คิดว่าเขาจะยืน่ สาส์นกราบ
ทูลฉบับนั้นจริ งๆ ร้องขอฝ่ าบาทให้เปลี่ยนจวนจวิน้ อ๋ องเป็ นจวน
จวิน้ จู่
เมื่อสาส์นฉบับนี้เปิ ดเผยสู่ สาธารณะชน ทัว่ ทั้งราชสานักก็
สัน่ สะเทือน ผิงจวิน้ อ๋ องผูน้ ้ ีหลงภรรยาเกินไปแล้วหรื อไม่ นี่ไม่ได้
หมายความห้ามหลงภรรยา แต่เจ้าหลงก็หลง รักก็รัก แต่ไม่อาจไร้
เหตุผลไร้ขอบเขตเช่นนี้ได้!
เปลี่ยนจวนผิงจวิน้ อ๋ องเป็ นจวนจวิน้ จู่ ยินยอมพร้อมใจเป็ นอี๋ปิน
ศักดิ์ศรี น้ ียงั ต้องการอยูห่ รื อไม่
ทว่าสวีโย่วผูเ้ ป็ นคนต้นเรื่ องกลับยืดหลังตรง พยายามร้องขอฝ่ าบาท
ด้วยความมัน่ อกมัน่ ใจ “ทุกท่านต่างก็ทราบดี สุ ขภาพของกระหม่อม
ไม่ดีต้ งั แต่เล็ก แต่จยาฮุ่ยจวิน้ จู่กไ็ ม่ทอดทิ้ง ซ้ ายังช่วยชีวิตกระหม่อม
ไว้นบั ครั้งไม่ถว้ น กระหม่อมเกิดมาก็ตอ้ งกินยา ชัว่ ชีวิตนี้ไม่รู้วา่ จะ
สามารถมีทายาทได้หรื อไม่ และไม่รู้เหมือนกันว่าวันไหนจะมีอนั
เป็ นไป จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ดูแลกระหม่อมด้วยความรักและจริ งใจ
กระหม่อมจึงต้องใช้เวลาที่ยงั มีชีวิตอยูต่ ระเตรี ยมครึ่ งชีวิตที่เหลือ
ของนางให้เป็ นอย่างดี!”
หยุดครู่ หนึ่ง จึงกล่าวอย่างจริ งจัง “หากฝ่ าบาทรู ้สึกลาบากใจ ไม่สู้
ลองเมตตาพระราชทานจวนจวิน้ จู่ให้อีกหลัง แม้จะเป็ นเพียงเรื อน
หลังเล็กหนึ่งเรื อน ก็สามารถเลี่ยงไม่ให้จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ถูกผูอ้ ื่นรังแก
ภายหลังจากที่กระหม่อมไม่อยูแ่ ล้ว” พูดจบเขาก็คุกเข่าลงบนท้อง
พระโรงเสี ยงดัง
การกระทานี้ดึงดูดสายตาของคนทั้งหมด ให้ตายสิ ที่แท้แล้วผิงจวิน้
อ๋ องที่หน้าตายเป็ นเอกลักษณ์กเ็ ป็ นทาสภรรยาที่ตกหลุมรักหัวปั กหัว
ปาอย่างแท้จริ ง! แม้แต่ตนอาจจะมีทายาทไม่ได้กย็ งั กล้าพูดออกไป
ข้างนอก ความรู ้สึกของคนทั้งหมดซับซ้อนยิง่ นัก ไม่รู้วา่ จะใช้
สายตาแบบใดมองผิงจวิน้ อ๋ องดี
ชัว่ ขณะ ในสายตาของคนทั้งหมดที่มองใต้เท้าราชครู เสิ่ นผิงยวน จง
อู่โหวเสิ่ นหงเหวินและเสิ่ นหงเซวียนกรมพิธีการก็เต็มไปด้วยความ
อิจฉา ดูสิวา่ เขาเลี้ยงหลานสาวเก่งเพียงใด มัดใจผิงจวิน้ อ๋ องที่ไร้
มลทินได้อย่างเหนียวแน่นจนกลายเป็ นนุ่นพันดรรชนี ผิงจวิน้ อ๋ อง
หลงภรรยาเช่นนี้ ความสัมพันธ์ที่มีต่อบ้านภรรยาจะไม่สนิทยิง่ ขึ้น
ได้อย่างไร เลี้ยงบุตรสาวเหมือนกัน แต่เหตุใดจวนจงอู่โหวของคน
อื่นถึงได้มีวาสนาดีเพียงนั้นเล่า
หากจะบอกว่าสายตาที่ทุกคนมองจงอู่โหวสามพ่อลูกอิจฉา สายตาที่
มองจวนจิ้นอ๋ องก็มีเลศนัย ท่านจิ้นอ๋ องไม่ออกว่าราชการ ดังนั้นคน
ที่รับสายตาของคนทั้งหมดแทนก็คือท่านซื่อจื่อสวีเยีย่ กับคุณชาย
สามสวีเหยียน สี หน้าคนทั้งสองล้วนไม่ดีอย่างยิง่
ฮ่องเต้ยงเซวียนที่นงั่ อยูบ่ นบัลลังก์ทรงพิโรธแล้ว เขามองสวีโย่วที่
คุกเข่าอยูข่ า้ งล่างด้วยความมัน่ อกมัน่ ใจอยากจะถีบเขากระเด็นเสี ย
จริ งๆ ไม่รู้วา่ ยังสามารถมีทายาทได้หรื อไม่อะไร ไม่รู้เหมือนกันว่า
วันไหนจะมีอนั เป็ นไปอะไร คิดว่าเขาไม่รู้หรื อว่าตอนนี้สุขภาพของ
เขาแข็งแรงราวกับวัว ไม่ใช่วา่ คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นทะเลาะกับพระชายาจิ้
นอ๋ องอีกแล้วหรื อ เจ้าจึงวิ่งเข้ามาหนุนหลังเช่นนี้ ไม่ดูนิสยั ที่หา้ ว
หาญนัน่ ของคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นเสี ยบ้าง นางไม่รังแกคนอื่นก็ดีเท่าไร
แล้ว
กลัวภรรยา เหตุใดเขาถึงคิดไม่ถึงว่าหลานชายที่เขาสัง่ สอนเองกับมือ
จะเป็ นคนกลัวภรรยา ลมหายใจในทรวงอกฮ่องเต้ยงเซวียนอุดตันยิง่
นัก คายไม่ออก กลืนไม่ลง
“ราชครู คิดเห็นเช่นไร” ฮ่องเต้ยงเซวียนถอนหายใจหนึ่งคราออกมา
ช้าๆ มองเสิ่ นผิงยวนที่หลุบตาไม่พดู ปราดหนึ่ง
เสิ่ นผิงยวนกล่าวด้วยความเคารพ “ทูลฝ่ าบาท กระหม่อมไม่มีความ
คิดเห็น สตรี ที่แต่งออกไปก็เหมือนน้ าที่สาดออก ทั้งหมดตามแต่ผงิ
จวิน้ อ๋ องจะมีความสุ ข”
อย่าว่าแต่ฮ่องเต้ยงเซวียน แม้แต่ขนุ นางชั้นผูใ้ หญ่ท้ งั หมดที่ยนื อยู่
ข้างล่างก็ยงั ถูกคาตอบกลับที่น่าไม่อายนี้ลดขีดจากัดลงไปอีก ให้ตาย
สิ ใครไม่รู้บา้ งว่าหลานสาวของเจ้ากลับบ้านฝั่งมารดาอยูบ่ ่อยครั้ง
ไม่เพียงแต่กลับไปคนเดียว ผิงจวิน้ อ๋ องยังไปเป็ นเพื่อน ต่อให้จะไม่
ว่างจริ งๆ ตกค่าหลังเลิกงานก็ไปรับด้วยตัวเอง ตอนนี้เจ้าบอกว่าสตรี
ที่แต่งออกไปก็เหมือนน้ าที่สาดออก เจ้าตัดใจสาดออกไปได้หรื อ
จุๆๆ หนังหน้านี้ ด้วยระดับความหน้าไม่อายนี้ ทาให้พวกเขาละอาย
ใจตัวเองจริ งๆ! มิน่าเล่าเขาถึงได้รับความโปรดปรานจากฝ่ าบาท ไม่
ยอมรับไม่ได้!
จิ้งจอกเฒ่า! ฮ่องเต้ยงเซวียนสาลักเล็กน้อย มองเสิ่ นหงเหวินกับเสิ่ น
หงเซวียนอย่างไม่ตายใจ “จงอู่โหวกับขุนนางเสิ่ นคิดเห็นเช่นไร”
คนทั้งสองรี บเข้าไปขานรับ “ทูลฝ่ าบาท กระหม่อมคิดเช่นเดียวกับ
บิดา ออกเรื อนเชื่อฟังสามี ทั้งหมดเอาตามแต่เจตนาของผิงจวิน้ อ๋ อง”
ให้ตายสิ ใครบอกว่าลูกชายหลายคนของเสิ่ นผิงยวนสติปัญญา
ธรรมดาเล่า นี่ไม่ใช่วา่ เฉียบแหลมรอบคอบอย่างยิง่ หรอกหรื อ
มือที่จบั พนักเก้าอี้ของฮ่องเต้ยงเซวียนพลันแน่น เห็นหลานชายของ
เขาก็ยงิ่ รู ้สึกอึดอัด ตรัสด่า “รี บไสหัวไป คิดว่าบ้านที่เรามอบให้เป็ น
ของเหลือหรื อ เจ้าวางใจ หากถึงวันนั้นเจ้ามีอนั เป็ นไปจริ งๆ ก็ยงั มี
ราชสานักดูแลจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ ไม่อาจให้ใครมารังแกได้” ประโยค
สุ ดท้ายสวีโย่วแทบจะได้ยนิ เสี ยงกัดฟันของเสด็จลุงเขาแล้ว
สวีโย่วถอยออกไปอย่างคล่องแคล่ว คานับขอบคุณ “ขอบคุณฝ่ าบาท
ที่กรุ ณา เช่นนี้กระหม่อมก็วางใจแล้ว” ท่าทางไร้กงั วลทั้งใบหน้า
ฮ่องเต้ยงเซวียนเห็นแล้วก็ยงิ่ ว้าวุน่ ใจ
หลังว่าราชการเสร็ จ เหล่าขุนนางชั้นผูใ้ หญ่กท็ ยอยกันเดินออกไป
ข้างนอก เนื่องด้วยหน้าตาของสวีโย่ว จึงไม่มีใครไม่ดูตาม้าตาเรื อเข้า
ไปพูดอะไรกับเขา ท่านเสนาบดีฉินที่เดินอยูข่ า้ งหลังประสานมือ
คารวะเสิ่ นผิงยวน หัวเราะเหอเหอกล่าว “ยินดีกบั ราชครู ที่เลี้ยง
หลานสาวดี!”
เสิ่ นผิงยวนก็หวั เราะท่าทางเหมือนสุนขั จิ้งจอก “ไยท่านเสนาบดี
จะต้องดูถูกตัวเองเกินไปด้วยเล่า คุณหนูในจวนท่านก็ไม่ได้ดอ้ ย!”
ท่านเสนาบดีฉินหัวเราะร่ าฮ่าๆ “ดีพอกัน ดีพอกัน”
เสิ่ นผิงยวนเองก็หวั เราะร่ าฮ่าๆ ในดวงตามีประกายแวบผ่าน
ภาพๆ นี้ตกอยูใ่ นสายตาของผูอ้ ื่น ในใจอิจฉาอย่างถึงที่สุด
ความสัมพันธ์ของท่านเสนาบดีกบั ราชครู ดีจริ งๆ!
สาส์นกราบทูลในพระตาหนักจินหลวนของสวีโย่วถูกประกาศทัว่
เมืองหลวงในชัว่ พริ บตา ไม่วา่ เหล่าขุนนางจะแอบวิจารณ์วา่ สวีโย่ว
ว่ากลัวภรรยาหลงภรรยาอย่างไร เหล่าฮูหยินคุณหนูแต่ละจวนต่างก็
อิจฉาวาสนาของเสิ่ นเวยอย่างถึงที่สุด หากรู ้ก่อนหน้านี้วา่ ผิงจวิน้
อ๋ องรักภรรยาเช่นนี้ ต่อให้จะรู ้อยูแ่ ก่ใจว่าเขาสุ ขภาพไม่ดี ก็ตอ้ งชิงลง
มือก่อน! ไม่วา่ อย่างไรก็ไม่อาจให้เด็กผูห้ ญิงที่เติบโตในชนบทฉก
ฉวยไปได้
สวี่ซื่อป้าสะใภ้ใหญ่บา้ นฝั่งมารดาของเสิ่ นเวยทั้งใบหน้าเต็มไปด้วย
รอยยิม้ “ข้าบอกแล้วว่าเวยเอ๋ อร์มีวาสนา ดูสิ ข้าพูดถูกแล้วมิใช่หรื อ
อมิตาพุทธ ผิงจวิน้ อ๋ องปฏิบตั ิเช่นนี้ต่อเวยเอ๋ อร์ได้ ในที่สุดหัวใจของ
ข้าก็วางลงได้แล้ว” เวยเอ๋ อร์สามารถยืนหยัดมัน่ คงได้เป็ น
ผลประโยชน์ต่อจวนจงอู่โหวมากเพียงใด เพราะผิงจวิน้ อ๋ องสนิทชิด
เชื้อกับบ้านพ่อตา แม้แต่ในกรมกลาโหมท่านโหวก็ถูกคนให้
ความสาคัญสามส่ วน ตอนนี้เสนาบดีกรมกลาโหมปฏิบตั ิต่อท่าน
โหวด้วยความสุ ภาพยิง่ นัก
โหลวซื่อพี่สะใภ้ใหญ่ของสวี่ซื่อเองก็ยมิ้ แย้มทั้งใบหน้าเช่นกัน
“นี่เองก็เป็ นเพราะเวยเอ๋ อร์ฉลาดมีคุณธรรม” เวยเอ๋ อร์มีบุญคุณใหญ่
หลวงกับบุตรสาวนาง นางย่อมหวังดีต่อเวยเอ๋ อร์
แม้ในใจจ้าวซื่อจะอิจฉาเล็กน้อย แต่กไ็ ม่ใช่คนที่ตาไม่มีแวว “เวย
เอ๋ อร์ของพวกเราหน้าตาดี นิสยั ดี ซ้ ายังมีสินเดิมมหาศาล ผิงจวิน้ อ๋ อง
จะไม่รักไม่หลงได้อย่างไร” นางนึกถึงบุตรสาวของตน กลุม้ ใจยิง่
นัก! นางไม่กล้าฝันว่าเซวียนเอ๋ อร์จะแต่งงานได้อย่างผิงจวิน้ อ๋ อง ดี
ได้ครึ่ งหนึ่งนางก็พอใจแล้ว
“ใช่ๆๆ พูดให้ดีกค็ ือเวยเอ๋ อร์ของพวกเราดีเยีย่ ม ดีได้ดว้ ยตัวเอง”
โหลวซื่อกล่าวคล้อยตาม
สวี่ซื่อเองก็พยักหน้า ฝี มือของเวยเอ๋ อร์ชดั เจนที่สุด สามารถทาให้ผงิ
จวิน้ อ๋ องเชื่อฟังและโปรดปรานเช่นนี้ได้ นางไม่แปลกใจเลยจริ งๆ
“น้องสาว คู่หมั้นของเสิ่ นเชียนเจ้าเลือกได้แล้วหรื อยัง” โหลวซื่อ
เปลี่ยนเรื่ อง ถามถึงคู่หมั้นของเสิ่ นเชียนขึ้นมา
เมื่อเอ่ยถึงการหมั้นหมายของลูกชาย รอยยิม้ บนใบหน้าสวี่ซื่อก็ยงิ่
กว้าง “เลือกได้แล้ว เลือกได้แล้ว เป็ นบุตรสาวคนโตของตระกูลใต้
เท้าฉังหัวหน้าราชวิทยาลัยกัว๋ จื่อ ปี นี้อายุสิบหกปี แล้ว เด็กกว่าเชียน
เอ๋ อร์สามปี เหมาะสมพอดี”
“ยิง่ ไปกว่านั้นอีก คุณหนูตระกูลฉังผูน้ ้ นั ยังหน้าตาดี อีกทั้งตั้งแต่เล็ก
ก็อ่านกลอน รู ้กฎระเบียบทานองคลองธรรมที่สุด นางเป็ นบุตรสาว
คนโตในตระกูล แม่นางร่ างกายไม่ค่อยดีนกั งานในจวนของพวก
นางล้วนแต่เป็ นนางที่ดูแล ตั้งแต่อายุแปดเก้าปี ก็จดั การได้แล้ว
พี่สะใภ้ใหญ่ได้ลูกสะใภ้ที่มีความสามารถยิง่ นัก” จ้าวซื่อกล่าวเสริ ม
ด้วยสี หน้าอิจฉา
บนใบหน้าของโหลวซื่อเองก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “จริ ง
หรื อ เช่นนั้นก็ดีจริ งๆ คุณหนูใหญ่แซ่ฉงั มีความสามารถเช่นนี้
หลังจากนี้นอ้ งก็รอใช้ชีวิตอันสุ ขสบายได้เลย ท่านแม่ของเราเป็ น
ทุกข์เรื่ องการหมั้นหมายของเชียนเอ๋ อร์ท้ งั วัน กลับไปได้ยนิ ข่าวดีน้ ี
จะต้องดีใจมากแน่นอน”
สวี่ซื่อพยักหน้า “อ่านบทกลอนหรื อไม่ หน้าตาโดดเด่นหรื อไม่ นี่
เป็ นสิ่ งรองลงมา เรื่ องที่ขา้ ให้ความสาคัญมากที่สุดก็คือ
ความสามารถของคุณหนูฉงั แม้จวนของพวกเราจะไม่ได้มีทายาท
บางตาเหมือนจวนแม่ทพั ใหญ่หร่ วน แต่อนั ที่จริ งสถานการณ์ที่
เผชิญหน้าก็เหมือนกัน เหิงเอ๋ อร์ตอ้ งการภรรยาที่มีสามารถมาดูแล
เรื อนหลัง เชียนเอ๋ อร์ของพวกเราเองก็เหมือนกัน เขาอยูไ่ กลถึงซีเจียง
ก็ตอ้ งการภรรยาที่มีความสามารถมาจัดการงานในเรื อนหลังด้วย
มิใช่หรื อ”
หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่าวต่อ “อันที่จริ งเรื่ องนี้ยงั คงเป็ นนายท่านผูเ้ ฒ่า
โหวที่เตือนข้า ก่อนหน้านี้ขา้ คิดเพียงแต่วา่ จะหาภรรยาที่นิสยั
อ่อนโยนให้เชียนเอ๋ อร์ มีชีวติ ที่เข้ากันกับเขาปรนนิบตั ิเขาได้ดีก็
เพียงพอแล้ว ยังคงเป็ นนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวที่บอกว่า วิถีชีวติ ของคน
ในซีเจียงห้าวหาญ นิสยั อ่อนโยนไปที่นนั่ แล้วจะปรับตัวไม่ได้
แม้แต่ตวั เองยังดูแลไม่ได้ จะดูแลเชียนเอ๋ อร์ได้อย่างไร อีกทั้งไปถึงซี
เจียงแล้วไม่เพียงแต่ตอ้ งปรนนิบตั ิเชียนเอ๋ อร์ แต่ยงั ต้องผูกมิตรกับ
ครอบครัวฝ่ ายหญิง ไม่หาสตรี ที่มีนิสยั แข็งแกร่ งมีความสามารถก็จะ
จัดการสถานการณ์ไม่อยู่ คุณหนูตระกูลฉังผูน้ ้ ีนายท่านผูเ้ ฒ่าเองก็เคย
เอ่ยถึง ข้าดูแล้ว โห ดีจริ งๆ ด้วย นี่ไม่ใช่วา่ ต้องรี บหมั้นหมายให้
เชียนเอ๋ อร์หรอกหรื อ หาช้าไปจะถูกคนแย่งตัวไปได้”
สาหรับว่าที่ลูกสะใภ้ที่นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเลือก สวี่ซื่อไม่มีความ
คิดเห็นแม้แต่นิดเดียว อย่างไรเสี ยสายตาของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหว
แม้แต่พอ่ นางยังเลื่อมใส อีกทั้งคุณหนูฉงั ผูน้ ้ ีก็โดดเด่นจริ งๆ ดีกว่า
คนที่นางเคยดูก่อนหน้านี้หลายส่ วน
“นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวใส่ ใจหลานชายจริ งๆ” โหลวซื่ออิจฉายิง่ นัก นาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวเป็ นราชครู ของรัชทายาท สายตาของเขาใช่คนทัว่ ไป
สามารถเทียบได้หรื อ ภรรยาดีรุ่งโรจน์ไปสามชัว่ โคตร เชียนเอ๋ อร์มี
วาสนาจริ งๆ
คราวนี้จา้ วซื่ออิจฉาแล้วจริ งๆ กล่าวด้วยความริ ษยา “ลูกหลานเต็ม
จวน คนที่นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวรักที่สุดก็คือเวยเอ๋ อร์ อีกคนหนึ่งก็คือ
เชียนเอ๋ อร์” เทียบกันแล้ว ซงเอ๋ อร์ไป่ เอ๋ อร์และเซวียนเอ๋ อร์ของนาง
ห่างชั้นอยูม่ าก
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 256-2 สวีโย่ วหลงภรรยา
สวี่ซื่อปรายตามองนางปราดหนึ่ง กล่าว “ดูนอ้ งสะใภ้พดู เข้า นาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวไหนเลยจไม่รักซงเอ๋ อร์ไป่ เอ๋ อร์ นายท่านผูเ้ ฒ่าโหว
ไม่ใช่ไหว้วานคนให้เขียนจดหมายแนะนาส่ งซงเอ๋ อร์ไปที่วิทยาลัย
ชิงซานหรอกหรื อ ไป่ เอ๋ อร์กม็ ีพรสวรรค์ดา้ นภาพวาดอักษร เดือน
ก่อนนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็ยงั ใช้เงินจานวนมากเชิญปรมาจารย์ดา้ น
ภาพวาดอักษรมามิใช่หรื อ อย่าร้อนใจไป รอให้จดั การเรื่ องของ
เชียนเอ๋ อร์เสร็ จก็ถึงตาซงเอ๋ อร์ไป่ เอ๋ อร์แล้วมิใช่หรื อ เป็ นหลายชาย
เหมือนกัน นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็ตอ้ งห่วงใยเหมือนกัน”
น้องสะใภ้รองผูน้ ้ ีกจ็ ริ งๆ เลย นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวปฏิบตั ิต่อเชียนเอ๋ อร์
ดีกว่าเล็กน้อยก็เป็ นเรื่ องสมควรมิใช่หรื อ เชียนเอ๋ อร์เป็ นหลานชาย
คนโตในจวน ซงเอ๋ อร์กบั ไป่ เอ๋ อร์เป็ นเพียงบุตรอนุภรรยาบุตรภรรยา
เอกก็เท่านั้น จะเหมือนกันได้หรื อไร แม้แต่เจวี๋ยเอ๋ อร์บา้ นสามก็ยงั มี
ฐานะสู งกว่าพวกเขาเล็กน้อย สาหรับเวยเอ๋ อร์ แม้แต่เชียนเอ๋ อร์ของ
นางยังเทียบไม่ได้ นางจ้าวซื่อยังคิดจะเทียบเคียง ช่างไม่รู้อะไรจริ งๆ
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหววางแผนเพื่อพวกเขามากแล้ว นึกไม่ถึงว่ายังไม่พอ
ใจคนโลภไม่สิ้นสุดดัง่ งูจะกลืนช้างจริ งๆ! นี่ทาให้สวี่ซื่อไม่พอใจ
อย่างมาก
จ้าวซื่อถูกพี่สะใภ้ใหญ่พดู ใส่ หน้าโครมๆ สี หน้าก็เจื่อนอย่างอด
ไม่ได้ “ใช่แล้ว นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเป็ นผูม้ ีเมตตาอย่างหาได้ยาก
ปฏิบตั ิต่อลูกหลานดียงิ่ นัก” ทว่าในใจกลับวิจารณ์ ก็แค่ส่งจดหมาย
แนะนาเชิญอาจารย์มิใช่หรื อไร ยังอยูห่ ่างเชียนเอ๋ อร์กบั เวยเอ๋ อร์อีก
ไกล
มีคนดีใจและมีคนโกรธา
บุตรสาวคนอื่นๆ เพียงแค่อิจฉา บ้างก็ริษยาความโชคดีของเสิ่ นเวยก็
เท่านั้น ส่ วนเสิ่ นเสวี่ยกลับโมโหอย่างประจักษ์แจ้ง มิหนาซ้ าจ้าวเฟย
เฟยยังกล่าวกับนางด้วยความใส่ ซื่อไร้เดียงสา “พี่สะใภ้ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่
ทาให้คนอิจฉาจริ งๆ! ท่านเป็ นพี่นอ้ งกับนาง มีโอกาสก็แนะนาข้า
บ้างได้หรื อไม่”
ชัว่ ขณะเสิ่ นเสวี่ยก็โมโหเดือดดาล รู ้อยูแ่ กใจว่านางแย่งคู่หมั้นของ
เสิ่ นเวยแต่งเข้าจวนหย่งหนิงโหว ความสัมพันธ์ของพวกนางพี่นอ้ ง
จะดีได้อย่างไร ยังจะให้นางแนะนาอีก นี่ไม่ใช่เป็ นการตบหน้านาง
หรอกหรื อ
“แม้จะบอกว่าเป็ นพี่นอ้ ง แต่ต่างคนต่างก็แต่งงานแล้ว ธรณี ประตู
จวนผิงจวิน้ อ๋ องสูง ข้าเกรงว่าจะไม่มีความสามารถแนะนาให้ญาติผู ้
น้องได้” เสิ่ นเสวี่ยตอบปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา
จ้าวเฟยเฟยผิดหวังทั้งใบหน้า “มิใช่พดู กันหรื อว่าผิงจวิน้ อ๋ องมักจะ
กลับบ้านฝั่งมารดาเป็ นเพื่อนจยาฮุ่ยจวิน้ จู่บ่อยครั้ง ถึงตอนนั้น
พี่สะใภ้กก็ ลับไป พาข้าไปด้วยก็ได้แล้วมิใช่หรื อ” นางยังคงกล่าว
อย่างไม่ตายใจ
อวี้ซื่อฮูหยินหย่งหนิงโหวเองก็ใจเต้น นางมองหลานสาวตาที่น่ารัก
น่าเอ็นดู รู ้สึกว่านี่เป็ นความคิดที่ดีจริ งๆ นัน่ เป็ นถึงผิงจวิน้ อ๋ อง ลูก
ชายของท่านจิ้นอ๋ อง หลานชายของฝ่ าบาท ซ้ ายังดูแลกองปั ญจทิศ
รักษานคร หากเฟยเฟยเข้าตาของเขา ความร่ ารวยมีเกียรติกอ็ ยูไ่ ม่
ไกลแล้ว แม้จะไม่เข้าตาผิงจวิน้ อ๋ อง แต่สามารถผูกมิตรกับจยาฮุ่ย
จวิน้ จู่ได้ นี่เองก็เป็ นเรื่ องดีเหมือนกัน! มีจยาฮุ่ยจวิน้ จู่พาเฟยเฟยออก
ไปคบค้าสมาคม ฮูหยินเหล่านั้นก็ตอ้ งให้ความสาคัญสักหน่อยมิใช่
หรื อ
นึกถึงตรงนี้อวี้ซื่อก็กล่าว “เฟยเฟยพูดถูก แม้จะบอกว่าต่างคนต่าง
แต่งงานแล้ว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพี่นอ้ งยังคงต้องเดินต่อไป
ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจึงจะถูกต้อง เอาเช่นนี้แล้วกัน จยาฮุ่ยจวิน้ จู่
กลับจวนจงอู่โหวเมื่อไร เสิ่ นซื่อเจ้าก็พาเฟยเฟยกลับไปด้วย”
เสิ่ นเสวี่ยมองจ้าวเฟยเฟยอย่างคล้ายยิม้ คล้ายไม่ยมิ้ “ญาติผนู ้ อ้ งคิดจะ
ผูกมิตรกับพี่สาวของข้า หรื อว่าผิงจวิน้ อ๋ องกันแน่” จากนั้นจึงละ
สายตามองอวี้ซื่อ “จะเข้าหาผูม้ ีอานาจ ลูกยังไม่มีความสามารถนั้น
จริ งๆ ยังต้องขอให้ท่านแม่ไปหาผูป้ ราดเปรื่ องคนอื่นแทน” จับมือ
ของสาวใช้บิดเอวกลับเรื อนไปแล้ว
ทาอวี้ซื่อโมโหเดือดดาล เฮ้อ ไม่ตอ้ งเอ่ยถึงแล้ว
จ้าวเฟยเฟยเข้าไปเกลี้ยกล่อมท่านน้านางอย่างว่าง่าย “ท่านน้าอย่าได้
โมโห เฟยเฟยผิดเอง หากไม่ใช่เฟยเฟยอยากผูกมิตรกับจวิน้ จู่
พี่สะใภ้คงจะไม่โกรธ”
อวี้ซื่อกล่าวด้วยความโมโห “ไม่เกี่ยวกับเจ้า พี่สะใภ้เจ้าก็ไม่ใช่สตรี มี
คุณธรรมอยูแ่ ล้ว เหอะ ก็แค่อาศัยอานาจบ้านฝั่งมารดา หากรู ้วา่ นางมี
นิสยั เช่นนี้ คงไม่สู้…” ดวงตาของนางกะพริ บวาบ ไม่ได้พดู ต่อ หาก
จะบอกว่าเสี ยดายนางก็เสี ยดายตั้งนานแล้ว ใครจะรู ้วา่ เด็กผูห้ ญิงที่
เติบโตในชนบทผูน้ ้ นั จะเปลี่ยนไปมากเพียงนี้
จ้าวเฟยเฟยเองก็ดวงตากะพริ บวาบ กล่าวด้วยสี หน้าลังเล “ท่านน้า
หากตอนนั้นญาติผพู ้ ี่แต่งงานกับจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ผนู ้ ้ นั ก็คงดี ฟังว่านาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวในจวนนั้นรักนางที่สุด มิเช่นนั้นจะให้นางนาสิ นเดิม
มากมายเพียงนั้นไปด้วยได้อย่างไร หากสิ นเดิมมากมายเพียงนี้เข้ามา
ในจวนพวกเราก็คงจะดียงิ่ นัก! ภายหลังอนาคตของญาติผพู ้ ี่กไ็ ม่ตอ้ ง
ทุกข์ใจแล้ว” เรื่ องในจวนหย่งหนิงโหวจ้าวเฟยเฟยสื บถามมาอย่าง
ชัดเจนแจ่มแจ้งแล้ว รวมถึงรู ้วา่ คู่หมั้นเดิมของญาติผพู ้ ี่นางคือจยาฮุ่ย
จวิน้ จู่
“ใครว่าไม่ใช่เล่า ยังคงเป็ นจวนหย่งหนิงโหวของพวกเราที่ขาด
วาสนาเล็กน้อย” อวี้ซื่อตบขาอ่อนด้วยสี หน้าเสี ยดาย จวนหย่งหนิง
โหวขาดวาสนาอะไร ชัดเจนว่าเป็ นฝี มือนางมิใช่หรื อ เป็ นนางที่
รังเกียจเสิ่ นเวยไม่คู่ควรกับลูกชายของนาง กระโดดโลดเต้นขัดขวาง
การหมั้นหมาย ดังนั้นก็สมน้ าหน้าแล้วที่นางได้ลูกสะใภ้เช่นเสิ่ น
เสวี่ยมาแทน
คิดถึงสิ นเดิมที่ยาวสิ บลี้นนั่ ของเสิ่ นเวย จิตใจของอวี้ซื่อก็เจ็บปวก
อย่างถึงที่สุด เนื้อที่มาถึงปากวิ่งหนีไปเช่นนี้ ทุกครั้งที่นึกถึงนางก็
เจ็บใจจนนอนไม่หลับ
จ้าวเฟยเฟยย่อมมองเห็นความเสี ยดายบนใบหน้าของท่านน้านาง
แล้ว อดหัวเราะเยาะในใจไม่ได้ นางไม่หวังให้จยาฮุ่ยจวิน้ จู่แต่งงาน
กับญาติผพู ้ ี่อยูแ่ ล้ว ท่านน้าไม่รู้ แต่นางรู ้ดีวา่ ญาติผพู ้ ี่ชอบจยาฮุ่ยจวิน้
จู่ผนู ้ ้ นั มากเพียงใด ในตูล้ บั ห้องหนังสื อของญาติผพู ้ ี่ซ่อนภาพไว้หนึ่ง
ภาพ คนในภาพวาดก็คือจยาฮุ่ยจวิน้ จู่
ยังคงเป็ นพี่สะใภ้ผนู ้ ้ ีที่ดีกว่า นางยิง่ กาแหงยิง่ ใช้อานาจบาตรใหญ่
โอกาสของตนก็จะยิง่ สู งมิใช่หรื อ หากเป็ นจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ บุคคลที่
สามารถกุมใจได้แม้กระทัง่ ผิงจวิน้ อ๋ องจะเป็ นคนไร้ฝีมือได้อย่างไร
อีกทั้งญาติผพู ้ ี่เดิมก็ชอบนางอยูแ่ ล้ว เช่นนั้นตนจะยังทาอะไรได้อีก
เมื่อจ้าวเฟยเฟยคิดเช่นนี้ คิ้วก็พลันขมวดมุ่น วางแผนในใจ กล่าว
กับอวี้ซื่อ “ท่านน้า ญาติผนู ้ อ้ งแต่งงานเข้ามาได้ครึ่ งปี กว่าแล้ว ยังไม่
มีข่าวเลย ญาติผพู ้ ี่ก็อายุไม่นอ้ ยแล้ว” ท่าทางกังวลยิง่ นัก
เสิ่ นเสวี่ยยังไม่ต้ งั ครรภ์เสี ยที นี่เองก็ทาให้อวี้ซื่อหงุดหงิดใจ “เฮ้อ
ใครให้นางตั้งครรภ์ยากเล่า คิดดูสิวา่ ตอนนั้นที่นา้ เจ้าเข้ามาไม่ถึงสาม
เดือนก็ต้ งั ท้องญาติผพู ้ ี่เจ้าแล้ว เสิ่ นซื่อเป็ นเช่นนี้ ทาให้คนร้อนใจ
แทบแย่จริ งๆ”
อวี้ซื่อไม่พอใจเสิ่ นเสวี่ยยิง่ ขึ้น นางกาเริ บเสิ บสานไม่เห็นแม่สามีอยู่
ในสายตายังไม่พอ อย่างไรเสี ยนางให้ทายาทแก่อวี้เอ๋ อร์บา้ งก็ยงั ดี
แต่นางกลับไม่ แต่งเข้ามากว่าครึ่ งปี แล้วยังไม่มีข่าวแม้แต่นิดเดียว
วันทั้งวันเอาแต่หึงหวง ปรนนิบตั ิอยูข่ า้ งกายอวี้เอ๋ อร์ไม่ไปไหน ตน
ไม่มีความสามารถจะตั้งครรภ์ ก็ยงั ไม่อนุญาตให้อวี้เอ๋ อร์เข้าใกล้ผอู ้ ื่น
หากชัว่ ชีวิตนี้นางไม่ต้ งั ครรภ์ จวนหย่งหนิงโหวใช่จะไร้ผสู ้ ื บสกุล
แล้วหรื อไม่
จ้าวเฟยเฟยเห็นไฟร้อนกาลังได้ที่ ก็ออกความคิดเห็นเสี ยงเบา “ท่าน
น้า ข้าว่าเทียนเซียงผูน้ ้ นั ข้างกายญาติผพู ้ ี่กไ็ ม่เลว ทั้งรอบคอบทั้งมี
ความสามารถ จงรักภัคดีต่อญาติผพู ้ ี่อย่างถึงที่สุด ท่านคิดจะเลื่อนขั้น
นางเป็ นอี๋เหนียงหรื อไม่”
“เทียนเซียงเป็ นคนที่เหมาะสมมาโดยตลอด” เทียนเซี ยงก็คือคนที่
ออกไปจากข้างกายอวี้ซื่อ นางยกเทียนเซียงให้ลูกชายก็เพื่อเจตนานี้
“ข้ากลับคิดเหมือนกัน แต่พี่สะใภ้เจ้าจะยอมหรื อ”
จ้าวเฟยเฟยกกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย “ก็แค่อี๋เหนียงเท่านั้นเอง พี่สะใภ้
จะไม่ยอมเชียวหรื อ อีกอย่าง ผูอ้ าวุโสมอบให้ไม่อาจปฏิเสธ ท่าน
เป็ นแม่สามี ให้คนปรนนิบตั ิลูกชายจะเป็ นอะไรไป ต่อให้พี่สะใภ้จะ
โวยวายก็ไม่มีเหตุผล แม้แต่จวนจงอู่โหวก็กา้ วก่ายเรื่ องนี้ไม่ได้”
ถูกหลานสาวตาพูดเช่นนี้ อวี้ซื่อยังคงสนใจจริ งๆ “อืม มีเหตุผล
ยังคงเป็ นเฟยเฟยที่สมองไว” อวี้ซื่อกล่าวชม
จ้าวเฟยเฟยยิม้ อย่างเขินอาย “ท่านน้า ข้าก็แค่แบ่งเบาภาระให้ท่าน
มิใช่หรื อ” ท่าทางราวกับไม่เห็นแก่ตวั เลยสักนิดเดียว
ทัว่ ทั้งเมืองหลวงกาลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่ องผิงจวิน้ อ๋ องกลัวภรรยา
หลงภรรยา สวีโย่วกับเสิ่ นเวยผูเ้ ป็ นคนต้นเรื่ อง สองสามีภรรยาคู่น้ ี
กลับไม่รู้สึกอะไรแม้แต่นิดเดียว ใครอยากพูดก็พดู ไป ศักดิ์ศรี อะไร
กินได้หรื อ มีผลประโยชน์อยูข่ า้ งในก็พอแล้ว
แม้แต่อาจารย์ซูหยอกล้อต่อหน้าเสิ่ นเวยยังไม่สนใจ กลอกตาทั้งคู่
กล่าว “มีอะไรให้เสี ยประโยชน์หรื อ” คนเหล่านี้ต่างก็ไม่มีงานทา
คุณชายใหญ่ของนางเต็มใจจะกลัวภรรยา เต็มใจจะหลงนาง ไปขัด
ขาใครหรื อ ไม่น่าเลื่อมใสหรื อ มากัดข้าสิ ! เจ้ากล้าหรื อไม่ ข้าจะโบย
เจ้าให้ตายภายในไม่กี่นาที
ไม่นานนักทุกคนก็เลิกถกเถียงเรื่ องนี้ เพราะว่าในราชสานักมีเรื่ อง
ใหญ่เกิดขึ้นแล้ว
ผูต้ รวจการราชสานักโจวรับพระราชโองการไปสื บคดีแม่ทพั อัน
ทุจริ ตเงินเดือนทหารลับลอบขายม้าที่ด่านชายแดนตอนเหนือมิใช่
หรื อ ผ่านการลอบสังหารตลอดเส้นทาง ภายใต้การคุม้ กันของทหาร
เงาที่สวีโย่วส่ งไปในที่สุดก็ไปถึงด่านชายแดน ตอนนี้ส่งข่าวกลับ
มาแล้ว
ฮ่องเต้ยงเซวียนทอดพระเนตรอ่านสาส์นลับของผูต้ รวจการโจวห้า
รอบเต็มๆ ตบโต๊ะบันดาลโทสะทันที “ดี ดี เจ้าแต่ละคนเป็ นขุนนาง
ดีของเราจริ งๆ!”
บอกว่าอันอี้ทุจริ ตเงินเดือนทหาร ผูต้ รวจการโจวสื บหาตรวจสอบ
เงินเดือนที่ถูกทุจริ ตจานวนนั้นไม่ถึงมือกองทัพตอนเหนืออย่าง
สิ้ นเชิง ถูกคนเก็บเอาไว้กลางทาง บังอาจจริ งๆ!
ในสาส์นลับยังบอกว่ากาลังสื บเรื่ องลักลอบขายม้า ในเมื่อทุกจริ ต
เงินเดือนทหารเป็ นการใส่ ร้ายป้ายสี เช่นนั้นลักลอบขายม้าก็ยงิ่ ไม่มี
ทางเป็ นฝี มือของอันอี้
ในพระตาหนักจินหลวน ฮ่องเต้ยงเซวียนโยนสาส์นของผูต้ รวจการ
โจวทิ้ง ที่โยนทิ้งไปด้วยยังมีหลักฐานที่ผตู ้ รวจการโจวสื บหาได้
“สื บ กรมอาญา กรมพระคลัง ศาลต้าหลี่ สานักตรวจตรา ไปสื บให้
หมด เราจะดูวา่ ใครที่มนั บังอาจฆ่าใส่ความแม่ทพั ใหญ่อนั ของเรา”
ฮ่องเต้ยงเซวียนไม่เพียงแต่ทรงพิโรธ แต่ยงั รู ้สึกไม่เป็ นธรรม สี ปี
ก่อน แต่ละคนๆ บอกเขาว่าหลักฐานมัดตัว บอกว่าอันอี้กลัวความผิด
จึงฆ่าตัวตาย แต่ความจริ งเล่า
ฮ่องเต้ยงเซวียนน้อยนักที่จะบันดาลโทสะเช่นนี้ ขุนนางทั้งหมดข่าง
ล่างต่างก็อกสัน่ ขวัญหาย
แม่ทพั อันอี้ถูกฆ่าใส่ ความ เรื่ องนี้เร็ วอย่างยิง่ ก็ดงั ไปถึงหูคนทุก
ระดับชั้นทั้งในภาคราชสานักและภาคประชาชน มีพระบรมราช
โองการของฮ่องเต้ยงเซวียน คดีเมื่อสี่ ปีก่อนถูกรื้ อออกมาอีกครั้ง
ใครเป็ นผูพ้ ิพากษา ผูใ้ ดเป็ นพยาน ใครเป็ นผูก้ ล่าวหา รื้ อออกมา
ทั้งหมด
ประชาชนชาวบ้านในเมืองหลวง ที่ค่อนข้างมีอายุต่างก็หวนนึกถึงปี
นั้น ตอนนั้นแม่ทพั เล็กอันนาทัพออกจากเมือง ไอหยา แม่ทพั เล็กชุด
เงิน ขี่อยูบ่ นม้าตัวสู งใหญ่ มีกาลังวังชามากเป็ นพิเศษ มีราศีมากเป็ น
พิเศษ เป็ นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดียงิ่ นัก!
ชัว่ พริ บตาก็กลายเป็ นเถ้าถ่านแล้ว ไม่คิดว่าจะถูกฆ่าใส่ ความ เฮ้อ
ประหารทั้งตระกูล แม้แต่ทายาทยังไม่เหลือไว้ น่าสงสารยิง่ นัก!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 257-1 จิตใจกตัญญูของสวีโย่ ว
วันหยุดประจาสัปดาห์ สวีโย่วไม่เกาะแกะอย่างไม่น่าเชื่อ แต่กลับ
ตื่นแต่เช้าตรู่ ทานอาหารเช้าเสร็ จเขาก็เดินออกไปข้างนอกอย่างมี
ชีวิตชีวา เดินไปสองก้าวก็หนั หน้ากลับมา มองเสิ่ นเวยที่ขดตัวไม่
เป็ นรู ปไม่เป็ นร่ างอย่างยิง่ อยูบ่ นเก้าอี้ไผ่ลาย มุมปากก็ยกขึ้น “จาไว้
นะ คืนนี้ตอ้ งชดเชยสองเท่า”
เสิ่ นเวยโบกมืออย่างขบขา “รู ้แล้ว รู ้แล้ว ไปเถอะ รี บไป” อยากจะ
ตามไปดูคุณชายใหญ่มาดห้าวหาญเหลือเกิน! คิดๆ ดูแล้วก็อย่าราด
น้ ามันบนกองไฟเลยดีกว่า
“ท่านจวิน้ อ๋ อง ท่านมาแล้ว! ท่านอ๋ องพระชายาและท่านซื่อจื่อต่างก็
รออยู”่ คนที่มาต้อนรับสวีโย่วด้วยตัวเองคือพ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียน เขา
โค้งตัวแย้มยิม้ ท่าทางเคารพ
สวีโย่วพยักหน้าเล็กน้อย เดินมือไพล่หลังเข้าไปในเรื อนของพระ
ชายาจิ้นอ๋ อง เมื่อคืนสัง่ คนมาส่ งข่าว ว่าวันนี้เขาจะกลับจวนทา
หน้าที่ลูกกตัญญู มาเคารพพ่อเขา และถือโอกาสกระชับ
ความสัมพันธ์กบั น้องชายทั้งหลาย
“ท่านจวิน้ อ๋ อง พวกนางไม่ตอ้ งตามมาก็ได้กระมัง” พ่อบ้านเสี่ ยว
เฉวียนชี้สตรี วยั แรกแย้มสองกลุ่มที่ตามมาข้างหลัง ถามกลับอย่างดื้อ
รั้น
หนังตาของสวีโย่วไม่เหลือบขึ้นแม้แต่นอ้ ย เสมือนว่าไม่ได้ยนิ เจียง
ไป๋ ยิม้ แย้มดึงพ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนออกมาข้างๆ “ข้าจะบอกให้นะ
พ่อบ้านใหญ่ จิตใจของท่านเป็ นกังวลเกินไปแล้วหรื อกระมัง เหล่านี้
ล้วนแต่เป็ น ‘จิตใจกตัญญู’ ของนายท่านพวกเรา จะไม่ตามไปได้
อย่างไร” เขาเพยิดคางชี้สตรี เหล่านั้นเล็กน้อย กล่าวอย่างแฝงความ
นัย “พวกเราต่างก็เป็ นบ่าวรับใช้ ต้องรู ้จกั ลาดับความสาคัญปฏิบตั ิ
ตามกฎระเบียบ รู ้วา่ เรื่ องใดถามได้ เรื่ องใดถามไม่ได้ ใช่หรื อไม่
พ่อบ้านใหญ่” เขาใช้ศอกกระทุง้ พ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนเล็กน้อย ท่าทาง
สนิทสนม
พ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนที่ถูกเจียงไป๋ ลากออกมาแทบจะร้องไห้แล้ว ดู
แนวรบนี้ของผิงจวิน้ อ๋ องไหนเลยจะเป็ นการมาเคารพอย่างเรี ยบง่าย
ในใจเขาพะว้าพะวง แต่เมื่อสบสายตาที่เต็มไปด้วยรอยยิม้ ของเจียง
ไป๋ เขาอ้าปากแล้ว ท้ายที่สุดก็ถอนหายใจ คาพูดขัดขวางก็ไม่กล้าพูด
อีกต่อไป
บ่าวสองคนนี้ขา้ งกายผิงจวิน้ อ๋ องคือหายนะ อย่ามองว่าเจียงไป๋ ยิม้
แย้มอารมณ์ดีท้ งั วัน แต่พอ่ บ้านเสี่ ยวเฉวียนกลับรู ้วา่ เขาพลิกหน้า
แล้วไร้ความปราณี คราวก่อนนายท่านใหญ่ตระกูลซ่งมาที่จวน บ่าว
รับใช้คนหนึ่งข้างกายเขาไม่เคารพผิงจวิน้ อ๋ องเล็กน้อย ก็ถูกเจียงไป๋
ถีบกระดูกซี่โครงหักไปสามท่อนโยนออกจากประตูใหญ่ ท่านอ๋ อง
โมโหแทบตาย ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ลงโทษเขามิใช่หรื อ
“เสด็จพ่อ ไม่พบกันนานไม่เจ็บป่ วยใช่หรื อไม่!” สวีโย่วกล่าวด้วยสี
หน้าเมินเฉย หลังจากนั้นก็พยักหน้าให้สวีเยีย่ และคนอื่นๆ
เดิมจิ้นอ๋ องเห็นบุตรคนโตก็ยงั ดีใจหลายส่ วน โดยเฉพาะลูกคนนี้ยงั
มาเคารพเขา แม้วา่ เขาจะไม่ได้ใส่ ใจบุตรคนโต แต่อย่างไรเสี ยบุตร
คนโตก็มีความสามารถ นี่ทาให้ในใจเขาเองก็รู้สึกมีเกียรติ
ใครจะรู ้พอบุตรคนโตเอ่ยปากก็ทกั ว่าไม่พบกันนานไม่เจ็บป่ วยใช่
หรื อไม่ อะไรคือไม่พบกันนานไม่เจ็บป่ วยใช่หรื อไม่ ลูกอกตัญญูคน
นี้ยา้ ยออกไปไม่กี่วนั ก็ทกั เขาว่าไม่พบกันนานไม่เจ็บป่ วยใช่หรื อไม่
แล้วหรื อ เขาย่อมไม่เจ็บป่ วย สบายดีอย่างยิง่ ทุกวันกินอิ่มนอนหลับ
กาลังวังชายอดเยีย่ ม
สวีโย่วไม่สนว่าในใจจิ้นอ๋ องจะคิดเช่นไร สะบัดชุดคลุมนัง่ ลงบน
เก้าอี้ มองพระชายาจิ้นอ๋ อง กล่าวทักทาย พระชายาเองก็ไม่เจ็บป่ วย
ใช่หรื อไม่” ดูจากสี หน้าก็ยงั ไม่เลว ดูท่าแล้วจิตใจของเขาจะอ่อนไป
เล็กน้อย! เขาไม่ควรส่ งซ่งอี๋จยากับซ่งอี๋ฮุ่ยเข้าไปในเรื อนของสวีเยีย่
กับสวีเหยียน แต่ควรจะโยนไปบนเตียงของเสด็จพ่อเขาแทน
“พูดจาอะไรกัน” จิ้นอ๋ องสี หน้าเคร่ งขรึ ม ตาหนิหนึ่งประโยคอย่าง
ไม่พอใจ
ทว่าพระชายาจิ้นอ๋ องกลับห้ามเขา “คุณชายใหญ่อุส่ามา มีอะไรก็พดู
กันดีๆ ไม่ได้หรื อ” จากนั้นก็ยมิ้ กับสวีโย่ว “สบายดี ข้ากับเสด็จพ่อ
เจ้าสบายดียงิ่ นัก จริ งสิ เหตุใดภรรยาเจ้าถึงไม่กลับมาด้วยกันเล่า”
ท่าทางเป็ นห่วงอย่างมาก
สวีโย่วชายตามองนางปราดหนึ่ง ตอบไม่ตรงคาถาม “จริ งสิ ฟังว่า
ลูกผูน้ อ้ งสองคนฝั่งมารดาพระชายาก็อยู่ เหตุใดจึงไม่เห็นเล่า”
เมื่อได้ยนิ สวีโย่วเอ่ยถึงซ่งอี๋จยากับซ่งอี๋ฮุ่ย สี หน้าคนหลายคนต่างก็
ไม่ดีนกั เมื่อไม่กี่วนั ก่อนเรื่ องวุน่ วายใจปี นขึ้นเตียงเรื่ องนั้นไม่วา่
ความจริ งจะเป็ นเช่นไร แต่สวีเยีย่ กับสวีเหยียนแตะต้องตัวซ่งอี๋ฮุ่ย
กับซ่งอี๋จยาแล้วกลับเป็ นเรื่ องจริ ง แม้วา่ พวกนางสองคนจะเป็ น
บุตรสาวอนุภรรยา แต่กย็ งั เป็ นลูกผูน้ อ้ งของสวีเยีย่ กับสวีเหยียน ก็
ต้องรับผิดชอบมิใช่หรื อ ต่อให้อ๋ ูซื่อกับหูซื่อจะไม่ยนิ ยอม ในเรื อน
ของพวกนางต่างก็ตอ้ งมีอนุภรรยาเพิม่ ขึ้นอีกหนึ่งคน รอแค่เพียง
เลือกฤกษ์ยกน้ าชา
มีเพียงสวีฉงั่ ที่กล่าวด้วยสี หน้าอิจฉา “พี่ใหญ่ยงั ไม่รู้ใช่หรื อไม่ อีกไม่
ช้าลูกผูน้ อ้ งสองคนก็จะกลายเป็ นคนในเรื อนของพี่รองพี่สามแล้ว”
เหตุใดเรื่ องดีเช่นนี้จึงไม่ถึงตาเขาบ้าง โดยเฉพาะลูกผูน้ อ้ งอี๋จยา
เรื อนร่ างนัน่ มองปราดเดียวกระดูกในร่ างกายก็อ่อนไปกว่าครึ่ งแล้ว
พี่สามโชคดียงิ่ นัก!
สวีโย่วพยักหน้า “อืม นี่เป็ นเรื่ องดี! แต่ไหนแต่ไรพระชายาก็ยกย่อง
ชมเชยบุคลิกนิสัยของลูกผูน้ อ้ งสองคน มีพวกนางสองคนปรนนิบตั ิ
ข้างกายน้องรองน้องสาม พระชายาก็สามารถวางใจได้ไม่นอ้ ย
น้องสะใภ้สองคนก็ลดภาระลงได้ไม่นอ้ ย กลับไม่ทาให้ความ
พยายามของข้าเสี ยแรงเปล่า” สวีโย่วยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่านี่
คือฝี มือของเขา
“อะไรนะ พี่ใหญ่ ฝี มือท่านหรื อ” สวีฉงั่ ที่สะกดอารมณ์ไม่อยู่
กระโดดขึ้นมาทันที ตอนที่เกิดเรื่ องแม้วา่ เขาจะไม่อยูใ่ นจวน แต่
ภายหลังก็ได้ยนิ บ่าวในเรื อนพูดถึง ที่แท้แล้วลูกผูน้ อ้ งสองคนไป
ปรากฎตัวอยูบ่ นเตียงของพี่รองพี่สามก็เป็ นฝี มือของพี่ใหญ่นี่เอง!
ช่าง ช่างลาเอียงเกินไปจริ งๆ พี่ใหญ่ เหตุใดท่านถึงไม่ส่งให้ขา้ สักคน
บ้าง สายตาที่สวีฉงั่ มองพี่ใหญ่เขามีความไม่พอใจปรากฎเด่นชัด
นอกจากสวีฉงั่ คนโง่ผนู ้ ้ ีแล้ว หลายคนที่เหลือก็หน้าเปลี่ยนสี
จิ้นอ๋ องตบโต๊ะก่นด่า “เจ้าลูกอกตัญญูแท้จริ งแล้วเจ้าทาอะไรกันแน่
เจ้าใช่ตอ้ งยัว่ โมโหข้าให้ตายจึงจะพอใจหรื อไม่”
พระชายาจิ้นอ๋ องกุมหน้าร้องไห้ “คุณชายใหญ่ทาเพื่ออะไรกัน
น้องชายเจ้าไปก่อเรื่ องให้เจ้าหรื อ”
ริ มฝี ปากของสวีเหยียนเม้มแน่น ส่ วนสวีเยีย่ ก็มีสายตาซับซ้อน
ผิดปกติ “พี่ใหญ่ เหตุใดต้องทาถึงเพียงนี้!” แม้พวกเขาจะไม่สนิท แต่
อย่างไรเสี ยก็ยงั เป็ นพี่นอ้ งกัน!
ทว่าสวีโย่วกลับไขว่หา้ งดื่มชาราวกับไม่ใช่คนบงการ เขาเกลี่ยฟอง
ใบชาเบาๆ จิบช้าๆ หนึ่งอึก ขยับริ มฝี ปากเล็กน้อยแล้วจึงกล่าว “ทา
เพื่ออะไรงั้นหรื อ พระชายาไม่ใช่รู้ดีแก่ใจหรื อ ท่านบอกไม่ใช่หรื อ
ว่าลูกผูน้ อ้ งสองคนต่างก็เป็ นผูท้ ี่เหมาะสม วางแผนเป็ นร้อยเป็ นพัน
คิดจะยัดเยียดพวกนางให้ขา้ มิใช่หรื อ ข้าสุ ขภาพไม่ค่อยดีนกั ในด้าน
สตรี กต็ อ้ งรอบคอบหน่อย เพื่อไม่ทาให้พระชายาผิดหวัง ข้าจึงคิดวิธี
นี้ไม่ใช่หรื อ น้องรองน้องสามก็เหมือนข้ามิใช่หรื อ หรื อจะบอกว่า
พระชายาคิดแต่จะเตรี ยมให้ขา้ ล่วงหน้าจนลืมน้องรองกับน้องสาม
ไปงั้นหรื อ ให้เป็ นเช่นนั้นไม่ได้ พระชายาจะทาอะไรต้องมีความ
ยุติธรรม”
จากนั้นจึงมองสวีเยีย่ อย่างเฉยเมย “น้องรองว่าอย่างไรนะ เหตุใดต้อง
ทาถึงเพียงนี้หรื อ ที่พระตาหนักจินหลวนพี่ใหญ่กพ็ ดู ชัดเจนอย่างยิง่
แล้วมิใช่หรื อ พี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเจ้าเป็ นคนใจแคบ เมื่อครู่ พระ
ชายายังถามว่าเหตุใดนางถึงไม่มาด้วยกัน ป่ วยแล้ว ตั้งแต่กลับจาก
จวนอ๋ องไปก็ป่วย แน่นหน้าอก ดื่มยาอยูห่ ลายวันก็ยงั ไม่ดีข้ ึน หาก
ข้าไม่ช่วยนางระบายอารมณ์สกั หน่อยหากนางอัดอั้นจนเป็ นอะไร
ไป พี่ใหญ่พวกเจ้าคงจะกลายเป็ นพ่อหม้าย พวกเราต่างก็เป็ นพี่นอ้ ง
พวกเจ้าคงไม่อาจทนเห็นข้าโดดเดี่ยวเดียวดายได้กระมัง” สี หน้า
ของสวีโย่วจริ งจังยิง่ นัก
“พระชายาก็บอกแล้ว บุรุษในสังคมนี้คนใดบ้างที่ไม่มีสามสี่ ภรรยา
เห็นได้วา่ พระชายาเห็นด้วยกับเรื่ องนี้ หลายปี มานี้ขา้ เองก็ไม่ได้ส่ง
ของขวัญอะไรให้พวกท่าน ลูกผูน้ อ้ งสองคนก็ถือเป็ นของขวัญใหญ่
ที่พี่มอบให้พวกเจ้า รับไว้ดีๆ พี่ใหญ่พวกเจ้าสุ ขภาพไม่ดี ซ้ ายังกลัว
ภรรยา แต่งอนุแต่งอี๋เหนียงต่างๆ ถือว่าอย่าเลย หลังจากนี้พระชายาก็
ไม่ตอ้ งทุกข์ใจเรื่ องข้าแล้ว”
“เจ้าลูกอกตัญญูพดู อะไรของเจ้า เจ้าไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ไสหัวไปให้
ไกล ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก” จิ้นอ๋ องออกแรงขว้างแก้วลงพื้น
โมโหเลือดขึ้นหน้า ชี้สวีโย่วก่นด่าใหญ่ “เจ้าบอกไม่ใช่หรื อว่ามา
แสดงความกตัญญูต่อข้า ข้าว่าจิตใจกตัญญูของเจ้าคงเอาไปให้หมา
กินแล้วกระมัง”
“อย่าร้อนใจไปเสด็จพ่อ จิตใจกตัญญูของลูกไม่ใช่อยูต่ รงนั้นหรอก
หรื อ” สวีโย่วตบมือ “เข้ามาให้หมด”
ตามเสี ยงตบมือของสวีโย่ว นอกประตูกม็ ีสตรี วยั แรกแย้มสิ บคนเดิน
เข้ามาเป็ นสองแถวด้วยความชดช้อยอ่อนหวาน โน้มตัวเคารพอย่าง
พร้อมเพรี ยง คารวะท่านอ๋ องพระชายาผิงจวิน้ อ๋ องและคุณชาย
ทั้งหลายเจ้าค่ะ”
“นี่ นี่ พวกนางเป็ นใครกัน เจ้าจะเล่นลูกไม้อะไรอีกแล้ว พาออกไป
รี บพาออกไปเดี๋ยวนี้” ท่านจิ้นอ๋ องตกใจจนปากอ้าตาค้าง ครู่ ใหญ่
กว่าจะหาเสี ยงของตัวเองกลับมาได้
ส่ วนสวีเยีย่ สวีเหยียนสวีฉงั่ ก็จบั ต้นชนปลายไม่ถูก มีเพียงพระชายาจิ้
นอ๋ องที่คล้ายคิดอะไรอยู่ ในใจมีลางสังหรณ์ไม่ดีปรากฏขึ้นมา
“นี่กค็ ือจิตใจกตัญญูของลูกอย่างไรเล่า!” สวีโย่วเชิดคางอย่างไร้
เดียงสา “ลูกคิดว่าข้างกายเด็จพ่อไม่มีคนใหม่มานานแล้ว ในเรื อน
น้องรองน้องสามก็ไม่มีหญิงงามอะไร จึงขอหญิงงามสิ บคนจากฝ่ า
บาท สี่ คนในนั้นมอบให้เสด็จพ่อ น้องรองน้องสามแบ่งกันคนละ
สามคน บวกกับลูกผูน้ อ้ งก็เป็ น ‘สี่ ’ ทุกเรื่ องสมดังใจหวัง! ขอเสด็จ
พ่อกับน้องรองน้องสามจงรับไว้เถิด”
จิ้นอ๋ องโมโหจนหน้าเขียวจัด ไม่รอให้เขาบันดาลโทสะ สวีฉงั่ ก็ชิง
ไม่พอใจก่อนแล้ว “พี่ใหญ่ แล้วข้าเล่า แล้วข้าเล่า ท่านลืมน้องไปแล้ว
ใช่หรื อไม่ เหตุใดท่านถึงเลือกที่รักมักที่ชงั เช่นนี้ หญิงงามสิ บคนให้
ข้าสักคนเถิด” สวีฉงั่ มองหญิงงามทั้งหมดตรงหน้า ดวงตาตะลึงงัน
ให้ตายเถอะ พี่ใหญ่ไปเสาะหาของดีมาจากไหน แต่ละคนงดงามยอด
เยีย่ มจริ งๆ แทบไม่ต่างจากหญิงงามแถวหน้าในหอเสพสาราญเลย
“ฉัง่ เอ๋ อร์เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้” พระชายาจิ้นอ๋ องตะคอกใส่ สวีฉงั่ ด้วยสี
หน้าไม่ดีนกั ทั้งอัดอั้นทั้งโมโห สายตาที่ดุร้ายจ้องมองสวีโย่ว ราว
กับว่าจะกินเขาแล้ว
“ไป เจ้าไสหัวไป ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!” จิ้นอ๋ องเตะโต๊ะคว่า เห็นได้วา่
โกรธอย่างรุ นแรง สวีเยีย่ สวีเหยียนเข้าไปห้าม “เสด็จพ่อท่านโปรด
ระงับโทสะ พี่ใหญ่ไม่ได้ต้ งั ใจ”
ทว่าสวีโย่วกลับทาราวกับว่าเรื่ องนี้ไม่เกี่ยวกับตนเอง เลิกชุดคลุมลุก
ขึ้นยืน กล่าวกับสวีฉงั่ ด้วยความอ่อนโยน “น้องสี่ เจ้ายังไม่แต่งงาน
ตอนนี้ยงั ไม่ควรแต่งอนุภรรยา นี่ไม่เหมาะสมกับกฎของวงศ์ตระกูล
เอาเช่นนี้แล้วกัน หากเจ้าชอบจริ งๆ รอเจ้าแต่งงานแล้วพี่ใหญ่จะส่ ง
ให้เจ้าหลายคน”
“จริ งหรื อ สวยเช่นนี้หมดเลยหรื อ” สวีฉงั่ แสยะปากยิม้ ดีใจ
สวีโย่วยิม้ พยักหน้า “สวยกว่านี้กม็ ี”
“ได้ๆๆ เช่นนั้นน้องขอบคุณพี่ใหญ่ไว้ก่อนเลย” สวีฉ่างประสานมือ
คารวะสวีโย่วอย่างเอาจริ งเอาจัง จิตใจเบิกบาน
สวีโย่วยิม้ จากนั้นจึงหันกลับ กล่าว “เสด็จพ่อท่านรักษาร่ างกายเถิด
ลูกจะไปเดี๋ยวนี้” สะบัดชุดคลุม เดินออกไปอย่างคล่องแคล่ว เดินไป
ได้สองก้าวก็หนั กลับมาราวกับนึกอะไรขึ้นได้ “อ้อจริ งสิ หญิงงาม
สิ บคนนี้ลว้ นแต่เป็ นนางกานัลที่ฝ่าบาทพระราชทานให้ พระชายาทั้ง
มีความสามารถทั้งใจกว้างเมตตา ต้องลาบากท่านแบ่งให้เสด็จพ่อ
และน้องรองน้องสามแล้ว”
พระชายาจิ้นอ๋ องได้ยนิ ดังนั้นเบื้องหน้าก็ดามืด คนข้างกายลนลาน
ตะโกนเสี ยงดังพร้อมกัน “เสด็จแม่ เสด็จแม่ท่านเป็ นอะไรไป” “พระ
ชายาท่านไม่เป็ นไรใช่หรื อไม่” “รี บไปเชิญหมอมา”
เสี ยงที่วา้ วุน่ ดังเข้าไปในหูของสวีโย่ว เขากระตุกมุมปาก ในดวงตา
เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม พระชายา ค่อยๆ เตรี ยมรับเถิด! อืม ใน
ที่สุดก็ช่วยเวยเวยระบายความโกรธได้แล้ว
เหตุใดพระชายาจิ้นอ๋ องถึงโกรธจนเป็ นลมได้เล่า สวีโย่วส่ งหญิงงาม
มาสิ บคนนางไม่ได้ใส่ ใจอย่างสิ้ นเชิง ตกอยูใ่ นมือนางแล้วก็ปล่อยให้
นางจัดการได้มิใช่หรื อ สตรี วยั แรกแย้มที่อ่อนช้อยเช่นนี้ ต่อให้เอา
ออกไปขายก็ยงั สามารถขายได้เงินไม่นอ้ ย แต่สวีโย่วดันเอานาง
กานัลที่ฝ่าบาทพระราชทานมา นางกานัลที่ฝ่าบาทพระราชทานอย่า
ว่าแต่ขายไม่ได้ ยังต้องดูแลให้ดี มิเช่นนั้นจะเป็ นการไม่เคารพต่อฝ่ า
บาท จะต้องถูกลงโทษ เจ้าว่าพระชายาจิ้นอ๋ องจะไม่เป็ นลมได้หรื อ
ไม่กระอักเลือดออกมาก็ดีเท่าไรแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 257-2 จิตใจกตัญญูของสวีโย่ ว
เสิ่ นเวยที่สวีโย่วบอกว่าพักฟื้ นอาการป่ วยอยูใ่ นจวนกลับไม่อยูใ่ น
จวน หลังสวีโย่วไปได้ไม่นานเสี่ ยวตี๋กม็ าแล้ว “จวิน้ จู่ เสี่ ยวอันอยาก
พบท่านเจ้าค่ะ”
“เสี่ ยวอันหรื อ” เสิ่ นเวยประหลาดใจ เสี่ ยวอันคือใคร นางจาไม่ได้วา่
นางรู ้จกั คนผูน้ ้ ี
เสี่ ยวตี๋ตบหน้าผากนึกออกทันที กล่าวอธิบาย “จวิน้ จู่ เสี่ ยวอันก็คือ
คนผูน้ ้ นั ที่พวกเราช่วยหลังกลับมาจากซีเจียงตอนนั้น คือนายโลมผู ้
นั้น” นางกล่าวเตือน
เสิ่ นเวยเพิ่งจะนึกออก “เขาน่ะหรื อ เขายังไม่ไปอีกหรื อ” ตอนแรกที่
ช่วยไว้เพียงแค่ถือโอกาส นางคิดว่าคนผูน้ ้ นั จากไปนานแล้ว
“เปล่า” เสี่ ยวตี๋ส่ายหน้า “เสี่ ยวอันหายดีแล้วก็ไม่ได้เอ่ยปากว่าจะไป
ผูน้ อ้ ยเคยพูดครั้งหนึ่ง เขาบอกว่าไม่มีที่จะไป ผูน้ อ้ ยนึกถึงตอนแรก
ที่เขาบอกว่าเชี่ยวชาญการคานวณและกลไก จึงเก็บเขาไว้ เขากลับ
ซื่อสัตย์อย่างยิง่ หางานมาทาเอง ซ้ ายังไม่ถามนู่นถามนี่ นอกจากถาม
หาพูก่ นั หมึกกระดาษกับผูน้ อ้ ยแล้วก็ไม่เคยร้องขออะไรที่เกินไป
เลย” ดูออกว่าเสี่ ยวตี๋มีความประทับใจต่อเสี่ ยวอันผูน้ ้ ีอย่างมาก
“เจ้าเอ่ยถึงฐานะของข้าต่อหน้าเขาแล้วหรื อ แล้วรู ้หรื อไม่วา่ เหตุใด
เขาถึงขอพบข้า” คิ้วของเสิ่ นเวยขมวดมุ่น
บนใบหน้าเสี่ ยตี๋มีความกระดากใจปรากฏขึ้น “จวิน้ จู่ เป็ นผูน้ อ้ ยที่
สะเพร่ า มีครั้งหนึ่งที่พดู พลั้งปาก ผูน้ อ้ ยเอ่ยคาว่าจวิน้ จู่ออกไป คาด
ว่าเสี่ ยวอันคงจะเดาได้จากตรงนี้กระมัง”
หยุดครู่ หนึ่งนางจึงกล่าวต่อ “สาหรับเหตุผลที่ตอ้ งการพบท่าน เขา
กลับไม่ได้บอก เพียงแค่ฝากข้ามาบอกท่านให้ได้ อีกทั้งยังให้สิ่งนี้
กับผูน้ อ้ ย บอกว่าให้นามาให้ท่านดู” เสี่ ยวตี๋ยนื่ ซองจดหมายที่ยงั ไม่
เปิ ดซองฉบับหนึ่งเข้าไป
เสิ่ นเวยรับมาเปิ ดออก ดึงกระดาษข้างในออกมาอ่าน ยิง่ อ่านลงไป
ข้างล่าง สี หน้าก็ยงิ่ เคร่ งขรึ ม ที่แท้แล้วในกระดาษล้วนเป็ นภาพกลไก
แต่ละภาพๆ จุดที่ชานาญแม้แต่คนที่ทะลุมิติมาจากยุคปั จจุบนั เช่น
นางยังตกตะลึง ดูท่าแล้วเสี่ ยวอันผูน้ ้ ียงั เป็ นผูม้ ีฝีมือจริ งๆ
“ไปเถอะ ข้าจะไปพบเขาเสี ยหน่อย” เสิ่ นเวยเก็บกระดาษกลับเข้าไป
ในซอง ไม่พดู ไม่ได้วา่ เสี่ ยวอันอะไรนี่ดึงดูดความสนใจของนาง
สาเร็ จ อย่างไรเสี ยก็วา่ งไม่มีอะไรทา ไปดูเสี ยหน่อยว่าเขาต้องการ
อะไรกันแน่
เสี่ ยวตี๋นาเสิ่ นเวยเลี้ยวเลาะมาถึงเรื อนหลังเล็กที่ไม่ดึงดูดสายตาหลัง
หนึ่ง เคาะประตูเบาๆ เพียงแค่ชวั่ ครู่ ประตูกเ็ ปิ ดออกจากข้างใน เป็ น
ชายรู ปร่ างเตี้ยอายุประมาณยีส่ ิ บปี เห็นเสี่ ยวตี๋กด็ ีใจอย่างนิ่ง กาลังจะ
พูดอะไร จู่ๆ ก็เห็นเสิ่ นเวยที่ตามมาข้างหลัง รี บยืนคานับ “นายท่าน”
เสิ่ นเวยพยักหน้า “ไม่ตอ้ งมารยาทมาก เข้าไปเถอะ”
นี่ยงั คงเป็ นครั้งแรกที่เสิ่ นเวยมายังจุดประสานงานของทหารลับ
อยากรู ้อยากเห็นเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ แต่หลังจากดูไปได้พกั หนึ่ง
แล้วนางก็ไม่ได้สนใจ ก็แค่เรื อนหลังเล็กที่ธรรมดาที่สุด ต่อให้ดู
มากกว่านี้กไ็ ม่มีดอกไม้บานออกมาหรอก
ไม่นานนักเสี่ ยวอันก็ถูกพาเข้ามา “ผูน้ อ้ ยคารวะจวิน้ จู่” เขาคานับ
อย่างนอบน้อม
คิ้วของเสิ่ นเวยเลิกขึ้น หัวเราะเงียบๆ เล็กน้อย เกรงว่าเสี่ ยวอันผูน้ ้ ีจะ
ไม่ใช่คนธรรมจริ งๆ แค่ดูจากกิริยาการเดินและการคานับของเขาก็ดู
ออกเล็กน้อยแล้ว ของบางอย่างก็ตีตราอยูบ่ นตัว ไม่ใช่วา่ เจ้าปิ ดแล้ว
จะปิ ดได้
“ฟังว่าเจ้าอยากพบข้างั้นหรื อ” เสิ่ นเวยพูดเข้าประเด็น
“ไม่ทราบว่าของของผูน้ อ้ ยเข้าตาจวิน้ จู่บา้ งหรื อไม่ขอรับ” เสี่ ยวอัน
ไม่ตอบแต่ถามกลับ
มุมปากของเสิ่ นเวยยกขึ้นเล็กน้อย “ไม่เลวเลย ภาพกลไกของเจ้าเป็ น
ภาพที่ประณี ตที่สุดที่ขา้ เคยเห็นในชีวิตนี้ ไม่รู้วา่ ฝี มือของเจ้าใช่จะ
เป็ นเช่นนี้เหมือนกันหรื อไม่” ไม่ใช่วา่ รู ้เพียงกลยุทธ์บน
แผ่นกระดาษเหมือนกับจ้าวคัว่ หรอกนะ
เสี่ ยวอันชายตามองเสิ่ นเวยปราดหนึ่ง กล่าวอย่างตั้งใจ “ขอเพียงแค่
จวิน้ จู่รับปากผูน้ อ้ ยเรื่ องหนึ่ง ผูน้ อ้ ยจะไม่ทาให้จวิน้ จู่ผดิ หวัง
เด็ดขาด” มือของเขากาแน่น พยายามสงบความตื่นเต้นภายในใจ
โอกาส นี่คือโอกาสล้างแค้นเพียงครั้งเดียวของเขา เขาจะต้องคว้าไว้
ให้ได้ เขาไม่กล้าดูถูกสตรี ที่อายุนอ้ ยกว่าเขาหลายปี ผูน้ ้ ีตรงหน้าเลย
แม้แต่นิดเดียว เขาอยูใ่ นเรื อนหลังเล็กแห่งนี้ได้หลายเดือนแล้ว จาก
เงื่อนงาเบาะแสในวันปกติก็สามารถคาดเดาได้วา่ คนเหล่านี้เป็ นคน
ประเภทใด แล้วคนที่เป็ นนายของพวกเขาจะเป็ นคนธรรมดาได้
อย่างไร เขาไม่สนว่านางจะเป็ นจวิน้ จู่ตระกูลใด ขอเพียงแค่สามารถ
ช่วยเขาล้างแค้นได้ ต่อให้จะเป็ นปี ศาจเขาก็ยนิ ยอมถวายชีวิตของเขา
เสิ่ นเวยยังคงสนใจจริ งๆ ในจวนเสนาบดีฉินจะต้องมีหอ้ งลับอยู่
แน่นอน เสี่ ยวอันผูน้ ้ ียงั ส่ งไปใช้งานได้จริ งๆ “ขอเพียงแค่ไม่ผดิ หลัก
ทานองคลองธรรมเจ้าก็พดู มาเถอะ”
เสี่ ยวอันมองเสิ่ นเวยนิ่งๆ หลังจากนั้นก็คุกเข่าลงบนพื้นเสี ยงดัง
“จวิน้ จู่ ข้าคืออันจยาเหอ อันอี้แม่ทพั ใหญ่อนั คือพ่อข้า”
ประโยคหน้าเสิ่ นเวยไม่ได้สนใจ ประโยคหลังก็เปรี ยบเสมือนฟ้าผ่า
บนที่ราบ เสิ่ นเวยลุกพรวดขึ้นมา “ว่าไงนะ พ่อเจ้าคือแม่ทพั ใหญ่อนั
หรื อ แม่ทพั ใหญ่อนั ที่ถูกฆ่าใส่ ความเมื่อสี่ ปีก่อนหรื อ ตระกูลเขา
ไม่ใช่ตายยกครัวหมดแล้วหรื อ”
ฆ่าใส่ ความคานี้ทาให้อนั จยาเหอตาแดงให้ชวั่ พริ บตา ประหนึ่ง
ย้อนกลับไปในวันตะวันรอนที่อาทิตย์อสั ดงเป็ นสี เลือด พ่อเขาถูก
จับขึ้นรถขนนักโทษ แม่เขาตาย พี่ชายทั้งหลายของเขาตาย น้องสาว
ที่เพิ่งจะหมั้นหมายของเขาก็ตาย ลุงเฝ้าประตูตาย อาหลี่ที่ขบั รถตาย
ยังมีลุงพ่อบ้านที่ตายเช่นเดียกวัน กระทัง่ เสี่ ยวเฮยจื่อที่โตมาพร้อม
กับเขาก็ตาย…ล้วนตายหมดแล้ว พวกเขาล้วนตายหมดแล้ว โลหิ ต
นองพื้น!
“มีเพียงข้าที่ยงั มีชีวิตอยู่ มีเพียงข้าที่ยงั ใช้ชีวิตไปวันๆ” เสี ยงของอันจ
ยาเหอสะอื้นไห้ “จวิน้ จู่ พ่อข้าถูกฆ่าใส่ ความ พ่อข้าเป็ นชายกล้าหาญ
เด็ดเดี่ยว ไม่มีทางทุจริ ตเงินกองทัพทาเรื่ องที่ผดิ ต่อฝ่ าบาทและราช
สานักแน่นอน!”
เสิ่ นเวยพยักหน้า “ใช่ ผูต้ รวจการโจวก็เดินทางไปตรวจสอบที่ด่าน
ชายแดนตอนเหนือแล้ว พ่อเจ้าจะต้องถูกใส่ ความแน่นอน ฝ่ าบาท
ทรงพิโรธ สัง่ ให้ราชสานักตรวจสอบเรื่ องนี้แล้ว เจ้าได้ยนิ ข่าวลือนี้
แล้วใช่หรื อไม่”
“ขอรับ ข้าได้ยนิ พวกเขาพูดโดยไม่ได้ต้ งั ใจ” อันจยาเหอยอมรับด้วย
ความไร้กงั วลอย่างยิง่ “ตอนแรกที่จวิน้ จู่ช่วยไว้น่าจะรู ้ภูมิหลังของ
ข้า ตกอยูใ่ นสถานที่โสมมเช่นนั้น ข้าทาให้บรรพบุรุษตระกูลเหอ
ต้องอับอาย แต่เป็ นลูกหลาน ข้าไม่อาจทนมองพ่อข้าได้รับความไม่
เป็ นธรรมคนในตระกูลถูกฆ่าตายเฉยๆ ได้ เพื่อที่จะแก้แค้น จึงแบก
ร่ างกายที่พิการพยายามมีชีวิตต่อไป จวิน้ จู่ได้โปรดช่วยข้าอีกแรง”
ศีรษะของเขาก้มต่าอย่างยิง่ แม้แต่นายโลมก็เป็ นแล้ว ศักดิ์ศรี ถูกยา่ ยี
ติดพื้นไปนานแล้ว ยังจะห่วงหน้าไปทาไม
“เจ้ารี บลุกขึ้นเถอะ” เสิ่ นเวยรี บกล่าว บุตรของแม่ทพั ใหญ่อนั เขาเอง
ก็เป็ นคุณชายตระกูลดัง คุกเข่าเช่นนี้อย่างกับอะไรดี
ทว่าอันจยาเหอกลับดื้อรั้นไม่ขยับ “จวิน้ จู่ได้โปรดช่วยข้าด้วย” ท่า
ทางเสิ่ นเวยไม่ตอบรับเขาก็จะไม่ลุกขึ้น
เสิ่ นเวยก่ายหน้าผากกล่าว “เจ้ารู ้หรื อว่าข้าคือใคร”
อันจยาเหอส่ ายหน้า “รู ้เพียงแต่วา่ ท่านเป็ นจวิน้ จู่”
เสิ่ นเวยกล่าว “ตาแหน่งจวิน้ จู่น้ ีของข้าไม่ใช่สายโลหิ ตราชนิกลุ ข้า
เกิดในจวนจงอู่โหว ปู่ ข้าคือเสิ่ นผิงยวนที่เคยปกครองซีเจียง ข้าเคย
ได้ยนิ เขาพูดว่ามีสมั พันธไมตรี กบั แม่ทพั ใหญ่อนั เล็กน้อย ยกย่อง
ชมเชยแม่ทพั อันอย่างยิง่ หลังตระกูลเจ้าเกิดเรื่ องปู่ ข้ายังส่ งคนไปหา
ที่ตอนเหนือ แต่น่าเสี ยดาย ข่าวที่ได้รับคือพวกเขาเสี ยชีวิตทั้งตระกูล
เจ้ารี บลุกขึ้นเถอะ หากปู่ ข้ารู ้วา่ แม่ทพั ใหญ่ยงั มีทายาทอยู่ จะต้องไม่
นิ่งดูดายแน่นอน”
อันจยาเหอที่นงั่ อยูม่ ีความรู ้สึกประดังประดาเข้ามา ในดวงตาปรากฏ
ความหวังอันแรงกล้า ดี ดีจริ งๆ ที่แท้แล้วจวิน้ จู่ผนู ้ ้ ีกเ็ ป็ นหลานสาว
ของสหายผูน้ ้ นั ของพ่อเขา! สวรรค์มีตา ในที่สุดก็ให้เขาหาถูกคน
แล้ว
“ข้าขอบคุณบุญคุณช่วยเหลือของจวิน้ จู่ไว้ก่อน” การแก้แค้นมีหวัง
เบ้าตาของอันจยาเหอร้อนผ่าว พยายามกาหมัดบังคับน้ าตากลับไป
ในเมื่อรู ้เรื่ องนี้แล้ว เสิ่ นเวยย่อมไม่อาจไม่ยงุ่ คราวก่อนตอนที่ท่านปู่
เอ่ยถึงเรื่ องของแม่ทพั อัน ในน้ าเสี ยงเต็มไปด้วยความเสี ยใจ เพื่อทา
ให้ปู่นางสบายใจนางก็ตอ้ งลงมือ! ส่ วนจะลงมืออย่างไร ยังคงต้อง
ไปปรึ กษาท่านปู่ กับคุณชายใหญ่ของนางก่อน
“เรื่ องนี้ใหญ่ยงิ่ นัก ข้าต้องกลับไปปรึ กษาท่านปู่ ก่อน เจ้าอยูท่ ี่นี่ไป
ก่อนชัว่ คราว มีเรื่ องอะไรก็ให้พวกเขาส่ งข่าวให้เจ้าก็ได้แล้ว” เสิ่ นเว
ยกล่าวกับอันจยาเหอด้วยความสุ ภาพ
อันจยาเหอพยักหน้า กล่าวขอบคุณอีกครั้ง “ตามแต่ที่จวิน้ จู่จะ
จัดการ” สี่ ปีเขายังรอได้ รออีกไม่กี่วนั จะเป็ นอะไรไป
เสิ่ นเวยพาคนออกไปแล้ว ก่อนไปยังสัง่ ให้เสี่ ยวตี๋เพิ่มการคุม้ กัน
เรื อนหลังนี้ให้เข้มงวดขึ้นอีกด้วย
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 258-1 ลมเมฆแปรปรวน
ในศาลบรรพบุรุษเล็กที่มืดทึบมุมนึงในจวนจิ้นอ๋ อง ยายหรู เบิก
ดวงตาทั้งคู่ที่ข่นุ มัว่ ถือธูปหนึ่งดอกกาลังปั กลงไปในกระถางธูป
ท่ามกลางหมอกควันที่ลอยวนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยย่นของนาง
คล้ายเห็นคล้ายไม่เห็น จุดธูปเสด็จแล้วนางก็ถอยไปหลายก้าวคุกเข่า
บนเบาะกลมกราบไว้อย่างตั้งใจจริ ง เมื่อลุกขึ้นยืนบนใบหน้าก็เต็ม
ไปด้วยความเคารพศรัทธา
สายตาที่มองแท่นบูชาของนางอ่อนโยนเช่นนั้น ราวกับว่านัน่ คือลูก
ของนาง “คุณหนู ตอนนี้อากาศเริ่ มร้อนแล้ว ท่านน่ะเป็ นคนที่กลัว
ร้อนเป็ นที่สุด ทุกปี เมื่อถึงเวลานี้ท่านก็จะวางอ่างน้ าแข็งหลายใบไว้
ในห้อง ไม่วา่ บ่าวจะพูดอย่างไรท่านก็ไม่ยอมฟัง ตอนนี้บ่าวเองก็วาง
ให้ท่านสี่ ใบ ท่านไม่ตอ้ งกลัวร้อนแล้ว” สายตาของนางตกลงบนอ่าง
น้ าแข็งที่วางอยูต่ รงมุม
“คุณหนู คุณชายใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่ต่างก็ยา้ ยออกจากจวนอ๋ องแล้ว
ฝ่ าบาทพระราชทางสวนชิงหยวนหลังนั้นให้คุณชายใหญ่ใช้เป็ น
จวนจวิน้ อ๋ อง ฟังว่าข้างในงดงามยิง่ นัก! คุณชายใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่
ต่างก็เป็ นเด็กที่จิตใจดี ยังคิดจะรับบ่าวเขาไปใช้ชีวิตช่วงบั้นปลาย
บ่าวไม่ได้รับปาก บ่าวแก่แล้ว อยูท่ ี่ไหนก็เหมือนกัน ยิง่ ไปกว่านั้น
คุณหนูท่านยังอยูท่ ี่นี่ หากบ่าวไปแล้วใครจะอยูค่ ุยเป็ นเพื่อนคุณหนู
เล่า! บ่าวไม่ไป บ่าวจะอยูเ่ ป็ นเพื่อนคุณหนู อยูเ่ ป็ นเพื่อนคุณหนูไป
ชัว่ ชีวิต” สี หน้าของนางมีรอยยิม้ บางๆ ปรากฏ ใบหน้าที่เ**้่ยวย่น
ใบนั้นก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา
“บ่าวเห็นแล้วว่า คุณชายใหญ่กบั ฮูหยินใหญ่ลว้ นไม่ใช่คนที่จะถูก
เอาเปรี ยบได้ โดยเฉพาะฮูหยินใหญ่ ปฏิบตั ิต่อคุณชายใหญ่ดียงิ่ นัก!
ท่านอยูข่ า้ งล่างก็ไม่ตอ้ งกังวลแล้ว เพียงแต่จิตใจของคุณชายใหญ่
กับฮูหยินใหญ่ยงั แข็งไม่พอ!” ยายหรู ทอดถอนใจหนึ่งครา “เช่นนี้กด็ ี
ยังมีบ่าวอยู่ มือของบ่าวเปื้ อนเต็มไปด้วยเลือดนานแล้ว ไม่ถือสาจะ
เพิ่มอีกหน่อย คุณหนูท่านทิ้งบ่าวไปตั้งแต่วยั ที่กาลังรุ่ งโรจน์ คนที่
เคยทาผิดต่อท่านเหล่านั้น ไม่วา่ ใครก็อย่าได้คิดจะมีจุดจบที่ดี ท่าน
คอยดู เบิกตาดูให้กว้างเถิด!” ยายหรู ออกแรงลุกขึ้นยืนเช็ดแท่นบูชา
ในมือช้าๆ การกระทาอ่อนโยน ราวกับว่าดูแลเด็กทารก
แม้วา่ ฮ่องเต้ยงเซวียนจะมีพระราชโองการให้สืบคดีของแม่ทพั อัน
แต่เมื่อดาเนินการแล้วกลับยุง่ ยากลาบาก แม้ตอนนั้นจะมีหลักฐานก็
ถูกทาลายไปนานแล้ว เบาะแสคดีที่เก็บไว้ต่างก็เป็ นหลักฐานปลอม
แปลงที่ไม่มีผลประโยชน์ต่อแม่ทพั อัน คิดจะสื บหาเงื่อนงาจาก
เบาะแสคดีที่ถูกทาเป็ นคดีซ่ ึงโต้แย้งไม่ได้ไหนเลยจะง่ายดาย ด้วย
เหตุน้ ีกรมอาญา ศาลต้าหลี่ กรมพระคลังและสานักตรวจตราจึงปวด
หัวอย่างถึงที่สุด
โดยเฉพาะเลขาธิการกรมพระคลัง สื บคดีเดิมก็ไม่ความเกี่ยวข้องกับ
กรมพระคลังของเขาอยูแ่ ล้ว แต่ตอนนั้นเงินกองทัพจานวนนั้นดึง
ออกไปจากกรมพระคลัง ตอนนี้ฝ่าบาทจึงสัง่ ให้กรมพระคลัง
ตรวจสอบพร้อมกัน แต่ตอนนั้นเงินกองทัพส่ วนนั้นถูกดึงออกไป
อย่างซื่อสัตย์ อีกทั้งยังเป็ นเขาที่ลงชื่อด้วยตัวเอง ส่ วนจะถึงมือ
กองทัพตอนเหนือหรื อไม่เขาไม่ทราบ อย่างไรเสี ยกรมพระคลังก็
ได้รับหลักฐานยืนยันการรับเงินแล้ว ในนี้เป็ นฝี มือของใครเขาจะรู ้
ได้อย่างไร
ขณะที่ยงั ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ใต้เท้าราชครู เสิ่ นผิงยวนก็วางระเบิด
ลูกใหญ่ในราชสานักอีกครั้ง ประกาศว่าพบบุตรคนสุ ดท้องของแม่
ทัพอันที่รอดหายนะแล้ว
หลังจากที่ฮ่องเต้ยงเซวียนทรงประหลาดใจแล้วก็ยงั คงเชื่อมัน่ อย่าง
ถึงที่สุด เขารู ้วา่ เสิ่ นผิงยวนกับอันอี้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกันหลาย
ส่ วน ตอนนั้นหลังจากอันอี้กลัวความผิดฆ่าตัวตายขุนนางชั้นผูใ้ หญ่
คนอื่นๆ ก็กลัวเป็ นต้นเหตุให้เขาโมโหจึงไม่กล้าเอ่ยถึงแม้แต่
ประโยคเดียว และมีเพียงเสิ่ นผิงยวนที่กล้าทวงความยุติธรรม บอก
เขาว่าแม่ทพั อันไม่ใช่คนแบบนั้น
หลังออกว่าราชการเสร็ จเสิ่ นผิงยวนก็ถูกฮ่องเต้ยงเซวียนสัง่ ให้อยูต่ ่อ
ไม่ตอ้ งรอให้ฮ่องเต้ยงเซวียนเอ่ยปากถาม เสิ่ นผิงยวนก็เล่าเรื่ องตั้งแต่
ต้นจนจบให้ฟังเอง “ฝ่ าบาท ตอนนั้นกระหม่อมสัง่ คนไปค้นหา
ครอบครัวของแม่ทพั อันแล้ว บอกว่าเสี ยชีวิตทั้งตระกูล บุตรคน
สุ ดท้องของแม่ทพั อันนามว่าอันจยาเหอ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่หลานสาว
กระหม่อมบังเอิญช่วยไว้เมื่อหลานเดือนก่อน เพิ่งจะรู ้ฐานะของเขา
เมื่อสองวันมานี้”
มองสี หน้าฮ่องเต้ยงเซวียนแล้วจึงกล่าว “ตอนที่ช่วยเหลืออันจยาเหอ
ผูน้ ้ นั บาดเจ็บทัว่ ร่ าง บอกว่าหนี…หนีออกมาจากหอนายโลม
หลานสาวผูน้ ้ นั ของกระหม่อมเห็นเขาน่าสงสาร จึงพาเขากลับมา
ด้วย คิดว่าอย่างไรเสี ยเขาเองก็เป็ นปัญญาชน รอรักษาบาดแผลหาย
แล้วค่อยหางานทา คิดเสี ยว่าสร้างสมบุญกุศล”
“อะไรนะ” ดวงเนตรของฮ่องเต้ยงเซวียนหดเล็กอย่างรวดเร็ ว “หนี
ออกมาจากสถานที่น้ นั จริ งหรื อ” แม้แต่จะพูดคาสองคานั้นออกมา
เขายังรู ้สึกรังเกียจ
ในเมื่อเป็ นบุตรคนสุ ดท้องของแม่ทพั อัน อายุน้ นั ย่อมไม่มาก สี่ ปี
ก่อนก็ยงิ่ เด็ก เด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปี เดินทางพันลี้เข้าเมืองหลวงทวง
คืนความยุติธรรมแทนบิดา แต่กลับตกอยูใ่ นสถานที่โสมมเช่นนั้น
เป็ นความบังเอิญหรื อว่าตั้งใจ แล้วจุดประสงค์คืออะไร ไม่วา่ จะเป็ น
แบบใดก็ทาให้เขาปวดใจอย่างถึงที่สุด คุณชายของแม่ทพั ผูย้ งิ่ ใหญ่
ลดตัวลงเป็ นนายโลม เรื่ องเช่นนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เขากุมอานาจ
กระทัง่ เกิดขึ้นใต้สายตาของเขา เขาไม่เพียงแต่ปวดใจซ้ ายังเดือดดาล
อย่างถึงที่สุด
“จริ งแท้แน่นอนพะยะค่ะ กระหม่อมมิบงั อาจหลอกลวงฝ่ าบาท
ตามที่คุณชายน้อยอันผูน้ ้ นั บอกก็เพื่อทวงความยุติธรรมให้บิดาเขาจึง
พยายามมีชีวิตอยูจ่ นถึงวันนี้” เสิ่ นผิงจวนหลุบตาลง ในใจก็ทอด
ถอนใจอย่างถึงที่สุด
“ดี ดี ดี!” พระหัตถ์ที่ยกขึ้นของฮ่องเต้ยงเซวียนหยุดค้างกลางอากาศ
ดวงตามีประกายมืดสลัวแวบผ่าน สู ดหายใจเข้าลึกหนึ่งคราแล้ว
กล่าว “จยาฮุ่ยจวิน้ จู่กลับมีจิตใจดี ในเมื่ออันจยาเหอเป็ นนางที่ช่วยไว้
ราชครู กจ็ ดั การตามที่เหมาะสมเถิด เห็นแก่ชื่อแม่ทพั อัน เราจะสัง่ ให้
ชดเชยอีก”
“กระหม่อมน้อมรับพระราชโองการ” เสิ่ นผิงยวนย่อมพอใจอย่างถึง
ที่สุด
“พวกโง่ บุตรคนสุ ดท้องของอันอี้ยงั มีชีวิตอยูไ่ ด้อย่างไร ไม่ใช่บอก
หรื อว่าตายไปหมดแล้ว ตระกูลอันที่โผล่ออกมาผูน้ ้ ีเป็ นใครอีก”
ท่านเสนาบดีฉินโมโหเดือดดาล “ไป ไปถามฟังจ้งว่าทางานประสา
อะไร”
“ท่านเสนาบดีโปรดระงับโทสะ ใต้เท้าฟังสะพร่ าชัว่ ขณะก็เป็ นได้
เพียงแค่เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ านมคนหนึ่ง จะสร้างคลื่นลูกใหญ่อะไรได้
หลายปี มานี้ใต้เท้าฟังก็จงรักภัคดีมาโดยตลอด ท่านเสนาบดีวา่ ใช่
หรื อไม่” นายทหารผูช้ ่วยเริ่ นหงซูกล่าวโน้มน้าว
ท่านเสนาบดีฉินแค่นเสี ยงหึหนึ่งครา เก็บสี หน้าเดือดดาลบนใบหน้า
กล่าว “เขื่อนยาวนับพันลี้ ทลายเพราะรังมด นับแต่อดีตจนถึงวันนี้
ยอดฝี มือคว่าเรื อในหนองน้ าไปมากเพียงใดแล้ว เรื่ องนี้ประมาท
เพียงนิดเดียวไม่อาจฟื้ นคืนตลอดไป พวกเราจาเป็ นต้องรอบคอบ!”
หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่าวต่อ “ความภัคดีของฟังจ้งข้าเชื่อมัน่ แต่เรื่ องของ
อันจยาเหอไม่สืบให้ชดั เจนข้าก็ไม่อาจวางใจได้ เจ้าไปถามที่จวนเขา
เถอะ”
“ขอรับ ท่านเสนาบดี ผูน้ อ้ ยจะไปเดี๋ยวนี้” เริ่ นหงซูประสานมือ
คารวะกล่าว “ท่านเสนาบดีเองก็ไม่จาเป็ นต้องกังวลมากไปนัก
หลักฐานทั้งหมดต่างก็ทาลายหมดแล้ว ไม่วา่ ฝ่ าบาทจะสื บอย่างไรก็
สื บมาไม่ถึงพวกเรา แต่องค์ชายรองเล่า” เขามองไปทางท่านเสนาบดี
ในดวงตาแฝงความสงสัย
ท่านเสนาบดีโบกมือ “องค์ชายรองยิง่ ไม่อาจเป็ นอะไรได้ เรื่ องนี้
มาถึงข้าก็พอแล้ว” แม้จะบอกว่าเงินกองทัพจานวนนั้นกับเงินที่ได้
จากการลักลอบขายม้าส่ วนใหญ่เข้าจวนองค์ชายรอง แต่คนที่ลงมือ
ทาเรื่ องนี้เป็ นเขา ต่อให้จะเกิดเรื่ องจริ งๆ ก็มีเขาเป็ นหนังหน้าไฟ
องค์ชายรองไม่อาจเกิดเรื่ องได้ ขอเพียงแค่องค์ชายรองไม่เป็ นไร
เช่นนั้นตระกูลฉินก็จะไม่เป็ นไร
“แต่กไ็ ม่อาจสะเพร่ าได้ ใครจะรู ้วา่ พวกเขาทาลายหลักฐานทั้งหมด
แล้วจริ งๆ หากแอบเก็บไว้สกั ชิ้นสองชิ้นก็เพียงพอให้เรื่ องร้ายแรง
แล้ว” กลายเป็ นจิ้งจอกเฒ่าผูห้ ลักแหลมแล้ว ใครจะไม่เหลือทางหนี
ทีไล่ไว้ให้ตนเอง “สัง่ พวกเขาว่าหากในมือยังมีหลักฐานอะไร ให้รีบ
ทาลายเสี ย ปิ ดปากให้สนิท ระมัดระวังตัว” ท่านเสนาบดีฉินกาชับ
ด้วยความไม่สบายใจ
“ขอรับ ผูน้ อ้ ยรับคาสัง่ !” เริ่ นหงซูถอยออกไปแล้ว
ท่านเสนาบดีฉินอยูใ่ นห้องหนังสื อเพียงผูเ้ ดียว เขาเปิ ดภาพผืนนั้น
บนฝาผนัง กดลงบนบริ เวณที่นูนขึ้นมาบนผนังเบาๆ ก็เห็นผนังฝั่ง
ซ้ายแยกออกเป็ นช่องหนึ่งสาย ค่อยๆ ปรากฎให้เห็นประตูเล็กหนึ่ง
บานผ่านได้เพียงคนเดียว ท่านเสนาบดีฉินตะแคงตัวเดินเข้าไป
หลังจากนั้นประตูบานนั้นก็ปิดลงอีกครั้ง
นี่คือห้องลับอีกหนึ่งแห่ง ห้องไม่ใหญ่ ทว่าเครื่ องเรื อนกลับหรู หรา
อย่างยิง่ บนโต๊ะตรงกลางวางแท่นบูชาหนึ่งแท่น สลักว่าแท่นบูชา
ของฉินเฮ่อบิดาผูล้ ่วงลับ
ท่านเสนาบดีฉินกราบไหว้แท่นบูชาด้วยความเคารพ “ท่านพ่อ ลูกมา
รบกวนความสงบของท่านอีกแล้ว คดีของอันอี้ถูกสื บใหม่อีกครั้ง ฝ่ า
บาทคล้ายสังเกตได้แล้ว ช่วงนี้เขาเริ่ มส่ งคนไปสื บเรื่ องเก่าในอดีต
เงียบๆ แต่วา่ ท่านวางใจ ลูกเตรี ยมการไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่วา่ เขาจะ
สื บหาอย่างไร อย่างมากก็สืบหาได้แค่เพียงอ๋ องเคียงบ่า ไม่มีทางสื บ
มาถึงลูกแน่นอน”
เขาหัวเราะเบาๆ บนใบหน้ามีความพอใจหลายส่ วน “ลูกเชื่อฟังท่าน
พ่อ อดทนมาโดยตลอด เด็กคนนั้นดีอย่างยิง่ บุ๋นบู๊ลว้ นชานาญการ
ความคิดฝี มือไม่เป็ นสองรองใคร ลูกว่าเขาเลื่อมใสในความมอง
การณ์ไกลของท่านพ่อจริ งๆ แต่น่าเสี ยดายที่ท่านจากไปเร็ วนัก หาก
ท่านยังอยูก่ ค็ งจะดียงิ่ นัก!
ท่านเสนาบดีฉินพูดกับแท่นบูชาอยูค่ นเดียวเป็ นเวลานาน ผ่านไป
ครึ่ งชัว่ ยามจึงออกมาจากห้องลับอย่างรวดเร็ ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 258-2 ลมเมฆแปรปรวน
ส่ วนใต้เท้าฟังฟังจ้งที่ถูกท่านเสนาบดีฉินตาหนิรอบหนึ่งว่าทางาน
ไม่น่าเชื่อถือก็กาลังทะเลาะกับบุตรภรรยาเอกอยู่ “เจ้ามันลูกทรพี
เหตุใดถึงกล้าได้เพียงนี้ เจ้าจะส่ งตระกูลฟังไปตายทั้งตระกูล!” ชูแส้
ขึ้นโบยลงไปบนร่ างของบุตรภรรยาเอกฟังเนี่ยน
ฟังฮูหยินมีลูกชายเพียงคนเดียว ย่อมต้องเข้ามาปกป้อง “นายท่าน
ท่านตีเนี่ยนเอ๋ อร์ให้ตายก็ไม่ช่วยให้อะไรดีข้ ึนหรอก!”
ฟังจ้งโมโหยิง่ ขึ้น “ฮูหยินเจ้าถอยไป วันนี้ขา้ ต้องสัง่ สอนเขาให้ได้
ลูกคนนี้กล้าหาญเกินไปแล้ว ไม่สงั่ สอนไม่ได้ เจ้าไม่รู้หรื อว่าเขาหา
เรื่ องใส่ ตวั เพียงใด”
ตั้งแต่ข่าวบุตรคนสุ ดท้องแม่ทพั อันยังมีชีวิตอยูเ่ ปิ ดเผยออกมาเขาก็
ตระหนักได้วา่ ผิดปกติ ตอนนั้นเขาส่ งคนไปฆ่าปิ ดปากด้วยตัวเอง
จะยังปล่อยให้บุตรคนสุ ดท้องของแม่ทพั อันหนีออกมาได้อย่างไร
อีกทั้งบุตรคนสุ ดท้องผูน้ ้ ียงั สู ้พี่ชายสองคนของเขาที่ฝึกยุทธ์ต้ งั แต่
เล็กไม่ได้ ชาวบ้านด่านชายแดนต่างก็รู้วา่ บุตรคนสุ ดท้องของแม่ทพั
อันชอบอ่านหนังสื อตั้งแต่เด็ก ไม่สนใจในการฝึ กยุทธ์
ปัญญาชนอ่อนแอที่ไร้เรี่ ยวแรงเป็ นไก่อ่อนเช่นนี้จะหนีการไล่ฆ่าได้
อย่างไร ซ้ ายังเดินทางพันลี้วงิ่ มาถึงเมืองหลวงได้อีก หากบอกว่าใน
นี้ไม่มีคนช่วยเขาก็คงไม่เชื่อเป็ นอันขาด ใครจะรู ้เมื่อสื บหา สื บไปถึง
ตัวลูกชายตนเอง คาดไม่ถึงว่าลูกอกตัญญูผนู ้ ้ ีแอบช่วยไว้ นี่จะไม่ทา
ให้เขาเดือดดาลได้อย่างไร
ทว่าฟังฮูหยินกลับปกป้องลูกชายแน่นหนา ร้องขอ “นายท่าน แต่
ไหนแต่ไรเนี่ยนเอ๋ อร์กร็ ู ้ประสา เขาจะหาเรื่ องอะไรได้ ต่อให้จะทา
ผิดอะไรจริ งๆ ท่านพูดกับเขาดีๆ ให้เขาเปลี่ยนแปลงก็ได้แล้ว ไย
จะต้องลงแส้ให้ได้ดว้ ยเล่า อีกสองเดือนเนี่ยนเอ๋ อร์กต็ อ้ งเข้าสอบ
แล้ว” ลูกชายคือชีวิตของนาง ไม่วา่ อย่างไรนางก็ไม่อาจเห็นลูกถูกตี
ได้
ฟังจ้งเองก็นึกได้วา่ ถึงเดือนแปดลูกชายต้องเข้าร่ วมการสอบบัณฑิต
ระดับมณฑลแล้ว โยนแส้ลงบนพื้นอย่างแรง ชี้ฟังเนี่ยนแล้วกล่าว “ฮู
หยินรู ้หรื อไม่วา่ ลูกอกตัญญูผนู ้ ้ ีทาอะไร เขา เขาคาดไม่ถึงว่าช่วย
บุตรคนสุ ดท้องผูน้ ้ นั ของตระกูลอันให้หลบหนีมาถึงเมืองหลวง หาก
เรื่ องนี้ถูกท่านเสนาบดีฉินรู ้เข้า ทั้งจวนของพวกเราก็จะซวย”
ฟังฮูหยินได้ยนิ แล้วก็ตกใจใหญ่ “เนี่ยนเอ๋ อร์ เจ้ากล้าเพียงนั้นเลย
หรื อ” เรื่ องที่สามีทาแม้นางจะรู ้ไม่หมด แต่กร็ ู ้เป็ นบางส่ วน
โดยเฉพาะคดีน้ นั ของแม่ทพั อันเมื่อสี่ ปีก่อน นางอกสัน่ ขวัญหายอยู่
เป็ นเวลานาน
ทว่าฟังเนี่ยนกลับดื้อรั้นไม่ยอม “ท่านพ่อ ลูกไม่สนใจเรื่ องในราช
สานักของพวกท่าน ท่านฝังท่านอาอันยังไม่พอหรื อไร ยังต้องไล่ฆ่า
จนหมดให้ได้ ลูกไม่เข้าใจวิธีการสกปรกเหล่านั้นของพวกท่าน ลูกรู ้
เพียงแต่วา่ จยาเหอเป็ นเพื่อนที่ดีของลูก พวกเราเติบโตด้วยกันมา
ตั้งแต่เล็ก ลูกไม่อาจทนมองเขาตายเฉยๆ ได้”
“เจ้า เจ้าลูกอกตัญญูใช่จะยัว่ โมโหข้าหรื อไม่” ฟังจ้งถูกลูกชาย
โต้เถียงจนโกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ “เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ ฝ่ าบาทรู ้แล้วว่าแม่
ทัพอันถูกใส่ ความ ศาลต้าหลี่ สานักตรวจตราต่างก็กาลังสื บคดีน้ ีอยู่
หากสื บอะไรได้ พ่อเจ้าซวยแล้วเจ้าจะรอดหรื อ เจ้าลูกอกตัญญู เหตุ
ใดข้าถึงมีลูกเนรคุณเช่นเจ้า! เจ้าบอกข้ามา หลายปี มานี้เจ้าซ่อนอันจ
ยาเหอไว้ที่ใด”
ทว่าฟังเนี่ยนกลับเม้มปากแน่นไม่พดู แม้แต่ประโยคเดียว ยัว่ โมโห
จนฟังจ้งชูแส้ข้ ึนอีกครั้ง ฟังฮูหยินร้อนรนจนรี บผลักลูกชาย “เนี่ยน
เอ๋ อร์เจ้าพูดสิ พ่อเจ้าถามเจ้าอยู”่
ฟังเนี่ยนยังคงเชิดหน้า แววตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “จะซ่อน
ไว้ที่ใดได้ ลูกไม่ได้กมุ อานาจใหญ่เหมือนท่าน นอกจากพาเขาไป
ซ่อนในชนบทแล้วจะยังซ่อนไว้ที่ไหนได้อีก”
หอนายโลมเขาไม่กล้าพูดแน่นอน นี่เองก็เป็ นเรื่ องที่เขาเสี ยใจที่สุด
เขาคิดว่าพาจยาเหอไปอยูท่ ี่นนั่ แล้วจะปลอดภัย แต่เขายังไร้เดียงสา
เกินไป คนที่สามารถไปที่นนั่ ได้ส่วนใหญ่ไม่รวยก็ตอ้ งสู งศักดิ์ ซ้ าจ
ยาเหอยังหน้าตาดึงดูดเช่นนั้น คุณชายที่มีเพียงผลงานความรู ้เช่นเขา
ไหนเลยจะปกป้องไว้ได้ ตอนที่รู้วา่ อันจยาเหอหนีไปได้เขาก็โล่งอก
จริ งๆ
“เจ้าลูกอกตัญญูด้ือรั้นไปเถอะ รอดาบตกลงบนคอเจ้าแล้วเจ้าจะต้อง
เสี ยใจ” ฟังจ้งสะบัดแขนเสื้ อเดินออกไปด้วยความกระหื ดกระหอบ
ลูกชายหาเรื่ องใส่ ตวั เขาต้องไปชดใช้! หวังว่าท่านเสนาบดีฉินจะ
เห็นแก่เขาที่ยอมรับความผิดด้วยตัวเอง ไม่ถือสาเนี่ยนเอ๋ อร์ได้บา้ ง
เมื่อฟังจ้งไป ฟังฮูหยินก็พยุงลูกชายขึ้นมา ตบหลังของลูกชายแล้ว
กล่าว “เนี่ยนเอ๋ อร์เอ๋ ย เจ้าบอกสิ วา่ เหตุใดเจ้าถึงทาเรื่ องเช่นนี้ นี่เป็ น
เรื่ องร้ายแรง เจ้าทาให้แม่กลัวแทบตาย”
ทว่าฟังเนี่ยนกลับกล่าว “ท่านแม่ เห็นชัดๆ ว่าท่านพ่อผิด ตอนนั้น
พวกเราอยูท่ ี่ด่านชายแดนดีเพียงใด ท่านอาฟังดูแลพวกเราดียงิ่ นัก
แต่ท่านพ่อกลับแทงข้างหลังเขา อานาจสาคัญเพียงนั้นเชียวหรื อ
หากแวดวงขุนนางล้วนเป็ นเช่นนี้ ลูกจะยังสอบบัณฑิตระดับมณฑล
เข้าสู่ ชีวิตการเป็ นขุนนางไปเพื่ออะไร”
“ลูกรัก เจ้าเบาเสี ยงหน่อย” ฟังฮูหยินรี บปิ ดปากลูกชาย “เจ้าอย่า
โวยวาย หากเจ้าไม่ไปสอบขุนนาง พ่อเจ้าจะต้องตีเจ้าตาย หากตัวเจ้า
ไม่มีชื่อเสี ยงผลงาน บุตรอนุภรรยาสองคนนั้นของพ่อเจ้าก็สามารถ
เหยียบยา่ พวกเราแม่ลูกจมดิน เนี่ยนเอ๋ อร์เจ้ารับปากข้า อย่าได้ทา
เรื่ องโง่ๆ เชียว!”
นางไหนเลยจะไม่รู้วา่ สามีทาผิด แต่ออกเรื อนต้องเชื่อฟังสามี เรื่ อง
ในราชสานักใช่สตรี เรื อนในผูห้ นึ่งเช่นนางจะสอดมือเข้าไปได้หรื อ
ไร สามีเองก็ไม่ฟังนาง บางครั้งนางก็อยากจะไม่รับรู ้อะไรทั้งสิ้ น จะ
ได้ไม่ตอ้ งตื่นตระหนกอยูท่ ุกวัน
ต่อให้ฟังเนี่ยนจะไร้เดียงสากว่านี้กย็ งั รู ้สถานการณ์ในจวน เหมือน
เช่นที่แม่เขาว่า เขาไม่อาจเอาแต่ใจ เขาสามารถวางภาระจากไปได้
แต่เขาไปแล้วแม่เขาจะทาอย่างไรเล่า ต่อให้จะไม่ยนิ ดีเขาก็ทาได้
เพียงตอบรับอย่างไม่ยนิ ยอม “ทราบแล้ว ท่านแม่วางใจ ลูกจะไม่เลิก
ล้มการสอบ”
มีคาสัง่ จากวาจาของฝ่ าบาท อันจยาเหอผูเ้ ป็ นทายาทที่เหลืออยูข่ อง
แม่ทพั อันก็เข้ามาอยูใ่ นจวนจงอู่โหวแล้ว อยูใ่ นเรื อนของราชครู เสิ่ น
ช่วงเวลาสามวันสั้นๆ จวนจงอู่โหวก็มีมือสังหารมาหลายกลุ่มแล้ว นี่
ไม่ได้เป็ นการตบหน้าจวนจงอู่โหวง่ายดายเพียงนั้นแล้ว นี่
หมายความว่าไม่เห็นฮ่องเต้ยงเซวียนอยูใ่ นสายตา! ฮ่องเต้ยงเซวียนท
รงพิโรธจนย้ายพลทหารเงาเข้าไป และยิง่ ยืนยันเจตจานงที่จะสื บหา
อย่างถึงที่สุดของเขา
หลังเสิ่ นเวยรู ้เรื่ องนี้กอ็ ยากกลับไปอยูท่ ี่บา้ นฝั่งมารดานางหลายวัน
กล้ามาพาลถึงเขตบ้านฝั่งมารดานาง ก็หมายความว่าไม่อยากมีชีวิต
แล้ว! แต่อย่างไรเสี ยนางก็เป็ นคนที่ออกเรื อนแล้ว กลับบ้านฝั่ง
มารดาเพราะเรื่ องนี้กย็ งั คงไม่เหมาะสมนักจริ งๆ ด้วยเหตุน้ ีนางจึงส่ ง
คนจานวนหนึ่งไปที่เรื อนของเสิ่ นเจวี๋ยเงียบๆ กังวลว่ามือสังหารทา
อะไรอันจยาเหอไม่ได้แล้วจะถือโอกาสระบายความโกรธกับผูอ้ ื่น
หากประสบหายนะที่ตนไม่ได้สร้างก็จะโชคร้ายยิง่ นัก!
เสิ่ นเวยกาลังศึกษาแผนกลไกที่อนั จยาเหอทิ้งไว้อยู่ ก็เห็นเจียงเฮยเข้า
มาด้วยสี หน้าตื่นตระหนก “จวิน้ จู่ เกิดเรื่ องแล้ว นายท่านถูกฝ่ าบาท
ขังไว้ในศาลราชวงศ์แล้ว”
“ทาไมเล่า” เสิ่ นเวยตกใจจนแทบจะดึงแผนกลไกออกเป็ นสองฝั่ง ฝ่ า
บาทไม่ใช่โปรดปรานสวีโย่วมากหรอกหรื อ สวีโย่วไปยัว่ โมโหฝ่ า
บาทได้อย่างไร หรื อจะบอกว่าความโปรดปรานของฝ่ าบาทเมื่อก่อน
เป็ นภาพลวงตา ทาให้คนอื่นดูเท่านั้น
แทบจะชัว่ พริ บตาเดียวในสมองของเสิ่ นเวยก็มีความคิดร้อยแปดพัน
เก้าผ่านเข้ามา
“นายท่านเสนอในท้องพระโรงให้ปล่อยไท่จื่อผูถ้ ูกถอดยศออกมา
บอกว่าแม่ทพั อันถูกใส่ ความ อาศัยเพียงจดหมายไม่กี่ฉบับก็ลงโทษ
ไท่จื่อผูถ้ ูกถอดยศแล้ว ไม่เป็ นธรรมอย่างยิง่ ขอให้ฝ่าบาทสื บหา
หลักฐานใหม่อีกครั้ง และยังเอ่ยว่าสถานการณ์ของไท่จื่อผูถ้ ูกถอด
ยศลาบากยากแค้น คนถูกเหยียดหยามจนไม่เหลือเกียรติ ขอให้ฝ่า
บาทเห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายโลหิตปล่อยตัวไท่จื่อผูถ้ ูกถอดยศ
ออกมา ฝ่ าบาทก็ทรงพิโรธ ชี้นายท่านดุด่าว่าไม่ภคั ดีอกตัญญู นายท่า
โต้เถียงหลายประโยค ฝ่ าบาทก็สงั่ ให้ขงั คนไว้ในศาลราชวงศ์แล้ว”
เจียงเฮยเล่าเหตุการณ์ดว้ ยความรวดเร็ ว
“ไม่มีคนขอความเมตตาหรื อ” ในใจเสิ่ นเวยเริ่ มมัน่ ใจ
เจียงไป๋ กล่าว “มี ราชครู เสิ่ นพ่อลูกกับคุณชายรองคุณชายสาม ยังมี
ราชนิกลุ อีกหลายคนขอความเมตตาแทนนายท่าน นอกจากนี้ใต้เท้า
ผูม้ ีความสัมพันธ์เล็กน้อยกับคุณชายก็ยงั ร้องขอความเมตตา แต่ลว้ น
ขอไม่ได้ ฝ่ าบาทบันดาลโทสะ ไม่วา่ ผูใ้ ดพูดก็ฟังไม่เข้าหู จวิน้ จู่ จะ
ทาอย่างไรดี”
“ทาอย่างไรงั้นหรื อ” เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหึหนึ่งครา กล่าวเสี ยงสู ง “แม่
นมมัว่ เข้ามาเปลี่ยนชุดแต่งหน้าให้ขา้ ตัวข้าจวิน้ จู่จะไปขอคนจากฝ่ า
บาทด้วยตัวเอง”
นี่มนั อะไรกัน ฮ่องเต้ยงเซวียนท่านปฏิเสธไม่ได้กม็ าระบายอารมณ์
กับคุณชายใหญ่ของข้างั้นหรื อ นี่หรื อคือคนโปรด บอบบางราวกับ
กระดาษจริ งๆ!
ฮ่องเต้ยงเซวียนท่านขังลูกตัวเองสิ บปี คุณชายใหญ่ของข้าหวังดี
ท่านไม่ซาบซึ้งก็ไม่เป็ นไร โต้กลับก็ได้แล้ว แต่ส่งคุณชายใหญ่ของ
ข้าไปศาลราชวงศ์ต่อหน้าขุนนางบุ๋นบู๊ทวั่ ราชสานัก ซ้ ายังดุด่าว่าไม่
ภัคดีอกตัญญู ย่าเจ้าสิ !
มิน่าเล่าใครต่างก็พดู ว่าจักรพรรดิเป็ นผูไ้ ร้เมตตาที่สุด ราชวงศ์ไหน
เลยจะมีความผูกพันพ่อลูกอะไร วันนี้นางนับว่าได้เรี ยนรู ้แล้ว
เสิ่ นเวยสะกดกลั้นไฟโกรธ ปล่อยให้แม่นมมัว่ กับหลีฮวาช่วยนาง
เปลี่ยนชุดพิธีของจวิน้ จู่ บนศีรษะสวมมงกุฎนกตี๋ บนใบหน้า
แต่งหน้าอ่อนๆ ตอนที่เสิ่ นเวยลุกขึ้นยืนร่ างทั้งร่ างต่างก็งามหรู
ละลานตาคนอย่างถึงที่สุด
“เถาฮวาเล่า ตามข้าเข้าวัง” เสิ่ นเวยใบหน้านิ่งขรึ ม เพียงแค่ยนื อยูต่ รง
นั้นตามอาเภอใจ ก็ทาให้คนเคารพเลื่อมใสอย่างถึงที่สุด
ตอนที่เถาฮวาวิ่งเข้ามาดีใจอย่างถึงที่สุด อีกทั้งยังภูมิใจมากเป็ นพิเศษ
นางมองหลีฮวาและคนอื่นๆ ปราดหนึ่ง คางเล็กๆ เชิดสู งอย่างยิง่ !
คล้ายกาลังพูดว่า ‘ดูสิ คุณหนูพาข้าเข้าวังคนเดียว คุณหนูยงั คงชอบ
ข้าที่สุด’
โอวหยางไน่พาทหารเด็กสองกลุ่มไปรวมตัวข้างนอกเสร็ จเรี ยบร้อย
แล้ว ราชรถของจวิน้ จู่กเ็ ตรี ยมเรี ยบร้อยแล้วเช่นกัน เสิ่ นเวยขึ้นรถ
พร้อมกลุ่มผูต้ ิดตามหน้าหลังไปยังพระราชวัง
ก่อนหน้านี้เสิ่ นเวยออกเดินทางล้วนทาเงียบๆ มากเป็ นพิเศษ ไม่เคย
ใช้ราชรถจวิน้ จู่มาก่อน อันที่จริ งเหล่าหวังเฟยจวิน้ จู่ในเมืองหลวงก็
เป็ นเช่นนี้ นอกจากคนที่ชอบโอ้อวดเป็ นพิเศษ ใครจะว่างจัดขบวน
ราชรถครบชุดทุกวันกัน วันนี้เป็ นครั้งแรกที่เสิ่ นเวยจัดขบวนเช่นนี้
ค่อนข้างยิง่ ใหญ่อลังการ
ราชรถมาถึงหน้าประตูพระราชวังก็ถูกทหารรักษาพระองค์ขวางไว้
เสิ่ นเวยไม่พดู พร่ าทาเพลง ลงจากรถแล้วก็ตบหน้าทหารรักษา
พระองค์สองฉาด ดุด่าด้วยความยโสโอหัง “เบิกตาของเจ้าดูเสี ยบ้าง
ตัวข้าจวิน้ จู่จะเข้าวังใช่องครักษ์เล็กๆ เช่นเจ้าจะวางได้หรื อ”
เถาฮวาถือโอกาสลากทหารรักษาพระองค์ผนู ้ ้ นั ไปข้างๆ พยุงเสิ่ นเวย
ขึ้นรถอีกครั้ง กองทหารเด็กก็ท้ งั จับทั้งขวางกองทหารรักษาพระองค์
คุม้ กันรถม้าของเสิ่ นเวยเคลื่อนตัวเข้าไปในพระราชวัง
เหล่าทหารรักษาพระองค์ที่เฝ้าประตูต่างก็ถูกขบวนรถนี้ทาให้สบั สน
มึนงง กลุ่มของเสิ่ นเวยออกไปไกลแล้วพวกเขาเพิ่งจะได้สติกลับมา
ตะโกนด้วยความร้อนอกร้อนใจ “เร็ ว รี บไปรายงานผูบ้ ญั ชาการสวี”
แม้จะบอกว่าคนที่เข้าไปคือจวิน้ จู่ แต่นางพาคนมาเช่นนั้น ใครจะรู ้
ว่านางจะทาอะไร หากมีอะไรไม่ดีจริ งๆ ท้ายที่สุดคนที่รับโทษก็
ยังคงเป็ นพวกเขาที่เข้าเวรวันนี้มิใช่หรื อ
รถหงส์เข้าไปจนถึงหน้าห้องหนังสื อส่ วนพระองค์ของฮ่องเต้ยงเซ
วียนแล้วจึงหยุดลง คนที่ออกมาต้อนรับนางคือขันทีใหญ่จางเฉวียน
เมื่อจางเฉวียนเห็นนายท่านผูน้ ้ ีจดั ขบวนเช่นนี้ มุมปากก็กระตุกก่อน
เข้าไปเคารพด้วยความนอบน้อม “อากาศร้อนเพียงนี้ จวิน้ จู่มาได้
อย่างไร”
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหึหนึ่งครา ขึ้นเสี ยงกล่าว “จางกงกงแกล้งโง่กบั ตัว
ข้าจวิน้ จู่หรื อไร ท่านยังไม่รู้อีกหรื อว่าเหตุใดตัวข้าจวิน้ จู่ถึงเข้าวัง ฝ่ า
บาทอยูห่ รื อไม่ รบกวนจางกงกงไปรายงานสักหน่อย ตัวข้าจวิน้ จู่มา
ขอเข้าเฝ้าฝ่ าบาท” แม้จะพูดกับจางเฉวียน แต่ตอนที่เสิ่ นเวยพูดก็ใช้
กาลังภายใน ฮ่องเต้ยงเซวียนที่อยูใ่ นตาหนักย่อมได้ยนิ แน่นอน
บนใบหน้าของจางเฉวียนยังคงมีรอยยิม้ ราวกับพระสังขจาย
“บังเอิญจริ งๆ ฝ่ าบาทกาลังหารื อข้อราชการกับใต้เท้าหลายท่านอยู่
จวิน้ จู่ค่อยมาพรุ่ งนี้ดีหรื อไม่”
เสิ่ นเวยย่อมไม่พอใจ กล่าวเหยียดหยาม “ค่อยมาพรุ่ งนี้ง้ นั หรื อ
เช่นนั้นก็คงไม่ทนั การแล้ว! จางกงกง พวกเราเองก็คบค้าสมาคมกัน
มาหลายครั้งแล้ว ตัวข้าจวิน้ จู่มาทาไมท่านเองก็รู้ดีอยูแ่ ก่ใจ รบกวน
ท่านซักหน่อยเถอะ” นางรอได้ แต่คุณชายใหญ่ของนางรอได้ง้ นั
หรื อ
จางเฉวียนกาลังจะพูดอะไรอีก ก็ได้ยนิ เสี ยงที่เคร่ งขรึ มของฮ่องเต้ยง
เซวียนดังออกมาจากข้างใน “ให้จยาฮุ่ยจวิน้ จู่เข้ามาเถิด”
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 259-1 เสิ่ นเวยตัวฉกาจ
เสิ่ นเวยก้าวฝี เท้าที่มนั่ คง เดินเข้าไปภายในท้องพระโรงช้าๆ ทาความ
เคารพตามระเบียบ “จยาฮุ่ยถวายบังคมฝ่ าบาทเพคะ”
“ลุกขึ้นเถิด!” ฮ่องเต้ยงเซวียนมองคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นที่ท้ งั เพียบพร้อม
ทั้งงดงามสะกดตา กล่าวเสี ยงเรี ยบ “จยาฮุ่ยมีธุระหรื อ”
ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่หลายคนในท้องพระโรงต่างก็ยนื ก้มหน้าก้มตาอยู่
ข้างๆ เสิ่ นเวยเห็นว่าในนั้นมีปู่นาง ในใจก็มีความมัน่ ใจสามส่ วน ได้
ยินฮ่องเต้ยงเซวียนถามนาง ในใจเสิ่ นเวยก็อยากจะด่ามารดาจริ งๆ
หากไม่มีธุระแล้วนางจะหาเรื่ องใส่ ตวั วิง่ ฝ่ าอากาศร้อนจัดมาวังทาไม
ส่ วนเป็ นเรื่ องอะไร ก็เห็นอยูช่ ดั ๆ แล้วมิใช่หรื อ
“ฝ่ าบาทไม่ใช่ขงั คุณชายใหญ่ของพวกเราไว้ในศาลราชวงศ์หรอก
หรื อ คุณชายใหญ่ร่างกายอ่อนแออย่างยิง่ จยาฮุ่ยจาต้องมาทูลถามสัก
เล็กน้อย ทูลถามฝ่ าบาท คุณชายใหญ่ของข้าทาผิดร้ายแรงอันใด
ถึงกับต้องขังเขาไว้ในศาลราชวงศ์เชียวหรื อ” เสิ่ นเวยขอคาชี้แนะ
อย่างตั้งใจจริ ง
สี หน้าของฮ่องเต้ยงเซวียนยังคงเรี ยบเฉย “วิจารณ์การบริ หารงาน
ของราชสานัก”
ไฟโกรธของเสิ่ นเวยพวยพุง่ ขึ้นมาแล้ว ให้ตายสิ การบริ หารงานของ
ราชสานักก็ตอ้ งวิจารณ์ไม่ใช่หรื อ มิเช่นนั้นฮ่องเต้ยงเซวียนจะเรี ยก
ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่หลายคนนี้มาทาไม ไม่ใช่วา่ กาลัง ‘วิจารณ์’ การ
บริ หารงานของราชสานักอยูห่ รื อไร
“ไม่ใช่วา่ คุณชายใหญ่ของข้าพูดเข้าข้างญาติผพู ้ ี่ไท่จื่อองค์ก่อน
เล็กน้อยหรอกหรื อ” บนใบหน้าของเสิ่ นเวยปรากฎความเหยียด
หยาม “ฝ่ าบาท ควรพอได้แล้ว เพียงแค่คดีที่ถูกใส่ ความ ท่านขัง
บุตรชายแท้ๆ ของพระองค์เองไว้สิบปี คุณชายใหญ่พดู ถึงความเป็ น
ธรรมสองประโยคท่านก็อบั อายจนพิโรธแล้วหรื อ ท่านขังบุตรชาย
ของท่าน ต่อให้จะประหาร หลานสะใภ้กไ็ ม่อาจตาหนิโทษได้ แต่
ท่านขังคุณชายใหญ่ของข้ามีเหตุผลอันใด”
ฮ่องเต้ยงเซวียนทรงพิโรธแล้ว คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีกล้าพูดจริ งๆ! ขุน
นางชั้นผูใ้ หญ่ทวั่ ราชสานักไม่มีสกั คนที่กล้าโต้แย้งตรงไปตรงมา
เช่นนี้ แต่คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นเช่นนางกล้า ซ้ ายังมัน่ อกมัน่ ใจ พูดจบยัง
เรี ยกตัวเองว่าหลานสะใภ้ ฉวยโอกาสกระชับความสัมพันธ์กบั เขา
เจ้าเล่ห์จริ งๆ!
“บังอาจนัก จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ท่านเองก็เหิมเกริ มเกินไปแล้วหรื อไม่ ต่อ
หน้าฝ่ าบาทบังอาจพูดเช่นนี้ได้อย่างไร ผิงจวิน้ อ๋ องจะเป็ นอย่างไรก็มี
ฝ่ าบาทจัดการ ใช่เรื่ องที่สตรี ผหู ้ นึ่งเช่นท่านจะวิจารณ์ได้หรื อ” มีขนุ
นางชั้นผูใ้ หญ่ไว้เคารยาวผูห้ นึ่งก้าวออกมาตาหนิเสิ่ นเวยด้วยสี หน้า
โกรธเกรี้ ยว
เสิ่ นเวยมองครู่ หนึ่ง อืม ไม่รู้จกั ตอบโต้กลับไปทันที “เหิ มเกริ มงั้น
หรื อ ตอนที่ตวั ข้าจวิน้ จู่เหิมเกริ มท่านยังแอบอยูใ่ นกองผ้าไหมอยูเ่ ลย
ท่านถามฝ่ าบาทดูสิวา่ พระองค์รังเกียจที่ขา้ เหิ มเกริ มหรื อไม่” หาก
นางไม่เหิมเกริ ม จะคว้าชัยชนะที่ชายแดนซีเจียงนาชีวิตที่สงบสุ ข
อย่างน้อยสิ บปี มาได้อย่างไร ฝ่ าบาทกับท่านปู่ นางยังปรารถนาให้
นางเหิมเกริ มขึ้นอีกด้วยซ้ า
สายตาของเสิ่ ยเวยกวาดมองใบหน้าของฮ่องเต้ยงเซวียนเล็กน้อย
กล่าวขึ้นอีกครั้ง “ใต้เท้าท่านนี้บอกว่าตัวข้าจวิน้ จู่เป็ นสตรี ผหู ้ นึ่ง ตัว
ข้าจวิน้ จู่ยอมรับ แต่สตรี ยทุ ่านแหย่ท่านหรื อ ย่ายายของท่านไม่ใช่
สตรี หรื อ ไม่มีสตรี แล้วจะมีท่านหรื อ เป็ นมนุษย์ไม่รู้จกั สานึก
บุญคุณแล้วยังทางานในราชสานัก จะทาหน้าที่ได้ดีหรื อ ดูท่านสิ อายุ
ก็มากแล้ว เหตุใดแม้แต่หลักการแค่น้ ีกย็ งั ไม่เข้าใจ” แววตาของเสิ่ น
เวยดูถูก
“ท่าน ท่าน เป็ นผูม้ ีปัญญาแต่ทาตัวหน้าไม่อาย! สตรี ปากร้าย!” ขุน
นางชั้นผูใ้ หญ่ไว้เคราโมโหจนหน้าแดงคอแข็ง ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่คน
อื่นๆ ในท้องพระโรงพากันก่ายหน้าผาก จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ปากร้ายจริ งๆ!
มีเพียงปู่ นางที่หลุบตารอยยิม้ กะพริ บผ่าน
“สตรี ปากร้ายก็ดีกว่าแม่หม้ายมิใช่หรื อ ฝ่ าบาท เรื่ องในราชสานัก
หลานสะใภ้ไม่ยงุ่ เดิมชีวิตของพวกข้าสามีภรรยาก็ผา่ นไปอย่างสุ ข
สบายเพียงใด แต่ท่านก็ดึงดันจะให้คุณชายใหญ่เข้าราชสานักให้ได้
ตอนนี้เป็ นอย่างไร ท่านเอาคนไปไว้ที่ศาลราชวงศ์เสี ยแล้ว หลาน
สะใภ้ขอให้ท่านรี บปล่อยคุณชายใหญ่ของข้าออกมา งานผู ้
บัญชาการอะไรนัน่ พวกข้าไม่เป็ นแล้ว พวกข้าจะกลับบ้านไปปิ ด
ประตูจวนใช้ชีวิตอยูใ่ นนั้นคงไม่วา่ กันใช่หรื อไม่” เสิ่ นเวยใช้วิธีน่า
ไม่อาย
“ต่อหน้าฝ่ าบาทจยาฮุ่ยจวิน้ จู่โวยวายไร้เหตุผลเช่นนี้ ทาอย่างกับ
อะไรดี” ใต้เท้าอาวุโสเครายาวผูน้ ้ นั นิ้วมือสัน่ ระริ กก่นด่าเสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยปรายตามองเขาปราดหนึ่งด้วยสายตาหยามเหยียด ไม่รู้จกั ดู
ตาม้าตาเรื อจริ งๆ พูดจาฉอดๆ ไม่รู้หรื อว่าน่าราคาญ หากไม่ใช่วา่
เห็นแก่ที่เขาอายุมากแล้ว นางก็คงจะตบหน้าไปนานแล้ว
“ตัวข้าจวิน้ จู่ใกล้จะเป็ นหม้ายแล้วยังต้องสนใจว่าเป็ นระเบียบ
หรื อไม่อะไรอีก ฝ่ าบาท ท่านเองก็อย่างรังเกียจที่ขา้ พูดจาไม่น่าฟัง
หลานสะใภ้จะพูดไว้ตรงนี้ หากข้าเป็ นหม้าย คนทั้งหมดก็อย่าได้คิด
ว่าจะรอด หากคุณชายใหญ่ถูกลงโทษจนตาย หลานสะใภ้มีชีวิต
ต่อไปก็ไร้ความหมายแล้ว ก่อนตายลากคนไปรับโทษด้วยก็คงไม่
เป็ นไรใช่หรื อไม่” เสิ่ นเวยจ้องมองฮ่องเต้ยงเซวียน คุกคามหน้าตาย
ฮ่องเต้ยงเซวียนเห็นนางยิง่ พูดก็ยงิ่ ไปกันใหญ่ คิ้วขมวดมุ่นกล่าว
“พูดเหลวไหลอันใด ใครบอกเจ้าว่าเราจะฆ่าผิงจวิน้ อ๋ อง เชื่อแต่ข่าว
ลือ ดูสภาพของเจ้าตอนนี้สิ! ราชครู เสิ่ น!” ฮ่องเต้ยงเซวียนเองก็
วางมาดตนเป็ นผูอ้ าวุโส กวาดสายตามองเสิ่ นผิงยวนปราดหนึ่ง
เจตนานั้นชัดเจนอย่างยิง่ หลานตัวร้ายของเจ้า เจ้าก็ไม่รู้จกั จัดการ
ทว่าเสิ่ นผิงยวนกลับกล่าว “ทูลฝ่ าบาท จยาฮุ่ยจวิน้ จู่เป็ นสตรี ที่ออก
เรื อนแล้ว” นัยยะในคาพูดก็คือควรมีบา้ นสามีดูแล
ฮ่องเต้ยงเซวียนอึกอักอยูค่ รู่ ใหญ่พดู อะไรไม่ออก ทว่าเสิ่ นเวยกลับ
ไม่สนความรู ้สึกของฮ่องเต้ยงเซวียน กล่าวอย่างมัน่ อกมัน่ ใจ “เข้า
ศาลราชวงศ์แล้วจะอยูด่ ีได้อย่างไร คุณชายใหญ่ของข้าร่ างกาย
อ่อนแอเพียงนั้น ไม่ตอ้ งเฆี่ยนโบย เพียงแค่อยูใ่ นศาลราชวงศ์หนึ่ง
คืนก็ทาลายชีวิตไปได้มากกว่าครึ่ งแล้ว นี่ต่างอะไรจากการฆ่าเขา”
หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่าวต่อ “คุณชายใหญ่ของข้าเพียงแค่พดู แทนไท่จื่
อองค์ก่อนสองประโยค ไม่ถึงกับต้องประหารชีวิตหรอกกระมัง อีก
อย่างสาหรับไท่จื่อผูถ้ ูกถอดยศ ฝ่ าบาทต่อให้ท่านจะไม่ชอบใจ
หลานสะใภ้กย็ งั ต้องพูดสักสองประโยค เป็ นเลือดเนื้อตนเอง ขังไท่จื่
อองค์ก่อนสิ บปี เพียงเพราะโทษที่ปราศจากหลักฐานก็เพียงพอแล้ว
ควรจะปล่อยออกมาได้แล้วกระมัง” ในเมื่อคุณชายใหญ่ของนางใส่
ใจไท่จื่อผูถ้ ูกถอดยศเพียงนั้น นางย่อมต้องช่วยด้วยเช่นกัน
“จยาฮุ่ยจวิน้ จู่โปรดระวังคาพูด ไท่จื่อองค์ก่อนวางแผนก่อกบฏมี
หลักฐานมัดตัว” นายท่านเสนาบดีฉินที่ตลอดมาไม่เอ่ยปากพลัน
กล่าวขึ้น
เสิ่ นเวยเหลือบมองเขา “หลักฐานมัดตัวหรื อ ด้วยจดหมายขาดๆ ไม่กี่
ฉบับนั้นน่ะหรื อ ท่านใต้เท้าเสนาบดีตอ้ งการเท่าไรตัวข้าจวิน้ จู่กท็ า
ออกมาให้ท่านได้” เสิ่ นเวยมองใบหน้าที่แสร้งทาเป็ นเคร่ งขรึ มใบ
นั้นของท่านเสนาบดีฉิน ในใจก็เอือมระอา “ท่านเสนาบดีไม่เชื่อ
หรื อ มาๆๆ วันนี้ขา้ จะเปิ ดหูเปิ ดตาพวกท่าน”
เสิ่ นเวยชะโงกหน้ามองบนโต๊ะส่ วนพระองค์ของฮ่องเต้ยงเซวียน
มองเห็นสาส์นกราบทูลหนึ่งฉบับของท่านเสนาบดีฉินพอดี นางก้าว
ขึ้นไปหนึ่งก้าวยกพูก่ นั ขึ้นมา “ฝ่ าบาท หลานสะใภ้ขอใช้พกู่ นั
พระองค์หน่อยนะเพคะ”
มุมปากฮ่องเต้ยงเซวียนกระตุก เจ้าหยิบขึ้นมาจุ่มหมึกแล้ว เรายังพูด
ได้อีกหรื อว่าไม่ให้ยมื ยิง่ ไปกว่านั้นเขาเองก็อยากรู ้อย่างยิง่ ว่าคุณหนู
สี่ แซ่เสิ่ นจะทาอะไร จึงไม่ได้ส่งเสี ยงอนุญาตเป็ นนัย
เสิ่ นเวยเพ่งมองสาส์นกราบทูลของท่านเสนาบดีฉินปราดหนึ่ง
จากนั้นก็ยกพูก่ นั เขียนตวัดลงบนกระดาษ ไม่นานนักก็วางพูก่ นั ลง ดู
อย่างละเอียดเล็กน้อย กล่าวอย่างไม่คอ่ ยพอใจนัก “เวลาฉุกละหุก
เลียนแบบไม่ค่อยเหมือน แต่วา่ ก็เพียงพอแล้ว ฝ่ าบาทท่านลอง
ทอดพระเนตรดู!”
เดิมฮ่องเต้ยงเซวียนก็ยนื อยูข่ า้ งๆ เสิ่ นเวยอยูแ่ ล้ว ย่อมต้องเห็นการ
กระทาของนางได้อย่างชัดเจน แม้วา่ ใบหน้าจะเรี ยบเฉย แต่ในใจ
กลับตกตะลึงอย่างถึงที่สุด เขารู ้วา่ มีคนสามารถเลียนแบบลายมือ
ของผูอ้ ื่นได้ ถึงขั้นใช้แทนของจริ งได้ แต่เขาไม่คิดว่าคุณหนูสี่แซ่
เสิ่ นจะเลียนแบบลายมือของเสนาบดีฉินด้วยอายุที่นอ้ ยเช่นนี้เวลาที่
สั้นเช่นนี้ได้เสมือนต้นแบบ
มือหนึ่งของฮ่องเต้ยงเซวียนถือสาส์นกราบทูลของเสนาบดีฉิน อีก
มือหนึ่งถือฉบับคัดลอกของเสิ่ นเวย ไม่รู้วา่ จะพูดอะไรดี จึงส่ งให้
ท่านเสนาบดีฉินดู “เจ้าเองก็ลองดูเถิด”
ท่านเสนาบดีฉินรับมาด้วยสองมือ เพียงมองแค่ปราดเดียว บน
ใบหน้าก็เผยความประหลาดใจเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ยมิ้ “จยาฮุ่ย
จวิน้ จู่มีความสามารถ!” ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ขา้ งๆ ก็เขยิบเข้ามาดูขา้ ง
เขา ต่างก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน มีเพียงปู่ นางที่เหลือบมองนางปราด
หนึ่งอย่างมีเลศนัย เด็กดื้อ ยังซ่อนความสามารถเช่นนี้ไว้ดว้ ยหรื อ
เสิ่ นเวยลูบจมูกยิม้ เจื่อน นี่ไม่ใช่วา่ ไม่มีโอกาสให้แสดงมาโดยตลอด
หรื อ ไม่ใช่วา่ ตั้งใจซ่อนไว้แอบไว้เสี ยหน่อย ท่านปู่ อย่าได้ใจแคบ
เกินไปเลย!
สายตาละมองไปบนร่ างของท่านเสนาบดีฉินก็เปลี่ยนทันที “มี
ความสามารถอะไรกัน เพียงแค่ฝีมือต่าต้อยใช้หลอกคนเล่นก็เท่า
นั้นเอง หากเป็ นยอดฝี มือด้านนี้มีเพียงอาจารย์ของข้าที่เหมาะสม
ที่สุด อ้อจริ งสิ อาจารย์ของข้าแซ่ซู ชื่อหย่วนจือ ท่านอามาตย์ฝังเคย
ได้ยนิ หรื อไม่” เสิ่ นเวยเห็นว่าในนี้มีขนุ นางชั้นผูใ้ หญ่ที่หน้าตาคล้าย
อาจารย์ซูหลายส่ วนอยูด่ ว้ ย จึงเดาได้วา่ คนผูน้ ้ ีคืออามาตย์ฝัง อดหยัง่
เชิงเล็กน้อยไม่ได้
เสิ่ นเวยเดาถูกต้อง คนผูน้ ้ ีกค็ ืออามาตย์ฝัง ครั้งก่อนแม้วา่ ลูกชาย
กลับมาจากจวนผิงจวิน้ อ๋ องจะไม่ได้เอ่ยอะไร แต่พอ่ บ้านที่ตามไป
ด้วยกลับรายงานเขาทุกเรื่ อง ตอนนี้คาดไม่ถึงว่าจะได้ยนิ จยาฮุ่ยจวิน้
จู่เอ่ยถึงผูท้ ี่คล้ายกับว่าจะเป็ นบุตรคนโตที่ถูกไล่ออกจากบ้านผูน้ ้ นั
ของเขา คิว้ เขาไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว “อาจารย์ของจวิน้ จู่ตวั ข้า
อามาตย์จะรู ้จกั ได้อย่างไร”
“ไม่รู้จกั เช่นนั้นก็ดี!” เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะ คานับกลับหนึ่งประโยค
จากนั้นก็หนั หน้าพูดเรื่ องเมื่อครู่ น้ ีต่อ “ฝ่ าบาทท่านดูสิ หลักฐานที่วา่
ต่างก็ไม่มีแรงจูงใจ ท่านเสนาบดีฉินเองก็อย่าได้พดู ขอความเมตตา
แทนจานซื่อตาหนักบูรพาอะไรเลย เขาตายไปนานแล้ว ใครจะ
ยืนยันได้วา่ เขาไม่ได้ต้ งั ใจใส่ ร้ายไท่จื่อองค์ก่อน บอกว่าไท่จื่อองค์
ก่อนสมรู ้ร่วมคิดกับอ๋ องเคียงบ่าวางแผนก่อกบฏยึดราชวงศ์ง้ นั หรื อ
น่าขันยิง่ นัก มีทางดีๆ ให้เดินไม่เดิน จะเดินทางโคลนตมเล็กๆ แทน
ไท่จื่อองค์ก่อนเป็ นคนโง่หรื อไร หรื อว่าขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ดา้ นบุ๋นบู๊
ทัว่ ราชสานักเป็ นคนโง่” เสิ่ นเวยเหยียดหยามอย่างไม่เหลือน้ าใจเลย
แม้แต่นิดเดียว อย่างไรเสี ยในศึกซีเหลียงนางก็สร้างคุณูปการใหญ่
หลวง ฮ่องเต้ยงเซวียนก็ไม่สามารถประหารนางได้ ดังนั้นนางจึงไม่
หวาดกลัว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 259-2 เสิ่ นเวยตัวฉกาจ
ฮ่องเต้ยงเซวียนยังไม่พิโรธ ใต้เท้าอาวุโสหนวดยาวผูน้ ้ นั เมื่อครู่ ก็
ระเบิดก่อนแล้ว “คาดไม่ถึงว่าสตรี ผหู ้ นึ่งจะกล้าวิจารณ์การ
บริ หารงานของราชสานักตามใจปาก ท่านเป็ นแม่ไก่ที่ขนั ยามเช้า”
เสิ่ นเวยชายตามองเขาอย่างเหยียดหยันปราดหนึ่ง กล่าวอย่างดูถูก
“ท่านคิดว่าแม่ไก่ยอมขันยามเช้า ไม่ใช่เพราะว่าพ่อไก่ตายหมดแล้ว
หรอกหรื อ มิเช่นนั้นเหตุใดถึงไม่เหลือแม้แต่ลมหายใจเดียวเล่า ซ่อง
สุ มก็ซ่องสุ ม รวมกลุ่มก็รวมกลุ่ม ลืมไปแล้วว่าหน้าที่หลักของตัวเอง
ก็คือการขันยามเช้า พ่อไก่เช่นนี้ไม่ฆ่ามากินเนื้อแล้วจะเก็บมันไว้
ฉลองปี ใหม่หรื อ ฝ่ าบาท ท่านเห็นด้วยหรื อไม่!” เสิ่ นเวยกล่าวถาม
ฮ่องเต้ยงเซวียนด้วยความฉะฉาน
ปากร้ายจริ งๆ! ขุนนางอาวุโสผูน้ ้ นั โมโหจนสัน่ ไปทัว่ ร่ าง ประหนึ่ง
เสิ่ นเวยขุดสุ สานบรรพบุรุษตระกูลเขา สายตาของขุนนางชั้นผูใ้ หญ่
คนอื่นๆ ที่มองเขาก็เห็นใจยิง่ นัก เฮ้อ ใต้เท้าจางผูน้ ้ ีกจ็ ริ งๆ เลย รู ้อยู่
แล้วว่าจยาฮุ่ยจวิน้ จู่รับมือยาก เข้าไปทะเลาะกับนางทาไม ต่อให้
เถียงชนะแล้วอย่างไร ก็แค่ผหู ้ ญิงคนหนึ่ง มิหนาซ้ ายังเถียงไม่ชนะ
ขายหน้าจะตายชัก!
ฮ่องเต้ยงเซวียนเองก็หน้าดาคร่ าเครี ยด “เอาล่ะๆๆ เจ้ากลับจวนไป
ก่อน กลับไปแล้วเราจะปล่อยผิงจวิน้ อ๋ องออกมา” ไม่ปล่อยออกมา
ได้หรื อ คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีไม่กลัวกฎหมายไม่อายฟ้าดิน ปล่อยให้
นางถกเถียงโวยวายต่อไปตอนนี้ ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ของเขาจะต้องถูก
นางยัว่ โมโหจนตายไปหลายคนแน่นอน
ทว่าเสิ่ นเวยกลับไม่ยอมอ่อนข้อ “ไยจะต้องรอด้วยเล่า ตอนนี้ฝ่าบาท
ก็ปล่อยเลยสิ เพคะ หากฝ่ าบาทยุง่ ก็เขียนพระราชโองการหนึ่งฉบับ
หลานสะใภ้จะไปรับบคุณชายใหญ่ออกมาเอง ยิง่ ล่าช้าคุณชายใหญ่ก็
ยิง่ ทรมานมากขึ้นมิใช่หรื อ” คิดจะหลอกนาง ไม่มีทาง!
ฮ่องเต้ยงเซวียนเสี ยใจอยูก่ ่อนแล้ว หากรู ้วา่ คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นจะมีนิสยั
กล้าหาญเจาะฟ้าเป็ นรู พรุ นเช่นนี้ เขาเองก็จะไม่ลงโทษสวีโย่วไปที่
ศาลราชวงศ์ ตอนนี้เขาเข้าใจสายตาที่สวีโย่วมองเขาตอนที่หนั หลัง
กลับแล้ว ที่แท้แล้วเขาก็รู้วา่ ภรรยาของเขาจะต้องมาหาถึงที่ใช่
หรื อไม่
เขานับว่าถูกสวีโย่วเด็กแสบผูน้ ้ นั ขุดหลุมพรางแล้วใช่หรื อไม่
ฮ่องเต้ยงเซวียนเสี ยใจแทบตาย รี บเขียนคาสัง่ ด้วยวาจาหนึ่งฉบับ
โยนให้เสิ่ นเวย “เอาไป เอาไป!”
เสิ่ นเวยรับคาสัง่ มาแล้วก็หนั หลังกลับเดินออกไปข้างนอก เดินไปได้
สองก้าวก็หนั กลับมาอีกครั้ง มองขุนนางชั้นผูใ้ หญ่หลายคนในท้อง
พระโรง หัวเราะหึๆ “คุณชายใหญ่ของข้าร่ างกายอ่อนแอ ภายหลัง
หากใครกล้าคิดร้ายต่อเขาในท้องพระโรง เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไร้
เมตตา”
หากเป็ นเพียงคาพูดข่มขู่กไ็ ม่เป็ นไร แต่คาดไม่ถึงว่านาง คาดไม่ถึงว่า
นางยกเท้าถีบประตูหอ้ งหนังสื อส่ วนพระองค์จนเป็ นรู “ฝ่ าบาท ขอ
อภัยเพคะ หลานสะใภ้รับคุณชายใหญ่ออกมาแล้วจะมาซ่อมประตู
ให้ท่าน!”
ฮ่องเต้ยงเซวียนเพียงแค่โบกมือ บอกเป็ นนัยให้นางรี บไป แม้แต่
ความคิดอยากจะพูดก็ไม่มีแล้ว
สายตาของคนทั้งหมดต่างก็จอ้ งมองรู ใหญ่รูน้ นั นิ่งๆ ร่ างสัน่ เทา
เล็กน้อย หากเท้าข้างนั้นเตะลงบนร่ างคงจะเจ็บยิง่ นัก! จยาฮุ่ยจวิน้ จู่
คือสตรี ปากร้ายที่ไม่กลัวสิ่ งใด หลังจากนี้ใครจะกล้ายุแหย่นางอีก!
เสิ่ นเวยไปยังศาลราชวงศ์ดว้ ยความกระฉับกระเฉงไร้กงั วล แม้แต่
พูดยังไม่ตอ้ งพูดเยอะ มีคนพานางไปยังที่ที่ขงั สวีโย่วไว้ก่อนแล้ว
เสิ่ นเวยกวาดตามอง คุณชายใหญ่ของนางกาลังดื่มชาอยูใ่ นห้องขัง
ท่าทางเช่นนั้นไหนเลยจะถูกขัง ชัดเจนว่าเสมือนมาเป็ นแขก เสิ่ นเวย
ดีใจ กวักมือให้สวีโย่ว “ไง คุณชายใหญ่ ข้ามารับท่านแล้ว”
สวีโย่วเห็นเสิ่ นเวยก็ยมิ้ แล้ว วางแก้วชาลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน
กล่าว “ข้ากะไว้แล้วว่าเจ้าควรมาได้แล้ว ไปกันเถอะ”
ไม่รอให้คนมาเปิ ดประตูคุก เถาฮวาก็ยมิ้ แย้มเดินไปข้างหน้า สองมือ
ออกแรง แหกประตูคุกจนเปลี่ยนรู ปเปลี่ยนร่ าง สวีโย่วเดินออกมา
ทันที เขามองเสิ่ นเวยที่อยูใ่ นชุดฐานันดรจวิน้ จู่เต็มยศ เอ่ยชมหนึ่ง
ประโยค “สวยจริ งๆ!”
เสิ่ นเวยแสยะปาก สวยก็สวย แต่ท้ งั หนักทั้งร้อนยิง่ นัก “เจียงเฮยเจียง
ไป๋ ยังไม่รีบพยุงนายท่านพวกเจ้าอีก ไอหยา ดูสิสีหน้าขาวซีด ต้อง
ลาบากมากแน่ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ บวันครึ่ งเดือนจะพักฟื้ นให้
กลับมาเป็ นเหมือนเดิมได้หรื อไม่ จ้าวกงกงก็อย่าลืมรายงานต่อฝ่ า
บาท ข้าพาคุณชายใหญ่กลับไปพักฟื้ นก่อน กองปั ญจทิศรักษานคร
กลุ่มนั้นจะทาอะไรก็ทา” เสิ่ นเวยปรายตามองขันทีจา้ วที่เข้ามาพร้อม
กัน กล่าวอย่างแปลกประหลาด
คนของศาลราชวงศ์ต่างก็ตะลึงงันในความสามารถที่ไม่ยอมรับผิด
แต่เล่นงานฝ่ ายตรงข้ามได้ของเสิ่ นเวย ตั้งแต่ที่นายท่านผูน้ ้ ีเข้ามาใน
ศาลราชวงศ์ ก็มีชาดีปรนนิบตั ิ ไม่กล้าแตะแม้แต่ปลายเล็บเดียว เหตุ
ใดพอจยาฮุ่ยจวิน้ จู่พดู ถึงกลายเป็ นได้รับความลาบากเสี ยแล้วเล่า
ขันทีจา้ วกลับไปรายงาน คนทั้งหมดต่างก็สบั สน เด็กผูห้ ญิงที่
ติดตามอยูข่ า้ งกายสามารถแหกประตูคุกได้ง่ายดาย หรื อว่าเมื่อครู่ จ
ยาฮุ่ยจวิน้ จู่ถือว่าลงมือด้วยความปราณี แล้ว
เสิ่ นเวยใจแข็งจะปลดภาระ บีบบังคับให้สวีโย่วพักฟื้ นอยูใ่ นจวน
อย่าว่าแต่กองปัญจทิศรักษานคร แม้แต่จะออกจากประตูจวนสักก้าว
ก็ไม่ได้
ตอนที่ใช้ประโยชน์ได้กอ็ ่อนโยนมีไมตรี ใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้วก็
ส่ งไปศาลราชวงศ์ ซ้ ายังไม่เสี ยเงินสักแดงเดียว ใครจะยอมเป็ นขุน
นางจนๆ เช่นนั้นเล่า!
ช่วงเวลาหนึ่งเดือนสั้นๆ ฮ่องเต้ยงเซวียนส่ งคนวิ่งมาสิ บกว่ารอบแล้ว
เฉลี่ยแล้วสองสามวันมาที่บา้ นหนึ่งครั้ง แม้แต่หน้าสวีโย่วยังไม่ได้
เห็น ทั้งหมดถูกเสิ่ นเวยไล่กลับไปอย่างไม่อ่อนข้อแต่กไ็ ม่แข็งกร้าว
เหตุผลตามสู ตร ‘คุณชายใหญ่ของข้าโรคเก่ากาเริ บ กาลังพักฟื้ นอยู’่
ฮ่องเต้เองก็ไม่สามารถใช้งานคนป่ วยได้ ฮ่องเต้ยงเซวียนทรงพิโรธ
เดือดดาล แต่กลับไม่มีหนทางแม้แต่นิดเดียว อย่างไรเสี ยก็ไม่อาจตัด
หัวสองคนนี้ได้มิใช่หรื อ
สุ ดท้ายแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฮ่องเต้ยงเซวียนคิดอย่างไร ในที่สุดก็
ปล่อยตัวสวีเช่อไท่จื่อองค์ก่อนออกมาแล้ว สวีเช่อเข้ามาน้อมสานึก
ในพระมหากรุ ณาธิคุณ ฮ่องเต้ยงเซวียนเห็นบุตรคนโตผอมเห็น
กระดูก ในใจก็รู้สึกไม่ดีนกั เอ่ยวาจาทานองหัวอกคนเป็ นพ่อด้วย
ความอ่อนโยนมีไมตรี อย่างยิง่ ทาให้สวีเช่อซาบซึ้งจนแทบจะน้ าตา
ไหล ส่ วนในใจจะคิดอย่างไรก็ไม่อาจรู ้ได้
ตาหนักบูรพาอยูไ่ ม่ได้แล้ว ฮ่องเต้ยงเซวียนจึงให้บุตรคนโตกลับไป
อยูท่ ี่จวนองค์ชายนอกวังของเขา วางแผนว่าผ่านไปสักพักหนึ่งเลือก
ฤกษ์งามยามดีพระราชทานบรรดาศักดิ์อ๋องให้บุตรคนโต และถือ
โอกาสปูนบาเหน็จให้องค์ชายที่ที่บรรลุนิติภาวะหลายคน
นอกเหนือจากไท่จื่อผูถ้ ูกถอดยศด้วย
วันที่สองที่สวีเช่อไท่จื่อองค์ก่อนถูกปล่อยออกมา สวีโย่วก็หายป่ วย
ดีแล้ว ยืน่ สาส์นน้อมสานักในพระมหากรุ ณาธคุณก่อน จากนั้นจึงพา
เสิ่ นเวยไปเยีย่ มท่านพี่ไท่จื่อของเขาที่จวนองค์ชาย ทาให้ฮ่องเต้ยงเซ
วียนโมโหจนแทบจะโยนสาส์นออกไปนอกท้องพระโรง
ขุนนางทัว่ ราชสานักไม่ได้ตาบอด ไหนเลยจะยังไม่เข้าใจอีกว่าหมาก
ครั้งนี้ผงิ จวิน้ อ๋ องเป็ นผูช้ นะ แต่กเ็ ป็ นไปได้วา่ ฝ่ าบาทร่ วมมือกับผิง
จวิน้ อ๋ องเล่นละครตบตา จุดประสงค์กค็ ือหาเหตุผลปล่อยองค์ชาย
ใหญ่ออกมา
ผูต้ รวจการโจวเป็ นผูม้ ีความสามารถจริ งๆ เร็ วอย่างยิง่ ก็สืบค้นคดี
ลักลอบขายม้าได้แล้ว ด้วยเหตุน้ ีซูหนั ผูป้ กครองสู งสุ ดของเมือง
ชายแดนตอนเหนือก็ถูกเปิ ดโปง เขาดูแลงานราชการของเมือง
ชายแดน ฉวยโอกาสตอนที่แม่ทพั อันมัวแต่รับมือกับชนเผ่าหมานอี๋
ย่อมมีโอกาสอย่างยิง่ ที่จะวางแผนชัว่ ลับหลัง
หากบอกว่าซูหนั เพียงคนเดียวสามารถทาสาเร็ จได้ เช่นนั้นก็ไม่มีทาง
เป็ นไปได้เด็ดขาด ทุกคนต่างก็ทางานอยูใ่ นราชสานัก จิตใจสัตย์ซื่อ
เมื่อซูหนั ถูกสื บออกมา สายตาของคนทั้งหมดก็หนั ไปยังใต้เท้าฟังจ้
งกรมกลาโหม
เหตุใดน่ะหรื อ ซูหนั เป็ นใครกัน มีความสัมพันธ์อนั ใดกับฟังจ้ง เขา
เป็ นน้องเขยของฟังจ้ง สี่ ปีก่อนฟังจ้งยังรับตาแหน่งอยูภ่ ายใต้บญั ชา
แม่ทพั อันอยูเ่ ลย เป็ นเขนขวาแขนซ้ายที่มีความสามารถของเขา หลัง
แม่ทพั อันตายไปได้ไม่นาน เขาก็เลื่อนขั้นมาอยูใ่ นกรมกลาโหมใน
เมืองหลวง หากจะบอกว่าในนั้นไม่มีลบั ลมคมนัย ใครจะเชื่อ!
ทุกคนรู ้เรื่ องนี้อยูแ่ ก่ใจ แต่ซูหนั รับโทษทั้งหมดไว้แล้ว อีกทั้งทุกคน
ยังรู ้วา่ ฟังจ้งได้เลื่อนตาแหน่งเข้ามาในเมืองหลวงเป็ นฝี มือของท่าน
เสนาบดีฉิน ใครก็ไม่อาจไม่ดูตาม้าตาเรื อไปผิดใจท่านเสนาบดีฉิน
ได้! ผิดใจท่านเสนาบดีฉินแล้วก็เท่ากับผิดใจองค์ชายรองด้วยมิใช่
หรื อ แม้จะบอกว่าองค์ชายใหญ่เองก็ถูกปล่อยตัวแล้ว แต่ทิศทางลม
ในราชสานักก็แรงที่สุด ผูท้ ี่ฝ่าบาทให้ความสาคัญที่สุดยังคงเป็ นองค์
ชายรองอยู!่ ไท่จื่อ อย่างไรเสี ยก็อ่อนแอเกินไป ใครจะรู ้วา่ ท้ายที่สุด
แล้วผูท้ ี่ได้ครองบัลลังก์จะเป็ นใคร
ซูหนั รวมถึงครอบครัวถูกคุมตัวเข้าเมืองหลวงและถูกจับเข้าคุก
หลวงทันที ฟังจ้งทั้งกังวลทั้งหวาดกลัว เข้าคุกหลวงแตกต่างจากคุก
ใหญ่ทวั่ ไป วิธีการไต่สวนที่นนั่ โผล่ออกมาไม่ขาดสาย ต่อให้เป็ น
ชายฉกรรจ์แข็งแรงมุ่งมัน่ ก็สามารถงัดปากของเจ้าได้ หากน้องเขยซู
หันสารภาพอะไรออกไป เช่นนั้นตระกูลฟังก็ตอ้ งจบเห่แล้ว
อีกด้านหนึ่งก็เป็ นห่วงน้องสาวของเขา น้องเขยซูหนั ตายก็ไม่สาคัญ
แต่ยงั มีนอ้ งสาวรวมถึงหลานชายหลานสาวของเขาอยู่
อับจนหนทาง ฟังจ้งทาได้เพียงไปขอความช่วยเหลือจากท่าน
เสนาบดีฉินถึงที่ ทว่าท่านเสนาบดีฉินกลับยกมุมปากพูดหนึ่ง
ประโยค “เจ้าคิดหาวิธีให้ซูหนั ปิ ดปากให้สนิทดีกว่า ตระกูลซู
เสี ยสละเข้าไปหมดแล้ว หรื อว่าจะต้องสังเวยตระกูลฟังอีกหรื อ”
สี หน้าฟังจ้งแข็งทื่อ เปลี่ยนเป็ นคลุมเครื ออย่างถึงที่สุด ใช่แล้ว เขามา
ร้องของท่านเสนาบดีฉินจะมีประโยชน์อนั ใด แม้จะบอกว่าเรื่ องที่
เขากับซูหนั ทาจะเป็ นคาบัญชาของท่านเสนาบดีฉิน แต่กเ็ ป็ นเพียง
คาพูดปากเปล่า แม้แต่หลักฐานยังไม่เหลือทิ้งไว้ เขามีสิทธิ์อะไรไป
ร้องขอท่านเสนาบดีฉินให้ช่วยคน คนที่ส่งจดหมายไปมากับซูหนั
คือตน! หากซูหนั พูดอะไรในคุกหลวง คนที่ได้รับผลกระทบไปด้วย
ก็มีเพียงตน ไม่เกี่ยวข้องกับท่านเสนาบดีฉินแม้แต่นิดเดียว
หลังฟังจ้งจากไปอย่างขวัญหนีดีฝ่อแล้ว นายทหารผูช้ ่วยเริ่ นหงซูก็
เอ่ยปากกล่าว “ท่านเสนาบดี เช่นนั้นใช่จะไร้เหตุผลเกินไปหรื อไม่”
ท่านเสนาบดีฉินมองเขาปราดหนึ่ง กล่าวอย่างแฝงความนัย “ซูหนั
เป็ นผูท้ ี่ตอ้ งตาย ต่อให้ทุ่มเทแรงไปก็ไร้ประโยชน์ สามารถปกป้อง
ฟังจ้งคนหนึ่งไว้ได้กไ็ ม่เลวแล้ว หวังว่าฟังจ้งผูน้ ้ ีจะเป็ นคนฉลาด มิ
เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไร้เมตตา”
เริ่ นหงซูคิดครู่ หนึ่ง รู ้สึกเช่นกันว่าคาพูดของท่านเสนาบดีฉินมี
เหตุผล จึงไม่ได้พดู อะไรอีก
เพียงแค่สองวันซูหนั ก็ฆ่าตัวตายในคุกหลวง ก่อนตายเขียนจดหมาย
ยอมรับผิด อธิบายโทษทั้งหมดอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง รับไว้เอง
ทั้งหมด
ฮ่องเต้ยงเซวียนทรงพิโรธใหญ่ ประหารชายบรรลุนิภาวะที่มี
สายเลือดตระกูลซูโดยตรงทั้งหมด ญาติผหู ้ ญิงส่ งออกไปขาย ไม่ก็
ส่ งเข้ากรมดนตรี
ส่ วนอันจยาเหอ ฮ่องเต้ยงเซวียนปูนบาเหน็จให้เขาเป็ นปั๋ วเจวี๋ย
ส่ งเสริ มให้เขาเรี ยนหนังสื อพัฒนาตน สื บทอดตระกูลแทนตระกูล
อัน
เสิ่ นเวยเองก็โมโหอย่างยิง่ อาจารย์ซูของนางเคยวิเคราะห์ให้นางฟัง
แล้ว ซูหนั เป็ นเพียงม้ารับใช้ที่ถูกโยนออกมา แม้ฟังจ้งผูน้ ้ นั จะหนีไม่
พ้นความเกี่ยวข้อง แต่กไ็ ม่ใช่ตวั ละครสาคัญอะไร เงินกองทัพหลาย
แสนตาลึง บวกกับเงินหลายแสนตาลังที่ลกั ลอบค้าของ เงินกว่าล้าน
ตาลึงเชียว สองคนนี้ไม่มีความกล้าหาญเพียงนั้น และยังไม่มี
ความสามารถมากเพียงนั้น เบื้องหลังเรื่ องนี้เกรงว่าจะเป็ นท่าน
เสนาบดีฉิน หรื อไม่กอ็ งค์ชายรองผูน้ ้ นั มากกว่า
เสิ่ นเวยหวังว่าท่านเสนาบดีฉินจะโชคร้าย แต่ทา้ ยที่สุดกลับตายเพียง
แค่ซูหนั คนเดียว แม้แต่ฟังจ้งยังมีชีวิตอยูด่ ี ท่านเสนาดีฉินก็ยงิ่ ไม่เป็ น
อะไรทั้งสิ้ น เสิ่ นเวยจะไม่โมโหได้อย่างไร
เมื่อเสิ่ นเวยไม่มีความสุ ข ก็มีคนต้องเจอหายนะแล้ว ด้วยเหตุน้ ีนาง
กลอกตาไปมา เรี ยกเสี่ ยวตี๋เข้ามา ตัดสิ นใจว่าจะต้องสัง่ สอนท่าน
เสนาบดีฉินสักหน่อยแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 260-1 ท่ านเสนาบดีฉินออกจากเมือง
หลวง
วันที่ญาติผหู ้ ญิงตระกูลซูถูกขาย เสิ่ นเวยพาเสิ่ นเจวี๋ยกับเสิ่ นอี้มาดู
ด้วยเช่นกัน พวกเขานัง่ อยูใ่ นเรื อนข้างชั้นสองของโรงหมอข้างถนน
ก้มลงมองแท่นสู งที่อยูไ่ ม่ไกล
เหล่าฮูหยินคุณหนูอี๋เหนียงที่เคยสวมเครื่ องประดับเต็มศีรษะบุคลิก
หน้าตาดี ตอนนี้แต่ละคนผมเผ้ารุ งรังใบหน้ามอมแมมเสื้ อผ้าขาดวิ่น
ขดตัวเพราะความหนาว ไม่ต่างอะไรจากขอทานหนึ่งกลุ่ม
อย่างไรเสี ยเสิ่ นเจวี๋ยกับเสิ่ นอี้กอ็ ายุนอ้ ย สี หน้าทนมองไม่ได้ เสิ่ นเว
ยจึงกล่าว “เห็นแล้วหรื อยัง นี่เป็ นผลมาจากเหล่านายท่านในตระกูล
ทาชัว่ พวกเขาตายก็ตายแล้ว แต่กลับลากภรรยาบุตรสาวบุตรชายให้
ลาบากไปด้วย บ่าวรับใช้เป็ นง่ายเพียงนั้นเลยหรื อ โดยเฉพาะญาติ
ขุนนางต้องโทษ ตกอยูใ่ นมือคนที่มีความชอบผิดแปลก อาจจะ
ได้รับความทรมานและความอับอายอย่างไรก็ได้ กรมดนตรี อยูง่ ่าย
เพียงนั้นเลยหรื อ ญาติขนุ นางต้องโทษจานวนมากฆ่าตัวตายในคืน
นั้น ไม่ใช่เพราะว่าทนรับความอัปยศไม่ได้หรอกหรื อ” ล้วนแต่เป็ น
สตรี บริ สุทธิ์ทรงเกียรติ ทั้งยังเคยอยูด่ ีกินดีได้รับความรักความโปรด
ปรานมาก่อน เพียงแค่หลุมนั้นทางด้านจิตใจพวกนางก็กา้ วข้าม
ไม่ได้แล้ว
เปลี่ยนหัวข้อสนทนา กล่าวต่อ “วันนี้ขา้ พาพวกเจ้ามาดู ก็ไม่ได้มี
เจตนาอื่น เพียงแค่อยากบอกพวกเจ้าว่า หลังจากนี้พวกเจ้าต่างก็ตอ้ ง
เดินเข้าสู่ หนทางการเป็ นขุนนาง ไม่วา่ จะเป็ นในด้านการปฏิบตั ิตวั
หรื อเป็ นขุนนางล้วนแต่ตอ้ งเดินในเส้นทางที่สว่างไสว ก่อนหน้า
การตัดสิ นใจทุกครั้งต้องคิดถึงภรรยาลูกๆ พี่นอ้ งทั้งหลายในตระกูล
ก่อน”
ขณะที่กาลังพูด บนแท่นสู งข้างล่างก็วนุ่ วายพักหนึ่ง เสี ยงที่แหลม
เปรี ยวเสี ยงหนึ่งกาลังตะโกน “สยาเอ๋ อร์ สยาเอ๋ อร์!” ที่แท้แล้ว
ข้างล่างก็มีสตรี ผหู ้ นึ่งทนรับความอัปยศไม่ได้ฉวยโอกาสตอนที่คน
ไม่สงั เกตล้วงปิ่ นปักผมที่ซ่อนไว้ออกมาแทงลาคอทันที
ทหารผูค้ ุมสถบหนึ่งครา จากนั้นจึงส่ งคนมาลากออกไป หญิงชราผู ้
นั้นวิ่งตามได้สองก้าวก็ถูกทหารกั้นกลับมา สะดุดล้มลงกับพื้น ยืน่
มือร้องเรี ยกชื่อของลูกสาว ร้องไห้สะอึกสะอื้น ในฤดูร้อนที่อบอ้าว
ทาให้ในใจคนเย็นยะเยือกอย่างอดไม่ได้
“ท่านพี่ท่านวางใจ หลักการเหล่านี้พวกข้าจะจาไว้ ไม่มีทางก้าว
พลาดแน่นอน” เสิ่ นเจวี๋ยกล่าวอย่างตั้งใจจริ ง เสิ่ นอี้เองก็พยักหน้า
ตามเช่นกัน
เสิ่ นเวยเห็นแล้วก็ชื่นชมอย่างถึงที่สุด ให้กาลังใจพวกเขาหลาย
ประโยค กล่าวต่อ “ปี นี้นอ้ งเจวี๋ยก็อายุสิบสองแล้ว แม้จะได้รับ
ั ฑิตรุ่ นเยาว์แล้ว แต่กไ็ ม่อาจทะนงตนได้ ต้องรู ้วา่ ในอดีตมี
คุณวุฒิบณ
เด็กหนุ่มผูม้ ีพรสวรรค์มากน้อยเพียงใดที่โตมาแล้วไม่ได้ต่างจาก
ผูอ้ ื่น ยิง่ ไปกว่านั้นน้องเจวี๋ยความสามารถเจ้าก็นบั ได้วา่ อยู่
ระดับกลางๆ ยังต่างชั้นจากผูม้ ีพรสวรรค์อยูม่ าก สอบเป็ นบัณฑิตรุ่ น
เยาว์ได้กถ็ ือว่าโชคดีแล้ว ยังต้องสงบเสงี่ยมไว้ ตั้งใจร่ าเรี ยน พยายาม
สอบขั้นฝูซื่อให้ผา่ นเป็ นซิ่วไฉภายในสองปี ”
จากนั้นก็กล่าวกับเสิ่ นอี้ต่อ “น้องอี้เจ้าอายุนอ้ ยกว่าเจวี๋ยเอ๋ อร์สองปี
ยิง่ ไม่ตอ้ งรี บร้อน ตั้งใจเรี ยนหนังสื อกับอาจารย์ให้ดี โตกว่านี้อีก
สองปี ก็ลงสนามสอบดู แม้จะสอบไม่ผา่ นก็ไม่เป็ นไร เจ้าอายุยงั น้อย
เพียงแค่ลงสนามฝึ กความกล้าไว้ ถึงแม้วา่ ฮูหยินจะต้องโทษ แต่
อย่างไรเสี ยเจ้าก็เป็ นบุรุษบ้านสามของพวกเรา พวกเราบ้านสามมี
เพียงพวกเจ้าสองพีน่ อ้ ง จะต้องปกป้องช่วยเหลือกันและกัน ช่วยกัน
ประคับประครอง เช่นนี้บนหนทางการเป็ นขุนนางจึงจะเดินได้ไกล
ยิง่ ขึ้น”
เสิ่ นเจวี๋ยกับเสิ่ นอี้พยักหน้าพร้อมกัน โดยเฉพาะแววตาของเสิ่ นอี้ที่มี
ความเคารพเลื่อมใสปรากฎออกมา คาพูดเหล่านี้มีเพียงพี่สี่ที่เคยพูด
กับเขา มารดาและพี่หา้ เมื่อเห็นเขาก็เอาแต่พดู เรื่ องซ้ าซากน่าเบื่อ
เหล่านั้น บ้างก็วา่ ต้องเด่นกว่าคนอื่น บ้างก็ให้กอบโกยความรักจาก
ท่านพ่อ บ้างก็พดู ถึงมรดกต่างๆ นานา อาจารย์เคยบอกว่า ‘บุรุษที่ดี
ไม่อาจกินข้าวบ้าน’ เหนือเขายังมีพี่ชาย มรดกจะเป็ นของเขาเพียงผู ้
เดียวได้อย่างไร เมื่อเขาโตขึ้นสอบผ่านสร้างชื่อเสี ยงผลงานเข้าสู่
หนทางการเป็ นขุนนางได้แล้ว ทรัพย์สินมากน้อยไหนเลยจะแย่ง
กลับมาไม่ได้ เขาเป็ นบุรุษ ก็ควรทาตนให้น่าเกรงขาม จะมีจิตใจคับ
แคบจับจ้องแต่ผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ แค่น้ นั เหมือนเช่นสตรี ได้
อย่างไร
ฟังฮูหยินที่เปลี่ยนชุดเรี ยบร้อยเตรี ยมออกจากบ้านก็ถูกสามีฟังจ้
งขังอยูใ่ นบ้านไม่ให้ออก แม้แต่พอ่ บ้านที่นางแอบส่ งออกไปซื้อคน
ก็ถูกลากกลับมาแล้ว
ฟังฮูหยินร้องขอด้วยสี หน้าร้อนใจ “นายท่าน เรื่ องในแวดวงขุนนาง
ข้าไม่ยงุ่ และไม่กล้ายุง่ น้องเขยถูกตัดสิ นโทษประหารชีวิตแล้ว
น้องสาวกับสยาเอ๋ อร์ญาติผหู ้ ญิงเหล่านี้เพียงแค่ได้รับผลกระทบ ข้า
ไม่อาจปล่อยพวกนางร่ อนเร่ ออกไปได้ นายท่านอยากเลี่ยงไม่ให้ถูก
สงสัย เช่นนั้นก็ให้ขา้ ออกหน้า อย่างไรเสี ยใช้เงินซื้อพวกนางไว้กจ็ ะ
ได้ดูแลอย่างดี”
ตอนที่ฟังฮูหยินแต่งเข้ามา น้องสาวคนเล็กผูน้ ้ ีของฟังจ้งอายุเพียงหก
ปี ซ้ ามารดาของฟังจ้งก็ป่วยติดเตียงตลอดทั้งปี ดังนั้นน้องสาวคน
เล็กแซ่ฟังจึงมีฟังฮูหยินเลี้ยงดูจนเติบโต เป็ นพี่สะใภ้นอ้ งสะใภ้ แต่
ความจริ งแล้วสนิทเหมือนแม่ลูก น้องสาวคนเล็กแซ่ฟังแทบจะนับ
ได้วา่ เป็ นบุตรสาวคนโตของนาง ตอนนี้นอ้ งสาวคนเล็กแซ่ฟัง
ประสบหายนะครั้งใหญ่ นางจะไม่กระวนกระวายใจได้อย่างไร
“นายท่าน ท่านให้ขา้ ไปเถิด ข้าไม่พาพวกนางกลับมาที่จวน แต่จะ
เลี้ยงพวกนางไว้ในหมู่บา้ น” ฟังฮูหยินร้องขอต่อ น้ าตาไหลลง
มาแล้ว เวรกรรม! น้องสาวที่นางรักและดูแลจนเติบใหญ่! อยูใ่ นคุก
ยังไม่รู้วา่ ได้รับความลาบากมากน้อยเพียงใด ตอนนี้โทษตัดสิ นแล้ว
จะไม่อนุญาตให้นางดูแลสักหน่อยหรื อ
“เจ้าเสี ยสติแล้วหรื อ เจ้าจะทาลายตระกูลฟังหรื อไร ไม่คิดดูบา้ งว่า
น้องเขยต้องโทษอันใด ญาติของเขาพวกเรายืน่ มือเข้าไปได้หรื อ
ตอนนี้ยงั ไม่ทนั เลี่ยงไม่ให้ถูกสงสัย เจ้าก็จะวิ่งเข้าไปแล้ว เจ้ารู ้
หรื อไม่วา่ ในที่ลบั มีดวงตาคอยจับจ้องอยูม่ ากน้อยเพียงใด ห้ามไป!”
เผชิญหน้ากับการรบเร้าไม่เลิกราของฮูหยิน ฟังจ้งรู ้สึกเพียงเหนื่อย
ล้ากายใจ
ฟังฮูหยินถลึงตาโตอย่างเหลือเชื่อ “นายท่าน นัน่ คือน้องสาวแท้ๆ
ของท่าน น้องสาวคนเล็กที่พวกเราเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กจนโต!”
“แล้วข้าไม่รู้หรื อไร แต่กไ็ ม่อาจลาบากพวกเราเพราะนาง น้องคน
เล็กมีเหตุผล จะต้องเข้าใจความลาบากใจของพวกเราแน่นอน” ฟังจ้
งกล่าวด้วยความเศร้าโศกอย่างถึงที่สุด นัน่ คือน้องสาวแท้ๆ ของตน
ในใจเขาเองก็ลาบากใจ “ฮูหยิน นึกถึงลูกชายของพวกเรา เขาเพิ่งจะ
แต่งงานได้หนึ่งปี ภรรยาเขากาลังตั้งครรภ์อยู่ เจ้าตัดใจให้พวกเขา
เข้าไปพัวพันได้หรื อ”
ประโยคนี้โจมตีฟังฮูหยินทันที นางล้มลงบนเตียงกุมหน้า น้ าตาไหล
ลงข้างแก้มราวกับลาธารสายเล็ก เดียรัจฉาน เดียรัจฉาน ล้วนแต่เป็ น
เดียรัจฉานทั้งหมด! ไม่รู้เหมือนกันว่าหมายถึงใคร
ฟังจ้งมองฮูหยินปราดหนึ่ง สัง่ สาวใช้ “ดูแลฮูหยินให้ดี” ถอนหายใจ
เดินออกไป
เมื่อข่าวการตายของสยาเอ๋ อร์หลานสาวตาส่ งกลับมา ฟังฮูหยินก็เป็ น
ลมทันที หลังจากฟื้ นแล้วก็ร้องไห้ไม่หยุด น้องสาวคนเล็กแซ่ฟังมี
เพียงบุตรชายหนึ่งคนบุตรสาวหนึ่งคน ลูกชายอายุมากหน่อย ถูกตัด
ศีรษะแล้ว ข้างกายนางเหลือเพียงลูกสาวคนเดียวเช่นนี้ ตอนนี้ลูก
สาวไม่อยูแ่ ล้ว น้องสาวคนเล็กจะยังมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร
นึกถึงน้องสาวคนเล็กผูม้ ีชะตาขื่นขม ในใจฟังฮูหยินก็โศกเศร้าจน
พูดไม่ออก หากรู ้วา่ สยาเอ๋ อร์จะคิดสั้น ต่อให้นางจะต้องสู ้จนถูกนาย
ท่านทอดทิ้งก็ตอ้ งไปซื้อพวกนางแม่ลูกเอาไว้ให้ได้!
ฟังฮูหยินร้องไห้พกั หนึ่ง หัวเราะพักหนึ่ง คืนนั้นก็ป่วยแล้ว ไข้ข้ ึนสู ง
อย่างยิง่ ตะโกนเรี ยกชื่อของน้องสาวคนเล็ก เสี ยงร้องแหลมเปรี ยว
ชัว่ พริ บตาก็เข้าเดือนแปดแล้ว อีกไม่ชา้ การสอบคัดเลือกช่วงสารท
ฤดูที่มีสามปี ครั้งก็จะมาถึงแล้ว เซี่ยหมิงผูท่ ี่เรี ยนหนังสื ออยูท่ ี่
วิทยาลัยชิงซานก็สอบได้เป็ นซิ่วไฉแล้ว ทั้งยังได้อนั ดับหนึ่งอีก
หน่วย ปี นี้เขาจะเข้าร่ วมการสอบขุนนางระดับเขต ตามกฎ เขาต้อง
เข้าร่ วมการสอบที่หวั เมืองตามทะเบียนบ้าน เพราะว่าสถานการณ์
ของเขาพิเศษเล็กน้อย ไม่สะดวกกลับไปเจียงหนานแล้ว เสิ่ นเวยจึง
ช่วยย้ายเขาเข้าทะเบียนบ้านที่อาเภอผิงหยางใหม่ เขาต้องสอบ
เป็ นจวี่เหริ นให้ได้จึงจะสามารถมาเมืองหลวงเข้าร่ วมการสอบขั้นฮุ่
ยซื่อในช่วงวสันตฤดูเดือนสองปี หน้าได้
ตั้งแต่ที่ฉาฮวารู ้วา่ พี่ชายของนางจะเข้าร่ วมการสอบคัดเลือกช่วง
สารทฤดูเดือนแปดนางก็นบั นิ้วรอวัน ตั้งหน้าตั้งตารอพีช่ ายนางมา
เมืองหลวงทุกวัน เสิ่ นเวยก็แหย่นาง “ฉาหวา เจ้ารู ้ได้อย่างไรว่าพี่ชาย
เจ้าจะสอบเป็ นจวี่เหริ นได้อย่างราบรื่ น” หากสอบไม่ได้ยอ่ มไม่
สามารถมาเมืองหลวงเข้าร่ วมการสอบขั้นฮุ่ยซื่อในช่วงวสันตฤดู
เดือนสองปี หน้าได้
ใครจะรู ้ฉาฮวากล่าวด้วยมาดจริ งจัง “จวิน้ จู่ พี่ชายข้าฉลาดจะตายไป
จะต้องสอบเป็ นจวี่เหริ นได้แน่นอน” อาจเป็ นเพราะโตขึ้นแล้ว หรื อ
อาจเป็ นเพราะเสิ่ นเวยสัง่ สอนนางอย่างสุ ดความสามารถ ฉาฮวาจึง
ไม่ข้ ีขลาดเขินอายเหมือนเช่นเมื่อก่อนแล้ว แม้วา่ จะยังมีนิสยั สงบ
เสงี่ยมอยู่ แต่กส็ ามารถช่วยเสิ่ นเวยจัดการเรื่ องง่ายๆ ได้จานวนหนึ่ง
แล้ว กลอนกวีศิลปะอักษรก็ร่ าเรี ยนได้ไม่เลว แม้นางจะยังเป็ น
คุณหนูตระกูลใหญ่ที่สูงส่ งนั้นอยู่ แต่กเ็ ป็ นเช่นนี้แล้ว
เสิ่ นเวยสัง่ สอนนางดีอย่างยิง่ นางก็เป็ นคนที่มีจิตใจดีรู้จกั สานึก
บุญคุณ ติดเสิ่ นเวยอย่างมาก เดิมทีอกั ษรนางเขียนไม่ค่อยคล่อง แต่
เป็ นเพราะเสิ่ นเวยบอกว่า ‘อักษรก็คือใบหน้าของคน’ นางก็พยายาม
ฝึ กคัดอักษรทั้งวันทั้งคืน เพราะว่าเสิ่ นเวยมีวรยุทธ์ที่ไม่เหมือนใคร
ทุกวันตอนเช้านางจึงตื่นเช้าตามไปฝึ กด้วยตัวเอง หกล้มบาดเจ็บไม่
เคยร้องไห้สกั ครั้ง
บางครั้งเสิ่ นเวยเห็นฉาฮวาที่เป็ นเช่นนี้กช็ ื่นชมมากเป็ นพิเศษ กล่าว
ในใจ เซี่ยหมิงผูเ่ ด็กคนนั้นต้องขอบคุณนางให้ดีเสี ยแล้ว
อ้อ จริ งสิ ผูท้ ี่เข้าร่ วมการสอบขั้นฮุ่ยซื่ อในเดือนสองปี หน้ายังมีเสิ่ น
เซ่าจวิน้ หมู่บา้ นตระกูลเสิ่ นอีกด้วย สามปี ก่อนเขาสอบเป็ นจวี่เหริ น
ได้แล้ว เพราะว่าไม่มนั่ ใจในการสอบขั้นฮุ่ยซื่ อจึงไม่ได้เข้าร่ วมการ
สอบขั้นฮุ่ยซื่อในปี นั้น แต่กลับเรี ยนต่ออีกสามปี เข้าร่ วมการสอบฮุ่
ยซื่อครั้งนี้ในปี หน้าพร้อมกับเซี่ยหมิงผู่
เสิ่ นเวยคิดว่าผ่านการสอบคัดเลือกในช่วงสารทฤดูไปการสอบ
คัดเลือกในช่วงวสันตฤดูกอ็ ยูไ่ ม่ไกลแล้ว นอกจากจะเสี ยเวลา
ระหว่างการเดินทางแล้ว มาถึงเมืองหลวงยังต้องทาความคุน้ เคยกับ
สภาพแวดล้อมอีก เวลาสั้นไปยุง่ อย่างยิง่ ดังนั้นเสิ่ นเวยจึงส่ ง
จดหมายให้เขาเข้าเมืองหลวงมาก่อนล่วงหน้า นับวันดู ก็น่าจะ
ภายในอีกไม่กี่วนั นี้แล้ว
สามปี ก่อนหลังจากที่เสิ่ นเซ่าจวิน้ สอบได้เป็ นจวี่เหริ นก็ไปยัง
วิทยาลัยชิงซาน ศึกษาต่างจากเซี่ยหมิงผู่ เขาได้รับตาแหน่งผูช้ ่วย
สอนที่วิทยาลับชิงซาน สอนนักเรี ยกไปพลาง ร่ าเรี ยนกับนักปราชญ์
ราชบัณฑิตในวิทยาลัยไปพลาง ทั้งสอนทั้งเรี ยน หลายปี มานี้ก็
พัฒนาอย่างมาก
ได้รับจดหมายจากเสิ่ นเวยผูเ้ ป็ นน้องสาวเขาก็ลาออกจากตาแหน่ง
ผูช้ ่วยสอน กลับไปยังหมู่บา้ นตระกูลเสิ่ นเที่ยวหนึ่งก่อน บอกเจตนา
ของน้องสาว ทั้งตระกูลต่างก็ให้การสนับสนุนอย่างยิง่ ปู่ เขาหัวหน้า
ตระกูลสกุลเสิ่ นกล่าว “ในเมื่อน้องเวยของเจ้าวางแผนให้เจ้าดีแล้ว
เช่นนั้นเจ้าก็ไปเถิด ไม่ตอ้ งเป็ นห่วงบ้าน ไปถึงเมืองหลวงเจ้าก็เชื่อ
ฟังปู่ น้อยกับน้องเวย น้องเวยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จาก
ราชวงศ์ให้เป็ นจวิน้ จู่แล้ว สามีที่แต่งงานด้วยก็เป็ นจวิน้ อ๋ อง เป็ น
เกียรติสูงสุ ดแห่งตระกูลเสิ่ นของพวกเรา ตั้งแต่เล็กนางก็ฉลาด มี
นิสยั รอบคอบ พวกเราเห็นมากับตา เจ้าเชื่อฟังนางไม่มีผดิ มีนาง
วางแผนให้เจ้า ปู่ ก็วางใจอย่างยิง่ ”
แบกความหวังอันแรงกล้าและคาตักเตือนของคนในตระกูล เสิ่ นเซ่า
จวิน้ ก็กา้ วเดินไปบนเส้นทางสู่ เมืองหลวงเพื่อไปสอบ
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 260-2 ท่ านเสนาบดีฉินออกจากเมือง
หลวง
แม้ตระกูลเสิ่ นจะไม่มีใครลงสนาม แต่ลูกเขยสามเหวินเทากับลูกเขย
ห้าเว่ยจิ่นอวี้แห่งตระกูลเสิ่ นต่างก็ตอ้ งสอบคัดเลือกในช่วงสารทฤดู
วันที่เริ่ มสอบ ในเมืองหลวงคึกครื้ นยิง่ นัก ทุกคนรวมตัวกันนอก
สนามสอบก้งย่วนถกเถียงกันต่างๆ นานาว่าปี นี้ใครบ้างที่มีความ
เป็ นไปได้มากว่าจะสอบติด ใครบ้างที่อาจจะได้อนั ดับหนึ่ง
ทว่าความครึ กครื้ นนี้กลับไม่ส่งผลกระทบถึงท่านเสนาบดีฉินที่เดิม
ใส่ ใจอย่างถึงที่สุด วันที่เริ่ มสอบคัดเลือกช่วงสาทรฤดูเขานาคนออก
จากเมือง เพราะว่าเขาได้รับข่าว ฉินมู่หรานลูกชายคนเล็กที่ถูก
เนรเทศออกไปผูน้ ้ นั ถูกลอบโจมตีกลางทาง ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุ ดท้าย
ท่านเสนาบดีฉินทั้งตกใจทั้งโมโหทั้งเจ็บปวด ไม่แม้แต่จะคิดก็ขอลา
ต่อฝ่ าบาทไปหาลูกชายคนเล็กด้วยตัวเอง
อันที่จริ งจะว่าไปแล้วนี่ลว้ นแต่เป็ นเพราะฉิ นมู่หรานลูกชายคนเล็กผู ้
นี้ไม่ได้เรื่ องเกินไป ออกไปเป็ นเดือนแล้ว หากเป็ นคนอื่นคงถึง
สถานที่เนรเทศนานแล้ว แต่ฉินมู่หรานเล่า ระยะทางห้าร้อยลี้เขาเพิ่ง
จะเดินไปเพียงครึ่ งเดียว เดินๆ หยุดๆ พบเมืองที่เจริ ญหน่อยก็ยงั ขอ
พักสามวันห้าวัน ฟังเพลงพื้นเมือง กอดสตรี วันคืนผ่านไปอย่าง
อิสระสบายอารมณ์ยงิ่ นัก
มีพอ่ บ้านกับเด็กรับใช้ที่จวนเสนาบดีฉินส่ งไป ฉิ นมู่หรานก็ไม่ได้รับ
ความลาบากเลยแม้แต่นิดเดียว เจ้าหน้าที่ที่คุมตัวก็ถูกพ่อบ้านเลี้ยง
ข้าวเลี้ยงสุ ราดี บ่อยครั้งยังมีเงินให้ยอ่ มต้องตามใจฉิ นมู่หราน
แน่นอน เขาทั้งสองยังอยากจะมีชีวิตเช่นนี้ให้นานอีกหน่อย
ท่านเสนาบดีฉินเดินทางเพียงแค่หา้ วันก็ตามทันฉิ นมู่หรานแล้ว
“ท่านเสนาบดี ท่านมาแล้ว” พ่อบ้านเห็นท่านเสนาบดีฉินลงจากรถ
เบ้าตาก็แดงก่า เดินกะโผลกกะเผลกเข้ามาเคารพ
“หรานเอ๋ อร์เป็ นอย่างไรบ้าง” ท่านเสนาบดีฉินไม่สนใจร่ างกายที่เต็ม
ไปฝุ่ น ถามขึ้นก่อน
เบ้าตาของพ่อบ้านก็ยงิ่ แดง “คุณชายน้อย สถานการณ์ของคุณชาย
น้อย ไม่ค่อยดีนกั ขาทั้งคู่หกั หมดแล้ว ไม่กี่วนั ก่อนยังมีไข้สูง พลบ
ค่าเมื่อวานเพิ่งจะลดลง ท่านเสนาบดีท่านรี บเข้ามาดูเถิดขอรับ”
พ่อบ้านนาท่านเสนาบดีฉินเข้ามาในโรงเตี๊ยม เดินไปพลางรายการ
สถานการณ์เสี ยงเบาไปพลาง
พวกเขาถูกลอบโจมตีเมื่อแปดวันก่อน ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็ นคนโพก
หน้าที่โผล่ออกมาจากไหน มีสี่คน ไม่พดู พร่ าทาเพลงก็ฆ่าฟันพวก
เขา เด็กรับใช้สี่คนที่ตามมาตายไปสามคน เจ้าหน้าที่ผคู ้ ุมสองคนต่าง
ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แม้แต่เขา เอวยังแทบหัก โชคดีที่มีหน่วยคุม้
กันภัยหนึ่งกลุ่มผ่านทางมา มิเช่นนั้นพวกเขาคงจะไม่มีชีวิตแล้ว
“บ่าวไม่กล้าหาเรื อนเล็กแยกหลัง กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย จึงจองห้อง
สองห้องในโรงเตี๊ยม คิดว่าโรงเตี๊ยมคนเยอะ อย่างไรเสี ยก็ปลอดภัย
กว่า” พ่อบ้านกล่าวเสี ยงเบา
ท่านเสนาบดีฉินเห็นลูกชายคนเล็กที่หลับตาทั้งคู่บนใบหน้าซีดขาว
ราวกับกระดาษ ต่อให้จะเกลียดที่เขาไม่เอาไหน แต่ดวงตาก็อดร้อน
ผ่าวไม่ได้ น้ าตาแทบจะร่ วงลงมา
“ท่านเสนาบดี” เจ้าหน้าที่สองคนกับเด็กรับใช้ที่ตามมาปรนนิบตั ิ
ฉินมู่หรานรี บเคารพ
ท่านเสนาบดีฉินโบกมือ สะบัดชุกคลุมนัง่ ลงข้างเตียง มือใหญ่ๆ ลูบ
ใบหน้าที่ไม่มีสีเลือดเลยแม้แต่นอ้ ยของลูกชาย ในใจเศร้าโศกอย่าง
ถึงที่สุด “เขาไม่ฟ้ื นเลยหรื อ” ในน้ าเสี ยงมีความแหบพร่ าสามส่ วน
พ่อบ้านเห็นท่าที ก็รีบกล่าวอธิบาย “ฟื้ นแล้ว เช้าวันที่สี่กฟ็ ้ื นแล้ว
เพียงแต่คุณชายน้อยกลัวเจ็บ เจ็บจนนอนไม่หลับ หมดหนทางจริ งๆ
บ่าวจึงหาหมอขอยาแก้ปวด คุณชายน้อยจึงนอนหลับได้อย่างสงบ”
นายท่านเสนาบดีฉินได้ยนิ ดังนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกหนึ่งครา
ยังรู ้จกั เจ็บก็ดี หากไม่มีแม้แต่ความรู ้สึกเจ็บ เช่นนั้นก็แย่แล้ว
“หมอหลวงเจียง บุตรข้าต้องรบกวนให้ท่านช่วยดูแล้ว” ท่าน
เสนาบดีฉินลุกขึ้นประสานมือคารวะหมอหลวงเจียงที่แบกตะกร้ายา
อยู่ นี่คือหมอหลวงที่เขาเข้าวังขอซูเฟยเหนียงเหนียงเผือ่ เกิด
เหตุการณ์ไม่คาดคิด
หมอหลวงเจียงเองก็ประสานมือกล่าวหนึ่งประโยค “มิบงั อาจ นี่คือ
หน้าที่ของข้าน้อย” ก้าวเข้าไปตรวจอาการของฉิ นมู่หราน
เมื่อตรวจดูแล้วก็ไม่ได้ร้ายแรง สี หน้าของหมอหลวงเจียงเปลี่ยน
ก่อนอันดับแรก กล่าวอย่างนิ่มนวล “ท่านเสนาบดี ชีวิตของคุณชาย
น้อยไม่เป็ นอันตราย เพียงแต่หลังจากนี้เกรงว่าคุณชายน้อยอาจทาได้
เพียงนอนอยูบ่ นเตียง” อายุยงั น้อยเพียงนี้ น่าสงสารยิง่ นัก! หมอ
หลวงเจียงมองฉินมู่หรานบนเตียง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเห็น
ใจ
ท่านเสนาบดีฉินได้ยนิ ก่อนว่าลูกชายคนเล็กไม่เป็ นอันตรายถึงแก่
ชีวิต คิ้วที่ขมวดมุ่นเพิ่งจะคลายออกก็ได้ยนิ ประโยคหลังของหมอ
หลวงเจียง อดสะอึกในใจไม่ได้ “หมอหลวงเจียง เหตุใดถึงพูด
เช่นนี้”
หมอหลวงเจียงกล่าว “คุณชายน้อยไม่เพียงแต่ขาหักสองข้าง กระดูก
สันหลังยังฉีกสาหัส หากขาหักอย่างเดียวก็ไม่เป็ นไร ต่อกระดูก
รักษาให้หายอาจเพียงแค่เดินได้ไม่คล่องแคล่วนัก แต่กระดูกสันหลัง
ฉีก ท่านเสนาบดีอาจจะไม่ค่อยเข้าใจนัก กระดูกสันหลังเชื่อม
เส้นประสาทในร่ างกาย หากส่ วนนั้นถูกฉี ก มนุษย์กจ็ ะไม่มีทางยืน
ได้อีก” เขาอธิบายเสี ยงเบา
“ไม่มีวิธีอื่นหรื อ” ท่านเสนาบดีฉินไล่ถามอย่างไม่ตายใจ
หมอหลวงเจียงส่ ายหน้า “อย่างน้อยข้าน้อยก็ไม่มีความสามารถพอ”
เขาเข้าใจความรู ้สึกของท่านเสนาบดีฉิน แต่เขาก็ไม่มีความสามารถ
จริ งๆ ไม่เพียงแต่เขา ต่อให้จะเป็ นฮว่าถัว่ ก็ไม่มีหนทางเช่นกัน
หมอหลวงเจียงถือเป็ นผูม้ ีฝีมืออันดับหนึ่งในสานักหมอหลวงแล้ว
แม้แต่เขายังพูดว่าไม่มีความสามารถ เช่นนั้นก็ไม่มีหนทางแล้วจริ งๆ
หัวใจหนึ่งดวงของท่านเสนาบดีฉินตกลงก้นเหว เขามองลูกชายคน
เล็กที่ไม่รู้สึกตัวบนเตียง มือข้างลาตัวก็กาแน่นสนิท
หรานเอ๋ อร์ยงั อายุไม่ถึงสิ บห้า อีกหลายสิ บปี หลังจากนี้ตอ้ งใช้ชีวิต
นอนอยูบ่ นเตียง นี่ช่างโหดร้ายเพียงใด! ลูกชายคนเล็กที่ใช้ชีวิต
กระโดดโลดเต้นของเขากลายเป็ นคนพิการ นี่จะให้เขายอมรับได้
อย่างไร หากรู ้ก่อนว่าจะเป็ นเช่นนี้ แม้จะต้องสู ้จนฉี กหน้าจ้าวเฉิ งซวี่
ก็ตอ้ งช่วยลูกชายออกมาให้ได้! เขาไม่ควรจะสนใจมากเกินไปอย่าง
สิ้ นเชิง หากเปลี่ยนหรานเอ๋ อร์ออกมาให้เร็ วกว่านี้จะเกิดเรื่ องเช่นนี้
ได้อย่างไร
ท่านเสนาบดีฉินเสี ยใจแล้ว เสี ยใจอย่างถึงที่สุด
หากเขารู ้วา่ ใครแตะต้องลูกชายของเขา เขาจะต้องสับคนผูน้ ้ นั เป็ น
พันชิ้นหมื่นชิ้น ความน่าสะพรึ งกลัวกะพริ บผ่านดวงตาของท่าน
เสนาบดีฉินไป
“เช่นนั้นบุตรของข้าต้องลาบากให้หมอหลวงเจียงช่วยแล้ว” ท่าน
เสนาบดีหนั หาหมอหลวงเจียงอีกครั้ง คิดแล้วคิดอีกจึงกล่าว “อาการ
บุตรของข้าสามารถเดินทางได้หรื อไม่ หากต้องพักฟื้ น ต้องใช้เวล
นานเพียงใด”
หมอหลวงเจียงมองท่านเสนาบดีฉินที่ชวั่ พริ บตาก็แก่ลงหลายปี ใน
ใจก็เห็นใจอย่างถึงที่สุด เขาเองก็เป็ นพ่อคน ย่อมต้องเข้าใจความ
เจ็บปวดในใจท่านเสนาบดีฉิน ทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้ ต่อให้มี
ตาแหน่งสู งอานาจมากแล้วอย่างไร มีลูกชายที่ไม่เอาไหนคนหนึ่ง ยัง
ต้องทุกข์ใจอยูท่ ุกเมื่อ
ด้วยเหตุน้ ีจึงกล่าวช้าๆ “มีขา้ น้อยติดตามไปด้วย ขอเพียงแค่เดินทาง
ช้าหน่อย ในรถปูผา้ นวมหลายๆ ผืน ระหว่างเดินทางก็ไม่เป็ นไร
แล้ว”
ท่านเสนาบดีฉินพยักหน้า หันหลังกลับสัง่ คนไปเตรี ยมจัดการการ
เดินทางกลับเมืองหลวง เมืองเล็กๆ ที่รกร้างกันดานแห่งนี้ไหนเลย
จะมียาดี ทาได้เพียงกลับเมืองหลวงหรานเอ๋ อร์จึงจะสามารถได้รับ
การดูแลที่ดีกว่านี้ได้
เมื่อเสิ่ นเวยได้รับข่าวท่านเสนาบดีฉินออกจากเมืองหลวง ก็ดีใจจน
กัดหูสวีโย่ว “คุณชายใหญ่สวี โอกาสตอบแทนบุญคุณของท่านมาถึง
แล้ว”
คิว้ ทั้งคู่ของสวีโย่วเลิกขึ้น บอกเป็ นนัยให้นางพูดต่อ
เสิ่ นเวยชูนิ้วนับเลข “พระชายาองค์ชายใหญ่ต้ งั ครรภ์ เป็ นข้าที่ให้
หมอหลิวศึกษาและปรุ งยารักษาครรภ์ สัง่ ให้คนส่ งเข้าไปในตาหนัก
โยวหมิงเงียบๆ ท่านถูกฝ่ าบาทขังไว้ในศาลราชวงศ์ เป็ นข้าที่ไม่เกรง
กลัวบารมีฮ่องเต้ สละชีวิตช่วยท่านออกมา ยังมีที่องค์ชายใหญ่ถูก
ปล่อยออกมาได้ ก็เป็ นเพราะข้าทุบค้อนเตือนความจาฝ่ าบาท ไอหยา
เหตุใดข้าถึงเก่งเพียงนี้ คุณชายใหญ่ท่านว่าท่านต้องตอบแทนทวีคูณ
หรื อไม่” เสิ่ นเวยปิ ดทองบนใบหน้าอย่างหน้าไม่อายยิง่ นัก ตาดวงโต
ที่ใสกระจ่างกะพริ บปริ บๆ มองสวีโย่ว ท่าทางเช่นนั้นใช้คามา
อธิบายก็คงเป็ นคาว่าบ้องแบ๊ว!
เด็กน้อยคนนี้กล้าพูดจริ งๆ สวีโย่วหัวเราะเบาๆ หนึ่งครา เพราะเรื่ อง
ที่นางโวยวายใหญ่ในห้องหนังสื อส่ วนพระองค์ เมื่อไม่กี่วนั ก่อนฝ่ า
บาทยังเรี ยกเขาเข้าวังไปด่า บอกว่า ‘เจ้าเองก็ดูแลคุณหนูสี่แซ่เสิ่ น
บ้าง กาเริ บไปกันใหญ่แล้ว อย่างไรเสี ยก็ไว้หน้าเราบ้าง ต่อหน้าเหล่า
ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ ความเกรงขามของเราอยูท่ ี่ใด’
“ว่ามา เวยเวยอยากให้ขา้ ทาอะไร ขึ้นเขาคมดาบลงทะเลเพลิงข้าล้วน
แต่เชื่อฟังคาสัง่ ของเจ้า” สวีโย่วกล่าวหยอกล้อ
เสิ่ นเวยดีใจแล้ว หัวเราะคิกคักกล่าว “เขาคมดาบทะเลเพลิงไม่จาเป็ น
คืนนี้พวกเราไปเดินเล่นที่จวนเสนาบดีฉินสักรอบหนึ่งเถอะ!” ฉวย
โอกาสที่ท่านเสนาบดีฉินไม่นงั่ บัญชาการอยูใ่ นจวน ไม่แน่วา่ นาง
อาจจะสื บหาเรื่ องน่าสนใจอะไรได้
อีกทั้งคราวก่อนนางแอบย่องเข้าจวนเสนาบดีคนเดียว สวีโย่วเตือน
นางเข้มงวดแล้ว ทั้งยังจัดการนางอย่างรุ นแรงหนึ่งรอบ ตอนนี้นาง
เชื่อฟังแล้ว ในเมื่อแอบสวีโย่วไม่พน้ เช่นนั้นก็พาเขาไปด้วยกัน
เสี ยเลย ยังมีแรงงานฟรี เรี ยกใช้ได้ ดียงิ่ นัก!
“ได้สิ!” สวีโย่วตอบรับอย่างง่ายดาย เขานึกถึงครั้งที่ท้ งั สองคนแอบ
ย่องเข้าจวนเสนาบดีฉินคราวก่อน ท้ายที่สุดก็ยอ่ งไปถึงบนเตียง แวว
ตามีเปลวเพลิงลูกเล็กสลัวๆ แวบผ่าน ส่ วนเสิ่ นเวยที่มีความสุ ขกลับ
ไม่ได้สงั เกตแม้แต่นิดเดียว
คืนนั้น หลังจากระฆังยามสามตีบอกเวลา เสิ่ นเวยกับสวีโย่วก็สวม
ชุดท่องราตรี ใส่ หน้ากากเดินเล่นไปยังจวนเสนาบดีฉิน คราวนี้
เส้นทางที่สวีโย่วพานางไปแตกต่างจากครั้งก่อนอย่างสิ้ นเชิง แต่
หลบองครักษ์และด่านลับที่ลาดตระเวนได้เช่นเคย การคาดการณ์ที่
แม่นยาเช่นนี้ทาให้เสิ่ นเวยสงสัยอย่างยิง่ ว่าหมอนี่ก่อนมาส่ งคนมา
สื บสถานการณ์แล้วใช่หรื อไม่ หากไม่ใช่กงั วลว่าตอนนี้อยูใ่ นจวน
เสนาบดีฉิน เสิ่ นเวยคงจะทรมานให้สารภาพไปนานแล้ว
หึ ไม่ตอ้ งพูด ลางสังหรณ์ของเสิ่ นเวยยอดเยีย่ มจริ งๆ สวีโย่วให้
ทหารมังกรมาสื บการป้องกันที่จวนเสนาบดีฉินก่อนมิใช่หรื อ เหตุ
ใดแม้แต่สวีโย่วก็ยงั จับจ้องจวนเสนาบดีฉินเล่า ไม่ใช่เพราะว่าเขา
แต่งงานกับภรรยาที่มีความอยากรู ้อยากเห็นอย่างยิง่ ซ้ ายังไม่ถูกกับ
ท่านเสนาบดีฉินไม่ใช่หรื อ เพื่อทาให้ภรรยามีความสุ ข ผิงจวิน้ อ๋ อง
ของพวกเราก็ตอ้ งพยายามเช่นกัน
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 261-1 ความลับแห่ งศาลบรรพบุรุษ
สวีโย่วพาเสิ่ นเวยไปยังศาลบรรพบุรุษที่มุมฝั่งตะวันออกเฉี ยงใต้ของ
จวนเสนาบดีฉิน เพิ่งจะเลือกตาแหน่งอาพรางลงยืนได้ ก็เห็นว่ามีนกั
ท่องราตรี ผหู ้ นึ่งลอยเข้ามา “ไง เจ้ามาแล้ว! เอ๋ พาผูช้ ่วยมาด้วย”
ท่าทางเหมือนพบคนรู ้จกั คนผูน้ ้ ีกค็ ือคนโง่ผนู ้ ้ นั ที่เสิ่ นเวยบังเอิญเจอ
คราวก่อน
เสิ่ นเวยจ้องมองเขาปราดหนึ่ง ไม่ได้สนใจเขา กลับเป็ นสวีโย่วที่มอง
เขาอยูส่ กั พัก
คนผูน้ ้ นั เห็นคนทั้งสองไม่สนใจเขา ก็ยกั ไหล่ไม่ได้ใส่ ใจ แต่กล่าว
เสี ยงต่าแทน “ผูเ้ ฒ่าหลังค่อมผูน้ ้ นั ที่เฝ้าศาลบรรพบุรุษวิทยายุทธ์สูง
เป็ นพิเศษ ข้ามาหลายครั้งแล้ว ไม่มีวิธีจดั การเขาแม้แต่นิดเดียว”
เสิ่ นเวยเหลือบมองเขาอีกปราดหนึ่ง กล่าวในใจ นางก็วา่ เหตุใดถึง
บังเอิญเจออีกแล้ว ที่แท้แล้วหมอนี่กม็ าบ่อยนี่เอง! คิดถึงคาพูดของ
คนผูน้ ้ ี เสิ่ นเวยก็ดึงแขนเสื้ อของสวีโย่ว
สวีโย่วพยักหน้าให้เสิ่ นเวย ไม่เห็นว่าเขาทาอะไรเลย ก็เห็นเงาร่ างที่
เหมือนผีสองเงาในที่มืดแวบออกไป ตรงไปที่ศาลบรรพบุรุษ ไม่
นานนักก็ได้ยนิ เสี ยงต่อสู ้ หลังจากนั้นก็เห็นเงาร่ างหลังค่อมเงาหนึ่ง
ไล่เงาสองสายก่อนหน้านี้พลางสู ้พลางวิง่ ออกไปไกล
แววตานักท่องราตรี จอมโง่ผนู ้ ้ นั ปรากฏความชื่นชม ชูนิ้วโป้งให้สวี
โย่วกับเสิ่ นเวย “สหายฝี มือดี” ในใจแอบเสี ยใจที่เหตุใดเขาจึงไม่รู้จกั
ใช้กลยุทธ์ล่อเสื อออกจากถ้ านี้เล่า แต่จะว่าไปลูกน้องของเขาก็พามา
เพียงน้องเล็กหนึ่งกลุ่มใหญ่เท่านั้น
เสิ่ นเวยกับสวีโย่วเมินเขาอย่างใจตรงกัน “ไป เข้าไปดู” สวีโย่วจับ
มือของเสิ่ นเวยแล้วกล่าวเสี ยงเบา ภรรยาของเขาพร่ าบ่นถึงศาล
บรรพบุรุษนานแล้ว หากวันนี้ไม่พานางเข้าไปดูสกั หน่อย นางคงจะ
นอนหลับไม่สนิท
สวีโย่วโอบเอวของเสิ่ นเวย เข้าไปในศาลบรรพบุรุษอย่างเงียบๆ
ดวงตานักท่องราตรี ผนู ้ ้ นั กะพริ บวาบตามเข้าไปเช่นกัน เสิ่ นเวยหันก
ลับมามองเขาปราดหนึ่ง กลับไม่ได้พดู อะไร ใครจะรู ้ขา้ งในศาล
บรรพบุรุษจะมีอะไร เพิ่มขึ้นมาอีกคนก็แบ่งเบาความเสี่ ยงได้มิใช่
หรื อ หากคนผูน้ ้ ีมีเจตนาไม่ดี สองต่อหนึ่งพวกเขาก็ยงั มีสิทธิ์ชนะ
มากกว่า โดยเฉพาะนางเพิ่งเห็นการเตรี ยมการของสวีโย่ว เขา
สามารถพาทหารลับสองคนเข้ามาได้ เช่นนั้นก็สามารถพาทหารลับ
มากกว่านี้มาได้ดว้ ยเช่นกัน
คนทั้งสามแวบร่ างเข้าไปในศาลบรรพบุรุษ ในศาลบรรพบุรุษจุด
เพียงไฟสลัวไว้หนึ่งดวง ธูปในกระถางธูปเพิ่งจะเผาไปเพียงครึ่ งชุ่น
ดูท่าแล้วผูเ้ ฒ่าหลังค่อมผูน้ ้ นั เพิ่งจะปั กมันลงในกระถางธูป
เสิ่ นเวยมองแท่นบูชาที่วางอยูข่ า้ งบนปราดหนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัว
เสาะหาในศาลบรรพบุรุษ ลูบคลาบนผนัง เหยียบยา่ บนพื้น นาง
กาลังหากลไกห้องลับอยู่ หาอยูพ่ กั หนึ่งไม่ได้เงื่อนงา เสี ยดาย
เล็กน้อยที่ไม่ได้พาอันจยาเหอมาด้วย หากอันจยาเหออยู่ น่าจะดู
บริ เวณผิดปกติในศาลบรรพบุรุษแห่งนี้ออกได้
ในขณะที่เสิ่ นเวยกาลังหงุดหงิด ก็เห็นเพียงนักท่องราตรี จอมโง่ผนู ้ ้ นั
เดินเข้าไปหลายก้าว คลาหาในหมู่แท่นบูชาจานวนมากแล้วกดลง
ได้ยนิ เพียงเสี ยง ‘ผึ่ง’ เสี ยงหนึ่ง บนพื้นข้างเท้าของเสิ่ นเวยก็ปรากฏ
ปากอุโมงค์หนึ่งออกมา เสิ่ นเวยตกใจจนกระโดดไปอยูข่ า้ งๆ ทันที
คนผูน้ ้ นั หัวเราะหึๆ “ขออภัย” แต่ในน้ าเสี ยงความจริ งใจในการขอ
โทษกลับไม่มีแม้แต่นิดเดียว
เสิ่ นเวยถลึงตาใส่ เขาปราดหนึ่งอย่างแรง สวีโย่วก็จอ้ งมองเขาอย่าง
เย็นยะเยือกและหวาดระแวง คนผูน้ ้ นั เห็นท่าทีกร็ ี บกล่าวอธิบาย “ข้า
นัง่ เฝ้าที่นี่มากว่าครึ่ งเดือนแล้ว จึงจับทางจุดนี้ได้แล้ว” ในน้ าเสี ยง
ภูมิใจอย่างถึงที่สุด
ด้วยเหตุน้ ีสวีโย่วกับเสิ่ นเวยจึงลดความสงสัยไปได้ครึ่ งหนึ่ง ดวงตา
ของเสิ่ นเวยกะพริ บวาบเล็กน้อยชี้คนผูน้ ้ นั จากนั้นก็ช้ ีปากอุโมงค์ที่
ปรากฏอยูบ่ นพื้น ความหมายนั้นชัดเจนอย่างยิง่ หมายความว่าให้เขา
ลงไปก่อน
แม้คนผูน้ ้ นั จะไม่พอใจเล็กน้อย แต่กอ็ บั จนหนทาง ล้วงไข่มุกราตรี
หนึ่งเม็ดออกมาส่ องแสง ลงไปจากปากอุโมงค์ก่อนแล้ว
สวีโย่วชะโงกหน้าลงไปมอง เห็นคนผูน้ ้ นั ยืนอย่างปลอดภัยแล้ว จึง
พาเสิ่ นเวยเดินลงไปตามบันไดด้วยความระมัดระวัง
ไข่มุกราตรี ส่องประกายริ บหรี่ เสิ่ นเวยมองเห็นว่านี่คือห้องลับที่ไม่
ใหญ่มากหนึ่งห้อง เรี ยบง่ายอย่างถึงที่สุด มีเก้าอี้ไม้โบราณหนึ่งตัว
อย่างอื่นคล้ายกับว่าไม่มีอะไรแล้ว
“นี่ ชนรุ่ นหลัง!” เสิ่ นเวยกาลังผิดหวังเล็กน้อย จู่ๆ เสี ยงที่แสบแก้วหู
เสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้น ทาให้เสิ่ นเวยสะดุง้ ตกใจ
“ท่านเป็ นใคร” นักท่องราตีจอมโง่ผนู ้ ้ นั ชูไข่มุกราตรี เดินสองก้าวไป
ยังที่ที่เสี ยงดังออกมาแล้ว เสิ่ นเวยจึงเห็นว่าในห้องลับแห่งนี้ยงั ขังคน
ไว้ผหู ้ นึ่ง ชายชราที่แก่อย่างถึงที่สุดผูห้ นึ่ง หากเขาไม่เอ่ยปากพูดเอง
เสิ่ นเวยยังคิดว่านี่คือรู ปปั้นแกะสลักรู ปหนึ่งเสี ยอีก
“พวกเจ้าชนรุ่ นหลังสามคนหาที่นี่เจอได้กน็ บั ว่ามีความสามารถ
เล็กน้อย ตาเฒ่าหลังค่อมผูน้ ้ นั ข้างนอกไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย”
ดวงตาของชายชราผูถ้ ูกขังขยับ เสี ยงแหบแห้งจนทาให้เสิ่ นเวยอยาก
ปิ ดหู แสบแก้วหูเกินไปแล้วจริ งๆ ราวกับเสี ยงล้อรถเบรกกะทันหัน
สัมผัสกับพื้นถนน
“ส่ วนผูช้ ราเป็ นใครน่ะหรื อ หึๆ พูดออกมาแล้วคงจะต้องทาให้เหล่า
ชนรุ่ นหลังสะดุง้ ตกใจแน่นอน ผูช้ ราคืออ๋ องเคียงบ่าเฉิ งอี้” ชายชราผู ้
นั้นกล่าวด้วยเสี ยงแสบแก้วหูน้ นั ของเขาต่อ
“อะไรนะ” เสิ่ นเวยกับนักท่องราตรี จอมโง่ผนู ้ ้ นั เอ่ยปากพร้อมกัน
แม้แต่สวีโย่วที่แต่ไหนแต่ไรหน้าตายดวงตาก็หดเล็ก “ท่านคืออ๋ อง
เคียงบ่าเฉิ งอี้ง้ นั หรื อ อ๋ องเคียงบ่าเฉิงอี้ที่ก่อกบฏกับราชวงศ์นาทัพ
ออกไปไกลผูน้ ้ นั น่ะหรื อ” เสิ่ นเวยตกใจอย่างยิง่ นางคิดว่านี่คือเรื่ อง
ที่ไม่น่าเชื่อที่สุดตั้งแต่นางทะลุมิติมายังยุคต้ายง
“ชนรุ่ นหลังกลับเคยได้ยนิ ชื่อของผูช้ รา ถูกต้อง ผูช้ ราก็คืออ๋ องเคียง
บ่าเฉิงอี้” ในดวงตาของชายชรามีบางอย่างแวบผ่าน เสิ่ นเวยกาลังจะ
ตั้งใจมอง เขาก็กลับคืบสู่ ความสงบนิ่งไร้คลื่นลมอีกครั้งแล้ว
“เป็ นไปไม่ได้! หากท่านเป็ นอ๋ องเคียงบ่าเฉิ งอี้เหตุใดถึงถูกท่าน
เสนาบดีฉินขังไว้ที่นี่เล่า อีกทั้งสิ บปี ก่อนท่านไม่ใช่วางแผนลับยึด
อานาจก่อกบฏร่ วมกับเฉิงฮองเฮาไท่จื่อหรื อ” นักท่องราตรี จอมโง่ผู ้
นั้นพลันกล่าว
“สิ บปี ก่อนหรื อ เหอะ ผูช้ ราถูกขังอยูท่ ี่นี่เกือบยีส่ ิ บปี แล้ว ยึดอานาจ
ก่อกบฏอะไรกัน แท้จริ งแล้วเกิดเรื่ องอะไรขึ้นกันแน่ ผูช้ ราไม่เคยทา
มาก่อน” ท่าทีของผูช้ รานั้นตื่นตระหนกเล็กน้อย “รี บบอกผูช้ รามา
เฉิงฮองเฮากับไท่จื่อเป็ นอย่างไรบ้าง” ท่าทางร้อนใจนั้นทาให้
ใบหน้าของเขามองดูแล้วน่ากลัวยิง่ ขึ้น
ในใจเสิ่ นเวยเกิดความสงสัยหลายส่ วน หากคนผูน้ ้ ีคืออ๋ องเคียงบ่า
เฉิงอี้จริ งๆ เช่นนั้นแล้ว… นางกาลังจะเอ่ยปากพูด ก็ได้ยนิ เสี ยง
ของสวีโย่วดังขึ้นมาแล้ว “เฉิงฮองเฮาตายไปเมื่อสิ บปี ก่อนแล้ว ผูค้ อ
ตาย ส่ วนไท่จื่อ ก็ถูกฝ่ าบาทขังไว้สิบปี ช่วงนี้เพิ่งจะถูกปล่อย
ออกมา”
“ฉินชัง ฉิ นชังเสี่ ยวเอ๋ อร์” ชายชราที่ก่อนหน้านี้สงบนิ่งมีสติกระจ่าง
แจ้งก็เดือดดาลขึ้นมา ตะคอกเสี ยงต่า ร้องโหยหวน ประหนึ่งสัตว์ป่า
ได้รับบาดเจ็บ โซ่ที่ล่ามมือล่ามเท้าไว้ส่งเสี ยงดังกังวาน
เสิ่ นเวยเขยิบเข้าใกล้สวีโย่วอย่างอดไม่ได้ ในสายตาเต็มไปด้วยความ
สงสาร ฟังว่าชัว่ ชีวติ ของอ๋ องเคียงบ่าเฉิงอี้ไม่ได้แต่งงาน ตั้งแต่เล็ก
ก่อนหน้าที่จะก่อกบฏกับราชวงศ์กไ็ ม่ได้แต่งงานเลย ในชีวิตก็มีเฉิง
ฮองเฮาลูกเลี้ยงผูน้ ้ ี เฉิงฮองเฮากับไท่จื่อองค์ก่อนเปรี ยบเสมือนญาติ
เพียงสองคนของเขา ตอนนี้รู้วา่ พวกเขาคนหนึ่งตาย คนหนึ่งถูก
ทรมาน ใครจะรับไหวเล่า
“รี บไป มีคนมาแล้ว” จู่ๆ สวีโย่วก็เอ่ยปาก ดึงเสิ่ นเวยวิ่งไปยัง
ทางออกห้องลับ นักท่องราตรี จอมโง่ผนู ้ ้ นั ตะลึงงัน รี บตามไป
เช่นกัน
ถูกสวีโย่วกอดไว้ในอ้อมอก ผ่านไหล่ของเขาเสิ่ นเวยก็มองชายชราที่
เห็นได้ชดั ว่าไม่คอ่ ยมีสติ ในดวงตาซับซ้อนมากเป็ นพิเศษ
ทั้งสามคนเพิ่งจะออกจากศาลบรรพบุรุษ ชายชราหลังค่อมผูด้ ูแล
ศาลบรรพบุรุษที่ถูกล่อออกไปผูน้ ้ นั ก็กา้ วเข้ามาแล้ว เขายกตะเกียง
น้ ามันนั้นที่วางอยูบ่ นโต๊ะขึ้นมาตรวจดูทวั่ ด้านหนึ่งรอบ ไม่เห็น
ร่ องรอยใดๆ จากนั้นเขาก็ยนื เงี่ยหูฟัง คิ้วขมวดมุ่น เปิ ดกลไกถือ
ตะเกียงน้ ามันลงไปในห้องลับ
“ผูแ้ ซ่เฉิง เจ้าเป็ นบ้าอะไรอีกแล้ว” ชายชราหลังค่อมถามอย่างเย็น
เยียบ
ผูแ้ ซ่เฉิงผูน้ ้ ีเองก็ไม่รู้วา่ เป็ นอะไร ช่วงสองเดือนมานี้มกั จะร้อง
ตะโกนบ้าคลัง่ ไร้เหตุผลกลางดึก คาดว่าชะตาคงใกล้จะขาดแล้ว
สิ นะ! โชคดีที่ศาลบรรพบุรุษแห่งนี้อยูใ่ นที่เปลี่ยว ห้องลับก็เก็บเสี ยง
มิเช่นนั้นก็ไม่รู้วา่ จะทาให้เกิดการเคลื่อนไหวที่มากเพียงใด
ทว่าเฉิงอี้กลับพ่นคาด่าใหญ่ “ฉินชังเสี่ ยวเอ๋ อร์เจ้าต้องไม่ตายดี เจ้าจะ
ไร้ผสู ้ ื บสกุล บุรุษตระกูลฉิ นเป็ นทาสทุกชาติ สตรี เป็ นนางโลมทุก
สมัย ฉินชังหลังเจ้าตายไปแล้วจะต้องลงนรกสิ บแปดขุม ถูกเผามอด
ไหม้ทุกวันๆ ฉินชังเสี่ ยวเอ๋ อร์เจ้าต้องถูกห้าม้าแยกศพ…”
ชายชราหลังค่อมเห็นเฉิงอี้ยงิ่ ด่าก็ยงิ่ ไปกันใหญ่ โมโหจนหยิบแส้
โบยลงบนตัวเขา ความรู ้สึกที่เจ็บปวดทาให้เฉิ งอี้ค่อยๆ ได้สติ
กลับมา ดวงตาใสกระจ่างขึ้น
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 261-2 ความลับแห่ งศาลบรรพบุรุษ
“เจ้าเองหรื อฉินเจิง! โบยข้าแล้วใช่จะทาให้จิตใจที่ดามืดของเจ้า
พอใจหรื อไม่ ลูกน้องสู ้แม่ทพั ไม่ได้ กล้านักเจ้าก็ปล่อยข้าแล้วพวก
เราต่อสู ้กนั อย่างตรงไปตรงมาสักตั้ง” บนใบหน้าของเฉิ งอี้เต็มไป
ด้วยรอยยิม้ เหยียดหยาม
ทว่าชายชราหลังค่อมกลับไม่ขยับ “น่าเสี ยดายตอนนี้คนที่ลดตัวเป็ น
นักโทษกลับเป็ นเจ้า วิธียวั่ ยุไม่มีประโยชน์กบั ข้า เจ้าคิดว่าเจ้ายังเป็ น
อ๋ องเคียงบ่าที่เรี ยกลมเรี ยกฝนได้ผนู ้ ้ นั หรื อ อย่าตลกไปหน่อยเลย!”
เฉิงอี้ถูกเปิ ดโปงความคิดก็ไม่โกรธ กลับหัวเราะร่ าฮ่าๆ “แล้วเจ้า
ดีกว่าหรื อไร ฉินเจิงชายหนุ่มรู ปงามที่ชื่อเสี ยงโด่งดังในยุทธจักร
คาดไม่ถึงว่ากลายเป็ นสุ นขั รับใช้ของผูม้ ีตาแหน่งอานาจ พูดออกไป
แล้วน่าอับอายเสี ยจริ ง! หึๆ ใครจะรู ้วา่ ชายหนุ่มรู ปงามที่เคยสง่าผ่า
เผยจะกลายมามีสภาพเช่นตอนนี้ เอวก็งอแล้ว หลังก็ค่อมแล้ว
ใบหน้าก็กลายเป็ นผิวไม้แก่ๆ วันทั้งวันเฝ้าศาลบรรพบุรุษที่ทึบ
ทะมึนแห่งนี้ ฮ่าๆ ใครบ้างจะจาเจ้าได้” เฉิ งอี้พยายามพูดเหยียดหยาม
มีบางอย่างแวบผ่านดวงตาชราภาพไป เขาแค่นเสี ยงกล่าว “ไม่ตอ้ ง
กังวลไป เจ้าเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าข้าสักเท่าไร! เวลาของเจ้าเหลืออีก
ไม่กี่วนั แล้ว ซึมซับมันให้ดีๆ เถิด” นึกถึงแผนการอันยิง่ ใหญ่ของ
ท่านเสนาบดี เบื้องลึกในใจเขาก็ตื่นเต้นเงียบๆ แม้วา่ เขากับท่าน
เสนาบดีจะไม่ใช่ญาติกนั และไม่ได้มีบรรพบุรุษเดียวกัน แต่อย่างไร
เสี ยก็แซ่ฉินทั้งคู่ ห้าร้อยปี ก่อนต่างก็เป็ นครอบครัวเดียวกัน
เฉิงอี้ใจเต้น กล่าว “ฉินชังเสี่ ยวเอ๋ อร์เล่า เรี ยกเขามาให้ขา้ ข้ามีเรื่ องจะ
ถามเขา”
“ท่านเสนาบดีเป็ นคนที่นกั โทษเช่นเจ้าสามารถพบได้หรื อ” ท่าทาง
ของชายชราหลังค่อมดูถูกอย่างถึงที่สุด “ยิง่ ไปกว่านั้นท่านเสนาบดีก็
มีกิจธุระมากมาย ไหนเลยจะมีเวลามาพบเจ้า”
“ฮ่าๆ คงไม่ใช่วา่ ฉินชังไม่อยูใ่ นจวนหรอกกระมัง” เฉิ งอี้หวั เราะร่ า
กล่าว ดวงตาทั้งคู่ที่แหลมเปรี ยวจ้องมองบนใบหน้าชายชราหลัง
ค่อม ไม่มองข้ามการเปลี่ยนแปลกเล็กน้อยใดๆ บนใบหน้าเขา เห็น
คิ้วของเขาขยับเล็กน้อย ก็ยนื ยันการคาดเดาในใจแล้ว “ไม่อยูใ่ นจวน
จริ งๆ ด้วย! ฉินเจิง เกิดเรื่ องใหญ่อะไรที่นายเจ้าจาเป็ นต้องไปหรื อ
ฝ่ าบาทสังเกตเห็นความทะเยอทะยานที่โฉดชัว่ ของเขาแล้วหรื อ หรื อ
ว่าใครในจวนตายอยูข่ า้ งนอกอีกแล้ว” อารมณ์ของเฉิ งอี้สบายใจยิง่
นัก
ทว่าชายชราหลังค่อมกลับมีน้ าโหอย่างถึงที่สุด “เจ้าค่อยๆ ทายไป
เถอะ ท่านเสนาบดีกบั จวนเสนาบดียงั ดีอยู”่ พูดจบก็ออกจากห้องลับ
เมื่อออกมาข้างนอกในใจเขาก็เกิดความกังวลขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้
เหมือนกันว่าอาการบาดเจ็บของคุณชายน้อยจะเป็ นอย่างไรบ้าง ท่าน
เสนาบดีไม่อยูใ่ นจวน ในใจเขามักจะรู ้สึกไม่สบายใจยิง่ นัก!
โดยเฉพาะแขกไม่ได้รับเชิญสองคนนั้นในคืนนี้ เขามักจะรู ้สึก
ผิดปกติอย่างยิง่ สองคนนั้นคล้ายเพียงแค่ล่อให้เขาออกไป เมื่อเขาได้
สติรีบตามกลับมา แต่กลับไม่พบเห็นอะไรทั้งสิ้ น
เสิ่ นเวยกับสวีโย่วที่กลับไปถึงจวนจวิน้ อ๋ องก็มองหน้ากันและกัน
ต่างก็ตกตตะลึงกับข่าวที่สืบได้รับในคืนนี้
“สวีโย่ว ท่านว่าคนผูน้ ้ นั คืออ๋ องเคียงบ่าเฉิ งอี้จริ งหรื อไม่” เสิ่ นเวยเอ่ย
ปากถาม
สวีโย่วคิดแล้วจึงกล่าว “ไม่อาจสรุ ปได้” กล่าวต่อ “ไม่วา่ จะใช่
หรื อไม่ ท่านเสนาบดีฉินคนผูน้ ้ ีกไ็ ม่ใช่คนเรี ยบง่ายอย่างเช่นที่เห็น”
สวีโย่วรู ้สึกโชคดีจริ งๆ โชคดีที่ภรรยาเขาใจแคบและชอบก่อเรื่ อง
หากไม่ใช่นางจับตามองท่านเสนาบดีฉิน เช่นนั้นเขาก็คงมองข้าม
จิ้งจอกเฒ่าที่อนั ตรายผูน้ ้ ีไปแล้วจริ งๆ
เสิ่ นเวยเข้าใจเจตนาของสวีโย่วอย่างมาก ใครจะรู ้วา่ สิ่ งที่ตาเฒ่าผูน้ ้ นั
พูดเป็ นจริ งหรื อเท็จ อ๋ องเคียงบ่าเฉิงอี้บุคคลที่เก่งกาจเพียงนั้นจะถูก
ท่านเสนาบดีฉินขังได้อย่างไร นางเองก็ไม่เชื่ออย่างยิง่ !
“สื บให้ชดั เจนดีกว่า สื บดูวา่ แท้จริ งแล้วเมื่อยีส่ ิ บปี ก่อนเกิดอะไรขึ้น
กันแน่ ยังมีท่านเสนาบดีฉินผูน้ ้ นั ก็ตอ้ งสื บเช่นกัน!” เสิ่ นเวยขมวด
คิว้ กล่าว หากตาเฒ่าผูน้ ้ นั เป็ นอ๋ องเคียงบ่าจริ งๆ เช่นนั้นท่านเสนาบดี
ที่ขงั เขาไว้กไ็ ม่ใช่เล็กๆ เลย! รวมถึงคดีของไท่จื่อองค์ก่อนก็ลว้ นมี
คาอธิบายเช่นกัน
สวีโย่วพยักหน้า “วางใจ เรื่ องนี้ขา้ จะต้องสื บ เพียงแต่ช่วงนี้ที่จวน
เสนาบดีฉินไม่อาจไปได้อีกแล้ว เลี่ยงไม่ให้แหวกหญ้าให้งูตื่น” สวี
โย่วกาชับหนึ่งประโยค
แม้เสิ่ นเวยจะไม่ค่อยยินยอม แต่กย็ งั คงพยักหน้าเห็นด้วย ในดวงตา
กะพริ บวาบ กล่าวต่อ “เรื่ องนี้จะต้องบอกฝ่ าบาทสักหน่อยหรื อไม่”
สวีโย่วส่ ายหน้าทันที “อย่าเพิ่งพูดก่อน รอสื บให้แน่ชดั แล้วค่อยพูด
เถอะ” หลายปี เพียงนี้ท่านเสนาบดีฉินได้รับความสาคัญจากฝ่ าบาท
อย่างถึงที่สุด มิหนาซ้ าใครจะรู ้วา่ ข้างกายฝ่ าบาทสะอาดหรื อไม่ หาก
สร้างความตกใจล่วงหน้าเช่นนั้นจิ้งจอกเฒ่าตัวนั้นก็จะไหวตัวทัน
เสิ่ นเวยยักไหล่อย่างไม่มีความคิดเห็น คล้ายจู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ กล่าว
“คนที่เจอคืนนี้กค็ ือคนผูน้ ้ นั ที่ขา้ บังเอิญเจอเมื่อคืนนั้น สวีโย่ว ท่านดู
ภูมิหลังของเขาออกหรื อไม่” ส่ วนข้ออ้างที่คนผูน้ ้ นั บอกว่าไปขโมย
ของล้ าค่าที่จวนเสนาบดีเสิ่ นเวยไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว นัง่ เฝ้าอยูใ่ น
จวนเสนาบดีมากว่าครึ่ งเดือนกระทัง่ นานกว่านั้น นี่ดึงดูดความสนใจ
ของเสิ่ นเวยอย่างเลี่ยงไม่ได้
สวีโย่วไตร่ ตรองครู่ หนึ่ง กล่าว “รอก่อนเถิด ข้าให้ทหารเงาตามเขา
ไปแล้ว”
ข่าวที่ทหารเงานากลับมาทาให้เสิ่ นเวยผิดหวังอย่างยิง่ เพราะว่า
ทหารเงาตามไปเพียงไม่กี่สายถนนก็คลาดกับคนแล้ว สวีโย่วเห็น
เสิ่ นเวยผิดหวัง ลังเลครู่ หนึ่งจึงกล่าว “หากข้าทายไม่ผดิ เขาน่าจะ
เป็ นหัวหน้าผูน้ ้ นั ของกลุ่มมือสังหาร หลายปี ก่อนข้าเคยพบเขาครั้ง
หนึ่ง”
“อะไรนะ เหตุใดท่านถึงไม่บอกให้เร็ วกว่านี้” เสิ่ นเวยนัง่ ไม่ติดใน
ชัว่ ขณะ กัดฟันด้วยความโกรธ “หากท่านบอกเร็ วกว่านี้เมื่อครู่ ขา้ คง
ฆ่าเขาไปแล้ว” นางไม่ลืมเรื่ องที่ปีก่อนถูกคนชุดดาลอบสังหาร หลัง
เรื่ องจบสวีโย่วเองก็บอกว่าคนชุดดาเหล่านั้นล้วนแต่เป็ นมือสังหาร
ของกลุ่มมือสังหาร เพราะว่ากลุ่มมือสังหารค่อนข้างลึกลับ บวกกับ
เกิดเรื่ องที่ซีเจียง เสิ่ นถูกกิจธุระพัวพันในชัว่ ขณะจึงวางเรื่ องนี้ไว้
ข้างๆ แต่ส่วนลึกภายในใจนางไม่มีทางลืมความอาฆาตเคียดแค้นได้
ตอนนี้บงั เอิญเจอหัวหน้าของกลุ่มมือสังหาร นางปล่อยไปสิ แปลก
สวีโย่วหัวเราะอย่างจนใจ ดึงเสิ่ นเวยที่เกรี้ ยวกราดกลับมา “ดูเจ้าร้อน
ใจสิ ข้าเพียงแค่บอกว่าเหมือนหัวหน้ากลุ่มมือสังหารผูน้ ้ นั แต่ก็
ไม่ได้มนั่ ใจเต็มร้อย อย่างไรเสี ยครั้งนั้นที่เห็นเขาก็เมื่อหลายปี ก่อน
แล้ว ซ้ ายังเห็นเพียงแวบเดียว แม้แต่พดู ยังไม่ได้พดู สักคา หากจาผิด
ขึ้นมาเล่า”
“ไม่มีทาง!” เสิ่ นเวยกัดฟันกรอดกล่าว สายตาคุณชายใหญ่ของนาง
สามารถมองคนผิดได้ดว้ ยหรื อ ทาให้เขาพูดออกมาได้เช่นนั้นก็มี
ความมัน่ ใจแปดเก้าส่ วนแล้ว อย่าว่าแต่แปดเก้าส่ วน ต่อให้มนั่ ใจ
เพียงห้าส่ วนก็คุม้ ค่าที่จะเสี่ ยง ด้วยเหตุน้ ีสายตาที่เสิ่ นเวยมองสวีโย่
วจึงคับแค้น “ท่านรู ้อยูว่ า่ ข้ากับเขามีความแค้นใหญ่หลวง ยังไม่บอก
ข้าอีก มีเจตนาอันใด หรื อว่าหัวหน้าของกลุ่มมือสังหารเป็ นมิตร
ท่าน” นัน่ คือความพ่ายแพ้ครั้งแรกที่นางเจอตั้งแต่ทะลุมิติมา แม้จะ
ไม่ได้รับบาดเจ็บถึงข้างใน แต่บาดแผลบนผิวหนังเหล่านั้นก็ทาให้
นางรักษาอยูเ่ ป็ นเวลานาน
สวีโย่วเกือบจะสาลักน้ าลายตัวเอง ตีแขนเสิ่ นเวยเล็กน้อยอย่าง
อารมณ์ไม่ดี ดูสิเด็กน้อยพูดอะไรออกมา เป็ นมิตร ใช่ในใจนางไม่
เข้าใจหรื อไร
แต่เห็นท่าทางงอนง้อของเสิ่ นเวย สวีโย่วก็ทนว่านางไม่ได้ โอบเอว
ของนางกล่าวปลอบ “เจ้าไปแก้แค้นเขาก็ไร้ประโยชน์ กลุ่มมือ
สังหารเป็ นสถานที่ที่เปิ ดประตูไปเพื่อทาธุรกิจ ขอเพียงแค่เสนอ
ราคาได้ ต่อให้จะสัง่ พวกเขาไปลอบสังหารฝ่ าบาทพวกเขาก็กล้า นัน่
คือพวกเดนตายที่มีวนั นี้ไม่มีพรุ่ งนี้หนึ่งกลุ่ม เรื่ องนั้นเจ้ายังคงต้องหา
หัวหน้าที่แท้จริ ง”
เห็นเสิ่ นเวยยังคงไม่พอใจทั้งใบหน้า ก็รีบกล่าวรับปาก “ก็ได้ๆๆ ครั้ง
หน้าหากบังเอิญเจอเขาเจ้าก็ลงมือ ข้าจะเตรี ยมช่วยอยูข่ า้ งๆ แทนเจ้า
ดีหรื อไม่ เลิกเบะปากได้แล้ว ไม่ขดั เจ้าแล้วเลิกงอนได้แล้ว”
แม้เสิ่ นเวยจะรู ้วา่ สวีโย่วพูดมีเหตุผล แต่ในด้านจิตใจก็ยงั คงไม่
ยินยอม ถลึงตาใส่ สวีโย่วแล้วกล่าว “ท่านไม่ขดั ก็ถูกแล้ว อย่างอื่นข้า
ไม่สน อย่างไรเสี ยคนที่ลงมือกับข้าโดยตรงก็คือมือสังหารของกลุ่ม
มือสังหาร ข้าไม่คิดบัญชีกบั เขาแล้วจะไปคิดบัญชีกบั ใคร คอยดู
เถอะครั้งหน้าหากเจอเขาอีก คิดว่าข้าไม่กล้าถลกหนังเขา ดึงเอ็นเขา
หรื อ” ส่ วนหัวหน้าตัวจริ ง ใครจะรู ้วา่ เป็ นผูใ้ ด หัวหน้าตัวจริ งยิง่ ไม่
อาจปล่อยไปได้ แต่ก่อนที่จะหาหัวหน้าตัวจริ งเจอนางไม่ถือสาที่จะ
เก็บดอกเบี้ยสักเล็กน้อยจากกลุ่มมือสังหารก่อน
เสิ่ นเวยวางแผนเงียบๆ ในใจว่าจะจับลูกกระต่ายตัวนั้นอย่างไรแล้ว
สวีโย่วมองเสิ่ นเวยที่เห็นได้ชดั ว่าใจลอย ทั้งโมโหทั้งขบขัน เสี ยใจที่
ตนปากไวเหตุใดถึงบอกนางไปเล่า
ในห้องลับของท่านเสนาบดีฉินขังผูเ้ ฒ่าไว้หนึ่งคน เป็ นไปได้อย่าง
ยิง่ ว่าจะเป็ นอ๋ องเคียงบ่าเฉิ งอี้ เรื่ องนี้เสิ่ นเวยไม่ได้พดู กับใครทั้งสิ้ น
บอกก็เพียงแต่อาจารย์ซูผฉู ้ ลาดเฉียบแหลมของนาง
อาจารย์ซูเองก็ตกใจอย่างถึงที่สุด เขาขมวดคิ้วเดินไปมาช้าๆ อยูใ่ น
ห้อง นานอย่างยิง่ จึงกล่าว “ไม่ตอ้ งสนว่าจะเป็ นจริ งหรื อเท็จ เรื่ องนี้
ไม่อาจประมาทได้ หากเป็ นเท็จ แล้วคนผูน้ ้ นั คือใคร เหตุใดท่าน
เสนาบดีฉินถึงได้ขงั เขาไว้ หากเป็ นจริ ง เช่นนั้นแผนการของท่าน
เสนาบดีฉินก็ไม่เล็กแน่นอน”
เสิ่ นเวยพยักหน้า “อืม ข้ากับคุณชายใหญ่กค็ ิดเช่นนี้ สื บหาก่อน
เพียงแต่อย่างไรเสี ยก็ผา่ นมาหลายปี เพียงนั้นแล้ว ชัว่ ขณะคงจะไม่ได้
อะไรมาก” เสิ่ นเวยเสี ยดายเล็กน้อย กล่าวต่อ “แผนการของท่าน
เสนาบดีฉินไม่เคยเล็กอยูแ่ ล้ว เพียงดูจากภาพลักษณ์ในราชสานัก
ขององค์ชายรอง เบื้องหลังนี้จะไม่มีฝีมือของเขาได้อย่างไร” เด็ก
หนุ่มที่ยงั ไม่ถึงยีส่ ิ บปี คนหนึ่ง ต่อให้ฉลาดก็ไม่อาจทาทุกเรื่ องได้
อย่างเหมาะสม เบื้องหลังนี้จะต้องมีท่านเสนาบดีฉินจัดการ
ช่วยเหลือเงียบๆ แน่นอน
อาจารย์ซูไตร่ ตรองครู่ หนึ่งกลับกล่าว “จวิน้ จู่ ผูช้ รามักจะรู ้สึก
บางอย่าง แผนการของท่านเสนาบดีฉินคล้ายไม่ใช่เพียงเท่านี้ คล้าย
ยังใหญ่กว่านี้”
“อาจารย์คิดมากไปแล้วหรื อไม่ นอกจากให้องค์ชายรองขึ้นครอง
บัลลังก์เขายังจะวางแผนอะไรได้อีก คงไม่คิดจะช่วงชิงบัลลังก์เป็ น
ฮ่องเต้เองหรอกกระมัง” เสิ่ นเวยกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย ตอนนี้ไม่ใช่
กลียคุ ตระกูลฉินของเขาจะขึ้นครองบัลลังก์ง้ นั หรื อ ไหนเลยจะ
ง่ายดายเพียงนั้น ท่านเสนาบดีฉินเองก็ไม่ได้โง่เพียงนั้น สนับสนุน
หลานชายของตนขึ้นครองบัลลังก์ค่อนข้างน่าเชื่อถือกว่า
ทว่าคาพูดพลั้งปากของเสิ่ นเวยกลับทาให้อาจารย์ซูใจเต้น “จวิน้ จู่
ท่านเคยรู ้สึกหรื อไม่วา่ องค์ชายรองหน้าตาเหมือนท่านเสนาบดีฉิน
อย่างยิง่ เหมือนพ่อลูกยิง่ กว่าคุณชายใหญ่ตระกูลฉิ นผูน้ ้ นั เสี ยอีก”
“เป็ นไปไม่ได้กระมัง” เสิ่ นเวยตกใจกับการคาดเดานี้ของอาจารย์ซู
จนสาลัก ไอออกมาอย่างแรง ครู่ ใหญ่กว่าจะสงบลงได้ “พวกเขาเป็ น
ญาติฝ่ายตา เหมือนกันก็ไม่แปลก! อีกอย่างไม่วา่ อย่างไรองค์ชายรอง
ก็เป็ นองค์ชายผูย้ งิ่ ใหญ่ อยูล่ ึกเข้าไปในพระราชวัง ท่านเสนาบดีฉิน
เช่นเขาไหนเลยจะมีความสามารถในการเปลี่ยนตัวคน” อาจารย์ซูคิด
ไกลเกินไปแล้ว เสิ่ นเวยส่ ายหน้า
ทว่าอาจารย์ซูกลับกล่าว “แต่องค์ชายรองกลับหน้าไม่เหมือนฝ่ าบาท
เลยแม้แต่นิดเดียว กลับเหมือนฉิ นซูเฟยสองส่ วน”
เสิ่ นเวยแสยะปาก “ใครบอก คราวก่อนฝ่ าบาทยังบ่นกับคุณชายใหญ่
ว่า ในหมู่องค์ชายทั้งหมดมีองค์ชายรองที่เหมือนเขาที่สุด อาจารย์
เรื่ องนี้พวกเราจะเดามัว่ ไม่ได้ อาจจะถูกตัดหัวเอาได้” ไม่เหมือนครั้ง
ก่อนที่นางมีสิทธิ์ก่อเรื่ องวุน่ วายในห้องหนังสื อส่ วนพระองค์ได้
หากนางกล้าวิ่งไปบอกต่อหน้าฮ่องเต้ยงเซวียนว่าองค์ชายรองไม่ใช่
ลูกแท้ๆ ของเขา ฮ่องเต้ยงเซวียนก็ไม่สนว่านางจะเป็ นหลานสะใภ้
หรื อไม่ ไม่กี่นาทีก็สามารถเผานางมอดไหม้ได้
หลักการที่เสิ่ นเวยเข้าใจ อาจารย์ซูจะไม่เข้าใจได้อย่างไร เขาพยัก
หน้ากล่าว “จวิน้ จู่วางใจเถิด ผูช้ รารู ้วา่ อะไรควรมิควร” หยุดครู่ หนึ่ง
กล่าวต่อ “จวิน้ จู่ ท่านจะลองสื บเรื่ องฉินเฮ่อบิดาของท่านเสนาบดี
ฉินดูกไ็ ด้ ข้าคล้ายเคยได้ยนิ ใครเอ่ยว่าเขามีความสัมพันธ์อนั ดีกบั
อ๋ องเคียงบ่าผูน้ ้ นั ” ใครในที่น้ ียอ่ มต้องเป็ นอามาตย์ฟังพ่อผูม้ ีตาแหน่ง
อานาจผูน้ ้ นั ของเขา
ตั้งแต่ครั้งก่อนที่จวนผิงจวิน้ อ๋ องเลี้ยงแขกแล้วเขาออกหน้าจัดการ
เขาก็รู้แล้วว่าในที่สุดฐานะของตนก็ถูกเปิ ดเผย ภายหลังฟังว่าเรื่ องที่
นายท่านรองตระกูลฟังรับสิ นบน นายท่านรองเลี้ยงนักแสดงงิ้ว นาย
ท่านสี่ ข่มขืนหญิงชาวบ้านไม่รู้วา่ ถูกใครเปิ ดโปง ก็ทาให้ผตู ้ รวจการ
ราชสานักพากันกล่าวโทษ
เขาจึงทราบว่าจวิน้ จู่ของเขารู ้เรื่ องเขาแล้ว จวิน้ จู่ของเขาระบายความ
โกรธแทนเขา เขาทั้งซาบซึ้งทั้งอบอุ่นใจ! เร่ ร่อนมากว่าครึ่ งชีวิต ลอง
ผิดลองถูกรับเด็กนักเรี ยนหญิงมาหนึ่งคน เพียงแค่เลี้ยงดูสงั่ สอน
ลวกๆ ไม่คิดว่ากลับเป็ นวาสนาที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้ของตน
เขาเองก็ไม่คิดจะปิ ดบังหลบซ่อน ขอเพียงแค่จวิน้ จู่ถาม เช่นนั้นเขาก็
จะเล่าความจริ ง หากจวิน้ จู่ไม่ถามเขาก็จะไม่พดู เยอะ เขาน่ะมองจวิน้
จู่เป็ นบุตรสาวคนเล็กของตนมาตั้งแต่ตน้ แล้ว!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 262-1 แม่ ลูกคู่หนึ่ง
ตั้งแต่กลับมาจากเรื อนอาจารย์ซู เสิ่ นเวยก็คิดถึงคาพูดของอาจารย์ซู
ไตร่ ตรองครู่ หนึ่งก็เรี ยกเย่วก์ ยุ้ เข้ามา ออกคาสัง่ เสี ยงต่ากับนางหลาย
ประโยค เย่วก์ ยุ้ พยักหน้าอย่างหนักแน่น “จวิน้ จู่วางใจ บ่าวทราบ
แล้ว”
เสิ่ นเวยสัง่ อีกหนึ่งประโยค “เรื่ องนี้ตอ้ งจัดการเงียบๆ อย่าให้คนอื่น
เห็นเสี ยล่ะ”
เย่วก์ ยุ้ กลัวในใจ รู ้ถึงความสาคัญของเรื่ องนี้ ในใจแอบเตือนตัวเองว่า
ต้องระมัดระวังยิง่ ขึ้น
เสิ่ นเวยให้เย่วก์ ยุ้ ไปบอกกล่าวจางสยงกับชวีไห่ เพื่อความปลอดภัย
นางจะต้องจับจ้องคนทั้งหมดในจวนเสนาบดีฉิน นอกจากทหารลับ
แล้ว เพิม่ จางสยงกับชวีไห่สองกลุ่มนี้ นางไม่เชื่อว่าคนของจวน
เสนาบดีฉินจะไม่ทิ้งร่ องรอยเหมือนท่านเสนาบดีฉินจิ้งจอกเฒ่าตัว
นั้นทั้งหมด ขอเพียงแค่เผยเบาะแสเงื่อนงาเพียงเล็กน้อย นางก็
สามารถสื บตามปมลงไปได้
เสิ่ นเซ่าจวิน้ ที่เดิมควรจะถึงนานแล้ว กระทัง่ การสอบคัดเลือกช่วง
สารทฤดูจบลงก็เพิง่ จะย่างกรายมาถึง เสิ่ นเวยฟังหู่โถวที่ไปรับคน
บอกว่าเขาพาแม่ลูกคู่หนึ่งเข้าเมืองหลวงมาด้วย มือที่ถือแก้วชาอยูก่ ็
หยุดชะงัก
“แม่ลูกคู่หนึ่งงั้นหรื อ” เสิ่ นเวยอดขึ้นเสี ยงสู งไม่ได้ สี หน้าก็นิ่งขรึ ม
ลง
สี หน้าของหู่โถวเองก็ไม่ดีอย่างยิง่ “ขอรับ ฟู่ กุย้ ข้างกายท่านอาเซ่า
จวิน้ บอกว่าช่วยไว้ระหว่างทาง คนอยูห่ น้าประตูใหญ่แล้ว ท่านอา
เซ่ากุย้ ขอให้ท่านอาช่วยจัดแจงให้”
ไม่นึกว่านางเฝ้ารอเขามาเมืองหลวงทุกวัน แต่เขากลับเสี ยเวลา
เดินทางเพราะคนที่ไม่มีความสาคัญ เสิ่ นเวยรู ้ตวั ดีวา่ ทุ่มเทกายใจให้
เขามากที่สุด แต่เขากลับตอบแทนนางเช่นนี้ง้ นั หรื อ หากนางยกย่อง
คนที่แยกแยะความสาคัญไม่ได้เช่นนี้ เช่นนั้นนางยอมที่จะตัด
หนทางสู่ ยศตาแหน่งของเขาด้วยมือตัวเอง ดวงตาของเสิ่ นเวยมี
ความเหยียดหยันแวบผ่าน
เห็นเสิ่ นเวยโมโห ในใจหู่โถวก็ไม่พอใจเสิ่ นเซ่าจวิน้ อย่างถึงที่สุด
ท่านอาเซ่าจวิน้ ผูน้ ้ ีเลอะเลือนเกินไปแล้ว ช่วยคนเป็ นเรื่ องดี แต่เหตุ
ใดยังต้องพาเข้าเมืองหลวง ไม่รู้หรื อว่าตัวเองมาเมืองหลวงเพื่อทา
อะไร ยิง่ ไปกว่านั้นเขาแต่งงานมีบุตรนานแล้ว มีสตรี เยาว์วยั ติดตาม
อยูข่ า้ งกายหมายความว่าอย่างไร
แม้วา่ ไม่พอใจ แต่หู่โถวก็ยงั คงพูดเข้าข้างเสิ่ นเซ่าจวิน้ หลายประโยค
อย่างไรเสี ยก็เป็ นคนตระกูลเดียวกัน ท่านอาเซ่าจวิน้ มีอนาคตก็ถือ
เป็ นเกียรติสูงสุ ดของสกุลเสิ่ นทั้งตระกูล
“ท่านอา ท่านอาเซ่าจวิน้ ไม่ใช่คนไม่มีแผนการเช่นนั้น คงจะมีความ
ลาบากใจอะไรกระมัง หรื อว่าหลานไปเรี ยกฟู่ กุย้ มา แล้วท่านอาลอง
ถามดูดีหรื อไม่” หู่โถวกล่าวอย่างกังวลเล็กน้อย
เดิมเสิ่ นเวยโมโหเดือดดาล ได้ยนิ หู่โถวพูดเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าแต่ไหนแต่
ไรเสิ่ นเซ่าจวิน้ เป็ นคนประพฤติตนตามกฎระเบียบจริ งๆ น่าจะไม่มี
ลับลมคมนัยอะไร จึงพยักหน้ากล่าว “ไปเรี ยกฟู่ กุย้ เข้ามา!” เรื่ องนี้
ถามให้แน่ชดั จึงจะถูก
หู่โถวเห็นเสวิ่นเวยยอมพบฟู่ กุย้ ก็รู้วา่ นี่หมายความว่าท่านอายังยอม
ให้โอกาสท่านอาเซ่าจวิน้ ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างอดไม่ได้ รี บไป
เรี ยกฟู่ กุย้ ทันที
ฟู่ กุย้ คือเด็กรับใช้ของเสิ่ นเซ่าจวิน้ สามปี ก่อนเขาสอบเป็ นบัณฑิต
ระดับมณฑลได้กต็ ามอยูข่ า้ งกายเขาแล้ว หากอยูใ่ นชนบท กลับยัง
พูดได้วา่ ปราดเปรื่ อง แต่มาถึงเมืองหลวงดินแดนศิวิไลซ์แห่งนี้ก็
เทียบไม่ได้แล้ว ตอนนี้เขานัง่ อยูใ่ นห้องยามประตูใหญ่ของจวนจวิน้
อ๋ อง แม้วา่ จะพยายามสะกดกลั้นความตื่นเต้นของตนเองไว้ แต่เหงื่อ
บนหน้าผากนั้นก็ไหลไม่หยุด ในใจพะว้าพะวงอย่างยิง่
แม่จ๋า นี่คือจวนจวิน้ อ๋ อง เพียงแค่หอ้ งยามประตูใหญ่กก็ ว้างโล่ง
สะอาดถ่ายเทยิง่ กว่าห้องหลักที่นายท่านผูเ้ ฒ่าหัวหน้าตระกูลอยูแ่ ล้ว
ฟังว่ากูไหน่ไนผูน้ ้ ีของตระกูลเสิ่ นเป็ นจวิน้ จู่เหนียงเหนียง เช่นนั้นจะ
ต่างอะไรจากเทพยดาบนสวรรค์
สองแม่ลูกคู่น้ นั อีกฝั่งหนึ่งก็ไม่ได้ต่างกันมาก เก็บมือเก็บเท้า ดวงตา
ต่างก็นิ่งงัน อยากไต่ถามสถานการณ์เล็กน้อย แต่กไ็ ม่กล้า
ตอนที่หู่โถวมาหาคนก็มองเห็นภาพๆ นี้ เขากลับไม่ดูถูก หากเขา
ไม่ได้ฝึกฝนในเมืองหลวงกับท่านอามาในช่วงปี นี้ เขาก็คงไม่ได้ดีไป
กว่าฟู่ กุย้ เลย เขากวาดตามองแม่ลูกคู่น้ นั ปราดหนึ่งก็ไม่ได้เก็บมาใส่
ใจ กล่าวกับฟู่ กุย้ “ไปเถิด จวิน้ จู่อยากพบเจ้า”
ฟู่ กุย้ ลนลานในชัว่ ขณะ “คุณชายหู่โถว จวิน้ …จวิน้ จู่…” เขากลัวจน
พูดไม่ออกแล้ว
หู่โถวเห็นท่าทางกระวนกระวายนัน่ ของเขา ทั้งโมโหทั้งขบขันจริ งๆ
“อย่างไรเสี ยเจ้าเองก็ติดตามท่านอาเซ่าจวิน้ อยูท่ ี่วิทยาลัยชิงซานสาม
ปี แล้ว เหตุใดถึงยังมีท่าทางเช่นนี้อยูเ่ ล่า เจ้าวางใจ จวิน้ จู่ของพวกเรา
ใจดี ถามอะไรเจ้าเจ้าก็ตอบไปตามตรงก็พอแล้ว” เขากล่าวเตือน
ฟู่ กุย้ พยักหน้าไม่หยุด เดินตัวปลิวแล้ว ยังจมดิ่งอยูใ่ นความตื่นตะลึง
ที่จวิน้ จู่เรี ยกพบเขา
“พี่ชายน้อยฟู่ กุย้ พวกเราเล่า” แม่ลูกคู่น้ นั เห็นคนรู ้จกั เพียงคนเดียว
ถูกเรี ยกไปแล้ว ชัว่ ขณะก็ลนลาน ไม่สนใจความกลัวแล้ว
ฟู่ กุย้ ละสายตามองแม่ลูกคู่น้ นั บนใบหน้าลาบากใจอย่างถึงที่สุด
มองหู่โถวข้างๆ อย่างอดไม่ได้ “คุณชายหู่โถว คุณชายใหญ่ให้ผนู ้ อ้ ย
พาพวกนางแม่ลูกมาด้วย”
คิ้วของหู่โถวขมวดมุ่นทันที ทิ้งท้ายหนึ่งประโยค “รอก่อน” เขาไม่มี
ความรู ้สึกดีต่อสองแม่ลูกคู่น้ ีเลยแม้แต่นิดเดียว
ฟู่ กุย้ เห็นหู่โถวเดินไปแล้ว ก็รีบกาชับหนึ่งประโยค “พวกเจ้ารออยู่
ตรงนี้ก่อน” จากนั้นก็รีบตามไป
สองแม่ลูกคู่น้ นั ก็คิดจะตามไป แต่เห็นเด็กรับใช้ในห้องยามประตู
ใหญ่จอ้ งมองพวกนาง ก็ไม่กล้าแล้ว ทาได้เพียงหดตัวรออยูท่ ี่เดิมอย่า
งอกสัน่ ขวัญแขวน ในใจแอบเสี ยดายว่าไม่ควรตามฟู่ กุย้ มาจวนจวิน้
อ๋ องอะไรนี่เลย น่าจะตามคุณชายเซ่าจวิน้ ไปดีกว่า
เสิ่ นเวยเองก็ไม่ทาให้ฟู่กุย้ ลาบากใจ ถามเขาว่าแม่ลูกคู่น้ นั เป็ นมา
อย่างไรด้วยสี หน้ายิม้ แย้มอ่อนโยน
นี่ทาให้ฟู่กุย้ ที่กงั วลใจมาตลอดทางถอนหายใจอย่างโล่งอกเงียบๆ
แม้จะเป็ นเช่นนี้เขาก็ยงั ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นอยูด่ ี เพียงแค่กม้ หน้ามอง
พื้นหน้าเท้าตัวเอง คิดถึงคาพูดของคุณชายหู่โถว แล้วกล่าวตาม
ความจริ ง “จวิน้ จู่เหนียงเหนียง แม่ลูกคู่น้ นั เป็ นคนที่คุณชายใหญ่ช่วย
ไว้ตอนที่ผา่ นเมืองอินหู แม่นางผูน้ ้ นั แซ่หวัง พ่อนางจากไปเมื่อสาม
ปี ก่อน ใช้ชีวิตพึ่งพากันและกันกับแม่ของนาง ในตระกูลอยากได้
มรดกของครอบครัวนาง จึงคิดจะแต่งพวกนางสองแม่ลูกออกไป หา
พ่อหม้ายอายุสี่สิบกว่าปี ให้แม่นาง ในครอบครัวมีลูกห้าคน ใน
ครอบครัวยากจนจนเหลือเพียงเตียงแค่หลังเดียว คนในตระกูลเห็น
แม่นางหวังหน้าตาดี จึงแนะนานางให้เป็ นอนุภรรยาของตระกูล
เศรษฐีทอ้ งที่ สองแม่ลูกตระกูลหวังสาบานว่าให้ตายก็ไม่ยอม
ระหว่างที่ฉุดรั้งกันแม่นางหวังก็คิดสั้น ชัว่ ขณะชนลงตรงหน้า
คุณชายใหญ่ คุณชายใหญ่เป็ นคนใจอ่อน เห็นแม่ลูกคู่น้ ีน่าสงสาร
จริ งๆ จึงช่วยพูดให้ความเป็ นธรรมหลายประโยค ซ้ ายังเปิ ดเผย
ฐานะจวี่เหริ สนั่ สะเทือนคนในตระกูลหวัง ท้ายที่สุดยังไปพูดกับ
ผูป้ กครองเมืองอินหู”
“เช่นนั้นเหตุใดพวกนางถึงได้เข้าเมืองหลวงพร้อมคุณชายของพวก
เจ้าเล่า” ฟังฟู่ กุย้ เล่าแล้ว ไฟโกรธของเสิ่ นเวยก็ลดลงเล็กน้อย ช่วยคน
เป็ นเรื่ องดี แม้วา่ นางจะเจอเรื่ องเช่นนี้กต็ อ้ งช่วยด้วยเช่นกัน
“ทูลจวิน้ จู่เหนียงเหนียง คุณชายของพวกข้าเองก็ไม่ได้คิดจะพาพวก
นางเข้าเมืองหลวง คุณชายพูดชัดเจนแล้ว เขาเป็ นจวี่จื่อที่เข้าเมือง
หลวงเพื่อมาสอบ ตนยังมีภาระอยู่ สองแม่ลูกคู่น้ นั ก็ร้องไห้ออ้ นวอน
ทั้งยังยอมเป็ นบ่าวรับใช้ คุณชายของพวกข้าล้วนไม่รับปาก” ฟู่ กุย้
พูดเรื่ องนี้แล้วก็รู้สึกได้รับความไม่เป็ นธรรมอย่างยิง่ “เป็ นสองแม่
ลูกคู่น้ ีที่แอบตามพวกข้ามา กว่าพวกข้าจะสังเกตเห็นก็เดินทางมาได้
ร้อยลี้แล้ว คุณชายก็ใจแข็งปล่อยพวกนางไปเผชิญความเป็ นความ
ตายด้วยตัวเองไม่ได้ หมดหนทางจึงพาพวกนางมาด้วย”
อ้อ ที่แท้แล้วก็เป็ นเช่นนี้เองหรื อ เสิ่ นเวยพยักหน้า ขอเพียงแค่ไม่ใช่
เสิ่ นเซ่าจวิน้ หลงใหลมัวเมาก็พอแล้ว หากรู ้วา่ ยังสอบไม่ผา่ นก็ลุ่ม
หลงในตัณหา คนเช่นนี้ต่อให้ช่วยยกเขาขึ้นไป เขาก็เดินไปได้ไม่
ไกลหรอก
“ตลอดทางนี้คุณชายของเจ้าพูดคุยกับแม่นางหวังผูน้ ้ นั เยอะหรื อไม่”
เสิ่ นเวยยังไม่วางใจถามต่อ
ฟู่ กุย้ ส่ ายหน้า “ไม่เยอะขอรับ แม่นางหวังผูน้ ้ นั กลับอยากหาโอกาส
มาคุยกับคุณชาย ทั้งยังทารองเท้าให้คุณชาย ล้วนแต่ถูกคุณชาย
ปฏิเสธ คุณชายบอกว่าชายหญิงไม่ควรแตะเนื้อต้องตัว ไม่อาจ
ทาลายชื่อเสี ยงอันดีของบุตรสาวผูอ้ ื่นได้ แม่ลูกตระกูลหวังล้วนแต่
เป็ นผูน้ อ้ ยที่ออกหน้าดูแล”
เสิ่ นเวยได้ยนิ ดังนั้นสี หน้าก็ดีข้ ึนอีกเล็กน้อย แม้แต่หู่โถวก็คลาย
กาปั้ นที่กาแน่นช้าๆ แท้จริ งแล้วท่านอาเซ่าจวิน้ ก็ไม่ได้เลอะเลือน
“เช่นนั้นคุณชายเจ้าสัง่ เจ้าไว้วา่ อย่างไร” ท่าทีของเสิ่ นเวยอ่อนโยน
ยิง่ ขึ้น ขอเพียงแค่เสิ่ นเซ่าจวิน้ แน่วแน่มีเหตุมีผล นางก็ไม่ถือสาจะ
ช่วยเขาจัดการธุระปะปัง
ฟู่ กุย้ ตอบต่อ “คุณชายบอกว่า เขาไปเยีย่ มผูอ้ าวุโสที่จวนจงอู่โหว ไม่
ควรพาแม่ลูกคู่น้ ีไปด้วย อีกทั้งเขาเองก็ไม่รู้วา่ จะจัดการพวกนาง
อย่างไร จึงให้ผนู ้ อ้ ยพาพวกนางมาขอให้จวิน้ จู่ช่วย ทัว่ ทั้งเมืองหลวง
เขาเองก็รู้จกั แค่เพียงจวิน้ จู่ผเู ้ ดียว หากไม่มีวิธีจริ งๆ ก็ไม่อาจเพิ่ม
ภาระให้จวิน้ จู่ได้เช่นกัน” ฟู่ กุย้ พูดตามคาพูดของคุณชายของเขารอบ
หนึ่ง
เสิ่ นเวยพยักหน้าอีกครั้ง กล่าว “ได้ เรื่ องนี้ขา้ ทราบแล้ว แม่ลูกคู่น้ นั
ข้าจะรับต่อไว้เอง เจ้ากลับไปปรนนิบตั ิคุณชายของเจ้าเถอะ บอกเขา
ว่ามีเวลาว่างก็มาที่จวนผิงจวิน้ อ๋ องสักเที่ยวหนึ่ง ข้ายังมีเรื่ องอยาก
หารื อกับเขา”
ฟู่ กุย้ ดีใจอย่างคาดไม่ถึง หมอบลงกับพื้นโขกศีรษะ “ผูน้ อ้ ยขอบคุณ
จวิน้ จู่เหนียงเหนียงแทนคุณชายเป็ นอย่างยิง่ ” ขอเพียงแค่จวิน้ จู่ยอม
ช่วยเรื่ องนี้ คุณชายก็ไม่ตอ้ งลาบากใจอีกต่อไปแล้ว
“จวิน้ จู่ แม่ลูกคู่น้ นั จะจัดการอย่างไร” หลีฮวาก้าวขึ้นไปข้างหน้า
กล่าวถาม
เสิ่ นเวยไม่แม้แต่จะคิดก็กล่าว “โยนให้เถาจือก็ได้แล้ว ให้นางหางาน
เย็บปักถักร้อยให้ทา คอยดูสักหน่อย อย่าให้พวกนางออกจากเรื อน
ไปเดินมัว่ ซัว่ ”
“จวิน้ จู่ ท่านไม่ไปพบพวกนางหรื อ” เหอหวาที่ปากไวก็เอ่ยปาก
กล่าว ในสายตาจวิน้ จู่ของนางเป็ นคนดีที่เห็นใจคนจนสงสารคน
อ่อนแอที่สุด แม่ลูกคู่น้ นั น่าสงสารเพียงนั้น จวิน้ จู่จะต้องไปพบพวก
นางหน่อยมิใช่หรื อ
“น้องเหอฮวาเจ้าพูดอะไรโง่ๆ!” เถาจือตาหนิทนั ที “พวกนางเป็ น
ใครกัน ควรค่าให้จวิน้ จู่ไปพบพวกนางหรื อ หลังจากนี้คาพูดเช่นนี้ก็
อย่าได้พดู อีก”
จากนั้นก็แสดงท่าทีต่อเสิ่ นเวย “จวิน้ จู่วางใจ บ่าวจะดูพวกนางอย่าง
ดี”
เสิ่ นเวยพยักหน้าอย่างพอใจ “อืม เจ้าจัดการข้ายังคงวางใจยิง่ นัก สื บ
หาที่มาของพวกนางให้ดี สื บดูวา่ แท้จริ งแล้วพวกนางมีเจตนา
ความคิดเช่นไร” จากนั้นก็ช้ ีเหอฮวาแล้วกล่าว “เจ้าน่ะ ไม่ค่อยยอม
ใช้สมอง เรี ยนรู ้จากพี่หลีฮวากับพี่เถาจือของเจ้าหน่อย หากพวกนาง
สองคนแต่งออกไปก็ถึงตาเจ้าเป็ นผูน้ าแล้ว หากเจ้าเป็ นเช่นนี้จะรอด
หรื อ”
“จวิน้ จู่ บ่าวไม่แต่งงาน” หลีฮวากับเถาจือกล่าวพร้อมกัน
เสิ่ นเวยโบกมือ “ชายเติบใหญ่พึงแต่งงานหญิงเติบโตพึงสมรส ไม่
แต่งงานไม่สมรสดังออกไปจะเป็ นเรื่ องน่าขัน คนที่มาขอพวกเจ้า
หมั้นหมายล้วนแต่มาพูดกับข้านับครั้งไม่ถว้ นแล้ว พวกเจ้าสองคน
อย่ามัวเขินอาย เบิกตาโตเลือกเอาเสี ย ชอบคนไหนก็บอกนายของ
พวกเจ้ามาเลย ไม่อาจทาพวกเจ้าผิดหวังแน่นอน” แต่ไหนแต่ไรเสิ่ น
เวยใจกว้างกับสาวใช้ในเรื อนของนางอย่างยิง่ โดยเฉพาะคนเหล่านี้
ที่ติดตามนางมาจากหมู่บา้ นตระกูลเสิ่ น
พูดจนหลีฮวากับเถาจือต่างก็แก้มแดงระเรื่ อ ใจเต้นรัว
หัวหน้าไปมองเห็นเหอฮวายังคงมีท่าทางมึนงงทั้งใบหน้า กล่าว
“เถาจือ เจ้าอธิบายให้เหอฮวาฟังหน่อย เลี่ยงไม่ให้วนั ไหนนางถูก
คนขายแล้วยังไปนับเงินให้เขา เห็นชัดๆ ว่านิสยั โหดเ**้้ยม เหตุใด
ถึงใจอ่อนเพียงนี้เล่า” น่ากลุม้ ใจจริ งๆ
เถาจือดึงเหอฮวาไปข้างๆ เริ่ มอธิบาย “เจ้าน่ะ คิดแค่วา่ แม่ลูกคู่น้ นั น่า
สงสาร แต่สาหรับพวกเราแล้วพวกนางก็คือคนแปลกหน้าสองคน
ใครจะรู ้วา่ พวกนางน่าสงารจริ งหรื อน่าสงสารปลอม บุ่มบ่ามพามา
อยูต่ ่อหน้าจวิน้ จู่เช่นนี้ หากเป็ นคนไม่ดีจะทาเช่นไร”
“เป็ นไปไม่ได้กระมัง เมื่อครู่ ฟู่กุย้ ก็บอกแล้วมิใช่หรื อ พวกนางถูกคน
ในตระกูลบีบบังคับจนมีชีวิตอยูต่ ่อไปไม่ได้แล้ว” ดวงตาเหอฮวามี
ความสงสัย
เถาจือโมโหจนคิดจะตบหน้านางสักสองฉาก เด็กผูห้ ญิงคนนี้ปกติก็
ดูน่าเชื่อถือ เหตุใดพอเจอเรื่ องสมองถึงได้เลอะเลือนเล่า หรื อว่าที่
แยกเขี้ยวยิงฟันเมื่อก่อนล้วนเป็ นการวางมาดตบตาคน
“ฟู่ กุย้ บอก ฟู่ กุย้ บอกก็เป็ นเรื่ องจริ งแล้วหรื อ บางทีพวกนางอาจจะ
หลอกแม้แต่เขากับคุณชายเซ่าจวิน้ ก็เป็ นได้ แม้จะเป็ นเรื่ องจริ งแล้ว
อย่างไร นายท่านของพวกเราเป็ นใคร แล้วพวกนางเป็ นใคร ฮูหยินที่
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ข้นั สี่ พบจวิน้ จู่ของพวกเรายังยากเลย
หญิงชาวบ้านธรรมดายังหวังจะพบจวิน้ จู่ ทะนงตนเกินไปหน่อย
หรื อไม่” เถาจือเหยียดหยามอย่างยิง่
หลีฮวาเองก็ช่วยพูด “เหอฮวา ตอนนี้พวกเราไม่ได้อยูท่ ี่หมู่บา้ น
ตระกูลเสิ่ นแล้ว เจ้าเองก็ไม่ใช่หลี่เสี่ ยวหม่านผูน้ ้ นั แล้ว หากเจ้าไม่
เปลี่ยนนิสยั ใจอ่อนอีก ไม่แน่วา่ วันไหนอาจจะนาปัญหามาให้จวิน้ จู่
ได้”
เมื่อเหอฮวาได้ยนิ ว่าอาจจะนาปัญหามาให้จวิน้ จู่ได้ ชัว่ ขณะก็จริ งจัง
ขึ้นมา “จวิน้ จู่ ท่านวางใจ บ่าวจะเปลี่ยนแน่นอน บ่าวทาตรงไหนไม่
ถูก ท่านเห็นว่าจะลงโทษเช่นไรก็ลงโทษเช่นนั้น บ่าวไม่อาจเป็ น
ภาระของท่านเด็ดขาด”
เสิ่ นเวยยิม้ ปลอบ “หลีฮวาเถาจือก็อย่าขู่นางไปเลย ไหนเลยจะต้อง
จริ งจังเพียงนั้น ปกติเหอฮวาก็ทางานได้ไม่เลวอย่างยิง่ แล้ว นางอายุ
ยังน้อย พวกเจ้าสองคนโตกว่าก็ค่อยๆ สอนนางก็พอ”
ทั้งสามตอบรับพร้อมกัน
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 262-2 แม่ ลูกคู่หนึ่ง
เสิ่ นเซ่าจวิน้ มาเร็ วอย่างยิง่ วันรุ่ งขึ้นก็มาเยีย่ มถึงหน้าประตูแล้ว หู่
โถวกับอาจารย์ซูตอ้ นรับเขา อาจารย์ซูเคยชี้แนะบทความของเขา นับ
ได้วา่ มีบุญคุณสอนสัง่ ด้วยเหตุน้ ีเสิ่ นเซ่าจวิน้ จึงเคารพอาจารย์ซูมาก
เป็ นพิเศษ ไม่ได้มองข้ามเพราะว่าตนเป็ นหลานชายในตระกูลของ
ราชครู เสิ่ นอย่างสิ้ นเชิง
อาจารย์ซูมองเขาทาความเคารพนิ่งๆ ในใจพยักหน้าเงียบๆ อืม เป็ น
คนรู ้ประสาสานึกบุญคุณ ความทุ่มเทของจวิน้ จู่ไม่เสี ยเปล่า
เสิ่ นเซ่าจวิน้ เห็นเสิ่ นเวยก็คานับต่า “นาภาระมาให้จวิน้ จู่แล้ว”
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหนึ่งครากล่าว “ยังนับว่าเจ้าไม่ได้เลอะเลือนเกินไป
หากเจ้าพาแม่ลูกคู่น้ นั เข้าประตูจวนจงอู่โหว เชื่อหรื อไม่วา่ ท่านปู่
สามารถลากเจ้าออกมาได้ทนั ที”
ใบหน้าของเสิ่ นเซ่าจวิน้ เปลี่ยนสี ในชัว่ ขณะ แอบโชคดีในการ
ตัดสิ นใจของตน เขาเพียงแค่คิดว่าพาแม่ลูกที่ช่วยไว้ระหว่างทางผู ้
นั้นไปเยีย่ มผูอ้ าวุโสไม่เหมาะสมเล็กน้อย แต่ยงั ไม่ได้คิดว่าผลลัพธ์
จะร้ายแรงเพียงนี้
“ไม่เชื่อหรื อ” เสิ่ นเวยเลิกคิ้วกล่าว “ไม่คิดดูบา้ งว่าเจ้าเข้าเมืองหลวง
มาทาอะไร พาแม่ลูกคู่หนึ่งมาด้วยอย่างกับอะไรดี โดยเฉพาะนัน่ ยัง
เป็ นเด็กสาววัยแรกแย้ม เจ้าจะให้คนอื่นมองอย่างไร พูดอย่างไร เจ้า
บอกว่าเจ้าเห็นความไม่เป็ นธรรมจึงชักดาบช่วยเหลือ เจ้าบอกว่าเจ้า
บริ สุทธิ์ แต่คนอื่นจะเชื่อหรื อ ปากคนจานวนมากย่อมเปลี่ยนถูกให้
เป็ นผิดได้ ข่าวลือสามารถฆ่าคนได้ เจ้าบอกว่าเจ้าลาบากลาบนสอบ
เป็ นจิ้นซื่อได้ แล้วถูกคนขุดเรื่ องเช่นนี้ออกมา ความประพฤติ
เสี ยหาย ยังจะมีอนาคตอะไรได้อีก” คาพูดนี้ของเสิ่ นเวยไม่มีความ
เกรงใจเลยแม้แต่นิดเดียว
เสิ่ นเซ่าจวิน้ ก็ยงิ่ เสี ยใจ ยิม้ เจื่อนกล่าว “ตอนนั้นข้าไม่ได้คิดเยอะเพียง
นี้จริ งๆ เพียงแค่แข็งใจไม่ได้ในชัว่ ขณะ” แม่ลูกคู่น้ นั ข้างกายไม่มี
บุรุษเคียงข้าง ไม่ปลอดภัยอย่างสิ้ นเชิง!
“เพียงแค่แข็งใจไม่ได้ ไม่ใช่วา่ เห็นแม่นางผูน้ ้ นั หน้าตาดีหรื อไร”
เสิ่ นเวยชายตามองเสิ่ นเซ่าจวิน้ “ยังมี ไม่ตอ้ งเรี ยกข้าจวิน้ จู่ เรี ยนน้อง
เวยเหมือนก่อนเถอะ”
เสิ่ นเซ่าจวิน้ หลุดหัวเราะ “น้องเวยคิดไปถึงไหนแล้ว พี่เป็ นคน
เช่นนั้นหรื อไร ในครอบครัวพี่มีภรรยามีบุตรแล้ว ไม่ใช่คนที่ได้ใหม่
ลืมเก่ามักมายในตัณหาเช่นนั้นแน่นอน” เขากล่าวด้วยท่าทางจริ งจัง
เสิ่ นเวยเห็นสี หน้าท่าทางเขาไม่เหมือนเสแสร้ง ก็วางใจลงแล้ว กล่าว
“เจ้าพึงรู ้ไว้วา่ การแข็งใจไม่ได้ในชัว่ ขณะของเจ้าเกือบจะทาลาย
อนาคตของตนแล้ว คิดถึงภรรยาบุตรพ่อแม่ในครอบครัวบ้าง ยังมี
ปู่ ย่าที่ต้ งั หน้าตั้งตารอเจ้าสร้างเนื้อสร้างตัวอยู่ เจ้าทาเช่นนี้ได้อย่างไร
ใจอ่อนเพือ่ คนที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง คุม้ ค่าหรื อไร” เสิ่ นเวยตักเตือน
ต่อ ใจดีไม่ผดิ แต่ตอ้ งมีขอบเขต มีวิธี คิดเช่นเขา ภายหลังเข้าราช
สานักเป็ นขุนนาง จะไม่ถูกคนหลอกตายหรื อ
เสิ่ นเซ่าจวิน้ ถูกเสิ่ นเวยพูดจนละอายใจอย่างยิง่ โค้งตัวต่าให้เสิ่ นเว
ยอีกครั้ง กล่าวจากใจจริ ง “น้องเวย พี่ผดิ ไปแล้ว ผิดเป็ นครู หลังจาก
นี้พี่จะไม่ทาตัวบุ่มบ่ามเช่นนี้แล้ว จะต้องคิดหน้าคิดหลัง เรื่ องนี้พี่
ต้องขอบคุณน้องเวยยิง่ นัก”
เสิ่ นเซ่าจวิน้ กลับไม่รู้สึกเสี ยหน้าอะไร หนึ่งคือ ท่านปู่ กาชับแล้วว่า
ให้เขาฟังคาของน้องเวย สองคือ เขารู ้ดีชวั่ เข้าใจว่าที่สามารถพูด
ตรงไปตรงมาเช่นนี้ได้ ก็เพราะหวังดีกบั ตนเอง
“หากไม่ใช่วา่ เห็นแก่ท่านลุงปู่ ที่อายุมากแล้วข้าก็ข้ ีเกียจจะสนใจเรื่ อง
จุกจิกของเจ้า” เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงอีกครา “แม่ลูกคู่น้ นั เจ้าวางแผนไว้
ว่าอย่างไร” เสิ่ นเวยถามอย่างไม่สนใจ
“ให้นอ้ งเวยตัดสิ นทั้งหมด” คราวนี้เสิ่ นเซ่าจวิน้ กลับตอบอย่าง
รวดเร็ ว “พวกนางกลับเคยบอกว่าจะเป็ นบ่าวรับใช้ ข้างกายพี่มีฟู่กุย้
คนเดียวก็พอแล้ว จึงไม่ได้รับปาก หากน้องเวยยินยอม ก็ให้พวกเขา
ลงชื่อขายตัวเป็ นทาสแบ่งงานในจวนเถิด อย่างไรเสี ยก็ดีกว่าให้พวก
นางถูกคนกลัน่ แกล้งอยูข่ า้ งนอก”
เสิ่ นเวยเห็นเขาไม่ได้ใส่ ใจแม่ลูกคู่น้ นั จริ งๆ ก็พยักหน้าแล้วกล่าว
“ได้ เรื่ องนี้เจ้าก็ไม่ตอ้ งยุง่ แล้ว หน้าที่ของเจ้าก็คือตั้งใจเรี ยนหนังสื อ
มีเวลาว่างก็ให้เจวี๋ยเอ๋ อร์พาเจ้าออกไปเดินเล่น ผูกมิตรกับสหายที่มี
อุดมการณ์เดียวกันไว้ให้มาก ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อการสอบ
คัดเลือกในช่วงสารทฤดูกระทัง่ อนาคตในภายหน้า”
คิดครู่ หนึ่งจึงกล่าวเสริ มต่อหนึ่งประโยค “อาจารย์ซูเป็ นผูม้ ี
ความสามารถมาก เจ้าเองก็สามารถไปขอคาแนะนาได้บ่อยๆ ช่วงนี้
ท่านจวิน้ อ๋ องยุง่ รอเขาว่างแล้วข้าค่อยเตรี ยมการให้เจ้ามาเยีย่ มแล้ว
กัน!”
ส่ วนการเตรี ยมการของเสิ่ นเวย เสิ่ นเซ่าจวิน้ ย่อมยินดีรับ
เห็นท่าทีของเสิ่ นเซ่าจวิน้ ชัดเจนแล้ว เสิ่ นเวยก็ไม่ได้รีบพบแม่ลูกคู่
นั้นแล้ว แต่ทิ้งพวกนางไว้อีกสองวัน เถาจือเองก็มารายงาน บอกว่า
หลายวันมานี้พวกนางอยูใ่ นห้องทางานเย็บปั กถักร้อยมาโดยตลอด
ไม่มีตรงไหนที่ผดิ ปกติ เสิ่ นเวยจึงสัง่ ให้คนเรี ยกพวกนางเข้ามา
เสิ่ นเวยมองแม่ลูกคู่น้ ีนิ่งๆ ต่างก็สวมชุดที่ก่ ึงเก่าซักจนซีด บนศีรษะ
ก็ไม่มีเครื่ องประดับใดๆ ใช้เพียงปิ่ นไม้รวบผมขึ้น สี หน้าท่าทาง
ระแวดระวังและตื่นตระหนกอย่างยิง่ แต่วา่ ลูกสาวผูน้ ้ นั กลับหน้าตา
สละสลวยหลายส่ วน ทั้งยังสงบนิ่งกว่าแม่ของนางเล็กน้อย
เสิ่ นเวยพิงตัง่ กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ผูท้ ี่ช่วยพวกเจ้าเป็ นญาติผพู ้ ี่
ของตัวข้าจวิน้ จู่ เขาฝากฝังพวกเจ้าให้ขา้ แล้ว วันนี้ตวั ข้าจวิน้ จู่จะถาม
เจ้าหนึ่งประโยค หลังจากวันนี้วางแผนไว้วา่ อย่างไร”
บนใบหน้ามารดาตระกูลหวังสับสน ทว่าแม่นางตระกูลหวังกลับ
รวบรวมความกล้ากล่าวถาม “เรี ยนถามจวิน้ จู่ผมู ้ ีพระคุณอยูท่ ี่ใด”
เสิ่ นเวยกล่าว “เขาย่อมอยูใ่ นที่ที่เขาควรอยู่ เจ้าถามถึงเขาทาไม”
แม่นางตระกูลหวังกล่าว “ชีวิตของพวกข้าแม่ลูกล้วนเป็ นผูม้ ีพระคุณ
ที่ช่วยไว้ ข้าเคยสาบานว่าชัว่ ชีวิตนี้จะเป็ นบ่าวเป็ นทาสตอบแทนผูม้ ี
พระคุณ จวิน้ จู่ได้โปรดบอกที่อยูข่ องผูม้ ีพระคุณ ข้ายอมเป็ นสาวใช้
ยกน้ าชาปรนนิบตั ิผมู ้ ีพระคุณ” พูดจบก็โค้งคานับต่าๆ หนึ่งครา
เสิ่ นเวยยิม้ แล้ว “ญาติผพู ้ ี่ของข้าไม่ใช่คนใจร้อนอยูแ่ ล้ว ทาความดีไม่
ต้องการผลตอบแทน ไม่ตอ้ งการให้เจ้าเป็ นสาวใช้ปรนนิบตั ิ หากเจ้า
อยากเป็ นสาวใช้จริ งๆ ที่เรื อนข้ากลับสามารถรับพวกเจ้าแม่ลูกไว้
ได้”
ดวงตาของมารดาตระกูลหวังเป็ นประกาย แม้วา่ หลายวันมานี้นางจะ
ไม่ได้ออกจากเรื อน แต่ฟู่กุย้ ที่รบกวนจวนจวิน้ อ๋ องอะไรนี่นางก็เห็น
อยูใ่ นสายตาแล้ว ดูเสื้ อผ้าเครื่ องแต่งงานของเหล่าสตรี เหล่านั้นข้าง
กายจวิน้ จู่ ดียงิ่ กว่าคุณหนูตระกูลในท้องถิ่นข้างนอกเสี ยอีก หาก
สามารถอยูท่ างานในจวนจวิน้ อ๋ องได้ ต่อให้จะเป็ นบ่าว ก็ถือเป็ น
วาสนาใหญ่แล้ว
นางกาลังจะตอบรับ ก็ได้ยนิ ลูกสาวตนกล่าวขึ้น “พวกข้าแม่ลูก
ขอบคุณในความหวังดีของจวิน้ จู่ แต่ผทู ้ ี่ช่วยพวกข้าแม่ลูกไว้คือ
คุณชายเซ่าจวิน้ ข้าจะต้องทดแทนบุญคุณข้างกายคุณชายเซ่าจวิน้ ให้
ได้”
เสิ่ นเวยหลุดหัวเราะออกมาหนึ่งครา “แม่นางหวังพูดเล่นแล้ว อย่าว่า
แต่ญาติผพู ้ ี่บอกไว้แล้วว่าไม่ตอ้ งการให้พวกเจ้าแม่ลูกทดแทน
บุญคุณ ต่อให้ตอ้ งทดแทนบุญคุณ เจ้าจะทาอะไรได้ เทียบกันกับคน
หลายคนนี้ขา้ งกายตัวข้าจวิน้ จู่ดูวา่ เป็ นอย่างไร คนเช่นนี้ของพวกเรา
ผูใ้ ดบ้างที่รับใช้อยูข่ า้ งกายเจ้านายไม่ได้เริ่ มอบรมตั้งแต่อายุเจ็ดแปด
ปี เจ้าแม้แต่กฎระเบียบยังไม่เข้าใจ ซ้ ายังไม่เคยรับใช้คนมาก่อน อ้า
ปากก็จะไปรับใช้ขา้ งกายเจ้านายแล้ว นี่ไม่ใช่น่าขันยิง่ นักหรื อ”
หลีฮวาและคนอื่นๆ เองก็ปิดปากหัวเราะ สายตาที่มองแม่นางตระกูล
หวังก็ยงิ่ เหยียดหยาม
หน้าของแม่นางตระกูลหวังแดงก่าในชัว่ ขณะ มารดาตระกูลหวัง
เห็นแล้ว ก็ไม่สนใจความกลัว รี บกล่าว “จวิน้ จู่เหนียงเหนียงโปรด
ระงับความโกรธ เด็กคนนี้ของข้ามีนิสยั ดื้อรั้น คุณชายเซ่าจวิน้ ช่วย
พวกเราแม่ลูกไว้ จึงจดจาไว้วา่ อยากจะทดแทนบุญคุณ”
“ไม่โกรธ ไม่โกรธ” เสิ่ นเวยโบกมือ “สิ่ งสาคัญก็คือญาติผพู ้ ี่ของข้า
ไม่ตอ้ งการให้พวกเจ้าทดแทนบุญคุณอย่างไรเล่า พวกเจ้าไม่อาจบีบ
บังคับให้คนลาบากใจได้ใช่หรื อไม่ ตัวข้าจวิน้ จู่ฟังว่าพวกเจ้าเองก็อยู่
ที่บา้ นเกิดไม่ได้แล้ว อยูใ่ นเมืองหลวงก็ไร้ญาติขาดมิตร มิหนาซ้ าฟัง
ที่แม่นางตระกูลหวังพูดยังไม่ถือสาจะขายตัวเป็ นทาส เช่นนั้นก็อยูท่ ี่
จวนจวิน้ อ๋ องของข้าเถอะ ไม่เสี ยเปล่าที่ญาติผพู ้ ี่ขา้ ช่วยพวกเจ้าไว้”
“ขอบคุณจวิน้ จู่เพคะ!” มารดาตระกูลหวังดีใจอย่างไม่คาดคิด
ทว่าแม่นางตระกูลหวังกลับไม่เห็นด้วย “ข้าขอบคุณความหวังดีของ
จวิน้ จู่ ในเมื่อคุณชายเซ่าจวิน้ ไม่ตอ้ งการให้ขา้ ทดแทนบุญคุณ
เช่นนั้นพวกข้าแม่ลูกก็ออกจากจวนไปเสี ยดีกว่า พวกข้าแม่ลูกยังมี
เงินติดตัวอยูเ่ ล็กน้อย เช่าห้องได้หนึ่งห้อง ทางานเย็บปั กถักร้อย
จะต้องเลี้ยงตัวเองได้แน่นอน” ท่าทางคาดไม่ถึงว่าไม่ประจบไม่
วางก้าม
“ลูกสาวเจ้า?” มารดาตระกูลหวังร้อนใจแล้ว จับมือของลูกสาว
ดวงตาเต็มไปด้วยความร้อนใจ เด็กโง่เอ๋ ย มีชีวิตดีๆ ให้ใช้เหตุใดถึง
รั้นจะออกไปมีชีวิตลาบากเช่นนั้นเล่า สังคมนี้ พวกนางสองแม่ลูก
ตัวลาพังไปที่ใดก็ไม่ปลอดภัย ไหนเลยจะสบายใจเท่าอยูใ่ นจวนจวิน้
อ๋ องแห่งนี้
ทว่าแม่นางตระกูลหวังกลับห้ามแม่ของนาง “ท่านแม่ ท่านลืมคาพูด
ของท่านพ่อแล้วหรื อ พวกเราเป็ นสุ จริ ตชน จะขายตัวเป็ นทาสได้
อย่างไร”
มารดาตระกูลหวังกาลังจะพูดว่าพ่อเจ้าพูดประโยคนี้เมื่อไร ก็ได้ยนิ
ลูกสาวกล่าวกับจวิน้ จู่แล้ว “ขอบคุณพระคุณที่จวิน้ จู่จะเก็บพวกข้า
ไว้ยงิ่ นัก พวกข้าแม่ลูกขอตัวออกจากจวน” ทาความเคารพหนึ่งครา
ลากมารดาถอยออกไปแล้ว
“จวิน้ จู่ ท่านว่านี่?” เถาจือถาม
เสิ่ นเวยยิม้ โบกมือกล่าว “ช่างเถอะ ในเมื่อพวกนางไม่รับน้ าใจก็
ปล่อยพวกนางไปเถอะ อ้อ จาไว้วา่ ส่ งคนสองคนตามพวกนางไป ข้า
ว่าแม่นางตระกูลหวังผูน้ ้ ีเป็ นคนหวังสู ง ไม่ได้เป็ นคนซื่อตรงเหมือน
อย่างที่นางพูด”
“จวิน้ จู่ เช่นนั้นจะ…?” เถาจือกล่าวเสี ยงต่า มือทาท่าทาง
เสิ่ นเวยส่ ายหน้า “ไม่ตอ้ ง จับตาดูไว้กพ็ อ”
นางเดาว่าแม่นางตระกูลหวังผูน้ ้ ีจะต้องไม่ละทิ้งความคิดจะตามหา
เสิ่ นเซ่าจวิน้ แน่นอน ก็ดี ถือโอกาสนี้สงั่ สอนเสิ่ นเซ่าจวิน้ ให้ลึกซึ้ง
สักหน่อย ให้เขาเข้าใจว่าการใจดีไปทัว่ สามารถทาร้ายตัวเองได้
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 263-1 จวีเ่ หรินอันดับหนึ่ง
เมื่อออกจากประตูใหญ่จวนผิงจวิน้ อ๋ อง มารดาตระกูลหวังก็ดึงลูก
สาวไว้ กล่าวถามด้วยความร้อนใจ “เด็กโง่ เจ้าคิดอะไรกันแน่ จวน
จวิน้ อ๋ องสถานที่ที่ร่ ารวยเพียงนั้นเจ้าไม่ยอมอยู่ ใช้ชีวิตข้างนอกก็ไม่
ต่างจากที่พวกเราอยูใ่ นเมืองอินหู พวกเราแม่หม้ายลูกกาพร้าไม่มีที่
พึ่งพิง แม่แก่แล้วกลับไม่กลัว แต่เจ้ายังเป็ นสตรี อายุนอ้ ย หาเรื่ อง
จริ งๆ! แม่ไหนเลยจะปกป้องเจ้าได้”
แม่นางตระกูลหวังกลับเม้มปากกล่าว “ท่านแม่ ที่นี่คือเมืองหลวง อยู่
ใต้ฝ่าพระบาทโอรสสวรรค์ ไม่เหมือนเมืองอินหูของพวกเรา พวก
เรามีมือมีเท้า ไยจะต้องไปพึ่งพาทานของผูอ้ ื่นเพื่อความอยูร่ อดด้วย
เล่า แม้จวนจวิน้ อ๋ องจะดี พวกเราเองก็ตอ้ งขายตัวเป็ นทาส หลังจาก
นี้บุตรหลานรุ่ นหลังก็ตอ้ งเป็ นบ่าวเป็ นทาส ท่านตัดใจได้หรื อ”
มองเห็นความลังเลบนใบหน้าของแม่นาง แม่นางตระกูลหวังหวัง
หลานเอ๋ อร์กก็ ล่าวต่อ “อีกอย่าง คนที่ช่วยพวกเราคือคุณชายเซ่าจวิน้
คุณชายเซ่าจวิน้ เป็ นคนอ่อนโยนนิสยั ดี หากพวกเราเป็ นบ่าวข้างกาย
เขาก็ไม่เป็ นไร อย่างไรเสี ยเขาก็ไม่อาจทรมานพวกเรา แต่จวิน้ จู่ผนู ้ ้ นั
ไม่รู้จกั กับพวกเรามาก่อน ลูกว่านางเองก็ไม่ใช่คนที่เป็ นมิตรนัก
ตระกูลที่มีอานาจสู งส่ งไหนเลยจะอยูง่ ่าย พวกเราพึ่งพาตัวเองยังดี
เสี ยกว่า อย่างน้อยก็เป็ นอิสระ”
ไม่มีใครเข้าใจบุตรสาวไปมากกว่ามารดา แม้วา่ ปากหวังหลานเอ๋ อร์
จะพูดจาเป็ นเหตุเป็ นผล แต่มารดาตระกูลหวังที่ใช้ชีวิตอยูร่ ่ วมกันมา
สิ บกว่าปี ยังคงสังเกตเห็นบางอย่างที่แตกต่างจากในนั้นได้ นางจับ
มือของลูกสาว กล่าวด้วยความเป็ นห่วง “หลานเอ๋ อร์ เจ้าคงไม่ได้คิด
อะไรกับคุณชายเซ่าจวิน้ ผูน้ ้ นั ใช่หรื อไม่”
หวังหลานเอ๋ อร์หลุบตาลง ไม่ได้ตอบ
มารดาแซ่หวังจะมีอะไรไม่เข้าใจ นางตบลูกสาวเบาๆ เล็กน้อย ในใจ
กลัดกลุม้ เจียนตาย “หลานเอ๋ อร์เอ๋ อ เหตุใดเจ้าถึงเกิดความคิดเช่นนี้
เล่า ในครอบครัวคุณชายเซ่าจวิน้ ผูน้ ้ นั มีภรรยามีบุตรนานแล้ว เจ้าเข้า
ไปก็เป็ นได้แค่เพียงอนุภรรยา อนุภรรยาคืออะไร นัน่ ก็คือของเล่น
ถูกภรรยาเอกตีตายยังไม่มีแม้แต่ที่ให้อธิบาย ยิง่ ไปกว่านั้นคุณชาย
เซ่าจวิน้ มีฐานะอันใด ญาติผพู ้ ี่ของจวิน้ จู่เหนียงเหนียง นัน่ คือคุณชาย
จวนโหวสักแห่งหนึ่ง ต่อให้เป็ นอนุภรรยาพวกเราก็ไม่มีคุณสมบัติ
พอ! เด็กโง่เจ้ารี บตั้งสติ เจ้าไม่อยากเข้าจวนจวิน้ อ๋ องก็ไม่ตอ้ งไป
พวกเราสองแม่ลูกเช่าบ้านหาที่พกั ก่อน รับงานเย็บปั กถักร้อยชีวิตก็
พอจะผ่านไปได้ รอให้ผา่ นหนึ่งปี ครึ่ งปี ไปแม่จะหาบ้านสามีละแวก
บ้านให้เจ้าสักคนหนึ่ง เจ้าค่อยมีหลานชายตัวอ้วนพีให้แม่ ชัว่ ชีวิตนี้
ของแม่กเ็ พียงพอแล้ว”
มารดาตระกูลหวังพยายามเกลี้ยกล่อม กลัวว่าลูกสาวจะเดินผิดทาง
อนุภรรยาตระกูลใหญ่ตระกูลโตเป็ นง่ายเพียงนั้นหรื อไร โดยเฉพาะ
คนที่ไร้ที่พ่ งึ ไร้การช่วยเหลือเช่นพวกนาง หากถูกตีตายก็ถูกตีตาย
จริ งๆ อย่างไรเสี ยมารดาตระกูลหวังก็อายุมากกว่าลูกสาว มองทะลุ
กว่าเล็กน้อย หากรู ้วา่ ลูกสาวมีความคิดเช่นนั้น ตอนแรกไม่วา่
อย่างไรนางก็คงไม่เห็นด้วยที่จะออกมาจากเมืองอินหู
แม้หวังหลานเอ๋ อร์จะไม่เอ่ยปาก แต่ในใจกลับไม่เห็นด้วยกับการพูด
ของมารดานาง
ตั้งแต่ที่เห็นคุณชายผูอ้ ่อนโยนงามสง่าเช่นคุณชายเซ่าจวิน้ นางไหน
เลยจะยังชอบชายกายาร่ างใหญ่เหล่านั้นอยูอ่ ีก นางหน้าตาดี สมควร
จะคู่ควรกับคนดีเช่นคุณชายเซ่าจวิน้ เป็ นอนุภรรยาแล้วอย่างไร
ภรรยาคนแรกของคุณชายเซ่าจวิน้ ก็เป็ นเพียงหญิงชนบทมิใช่หรื อ
รอนางกับคุณชายเซ่าจวิน้ เกิดความรู ้สึกผูกพันต่อกัน มีบุตรชาย
บุตรสาวให้ จะไม่มีคืนวันที่ร่ ารวยของนางได้อย่างไร หญิงชนบทผู ้
นั้นจะทาอะไรนางได้ นางไม่ยอม ไม่ยอมถูกคนในตระกูลบังคับให้
ขายออกไปมัว่ ซัว่ ไม่ยอมมีชีวิตที่ขมขื่นอย่างเช่นเมื่อก่อนอีก
มารดาตระกูลหวังเห็นท่าทีของลูกสาว ในใจก็สถบเวรกรรมหนึ่ง
ครา ลากลูกสาวไปหาบ้านเช่า เดิมพวกนางคิดจะหาโรงเตี๊ยมพักเท้า
ก่อน แล้วค่อยๆ หาบ้านอยู่ แต่เพราะการสอบคัดเลือกช่วยสารทฤดู
โรงเตี๊ยมแต่ละแห่งต่างก็เต็ม พวกนางไต่ถามมาว่าโรงเตี๊ยมหลาย
แห่งล้วนแต่ไม่มีหอ้ งว่าง
ชัว่ พริ บตาก็จะบ่ายแล้ว มารดาตระกูลหวังร้อนใจอย่างยิง่ หากวันนี้
หาที่พกั ไม่ได้ พวกนางก็ทาได้เพียงเร่ ร่อนอยูต่ ามถนน คิดถึงผลลัพธ์
นั้นต่อให้นางไม่มีประสบการณ์กก็ ลัวจนตัวสัน่ งันงกแล้ว
หวังหลานเอ๋ อร์เองก็เสี ยใจอย่างถึงที่สุด นางไม่ควรบุ่นบามใช้
อารมณ์เพียงชัว่ ครู่ ออกมาจากจวนจวิน้ อ๋ องเช่นนั้น พวกนางควรจะ
หาที่พกั ดีๆ ให้ได้ก่อนแล้วค่อยย้ายออกมา
สุ ดท้ายแล้วภายใต้ความช่วยเหลือของคนใจดีพวกนางยังคงหาลาน
บ้านรวมขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเขตคนจนทางฝั่งตะวันตกของเมือง
ได้ สภาพแวดล้อมของลานบ้านรวมขนาดใหญ่ยา่ แย่อย่างถึงที่สุด
ลานบ้านขนาดใหญ่หนึ่งแห่งอยูก่ นั หลายครอบครัว แย่ยงิ่ กว่าบ้านที่
เมืองอินหูของพวกนางเสี ยอีก แต่แม่ลูกตระกูลหวังที่เข้าตาจนก็ไม่มี
กระจิตกระใจจะเลือกมากอะไรแล้ว สามารถมีที่ให้พวกนางพักผ่อน
ได้กไ็ ม่เลวแล้ว
คนที่ติดตามแม่ลูกตระกูลหวังกลับไปรายงานสถานการณ์เสิ่ นเวย
“จวิน้ จู่ ต้องการให้บ่าวทาอะไรบ้าง”
เสิ่ นเวยโบกมือ “ไม่ตอ้ ง พวกเจ้าตามไปก็พอ” หากพวกนางสงบจิต
สงบใจก็ไม่เป็ นไร หากมีความคิดลับลมคมนัยจริ งๆ เช่นนั้นก็อย่าหา
ว่านางไม่เกรงใจ
ท่านเสนาบดีฉินไปรับลูกชายใช้เวลาในการเดินทางห้าวัน ระทางก
ลับกลับใช้เวลาเพิ่มขึ้นสองเท่า วันที่เข้าเมืองตรงกับวันประกาศผล
การสอบคัดเลือกช่วงสารทฤดูพอดี ทุกหนทุกแห่งศีรษะคนล้วน
แน่นขนัด เป็ นภาพบรรยากาศที่ครื้ นเครงยินดี
ท่านเสนาบดีฉินเปิ ดม่านรถม้ามองไปข้างนอก มองเห็นเจ้าหน้าที่
สวมชุดแดงผูน้ ้ นั ขี่มา้ ผ่านมาด้วยสี หน้าเบิกบานใจทั้งใบหน้า เขาหรี่
ตาลงสัง่ บ่าวรับใช้คนสนิท “ซานเอ๋ อร์ ไปสื บดูเสี ยว่าจวี่จื่อคนไหน
ได้อนั ดับหนึ่ง”
มีเด็กรับใช้สวมชุดสี เทาขานรับออกไป ไม่นานนักก็กลับมาแล้ว
“เรี ยนท่านเสนาบดี บ่าวสื บถามมาแล้ว เจี้ยหยวนอันดับหนึ่งของขั้น
นี้คือท่านซื่อจื่อท่านนั้นของจวนหย่งหนิงโหวขอรับ”
ดวงตาท่านเสนาบดีฉินกะพริ บวาบ กล่าวหนึ่งประโยค “น่าเสี ยดาย”
จากนั้นจึงนัง่ กลับไปในรถ
เด็กรับใช้ยอ่ มไม่รู้วา่ ท่านเสนาบดีฉินเสี ยดายอะไร เดิมเขายังสื บถาม
ผูถ้ ูกคัดเลือกห้าอันดับแรกมาด้วย ในเมื่อท่านเสนาบดีไม่ถาม เขาก็
ไม่พดู อย่างรู ้สมควร
ท่านเสนาบดีฉินในรถหลุบตาลง กล่าวในใจ ได้ยนิ มานานแล้วว่า
ซื่อจื่อผูน้ ้ นั ของจวนหย่งหนิงโหวมีความรู ้ความสามารถโดดเด่น ไม่
คิดว่าจะสามารถสอบเป็ นเจี้ยหยวนได้ ตอนที่เขาสอบซิ่วไฉก็ได้
อันดับหนึ่งเช่นกัน หากการสอบคัดเลือกในช่วงวสันตฤดูปีหน้าได้
อันดับที่หนึ่งอีก เช่นนั้นก็ถือว่าสอบได้ที่หนึ่งในทุกระดับการสอบ
ต้ายงไม่มีผถู ้ ูกคัดเลือกที่ได้ที่หนึ่งในทุกระดับการสอบมายีส่ ิ บปี แล้ว
เหอๆ เสิ่ นผิงยวนสุ นขั เฒ่าตัวนั้นกลับโชคดี ได้หลานเขยที่สอบได้ที่
หนึ่งในทุกระดับการสอบมาอย่างง่ายดาย
ท่านเสนาบดีฉินพาลูกชายคนเล็กที่พิการกลับจวน เมื่อต่งซื่อได้ยนิ
ว่าชีวิตที่เหลือของลูกชายคนเล็กทาได้เพียงนอนอยูบ่ นเตียง ดวงตา
ทั้งคู่กเ็ หลือกเป็ นลมไปแล้ว
นายหญิงผูเ้ ฒ่าฉินเจ็บปวดราวกับถูกดาบฟัน มือที่สนั่ ระริ กยังไม่กล้า
แตะต้องหลานชายสุ ดที่รักของนาง แต่เห็นใบหน้าที่แก่ตวั เ**่่
ยวย่นนัน่ ของลูกชาย นางก็สะกดกลั้นความเจ็บปวดในใจ ไม่ได้เป็ น
ลมเหมือนลูกสะใภ้ ยังต้องกัดฟันปลอบขวัญลูกชาย “เหล่าต้าเอ๋ ย
เจ้าไม่ตอ้ งคิดมากแล้ว สมควรให้หรานเอ๋ อร์พบเจอหายนะนี้ในชีวิต
ตระกูลเราเจ้าเป็ นเสาหลัก เจ้าไม่อาจล้มลงได้ ในจวนของพวกเรา
ร่ ารวย จะเลี้ยงหรานเอ๋ อร์สกั คนไม่ได้หรื อไร หยวนเอ๋ อร์เองก็เป็ น
เด็กกตัญญู ไม่อาจทอดทิ้งพีน่ อ้ งเขาแน่นอน”
อย่ามองว่านายหญิงผูเ้ ฒ่าฉิ นโมโหขึ้นมาด่าลูกชายแล้วด่าจริ ง แต่
นางเองก็รักลูกชาย สมองยังคงมีสติอยู่ รู ้วา่ ความร่ ารวยรุ่ งโรจน์ของ
จวนเสนาบดีลว้ นแต่เกี่ยวข้องกับลูกชายคนโต
ฉินมู่หยวนที่ยนื อยูข่ า้ งๆ ก็รีบแสดงท่าที “ท่านพ่อวางใจ ลูกจะดูแล
น้องชายอย่างดี มีลูกอยู่ น้องชายไม่อาจขาดอะไรแน่นอน” ในใจเขา
เองก็ลาบากใจอย่างถึงที่สุด ไม่วา่ อย่างไรนี่เองก็เป็ นน้องชายมารดา
เดียวกันของเขา แต่ยงิ่ ไปกว่านั้นก็โล่งอก น้องชายพิการแล้ว ไม่อาจ
วิ่งออกไปสร้างเรื่ องได้อีกแล้ว
ท่านเสนาบดีฉินตบบ่าลูกชายคนโต ชื่นชมอย่างยิง่
เทียบกับบรรยากาศมืดมนในจวนเสนาบดีฉิน จวนหย่งหนิงโหว
กลับมีบรรยากาศชื่นมื่น ตั้งแต่ที่เด็กรับใช้วิ่งเข้ามาตะโกน “อันดับ
หนึ่ง ท่านซื่อจื่อสอบได้เป็ นเจี้ยหยวนอันดับหนึ่ง!” เบื้องบนหย่งห
นิงโหวกระทัง่ ฮูหยินอวี้ซื่อ ฮูหยินซื่อจื่อเสิ่ นเสวี่ยและคุณหนูญาติผู ้
น้องจ้าวเฟยเฟยและนายคนอื่นๆ เบื้องล่างบ่าวรับใช้ที่ทาความ
สะอาดทั้งหลาย ต่างก็ดีอกดีใจ เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
“ปูนบาเหน็จ ลูกชายข้าไม่เป็ นสองรองใคร ทุกคนในจวนเพิ่ม
เงินเดือนหนึ่งเดือน” ในน้ าเสี ยงของหย่งหนิงโหวแฝงไปด้วยความดี
ใจ
“เรื่ องมงคลที่ใหญ่เพียงนี้ควรจะปูนบาเหน็จหนักๆ นอกจากเพิ่ม
เงินเดือนหนึ่งเดือนแล้ว ยังต้องเพิ่มเสื้ อผ้าหนึ่งชุดให้ทุกคนด้วย” แต่
ไหนแต่ไรอวี้ซื่อที่ข้ ีเหนียวก็ใจกว้างขึ้นมาอย่างหาได้ยาก
“เช่นนั้นลูกเองก็ขอผสมโรงด้วย เพิ่มเนื้อให้บ่าวรับใช้ทุกคนใน
จวน” เสิ่ นเสวี่ยก็ยมิ้ แย้มเบิกบาน สามีมีอนาคต นางเองก็มีเกียรติ
ด้วยเช่นกัน!
หย่งหนิงโหวลูบหนวดด้วยสี หน้าชื่นชมทั้งใบหน้า กล่าว “เจ้าเป็ น
สตรี มีคุณธรรม ซื่อจื่อโชคดีที่ได้เจ้าดูแล”
อวี้ซื่อที่แต่ไหนแต่ไรไม่ถูกกับเสิ่ นเสวี่ยก็พยักหน้าเช่นกัน “โชคดีที่
ได้ลูกสะใภ้กวดขันอวี้เอ๋ อร์ให้อ่านหนังสื อพัฒนาตน” ท่าทียมิ้ แย้ม
อ่อนโยนนั้นทาให้เสิ่ นเสวี่ยรู ้สึกประหลาดใจที่ได้รับความโปรด
ปรานเล็กน้อย ตั้งแต่ที่นางแต่งเข้ามาก็ไม่เคยเห็นแม่สามีทาสี หน้า
ดีๆ เช่นนี้ให้นางมาก่อน!
“นี่ลว้ นแต่เป็ นสิ่ งที่ลูกควรทา” เสิ่ นเสวี่ยหลุบตากล่าวเสี ยงอ่อนโยน
ท่าทางนอบน้อมนี้ทาให้หย่งหนิงโหวยิง่ พอใจ ส่ วนอวี้ซื่อเองก็เป็ น
ครั้งแรกที่รู้สึกว่าลูกสะใภ้ผนู ้ ้ ียงั คงถูกชะตาเล็กน้อย กล่าวกับนาง
อย่างนุ่มนวล “ตอนนี้อวี้เอ๋ อร์เป็ นจวีเ่ หริ นแล้ว ลูกสะใภ้เจ้าก็ตอ้ ง
ดูแลร่ างกายให้ดี พยายามมีหลานชายอ้วนพีให้พวกเรา” สายตาของ
นางทอดมองไปยังท้องที่ผอมแบนของเสิ่ นเสวี่ย เสี ยดายอย่างถึง
ที่สุด หากเสิ่ นซื่อสามารถมีข่าวดีได้ ก็เท่ากับมีมงคลคู่มาเยือนบ้าน
พร้อมกันมิใช่หรื อ
ทว่าหย่งหนิงโหวกลับลูบหนวดกล่าว “แม้วา่ ทายาทจะสาคัญ แต่
เดือนสองปี หน้าก็เป็ นการสอบขั้นฮุ่ยซื่อในช่วงวสันตฤดูแล้ว ไม่
อาจประมาทได้ หากซื่อจื่อสามารถสอบได้ที่หนึ่งอีก เช่นนั้นความ
รุ่ งโรจน์ของจวนหยงหนิงโหวของพวกเราก็ก็อยูไ่ ม่ไกลแล้ว
ลูกสะใภ้เจ้ายังต้องลาบากเพิ่ม ดูแลท่านซื่อจื่อให้ดี”
เสิ่ นเสวี่ยพยักหน้า “เจ้าค่ะ ท่านพ่อวางใจ ลูกจะต้องกวดขันซื่อจื่อให้
ขยันหมัน่ เพียรยิง่ ขึ้น พยายามให้เป็ นที่หนึ่งอีกในปี หน้า”
“ดีๆๆ บุตรดีสะใภ้ดี!” หย่งหนิงโหวหัวเราะร่ าอย่างสบายอารมณ์
มีเพียงจ้าวเฟยเฟยที่ดวงตากะพริ บวาบ ผ้าเช็ดหน้าในมือบิดจนเป็ น
เกลียว
จวนจงอู่โหวเองก็มีบรรยากาศชื่นมื่น เช้าตรู่ กส็ ่ งเด็กรับใช้หลายคน
ออกไปดูประกาศ ตอนครึ่ งเช้าข่าวก็ส่งกลับมาแล้ว ท่านเขยสองคน
ที่ลงสนามสอบปี นี้ต่างก็สอบติดแล้ว ท่านเขยห้าในนั้นยังคงสอบได้
อันดับหนึ่งเป็ นเจี้ยหยวน อันดับของท่านเขยสามเองก็ไม่ได้ดอ้ ย ได้
อันดับที่ยสี่ ิ บเอ็ดเชียว
สวี่ซื่อจัดเตรี ยมของขวัญอวยพรต่างๆ ส่ วนนายท่านทั้งหลายฝั่งนั้นก็
ดื่มสุ รากันแต่เนิ่นๆ แล้ว โดยเฉพาะนายท่านสามเสิ่ นหงเซวียน
รอยยิม้ บนใบหน้าไม่หุบลงเลย ลูกเขยเขาได้อนั ดับหนึ่ง เขาผูเ้ ป็ น
พ่อตาย่อมมีเกียรติเช่นกัน!
เสิ่ นเวยย่อมได้ข่าวเช่นกันแล้ว เว่ยจิ่นอวี้กลับโชคดี ในใจเสิ่ นเวยมี
ความคิดนี้แวบผ่าน แต่กไ็ ม่ได้ใส่ ใจมากนัก เรื่ องของขวัญอวยพร
ย่อมมีอาจารย์ซูจดั การ ตอนนี้ในสมองนางล้วนมีแต่เรื่ องท่าน
เสนาบดีฉินกลับเมืองหลวง เชือกเส้นนั้นที่ผอ่ นคลายลงของนางก็
แน่นตึงขึ้นมาทันที
แม้วา่ องค์ชายใหญ่จะถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว แต่กลับอยูร่ ักษา
ร่ างกายเพียงแค่ในจวน ฝ่ าบาทไม่ออกคาสัง่ เขาย่อมไม่อาจรับงาน
ใดๆ ได้ ทั้งจนทั้งว่างเปล่า ใต้บงั คับบัญชาแม้แต่คนให้เรี ยกใช้ยงั ไม่
มี
บ้านฝั่งมารดาของเจียงซื่อพระชายาองค์ชายใหญ่นบั ได้วา่ มีกาลัง
สนับสนุน แต่สิบปี แล้วที่ไม่ได้ไปมาหาสู่ ใครจะรู ้วา่ จุดยืนของ
ตระกูลเจียงจะเป็ นเช่นไร
เสิ่ นเวยคานวณไปคานวณมา ในใจก็กลัดกลุม้ อย่างยิง่ หากมีตวั เลือก
อื่นนางจะต้องไม่ยนื ฝั่งองค์ชายใหญ่แน่นอน ไม่มีอานาจแม้แต่นิด
เดียว ต้อให้นางจะมีสามเศียรหกกรก็ไร้ประโยชน์! แต่ไม่ยนื อยูฝ่ ั่ง
องค์ชายใหญ่กไ็ ม่ได้ ใครให้คุณชายใหญ่ของนางมีศีลธรรมเช่นนั้น
ดันไปแขวนคอตายอยูบ่ นต้นไม้ตน้ นี้ของคุณชายใหญ่เสี ยแล้วเล่า
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 263-2 จวีเ่ หรินอันดับหนึ่ง
วันที่สามหลังจากประกาศผลสอบ เสิ่ นอิงกับเสิ่ นเสวี่ยก็จูงสามีกลับ
บ้านฝั่งมารดา เสิ่ นเวยเองก็กลับมาเช่นกัน นางกลับมาคนเดียว ช่วง
นี้สวีโย่วค่อนข้างยุง่ เดิมเขาจะลางานกลับมาเป็ นเพื่อนนาง เสิ่ นเว
ยไม่อนุญาต ด้วยเหตุน้ ีท้ งั สองจึงตกลงกันดีแล้ว รอสวีโย่วเลิกงาน
แล้วค่อยไปรับนางที่จวนจงอู่โหวกลับจวน
กลับมาครั้งนี้เสิ่ นเสวี่ยสลัดความสุ ขมุ ออกไป เปิ ดเผยอย่างยิง่ ห่าง
ออกไปไกลก็ยงั ได้ยนิ เสี ยงหัวเราะของนาง เสิ่ นเวยยกมุมปากรู ้สึก
น่าขันยิง่ นัก ก็แค่เว่ยจิ่นอวี้สอบได้หนึ่งไม่ใช่หรื อ ต้องขนาดนี้เลย
หรื อ ระยะทางยาวไกลเพิ่งจะก้าวเท้าก้าวแรกเอง ต่อให้สอบขั้นฮุ่
ยซื่อเตี้ยนซื่อปี หน้าได้เป็ นจอหงวนแล้วอย่างไร จอหงวนมากน้อย
เพียงใดที่ตลอดชีวิตก็เป็ นได้เพียงคนไร้ค่าในตาแหน่งขุนนางขั้นหก
ขั้นเจ็ด ผูท้ ี่เลื่อนขั้นเป็ นอามาตย์เก้าขุนส่ วนใหญ่กลับเป็ นกลุ่มที่ได้
อันดับกลางๆ ในการสอบคัดเลือกขุนนาง
ทว่าเสิ่ นเสวี่ยกลับไม่ได้คิดเช่นนี้ นางคิดว่าตนเองถือว่าเงยหน้าอ้า
ปากได้แล้ว ถือว่ากดหัวพี่สาวได้แล้ว โดยเฉพาะเมื่อรู ้วา่ เสิ่ นเวยกลับ
มาคนเดียว ในใจนางก็รู้สึกยินดีบนความทุกข์ของผูอ้ ื่น กล่าวอย่างเส
แสร้ง “ท่านพี่สี่ เหตุใดพี่เขยสี่ ถึงไม่กลับมาพร้อมท่านเล่า” ท่าทาง
เป็ นห่วงเสิ่ นเวยอย่างยิง่
เสิ่ นเวยไม่อยากสนใจนางจริ งๆ จัดการไปหลายรอบเพียงนั้นแล้ว
เหตุใดถึงจาบทเรี ยนไม่ได้เล่า
“อ้อ พี่สี่เจ้ายุง่ น่ะ ข้าก็ไม่ใช่ไม่รู้ทาง กลับบ้านฝั่งมารดายังต้องให้เขา
บอกก็ไม่ไหวหรอกกระมัง” เสิ่ นเวยกล่าวอย่างไม่สนใจ
สวี่ซื่อรี บกล่าว “นัน่ น่ะสิ หลานเขยสี่ มีหน้าที่การงานแล้ว กิจธุระใน
ที่วา่ การย่อมสาคัญที่สุด เชียนเอ๋ อร์กย็ งุ่ เหมือนกันมิใช่หรื อ ยุง่ จน
แม้แต่งานสมรสยังต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก”
เสิ่ นเวยกล่าวถาม “ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ งานสมรสของญาติผพู ้ ี่ใหญ่
กาหนดแล้วหรื อ”
เอ่ยถึงเรื่ องนี้ใบหน้าสวี่ซื่อก็เต็มไปด้วยรอยยิม้ “กาหนดแล้ว กาหนด
ไว้เป็ นวันที่ยสี่ ิ บหกเดือนล่า ถึงตอนนั้นเชียนเอ๋ อร์กลับมาแต่งงานก็
ยังสามารถฉลองปี ใหม่ในบ้านได้พอดี พอถึงเดือนเจิงก็ให้พวกเขา
สองสามีภรรยาไปซีเจียงพร้อมกัน”
“ฤกษ์ดี” เสิ่ นเวยชมหนึ่งครา ทันใดนั้นก็กล่าวต่อ “ท่านป้าสะใภ้
ใหญ่ ถึงตอนนั้นญาติผพู ้ ี่ใหญ่กลับมาท่านก็ส่งจดหมายมาให้หลาน
บ้าง ไม่เจอกันนานแล้ว คิดถึงญาติผพู ้ ี่ใหญ่นกั ”
“ได้ๆๆ ไม่ลืมแน่นอน” สวี่ซื่อย่อมยินดีที่ได้เห็นลูกชายสนิทกับ
หลานสาว
เสิ่ นเสวี่ยมองเห็นพี่สาวกับท่านป้าสะใภ้ใหญ่คุยกันอย่างถูกคอ ใน
ดวงตาก็มีความริ ษยาแวบผ่าน ทันใดนั้นก็กลับคืนสู่ ปกติ กล่าวคล้อย
ตาม “ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ ยังมีหลานด้วยคน ท่านซื่อจื่อของพวกเรา
เลื่อมใสญาติผพู ้ ี่ใหญ่ยงิ่ นัก ถึงตอนนั้นก็ให้เขาเรี ยนรู ้วรยุทธ์กบั ญาติ
ผูพ้ ี่ใหญ่เสี ยหน่อย เขาน่ะวันทั้งวันเอาแต่เก็บตัวอยูใ่ นห้องอ่าน
หนังสื อ ข้าเป็ นห่วงว่าร่ างกายเขาจะรับไหวได้อย่างไร” เสิ่ นเสวี่ยพูด
ไปพูดมาก็โอ้อวดอย่างอดไม่ได้
เสิ่ นเวยหลุบตาไม่พดู ทว่าสวี่ซื่อกลับกล่าว “นี่กเ็ พราะว่าหลานเขย
ห้ารู ้ประสา เรี ยนหนังสื อก็ตอ้ งมุมานะมิใช่หรื อ ดูสิหลานเขยห้าของ
พวกเราได้เป็ นเจี้ยหยวนแล้วมิใช่หรื อ ข้างนอกใครบ้างไม่อิจฉา”
คาพูดหลายประโยคพูดจนเสิ่ นเสวี่ยหัวเราะคิกคัก ยิม้ พลางกะพริ บ
ตาเขยิบเข้ามาพูดกับเสิ่ นเวย “ท่านพี่สี่ ฟังว่าไม่กี่วนั ก่อนพี่เขยสี่ ถูก
ฝ่ าบาทขังไว้ในศาลราชวงศ์ เกิดเรื่ องอะไรขึ้นหรื อ พี่เขยสี่ ทาเรื่ อง
อันใดยัว่ โมโหฝ่ าบาทเข้าเสี ยแล้ว” ท่าทางกระวนกระวายใจ
เสิ่ นเวยยิม้ แล้ว เจ้าว่าเจ้าเสิ่ นเสวี่ยโอ้อวดเรื่ องตัวเองยังไม่พอ ทาไม
จะต้องเหยียบเท้านางให้ได้จึงจะพอใจ นี่เป็ นเรื่ องที่ผา่ นมาหลาย
เดือนแล้ว หากเจ้าเป็ นห่วงจริ งๆ เหตุใดตอนนั้นถึงไม่มาดูที่บา้ นเล่า
“ไม่รู้ผา่ นไปนานโขเท่าไรแล้ว น้องเสวี่ยยังจาได้อยูอ่ ีกหรื อ คุณชาย
ใหญ่ของข้าถูกขังอยูใ่ นศาลราชวงศ์จริ ง แต่วา่ วันนั้นก็ถูกปล่อยตัว
แล้ว รู ้หรื อไม่วา่ เหตุใดถึงถูกปล่อยตัว พี่สี่ของเจ้าเป็ นคนที่ไม่กลัว
อะไรทั้งสิ้ น ไปทะเลาะกับฝ่ าบาทอย่างไรเล่า!” เสิ่ นเวยพูดอย่างเรี ยบ
ง่าย
ปรายตามองเสิ่ นเสวี่ยปราดหนึ่งแล้วกล่าวต่อ “น้องเสวีย่ ตั้งแต่เล็ก
เจ้าก็ลาดับความสาคัญไม่ได้ อย่าหาว่าพี่วา่ เจ้า มีเจ้าเป็ นห่วงข้าเช่นนี้
เจ้าเองก็ควรใส่ ใจน้องเขยให้มากสักหน่อย เหตุใดพี่ถึงได้ยนิ ว่า
น้องเขยจะแต่งอนุภรรยาแล้วเล่า อีกทั้งยังเป็ นคุณหนูญาติผนู ้ อ้ งแซ่
จ้าวผูน้ ้ นั ในจวนพวกเจ้าอีกด้วย เจ้าน่ะ เหตุใดถึงปล่อยให้ปีศาจน้อย
ตัวนั้นฉวยโอกาสเล่า” บนใบหน้าเสิ่ นเวยจริ งใจยิง่ นัก!
เมื่อคาพูดนี้ออกไป หน้าของเสิ่ นเสวี่ยก็เปลี่ยนในชัว่ พริ บตา แม้แต่
นายหญิงผูเ้ ฒ่ากับสวี่ซื่อก็ประหลาดใจ “เสวี่ยเอ๋ อร์ นี่มนั เรื่ องอะไร
กัน แม่สามีเจ้าไม่ใช่ดูคู่หมั้นให้คุณหนูญาติผนู ้ อ้ งผูน้ ้ นั ในจวนพวก
เจ้าอยูห่ รื อ”
สี หน้าเสิ่ นเสวี่ยลาบากใจอย่างยิง่ นิ้วมือที่กาผ้าเช็ดหน้าขาวซีด
อธิบายด้วยความอึดอัดใจ “ไม่ใช่เพราะว่าหลานไม่ต้ งั ครรภ์หรอก
หรื อ แม่สามีเห็นว่าลูกผูน้ อ้ งให้กาเนิดได้ จึงตัดสิ นใจให้ท่านพี่รับ
ลูกผูน้ อ้ งเป็ นอนุภรรยา”
ความจริ งเป็ นเช่นไร ความจริ งก็คือจ้าวเฟยเฟยแพศยาน้อยผูน้ ้ นั ฉวย
โอกาสตอนที่สามีของนางดีใจจนดื่มสุ ราไปสองแก้วปี นขึ้นเตียง
ของเขา เห็นชัดๆ ว่านางเป็ นหญิงชัว่ หน้าไม่อายเอง แต่ยงั ร้องห่ม
ร้องไห้ตาหนิวา่ สามีของนางทาลายความบริ สุทธิ์ของนาง ไม่เคย
เห็นคนที่หน้าหนาเช่นนี้มาก่อน
“เสวี่ยเอ๋ อร์ เจ้าเลอะเลือนแล้วหรื อ” นายหญิงผูเ้ ฒ่ากล่าวอย่างไม่
พอใจ “เจ้าแต่งงานเข้าไปยังไม่ครบปี เลย ไม่ต้ งั ครรภ์กเ็ ป็ นเรื่ องปกติ
รี บไปทาไมกัน ต่อให้จะยกคนให้หลานเขย ข้างกายเจ้าไม่ใช่มีสาว
ใช้ที่ติดตามออกเรื อนไปหรื อไร คุณหนูญาติผนู ้ อ้ งอะไรนัน่ ไม่ตอ้ ง
ดูกร็ ู ้วา่ ไม่ใช่คนดีอะไร เรื่ องใหญ่เช่นนี้เหตุใดเจ้าถึงไม่บอก” นาย
หญิงผูเ้ ฒ่าเจ็บใจที่ไม่อาจหลอมเหล็กให้กลายเป็ นเหล็กกล้าได้
สวี่ซื่อเองก็กล่าว “เสวี่ยเอ๋ อร์ ย่าเจ้าพูดถูก หลานเขยจะแต่งอนุตอ้ ง
เลือกจากสาวใช้ที่ติดตามออกเรื อนของเจ้า สัญญาทาสของพวกนาง
อยูใ่ นมือเจ้า ไม่ตอ้ งกลัวนางจะทรยศต่อเจ้า หากคุณหนูญาติผนู ้ อ้ ง
คนนั้นกลายเป็ นอนุภรรยาของหลานเขย พวกเขาเป็ นลูกพี่ลูกน้อง
ย่อมต้องมีความผูกพัน ถึงตอนนั้นไม่วา่ เจ้าจะทาอย่างไรก็ลาบาก!”
สี หน้าของเสิ่ นเสวี่ยดาทะมึนแล้ว ไม่โอ้อวดเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
กล่าวอย่างอึกอัก “ท่านย่า ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ ข้าเองก็ไม่อยาก แต่แม่
สามีผนู ้ ้ นั ของข้าเป็ นคนตัดสิ นใจ ท่านพี่เองก็มีความสุ ข ข้ายังมี
หนทางใดอีก”
นางห้ามไม่ให้เจ้าเฟยเฟยหญิงชัว่ ผูน้ ้ นั เข้าเรื อนไม่ได้แล้ว แต่นางเอง
ก็โวยวายอย่างหนักไปหนึ่งครั้ง อีกทั้งยังโวยวายต่อหน้าหย่งหนิง
โหวพ่อสามี ดังนั้นความคิดที่จา้ วเฟยเฟยอยากใช้ฐานะเป็ น
อนุภรรยาสู งศักดิ์กระทัง่ เป็ นภรรยารองจึงคว้าน้ าเหลว อยากเข้า
เรื อน ได้ ทาได้เพียงเป็ นอี๋เหนียงทัว่ ไปเท่านั้น นางอยากจะดูวา่ เจ้า
จ้าวเฟยเฟยเป็ นคุณหนูญาติผนู ้ อ้ งอยูด่ ีๆ ไม่เป็ น ดันจะเป็ นอี๋เหนียง
กึ่งบ่าวรับใช้ให้ได้ หวังว่าเจ้าจะไม่ตอ้ งเสี ยใจภายหลัง ความเคียด
แค้นแวบผ่านใบหน้าของเสิ่ นเสวี่ยไป
“เจ้านะเจ้า แม่สามีผนู ้ ้ นั ของเจ้าก็สติเลอะเลือน” นายหญิงผูเ้ ฒ่าชี้เสิ้ น
เสวี่ย กล่าวอย่างคับแค้นใจ แต่ไม้กลายเป็ นเรื อไปแล้ว เห็นแก่หลาน
เขยห้าที่สอบได้เป็ นเจี้ยหยวนกลับไม่ได้พดู อะไรอีก
เสิ่ นเวยมองเสิ่ นเสวี่ยที่เศร้าสลดใจนิ่งๆ กลอกตาไปมาก็หนั ไปคุย
กับเสิ่ นอิงพี่สามของนาง ไม่ใช่แผลเป็ นที่นางใจดาต้องการจะเปิ ด
โปงเสิ่ นเสวี่ยจริ งๆ สมน้ าหน้าเสิ่ นเสวี่ยจริ งๆ หากนางไม่วางแผน
คิดจะเหยียบยา่ ตน คนก็ข้ ีเกียจจะยุง่ เรื่ องของนางอยูแ่ ล้ว
แต่วา่ เสิ่ นเสวี่ยเองก็โง่จริ งๆ เป็ นคุณหนูที่แต่งงานออกจากจวนจงอู่
โหวเหมือนกัน พี่สามยังเป็ นบุตรอนุภรรยา ออกเรื อนเร็ วกว่านาง
ด้วยซ้ า ก็ไม่ต้ งั ครรภ์เหมือนกันมิใช่หรื อ แต่ดูขา้ งกายพี่เขยสามสิ
สะอาดสะอ้าน อย่าว่าแต่อนุภรรยา แม้แต่สาวใช้อนุภรรยายังไม่มี
มิหนาซ้ าความสัมพันธ์ของพวกเขาสองสามีภรรยายังดีอย่างยิง่
นางเสิ่ นเสวี่ยกลับเก่งนัก วันทั้งวันแยกเขี้ยวยิงฟัน พอเจอเรื่ องจริ งจัง
ก็ข้ ีขลาด เป็ นคนโง่ที่เก่งแต่ในบ้าน!
ผ่านการสอบคัดเลือกในช่วงสารทฤดูไป บุคคลที่ยงุ่ ที่สุดในเมือง
หลวงก็คือแม่สื่อ ปั จจุบนั แม้วา่ การหาเขยหน้าป้ายผูส้ อบได้ไม่ได้
นิยมเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ตระกูลที่ในครอบครัวมีลูกสาว
หลานสาวที่อายุเหมาะสมเหล่านั้นก็แอบเลือกคนไว้แล้ว คิดอยากจะ
ฉวยโอกาสนาผูม้ ีความสามารถมาสู่ วงศ์ตระกูล
ส่ วนจวี่จื่อที่สดใหม่จากเตาเหล่านั้นเล่า ไม่เพียงแต่ได้แต่งงานกับ
หญิงงาม แต่ยงั สามารถได้รับความช่วยเหลือจากบ้านพ่อตาอย่าง
ง่ายดาย มีประโยชน์ต่อการสอบคัดเลือกในช่วงวสันตฤดูปีหน้าด้วย
เช่นกัน ย่อมต้องยินดีอย่างถึงที่สุด ได้ประโยชน์ท้ งั สองฝ่ ายเช่นนี้ ก็
เกิดบุพเพสันนิวาสหลายต่อหลายคู่
มีคนกาลังจะถาม เหตุใดถึงหมั้นหมายเร็ วเพียงนี้ รอให้ถึงการสอบ
คัดเลือกในช่วงวสันตฤดูปีหน้า กระทัง่ รายชื่อการสอบขั้นเตี้ยนซื่อ
ออกมาก่อนแล้วค่อยหมั้นหมายจะไม่ดีกว่าหรื อ หึ รอถึงตอนนั้น
กับข้าวก็เย็นชืดหมดแล้ว วงศ์ตระกูลที่มีอิทธิพลทัว่ ไปเจ้าจะแย่งผูม้ ี
อานาจได้หรื อ
เรื่ องที่ทาให้เสิ่ นเวยประหลาดใจก็คือเจียงเฉิ นคาดไม่ถึงว่าหมั้น
หมายแล้ว คนที่หมั้นหมายไม่คิดว่ายังคงเป็ นคนในตระกูลท่าน
เสนาบดีฉิน พ่อของหญิงสาวเป็ นขุนนางขั้นหกในกรมพระคลัง
เสิ่ นเวยไม่ค่อยถูกกับท่านเสนาบดีฉินเล็กน้อยเจียงเฉิ นเองก็ทราบดี
นางกลับไม่คิดว่าเจียงเฉินจะหักหลังนาง เพียงแต่แปลกใจเล็กน้อย
ว่าแท้จริ งแล้วเจียงเฉินคิดจะทาอะไร แต่กเ็ พียงแค่คิดเช่นนี้ เจียงเฉิ น
เป็ นนายท่านราชบัณฑิตแล้ว ในเมื่อตัดสิ นใจเช่นนี้ยอ่ มต้องมีวิธีคิด
ของเขา นางยุง่ มากเพียงนั้นไม่ได้
ยิง่ ไปกว่านั้นก็เป็ นเพียงสตรี แซ่ฉินคนหนึ่ง น้องสะใภ้ของคุณชาย
ใหญ่นางยังเป็ นหลานสาวของท่านเสนาบดีฉินมิใช่หรื อ หากคิดดูให้
ดี จวนตระกูลต่างๆ ในเมืองหลวงส่วนใหญ่ลว้ นมีความสัมพันธ์
สลับซับซ้อนกันอยูแ่ ล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 264-1 หัวหน้ ากลุ่มมือสั งหาร
ความพยายามอยูท่ ี่ไหนความสําเร็ จอยูท่ ี่นนั่ ความทุ่มเทของสวีโย่ว
ไม่สูญเปล่า กองปัญจทิศรักษานครถูกเขาสัง่ สอนจนเปลี่ยนโฉม
หน้าใหม่ อย่างน้อยลูกคุณชายกลุ่มนั้นก็ไม่ข้ ีแพ้เช่นนั้นเหมือน
เมื่อก่อนแล้ว เดินออกมากําลังวังชาก็มีแล้ว ค่อนข้างควรค่าให้ชื่นชม
อย่างยิง่ นี่ทาํ ให้ฮ่องเต้ยงเซวียนทรงยินดีปรี ดา แม้แต่ผอู ้ าวุโสใน
ตระกูลของลูกคุณชายเหล่านั้นก็ยงั รู ้สึกซาบซึ้งต่อสวีโย่วอย่างถึง
ที่สุด อย่างไรเสี ยสามารถมีอนาคตได้ใครจะยอมให้บุตรหลานใน
บ้านเป็ นลูกคุณชายไม่เอาไหนเล่า
เมื่อฮ่องเต้ยงเซวียนทรงดีพระทัย ก็ไม่เพียงแต่ชื่นชมสวีโย่วใน
ขณะที่ออกว่าราชการ แต่ยงั สัง่ ขันทีให้ส่งบําเหน็จไม่นอ้ ยไปยังจวน
ผิงจวิน้ อ๋ อง แม้ลว้ นแต่เป็ นของที่ไม่มีประโยชน์มากนัก แต่พระ
กรุ ณาส่ วนนี้กเ็ ต็มเปี่ ยม นี่ทาํ ให้ขนุ นางทั้งหมดตระหนักได้อย่าง
ชัดเจนว่าผิงจวิน้ อ๋ องไม่เพียงแต่ไม่สูญเสี ยความโปรดปรานจาก
ฮ่องเต้ แต่ยงั ได้รับความโปรดปรานมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเสี ยอีก
ที่แท้แล้วก่อนหน้านี้สองลุงหลานก็เล่นละครตบตาหรอกหรื อ
เสี ยดายที่พวกเขาขุนนางอาวุโสเหล่านี้ยงั คุยโวโอ้อวดสติปัญญาตน
คาดไม่ถึงว่ามองไม่ออก หากมองออกก็จะได้ช่วยขอความเมตตา
สร้างความประทับใจต่อหน้าผิงจวิน้ อ๋ อง! ยังคงเป็ นราชครู เสิ่ นที่
สะกดกลั้นอารมณ์อยู่
เสิ่ นเวยจัดวางคนรอบนอกจวนเสนาบดีฉินไว้ไม่นอ้ ย นอกจากคนที่
เฝ้าสังเกตจวนเสนาบดีแล้ว นางยังมอบอีกหนึ่งหน้าที่ให้เหล่าทหาร
ลับ ก็คือจับตามองนักท่องราตรี จอมโง่ที่สงสัยว่าเป็ นหัวหน้ามือ
กลุ่มสังหารผูน้ ้ นั เสิ่ นเวยวาดภาพเหมือนของเขา มอบให้ทหารลับ
เย็นวันนี้ เสิ่ นเวยได้รับข่าวที่ทหารลับส่ งมา บอกว่าพบคนใน
ภาพเหมือนแล้ว ตอนนี้สวีโย่วยังไม่กลับจวน เสิ่ นเวยเพียงแค่ลงั เล
ในชัว่ ขณะจากนั้นก็หยิบหน้ากากหัวจิ้งจอกขึ้นมาออกจากจวนไป
เงียบๆ แล้ว โอกาสหาได้ยากจริ งๆ!
“จวิน้ จู่ เขามุ่งไปยังทิศทางออกจากเมืองแล้ว คนของพวกเราตามไป
แล้วขอรับ” ตอนที่เสิ่ นเวยตามมาถึงทหารลับก็รายงาน
เสิ่ นเวยพยักหน้า ควบม้าไปยังทิศที่ทหารลับชี้ ออกจากเมืองก็ยงิ่ ดี
นอกเมืองกว้างโล่ง เลี่ยงไม่ให้ตอ้ งเก็บมือเก็บเท้าในเมืองจัดการ
เต็มที่ไม่ได้ เคลื่อนไหวมากไปเล็กน้อยก็ดึงดูดเจ้าหน้าที่ตรวจตรามา
อีก เช่นนั้นเรื่ องก็จะใหญ่แล้ว
เสิ่ นเวยไล่ตามเครื่ องหมายที่ทหารลับทิ้งไว้ไปจนถึงนอกเมืองสิ บลี้
เห็นทหารลับสี่ คนไกลๆ กําลังตั้งรับกับนักท่องราตรี จอมโง่อยู่ นาง
สู ดหายใจหนึ่งคราห้อตะบึงเข้าไปทันที
“นายท่าน!” ทหารลับเห็นเสิ่ นเวยมาถึงแล้ว ในใจก็โล่งอก
นักท่องราตรี จอมโง่ฝั่งตรงหน้าเองก็คล้ายถอนหายใจอย่างโล่งอก
เช่นกัน ท่าทางเสมือนเห็นคนรู ้จกั “ข้ายังคิดว่าใครเสี ยอีก ที่แท้แล้ว
สหายเจ้าก็หาข้านี่เอง บอกกันก่อนก็ได้แล้ว จัดแถวสู ้รบใหญ่เพียงนี้
ข้ากลัวจะตายแล้ว” เขาตบอก ท่าทางยังคงหวาดกลัว
ทว่าเสิ่ นเวยกลับชักกระบี่อ่อนออกมาเสี ยงดังกังวาน ชี้เขา “ได้ยนิ ชื่อ
มานานแล้ว หัวหน้ากลุ่มมือสังหาร” เสิ่ นเวยกัดฟันแทบจะพูดหนึ่ง
คําหยุดหนึ่งคํา
ดวงตาคนผูน้ ้ นั ตรงข้ามกะพริ บวาบเล็กน้อย กลับยอมรับอย่าง
ง่ายดาย “ปี นี้ทาํ การค้าอะไรก็ไม่ค่อยรุ่ งเรื อง บีบให้ขา้ ที่เป็ นหัวหน้า
กลุ่มผูน้ ้ ีตอ้ งจําใจออกม้าทํางานเอง ยังต้องเลี้ยงคนอีกหนึ่งกลุ่ม
ใหญ่”
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงหนึ่งครา “เลิกพูดจาเหลวไหล ในเมื่อเจ้ายอมรับว่า
เป็ นหัวหน้าของกลุ่มมือสังหาร เช่นนั้นก็เตรี ยมรับเถอะ” ข้อมือ
สะบัด วิ่งพุง่ เข้ามาแทง
“เดี๋ยวๆๆ สหายเจ้าทําอะไร พวกเราไม่มีความแค้นต่อกัน ต่อสู ้ฟาด
ฟันกันเช่นนี้ทาํ ลายมิตรภาพยิง่ นัก!” หัวหน้ากลุ่มมือสังหารลนลาน
ตั้งรับไปพลาง ตะโกนไปพลาง
เสิ่ นเวยไม่ตอบ เอาแต่ออกกระบวนท่ารวดเร็ วและดุดนั ทุ่มเทความ
คับแค้นที่นางอัดอั้นมาตลอดหนึ่งปี ลงบนกระบี่ของนาง ทหารลับสี่
คนที่เหลือแบ่งออกมาสองคนช่วยเหลือเสิ่ นเวย อีกสองคนก็ยนื คุม
กําลังอยูท่ ี่เดิม ตั้งรับพร้อมสู ้ เตรี ยมวิ่งเข้าไปเป็ นกําลังหนุนทุกเมื่อ
ภายใต้การล้อมโจมตีของคนทั้งสาม หัวหน้ากลุ่มมือสังหารก็สู้ไม่ได้
ชายเสื้ อถูกเสิ่ นเวยฟันขาดหนึ่งผืนใหญ่ เขาเองก็โมโหเล็กน้อยแล้ว
ไม่หลบอีกต่อไป ชักกระบี่อ่อนต่อสู ้กบั เสิ่ นเวยเช่นเดียวกัน
สู ้ไปพลางพูดไปพลาง “แม้วา่ ต้องตายเจ้าก็ตอ้ งให้ขา้ ตายอย่างไร้ขอ้
ข้องใจมิใช่หรื อ ตัวข้าหัวหน้าจําไม่ได้วา่ มีสหายเช่นเจ้าเป็ นคู่แค้น”
เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะหนึ่งครา “นัน่ ก็เพราะว่าหัวหน้าเช่นเจ้าสู งศักดิ์ข้ ี
ลืม เจ้ามีกิจธุระมากมาย กลางวันทําธุรกิจฆ่าคนนัน่ กลางคืนยังนัง่
เฝ้าจวนเสนาบดีหางานพิเศษ ไหนเลยจะจําเจ้าทุกข์ที่ถูกเจ้าทําร้ายได้
เล่า แต่วา่ ความทรงจําของหัวหน้าก็ทาํ ให้คนเป็ นห่วงจริ งๆ เพิ่งจะ
ผ่านไปปี เดียว หัวหน้าก็ลืมหมดแล้วงั้นหรื อ” มุมปากของเสิ่ นเวย
ปรากฏความเหยียดหยัน
หนึ่งปี หรื อ หนังตาหัวหน้ากลุ่มมือสังหารเหลือบขึ้นเล็กน้อย
พยายามย้อนนึก แต่กระบี่ของเสิ่ นเวยก็ประชิดอยูต่ รงหน้าแล้ว เขา
รี บหงานตัวไปข้างหลัง แต่กลับหลบไม่พน้ เสี ยทีเดียว บนลําคอถูก
ปาดเป็ นรอยโลหิตหนึ่งสาย เขาใช้มือลูบ โลหิ ตเปื้ อนทัว่ มือ เขาเลีย
ริ มฝี ปากที่แห้งผากเล็กน้อย แววตาน่าสะพรึ งกลัว เขากุมกระบี่อ่อน
ที่อยูใ่ นมือแน่นหันคอไปมา ข้อต่อทัว่ ทั้งร่ างต่างก็ส่งเสี ยงดัง “ดูท่า
แล้ววันนี้สหายจะแตกหักกับข้าให้ได้ใช่หรื อไม่”
เสิ่ นเวยก็ยงิ่ ระมัดระวัง กล่าวอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ “เจ้าแตกหักกับข้า
ก่อน”
คนทั้งสองต่อสู ้กนั อีกครั้ง คราวนี้ไม่วา่ ใครก็ไม่ออมแรงอีก ทั้งหมด
ล้วนใช้ความสามารถทั้งร่ างกายออกมา ไม่แปลกใจที่หวั หน้ากลุ่ม
มือสังหารชํานาญในการลอบสังหาร วิถีวิทยายุทธ์ไม่ฉาบฉวยเลย
แม้แต่นิดเดียว แปลกและโหดเ**้้ยม
อันที่จริ งกระบวนท่าของเสิ่ นเวยก็แตกต่างอย่างเหมือนกัน ล้วนแต่
ใช้กระบวนท่าที่สามารถทําร้ายฝ่ ายตรงข้ามได้จริ งเป็ นหลัก ดังนั้น
ตอนนี้พวกเขาต้องดูที่วา่ ใครออกกระบวนท่าได้เร็ วกว่า ผูน้ ้ นั ก็ไม่
กลัวตายยิง่ กว่า
ทั้งสองคนสู ้กนั อย่างไม่มีใครยอมใคร ทหารลับสองคนที่ช่วยต่อสู ้ก็
ไม่อาจสอดมือเข้าไปได้แล้ว ถือโอกาสถอยไปเฝ้าสังเกตการณ์อยู่
ข้างๆ
ขณะที่กาํ ลังต่อสู ้ จู่ๆ เสิ่ นเวยก็ใจเต้น ปากไว้กว่าสมอง “เซี่ยเฟย เจ้า
คือเซี่ยเฟย!”
ร่ างหัวหน้ากลุ่มมือสังหารหยุดชะงัก เสิ่ นเวยฉวยโอกาสขณะที่เขา
ใจลอยยกเท้าถีบ ถีบตรงหน้าอกเขาพอดี ถีบเขาถอยหลังไปสามก้าว
“สหายว่าอะไร เซี่ยเฟยอะไร ข้าไม่รู้จกั ”
ทว่าเสิ่ นเวยกลับอารมณ์ดีข้ ึนมาแล้ว ถูกต้อง นางจําไม่ผดิ แน่นอน
หัวหน้ากลุ่มมือสังหารผูน้ ้ ีตรงหน้ากับเซี่ยเฟยเพื่อร่ วมงานของเจียง
เฉินที่นางเคยเจอเป็ นคนๆ เดียวกัน พวกเขามีนิสยั เล็กๆ ที่เหมือนกัน
นัน่ ก็คือเวลายืนปลายเท้าซ้ายของพวกเขาจะเฉี ยงออกไปข้างนอก
เล็กน้อย ประคองท่าทางวิ่งหนีได้ทุกเมื่อ อีกทั้งเมื่อครู่ นางหยัง่ เชิงดู
แล้ว แม้วา่ เขาจะไม่เผยพิรุธใดๆ ออกมา แต่กถ็ ือว่าเพียงพอแล้ว
“เหอๆ เซี่ยเฟย นายท่านราชบัณฑิตเซี่ย หัวหน้าของกลุ่มมือสังหารผู ้
ยิง่ ใหญ่วิ่งมาเก็บตัวอยูใ่ นสํานักราชบัณฑิต ฝ่ าบาทรู ้หรื อไม่ บอกว่า
เจ้าไม่เคยวางแผนเลยใครจะเชื่อ ทุกคืนเจ้าไปนัง่ เฝ้าอยูท่ ี่จวน
เสนาบดีฉิน ท่านเสนาบดีรู้หรื อไม่” เสิ่ นเวยมีความสุ ขแล้ว ความอัด
อั้นที่เก็บมานานหนึ่งปี ในที่สุดก็ได้ระบายออกมาแล้ว
“เจ้าเป็ นใครกันแน่” ทัว่ ทั้งร่ างหัวหน้ากลุ่มมือสังหารตื่นตัวขึ้นมา
“เซี่ยเฟยอะไร สํานักราชบัณฑิตอะไร ข้าไม่เข้าใจที่เจ้าพูด”
“ข้าเป็ นใครน่ะหรื อ มารดาเจ้ายังมีหน้ามาถามอีกหรื อ เหล่านายท่าน
ผูย้ งิ่ ใหญ่หนึ่งกลุ่มออกมือกับหญิงอ่อนแอผูห้ นึ่ง กลุ่มมือสังหารของ
พวกเจ้ายังมีจรรยาบรรณในอาชีพอยูห่ รื อไม่” เสิ่ นเวยถลึงตาโตด้วย
ความโมโห เสี ยงกลับคืนเป็ นเหมือนเดิมแล้ว
ดวงตาของหัวหน้ากลุ่มมือสังหารหดเล็ก ร้องอุทานออกมา “เจ้าคือ
เสิ่ น…” หนึ่งปี ก่อนกลุ่มมือสังหารเคยรับการค้าลอบสังหารสตรี
หนึ่งครั้ง ระดับยาก ราคาสู งอย่างยิง่ ซํ้ายังล้มเหลว ทําให้เขาสู ญเสี ย
เงินมหาศาล เขาจําได้ชดั เจนยิง่ นัก
“ถูกต้อง คือข้าเอง” เสิ่ นเวยกัดฟันกรอดกล่าว
หัวหน้ากลุ่มมือสังหารแอบสถบเงียบๆ ในใจ เหตุใดถึงได้มาเจอดาว
หายนะดวงนี้ สตรี สูงส่ งตระกูลเสิ่ นผูน้ ้ ีเขากลับไม่ได้ใส่ ใจอะไร แต่
ที่เขากลัวก็คือผิงจวิน้ อ๋ องคุณชายใหญ่สวีผนู ้ ้ นั ข้างหลังนาง คนผูน้ ้ นั
จึงจะเป็ นคนโหดเ**้้ยมที่แท้จริ ง ขอเพียงแค่จบั ตามองเจ้า ไม่ตายก็
ไม่หยุด ต่อให้เจ้าจะหลบเข้าไปในรู หนูเขาก็สามารถล้วงเจ้าออกมา
ได้
ได้ สู ้ไม่ได้แล้วจะหลบไม่ได้ง้ นั หรื อ หัวหน้ากลุ่มมือสังหารกัดฟัน
กระทืบเท้า หมุนตัวทะยานออกไปแล้ว
“เซี่ยเฟย เจ้ารอข้า รอกูไหน่ไนไปรื้ อรังเจ้า” เสิ่ นเวยเองก็ไม่ตามไป
เพียงแค่ตะโกนเสี ยงสู ง ขณะเดียวกันก็หา้ มทหารลับที่กาํ ลังจะตาม
ไป อย่างไรเสี ยก็รู้ภูมิหลังของเขาแล้ว หากจะหาเขาก็ไม่ใช่เรื่ องยาก
สํานักราชบัณฑิตใช่หรื อไม่ พรุ่ งนี้นางจะไปเดินเล่นที่นนั่ เสี ยหน่อย
หัวหน้ากลุ่มมือสังหารควบม้าออกไปได้ระยะหนึ่ง เห็นว่าไม่มีคน
ตามมาแล้วจึงลดความเร็ วลง หยุดพักอยูน่ อกเมืองสักพักแล้วจึง
ค่อยๆ แอบเข้าไปยังที่พกั ในเมือง เขาถอดหน้ากากบนใบหน้าออก
เป็ นราชบัณฑิตหนุ่มเซี่ยเฟยที่งามสง่าอย่างถึงที่สุดผูน้ ้ นั ของสํานัก
ราชบัณฑิตจริ งๆ เขาหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดรอยเลือดบนลําคอครู่ หนึ่ง
เจ็บจบร้องโอดโอยหนึ่งคราสู ดหายใจเย็นเยียบ แอบบ่นเด็กสาวผูน้ ้ ี
ลงมือยังคงโหดเ**้้ยมจริ งๆ
นึกถึงเสี ยงตะโกนของจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ผนู ้ ้ นั อีกครั้ง ชัว่ ขณะเซี่ยเฟยก็
หวาดกลัวอย่างยิง่ ด้วยนิสยั ของจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ที่กล้าก่อเรื่ องแม้แต่ใน
ห้องหนังสื อส่ วนพระองค์ พรุ่ งนี้นางจะต้องไปที่สาํ นักราชบัณฑิต
แน่นอน และบาดแผลบนลําคอของเขาก็ไม่อาจหายได้อย่างรวดเร็ ว
นี่ไม่ใช่เป็ นหลักฐานมัดตัวหรอกหรื อ
ได้ พรุ่ งนี้ลางานแล้วกัน เขาต้องออกไปหลบสักพักหนึ่ง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 264-2 หัวหน้ ากลุ่มมือสั งหาร
เสิ่ นเวยแทบจะฮัมเพลงกลับจวน เล่าข่าวดีที่น่าตื่นเต้นดีใจข่าวนี้ให้
คุณชายใหญ่ของนางอย่างไม่อาจรี รอ “สวีโย่ว ท่านรู ้หรื อไม่วา่
หัวหน้าของกลุ่มมือสังหารผูน้ ้ นั คือใคร เขาคือเซี่ยเฟย เซี่ยเฟยราช
บัณฑิตเซี่ ยแห่งสํานักราชบัณฑิต”
“สํานักราชบัณฑิตงั้นหรื อ” สวีโย่วยังคงรู ้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
จริ งๆ ทันใดนั้นก็ละสายตา กล่าว เจ้าออกไปเองอีกแล้วหรื อ”
เสิ่ นเวยสะดุง้ ในชัว่ ขณะ แต่ปากกลับแข็ง “ไม่ใช่เพราะว่าท่าน
กลับมาดึกเกินไปหรื อไร ข้าให้คนจับตามองมาครึ่ งเดือนแล้ว กว่าจะ
เห็นเขาปรากฏตัว โอกาสหาได้ยากนัก!”
ภายใต้การจ้องมองที่นิ่งงันของสวีโย่ว เสิ่ นเวยยิง่ พูดเสี ยงก็ยงิ่ เบา
“เอาล่ะ เอาล่ะ เอาเป็ นว่าครั้งหน้าข้ารอท่านไปด้วยกันก็ได้ วันทั้งวัน
เอาแต่เป็ นห่วง มีทหารลับตามไปด้วยจะเกิดอะไรได้ ข้าก็ไม่ได้บอบ
บางเป็ นกระดาษเสี ยหน่อย” ยังมีอีกหนึ่งประโยคที่เสิ่ นเวยไม่กล้า
พูด ตอนนั้นนางช่วยเขาไว้ต้ งั สองสามครั้ง
สวีโย่วมองเสิ่ นเวยที่เบะปาก ก็อดถอนหายใจหนึ่งคราไม่ได้
แต่งงานกับภรรยาที่ฝีมือสู งกล้าหาญผูห้ นึ่งนอกจากตนจะดูแลให้ดี
จะยังมีวิธีใดอีก
“เวยเวย ข้าไม่ได้ประเมิณความสามารถของเจ้าตํ่า แต่ในเมื่อคนผูน้ ้ นั
สามารถนัง่ แท่นหัวหน้าได้ ย่อมต้องมีอุบายของเขา พวกเขามือ
สังหารเหล่านั้น อุบายเลวชัว่ มีถมไป เจ้าเพิ่งจะมีประสบการณ์ได้
เพียงกี่ปี หากไม่ระวังกับดักเขาชัว่ ขณะจะทําอย่างไร” สวีโย่
วพยายามเกลี้ยกล่อม เขาไม่มีทางเผชิญหน้ากับผลลัพธ์เช่นนั้นได้
เพียงแค่คิดในใจเขาก็บีบรัดแล้ว เขายังชอบมองเห็นน้องสี่ แซ่เสิ่ นที่
แข็งแรงมีชีวิตชีวาอยู่
เห็นความหวาดกลัวแวบผ่านใบหน้าสวีโย่ว ความไม่ยนิ ยอม
มากมายของเสิ่ นเวยก็มลายหายไปในตอนนี้แล้ว กอดเอวของสวีโย่ว
ไว้เอง แนบหน้าลงบนอกเขา รับปากกล่าว “ครั้งนี้เป็ นข้าที่ผดิ เอง ข้า
รับปากท่าน จะไม่มีครั้งหน้าแล้ว” แต่ในใจกลับบ่น อันที่จริ งข้าเอง
ก็เป็ นปรมาจารย์มือสังหารเช่นกัน อุบายเลวชัว่ ที่เจ้าว่าอันที่จริ งข้า
เองก็เชี่ยวชาญ งานนั้นที่นางทําในยุคปัจจุบนั บอกว่าเป็ นทหาร
รับจ้าง ความจริ งแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรจากมือสังหาร
สวีโย่วลูบผมยาดําเป็ นประกายของเสิ่ นเวย กล่าว “พรุ่ งนี้เจ้าก็ไม่
ต้องไปสํานักราชบัณฑิตแล้ว ในเมื่อเจ้ารู ้ฐานะของเขาแล้ว ซํ้ายังทํา
ให้เขาได้รับบาดเจ็บที่ลาํ คอ เขาก็คงไม่โง่ไปสํานักราชบัณฑิตรอให้
เจ้าไปหาถึงที่หรอก ข้าเดาว่าพรุ่ งนี้เขาน่าจะต้องลางาน”
เสิ่ นเวยขมวดคิ้วมุ่นในชัว่ ขณะ คิดครู่ หนึ่งจึงกัดฟันกล่าว “ไม่เป็ นไร
เขาไม่ไปสํานักราชบัณฑิต ข้าก็ไปหาที่บา้ นเขาได้”
“แม้แต่สาํ นักราชบัณฑิตเขายังไม่ไป แล้วจะรอเจ้าอยูใ่ นบ้านหรื อไร
อ้อจริ งสิ เจ้ารู ้ได้อย่างไรว่าเขาคือเซี่ยเฟยราชบัณฑิตเซี่ย” สวีโย่ว
ถามอย่างแนบเนียน
นี่เองก็ไม่มีอะไรให้ตอ้ งปิ ดบัง “เขาไม่ใช่เป็ นเพื่อนร่ วมงานของเจียง
เฉินหรื อไร ข้าจึงเคยเห็นเขาครั้งหนึ่ง ภายหลังเห็นเขาอีกครั้งในโรง
นํ้าชา แต่เขาไม่เห็นข้า โชคดีที่ขา้ เห็นเขา มิเช่นนั้นก็คงไม่รู้จริ งๆ ว่า
เขาก็คือหัวหน้ากลุ่มมือสังหาร”
ดวงตาสวีโย่วกะพริ บวาบเล็กน้อย พยักหน้า จากนั้นก็เขยิบเข้าไป
ใกล้หูของเสิ่ นเวย “หากเวยเวยอยากล่อเขาออกมา ข้ากลับมีวิธีดี”
เขากระซิบเสี ยงเบาข้างหูเสิ่ นเวยหลายประโยค
เสิ่ นเวยยิง่ ฟังก็ยงิ่ ดีใจ พยักหน้าไม่หยุด ดวงตาเป็ นประกายอย่างถึง
ที่สุด ดี ดีจริ งๆ ยังคงเป็ นคุณชายใหญ่ของนางที่มีวิธี แต่งงานกับ
สามีที่มีสติปัญญาก็ดีเช่นนี้นี่เอง!
เจียงเฉินที่หมั้นหมายแล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไรนัก ยังคงไปทํางาน
ที่สาํ นักราชบัณฑิตทุกวัน ถึงเวลาแล้วก็เดินทอดน่องกลับบ้าน
บางครั้งก็ถือของขวัญหลายอย่างไปดื่มสุ ราเป็ นเพื่อนว่าที่พอ่ ตาที่
ตระกูลฉิ น พูดคุยเป็ นเพื่อนว่าที่แม่ยาย ไปมาหาสู่ คนทุกระดับ
ชั้นในตระกูลฉิ นล้วนแต่ชอบเขาอย่างยิง่
ต้าอู่เสี่ ยวอู่สองคนเป็ นกังวลทั้งจิตใจ เสี่ ยวอู่สะกิดพี่ชายเขาแล้ว
กล่าว “ท่านพี่ ท่านว่านายท่านคิดอะไรอยูห่ รื อ ดีใจจนเสี ยสติไปแล้ว
หรื อ”
ครบหนึ่งเดือนที่ได้ข่าวจากบ้านเก่า บอกว่าคุณชายใหญ่ในจวนไม่
อยูแ่ ล้ว นายท่านได้รับข่าวบนใบหน้าก็ไม่มีสีหน้าแม้แต่นิดเดียว
ทว่าคืนนั้นกลับดื่มสุ ราเมามายหัวปักหัวปํ า ซํ้ายังใช้ตะเกียบเคาะ
ชามร้องเพลงครึ่ งคืน
บ่าวรับใช้ในจวนต่างก็บอกว่านายท่านเสี ยใจอย่างหนัก มีเพียงพวก
เขาพี่นอ้ งที่รู้วา่ นายท่านไม่ได้เสี ยใจ นายท่านเกลียดคุณชายใหญ่
อยากจะกินเนื้อเขาสดๆ ให้ได้ คุณชายใหญ่ตายแล้ว นายท่านยังไม่
ทันจะดีใจ ไหนเลยจะเสี ยใจได้ ไม่เห็นหรื อว่าไม่กี่วนั ก่อนนายท่าน
พยายามหาข้ออ้างจุดประทันกว่าครึ่ งชัว่ ยาม
“อย่าพูดมัว่ ซัว่ คุณชายใหญ่ไม่อยูแ่ ล้ว ในใจนายท่านไม่สบายใจ”
อย่างไรเสี ยต้าอู่กส็ ุ ขมุ กว่าเล็กน้อย มองไปรอบด้าน เห็นว่าไม่มีบ่าว
คนอื่นจึงกล่าว “ระวังปากเจ้าให้ดี อย่าหาเรื่ องมาให้นายท่าน” พี่ชาย
คนโตเสี ยชีวิต ผูเ้ ป็ นน้องชายไม่โศกเศร้าแต่ดีใจ หากเรื่ องดังออกไป
นายท่านจะยังเป็ นขุนนางได้อย่างไร
เสี่ ยวอู่เองก็มองซ้ายมองขวาตามพี่ชายของเขา บ่นพึมพํา “ไม่ใช่วา่
ไม่มีคนหรื อไร” เขาไม่ใช่เด็กสามขวบ ยังจะไม่รู้หนักเบาได้อย่างไร
“ท่านพี่ ท่านว่าเหตุใดนายท่านถึงแต่งงานกับคุณหนูตระกูลฉิ นเล่า กู
ไหน่ไนผูน้ ้ นั ไม่ถูกกับนายท่านเสนาบดีฉิน นายท่านแต่งงานกับ
คุณหนูตระกูลฉินไม่ใช่วา่ จะ…” เสี่ ยวอู่เลิกคิ้ว ไม่ได้พดู ต่อ
ต้าอู่เข้าใจความหมายของน้องชาย เขาขมวดคิ้วคิดครู่ หนึ่ง คิดๆ ดู
แล้วก็คิดต้นสายปลายเหตุไม่ออก หากบอกว่านายท่านเพิกเฉย
คุณหนูสี่แซ่เสิ่ น ก็ไม่เหมือนมากนัก ตั้งแต่ที่พวกเขาเข้าเมืองหลวง
ข่าวทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณหนูสี่ผนู ้ ้ นั นายท่านก็เฝ้าดูอยูเ่ งียบๆ แม้แต่
ร้านค้าสํานักคุม้ ภัยกลุ่มนั้นใต้บงั คับบัญชาของนางก็ยงั เฝ้ามองอยู่
เงียบๆ มีข่าวสําคัญอะไรก็ยงั ส่ งคนออกไปเงียบๆ เพียงแค่เป็ นเรื่ อง
ของคุณหนูสี่ผนู ้ ้ นั ในตอนนี้ลว้ นแต่ใส่ ใจทั้งสิ้ น
แต่นายท่านหมั้นหมายคู่หมั้นตระกูลนี้หมายความว่าอย่างไร
ครอบครัวของว่าที่ฮูหยินอยูใ่ นวงศ์ตระกูลเดียวกันกับท่านเสนาบดี
ฉิน ซํ้ายังอยูใ่ นห้าลําดับญาติ นายท่านแต่งงานกับคุณหนูฉินใช่จะ
ถือเป็ นการอยูฝ่ ั่งท่านเสนาบดีฉินหรื อไม่
ต้าอู่เองก็ไม่เข้าใจว่านายท่านคิดอะไรอยู่ “นายท่านทําอะไรย่อมมี
เหตุผลของเขา พวกเราฟังคําสัง่ ก็พอแล้ว” สุ ดท้ายต้าอู่กก็ ล่าวกับ
น้องชายเขาเช่นนี้
เจียงเฉินในห้องหนังสื อได้ยนิ เสี ยงกระซิบกระซาบของอู่ตา้ เสี่ ยวอู่
สองคนข้างนอก ยกยมุมปากยิม้ เพียงแค่แต่งภรรยาแซ่ฉินมิใช่หรื อ
มีอะไรสําคัญ เพียงแค่ตระกูลฉินบังเอิญชอบเขา เขาเองก็รู้สึกว่า
คุณหนูฉินไม่เลว แต่งก็แต่ง จะมีผลกระทบอะไรได้
งานสมรสของสวีฉงั่ คุณชายสี่ จวนจิ้นอ๋ องเองก็กาํ หนดวันนานแล้ว
พระชายาจิ้นอ๋ องอยากอุม้ หลานชายในเร็ ววัน จึงเลือกฤกษ์มงคลใน
เดือนสิ บ พิธีดูสมพงษ์มอบสิ นสอดต่างๆ ก่อนหน้านี้เสิ่ นเวยไม่ได้
สนใจอย่างสิ้ นเชิง ได้ยนิ เพียงสาวใช้ที่ออกไปเชยชมเอ่ยขึ้น บอกว่า
ขบวนยกสิ นสอดยาวอย่างยิง่ ไม่ต่างอะไรจากสิ นสอดในตอนแรกที่
คุณชายใหญ่ยกมายังจวนจงอู่โหว
เสิ่ นเวยแสยะปาก บอกว่าไม่ต่าง ยังคงต้องต่างเล็กน้อย คุณชายใหญ่
ของนางเป็ นบุตรชายภรรยาเอกคนโตที่ได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์ให้เป็ นจวิน้ อ๋ อง น้องชายลําดับล่างเทียบได้หรื ออย่างไร
ต่อให้พระชายาจิ้นอ๋ องจะกระอักเลือดก็ไม่มีหนทาง
ฤกษ์สมรสของสวีฉงั่ คือวันที่สิบแปดเดือนสิ บ ฤกษ์สมรสของหร่ วน
เหิ งลูกผูพ้ ี่ของเสิ่ นเวยจัดขึ้นในวันที่แปดเดือนสิ บ เสิ่ นเวยสัง่ ให้แม่
นมมัว่ ไปช่วยเหลือจัดการที่จวนฝั่งมารดานางแต่เนิ่นๆ แล้ว ทาสี
ลานบ้านเก็บกวาดห้อง เสิ่ นเวยก็ยงิ่ ไปบัญชาการด้วยตัวเอง นางยัง
พาบ่าวรับใช้จาํ นวนหนึ่งในจวนไปช่วยอีกด้วย ชัว่ ขณะจวนแม่ทพั
ใหญ่หร่ วนที่สงบเงียบก็ครึ กครื้ นขึ้นมา
คนที่มีความสุ ขที่สุดก็คงไม่พน้ ลูกผูน้ อ้ งหร่ วนเหมียนเหมี่ยน ไม่
เพียงแต่ได้พบลูกผูพ้ ี่ทุกวัน มิหนําซํ้าในไม่ชา้ นางก็จะมีพี่สะใภ้ที่
งดงามมากความสามารถแล้ว ถึงตอนนั้นผ่านไปหนึ่งปี ครึ่ งปี
พี่สะใภ้มีหลานชายหรื อหลานสาวให้นาง ก็จะยิง่ สมบูรณ์แบบ
หร่ วนเหิงกับท่านตาของเขาหร่ วนเจิ้นเทียนก็มีเรื่ องมงคลให้สบาย
อารมณ์ โดยเฉพาะหร่ วนเจิ้นเทียน สี หน้านัน่ แดงกํ่าราวกับเด็กลง
สิ บปี ภายใต้การปรนนิบตั ิของบ่าวรับใช้คนสนิทเขาเปลี่ยนชุดที่
หลานสาวตาทําให้เขากับมือ มองซ้ายมองขวาอยูห่ น้ากระจก มุม
ปากยกสู งอย่างยิง่ !
“คิดไม่ถึงจริ งๆ ว่าข้าแก่เพียงนี้แล้วยังได้เห็นวันนี้ที่เหิ งเอ๋ อร์แต่งงาน
รอให้การหมั้นหมายของเหมียนเอ๋ อร์ตกลงปลงใจได้ขา้ ก็คลายความ
กังวลทั้งหมดแล้ว นี่ลว้ นแต่โชคดีที่ได้เวยเอ๋ อร์!” หร่ วนเจิ้นเทียนลูบ
หนวด สี หน้าเต็มไปด้วยรอยยิม้
บ่าวรับใช้คนสนิทเองก็ยมิ้ แย้ม “ดูแม่ทพั พูดเข้า ท่านน่ะยังต้องอุม้
หลานชายก่อน รอฮูหยินเล็กเข้าเรื อนมา สามปี ท้องสอง ท่านก็รอ
สอนสัง่ หลายชายเถิด”
“ดูเจ้าพูดเช่นนี้ขา้ แก่ปูนนี้แล้วยังต้องพยายามมีชีวิตต่อไปอีกหลาย
ปี ” หร่ วนเจิ้นเทียนหัวเราะร่ าอย่างสบายใจ
บ่าวรับใช้คนสนิทคล้อยตาม “มิใช่หรื อไร บ่าวหวังให้แม่ทพั ท่าน
อายุยนื นานร้อยปี บ่าวเองก็ตอ้ งทุ่มแรง พยายามรับใช้แม่ทพั ท่านไป
อีกสามสิ บปี ”
“เช่นนั้นพวกเราก็คงเป็ นปี ศาจเฒ่าแล้วล่ะ!” นายบ่าวสองคนหัวเราะ
ร่ าอีกพักหนึ่ง ในเสี ยงหัวเราะต่างก็แฝงไปด้วยความสุ ข ตอนที่ห
ร่ วนเจิ้นเทียนไม่สงั เกตเห็น บ่าวรับใช้คนสนิทหันหลังไปปาดนํ้าตา
ตรงหางตาเงียบๆ กี่ปีแล้วที่แม่ทพั ไม่ได้มีความสุ ขเช่นนี้ ขอบคุณ
คุณหนูลูกผูน้ อ้ งอย่างยิง่ จริ งๆ!
หร่ วนเจิ้งเทียนไหนเลยจะมองไม่เห็น เพียงแค่แสร้งทําเป็ นไม่เห็นก็
เท่านั้นเอง ในใจเขาก็มีความรู ้สึกร้อยแปดพันเก้า ไม่กล้าจินตนาการ
จริ งๆ ว่าจวนแม่ทพั ใหญ่หร่ วนจะยังมีวนั นี้ได้ หลานชายมีงานมีการ
อีกประเดี๋ยวหลานสะใภ้กแ็ ต่งเข้าจวนแล้ว ตระกูลหร่ วนมีความหวัง
อันรุ่ งโรจน์แล้ว! ทั้งหมดนี้ลว้ นเป็ นโชคดีที่เขามีหลานสาวตาที่ดีมี
ความสามารถผูห้ นึ่ง
หร่ วนเจิ้นเทียนเรี ยกหลานชายหลานสาวมาตักเตือนตรงหน้า
“ตระกูลหร่ วนของพวกเราเหลือเพียงพวกเจ้าพีน่ อ้ งสองคนแล้ว อา
เจ้าเองก็มีเพียงเวยเอ๋ อร์กบั เจวี๋ยเอ๋ อร์สองคน เวยเอ๋ อร์ปฏิบตั ิต่อพวก
เจ้าเช่นไรพวกเจ้ารู ้ดีแก่ใจ ต่อจากนี้ตอ้ งปฏิบตั ิต่อเวยเอ๋ อร์ให้เหมือน
ญาติพี่นอ้ งของตน เหิงเอ๋ อร์ แม้ลูกผูน้ อ้ งเจ้าจะอายุนอ้ ยกว่าเจ้า แต่
กลับมัน่ คงยิง่ กว่าเจ้ามาก เจ้าไม่เพียงแต่ตอ้ งปกป้องนาง ยังต้อง
เคารพนาง มีเรื่ องอันใดก็ไปปรึ กษาหารื อกับนางให้มาก”
“ท่านปู่ ท่านวางใจเถิด หลานทราบว่าต้องทําเช่นไร” หร่ วนเหิ งพยัก
หน้าอย่างตั้งใจจริ ง
หร่ วนเหมียนเหมี่ยนเองก็พยักหน้าไม่หยุด “ลูกผูพ้ ี่เป็ นเหมือนพีส่ าว
แท้ๆ ของข้า!” ตอนนี้เสื้ อผ้าที่นางสวมอยู่ เครื่ องประดับที่เต็ม**
บเครื่ องประดับ สิ่ งของสวยงามที่ไว้ชมเล่น ชิ้นไหนบ้างไม่ใช่ของที่
ลูกผูพ้ ี่ให้นาง แม้แต่ของว่างอร่ อยๆ บางอย่าง ลูกผูพ้ ี่กย็ งั สัง่ คนให้ส่ง
มาให้นางชิม อย่าว่าแต่พี่สาว แม้แต่มารดายังเทียบไม่ได้
งานสมรสของหร่ วนเหิงครึ กครื้ นอย่างมาก คนที่มาอวยพรถึงหน้า
ประตูกเ็ ยอะอย่างยิง่ นอกจากเพื่อนร่ วมงานของหร่ วนเหิ ง ญาติที่มี
ความเกี่ยวข้องกับจวนจงอู่โหว ขุนนางใหญ่ๆ เล็กๆ ในเมืองหลวงก็
มาไม่นอ้ ย ในนั้นมีจาํ นวนหนึ่งที่พงุ่ เป้ามายังเสิ่ นเวยกับสวีโย่ว
จวนแม่ทพั ใหญ่หร่ วนตกตํ่าแล้ว ทหารองครักษ์ข้ นั ห้าอย่างหร่ วน
เหิ งก็ไม่ควรค่าให้พวกเขามองเห็นอยูใ่ นสายตา แต่เจ้าไม่เห็นหรื อว่า
คนที่ออกหน้าจัดการให้จวนแม่ทพั ใหญ่หร่ วนคือจยาฮุ่ยจวิน้ จู่กบั ผิง
จวิน้ อ๋ อง ไม่เพียงแต่เรื่ องของขวัญอวยพร แต่สามารถมาปรากฏหน้า
ต่อหน้านายสองท่านนี้ได้ ก็นบั ว่าคุม้ ค่าอย่างยิง่ แล้ว
เมื่อมาเช่นนี้ โต๊ะก็ไม่พอแล้ว โชคดีที่จวนแม่ทพั ใหญ่กว้างโล่งอย่าง
ถึงที่สุด สัง่ โต๊ะอาหารยีส่ ิ บโต๊ะจากเหลาสุ รามาวางไว้ใน
ห้องรับแขกในสวนดอกไม้และศาลาริ มนํ้า จึงเพียงพอให้รองรับได้
วันนี้เสิ่ นเวยยุง่ จนเท้าไม่ติดพื้น ปากก็ยมิ้ จนแข็งทื่อ แม้วา่ จะอยูใ่ น
จวนตัวเองนางก็ไม่เคยใส่ ใจเพียงนี้มาก่อน แต่วา่ นางก็มีความสุ ข
จริ งๆ ต่อให้เหนื่อยก็ยงั มีความสุ ข
ลูกผูพ้ ี่แต่งงานแล้ว มีสะใภ้ลูกผูพ้ ี่มาดูแลบ้านหลังนี้ นางเองก็
สามารถคลายความกังวลได้แล้ว จะไม่มีความสุ ขได้อย่างไร
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 265-1 ซูหว่ านมาเยือนบ้ าน
ยุง่ เรื่ องงานสมรสของลูกผูพ้ ี่หร่ วนเหิงเสร็ จแล้ว ชัว่ พริ บตาก็ถึงวัน
สมรสของคุณชายสี่ สวีฉงั่ งานแต่งงานของเขาเสิ่ นเวยย่อมไม่ตอ้ ง
เป็ นกังวล แต่วนั แต่งงานเสิ่ นเวยยังคงต้องไปช่วยต้อนรับแขก
เช้าตรู่ เสิ่ นเวยกับสวีโย่วก็สวมชุดที่เหมาะสมพาสาวใช้เด็กรับใช้ไป
จวนจิ้นอ๋ องไปเคารพท่านจิ้นอ๋ องสองสามีภรรยาในห้องหลักก่อน จิ้
นอ๋ องมองเขาสองคนปราดหนึ่ง สี หน้าบนใบหน้าเรี ยบเฉย กล่าว
เพียง ‘อืม’ หนึ่งคราเท่านั้น พระชายาจิ้นอ๋ องเห็นสองคนนี้กร็ ู ้สึกขัด
หูขดั ตา โดยเฉพาะทั้งสองที่แม้จะไม่ได้สวมชุดตามขั้นลําดับ แต่บน
ร่ างก็สวมเครื่ องแต่งกายตามระเบียบของจวิน้ อ๋ องและจวิน้ จู่!
หน้าตาทั้งสองก็โดดเด่นอยูแ่ ล้ว ยืนอยูต่ รงนั้นราวกับเป็ นเจ้าภาพเสี ย
เอง
แต่วนั นี้เป็ นวันมงคลใหญ่ของลูกชายคนเล็ก ต่อให้ในใจพระชายาจิ้
นอ๋ องจะหงุดหงิดแต่กไ็ ม่อาจแสดงสี หน้าออกมาได้ ยังต้องแสดง
ท่าทีใจกว้างอ่อนโยนของผูเ้ ป็ นแม่ออกมา “วันนี้เป็ นวันมงคลใหญ่
ของฉัง่ เอ๋ อร์ พวกเจ้าที่เป็ นพี่ชายพี่สะใภ้วนั นี้กต็ อ้ งเหนื่อยมากหน่อย
ช่วยรับแขก ผ่านวันนี้ไปก็ให้ฉงั่ เอ๋ อร์ยกนํ้าชาขอบคุณพวกเจ้า”
เสิ่ นเวยกล่าว “พระชายากล่าวเกินไปแล้ว ขอบคุณไม่ขอบคุณอะไร
น้องชายตัวเองแต่งงาน พวกข้าที่เป็ นพี่ชายพีส่ ะใภ้ช่วยจัดการงาน
เดิมก็เป็ นสิ่ งสมควรอยูแ่ ล้ว”
ทว่าสวีโย่วกลับกล่าว ‘อืม’ ด้วยสี หน้าเรี ยบเฉยเพียงเท่านั้น ทําให้
เสิ่ นเวยทอดถอนใจทั้งเขาและจิ้นอ๋ องสมกับที่เป็ นพ่อลูกจริ งๆ!
เจ้าบ่าวสวีฉงั่ สวมชุดมงคลสี แดงสดโอ้อวดตนกับสวีโย่วอย่าง
อารมณ์ดี “พี่ใหญ่ น้องสวมชุดนี้กไ็ ม่ได้แย่ไปกว่าตอนที่ท่านไปรับ
ตัวพี่สะใภ้ใหญ่ใช่หรื อไม่”
สวีโย่วชายตามองเขาปราดหนึ่ง กล่าว ‘อืม’ อีกครั้ง ทว่าเสิ่ นเวยกลับ
เบ้ปาก สวีฉงั่ ไหนเลยจะเทียบกับคุณชายใหญ่ของนางได้ ไม่ตอ้ งพูด
ถึงเรื อนร่ างที่สูงสง่านัน่ เพียงแค่ใบหน้านัน่ ก็ตามไม่ทนั เขาอย่าง
สิ้ นเชิง คุณชายใหญ่ของนางสวมชุดแต่งงานหล่อเหลาประหนึ่ง
เทวดาตกลงมาจากสวรรค์
สวีฉงั่ เองก็ไม่ถือสาที่พี่ชายเขาพูดน้อย หัวเราะหึ ๆ ลากพี่ชายเขามา
อีกฝั่ง กล่าวอย่างลับๆ ล่อๆ “พี่ใหญ่ ครั้งก่อนที่ท่านพูดไว้หา้ มผิด
สัญญา วันนี้นอ้ งแต่งงานแล้ว หญิงงามท่านต้องเตรี ยมไว้ให้ขา้ ด้วย”
หึ เด็กคนนี้ยงั คิดถึงแต่หญิงงามของเขาอยูเ่ ลย วันมงคลใหญ่กย็ งั ไม่
ลืม
ใบหน้าพระชายาจิ้นอ๋ องดําลงในชัว่ ขณะ กล่าวตําหนิ “ฉัง่ เอ๋ อร์
พูดจาเหลวไหลอะไร ยังไม่รีบลงไปเตรี ยมรับตัวเจ้าสาวอีก อย่าทํา
ให้เสี ยฤกษ์”
ท่านจิ้งอ๋ องเองก็โมโหเล็กน้อย “ฉัง่ เอ๋ อร์ แต่งงานแล้วก็เป็ นผูใ้ หญ่
แล้ว ห้ามเจ้าทําตัวเลอะเทอะเหมือนอย่างแต่ก่อนอีก”
“ทราบแล้ว เสด็จพ่อเสด็จแม่” สวีฉงั่ ปากตอบรับ แต่ดวงตากลับจ้อง
มองสวีโย่ว วางท่าทางหากเขาไม่รับปากตนก็จะไม่ไป
สวีโย่วทําได้เพียงพยักหน้า “วางใจ พี่พดู คําไหนเป็ นคํานั้น”
สวีฉงั่ จึงแสยะปากยิม้ ลงไปเตรี ยมรับตัวเจ้าสาว ปล่อยให้พระชายาจิ้
นอ๋ องโมโหจนศีรษะเต้นตุบๆ
ตอนเช้าสิ นเดิมแห่เข้ามา แม้วา่ เสิ่ นเวยไม่ได้สนใจแต่เสี ยงถกเถียง
ของแขกและคนรับใช้ท้ งั หลายก็ลอยเข้ามาในหูของนาง ฉิ นอิงอิงที่
เป็ นคุณหนูของจวนเสนาบดีฉิน ซํ้ายังแต่งงานกับคุณชายของจวน
ผิงจิ้นอ๋ อง สิ นเดิมย่อมน้อยไม่ได้ หามหนึ่งร้อยยีส่ ิ บคานเต็มๆ อีกทั้ง
ที่หามอยูข่ า้ งหน้าสองคานยังเป็ นสิ นเดิมที่ซูเฟยเหนียงเหนียง
พระราชทานให้จากในวัง มีเกียรติอย่างถึงที่สุด
ทุกคนมองสิ นเดิมแต่ละคานๆ เข้ามาในประตูใหญ่จวนจิ้นอ๋ อง แห่
ตามทางเส้นใหญ่ประตูกลางเข้าไปในลานบ้านคุณชายสี่ ดว้ ยความ
สนอกสนใจ ชี้ไม้ช้ ีมือวิพากษ์วิจารณ์ เนื้อหาที่วิจารณ์หนีไม่พน้ การ
เปรี ยบเทียบสิ นเดิมของเจ้าสาวกับสิ นเดิมของจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ที่แต่งงาน
กับคุณชายใหญ่จวนจิ้นอ๋ องเมื่อไม่กี่เดือนก่อน แม้วา่ จะเทียบไม่ได้
แต่กไ็ ม่ได้แย่กว่าสักเท่าไร ทอดถอนใจที่จวนจิ้นอ๋ องมีวาสนาดี
จริ งๆ ภรรยาที่แต่งเข้ามาแต่ละคนล้วนมีสินเดิมมากมายมหาศาล
ทว่าเถาฮวาที่วงิ่ ออกไปดูความครึ กครื้ นเที่ยวหนึ่งกลับเบะปาก กล่าว
ด้วยความไม่ยนิ ยอม “เหอะ สิ นเดิมของนางเทียบคุณหนูไม่ได้เลย
หนึ่งคานของนางหามกันสองคน เบาหวิว ของคุณหนูตอ้ งใช้ต้ งั สี่
คนจึงจะหามได้ มิหนําซํ้า**บยังใหญ่ยงิ่ กว่า”
เสิ่ นเวยหลุดหัวเราะ ลูบใบหน้าเล็กๆ ของเถาฮวา กล่าวหยอกล้อ “เอ๋
เถาฮวาของข้าแยกแยะความเป็ นจริ งของสิ นเดิมออกแล้ว พัฒนา
แล้ว”
เถาฮวากระทืบเท้า มองเสิ่ นเวยด้วยความไม่พอใจ “ข้าแยกแยะเป็ น
นานแล้ว พี่หลีฮวากับพี่เย่วก์ ยุ้ ต่างก็สอนข้าแล้ว มีคนที่ไม่ได้ร่ าํ รวย
ทําเพื่อศักดิ์ศรี ให้ดูดี สิ นเดิมหนึ่งคานแบ่งหามเป็ นสองคาน อันที่
จริ งข้างในวางได้ไม่เต็ม เมื่อครู่ ขา้ แอบเปิ ดดูแล้ว **บยังเหลือที่เยอะ
เท่านี้กว่าจะเต็ม” เถาฮวาใช้มือเทียบ
เสิ่ นเวยมองไปที่เย่วก์ ยุ้ เย่วก์ ยุ้ พยักหน้าให้นาง วันนี้เสิ่ นเวยพาเถาฮ
วามาร่ วมพิธี อดคุมนางไว้ขา้ งกายไม่ได้ เป็ นห่วงว่าจะมีคนไม่ดูตา
ม้าตาเรื อยัว่ ยุให้นางก่อเรื่ องอะไรขึ้นมาอีก จึงให้เย่วก์ ยุ้ อยูข่ า้ งกาย
นาง
ด้วยเหตุน้ ีเสิ่ นเวยจึงมองใบหน้าที่ต้ งั ใจจริ งของเถาฮวา กล่าวเสี ยง
อ่อนโยน “อืม เถาฮวาพัฒนาไม่นอ้ ยแล้ว แต่พวกเรารู ้ดีอยูแ่ ก่ใจก็
พอแล้ว ไม่อาจป่ าวประกาศออกไปได้ อย่างไรเสี ยนี่กเ็ ป็ นเรื่ องของ
คนอื่น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเรา”
เถาฮวาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ทราบแล้วเจ้าค่ะ คุณหนู เถาฮวาไม่
พูด”
เสิ่ นเวยยิม้ ชื่นชมนางอีกครั้ง เถาฮวาก็มีความสุ ขแล้ว
บอกว่าช่วยรับแขก อันที่จริ งคนที่มีคุณสมบัติเพียงพอให้เสิ่ นเว
ยต้อนรับด้วยตัวเองมีไม่เยอะจริ งๆ นางนัง่ อยูใ่ นสวนดอกไม้ แม่นม
มัว่ ข้างกายนางนําสาวใช้เล็กไปรับแขกที่ประตูใหญ่แทนนาง สาว
เล็กที่ตอ้ งการให้นางออกหน้าก็วิ่งเข้ามาแจ้งอีกครั้ง กว่าครึ่ งเช้าผ่าน
ไปแล้ว คนที่จาํ เป็ นต้องให้เสิ่ นเวยออกมาต้อนรับเองก็มีเพียงองค์
หญิงใหญ่ผเู ้ ดียว
เทียบกับความสบายของเสิ่ นเวย ฮูหยินซื่อจื่ออู๋ซื่อยุง่ อย่างมาก แม้วา่
นางเองก็ส่งแม่นมอู๋ขา้ งกายออกไปรับแขกแทนนาง แต่การจัดการ
ทั้งหมดในจวนล้วนต้องให้นางดูแลด้วยตัวเอง เหล่าพ่อบ้านยังคง
เข้ามารายงานอยูบ่ ่อยครั้ง นางยุง่ จนไม่ได้ดื่มแม้แต่น้ าํ
อันที่จริ งคนที่วา่ งที่สุดยังไม่ใช่เสิ่ นเวย แต่เป็ นฮูหยินสามหูซื่อ นาง
ถูกสาวใช้พยุงออกมาโผล่หน้าโผล่ตาจากนั้นก็กลับเรื อนตัวเองไป
พักผ่อนแล้ว
แขกทยอยกันมาอย่างต่อเนื่อง แขกผูช้ ายมีคนพาไปที่เรื อนหน้า
เหล่าญาติผหู ้ ญิงก็รวมตัวกันอยูท่ ี่เรื อนหลัง ในสวนดอกไม้นงั่ ไม่พอ
ยังมีศาลาริ มนํ้า คนที่ไม่อยากนัง่ พูดคุยก็สามารถไปชมงิ้วได้
จวนจิ้นอ๋ องเชิญคณะงิ้วที่มีชื่อในเมืองหลวงมา นอกจากนี้ยงั เชิญ
นักแสดงงิ้วนางรํามีชื่อมาอีกจํานวนหนึ่ง
เสิ่ นเวยดูงิ้วเป็ นเพื่อนองค์หญิงใหญ่ แม้นางจะไม่ชอบงิ้ว แต่ความ
อดทนก็ยอดเยีย่ มอย่างยิง่ หางตาองค์หญิงใหญ่กวาดมองเสิ่ นเว
ยที่อมยิม้ บางๆ ข้างมุมปาก พยักหน้าในใจ อืม เป็ นคนที่ควบคุม
อารมณ์ได้ ภรรยาผูน้ ้ ีของโย่วเอ๋ อร์กลับแต่งไม่ผดิ คน
สําหรับคนอื่นที่บอกว่าภรรยาโย่วเอ๋ อร์ร้ายกาจ องค์หญิงใหญ่กลับ
ไม่ได้ใส่ใจ แม้แต่ผชู ้ ายของตัวเองยังปกป้องไม่ได้ เกิดเรื่ องแล้วก็ไม่
มีสติอยูก่ บั เนื้อกับตัว เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ สตรี เช่นนี้นางไม่ถูก
ชะตา
ตัวองค์หญิงใหญ่เองก็เป็ นคนแข็งแกร่ ง หากนางไม่แข็งแกร่ ง ต่อให้
จะมีการดูแลจากฝ่ าบาท ด้วยความที่เป็ นองค์หญิงหม้ายลูกสองเช่น
นางก็ยากอย่างยิง่ ที่จะยืนอยูใ่ นเมืองหลวง ยิง่ ไปกว่านั้นยังสามารถมี
อํานาจที่ทุกคนล้วนไม่อาจมองข้ามได้เช่นทุกวันนี้ ดังนนั้นองค์หญิง
ใหญ่จึงถูกชะตาเสิ่ นเวยอย่างถึงที่สุด
“สตรี อายุนอ้ ยเหล่านี้เช่นพวกเจ้าไม่ค่อยชอบดูการแสดงเหล่านี้มิใช่
หรื อ” องค์หญิงใหญ่มองเสิ่ นเวยอย่างเป็ นมิตร ท่าทางเข้าอกเข้าใจ
เสิ่ นเวยเองก็จริ งใจอย่างยิง่ “หลานเองก็เพียงแค่เห็นว่าสนุกสนาน
ไม่ได้เข้าใจทั้งหมดเช่นกัน” เพียงแค่เข้าใจเนื้อหาของเรื่ องส่ วนใหญ่
รู ้วา่ พูดถึงเรื่ องอะไร ส่ วนท่วงทํานองที่เอื้อนเอ่ยนั้น นางแทบจะไม่
เข้าใจ
องค์หญิงใหญ่ยมิ้ กล่าว “ดูไปเยอะๆ แล้วก็จะเข้าใจเอง แต่วา่ สตรี
อายุนอ้ ยเหล่านี้เช่นพวกเจ้าก็มีไม่กี่คนที่ชอบดู”
เสิ่ นเวยลูบจมูก ยิม้ แต่ไม่พดู
องค์หญิงใหญ่เปลี่ยนเรื่ อง “ลําบากเจ้าแล้วจริ งๆ โย่วเอ๋ อร์เป็ นคนเย็น
ชา นิสยั ก็ด้ือรั้น หากเขาทําเรื่ องอะไรที่ทาํ ให้เจ้าโมโหเจ้าก็มาบอก
ข้า อาจะสัง่ สอนเขาแทนเจ้าเอง”
ผูใ้ หญ่ในครอบครัวพูดตามมารยาท เสิ่ นเวยย่อมไม่โง่คิดเป็ นจริ ง
นางปิ ดปากหัวเราะเบาๆ “ขอบคุณเสด็จอาที่เอ็นดูหลาน คุณชาย
ใหญ่ปฏิบตั ิต่อหลานดีนกั เสด็จอาวางใจ คุณชายใหญ่สุขภาพไม่
ค่อยดี หลานยอมให้เขามากหน่อยจะเป็ นอะไรไป” ขณะที่พดู ยัง
กะพริ บตาปริ บๆ
“เจ้าเองก็หยอกเย้าคนเก่ง” องค์หญิงใหญ่ถูกนางหยอกล้อ ตบมือ
ของเสิ่ นเวย กล่าว “อารู ้วา่ เจ้าเป็ นคนดี คําติฉินนินทาเหล่านั้นข้าง
นอก อย่าได้ไปสนใจ!” ท่าทางชื่นชมอย่างถึงที่สุด
คนทั้งสองสนทนากันอย่างเพลิดเพลิน ทําให้คนรอบข้างพากัน
ชายตามอง บุคคลที่สามารถนัง่ อยูข่ า้ งพวกนางได้ ล้วนแต่เป็ นคนมี
ฐานะ นอกจากราชนิกลุ แล้วก็เป็ นฮูหยินที่ได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์ข้นั สู งสุ ดและขั้นหนึ่ง
องค์หญิงเป็ นใคร นัน่ คือน้องสาวที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดเชื่อ
ใจที่สุดของฝ่ าบาท นางพูดหนึ่งประโยคมีผลยิง่ กว่าขุนนางชั้น
ผูใ้ หญ่พดู สิ บประโยค ซํ้ายังเคยกุมอํานาจการทหารมาก่อน แม้วา่ จะ
เป็ นตอนนี้ในกองทัพก็มีผลกระทบอย่างมาก เอ่ยถึงองค์หญิงใหญ่
บุรุษในกองทัพมีใครบ้างที่ไม่ชื่นชมว่าเป็ นวีรสตรี
สามารถได้รับความสนใจจากองค์หญิงใหญ่ได้ลว้ นแต่มีเกียรติอนั
ใหญ่หลวง ยิง่ ไปกว่านั้นยังได้สนทนากันอย่างเพลิดเพลิน ทุกคน
ต่างก็อิจฉาริ ษยาเสิ่ นเวยที่ได้รับความโปรดปรานจากองค์หญิงใหญ่
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 265-2 ซูหว่ านมาเยือนบ้ าน
“เสด็จอา น้องสะใภ้” ในตอนนี้เอง ฮูหยินซื่อจื่อจวนกงอ๋ องฟั่นซื่อ
นําหญิงงามชดช้อยอ่อนหวานผูห้ นึ่งเดินเข้ามา หญิงผูน้ ้ นั ทําความ
เคารพช้าๆ “คารวะองค์หญิงใหญ่เพคะ คารวะจยาฮุ่ยจวิน้ จู่เพคะ”
เสี ยงราวกับนกขมิ้นร้องเบาๆ ไพเราะอย่างถึงที่สุด
“พี่สะใภ้ใหญ่เลี่ย” เสิ่ นเวยโค้งตัวกล่าวกับนาง
แม้วา่ ซื่อจื่อจวนกงอ๋ องสวี่เลี่ยจะอายุมากกว่าสวีโย่ว แต่เสิ่ นเวยก็เป็ น
จวิน้ จู่ที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ ฟั่นซื่อเป็ นเพียงแค่ฮูหยิน
ซื่อจื่อ ต่อให้เสิ่ นเวยจะนัง่ นิ่งไม่ขยับก็ไม่ถือว่าเสี ยมารยาท
แม้ในใจฟั่นซื่อจะไม่พอใจ แต่กลับยกยิม้ ทัว่ ใบหน้ากล่าวกับเสิ่ นเว
ยอย่างตื่นเต้น “น้องสะใภ้รู้หรื อไม่วา่ คนผูน้ ้ ีคือใคร”
เสิ่ นเวยยิม้ ส่ ายหน้า “ถูกพี่สะใภ้ใหญ่เลี่ยพามาได้จะต้องเป็ นสตรี สูง
ศักดิ์ตระกูลใดตระกูลหนึ่งใช่หรื อไม่ เป็ นหญิงผูส้ ู งส่ งฝั่งมารดาของ
พี่สะใภ้ใหญ่เลี่ยหรื อ”
เห็นใบหน้าฟั่นซื่อมีความอึดอัดแวบผ่าน แต่อย่างไรเสี ยนางก็เป็ น
บุคคลที่มีไหวพริ บ หัวเราะฮ่าๆ กล่าว “คนผูน้ ้ ีคือแม่นางซูหร่ วน”
จ้องมองเสิ่ นเวยตาไม่กะพริ บ ไม่ปล่อยให้ความเปลี่ยนแปลงใดๆ
บนใบหน้าของนางหลุดไป
เร็ วอย่างยิง่ นางก็ตอ้ งผิดหวัง เสิ่ นเวยสงบอย่างถึงที่สุด ดวงตาไม่
ขยับแม้แต่นิดเดียว กล่าวอย่างไม่สนใจ “อ้อ ที่แท้แล้วก็เป็ นหญิงรู ้ใจ
ของท่านเลี่ยซื่อจื่อนี่เอง พี่สะใภ้ใหญ่เลี่ยเป็ นสตรี มีคุณธรรมจริ งๆ
ไม่เสี ยชื่อที่เป็ นแบบอย่างในราชนิกลุ ของพวกเรา”
รอยยิม้ บนใบหน้าฟั่นซื่อแข็งทื่อ “คราวนี้นอ้ งสะใภ้พดู ผิดแล้ว แม่
นางซูหร่ วนผูน้ ้ ีไม่ได้มีความสัมพันธ์กบั ท่านซื่อจื่อของพวกเรา
แม้แต่นิดเดียว จะว่าไปแล้ว ก็ยงั มีความสัมพันธ์กบั ผิงจวิน้ อ๋ องของ
พวกเจ้าอยูเ่ ล็กน้อย” พูดพลางปิ ดปากหัวเราะ หัวเราะไปพลางมี
ความสุ ขบนความทุกข์ของผูอ้ ื่นไปพลาง เหอะ ปากพูดเสี ยน่าฟัง ข้า
จะคอยดูวา่ อีกสักครู่ เจ้าจะร้องไห้อย่างไร
“อ้อ มีความสัมพันธ์เล็กน้อยกับผิงจวิน้ อ๋ องของพวกข้าด้วยหรื อ ไม่
เคยได้ยนิ ท่านจวิน้ อ๋ องเอ่ยถึงเลย น่าแปลกใจจริ งๆ” เสิ่ นเวยเลิกคิว้
อย่างประหลาดใจ “พี่สะใภ้ใหญ่เลี่ย แม่นางซูหร่ วนผูน้ ้ ีมาจากจวน
ไหนหรื อ นอกจากที่วา่ การแล้วผิงจวิน้ อ๋ องของพวกข้าก็อยูแ่ ต่ใน
จวน ไม่ชอบไปเยีย่ มเยียนจวนผูอ้ ื่น ไม่ใช่วา่ พี่สะใภ้ใหญ่เลี่ยจําผิด
หรอกกระมัง”
“ไม่ผดิ ไม่ผดิ นี่เป็ นเรื่ องดี” ฟั่นซื่อยิม้ แย้มเบิกบาน หันหน้ามอง
หญิงงามผูน้ ้ นั “แม่นางซู จยาฮุ่ยจวิน้ จู่อยูต่ รงหน้าแล้ว เจ้ามีอะไรก็
พูดไปตามตรงเถิด จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ของพวกเราสงสารหญิงงามที่สุด”
ดวงตาเต็มไปด้วยความตั้งตารอดูเรื่ องสนุก
อย่าว่าแต่นาง ญาติผหู ้ ญิงที่ดูงิ้วอยูต่ ่างก็มองมาทางเสิ่ นเวย ดวงตา
เต็มไปด้วยความสนใจ ยังมีคนที่แอบซ่อนความสามารถในการ
นินทาไว้ไม่อยู่ องค์หญิงใหญ่เกร็ งปากแน่น แต่กลับไม่ได้พดู แม้แต่
ประโยคเดียว นางอยากดูวา่ เสิ่ นเวยจะตอบสนองอย่างไร
ซูหร่ วนผูน้ ้ นั คํานับเสิ่ นเวยอย่างนุ่มนวลอีกครั้ง เรื อนร่ างนั้นราวกับ
ต้นหลิวท่ามกลางสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ทําให้ดวงตาของคน
ทั้งหมดต่างก็ตะลึงงัน ในใจพากันคาดเดาว่าหญิงผูน้ ้ ีคือหญิงรู ้ใจ
ของผิงจวิน้ อ๋ องหรื อไร
เห็นเพียงแม่นางซูหร่ วนเปิ ดริ มฝี ปากแดงเบาๆ กล่าว “ตัวข้าซูหร่ วน
ปี ก่อนได้รับความช่วยเหลือจากท่านผิงจวิน้ อ๋ อง ข้าไร้สิ่งตอบแทน
ยินดีเป็ นวัวเป็ นม้ารับใช้ท่านผิงจวิน้ อ๋ อง จยาฮุ่ยจวิน้ จู่โปรดทําให้สม
ปรารถนา” พูดพลางคํานับอย่างนุ่มนวลอีกครา ดวงตาที่พร่ าเลือน
มองเสิ่ นเวยด้วยความเฝ้ารอ
เมื่อซูหร่ วนพูดออกไป ล่างเวทีกเ็ งียบสงัดในชัว่ ขณะ ความรู ้สึกของ
ญาติผหู ้ ญิงทุกคนซับซ้อนอย่างยิง่ ด้านหนึ่งพวกนางก็เป็ นภรรยาเอก
รังเกียจคนเช่นซูหร่ วนอย่างถึงที่สุด อีกด้านหนึ่งในใจพวกนางก็มี
ความสุ ขบนความทุกข์ของผูอ้ ื่นเงียบๆ
เสิ่ นเวยเพิ่งจะเหลือบตาขึ้นมองซูหร่ วนปราดหนึ่ง กระตุกมุมปาก
กล่าวกับองค์หญิงใหญ่ขา้ งๆ ด้วยสี หน้าเป็ นธรรมชาติ “ที่แท้แล้วก็
จะมาขอเป็ นอนุภรรยาคุณชายใหญ่ของพวกข้านี่เอง” จากนั้นจึงเอียง
ศีรษะพูดเองเออเองด้วยความสงสัยอย่างยิง่ หรื อว่าคุณชายใหญ่ของ
พวกข้าดูเหมือนคนหัวอ่อนเพียงนั้นเชียวหรื อ”
ในดวงตาองค์หญิงใหญ่มีรอยยิม้ แวบผ่าน ตบมือของเสิ่ นเวยแล้ว
กล่าว “ก็แค่ตวั ตลกตัวหนึ่ง หลานไม่ตอ้ งเก็บมาใส่ ใจ โย่วเอ๋ อร์เป็ น
คนลําดับความสําคัญได้ จงวางใจ!”
ซูหร่ วนที่ถูกแช่แข็งอยูข่ า้ งๆ กําหมัดแน่น ไม่ยอม นางไม่ยอม นี่คือ
โอกาสเพียงครั้งเดียวของนาง ด้วยเหตุน้ ีนางจึงสู ดหายใจเข้าลึก เชิด
ใบหน้าเล็กๆ ที่น่าสงสารขึ้น “ข้ารู ้ตวั ว่าฐานะต้อยตํ่า มิบงั อาจ
ขอร้องฐานะใดๆ ขอเพียงแค่ได้เป็ นสาวใช้ยกชาริ นนํ้าข้างกายผิง
จวิน้ อ๋ องก็เพียงพอแล้ว หวังว่าจวิน้ จู่จะทําให้สมปรารถนา” ท่าทาง
อ่อนหวานนุ่มนวลนั้น เสมือนกับว่าเสิ่ นเวยไม่รับปากจะเป็ นการทํา
ผิดมหาศาล
ฟั่นซื่อข้างๆ ในดวงตามีความสุ ขแวบผ่าน เอ่ยปากกล่าว “แม่นางซู
หร่ วนมีไมตรี จิตลึกซึ้ง น้องสะใภ้ เห็นแก่ไมตรี จิตของแม่นางซู เจ้าก็
รับปากเถิด”
เสิ่ นเวยหลุดหัวเราะออกมาหนึ่งครา ยุคโบราณนี้นิยมทําเช่นนี้กนั
หรื อ เหตุใดหนึ่งคนสองคนล้วนแต่ใช้ขอ้ อ้างทดแทนบุญคุณมา
วางแผนช่วงชิงความรํ่ารวย ซํ้ายังพูดอย่างมัน่ อกมัน่ ใจ ด้านหนึ่งเป็ น
นางโลม ด้านหนึ่งก็สร้างซุม้ ประตูให้ตวั เอง อวดอ้างราวกับตนเองมี
ไมตรี จิตยิง่ นักสู งศักดิ์ยงิ่ นัก
“แม่นางซูหร่ วนใช่หรื อไม่ เจ้าหลอกลวงท่านจวิน้ อ๋ องของพวกข้า
แล้วหรื อ คิดอยากจะเข้าประตูใหญ่จวนผิงจวิน้ อ๋ องไม่ใช่วา่ ไม่ได้
แม่นมมัว่ ถามคําถามแม่นางซูแทนตัวข้าจวิน้ จู่ที” เสี ยงที่เกียจคร้าน
ของเสิ่ นเวยดังขึ้น
“บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ” แม่นมมัว่ ก้าวออกมาด้วยความเคารพทันที
“จวิน้ จู่วางใจ บ่าวจะต้องช่วยท่านถามแม่นางซูให้เป็ นอย่างดี”
ซูหร่ วนผูน้ ้ นั เองก็กล่าวด้วยความเชื่อฟังอย่างถึงที่สุด “แม่นมผูน้ ้ ี
ท่านถามได้เลย หากข้าตอบได้จะตอบอย่างไม่มีปิดบังแน่นอน”
แม่นมมัว่ เชิดหน้าขึ้น มองซูหร่ วนแล้วกล่าว “ข้อแรก เรี ยนถามแม่
นางซูยงั บริ สุทธิ์อยูห่ รื อไม่”
เพียงแค่คาํ ถามแรกก็ทาํ ให้ซูหร่ วนตาแดงแล้ว มองเสิ่ นเวยด้วยสี
หน้าสลดใจ “หากจวิน้ จู่ไม่ยนิ ยอมพูดมาตรงๆ ก็ได้แล้ว ไยจะต้องยํา่
ยีขา้ เช่นนี้ดว้ ย”
เสิ่ นเวยหรี่ ตาเล็กน้อยรับการปรนนิบตั ิจากสาวใช้ ไม่เหลียวแลนาง
แม้แต่นิดเดียว
ทว่าแม่นมมัว่ กลับกล่าวด้วยสี หน้าจริ งจัง “แม่นางซูพดู ผิดแล้ว นี่
เป็ นการยํา่ ยีอย่างไร หากเจ้าไม่แม้แต่บริ สุทธิ์ ยังคิดจะรับใช้ขา้ งกาย
นายท่าน นี่เป็ นกฎระเบียบตระกูลใดกัน เจ้าลองถามเหล่าฮูหยินทุก
ท่านในห้องนี้ดู มีกฎเช่นนี้อยูห่ รื อไม่ อย่างไรเสี ยผิงจวิน้ อ๋ องของ
พวกข้าก็เป็ นท่านจวิน้ อ๋ อง คูค่ วรให้สตรี ร่ายรําขับร้องที่เสี ยบริ สุทธิ์
แล้วมารับใช้หรื อไร หากเรื่ องนี้ดงั ออกไป ศักดิ์ศรี ท่านจวิน้ อ๋ องของ
พวกข้าจะวางไว้ตรงไหน แม่นางซูเจ้าเอาแต่พดู ว่าทดแทนบุญคุณ
หมายความว่าจะทดแทนบุญคุณเช่นนี้หรื อ”
เสิ่ นเวยชื่นชมในใจหนึ่งครา สมกับที่เป็ นแม่นมที่ออกมาจากวัง
จริ งๆ จี้จุดสําคัญยิง่ นัก! ไม่เพียงแต่เสิ่ นเวย เหล่าญาติผหู ้ ญิงในลาน
เองก็รู้สึกสบายอารมณ์
แม่นมมัว่ กล่าวต่อ “แม้วา่ เจ้าจะบริ สุทธิ์ แต่ใครให้แม่นางซูหน้าตา
งดงามเล่า บ่าวเองยังใจอ่อนกับหญิงงามเลย! เจ้าพูดมาตลอดว่าจะ
ทดแทนบุญคุณ เรี ยนถามแม่นางซูท่านจวิน้ อ๋ องของพวกข้าช่วยเจ้า
ไว้อย่างไรหรื อ”
ซูหร่ วนรี บก้าวขึ้นไปเล่าเรื่ องที่นางบังเอิญพบอันธพาลเมื่อปี ก่อน
“หากไม่ใช่ท่านผิงจวิน้ อ๋ องออกมือช่วยไว้ ข้า…” ในดวงตาของนาง
เอ่อนองไปด้วยนํ้าตา เสี ยงสะอื้น บนใบหน้าเต็มไปด้วยความ
ซาบซึ้ง
แม่นมมัว่ รวมถึงญาติผหู ้ ญิงในลานต่างก็กระตุกมุมปากพร้อมกัน
แม่นมมัว่ กล่าว “แม่นางซูบอกว่าท่านจวิน้ อ๋ องของพวกข้าช่วยเจ้าไว้
เรี ยนถามท่านจวิน้ อ๋ องของพวกข้าเคยล่วงลํ้าแม่นางหรื อไม่” แม่นม
มัว่ ถามอ้อมอย่างยิง่ อันที่จริ งนางอยากถามว่า ‘เจ้ากับท่านจวิน้ อ๋ อง
ของพวกข้าเคยแตะเนื้อต้องตัวกันหรื อไม่’ เหลือบตามองเหล่าญาติ
ผูห้ ญิงที่นงั่ อยู่ ยังคงเปลี่ยนวิธีการถามดีกว่า
“ไม่มี!” บนใบหน้าซูหร่ วนแดงกํ่า ส่ ายหน้าอย่างเขินอาย
“เช่นนั้นท่านจวิน้ อ๋ องของพวกข้าเคยรับปากกับแม่นางหรื อไม่” แม่
นมมัว่ ถามต่อ
“ไม่มี” ซูหร่ วนส่ ายหน้าต่อ “ท่านจวิน้ อ๋ องสัง่ เด็กรับใช้มาแก้หน้าให้
ข้า ไม่เคยพูดอะไรกับข้า”
มุมปากของแม่นมมัว่ ยกขึ้นอย่างอดไม่ได้ กล่าวด้วยใบหน้าเคร่ ง
ขรึ ม “คนที่ช่วยแม่นางซูคือเด็กรับใช้ ท่านจวิน้ อ๋ องไม่เคยรับปาก
ใดๆ กับแม่นางมาก่อน กระทัง่ ยังไม่เคยแม้แต่จะพูด บ่าวไม่เข้าใจ
แม่นางซูตอ้ งการจะทดแทนบุญคุณเรื่ องอะไร หากบอกว่าทดแทน
บุญคุณ แม่นางไม่ควรไปขอทดแทนบุญคุณกับเด็กรับใช้ขา้ งกาย
ท่านจวิน้ อ๋ องมากกว่าหรื อ”
“จะทําได้อย่างไร เด็กรับใช้เป็ นเพียงทาส!” ประโยคนี้ของซูหร่ วน
พลั้งปากพูดออกไป อาจจะรู ้สึกว่าตนพลั้งปาก จึงรี บกล่าวเสริ ม
“เด็กรับใช้เพียงแค่ฟังคําสัง่ ของท่านจวิน้ อ๋ อง ท่านจวิน้ อ๋ องต่างหาก
ที่เป็ นผูม้ ีพระคุณของข้า!”
เมื่อคําพูดนี้ออกไป สายตาที่มองซูหร่ วนของญาติผหู ้ ญิงในลานก็ดู
ถูกแล้ว ทดแทนบุญคุณอะไร ก็แค่หญิงชัว่ ที่ละโมบเงินทองผูห้ นึ่ง
“ที่แท้แล้วผูม้ ีพระคุณของแม่นางซูกแ็ บ่งแยกนายบ่าว” แม่นมมัว่ ยก
มุมปากอีกครั้ง หันหลังกลับกล่าวกับเสิ่ นเวยด้วยความเคารพ “จวิน้ จู่
บ่าวถามเสร็ จแล้วเจ้าค่ะ”
เสิ่ นเวยพยักหน้า “ลําบากแม่นมมัว่ แล้ว เข้าไปพักสักครู่ เถอะ” นาง
ชายตามองซูหร่ วนที่หน้าแดงกํ่าจากข้างบนปราดหนึ่ง ละสายตาไป
ทางฟั่นซื่อ “พี่สะใภ้ใหญ่เลี่ยเห็นแล้วหรื อยัง แม่นางซูมีไมตรี จิตยิง่
นัก แต่วา่ นางมีไมตรี จิตต่ออํานาจเงินทอง หากตอนนั้นคนที่ช่วย
หน้าแก้หน้าคือขอทานข้างถนน แม่นางซูจะยังร้องห่มร้องไห้ขอใช้
ร่ างทดแทนบุญคุณหรื อไม่”
พรู ้ด เมื่อคําพูดของเสิ่ นเวยดังออกไป ไม่รู้วา่ ใครหลุดหัวเราะออกมา
ทันใดนั้นก็คล้ายเปิ ดฉาก คนที่แอบหัวเราะก็เยอะขึ้นเรื่ อยๆ สุ มหัว
เข้าด้วยกันพูดคุยเสี ยงเบาขึ้นมา
บ้างก็วา่ หญิงชัว่ บ้างก็วา่ หน้าไม่อาย บ้างก็วา่ เลวทราม คําพูดเช่นนี้
ดังเข้ามาในหูซูหร่ วนไม่หยุด ยังมีจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ผนู ้ ้ นั แววตาที่มอง
นางราวกับมองสิ่ งปฏิกลู เสมือนนางเป็ นสัตว์เลื้อยคลานบนพื้นดิน
มองนางมากๆ จะทําให้ดวงตาสกปรก นี่ทาํ ให้ซูหร่ วนลําบากใจ
อย่างยิง่ ทั้งยังอัดอั้นจนแทบจะเสี ยสติ
นางมีสิทธิอะไร พวกนางเหล่าฮูหยินที่ร่ าํ รวยสู งส่ งเช่นนี้มีสิทธิ์
อะไรมาดูถูกนาง ก็แค่มีฐานะที่ดีกว่านางมิใช่หรื อ นางได้รับความ
ไม่เป็ นธรรม นางไม่ยอม
หยดนํ้าตากลิ้งอยูใ่ นเบ้าตา ซูหร่ วนพยายามเงยหน้าเล็กน้อยไม่ให้
พวกมันไหลลงมา “จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ไม่ตอ้ งพูดแล้ว ล้วนเป็ นข้าที่ไม่
เจียมตัว หาความอับอายใส่ ตวั ข้า…ข้าเพียงแค่อยากตอบแทน
บุญคุณของท่านผิงจวิน้ อ๋ องจากใจจริ งก็เท่านั้นเอง” ท่าทางโศกเศร้า
อาดูรและเสี ยนํ้าใจช่างน่าสงสารจริ งๆ! แต่น่าเสี ยดายที่นางทําผิด
โอกาส ในลานล้วนแต่เป็ นญาติผหู ้ ญิงจํานวนหนึ่ง สิ่ งที่เกลียดที่สุด
ก็คือท่าทางปี ศาจจิ้งจอกเช่นนี้ของนาง
ดังนั้นนางจึงขอความเห็นใจจากเหล่าฮูหยินไม่ได้ แต่กลับทําให้พวก
นางเกลียดชัง “วันนี้เป็ นวันมงคลใหญ่ของคุณชายสี่ จวนจิ้นอ๋ อง เจ้า
ร้องห่มร้องไห้หมายความว่าอย่างไร เคราะห์ร้าย!”
“ชิ รี บเก็บนํ้าตาเสี ย ไม่มีนายท่านทั้งหลายอยู่ เจ้าร้องไห้ให้ใครดู”
ยังมีคนที่โหดเ**้้ยมยิง่ กว่า “วันนี้ขา้ นับว่าได้เห็นแล้ว หญิงมารยา
เช่นนี้ มิน่าเล่าถึงมอมเมาอันธพาลมากมายเพียงนั้นได้ นางโลมอะไร
กัน ไม่ใช่ของเล่นที่พนั คนขี่หมื่นคนกดหรื อไร! ลําบากจยาฮุ่ยจวิน้ จู่
แล้วจริ งๆ” นี่คือฮูหยินผูต้ รวจการราชสํานักที่รังเกียจอี๋เหนียง
อนุภรรยาอย่างถึงที่สุดผูห้ นึ่ง
แน่นอนว่ามีคนที่สมองไม่ปกติ ฟั่นซื่อไม่ใช่หนึ่งคนหรอกหรื อ หาก
สมองปกติ นางจะพาซูหร่ วนมายัว่ ยุต่อหน้าเสิ่ นเวยหรื อ มิหนําซํ้ายัง
ทําต่อหน้าองค์หญิงใหญ่อีกด้วย
ความประหลาดใจยังอยูข่ า้ งหลัง ฟั่นซื่อคาดไม่ถึงว่าออกมาช่วยซู
หร่ วนแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 266-1 สั่ งสอน
“ดูนอ้ งสะใภ้สิ วางก้ามยิง่ นัก แม่นางซูหร่ วนเพียงแค่มีไมตรี จิต ข้าง
กายโย่วต้าของพวกเจ้ายังไม่มีแม้แต่สาวใช้อนุภรรยาเลยมิใช่หรื อ
หากน้องสะใภ้เป็ นสตรี มีคุณธรรมก็ควรเก็บบุปผารู ้ภาษาดอกนี้ไว้
ยิง่ ไปกว่านั้นเรื่ องนี้เองก็ตอ้ งถามน้องโย่วต้าด้วยมิใช่หรื อ” คําพูด
ของฟั่นซื่อทําให้ดวงตาของซูหร่ วนจุดประกายความหวังอีกครั้ง
แต่สายตาที่ญาติผหู ้ ญิงทุกคนมองฟั่นซื่อกลับประหลาดอย่างถึงที่สุด
แล้ว ฮูหยินซื่อจื่อผูน้ ้ ีของจวนกงอ๋ องเป็ นอะไรไปแล้ว ช่วยสตรี หอ
โคมเขียวผูน้ ้ ีพดู สมองผิดปกติแล้วหรื อไร
อันที่จริ งเสิ่ นเวยกลับเข้าใจฟั่นซื่อเป็ นอย่างยิง่ ฟังว่าเลี่ยซื่อจื่อผูน้ ้ นั
เป็ นคนกินไม่เลือก ในเรื อนมีสาวใช้รูปงามล้วนถูกเขาแตะเนื้อต้อง
ตัว แม้แต่เด็กรับใช้ที่หน้าตาหล่อเหลาหลายคนนั้นข้างกายเขายังไม่
อาจหนีพน้ กรงเล็บของเขาได้
มีสามีเช่นนี้ ฟั่นซื่อเองก็เหนื่อยกายเหนื่อยใจ ปกติสิถึงแปลก ตัวนาง
เองยังมีชีวิตที่ไม่ดี ย่อมเห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ ข้าได้ไม่ดี เช่นนั้นเจ้า
เองก็อย่าคิดจะได้ดี รังเกียจข้าก็ตอ้ งรังเกียจเจ้าด้วย เสิ่ นเวยวิเคราะห์
จิตใจของฟั่นซื่อได้อย่างทะลุปรุ โปร่ ง
ดังนั้นเสิ่ นเวยจึงไม่รู้สึกว่าฟั่นซื่อโหดเ**้้ยมชัว่ ช้ามากมายเหมือน
อย่างที่คนอื่นคิด กลับเหลือบตาขึ้นแล้วกล่าว “พี่สะใภ้ใหญ่เลี่ยพูด
ถูก เรื่ องนี้ยงั ต้องฟังว่าท่านจวิน้ อ๋ องของพวกข้าว่าอย่างไร สามีเชื่อ
ฟังภรรยา ข้าล้วนแต่เชื่อฟังท่านจวิน้ อ๋ องของพวกข้า เย่วก์ ยุ้ เจ้าวิ่ง
เร็ ว ไปรายงานท่านจวิน้ อ๋ องสักหน่อย”
“เจ้าค่ะ” เย่วก์ ยุ้ ที่สวมชุดกระโปรงสี เขียวขานรับเสี ยงดังกังวาน ชัว่
พริ บตาขาเล็กๆ ก็วิ่งออกไปยังเรื อนนอกแล้ว
บังเอิญพอดี เย่วก์ ยุ้ เดินออกจากเรื อนในไปได้ไม่ไกลก็เห็นเจียงไป๋
นางรี บกวักมือเรี ยกด้วยความดีใจ เจียงไป๋ วิ่งเข้ามา เย่วก์ ยุ้ ก็เล่าเรื่ องที่
เกิดขึ้นตรงเวทีงิ้วหนึ่งรอบทันที “พี่รองเจียง จวิน้ จู่ยงั รอคําตอบท่าน
จวิน้ อ๋ องอยู”่
เมื่อเจียงไป๋ ได้ยนิ เรื่ องนี้สีหน้าก็ขาวซีดแล้ว คราวก่อนเพราะว่าซู
หร่ วนผูน้ ้ ีจวิน้ จู่กบั นายท่านจึงทะเลาะกันเช่นนั้น ตอนนี้ซูหร่ วนผูน้ ้ ี
กระโดดมายัว่ ยุเบื้องหน้าจวิน้ จู่แล้ว ไม่รู้วา่ จวิน้ จู่จะโกรธเพียงใด
เมื่อจวิน้ จู่โกรธ คนที่ลาํ บากก็ยงั ต้องเป็ นนายท่าน!
เมื่อคิดเช่นนี้ เจียงไป๋ ก็ยนื ไม่ติดแล้ว กล่าวกับเย่วก์ ยุ้ “แม่นางเย่วก์ ยุ้
เจ้ารออยูต่ รงนี้สกั ครู่ ข้าจะกลับไปแจ้งนายท่านเดี๋ยวนี้” วิ่งไปหา
เจ้านายของเขาด้วยฝี เท้าที่รวดเร็ วอย่างยิง่ แล้ว
สวีโย่วกําลังพูดคุยกับท่านพี่ไท่จื่อของเขาอยู่ เห็นเจียงไป๋ ปรากฏตัว
อยูท่ ี่หน้าประตูดว้ ยสี หน้าร้อนรน ดวงตาก็อดกะพริ บวาบไม่ได้
สวีเช่อเห็นเจียงไป๋ แล้ว กล่าวด้วยความเข้าอกเข้าใจอย่างยิง่ “อาโย่ว
เจ้ารี บออกไปดูเถิด ใช่มีเรื่ องสําคัญอะไรถึงมาหาเจ้าหรื อไม่”
สวีโย่วลังเลเล็กน้อยยังคงลุกขึ้นยืน “พี่ใหญ่รอสักครู่ ข้าไปแล้วจะ
รี บกลับมา”
“มีเรื่ องอันใด” สวีโย่วเดินออกไปกล่าวถาม
เจียงไป๋ รี บเขยิบเข้าไปใกล้เขาเล่าเรื่ องเสี ยงเบาหนึ่งรอบ สวีโย่วยิง่
ฟังสี หน้าก็ยงิ่ เย็นเยียบ สมควรตาย ใครก็ได้บอกเขาทีวา่ หญิงผูน้ ้ นั
เข้าจวนจิ้นอ๋ องมาได้อย่างไร ฮูหยินซื่อจื่อจวนกงอ๋ องใช่หรื อไม่ เขา
จะจําไว้! กลับมาจากล่องแม่น้ าํ ครั้งก่อนเขาก็อยากจัดการแม่นาง
หร่ วนอะไรนัน่ แล้ว เพียงแต่ภายหลังงานยุง่ จึงลืมไป เหอะ เขาให้
โอกาสหนีเอาชีวิตรอดแก่นางนางก็ไม่รู้จกั รักษาไว้ กลับกระโดด
มาถึงหน้าเวยเวยของเขา น่ารังเกียจยิง่ นัก
ความรู ้สึกในใจสวีโย่วราวกับกินแมลงวันเข้าไป อยากจะอาเจียน
“นายท่าน ทําอย่างไรดี จวิน้ จู่จะต้องโมโหเป็ นแน่” เจียงไป๋ กล่าว
ด้วยความกังวลอย่างถึงที่สุด
สวีโย่วอยากจะวิ่งเข้าไป โยนหญิงสมควรตายผูน้ ้ นั ออกไปนอก
กําแพงทันทีจริ งๆ คิดไปคิดมาสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ก่อนดีกว่า สัง่
เจียงไปหลายประโยค “จําได้แล้วใช่หรื อไม่ ห้ามให้เกิดข้อผิดพลาด
ใดๆ”
เจียงไป๋ พยักหน้าอย่างตั้งใจจริ ง “ทราบแล้วขอรับ นายท่านรอดูกพ็ อ
บ่าวจะต้องจัดการแทนท่านอย่างไม่มีขาดตกบกพร่ องแน่นอน”
สวีโย่วพยักหน้า โบกมือบอกเป็ นนัยให้เขารี บไป สวีโย่วมองแผ่น
หลังของเจียงไป๋ มือก็โบกอีกครั้ง เด็กรับใช้ที่หน้าตาการแต่งงาน
ล้วนธรรมดาอย่างยิง่ ผูห้ นึ่งก็เดินเข้ามา “ท่านจวิน้ อ๋ องมีอะไรรับสัง่
หรื อขอรับ”
“ไปสื บดูวา่ คนที่ชื่อซูหร่ วนผูน้ ้ นั เป็ นใครเป็ นคนเชิญเข้าจวน”
ฮูหยินทั้งหมดล่างเวทีงิ้วก็ไม่ดูงิ้วแล้ว ละครนํ้าดีตอนนี้อยูต่ รงหน้า
แล้ว
ซูหร่ วนมองฟั่นซื่อด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณฮูหยินซื่อจื่อยิง่ นัก ข้า
ไร้สิ่งใดตอบแทน ทําได้เพียงจุดธูปทุกวันหลังจากนี้ ขอพระปกปั ก
รักษาฮูหยินให้มีอายุยนื นานร้อยปี ”
หากเป็ นปกติ ฟั่นซื่อคงจะไม่มองซูหร่ วนแม้แต่ปราดเดียว นาง
รังเกียจมารยาจิ้งจอกเช่นนี้ที่สุด ทว่าวันนี้นางได้เห็นการแสดงของ
เสิ่ นเวย ย่อมต้องมีน้ าํ ใจไมตรี ต่อซูหร่ วน “เฮ้อ ใครให้ฮูหยินซื่อจื่อ
เช่นข้าใจอ่อนเล่า แม่นางคนดีรีบเช็ดนํ้าตาเถิด ท่านผิงจวิน้ อ๋ อง
จะต้องตัดสิ นใจให้เจ้าแน่นอน”
องค์หญิงใหญ่ได้ยนิ คําพูดนี้แล้ว คิ้วก็ขมวดมุ่นทันที พี่กงอ๋ องแต่ง
ภรรยาอะไรเข้ามา ฟังสิ พดู จาอะไรก็ไม่รู้ เหตุใดถึงไม่รู้จกั กาลเทศะ
เช่นนี้ นางกําลังจะเอ่ยปากตําหนิ เสิ่ นเวยดึงแขนเสื้ อของนาง ส่ าย
หน้าให้นาง นางจึงระงับความโกรธเอาไว้
เร็ วอย่างยิง่ ทุกคนก็เห็นเย่วก์ ยุ้ กลับมาแล้ว ข้างๆ ยังตามมาด้วยเด็ก
รับใช้หนึ่งคน เมื่อเดินเข้ามาใกล้แล้วจึงเห็นว่าเด็กรับใช้คนนั้นคือ
ผูต้ ิดตามคนสนิทข้างกายผิงจวิน้ อ๋ อง
“จวิน้ จู่ บ่าวกลับมาแล้วเจ้าค่ะ ท่านจวิน้ อ๋ องทราบเรื่ องแล้ว ตั้งใจส่ ง
พ่อบ้านรองเจียงมาบอกกล่าว” เย่วก์ ยุ้ กล่าวรายงาน
เจียงไป๋ รี บก้าวขึ้นมาข้างหน้า “บ่าวคารวะองค์หญิงใหญ่ จวิน้ จู่
เหนียงเหนียงและฮูหยินทุกท่านในที่น้ ี” เขาคุกเข่าข้างหนึ่งทําความ
เคารพอย่างปราดเปรี ยว
ทว่าบนใบหน้าฟั่นซื่อกลับไม่พอใจเล็กน้อย “เหตุใดนายพวกเจ้าถึง
ไม่มาเล่า”
เจียงไป๋ แทนจะโมโหจนจมูกเบี้ยว นายของข้าใช่คนที่เจ้าสัง่ ได้หรื อ
เจ้ามีสิทธิ์มาจากไหน ความประพฤติที่น่ารังเกียจเช่นนี้ มิน่าเล่าวัน
ทั้งวันเลี่ยซื่อจื่อจึงใช้ชีวิตเสเพลอยูข่ า้ งนอก หากไม่ใช่กลัวเสี ย
มารยาท เจียงไป๋ คงจะเมินนางไปแล้ว
“ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไร ไหนเลยจะต้องรบกวนนายท่านของข้าด้วย
เล่า บ่าวมาก็พอแล้ว” เจียงไป๋ หลุบตาลง ท่าทางเคารพอย่างยิง่ เขา
กระแอมไล่เสมหะ เลียนแบบคําพูดนายของเขา “จางหร่ วนหลี่ห
ร่ วนอะไร ตัวข้าจวิน้ อ๋ องไม่รู้จกั ตัวข้าจวิน้ อ๋ องร่ างกายอ่อนแอตั้งแต่
เล็ก แม้จะรักษาจิตใจให้บริ สุทธิ์กไ็ ม่รู้วา่ จะสามารถมีชีวิตอยูจ่ นถึง
วันที่แก่ตายได้หรื อไม่ เหตุใดถึงยังมีคนเข้ามาข้างกายตัวข้าจวิน้ อ๋ อง
อยูอ่ ีก ถามจางหร่ วนหรื อหลี่หร่ วนผูน้ ้ ีดูสิวา่ นี่คือการทดแทน
บุญคุณหรื อว่าล้างแค้น ข้าฆ่าล้างตระกูลนางหรื อว่าขุดหลุมศพ
บรรพบุรุษตระกูลนางทําให้นางทุ่มเทกายใจอยากจะทําลายตัวข้า
จวิน้ อ๋ องหรื อไม่”
หยุดครู่ หนึ่ง เจียงไป๋ คล้ายใคร่ ครวญ หลังจากนั้นก็เลียนแบบต่อ
“จวิน้ จู่เองก็ลาํ บากใจจริ งๆ ทุกข์ระทมใจเพื่อสุ ขภาพของตัวข้าจวิน้
อ๋ อง ยังแบกรับชื่อเสี ยงไม่ดีมากมายเพียงนั้น ตัวข้าจวิน้ อ๋ องละอาย
ใจจริ งๆ!”
คําพูดชุดนี้เจียงไป๋ เลียนแบบได้เหมือนจริ งอย่างถึงที่สุด ทํานองที่
สู งส่ งเป็ นเหนือนัน่ นํ้าเสี ยงที่เย็นยะเยือกนัน่ ราวกับออกมาจากนาย
ของเขา
“ทุกท่าน นี่กค็ ือเจตนารมณ์นายท่านของข้า” เขาพูดไปพลาง มอง
ใบหน้าเสิ่ นเวยด้วยความระมัดระวัง เห็นในแววตานางมีรอยยิม้
กะพริ บผ่าน จึงถอนหายใจอย่างโล่งอกหนึ่งครา อืม ขอเพียงแค่จวิน้
จู่ไม่โกรธก็พอแล้ว
องค์หญิงใหญ่หวั เราะออกมาก่อนแล้ว “ดูสิ อาบอกแล้วว่าโย่วเอ๋ อร์
เป็ นคนลําดับความสําคัญได้ โย่วเอ๋ อร์มีสุขภาพเช่นนั้น โชคดีที่มีเจ้า
เด็กดี ไม่ตอ้ งกลัว ไม่วา่ เรื่ องอะไรอาจะช่วยเหลือเจ้าเอง” กล่าว
กับเสิ่ นเวยด้วยความอ่อนโยนไปพลาง กวาดตามองฟั่นซื่อกับซู
หร่ วนปราดหนึ่งอย่างมีความหมายแฝงนัย
เสิ่ นเวยเองก็แย้มยิม้ ท่าทางไม่ได้ใส่ใจอย่างสิ้ นเชิง “เสด็จอา คุณชาย
ใหญ่ของพวกข้านิสยั เย็นชาเล็กน้อย แต่คนดียงิ่ นัก ปฏิบตั ิต่อหลานก็
ดีเช่นกัน” ตอนนี้ยอ่ มต้องแปะทองบนหน้าสวีโย่ว
ฮูหยินทั้งหมดข้างหลังพากันก่ายหน้าผาก ผิงจวิน้ อ๋ องผูน้ ้ นั ไหนเลย
จะมีนิสยั เย็นชา เห็นชัดๆ ว่าเย็นชาจนผิดมนุษมนาแล้ว ซูหร่ วน
อะไรนี่กไ็ ม่ดูตาม้าตาเรื อเช่นกัน เหตุใดถึงกล้าเข้าใกล้เขา ไม่เห็น
หรื อว่าสตรี สูงศักดิ์ทวั่ ทั้งเมืองหลวงต่างก็ไม่มีความกล้าเช่นนั้น
มีองค์หญิงใหญ่นาํ ฮูหยินทั้งหมดย่อมยกยอเสิ่ นเวย
“จยาฮุ่ยจวิน้ จู่เองก็ทุ่มเทกายใจจริ งๆ หากไม่มีจยาฮุ่ยจวิน้ จู่กนั อยู่
ข้างหน้า ผิงจวิน้ อ๋ องไหนเลยจะแข็งแรงอย่างทุกวันนี้”
“ยังคงเป็ นฝ่ าบาทที่มีพระเนตรเฉียบแหลม มิเช่นนั้นจะพระราชทาน
ฮูหยินที่ดีเพียงนี้ให้ผงิ จวิน้ อ๋ องได้อย่างไร”
“ต่อให้มีคนตํ่าทรามเห็นคนอื่นดีไม่ได้ พูดจาพล่อยๆ ยุแยงตะแคง
รั่ว ต่อไปนี้หากใครพูดถึงจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ไม่ดีอีกแม้แต่ประโยคเดียว
คิดหรื อว่าข้าจะไม่กล้าตบหน้านาง”
ไม่วา่ จริ งหรื อเท็จ แต่ความอิจฉาที่ทุกคนมีต่อเสิ่ นเวยเป็ นเรื่ องที่
แน่นอน ไม่เห็นหรื อว่าผิงจวิน้ อ๋ องล้างมลทินให้จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ดว้ ย
ตัวเอง ดูสิวา่ ภายหลังในเมืองหลวงใครยังกล้าพูดว่าจยาฮุ่ยจวิน้ จู่
โหดเ**้้ยมขี้อิจฉาอีก นางไหนเลยจะขี้อิจฉา นางคิดแทนสุ ขภาพ
ร่ างกายสามีของตนต่างหากเล่า! จะไปหาภรรยาที่ดีเพียงนี้ได้ที่ไหน
อีก
เสิ่ นเวยยิม้ แย้มรับฟัง แต่ความจริ งแล้วแขนต่างก็ขนลุกขนชันไป
ด้วยความสะอิดสะเอียน นางคิดว่าตอนนี้ทวั่ ทั้งร่ างนางมีแสงทอง
เปล่งออกมา ใกล้จะกลายเป็ นพระพุทธเจ้าที่โปรดสรรพสิ่ งบน
ดอกบัวแล้ว
มองกลับกันฟั่นซื่อกับซูหร่ วน ไอหยา ใบหน้านัน่ ยํา่ แย่ไม่นอ้ ยหน้า
กันเลย ฟั่นซื่อยังกล่าว “นับว่าตัวข้าฮูหยินซื่อจื่อมองคนผิดแล้ว ที่แท้
แล้วน้องใหญ่โย่วก็เป็ นคนไม่มีความรับผิดชอบนี่เอง”
เสิ่ นเวยหรี่ ตาลงในชัว่ ขณะ กล่าวอย่างเย็นชา “พี่สะใภ้ใหญ่เลี่ยโปรด
ระวังคําพูด คุณชายใหญ่ของพวกข้าเป็ นอย่างไร มีฝ่าบาทตัดสิ น
ไม่ใช่สตรี เรื อนหลังผูห้ นึ่งเช่นเจ้าจะสอดปากได้”
ฟั่นซื่อไม่ยนิ ยอม ยังคิดจะพูดอะไรต่อ แต่กลับสบสายตาที่น่า
สะพรึ งกลัวทั้งยังเต็มไปด้วยไอสังหารของเสิ่ นเวย ชัว่ ขณะก็ใจเต้น
ไม่กล้าเอ่ยปากแล้ว
องค์หญิงใหญ่เองก็กล่าวตําหนิ “หากภรรยาเลี่ยเอ๋ อร์พดู จาไม่เป็ นก็
อย่าได้เปิ ดปาก พี่สะใภ้กงอ๋ องเล่า จื่อเถิง ส่ งฮูหยินซื่อจื่อไปถาม
พี่สะใภ้กงอ๋ องว่านางสัง่ สอนภรรยาอย่างไร”
“เพคะ บ่าวน้อมรับคําสัง่ ” หญิงรับใช้วยั กลางคนข้างกายองค์หญิง
ใหญ่กา้ วออกมา “ฮูหยินซื่อจื่อ เชิญเจ้าค่ะ”
บนใบหน้าฟั่นซื่อประเดี๋ยวแดงประเดี๋ยวขาว คิดจะไม่ไป แต่กลับไม่
กล้าขัดคําสัง่ ขององค์หญิงใหญ่
เมื่อฟั่นซื่อไปแล้ว เหลือเพียงซูหร่ วนผูเ้ ดียว นางมองแผ่นหลังของ
ฟั่นซื่อ คิดจะตามไปเช่นกัน เจียงไป๋ เปิ ดปาก พูดแล้ว “แม่นางซูจะ
ไปไหนหรื อ นายท่านของข้าสงสัยว่าท่านคือไส้ศึกที่คนชัว่ ส่ งมาข้าง
กายเขาหรื อไม่ พาตัวไป” เขาโบกมือ จู่ๆ ก็มีหญิงชราสองคนที่ไม่รู้
ว่าโผล่ออกมาจากไหน อุดปากของซูหร่ วนลากนางออกไปแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 266-2 สั่ งสอน
เจียงไปคารวะองค์หญิงใหญ่และคนอื่นๆ อีกครั้ง “บ่าวขอตัว
กลับไปรายงานท่านจวิน้ อ๋ องก่อนนะขอรับ ไม่รบกวนท่านทั้งหลาย
ดูงิ้วแล้ว”
ทุกคนต่างก็รังเกียจคนเช่นซูหร่ วนอย่างถึงที่สุด สาหรับทิศทางและ
จุดจบของนางย่อมไม่อาจใส่ใจแน่นอน เร็ วอย่างยิง่ ล่างเวทีงิ้วก็
กลับคืนสู่ บรรยากาศรื่ นเริ งอีกครั้ง
ฉากที่แทรกเข้ามานี้สาหรับคนอื่นแล้วเป็ นเพียงความสนุกสนาน แต่
สาหรับใครบางคนแล้วกลับไม่ได้ง่ายดายเพียงนั้น
คืนนั้น ซูหร่ วนก็ปรากฏตัวอยูบ่ นเตียงของซื่อจื่อจวนกงอ๋ องสวีเลี่ย
ความรู ้สึกของฟั่นซื่อไม่ตอ้ งบอกก็รู้ ส่ วนพวกเขาจะวุน่ วายอย่างไร
เสิ่ นเวยไม่เป็ นห่วงแม้แต่นิดเดียว ไม่ใช่อยากให้ร้ายนางหรื อ นาง
เป็ นลูกพลับนิ่มหรื อไร ไม่แก้เผ็ดกลับมานางจะสมกับเป็ นเสิ่ นเวย
หรื อ
ตอนที่ข่าวๆ นี้ดงั ออกมาจากจวนกงอ๋ อง บางคนก็ไม่เห็นด้วย บาง
คนก็หวั เราะเพียงเท่านั้น ทว่าเหล่าฮูหยินที่นงั่ อยูล่ ่างเวทีงิ้ววันนั้น
กลับเกิดความรู ้สึกตื่นตัวในใจ ตระหนักได้วา่ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ผนู ้ ้ ีไม่ได้
เรี ยบง่ายเพียงนั้นเหมือนอย่างที่นางแสดงออกมา!
วันที่สองสวีฉงั่ สองสามีภรรยายกน้ าชาแก่ญาติ สวีโย่วกับเสิ่ นเวยก็
ให้เกียรติไปร่ วมพิธีอย่างยิง่
ลูกชายคนเล็กแต่งงานสร้างครอบครัว พระชายาจิ้นอ๋ องย่อมดีใจ
อย่างถึงที่สุด ใจป้ าอย่างยิง่ มอบเครื่ องประดับศีรษะไข่มุกสี ชมพู
หนึ่งชุดให้ฉินอิงอิง จิ้นอ๋ องก็ยงั คงให้ซองแดงเช่นเคย
ตอนที่สวีฉงั่ พาฉิงอิงอิงมาคารวะพี่ชายพี่สะใภ้ เสิ่ นเวยก็แสดงออก
อย่างใจกว้างเมตตา มอบเครื่ องประดับเลี่ยมมรกตหนึ่งชุด ทั้งยังอวย
พรให้พวกเขารักกันยืนยาว มีบุตรในเร็ ววัน ระหว่างนางกับฉิ นอิงอิง
ก็ทาได้เพียงเช่นนี้ ต่อหน้าสงบสุ ขตบตา ส่ วนลับหลัง นัน่ ก็ทาได้
เพียงอธิบายด้วยคาว่าเหอๆ
ช่วงนี้ เซี่ยเฟยตกอยูใ่ นสภาพอึดอัดจริ งๆ เหตุใดน่ะหรื อ ตั้งแต่ที่จยา
ฮุ่ยจวิน้ จู่กไู หน่ไนตระกูลเสิ่ นผูท้ ี่ฝ่าบาทพระราชทานบรรดาศักดิ์ผู ้
นั้นรู ้ภูมิหลังฐานะของเขา ชีวิตของเขาก็ตกอยูท่ ่ามกลางไฟนรก ผ่าน
ไปอย่างราบรื่ นไม่ได้เสี ยที
ใช่ เขาซ่อนตัวแล้ว สานักราชบัณฑิตก็ลางาน เรื อนที่ต้ งั เด่นอยูใ่ น
เมืองหลวงก็ไม่กล้าอยูอ่ ีกต่อไปแล้ว ต่อให้เป็ นเช่นนี้จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ก็
ยังไม่ปล่อยเขาไป ไม่สิ ลูกน้องถูกเลือกไปเจ็ดคนแล้ว
ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาที่บาดเจ็บเยอะขึ้นทุกวันๆ ตอนที่ข่าวรายงานเข้ามา
เซี่ยเฟยก็อดั อั้นใจอย่างถึงที่สุด
ใช่ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ไม่ได้ตอ้ งการชีวิตของมือสังหาร แต่ทาร้ายก็ยงั ได้
มิใช่หรื อ เชิญหมอซื้อยาก็ตอ้ งใช้เงินมิใช่หรื อ ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาล้วน
ได้รับบาดเจ็บ เขาจะไปหาใครมาทางาน นี่จึงต้องเสี ยเงินเป็ นจานวน
มาก
ที่ยงิ่ ไปกว่านั้นก็คือ ฝั่งเขาเพิ่งจะได้รับงานมาหนึ่งงาน คนของจยา
ฮุ่ยจวิน้ จู่กไ็ ปถึงแล้ว ซ้ ายังช่วยบุคคลในเป้าหมายไปอีก ทาให้ตอ้ ง
ชดใช้ค่าเสี ยหาย เห็นเงินไหลออกไปราวกับน้ า หัวใจของเซี่ยเฟยก็
เจ็บแปลบ!
หมดหนทาง เซี่ยเฟยทาได้เพียงขอเจรจาสงบศึกด้วยตัวเอง
เทียบกันกับเซี่ยเฟยที่ร้อนใจ เสิ่ นเวยเล่นอย่างสนุกสนาน ตามข่าว
ของสวีโย่ว นางนากองทหารเด็กกับเหล่าทหารลับไปล้อมสกัดมือ
สังหารของกลุ่มมือสังหาร ใช้กลยุทธ์ต่างๆ นานามาสับเปลี่ยน
ทดลองหนึ่งรอบ หนึ่งเดือนสั้นๆ การพัฒนาของกองทหารเด็กก็
ก้าวหน้าอย่างมาก ทุกวันตอนเช้าเห็นเสิ่ นเวย ดวงตาทั้งคู่ของพวก
เขาล้วนแต่เปล่งประกาย “จวิน้ จู่ วันนี้จะออกไปยืดเส้นยืดสาย
เมื่อไร”
ตั้งแต่มาเมืองหลวงกองทหารเด็กก็ไม่เป็ นอิสระเช่นนั้นเหมือนอยูท่ ี่
ซีเจียง วันทั้งวันอยูแ่ ต่ในจวนฟันเสาไม้จนพวกเขาเบื่อนานแล้ว
ตอนนี้จวิน้ จู่พาพวกเขาออกไปยืดเส้นยืดสาย พวกเขาก็เหมือนกับ
เสื อดุร้ายที่ถูกปล่อยออกจากกรง มีความสุ ขยิง่ นัก ไม่กลัวเผชิญหน้า
กับมือสังหารที่มีอุบายมากมายแม้แต่นิดเดียว
ได้รับข้อความที่เซี่ยเฟยส่ งมา เสิ่ นเวยก็ปฏิเสธทันที “เจรจาสงบศึก
หรื อ ได้ แต่รอข้าจับลูกน้องให้ครบสิ บคนก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
คิดถึงตอนนั้นที่บาดแผลบนร่ างนางใช้เวลารักษาอยูเ่ ป็ นเดือน เย่วก์ ยุ้
ก็ยงิ่ นอนอยูบ่ นเตียงเกือบหนึ่งปี ไม่ระบายความแค้นนี้นางจะ
ยินยอมได้อย่างไร เฮ้อ เจ้าหลบต่อไปเถอะ ต่อให้เจ้าหลบอยูใ่ นรู หนู
แต่กถ็ ูกข้าล้วงออกมาอยูด่ ีมิใช่หรื อ
เซี่ยเฟยได้ยนิ คาตอบรับของเสิ่ นเวย ก็แทบจะหน้ามืดล้มพับ! รังแก
คนเกินไปแล้ว รังแกคนเกินไปแล้ว! เขาเซี่ยเฟยที่ควบคุมกลุ่มมือ
สังหารด้วยตัวเองได้รับความเคียดแค้นเช่นนี้เมื่อไรกัน แต่…เฮ้อ คน
อยูใ่ ต้ชายคา จาใจต้องก้มหน้าเสี ย!
เหตุใดจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ถึงหาที่ซ่อนตัวของเขาเจอได้อย่าง่ายดายเพียงนี้
เล่า เหตุใดจับคนออกมาได้อย่างแม่นยา ไม่ใช่เพราะว่าภูมิหลังของ
ตนถูกคนอื่นกุมไว้นานแล้วหรอกหรื อ ผิงจวิน้ อ๋ องผูน้ ้ นั เป็ นคนที่เขา
หวาดกลัวที่สุด
ได้ๆๆ สิ บคนก็สิบคน เลือกไปแล้วเจ็ดคน เหลืออีกแค่สามคน หลัง
ลูกน้องสิ บคนถูกเลือกเสร็ จแล้ว กลุ่มมือสังหารก็สูญเสี ยครอบครัว
ไปครึ่ งหนึ่ง เซี่ยเฟยเจ็บใจไปพลาง ไล่ลูกน้องออกไปพลาง เหลือกุง้
แห้งกระจอกๆ เพียงไม่กี่ตวั คอยรับมืออยูท่ ี่นนั่ เขาเสี ยใจอีกครั้งที่
เหตุใดถึงไปยุแหย่นางปี ศาจเช่นนี้ คนที่แก้แค้นแม้แต่เรื่ องเล็กน้อยผู ้
นี้ เฮ้อ หากรู ้ก่อนว่าจะมีวนั นี้ แม้วา่ จะให้เงินเขามากกว่านี้กไ็ ม่อาจ
รับการซื้อขายครั้งนี้เป็ นอันขาด!
เสิ่ นเวยกลับรักษาคาพูด แม้วา่ ลูกน้องสามคนนั้นที่เหลืออยูจ่ ะไม่ทา้
สู ้แม้แต่นิดเดียว แต่เห็นแก่เซี่ยเฟยที่ทิ้งเงินทองอัญมณี ไม่นอ้ ยไว้ให้
นางอย่างรู ้จกั วางตัวอย่างยิง่ นางยังคงตัดสิ นใจให้โอกาสหนึ่งครั้ง
แก่เขาด้วยความใจกว้าง
“ข้าจะเรี ยกเจ้าว่าหัวหน้าเซี่ย หรื อว่าจะเรี ยกเจ้าว่าราชบัณฑิตเซี่ยดี”
เสิ่ นเวยมองเซี่ยเฟยที่เข้ามาเพียงคนเดียว กล่าวถามอย่างหยอกล้อ
มุมปากเซี่ยเฟยกระตุกเล็กน้อย “ตามแต่จวิน้ จู่จะพอใจ” ไม่วา่ จะ
เรี ยกเขาอย่างไรเขาก็ตอ้ งยอมรับหมดมิใช่หรื อ
เสิ่ นเวยมองท่าทางอึดอัดของเซี่ยเฟย ยิม้ แล้ว “หัวหน้าเซี่ยไม่คิดจะ
หลบต่อไปแล้วหรื อ”
มุมปากของเซี่ยเฟยกระตุกอีกครั้ง ตีคนไม่ตบหน้า จยาฮุ่ยจวิน้ จู่เจ้า
เผยจุดอ่อนเช่นนี้จะดีจริ งๆ หรื อ แต่เห็นผิงจวิน้ อ๋ องที่นงั่ อยูข่ า้ งๆ
เซี่ยเฟยก็ไม่กล้าออกความคิดเห็น ประสานมือกล่าว “จวิน้ จู่ได้โปรด
เข้าใจ”
“พูดดี พูดดี” เสิ่ นเวยหัวเราะฮ่าๆ “ตัวข้าจวิน้ จู่เองก็ไม่ใช่คนไม่ใช่
คนอาฆาตจนเกินเหตุ หัวหน้าเซี่ยเจ้าเองก็รู้ดีแก่ใจว่าเหตุใดข้าถึง
เลือกลูกน้องสิ บคนของเจ้า เป็ นกลุ่มมือสังหารของเจ้าที่ผิดใจข้า
ก่อนจริ งๆ เจ้าเองก็อย่าพูดว่าที่มือสังหารทาคือธุรกิจสังหารคนอะไร
ให้ขา้ ได้ยนิ ข้าไม่บีบบังคับให้เจ้าเปิ ดเผยข้อมูลผูว้ า่ จ้างก็เป็ นการให้
เกียรติเจ้าเท่าไรแล้ว แต่หากตัวข้าจวิน้ จู่ไม่ระบายความเคียดแค้นนี้ก็
จะไม่สบายใจ สถานการณ์อ่อนแอกว่าคน ดังนั้นเจ้าจึงต้องรับไว้”
เสิ่ นเวยใช้อานาจกดดันอย่างมีเหตุมีผล
“ขอรับ จวิน้ จู่พดู ถูก นี่เป็ นข้อแลกเปลี่ยนที่กลุ่มมือสังหารของข้า
ต้องแลก” เซี่ยเฟยกลับยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ต่อให้บีบบังคับ
เขาก็ให้ขอ้ มูลผูว้ า่ จ้างไม่ได้ ผูว้ า่ จ้างในธุรกิจนี้ลึกลับ ตัวเขาเองยัง
ไม่ได้สืบหาจนรู ้ชดั เลย
เซี่ยเฟยผูน้ ้ ีกลับเป็ นบุคคลที่ยกขึ้นได้กว็ างลงได้ยงิ่ นัก! ในดวงตา
เสิ่ นเวยมีความชื่นชมแวบผ่าน
“ดังนั้นมาถึงตรงนี้บุญคุณความแค้นระหว่าพวกเราก็นบั ว่าหมดแล้ว
หัวหน้าเซี่ยวางใจ หลังจากนี้ตวั ข้าจวิน้ จู่จะไม่หาเรื่ องเจ้าอีก แน่นอน
ว่านี่กเ็ ป็ นเพราะพวกเจ้ากลุ่มมือสังหารไม่ได้ขดั เงื่อนไขแรกของข้า”
เสิ่ นเวยกล่าวด้วยความสบายใจอย่างถึงที่สุด ในสายตามีความเย็นยะ
เยือกกะพริ บผ่าน
ลมหายใจที่เซี่ยเฟยอัดอั้นไว้นบั ว่าปล่อยออกมาแล้ว “ขอบคุณจวิน้ จู่
ยิง่ นักที่เข้าใจ จวิน้ จู่วางใจ หลังจากนี้กลุ่มมือสังหารถอยให้ห่างจาก
จวิน้ จู่” คนโง่จึงจะไปยัว่ ยุนางอีก เด็กคนนี้โหดเ**้้ยมเกินไปแล้ว
เซี่ยเฟยเองก็ปรับตัวให้เขากับสถานการณ์ได้ แต่ประโยคต่อมาของ
เสิ่ นเวยกลับทาให้เขาทุกข์ใจขึ้นมาอีกครั้ง “ในเมื่อบุญคุณความแค้น
ก่อนหน้านี้สะสางไปแล้ว เช่นนั้นพวกเราก็มาคุยเรื่ องหลังจากนี้ต่อ”
เรื่ องหลังจากนี้ง้ นั หรื อ ไม่ใช่เสร็ จหมดแล้วหรื อ เซี่ยเฟยมองเสิ่ นเวย
ไม่เอ่ยปาก
เสิ่ นเวยเห็นเซี่ยเฟยมีท่าทางเตรี ยมรับศึกใหญ่ ก็ไม่รู้สึกขบขัน กล่าว
“พวกเราเองก็นบั ได้วา่ ไม่ตีกไ็ ม่รู้จกั ท่านจวิน้ อ๋ องของพวกข้าเองก็
ชื่นชมหัวหน้าเซี่ยเป็ นอย่างยิง่ สานสัมพันธ์ไว้กไ็ ม่เสี ยหาย อย่างไร
เสี ยมีมิตรมากก็มีลู่ทางมาก ไม่วา่ อย่างไรกลุ่มมือสังหารก็ไม่ได้เป็ น
ธุรกิจที่สุจริ ตสักเท่าไร ส่ วนท่านจวิน้ อ๋ องของพวกข้าก็ดูแล
กรมปัญจทิศรักษานครพอดี หัวหน้าเซี่ยคิดเห็นว่าอย่างไร” เสิ่ นเวยอ
ยากจะลากเซี่ยเฟยมาลงเรื อลาเดียวกับพวกเขาอย่างยิง่ หลายครั้ง
หลายคราวประโยชน์ที่สามารถได้จากมือสังหารยังคงมีเยอะอย่างยิง่
ในใจเซี่ยเฟยหวาดกลัวในชัว่ ขณะ แม้วา่ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่จะพูดตาม
อาเภอใจ แต่เซี่ยเฟยยังคงได้ยนิ การคุกคามจากในนั้น อีกทั้งยังจับ
จุดอ่อนของเขาได้จริ งๆ กลุ่มมือสังหารเดิมก็ดาเนินการอยูใ่ นที่มืด
เดิมก็ไม่ยงุ่ กับจวนขุนนางและราชสานัก เขาสามารถออกจากงาน
ราชการได้ แต่ดว้ ยนิสยั ของผิงจวิน้ อ๋ องผูน้ ้ นั จะยอมปล่อยเขาไปหรื อ
คืนวันเหล่านี้เขาได้ความรู ้ใหม่เกี่ยวกับกาลังของผิงจวิน้ อ๋ องและจยา
ฮุ่ยจวิน้ จู่แล้ว เพียงแค่เด็กที่ยงั ไม่โตเป็ นผูใ้ หญ่ใต้บงั คับบัญชาของจ
ยาฮุ่ยจวิน้ จู่กไ็ ม่อาจดูถูกได้แล้ว หากปราบปรามกลุ่มมือสังหารของ
เขาจริ งๆ เขาเองก็ทาได้เพียงยืนมองอยูเ่ ฉยๆ
เสิ่ นเวยเห็นเขาลังเลไม่แน่ใจ ก็ไม่ได้เร่ งรัด เพียงแค่กล่าวอย่างไม่
สนใจ “หัวหน้าเซี่ยกังวลอะไรก็พดู มาตรงๆ พวกเราเพียงแค่เจรจา
ความสัมพันธ์ส่วนตัว อย่างไรเสี ยก็มีมิตรภาพนัง่ เฝ้าจวนเสนาบดีฉิน
ร่ วมกัน ท่านจวิน้ อ๋ องของพวกเราจะปฏิบตั ิต่อเจ้าอย่างไม่เป็ นธรรม
ได้อย่างไร”
เซี่ยเฟยขนหัวลุก จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ผนู ้ ้ ีกมุ จิตใจคนได้จริ งๆ จวนเสนาบดี
ฉิน… ช่างเถอะ ช่างเถอะ ก็แค่เชื่อฟังจยาฮุ่ยจวิน้ จู่แล้วอย่างไร เซี่ย
เฟยหัวเราะเจื่อนหนึ่งครา กล่าว “ทั้งหมดตามแต่ที่จวิน้ จู่วา่ ”
เสิ่ นเวยยกมุมปากอย่างพอใจ กล่าวปลอบ “หัวหน้าเซี่ยเจ้าเองก็อย่า
คิดมาก ตัวข้าจวิน้ จู่กบั ท่านจวิน้ อ๋ องไม่ได้มีเจตนาจะสอดมือเข้ามา
ยุง่ ในกลุ่มมือสังหาร เพียงแค่พ่ งึ พาอาศัยกันไว้ดีกว่าแก้กเ็ ท่านั้นเอง
จะว่าไปแล้ว ยังคงเป็ นหัวหน้าเซี่ยที่ได้ผลประโยชน์เยอะยิง่ กว่า”
เซี่ยเฟยคิดใคร่ ครวญ ขอเพียงแค่สามีภรรยาโหดเ**้้ยมคู่น้ ีไม่สอด
มือเข้ามายุง่ ในธุรกิจของกลุ่มมือสังหาร เช่นนั้นการยอมรับก็ง่าย
ยิง่ ขึ้นแล้ว คิดกลับกัน ยังคงเป็ นอย่างที่จยาฮุ่ยจวินจู่วา่ ไว้จริ งๆ ฝั่ง
ตนได้ผลประโยชน์เยอะยิง่ กว่า อย่างไรเสี ยมีผบู ้ ญั ชาการกองปั ญจ
ทิศรักษานครปกป้อง หลังจากนี้ลู่ทางของพวกเขาก็จะสะดวกมาก
ขึ้น
“เช่นนั้นก็ขอให้พวกเราร่ วมมือกันอย่างมีความสุ ข!” เสิ่ นเวยมองเซี่ย
เฟยยิม้ แย้มเบิกบาน รู ้วา่ เขาคิดดีแล้ว ในใจก็ดีใจอย่างถึงที่สุด ให้ตาย
เถอะ นี่ถือเป็ นการที่ขนุ นางกับโจรสมคบคิดกันหรื อไม่
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 267-1 พายุปกคลุมนครหลวง
ประกาศผลการสอบคัดเลือกช่วงสารทฤดูของเซี่ยหมิงผูถ่ ูกส่ งกลับ
มานานแล้ว เขาเองก็สอบได้เจี้ยหยวนอันดับหนึ่งของท้องถิ่น
เช่นกัน เพียงแต่คนยังต้องอยูร่ ่ วมงานเลี้ยงในท้องที่ ยังไม่มา คาดว่า
ก่อนปี ใหม่น่าจะมาถึงเมืองหลวง
เสิ่ นเวยได้รับข่าวแล้วก็กาลังคิด เซี่ยหมิงผูก่ บั เว่ยจิ่นอวี้ที่เป็ นเจี้ย
หยวนเหมือนกันการสอบขั้นฮุ่ยซื่อในช่วงวสันตฤดูปีหน้าผูใ้ ดจะ
เป็ นที่หนึ่ง นางหวังให้เป็ นเซี่ยหมิงผู่ แม้วา่ เว่ยจิ่นอวี้จะเป็ นน้องเขย
นาง แต่ส่วนลึกภายในใจนางกลับไม่ชอบหมอนี่แม้แต่นิดเดียว
ฝั่งเสิ่ นเวยสร้างมิตรภาพกับเซี่ยเฟยแล้ว ฝั่งนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวปู่ นาง
ก็ถูกลอบสังหาร อ้อไม่ อันที่จริ งต้องบอกว่าฮ่องเต้ยงเซวียนถูกลอบ
สังหาร ส่ วนราชครู เสิ่ นนายท่าผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวที่เป็ นผูต้ ิดตามจึง
รับหน้าแทนเขา
ฮ่องเต้ยงเซวียนถูกลอบสังหาร นี่คือเรื่ องใหญ่ที่สนั่ สะเทือนฝ่ ายราช
สานักและประชาชนมากเพียงใด ไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยามทัว่ ทั้งเมืองหลวง
ก็ประกาศกฎอัยการศึกแล้ว สวีโย่วผูท้ ี่เบื้องหน้าเป็ นผูบ้ ญั ชาการ
กองปัญจทิศรักษานครเบื้องลับเป็ นหัวหน้าสายลับก็รีบไปคุม้ กัน
พระองค์ขา้ งกายฮ่องเต้ยงเซวียนในทันที
เพราะว่าสถานที่ที่ถูกลอบสังหารห่างจากพระราชวังไม่ไกล ฮ่องเต้
ยงเซวียนที่ตื่นตระหนกอย่างยิง่ จึงพานายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวที่ได้รับ
บาดเจ็บเข้าพระราชวังไปพร้อมกัน แม้วา่ เสิ่ นเวยจะเป็ นห่วงอาการ
บาดเจ็บของท่านปู่ นางเพียงใดก็ตอ้ งอดทนรอ ช่วงเวลาคับขันเช่นนี้
นางไม่อาจบุกเข้าพระราชวังได้กระมัง อย่าว่าแต่พระราชวัง ทุกหน
ทุกแห่งบนถนนข้างนอกล้วนเต็มไปด้วยทหารองครักษ์ลาดตระเวน
ทุกคนต่างก็เก็บตัวอยูใ่ นจวน ใครจะกล้าโผล่หน้าออกมา
ทั้งคืนสวีโย่วไม่ได้กลับมา แม้แต่ข่าวก็ไม่ได้ส่งมา เสิ่ นเวยแทบจะ
ไม่ได้หลับทั้งคืน หัวใจจมดิ่งลงเรื่ อยๆ
สวีโย่วรู ้ถึงความผูกพันของนางกับท่านปู่ เขาไม่อาจลืมส่ งข่าวมาให้
นางได้ แต่วา่ ตอนนี้ไม่มีข่าวแม้แต่นิดเดียว เช่นนั้นก็แปลว่าเขาแยก
ร่ างไม่ได้ สถานการณ์ใดที่สามารถทาให้เขาลืมสนใจแม้แต่การส่ ง
ข่าว ฝ่ าบาทแย่แล้ว หรื อว่าปู่ ของนางบาดเจ็บสาหัสเกินไป ไม่วา่ จะ
เป็ นสถานการณ์ใด เสิ่ นเวยก็ไม่กล้าคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมาทั้งสิ้ น
หากฮ่องเต้ยงเซวียนแย่ ไท่จื่อก็สามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้อย่าง
ง่ายดายหรื อ พรรคพวกองค์ชายรองกับท่านเสนาบดีฉินจะปล่อย
โอกาสดีที่พนั ปี ยากจะพบนี้ไปได้หรื อ ไม่ พวกเขาจะต้องไม่ปล่อย
แน่! ถึงตอนนั้นเมืองหลวงจะต้องนองเลือด!
เสิ่ นเวยคิดแล้วก็อกสัน่ ขวัญหาย โดยเฉพาะสวีโย่วที่ยงั อยูใ่ นวัง หาก
องค์ชายรองจะยึดอานาจ คนที่รับมือคนแรกก็คือสวีโย่วที่คุม้ กันอยู่
ข้างกายฮ่องเต้ยงเซวียน! ต่อให้เขาจะมีวิทยายุทธ์ล้ าเลิศแต่จะสู ้กอง
ทหารพันหมื่นได้หรื อไร แม้จะโชคดีหนีเอาตัวรอดได้ ขอเพียงแค่ผู ้
ที่ข้ ึนครองบัลลังก์เป็ นองค์ชายรอง เขาก็จะเป็ นขุนนางกบฏอย่าง
แท้จริ ง! ชัว่ ชีวิตหลบหนีไปทัว่ ชีวติ เช่นนั้นนางยอมตายอย่างเกริ ก
ก้องยังดีกว่า อีกทั้งข้างหลังนางยังกระทบไปถึงครอบครัวใหญ่
หากท่านปู่ แย่แล้ว แม้วา่ สถานการณ์จะดีข้ ึนเล็กน้อย แต่กไ็ ม่ได้ดีกว่า
เท่าไรนัก หากท่านปู่ มีอนั เป็ นไป จวนจงอู่โหวใครจะแบกธงใหญ่
ได้ ต่อให้มีบุณคุณช่วยชีวิตพระองค์ของท่านปู่ ฝ่ าบาทดูแลมากขึ้น
แต่จะดูแลไปได้อีกกี่ปี
เสิ่ นเวยว้าวุน่ ใจ ถือโอกาสเรี ยกอาจารย์ซูกบั โอวหยางไน่เข้ามา
ปรึ กษา
อาจารย์ซูท่าทางเคร่ งขรึ มมากเป็ นพิเศษ “จวิน้ จู่ พวกเราต้องวางแผน
ไว้สองทางแต่เนิ่นๆ” สิ่ งที่เขารู ้กม็ ีไม่มาก แต่จากข่าวที่ไม่มากนี้เขา
เองก็สมั ผัสได้แล้วว่าบรรยากาศที่ปกคลุมอยูบ่ นท้องฟ้าเมืองหลวง
ไม่เหมือนเดิม
เสิ่ นเวยเข้าใจความหมายของอาจารย์ซูทนั ที พยักหน้ากล่าว “ก็ใช่
กันไว้ดีกว่าแก้” จากนั้นจึงหันหน้าสัง่ โอวหยางไน่ “เพิม่ การเตรี ยม
ป้องกันลาดตระเวนภายในจวนให้เข้มงวด ทหารคุม้ กันจวนกับกอง
ทหารเด็กทั้งหมดสับเปลี่ยนเวรพักผ่อน ทั้งหมดเข้าสู่ สถานะพร้อม
รบขึ้นสู งสุ ด”
คิดครู่ หนึ่งจึงกล่าวอีกหนึ่งประโยค “สัง่ คนไปดูที่จวนจงอู่โหว
เตือนให้ท่านลุงใหญ่ดูแลประตูให้ดี”
อาจารย์ซูมองเสิ่ นเวย กล่าวปลอบ “ไม่มีข่าวก็คือข่าวที่ดีที่สุดแล้ว
จวิน้ จู่เองก็ไม่จาเป็ นต้องกังวลเกินไปนัก ไปพักสักครู่ เถิด ในจวนผู ้
ชราจะดูแลแทนท่านเอง”
“เช่นนั้นก็ลาบากอาจารย์ซูแล้ว” เสิ่ นเวยตอบรับอย่างตรงไปตรงมา
นางต้องดูแลกาลังวังชาให้เพียงพอเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่
อาจรู ้ในวันพรุ่ งนี้
ตอนนี้ภายในพระตาหนักใหญ่ที่ฮ่องเต้ยงเซวียนทรงจัดการกิจธุระ
จุดไฟสว่างไสว เขาเม้มปากแน่นยืนอยู่ หลังตรงเป็ นแนว มีความ
เคร่ งขรึ มราวกับเขาสู งริ มเหวชนิดหนึ่ง ขันทีใหญ่จางเฉวียนโค้งตัว
ยืนอยูข่ า้ งๆ ในใจก็เต้นรัวเช่นกัน
ให้ตายเถอะ นี่คือการลอบสังการ! การลอบสังหารที่ใช้ดาบจริ งหอก
จริ ง! ฝ่ าบาทเองก็เกิดความคิดจะไปเยีย่ มดูบา้ นเมืองได้ทุกเมื่อ เหตุ
ใดข่าวถึงรั่วไหลออกไปได้ หากไม่มีราชครู เสิ่ นสละชีพกันไว้
เช่นนั้น กระบี่เล่มนั้นก็คงจะแทงเข้าสู่ ข้ วั หัวใจของฝ่ าบาทแล้ว หาก
ฝ่ าบาทมีอนั เป็ นไป เขาที่เป็ นคนข้างกายฝ่ าบาทจะตายดีได้อย่างไร
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ในใจจางเฉวียนก็ซาบซึ้งราชครู เสิ่ นอย่างถึงที่สุด
นอกตาหนักมีเสี ยงฝี เท้าดังเข้ามา ฮ่องเต้ยงเซวียนที่ยนื หันหลังก็หนั
กลับมาทันที เพ่งมองสวีโย่วที่กา้ วเท้าเดินเข้ามา
“ฝ่ าบาท ขันทีนอ้ ยหน้าพระพักตร์หายไปผูห้ นึ่ง นามว่าจางอิง” สวี
โย่วกล่าวรายงาน หากมองดูให้ดียงั สามารถสังเกตเห็นได้วา่ ชายเสื้ อ
มุมหนึ่งของเขาเปื้ อนคราบเลือดสี แดงคล้ าอยู่
ความเย็นเยียบหนึ่งสายแวบผ่านดวงตาฮ่องเต้ยงเซวียน เขาโกรธ
อย่างถึงที่สุดแต่กลับยิม้ “ดี ดี ดี ยืน่ มือมาถึงข้างกายเราแล้ว สื บ เป็ น
ต้องเห็นคน ตายต้องเห็นศพ เรากลับอยากดูวา่ ใครกันที่คิดจะเอา
ชีวิตเรา!”
“น้อมรับพระราชโองการ!” สวีโย่วตอบรับเสี ยงเย็นเยียบ จากนั้นจึง
ออกไปอย่างรวดเร็ว
เขาเพิ่งจะกุมกองปัญจทิศรักษานคร คนข้างในย่อมไม่กล้าใช้ ทหาร
มังกร นัน่ คือมรดกที่เสด็จปู่ ทิ้งไว้รักษาชีวิตเขา ย่อมไม่อาจใช้ได้ ที่
เขาใช้ได้กม็ ีเพียงทหารเงา นอกพระตาหนักเจาเต๋ อทหารรักษา
พระองค์และทหารเงาคุม้ กันทั้งในที่ลบั และที่แจ้ง คุม้ กันพระ
ตาหนักใหญ่ท้ งั หลังไม่ให้แม้แต่ลมเข้าได้
“ผิงจวิน้ อ๋ อง เสด็จพ่อไม่เป็ นไรใช่หรื อไม่ ราชครู เสิ่ นเป็ นอย่างไร
บ้าง” เมื่อสวีโย่วออกมาจากพระตาหนักเจาเต๋ อก็เห็นไท่จื่อและองค์
ชายหลายพระองค์ที่เฝ้าอยูข่ า้ งนอก บนใบหน้าแต่ละคนมีสีหน้า
กังวล
สวีโย่วทาความเคาพ กล่าวด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย “ฝ่ าบาทไม่เป็ นไร
ไท่จื่อและองค์ชายทุกท่านกลับไปเถิด”
เห็นคนหลายคนถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมกัน ไท่จื่อส่ ายหน้า
กล่าว “กลับไปก็ยงั ไม่วางใจ ไม่สู้เฝ้าอยูน่ อกตาหนักนี้ เช่นนี้จึงจะ
ได้อยูใ่ กล้เสด็จพ่อหน่อย”
เพราะว่าฮ่องเต้ยงเซวียนมีพระราชโองการ ไม่วา่ ใครก็ตามที่ไม่ผา่ น
พระราชโองการให้เข้าเฝ้าก็หา้ มก้าวเข้ามาในพระตาหนักเจาเต๋ อ
แม้แต่ครึ่ งก้าว ดังนั้นแม้วา่ พวกเขาองค์ชายเหล่านี้อยากจะรู ้
สถานการณ์ของฮ่องเต้ยงเซวียน ก็ไม่กล้าบุกเข้าไป ไท่จื่ออิจฉาริ ษยา
ผิงจวิน้ อ๋ องที่สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระยิง่ นัก
องค์ชายรองเองก็กล่าว “ไท่จื่อพูดถูก พวกเรารออยูข่ า้ งนอกคุม้ กัน
เสด็จพ่อ สบายใจกว่าเล็กน้อย”
ไท่จื่อกับองค์ชายรองต่างก็พดู เช่นนี้ องค์ชายสามและองค์ชายที่อายุ
น้อยคนอื่นๆ ที่ไม่ค่อยได้รับความสาคัญย่อมไม่ควรกลับไป ส่ วน
องค์ชายใหญ่ สายข่าวของเขาช้าเกินไป กว่าเขาจะทราบข่าว
พระราชวังกระทัง่ เมืองหลวงทั้งเมืองก็ประกาศใช้กฎอัยการศึกแล้ว
สวีโย่วตีหน้าตาย “กระหม่อมยังมีงาน ไม่รบกวนไท่จื่อและองค์ชาย
ทั้งหลายแล้ว” ประสานมือคารวะนาคนจากไป
มีองค์ชายอายุนอ้ ยผูน้ ้ นั จ้องมองแผ่นหลังที่เดินออกไปไกลของสวี
โย่วแล้วกล่าวเสี ยงเบา “ผิงจวิน้ อ๋ องน่าเกรงขามยิง่ นัก” ในน้ าเสี ยง
เต็มไปด้วยความอิจฉา ไท่จื่อกับองค์ชายรององค์ชายสามที่อายุ
มากกว่าก็คล้ายคิดใคร่ ครวญ ก้มหน้าหลุบตาพร้อมกัน
จางเฉวียนในพระตาหนักเจาเต๋ อได้ยนิ ผิงจวิน้ อ๋ องบอกว่าขันที
น้อยหน้าพระพักตร์จางอิงหายตัวไป ขาก็อ่อนลงทันที คุกเข่าลง
เสี ยงดังตุบ “ฝ่ าบาท บ่าวผิดไปแล้ว” ขันทีหน้าพระพักตร์ลว้ นแต่
เป็ นคนที่เขาดูแล อีกทั้งขันทีนอ้ ยนามว่าจางอิงผูน้ ้ ียงั เป็ นคนที่เขา
เลือกไปอยูห่ น้าพระพักตร์เองกับมือ ใครจะรู ้วา่ เขาเป็ นถึงไส้ศึก
โทษที่ไม่รู้จกั คนดูแลไม่ดีเขาหนีไม่พน้ แน่นอน
ฮ่องเต้ยงเซวียนโบกพระหัตถ์ กลับไม่ได้บลั ดาลโทสะ “ลุกขึ้นเถิด!
กลับไปเจ้าก็ตรวจสอบคนที่อยูข่ า้ งกายเราอีกรอบ” ไม่ใช่วา่ เขาเองก็
ชอบขันทีนอ้ ยจางอิงที่ปราดเปรี ยวเอาใจเก่งผูน้ ้ นั เช่นกันหรอกหรื อ
“พะยะค่ะ บ่าวน้อมรับพระราชโองการ” จางเฉวียนซาบซึ้งจนน้ าตา
ไหลลงมา เขาปาดน้ าตาตรงหางตา ตัดสิ นใจเงียบๆ ว่าจะต้อง
ตรวจสอบขันทีหน้าพระพักตร์รวมถึงศิษย์ของเขาอย่างละเอียด จัก
ต้องรับรองได้วา่ ข้างกายฝ่ าบาทขาวสะอาดและปลอดภัย
ฮ่องเต้ยงเซวียนพยักหน้า ถาม “อาการบาดเจ็บของราชครู เป็ น
อย่างไรบ้าง ฟื้ นแล้วหรื อยัง” ตอนนั้นเสิ่ นผิงยวนเลือดไหลมาก
สถานการณ์คบั ขัน เขาจึงพาเสิ่ นผิงยวนเข้าวัง จัดเตรี ยมให้อยูท่ ี่
ตาหนักข้าง
จางเฉวียนกล่าว “ก่อนหน้านี้บ่าวไปดูแล้วรอบหนึ่ง ใต้เท้าย่วนพัน่
กาลังนาคนมาวินิจฉัยโรคและล้างพิษ บอกว่าบนกระบี่เล่มนั้นชุบยา
พิษ แต่ราชครู เสิ่ นกลับยังไม่ฟ้ื น”
“ตอนนี้เจ้าไปดูอีก บอกเจี่ยงย่วนพัน่ ว่า จักต้องรักษาชีวิตของราชครู
ให้ได้ ต้องการยาอะไรไม่ตอ้ งกลับมารายงานเรา ไปเอาที่
ท้องพระคลังได้เลย” ฮ่องเต้ยงเซวียนตรัสสัง่ เขานึกถึงการลอบ
สังหารก่อนหน้านี้ในใจก็ยงั คงหวาดกลัว ตอนที่กระบี่ล้ าค่าที่แหลม
คมสองเล่มพุง่ เข้ามาจะทาร้ายเขา เขาก็คิดว่าชีวิตของตนจะดับสิ้ น
แล้วจริ งๆ
เป็ นเสิ่ นผิงยวนข้างกายเขาที่ตอบสนองไว เท้าถีบมือสังหารผูห้ นึ่ง
จากนั้นจึงผลักเขา ชัว่ พริ บตาก็หลบกระบี่ล้ าค่าหนึ่งเล่มไปแต่กลับ
หลบไม่พน้ อีกหนึ่งเล่ม เสิ่ นผิงยวนใช้ร่างบังไว้ขา้ งหน้าเขาอย่างไม่
มีแม้แต่ความลังเล ตะโกนเสี ยงดัง “มีมือสังหาร รี บปกป้อง
พระองค์!”
เสิ่ นผิงยวนได้รับบาดเจ็บเจียนตายจากมือสังหารที่พยายามจะทาร้าย
เขาสองคน ตั้งแต่ตน้ จนจบคุมกันอยูข่ า้ งหลังเขาอย่างแน่นหนา เมื่อ
ทหารรักษาพระองค์ทหารคุม้ กันวิ่งเข้ามาปกป้องพระองค์แล้ว
โลหิตตรงหน้าอกของเสิ่ นผิงยวนก็เปื้ อนเสื้ อผ้าจนเป็ นสี แดง
ระหว่างทางกลับวังเขาก็หมดสติไป
เมื่อนึกถึงเสิ่ นผิงยวนที่นอนไม่รู้เป็ นตายร้ายดีอยูใ่ นตาหนักข้าง มือ
ข้างลาตัวของฮ่องเต้ยงเซวียนก็กาแน่นทันที วันนี้หากไม่มีราชครู
หรื อว่าราชครู ไม่มีความสามารถที่กล้าหาญ เช่นนั้นตอนนี้คนที่นอน
หมดสติไม่ฟ้ื นอยูบ่ นเตียงตอนนี้คงจะเป็ นเขา
จางเฉวียนขานรับหนึ่งคราจากนั้นก็ไปยังตาหนักข้าง “เจี่ยงย่วนพัน่
ใต้เท้าราชครู ดีข้ ึนแล้วหรื อยัง ฝ่ าบาททรงห่วงพระทัย” เขามอง
ราชครู เสิ่ นที่หน้าขาวซีดนอนอยูบ่ นเตียง ในใจก็เป็ นกังวลอย่างถึง
ที่สุด
เจี่ยงพัน่ ย่วนกาลังจับชีพจรให้ราชครู เสิ่ นอยู่ ได้ยนิ ดังนั้นก็ลุกขึ้น
กล่าว “บนกระบี่น้ ีชุดพิษงูหายากชนิดหนึ่งทางตอนใต้ โชคดีที่
ท้องพระคลังยังเก็บบัวหิมะเขาเทียนซานไว้หลายดอก ใช้ยาชั้นยอด
อีกหลายตัวกลับช่วยถอนพิษได้แล้ว เพียงแต่ใต้เท้าราชครู อายุมาก
แล้ว บาดแผลก็ลึกอย่างยิง่ บวกกับเสี ยเลือดไปมาก ไม่รู้เหมือนกัน
ว่าจะทนผ่านด่านนี้ไปได้หรื อไม่” บนใบหน้าเขามีความเป็ นกังวล
ใต้เท้าราชครู ช่วยชีวิตฝ่ าบาทมีคุณูปการ หากช่วยชีวิตเขากลับมา
ไม่ได้ ฝ่ าบาทบัลดาลโทสะขึ้นมา เช่นนั้นสานักหมอหลวงทั้งสานัก
ก็ตอ้ งถูกฝังลงไปพร้อมกันทั้งหมด! มิหนาซ้ ายังอาจจะลามไปถึง
ภรรยาและลูกในตระกูลอีกด้วย เพราะเหตุน้ ีเจี่ยงย่วนพัน่ และหมอ
หลวงคนอื่นๆ จึงใส่ ใจอาการบาดเจ็บของใต้เท้าราชครู เป็ นอย่างยิง่
จางเฉวียนพยักหน้าเบาๆ “ไม่วา่ จะเป็ นอย่างไรเจี่ยงย่วนพัน่ จะต้อง
รักษาชีวิตของใต้เท้าราชครู ให้ได้ ฝ่ าบาท…” เขาชี้ไปยังทิศทางพระ
ตาหนักใหญ่เล็กน้อย
คาพูดที่ไม่ได้พดู มีความหมายว่าอย่างไร ในใจเจี่ยงย่วนพัน่ เข้าใจดี
อย่างถึงที่สุด “หวังว่ากงกงจะกลับไปรายงานฝ่ าบาท พวก
กระหม่อมจะต้องทุ่มเททั้งกายและใจ” เพื่อชีวิตของครอบครัว
ตนเองเขาก็ตอ้ งทุ่มเทเช่นกัน!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 267-2 พายุปกคลุมนครหลวง
ตอนที่ฟ้าใกล้สาง สวีโย่วเข้ามารายงาน “ฝ่ าบาท พบจางอิงแล้ว เขา
ตายแล้ว ศพถูกโยนไว้ในบ่อน้ าแห้ง กระหม่อมตรวจสอบคนใน
ตระกูลข้างนอกของเขาแล้ว หลายวันก่อนก็หายตัวไปอย่างไร้
ร่ องรอยแล้ว”
“ดูท่าแล้วเรื่ องนี้วางแผนมาดี” เสี ยงของฮ่องเต้ยงเซวียนสงบนิ่งอย่าง
ถึงที่สุด มิน่าเล่าเมื่อวานตอนที่จางอิงปรนนิบตั ิกเ็ อ่ยถึงจวี่จื่อในการ
สอบข้าราชการปี นี้ นี่เป็ นการโน้มน้าวให้ตนเกิดความคิดออกจากวัง
“สื บต่อ สื บหาว่าจางอิงผูน้ ้ ีเข้าวังมาได้อย่างไร ปกติสนิทกับผูใ้ ดใน
วัง เราไม่เชื่อว่าจะสื บไม่ได้เบาะแสแม้แต่นิดเดียว” เสี ยงที่เข้มงวด
ของฮ่องเต้ยงเซวียนดังขึ้นอีกครั้ง
“กระหม่อมน้อมรับพระราชโองการ” อันที่จริ งฮ่องเต้ยงเซวียนเพียง
แค่สงั่ ให้เป็ นพิธีกเ็ ท่านั้น ต่อให้เขาไม่พดู สวีโย่วก็ตอ้ งสื บหาอยูด่ ี
“ฝ่ าบาท ไท่จื่อกับองค์ชายหลายพระองค์ต่างก็รออยูน่ อกพระ
ตาหนัก” สวีโย่วที่เดิมหมุนตัวกาลังจะไปพลันกล่าวขึ้น
ในดวงตาที่สงบนิ่งไร้คลื่นของฮ่องเต้ยงเซวียนมองไม่เห็นความสัน่
ไหวใดๆ “ให้พวกเขากลับไปให้หมด สงบจิตใจอยูใ่ นห้องบรรทม
ของตนเอง อย่าได้มารบกวน” ใครจะรู ้วา่ มือสังหารครั้งนี้เป็ นฝี มือ
ของเด็กไม่กี่คนนั้นหรื อไม่
สวีโย่วขานรับหนึ่งคราแล้วจึงเดินไปข้างนอกต่อ ออกจากพระ
ตาหนักเจาเต๋ อแล้วก็ถ่ายทอดพระราชดารัสของฮ่องเต้ยงเซวียน แม้
ไท่จื่อและคนอื่นๆ จะผิดหวังเล็กน้อย แต่กจ็ ากไปอย่างเชื่อฟัง
มองท้องนภาที่เริ่ มมีแสงสี ขาวทางทิศตะวันออก สวีโย่วจึงนึกถึงปู่
เวยเวยของเขาในตาหนักข้าง หนึ่งคืนไม่ได้กลับ ซ้ ายังไม่มีข่าว
แม้แต่นิดเดียว เวยเวยอยูใ่ นจวนคงจะต้องรอจนร้อนใจแล้วกระมัง
ขณะที่เขาคิดเช่นนี้ ก็หมุนตัวเดินไปยังตาหนักข้างอย่างไม่ลงั เลเลย
แม้แต่นอ้ ย
เสิ่ นเวยที่ทนทรมานมาทั้งคืนกว่าจะงีบลงได้พกั หนึ่ง ไม่รู้วา่ งีบไป
นานเท่าไร ลืมตาขึ้นอย่างรดวเร็ วลุกพรวดขึ้นมาจากเตียง “กี่ยาม
แล้ว”
“ทูลจวิน้ จู่ เพิ่งจะยามเหม่าเจ้าค่ะ” หลีฮวารี บเดินเข้ามา “จวิน้ จู่ ยัง
เช้าอยู่ ท่านงีบต่ออีกสักพักดีหรื อไม่” เห็นเส้นเลือดในดวงตาของ
เสิ่ นเวย หลีฮวาก็กล่าวด้วยความสงสารนางอย่างถึงที่สุด คานวณ
แล้วจวิน้ จู่เพิ่งจะนอนไปได้ไม่ถึงหนึ่งชัว่ ยาม
เสิ่ นเวยใช้มือลูบใบหน้าเล็กน้อย ลงจากเตียงทันที “ไม่นอนแล้ว”
หยุดครู่ หนึ่งจึงถามต่อ “เมื่อวานในจวนเกิดเรื่ องอะไรขึ้นหรื อไม่”
หลีฮวาพลางก้าวขึ้นมาเปลี่ยนชุดให้เสิ่ นเวย พลางส่ ายหน้ากล่าว
“ไม่มีเจ้าค่ะ มีอาจารย์ซูนงั่ บัญชาการ ในจวนทุกอย่างล้วนเป็ นปกติ
ดี”
เสิ่ นเวยพยักหน้า ไม่ได้พดู อะไรต่อ
ในขณะนี้เองในที่สุดข่าวของสวีโย่วก็ถูกส่ งกลับมาแล้ว ผูท้ ี่กลับมา
คือเจียงไป๋ เขากล่าวเสี ยงเบา “จวิน้ จู่ นายท่านไม่เป็ นอะไร ฝ่ าบาท
ไม่เป็ นอะไร อาการบาดเจ็บของราชครู เสิ่ นสาหัสเล็กน้อย เมื่อวาน
ทั้งคืนยังไม่ฟ้ื น ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ฟ้ื นแล้วหรื อยัง นายท่านให้
ท่านสงบจิตใจอยูใ่ นจวน เขาจะดูแลใต้เท้าราชครู เอง” พูดเพียงไม่กี่
ประโยคเท่านี้กร็ ี บออกไปแล้ว
จิตใจที่เป็ นกังวลมาโดยตลอดของเสิ่ นเวยนับได้วา่ วางลงครึ่ งหนึ่ง
แล้ว ขอเพียงแค่ฮ่องเต้ยงเซวียนไม่เป็ นอะไร เช่นนั้นราชสานักก็ไม่
อาจสัน่ คลอน ราชสานักมัน่ คง เช่นนั้นในเมืองหลวงกระทัง่ ใต้หล้า
ทั้งหมดก็มนั่ คงด้วยเช่นกัน
แต่เมื่อนึกถึงเจียงไป๋ ที่บอกว่าท่านปูหมดสติไม่ฟ้ื น หัวใจทั้งดวงของ
เสิ่ นเวยก็เริ่ มร้อนรนขึ้นมาอีกครั้ง อยากจะเข้าวังไปเยีย่ มปู่ นางทันที
ไม่เห็นกับตา หัวใจของนางก็วางไม่ลง!
กินข้าวสองคาลวกๆ เสิ่ นเวยก็นงั่ ไม่ติดแล้ว สัง่ คนไปเรี ยกหมอหลิว
ตั้งใจเข้าวังทันที
แม้นางจะรู ้วา่ ในวังมีหมอหลวงผูเ้ ชี่ยวชาญการแพทย์ ฝ่ าบาทเองก็
ไม่อาจปฏิบตั ิต่อปู่ นางอย่างไม่เป็ นธรรม แต่นางก็ยงั คงเชื่อหมอหลิว
ตามจิตใต้สานึก คราวก่อนที่ซีเจียง ไม่ใช่หมอหลิวหรื อที่ช่วยชีวิตปู่
นางไว้
“จวิน้ จู่!” อาจารย์ซูที่รู้วา่ เสิ่ นเวยจะเข้าวังก็รีบตามเข้ามา กลับไม่ได้
ห้ามนาง แต่กระซิบหลายประโยคข้างหูนาง เสิ่ นเวยกะพริ บตา พยัก
หน้า
อาจารย์ซูประสานมือ “จวิน้ จู่วางใจไปเถิด ผูช้ ราจะดูแลจวนให้เป็ น
อย่างดี”
“ไปจวนองค์หญิงใหญ่” เสิ่ นเวยสัง่ โอวหยางไน่ที่ขบั รถม้า เมื่อครู่
อาจารย์ซูเสนอความคิดเห็นให้นางไปหาองค์หญิงใหญ่ จวิน้ จู่เพียงผู ้
เดียวเช่นนั้นอาจจะไม่มีน้ าหนักมากพอ แต่บวกองค์หญิงใหญ่ผู ้
ศักดิ์สิทธิ์ผนู ้ ้ ีเข้าไป นัน่ ก็เพียงพอแล้ว ไม่มีใครกล้าขวางไม่ให้องค์
หญิงใหญ่เข้าวัง
บนถนนเส้นใหญ่ยงั คงมีทหารคุม้ กันกาลังตรวจตราอยูจ่ านวนมาก
ั ลักษณ์ของจวนผิงจวิน้ อ๋ อง แม้จะเป็ นเช่นนี้กย็ งั
รถที่เสิ่ นเวยนัง่ มีสญ
ถูกตรวจสอบรอบหนึ่ง
องค์หญิงใหญ่ได้ยนิ เจตนาในการมาของเสิ่ นเวย ไม่พดู พร่ าทาเพลง
ก็ตามเสิ่ นเวยขึ้นรถแล้ว เมื่อคืนนางก็ได้รับข่าว ทราบว่าฮ่องเต้งยงเซ
วียนไม่เป็ นอะไรนางก็ไม่ได้เข้าวัง แต่อย่าไรเสี ยก็เป็ นเสด็จพี่มารดา
เดียวกัน ไม่ไปดูกบั ตานางจะวางใจได้อย่างไร ต่อให้เสิ่ นเวยไม่มา
หานางนางก็เตรี ยมจะเข้าวังอยูด่ ี
“ราชครู เสิ่ นถูกพิษ แต่วา่ ในวังมียาชั้นยอดถอนพิษจานวนมาก เมื่อ
คืนถอนพิษแล้ว ราชครู เสิ่ นเป็ นคนดียอ่ มมีพระคุม้ ครอง ไม่อาจเป็ น
อะไรได้” องค์หญิงใหญ่มองใบหน้าที่ดูเหนื่อยล้าของเสิ่ นเวย กล่าว
ปลอบ
เสิ่ นเวยพยักหน้าอย่างซาบซึ้ง แต่ไม่เห็นคนหัวใจนางก็ยงั คงวางไม่
ลง
มีองค์หญิงใหญ่อยู่ เสิ่ นเวยตามหลังนางเข้าพระราชวังได้อย่าง
สะดวกยิง่ ขึ้น เมื่อมาถึงนอกพระตาหนักเจาเต๋ อจึงถูกขวางไว้ “องค์
หญิงใหญ่ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ ฝ่ าบาทมีคาสัง่ ไม่ได้รับอนุญาติจากฝ่ าบาท
ห้ามเข้าพระตาหนักพะยะค่ะ”
หัวหน้าเล็กกองทหารรักษาพระองค์ลาบากใจอย่างถึงที่สุด เขาขวาง
องค์หญิงใหญ่กบั จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ไว้จะดีจริ งๆ หรื อ อย่าว่าแต่องค์หญิง
ใหญ่ เพียงแค่จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ผนู ้ ้ ีขา้ งหลัง ก็แต่งงานกับผิงจวิน้ อ๋ อง! ผิง
จวิน้ อ๋ องได้รับความสาคัญจากฝ่ าบาทมากเพียงใด เมื่อคืนเขาเห็น
ชัดเจนแจ่มแจ้ง แม้แต่ไท่จื่อกับองค์ชายทั้งหลายยังเข้าพระตาหนัก
เจาเต๋ อไม่ได้ ทว่าผิงจวิน้ อ๋ องกลับเข้าๆ ออกๆ เสมือนเป็ นบ้านของ
ตัวเอง
ตอนนี้เขาขวางจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ไว้ จะไม่ถูกโจมตีแก้แค้นจริ งๆ ใช่
หรื อไม่ แต่ไม่ขวาง ก็เห็นชัดๆ อยูว่ า่ ฝ่ าบาททรงมีพระราชโองการ
“เช่นนั้นรบกวนเจ้าไปรายงานแทนตัวข้าองค์หญิงสักหน่อยเถิด”
องค์หญิงใหญ่เองกลับไม่ทาให้เขาลาบากใจ
หัวหน้าเล็กกองทหารรักษาพระองค์ถอนหายใจหนึ่งคราอย่างโล่
งอก เพิ่งจะหันหลังกลับเข้าพระตาหนักก็เห็นขันทีใหญ่จางกงกงข้าง
กายฝ่ าบาทรี บออกมาแล้ว “องค์หญิงใหญ่ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ ฝ่ าบาทเชิญ
ท่านเข้าพระตาหนักพะยะค่ะ” ที่แท้แล้วฮ่องเต้ยงเซวียนก็ได้ยนิ การ
เคลื่อนไหวข้างนอกแล้ว ตั้งใจให้จางเฉวียนออกมารับคน
“เสด็จน้องกับจยาฮุ่ยมาแล้ว!” ฮ่องเต้ยงเซวียนวางแก้วชาในมือลง สี
หน้าบนใบหน้าแย่เล็กน้อย แม้วา่ แย่ แต่ดูแล้วก็ยงั ดีอยู่
“เสด็จพี่ท่านไม่เป็ นอะไรก็ดีแล้ว เหตุใดถึงเจอมือสังหารได้เล่า
ฐานะสู งศักดิ์ ย่อมเสี่ ยงอันตราย เสด็จพี่ท่านก็เหมือนกัน ความ
ปลอดภัยของท่านเกี่ยวข้องกับดินแดนต้ายงทั้งหมด เหตุใดถึงออก
จากวังตามอาเภอใจได้เล่า” องค์หญิงใหญ่เห็นฮ่องเต้ยงเซวียนไม่
เป็ นไร ขณะที่วางใจก็อดตาหนิข้ ึนมาไม่ได้
แต่ไหนแต่ไรฮ่องเต้ยงเซวียนรักน้องสาวผูน้ ้ ี รู ้วา่ นางเป็ นห่วงตนเอง
จริ งๆ จึงยิม้ กล่าว “พี่กไ็ ม่เป็ นไรมิใช่หรื อ เสด็จน้องวางใจ ก็แค่พวก
คนชัว่ เท่านั้นเอง”
ทว่าองค์หญิงใหญ่กลับถลึงตาใส่ เขา “ใช่ โชคดีที่ราชครู เสิ่ นตามไป
ด้วย มิเช่นนั้น…หึ!” หลังจากนั้นองค์หญิงใหญ่กเ็ ปลี่ยนเรื่ องถามถึง
ราชครู เสิ่ น “อาการบาดเจ็บของใต้เท้าราชครู เป็ นอย่างไรบ้าง อาโย่ว
ไม่ได้กลับทั้งคืน จยาฮุ่ยอยูใ่ นจวนก็เป็ นห่วงยิง่ นัก ข้าจึงถือโอกาส
พานางเข้าวังมาด้วย”
ฮ่องเต้ยงเซวียนเพิ่งทอดพระเนตรไปทางเสิ่ นเวย “ครึ่ งชัว่ ยามก่อน
ราชครู เพิ่งฟื้ น เพียงแต่ยงั อ่อนแออย่างยิง่ ตอนนี้น่าจะกาลังทานยา
อยู”่ ดวงตากะพริ บวาบกล่าวต่อ “วันนี้จยาฮุ่ยไม่พดู แล้วหรื อ เราจา
ได้วา่ เจ้ามีวาทศิลป์ เป็ นเลิศ” อาจเป็ นเพราะราชครู เสิ่ นฟื้ นแล้ว
ฮ่องเต้ยงเซวียนจึงดีพระทัยอย่างยิง่ คาดไม่ถึงว่ามีอารมณ์มาหยอก
ล้อเสิ่ นเวยแล้ว
เสิ่ นเวยมุมปากกระตุกเล็กน้อย ให้ตาย ฮ่องเต้ยงเซวียนหมอนี่สมกับ
เป็ นจักรพรรดิจริ งๆ ไหนเลยจะดูออกว่าเพิ่งจะผ่านการลอบสังหาร
มา
“ฝ่ าบาท จยาฮุ่ยอยากเยีย่ มท่านปู่ เพคะ” เสิ่ นเวยร้องขอ
ฮ่องเต้ยงเซวียนทรงโบกพระหัตถ์ กล่าวอย่างเรี ยบง่าย “ไปเถิด จาง
เฉวียน เจ้าพาจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ไป”
ตอนที่เสิ่ นเวยตามจางเฉวียนไปถึงตาหนักข้างก็เห็นปู่ นางกาลังดื่ม
ยาอยู่ “ท่านปู่ ” เสิ่ นเวยเร่ งฝี เท้าหลายเก้าวิ่งเข้าไป
“เวยเอ๋ อร์เข้าวังมาได้อย่างไร” ราชครู เสิ่ นเห็นหลานสาวของตน บน
ใบหน้าก็เผยรอยยิม้ ที่อ่อนแรงออกมา
“ท่านปู่ ท่านบาดเจ็บตรงไหน” เสิ่ นเวยรับถ้วยยาจากมือหมอหลวง
เข้ามาด้วยความคล่องแคล่วอย่างยิง่ นางมองใบหน้าที่ขาวซีดราวกับ
หิมะของปู่ นาง ในใจเจ็บปวดยิง่ นัก
แต่ไหนแต่ไรปู่ นางก็เป็ นผูเ้ ฒ่าที่มีกาลังวังชา เดินกระฉับกระเฉง สี
หน้าเปล่งปลัง่ มีชีวิตชีวายิง่ กว่าพ่อนางลุงทั้งหลายของนางเสี ยอีก
ทว่าตอนนี้กลับพิงหัวเตียงอย่างไร้เรี่ ยวแรง ร่ างทั้งร่ างต่างก็ดูแก่ข้ ึน
สิ บปี เสิ่ นเวยมองแล้วก็อดแสบจมูกไม่ได้ น้ าตาแทบจะไหลลงมา
ราชครู เสิ่ นเห็นท่าทางหลานสาวคนเล็ก ในใจก็อบอุ่น กล่าวปลอบ
“ปู่ ไม่เป็ นไร พักฟื้ นไม่กี่วนั ก็หายแล้ว ที่สาคัญคือคราวนี้บาดเจ็บ
ตรงแผลธนูคราวก่อนพอดี ชะตาปู่ แข็งยิง่ นัก เวยเอ๋ อร์ไม่ตอ้ งเป็ น
ห่วง” ลูกหลานทัว่ ทั้งจวนมีเพียงเวยเอ๋ อร์ที่คิดหาวิธีเข้าวังมาหาเข้า
แม้จะบอกว่าพระราชวังเข้มงวด แม้แต่การว่าราชการตอนเช้าก็งด
ไม่อนุญาตให้ขนุ นางในราชสานักเข้าวังตามอาเภอใจ แต่เขาบาดเจ็บ
เพราะช่วยฝ่ าบาท ฝ่ าบาทจะยังปฏิเสธการเยีย่ มของคนในครอบครัว
อย่างไร้เมตตาได้จริ งๆ หรื อ เหล่าต้า…เฮ้อ! ราชครู เสิ่ นถอนหายใจ
ในใจ
แม้วา่ ในใจเสิ่ นเวยจะลาบากใจ แต่กย็ งั พยักหน้า ถาม “ท่านปู่ ท่าน
ออกจากวังกลับจวนได้เมื่อไร” ในเมื่อท่านปู่ นางฟื้ นแล้ว บาดแผล
เองก็ได้รับการรักษาที่ดีแล้ว เช่นนั้นก็ไม่ตอ้ งให้หมอหลิวเข้ามาแล้ว
ราชครู เสิ่ นกล่าว “ปู่ ทานยาเสร็ จแล้วก็จะไปกล่าวลาฝ่ าบาท”
พระราชวังใช่ที่ที่ขนุ นางชั้นผูใ้ หญ่สามารถอยูต่ ามอาเอภใจได้หรื อ
ไร ก่อนหน้านี้เขาหมดสติกไ็ ม่เป็ นไร ตอนนี้เขาฟื้ นแล้วไม่อาจอยูใ่ น
พระราชวังต่อได้เป็ นอันขาด
แม้เสิ่ นเวยจะเป็ นห่วงอาการบาดเจ็บของปู่ นาง แต่กลับหวังว่าเขาจะ
กลับจวนไปพักฟื้ นร่ างกาย อย่างไรเสี ยก็ไม่มีที่ไหนสุ ขใจเท่าบ้าน
ของตนเอง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 268-1 หย่ งกัว๋ กง
ฮ่องเต้ยงเซวียนตั้งใจย้ายราชรถส่ งราชครู เสิ่ นออกจากวัง นอกจาก
หมอหลวงชื่อดังสองท่านที่ตามไปด้วย ยังมีบาเหน็จนับไม่ถว้ น เห็น
ได้ถึงความโปรดปรานของฮ่องเต้ยงเซวียน ดังนั้นคาพูดที่วา่
คุณูปการสู งส่ งยังไม่เท่าช่วยชีวิตฮ่องเต้มีเหตุผลอย่างยิง่ อันที่จริ ง
ตามเจตนารมณ์ของฮ่องเต้ยงเซวียนก็ตอ้ งการจะพระราชทาน
บรรดาศักดิ์ ทาให้ราชครู่ เสิ่ นตกใจจนไม่สนอาการบาดเจ็บบน
ร่ างกายคุกเข่าขอปฏิเสธ
ราชครู เสิ่ นเป็ นคนฉลาดอย่างแท้จริ ง สุ ภาษิตว่าไว้ศีรษะใหญ่เท่าใด
จงสวมหมวกที่ใหญ่เท่านั้น บุตรหลานตระกูลเขาไม่ได้โดดเด่นมาก
นัก ฝ่ าบาทโปรดปรานมากเกินไปจะง่ายต่อการเด่นจนถูกอิจฉา เมื่อ
เขาไม่อยูแ่ ล้ว ตระกูลเสิ่ นจะไม่กลายเป็ นเนื้อบนเขียงของตระกูลอื่น
หรื อ ไม่สู้อยูอ่ ย่างธรรมดาสามัญเช่นนี้ ก็สามารถให้ฝ่าบาทดูแลชน
รุ่ นหลังตระกูลเสิ่ นได้มากขึ้นหลายส่ วน
หลังราชครู เสิ่ นไปแล้ว ฮ่องเต้ยงเซวียนประทับอยูใ่ นพระตาหนักเจา
เต๋ อยิง่ คิดก็ยงิ่ รู ้สึกว่าราชครู เสิ่ นเป็ นขุนนางภัคดีผยู ้ งิ่ ใหญ่ ไม่มีจิตใจ
เห็นแก่ตวั แม้แต่นิดเดียว ขุนนางภัคดีควรได้รับบาเหน็จ มิเช่นนั้นใช่
จะทาให้คนผิดหวังหรื อไม่ ดังนั้นยังคงต้องปูนบาเหน็จให้มาก เขา
ไตร่ ตรองอยูค่ รู่ ใหญ่ หยิบพูก่ นั เขียนพระราชโองการ อืม ด้วย
คุณูปการของราชครู แล้วปูนบาเหน็จอะไรก็ไม่พอทั้งสิ้ น เช่นนั้นก็
พระราชทานบรรดาศักดิ์กวั๋ กงแล้วกัน หย่งกัว๋ กง! ได้ เอาเช่นนี้
แหละ!
ราชครู เสิ่ นเพิ่งจะกลับไปถึงจวนจงอู่โหว พระราชโองการ
พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็ นกัว๋ กงของฮ่องเต้ยงเซวียนก็มาถึง
แล้ว ราชครู เสิ่ นพยายามจะลุกขึ้นคุกเข่ารับพระราชโองการ ถูกขันที
ใหญ่จางเฉวียนที่ยมิ้ ราวกับพระสังกัจจายน์หา้ มไว้ “ใต้เท้าราชครู ยงั
บาดเจ็บอยู่ ฝ่ าบาททรงมีพระราชดารัส ใต้เท้าราชครู นอนก็ได้ ไม่
จาเป็ นต้องคุกเข่า”
ราชครู เสิ่ นเองก็ลุกไม่ข้ ึนจริ งๆ ทรมานอยูใ่ นวังคราวนั้นสู บพลัง
ทั้งหมดของเขาไปแล้ว จึงทาได้เพียงประสานมือไปยังทิศ
พระราชวังด้วยสี หน้าซีดเซียว กล่าวอย่างอ่อนแรง “กระหม่อมน้อม
สานึกในพระกรุ ณาธิคุณของฝ่ าบาท”
จางเฉวียนประกาศพระราชโอการแล้วจึงจากไปอย่างยิม้ แย้ม คนทุก
ระดับชั้นในจวนจงอู่โหวก็ดีอกดีใจ มีความสุ ขยิง่ กว่าตอนที่เสิ่ นเวย
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็ นจวิน้ จู่ อย่างไรเสี ยเสิ่ นเวยก็
เป็ นบุตรสาว ต้องแต่งออกข้างนอก เพียงแค่มีชื่อเสี ยงไพเราะ แต่
ผลประโยชน์แท้จริ งที่นามาสู่ จวนจงอู่โหวกลับมีไม่เยอะ
หย่งกัว๋ กงยศนี้ของราชครู เสิ่ นแตกต่างไป นี่คือบรรดาศักดิ์กวั๋ กงที่
แท้จริ ง สามารถสื บทอดไปถึงลูกหลานรุ่ นหลังได้ ดังนั้นจงอู่โหว
เสิ่ นหงเหวินกับโหวฮูหยินสวี่ซื่อจึงรับแขกที่มาอวยพรถึงหน้าประตู
ไปพลาง จัดการธุระรักษาอาการบาดเจ็บของบิดาให้เหมาะสมไป
พลาง
เสิ่ นเวยเองก็กลับจวนจงอู่โหวเช่นกัน แม้วา่ จะมีหมอหลวงที่ฝ่าบาท
ส่ งมา แต่นางก็ยงั คงพาหมอหลิวกลับมาด้วย อันที่จริ งส่ วนลึก
ภายในใจเสิ่ นเวยหวังว่าท่านปู่ จะสามารถไปรักษาตัวที่จวนผิงจวิน้
อ๋ องได้ แต่ยคุ โบราณไม่มีกฎระเบียบนี้ เสิ่ นเวยทาได้เพียงวาง
ความคิดลง
คนที่มาเยีย่ มราชครู เสิ่ นถึงหน้าประตูท้ งั หมดล้วนถูกปฏิเสธ เหตุผล
แน่นอนว่าเป็ นความจริ ง ราชครู เสิ่ นบาดเจ็บสาหัสเพียงนั้น ย่อมต้อง
พักผ่อนอย่างสงบ แต่ละคนๆ มารบกวนเขาเช่นนี้หมายความว่า
อย่างไร ดังนั้นไม่วา่ ทุกคนจะมีคนมาที่บา้ นมากน้อยเพียงใดล้วนแต่
มีเสิ่ นหงเหวินสามพี่นอ้ งคอยต้อนรับ ไม่มีสกั คนที่สามารถเห็นหน้า
ราชครู เสิ่ นได้
ด้วยเหตุน้ ีในเมืองหลวงจึงเกิดข่าวลือ บอกว่าราชครู เสิ่ นช่วยชีวติ ฝ่ า
บาทบาดเจ็บสาหัส ไม่รู้เหมือนกันว่าสามารถอยูไ่ ด้อีกนานเพียงใด
มีคนใจดาพูดว่าใช้หนึ่งชีวิตแลกกับบรรดาศักดิ์กวั๋ กงยังนับว่าคุม้ ค่า
อย่างยิง่
แต่ที่ทาให้ทุกคนจับต้นชนปลายไม่ถูกก็คือ ไม่วา่ จะเป็ นฝ่ าบาท หรื อ
ว่าจวนจงอู่โหว ล้วนแต่ไม่สะทกสะท้านต่อข่าวลืออย่างสิ้ นเชิง ราว
กับว่ายอมรับโดยนัย ข่าวลือก็ค่อยๆ น้อยลง กลับไม่ได้หายไป แต่
เปลี่ยนเป็ นคานินทาลับหลังแทน
“อาจารย์เริ่ นคิดเห็นอย่างไรต่อหย่งกัว๋ กงผูน้ ้ ีของพวกเรา” ท่าน
เสนาบดีฉินหยิบหมากหนึ่งตัวขึ้นมาวางลงเบาๆ วาจาสบายใจ คล้าย
กับพลันนึกขึ้นได้
นายทหารผูช้ ่วยเริ่ นหงซูไตร่ ตรองครู่ หนึ่งจึงกล่าว “ฟังว่าราชครู เสิ่ น
บาดเจ็บสาหัส ทาให้โรคเก่ากาเริ บ ตอนที่ออกจากพระราชวังก็หมด
สติตลอดทาง จนถึงตอนนี้ลว้ นแต่มีหมอหลวงเฝ้าทั้งวันทั้งคืน
ผูน้ อ้ ยเกรงว่าคราวนี้ราชครู เสิ่ นจะมีโชคร้ายมากกว่าโชคดีแล้ว”
ท่านเสนาบดีฉินวางหมากอีกหนึ่งตัว ศีรษะส่ ายเล็กน้อย “ข้าคิดว่า
อาจจะไม่ใช่ อย่างอื่นไม่วา่ จวนจงอู่โหวไม่วนุ่ วายแม้แต่นิดเดียว!”
นอกจากขัดขวางคนที่มาเยีย่ มราชครู เสิ่ นทั้งหมดแล้ว การ
เปลี่ยนแปลงอื่นๆ ก็ไม่มีเลยแม้แต่นอ้ ย ยังคงทาในสิ่ งที่ควรทาอยู่
“บางที…อาจจะเป็ นแผนลวงข้าศึกเงียบๆ?” เริ่ นหงซูดวงตากะพริ บ
วาบกล่าว
ท่านเสนาบดีฉินมองกระดานหมากปราดหนึ่ง กล่าวช้าๆ “ก็เป็ นไป
ได้ หากได้เห็นราชครู เสิ่ นสักหน่อยก็คงจะดี” ประโยคหลังเขาพูด
ด้วยความเสี ยดายอย่างมาก เสิ่ นผิงยวนจิ้งจอกเฒ่าพันปี ตัวนั้น ไม่
เห็นด้วยตาตัวเอง เขาก็ไม่วางใจ!
ดวงตาเริ่ นหงซูเป็ นประกายอีกครั้ง กล่าวเสี ยงเบา “ฟังว่าเรื อนของ
ราชครู เสิ่ นถูกล้อมจนแม้แต่น้ าก็ซึมเข้าไปไม่ได้ นอกจากจงอู่โหว
แล้วก็มีเพียงจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ที่สามารถเข้าออกได้”
“จยาฮุ่ยจวิน้ จู่!” ท่านเสนาบดีฉินยิม้ เล็กน้อย “นางกลับว่างยิง่ นัก”
เช่นนั้นต้องหาเรื่ องให้นางทาสักหน่อยแล้ว!
เสิ่ นเวยกาลังนัง่ พูดคุยกับปู่ นางอยูข่ า้ งเตียง ในมือกาลังถือส้มปอกอยู่
ส่ งเข้าปากทีละกลีบๆ ข้างหลังปู่ นางพิงหมอนใบใหญ่ที่เสิ่ นเวยเอา
เข้ามาสองใบกึ่งนัง่ กึ่งนอน
ช่วงนี้นางแทบจะวิง่ มาที่บา้ นฝั่งมารดาทุกวัน มาแล้วก็มารายงานตัว
ที่เรื อนปู่ นาง บางครั้งดึกแล้วก็ไม่กลับ พักอยูท่ ี่เรื อนเฟิ งหวาก่อน
ออกเรื อนของนาง
พูดถึงเรื อนเฟิ งหวา ตั้งแต่ที่เสิ่ นเวยออกเรื อนคนที่เพ่งเล็งมันก็มีไม่
น้อย ฮูหยินรองจ้าวซื่อก็เคยคิดจะให้บุตรสาวนางเสิ่ นเซวียนย้ายเข้า
มาอยู่ เสิ่ นเย่วบ์ า้ นสามเองก็เคยคิด แต่วา่ ก็เพียงแค่คิด นางรู ้ดีอยูแ่ ก่
ใจอย่างยิง่ รู ้วา่ เรื อนของพี่สาวไม่อาจตกมาถึงนางได้ กระทัง่ สวีซ่ ื่อก็
ยังเกิดความคิด อยากเปลี่ยนเรื อนหลังนั้นให้เป็ นเรื อนหอลูกชายของ
นาง ซ้ ายังโน้มน้าวท่านโหวเสิ่ นหงเหวินแล้วด้วย
เสิ่ นหงเหวินเองก็ไม่ได้ใส่ ใจ เพียงแค่เรื อนหนึ่งหลังก็เท่านั้น เวย
เอ๋ อร์แต่งออกไปแล้ว หรื อว่าจะยังครอบครองเรื อนบ้านฝั่งมารดาอยู่
อีกเชียวหรื อ เขาเอ่ยปากกับบิดาเขา ถูกบิดาเขาก่นด่าใส่ หน้าโครมๆ
พักหนึ่ง ‘เจ้าเป็ นถึงท่านโหวแล้ว เหตุใดสายตาถึงได้ต้ืนเขินเพียงนั้น
แตะต้องเรื อนของหลานสาว เจ้ายังมีหน้าอยูไ่ ด้อย่างไร เวยเอ๋ อร์กลับ
บ้านฝั่งมารดาเจ้าจะให้นางไปอยูท่ ี่ใด’
เสิ่ นหงเหวินถูกบิดาเขาก่นด่า ก็ตะโกนกล่าว ‘ไม่ใช่ ไม่ใช่ยงั มีเรื อน
อีกหลายหลังหรื อไร เวยเอ๋ อร์กลับมาอย่างมากก็พกั เพียงแค่หนึ่งคืน
เรื อนหลังไหนไม่อาจใช้ได้บา้ ง’
ใบหน้านั้นของราชครู เสิ่ นดาจนแทบจะบีบน้ าออกมาได้ กล่าวด่า
ด้วยความเจ็บใจที่ไม่อาจหลอมเหล็กให้กลายเป็ นเหล็กกล้าได้ ‘เจ้า
ลืมไปแล้วใช่หรื อไม่วา่ เวยเอ๋ อร์เป็ นจวิน้ จู่ เจ้าจะให้จวิน้ จู่ผยู ้ งิ่ ใหญ่
ไปพักเรื อนแขกหรื อ เจ้ากล้านักนะ! ข้ายังมีชีวิตอยูเ่ จ้าก็ปฏิบตั ิต่อ
หลานสาวอย่างโหดร้ายเช่นนี้แล้ว หากข้าตาย ลูกหลานจวนทั้งหลัง
จะยังมีลู่ทางอยูอ่ ีกหรื อไม่’
ราชครู เสิ่ นโมโหจนอยากจะฟาดลูกชายสักทีจริ งๆ ‘โง่เขลา โง่เขลา
ข้าทากรรมไว้ในชาติไหนถึงได้มีลูกที่โง่เช่นเจ้า เจ้าจาใส่ หวั ไว้เลย
เรื อนเฟิ งหวาไม่วา่ ใครก็หา้ มแตะต้อง เก็บไว้ให้เวยเอ๋ อร์ เก็บไว้ชวั่
ชีวิต! หากใครบังอาจยืน่ กรงเล็บเข้ามา ข้าจะสับแขนของเขาเสี ย’
ราชครู เสิ่ นโมโหจนหายใจหอบ ด่าลูกชายจนหน้าแดงหูแดงเงยหน้า
ไม่ข้ ึนยังไม่พอ ท้ายที่สุดก็สงั่ อย่างกระหื ดกระหอบ ‘ไป เขียนเรื่ องนี้
ลงในกฎตระกูลเดี๋ยวนี้ หากใครไม่ปฏิบตั ิตามก็ไล่ออกไปจาก
ตระกูลเสี ย ตระกูลเสิ่ นของข้าไม่มีลูกหลานอกตัญญูเช่นนี้’
เสิ่ นหงเหวินรองรับความโกรธอยูท่ ี่เรื อนบิดาเขา กลับไปแล้วก็
ตาหนิสวี่ซื่ออีกครั้ง ‘เจ้ามันตาตื้น เวยเอ๋ อร์เป็ นจวิน้ จู่ เรื อนของนาง
เจ้าจะแตะต้องได้อย่างไร’ สะบัดแขนเสื้ อเดินออกไป
สวีซื่อโมโหจนหงายหลัง นอกจากแอบตาหนิวา่ พ่อสามีลาเอียงแล้ว
กลับไม่มีหนทางเลยแม้แต่นิดเดียว
จ้าวซื่อบ้านรองดูดว้ ยความสนุกสนานอย่างยิง่ มีความสุ ขบนความ
ทุกข์ของผูอ้ ื่น ทว่าในใจกลับแอบดีใจที่ตนเพียงแค่คิดในใจไม่ได้
ป่ าวประกาศออกไป มิเช่นนั้นวันนี้คนที่โดนด่าจนขายหน้าก็คงจะ
เป็ นนาง
เรื่ องนี้เสิ่ นเวยเองก็ทราบ อย่างไรเสี ยน้องเจวี๋ยน้องชายมารดา
เดียวกันของนางก็ยงั อยูใ่ นจวน เรื อนเฟิ งหวานั้นนางเองก็ทิ้งคนดูแล
เรื อนไว้ เพียงแต่เห็นแก่ท่านปู่ ที่รักนางเพียงนั้นจึงแสร้งทาเป็ นไม่รู้
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 268-2 หย่ งกัว๋ กง
ราชครู เสิ่ นมองหลานสาวที่กินอย่างเอร็ ดอร่ อย บนใบหน้าก็เผย
รอยยิม้ น้อยๆ อย่างอดไม่ได้ เจ้าเองก็กินให้นอ้ ยหน่อย กินมากจะ
เป็ นร้อนใน หากเจ้าชอบกิน ฝ่ าบาทพระราชทานให้หนึ่งตะกร้าใหญ่
กลับไปเจ้าก็เอากลับไปให้หมด”
เสิ่ นเวยส่ ายหน้า “ยุง่ ยากเกินไป วางไว้ที่เรื อนท่านปู่ เถอะ อย่างไร
เสี ยหลานก็มาทุกวัน”
รอยยิม้ บนใบหน้าของราชครู เสิ่ นกว้างยิง่ ขึ้น “ดูเจ้าสิ เกียจคร้าน! วัน
ทั้งวันเจ้าวิง่ มาที่บา้ นฝั่งมารดา สามีของเจ้าไม่วา่ หรื อไร” ตั้งแต่ที่เขา
กลับจวนรักษาตัว เด็กคนนี้ก็อยูต่ รงหน้าเขาไม่ไปไหน ในขณะที่เขา
ชื่นชมและดีใจก็เป็ นกังวลอย่างไม่อาจเลี่ยง ไหนเลยจะมีบุตรสาวที่
ออกเรื อนแล้วแต่กลับบ้านฝั่งมารดาทุกวัน
เสิ่ นเวยกล่าวอย่างไม่สนใจ “เขายุง่ ข้าแทบจะลืมไปแล้วว่าเขา
หน้าตาอย่างไร ข้าอยูใ่ นจวนหรื อไม่เขาก็ไม่รู้ ยิง่ ไปกว่านั้นนี่ไม่ใช่
เพราะท่านปู่ ได้รับบาดเจ็บหรื อ ความกตัญญูมาก่อน ข้าเป็ นหลาน
กตัญญู แม้วา่ จะเป็ นฝ่ าบาทก็ไม่อาจบอกว่าข้าผิดได้!” เสิ่ นเวยคุยโว
อย่างไม่ละอายใจ มัน่ อกมัน่ ใจยิง่ นัก
หยุดครู่ หนึ่งจึงกล่าวต่อ “หลานไม่ใช่เคยบอกท่านแล้วหรื อ บนโลก
นี้มีผหู ้ ญิงอยูส่ องประเภทที่น่ากลัวที่สุด หนึ่งคือผูห้ ญิงที่บา้ นฝั่ง
มารดามีเงิน สองคือตนเองมีเงิน”
หากไม่ใช่วา่ เป็ นห่วงบาดแผล ราชครู เสิ่ นก็อยากจะหัวเราะร่ าฮ่าๆ
จริ งๆ มองหลานสาวของเขาด้วยความชื่นชม กล่าว “สมกับที่เป็ น
หลานสาวของข้าเสิ่ นผิงยวน” กล่าวต่อ “เป็ นเพราะสามีเจ้าตามใจเจ้า
เด็กนัน่ ยังนับว่าใช้ได้ เจ้าต้องใช้ชีวิตกับเขาให้ดี มีหลานชายตัวขาว
จ้ าม่าให้ขา้ หนึ่งคน”
เสิ่ นเวยกลอกตา กล่าวอย่างไม่ยนิ ยอม “เหตุใดถึงจะต้องเป็ น
หลานชายเล่า หลานสาวไม่ได้หรื อ ท่านปู่ ท่านให้ความสาคัญกับ
ชายมากกว่าหญิง ความคิดเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด”
“ได้ๆๆ หลานสาวก็ได้ ออกดอกก่อนแล้วค่อยออกผลก็เป็ นลางที่ดี
ว่ากันว่าลูกสาวเหมือนพ่อ ได้หน้าตาเช่นสามีเจ้ามาก็ไม่เลว
เหมือนกัน” ราชครู เสิ่ นรี บกล่าวปลอบ
เสิ่ นเวยแสยะปากไม่พอใจยิง่ ขึ้น จ้องมองปู่ นางปราดหนึ่งด้วย
ความแค้นใจ กล่าวเสี ยงเบา “หน้าเหมือนข้าแล้วจะแต่งไม่ออกหรื อ
ไร ไม่ใช่วา่ หลานคุยโวโอ้อวด ด้วยใบหน้านี้ของหลาน เป็ นที่หนึ่ง
ในเมืองหลวงไม่ได้ แต่สามอันกับแรกห้าอันดับแรกก็ยงั เป็ นได้มิใช่
หรื อ”
ท่าทางขี้อวดเช่นนั้นทาให้ราชครู เสิ่ นหัวเราะเบาๆ อีกครั้ง แทบจะ
กระเทือนบาดแผล เสิ่ นเวยสะดุง้ จนรี บก้าวเข้าไป “ท่านปู่ แม้หลาน
จะพูดความจริ ง แต่ท่านก็ตอ้ งเก็บอาการหน่อย! ร่ างท่านยังบาดเจ็บ
ยังบาดเจ็บอยู!่ ” อย่างไรเสี ยก็ไม่กล้าหลอกให้ปู่นางหัวเราะอีก
ในดวงตาทหารคนสนิทที่รับใช้อยูใ่ นห้องก็มีรอยยิม้ แวบผ่าน ยังคง
เป็ นคุณหนูสี่ที่ใส่ ใจนายท่านผูเ้ ฒ่าโหว ขอเพียงแค่นางมา นายท่านผู ้
เฒ่าโหวก็สามารถมีความสุ ขไปได้ท้ งั วัน ดื่มยากินข้าวอย่างว่าง่าย
ไม่เรื่ องมากแม้แต่นิดเดียว
ส่ วนเด็กนัน่ ที่ราชครู เสิ่ นพูดข้างนอกห้องได้ยนิ บทสนทนาของสอง
ปู่ หลาน ใบหน้าก็ดาทะมึน แต่เมื่อคิดถึงคาพูดภรรยาของเขาอย่าง
ละเอียด ยังคงถูกต้องจริ งๆ ราชครู เสิ่ นเป็ นคนมีเงิน ภรรยาของเขาก็
ยิง่ เป็ นคนมีเงิน มิน่าเล่าความมัน่ ใจถึงได้มากเพียงนั้น หรื อว่าเขา
ควรจะไปขอเงินส่ วนตัวที่ฝ่าบาทมาบ้าง
เสิ่ นเวยพูดคุยเป็ นเพื่อนปู่ นางอยูส่ กั พัก เห็นสี หน้าเขาเหนื่อยล้า ก็
ปรนนิบตั ิให้ปู่นางนอนลงพักผ่อน เสิ่ นเวยถอยออกมาจากประตู
ห้องแวบแรกก็เห็นสวีโย่วที่ยนื อยูใ่ ต้ตน้ ไม้ใหญ่ในลานบ้าน
“เอ๋ แขกพิเศษนี่นา!” เสิ่ นเวยกระโดดเข้าไปอย่างดีใจ ยิม้ พลางหยอก
เย้าเขาหนึ่งประโยค
ช่วงนี้สวีโย่วยุง่ มากจริ งๆ เช้าตรู่ นางยังไม่ตื่นเขาก็ไปออกว่าราชการ
แล้ว กลางคืนนางหลับไปแล้วเขาก็เพิ่งจะกลับมา
“เวยเวยจะบอกว่า น้อยใจงั้นหรื อ” สวีโย่วอมยิม้ มองนาง มุมปากยก
สู ง เขาชอบเห็นภรรยาของเขามีชีวิตชีวาเช่นนี้ที่สุด
น้อยใจงั้นหรื อ เสิ่ นเวยสะดุง้ ! นัน่ มันอะไรกัน นางน้อยใจได้ดว้ ย
หรื อ นางเองก็ยงุ่ มากรู ้หรื อไม่ เสิ่ นเวยแยกเขี้ยวเล็กๆ ให้สวีโย่ว
แสดงให้เห็นว่าไม่พอใจ
สวีโย่วก็หวั เราะเสี ยงเบาขึ้นมา เสี ยงหัวเราะนั้นทุม้ ต่าแต่เต็มไปด้วย
เสน่ห์ ทาให้เสิ่ นเวยหลงใหลอย่างอดไม่ได้ หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
ดวงตาทั้งคู่ราวกับจันทร์เสี้ ยวสองดวง งดงามยิง่ นัก!
ราชครู เสิ่ นมองคนงามหนึ่งคู่ที่ยนื เคียงบ่าเคียงไหล่นนั่ ในลานบ้าน
ผ่านช่องหน้าต่าง มุมปากก็ปรากฏรอยยิม้ ชื่นชม หลับตาลงจมสู่ หว้ ง
ความฝันช้าๆ ราวกับว่าบาดแผลบนร่ างกายไม่เจ็บเพียงนั้นแล้ว
อาศัยอยูใ่ นเมืองหลวง ชีวิตไม่ง่าย คาพูดนี้ไม่เป็ นเท็จเลยแม้แต้นอ้ ย
ผ่านไปแค่เพียงหนึ่งเดือน หวังหลานเอ๋ อร์สองแม่ลูกก็สมั ผัสได้ถึง
ความโหดร้ายของชีวิตในเมืองหลวงแล้ว พวกนางแม่ลูกมีฝีมือใน
การเย็บปักถักร้อย ยังพอสามารถหารายได้ได้ แต่ค่าใช้จ่ายในเมือง
หลวงก็สูงอย่างยิง่ แทบจะเป็ นเงินหลายเท่าของเมืองอินหู แม้แต่น้ า
ดื่มยังต้องเสี ยเงินซื้อ ดังนั้นงานเย็บปั กถักร้อยที่หวังหลานเอ๋ อร์แม่
ลูกทางานหาเช้ากินค่าก็ทาได้เพียงพอให้เลี้ยงชีพ คิดอยากจะเก็บเงิน
เช่นนั้นก็ได้แต่ฝันเท่านั้น
นี่ยงั ไม่ใช่เรื่ องที่ยากที่สุด สิ่ งที่ทาให้พวกนางแม่ลูกอกสัน่ ขวัญ
แขวนที่สุดก็คือ แม้วา่ ลานบ้านรวมขนาดใหญ่แห่งนี้จะถูก แต่กลับมี
คนดีคนเลวอยูป่ ะปนกัน ข้างกายหวังหลานเอ๋ อร์แม่ลูกไม่มีผชู ้ ายอยู่
ด้วย สายตาที่ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่กายาหลายคนนั้นในลานบ้านจ้อง
มองหวังหลานเอ๋ อร์กเ็ พียงพอจะทาให้สองแม่ลูกหวาดกลัวจนตัว
สัน่ ทุกคืนนอนหลับต้องใช้โต๊ะดันประตูไว้ให้แนบแน่น แม้เป็ น
เช่นนี้กไ็ ม่กล้านอนหลับสนิท ความเคลื่อนไหวแม้แต่นิดเดียวก็
กลายเป็ นวิหคตื่นเกาทัณฑ์แล้ว
มารดาตระกูลหวังบ่นอย่างเลี่ยงไม่ได้ “หลานเอ๋ อร์เอ๋ ย เจ้าเห็นแล้ว
หรื อยัง สังคมนี้อยูท่ ี่ใดก็เหมือนกัน ไหนเลยจะมีหนทางชีวิตให้สตรี
ตอนแรกพวกเราอยูท่ ี่จวนอ๋ องอะไรนัน่ ก็ดีอยูแ่ ล้ว ทางานเหมือนกัน
เสื้ อผ้าอาหารความสงบสุ ขไม่ตอ้ งพูดถึง ซ้ ายังไม่ตอ้ งวิตกกังวล
อย่างเช่นตอนนี้”
มือที่สนเข็มของหวังหลันเอ๋ อร์หยุดชะงัก เม้มปากไม่พดู
มารดาตระกูลหวังเห็นท่าที ก็ถอนหายใจหนึ่งครากล่าวต่อ “หลาน
เอ๋ อร์เอ๋ ย แม่เห็นว่าต้าหู่ผนู ้ ้ นั ไม่เลว ประพฤติตนซื่อตรง ใส่ ใจเจ้า ทั้ง
ยังมีเรี่ ยวแรงกาลัง เจ้าแต่งงานกับเขาดีหรื อไม่ เช่นนี้แม่กจ็ ะได้
วางใจเสี ยที”
ต้าหู่คือผูเ้ ช่าผูห้ นึ่งในลานบ้านแห่งนี้ ทางานขายแป้งทอดกับพ่อแม่
และน้องสาว รู ปร่ างสู งใหญ่กายา คนเองก็ซื่อสัตย์ มักจะเข้ามาช่วย
พวกนางแม่ลูกทางานหนักเช่นการหาบน้ าตัดฟื น ทุกครั้งที่มา เห็น
บุตรสาวของนางก็จะมองจนตะลึงงัน
มารดาตระกูลหวังอาบน้ าร้อนมาก่อน ไหนเลยจะไม่เข้าใจเจตนา
ของเขา ในใจนางเองก็ยนิ ดี ต้าหู่เด็กชายผูน้ ้ ีแค่มองก็รู้แล้วว่าเป็ นคน
ซื่อสัตย์ที่ใช้ชีวิตอย่างสุ จริ ต นิสยั พ่อแม่ในครอบครัวก็ดี ยังมีฝีมือใน
การขายแป้งทอด ลูกสาวแต่งเข้าไปแม้วา่ จะไม่อาจมีชีวิตที่ดีมากได้
แต่กไ็ ม่อาจได้รับความทุกข์ยากอะไร อย่างน้อยก็ไม่ตอ้ งวิตกกังวล
อีกต่อไป
มือของหวังหลานเอ๋ อร์หยุดชะงักอีกครั้ง กัดริ มฝี ปาก กล่าว “ท่านแม่
ท่านไม่ตอ้ งพูดแล้ว ลูกไม่อยากฟัง”
ต้าหู่ คนโง่ผนู ้ ้ นั ชายฉกรรจ์ที่ไม่รู้หนังสื อ เห็นนางก็เอาแต่ยมิ้ โง่ๆ
แม้แต่พดู ยังพูดไม่คล่อง ไหนเลยจะคู่ควรกับนาง
มารดาตระกูลหวังย่อมรู ้ความคิดของลูกสาว ถอนหายใจหนึ่งครา
“หลานเอ๋ อร์เอ๋ ย คุณชายเซ่าจวิน้ ตระกูลเสิ่ นผูน้ ้ นั เจ้าอย่าได้คิดเลย
ตั้งแต่อดีตบุพเพสันนิวาสให้ความสาคัญกับคู่ครองที่มีฐานะ
เหมาะสม พวกเราปี นป่ ายไม่ถึง! เป็ นมนุษย์ตอ้ งอยูก่ บั ความเป็ นจริ ง
แม่เห็นว่าต้าหู่ไม่เลว เหตุใดเจ้าเด็กคนนี้ถึงได้มีนิสยั ทะนงตนเช่นนี้
เล่า ชีวิตนี้ขา้ กับพ่อเจ้ามีเจ้าเพียงคนเดียว พ่อเจ้าจากไปเร็ ว ชีวิตนี้
ของแม่กม็ ีเพียงเจ้า จะทาร้ายเจ้าได้อย่างไร”
“ท่านแม่ ท่านไม่ตอ้ งพูดแล้ว!” หวังหลานเอ๋ อร์โยนงานปั กในมือ
ออกไปทันที “ท่านแม่ หลังจากนี้ท่านไม่ตอ้ งพูดเรื่ องนี้ข้ ึนมาอีก ต้า
หู่เสี่ ยวหู่อะไร ไม่วา่ อย่างไรลูกก็ไม่ยนิ ดี” ลุกขึ้นยืนเดินออกไปข้าง
นอกแล้ว
“หลานเอ๋ อร์เจ้าจะไปไหน” มารดาตระกูลหวังร้อนใจแล้ว
“ข้าจะออกไปซื้อด้ายสักหน่อย” ฝี เท้าหวังหลานเอ๋ อร์หยุดชะงัก
กล่าวอย่างไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมา
มองแผ่นหลังของลูกสาวที่เดินออกไปไกล มารดาตระกูลหวังก็ถอน
หายใจหนึ่งครา ดึงแขนเสื้ อมาเช็ดน้ าตาตรงหางตา “ตาเฒ่า ลูกสาว
ของพวกเราเป็ นอะไรไป นางเอาแต่คิดถึงชีวิตที่ร่ ารวย สามีที่มีหน้า
มีตา แต่พวกเราไม่ใช่ตระกูลแบบนั้น! ตาเฒ่า ข้าโน้มน้าวลูกสาว
ไม่ได้ ขอโทษท่านด้วย!”
มารดาตระกูลหวังนึกถึงสามีที่จากไปแล้ว เจ็บปวดหัวใจจริ งๆ
สะอึกสะอื้นไห้ข้ ึนมา นางไม่เพียงแต่เป็ นห่วง ซ้ ายังเป็ นกังวล ชีวิต
ครึ่ งหลังของนางขึ้นอยูก่ บั ลูกสาวคนนี้แล้ว แต่ลูกสาว…ตระกูล
ใหญ่ตระกูลโตนัน่ น่าเข้าเพียงนั้นหรื อไร อย่าว่าแต่เมืองหลวง แม้แต่
คหบดีทอ้ งถิ่นแซ่หวังในเมืองอินหูของพวกนาง ทุกปี ยังต้องหาม
ออกไปจากประตูขา้ งตั้งกี่คน
มารดาตระกูลหวังยิง่ คิดก็ยงิ่ กลัว น้ าตานัน่ ประหนึ่งไข่มุกที่ขาดตอน
ไหลลงมาอย่างไร้ค่า
หวังหลานเอ๋ อร์เร่ งฝี เท้าออกจากประตูใหญ่ลานบ้านรวมขนาดใหญ่
แล้วจึงค่อยๆ ถอนหายใจออกมาหนึ่งครา นางหันหน้ากลับไปมอง
ลานบ้านรวมขนาดใหญ่ที่สกปรก ในดวงตามีความรังเกียจแวบผ่าน
ใคร่ ครวญว่าไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งย้ายออกจากสถานที่โสมมแห่งนี้ให้
ได้ก่อน สถานที่สกปรกเช่นนี้นางไม่อยากอยูแ่ ม้แต่วนั เดียวหรื อ
แม้กระทัง่ ครู่ เดียว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 269-1 กลับบ้ านเมื่อยามหิมะตกหนัก
หวังหลานเอ๋ อร์เดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ไม่รู้วา่ เดินมานาน
เพียงใดแล้ว ตอนที่นางได้สติกลับมาก็ยนื นิ่ง พลันเห็นเงาร่ างที่
คุน้ เคยเงาหนึ่งตรงหน้า ดีใจอย่างอดไม่ได้ ยกขาวิง่ เข้าไป “คุณชาย
เสิ่ น” นางขานเรี ยกเสี ยงหวาน
เดิมวันนี้เสิ่ นเซ่าจวิน้ มาหาสหายผูห้ นึ่ง พบหวังหลานเอ๋ อร์โดย
บังเอิญ ประหลาดใจเล็กน้อย “แม่นางหวังมาอยูท่ ี่นี่ได้อย่างไร”
ไม่ใช่วา่ นางควรอยูใ่ นจวนน้องเวยหรอกหรื อ
“ขอบคุณคุณชายเสิ่ นที่เป็ นห่วงเจ้าค่ะ พวกข้าแม่ลูกออกจากจวน
จวิน้ อ๋ องแล้ว ตอนนี้หาบ้านอยูข่ า้ งนอก ปกติกท็ างานเย็บปั กถักร้อย
ชีวิตกลับพอจะฝื นทนผ่านไปได้” หวังหลานเอ๋ อร์เขินอายทั้งใบหน้า
ดวงตาทั้งคู่มองเสิ่ นเซ่าจวิน้ ด้วยความรัก
ทว่าเสิ่ นเซ่าจวิน้ กลับไม่ได้คิดมาก พยักหน้ากล่าว “เช่นนั้นก็ดี เดิม
ข้าก็เคยบอกแล้ว เป็ นสุ จริ ตชนได้ไยจะต้องไปเป็ นบ่าวด้วยเล่า
ตอนนี้กเ็ ย็นมากแล้ว แม่นางหวังเป็ นสตรี อายุนอ้ ยตัวคนเดียวรี บ
กลับไปเสี ยจะดีกว่า อย่าทาให้มารดาตระกูลหวังเป็ นห่วง” เขาเอ่ย
เตือนด้วยความหวังดีหนึ่งประโยค จากนั้นจึงพาเด็กรับใช้จากไป
ฟู่ กุย้ ที่ตามอยูข่ า้ งหลังถอนหายใจหนึ่งคราอย่างโล่งอก ต่อให้เขาโง่ก็
เห็นท่าทางยักคิ้วหลิ่วตาได้อย่างชัดเจน จวิน้ จู่เหนียงเหนียง
แสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบให้คุณชายสนิทสนมกับแม่ลูกตระกูล
หวังมากนัก เมื่อครู่ เขากังวลจริ งๆ ว่าคุณชายจะใจอ่อนพาแม่นางผูน้ ้ ี
กลับไปอีก!
หวังหลานเอ๋ อร์มองแผ่นหลังที่จากไปไกลของเสิ่ นเซ่าจวิน้ อย่างทึ่ม
ทื่อ สี หน้าและจิตใจล้วนแต่ผดิ หวัง
ในตอนนี้เองเสี ยงที่ลึกลับเสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้น “แม่นางตามีแววยิง่ นัก!”
หวังหลานเอ๋ อร์สะดุง้ ตกใจ หันหน้าฉับพลัน เห็นชายท่าทางคล้าย
พ่อบ้านวัยกลางคนผูห้ นึ่งกาลังยิม้ อย่างมีเลศนัยให้นางอยู่ “เจ้า เจ้า
เป็ นใคร” หวังหลานเอ๋ อร์ถูกเขามองจนขนลุกในใจ รวบรวมความ
กล้าถาม
“ย่อมต้องเป็ นคนที่ช่วยให้แม่นางสมปรารถนาอย่างไรเล่า” คนผูน้ ้ นั
จ้องหวังหลานเอ๋ อร์มองประเมิณอย่างไม่เกรงกลัว คล้ายตีค่าสิ่ งของ
ชิ้นหนึ่ง รอยยิม้ บนใบหน้าก็กว้างขึ้นแล้ว
สวีโย่วสื บค้นมาได้สิบกว่าวันแล้ว ข้อมูลที่มีประโยชน์กลับไม่มี
แม้แต่นิดเดียว จางอิงที่ตายไปแล้วผูน้ ้ นั ปกติกเ็ ป็ นคนดี
ความสัมพันธ์ต่อขันทีนอ้ ยจานวนมากก็ไม่เลว แต่คนที่สนิทกลับไม่
มีเลยสักคนเดียว กองตรวจสอบดาเนินการลงโทษโบยขันทีที่สนิท
กับจางอิงหลายคน ยังคงไร้เบาะแสใดๆ รวมถึงคนในครอบครัวจาง
อิง หายไปประหนึ่งหมอกควัน ไม่มีแม้แต่ข่าวคราว สวีโย่วเดาว่า
พวกเขาน่าจะถูกฆ่าปิ ดปากแล้ว มิเช่นนั้นเพียงแค่ปรากฏตัวก็จะทิ้ง
ร่ องรอยได้
ฮ่องเต้ยงเซวียนได้รับผลลัพธ์น้ ีกลับทรงไม่พิโรธ เดิมเรื่ องนี้สืบง่าย
อย่างถึงที่สุด เขาตายแล้วใครได้รับผลประโยชน์มากผูน้ ้ นั ก็คือ
ตัวการที่อยูเ่ บื้องหลัง เขามีอนั เป็ นไป คนที่ข้ ึนครองบัลลังก์กค็ ือ
ไท่จื่อ แต่ไม่ใช่วา่ เขาดูถูกตระกูลฝั่งไท่จื่อ พวกเขายังไม่มีความกล้า
หาญมากเพียงนี้ อีกทั้งยังไม่มีกาลังเช่นนี้อีกด้วย
ในพระตาหนักจินหลวน ฮ่องเต้ยงเซวียนนัง่ อยูบ่ นบัลลังก์สูงส่ ง
มองขุนนางชั้นผูใ้ หญ่บ๋ ุนบู๊ทวั่ ราชสานักอย่างเย็นชา แท้จริ งแล้วใคร
กันที่คิดอยากให้เขาตาย
ชัว่ พริ บตาก็เข้าสู่ เดือนล่าแล้ว เมืองหลวงในเดือนล่าหนาวอย่างถึง
ที่สุด หนาวยิง่ กว่าปี ที่ผา่ นมา สามารถใช้คาว่าหยดน้ ากลายเป็ น
น้ าแข็งมาอธิบายได้เลย
เสิ่ นเวยมองเกล็ดหิ มะเกล็ดใหญ่ที่ปลิวลอยยูข่ า้ งนอก สัง่ หลีฮวา
“อากาศหนาวเกินไปแล้ว ไปบอกครัวว่า เตรี ยมแกงแกะกับน้ าขิง
เอาไว้ให้มากหน่อย ถ่านก่อไฟแต่ละที่กเ็ ตรี ยมให้เพียงพอ หากป่ วย
แล้วก็เชิญหมอมาให้ยา ไม่ตอ้ งคิดเยอะ” บ่าวก็เป็ นคน นางทาดีต่อ
พวกเขาเล็กน้อย พวกเขาก็จะยิง่ จงรักภัคดีมิใช่หรื อ
หลีฮวากระชับเสื้ อหนาวบุฝ้ายบนร่ างออกไปสัง่ สาวใช้ที่วิ่งทางาน
ไม่นานนักก็เข้ามาแล้ว กระทืบเท้า ถูมือ “ปี นี้กแ็ ปลก นี่เพิ่งจะเข้า
เดือนล่าก็หนาวเพียงนี้แล้ว ซ้ ายังหิมะตกหนักเพียงนี้อีก หนาวยิง่
กว่าปี ที่แล้วมาก”
เถาจือกล่าวตามใจปาก “ใช่แล้ว ฟังว่าข้างนอกมีคนหนาวตายทุกวัน
น่าสงสารยิง่ นัก”
เย่วก์ ยุ้ ได้ยนิ ดังนั้นดวงตาก็กะพริ บวาบ บนใบหน้ามีความกังวล
ปรากฏขึ้น “จวิน้ จู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าชาวนาเช่าที่ในหมู่บา้ นของพวก
เราจะผ่านคืนวันไปได้ดว้ ยดีหรื อไม่ บ่าวฟังว่าหิ มะตกหนักเช่นนี้ทา
ให้บา้ นถล่มได้” บ้านนางก็ถูกพายุหิมะในฤดูหนาวถล่มเช่นกัน ทา
ให้พอ่ นางได้รับบาดเจ็บ ไม่มีเงินไปรักษาทาได้เพียงมองพ่อนางตาย
ไปเฉยๆ นางจึงถูกขายไปยังคณะกายกรรม
เสิ่ นเวยคิดๆ ดูแล้วก็ใช่ “เรี ยกเจี่ยวปั๋วเข้ามาถามหน่อย”
เจี่ยวปั๋วผูอ้ วบอ้วนสวมเสื้ อนวมบุฝ้ายหนาๆ ยิง่ เหมือนลูกบอลอย่าง
ยิง่ ฟังคาถามของเสิ่ นเวยแล้ว จึงกล่าว “นี่เองก็เป็ นเรื่ องที่หมด
หนทาง ฤดูหนาวปี ใดบ้างที่ไม่มีคนหนาวตาย พายุหิมะปี ไหนบ้างที่
ไม่ถล่มบ้านหลายหลัง ไม่วา่ จะพูดอย่างไรฤดูหนาวก็ทรมาน”
นี่ทาให้ความรู ้สึกของเสิ่ นเวยหนักอึ้ง ในยุคปั จจุบนั แม้วา่ สังคมจะ
เต็มไปด้วยความโสมมต่างๆ นานา แต่เรื่ องฤดูหนาวคนหนาวตาย
เช่นนี้กย็ งั มีไม่เยอะจริ งๆ
“เอาเช่นนี้แล้วกันเจี่ยวปั๋ว ลาบากเจ้าหน่อย พาคนไปที่หมู่บา้ นเที่ยว
หนึ่ง ดูวา่ ชีวิตของเหล่าชาวนาเช่าที่ยงั ดาเนินต่อไปได้หรื อไม่ ส่ ง
ของไปให้พวกเขาสักเล็กน้อย แต่ละครอบครัวให้ธญ
ั พืชสามสิ บจิน
ถ่านยีส่ ิ บจิน เสื้ อนวมบุฝ้าย อืม ไม่เอาดีกว่า ไม่ตอ้ งให้เสื้ อนวมบุฝ้าย
แต่ละครอบครัวให้ผา้ หยาบหนึ่งผืน แล้วก็ให้ฝ้ายจานวนหนึ่ง ให้
พวกนางไปทาเอง ยังมียารักษาอาการถูกลมเย็น แจกให้แต่ละ
ครอบครัวจานวนหนึ่ง ในจวนของพวกเราไม่ขาดเงินเพียงเท่านี้
ทั้งหมดคิดเสี ยว่าทาบุญ แล้วก็ดูวา่ มีบา้ นไหนถูกพายุหิมะถล่ม ช่วย
ซ่อมสักนิดสักหน่อย ต้องทาให้พวกเขาผ่านฤดูหนาวไปได้อย่าง
ปลอดภัย” เสิ่ นเวยออกคาสัง่
เจี่ยงปั๋วแสดงสี หน้าซาบซึ้ง “จวิน้ จู่เมตตา บ่าวขอบคุณบุญคุณและ
ความกรุ ณาของจวิน้ จู่แทนเหล่าชาวนา” ข้างนอกต่างก็พดู กันว่าจวิน้
จู่ของเขาเป็ นคนใช้อานาจบาตรใหญ่ไม่เห็นแก่ชีวิตคน แต่เจี่ยงปั๋ วก
ลับมัน่ ใจว่าจวิน้ จู่เป็ นผูม้ ีเมตตาอันดับหนึ่งในใต้หล้า ท่านจวิน้ อ๋ อง
สุ ขภาพไม่ดี จวิน้ จู่กท็ าบุญแทนท่านจวิน้ อ๋ อง ภรรยาผูน้ ้ ีของท่าน
จวิน้ อ๋ องนับได้วา่ แต่งถูกคน!
เจี่ยงป๋ วเดินไปข้างนอกด้วยความรู ้สึกร้อยแปดพันเก้า หิ มะตกหนัก
ปลิวว่อน ลมหนาวเข้ากระดูก แต่หวั ใจทั้งดวงของเจี่ยงปั๋ วกลับร้อน
รุ่ ม
“จวิน้ จู่ ในเมืองหลวงหลายครอบครัวต่างก็สร้างเพิงข้าวต้มเริ่ ม
แจกจ่ายข้าวต้มแล้ว ในจวนพวกเราจะทาด้วยหรื อไม่” แม่นมมัว่
กล่าวเตือน
“หากแม่นมไม่พดู ข้าก็เกือบลืมไปแล้ว” เสิ่ นเวยกล่าว “ทาเถอะ พวก
เรามีเสบียงร้านค้าอยูแ่ ล้ว ไม่จาเป็ นต้องใช้ขา้ วดี ข้าวเก่าก็พอ เช้าค่า
แจกข้าวต้ม ตอนเที่ยงเพิ่มแป้งทอดแป้งหนาหนึ่งชิ้น ช่วยได้กี่คนก็
ช่วย เรื่ องนี้กม็ อบให้แม่นมไปจัดการแล้วกัน อ้อจริ งสิ นอกจากแจก
ข้าวต้มแล้ว พวกเรายังต้องแจกยา ยาน้ ารักษาอาการถูกลมเย็นนัน่ ต้ม
หนึ่งหม้อใหญ่ เพียงแค่มีคนที่ตอ้ งการก็สามารถดื่มได้ เรื่ องนี้ให้
หมอหลิวไปจัดการ”
“เจ้าค่ะ จวิน้ จู่ บ่าวจะดูแลเรื่ องนี้ให้ดี” แม่นมมัว่ กล่าวด้วยความ
เคารพ ผ่านการอยูร่ ่ วมกันในช่วงวันเวลาเหล่านี้ แม่นมมัว่ ก็ดีใจใน
สิ่ งที่ตนเลือกตอนแรก จยาฮุ่ยจวิน้ จู่เป็ นนายที่รับใช้ง่ายอย่างยิง่ จริ งๆ
แยกแยะการชื่นชมและลงโทษชัดเจน ให้ความสาคัญแก่คนที่มี
ความสามารถ ต่อให้จะพบข้อผิดพลาด ก็ไม่ตบตีดุด่าบ่อยๆ อย่าง
มากก็แค่หกั เงินเดือน แน่นอนว่าการทรยศนายก่อกบฏเป็ นข้อยกเว้น
จวิน้ จู่เกลียดบ่าวเช่นนี้ที่สุด หากสื บเจอจะไม่มีทางให้อภัยเป็ นอัน
ขาด
เซี่ยหมิงผูก่ บั เสิ่ นเชียน มาถึงเมืองหลวงตามลาดับ เซี่ยหมิงผูม่ าถึง
ก่อน วันที่เขามาถึง อาทิตย์ส่องแสงจ้าอย่างหาได้ยาก ส่ องจน
ร่ างกายอบอุ่น
เสิ่ นเวยรู ้วา่ เขามาแล้ว ไม่ได้ส่งคนไปรับ และไม่ได้ไปพบเขา แม้แต่
แอบดูกย็ งั ไม่มี ราวกับว่านัน่ คือคนไม่รู้จกั คนหนึ่ง
เซี่ยหมิงผูเ่ องก็ไม่ได้มาเยีย่ มที่บา้ น หาโรงเตี๊ยมพักเรี ยบร้อยด้วย
ตัวเอง ทุกวันอ่านหนังสื ออยูแ่ ต่ในห้อง แม้แต่โรงเตี๊ยมยังออกไป
น้อยอย่างยิง่
ก่อนหน้านี้ฉาฮวายังพร่ าบ่นทั้งวันว่าพี่ชายนางจะมาเมืองหลวงแล้ว
แต่เมื่อพี่ชายนางมาถึงเมืองหลวงแล้วจริ งๆ นางกลับไม่เอ่ยถึงแม้แต่
ประโยคเดียว เสิ่ นเวยถามนางว่าอยากไปเจอพีช่ ายนางหรื อไม่ นาง
กลับส่ ายหน้าปฏิเสธทันที
ฉาฮวาไม่โง่ แต่นางกลับฉลาดอย่างถึงที่สุด แม้นางจะไม่รู้วา่ จวิน้ จู่
กับพี่ชายส่ งสัญญาณอะไรกันไว้ แต่นางกลับตระหนักได้อย่าง
ชัดเจนว่าตนไม่อาจไปพบพีช่ ายได้ ไม่อาจให้คนอื่นรู ้วา่ พี่ชายนาง
รู ้จกั กับจวิน้ จู่
เสิ่ นเวยกลับไม่ได้พดู อะไรเช่นกัน เพียงแค่ลูบศีรษะเล็กๆ ของฉาฮ
วาอย่างสงสาร เป็ นเด็กที่ฉลาดและมีไหวพริ บจริ งๆ!
ทว่าวันที่เสิ่ นเชียนกลับมามีลมพัดแรง แต่นี่กไ็ ม่ได้เป็ นอุปสรรคต่อ
หัวใจที่รอคอยลูกชายกลับมาของสวี่ซื่อ เช้าตรู่ กเ็ ร่ งรัดสาวใช้ไป
เฝ้าดูหน้าประตูใหญ่นบั ครั้งไม่ถว้ น ท้ายที่สุดก็ทนไม่ไหวจริ งๆ ตน
ไปรออยูท่ ี่หน้าประตูดว้ ยตัวเอง
เสิ่ นเชียนสวมผ้าคลุมตัวใหญ่สีดา ขี่มา้ ตัวสู งใหญ่ สวี่ซื่อเห็นเงาร่ าง
ของลูกชายมาแต่ไกลๆ ดวงตาก็ชุ่มฉ่ า “ลูก!” นางตะโกนด้วยเสี ยงที่
เต็มไปด้วยความรู ้สึกลึกซึ้งหนึ่งประโยคสะบัดมือของสาวใช้ออก
แล้ววิ่งเข้าไปหา
เสิ่ นเชียนถีบเท้าลงจากม้า โยนเชือกบังเ**ยนแล้วจึงเร่ งเท้าเดินเข้า
มา “ท่านแม่ ลูกอกตัญญูกลับมาแล้ว!”
“ดีๆๆ กลับมาก็ดี” สวี่ซื่อเห็นลูกชายที่ดาขึ้นผอมลงแต่มีกาลังวังชา
มากขึ้น ไม่วา่ จะมองเท่าไรก็ไม่พอ “ เจ้ากลับมาแม่กว็ างใจแล้ว”
นางอยากยิม้ แต่กลับยิม้ ทั้งที่น้ าตานองหน้า
เบ้าตาเสิ่ นเชียนเองก็แดงก่า เพียงแค่ไม่เจอกันหนึ่งปี สั้นๆ ศีรษะของ
มารดาก็คล้ายมีผมหงอกเพิ่มขึ้นไม่นอ้ ยแล้ว
“ฮูหยิน ซื่ อกลับมาเป็ นเรื่ องมงคลใหญ่ ควรดีใจจึงจะถูก” ลัว่ สยา
สาวใช้ขา้ งกายก้าวขึ้นมาโน้มน้าว
“ใช่ๆๆ ควรจะดีใจ แม่ดีใจยิง่ นัก” สวี่ซื่อรี บเช็ดน้ าตาบนใบหน้า
“แม่น่ะดีใจจนน้ าตาไหล ไปเถอะ พวกเรารี บเข้าจวน พ่อ ย่าและปู่
เจ้ายังรออยู”่
สวี่ซื่อจับมือลูกชายไว้แนบแน่น ราวกับว่าเมื่อปล่อยแล้วลูกชายจะ
หนีไปได้ เสิ่ นเชียวเองก็ปล่อยให้นางจับ มุมปากอมยิม้ พูดคุยกับนาง
ไปตลอดทาง
เข้าไปในเรื อนซงเฮ่อแล้ว เสิ่ นเชียนก็คุกเข่าลงเสี ยงดังโขกศีรษะ
คานับย่าเขา นายหญิงผูเ้ ฒ่ากอดหลานชายคนโตของนางร่ าไห้อยูพ่ กั
หนึ่ง ภายใต้การปลอบโยนของคนทั้งหมดจึงหยุดร้องไห้ชา้ ๆ
เสิ่ นเชียนหมุนตัวโขกศีรษะคานับพ่อแม่เขาจากใจจริ ง เสิ่ นหงเหวิน
เห็นลูกชายที่ดูกายาขึ้น ในใจก็ชื่นชมอย่างถึงที่สุด “ดีๆๆ แข็งแรง
กว่าพ่อเจ้าแล้ว” ชัว่ ชีวิตนี้แม้แต่สนามรบเขายังไม่เคยแตะ กลับเป็ น
ลูกชายที่รับหน้าที่ที่เดิมควรจะเป็ นเขา ทาให้ในขณะที่เขาภูมิใจก็
รู ้สึกละอายใจเล็กน้อย
สนทนากันพักหนึ่ง เสิ่ นหงเหวินก็กล่าว “ไปหาปู่ เจ้าเถิด เขายังรอเจ้า
อยูท่ ี่เรื อนนอก”
นายหญิงผูเ้ ฒ่าเสิ่ นกับสวี่ซื่อเองก็เร่ งรัด “ไปเถิด ไปเถิด ปู่ เจ้าพร่ าบ่น
ถึงเจ้ายิง่ นัก อย่าปล่อยให้เขารอนาน”
เสิ่ นเชียนจึงลุกขึ้นกล่าว “เช่นนั้นหลานขอตัวไปก่อน ตกเย็นแล้วจะ
มาทานข้าวกับท่านย่าใหม่”
ไปถึงข้างนอกเสิ่ นหงเหวินจึงเล่าเรื่ องที่ปู่เขาได้รับบาดเจ็บให้เขาฟัง
เสิ่ นเชียนตกใจในชัว่ ขณะ “ท่านปู่ ได้รับบาดเจ็บที่ใด บาดเจ็บสาหัส
หรื อไม่ ท่านพ่อ เหตุใดท่านเพิ่งมาบอกข้าตอนนี้” แม้ต้ งั แต่เล็กเขา
จะพบท่านปู่ เพียงไม่กี่ครั้ง แต่ที่ซีเจียงปี ที่แล้ว ท่านปู่ แทบจะพาเขา
ไปไหนมาไหนข้างกาย สอนเขาตัวต่อตัวตลอด นี่ทาให้
ความสัมพันธ์ของเขากับท่านปู่ แน่นแฟ้นอย่างถึงที่สุด
เสิ่ นหงเหวินรี บปลอบลูกชาย “มีหมอหลวงดูแลอยู่ ดูดีข้ ึนกว่า
เมื่อก่อนมากแล้ว เจ้าอยูไ่ กลถึงซีเจียง ต่อให้บอกเจ้า เจ้าเองก็ทาได้
เพียงเป็ นกังวล ยิง่ ไปกว่านั้นปู่ เจ้าก็เป็ นคนพูดเอง ไม่ให้บอกเจ้า
กลัวว่าเจ้าจะไม่มีสมาธิทางานล่าช้า” แต่กลับไม่เอ่ยว่าอาการบาดเจ็บ
เป็ นเช่นไร
หนึ่งปี กว่านี้ เสิ่ นเชียนฝึ กฝนจนพัฒนาขึ้นกว่าแต่ก่อนมากแล้ว เมื่อ
ได้ยนิ คาพูดของพ่อเขาก็รู้แล้วว่าท่านปู่ บาดเจ็บสาหัสอย่างถึงที่สุด มิ
เช่นนั้นเหตุใดหนึ่งเดือนกว่าแล้วยังต้องมีหมอหลวงดูแลอยูเ่ ล่า ฝี เท้า
ใต้เท้าก็เร่ งขึ้นสามส่ วนอย่างอดไม่ได้
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 269-2 กลับบ้ านเมื่อยามหิมะตกหนัก
เสิ่ นหงเหวินเพียงแค่เดินไปเป็ นเพื่อนเสิ่ นเชียนจนถึงหน้าประตู
เรื อนของบิดาแล้วจึงกลับไป เขารู ้วา่ บิดาจะต้องมีคาพูดมากมาย
อยากพูดกับลูกชาย เขาอย่าไปอยูข่ วางหูขวางตาเสี ยจะดีกว่า
เสิ่ นเวยกาลังนัง่ อ่านหนังสื อให้ปู่นางอยูใ่ นห้องเขา ในห้องสร้างท่อ
ทาความร้อนใต้ดินเอาไว้ อบอุ่นประหนึ่งฤดูใบไม้ผลิ
“ท่านปู่ พี่ใหญ่น่าจะมาแล้ว หลานจะออกไปต้อนรับเขาสักหน่อย”
เสิ่ นเวยปิ ดหนังสื อวางไว้ขา้ งๆ คลุมเสื้ อขนจิ้งจอกเดินออกไปข้าง
นอก เพิ่งจะเดินไปถึงล่างระเบียงทางเดินก็เห็นเสิ่ นเชียนเข้ามาแล้ว
“เอ๋ ท่านซื่อจื่อกลับมาแล้ว” เสิ่ นเวยขึ้นเสี ยงทักทาย
“เอ๋ ลาบากคุณชายสี่ ผอู ้ งอาจห้าวหาญของพวกเราออกมาต้อนรับ
ด้วยตัวเอง พี่ช่างมีบุญวาสนาจริ งๆ!” เสิ่ นเชียนเองก็ตอบรับตามใจ
ปาก
“ไอหยา ไม่พบสามวันกลายเป็ นอื่น พี่ใหญ่พฒั นาไม่นอ้ ยจริ งๆ! ดูสิ
ฝี ปากคล่องแคล่ว” เสิ่ นเวยมองประเมิณเสิ่ นเชียนตั้งแต่หวั จรดเท้า
“อืม รู ปร่ างก็แข็งแรงกว่าแต่ก่อนมาก เป็ นอย่างไร น้ าดินที่ซีเจียง
บารุ งร่ างกายดีหรื อ”
มุมปากเสิ่ นเชียนกระตุก นี่คือการชมคนหรื อ ใช่หรื อ ใช่หรื อ เขา
กาลังจะพูดอะไรต่อ ก็ได้ยนิ เสี ยงหัวเราะปนด่าของท่านปู่ ดังออกมา
จากข้างในแล้ว “พวกเจ้าสองพี่นอ้ งมัวแต่เล่นอะไรกันอยู่ ยังไม่รีบ
เข้ามาอีก!”
เสิ่ นเวยหันหน้าตอบรับข้างในหนึ่งครา กล่าวเสี ยงดัง “ท่านปู่ ท่าน
อย่ารี บร้อนสิ หลานไม่ใช่กาลังต้อนรับพี่ใหญ่แทนท่านอยูห่ รื อไร
หนึ่งปี ไม่ได้เจอ ต้องตรวจสอบแทนท่านดูสกั หน่อย”
คลายสายรัดเอวเสื้ อขนจิ้งจอกโยนไปในอ้อมอกสาวใช้ขา้ งๆ
ประสานหมัดกล่าว “พี่ใหญ่ เชิญ”
เสิ่ นเชียนลูบจมูก ถอดเสื้ อคลุมบนร่ างออกเช่นกัน “ลาบากคุณชายสี่
ชี้แนะแล้ว”
พูดยังไม่ทนั ขาดคา หมัดของเสิ่ นเวยก็มาถึงแล้ว เขารี บเบี่ยงตัวหลบ
เพิ่งจะหลบหมัดได้ ลูกเตะของเสิ่ นเวยก็โจมตีมาตรงหน้าแล้ว บีบ
บังคับจนเสิ่ นเชียนสับสนอลหม่านอย่างยิง่ ชัว่ ขณะวันคืนที่ถูก
ทารุ ณในซีเจียงก็คล้ายกลับมาอีกครั้ง
เสิ่ นเชียนเศร้าใจยิง่ นัก เขาคิดว่าเขาพัฒนาขึ้นมากแล้ว ไม่คิดว่าจะยัง
ถูกลูกผูน้ อ้ งโจมตี ความรู ้สึกเช่นนี้ อยากตายเสี ยจริ งๆ!
เสิ่ นเชียนตั้งสติ รับมืออย่างสุ ขมุ ไม่ขอชนะ ขอเพียงแค่ถูกโจมตีให้
น้อย จิตใจนิ่งแล้ว ก็ดีข้ ึนกว่าเมื่อครู่ น้ ีมาก เงาร่ างสองเงาต่อสู ้กนั
ตั้งแต่ระเบียงทางเดินไปจนถึงในลานบ้าน เจ้าจู่โจมข้าโต้ตอบ
กระโดดโลดแล่น น่าชมเหลือเกิน
สองเค่อผ่านไป เสิ่ นเวยลอยตัวตวัดข้าเตะ ปลายเท้าจ่อลาคอของเสิ่ น
เชียนตรงๆ ดวงตามีรอยยิม้ แวบผ่าน “ไม่เลว พี่ใหญ่พฒั นาไม่นอ้ ย
แล้ว” เก็บมือเก็บเท้า สิ้ นสุ ดการประลอง
เสิ่ นเชียนหน้าดาทะมึนทั้งศีรษะ เหตุใดคาพูดนี้ฟังแล้วถึงได้อึดอัด
ใจเช่นนี้เล่า เขาถูกเสิ่ นเวยทารุ ณจนชินแล้ว แม้วา่ จะแพ้เขาก็ไม่ได้
สนใจ “พี่ยงั ต้องขอบคุณคุณชายสี่ ที่เมตตา”
“ท่านรู ้กด็ ีแล้ว” เสิ่ นเวยย่นจมูกอย่างน่าเอ็นดู หันหลังกลับกระโดด
เข้าไปในห้อง เสิ่ นเชียนตามอยูข่ า้ งหลังนาง ได้ยนิ นางกล่าวกับท่าน
ปู่ ด้วยความดีใจ “ท่านปู่ หลานทดสอบแทนท่านแล้ว แม้วา่ พี่ใหญ่จะ
ยังสู ้หลานท่านไม่ได้ แต่กย็ งั พอถูๆ ไถๆ ไปได้! ดียงิ่ กว่าลูกคุณชาย
เหล่านั้นในเมืองหลวง น่าจะไม่เคยอูง้ าน”
ความดาทะมึนคืนคลานทัว่ ทั้งหน้าผากเสิ่ นเชียนอีกครั้ง ก่อนหน้านี้
ก็รู้อยูแ่ ล้วว่าลูกผูน้ อ้ งหน้าหนา แต่ไม่คิดว่าจะหนาได้ถึงเพียงนี้
“ท่านปู่ หลานกลับมาแล้ว” เสิ่ นเชียนมองท่านปู่ ที่เอนหลังพิงหัว
เตียงอยู่ สะบัดเสื้ อคลุมคุกเข่าลง กล่าวด้วยความรักและผูกพัน “ท่าน
ปู่ ท่านได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงนี้เหตุใดถึงไม่ส่งข่าวไปให้หลาน
เลย”
ราชครู เสิ่ นเห็นหลานชายคนโตก็ชื่นชมอย่างถึงที่สุด ยิม้ กล่าวอย่าง
เมตตา “กลับมาก็ดีแล้ว รี บลุกขึ้นเถิด ไม่ใช่วา่ ปู่ ใกล้หายแล้วหรอก
หรื อ อย่าทาท่าทางงอนง้อเช่นนั้น น้องเจ้าเห็นแล้วจะหัวเราะเยาะ
เอา”
เสิ่ นเวยกลอกตา “ท่านปู่ ท่านพูดไม่เป็ นธรรมแล้ว หัวเราะเยาะอะไร
ข้าเป็ นคนแบบนั้นหรื อ วันทั้งวันบอกว่ารักข้าที่สุด ตอนนี้พี่ใหญ่
กลับมาแล้วจิตใจของท่านก็ลาเอียง ที่แท้แล้วปกติแล้วก็ลอ้ ข้าเล่น
หรอกหรื อ” เสิ่ นเวยกระทืบเท้าไม่พอใจ
ราชครู เสิ่ นหัวเราะปนด่า “เจ้าเด็กซนคนนี้ เจ้าเอาตาที่ไหนมองว่าข้า
รักพี่ใหญ่เจ้ามากกว่า”
“แค่ตาสองข้างก็มองเห็นแล้ว” เสิ่ นเวยกล่าวอย่างมัน่ อกมัน่ ใจ
ราชครู เสิ่ นถูกหลานสาวของเขาตอกหน้าหงาย อยากจะลงจากเตียง
ไปตีเด็กดื้อคนนี้เสี ยจริ งๆ แต่ถูกเสิ่ นเวยหยอกล้อเช่นนี้ ความรู ้สึก
เจ็บเล็กน้อยเมื่อครู่ กห็ ายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที
ราชครู เสิ่ นกับหลานชายถามตอบพูดคุยถึงเรื่ องที่ซีเจียงขึ้นมา เสิ่ น
เวยนัง่ ฟังอยูข่ า้ งๆ หยิบผลไม้สดใส่ ปาก ฤดูหนาวที่หนาวจัด เดิมที
ผลไม้สดก็มีไม่มาก แต่ที่เรื อนปู่ นางกลับไม่ขาด ไม่ใช่สิ่งอื่นใด
ทั้งหมดล้วนเป็ นของที่ฝ่าบาทปูนบาเหน็จ เครื่ องบรรณการเอย ย่อม
ล้วนแต่เป็ นของที่ดีที่สุด ราชครู เสิ่ นยังบาดเจ็บอยู่ ผลไม้สดที่ปูน
บาเหน็จให้นอกจากส่ วนน้อยที่ส่งไปยังเรื อนหลัง ทั้งหมดที่เหลือ
ล้วนอยูใ่ นปากเสิ่ นเวย
ราชครู เสิ่ นมองหลานชายคนโตที่เห็นได้ชดั ว่าเปลี่ยนไปมาก ในใจก็
ชื่นชมอย่างถึงที่สุด หลานชายคนโตนับได้วา่ ฝึ กฝนออกมาแล้ว แม้
จะยังอ่อนวัย แต่เทียบกับคนวัยเดียวกันในเมืองหลวงก็ยอดเยีย่ มมาก
แล้ว อีกทั้งตนยังสามารถมีชีวิตอยูไ่ ด้อีกหลายปี ยังสามารถดูแลเขา
ให้มากได้ ถึงตอนนั้นเขาเองก็สามารถเผชิญหน้าตัวคนเดียวได้แล้ว
เขาก็นบั ได้วา่ สามารถนอนตายตาหลับอย่างวางใจได้แล้ว
เสิ่ นเชียนกลับมาย่อมต้องไปเยีย่ มเยียนทุกหนทุกแห่ง ดังนั้นเขาที่
เป็ นว่าที่เจ้าบ่าวคาดไม่ถึงว่ายุง่ ยิง่ กว่าใครทั้งสิ้ น แต่ละจวนเห็น
ซื่อจื่อจงอู่โหววัยเยาว์ที่ลม้ ลุกคลุกคลานอยูท่ ี่ซีเจียงผูน้ ้ ีแล้ว วาจาก็
เต็มไปด้วยคาชื่นชม ในใจเต็มไปด้วยความอิจฉา! ดูเขาสิ เป็ นชาย
หนุ่มรุ่ นราวคราวเดียวกัน เสิ่ นซื่อจื่อใจเย็นสุ ขมุ ถ่อมตัวมากเพียงใด
เทียบกับลูกชายที่สบั สนว้าวุน่ ของตนแล้ว จาใจต้องยอมรับว่า
ราชครู เสิ่ นสัง่ สอนคนเป็ นจริ งๆ!
แม้แต่ตระกูลฉังที่ก่อนหน้านี้ยงั คงไม่วางใจเล็กน้อย หลังเห็นเสิ่ น
เชียนที่มาเยีย่ มเยียนถึงบ้าน ตั้งแต่ตน้ จนจบก็เอ่ยชมไม่หยุดปาก ใต้
เท้าฉังยังตั้งใจทดสอบความรู ้ของเขา ตอนนี้แม้วา่ เสิ่ นเชียนจะเดิน
ในเส้นทางแม่ทพั แต่ก่อนหน้านี้ลว้ นเชี่ยวชาญทั้งบุ๋นทั้งบู๊ กระทัง่
ยังให้ความสาคัญกับบุ๋นเล็กน้อย พื้นฐานแน่นอนว่าย่อมมี
สาหรับการทดสอบของใต้เท้าฉังพ่อตาก็สามารถตอบได้อย่างลื่น
ไหล ทาให้ใต้เท้าฉังดีใจจนลูบหนวดพยักหน้า สายตาที่มองเสิ่ น
เชียนเอ็นดูยงิ่ กว่าลูกแท้ๆ คืนนั้นยังดื่มสุ ราดีหนึ่งไห ชวนลูกเขย
พูดคุยไปครึ่ งค่อนคืน
ฉังฮูหยินเห็นสามีที่ปกติเคร่ งขรึ มเข้มงวดกลายเป็ นคนพูดเก่ง ก็รู้วา่
เขากาลังมีความสุ ข ทั้งโมโหทั้งน่าขันจริ งๆ สาหรับลูกเขยผูน้ ้ ีของ
ตระกูลเสิ่ นนางเองก็พอใจอย่างถึงที่สุดเช่นกัน อยากได้เช่นไรก็ได้
เช่นนั้น อยากได้คนมีความสามารถก็มีความสามารถ วงศ์ตระกูลสู ง
กว่าพวกเขามาก แต่ความประพฤติกลับถ่อมตัวมีมารยาทอย่างถึง
ที่สุด อีกทั้งแม่ยายก็พดู ไว้แล้วว่า รอสามีภรรยาแต่งงานกันแล้วก็จะ
ย้ายไปซีเจียงด้วยกัน ไม่อาจทิ้งให้เจ้าสาวอยูร่ ับใช้ในจวน ไอหยา ยัง
มีครอบครัวไหนที่ใจกว้างยิง่ กว่าครอบครัวนี้อีก ลูกสาวคนโตของ
นางมีวาสนาดีจริ งๆ นี่คือคู่หมั้นดีที่จุดโคมไฟก็ยากจะหาได้! ไม่เห็น
หรื อว่าเหล่าพี่นอ้ งของนางต่างก็อิจฉาตาร้อน นางนับว่าได้ระบาย
ความอัดอั้นที่ถูกพวกนางเบียดเบียนเนื่องจากป่ วยมาหลายปี แล้ว
แม้แต่คุณหนูตระกูลฉังที่แอบมองเสิ่ นเชียนปราดหนึ่งอยูห่ ลังฉาก
กั้น ก็หน้าแดงก้มหน้างุด ในใจเต็มไปด้วยความดีใจ ก่อนหน้านี้ต่อ
ให้พอ่ แม่นางจะพูดว่าดีสกั เพียงใด นางเองก็ไม่ได้คาดหวังมากนัก
อย่างไรเสี ยวงศ์ตระกูลของทั้งสองครอบครัวก็ต่างชั้นกัน เขาเป็ นถึง
ท่านซื่อจื่อจวนโหวจะเหลียวแลตระกูลนางได้อย่างไร แม้วา่ พ่อนาง
จะเป็ นหัวหน้าราชวิทยาลัยกัว๋ จื่อ บริ สุทธิ์สูงส่ งก็บริ สุทธิ์สูงส่ งอย่าง
ยิง่ ทว่าบริ สุทธิ์แต่กลับไม่สูงส่ ง! แม่นางบอกว่าที่ตระกูลเสิ่ นชื่น
ชอบก็คือความสามารถในการดูแลบ้านของนาง นางเองก็ไม่ค่อยเชื่อ
นัก คุณหนูสตรี สูงศักดิ์ที่สามารถดูแลบ้านได้ในตระกูลใหญ่ตระกูล
โตก็มีถมไป เหตุใดถึงเป็ นนางที่ได้รับโชคดีน้ ีเล่า ซื่อจื่อผูน้ ้ ีจะต้องมี
ตรงไหนที่ไม่เหมาะสมเป็ นแน่ ตระกูลเสิ่ นไม่อาจหาภายในตระกูล
สู งได้ ดังนั้นจึงเลือกนางเสี ย
ทว่าตั้งแต่ที่แอบมองว่าที่สามีหลังฉากกั้น คุณหนูตระกูลฉังก็เชื่อ
แล้วจริ งๆ ว่าตนมีวาสนาแท้จริ ง เหมือนอย่างที่แม่นางว่า สามีเช่นนี้
จุดโคมไฟก็ยากจะหาได้ ด้วยเหตุน้ ีจิตใจของนางที่นงั่ อยูใ่ น
ห้องนอนจึงหวานชื่น รู ้สึกว่าอากาศที่หนาวเย็นยะเยือกนี้ไม่ได้
ทรมานอย่างเช่นที่ผา่ นมา
เอ่ยถึงราชครู เสิ่ นก็ตอ้ งนึกถึงอาการบาดเจ็บของเขา ไม่วา่ ข่าวลือ
ก่อนหน้านี้จะเป็ นอย่างไร นายท่านหัวหน้าตระกูลแต่ละจวนต่างก็
ไม่ได้เก็บมาใส่ ใจ ข่าวลือก็เท่านั้น สามารถเก็บมาคิดเป็ นจริ งได้หรื อ
ทว่าตอนนี้ผา่ นไปเกือบเดือนแล้ว เรื อนของราชครู เสิ่ นก็ยงั ปิ ดเรื อน
ปฏิเสธแขก หมอหลวงสองคนที่ฝ่าบาทส่ งมายังคงนัง่ เฝ้าอยูท่ ี่จวน
จงอู่โหว อ้อไม่ ตอนนี้ควรจะเป็ นจวนหย่งกัว๋ กงแล้ว แม้คนทั้งหมด
ในจวนหย่งกัว๋ กงต่างก็พดู ว่าราชครู เสิ่ นมีอาการดีข้ ึนแล้ว แต่ในใจ
ทุกคนก็ยงั คงเกิดข้อสงสัย คงไม่ใช่วา่ ราชครู เสิ่ นบาดเจ็บสาหัส
เกินไปจนดีข้ ึนไม่ได้แล้วกระมัง
ในวันมงคลใหญ่ที่ตอ้ นรับการกลับมาของเสิ่ นเชียนท่ามกลางข้อ
สงสัยของขุนนางในราชสานัก ก่อนหน้านี้จวนจิ้นอ๋ องกลับเกิดเรื่ อง
อื้อฉาวขึ้นแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 270-1 เรื่ องอื้อฉาว
เรื่ องอื้อฉาวเรื่ องนี้อยูใ่ นความคาดหมายของเสิ่ นเวย ก็คือเรื่ องที่ท่าน
อ๋ องจิ้นเลี้ยงผูห้ ญิงไว้ขา้ งนอกถูกพระชายาอ๋ องจิ้นรู ้เข้าน่ะสิ อย่างไร
เสี ยความลับก็ไม่มีในโลก เพียงแต่ไม่คิดว่าจะปูดออกมายามนี้
เท่านั้น
ที่ตลกร้ายที่สุดคือเรื่ องนี้ยงั เป็ นบุตรคนที่สี่ของท่านอ๋ องจิ้นสวีฉ่าง
หลุดปากออกมาต่อหน้าเสด็จแม่ของเขา สวีฉ่างรู ้ได้อย่างไรว่าบิดา
ของเขาเลี้ยงผูห้ ญิงอยูข่ า้ งนอกนะ? เรื่ องนี้วา่ ไปแล้วก็เพราะความ
บังเอิญ
สวีฉ่างก็คือคนสามะเลเทเมาที่อยูต่ ามกองบุปผาในหอคณิ กา คบหา
สหายเสเพลกลุ่มใหญ่ สหายของเขาย่อมเป็ นคนประเภทเดียวกับเขา
ทั้งนั้น ในนั้นเขาสนิทกับชีเว่ยที่สุด อย่าเห็นว่าชีเว่ยเกลียดสวีโย่
วเข้ากระดูกดา ทว่าไม่กระทบความสัมพันธ์อนั ดีของเขาและสวีฉ่าง
เลยสักนิด
ระยะนี้ชีเว่ยถูกตาต้องใจหญิงสาวนางหนึ่งที่อาศัยอยูต่ รอกใบหลิว
บอกว่าเป็ นหญิงที่พอ่ ค้าจากต่างถิ่นเลี้ยงไว้ขา้ งนอก หน้าตาสวย
อย่างไรอย่างไร ยิง่ กว่านั้นพ่อค้าต่างถิ่นปี หนึ่งอยูเ่ พียงสองเดือน
บัดนี้ทา้ ยปี พ่อค้าต่างถิ่นนัน่ กลับบ้านไปฉลองปี ใหม่นานแล้ว ชีเว่
ยจึงคิดจะฉวยโอกาสเอาคนมาเป็ นของตน
เขาโอ้อวดรู ปโฉมของหญิงสาวนางนั้นต่อหน้าสวีฉ่างเสี ยจนอย่าง
กับเป็ นางฟ้านางสวรรค์ ราวกับฉางเอ๋ อในวังจันทราอย่างไรอย่าง
นั้น พูดจนสวีฉ่างใจคันคะเยอตามไปด้วย จึงปี นกาแพงไปเกี้ยวพา
ราสี เป็ นเพื่อนชีเว่ยอย่างมีน้ าใจยิง่ นัก
เจ้าสองคนนี้ดื่มไปเล็กน้อย โต๋ เต๋ ๆ ไปถึงตรอกใบหลิว ใช้แรงของ
วัวเก้าตัวกับเสื ออีกสองตัวมารวมกันถึงปี นขึ้นกาแพงบ้านของหญิง
สาวนางนั้นได้ เพิง่ โผล่หน้าออกไป สวีฉ่างก็ตกใจสะดุง้ เฮือกตกจาก
ข้างบนลงมา สร่ างเมาไปกว่าครึ่ งทันที แล้วก็ไม่ทนั ได้สนใจความ
เจ็บปวดลากชีเว่ยแล้วก็เผ่นแนบ
ชีเว่ยนัน่ ยังไม่เข้าใจสถานการณ์เลย “เป็ นอันใดหรื อ? เป็ นอันใด
หรื อ? เจ้าวิ่งหาอะไร?” ชีเว่ยหายใจหอบแฮ่กๆ พลางพูดอย่างไม่
พอใจยิง่ นัก
สวีฉ่างก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน มือหนึ่งพยุงกาแพง มือหนึ่งกดหน้าอก
แล้วหอบหายใจแรง ครึ่ งค่อนวันถึงทุเลาขึ้น
“เจ้าก็ไม่สืบให้แน่ชดั ก็ลากข้ามา เจ้าเกือบทาให้ขา้ ตายแล้วรู ้
หรื อไม่?” สวีฉ่างถลึงตาใส่ ชีเว่ยปราดหนึ่ง ถึงบัดนี้เขายังกลัวไม่หาย
เลยนะ
“ไยข้าถึงทาให้เจ้าตายล่ะ? เมื่อครู่ เจ้าเห็นใครล่ะ? หรื อว่านัน่ ไม่ใช่
ผูห้ ญิงที่พอ่ ค้าต่างถิ่นเลี้ยงไว้ขา้ งนอก?” ชีเว่ยถาม เมื่อครู่ เขายังเห็น
อะไรไม่ชดั ทั้งนั้นก็ถูกสวีฉ่างกระชากลงมาแล้ว
“พ่อค้าต่างถิ่นผายลมสิ นัน่ มันบิดาข้า” สวีฉ่างระเบิดคาหยาบ
ออกมา เมื่อครู่ เขาเห็นเสด็จพ่อของเขากาลังอุม้ นางหนูนนั่ ยืนอยูใ่ น
ลานบ้าน นางหนูนนั่ สองมือกอดคอของเสด็จพ่อเขาไว้ ปากยังเรี ยก
ท่านพ่อ ท่านพ่ออย่างร่ าเริ ง
“อะไรนะ? ท่านลุงอ๋ องจิ้น?” ชีเว่ยตกใจจนปากยัดไข่ไก่เข้าไปได้ท้ งั
ใบ “ไม่คิดว่าจะเป็ นผูห้ ญิงที่เสด็จพ่อเจ้าเลี้ยงไว้ขา้ งนอก!” ชีเว่ยรู ้สึก
ตกตะลึงพรึ งเพริ ดมาก
“มิเช่นนั้นข้าวิ่งอะไรล่ะ?” สวีฉ่างพูดอย่างไม่สบอารมณ์ หากถูก
เสด็จพ่อจับได้จะเป็ นผลดีกบั เขาหรื อ? ส่ วนเสด็จพ่อเขาเลี้ยงผูห้ ญิง
ไว้ขา้ งนอก นัน่ เรื่ องไม่เป็ นเรื่ องทั้งนั้น ผูช้ ายนี่นา โดยเฉพาะเชื้อ
พระวงศ์เช่นเสด็จพ่อเขาเช่นนี้ เลี้ยงผูห้ ญิงไว้ขา้ งนอกสักคนจะ
เป็ นไรไป?
ชีเว่ยหลังจากตกตะลึงผ่านไปก็หวั เราะร่ าฮ่าๆ ว่า “นี่มนั น้ าเชี่ยวชน
ปะทะวังพญามังกรจริ งๆ แหะ ไม่คิดว่าท่านลุงอ๋ องจิ้นก็เป็ นคนร่ วม
อุดมการณ์เดียวกันหรื อเนี่ย!” เขายักคิ้วหลิ่วตาให้สวีฉ่าง “ในเมื่อ
เรื อนหลังนั้นเป็ นของท่านลุงอ๋ องจิ้น เช่นนั้นข้าก็ไปหาคนสวยที่อื่น
ดีกว่า จุ๊ๆๆ!” สี หน้ายังผิดหวังมากอย่างคาดไม่ถึง
สวีฉ่างก็ไม่ได้คิดจะบอกความลับกับเสด็จแม่ของเขาหรอกนะ เขา
รู ้สึกจริ งๆ ว่าผูช้ ายเที่ยวหอคณิ กาเลี้ยงผูห้ ญิงไว้ขา้ งนอกเป็ นเรื่ อง
ปกติ และก็เพราะสวีฉ่างพบความลับเรื่ องนี้ของเสด็จพ่อเขาเข้า เขา
ถึงรู ้สึกว่าเขาและเสด็จพ่อเป็ นพวกเดียวกัน มองเสด็จพ่อเขาแล้ว
รู ้สึกใกล้ชิดกันเหลือเกิน
เป็ นเพราะพระชายาอ๋ องจิ้นเห็นสวีฉ่างแต่งงานแล้วยังออกข้างนอก
เป็ นเรื่ องไม่สมควรจริ งๆ จึงสัง่ สอนเขาไปสองสามประโยค สวีฉ่าง
ปากไวชัว่ ขณะหลุดปากออกมาว่า “เสด็จแม่ ลูกเพียงแต่รักสนุกนิด
หน่อย ไม่ได้ทาเรื่ องผิดกฎหมายเสี ยหน่อย ข้างกายชายมีสาวงามรู ้ใจ
สองสามคนจะเป็ นไรไป? เสด็จพ่อยังเลี้ยงผูห้ ญิงไว้ขา้ งนอกเลย ลูก
เที่ยวหอคณิ กาหน่อยจะเป็ นไรไป?”
พอพระชายาอ๋ องจิ้นได้ยนิ เรื่ องนี้เข้าก็หายนะแล้ว บีบให้บุตรชาย
สารภาพทันที สวีฉ่างถูกบีบจนช่วยไม่ได้ ได้แต่พดู เรื่ องที่เขารู ้
ออกมาจนหมด รวมทั้งผูห้ ญิงข้างนอกนัน่ ชื่ออะไร อายุเท่าไร อาศัย
อยูท่ ี่ไหน แม้แต่เรื่ องที่นางให้กาเนิดบุตรสาวเล็กๆ สองคนให้เสด็จ
พ่อเขาก็พดู ออกมาจนหมด
พระชายาอ๋ องจิ้นทรุ ดลงทันที มือสัน่ เทา ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่
อยากเชื่อ ไม่คิดว่าท่านอ๋ องจิ้นจะปิ ดบังนางเลี้ยงผูห้ ญิงอยูข่ า้ งนอก
อีกทั้งยังให้กาเนิดบุตรสาวสองคน นางกลับไม่ระแคะระคายอะไร
เลยแม้แต่นอ้ ย นี่หมายความว่าอะไรล่ะ? ความเชื่อใจและรักเดียวใจ
เดียวในหลายปี มานี้เป็ นเรื่ องตลกชัดๆ ในใจพระชายาอ๋ องจิ้นเศร้า
โศกและอ้างว้างเหลือจะกล่าว ที่มีมากกว่าความเศร้าและอ้างว้างคือ
ความโกรธแค้น
“เด็กๆ เด็กๆ ยายซือเจ้าพาคนไปตรอกใบหลิวมัดนางชัว่ ช้านัน่ มาให้
ข้า ข้าจะดูเสี ยหน่อยว่างามหยาดฟ้ามาดินปานใดถึงทาให้ท่านอ๋ อง
ลุ่มหลงไม่ลืมหูลืมตาถึงเพียงนี้” พระชายาอ๋ องจิ้นกัดฟันออกคาสัง่
สวีฉ่างเห็นว่าก่อเรื่ องใหญ่แล้ว งงเป็ นไก่ตาแตกทันที หากให้เสด็จ
พ่อรู ้วา่ เขาทาความลับรั่วไหล เช่นนั้นเขายังอยูด่ ีได้อีกหรื อ? ฉวย
โอกาสที่ไม่มีคนสนใจ สวีฉ่างเผ่นพรวดไปแล้ว รี บไปหาเสด็จพ่อ
ของเขาแล้ว
และก็ให้บงั เอิญนัก ท่านอ๋ องจิ้นที่ปกติอยูใ่ นจวนเป็ นประจาวันนี้
กลับไม่อยู่ สวีฉ่างพาเด็กรับใช้หาอยูค่ รึ่ งค่อนวันถึงหาเขาพบ รอถึง
ยามที่ท่านอ๋ องจิ้นรุ ดมาถึงเรื อนที่ตรอกใบหลิว ข้างในก็เละตุม้ เป๊ ะ
ไปหมด ม่านเอ๋ อร์ผหู ้ ญิงที่เลี้ยงไว้และบุตรสาวตัวน้อยสองคนล้วน
ไม่อยู่ คนรับใช้ไม่กี่คนล้มหัวร้างข้างแตกอยูบ่ นพื้น
ท่านอ๋ องจิ้นทั้งโกรธทั้งตกใจ ไม่ตอ้ งถามเขาก็รู้วา่ เป็ นฝี มือใคร เขา
กระทืบเท้าหันหลังแล้วก็พงุ่ กลับจวนอ๋ องจิ้น สวีฉ่างที่ตามอยูข่ า้ ง
หลังมองดูสภาพน่าอนาถในลานบ้านแล้ว ใจทั้งดวงเย็นชืดหมดแล้ว
เสด็จแม่เอ๊ย ไยท่านจึงลงมือโหดเช่นนี้นะ? ทีน้ ีท่านแหย่จนเสด็จพ่อ
โกรธแล้วนะ!
ยามที่ท่านอ๋ องจิ้นรุ ดกลับมาถึงจวนอ๋ องพระชายาอ๋ องจิ้นกาลังลง
ทัณฑ์ม่านเอ๋ อร์อยูเ่ ลย ใบหน้าที่งามดุจบุปผาหยกงามถูกตบจน
เหมือนหัวหมู บุตรสาวตัวน้อยตกใจจนร้องไห้กระจองอแง คนเล็ก
นัน่ เพิ่งจะอายุสองสามเดือนเอง ถูกแม่นมกอดไว้แน่นๆ อยูใ่ นอก
“ก็เพียงแค่หน้าตายัว่ ยวนเหมือนนางจิ้งจอกไม่ใช่หรื อ? วันนี้ขา้ จะ
ทาลายใบหน้าของเจ้าเสี ย ดูสิเจ้าจะเอาอะไรยัว่ ยวนท่านอ๋ อง” พระ
ชายาอ๋ องจิ้นใบหน้าแฝงความดุร้าย พอหันหน้าเห็นเด็กทารกที่อยูใ่ น
อ้อมอกแม่นม ในตายิง่ พ่นไฟโกรธอาฆาตแค้นออกมา “ก็มี
ความสามารถดีนี่นา แม้แต่สายพันธุ์ชวั่ ๆ นี่กค็ ลอดออกมาถึงสองคน
เห็นแล้วก็ราคาญ จงทุ่มให้ตายเสี ย”
แล้วก็มียายเฒ่าทางานหยาบเข้ามาแย่งเด็ก เลือดเนื้อเชื่อมใจ ม่าน
เอ๋ อร์นนั่ ก็ไม่สนใจว่าตนถูกตบจนหน้ามืดวิงเวียนแล้ว ดิ้นรนขึ้นมา
ขัดขวาง “พระชายา พระชายา ขอร้องล่ะ ได้โปรดปล่อยลูกของ
ข้าน้อยด้วยเถอะ นางยังเล็ก ยังไม่ครบสามเดือนเลยเจ้าค่ะ! ท่าน
โกรธก็ลงที่ขา้ น้อยเถอะ ท่านจะตีจะฆ่าก็ได้ ขอได้โปรดให้ทางรอด
กับเด็กด้วยเถอะเจ้าค่ะ! ข้าน้อยขอร้องท่านแล้ว ข้าโขกศีรษะให้ท่าน
แล้ว” นางวิงวอนอย่างทุกข์ทน
ม่านเอ๋ อร์ศีรษะแตะพื้น โขกศีรษะดังโป๊ กๆ ขึ้นมา เพียงครู่ เดียว
หน้าผากก็เต็มไปด้วยเลือด ไหลอาบหน้า เป็ นที่น่าสยดสยอง
ในใจพระชายาอ๋ องจิ้นรู ้สึกสะใจแวบหนึ่ง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า
“มัวไปทาอะไรอยูต่ ้ งั นาน? สายไปแล้ว! โยนเจ้าพันธุ์ชวั่ ช้าเล็กๆ นี่
ออกไป”
แม่นมที่บอบบางไหนเลยจะสู ้ยายเฒ่าบึกบึนได้ สุ ดท้ายเด็กยังคงถูก
ยายเฒ่านัน่ แย่งไปไว้ในมือ นางยกเด็กขึ้นสู งกาลังจะทุ่มลงพื้น
“หยุดนะ!” พอดีท่านอ๋ องจิ้นรุ ดมาถึง เขามองดูผา้ อ้อมที่ถูกยายเฒ่า
ทางานหยาบนัน่ ยกขึ้นสู ง แล้วตกใจจนวิญญาณแทบแตกซ่าน “รี บ
หยุดเดี๋ยวนี้”
ท่านอ๋ องจิ้นวิ่งเข้าไปแย่งเด็กจากมือของยายเฒ่า กอดไว้แน่นๆ ที่
หน้าอก แล้วมองดูม่านเอ๋ อร์ที่เปื้ อนเลือดไปทั้งตัวที่อยูบ่ นพื้นและ
บุตรสาวที่ร้องไห้จนหน้าแดงไปหมด ทั้งปวดใจ ทั้งโกรธ
ม่านเอ๋ อร์นนั่ พอเห็นท่านอ๋ องจิ้นมาแล้ว ราวกับเห็นผูช้ ่วยชีวิตก็ไม่
ปาน นางร้องอย่างเศร้าโศกเสี ยงหนึ่งว่า “ท่านอ๋ อง ช่วยบุตรสาวเรา
ด้วย” แล้วร่ างกายก็อ่อนยวบล้มลงบนตัวท่านอ๋ องจิ้น ส่วนบุตรสาว
ที่โตหน่อยคนนั้นยิง่ ถลาเข้ามากอดขาของท่านอ๋ องจิ้นไว้ ร้องห่ม
ร้องไห้วา่ “ท่านพ่อ ท่านพ่อ ข้ากลัว ข้ากลัว!” ร่ างกายเล็กๆ สัน่ ไม่
หยุด
ไฟโกรธของท่านอ๋ องจิ้นยิง่ โชติช่วงขึ้น “นางซ่ง นางอสรพิษ!” ท่าน
อ๋ องจิ้นชี้พระชายาอ๋ องจิ้นด่า สัน่ ไปทั้งตัว ขาดเพียงนิดเดียว หากเขา
มาช้าไปครู่ หนึ่ง บุตรสาวคนเล็กของเขาก็ไม่รอดแล้ว ก็จะถูกยาย
เฒ่าที่สมควรตายนี่ทุ่มตายแล้ว ท่านอ๋ องจิ้นถีบยายเฒ่านัน่ แรงๆ ที
หนึ่งว่า “เจ้าทาสรับใช้ที่สมควรตาย หมิ่นเบื้องสู ง ลากออกไปโบย
ให้ตาย”
ยายเฒ่านัน่ งงเป็ นไก่ตาแตกทันที คุกเข่าลงดังตุ๊บ แล้วโขกศีรษะราว
กับสับกระเทียมว่า “ท่านอ๋ องไว้ชีวิตด้วย พระชายาช่วยด้วยเจ้าค่ะ
บ่าวทาตามคาสัง่ ของท่านนะเจ้าคะ!”
“ลากลงไป ลากลงไป หนวกหูเหลือเกิน” พระชายาอ๋ องจิ้นกลับไม่
สนใจนางเลยแม้แต่นอ้ ย นางจ้องท่านอ๋ องจิ้นเขม็ง บนใบหน้าแฝง
ด้วยความเศร้าโศกและน้อยใจว่า “ท่านอ๋ องบอกว่าข้าเป็ นนาง
อสรพิษ? ท่านอ๋ องแอบเลี้ยงผูห้ ญิงอยูข่ า้ งนอกลับหลังข้ายังมีเหตุผล
อีกหรื อ? นัน่ เป็ นเพียงผูห้ ญิงไพร่ คนหนึ่งเท่านั้น เหตุใดข้าจะสัง่
สอนไม่ได้” พูดถึงท้ายสุ ดนางก็กดั ฟันจนแทบแตก
คาพูดนี้ราวกับราดน้ ามันบนกองไฟ ท่านอ๋ องจิ้นโกรธยิง่ กว่าเดิม
“ข้าเป็ นถึงอ๋ อง เลี้ยงผูห้ ญิงไว้ขา้ งนอกคนหนึ่งจะเป็ นไรไป? เจ้าลืม
คาพูดที่สงั่ สอนสะใภ้โย่วเกอเอ๋ อร์หมดแล้วหรื อ? เจ้าเป็ นคนบอกว่า
ผูช้ ายก็ควรมีสามภรรยาสี่ อนุมิใช่หรื อ? ม่านเอ๋ อร์ฐานะต่าต้อยไม่ผดิ
ทว่าสองคนนี้กเ็ ป็ นเลือดเนื้อเชื้อไขของข้า ไม่คิดว่าเจ้าจะลงมือกับ
เลือดเนื้อเชื้อไขของข้า เจ้าไม่ใช่นางอสรพิษแล้วเป็ นอะไร?”
“ข้าเป็ นนางอสรพิษ ข้าเป็ นนางอสรพิษ ไม่คิดว่าท่านอ๋ องจะบอกว่า
ข้าเป็ นนางอสรพิษ! ฮ่าๆๆ!” จู่ๆ พระชายาอ๋ องจิ้นก็หวั เราะฮ่าๆ
ขึ้นมา “ท่านอ๋ องอย่าลืมเสี ยล่ะว่านางอสรพิษคนนี้คลอดบุตรชาย
สายตรงให้ท่านแล้วสามคน” บุตรชายสายตรงสามคน บวกกับ
ตรากตรามายีส่ ิ บปี ไม่คิดว่าจะเทียบนางจิ้งจอกจอมยัว่ ยวนต่าช้าที่
เป็ นโซ่วหม่ามาก่อนและเด็กหญิงกะโปโลสองคนไม่ได้ พระชายา
อย่างนาง ภรรยาหลวงคนนี้เป็ นไปยังมีความหมายอะไรอีก
“เจ้าอย่ามาพูดนัน่ พูดนี่หน่อยเลย ข้าก็ให้เย่เกอเอ๋ อร์รับตาแหน่งซื่อจื่
อตามที่หวังแล้วมิใช่หรื อ? เจ้ายังมีอะไรไม่พอใจอีก? ม่านเอ๋ อร์
คลอดบุตรสาวให้ขา้ สองคนแล้ว ในเมื่อเจ้ารู ้แล้ว ก็ฉวยโอกาสนี้ให้
พวกนางแม่ลูกสามคนเข้าจวนเถอะ” ท่านอ๋ องจิ้นเอ่ยอย่างเกรี้ ยว
กราด
“อย่าได้ฝันเลย! ข้าไม่ยอม นางคนนี้ยวั่ จนท่านอ๋ องหลงอนุดบั ภรรยา
หากให้นางเข้าจวนแล้วข้ายังจะมีที่ยนื อยูห่ รื อ? ข้าไม่ยอมเด็ดขาด”
พระชายาอ๋ องจิ้นประสานตากับสายตาโกรธเกรี้ ยวของท่านอ๋ องจิ้น
แล้วเอ่ยอย่างเฉียบขาด
“เจ้า เจ้ามันริ ษยา เจ้าไร้เมตตา” ท่านอ๋ องจิ้นกล่าวโทษเสี ยงดังว่า “ข้า
ไม่จาเป็ นต้องให้เจ้ายินยอม จวนอ๋ องจิ้นนี้ขา้ ยังเป็ นคนตัดสิ นใจอยู่
เจ้ายอมก็ตอ้ งยอม ไม่ยอมก็ตอ้ งยอม ม่านเอ๋ อร์เป็ นผูห้ ญิงของข้านาน
แล้ว ประตูจวนอ๋ องจิ้นนางเข้าแน่แล้ว”
“ท่านอ๋ องท่านจะหลงอนุดบั ภรรยาจริ งหรื อ? ท่านไม่กลัวพูก่ นั ของ
ผูต้ รวจการหรื ออย่างไร? ท่านไม่กลัวฝ่ าบาททรงตาหนิหรื อ
อย่างไร?” พระชายาอ๋ องจิ้นขึ้นเสี ยงด้วยความโกรธ
ท่านอ๋ องจิ้นได้ยนิ ดังนั้นแววตาดุร้ายขึ้นมาทันทีวา่ “นางซ่ง อย่าลืม
ว่าเจ้าเข้าประตูใหญ่จวนอ๋ องจิ้นมาได้อย่างไร” ฮึ ข่มขู่เขา! นี่เขาดีกบั
นางเกินไปแล้ว ถึงขนาดทาให้นางไม่รู้ฟ้าสู งแผ่นดินต่าข่มขู่เขา
ขึ้นมา “ในฐานะพระชายา ดูแลเรื อนด้านหลัง รับอนุให้ขา้ ผลิดอก
ออกผล คือหน้าที่ของเจ้า นางซ่งเจ้าจงเก็บกวาดเรื อนหลังหนึ่ง
ออกมาโดยเร็ ว เลือกวันให้ม่านเอ๋ อร์เข้าจวน บัดนี้ขา้ จะพานางไปพัก
เรื อนด้านนอกก่อน”
สายตาที่ท่านอ๋ องจิ้นมองพระชายาอ๋ องจิ้นช่างซับซ้อนเหลือเกิน ก็
เช่นเดียวกับในใจเขา นางซ่งที่อยูใ่ นใจเขาเป็ นคนงดงาม จิตใจดี
บอบบางเสมอมา คนมากมาย รวมทั้งเสด็จพ่อเสด็จพี่ของเขาต่าง
บอกเขาว่านางซ่งเป็ นคนมีเจ้าแผนการไม่ธรรมดา ทว่าเขาไม่เคยเชื่อ
มาก่อน มิเช่นนั้นเขาก็คงไม่พะเน้าพะนอนางมาหลายปี ปานนี้
หรอก! ต่อให้บดั นี้นางไม่งดงามดังเดิม เขาก็รู้สึกว่านางเป็ นคนใจ
อ่อน จึงให้ความเชื่อถือและให้เกียรตินางอย่างเพียงพอ
ทว่าในความเป็ นจริ งล่ะ? วันนี้หากไม่เห็นกับตา เขาอาจถูกหมกไว้
ในกลองไปตลอดชีวิต แม้แต่กบั เด็กทารกยังลงมือได้ นัน่ ต้องใจแข็ง
ปานใดกัน? ฮ่าๆๆ ที่แท้เขาต่างหากคือคนที่ตาบอดคนนั้น!
พระชายาอ๋ องจิ้นโกรธจัด “ท่านอ๋ อง ท่าน ท่าน…” เสี ยงเรี ยกที่
โหยหวนเสี ยงหนึ่งออกจากปากพระชายาอ๋ องจิ้น แล้วนางก็ลม้ หงาย
หลังไปทั้งตัว
“พระชายา พระชายา”
“พระชายาท่านเป็ นอะไรไป?”
“แย่แล้ว พระชายาหมดสติไปแล้ว”
“พระชายาฟื้ นสิ เจ้าคะ!”
เหล่าสาวใช้ยายเฒ่าร้องอย่างตื่นตระหนกทาอะไรไม่ถูก ทว่าท่าน
อ๋ องจิ้นไม่แม้แต่จะหยุดฝี เท้าสักก้าว เดินออกข้างนอกไปราวกับ
ไม่ได้ยนิ
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 270-2 เรื่ องอื้อฉาว
สวีฉ่างที่หดศีรษะหลบอยูข่ า้ งนอกฟังเสี ยงทะเลาะของเสด็จพ่อเสด็จ
แม่ของเขาแล้ว ขนหัวลุก ในใจเอาแต่พึมพาว่า ‘เสด็จแม่เอ๊ย ท่านก็
ก้มศีรษะหน่อยสิ ก็แค่ผหู ้ ญิงที่เลี้ยงอยูข่ า้ งนอกมิใช่หรื อ?’
เข้าบ้านก็เข้าบ้านสิ ก็เพียงแค่ของเล่นที่ทาให้เสด็จพ่อดีใจเพิ่มขึ้นมา
ชิ้นหนึ่งเท่านั้น เรื่ องใหญ่ปานใดกันเชียว? คุกคามไม่ถึงตาแหน่ง
ของท่านเสี ยหน่อย ท่านจะงัดข้อกับเสด็จพ่อไปไย! อย่างไรเสด็จพ่อ
ก็เป็ นคนตัดสิ นใจของจวนอ๋ องจิ้น ท่านเป็ นท่านย่าแล้ว ยังชิงรักหัก
สวาทกับของเล่นอีก มิใช่ลดค่าตนเองหรอกหรื อ?
หาท่านเห็นพวกนางแม่ลูกสามคนเกะกะลูกตาจริ งๆ ให้พวกนางเข้า
จวนมาก่อน ท่านค่อยเล่นงานช้าๆ ก็ได้แล้วมิใช่หรื อ? จาเป็ นต้อง
ร้องจะฆ่าจะแกงกับเสด็จพ่อยามนี้หรื อ? นี่มิใช่ผลักเสด็จพ่อออก
โต้งๆ หรื อ? สวีฉ่างร้อนใจแทนเสด็จแม่ของเขาอยูข่ า้ งนอก
แน่นอนคาพูดพวกนี้เขากล้าแต่แอบบ่นในใจ จะให้เขาพูดต่อหน้า
เสด็จแม่เขาเขาก็ไม่กล้าเช่นกัน แน่นอนเขาก็ไม่กล้าไปเกลี้ยกล่อม
เสด็จพ่อเขา ไม่เห็นเสด็จพ่อเขาโกรธจนเป็ นเช่นนั้นแล้วหรื อ? ยิง่ ไม่
กล้าเสนอหน้าเข้าไปใหญ่ อย่างไรเสี ยว่าไปแล้วเรื่ องนี้เขาก็เป็ นคน
ก่อขึ้น เขากลัวเสด็จพ่อสัง่ สอนเขาน่ะสิ !
รอถึงยามที่ได้ยนิ ว่าเสด็จแม่เขาหมดสติ สวีฉ่างไม่ทนั ได้สนใจอย่าง
อื่นอีกแล้ว เดินสองก้าวก็บุกเข้าห้องไป “เสด็จแม่ เสด็จแม่ท่านไม่
เป็ นไรน่ะ? ท่านรี บฟื้ นเร็ ว! อย่าขู่ลูกสิ ! หมอ รี บไปเรื อนพี่สะใภ้สาม
เชิญหมอหลวงมา”
สวีฉ่างออกแรงอุม้ พระชายาอ๋ องจิ้นขึ้นมา เดินเข้าห้องด้านในวางลง
บนเตียง คนทั้งคนคุกเข่าอยูห่ น้าเตียง จ้องพระชายาอ๋ องจิ้นที่หลับตา
สนิทด้วยสี หน้าร้อนรน ในใจเหมือนตีกลอง เสด็จแม่ท่านอย่าเป็ น
อะไรไปเชียวนะ!
“หมอหลวงล่ะ? ไยหมอหลวงยังไม่มา? ไป ไป รี บไปดูหน่อย!”
เวลาผ่านไปเพียงครึ่ งเค่อ สวีฉ่างก็รู้สึกนานเหมือนหนึ่งชัว่ ยาม จึง
หมดความอดทนขึ้นมา
“ฉ่างเกอเอ๋ อร์!” เสี ยงที่อ่อนแอเสี ยงหนึ่งดังขึ้นข้างหู
“เสด็จแม่ท่านฟื้ นแล้ว!” สวีฉ่างถลาไปหน้าเตียงอีกด้วยความ
ประหลาดใจ มองพระชายาอ๋ องจิ้นที่ลืมตาขึ้น แล้วใบหน้ามีแต่ความ
ดีใจ “เสด็จแม่ท่านทาลูกตกใจเกือบตาย”
พระชายาอ๋ องจิ้นเห็นมีแต่บุตรชายคนเล็กเฝ้าอยูห่ น้าเตียงนาง ส่ วน
ั ญาว่าจะดีกบั นางตลอดชีวิตกลับไม่อยู่ ความรู ้สึก
ผูช้ ายที่ให้สญ
น้อยใจอดเอ่อขึ้นในใจไม่ได้ “ฉ่างเกอเอ๋ อร์ เสด็จพ่อเจ้า เสด็จพ่อ
เจ้า…” นางสะอื้นจนพูดไม่ออก น้ าตาสองสายไหลลงอาบแก้ม
สวีฉ่างเห็นดังนั้นรี บช่วยนางเช็ดน้ าตาพัลวัน แล้วปลอบใจว่า “ไม่
เป็ นไร ไม่เป็ นไร ผ่านไปสองวันเสด็จพ่อหายโกรธก็ดีแล้ว! เสด็จแม่
ท่านก็เหลือเกิน เสด็จพ่อชอบผูห้ ญิงคนนั้น ท่านก็ให้นางเข้าบ้านก็
หมดเรื่ อง ที่นางให้กาเนิดก็เป็ นนางหนูอีก เกะกะท่านตรงไหนล่ะ?
ท่านมักพูดว่าผูช้ ายล้วนมีสามภรรยาสี่ อนุมิใช่หรื อ? ไยท่านกลับ
เลอะเลือนขึ้นมาเองล่ะ? ยามนี้เสด็จพ่อกาลังเลือดขึ้นหน้า ท่านรี บ
เก็บกวาดเรื อนออกมาหลังหนึ่ง รับผูห้ ญิงคนนั้นเข้ามา เสด็จพ่อก็
หายโกรธแล้ว!” เขาออกความคิดให้เสด็จแม่ตนเองขึ้นมา
สวีฉ่างยังไม่สู้ไม่ปลอบใจดีกว่า พระชายาอ๋ องจิ้นได้ยนิ คาปลอบใจ
ของเขาแล้วแทบอยากจะหมดสติไปอีกครั้ง นางรู ้สึกเพียงว่าแม้แต่
บุตรชายคนเล็กก็ไม่ยนื อยูข่ า้ งนางแล้ว จึงอดรู ้สึกเศร้าใจไม่ได้
ร้องไห้ฮือๆ ขึ้นมา
“เสด็จแม่ ท่าน ท่านเป็ นอะไรไป?” สวีฉ่างเห็นดังนั้นยิง่ ทาอะไรไม่
ถูกแล้ว
เสิ่ นเวยฟังเหอฮวาเล่าอย่างเป็ นตุเป็ นตะ แล้วตาโค้งเป็ นพระจันทร์
เสี้ ยว
“แค่ก นี่บ่าวก็ฟังจือเอ๋ อร์พดู มาเช่นกัน หากยามนั้นบ่าวอยูท่ ี่นนั่ ก็
ดีน่ะสิ ” เหอฮวาเสี ยดายอย่างหาใดเปรี ยบมิได้
จือเอ๋ อร์ผนู ้ ้ ีเป็ นสาวใช้ช้ นั สามในเรื อนของพระชายาอ๋ องจิ้น เพราะ
เคยได้รับบุณคุณจากเหอฮวา จึงนานๆ ทีกม็ าหาเหอฮวาคุยเล่น
“อ้อ ใช่แล้ว ผูห้ ญิงคนนั้นล่ะ? พระชายาอนุญาตนางเข้าจวน
หรื อไม่?” เสิ่ นเวยถามเหอฮวา
“ไม่เจ้าค่ะ ยังพักอยูเ่ รื อนด้านนอกเลยเจ้าค่ะ ได้ยนิ ว่าพระชายาล้ม
ป่ วย ป่ วยค่อนข้างหนักทีเดียว ลงจากเตียงไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ” เหอฮ
วาเบ้ปาก ป่ วยตายสิ ดี ยังเพ้อฝันจะควบคุมกดขี่ท่านหญิงบ้านนาง
ถุย! กรรมตามสนองแล้วไหมล่ะ?
สาวใช้ขา้ งกายเสิ่ นเวยทั้งหมดล้วนมีความสุ ขบนความทุกข์คนอื่น ฮึ
ยามนั้นคิดแต่จะยัดคนใส่ ขา้ งกายจวิน้ อ๋ องเรา คอยทาให้ท่านหญิง
เราไม่สบายใจ บัดนี้ในที่สุดท่านก็ได้ลิ้มรสชาติแล้วสิ นะ? ยามนั้น
ท่านพูดได้น่าฟังกว่าร้องเพลงอีกอะไรในฐานะนายหญิงก็ตอ้ งมี
คุณธรรมใจกว้าง อะไรรับอนุผลิดอกออกผลให้พวกท่านอ๋ องเป็ น
หน้าที่ของนายหญิง อะไรนายหญิงไม่สามารถหึ งหวงริ ษยาได้… ฮึ
บัดนี้ไยท่านไม่รับผูห้ ญิงข้างนอกของท่านอ๋ องเข้าจวนล่ะ?
สวีโย่วเลิกงานกลับมา เสิ่ นเวยก็เขยิบเข้าไปแล้ว “ท่านได้ยนิ เรื่ องนั้น
แล้วหรื อยัง?”
“เรื่ องอะไร?” สวีโย่วเงยหน้ามองเสิ่ นเวย ไม่ค่อยแน่ใจว่าที่นางถาม
คือเรื่ องใด?
“เรื่ องในจวนที่เสด็จพ่อท่านเลี้ยงผูห้ ญิงไว้ขา้ งนอกน่ะสิ ” เสิ่ นเวย
พลางเคี้ยวผลไม้พลางใช้คางชี้ไปที่ทิศทางของจวนอ๋ องจิ้น
สวีโย่วพยักหน้าว่า “ได้ยนิ แล้ว เป็ นอะไรหรื อ?” ข่าวของสวีโย่วต้อง
เร็ วกว่าเสิ่ นเวยสักหน่อย แม้เวลาที่เขาอยูใ่ นจวนอ๋ องแต่ละปี ไม่นาน
ทว่าอย่างไรเสี ยก็อยูม่ ายีส่ ิ บกว่าปี แล้ว ในมืออย่างไรก็มีคนจานวน
หนึ่ง
ยิง่ กว่านั้นเรื่ องนี้เขารู ้มานานแล้วว่าช้าเร็ วต้องปูดออกมาสักวัน จึง
สัง่ คนคอยจับตาดูไว้ตลอดเวลา อย่างน้อยเขาก็รู้วา่ เสด็จพ่อเขาย้าย
ผูห้ ญิงที่ชื่อม่านเอ๋ อร์นนั่ มาสามที่แล้ว ตั้งแต่ตรอกอวี๋ซู่ในตอนแรก
มาถึงตรอกใบหลิวที่สุดท้ายนี่ เรี ยกได้วา่ กระต่ายเจ้าเล่ห์มีสามโพรง
แล้ว เสด็จพ่อเขาก็นบั ว่าครุ่ นคิดอย่างหนักแล้ว ทว่าแล้วอย่างไรล่ะ?
ก็ยงั ถูกพระชายาอ๋ องจิ้นรู ้เข้าจนได้มิใช่หรื อ?
“ได้ยนิ ว่าพระชายาป่ วยหนักเชียว หรื อไม่พวกเราไปปรนนิบตั ิกนั ?”
เสิ่ นเวยขยิบตาถามสวีโย่ว
สวีโย่วหัวเราะขึ้นมาทันทีวา่ “เจ้าอยากไปซ้ าเติมหัวเราะเยาะล่ะสิ !”
นางหนูนี่จะไปปรนนิบตั ิพระชายา? ถ้าเป็ นเช่นนั้นคาดว่าพระ
อาทิตย์น่าจะขึ้นทางทิศตะวันตก “เวยเวยช่วงนี้วา่ งมากหรื อ?” ไม่
หรอกกระมัง นางหนูนี่กลับบ้านมารดาอย่างสนุกสนานมากมิใช่
หรื อ? วันๆ ขลุกอยูแ่ ต่กบั ท่านปู่ นางจิ้งจอกเฒ่าตัวนั้น ก็ไม่รู้วา่
ซุบซิบเรื่ องไม่ดีอะไรกันอยู่
“ข้าเป็ นคนเช่นนั้นหรื อ? คนเขากตัญญูมากรู ้หรื อไม่!” เสิ่ นเวยพูด
อย่างไม่พอใจ นางกตัญญูมากรู ้ไหม นับตั้งแต่ที่ท่านปู่ นางกลับจวน
รักษาตัว นางแทบจะกลับไปป้อนยาป้อนข้าว ริ นน้ าชาเทน้ าอ่าน
ตาราไม่เว้นวัน จะไปหาคนกตัญญูเช่นนี้ได้ที่ไหน? ไม่เห็นท่านย่าที่
แต่ก่อนไม่ชอบนางบัดนี้กม็ ีไมตรี จิตต่อนางแล้วหรื อ ก่อนหน้านี้ยงั
ค้นเครื่ องประดับชุดหนึ่งมอบให้นาง
สวีโย่วกระตุกมุมปาก กลับไม่ได้แย้งคาพูดของนาง เพียงว่า “มีเวลา
ว่างเช่นนั้นเวยเวยเจ้าอยูเ่ ป็ นเพื่อนข้าดีกว่า ตัวเองลองนับดูวา่ เฉยเมย
กับข้ามานานเพียงใดแล้ว?” จวนอ๋ องบัดนี้โกลาหลไปหมด อย่างไร
พวกเขาก็อย่าไปหาเรื่ องใส่ ตวั ดีกว่า จะได้ไม่ตอ้ งเรื่ องตลกไม่ได้ดู
กลับโดนหางเลขเข้าไปด้วย ยิง่ กว่านั้นในจวนนัน่ ก็ไม่ได้ส่งคนมา
ส่ งข่าวเสี ยหน่อย ใครจะไปรู ้วา่ พระชายาป่ วยล่ะ? แกล้งทาเป็ นไม่รู้ก็
แล้วกัน! ใครอยากจะปรนนิบตั ินางกัน?
เสิ่ นเวยเบ้ปาก ชาเลืองสวีโย่วปราดหนึ่ง จากนั้นยิม้ อย่างเสน่ห์
เหลือร้ายว่า “เฉยเมย? ที่ไหนกันล่ะ! ดูใบหน้านี่สิ หล่อเหลาเอาการ
เชียว เอ๊าะๆ เลย! ต่อให้พี่สาวเฉยเมยต่อตัวเองก็เฉยเมยต่อคุณชาย
ใหญ่ท่านไม่ได้หรอก!” พูดพลางก็ทบั ลงไปทั้งตัว มือหนึ่งลูบหน้า
ของสวีโย่ว มือหนึ่งยืน่ ไปที่สาบเสื้ อของเขา ระยะนี้ เสิ่ นเวยที่ความรู ้
กว้างไกลฝึ กเรื่ องเช่นนี้จนเป็ นผูช้ านาญมานานแล้ว
คนเขาส่ งหนังสื อท้าดวลมาถึงหน้าบ้านแล้ว สวีโย่วยังรออะไรล่ะ?
ย่อมอุม้ ภรรยาขึ้นแล้วอย่างนี้อย่างนั้นขึ้นมา
เทียบกับความปรองดองของสวีโย่เสิ่ นเวย ทางจวนอ๋ องจิ้นช่างปก
คลุมไปด้วยเมฆดาจริ งๆ เลย!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 271-1 อาการบาดเจ็บของราชครูเสิ่ น
พระชายาอ๋ องจิ้นล้มป่ วยแล้วจริ งๆ นอนอยูบ่ นเตียงไม่กินไม่ดื่ม
เริ่ มแรกไม่ยอมกินดื่ม ต่อมาหลังจากพวกบุตรชายและสะใภ้คุกเข่า
ขอร้อง ในที่สุดก็ยอมกินอะไรบ้างแล้ว ทว่ากลับกินเท่าไรอาเจียน
เท่านั้น ต่อให้ดื่มน้ าแกงใสสองคาก็อาเจียนออกมาจนหมดได้
เหมือนอาการแพ้ครรภ์อย่างไรอย่างนั้น ทว่าหมอหลวงจับชีพจรดู
นานแล้ว นางไม่ได้ต้ งั ครรภ์เลย
เพียงสองวัน พระชายาอ๋ องจิ้นก็อิดโรยจนถอดรู ป
อย่างไรก็เป็ นมารดาแท้ๆ นางอู๋ นางหูและฉิ นอิ่งอิ่งในฐานะลูกสะใภ้
อาจแสดงออกพอเป็ นพิธี ทว่าสวีเย่ สวีเหยียนและสวีฉ่างในฐานะ
บุตรชายแท้ๆ ก็ร้อนใจอย่างไม่มีอะไรเทียบได้แล้ว โดยเฉพาะสวี
ฉ่าง เรื่ องเกิดขึ้นเพราะเขา หากทาให้มารดาแท้ๆ เสี ยชีวิต ชาติน้ ีเขา
จะไม่มีวนั สงบสุ ขน่ะสิ
ดังนั้นเขาก็ไม่ออกไปสามะเลเทเมาแล้ว วันๆ เฝ้าอยูห่ น้าเสด็จแม่ ทา
ให้สวีเย่และสวีเหยียนในฐานะพี่ชายปลาบปลื้มยิง่ นัก รู ้สึกว่าเจ้า
น้องชายคนเล็กสุ ดที่ไม่สนใจอะไรใดๆ เลยในที่สุดก็โตเป็ นผูใ้ หญ่
แล้ว
“ท่านอ๋ อง ซื่อจื่อยังคุกเข่าอยูข่ า้ งนอกเลยนะขอรับ” พ่อบ้านเสี่ ยว
เฉวียนชะโงกมองหิมะที่ตกหนักข้างนอก แล้วเตือนอย่างระมัดระวัง
ท่านอ๋ องจิ้นฮึเสี ยงเย็นทีหนึ่ง เอ่ยด้วยหน้าไร้ความรู ้สึกว่า “เขาชอบ
คุกเข่าก็ให้เขาคุกเข่าไป ไม่ใช่ขา้ ไม่ให้เขาลุกขึ้นเสี ยหน่อย” สาหรับ
จุดประสงค์การมาของบุตรชายคนรองเขารู ้ชดั เจนดี ก็ไม่พน้ ขอร้อง
ให้เสด็จแม่ของเขาเท่านั้น ทว่าครั้งนี้เขาแข็งใจจะบ่มนิสยั นาง มิ
เช่นนั้นไม่ข้ ึนไปพลิกฟ้าหรื อ?
เจ้านายโกรธ คนเป็ นบ่าวไพร่ กล็ าบากใจ เกลี้ยกล่อมเถอะ ก็ทาให้
เจ้านายราคาญ ไม่เกลี้ยกล่อมเถอะ หากเกิดเรื่ องอย่างไรก็ตอ้ งบ่าว
ไพร่ ที่รับเคราะห์แทน ลังเลครู่ หนึ่ง พ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนพูดต่อว่า
“ท่านอ๋ อง ข้างนอกหิมะตกหนักนะขอรับ ซื่อจื่อมาตั้งแต่เช้าแล้ว นี่ก็
คุกเข่ามาครึ่ งวันแล้ว หากคุกเข่าจนเป็ นอะไรไป คนปวดใจก็คือท่าน
อ๋ องท่านไม่ใช่หรื อขอรับ?”
ท่านอ๋ องจิ้นมองหิมะที่โปรยปรายข้างนอกปราดหนึ่ง ดวงตาฉาย
แววกังวลขึ้นแวบหนึ่ง กลับไม่ได้พดู อะไร
พ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนเห็นมีทางแล้ว พยายามต่อไปว่า “ข้างนอกหนาว
มากจริ งๆ หรื อไม่ท่านก็ให้ซื่อจื่อมาคุกเข่าในห้อง?”
ท่านอ๋ องจิ้นเหลือบมองเม็ดหิมะที่ถูกลมแรงพัดกระจาย สุ ดท้าย
ความเป็ นห่วงบุตรชายยังคงเหนือกว่า “ไปเรี ยกซื่อจื่อขึ้นมาเถอะ
หรื อว่ายังต้องให้บิดาเขาไปเชิญเขาด้วยตนเอง?” ในคาพูดเต็มไป
ด้วยความรังเกียจ
พ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนรี บวิ่งออกไปอย่างดีใจ กางร่ มกระดาษน้ ามันคัน
หนึ่งบังไว้เหนือศีรษะสวีเย่วา่ “ท่านซื่อจื่อ ท่านรี บขึ้นมาเถอะ ท่าน
อ๋ องเรี ยกท่านเข้าห้องน่ะขอรับ”
เขามองดูช้ นั หิมะหนาๆ ที่ตกอยูบ่ นตัวสวีเย่ อีกทั้งเกล็ดน้ าแข็งบน
ผมและคิ้ว แล้วความกังวลลอยขึ้นใบหน้าว่า “ท่านซื่อจื่อไยท่านถึง
โง่เช่นนี้? ต่อให้ท่านจะคุกเข่า ก็ควรไปที่เฉลียงนัน่ ข้างนอกนี่ท้ งั ลม
ทั้งหิมะ หนาวจนล้มป่ วยจะทาเช่นไรล่ะขอรับ?” พลางช่วยปั ดหิ มะ
บนตัวเขามือไม้วนุ่ วายไปหมด
สวีเย่เงยหน้าเผยรอยยิม้ ซาบซึ้งให้พอ่ บ้านเสี่ ยวเฉวียน กลับอดตัวสัน่
ระริ กไม่ได้ หนาว มารดาเจ้าช่างหนาวจริ งๆ เขารู ้สึกว่าตนหนาวจน
จะแข็งอยูแ่ ล้ว
พ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนเห็นดังนั้น รี บพยุงเขาไว้วา่ “ท่านซื่อจื่อท่านช้า
หน่อย บ่าวพยุงท่านขึ้นมาขอรับ” ไอยาโย ตัวท่านซื่อจื่อเย็นยังกับ
แท่งน้ าแข็งก็ไม่ปาน
สองขาของสวีเย่ไม่มีความรู ้สึกไปนานแล้ว แม้มีพอ่ บ้านเสี่ ยวเฉวียน
คอยพยุงไว้ เขาก็ยงั สะดุดอยูด่ ี เกือบพาพ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนล้มไป
ด้วยกัน
“ยังไม่รีบเข้ามาช่วย แต่ละคนมัวยืนเซ่อทาอะไรอยูน่ นั่ ? ตาไม่มีแวว
เลย” พ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนตะคอกใส่ เด็กรับใช้ที่ยนื อยูท่ ี่เฉลียง
แล้วก็มีเด็กรับใช้สองคนรี บวิ่งเข้ามาทันที ทั้งสามคนร่ วมแรงร่ วมใจ
กันถึงพยุงสวีเย่ที่หนาวจนแข็งไปถึงเฉลียง ทั้งปั ดหิ มะทั้งนวดขา
วุน่ วายอยูพ่ กั ใหญ่ สวีเย่กรอกน้ าขิงไปสองชามใหญ่ถึงรู ้สึกว่า
หน้าอกอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย
สวีเย่รู้สึกร่ างกายดีข้ ึนเล็กน้อยก็ไปพบบิดาเขาแล้ว เมื่อเข้าประตูก็
คุกเข่าลงแต่โดยดี หลุบหน้าลงต่า และไม่ส่งเสี ยง
ท่านอ๋ องจิ้นมองดูบุตรชายที่ฝากความหวังไว้ที่ตนรักที่สุด ในใจ
สับสนยิง่ นัก เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์วา่ “นี่เจ้าจะทาอะไร? ไม่ไป
เข้าเวรที่ที่ทาการ มาสร้างความไม่สบายใจอะไรให้บิดาเจ้าที่นี่?”
สวีเย่เงยหน้าขึ้นว่า “เสด็จพ่อ เสด็จแม่แม้มีส่วนผิด ขอให้ท่านเห็น
แต่ลูกและน้องรองน้องสามโปรดไว้หน้านางด้วยเถอะ เสด็จแม่แต่ง
ง่านกับท่านมายีส่ ิ บกว่าปี ไม่มีความดีกม็ ีความชอบนะขอรับ ท่านก็
ให้อภัยเสด็จแม่สกั ครั้งเถอะ เสด็จแม่ป่วยหนักมาก ลูก ลูกเป็ นห่วง
จริ งๆ ขอรับ”
ท่านอ๋ องจิ้นมองดูความเศร้าโศกบนหน้าบุตรชาย แล้วถอนใจยาวๆ
ว่า “เย่เกอเอ๋ อร์ ครั้งนี้เสด็จแม่เจ้าทาเกินไปแล้ว ไม่ใช่เสด็จพ่อใจ
ยักษ์ แต่ช่าง…” ต่อหน้าบุตรชายเขาพูดต่อไปไม่ได้อีก
สวีเย่กเ็ ป็ นผูช้ าย ย่อมรู ้ความหมายในคาพูดของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อ
แอบเสด็จแม่เลี้ยงผูห้ ญิงไว้ขา้ งนอกไม่เหมาะสมก็จริ ง ทว่าเสด็จแม่
จะฆ่าจะแกงกันเช่นนี้ แม้แต่เด็กคนหนึ่งก็ไม่ละเว้นก็เกินไปแล้ว
เช่นกัน และก็ทาให้เสด็จพ่อเสี ยหน้าเหลือเกิน
“เสด็จพ่อ ลูกเข้าใจ ทางด้านเสด็จแม่ลูกจะคอยเกลี้ยกล่อม ท่าน
ผูใ้ หญ่ใจกว้าง ก็อย่าถือสาเสด็จแม่เลย” สวีเย่ขอร้องอย่างขมขื่น
ต่อหน้าบุตรชายที่ให้ความสาคัญที่สุดคนนี้ ท่านอ๋ องจิ้นจะพูดอะไร
ได้ล่ะ? จะขอเลิกภรรยาเพราะเรื่ องนี้กไ็ ม่ได้ ก็ได้แต่ต่างคนต่างถอย
ก้าวหนึ่ง
สุ ดท้ายผูห้ ญิงที่ชื่อม่านเอ๋ อร์คนนั้นยังคงเข้าจวนอ๋ องจิ้น เดิมทีดว้ ย
นางให้กาเนิดบุตรสาวสองคน สามารถให้ตาแหน่งฮูหยินได้ ทว่า
บัดนี้เป็ นได้แค่อนุ พระชายาอ๋ องจิ้นให้คนเก็บกวานเรื อนเล็กออกมา
หลังหนึ่ง โยนแม่ลูกสามคนนี้เข้าไป สิ่ งที่รอคอยพวกนางอยูย่ งั ไม่รู้
คือโชคชะตาเช่นไรเลย
วันแต่งงานเสิ่ นเชียนหิมะยังคงตกหนักไม่หยด แต่นี่ไม่มีผลกระทบ
ต่อบรรยากาศอันเป็ นมงคลนี้แต่อย่างใด หิ มะขาวโพลนขับกับผ้า
ไหมสี แดงเต็มจวน ขับกับชุดมงคลสี แดงสดบนตัวเจ้าบ่าว ยิง่ เจิด
จรัสโดดเด่น
จวนหย่งกัว๋ กงกาลังเป็ นที่โปรดปราน เสิ่ นเชียนในฐานะหลานคน
โตสายตรงของที่จวน เขาแต่งงานแม้แต่ฝ่าบาทก็ประทานรางวัลให้
จวนและตระกูลต่างๆ ทัว่ เมืองหลวงตาไม่ได้บอด สู งถึงขุนนางใหญ่
อ๋ องและกง ลงล่างถึงขุนนางเล็กๆ ชั้นหกชั้นเจ็ดต่างฝ่ าพายุหิมะมา
กันหมด
แม้แต่มหาเสนาบดีฉินที่ไม่ค่อยออกจากบ้านก็มาร่ วมงานด้วย เสิ่ น
หงเหวินตกตะลึงเพราะไม่คาดว่าจะได้รับการโปรดปรานไปต้อนรับ
เขาจากประตูใหญ่ดว้ ยตนเอง “ท่านมหาเสนาบดีสามารถเจียดเวลา
มาได้ ช่างเป็ นเกียรติของจวนข้าจริ งๆ ท่านมหาเสนาบดีรีบเชิญข้าง
ใน” เขาทาท่าเชิญอย่างเอาใจ
มหาเสนาบดีฉินยิม้ ช้าๆ สายตาที่มองเสิ่ นหงเหวินช่างสนิทชิดเชื้อ
เหลือเกินว่า “ยินดีดว้ ย ยินดีดว้ ย วันนี้เป็ นวันมงคงของคุณชาย ข้า
ขอแสดงความยินดีกบั ท่านโหวเสิ่ น ณ ที่นี่แล้ว คุณชายเก่งทั้งบุ๋น
และบู๊ อายุนอ้ ยๆ ก็ต้ งั มัน่ รักษาเขตแดนหนึ่ง ช่างน่าอิจฉาจริ งๆ ท่าน
โหวเสิ่ นสอนบุตรได้ดี”
“เช่นกัน เช่นกัน นี่ลว้ นเป็ นพระเมตตาของฝ่ าบาท” เสิ่ นหงเหวินก
อบหมัดตอบว่า “คุณชายใหญ่ของท่านมหาเสนาบดีฉินก็โดดเด่น
เหนือคนมิใช่หรื อ? เทียบกันแล้วลูกข้าเป็ นเพียงนักรบคนหนึ่ง มหา
เสนาบดีฉินสิ ถึงเป็ นฝ่ ายสอนบุตรได้ดีที่แท้จริ ง” ปากแม้ถ่อมตัวอยู่
บนใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิม้
มหาเสนาบดีฉินหัวเราะฮ่าๆ อีก ล้อเล่นว่า “ข้าว่าเราก็อย่ายอกันเอง
เช่นนี้เลยนะ?” เสิ่ นหงเหวินจึงหัวเราะตาม
ทั้งสองคนพลางพูดพลางเดินเข้าจวน ยามที่เห็นเรื อนที่แขวนโคม
แดงสองอันบนประตูเรื อนหลังหนึ่งลิบๆ มหาเสนาบดีฉินดูเหมือน
พูดตามสบายว่า “นัน่ ก็คือเรื อนของท่านราชครู สินะ? อ้อถูกแล้ว
วันนี้เป็ นวันแต่งงานของซื่อจื่อ ท่านราชครู คงดีใจมากกระมัง? ว่าไป
แล้วข้าก็ไม่เห็นท่านราชครู มานานมากแล้ว ไม่สู้ยามนี้ขอไปคารวะ
สักหน่อย” เขาหยุดฝี เท้า มองเสิ่ นหงเหวิน แววตาแฝงด้วยคาถาม
เสิ่ นหงเหวินกลับสี หน้าลาบากใจพร้อมถูมือไปมาว่า “บอกตามตรง
บิดาข้าแม้อาการบาดเจ็บดีข้ ึนมาก กลับยังต้องการพักฟื้ นอย่าง
เงียบๆ โดยเฉพาะฤดูหนาวปี นี้ผดิ ปกติเช่นนี้ หมอหลวงบอกแล้วว่า
ต้องระวังเป็ นพิเศษ ดังนั้นเพื่อไม่เป็ นการรบกวนบิดาพักฟื้ น แม้แต่
ข้าที่เป็ นบุตรชายก็ไม่กล้าไปรบกวนบ่อยๆ ข้าละอายใจต่อการร้อง
ขอของท่านมหาเสนาบดีฉินจริ งๆ”
ท่านมหาเสนาบดีฉินดวงตาแวววับทีหนึ่ง จากนั้นยิม้ อีกว่า “เป็ น
เรื่ องธรรมดาของคน เป็ นเรื่ องธรรมดาของคนน่ะ อย่างไรก็ตามท่าน
ราชครู รักษาอาการบาดเจ็บก็สาคัญที่สุด ในเมื่อหมอหลวงก็พดู แล้ว
วันนี้ขา้ ก็ไม่ไปรบกวนท่านราชครู พกั ฟื้ นแล้ว รอเขาหายแล้วข้าค่อย
มาเยีย่ มเยียน” ราวกับที่พดู ก่อนหน้านี้เพียงแค่พดู ไปอย่างนั้นเอง
เสิ่ นหงเหวินเหมือนยกภูเขาออกจากอก สี หน้าซาบซึ้ง แล้วทาท่า
เชิญอีกครั้งว่า “โปรดอภัยด้วย โปรดอภัยด้วย ท่านมหาเสนาบดีฉิน
รี บเชิญข้างใน”
มหาเสนาบดีฉินยกเท้าเดินเข้าข้างในต่อ แล้วหันหน้าอย่างไม่ต้ งั ใจ
ดูเหมือนเห็นประตูเรื อนที่แขวนโคมแดงไว้มีเงาคนแวบผ่านไป
เสิ่ นเชียนแต่งงาน พวกกูไหน่ไหน่ที่ออกเรื อนไปอย่างเสิ่ นเวยนี้ยอ่ ม
ต้องกลับมาด้วย ทว่าเสิ่ นซวงน้องสาวแท้ๆ ของเสิ่ นเชียนกลับไม่มา
ครรภ์น้ ีของนางใกล้ถึงกาหนดคลอดแล้ว เดิมทีทอ้ งแฝดก็คลอด
ล่วงหน้าอยูแ่ ล้ว ไม่มีใครก็ไม่รู้วา่ นางจะออกอาการเมื่อไร บวกกับ
อากาศเลวร้ายปานนี้ ท่านป้าใหญ่ตระกูลสวี่แทบจะอยากจ้องนางไม่
วางตา กล้าปล่อยนางออกจากบ้านที่ไหน? แม้แต่นางสวี่มารดาแท้ๆ
ของนางก็พดู ไว้แต่เนิ่นๆ แล้วว่า ห้ามนางมา ให้นางอยูบ่ า้ นอย่าง
สงบ
เสิ่ นเวยคุยเป็ นเพื่อนสมาชิกผูห้ ญิงในครอบครัวที่สนิทกัน เหอห
ลินหลินและหยวนเหมียนเหมียนเกี่ยวแขนนางคนละข้าง ดีใจอย่า
บอกใครเชียว
“ท่านพี่ ท่านพี่ รอหิมะหยุดแล้วเราไปปั้ นตุ๊กตาหิ มะกันเถอะ” หยวน
เหมียนเหมียนที่ร่าเริ งดึงเสิ่ นเวย นางมาด้วยกันกับนางสวี่นอ้ ย
พี่สะใภ้เล็กของนาง
เหอหลินหลินก็ตาเป็ นประกายเห็นด้วยว่า “ดีเลย ดีเลย พี่สี่ ถึงเวลา
พวกเราปั้นตัวใหญ่ๆ นะ ใหญ่ขนาดนี้เลย” นางกางแขนทาท่า ในตา
เต็มไปด้วยความระริ ก เหมือนเปลี่ยนไปเป็ นคนละคนกับยามที่พบ
นางครั้งแรกที่จวนเหอเลย
เสิ่ นหย่าที่ดูพวกนางหยอกล้อเล่นกันอยูข่ า้ งๆ เอ็ดว่า “หลินเจี่ยเอ๋ อร์
เจ้าน่ะ มาวุน่ วายกับญาติผพู ้ ี่เจ้าอีกแล้ว เจ้าโตเป็ นสาวแล้ว ยังชอบ
เล่นเหมือนเด็กเล็กเช่นนี้ ดูสิญาติผพู ้ ี่เจ้าจะหัวเราะเจ้าหรื อไม่?”
นี่กเ็ ป็ นเรื่ องที่เสิ่ นหย่ากลัดกลุม้ ผ่านปี ใหม่ไปหลินเจี่ยเอ๋ อร์กส็ ิ บสี่ ปี
แล้ว ทว่าเรื่ องแต่งงานยังไม่มีวี่แววเลยแม้แต่นอ้ ย นางเป็ นหญิงหย่า
ร้าง ไม่สามารถออกไปสมาคมได้ มารดาใหญ่กไ็ ม่ชอบหน้านาง
บิดาแท้ๆ ก็เป็ นผูช้ ายนอก อีกทั้งได้รับบาดเจ็บ คนที่สามารถพึ่งพิง
ได้กม็ ีแต่พี่สะใภ้ใหญ่และหลานสาวเวยเจี่ยเอ๋ อร์แล้ว พี่สะใภ้ใหญ่ยงุ่
อยูก่ บั งานแต่งงานของเชียนเกอเอ๋ อร์ นางจึงเกรงใจที่จะพูด นาง
เตรี ยมลองพูดกับหลานสาวก่อน ไม่ขอฐานะชาติตระกูล ลูกหลาน
ก้าวหน้าด้วยตนเอง นิสยั ดีกเ็ พียงพอแล้ว ขอเพียงหลินเจี่ยเอ๋ อร์มีที่
พึ่งพิงที่ดีได้ ก็ถือว่าสมหวังในชาติน้ ีแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 271-2 อาการบาดเจ็บของราชครูเสิ่ น
เหอหลินหลินจู๋ปาก ไม่ได้พดู อะไร ที่จริ งปกตินางสุ ขมุ ทีเดียว
เพียงแต่ไม่ได้เจอญาติผพู ้ ี่สี่นานมากแล้วนางถึงลืมตัวไปชัว่ ขณะ
เสิ่ นเวยมาบ่อยๆ ก็จริ ง ทว่าก็เพียงแต่มาแล้วก็ตรงไปเรื อนของท่านปู่
นางเลย มาเรื อนด้านหลังกลับไม่มาก
เสิ่ นเวยเห็นแม่นางน้อยสองคนล้วนอารมณ์ไม่ค่อยดี จึงยิม้ พูดว่า
“ท่านอา ท่านก็อย่าห้ามญาติผนู ้ อ้ งนักเลย เด็กผูห้ ญิงนี่นา ชอบ
หัวเราะชอบเล่นถึงจะน่ารัก” และพูดกับเหอหลินหลินและหยวนเห
มียนเหมียนอีกว่า “รอหิมะหยุดแล้ว พี่สาวพาพวกเจ้าไปเล่นที่จวน
ผิงจวิน้ อ๋ องสักสองสามวัน ถึงเวลาอยากปั้นตุ๊กตาหิ มะตัวใหญ่
เพียงใดก็ได้”
“จริ งหรื อ? เช่นนั้นก็ดีเหลือเกิน” แม่นางน้อยสองคนตบมือโห่ร้อง
อย่างประหลาดใจ
ดูจนเสิ่ นหย่าอดถลึงตาใส่ บุตรสาวปราดหนึ่งไม่ได้ ส่ วนนางสวี่นอ้ ย
นั้นนัง่ อยูข่ า้ งๆ เม้มปากยิม้ เบาๆ สายตาที่มองไปที่นอ้ งสามีอ่อนโยน
เหลือเกิน นางซาบซึ้งในบุณคุณยิง่ นัก เดิมทีนางยอมรับชะตาแล้ว
ไม่คิดว่ายังสามารถได้บุพเพที่ดีเช่นนี้มา สามีหนุ่มแน่นมีอนาคต
ปฏิบตั ิต่อนางทั้งละเอียดอ่อนและให้เกียรติ ผูอ้ าวุโสเพียงหนึ่งเดียว
ท่านปู่ ก็เป็ นคนเมตตา เริ่ มตั้งแต่ที่นางเข้าบ้านก็มอบสิ ทธิ์การดูแล
บ้านให้นาง น้องสามีไร้เดียงสาร่ าเริ ง เคารพนางเหมือนพี่สาวแท้ๆ
เป็ นคนต้องรู ้จกั พอสานึกบุญคุณ ต่อให้ยากเพียงใดเหนื่อยเพียงไหน
นางล้วนมีความกล้าแบกไว้ เปิ ดฉากใหม่เพื่อจวนแม่ทพั ใหญ่หยวน
“เจ้าสาวเข้าบ้านแล้ว” ไม่รู้ใครตะโกนขึ้นประโยคหนึ่ง
หยวนเหมียนเหมียนและเหอหลินหลินลุกขึ้นยืนทันที “ถึงไหน
แล้ว? ถึงไหนแล้ว? ท่านพี่ พวกเราไปดูเจ้าสาวเถอะ” ท่าทางเหมือน
รี บร้อนทนไม่ไหว
เสิ่ นเวยส่ ายหน้าว่า “พวกเจ้าสองคนไปเถอะ ข้านัง่ เป็ นเพื่อนท่านอา
หน่อย” เจ้าสาวช้าเร็ วก็ตอ้ งได้เจอ ข้างนอกคนเยอะปานนั้น ทั้งลม
ทั้งหิมะอีก นางเป็ นบุตรสาวที่แต่งออก อีกทั้งยังเป็ นถึงท่านหญิง
อย่างไรก็อย่าเบียดดีกว่า
“เช่นนั้นเอาเถอะ พวกเราไปก่อนแล้ว เดี๋ยวกลับมาบอกท่านว่า
เจ้าสาวสวยหรื อไม่” หยวนเหมียนเหมียนและเหอหลินหลินต่างเป็ น
เด็กสาวที่นิสยั ดีมาก เวลาครู่ เดียวแค่น้ ีกส็ นิทกันแล้ว สองคนจูงมือ
กันพาสาวใช้วงิ่ ออกไปแล้ว
“ยัยเด็กกะเปิ๊ บกะป๊ าบคนนี้นี่” เสิ่ นหย่าหัวเราะด่าไปประโยคหนึ่ง
บนใบหน้าเต็มไปด้วยความจาใจ นางเป็ นหญิงหย่าร้าง ชื่อเสี ยงไม่สู้
ดี เรื่ องมงคลเช่นนี้นางย่อมไม่ดาหน้าเข้าไปอยูแ่ ล้ว จะได้ไม่แหย่ให้
คนรังเกียจ เดิมทีนางไม่อยากแม้แต่จะออกจากเรื อน บุตรสาวและ
หลานสาวลากนางออกมาจนได้
รอคนในห้องหอแยกกันไปจนพอประมาณแล้ว เสิ่ นเวยและพี่สาม
ของนางเสิ่ นอิงข้ามไปด้วยกัน เจ้าสาวนางฉางหน้าตาย่อมไม่เลวอยู่
แล้ว แววตากระจ่างใส ดูกร็ ู ้วา่ เป็ นคนสุ ขมุ มีความคิด เสิ่ นเวยแอบ
พยักหน้าอยูใ่ นใจ รู ้สึกว่าภรรยาของลูกผูพ้ ี่ใหญ่คนนี้นบั ว่าแต่งถูก
แล้ว
หลานคนโตสายตรงแต่งงาน ราชครู เสิ่ นในฐานะท่านปู่ ตั้งแต่ตน้ จน
จบก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมา นี่ทาให้แขกเหรื่ อสงสัยยิง่ นัก และก็คาด
เดากันไปต่างๆ นานาเป็ นการส่ วนตัวขึ้นมา ยิง่ แน่นใจว่าราชครู เสิ่ น
อาการบาดเจ็บสาหัส มิเช่นนั้นไม่มีทางแม้แต่งานแต่งงานของหลาน
คนโตสายตรงก็ไม่โผล่มา
มหาเสนาบดีฉินกลับถึงจวนก็รีบให้คนไปเชิญที่ปรึ กษามา “ท่าน
มหาเสนาบดี ได้พบหน้าท่านราชครู เสิ่ นหรื อไม่?” เยิน่ หงซูมาอย่าง
รี บร้อน
มหาเสนาบดีส่ายศีรษะ พร้อมพูดด้วยความเสี ยดายว่า “ไม่ได้พบ
ราชครู เสิ่ นไม่ได้โผล่มาเลย”
“ไม่โผล่มา?” เยิน่ หงซูประหลาดใจเล็กน้อย แม้แต่พิธีแต่งงานของ
หลานคนโตสายตรงก็ไม่ปรากฏตัว นี่กน็ ่าคิดแล้ว “ดูแล้วราชครู เสิ่ น
บาดเจ็บไม่เบาเลยนะ” เขาขมวดคิ้วครุ่ นคิด “ราชครู เสิ่ นบาดเจ็บครั้ง
นี้กพ็ กั ฟื้ นมาสองเดือนแล้วสิ นะ” เขาเงยหน้ามองไปที่มหาเสนาบดี
ฉิน สายตาสุ กใส
มหาเสนาบดีฉินพยักหน้า ว่า “ข้าลองหยัง่ เชิงเสิ่ นหงเหวินทีหนึ่ง สี
หน้าเขาแม้ไม่ค่อยเป็ นธรรมชาติ กลับก็ไม่มีความกังวล เยีย่ นซาน
ฉวยโอกาสออกไปเดินเล่น กลับพบว่าเรื อนของราชครู เสิ่ นถูกล้อม
อย่างแน่นหนา เข้าใกล้เพียงเล็กน้อยก็จะมีคนเข้ามาไล่ บอกว่าห้าม
รบกวนความสงบของราชครู เสิ่ น”
ผูช้ ายที่ยนื อยูด่ า้ นหลังของมหาเสนาบดีฉินมาตลอดพูดว่า “ใช่
ข้าน้อยสังเกตเห็นว่ารอบๆ เรื อนนัน่ ซ่อนยอดฝี มือไว้ไม่ต่ากว่าสิ บ
กว่าคน”
“เทียบกับเจ้าแล้วเป็ นเช่นไร?” มหาเสนาบดีฉินและเยิน่ หงซูมองไป
ที่เยีย่ นซานพร้อมกัน
เยีย่ นซานครุ่ นคิดครู่ หนึ่งถึงพูด “ไม่ดอ้ ยกว่า ข้าน้อยไม่มนั่ ใจว่าจะ
เอาตัวรอดโดยไม่บาดเจ็บได้”
นี่ช่างยุง่ ยากจริ งๆ เลย เยีย่ นซานเป็ นคนข้างกายเขาที่นบั ว่าเป็ นยอด
ฝี มือแล้ว เฉพาะในเรื อนของราชครู เสิ่ นอย่างน้อยก็มียอดฝี มือสิ บ
กว่าคนที่ไม่ดอ้ ยกว่าเขา กองกาลังของจวนหย่งกัว๋ กงแข็งแกร่ งเช่นนี้
แล้วหรื อ? หรื อว่ายอดฝี มือพวกนี้ฝ่าบาทเป็ นคนส่ งไป? เช่นนั้น
เจตนาของฝ่ าบาทคืออะไรกันนะ?
ชัว่ ขณะหนึ่ง มหาเสนาบดีฉินเข้าสู่ การครุ่ นคิด
ในยามที่มหาเสนาบดีฉินคิดไม่ตกนัน่ เอง มีบ่าวคนหนึ่งหน้าตาลน
ลานเข้ามาว่า “ทะ ท่านมหาเสนาบดี” เขาอ้าปากแล้วอ้าปากอีก กลับ
ไม่ได้หลุดออกมาสักประโยค
ท่านมหาเสนาบดีฉินดูปุ๊บ ที่แท้บ่าวคนนี้คือพ่อบ้านในเรื อนของ
บุตรชายคนเล็ก ทันใดนั้นก็ปวดศีรษะขึ้นมาว่า “ว่ามาเถอะ เจ้าลูก
ทรพีนนั่ ทาเรื่ องดีๆ อะไรไว้อีก”
“คุณชายเล็กทะ ทาสาวใช้ตายอีกแล้วขอรับ” พ่อบ้านหน้าเสี ยริ ม
ฝี ปากสัน่ ว่า
“อีกแล้ว?” ท่านมหาเสนาบดีฉินจับคาได้อย่างเฉียบขาดทันที สอง
ตาเหมือนไฟลุก จ้องไปที่พอ่ บ้าน
พ่อบ้านนัน่ สัน่ หนักกว่าเดิมว่า “ระ เรี ยนท่านมหาเสนาบดี นะ นี่เป็ น
คนที่เจ็ดในเดือนนี้แล้วขอรับ” เขาอกสัน่ ขวัญแขวน เมื่อนึกถึงสาว
ใช้ที่ถูกหามออกไปทั้งตัวไม่มีเนื้อดีสกั ที่ เขาก็เสี ยวสันหลัง คุณชาย
เล็กลงมือโหดจริ งๆ เลย
“คนที่เจ็ด? นี่มนั เรื่ องอะไรกันแน่? พูดมาเร็ ว” ท่านมหาเสนาบดีฉิน
เบิกตาโตโดยพลัน เอ่ยด้วยความโกรธว่า “พวกเจ้าก็ปล่อยให้เขาทา
เช่นนี้หรื อ? เช่นนั้นเอาบ่าวอย่างพวกเจ้าไว้มีประโยชน์อะไร?”
พ่อบ้านตกใจคุกเข่าตึ้งลงบนพื้นว่า “ท่านมหาเสนาบดี ปรักปราบ่าว
แล้ว บ่าวก็หา้ มแล้ว ก็ขวางแล้ว ทว่าคุณชายเล็กไม่ฟังนี่ขอรับ” เขา
เป็ นบ่าวยังตัดสิ นใจแทนเจ้านายได้ดว้ ยหรื อ? เขาเล่าความเป็ นมา
ของเรื่ องอย่างติดอ่าง
ที่แท้หลังจากฉินมู่หรานกลับถึงจวนมหาเสนาบดีแล้วเพราะมีหมอ
ดียาดีคอยเลี้ยง ขาที่หกั ก็ต่อติดแล้ว นอกจากนอนอัมพาตอยูบ่ นเตียง
ลุกไม่ข้ ึน อย่างอื่นก็กลับไม่ต่างอะไรกับคนทัว่ ไป
ทว่าฉินมู่หรานเสเพลจนชิน ให้เขานอนอยูบ่ นเตียงไม่ขยับเช่นนี้
แทบจะบีบเขาจนเป็ นบ้า ตั้งแต่ที่รู้ตวั ว่าชาติน้ ียนื ไม่ได้แล้ว นิสยั ของ
เขาก็ค่อยๆ รุ นแรงขึ้น สาวใช้เด็กรับใช้ที่ปรนนิบตั ิไม่ระวังเพียง
เล็กน้อยถ้าไม่ถูกตีกถ็ ูกด่า เอาปิ่ นปักผมแหลมๆ จิ้มตัว ยังไม่อนุญาต
ให้หลบอีก
เด็กรับใช้ยงั ดีหน่อย อย่างมากก็แค่เจ็บตัว เอายาทาพักฟื้ นสักระยะก็
หาย
ที่น่าสงสารคือสาวใช้พวกนั้น โดยเฉพาะสาวใช้ที่หน้าตาสะสวย
ฉินมู่หรานเป็ นคนมักมากในกาม อายุสิบสองก็เปิ บบริ สุทธิ์แล้ว
ผูห้ ญิงที่เคยนอนด้วยนับก็นบั ไม่หมด บัดนี้เขานอนอัมพาตอยูบ่ น
เตียงขยับไม่ได้ จึงทรมานสาวใช้หาความสุ ข จิตใจเขาบิดเบี้ยววิปริ ต
ชอบดูความเจ็บปวดที่แสดงออกบนใบหน้าของสาวใช้ที่สุด ชอบฟัง
เสี ยงร้องอย่างอนาถของสาวใช้ที่สุด สาวใช้ร้องได้ยงิ่ โศกเศร้าเขาก็
ยิง่ ตื่นเต้น
แต่ก่อน สาวใช้ในเรื อนของฉินมู่หรานแย่งกันเข้าหาเขา เพื่อแย่ง
ความโปรดปรานแล้วต่างคนต่างวางอุบายใส่ ร้ายกัน บัดนี้แต่ละคน
ล้วนอยากไปให้ห่างๆ ฉินมู่หรานแทบไม่ทนั คนที่ถูกระบุชื่อกลัว
จนตัวสัน่ งันงก
ต้องรู ้วา่ ปรนนิบตั ิคุณชายเล็กครั้งหนึ่งก็หายไปครึ่ งชีวิต พวกที่
ร่ างกายอ่อนแอหน่อย ทนไม่ไหวก็ขาดใจแล้ว ยามที่หามออกมา
พวกนางล้วนเห็นกับตา ไม่มีเนื้อหนังดีๆ สักชิ้น ตรงนั้นที่ช่วงตัว
ล่างยิง่ เละไม่เป็ นชิ้นดี
“ท่านมหาเสนาบดี บ่าวไม่ได้ความ บ่าวห้ามคุณชายเล็กไม่อยู่
ขอรับ” พ่อบ้านร้องไห้น้ าหูน้ าตาไหล เขาไม่อยากอยูใ่ นเรื อน
คุณชายเล็กแม้แต่ชวั่ ขณะ ต่อให้เป็ นบ่าวธรรมดาก็ได้ ทว่าคาพูดนี้
เขากล้วพูดกับเจ้านายหรื อไม่ล่ะ?”
มหาเสนาบดีฉินโกรธจนหน้าเขียว “ลูกเวร เจ้าลูกเวรคนนี้” ทาสาว
ใช้ตายไม่กี่คน มหาเสนาบดีฉินไม่ใส่ ใจหรอก ทว่าหนึ่งเดือนก็ทา
ตายไปเจ็ดคน เวลานานเข้าจะไม่ถูกคนอื่นสังเกตเห็นหรื อ? หากถูก
ผูต้ รวจการจับจุดอ่อนได้ แม้เขาไม่กลัว แต่กย็ งุ่ ยากนี่นา นี่เวลาอะไร
แล้ว เจ้าลูกเวรยังเอาแต่สร้างปัญหา? รู ้แต่แรกตอนนั้นก็ไม่ควรพา
เขากลับมา
“ไปบอกฮูหยิน ให้นางดูเจ้าลูกเวรนี่ไว้ให้ดี” มหาเสนาบดีฉินโกรธ
ว่า ในใจไม่พอใจนางต่งขึ้นมา วันๆ ก็มีแต่เรื่ องเล็กๆ ไม่เป็ นเรื่ อง
เรื่ องเป็ นการเป็ นงานที่ควรดูแลกลับดูแลไม่ดีสกั เรื่ อง
ส่ วนนางต่งที่ถูกมหาเสนาบดีฉินรังเกียจยามนี้กาลังอยูใ่ นห้องของ
ฉินมู่หราน นางมองของที่ถูกบุตรชายโยนเต็มพื้นปราดหนึ่ง แล้ว
โกรธด่าว่า “ตายหมดแล้วหรื ออย่างไร? ไม่รู้จกั เก็บกวาดหรื อไร?”
สายใช้ที่เงียบกริ บถึงตัวสัน่ เทาเข้ามาเก็บกวาด
นางต่งนัง่ อยูข่ า้ งเตียงบุตรชาย พูดเสี ยงอ่อนโยนว่า “หรานเกอเอ๋ อร์
เจ้าโกรธอะไรอีก? เจ้าสุ ขภาพไม่ดี ต้องฟังคาพูดของหมอหลวง พัก
ฟื้ นเงียบๆ”
ฉินมู่หรานกลับไม่รับน้ าใจ สองมือทบเตียงอย่างแรงว่า “ตายเสี ยได้
ก็ดี ตายเสี ยได้กด็ ี” สี หน้าอึมครึ ม
นางต่งตกใจสะดุง้ รี บกอดบุตรชายไว้วา่ “หนานเกอเอ๋ อร์นี่เจ้าจะทา
อะไร? เจ้าอย่าทาแม่ตกใจนะ”
ฉินมู่หรานตะคอกเสี ยงดังว่า “อยูไ่ ปทาอะไร? บัดนี้ขา้ ก็คือของไร้
ประโยชน์ แม้แต่บ่าวไพร่ กด็ ูถูกข้า ข้าอยูไ่ ปยังมีความหมายอะไร
อีก? ยังไม่สู้ตายให้หมดเรื่ อง”
เดิมทีนางต่งที่คิดจะต่อว่าบุตรชายสักสองสามประโยคเพราะเรื่ องที่
บุตรชายทาสาวใช้ตายลืมจุดประสงค์ที่มาไว้ที่เก้าชั้นฟ้า กอดตัว
บุตรชายไว้แน่นแล้วน้ าตาดัง่ สายฝน “ลูกเอ๊ย ลูกเอ๊ย เจ้าใจเย็นหน่อย
นี่เจ้ากาลังเฉือนใจแม่อยูน่ ะ”
ใช้แรงวัวเก้าตัวรวมกับเสื ออีกสองตัว ทั้งปลอมประโลมทั้งให้
สัญญา ในที่สุดก็งอ้ บุตรชายเสร็ จ ด้วยเหตุน้ ี ยังรับปากจะส่ งสาวใช้
หน้าตาดีให้บุตรชายอีกสี่ คน
นางต่งคิดว่า ‘หรานเกอเอ๋ อร์กเ็ ป็ นเช่นนี้แล้ว เล่นสาวใช้ไม่กี่คนก็ให้
เล่นไปเถอะ อย่างไรก็ตามใจเขาเถอะ ก็เป็ นเพียงพวกของเล่นชั้นต่า
เท่านั้น’
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 272-1 งานเลีย้ งในวัง
หลังจากงานแต่งงานของเสิ่ นเชียนก็ควรฉลองปี ใหม่แล้ว จวนต่างๆ
เริ่ มยุง่ ตั้งแต่ครึ่ งเดือนก่อน เพียงแต่ฤดูหนาวปี นี้หนาว หิ มะก็มาก
บรรยากาศรื่ นเริ งบนถนนก็สู้ปีก่อนๆ ไม่ได้ ทว่านี่กเ็ ป็ นเพียง
ชาวบ้านธรรมดาทัว่ ไปเท่านั้น ในจวนคนใหญ่คนโตต่างๆ ในเมือง
หลวงยังคงตกแต่งอย่างสวยงาม บรรยากาศสนุกสนานรื่ นเริ ง
สิ้ นปี เป็ นช่วงเวลาที่นายหญิงของแต่ละบ้านยุง่ ที่สุด ทว่าเสิ่ นเวยกลับ
ว่างเป็ นพิเศษ นอกมีท่านซู ในมียายมัว่ นางก็มีความสุ ขที่เป็ นคนสัง่
การไม่ตอ้ งรับผิดชอบ
ก่อนปี ใหม่ เสิ่ นซวงพี่รองของเสิ่ นเวยคลอดแล้ว ใหกาเนิดเด็กชายคู่
หนึ่ง เดิมทีหมอหลวงบอกว่าอีกสิ บกว่าวันก็ใกล้แล้ว ไม่คิดว่าสอง
ตัวนี้เหมือนจะเร่ งให้มาให้ทนั ฉลองปี ใหม่อย่างไรอย่างนั้น มา
ล่วงหน้าแล้ว
เสิ่ นซวงตอนเช้ากินข้าวเช้าเสร็ จ ให้สาวใช้พยุงยังเดินอยูใ่ นห้อง
หลายรอบ ยังไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่นอ้ ย อีกทั้งยังเอาเสื้ อเล็กๆ ที่
พวกสาวใช้ทาออกมาดูรอบหนึ่ง กาลังพูดเล่นกันอยูเ่ ลย ก็รู้สึกปวด
ท้อง จึงอดร้องว้ายออกมาไม่ได้ ทาพวกสาวใช้ตกใจแทบแย่ ต่าง
ล้อมเข้ามาถามว่า “ฮูหยินน้อยท่านเป็ นอะไรไปเจ้าคะ?”
อย่างไรก็ยายเฒ่าข้างกายนางมีประสบการณ์ ว่า “ฮูหยินน้อยจะ
คลอดแล้ว รี บไปเชิญฮูหยินและหมอตาแย” นางพลางพยุงเสิ่ นซวง
ไว้ พลางใช้ให้สาวใช้เตรี ยมตัวให้พร้อมอย่างมีแบบแผน ต้มน้ าร้อน
เตรี ยมผ้าสะอาดอะไรพวกนี้
นางโหลวมาเร็ วมาก วิ่งจนแหบแฮ่กๆ “ไยถึงกาเริ บแล้วนะ? บอกว่า
ยังมีอีกสิ บกว่าวันมิใช่หรื อ?” ข้างหลังนางยังมีหมอตาแยตามมาสอง
คน นี่เตรี ยมไว้ต้ งั นานแล้ว อาศัยอยูใ่ นเรื อนมาตลอด ใกล้สิ้นปี ยังไม่
ปล่อยพวกนางกลับบ้านไป ก็เพราะกลัวเสิ่ นซวงออกอาการแล้วหา
คนไม่ได้ ดูสิ นี่กเ็ จอเข้าแล้วอย่างไรล่ะ?”
หมอตาแยคนหนึ่งในนั้นจึงยิม้ ว่า “ผูห้ ญิงคลอดบุตรมีใครตรงเวลาที่
ไหน ฮูหยินน้อยอุม้ ครรภ์ฝาแฝด คลอดก่อนกาหนดก็มีเหมือนกัน”
นางโหลวพยักหน้า กลั้นความลนลานในใจไว้ แล้วพยุงเสิ่ นซวงเข้า
ห้องคลอดด้วยตนเอง ปลอมใจนางว่า “ซวงเจี่ยเอ๋ อร์ไม่ตอ้ งกลัว
ผูห้ ญิงล้วนต้องผ่านด่านนี้ เจ้าร่ างกายแข็งแรง เลี้ยงครรภ์มาก็ดี
ตาแหน่งครรภ์กต็ รง ต้องคลอดออกมาได้อย่างราบรื่ นแน่นอน แม่
อยูเ่ ป็ นเพื่อนเจ้าในห้องนี่ เราไม่กลัวนะ” มอบสะใภ้ให้หมอตาแย
แล้วนางจึงหลุบตาสวดมนต์อยูข่ า้ งๆ ขึ้นมา
บอกตรงๆ หากมารดาสามีสามารถเข้าห้องคลอดกับสะใภ้ได้กม็ ีให้
เห็นไม่มากแล้ว มารดาสามีส่วนใหญ่กเ็ พียงแค่รออยูข่ า้ งนอกเท่านั้น
ยังมีมารดาสามีส่วนน้อยมากที่ เพียงแค่มาดูปราดหนึ่งก็หนั หลังกลับ
เรื อนแล้ว
ก็ไม่รู้วา่ เป็ นผลทางใจ หรื อว่านางโหลวสวดมนต์ได้ผลจริ งๆ ครรภ์
นี้ของเสิ่ นซวงยังนับว่าคลอดได้ราบรื่ น หน้าหลังใช้เวลาสองชัว่ ยาม
กว่า แม้แต่หมอตาแยก็อวยพรตามๆ กัน บอกว่าฮูหยินน้อยดวงดี ไม่
เคยเห็นใครคลอดฝาแฝดราบรื่ นเท่านี้มาก่อน
นางโหลวอุม้ ผ้าอ้อมเด็กสี แดงสองอันข้างละห่อ มองหลานรักสอง
คนที่ตะเบ็งร้องไห้ แล้วยิม้ จนตาหยีเป็ นเส้น สัง่ เสี ยงดังไม่หยุดว่า
“ให้รางวัล ให้รางวัลอย่างงาม” ไม่เพียงแต่ให้รางวัลหมอตาแยอย่าง
งามบ่าวไพร่ ท้ งั จวน โดยเฉพาะพวกสาวใช้ยายเฒ่าที่ปรนนิบตั ิเสิ่ น
ซวง มีส่วนกันทุกคน
นางสวี่ฮูหยินจงอู่โหวที่ได้รับข่าวมงคล ดีใจสวดว่าพระโพธิสตั ว์
คุม้ ครองเป็ นการใหญ่ แล้วสัง่ ให้บ่างไพร่ เตรี ยมของขวัญทันที ไม่
สนว่าเป็ นยามบ่ายแล้ว ตรงไปจวนซ่างซูเยีย่ มบุตรสาวและ
หลานชายสองคนแล้ว
วันสี่ ซานเสิ่ นเวยในฐานะพี่นอ้ งย่อมต้องไปอยูแ่ ล้ว นางมองดูเด็ก
ทารกสองคนที่หน้าตาเหมือนกันเปี๊ ยบ แล้วรู ้สึกไม่น่าเชื่อ นางยืน่
นิ้วจิ้มหน้าเล็กๆ ของทารกที่หลับสนิท นิ่มๆ อาจเพราะรู ้สึกได้
ศีรษะของทารกน้อยนัน่ ขยับทีหนึ่ง อ้าปากเล็กๆ หาวทีหนึ่งแล้ว
นอนต่ออีก
เสิ่ นเวยดูแล้วรู ้สึกแปลกใหม่มาก กาลังคิดจะจิ้มอีก ก็ถูกเสิ่ นอิงขวาง
ไว้วา่ “โตเป็ นผูใ้ หญ่แล้วยังเล่นเป็ นเด็กๆ อีก? อย่าทาให้ตวั เล็กตื่น”
เสิ่ นเวยถึงหดมือกลับอย่างเคอะเขิน แล้วถามพี่รองนางว่า “ตั้งชื่อ
หรื อยัง?”
เสิ่ นซวงพิงอยูท่ ี่หวั เตียง ถอนสายตาที่จอ้ งบุตรชายสองคนกลับมา
ยิม้ วา “ยังเลย เรี ยกเกอเอ๋ อร์ใหญ่ เกอเอ๋ อร์รองเช่นนี้ไปก่อน ชื่อท่าน
ปู่ กาลังคิดอยู”่ เพราะเป็ นลูกแฝด ในจวนเห็นความสาคัญเป็ นพิเศษ
สิ ทธิ์การตั้งชื่อจึงเป็ นของสวี่ซ่างซูโดยตรง อย่าว่าแต่บิดาของเด็ก
แม้แต่ท่านปู่ ของเด็กก็หมดสิ ทธิ์
เสิ่ นเวยพยักหน้า วางของขวัญที่ให้เด็กไว้ขา้ งผ้าอ้อมเบาๆ กาไลคอ
กุญแจอายุยนื กาไลข้อมือ กาไลข้อเท้า ประณี ตกะทัดรัด ที่สลักไว้
ด้านบนล้วนเป็ นลายมงคล เป็ นทองคาทั้งหมด นอกจากนี้ยงั ให้
เสื้ อผ้าฝ้ายคนล่ะสองชุด แน่นอนเสิ่ นเวยยังให้เงินหลานชายตัวน้อย
สองคนคนละห้าร้อยตาลึงเป็ นของขวัญแรกพบเป็ นการส่ วนตัว มือ
เติบเช่นนี้กไ็ ม่มีใครแล้ว ต่อให้นางโหวรู ้เข้าก็ได้แต่เดาะลิ้น
ทว่าที่ทาให้เสิ่ นเวยประหลาดใจคือความเปลี่ยนแปลงของเสิ่ นเสวี่ย
ก่อนหน้านี้เสิ่ นเชียนแต่งงาน เสิ่ นเวยคุยเป็ นเพื่อนอาหญิงและญาติผู ้
น้องครู่ หนึ่งก็ไปเรื อนของท่านปู่ นางแล้ว เสิ่ นเสวี่ยไปสายสักหน่อย
ทั้งสองคนจึงไม่ได้พบหน้ากัน
ครั้งนี้เจอกันที่จวนซ่างซู เสิ่ นเวยแทบจะตกตะลึงพรึ งเพริ ด เพียง
สั้นๆ ไม่กี่เดือนเสิ่ นเสวี่ยก็เปลี่ยนสภาพไปโดยสิ้ นเชิง คนทั้งคนผอม
ซูบมาก แก้มสองข้างตอบเข้าไป โหนกแก้มยกขึ้นสู ง แต่งหน้าเข้ม
หนา ทั้งคนดูเฉียบคมและเต็มไปด้วยความหดหู่เศร้าหมอง ดูมืดมน
พูดจาก็คลุมเครื อประหลาด
เสิ่ นเวยอดขมวดคิ้วไม่ได้ ศอกเสิ่ นอิงที่อยูข่ า้ งๆ ว่า “นี่นางเป็ นอะไร
ไป?” ระยะนี้พลังงานของนางล้วนทุ่มเทให้กบั สวีโย่วและท่านปู่
ไม่ได้สนใจอย่างอื่นจริ งๆ
เสิ่ นอิงถอนใจทีหนึ่ง พูดข้างหูนางว่า “จะเป็ นอะไรได้ล่ะ แท้งน่ะสิ ”
เสิ่ นเวยยิง่ ประหลาดใจขึ้นว่า “เรื่ องตั้งแต่เมื่อไร? ไยถึงไม่ได้ยนิ มา
ก่อน? แท้ง ข้างกายมีสาวใช้ยายเฒ่าตามเป็ นพรวน ไยถึงยังแท้งได้?”
เสิ่ นอิงมองเสิ่ นเสวี่ยที่อยูไ่ ม่ไกลออกไปปราดหนึ่ง ใบหน้าเต็มไป
ด้วยความจาใจว่า “เรื่ องเมื่อเดือนที่แล้ว บ้านพวกนาง แค่ก คุณหนู
ญาติผนู ้ อ้ งอะไรนัน่ เป็ นอนุให้นอ้ งเขยห้ามิใช่หรื อ?”
เพียงพูดประโยคเดียวเสิ่ นเวยก็เข้าใจทันที ได้ยนิ ท่านป้าใหญ่บอกว่า
คุณหนูญาติผนู ้ อ้ งที่ชื่อจ้าวเฟยเฟยคนนั้นไม่ใช่เล่นๆ นะ นางทาทุก
วิถีทางจนได้เป็ นอนุของเว่ยจิ่นอวี๋ ไม่มีทางสงบเสงี่ยมเจียมตัวหรอก
นะ เสิ่ นเสวี่ยว่าไปแล้วก็คือคนกร่ างในรัง อารมณ์กร็ ้าย จะเป็ นคู่มือ
ของจ้าวเฟยเฟยได้อย่างไรกัน? ดูสิ นี่เสี ยเปรี ยบแล้วมิใช่หรื อ?
“เว่ยจิ่นอวี๋ล่ะ? จวนหย่งหนิงโหวไม่ให้คาอธิบายหรื อ?” เสิ่ นเวยแม้
ไม่ดาหน้าเข้าไปออกหน้าแทนเสิ่ นเสวี่ย ทว่าในใจอย่างไรก็ไม่พอใจ
อยูบ่ า้ ง
“จะมีคาอธิบายอะไร? ได้ยนิ ว่าเพราะน้องห้าสัง่ สอนอนุแล้วหกล้ม
เองจนแท้ง ต่อให้ลงโทษ ก็เพียงแค่กกั บริ เวณ คัดบทสวดมนต์
เท่านั้น ผ่านไปสามเดือนห้าเดือนก็ปล่อยออกมาแล้ว นัน่ เป็ นญาติผู ้
น้องแท้ๆ ของน้องเขยห้า จะฆ่าแกงกันจริ งๆ ได้หรื อ?” เสิ่ นอิง
น้ าเสี ยงเต็มไปด้วยความไม่พอใจและเย้ยหยันอย่างเข้มข้น
เสิ่ นเวยเม้มปากแน่น ความประทับใจที่มีต่อเว่ยจิ่นอวี๋ในใจยิง่ แย่ลง
เจ้าคนเช่นนี้ยงั สอบตาแหน่งเจี่ยหยวนได้ สวรรค์ช่างตาบอดจริ งๆ
แม้แต่หลังบ้านตนเองยังจัดการไม่เรี ยบร้อยยังคิดจะเป็ นขุนนาง?
อย่าทาให้ชาวบ้านเดือดร้อนเลย
เสิ่ นเสวี่ยก็จริ งๆ เลย เก่งนักมิใช่หรื อ? เสี ยเปรี ยบถึงปานนี้กย็ อมทั้ง
เช่นนี้แล้ว? เสิ่ นเวยจะโมโหจนปวดตับเพราะนางหมดแล้ว นางไม่
เห็นนางในสายตาคือเรื่ องหนึ่ง ทว่าบนตัวพวกนางมีตราประทับ
เหมือนกัน ‘ธิดาตระกูลเสิ่ น’ หากนางเจอเรื่ องนี้ นางไม่สนหรอกนะ
ว่าคุณหนูญาติผนู ้ อ้ งหรื อไม่น่ะ เล่นงานนางให้ตายก่อนแล้วค่อยว่า
กัน ชีวิตชดใช้ดว้ ยชีวิต นี่ถึงเรี ยกว่ายุติธรรม ไหนๆ บ้านฝ่ ายหญิงก็
อิทธิพลล้นฟ้า จวนหย่งหนิงโหวกล้าหื อหรื อไม่?
ยังไม่สู้ไม่รู้เรื่ องนี้ดีกว่า เสิ่ นเวยขยะแขยงเหมือนกินแมลงวันก็ไม่
ปาน หลังจากกลับจวนก็ลากคุณชายใหญ่บา้ นนางข่มขู่อยูค่ รึ่ งค่อน
วัน ในใจคิดเพียงอย่างเดียว ‘หากท่านกล้ามีอนุ ข้าก็จะหักขาท่าน’
สวีโย่วทั้งน่าขันทั้งจาใจ ได้แต่ใช้การกระทามาอุดปากเล็กๆ ที่พดู ไม่
หยุดของนาง
พริ บตาเดียวก็มาถึงวันสิ้ นปี เสิ่ นเวยและสวีโย่วล้วนต้องไปร่ วมงาน
เลี้ยงในวัง บอกตรงๆ ใจจริ งเสิ่ นเวยไม่ค่อยอยากไป อากาศก็หนาว
ยังต้องใส่ ชุดเต็มยศของท่านหญิง ใส่ เครื่ องประดับที่หนักหน่วง
ต้านลมทรมานไปถึงในวัง อาหารในวังก็ไม่ได้อร่ อยกว่าในจวน ได้
ยินว่ายังเย็นด้วย ไหนเลยจะสบายสู ้ขลุกอยูใ่ นจวนได้?
เสิ่ นเวยไม่เต็มใจไป ทว่าคนที่เต็มใจไปมีเยอะเชียวนะ สามารถมี
คุณสมบัติไปร่ วมงานเลี้ยงในวังไม่มีที่ระดับชั้นไม่พอ พวกที่
ระดับชั้นต่าไม่เป็ นที่โปรดปราน อยากไปยังไม่ได้ไปเลยนะ
สามารถไปร่ วมงานเลี้ยงในวังได้นี่เป็ นเกียรติอย่างสู งสุ ดเชียว ใช่
เพราะข้าวมื้อนั้นกันที่ไหน?
ต่อให้เสิ่ นเวยไม่เต็มใจอย่างไรก็ตอ้ งไป นางแต่งตัวเต็มยศตาม
ระดับชั้นแล้วก็พายายมัว่ และหลีฮวาและสวีโย่วขึ้นรถม้าไปด้วยกัน
พบกับองค์หญิงใหญ่ที่รออยูท่ ี่ประตูวงั
สวีโย่วเข้าไปเอ่ยว่า “เสด็จอา นางเสิ่ นเข้าร่ วมงานเลี้ยงในวังครั้งแรก
ไม่ค่อยเข้าใจกฎเกณฑ์ ท่านช่วยดูนางหน่อยขอรับ” ที่แท้สวีโย่วไหว้
วานองค์หญิงใหญ่ดูแลเสิ่ นเวยนัน่ เอง
องค์หญิงใหญ่กวักมือเรี ยกเสิ่ นเวย และพูดกับสวีโย่วว่า “อาโย่วเจ้า
ไปอย่างสบายใจเถอะ ให้สะใภ้เจ้าอยูก่ บั ข้า รับรองไม่มีผดิ พลาด”
สวีโย่วหลังจากกราบขอบคุณแล้วก็กาชับเสิ่ นเวยอีกว่า “เจ้าก็ตามอยู่
ข้างกายเสด็จอาและญาติผนู ้ อ้ ง รองานจบแล้วข้าไปรับเจ้า”
เสิ่ นเวยพยักหน้าแล้วขึ้นราชรถขององค์หญิงใหญ่ “รบกวนเสด็จอา
แล้วเพคะ”
องค์หญิงใหญ่ยงั ไม่ทนั ได้พดู ท่านหญิงชิงหรุ่ ยก็คอ้ งแขนของเสิ่ น
เวยไว้วา่ “ดูพี่สะใภ้เกรงใจเข้าสิ ข้ากาลังกลุม้ ที่ไม่มีเพือ่ นพอดีเลย”
องค์หญิงใหญ่กว็ า่ “คนในครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น เจียฮุ่ยไม่
จาเป็ นต้องเกรงใจ”
ฐานะและอาวุโสขององค์หญิงใหญ่สูงมาก เสิ่ นเวยตามอยูห่ ลังนาง
ผ่านฉลุยมาตลอดทางถึงตาหนักใหญ่ที่รับรองแขก ในตาหนักใหญ่มี
มังกรดิน ก็อบอุ่นมากทีเดียว เสิ่ นเวยจึงแก้เสื้ อคลุมขนจิ้งจอกที่คลุม
อยูอ่ อก
พวกนางนับว่ามาไม่เช้า กลับก็ไม่นบั ว่าสาย ในตาหนักใหญ่มีสตรี ที่
มีเก้ามิ่งมาแล้วไม่นอ้ ย เสิ่ นเวยกวาดมองไป แทบจะไม่เห็นคน
คุน้ เคย จึงตามองค์หญิงใหญ่เดินเข้าข้างในต่อ ระหว่างทางมีคนเข้า
มาถวายบังคมองค์หญิงใหญ่ไม่นอ้ ย
ตอนที่ 272-2 งานเลีย้ งในวัง
“เสด็จพี่ท่านมาแล้ว” นี่คือพระชายาสักท่านหนึ่ง เห็นองค์หญิงใหญ่
เข้ามาเป็ นคนแรก รี บกุลีกจุ อเข้ามาใกล้สองก้าว ท่าทีกระตือรื อค้น
ยิง่ นัก
พอนางเอ่ยปาก คนที่กาลังคุยกันอยูส่ องสามคนต่างมองมา เสิ่ นเว
ยเพ่งมองดีๆ แหะ ไม่ใชพระชายาก็คือพระชายาองค์ชาย ยังมีองค์
หญิง ท่านหญิง ที่แท้กองนี้ลว้ นเป็ นเชื้อพระวงศ์ล่ะ
“ทุกท่านมาเร็ วดีนี่นา” องค์หญิงใหญ่วา่ แล้วชี้เสิ่ นเวยและท่านหญิง
ชิงหรุ่ ยที่ควรถวายบังคมก็ถวายบังคม ที่ควรคารวะก็คารวะต่อคน
เหล่านี้
สาหรับคนส่ วนใหญ่เสิ่ นเวยล้วนคุน้ ตามาก ก็มีที่ไม่คุน้ ตาบ้าง นัน่
ล้วนเป็ นคนที่ไม่ค่อยออกมาสมาคม ทว่าไม่วา่ รู ้จกั หรื อไม่รู้จกั
มารยาทท่วงท่าของเสิ่ นเวยล้วนไม่มีที่ติ บนใบหน้าพร้อมด้วย
รอยยิม้ สามส่ วน กุมกฎเกณฑ์ได้ดีมาก ทาให้ทุกคนที่อยูใ่ นที่น้ ีต่าง
แอบพยักหน้าในใจ ใครๆ ก็บอกว่าท่านหญิงเจียฮุ่ยเป็ นคนหยาบคาย
ดูท่าทางคาเล่าลือไม่อาจเชื่อนะ
“ไยองค์หญิงใหญ่ถึงเข้ามาพร้อมเจียฮุ่ยเพคะ?” พระชายาท่านหนึ่ง
ถามเหมือนไม่ต้ งั ใจ
องค์หญิงใหญ่เอ่ยนิ่งเรี ยบว่า “ก็เพราะอาโย่วน่ะสิ เป็ นห่วงว่าเจียฮุ่ย
ร่ วมงานเลี้ยงในวังครั้งแรก ไม่วางใจ อุตส่ าห์ไหว้หวานให้ขา้ ดูแล
นางหน่อย”
พระชายาท่านนั้นระบายยิม้ ล้อเล่นว่า “อาโย่วนี่ช่างรักภรรยาจริ งๆ”
องค์หญิงใหญ่เลิกคิ้ว ว่า “ภรรยาตนเองไม่รักได้หรื อ? พระชายาหนิง
ไยต้องอิจฉาด้วย ทัว่ ทั้งเมืองหลวงมีใครไม่รู้วา่ เสด็จพี่หนิงปฏิบตั ิกบั
พี่สะใภ้เป็ นที่หนึ่งในเชื้อพระวงศ์เชียวนะ?”
แล้วก็มีคนเห็นด้วยว่า “นัน่ สิ นัน่ สิ ท่านหญิงเจียฮุ่ยเป็ นคนงามปาน
นี้ เป็ นข้าก็ตอ้ งวางไว้ในใจทั้งรักทั้งตามใจ พวกท่านว่าใช่หรื อไม่”
เหล่าสตรี ต่างอมยิม้ พยักหน้าตามๆ กัน
เสิ่ นเวยหลุบตาฟังพวกนางส่ งต่อกัน ไม่มีความคิดจะเอ่ยปากแม้แต่
น้อย ไหนๆ องค์หญิงใหญ่กร็ ับมือพวกนางได้สบาย นางก็มี
ความสุ ขที่ได้สงบคอยดูครึ กครื้ น
ในยามนี้เอง ท่านหญิงชิงหรุ่ ยที่อยูข่ า้ งๆ กระตุกแขนเสื้ อของเสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยมองไป ท่านหญิงชิงหรุ่ ยชี้ไปข้างนอก เสิ่ นเวยไม่ได้คิดมากก็
พยักหน้า
ท่านหญิงชิงหรุ่ ยจึงเดินเข้าไปพูดอะไรกับองค์หญิงใหญ่สองสาม
ประโยค องค์หญิงใหญ่พยักหน้า ท่านหญิงชิงหรุ่ ยจึงควงแขนของ
เสิ่ นเวยอย่างดีใจว่า “ไป พีส่ ะใภ้ เราออกไปสูดอากาศข้างนอกกัน”
องค์หญิงใหญ่กาชับอีกประโยคหนึ่งว่า “อย่าไปไกลเกินไป พา
พี่สะใภ้เจ้าเดินเล่นใกล้ๆ ก็พอ”
ท่านหญิงชิงหรุ่ ยขานรับเสี ยงหนึ่ง แล้วก็เดินออกไปนอกตาหนัก
พร้อมเสิ่ นเวย
ยามนี้คนในตาหนักยิง่ มากขึ้นแล้ว เสิ่ นเวยทอดสายตามองไป ล้วน
เป็ นผูท้ ี่มีอายุแล้ว อายุนอ้ ยเช่นนางและท่านหญิงชิงหรุ่ ยมีไม่มาก
จริ งๆ คิดๆ ดูกใ็ ช่ ใครทนถึงเก้ามิ่งระดับหนึ่งระดับสองแล้วไม่มีอายุ
บ้าง? ก็พดู ถึงบ้านฝ่ ายนางเถอะ คนที่มีคุณสมบัติเข้าวังก็มีเพียงท่าน
ย่าและท่านป้าใหญ่นางสองคน เช่นจวนอ๋ องจิ้น ปี นี้คนที่มาก็มีเพียง
ฮูหยินซื่อจื่อนางอู๋เพียงผูเ้ ดียว
เสิ่ นเวยเดินถึงครึ่ งทางก็เห็นท่านย่าและท่านป้าใหญ่นางแล้ว ย่อม
ต้องเข้าไปทักทายเป็ นธรรมดา “ท่านย่า ท่านป่ าใหญ่เจ้าคะ”
ไท่จวินเฒ่าเสิ่ นและนางสวี่เห็นเสิ่ นเวยก็ดีใจมาก “เวยเจี่ยเอ๋ อร์นี่จะ
ไปไหน?”
เสิ่ นเวยตอบอย่างว่าง่ายว่า “หลานและท่านหญิงชิงหรุ่ ยคิดจะ
ออกไปเดินเล่น”
ฮูหยินสองสามท่านที่อยูข่ า้ งๆ ก็ชมเสิ่ นเวยขึ้นมาตามๆ กันว่า “นี่ก็
คือท่านหญิงเจียฮุ่ยบ้านพวกท่านสิ นะ? ช่างน่ารักจริ งๆ เลย ดูกิริยา
ท่าทาง รู ปโฉมนี่สิ จื้ดๆ เทียบทัว่ ทั้งเมืองหลวงก็ติดอันดับ”
นางสวี่กใ็ บหน้าเปื้ อนยิม้ ท่าทางมีเกียรติไปด้วย “ก็นนั่ น่ะสิ ? พูด
โดยไม่อาย เวยเจี่ยเอ๋ อร์ของเราเป็ นเด็กดีที่กตัญญูที่สุด ท่านปู่ นาง
ได้รับบาดเจ็บมิใช่หรื อ? นางน่ะก็มาปรนนิบตั ิดูแลทุกวัน เอาใจใส่
ยิง่ กว่าอาวุโสอย่างพวกเราเสี ยอีก”
ดังนั้นเหล่าฮูหยินเริ่ มการชมประจบประแจงรอบใหม่ ใครใช้ให้
บัดนี้จวนหย่งกัว๋ กงเป็ นที่ทรงโปรดปรานที่สุดล่ะ?
บัดนี้สายตาที่ไท่จวินเฒ่าเสิ่ นมองเสิ่ นเวยเมตตาอย่าบอกใคร “ไป
เถอะ ไปเถอะ สาวๆ เช่นพวกเจ้าไม่ชอบพิธีรีตองที่สุด เพียงแต่ขา้ ง
นอกหนาว สู ดอากาศแล้วก็รีบกลับมาเถอะ”
เสิ่ นเวยรับคาเสี ยงใสแล้วก็เดินออกไปข้างนอกพร้อมท่านหญิงชิงห
รุ่ ย
“พี่สะใภ้ ออกจากตาหนักใหญ่แล้วเดินไปทางทิศใต้มีดอกเหมยอยู่
หลายต้น บัดนี้ใกล้ผลิดอกแล้ว เราไปดูกนั เถอะ” ท่านหญิงชิงหรุ่ ย
เสนอ
เสิ่ นเวยย่อมเต็มใจเป็ นธรรมดา
เดินอยูร่ าวครึ่ งเค่อ ก็เห็นดอกเหมยที่ท่านหญิงชิงหรุ่ ยว่าแล้ว มีหลาย
ต้นจริ งๆ ด้วย หนึ่งสองสามสี่ หา้ เสิ่ นเวยนับดู มีท้ งั หมดเจ็ดต้น เป็ น
ดอกเหมยแดง ดอกเหมยสี ชมพูบานอยูบ่ นกิ่ง แน่นขนัดไปหมด ช่าง
น่ารักยิง่ นัก
เสิ่ นเวยและท่านหญิงชิงหรุ่ ยชมอยูค่ รู่ หนึ่งแล้วยืนคุยกันใต้ตน้ ไม้
“ได้ยนิ ว่าพี่รองท่านให้กาเนิดบุตรฝาแฝด ตั้งชื่อหรื อยัง? หน้าตา
เหมือนใคร?” ท่านหญิงชิงหรุ่ ยถามด้วยสี หน้าสนใจ นางและเสิ่ น
ซวงเป็ นสหายสนิทกัน
พูดถึงเด็กที่เหมือนกันเปี๊ ยบสองคนนั้น มุมปากของเสิ่ นเวยก็ปรากฏ
รอยยิม้ ขึ้นเช่นกัน “ตั้งแล้ว สวี่ซ่างซูเป็ นคนตั้งชื่อจริ ง รุ่ นของพวก
เขาใช้คาว่าเจ๋ อ คนหนึ่งชื่อเจ๋ ออัน คนหนึ่งชื่อเจ๋ อคัง ทว่าบัดนี้ลว้ น
เรี ยกชื่อเล่นของพวกเขา ‘ต้าเป่ าเอ้อร์เป่ า’ ส่ วนหน้าตา ข้าดูแล้ว
เหมือนพีร่ องมากว่าสักหน่อย มีเฉพาะหน้าผากและจมูกเหมือน
พี่เขยรอง”
“จริ งหรื อ? ท่านพูดจนในใจข้าคันตะเยอหมดแล้ว ต้องโทษที่ก่อน
หน้านี้ขา้ เป็ นหวัด จะไปเยีย่ มนางก็ไม่ได้” ท่านหญิงชิงหรุ่ ยเอ่ยอย่าง
อารมณ์เสี ยเล็กน้อย
เสิ่ นเวยรี บปลอบใจนางว่า “จะเป็ นไรไปล่ะ ยังมีงานเลี้ยงร้อยวัน
มิใช่หรื อ? รอยามที่เด็กสองคนจัดงานเลี้ยงร้อยวันท่านไปดูก็
เหมือนกัน ยามนั้นเด็กก็โตขึ้นสักหน่อยแล้ว เห็นได้ชดั ขึ้นว่าเหมือน
ใคร”
“ใช่ๆๆ พี่สะใภ้พดู ได้ถูกต้อง เมื่อข้านึกถึงเด็กน้อยสองคนที่หน้าตา
เหมือนกันเปี๊ ยบก็รู้สึกสนุก พี่รองท่านมีบุญจริ งๆ” ท่านหญิงชิงหรุ่ ย
หน้าบานเป็ นกระด้ง ต่างกันโดยสิ้ นเชิงกับภาพลักษณ์สูงส่ งเย็นชา
ยามที่เสิ่ นเวยพบนางครั้งแรก ทาให้เสิ่ นเวยรู ้สึกสะท้อนใจมากอย่าง
ไร้สาเหตุ
ทั้งสองคนกาลังคุยกันอยู่ ก็มีขนั ทีนอ้ ยคนหนึ่งวิ่งเข้ามา “คารวะท่าน
หญิงทั้งสอง งานเลี้ยงจะเริ่ มแล้ว องค์หญิงใหญ่เชิญทั้งสองท่านรี บ
เข้าไปขอรับ”
เสิ่ นเวยและท่านหญิงชิงหรุ่ ยรี บรุ ดกลับตาหนักใหญ่ เพิ่งนัง่ ลงข้าง
กายองค์หญิงใหญ่เสร็ จ ก็ได้ยนิ เสี ยงประกาศแหลมๆ ของขันทีวา่
“ฝ่ าบาทเสด็จ”
ทุกคนย่อมต้องลุกขึ้นรับเสด็จทันที
“ตามสบาย” ฮ่องเต้ยงเซวียนก้าวอย่างมัน่ คงไปที่เก้าอี้มงั กร
ด้านหลังเขาตามด้วยฮองเฮา เหยียนกุย้ เฟยและฉิ นซู่เฟยพระชายา
อื่นๆ
รอฮ่องเต้ยงเซวียนประทับแล้ว ทุกคนถึงนัง่ กลับเข้าที่นงั่ ของตนช้าๆ
ตาหนักใหญ่ใหญ่นกั แบ่งเป็ นสองข้าง ข้างหนึ่งคือสตรี ข้างหนึ่งคือ
ขุนนางบู๋นและบู๊ ประจันหน้ากัน แยกออกอย่างชัดเจน ทว่าเสิ่ นเว
ยเพียงปราดเดียวก็เห็นคุณชายใหญ่บา้ นนางแล้ว แม้มีผใู ้ ส่ ชุดระดับ
จวิน้ อ๋ องหลายคน ทว่าใครให้คุณชายใหญ่บา้ นนางหน้าตาดีที่สุดล่ะ
อยูใ่ นหมู่ตาเฒ่านั้นคุณชายใหญ่บา้ นนางสะดุดตาที่สุด
หลังจากฮ่องเต้ยงเซวียนสรุ ปคาพูดอย่างฮึกเหิ มแล้ว งานเลี้ยงก็เริ่ ม
อย่างเป็ นทางการ นางกานัลขันทียกอาหารและสุ ราเลิศรสเข้ามา
เสี ยงเครื่ องดนตรี ดงั ขึ้น นางราก็เริ่ มร่ ายราแล้ว
บอกตรงๆ งานเลี้ยงในวังน่าเบื่อจริ งๆ เสิ่ นเวยเขี่ยสองสามทีอย่างขี้
เกียจแล้วก็หมดความสนใจ อากาศหนาวมาก ต่อให้อาหารเลิศรส
เพียงใดเมื่อเย็นสนิทแล้วก็เสี ยรสชาติเช่นกัน โชคดีที่นางกินในจวน
มาแล้ว มิเช่นนั้นต้องทนหิวแน่นอน
ไม่อยากกินอาหาร เช่นนั้นก็ชื่นชมการร้องราเถอะ ดูแรกๆ ยังดี ทว่า
ดูไปดูไปเสิ่ นเวยก็หมดสนุกแล้ว ไปๆ มากๆ ก็มีอยูไ่ ม่กี่ท่านั้นแหละ
ราวกับราไทเก๊กเนิบๆ อย่างไรอย่างนั้น น่าเบื่อเหลือเกิน
การร้องราก็ดึงความสนใจของเสิ่ นเวยขึ้นมาไม่ได้ เช่นนั้นก็ดูคนใน
ตาหนักใหญ่เถอะ ดูคุณชายใหญ่บา้ นนางที่สง่างามผึ่งผายราวกับ
ต้นไม้ลา้ งตาก่อน จากนั้นถึงมีความกล้าดูตาเฒ่ายายเฒ่ากลุ่มนั้น
เมื่อดูเช่นนี้เสิ่ นเวยก็พบว่าอาหารด้านหน้าทุกคนแทบจะไม่ได้แตะ
ต้อง ไม่กช็ ื่นชมการร้องราทาเพลง ไม่กค็ ุยเสี ยงเบากับผูท้ ี่นงั่ ซ้ายขวา
หรื อใกล้เคียง มองไป มองไป สายตาของเสิ่ นเวยก็หนั ไปถึงบนตัว
ฮ่องเต้ยงเซวียน
เห็นเพียงฮ่องเต้ยงเซวียนนัง่ อยูข่ า้ งบน มุมปากอมยิม้ มองลงมาที่
ผูค้ น นานๆ ทีกเ็ อียงตัวพูดกับสนมที่นงั่ อยูข่ า้ งๆ สักสองสาม
ประโยค ก็ไม่รู้วา่ ฉินซู่เฟยผูน้ ้ นั พูดอะไร ทาให้ฮ่องเต้ยงเซวียน
หัวเราะร่ า
เสิ่ นเวยมองอยูเ่ งียบๆ ในยามนี้เอง มีขนั ทีนอ้ ยผูห้ นึ่งรี บเดินเข้า
มาแล้วก้มลงพูดอะไรเบาๆ ที่ขา้ งหูของจางเฉวียน แล้วก็เห็นสี หน้า
จางเฉวียนเปลี่ยนไปในทันใด ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งพูดเสี ยงเบา
สองสามประโยคกับฮ่องเต้ยงเซวียน เสิ่ นเวยสังเกตว่าสี หน้าของ
ฮ่องเต้ยงเซวียนไม่เป็ นธรรมชาติไปชัว่ พริ บตาหนึ่ง ใจของนางก็ตึก
ตักตามทีหนึ่ง นี่เกิดเรื่ องอะไรขึ้นใช่หรื อไม่?”
เสิ่ นเวยดึงสายตากลับมา ขมวดคิว้ คิดๆ แล้ว หรื อว่าในวังเกิดเรื่ อง
อะไรขึ้น? จะเกิดเรื่ องอะไรได้นะ? เจ้านายที่มีหน้ามีตาล้วนอยูท่ ี่นี่
กันหมดนะ น่าจะไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไรกระมัง ฮ่องเต้ยงเซวียนยังนัง่
อย่างสู งส่ งอยูน่ นั่ มิใช่หรื อ?
ในระหว่างที่เสิ่ นเวยคิดเหลวไหลอยูน่ นั่ เอง เสี ยงของฮ่องเต้ยงเซ
วียนก็ดงั ขึ้นมาว่า “ขุนนางที่รักทุกท่านกินดื่มให้สนุก ข้าขอตัวก่อน”
ทุกคนลุกขึ้นส่ งเสด็จฝ่ าบาทอีก
เมื่อหันหน้าไป เสิ่ นเวยพบด้วยความตะลึงว่าที่นงั่ ขององค์หญิงใหญ่
ว่างเปล่า “เสด็จอาล่ะ?” นางถามท่านหญิงชิงหรุ่ ยเสี ยงเบาทีหนึ่ง
“ไปเปลี่ยนชุดแล้วกระมัง” ท่านหญิงชิงหรุ่ ยตอบกว่า
เสิ่ นเวยพยักหน้า ไม่ได้พดู อะไรอีก กลับใจไม่อยูก่ บั เนื้อกับตัวขึ้นมา
เพราะนางพบว่าไม่เพียงองค์หญิงใหญ่ไม่อยู่ แม้แต่คุณชายใหญ่บา้ น
นางก็ไม่อยูเ่ ช่นกัน เพียงแค่พริ บตาเดียว นางก็มองไม่เห็นคุณชาย
ใหญ่บา้ นนางแล้ว เป็ นความบังเอิญ หรื อว่าเกิดเรื่ องอะไรขึ้นจริ งๆ?
ดีที่ไม่นานนักองค์หญิงใหญ่กก็ ลับมาแล้ว ทว่าสวีโย่วกลับไม่
ปรากฏตัวขึ้นอีก เสิ่ ยเวยคิดๆ ดูแล้ว ตัดสิ นใจออกไปหา เพิ่งลุกขึ้นก็
ถูกองค์หญิงใหญ่ดึงมือไว้ เสิ่ นเวยหันมองกลับมา องค์หญิงใหญ่ส่าย
หน้าใส่ นางเบาแทบไม่เห็น เสิ่ นเวยจึงได้แต่นงั่ กลับลงไปใหม่ ในใจ
แน่ใจแล้วว่านี่ตอ้ งเกิดเรื่ องแล้วจริ งๆ ยิง่ กว่านั้นยังไม่ใช่เรื่ องเล็กด้วย
ตอนที่ 273-1 เรื่ องเกิดกะทันหัน
เกิดเรื่ องจริ งๆ เสิ่ นเวยเห็นข้างล่างเริ่ มโกลาหลขึ้น มีคนที่ออกไป
เปลี่ยนชุดก่อนหน้านี้กลับมาบอกว่าเห็นแสงไฟในเขตรอบวังหลวง
คนไม่นอ้ ยต่างตื่นตระหนกขึ้นมา พวกนางอยูใ่ นวังก็ปลอดภัยดีอยู่
หรอกนะ ทว่าใครไม่มีครอบครัวล่ะ? พวกนางแม้ไม่รู้วา่ เกิดเรื่ อง
อะไรขึ้น ทว่าแสงไฟหลายที่ปานนั้นไม่เหมือนเพลิงลุกไหม้ธรรมดา
จะไม่กงั วลได้หรื อ?
เสิ่ นเวยก็อยากรู ้วา่ เกิดเรื่ องอะไรขึ้น จึงใช้สายตาถามองค์หญิงใหญ่
ว่า “เสด็จอา?”
องค์หญิงใหญ่กร็ ู ้วา่ ปิ ดต่อไปไม่ได้แล้ว นางอ้าปาก หลุดออกมาสาม
คาอย่างไร้เสี ยง “ผูล้ ้ ีภยั ”
เสิ่ นเวยเลิกคิว้ ขึ้น ก็เป็ นไปได้ ฤดูหนาวปี นี้ภยั พิบตั ิจากหิ มะ ไม่รู้
หนาวตายไปเท่าไร ชาวบ้านเพื่อหาทางรอด ก็เป็ นไปได้วา่ ยอมเสี่ ยง
เพราะเข้าตาจน เพียงแต่เลือกบุกเข้าเมืองหลวงในคืนสิ้ นปี นี่ ผูล้ ้ ีภยั ที่
ไม่รู้จกั หนังสื อสักตัวจะมีสมองเพียงนี้? อย่าเพราะมีคนฉวยโอกาส
ปล้นสะดมแล้วกัน?
มองดูเหล่าฮูหยินเก้ามิ่งที่ตื่นตระหนกทาอะไรไม่ถูกพุง่ ออกนอก
ตาหนัก องค์หญิงใหญ่ตะคอกเสี ยงเข้มว่า “เป็ นเพียงผูล้ ้ ีภยั เท่านั้น
ทุกท่านตื่นตระหนกเช่นนี้ทาอะไร? กองกาลังห้าทิศและกองกาลง
รักษาเมืองออกปฏิบตั ิการแล้ว เชื่อว่าจลาจลจะถูกปราบปรามในไม่
ช้า ทุกท่านกลับมานัง่ อย่างสงบในตาหนักให้หมด หากมีใครใช้
คาพูดยุยงผูค้ นอีก ข้าจะประหารอย่างไม่ละเว้น”
องค์หญิงใหญ่ยนื อยูก่ ลางตาหนัก ท่วงท่าสง่างาม บุคลิกน่าเกรงขาม
สะกดเก้ามิ่งทั้งหมดไว้ทนั ที ต่างกลับไปที่ที่นงั่ ตนตามๆ กัน ในใจ
ต่อให้กงั วลเพียงใด แต่กไ็ ม่กล้าขัดคาสัง่ ขององค์หญิงใหญ่
ฮองเฮาที่อยูเ่ บื้องบนถึงได้สติกลับมาว่า “ถูก ถูก ทุกท่านจงฟังองค์
หญิงใหญ่ เพียงแค่ผลู ้ ้ ีภยั มีอะไรน่ากลัว?”
เสิ่ นเวยได้ยนิ ดังนั้นมุมปากอดกระตุกทีหนึ่งไม่ได้ ในใจเกิดความดู
ถูก ทุกท่านจงฟังองค์หญิงใหญ่ แล้วจะเอาฮองเฮาเช่นท่านไปทา
อะไร?
องค์หญิงใหญ่สอดส่ องสายตา กวาดไปทางเหล่าขุนนางอย่างเฉี ยบ
ขาด เสี ยงละมุนและเยือยเย็นมีพลัง “ใต้เท้าทุกท่านล้วนเป็ นขุนนาง
ที่เป็ นที่ไว้วางใจ ควรทาเช่นไรคงไม่ตอ้ งให้ขา้ พูดอีกกระมัง?”
เหล่าขุนนางอดใจสัน่ ไม่ได้ เทียบกับพวกผูห้ ญิง เหล่าขุนนางยิง่ รู ้ถึง
ความร้ายกาจขององค์หญิงใหญ่ นี่ไม่ใช่ผหู ้ ญิงธรรมดาหรอกนะ
อายุสิบกว่าปี ก็นาทหารช่วยเสด็จพี่ชิงอานาจ ความเด็ดขาดนั้นเป็ นที่
ประจักษ์ต่อสายตา ยามแรกๆ ที่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั ขึ้นครองราชย์
นางเป็ นแขนขวาที่มีความสาคัญที่สุด สิ บกว่าปี นี้แม้ฝึกฝนปฏิบตั ิตน
ขัดเกลาจิตใจไม่ถามราชกิจอีก ทว่าไม่มีใครกล้าดูถูกนาง การที่ฝ่า
บาททิ้งนางไว้บญั ชาการในตาหนัก ช่างหาถูกคนแล้วจริ งๆ
เหล่าขุนนางต่างว่า “กระหม่อมทั้งหลายฟังคาสัง่ องค์หญิงใหญ่พะ่
ย่ะค่ะ”
องค์หญิงใหญ่ถึงเก็บความเฉียบขาดในสายตาไป “รัชทายาท องค์
ชายใหญ่ องค์ชายรอง พวกเจ้าในฐานะองค์ชาย ยิง่ ต้องข่มอารมณ์ไว้
มหาเสนาบดีฉินอามาตย์ฝางและซ่างซูทุกท่าน ปกติเสด็จพี่ให้
ความสาคัญพวกท่านเป็ นที่สุด วันนี้หวังว่าพวกท่านจะตรึ ง
สถานการณ์ไว้ อย่าก่อให้เกิดความโกลาหลที่ไม่จาเป็ นเด็ดขาด
ขุนนางที่ถูกขานชื่อรี บก้าวออกมาแสดงจุดยืน
องค์หญิงใหญ่กระดกมุมปาก ตบมือว่า “ร้องราทาเพลง”
แล้วก็เห็นนางราที่ใส่ ผา้ บางกลุ่มหนึ่งเข้ามาจากตาหนักข้างตามๆ
กัน ร่ ายราขึ้นตามเสี ยงดนตรี
องค์หญิงใหญ่ดูอย่างมีรสมีชาติ เสิ่ นเวยก็ดูอย่างมีรสมมีชาติ ก็ไม่ใช่
ว่านางชอบมากเพียงใดจริ งๆ หรอกนะ ทว่าอย่างน้อยก็ตอ้ งแสดง
จุดยืนใช่หรื อไม่ล่ะ? นางก็นงั่ อยูข่ า้ งองค์หญิงใหญ่นี่แหละ หาก
แม้แต่นางก็ท่าทางใจไม่อยูก่ บั เนื้อกับตัว มิใช่กลายเป็ นตัวถ่วงของ
องค์หญิงใหญ่หรอกหรื อ? นางนาหน้าสนับสนุนองค์หญิงใหญ่
เหล่าฮูหยินเก้ามิ่งที่อยูข่ า้ งล่างเห็นแล้วก็จะได้สบายใจขึ้นสักหน่อย
กระมัง
ไม่พดู ถึงอย่างอื่น ท่าทางสุ ขมุ ใจเย็นเช่นนี้ของเสิ่ นเวยไม่เพียงแต่
องค์หญิงใหญ่แอบชมในใจ ต่อให้เป็ นฮูหยินเก้ามิ่งที่อายุมากพวก
นั้นมองแล้วก็แอบพูดว่าช่างน่าละอาย แม้แต่นางหนูอายุสิบกว่าปี ยัง
ไม่กลัวไม่ลนลาน พวกนางอายุมากโขแล้วกลับไม่รู้อะไรควรไม่
ควร จริ งๆ เลย…
มองไปที่สมาชิกผูห้ ญิงสองท่านของจวนหย่งกัว๋ กงอีก พวกนาง
เหมือนกับท่านหญิงเจียฮุ่ย กาลังหรี่ ตาชื่นชมการร้องรา ท่าทาง
เคลิบเคลิ้มเป็ นหนักหนา โดยเฉพาะไท่จวินเฒ่าเสิ่ น ศีรษะนั้นส่ าย
เบาๆ แทบไม่สงั เกต ดูเหมือนกาลังให้จงั หวะให้เข้ากับจังหวะดนตรี
แน่ะ
แม้แต่ภรรยาของแม่ทพั ก็กล้าหาญถึงเพียงนี้ ในฐานะภรรยาของขุน
นางบุ๋นทั้งทีพวกนางจะให้ถูกเทียบลงไปได้อย่างไร? ดังนั้นสมาชิก
หญิงทั้งหลายต่างกดความกังวลในใจไว้แล้วชื่นชมการร้องราขึ้นมา
ไม่ตอ้ งสนว่าจริ งหรื อเท็จ ทว่าภายนอกก็สงบดี
พวกนางไม่รู้วา่ เสิ่ นเวยไม่กงั วลแม้แต่นอ้ ยเลยจริ งๆ อย่าว่าแต่ผลู ้ ้ ีภยั
เลย ต่อให้มีคนจับปลาในน้ าขุ่นจริ งนางก็ไม่กลัว จวนผิงจวิน้ อ๋ องมี
ท่านซูและโอวหยางน่านัง่ บัญชาการอยู่ อีกทั้งยังเลี้ยงลูกหมาป่ าไว้สี่
ร้อยกว่าตัวนะ คิดจะบุกเข้าจวนผิงจวิน้ อ๋ อง? ไม่ถูกพวกเขาฉี กเป็ น
ชิ้นๆ สิ แปลก
สาหรับจวนหย่งกัว๋ กงเสิ่ นเวยก็ไม่ห่วง แม้ท่านปู่ นางได้รับบาดเจ็บ
ทว่าญาติผพู ้ ี่ใหญ่เสิ่ นเชียนกลับมาแล้วมิใช่หรื อ? เสิ่ นเชียนที่ลม้ ลุก
คลุกคลานรอบหนึ่งที่ซีเจียงไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืนมานานแล้ว มีเขา
อยู่ ย่อมปกป้องจวนหย่งกัว๋ กงได้
เพียงแต่คนในจวนท่านตาน้อยไปสักหน่อย ทว่าเสิ่ นเวยก็ไม่ได้กงั วล
มากนัก จวนแม่ทพั ใหญ่หยวนแม้คนไม่มาก ทว่าส่ วนใหญ่เป็ น
ทหารคนสนิทที่ถอยลงมาตามท่านตา ป้องกันตนเองยังไม่เป็ น
ปัญหา ยิง่ กว่านั้นท่านซูเป็ นคนกระทาการรอบคอบปานนั้น ต้องส่ ง
คนไปหนุนแน่นอน
เทียบกับวังหลวงที่ยงั นับว่าสงบ นอกวังหลวงเละเป็ นโจ๊กแล้วจริ งๆ
ขบวนผูล้ ้ ีภยั นับพันคนวางเพลิงปล้นฆ่าไปทัว่ เลือกบ้านคนใหญ่โต
ลงมือโดยเฉพาะ
ผูล้ ้ ีภยั ราวกับโจรก็ไม่ปาน โบกสะบัดดาบใหญ่กระบองเหล็ก ทุบ
เปิ ดประตูใหญ่ของบ้านคนใหญ่โตออก บุกเข้าไปเห็นคนก็ฟัน เห็น
สมบัติเงินทองก็แย่ง ฟันเสร็ จแย่งเสร็ จแล้วยังวางเพลิง ทั้งเขตรอบ
วังหลวงตกอยูใ่ นทะเลเพลิงทันที มีแต่เสี ยงร้องอนาถทุกหย่อมหญ้า
ยามที่แสงไฟลุกโชนขึ้นท่านซูและโอวหยางน่าก็สงั เกตเห็นความ
ผิดปกติแล้ว ผูล้ ้ ีภยั ? ผูล้ ้ ีภยั สามารถก่อความวุน่ วายใหญ่โตปานนี้
หรื อ? บ้านคนใหญ่โตจวนใครบ้างไม่ได้เลี้ยงองครักษ์ปกป้องเรื อน
ไว้บา้ ง เหตุใดถึงถูกพังประตูจวนได้ง่ายดายเพียงนั้น? เกรงว่าจะมี
คนจับปลาในน้ าขุ่นฉวยโอกาสปล้นสะดมกาจัดคนที่เป็ นปฏิปักษ์
กับตนกระมัง
ท่านซูและโอวหยางน่าสบตากันปราดหนึ่ง ตัดสิ นใจทันทีวา่ “เจ้า
หนูโอวหยางเจ้านาทหารจวนรักษาในจวนไว้ให้ดี ข้าจะพาพวกไอ้
หนูออกไปร่ วมวงเสี ยหน่อย ท่านจวิน้ อ๋ องของเราต้องยุง่ อยูข่ า้ งนอก
เป็ นแน่ ข้าจะไปช่วยเขาเสี ยหน่อย”
โอวหยางน่าไม่เห็นด้วยอย่างยิง่ ว่า “อย่างไรท่านก็อยูใ่ นจวนเถอะ
ข้างนอกให้เข้าไปดีกว่า” เขาคิดว่าท่านซูอย่างไรก็เป็ นบัณฑิต หาก
หกล้มชนถูก ไม่รู้จะอธิบายกับท่านหญิงอย่างไรดีน่ะสิ
ท่านซูกลับยิม้ ส่ ายศีรษะว่า “ความปรารถนาดีของเจ้าข้ารับด้วยใจ
แล้ว วางใจได้ ข้าไม่ได้ไร้ประโยชน์เช่นที่เจ้าคิด เห็นคนหนุ่มเช่น
พวกเจ้าแล้วนะ ข้าก็อดรู ้สึกใจฮึกเหิ มไม่ได้ แค่ก แขนขาแก่ๆ ก็ควร
ขยับๆ ได้แล้ว”
โอวหยางน่าเห็นท่านซูมุ่งมัน่ ก็ไม่ได้เกลี้ยกล่อมอีก คิดครู่ หนึ่งแล้ว
ว่า “ทหารจวนแบ่งอีกสองร้อยให้ท่านนาไปด้วย ในจวนเหลือสัก
สามร้อยคนก็พอแล้ว”
ทหารรุ่ นเยาว์รวบรวมเสร็ จตั้งนานแล้ว แต่ละคนกุมอาวุธไว้แน่น
ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น รอเพียงท่านซูออกคาสัง่ จะได้บุก
ออกจากประตูจวนทันที
โอวหยางน่ามองดูท่านซูที่ข้ ึนม้ากระตุกเชือกอย่างคล่องแคล่ว ถึง
ตระหนักว่าที่แท้นี่ถึงเรี ยกว่าคนจริ งไม่แสดงตนนี่เอง
ทหารรุ่ นเยาว์เดิมก็เป็ นคนไม่มีขื่อมีแปกลุ่มหนึ่งอยูแ่ ล้ว บวกกับอุดอู ้
อยูใ่ นจวนหนักเข้าอีก เมื่อออกจากประตูใหญ่จวนผิงจวิน้ อ๋ องก็
เหมือนพยักฆ์ร้ายเข้าป่ า ผูล้ ้ ีภยั ที่เจอ พบหนึ่งคนดับหนึ่งคน พบหนึ่ง
ทีมดับหนึ่งทีม พวกเขาแบ่งเป็ นทีมย่อยหลายทีม ทีมละห้าสิ บคน
ไปมาอยูใ่ นถนนใหญ่ตรอกเล็กในเขตรอบวังหลวงอย่างรวดเร็ ว มี
บทบาทเหมือนสมาชิกทีมดับเพลิง ช่วยจวนต่างๆ ต่อต้านผูล้ ้ ีภยั เมื่อ
จัดการเสร็ จสรรพก็รีบล่าถอยไปหนุนบ้านต่อไปทันที ก่อนไปยังทิ้ง
คาพูดไว้ประโยคหนึ่ง พวกเขาคือองครักษ์แห่งจวนผิงจวิน้ อ๋ อง
ได้การแทรกแซงของทหารรุ่ นเยาว์กลุ่มนี้ สถานการณ์ในคืนนี้
ดาเนินไปยังอีกทิศทางหนึ่งที่แปลกประหลาด รอถึงยามที่คนบาง
กลุ่มสังเกตถึงความผิดปกติ พวกเขาก็ถูกทหารรุ่ นเยาว์ลอ้ มไว้แล้ว
ภายใต้แสงไฟสาดส่ อง สวีโ่ ย่วและท่านซูยนื เคียงไหล่กนั สวีโย่วมอ
งกลุ่มคนที่ใส่ ชุดดาซึ่งแตกต่างกับผูล้ ้ ีภยั โดยสิ้ นเชิง แล้วทอดถอนใจ
ว่า “ท่านซูไหวพริ บเลิศล้ าวางกลยุทธ์ได้แยบยลจริ งๆ เลย”
ท่านซูยมิ้ ช้าๆ ว่า “ท่านจวิ๋นอ๋ องชมเกินไปแล้ว ข้าเพียงแค่เดาส่ งเดช
เท่านั้น ไม่คิดว่าพวกเขาจะมาจริ งๆ” ไม่คิดว่าจะมีคนฉวยโอกาสที่
โกลาหลคิดร้ายต่อจวนหย่งกัว๋ กงจริ งๆ อ่ะไม่ ที่พวกเขาคิดร้ายน่าจะ
เป็ นท่านราชครู กระมัง
เมื่อคนชุดดาเห็นสถานการณ์ ก็เข้าใจทันทีวา่ คืนนี้อย่าคิดจะได้จบดี
เลย สบตากันปราดหนึ่งแล้ว บุกออกข้างนอกอย่างใจตรงกัน
“จับตายให้หมด” สวีโย่วออกคาสัง่ ฆ่าอย่างสบายๆ
ทหารรุ่ นเยาว์ยอ่ มไม่ใช่เล่นๆ แต่ละคนพุง่ ตัวถลาไปดัง่ เสื อน้อย เดิม
ทีพวกเขาก็คนมากอยูแ่ ล้ว อีกทั้งยังถนัดการร่ วมมือกันอีก ยิง่ กว่านั้น
คาสัง่ ของสวีโย่วคือจับตาย พวกเขาไม่มีความกังวลเลยแม้แต่นอ้ ย
ทันใดนั้นก็ฆ่าคนคนชุดดาเลือดเนื้อกระเด็น
จะโทษว่าคนชุดดาเป็ นไก่อ่อนก็ไม่ได้ สามารถถูกส่ งมาคิดร้ายต่อ
ราชครู เสิ่ นจะอ่อนได้หรื อ? ตรงกันข้ามพวกเขายังเจนจัดมาก อย่าง
น้อยเผชิญหน้ากับทหารรักษาพระองค์กม็ ีกาลังสู ้ได้ ทว่าพวกเขาดัน
โชคไม่ดี เจอกับทหารรุ่ นเยาว์ที่นางมารเสิ่ นเวยฝึ กมา นี่คือคนที่ไม่
เลือกวิธีการไม่มีขีดจากัดล่างกลุ่มหนึ่ง เล่นเล่ห์ได้เล่นเล่ห์ วิธีลอบ
กัดโผล่มาไม่ขาดสาย อีกทั้งยังทาให้เจ้าป้องกันไม่ได้อีก
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 273-2 เรื่ องเกิดกะทันหัน
ไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยามก็ฆ่าคนชุดดาพวกนั้นจนหมด ด้านนอกเสี ยง
ตะโกนฆ่าดังสะเทือนชั้นฟ้า จวนหย่งกัว๋ กงกลับสงบเชียว รอข้าง
นอกสงบลง พ่อบ้านถึงวิ่งเข้ามา พูดอย่างนอบน้อมว่า “ท่านเขยสี่
เหนื่อยแล้ว ท่านกัว๋ กงเราพูดแล้ว พรุ่ งนี้ให้คุณหนูสี่กลับมาสักครา
ผลไม้สดที่เพิง่ ส่ งมาจากทางใต้นนั่ เก็บไว้ให้คุณหนูสี่หมดเลย อย่า
ลืมให้คุณหนูมารับประทานนะขอรับ” สาหรับศพที่ลม้ เกลื่อนพื้นไม่
มองแม้สกั ครั้งเดียว
ท่านซูมองสวีโย่วอย่างล้อเลียน ใบหน้าแย้มยิม้ ในใจกลับเห็นใจเขา
เหลือเกิน เห็นหรื อยัง? ช่วยคนเขาอย่างเอิกเกริ กปานนี้ ที่ในใจเขา
คิดถึงยังคงเป็ นหลานสาวที่น่ารักนัน่ คุณชายใหญ่สวีนี่ตอ้ งไม่เป็ นที่
ต้อนรับถึงเพียงไหนกันนะ
ที่จริ งท่านซูกเ็ ข้าใจความรู ้สึกของราชครู เสิ่ นดีเพราะตนก็มี
ความรู ้สึกเช่นเดียวกันมาก่อน นับไปนับมาก็มีหลานสาวที่ดูแล้ว
เจริ ญตาอยูเ่ พียงคนเดียว ตนประคบประหงมได่ไม่กี่วนั สุ ดท้ายกลับ
ถูกลูกหมาป่ าคาบไปแล้ว เปลี่ยนเป็ นเขาก็ไม่พอใจเช่นกันนะ หากนี่
เป็ นบุตรสาวตัวเล็กของเขา เขามิตอ้ งคิดหาวิธีให้เขาลาบากใจทุกวัน
หรื อ? ราชครู เสิ่ นทาเช่นนี้นบั ว่าดีแล้ว
สวีโย่วทาเป็ นไม่เห็นสายตาล้อเลียนของท่านซู พยักหน้าให้พอ่ บ้าน
อย่างไร้ความรู ้สึก แล้วเอ่ยนิ่งเรี ยบว่า “รู ้แล้ว”
พ่อบ้านนัน่ เห็นดังนั้น คานับทีหนึ่งแล้วก็วงิ่ พรวดกลับไป
ท่านซูหวั เราะเบาๆ ออกมา เขามองดูแสงไฟที่ยงั คงลุกไหม้อยู่ แล้ว
กอบมือใส่ สวีโย่ว ว่า “ก็จดั การพอประมาณแล้ว ข้าขอล่วงหน้าไป
ก่อนก้าวหนึ่งแล้ว” แล้วโบกมือ ทหารรุ่ นเยาว์กเ็ ดิมตามเขาไปอย่าง
เป็ นระเบียบ
กองกาลังห้าทิศที่ตามอยูข่ า้ งกายสวีโย่วมองตาแทบถลน นักฆ่าเมื่อ
ครู่ พวกนั้นยังเป็ นเด็กหนุ่มหมดเลยใช่หรื อไม่? มารดาเอ๊ย แต่ละคน
กลิ่นอายการเข่นฆ่าคุกรุ่ น ตกใจแทบตาย
“ใต้เท้า ท่านผูน้ ้ นั ?” รองผูบ้ ญั ชาการกดความอยากรู ้อยากเห็นในใจ
ไว้ไม่อยู่ ถามอย่างระมัดระวังว่า
“นัน่ คือท่านครู ของท่านหญิงเจียฮุ่ย” สวีโย่วพูดนิ่งเรี ยบ จากนั้น
เสริ มอีกประโยคหนึ่งอย่างไม่ใส่ ใจว่า “ทหารรุ่ นเยาว์กลุ่มนั้นล้วน
เป็ นทหารคนสนิทของท่านหญิงเจียฮุ่ย มาจากซีเจียง”
ท่านหญิงเจียฮุ่ย ทุกคนสะดุง้ เฮือก มิน่าล่ะ มิน่าท่านผูบ้ ญั ชาการบอก
ว่าตนเองกลัวภรรยา หากฮูหยินของตนมีฝงู ลูกหมาป่ าเช่นนี้ในมือ
พวกเขาก็ตอ้ งกลัวภรรยาเช่นกัน ใครๆ ก็บอกว่าท่านหญิงเจียฮุ่ยเป็ น
คนร้ายกาจ ที่แท้คนเขามีความมัน่ ใจมีกาลังนัน่ เอง
คนเทียบกับคนแล้วจะโมโหตาย เอาเถอะ พวกเขาฆ่าคนไม่ได้
เช่นนั้นก็คอยเก็บงานฝังคนแต่โดยดีแล้วกัน
ท่านซูนาทหารรุ่ นเยาว์กลับจวน ระหว่างทางติดมือจัดการปลาลอด
แหไปด้วย เหล่าทหารรุ่ นเยาว์คุยกันอย่างคึกคัก ข้าฆ่าไปกี่คน เจ้า
เจ็บได้กี่คน? ท่าทางเหมือนยังไม่หายอยาก ต่างรู ้สึกว่าเวลาที่ออกมา
สั้นเกินไป ยังไม่ทนั ได้ยดื แข้งยืดขาก็จบเสี ยแล้ว
ถึงหน้าประตูจวนผิงจวิน้ อ๋ องดูปุ๊บ ท่านซูตกใจ ไอยาโย ที่นอนขวาง
ไปขวางมาบนพื้นนัน่ อะไรน่ะ? ไยถึงมากเช่นนี้นะ? จวนอื่นๆ ก็เข้า
ไปแค่หยิบมือเดียว อย่าบอกนะว่ามุ่งหน้ามาจวนผิงจวิน้ อ๋ องของ
พวกเขาจนหมดน่ะ?
ท่านซูลงจากม้า ยืน่ มือหยิบคบเพลิงมาตั้งใจดู มีผลู ้ ้ ีภยั และก็มีที่
ไม่ใช่ผลู ้ ้ ีภยั แม้ลว้ นใส่ เสื้ อผ้าของผูล้ ้ ีภยั ทว่าอย่างไรท่านซูกแ็ ยกแยะ
ออกมาได้ในปราดเดียว แต่ละคนอ้วนท้วนบึกบึน จะเป็ นผูล้ ้ ีภยั ที่ไม่
มีแม้แต่ขา้ วจะกินได้หรื อ?
“ท่านซูกลับมาแล้วหรื อ” ประตูใหญ่จวนผิวจวิน้ อ๋ องค่อยๆ เปิ ดออก
โอวหยางน่าเดินออกมาจากข้างในว่า “สงบแล้วหรื อ?”
ท่านซูพลางเดินเข้าข้างในพลางพูดว่า “อืม งานรั้งท้ายที่เหลือย่อมมี
คนของราชสานักรับงานต่อ พวกเราก็ไม่ตามไปวุน่ วายแล้ว” เขา
มองศพที่อยูข่ า้ งนอกปราดหนึ่งว่า “ไยมามากมายเพียงนี้? ในจวนมี
คนบาดเจ็บล้มตายหรื อไม่?”
“อาจเพราะคิดว่าท่านจวิน้ อ๋ องและท่านหญิงของเราล้วนไม่อยู่ ต้องรู ้
ว่าสิ นสอดของท่านหญิงเรามากจนทาให้คนอิจฉาตาร้อนเชียวนะ”
โอวหยางน่าเดา คิดจะเด็ดลูกพลับอ่อน หาเงิน ไม่คิดว่ากลับเจอ
ของแข็งเข้า กลับต้องมามอบชีวิต สมน้ าหน้าจริ งๆ
“บาดเจ็บหลายคน ล้วนไม่หนักหนา พวกท่านล่ะ?” โอวหยางน่าพูด
อีก พวกเขาล้วนเป็ นมือดีที่เลือกจากทหารรักษาพระองค์ อาวุธก็ดี
อีกทั้งมีกาแพงเป็ นที่กาบัง หากยังสู ้กลุ่มคนที่ไร้ระเบียบพวกนี้ไม่ได้
เช่นนั้นก็ขายขี้หน้าตายแล้ว
ท่านซูช้ ีไปข้างหลังอย่างจาใจว่า “ดูเอาเองเถอะ ยังเกี่ยงว่าฆ่าไม่
หนามใจเลย อายุนอ้ ยๆ ก็ไม่รู้ไปเอานิสยั ฆ่าคนเช่นนี้มาจากไหน”
โอวหยางน่าดูปุ๊บ ก็นนั่ น่ะสิ ? เหล่าทหารรุ่ นเยาว์คึกคักฮึกเหิม
กระปรี้ กระเปร่ าเหลือเกิน “ก็ดี” เขาพูดนิ่งเรี ยบ เดิมทีพวกเขาก็คือ
ทหาร ไม่มีนิสยั การฆ่าเรี ยกว่าทหารได้หรื อ?
เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊และฮูหยินทนทรมานอย่างทุกข์ทนอยูใ่ นวังใน
ที่สุดรอถึงคาสัง่ ให้กลับจวนได้ ไม่มีแม้แต่เวลาจะทักทายกัน ต่างรุ ด
ไปยังประตูวงั อย่างรี บร้อน จะรี บกลับไปดูสถานการณ์ที่จวน
บนถนนหนทางในเขตรอบวังหลวงเงีบบกริ บไร้เสี ยง นอกจาก
ทหารยามที่ลาดตระเวนไปมา ยังสามารถเห็นเถ้าถ่านที่ไฟแรงลุก
ไหม้มาก่อน นานๆ ทียงั สมารถเห็นศพที่ลม้ อยูบ่ นพื้นคนสองคน
เรื่ องพวกนี้ไม่มีที่ไม่ทาให้คนอกสัน่ ขวัญแขวน
เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊กลับถึงจวน เห็นประตูจวนที่ยงั ดีอยู่ ข้างในก็ไม่มี
เสี ยงร้องไห้ ใจที่แขวนอยูก่ ว็ างลงไปก่อนครึ่ งหนึ่ง รอเรี ยกพ่อบ้าน
มาไต่ถาม รู ้วา่ องครักษ์ของจวนผิงจวิน้ อ๋ องช่วยตีผลู ้ ้ ีภยั หนีไป จึงอด
ซาบซึ้งไม่ได้
พ่อบ้านเล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้นอย่างละเอียด “นายท่าน ท่านไม่เห็น
ผูล้ ้ ีภยั พวกนั้นโหดร้ายเหลือเกิน แต่ละคนในมือถือดาบยาวเพียงนี้
ส่ องประกายแวววับ น่าตกใจเหลือเกิน ในจวนเรามีทหารป้องกัน
เรื อนก็จริ ง ทว่าพวกเขาคนมากนี่นา อีกทั้งยังยิงธนูเป็ น และเป็ นเดน
ตายอีก มองไปพวกเราจะสู ้ไม่ได้แล้ว จู่ๆ คนกลุ่มหนึ่งก็โผล่มา ไม่
พูดพร่ าทาเพลงก็จดั การผูล้ ้ ีภยั พวกนั้นแล้ว พวกเขาบอกว่าเป็ น
องครักษ์ของจวนผิงจวิน้ อ๋ อง บ่าวดูปุ๊บ แหะ เป็ นเด็หนุ่มอายุสิบห้า
สิ บหกทั้งหมด กลิ่นอายการฆ่าคุกรุ่ น กระเ**้้ยกระหื อรื อเหลือเกิน
ผูน้ าท่าทางเหมือนครู ท่วงท่าดังเซียน โก้เหลือเกิน พวกเขาจัดการผู ้
ลี้ภยั เสร็ จแม้แต่น้ าก็ไม่ดื่มสักอึกก็ไปแล้ว”
ในคืนนี้ จวนที่ได้รับความช่วยเหลือจากทหารรุ่ นเยาว์ต่างรู ้วา่ จวนผิง
จวิน้ อ๋ องมีเด็กหนุ่มร้ายกาจเช่นนี้กลุ่มหนึ่ง มีคนที่หวั ไวพอคิดปุ๊ บ ก็
เข้าใจว่าเด็กหนุ่มพวกนี้น่าจะเป็ นทหารรุ่ นเยาว์ที่ฝ่าบาทเคยตรัสมา
ก่อน ดังนั้นในใจพวกเขาจึงมองจวนผิงจวิน้ อ๋ องใหม่อีกแล้ว
ไม่วา่ ในใจพวกเขาจะคิดเช่นไร รับน้ าใจใหญ่โตจากจวนผิวจวิน้ อ๋ อง
เป็ นความจริ งที่แย้งไม่ได้ ย่อมต้องไปเยือนขอบคุณสักคราเป็ น
ธรรมดา
ยังมีเหล่าฮูหยินที่เคยนินทาเสิ่ นเวย แต่ละคนในใจเสี ยใจภายหลัง
อย่างไม่มีอะไรเทียบได้ ดูเสี ย ถูกตบหน้าแล้วไหมล่ะ?
หลังจากฟ้าสางทุกคนแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ถึงพบว่าแม้แต่ละบ้าน
ต่างมีความเสี ยหายระดับหนึ่ง บ้างกาแพงบ้านถล่มช่วงหนึ่ง บ้างถูก
เผาไปสองสามห้อง บ้างคนรับใช้ตายไปสองสามคน ทว่าล้วนไม่
นับว่าร้ายแรงเกินไป อย่างน้อยเหล่าเจ้านายไม่ได้บาดเจ็บล้มตาย
โดยเฉพาะจวนที่อยูบ่ นถนนสายที่จวนผิงจวิน้ อ๋ องตั้งอยู่ ปลอดภัยไร้
กังวลสิ้ นดี
แน่นอน ก็มีจวนอื่นที่เสี ยหายร้ายแรง ยกตัวอย่างเช่นบ้านอามาตย์
ฝาง อามาตย์ฝางบุตรชายสองคนบาดเจ็บ หลานสายรองตายคนหนึ่ง
บ่าวไพร่ ที่บาดเจ็บล้มตายมีมากถึงสิ บกว่าคน
และยกตัวอย่างเช่นบ้านมหาเสนาบดีฉินอีก ไม่รู้อย่างไรผูล้ ้ ีภยั บุกไป
ถึงเรื อนด้านหลัง หอบเอาเพชรนิลจินดาไปนับไม่ถว้ นไม่พดู ถึง ยัง
ฆ่าสาวใช้ยายเฒ่าไปไม่นอ้ ย อนุของมหาเสนาบดีฉินตายไปคนหนึ่ง
บาดเจ็บคนหนึ่ง และยังหายสาบสู ญไปคนหนึ่งด้วย
ตอนที่ 274-1 ไพร่ ซูหย่ วนจือ
มหาเสนาบดีฉินมองซากกาแพงและเสาไม้ที่ไหม้จนดาปิ๊ ดปี๋ บน
ใบหน้าไม่มีความรู ้สึกแม้แต่นอ้ ย ผูเ้ ฒ่าหลังค่อมที่เฝ้าศาลบรรพชน
ถูกคนพยุงมาว่า “ท่านมหาเสนาบดี ข้าละอายใจยิง่ นัก” ไม่เพียงแต่
ให้ผลู ้ ้ ีภยั บุกเข้าเรื อนด้านหลัง ยังถูกพวกเขาเผาศาลบรรพชน แม้ถูก
เผาเพียงเล็กน้อย ทว่าสาหรับเขาแล้วเป็ นความอัปยศอดสู อย่างใหญ่
หลวง
“ท่านมหาเสนาบดี คนพวกนั้นเมื่อคืนน่าสงสัยเหลือเกิน ไม่เหมือน
ผูล้ ้ ีภยั เลยขอรับ” ผูเ้ ฒ่าหลังค่อมพูดความคิดเห็นของตนออกมา การ
เฝ้าระวังของจวนมหาเสนาเข้มงวดเพียงใดเขารู ้ดี ต่อให้ผลู ้ ้ ีภยั ร้าย
กาจขนาดไหนก็เป็ นเพียงชาวนาไร้ระเบียบที่มารวมตัวกัน ฆ่า
ชาวบ้านที่ไม่มีอาวุธไม่กี่คนยังพอไหว บุกเข้าจวนมหาเสนา? พวก
เขายังไม่สามารถปานนั้น
ท่านมหาเสนาบดีฉินย่อมรู ้อยูแ่ ก่ใจ เดิมเขาคิดจะจับปลาในน้ าขุ่น
ไม่คิดว่ากลับถูกคนอื่นจับเป็ นปลาเสี ยนี่ เพียงแต่สามารถบุกเข้าจวน
มหาเสนาได้ยอ่ มไม่ใช่คนไร้ความสามารถ เขานึกไม่ออกว่าในเมือง
หลวงยังมีฝ่ายใดที่มีความสามารถเช่นนี้ เมื่อคืนประตูจวนหย่งกัว๋ กง
ปิ ดสนิท ไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่นอ้ ย ผิงจวิน้ อ๋ องนาคนของกอง
กาลังห้าทิศยุง่ อยูก่ บั การดับเพลิงต้านผูล้ ้ ีภยั ตลอด ส่ วนท่านหญิงเจีย
ฮุ่ยผูน้ ้ นั ก็ถูกกักอยูใ่ นวังตลอด คนที่เขายาเกรงไม่กี่คนล้วนแยกร่ าง
ไม่ได้ เป็ นไปไม่ได้ที่จะเป็ นพวกเขา
หรื อว่าจะเป็ นรัชทายาท? ทว่าตระกูลชีไม่มีกาลังทหารโดยสิ้ นเชิง
ไม่ใช่เขาดูถูกตระกูลชี หากแต่เพราะหลายปี มานี้ตระกูลชีอยูใ่ น
สายตาเขามาตลอด มิเช่นนั้นเขาก็ไม่อาจปล่อยให้องค์ชายสี่ เป็ นรัช
ทายาทนานปานนั้น ตระกูลชีโง่เกินไป เขาไม่เคยเอามาใส่ ใจเลย
เมื่อคืนองครักษ์ของจวนผิงจวิน้ อ๋ องช่วยจวนอื่นๆ ต่อต้านผูล้ ้ ีภยั
ขณะเดียวกับที่ทาให้เขาตื่นตัวก็หวั เราะเยาะเย้ยด้วย ผิงจวิน้ อ๋ องจะ
ทาอะไร? ซื้อใจคน? ฝ่ าบาทยังดูอยูเ่ บื้องบนเลย ระวังขนก้อนหิ นทับ
เท้าตนเสี ยล่ะ
ดูพวกที่ไม่มีความรู ้พดู สิ อะไรสง่าดุจเซียน อะไรงามสง่าไม่เหมือน
ใคร ก็แค่บุตรชายที่ถูกไล่ออกจากบ้านของอามาตย์ฝางผูน้ ้ นั มิใช่
หรื อ? ชื่ออะไรนะ? ฝางจิ่นสิ นะ?
เขานึกถึงจวนของอามาตย์ฝางเสี ยหายยิง่ ร้ายแรง ลึกเข้าไปในตาฉาย
แววเย้ยหยัน อามาตย์ฝางแสวงหาผลประโยชน์และหลีกเลี่ยงความ
เสี ยหายมาตลอดชีวิต สุ ดท้ายเป็ นเช่นไรอีกล่ะ? ทั้งหมดก็มีบุตรชาย
ที่เอาถ่านอยูค่ นเดียว ยังถูกไล่ออกจากตระกูลอีก สามคนที่เขา
ปกป้องปกป้องไม่อยูไ่ ม่ใช่หรื ออย่างไร? ได้ยนิ ว่าเฉพาะเมื่อคืนก็
บาดเจ็บไปสองคนแล้ว ก็ไม่รู้วา่ อามาตย์ฝางเสี ยใจภายหลังหรื อไม่?
เสิ่ นเวยได้ข่าวที่เซี่ยเฟยส่ งมา นัน่ ช่างน่าเสี ยดายจริ งๆ ถูกต้อง เมื่อ
คืนคนที่ปลอมตัวเป็ นผูล้ ้ ีภยั ที่บุกเข้าจวนมหาเสนาบดีฉินก็คือนักฆ่า
ของหอนักฆ่า เสิ่ นเวยนางไม่สามารถนาคนลงมือเองได้ ทว่านางยัง
มีเซี่ยเฟยพันธมิตรที่ผกู สัญญาขึ้นมาใหม่ผนู ้ ้ ีมิใช่หรื อ? เมื่อคืนยามที่
นางนึกถึงว่าจะมีการจับปลาในน้ าขุ่นก็คิดจะอาศัยความโกลาหลลัก
ตัวผูเ้ ฒ่าในห้องลับของศาลบรรพชนจวนมหาเสนาบดีฉิน ดังนั้นจึง
ฉวยโอกาสที่ไปเปลี่ยนชุดส่ งข่าวให้เซี่ยเฟย
ที่เสี ยดายก็คือยามที่เซี่ยเฟยนาคนบุกเข้าห้องลับใต้ศาลบรรพชน
กลับพบว่าคนหายไปแล้ว ผูเ้ ฒ่าคนนั้นถูกย้ายออกไปนานแล้ว
มหาเสนบดีฉินจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ เสิ่ นเวยแอบแค้น
ในตาหนักจินหลวน ท่านซูคุกเข่าอยูบ่ นพื้นอย่างนอบน้อม เอ่ยเสี ยง
กังวานว่า “ไพร่ ซูหย่วนจือถวายบังคมฝ่ าบาท”
“ตามสบาย” ฮ่องเต้ยงเซวียนสี หน้าชื่นมื่นอย่าบอกใคร แม้เมื่อคืนใน
เมืองหลวงถูกผูล้ ้ ีภยั โจมตี ทว่าดีที่รับมือทันเวลา เสี ยหายไม่มาก
เพียงสองชัว่ ยามก็สงบโดยสิ้ นเชิง “เจ้าชื่อซูหย่วนจือสิ นะ? ได้ยนิ ผิง
จวิน้ อ๋ องและเหล่าขุนนางบอกว่าเมื่อคืนเจ้านาพาองครักษ์ของจวน
ผิงจวิน้ อ๋ องช่วยต่อต้านผูล้ ้ ีภยั ?”
สาหรับพื้นเพของซูหย่วนจือ ฮ่องเต้ยงเซวียนตรวจสอบอย่างชัดเจน
ตั้งนานแล้ว รู ้วา่ เขาก็คือบุตรชายคนโตที่ถูกอามาตย์ฝางไล่ออกจาก
ตระกูลคนนั้นฝางจิ่น จอหงวนที่ความรู ้น่าทึ่งเมื่อยีส่ ิ บปี ก่อนคนนั้น
ไม่เพียงแต่งบทความความหมายลึกซึ้ง บทความมที่ล้ าเลิศต่อให้
เสด็จพ่อเขาก็ชื่นชมไม่หยุดปาก บอกว่านี่จะเป็ นเสนาบดีกนั อีกคน
หนึ่ง
คิดไม่ถึงว่าต่อมาก็เกิดเรื่ องนั้นขึ้น ฝางจิ่นก็หายไปจากสายตาผูค้ น
ในเมืองหลวง เสด็จพ่อของเขายังเสี ยดายอยูน่ านเลย ใครจะคิดว่า
ยีส่ ิ บปี ให้หลังเขาจะกลายเป็ นท่านครู ของเสิ่ นสี่ ออกมายืนต่อหน้า
ขุนนางบุ๋นบู๊นบั ร้อยอีกครั้ง
ฮ่องเต้ยงเซวียนชื่นชมซูหย่วนจือมาก ไม่พดู ถึงว่าเขาไม่เคยเชื่อเรื่ อง
เหลวไหลเรื่ องนั้นเมื่อยีส่ ิ บปี ก่อนเลย อาศัยเฉพาะผลงานเมื่อคืน
ฮ่องเต้ยงเซวียนก็อยากเก็บเขาไว้ใต้อาณัตินกั อย่าเห็นทัว่ ตาหนักยืน
เต็มไปด้วยขุนนาง ทว่าที่มีความสามารถจริ งๆ กลับไม่มากนะ
ซูหย่วนจือลุกขึ้นตอบว่า “ทูลฝ่ าบาท ไพร่ กค็ ือซูหย่วนจือ ชาวอาเภอ
เสอผิงแห่งเจียงหนาน บิดามารดาเสี ยชีวิตทั้งคู่ อยูต่ วั คนเดียว ได้รับ
ความกรุ ณาจากท่านหญิงเจียฮุ่ยที่ไม่ทอดทิ้งกัน ให้ที่พกั พิงอยูข่ า้ ง
กายเป็ นครู อบรมความรู ้ บัดนี้ทามาหากินอยูใ่ นจวนผิงจวิน้ อ๋ องพ่ะ
ย่ะค่ะ” เสี ยงชัดเจนกังวาน ท่าทีเหมาะสม
นี่ทาให้ฮ่องเต้ยงเซวียนยิง่ พอใจขึ้นอีก กวาดมองอามาตย์ฝางปราด
หนึ่งอย่างไม่ให้เห็นร่ องรอย แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ในเมื่อเจ้า
เป็ นครู ของท่านหญิงเจียฮุ่ย ความรู ้ยอ่ มไม่ธรรมดา อีกทั้งเมื่อคืน
ปราบจลาจลสร้างผลงานไว้ใหญ่หลวง ข้าปลาบปลื้มยิง่ นัก ก็ไปรับ
ตาแหน่งจี่ซื่อจงที่กรมกลาโหมเถอะ” ฮ่องเต้ยงเซวียนใจกว้างมาก
เมื่อลงมือก็แต่งตั้งตาแหน่งอย่างเป็ นทางการขั้นหกให้
ขุนนางในท้องพระโรงต่างอิจฉายิง่ นัก สามารถยืนอยูใ่ นท้องพระ
โรงได้ ย่อมไม่เห็นตาแหน่งขุนนางขั้นหกเล็กๆ ในสายตา ทว่าพวก
เขาคนไหนไม่ได้อดทนมาจากขั้นต่าล่ะ? ส่ วนคนธรรมดาซูหย่วนจือ
ผูน้ ้ ีสบายๆ ก็ได้ข้นั หกมาครองแล้ว อีกทั้งยังเป็ นจี่ซื่อจงที่มีอานาจ
จริ ง จะไม่ให้พวกเขาตาร้อนได้อย่างไรกัน?
กลับได้ยนิ ซูหย่วนจือว่า “ไพร่ ขอขอบพระทัยในความกรุ ณาของฝ่ า
บท การพิทกั ษ์ความปลอดภัยของเมืองหลวงเป็ นหน้าที่ที่พึงกระทา
ของประชาชนชาวต้ายงทุกคน ไพร่ กเ็ พียงแต่ทาเรื่ องที่ตนควรทา
เท่านั้น พูดไม่ได้วา่ สร้างผลงานใหญ่พะ่ ย่ะค่ะ ไพร่ ใช้ชีวติ อิสระจน
ชินแล้ว ชีวิตนี้ประสงค์เพียงเป็ นครู ที่จวนผิงจวิน้ อ๋ อง ไม่มีคุณสมบัติ
ในการเป็ นขุนนางจริ งๆ ได้แต่ทาให้ฝ่าบาทต้องผิดหวังแล้วพ่ะย่ะ
ค่ะ”
ไม่คิดว่าเขาจะปฏิเสธการแต่งตั้งของฮ่องเต้ยงเซวียน สายตาที่เหล่า
ขุนนางมองเขาก็เหมือนกับมองตัวประหลาดอย่างไรอย่างนั้น ‘คนผู ้
นี้สมองมีปัญหากระมัง? จี่ซื่อจงขั้นหกนะ คนตั้งเท่าไรแย่งกันจนหัว
รั้งข้างแตกยังไม่ได้มา หรื อว่ายังสู ้ครู สอนหนังสื อกระจอกคนหนึ่ง
ไม่ได้?’
“ดี ดี พูดได้ดี” ฮ่องเต้ยงเซวียนกลับตบมือชมใหญ่ “หากขุนนางแห่ง
ต้ายงข้าล้วนเป็ นดังเช่นท่านครู น้ ี ต้ายงข้าจะไม่เจริ ญรุ่ งเรื องได้เช่น
ไร? ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้าไม่อยากรับราชการ ข้าก็ไม่บงั คับเจ้า เอา
เช่นนี้เถอะ ข้าขอมอบเกียรติแก่เจ้า เจ้าไปที่ใดๆ ในใต้หล้าได้ตามใจ
ไม่จาเป็ นต้องกราบไหว้ขนุ นางต่ากว่าขั้นสอง”
นี่เป็ นเกรี ยรติยศที่หาใดเปรี ยบไม่ได้แล้ว หากซูหย่วนจือเป็ นเพียง
ท่านครู ของท่านหญิงเจียฮุ่ย ต่อให้เขามีความชอบใหญ่เพียงใด
ฮ่องเต้ยงเซวียนก็ไม่มีทางมอบความกรุ ณาเช่นนี้แก่เขา ทว่าเขาไม่
เพียงแต่เป็ นซูหย่วนจือ เขายังเป็ นฝางจิ่น ฝางจิ่นคนที่ทาให้ฮ่องเต้
สองรุ่ นล้วนชื่นชมทอดถอนใจน่ะสิ หากไม่มีเรื่ องเหลวไหลเรื่ องนั้น
เมื่อยีส่ ิ บปี ก่อน วันนี้เขาน่าจะเป็ นเจ้าเมืองแล้วกระมัง
“เป็ นพระกรุ ณาอย่างสู งพ่ะย่ะค่ะ” ซูหย่วนจือพูดเสี ยงเข้ม ตาที่
สารวมมีแต่ความสงบ เพียงแต่หมัดที่กาอยูข่ า้ งตัวสัน่ แผ่วเบา เมือง
หลวง ข้าซูหย่วนจือกลับมาอีกแล้ว ตาหนักจินหลวน ข้าซูหย่
วนจือมายืนอยูท่ ี่นี่อีกแล้ว ยืนอยูท่ ี่นี่อย่างองอาจ สง่าผ่าเผย เพียงแต่
ใจของข้าเอยไยไม่กระเพื่อมแม้แต่นอ้ ยนิดราวกับบ่อที่แห้งผากนะ?
ข้าควรตื่นเต้น ลิงโลด ซาบซึ้งมิใช่หรื อ?
สายตาของเหล่าขุนนางที่มองมาที่ซูหย่วนจือซับซ้อนเหลือคณา นี่
ไม่ใช่จะแสดงออกได้ดว้ ยความอิจฉาริ ษยาแล้ว ส่ วนเหล่าขุนนาง
เก่าแก่ที่รู้ต้ืนลึกหนาบางนั้นมองไปที่อามาตย์ฝางอย่างครุ่ นคิด
อามาตย์ฝางมองดูเงาร่ างที่ยนื อย่างทระนงนั้น ในใจเศร้าสลดอย่าง
หาใดเปรี ยบมิได้
นี่คือบุตรชายคนโตของเขา บุตรชายคนโตที่ถูกเขาไล่ออกจาก
ตระกูลกับมือ และบุตรชายคนโตของเขาเกลียดเขา เกลียดทั้งตระกูล
ฝาง
เมื่อคืน จวนอามาตย์จางที่อยูด่ า้ นซ้ายของตระกูลฝางไม่เสี ยหาย
แม้แต่นอ้ ย จวนนักปราชญ์หลี่ที่อยูด่ า้ นขวาก็ไม่ได้รับความเสี ยหาย
เช่นกัน มีเพียงตระกูลฝางที่ประสบกับผูล้ ้ ีภยั บุตรชายคนรองและ
สามของเขาล้วนบาดเจ็บ คนหนึ่งขาหัก คนหนึ่งถูกฟันที่เอวดาบ
หนึ่ง บุตรชายคนโตสายรองของบุตรชายคนรองก็ประสบภัย ดาบ
ยาวเล่มหนึ่งแทงทะลุหน้าอก
เมื่อคืนบุตรชายคนโตนาคนเกื้อหนุนจวนขุนนางส่ วนใหญ่ในเมือง
เฉพาะเจาะจงเว้นตระกูลฝางไป บุตรชายคนโตนี่คือเกลียดเขาน่ะสิ
ออกจากตาหนักจินหลวน เหล่าขุนนางสามคนบ้างสองคนบ้างแยก
ย้ายกันไปแล้ว ซูหย่วนจือก็ตามขันทีนอ้ ยเดินออกข้างนอก
“อาจิ่น” ซูหย่วนจือใจเต้นตึกตัก กลับไม่ได้ชะลอฝี เท้าลง
“อาจิ่น” อามาตย์ฝางเรี ยกอีกทีหนึ่ง น่าเสี ยดายเงาหลังอันทระนง
ข้างหน้ากลับเหมือนไม่ได้ยนิ
อามาตย์ฝางจาใจ ได้แต่เรี ยกว่า “หย่วนจือ ซูหย่วนจือ” คาว่าซูน้ ีทา
ให้เขานึกถึงภรรยาหลวงเดิมของเขานางซู สตรี อ่อนโยนเจียมตัวคน
นั้น
ซูหย่วนจือถึงหยุดฝี เท้า ค่อยๆ หันกลับมา ขันทีนอ้ ยที่ตามอยูข่ า้ งกาย
เขาเตือนเสี ยงเบาว่า “ท่านนี้คือท่านอามาตย์ฝางแห่งเน่ยเ์ ก๋ อ”
ซูหย่วนจือพูดเนิบๆ ว่า “อามาตย์ฝางเรี ยกไพรไว้ดว้ ยเหตุอนั ใด?”
แววตาของเขากระจ่าง ไม่มีความรู ้สึกแม้แต่นอ้ ย ก็เหมือนกาลังมอง
คนแปลกหน้าอยูอ่ ย่างไรอย่างนั้น
ทาให้คาพูดหมื่นพันคาที่อยูใ่ นใจอามาตย์ฝางจุกอยูท่ ี่คอหอยใน
ทันใด ใบหน้าของภรรหลวงเดิมนางซูลอยขึ้นตรงหน้าเขาอีกครั้ง
เขานึกว่าลืมโฉมหน้าของนางไปนานแล้ว ทว่ายามนี้ยามที่
เผชิญหน้ากับบุตรชายคนโต เขาถึงพบว่านางซูอยูท่ ี่นี่ตลอดเวลา
พร้อมด้วยรอยยิม้ ละมุน ยืนอยูต่ รงนั้นอย่างอ่อนโยน บุตรชายคนโต
คนนี้ของเขาไม่เพียงแต่เหมือนเขา ยังเหมือนนางด้วยนี่นา
“อามาตย์หากไม่มีธุระ ไพร่ กข็ อตัวก่อน” ท่าทีของซูหย่วนจือนอบ
น้อมและห่างเหิน
นี่ทาให้อามาตย์ฝางเสี ยใจมาก เอ่ยด้วยความร้าวรานว่า “อาจิ่น เจ้า
เกลียดพ่อถึงปานนี้จริ งหรื อ? มาเมืองหลวงแล้วแท้ๆ กลับแม้แต่
ประตูบา้ นก็ไม่ยอมย่างกราย”
ซูหย่วนจือเย้ยอยูใ่ นใจ สมแล้วที่เป็ นนักการเมืองแต่กาเนิด ทั้งๆ ที่
เขาเป็ นคนลบเขาออกจากตระกูลตะเพิดออกจากบ้าน จึงมอง
อามาตย์ฝางอย่างสงบว่า “อามาตย์ฝางจาคนผิดแล้วกระมัง? ข้าน้อย
แซ่ซู ชื่อหย่วนจือ เป็ นคนเจียงหนาน บิดามารดาเสี ยชีวิตนานแล้ว”
เขาพูดซ้ าอีกครั้ง
แน่นอนเขาก็ไม่นบั ว่าพูดปด มารดาของเขาก็คือคนอาเภอเสอผิง
เจียงหนาน นางเป็ นบุตรสาวของบัณฑิตจนๆ คนหนึ่ง ตอนนั้น
หลังจากที่เขาถูกไล่ออกจากตระกูลก็ไปอาเภอเสอผิงแล้ว ไปดู
สถานที่ที่มารดาของเขาเคยใช้ชีวิต เพียงแต่น่าเสี ยดายที่บา้ นฝ่ าย
มารดาไม่มีคนแล้ว หากมีคน ต่อให้เหลือบุตรชายเพียงคนเดียว
อามาตย์ฝางก็ไม่ถึงกับลดขั้นจากภรรยาเป็ นอนุกระมัง?
“อาจิ่น” สี หน้าของอามาตย์ฝางยิง่ ทุกข์ทนขึ้น เสี ยงราวกับแฝงความ
ไม่พอใจสามส่ วน “ต่อให้ในใจเจ้าแค้นปานใด ก็ไม่ควรพาลโกรธ
ไปถึงตัวพี่นอ้ งเจ้านี่นา ถึงที่สุดพวกเจ้าก็เป็ นพี่นอ้ งแท้ๆ กันนะ
อาจิ่น กลับบ้านเถอะ ตามพ่อกลับบ้านเถอะ” ต่อให้ขบั ออกจาก
ตระกูลอย่างไร เขาก็ยงั เป็ นบุตรชายของเขา สายเลือดความสัมพันธ์
นั้นตัดไม่ขาดหรอก
ซูหย่วนจือกระดกมุมปากขึ้นแผ่วเบา จ้องขุนนางเรื องอานาจตรง
หน้าที่เขาเคยเลื่อมใสอย่างหาใดเปรี ยบมิได้คนนี้ ในใจกลับไม่มี
คลื่นลมใดๆ อีกแล้ว “ดูท่าอามาตย์จะจาคนผิดจริ งๆ ขอเรี ยนให้
อามาตย์ฝางรู ้ไว้ มารดาของไพร่ ให้กาเนิดไพร่ เพียงคนเดียว ไพร่ ไม่
มีพี่นอ้ ง แม้แต่พี่นอ้ งผูห้ ญิงก็ไม่มี” พูดจบเขาก็หนั หลังเดินหน้า
ต่อไป
เกลียด นัน่ เป็ นความรู ้สึกที่หรู หราปานใด เขาเลยอายุที่จะเกลียดไป
นานแล้ว ท่านหญิงพูดได้ถูกต้อง ไม่มีรักความเกลียดจะมาจากไหน?
การแก้แค้นที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดก็คือเมินเฉย ทุกอย่างของท่านไม่เกี่ยวกับ
ข้าอีกแล้ว และเมื่อรู ้วา่ ท่านอยูอ่ ย่างไม่มีความสุ ข เช่นนั้นข้าก็ยงิ่
วางใจ
ข้าเดินผ่านป่ าเขาลาเนาไพร ดูวิวทิวทัศน์งดงามมานับไม่ถว้ น บัดนี้
ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ข้าจะอยูเ่ มืองหลวงนี่แหละ ดูอามาตย์ฝาง
ท่านพยายามค้ าจุน ดูฝางหมิงฝางจวินฝางเหยาเป็ นบัวใต้ตมเพียงใด
ดูท้ งั ตระกูลฝางเดินเข้าสู่ ความตกต่าทีล่ะก้าวๆ อย่างไร
ข้าก็เสมือนหนามเล่มหนึ่ง แทงลงในใจของพวกท่านทุกคนอย่าง
แรง
พวกท่านอยูอ่ ย่างไม่มีความสุ ข ข้าก็สบายใจ
ตอนที่ 274-2 ไพร่ ซูหย่ วนจือ
อามาตย์ฝางมองดูเงาหลังที่ห่างออกไปช้าๆ ของบุตรชายคนโต ปาก
อ้าแล้วอ้าอีกสุ ดท้ายก็ไม่ได้เรี ยกออกเสี ยง ยามนี้ความรู ้สึกในใจเขา
ร้อยแปดพันเก้า เสี ยใจภายหลังจนอยากตาย หากว่า หากว่ารู ้วา่
บุตรชายคนรองคนที่สามและคนที่สี่ไร้สามารถถึงเพียงนี้ ไม่วา่
อย่างไรเขาก็ไม่ทอดทิ้งบุตรชายคนโตนี่เด็ดขาด
ยามที่ซูหย่วนจือกลับถึงจวนผิงจวิน้ อ๋ อง ศิษย์หญิงของเขาเสิ่ นเวยได้
จัดงานเลี้ยงรอฉลองให้เขาแล้ว มองความห่วงใยในตาของศิษย์หญิง
ซูหย่วนจือรู ้สึกอบอุ่นในใจ นึกถึงบุตรสาวตัวน้อยที่เสี ยชีวิตเมื่อ
นานมาแล้วขึ้นมาอีก
“ท่านหญิง ต่อไปตาเฒ่าต้องรบกวนท่านแล้วนะ” ท่านซูแย้มยิม้ อัน
อบอุ่นแล้วกอบมือใส่ เสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยย่นจมูก พูดอย่างตั้งใจมากว่า “เราคุยกันไว้นานแล้วมิใช่
หรื อ? บ้านปลายชีวิตท่านข้าจะเลี้ยงท่านเอง”
ท่านซูอดตาแดงไม่ได้ รอยยิม้ บนใบหน้ายิง่ เข้มขึ้นว่า “ดี”
ศิษย์หญิงคนนี้ช่างเหมือนบุตรสาวตัวน้อยของเขาจริ งๆ เลย มีตาโต
ที่สุกใสเหมือนกัน จิตใจดีเหมือนกัน
เพราะเรื่ องผูล้ ้ ีภยั ปี ใหม่ท้ งั ทีสวีโย่วก็ไม่ได้วา่ ง ทุกวันออกแต่เช้า
กลับแต่มืด แม้เขาไม่ได้บอกเสิ่ นเวย ทว่าเสิ่ นเวยก็เดาได้วา่ เขาสื บ
อะไรอยู่
อันว่าผูล้ ้ ีภยั ก็เป็ นเพียงชาวนาที่ไม่มีขา้ วกินมีชีวิตอยูต่ ่อไปไม่ได้
กลุ่มหนึ่งเท่านั้น ต่อให้ในมือถืออาวุธก็เป็ นเพียงแค่จอบและมีดผ่า
ฟื นเท่านั้น พวกเขาทาลายประตูเมืองเข้าเมืองหลวงมาได้อย่างไร?
ในนี้ไม่มีเงื่อนงา เสิ่ นเวยไม่เชื่อหรอก แน่นอนฮ่องเต้ยงเซวียนยิง่ ไม่
เชื่อใหญ่ เขาต้องรู ้ให้ได้วา่ ใครเปิ ดประตูสะดวกให้ผลู ้ ้ ีภยั ? ใคร
ทรยศเขา?
ปี นี้เป็ นปี การสอบขุนนาง เมื่อพ้นเดือนอ้ายในเมืองหลวงก็ยงิ่
ครึ กครื้ นขึ้นมา ผูเ้ ข้าสอบจากทุกที่มารวมตัวกันที่เมืองหลวงตามๆ
กัน ล้างหมอกควันที่มาจากผูล้ ้ ีภยั จนหมด
ผูค้ ุมสอบในการสอบฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้กาหนดได้แล้ว คือท่านซ่างซู
จากฝ่ ายพิธีการถังจิ้น นี่ทาให้ฝ่านรัชทายาทกระหยิม่ ยิม้ ย่อง ไม่ใช่
อะไร ถังจิ้นผูน้ ้ ีเคยสอนหนังสื อให้รัชทายาทมาก่อน นับได้วา่ เป็ น
คนของรัชทายาทกระมัง เมื่อเป็ นเช่นนี้แล้ว ผูเ้ ข้าสอบบในฤดูกาลนี้
ก็ตอ้ งกลายเป็ นคนของรัชทายาทั้งหมด เขาจะไม่ดีใจได้อย่างไรกัน?
องค์รัชทายาทตั้งแต่ที่ยนื ยันข่าวนี้กส็ ุ ขสมหวังได้ใจ เวลาเดิมศีรษะก็
เชิดสู งขึ้นสามส่ วนอย่างไม่รู้ตวั ต่อให้เห็นคู่ปรับเสด็จพี่รองของเขา
ก็ไม่รังเกียจดังเดิมแล้ว เขารู ้สึกว่าเสด็จพ่อเขาทาอะไรยังคง
เหมาะสมมาก ยังคงเห็นความสาคัญในตัวรัชทายาทคนนี้มากทีเดียว
ฝ่ ายรัชทายาทดีใจแล้ว ด้านองค์ชายรองย่อมเสี ยดาย วิง่ เต้นดูวา่ จะ
เอาตาแหน่งรองผูค้ ุมสอบมาได้หรื อไม่ อย่างน้อยก็ยงั สามารถแย่ง
บุคลากรมาได้บา้ งอย่างไรล่ะ มีเพียงมหาเสนาบดีฉินที่ไม่
กระโตกกระตาก ท่าทางสุ ขมุ ใจเย็น
การสังสรรค์ของเสิ่ นเส้าจวิน้ ก็มากขึ้นมา วันนี้งานโคลงกลอน
พรุ่ งนี้งานต่อบทเพลง ยุง่ อย่างมีความสุ ขยิง่ นัก
วันนี้พลบค่า เขากลับจากร่ วมงานโคลงกลอน กลับถูกหวังหลาน
เอ๋ อร์ที่เคยช่วยไว้ขวางทางไว้วา่ “คุณชายเสิ่ น ได้โปรดช่วยข้าน้อย
ด้วยเถอะเจ้าค่ะ” นางคุกเข่าวิงวอนกับพื้น
เสิ่ นเส้าจวิน้ ตกใจแทบกระโดด “มะ แม่นางหวังนี่เจ้าทาอะไร? รี บ
ลุกขึ้นมาเร็ ว”
หวังหลานเอ๋ อร์คนนั้นกลับเป็ นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่ลุกขึ้น วิงวอน
อย่างทุกข์ทนว่า “คุณชายเสิ่ น ได้โปรดช่วยข้าน้อยด้วยเถอะ เรื อนที่
ข้าน้อยอยูม่ ีอนั ธพาลคนหนึ่ง บังคับให้ขา้ น้อยแต่งงานกับเขา
ข้าน้อยไม่ยนิ ยอมนี่นา คุณชายเสิ่ น ข้าน้อยแม่ลูกไม่มีญาติมิตรใน
เมืองหลวง จึงได้แต่มาขอร้องท่าน ท่านก็เห็นแก่ที่ขา้ น้อยแม่ลูกน่า
สงสาร ยืน่ มือช่วยข้าน้อยด้วยเถอะเจ้าค่ะ ข้าน้อยโขกศีรษะให้ท่าน
แล้ว”
หวังหลานเอ๋ อร์แหงนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ าตาว่า “คุณชายเสิ่ น
ท่านเป็ นคนดี ข้าน้อยขอร้องท่านแล้ว ขอร้องท่านแล้ว” นางร้องไห้
สะอึกสะอื้น ใบหน้าเศร้าโศก
เสิ่ นเส้าจวิน้ ลาบากใจจริ งๆ เขาเห็นใจหวังหลานเอ๋ อร์มากก็จริ ง ทว่า
เขาเป็ นเพียงผูเ้ ข้าสอบ ไม่ใช่ขนุ นางเสี ยหน่อย จะยุง่ เรื่ องนี้ได้
อย่างไรกันล่ะ?
“แม่นางหวังเจ้าลุกขึ้นมาพูดดีกว่า คุกเข่าเช่นนี้เหมือนอะไร? คนอื่น
ยังนึกว่าข้ารังแกเจ้าเสี ยอีก” ฟู่ กุย้ ที่ตามอยูข่ า้ งหลังเห็นท่าทางของ
คุณชายบ้านเขา กังวลว่าคุณชายตนโรคใจอ่อนจะกาเริ บอีก จึงรี บวิ่ง
ขึ้นไปว่า “เรื่ องนี้เจ้าขอร้องคุณชายข้ามีประโยชน์อะไร? คุณชายข้า
เองยังพึ่งพาคนอื่นอยูเ่ ลย เรื่ องนี้เจ้าควรไปแจ้งทางการ”
“ใช่ๆๆ แม่นางหวังเจ้าลุกขึ้นมาพูดก่อน ฟู่ กุย้ พูดได้ถูกต้อง เขาหาก
บังคับเจ้า เจ้าก็ไปแจ้งทางการสิ ใต้ฝ่าพระบาทโอรสสวรรค์ แผ่นดิน
สงบสุ ข ย่อมมีขนุ นางออกหน้าแทนเจ้า “เสิ่ นเส้าจวิน้ เห็นฟู่ กุย้ เข้ามา
ในที่สุดก็โล่งใจ เรื่ องนี้ไม่ควรยุง่ จริ งๆ ไม่ได้เป็ นอะไรกัน จะยุง่ ได้
อย่างไร? หลังหลานเอ๋ อร์เป็ นหญิงสาวอายุกาลังสะพรั่ง น้องเวย
เตือนเขาไว้นานแล้ว อย่ายุง่ เรื่ องไม่เป็ นเรื่ องเช่นนี้ดีกว่า
หวังหลานเอ๋ อร์กลับออกแรงส่ ายหน้า ถลาเข้ามากอดขาสองข้างของ
เสิ่ นเส้าจวิน้ ไว้โดยพลัน “คุณชายเสิ่ น ข้าน้อยแม่ลูกล้วนเป็ นสตรี ไม่
รู ้ความ รู ้ที่ไหนว่าประตูใหญ่ของทางการเปิ ดไปทางไหน? ขอร้อง
ท่านทาดีทาให้ถึงที่สุด ก็ช่วยข้าน้อยหน่อยเถอะ มิเช่นนั้นข้าน้อยก็มี
แต่ทางตายทางเดียวแล้ว ขอร้องล่ะ ข้าน้อยขอร้องท่านแล้ว”
“เจ้า นี่เจ้าทาอะไร? ปล่อย รี บปล่อย ชายหญิงไม่ควรแตะเนื้อต้องตัว
กัน แม่นางหวังเจ้าทาเช่นนี้เหมือนอะไร?” เสิ่ นเส้าจวิน้ ตกใจหน้า
ถอดสี ดิ้นรนพลางจะถอยหลังไป ทว่าหวังหลานเอ๋ อร์กอดขาเขาไว้
แน่น วิงวอน ร่ าไห้ อย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย ดึงให้คนผ่านไปมาไม่
น้อยต่างหยุดเดินมุงดู
ฟู่ กุย้ ก็ตกใจมาก ย่อตัวลงออกแรงแกะมือของหวังหลานเอ๋ อร์ แล้ว
ต่อว่าเสี ยงดังว่า “บอกแล้วว่าให้เจ้าไปแจ้งทางการมิใช่หรื อ? เจ้า
เกาะแกะคุณชายข้าทาอะไร? รี บปล่อยคุณชายข้านะ บอกแล้วว่า
เรื่ องของเจ้าคุณชายข้ายุง่ ไม่ไหวหรอก เจ้าทาให้ผอู ้ ื่นลาบากใจมิใช่
หรื อ?”
ฟู่ กุย้ ดูถูกหวังหลานเอ๋ อร์คนนี้จะตาย ระหว่างทางมาเมืองหลวงก็คิด
จะเข้าหาคุณชาย บัดนี้ยงั คิดจะเกาะแกะคุณชาย ถุย ก็ไม่ดูสารรู ป
ตนเองเสี ยหน่อย สาวใช้ข้นั สองในจวนกัว๋ กงยังมีเกียรติกว่านางเลย”
“คุณชาย เรารี บไปกันเถอะ” ฟู่ กุย้ เกาะมือของหวังหลานเอ๋ อร์ออก
ลากคุณชายบ้านเขาก็จะจากไป
เสิ่ นเส้าจวิน้ มองหวังหลานเอ๋ อร์ที่ลม้ นัง่ อยูบ่ นพื้น ในใจทนทาใจ
ไม่ได้เล็กน้อย จึงถอนใจว่า “ฟู่ กุย้ เอาเงินให้นางสองตาลึง”
“คุณชาย” ฟู่ กุย้ เรี ยกอย่างไม่พอใจมาก แม้คุณชายอยูใ่ นจวนหย่งกัว๋
กง ในจวนใจกว้าง ดูแลอาหารความเป็ นอยูเ่ สื้ อผ้าและพูก่ นั หมึก
กระดาษ อีกทั้งยังให้เงินรายเดือนใช้ ทว่าสุ ดท้ายก็ไม่ใช่บา้ นตนเอง
คุณชายยังมีงานสังสรรค์มากปานนั้น แต่ละอย่างล้วนต้องคานวณ
อย่างละเอียด ให้เจียดสองตาลึงออกมาให้คนไม่เกี่ยวข้องกันอีก
ฟู่ กุย้ ไม่ยนิ ยอมมาก
“ให้เถอะ” เสิ่ นเส้าจวิน้ ว่า “แม่นางหวังเจ้าเอาเงินนี่เปลี่ยนที่อยูก่ ่อน
เถอะ” ที่เขาสามารถช่วยได้กม็ ีเพียงเท่านี้แล้ว
ฟู่ กุย้ ได้แต่ลว้ งเศษเงินออกมาสองตาลึง วางไว้ขา้ งเท้าหวังหลาน
เอ๋ อร์อย่างเสี ยดายมาก “อ้าว รี บเอาแล้วไปเสี ย อย่ามาเกาะแกะ
คุณชายข้าอีกนะ”
เสิ่ นเส้าจวิน้ นายบ่าวสองคนรี บๆ จากไป เหลือเพียงหวังหลานเอ๋ อร์
ทรุ ดนัง่ ร้องไห้เศร้าโศกอยูบ่ นพื้น
คนเดินผ่านไปมาจับกลุ่มกันวิจารณ์ข้ ึนมา
“แม่นางคนนี้ดูแล้วน่าสงสารจัง นี่เกิดอะไรขึ้นหรื อ?”
“จะเป็ นอะไรไปได้? ก็ถูกคุณชายเศรษฐีทอดทิ้งมิใช่หรื อ?”
“แม่นางนี่กโ็ ง่ ไม่หดั คิดดู คนเขาเป็ นลูกหลานเศรษฐี จะแลหญิงสาว
สามัญชนอย่างเจ้าหรื อ? ตอนนี้มาเสี ยใจทีหลังก็สายไปแล้ว จื้ดๆ น่า
สงสาร น่าสงสารจริ งๆ”
“ฮึ ลูกหลานเศรษฐีพวกนั้นไม่มีดีสกั คน ผิดเป็ นครู แม่นาง อย่างไร
เจ้าก็รีบกลับบ้านไปดีกว่า”
“คุณชายคนนั้นดูดีทีเดียว ของบ้านไหนน่ะ?”
“ข้ารู ้ ข้ารู ้ เขาเป็ นคนของจวนหย่งกัว๋ กง เป็ นหลานของบ้านเก่าหย่ง
กัว๋ กง ข้าเป็ นคนส่ งฟื นให้จวนหย่งกัว๋ กง เคยเห็นเขาในจวนสอง
ครั้ง”
“มิน่าล่ะ ที่แท้เป็ นลูกหลานขุนนางหรื อนี่ แยกย้าย แยกย้าย รี บแยก
ย้ายเถอะ ระวังหาเรื่ องใส่ ตวั ”
คนเดินไปมาแยกย้ายกันไป ไม่มีใครสังเกตเห็นเกี้ยวหลังเล็กๆ ที่
หยุดอยูข่ า้ งถนน ที่นงั่ อยูใ่ นเกี้ยวก็คือคุณชายของจวนเฉิ งเอินกง
สหายสนิทของสวีฉ่าง เห็นเพียงเขาหน้าตาตื่นเต้น เหมือนเก็บ
สมบัติล้ าค่าได้อย่างไรอย่างนั้น
จวนหย่งกัว๋ กง? นัน่ มิใช่บา้ นพ่อตาของผิงจวิน้ อ๋ องหรื อ? ฮึ ผิงจวิน้
อ๋ อง คนแซ่สวี เจ้าล่วงเกินข้า เจ้าก็คอยดูแล้วกัน
ประชุมเช้าวันต่อมา ก็มีผตู ้ รวจการกล่าวโทษว่าท่านราชครู เสิ่ นให้
ท้ายหลานชายทอดทิ้งสตรี นิสัยเลวร้าย
ตอนที่ 275-1 ใจดีส่งเดชทำให้ คนตำยได้
ผูต้ รวจการที่ร้องเรี ยนราชครู เสิ่ นแซ่เสอ นิสยั เหมือนแซ่ของเขา
ซื่อตรงจนไม่รู้จกั งอ
เมื่อร้องเรี ยนออกไป ก็เกิดความโกลาหลไปทั้งท้องพระโรง ฮ่องเต้
ยงเซวียนนัง่ อยูบ่ นเก้าอี้มงั กร สี หน้าสงบ ไม่พดู อะไรสักคา
ผูต้ รวจการเสอผูน้ ้ นั ยังพูดอย่างเดือดดาลอยูข่ า้ งล่าง ท่าทางเที่ยงตรง
เป็ นธรรม
สายตาที่เหล่าขุนนางมองไปที่เขาประหลาดนักแล ผูต้ รวจการเสอ
คนนี้อยากได้ชื่อเสี ยงจนบ้าไปแล้วหรื อ ราชครู เสิ่ นเป็ นใคร นัน่ คือ
ขุนนางคนสาคัญคนสนิทของฝ่ าบาท เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็ นหย่ง
กัว๋ กงเพราะอารักขาฝ่ าบาท ได้ยนิ ว่าบัดนี้อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี
หมอหลวงสองท่านแห่งสานักหมอหลวงยังอยูท่ ี่จวนหย่งกัว๋ กงไม่
กลับเลย ฝ่ าบาทผ่านไปไม่พระราชทานรางวัลก็ส่งคนไปเยีย่ มแทบ
ไม่เว้นวัน
บัดนี้เจ้าผูต้ รวจการเสอร้องเรี ยนราชครู เสิ่ น โทษนัน่ ฟังแล้วก็รู้วา่ น้ า
ขุ่นๆ นี่มิใช่จ้ ีใจดาฝ่ าบาทหรื อ ไม่เห็นหรื อว่าฝ่ าบาทไม่อยากสนใจ
ผูต้ รวจการเสอคนนี้แม้แต่สีหน้าคนก็ดูไม่เป็ น ดูท่าทางตาแหน่งนี้จะ
อยูไ่ ด้ไม่นานแล้ว
จวนหย่งกัว๋ กงกลับไม่ได้ตื่นตระหนก ก่อนอื่นผูท้ ี่ฉงนใจคือรัช
ทายาท แม้ราชครู เสิ่ นจะสอนเขาเพียงไม่กี่วนั ทว่าในนามก็เป็ นท่าน
อาจารย์ของเขาอยูด่ ี มีฐานะอาจารย์ศิษย์น้ ีอยู่ ราชครู กค็ ือพันธมิตร
โดยปริ ยาย แม้ราชครู เสิ่ นไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่ายืนอยูข่ า้ ง
เขา ทว่าขอเพียงเขาไม่เอนเอียงไปในทางใดทางหนึ่งก็ถือได้วา่ ยืนอยู่
ข้างเขา อย่างไรเสี ยเขาก็คือรัชทายาที่เสด็จพ่อแต่งตั้ง เป็ นตัวแทน
ของสายโลหิตอย่างถูกต้อง
บัดนี้กลับดี คนของเขาเพิ่งได้งานควบคุมการสอบฤดูใบไม้ผลิกม็ ีคน
ร้องเรี ยนราชครู เสิ่ น นี่หมายความว่าอย่างไร ดูให้ดีๆ ผูต้ รวจการเสอ
ที่สีหน้ามีคุณธรรมพูดจนน้ าลายกระเด็นผูน้ ้ นั ก็คือเขยในตระกูลของ
ท่านตาเขามิใช่หรื อ ท่านตาและท่านลุงตกลงทาบ้าอะไรอยู่ รัชทายา
กอยากรี บวิง่ กลับไปจวนเฉิงเอินกงถามเสี ยงดังสักคราจริ งๆ
ไม่เพียงฝ่ ายรัชทายากพบสถานการณ์น้ ี ขุนนางที่ตาสว่างในท้อง
พระโรงต่างพบแล้ว ดังนั้นสายตาที่พวกเขามองไปที่รัชทายาท
ประหลาดอย่างบอกไม่ถูก
อาจเพราะการร้องเรี ยนของผูต้ รวจการเสอสะเทือนเลื่อนลัน่ เกินไป
กระมัง ไม่ถึงครึ่ งวันก็ลือไปทัว่ เมืองหลวง ไม่กล่าวถึงถึงคดีของรัช
ทายาทและบ้านท่านตาของเขา ด้านจวนหย่งกัว๋ กงนี้เสิ่ นหงเหวินก็
เรี ยกเสิ่ นเซ่าจวิน้ เข้าไปถามเหตุการณ์ดว้ ยตนเอง เสิ่ นเซ่าจวิน้ ก็มิได้
ปิ ดบัง เล่าเรื่ องทั้งหมดอย่างละเอียด รวมทั้งเล่าว่าช่วยหวังหลาน
เอ๋ อร์แม่ลูกไว้อย่างไร เห็นพวกนางน่าสงสารพาเข้าเมืองหลวงมา
ตลอดทางอย่างไร และไหว้วานเสิ่ นเวยไว้อย่างไร อีกทั้งยังมีเรื่ องที่
หวังหลานเอ๋ อร์วิงวอนก่อนหน้านี้ไม่กี่วนั แม้แต่เรื่ องที่เขาให้นาง
สองตาลึงก็พดู เพราะเรื่ องนี้ทาให้ผตู ้ รวจการร้องเรี ยนท่านปู่ ในใจ
เสิ่ นเซ่าจวิน้ รู ้สึกผิดเหลือเกิน
พอเสิ่ นหงเหวินได้ยนิ เรื่ องที่หลานในตระกูลคนนี้พดู ตรงกับที่เขา
สื บมาได้ ไม่เพียงไม่พาลโกรธเขา ตรงกันข้ามกลับปลอบใจเขาว่า
“ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไร จวนของเราฝ่ าบาทโปรดปรานเกินไป เป็ นที่
สะดุดตาผูอ้ ื่น ต่อให้ไม่มีเรื่ องของเจ้าพวกเขาก็สามารถหาเรื่ องอื่นมา
ได้ เจ้าไม่ตอ้ งรู ้สึกผิดอะไร ทบทวนการเรี ยนให้สบายใจ เตรี ยมการ
สอบฤดูใบไม้ผลิให้ดี พยายามให้ชื่อขึ้นกระดานทองคาให้ได้”
จวนหย่งกัว๋ กงไม่เอามาใส่ ใจ เรื่ องนี้โทษเสิ่ นเซ่าจวิน้ ไม่ได้จริ งๆ
เพราะเขาทาดีช่วยเหลือผูอ้ ื่น จะโทษก็ตอ้ งโทษผูต้ รวจการเสอที่กลัว
ว่าใต้หล้าจะวุน่ วายไม่พอ แม้แต่เหตุการณ์ยงั ไม่สืบให้แน่ชดั
ร้องเรี ยนสุ่ มสี่ สุ่มห้าก็เพื่อสร้างชื่อเสี ยงมิใช่หรื อ
ทว่าเสิ่ นเซ่าจวิน้ กลับพบความกลัดกลุม้ ที่ไม่เคยพบมาก่อน เมื่อก่อน
เพราะเขาเป็ นหลานของหย่งกัว๋ กง ออกไปสังสรรค์ขา้ งนอกทุกคน
ล้วนให้ความสาคัญแก่เขา พี่เสิ่ นอย่างนั้นพี่เสิ่ นอย่างนี้ ท่าทีสนิท
สนมเหลือเกิน
ตั้งแต่ที่มีเรื่ องร้องเรี ยนออกมา เสิ่ นเซ่าจวิน้ ก็พบว่าท่าทีของสหาย
ก่อนหน้านี้ที่มีต่อเขาเปลี่ยนไป โกรธด่าว่าเขานิสยั ชัว่ ร้ายไม่มีค่าควร
แก่การคบหาก็มี เพิกเฉยแบบไม่ร้อนไม่หนาวก็มี ล้อเลียนเขาว่าดวง
นารี ไม่เลวก็มี ไม่วา่ จะอธิบายอย่างไรก็ไม่มีคนยอมฟัง อีกทั้งยังทา
ท่าทางเหมือนเข้าใจตบไหล่เขาปลอบใจว่า “เข้าใจ เข้าใจ บุรุษไม่
เจ้าชูก้ เ็ สี ยทีที่เกิดเป็ นชาย ฮ่าๆ!”
นี่ทาให้เสิ่ นเซ่าจวิน้ ท้อแท้เหลือคณา หลังจากนั้นไม่กี่ครั้งก็ไม่
ออกไปร่ วมงานสังสรรค์ของบัณฑิตอีก ทว่าอยูอ่ ่านตาราในจวนก็
อ่านไม่เข้าหัว เขารู ้สึกอัดอั้นตันใจจากก้นบึ้งของหัวใจ เห็นชัดว่าเขา
ช่วยเหลือคนอื่น ทว่าบัดนี้ใครๆ ต่างบอกว่าเขาเจ้าชูบ้ า้ กามทอดทิ้ง
สตรี แม้เขาความรู ้ไม่มาก กลับรู ้วา่ หากมีชื่อเสี ยงเช่นนี้ติดตัวต่อให้
เขามีชื่อขึ้นกระดานทองคาในการสอบฤดูใบไม้ผลิกไ็ ม่มีอนาคตอยู่
ดี
ในเวลานี้เอง เสิ่ นหู่โถวมาเชิญเขาแล้วว่า “ท่านอาเซ่าจวิน้ ท่าน
อาเวยเชิญท่านไปจวนจวิน้ อ๋ องสักคราน่ะ”
เสิ่ นเซ่าจวิน้ ตามหู่โถวมาถึงจวนผิงจวิน้ อ๋ อง เสิ่ นเวยเปิ ดอกถามเขา
ว่า “ญาติผพู ้ ี่เซ่าจวิน้ บัดนี้รสชาติเป็ นเช่นไร”
คาพูดง่ายๆ ประโยคหนึ่งก็ทาให้เขาละอายใจจนคิดจะหาซอกบน
พื้นมุดเข้าไป “น้องเวย พี่ละอายใจนัก!” เสี ยใจที่ไม่ฟังที่เสิ่ นเวยพูด
ไปให้ไกลจากหวังหลานเอ๋ อร์นนั่ มิเช่นนั้นจะมีเรื่ องกลุม้ ใจตามมา
เสิ่ นเวยกลับไม่ได้ทาให้เขาลาบากใจจนเกินไป หากแต่พดู ว่า “ครั้ง
ก่อนข้าก็เตือนสติท่านแล้ว ท่านไม่ใส่ ใจ บัดนี้รู้ความร้ายกาจแล้วสิ
ไม่วา่ ความจริ งคืออะไร ทว่าปากหลายคนย่อมสามารถละลายทอง
ได้* เรื่ องเท็จพูดร้อยรอบก็กลายเป็ นจริ งแล้ว ขุนนางมากมายตกม้า
ตายก็เพราะเหตุน้ ี”
เสิ่ นเซ่าจวิน้ ตั้งใจฟังเอ่ยว่า “ขอน้องเวยสอนข้าด้วย!” เขาคานับเสิ่ น
เวยอย่างหนักหน่วงทีหนึ่ง
เสิ่ นเวยพยักหน้าในใจ สามารถฟังการเตือนของผูอ้ ื่นได้ ยังถือว่ามี
ทางช่วย
“ญาติผพู ้ ี่เซ่าจวิน้ เชิญนัง่ เร็ วๆ ฟังน้องอธิบายให้ท่านฟัง” เสิ่ นเวยว่า
“เรื่ องนี้วา่ ไปแล้วจะโทษญาติผพู ้ ี่ท้ งั หมดก็ไม่ได้ ญาติผพู ้ ี่เติบโตที่
ชนบท ย่อมไม่เคยเห็นปากหวานก้นเปรี้ ยวในวงการขุนนาง คน
ชนบทมีน้ าใจ ญาติผพู ้ ี่ยอ่ มไม่เข้าใจความคิดที่ต่าช้าของคนเยีย่ งหวัง
หลานเอ๋ อร์เป็ นธรรมดา”
“เราเริ่ มพูดจากหวังหลานเอ๋ อร์ผนู ้ ้ ีก่อนเถอะ แม่ลูกคู่น้ ีขา้ เคยเห็นครั้ง
หนึ่ง มารดาเป็ นคนซื่อเจียมเนื้อเจียมตัวดีอยูห่ รอก พอข้าบอกให้
พวกนางอยูท่ างานในจวนจวิน้ อ๋ อง นางก็มีสีหน้าปี ติ ดูออกว่านาง
อยากอยูท่ ี่นี่ยงิ่ นัก หวังหลานเอ๋ อร์กลับไม่เต็มใจ แม้ขอ้ อ้างที่หาก็
นับว่าสมเหตุสมผล ทว่ายังคงปิ ดบังความจริ งที่นางมักใหญ่ใฝ่ สู ง
ไม่ได้ นางพูดแต่วา่ จะตอบแทนบุญคุณ จะเป็ นสาวใช้ปรนนิบตั ิรับ
ใช้ท่านข้างกาย ที่จริ งก็แค่วางแผนจะเป็ นอนุเท่านั้น”
เสิ่ นเซ่าจวิน้ เบิกตาโพรงด้วยความตกตะลึงว่า “เป็ นอนุ ไม่ได้หรอก
ข้าไม่มีทางรับอนุเด็ดขาด” อนุ นัน่ เป็ นของที่บา้ นคนมีเงินถึงนิยมมี
กัน หนุ่มยากจนที่เติบโตในชนบทเช่นเขาจะรับอนุได้อย่างไรกัน
อย่าว่าแต่เลี้ยงไม่ไหว ต่อให้เลี้ยงไหว หากท่านปู่ รู ้เข้าจะไม่หกั ขาเขา
หรื อ ยามที่มาท่านปู่ ก็เตือนเขาแล้ว บอกว่าภรรยาเขาคลอดบุตรชาย
ให้เขาแล้ว หากเขาอยูข่ า้ งนอกเกิดคิดนอกลู่นอกทางไม่รักดี เช่นนั้น
ก็อย่าโทษเขาที่ไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ปู่หลานกันเลย
เสิ่ นเวยเห็นท่าทางตกใจกลัวเหลือคณาของเขาแล้ว หัวเราะอย่างไม่
เกรงใจว่า “ไยจึงไม่ได้ หวังหลานเอ๋ อร์คนนั้นเห็นว่าตนอายุนอ้ ย
หน้าตาสะสวย จึงมีความคิดเช่นนี้ พวกนางแม่ลูกพอออกจากประตู
ของจวนผิงจวิน้ อ๋ อง ข้าก็ใช้คนตามพวกนางแล้ว เรื อนที่พวกนางอยู่
นั้นมีเด็กหนุ่มชื่อต้าหู่คนหนึ่ง เป็ นคนซื่ออีกทั้งยังขยันทางาน ซ้ ายัง
มีฝีมือทาขนมแป้งทอด ต้องตาหวังหลานเอ๋ อร์เข้า วันๆ ช่วยพวก
นางแม่ลูกทางานหนักเช่นพวกหาบน้ าผ่าฟื น หวังหลานเอ๋ อร์หาก
แต่งงานกับเขาก็เป็ นเนื้อคู่ที่สมบูรณ์พร้อมมิใช่หรื อ แต่ไม่วา่ อย่างไร
หวังหลานเอ๋ อร์กไ็ ม่เห็นเขาในสายตา เพราะรู ้สึกว่าต้าหู่คนนั้นไม่มี
อานาจไม่สามารถมอบชีวิตมัง่ คัง่ ให้นางได้มิใช่หรื อ”
เสิ่ นเวยยกถ้วยชาขึ้นจิบสองอึก แล้วพูดต่อว่า “ญาติผพู ้ ี่เซ่าจวิน้ ท่าน
ร่ าเรี ยนมาตั้งแต่เด็ก เข้าใจความคิดของผูห้ ญิงประเภทหวังหลาน
เอ๋ อร์ที่ไหน เกรงว่าตั้งแต่ที่ท่านช่วยพวกนางแม่ลูกที่อาเภออินหู
นางก็เกิดความคิดนี้ข้ ึนแล้วกระมัง มิเช่นนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
เหตุใดนางต้องตามท่านเข้าเมืองหลวงด้วย เป็ นบ่าวอยูจ่ วนผิงจวิน้
อ๋ องไม่ได้ ไปเป็ นสาวใช้ขา้ งกายท่านก็พอใจแล้ว นี่มิใช่ขดั แย้ง
กันเองหรื อ”
มีเสิ่ นเวยอธิบายเช่นนี้ เสิ่ นเซ่าจวิน้ รู ้สึกว่าได้เปิ ดหูเปิ ดตากว่าความรู ้
ยีส่ ิ บกว่าปี ที่ผา่ นมาของเขาเสี ยอีก หวังหลานเอ๋ อร์ที่ดูน่าสงสารบอบ
เบาไม่คิดว่าจะมีโฉมหน้าน่ารังเกียจปานนั้น น่ากลัว น่ากลัว
เหลือเกิน
“พูดเรื่ องหวังหลานเอ๋ อร์จบแล้ว เรามาพูดถึงเรื่ องนี้อีกครั้ง ที่จริ ง
ครั้งนั้นที่ท่านพบหวังหลานเอ๋ อร์ที่เขตเมืองตะวันตกก็ตกอยูใ่ น
สายตาของผูอ้ ื่นแล้ว ญาติผพู ้ ี่เซ่าจวิน้ ท่านก็อย่าพูดว่าท่านเป็ นเพียงผู ้
เข้าสอบยากจนจากชนบท มีอะไรให้คนวางอุบาย ทว่าท่านอย่าลืม
นะ ท่านแซ่เสิ่ น เป็ นหลานของราชครู เสิ่ นหย่งกัว๋ กง ท่านอาศัยอยูใ่ น
จวนหย่งกัว๋ กง หนึ่งรุ่ งล้วนรุ่ ง หนึ่งร่ วงล้วนร่ วงไปพร้อมจวนหย่งกัว๋
กง พวกเขาหาข้อผิดพลาดของจวนหย่งกัว๋ กงไม่ได้ ย่อมคิดจะ
วางแผนจากตัวท่าน ออกความคิดให้หวังหลานเอ๋ อร์ คนที่ออกอุบาย
เรื่ องนี้กค็ ิดเช่นนี้แหละ”
เสิ่ นเซ่าจวิน้ อดเสี ยวสันหลังไม่ได้วา่ “นะ…น้องเวย!” เขารู ้สึกหวาด
ผวา
เสิ่ นเวยทาราวกับไม่เห็นสี หน้าซีดเผือดของเขาอย่างไรอย่างนั้น พูด
ต่อว่า “เห็นหรื อยัง นี่กค็ ือวงการการเมือง คนที่เถรตรงเกินไปใจ
อ่อนเกินไปตายยังไม่รู้วา่ ตายอย่างไร ญาติผพู ้ ี่เซ่าจวิน้ ท่านร่ าเรี ยน
สอบขุนนางเพื่ออะไร ก็เพื่อเป็ นขุนนางที่มีโอกาสแสดงอุดมการณ์
และความทะเยอทะยานมิใช่หรื อ ทว่าท่านดูสิ ราชสานักแวดวงขุน
นางไม่ได้ดีงามเช่นที่ท่านคิดหรอก เผลอเพียงเล็กน้อยก็ตกลงสู่ เหว
ลึกหมื่นจั้ง ญาติผพู ้ ี่เซ่าจวิน้ ท่านเตรี ยมตัวดีหรื อยัง หากยัง น้องขอ
ชี้แนะว่าหลังจากสอบติดในการสอบฤดูใบไม้ผลิไม่หาที่วา่ การ
โปร่ งใสอยูก่ ก็ ลับบ้านเกิดไปเป็ นอาจารย์สอนหนังสื อให้รู้แล้วรู ้รอด
ไป หากท่านเตรี ยมตัวไว้ดีแล้ว เช่นนั้นน้องยังคงต้องเตือนท่านอยูด่ ี
ก่อนที่จะตัดสิ นใจใดๆ ต้องคิดซ้ าแล้วซ้ าเล่าถึงลงมือปฏิบตั ิ คิด
ดูก่อนว่านี่ใช่แผนนางนกต่อแผนสาวงามของผูอ้ ื่นหรื อไม่ เป็ นอุบาย
ของใครหรื อไม่ คิดให้กระจ่างแล้วค่อยตัดสิ นใจ”
เสิ่ นเซ่าจวิน้ ครุ่ นคิดอย่างหนัก ผ่านไปครึ่ งค่อนวันถึงได้สติกลับมา
ลุกขึ้นโค้งคานับอย่างหนักหน่วงให้เสิ่ นเวยอีกครั้งหนึ่ง แล้วพูด
อย่างจริ งใจว่า “น้องเวย พี่ได้รับคาสอนแล้ว พี่ขอบคุณเจ้ามากที่
ชี้แนะ เจ้าวางใจได้ ความผิดเช่นนี้พี่จะไม่ทาผิดอีก”
เสิ่ นเวยปลาบปลื้มยิง่ นัก “ไม่มีอะไรดีไปกว่ารู ้ผดิ แล้วแก้ เพียงแค่
เรื่ องนี้ ญาติผพู ้ ี่เซ่าจวิน้ ก็ชนะคนมากมายแล้ว” รับคาสอนอย่างไรก็
ดีกว่าไม่รับคาสอน คิดดูแล้ว เสิ่ นเวยจึงกล่าวต่อ “ในโลกนี้ แต่ไหน
แต่ไรคนประจบสอพลอมีมาก ส่ งถ่านให้กลางหิ มะมีนอ้ ย ต่อให้ขา้
ไม่พดู ญาติผพู ้ ี่เซ่าจวิน้ ก็ประสบกับตัวมาก่อนแล้วกระมัง มองนิสยั
ของพวกเขาให้กระจ่าง นับแต่น้ ีไป จนกระทัง่ การสอบฤดูใบไม้ผลิ
ญาติผพู ้ ี่เซ่าจวิน้ ก็ไม่จาเป็ นต้องออกไปสังสรรค์แล้ว อยูใ่ นจวนตั้งใจ
อ่านหนังสื อเตรี ยมสอบเถอะ”
“พี่ละอายใจนัก!” เสิ่ นเซ่าจวิน้ ถอนใจยาวเสี ยงหนึ่ง ใบหน้าซาบซึ้ง
ด้วยความจริ งใจกล่าวว่า “พีฟ่ ังน้องเวยทุกอย่าง” อย่างไรเสี ยท่านปู่ ก็
มีประสบการณ์ บอกเขาว่ามีอะไรก็ให้นอ้ งเวยช่วยตัดสิ นใจ
เสิ่ นเวยยิม้ ไม่ได้พดู ถึงเบื้องหลังของการร้องเรี ยนครั้งนี้วา่ มีกอง
กาลังแทรกแซงหลายฝ่ าย ใช่แล้ว คนที่ไปหาหวังหลานเอ๋ อร์เป็ นคน
แรกมีความเกี่ยวพันอย่างซับซ้อนกับจวนมหาเสนาบดีฉิน ส่ วน
ผูต้ รวจการเสอและตระกูลชีบา้ นท่านตาของรัชทายาทมี
ความสัมพันธ์ที่ตดั ไม่ขาด เรื่ องพวกนี้เสิ่ นเซ่าจวิน้ ไม่จาเป็ นต้องรู ้
เขาเพียงแค่รู้วา่ ราชสานักหยัง่ ยาก ใจคนหยัง่ ถึงก็เพียงพอแล้ว
อย่าว่าแต่หลังจากเสิ่ นเซ่าจวิน้ กลับไปก็ปิดประตูเรี ยนอย่างหนัก
ทางด้านรัชทายาทก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ที่ผตู ้ รวจการเสอออกหน้า
เพราะได้รับคาสัง่ จากชีเว่ย สองคนนี้คนหนึ่งอยากได้ชื่อเสี ยง คน
หนึ่งอยากแก้แค้น ก็เข้าขากันได้พอดีมิใช่หรื อ
อย่าว่าแต่รัชทายาทโกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ แม้แต่บิดาและปู่ ชีเว่ยก็
โกรธจนจมูกเบี้ยวหมดแล้ว จับชีเว่ยมากดลงบนม้านัง่ แล้วตีอย่าง
รุ นแรงยกหนึ่ง
สุ ดท้ายยังคงเป็ นเฉิงเอินกงที่ชวั่ ร้าย “ไปสื บดูวา่ เหตุใดวันนั้นเว่ย
เอ๋ อร์ถึงเดินถนนเส้นนั้นพอดี” เขารู ้จกั หลานชายคนนี้ดีนกั แล รู ้วา่
เขาก็คือสากกะเบือไร้สมอง เขาสงสัยว่านี่คือแผนที่ผอู ้ ื่นวางไว้ ใช้
หลานชายเขาเป็ นหอก
หลังจากวิธีการอันเฉียบขาด ยังถูกเขาสื บได้เรื่ องออกมาจริ งๆ ที่แท้
วันนั้นชีเว่ยเดินถนนเส้นนั้นได้เพราะเด็กรับใช้ขา้ งกายคนหนึ่งบอก
ว่าตระกูลจินที่ตรอกเม่าเอ๋ อร์มีสองสาวพี่นอ้ งฝาแฝดมาใหม่คู่หนึ่ง
ดึงดูดจนชีเว่ยใจคันคะเยอ จึงคิดจะไปดูหน่อย ส่ วนถนนเส้นนั้นเป็ น
ทางที่จาเป็ นต้องผ่านไปตระกูลจิน
ตอนที่ 275-2 ใจดีส่งเดชทำให้ คนตำยได้
เฉิงเอินกงใช้คนโบยจนเด็กรับใช้คนนั้นหนังปริ เนื้อแตก ในที่สุด
เด็กรับใช้กส็ ารภาพ บอกว่ามีคนให้เงินเขาให้เขาพูดเช่นนั้น สื บไป
สื บมา ก็สืบไปถึงตัวคนเปิ ดร้านขายของจิปาถะชื่อหลิวเอ้อร์ ต่อมา
สื บหลิวเอ้อร์คนนี้อีก เขามีญาติผพู ้ ี่ทางานอยูจ่ วนเสนบดีฉิน
สื บถึงตรงนี้เฉิงเอินกงก็รามือแล้ว เรื่ องราวความจริ งเป็ นเช่นไรก็
ปรากฏชัดเจนแล้วมิใช่หรื อ เขายืน่ หลักฐานที่สืบได้เบื้องหน้ารัช
ทายาท ขอขมาไม่หยุดว่า “รัชทายาท เพราะข้าไม่ได้ดูเจ้าทรพีนนั่ ให้
ดีแท้ๆ เป็ นเหตุให้เขาตกหลุมพรางผูอ้ ื่น ข้าไร้สามารถจริ งๆ!”
รัชทายาทดูหลักฐานแล้ว ไฟโกรธในใจแทบจะเผาเรื อนได้อยูแ่ ล้ว
มหาเสนบดีฉินตัวดี ทั้งราชสานักต่างบอกว่าเจ้าเป็ นมหาเสนาผูเ้ ปี่ ยม
คุณธรรม ที่จริ งเจ้าก็คือคนต่าช้าไร้ยางอาย! ยังมีพี่รองตัวดีของข้านัน่
อีก วันๆ แสร้งทาเป็ นพี่ชายแสนดี ถุย อย่ามาทาให้ขยะแขยงหน่อย
เลย
ดูสิ หางจิ้งจอกนี่โผล่มาแล้วอย่างไรล่ะ ยุยงความสัมพันธ์ของข้ากับ
ราชครู ฮึ ช่างพยายามจริ งๆ เลย
ด้วยเหตุน้ ี ฝ่ ายรัชทายาทและฝ่ ายองค์ชายรองเหน็บแนมกันในท้อง
พระโรงอย่างสะใจอย่าบอกใคร ไม่ตอ้ งให้เสิ่ นเวยลงมือ ก็มีคน
จัดการหวังหลานเอ๋ อร์และผูต้ รวจการเสอแล้ว
ไม่นาน หญิงสาวที่ร้องเรี ยนว่าถูกหลานชายของราชครู เสิ่ นทอดทิ้ง
คนนั้นถูกเปิ ดโปงว่าเป็ นคนหลงเงินทองลาภยศตอบแทนบุญคุณ
ด้วยความแค้น ทิ้งมารดาเฒ่าที่พ่ งึ พาอาศัยกันมาหนีตามกันไปกับ
พ่อค้าจากต่างถิ่นแล้ว ส่ วนผูต้ รวจการเสอ ถูกรื้ อหาความผิดพลาด
ปลดจากการเป็ นขุนนางห้ามรับราชการอีกชัว่ ชีวิต
เรื่ องตลกของการร้องเรี ยนก็ปิดฉากด้วยฟ้าร้องดัง ฝนตกปรอย**
แล้ว
ที่จริ งเสิ่ นเวยคิดจะยืมเรื่ องนี้สงั่ สอนเสิ่ นเซ่าจวิน้ อย่างลึกซึ้งเสี ย
หน่อย ไม่คิดว่ายังนาไปสู่ การเหน็บแนมกันและกันของรัชทายาท
และองค์ชายรอง นี่เรี ยกได้วา่ เป็ นความยินดีที่เหนือความคาดหมาย
พริ บตาเดียวก็มาถึงวันสอบ ผูเ้ ข้าสอบนับไม่ถว้ นพรั่งพรู เข้าสนาม
สอบตามๆ กัน เริ่ มการสอบที่มีกาหนดเก้าวันของพวกเขา เก้าวันให้
หลังชะตาชีวิตของพวกเขาจะต่างไปโดยสิ้ นเชิง มีคนชื่อติดกระดาน
ทองคานับแต่น้ ีกา้ วขึ้นหนทางรับราชการเริ่ มชีวิตที่สดใสเจิดจ้า มี
คนสอบตกกลับบ้านเกิดอย่างเศร้าสลดสิ้ นหวังไปทั้งชีวติ
เสิ่ นเวยถือโอกาสส่ งเสิ่ นเซ่าจวิน้ พาฉาฮวาไปแอบดูเซี่ยหมิงผูค่ รา
หนึ่ง
เซี่ยหมิงผูไ่ ม่ใช่เด็กหนุ่มอ่อนแอเมื่อสามปี ก่อนนั้นอีกแล้ว ร่ างเขา
สู งขึ้นมากอย่างยิง่ ใส่ ชุดเขียว ใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยน ให้
อารมณ์สุภาพบุรุษหลายส่ วน เขายิม้ ให้ทิศทางที่เสิ่ นเวยและน้องสาว
อยูอ่ ย่างสดใส แล้วมุ่งหน้าสู่ สนามรบของเขาโดยไม่หนั กลับมามอง
น้องพี่ เจ้าจงรอ วันที่เราจะได้แก้แค้นอยูไ่ ม่ไกลแล้ว คุณหนู ท่าน
วางใจได้ เสี่ ยวผูย่ งั คงเป็ นเสี่ ยวผูค่ นนั้น จะไม่ทาผิดต่อการปลูกฝัง
ของท่าน
ในรถม้า ฉาฮวาตื่นเต้นจนหน้าแดงหมดแล้วว่า “ท่านพี่ ท่านพี”่ นาง
เรี ยกในใจว่า ท่านพี่ ในที่สุดข้าก็ได้พบท่านพี่แล้ว ท่านพี่ตอ้ งสอบ
ให้ดี ข้ารอท่านพี่อยูข่ า้ งกายคุณหนู รอท่านพี่ข้ ึนชื่อกระดานทองคา
พาข้ากลับบ้าน ท่านพี่ ท่านพี่… ในดวงตาของฉาฮวาพลันเอ่อเต็มไป
ด้วยน้ าตา
ในระหว่างการสอบ จวนจิ้นอ๋ องเกิดเรื่ องใหญ่อีกเรื่ องหนึ่งแล้ว เรื่ อง
ใหญ่ที่สนั่ สะเทือนเลื่อนลัน่ เรื่ องหนึ่ง
วันนี้เป็ นวันหยุด อากาศก็ดีทีเดียว หายากที่สวีโย่วไม่ตอ้ งเข้าเวร เขา
จึงตัดสิ นใจพาเสิ่ นเวยไปเดินเล่นนอกเมือง ข้าวของล้วนเตรี ยมเสร็ จ
แล้ว เสิ่ นเวยยังเปลี่ยนเป็ นชุดสาหรับขี่มา้ พลันเห็นหลีฮวาพาสาวใช้
หน้าไม่คุน้ คนหนึ่งวิ่งมาอย่างรี บร้อน สาวใช้คนนั้นพอเห็นสวีโย่ว
และเสิ่ นเวยก็ถลาเข้ามา แผดเสี ยงตะโกนว่า “คุณชายใหญ่ ฮูหยิน
ใหญ่ ช่วยด้วยเจ้าค่ะ! ท่านอ๋ องกับพระชายาจะโบยยายหรู ตายเจ้าค่ะ”
ประโยคเดียวทาให้ท้ งั สองต่างหน้าถอดสี เอ่ยถาม “อะไรนะ เฆี่ยน
ยายหรู ตาย เพราะเหตุใด”
สาวใช้คนนั้นกลับสี หน้าร้อนรนเอ่ยว่า “คุณชายใหญ่ ฮูหยินใหญ่ รี บ
ไปช่วยคนเถอะเจ้าค่ะ ขืนสายจะไม่ทนั การแล้ว บ่าวเคยได้รับ
บุญคุณจากยายหรู ไม่ง่ายเลยกว่าบ่าวจะแอบหนีออกมาได้เจ้าค่ะ”
สวีโย่วและเสิ่ นเวยสบตากันปราดหนึ่ง ตะโกนเสี ยงดังว่า “เตรี ยมม้า
เร็ ว” สองคนไม่นงั่ แม้แต่รถม้า พลิกตัวขึ้นม้าทะยานไปที่จวนจิ้
นอ๋ องทันที
ถึงหน้าประตูจวนจิ้นอ๋ อง รอยยิม้ เอาใจบนใบหน้าบ่าวที่เฝ้าประตู
เพิง่ แย้มได้ครึ่ งเดียว ก็ถูกเถาฮวาและเย่วก์ ยุ้ ที่ตามมาโยนไปข้างๆ
แล้ว ทั้งสองคนเปิ ดประตูกลางออกอย่างรวดเร็ ว สวีโย่วและเสิ่ นเวย
เฆี่ยนม้าตะบึงเข้าไป
ยามที่ท้ งั สองคนรุ ดมาถึงเรื อนจิ้นหวังเฟย ยายหรู กาลังถูกกดอยูบ่ น
ม้านัง่ โบยตีอยู่ กระบองไม้ที่ยกขึ้นสู งนัน่ โบยลงบนตัวยายหรู ทีละ
ไม้ๆ ส่ วนท่านจิ้นอ๋ องสามีภรรยาปั้นหน้ามองดูอย่างเย็นชา
“หยุดเดี๋ยวนี้!” สวีโย่วแผดเสี ยงตะโกน ใบหน้าที่แต่ไหนแต่ไรเย็น
ชาถูกย้อมด้วยโทสะ ยามที่สายตาเขาเห็นคราบเลือดบนตัวยายหรู
สายตาที่ส่งไปยังท่านจิ้นอ๋ องสองสามีภรรยาแฝงด้วยความน่าสะ
พรึ ง
ความเกลียดชังที่ลึกเข้าไปในตาของบุตรชายคนโตทาให้ท่านจิ้นอ๋ อง
อดสะดุง้ ทีหนึ่งไม่ได้ หลังจากนั้นก็โมโหเดือดดาลเอ่ย “โบย โบย
ต่อเดี๋ยวนี้ ใครให้พวกเจ้าหยุด”
“ข้าจะดูวา่ ใครกล้า!” สวีโย่วจ้องท่านจิ้นอ๋ อง พูดชัดถ้อยชัดคา เขา
กระโดดขึ้นเตะ ถีบเด็กรับใช้ที่โบยอยูอ่ อกไปทันที เด็กรับใช้คนนั้น
ถูกเตะจนกลิ้งออกไปเหมือนก้อนกลม กระอักเลือดสองครไม่ขยับ
แล้ว
พ่อบ้านเสี่ ยวเฉวียนวิ่งเข้าไปอย่างตัวสัน่ งันงก ยืน่ มือแตะที่ปลาย
จมูกของเขา แล้วสี หน้าซีดเผือดว่า “ทะ…ท่านอ๋ อง ตายแล้ว” เขาพูด
เสี ยงสัน่
“เจ้า เจ้าลูกทรพี!” ท่านจิ้นอ๋ องมือสัน่ ด่าสวีโย่วอย่างโกรธเกรี้ ยว
ทว่าสวีโยวเสมือนไม่ได้ยนิ กวาดมองทุกคนที่อยูท่ ี่นี่อย่างเย็นชาว่า
“ใครลองตามเข้ามาดู” เสี ยงเย็นเยียบประหนึ่งลอยขึ้นมาจากนรก
อย่างไรอย่างนั้น
“ท่านหมอหลิ่ว รี บมาดูยายหรู ” เสิ่ นเวยย่อตัวลงกอดยายหรู บนพื้น
เข้าอ้อมกอดตนเอง ไม่ถือสาว่าเลือดบนตัวนางจะเปื้ อนเสื้ อผ้าของ
นางแม้แต่นอ้ ย
หมอหลิ่วที่เพิ่งรุ ดมาอย่างเหนื่อยหอบรี บวิ่งเหยาะๆ เข้าไป
ยายหรู ลืมตาที่หลับสนิทขึ้น มองสวีโย่วและเสิ่ นเวย บนใบหน้าที่ไม่
มีสีเลือดนั้นเต็มไปด้วยความเมตตา “คุณชายใหญ่ ฮูหยินใหญ่ ไม่
ต้องเปลืองใจแล้วเจ้าค่ะ บ่าวเกรงว่าจะไม่ไหวแล้ว” นางอยูม่ านาน
กว่าคุณหนูต้ งั หลายปี ปานนั้น ถือว่าคุม้ แล้ว!
“ท่านยายอย่าเพิ่งพูด ให้ท่านหมอหลิ่วดูบาดแผลให้ท่านหน่อย วิชา
แพทย์เขาเก่งกาจมาก ท่านต้องไม่เป็ นไรแน่นอน” เสิ่ นเวยปลอบใจ
เสี ยงเบา
สวีโย่วแม้ไม่ได้พดู ทว่าความห่วงใยที่ลึกเข้าไปในดวงตาก็มี
ความหมายเช่นนี้ ยายหรู จึงถอนใจ ยืน่ แขนออกมาช้าๆ ว่า “คุณชาย
ใหญ่ ท่านอย่าเสี ยใจ บ่าวอายุปูนนี้แล้ว อยูใ่ ช้ชีวิตคุม้ แล้ว คุณหนูอยู่
ข้างล่างโดดเดี่ยวเดียวดายคนเดียว บ่าวก็ควรลงไปอยูเ่ ป็ นเพื่อนนาง
แล้ว” แก้แค้นได้แล้ว ในที่สุดนางก็วางใจไปอยูเ่ ป็ นเพื่อนคุณหนูได้
แล้ว
“ยายหรู !” สวีโย่วรู ้สึกแสบจมูก เขากัดฟัน ฝื นทนไว้
ผ่านไปชัว่ ครู่ ท่านหมอหลิ่วเก็บมือกลับแล้วส่ ายหน้าเบาๆ ต่อสวี
โย่วและเสิ่ นเวย เอ่ยว่า “จวิน้ จู่ ครั้งนี้ขา้ น้อยจนปั ญญาแล้วขอรับ”
อวัยวะภายในเสี ยหายหมดแล้ว ต่อให้วิชาการแพทย์เขาดีเพียงใดก็
ช่วยกลับมาไม่ได้แล้ว
“คิดหาวิธีอื่นไม่ได้หรื อ” เสิ่ นเวยถามอย่างไม่ตายใจ แม้นางและยาย
หรู ผนู ้ ้ ีจะอยูด่ ว้ ยกันไม่มาก ทว่าสิ่ งที่เห็นจากดวงตานางกลับมีเพียง
ความปรารถนาดี เสมือนผูอ้ าวุโสเมตตาท่านหนึ่ง
หมอหลิ่วส่ ายหน้าถอนใจ ยายหรู จบั มือของเสิ่ นเวยไว้ ตบเบาๆ ที
หนึ่งว่า “เด็กดี เจตนาดีของท่านบ่าวรับไว้ดว้ ยใจแล้ว บ่าวไม่กลัว
ตาย ตายก็หลุดพ้นแล้ว มีเพียงสิ่ งเดียวที่บ่าวไม่วางใจก็คือคุณชาย
ใหญ่ เขาไม่มีคนรักตั้งแต่เด็ก ช่างน่าสงสาร! บ่าวรู ้วา่ ท่านเป็ นคนดี
ต่อไปท่านต้องอยูอ่ ย่างมีความสุ ขกับคุณชายใหญ่!”
ต่อให้คนหนังตาแข็งอย่างเสิ่ นเวยก็อดตาแดงไม่ได้วา่ “ยายเสิ่ นท่าน
วางใจได้ ข้าจะดูแลคุณชายใหญ่อย่างดี”
ยายหรู ออกแรงพยักหน้าทีหนึ่ง ใบหน้านางเผยให้เห็นความปลาบ
ปลื้ม ยิม้ แผ่วเบาที่มุมปาก กลับทาให้ในใจเสิ่ นเวยและสวีโย่วเสี ยใจ
ยิง่ ขึ้น
สวีโย่วลุกพรวดขึ้นมา บีบคั้นว่า “เสด็จพ่อ หวังเฟย พวกท่านควร
อธิบายต่อลูกใช่หรื อไม่ ยายหรู ทาผิดอนใด แม้แต่คนข้างกายเสด็จ
แม่คนสุ ดท้ายพวกท่านก็ไม่ยอมปล่อยเช่นนั้นหรื อ”
“อธิบายหรื อ พี่ใหญ่ต่างหากที่ควรอธิบายพวกเรา! พีใ่ หญ่รู้หรื อไม่
ว่าบ่าวแก่สมควรตายผูน้ ้ ีทาอะไรไว้” คนที่กระโดดขึ้นมาก่อนกลับ
เป็ นซื่อจื่อสวีเยีย่ เส้นเอ็นที่ขมับเขาปูดนูน สี หน้าน่ากลัว เห็นสวีเห
ยียนก็เป็ นเช่นเดียวกัน
ยามนี้จิ้นหวังเฟยเอ่ยปากแล้วว่า “คุณชายใหญ่เจ้าปกป้องบ่าวที่
สมควรตายนี่ เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ นางทาอะไรไว้ นางบังอาจวางยาทาให้
พี่นอ้ งเจ้าเป็ นหมัน ทาให้พี่นอ้ งเจ้ามีบุตรไม่ได้อีก บ่าวที่อามหิ ต
เช่นนี้สบั เป็ นหมื่นชิ้นก็ไม่เกินไป” จิ้นหวังเฟยกัดฟันเสี ยงดังกึกๆ
สายตาที่ส่งไปที่ยายหรู ราวกับเคลือบยาพิษไว้กไ็ ม่ปาน
*ปากหลายคนย่อมสามารถละลายทองได้ หมายถึง เสี ยงปากของคน
จานวนมากที่พดู ไปพูดมาย่อมสามารถทาให้ผดิ กลายเป็ นถูก ถูก
กลายเป็ นผิดได้
**ฟ้าร้องดัง ฝนตกปรอย เปรี ยบเทียบถึงการทาอะไรที่เกิดกระแส
โด่งดังอย่างมาก แต่พอทาจริ งกลับเป็ นเรื่ องเล็กน้อยเท่านั้น
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 276-1 เปิ ดโปงเรื่ องเก่า
ยายหรู ที่สองตาหลับสนิทกลับลืมตาขึ้นโดยพลัน สองตาราวกับ
สายฟ้าแลบ มาพร้อมความแค้นว่า “กรรมตามสนอง นี่คือกรรมตาม
สนองทั้งนั้น! นางซ่งเจ้าจาได้หรื อไม่วา่ เคยทาอะไรกับคุณหนูขา้ ไว้?
ยายแก่อย่างข้าเพียงแค่ตาต่อตาฟันต่อฟันเท่านั้น นี่เจ้าก็ทนไม่ไหว
แล้วหรื อ? เจ้ามันนางอสรพิษ เจ้ามันนางใจบาปหยาบช้า จงทนไป
แต่โดยดีเถอะ!”
ยายหรู เห็นสี หน้าหวาดผวาของพระชายาอ๋ องจิ้น แล้วเผยให้เห็นสี
หน้าสะใจ นางหอบอย่างเร็ ว บนใบหน้ากลับเผยให้เห็นรอยยิม้
ท่าทางเหมือนหายแค้นยิง่ นัก
เสิ่ นเวยรู ้สึกทนไม่ได้ “ยายหรู อย่าพูดอีกเลย พักสักครู่ เถอะ”
ยายหรู กลับว่า “ฮูหยินใหญ่ ท่านก็ให้บ่าวพูดเถอะ หากบ่าวไม่พดู
ยามนี้เกรงว่าต่อไปจะไม่มีโอกาสแล้ว” นับตั้งแต่ชวั่ ขณะที่นาง
วางแผนแก้แค้น นางก็ไม่เคยคิดว่ายังสามารถมีชีวิตอยูต่ ่อไปได้อีก
อยูไ่ ปมีความหมายอะไรล่ะ? คุณหนูไม่อยูแ่ ล้ว คนคุน้ เคยที่ใกล้ชิด
ล้วนไม่อยูแ่ ล้ว เหลือนางมีชีวิตอยูค่ นเดียวมีความหมายอะไร? นาง
ไม่กลัวตาย ไม่กลัวตายแม้แต่นอ้ ย ทว่าก่อนนางตายจะต้องเปิ ดโปง
หนังหน้าคนสวยของนางซ่งให้ได้ ให้ทุกคนได้เห็นว่าตกลงนางเป็ น
ตัวน่าขยะแขยงปานใดกันแน่
“พูด ให้นางพูด ข้าจะดูวา่ นางจะพูดอะไรออกมาได้!” ท่านอ๋ องจิ้น
พูดเสี ยงเย็น
“ท่านอ๋ อง!” พระชายาอ๋ องจิ้นเรี ยกเสี ยงแหลม คิดจะห้าม ทว่าไม่มี
คนสนใจเลย รู ม่านตานางหดลงโดยพลัน ในใจหวาดหวัน่ มือที่วาง
อยูข่ า้ งตัวสัน่ แผ่วเบา
เรื่ องนั้นหรื อว่าถูกบ่าวเฒ่าคนนี้รู้เข้า? ไม่ ไม่มีทาง นางทาอย่าง
มิดชิด นอกจากซือไท่ที่ให้ยาลับนางคนนั้น ก็ไม่มีบุคคลที่สามรู ้แล้ว
ส่ วนซือไท่คนนั้นก็ถูกนางปิ ดปากไปนานแล้ว
ใช่ บ่าวเฒ่าคนนี้หลอกนางอยู่ หยัง่ เชิงนางอยู่ นางจะรนไปเองมิได้
เด็ดขาด! นิ่งไว้ นิ่งไว้
ใช่ ไม่มีทางมีคนรู ้หรอก! นางปลอดภัย พระชายาอ๋ องจิ้นบอกตนเอง
เช่นนี้ พยายามให้ตนใจเย็นลงอย่างสุ ดความสามารถ
“นางซ่งเจ้ากลัวแล้วสิ นะ? ฮ่าๆๆ เจ้าใช้วิธีการเช่นนั้นทาร้ายคุณหนู
ข้ายังคิดจะมีจุดจบที่ดี เจ้าอย่าฝัน” สามคาสุ ดท้ายยายหรู แทบจะเค้น
ออกมาจากซอกฟัน สายตาแห่งความแค้นจ้องหน้าพระชายาอ๋ องจิ้น
เขม็ง ราวกับผีร้ายที่กลับมาจากนรก
พระชายาอ๋ องจิ้นทนความใจสัน่ ไว้ ภายนอกดุร้ายภายในกลับ
อ่อนแอ กล่าวโทษเสี ยงดังว่า “ข้าไม่ได้ทาเรื่ องผิดมโนธรรมกลัว
อะไร ใครไม่รู้บา้ งว่าพระชายาอ๋ องจิ้นคนก่อนตายเพราะคลอดยาก
เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย? บ่าวเฒ่าเจ้าอย่ามายุยงทุกคนอยูท่ ี่นี่เลย เจ้าทา
เช่นนี้เป็ นการไม่เคารพข้า ควรโบยจนตาย”
ยายหรู กลับฮึทีหนึ่ง ไม่มองนางอีก หากแต่เบือนสายตาไปที่สวีเย่
และสวีเหยียนว่า “ท่านซื่อจื่อและคุณชายสามอยากได้คาอธิบายมิใช่
หรื อ? หึๆ พวกท่านไม่ได้ทาอะไรผิด ทว่าพวกท่านเป็ นบุตรชายของ
นางซ่ง นี่กค็ ือความผิดที่ใหญ่ที่สุดของพวกท่าน! ปี นั้นคุณหนูขา้
และคุณชายใหญ่ทาผิดอะไรอีก? หนี้มารดาบุตรใช้คืน นี่เป็ นสัจ
ธรรมที่ไม่เปลี่ยนแปลงไม่ใช่เหรอ?”
จากนั้นสายตาของนางตกลงบนตัวท่านอ๋ องจิ้นว่า “ท่านอ๋ อง ท่าน
เห็นนางซ่งที่อามหิตชัว่ ช้านี่เป็ นสมบัติล้ าค่า แต่กบั คุณหนูขา้ กลับทา
เป็ นไม่เห็น ท่านตาบอดชัดๆ ท่านทาร้ายคุณหนูขา้ ท่านสมควรถูก
หมกไว้ในกลอง บ่าวแทบจะอยากฉีกทึ้งชายโฉดหญิงชัว่ คู่น้ ีจริ งๆ
ข้าแทบอยากจะกินเนื้อพวกท่าน ดื่มเลือพวกท่าน!” ยายหรู แทบตะ
ตะเบ็งคารามออกมา เปลือยให้เห็นความแค้นในแววตา ไม่ปิดบังเลย
แม้แต่นอ้ ย
“เจ้า เจ้านังบ่าวเจ้าเล่ห์ ลากลงไป ลากลงไปโบยให้ตาย” ท่านอ๋ องจิ้น
โกรธจนหน้าเปลี่ยนรู ปหมดแล้ว ก่อนหน้านี้เขายังคิดจะอดทนฟังว่า
บ่าวเฒ่าคนนี้คิดจะพูดอะไร บัดนี้เขาไม่อยากฟังแม้แต่นอ้ ยแล้ว ออก
คาสัง่ ฆ่าโดยตรง ทว่าบ่าวข้างกายเขากลับไม่มีใครกล้าขยับสักคน นี่
ทาให้เขาทั้งเสี ยหน้าทั้งโกรธ
ทว่าบ่าวพวกนี้ยนิ ดีรับไฟโกรธของท่านอ๋ องจิ้น ก็ไม่ยอมล่วงเกิน
คุณชายใหญ่นี่นา! ตัวอย่างก่อนหน้านี้ยงั นอนอยูบ่ นพื้นอยูเ่ ลยนะ
คุณชายใหญ่ขาเดียวก็ถีบเด็กรับใช้ที่โบยจนตาย ใครยังกล้าเข้าไป
รนหาที่ตายล่ะ?
ยายหรู เห็นดังนั้นก็หวั เราะคิกคักขึ้นมาอีก เสี ยงแหบแห้งน่าเกลียด
ใบหน้าสะใจว่า “ท่านอ๋ อง เด็กที่ฮูหยินสามคลอดท่านเคยเห็น
หรื อไม่? อาการนั้นเหมือนยามที่คุณชายใหญ่ถือกาเนิดเปี๊ ยบใช่
หรื อไม่? คุณชายใหญ่คลอดก่อนกาหนด ทว่าคุณชายเล็กของฮูหยิ
นสามกลับคลอดตอนเต็มเดือนนะ ท่านอ๋ องไม่เคยสงสัยมาก่อน
หรื อ? ฮ่าๆ ถูกต้อง เป็ นฝี มือของบ่าวเอง ทว่าวิธีการนี่ขา้ ก็เรี ยนมา
จากนางซ่ง ตอนนั้นคุณหนูต้ งั ครรภ์ บ่าวป้องก้นรอบด้าน มีเพียง
ท่านอ๋ องเท่านั้นที่ไม่ได้กนั นางซ่งคนนี้ นางซ่งอามหิตคนนี้ไม่คิดว่า
นางจะใส่ ยาลับของ ‘เมาทุกวัน’ ไว้บนเสื้ อของท่านอ๋ อง ทาร้าย
คุณหนูขา้ ทาให้คุณชายใหญ่พอคลอดออกมาก็อ่อนแอ”
“เจ้า เจ้าปรักปราคน! เจ้ามีหลักฐานหรื อไม่?” พระชายาอ๋ องจิ้นบิด
ผ้าเช็ดหน้าแน่น แย้งเสี ยงดัง สี หน้านางโกรธอย่างหาใดเปรี ยบมิได้
ราวกับได้รับความไม่เป็ นธรรมอย่างมากมาย “ท่านอ๋ อง ข้าไม่ได้ทา
ท่านจะฟังคาพูดเพ้อเจ้อของบ่าวเฒ่านี่ไม่ได้เด็ดขาด”
“พระชายา ทาหรื อไม่ท่านรู ้แก่ใจดี ท่านลนลานเช่นนี้ อีกทั้งรี บร้อน
แก้ตวั มิใช่ที่ตรงนี้ไม่มีเงินสามร้อยตาลึงหรอกหรื อ?” เสิ่ นเวยพูด
อย่างไม่รีบร้อน ช่างเปิ ดหูเปิ ดตาจริ งๆ นางซ่งคนนี้จิตใจละเอียด
รอบคอบ แม้แต่วิธีเช่นนี้กค็ ิดออกมาได้
“เจ้านึกว่าเจ้าทาได้มิดชิด? เจ้านึกว่าเจ้าฆ่าซือไท่ที่ให้ยาลับกับเจ้าคน
นั้นปิ ดปากก็ไม่มีคนรู ้แล้วเช่นนั้นหรื อ? นางซ่ง สวรรค์มีตานะจะ
บอกให้! เกรงว่าเจ้าคงไม่รู้กระมัง? ซือไท่คนนั้นก็ไม่ใช่คนดีอะไร
นางแอบลับลอบกับคนให้กาเนิดบุตรสาวคนหนึ่ง นางให้ยาที่ทาร้าย
คนลับหลังเช่นนี้กบั เจ้าย่อมต้องระวังเจ้าจู่ๆ เปลี่ยนหน้าแล้งน้ าใจ จึง
แอบบอกเรื่ องนี้กบั บุตรสาวของนาง ต่อมาก็ถูกฮ่องเต้องค์ก่อนสื บ
ได้แล้วมิใช่หรื อ? มิเช่นนั้นเจ้าคิดว่าเพราะอะไรเจ้าถึงมีตาแหน่งพระ
ชายาเพียงในนาม ไม่ได้เข้าราชพงศาวลี ไม่ได้เข้าวัง ไม่ได้เข้าร่ วม
พิธีบวงสรวงงานเลี้ยงใดๆ ของราชสานัก? ฮ่องเต้องค์ก่อนระวังเจ้า
อยูไ่ งล่ะ” ใบหน้ายายหรู เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยอย่างเข้มข้น
“ฮ่องเต้องค์ก่อนอย่างไรก็รักบุตรชาย บวกกับเจ้าตั้งครรภ์แล้ว
ฮ่องเต้องค์ก่อนจึงปิ ดเรื่ องนี้ไว้ ทว่าสวรรค์มีตา ยังคงให้บ่าวรู ้เข้า
ตั้งแต่ยามนั้นเป็ นต้นมาบ่าวก็สาบานว่า ต้องแก้แค้นแทนคุณหนูให้
ได้! ฮ่องเต้องค์ก่อนเห็นเจ้าตั้งครรภ์ถึงละเว้นเจ้ามิใช่หรื อ? เช่นนั้น
บ่าวก็จะให้เจ้าสิ้ นลูกสิ้ นหลาน ไม่มีผสู ้ ื บสกุลตลอดไป ดังนั้นบ่าวจึง
หา ‘เมาทุกวัน’ มา ใช้วิธีแบบเดียวกันใส่ ไว้บนตัวคุณชายสาม ฮ่าๆ ฮู
หยินสามก็คลอดเด็กป่ วยออกมาจริ งๆ! คุณชายใหญ่ของเรามีฮ่องเต้
องค์ก่อนทรงห่วงใย เอายาวิเศษในวังรักษา มีหมอเทวดาเฒ่าคอย
บารุ งร่ างกาย คุณชายน้อยที่ฮูหยินสามให้กาเนิดมีหรื อไม่? มี
หรื อไม่? ข้าจะบอกพวกเจ้าให้ เด็กคนนั้นอยูไ่ ม่เกินอายุครบเดือน
อยูไ่ ม่เกินอายุครบเดือนแน่นอน” ยายหรู แววตาสับสน โบกมือ
ตะโกนโหวกเหวก
“นางบ่าวเฒ่าอามหิต เด็กไร้ความผิด?” สวีเหยียนกระโดดขึ้นมาชี้
ยายหรู แล้วตะโกนด้วยความโกรธ ตาของเขาแดงหมดแล้ว นึกถึง
บุตรชายสายตรงคนโตที่คลอดออกมาก็ถูกหมอหลวงวินิจฉัยว่าติด
พิษจากในครรภ์ เขาโกรธอย่างมหันต์อีกทั้งเจ็บปวดใจอย่างหาใด
เปรี ยบมิได้ จ้องยายหรู อย่างดุร้าย ราวกับจะกินนาง
นัน่ คือบุตรชายคนโตของเขา บุตรชายคนโตสายตรงนะ! และก็เป็ น
บุตรเพียงคนเดียวในชีวิตนี้ของเขาแล้วด้วย!
ยายหรู กลับไม่รู้สึกรู ้สมแม้แต่นอ้ ย “เด็กไร้ความผิด? บัดนี้คุณชาย
สามรู ้แล้วว่าเด็กไร้ความผิด? เช่นนั้นคุณชายใหญ่ของเราล่ะ?
คุณชายใหญ่ของเราก็ไม่ใช่เด็กหรื อ? หรื อว่าเขาก็สมควรตายเช่นนั้น
หรื อ? คุณหนูของเรายิง่ ไร้ความผิดมิใช่หรื อ? ก็เพราะไปขวางทาง
ของนางซ่งผูห้ ญิงอามหิตคนนี้ นางจึงใช้วิธีการทาร้ายลับหลังทาร้าย
คุณหนูขา้ !” สายตาของยายหรู คมขึ้นทันที “จะโทษก็โทษเสด็จแม่
ของพวกท่านเถอะ ใครให้พวกท่านมีเสด็จแม่แสนดีล่ะ! คุณหนูขา้
ตายในมือนาง เช่นนั้นนางก็อย่าคิดจะได้ดีเลย บ่าวอยูใ่ นจวนอ๋ องจิ้น
นี่มายีส่ ิ บกว่าปี แล้ว จะซื้อคนสักสองสามคนไม่ได้เชียวหรื อ? ของ
กินของใช้แต่ละวันของท่านซื่อจื่อและคุณชายสาม เป็ นของที่บ่าว
สิ้ นเปลืองความคิดนับไม่ถว้ นส่ งขึ้นไปเชียวนะ นางซ่ง เจ้าสิ้ นผูส้ ื บ
ทอดแล้ว บ่าวก็ไปอยูเ่ ป็ นเพื่อนคุณหนูได้อย่างสบายใจแล้ว” บน
ใบหน้ายายหรู ประดับรอยยิม้ ที่ทาให้คนหวาดกลัว
สี หน้าของพระชายาอ๋ องจิ้นเปลี่ยนอีก นางนึกถึงคาวินิจฉัยของหมอ
หลวงขึ้นมา แล้วสัน่ ไปทั้งตัว ไม่มีทายาท! เย่เกอเอ๋ อร์และเหยียนเกอ
เอ๋ อร์ไม่อาจมีบุตรได้อีกแล้ว นางจะไม่ได้อุม้ หลานอีกแล้ว!
ไม่ ยังมีฉ่างเกอเอ๋ อร์ นางยังมีฉ่างเกอเอ๋ อร์นะ ฉ่างเกอเอ๋ อร์อยูใ่ น
จวนน้อยมาก ต้องยังไม่เจอน้ ามืออามหิ ตของยัยเฒ่าปี ศาจนี่แน่ ใช่
ฉ่างเกอเอ๋ อร์ของนางยังสามารถให้กาเนิดหลานเล็กๆ ให้นางได้ นาง
จะไม่ขาดผูส้ ื บสกุล ไม่เป็ นหรอก
ตอนที่ 276-2 เปิ ดโปงเรื่ องเก่า
ยายหรู ราวกับรู ้สิ่งที่นางคิดอยูใ่ นใจ หัวเราะเยาะเสี ยงหนึ่งว่า “ซ่งซื่อ
เจ้ากาลังคิดว่ายังมีคุณชายสี่ สินะ หึ ๆ คุณชายสี่ เพิ่งสิ บสองสิ บสามก็
เสี ยพรหมจรรย์ หลายปี มานี้ยงิ่ ใช้ชีวิตเหลวแหลกอยูข่ า้ งนอก ไม่
ต้องให้บ่าวลงมือเขาก็ยา่ ยีร่างกายของตนจนพังแล้ว ซ่งซื่อเจ้ายังไม่รู้
กระมัง เขาไม่อาจมีบุตรได้ต้ งั นานแล้ว มิเช่นนั้นเจ้าเคยได้ยนิ ข่าวเขา
ทาให้ผหู ้ ญิงตั้งครรภ์หรื อไม่”
จิ้นหวังเฟยสิ้ นหวังหมดแล้ว สี หน้าซีดเผือดถลาไปถึงหน้าท่านจิ้
นอ๋ องว่า “ท่านอ๋ อง ท่าน ท่านต้องออกหน้าแทนข้า! เยีย่ เอ๋ อร์พวก
เขา… บ่าวเฒ่าคนนี้อามหิตเกินไปแล้ว นางบังอาจลงมือกับบุตรของ
ท่าน” ฟันของนางสัน่ ไปหมด
ท่านจิ้นอ๋ องกลับจ้องนางด้วยสายตาซับซ้อนว่า “เจ้าใส่ ยาลับใน
เสื้ อผ้าของข้า” เขาสี หน้าสงบ น้ าเสี ยงก็สงบยิง่ นัก
ทว่าจิ้นหวังเฟยที่อยูใ่ กล้ที่สุดในใจกลับเกิดหวาดกลัวขึ้นมา ปฏิเสธ
อย่างไม่รู้ตวั ว่า “เปล่า ข้าเปล่า ท่านอ๋ องท่านต้องเชื่อ ข้าเปล่านะ!”
นางส่ ายหน้าอย่างสุ ดชีวิต คิดจะถอยหลัง กลับถูกท่านจิ้นอ๋ องบีบ
คางไว้วา่ “เปล่าหรื อ แล้วเหตุใดอาการของเด็กคนนั้นถึงเหมือนยาม
โย่วเอ๋ อร์คลอดออกมายิง่ นัก ซ่งซื่อ เจ้าพูดความจริ ง เจ้าบอกความ
จริ งกับข้า ใช่เจ้าหรื อไม่”
ท่านจิ้นอ๋ องสงบปานนั้น สงบจนแทบจะอ่อนโยน ทว่าจิ้นหวังเฟยก
ลับเหมือนเห็นผีร้ายอย่างไรอย่างนั้น หน้าถอดสี วา่ “ไม่ใช่ขา้ ไม่ใช่
ข้า ไม่ใช่ขา้ จริ งๆ” นางคิดจะดิ้นให้หลุดจากพันธนาการกลับไม่กล้า
ขยับอีก
“มารดาเจ้าสิ เจ้าบอกความจริ งข้ามา ไม่ใช่เจ้า เช่นนั้นเจ้าบอกข้า
หน่อยว่าเด็กคนนั้นในเรื อนเหยียนเอ๋ อร์มนั เรื่ องอะไรกัน” ท่านจิ้
นอ๋ องตะคอกด้วยความโกรธทันที มือที่บีบคางหวังเฟยจิ้นก็ยงิ่ ออก
แรง “ซ่งซื่อ เจ้าช่างเก่งจริ งๆ แหย่ขา้ เป็ นลิงเจ้าได้ใจมากสิ นะ” เขาดู
ถูกนาง ราวกับกาลังมองของสกปรกอย่างไรอย่างนั้น
จิ้นหวังเฟยถูกเขาบีบจนร้องอย่างเจ็บปวด พยายามส่ ายหน้าสุ ดชีวิต
แต่ไม่วา่ อย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด เห็นสี หน้านางอดกลั้นจนเป็ นสี เขียว
จะหายใจไม่ออกแล้ว
สวีเยีย่ และสวีเหยียนเห็นดังนั้นตกใจยกใหญ่ รี บเข้าไปห้ามว่า
“เสด็จพ่อท่านรี บปล่อยมือ ท่านทาเช่นนี้จะบีบเสด็จแม่ตายได้” ทั้ง
สองคนไม่สนใจอย่างอื่นแล้วออกแรงแกะมือของท่านจิ้นอ๋ อง ไม่รู้
ว่าวันนี้ท่านจิ้นอ๋ องเป็ นอะไรมือหนักเป็ นพิเศษ สวีเยีย่ และสวีเหยียน
คนหนุ่มกายาสองคนใช้แรงของวัวเก้าตัวบวกกับเสื อสองตัวถึงช่วย
จิ้นหวังเฟยออกมาได้
จิ้นหวังเฟยที่ได้รับอิสระจับคอของตนไว้แล้วไออย่างรุ นแรง แววตา
เหม่อลอย พูดไม่หยุดว่า “ไม่ใช่ขา้ ไม่ใช่ขา้ ท่านอ๋ อง ไม่ใช่ขา้ จริ งๆ”
พลางพูด พลางถอยหลังไป ลึกเข้าไปในดวงตาคือความหวาดกลัว
อันลุ่มลึก
ยายหรู เห็นฉากเช่นนี้ ใบหน้าเผยรอยยิม้ ที่จะเศร้าก็ไม่เศร้าจะสุ ขก็ไม่
สุ ข แล้วพูดเสี ยงดังว่า “กรรมตามสนอง กรรมตามสนองแล้ว!
คุณหนู วิญญาณท่านบนสวรรค์เห็นหมดแล้วใช่หรื อไม่เจ้าคะ บ่าว
แก้แค้นให้ท่านแล้ว ซ่งซื่อจะสิ้ นลูกสิ้ นหลานแล้ว” นางแหงนหน้า
ขึ้นแผ่วเบา สายตามองทะลุผา่ นความว่างเปล่า หยุดอยูก่ ลางอากาศ
ราวกับคุณหนูของนางยืนอยูต่ รงนั้น
เสิ่ นเวยรู ้สึกเศร้าใจยิง่ นัก เรี ยกเบาๆ ทีหนึ่งว่า “ยายหรู ”
สี หน้าสวีโย่วก็ดูไม่ดี “ยายหรู ท่านควรบอกข้าแต่แรก” ในฐานะ
บุตรชาย แก้แค้นแทนมารดาควรเป็ นงานของเขา เขาพอจะรู ้วา่ พิษที่
ติดมาจากครรภ์ของเขาน่าจะหนีไม่พน้ จิ้นหวังเฟย ทว่าคิดไม่ถึงว่า
ความจริ งจะเป็ นเช่นนี้ มิน่าสายตาที่เสด็จปู่ มองเขาถึงซับซ้อน
เช่นนั้น
ยายหรู กลับยิม้ แล้วว่า “คุณชายใหญ่ เรื่ องแก้แค้นมีบ่าวก็พอแล้ว
ท่านกับฮูหยินใหญ่ตอ้ งอยูอ่ ย่างมีความสุ ข คลอดหลานชายตัวอ้วนๆ
ให้คุณหนู ต่อให้บ่าวไปถึงปรภพก็สบายใจได้แล้ว” นางจะบอกเขา
ได้อย่างไร คุณชายใหญ่น่าสงสารพอแล้ว นางจะทาใจให้เขาแบก
รับภาระความแค้นที่หนักอึ้งเช่นนี้ได้อย่างไรอีก นางจะให้คุณชาย
ใหญ่แบกชื่อเสี ยงอกตัญญูไว้ไม่ได้!
สวีโย่วหลับตาลง ปิ ดบังความรวดร้าวภายใน ยืน่ มืออุม้ ยายหรู วา่
“ยายหรู ข้าจะพาท่านไป เรากลับจวนผิงจวิน้ อ๋ องกัน” สถานที่บา้ ๆ
นี่เขาไม่อยากอยูแ่ ม้เพียงชัว่ ขณะเดียว “เจียงเฮยเจียงไป๋ ไปศาลบรรพ
ชนเชิญป้ายวิญญาณของเสด็จแม่ออกมา” เสด็จแม่เขาก็คงไม่อยาก
อยูท่ ี่นี่ต่อไปกระมัง
สวีโย่วอุม้ ยายหรู กา้ วอย่างมัง่ คงออกข้างนอก เสิ่ นเวยตามอยูข่ า้ งๆ
พลานุภาพที่แข็งแกร่ งไม่อาจต้านบีบจนบ่าวไพร่ ทวั่ ทั้งเรื อนต่างถอย
หลังไปตามๆ กัน แม้แต่ท่านจิ้นอ๋ องก็งงเป็ นไก่ตาแตก ยืนอึ้งอยูท่ ี่
เดิม รอยามที่เขาได้สติกลับมา สวีโย่วก็เดินไปไกลแล้ว
ยายหรู ยงั คงจากไป ท่านหมอหลิ่วใช้เข็มทองยืดเวลาได้สองวัน
ยังคงไม่อาจรั้งนางไว้ได้ สองวันนี้ สวีโย่วเฝ้าอยูห่ น้าเตียงยายหรู ไม่
ห่าง เสิ่ นเวยตามอยูข่ า้ งกายเขาเงียบๆ ตลอดเวลา
ยายหรู อมยิม้ ที่มุมปาก ไปอย่างสงบยิง่ สวีโย่วซุกศีรษะไว้บนตักเสิ่ น
เวย ไหล่สนั่ เทิ้ม เสิ่ นเวยถอนใจในใจทีหนึ่ง ยืน่ มือกอดศีรษะเขาไว้
เบาๆ คาพูดปลอบใจกลับพูดไม่ออกสักคา
สวีโย่วและเสิ่ นเวยฝังยายหรู ไว้ขา้ งสุ สานต้วนซื่อเสด็จแม่ของพวก
เขา พวกเขาตั้งป้ายกราบไหว้ดว้ ยตนเอง มองกระดาษเงินกระดาษ
ทองที่ปลิวว่อนเต็มท้องฟ้า ในใจเสิ่ นเวยเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก
สวีโย่วกลับมาจากสุ สานก็ลม้ ป่ วย ไข้ข้ ึนสู งมาก ร้อนจนหน้าแดงไป
หมด ไม่ได้สติ ไม่เพียงท่านหมอหลิ่วมาแล้ว แม้แต่หมอหลวงในวัง
ก็ตื่นตัวด้วย
เสิ่ นเวยเฝ้าเขาทั้งคืนอย่างไม่ละสายตา ยามฟ้าสางไข้ของเขาถึงลดลง
ได้บา้ ง
“ข้าป่ วยอีกแล้วหรื อ” สวีโย่วลืมตาขึ้น พูดอย่างอ่อนแรง “เจ้าเฝ้าข้า
ทั้งคืน” เขามองเสิ่ นเวยที่เส้นเลือดฝอยกระจายเต็มตาเห็นชัดว่า
ไม่ได้นอนทั้งคืนแล้วความปวดใจแวบผ่านใบหน้า
เสิ่ นเวยกลับต่อว่าอย่างดีใจ “ท่านทาข้าตกใจแทบตาย” นางตกใจ
จริ งๆ เมื่อก่อนมักได้ยนิ คนอื่นบอกว่าสวีโย่วสุ ขภาพไม่ดี เวลา
ประจันหน้ากับคนอื่นนางก็เอาเรื่ องนี้มาพูดบ่อยๆ ทว่าในใจกลับไม่
เคยเอามาเป็ นเรื่ อง เพราะตั้งแต่ที่นางรู ้จกั สวีโย่ว เขาก็มีท่าทาง
ฉกาจฉกรรจ์อย่างไม่มีอะไรเทียบได้ โดยเฉพาะบนเตียง ราวกับมี
พลังกายใจที่ใช้ไม่หมด ทุกครั้งล้วนบีบจนนางต้องขอให้ละเว้น เมื่อ
คืนทาให้นางตกใจเกือบตายจริ งๆ
สวีโย่วแย้มยิม้ อย่างซีดเซียวว่า “ข้าไม่เป็ นไรแล้ว เจ้ารี บไปพักสักครู่
เถอะ”
เสิ่ นเวยส่ ายหน้าว่า “ท่านหิวแล้วสิ อยากกินอะไร ข้าจะสัง่ ห้องครัว
ทาให้ กินอะไรก่อนประเดี๋ยวยังต้องกินยาอีก” ท่าทางของสวีโย่
วเช่นนี้นางวางใจไม่ลงจริ งๆ นอนหลับลงที่ไหนกัน
สวีโย่วเห็นดังนั้นจึงว่า “ยามนี้ขา้ ยังไม่หิว เจ้าเข้ามานอนเป็ นเพื่อน
ข้าอีกหน่อยเถอะ” เขาตบตาแหน่งข้างตัว
เสิ่ นเวยคิดๆ ดูแล้ว จึงถอดรองเท้าปี นขึ้นเตียง นอนลงอย่าง
ระมัดระวังข้ายกายสวีโย่ว สวีโย่วยืน่ มือกอดนางเข้ามาในอ้อมกอด
แล้วตบหลังนางเบาๆ เสิ่ นเวยอ่อนเพลียมากอยูแ่ ล้วจึงเข้าสู่ แดนฝัน
อย่างรวดเร็ ว ส่ วนสวีโย่วก็หลับตาลงอย่างวางใจ
สวีโย่วป่ วยครั้งนี้รักษาอยูค่ รึ่ งเดือนจึงค่อยๆ ฟื้ นตัว เสิ่ นเวยวนเวียน
อยูร่ อบตัวเขาทุกวัน ไม่มีพลังกายใจไปสนใจเรื่ องภายนอกแล้ว
รอถึงยามที่สวีโย่วหายดีเป็ นปลิวทิ้ง รายชื่อการสอบฤดูใบไม้ผลิก็
ออกมาแล้ว ที่หนึ่งไม่ใช่บุรุษอัจฉริ ยะเว่ยจิ่นอวี๋ที่ชื่อกระฉ่อนเมือง
หลวง หากแต่เป็ นผูเ้ ข้าสอบที่ไม่มีชื่อเสี ยงคนหนึ่ง ชื่อเซี่ยหมิงผู่
ยามที่เสิ่ นเวยได้ข่าวนี้ยงั งุนงงไปพักหนึ่ง แม้นางจะฝากความหวัง
อย่างใหญ่หลวงไว้ที่เซี่ยหมิงผู่ กลับรู ้วา่ เหนือคนย่อมมีคนเหนือฟ้า
ย่อมมีฟ้า ไม่คิดว่าเจ้าเซี่ยหมิงผูผ่ นู ้ ้ ีจะบุกออกจากกองทัพนับพันนับ
หมื่นจริ งๆ
ที่สองคือผูเ้ ข้าสอบท่านหนึ่งจากถนนเป่ ยเจ๋ อ อายุเกินสามสิ บแล้ว
ชื่อชุยจิ้ง
ที่สามถึงจะเป็ นเว่ยจิ่นอวี๋ซื่อจื่อหย่งหนิงโหว
เสิ่ นเซ่าจวิน้ ก็สอบได้ไม่เลว ขั้นสองอันดับที่ยสี่ ิ บสาม พี่เขยสามเห
วินเทาก็อยูข่ ้นั สอง ขั้นสองอันดับที่เจ็ดสิ บเจ็ด ก็นบั ว่าไม่เลวแล้ว
หลังจากการสอบระดับประเทศก็คือการสอบหน้าพระที่นงั่ ฮ่องเต้
ยงเซวียนทรงแต่งตั้งสามอันดับแรกเป็ นจอหงวน (อันดับหนึ่ง) ปั๋ ง
เหยีย่ น (อันดับสอง) และทัน่ ฮวา (อันดับสาม) ด้วยองค์เอง
จอหงวนก็คือเซี่ยหมิงผู่ ปั๋งเหยีย่ นคือชุยจิ้ง ทัน่ ฮวาคือเว่ยจิ่นอวี๋
ยามที่สามอันดับแรกขี่มา้ ท่องเมืองครึ กโครมไปทั้งเมืองหลวง
นอกจากปั๋งเหยียนชุยจิ้งอายุมากเล็กน้อย จอหงวนและทัน่ ฮวาล้วน
เป็ นเด็กหนุ่มอายุนอ้ ย ยิง่ กว่านั้นยังเป็ นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดีเป็ นพิเศษ
ใครๆ ก็รู้วา่ ทัน่ ฮวาแต่งงานมีภรรยาแล้ว ทว่ายังมีจอหงวนมิใช่หรื อ
จวนต่างๆ ต่างเริ่ มสื บประวัติของจอหงวน คิดจะดึงเขาเข้าพื้นที่ของ
ตน
วันที่ท่องเมืองนี้ เสิ่ นเวยและสวีโย่วก็ไปดูความครึ กครื้ นเช่นกัน
พวกเขาจองห้องส่วนตัวบนชั้นสองที่มีตาแหน่งดีที่สุดติดถนนไว้แต่
เนิ่นๆ แล้ว เสิ่ นเวยชี้จอหงวนที่แต่งตัวด้วยสี สนั สดใสเป็ นมงคลนัง่
ตัวตรงบนม้า พูดเสี ยงเบากับสวีโย่วว่า “ดูสิ นัน่ ก็คือพี่ชายของฉาฮ
วา บุตรในสายโลหิตของตระกูลเซี่ยแห่งเจียงหนาน”
สวีโย่วมองไปตามทิศทางที่นางชี้แล้วพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า
“เป็ นอัจฉริ ยะบุคคล” เพิง่ อายุสิบเจ็ดก็ชิงจอหงวนมาได้ เห็นได้วา่ มี
ความรู ้อย่างแท้จริ ง ยิง่ กว่านั้นเซี่ยหมิงผูค่ นนี้ เสด็จลุงของเขาเพิ่งพูด
ถึงเขา ชมเขาไม่ขาดปาก บอกว่าบทความของเขาไม่เพียงประเสริ ฐ
ยอดเยีย่ ม ยิง่ กว่านั้นยังมีความหมายลึกซึ้งชัดเจน เป็ นบุคลากรที่มอง
การณ์ไกล หากให้เวลาอีกหน่อยต้องเป็ นเสาหลักของประเทศอีกคน
หนึ่ง การประเมินเช่นนี้เรี ยกได้วา่ สู งมาก
ข้างหน้าต่างอีกบานหนึ่ง ฉาฮวาเถาฮวาไม่กี่คนตื่นเต้นเหลือเกิน
สะบัดผ้าเช็ดหน้าโบกมือให้ขา้ งล่างเป็ นการใหญ่ ฉาฮวาตื่นเต้นจน
หน้าแดงหมด หากไม่ใช่เหล่าแม่นางน้อยที่มุงดูต่างมีท่าทางเช่นนี้
นางต้องก่อให้คนอื่นเกิดความสงสัยเป็ นแน่
พลังการเคลื่อนไหวของจวนต่างๆ รวดเร็ วมาก ไม่นานก็สืบประวัติ
ของจอหงวนอย่างหมดเปลือก อ้อ ที่แท้จอหงวนอายุนอ้ ยท่านนี้เป็ น
คนอาเภอผิงหยางหรื อนี่ เป็ นบัณฑิตของโรงเรี ยนชิงซาน เป็ นศิษย์
นักปราชญ์ใหญ่ฉีเตี่ยน มิน่าอายุแต่นอ้ ยก็สามารถชิงตาแหน่งจอหง
วนมาได้ ที่ทาให้คนพอใจที่สุดคือบิดามารดาของจอหงวนเซี่ยท่านนี้
เสี ยชีวิตทั้งคู่ อยูต่ วั คนเดียว ไม่มีเครื อญาติสกั คน จัดเป็ นประเภทคน
หนึ่งกินอิ่มไม่อดทั้งบ้าน
เดิมทีสถานการณ์เช่นเซี่ยหมิงผูน่ ้ ีลว้ นทาบทามเรื่ องแต่งงานได้ยาก
ทว่านี่ถูกปากของตระกูลใหญ่เรื องอานาจพอดี ไม่มีเครื อญาติดียงิ่
รอแต่งงานแล้วก็ตอ้ งสนิทชิดเชื้อใจเดียวกับบ้านภรรยามิใช่หรื อ
เช่นนี้กไ็ ม่ต่างอะไรกับการแต่งบุตรเขยเข้าบ้านแล้วได้บุตรชายครึ่ ง
คนมาเปล่าๆ ใครไม่ดีใจบ้าง ยิง่ กว่านั้นยังเป็ นบุตรชายที่ดีเช่นจอหง
วนหนุ่ม
ดังนั้นขุนนางและผูส้ ู งศักดิ์ที่มีคุณสมบัติในการแย่งชิงต่างใส่ ใจ
เหลือเกิน ใครๆ ก็อยากรับจอหงวนที่ถูกฝ่ าบาทชื่นชมท่านนี้มาเป็ น
บุตรเขยบ้านตน ทว่าพวกเขาถูกกาหนดไว้แล้วว่าต้องเสี ยแรงเปล่า
เพราะองค์หญิงสามที่เกิดจากโหรวเฟยก็ตอ้ งตาจงหงวนท่านนี้
เช่นกัน
องค์หญิงสามปี นี้อายุสิบห้าแล้ว เดือนที่แล้วเพิ่งถึงวัยปักปิ่ น**ตั้งแต่
เห็นท่วงท่าอันสง่างามของจอหงวนเซี่ยบนถนนก็ตราตรึ งใจมิลืม
เลือน โหรวเฟยเป็ นคนรักบุตรสาว ได้ยนิ การรายงานของนางกานัล
ใหญ่ขา้ งกายบุตรสาว จึงส่งคนไปตรวจสอบจอหงวนเซี่ยท่านนี้
ได้ขอ้ มูลของจอหงวนเซี่ย โหรวเฟยพอใจเหลือเกิน จึงคิดจะทาให้
บุตรสาวสมหวัง นางไม่ได้ไปขอร้องฮ่องเต้ยงเซวียนก่อน หากแต่
ไปตาหนักคุนหนิงของฮองเฮา เดิมทีนางก็พ่ งึ พิงฮองเฮาอยูแ่ ล้ว จะ
วางแผนเรื่ องสมรสให้บุตรสาวย่อมไม่ควรข้ามหน้าฮองเฮา
ยิง่ กว่านั้นเรื่ องสมรสของเหล่าองค์ชายองค์หญิงเดิมทีกค็ วรให้
ฮองเฮามากังวลมิใช่หรื อ
ฮองเฮาก็เห็นด้วยกับเรื่ องนี้มากทีเดียว หากจอหงวนเซี่ยกลายเป็ น
ราชบุตรเขยขององค์หญิงสาม ก็จะเป็ นคนฝ่ ายนางมิใช่หรื อ ดังนั้น
ทั้งสองคนจึงไปขอร้องฮ่องเต้ยงเซวียนพร้อมกัน
ฮ่องเต้ยงเซวียนแม้อดั อั้นบ้าง กลับรับปากอย่างไม่ออ้ มค้อม
บุคลากรที่โดดเด่นเช่นนี้ก็มีเพียงองค์หญิงถึงคู่ควรมิใช่หรื อ
ข้อกาหนดของราชบุตรเขยในรัชสมัยนี้ไม่เข้มงวดเหมือนรัช
สมัยก่อน หากราชบุตรเขยไม่อยากไปกองราชพิธี อีกทั้งเจ้าตัวก็โดด
เด่น จะรับตาแหน่งสาคัญในราชสานักก็ยอ่ มได้
*ที่ตรงนี้ไม่มีเงินสามร้อยตาลึง เป็ นคาเปรี ยบเปรยหมายถึง อยาก
ปกปิ ดซ่อนเร้น กลับกลายเป็ นเปิ ดเผยให้โลกรู ้
**วัยปักปิ่ น คือช่วงวัยของเด็กสาวที่มีอายุ 15 ปี ซึ่งถือเป็ นวัยที่
สามารถออกเรื อนมีครอบครัวได้แล้ว โดยเด็กสาวจะต้องผ่านพิธี
บรรลุนิติภาวะ ในพิธีเด็กสาวจะทาการรวบผมมัดเป็ นมวยไว้กลาง
ศีรษะ ผูใ้ หญ่ของเด็กจะเชิญแขกผูห้ ญิงมาช่วยปั กปิ่ นผมให้กบั เด็ก
สาวแสดงถึงว่าเด็กสาวคนนั้นเติบโตเป็ นผูใ้ หญ่พร้อมจะออกเรื อน
แล้ว
ตอนที่ 277 จุดจบ
จิ้นหวังเฟยถูกเปิ ดโปงโฉมหน้าต่อหน้าผูค้ น โดยเฉพาะบุตรชาย
บังเกิดเกล้า ความกระอักกระอ่วนนั้นไม่อาจใช้คาพูดมาบรรยายได้
เลย สายตาที่เย็นเยียบบึ้งตึงยามที่ท่านจิ้นอ๋ องไปก็ทาให้นางกระวน
กระวายใจไม่เป็ นสุ ข เป็ นไปตามคาด ถึงช่วงบ่ายนางก็ออกจากเรื อน
ไม่ได้แล้ว
อาจเพราะเห็นแก่หน้าของบุตรชายในสายโลหิตสามคน ท่านจิ้นอ๋ อง
ไม่ได้ให้จิ้นหวังเฟยย้ายออกจากเรื อนหลัก หากแต่ผนึกเรื อนหลัก
โดยตรง ข้างกายนางเหลือแม่นมซือคนเดียวคอยปรนนิบตั ิ แม้แต่
หวาเยียนที่ใช้ถนัดมือที่สุดก็ถูกย้ายไปที่อื่นแล้ว
จิ้นหวังเฟยทั้งตกใจทั้งกลัวทั้งโกรธ ขว้างของในห้องแตกหมด แม่
นมซือซึ่งมองหวังเฟยที่เหมือนคลุม้ คลัง่ ก็ไม่ปานกล้าห้ามที่ไหน หด
อยูท่ ี่มุมอับเอาแต่ถอนใจว่า ‘หวังเฟยเอ๋ ย บัดนี้ไม่เหมือนก่อนแล้ว
ท่านก็เพลาๆ หน่อยเถอะ! ท่านอ๋ องไม่ได้ประหารท่านทันทีกเ็ ป็ น
ความกรุ ณาในความกรุ ณาแล้ว’
แม่นมซือเป็ นแม่นมคนสนิทข้างกายจิ้นหวังเฟย ทว่านางเพียงแต่รู้
รางๆ ว่าหวังเฟยเข้าจวนอ๋ องมาได้เพราะใช้วิธีการบางอย่าง ยามที่
ยายหรู เปิ ดโปงเรื่ องนั้นออกมานางก็ตกใจแทบสะดุง้ เช่นกัน นึกขึ้น
ได้ทนั ทีวา่ ยามที่หวังเฟยถูกส่ งเข้าอารามเคยใกล้ชิดกับแม่ชีคนหนึ่ง
มาก ยามนั้นนางยังห่วงว่านางจะหมดอาลัยตายอยากคิดจะเข้าประตู
ธรรม
จิ้นหวังเฟยขว้างปาของเหนื่อยแล้วก็นงั่ อยูบ่ นเก้าอี้สงบสติอารมณ์
แม่นมซือจึงลุกขึ้นเก็บกวาดความเละเทะเต็มพื้น บัดนี้ขา้ งกาย
หวังเฟยเหลือนางเพียงคนเดียว งานพวกนี้ยอ่ มตกเป็ นหน้าที่นางเป็ น
ธรรมดา มิใช่นางโอดครวญ ตรงกันข้ามนางกลับเข้าใจอย่างยิง่ ‘นาง
คือแม่นมของหวังเฟย ไม่วา่ ใครก็สามารถไปจากหวังเฟยได้ มีเพียง
นางที่ไม่สามารถ ช่างเถอะ นางมีอายุแล้ว ยังจะอยูไ่ ด้อีกกี่ปีกัน ทน
อยูใ่ นเรื อนนี้เป็ นเพื่อนหวังเฟยเถอะ’
“ซื่อจื่อล่ะ ฮูหยินซื่อจื่อล่ะ คุณชายสามคุณชายสี่ ล่ะ เหตุใดพวกเขา
ยังไม่มา” จิ้นหวังเฟยถามเสี ยงดัง ท่านอ๋ องพึ่งไม่ได้แล้ว ไม่เป็ นไร
นางยังมีบุตรชาย นางยังมีบุตรชายในสายโลหิตสามคน นางกลับลืม
ไปสิ้ นเชิง
เพราะนาง เหล่าบุตรชายของนางจึงไม่อาจมีบุตรได้อีกแล้ว ไม่พดู
ไม่ได้วา่ จิ้นหวังเฟยเป็ นคนเห็นแก่ตวั อย่างที่สุด ตั้งแต่ตน้ จนจบคนที่
นางรักที่สุดมีแต่ตนเองเท่านั้น
แม่นมซือที่นงั่ ยองๆ เก็บกวาดอยูบ่ นพื้นหยุดชะงัก นางบอกได้หรื อ
ว่าพวกคุณชายไม่มาแล้ว อย่างน้อยในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ไม่มีทางมา
หรอก
แม่นมซือไม่ส่งเสี ยง จิ้นหวังเฟยกลับไม่ยอมรามือ แผดเสี ยงตะโกน
ใส่ ขา้ งนอกว่า “ไป รี บไปเรี ยกพวกซื่อจื่อมา ข้ามีเรื่ องจะพูดกับพวก
เขา”
ครึ่ งค่อนวันถึงมีเสี ยงงึมงาๆ ของหญิงชรารับใช้ใช้แรงงานลอยมาว่า
“หวังเฟยอภัยด้วย ไม่มีคาสัง่ ของท่านอ๋ องบ่าวไม่กล้าตัดสิ นใจโดย
พลการเจ้าค่ะ” ท่านอ๋ องเพียงแต่ให้พวกนางเฝ้าอยูท่ ี่นี่ ไม่ได้บอกให้
พวกนางทางานอื่น หากพวกนางจากไปโดยพลการ ท่านอ๋ อง
ย้อนกลับมาสื บสาวราวเรื่ อง… นึกถึงศพที่หามออกไปทีละศพๆ
จากเรื อนนี้ในช่วงเช้า บัดนี้พวกหญิงชรายังกลัวไม่หายเลย ท่านอ๋ อง
เมตตา อุตส่ าห์ไว้ชีวิตพวกนางไว้เฝ้าหวังเฟยที่นี่ พวกนางจะกล้า
ประมาทได้อย่างไร
จิ้นหวังเฟยโกรธโมโหใหญ่โตทันทีวา่ “เจ้าพวกยกตนข่มท่าน ข้ายัง
ไม่หมดอานาจก็รีบซ้ าเติมเสี ยแล้ว พวกเจ้าคอยดูเถิด”
แม่นมซือจนด้วยเกล้า ได้แต่เข้าไปกล่อมว่า “หวังเฟย ท่านโกรธบ่าว
ไพร่ ไปไย อย่าโกรธเลย อย่าโกรธจนเสี ยสุ ขภาพ ประเดี๋ยวท่าน
ซื่อจื่อและคุณชายสามคุณชายสี่ จะปวดใจอีก ท่านพักผ่อนสักครู่
เถอะ นี่วนุ่ วายมาครึ่ งวันแล้ว ท่านซื่อจื่อพวกเขาก็เหนื่อยไม่เบา รอ
พักผ่อนเสร็ จแล้วต้องมาเยีย่ มท่านแน่นอนเจ้าค่ะ”
นางชักแม่น้ าทั้งห้าในที่สุดก็เกลี้ยกล่อมจิ้นหวังเฟยไว้ได้ พยุง
หวังเฟยเข้าไปห้องด้านใน พอหันหลังออกมาก็ถอนใจเป็ นการใหญ่
ดูท่าทางเช่นนี้ ท่านอ๋ องโกรธหวังเฟยถึงที่สุดแล้ว พวกซื่อจื่อก็ไม่ใช่
ไม่โกรธเคืองหวังเฟย หวังเฟยดันไม่รู้ตวั อีก กลุม้ ใจเสี ยจริ ง!
เป็ นดังที่แม่นมซือคิด สวีเยีย่ และสวีเหยียนแม้ปากไม่พดู ในใจกลับ
แค้นเคืองเสด็จแม่ของพวกเขายิง่ นัก นับตั้งแต่ที่พวกเขาจาความได้
เสด็จแม่กภ็ ูมิฐานมีคุณธรรม สง่างามมีคุณค่า ยิง่ กว่านั้น
ความสัมพันธ์กบั เสด็จพ่อก็ดีเป็ นพิเศษ ตามอายุที่เพิม่ ขึ้น แม้พวกเขา
รู ้วา่ เสด็จแม่เป็ นคนมีแผนการ กลับไม่ได้ใส่ ใจ มีนายหญิงบ้านไหน
บ้างที่ไม่มีแผนการ
แต่ไม่วา่ อย่างไรพวกเขาก็นึกไม่ถึงว่าเสด็จแม่จะเป็ นคนไม่เลือก
วิธีการเช่นนี้ ซ้ ายังเพิ่งรู ้วา่ ที่แท้การตายของมารดาพี่ใหญ่และสุ ขภาพ
ของพี่ใหญ่ลว้ นเกิดจากเสด็จแม่ นี่จะให้พวกเขาเอาหน้าไปไว้ที่
ไหน! มิหนาซ้ าด้วยความอามหิตของเสด็จแม่ทาให้พวกเขา
เดือดร้อนจนไม่สามารถมีบุตรได้อีก ต่อให้พวกเขากตัญญูเพียงใดก็
ไม่อาจไม่โอดครวญ!
อู๋ซื่อซื่อจื่อฮูหยินร้องไห้จนตาบวม สะอึกสะอื้นว่า “ท่านซื่อจื่อ!” ที่
แท้ไม่ใช่นางให้กาเนิดไม่ได้ หากแต่เป็ นท่านซื่อจื่อต่างหากที่ไม่
สามารถให้กาเนิดได้!
สวีเยีย่ ใบหน้าบึ้งตึง เมื่อนึกว่าตนไม่อาจมีบุตรของตัวเองได้อีกในใจ
ก็เจ็บเหมือนถูกมีดเฉือน เขามองดูดวงตาบวมแดงของภรรยา ในใจ
อดรู ้สึกผิดไม่ได้ “ช่างเถอะ นี่ลว้ นเป็ นชะตา ดีที่เรายังมีบุตรสาวสอง
คน เลี้ยงพวกนางให้เติบใหญ่อย่างดี หากไม่ไหวจริ งๆ ก็ให้เอ้อร์
เอ๋ อร์รับเขยเข้าบ้านเถอะ” เขารู ้สึกโชคดีมากที่ยายหรู คนนั้นลงมือช้า
มิเช่นนั้นเขาก็ตอ้ งเหมือนน้องสามที่แม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขสักคนก็มี
ไม่ได้แล้ว
อู๋ซื่อสะอึกสะอื้นแนบหน้าไว้ที่หน้าอกเขา แล้วพยักหน้าเบาๆ ว่า
“ข้า ข้าก็แค่คิดว่าหากต้าเอ๋ อร์ หรื อเอ้อร์เอ๋ อร์มีคนหนึ่งเป็ นบุตรชายก็
ดี”
สวีเยีย่ ก็อยากเช่นกัน ทว่านี่เป็ นสิ่ งที่เขาอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้หรื อ
เขาถอนใจยาวทีหนึ่ง ลึกเข้าไปในตามีแต่ความเศร้าสลด
ที่จริ งอู๋ซื่อไม่ได้เสี ยใจเท่าที่นางแสดงออกมา กระทัง่ ลึกลงไปในใจ
นางยังแอบโล่งอก นางแม้เสี ยดายที่ไม่มีบุตรชาย ทว่าอย่างน้อยนาง
ก็มีบุตรสาวแท้ๆ ถึงสองคน! บัดนี้ท่านซื่อจื่อให้กาเนิดไม่ได้แล้ว
เช่นนั้นต่อไปก็ไม่มีบุตรชายบุตรสาวอนุแล้ว ทั้งจวนจิ้นอ๋ องก็เป็ น
ของบุตรสาวสองคนของนางแล้ว ยิง่ กว่านั้นเพราะเรื่ องนี้ซื่อจื่อรู ้สึก
ผิดต่อนาง ต่อไปเรื อนหลังนี่กไ็ ม่มีคนกล้าดิ้นรนมาสร้างความ
ราคาญให้นางแล้ว พอนึกถึงเรื่ องนี้นางก็ไม่เสี ยใจปานนั้นแล้ว
ทางด้านสวีเหยียนกลับเป็ นอีกสภาพหนึ่ง หูซื่อกอดบุตรชายที่เพิ่ง
คลอดร้องจนแทบขาดใจ “ลูกข้า ลูกข้า! ยายแก่ที่สมควรตายนัน่
กรรมใดใครก่อ เรื่ องอะไรมาหาลูกที่ไร้ความผิดของข้า! ลูกเอ๋ ย ลูกที่
น่าสงสารของข้า!”
กว่านางจะให้กาเนิดหลานชายคนโตในสายโลหิ ตของจวนอ๋ องได้
ไม่ใช่ง่ายๆ แม้เด็กเกิดมาจะไม่ค่อยสมบูรณ์ ทว่ามีหมอหลวงคอยดู
นางจึงไม่ได้ห่วงถึงปานนั้น ทว่าบัดนี้นางกลับรู ้วา่ เด็กถูกพิษตั้งแต่
อยูใ่ นครรภ์จะมีชีวิตอยูไ่ ด้ไม่ครบเดือน ยิง่ กว่านั้นสามียงั ถูกวางยา
สิ้ นทายาทอีก นางสิ้ นหวังหมดแล้ว รู ้สึกว่าฟ้าจะถล่มลงมา ชีวิตต่อ
จากนี้ยงั มีความหวังอะไรอีก
“เรื่ องอะไร เรื่ องอะไรกัน! นางทาบาปเรื่ องอะไรกรรมถึงมาตกลงที่
บุตรชายข้า ท่านพี่ ข้าอยูต่ ่อไปไม่ได้แล้ว นี่ไม่เท่ากับควักหัวใจข้าไป
ทั้งเป็ นหรื อ ให้ขา้ ตามไปให้รู้แล้วรู ้รอดเถอะ!” นางก้มหน้าดู
บุตรชายในอก ร้องไห้จนใจขาดดิ้น
สวีเหยียนสองมือกุมศีรษะ งงไปหมดแล้ว เขาไม่สามารถมีบุตรได้
อีกแล้ว ทรัพย์สมบัติที่เขาชิงมาได้จะให้ใคร ให้ใคร ให้ใครเล่า พี่
รองอย่างน้อยยังมีบุตรสาวสองคน เขามีอะไร บุตรชายเพียงคนเดียว
ยังรักษาไว้ไม่ได้ ยิง่ กว่านั้นเขายังต้องมองดูบุตรชายเพียงหนึ่งเดียว
ของเขาตายไปต่อหน้าต่อตา พอนึกถึงเรื่ องนี้เขาก็เหมือนถูกลูกศร
หมื่นดอกทะลวงใจ
“ร้อง ร้อง ร้องมีประโยชน์อะไร” สวีเหยียนลุกขึ้นมาอย่างฉับพลัน
ดวงตาแดงก่า ราวกับสัตว์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บ “อุม้ เด็กลงไป เจ้าทาให้
เขาตกใจแล้ว” สายตาของเขาตกลงบนใบหน้าที่อ่อนแอของเด็ก
หน้าผากเล็กๆ จมูและปาก โดยเฉพาะปากและจมูกนัน่ เหมือนปั้น
ออกมาจากพิมพ์เดียวกับเขาไม่มีผดิ เขาอดขอบตาร้อนไม่ได้ น้ าตา
เกือบไหลออกมา นี่คือบุตรชายของเขา บุตรชายของเขา!
แม่นมเข้ามาจะรับเด็กไป หูซื่อกลับกอดไว้แน่นอย่างไม่รู้ตวั ลึกเข้า
ไปในดวงตามีแต่ความระแวง “นี่คือบุตรชายของข้า ข้าไม่ให้ใคร
ทั้งนั้น”
แม่นมยืนอยูท่ ี่เดิมอย่างกระอักกระอ่วน มองไปที่สวีเหยียนอยาง
ลาบากใจ
สวีเหยียนมองเด็กที่แบะปากร้องไห้อย่างหนัก ใจอ่อนขึ้นมาทันที
“ให้แม่นมอุม้ ลงไปเถอะ ให้หมอหลวงดูหน่อย ควรให้ยาแล้วใช่
หรื อไม่”
หูซื่อฟังแล้วตาเป็ นประกายขึ้นมาทันทีวา่ “ใช่ หมอหลวง ท่านพี่ พิษ
ที่เกอเอ๋ อร์ของเราถูกเหมือนพี่ใหญ่มิใช่หรื อ พี่ใหญ่ยงั ไม่เป็ นไร
เช่นนั้นเกอเอ๋ อร์ของเราก็ตอ้ งมีทางช่วยแน่นอน ท่านพี่ ท่านไป
ขอร้องฝ่ าบาท เราก็ส่งเกอเอ๋ อร์ข้ ึนเขาไป ข้าไปโขกศีรษะให้หมอ
เทวดาเฒ่า ต่อให้เอาชีวิตข้าเข้าแลกก็ได้ ขอเพียงเขาสามารถช่วยชีวิต
เกอเอ๋ อร์เราได้” น้ าตาในตาของหูซื่อไหลไม่หยุด
สวีเหยียนกลับเบือนสายตาออก ทนดูดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
ของหูซื่อไม่ได้ “ได้ พรุ่ งนี้ขา้ จะเข้าวังขอร้องฝ่ าบาท” ในใจเขากลับ
เข้าใจว่าต่อให้ขอร้องฝ่ าบาทก็ไม่มีประโยชน์ เกอเอ๋ อร์ถูกพิษลึก
เกินไปแล้ว ต่อให้เป็ นเทวดาจาแลงก็ช่วยไม่ได้แล้ว
ด้านฉินอิงอิงนั้นกาลังเถียงกันอย่างดุเดือด ยามเกิดเรื่ องแม้นางไม่อยู่
ในที่เกิดเหตุ หลังเกิดเหตุกลับได้ยนิ แล้ว เมื่อนึกถึงว่าสวีฉงั่ ด้วยลุ่ม
หลงในกิเลสตัณหาทาร่ างกายพังไม่สามารถมีบุตรได้อีก นางก็แค้น
จนสัน่ ไปทั้งตัว
นางเพิ่งแต่งเข้ามาเท่าไรเอง ยังไม่ถึงครึ่ งปี เลย เพียงหนึ่งเดือนที่
แต่งงานใหม่สวีฉงั่ ยังนับว่าว่าง่าย หลังจากนั้นร่ างเดิมกลับปรากฏ
แล้ว ไม่เพียงไม่กลับจวนเป็ นประจา ต่อให้อยูใ่ นจวนสายตานัน่ ก็
จ้องอยูแ่ ต่ร่างสาวใช้สะสวย นางพาสาวใช้บา้ นมารดามาสี่ คน ถูกเขา
เอาไปแล้วสามคน
นางโวยวายก็โวยวายแล้ว อาละวาดก็อาละวาดแล้ว สวีฉงั่ ภายนอก
รับปากอย่างดี พอลับหลังก็ทาอะไรไม่สนใจใครอีกแ
ฉินอิงอิงกลับบ้านร้องไห้โอดครวญ มารดานางกลับกล่อมนางว่า
“ผูห้ ญิงคนใดบ้างไม่เคยผ่านชีวิตเช่นนี้ แม้แต่บิดาเจ้าลุงใหญ่เจ้าก็มี
อนุหลายคนมิใช่หรื อ หน้าที่เร่ งด่วนของเจ้าในยามนี้คือรี บให้กาเนิด
บุตรชายในสายโลหิ ตสร้างจุดยืนให้มนั่ คง ขอเพียงเจ้ามีบุตรชาย
เคียงกาย อนุคนไหนจะสามารถข้ามศีรษะเจ้าไปได้”
ออกเรื อนก็ออกเรื อนแล้ว ไม่ยอมรับชะตาแล้วจะทาอย่างไรได้ เพียง
ครึ่ งปี หัวใจดวงนั้นของฉินอิงอิงก็เ**่่ยวเฉาแล้ว นางตัดสิ นใจฟัง
คาพูดของมารดานาง รี บให้กาเนิดบุตรชายในสายโลหิตสักคน ทว่า
ไม่คิดว่าจะฟ้าผ่ากลางวัน สวีฉงั่ ถึงกับเสเพลจนร่ างกายพัง ไม่
สามารถมีบุตรได้อีกแล้ว! เช่นนั้นนางจะทาเช่นไรดี
นางโกรธจนทะเลาะกับสวีฉงั่ ยกใหญ่ สวีฉงั่ ท่าทางเอ้อระเหย
ลอยชาย เหล่ตาเบ้ปาก “ไม่มีบุตรก็ไม่มีบุตร รับมาเลี้ยงก็ได้แล้วมิใช่
หรื อ เรื่ องใหญ่เพียงใดกันเชียว” เขายังท่าทางเหมือนไม่ใส่ ใจ
รับมาเลี้ยง รับมาเลี้ยงจะเทียบกับคลอดเองได้หรื อ นางไม่ใช่ให้
กาเนิดไม่ได้เสี ยหน่อย เรื่ องอะไรต้องเลี้ยงลูกให้คนอื่นด้วย ฉิ นอิง
อิงโกรธจนแทบบ้าแล้ว ร้องไห้โวยวายขึ้นมาทันที ร้องที่ตนชีวิต
รันทด ไยต้องมาเจอเจ้าคนไม่เคยสนใจอะไรใดๆ ด้วยนะ สวีฉงั่ ถูก
นางร้องจนราคาญ สะบัดมือจากไปให้รู้แล้วรู ้รอด
ฉินอิงอิงเห็นดังนั้นยิง่ เศร้าใจ นึกถึงว่าต่อไปจะไร้ที่พ่ งึ พิง รู ้สึกว่าไม่
มีทางรอดเลยแม้แต่นอ้ ย
จู่ๆ นางก็ลุกขึ้นยืนโดยพลัน สัง่ เสี ยงดังว่า “เก็บข้าวของ กลับจวน
เสนาบดี!” หย่า นางจะหย่าแน่นอน! ชีวิตเช่นนี้อยูไ่ ม่ไหวแล้ว
ข่าวของบุตรชายในสายโลหิตสามคนที่เกิดจากจิ้นหวังเฟยยังคงลือ
ออกไปแล้ว แม้ท่านจิ้นอ๋ องโบยบ่าวที่อยูใ่ นที่เกิดเหตุกลุ่มหนึ่งจน
ตายในคราแรกและออกคาสัง่ ปิ ดปากด้วยตัวเองอีก แต่เรื่ องนี้ยงั คง
ลือออกไปจนได้
ข่าวที่น่าตื่นตะลึงนี่ทาให้ผคู ้ นตกใจจนตาค้าง สวรรค์ สิ้ นทายาท นี่
เป็ นเรื่ องทาร้ายคนเพียงใด! เมื่อรู ้ที่มาที่ไปของเรื่ องราวแล้ว ผูค้ นก็
หุบปากไปตามๆ กัน
แม้ผา่ นไปยีส่ ิ บกว่าปี แล้ว ทว่าตอนนั้นแต่ละเรื่ องที่ออกจากจวนจิ้
นอ๋ องทุกคนยังจาได้ไม่ลืม ท่านจิ้นอ๋ องผูส้ ู งศักดิ์เพื่อผูห้ ญิงคนหนึ่ง
ถึงกับทิ้งอนาคต บีบจนภรรยาตัวตาย ตอนนั้นคนตั้งเท่าไรต่างดูถูก
ตอนนั้นยามที่ตว้ นซื่อจิ้นหวังเฟยคนก่อนเสี ย เหล่าฮูหยินของจวน
ต่างๆ ก็แอบบ่นอยูใ่ นใจแล้ว รู ้สึกว่าเรื่ องนี้ตอ้ งดิ้นไม่หลุดจากซ่งซื่อ
แน่นอน ไม่คิดว่ายังคงเป็ นฝี มือของท่านนั้นจริ งๆ ด้วย
ไอหยา วางยาพิษไว้บนเสื้ อผ้าของท่านจิ้นอ๋ อง ซ่งซื่อคนนี้ช่างจิตใจ
อามหิตเหลือเกิน! เมื่อทุกคนคิดเช่นนี้แล้ว ต่างรู ้สึกขนลุกซู่
ผูป้ กครองของตระกูลใหญ่ที่มีความคิดทะลุปรุ โปร่ งพวกนั้นต่าง
เรี ยกลูกหลานในตระกูลเข้ามาตักเตือนว่า ‘เห็นหรื อยัง หลังบ้านไม่
สงบก็คือรากเหง้าของความโกลาหล ต้นห้องนอนได้ อนุกม็ ีได้ ทว่า
จะหลงอนุจนดับภรรยาไม่ได้เด็ดขาด ต้องดูเรื่ องในจวนจิ้นอ๋ องเป็ น
บทเรี ยน บ่มเพาะศีลธรรมของตนดูแลบ้านช่องเรื อนชานถึงปกครอง
ใต้หล้าได้’ เหล่าลูกหลานล้วนแสดงว่าได้รับการสัง่ สอนแล้ว
เหล่านายหญิงฉวยโอกาสจัดการอนุที่อยูไ่ ม่สุขไม่สงบเสงี่ยมพวก
นั้น อนุพวกนั้นทุกข์จนพูดไม่ออกกลับไม่มีที่ให้ร้องทุกข์ นายไม่
หนุนหลังแล้ว!
จิ้นหวังเฟยรออยูห่ ลายวันยังคงไม่เห็นเหล่าบุตรชายของนาง ก็ไม่รู้
ว่านางคิดเช่นไร อารมณ์ร้อนขึ้นทุกวัน ไม่ขว้างของก็ด่าคน ทาจน
แม่นมซือต้องปวดเศียรเวียนเกล้าตาม
“หวังเฟย ท่านระงับโทสะเถิด ท่านอ๋ องกาลังโกรธอยู่ ท่านซื่อจื่อ
และคุณชายสามคุณชายสี่ จะกล้ามาหรื อเจ้าคะ” แม่นมซือเกลี้ยกล่อม
อย่างอดทน
ทว่าคืนนั้นจิ้นหวังเฟยเกิดเรื่ องแล้ว ระหว่างที่แม่นมซือหลับอย่าง
สะลึมสะลือก็ได้ยนิ หวังเฟยเหมือนร้องเสี ยงหนึ่งว่า “ผีหลอก!”
เสี ยงโหยหวนผิดปกติ รอถึงยามที่นางลงจากเตียงเข้ามาใกล้ ก็เห็น
หวังเฟยนอนอยูบ่ นพื้น ไม่ได้สติแล้ว บนใบหน้าเขียวซีดยังเห็น
ความหวาดหวัน่ หลงเหลืออยู่
แม่นมซือตกตะลึงพรึ งเพริ ด รี บร้อนเรี ยกคน เรี ยกอยูค่ รึ่ งค่อนวันถึง
มีหญิงชรารับใช้ใช้แรงงานสองคนเข้ามาอย่างเอื่อยเฉื่อย เมื่อเห็น
เหตุการณ์ ก็ลนลานทันทีเช่นกัน ท่านอ๋ องบอกเพียงว่าเฝ้าเรื อนไว้ให้
ดี ไม่ได้บอกว่าให้เชิญหมอได้หรื อไม่! นี่กลางค่ากลางคืนดึกดื่น
ประตูบานที่สองคล้องกุญแจตั้งนานแล้ว ท่านอ๋ องก็พกั ผ่อนแต่หวั ค่า
แล้วเช่นกัน ทาเช่นไรดี ทาเช่นไรดี
สุ ดท้ายพวกนางยังคงกลัวหวังเฟยเกิดเรื่ อง ยังคงไปเรื อนของคุณชาย
สามเชิญหมอหลวงมา หมอหลวงพอเห็นสภาพเช่นนั้นของจิ้นห
วังเฟย ในใจก็เต้นแรงทีหนึ่ง เป็ นไปตามคาด เมื่อได้ตรวจ จิ้นห
วังเฟยนี่คือเป็ นจ้งเฟิ งแล้ว* ยิง่ กว่านั้นเพราะเสี ยเวลาไปจึงค่อนข้าง
สาหัสแล้ว สามารถรักษาชีวิตไว้ได้กไ็ ม่เลวแล้ว คิดจะฟื้ นตัวกลับมา
พูดจาฉะฉานนั้นเป็ นไปไม่ได้แล้ว
หลังจากข่าวจิ้นหวังเฟยจ้งเฟิ งปากพูดไม่ได้ขาเดินไม่ได้ลือออก
มาแล้ว มือที่ใส่ เสื้ อของซื่อจื่อสวีเยีย่ ก็หยุดชะงัก พูดเสี ยงเรี ยบคา
หนึ่งว่า “รู ้แล้ว” จากนั้นก็ไม่พดู อะไรอีก ส่ วนสวีเหยียนนั้นนิ่งเงียบ
ไม่เอ่ยวาจา สวีฉงั่ สามะเลเทเมาอยูใ่ นหอคณิ กา ยังไม่รู้วา่ มารดาจ้ง
เฟิ งเลย
ท่านจิ้นอ๋ องได้ข่าวแล้วโบกมือด้วยสี หน้าราคาญ ท่าทางเช่นนี้ดู
เหมือนไม่อยากรับรู ้เรื่ องราวใดๆ ของจิ้นหวังเฟยทั้งสิ้ น
*จ้งเฟิ ง ศาสตร์การแพทย์แผนจีน เรี ยกโรคหลอดเลือดสมองว่า
“จ้ง” หมายถึง โรคที่มีอาการหน้ามืด ล้มลงหมดสติฉบั พลัน ร่ างกาย
ครึ่ งซีกอ่อนแรง ปากเบี้ยว เห็นภาพซ้อน พูดติดขัด หรื ออาจไม่มี
อาการล้มลงหมดสติ แต่มีอาการอ่อนแรงครึ่ งซีก จนถึงอาการ ปาก
เบี้ยว เห็นภาพซ้อน
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 278 รัชทายาทตกม้ า
ระยะนี้ชีวิตของท่านจิ้นอ๋ องไม่มีความสุ ขแม้แต่นอ้ ย ถูกเสด็จพี่ของ
เขาเรี ยกไปตาหนิในวังยกหนึ่ง “เหลวไหล ชีวติ ของเจ้าช่าง
เหลวไหล! ข้าไม่คาดหวังว่าเจ้าจะช่วยแบ่งเบาแทนข้า ทว่าเจ้าอย่า
เหยียบเกียรติของราชวงศ์ไว้บนพื้นจะได้หรื อไม่ เกียรติของข้า
เกียรติของราชวงศ์ถูกเจ้าทาเสี ยหายหมดแล้ว”
สายตาของฮ่องเต้ยงเซวียนที่มองท่านจิ้นอ๋ องช่างรังเกียจเหลือเกิน
ราวกับมองดินโคลนบนรองเท้า
ท่านจิ้นอ๋ องถูกเสด็จพี่ของเขาตาหนิจนชินมาตั้งนานแล้ว เมื่อก่อน
เขาล้วนก้มหน้าก้มตา ท่าทางเหมือนหมูตายไม่กลัวน้ าร้อนลวก มี
เพียงครั้งนี้ที่เขาเกิดละอายใจ สี หน้ากระอักกระอ่วน
ตั้งแต่กลับจากวังท่านจิ้นอ๋ องก็ขงั ตนไว้ในห้องหนังสื อ ไม่มีหน้า
ออกจากบ้าน เขาคิดเรื่ องมากมาย ใบหน้าของต้วนซื่อและซ่งซื่อ
สลับกันปรากฏขึ้นในสมองของเขา จากนั้นเขานึกถึงเสด็จพ่อของ
เขา
ครั้งนั้นเขาคุกเข่าอยูน่ อกห้องทรงอักษรของเสด็จพ่อร้องขอให้ซ่ง
ซื่อเข้าจวน สุ ดท้ายแม้เสด็จพ่อของเขาจะรับปาก กลับชี้หน้าเขาด่า
ยกใหญ่ “โง่เขลา เจ้ามันโง่เขลา ไยข้าถึงมีบุตรชายโง่เขลาเช่นเจ้า ช้า
เร็ วเจ้าต้องเสี ยใจแน่” เสด็จพ่อโกรธเขาจนก่อนไปก็ไม่ยอมแลเขา
สักที
บัดนี้คาทานายเป็ นจริ ง เขาเสี ยใจภายหลังแล้วมิใช่หรอ บุตรชายคน
โตไม่สนิทกับเขา บัดนี้แม้แต่เสด็จพ่อก็ไม่ยอมเรี ยกแล้ว บุตรชายคน
รองคนที่สามคนที่สี่ลว้ นสิ้ นทายาท อ้อจริ งสิ เขายังมีบุตรชายอนุคน
หนึ่ง ทว่าเขาไม่เคยถามไถ่ถึงเด็กคนนั้นมาก่อน ตั้งแต่ปีที่แล้ว
บุตรชายคนเล็กก็ตามบุตรชายคนโตเข้ากองปัญจทิศรักษานคร
แม้แต่จวนอ๋ องยังไม่ค่อยได้กลับ
จวนจิ้นอ๋ องที่โอ่อ่ามีเพียงหลานสาวอายุนอ้ ยสองคน ฮ่าๆๆ กรรม
ตามสนอง กรรมตามสนอง!
ท่านจิ้นอ๋ องแหงนหน้าหัวเราะร่ า หัวเราะจนน้ าตาไหลออกมา ปาก
พึมพาว่า “เสด็จพ่อ เสด็จพ่อ ลูกผิดไปแล้ว ลูกทรมานเหลือเกิน!”
ในเมืองหลวงราชโองการพระราชทานสมรสจากฝ่ าบาทก่อให้เกิด
ความโกลาหลขึ้น ฝ่ าบาทจะรับจอหงวนคนใหม่เซี่ยหมิงผูเ่ ป็ นราช
บุตรเขยขององค์หญิงสาม!
ก่อนหน้านี้เหล่าขุนนางที่กระโดดโลดเต้นคิดจะดึงจอหงวนเซี่ยเข้า
บ้านตนต่างเสี ยดายตามกัน ทว่านอกจากยอมแพ้แล้วพวกเขายังมีวิธี
ใดอีกเล่า ขุนนางคนใดกล้าแย่งบุตรเขยกับฝ่ าบาท นี่ไม่ใช่รนหาที่
ตายหรื อ
ระยะนี้รัชทายาทกาลังสุ ขสมหวัง สอบครั้งนี้ผใู ้ ต้บงั คับบัญชาเขามี
คนเก่งเพิ่มมาจานวนหนึ่ง แม้แต่จอหงวนที่เสด็จพ่อทรงชื่นชมก็ยนื
อยูฝ่ ่ ายเขา กลายเป็ นน้องเขยของเขา ใครไม่รู้บา้ งว่าโหรวเฟยเหนียง
เหนียงฟังเพียงคาสัง่ เสด็จแม่เขาเท่านั้น
เมื่อรัชทายาทดีใจ แม้แต่สุขภาพก็ดีข้ ึนมาก อากาศของต้นฤดูใบไม้
ผลิยงั หนาวอยูบ่ า้ ง การไอของรัชทายาทกลับไม่กาเริ บเลยสักครั้ง นี่
เรี ยกว่าคนเจอเรื่ องมงคลแล้วกระปรี้ กระเปร่ าจริ ง ๆ!
ทว่าสุ ขถึงที่สุดย่อมเกิดทุกข์ ก่อนหน้านี้วนั หนึ่งรัชทายาทยังลาพอง
อยูเ่ ลย วันนี้กล็ ือกันว่าเขาตกม้า ระหว่างทางที่กลับจากไปล่าสัตว์
นอกเมืองม้าเกิดตกใจ องครักษ์ช่วยไม่ทนั รัชทายาทตกจากหลังม้า
พอดีทา้ ยทอยโขกเข้ากับก้อนหินข้างทาง หมดสติทนั ที
เหล่าขุนนางตื่นตระหนก ฮ่องเต้ยงเซวียนทรงกริ้ ว “สื บ สื บให้ถึง
ที่สุด! เหตุใดอยูด่ ีๆ ม้าถึงตกใจ ยังมี ใครยุยงรัชทายาทออกไปล่า
สัตว์นอกเมือง” สุ ขภาพของรัชทายาทแม้อ่อนแอไปบ้าง ทว่าก็ฝึกวร
ยุทธ์มาตั้งแต่เด็ก แม้เทียบองค์ชายรองที่เชี่ยวชาญการขี่มา้ ยิงธนู
ไม่ได้ ทว่าก็ไม่ถึงกับตกจากหลังม้า
เพราะฝี มืออันเฉียบขาดของฮ่องเต้ยงเซวียน เรื่ องได้เบาะแสอย่าง
รวดเร็ ว ไม่มีคนยุยงรัชทายาทออกไปล่าสัตว์นอกเมืองหรอก
หากแต่เป็ นรัชทายาทเองที่ด้ือรั้นจะไป ขุนนางใต้บญั ชาตาหนัก
บูรพายังเตือนแล้วรอบหนึ่ง น่าเสี ยดายที่เตือนไม่ฟัง
ม้าตัวที่รัชทายาทขี่กลับตรวจเจอความผิดปกติ ม้าตัวนั้นถูกป้อนยา
ชนิดหนึ่งที่ทาให้คลุม้ คลัง่ ยาชนิดนี้ต้ งั แต่ป้อนจนถึงออกอาการใช้
เวลาประมาณสองชัว่ ยาม ดูแล้วคนที่บงการอยูเ่ บื้องหลังคานวณได้
แม่นยายิง่ นัก ยิง่ กว่านั้นคนข้างกายรัชทายาทก็ใช้ไม่ได้ยงิ่ นัก!
รอถึงยามที่ฮ่องเต้ยงเซวียนรุ ดมาถึงตาหนักบูรพา ขันทีที่รับผิดชอบ
เลี้ยงม้าของรัชทายาทตัวนั้นก็ฆ่าตัวตายหนีโทษแล้ว คนที่ตามรัช
ทายาทออกนอกเมืองล้วนถูกจับกุมแยกกันสอบสวน
ฮ่องเต้ยงเซวียนเข้าตาหนักใหญ่ของตาหนักบูรพา ฮองเฮาและพระ
ชายารัชทายาทกาลังร่ าไห้ “ถวายบังคมฝ่ าบาท!” ฮองเฮาฝื นทนความ
เศร้าโศกถวายบังคมฮ่องเต้ยงเซวียน นางมีรัชทายาทเป็ นบุตรชาย
เพียงคนเดียว นี่เป็ นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลชีของนาง!
มองดูรัชทายาทที่ใบหน้าซีดเซียวนอนอยูต่ รงนั้น ใจนางแทบแหลก
สลาย
“จื่อถงลุกขึ้นเถิด” ฮ่องเต้ยงเซวียนพูดเสี ยงอ่อนโยน จากนั้นถาม
หมอหลวงว่า “สภาพของรัชทายาทเป็ นเช่นไร เมื่อไรจะฟื้ น”
หมอหลวงที่อยูเ่ วรในสานักหมอหลวงล้วนมาจนหมด ย่วนพ่าน*รี บ
เข้ามากราบทูลว่า “กราบทูลฝ่ าบาท บาดแผลที่อื่นบนตัวองค์รัช
ทายาทล้วนไม่ร้ายแรง มีเฉพาะส่ วนศีรษะ” พูดถึงตรงนี้เขาหยุดที
หนึ่ง “กระหม่อมใช้เข็มทองตรวจดูแล้ว ส่ วนศีรษะของรัชทายาทมี
โลหิตก้อนหนึ่ง หากไม่กาจัดโลหิตก้อนนี้ รัชทายาทก็ไม่อาจฟื้ น
ขึ้นมาได้พะ่ ย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นยังรออะไรอีก ยังไม่รีบกาจัดเลือดก้อนนั้นให้รัชทายาทอีก”
ฮองเฮาร้อนรนจนทนไม่ไหว รัชทายาทนอนอยูเ่ ช่นนี้ นางใจ
กระสับกระส่ ายจริ งๆ!
ย่วนพ่านกลับสี หน้าลาบากใจ หมอหลวงคนอื่นต่างก็หลุบหน้าต่าลง
ฮ่องเต้ยงเซวียนเห็นดังนั้นจึงถามว่า “มีอะไรผิดปกติใช่หรื อไม่”
ย่วนพ่านลังเลครู่ หนึ่ง กล่าวราวกับยอมสละตน “กลาบทูลฝ่ าบาท
กระหม่อมไร้สามารถ! ก้อนโลหิตที่ส่วนศีรษะของรัชทายาทได้แต่
รอให้สลายไปเอง กระหม่อมทั้งหลายไม่กล้าลงมือโดยพลการ” พูด
จบเขาก็คุกเข่าลงไปอีก นัน่ เป็ นส่ วนศีรษะนะ หากผิดพลาดเพียง
เล็กน้อยรัชทายาทต้องตายทันที รัชทายาทตายแล้ว ทั้งสานักหมอ
หลวงล้วนต้องศีรษะหลุดตาม
หมอหลวงคนอื่นก็วา่ ตามกัน “พวกกระหม่อมไร้สามารถ ขอฝ่ าบาท
ลงโทษด้วย!” แต่ละคนยิง่ หลุบศีรษะต่าลงไปอีก ในใจเต้นรัว
ฮ่องเต้ยงเซวียนยังไม่ทนั พูด ฮองเฮากลับกริ้ วก่อนแล้วว่า “ไร้
สามารถ หากรักษารัชทายาทไม่ได้ ข้าต้องเด็ดศีรษะพวกเจ้าแน่”
จากนั้นคุกเข่าเสี ยงดังตุบลงข้างเท้าฮ่องเต้ยงเซวียนว่า “ฝ่ าบาท
หม่อมฉันมีบุตรชายคนนี้เพียงคนเดียว ฝ่ าบาทต้องช่วยเขานะเพคะ!”
เหล่าหมอหลวงเพียงแต่คุกเข่าโขกศีรษะว่า “ขอฝ่ าบาท ฮ่องเฮา
โปรดลงโทษ!” แต่ละคนในใจรันทด เพียงแต่ขอให้ฝ่าบาทสามารถ
ลงโทษเบาหน่อยเนื่องจากเห็นแก่กฎหมายไม่ลงโทษคนหมู่มาก
ฮ่องเต้ยงเซวียนสี หน้าเรี ยบเฉย พยุงฮองเฮาขึ้นมาก่อนว่า “จื่อถงวาง
ใจได้ รัชทายาทเป็ นบุตรชายของข้า ข้าเป็ นบุตรมังกร บุตรชายของ
ข้าก็คือบุตรมังกร เขาต้องไม่เป็ นไรแน่นอน เจ้าก็เหนื่อยมานานแล้ว
ที่นี่มีพระชายารัชทายาทอยู่ เจ้ากลับไปพักสักครู่ เถอะ”
ฮองเฮากลับส่ ายหน้าว่า “หม่อมฉันไม่เหนื่อย ต่อให้หม่อมฉัน
กลับไปก็ไม่อาจวางใจได้ หม่อมฉันจะเฝ้ารัชทายาทอยูท่ ี่นี่ ฝ่ าบาท
หม่อมฉันแทบอยากเป็ นแทนรัชทายาทเพคะ!” คาพูดนี้กลับเป็ น
ความจริ ง นางยอมให้คนที่บาดเจ็บเป็ นนางเสี ยดีกว่า โดยที่ไม่ใช่รัช
ทายาทของนาง!
ฮ่องเต้สะเทือนใจยิง่ นัก ตบมือของนางว่า “ในเมื่อเจ้าไม่วางใจก็อยู่
ที่นี่เถอะ เหนื่อยแล้วก็พกั สักครู่ อย่าฝื นทน อย่าให้รัชทายาทฟื้ น
มาแล้วเจ้ากลับล้มป่ วยเสี ยเอง พระชายารัชทายาท ดูแลฮองเฮาให้ดี”
หลังจากปลอบใจฮองเฮาแล้ว ฮ่องเต้ยงเซวียนถึงเบนสายตาไปที่
เหล่าหมอหลวงที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้นว่า “อาการของรัชทายาทยังต้อง
รบกวนทุกท่านลาบากหน่อย ขอเพียงช่วยให้รัชทายาทฟื้ นได้ ข้ามี
รางวัลให้อย่างงาม มิเช่นนั้น ฮึ!”
ความหมายของเสี ยงฮึคนที่อยูท่ ี่นี่ในใจล้วนเข้าใจดี “พวกกระหม่อม
น้อมรับบัญชา” ภายใต้การนาของใต้เท้าย่วนพ่าน พวกหมอหลวงรับ
บัญชาตามๆ กัน ในใจกลับแอบร้องว่ารันทด ครั้งนี้เกรงว่าจะร้าย
มากกว่าดีแล้ว
ฮ่องเต้ยงเซวียนรับสัง่ หมอหลวงเสร็ จแล้วจึงออกจากตาหนักบูรพา
และพบองค์ชายรองที่รีบเร่ งรุ ดมาข้างนอก องค์ชายรองเข้ามาด้วยสี
หน้าร้อนรนวา “เสด็จพ่อ รัชทายาทเป็ นเช่นไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ยงเซวียนกลับมองบุตรชายคนนี้ไม่พดู สายตาพินิจพิเคราะห์
นัน่ ทาให้องค์ชายรองม่านตาหดโดยพลัน ในใจแอบร้องทุกข์วา่
‘เสด็จพ่อสงสัยเขาอยู!่ เสด็จพ่อจะไม่สงสัยเขาได้อย่างไร รัชทายาท
เกิดเรื่ องคนที่ได้รับประโยชน์ที่สุดก็คือเขามิใช่หรื อ ทว่าเรื่ องนี้เขา
ไม่ได้เป็ นคนทาจริ งๆ! ได้ยนิ ข่าวรัชทายาทตกม้าเขาก็ตกตะลึงมาก
เช่นกัน!’
ฮ่องเต้ยงเซวียนเห็นสี หน้าไม่ได้รับความเป็ นธรรมบนใบหน้าของ
องค์ชายรอง สี หน้าจึงอ่อนโยนลงเล็กน้อย “รัชทายาทยังไม่ฟ้ื น หมอ
หลวงกาลังรักษาอยูข่ า้ งใน เจ้าห่วงใยรัชทายาทข้าปลาบปลื้มมาก
กลับไปเถอะ อย่าเข้าไปวุน่ วายหมอหลวงรักษาเลย”
“พ่ะย่ะค่ะ ลูกน้อมรับบัญชา” องค์ชายรองตอบอย่างนอบน้อม
ตามหลังฮ่องเต้ยงเซวียนกลับไป
สามวันแล้ว ผ่านไปสามวันแล้ว รัชทายาทยังไม่ฟ้ื น เหล่าขุนนางต่าง
กระเ**่้ยนกระหือรื อขึ้นมา หากรัชทายาทเป็ นอะไรไป เช่นนั้น…
พวกเขาแอบคานวณองค์ชายไม่กี่คนที่บรรลุนิติภาวะแล้วของฝ่ า
บาท ในใจล้วนมีแผนการของตน
ที่จริ งคนตาสว่างต่างสามารถมองออก ในบรรดาองค์ชายทั้งหลายก็
มีองค์ชายรองที่โดดเด่นที่สุด เจ้าตัวมีความสามารถ นิสยั ก็ถ่อมตนมี
มารยาท บ้านทางมารดายังมีอานาจ มองดูองค์ชายใหญ่และองค์ชาย
สามอีก องค์ชายสามพิการ ถูกตัดออกตั้งนานแล้ว องค์ชายใหญ่
ฐานะค่อนข้างมิอาจกล่าวถึง สามารถออกจากตาหนักโยวหมิงได้ก็
ไม่เลวแล้ว ยังริ อ่านคิดตาแหน่งใหญ่อีก เป็ นไปไม่ได้เด็ดขาด
เมื่อเป็ นเช่นนี้ ขอเพียงรัชทายาทมีอะไรไม่คาดคิด ตาแหน่งเบื้องบน
นั้นต้องเป็ นขององค์ชายรองแน่แล้ว เหล่าขุนนางที่ถนัดเสาะหา
ช่องทางแม้ภายนอกไม่กระโตกกระตาก กลับเริ่ มเอาใจองค์ชายรอง
ลับๆ แล้ว
ส่ วนองค์ชายรองบัดนี้กลับกาลังถูกด่าทออยูต่ าหนักบูรพา
“ไสหัวไป เจ้าไสหัวออกไป ไม่ตอ้ งมาเสแสร้ง อย่านึกว่าข้าไม่รู้ใน
ใจเจ้าคิดอย่างไร ข้าจะบอกให้ เจ้าไม่มีทางสมหวังหรอก รัชทายาท
ของข้าต้องฟื้ น ต้องดีข้ ึนแน่นอน” ฮองเฮามององค์ชายรองอย่าง
โกรธเคือง อย่างไรนางก็เป็ นมารดาของแผ่นดิน อย่างไรก็มี
ประสบการณ์ รัชทายาทเกิดเรื่ อง ใครได้ประโยชน์ที่สุด ก็คือ
บุตรชายคนดีของซู่เฟยมิใช่หรื อ ไม่แน่ที่รัชทายาทตกม้าก็เป็ นฝี มือ
ของเขา แล้วยังทาทีกลัดกลุม้ มาเยีย่ มที่ตาหนักบูรพาทุกวัน พังพอน
อวยพรปี ใหม่ให้ไก่** ไม่หวังดี!
“เสด็จแม่ ไยท่านถึงมองลูกเช่นนี้ ลูกเพียงแต่เป็ นห่วงอาการบาดเจ็บ
ของรัชทายาทเท่านั้น!” องค์ชายรองท่าทางเหมือนน้อยใจเต็มประดา
“คาพูดบาดใจของเสด็จแม่ ลูกไม่กล้ารับจริ งๆ!”
“ไม่กล้ารับก็ไสหัวไป เจ้าอย่ามาเสแสร้งอยูน่ ี่หน่อยเลย ออกไป
ออกไป!” ฮองเฮาฮึเสี ยงเย็น แล้วแผดเสี ยงชี้ประตูตาหนัก
องค์ชายรองกาหมัดทีหนึ่ง พูดเสี ยงกังวานว่า “รัชทายาทได้รับ
บาดเจ็บ เสด็จแม่ในใจท่านโศกเศร้า ลูกเข้าใจความรู ้สึกของเสด็จแม่
เช่นนั้นลูกขอตัวก่อน พรุ่ งนี้ลูกค่อยมาเยีย่ มใหม่” คารวะทีหนึ่งแล้ว
ถอยออกจากตาหนัก
ฮองเฮาจ้องเงาหลังขององค์ชายรอง ลึกเข้าไปในดวงตาแวบแสง
อามหิต ยากจะเข้าใจ
การถกเถียงครั้งนี้ของตาหนักบูรพาลือไปถึงหูของฮ่องเต้ยงเซวียนอ
ย่างรวดร็ว มือที่ตรวจเอกสารชะงักทีหนึ่ง “อ้อ” เสี ยงหนึ่งแล้วก็ไม่
เอ่ยต่อ ผ่านไปพักใหญ่ถึงพูดอีกประโยคหนึ่งว่า “ฮองเฮาเสี ยใจ
เกินไป องค์ชายรองช่างกตัญญู”
ฉินซู่เฟยกลับไม่มีการอบรมที่ดีเหมือนฮ่องเต้ยงเซวียน นางโกรธจน
ขว้างข้าวของ “ยัยแก่นนั่ นางบังอาจยา่ ยีบุตรชายข้าเช่นนี้” โมโหจะ
ตายอยูแ่ ล้ว โมโหจะตายแล้วจริ งๆ
ย้อนกลับมาชี้บุตรชายด่าอีกว่า “เจ้าก็ดว้ ย คนเขาไม่พิศวาส เจ้ายังเข้า
ไปหาเรื่ องโดนด่า ห้ามไป ตั้งแต่พรุ่ งนี้เป็ นต้นไป ห้ามเจ้าไปตาหนัก
บูรพาอีก”
องค์ชายรองกลับยิม้ ว่า “เสด็จแม่วางใจได้ เสด็จแม่กาลังโกรธ ด่า
สองคาไม่เจ็บไม่คนั ลูกทนได้” เขายังอยากให้ฮองเฮาด่าให้โหดกว่า
นี้แทบทนไม่ไหว จะได้ให้เสด็จพ่อและเหล่าขุนนางเห็นความ
กตัญญูรักพี่นอ้ งของเขา
*ย่วนพ่าน คือ ตาแหน่งหนึ่งในกรมหมอหลวง
**พังพอนอวยพรปี ใหม่ให้ไก่ หมายถึง การที่คนชัว่ มามอบของบาง
สิ่ งให้ เพราะมุ่งหวังสิ่ งตอบแทนที่ล้ าค่ากว่า ในที่นี่เปรี ยบว่าพังพอน
เอาของมาล่อไก่เพือ่ ที่จะกินไก่ตวั นั้น
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 279-1 ใจร้ อนเกิน
ขี่อาชาเปี่ ยมสุ ขกลางสายลมวสันต์ เพียงหนึ่งวันชมทิวทัศน์ทวั่ ฉาง
อัน
จอหงวนเซี่ยหมิงผูท่ ี่ได้รับพระราชทานงานแต่งเรี ยกได้วา่ ประสบ
ความสาเร็ จตั้งแต่วยั เยาว์ เช่นนั้น เว่ยจิ่นอวี้ที่ได้ตาแหน่งทัน่ ฮวาก็อดั
อั้นเหลือจะกล่าวแล้ว
ในสายตาผูอ้ ื่นทัน่ ฮวาอาจเป็ นอันดับที่ดีมากแล้ว เพราะอย่างไรเสี ย
ทุกสามปี จึงจะรับข้าราชการสามร้อย สามารถสอบติดอันดับที่สาม
ของทั้งประเทศก็ร้ายกาจมากแล้ว ทว่าจากที่เว่ยจิ่นอวี้มอง นี่กลับ
เป็ นความอัปยศ เดิมเขาก็เป็ นอัจฉริ ยบุคคลที่ชื่อเสี ยงโด่งดังในเมือง
หลวงอยูแ่ ล้ว อีกทั้งในการสอบฤดูใบไม้ร่วงปี ที่แล้วได้เจี่ยหยวน
อันดับแรกอีก การสอบฤดูใบไม้ผลิปีนี้เขามุ่งเป้าไปที่จอหงวนอย่าง
ลาพอง
ไม่คิดว่าไม่เพียงจอหงวนถูกเด็กไร้ชื่อเสี ยงเรี ยงนามชิงไป แม้แต่
อันดับสองปั๋งเหยีย่ นเขาก็ไม่ได้ ได้แต่อดั อั้นรับตาแหน่งทัน่ ฮวา จะ
ให้เขาใจสบายได้อย่างไร
ต่อหน้ามิตรสหายร่ วมห้องเรี ยนที่มาอวยพร เขาได้แต่ฝืนทาร่ าเริ ง
พอหันหลังรอยยิม้ บนใบหน้าก็หายไปอย่างไม่เห็นร่ องรอยทันที
ทัน่ ฮวา ทัน่ ฮวา ไยถึงไม่ใช่จอหงวนนะ ข้างหน้ามีจอหงวนที่อายุ
น้อยกว่าความสามารถมากกว่ากดอยู่ ยิง่ กว่านี้บดั นี้ยงั เป็ นพระราช
บุตรเขยขององค์หญิงสามรัชกาลปัจจุบนั ใครยังจะมองเห็นเขาเว่ยจิ่
นอวี้อีก เมื่อไรเขาถึงจะเงยหน้าอ้าปากได้ เงยหน้าอ้าปากไม่ได้เขาจะ
เอาอะไรไปเชิดชูจวนหย่งหนิงโหว หรื อว่าจวนหย่งหนิงโหวของ
เขาต้องอาศัยจมูกจวนหย่งกัว๋ กงหายใจไปทั้งชาติ ไม่ เขาไม่ยอม!
เว่ยจิ่นอวี้หงุดหงิดสุ ดขีด มักรู ้สึกว่าในใจมีไฟมารสายหนึ่งเอาไม่
ออก บังเอิญเจอสาวใช้เข้ามาส่ งน้ าชา แววตาเขาชะงัก ลากสาวใช้
คนนี้เข้ามากดลงบนโต๊ะหนังสื อโดยพลัน
เสิ่ นเสวี่ยที่นาสาวใช้มาส่ งน้ าแกงบารุ งให้เว่ยจิ่นอวี้ยนื อยูน่ อกห้อง
หนังสื อด้วยใบหน้าไร้ซ่ ึงอารมณ์ ฟังเสี ยงกามคาพูดต่าช้าที่ดงั มาจาก
ในห้องหนังสื อ ในแววตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน นางหัวเราะเยาะ
เสี ยงหนึ่งแล้วหันหลังจากไป เดิมนึกว่าเป็ นคนดี ที่แท้กเ็ ป็ นเพียงหัว
เทียนหอกเงิน*ที่เปลือกนอกสุ กใส เพียงปี กว่า ความกระตืนรื อร้น
ของเสิ่ นเสวี่ยก็มอดหมดแล้ว ใจก็ทอ้ แท้แล้ว
รัชทายาทตกม้า ใจของเหล่าขุนนางเริ่ มไม่มนั่ คงขึ้นมา อย่าว่าแต่
พวกที่มุงดู แม้แต่ขนุ นางฝ่ ายรัชทายาทก็กระวนกระวายใจ รัช
ทายาทจะฟื้ นมาได้หรื อไม่ยงั เอาแน่ไม่ได้ ต่อให้ฟ้ื นแล้วจะสามารถ
ฟื้ นตัวดังเดิมได้หรื อไม่อีก นี่กพ็ ดู ยาก ได้ยนิ ว่าที่รัชทายาทบาดเจ็บ
คือส่ วนศีรษะ ซื่อจื่ออู่อนั โหวคนก่อนก็บาดเจ็บที่ศีรษะมิใช่หรื อ
หลังจากช่วยจนฟื้ นแล้วก็เปลี่ยนไปเหมือนเด็ก
ขุนนางที่เอาใจองค์ชายรองเพิ่มขึ้นเรื่ อยๆ ทว่าองค์ชายรองกลับ
ไม่ได้ได้ใจเพราะการนี้ ตรงกันข้ามกลับยิง่ ถ่อมตนเลี่ยงปั ญหาขึ้นมา
ทุกวันนอกจากไปเยีย่ มรัชทายาทที่ตาหนักบูรพา ก็ไปเข้าเวรที่กรม
คลัง เข้าเวรเสร็ จก็กลับจวนองค์ชาย และไม่ได้สมาคมกับเหล่าขุน
นางมากจนเกินไป การแสดงออกของเขาเช่นนี้ตกไปอยูใ่ นสายตาใต้
เท้าไม่กี่ท่านของคณะเสนาบดีแล้วว่าช่างวางตัวดีปฏิบตั ิตวั ดีน่า
ชมเชย แม้แต่ฮ่องเต้ยงเซวียนก็พอใจมาก เรี ยกเขามาปรึ กษาราชกิจ
บ่อยครั้ง
ฝ่ าบาทสอบมาสามวันแล้ว ผูต้ ิดตามที่ตามรัชทายาทออกนอกเมือง
ล้วนถูกโบยจนหนังเปิ ดเนื้อแตก ในที่สุดก็สอบได้คนน่าสงสัยคน
หนึ่ง และยังเป็ นคนที่ทุกคนนึกไม่ถึง คนผูน้ ้ ีติดตามอยูข่ า้ งกายรัช
ทายาทมาเจ็ดปี แล้ว เป็ นคนที่ฮองเฮาชีพาเข้าวังมาจากตระกูลชีใน
ตอนนั้น ดูท่าทางจงรักภักดีจึงให้รัชทายาทไว้ ใครจะคิดว่าคนคนนี้
จะเป็ นสายลับที่ผอู ้ ื่นวางไว้
ฉวยโอกาสที่ทุกคนกาลังตื่นตะลึง คนผูน้ ้ ีกดั ลิ้นฆ่าตัวตายเสี ยแล้ว
ทาให้ขนุ นางที่พิพากษาโกรธจนเฆี่ยนศพอยูค่ รึ่ งชัว่ ยามถึงหายแค้น
เบาะแสมาถึงตรงนี้จึงขาดหายไปหมด ลาบากมานานถึงเพียงนี้ยงั
ต้องสื บใหม่ต้ งั แต่ตน้ อีก จะไม่ให้คนอัดอั้นตันใจได้อย่างไร
“ท่านเสนาบดี สวรรค์ช่างเข้าข้างเราจริ งๆ!” ใต้เท้าฟังจ้งนัง่ อยูใ่ น
ห้องหนังสื อของเสนาบดีฉิน สี หน้าชื่นชมยินดี ในใจทอดถอนใจว่า
‘อย่างไรก็องค์ชายรองโชคดี ไม่ตอ้ งทาอะไรทั้งนั้น รัชทายาทก็ตก
ม้า ผ่านไปสามวันแล้ว โอกาสที่รัชทายาทจะฟื้ นน้อยเหลือเกิน’
เสนาบดีฉินลูบหนวดยิม้ ว่า “ยิง่ เป็ นเวลาเช่นนี้ยงิ่ ต้องรอบคอบ เตือน
คนข้างล่าง สงบเสงี่ยมหน่อย ให้ทางานไปแต่โดยดี”
ฟังจ้งใจสัน่ ว่า “ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจ” เขาไม่ได้ยอมรับแผนการของ
เสนาบดีฉินอย่างเต็มที่ ตาเป็ นประกายแล้วพูดต่อว่า “เช่นนั้นที่เรา
เตรี ยมการไว้ตอนแรกยังจะทาต่อหรื อไม่ขอรับ”
เสนาบดีฉินยิม้ ส่ ายหน้าว่า “ช่างเถอะ รามือเถอะ”
ฟังจ้งพยักหน้า ก่อนหน้านี้พวกเขาเตรี ยมการจะสร้างเรื่ องในการ
สอบฤดูใบไม้ผลิ หากปูดออกมาว่าการสอบฤดูใบไม้ผลิมีทุจริ ตหรื อ
มีขอ้ สอบรั่ว เช่นนั้นซ่างซูฝ่ายพิธีการในฐานะผูค้ ุมสอบต้องถูก
ลงโทษอย่างหนักแน่ กระทัง่ ยังพัวพันไปถึงรัชทายาท บัดนี้รัช
ทายาทตกม้าหมดสติ พวกเขาย่อมไม่ตอ้ งวางอุบายกับการสอบฤดู
ใบไม้ผลิอีก กลับทาให้ตาเฒ่าฝ่ ายพิธีการนัน่ รอดเคราะห์ไปได้
ส่ งฟังจ้งไปแล้ว เสนาบดีฉินอารมณ์ดีนกั ความซึมเศร้าที่ผลู ้ ้ ีภยั บุก
เข้าจวนถูกกวาดจนเกลี้ยง เขาเอามือไพล่หลังเดินเข้าห้องลับในห้อง
หนังสื อ “ท่านเฉิงอ๋ องช่วงนี้อยูค่ ุน้ เคยหรื อไม่” ที่แท้เสนาบดีฉินย้าย
อ๋ องเคียงบ่าเฉิงอี้ไปไว้ในห้องลับในห้องหนังสื อแล้ว
“ดูท่าทางเจ้าทาเรื่ องชัว่ ช้าอะไรอีกแล้วกระมัง” เฉิ งอี้แค่นเสี ยงเย็นที
หนึ่ง “หากย้ายป้ายวิญญาณของบิดาที่น่าขยะแขยงของเจ้าออกไปข้า
จะอยูส่ บายยิง่ กว่านี้” ฉิ นเฮ่อก็คือคนถ่อยเจ้าเล่ห์ต้ งั แต่ตน้ จนจบ ไย
เขาถึงตาบอดเป็ นสหายสนิทกับเขามาตั้งหลายปี ปานนั้นจนทาให้ถูก
ลอบกัดถูกคุมขังอยูใ่ นห้องลับในจวนเสนาบดีที่มืดมิดไร้ตะวันแห่ง
นี้
เสนาบดีฉินไม่โกรธเลยแม้แต่นอ้ ย รอยยิม้ บนใบหน้าไม่ได้
เปลี่ยนไปเลย “เช่นนั้นต้องขออภัยด้วยจริ งๆ บิดาข้ายังชอบอยู่
ด้วยกันกับท่านเฉิงอ๋ อง” หยุดครู่ หนึ่งเขาพูดอีกว่า “วันนี้ขา้ มีข่าวดีมา
แบ่งปันกับท่านเฉิงอ๋ อง รู ้หรื อไม่ รัชทายาทตกม้าแล้ว นี่ผา่ นไปสาม
วันแล้วยังไม่ฟ้ื น ได้ยนิ ว่าบาดเจ็บที่ศีรษะ เห็นสี หน้าของฝ่ าบาทแล้ว
เกรงว่ารัชทายาทคราวนี้จะร้ายมากกว่าดี” เมื่อนึกถึงตรงนี้เขาก็
อารมณ์ดีอย่าบอกใคร เพื่อวันนี้เขาเตรี ยมการมาตั้งหลายปี ไม่คิดว่า
จู่ๆ ทุกอย่างก็มาถึงมือเขาแล้ว
“อ้อถูกแล้ว รัชทายาทที่ตกม้าคนนี้ไม่ใช่หลานตาของท่านคนนั้น
หรอกนะ รัชทายาทองค์ปัจจุบนั คือองค์ชายสี่ เกิดจากฮองเฮาตระกูล
ชี ตาแก่ชีจิ้นซงนัน่ ท่านยังจาได้สินะ ฮองเฮาชีก็คือบุตรสาวของเขา”
เสนาบดีฉินอธิบายอย่างใจดี “ชีจิ้นซงตาแก่นี่ยงั มีโชคอยูบ่ า้ งจริ งๆ
ไม่มีความสามารถ ไม่มีฝีมือ เป็ นคนใจเสาะกลัวปั ญหา เขาดันได้
เป็ นพระสัสสุ ระของฝ่ าบาท ท่านว่าจะจะกล่าวอันใดได้ ทว่าบัดนี้
โชคดีของเขาถึงสุ ดทางแล้ว ควรเปลี่ยนตระกูลฉิ นของข้าลิ้มรสชาติ
นั้นบ้างแล้ว”
เฉิงอี้เบือนหน้าไปข้างๆ ขี้เกียจสนใจเขา
เสนาบดีฉินหัวเราะคิกคัก ไม่ใส่ ใจแม้แต่นอ้ ย หากแต่พดู ว่า “องค์
ชายใหญ่หลานตาของท่านถูกฝ่ าบาทปล่อยออกมาแล้ว ท่านไม่เห็น
เพิง่ จะอายุตน้ สามสิ บแท้ๆ แก่อย่างกับอายุสี่สิบอย่างไรอย่างนั้น อีก
ทั้งยังผอมจนเหลือแต่กระดูก ช่างน่าสงสาร ทว่าท่านเฉิ งอ๋ องท่าน
วางใจได้ องค์ชายใหญ่อย่างไรเสี ยก็เป็ นพระเชษฐาขององค์ชายรอง
ข้าจะดูแลเขาอย่างดีเอง ท่านว่าถูกหรื อไม่ หา ฮ่าๆๆ” มองไปที่
สายตาโกรธเกรี้ ยวของเฉิงอี้ เสนาบดีฉินหัวเราะอย่างลาพอง
“รัชทายาทตกม้าเป็ นฝี มือของเจ้าสิ นะ” เฉิ งอี้เผยสี หน้าเข้าใจแจ่ม
แจ้ง
“ยังคงเป็ นท่านเฉิงอ๋ องที่มีประสบการณ์!” เสนาบดีฉินเปิ ดอก
ยอมรับอย่างไม่คาดคิด “นี่เพราะรัชทายาทรนหาที่ตายเอง ตาหนัก
บูรพาดีๆ ไม่อยู่ จะออกไปล่าสัตว์นอกเมืองให้ได้ โอกาสลงมือดี
เช่นนี้ขา้ จะปล่อยไปได้อย่างไรกัน” แม้เพราะการนี้จะทาให้สูญเสี ย
หมากที่ฝังลึกไว้หลายปี ทว่าเขายังคงรู ้สึกว่าคุม้ ค่ามาก รัชทายาทจบ
เห่แล้ว ต่อจากนี้ควรให้ตระกูลฉินของเขาแต่งตัวออกโรงแล้ว!
“สวรรค์มีตา ฉินชังเสี่ ยวเอ๋ อร์เจ้าทาร้ายบุตรฮ่องเต้ ต้องเจอกรรม
ตามสนอง” ตาของเฉิงอี้สว่างจนน่ากลัว
ที่ตอบเขาคือเสี ยงหัวเราะร่ าของเสนาบดีฉิน “กรรมตามสนอง! ข้า
รออยู”่ ไม่เคยได้ยนิ หรื อว่าคนดีอายุไม่ยนื คนชัว่ อยูค่ ้ าฟ้า ในโลกนี้มี
กรรมตามสนองอะไรที่ไหน มีเพียงอานาจที่เป็ นของจริ ง อานาจอัน
สู งสุ ด!
สุ ดท้ายรัชทายาทยังคงไม่อาจฟื้ นขึ้นมาได้ เหล่าหมอหลวงรวบรวม
สติปัญญาใช้วิธีการทุกอย่างยังคงไม่อาจช่วยชีวติ เขากลับมาได้ ล่าช้า
อยูค่ รึ่ งเดือน รัชทายาทยังคงจากไปจนได้
ฮองเฮากอดร่ างของรัชทายาทราวกับคนบ้าไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้
“ไสหัวไป ไสหัวไปให้หมด รัชทายาทเพียงแค่หลับไปเท่านั้น ห้าม
พวกเจ้าแตะต้องรัชทายาท”
ไม่วา่ นางกานัลขันทีกล่อมอย่างไร ฮองเฮาก็ไม่ยอมให้ใครแตะต้อง
ศพของรัชทายาท สุ ดท้ายยังคงเป็ นฮ่องเต้ยงเซวียนเสด็จมา ฝื นทน
ความเศร้าโศกในใจเกลี้ยกล่อมว่า “จื่อถง รัชทายาทจากไปแล้ว
อย่างไรก็ให้เขาได้ฝังศพสู่ สุคติเถอะ” ในใจเขาเองก็เสี ยใจมาก นี่คือ
รัชทายาทของเขา เป็ นรัชทายาทที่เขาสัง่ สอนมากับมือ จากไปทั้ง
อย่างนี้แล้ว ยังไม่ถึงยีส่ ิ บก็จากไปแล้ว เขาจะไม่ปวดใจได้อย่างไร
ในโลกนี้ที่น่าเศร้าโศกที่สุดก็คือคนผมหงอกส่ งคนผมดา ฮ่องเต้ยงเซ
วียนเป็ นกษัตริ ย ์ ทว่าเขาก็เป็ นบิดาคนหนึ่งเช่นกัน
ฮองเฮาร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดว่า “ฝ่ าบาท บุตรของเรา รัช
ทายาทของเรานะ!” นางราวกับหมาป่ าเฒ่าที่สูญเสี ยลูกไป โทมนัส
ถึงขีดสุ ด แก่ลงสิ บปี ในชัว่ พริ บตา
“ฝ่ าบาท ท่านต้องแก้แค้นให้รัชทายาทให้ได้นะเพคะ! รัชทายาทตาย
อย่างอนาถ น่าแค้นใจนัก!” ฮองเฮาแหงนหน้าที่นองด้วยน้ าตา
วิงวอน ในดวงตาเต็มไปด้วยความแค้น
ฮ่องเต้ยงเซวียนตบหลังนางว่า “จื่อถงวางใจ รัชทายาทเป็ นบุตรชาย
ของข้าเช่นกัน ข้าจะไม่ปล่อยคนร้ายที่อยูเ่ บื้องหลังไปเด็ดขาด”
ตั้งแต่ปีที่แล้วเสิ่ นผิงยวนกลับเมืองหลวง ในราชสานักก็เกิดเรื่ อง
ติดๆ กัน ราวกับมีมือข้างหนึ่งชักใยทุกอย่างอยูใ่ นความมืด ข้างเตียง
ของตนจะยอมให้ผอู ้ ื่นมานอนกรนได้อย่างไร**เขาต่างหากเป็ น
กษัตริ ยแ์ ห่งต้ายง จะให้เขาทนต่อไปได้อย่างไร
ทันทีที่ข่าวรัชทายาทลือออกไป เสิ่ นเวยก็ได้รับข่าวสองข่าว ข่าว
หนึ่งส่ งมาจากหลี่จ้ือหย่วนฝ่ ายตรวจการ ข่าวหนึ่งส่ งมาจากเจียงเฉิ น
เจียงเฉินบัดนี้ไม่อยูส่ านักราชบัณฑิตหลวงแล้ว ถูกย้ายไปทางาน
หน้าพระที่นงั่ สองข่าวนี้พดู ถึงเรื่ องเดียวกัน
“คนบางคนนัง่ ไม่ติดแล้ว” เสิ่ นเวยยืน่ กระดาษสองแผ่นให้เสิ่ นโย่ว
เสิ่ นโย่วรับกระดาษมาดู แล้วพูดนิ่งเรี ยบว่า “นัน่ สิ คนบางคนใจร้อน
เกินไปแล้ว”
วันก่อนฝ่ าบาทเพิ่งให้องค์ชายใหญ่ไปรับหน้าที่ที่กรมข้าราชการพล
เรื อน วันนี้กไ็ ด้รับข่าวบอกว่ามีขนุ นางยืน่ ฎีการ้องเรี ยนผิงจวิน้ อ๋ อง
รวบรวมพรรคพวกเพื่อประโยชน์ส่วนตน
รวบรวมพรรคพวกเพื่อประโยชน์ส่วนตน รวบรวมพรรคพวกเพื่อ
ประโยชน์ส่วนตนงั้นหรื อ! เพราะว่ากองทหารเด็กช่วยต่อต้านผูล้ ้ ีภยั
จวนต่างๆ จึงมาเยือนเพื่อขอบคุณมิใช่หรื อ นี่กเ็ ป็ นการรวบรวม
พรรคพวกเพื่อประโยชน์ส่วนตนแล้วหรื อ หรื อเห็นว่าองค์ชายใหญ่
ออกมารับราชการแล้ว นัน่ ก็เพราะพระชายาองค์ชายใหญ่ให้กาเนิด
พระราชนัดดาองค์หนึ่ง อีกทั้งฝ่ าบาทก็ให้ความสาคัญมากอีกมิใช่
หรื อ มิใช่เพราะสวีโย่วและองค์ชายใหญ่มีความสัมพันธ์อนั ดีหรอก
หรื อ องค์ชายใหญ่เพิง่ รับตาแหน่ง ไม่มีจุดอ่อนใดๆ ให้จบั จึงคว้าสวี
โย่วลูกพลับอ่อนลูกนี้ไว้มิใช่หรื อ เสิ่ นเวยเย้ยหยันในใจ
คาดว่าในใจฮ่องเต้ยงเซวียนก็รู้ดีอยูแ่ ล้ว ดังนั้นฎีกาที่ร้องเรี ยนล้วน
ถูกเก็บไว้ หวังว่าปลวกพวกนี้จะเจียมตัว อย่ากระโดดโลดเต้นอีกเลย
มิเช่นนั้นนางจะให้พวกเขาได้เห็นดีแน่!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 279-2 ใจร้ อนเกิน
งานพิธีศพของรัชทายาทย่อมมีกรมพิธีการจัดการ ฮองเฮาทุกข์ทน
จากการสู ญเสี ยบุตรรัก ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก จึง
ล้มป่ วยทันที ในฐานะสมาชิกเชื้อพระวงศ์เสิ่ นเวยย่อมต้องเข้าวังไป
เยีย่ ม
ยามที่เสิ่ นเวยไปถึงตาหนักคุนหนิง บังเอิญฮ่องเต้ยงเซวียนก็อยู่ เสิ่ น
เวยเข้าไปถวายพระพรอย่างว่าง่าย นางมองดูสีหน้าทรุ ดโทรมของ
ฮองเฮาแล้ว ในใจสะท้อนใจยิง่ นัก ยามนี้ในปี ที่แล้วฮองเฮายังจูงมือ
นางล้อเล่นอย่างสนิทสนม ยามนั้นสี หน้าของฮองเฮาดีเพียงใด บัดนี้
ทัว่ ร่ างกายฟุ้งไปด้วยกลิ่นอายของความท้อแท้ เหมือนยายเฒ่าไม้
ใกล้ฝั่ง
“ฮองเฮา ท่านต้องรักษาพระวรกายนะเพคะ! ดูท่านผ่ายผอมจนเป็ น
เช่นนี้ ท่านเสวยให้มากหน่อยนะเพคะ!” เสิ่ นเวยดวงตาแฝงความ
ห่วงใย แม้นางไม่ได้รู้สึกดีกบั ฮองเฮาอย่างลึกซึ้งมากนัก ทว่าไม่วา่
จะเล่นละครหรื อว่ามีจุดประสงค์อื่น อย่างน้อยฮองเฮาก็ประทาน
รางวัลให้นางหลายครั้ง เทียบกับฉินซู่เฟยที่กระแนะกระแหนนาง
ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน ฮองเฮาน่ารักกว่ามาก ยิง่ กว่านั้นสตรี ที่
สู ญเสี ยบุตรมักน่าเห็นใจ ดังนั้นความห่วงใยของเสิ่ นเวยไม่เสแสร้ง
เลยแม้แต่นอ้ ย
ฮองเฮาย่อมรู ้สึกได้ถึงความจริ งใจของเสิ่ นเวย จึงพูดอย่างซาบซึ้งว่า
“เด็กดี ข้ารู ้วา่ เจ้าเป็ นเด็กดี” หลายวันมานี้คนที่มาเยีย่ มนางที่ตาหนัก
คุนหนิง นอกจากญาติสตรี ของตระกูลชี มีคนไหนบ้างไม่ได้มาเพื่อ
เอาหน้า พวกนางปากพูดได้น่าฟัง ในใจยังไม่รู้วา่ หัวเราะเยาะนาง
อย่างไรเลย โดยเฉพาะฉินซู่เฟยนางคนต่าช้านัน่ ความลาพองใจที่อยู่
ลึกเข้าไปในดวงตาปิ ดก็ปิดไม่มิด
มีเพียงจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ แม่นางน้อยที่เติบโตในชนบทจริ งใจที่สุด คน
พวกนั้นแทบอยากให้ตนไม่กินไม่ดื่ม รี บตายๆ ไปเสี ยจะได้ขยับ
ตาแหน่งให้ซ้ า
ฮ่องเต้ยงเซวียนที่อยูข่ า้ งๆ จู่ๆ ก็พดู อย่างไม่ใส่ ใจว่า “จยาฮุ่ย เจ้ารู ้
หรื อไม่วา่ มีคนร้องเรี ยนผิงจวิน้ อ๋ องรวบรวมพรรคพวกเพื่อ
ประโยชน์ส่วนตน”
เสิ่ นเวยแอบกลอกตา จากนั้นทาท่าทางเหมือนประหลาดใจอย่างหา
ใดเปรี ยบมิได้วา่ “อะไรนะเพคะ รวบรวมพรรคพวกเพื่อประโยชน์
ส่ วนตนหรื อ ฝ่ าบาท ขุนนางท่านใดตาบอดเช่นนี้ ใบหน้าเย็นชาที่กีด
กันคนให้ห่างออกไปพันลี้ของคุณชายใหญ่ของหม่อมฉันจะ
รวบรวมพรรคพวกเพื่อประโยชน์ส่วนตนได้อย่างไร เขานอกจาก
สนิทชิดเชื้อกับองค์ชายใหญ่เล็กน้อยเนื่องด้วยมิตรภาพในวัยเยาว์
แม้แต่พี่นอ้ งในจวนอ๋ องเชื้อพระวงศ์บา้ นอื่นเขายังไม่ค่อยสนิทเลย
เขาจะไปรวบรวมพรรคพวกเพื่อประโยชน์ส่วนตนกับใครเพคะ”
หยุดครู่ หนึ่ง ทาปากเบ้พดู อย่างน้อยใจเหลือเกินว่า “ฝ่ าบาท คุณชาย
ใหญ่หม่อมฉันรวบรวมพรรคพวกเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรื อไม่
ท่านทรงรู ้ดีที่สุดมิใช่หรื อเพคะ ก่อนหน้านี้เขาล้มป่ วยไปหนึ่งเดือน
บัดนี้ร่างกายเพิ่งดีข้ ึนเล็กน้อย ประตูจวนยังไม่ได้ออกก็รวบรวม
พรรคพวกเพื่อประโยชน์ส่วนตนแล้ว ฝ่ าบาท ท่านบอกจยาฮุ่ย
แท้จริ งแล้วเป็ นใต้เท้าท่านใด หรื อว่าใต้เท้าพวกใด”
ฮ่องเต้ยงเซวียนมองเหล่วา่ “ทาไมหรื อ เจ้าคิดจะไปคิดบัญชี
ย้อนหลังถึงบ้านหรื อ” เรื่ องเช่นนี้เด็กแก่นผูน้ ้ ีนี่ทาได้แน่นอน
เสิ่ นเวยมีเหตุผลเต็มประดาว่า “นี่เป็ นเรื่ องกุข้ ึนชัดๆ นี่พวกเขาสร้าง
เรื่ องราคาญใจให้คุณชายใหญ่หม่อมฉันมิใช่หรื อเพคะ หากทาให้
คุณชายใหญ่โกรธจนล้มป่ วยอีกจะทาอย่างไร จยาฮุ่ยย่อมต้องไป
เยือนถึงบ้านถามพวกเขาว่ามีจุดประสงค์อนั ใดกันแน่”
ฮ่องเต้กระแอมทีหนึ่ง พูดอย่างไม่ค่อยเป็ นธรรมชาติวา่ “เหลวไหล!
ร้องเรี ยนเป็ นหน้าที่ของขุนนางตรวจการ ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าทา
เหลวไหลหรอก!”
เสิ่ นเวยบุย้ ปาก พยายามถกด้วยเหตุผล “เช่นนั้นก็มิอาจพูดเหลวไหล
ได้นะเพคะ! ขุนนางตรวจการมีไว้ทาอะไร ชี้ขอ้ ผิดพลาดเพื่อให้
แก้ไข สังเกตวาจาการกระทาของเหล่าขุนนาง ไม่ใช่ให้พวกเขาเอา
อานาจในมือหาประโยชน์ใส่ ตนนะเพคะ ฝ่ าบาท ท่านเข้าใจนิสยั
ของคุณชายใหญ่หม่อมฉันดีที่สุด อย่างน้อยเขาก็เป็ นพระราชนัดดา
แท้ๆ ของท่าน อีกทั้งเพิ่งหายจากป่ วยหนักมาหมาดๆ ท่านต้องดูแล
เอาใจใส่ สกั หน่อยนะเพคะ อย่าให้พวกตัวตลกพวกนั้นทาเขาโกรธ
นะเพคะ” เสิ่ นเวยร้องขออย่างเศร้าหมอง
หันหน้าไปร้องขอความเป็ นธรรมกับฮองเฮา “ฮองเฮา ท่านเห็น
หรื อไม่เพคะ คุณชายใหญ่หม่อมฉันเป็ นคนจริ งใจเพียงใด! โลกนี้ก็
ดันมีคนถ่อยที่เห็นคนอื่นดีไม่ได้ วันๆ เอาแต่หากระดูกในไข่ไก่
กระโดดขึ้นกระโดดลงไม่อยูส่ ุ ข คุณชายใหญ่หม่อมฉันเพิ่งอยูอ่ ย่าง
สงบสุ ขได้กี่วนั เองก็ถูกเพ่งเล็งแล้ว ท่านว่านี่มนั เรื่ องอะไรกันแน่เพ
คะ!”
ร้องขอความเป็ นธรรมเสร็ จ ต่อมาเปลี่ยนเรื่ องพูดทันที “ดังนั้น
ฮองเฮาท่านต้องทาพระทัยให้สบาย ควรเสวยให้มาก ควรดื่มให้มาก
เสวยดีดื่มดีบรรทมดีอารมณ์ดี พระชนมายุยนื ร้อยปี ให้พวกที่รอดู
เรื่ องตลกของท่านโกรธจนกระทืบเท้า หากท่านเศร้าโศกเสี ยพระทัย
เหยียบยา่ พระวรกายตนเอง คนถ่อยพวกนั้นก็จะได้ใจมิใช่หรื อเพคะ
ฮองเฮา เราจะทาเรื่ องโง่ๆ เช่นญาติมิตรเจ็บปวดผูม้ ีแค้นสะใจ***
เช่นนี้ไม่ได้นะเพคะ!” เสิ่ นเวยยุแยงได้ถนัดมือนักเชียว
คาพูดนี้จ้ ีใจดาฮองเฮา นางตบมือเสิ่ นเวยว่า “เด็กดี เจ้าพูดได้ถูกต้อง
เมื่อก่อนข้าคิดพลาดไปแล้ว ข้าต้องมีชีวิตต่อไปดีๆ อายุยนื ร้อยปี ข้า
ต้องอยูด่ ูพวกคนต่าช้าที่หวั ใจเน่าเฟะพวกนั้นว่าจะมีจุดจบเช่นไร”
เสิ่ นเวยเห็นด้วยว่า “ใช่เพคะ ฮองเฮาคิดเช่นนี้กถ็ ูกแล้ว แต่โบราณมา
ธรรมะย่อมชนะอธรรม ภูตผีปีศาจทั้งหลายสุ ดท้ายต้องถูกจากัด”
แล้วโบกกาปั้นเล็กๆ ท่าทางเหมือนเคียดแค้นศัตรู คนเดียวกัน
นี่ทาให้ฮองเฮายิง่ มองนางยิง่ รู ้สึกเจริ ญตา จยาฮุ่ยจวิน้ จู่แม้เติบโตใน
ชนบท กลับมีจิตใจที่เที่ยงธรรมบริ สุทธิ์ เทียบกับคุณหนูตระกูลใหญ่
ที่เสแสร้งในเมืองหลวงพวกนั้นแล้วดีกว่ามาก ยิง่ กว่านั้นคาพูดของจ
ยาฮุ่ยจวิน้ จู่น้ ีแม้คาพูดหยาบแต่เหตุผลไม่หยาบ เรื่ องก็เป็ นเช่นนี้
จริ งๆ มิใช่หรื อ
ฮ่องเต้ยงเซวียนดูอยูข่ า้ งๆ จนอยากเบ้ปาก เจ้าเสิ่ นซื่อคนนี้ ดูปากนาง
สิ ! หากเขารู ้ความคิดในใจของฮองเฮา ต้องถลึงตาจนกลมโต ท่าทาง
เหมือนเห็นผีแน่ๆ ‘จิตใจเที่ยงธรรมบริ สุทธิ์ รี บล้วงออกมาดูหน่อย
ว่าหัวใจของเจ้าเสิ่ นซื่อยังเป็ นสี แดงหรื อเปล่า’
ฎีกาของสวีโย่วถูกฮ่องเต้ยงเซวียนเก็บไว้ ท่าทีของกษัตริ ยเ์ ช่นนี้
ชัดเจนมากมิใช่หรื อ ทว่าคนบางคนกลับตาบอด นอกจากเห็นลาภยศ
สรรเสริ ญแล้ว ก็ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น อย่างไรพวกเขาก็ไม่ตายใจ ส่ ง
ฎีการ้องเรี ยนซ้ าแล้วซ้ าเล่า แล้วยังร้องเรี ยนต่อหน้ายามว่าราชการ
เช้า ท่าทางพูดจาฉะฉานมีเหตุผลเสี ยเต็มประดาเช่นนั้น ราวกับใต้
หล้ามีขนุ นางมือสะอาดเพียงเขาคนเดียว
สวีโย่วแม้แต่เปลือกตาก็ไม่ยกสักที ฮ่องเต้ยงเซวียนที่นงั่ อยูบ่ น
บัลลังก์ก็สีหน้าไร้อารมณ์เช่นกัน ทาจนขุนนางที่อยูด่ า้ นล่าง
กระสับกระส่ าย ที่จริ งฮ่องเต้ยงเซวียนถอนใจอยูใ่ น เรื่ องนี้โทษข้า
ไม่ได้ เพราะพวกเจ้ารนหาที่ตายเอง จยาฮุ่ยจวิน้ จู่เป็ นคนคุยด้วยง่ายๆ
เช่นนั้นหรื อ
ดังนั้น ต่อจากอาละวาดห้องทรงอักษรแล้ว เสิ่ นเวยก็เลื่องชื่อในเมือง
หลวงอีกครั้ง
ที่จริ งนางก็ไม่ได้ทาอะไร เพียงแค่พากองทหารเด็กในจวนขัดขวาง
ขุนนางที่ร้องเรี ยนคุณชายใหญ่ของนาง ซ้อมพวกเขาจนน่วมยกหนึ่ง
ซ้อมไปถามไปว่า “ท่านร้องเรี ยนคุณชายใหญ่ขา้ มีหลักฐานหรื อไม่
มาๆๆ ลองมาคุยกับข้าก่อน เขารวบรวมพรรคพวกเพื่อประโยชน์
ส่ วนตนกับใครบ้าง”
“อะไรนะ ท่านว่าระยะนี้หน้าจวนนผิงจวิน้ อ๋ องรถม้าไปมาคับคัง่
เพราะอะไรรถม้าถึงไปมาคับคัง่ ท่านไม่รู้หรื อ นี่ท่านแกล้งโง่ชดั ๆ
ไม่ใช่หรื อ คนเลอะเลือนอย่างท่านยังเป็ นขุนนางได้หรื อ รี บกลับ
บ้านไปอุม้ ลูกเถอะ”
“ตายจริ ง นี่ไม่ใช่ผตู ้ รวจการหลี่หรื อ คนอื่นไม่เข้าใจสถานการณ์
ท่านต้องเข้าใจอยูแ่ ล้วใช่หรื อไม่ ฮูหยินท่านก็มาขอบคุณที่จวนผิง
จวิน้ อ๋ องแล้วมิใช่หรื อ หรื อว่าคุณชายใหญ่ขา้ รวบรวมพรรคพวกเพื่อ
ประโยชน์ส่วนตนกับท่าน ท่านร้องเรี ยนเช่นนี้หมายความว่า
อย่างไร”
“เห็นคุณชายใหญ่เราเป็ นลูกพลับอ่อนหมดสิ นะ ข้าจะบอกพวกท่าน
ไว้ หากทาให้คุณชายใหญ่ขา้ โกรธจนเป็ นอะไรไป ข้าก็จะไปพังบ้าน
พวกท่าน ใครทาให้ขา้ ไม่สบายใจ เช่นนั้นทุกคนก็อย่าคิดจะได้อยู่
อย่างเป็ นสุ ขเลย”
เสิ่ นเวยขู่กรรโชกอย่างหนัก กองทหารเด็กเหวี่ยงกาปั้นอยูข่ า้ งๆ
อย่างมีความสุ ข เหวี่ยงหาคนที่เนื้อมากโดยเฉพาะ เจ็บหนักเจ็บ
ภายในนั้นเป็ นไปไม่ได้ ทว่ารับรองท่านได้เจ็บแน่นอน
ซ้อมเสร็ จเสิ่ นเวยก็พาคนจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ขุนนางที่ถูกซ้อม
กลับจวนด้วยใบหน้าที่บวมเป็ นหัวหมู ทัว่ ทั้งจวนตกใจจนพูดไม่
ออก หลังจากเข้าใจสถานการณ์แล้ว นายหญิงของแต่ละบ้านโกรธ
แทบแย่ ด่าทอจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ยกใหญ่ไปตามกัน
ผูต้ รวจการหลี่พลางร้องไอหยาไอหยา พลางกระทืบเท้า “ไร้เหตุผล
สิ้ นดี ไร้เหตุผลสิ้ นดี จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ผนู ้ ้ ีผยองเกินไป พรุ่ งนี้ขา้ จะยืน่
ฎีการ้องเรี ยนนาง” ไอหยา ลงมือช่างโหดเ**้้ยมจริ งๆ เจ็บจะตาย
อยูแ่ ล้ว
หลี่ฮูหยินที่ใส่ ยาให้เขาอยูโ่ กรธจนหยิกที่เอวเขาทีหนึ่งว่า “ท่านหุบ
ปากนะ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่กด็ ุดนั เช่นนี้อยูแ่ ล้ว ท่านไปตอแยนางทาอะไร”
ผูต้ รวจการหลี่โวยวายว่า “ข้าตอแยนางที่ไหนเล่า” ผูต้ รวจการหลี่
น้อยใจมยิง่ นัก คนดุดนั เช่นนั้น แม้หลบเขายังแทบไม่ทนั เลย
หลี่ฮูหยินได้ยนิ ดังนั้นก็พดู อย่างไม่สบอารมณ์วา่ “เช่นนั้นท่าน
ร้องเรี ยนผิงจวิน้ อ๋ องทาอะไร จวนเขาเพิ่งช่วยเราไว้ ท่านกลับถือดี
ยังร้องเรี ยนเขา นี่มิใช่ตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นหรื อ ถูกซ้อมนี่
ยังเบา” หลี่ฮูหยินก็เป็ นคนดุดนั มิเช่นนั้นเรื อนด้านหลังตระกูลหลี่
จะมีนางใหญ่เพียงคนเดียวได้อย่างไรกัน
ผูต้ รวจการหลี่โกรธจนได้แต่แค่นเสี ยง ฮึ “เรื่ องในราชสานักสตรี
อย่างเจ้ารู ้อะไร”
หลี่ฮูหยินโยนยาใส่ มือสาวใช้ แล้วชี้จมูกผูต้ รวจการหลี่ด่ากราดว่า
“สตรี ข้าเป็ นสตรี ยงั รู ้เหตุรู้ผลยิง่ กว่าขุนนางราชสานักอย่างท่าน! ข้า
ว่าจยาฮุ่ยจวิน้ จู่กค็ วรซ้อมท่านให้หนักสักยก จะให้ดีตอ้ งซ้อมจน
ท่านตาสว่าง เรื่ องเน่าๆ ในราชสานักพวกนั้นข้าไม่มีสิทธิ์ยงุ่
นับตั้งแต่พรุ่ งนี้ไปท่านก็ลาป่ วยอยูบ่ า้ นรักษาอาการบาดเจ็บ เรื่ องน่า
กวนใจพวกนั้นยุง่ ให้มนั น้อยหน่อย”
ทว่าผูร้ ู ้เหตุรู้ผลเช่นหลี่ฮูหยินนี้อย่างไรเสี ยก็มีไม่มาก คนส่ วนใหญ่
ล้วนแค้นจยาฮุ่ยจวิน้ จู่จนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ดังนั้นวันที่สองคนที่ถูก
ร้องเรี ยนในท้องพระโรงจึงกลายเป็ นจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ โทษฐานเย่อหยิง่
โอหัง ทาร้ายขุนนางราชสานัก
*หัวเทียนหอกเงิน หมายถึง หัวหอกที่นึกว่าเป็ นเงินแท้ที่แท้กท็ าจาก
เทียน ใช้เปรี ยบเปรยว่า ภายนอกดูสวยงาม เป็ นของดีมีคุณค่า แต่
แท้จริ งแล้วกลับไม่ใช่ของดีมีคุณค่าอย่างที่คิด ข้างนอกสุ กใส ข้างใน
เป็ นโพรง
**ข้างเตียงของตนจะยอมให้ผอู ้ ื่นมานอนกรนได้อย่างไร อุปมาว่า
ไม่ให้คนอื่นเข้ามารุ กรานอาณาเขตผลประโยชน์ของตัวเอง
***ญาติมิตรเจ็บปวดผูม้ ีแค้นสะใจ หมายถึง การทาอะไรให้คน
กันเองเสี ยใจ ศัตรู สะใจ
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 280-1 สหายร่ วมทีมเยีย่ งหมู
ในตาหนักจินหลวน ขุนนางที่ถูกเสิ่ นเวยซ้อมอย่างหนัก นอกจาก
ผูต้ รวจการหลี่ที่ถูกฮูหยินบังคับให้ลาป่ วยอยูบ่ า้ น ล้วนติเตียนจยาฮุ่ย
จวิน้ จู่อย่างโกรธแค้นว่าไม่เห็นกฎหมายในสายตาทาร้ายขุนนางราช
สานัก พร้อมใบหน้าที่บวมเป็ นหัวหมูอย่างน่าอนาถเกินกว่าจะทนดู
ได้
เหล่าขุนนางทัว่ ท้องพระโรงมองดูใบหน้าที่น่าดูชมของพวกเขาแล้ว
ในใจเห็นใจเหลือเกิน ไอหยา ทัว่ เมืองหลวงมีใครไม่รู้บา้ งว่าจยาฮุ่ย
จวิน้ จู่เป็ นคนที่ท้ งั ก๋ ากัน่ ทั้งถือหางให้ทา้ ยพวกตน คราวที่แล้วเนื่อง
ด้วยเรื่ องที่ผงิ จวิน้ อ๋ องถูกขังในศาลราชวงศ์ นางยังกล้าอาละวาดถึง
ห้องทรงอักษร พวกเจ้าไม่มีตาถึงกล้าร้องเรี ยนผิงจวิน้ อ๋ อง นางไม่
ถือดาบไปฟันเจ้าทั้งบ้านก็ถือว่ายั้งมือไว้ไมตรี แล้ว
มิหนาซ้ ายังมีขนุ นางที่เคยถูกผูต้ รวจการที่เหมือนหมัดพวกนี้
ร้องเรี ยนมาก่อนในใจยิง่ แอบสะใจ ฮึ วันๆ เอาแต่อยูไ่ ม่สุข เห็นคนนี้
ขัดตา หาเรื่ องคนนั้น ในไข่ไก่ยงั หากระดูกออกมาได้ ปากยังกับสตรี
เรื่ องเล็กๆ ก็ถูกพวกเขาขยายจนใหญ่กว่าฟ้าอีก น่าราคาญเหลือเกิน
บัดนี้เตะถูกของแข็งแล้วสิ นะ สมน้ าหน้า ก็ควรให้คนเช่นจยาฮุ่ยจวิน้
จู่มาจัดการพวกเขา จะได้ไม่มาทาตัวน่าราคาญทั้งวัน
แน่นอนว่ามีขนุ นางบางส่ วนเห็นว่าจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ทาเกินไป นี่มิใช่การ
ถกเถียงกันระหว่างสตรี เสี ยหน่อย ทาร้ายขุนนางราชสานักเท่ากับไม่
เห็นราชสานักในสายตาไม่ใช่หรื อ ในใจแม้ไม่พอใจ กลับไม่มีคน
ลุกขึ้นพูดแม้แต่คนเดียว อย่างไรเสี ยคนที่ถูกซ้อมก็ไม่ใช่ตน เรื่ องไม่
เกี่ยวกับตนก็อย่าไปสนใจ ตัวอย่างครั้งก่อนยังอยูต่ รงนั้นอยูเ่ ลย จยา
ฮุ่ยจวิน้ จู่น่าล่วงเกินหรื อ คาพูดของนักปราชญ์ไม่ผดิ จริ งๆ ‘สตรี และ
คนถ่อยเลี้ยงยาก’ พวกเขาไม่อยากซ้ ารอยเท้าของหน้าหัวหมูหรอก
นะ
หน้าหัวหมูหน้าหนึ่งในนั้นยิง่ พูดยิง่ โมโหว่า “กระหม่อมเป็ น
ผูต้ รวจการ ร้องเรี ยนขุนนางเป็ นหน้าที่ของกระหม่อม จยาฮุ่ยจวิน้ จู่
อาศัยอานาจแก้แค้นส่ วนตัวเช่นนี้มีเหตุผลอันใด จยาฮุ่ยจวิน้ จู่คือ
จวิน้ จู่เชื้อพระวงศ์ กลับไม่มีลกั ษณะสง่างามใจกว้างของเชื้อพระ
วงศ์ ดูจากคาพูดและพฤติกรรมก็คือหญิงปากร้ายนัน่ เอง กระหม่อม
ขอฝ่ าบาทโปรดตัดสิ นให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
“ขอฝ่ าบาทโปรดตัดสิ นให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ!” หน้าหัวหมูคน
อื่นก็โวยวายขึ้นมาตามๆ กัน
ฮ่องเต้ยงเซวียนใบหน้าบูดบึ้ง ที่จริ งในใจราคาญจะตายอยูแ่ ล้ว มาร
ดารเจ้า ถูกผูห้ ญิงซ้อมจนน่าอนาถเช่นนี้ยงั มีหน้าขอให้ขา้ ตัดสิ นให้
อีก ข้าเป็ นกษัตริ ย ์ คุมเรื่ องใหญ่ของราชสานัก ใครจะทนราคาญ
จัดการเรื่ องบ้าๆ ไม่เป็ นชิ้นเป็ นอันพวกนี้ให้พวกเจ้า
อันที่จริ งเสิ่ นซื่อซ้อมคนพวกนี้เป็ นหัวหมู ฮ่องเต้ยงเซวียนไม่แปลก
ใจเลยแม้แต่นอ้ ย ตรงกันข้าม ในใจเขายังโล่งอกรางๆ เขารู ้สึกว่าเสิ่ น
ซื่อสามารถอดทนนานปานนั้นค่อยลงมือก็ถือว่าหายากมากแล้ว ได้
ยินว่ายามอยูซ่ ีเจียงมีโจรที่ตาไม่มีแววคนหนึ่งเห็นนางหน้าตาดีเกี้ยว
นางไปคาหนึ่ง คืนนั้นนางก็สามารถพาคนไปรื้ อรังโจรนัน่ ได้
เสิ่ นซื่อเป็ นใคร เป็ นคนที่มีแค้นต้องชาระ!ทั้งเกเรทั้งกะล่อนซ้ ายังมี
ความสามารถ มิหนาซ้ ายังเป็ นสตรี สามียงั รักเอ็นดูตามใจ บางที
ฮ่องเต้เช่นเขาอาจยังทาอะไรนางไม่ได้
“พวกเจ้าจะให้ขา้ ตัดสิ นอย่างไร” ฮ่องเต้ยงเซวียนถามนิ่งเรี ยบ พวก
เขารู ้สึกได้รับความอัปยศอดสู อย่างใหญ่หลวง ทว่าฮ่องเต้ยงเซวียน
ไม่ได้มองเช่นนี้ เขารู ้สึกว่าเสิ่ นซื่อเพียงซ้อมพวกเขายกหนึ่ง ให้พวก
เขาขายหน้าเล่นก็ถือว่ายั้งมือไว้ไมตรี แล้ว เหมือนเช่นเมื่อก่อนนาง
ลงมือเมื่อไรไม่ตายก็พิการ บัดนี้แค่บาดเจ็บภายนอกเท่านี้เสมือน
ละอองฝนชัดๆ! นี่คาดว่าคงจะเห็นแก่หน้าฮ่องเต้เช่นเขาแล้ว
เหล่าหัวหมูตกใจ นัน่ สิ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่เป็ นผูห้ ญิง ลดตาแหน่งก็ไม่ได้
ลงโทษก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการกักบริ เวณ ด้วยความหน้าหนา
ของจยาฮุ่ยจวิน้ จู่คาดว่าก็คงไม่ใส่ ใจ พวกเขาสบตากันปราดหนึ่ง
เกิดความคิดขึ้นมาอย่างรวดเร็ วว่า “ฝ่ าบาท พวกกระหม่อมขอฝ่ า
บาทโปรดให้จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ขอขมาขุนนางทั้งหลายด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
เพิ่งสิ้ นเสี ยง ในท้องพระโรงก็มีเสี ยงหัวเราะเยาะดังขึ้นเสี ยงหนึ่ง
เหล่าหัวหมูถลึงตามองไปด้วยความโกรธเคืองพร้อมกัน “ผิงจวิน้
อ๋ องหมายความว่าเช่นไร หรื อว่ายังจะปกป้องจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ง้ นั หรื อ”
ประโยคหลังทาให้สวีโย่วหัวเราะเยาะขึ้นมาอีก เขาไม่ปกป้องสะใภ้
บ้านตนเอง หรื อว่าจะให้ปกป้องพวกเขา “ไม่ได้หมายความเช่นไร
เพียงแต่รู้สึกว่าใต้เท้าทั้งหลายหน้าใหญ่เสี ยจริ ง!” สวีโย่วพูดอย่างมี
นัย
ทุกคนคิดๆ ดูแล้วกลับเป็ นเช่นนี้จริ งๆ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่อย่างน้อยก็เป็ น
จวิน้ จู่เชื้อพระวงศ์ และยังเป็ นสะใภ้เชื้อพระวงศ์อีก ให้นางขอขมา
ขุนนางราชสานัก นี่มิใช่ตบหน้าเชื้อพระวงศ์หรอกหรื อ พูดเสี ยใหม่
นี่คือตบพระพักตร์ฝ่าบาทอยู!่
ทว่าเหล่าหัวหมูกลับไม่คิดเช่นนี้ อาจเพราะกระทบกระเทือนจนลืม
อาจเพราะไม่เคยเห็นจวิน้ จู่ต่างแซ่อย่างเสิ่ นเวยคนนี้ในสายตาเลย
พวกเขาสะบัดชุดขุนนาง คุกเข่าลงบนพื้นว่า “ขอฝ่ าบาทโปรดให้
ความเป็ นธรรมกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
นี่กาลังบีบบังคับตนอยูห่ รื อ ฮ่องเต้ยงเซวียนแทบจะหัวเราะออกมา
น้ าเสี ยงนิ่งเรี ยบว่า “ผิงจวิน้ อ๋ องพูดถูกต้อง พวกเจ้ายังหน้าไม่ใหญ่
พอ ให้จยาฮุ่ยจวิน้ จู่ขอขมาพวกเจ้า พวกเจ้าคิดออกมาได้อย่างไร ยัง
คิดจะให้ขา้ ขอขมาพวกเจ้าด้วยใช่หรื อไม่”
ทันใดนั้นหัวหมูที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้นตื่นตระหนกเหลือคณาว่า
“กระหม่อมมิบงั อาจ กระหม่อมละอายนักพ่ะย่ะค่ะ” ยามนี้พวกเขา
ถึงนึกขึ้นได้วา่ จยาฮุ่ยจวิน้ จู่เป็ นหลานสะใภ้แท้ๆ ของฝ่ าบาท อดกลัว
จนเหงื่อตกไม่ได้
ฮ่องเต้ยงเซวียนกลับแค่นเสี ยงเย็นว่า “มิบงั อาจ ละอาย ยังมีเรื่ อง
อะไรที่พวกเจ้าไม่กล้าบ้าง ฝ่ ายตรวจการมีอานาจตรวจสอบขุนนางที่
ทาผิด ทว่าพวกเจ้าทาอะไร ผิงจวิน้ อ๋ องรวบรวมพรรคพวกเพื่อ
ประโยชน์ส่วนตน หลักฐานอยูไ่ หน เพียงฮูหยินและพ่อบ้านที่ไป
เยือนเพื่อขอบคุณไม่กี่คนนั้น แม้แต่ขา้ ก็รู้วา่ ผิงจวิน้ อ๋ องนอกจาก
สนิทกับองค์ชายใหญ่ ก็ใกล้ชิดกับบ้านพ่อตาจวนหย่งกัว๋ กง อ้อจริ ง
สิ ยังมีขา้ ความสัมพันธ์ของผิงจวิน้ อ๋ องและข้าก็ไม่ห่างเหิ น ใต้เท้า
ทุกท่านจะบอกว่าข้าก็เป็ นพรรคเดียวกับผิงจวิน้ อ๋ องใช่หรื อไม่”
เสี ยงตาหนิของฮ่องเต้ยงเซวียนแต่ละเสี ยงราวกับฟ้าร้องผ่าลงกลาง
ใจทุกคน ไม่เพียงหน้าหัวหมูไม่กี่คนนั้นในใจตื่นตะลึง ขุนนางที่
เหลือก็คุกเข่าขอประทานอภัยโทษตามๆ กัน “ฝ่ าบาทโปรดระงับ
โทสะพ่ะย่ะค่ะ ฝ่ าบาทโปรดระงับโทสะพ่ะย่ะค่ะ!”
“ไม่โกรธ ข้าจะไม่โกรธได้อย่างไร ข้าให้อานาจพวกเจ้า พวกเจ้าก็
ตอบแทนข้าเช่นนี้หรื อ พวกเจ้า พวกเจ้าทาให้ขา้ ผิดหวังจริ งๆ”
ฮ่องเต้ยงเซวียนปวดใจเป็ นอย่างยิง่ “ในเมื่อล้วนว่างไม่มีอะไรทา
เช่นนั้นก็ออกไปตรวจตราให้หมด! เลิกประชุม! สี หน้าเย็นชาแล้ว
สะบัดแขนเสื้ อออกไป
ผ่านไปครึ่ งค่อนวัน เหล่าขุนนางในท้องพระโรงถึงได้สติกลับมา
ช่วยกันพยุงลุกขึ้นยืนช้าๆ จากนั้นมองหน้ากัน ฝ่ าบาทไม่ได้กริ้ ว
เช่นนี้มานานแล้ว ดูท่าครั้งนี้ฝ่าบาทจะกริ้ วไม่ใช่นอ้ ย
จริ งอยู่ แม้ผตู ้ รวจการมีอานาจในการร้องเรี ยนเหล่าขุนนาง ทว่า
อย่างไรเสี ยก็ตอ้ งดูสีหน้าเป็ นกระมัง ฝ่ าบาทเก็บฎีกาไว้ไม่แจกแล้ว
เจ้ายังไม่เข้าใจท่าทีของฝ่ าบาทหรื อ ไม่รู้จกั อ่านสถานการณ์หรื อ
เช่นนั้นโทษที่เจ้าร้องเรี ยนก็ควรเป็ นเรื่ องจริ งสิ ทั้งสองอย่างล้วนไม่
เข้าข่ายเจ้ายังเต้นเร่ าๆ นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายล้วนๆ หรื อ
รนหาที่ตายก็รนหาที่ตายเถอะ มิหนาซ้ ายังทาให้คนอื่นเดือดร้อนอีก
สายตาของผูต้ รวจการคนอื่นของฝ่ ายตรวจการที่มองไปยังเหล่าหน้า
หัวหมูโกรธแค้นยิง่ นัก ผูต้ รวจการตรวจตราเป็ นกันง่ายๆ หรื อ
ระหว่างทางลาบากก็ไม่พดู ถึงแล้ว ยังต้องคอยขับเคี่ยวกับขุนนาง
ท้องถิ่น สบายสู ้อยูใ่ นเมืองหลวงได้ที่ไหน
พวกหน้าหัวหมูไม่กี่คนเสี ยใจอย่าบอกใคร ไยถึงถูกลาภยศบังตาคิด
แผนเลอะเลือนอย่างการร้องเรี ยนผิงจวิน้ อ๋ องได้นะ ไยถึงผีบงั ตา
ฟ้องจยาฮุ่ยจวิน้ จู่ได้นะ ทว่าเสี ยใจยามนี้กส็ ายไปแล้ว ได้แต่เผ่นกลับ
จวน ตรวจการตรวจตราก็ตรวจการตรวจตาเถอะ อย่างไรเสี ยก็ดีกว่า
ถูกปลดกระมัง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 280-2 สหายร่ วมกลุ่มเยีย่ งหมู
เสิ่ นเวยรู ้วา่ พวกที่ถูกนางซ้อมจนเป็ นหัวหมูฟ้องไม่สาเร็ จกลับถูก
เฉดออกจากเมืองหลวงไปเป็ นผูต้ รวจการตรวจตรา ตาหงส์ที่
สวยงามคู่น้ นั กลายเป็ นพระจันทร์เสี้ ยวทันที เป็ นครั้งแรกที่รู้สึกว่าฝ่ า
บาทมีเหตุผลทีเดียว นางเกาะไหล่ของสวีโย่วทวงผลงานว่า “เห็น
หรื อไม่ ข้าออกโรงคนหนึ่งก็แทนได้สองคน คนถ่อยพวกนั้นห่าง
หายการสัง่ สอนไปนาน อัดพวกเขาสักยกก็วา่ ง่ายขึ้นแล้ว”
สวีโย่วกระตุกมุมปากทีหนึ่ง เพียงแค่หนึ่งต่อสองที่ไหน ตีพา่ ยไปทั้ง
กลุ่มเลยต่างหาก เวยเวยของเขาห้าวหาญไม่เปลี่ยนเลย! ดังนั้นสวีโย่
วจึงกล่าว “ข้าต้องขอบคุณเวยเวยแล้ว” ยังคารวะนางอย่างทีเล่นที
จริ งอีก
เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงอย่างปากไม่ตรงกับใจ ท่าทางนัน่ น่ารักอย่าบอก
ใครเชียว
“เอ๊ะ ท่านว่าใครกันที่เห็นท่านไม่เข้าตา” แทนที่จะบอกว่าร้องเรี ยน
ไม่สู้บอกว่าเป็ นการหยัง่ เชิง หยัง่ เชิงท่าทีของฝ่ าบาท หยัง่ เชิง
ปฏิกิริยาของสวีโย่ว
“จะเป็ นใครไปได้” สวีโย่วพูดนิ่งเรี ยบ รัชทายาทไม่มีแล้ว องค์ชายที่
เป็ นผูใ้ หญ่แล้วก็มีเพียงองค์ชายใหญ่กบั องค์ชายรองสองคนแล้ว เขา
และองค์ชายใหญ่ความสัมพันธ์ค่อนข้างดี เช่นนั้นที่เหลือก็มีแต่องค์
ชายรองแล้ว
“เขาโง่ปานนั้นเลยหรื อ” เสิ่ นเวยรู ้สึกว่านี่ไม่เหมือนฝี มือขององค์
ชายรอง ไม่นบั เสนาบดีฉินและซู่เฟย นางยังค่อนข้างยอมรับ
ความสามารถในตัวขององค์ชายรอง องค์ชายรองที่สายตาค่อนข้าง
กว้างไกลจะใช้วิธีเลอะเลือนเช่นนี้หรื อ
แม้จะพูดว่าบัดนี้คนที่มีคุณสมบัติชิงตาแหน่งนั้นคือองค์ชายใหญ่
และองค์ชายรอง ทว่าคนตาดีใครบ้างดูไม่ออกว่าองค์ชายใหญ่แทบ
จะไม่มีกาลังในการชิงเลย แม้แต่เสิ่ นเวยก็ไม่ต้ งั ความหวังที่เขา
องค์ชายรองอยูใ่ นสถานการณ์ได้เปรี ยบทุกด้านเช่นนี้ ไม่จาเป็ นต้อง
ทาอะไรทั้งนั้น ขอเพียงตั้งใจทางานให้ดีกพ็ อ ตาแหน่งรัชทายาทก็
จะตกลงบนศีรษะเขาเอง ด้วยความฉลาดของเขา ไม่มีทางไม่เข้าใจ
ถึงจุดนี้
สวีโย่วว่า “เขาไม่โง่ ทว่าขวางคนอื่นโง่ไม่ได้” คนขี้ประจบที่อวดดี
พวกนั้นก็โง่มิใช่หรื อ
เสิ่ นเวยยิม้ อย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง เข้าใจความหมายของสวีโย่ว ทอด
ถอนใจประโยคหนึ่งว่า “ไม่กลัวคู่ต่อสู ้เยีย่ งเทพ กลัวแต่สหายร่ วม
กลุ่มเยีย่ งหมู” ช่างน่าเห็นใจองค์ชายรองจริ งๆ
องค์ชายรองที่ถูกเสิ่ นเวยเห็นใจกาลังโกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟอยูใ่ นจวน
“มิใช่ให้พวกเขาสงบเสงี่ยมหน่อยหรื อ ตอแยผิงจวิน้ อ๋ องทาอะไร”
ระยะนี้เขาอยูข่ า้ งกายเสด็จพ่อนานเข้า พอดูออกว่าผิงจวิน้ อ๋ องเป็ น
คนของเสด็จพ่อ ไม่วา่ เขาทาอะไรล้วนเป็ นความคิดของเสด็จพ่อ หา
เรื่ องผิงจวิน้ อ๋ องก็เท่ากับปะทะเสด็จพ่อเขามิใช่หรื อ อย่าว่าแต่บดั นี้
เขายังไม่ใช่รัชทายาท ต่อให้เป็ นรัชทายาทเขาก็ไม่กล้า!
ยิง่ ไม่ตอ้ งพูดถึงว่าพวกเขาไม่เพียงตอแยผิงจวิน้ อ๋ อง ยังตอแยจยาฮุ่ย
เจ้าคนก๋ ากัน่ นัน่ ถูกอัดจนเป็ นเช่นนั้นแล้ว ยังมีหน้าไปฟ้องต่อหน้า
เสด็จพ่ออีก ยังเพ้อฝันคิดจะให้จยาฮุ่ยขอขมาพวกเขา อย่าว่าแต่เสด็จ
พ่อทรงพิโรธ แม้แต่เขาก็ไม่พอใจ! ต่อให้จยาฮุ่ยจะไม่ถูกต้องเพียงใด
นางก็เป็ นเชื้อพระวงศ์ ให้ขอขมาขุนนางราชสานักถือเป็ นการโยน
เกียรติของเชื้อพระวงศ์ลงไปเหยียบที่พ้นื
จ่างสื่ อก็รู้ดีวา่ เรื่ องนี้ทาได้ไม่หมาะสม จึงรี บพูดว่า “องค์ชายโปรด
ระงับโทสะ พวกเขาทาไปเพราะหวังดี…”
ยังพูดไม่จบก็ถูกแววตาเย็นชาขององค์ชายรองหยุดไว้แล้ว “เจ้าพวก
หวังดีประสงค์ร้าย มือไม่พายเอาเท้าราน้ า รี บให้พวกเขาไปให้ไกลๆ
เลย ทางที่ดีชาติน้ ีอย่างกลับเมืองหลวงอีก”
เพียงเห็นพวกเขาก็โมโหแล้ว วันนี้สายตาเย็นชาที่เสด็จพ่อมองมาที่
เขาก่อนไปอันตรายเหลือเกิน ทาเขาตกใจเกือบตาย อย่าว่าแต่เสด็จ
พ่อคิดว่าเรื่ องนี้เขาเป็ นตัวการ แม้แต่เป็ นขุนนางในราชสานักมีคน
ไหนบ้างไม่คิดเช่นนี้ อย่างไรเสี ยก็มีเพียงเขาที่มีแรงจูงใจในการทา
เรื่ องนี้
ทว่าเขาถูกปรักปรา เห็นได้ชดั ว่าเขาไม่ได้ทา! ในมือพี่ใหญ่ไม่มี
อานาจแม้แต่นอ้ ย ต่อให้กาเนิดหลานในสายโลหิ ตคนแรกแก่เสด็จ
พ่อแล้วอย่างไร คนที่หวั เราะถึงสุ ดท้ายจึงจะเป็ นผูช้ นะที่แท้จริ ง
สาหรับเขาแล้วพี่ใหญ่ไม่มีอานาจคุกคามเลยสักนิดเดียว เขาไม่โง่
เสี ยหน่อย จะแตะต้องเขาทาไม ตรงกันข้าม เขายังต้องทาดีต่อพีใ่ หญ่
ด้วย มิเช่นนั้นจะเห็นความใจกว้างและเป็ นมิตรของเขาได้จากไหน
“พ่ะย่ะค่ะ องค์ชาย ข้าน้อยทราบแล้ว” จางจี้พดู อย่างนอบน้อม ในใจ
เกรงว่าชาติน้ ีพวกนั้นอย่าได้คิดจะเข้าเมืองหลวงอีกเลย
องค์ชายรองแค่นเสี ยงหนึ่งครา กล่าวด้วยความโกรธ “คุมคนข้างล่าง
ให้ดี ไม่มีคาสัง่ จากข้าห้ามเคลื่อนไหวโดยพลการ หากเกิด
ข้อผิดพลาดเช่นนี้อีก ก็อย่าโทษข้าไม่ไว้หน้าแล้วกัน”
วันฟ้าสดใส ดอกซิ่งปลิวว่อน
ราชครู เสิ่ นที่ได้รับบาดเจ็บไม่ได้ปรากฏตัวในท้องพระโรงอีก นี่ก็
ผ่านไปครึ่ งปี แล้ว ได้ยนิ ว่าอาการบาดเจ็บของราชครู เสิ่ นทุเลาลงมาก
ทว่าไม่สามารถลงจากเตียงได้อีก อย่างมากก็นงั่ อยูบ่ นเก้าอี้เข็น ถูก
บ่าวไพร่ เข็นไปอาบแดดข้างนอกบ้าง
แน่นอนนี่เป็ นเพียงคาเล่าลือ ไม่มีใครเห็นกับตา ทว่าทุกคน
สันนิษฐานว่าเรื่ องนี้เป็ นจริ งแปดเก้าส่ วน หากราชครู เสิ่ นหายดีแล้ว
จะไม่รีบกลับเข้าราชสานักได้หรื อ มีเขายืนอยูใ่ นท้องพระโรง ฝ่ า
บาทเห็นแก่ความดีความชอบในการอารักขาของเขา ปฏิบตั ิกบั
ตระกูลเสิ่ นย่อมไม่ดอ้ ยอยูแ่ ล้ว ทว่าหากเขาไม่โผล่หน้าเป็ นเวลานาน
ต่อให้ไมตรี จิตมากมายเพียงใดก็มีวนั จืดจาง นานวันเข้า ฝ่ าบาทยัง
นึกออกหรื อไม่วา่ เขาเป็ นใคร
ราชครู เสิ่ นฉลาดปานนั้น ย่อมรู ้วา่ ทาเช่นไรถึงเอื้อประโยชน์ต่อ
ตระกูลที่สุดได้ ถึงบัดนี้เขายังไม่มาประชุม ดูท่าร่ างกายจะไม่ไหว
จริ งๆ
เหมือนพิสูจน์การคาดเดาของทุกคนอย่างไรอย่างนั้น ผ่านไปไม่กี่วนั
ราชครู เสิ่ นก็ยนื่ ฎีกา ขอลาออกจากตาแหน่งราชครู
ทัว่ ท้องพระโรงโกลาหล นัน่ คือตาแหน่งท่านราชครู ! ผูน้ าขุนนาง
ฝ่ ายบุ๋น ใครบ้างจะยอมลาออก ต่อให้คลานก็ตอ้ งแก่ตายอยูใ่ น
ตาแหน่งนี้
ฮ่องเต้ยงเซวียนไม่ได้อนุญาต เพียงแต่บอกให้ราชครู เสิ่ นรักษา
ตัวอย่างสบายใจ แล้วโบกพระหัตถ์ ระบุหมอหลวงอีกสองท่านไป
อีก ไอหยา ครานี้ทาให้เหล่าขุนนางในราชสานักอิจฉาอย่าบอกใคร
ทว่าจะทาเช่นไรได้เล่า ความโปรดปรานนี้ราชครู เสิ่ นแลกมาด้วย
ชีวิต
วันนี้ เสิ่ นเวยเคลิ้มอกเคลิ้มใจนาสาวใช้ในจวนทาสี ชาด มือเปื้ อน
น้ าดอกไม้แดงไปหมด พลันเห็นพลเงาเสี่ ยวตี๋รีบเร่ งรุ ดมา
พอเสิ่ นเวยเห็นสี หน้านางก็รู้วา่ เกิดเรื่ อง หลีฮวาและเถาจือสบตากัน
ปราดหนึ่ง นาสาวใช้ถอยไปทันที
เสิ่ นเวยล้างมือแล้วจึงเอ่ย “ว่ามาเถอะ มีเรื่ องอันใด”
เสี่ ยวตี๋เดินหน้าก้าวหนึ่ง รายงานเสี ยงเบา
เพิ่งพูดได้ไม่กี่ประโยค เสิ่ นเวยก็เงยหน้าขึ้นโดยพลัน จ้องหน้าเสี่ ยว
ตี๋เขม็งว่า “เจ้าแน่ใจว่าไม่ได้ดูผดิ ”
เสี่ ยวตี๋ส่ายหน้าว่า “ไม่ผดิ เจ้าค่ะ จวิน้ จู่ ข้าน้อยวนเวียนอยูท่ ี่นนั่ หลาย
วัน ในหมู่บา้ นนัน่ มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งจริ งๆ หน้าตาเหมือนท่านนั้น
ทีเดียว” นิ้วมือของนางชี้ไปที่ทิศทางของวังหลวง
เสิ่ นเวยพยักหน้า ตื่นเต้นจนมือสัน่ หมดแล้ว เดิมทีคิดว่ามีปลา
หรื อไม่กห็ ว่านแหสักครั้ง ไม่คิดว่ายังจับได้ปลาตัวใหญ่จริ งๆ
สวรรค์ช่างช่วยข้าจริ งๆ! ฮ่าๆ ดูแล้วโชคข้าดีจริ งๆ แม้แต่สวรรค์กย็ นื
อยูข่ า้ งข้า
“รี บไป เรี ยกคุณชายใหญ่กลับจวน บอกว่ามีเรื่ องจะปรึ กษา” เสิ่ นเวย
สัง่ การเสี ยงดัง เรื่ องนี้หากเป็ นจริ ง เช่นนั้นก็ใหญ่เกินไปแล้ว นาง
ต้องปรึ กษากับสวีโย่วให้ดีสกั หน่อย
สวีโย่วกลับมาเร็ วอย่างยิง่ ยามเข้าห้องฝี เท้ารี บร้อนทีเดียว “เป็ น
อะไรหรื อ” เห็นเสิ่ นเวยสบายดี เขาถึงวางใจ
เสิ่ นเวยมองเขาปราดหนึ่ง ไล่เจียงเฮยเจียงไป๋ ไปเฝ้าอข้างนอก แล้ว
จึงพูดว่า “เราพบผูเ้ ฒ่าที่สงสัยว่าคืออ๋ องเคียงบ่าในห้องลับจวน
เสนาบดีมิใช่หรื อ เรื่ องนี้ขา้ พูดกับอาจารย์ซูครั้งหนึ่ง เขาจึงบอกข้าว่า
ดูแล้วองค์ชายรองไม่ค่อยเหมือนฝ่ าบาท กลับเหมือนท่านพ่อที่ตาย
ไปของเสนาบดีฉิน สงสัยชาติกาเนิดขององค์ชายรอง ข้ารู ้สึกว่าเรื่ อง
นี้ไม่น่าเป็ นไปได้ องค์ชายรองเหมือนซู่เฟยมากทีเดียว จึงไม่ได้ใส่
ใจเรื่ องนี้ หลังเกิดเรื่ องแล้วข้าก็มาคิดดูอีกที เพื่อความรอบคอบจึงใช้
คนจับตาจวนเสนาบดีฉินไว้ ไม่คิดว่าจะพบอะไรเข้าจริ งๆ เสี่ ยวตี๋
เจ้าพูดต่อ” เสิ่ นเวยสัง่ เสี่ ยวตี๋
เสี่ ยวตี๋พยักหน้า พูดอย่างเคร่ งขรึ มว่า “ข้าน้อยรับคาสัง่ ของจวิน้ จู่
แล้วจึงวางกาลังคนสามชุดไว้นอกจวนเสนาบดี สอดแนมอยูค่ รึ่ ง
ค่อนเดือนก็ไม่พบสิ่ งผิดปกติ ทว่ามีวนั หนึ่ง ข้าน้อยได้รับข่าว บอก
ว่ามีคนแปลกหน้าท่าทางเหมือนพ่อบ้านออกจากประตูหลังจวน
เสนาบดี มุ่งตรงไปห้างรถม้าถนนทิศตะวันออกเช่ารถม้าคันหนึ่ง
ออกนอกเมือง คนที่ตามไปตามอยูห่ ่างๆ ตลอดทาง เห็นรถม้าคันนั้น
เดินมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกตลอดทาง สุดท้ายหยุดอยูท่ ี่เชิงเขา
พ่อบ้านคนนั้นลงจากรถขึ้นเขาไป คนของเราก็ตามขึ้นไป เดินอยู่
ประมาณหนึ่งชัว่ ยาม ไม่คิดว่าจะเห็นหมู่บา้ นแห่งหนึ่ง พ่อบ้านคน
นั้นเข้าไปในเรื อนที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บา้ น ครึ่ งชัว่ ยามให้หลังก็
ออกมาอีก คนของเรารู ้สึกแปลกจึงแอบเข้าไป พบว่าในเรื อนนี้มีคน
เพียงสองคน คนหนึ่งคือเด็กหนุ่ม อีกคนคือตาแก่ เรี ยกเด็กหนุ่มคน
นั้นว่าคุณชาย คนของเราไม่กล้าทาให้พวกเขาตกใจ จึงรี บกลับมา
รายงานเจ้าค่ะ”
มองดูเจ้านายที่มีสีหน้าน่าเกรงขามปราดหนึ่ง เสี่ ยวตี๋พดู ต่อว่า
“ข้าน้อยได้รับข่าวแล้วจึงแอบลอบเข้าหมู่บา้ นเล็กๆ กลางเขานัน่
ข้าน้อยเห็นคุณชายท่านนั้นแล้วตกตะลึงจะพูดไม่ออก หน้าตาของ
ขาเหมือนพวกเรา อืม เหมือนมากเลย ข้าน้อยไม่กล้าเสี ยเวลาจึงรี บ
กลับมารายงานเจ้าค่ะ”
“ทาเช่นไรดี หรื อเราควรไปลักพาตัวเขาออกมา” เสิ่ นเวยมองไป
ที่สวีโย่ว ลึกเข้าไปในดวงตาเต็มไปด้วยความกระเ**้้ยนกระหื อรื อ
สวีโย่วครุ่ นคิดครู่ หนึ่ กลับส่ ายหน้า กดมือของเสิ่ นเวยว่า “อย่าเพิ่ง
เคลื่อนไหวโดยพลการ เรื่ องนี้ใหญ่เกินไป เรารับมือไม่ไหว ข้าจะ
เข้าวังเดี๋ยวนี้ เรื่ องนี้จะปิ ดฝ่ าบาทไม่ได้เด็ดขาด”
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 281-1 รัชทายาท
ฮ่องเต้ยงเซวียนตาหนิผตู ้ รวจการที่ใช้อานาจในทางที่ผิดในตาหนัก
จินหลวน สัง่ ให้พวกเขาออกตรวจการนอกเมืองหลวง ความหมาย
คือถ้าไม่ทาผลงานก็อย่าได้กลับเมืองหลวงเลย นอกจากไม่กี่คนที่ถูก
ตาหนิน้ นั ฝ่ ายตรวจการยังต้องส่ งคนออกไปอีกกลุ่มหนึ่ง มิเช่นนั้น
จะตรวจการแต่ละพื้นที่ของต้าหยงหมดได้อย่างไร ชัว่ ขณะหนึ่งทา
จนคนฝ่ ายตรวจการต่างอกสัน่ ขวัญแขวน ผูต้ รวจการตัวเล็กๆ ที่ไม่มี
ภูมิหลังไม่มีคนหนุนหลังต่างคอตก แม้แต่เข้าเวรก็ไม่มีชีวิตชีวา
ไม่รู้เพราะเจ็บใจ หรื อว่าอยากฉวยโอกาสก่อนไปจากเมืองหลวงใช้
อานาจในมืออีกสักครั้ง กลายเป็ นว่าบนโต๊ะทรงอักษรฮ่องเต้ยงเซ
วียนมีฎีการ้องเรี ยนขุนนางมากขึ้นมา คนที่ถูกร้องเรี ยนสู งถึงขุนนาง
ผูส้ ู งศักดิ์ ต่าถึงขุนนางเล็กๆ ปลายแถว ส่ วนโทษก็แปลกประหลาด
พันลึก
ยกตัวอย่างเช่นท่านอามาตห์ฝัง ก็มีคนร้องเรี ยนว่าเขาให้ทา้ ยบุตรทา
ชัว่ บุตรชายคนเล็กของเขาอยูข่ า้ งนอกแย่งหญิงคณิ กากับคนอื่น ลง
มือลงไม้ ซ้อมคนจนกระอักเลือด
ยกตัวอย่างเช่นซื่อจื่อจวนกงอ๋ อง มีคนร้องเรี ยนว่าเขาโปรดอนุดบั
ภรรยา มัว่ โลกียใ์ นบ้าน เพื่ออนุที่เป็ นหญิงคณิ กามาก่อนถึงกับกัก
บริ เวณภรรยา อีกทั้งยังทาร้ายถึงบุตรในท้องของภรรยาด้วย
ยกตัวอย่างเช่นเจียงเฉินผูต้ ิดตามส่ วนพระองค์ มีคนร้องเรี ยนว่าเขา
ในฐานะขุนนางราชสานักกลับทาการค้าแย่งผลประโยชน์กบั ประชา
บอกว่าบนถนนใต้มีร้านเครื่ องแป้งร้านหนึ่งก็เป็ นของเขา
ยกตัวอย่างเช่นผูด้ ูแลฝ่ ายฉางข้าวกรมคลัง มีคนร้องเรี ยนว่าเขาใช้
ความสะดวกจากอานาจรับสิ นบน

ไอหยา ในท้องพระโรงครึ กครื้ นเหลือเกิน วันนี้เรื่ องนี้ พรุ่ งนี้เรื่ อง
นั้น ฉะกันอย่างร้ายกาจ ขุนนางบุ๋นบู๊ดูจนตาค้าง รู ้สึกว่าคนของฝ่ าย
ตรวจการพวกนี้เป็ นบ้าไปแล้วหรื อไม่ ไยถึงกัดคนไปทัว่ เหมือนหมา
บ้า ต่างรอดูฝ่าบาททรงพิโรธ
ทว่าที่ทาให้เหล่าขุนนางคิดไม่ถึงคือ ครั้งนี้ความอดทนของฝ่ าบาท
ค่อนข้างสู งทีเดียว วันๆ นัง่ อยูเ่ บื้องบนมองดูเงียบๆ ไม่ตรัสสักคา
ก่อนเลิกประชุมโยนออกมาคาหนึ่ง “สอบ!” ทาให้เหล่าขุนนางใน
ราชสานักต่างไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้น แต่ละคนแอบหวาดหวัน่ ‘ใจ
กษัตริ ยย์ ากหยัง่ ’
หากบอกว่าเรื่ องก่อนๆ เป็ นเรื่ องเล็ก เช่นนั้นเรื่ องต่อมากลับเป็ นดัง่
ฟ้าผ่ากลางวัน ผูต้ รวจการหลี่แห่งฝ่ ายตรวจการร้องเรี ยนว่าเรื อนตาก
อากาศชานเมืองของเสนาบดีฉินซ่องสุ มอาวุธหมายก่อกบฏ
คราวนี้เหล่าขุนนางในราชสานักโกลาหลกันใหญ่ ซ่องสุ มอาวุธ
หมายก่อกบฏ นี่เป็ นความผิดใหญ่หลวงประหารเก้าชัว่ โคตรเชียว
ยิง่ กว่านั้นเสนาบดีฉินเป็ นใคร นัน่ คือขุนนางผูม้ ีความสัมพันธ์อนั ดี
กับฝ่ าบาท บิดาแท้ๆ ของพระสนมซู่เฟยในวัง ท่านตาขององค์ชาย
รอง เจ้าหลี่จ้ือหย่วนผูต้ รวจการตัวเล็กๆ คนหนึ่งกล้าใช้โทษฐาน
เช่นนี้ร้องเรี ยนเขา ไม่อยากอยูแ่ ล้วใช่หรื อไม่ เสนาบดีฉินสามารถ
บีบเจ้าให้ตายได้ตลอดเวลารู ้หรื อไม่
ชัว่ ขณะหนึ่ง สายตาที่เหล่าขุนนางมองหลี่จ้ือหย่วนราวกับมองคน
บ้าก็ไม่ปาน ผูต้ รวจการหลี่ท่านนี้ดนั ยังไม่รู้ตวั อีก ยังพูดอย่างมี
คุณธรรมน่าเกรงขามว่า “เพือ่ แผ่นดินต้ายง กระหม่อมวอนฝ่ าบาท
ทรงตรวจสอบเรื่ องนี้ให้ถึงที่สุด”
ขุนนางในราชสานักสองสามคนที่สนิทกับหลี่จ้ือหย่วนต่างถอยหลัง
ไปอย่างไม่ให้เห็นร่ องรอย หมายห่างจากเขาหน่อย
ฮ่องเต้ยงเซวียนเม้มปากแน่น สี หน้าไม่แสดงอารมณ์แม้แต่นอ้ ย
ยังคงเหมือนเช่นทุกวัน โยนออกมาคาหนึ่ง “สอบ!” แล้วก็เลิก
ประชุม
คนที่หน้าไร้ความรู ้สึกเช่นกันยังมีเสนาบดีฉินที่ถูกร้องเรี ยน ท่าทาง
เหมือนไม่ได้ทาเรื่ องผิดต่อมโนธรรมไม่กลัวผีมาเคาะประตู ยามที่
หันหลังถอยออกท้องพระโรงเขากลับเรี ยกหลี่จ้ือหย่วนไว้วา่ “ใต้
เท้าหลี่ ข้าเคยล่วงเกินท่านหรื อไม่” น้ าเสี ยงเต็มไปด้วยความจาใจ
ราวกับถูกปรักปราใหญ่โตอย่างไรอย่างนั้น
ขุนนางที่ยงั ไม่เดินออกจากท้องพระโรงต่างผ่อนฝี เท้าไปตามๆ กัน
เงี่ยหูฟังขึ้นมา
หลี่จ้ือหย่วนทาหน้าเที่ยงธรรม พูดอย่างไม่เข้าใจว่า “ไยเสนาบดีฉิน
ถึงพูดเช่นนี้ หรื อว่าเสนาบดีฉินนึกว่าข้าน้อยร้องเรี ยนท่านเพราะ
ความแค้นส่ วนตัวหรื อ เสนาบดีฉินลบหลู่การวางตัวของข้าน้อย
เช่นนี้ได้อย่างไร ข้าน้อยในฐานะผูต้ รวจการ ได้รับพระกรุ ณาธิคุณ
จากฝ่ าบาท การตรวจสอบเหล่าขุนนางเป็ นหน้าที่ที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ของข้าน้อย ข้าน้อยไม่มีทางพูดส่ งเดช ส่ วนปรักปราเสนาบดีฉิน
หรื อไม่ รอฝ่ าบาทตัดสิ นก็แล้วกัน!” เขาประสานมือใส่ เสนาบดีฉิน
แล้วเดินออกนอกท้องพระโรงอย่างอกผายไหล่ผ่ งึ
ทิ้งเสนาบดีฉินที่งงงันยิม้ ระทมอยูท่ ี่เดิม มีคนที่สงั เกตสี หน้าเก่งเข้า
มาประจบว่า “ท่านเสนาบดีไม่ตอ้ งใส่ ใจ ฝ่ ายตรวจการก็คือหมาบ้า
ฝูงหนึ่ง”
เสนาบดีฉินส่ ายหน้ายิม้ ระทมว่า “จู่ๆ เคราะห์กรรมก็ตกใส่ หวั !เชื่อ
ว่าฝ่ าบาทต้องคืนความบริ สุทธิ์ให้ขา้ แน่นอน” ในใจรู ้สึกว่าตลก
จริ งๆ เรื อนตากอากาศที่ชานเมืองเขามีกจ็ ริ ง ทว่าซ่องสุ มอาวุธ นี่เป็ น
เรื่ องไม่มีมูลจริ งๆ ฝ่ าบาทจะสอบก็สอบเถอะ อย่างไรเสี ยเขาก็ไม่เคย
ทามาก่อน
เพียงแต่หลี่จ้ือหย่วนคนนี้ใจก็กล้าทีเดียว หรื อว่าเบื้องหลังเขามีใคร
อยู่ อืม กลับไปลองตรวจสอบภูมิหลังคนผูน้ ้ ีหน่อย เสนาบดีฉิน
พลางเดินออกข้างนอกพลางครุ่ นคิด
หลี่จ้ือหย่วนที่ถูกเสนาบดีฉินคิดถึงก็เหงื่อตกทั้งตัว เขาไม่คิดว่าเรื่ อง
แรกที่จยาฮุ่ยจวิน้ จู่มาขอช่วยเขาจะน่าตกใจปานนี้ ทว่าเขายังคงทา
อย่างไม่ลงั เล ไม่ตอ้ งพูดถึงนัยมากมายที่แฝงอยูใ่ นคาพูดของจยาฮุ่ย
จวิน้ จู่ เพียงแค่นางช่วยภรรยาและบุตรสาวของตน ก็คู่ควรให้เขาขึ้น
เขาลงห้วยเพื่อตอบแทนแล้ว
เสนาบดีฉินกลับถึงจวน ก็เรี ยกที่ปรึ กษาคนสนิทมาปรึ กษา ได้ยนิ ว่า
มีคนร้องเรี ยนเสนาบดีซ่องสุมอาวุธ เหล่าที่ปรึ กษาต่างงงเป็ นไก่ตา
แตก
ผ่านไปเนิ่นนาน เริ่ นหงซูถึงได้สติกลับมา “ท่านเสนาบดี ข้าน้อยจา
ได้วา่ หลี่จ้ือหย่วนผูน้ ้ ีเป็ นจิ้นซื่อรุ่ นที่แล้ว ได้รับการชื่นชมจาก
ผูต้ รวจการโจวมาก” ในฐานะที่ปรึ กษาที่มีคุณสมบัติ เริ่ นหงซูใช้
เวลาไปกับการศึกษาตื้นลึกหนาบางในแวดวงราชการพอสมควร
ทีเดียว
“หรื อว่าจะเป็ นความคิดของใต้เท้าโจว” ที่ปรึ กษาแซ่หยางอีกท่าน
หนึ่งพูดขึ้นมา
“โจวเจ๋ ออวี๋!” เสนาบดีฉินตาเป็ นประกาย คนนั้นไม่ธรรมดา ได้ใจ
ฝ่ าบาท อีกทั้งยังรู ้จกั อ่านสี หน้าคน เป็ นผูน้ าฝ่ ายตรวจการมาสิ บปี
เต็มๆ แล้ว ขุนนางที่ลม้ ในมือเขามีไม่รู้เท่าไร ทว่าเขากลับไม่ทาให้
ขุนนางในราชสานักเกลียดชัง ตรงกันข้ามความประทับใจที่ทุกคนมี
ต่อเขายังไม่เลว รู ้สึกว่าเขาอายุปูนนี้แล้วยังทางานที่ล่วงเกินคนเช่นนี้
ไม่ใช่เรื่ องง่ายเลย จะเห็นได้วา่ คนผูน้ ้ ีฝีมือหมดจดไม่ธรรมดา
“หากคนที่อยูเ่ บื้องหลังเรื่ องนี้คือเขาล่ะก็ เช่นนั้นก็…” เสนาบดี
ใจเต้นแรง “ฝ่ าบาท!” เสี ยของเขาสั้นและรี บร้อน
เหล่าที่ปรึ กษาหน้าถอดสี พร้อมกัน อุทานว่า “ฝ่ าบาท เป็ นไปไม่ได้!”
ฝ่ าบาทจะสงสัยเสนาบดีได้อย่างไรกัน ยิง่ กว่านั้นยังเพราะโทษฐาน
ที่เลื่อนลอยเช่นนี้ดว้ ย
เสนาบดีฉินไม่ค่อยเชื่อการคาดเดาของตน เมื่อวานฝ่ าบาทยังปรึ กษา
ราชกิจกับเขาที่หอ้ งทรงอักษรด้วยใบหน้ายิม้ แย้มอยูเ่ ลย ไม่มีลาง
บอกเหตุเลยสักนิด! หรื อว่าผูต้ รวจการแซ่หลี่คนนั้นจะใช้วิธีการไม่
ชอบเพื่อแสวงหาชื่อเสี ยงลาภยศจริ งๆ
“ใช่หรื อไม่พรุ่ งนี้หยัง่ เชิงดูหน่อยก็รู้” เสนาบดีฉินพูดอย่างรอบคอบ
หากไม่ใช่ เช่นนั้นก็อย่าโทษที่เขาแล้งน้ าใจแล้วกัน ผูต้ รวจการตัว
เล็กๆ คนหนึ่งก็กล้ามากระโดดบนศีรษะเขา เขายังมีความน่าเกรง
ขามอยูห่ รื อไม่
สองวันผ่านไป ขุนนางหลายคนมาเยือนฝ่ ายตรวจการ ทว่ากลับหยัง่
เชิงไม่ได้อะไร ผูต้ รวจการโจวยิม้ ร่ าลากพวกเขาคุยสัพเพเหระ
แม้แต่หลี่จ้ือหย่วนที่ร้องเรี ยนเสนาบดีฉินคนนั้นก็ทาหน้าที่อนั
สมควรทา ราวกับไม่มีเรื่ องนั้นเกิดขึ้นมาก่อน
ในยามที่เสนาบดีฉินโล่งอก บ่าวฉินชวนสี หน้าเลิ่กลัก่ วิ่งเข้ามาว่า
“ท่านเสนาบดี คุณชายหายไปแล้ว คุณชายผิงอันหายไปแล้ว” เขา
คุกเข่าอยูบ่ นพื้น สัน่ เทิ้มไปทั้งตัว
“อะไรนะ” เสนาบดีฉินหน้าถอดสี ทนั ทีวา่ “ไยถึงหายไป ลุงชางเล่า”
ฉินชวนกดความประหวัน่ ในใจไว้ “หายไปแล้ว หายไปหมดเลย
ุ แจอยู่ คนหายไปแล้ว” เขาพูดสะเปะสะปะ
ประตูใหญ่ใส่ กญ
“เจ้าค่อยๆ พูด ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ลึกเข้าไปในตาเสนาบดีฉิน
มีแต่ความเย็นเยียบ “เจ้าไม่ระวัจึงงถูกคนสะกดรอยใช่หรื อไม่”
น้ าเสี ยงวังเวงนัน่ ทาให้ฉินชวนอกสัน่ ขวัญแขวน เขาควบคุมความ
พรั่นพรึ งในใจอย่างสุ ดความสามารถว่า “เปล่านะขอรับ บ่าวสาบาน
ไม่มีเด็ดขาด แต่ละครั้งที่บ่าวออกไปล้วนระวังอย่างยิง่ ระหว่างทาง
ยังเปลี่ยนรถม้าสองครั้ง ไม่มีทางสะดุดตาคนแน่นอน”
ฉินชวนสาบานพลาง แอบมองหน้าเสนาบดีฉินอย่างระมัดระวัง
แล้วพูดอีกว่า “วันนี้เดิมทีไม่ใช่วนั ขึ้นเขา คราวที่แล้วบ่าวเพิ่งไป ลุง
ชางบอกว่าคุณชายผิงอันไอรุ นแรงมาก ให้บ่าวส่ งยาไปหน่อย พอดี
วันนี้บ่าวมีเวลา จึงเจียดยารักษาอาการไอส่ งไป ทว่าใครจะรู ้วา่ เรื อน
นั้นกลับโล่งไม่มีคนแล้ว บ่าวไม่กล้าอยูจ่ ึงรี บรุ ดกลับมาขอรับ” พูด
จบเขาก็ตวั สัน่ งันงกคุกเข่าอยูบ่ นพื้น สี หน้ามีแต่ความวิงวอน หวัง
เพียงเสนาบดีจะเห็นแก่ที่เขาจงรักภักดีมาหลายปี ละเว้นชีวิตเขาสัก
ครั้ง
เริ่ มตั้งแต่สิบปี ก่อน เขาก็ข้ ึนเขาทุกสองเดือนครั้ง ไปเรื อนใหญ่นนั่ ดู
คุณชายที่ชื่อผิงอันคนนั้นเพื่อส่ งเสบียง แม้เขาไม่รู้วา่ คุณชายผิงอัน
ท่านนั้นมีฐานะอะไร ทว่ามองดูใบหน้าที่ค่อยๆ เติบใหญ่ข้ ึน เขาเดา
ได้รางๆ ว่าฐานะของคุณชายผิงอันต้องไม่ธรรมดาแน่ ในใจก็ยงิ่ กลัว
ขึ้นเรื่ อยๆ บัดนี้คุณชายผิงอันและลุงชางหายไปแล้ว เสนาบดีจะเก็บ
เขาไว้หรื อ
“ที่แท้เป็ นเช่นนี้เอง!” เสนาบดีฉินเข้าใจแจ่มแจ้งขึ้นมา ร้องเรี ยนเขา
เป็ นเพียงหมอกควันเท่านั้น ที่แท้ผงิ อันถูกพบแล้วนี่เอง! บัดนี้ใน
ที่สุดเสนาบดีฉินก็เชื่อมโยงเรื่ องราวขึ้นมาได้ ใช่ฝ่าบาทหรื อไม่ ฝ่ า
บาทจะลงมือกับตระกูลฉินแล้วหรื อ ความคิดของคนวางแผนช่าง
รอบคอบจริ งๆ ใช้โทษฐานที่เลื่อนลอยร้องเรี ยนเขาก่อน ให้เขาเผลอ
บัดนี้กล็ กั ตัวผิงอันและลุงชางไปอีก ก้าวต่อไปก็ควร…หึ ๆ เดิมทีกะ
จะรออีกหน่อย ไม่คิดว่าฝ่ าบาทจะใจร้อนเช่นนี้ เช่นนั้นก็อย่าโทษที่
เขาลงมือล่วงหน้าแล้วกัน
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ในใจเสนาบดีฉินตื่นเต้นขึ้นมารางๆ เลือดแทบจะ
เดือดขึ้นมาแล้ว ในมือเขามีทหารฝี มือดีหนึ่งแสนนาย วางแผนมา
หลายปี เพียงนี้ ไม่เพียงในวัง แม้แต่ในทหารรักษาพระองค์กม็ ีคน
ของเขา ฮ่าๆ ก็เป็ นเวลาเตือนฝ่ าบาทให้แต่งตั้งรัชทายาทแล้ว!
เสนาบดีฉินหัวเราะร่ าอย่างผยอง หางตาเห็นฉินชวนที่คุกเข่าอยูบ่ น
พื้น “เจ้าออกไปก่อนเถอะ ช่วงนี้ไม่ตอ้ งออกจากจวนแล้ว ปิ ดปากให้
สนิทหน่อย ห้ามพูดถึงแม้แต่คาเดียว”
แม้ฉินชวนไม่เข้าใจว่าเสนาบดีหวั เราะอะไร ทว่าสามารถรักษาชีวิต
ไว้ได้เขาก็โชคดีมากแล้ว จึงรี บโขกศีรษะทีหนึ่งแล้วไสหัวออกไป
อย่างรวดเร็ ว
ว่าราชการเช้าวันรุ่ งขึ้น ขุนนางหลายท่านร่ วมลงนามทูลเชิญฝ่ าบาท
แต่งตั้งรัชทายาท เพื่อแผ่นดินที่เป็ นปึ กแผ่น
เมื่อฮ่องเต้ยงเซวียนถามอย่างสบายๆ ว่า “เช่นนั้นพวกท่านคิดว่าองค์
ชายคนไหนเหมาะจะเป็ นรัชทายาทเล่า”
เหล่าขุนนางที่อยูข่ า้ งล่างสบตากันปราดหนึ่ง เลขาธิการฝ่ ายพิธีการ
ก้าวออกมาก่อน “ทูลฝ่ าบาท กระหม่อมเสนอองค์ชายรองพ่ะย่ะค่ะ
องค์ชายรองอุปนิสยั สู งส่ งงดงาม ความสามารถโดดเด่น จิตใจ
บริ สุทธิ์กตัญญู เป็ นผูท้ ี่เหมาะจะเป็ นรัชทายาทที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”
“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
“กระหม่อมเห็นด้วยกับข้อเสนอของท่านเลขาธิการพ่ะย่ะค่ะ”
“กระหม่อมคิดว่าองค์ชายรองเป็ นรัชทายาทเป็ นความผาสุ กของ
ต้ายงพ่ะย่ะค่ะ”
ชัว่ ขณะหนึ่งขุนนางครึ่ งหนึ่งก้าวออกมาแสดงท่าที คนที่ไม่ได้เปิ ด
ปากนอกจากใต้เท้าผูช้ ราสองสามท่านของคณะเสนาบดี ยังมีเชื้อ
พระวงศ์หลายคน อ้อ และยังมีเสนาบดีฉิน
ฮ่องเต้ยงเซวียนมองไปที่เสนาบดีฉินอย่างไม่แยแสว่า “เสนาบดีฉิน
คิดว่าอย่างไรเล่า” ต้องการให้เสนาบดีฉินแสดงท่าทีแล้ว
เสนาบดีฉินพูดอย่างนอบน้อมว่า “กระหม่อมรับฟังคาวินิจฉัยของฝ่ า
บาทพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อพูดออกไป ทั้งท้องพระโรงเงียบสงัด ผ่านไปเนิ่นนาน ฮ่องเต้ยง
เซวียนถึงอืมเสี ยงหนึ่ง ว่า “เรื่ องการแต่งตั้งรัชทายาทเกี่ยวพันถึง
หลายฝ่ าย จาเป็ นต้องค่อยๆ พิจารณา”
เหล่าขุนนางเจ้ามองดูขา้ ข้ามองดูเจ้า แล้วกล่าวพร้อมเพรี ยงกันว่า
“กระหม่อมรับบัญชา” ในใจกลับวางแผนว่าไว้ค่อยยืน่ ฎีกา ตัวเลือก
รัชทายาทเห็นชัดๆ อยูม่ ิใช่หรื อ นอกจากองค์ชายรองแล้วยังจะเป็ น
ใครไปได้ เวลานี้ไม่ออกแรงจะยังรอให้ถึงเมื่อไร
ตอนที่ 281-2 รัชทายาท

วังหลวง ตาหนักเจาเต๋ อ

ฉิ นซู่เฟยกาลังเช็ดน้ าตาต่อหน้าฮ่องเต้ยงเซวียน “ฝ่ าบาท ไยถึงมีคน


อามหิ ตเช่ นนี้ นะ หม่อมฉันเพิ่งรู ้ ว่ามี คนร้ องเรี ยนบิ ดาว่าหมายก่อ
กบฏ ช่ างเป็ นเรื่ องตลกจริ งๆ! บิดาของหม่อมฉันตรากตราทางาน
ด้วยความสุ ขมุ รอบคอบเพื่อต้ายงมาหลายสิ บปี เหล่านี้ฝ่าบาทก็เห็น
อยูก่ บั ตา บิดาจะกบฏได้อย่างไรเพคะ ฝ่ าบาท ท่านต้องตัดสิ นแทน
บิดาหม่อมฉัน อย่าให้แผนชัว่ ของคนถ่อยบรรลุผลนะเพคะ”

ฮ่องเต้ยงเซวียนตรัสว่า “ซู่ เฟยวางใจเถอะ ข้าส่ งคนไปตรวจสอบ


แล้วมิใช่หรื อ ไม่มีทางปรักปราเสนาบดี ฉินเด็ดขาด ใช่หรื อไม่ลูก
พ่อ” เขาเบือนหน้าถามองค์ชายรองที่ยนื อยูข่ า้ งๆ

องค์ ช ายรองรี บกล่ า วอย่ า งนอบน้ อ มว่ า “เสด็ จ พ่ อ ทรงปรี ชา!


กระหม่อมแม้เชื่อว่าเสนาบดีฉินไม่มีทางทาเรื่ องไม่ภกั ดีเช่นนี้ ทว่า
ท้ายที่สุดสิ บปากว่าไม่เท่าตาเห็น อย่างไรก็ตรวจสอบสักคราดีกว่า
พ่ะย่ะค่ะ”

แล้วหันหน้าปลอบใจเสด็จแม่ของเขาว่า “เสด็จแม่ไม่ตอ้ งกังวล ผู ้


บริ สุทธิ์ยอ่ มบริ สุทธิ์ เสด็จพ่อมิอาจทนดูขนุ นางถูกปรักปราหรอก”

ฮ่องเต้ยงเซวียนพยักหน้าว่า “ใช่ เสนาบดีฉินเป็ นขุนนางสาคัญของ


แคว้น ข้าไม่มีทางทนดูเขาถูกปรักปราหรอก”

“หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่ าบาทที่เชื่ อมัน่ ในตัวบิดา” ฉิ นซู่ เฟยเช็ด


น้ าตาที่หวั ตาทิ้งไป ยังคงไม่ค่อยวางใจ เกิดเรื่ องนี้ในช่วงที่บุตรชาย
กาลังจะได้รับการแต่งตั้งเป็ นรัชทายาท อย่างไรก็ไม่ค่อยดีนกั “ฝ่ า
บาท ยิง่ ลือมากคนยิง่ เชื่อว่าเป็ นจริ ง ข่าวลือฆ่าคน หม่อมฉันไม่ห่วง
ว่าฝ่ าบาทจะถูกคนถ่อยปิ ดพระเนตรพระกรรณ ทว่าหม่อมฉันเป็ น
ห่วงชื่อเสี ยงของบิดาเพคะ!”

“เช่นนั้นซู่เฟยคิดจะทาเช่นไร ไม่สู้เชิญเสนาบดีเข้าวังอธิ บายเถอะ”


ฮ่องเต้ยงเซวียนเลิกคิ้ว ไม่รอซู่เฟยตอบก็ตดั สิ นใจว่า “ใช่ ก็ทาเช่นนี้
เถอะ! เรี ยกใต้เท้าชราพวกนั้นและผิงจวิน้ อ๋ องมาพร้อมกัน”
ราชโองการสั่ ง ลงไปแล้ว ฉิ น ซู่ เ ฟยนอกจากพยัก หน้ า ก็ ไ ม่ มี
ทางเลือกอื่นแล้ว

เสนาบดีและคนอื่นๆ ได้รับราชโองการจากฮ่องเต้ยงเซวียนไม่นาน
นัก ก็ ม าถึ ง ต าหนัก เจาเต๋ อ ฮ่ อ งเต้ย งเซวี ย นตรั ส ว่า “เสนาบดี ฉิน
ผูต้ รวจการร้องเรี ยนท่านซ่ องสุ มอาวุธ ข้าเห็นแก่หน้าซู่เฟยและองค์
ชายรองอนุญาตให้ท่านอธิบาย”

เสนาบดีฉินใบหน้าสงบว่า “ฝ่ าบาท เรื อนตากอากาศที่ชานเมืองของ


กระหม่ อ มเป็ นเพี ย งเรื อ นธรรมดาเท่ า นั้น ไม่ ไ ด้ซ่ อ งสุ ม อาวุ ธ
เด็ ด ขาด กระหม่ อ มภัก ดี ท้ ัง ต่ อ ต้า ยง และฝ่ าบาทท่ า นพ่ ะ ย่ะ ค่ ะ
กระหม่ อ มขอสาบานต่ อ สวรรค์ ไม่ มี ท างท าเรื่ อ งไม่ ภ ัก ดี เ ช่ น นี้
เด็ดขาด ขอให้ฝ่าบาทอย่าถูกคาพูดยุยงของคนถ่อยโน้มน้าวพ่ะย่ะ
ค่ะ!”

พวกใต้เท้าชราที่ถูกเชิ ญมาเป็ นพยานสบตากันปราดหนึ่ ง อามาตย์


ฝังก้าวออกมาว่า “ฝ่ าบาท กระหม่อมและเสนาบดีฉินทางานร่ วมกัน
มาหลายสิ บปี กระหม่อมเชื่ อว่าที่ เสนาบดี พูดเป็ นความจริ งพ่ะย่ะ
ค่ะ” ขุนนางที่เหลือต่างพยักหน้าตามๆ กัน
สวีโย่วกลับแค่นเสี ยงเย็นทีหนึ่ ง เอ่ยว่า “ใต้เท้าทั้งหลายอย่าลืมว่ามี
คาพูดประโยคหนึ่ งกล่าวไว้ว่า ‘รู ้คนรู ้หน้าไม่รู้ใจ’ ไม่มีลมไหนเลย
จะมีคลื่น เสนาบดีฉินหากไม่เคยทาไยถึงมีข่าวลือออกมาเล่า”

เสนาบดี ฉินโต้ตอบด้วยความสุ ขุมว่า “หากอยากเพิ่มโทษย่อมหา


ข้ออ้างได้เสมอ”

สวีโย่วเลิกคิ้วขึ้น “ข้าว่าเสนาบดีฉินไม่เห็นโลงศพไม่หลัง่ น้ าตา พา


เข้ามาเถอะ” เขาเสี ยงดังขึ้นทันที

แล้วก็เห็นคนคนหนึ่ งถูกมัดมือไขว้หลังถูกทหารรักษาพระองค์หิ้ว
เข้ามา โยนลงพื้นอย่างแรง

เสนาบดี ฉินหน้า ถอดสี “ฉิ นสื อ !” จากนั้นจ้อ งสวี โ ย่ว ด้ว ยความ
โกรธว่า “ผิงจวิ้นอ๋ องทาเช่ นนี้ หมายความว่าอย่างไร จับบ่าวไพร่
ของจวนเสนาบดีมาทาอะไร”

“อ้อ ที่แท้คนผูน้ ้ ี เป็ นบ่าวไพร่ ของจวนเสนาบดี หรื อ!” สวีโย่วพูด


อย่างไม่แยแส “ข้าเห็นเขาที่เรื อนตากอากาศที่ชานเมืองของท่านนัน่
ยามนั้นเขาพฤติ กรรมลับๆ ล่ อๆ ข้าเห็ นเขาน่ าสงสัยจึ งจับเขาไว้
จากนั้นทันทีที่ตรวจค้น ยังค้นพบอาวุธ ดาบยาวสามพันเล่ม ธนูสาม
พันคัน ยังมี ลูกธนู นับไม่ ถว้ นในห้องใต้ดินที่ เรื อนพักตากอากาศ
ของท่านนัน่ จริ งๆ เสนาบดีฉินจะอธิบายอย่างไรล่ะ”

“อะไรนะ” เสนาบดีฉินยังไม่ทนั อ้าปาก พวกใต้เท้าชราก็ตกตะลึง


แล้ว “ที่ผงิ จวิน้ อ๋ องพูดมาเป็ นความจริ งหรื อไม่”

สวีโย่วเหลือบมองพวกเขาปราดหนึ่ ง กล่าวเสี ยงดังฟั งชัดว่า “จริ ง


แท้แน่นอน!”

“เป็ นไปไม่ได้ เสนาบดีฉินไม่มีทางทาเรื่ องทรยศเช่ นนี้ ” องค์ชาย


รองแย้ง เรื่ องเขาเป็ นรัชทายาทไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ท่านตา
ชาญฉลาดปานนั้น ไม่มีทางทาลายตนเองหรอก “เสด็จพ่อ นี่ ตอ้ งมี
คนใส่ ร้ายป้ายสี แน่นอน กระหม่อมทูลขอให้สืบให้แน่ชดั ด้วยพ่ะย่ะ
ค่ะ” เขาคุกเข่าลงบนพื้น

ฮ่องเต้ยงเซวียนหน้าไร้ความรู ้สึกมองเขา ไม่ได้พดู สักคา

“ใส่ ร้ายป้ ายสี ตาร้ อยกว่าคู่ของกองปั ญจทิ ศรั กษานครจับจ้องอยู่


ใครมี ความสามารถปานนั้นไปใส่ ร้ายป้ ายสี อ้อถูกแล้ว คนที่ องค์
ชายรองพูดถึงคือข้าสิ นะ ข้าไม่มีความแค้นกับเสนาบดีฉิน กิ นอิ่ม
ไม่มีอะไรทาถึงไปใส่ ร้ายป้ ายสี ” บนหน้าของสวีโย่วมีแต่ความเย้ย
หยัน

“ผิงจวิ้นอ๋ อง เจ้า เจ้าบังอาจ!” ฉิ นซู่ เฟยโกรธจนยั้งอารมณ์ ไม่ได้


ยามนี้ นางลืมคาพูดของบุตรชายนานแล้ว รู ้ สึกเพียงว่าผิงจวิ้นอ๋ อง
เป็ นปฏิปักษ์กบั บิดานางไปทัว่ เช่นนั้นก็คือศัตรู คู่อาฆาต

สวีโย่วแค่นเสี ยงเย็นเสี ยงหนึ่ง ไม่มองนางสักปราดเดียว

“เสนาบดี ฉิน ท่านจะอธิ บายอย่างไร” ฮ่องเต้ยงเซวียนถึงเอ่ยปาก


ช้าๆ นัยน์ตาแฝงความน่าเกรงขาม

แล้วก็เห็นเสนาบดีฉินสี หน้าผิดหวัง ถอนใจยาวๆ ว่า “ฝ่ าบาท ท่าน


ยัง คงสงสั ย ในตัว กระหม่ อ ม! ฝ่ าบาท ตอนนั้น ท่ า นปราดเปรื่ อ ง
เพียงใด ทว่าบัดนี้ท่านกลับถูกคนถ่อยหลอกลวงสงสัยขุนนางสาคัญ
ของแผ่น ดิ น ฝ่ าบาท ท่ า นทรงชราภาพแล้ว !” ความผิ ด หวัง บน
ใบหน้า เปลี่ ย นเป็ นความโกรธ ความโกรธแค้น แทบจะพรั่ ง พรู
ออกมา
สายตาวนเวียนไปมาบนตัวพวกเขา แล้วพูดอีกว่า “ฝ่ าบาท แม้ท่าน
สงสัยกระหม่อม ทว่ากระหม่อมยังคงต้องทาตามหน้าที่ของข้าราช
บริ พาร ท่านควรแต่งตั้งรัชทายาทแล้ว”

พระพัก ตร์ ข องฮ่ อ งเต้ย งเซวี ย นยัง คงไม่ มีอ ารมณ์ ว่ า “แต่ ง ตั้ง รั ช
ทายาท คนที่เสนาบดีฉินถูกใจเป็ นใคร องค์ชายรองหรื อ” ความเยาะ
เย้ยลอยขึ้นจากใต้ตา

เสนาบดีฉินสบตากับฮ่องเต้ยงเซวียนอย่างใจเย็นว่า “ใช่ กระหม่อม


รู ้สึกว่าไม่ว่าอุปนิ สัยหรื อความสามารถ ตัวเลือกของรัชทายาทต้อง
เป็ นองค์ชายรองอย่างไม่ตอ้ งสงสัย พวกใต้เท้าเห็นว่าอย่างไร”

พวกใต้เท้าจากคณะเสนาบดีสบตากัน แม้รู้สึกว่าที่เสนาบดีฉินพูด
เป็ นเรื่ องจริ ง ทว่าไม่อาจไม่พูดว่าบีบคั้นเกินไป รองเสนาบดีใต้เท้า
เหยาก้า วออกมาประนี ป ระนอมว่า “เสนาบดี ฉินอย่า ใจร้ อ น ทุ ก
อย่างฟังการวินิจฉัยจากฝ่ าบาท”
ฮ่ อ งเต้ย งเซวี ย นกลับ เบื อ นสายตาไปที่ อ งค์ ช ายรองว่ า “ลู ก ล่ ะ
เสนาบดี ฉิ น บอกว่ า ต าแหน่ ง รั ช ทายาทจะเป็ นของใครไปไม่ ไ ด้
นอกจากเจ้า เจ้าก็คิดเช่นนี้หรื อไม่”

องค์ชายรองรู ้ สึกลาบากใจขึ้นมาทันที เช่ นนี้ เขาควรตอบอย่างไร


เขาสามารถพูดว่าเขาเห็นตาแหน่งรัชทายาทเป็ นของของเขามานาน
แล้วได้หรื อ ทว่าหากบอกว่าไม่ใช่ ก็สิ้นเปลื องโอกาสดี เช่ นนี้ ไป
เปล่าๆ อีก อย่างไรเสี ยที่ท่านตาทาก็เพื่อเขาทั้งนั้นนี่นา!

“เสด็จพ่อ ลูก ลูกไม่ได้คิดเช่นนี้ เด็ดขาด!” องค์ชายรองกัดฟั น พูด


ออกมาเช่นนี้ ความเสี ยดายกลับแวบผ่านใบหน้าอย่างรวดเร็ ว

ความเสี ยดายนี้ ตกอยูใ่ นตาของฮ่องเต้ยงเซวีนแล้วบาดตาเป็ นพิเศษ


เขาตรัส “ในใจเจ้าเกรงว่าจะไม่ได้คิดเช่นนี้ สินะ” เขาแผดเสี ยงขึ้น
โดยพลัน “เจ้ามันคนไม่จงรักภักดีอกตัญญู ข้ายังไม่ตาย จับตัวไว้!”

คนทั้งตาหนัก รวมทั้งตัวองค์ชายรองเองล้วนตกใจหน้าถอดสี
“ฝ่ าบาท ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!” นี่คือเสี ยงร้องตกใจของเหล่าขุนนางคณะ
เสนาบดี

“ฝ่ าบาทไม่นะเพคะ! นัน่ เป็ นบุตรแท้ๆ ของท่านนะเพคะ!” นี่ คือ


การวิงวอนจากฉิ นซู่เฟย “ผิงจวิน้ อ๋ อง เจ้าหมิ่นเกียรติเบื้องบน จะก่อ
กบฏหรื ออย่างไร”

มีเพียงสองคนที่ไม่กระโตกกระตาก คนหนึ่งคือสวีโย่วที่พาดกระบี่
ไว้ที่คอองค์ชายรอง อีกคนหนึ่งก็คือเสนาบดีฉิน

“ฝ่ าบาท ท่านทรงชราภาพแล้วจริ งๆ เลอะเลือนแล้ว ไม่คิดว่าท่าน


จะตัดสิ นใจฆ่ าขุนนางผูภ้ กั ดี และบุ ตรบังเกิ ดเกล้า!” เสนาบดี ฉิน
เคียดแค้นชิงชังเป็ นอย่างยิง่ “ผดุงความเที่ยงธรรมคือหน้าที่ที่ไม่อาจ
ปฏิเสธของพวกกระหม่อม ฝ่ าบาท ท่านแต่งตั้งรัชทายาทเถอะพ่ะย่ะ
ค่ะ” ท่าทางเหมือนสละชีวิตเพื่อสัจธรรม

องค์ชายรองก็พูดอย่างน้อยใจอยู่ขา้ งๆ ว่า “เสด็จพ่อ กระหม่อมทา


อะไรผิดกันแน่พะ่ ย่ะค่ะ”
“การที่เจ้ามีชีวิตอยูก่ ค็ ือความผิดที่ใหญ่หลวงที่สุด!” ฮ่องเต้ยงเซวียน
จ้องหน้าองค์ชายรอง สี หน้าซับซ้อนอย่างยิง่ “พาเข้ามาเถอะ!”

ขันทีนาเด็กหนุ่มเดินออกจากตาหนักข้าง เขาอายุประมาณสิ บแปด


สิ บเก้าปี แต่งกายเรี ยบง่าย ท่าทางกระสับกระส่ าย ทว่าคนที่อยู่ใน
ตาหนักมองใบหน้าของเขาแล้วกลับตกตะลึงจนอ้าปากค้าง เหมือน
เหมือนเหลือเกิน เหมือนฝ่ าบาทเหลือเกิน หรื อว่านี่ก็เป็ นบุตรมังกร
ของฝ่ าบาทเช่นกัน

“เสนาบดี ฉิน ท่านยังมี อะไรจะพูดหรื อไม่” ฮ่ องเต้ยงเซวียนมอง


เสนาบดี ฉินอย่างเย็นชา มื อที่ วางอยู่ขา้ งๆ เอ็นปู ดขึ้ น ตระกูลฉิ น
เก่งกาจเหลือเกิน เล่นลักมังกรสลับหงส์ ได้ดี หากไม่ใช่อาโย่วพบ
โดยบังเอิญ แผ่นดินของตระกูลสวีมิตอ้ งส่ งมอบให้ผูอ้ ื่นหรื อ แล้ว
เขาจะมีหน้าลงไปพบเสด็จพ่อได้อยางไร

“ฝ่ าบาทตรัสอะไร กระหม่อมฟังไม่เข้าใจ” เสนาบดีท่าทางนิ่งเงียบ


ไม่ทุกข์ร้อน กลับมองเด็กหนุ่ มอักอ่วนคนนี้ อย่างแปลกใจว่า “ฝ่ า
บาท ท่านนี้คือ”
ตอนที่ 282-1 บังคับสละบัลลังก์

ฮ่องเต้ยงเซวียนหัวเราะ “เสนาบดีฉินถามข้าว่านี่เป็ นใคร เจ้ารู ้อยูแ่ ก่


ใจมิ ใ ช่ ห รื อ เขาคื อ บุ ต รของข้า น่ า เสี ย ดายถู ก ตระกู ล ฉิ น เจ้า ลัก
ออกไป นี่กค็ ือความไม่ภกั ดีของเจ้า”

เสนาบดีฉินสี หน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิ ด “หากอยากเพิ่มโทษย่อมหา


ข้ออ้างได้เสมอ ฝ่ าบาท กระหม่ อมเห็ นคุ ณชายท่ านนี้ หน้าไม่คุน้
อย่างยิง่ นี่เป็ นองค์ชายของพระสนมท่านใด”

“เสนาบดี ฉินช่ างแกล้งโง่ได้ดีจริ งๆ! ท่านไม่เข้าใจเช่ นนั้นข้าก็จะ


อธิ บายให้ท่านฟังเอง” สวีโย่วชายตามองเสนาบดีฉิน “คนผูน้ ้ ีชื่อผิง
อัน ข้าพบเขาอยูใ่ นหมู่บา้ นบนภูเขาในเขตชานเมืองทางตะวันออก
ของเมือง อ้อ ข้างกายเขามีบ่าวเฒ่าชื่ อลุงชางคนหนึ่ ง ยังมี พ่อบ้าน
คนหนึ่งในจวนเสนาบดีชื่อฉิ นชวนทุกสองเดือนจะขึ้นเขาส่ งเสบียง
ครั้งหนึ่ ง ที่บงั เอิญยิ่งกว่าคือวันเกิดของเขาเป็ นวันเดียวกับองค์ชาย
รอง พระสนมซู่เฟย ท่านว่าเรื่ องนี้บงั เอิญหรื อไม่ ท่านดูหน้าเขาแล้ว
คุน้ หน้ามากใช่หรื อไม่”

ตั้งแต่เด็กหนุ่มคนนี้ เข้ามาตาฉิ นซู่ เฟยก็จบั จ้องอยูบ่ นตัวเขา ไม่ พูด


ให้ถูกต้องคือจับจ้องอยู่บนไฝแดงขนาดเท่าเมล็ดถัว่ เหลืองที่ ติ่งหู
ของเขา มือของนางสั่นแผ่วเบา กรอบตาเอ่อเต็มไปด้วยน้ าตา ไม่
ต้องให้ผิงจวิ้นอ๋ องพูด นางก็รู้ว่านี่ ถึงเป็ นบุตรบังเกิดเกล้าของนาง
เด็ ก หนุ่ ม เยาว์ว ยั ที่ ก ระสั บ กระส่ า ย หน้า ตาเหมื อ นฝ่ าบาททั้ง ยัง
เหมือนนางเป็ นบุตรบังเกิดเกล้าของนางแน่แท้!

ตอนนั้นยามที่คลอดนางเหนื่ อยจนหมดแรง ระหว่างที่สะลึมสะลือ


เหมือนได้ยนิ หญิงชราข้างๆ พูดขึ้นประโยคหนึ่งว่า ‘องค์ชายน้อยมี
ไฝแดงที่ติ่งหู นี่เป็ นวาสนาอันใหญ่หลวงเชียวเจ้าค่ะ”

ทว่าเมื่อยามที่นางตื่นขึ้นมาอีกครั้งกลับไม่เห็ นไฝแดงอะไรที่ติ่งหู
ของบุตรชาย ยามที่นางถาม หญิงชราบอกว่านางหู ฝาดไป นางไม่
เคยพูดถึงไฝแดงอะไรเลย สาวใช้ก็บอกว่าไม่เห็นไฝแดงอะไร นาง
จึงนึ กว่าตนฟั งผิด ไม่คิดว่าไม่ใช่นางฟั งผิด หากแต่หญิงชราปิ ดบัง
นางไว้
หญิงชราที่ออกเรื อนไปจวนอ๋ องพร้อมนางผูน้ ้ นั นางจาได้วา่ ผ่านไป
ไม่นานนางก็เป็ นโรคร้ายจากไปแล้ว ยามนั้นนางยังเสี ยใจยกใหญ่
ไม่คิดว่านี่เป็ นเพียงแผนชัว่ แผนหนึ่งเท่านั้น แผนชัว่ อันใหญ่หลวง

“เสด็จแม่ !” องค์ชายรองเห็ นสี หน้าของซู่ เฟยแล้วลนลานขึ้ นมา


ทันที ในใจกระวนกระวายขึ้นมา ดูเหมือนบางสิ่ งบางอย่างกาลังจะ
จากเขาไป

ฉิ นซู่เฟยเบือนหน้ามองไปที่องค์ชายรองที่หน้าตาน้อยใจแล้วสี หน้า
ซั บ ซ้ อ นเหลื อ เกิ น หากคนผู ้น้ ัน เป็ นบุ ต รบัง เกิ ด เกล้า ของนาง
เช่ นนั้นเด็กที่ นางทั้งรั กทั้งปกป้ องเลี้ ยงมากับมื อคนนี้ เป็ นใครเล่ า
นางอดเบือนสายตาไปหาเสนาบดีฉินไม่ได้ว่า “ท่านพ่อ ท่านบอก
ข้าหน่อย นี่มนั เรื่ องอะไรกันแน่ เขาเป็ นใคร เป็ นใคร” สองประโยค
สุ ดท้ายนางแทบจะตะคอกออกมา

“องค์ชายรองย่อมเป็ นบุตรของพระสนมอยูแ่ ล้ว พระสนมอย่าเชื่ อ


คาพูดเพ้อเจ้อของคนถ่ อยเชี ยว นี่ เป็ นเพียงอุ บายของผิงจวิ้นอ๋ อง
เท่านั้น พระสนมอย่าหลงกลเด็ดขาด” เสนาบดีฉินกล่าว
ฉิ นซู่ เฟยมองบิ ดาของนางอย่างไม่อยากเชื่ อ ยามใดแล้วยังหลอก
นางอยูอ่ ีก ทันใดนั้นนางล้มลงบนพื้น ถามไม่หยุดว่า “เพราะเหตุใด
เพราะเหตุใด” เพราะเหตุใดถึงต้องเปลี่ยนบุตรชายของนางไปด้วย
เพราะเหตุใดต้องทากับนางเช่นนี้ เพราะเหตุใด เพราะเหตุใด

“เสนาบดี ฉินต่ างหากที่ พูดเพ้อเจ้อกระมัง องค์ชายรองเป็ นบุ ตร


ฮ่องเต้จริ งหรื อ เขาน่าจะเป็ นบุตรบังเกิดเกล้าของเสนาบดีฉินถึงจะ
ถู กกระมัง! เป็ นบุ ตรที่ หญิ ง นามว่าหงเพีย นคนนั้นคลอดให้ท่ า น
กระมัง ” เสี ยงของสวีโย่วดังขึ้ นมาอี ก หลายวันมานี้ เขาไม่ ได้อ ยู่
เฉยๆ ตรวจสอบบรรพบุรุษแปดชัว่ โคตรของเสนาบดี ฉินจนแทบ
ทะลุปรุ โปร่ ง

“ท่ า น พ่ อ เ ห ร า ะ เ ห ตุ ใ ด ” ฉิ น ซู่ เ ฟ ย ท่ า ท า ง เ ห มื อ น ถู ก
กระทบกระเทือนอย่างหนัก หญิงที่ชื่อหงเพียนคนนี้นางก็จาได้ ยาม
นั้นนางยังไม่ ออกเรื อน หงเพียนมาพึ่งพาญาติ ห่างๆ ที่ จวน นิ สัย
อ่อนโยนมาก ไม่ว่าคุยกับใครล้วนอ่อนโยน นางจาได้ว่านางอยู่ใน
จวนเพียงไม่กี่เดื อนก็ไปแล้ว บอกว่าออกเรื อนไป ต่อมานางก็เข้า
จวนฉิ นอ๋ องไม่ได้พบหงเพียนอีก ไม่คิดว่านางจะคลอดบุตรชายให้
บิ ด า ยิ่ ง กว่ า นั้น เด็ ก คนนี้ ยัง ถู ก เปลี่ ย นมาอยู่ ข ้า งกายตน ดัง นั้น
บุตรชายที่นางกอบไว้ในมือเป็ นเพียงน้องชายของนาง! นี่จะให้นาง
รับความสัน่ สะเทือนเช่นนี้ได้อย่างไร!

ฉิ นซู่ เ ฟยแทบจะคลุ ้มคลัง่ อยู่แล้ว นางร่ า ไห้ ร่ า ไห้ เอาแต่ ถามว่า


“เพราะเหตุใด เหราะเหตุใด” น่าเสี ยดายไม่มีคนตอบนาง

องค์ชายรองก็ท่าทางเหมือนถูกโจมตีอย่างหนักเช่ นกัน “เสด็จพ่อ


เสด็จแม่ นี่ ไม่ใช่ความจริ ง กระหม่อมจะไม่ใช่บุตรชายของท่านได้
อย่างไรกัน นี่ ไม่ใช่ความจริ งแน่ นอน” เขาคือองค์ชายรอง คือองค์
ชายรองแห่ งราชวงศ์ตา้ ยง คือองค์ชายรองผูส้ ู งส่ งทรงเกียรติ เขาจะ
เป็ นบุตรชายของขุนนางได้อย่างไรกัน โดยเฉพาะคนคนนั้นยังเป็ น
ท่านตาของเขา! นี่ตอ้ งผิดพลาดแน่ๆ

เสี ยดายฮ่องเต้ยงเซวียนและฉิ นซู่ เฟยต่างไม่มองเขาสักปราด พวก


ขุนนางคณะเสนาบดีก็ตกใจกับบทละครที่พลิกผันนี้ จนงง สวรรค์!
ไม่คิดว่าองค์ชายรองจะไม่ใช่ บุตรฮ่องเต้ ไม่คิดว่าจะเป็ นบุตรชาย
ของเสนาบดีฉิน! นี่ นี่มนั เรื่ องอะไรกันแน่
เสนาบดีฉินยังคงไม่ขยับดุจขุนเขา เสี ยงนิ่งและทุม้ เป็ นพิเศษว่า “ฝ่ า
บาท นี่ เป็ นการใส่ ร้ายป้ ายสี ลว้ นๆ เพื่อฆ่ากระหม่อมแล้วไม่คิดว่า
ท่ า นจะไม่ ย อมรั บแม้แ ต่ บุต รชายบัง เกิ ด เกล้า องค์ช ายรองเป็ นผู ้
บริ สุทธิ์ กระหม่อมทาให้เขาต้องเดือดร้อนแล้ว! ฝ่ าบาทท่านว่าองค์
ชายรองเป็ นบุ ต รชายของกระหม่ อ ม หลัก ฐานล่ ะ พยานล่ ะ
กระหม่อมไม่ยอมรับพ่ะย่ะค่ะ!”

“ท่านอยากได้หลักฐาน เช่ นนั้นข้าก็คือหลักฐานตัวเป็ นๆ!” เสี ยง


กังวานเสี ยงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าประตูตาหนัก

ทุกคนมองไป ก็เห็นจยาฮุ่ยจวิน้ จู่เข็นผูเ้ ฒ่าเสื้ อผ้ามอมแมมท่านหนึ่ง


เข้ามาในตาหนัก ผูเ้ ฒ่าคนนั้นใบหน้าเฒ่าชรา มีเพียงดวงตาคู่หนึ่ ง
สว่างจนน่าตกใจ ยามนี้กาลังจ้องเสนาบดีฉินอย่างชิงชัง

“กระหม่อม อ๋ องเคียงบ่าเฉิ งอี้ถวายบังคมฝ่ าบาท” ผูเ้ ฒ่านัง่ อยู่บน


เก้าอี้มงั กรถวายบังคมฮ่องเต้ยงเซวียน

ฮ่ อ งเต้ ย งเซวี ย นแม้ รู้ สึ กประหลาดใจ บนใบหน้ า กลั บ ไม่


กระโตกกระตาก “เสด็จอาไม่ตอ้ งมากพิธี”
คนอื่นกลับไม่ได้รับการปลูกฝั งด้านศีลธรรมจรรยาดีเช่นฮ่องเต้ยง
เซวียน ราวกับเห็นผีก็ไม่ปาน “อะไรนะ ท่านคืออ๋ องเคียงบ่า” อ๋ อง
เคียงบ่าเฉิ งอี้ที่ทะเลาะจนร้าวฉานกับฮ่องเต้องค์ก่อนแล้วพาทหาร
จากไปเมื่อยี่สิบปี ก่อน เป็ นไปได้อย่างไร ก้าวเข้าไปพิจารณาอย่าง
ละเอียด ถูกต้อง นี่ คืออ๋ องเคียงบ่าที่ข้ ึนชื่อว่ารู ปงามสง่าท่านนั้นนั้น
ทว่าใครจะคิดว่าตาเฒ่ามอมแมมตรงหน้าคนนี้ จะเกี่ยวข้องกับอ๋ อง
เคียงบ่าที่เกรี ยงไกรหล่อเหลาเมื่อก่อนเล่า

“ถูกต้อง ข้าเอง” เฉิ งอี้สายตาเย็นเยียบ “ฝ่ าบาท ท่านรู ้ว่าหลายปี มา


นี้ กระหม่อมอยูท่ ี่ไหนหรื อไม่ กระหม่อมไม่ได้ออกจากเมืองหลวง
เลย สิ บกว่าปี นี้ กระหม่อมถูกจองจาอยู่ในห้องลับจวนเสนาบดี ฉิน
มาตลอด เดิ มกระหม่อมและฉิ นเฮ่ อคนนั้นเป็ นสหายสนิ ทกัน จึ ง
ไม่ได้คิดระแวงพวกเขาเลย ทว่าฉิ นเฮ่อและฉิ นชังคนถ่อยชัว่ ช้าคู่น้ ี
ไม่ คิ ด ว่ า จะวางยาพิ ษ ในสุ ร าของกระหม่ อ ม ฆ่ า องครั ก ษ์ข อง
กระหม่อม แย่งตราประทับของกระหม่อม แล้วจองจากระหม่อม
ไว้” เฉิ งอี้เบิกดวงตาที่โกรธเกรี้ ยว แทบอยากจะฉี กทึ้งฉิ นชังที่ทาให้
เขาได้รับความทรมานและอัปยศอย่างที่สุดคนนี้
“เสด็จอาพูดจริ งหรื อไม่” สายตาของฮ่องเต้ยวเซวียนขึงขังขึ้นมา
หากคาพูดของอ๋ องเคียงบ่าเป็ นความจริ ง เช่ นนั้นเรื่ องทุกอย่างก็มี
ค าอธิ บายแล้ว เสิ่ นผิง ยวนถู ก โจมตี ระหว่า งทางกลับ เมื องหลวง
ทหารที่ซุ่มอยูท่ ี่หลังเขาวัดเจียหลาน แล้วยังผูล้ ้ ีภยั บุกเข้าเมืองหลวง
อีก เรื่ องพวกนี้น่าจะเป็ นฝี มือของฉิ นชังทั้งหมด

“จริ งแท้แน่นอน” เฉิ งอี้กล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

เสิ่ นเวยก็พยักหน้าว่า “ฝ่ าบาท จยาฮุ่ยช่ วยอ๋ องเคียงบ่าออกมาจาก


ห้องลับในห้องหนังสื อจวนเสนาบดี เพคะ” เพื่อช่ วยอ๋ องเคี ยงบ่า
ออกมา ทหารลับ ทหารเงา กองทหารเด็ก อีกทั้งนักฆ่าของกลุ่มมือ
สังหารเคลื่อนพลจนหมด นางยังเชิญตระกูลอันที่เชี่ ยวชาญค่ายกล
ไปด้วยจึงหาคนเจอ

“ฝ่ าบาท ห้องลับค่ายกลของจวนเสนาบดี ใหญ่น้อยมี ท้ งั หมดเจ็ด


ห้อง ในจวนเสนาบดีนอกจากบ่าวไพร่ และองครักษ์ พวกนายท่าน
ล้วนหายไปหมดแล้ว อ้อจริ งสิ ใต้จวนเสนาบดียงั มีทางลับเส้นหนึ่ง
คนในครอบครัวของจวนเสนาบดีคาดว่าคงหนีไปตามเส้นทางลับนี้
ได้ส่งคนไล่ตามไปแล้วเพคะ” เสิ่ นเวยรายงานสถานการณ์ต่อฮ่องเต้
ยงเซวียน

ตั้งแต่เสิ่ นเวยเข้ามา สายตาของเสนาบดีฉินก็จอ้ งอยูบ่ นตัวนาง ส่ วน


อ๋ องเคียงบ่าเขากลับไม่ได้มองสักปราด ทหารแก่กล้าหนึ่ งแสนคน
นั้นอยูใ่ นมือเขาแล้ว อ๋ องเคียงบ่าไม่มีค่าแล้ว เขาจะเป็ นจะตาย หรื อ
ว่าถูกเปิ ดโปง ล้วนไม่สาคัญแล้ว

ส่ วนจยาฮุ่ยจวิ้นจู่คนนี้ ทาลายเรื่ องของเขาบ่อยครั้ง โดยเฉพาะนาง


ไม่เพียงแต่ช่วยเฉิ งอี้ออกมา ในเวลาอันสั้นเช่ นนี้ มิหนาซ้ ายังคลา
ห้องลับทางลับของจวนเสนาบดีจนชัดเจน จะไม่ให้เขายาเกรงและ
เคียดแค้นได้อย่างไร

“จยาฮุ่ ยจวิ้นจู่ ฝีมื อดี ข้าเพียงแต่ แค้นที่ ครั้ งนั้นไม่ ได้เอาชี วิตเจ้า”
เสนาบดีฉินกล่าวอย่างน่าขนลุก

เสิ่ นเวยคิ้วกระตุก นึ กถึงการลอบฆ่าที่เรื อนตากอากาศในครั้ งนั้น


ขึ้นมาทันที “ที่แท้คือท่าน!” ไม่ใช่ นางไม่เคยสงสัยเสนาบดีฉินมา
ก่อน กลับคิดว่านางเพียงแค่หารื อกับเขาเกี่ ยวกับเรื่ องการแต่งงาน
เท่านั้น เสนาบดี ผูย้ ิ่งใหญ่ของราชสานักคงไม่ถือสาเด็กสาวอย่าง
นาง ไม่คิดว่าเสนาบดีฉินช่างเป็ นคนอามหิ ตที่แม้แต่เรื่ องเล็กน้อยก็
ต้องแก้แค้น เพียงล่วงเกินเขาเล็กน้อยครั้งหนึ่ ง เขาก็สามารถลงทุน
ใหญ่โตถึงเพียงนี้เพื่อเอาชีวิตนาง

“ในเมื่อเป็ นเจ้า เช่นนั้นวันนี้ เราก็คิดบัญชีพร้อมกันเถอะ” เสิ่ นเวยก็


ยิ้มเยาะอย่างน่ าขนลุกตอบเขา นางยังไม่เคยเสี ยเปรี ยบรุ นแรงปาน
นั้นมาก่อน วันนี้หากไม่เอาคืน เช่นนั้นนางก็ไม่ใช่เสิ่ นเวยแล้ว

ฮ่องเต้ยงเซวียนมองเสนาบดี ฉินอย่างเย็นชา “ฉิ นชัง เจ้าคิดไม่ซื่อ


สลับสายเลือดเชื้อพระวงศ์ โทษสมควรตาย ทหาร จับฉิ นชังไว้”

องครักษ์สี่คนบุกเข้าท้องพระโรง กลับไม่ได้จบั เสนาบดีฉินตามที่


ฮ่ อ งเต้ย งเซวี ย นหวัง หากแต่ ยืนอยู่ข ้า งเสนาบดี ฉิน คอยปกป้ อ ง
“ท่านเสนาบดี ข้างนอกจัดการเรี ยบร้อยแล้วขอรับ”

ฮ่ อ งเต้ย งเซวี ย นสี ห น้า เปลี่ ย นทัน ที “ฉิ น ชัง เจ้า ! ไม่ คิ ด ว่ า รองผู ้
บัญชาการทหารรั กษาพระองค์ของข้าจะเป็ นคนของเจ้า ” ยามนี้ เขา
ยังมีอะไรไม่เข้าใจอีก ไยบิดาของสวีเวยถึงหกล้มขาหักได้บงั เอิญ
ปานนั้น ที่แท้กเ็ พื่อกันเขาออกไปหรื อนี่!

เสนาบดี ฉินยิ้มช้า ๆ สี ห น้า ได้ใ จว่า “เรื่ อ งที่ ฝ่ าบาทคิ ด ไม่ ถึ ง มี ต้ งั


มากมาย ทหารแก่กล้าหนึ่ งแสนของกระหม่อมบัดนี้ เข้าเมืองแล้ว
กระมัง เห็นแก่ที่เราเป็ นกษัตริ ยข์ นุ นางมาหลายสิ บปี ฝ่ าบาทอย่างไร
ท่ า นก็ ร่ า งราชโองการเถอะ ขอเพี ย งท่ า นเขี ย นราชโองการสละ
บัลลังก์ กระหม่อมก็จะไม่ทาให้ท่านลาบากใจ”

ฮ่ องเต้ยงเซวียนกลับเผยสี หน้าเย้ยหยัน “เกรงว่ายามที่ เจ้าได้ราช


โองการสละบัลลังก์ก็คือเวลาสิ้ นชีพของข้ากระมัง! ฉิ นชัง ต่อให้ขา้
ตายก็ไม่มีทางให้โจรกบฏเช่นเจ้าได้สมใจ”

พวกใต้เท้าชราก็เข้ามาขวางไว้หน้าฮ่ องเต้ยงเซวียนตามๆ กัน ด่ า


ด้วยความโกรธว่า “ฉิ งชางเจ้าโจรกบฏยังไม่รีบยอมให้จบั แต่โดย
ดี!”
เสนาบดี ฉินเลิกคิ้วว่า “พวกใต้เท้าเกลี้ยกล่อมฝ่ าบาทให้เขี ยนราช
โองการดีกว่า ข้ารับรอง รอองค์ชายรองขึ้นครองราชย์ จะไม่ลืมลาภ
ยศสรรเสริ ญของพวกท่าน”

“เจ้า เจ้าโจรกบฏ ใครๆ ก็ฆ่าได้ เจ้าไม่มีค่าควรแก่ การให้ขา้ เป็ น


พวกหรอก” ใต้เท้าหลี่ที่เที่ยงธรรมที่สุดในคณะเสนาบดีด่ากราด

“ในเมื่อพวกเจ้าไม่รู้กาลเทศะ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าเข้าไม่ให้โอกาส
พวกเจ้าแล้วกัน” เสนาบดีฉินพูดพลางตบมือสามที “เข้ามาให้หมด
เถอะ”

ทหารรักษาพระองค์ถืออาวุธทีมหนึ่งฮือกันเข้ามาจากด้านนอก ดาบ
และกระบี่ที่เป็ นประกายชี้ไปที่ฮ่องเต้ยงเซวียนและคนอื่นๆ
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 282-2 บังคับสละบัลลังก์
สวีโย่วผลักองค์ชำยรองมำข้ำงหน้ำ “ฉิ นชัง เจ้ำลืมแล้วใช่หรื อไม่วำ่
องค์ชำยรองของเจ้ำยังอยูใ่ นมือข้ำอยูเ่ ลย” เขำกดกระบี่ยำวในมือ
โลหิตไหลลงมำตำมคอขององค์ชำยรอง “เจ้ำอย่ำเคลื่อนไหวโดย
พลกำรดีกว่ำ หำกมือข้ำไม่นิ่ง องค์ชำยรองก็ไม่รอดแล้ว”
เสนำบดีฉินหน้ำถอดสี ยกมือขึ้นห้ำมทหำรรักษำพระองค์ที่บุกขึ้น
หน้ำทันที “ปล่อยองค์ชำยรอง ข้ำจะให้ศพเจ้ำอยูค่ รบ” องค์ชำยรอง
เป็ นไพ่ตำยที่สำคัญที่สุดในมือเขำ จะพลำดไม่ได้เด็ดขำด
เสิ่ นเวยหัวเรำะเยำะออกมำว่ำ “กวำงตำยในมือใคร*ยังไม่รู้เลย” สิ้ น
เสี ยงคนขยับ รอยำมที่ทหำรรักษำพระองค์กลุ่มนั้นได้สติกลับมำ
เสิ่ นเวยก็ฆ่ำไปแล้วสี่ คน ถือกระบี่อ่อนชุ่มโลหิ ตกลับมำยืนที่เดิม
“ใครกล้ำเข้ำมำ นี่กค็ ือจุดจบของมัน” เสิ่ นเวยชี้ศพบนพื้นแล้วข่มขู่
อย่ำงน่ำสยดสยอง
“ดี จยำฮุ่ยจวิน้ จู่เป็ นวีรสตรี จริ งๆ” ฮ่องเต้ยงเซวียนชื่นชมเสี ยงดัง
บรรยำกำศที่ตกต่ำพลิกผันทันที ฮ่องเต้ยงเซวียนพูดกับทหำรรักษำ
พระองค์วำ่ “พวกเจ้ำจะช่วยคนเลวก่อกรรมชัว่ จริ งหรื อ ขอเพียงพวก
เจ้ำวำงอำวุธลงกลับตัวกลับใจ ข้ำจะไม่ตำหนิในควำมผิดที่เกิดขึ้น”
ทว่ำทหำรรักษำพระองค์พวกนี้กลับไม่ขยับเขยื้อน เสนำบดีฉิน
หัวเรำะอย่ำงได้ใจว่ำ “ฝ่ ำบำทก็อย่ำเสี ยแรงเปล่ำเลย พวกเขำเป็ น
ทหำรคนสนิทของข้ำทั้งหมด”
ระหว่ำงที่พดู ก็ได้ยนิ เสี ยงอำวุธแหวกอำกำศ ลูกธนูสำมดอกจู่โจมมำ
อย่ำงรวดเร็ ว ดอกหนึ่งเล็งฮ่องเต้ยงเซวียน ดอกหนึ่งเล็งอ๋ องเคียงบ่ำ
เฉิงอี้ ยังมีอีกดอกหนึ่งพุง่ ตรงไปยังผิงอัน
ลูกธนูสำมดอกยิงเข้ำมำอย่ำงดุดนั พริ บตำเดียวก็มำถึงตรงหน้ำ
ฮ่องเต้ยงเซวียนจ้องหัวลูกธนูสีเงินวำวที่ใกล้แค่เอื้อมด้วยควำมตก
ตะลึง ใจว่ำชีวิตข้ำสิ้ นแล้ว และในชัว่ ลัดนิ้วมือเดียว เสิ่ นเวยและสวี
โย่วโถมเข้ำไปพร้อมกัน ผลักฮ่องเต้ยงเซวียนทีหนึ่ง ถึงหลบลูกธนูน้ ี
ได้อย่ำงหวุดหวิด
อ๋ องเคียงบ่ำเฉิงอี้กไ็ ม่โชคดีปำนนั้นแล้ว แม้เขำเคยเยีย่ มยุทธ ทว่ำกำร
จองจำสิ บกว่ำปี ร่ ำงกำยของเขำก็เสื่ อมโทรมไปนำนแล้ว ย่อมหลบ
ลูกธนูน้ ีไม่พน้ ถูกยิงทะลุ
“เสด็จอำ” ฮ่องเต้ยงเซวียนเรี ยกอย่ำงทำใจไม่ได้
เฉิงอี้กลับหัวเรำะร่ ำว่ำ “ฉิ นชังเสี่ ยวเอ๋ อร์ ข้ำจะไปรอเจ้ำอยูข่ ำ้ งล่ำง”
“เสด็จแม่!” เสี ยงร้องอย่ำงเศร้ำโศกดังขึ้นอีกเสี ยงหนึ่ง มำจำกปำก
องค์ชำยรองที่ได้อิสระแล้ว เขำมองข้ำงหน้ำอย่ำงไม่อยำกเชื่อ เดิน
โซเซไปข้ำงหน้ำสองก้ำวทว่ำกลับยกเท้ำไม่ข้ ึนอีก
นัน่ คือเสด็จแม่ของเขำ ทว่ำไยนำงถึงมองคนอีกคนหนึ่งอย่ำง
อ่อนโยนเมตตำเช่นนั้น เสด็จแม่กลัวเจ็บถึงเพียงนั้น เพรำะอะไรนำง
ถึงต้องบังธนูให้คนคนนั้นด้วย
“ท่ำน ท่ำน!” ผิงอันมองหญิงที่โถมมำบังธนูให้เขำข้ำงหน้ำอย่ำงทำ
อะไรไม่ถูก นำงงดงำม สง่ำเลิศล้ ำ กลับน้ ำตำนองหน้ำ
“เจ้ำ เจ้ำชื่อผิงอัน ใช่หรื อไม่” ฉินซู่เฟยยกมุมปำกขึ้นอย่ำงลำบำก
ใบหน้ำระบำยรอยยิม้ อ่อนโยน นำงยืน่ มือที่สนั่ เทำคิดจะลูบหน้ำของ
เขำ “เจ้ำ เจ้ำเรี ยกข้ำว่ำ เสด็จแม่คำหนึ่ง ได้หรื อไม่” เจ็บ เจ็บจริ งๆ !
ทว่ำนำงไม่เสี ยใจเลยแม้แต่นอ้ ย ยำมที่ลูกธนูยงิ มำที่ผงิ อันนำงไม่
แม้แต่จะคิดก็โถมตัวมำถึงหน้ำเขำ นี่คือบุตรชำยของนำง บุตรชำยที่
นำงให้กำเนิดและไม่ได้เลี้ยงแม้วนั เดียว!
ผิงอันยิง่ ทำอะไรไม่ถูก หญิงผูง้ ดงำมนี้กค็ ือมำรดำของเขำหรื อ ทว่ำ
ในใจของเขำเพรำะอะไรถึงเสี ยใจเพียงนี้
“อย่ำร้อง ผิงอัน เรี ยกข้ำสิ !” ในที่สุดฉินซู่เฟยก็ลูบถึงหน้ำผิงอันแล้ว
“เด็กดี ไม่ร้อง” นำงมองใบหน้ำของผิงอันอย่ำงละโมบ รำวกับดู
เท่ำไรก็ไม่พอ
ผิงอันถึงพบว่ำที่แท้ตนน้ ำตำไหลแล้ว เขำยืน่ มือไปเช็ด กลับเช็ด
อย่ำงไรก็ไม่สะอำด “สะ เสด็จแม่! ท่ำนอย่ำตำย ขอร้องท่ำนอย่ำ
ตำย!” เขำเพิ่งหำมำรดำเจอก็สูญเสี ยมำรดำไปแล้ว เขำไม่ตอ้ งกำรให้
เป็ นเช่นนี้ ผิงอันกอดฉินซู่เฟยไว้ ร้องไห้จนเสี ยงแหบแห้ง
ฉินซู่เฟยระบำยยิม้ อันปลำบปลื้มบนใบหน้ำ “ผิงอัน ผิงอัน ลูกแม่!”
เสี ยงของนำงรี บร้อน จำกนั้นจึงหยุดในทันใด มือที่ลูบหน้ำผิงอัน
ห้อยลงมำอย่ำงหมดแรง
“เสด็จแม่ เสด็จแม่ ท่ำนแม่!” ผิงอันตะโกนอย่ำงรวดร้ำว ทว่ำฉิ นซู่
เฟยในอ้อมกอดของเขำกลับหลับตำลงตลอดกำลแล้ว โฉมหน้ำกลับ
สงบสุ ขเหลือเกิน
“เจ้ำ เจ้ำฆ่ำแม่ขำ้ !” ผิงอันเงยหน้ำขึ้นโดยพลัน สำยตำแห่งควำมเคียด
แค้นยิงไปที่เสนำบดีฉิน
“เสด็จแม่ เสด็จแม่” องค์ชำยรองคลำนมำทำงนี้อย่ำงตื่นตระหนก
ทันทีที่เสนำบดีฉินให้สญ
ั ญำณ ก็มีคนขวำงเขำไว้
“ปล่อย เจ้ำปล่อยข้ำ ข้ำจะไปหำเสด็จแม่” องค์ชำยรองดิ้นรนสุ ดชีวิต
เสด็จแม่ของเขำตำยแล้ว ตำยแล้ว ไม่ นัน่ อำจไม่ใช่เสด็จแม่ของเขำ
เป็ นเพียง พี่สำวของเขำ!
คนชุดดำที่อยูด่ ีๆ ก็โผล่ออกมำยิงธนูออกมำพร้อมกันสำมดอกคน
นั้นเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วทีหนึ่ง แล้วเดินเข้ำไปสับมือครำหนึ่งองค์
ชำยรองหมดสติ “นำยท่ำน ข้ำน้อยมำช้ำแล้ว”
เสนำบดีฉินพูดว่ำ “ไม่ชำ้ กำลังดี” บุตรสำวตำยไปคนหนึ่ง บน
ใบหน้ำเขำไม่มีควำมโศกเศร้ำเลยแม้แต่นอ้ ย เสิ่ นเวยรู ้สึกไม่คุม้ แทน
ฉินซู่เฟย
“ข้ำงนอกจัดกำรเรี ยบร้อยหรื อยัง” เสนำบดีฉินถำม
“นำยท่ำนวำงใจได้ คนในวังล้วนเป็ นคนของเรำ” คนชุดดำหยุดที
หนึ่งแล้วพูดอีกว่ำ “กองทัพมำถึงนอกประตูเมืองทิศตะวันตกแล้ว
รอเพียงคำสัง่ จำกนำยท่ำนเท่ำนั้น” ขอเพียงเห็นสัญญำณที่นำยท่ำน
ปล่อย คนของพวกเขำก็จะเปิ ดประตูเมืองปล่อยกองทัพเข้ำเมือง
เสนำบดีฉินพยักหน้ำอย่ำงพอใจว่ำ “ฝ่ ำบำท ท่ำนรี บร่ ำงรำชโองกำร
ดีกว่ำ ควำมอดทนของกระหม่อมมีจำกัด ท่ำนไม่ตอ้ งคำดหวังว่ำจยำ
ฮุ่ยจวิน้ จู่จะช่วยท่ำนได้ ต่อให้นำงวรยุทธสู งเพียงใดก็มีเพียงคนเดียว
ท่ำนยิง่ ไม่ตอ้ งคิดถ่วงเวลำ บัดนี้ทวั่ ทั้งวังหลวงอยูใ่ นกำรควบคุมของ
กระหม่อมหมดแล้ว ท่ำนรอกองทัพหนุนไม่ได้หรอก บัดนี้ท่ำนติด
ปี กก็ยำกจะบินแล้ว”
“ใครคุยโวอย่ำงไม่รู้สึกละอำยถึงเพียงนี้” สวีเวยผูบ้ ญั ชำกำรทหำร
รักษำพระองค์ที่ลำกิจกลับบ้ำนเกิดเยีย่ มบิดำนำคนเดินกร่ ำงเข้ำมำ
“ฝ่ ำบำท กระหม่อมมำอำรักขำช้ำ ขอฝ่ ำบำทได้โปรดอภัยด้วยพ่ะย่ะ
ค่ะ”
“ผูบ้ ญั ชำกำรสวีรีบลุกขึ้น” เห็นสวีเวยปรำกฏตัวขึ้น ฮ่องเต้ยงเซวียน
ถึงวำงใจ “ข้ำงนอกสถำนกำรณ์เป็ นเช่นไร”
“ฝ่ ำบำทโปรดวำงพระทัย สังหำรโจรกบฏในวังหมดแล้ว” สวีเวยพูด
เสี ยงกังวำน
ทันทีที่เสนำบดีฉินเห็นสวีเวยก็รู้วำ่ แย่แล้ว รอได้ยนิ คำพูดของเขำ ก็
หน้ำถอดสี ทนั ที “แย่แล้ว รี บถอนกำลัง!” แล้วหันหลังวิง่ ออกนอก
ตำหนัก ขอเพียงออกจำกวังหลังได้กพ็ อ เขำยังมีกองกำลัง เขำยัง
กลับมำยิง่ ใหญ่อีกครั้งได้
“เร็ ว ขวำงพวกเขำไว้ ฆ่ำอย่ำให้เหลือ” ฮ่องเต้ยงเซวียนแผดเสี ยงออก
คำสัง่
สวีโย่วและเสิ่ นเวยคนหนึ่งซ้ำยคนหนึ่งขวำอำรักขำอยูข่ ำ้ งกำยฮ่องเต้
ยงเซวียน มองสวีเวยนำคนเข้ำห้ ำหัน่ กับคนของเสนำบดีฉิน คนชุด
ดำที่โผล่มำท้ำยสุ ดคนนั้นช่ำงร้ำยกำจจริ งๆ อำรักขำเสนำบดีฉินที่ไม่
รู ้วรยุทธด้วยควำมคล่องแคล่วว่องไว
เสิ่ นเวยเห็นแล้วไม่ได้กำร คิส้ กระตุกหนึ่งครำ คิดอุบำยได้ จึงแผด
เสี ยงตะโกนว่ำ “ฉินชัง เจ้ำยังเพ้อฝันถึงกองทัพหนึ่งแสนนัน่ ของเจ้ำ
สิ นะ ข้ำจะบอกให้ พวกเขำคิดห่วงตัวเองยังไม่ทนั กำร ต่อให้ติดปี กก็
ยำกจะบินคือเจ้ำถึงจะถูก!”
“เสิ่ นผิงยวน” ได้ยนิ เสนำบดีฉินตะคอกด้วยควำมโกรธเสี ยงหนึ่ง
“ถูกต้อง เป็ นท่ำนปู่ ของข้ำ มีท่ำนปู่ รักษำเมือง กองทัพหนึ่งแสนของ
เจ้ำนัน่ โชคร้ำยมำกกว่ำดีแล้ว! ไม่เชื่อ เจ้ำก็ลองฟังดูดีๆ สิ !” เสิ่ นเวยก
ล่ำว
“ไอ้แก่!” เสนำบดีฉินโกรธแค้นจนด่ำใหญ่ เขำก็วำ่ ผิดปกติ เจ้ำไข่เต่ำ
แก่นนั่ ไยถึงพิกลพิกำรได้นะ ที่แท้รอเขำอยูท่ ี่นี่นนั่ เอง
“เจ้ำสิ ไอ้แก่ ไข่เต่ำแก่ ไข่เน่ำแก่ แก่หน้ำไม่อำย” เสิ่ นเวยด่ำกลับจน
เสนำบดีฉินโกรธจนควันออกหู ฉวยโอกำสที่เขำเสี ยสมำธิ สวีเวย
ฟันลงที่ขำของเขำ เขำล้มลงพื้นทันที จำกนั้นอำวุธห้ำหกเล่มก็พำด
อยูบ่ นตัวเขำพร้อมกัน
คนชุดดำคิดจะกลับมำช่วยก็ไม่ทนั กำรแล้ว เขำเห็นสถำนกำรณ์แล้ว
ก็ไม่มีใจคิดจะสู ้อีก หันหลังหนีออกนอกวังไป
“ตำม!” สวีเวยออกคำสัง่ เสี ยงดัง
“ไม่ตอ้ งแล้ว เขำหนีไม่พน้ หรอก” เสิ่ นเวยรี บห้ำมไว้ มีองครักษ์เงำ
อยู่ เขำหนีได้กแ็ ปลกแล้ว
เสนำบดีฉินถูกมัดมือไขว้หลังคุมตัวไป อ้อ ที่ถูกคุมตัวไปยังมีองค์
ชำยรองที่หมดสติดว้ ย
“ฝ่ ำบำท ในวังต้องขอไหว้วำนผูบ้ ญั ชำกำรสวีแล้ว จยำฮุ่ยและ
คุณชำยใหญ่ควรไปช่วยท่ำนปู่ อีกแรงแล้วเพคะ” เสิ่ นเวยพูดเสี ยงเข้ม
“ไปเถอะ ระวังตัวด้วย” ฮ่องเต้ยงเซวียนพยักหน้ำ
“ไปเถอะ คุณชำยใหญ่ เรำควรไปสร้ำงผลงำนแล้ว” เสิ่ นเวยยิม้ ให้ส
วีโย่วอย่ำงซุกซน ทั้งสองคนจับมือกันทะยำนไปยังสนำมรบของ
พวกเขำ
นี่คือกำรรบที่ไม่ตอ้ งวิตกเลยแม้แต่นอ้ ย นี่คือกำรรบที่กองทหำรเด็ก
สร้ำงชื่อในชัว่ ค่ำคืน คือกำรรบที่สร้ำงภำพลักษณ์หำ้ วหำญให้จยำฮุ่ย
จวิน้ จู่
ภำยใต้กำรตีขนำบประสำนกันทั้งด้ำนนอกด้ำนในของค่ำยทหำรซี
ซำนและทหำรรักษำเมือง กำจัดทหำรกบฏสองหมื่นกว่ำคน จับเป็ น
เชลยแปดหมื่น ในประตูเมืองทิศตะวันตกโลหิ ตไหลนองเป็ นแม่น้ ำ
กลิ่นคำวโลหิตคละคลุง้ อยูห่ นึ่งเดือนกว่ำเต็มๆ
กำรก่อกบฏครั้งนี้ในประวัติศำสตร์ขนำนนำมว่ำ “กบฏเดือนห้ำ”
สุ ดท้ำยจบลงด้วยกำรพ่ำยแพ้ของเสนำบดีฉิน โจรกบฏฉิ นชังถูก
ตัดสิ นโทษหลิงฉือ** ประหำรเก้ำชัว่ โคตร ทุกคนของตระกูลฉิ นที่
หนีไปทำงทำงลับก็ถูกจับกลับมำทั้งหมด ตัดศีรษะไม่ตกหล่นสักคน
เดียว
องค์ชำยรอง อ้อไม่ใช่ องค์ชำยรองในอดีตต่ำงหำก หลังจำกช่วงไว้
อำลัยสี่ สิบเก้ำวันให้ฉินซู่เฟยจบลงเขำก็ฆ่ำตัวตำย ข่ำวส่ งไปถึง
ฮ่องเต้ยงเซวียน เขำนิ่งเงียบอยูเ่ นิ่นนำน แล้วสัง่ ให้คนฝังศพอย่ำง
สมเกียรติ
ยงเซวียนปี ที่สิบเจ็ด ฝ่ ำบำทแต่งตั้งองค์ชำยใหญ่สวีเช่อเป็ นรัช
ทำยำท พระชำยำองค์ชำยใหญ่เจียงซื่อเป็ นพระชำยำรัชทำยำท
ขณะเดียวกันก็แต่งตั้งองค์ชำยผิงอันที่สำบสู ญอยูข่ ำ้ งนอกคนนั้นเป็ น
อันอ๋ อง องค์ชำยสำมสวีเฉิงเป็ นอิงอ๋ อง ผิงจวิน้ อ๋ องสวีโย่วเนื่องจำกมี
ควำมดีควำมชอบแต่งตั้งเพิ่มเป็ นผิงอ๋ อง ส่ วนจยำฮุ่ยจวิน้ จู่เพิ่มหนึ่ง
พันศักดินำ
ยงเซวียนปี ที่ยสี่ ิ บสำม เนื่องจำกประชวรฝ่ ำบำทสละรำชบัลลังก์ รัช
ทำยำทสวีเช่อขึ้นครองรำชย์เป็ นฮ่องเต้ เริ่ มศักรำชใหม่ของรำชวงค์
ต้ำยง
*กวำงตำยในมือใคร ในโลกของจีนโบรำณ กำรแย่งชิงอำนำจของ
มนุษย์ถูกตีควำมไว้เหมือนกำรล่ำสัตว์ “กวำงตำยในมือใคร” จึงมี
ควำมหมำยว่ำ ใครจะชนะ
**หลิงฉือ คือ กำรใช้มีดเฉือนเนื้อของนักโทษออกทีละชิ้นทีละชิ้น
ให้นกั โทษเจ็บปวดทรมำนและตำยไปแบบช้ำๆ เรี ยกได้วำ่ เป็ น
วิธีกำรประหำรที่โหดเ**้้ยมไร้มนุษยธรรมที่สุดวิธีหนึ่ง
ตอนพิเศษ 1-1 สวีโย่ ว (ต้ น)
หลังจำกที่สวีโย่วรู ้จกั กับคุณหนูสี่แห่งจวนจงอู่โหวนำมว่ำแม่นำง
เสิ่ นเวยผูน้ ้ นั จึงรู ้สึกว่ำชีวิตค่อยสนุกขึ้นบ้ำง
นับตั้งแต่จำควำมได้ เขำก็อำศัยอยูใ่ นเรื อนหลังหนึ่งในจวนจิ้นอ๋ อง
ไม่มีเสด็จพ่อ ไม่มีเสด็จแม่ และไม่มีพนี่ อ้ งคนอื่นๆ เขำมีเพียงหญิง
รับใช้และแม่นม ยังมียำน้ ำขมๆ และควำมเจ็บปวด
ใช่แล้ว ควำมเจ็บปวด ควำมเจ็บปวดที่ติดตำมเหมือนเงำ เมื่อกำเริ บ
ขึ้นมำก็เจ็บปวดเหมือนจะตำย เมื่อนั้นยำยหรู จะกอดเขำเอำไว้ในอก
บอกกับเขำด้วยน้ ำตำนอง “คุณชำยใหญ่นิ่งไว้! อดทนเข้ำ อดทนอีก
นิดก็หำยแล้วเจ้ำค่ะ”
เมื่อเห็นยำยหรู เป็ นทุกข์ถึงเพียงนั้น เขำอยำกจะบอกนำงว่ำ “อย่ำ
กังวลไปเลย ข้ำจะอดทน” ทว่ำแม้แต่แรงที่จะเปิ ดปำกพูดก็ยงั ไม่มี
ดังนั้นเขำจึงอดทนต่อควำมเจ็บปวดได้เป็ นพิเศษตั้งแต่เด็ก ตอนที่เขำ
รู ้วำ่ สตรี งดงำมที่ต่อหน้ำเสด็จพ่อทำทีดูแลเอำใจใส่ เขำเป็ นอย่ำงดีแต่
เมื่อเสด็จพ่อไม่อยูก่ ลับจับตำมองเขำอย่ำงเย็นชำไม่ใช่เสด็จแม่ของ
เขำเอง เขำก็ยงิ่ อดทนเก่งมำกขึ้น
แม้ควำมเจ็บปวดจะมำกมำยเพียงใด แค่เขำกัดฟันมันก็จะผ่ำนพ้นไป
เหมือนกับกำรขึ้นภูเขำไม่มีผดิ
ตอนนั้นเขำอำยุหำ้ ขวบหรื อหกขวบหรื อไม่กเ็ จ็ดขวบเขำเองก็จำไม่
ค่อยได้แล้ว เป็ นเพรำะวันเวลำในตอนนี้เขำมีควำมสุ ขมำกเหลือเกิน
เขำจึงได้นึกย้อนไปถึงเรื่ องรำวในอดีตได้นอ้ ยมำก
จำได้เพียงครั้งนั้นเขำป่ วยจนเกือบตำย ทว่ำแม้บ่ำวไพร่ สกั คนใน
เรื อนก็ไม่อยู่ แม้แต่ยำยหรู ที่ดีต่อเขำมำกที่สุดก็ยงั ไม่อยู่ เขำทุกข์
ทรมำนอย่ำงถึงที่สุด รู ้สึกเหมือนร่ ำงกำยมีไฟแผดเผำ เขำกระหำยน้ ำ
อย่ำงยิม้ จึงพลิกกำยลงจำกเตียงอย่ำงสุ ดชีวิต เขำล้มลงบนพื้น ทันใด
นั้นก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่นอ้ ย สัมผัสเย็นๆ ทำให้เขำรู ้สึกสบำยมำก
ขึ้น สบำยจนอยำกจะนอนหลับไม่ตื่น
จำกนั้นเขำกลับตื่นขึ้นมำ เป็ นท่ำนพี่รัชทำยำทแห่งจวนจิ้นอ๋ องที่
บังเอิญช่วยเขำได้พอดี อ้อ ในตอนนั้นท่ำนพี่รัชทำยำทยังไม่ได้เป็ น
รัชทำยำทเลย เขำเป็ นคุณชำยใหญ่แห่งจวนฉิ นอ๋ องต่ำงหำก
ตอนที่เขำตื่นขึ้นมำนั้น เขำไม่ได้อยูใ่ นห้องที่คุน้ เคย แต่เขำนอนอยู่
ในห้องที่กว้ำงใหญ่มำก ชำยชรำที่อยูใ่ นชุดสี เหลืองสว่ำงมองเขำด้วย
ควำมเมตตำ และยังมีชำยชรำหนวดเครำยำวอีกสองสำมคนคุกเข่ำอยู่
ที่พ้นื
นัน่ เป็ นครั้งแรกที่เขำได้พบเสด็จปู่ ของเขำเอง ชำยชรำเครำยำวคน
นั้นเป็ นหมอหลวงที่ให้กำรรักษำเขำ
เสด็จปู่ มีหน้ำตำอย่ำงไร เขำเองก็จำไม่ได้แล้ว แต่เขำยังจำได้วำ่ เสด็จ
ปู่ พูดคุยกับเขำอย่ำงสนิทสนมและยังทำดีกบั เขำ ไม่เหมือนเสด็จพ่อ
ที่แสนเย็นชำเลยแม้แต่นอ้ ย ใจของเขำทั้งประหม่ำทั้งปี ติยนิ ดี
จำกนั้นเขำก็ถูกส่ งขึ้นมำบนภูเขำ บนเขำมีหมอเทวดำคนหนึ่งอำศัย
อยูซ่ ่ ึงสำมำรถรักษำโรคของเขำให้หำยได้ พูดอย่ำงจริ งจังว่ำเขำเป็ น
โรคเรื้ อนแต่กำเนิด หมอเทวดำมีนิสยั ไม่ดีเอำเสี ยเลย ตอนที่เขำเพิ่ง
จะขึ้นเขำมำได้ หมอเทดำมองเห็นว่ำสำยตำของเขำเต็มไปด้วยควำม
เฉยชำ ยังร้องเรี ยกเขำว่ำเจ้ำลูกหมำและยังใช้ให้เขำทำงำนอีกด้วย
“เจ้ำลูกหมำ ไปถอนหญ้ำที่สวนสมุนไพรหลังเรื อนซิ”
“เจ้ำลูกหมำ ฟื นของวันนี้ยงั ไม่ได้ผำ่ เลยนะ”
“เจ้ำลูกหมำ น้ ำในถังแห้งหมดแล้วไม่เห็นหรื อไร ช่ำงเป็ นคุณชำยที่
มีตำแต่หำแววไม่ยงิ่ นัก”
——
เขำอยำกจะกระโดดลงเขำเสี ยทุกครั้ง แต่เมื่อคิดถึงตอนที่ยำยหรู กอด
เขำเอำไว้แล้วสัง่ เสี ยว่ำ “คุณชำยใหญ่ เมื่อขึ้นเขำไปแล้วต้องเป็ นเชื่อ
ฟังและเป็ นเด็กดี คนที่อยูบ่ นภูเขำผูน้ ้ นั เป็ นรำวกับเทวดำ มีเพียงเขำ
เท่ำนั้นจึงจะสำมำรถรักษำท่ำนได้ ท่ำนนักปรำชญ์ตอ้ งลงแรงอย่ำง
มำกจึงจะวำงแผนเพื่อท่ำนได้นะเจ้ำคะ”
หำกเขำกลับไปเช่นนี้ ยำยหรู จะต้องน้ ำตำไหลพรำกแน่ เสด็จปู่ เองก็
คงจะทรงผิดหวัง เมื่อนึกถึงเสด็จปู่ ที่ลูบศีรษะเขำอย่ำงสนิทสนม เขำ
ก็กดั ฟันทนต่อไป
จำกนั้น หมอเทวดำก็กลำยเป็ นอำจำรย์ของเขำ
มันเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหนกัน อำจจะเป็ นตอนที่เขำเคยชินกับกำร
ต้องกัดฟันทน อำจจะเป็ นตอนที่เขำยอมปล่อยให้เขำแทงเข็มเงิน
มำกมำยถึงเพียงนั้นเข้ำมำในร่ ำงกำยโดยไม่ร้องสักแอะกระมัง! เขำ
ได้ยนิ หมอเทวดำบ่นพึมพำ “ช่ำงเป็ นเจ้ำลูกหมำที่ด้ือรั้นจริ งๆ”
บำงครั้งเขำก็เห็นแววตำสงสำรยำมที่หมอเทวดำมองมำที่เขำ เมื่อเขำ
ตั้งใจมองดีๆ หมอเทวดำก็ลูบเครำตัวเองแรงๆ พลำงถลึงตำจ้อง “อืด
อำดอยูท่ ำไม วันนี้ท่องหนังสื อแล้วหรื อ คัดตัวอักษรแล้วหรื อ ฝึ กยืน
บนเสำได้กี่ชวั่ ยำม ฝึ กวิชำต่อสู ้ได้กี่รอบแล้ว”
ใช่แล้ว หมอเทวดำนั้นนอกจำกจะรักษำโรคให้เขำแล้ว ยังสอน
หนังสื อและฝึ กวิชำยุทธ์ให้เขำอีกด้วย พลำงสอนพลำงเฉยชำ “ดูให้ดี
นะ ข้ำจะสอนเจ้ำเพียงครั้งเดียว ถ้ำทำไม่ได้ตอนเที่ยงไม่ตอ้ งกินข้ำว”
ปำกยังชอบบ่นอีกว่ำ “เสี ยเปรี ยบชัดๆ เพื่อเศษสมุนไพรไม่กี่ตน้ ต้อง
ลำบำกเลี้ยงทำรกด้วย”
หมอเทวดำยังคงพูดจำเหมือนมะนำวไม่มีน้ ำกับเขำเหมือนเดิม ยังใช้
เขำทำงำนหนัก และยังต่อว่ำที่เขำเรี ยนได้ชำ้ เพรำะโง่เง่ำ ทำให้เขำ
เสี ยหน้ำ ทว่ำสวีโย่วกลับรู ้สึกสนิทสนม ทั้งยังบ่มเพำะประสำท
สัมผัสตั้งแต่ยงั เยำว์ ใครกันแน่ที่ดีต่อเขำอย่ำงจริ งใจ เพียงครู่ เดียวเขำ
ก็แยกแยะได้
เหมือนกับหมอเทวดำ แม้เขำจะบ่นว่ำเขำนั้นเลี้ยงเสี ยข้ำวสุ ก แต่ไม่
ว่ำจะเป็ นกระต่ำยป่ ำหรื อไก่ป่ำที่ล่ำมำได้ในสำมวันห้ำวันก็แบ่งให้
เขำกินด้วย แม้วำ่ เขำจะพูดจำไม่น่ำฟัง แต่กย็ งั ยัดลูกวำดใส่ คอเขำทุก
ครั้งที่ดื่มยำจนหมด
ดังนั้นจึงเริ่ มที่จะเรี กเขำว่ำอำจำรย์ และหมอเทวดำก็เอำแต่อำ้ ปำก
ค้ำงและไม่ได้พดู ตอบโต้อะไร ทำเพียงถอนหำยใจยำวแล้วยอมรับ
และในช่วงเวลำนั้นเองที่เจียงเฮยและเจียงไป๋ ได้มำอยูข่ ำ้ งๆ เขำ พวก
เขำเป็ นเด็กกำพร้ำที่อำจำรย์เก็บได้ที่ล่ำงเขำ
เสด็จปู่ เสด็จมำหำเขำบนภูเขำในปี ที่สอง เมื่อมำถึงแล้วก็มีพระรำช
โองกำรเรี ยกให้เขำเข้ำไปพบ เขำมองไปที่เสด็จปู่ ผูแ้ ก่ชรำ ในใจก็
รู ้สึกเป็ นทุกข์ เสด็จปู่ ยังคงมองเขำอย่ำงเมตตำเช่นเคย แต่เขำกลับ
รู ้สึกว่ำเสด็จปู่ กำลังมองผ่ำนเขำไปที่ใครบำงคน ควำมรู ้สึกเช่นนั้น
ช่ำงแปลกประหลำดนัก
เสด็จปู่ มอบป้ำยอำญำสิ ทธิ์ให้เขำหนึ่งป้ำย เป็ นป้ำยที่สลักรู ปกิเลน
เอำไว้ ให้เขำเก็บเอำไว้ให้ดี อย่ำได้บอกใครเด็ดขำด บอกว่ำเป็ นของ
ที่เอำไว้ให้เขำตั้งตัว
ตอนนั้นเขำยังไม่เข้ำใจ ต่อมำภำยหลังจึงรู ้วำ่ เสด็จปู่ ทิ้งทหำรคุม้
มังกรเอำไว้ให้เขำ ทหำรคุม้ มังกรคือทหำรลับที่เก่งกำจที่สุดและ
ลึกลับที่สุดในพระหัตถ์ของเสด็จปู่ แต่เสด็จปู่ กลับมอบให้กบั เขำ
และเป็ นเพรำะเขำต้องพึ่งพำกำรคุม้ ครองจำกทหำรคุม้ มังกรเองทำ
ให้เขำมีโอกำสได้พบกับหญิงสำวคนสำคัญ
ทุกๆ ปี เขำใช้เวลำส่ วนใหญ่อยูบ่ นภูเขำ มีเพียงช่วงปี ใหม่ที่เขำต้อง
กลับเมืองหลวง กลับไปยังจวนจิ้นอ๋ อง
พูดไปแล้วก็น่ำขัน จวนจิ้นอ๋ องเป็ นบ้ำนของเขำแท้ๆ เขำเป็ นทำยำท
ชำยเอกของจวนจิ้นอ๋ องแท้ๆ เชียว แต่เขำกลับยอมที่จะอยูบ่ นเขำ
มำกกว่ำ ไม่อยำกจะกลับมำเลยแม้แต่นอ้ ย
เขำจะกลับมำทำไม สำยตำของเสด็จพ่อที่มองมำที่เขำช่ำงเย็นชำนัก
แม้วำ่ หญิงคนนั้นถำมใถ่สำรทุกข์สุขดิบด้วยควำมอบอุ่น แต่กเ็ ป็ น
เพียงกำรใส่ หน้ำกำกเท่ำนั้น ลับหลังก็ยงั คงจัดแจงกลั้นแกล้งไม่หยุด
อย่ำงเช่นกำรยัดคนเข้ำมำในเรื อนพักของเขำ โดยเฉพำะยัดเยียดสำว
ใช้หน้ำตำสวยๆ เข้ำมำ
พี่นอ้ งคนอื่นก็ไม่ได้สนิทสนมกับเขำ พวกเขำก็มีครอบครัว เขำเป็ น
เพียงคนนอกที่จะมีหรื อไม่มีกไ็ ด้ บ่ำวไพร่ ที่เคยอยูร่ ับใช้เขำสองสำม
คนนั้น นอกจำกยำยหรู แล้วก็ไม่รู้วำ่ ถูกส่ งไปที่ใด แม้แต่ยำยหรู ก็
ไม่ได้อยูใ่ นเรื อนพัก กลับไปอยูท่ ี่ศำลบรรพชนคอยดูแลรักษำป้ำย
วิญญำณของเสด็จแม่
เมื่อเขำเริ่ มมีอำยุมำกยิง่ ขึ้น เขำก็รู้ถึงประวัติควำมเป็ นมำของชีวิต
ตัวเอง รู ้วำ่ เสด็จแม่ตอ้ งเสี ยชีวิตเพรำะคลอดเขำออกมำ รู ้วำ่ เสด็จพ่อ
ของเขำนั้นไม่ยนิ ยอมที่จะแต่งงำนกับเสด็จแม่ของเขำ หญิงผูน้ ้ นั ผู ้
ซึ่งตอนนี้เป็ นจิ้นหวังเฟยต่ำงหำกถึงจะเป็ นคนที่เสด็จพ่อรักทั้งใจ
ดังนั้นเขำจึงไม่อยำกกลับมำยังจวนจิ้นอ๋ อง
ตอนที่เขำอำยุสิบห้ำปี อำกำรป่ วยของเขำหำยแล้ว โรคที่อยูใ่ นกำรก็
รักษำหำยแล้ว อำจำรย์กล่ำวไว้วำ่ หำกเขำไม่รนหำที่ตำย ก็สำมำรถมี
ชีวิตอยูไ่ ด้ถึงเจ็ดสิ บแปดสิ บปี ส่ วนเรื่ องทำยำทก็คงจะมีอุปสรรค
บ้ำงเล็กน้อย แต่เรื่ องนี้กไ็ ม่ใช่เรื่ องใหญ่ ท่ำนอำจำรย์ผชู ้ รำได้คิด
ค้นหำวิธีให้เขำอย่ำงยำกลำบำกแล้ว
เรื่ องนี้ สวีโย่วไม่ได้ใส่ ใจแม้แต่นอ้ ย หลำยปี มำนี้เขำได้บ่มเพำะนิสยั
เย็นชำไม่ยนิ ดียนิ ร้ำย หำกต้องใช้ชีวิตอย่ำงเป็ นทุกข์ขนำดนี้ จะมี
อะไรดีเล่ำ ตำยแล้วก็จะได้หลุดพ้น ไม่เห็นว่ำจะมีอะไรไม่ดีตรงไหน
ดังนั้นเขำจึงยอมรับเสด็จลุง จักรพรรดิยงเสวียนฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั
พระรำชทำนฐำนะและตำแหน่งแก่เขำ ต่อหน้ำเขำคือองค์ชำยใหญ่ข้ ี
โรคแห่งจวนจิ้นอ๋ องลับหลังเขำเป็ นหัวหน้ำทหำรเงำ อยูน่ อกสำยตำ
โดยสิ้ นเชิง เรื่ องต่ำงๆ ที่ยำกจะแก้ไขในรำชสำนักเขำล้วนแล้วแต่
รับมำจัดกำรทั้งสิ้ น
เป็ นเพรำะเขำกลัวและไม่เสี ยดำยชีวิต ใช่แล้ว เขำไม่เอำเรื่ องควำม
เป็ นควำมตำยของตัวเองมำใส่ ใจ ขอแค่เข่นฆ่ำศัตรู ได้ เขำก็ไม่สนใจ
ว่ำตัวเองจะบำดเจ็บ ดังนั้น แม้วำ่ จะเป็ นเรื่ องที่ยำกเพียงใดก็สำมำรถ
จัดกำรได้อย่ำงสมบูรณ์แบบ จึงค่อยๆ ได้รับควำมเชื่อถือและ
ไว้วำงใจจำกฝ่ ำบำท ในสำยตำของคนทั้งหลำยเขำเป็ นเพียงคุณชำย
ใหญ่ผไู ้ ร้อำนำจแห่งจวนจิ้นอ๋ องผูเ้ ป็ นพระภำติยะที่ฝ่ำบำทรักใคร่
เอ็นดูมำกที่สุด
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนพิเศษ 1-2 สวีโย่ ว (ต้ น)
ควำมรักใคร่ เอ็นดูเช่นนี้ขวำงหูขวำงตำผูห้ ญิงคนนั้น พูดตำมตรง
กำรปล่อยให้เขำมีอำยุถึงสิ บห้ำปี หญิงผูน้ ้ นั ก็ร้อนอกร้อนใจแทบแย่
นำงวำงยำใส่ ร้ำยเขำต่อหน้ำเสด็จพ่อ ทำให้เสด็จพ่อยิง่ รังเกียจหมำง
เมินเขำไปกันใหญ่ ที่จริ ง หญิงผูน้ ้ นั ทำไปเพียงเพื่อตำแหน่งซื่อจื่อ
เท่ำนั้น
เฮอะ เฮอะ ตำแหน่งซื่อจื่อนั้นไม่อยูใ่ นสำยตำของเขำเลย อีกอย่ำง
สำหรับเขำนั้นจวนจิ้นอ๋ องก็เป็ นเพียงสถำนที่แปลกหน้ำที่น่ำรังเกียจ
เท่ำนั้น เขำไม่เห็นอยำกได้
หลังจำกที่โดนผูห้ ญิงคนนั้นยัว่ ยุ เสด็จพ่อจึงดุด่ำเขำโดยไม่คิด เพื่อ
ควำมสงบ เขำยอมยกตำแหน่งซื่อจื่อให้กบั น้องชำยคนรองสวีเยีย่
บุตรชำยคนโตของผูห้ ญิงคนนั้นด้วยตัวเอง ที่จริ งแล้วน้องรองเองก็
มีอำยุนอ้ ยกว่ำเขำเพียงไม่กี่เดือน
ผูห้ ญิงคนนั้นต้องกำรที่จะแสดงตัวว่ำเป็ นผูม้ ีคุณธรรมสู งส่ ง จึงเริ่ มที่
จะเข้ำมำวุน่ วำยในเรื่ องกำรแต่งงำนของเขำ เตรี ยมงำนหมั้นหมำยใน
เขำทั้งหมดสำมครั้งด้วยกัน แสดงต่อหน้ำดูงดงำมไม่มีด่ำงพร้อย แต่
ควำมจริ งต้องกำรลดทอนอำนำจของเขำให้อ่อนลง
เป็ นเพรำะนำงไม่มนั่ ใจกลัวว่ำเขำจะให้กำเนิดทำยำท ดังนั้นว่ำที่
เจ้ำสำวของเขำทั้งสำมล้วนแล้วแต่เกิดปั ญหำ คนแรก ระหว่ำงทำง
ไปไหว้พระม้ำเกิดตกใจจนห้อตกหน้ำผำ คนที่สอง ทะเลำะกับ
น้องสำวที่เกิดจำกอนุภรรยำจนถูกจับโยนลงบ่อน้ ำเสี ยชีวิต คนที่
สำม ถูกจับได้วำ่ คบหำกับผูช้ ำยจึงแขวนคอตำยด้วยควำมอับอำย
ดังนั้นเขำจึงได้รับฉำยำฉำวโฉ่ไปทัว่ ว่ำเป็ นผูช้ ำยกินเมีย ผูค้ นพำกัน
หลีกเลี่ยงเขำเหมือนตัวโชคร้ำย
สวีโย่วไม่สนใจเรื่ องนี้เลยแม้แต่นอ้ ย กลับรู ้สึกพึงพอใจเป็ นอย่ำง
มำก เขำไม่ได้อยำกแต่งงำนเลย และไม่คิดจะมีทำยำทด้วย เพรำะเขำ
จะตำยเมื่อไรก็ไม่รู้ ไม่อยำกจะทำให้หญิงสำวบ้ำนไหนต้องเจ็บปวด
เขำชินกับกำรอยูค่ นเดียว และไม่ชอบที่จะมีคนมำกมำยมำล้อมหน้ำ
ล้อมหลัง
แต่ควำมคิดเช่นนี้ของเขำได้เปลี่ยนไปเมื่อพบสำวน้อยที่ชื่อเสิ่ นเวย
ตอนนั้นเขำอำยุยสี่ ิ บสองปี เขำยังคงเป็ นคุณชำยใหญ่ผอู ้ ่อนแอแห่ง
จวนจิ้นอ๋ อง ใช้เวลำส่ วนใหญ่ในหนึ่งปี รักษำตัวบนภูเขำ แต่ในควำม
จริ งแล้วเขำกำลังซ่อนตัวเพือ่ ทำภำระกิจแทนฝ่ ำบำทอยู่
ตอนนั้นเป็ นเดือนเจ็ด จวนของเสด็จป้ำองค์หญิงใหญ่ได้จดั งำนเลี้ยง
รับรอง เขำอยูท่ ี่เมืองหลวงพอดี อีกอย่ำง เขำมีธุระต้องไปหำน้องชิ
งอวี่พอดี จึงไปยังจวนองค์หญิงใหญ่เป็ นครั้งแรก
ที่จวนองค์หญิงใหญ่เป็ นครั้งแรกที่พบกับเสิ่ นเวย ตอนนั้นเสิ่ นเวย
กำลังต่อปำกต่อคำกับกลุ่มของสตรี สูงศักดิ์ในเมืองหลวง แต่เขำ
กำลังยืนอยูท่ ี่ช้ นั บนสุ ดของหอสู ง
ฝี ปำกของหญิงคนนั้นช่ำงเก่งกล้ำนัก คนๆ เดียวกลับต่อปำกต่อคำ
กับกลุ่มสตรี สูงศักดิ์โดยไม่เพลี้ยงพล้ ำ ทั้งยังใช้วิธีหลำดหลำย ทั้ง
เยำะเย้ยถำกถำงและขู่ให้หวำดกลัว สตรี สูงศักดิ์ในเมืองหลวงไหน
เลยจะหำวิธีมำสู ้นำงได้
เขำที่มองอยูด่ ำ้ นบนนั้นมองดูดว้ ยควำมสนุก แต่แม่นำงผูน้ ้ นั ช่ำงกล้ำ
พูดนัก ปกติแล้วคุณหนูตอ้ งสงบเสงี่ยมไม่ใช่หรื อ นำงเอำแต่เปิ ด
ปำกพูดเรื่ องแต่งเข้ำแต่งออก อนุภรรยำหรื อเมียน้อย แล้วยังชี้ให้เห็น
ว่ำเหล่ำสตรี สูงศักดิ์เหล่ำนี้ทำให้นำงลำบำกก็เป็ นเพรำะอิจฉำที่นำง
เป็ นว่ำที่ภรรยำของหย่งหนิงโหวซื่อจื่อ และยังบอกว่ำหำกนำงมี
ควำมสำมำรถจริ งก็ไปให้ถึงตัวของหย่งหนิงโหวให้ได้ซี ซ้ ำนำงยังมี
น้ ำใจอวยพรให้พวกนำงโชคดี
เฮอะ เฮอะ ช่ำงเป็ นหญิงสำวที่น่ำสนใจนัก ดังนั้นเขำจึงจำนำงเอำไว้
ในใจ อ้อ ใช่แล้ว ตอนนั้นเขำยังไม่รู้วำ่ ตัวนำงชื่อเสิ่ นเวย กลุ่มสตรี
สู งศักดิ์ในตอนนั้นเรี ยกนำงว่ำเสิ่ นซื่อ เจียงไป๋ บอกว่ำนำงเป็ นคุณหนู
สี่ แห่งจวนจงอู่โหว เพิ่งกลับมำเมืองหลวงหลังจำกไปรักษำอำกำร
ป่ วยที่บำ้ นนอก แต่ที่เขำเห็นนั้น นำงดูมีชีวิตชีวำเกินกว่ำที่จะเป็ นคน
ป่ วย แต่เบื้องหลังเรื่ องเหล่ำนี้เขำเองก็เข้ำใจ คงเป็ นเพรำะแม่แท้ๆ
ของเสิ่ นซื่อไม่อยูแ่ ล้ว ดังนั้นคงมีคนให้เหตุผลนี้รังแกนำงนัน่ เอง
ครั้งที่สองที่เจอกับเสิ่ นเวยคือที่ภตั ตำคำร นำงพำสำวใช้มำ
รับประทำนในห้องอำหำร บรรดำสำวใช้ต่ำงพูดคุยกันเสี ยให้เอ็ด แต่
นำงกลับไม่ดุวำ่ ทั้งยังเล่นสนุกด้วยควำมรื่ นเริ ง ยังพูดกับพวกนำง
ด้วยว่ำ “พวกเจ้ำซื้อหำอะไรได้เต็มที่ วำงใจเถิด คุณหนูของเจ้ำจะ
จ่ำยเงินให้ คุณหนูของพวกเจ้ำมีเงิน ไม่ตอ้ งเกรงใจข้ำ เดี๋ยวพวกเรำ
กินเสร็ จแล้วตอนบ่ำยก็ไปซื้อของต่อ ดูสิวำ่ ใครจะซื้อได้มำกที่สุด”
ตอนนั้นเขำอยูห่ อ้ งข้ำงๆ น้ ำเสี ยงใสเสนำะหูน้ นั เพียงไม่นำนเขำก็จำ
ได้ ไม่รู้วำ่ ทำไม เมื่อได้ยนิ ที่แม่นำงคนนั้นพูด มุมปำกของเขำก็
ยกขึ้นโดยไม่รู้ตวั ในสมองปรำกฏดวงตำแสนเฉลียวฉลำดผุดขึ้นมำ
หนึ่งคู่
ครั้งที่สำมที่พบกับเสิ่ นเวยนั้นอยูน่ อกเมือง พูดตำมตรง กำรพบหน้ำ
กันในครั้งนี้ช่ำงน่ำอึดอัดใจอยูบ่ ำ้ ง เป็ นเพรำะแม่นำงเสิ่ นเวยผูน้ ้ ีนดั
พบบุรุษ ตอนนั้นเขำไม่อำจก้ำวเดินได้ จำต้องยืน่ นิ่งอยูก่ บั ที่
ไม่ได้เจตนำจะเสี ยมำรยำทในกำรแอบฟัง แต่ไม่รู้ทำไม น้ ำเสี ยงใส
ของแม่นำงคนนั้นจึงดังเข้ำมำในหูอย่ำงชัดเจน ฟังเพียงไม่กี่คำเขำก็
ต้องขมวดคิ้ว นำงถูกถอนหมั้นหรื อ หรื อจะพูดให้ถูกก็คือกำร
แต่งงำนของนำงนั้นถูกน้องสำวที่เป็ นลูกภรรยำเอกแย่งไป ชำยหนุ่ม
ที่นดั นำงออกมำคือหย่งหนิงโหวซื่อจื่อ เป็ นว่ำที่สำมีที่เคยหมั้นกับ
นำงเอำไว้นนั่ เอง
แม้วำ่ เขำจะไม่ค่อยสนใจเรื่ องอะไรนักแต่เขำก็รู้วำ่ หญิงสำวที่ถูก
ถอนหมั้นนั้นเจ็บปวดมำก โดยเฉพำะหย่งหนิงโหวซื่อจื่อผูม้ ีชื่อทรง
คุณธรรม ทุกคนในเมืองหลวงต่ำงพำกันแย่งชิงคุณชำยแสนดีคนนี้
นำงจะต้องเป็ นทุกข์มำกและยิง่ ไม่ยนิ ยอมด้วย หรื อไม่อย่ำงนั้นก็
ต้องอยำกพบเขำอยูร่ ่ ำไปแม้วำ่ จะถอนหมั้นกันแล้วก็ตำม
วินำทีต่อมำ สวีโย่วรู ้วำ่ ตัวเองนั้นคิดผิดเสี ยแล้ว แม่นำงผูน้ ้ นั ไม่มีที
ท่ำว่ำจะเจ็บปวดทุกข์ใจแม้แต่นอ้ ย ทั้งยังดุกว่ำหย่งหนิงโหวซื่อจื่อ
เสี ยด้วยว่ำห้ำมส่ งจดหมำยมำหำนำงอีก อย่ำทำให้นำงต้องแปดเปื้ อน
ไปด้วย
หย่งหนิงโหวซื่อจื่อคนนั้นดูท่ำคงจะเลอะเลือนเสี ยแล้ว ถึงได้บอกว่ำ
จะแต่งกับน้องสำวของนำงให้เป็ นภรรยำเอกแล้วแต่งนำงเป็ นภรรยำ
รอง เหอๆ ช่ำงน่ำหัวเรำะนัก! ตอนนั้น ควำมประทับใจที่เขำมีต่อ
คุณชำยแสนดีของเมืองหลวงก็ลดฮวบลงไปถึงขีดสุ ด
ภรรยำรองหรื อ อย่ำงนั้นก็เท่ำกับดูหมิ่นนำงชัดๆ!
เป็ นดังคำด แม่นำงคนนั้นไม่ทำให้เขำผิดหวัง น้ ำเสี ยงของนำงเต็ม
ไปด้วยควำมรู ้สึกถำกถำงไม่พอใจ “เว่ยจิ่นอวี้ เจ้ำหน้ำ ใหญ่นกั หรื อ
แต่งงำนกับคุณหนูแห่งจวนจงอู่โหวคนเดียวไม่พอจะแต่งถึงสองเลย
หรื อไร เจ้ำคิดจะเลือกคุณหนูแห่งจวนจงอู่โหวเหมือนเลือกซื้อหัว
ผักกำดข้ำงถนนหรื ออย่ำงไร เจ้ำคิดว่ำเจ้ำเป็ นใคร แค่มีคนป้อยอเข้ำ
หน่อยเจ้ำก็ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงแล้วหรื อ กลับไปถำมหย่งหนิงโหวพ่อของ
เจ้ำซี รู ้ไหมคำว่ำถ่อมตนเขียนอย่ำงไร แม้แต่แม่ของเจ้ำเองก็ไม่ตอ้ ง
พูดถึงเลย นำงเป็ นหญิงโง่ไร้ควำมรู ้! สำหรับข้ำแล้ว เจ้ำเป็ นเพียงคน
ชัว่ ที่ตระบัดสัตย์ ว่ำอย่ำงไร ข้ำพูดถูกหรื อไม่ ยังคิดที่จะแต่งข้ำเป็ น
ภรรยำรอง ทำไมไม่ข้ ึนสวรรค์เสี ยเลยเล่ำ เจ้ำไม่ยนื เคียงบ่ำเคียงไหล่
กับดวงตะวันเลยเล่ำ ตัวข้ำเสิ่ นเวยยอมแต่งกับชำวนำยังดีกว่ำแต่งกับ
เจ้ำเป็ นพันเท่ำ เว่ยจิ่นอวี้ ข้ำจะบอกเจ้ำไว้อย่ำง เก็บควำมคิดสกปรก
ของเจ้ำไปเสี ย อย่ำยัว่ โมโหข้ำอีก ไม่อย่ำงนั้นข้ำจะทำให้เจ้ำเสี ยใจที่
เกิดมำบนโลกใบนี้ ไป ไสหัวไปไกลๆ ข้ำ ไม่เช่นนั้นข้ำจะตีเจ้ำทุก
ครั้งที่เห็นหน้ำเชียว!”
เมื่อพูดจบนำงก็กำ้ วยำวๆ เดินนำสำวใช้ออกไป ท่ำทีของนำงเหมือน
กำลังสลัดเอำของสกปรกออกจำกกำยไม่มีผดิ สวีโย่วมองแผ่นหลัง
ของนำง สำยตำเต็มไปด้วยควำมชื่นชม
สวีโย่วจึงได้รู้ในครั้งนี้วำ่ นำงชื่อเวย เสิ่ นเวย ดอกหญ้ำที่งดงำม เป็ น
ชื่อที่เหมำะกับนำงยิง่ นัก!
เจียงไป๋ ตกตะลึงกับท่ำทีเก่งกล้ำของนำง ถึงกับร้องชื่นชมว่ำ “แม่
นำงที่แกร่ งกล้ำถึงเพียงนี้จะแต่งออกหรื อ”
สวีโย่วกลับรู ้สึกชอบใจนัก ให้ควำมรู ้สึกสดใหม่ กล้ำหำญ สดใส
และยังชัดเจนอีกด้วย! หญิงสำวเช่นนี้ซีจึงจะเรี ยกว่ำใช้ชีวิตอย่ำง
แท้จริ ง ไม่ได้ทำให้ตวั เองต้องตกที่นงั่ ลำบำกเพรำะเรื่ องรักๆ ใคร่ ๆ
ทั้งยังกล้ำหำญ และไม่ยอมให้ใครมำเอำเปรี ยบ ไม่ยอมให้ตวั เองต้อง
ตกที่นงั่ ลำบำก
ใช่แล้ว เป็ นเพรำะเสด็จแม่ สวีโย่วจึงไม่มีควำมสนใจในหญิงสำวผู ้
อ่อนแอเลยแม้แต่นอ้ ย ไม่เห็นหรื อว่ำเสด็จพ่อมีรักอื่น เรื่ องยุง่ ยำก
เพียงไร เสด็จแม่เอำแต่อยูใ่ นเรื อนหลักนิ่งๆ จนผูห้ ญิงคนนั้นเข้ำมำ
ในจวนแล้วก็ปล่อยให้นำงจัดกำรทุกอย่ำงมิใช่หรื อ หำกเสด็จแม่ยงั
อยู่ ตัวเขำจะมีสภำพเช่นนี้หรื อ
เขำกระทัง่ คิดว่ำ หำกเสด็จแม่ของเขำเหมือนเสิ่ นเวยก็คงจะมีกว่ำนี้
มำก!
ควำมจริ งแล้ว หญิงสำวที่ท้งั งดงำมและพิเศษกว่ำคนอื่นได้ตกลงสู่
กลำงใจของเขำตั้งแต่ตอนนั้น เพียงแต่เขำยังไม่รู้สึกก็เท่ำนั้น หำกเขำ
รู ้วำ่ เขำพึงใจหญิงคนนี้ เขำคงจะดึงนำงเข้ำสู่ ออ้ มกอดเสี ยแล้ว
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนพิเศษ 2-1 สวีโย่ ว (ปลาย)
หากไม่มีความช่วยเหลือในภายหลัง หญิงสาวที่น่าสนใจเช่นนี้คง
กลายเป็ นเพียงคนที่เดินผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาเท่านั้น ในความ
ทรงจาของสวีโย่ว นี่คือความโชคดีอย่างหาใดเปรี ยบมิได้ ถึงขนาด
ต้องขอบคุณการลอบสังหารในครั้งนั้น
วันนั้นท้องฟ้ามืดครึ้ ม ฝนใกล้จะตกแล้ว เขาถูกล้อมไปด้วยชายชุด
ดาที่นอกเมือง ตอนนั้นทั้งเจียงเฮยและเจียงไป๋ ล้วนไม่อยูท่ ้ งั คู่เขาเอง
ก็ถูกพิษ สถานการณ์ไม่สู้ดีเท่าไหร่
ในช่วงที่การสู ้รบติดพันมีรถม้าคันหนึ่งเคลื่อนเข้ามา ความเร็ วของ
รถไม่ลดลงเลย ดูท่าทางแล้วคงจะไม่อยากเข้ามายุง่
ชายชุดดาเหล่านี้คงจะอยากฆ่าปิ ดปาก ถือดาบพุง่ เข้าไปในรถม้าสอง
นาย รถม้าหยุดลง คนที่ลงมาจากรถนั้นเป็ นคนที่เขาคิดไม่ถึงเอา
เสี ยเลย เสิ่ นเวย เสิ่ นเวยหญิงที่พิเศษไม่เหมือนใครคนนั้น
สี หน้าของนางกรุ่ นโกรธ นาข้ารับใช้คนหนึ่งเข้าฟาดฟันคนชุดดา
สวีโย่วตกใจอย่างถึงที่สุด ที่แท้หญิงผูน้ ้ ีไม่เพียงน่าสนใจแต่ยงั มี
วิทยายุทธติดกาย ฝี มือของนางนั้นพอๆ กับทหารคุม้ มังกรที่อยู่
ภายใต้การบังคับบัญชาของเขา ที่จวนจงอู่โหวเลี้ยงหญิงสาวเช่นนี้
ไว้ดว้ ยหรื อ อีกทั้งยังมีสาวใช้ที่อายุเพียงสิ บกว่าปี เท่านั้นที่กาลังเริ ง
ระบาด้วยพลองเหล็กอีก ช่างองอาจเสี ยเหลือเกิน!
ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบจะไม่ตอ้ งทาอะไร คนชุดดาที่เมื่อครู่ ยงั
แสดงท่าทีกา้ วราวชัว่ วินาทีกถ็ ูกนายบ่าวสองคนจัดการไปมากกว่า
ครึ่ ง เหลือเพียงสองสามคนที่กาลังหมุนกายเตรี ยมหนี
สวีโย่วพิงต้นไม่ ได้ยนิ เสี ยงหญิงสาวคนนั้นส่ งเสี ยงเยาะเย้ย ตัดผ้า
จากเสื้ อสี ดาที่อยูบ่ นพื้นมาชิ้นใหญ่แล้วเช็ดใบดาบจนสะอาด เหน็บ
เอาไว้ที่เอวอีกครั้ง จากนั้นก็ร้องเรี ยกสาวใช้แล้ววิง่ ไปที่รถม้า
ระหว่างที่ยงั ไม่ได้สติสมั ปชัญญะ สวีโย่วร้องเรี ยกนาง
หญิงสาวผูน้ ้ นั มีสีหน้าประหลาดใจอย่างเห็นได้ชดั “เจ้าเป็ นใคร รู ้จกั
ข้าด้วยหรื อ”
เขามองไปที่ดวงตาสวยงามจนน่าตื่นตะลึงของนาง ไม่รู้วา่ ทาไม เขา
ไม่เคยชอบใจเวลาคนอื่นหลงใหลรู ปลักษณ์หน้าตาของเขา ทว่าใน
ใจตอนนี้กลับลอบดีใจ “สวีโย่ว ชื่อของข้า” ประโยคนี้หลุดออกจาก
ปาก
ใบหน้าของหญิงสาวดูมึนงง เห็นได้ชดั เจนว่าไม่รู้วา่ สวีโย่วคือใคร
ต้องรอให้เขาบอกอีกครั้งว่าเขาคือคุณชายใหญ่แห่งจวนจิ้นอ๋ อง สี
หน้าของนางจึงแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจ “อ้อ ญาติผพู ้ ี่ของจวิน้ จู่
น้อย”
ตอนนั้นนางเขินอายจริ งๆ ไม่คิดเลยว่าจะมีวนั ที่อาศัยบารมีญาติผู ้
น้องเช่นนี้!
ครั้นเขาเอ่ยเรื่ องทดแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตขึ้นมานั้น เขามองเห็น
ดวงตาของหญิงสาวอย่างชัดเจน จากนั้นกลับโบกมือตัดบท “ช่าง
เถิด สาวน้อยอย่างข้าช่วยคนไม่หวังผลตอบแทนหรอก”
เนิ่นนานหลังจากนั้นเขาจึงได้รู้วา่ ตอนนั้นเวยเวยของเขาคิดจะเรี ยก
เงินเขา เฮอๆ คิดไม่ถึงใช่ม้ยั ล่ะ เวยเวยของเขาเหมือนว่านเรี ยกเงิน
ไม่มีผดิ เรื่ องที่นางทาได้ไม่เบื่อคือการหาเงิน ที่ชอบที่สุดก็คือการ
ขุดเอาทรัพย์สมบัติของเขาด้วยมือของตัวเอง
ใช่แล้ว เวยเวยยังบอกอีกว่า สิ่ งที่นางชอบที่สุดคือเงินของเขา
รองลงมาคือหน้าของเขา เป็ นเพราะเขาหน้าตาดี ตอนนั้นเวยเวยเลย
ไม่ตอ้ งการเงินจากเขาอย่างไรล่ะ
เมื่อพูดถึงรู ปร่ างหน้าตาของเขาแล้ว แต่เดิมเขารังเกียจมันอย่างมาก
บุรุษมีหน้าตาดีแล้วดีอย่างไร เขายิง่ รังเกียจสายตาโสมมของคนที่
มองเขาแต่ภายนอก
หลังจากที่รู้จกั นางแล้ว เขาก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่หน้าตาดี
เป็ นเพราะเวยเวยของเขามักจะลูบไล้ใบหน้าของเขาอย่างหลงใหล
“คุณชายใหญ่ ทาไมถึงหน้าตาดีขนาดนี้ ข้าชอบใบหน้าของท่าน
ที่สุดเลย”
“ขอเพียงท่านมีหน้าตาแบบนี้ ให้ขา้ แต่งงานกับท่านก็ไม่ใช่เรื่ อง
เสี ยหายอะไร”
ใช่แล้ว ที่เขาสามารถแต่งงานกับนางได้ เหตุผลหลักๆ ก็ตอ้ งยก
ผลประโยชน์ให้เขาที่เกิดมาหน้าตาดี เวยเวยของเขาไม่เพียงชอบเงิน
แต่ยงั รักความสวยงามอีกด้วย
เมื่อมีบุญคุณที่ช่วยชีวิต และรู ้วา่ หญิงสาวอยูท่ ี่จวนของตัวเองอย่าง
ไม่ค่อยมีความสุ ขนัก เขาก็ออกคาสัง่ กับบ่าวไพร่ ให้ใส่ ใจให้มากขึ้น
คิดว่าคงจะมีโอกาสได้ช่วยเหลือไม่มากก็นอ้ ย และยังเป็ นการตอบ
แทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตอีกด้วย
จากนั้นก็ได้พบกับเสิ่ นเวยที่ร้านขายหยังสื ออีกครั้ง หญิงสาวคนนี้
กาลังค้นหาหนังสื อไปพลางบ่นกับสาวใช้ไปพลาง ตอนนั้นเขายืน
อยูท่ ี่ช้ นั สอง พอดีวา่ ได้ยนิ ในสิ่ งที่นางพูดพอดี คาพูดของนางนั้น
น่าสนใจนัก
“ดูเล่นนี้ซี คุณหนูตระกูลขุนนางคนหนึ่งแต่ได้พบกับบัณฑิตจนๆ ที่
วัดก็ร่ าร้องจะแต่งงานกับเขา ไม่สนใจพ่อแม่ที่เลี้ยงดูตวั เองมาสิ บ
กว่าปี เลย ทิ้งเงินแล้วหนีไปอยูก่ บั บัณฑิตคนนั้น สมองมีปัญหาแน่!
ท่านพ่อท่านแม่ของนางเลี้ยงมาด้วยเงินทองและสมบัติพสั ถาน แต่
กลับอุทิศตัวเองให้กบั บัณฑิตจนๆ ที่เพิ่งพบหน้า ผูห้ ญิงอย่างนี้ใคร
จะเลี้ยงดูเล่า”
“แล้วตอนหลังบัณฑิตยากจนยังเอาเครื่ องประดับนางไปขายเพื่อ
สอบจนได้ตาแหน่งมีชื่อเสี ยง ถูกลาภยศลวงตาจนมืดบอด แต่
คุณหนูคนนั้นกลับไม่ดุด่ากล่าวโทษ ไม่ถือที่หญิงอื่นจะมานอนกับ
สามีตวั เอง นางไม่กลัวต้องแปดเปื้ อนหรื อยังไง แล้วยังถือเอาศัตรู
เป็ นเหมือนพี่สาวน้องสาวเสี ยอีก มันใช่เรื่ องไหม หา สมองของ
คุณหนูนี่มนั มีแต่หญ้าหรื ออย่างไร ยอมให้คนอื่นมานอนข้างเตียง
ั ฑิตยากจนเหลืออยูค่ นเดียว
ตัวเองได้อย่างไร! หากในโลกนี้มีบณ
นางมิสู้ผกู คอตายใต้ตน้ ไม้ไม่ดีกว่าหรื อ นางควรจะเหยียบชายผูน้ ้ นั
เสี ยให้จมดิน เผาบ้านของเขาให้มอดไหม้ ยึดทรัพย์สินเขามาให้
หมดแล้วหาความรักครั้งใหม่เสี ยยังดีกว่า”
“แล้วดูนี่ ยังมีหนังสื อเล่มนี้ คุณหนูตระกูลร่ ารวยพบกับบัณฑิต สาว
ใช้ขา้ งกายคอยเจ้าจี้เจ้าการ ใช้จดหมายเป็ นสื่ อ ยัว่ ยุให้คุณหนูของ
ตัวเองอ่อนไหว เอาล่ะ บ้านไหนจะกล้าจ้างสาวใช้ไม่รู้กาลเทศะ
เช่นนี้ นายหน้าคนใดขายออกมา จะไม่ถูกคนขุดรากถอนโคนหรื อ
ไร อีกอย่าง ทุกครั้งที่นดั พบนั้นจะต้องเป็ นที่วดั แปดในสิ บต้องเป็ น
เช่นนี้ วัดคนอื่นต้องมาแปดเปื้ อน เป็ นสถานที่บริ สุทธิ์ศกั ดิ์สิทธิ์ถึง
เพียงนี้แต่กลับกลายเป็ นเตียงอุ่นของชายหญิงที่มวั เมาในราคะตั้งแต่
เมื่อไร พวกบัณฑิตที่รู้หนังสื อหนังหานั้นไม่เห็นมีคนดีสกั คน ตัวเอง
ไม่อยากเผชิญหน้ามักหาทางเลี่ยงอยูเ่ สมอ ใช้ผหู ้ ญิงเป็ นบันไดใน
การปี นป่ ายขึ้นไป แม้จะใช้ผหู ้ ญิงในการยกสถานะขึ้นมาก็ควรจะทา
ตัวดีๆ แต่ดูเขาซี เมื่อประสบความสาเร็ จแล้วกลับทาเป็ นไม่รู้จกั เป็ น
จิ้งจอกตาขาวชัดๆ ”
โอ้โห ความคิดของนางช่างแปลกใหม่ ช่างกล้าหาญนัก! สวีโย่วไม่รู้
เลยว่าดวงตาของตนเต็มไปด้วยรอยยิม้
นางสัง่ สอนสาวใช้ของตัวเองเช่นนี้ “เหอฮวา เจ้าจาไว้นะ ต่อไปเมื่อ
แต่งงานออกไปแล้วอย่าใช้ชีวิตเหมือนยายแก่ๆ ล่ะ หากเจ้ากล้าทา
ตัวน่าสมเพชเหมือนคุณหนูตระกูลขุนนางเหล่านี้ ข้าจะตีเจ้าให้ตาย
ปล่อยเจ้าไว้กข็ ายหน้าเปล่าๆ”
เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ชัว่ ขณะก็ทาให้หญิงสาวที่เลือกซื้อ
หนังสื ออยูต่ กใจ ยามนางเห็นว่าเป็ นเขาก็คล้ายอึดอาใจ ดวงตาเบิก
กว้างเหมือนหนูตวั น้อยที่น่ารัก ปฏิเสธคาเชิญของเขาแล้วรี บวิ่งหนี
มองแผ่นหลังของนาง เขาก็หวั เราะอย่างรื่ นเริ ง
เป็ นหญิงสาวที่น่าสนใจจริ งๆ!
ใช่แล้ว ในสายตาของเขานั้น เสิ่ นเวยเป็ นสาวน้อยที่น่าสนใจเสมอมา
อายุเพียงสิ บห้า อายุนอ้ ยกว่าเขาถึงเจ็ดปี เต็มๆ
ตอนที่เขาเพิ่งกลับมาจากการทาภารกิจ เจียงไป๋ รายงานว่าคุณชาย
น้อยแห่งจวนเสนาบดีฉินต้องการที่จะบังคับนางให้หมั้นหมาย เรื่ อง
นี้โด่งดังไปทัว่ เมืองหลวง
ชัว่ วินาทีน้ นั คิ้วของเขาก็ขมวดมุ่น เขารู ้จกั ลูกชายคนเล็กของท่าน
เสนาบดีฉิน เป็ นลูกคนรวยที่ไม่เอาไหน ไหนเลยจะคู่ควรกับนาง
ดังนั้นเขาจึงไปที่จวนองค์หญิงใหญ่ เพื่อขอร้องให้เสด็จอาช่วยเหลือ
นางเรื่ องงานหมั้นอีกทาง เพราะอย่างไรนางก็เป็ นผูม้ ีพระคุณที่
ช่วยชีวิต แต่เหตุใดนับตั้งแต่ตอนที่ออกมาจากจวนองค์หญิงใหญ่ใจ
ของเขาจึงไม่สงบเอาเสี ยเลย
สวีโย่วต้องการที่จะช่วยเหลือนาง แต่ยงั ไม่ทนั ได้ทาอะไรสาวน้อย
คนนั้นก็จดั การแก้ปัญหาได้เสี ยแล้ว ได้ยนิ บ่าวไพร่ รายงาน สวีโย่วก็
ต้องตื่นตะลึง
หญิงสาวผูน้ ้ นั ไฉนนจึงกล้าหาญชาญชัยถึงเพียงนั้น ถึงขนาดกล้าเข้า
ไปคุกคามเสนาบดีฉินที่จวนเสนาบดีในยามดึกสงัด! ช่างเป็ นแมว
น้อยที่มีเขี้ยวเล็บแหลมคมเสี ยเหลือเกิน!
สวีโย่วรู ้ความรู ้สึกของตัวเองอย่างกระจ่างก็เมื่อครั้งที่โดนลอบ
สังหารครั้งนั้น ตอนที่เขาทราบว่ามีบุคคลไม่หวังดีได้บุกเข้าไปถึง
หมู่บา้ นของนางนั้นก็สายเกินไปเสี ยแล้ว นางเลือดไหลทัว่ ร่ าง
ใบหน้าขาวซีดอยูท่ ี่อกของเขา ในวินาทีน้ นั เขาเจ็บปวดที่หวั ใจ และ
รู ้สึกว่าเขาไม่ไว้ใจให้ใครมาดูแลหญิงสาวคนนี้ ต้องเห็นนางอยูใ่ น
สายตาของเขาเองเท่านั้นจึงจะวางใจได้
ความคิดนี้ราวกับเป็ นต้นอ่อนที่ถูกบ่มเพาะ ค่อยๆ เติบโตกลายเป็ น
ต้นไม้ตน้ ใหญ่เสี ยดฟ้า ดังนั้นเขาจึงเข้าไปไปทูลขอสมรส
พระราชทาน แม้วา่ หญิงสาวผูน้ ้ นั จะไม่ยนิ ดีเป็ นอย่างยิง่ แต่เขาก็
อยากที่จะแต่งงานกับนาง
เมื่อก่อนเขาไม่เคยอยากมีครอบครัว ทว่าตอนนี้พอเขาคิดว่าตัวเขาจะ
ได้เป็ นสามีของนาง ก็อดไม่ได้ที่จะยินดีปรี ดา
เมื่อก่อนเขาไม่เคยสนใจชีวิตของตัวเอง นับแต่ทูลขอสมรส
พระราชทาน เขากลับระมัดระวังตัวทุกครั้งที่ออกไปปฏิบตั ิภารกิจ
เขาคอยบอกตัวเอง ‘ต้องมีชีวิตรอดกลับไป รอดกลับไปแต่งงานกับ
นาง’
วันคืนที่ซีเจียง ทาให้เขายิง่ เข้าใจเสิ่ นเวยได้ลึกซึ้งยิง่ ขึ้น ใครจะคิดเล่า
ว่าคุณชายสี่ ตระกูลเสิ่ นที่งดงามชวนตะลึงเป็ นหญิง เสิ่ นเวยผูน้ ้ นั ทั้ง
เจ้าเล่ห์ ฉลาด เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว และยังกล้าหาญมาก เสิ่ นเวยที่
เป็ นเช่นนี้ยงิ่ ทาให้เขาเลื่อมใส อดใจไม่ไหวที่จะเข้าไปใกล้ เข้าไป
ใกล้อีกสักหน่อย
เวยเวยของเขาช่างจิตใจดีนกั ปากบอกจะทิ้งเขา จะทิ้งขว้างจวนจิ้
นอ๋ องที่เลวร้ายป่ าเถื่อน แต่กลับไม่อาจทนมองคนอื่นปฏิบตั ิตวั แย่ๆ
กับเขาได้ ไม่วา่ จะมาจากเสด็จพ่อ หรื อมาเจตนาร้ายของจิ้นหวังเฟย
นางล้วนแล้วแต่ขวางอยูข่ า้ งหน้าเขา หากเป็ นฝ่ าบาทเอง นางก็คงไม่
มีความกลัวเกรงใดๆ
นางชอบที่จะบอกเขาว่า “ใครใช้ให้ขา้ ชอบหน้าของท่านกันเล่า”
นางยังพูดอีกว่า “คุณชายใหญ่ ใครบอกให้ท่านไม่สบายใจกัน ไปไป
ไป ข้าจะไปฆ่ามันให้ตาย”
นางยังขมขู่เขาอีกด้วย “รับภรรยาน้อย ท่านอยากให้ขา้ ตีท่านให้ขา
หักหรื ออย่างไร”
เสิ่ นเวยที่เป็ นเช่นนี้เขาจะไม่รักได้อย่างไร ไม่รักได้อย่างไรกัน ใครก็
บอกว่าเขากลัวภรรยาเสี ยแรงเป็ นสามี แต่ใครจะรู ้เล่าว่าเขายอมให้
มันเป็ นเช่นนี้เอง
ใครๆ ก็บอกว่าจยาฮุ่ยจวิน้ จู่น้ นั โชคดี มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้วา่ เป็ นตัว
เขาเองที่โชคดีที่สุดแล้ว เขาตัวคนเดียวมาตั้งแต่เล็ก มีเพียงเวยเวยที่
เป็ นของเขา เวยเวยเป็ นความอบอุ่นของเขา เป็ นแสงตะวันดวงเดียว
ในชีวิตของเขา เป็ นส่ วนเติมเต็มในชีวิตที่สวรรค์ประทานให้ เป็ น
เหมือนพระผูไ้ ถ่ของเขา เป็ นความกล้าหาญที่ทาให้เขามีชีวิตอยู่
มองไปทางเสิ่ นเวยที่นงั่ อยูบ่ นเก้าอี้ไม้ไผ่ใต้ตน้ ไม่ สายตาของสวีโย่ว
ดูอ่อนโยน เขารู ้สึกว่าความโชคดีที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาก็คือ
การได้มีเวยเวยเป็ ยภรรยา
ห่างออกไปไม่ไกล บุตรธิดาหนึ่งคู่ของพวกเขากาลังนัง่ อยูบ่ นพื้น
กระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง
ใช่แล้ว สวีโย่วและเสิ่ นเวยมีลูกสาวหนึ่งลูกชายหนึ่ง ตอนนี้กย็ งั มีอีก
คนอยูใ่ นท้อง
ลูกสาวของพวกเขาอายุเจ็ดขวบ หน้าตาน่ารักขาวนวลเหมือนหิมะ
ซุกซนเหมือนแม่ของนาง ลูกชายอายุหา้ ขวบ กลับมีนิสยั เหมือนเขา
มีสีหน้าเงียบขรึ มตั้งแต่อายุยงั น้อย
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนพิเศษ 2-2 สวีโย่ ว (ปลาย)
“ท่านอ๋ อง จิ้นอ๋ องมาอีกแล้วเจ้าคะ” หลีฮวาเข้ามารายงาน นางแต่ง
กายอย่างหญิงแต่งงานแล้ว เมื่อสี่ ปีก่อนนางแต่งงานกับเจียงเฮย ส่ วน
เจียงไป๋ แต่งงานกับเถาจือ แต่พวกนางยังไม่ยา้ ยออกไป ยังคงอยูค่ อย
รับใช้ขา้ งกายเสิ่ นเวย
สวีโย่วได้ยนิ ดังนั้นก็ตีหน้าเคร่ ง “ใครกล้าปล่อยให้เขาเข้ามา”
น้ าเสี ยงแสดงออกอย่างเห็นได้ชดั ว่าไม่อยากเห็นหน้า นับตั้งแต่ตอน
ที่เสด็จแม่ของเขาเสี ยชีวิต เขาก็ไม่อยากจะพบหน้าพ่อคนนั้น แม้ฝ่า
บาทจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ เฮอะ แค่คาว่าเสี ยใจแค่
คาเดียวจะสามารถกาจัดความเจ็บปวดทั้งหมดออกไปได้หรื อ
อย่างไร ขอโทษเถอะ ตอนนี้เขาเลยวัยที่จะต้องการพ่อแล้ว
“มาแล้วก็นาไปที่เรื อนนอก ยกชามาให้ดื่มด้วย” สวีโย่วเอ่ยอย่าง
ราคาญใจที่สุด
หลีฮวากลับแสดงสี หน้าลาบากใจ “ท่านอ๋ อง จิ้นอ๋ องต้องการพบนาย
หญิงน้อยเจ้าค่ะ”
“อย่าหวังเลย” สวีโย่วกล่าวอย่างเย็นชา อยากพบหน้าลูกสาวของเขา
มีสิทธิ์อะไร ที่ให้เขาเข้ามาดื่มชาถึงในจวนก็ถือว่าไว้หน้าพอแล้ว ยัง
อยากที่จะพบลูกสาวเขาอีกหรื อ เฮอะ พูดจาน่าขันอะไรเช่นนี้
เสิ่ นเวยเห็นสวีโย่วไม่ชอบใจ รี บกุมมือเขาเพื่อปลอบใจ “เอาเถิด
ท่านบอกว่าให้แล้วกันไปมิใช่หรื อ จะโกรธอยูอ่ ีกทาไม” ในเวลา
เดียวกันก็ส่งสายตาให้หลีฮวา เพื่อให้นางถอยออกไป
เยว่เป่ าและนัว่ เป่ าที่กาลังนัง่ เล่นอยูก่ บั พื้นส่ งสายตาหากัน
“เจ้าไม่ใช่คิดจะทรยศใช่ไหม อย่าได้คิดว่าตาเฒ่านัน่ น่าสงสาร หรื อ
เพราะเป็ นท่านปู่ เชียว ข้าจะบอกให้ เมื่อก่อนเขาไม่ได้ทาดีต่อท่าน
พ่อของพวกเรา หากเจ้าลอบไปพบเขา ท่านพ่อจะต้องตีเจ้าจนก้น
ลายแน่” พี่สาวเย่วเป่ าจ้องน้องชาย
น้องชายนัว่ เป่ าขมวดคิ้ว ทว่ากลับกังวลใจที่พี่สาวพูดจาหยาบคาย
เป็ นสาวเป็ นนาง เหตุใดถึงพูดคาว่าก้นได้ พี่สาวของเขาจะแต่งงาน
ออกอีกหรื อ
“เงิน!” นัว่ เป่ ามองเหยียดพี่สาว “ท่านแม่สอนไว้ ‘เสี ยอะไรอย่าได้
เสี ยเงิน’” ครั้งที่แล้วชายชราคนนั้นมอบป้ายหยกให้หนึ่งชิ้นที่นอก
จวน มีค่าน่าจะหลายพันตาลึง
เย่วเป่ าตีนอ้ งชายไปหนึ่งที “เจ้าเด็กบ้องตื้น ยังเป็ นผูช้ ายอยูไ่ หม หุบ
ปากไปเลยนะเจ้า อยากให้ท่านพ่อได้ยนิ หรื ออย่างไร ห่ะ!” นางพูด
ไปพลางเหลือบตามองไปทางพ่อของนาง
“ท่านพ่อเชื่อฟังท่านแม่” นัว่ เป่ าไม่สนใจคาขู่ของพี่สาวแม้แต่นอ้ ย
ท่านแม่บอกว่าจะต้องเรี ยนรู ้ทุกอย่างในชีวิต ยุงตัวเล็กแต่กม็ ีเนื้อ
รวมหลายตัวก็ได้หลายตัว หากเป็ นพี่สาวที่ใช้เงินไม่รู้หน้ารู ้หลัง คง
จะใช้เงินของตระกูลเสี ยจนหมดแน่
ใช้หมดก็คือใช้หมดไป แต่ท่านพ่อของเขาบอกว่าเขาเป็ นบุตรชาย
เอกของจวนอ๋ อง พีส่ าวของเขารวมไปถึงพี่นอ้ งที่ตามมาทีหลังนั้น
เขาต้องรับผิดชอบ
ถ้าอย่างนั้นจะใช้ชีวิตอยูอ่ ย่างไร ในเมื่อพี่สาวของเขาเป็ นเช่นนี้ เงิน
ที่ได้แต่ละเดือนนั้นพี่สาวเขาใช้หมดภายในสามวันเท่านั้น พี่สาว
ของเขาสามารถล้มตระกูลได้เช่นนี้ เขาจะไม่คิดวิธีเก็บเงินเอาไว้ได้
หรื อ
หรี่ ตามองไปทางท้องที่นูนป่ องของท่านแม่ นัว่ เป่ าก็รู้สึกกลัดกลุม้
เพียงพี่สาวของเขาคนเดียวเขาก็หนักใจแล้ว หากท่านแม่คลอด
ออกมาเพิม่ อีกจะทาอย่างไร เขาไม่เหนื่อยตายหรื อ แต่อย่างไรเสี ยก็
ไม่อาจห้ามไม่ให้ท่านแม่คลอดลูก เพราะเขาเคยบอกกับท่านพ่อเขา
เช่นนี้ ท่านพ่อของเขากลับขังเขาให้คดั ตัวอักษรในห้องตั้งครึ่ งเดือน
คัดจนมือน้อยๆ ของเขาเกือบจะเสี ย สุ ดท้ายเพราะท่านแม่ขอร้องเขา
จึงได้ออกมาจากห้อง
นัว่ เป่ าแสดงสี หน้าเย็นชาเหมือนพ่อของเขาไม่มีผดิ น่าสนุกนักหรื อ
อย่างไร!
ไม่ได้ เงินที่อุตส่ าห์มาถึงหน้าประตูน้ นั จะละเลยไม่ได้ ไม่อาจพลาด
จากโอกาสนี้ได้เลย ตาเฒ่าคนนั้นเหมือนจะชอบเขามาก ไปรับเงิน
แล้วกลับมาได้หรื อไม่
ดวงตาเล็กของนัว่ เป่ าฉายแววตั้งใจ พูดเสี้ ยมพี่สาวของเขาว่า “ได้ยนิ
มาว่าขนมโก๋ ใสใส่ ดอกไม้ที่ถนนตงต้าเจียออกสิ นค้าใหม่แล้ว”
ทาไมต้องยุยงพี่สาวของเขาน่ะหรื อ ก็เป็ นเพราะท่านพ่อของเขารัก
พี่สาวมากที่สุดมิใช่หรื อ บ้านอื่นเขารักลูกชาย แต่บา้ นเขากลับ
ตรงกันข้าม ท่านพ่อของเขารักท่านแม่มากที่สุด จากนั้นก็พี่สาวของ
เขา แม้พี่สาวทาผิดใหญ่โตแค่ไหนท่านพ่อของเขาก็ไม่แตะนาง
แม้แต่ปลายเล็บ
ส่ วนเขาเล่า เกิดมาก็เหนื่อยแล้ว ทาให้เขาสงสัยว่าเขาเป็ นลูกของ
ท่านพ่อท่านแม่จริ งๆ หรื อเปล่า เหตุใดถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้
เฮ้อ ไม่อยากคิดแล้ว อยากจะร้องไห้เป็ นสายเลือด!
เยว่เป่ าสนใจขึ้นมา “พวกเราไปหยิบเงินแล้วกลับกันไหม ค่อยๆ
แอบไป อย่าให้ท่านพ่อท่านแม่รู้” เหลือบมองไปทางน้องชาย สายตา
ฉายแววกระจ่างทันที
เฮอะ เจ้าเด็กน้อย อย่าคิดว่าข้าไม่รู้วา่ เจ้าคิดอะไรอยู่ พี่สาวอย่างข้า
นั้นฉลาด ท่านแม่พดู ไว้ ลูกสาวต้องคมในฝัก อย่างนั้นจะทาตัว
ฉลาดไปทาไม ใต้ร่มไม้ซีถึงจะร่ มเย็น ให้ผชู ้ ายออกหน้าไปเถิด
“เจ้าตัวเล็กทั้งสอง!” สวีโย่วว่าเสี ยงดัง เขาเป็ นคนอย่างไรจะไม่ได้
ยินเสี ยงเจ้าหมาน้อยทั้งสองกระซิบกระซาบได้อย่างไร
เสิ่ นเวยลูบท้องด้วยท่าทีรื่นเริ ง ในใจรู ้สึกสมใจยิง่ นัก! เมื่อเห็นลูก
สาวลูกชายของนางวางแผนการ ยังเล็กแค่น้ ีแต่รู้จกั ที่จะหาเงินเข้า
บ้านเช่นนี้ การสัง่ สอนประสบความสาเร็ จนัก!
“เจ้าก็เบาๆ หน่อยได้ไหม แปดเดือนแล้วนะ” ดวงตาของสวีโย่วฉาย
แววกังวลใจ “ลมมาแล้ว เข้าห้องกันเถิด” เขาค่อยๆ ประคองเสิ่ นเวย
จากนั้นก็ออกคาสัง่ กับเจียงไป๋ “เจ้าคอยดูพวกเขาไว้”
เสิ่ นเวยกรอกตาอย่างเบื่อหน่าย “เจ้ายังกลัวพวกเขาถูกลักพาตัวอีก
หรื อ” ลูกชายของนางมีความคิดรับผิดชอบตั้งแต่ยงั เล็ก ส่ วนลูกสาว
ของนางนั้นเป็ นคนฉลาดเฉลียว ทว่ากลับทาตัวเหมือนแม่เสื อห่ม
หนังแกะ ทาให้ลูกชายของนางเอาแต่คิดว่าพี่สาวของเขาโง่เขลา
เหลือเกิน ทาให้ตอ้ งวิตกกังวล แต่ไม่รู้เอาเสี ยเลยว่าเขานัน่ เองที่เป็ น
ตัวช่วยเหลือให้เก็บเงินได้
ฮี่ฮี่ ยิง่ คิดก็ยงิ่ สนุก!
สี หน้าของจิ้นอ๋ องที่นงั่ อยูใ่ นห้องยิง่ ดูแย่ลงเรื่ อยๆ นึกอยากจะโมโห
แต่กต็ อ้ งกลั้นเอาไว้ ไม่ง่ายเลยที่เขาจะเข้ามาในจวนผิงอ๋ องได้ หาก
ไปยัว่ โมโหลูกชายคนโตของเขาเข้า เขาก็คงจะโดนไล่ออกไปแน่
ไม่ผดิ เจ้าลูกอกตัญญูนนั่ ต้องทาแน่ เมื่อคิดว่าลูกตัวเองนั้นอกตัญญู
จิ้นอ๋ องก็รู้สึกไม่พอใจอยูล่ ึกๆ แต่เมื่อคิดถึงหลานสาวหลานชายทั้งคู่
ที่แสนฉลาดเฉลียว เขาก็พยายามอดทนอย่างที่ไม่เคยเป็ นมาก่อน
เจ้าลูกอกตัญญูคนนั้น ทั้งๆ ที่เป็ นหลานสาวหลานชายของเขาแท้ๆ
แต่กลับกีดกันไม่ให้เขาพบ! น่าโมโหนัก!
จิ้นอ๋ องถอนหายใจยาว ดวงตาเต็มไปด้วยความสานึกผิด!
ใช่แล้ว เขาสานึกตั้งนานแล้ว สานึกเสี ยใจซึมลึกเข้าไปถึงกระดูก
เมื่อย้อนกลับไป เขาเองก็แปลกใจว่าทาไมต้องหลงใหลในตัวหญิง
สาวที่มีจิตใจเต็มไปด้วยแผนร้ายจนทาลายอนาคตตัวเองและ
ครอบครัวตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อเห็นซ่งซื่อที่โดนขังอยูใ่ นเรื อนพักที่
มีโฉมหน้าร้ายกาจเหมือนนางมารร้าย เขาเคยชอบสตรี เช่นนั้นจริ งๆ
หรื อ เพื่อนางแล้ว เขาโกรธเกรี้ ยวใส่ ภรรยาจนตาย ทอดทิ้งลูกชาย
คนโต เมื่อคิดดูแล้ว ช่างเหมือนกับตกลงสู่ ฝันร้ายตื่นหนึ่ง!
ตอนนี้เขารู ้สึกผิดจริ งๆ บรรยากาศในจวนจิ้นอ๋ องที่กว้างใหญ่แสน
เหน็บหนาว ลูกชายกล่าวโทษเขา ลูกชายคนรองและลูกชายคนที่
สามก็ไม่ยกโทษให้เขา ลูกชายคนที่สี่กเ็ อาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ลูก
อนุเพียงคนเดียวก็วางแผนที่จะรับราชการข้างนอกแล้ว
จวนจิ้นอ๋ องที่กว้างใหญ่สงบนิ่ง แม้แต่เสี ยงหัวเราะของเด็กๆ ก็ไม่มี
เขารู ้สึกว่าทุกวันนี้เขาอาศัยอยูใ่ นหลุมศพที่กดทับเสี ยจนหายใจแทบ
ไม่ออก
ลูกชายรอง ลูกชายสามและลูกชายสี่ ลว้ นไม่มีทายาท เขาไม่อาจอุม้
หลานได้ ในจวนของเขาเหลือเพียงหลานสาวหลานชายคู่น้ ี แต่
ตอนนี้พวกเขาก็โตแล้ว ไม่รู้วา่ จะถูกเลี้ยงดูอย่างไรและไม่ได้สนิท
ชิดเชื้ออะไรกับเขาเลยแม้แต่นอ้ ย
ตอนที่เขารู ้วา่ สะใภ้ใหญ่คลอดลูกชายออกมา แต่กต็ ื่นเต้นเสี ยจน
นอนไม่หลับทั้งคืน เตรี ยมของขวัญล้ าค่าเอาไว้เต็มคันรถ แต่เจ้าลูก
อกตัญญูผนู ้ ้ นั กลับไม่ยอมให้เขาเข้าไปดูหลานในจวน
เขานอนคิดอยูท่ ้ งั คืน นอนไม่หลับทั้งคืน เอาแต่เดินเต่เข้ามาใกล้กบั
จวนผิงอ๋ องทั้งๆ ที่ไม่มีธุระ สุ ดท้ายก็ได้พบกับหลานชายหญิงทั้งคู่
เมื่อปี ก่อน เด็กทั้งสองหน้าตาดีนกั ทั้งฉลาดทั้งคล่องแคล่ว เขา
ตื่นเต้นเสี ยจนมือสัน่
ทว่าหลานชายหลานสาวของเขากลับจ้องมองเขาตาใส “ท่านผูเ้ ฒ่า
ท่านเป็ นใครกัน”
ในวินาทีน้ นั ดวงใจของเขาก็เจ็บปวดเหมือนถูกเข็มทิ่มแทงไม่มีผดิ
ความเศร้าเสี ยใจวนเวียนอยูใ่ นหัวใจของเขาราวกับงูพิษ นี่คือ
หลานสาวหลานชายแท้ๆ ของเขาแต่กลับถามว่าเขาเป็ นใครอย่างคน
แปลกหน้า!
นับแต่น้ นั มาเขาก็มาถึงจวนผิงอ๋ องทุกวัน แม้วา่ จะมีโอกาสได้พบ
หน้าหลานสาวหลานชายเพียงหนึ่งในสิ บ แม้วา่ เจ้าลูกอกตัญญูจะไม่
ยอมพบหน้า เขาก็ยงั มาอยูท่ ุกๆ วัน!
ชีวิตที่เหลืออยูข่ องเขาก็คงจะต้องทาเช่นนี้!
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนพิเศษ 3-1 อาจารย์ ซู

ขี่อาชาข้ามสะพาน สตรี งามล้วนชายตาแล

ชายหนุ่มลาพองใจ คนผูน้ ้ ีคือฝังจิ่น ทัว่ ทั้งเมืองหลวงนี้ไม่มีชายหนุ่ม


ผูใ้ ดดเด่นเท่ากับเขา จอหงวนหนุ่ มวัยสิ บเจ็ดปี และยังเป็ นจอหงวน
คนแรกที่ได้ที่หนึ่ งทั้งการสอบทั้งสามสนามนับตั้งแต่สถาปนาต้ายง
ทั้งยังมีใบหน้าโดดเด่น เป็ นคุณชายรู ปงามสะท้านโลกา

ยี่สิบปี หลังจากนั้น ทุกครั้งที่ซูหย่วนนึ กย้อนไปจนถึงยามที่เขาขี่มา้


ไปตามท้องถนนด้วยความองอาจแล้วก็ตอ้ งทอดถอนใจ

ใช่แล้ว เขาคือฝั งจิ่น ฝั งจิ่นเด็กหนุ่ มที่ลาพองใจในตอนนั้น บุตรอนุ


ของตระกูลเลขาธิ การกรมพระคลัง ใช่แล้ว ตอนนั้นบิดาของเขายัง
ไม่ได้เข้าร่ วมคณะเสนาบดีแล้วกลายเป็ นอามาตย์ ยังเป็ นเลขาธิ การ
เท่านั้น
แม้วา่ ฝังจิ่นจะเป็ นบุตรอนุแต่ชีวิตของเขาในบ้านก็ไม่ได้ลาบากอะไร
เพราะแม่ใหญ่ใจกว้าง แต่จะปฏิ บตั ิต่อเขาไม่เท่าน้องชายทั้งสามที่
เกิดจากภรรยาเอก ทว่ากลับไม่ได้จงใจสร้างความลาบากให้กบั เขา

ท่ านแม่ ของเขาเป็ นหญิ งสาวที่ อ่อ นโยนและหัวอ่ อ น ไม่ ชอบการ


แก่งแย่ง ไม่ชอบแย่งชิ ง ในหนึ่ งวันนอกจากปรนนิ บตั ิแม่ใหญ่ดว้ ย
ความเคารพนบน้อมก็เอาแต่เย็บผ้าอยูใ่ นห้องของตัวเอง เสื้ อผ้าที่เขา
สวมทั้งตัวนอกและตัวในนั้นล้วนแล้วแต่เป็ นฝี มือแม่ของเขาทั้งสิ้ น

อาจจะเป็ นเพราะแม่ ข องเขารั ก สงบ อาจจะเป็ นเพราะเขามี


ความสามารถในเรื่ องการเรี ยนหนังสื อ เพราะฉะนั้นชีวิตของเขาใน
บ้านจึ งไม่ดอ้ ยไปกว่าพวกน้องชาย เขาเคยลอบยินดี ที่ตวั เองโชคดี
โชคดีที่มีแม่ใหญ่ไม่ได้จิตใจคับแคบเหมือนบ้านอื่น

แม้ในภายหลังเขาจึงรู ้ว่าจริ งๆ แล้วแม่ของเขาต่างหากที่เป็ นภรรยา


คนแรกของพ่อ เขาควรจะได้เป็ นบุตรคนโตของภรรยาเอกที่ถูกต้อง
ตามทานองคลองธรรม แต่ เป็ นเพราะแม่ ของเขามี สถานะต่ า ต้อ ย
หลังจากที่ท่านพ่อสอบเข้ารับราชการได้จึงต้องลดตาแหน่ งภรรยา
เป็ นอนุ แล้วจึงแต่งงานกับหญิงสาวตระกูลสู ง แม้แต่เขาเองที่แต่เดิม
เป็ นบุตรภรรยาเอกต้องกลายไปเป็ นบุตรชายอนุภรรยาไป

แต่เขากลับไม่มีจิตใจคับแค้นในเรื่ องนี้เลยแม้แต่นอ้ ย เขาคิดว่าแม้จะ


ไม่มีสถานะบุตรภรรยาเอกก็สามารถลืมตาอ้าปากได้ และสามารถ
เลี้ยงดูท่านแม่ให้มีชีวิตที่ดี และเขายังไม่กล่าวโทษท่านพ่อ จากเดิมที่
เคารพแม่ ใหญ่ อยู่แล้วก็ยิ่งเคารพมากขึ้ น ทั้งยังมี ไมตรี จิตต่ อเหล่ า
น้องชายอย่างจริ งใจ

ทว่าแม่ของเขากลับไม่สามารถรื่ นเริ งไปกับโชคของเขา ตอนที่เขา


อายุสิบสี่ ปีแม่ก็ป่วยหนัก ใกล้จะสู ญเสี ยการมองเห็น แม่ใหญ่เสนอ
ว่าให้จดั งานมงคลเพื่อปั ดเสนียดจัญไร เขาเองก็เห็นด้วย

คืนถัดมาหลังจากที่เจ้าสาวมาถึง แม่ได้จากไปแล้ว ยามที่จะไปก็กุม


มือเขาเอาไว้แน่ นแล้วพูดกับเขาอย่างเป็ นทุกข์ “จิ่นเอ๋ อร์ เจ้าจะต้อง
ดูแลตัวเองดีๆ นะ!”
แม่ที่ยงั คงห่วงเขาอยูเ่ สมอนั้นจากไปแล้ว เหลือไว้เพียงกองดินฝังศพ
ที่เย็นชืดหนึ่งกอง เขาลอบบอกกับตัวเอง ‘อย่างไรเสี ยท่านแม่จากไป
อย่างสงบ อย่างน้อยก็ได้เห็นเขาแต่งภรรยา’

เจ้าสาวของเขาเหวินเหนี ย งเป็ นญาติ ห่างของแม่ใหญ่ พ่อแม่ไม่อยู่


แล้ว นางใช้ชีวิตอยูก่ บั ท่านอา นิสัยอ่อนโยน ทั้งยังมีฝีมือเรื่ องเย็บปั ก
ถักร้อย เหมือนแม่ของเขามาก

ฝั ง จิ่ น ไม่ ไ ด้ใ ส่ ใ จว่า ภรรยาจะมี ส ถานะต่ า ต้อ ย เจ้า สาวที่ แ ต่ ง งาน
ฉับพลันเพื่อปั ดเสนี ยดจัญไรจะมีสักกี่คนที่มีสถานะสู งส่ ง อีกอย่าง
เขาก็เป็ นเพียงบุตรอนุเท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับสตรี สูงศักดิ์
เหวินเหนียงนิสยั ดี และยังรู ้หนังสื อ เขาพึงพอใจมาก

หากทาตามธรรมเนี ยมเดิม เขาไม่ตอ้ งการที่จะไว้ทุกข์ให้แม่นานถึง


สามปี แต่อย่างไรเขาก็เป็ นแม่ผูใ้ ห้กาเนิ ดและยังเลี้ยงดูเขามา เขาจึง
ไว้ทุกข์ให้มารดาสามปี แล้วจึงค่อยลงสอบ

ความทุกข์ยากจากการเรี ยนหนังสื ออย่างหนักมาสามปี ได้กลายเป็ น


เกียรติยศ เขากลายเป็ นจอหงวนในวัยสิ บเจ็ด ตอนที่เจ้าหน้าที่มาแจ้ง
ข่าวดีที่หน้าประตูน้ นั บิดาตบหลังเขาพร้อมทั้งยิม้ กว้างอย่างดีใจ แม่
ใหญ่ ก็ วิ่ ง เข้า วิ่ ง ออกต้อ นรั บ คนนั้น คนนี้ อย่า งรื่ น เริ ง สายตาของ
น้องชายที่มองเขานั้นเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ

เขามี ความสุ ขจนตัว ลอยราวกับ ย่า เท้าลงบนปุ ยเมฆ และตอนนั้น


ภรรยาของเขาเหวินเหนี ยงตั้งครรภ์ได้หนึ่ งเดือนกว่าแล้ว พูดได้ว่า
เป็ นความสุ ขสองชั้น ชื่อเสี ยงอยูใ่ นมือ ภรรยาอยูใ่ นอก เขารู ้สึกว่าสิ่ ง
ที่มนุษย์ปรารถนาก็คือสิ่ งนี้นี่เอง

ปี ต่อมาในเดือนหก เหวินเหนี ยงคลอดลูกสาวคนโต เหวียนเหนี ยง


เสี ยใจที่ ไม่ใช่ ลูกชาย แต่เขากลับชื่ นชอบนัก เขาตั้งชื่ อลูกสาวว่าย่
วนย่วน เอาแต่อุม้ ลูกสาวไม่ยอมห่าง

ยามที่ย่วนย่วนอายุได้สองขวบเหวินเหนี ยงก็ทอ้ งอีกครั้ง นางมักจะ


ใช้เวลาเย็บชุดให้ลูกไปพลาง แล้วคิดจินตนาการถึงลูกชายในท้องไป
พลาง แต่เขากลับไม่ได้ต้ งั ตารอขนาดนั้น เขาคิดว่าหากนางคลอดลูก
สาวขึ้นมาอีกเขาก็ยนิ ดี
ย่ว นย่ว นน่ า รั ก มาก ใบหน้า เล็ก ๆ ขาวนวลนุ่ ม นิ่ ม ดวงตาโตเป็ น
ประกาย กอดคอเขาเอาไว้อย่างออดอ้อน น้ าเสี ยงอ้อแอ้เรี ยกเขาว่า
“ท่านพ่อ” แม้เขาจะต้องเหนื่อยยากจากงานข้างนอกมาแค่ไหนก็คุม้

ทว่าใครจะคิดว่าการตั้งครรภ์ของเหวินเหนี ยงจะเป็ นสัญญาณเรี ยก


จากความตาย เหวินเหนียงอยูใ่ นสภาวะคลอดยาก ทรมานอยูห่ นึ่ งวัน
หนึ่งคืนก็จากไป ทารกชายในครรภ์กจ็ ากไปพร้อมนางด้วย

ฝังจิ่นอุม้ ลูกสาวแล้วมองไปทางภรรยานิ่ งๆ เขาไม่อยากที่จะเชื่อเลย


วินาทีก่อนหน้านี้ ภรรยายังคงยิม้ แย้มแจ่มใสกับเขา วินาทีต่อมานาง
กลับนอนนิ่งตัวเย็นชืดอยูต่ รงนั้น แต่งงานมาเจ็ดปี พวกเขาเป็ นคู่สามี
ภรรยาที่รักใคร่ กนั ดี เขาไม่อาจทนรับได้ที่ภรรยาทิ้งพวกเขาสองพ่อ
ลูกไว้ในโลกมนุษย์เช่นนี้

ได้ยนิ เสี ยงร่ าไห้ปานจะขาดใจของลูกสาวอยูข่ า้ งหู เขาทาได้เพียงอุม้


ลูกสาวเอาไว้แล้วกอดแน่นๆ

การสู ญเสี ยภรรยาในครั้งนั้นทาให้เขากลายเป็ นศพเดินได้ โยนจิตใจ


ทั้งหมดเอาไว้ที่งาน แต่เขากลับละเลยลูกสาว ย่วนย่วนที่เสี ยแม่คอย
ปกป้ องดูแลตกลงมาจากขั้นบันได เสี ยเลือดไปมาก เมื่อเห็นใบหน้า
เล็กขาวซี ดของลูกสาว ฝั งจิ่นจึงได้สติจากความทุกข์ ภรรยาจากไป
แล้ว หากเขาไม่แม้แต่จะดูแลลูกสาวของพวกเขาให้ดี จะมีหน้าไป
พบภรรยาได้อย่างไร

แต่เขายังเป็ นผูช้ าย และยังมีงานราชการ ไม่อาจอยู่บา้ นดูแลลูกสาว


ได้ตลอดเวลา! สุ ดท้ายแม่ใหญ่ก็ทนมองไม่ได้ รับย่วนย่วนไปดูแล
ตอนนั้นเขาซาบซึ้ งในบุญคุณอย่างถึงที่สุด

ฝังจิ่นที่ไม่มีห่วงอยูข่ า้ งหลังก็ยงิ่ ใส่ ใจต่องานมากยิ่งขึ้น เพียงไม่นาน


ก็แสดงศักยภาพให้เห็น ฝ่ าบาทชื่นชมอยูห่ ลายครั้ง ในตอนนั้นเขาคิด
ว่าตัวเขานั้นนาพาเกี ยรติยศมาให้ตระกูล ทั้งที่ในความจริ งนัน่ เป็ น
สัญญาณอันตรายของเขา

วันนั้นเป็ นวันครบรอบวันเกิดปี ที่สาบสิ บหกของบิดา มีแขกมากมาย


เข้ามาในบ้าน ตัวเขาที่เป็ นลูกชายคนโตนั้นต้องช่วยต้อนรับ วันนั้น
เขาดื่มเหล้าเข้าไปมาก จากนั้นก็ไม่ได้สติ ตอนที่เขาได้สติข้ ึนมาแล้ว
ก็ตอ้ งเผชิญหน้ากับบิดาที่สองตาเต็มไปด้วยโทสะ “เจ้าลูกชัว่ !” และ
แม่ใหญ่ยงั ร้องไห้พลางตะโกนว่า “จิ่นเอ๋ อร์ ทาไมถึงทาเรื่ องแบบนี้
ลงไปได้”

ทาเรื่ องอะไรกัน เขาทาอะไรลงไป เขาพบว่าตัวเองนอนอยูใ่ นห้องที่


ไม่คุน้ เคย มีหญิงสาวคนหนึ่ งนอนอยู่ขา้ งๆ เขา เป็ นอนุ ภรรยาของ
ท่านพ่อ ฮวาอี๋เหนียง

ตอนนั้นเขามึ นงงไปหมด เขาอยู่นอกเรื อนไม่ ใช่ หรื อ มาถึ งเรื อ น


ของฮวาอี๋เหนียงได้อย่างไร เด็กรับใช้ของเขาเล่า

ทว่าวินาที ต่อมาเขาก็ตอ้ งชะงัก ฮวาอี๋ เหนี ยงบอกกับพ่อของเขาว่า


“นายท่าน เป็ นคุณชายใหญ่ที่บงั คับข้า ตัวข้านั้นไม่มีทางเลือก! ข้า
รู ้สึกผิดต่อนายท่านเหลือเกิน” ปิ่ นปั กผมในมือทิ่มไปที่หน้าอกของ
ตัวเองอย่างแรง

“สัตว์เดรัจฉาน เจ้ามันเป็ นสัตว์เดรัจฉาน มัดตัวมันไว้” เขายังไม่ทนั


ที่จะพูดบิดาของเขาก็สงั่ ให้คนมัดตัวเขาเข้ามาตัดสิ นโทษในเรื อน

ความเจ็บปวดจากไม้พลองที่ตีลงมาบนร่ างทาให้เขาได้สติกลับคืน
มา “ท่านพ่อ ลูกผิดไปแล้ว เป็ นเพราะลูกดื่มจนเมา ไม่รู้ตวั จริ งๆ ว่า
ไปถึงเรื อนของฮวาอี๋เหนี ยงได้อย่างไร ท่านพ่อ ท่านต้องเชื่ อลูกนะ
ขอรับ ลูกไม่มีทางทาเรื่ องไม่ถูกทานองคลองธรรมเช่นนี้ ได้” ข่มขืน
อนุ ของบิดา เขาอ่านหนังสื อคุณธรรมของท่านนักปราชญ์ผูย้ ิ่งใหญ่
ไหนเลยจะทาเรื่ องเสี ยเกียรติเช่นนี้ได้ เรื่ องนี้จะต้องมีขอ้ ผิดพลาดแน่

ทว่าบิดากลับไม่เชื่ อเขา “สัตว์เดรัจฉาน แล้วฮวาอี๋เหนี ยงจะข่มเหง


เจ้าได้หรื อ ข้าจะตีเจ้าให้ตาย ตีเจ้าลูกเลวไร้ คุณธรรมเช่ นนี้ ให้ตาย!
ต่อหน้าสายตาของผูค้ นมากมายยังกล้าทาเรื่ องชัว่ ช้าเช่นนี้ ข้าต้องเสี ย
หน้าเพราะเจ้าไปตั้งเท่าไหร่ ”

ใช่แล้ว หากคนนอกมองเข้ามา ใครจะคิดว่าฮวาอี๋เหนียงจะข่มเหงเข้า


ได้ คนเราจะเสี ยสละชีวิตเพื่อทาลายคนที่ไม่มีประโยชน์ต่อตัวเองได้
อย่างไร

ฝั งจิ่นเลิกที่จะอธิ บาย ฟั งบิดาก่นด่าด้วยความมึนงง แม่ใหญ่ร้องไห้


คร่ า ครวญ เมื่ อ ตื่ น ขึ้ น มาอี ก ครั้ งเขาก็ ถู ก ขัง เอาไว้ใ นคุ ก เขาขยับ
ตัวอย่างยากลาบาก หลังของเขาเจ็บปวดเหมือนถูกไฟแผดเผา
เขาพยายามที่ จ ะคิ ด เพื่ อ ให้เ ข้า ใจถึ ง เรื่ อ งที่ เ กิ ด ขึ้ น ทั้ง หมด เมื่ อ ถึ ง
ตอนนี้ เขากลับรู ้สึกว่าตัวเขาในตอนนั้นที่ไม่เข้าใจว่านี่ คือแผนการ
ในการกาจัดเขานั้นช่างโง่เง่า เขาและฮวาอี๋เหนียงไม่มีความเกี่ยวข้อง
แม้แต่นอ้ ย กระทัง่ ไม่เคยพูดคุยกันเลย ทาไมฮวาอี๋เหนียงต้องหาเรื่ อง
ท าร้ า ยเขาด้ว ย เด็ ก รั บ ใช้ข องเขาไปไหน ท่ า นพ่ อ ไม่ ส นใจเขา
ชื่อเสี ยงของเขาต้องถูกทาลาย ใครจะได้ประโยชน์มากที่สุด

เขารู ้แจ้งได้ชดั เจน แต่เขาไม่กล้าที่จะมัน่ ใจในคาตอบของตัวเอง


ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนพิเศษ 3-2 อาจารย์ ซู

ยามดึกคืนนั้น บ่าวรับใช้ของเขาลอบส่ งยามาให้ ทว่าสายตากลับส่ อง


ประกายอย่างมีเลศนัย ไม่กล้าที่จะมองตาของเขา “คุณชาย บ่าวขอ
อภัยจริ งๆ แต่บ่าวไม่มีทางเลือกขอรับ!”

คนที่ทาให้บ่าวของเขาหมดหนทางจนต้องทรยศต่อเจ้านายตัวเองได้
จะมี ใครอี ก แม่ ใหญ่ แม่ ใหญ่ ที่เขาเคารพนับถื อนั่นไง! เขาไม่ เคย
ต้องการที่ จะแย่งชิ งของของน้องชายเลยแม้แต่ น้อย! ทาไม ทาไม
ทาไม ทาแบบนี้ทาไม

บิดาของเขาที่มีสถานะเป็ นเจ้าบ้านทาไมจะไม่รู้ว่าเขาต้องตกอยูใ่ นที่


นัง่ ลาบาก แต่กย็ งั ยัดเหยียดสถานะลูกข่มขืนอนุภรรยาของบิดามาให้
เขา เลือกที่จะขับไล่สมาชิกครอบครัวออกไป ท่านพ่อเลือกแม่ใหญ่
และพวกน้องชาย

พวกเขาทาลายเขาแล้วลูกสาวของเขาจะปล่อยเอาไว้หรื อ ตอนที่เขา
ถูกขังในวันที่เจ็ด ลูกสาวของเขาก็ตกน้ าเสี ยชีวิต ร่ างเล็กๆ ของนาง
นอนเปี ยกไปทั้งร่ างอยู่ตรงนั้น ไม่อาจลื มตาขึ้ นมาพูดจาออดอ้อน
เรี ยกเขาว่าท่านพ่อได้อีกต่อไป

เป็ นเพราะเขาขวางทางเดินของพวกน้องชาย พวกเขาจึงต้องการที่จะ


ก าจัด เขาออกไปให้ พ ้น ทาง เขาไม่ อ ยากที่ จ ะอยู่ ใ นครอบครั ว ที่
สกปรกเช่ นนี้ แ ม้แต่ น้อย ถู ก ขับ ไล่ อ อกมาก็ดีแ ล้ว นับ แต่ น้ ี ไปเขา
ไม่ได้แซ่ฝัง เขาแซ่ซู เพราะแซ่เดิมของท่านแม่คือซู

ตระกูลฝั ง เมืองหลวง รอก่อนเถิด รอข้าฝั งจิ่ น อา ไม่ซี ข้าซู หย่วน


จะต้องกลับมาอีกแน่

ซู หย่วนจากไปพร้อมด้วยความแค้นเต็มใจ เขามีพรสวรรค์ ไหนเลย


จะต้องตกทุกข์ ยามที่ร่ ารวยอยู่ เขาผูกมิตรกับเพื่อนมิตรมากมาย ต่าง
ให้การต้อนรับอย่างรื่ นเริ ง ยามที่เขาพักผ่อน เขาจ่ายเงินมากมายใน
หอนางโลม กินเหล้าเมาเหมือนจะตาย เขาทาตัวสามะเลเทเมา เขาถึง
ขนาดไปนอนในวัดร้างร่ วมกับขอทาน

หนึ่ งปี สองปี แปดปี สิ บปี เขาไปยังทะเลตะวันออก เขาปี นขึ้นเขา


เขายัง เคยตกอยู่ใ นสงคราม ฝ่ าเท้า ของเขาราวกับ ท่ อ งไปทั่ว ทั้ง
แผ่นดิน มองไปที่ทิวทัศน์อนั ไร้พรมแดน ยังมีการเวียนว่ายตายเกิด
อยู่ จิตใจของเขาค่อยๆ สงบลง ไม่ใช่ว่าเขาลืมพวกนางไปแล้ว ทว่า
พวกนางก็ยงั คงอยูใ่ นใจของเขา

ในตอนนั้น เขากาลังเดินอยูด่ า้ นล่างของภูเขาจีโถ ถูกจี้ปล้น โอยโอย


ภูเขาลูกนี้ ช่างน่าเวทนานัก! โจรร้ายบนภูเขาแห่ งนี้ เห็นได้ชดั เจนว่า
เป็ นเพียงขอทานขอข้าวเท่ านั้น ดังนั้นเขาจึ งอยู่ที่นี่เพื่อเป็ นแม่ ทพั
ให้ก ับ พวกเขา คอยดู แ ลว่า พวกเขาจะปล้นชิ ง อย่า งไร จะใช้ชี วิ ต
อย่างไร

สวรรค์อาจจะเห็ นใจเขากระมัง ที่ให้รออยู่บนเขาจี โถ สาวน้อยคน


นั้น สาวน้อยที่อายุเพียงสิ บเอ็ดสิ บสองปี คนนั้น สาวน้อยที่นาพาสาว
ใช้มาปล้นชิ งแล้วยังประสบความสาเร็ จอี กด้วย สาวน้อยที่มีดวงตา
กลมโตคนนั้น

ซู หย่วนตัดสิ นใจอย่างเด็ดขาด เขาต้องตามนางไป! เขาต้องตามสาว


น้อยที่เหมือนกับย่วนย่วนไป ดังนั้นเขาจึงกลายเป็ นอาจารย์ พ่อบ้าน
หัวหน้าทหารของเด็กสาว
เด็กสาวคนนี้คือคุณหนูสี่ของจวนจงอู่โหวเสิ่ นเวย ตอนนั้นนางกาลัง
ถูกแม่เลี้ยงเนรเทศไปบ้านบรรพบุรุษตระกูลเสิ่ นเพื่อรักษาตัว นาง
เป็ นเด็กสาวที่ฉลาดและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว วินาทีก่อน
อาจท าเขาโกรธเสี ย จนต้อ งกระทื บ เท้า วิ น าที ต่ อ มาก็ หั น มายิ้ ม
ประจบประแจงเขา “ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์ ท่านวางใจเถิด ข้าจะ
เลี้ยงท่านตอนแก่แน่”

เป็ นเพราะประโยคนี้ ของนาง เขาจึงเดินทางจากบ้านพักตระกูลเสิ่ น


ถึ งเมื องหลวง ช่ วยนางวางแผนเรื่ องราวต่ างๆ อย่างกระตื อรื อร้ น
และช่ วยจัดการงานต่างๆ ให้ คอยดู แลนางจากสาวน้อยกลายเป็ น
หญิงสาว เป็ นภรรยา และเป็ นมารดา ทุกครั้งที่มองนางดวงตาเขาจะ
โค้งลงเป็ นรอยยิม้ พระจันทร์ เสี้ ยว เขาดูปลื้มปิ ติอย่างถึงที่สุด เขาคิด
ย่วนย่วนของเขาก็คงจะเป็ นเช่นนี้เหมือนกัน

เมืองหลวงก็ยงั คงเป็ นเมืองหลวง ทั้งคุน้ เคยทั้งแปลกหน้า แม้ว่าจะ


ผ่านไปยี่สิบปี แล้ว แต่ยงั มีบางคนที่จาเขาได้ สาวน้อยของเขาไม่รู้ว่า
ไปรู ้เรื่ องราวในอดีตของเขาจากใคร ดังนั้นตระกูลฝังจึงถึงคราวซวย
พวกน้อ งชายของเขาล้ว นแล้ว แต่ มี ชื่ อ เสี ย งฉาวโฉ่ ทั้ง เรื่ อ งเลี้ ย ง
ภรรยาน้อย ทั้งเรื่ องติดสิ นบน ทั้งเรื่ องหึ งหวงตบตีในหอนางโลม

ระหว่ า งทางยัง ปลอบโยนเขา “ท่ า นอาจารย์ หากท่ า นไม่ อ ยากมี


ครอบครัวจริ งๆ ก็ตามข้ามาเถิด ต่อไปข้าจะดูแลท่านเอง” ช่ างเป็ น
เด็กสาวที่น่ารักจริ งๆ! นอกจากเรื่ องที่ไม่ได้เรี ยกเขาว่าพ่อ นอกนั้นก็
ไม่มีอะไรขาด อย่างน้อยเขาก็สามารถพูดได้อย่างภูมิใจว่า สาวน้อย
ปฏิบตั ิต่อเขาดีกว่าพ่อของนางเองเสี ยอีก

แต่ ซู ห ย่ ว นก็ รู้ ว่ า ตอนนี้ ตระกู ล ฝั ง ก าลัง อยู่ ใ นช่ ว งรุ่ ง เรื อ งสุ ด ขี ด
ตอนนี้ บิดาของเขาก็กลายเป็ นเสนาอามาตย์ในกลุ่มเสนาบดีที่สาคัญ
ที่น่าเย้ยหยันที่สุดก็คือบิดาทอดทิ้งเขาแต่เก็บน้องชายที่มีสติปัญญา
ด้อยค่าเอาไว้ต้ งั สามคน อย่างมากสุ ดก็ได้เป็ นเพียงขุนนางขั้นหก ที่
หรื อคือจุดจบที่ท่านอามาตย์ต้ งั ตารอ ฮ่าฮ่า ค่อยคลายความโกรธแค้น
ได้บา้ ง

ชาระความแค้นด้วยคุณธรรม แล้วจะเอาอะไรมาตอบแทนคุณธรรม
เล่า เขานาพาทหารหนุ่ มจากจวนผิงจวิ้นอ๋ องไปช่ วยเหลือให้แต่ละ
จวน เหลือเพียงตระกูลฝังเท่านั้น เขาตั้งใจให้เป็ นเช่นนั้น!
หลายปี มานี้ เขาอยู่ขา้ งกายสาวน้อย เขาไม่ได้ตอ้ งการที่จะแก้แค้น
เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เขาปล่อยวางแล้ว เขามักจะคิดว่า สาวน้อย
ของเขาเป็ นย่วนย่วนกลับชาติมาเกิด

สาหรับตระกูลฝั ง สิ่ งที่เขาทาได้ก็คือไม่ปักใจแก้แค้นอีกต่อไป เขา


กลัวว่ามื อของเขาจะเปื้ อนเลื อ ดมากเกิ นไป แล้วสวรรค์จะริ บเอา
ความสุ ขของเขาในตอนนี้ไป

ไม่ได้แก้แค้น แต่ก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ สาหรับเขาแล้ว ตระกูล


ฝั งก็เป็ นเพียงฝั นร้ ายฉากหนึ่ ง ในเมื่ อผ่านไปแล้ว ก็ให้มนั ผ่านไป
ตลอดกาลเถิด

ที่พระตาหนักจินหลวน น้ าเสี ยงกังวานของเขาเอ่ยว่า “กระหม่อมคือ


ซู ห ย่ว น เป็ นคนอ าเภอสื อ ผิง แห่ ง เจี ย งหนาน พ่อ แม่ ล ้ว นเสี ย ชี วิต
เหลือตัวคนเดียว”

ใช่ แล้ว นับตั้งแต่วนั ที่เขาโดนตีแล้วหนี ออกจากเมืองหลวง พ่อแม่


ของเขาก็เสี ยชีวิตทั้งคู่ มารดาของเขาแซ่ ซู บุตรสาวของซิ่ วไฉ่ ยากจน
นางตายตอนเขาอายุสิบสี่ ปี บิดาของเขาเป็ นบัณฑิต รู ปร่ างสู งใหญ่
หล่อเหลา ตายไปในความทรงจาของเขาเสี ยนานแล้ว

เป็ นเพราะจับคุมผูล้ ้ ีภยั ฝ่ าบาทจึงพระราชทานทหารกองหนึ่ งให้เขา


ดู แ ล เขารู ้ สึ ก ได้ถึ ง ความเย้ย หยัน ที่ ไ ร้ จุ ด สิ้ น สุ ด น้อ งชายที่ บิ ด า
ปกป้อง แม้ตอ้ งพยายามทั้งชีวิตก็ไม่มีทางได้เป็ นทหารเกินขั้นหก แต่
เขาเล่า กลับได้รับผลงานอย่างง่ ายดาย เขาอยากจะรู ้ จริ งๆ ว่าท่าน
อามาตย์ตระกูลฝังจะเสี ยใจบ้างไหรื อไม่

เมื่อออกมาจากตาหนักจินหลวน ท่านอามาตย์ฝังก็เรี ยกเขาเอาไว้

อาจิ่น ชื่อนี้ช่างดูแปลกประหลาดนัก! ปากของซูหย่วนพ่นออกมาแต่


ค าเสี ย ดสี เขาถู ก ขับไล่ อ อกจากตระกูล นานแล้ว บิ ด าจะเรี ย กเขา
ทาไม คงจะเห็นว่าเขาดูมีความสาคัญในสายตาของฝ่ าบาทเลยอยาก
ให้เขากลับตระกูลฝางเพื่อใช้แรงงานเป็ นวัวเป็ นควายอีกกระมัง

เมื่อหมุนกายกลับไป จิตใจของซูหย่วนก็สงบ เขาทาได้แล้ว ในที่สุด


เขาก็ทาใจให้สงบได้ จากนั้นเขาก็ได้ยนิ บิดาของเขาพูดว่า “อาจิ่น เจ้า
จะต้องเกลียดพ่อถึงขนาดนั้นเหรอ มาถึงเมืองหลวงแล้ว ไม่แม้แต่จะ
เข้ามาบ้านบ้าง”

ในใจเขาก็รู้สึกเย้ยหยัน มองไปทางพ่อของเขา เห็นเป็ นเพียงท่านอา


นาตย์เท่านั้น นักการเมืองโดยธรรมชาติ ทั้งๆ ที่เป็ นเขาเองแท้ๆ ที่ไม่
ต้องการลูกชายคนนี้ แต่ปากกลับพูดจาเหมือนเขาเป็ นคนผิดอย่างนั้น
หรื อ

ในนาทีน้ นั ซู หย่วนก็ไม่อยากที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป และไม่อยากได้


ยินชายชราที่ เคยเป็ นบิ ดาของเขาพูดอะไรออกมาอีกแม้แต่คาเดี ยว
เขาคือซู หย่วน เขามีคนและสิ่ งที่ ตอ้ งปกป้ อง เขาไม่ใช่ ฝังจิ่ นผูเ้ ป็ น
บุตรอนุแห่ งตระกูลฝังมานานแล้ว ตระกูลฝังจะดี หรื อตระกูลฝังจะ
ร้าย ก็ไม่เกี่ยวกับเขาอีกต่อไป

สาวน้อยของเขาพูดได้ถูกต้อง ถ้าไม่รักแล้วจะโกรธหรื อ การแก้แค้น


ที่ดีที่สุดก็คือความเฉยชา ไม่ว่าอีกฝ่ ายจะเป็ นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับเขา
แล้ว แต่หากรู ้วา่ อีกฝ่ ายลาบาก อย่างนั้นก็ยงิ่ ดี
สุ ดท้ายซู หย่วนก็ยงั คงปฏิ เสธความปรารถนาดี ของฝ่ าบาท ความ
ทะเยอทะยานและความปรารถนาในลาภยศของเขาได้หายไปแล้ว
สิ่ งที่เหลืออยู่ภายในใจก็คือความคิดที่จะปกป้ องสาวน้อยให้ดีที่สุด
เห็นว่านางมีความสุ ขก็พอแล้ว เช่นนี้ เขาก็รู้สึกว่าย่วนย่วนของเขาก็
คงจะมีความสุ ขด้วย

ศีรษะเล็กๆ ปรากฏที่หน้าประตู ซู หย่วนยิม้ อย่างเข้าใจ เอ่ยเสี ยงสู ง


ขึ้นมาว่า “เยว่เป่ า นัว่ เป่ า มาทาอะไรลับๆ ล่อๆ ยังไม่รีบเข้ามาอีก”

เด็กน้อยชายหญิงแสนปราดเปรี ยวคู่หนึ่ งวิ่งเข้ามาพร้อมหัวเราะ ดึง


แขนเสื้ อของซูหย่วนอย่างออดอ้อน “ท่านอาจารย์ปู่!”

ใจของซู หย่วนเข้าใจในทันที เอ่ยว่า “บอกมา พวกเจ้าสองคนไปก่อ


เรื่ องที่ไหนมา”

เด็กหญิ งเยว่เป่ าฉี กยิ้ม “พวกเราไปก่ อเรื่ องที่ ไหนกัน เป็ นท่านพ่อ
ต่างหาก! เราแค่ไปเอาเงินคืนจากคนแก่คนนั้น ท่านพ่อก็ลงโทษเรา
จริ งๆ เลย” ไม่เคยเห็นพ่อคนไหนใจแคบขนาดนี้เลย
เด็กชายตัวเล็กกว่านัว่ เป่ าพยักหน้าเห็นพ้อง เอ่ยขึ้นอย่างเป็ นจริ งเป็ น
จังว่า “ท่านพ่อจะลงโทษข้า!” พี่สาวของเขาได้รับความรักใคร่ เอ็นดู
ขนาดนั้น ท่ านพ่อคงตัดใจลงโทษนางไม่ ลงหรอก คงมี แต่ เขาคน
เดียวที่โดนลงโทษนี่แหละ

เด็กน้อยทั้งสองจ้องมองซู หย่วนตาแป๋ ว ใจของซู หย่วนนั้นอ่อนยวบ


เหมือนปุยนุ่นเสี ยนานแล้ว พูดรับรองว่า “ได้ได้ได้ อาจารย์ปู่จะช่วย
พูดให้พวกเจ้าเอง”

“ท่านอาจารย์ปู่ใจดีที่สุด!” เด็กทั้งสองหัวเราะอย่างรื่ นเริ ง

เมื่อเห็นรอยยิม้ ของเด็กน้อยทั้งสอง รอยยิม้ ของซูหย่วนก็ยงิ่ กว้างขึ้น

ลมเย็นพัดมาจากหน้าต่าง ได้ยินเสี ยงนกไม่ทราบชนิ ดกาลังร้ องอยู่


ความสุ ขที่พดู กัน คงจะเป็ นเช่นนี้เอง
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนพิเศษ 4-1 เซี่ยหมิงผู่ (ต้ น)

ฤดูใบไม้ผลิรัชศกต้ายงที่สองร้อยเอ็ด ราชบุตรเขยสามเซี่ ยหมิงผู่รับ


ราชโองการพาองค์หญิงไปรับหน้าที่เป็ นข้าหลวงใหญ่ที่เจียงหนาน

มองอยู่บนเรื อ ต้านลมฤดู ใบไม้ผลิ ที่พดั มา มองไปทางคลื่ นน้อยๆ


บนแม่น้ า เซี่ ยหมิงผู่รู้สึกสบายใจมาก การกลับมาครั้งนี้ ถือว่าเป็ น
การกลับมารับราชการที่บา้ นเกิด

“ท่านพี่ อีกนานไหมกว่าจะถึงเจี ยงหนาน” ฉาฮวาเอ่ยถามเสี ยงเบา


อ้อ ไม่ซี ตอนนี้ฉาฮวาเปลี่ยนชื่อเป็ นเซี่ ยม่านเอ๋ อร์แล้ว

ตอนนี้ เซี่ ยม่านเอ๋ อร์ ไม่ใช่เด็กน้อยเหมือนก่อนแล้ว ปี นี้ นางอายุสิบสี่


ปี กลายเป็ นหญิงสาวผูม้ ีใบหน้าหมดจดงดงาม

เซี่ ยหมิ งผู่มองใบหน้างดงามของน้องสาว ยิ้มอย่างรั กใคร่ แล้วเอ่ย


“เจียงหนานหรื อ ยังอีกไกล อย่างน้อยก็อีกเจ็ดแปดวัน”
เซี่ ยม่านเอ๋ อร์ ดวงตาเป็ นประกาย จากนั้นก็พูดว่า “ท่านพี่ แล้วเจี ยง
หนานเป็ นอย่างไร”

เซี่ ยหมิงผู่พลันรู ้ สึกเจ็บปวดที่ใจขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ตอนที่


พวกเขาพี่นอ้ งถูกไล่ฆ่าต้องหนีจากเจียงหนานมานั้น น้องสาวเพิ่งจะ
อายุห้าขวบ ยังเป็ นเด็กที่ ไม่เคยออกนอกจวนมาก่อน ผ่านไปเก้าปี
น้องสาวไม่มีความทรงจาที่เกี่ยวข้องกับเจียงหนานเลยแม้แต่นิดเดียว

“เจียงหนานน่ะหรื อ เจียงหนานไม่เหมือนเมืองหลวงเลย เจียงหนาน


มีอากาศอุ่นชื้น ลมฤดูใบไม้ผลิอบอุ่น มีสะพานมากมาย ดอกท้อปลิว
ไสวราวสายน้ า ยังมี ชายหนุ่ มหน้าตาหล่อเหลาอีกด้วย” เซี่ ยหมิ งผู่
เหม่อมองไปไกล ราวกับกาลังนึกย้อนกลับไปในความทรงจา

เซี่ ย ม่ า นเอ๋ อ ร์ ร้ อ ง “อ้อ ” ขึ้ น มาเบาๆ ที่ จ ริ ง นางเพี ย งถามไปอย่า ง


นั้นเอง เจี ยงหนานจะดี อย่างไร นางก็ยงั คิดถึงเมืองหลวงอยู่ดี นาง
คิดถึงคุณหนูที่คอยอบรมสั่งสอนนางจนเติบใหญ่ คิดถึงเถาฮวาที่อยู่
เป็ นเพื่อนนางเสมอ คิดถึงพวกพี่หลีฮวาพี่เหอฮวา และยังคิดถึงเยว่
เป่ าตัวน้อย นางคิดถึงทุกสิ่ งทุกอย่างของเมืองหลวง
และนางก็รู้ว่าถึงนางจะอาวรณ์เพียงใด นางก็ตอ้ งตามพี่ชายกลับมา
ยังเจี ยงหนานอยู่ดี นางรู ้ มาตั้งแต่เล็กแล้วว่านางไม่เหมื อนกับพวก
เถาฮวา จะต้องมีสักวันที่นางต้องแยกจากคุณหนู พี่ชายของนางต้อง
ตามตัวกลับไปแน่ ดังนั้นตอนนั้นนางจึงเอาแต่จอ้ งมองพี่ชาย พลาง
หวังให้พี่ชายมาช้าหน่อยก็คงจะดี

“ท่านพี่ ข้าขอตัวเข้าไปดูพี่สะใภ้และอวี้เอ๋ อร์ ก่อน” เซี่ ยม่านเอ๋ อร์ ก


ลับเข้ามาในตัวเรื อ เหลื อเพียงเซี่ ยหมิ งผู่ที่ยืนตระหง่ านอยู่ตรงนั้น
เพียงผูเ้ ดียว

เซี่ ยหมิงผู่รู้สึกซาบซึ่ งในตัวฝ่ าบาทอย่างถึงที่สุด รัชกาลยงเซวียนที่


สิ บเจ็ด ฝ่ าบาทเลือกให้เขาเป็ นจอหงวน จากนั้นก็พระราชทานลูก
สาวที่รักให้แต่งงานกับเขา ฝ่ าบาทเสี ยดายความสามารถของเขา ไม่
ปล่อยให้เขาอยู่เฉยๆ ไม่ปล่อยให้เขาได้พกั งาน และไม่ได้พระชาน
ทานยศขุนนางให้เขา แต่ส่งเขาไปฝึ กฝนที่กรมขุนนางพลเรื อน

ในสี่ ปีนี้ เขาหมุนเวียนไปตามกรมต่างๆ เกือบหกกรม ตอนนี้ ฝ่าบาท


ยังให้เขาเป็ นข้าหลวงใหญ่ผแู ้ ทนพระองค์ในเขตเจียงหนาน ข้าหลวง
ใหญ่ที่อายุแค่ยสี่ ิ บเอ็ดปี ! เขาไม่ได้เหลิงในอานาจลาภยศ แต่เขากลับ
รู ้สึกหวาดกลัว! พระกรุ ณาล้นพ้นเพียงนี้ เชี ยว! เซี่ ยหมิงผู่รู้ดีว่าที่ฝ่า
บาทให้เขากลับไปรับราชการที่บา้ นเกิ ดครั้งนี้ ก็เพื่อมอบโอกาสแก้
แค้นให้แก่เขา

ตั้งแต่ที่ฮ่องเต้มีพระราชโองการมอบสมรสพระราชทานให้ เขาก็
บอกเล่าเรื่ องราวทั้งหมดของตัวเอง ไม่คิดว่าฝ่ าบาทจะยังจาได้ เมื่อ
คิดเช่นนี้ ในใจของเซี่ ยหมิงผูก่ ร็ ้อนเหมือนไฟเผา

นักรบยอมตายเพื่อคนรู ้ ใจ ฝ่ าบาท กระหม่อมจะไม่ทาให้พระองค์


ต้องผิดหวัง ไม่ยอมให้แผ่นดินต้ายงนับหมื่นลี้ตอ้ งผิดหวัง

เมื่ อคิ ดถึ งเจี ยงหนานที่ กาลังจะไปถึ ง เมื่ อคิ ดถึ งตระกูลเซี่ ย สายตา
ของเขาก็ค่อยๆ เย็นชาลงไป

ภายในห้องโดยสารเรื อ เซี่ ยม่านเอ๋ อร์กาลังพูดคุยกับองค์หญิงพี่สะใภ้


หลานชายวัยขวบเศษร้องอ้อแอ้อยูบ่ นเตียงกาลังเล่นของเล่น

“ม่านเอ๋ อร์ เป็ นอะไรไป” องค์หญิงสามหลงรักราชบุตรเขยตั้งแต่แรก


เห็ น นั บ ตั้ง แต่ แ ต่ ง งานมาความรู ้ สึ ก ของคนทั้ง สองก็ ยิ่ ง ลึ ก ซึ้ ง
แน่ น อนย่ อ มรั ก น้ อ งสาวคนนี้ ไปด้ว ย เมื่ อ เห็ น ว่ า นางไม่ ค่ อ ยมี
ความสุ ข ก็รีบออกปากไถ่ถาม

นับแต่พี่ชายแต่งงานกับองค์หญิง เซี่ ยม่านเอ๋ อร์กย็ า้ ยเข้ามาอยูใ่ นจวน


องค์ห ญิ ง ร่ ว มกับ พี่ ช ายและพี่ ส ะใภ้ นางและองค์ห ญิ ง สามล้ว น
แล้วแต่เป็ นคนไม่มีพิธีรีตองมากนัก ได้อยู่ร่วมกันมาหลายปี เช่ นนี้
ความรู ้สึกของน้องสาวและพี่สะใภ้อยูใ่ นทิศทางที่ดี

เซี่ ย ม่ า นเอ๋ อร์ ช้อ นตัว หลานชายขึ้ น มาอุ ้ม อยู่ ใ นอก พลางพู ด ว่ า
“พี่สะใภ้ ข้าคิดมาตลอดว่าบ้านสกุลเซี่ ยคงไม่ค่อยสบายนัก”

องค์หญิงสาวเข้าใจในทันที นางรู ้เรื่ องปูมหลังของราชบุตรเขยดี เป็ น


ถึงบุตรชายเอกของตระกูลขุนนางแห่ งเจี ยงหนาน เกื อบถูกฆ่าตาย
เพราะเรื่ องความแค้นส่ วนตัวในเรื อนหลัง หากไม่ใช่เพราะพบกับจ
ยาฮุ่ยจวิ้นจู่ สองพี่นอ้ งคู่น้ ีคงไม่อยูใ่ นโลกนี้แล้ว ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่ อง
นี้ องค์หญิ งสามก็ยิ่งตามติ ดราชบุ ตรเขยมากยิ่งขึ้ น และยิ่งรั กและ
สงสารน้องสะใภ้ตวั น้อยที่เคราะห์ร้าย สาหรับพี่สะใภ้จยาฮุ่ย ใจของ
นางก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้ ง หลายปี มานี้ ทั้งสองจวนก็มกั ไปมาหา
สู่ กนั อยูเ่ สมอ
“เจ้ามีเรื่ องอะไร พี่ชายเจ้าเป็ นข้าหลวงใหญ่แห่ งเจียงหนาน ข้าที่เป็ น
พี่สะใภ้ของเจ้าก็เป็ นองค์หญิงผูส้ ู งศักดิ์ อย่าบอกนะว่ายังคงคิดเรื่ องที่
เกิ ด ขึ้ น ก่ อ นหน้า นี้ หรื อ ถ้า ไม่ มี ตระกู ล เซี่ ย กล้า ท าอะไรเจ้า หรื อ
วางใจเถิด อย่างไรเสี ยก็มีพี่ชายของเจ้าอยู”่ องค์หญิงสามกล่าวอย่าง
ไม่เห็นด้วย

แม้จะบอกว่าบุตรต้องเคารพบิดา แต่ขนุ นางก็ตอ้ งเคารพกษัตริ ย ์ นาง


มีเชื้อกษัตริ ย ์ สกุลเซี่ ยเป็ นขุนนาง คนของสกุลเซี่ ย ไม่ว่าจะเป็ นบิดา
หรื อปู่ ย่าของราชบุตรเขย เมื่อพบนางก็ตอ้ งคุกเข่า อีกทั้งราชบุตรเขย
จะนับญาติหรื อไม่เป็ นอีกเรื่ อง

“แต่ ท่า นพ่อ …” เซี่ ย ม่ า นเอ๋ อ ร์ ย งั คงมี สี ห น้า เคร่ ง เครี ย ด จะพูด ได้
อย่างไรว่านัน่ ก็คือบ้านนางเหมือนกัน แม้แม่รองของนางจะเป็ นคน
ไม่ดี แต่ญาติคนอื่นๆ ของสกุลเซี่ ยก็ยงั อยู่ ไม่ได้พบหน้ามาหลายปี
นางไม่รู้จริ งๆ ว่าจะต้องทาหน้าอย่างไรยามพบหน้า

“เจ้า หรื อ ” องค์ห ญิ ง สามจิ้ ม ศี ร ษะน้อ งสะใภ้ “เจ้า เติ บโตข้า งกาย
พี่สะใภ้จยาฮุ่ยแท้ๆ ไม่ได้เรี ยนรู ้การปล่อยวางมาจากนางบ้างหรื อ เจ้า
จะสนใจทาไมว่าสกุลเซี่ ยจะว่าอย่างไร เดี๋ยวพอไปถึงพวกเขาก็จะเข้า
มาประจบประแจงเจ้าเองนัน่ แหละ”

แต่นางก็เข้าใจความคิดของน้องสามีตวั น้อยดี อย่างไรเสี ยก็เป็ นญาติ


กัน สายเลือดอย่างไรก็ตดั ไม่ขาด เฮ้อ ยังอายุนอ้ ย รอให้นางโตกว่านี้
อีกสองสามปี ให้แต่งงาน มีสามีและลูก มีประสบการณ์มากกว่านี้
หน่อยก็จะไม่กระวนกระวายใจเช่นนี้

เมื่ อ คิ ด เช่ นนี้ องค์ห ญิ ง สามก็เ ปลี่ ย นเรื่ อ ง “พวกเราออกจากเมื อ ง


หลวง ใต้เท้าเจี ยงก็ออกจากเมืองหลวง ไม่รู้ว่าตอนนี้ ไปอยู่ที่ไหน”
ใต้เท้าเจียงที่นางพูดถึงคือเจียงเฉิ น ปี นี้เขารับภารกิจข้างนอก ไปเป็ น
ข้าหลวงทางเหนือ

เป็ นเพราะราชบุ ต รเขยและใต้เ ท้า เจี ย งเป็ นคนอ าเภอผิ ง หยาง


เหมือนกัน ดังนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองบ้านจึงไม่เลวนัก

“พวกเขาเดินทางบนถนนหลวง แต่ไม่เร็ วเหมือนการเดินทางโดยเรื อ


ของเรา อี ก อย่า งพี่ ส ะใภ้ใ หญ่ ส กุล เจี ย งก าลัง ตั้ง ครรภ์ พวกเขาคง
เดินทางได้ชา้ กว่า” เซี่ ยม่านเอ๋ อร์ตอบพลางหยอกหลานชายเล่น
องค์ห ญิ ง สามปลงอนิ จ จัง “ใต้เ ท้า เจี ย งช่ า งมี ค วามรั ก ใคร่ ลึ ก ซึ้ ง”
ตระกูลฉิ นถูกยึดทรัพย์ ใต้เท้าเจียงไม่เพียงไม่ผลักความโกรธไปหา
ภรรยาที่เป็ นลูกสาวสกุลฉิ น ซ้ ายังให้ความเคารพอยูเ่ สมอ ทัว่ ทั้งเมือง
หลวงไม่ มี ใ ครที่ จ ะใจกว้า งขนาดนี้ ส าหรั บ ตระกู ล พ่ อ ตาที่ โ ดน
เนรเทศ ใต้เท้าเจียงก็พยายามดูแลอย่างถึงที่สุด คนในเมืองใครจะไม่
พูดบ้างว่าเฉิ นซื่ อนั้นโชคดีที่แต่งงานกับคนดีขนาดนี้

“แน่ นอนว่าใต้เท้าเจี ยงจะต้องสบายดี ” เซี่ ยม่านเอ๋ อร์ ตอบกลับ ไป


หนึ่งประโยค ทว่าในใจกลับพูดว่า ‘ก็พี่สะใภ้ใหญ่เจียงสานึกบุญคุณ
ต่อใต้เท้าเจียงน่ะซี นางทั้งงดงามและมีปัญญา ใต้เท้าเจียงจะไม่ชอบ
ได้อย่างไร อีกอย่างพี่สะใภ้เจียงก็ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของสกุลฉิ น แต่
เป็ นเพราะฮูหยินสกุลฉิ นแต่งงานมาแล้วห้าปี แต่ยงั ไม่ทอ้ งจึงอุม้ นาง
จากศาลเจ้าเท่านั้น เมื่อบรรดาน้องชายน้องสาวของพี่สะใภ้เจียงเกิด
ตามมา สกุ ล ฉิ น ก็ ป ฏิ บ ัติ ต่ อ นางไม่ ดี แ ล้ว ยัง จะส่ ง นางไปเป็ น
อนุ ภ รรยาบ้า นอื่ น โชคดี แ ค่ ไหนแล้ว ที่ ได้แ ต่ ง งานกับ ใต้เ ท้า เจี ยง
เช่นนี้’
ใต้เท้าเจี ยงนี่ ก็จริ งๆ เลย รู ้ ท้ งั รู ้ ว่าพี่สะใภ้เจี ยงใช้ชีวิตอยู่ในสกุลฉิ น
อย่างยากลาบาก ยังดูแลสกุลฉิ นอย่างดี หากเป็ นนางหรื อ พวกเขาจะ
ไปตายที่ไหนก็ไปเถิด!

คงจะต้องบอกว่าเซี่ ยม่านเอ๋ อร์ น้ นั ไร้เดียงสาเกินไป นางไหนเลยจะรู ้


ว่าในใจของเจียงเฉิ นนั้นกาลังวางแผนอะไรอยู่ เจียงเฉิ นที่เป็ นคนเจ้า
คิดเจ้าแค้นถึงขนาดจับพ่อแม่แท้ๆ ของตัวเอง จะยอมปล่อยสกุลฉิ น
ที่ปฏิบตั ิแย่ๆ ต่อภรรยาตัวเองไปง่ายๆ หรื อ มีชีวิตอยูส่ ิ ดี มีชีวิตอยูถ่ ึง
จะสามารถทนทุ กข์ทรมานได้มากหน่ อย ตายอี กร้ อยรอบซี จึ งจะ
สามารถหลุดพ้นได้

เหล่ าขุนนางแห่ งเจี ยงหนานเมื่ อได้รับข่าวว่าราชบุ ตรเขยสามเซี่ ย


หมิงผู่จะเข้ามารับตาแหน่ งข้าหลวงใหญ่ก็กระตือรื อต้นกันยกใหญ่
สื บหาข่าวของท่านข้าหลวงใหญ่ในทันที

อายุเพียงยีส่ ิ บเอ็ดปี นอกจากเป็ นราชบุตรเขย ยังเป็ นจอหงวนของรัช


ศกยงเซวียนที่สิบเจ็ด โอ้โห ช่างเก่งกาจเหลือเกิน

บางคนอิจฉาตาร้อน บางคนเหยียดหยาม
ผูท้ ี่ อิจฉาก็คิดว่าข้าหลวงเซี่ ยผูท้ ี่ จะเข้ามารั บตาแหน่ งท่ านนี้ โชคดี
เหลือเกิ น คนอื่นยังต้องอายุถึงห้าสิ บหกสิ บก็ยงั ไม่แน่ ว่าจะได้เป็ น
เสนาบดี มีตาแหน่ งใหญ่ แต่เขากลับได้ตาแหน่ งมาได้อย่างง่ายดาย
ในราชสานักยังมีขุนนางดีขนาดนี้ อยู่ ใครบอกให้เขาเป็ นเขยรักของ
ฮ่องเต้เล่า

ผูท้ ี่ เหยียดหยามก็คิดว่าเซี่ ยหมิ งผู่ยงั เป็ นเด็กปากไม่สิ้นกลิ่ นน้ า นม


ด้วยซ้ า แต่อาศัยชายกระโปรงผูห้ ญิงเพื่อขึ้นสู่ การเป็ นขุนางใหญ่ ให้
จัดการงานให้เหมาะสมกับตาแหน่งเสี ยก่อนค่อยพูดเถิด

แต่ไม่ว่าจะอิจฉาหรื อเหยียดหยาม เบื้องหน้าก็ยงั ต้องทาตามหน้าที่


เหมือนเช่นการออกงานต้อนรับเช่นนี้!
ตอนพิเศษ 4-2 เซี่ยหมิงผู่ (ต้ น)

สกุลเซี่ ยที่เป็ นผูน้ ำตระกูลขุนนำงในเจียงหนำน แน่นอนว่ำย่อมได้


ข่ำว ที่สกุลเซี่ ยสำมำรถเป็ นตระกูลขุนนำงอันดับหนึ่งในเจียงหนำน
ได้ แน่ น อนว่ ำ เป็ นเพรำะศัก ดิ์ และสิ ท ธิ์ มี ท ำยำทในตระกู ล ที่ มี
ควำมสำมำรถที่รับรำชกำรด้วย

เจ้ำบ้ำนสกุลเซี่ ยคนปั จจุบนั คือเซี่ ยเหยียนฮว๋ ำ เขำมีลูกชำยสี่ คนคือ


เซี่ ยจิ้นอัน เซี่ ยจิ้นซง เซี่ ยจิ้นเหนียน เซี่ ยจิ้นหรง บุตรภรรยำเอกสอง
คนบุตรอนุ สองคน ลูกชำยคนโตและคนรองเป็ นบุตรเอก ลูกชำย
คนที่สำมและลูกชำยคนที่สี่เป็ นบุตรอนุ

ในจำนวนนี้ ลูกชำยคนโตเซี่ ยจิ้นอันเป็ นบิดำของเซี่ ยหมิงผู่ แต่งงำน


กับภรรยำสกุลหลิว เป็ นบิดำมำรดำของเซี่ ยหมิงผูแ่ ละเซี่ ยม่ำนเอ๋ อร์
สกุ ล หลิ ว เองก็ เ ป็ นตระกู ล ขุน นำงใหญ่ แ ห่ ง เจี ย งหนำน แม้จ ะสู ้
สกุ ล เซี่ ย ไม่ ไ ด้ แต่ ก็ อ ยู่ห้ำ อัน ดับ แรก ตอนนั้น เพรำะพี่ น้อ งของ
เซี่ ย หมิ ง ผู่ถู ก โจรดักปล้นฆ่ ำ ทั้ง สองตระกูล มี เรื่ องบำดหมำงกัน
จนถึงตอนนี้ยงั ไม่ไปมำหำสู่ ทำรำวกับเป็ นศัตรู คู่แค้นกันก็ไม่ปำน

นอกจำกลูกชำยลูกสำวเซี่ ยหมิงผู่และเซี่ ยม่ำนเอ๋ อร์ แล้ว เซี่ ยจิ้นอัน


ยังมี ลูกชำยหญิ งที่ เกิ ดจำกอนุ สกุลจ้ำวอี กหนึ่ งคู่ เซี่ ยหมิ งฉิ นและ
เซี่ ยเยียนเอ๋ อร์ เซี่ ยหมิงฉิ นอ่อนกว่ำเซี่ ยหมิงผู่สำมปี เซี่ ยเยียนเอ๋ อร์
แก่กว่ำเซี่ ยม่ำนเอ๋ อร์หนึ่งปี

นอกจำกนี้ เซี่ ยจิ้นอันยังมีอนุ ภรรยำอีกสำมคน บังเอิญเหลือเกิน ที่


อนุท้ งั สำมคลอดธิดำทั้งหมด สองคนแรกแต่งงำนออกไปแล้ว เหลือ
อีกหนึ่งคนที่อำยุเท่ำๆ กับเซี่ ยม่ำนเอ๋ อร์ยงั อยูใ่ นจวน

อ้อ ตอนนี้ ภรรยำรองแซ่ จ้ำ วไม่ ไ ด้เ ป็ นอนุ อี ก ต่ อ ไป หลัง จำกที่


สกุลเซี่ ยและสกุลหลิวเกิดเรื่ องบำดหมำง ฐำนะของซื่ อก็ถูกยกขึ้น
ดังนั้นตอนนี้เซี่ ยหมิงฉิ นและเซี่ ยเยียนเอ๋ อร์จึงกลำยเป็ นบุตรธิ ดำเอก
ไปแล้ว

เซี่ ยจิ้ นซงแต่งงำนกับภรรยำแซ่ จำง ซึ่ งจำงซื่ อให้กำเนิ ดเพียงธิ ดำ


สำมคน ธิ ดำคนเล็กคลอดยำกจึ งทำให้สุขภำพแย่ลง จึ งส่ งสำวใช้
ข้ำงกำยให้เซี่ ยจิ้นซง สำวใช้คนนี้ นบั ว่ำโชคดี เพียงครรภ์แรกก็เป็ น
ชำย จำงซื่ อ จึ ง น ำเด็ ก คนนี้ มำเลี้ ย งข้ำ งกำยเป็ นบุ ต รภรรยำเอก
นอกจำกนี้ เซี่ ยจิ้นซงยังมีภรรยำบ่ำวอีกหนึ่ งคน มีลูกสำวจำกภรรยำ
บ่ำวสองคน

เซี่ ยจิ้นเหนียนและเซี่ ยจิ้นหรงดูแลกิจกำรร้ำนค้ำของตระกูล ทั้งสอง


คนยังโชคดี เซี่ ยจิ้นเหนี ยนมีบุตรเอกสำมคน เซี่ ยจิ้นหรงมีบุตรเอก
สองคน

ตอนนี้พอ่ ลูกทั้งห้ำคนกำลังพูดคุยกันในห้องหนังสื อ

“ท่ำนพ่อ ท่ำนข้ำหลวงใหญ่ที่มำใหม่ที่ชื่อเซี่ ยหมิงผู่ อำยุเพิ่งจะยีส่ ิ บเอ็ด


ปี ท่ำนว่ำจะเป็ นคนในตระกูลของเรำหรื อไม่ เสี่ ยวผู่?” เซี่ ยจิ้นเหนี ยน
เอ่ยอย่ำงสงสัย สองคำที่เป็ นชื่อนั้น เขำเอ่ยขึ้นมำอย่ำงยำกลำบำก

“ไม่ใช่หรอก ในแผ่นดินนี้ยงั มีคนชื่อแซ่ เดียวกันอยูม่ ำก ไหนเลยจะ


บังเอิญถึงเพียงนั้น อีกอย่ำง เรื่ องที่เกิ ดขึ้นมำเก้ำปี ที่แล้วพวกเรำก็
แน่ใจแล้วไม่ใช่หรื อ เสื้ อผ้ำและแผ่นหยกที่พบใต้หน้ำผำนั้นตรงกัน
แล้วนี่” เซี่ นจิ้นหรงเอ่ย
เซี่ ยจิ้นเหนี ยนถำมกลับอย่ำงจงใจ “แต่สภำพศพเละเทะจนจำหน้ำ
ไม่ ได้ บอกไม่ ได้แ น่ ชัด หรอกว่ำ เสี่ ยวผู่ต กหน้ำ ผำจริ งๆ ท่ ำ นพ่อ
ไม่ใช่ ว่ำลูกคิ ดมำกไป ท่ำนดู ซี ทั้งชื่ อและอำยุก็ตรงกัน เสี่ ยวผู่ใน
ตอนนั้นก็ฉลำดเฉลียว คนในเจียงหนำนใครบ้ำงไม่ชื่นชมว่ำเขำเป็ น
เทพแห่งปั ญญำกลับชำติมำเกิดกัน”

“ถ้ำเป็ นเสี่ ยวผู่จริ งๆ ทำไมต้องทิ้งเอำไว้หลำยปี ถึ งเพียงนี้ ถึงได้เพิ่ง


กลับมำเล่ำ” เซี่ ยจิ้นหรงเอ่ยขึ้นอย่ำงไม่ใส่ ใจ จนทำเอำเซี่ ยจิ้นเหนี ยน
พูดไม่ออก ใช่ แล้ว ในเมื่ อยังมี ชีวิตอยู่ ทำไมถึ งไม่กลับบ้ำน ทำเอำ
เซี่ ยจิ้นอันที่อยูต่ รงข้ำมตำเป็ นประกำยวำวโรจน์

ในตอนนี้ เอง เซี่ ยเหยียนฮว๋ ำเอ่ยขึ้นว่ำ “ไม่ตอ้ งทะเลำะกัน เจ้ำรอง


พรุ่ งนี้ เจ้ำต้องตำมคนในที่ว่ำกำรไปต้อนรับท่ำนข้ำหลวงใหญ่มิใช่
หรื อ แค่ดูก็รู้แล้ว ข้ำว่ำ ในแผ่นดิ นนี้ จะมีเรื่ องบังเอิญขนำดนั้นได้
อย่ำงไร เสี่ ยวผู่เป็ นเด็กกตัญญู หำกเขำยังมีชีวิตอยู่ แน่ นอนว่ำต้อง
กลับบ้ำนแน่ เอำล่ะ รี บไปทำงำนได้แล้ว เจ้ำใหญ่อยูก่ ่อน”

ชำยชรำโบกมือ ไล่บรรดำลูกชำยออกไปจนหมด แม้แต่เรื่ องงำนที่


ต้องกำรจะพูดคุยเจรจำก็ไม่ได้พดู
“ท่ ำนพ่อ ท่ ำนมี อะไรจะสั่งลูกหรื อ” เซี่ ยจิ้ นอันเอ่ ยขึ้ นอย่ำงนอบ
น้อม

เซี่ ยเหยียนฮว๋ ำมองลูกคนโต เป็ นนำนก็ไม่พูด จนทำเอำลูกชำยคน


โตเริ่ มอยูไ่ ม่สุข “ท่ำนพ่อ ลูกทำอะไรผิดหรื อเปล่ำ”

“เจ้ำ ออกไป!” สุ ดท้ำยเซี่ ยเหยียนฮว๋ ำก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วขับไล่ลูก


ชำยคนโตออกไปอย่ำงไม่สบอำรมณ์

บิดำเข้ำใจบุตรมำกที่สุด ลูกชำยคนโตที่ลูกที่ เขำเลี้ยงดูสั่งสอนด้วย


มือของตัวเอง เขำจะไม่รู้ใจลูกตัวเองได้อย่ำงไร เขำมีควำมสำมำรถ
มีสำยตำกว้ำงไกล เรื่ องเดี ยวที่ทำไม่ได้ก็คือไม่อำจจัดกำรเรื่ องใน
บ้ำนได้

เก้ำปี ก่อน เกิ ดเรื่ องขึ้นกับเสี่ ยวผู่และม่ำนเอ๋ อร์ เขำกลับไม่เกิ ดข้อ


สงสัยในควำมประหลำดของเรื่ องที่เกิดขึ้น ทว่ำคนที่เขำคิดถึงนั้น
ไม่อยู่แล้ว ลูกชำยให้ควำมรักต่อจ้ำวซื่ อเสมอมำ เขำจึ งเสแสร้งทำ
เป็ นไม่รู้เรื่ องที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่นอ้ ย
ตอนนี้ เขำก็ไม่รู้ว่ำจะคำดหวังให้ท่ำนข้ำหลวงใหญ่เป็ นหลำนชำย
เขำจริ งๆ หรื อไม่ หรื อจะหวังว่ำไม่ใช่ดี

ไม่ตอ้ งเอ่ยถึงควำมคิดของคนในสกุลเซี่ ยแล้ว วันต่อมำเซี่ ยจิ้นซงก็


เดินเข้ำมำในจวนพร้อมทั้งรอยยิ้มยินดี เดินตรงเข้ำไปในห้องของ
บิดำ “ท่ำนพ่อ ท่ำนพ่อ เสี่ ยวผู่ เสี่ ยวผู่” เขำหอบหำยใจรัว ผ่ำนไป
นำนถึ ง ค่ อ ยสู ดลมหำยใจถี่ ถ ้วน “ท่ ำ นข้ำ หลวงใหญ่ คนใหม่ เป็ น
เสี่ ยวผูข่ อองบ้ำนเรำจริ งๆ”

ใบหน้ำ ของเขำยัง คงยิ้ม ฮ่ ำ ๆๆ สกุ ล เซี่ ย ของเขำให้ ก ำเนิ ด ท่ ำ น


ข้ำ หลวงหนุ่ ม อย่ ำ งนี้ สกุ ล เซี่ ย ก็ จ ะเจริ ญ ขึ้ น ไปอี ก ยิ่ ง คิ ด ก็ ยิ่ ง มี
ควำมสุ ข!

“อะไร เป็ นเสี่ ย วผู่ จ ริ งๆ หรื อ” เซี่ ย จิ้ น อัน เซี่ ย จิ้ น เหนี ย นและ
เซี่ ยจิ้นหรงที่ได้ยนิ ข่ำวก็รีบตำมกันมำ โดยเฉพำะเซี่ ยจิ้นอัน ใบหน้ำ
ฉำยควำมตื่นตะลึงและยินดี

“ไปไปไป พวกเรำรี บไปที่จวนท่ำนข้ำหลวงกันเถิด” เซี่ ยจิ้นเหนียน


เอ่ยขึ้นอย่ำงปลื้มปิ ติ
“ใช่ ใช่ ใช่ แม้ว่ำเสี่ ยวผู่จะเป็ นลู กหลำน แต่ ตอนนี้ เขำเป็ นถึ งท่ ำ น
ข้ำหลวงใหญ่ และยังเป็ นองค์รำชบุตรเขยในรำชวงศ์ พวกเรำย่อม
ต้อ งเข้ำ ไปค ำนับ เขำซี ” เซี่ ย จิ้ น หรงเองก็ มี สี ห น้ำ ตื่ น เต้น โอ้โ ห
ตระกูลเขำให้กำเนิ ดข้ำหลวงใหญ่ผูม้ ีศกั ดิ นำ พูดไปพูดมำ ลูกชำย
ของเขำอำจจะได้รับควำมก้ำวหน้ำด้วยก็เป็ นได้

“กลับมำนี่ ไม่ตอ้ งไปกันทั้งหมด!” เซี่ ยเหยียนฮว๋ ำกลับแสดงสี หน้ำ


เคร่ งขรึ ม

“ท่ำนพ่อ ทำไมเล่ำ” เซี่ ยจิ้นอันและเหล่ำน้องชำยต่ำงก็ประหลำดใจ

เซี่ ยเหยียนฮว๋ ำมองบรรดำลูกชำย โดยเฉพำะลูกคนโต เอ่ยขึ้นด้วย


น้ ำเสี ยงดุๆ ว่ำ “ถ้ำเสี่ ยวผูย่ งั มีชีวิตอยูจ่ ริ งๆ พวกเจ้ำไม่คิดบ้ำงหรื อว่ำ
ทำไมเขำถึงไม่อยำกกลับบ้ำน ไม่คิดบ้ำงหรื อว่ำที่เสี่ ยวผู่และม่ำน
เอ๋ อร์ แค่ออกจำกบ้ำนก็ถูกปล้นฆ่ำง่ำยๆ เช่นนี้ ” สำยตำของเขำจ้อง
มองไปยังใบหน้ำของลูกชำยคนใหญ่

“ท่ำนพ่อ ควำมหมำยของท่ำนคือ” เซี่ ยจิ้นซงใจเต้นแรงทันที แล้ว


ร้องขึ้นมำอย่ำงเหลือเชื่อ เซี่ ยจิ้นเหนี ยนและเซี่ ยจิ้นหรงเองก็มีท่ำที
เหลือเชื่อออกมำ จ้องมองพี่ชำยใหญ่ดว้ ยควำมตื่นตะลึง ไม่ใช่หรอก
ไม่ใช่อย่ำงที่พวกเขำคิดหรอกใช่ไหม

เซี่ ยเหยียนฮว๋ ำไม่ตอบรั บหรื อปฏิ เสธ เพียงเอ่ยว่ำ “ห้ำมไปที่ จวน


ท่ำนข้ำหลวงใหญ่” จำกนั้นจึงค่อยพูดขึ้นอีกว่ำ “รอเถิด”

เซี่ ยเหยียนฮว๋ ำที่หมุนกำยเข้ำไปในห้องแล้วก็นงั่ ลงบนเก้ำอี้ทนั ที


เจ็บปวดใจอย่ำงสุ ดทน! เป็ นขุนนำงใหญ่ผไู ้ ด้รับศักดินำจำกฝ่ ำบำท
ด้วยอำยุเพียงยี่สิบเอ็ดเท่ำนั้น! นี่ คือเกียรติยศเหลือคณำ! ตระกูลใด
จะมีลูกหลำนเปี่ ยมควำมสำมำรถถึงเพียงนี้

นี่ คือหลำนชำยของเขำ หลำนชำยเอกของเขำเอง! ตัวเขำที่ควรจะ


ปลื้มปิ ติในตอนนี้ กลับเจ็บปวดใจอย่ำงหำที่เปรี ยบไม่ได้ เมื่อควำม
จริ งปรำกฏอยูต่ รงหน้ำ หลำนชำยของเขำเกลียดสกุลเซี่ ย!

เซี่ ยเหยียนฮว๋ ำเสี ยใจอย่ำงถึงที่สุด ทำไมตอนนั้นเขำไม่ตรวจสอบ


ให้เรี ยบร้อยเสี ยก่อน หำกว่ำ…หำกว่ำ…ตอนนี้เขำดูชรำลงไปอีกสิ บ
กว่ำปี เห็นจะได้
ตรงข้ำ มกับ เซี่ ย เหยีย นฮว๋ ำ ที่ รู้ แ จ้ง กระจ่ ำ ง เซี่ ย จิ้ นอันกลับ ไม่ น ำ
คำพูดของบิดำเข้ำมำในสมอง ใครจะไปสนใจเล่ำว่ำเพรำะเหตุใด
เสี่ ยวผู่ถึงไม่ ยอมกลับบ้ำนตั้งหลำยปี แม้โลกจะถล่ มตรงหน้ำแต่
อย่ำงไรเขำก็เป็ นบิดำ ควำมกตัญญูตอ้ งมำก่อน เขำจะไม่ยอมรับบิดำ
ของตัวเองเชียวหรื อ

เซี่ ยจิ้นอันเดินเข้ำสู่ เรื อนหลังด้วยใบหน้ำยิม้ ระรื่ น “นำยท่ำน มีเรื่ อง


อะไรน่ำยินดีหรื อ” จ้ำวซื่ อเข้ำมำต้อนรับ

“มีเรื่ องน่ำยินดีเกิดขึ้นจริ งๆ” เซี่ ยจิ้นอันเอ่ยขึ้นพร้อมยิม้ “เจ้ำรู ้ไหม


ว่ำท่ำนข้ำหลวงใหญ่คนใหม่เป็ นใคร เซี่ ยหมิ งผู่ รำชบุตรเขยของ
รำชวงศ์ปัจจุบนั เสี่ ยผูข่ องเรำอย่ำงไรเล่ำ!”

ดวงตำของจ้ำวซื่ อหรี่ แคบลง จำกนั้นก็ยมิ้ ด้วยรื่ นเริ ง “จริ งหรื อ นำย


ท่ำนไม่ได้หลอกข้ำใช่ หรื อไม่ ตำยจริ ง นี่ เป็ นเรื่ อน่ ำยินดี อย่ำงถึ ง
ที่สุดจริ งๆ ข้ำบอกแล้วว่ำคุณชำยใหญ่น้ นั เป็ นผูม้ ีโชค จะต้องรอด
พ้นจำกภัยพิบตั ิ ครั้ งนี้ ได้แน่ นำยท่ ำน ข้ำจะรี บจัดเตรี ยมงำนเพื่อ
ต้อนรับท่ำนข้ำหลวงใหญ่กลับจวนดีหรื อไม่เจ้ำคะ” นำงเอ่ยถำม
เซี่ ยจิ้นอันได้ยินดังนั้น รอยยิม้ บนใบหน้ำก็จำงลงเล็กน้อย “ไม่ตอ้ ง
เขำไปถึงจวนข้ำหลวงใหญ่แล้ว รอให้เขำจัดกำรอะไรให้เรี ยบร้อย
ก่อนเถิด”

จ้ำวซื่ อรี บเอ่ยขึ้นอย่ำงปลื้มปิ ติ “เจ้ำค่ะ ข้ำเชื่อฟังนำยท่ำนเจ้ำค่ะ”

เซี่ ยจิ้ นอันพยักหน้ำอย่ำงถื อดี ไพล่มือไปข้ำงหลังแล้วเดิ นจำกไป


อย่ำงยินดี เมื่อเขำจำกไปแล้ว สี หน้ำยิม้ แย้มของจ้ำวซื่ อก็หำยไป กำ
มือแน่นจนเล็บยำวฝังอยูใ่ นฝ่ ำมือ สำยตำเต็มไปด้วยควำมตื่นตะลึง
แต่กลับพยำยำมบอกตัวเอง ‘ไม่เป็ นไร แม้เขำจะมีชีวิตอยูแ่ ล้วยังไง
เรื่ องผ่ำนไปตั้งนำนแล้ว ไม่มีหลักฐำนอะไร เขำจะทำอะไรนำงได้’

ในทำงกลับกัน ตอนนี้ ตนเป็ นแม่ใหญ่ของเขำแล้ว! เฮอะ ไม่พูดถึง


ควำมฉลำดเฉี ย บแหลมของจ้ำ วซื่ อ ผูน้ ้ ี ไม่ ไ ด้ นับ ตั้ง แต่ เ กิ ด เรื่ อ ง
วุ่นวำย เพิ่งผ่ำนไปเพียงเท่ำไรนำงก็เริ่ มวำงแผนแล้วหรื อ ช่ำงไม่คิด
เสี ยเลยว่ำสถำนะของเซี่ ยหมิงผู่ในตอนนี้ ใช่คนที่สตรี ในเรื อนเช่ น
เจ้ำจะวำงแผนได้หรื อไร ช่ำงไม่รู้กำลังตัวเอง รนหำที่ตำยแท้ๆ !
จ้ำวซื่ อจมอยูใ่ นควำมคิดของตัวเอง ลูกสำวของนำงเซี่ ยเยียนเอ๋ อร์ ก็
ถกชำยกระโปรงแล้ววิ่ง เข้ำ มำ ใบหน้ำเต็มไปด้ว ยควำมปิ ติ ที่ ปิด
เอำไว้ไม่มิด “ท่ำนแม่ จริ งหรื อที่ว่ำท่ำนข้ำหลวงใหญ่คนใหม่เป็ น
พี่ชำยใหญ่น่ะเจ้ำค่ะ ลูกได้ยนิ ข้ำรับใช้ของท่ำนพ่อบอกเช่นนี้”

จ้ำวซื่ อพยักหน้ำ “มิผดิ ท่ำนพ่อของเจ้ำกล่ำวเช่นนี้จริ งๆ ”

“ดี จริ งเจ้ำค่ะ!” เซี่ ยเยียนเอ๋ อร์ กระโดดไปทัว่ ทั้งห้อง “พี่ใหญ่เป็ น


ท่ ำนข้ำหลวง ข้ำเป็ นน้องสำวคนเดี ยวของเขำ และยังมี องค์หญิ ง
พี่สะใภ้อีก ดีเหลือเกิน! ท่ำนแม่ ท่ำนรี บเย็บชุดกระโปรงให้ขำ้ หำ
เครื่ องประดับ ลูกจะแต่งกำยให้สวยงำมเพื่อต้อนรับพี่สะใภ้!” นำง
ออดอ้อนจ้ำวซื่ อ นำงลืมไปเสี ยแล้วว่ำเซี่ ยหมิงผู่ยงั มีน้องสำวร่ วม
ครรภ์อี ก หนึ่ ง คน หรื อ นำงคิ ด ว่ ำ ธิ ด ำเอกคนนั้น ไม่ อ ยู่แ ล้ว หรื อ
อย่ำงไร
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนพิเศษ 5-1 เซี่ยหมิงผู่ (ปลาย)

ที่บา้ นตระกูลหลิวซึ่ งเป็ นตระกูลทางแม่ของเซี่ ยหมิงผู่ก็ตื่นเต้นไม่


แพ้กนั ไอหยา หลานชายของตัวเองไม่เพียงยังมีชีวิตอยู่ แต่ยงั เป็ น
ถึงข้าหลวงใหญ่แห่ งเจี ยงหนาน นี่ เป็ นเรื่ องน่ ายินดี อย่างที่สุด เจ้า
บ้านสกุลหลิวพาลูกชายสองคนไปต้อนรับในวันถัดมา เซี่ ยหมิงผู่
ออกมาต้อนรับพวกเขาด้วยความกระตือรื อร้น ตระกูลท่านตาดูแล
พวกเขาสองพี่นอ้ งอย่างดีมาตลอด เซี่ ยหมิงผูไ่ ม่ใช้คนลืมบุญคุณคน

เจ้าบ้านสกุลหลิวเห็นหลานชายมีใบหน้าเหมือนลูกสาวของเขาอยู่
สองส่ วน ดวงตาก็เปี ยกซึ ม ตบไหล่ของเขาอย่างตื่นเต้น “ดี ดี เจ้ายัง
มี ชี วิ ต อยู่ก็ ดี ข่ า วดี ข่ า วดี แม่ ข องเจ้า ในปรภพจะได้น อนตายตา
หลับ”

เซี่ ยม่านผูป่ ระคองแขนของท่านตา ยิม้ อย่างอบอุ่น “ท่านตาและท่าน


น้าทั้งสองรี บนัง่ ลงเถิด ข้าพอมีบุญอยูบ่ า้ งถึงได้พบคนที่ยงิ่ ใหญ่ แต่
ข้าก็มีชีวิตที่สุขสบายดี ยายหนูม่านเอ๋ อร์ เองก็สบายดี ตอนนี้ นางโต
เป็ นสาวแล้ว อีกเดี๋ยวท่านตาและท่านน้าก็จะได้พบนางแล้ว”

“ดี แล้ว ดี แล้วที่พวกเจ้าสองพี่น้องสบายดี คนแก่อย่างข้าก็วางใจ”


ท่านเจ้าบ้านสกุลหลิวตื้นตันยิง่ นัก แต่กร็ ู ้อะไรเป็ นอะไรจึงไม่ได้เอ่ย
ถึงสกุลเซี่ ย ไม่พดู ถึงเรื่ องที่ผา่ นมาแล้ว

ท่านน้าทั้งสองแห่งสกุลหลิวเองก็มองหลานชายด้วยสายตาแรงกล้า
มีท่าทีอึดอัดอยู่บา้ ง ก็ใช่ ที่สกุลหลิวเองก็เป็ นสกุลขุนนาง พวกเขา
เองก็กว้างขวางรู ้จกั คนไปทัว่ แต่ได้เป็ นขุนนางตาแหน่งสู งทั้งที่อายุ
ยังน้อย แน่ นอนว่าความกดดันจากผูบ้ งั คับบัญชาก็เป็ นเรื่ องยากที่
พวกเขาจะรับไว้ได้

เซี่ ยหมิงผู่เล่าเรื่ องประสบการณ์สองสามปี มานี้ อย่างง่ายๆ สามพ่อ


ลูกสกุลหลิวชื่นชมไม่ขาดปาก โดยเฉพาะท่านน้ารอง เอ่ยขึ้นอย่าง
ไม่ค่อยจะพอใจนัก “รัชศกยงเซวียนที่สิบเจ็ดข้าอยูเ่ มืองหลวง และ
ได้ยนิ คนพูดว่าจอหงวนคนใหม่ชื่อเซี่ ยหมิงผู่ ตอนนี้ขา้ ยังคิดอยูเ่ ลย
ว่าทาไมถึงบังเอิญนัก ทาไมข้าไม่สืบข่าวให้มากกว่านี้ นะ” หากเขา
สื บข่าวต่อไป พวกเขาคงจะได้พบกันตั้งแต่เมื่อสี่ ปีก่อนแล้ว
เซี่ ยหมิงผูเ่ อ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน “ตอนนี้กย็ งั ไม่สายนี่ขอรับ!”

“ใช่ ใช่ ใช่ ยังไม่สาย ยังไม่สาย” ท่านน้ารองสกุลหลิ วหัวเราะเก้อ


เมื่อคิดว่าเขามีหลานชายเป็ นข้าหลวงใหญ่ จนถึงตอนนี้เขาก็ยงั รู ้สึก
เหลือเชื่อเกินกว่าจะเป็ นเรื่ องจริ งอยูน่ นั่ เอง

ยามเที่ยง เซี่ ยหมิงผูจ่ ดั งานเลี้ยงให้กบั ท่านตาและท่านน้าทั้งสอง ยก


สุ ราอย่างขยันขันแข็งด้วยท่าทีเคารพนบน้อม ไม่เหมือนท่าทีของ
ขุนนางผูใ้ หญ่ที่ชอบดูถูกผูอ้ ื่นเลยแม้แต่นอ้ ย ท่านเจ้าบ้านสกุลหลิว
ยังดี แต่ท่านน้าสกุลหลิวทั้งสองกลับปลื้มปิ ติเป็ นอย่างมาก ดื่มสุ รา
เสี ยจนเมามาย

ยามที่กาลังจะกลับ เจ้าบ้านสกุลหลิวยังลังเลและถามขึ้นมาว่า “เสี่ ยวผู่


ทางสกุลเซี่ ย….”

เซี่ ยหมิงผูย่ มิ้ เล็กน้อย “ท่านตาวางใจ ข้าคิดเอาไว้แล้วขอรับ” ตอนนี้


เขาได้เปรี ยบอยูท่ ุกประตู จะกลัวอะไรอีก สกุลเซี่ ย เฮอะเฮอะ หาก
พวกเขารู ้ ตวั ก็แล้วไป แต่หากยังไม่รู้ ก็อย่าโทษที่เขาต้องลงมือสั่ง
สอนเขาด้วยมือของตัวเองล่ะ
นายหญิงสกุลหลิวและสะใภ้ท้ งั สองที่เข้าไปข้างในคฤหาสน์เพื่อ
ถวายความเคารพองค์หญิงนั้นตื่นตระหนก แม้จะบอกว่าเป็ นหลาน
สะใภ้ แต่อย่างไรเสี ยนางก็เป็ นองค์หญิ ง สตรี สูงศักดิ์ ในราชวงศ์
พวกนางเข้าพบแน่นอนว่าต้องคุกเข่าก้มหัวให้

พวกนางเดินตามนางกานัลเข้าไปด้านใน ยิ่งเข้าใกล้ยงิ่ รู ้สึกไม่ค่อย


สบายใจ อย่าว่าแต่องค์หญิงเลย แม้แต่นางข้าหลวงข้างกายขององค์
หญิงก็ดูสูงส่ งกว่าเหล่าหญิงสาวในตระกูลขุนนางที่พวกนางเคยพบ
มามาก แล้วองค์หญิงเล่าจะเป็ นอย่างไร พวกนางไม่กล้าที่จะคิดเลย

“หม่อมฉันถวายบังคมองค์หญิ ง” นายหญิ งสกุลหลิ วเห็ นว่า หญิ ง


สาววัยรุ่ นหน้าตางดงามนัง่ อยู่บนเก้าอี้ ก็ไม่กล้าที่จะมองขึ้นไปอีก
ครั้ง ก้มศีษะลงคานับที่พ้ืน สะใภ้ท้ งั สองที่อยู่ดา้ นหลังก็รีบคุกเข่า
ตามแม่สามีโดยไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาอีก

“ฮูหยินผูเ้ ฒ่ารี บลุกขึ้นเถิด” นายหญิงสกุลหลิวรู ้สึกว่าหัวเข่ายังไม่


แตะพื้นก็มีคนประคองนางลุกขึ้น หญิงสาวที่ประคองนางขึ้นมานั้น
ยิม้ ให้พลางเอ่ยว่า “ท่านยาย พี่สะใภ้ขอให้ท่านลุกขึ้นมาเถิดเจ้าค่ะ”
นายหญิ ง สกุล หลิ ว ชะงัก จากนั้นก็ร้ อ งขึ้ นมาอย่า งไม่ เ ชื่ อ สายตา
ตัวเอง “ม่านเอ๋ อร์ เจ้าคือม่านเอ๋ อร์ ใช่ม้ ยั !” โดยไม่สนใจว่าตอนนี้อยู่
ต่อหน้าองค์หญิงหรื อไม่ น้ าตาของนางไหลหลัง่ มือสั่นเทาลูบไล้
ใบหน้าของเซี่ ยม่านเอ๋ อร์ที่เหมือนลูกสาวในยามเยาว์ของนาง

เซี่ ยม่านเอ๋ อร์ยมิ้ จนตาหยี ปลอบโยนท่านยายของตัวเอง “ใช่แล้วเจ้า


ค่ะ ท่านยายอย่าเสี ยใจไปเลย ม่านเอ๋ อร์ สบายดี หลายปี มานี้ หลาน
เติบโตมาอย่างดี ไม่ตอ้ งลาบากเลยแม้แต่นอ้ ย” นางพูดจริ งๆ นางที่
เติบโตขึ้นมาข้างกายของคุณหนู แม้จะได้ชื่อว่าเป็ นสาวใช้ แต่เรื่ อง
กินอยู่ไม่มีขาดตกบกพร่ อง ทั้งยังได้รับการศึกษาอยู่ในระดับเยี่ยม
ยอด ไม่ดอ้ ยไปกว่าตอนที่นางอยูท่ ี่สกุลเซี่ ยเลยแม้แต่นอ้ ย “ท่านยาย
ม่านเอ๋ อร์ดีใจนักที่ได้พบท่าน อย่าเสี ยใจไปเลยเจ้าค่ะ”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ไม่เสี ยใจ พวกเราไม่เสี ยใจเลย ยายดีใจยิง่ นัก!” นาย


หญิงสกุลหลิวใช้ผา้ เช็ดหน้าซับน้ าตา และหันไปขออภัยองค์หญิง
“หม่อมฉันเสี ยมารยาท ขายหน้าต่อหน้าองค์หญิงแล้ว”

องค์หญิ งสามยิ้มเรี ยบๆ “ครอบครั วพบหน้าเป็ นเรื่ องน่ ายินดี ข้า


เข้าใจได้ ม่านเอ๋ อร์ เจ้ารับรองฮูหยินผูเ้ ฒ่าและฮูหยินทั้งสองให้ดีเถิด
ข้าขอตัวก่อน” นางเดินนาคนของตัวเองออกไปอย่างเข้าใจดี แต่ให้
ลูกชายอยูก่ ่อน

เมื่อองค์หญิงไปแล้ว บรรยากาศในห้องก็เปลี่ยนไป อย่างน้อยท่าน


น้าสะใภ้สกุลหลิวก็ถอนหายใจออกมาเฮื อกใหญ่ “โอย ตกใจเสี ย
แทบแย่” สะใภ้รองสกุลหลิวปาดเหงื่ อบนศี รษะ ขาของนางอ่อน
แรง แม้ฮูหยินใหญ่สกุลหลิวจะไม่พูดอะไร แต่ก็รู้สึกหมดเรี่ ยวแรง
พอๆ กับฮูหยินรอง

“ราชวงศ์น่าเกรงขาม และนัน่ คือองค์หญิงแห่ งราชวงศ์” นายหญิง


สกุลหลิวมองลูกสะใภ้ท้ งั สองแล้วเอ่ยขึ้นมาเช่นนี้

เซี่ ยม่านเอ่อร์ กลับแลบลิ้นออกมาเล็กน้อย “ท่านยาย ท่านน้าสะใภ้


ไม่ตอ้ งกังวลแล้วเจ้าค่ะ! พี่สะใภ้เป็ นคนดี ดูซี นี่คือหลานชายของข้า
น่ารักหรื อไม่” นางอุม้ หลานชายของมือของแม่นมเข้ามาอวดอย่าง
ภาคภูมิใจ

“พี่ชายของเจ้ามี ลูกชายแล้วหรื อ ดู เด็กน้อยคนนี้ ซี หน้าตาดี นัก ดู


สมเกี ยรติ ดู หน้าผากเต็มแน่ น เพียงเห็ นก็รู้ว่าจะต้องมี อนาคตที่ดี
แน่” นายหญิงสกุลหลิวยิง่ ยินดีข้ ึนไปอีก รับอวี้เอ๋ อร์เข้ามาในอก รัก
เสี ยยิง่ กว่าอะไร

น้าสะใภ้ท้ งั สองเองก็เออออ สะใภ้ใหญ่สกุลหลิวเอ่ยขึ้นอย่างเสี ยใจ


“ถ้ารู ้วา่ มีหลานน้อยด้วย พวกเราจะได้เตรี ยมของมาแต่เนิ่นๆ ตอนนี้
ไม่มีของอะไรมาเลย ทาให้เด็กน้อยของพวกเราน้อยใจเสี ยแล้ว”

นายหญิงสกุลหลิวเองก็พยักหน้า “นัน่ น่ะสิ นะ” นางถอดกาไลหยก


ที่ตวั เองสวมมาเป็ นสิ บปี แล้วสวมให้กบั เซี่ ยม่านเอ๋ อร์ “ม่านเอ๋ อร์
ยายขอมอบสิ่ งนี้ ให้เจ้า ชัว่ พริ บตา เจ้าก็โตเป็ นสาวแล้ว ส่ วนของ
รั บ ขวัญเด็ก น้อ ย ยายจะนามามอบให้ค รั้ งหน้า ” นางพูด ขึ้ น ด้ว ย
ความเสี ยใจ แต่ตอนนี้นางไม่มีของอะไรที่เหมาะที่จะมอบให้ทารก
น้อย จึงทาเท่าที่ทาได้

น้า สะใภ้ท้ งั สองเมื่ อ เห็ น ดัง นั้น ก็ ม องสบตากัน แล้ว พากัน มอบ
เครื่ องประดับล้ าค่าบนร่ างของตัวเองให้เซี่ ยม่านเอ๋ อร์ เป็ นของขวัญ
วันแรกพบ ไม่ใช่เพียงเพราะว่าสถานะของหลานสาวในตอนนี้ ไม่
ธรรมดา นางยังเป็ นหลานสาวแท้ๆ ของแม่สามี อีกด้วย พวกนาง
ล้วนแล้วแต่มีลูกสาว ต่อไปหากม่านเอ๋ อร์ ออกมาเยีย่ มเยียนใครจะดู
หมิ่นได้ ผูกมิตรกับญาติอย่างไรก็เป็ นผลดี

เซี่ ยม่านเอ๋ อร์รับของเหล่านั้นด้วยความยินดี “ม่านเอ๋ อร์ขอบพระคุณ


ท่านยายและท่านน้าสะใภ้ท้ งั สองเจ้าค่ะ”

เมื่อคนสกุลหลิวออกจากจวนข้าหลวงใหญ่ไปแล้ว ข่าวก็แพร่ สะพัด


ไปทัว่ คนทัว่ ทั้งเจี ยงหนานล้วนแล้วแต่ รู้ว่าท่ านข้าหลวงใหญ่วยั
เยาว์ผนู ้ ้ ีเป็ นหลานชายเอกของสกุลเซี่ ยที่ถูกโจรดักปล้นฆ่าเมื่อเก้าปี
ก่อน คุณชายใหญ่สกุลเซี่ ยที่มีพรสวรรค์เหนือธรรมดาคนนั้น! ตอน
ที่ท่านผูน้ ้ ี เกิ ดเรื่ องทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกสงสารและเสี ยดายแทน
สกุลเซี่ ยกันทั้งนั้น

ตอนแรกพวกเขาเสี ยดาย แต่ตอนนี้ พวกเขากลับอิจฉาสกุลเซี่ ยเสี ย


แล้ว ดูคนสกุลเซี่ ยซี มีเรื่ องน่ ายินดี เกิ ดขึ้นในตระกูลและเป็ นเรื่ อง
ใหญ่เสี ยด้วย ได้แต่งงานกับองค์หญิ ง ทั้งยังได้เป็ นขุนนางใหญ่มี
ศักดินาตั้งแต่อายุยี่สิบเอ็ด อย่าว่าแต่เจียงหนานเลย ทัว่ ทั้งต้ายงก็มี
บุคคลเช่นเข้าเพียงผูเ้ ดียว
แต่เมื่อทุกคนเห็ นว่าตระกูลแม่อย่างสกุลหลิวได้เข้าไปคานับแล้ว
ทว่า สกุล เซี่ ย ยัง ไม่ ข ยับ ยัง ไม่ ไปค านับ ที่ จ วนข้า หลวงใหญ่ ท่ า น
ข้าหลวงใหญ่ก็ยงั ไม่กลับจวนสกุลเซี่ ย ดังนั้นทุกคนจึงเกิดข้อกังขา
อยูใ่ นใจ คนที่ฉลาดหน่อยก็นึกย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ลอบฆ่าเมื่อ
เก้าปี ก่อน ในใจเริ่ มรู ้สึกยินดีในความโชคร้ายของผูอ้ ื่น

ตระกูลชั้นสู งและคนในแวดวงขุนนางจะมี คนโง่สักกี่ คนกัน เมื่อ


รวมกับท่าทีแบ่งพรรคแบ่งพวกของท่านข้าหลวงใหญ่ นาเหตุการณ์
ต่างๆ มารวมกันก็เริ่ มที่จะเข้าใจสถานการณ์ข้ ึนมา ดังนั้นข่าวลือจึง
เริ่ ม ต้น ขึ้ น แม้จ ะไม่ ไ ด้อ อกมาพู ด ชัด ๆ แต่ ก ลับ พู ด กัน ลับ ๆ ว่ า
คุณชายใหญ่สกุลเซี่ ยนั้นทั้งฉลาดทั้งเลอะเลือน ทาไมถึงปล่อยให้
อนุ ภรรยาทาร้ ายบุตรเอกได้ ทั้งที่เป็ นลูกชายที่มีอนาคตสดใสเสี ย
ด้วย!

แม้จะมีหลักฐานแล้วว่าท่านข้าหลวงใหญ่คนใหม่เป็ นบุตรชายคน
โตสกุลเซี่ ย เซี่ ยหมิงผู่ แต่แรงต่อต้านก็ไม่ได้นอ้ ยลงเลย เพราะเป็ น
ขุ น นางตระกู ล สู งทั้ งๆ ที่ อ ายุ ย ัง น้ อ ยใครเล่ า จะยอมเชื่ อ ฟั ง
โดยเฉพาะพวกขุนนางไม่เอาไหน ต่อหน้ายิม้ แย้มแจ่มใส เพียงหมุน
ตัวก็ไม่เผาผี สร้างความวุน่ วายให้กบั เซี่ ยหมิงผูไ่ ม่นอ้ ย

แต่เซี่ ยหมิงผู่เป็ นคนที่ใครจะมาล้อเล่นได้หรื อ หากไม่มีฝีมือดีพอ


ฮ่องเต้จะให้เขาเป็ นถึงข้าหลวงใหญ่แห่งเจียงหนานหรื ออย่างไร เขา
จะกลายเป็ นราชบุตรเขยคนโปรดได้อย่างไร! นอกจากเขาจะเป็ น
ข้าหลวงใหญ่ เขายังเป็ นราชบุตรเขย มีทหารองครักษ์ขององค์หญิง
อยูข่ า้ งกาย เพราะฉะนั้นจะทาอะไรก็สะดวก

สุ ภาษิตกล่าวไว้ว่า ‘หนึ่ งผูม้ ีอานาจพิฆาตสิ บนักรบ’ เมื่อท่าทีของ


เซี่ ยหมิงผู่เริ่ มเด็ดขาดมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะขอผัดผ่อนอย่างไรก็ไร้ผล
เจ้าทางานไม่ดี ก็เปลี่ยนเอาคนที่ทาได้เข้ามาแทน เจ้าไม่เชื่ อฟั ง ก็
เปลี่ยนเอาคนที่เชื่ อฟั งเข้ามาแทน เพราะเขาเป็ นขุนนางยศสู งที่สุด
ในเจียงหนาน ทุกอย่างล้วนต้องเป็ นไปตามแต่ที่เขาจะพูด

ทาไม เจ้าจะหาทางรายงานไปถึงเมืองหลวงหรื ออย่างไร สมองของ


เจ้ามีปัญหาหรื อ เจ้าจะไปรายงานกับใคร คนที่อยูเ่ บื้องหลังของเขา
แข็งแกร่ งนักหรื อ เขาคนนั้น เซี่ ยหมิงผูเ้ ป็ นถึงเขยรักของฝ่ าบาททั้ง
ยังมีความสัมพันธ์อนั ดีกบั คนสนิ ทของฮ่องเต้อย่างผิงอ๋ องด้วย เจ้า
จะรายงานเรื่ องเขาไม่เท่ากับหาเรื่ องใส่ ตวั หรื ออย่างไร

แต่ ระยะเวลาสั้นๆ เพียงสองเดื อน เซี่ ยหมิ งผู่ก็จดั การเรื่ องราวที่


เกิ ดขึ้ นที่ เจี ยงหนานจนราบรื่ น บัดนี้ ขุนนางที่ ไม่เชื่ อฟั ง หลังจาก
เห็นฝี มือของเขาแล้วก็ซื่อสัตย์ข้ ึนมาและเคารพเขากันทุกครั้ง

เซี่ ยจิ้นอันรอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นเซี่ ยหมิงผู่จะเข้ามาเยี่ยมเยียน ทว่า


กลับได้ยินว่าสกุลหลิวได้ผลประโยชน์ไม่นอ้ ย แต่เขากลับได้อยูว่ ง
นอก คนอื่ น มองเขาเหมื อ นเขาเป็ นคนโง่ เหล่ า สหายเก่ า แก่ ที่ มี
ความสัมพันธ์กนั มานานก็ตบไหล่เขายามที่ ดื่มสุ ราด้วยกัน “พี่จิ้น
อัน ท่านนี่ มีความสุ ขอยู่ในมื อแต่กลับไม่รู้ ท่านพี่มีลูกที่ มีอนาคต
ไกลขนาดนี้…เฮ้อ พี่จิ้นอันต้องคิดให้มากๆ หน่อยนะ”

คิ ดอะไร มี อะไรให้คิดอี ก ไม่ว่าอะไรจะเกิ ดขึ้ น ตัวเขายังเป็ นพ่อ


และเขาเป็ นลูก หรื อว่าตัวเขาที่เป็ นพ่อจะต้องวิงวอนร้องขอเขา ไม่
ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ออกว่าเขามีอะไรให้เคียดแค้นเพียงนั้น เรื่ องที่
เกิดขึ้นเมื่อเก้าปี ก่อนก็เป็ นเพียงอุบตั ิเหตุเท่านั้น หรื อคิดว่าเขาเป็ น
คนที่ ทาร้ ายเขา อย่างไรเสี ยสกุลเซี่ ยก็เลี้ยงเขามาสิ บสี่ ปี เขาจะทา
ท่าทางเหมือนไม่รู้จกั ญาติพี่นอ้ งเช่นนี้ได้หรื อ

เซี่ ยจิ้นอันยิ่งอยู่ยิ่งโกรธ มิหนาซ้ าจ้าวซื่ อยังใส่ ไฟ ดังเช่น “คุณชาย


ใหญ่ ได้เป็ นขุนนางแล้วลื มบิ ดา” ยิ่งทาให้ไฟแค้นของเซี่ ยจิ้ นอัน
โหมกระหน่าขึ้นไปอีก โกรธเสี ยจนเดินดุ่มๆ ไปจนถึงจวนข้าหลวง
ใหญ่
ตอนพิเศษ 5-2 เซี่ยหมิงผู่ (ปลาย)

เซี่ ยเยียนเอ๋ อร์ กลับวิตก “ท่านแม่ ถ้าท่านพ่อและพี่ใหญ่ทะเลาะ


กันจะทาอย่างไร” นางสวมเสื้ อผ้าสวยงดงาม ประดับเครื่ องประดับ
งดงามเพื่อรอประกาศเรี ยกตัวเข้าพบองค์หญิงพี่สะใภ้ที่ไม่มาเสี ยที
แต่กลับได้ยินมาว่าน้องสาวที่เกิดจากภรรยาเอกที่ควรจะตายเพราะ
ปล้นฆ่าเมื่อปี นั้นกลับเข้ากันได้ดีกบั ลูกพี่ลูกน้องหญิงจากสกุลหลิว
เด็ก สาวสกุลหลิ วที่ ชื่ อหลิ ว เย่ซ่ ึ ง นางดู ถูก มาตลอดก าลังจะมี ข่าว
มงคล ทาเอานางโกรธเสี ยจนเกือบจะร้องไห้โฮ

จ้าวซื่ อกลับส่ งเสี ยง ฮึ “ถึงจะทะเลาะกันอย่างไรก็เป็ นเรื่ องของ


พ่อลูกเขา” จ้าวซื่ อยุยงเซี่ ยจิ้นอันให้โกรธก็เป็ นเพราะจุดประสงค์น้ ี
ทะเลาะซี ทะเลาะกันเลยก็ดี อย่างไรก็เป็ นพ่อลูกกัน เซี่ ยหมิงผูจ่ ะจับ
บิดาส่ งเข้าคุกเชียวหรื อ

จ้า วซื่ อ คิ ด ในแง่ ดี ยิ่ง นัก แต่ นางกลับ คิ ด ไม่ ถึ ง ว่า เซี่ ย จิ้ นอันจะ
ไม่ได้เข้าแม้แต่ประตูใหญ่จวนข้าหลวงใหญ่ องครักษ์ที่หน้าประตู
ได้รับคาสั่งเอาไว้ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ห้ามให้เข้ามา ทาไมหรื อ
เจ้า บอกว่ า เจ้า เป็ นบิ ด าของท่ า นข้า หลวงใหญ่ ข องเราหรื อ อย่า
ล้อเล่นไปหน่อยเลย บิดามารดาของใต้เท้าของเขานั้นเสี ยชีวิตไปตั้ง
นานแล้ว มี น้องสาวเพียงคนเดี ยว ไหนเลยจะมี บิดา แอบอ้างเป็ น
บิดาของท่านข้าหลวงนั้นมีโทษหนัก อย่างนั้นก็เท่ากับเดินไปเข้าคุก
มิใช่หรื อ

เซี่ ยจิ้นอันพ่ายแพ้กลับมาอย่างรวดเร็ ว เท้าข้างหนึ่งเพิ่งจะยา่ กลับ


มาถึ ง จวน พ่ อ บ้า นของจวนข้า หลวงใหญ่ ก็ ร ายงานอยู่ห น้า จวน
“ขอให้เจ้าบ้านสกุลเซี่ ยให้สัญญาต่อนายท่านเซี่ ย แซ่ เซี่ ยเหมือนกัน
ก่อเรื่ องขึ้นมาจะไม่งาม”

สี หน้าของเซี่ ยเหยียนฮว๋ าหมองคล้ าลง ออกไปส่ งพ่อบ้านแห่ ง


จวนข้าหลวงใหญ่อย่างนอบน้อมแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะตบหน้าลูก
ชายคนโตไปหนึ่งฉาด

ผิดหวัง เขาผิดหวังจริ งๆ ก่อนหน้านี้ ลูกชายใหญ่ของเขายังอยู่ดี


ทาไมยิง่ อยูย่ งิ่ กลายเป็ นแบบนี้ไปได้
ยิง่ ชื่อเสี ยงและฝี มือของเซี่ ยหมิงผูข่ จรไปไกล เซี่ ยนเหยียนฮว๋ าก็
ยิ่งจมสู่ ความเสี ยใจอยู่ทุกวัน แม้ว่าตระกูลเซี่ ยของพวกเขาจะเป็ น
ตระกูลขุนนาง เมื่ออยู่ในเจียงหนานก็ยงั ถือว่าไม่เลว แต่เมื่ออยู่ใน
ต้ายง ก็ไม่ได้ถือว่ามีความสาคัญอะไร สกุลเซี่ ยของพวกเขาเกือบจะ
ได้เป็ นตระกูลใหญ่ของต้ายง หลานชายของเขา หลานชายที่ เป็ น
ท่านข้าหลวงใหญ่ของเขา! ตอนนี้ ถูกลูกชายที่เลอะเลือนของเขาทา
พังหมด ตอนนี้ เขายังไม่รู้ตวั หากปล่อยให้เขากระเสื อกกระสนก่อ
เรื่ องเช่นนี้ ต่อไปหลานชายของเขาคงหาเรื่ องแก้แค้นแน่

เซี่ ยเหยียนฮว๋ าเสี ยใจอย่างสุ ดซึ้ ง!

เซี่ ยจิ้นซง เซี่ ยจิ้นเหนี ยน และเซี่ ยจิ้นหรงก็นึกตาหนิ พี่ชายใหญ่


โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าหลานชายยิ่งสนับสนุนสกุลหลิว แต่ไม่หาไม่
ถามถึ งสกุลเซี่ ย พวกเขาก็ยิ่งมัน่ ใจในการคาดเดาของตัวเองมาก
ยิง่ ขึ้น ความจริ งแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเก้าปี ก่อนไม่ใช่อุบตั ิเหตุ
จะต้องเกี่ ยวข้องกับพี่สะใภ้ใหญ่แซ่ จา้ วแน่ เป็ นเพราะหากสองพี่
น้องเกิดเรื่ องอะไรขึ้น คนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็คือจ้าวซื่ อและลูกๆ!
พี่ใหญ่ไม่เพียงไม่จดั การจ้าวซื่ อเพื่อคืนความยุติธรรมให้เสี่ ยวผู่
กลับได้ยนิ ว่าจ้าวซื่ อยุยงพี่ใหญ่ให้ไปยังจวนข้าหลวงใหญ่ มันช่าง...
มันช่างไม่สมเหตุสมผลเสี ยเลย!

สะใภ้รอง สะใภ้สาม สะใภ้สี่ของสกุลเซี่ ยก็คงจะไม่พอใจแน่ๆ


เสี่ ยวผู่เป็ นหลานชายคนใหญ่สุด พวกนางล้วนแล้วแต่มีบุตรธิ ดา
ทั้งนั้น หากมีอานาจอยูใ่ นมือก็คงจะมีประโยชน์มาก! แล้วตอนนี้ล่ะ
ทุกอย่างล้วนต้องโทษจ้าวซื่ อที่แสนร้ายกาจคนนั้น พวกนางไม่กล้า
ที่ จะกล่าวโทษเซี่ ยจิ้ นอัน ดังนั้นจึ งย้ายความโกรธไปลงที่ จา้ วซื่ อ
แทน

หลังจากที่เซี่ ยเหยียนฮว๋ าโกรธแล้วก็ช่วยลูกชายคนโตเก็บกวาด


เรื่ องยุง่ ยาก หลายวันมานี้ เขาเริ่ มจะมองออก หลานชายของเขาเป็ น
คนดุดนั ไม่มีเรื่ องใดที่เขาจะไม่กล้าทา ไหนเลยจะเอาแต่จอ้ งมอง
สกุลเซี่ ยโดยไม่ทาอะไรเลย ใช้โอกาสตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ ปราม
ลูกชายคนโต รี บจัดการเรื่ องทุกอย่างให้เรี ยบร้อย มิเช่นนั้นหากเขา
ต้องตายไป ลูกชายคงทาลายสกุลเซี่ ยจนย่อยยับแน่ เช่ นนั้นเขาคง
ตายตาไม่หลับ
เซี่ ยเหยียนฮว๋ าส่ งจดหมายไปที่จวนข้าหลวงใหญ่ เซี่ ยหมิงผู่ถือ
จดหมายหมิ่นๆ ในมือ แล้วหัวเราะ อย่างไรเสี ยเขาก็เป็ นท่านปู่ และ
ปฏิบตั ิต่อเขาอย่างดี ก็คงต้องไว้หน้าบ้าง

เซี่ ยเหยียนฮว๋ านาลูกชายทั้งสี่ คนไปยังจวนข้าหลวงใหญ่ ก่อนจะ


มายังออกคาสั่งให้ลูกชายคนโตเงียบเอาไว้ ไม่อนุญาตให้เขาพูด มิ
เช่ นนั้นจะลงโทษเขาตามกฎของบ้าน เซี่ ยจิ้ นอันจาต้องพยักหน้า
ยอมรับแต่โดยดี

เซี่ ยเหยียนฮว๋ ามองสี หน้าเคร่ งขรึ มของหลานชายคนโต ในใจก็


รู ้สึกต่างๆ นานา นี่คือหลานชายเขาอย่างชัดเจน เขากลับต้องคุกเข่า
นอกจากคุกเข่า เขายังต้องค่อมตัวโค้งให้ สุ ดท้ายเขาก็สะบัดชายเสื้ อ
แล้วกัดฟัน “เสี่ ยวผู!่ ”

“ท่ านปู่ ทาอะไร ไม่ มีเหตุ ผลเลยที่ จะให้ผูอ้ าวุโสคุ กเข่ าเคารพ
หลานชาย” เข่าของเซี่ ยเหยียนฮว๋ ากาลังจะโค้งลงพื้นเซี่ ยหมิ งผู่ก็
ประคองเขาเอาไว้
เพียงแค่ประโยคธรรมๆ เช่นนี้ เซี่ ยเหยียนฮว๋ าก็ตาแดง “เสี่ ยวผู่
เป็ นเพราะปู่ ทาตัวไม่ดีกบั เจ้า” เป็ นเพราะเขาไม่คุม้ ครองหลานชาย
ให้ดี

เซี่ ยหมิงผู่กลับพูดเสี ยงเรี ยบ “เรื่ องนี้ เกี่ยวอันใดกับท่านปู่ ” อย่า


ว่าแต่ท่านปู่ เขาเองก็ยงั ถูกสี หน้าที่ฉาบความเป็ นคนดี ของจ้าวซื่ อ
หลอกลวงเอาด้วยมิใช่หรื อ

เซี่ ยเหยียนฮว๋ ามองหลานชายคนโต ความรู ้สึกอ่อนไหวมากมาย


เขาเองก็อดที่จะกังวลขึ้นมาไม่ได้ “เสี่ ยวผู่ ปู่ รู ้ดี พวกเราสกุลเซี่ ยติด
หนี้ พวกเจ้าสองพี่น้อง เจ้าต้องการให้พวกเราทาอย่างไร” คาพูดนี้
ช่างออกมาได้น่าอึดอัดใจนัก

เซี่ ยหมิงผูท่ กั ทายพ่อและอาทั้งสามอย่างง่ายๆ จากนั้นจึงค่อยพูด


ว่า “แม้ว่าข้าจะไม่พูดถึงเรื่ องเมื่อเก้าปี ก่อน พวกท่านก็คงทราบว่า
เกิดเรื่ องอะไรขึ้น ตอนแรกข้าขอร้องให้คุณหนูพาข้ากลับมาแก้แค้น
ที่ เจี ยงหนาน คุ ณหนู บอกกับข้าเช่ นนี้ ท่านปู่ ลองฟั งดู ว่ามี เหตุ ผล
หรื อไม่”
“คุณหนูดุด่าข้าก่อนไปหนึ่งยก ด่าที่ขา้ ไร้ความสามารถ นางบอก
ว่า ความแค้นของตัว เองก็แ ก้แ ค้นเองซี นางบอกว่า ข้า ไม่ ต ้อ งท า
อะไรเลย แม้แ ต่ ห ลัก ฐานอะไรก็ไ ม่ ต ้อ งไปหา ขอเพี ย งให้ข ้า ได้
ตาแหน่งราชการ มีอานาจอยูใ่ นมือ ให้ขา้ ได้มีตาแหน่งที่สูงกว่าสกุล
เซี่ ย ข้าไม่ตอ้ งลงมือเองเลย แต่กลับจะมีคนลงโทษผูร้ ้ายแทนข้าเอง
ท่านปู่ ท่านว่ามีเหตุผลหรื อไม่”

ใบหน้าของเซี่ ยหมิ งผู่มีรอยยิ้มบางๆ “น่ าเสี ยดายที่ ขา้ รอมาถึง


สองเดือน จ้าวซื่ อและลูกๆ ของนางก็ยงั คงอยูด่ ีที่บา้ นสกุลเซี่ ย ท่าน
ปู่ ข้านั้นผิดหวังยิง่ นัก!”

เมื่ อสบดวงตาแหลมคมของหลานชายคนโต ใจของ


เซี่ ยเหยียนฮว๋ าก็สั่น ใบหน้าฉายแววลาบากใจ ทว่าเซี่ ยจิ้นอันกลับ
ขมวดคิ้ ว “เรื่ อ งนี้ เกี่ ย วกับ มารดาและน้อ งชายน้อ งสาวของเจ้า
อย่างไรกัน”

เซี่ ยหมิงผูไ่ ม่ได้มองเขาเลยแม้แต่นอ้ ย ทาเพียงมองเซี่ ยเหยียนฮว๋ า


“ท่ า นปู่ ท่ า นลองบอกหน่ อ ยซี อ้อ ใช่ แ ล้ว คุ ณ หนู ย งั บอกอี ก ว่ า
สุ ดท้ายแล้วการแก้แค้นนั้นไม่จาเป็ นต้องทาร้ายศัตรู จนตาย ปล่อย
ให้นางมี ชี วิ ต รอดเถิ ด มี ชี วิ ต ให้ย าวนาน มี ชี วิ ต แบบที่ ค่ อ ยๆ ริ บ
สิ่ งของที่เป็ นของนางทีละชิ้น ให้นางเห็นคนที่นางรักค่อยๆ ตกลง
ไปในนรก แต่นางต้องมีชีวิตอยู่ท้ งั ๆ ที่อยากตาย อย่างนั้นซี จึงจะมี
ความสุ ข”

น้ าเสี ยงของเซี่ ยหมิ ง ผู่ ฟั งดู อ บอุ่ น ท่ า ที อ่ อ นน้ อ ม ทว่ า


เซี่ ย เหยี ย นฮว๋ า กลับ รู ้ สึ ก เย็น วาบ เป็ นนานจึ ง ค่ อ ยพู ด ขึ้ นอย่ า ง
ยากลาบาก “จ้าวซื่ อวางแผนทาร้ายบุตรเอกต้องถูกส่ งไปอยู่ในวัด
นอกเมือง หมิงฉิ นถูกปลดออกจากตาแหน่งบุตรเอก ไม่สามารถรับ
ตาแหน่งผูน้ าตระกูลคนต่อไปได้อีก”

สี หน้าของเซี่ นจิ้นอันเปลี่ยนไปในทันที เมื่อกาลังจะวิ่งเต้นก็ถูก


น้องชายทั้งสามกดตัวเอาไว้ไม่ให้หนี

เซี่ ยหมิ งผู่ปรายตามองพ่อของเขาแวบหนึ่ ง สายตาเต็มไปด้วย


ความเย้ยหยัน หันกลับไปพูดกับท่านปู่ ว่า “ท่านปู่ ช่างมีคุณธรรมยิ่ง
นั ก ” วิ น าที ต่ อ มาก็ เ ปลี่ ย นเรื่ องโดยฉั บ พลัน “ข้า จ าได้ว่ า น้ อ ง
เยียนเอ๋ อร์ อายุสิบห้าปี แล้ว ได้ยินว่ายังไม่ ได้ดาเนิ นการเรื่ องงาน
หมั้นงานแต่งใช่หรื อไม่”

ใจของเซี่ ยเหยียนฮว๋ าสั่นเทา แต่จาต้องยอมรับเท่านั้น “ใช่แล้ว


เยียนเอ๋ อร์จะถึงวัยปั กปิ่ นในเดือนหน้าแล้ว”

ได้ยินเซี่ ยหมิงผู่เอ่ยขึ้นว่า “ท่านปู่ ข้าจาได้ว่าบุตรเอกของสกุล


เหยายังไม่มีงานมงคล สกุลเซี่ ยและสกุลเหยาถือว่าเข้ากันได้ดีเสมอ
มา ท่ านปู่ คิ ดว่างานแต่ งงานครั้ งนี้ เป็ นอย่างไร” ความหมายของ
คาพูดของเขาก็คือต้องการจะให้เซี่ ยเยียนเอ๋ อร์ แต่งงานกับบุตรเอก
สกุลเหยานัน่ เอง

สี หน้าของเซี่ ยเหยียนฮว๋ าแลดูแย่มาก เซี่ ยหมิงผู่กลับทาเหมื อน


มองไม่เห็น ใบหน้ายังยิม้ น้อยๆ แล้วรอเงียบๆ

“เจ้าสัตว์นรก เยียนเอ๋ อร์ เป็ นน้องสาวแท้ๆ ของเจ้านะ!” เซี่ ยจิ้น


อันหลุ ดพ้นจากการเกาะกุม จ้องมองเซี่ ยหมิ งผู่ด้ว ยสายตาโกรธ
เคือง ใครจะไม่รู้บา้ งว่าบุตรเอกของสกุลเหยาเป็ นคนขี้โรค หลังจาก
คลอดออกมาแล้วก็อยู่แต่ในเรื อน เจ็บป่ วยออดๆ แอดๆ มาจนถึ ง
อายุสิบหก ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดจนถึงเมื่อไหร่ หากเยียนเอ๋ อร์ แต่ง
ออกไป จะต้องเป็ นหม้ายตั้งแต่ยงั สาว อย่างนี้ ก็เท่ากับทาลายชี วิต
นางทั้งชีวิตหรื อ จิตใจของเจ้าลูกชัว่ คนนี้ทาไมถึงได้โหดร้ายนัก

“เก้าปี ก่อน ม่านเอ๋ อร์ ยงั อายุแค่หา้ ปี และนางยังเป็ นธิ ดาเอกเพียง


คนเดียวด้วย” เซี่ ยหมิงผู่มองบิดาด้วยสายตาเย็นเยียบ แม้แต่เด็กห้า
ขวบก็ย งั ไม่ ป ล่ อ ย ตอนนี้ ก ลับ มาพูด เรื่ อ งเมตตาธรรมกับ เขา น่ า
หัวเราะไปหน่อยหรื อเปล่า

“ดี! การแต่งงานครั้งนี้ เหมาะสมนัก! ” เซี่ ยเหยียนฮว๋ ากัดฟั นพูด


หากไม่ตอบรับจะให้ทาอย่างไร เยียนเอ๋ อร์ ก็ตอ้ งตกที่นงั่ ลาบากกว่า
นี้แน่

เซี่ ยหมิ งผู่ยิ้ม “ขอบพระคุ ณท่านปู่ ที่ รอบคอบ รอให้จดั การให้


เรี ยบร้ อย หลานจะพาองค์หญิงและน้องสาวกลับสกุลเซี่ ยไปไหว้
ท่านแม่”

คุ ณหนู กล่าวได้ถูกต้องนัก เมื่ ออานาจอยู่ในมื อ ตัวเขาเองก็ไม่


ต้องลงมือเลย สกุลเซี่ ยก็จดั การเรื่ องทุกอย่างตรงหน้าให้เขาเอง เก้า
ปี ก่อน คุณหนูยงั เด็กกว่าเขาอยูเ่ ล็กน้อยกลับมองเห็นทุกอย่างทะลุรุ
โปร่ ง ช่างน่าชื่นชมเหลือเกิน!

แต่ว่า เซี่ ยหมิงฉิ นคล้ายยังทุกข์ไม่พอ ไม่มีสถานะบุตรเอกของ


ตระกูล ไม่มีสถานะเจ้าบ้านคนถัดไปก็พอแล้วหรื อ ไม่ ยังไม่พอ ยัง
ไม่พอที่จะทาให้จา้ วซื่ ออกแตกตาย

วันต่อมา สกุลเซี่ ยก็ส่งจ้าวซื่ อไปยังวัดเพราะความผิดในฐานปอง


ร้ ายบุ ตรเอก สามวันหลังจากนั้น ลู กสาวที่ นางทุ่ มเททุ กอย่า งให้
อย่า งเซี่ ย เยี ย นเอ๋ อ ร์ ก็ ห มั้น หมายกับ บุ ต รชายเอกของสกุ ล เหยา
หลัง จากผ่า นไปหกวัน เซี่ ย หมิ ง ฉิ น ที่ จ้า วซื่ อ ท าทุ ก อย่า งให้ก็ต ก
บัน ไดจากการทะเลาะเบาะแว้ง ในหอนางโลม ศี ร ษะบาดเจ็ บ
กลายเป็ นคนปั ญญาอ่อน

จ้าวซื่ อที่อยูท่ ี่วดั เมื่อได้ยนิ ข่าวของบุตรธิดา ก็กลายเป็ นบ้า

แล้วในตอนนี้ เซี่ ยหมิงผู่กลับพาภรรยาและน้องสาวไปไหว้ป้าย


วิญญาณของมารดาที่แท้จริ งในโถงบรรพบุรุษสกุลเซี่ ย

You might also like