You are on page 1of 366

รัก...

ราย
ตอนที่ 1

เคยมีใครบอกคุณบอยๆ มั้ยวา...คุณมันตัวซวย....ผมเองก็ไมเคยเจอใครพูดใสหนาผมแบบนี้หรอก..มีเพียงตัวผม...ที่ดา
ตัวเองแบบนี้เสมอๆ.....คําวา ‘ตัวซวย’ สําหรับผม...ไมไดพาความเดือดรอนไปใหใคร แต...นําความซวยใหตัวเอง....เรื่อง
รายๆ มักเกิดขึ้นกับผม โดยที่ผม...ไมไดกอ......ครั้งนี้ก็เชนกัน

เสียงโหวเหวกโวยวายดานนอกทําใหผมรูสึกตัว เสียงพัดลมเพดานหมุนเอื่อยๆ ลมที่เกิดจากใบพัดไมไดชวยบรรเทาความ


รอนไดเลย เหงื่อไหลอาบตามเนื้อตัวจนเหนอะหนะไปหมด ฟงจากเสียงแลวดานนอกนาจะมีมากกวาสามคน เสียงพูดคุย
ฟงแลวเหมือนพวกไรสติที่กําลังเมามายดวยฤทธิ์แอลกอฮอล ไมรูวาผูคนละแวกนี้ทนอยูไดไง นาจะมีใครสักคนตะโกนดา
พวกมันซะบาง แตก็นั่นละ....รอบๆ นี้จะมีบานคนหรือเปลาก็ไมร.ู ...และ....ถามีใครสักคนเขามาที่น.ี่ ....ผมก็จะไดรองขอ
ความชวยเหลือ....รองงั้นเหรอ....คงมีแตเสียงอูอี้ในลําคอเสียมากกวา.....ที่นารําคาญกวาเหงื่อที่ไหลยอยของตัวเอง ก็คือ
....เทปกาวขนาดใหญที่ปดปากผมอยูนี่แหละ และยังเศษผาอะไรสักอยางที่ยัดอยูในปากผม

“อาว ตื่นแลวเหรอมึง กูนึกวาจะหลับขามวันซะแลว”ใครบางคนเปดประตูเขามา ผมพยายามหันไปทางตนเสียงมือที่ถูกจับ


มัดไพลหลังและขาทั้งสองขางที่ถูกมัดไวทําใหขยับไมสะดวก เงารางที่เดินเขามายืนค้ําหัวแสดงอํานาจตัวเองเต็มที่ ถาผม
ไดมองเห็นหนามันก็คงจะดี จะไดจําไดวาใคร......ที่จับผมมา

“หนูพายตื่นแลวเหรอเนี่ย ฝนรายเหรอครับ เหงื่อไหลเต็มตัวเลย”มือหยาบๆ จับไหลผมใหนอนหงาย ผาคาดตาที่มัดเอาไว


ทําใหการมองเห็นลดลง ภาพเงาลางๆ ของคนหลายคนยืนลอมอยูรอบๆ ผม เสียงหัวเราะพรอมคําหยาบโลนที่พูดสลับกัน
ไปมาทําเอาอยากจะตะโกนดา แตกอนหนานั้น...อยากถามมากกวา...วาจับผมมาทําไม เสียงพูดคุยไมมีเสียงใครสักคนที่
คุนเคย ผมไมเคยมีปญหากับใคร ฐานะทางบานก็ไมดีพอที่จะใหใครขอแบง สรุป...ไมมีเหตุผลอะไรสักอยางที่จะถูกกระทํา
แบบนี้

“พวกมึงจะเอาดวยมั้ย หรือจะไปนั่งแดกเหลาตอ”

“ตามสบายเหอะมึง ไมใชรสนิยมกูวะ”

“กูก็ไมวะ แตขอดูในหองดวยแลวกัน”

“กูดวย”

“เสร็จเมื่อไหรไปบอกกูดวย กูจะกลับมาอัดมันทีหลัง”
เสียงกุกกักจากการกระทําบางอยาง พรอมๆ กับเสียงเปดปดประตู เทาที่ฟงรูสึกจะมีทั้งหมดประมาณหาคน และ...อยูใน
หองสามคน ผมพยายามจับเสียงทุกการกระทํารอบๆ ตัว ใครบางคนดึงผมใหลุกขึ้นนั่ง ผมพยายามขยับตัวหนีแตกลับถูก
ลากขึ้นไปบนเตียงนุม

“แกเชือกที่ขามันออกสิวะ จะไดถอดกางเกงได”รางหนักๆ ทับตัวผมอยูดานบน มือที่ถูกมัดอยูดานหลังบิดจนเจ็บไปหมด


ทันทีที่รูสึกวาเชือกคลายออก ผมก็ยกเทาถีบออกไปอยางไมรูทิศ และมันก็โดนใครบางคน

ผลั่ก!!!

“โอย!! ไอเชี่ย ฤทธิ์มากนักนะมึง”

“อึ๊ก!!”การตอบโตครั้งแรกถูกสนองกลับดวยหมัดของใครบางคนเขาเต็มคาง ถึงมองไมเห็น...แตคิดวาปากคงแตกแนๆ

“อยูนิ่งๆ สิวะ เดี๋ยวก็จับมัดอีกรอบหรอกมึง”มือไมที่พัวพันอยูที่ขา พยายามกดลงแนบกับเตียง หมัดหนักๆ กระแทกเขาที่


ทองจนจุก เข็มขัดนักศึกษาถูกปลดออกอยางรวดเร็ว ผมพยายามพลิกกายหนี แตคนที่นั่งทับขาผมอยูกลับไมยอมงายๆ
เสื้อผาดานบนและลางถูกรุมทึ้งปลดออกอยางรวดเร็ว ยิ่งขัดขืนมากเทาไหร ก็ยิ่งเจ็บตัวมากเทานั้น

“อึ๊ก.....อื้ออออ”

“ไอสัตวนี่ บอกใหอยูนิ่งๆ ไง อยากเจ็บตัวนักหรือไงวะ”เสื้อผาทอนลางกําลังจะถูกดึงออกจากขา ผมพยายามงอเขาตัวเอง


เพื่อรักษามันเอาไว ตอใหตอนนี้รูวาตัวเองเปลาเปลือย แตยังดีกวาตองสูญเสียไปทุกอยาง

“มึงก็พูดเปนเลน ใครเขาจะยอมใหนอนขมขืนงายๆ วะมึง”เสียงกลั้วหัวเราะดังประสานกันทันทีที่พูดจบ...ขมขืนงั้นเหรอ

“อื้ออออออ.....อื้อออ”ผมไมเคยทําอะไรใหใคร ผมเปนผูชาย ไอพวกนี้มันจะวิปริตเกินไปแลว ทั้งๆ ที่คิดวาจะถูกจับมาซอม


หรือปลนธรรมดา แตน.ี่ ..บาไปกันใหญแลว

“หึหึ....สงสัยอยากแลววะ รองเรียกมึงใหญเลย”เสียงหัวเราะดังมาจากคนที่จับขาผมอยู

“ยังไมไดทําอะไรเลย...ครางรอซะแลว ใจเย็นๆ สิ เดี๋ยวมึงไดครางสมใจแน”มือคนบนตัวกําลังลูบไลใบหนาผม มันรูสึก


ขยะแขยงจนอยากอาเจียน

“อื้อ!!”เทปกาวที่ปดปากไวถูกดึงออกอยางรวดเร็วจนเจ็บไปหมด ผมรีบคายเศษผาในปากออกมาทันที
“ไอบา!! พวกแกเปนใคร ทําแบบนี้ตองการอะไร ผมไปทําอะไรให”

“เสียงนารักซะดวย โทษทีนะ ดึงแรงไปหนย ปากแดงหมดเลย”นิ้วแกรงลูบปากผมเบาๆ ผมรีบหันหนาหนีสัมผัสที่นา


รังเกียจ

“ทุเรศ! วิปริตหรือไง ผมเปนผูชายนะ!!”

“กูไมรังแกผูหญิงวะ เปนผูชายนะดีแลว...มันสกวาตัง้ เยอะ”คนบนตัวผมยังคงพูดตอบกลับมาอยางอารมณดี

“เร็วๆ เถอะมึง เดี๋ยวแบ็ตฯ กลองกูหมด”เสียงเรงที่มาจากปลายเทาทําใหนึกขึ้นไดวายังมีคนอื่นอยู กลอง...พวกมันจะถาย


วีดีโองั้นเหรอ นี่มันเกิดเรื่องบาอะไรกับผมเนี่ย

“ปลอย!! ชวยดวยยยย ใครก็ดะ!!”

“แหกปากทําไมวะ หนวกหู ทําเหมือนไมเคยนะมึง”อีกครั้งแลวสินะที่ผมตองหยุดการกระทําตัวเอง เพราะหมัดของคน


ดานบนที่กระทบใบหนา มันเจ็บจนชา ขณะที่ยังมึนๆ เพราะแรงหมัด สัมผัสเปยกชื้นสัมผัสตามโครงหนาและลําคอ ขาทั้ง
สองขางถูกกางออกและนั่งทับไว แรงกดจูบซุกไซรตามใบหนาอยางหยาบโลน ปากหนาที่กดจูบและขบกัดจนเจ็บ ฝามือที่
เคลนคลึงตามเนื้อตัวไมไดทําใหคลอยตามไดเลย

“อึ๊!!”ผมหลุดเสียงรองออกมาเพราะแรงขบกัดบริเวณยอดอก ดูทาเสียงผมคงเปนที่ถูกใจ เพราะแทนที่จะหยุด มันกลับ


กระตุนผมดวยวิธีเดิม แถมยังรุนแรงกวาเกา

“โอย! เจ็บ ไอบา โรคจิตหรือไงวะ”เมื่อแรงเริ่มมี ผมก็สงเสียงรองโวยวายอีกครั้ง

“หนวกหูชิบหาย มึงเอาผายัดปากมันไวเหมือนเดิมเถอะ”เสียงคนที่ปลายเทารองบอก ผมหันหนาหนีจากฝงที่คายผา


ออกไป

“อยาเสียงดังสิวะ เดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก”คนตรงหนาพูดใกลๆ หู ปากไลเลียใบหูดูดดึงสลับกับกัดเบาๆ พรอมกับเปาลม


หายใจอุนรอนใส สะโพกบดเบียดพยายามกระตุนอารมณผมเต็มที่

“อึ๊....อื้ออออ.....”ปากใครบางคนกําลังบดจูบผม ปลายลิ้นที่ลามเลียรอบปากจนชื้นแฉะ ผมพยายามเมมปากตัวเองไวแนน


นิ้วมือจิกยอดอกจนเจ็บ ปากที่เผยอออกคลายความเจ็บถูกสอดแทรกดวยปลายลิ้น ยังไมทันจะไดโตตอบอยางใจคิด มือ
หนักๆ ที่ทุบเขาที่ทองจนตองอาปากออกอยางเดิม ความจุกแรนขึ้นมาจนรางกายแทบงองุม หากไมมีคนทับอยูดานบนผม
ก็คงทําอยางนั้นได
“อื้มม....”เสียงครางหวิวจากดานบนที่ถอนปากออกไป มือหยาบยังคงลูบไลไปทั่วตัว นิ้วมือสะกิดยอดอกจนแข็งเปนไต
รางกายเริ่มตอบรับสัมผัสโดยธรรมชาติ ทั้งๆ ที่ใจไมไดอยากตอบสนอง

“อะ! ไม..อื้อออออ”ผมรองหายไปเพราะมือใหญที่ตะปบลงมาแรงจนเจ็บปาก แกนกายถูกกระตุนดวยฝามือของใครบาง


คน ไมอยากคลอยตามสัมผัสที่ช่ําชอง แตก็ทําไดยากเหลือเกิน ปลายลิ้นรอนชื้นเปยกนุมไลเลียตามซอกขาดานใน

“.....อื้มมม...อึ๊...อื้อออออ...อื้ออออ”เคลิ้มไปกับสัมผัสไดไมนาน ปลายนิ้วเย็นๆ เยิ้มไปดวยอะไรบางอยางก็รุกเขามา


ทางดานหลังอยางไมทันตั้งตัว

“อยาเกร็งสิวะ”เสียงหงุดหงิดปนรําคาญ เมื่อทําอะไรไมไดดั่งใจเพราะรางกายที่เกร็งตานสัมผัสของผม

“...อึ๊!!”มือหนักๆ ทุบลงที่ทองและขาขางซายจนปวดหนึบ ผอนคลายเพียงครูเดียวก็กลายเปนเปดโอกาสใหรุกไลเขามาจน


สุด นิ้วถูกสอดเพิ่มขึ้นพรอมสัมผัสดานหนาที่ชวยลดอาการเกร็ง นิ้วที่สอดเขามาเพิ่มมากขึ้นจนรูสึกอึดอัด สะโพกถูกยกขึ้น
เพื่อสอดบางสิ่งเขามาหนุนใหสูงขึ้น

“สั่นเชียวนะมึง...สั้นหนีหนีสั้นสูวะ”เสียงกลั้วหัวเราะดังจากปลายเทา ตอนนี้ไมรูสึกถึงแรงกดทับอีกแลว มันเจ็บเกิดกวาจะ


ขยับขาได เสียงรองแหบแหงจนไมสามารถเอื้อนเอื่อยอะไรออกไป

“อยาดิ้นนา กูรูนาวามึงชอบ”

“อึ๊...อื้ออออ....อื้ออออ”ฝามือที่คลายออกจากปากผมชั่วครู ถูกสลับกับมือใครบางคน ความรูสึกที่กําลังถูกรุกรานดานหลัง


ทําใหตะกายหนี แตความเจ็บที่ไดรับมีมากกวาจะขยับตัวไหว ลิ้นชื้นของคนที่นั่งอยูใกลๆ เลียตามโครงหนาอยางหื่น
กระหาย

“อึ๊....เชี่ย อยาเกร็งสิวะ”

“อึ๊!!........อื้ออออ”เสียงตะโกนในลําคอมันคงไมดังพอใหพวกมันไดยินสินะ ยิ่งขัดขืนก็ยิ่งไดรับการตอบกลับอยางรุนแรง
กําปนหนักๆ กระแทกที่ชายโครงจนปวด รางกลายที่ผอนคลายถูกรุกสวนเขามาอยางรุนแรงและรวดเร็ว สวนออนไหวเบื้อง
ลางแทบฉีกออกจากกัน แกนกายที่สอดแทรกเขามาเร็วทําใหจุก ขาสองขางสั่นเทิ้มเพราะความเจ็บและอึดอัด ยิ่งขยับก็
เหมือนเปดโอกาสใหคนดานบนแทรกกายเขามาไดมากขึ้น

“อื้อออ......ทําตัวดีๆ นะ จะไดไมเจ็บ”เสียงทุมกระซิบเบาๆ ขางหู ริมฝปากขบเบาๆ ใหความรูสึกแปลกๆ จนตองหันหนี ยอ


ดอกทั้งสองขางถูกมือใครบางคนหยอกลอ สลับกับริมฝปากที่ขบกัดจนแสบไปหมดทั้งสองขาง

“อะ...อื้อออ”เศษผาถูกยัดเขามาในปากเพื่อปดกั้นเสียงรอง รางดานบนเริ่มขยับเขาออกรุนแรง มีเพียงเสียงครางจากรอบ


ขางใหไดยิน มือไมหลายขางปะปายตามเนื้อตัว สัมผัสคับแนนดานลางทําใหทรมาน ของเหลวที่ไหลออกมาทําใหรูวา
บางอยางฉีกขาด ความเจ็บเริ่มกลายเปนความชา เสียงครวญครางดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ เศษผาในปากถูกดึงออกพรอมใครบาง
คนที่ประกบจูบจนหายใจแทบไมทัน ปลายลิ้นสัมผัสหยอกเยากระตุนใหคลอยตาม แต...มันไมงายเลย ผมไมมีอารมณรวม
สักนิด

“ทําดีๆ นะมึง ถากัดกูเอามึงตายแน”เสียงหอบกระเสาพูดแนบริมฝปากที่เพิ่งถอนออกไป ผมไมเขาใจความหมายเทาไหร


แตเงารางใครบางคนยืนคลอมหนาผม...นั่นแหละถึงทําใหรูสิ่งที่มันตองการ ผมพยายามเบี่ยงหนาหนีและเมมปากแนน

เพี๊ยะ!!

“อาปากสิวะ อยาใหกูใชกําลังนักเลย กูไมถนัดนักหรอก”เสียงเหี้ยมที่มาพรอมฝามือ ทันทีที่พูดจบมันก็บีบคางผมแนน ผม


อาปากออกอยาเลี่ยงไมได

“....อื้ม...นั่นละ”เสียงพึงพอใจกับสิ่งที่มันพยายามยัดเยียดเขามาในปากทําเอาอยากสํารอก ปลายนิ้วจิกผมขึ้นมาและ
พยายามขยับเปนจังหวะ แกนกายรอนในปากลวงล้ําเขาลึกจนสุดคอ เสียงรองหามไมเปนผลกับพวกมัน เบื้องลางยังคงถูก
กระแทกกระทั้นรัวเร็วมากขึ้น ขณะที่ดานบนก็ยังขยับกายเขาออก สงเสียงครวญครางไมขาดปาก หยาดน้ําคาวๆ ไหลลง
คอมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เสียงครางของพวกมันดังขึ้นจนแยกเสียงใครไมออก

“อะ...อาาา.....อาาาาาา”หยาดรักมากมายไหลที่ออกมาพรอมเสียงครางสุดทายทําใหผมสําลัก อยากอาเจียนแตก็ไมมี
อะไรออกมา แรงเสียดสีดานลางยิ่งเพิ่มหนักกวาเดิมเมื่อไมมีคนอื่นอยูบนรางผม ฝามือหยาบจับสะโพกพรอมขยับกาย
สอดแทรกเร็วและแรงขึ้น

“อาาาาา....อาาาซ”เสียงทุมดังแนบหู พรอมแรงกอดรัดที่สะโพก ภายในชองทางดานหลังอุนรอนดวยของเหลวที่ถูกปลอย


ดานใน ขณะที่ไดยินเสียงพวกมันถอนหายใจอยางเหนื่อยหอบ....น้าํ ตาผมรินไหลไมขาดสาย....ไมเขาใจอะไรทั้งนั้น ทําไม
ผมตองเจอเหตุการณแบบนี้ โดนใครก็ไมรูลากมาขมขืนอยางทารุณ...บอกผมที...ผมทําผิดอะไร
ตอนที่ 2

รางกายที่หนักอึ้งทําใหขยับตัวไดไมสะดวก ไอแดดจากดานนอกสองเขามากระทบผิวหนา ทําใหรูวาตอนนี้เปนเวลาเชา ผา


ทึบยังคงถูกคาดปดตา มือขางขวาถูกล็อคดวยกุญแจมืออยูกับหัวเตียง สวนมืออีกขาง....เปนอิสระ ผาผืนใหญคลุม
รางกายเปลือยเปลาถึงหนาอก ลําคอแหงผาก รูสึกถึงไอรอนจากตัว แตก็ยังสัมผัสไดถึงไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศ มันจะ
ดีกวานี.้ ..ถาไมมีกลิ่นคาวเลือดและหยาดรักที่เปรอะเปอนบนตัวผม

“หึหึหึ”ผมสงเสียงหัวเราะเยาะโชคชะตาตัวเองเบาๆ ทําอะไรเอาไวถึงไดมาเจอไอพวกนี้.....มันทําอยางนี้เพื่อความสนุกงั้น
เหรอ...หรือเงิน....แลวเมื่อไหรผมจะเปนอิสระ....เมื่อไหรจะหลุดไปจากที่นี่ได

“หัวเราะอะไรวะ....บาไปแลวเหรอมึง”เสียงทุมดังจากมุมหอง ผมลืมไปเสียสนิทวามือขางหนึ่งเปนอิสระแลว ผมรีบยกขึ้น


มาเพื่อแกปมผาดานหลังออก

“โอย!!”เพียงแคแตะถูกปมผา มือก็โดนกระชากแรงจนเจ็บ รอยแผลรอบๆ ขอมือจากเชือกที่มัดเมื่อวานยังคงความแสบอยู


มาก และยังอีกขางที่เสียดสีกับโลหะเย็นๆ ตลอดยิ่งรูสึกเจ็บจนชา

“อยาแกะผาออก ถามึงยังอยากออกไปจากที่นี่ ไมงั้น....มึงไดอยูจนตายแน แตกวาจะตาย...คงทรมานกวาเมื่อวานหลาย


เทา”คนพูดตองการอะไร ในเมื่อไมอยากใหผมใชมือนี้ทําสิ่งที่ผมตองการ แลวจะใหอิสระกับมันทําไม จะล็อคผมทั้งสองมือ
เลยก็ไดนี่ พวกมันตองการเลนสนุกอะไรอีก

“กินขาวซะ”มือหนาดึงผมใหลุกขึ้นนั่ง เพียงแคขยับก็เจ็บราวไปทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะดานหลังที่เจ็บแสบจนตองกลั้นใจเวลา


ขยับตัว กลองโฟมถูกยื่นมาวางไวบนตัก พรอมกับชอนที่ยัดใสมือผม...นี่สินะ...ที่ทําใหมือผมเปนอิสระ....เพื่อไวชวยเหลือ
ตัวเองแบบนี้นี่เอง

ตุบ!!

“กูนึกแลว...ดีนะไมเอาใสจานมา”น้ําเสียงหงุดหงิดเมื่อผมโยนกลองขาวในมือออกไปดานขาง ไมสนใจวามันจะตกตรงไหน
แต...ผมไมยอมกินเด็ดขาด

“ทําไม”เพียงสิ่งเดียวที่อยากรู และอยากไดคําตอบ

“หือ...ทําไมถึงจับมึงมานะเหรอ”เสียงคนถูกถาม ถามยอนกลับอยางสบายอารมณ
“ทําไม”

“ก็แลวมึงไปกอเรื่องอะไรไวละ หรือวาเที่ยวหลอกลวงเขาไปทั่ว เลยจําไมไดวามีโจทกกี่คน หนาออนๆ อยางนี้ไมนาแสหา


ตีนเลยวะ”

“ผม..ไมเคยมีเรื่องกับใคร ถาทําอะไรใครไวก็เคลียรกันดีๆ สิ ไมใชใชวิธีหมาลอบกัด!!”คําพูดแตละคําที่ออกมาแทบจะตอง


เคนเสียงทั้งหมด ไมใชวาไมกลัว แตเพราะความรูสึกที่อัดอั้นอยูทําใหกลาพูดออกมา ผมจะรอดหรือเปลาก็ไมรู จะเจ็บมาก
กวาเดิมก็ไมสนแลว เพราะผมคงไมเจ็บไปมากกวานี้ไดอีก

“เก็บปากเก็บคําไวหนอยเถอะมึง อยากตายเร็วหรือไงวะ”

“ดักตีหัวคนอื่นขางหลัง แถมยังรังแกคนไมมีทางสู ไมใหเรียกหมาลอบกัดจะใหเรียกวาอะไร ทั้งลอบกัด ทั้งหมาหมู....ขี้


ขลาด”

เพี๊ยะ!!!

“หึ....พวกปาเถื่อน ดีแตใชกําลัง ฟงสิ่งที่ตัวเองทํากับคนอื่นไมไดหรือไง....วิปริต”ผมจําเสียงคนพูดไดดี คนที่รุกล้ําเขามาใน


รางกายผม คนที่สรางบาดแผลใหผมมากกวาคนอื่น

“อึ๊...อื้อออออ”ทายทอยถูกล็อคแนนพรอมริมฝปากที่บดจูบ และขบกัดปากลางแรงจนไดเลือด บาดแผลจากเมื่อวานยังไม


หาย เจ็บเพิ่มขึ้นอีกสักหนอยจะเปนไรไป

“อยายั่วใหกูโมโหนักเลยนา มึงจําเรื่องเมื่อคืนไมไดรึไง....วาคนอื่นวิปริต...แลวคนที่นอนอาขารองครวญครางจนเสร็จนะ....
เขาเรียกวาอะไร”คําพูดตอกย้ําความอับอายของตัวเอง ถึงจะเจ็บและทรมาน แตรางกายกลับตอบสนองการกระทําที่อีก
ฝายมอบให ฝามือที่ปรนเปรอจนถึงขีดสุดแหงอารมณ....ความทรงจําเรื่องนั้นยังชัดเจน...และเปนเรื่องเดียวที่ทําใหนึก
รังเกียจตัวเองที่เผลอไผลกับแรงอารมณ

“เถียงไมออกเลยหรือไง....มึงก็ชอบแทๆ ถายอมดีๆ ก็ไมเจ็บแลว”

“...ยอมดีๆ...ไมไดวิปริตแบบนายนี.่ ..จะไดยอมอาขาใหผูชายนะ”

“ปากดีอีกแลวนะมึง หนาสวยๆ ช้ําหมด หนาอยางนี้คงผานมาเยอะละสิไมวา แตหวังวามึงจะไมเปนโรคอะไรนะ เมื่อคืนกู


ลืมใสถุงดวย ไมคิดวาจะฟตแบบนี้ ดูแลตัวเองดีเหมือนกันนี่หวา”
“คนมันต่ําก็คิดแตเรื่องต่ําๆ เทานั้นแหละ หรือเกลือกกลั้วกับเรื่องพวกนี้มากจนแยกแยะไมออก”คําประนามที่มีใหยังไมเทา
ความเจ็บที่ผมไดรับ นอกจากการกระทําที่โหดราย ผมยังตองถูกกลาวหาวามั่วผูชายอีกเหรอ มันแยกไมออกหรือไง วาผาน
มาแลว...กับครั้งแรกนะ...ตางกันยังไง

“......หมายความวาไง....ก็ไหน......เหี้ยแลว”มันพูดเหมือนไมมั่นใจ กอนจะถอยหางจากผมและไดยินเสียงเปดปดประตู
เสียงโหวกเหวกดานนอกดังขึ้นทันที คําพูดมันทําใหผมพอจะเดาออกวา...ถาไมจับตัวมาผิด..ก็เขาใจผิด....บอกแลว...ผม
มันตัวซวยจริงๆ...นําความซวยมาใหตัวเองตลอด

ผมยกมือแตะที่ปมผาดานหลัง หากผมแกะผานี้ออก...ผมอาจหาทางหนีไปจากที่นี่ได หรือไมก็จําหนาพวกมันเพื่อไปแจง


ความทีหลัง...แจงความ....อา...นี่สิปญหา จะใหผมเลารายละเอียดความอัปยศที่เกิดขึ้นงั้นเหรอ แลวยังเรื่องที่มันถายวีดีโอ
เอาไวอีก ผมเริ่มเขาใจแลววาทําไมผูหญิงที่โดนขมขืนถึงไมกลาไปแจงความ

“ขาวกลองใหม กินดีๆ นะมึง ไมงั้นไดเจ็บหนักกวาเมื่อวานแน”เสียงเปดประตูพรอมกลองขาวที่โยนมาไวใกลมือ น้ําเสียงที่


ตางออกไปทําใหรูวา คนที่เขามาไมใชคนเดิม

“เดี๋ยวกอน”

“มีอะไร”

“......อยากเขาหองน้ํา”ผมกลั้นใจบอกไป ไมแนใจวาคําขอเพียงอยางเดียวจะไดรับการตอบสนองหรือเปลา แต...ก็ลอง


เสี่ยงดู เขาเดินมาใกลๆ ผมแลวไขกุญแจมือที่ล็อคหัวเตียง มาล็อคมือผมไวดวยกัน แขนแกรงดึงผมใหลุกจากที่นอน การ
ขยับตัวเพียงนิดเดียวก็ปวดราวไปหมด ผาหมที่คลุมกายเลื่อนหลุดไปทําใหรูสึกเย็นวาบเพราะรางกายที่เปลือยเปลา

“ขอกางเกงไดมั้ย”การรองขอครั้งแรกไดรับการตอบรับ ทําใหผมกลาที่จะเรียกรองมากขึ้น

“.....อะนี่ ผาเช็ดตัว เอาพันไวกอน”ผาผืนนุมถูกยัดใสมือ ผมกําผาไวนิ่ง มือที่ถูกล็อคไวสามารถชวยเหลือตัวเองไดอยางที่


ตองการ

“......รอนี่กอน”ทาทางเขาจะรูวาผมไมสามารถพันผาดวยตัวเองได เขาผละหางจากผมไปเพียงครูก็กลับมายืนใกลผมใหม

“นี่กางเกง”กางเกงขาสั้นถูกยัดใสมือ ผมทิ้งผาเช็ดตัวลงบนพืน้ คอยๆ กาวขาสอดเขาไปในกางเกงอยางยากลําบาก ความ


ปวดราวมีมากกวาจะทรงตัวไหว ยังดีที่คนตรงหนาจับแขนผมเอาไว

“.....ขอบใจ”
“อืม”มือที่จับแขนผมไวบีบแรงมากขึ้นเพื่อรับน้ําหนักตัวผม การเดินจากเตียงไปหองน้ําใชเวลาไมนาน แตเจ็บแทบตาย พอ
เขามาดานใน คนที่จับผมไวก็ปลอยใหผมทําธุระเพียงลําพัง เขาถอยออกไปยืนดานนอก แตไมปดประตูให ผมพยายาม
คลําหาผาสักผืนในนี้ แลวก็มีผาผืนเล็กๆ วางใกลๆ อางลางหนา เอาผามาชุบน้ําแลวเช็ดตามเนื้อตัวจนรูสึกวาสะอาดขึ้น
ชองทางดานหลังแสบและรูสึกเหมือนมีเลือดซึมอยูตลอด ผมกัดฟนอดทนตอเจ็บและแสบเพื่อทําความสะอาดเทาที่ทําได
พอแตงตัวเรียบรอยก็คลําหาประตูและเดินออกมาดานนอก ขาผมสั่นแทบยืนไมไหว มือแกรงควาเอวผมไวกอนที่จะทรุดลง
ไปกองบนพื้น

ระยะทางจากหองน้ํากลับมาถึงเตียงดูเหมือนจะไกลกวาเดิม แตละยางกาวเปนการเพิ่มความทรมานที่ชองทางดานหลัง
ผมทรุดตัวนอนลงบนเตียงอยางเหนื่อยหอบ มือขางหนึ่งเปนอิสระในขณะที่อีกขางถูกล็อกไวตามเดิม

“อะ นี่กลองขาว”กลองขาวถูกจับยัดใสมือผมที่นอนแผอยูกลางเตียง ผมปดกลองออกไปใหหางจากตัว ไอรอนจากรางกาย


ที่มีอยูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น สมองเริ่มเบลอแตก็ยังรับรูเรื่องราวรอบตัวไดดี

“ไมหิว....อยากนอน”ผมดึงผาหมมาคลุมกายไว อาการหนาวๆ รอนๆ เพราะพิษไขเริ่มเลนงานหนัก

“กินซะหนอย เดี๋ยวเอายามาให”มือคูเดิมดึงตัวผมใหลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ขาวกลองถูกหยิบอื่นใหอีกครั้ง ผมคลําๆ แลวก็


เปดกลองขาวออกมา ดานในมีชอนอยู ผมไมแนใจวาอาหารที่กําลังจะกินคืออะไร ปกติผมทานรสจัดไมได แต...ยังไงก็คง
ตองกินสินะ

ขาวคําแรกถูกกลืนลงไป รสชาดขาวผัดเปนที่ถูกปาก ผมลงมือกินตอเนื่องจนลืมอีกคนเสียสนิท พอกินขาวจนเกือบหมด


กลอง คนที่ผมลืมไปก็กลับมาใหม

“นี่น้ํา แลวก็ยา”น้ําหนักที่กดลงทําใหรูวาคนพูดนั่งลงขางๆ กลองขาวถูกหยิบออกไป ผมรับยามากลืนลงไปกอนจะดื่มน้ําใน


แกวตามจนหมด

“นอนไปซะ ตื่นมาอะไรมันคงดีขึ้น”เสียงคนพูดดังหางออกไป คําพูดคลายปลอบโยนทําใหเบาใจ อยางนอยในสถาณการณ


เลวราย หากมีใครสักคนที่เห็นใจเราบาง...มันก็เหมือนกับมีพวก…คําพูดปลอบใจที่ไมรูวาจะเปนจริงหรือเปลาทําใหใจชื้น
ขึ้น....มันคงไมเลวรายไปกวานี้แลวละ

ผมหลับไปไมนาน อาการอึดอัดจนแทบหายใจไมออกทําใหรูสึกตัวตื่น รางกายหนักอึ้ง อาการปวดระบมเหมือนจะมาก


กวาเดิม ยิ่งนานยิ่งรูส ึกเหมือนขาดอากาศหายใจ

“...ชะ...ชวยดวย.....”เสียงแหบพราที่พูดออกมาเบาจนตัวเองยังแทบไมไดยิน ผมควานหาสิ่งของใกลมือจนพบแกวน้ําที่หัว
เตียง หยิบมาไดก็ขวางไปดานหนาสุดแรง ขอใหมันกระทบกับอะไรก็ได...ขอใหเกิดเสียงดังมากพอที่พวกมันจะไดยิน
เพลง!!!

เสียงมันดังกวาที่ผมคิดเอาไว เหมือนกับกระทบกระจกบานใหญจนแตกกระจาย เสียงมันดังจนทําใหคนขางนอกเปดประตู


เขามาอยางรวดเร็ว

“เฮย!! ทําเหี้ยไรวะ ตูเสื้อผากูพังหมด”คนที่เขามาไมใชคนที่ผมอยากใหเปน ผมไมแนใจวาคนแบบมันจะมีความสงสารให


ผมหรือเปลา

“.....เปนไร.....หายใจไมออกเหรอวะ”เสียงฝเทาเดินเขามาใกล ผมพยักหนารับ อาการอึดอัดแบบนี้ไมไดเปนนานแลว หาก


ผมไมไดกินอาหารบางอยางเขาไปคงไมแพหนักขนาดนี้…ผมคงหิวและรีบกินมากจนไมรูตัววาเคี้ยวอะไรไป...ขาวผัด...อา
....ผมแพพืชจําพวกถั่วนี่นา....ขาวผัดทีก่ ินไปคงจะมีมันผสมอยูดวย.....หึหึ....นึกวาจะไมมีอะไรเลวรายลงแลวซะอีก.....ที่
ผมยังซวยไมพอหรือไง

“เฮย ทําไมผื่นขึ้นขนาดนี้วะ ซวยแลวมั้ยละ”เสียงมันโวยวายดังจนไดยินฝเทาหลายคนวิ่งมาดานใน ผมควานมือ


สะเปะสะปะเพื่อระบายอาการอึดอัดที่เกิดขึ้น

“ไปสตารทรถสิวะ จะปลอยใหมันตายหรือไง”เสียงคนที่ผมอยากไดยินดังใกลๆ ตัว ออมแขนแกรงอุมผมขึ้นมา อยางนอย...


คนๆ นี้ก็คงจะดีกวาคนอื่น...เขาคง..ไมปลอยใหผมตายแนๆ

เสียงคนวิ่งตะโกนอยางตกใจ ผมถูกอุมลงบันไดหลายขั้น ฝามือชื้นเหงื่อกําเสื้อตัวเองไวแนน ไอแดดและแรงลมดานนอก


กระทบผิวทําใหตองหอตัว พิษไขกับอาการหายใจไมออกตีกันจนไมรูวาอาการไหนหนักกวา ครูเดียวผมก็นอนนิ่งอยูหลังรถ
เสียงลอบดถนนเมื่อออกตัวทําใหใจชื้น ถาผมถูกนําตัวไปรักษา...ผมก็จะรอดสินะ...ผม......รอดแลว

ตอนที่ 3

ฝามืออุนสะกิดตนแขนเบาๆ ผมคอยๆ หรี่ตาขึ้นมามอง แสงไฟสีขาวสวางแสบตา ผมใชเวลาปรับสายตาเพียงครูก็สามารถ


มองบรรยากาศรอบตัวไดเต็มที.่ . ..ที่นี่...คงเปนโรงพยาบาลสินะ.เตียงคนไขคอนขางจะหรูหรา บรรยากาศในหองก็บงบอก
ถึงราคาที่แสนแพง หองพิเศษแบบนี้ราคาคืนละเทาไหรกัน...ผม..จะมีปญญาจายไหวไหมเนี่ย

“ขอวัดไขหนอยนะคะ”เสียงพยาบาลที่ปลุกผมบอก ผมขยับแขนใหปรอทวัดไขสอดเขามาไดสะดวก มือขางที่ไมมีสายน้ํา


เกลือกําลังถูกวัดความดัน
“....ที่นี่โรงพยาบาลอะไรครับ”

“ไมใชโรงพยาบาลหรอกคะ แคคลีนิคนะ”พี่พยาบาลเก็บอุปกรณทั้งหมดเสร็จก็เดินไปเปดมานใหเห็นบรรยากาศดานนอก
....ผม...อยูที่ไหนกัน

ทุงดอกทานตะวันดานนอกบานสะพรั่งรับไอแดด ทองฟาใสตัดกับสีเขียวเขมของทิวเขา บรรยากาศดานนอกสวยงามอยาง


ที่ไมเคยเห็น แตนอกเหนือจากนั้น...ที่ไหนกัน...จะมีปาเขารายลอมแบบนี้

“เออ...พี่ครับ...ที่นี่ที่ไหน..คือ จังหวัดอะไรครับ”

“สระบุรีไงจะ อืม...อาการนองไมมีอะไรแลว มีไขเล็กนอย ความดันปกติ รายอะเอียดที่เหลือรอคุณหมอมาบอกเองแลวกัน


นะ”พี่พยาบาลเดินไปปดไฟกอนจะออกจากหอง หากยังปดมานไวผมคงคิดวาที่นี่เปนโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ แนๆ

บรรยากาศเงียบสงบทําใหรูสึกปลอดโปรงขึ้น แตอาการเจ็บปวดทางรางกายยังคงหลงเหลือไว....ผม...ยังไมตาย....นี่คง
เปนโชคดีอยางเดียวที่ผมเหลืออยู ตอใหพบเจอเรื่องเลวรายขนาดไหน แตผมก็ยังมีชีวิตอยู....ยังคงจดจําเรื่องราวตางๆ ได
ดี.....จะรูสึกดีกวานี้มั้ยถาเหตุการณที่ผานมาเปนเพราะการจับผิดตัว....แตก็นั่นละ....จะผิดไดอยางไร ในเมื่อมันเรียกชื่อผม
เสียเต็มสองหู....แตก.็ ..ชางมันเถอะ....ยังไงมันก็ผานมาแลว....ตอใหรูเหตุผลแลวยังไง....แกไขอะไรไดเหรอ

ผมนอนดูทีวีสักพักก็มีคุณปานําอาหารเที่ยงมาให ผมกินไปจนหมด รอจนบายสองโมงกวาๆ หมอถึงมาตรวจ ดูจากหนาตา


แลวคงอายุประมาณสามสิบ

“อาการแพไมมีแลวนะครับ เหลืออาการไขอยูนิดหนอย พรุงนี้ก็คงหาย บาดแผล...อื่นๆ ก็ดีขึ้นแลว เวลาขยับตัวนองอาจ


เจ็บอยูบาง ชวงนี้ก็ทานอะไรที่ยอยงายๆ ไปกอนนะครับ”คําอธิบายอาการของหมอหนุมทําเอาผมหนาชา ถึงจะไมระบุวา
บาดแผลสวนไหน แต...ก็รูดีอยูแกใจ

“ผม...มาอยูที่นี่ไดไงครับ”

“เออ....มีคนเอานองมาสงไวที่หนาคลีนิคนะ แตไมมีคนเห็น พานอง....ทิ้งไวหนาคลีนิคแลวก็ออกรถไป มีเรื่องอะไรกันเหรอ


อยากแจงความมั้ย เดี๋ยวหมอเรียกตํารวจมาที่นี่ให”ยังดีที่พวกมันไมเอาผมไปทิ้งในปา อยางนอยก็ยังมีความเปนคนอยู
สินะ

“....ผมจําหนา...ไมสิ ผมไมเห็นหนาพวกมันสักคนเลย แลว....ผมก็ไมกลาแจงความดวยครับ”

“อืม...หมอเขาใจ ถามีอะไรใหหมอชวยก็บอกไดนะ”
“หมอ...ตรวจเลือดใหผมหนอยไดมั้ยครับ....ตรวจโรคนะ”คําขอรองของผมทําใหดวงตาหมอเบิกกวางอยางตกใจ กอนจะ
ปรับสีหนาที่บงบอกวาเห็นใจและสงสารผมแทน ถาผมติดโรคจากพวกมันละ ผมจะโชครายถึงขั้นนั้นมั้ย ยิ่งคิดก็ยิ่งรูสึก
สะอิดสะเอียน

หมอจะใหพยาบาลมาเจาะเลือดและน้ําลายผมไปตรวจตอนเย็น ผมถามหมอถึงที่ๆ ผมอยู ที่นี่เปนคลีนิคที่ติดกับรีสอรท


คนปวยบางสวนจะเปนนักทองเที่ยวที่มาที่นี่ การตกแตงจึงคอนขางหรูหราตามรีสอรทไปดวย

“ทิวเหรอ นี่พายนะ”ผมใชโทรศัพทในหองพักโทรไปหาเพื่อนสนิท ไมไดไปเรียนสามวัน มันคงเปนหวง ปกติถึงผมจะไมใช


เด็กรักเรียนอะไรมาก แตก็ไมเคยขาดโดยไมบอกมันกอน

“พายหายไปไหนมาวะ ทําไมไมมาเรียน วันนี้มีเทสตยอยดวยนะ”เสียงบนแกมหวงดังจากปลายสาย ผมอมยิ้มนอยๆ ให


ความโชคดีเล็กๆ ที่ไดมีเพื่อนแบบทิว

“โทษที พอดีไมสบายนิดหนอยนะ กลัวจะตกใจเลยโทรมาบอก ไปบอกอาจารยใหหนอยสิวากลับไปแลวจะขอสอบทีหลัง”

“เดี๋ยวจะลองไปคุยให ไมรูแกจะยอมหรือเปลานะ แลวนี่ไมสบายหนักมั้ย เสียงแปลกๆ”

“อืม ก็ดีขึ้นมากแลว ไมตองหวงนะ ตอนนี้อยูตางจังหวัดดวย อีกสองสามวันจะกลับ ฝากลาดวยนะ”

“เฮย ไปตั้งแตเมื่อไหร มีอะไรหรือเปลา บอกมาตรงๆ ดีกวา”

“ไมเปนไรจริงๆ มันกระทันหันนะ ไวเจอกันที่มหาลัยแลวกัน แคนี้กอนนะ”ผมรีบวางสายไป กลัวทิวจะจับพิรุธผมได มันรูดี


วาผมไมคอยมีญาติที่ไหนใหไปมาหาสู พอผมเคยรับราชการแตก็เสียชีวิตไปหลายปดวยโรคที่เกิดจากความไรสติ ไรความ
รับผิดชอบ พอดื่มจัดและสูบจัดในปริมาณที่เทาๆ กัน ไมแปลกใจเลยที่จะเปนโรคตับและถุงลมโปงพอง แมผมก็เปนแคชาง
ตัดเสื้อในรานเล็กๆ และทําขนมสงตามรานขายของชําในหมูบาน หนี้สินจากคารักษาพยาบาลของพอทําใหครอบครัวผม
ขัดสนมากกวาเดิมอีกเทาตัว โชคดีที่ผมไมมีนอง...ไมงนั้ แมคงลําบากมากกวานี้

“ขอบคุณหมอมากนะครับ ไวผมกลับไปถึงบานแลวจะสงเงินคารักษามาคืนให รวมทั้งเงินที่ยืมนี่ดวย”ผมพักอีกแคคืนเดียว


ก็ไดกลับบาน ทั้งเนื้อทั้งตัวไมมีอะไรที่เปนของผมเลย เสื้อผาที่ใสอยูก็ไดหมอนพ คนที่รักษาผมเปนคนแบงปนเสื้อผาตัวเอง
มาให รวมทั้งเงินอีกหนึ่งพันบาทเพื่อเปนคาเดินทาง หมอขับรถมาสงผมที่ทารถ

“ไมเปนไรหรอกพาย ชวยไดก็ชวยๆ กันไป สวนเรื่องผลตรวจนะ...จะสงไปใหทีหลังนะ”


“ครับ ขอบคุณนะครับ”ผมยกมือไหวอีกครั้ง รถบัสสีน้ําเงินเขามาจอดที่ทารถ ผมไหวหมออีกครั้งกอนจะหันหลังแลวเดินขึ้น
รถ ภายในสามวันที่ผานมา...ผม...ไดพบทั้งคนที่เลวรายจนไมคิดวาจะมีคนเลวไดถึงเพียงนี.้ ..และไดพบ...คนที่ด.ี ..ดีกวา
ใครหลายคนที่เคยเจอ.....ถาผมหัวเราะเยาะใหกับความโชครายของตัวเอง...ผมก็คงตองรองไหกับความโชคดีนี้เชนกัน

ตั้งแตขึ้นรถมา ผมนั่งหลับตาตลอดทาง ตอใหทัศนียภาพรอบดานจะสวยงามเพียงใด....ผมก็ไมอยากจดจํา ระยะทางจาก


สระบุรีถึงกรุงเทพใชเวลาไมนาน ผมลงจากรถไดก็นั่งรถเมลกลับหอพัก หองผมอยูชั้นหก สุดทางเดิน ราคาหองไมไดเพิ่ม
จากหองอื่น เพราะหองผมติดกับชองทิ้งขยะ ถึงแมจะกวางกวาหองอื่นนิดหนอย แต...นอยคนที่จะอยากอยูตรงนี้

“อาวพาย หายไปไหนมาตั้งหลายวัน”เสียงรองทักจากเพื่อนขางหองที่เปดประตูออกมาพอดี

“ไปตางจังหวัดนะ แลวนุไมไปทํางานเหรอวันนี้”

“ไปสิ กําลังจะออกไปนี่แหละ พายรอแปปนะ”นุเดินกลับเขาไปในหองกอนจะเดินออกมาพรอมถุงองุนในมือ

“เพื่อนมันเอามาฝากเต็มเลย กินไมหมดนะ แบงไปนะ”นุยื่นถุงองุนแดงมาตรงหนา ผมรับมาพรอมสงรอยยิ้มใหเพื่อนผูใจดี

“โอะ สายแลว ไปกอนนะ ไวคอยคุยกัน”นุรีบวิ่งไปที่ลิฟต ผมยิ้มพลางสายหัวกอนเดินเขามาดานใน แสงไฟที่เปดขึ้นทําให


เห็นบรรยากาศในหองชัดขึ้น ทั้งหองมีเพียงเตียงนอน คอมพิวเตอร พัดลมและตูเสื้อผา ทรัพยสินเพียงอยางเดียวที่ผมเปน
เจาของคือคอมพิวเตอรที่ทํางานเก็บเงินซื้อตั้งแตเรียนปหนึ่ง....ทํางาน.....อา....ใหตายเถอะ ผมขาดงานเกินสามวันโดย
ไมไดแจงลวงหนา....ผมคงถูกไลออกแลวแนๆ ริมฝปากแยมยิ้มเยาะตัวเองอีกครั้ง ไมวาจะพบเจอเหตุการณเลวราย
เพียงใด....ก็คงทําไดแคยิ้มเยาะตัวเองเงียบๆ

ผมจัดการเก็บกวาดหองที่ไมไดอยูมาสามวัน เก็บเสื้อผาไปซัก จากนั้นก็นั่งอานหนังสืออยูบนโตะ หากพรุงนี้อาจารยใจดีให


ผมสอบก็คงดี หวังวาใบรับรองจากหมอนพคงจะชวยใหอาจารยใจออน

“ทิวอาจารยวาไงบาง”รุงเชาผมรีบเดินมาหาทิวที่โตะประจํา

“ก็ถาปวยจริง มีใบลามายืนยันเขาก็จะใหสอบ ความประพฤติดีก็อยางนี้แหละ เปนคนอื่นอยาหวัง”

“เฮอ...นึกวาจะอดสอบซะแลว”ผมนั่งลงขางๆ พรอมถอนหายใจอยางโลงอก ผมวาไมใชเพราะตัวผมหลอกที่ทําใหอาจารย


ใจออน แตเปนเพราะหนาและคารมยมันตางหากที่ทําใหทุกคนใจออนกับมัน หนาตาดี การเรียนเดน แถมยังรวยอีก

“ไปทําอะไรมา ทําไมหนาเปนแบบนี้”ทิวเอื้อมมือมาใกลหนาผม แตผมปดออกดวยความตกใจ อาการตื่นกลัวจาก


เหตุการณที่เกิดขึ้นยังหลอกหลอนผมอยูลึกๆ ใครก็ตามที่สัมผัสตัวผมโดยไมบอกลวงหนาจะไดรับการผลักไสแบบนี้ตลอด
ผมเริ่มกลัวการสัมผัสจากผูชายคนอื่น
“เออ...ขอโทษ...พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหนอยนะ..เราเอาใบรับรองแพทยไปสงอาจารยกอนนะ เจอกันบนหอง”ผมรีบเก็บ
หนังสือแลวเดินจากมา พยายามขมอารมณตัวเอง มือจับกระเปาไวแนน ถึงรูวานั่นคือมือของเพื่อนรัก แตเพราะไมทันไดตั้ง
ตัว มองเห็นอีกทีก็มีมือมาอยูตรงหนา มัน....ไมไวใจ....บางทีผมอาจจะตองไปพบจิตแพทย

ผมรีบไปหาอาจารยที่หองพัก ความบอบช้ําบนใบหนายังเหลือรองรอยใหเห็น อาจารยแทบไมมองใบรับรองแพทยก็


อนุญาติใหผมสอบไดทันที ผมใชเวลาสอบรวมชั่วโมงก็เสร็จ เดินไปหองเรียนเมื่อเห็นวาสายแลว ทิวจองที่นั่งขางๆ ไวใหผม
เหมือนทุกวัน เพื่อนๆ ในหองมองหนาผมดวยความตกใจ ตลอดคาบที่นั่งเรียนผมอึดอัดมาก ความกลัวและหวาดระแวง
รอบขางมีมากกวาที่คิดไว ผมนั่งกมหนามองหนังสือบนโตะ มือกําปากกาไวแนนจนแทบหัก น้ําตาปริ่มขอบตาดวย
ความรูสึกที่ยากจะบรรยาย.....ผมกลัว....เสียงผูชายที่คุยซุบซิบกัน....กลัว...ฝามือของคนอื่นที่สัมผัสโดนตัวผมแบบไม
ตั้งใจ...หากวา...วีดโี อที่พวกมันถายไวมีคนอื่นไดดูละ พวกนี้ทําลังคุยกันเรื่องผมหรือเปลา เสียงซุบซุบรอบขางเหมือนจะดัง
ขึ้นจนจับใจความไมได.....ความอดทนสิ้นสุดลงเมื่ออาจารยสอนเสร็จ ผมรีบเก็บของทุกอยางยัดลงในกระเปาแลววิ่ง
ออกไปนอกหอง หองน้ําที่ใกลที่สุดคือสิ่งเดียวที่อยากไป ผมรีบเปดกอกน้ําลางมือและแขนตัวเองที่สัมผัสโดนตัวคนอื่น
ความรูสึกรังเกียจและขยะแขยงแลนขึ้นมาจุกอก...ที่ขยะแขยงที่สุดก็คือรางกายตัวเอง ผมโกงคออาเจียนเอาทุกอยางลงใน
โถ เสียงผูคนเดินเขามาในหองน้ําทําใหตองรีบปดประตูแลวยืนพิงอยางเหนื่อยหอบ น้ําตาไหลอาบรองแกม เสื้อเปยกปอน
ไปหมด...ผม...กําลังเปนบา

ตอนที่ 4

การเรียนชวงบายคงยากที่จะอดทนเขาไปนั่งไดอีก ผมสงขอความไปบอกทิวใหเช็คชื่อแทนแลวปดโทรศัพททันที ภายใน


หองที่มีแสงแดดสวางสาดสองเขามาจนแทบรอนระบุ แตผมยังคงเปดไฟใหสวางเพิ่มขึ้นอีก...บางที...ผมคงกลัวความมืด
ไปแลว

“.....หมอครับ...ผม...พายนะครับ จําผมไดมั้ย”

“จําไดสิ มีอะไรหรือเปลาครับ”

“คือ....ผม....เออ..หมอพอจะมีเพื่อนที่เปน....จิตแพทยบางมั้ย...ผมคิดวา...ผมกําลังเปนบา”

“.....พาย”เสียงหมอนพครางเครือดวยความหวงใย ภายนอกผมดูเปนคนเขมแข็ง ผมเองก็คิดวาตัวเองเขมแข็ง แต....ตอนนี้


ไมใชแลว....จิตใจมันไดรับการกระทบกระเทือนกวาที่ผมคิดไว

“หมอ.....ผมกลัว....ผมอยากคุยกับจิตแพทย ขอเปนผูหญิงนะครับหมอ”
“พายใจเย็นๆ นะ เลาอาการใหหมอฟงไดมั้ย”หมอพยายามพูดปลอบใจ ผมเริ่มเลาอาการที่ผิดปกติของตัวเองใหหมอฟง
หมอใหเบอรติดตอเพื่อนที่เปนจิตแพทยมา เขาบอกวาจะโทรไปเลาเรื่องคราวๆ ใหฟงกอน และจะขอเวลาเปนการสวนตัว
ให

ผมนั่งกอดตัวเองอยูบนเตียง บางทีผมคงทํากรรมอะไรไวถึงไดโชครายแบบนี.้ ..แตจะดีกวานี้มั้ย ถาผม...ตายไป....หรือเปน


บาไรสติ....คงดีกวานี้ถาผมไมสามารถรับรูอะไรได แตน.ี่ ..สติผมยังอยูดี รับรูถึงความกลัวคนรอบขาง หวาดระแวง และ
รังเกียจ...ความรูสึกตางๆ ที่เกิดขึ้นจะทําใหผมเปนบา

รุงขึ้นเปนวันเสารพอดี ผมตรงไปคอนโดของหมอหนอย เพื่อนที่หมอนพแนะนํา ทันทีที่แจงกับเจาหนาที่ดานลางและแลก


บัตรก็สามารถเขามาดานในได ผมยืนอยูในลิฟตตัวใหญเพียงลําพังไดไมกี่ชั้น ประตูลิฟตก็เปดออก มีคนเขามาในลิฟต
กลุมใหญ การแตงกายเหมือนเพิ่งขึ้นมาจากสระน้ํา ผมกลั้นหายใจ กํามือแนนเมื่อตองเบียดตัวเองชิดกับผนังลิฟต จํานวน
คนที่เพิ่มขึ้นทําใหตองสัมผัสผูอื่นอยางเลี่ยงไมได เหงื่อในมือชุมชื้น ความรูสึกอยากอาเจียนกลับมาอีกครั้ง ผมภาวนาให
ลิฟตไปถึงชั้นที่ตองการโดยเร็ว....เปนครั้งแรกที่คําภาวนาเปนผล

ออดดด ออดดดด ออดดดด

ผมกระหน่ํากดกริ่งหนาหองอยางไมปราณี มือที่ปดปากตัวเองไวเพื่อยับยั้งความรูสึกขางในที่กําลังจะพุงออกมา ประตูเปด


ออกใหเห็นผูหญิงรูปรางสูงโปรงในชุดลําลอง ทันทีที่เธอเห็นหนาผมก็รีบเปดประตูออกกวางและชี้ไปที่ประตูหองน้ําใกลๆ

น้ําผลไมกับขนมปงที่กินไปเมื่อเชาถูกขยอนออกมาจนหมด ผมลางมือลางแขนของตัวเองจนแดงเปนปน กวาจะทําใจเปด


ประตูออกมาดานนอกก็ใชเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง

“คอยยังชั่วแลวใชมั้ย ไปนั่งดานในกัน”หมอหนอยยืนรออยูหนาหองน้ําและเดินนําผมเขาไปดานใน

“ดื่มซะหนอยจะไดรูสึกสดชื่นขึ้น”หมอเลื่อนจานเคกผลไมกับโกโกรอนมาตรงหนา ผมทิ้งตัวลงบนเบาะนุมฝงตรงขาม

“....ขอโทษนะครับ..”มันคอนขางเสียมารยาท ที่อยูๆ ใครก็ไมรูมาอาเจียนในหองตัวเอง ผมรูสึกแยมากที่เปนแบบนี้

“ไมเปนไรจะ กินเถอะ”หมอเลื่อนแกวมาใกลผมอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็หยิบแกวกาแฟขึ้นดื่มเปนการชี้นําใหผมทําตาม


รสชาดหอมหวานปนขมใหความรูสึกสดชื่นขึ้น เคกผลไมรวมรสเปรี้ยวอมหวานทําใหกระปรี้กระเปรา

“ขอบคุณนะครับ”

“ไมเปนไรจะ นองชื่อพายใชมั้ย”
“ครับ เออ หมอนพไดเลาเรื่องผมใหฟงแลวใชมั้ย คือ...เรื่องคารักษา... หมอ..จะวาอะไรมั้ยครับถาผมจะขอผอน...ตอนนี้
กําลังหางานใหมอยูนะครับ”

“เรียกวาพี่หนอยก็ไดจะ คารักษาไมตองหรอก ถือวาชวยเหลือกัน เรื่องเงินพี่ไมไดลําบากอะไร”

“แตผมเกรงใจ”

“งั้น...ตอนนี้พายเรียนอะไรอยู”

“เศรษฐศาสตรครับ”

“อืม...พอจะทําบัญชีไดมั้ย”

“ก็ไดบางครับ พี่หนอยจะใหผมทําอะไรเหรอ”

“เอาอยางนี้ พายทําบัญชีใหพี่แลวกัน จะไดไมตองจายคารักษา”

“ก็ไดครับ พี่จะใหเริ่มทําเมื่อไหรบอกผมไดเลยนะครับ”

“จา อืม...อาการพายนะ เทาที่ฟงๆ มา พายจะเกิดอาการก็ตอเมื่อคนนั้นเปนผูชายใชมั้ย หรือวาผูหญิงก็ดวย”

“เฉพาะผูชายครับ แตถาเปนคนสนิท ก็ไมมากเทาไหร ถาจะจับตัวผมแบบที่ผมเห็นหรือบอกกอน ก็ไมเปนไร”เทาที่ผม


สังเกตตัวเอง ตลอดเวลาที่อยูคลีนิคหมอนพ ถาหมอจะตรวจรางกายผม ผมรูตัวกอนก็ไมเปนไร แตพอกลับมานี่...มันเลี่ยง
คนเยอะๆ และการถูกเนื้อตองตัวไมได

“ผมคอนขางตกใจกลัวงายๆ กับคนรอบขาง เสียงคนพูดเวลาไมเห็นหนา หรือสัมผัสจากคนไมรูจักนะครับ....มันทําให


อยากอวกตลอดเลย”

“งั้น...พี่ขอจับมือพายนะ”พี่หนอยแบมือตรงหนาผม ผมก็มองอยางชั่งใจ ไมคอยมั่นใจเหมือนกันวาจะไมเกิดอะไร แตก็ลอง


วางมือตัวเองลงเบาๆ ทันทีที่มือสัมผัสกัน พี่หนอยบีบมือผมเบาๆ ทําใหรูสึกคลายกังวล

ตลอดวันผมนั่งคุยกับพี่หนอยเรื่องชีวิตผม ครอบครัว วัยเด็ก เรื่องเพื่อน เรื่องเรียน การคุยเรื่องทั่วไปกับคนไมคุนเคยเปน


เรื่องยาก แต...ผมรูสึกวางใจคนๆ นี้
หลังจากคุยกับพี่หนอยทําใหผมสบายใจมากขึ้น อยางนอยก็ยังมีคนเขาใจผม รับฟงปญหาผมและบอกวาผมไมไดบา พี่
หนอยบอกวาเปนอาการตอบสนองจากเหตุการณที่เกิดขึ้น อาจจะไมเปนตลอดไป ตองคอยๆ แกไข อยางแรกเลยตองปรับ
จิตใจตัวเอง ตั้งสติไว ตองระลึกไวเสมอวาเหตุการณเหลานั้นผานมาแลว และตอนนี้...ผมปลอดภัยแลว

ตลอดทั้งสัปดาห การดําเนินชีวิตผมเปลี่ยนไปนิดหนอย ผมหลีกเลี่ยงการใชลิฟต และหากจําเปนผมก็จะพยายามไมอยู


รวมกับคนจํานวนมาก ถาเห็นวามีคนเขามาเยอะ ผมก็จะเดินออก เสียงพูดคุยดานหลังไมทําใหผมหวาดระแวงอีก เพราะ
ทุกครั้งหากมีเสียงอยูร อบๆ ตัวผมจะตองหันไปมองเพื่อใหรูวาเปนใคร บางครั้งก็รวมวงสนทนาดวย

“พาย...ทิวถามจริงๆ นะ พายดูแปลกๆ ตั้งแตกลับมาจากตางจังหวัด....เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพาย บอกทิวไดมั้ย”ทิวถาม


ระหวางนั่งกินขาวในโรงอาหาร

“ไมมีอะไรหรอก”

“ไมจริง ชวงนี้พายดูเครียดๆ ดูกังวลอะไรสักอยาง”

“อืม...ตอนนี้ตกงาน เครียดเรื่องงานนี่แหละ”

“อาวเหรอ ทําไมไมบอกทิวละ เดี๋ยวทิวชวยหา พายอยากไดงานแบบไหน”

“งานอะไรก็ได แตอยากไดเงินเยอะหนอยนะ จะเอาไปซื้อโทรศัพทดวย”โทรศัพทผมหายตั้งแตวันนั้นแหละครับ บัตรตางๆ


ก็หาย จะไปทําใหมก็ตองใชเงิน ตอนนี้เลยอายัดไวอยางเดียว จะถอนเงินทีก็ตองไปที่ธนาคาร

“ซื้อใหมก็ดี ชวงนี้ติดตอลําบาก เอาอยางนี้มั้ย พายไปเปนแคชเชียรที่รานเดียวกับเราก็ได เห็นพี่เขาหาคนชวยอยู เลิกดึกๆ


จะไดกลับพรอมกัน”ทิวเปนนักรองที่รานอาหารเล็กๆ มันกับเพื่อนรวมหุนกันเปดราน แลวก็เอาวงตัวเองมาเลน ใหพี่สาวมา
เปนผูจัดการและทําบัญชีของราน กําไรคงไดเยอะพอควร หนาตาก็ดี เรียนเกง บานรวย ทํางานเกงอีกตางหาก ผมละอิจฉา
มันจริงๆ

ผมตกลงทํางานที่รานทิว ตองทํางานสัปดาหละหาวัน จะหยุดวันไหนก็ไดยกเวนศุกร เสาร อาทิตย เพราะลูกคาเยอะ พี่สาว


มันทําคนเดียวไมไหวแลว ผมตองเริ่มงานพรุงนี้ เลิกเรียนแลวก็ไปพรอมทิวเลย

“อยางนี้นุก็ไมไดเจอพายบอยๆ แลวสิ”นุนั่งบนอยูบนเตียง ในขณะที่ผมนั่งเปดคอมพิวเตอรพิมพรายงานที่ตองสง งานเกา


ที่ทําคือพนักงานรานเชาวีซีดี รานที่ผมเคยทําอยูใกลๆ กับรานอาหารที่นุทําอยู เมื่อกอนเลยไปกลับพรอมกัน แตตอนนี้คง
เจอกันไดนอยกวาเดิม นุอายุเทาผม แตไมไดเรียนมหาลัยเดียวกัน นุเปนคนตางจังหวัด อัธยาศัยดี พูดเพราะ ยิ้มเกง เวลา
กลับบานตางจังหวัดทีไรก็มักจะมีของฝากมาใหเสมอ
“หองอยูติดกันแคนี้ ไมเจอกันก็บาแลว”

“โหย พายนะ ไปทํางานกับเพื่อน สวนนุตองทําคนเดียว เวลากลับก็กลับคนเดียว อยางนี้เขาเรียกทิ้งเพื่อนนะ”นุบนออกมา


พรอมยนจมูกใสผมดวย กริยาของนุนารักกวาผูชายทั่วไป บางครั้งผมก็ชอบแหยใหนุเขินอาย นุก็ตอบโตอะไรไมคอยได ทํา
ไดแคสะบัดหนาหนีหรือโยนหมอนใส

“ทําไม เหงาเหรอ คิดถึงพายก็มาหาที่หองสิครับ”เวลาผมพูดทํานองนี้ทีไร นุมักจะหนาแดงทุกที

“..บะ..บา...ไมตองมาแซวเลย ไมรูละ ถึงทํางานคนละที่กันก็ตองไปกินขาวดวยกันบอยๆ ชดเชย ไมงั้นจะไมเอาของฝากมา


ใหกินอีกเลย”นั่นไง ขูอะไรก็ไมรู เห็นผมเปนคนเห็นแกกินไปได

“ครับๆ จะพาไปดินเนอรดวยบอยๆ เลย พอใจยังครับ”ผมแกลงพูดหวานพรอมขยิบตาให แคนี้นุก็ทําหนาไมถูกแลว ถึงผม


จะรูวานุเปนแบบไหน แตผมก็ไมรังเกียจ

“ไอบาพาย ไมตองมาสงสายตาแบบนี้เลยนะ ทํางานไปเลย นุจะกลับหองแลว”นุเดินกระฟดกระเฟยดออกจากหอง ปลอย


ใหผมนั่งหัวเราะอยูคนเดียว เวลาคุยกับนุทําใหสบายใจดีครับ รูสึกวาเขาไมมีพิษมีภัย ไมมีวันจะทํารายใครไดแนๆ

วันรุงขึ้นผมโทรไปเลาเรื่องงานใหมใหพี่หนอยฟง พี่เขาก็บอกวาใหตั้งสติใหดี อยูในที่คนพลุกพลานก็อยาคิดมาก คน


เยอะๆ สิปลอดภัยกวา และยังมีคนรูจักอยูใกลๆ ผมไดยินพี่เขาใหกําลังใจก็รูสึกดีขึ้น ทํางานเปนแคชเชียรก็ไดอยูแต
เคานเตอรคิดเงิน ไมตองเดินไปสัมผัสตัวกลับใคร ผมคงไมเปนอะไรมาก

ทิวขับรถพาผมมาที่ราน ครั้งแรกทีเ่ ห็นผมแทบจะหันไปดามัน ไหนมันบอกวารานเล็กๆ แตนี่ไมเล็กเลย มีทั้งที่นั่งดานใน


และดานนอก แถมมีชั้นสองอีก มินาพี่สาวมันถึงบนวาทําคนเดียวไมไหว

“พี่ธาร นี่พายเพื่อนทิว ฝากดูแลดวยละ”ทิวพาผมเดินเขามาดานใน พี่สาวทิวสวยมาก บานนี้คงหนาตาดีทั้งบาน

“สวัสดีครับ”ผมยกมือไหวพี่ธาร จําไมไดวาอายุมากกวาทิวเทาไหร แตคิดวาไมเกินสี่ปแนๆ

“สวัสดีจะนองพาย มารยาทเพื่อนแกนี่ดีเนอะ ไมเหมือนแก เจอหนาฉันเหมือนเปนหัวหลักหัวตอ มือไมนี่ไมเคยจะยกขึ้นมา


ไหวพี่มันนะ”เขาวาคนสวยใจดีนี่คงไมจริง พี่ธารคอนขางดุใชไดเลยครับ

“วาแตผม ทีเวลาพี่เจอพี่ธรไมเห็นเคยไหวเลย”ทิวหมายถึงพี่ชายคนโตของมัน มันเปนลูกคนเล็กครับ พี่คนโตรูสึกวาจะ


แตงงานมีครอบครัวไปแลว

“ไมตองมายอนเลย ไปๆ เพื่อนแกเขาอยูในหองโนน”


“ไปก็ได พายอยูกับพี่ธารนะ มีอะไรไปเรียกเราก็ได เราอยูหองดานหลังเวทีนะ เขาไปไดตลอดเลย”ทิวชี้ไปที่เวทีเล็กๆ
ดานหนา

หลังจากทิวไปพี่ธารก็สอนการใชโปรแกรมคิดเงินใหผม โปรแกรมใชคอนขางงาย ไมซับซอน ผมลองคิดเองสักสีห่ าโตะพี่


ธารก็ปลอยใหทําคนเดียว สวนเขาขอไปดูแลลูกคา การทํางานไมยุงยากเลย เด็กเสิรฟที่จดรายการอาหารจะเปนคนนําใบก็
อปปที่เขียนไปยื่นใหหองครัว และอีกกอปปก็จะนํามาใหผมคํานวณเงินไว ถาลูกคาเช็คบิลก็สามารถปริน๊ ทใบเสร็จออกมา
ไดเลย

รานนี้ปดตอนเที่ยงคืน หลังจากลูกคาออกไปจนหมด พนักงานสวนใหญก็จะกลับ บางคนที่คางที่นี่ก็ทําหนาที่ทําความ


สะอาดราน สวนกลุมนักดนตรีของทิวก็นั่งกินขาวกอนกลับครับ ผมเองก็เปนสวนหนึ่งในนี้ดวย

“พาย นี่ตอ โบ ศักดิ์ จิ๋ว เพื่อนตั้งแตเรียนมัธยมนะ”ทิวแนะนําเพื่อนๆ มันใหรูจัก

“ดีครับ”ผมสงยิ้มทักทายรอบๆ คงรุนเดียวกันหมด

“เชี่ยทิว กูชื่อแจ็ค ไมไดชื่อจิ๋วซะหนอย พายอยาไปเรียกตามพวกมันนะ”จิ๋วรองบอกชื่อจริงเปนพัลวัน ผมอมยิ้มขําๆ ก็ชื่อ


แจ็คมันไมสมตัวเลยนี่ครับ ตัวเล็กกวาผมตั้งเยอะ นาจะสูงประมาณรอยหกสิบดวยซ้ํา

“เพื่อนมึงหนาตาดีนี่หวา ไมเห็นเคยพามาแนะนําใหรูจัก”ตอมองหนาผมยิ้มๆ คําพูดแปลกๆ ทําใหผมขนลุกและเกิดอาการ


หวาดกลัวขึ้นมานิดหนอย

“เพื่อนกูเขาเด็กเรียนเวย ไมใชพวกขี้เมาแบบมึง พามาไดเสียคนหมด”

“เชี่ย มีของดีแลวซุม”

“ไอตอหุบปากไปเลย ขาวมีใหแดกก็แดกไป พายไมตองสนใจปากมันนะ มันปากหมาเปนปกติอยูแลว”คําพูดทิวทําใหผม


ใจชื้นขึ้น อยางนอยก็แคแซวเลน ไมไดเปน....เหมือนพวกนั้น

“ทั้งเรียนทั้งทํางานแบบนี้จะมีเวลาใหแฟนเหรอพาย”จิ๋วพยายามชวนผมคุยใหบรรยากาศดีขึ้น

“เรายังไมมีแฟนหรอก”

“จริงดิ หนาแบบนี้นี่นะไมมีแฟน โกหกหรือเปลา”ศักดิ์มองผมแบบไมเชื่อ


“จริงๆ พายนะไมมีแฟนตั้งแตเรียนปหนึ่งแลว มัวแตเรียนกับทํางาน ผูหญิงเขามาจีบยังไมคอยสนใจเลย แตละคนสวยๆ
ทั้งนั้น

ตอนที่ 5

“พี่วาพายอยาหนีเลย อดทนหนอย คนแบบนี้มีอยูทุกที่ เขาคงแคพูดแซวเลนเพราะเห็นพายหนาตานารัก แตถึงเขาเอาจริง


พายก็อยากลัว เราไมไดอยูตรงนั้นคนเดียว มีเพื่อนสนิทที่เราไวใจคอยปกปองอยูไมใชเหรอ”กอนไปเรียนชวงบาย ผมรีบ
โทรหาพี่หนอยทันทีที่ไดเวลาพักเที่ยงของพี่เขา

“พายรูครับ แต...คําพูดแบบนั้นทําใหพายกลัว...มันพูดเหมือนคนพวกนั้น”คําพูดสองแงสองงามที่สอเสียดผมยังคงชัดเจน
คําพูดที่นาขยะแขยง

“อดทนนะพาย เราตองผานไปใหได เรื่องรายมันจบไปแลว พายตองกลาเผชิญหนากับความกลัวในใจตัวเอง อยาวิ่งหนีอีก


ลองอดทนใหถึงขีดสุดดูนะ แลวพายจะรูวาไมมีอะไรรายแรงอยางที่กลัวเลย”พี่หนอยพูดปลอบผมอยูนาน ผมตั้งใจวาจะขอ
เลื่อนวันเริ่มงานออกไปกอน เพราะยังไมพรอม แตก็อยางที่พี่หนอยบอก ผมกําลังหนี ถาเรื่องแคนี้ผมหนี...ตอไปผมคงหนี
ผูคนรอบตัว....แลวขังตัวอยูในหองไปวันๆ

วิชาเรียนชวงบาย ทิวพยายามถามผมตลอดเวลาวาเปนอะไร ถาเพื่อนมันทําใหโกรธก็ขอโทษดวย เพื่อนมันไมไดตั้งใจ แค


แซวเลนตามประสา ผมก็ยืนยันวาไมเปนไร แคไมชอบคําพูดทํานองนั้น แลวก็อางวาไมสบายเลยขอกลับกอน ทิวก็เปนหวง
ใหญเลย บอกวาไมสบายแลวมาเรียนทําไม วันนี้ไมตองไปทํางานก็ได เขาไมวา เฮอ...ก็ดีกับผมแบบนี้ แลวผมจะกลาทําให
เขาลําบากใจไดไง

“มากันพอดี รีบๆ ไปกินขาวซะสิ พี่ใหเด็กยกไปใหในหองแลว”พี่ธารไลผมกับทิวที่เพิ่งเขามาในรานใหไปกินขาว เมื่อวานทิว


พาผมกินขาวที่โรงอาหารกอนออกมา ผมเลยไมรูวาที่นี่เขาเลี้ยงขาวกอนทํางานและหลังเลิกงานดวย

“อาว พาย นึกวาวันนี้จะไมมาซะแลว”จิ๋วสงเสียงทักทายตั้งแตเห็นผมเดินตามทิวเขามา

“มาสิ ไมมาจะเอาเงินที่ไหนใชละครับ ไมไดรวยเหมือนพวกนายนี่”ผมพูดยิ้มๆ แลวเดินไปนั่งที่วางขางๆ ทิว

“แลวอยากไดเงินใชมั้ย พี่เลี้ยงไดนะนอง หนาตายิ่งนาเอ็นดูอยู”ตอมันแซวผมอีกแลวครับ ไมรูเปนอะไรจองหาเรื่องผม


ตลอด ใจหนึ่งก็กลัวๆ แตใจหนึ่งก็โกรธ

“ไมละครับตอ...ผมไมอยากแยงกับจิ๋ว”ผมก็แกลงๆ แซวกลับไป ไมรูจะโยนใหใคร ที่คุยดวยบอยๆ ก็มีแตจิ๋ว


“อาวพาย ไหงโยนใหงี้ละ ไมเอาหรอก ไอตอ มึงไมใชสเปคกู”จิ๋วทําสีหนารังเกียจตอสุดฤทธิ์ ทําเอาทุกคนในหองหัวเราะ
รวน ผมเองก็พลอยหัวเราะตามไปดวย มือที่กําไวเริ่มคลายออก ในใจเริ่มสงบลงเมื่อรูสึกวาคําพูดของเขาไมสามารถ
คุกคามผมไดอีก ความจริงผมมันวิตกจริตไปเอง ที่จริงแลวไมมีอะไรเลย หากสังเกตดีๆ ตอมันก็แซวคนโนนคนนี้ไปเรื่อย ที่
แซวผมก็เพราะวาเปนเพื่อนใหม จะไดสนิทเร็วๆ แตคนที่โดนหนักกวาก็คือจิ๋ว ตัวเล็ก นาแกลงที่สุดแลวครับ

กินขาวเสร็จผมก็ออกมาชวยงานพี่ธาร พวกทิวก็เตรียมเพลงที่จะขึ้นไปรอง วันนี้พี่ธารไมเขามาดูผมเลย เห็นผมใช


โปรแกรมไดคลองก็ปลอยลอยแพ สวนเขาก็คอยดูแลลูกคาแลวก็เขาไปนั่งทําบัญชีของเมื่อวานในหองทํางานดานหลัง

ผมไปทํางานไดเกือบสองสัปดาห บรรยากาศที่มีคนพลุกพลานไมไดทําใหกลัวเหมือนเมื่อกอน เสียงเพลงในรานทําใหจิตใจ


สงบ ผมหายตกใจกลัวกับการถูกสัมผัส และสามารถสัมผัสตัวคนอื่นไดมากขึ้น พี่หนอยดีใจมากที่ทําใหผมเขมแข็งขึ้น การ
ที่ผมตองโทรไปรายงานอาการใหพี่หนอยฟงทุกวันเปนเรื่องปกติไปแลว ผมรูสึกเหมือนมีพี่สาวแทๆ เพิ่ม ในขณะเดียวกันพี่
นพก็โทรมาถามอาการผมกับพี่หนอยบอยๆ บางครั้งก็โทรหาผมโดยตรง สรุปผมมีทั้งพี่ชายและพี่สาวเลย

“อาวทิว ทําไมวันนี้มารานได วันหยุดไมใชเหรอ”ผมทักทิวที่เดินมาทาวคางหนาเคานเตอร วงของทิวจะหยุดวันอังคารพุธ


เพราะลูกคานอย สวนผมจะหยุดวันพุธกับพฤหัสครับ วันจันทรตองซื้อของเขาราน วันอังคารพี่ธารตองทําบัญชีทั้งวัน ผม
เลยหยุดไมได แต...วันนี้วันอังคารแลวทิวมาทําไม

“ก็หยุด แตไมมีอะไรทําเลยแวะมาหา”

“มาก็ดี วันนี้ลูกคาเยอะ”ผมพูดไปก็กดคํานวณราคาอาหารของหลายๆ โตะที่เพิ่งสั่ง สิ้นเดือนพอดี ลูกคาแนนรานเลยครับ

“โหย มาถึงก็จะใชงาน วันหยุดทิวนะเนี่ย”ทิวซบหนาลงบนทอนแขนตัวเอง ผมเลยเอาปากกาเคาะหัวมันไปที

“โอย! ไรอะ เจ็บนะ ทํารายเจานายไดเหรอ”

“ทําไดสิ ถึงเปนเจานายแตก็เปนเพื่อนโวย อะนี่โตะ 12 ไปเก็บเงินใหหนอย”ผมยื่นใบเสร็จที่ปริ๊นทออกมาวางไวบนโตะ ทิว


ก็ทําปากขมุบขมิบบนผมเบาๆ แตก็ยอมทําตาม สนุกดีครับเวลาแกลงมันแบบนี้

วันนี้เหนื่อยมากเลยครับ ปกติยังพอมีเวลานั่งพัก แตวันนี้คนเยอะมาก ทิวมันก็ใชโปรแกรมไมเปน จะใหชวยทําแทนก็ไมได


แตมันก็ดีนะครับ หาของวางมาวางไวใหผมหยิบกินตลอด

“ขอบใจนะ ไวเจอกันพรุงนี้”ผมบอกลาทิวกอนลงจากรถมัน ตั้งแตทํางานดวยกันมันจะไปรับไปสงผมจนกลายเปนเรื่อง


ปกติแลว ไมใชวามันพิศวาสอะไรผมหรอก แตหอมันตองผานหอผมแคนั้นเอง
“เดี๋ยวพาย”ทิวดึงมือผมไวกอนที่จะเปดประตูรถ

“หืม..มีไร”

“เดี๋ยวนี้ไมเห็นนองคนนั้นเขามาหาพายที่คณะเลย....เลิกกันแลวเหรอ”ผมรูวาทิวหมายถึงใคร ผมเอง...ก็ลืมเธอไปเลย

“ไมไดคบ...จะเรียกวาเลิกไดไง....ไปนะ ขับรถดีๆ ละ”ผมดึงมือกลับมา ทิวก็ยอมปลอยแตโดยดี

ถาทิวไมพูดถึง ผมก็ลืมเธอไปแลว...ผูหญิงเพียงคนเดียวที่ผมคิดวาจะรัก และอยากรัก คนที่สดใสนารัก รุนนองตางคณะที่


บังเอิญไดรูจักกัน เธอเหมือนจะยอมรับเรื่องฐานะบานผมได แต...ผมก็ไมแนใจวาเพราะอะไร อยูๆ เธอก็หายไป ไมโทรมา
หาเหมือนเคย ไมมีการรอใหผมสงขึ้นรถหลังเรียนเสร็จ ไมมีการนัดพบที่หองสมุด ผมเองก็ไมอยากคาดหวังในตัวเธอ เลย
ไมคิดจะติดตอกลับหรือถามเหตุผลที่เงียบหายไป....บางที...ที่เธอบอกวารับได...อาจจะรับไมไดอยางที่พูดก็ได

“อาวนุ วันนี้ไมไปทํางานเหรอ”ผมเดินมาผานหองนุ ประตูเปดอยู มองเขาไปเห็นนุนอนดูทีวีอยูบนเตียง แถมยังคุย


โทรศัพทไปดวย ดึกแลวยังเปดประตูไวอีก

“พาย เขามากอนดิ มีของฝากใหดวย”นุกวักมือเรียก ผมเปดประตูมุงรวดเขาไปนั่งบนเกาอี้ เห็นนุคุยไปยิ้มไป สงสัยคุยกับ


แฟน

“อะนี่ขาวโพดหวาน ยังไมไดตมนะ แตรับรองอรอย”นุเดินไปเปดตูเย็นหยิบถุงขาวโพดดิบมาให

“กลับบานมาเหรอ ชวงนี้กลับบอยจัง มีอะไรหรือเปลา”

“ไมมีหรอก ติดรถเพื่อนกลับนะ รถฟรีเลยกลับไดบอย แลวตอนนี้นุเปลี่ยนงานแลวนะ ไมไดทําที่นั่นแลว”

“แลวทําอะไรละ เงินดีกวาเหรอ”งานเกาของนุเงินดีนะครับ เด็กเสิรฟไดทั้งทิป ไดทั้งเงินเดือน แถมรานนั้นก็ดังดวย คนเยอะ


ทุกวัน

“เปนพนักงานรานเบเกอรี่ของคนรูจักนะ แตวาขายหลายอยาง มีคาคอมฯให สบายแตเงินดี”

“ก็ดี นุจะไดไมตองกลับดึกๆ คนเดียว อันตราย”รูปรางหนาตาแบบนุนี่นาเปนหวงครับ

“กลัวทําไม นุก็ผูชายนะ”
“แนใจ”ผมพูดพลางมองนุตั้งแตหัวจรดเทาเลย ตัวก็เล็ก ผอมๆ บางๆ ผิวขาวใส หนาตาก็นารัก ถึงจะนารักแบบผูชายแตก็
นั่นละ สมัยนี้เรื่องเพศคงไมสําคัญเทาไหรแลวมั้ง

“พายบา ไปๆ กลับหองตัวเองไปเลย ไมคุยดวยแลว”

“แคนี้ก็งอน ไปก็ได พรุงนี้กินขาวเชาดวยนะ”ผมเดินไปลูบหัวนุแลวผลักแกมหยอกเบาๆ มันก็เอามือมาตีแขนผม อาการ


เกอเขินแบบใสๆ ดูดีกวาบางคนที่มีจริตจนเกินงาม นารักดีครับ

ผมเดินเขาหอง เอาขาวโพดวางไวบนชั้นวางจาน พรุงนี้คอยตมกิน แตตอนนี้...งวงนอนมากครับ เหนื่อยมากจริงๆ แตก็


สนุก ผมเริ่มสนิทกับกลุมของทิว โดยเฉพาะจิ๋ว ผมคอนขางสนิทมากกวาคนอื่น รองมาก็เปนตอ มันชอบแซวชอบกัดผม
หลังๆ ผมก็กัดมันคืนบางเปนที่สนุกสนาน

“ที่ทํางานใหมอยูแถวไหนละนุ”รุงเชากอนไปเรียนก็แวะไปเรียกนุใหลงมากินขาวดวยกัน นุมีเรียนเชาเหมือนกันครับ ถานุ


เรียนที่เดียวกับผมไดคงดี เพราะที่คณะนอกจากทิวผมก็ไมคอยสนิทกับใคร ไมเหมือนทิว เพื่อนเยอะไปหมด

“อยูใกลมหาลัยนุเลย ไปกลับสะดวกดี”

“เหรอ ไววางๆ จะแวะไปหา กลับบานไปเปนไงมั่ง นองสบายดีนะ”นุมีนองชายหนึ่งคน ตอนนี้ญาตินุก็คอยดูแลให สวนนุก็


ทํางานสงเงินไปใหนองตลอด

“สบายดี นี่ไอน้ําก็เตรียมตัวไปเขาคาย ตื่นเตนใหญเลย”นุเลาเรื่องที่บานใหฟงจนเพลินเลย ผมชอบมองแววตาใสๆ ที่พูดถึง


คนในครอบครัว ถึงนุจะเปนแบบนี้...แตผมกลับไมนึกรังเกียจหรือกลัว คงเปนเพราะแววตาที่จริงใจนี้ละมั้ง

“แลวแฟนนุเปนไงมั่ง”ไดโอกาสเลยหลอกถามครับ เห็นหมูนี้คุยโทรศัพทบอยๆ คุยไปยิ้มไป เปนใครก็ดูออกวากําลังมีความ


รัก

“ก็ด.ี ...เอะ....พายนะ แกลงนุเหรอ ใจราย”

“ไมไดแกลงครับ ถามจริงๆ เห็นนุสดใสขึ้นพายก็ดีใจ”

“อืม....ขอบใจ”นุเหมือนจะพูดอะไรกับผม แตก็ไมพูดออกมา ผมก็ไมใชพวกชางถาม ไดแตรอใหเขาเลาเอง

ผมกับนุแยกกันขึ้นรถไปเรียน นุเรียนมหาลัยรัฐบาล คาเทอมถูก แตตองตั้งใจเรียนมากๆ ครับ ตองขยันอานขยันทองเพราะ


ไมมีใครคุมเหมือนพวกผม เขาเรียนก็ตองเช็คชื่อทุกครั้ง มีสอบยอยสอบเก็บคะแนนอะไรเยอะแยะไปหมด
“กอยเห็นทิวมั้ย”ผมถามกอย เพื่อนสนิทอีกคน แตเธอเปนผูหญิงเลยไมคอยไดไปไหนดวยกันบอยๆ แฟนหวงครับ

“วันนี้ยังไมเห็นเลย ลองถามพวกสินดูสิ พักนี้เห็นอยูดวยบอยๆ”กอยหันมาตอบผมจากแถวหนา กลุมสินกับกลุมผม


คอนขางสนิทกัน แตผมไมคอยไดคุยดวยนัก กลุมนั้นเหมือนกลุมนักกีฬานะครับ เดี๋ยวนัดเตะบอล เลนบาสกันเกือบทุกวัน

“สินๆ เห็นทิวมั้ยวะ”ผมถามสิน มันก็สายหนาตอบ เพื่อนคนอื่นๆ ก็ไมมีใครรู โทรหาก็ไมรับสายดวย ถามันโดดเรียนนะไม


แปลกหรอก แตการที่มันไมบอกผมนี่สิแปลก ปกติมันไมเคยไปไหนโดยที่ผมไมรูเลยนะ รูสึกเคยชินไปแลวที่จะตองรูเรื่อง
ของมันตลอด

วันนี้ไมตองไปทํางาน เลิกเรียนแลวผมก็ลองโทรหาทิวอีกรอบ กวามันจะรับสายไดโคตรนานเลยครับ

“หายไปไหนวะ โทรหาตั้งแตเชาแลว ทําไมไมมาเรียน”ไดยินเสียงคนรับสายปุป ผมก็ใสกอนเลย

“อืม...ไมคอยสบายวะ ปวดหัวมากเลย”ทิวสงเสียงแหบๆ ของมันตอบกลับมา

“อาว แลวทําไมไมโทรมาบอก แลวนี่หาหมอยัง เสียงแยมากเลย”

“ยัง เมื่อเชาลุกไมไหว นี่เพิ่งตื่น พายซื้อยามาใหหนอยดิ ที่หองไมมียาอะไรกินเลย”

“เออๆ งั้นไปนอนเหอะ เดี๋ยวไปหา”ผมวางสายจากทิวก็ไปรานขายยาทันที บอกอาการใหเภสัชฟงเขาก็จัดยามาให ผมแวะ


ซื้อขาวตมปลาใตหอมันสองถุง แลวก็ขึ้นไปบนหอง เคาะประตูอยูสักพักมันก็เดินมาเปดให สภาพดูไมไดเลยครับ

“หนาแดงมากเลยวะทิว ไปๆ ไปนอนกอน”ผมเดินพยุงแขนมันไวขางนึง พากลับเขาไปในหองนอน ตัวรอนมากเลยครับ ผม


เดินไปหาผามาเช็ดตัวเช็ดหนาให มันก็พยายามปดมือผมออก จะขอทําเอง ปวยขนาดนี้มีแรงก็บาแลว ผมเอาขาวตมไปใส
ชามแลวเดินมาใหมันในหอง

“กินไหวมั้ยทิว”ผมพยุงใหมันนั่งพิงหัวเตียง ชามขาวตมอยูในมือผม ไมรูจะวางใหมันถือเองไดรึเปลา แต...ถาใหกินเอง


ทาทางจะไมปลอดภัย

“ไหว”

“ไหวบาอะไรละ มาเดี๋ยวพายปอนใหก็ได จะไดไมหก”ผมพูดจบก็คนๆ ขาวตมใหระบายความรอนออกหนอย ตักขาวตมไป


จอไวที่ปาก มันก็มองๆ ไมยอมอาปากสักที จนผมตองเอาชอนไปแตะปากมันนั่นแหละมันถึงยอมกิน
“......อรอย...ซื้อขางลางเหรอ”ทิวถาม เมื่อกอนเคยมาทํารายงานที่หอทิว ก็กินขาวรานนี้แหละครับ อรอยแตแพงเกินกวาจะ
กินไดบอยๆ

“อืม รานนี้ทําอรอย พายชอบ”ผมคุยไปก็ตักปอนใหมันกินไปดวย มันเหมือนเด็กเลยครับ

“ชอบก็กินสิ ทิวอิ่มแลว พายกินเลย เอะ...ไมไดสิ เดี๋ยวติดหวัด พายไปซื้อมากินไป เพิ่งเลิกเรียน ยังไมไดกินอะไรใชมั้ย”ดู


มัน พอกินขาวตมไปหนอย มีแรงมีเสียงพูดไดละพูดไมหยุดเลย

“กินไปใหหมดนี่แหละ พายซื้อมาสองถุง เดี๋ยวทิวกินหมดพายก็ไปกินเองแหละ อะอีกคํา”ผมนั่งปอนมันจนเกือบหมดชาม


ก็ไปเอายามาใหมันกิน เอาผาชุบน้ํามาวางไวบนหนาผาก ไขยังสูงอยูเลยครับ

“ดึกแลว พายนอนนี่นะ”ทิวไมยอมหลับสักทีครับ ผมก็นั่งดูทีวีขางๆ มัน แลวก็นั่งกินขาวตมไปดวย รวยแบบมันนี่ก็ดีนะ


หองก็กวาง แบงเปนสัดสวน แถมมีทีวีตั้งสองเครื่อง อุปกรณอื่นๆ ก็ครบ คุณหนูเหมือนกันนะทิวเนี่ย

“ไมเปนไร ปกติกลับดึกกวานี้อีก”

“แต....ทิวอยากใหพายอยูนี่ เวลาไมสบายแลวมันเหงาๆ”ทิวพูดแบบออนๆ ตลกดีครับ ถาแฟนเพลงที่รานมาไดยินคงเลิก


กรี๊ดมันแนๆ เวลาอยูบนเวทีเห็นทําตัวเทหตลอด แตตอนนี้งอแงเหมือนเด็กเลย

“หึหึ....ก็ไมบอกแตแรก คางก็ได แตขอยืมเสื้อผาใสนะ”

“คนหาในตูไดเลย แต...พายคงตองนอนที่โซฟานะ มันปรับนอนได อยากใหนอนในหองแตทิวกลัวพายติดหวัด”

“อืม ไมเปนไร โซฟาหองทิวนุมนานอนจะตาย งั้นทิวนอนนะ เดี๋ยวพายไปอาบน้ํากอน”ผมเดินถือชามขาวตมที่เพิ่งกินหมด


ออกไปลาง เขามาเอาเสื้อผาในตูอีกทีทิวก็หลับไปแลว

ผมรูสึกวาตัวเองปรับตัวไดเร็ว อาการแปลกๆ ของผมเริ่มลดนอยลงจนแทบไมเหลืออยูเลย ตอใหคนแปลกหนาสัมผัสผม


ผมก็ไมตกใจมาก อาจจะเปนเพราะผมมีที่ปรึกษาที่ดี มีคนคอยใหกําลังใจ คอยรับฟงปญหา พี่หนอยทําใหผมผอนคลาย
และรูสึกสบายใจจริงๆ ครับ

ผมนอนดูหนังในหองนั่งเลน ทิวมีหนังหลายเรื่องมาก ปกติผมก็ไปเรียนทํางาน ไมคอยไดหาความสุขใสตัวเทาไหร เขา


โรงหนังครั้งลาสุดก็จําไมไดแลววากี่เดือนมาแลว ผมหยิบหนังที่อยากดูออกมาวางไวสี่เรื่อง กะวาจะดูถึงเชาเลยครับ นานๆ
ไดดูที ผมดูไปก็มองนาฬิกาไป พอครบสี่ชั่วโมงก็ไปปลุกใหทิวกินยาลดไขอีกครั้ง เปลี่ยนผาที่วางบนหนาผาก เสร็จแลวก็
ออกมานอนดูหนังตอ
เขาสูระบบ
ออฟไลน Mint
นิสัย!!
เปดแสนดี
เปดซาส
*

กระทู: 2127
ใหคะแนนชื่นชมคนนี้: 860

Re: รัก...ราย ...............ตอนที่ 4 09/08/08


«ตอบ #131 เมื่อ10-08-2008 20:23:31 »

ถูกใจใหเปด +18
“เปนไงมั่ง ไปเรียนไหวมั้ย”ผมตื่นมาตอนเชาก็รีบอาบน้ําเปลี่ยนชุดแลวเขามาดูมันในหองนอนอีกรอบ

“อืม...ดีขึ้นมากแลว วันนี้เรียนบาย คงไปไหว นี่พายจะกลับหองแลวเหรอ”

“เดี๋ยวลงไปซื้อขาวมาไวให กินแลวก็กินยานะ พายจะไปธนาคารนะ”

“ไมเปนไร เดี๋ยวทิวลงไปกินเองได ตอนนี้ยังไมหิว”

“ไมหิวก็ตองกิน จะไดกินยา”

“ใจดีจัง...อยากปวยนานๆ เลย”ทิวพูดพรอมซุกหนาลงบนหมอน ทําหนาดีใจเหมือนเด็กไดของเลน

“ถาปวยนานไมใจดีแบบนี้หรอก นี่เห็นวานานๆ ปวยทีเลยดูแลตางหาก”

“ก็นั่นแหละ ถาพายอยูหอเดียวกับทิวก็ดีสิ ทิวจะไดมีคนดูแล”

“นี่เพื่อนนะโวย ไมใชคนใช แลวหอนี้ก็โคตรแพง พายไมมีปญญาหรอก”

“ก็บอกใหมาอยูดวยกัน หารสองไง”เอาอีกแลวไง มันวกเขาเรื่องนี้อีกแลว

“ไมไหวหรอกทิว นอนไปๆ เดี๋ยวจะไปซื้อขาวมาทิ้งไวให อยาลืมกินละ”


“เปลี่ยนเรื่องทุกทีเลย ก็ได เจอกันที่คณะนะ”ทิวพูดจบก็ยกผาหมคลุมปดหนา แถมหันหลังใหผมอีก มันงอนผมหรือไงเนี่ย
ความจริงนาจะชินไดแลวนะ ชวนมาอยูดวยกันตั้งแตปสอง ผมก็ปฏิเสธตลอด จนจะเรียนจบแลว มันยังไมเลิกชวนอีก

หลังจากซื้อขาวไปทิ้งไวใหทิว ผมก็ตรงกลับมาที่หอตัวเอง อาบน้ําเปลี่ยนชุดอีกรอบแลวก็ออกไปธนาคาร ตอนนี้ได


เงินเดือนมาแลว ถึงจะทําไมเต็มเดือนแตก็เยอะกวาที่เกาอีกครับ

“แม พายโอนเงินไปใหแลวนะ เดือนนี้นอยหนอยเพราะพายทําโทรศัพทหาย”ผมมาโอนเงินสงไปใหแมทุกสิ้นเดือนครับ

“แลวจะโอนมาทําไมละพาย เก็บไวซื้อโทรศัพทกอนก็ได แมเองก็พอมี เดือนที่แลวตัดเสื้อหลายตัวอยู”

“ไมเปนไร แมเก็บไวนะ ตอนนี้พายไดงานใหม เงินดีกวาที่เกาเยอะเลย”

“เหรอลูก แลวงานหนักมั้ย ไปเรียนไหวนะ”แมมักจะเปนหวงผมเรื่องเรียนเสมอ ผมเคยขอลาออกมาทํางานหาเงินชวยแม


แตแมไมยอม อยากใหผมเรียนสูงๆ จะไดมีงานดีๆ ทํา โตขึ้นจะไดไมลําบากแบบแม

“ไหวครับ งานสบาย นั่งคิดเงินอยางเดียว ทําที่รานอาหารของเพื่อน แมไมตองหวงนะ”

“ทํากับเพื่อนก็ดี กลับดึกๆ จะไดมีเพื่อน แลวพายจะกลับบานเมื่อไหรลูก”

“คงอีกนานเลยนะแม งานใหมพายตองทําวันหยุดดวย เพราะลูกคาจะเยอะมาก แมมีอะไรหรือเปลา”บานผมก็อยูไมไกล


เทาไหรหรอกครับ นั่งรถไปเกือบสองชั่วโมงก็ถึง แต...ไมคอยมีเวลาเลยครับ

“ไมมอี ะไรหรอก แตมะมวงที่บานนะเต็มตนเลย พายมาจะไดเก็บไปกิน ลูกลางๆ ก็มีคนเขาสอยกันไปหมดแลว เหลือแต


สูงๆ นะ”

“กวาพายจะไดกลับมันคงลวงหมด แมใหคนอื่นเก็บไปเถอะ ไมก็ทํามะมวงกวนเก็บไวหรือสงมาใหพายก็ได พายอยากกิน”

“งั้นแมทํามะมวงกวนใหพายดีกวา จะไดเอาไปแจกเพื่อนดวย”

“ครับ งั้นแคนี้นะแม เดี๋ยวพายตองไปเรียนแลว”

“จา พักผอนเยอะๆ นะ”

“ครับ แมก็เหมือนกันนะ”ผมวางสายจากแมก็รีบนั่งรถไปมหาวิทยาลัย แลวก็ตองแปลกใจครับ เจอคนที่ไมคิดวาจะไดเจอ


“พายมาทําอะไรแถวนี้”

“มาธนาคารนะ แลวตอละ”ใชครับ ตอยืนโหนอยูใกลผม ไมคิดวาจะเจอมันนอกรานอาหารไดนะครับ แลวฐานะแบบมันไม


มีรถขับเหรอเนี่ย

“หอเราอยูเลยธนาคารเมื่อกี้ไปสองซอยนะ”

“เหรอ แลวนี่จะไปไหนนะ....เฮย! เรียนที่เดียวกันเหรอ ไมเห็นรูมากอน”ผมมองชุดมันดีๆ มันใสชุดนักศึกษาและหัวเข็มขัด


เปนตรามหา’ลัยเดียวกับผมดวย

“ฮาๆๆ ไอทิวไมเคยบอกละสิ เรียนที่เดียวกัน ตอเรียนสถาปตย”

“ตึกก็ใกลกันแตไมคุนหนาเลยวะ”เรียนจนจบจบแลว แตไมยักจะเคยเห็นหนามัน

“จะไปคุนไดไง นานๆ ไปเรียนที สวนมากทํางานสงแลวใหเพื่อนเช็คชื่อแทน ตื่นเชาไปเรียนแบบไอทิวไมไหววะ”

“เลนดื่มหนักกันทุกคืน ตื่นไหวก็บาแลว”ผมแอบกัดมันเล็กๆ ก็เห็นกอนทํางาน ระหวางงาน หรือหลังทํางาน พวกมันก็กิน


เหลากันทั้งวง กินตลอดเวลา ขนาดไอทิวยังกินเลย เพียงแตไมบอย แลวก็กินนอยครับ มันกลัวโดนจับ เดี๋ยวพอมันยึดรถ
คืน

“โหหห...ดวยนี้มีกัดนะ หือเหรอ”ตอไมพูดเปลา เอามือมากําคอผมแลวเขยาเบาๆ ดวย ตอนแรกก็เกือบตกใจ แตเพราะเชื่อ


ใจวามันแกลงเลนเลยไมกลัวเทาไหร แลวก็ยกมือตีหัวมันไปหนึ่งที

“ไอบา เลนเปนเด็กๆ ยิ่งคบยิ่งประสาทเหมือนไอทิวไปทุกวัน แรกๆ ยังดูนากลัวอยูเลย”

“พูดงี้มีเคืองนะเนี่ย เอาไปเปรียบกับไอทิวไดไง ไอนั่นนะ....หึหึ...ไมบอกดีกวา ปลอยใหรูเอง”

“เฮย อะไรวะ มีปดบัง ไอทิวทําไม”

“ฮาๆๆ ไมบอก ไวคอยรูเอง แต...จางใหก็ไมกลาไปเทียบกับไอทิวหรอก นั่นนะ...ขั้นเทพแลว”

“พูดไรวะ ฟงไมรูเรือ่ งเลย ไมบอกก็ไมบอก ไปเรียนดีกวา”ผมขี้เกียจซักมันครับ ถึงหนามหา’ลัยพอดี เดินไปกดกริ่ง ตอก็เดิน


ตามลงมา
วันนี้ตอมันบอกวามาสงงานเฉยๆ ครับ ไปสงตอนไหนก็ได มันเลยตามผมมาที่คณะดวย บอกวาจะมาหาทิว มันก็เพิ่งรูจาก
ผมนี่แหละวาทิวไมสบาย

“ทําไมมาดวยกันไดวะ”ทิวทําหนาเหวอทันทีที่เห็นตอเดินคูมากับผม

“กูไปรับพายที่หองมา มีไรเปลา”ตอยกคิ้วกวนๆ ให ทิวเลยชี้หนาทําปากขมุบขมิบวาฝากไวกอน ผมละไมเขาใจพวกมันเลย


วาเปนเพื่อนสนิท หรือคูกัด เห็นดากันตลอด

“เจอกับตอมันบนรถนะ แลวทิวเปนไง ดีขึ้นมั้ย”ทิวดูหนาตาสดใสขึ้นครับ แตยังดูโทรมๆ อยู

“มึนๆ เมื่อยๆ ตัวนิดหนอย แตไมปวดหัวเทาเมื่อวานแลว พยาบาลเกง”ทิวพูดแบบอวดๆ ใสตอ ผมก็ไมรูวามันจะอวดทําไม

“เออๆ แลวกินขาวเที่ยงยัง”

“ยัง รอกินพรอมพาย จะกินไรละ เดี๋ยวทิวเลี้ยงเอง”

“เลี้ยงกูดวย กูไปดวย”ตอพูดขึ้นมากอนที่ผมจะปฏิเสธทิว

“เรื่องไร กูไมไดชวนมึงสักหนอย”ทิวเองก็เถียงกลับทันที

“ลําเอียงเหรอมึง พายดูทิวมันดิ อุตสาหตั้งใจมาดูอาการ แทนที่จะขอบใจดันไลกันทางออมเฉยเลย”

“ฮาๆๆ แลวตอมาฟองพายทําไม พายไมใชผูปกครองมันนะ”

“....หึหึ...นอยไปสิ”เอาอีกแลว วันนี้ตอมันพูดใหผมงงหลายเรื่องแลวนะ

“ไอตอ ปากมากนะมึง”ทิวชี้หนาตอแบบคาดโทษ สายตามันไมมีแววขี้เลนอยูเลยครับ เพิ่งเคยเห็นทิวทําหนาดุแบบนี้ ผม


เองยังแอบกลัวนิดๆ เลย

“อะไร กูยังไมไดพูดอะไรเลย ตกลงวาไง จะพากูไปเลี้ยงดวยเปลา”ตอก็ลดน้ําเสียงหยอกลอลงมาพูดนิ่งๆ ทาทางมันคง


กลัวทิวโกรธเหมือนกัน...แตมันจะโกรธเรื่องอะไรละ

“เลี้ยงก็ไดวะ แลวตกลงพายอยากกินอะไร อีกตั้งเกือบชั่วโมงแนะ ไปกินขางนอกกันมั้ย”


“กินที่โรงอาหารนี่แหละ ประหยัดดี สะดวกดวย”ผมจะเอาเงินเก็บไปซื้อโทรศัพทเครื่องใหม ตอนนี้ตองประหยัด ถึงมันบอก
จะเรียกก็เถอะ เพื่อนกันไมเห็นจําเปนตองเลี้ยงอะไรแพงๆ เลย

“ไมเปนไร ทิวเลี้ยงไง นะ ไปกินขางนอกกัน เขาสายนิดหนอยเดี๋ยวฝากสนเช็คชื่อให”

“ไมเอา เลี้ยงขาวราดแกงก็พอแลว เปลืองเงิน”

“เงินทิวนะ ไมเปนไร ทิวอยากเลี้ยงไง ไปนะ รานอาหารญี่ปุนก็ได ใกลๆ อยากกินพอดี”จากมาดดุๆ เมื่อกี้กลับมาเปน


ลูกแหงอีกแลวครับ งอแงเหมือนเด็กเลย อยากกินเองแลวจะมาใหผมเลือกรานทําไม

“แพงจะตาย ไมเอา ไมกินหรอก อยากกินก็ไปกับตอสองคนสิ”

“ไมเปนไรหรอกพาย ทิวมันรวยใหมันเลี้ยงนะแหละดีแลว ไปเถอะ อยากกินเหมือนกัน”ตอพูดไมดูตัวเอง ฐานะพวกมันก็ไม


ตางกันเทาไหรหรอก

“นะๆ ตอมันยังเห็นดวยเลย นานๆ กินที”นานๆ ของทิวนี่ทุกสัปดาหเลยครับ ผมก็เกรงใจ เลยไมคอยไปกับมัน บางครั้งมันก็


ตองไปนั่งกินคนเดียว สงสารก็สงสาร แตมันแพงจริงๆ นี่

“อืม ก็ได แตไมตองสั่งแพงๆ มากินอีกนะ ไวเงินเดือนออกคอยมากินใหม พายจะชวยออก แตวันนี้เพิ่งโอนตังคใหแม ไมมี


จริงๆ”

“ครับๆ ไมเปนไร ไปๆ จะไดรีบกลับมาเรียน”ทิวรีบฉุดมือผมใหลุกตามเลยครับ สงสัยจะอยากกินมาก ตอก็เดินหัวเราะ


ตามหลังเรามา ทิวขับรถออกมาแปปเดียวก็ถึง รานคนเยอะมาก แตยังพอมีที่วาง พวกเราเขาไปนั่งโตะในสุด

“พายอยากกินอะไรสั่งเลยนะ เต็มที่”

“ไมสั่งหรอก ทิวอยากกินไรก็สั่งเถอะ”

“ไมเอาๆ พายสั่งนะ ทิวอยากเลี้ยง ตอบแทนขาวตมกับขาวผัดเมื่อเชาไง”

“ราคาไมกี่บาทเอง แตนี่มันแพงกวา ทิวอยากกินไรก็สั่งมาเลย พายกินเหมือนทิวนั่นแหละ”งายดีครับ ใหสั่งเองก็ไมรูหรอ


กวาอะไรอรอย เพราะปกติสั่งตามราคา อันไหนถูกๆ ก็สั่งอันนั้น

“ไดๆ งั้นทิวสั่งใหนะ มึงละตอ สั่งไรก็สั่งนะเวย แตอยาแพงมาก ไมงั้นจายเอง”


“ลําเอียงชิบหายเลยมึง อยาใหกูชื่อพายบางนะ จะเอาใหแมงหมดตัวเลย”

“เอาใหมึงชื่อพาย แลวนารักใหไดอยางพายกอนนะ กูถึงจะยอมหมดตัว”

“..........”ไอคําพูดของทิวนี่มันฟงแลวแปลกๆ นะครับ พอผมเงียบ ตอก็เงียบ แลวทิวก็เหมือนจะเพิ่งรูตัววาพูดอะไรออกมา

“เออ...นองๆ สั่งอาหารหนอย”อืม..เปนการอธิบายคําพูดตัวเองไดดีมากเลยทิว มันกวักมือเรียกพนักงานมาสั่งทันทีเลย ไอ


ตอก็เอาเมนูปดหนาแลวนั่งหัวเราะจนตัวสั่น ผมก็ไดแตนั่งงง

ทิวสั่งอาหารมาเยอะมากเลย มันชอบกินปลาดิบมาก สั่งมาเต็มโตะเลย ตอเองก็ทาทางจะกินอาหารพวกนี้บอยๆ สั่งมา


หลายอยางเหมือนกัน นากินทั้งนั้น แตถาจะกินหมดคงตองทําเวลาหนอย

“ทิวสั่งชาเย็นมาทําไม ยังไมหายดีเลย”ผมเริ่มบนทันทีที่เครื่องดื่มมาเสิรฟ มันสั่งน้ํากีวี่ปนมาครับ ผมก็คิดวามันสั่งอะไร


เพราะชารอนของผมกับตอไดนานแลว มีมันนี่แหละที่ยังไมได

“ก็อยากกินเปรี้ยวๆ ชุมคอดี”ทิวพูดไปก็ดูดน้ําในแกวกินไปดวย แลวยังหันมาทําหนาเหมือนสดชื่นเสียเต็มประดา ถาไข


กลับผมจะหัวเราะให

“เปลี่ยนกัน เอาชารอนไปกิน เดี๋ยวพายกินของทิวเอง”ผมแยงแกวของทิวมา แลวเลื่อนถวยชาไปใหมันแทน

“…..ก็ได พายกินแกวของทิวไปนะ อรอยมากๆ”แปลกครับ ทิวมันยอมงายๆ เลย

“หึหึ...เจาเลหปนน้ําเนานะมึง”

“เรื่องของกู”แลวมันก็ยังคงเถียงกันแบบที่ผมไมเขาใจตอไป

ตอนที่ 6

“พี่หนอยครับ พายเอามะมวงกวนมาฝาก แมทําเองเลยนะ”วันนี้ผมก็มาหาพี่หนอยเหมือนเดิม ถึงจะไมมีอาการอะไรแลว


แตก็ยังมานั่งพูดคุยเรื่องทั่วๆไป พี่หนอยจะคอยตะลอมถามบอยๆ วากลัวผูชายอยูมั้ย เวลาโหนรถเมลคนเบียดแนนๆ รูสึก
ยังไง ไดคุยกับคนแปลกหนาบางหรือเปลา เปนการเช็คสภาพจิตใจของผมนะครับ

“พี่วาพายดีขึ้นมากแลว เรียกวาปกติแลวดวยซ้ํา พายเกงนะ หายเร็วขนาดนี้ เพิ่งจะเดือนเศษๆ เอง”


“ก็เพราะไดพี่หนอยชวยนั่นแหละ พายขอบคุณพี่หนอยกับพี่นพมากๆ นะครับ ถาไมไดพี่สองคน พายไมรูจะเปนยังไง”

“จา ชวยไดก็ชวยกัน ฝากขอบคุณคุณแมดวยนะ ทาทางนากินดวย พี่นะชอบมะมวงมากเลย”

“เหรอครับ บานพายมีตนมะมวงสี่หาตน กินไมเคยหมดเลย ถากลับบานจะเอามาฝากอีกนะครับ”บานผมมีตนมะมวงอยู


หนาบานแลวก็หลังบานครับ เยอะแยะจนกินไมไหว แจกแลวก็ยังเหลือ ตองเอามาแปรรูปเก็บไวนี่แหละครับ ไมงั้นเสียดาย
ผลผลิตของมัน

ผมกลับจากคอนโดพี่หนอยก็ตรงมารานเลย วันนี้มาเร็วหนอย ขี้เกียจอยูหองครับ ไมมีอะไรทํา เดินเขามาก็ตรงไปหาพี่ธาร


กอนเลยครับ

“มาเร็วนะพายวันนี้ แมครัวกําลังทํากับขาวอยูเลย ไปรอในหองกับจิ๋วสิ มันมาสักพักแลว”

“พายเอามะมวงกวนมาฝาก แมทํามาให”

“อุย ขอบใจจะ ไปๆ ไปนั่งรอกินขาวในหองกอน”พี่ธารรับถุงจากมือผมไปได ก็รีบดันไหลผมทันที เดินเขามาในหองเห็นจิ๋ว


กําลังเลนกีตารอยูครับ ปกติเวลาโชวจิ๋วเลนคียบอรดนะครับ ศักดิ์ตางหากที่เลนกีตาร โบเลนเบส สวนตอตีกลองครับ

“มาเร็วจัง”

“ไมมีอะไรทํานะ มานั่งเลนที่นี่ดีกวา จิ๋วทําไรอยู”

“รองเพลงเลน รองมั้ยพาย เลือกเพลงมา เดี๋ยวจิ๋วเลนให”จิ๋วเลื่อนสมุดเพลงบนโตะมาตรงหนา แต..ผมก็ไมรูจะรองเพลง


อะไร ปกติก็ฟงมันทุกเพลงทุกแนว ผมเลยใหจิ๋วเลือกเพลงที่อยากรอง เดี๋ยวผมชวยรองคลอดีกวา อยากรองเหมือนกัน ผม
กับจิ๋วนั่งรองเพลงกันสนุกดีครับ สวนมากจะรองเพลงชา พลังเสียงไมคอยมี ใหรองเพลงหนักๆ ไมไหว เดี๋ยวเสียงหลง อาย
มืออาชีพเปลาๆ

“นึกวาเสียงใครรองเพลง รองเพราะดีนี่พาย”ศักดิ์เดินนําทิวกับโบมาครับ

“ไมหรอก รองเลนๆ นะ เสียงเหมือนเปดมากกวา”

“เปดที่ไหนเสียงเพราะแบบนี้ จิ๋ววาพายเสียงดีนะ ยิ่งเพลงอกหักยิ่งอินโคตร เคยอกหักมาเปลาเนี่ย”

“อยางพายจะไปกลาชอบใครเขา จิ๋วก็พูดไปเรื่อย”
“ใชๆ พายไมเหมือนมึงหรอกจิ๋ว เที่ยวจีบใหเขาหักอกมึงเลนไปทั่ว เตี้ยแลวไมเจียม จีบแตพวกสูงยาวเขาดีทั้งนั้น”ทิวเดิน
มานั่งขางๆ ผม หยิบสมุดเพลงมาเปดๆ เลือกเพลงที่จะแสดงคืนนี้

“พายๆ ขนมอรอยดี มีอีกเปลาวะ พี่ธารแมงไมยอมแบงเลย จิ๊กมาไดแคนิดเดียว”นิดเดียวของไอตอนี่คือหนึ่งกํามือนะครับ


มะมวงกวนแมผมจะมวนเปนแทงกลมๆ กินงายหยิบก็งายดวย

“ไรอะพาย ทําไมทิวไมเห็นได”

“นี่ไง เอามาใหเต็มเลย เอาไปแบงกันนะ”ผมหยิบถุงในกระเปาเปออกมา ถุงนี้ใหญกวาที่ใหคนอื่นๆ เยอะเลยครับ

“รักพายจัง มาใหกูหอมทีดิ๊”ไอตอรีบควาถุงแถมยังยื่นหนามาหาผมอีก ดีวาทิวรั้งไหลผมไปดานหลัง แลวผลักหนาตอ


ออกไป ผลักแรงจนมันหนาหงายเลยครับ

“ลามปามแลวมึง แลวขนมนะเขาใหแบงกัน ไมตองไปถือไวคนเดียวเลย”

“วากูลามปามแลวมือมึงนะอะไร ฉวยโอกาสวะคนเรา”ตอมองมาที่ผม แตสายตามันต่ํากวานั้น ผมมองตามก็เห็นวามือทิว


กอดเอวผมอยูขางหนึ่ง อีกขางก็กอดไหล รูสึกเหมือนถูกกอดไวทั้งตัวเลยครับ พอทิวรูตัว มันรีบปลอยมือแลวถอยออกไป
ทันที ผมเองก็แคตกใจ แต...ไมไดรังเกียจเหมือนเมื่อกอน คงเพราะวาเปนเพื่อน แลวทิวก็ไมตั้งใจดวย

“....ขอโทษ ไมไดตั้งใจนะ พายอยาโกรธนะ”

“ฮาๆๆๆ ทิว จะบาเหรอ แคนี้จะโกรธทําไม รูหรอกนาวาไมตั้งใจ”ทิวมันถอยตัวไปจนเกือบตกโซฟาเลย ดูทาทางทิวมันกลัว


ผมโกรธจริงๆ นะครับ แถมยังยกมือเหมือนจะไหวอีก ดีนะวาจับไวทัน ไมงั้นคงฮากวานี้

วันนี้ทิวรองแคสองสามเพลง ยังไมหายดีก็เลยออมเสียงไว พอมันพักก็มาปวนเปยนอยูกับผม เอาแตถามอยูนั่นแหละวาไม


โกรธมันจริงๆ นะ ขนาดนั่งอยูในรถมันก็ยังไมเลิกถาม

“ไอทิว จะถามอะไรนักหนาเนี่ย บอกแลวไงวาไมไดโกรธจริงๆ แตถาถามอีกครั้งจะเริ่มโกรธแลว”

“ก็ทิวกลัวพายโกรธนี่ หลังๆ พายไมชอบใหคนถูกตัวไมใชเหรอ”

“....เออ....อืมๆ แตตอนนี้ไมเปนไรแลว ไมโกรธจริงๆ”ผมไมยักรูวาทิวสังเกตดวย กอนหนานี้ผมคงอาการหนักจริงๆ

“แสดงวากอดได”
“อืม.....เฮย...ไมใชสิ ไมโกรธที่กอด แตไมใชใหกอดได”

“อาว ไหนบอกไมโกรธไง แสดงวาจริงๆ แลวโกรธแนๆ”

“ไมโกรธ แตอยูดีๆ จะกอดทําไมละ แคคิดก็สยองแลว”

“ไมเห็นเปนไร ทีไอจิ๋วโดนกอดบอยๆ มันยังไมวาเลย”ทิวเริ่มทําตัวเหมือนเด็กอีกแลวครับ แต...มันจะงอแงขอกอดผมทําไม


เนี่ย

“ก็นั่นมันจิ๋ว ตัวเล็กๆ นารัก ใครเห็นก็อยากกอด”ผมเองยังเคยแกลงกอดจิ๋วเลย

“พายก็ตัวเล็ก เพื่อนกันกอดกันไมเห็นเปนไรเลย พายโกรธก็บอกมาเถอะ ทิวขอโทษจริงๆ นะ”

“เออๆ จะกอดก็กอด พอใจยัง”เบื่อเถียงกับมันแลวครับ เถียงกันตั้งแตออกจากรานจนถึงหอผมแลวเนี่ย

“ขอบคุณครับ”นั่น ยังมีหนามายิ้มอีก เหมือนเด็กจริงๆ เลยมัน

ผมเดินขึ้นมาบนหอง หนาหองนุยังมีถุงขนมที่ผมแขวนไวเมื่อเชาอยูเลย สงสัยนุกลับบาน หมูนี้กลับบอยจริงๆ ผมหยิบถุง


กลับมาเก็บไวที่หอง ไวนุกลับมาคอยให แขวนเอาไวกลัวคนอื่นหยิบไปเหมือนกันครับ

ผมคิดวา...บางทีการที่ผมอนุญาติใหทิวมันกอดไดเนี่ย เปนความคิดที่ผิดจริงๆ เพราะหลังจากวันนั้น มันเจอหนาผมทีไร


เปนตองกอดทุกที

“จะกอดอะไรนักหนาเนี่ย อึดอัดวะ”ตอนนี้กําลังนั่งกินขาวหลังเลิกงานอยูครับ ไอทิวก็นั่งเบียดผม แถมยังโอบไหลผมเสีย


แนน หนักหนอยก็เริ่มโอบเอวแลวรั้งไปชิดกับมัน จนตัวผมจะนั่งตักมันอยูแลว

“ทําไมละ ทีจิ๋วมันยังไมเคยบนเลย”นี่ไง เวลาผมบนทีไรก็อางจิ๋วทุกที

“กูบนจนเบื่อแลวตางหาก บนไปพวกมึงแมงก็หนาดานกันเหมือนเดิม”

“ไอจิ๋วดามึงหนาดานนะทิว”ตอพูดแลวก็นั่งหัวเราะรวนเลย

“มึงก็ดวยนั่นแหละ ดานกวาเพื่อนเลย แมงชอบหอมแกมกู ขยะแขยงชิบหาย”จิ๋วสวนกลับกอนทิวอีกครับ


“ออกจะเปนบุญแกมมึงนะ กูไมไดหอมแกมใครงายๆ นะมึง”

“มึงไมตองงายกับกูก็ไดนะ ยากๆ หนอยจะเปนพระคุณมาก”

“ไมไดหรอก แกมมึงนุมดี เหมือนแกมผูหญิงเลย”ตอพูดพรอมกับดึงแกมจิ๋วไปดวย เพื่อนคนอื่นๆ ก็เลยจับแกมจิ๋วเลน


เหมือนกัน ผมเองก็เปนหนึ่งในนั้น แกมมันนุมๆ ดีครับ แกมยุยแตตัวมันไมอวนนะครับ เรียกวาเปนคนมีแกมมากกวา

“แกมพายก็นุม”คําพูดจิ๋วเห็นผลทันที เพราะคนอื่นเริ่มหันมาจับแกมผมแทน

“โอย! ไอตอ หยิกทําไมวะ”คนอื่นแคลูบๆ แตตอมันหยิกเลยครับ โดนทิวตีมือไปหนึ่งทีดวย

“ก็นุมดี แตแกมจิ๋วมันเดงๆ ตลกกวา”ตอมันทดสอบแกมผมหรอกเหรอ ก็ดี ไมชอบก็ดี ผมจะไดรอดพนปากมัน

“พายอิ่มยัง กลับหอกันเถอะ”อยูดีๆ ทิวก็ดึงผมไปกระซิบถาม ผมอิ่มตั้งนานแลว แตอยากนั่งคุยกับพวกนี้เฉยๆ

“อิ่มแลว ทําไม รีบกลับเหรอ”

“อืม กลับนะ”ทิวพูดจบก็รีบลุกขึ้น แถมยังควากระเปาผมไปถือแลวลากผมเดินออกมาจากรานเลย ผมตะโกนลาคนอื่นๆ


แทบไมทัน

ขึ้นรถมาไดทิวก็เงียบตลอดทาง ไมพูดอะไรเลยครับ ผมไมรูวามันเปนอะไร อยากรูแตผมเองก็ไมใชพวกสอดรูดวย ไมอยาก


ถามครับ มีอะไรมันคงบอกผมเอง

“พาย...”นั่นไง ผมกะแลววามันตองบอกผมเอง

“หือ”

“.......เปลา”อาวไอนี่ จะพูดก็ไมพูด ยิ่งทําแบบนี้ยิ่งอึดอัดนะครับเนี่ย

“อาว....มีอะไรหรือเปลา ไมสบายเหรอ”ผมเอามือไปแตะหนาผากมัน ตัวก็ไมรอนนี่นา ทิวจับมือผมที่แตะหนาผากมันออก


แต...ไมปลอยมือผม มันกําไวหลวมๆ เหมือนมีเรื่องไมสบายใจแตก็ไมพูด ผมไมรูจะทํายังไงเลยบีบมือกลับไปเบาๆ ทีนี้มัน
กํามือผมแนนเลยครับ
ตอนที่ 7

“เปนอะไรวะ มีอะไรบอกไดนะ”

“.......ทําไมพายปลอยใหพวกนั้นจับแกมละ”

“หืม...ก็...ไมทําไม มันจับเฉยๆ ไมรูจะหามทําไมดวย”

“แตทิวไมชอบนี่ ไอศักดิ์มันลูบๆ ดวย ไมไดจับเฉยๆ สักหนอย”

“พวกมันก็ชอบหยอกแบบนี้ประจํานี่นา ทําไมละ”

“มันเคยทําแบบนี้กับพายดวยเหรอ ทําไมทิวไมรูละ มันทําอะไรพายบาง”น้ําเสียงทิวดูรอนรนขึ้นมาทันที จะตกใจอะไร


นักหนาเนี่ย

“บางทีก็ลูบหัวลูบหนา แตไอจิ๋วเคยหอมแกมดวย นอกนั้นก็ไมมีอะไร”

“เฮย!! แลวปลอยใหหอมทําไม”

“ก็ตอนนั้นนั่งใกลๆ กัน มันบอกวาพายตัวหอมดี แลวมันก็หอมแกม พายเลยวิ่งไลเตะมัน”ใชวาผมปลอยใหมันหอมที่ไหน


อารมณตอนนั้นไมโกรธแตตกใจนิดหนอย แลวก็แคแกลงเตะมันแบบหยอกๆ ดวย

“ไอพวกนี้มันไวใจไมได พายอยาใหพวกมันแตะตัวอีกนะ”

“เฮย เปนไรเปลาเนี่ย เพื่อนกันทั้งนั้น มันก็แคแกลงเลน”ผมเห็นพวกมันแกลงกันออกบอย บางทีก็หอมกันบนเวที เรียกเสียง


กรี๊ดจากลูกคาสาวๆ ไดเยอะเลย

“ก็ทิวไมชอบนี่ นะๆๆๆ”ทิวสงเสียงออนวอนพรอมเขยามือผมไปมา

“พายก็ไมไดชอบเหมือนกัน แตมันชอบแกลงเวลาเผลอ จะไปหามทันไดไง ยิ่งทําทาไมชอบมันก็ยิ่งแกลง ทิวเคยบอกพาย


เองจําไมไดเหรอ”แรกๆ ที่ผมยังไมคอยกลาคุยกับพวกนี้ โดยเฉพาะตอที่ชอบแซวผม ทิวเปนคนบอกเองวาอยาไปกลัว ให
ดากลับ ไมงั้นพวกมันจะยิ่งแกลง
“ไมรูละ พายก็ระวังตัวไวหนอยแลวกัน เดี๋ยวทิวไปเตือนพวกนั้นเอง เลนอะไรไมรูเรื่อง”ทิวมันพูดจริงจังมากเลยครับ ผมก็ได
แตเออออไปใหมันจบๆ ขี้เกียจเถียงครับ

เชานี้ไมมีเรียน ผมกําลังจะลงไปหาขาวกิน แตเห็นประตูหองนุเปดอยูเลยเดินเขาไปหา สงสัยเพิ่งตื่นครับ กําลังอาบน้ําอยู


ผลไมกับขนมเต็มหองเลย งานใหมคงเงินดีมากจริงๆ ไมงั้นนุไมฟุมเฟอยแบบนี้แน

“อาวพาย มานานยัง”นุเดินเช็ดผมออกมาจากหองน้ํา พอเห็นผมนั่งอยูบนเตียงก็ทักเลย

“เพิ่งเขามา กลับบานมาเหรอ ของเต็มเลย”

“อืม...เปลา ไปเที่ยวบานเพื่อนมา”นุเดินไปนั่งที่โตะหนากระจกแลวหยิบไดรมาเปาผมใหแหง ผมดูรอบๆ หองแลว ขาวของ


เครื่องใชมีเยอะขึ้นนะครับ มีไมโครเวฟดวย แถมยังมีที่ดูดฝุนอีก

“จะออกไปขางนอกเหรอ พายจะไปกินขาวนะ กินดวยกันเปลา”

“ไมละ นุนัดเพื่อนไว เดี๋ยวตองรีบไปแลว ไววันหลังนะพาย”

“ไดๆ งั้นพายไปกอนนะ เออใช แมพายทํามะมวงกวนมาให ไวตอนเย็นเอาใหนะ”

“โหพาย ของกินนุเต็มเลย พายแบงไปดวยดิ ไมงั้นนุกินอยางอื่นไมไหวแน”นุพูดแลวก็ลุกมาหยิบขนมกับผลไมสงใหผมเต็ม


เลย

“เฮย ไวนดวยเหรอ ไมเอาๆ แพงแบบนี้ไมตองหรอก นุเก็บไวเถอะ”

“เอานา ลองชิมดู อันนี้ของที่รานขาย เอาไปใหที่ทํางานเขาชิมก็ได เผื่อสนใจซื้อ นุจะไดแบงเปอรเซ็นตใหพายดวย”

“ก็ได ไวเย็นนี้จะลองเอาไปรานดู”ผมเดินหอบของกลับหองตัวเอง แลวก็หยิบมะมวงกวนไปใหนุเลย ชวงนี้นุดูมีความสุขดี


ทาทางทั้งรักทั้งงานจะรุงพรอมกัน

หลังจากเรียนชวงบายเสร็จ ผมกะวาจะกลับมานอนรอเวลาทํางานที่หอง แตทิวมันชวนผมไปดูหนังครับ แลวคอยเลยไป


ทํางานพรอมกัน ผมยังไงก็ไดอยูแลว แตใหมันแวะมาเอาไวนที่หองผมกอนแคนั้นเอง

“จะดูเรื่องอะไรละ อยาใหเลยเวลางานนะ เดี๋ยวโดนพี่ธารตัดเงิน”


“ไมรูเหมือนกัน อยากดูเฉยๆ เอารอบที่กําลังจะเริ่มเลยแลวกัน”ทิวพูดเองเออเอง แลวมันก็เดินไปซื้อตั๋ว ตอนแรกบอกวาจะ
เลี้ยง แตผมไมยอม ยัดเงินใสมือมันไป ถาจะคืนก็ใหทิ้งไป เปนเพื่อนกันตองเสมอภาคกันครับ มันเลี้ยงผมบอยจนผม
เกรงใจแลว

หนังที่เราเขามาดูเปนหนังบูครับ คนดูไมเยอะเทาไหรเพราะเปนวันธรรมดา เดินเขามาดานใน ไฟยังสวางอยู ผมนั่งแถว


เกือบหลังสุด มองไปขางลาง แถวที่หางจากผมสามแถว เห็นคนที่นั่งอยูคลายๆ นุเลยครับ มาดูกับใครก็ไมรู วาจะดูหนาให
แนใจวาใชนุหรือเปลา ไฟก็ดับพอดี

“มองใครนะ”ทิวสะกิดถามเบาๆ ผมคงชะเงอมากไป

“ไมแนใจวาใชเพื่อนหองขางๆ หรือเปลา”

“ไวหนังจบคอยไปทักดิ”

“อืม”ผมพยักหนาตอบ แลวก็ตั้งใจดูหนัง ผมเปนคนไมชอบซื้ออะไรมากินในโรงหนังครับ บางครั้งมันเสียงดังรบกวนคน


ขางๆ อีกอยางเสียสมาธิตัวเองดวย

กวาหนังจะจบก็เกือบไดเวลางานพอดี ผมกับทิวรีบออกจากโรงหนังจนลืมเรื่องนุไปเลย แตระหวางที่ทิวขับรถออกจากลาน


จอดรถ ผมก็หันไปเห็นนุกําลังเดินเขาไปนั่งในรถเบนซคันหรูพอดี คนขับเปนใครก็ไมรูครับ ไมทันมอง แตที่แนๆ คือเปน
ผูชายชัวร ทาทางจะรวยมากซะดวย

“เพื่อนเหรอ”ทิวถามเมื่อเห็นผมเอี้ยวตัวมองรถที่นุนั่งจนพนสายตา

“อืม”

“ทาทางรวยเนอะ เห็นรถแลวอยากไดบาง รุนท็อปซะดวย”ทิวมันชอบเรื่องรถครับ ถึงผมไมคอยรูเรื่องรถ แตก็รูวารถทิวก็


แพงเหมือนกัน แตคันที่นุนั่งแพงกวาครับ

พอมาถึงราน ผมก็เอาไวนไปใหพี่ธารกอนเลย ถาพี่เขาจะซื้อมาขายที่รานผมจะไดไปบอกนุ ผมไมรูหรอกวานุไดเปอรเซ็นต


เยอะมั้ย แตถารายไดมันเพิ่มขึ้นก็เปนเรื่องดี และผมก็ไมคิดจะขอสวนแบงดวย เงินที่ทํางานที่นี่ก็เยอะอยูแลว ขาวก็ฟรี คา
รถไปกลับก็ฟรีเกือบทุกวัน เงินเก็บเหลือเพียบ

“มีเรื่องอะไรกันเหรอ”ผมเดินเขามาในหองพัก กะวาจะมานั่งกินขาวกับทุกคน แต...บรรยากาศในหองมันแปลกๆ ครับ หนา


ศักดิ์มีรอยช้ําที่มุมปากดวยครับ สงสัยคงไปตีกับใครมา ทุกคนดูเครียดๆ ยกเวนจิ๋วที่นั่งยิ้มอยู
“ไมมีอะไร พายมากินขาวดิ กําลังรออยู”ทิวกวักมือเรียกผมที่เปดประตูคางอยู ผมก็งงๆ กับพวกนี้ แตก็เดินไปนั่งที่วางขาง
ทิว เหลือที่เดียวนี่ครับ จะไปนั่งไหนได

วันนี้กินขาวไมคอยอรอยเลยครับ มันดูอึดอัดยังไงไมรู ตอก็นั่งหนาเครียด ไมแซวไมกัดผมหรือจิ๋วเลย ปกติวงมันจะเลิก


กอนรานปด แตทุกครั้งจะนั่งกินเหลาหรือไมก็กินขาวกันอีกรอบ แตวันนี้...เลิกปุปก็แยกยายกันกลับเลย ยกเวนทิวที่นั่งรอ
ผมเคลียรบิลอยู

“พรุงนี้พายมาเองนะ ทิวจะกลับบานสักหนอย พี่ธารเริ่มบนแลว”

“พรุงนี้วันหยุดทิว พายก็ตองมาเองอยูแลวนี่”

“แตบางครั้งทิวก็มาสงนี่นา”ทิวพูดมาทําใหผมนึกได ทิวมาสงผมจริงๆ ดวยครับ แทบจะทุกครั้งเลย ถาไมสงก็มารับ ผมเอง


ก็ชินเลยไมทันไดสังเกตุ

“เออ งั้นคราวหนาไมตองแลวนะ วันหยุดก็พักอยูหองสิ”

“ทําไมถึงไมอยากใหมา”เอาอีกแลวครับ พอเริ่มขัดใจมันก็เสียงแข็งใส

“อาว ก็วันหยุดทิว แลวจะมาสงพายทําไม หมูนี้ทําตัวแปลกๆ นะทิว”

“ก็ทิวเปนหวง เลิกงานดึกๆ ก็มีแตพวกขี้เมา มันไมปลอดภัยนะ”

“...........อืม”คําพูดทิวทําใหนึกถึงเรื่องที่อยากลืม ความทรงในวันนั้นมันยังชัดเจน ถึงจะพยายามลืม...แตก็ไมเคยทําไดเลย


ยิ่งทิวพูดแบบนี้ยิ่งทําใหผมนึกถึงวันนั้น ความรูสึกกลัวในวันนั้น...ยังไมเลือนหายไป

“พาย...เปนอะไร โกรธทิวเหรอ แตทิวเปนหวงจริงๆ นะ คนสมัยนี้ไวใจไดที่ไหนกัน ถึงจะเปนผูชายก็เถอะ เกิดโดนปลน


ขึ้นมาละ ผอมๆ แบบพายจะไปสูแรงใครได ทิวหวงพายมากนะ”

“พอเถอะ อยาพูดเรื่องนี้เลย”

“ทําไมละ ทิวหวงพายไมไดเลยเหรอ”

“ไมใชแบบนั้น....ทิวไมเขาใจหรอก”

“ก็พายไมพูดแลวทิวจะเขาใจมั้ยละ มีอะไรก็เอาแตเงียบ มีปญหาอะไรก็ไมเคยบอก ถามก็ไมตอบ”


“ถามันทําใหทิวไมพอใจก็ขอโทษแลวกัน”

“พาย....ทิวไมไดวาพายนะ อยาพูดประชดแบบนี้สิ”

“ไมไดประชด พายพูดจริงๆ”

“เฮอ...ตามใจ ไวอารมณดีๆ คอยคุยแลวกัน คุยตอนนี้มีแตชวนทะเลาะเปลาๆ”ทําถอนหายใจ ทําเสียงเบื่อๆ ทิวเหมือนเย็น


ลง แตผมกลับรอนเอง ยิ่งไมชอบใหใครประชดอยูดวย

“ใครชวนทะเลาะ พายพูดกับทิวดีๆ นะ”

“ครับๆ ขอโทษครับ ทิวพูดไมดีเอง”

“ถาจะประชดก็จอดรถ เดี๋ยวพายกลับเอง อารมณเสียแลวมาลงที่พายแบบนี้ไมชอบนะ”

“.....ขอโทษ”

“..........”

“โกรธจริงเหรอ”

“............”

“ขอโทษจริงๆ ไมไดตั้งใจนะ ทิวหงุดหงิดเองแหละ หายโกรธนะ”

“อืม แลวอยาพาลใสอีกแลวกัน พายไมใชที่รองรับอารมณทิวนะ”

“ครับผม ตอไปไมกลาแลว ดีกันนะ”ทิวพูดพรอมยื่นนิ้วกอยมาตรงหนาผมดวย จากเครียดๆ เมื่อกี้ทําเอาหลุดขําออกมาเลย

“ไอบา ทําเปนเด็กๆ ไปได”ผมดามันไปเบาๆ แตก็ยอมยื่นนิ้วกอยไปเกี่ยวนิ้วมันเอาไว ทิวนี่มันมีวิธีทําใหผมหายโกรธได


ตลอดเลย ถึงแมบางทีจะเปนวิธีที่ปญญาออนก็ตาม
ตอนที่ 8

หลังจากวันนั้นก็ดูเหมือนทุกอยางจะกลับสูภาวะปกติ พวกนี้มันโกรธงายหายเร็วครับ เห็นเงียบๆ ไดวันเดียว วันตอมา


อยางกับนกกระจอกแตกรัง แยงกันพูดเหมือนไมไดเจอกันมาเปนป

“พรุงนี้วันเกิดไอโบ พายไปเที่ยวดวยกันนะ”จิ๋วเดินมาหาผมที่เคานเตอร ตอนนี้ใหทิวเปดเพลงอยูครับ ทุกคนเลยนั่งพักกัน


ในหอง เดี๋ยวคอยออกมารองอีกรอบ

“แตพรุงนี้พายทํางานนี่ เลิกตั้งเที่ยงคืน พวกจิ๋วไปสนุกกันเถอะ”พรุงนี้เปนวันหยุดพวกมัน อีกอยางผมก็ไมคอยสนิทกับโบ


มาก วันเกิดแบบนี้มันคงขนเพื่อนคนอื่นไปอีกเยอะ ถาไปดวยคงรูสึกแปลกๆ

“ไมเปนไร เดี๋ยวเลิกงานทิวมันก็มารับเองแหละ ไปเถอะนะ จิ๋วจะไดมีเพื่อน ไมงั้นพวกมันตองจับกรอกอีกแนๆ”ปกติจิ๋วจะ


ดื่มนอยมากครับ สวนผมไมดื่มเลย ถานั่งกินกันในราน คนอื่นจะไมคอยบังคับจิ๋วมาก เพราะจิ๋วจะอางวาไมดื่มเปนเพื่อน
ผม

“แลวไปเลี้ยงกันที่ไหน ผับเหรอ”

“ใช แตคงไปตอที่บานมันดวย พายนาจะเลิกงานพอดี นะ ไปเถอะ”จิ๋วจับแขนผมเขยาใหญเลย เห็นแลวก็ขํา ชอบทําทา


ทางนารักแบบนี้ คนอื่นถึงชอบแกลงมัน แลวก็ตามใจมันตลอด ไมเวนแมแตผม

ตอนแรกผมบอกวาจะตามไปที่รานเอง ไมตองใหใครมารับ แตทิวไมยอม บอกวาเดี๋ยวเลิกงานจะมารับ เพราะผมไมเคย


เที่ยว ไปไมถูกแนๆ ก็จริงของมันครับ

“เฮย เมาเปลาเนี่ย หนาโคตรแดง”เลิกงานปุป ทิวก็โทรมาบอกวารออยูหนาราน พอมาถึงรถ เห็นมันยืนสูบบุหรี่พิงรถอยู

“ไมเมาๆ ขึ้นรถสิ”พอมันเห็นผมก็รีบโยนบุหรี่ลงพื้นแลวเอาเทาดับไฟทันที ผมไมไดเกลียดคนสูบบุหรี่หรอกนะครับ เพียงแต


ผมไมสูบ ทิวก็เลยไมเคยสูบตอหนาผม

ทิวขับรถออกมาไมไกล แคเขาซอยแลวก็เลี้ยวไปเลี้ยวมาจนงง โผลมาอีกทีเจอทางเขาหมูบานจัดสรร ดีแลวที่ผมไมมาเอง


มีหวังแท็กซี่ไดไลลงจากรถ โทษฐานบอกทางไมรูเรื่อง

บานของโบเปนบานสองชั้นครับ มันเชาอยูกับเพื่อนที่มหาลัย คาเชาคงแพงนาดู ถึงจะดูเหมือนหารกันหลายคนก็เถอะ

“พายมาแลวเหรอ มาๆ มารูจักเพื่อนโบ”เดินเขาไปดานใน โบนั่งถอดเสื้อกวักมือเรียกผม ตัวมันแดงทั้งตัวเลย ทาทางจะเมา


โบแนะนําผมใหเพื่อนๆ มันรูจัก รวมๆ แลวนาจะประมาณยี่สิบคนได จําชื่อไมไหวหรอกครับ ไดแตพยักหนาให ผมเลือกที่
จะไปนั่งขางจิ๋ว ไมกินเหมือนกัน อยางนอยจะไดมีเพื่อน...ที่ยังคุยรูเรื่อง

“พายยยย...มา ชนๆ”โบลุกขึ้นเดินเซๆ มาขางๆ ผมพรอมแกวเหลาในมือ แคเห็นสีก็รูสึกขมคอแลว

“พายมันไมดื่ม มึงอยาไปบังคับมันดิ”จิ๋วรั้งมือของโบเอาไว แตโบไมยอม จะใหผมดื่มใหได

“อยายุงนา พายดื่มๆ วันเกิดโบนะ ดื่มใหโบหนอยนะครับ”โบมาแปลกครับ ปกติมันจะไมคอยชวนผมคุย แตน.ี่ ..พูดซะ


เพราะ แถมทําหนาออนๆ ดวย กลุมนี้มันขี้ออนทั้งกลุมเลยหรือไง

“ไอทิว มึงหามโบหนอยดิวะ”จิ๋วบอก แตทิวกําลังคุยกับเพื่อนอยู มันหันมามองผมแปปเดียวก็หันกลับไปใหม

“แกวเดียวนะ เดี๋ยวอวก อายเพื่อนเปลาๆ วะ”ผมรับแกวมา อยางนอยไมมีของขวัญใหก็ตามใจเจาภาพแทนแลวกัน

ผมรับแกวมาดื่ม พรอมๆ กับเสียงเชียรของเพื่อนๆ ในบาน ไมเวนแมแตไอจิ๋วที่หามตอนแรก รสขมปราในคอทําใหอยาก


คายทิ้ง แตเพราะทุกคนมองอยูผมเลยกลั้นใจดื่มตอไปจนหมดแลวคว่ําแกวใหดู

“เกงๆ...จุบ”ไอโบไมพูดเปลา เอามือลูบหัวผมแลวยื่นหนามาหอมแกมผมดวย ผมเองกําลังมึนๆ งงๆ พอตั้งตัวได โบก็เดิน


กลับไปนั่งที่เดิมแลว ผมมองเลยจิ๋วไป เห็นตอนั่งหัวเราะจนตัวงอ แตจิ๋วทําหนาซีดๆ ผมมองตามสายตาจิ๋วไปดานหลัง ก็
เห็นทิวมองอยู

“เมาเหรอพาย”ทิวแตะไหลเบาๆ ผมสายหนาใหชาๆ ไมเมาหรอกครับ ผมเองก็เคยดื่มมาบาง แตไมชอบ เลยไมคอยดื่ม

“ดื่มอีกมั้ย มีเหลาปนดวยนะ เพื่อนโบมันทําเปน”ทิวลูบแกมขางที่โบเพิ่งหอมไป ผมไมคอยแปลกใจในการกระทําของโบ


เพราะมันชอบแกลงจิ๋วแบบนี้บอยๆ แตแปลกใจทิวมากกวา...มันลูบแบบเช็ดๆ แถมยังหันไปบอกใหเพื่อนโบทําเหลาปนให
ผมดวย

ผมไมเคยดื่มเหลาปนมากอน แตสีฟาดูสบายตาดี พวกผูหญิงที่อยูในบานสวนใหญดื่มเหลาปนกันครับ ผมกับจิ๋วไดรับมา


หนึ่งเหยือก ใหแบงกันกิน อึกแรกที่ดื่มไปก็หวานๆ เย็นๆ ดีครับ ถึงจะรูวาผสมเหลาแตก็กินงายกวา มินาบางคนถึงชอบกิน

“ไมไหวแลววะ เริ่มมึนๆ แลว”ผมดันแกวเหลาปนที่จิ๋วเทใหคืน แคนี้ก็รูสึกวานั่งไมคอยตรงแลว

“เมาเหรอพาย”จิ๋วถาม ผมก็พยักหนาตอบไป มึนหัวครับ พูดไมคอยออก แตยังพอมีสติ


“ไปนอนพักบนหองโบกอนมั้ย เดี๋ยวพาไป”จิ๋วคงเห็นวาผมนั่งไมไหวแลวเลยออกปากชวน ผมก็เห็นดวย ถานั่งตอมีหวัง
หงายหลังแนๆ

“จะไปไหน”พอลุกขึ้นทิวก็ดึงมือผมไวเลย

“พายมันเมา กูจะพาไปนอนหองไอโบกอน”จิ๋วชวยพยุงผมใหยืนตรงๆ ไดยินเสียงเพื่อนๆ แซวผมกันใหญ

“ไมตอง กูพาไปเอง”ทิวลุกขึ้นแลวพยุงผมใหเดินตาม ยิ่งเดินยิ่งเวียนหัวครับ หวานๆ นี่เมาไมรูตัวเลย กวาจะเดินขึ้นบันได


ไดแตละขั้น ถาทิวไมกอดเอวผมไว มีหวังไดกลิ้งลงไปแนๆ

ทิวพยุงผมเขามานอนบนเตียง แลวก็หาผาชุปน้ํามาเช็ดหนาใหผมดวย แตรูสึกจะเช็ดแรงไปหนอยนะครับ

“....สะอาดแลว ไมตอง....ถูมากหรอก”ผมปดมือมันออกจากหนาผมแลวพลิกตัวหนี

“ทําไมปลอยใหโบมันหอมแกมละ”

“......ไมไดปลอย......”มันจะมาวุนวายอะไรกับผมตอนนี้เนี่ย คนยิ่งงวงๆ อยู

“หันมากอนพาย”

“อะไร.....จะนอน”

“......นอนก็นอน แตทิวนอนดวย พรุงนี้เชาคอยกลับนะ”ทิวมันจะพูดอะไรผมก็ไมสนใจอีกแลวครับ หันหนาเขาหาผนังอยาง


เดียว ทั้งมึนทั้งงวง

“อื้อ.....อึดอัด”ทิวมันลมตัวลงนอนดานหลัง แถมยังดึงผมไปกอดไวเสียแนน คางเกยอยูบนไหล พูดอะไรฟงไมคอยจะรูเรื่อง


เริ่มไมแนใจแลววา ผมเมาหรือมันเมา

“…..ทําไร”

“ทิวอยากหอมแกมพาย....นะ”

“...จะหอมทําไม ผูชายเหมือนกัน”
“แลวทําไมโบมันหอมไดละ”ทิวพูดจบก็ไมรอฟงคําตอบผมเลย มันจับตัวผมใหพลิกตัวมาหามันแลวก็หอมแกมผมทันที ผม
วาไอทิวมันเปนประเภทขี้อิจฉานะครับ นิสัยลูกคนเล็ก อยากไดอะไรตองได เห็นคนอื่นทําอะไร ตัวเองก็ตองทําบาง และ
ตองมากกวาดวย เพราะมันหอมผมทั้งหนา แถมยังกอดผมไวแนน จนตัวผมเขาไปอยูในออมกอดมันทั้งตัวเลย

“.....อึดอัดวะทิว”ผมพยายามดันตัวเองออกมา แตมันไมปลอยสักที

“อยาดิ้นนะครับ นอนๆๆ”ทิวพูดเบาๆ แลวก็ลูบหลังผมดวย ไอผมก็วางาย เขาบอกใหนอนก็นอน เลิกดิ้นแลวนอนนิ่งเลย

รุงเชาผมตื่นมาตกใจแทบแย อยูดีๆ มีหนาคนลอยอยูตรงหนา ผมรีบผลักออกอยางแรงจนมันตกเตียงไปเลย พอนึกขึ้นได


วาเปนไอทิวก็สายไปแลว มันนั่งเอามือคลํากนตัวเอง ทําหนาหงุดหงิดจนผมตองรีบชวยดึงมันขึ้นมานั่งบนเตียง พอขอโทษ
มันสักพัก มันก็หายโกรธนะครับ แลกกับการหอมแกมผม เฮอ...หมูนี้รสู ึกจะโดนมันแกลงอะไรแปลกๆ อยูเรื่อย

“เวลาเพื่อนหยอกแบบนั้นพายไมกลัว ไมรูสึกอะไรแลวเหรอ”วันนี้ก็มาหาพี่หนอยเหมือนเดิม เลาเรื่องราวทุกอยางที่เกิดขึ้น


พี่เขาเหมือนสมุดไดอารี่สําหรับผมเลยนะ

“ก็....ไมนะครับ เพราะคบมานานแลวสนิทมากดวยมั้ง พายรูวามันแกลงก็เลยไมกลัวนะ”

“แลวถาไมใชการแกลงละ พายจะกลัวมั้ย”

“เฮยพี่ เพื่อนกัน มันไมคิดอะไรกับผมหรอก ถาเปนไอจิ๋วก็วาไปอยาง ไอนั่นมันตัวเล็กนารัก”ถามีผูชายมาจีบจิ๋วนี่ ผมเฉยๆ


นะครับ เหมือนกับที่รูวานุ ผมวาสองคนนี้นารัก ใครเห็นก็ชอบ ดูนาปกปองนะครับ

“แตพายก็นารักนะ ตัวก็เล็ก ถาเทียบกับผูชายคนอื่น คือ...จะบอกวาหลอก็ใช แตออกแนวนารักมากกวานะ”

“พี่อยาชมกันแบบนี้ดิ ผมเขินเปนนะ”

“ฮาๆๆ หนาแดงเลย ไมแหยก็ได ที่ถามเมื่อกี้ก็แคลองถามดู พายลองคิดดูดีๆ นะ วาถามีผูชายมาชอบ พายจะรูสึกแบบ


ไหน พี่จะไดวิเคราะหไดวาพายยังฝงใจอยูหรือเปลา”

“ทําไมละพี่ ถาผมรังเกียจก็แปลวาผมฝงใจอยูเหรอ”

“เปลาๆ มันวิเคราะหไดหลายอยางนะ เอาไวเจอแบบนั้นจริงๆ คอยมาเลาใหพี่ฟง”วันนี้พี่หนอยใหคําถามกลับไปคิดเปน


การบานดวย ผมเองก็ไมเคยคิดเรื่องแบบนี้ การที่จะคิดวาใครจะมาชอบตัวเองเนี่ย กับผูหญิงผมยังไมเคยหวัง แลวจะให
คิดถึงผูชายเนี่ยนะ...มันจะเปนไปไดเหรอ
“พายทําอะไรอยู”นุมาเคาะประตูหอง ผมเลยเดินมาเปดใหแลวก็กลับมานอนบนเตียงเหมือนเดิม นอนรอเวลาทํางานครับ

“นอนเลน กําลังจะไปทํางาน”

“นุมีเรื่องปรึกษานะ คุยไดเปลา”

“มีอะไรละ อีกเกือบชั่วโมงเพื่อนถึงมารับ”

“อืม คือ...แฟนนุนะ...เขาบอกวาจะใหนุยายไปอยูหอแถวๆ ที่ทํางาน เพราะมันใกลมหาลัยดวยนะ”

“ไหนนุบอกวาหอแถวนั้นมันแพงกวาที่นี่ไมใชเหรอ”หอนี้ใกลที่ทํางานเกาของนุ และถูกดวยครับ

“ก็ใช แต...เขาจะชวยนะ พายวานุยายดีมั้ย”

“ไมรูสินุ แลวแตสะดวกนะ แต...พายคงเหงานาดู”ปกติผมกับนุตองทักกันทุกวัน ไมเชาก็เย็น เรียนก็ไมไดเรียนดวยกัน ที่


ทํางานก็ไกลกัน แลวถาไมไดอยูใกลกันอีก...ผมคงเหงานาดู

“พาย....นุก็เหงาเหมือนกัน ไมอยากยายเพราะตองหางพายนี่แหละ เพื่อนสนิทนุก็มีพายคนเดียว”

“ขอบใจนะ แตนุคิดดีๆ กอนดีกวา เอาตามสะดวกก็ดี ถายายจริงๆ พายสัญญาวาจะไปหาบอยๆ”ผมลูบหัวนุเบาๆ ไมวานุ


จะเลือกแบบไหน ผมก็มั่นใจวาเราจะยังเหมือนเดิม นุเปนคนดี เปนเพื่อนที่ดี เปนคนที่ผมรูสึกวาตองคอยดูแล ไมอยาก
ปลอยไปครับ

ผมมาทํางานดวยอารมณเบลอๆ วันนี้มีหลายเรื่องใหคิดเหลือเกิน ไหนจะคําถามของพี่หนอย ไหนจะเรื่องนุ

“วันนี้ทําไมเงียบจัง”ทิวถามขณะขับรถกลับมาสงผมที่หอ เริ่มชินกับการมีราชรถแลวครับ

“คิดอะไรนิดหนอย”

“มีเรื่องอะไรบอกทิวไดนะ”

“เพื่อนสนิทขางหองเขาจะยายออกนะ”

“สนิทมากเหรอ”
“ก็มากนะ คุยกันทุกวัน ถาวางก็กินขาวดวยกันตลอด คิดแลวมันเหงาๆ นะ ไมคอยอยากใหเขายายเลย แต...ก็ตองแลวแต
นุเขา”แฟนนุคงเปนหวงมั้งครับ กวาจะกลับถึงหอง แถมยังอยูในซอยอีก ดึกๆ มันก็เปลี่ยว

“ไมเปนไรนี่ครับ ถาเหงาเดี๋ยวทิวไปอยูเปนเพื่อน ยายไปอยูหองขางๆ เลยดีมั้ย”ทิวจับหัวผมโยกไปมา เสียงที่ปลอบเบาๆ


ทําใหรูสึกดีขึ้น แลวก็อดคิดถึงคําถามพี่หนอยเมื่อเชาไมได.....ถามีผูชายมาชอบผม...ผมจะเปนยังไง

“ทิว....ทิววาอยางพายนี่จะมีผูชายมาจีบมั้ย”ถามจบปุป ทิวชะงักจนรถเสียหลักเลี้ยวแฉลบออกขางทางเลย ดีวาดึกแลว ไม


มีรถตามมา ไมงั้นไดนอนหยอดขาวตมแนๆ

“ตกใจอะไรวะ ถามแคนี้เอง”ผมจับหนาอกตัวเอง ใจหายหมดเลย

“ก็....ถามอะไรแปลกๆ หรือวามีใครมาจีบอีกแลว”ทิวคอยๆ ขับออกไปใหม แตชากวาเดิม

“อยาใชคําวาอีกแลวไดมั้ยวะ”ทิวมันพูดเหมือนเปนเรื่องปกติที่จะมีผูชายมาจีบผมงั้นละ

“ก็เห็นลูกคาชอบขอเบอรนี่ ไมเรียกวาจีบใหเรียกวาอะไร”

“เออๆ ชางเหอะ ไมถามแลว”ขี้เกียจเถียงครับ ยังตกใจอยู

“อยาเพิ่งเปลี่ยนเรื่องดิ บอกมากอนวาถามทําไม มีใครมาจีบอีกบอกมาเลย”

“ก็บอกวาไมมีไง ถามเฉยๆ ผูชายที่ไหนจะบามาจีบผูชายดวยกัน”

“ไมเห็นเปนไร สมัยนี้ไมมีใครถือแลว ขนาดไอโบไอตอยังมีเลย”

“เฮย จริงดิ”

“ก็จริงนะสิ แลวมันก็เลนดวยหมดแหละ ทิวถึงไมชอบใหมันกอดหรือหอมแกมพายไง ไมรูวามันคิดอะไรหรือเปลา”

“งั้นเหรอ....อืม”ผมก็แปลกใจนิดหนอย ดูไมออกเลยนะครับ แตที่สําคัญ....ผมไมไดรูสึกรังเกียจมันสองคน....แคแปลกใจ


เทานั้นเอง

“ทําไม รูสึกไมดีเหรอ ไมตองหวงนะ ทิวบอกพวกนั้นแลววาอยามายุงกับพาย ที่มันทํากับพายมันก็ทําเลนๆ ไมไดคิดอะไร


หรอก ไมตองกลัวนะ”
“อืม ไมไดคิดอะไรหรอก แค...แปลกใจนิดหนอย”

“รังเกียจ....พวกนั้นมั้ย”

“เฮย! ไมไดรังเกียจนะ เพื่อนกัน เพียงแคแปลกใจนะ เห็นมันแมนๆ เถื่อนๆ ไมคิดวาจะ...แบบนั้นนะ”

“ไอพวกนี้มนั ก็แบบนี้แหละ รักสนุกไปเรื่อย ใครเขาหามันก็เอาหมดแหละ ไมสนหรอกวาผูหญิงผูชาย เผลอๆ ชอบผูชาย


มากกวาอีก ไมยุงยากดี”ทิวพูดเหมือนเปนเรื่องปกติ แลวเพื่อนมันเกือบทั้งกลุมก็เปนแบบนั้น...แลว....

“เออ...ทิว..ก็ดวยเหรอ”

“หืมม.......พายคิดวาไงละ”

ตอนที่ 9

คําถามของทิวที่ผมไมไดตอบยังคงอยูในหัว ผมเองก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ไมไดรูสึกรังเกียจหรือกลัว อาจเปนเพราะ


พวกมันเปนเพื่อนก็ได แตที่แปลกก็คือ...ผมคลุกคลีอยูในกลุมพวกนี้มานาน ทําไมผมถึงไมรูเลยวาพวกมันมีรสนิยมแบบนี้
สวนทิว...จะเปนหรือไม ผมก็ไมกลาเดา เมื่อตอนปหนึ่งมันยังมีแฟนอยูเลย แตมาเลิกกันกอนขึ้นปสาม ผมเลยไมคอยแนใจ
เฮอ....ทําไมคนเราเดี๋ยวนี้มันดูยากจังเลย

“เปนอะไรพาย นอนคิ้วขมวดเชียว”นุนั่งพิมพรายงานอยูหนาคอมฯ ของผมครับ หองนุไมมีคอมพิวเตอร เวลามีรายงานก็จะ


มาใชที่หองผมประจํา

“คิดเรื่องเพื่อนนิดหนอยนะ พายเพิ่งรูวาเพื่อนเปนไบฯ บางคนก็เปนเกย”

“ทําไม รังเกียจเหรอ”

“เปลาๆ เพียงแตงงตัวเองที่ดูไมออกนะ ถาอยางนุพายยังพอดูออกบาง แตพวกนั้นมัน...ไมเห็นนาจะเปนเลย”

“นุ...ดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ”นุทําหนาเศราๆ จนผมรูตัววาพูดทําไมดีออกไป

“ไมใชแบบนั้นนะนุ แตพายหมายความวานุนารักนะ นารักเหมือนเด็กผูหญิงเลย มันเลยไมแปลกไงถาจะคบผูชาย เพราะ


คงมีคนมาจีบเยอะแนๆ แตไอพวกนั้นมันเถื่อนๆ ตัวใหญๆ ทั้งนั้น พายก็คิดวามันนาจะชอบสาวๆ เอ็กซๆ นะ”
“มันก็ไมคอยเกี่ยวกับรูปรางหนาตาหรอกนะ เพื่อนนุบางคนแมนๆ ยังมีแฟนเปนผูชาย แถมยังเปนรับอีก”

“เออ...เหรอ”

“นุวาพวกที่เปดเผยนะดีกวาพวกแอบแมนอีกนะ อยางนอยก็ไมทําใครเดือนรอน แตก็นะ...บางคนก็เลือกไมได แลวเพื่อน


พายคนไหนเหรอที่เปนนะ ใชทิวที่มาหองนี้บอยๆ หรือเปลา”

“คนอื่นนะ แตทิว....พายก็ไมแนใจ”ก็ทั้งวงเปนกันเกือบหมด แลวทิวจะรอดเหรอ

“มีเพื่อนเปนเกยก็ไมจําเปนตองเปนเหมือนเพื่อนหรอก พายอยาคิดมาก”

“อืม ถาทิวเปน พายก็ไมวาอะไรหรอก แตมันแปลกๆ”

“ทําไม...โกรธที่เขาปดพายเหรอ”

“ก็นิดหนอย”ใช ถามันเปนจริงๆ แลวไมยอมบอก ผมคงแอบโกรธนิดๆ รูสึกเหมือนมันไมไวใจผมนะ

“เกลียดมั้ย”

“ไมนะ เพื่อนกัน”

“เหรอออออ”

“อะไรนุ มาทําเสียงแบบนี้ ไมตองคิดลึกเลย วาแตนุเถอะ หมูนี้แตงตัวเกงนะ เห็นเสื้อผาใหมๆ ของดีๆ เพียบเลย แฟนคนนี้


ทาทางเอาใจเกงนะ ซื้อแตของดีๆ ทั้งนั้น”

“ก็นิดหนอยนะ พี่เขาทํางานแลว เวลาออกไหนดวยกันก็เลยตองแตงตัวดีๆ หนอย กลุมเพื่อนเขาก็แตงตัวดีๆ ทั้งนั้น มีแต


คนรวยๆ นุไมอยากใหเขาขายหนาคนอื่นนะ”

“ไมเห็นเกี่ยว นุแตงยังไงก็นารัก ถากลัวอายที่ควงนุ พายวาเขาใชไมไดนะ แครคนอื่นมากกวาแฟนตัวเองไดไง”

“ไมใชแบบนั้นหรอก....นุอยากดูดีตอหนาเพื่อนๆ เขาดวยแหละ เวลาอยูในกลุมแลวมันเหมือนโดนเปรียบเทียบนะ มีแตคน


อยากควงเขาทั้งนั้น ขนาดเวลานุไปเที่ยวดวยยังเห็นทั้งผูหญิงผูชายเขาหาเขาตลอดเลย”

“แลวเขาเลนดวยเหรอ”
“ก็...บางครั้ง”

“ไดไงละ นุเปนแฟนเขานะ ทําไมไมเตือนหรือหามไปละ ไปยอมไดไง”

“อืม....ทําไงไดละ เขาเปนผูใหญกวานุนี่ จะไปพูดแบบนั้นมันก็ไมดี”

“ไมเกี่ยวสักหนอย แฟนนุคนนี้ทาทางจะเจาชูมากเลยนะ แบบนี้พายไมคอยชอบเลย พายเปนหวงนุนะ นุจะตามเขาทัน


เหรอ เกิดเขาไปมีคนอื่นละ”

“ก็ตองแลวแตเขา นุคงหามอะไรไมได”นุพูดจบก็หันกลับไปพิมพงานตอ นุเปนคนงายๆ อะไรก็ยอมคนอื่นตลอด ผมอุตสาห


วางใจแลวเชียวที่เห็นไปไดดีกับแฟนคนนี้ ที่ไหนได เลวรายยิ่งกวาคนกอนอีก ทําไมนุถึงเจอแตคนแบบนี้ก็ไมรู แฟนคนกอน
เห็นบอกวาเปนเพื่อนที่คณะ เจาชูสุดๆ คบนุไดแคพักเดียวก็มาจีบเพื่อนนุอีก นุไมอยากเสียเพื่อน สุดทายนุเลยยอมถอย
ออกมาเอง คนดีๆ แบบนุเมื่อไหรจะเจอคนที่รักนุจริงๆ บาง

วันนี้มีเรียนตอนบาย ผมเดินลงมารอทิวใตหอเพราะมันจะพาไปกินขาวเที่ยง ไมบอยนะครับที่มันจะมารับไปเรียน แตถา


หลังเลิกเรียนละก็อีกเรื่องนึง

“พี่มาถึงแลว อยูหองไหนนะ”เสียงทุมๆ ดังอยูดานหลัง น้ําเสียงนี้คุนหูผมมากเลยครับ ผมหันกลับไปดูก็เห็นแตรูปรางสูง


ใหญที่ยืนหันหลังให ดูจากการแตงตัวแลวคงรวยนาดู เสื้อผายี่หอแพงๆ ทั้งนั้น

“ก็ได งั้นพี่รอขางลาง”เขาพูดจบก็หันกลับมา ตกใจหมดเลยครับ เผลอมองนานไปหนอย เสียงนะคุนแตหนาไมคุนเลย เขา


ก็มองผม ผมเลยผงกหัวเปนเชิงขอโทษกอนจะหันกลับมาเมื่อไดยินเสียงบีบแตรรถของทิว ผมเลยรีบวิ่งออกมา

“ใครนะ รูจักเหรอ”เขารถปุป ทิวก็ถามทันที

“ไมรูจัก”ผมสายหนาตอบ ไมรูจักจริงๆ เพียงแคคุนๆ แคนั้น ทิวขับรถออกมาผมก็ไมไดสนใจคนที่ยืนอยูตรงนั้นอีก

ชวงนี้ใกลสอบแลวครับ ปกติผมจะอานหนังสือทุกวัน เพราะไมอยากมาเรงจําเรงอานใกลสอบ อยางนอยวันละชั่วโมงก็ยัง


ดีกวาไมไดอาน ผมไมไดหัวดีเหมือนทิว รายนั้นทองหนาหองสอบยังทําไดเยอะกวาผมเลย ขนาดมันไมคอยทํารายงานสง
นะ เกรดออกมาดีกวาผมอีก เวลาสอบก็ไดทิวนี่แหละชวยติดให

“กอนสอบพายมาติวหองทิวมั้ย หลังเลิกงานนะ”

“แลวทิวจะมีเวลาเหรอ ไมงวงนอนหรือไง”
“ก็ติวๆ ไป ถางวงก็นอน ตื่นมาคอยติวตอไง”

“งั้นรอทิวไปติวใหที่หองสมุดดีกวา ยังไงก็นัดเจอกันตอนเชาเหมือนเดิม”เมื่อกอนผมทํางานไมเปนเวลาครับ ถาเรียนบาย


ผมก็ขอทํากะเชา ถาเรียนเชาก็ขอทําเย็น แลกเวลากับเพื่อนตลอด อยากไดเงินเยอะๆ แตตอนนี้ทําไมได เพราะไมมีเวลาให
เลือก

“กวาจะตื่น กวาจะไปเจอกัน ก็เกือบไดเวลาเรียนพอดี จะมีเวลาสักเทาไหรกัน มาคางกับทิวนะแหละดีแลว สะดวกดี ทิวขี้


เกียจตื่นเชาไปหานะ”

“งั้นไมเปนไร พายอานเองก็ได”

“เฮย ไมใชแบบนั้นนะพาย ทิวอยากติวให แตขี้เกียจตื่น ถาพายไปนอนดวย ติวดึกขนาดไหนก็มีคนปลุกไง นะ ไปคางหอง


ทิวเหอะ”

“เอางั้นเหรอ”

“อืม เอางี้แหละ มาวันพรุงนี้เลยนะ”ทิวพูดเองเออเองเสร็จสรรพ ผมก็ตองตามใจคนติวแหละครับ จะอานเองก็ไมเขาใจ


ทั้งหมด ใหทิวติวใหจนชินแลว

หลังจากที่ทิวชวนกึ่งบังคับใหไปคางหองมัน ผมก็ตองเก็บเสื้อผาเตรียมไปคาง แลวก็ฝากใหนุดูหองให เดี๋ยวนี้นุอยูหองบอย


ขึ้น ผมก็ไมไดถามเรื่องงานวาเขาเขางานยังไง เห็นกลางวันอยูหองตลอด แตเย็นจะมักจะออกไปขางนอกแลวก็กลับเชา
บอยๆ

“ไปคางจนสอบเสร็จเลยเหรอ”

“อืม ยังไมแนนะ แคอาจจะ”

“วา งั้นก็ไมไดเจอพายหลายวันเลย”

“ทําไมเหรอ นุมีอะไรหรือเปลา หรือจะยายออกสิ้นเดือนนี้”ลืมเรื่องนี้ไปเลยครับ เดี๋ยวจะสิ้นเดือนแลวดวย

“เปลาๆ คิดถึงเฉยๆ อืม เรื่องหอนะ นุไมยายแลวนะ ดีใจมั้ย”

“จริงสิ ทําไมละ เปลี่ยนใจเหรอ”


“ก็...พี่เขาบอกวาอยูหอนี้ตอไปดีแลว เพราะยายไปก็ตองอยูคนเดียว เขาเปนหวง”

“เหรอ ดีจัง อยางนี้ตองฉลอง เย็นนี้กินขาวดวยกันนะ”

“ตอนนี้เลยไดเปลา เย็นนี้นุมีนัดแลว”

“ก็ได ไปเลยนะ เดี๋ยวทิวมันมารับไปเรียนนะ”ผมรีบเลือกเสื้อผาพับใสกระเปา นุก็ไปไปล็อคหองมัน เสร็จแลวเราก็ลงมาที่


รานขาวใตหอ นั่งกินไปสักพักแฟนนุก็โทรมา เห็นคุยไปยิ้มไป สงสัยจะรักมาก

“อาวพี่ตั้มจะถึงแลวเหรอ นุยังกินขาวกับเพื่อนอยูเลย ทําไมวันนี้มาเร็วละ..........เพื่อนขางหองที่เคยเลาใหฟงไงครับ.........


ใชๆ คนนั้นแหละ.............เดี๋ยวนะครับ...เพื่อนพายมารับตอนไหน ใหพี่ตั้มไปสงมั้ย เดี๋ยวนุตองผานหนามหาลัยพายพอดี”
นุคุยๆ อยูก็หันมาถามผมครับ

“ไมเปนไร เดี๋ยวทิวมันก็มาถึงแลวแหละ”กอนลงมา ทิวมันเพิ่งโทรมาหาบอกวาเพิ่งตื่น กําลังจะอาบน้ํา เดี๋ยวก็คงมาถึงแลว


มั้งครับ

“อืมๆ.....พี่ตั้มครับ เดี๋ยวพายเขามีเพื่อนมารับนะ....เออ...ครับ งั้นนุรอที่รานขาวใตหอนะ ครับ”นุพูดจบก็วางไป หนาตาดู


ไมคอยดีเลย สงสัยทะเลาะอะไรกันมั้ง

“เดี๋ยวแฟนมาหาเหรอ”ผมก็เพิ่งรูนี่แหละวาแฟนใหมนุชื่อตั้ม ดูนุเกรงๆ เขาเหมือนกัน คงเปนเพราะวาอายุมากกวาละมั้ง

“วันนี้เขาวางนะ ผานมาทางนี้พอดีเลยแวะมาหา บอกวาจะมากินขาวดวย”

“เหรอ งั้นเดี๋ยวพายไปรอทิวบนหองแลวกัน นุจะไดนั่งกับแฟนสองคน”

“เฮย ไมเปนไร พี่เขาอยากเจอพายเหมือนกัน”

“หือ..ทําไมละ”งงครับ จะอยากเจอผมทําไม

“ก็อยากเจอเพื่อนนุบางไง นุเลาเรื่องพายใหฟงบอยๆ แลวเขาก็เคยเห็นรูปถายพายในหองนุดวย”สงสัยเปนรูปตอนไปงาน


ลอยกระทงปที่แลว

“แตเรากินไปเกือบหมดแลวนะ มันจะไมนาเกลียดเหรอ”
“พี่ตั้มคงไปกินที่อื่นนะแหละ เขา...ไมคอยกินแบบนี้เทาไหร”

“อืม อะ...เดี๋ยวนะ”กําลังคุยอยูทิวก็โทรมาพอดี อยาบอกนะวามันมาถึงแลวนะ

“วาไงทิว”

“พายเก็บของเสร็จยัง ทิวอยูหนาหอนะ”ทิวพูดจบ ผมก็รีบเดินออกมาจากรานขาว เห็นรถทิวจอดอยูหนาหอพอดี

“พายกินขาวอยู ทิวมานั่งรอกอนสิ พายจะขึ้นไปเอากระเปา”ผมพูดจบ ทิวก็ดบั เครื่องแลวเดินมานั่งดวยกัน นุเคยเจอทิว


บางแลว เลยไมตองแนะนํากันอีก ผมรีบกินขาวใหหมดแลววิ่งขึ้นไปหยิบกระเปาเปบนหอง พอวิ่งกลับลงมาก็เห็นใครไมรู
นั่งอยูขางๆ นุอีกคน

“อาวพายมาพอดี นี่พี่ตั้มนะ พี่ตั้มครับ พี่พายเพื่อนขางหองนุเอง”พอผมเดินไปถึงโตะ นุก็แนะนําผมกับแฟนนุทันที

“สวัสดีครับ”ผมรูวาเขาอายุมากกวาก็เลยยกมือไหว แตพอไดเห็นหนาชัดๆ ถึงรูวาเขาคือคนที่ผมเห็นเมื่อวันกอนนั่นเอง

“คนนี้นี่เอง...นองพาย”พี่ตั้มรับไหวแลวก็ยิ้มๆ เขาเปนคนหนาตาดีมากเลยครับ ผมวาทิวมันหลอแลว พี่ตั้มนี่หลอกวาอีก


ครับ ตาดูคมๆ ดุๆ ดวย อายุคงมากกวาพวกผมไมกี่ป แตแตงตัวดูดีมาก วันนั้นวาดูดีแลว วันนี้ใสสูทดวยครับ เหมือนนัก
ธุรกิจเลย

“นุ งั้นพายไปกอนนะ ไวเจอกัน ฝากหองดวยละ”ผมบอกนุแลวก็พยักหนาใหทิวลุกขึ้น ผมวาพี่ตั้มเขามองผมแปลกๆ นะ


ครับ ยิ้มแปลกๆ ชอบกล

“แลวเจอกันใหมนะครับนองพาย”เสียงพี่เขาพูดไลหลังจนผมตองหันกลับไปพยักหนาใหแทนคําตอบรับ ยอมรับนะครับวา
ดูดีมาก แตก็ดูเจาชูมากๆ ดวย ผมเริ่มจะเปนหวงนุซะแลวสิ

“คนนั้นนะ แฟนนุเหรอ”พอนั่งรถออกมาไดสักพักทิวก็ถามเลยครับ

“อืม”

“ดูดีนะ ทาทางรวยนาดู”แสดงวาหลอจริงๆ ครับ ไมงั้นทิวไมชมหรอก

“แตคงเจาชูมากเหมือนกัน พายเปนหวงนุนะ กลัวตามเขาไมทัน”


“เรื่องของเขา เราจะชวยอะไรได”นั่นสินะ ผมจะชวยอะไรได นอกจากคอยดูอยูหางๆ ขอใหเขารักนุจริงๆ แลวกัน แตผมไม
ชอบที่เขาเรียกผมวา ‘นองพาย’ เลยใหตายเถอะ

ตอนที่ 10

วันนี้ที่รานคนไมเยอะครับ พอรานปดพวกเราก็นั่งกินขาวกัน หมายถึงผมกับจิ๋วนะที่กินขาว นอกนั้นก็ตั้งวงกินเหลา


เหมือนเดิม หลังจากที่ผมไดรูวาโบกับตอมันเปนไบฯ ผมก็ไมไดรูสึกรังเกียจหรืออะไร คงเพราะเปนเพื่อนนั่นแหละ แลว
หลังๆ มันก็ไมคอยแตะตองตัวผมเทาไหรดวย

“วันนี้ไมดื่มหนอยเหรอวะทิว”ศักดิ์เห็นทิวไมดื่มเลยสักแกวก็เลยถาม ผมก็วาจะถามเหมือนกัน

“ไมวะ คืนนี้ตองติวหนังสือกับพายดวย”ทิวพูดจบทุกคนก็เงียบแลวหันมามองหนาผมหมดเลย

“......อะไร”เลนจองกันซะทําตัวไมถูกเลย

“เปลา”ทุกคนตอบเหมือนกันหมด แลวยกแกวขึ้นดื่มพรอมกันดวย ผมหันไปมองจิ๋ว มันก็สายหนายิ้มๆ แถมยังเอามือมา


ลูบหัวผมอีก

“พรุงนี้ถามาไมไหวก็ไมตองมานะ”ตอพูดยิ้มๆ แถมยังโดนทิวตอยเบาๆ ที่ไหลดวย

“มีอะไรถามจิ๋วมันก็ได มันผานมาแลว”โบเองก็พูดอะไรแปลกๆ เหมือนกัน ผมหันไปมองหนาจิ๋ว แตจิ๋วหนาแดงแจเลยครับ

“......เบาๆ หนอยแลวกันนะทิว”จิ๋วเองก็เปนไปดวย ผมเห็นแตศักดิ์นั่งหัวเราะใหญเลย ทิวเองก็ยิ้มๆ กินขาวไป ไมพูดอะไร


ออกมาเลยสักคํา ปลอยใหผมนั่งงงอยูคนเดียว

ปกติผมก็มาหองทิวบอยนะครับ แตไมเคยคางเลยสักที เปนครั้งแรกเลยที่จะไดคางที่นี่

“เดี๋ยวพายนอนโซฟานะ”ผมวางกระเปาเปไวขางโซฟาแลวบอกทิวกอนที่ทิวจะเดินเขาหอง

“ทําไมละ มานอนดวยกันในหองดิ”ทิวเปดประตูคางไว พอผมสายหนามันก็เดินมาหยิบกระเปาผมเดินเขาหองไปเลย

“เกรงใจวะ พายนอนขางนอกได คราวกอนยังนอนขางนอกเลย”ผมเดินตามเขามาเอากระเปา มันก็จัดแจงเอาเสื้อผาผม


แขวนใสตูซะงั้น
“ตอนนั้นทิวไมสบาย กลัวพายติดหวัดเลยไมใหนอนขางใน แตตอนนี้ไมเหมือนกันนี่ เตียงออกจะกวาง นอนดวยกันนะ”ทิว
พูดไปก็รื้อของผมออกมาจัดไปดวย สุดทายเถียงยังไงก็ไมชนะ ผมก็เลยชวยมันแขวนเสื้อผาตัวเองดีกวา

พรุงนี้เรามีเรียนตอนบาย ผมกับทิวเลยตกลงกันวาจะตื่นมาติวตอนเชา การนอนรวมกับคนอื่นทําใหรูสึกแปลกๆ จะเรียกวา


ตื่นเตนก็คงได เพราะผมไมใชคนมีเพื่อนเยอะ หรือชอบเขาสังคมเทาไหร มีทิวนี่แหละลากไปรูจักเพื่อนกลุนโนนกลุมนี้ ไม
งั้นผมก็คงรูจักแตมันที่เปนบัดดี้ผมตอนรับนองแคคนเดียว ทิวเปนคนใจดีครับ คอยชวยเหลือผมเสมอ ตั้งแตปหนึ่งจนถึงป
สี่ แรกๆ กลุมเราก็มีหลายคน แตยิ่งนานวันยิ่งจับกันเปนคูๆ สุดทายก็หางๆ กัน มีเพียงเวลาเรียนเทานั้นที่จะรวมกลุมกัน
ผมก็ไมคอยรูสึกอะไร เพราะผมมักจะเอาเวลาวางไปทํางานเสมอ ไมคอยไดนัดสังสรรคกับใครอยูแลว ผมเคยนึกอิจฉาทิว
อยากดูดีแบบทิว อยากคุยเกง มีเพื่อนฝูงรายลอมแบบมันบาง แตก็รูตัวดีวาเปนไปไมได สุดทาย....เลยไดแตนึกอิจฉาอยู
ลึกๆ แคนั้นเอง

ผมตื่นมาตอนเชาก็สะดุงเหมือนกันครับ เห็นหนาทิวอยูใกลๆ มันเลยเกิดกลัวขึ้นมา แตก็นึกไดวามาคางกับมันเลยโลงอก


ตื่นมาก็อาบน้ํากอนเลย หองทิวมีครัวเล็กๆ ดวย ปกติผมชอบทําอาหาร แตที่หอผมเขาไมอนุญาติ ผมเลยไมไดทําสักที เปด
ตูเย็น เห็นมีไขไก เบคอน ไสกรอก นอกนั้นก็....เบียรเต็มตูเลย ปกติทิวมันคงกินขนมปงแนๆ เห็นมีแยมหลายอยางกับขนม
ปงวางบนตูเย็น แตผมไมชอบกิน มีครัวใหทําทั้งทีก็ขอทําอะไรกินเองดีกวา

หลังจากรื้อของในตูเย็นจนทั่ว ผมก็ลงมาซื้อของที่มินิมารทใตคอนโด ที่นี่มีทั้งของสดของแหง ผมซื้อไปไมกี่อยาง ตั้งใจจะ


ทําขาวผัด กับแจงจืดสาหรายกิน ซดอะไรรอนๆ โลงคอดีนะครับ

“ไปไหนมาพาย”ทิวรีบเดินมาหาผมทันทีที่เปดประตูเขามา หนาตามันดูตกใจมากๆ เลย

“ไปซื้อของมาทํากับขาวไง เปนไร หนาตื่นเชียว”ผมชูถุงในมือใหมันดู ทิวผอนลมหายใจเบาๆ แลวยกมือลูบคอตัวเองแบบ


เขินๆ ผมก็งงเลย เปนอะไรของมัน

“งั้น...ทิวไปอาบน้ํากอนนะ เดี๋ยวมาชวย”ทิวพูดจบก็เดินเขาหองนอนไป งงครับ เปนไรผีเขาผีออก หรือวาฝนราย ผมสายหัว


เบาๆ แลวเดินไปเตรียมทํากับขาวที่ครัวเล็กๆ มุมหอง จัดการลางผักเสร็จก็เตรียมตมน้ําทําแกงจืด สาหรายไมมีเลย
เปลี่ยนเปนแกงจืดเตาหูไขใสวุนเสนแทน ระหวางรอน้ําเดือดผมก็ทําขาวผัดเบคอนไสกรอก เรียกไดวามีอะไรเหลือในตูเย็น
ผมเอามาจับใสผมเลยครับ เพราะทาทางมันจะซื้อมานาน ใกลหมดอายุแลวดวย

“ทําอะไรหอมจัง”ทิวเดินมาเมื่อไหรก็ไมรู อยูดีๆ ก็กมหนาลงมาจนจมูกเฉียดแกมผมไปนิดเดียว

“...มาเงียบๆ ตกใจหมด”ผมบายหนาหนีแลวตักขาวผัดขึ้นมาชิม ไมไดทํานานแตฝมือยังใชไดอยูนะครับเนี่ย

“กินมั่ง”ทิวไมพูดเปลา จับมือผมแลวยื่นหนามาชิมขาวจะทัพพีเดียวกัน จนปากเกือบจะโดนปากผมอยูแลว


“....อรอยนี่ แลวในหมอทําอะไรอะ”ทิวพูดถึง....หมอ...ใช ผมตมน้ําไวนี่นา เกือบลืมเลย หันไปมองน้ําเดือดจนเกือบลนแลว

“ตักขาวใสจานเลย เดี๋ยวทําแกงจืดแปปเดียวก็เสร็จ”ผมรีบทิ้งทัพพีแลวหันไปปรุงแกงจืดแทน รูสึกหนาตัวเองมันรอนผาว


เพราะการกระทําของทิวเมื่อครู ผมชักไมแนใจแลววาปากเราโดนกันหรือเปลา เหมือนจะโดนแบบเฉียดๆ แตทิวไมเห็นพูด
อะไรนี่นา

“อรอยจัง พายมาอยูกับทิวตลอดเลยก็ดีสิ ทิวจะไดไมอดตาย กินขนมปงทุกวันเบื่อจะแยแลว”ทิวกินขาวผัดจนหมดไปหนึ่ง


จาน แลวก็วิ่งไปตักมาใหม ในขณะที่ผมยังกินแคครึ่งจานอยูเลย

“ก็หัดทําสิ ครัวก็มี ตูเย็นก็มี ถาหองพายมีแบบนี้นะ จะทํากับขาวกินเองทุกวันเลย ไมไปซื้อใหเปลืองเงินหรอก”เครื่องครัว


หองมันใหมเอี่ยมมากๆ เลยครับ เหมือนเพิ่งซื้อมา ทั้งที่อยูมาตั้งหลายปแลว

“ทําไมเปน แลวก็คงทําไมอรอยดวย พายนะแหละ มาอยูกับทิวเถอะ นะ”ทิวกินขาวไปก็ออนผมไป ดวยความหมั่นไสเลย


เอาชอนเคาะหัวมันไปที แลวก็เดินหัวเราะเอาจานไปลาง ไดยินเสียงมันตะโกนโวยวายอะไรไมรู อยูกับทิวก็สนุกดีครับ แต
...ถึงผมจะจน ก็ยังรักศักดิ์ศรีตัวเอง ถามาอยูกับทิว มันคงไมยอมใหจายคาเชาแนๆ ผมไมอยากรูสึกวาเอาเปรียบใคร เรา
เปนเพื่อนกัน ควรจะเสมอภาคกันสิ

หลังจากกินขาวเสร็จ ทิวกับผมก็หยิบหนังสือมานั่งอาน พอผมไมเขาใจตรงไหนก็จะถามทิว สวนใหญมันจะตอบไดหมด


ถาขอไหนไมเขาใจมันก็จะขอไปนั่งทําความเขาใจคนเดียวหรือไมก็โทรไปถามเพื่อนคนอื่น แลวมาอธิบายผมอีกที

เรานั่งติวกันจนเกือบถึงเวลาเรียน ทิวกับผมก็รีบผลัดกันไปอาบน้ําแตงตัวใหม ขาวเที่ยงไมหิวเลยครับ เมื่อเชากินขาวไปซะ


จุกเลย

อาทิตยหนาก็จะสอบแลว อาจารยเลยไมคอยสอน สวนมากจะบอกแนวขอสอบแลวก็ปลอยใหเราอานตามยฐากรรม พอ


อาจารยปลอย ทิวก็พากลับมาเปลี่ยนชุดที่หอง แลวก็ออกไปที่รานกัน วันนี้ไมใชวันทํางานของทิว แตมันจะไปสง ผมขี้เกียจ
เถียงก็เลยตามใจมัน แต...ที่ไหนได มาถึงรานแทนที่จะใหแมครัวทําใหกิน ดันใชใหผมทําให เลือกเมนูเองเสร็จสรรพดวย

“ไดแลวคุณชาย ตมยํารวมมิตร ไขเจียวกุงสับ ผัดมะระหวานใสเห็ดหอม จะรับอะไรเพิ่มมั้ยครับ”ผมเดินมาเสิรฟมันถึงใน


หองเลย คุณชายกําลังนั่งสูบบุหรี่ปลอยควันคลุงไปทั่วหองเชียว เปดเขามาตอนแรกนึกวาไฟไหม

“รานยังไมเปดเลย ไปนั่งกินขางนอกก็ได”ทิวเดินมาแยงถาดอาหารไปถือเอง

“เขาจัดโตะกันอยู กินในนี้แหละ แตขอเปดประตูนะ”ผมเปดไปเปดประตูใหกวางๆ เอาเกาอี้มาดันไวดวย ไมไหวครับ กลัว


ขาดใจตาย
“แหะๆ โทษที”ทิวทําหนาสํานึกผิด ผมก็พยักหนารับ รูครับวามันสูบจัด แตก็ตัวมัน จะหามจะเตือนก็ยังไงอยู อายุเทากัน
อะไรดีไมดีคงคิดไดเอง

“เพลาๆ บางก็ดีนะ”ผมก็อดเตือนมันไมไดหรอก หลังๆ มันสูบบอยกวาแตกอน หรือผมเห็นบอยขึ้นก็ไมแนใจ

“ครับ”ทิวกมหนารับคําเหมือนเด็ก ยิ่งอยูกับมันมากๆ ผมยิ่งรูสึกเหมือนมีนองชายเพิ่มยังไงไมรู

“แลวขาวละ”นั่นไง นึกแลววามันตองถาม

“อยูในครัว ไปยกมาสิ”ผมพูดนิ่งๆ ทิวก็บนอะไรเบาๆ ไมรู แตก็เดินออกไปโดยดี สักพักก็เดินเขามาพรอมขาวโถเล็กแลวก็


จานสองชุด ระหวางที่กินกันไปคุยกันไป ดูทิวมันอารมณดีมากๆ เลยครับ ผมถามวาดีใจอะไร มันก็บอกวาเปลา ซึ่งเปน
คําตอบที่ผมเกลียดที่สุด

“เออวาไง”ทิวหยิบโทรศัพทขึ้นมาดูแลวก็ทําหนาเบื่อๆ กอนจะกดรับ

“......อยูกับพาย.......เรื่องของกู..............อยาล้ําเสนใหมากนักไอตอ กูยิ่งกําลังอารมณดีอยู มีอะไรก็รีบๆ พูดมา.........ไม


แนวะ กี่โมงละ.......เออๆ ได แลวเจอกัน”เวลาทิวคุยกับคนอื่น คําพูดและน้ําเสียงที่มันใชคอนขางแตกตางกับเวลาพูดกับ
ผม ผมก็ไมไดถือนะถาใครจะมึงมาพาโวยใส เพียงแตผมไมพูดแคนั้นเอง

“เดี๋ยวเลิกงานแลวทิวมารับนะ ไปกินเหลากับพวกไอตอแปปนึง”

“ไมตองมารับก็ได กลับเองได เดี๋ยวคืนนี้พายกลับไปนอนหองพายแลวกัน”

“เฮย ไมเอาดิ ทิวไปกินเหลารอพายนั่นแหละ พอเลิกก็โทรมา หองไอศักดิ์อยูในซอยหลังรานนี่เอง”

“อืมก็ได อยาเมามากแลวกัน”

“...ทําไม เปนหวงทิวเหรอ”

“ถาเมาแลวใครจะขับละ พายขับเปนที่ไหน”

“ครับผม รับรองไมเมาเด็ดขาด”ทิวยิ้มรับ แถมยังยกนิ้วปฏิญาณแบบลูกเสืออีก


ทิวขับรถออกไปหาพวกตอ ผมก็ทํางาน วันนี้พี่ธารไมคอยสบายครับ อยูแตในหองทํางาน ไมออกมาตอนรับลูกคาเอง ผมก็
เลยทําหนาที่แทน ลูกคาขาประจําก็เริ่มคุนหนากันแลว พี่ธารไมสบาย ทิวหยุด คนที่ตองคอยเปดเพลงในรานก็กลายเปน
ผม ไมไดยุงยากอะไรหรอกครับ เพราะทิวมันจัดไวแลว สนุกดีครับ เหมือนเปนดีเจเลย

กวาจะปดรานก็เกือบตีหนึ่ง วันนี้ปดเร็วครับ ลูกคานอย ผมเก็บของเสร็จก็โทรไปหาทิว รอตั้งนานกวาจะรับสาย

“พายเลิกงานแลวนะ รออยูหนาราน”พอมีคนรับสายผมก็พูดใสทันที แตคนที่พูดตอบกลับมาดันไมใชทิวซะนี่

ตอนที่ 11

“พายเหรอ นี่จิ๋วเอง ทิวมันเมาแลววะ เดี๋ยวจิ๋วออกไปรับนะ แปปนึง”จิ๋วพูดแลวก็วางไปเลย ผมกําลังจะบอกวาไมตอง


ออกมา ผมจะกลับหองเอง ทิวมันเมาแลวจะมารับผมไปทําไม ขับรถพามันกลับก็ไมได

นั่งรอที่เกาอี้หินออนหนารานสักครู จิ๋วก็บิดมอเตอรไซตมาจอดหนาผม เสียงรถหนวกหูมากครับ เหมือนมันจะรูตัววารถมัน


เสียงดัง จิ๋วกมหนานอยๆ ยิ้มแหยๆ เปนเชิงขอโทษ ผมก็ไมวาอะไร ขึ้นคลอมซอนทายมันไปไดแคไมกี่นาทีก็มาจอดอยูใต
หอศักดิ์

“มาแลวเหรอจะนองพาย”เดินเขาหองปุป ไอตอก็สงเสียงกวนๆ ของมันมากอนเพื่อนเลย ผมพยักหนาใหแลวมองหาทิว แต


ไมเจอ

“ทิวเขาหองน้ําอยู พายมานั่งกอนสิ”โบขยับตัวใหเหลือที่วางระหวางมันกับศักดิ์ ผมเดินไปนั่ง แลวยื่นถุงกับขาวจากรานให


มันไปใสจานมากิน ผมเองก็ยังไมไดกินขาวเย็นเลย กะวาจะไปกินที่หองทิว สงสัยกวาจะไดกลับคงอีกนาน กินพรอมๆ พวก
นี้เลยก็ได

ผมนั่งกินไปสักพัก ทิวก็เดินออกมาจากหองน้ํา ผมเปยกโชกจนน้ําไหลลงตามลําตัวมัน ดีนะที่มันไมใสเสื้อ ไมงั้นเสื้อเปยก


หมดแหงๆ

“อาว พายมาไดไง”ทิวมองผมงงๆ ผมเองก็งง นึกวามันใหจิ๋วไปรับมาเสียอีก

“กูใหไปรับมาเองแหละ เห็นมึงนอนคอพับอยู กูเลยจะใหพายมานั่งรอมึงสราง”ศักดิ์พูดพรอมกับยกแกวในมือขึ้นดื่ม

“เสือกไมเขาเรื่องนะมึง...พาย กลับหองกัน”ทิวเดินมาแตะไหลผมเบาๆ ผมนี่อาปากคาบชอนคางไวเลย ก็คนกําลังกินขาว


อยู มันเมาจนมองไมเห็นหรือไง
“เดี๋ยวดิ กินขาวกอน หิววะ แลวทิวก็ยังไมคอยสรางเลย อยูอีกแปปก็ได”ผมกินขาวตอแลวก็หันไปบอกมัน ไดยินเสียงตอ
หัวเราะเบาๆ ไมรูวาขําอะไร

“กินเสร็จเรียกแลวกัน เดี๋ยวนอนรอ”ทิวสะบัดเสียงพูดแบบโกรธๆ แลวก็เดินเขาหองนอนไปเลย ผมถามคนอื่นๆ แบบไม


ออกเสียงวาทิวหงุดหงิดอะไร พวกมันหัวเราะกากออกมาเลย แตหัวเราะไมนานก็ตองเงียบเพราะเสียงอะไรสักอยาง
กระแทกประตูหองนอนจากดานใน

ผมก็นั่งกินขาว นั่งคุยกับพวกมันไปจนเริ่มไมมีอะไรคุย ดูเวลาคิดวาทิวคงนาจะสรางไดแลว

“ทิว....ทิว...กลับหองกัน”ผมเดินเขามาเขยาตัวเบาๆ มันก็ปดมือออก เปนอยางนี้อยูสองสามรอบถึงไดลืมตาขึ้นมามอง

“....พาย....ทิวมึนหัวอยูเลย นอนนี่นะ เดี๋ยวก็เชาแลว”นั่นไง ผมนึกแลววามันตองไมไหว

“เออก็ได เดี๋ยวไปบอกพวกนั้นกอน”ผมเดินออกไปบอกศักดิ์วาขอคาง มันก็ไมวาอะไร ออกจะดีใจดวยซ้ํา คนอื่นก็นอนคาง


เหมือนกัน ศักดิ์บอกใหจิ๋วไปนอนในหองดวย เตียงกวาง นอนสี่หาคนไดสบาย ตอมันเลยเดินตามเขามาดวย สวนศักดิ์
นอนดูหนังขางนอกครับ เกรงใจนะเนี่ย เจาของหองนอนโซฟา

“เขามาทําไมกันเยอะแยะวะ”ทิวลืมตามาเห็นสองคนขางหลังผมก็เริ่มหงุดหงิดอีกแลวครับ

“เขามานอนสิวะ มึงเขยิบไปชิดๆ ผนังเลย”ตอเดินมาถึงก็ลงไปนอนซะเกือบกลางเตียง ผมวาตอใหเตียงมันใหญขนาดไหน


แตผูชายตั้งสี่คนเลยนะ มันจะไมเบียดแยเหรอ

“พายมานอนริมมา ไอตอมันนอนดิ้น”ทิวคุยอะไรกับตอไมรู แลวก็หันมากวักมือเรียกผม ก็ดีครับ ผมไมอยากเบียดกับใคร


ดวย พอผมเดินไปนอนขางทิว จิ๋วก็ปดไฟ แลวมานอนริมเตียงขางตออีกฝง

ผมนอนไปไดสักพักก็เริ่มรูสึกอึดอัดเลยลืมตาขึ้นมามอง เห็นหนาทิวอยูใกลผมจนสัมผัสไดถึงลมหายใจ แถมมันยังกอดผม


ไวทั้งตัวเลย

“ทิว....อึดอัด”ผมยกมือเขยาตัวมันเบาๆ มันลืมตาพรึ่บขึ้นมา ตกใจหมดเลยครับ

“.........ตอมันเบียดมา อึดอัดมากเหรอ”ทิวพูดจบ ผมก็เตรียมเงยหนาไปมองวาตอเบียดมามากแคไหน ถานอนเบียดกัน


แบบนี้ ผมวาผมออกไปนอนขางนอกดีกวา
“อืม...อยาดิ้นสิครับ”ทิวใชจังหวะที่ผมขยับตัวสอดแขนเขามาแทนหมอน แลวกอดผมจนหนาผากชิดกับปลายคางมัน ลม
หายใจรอนๆ รดบนใบหนาทําเอาผมตัวแข็งทื่อทําอะไรไมถูก ลึกๆ แลวผมอาจยังกลัวการใกลชิดกับคนอื่น แตตอนนี้ไมได
กลัวทิวหรอกนะครับ แตแปลกใจกับพฤติกรรมมันมากกวา

“.....ทิว....ทําอะไร”

“พายตัวนิ่มจัง...ขอกอดหนอยนะครับ”

“..ทะ..ทิว...”

“......พายนารักจัง”ปากนุมๆ สัมผัสหนาผากผมตลอดทุกคําที่เอยออกมา และยิ่งไลต่ําลงตามโครงหนาอยางเชื่องชา ผามือ


ลูบไลแผนหลังผานเสื้อยืดตัวบาง ความกลัวแลนขึ้นมาจนตัวสั่นสะทาน ในอกเย็นวูบและบีบรัดจนหายใจแทบไมออก

“.....พาย....พาย!! เปนอะไร......”เสียงทิวตะโกนดังขึ้นจนทําใหคนอื่นๆ ตื่น แสงไฟในหองนอนสวางวาบ ผมรูสึกถึงฝามือ


หนาที่กุมมือผมเอาไวและพยายามงางออก ผมเกร็งตัวแนน กํามือจิกเล็บลงกลางฝามือโดยไมรูตัว

“เฮย...พายเปนไรวะ ชักเหรอ”ตอพยายามจะชวยทิวจับตัวผมใหนอนหงายและเหยียดตรง แตยิ่งถูกคนรุมลอมผมก็ยิ่งกลัว

“.....มะ..มาย....อยะ....อยาเขามา อยา...อยา....”

“ตอมึงออกมากอน พายเขากลัวมึงไมเห็นเหรอ”จิ๋วดึงตอใหออกหางจากตัวผม ในขณะที่ผมรับรูสถานการณทุกอยาง


ตรงหนา แตกลับควบคุมตัวเองไมได จิ๋วดึงทิวใหออกไปจากตัวผมอีกคน ทุกคนยืนมองผมอยูรอบๆ เตียงดวยความงุนงง
ฝามือเล็กๆ ของจิ๋วลูบหลังปลอบประโลมเบาๆ พรอมเสียงนุมที่กระซิบขางหู

“ไมเปนไรแลวนะพาย....ปลอดภัยแลว”

ตอนที่ 12

จิ๋วไลทุกคนใหออกไปรออยูขางนอก แลวนั่งลูบหลังผมเบาๆ คําปลอบโยนดังซ้ําๆ อยูขางหู ผมรองไหดวยความกลัวและ


สับสนจนเหนื่อย พอเริ่มหายเกร็งจิ๋วก็ลมตัวลงนอนขางหลังแลวจับไหลผมใหหันหนาไปหา

“.....ดีขี้นมั้ย”จิ๋วเช็ดน้ําตาเบาๆ พรอมสงยิ้มมาให ผมพยักหนาตอบแลวดึงคอเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ําตาน้ํามูกออกจนหมด


“หึหึ...คอเสื้อยวยหมดพอดี”จิ๋วหัวเราะไปก็ลูบมือผมไปดวย ไมรูทําไม ทั้งๆ ที่จิ๋วดูเด็กๆ แต...ผมกับรูสึกอบอุน....ถาผมมี
พี่ชาย ผมอาจรูสึกแบบนี้มั้ง

“...อืม....ขอบใจ”

“พาย.....จิ๋วถามตรงๆ นะ.....พายเปนอยางนี้นานหรือยัง”แววตาที่มองตรงทําใหตองหันหนี คําถามที่เหมือนรูคําตอบทําให


ผมกลัวที่จะพูดความจริง

“....ปะ...เปนอะไร”

“ทําไมจิ๋วจะดูไมออกวาพายกลัวอะไร เจออะไรมา.....จิ๋วเองก็เคยโดนอยางพายเหมือนกัน”

“จิ๋ว.....เออ...”

“ก็ดูรูปรางหนาตาจิ๋วสิ มันเปนอยางนี้ตั้งแตเกิด ไอพวกชอบลองที่โรงเรียนเกาก็มีเยอะ ไมแปลกหรอกที่จิ๋วจะกลายเปน


เหยื่อพวกมันนะ”

“.......จิ๋ว”เสียงผมครางเครือดวยความสงสาร พลิกมือกุมมือจิ๋วไวหลวมๆ จากที่ไมไวใจที่จะเลาเรื่องที่เกิดขึ้น แตจิ๋วพูด


แบบนี้ ผมก็เลยกลาพูดมากขึ้น ผมเลาเรื่องที่ผมเจอมาใหจิ๋วฟงโดยยอ มันทั้งตกใจและสงสาร จิ๋วบอกวาตอนเรียนมัธยม
ปลายไปเขาคายที่ตางจังหวัด เขาถูกพวกเด็กเกเรในโรงเรียนดักฉุดไปรุมในหองน้ํา จิ๋วบอกวาเจ็บตัวไมเทาไหร แตเจ็บใจ
มากกวา พวกมันเวียนกันสนองตัณหาบนรางกายจิ๋วไมพอ มันยังจับจิ๋วขังไวในหองน้ํา จิ๋วจัดการลางคราบตางๆ แลวนั่ง
สะสมความแคนรอเวลา จิ๋วนั่งอยูในหองน้ําเกาๆ รวมชั่วโมงถึงมีคนเดินผานมา จิ๋วรีบไปเปลี่ยนชุดทามกลางความสงสัย
ของเพื่อน รางกายที่บอบช้ําเกินกวาจะปกปดทําใหหลายคนเดินเขามาสอบถาม จิ๋วเดินไปบริเวณประกอบอาหารของหมู
แลวหยิบมีดทําครัวไปฟนไอหัวโจกคนนั้นทันที โชคดีที่เพื่อนๆ หามจิ๋วทัน มันก็เลยไมถึงตาย ผูปกครองฝายนั้นไมกลาเอา
เรื่อง เพราะรางกายจิ๋วยืนยันไดวาถูกทํารายอะไรมาบาง สุดทายพวกนั้นทั้งกลุมก็ถูกไลออกและดําเนินคดี จิ๋วบอกวาตอน
นั้นไมสนวาใครจะคิดยังไง แตถาจิ๋วไมตอบโต เรื่องแบบนี้อาจเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ

“จิ๋วเขมแข็งจัง”

“เปลาหรอกพาย....จิ๋วแครักตัวเอง ชวงนั้นพอกับแมเพิ่งจะแยกทางกัน ถึงจิ๋วจะอยูกับแม แตเขาก็ทํางานหนัก ไมคอยอยู


บาน พอรูสึกวาถูกเมินมากๆ จิ๋วก็เลยไมแครคนอื่นบาง สนใจแตตัวเองอยางเดียว”ที่จิ๋วพูดมาผมก็ไมคอยเขาใจเทาไหร ถึง
ผมจะขาดพอ แตตอนที่เขาอยู ผมก็รักเขามาก ครอบครัวอบอุน แมตอนนี้จะเหลือแมคนเดียวแตก็ยังมีความสุขอยู
“.....จิ๋วยังมีเพื่อนๆ...แลวก็พายอีกคนนะ”ผมไมแนใจวาคําพูดนี้จะปลอบจิ๋วไดมั้ย แตคิดวาคงได....เพราะจิ๋วยิ้มและเลื่อน
ตัวเขามากอดผม ในขณะที่ผมเองก็กอดตอบ....ความรูสึกของเราสี่อถึงกัน.....ความเจ็บปวดที่มีเหมือนกัน....เรื่องเลวรายที่
เกิดขึ้นกับเรา....ผมไมสามารถพูดไดวา...ดีใจ...ที่จิ๋วเขาใจผม

“เออ....พาย...เปนไงบาง”เสียงทุมเอยถามเบาๆ จากหนาประตู ผมเงยหนาขึ้นมาพรอมๆ กับจิ๋ว คนที่ถามยืนอยูนอกหอง


และเปดประตูเอาไวเหมือนไมกลาเขามา ผมกับจิ๋วหันมองหนากันและหัวเราะออกมาดังลั่น

“ฮาๆๆ ทําอะไรวะทิว หนาประตูมียันตรึไงมึงเขาไมไดนะ”จิ๋วลุกขึ้นนั่งและดึงใหผมลุกตาม เห็นทิวหงอทีไรอดขําไมไดทุกที

“อาว...กูไมรูนี่หวา เผื่อมึงไลกูออกไปอีกละ”

“เชี่ยนี่ อุตสาหชวยเด็กมึงแลวยังปากหมาอีกนะ เดี๋ยวกูไมชวยเลย”จิ๋วพูดจบ ผมถึงกับหยุดหัวเราะ....ผม...ไปเปนเด็กทิว


ตั้งแตเมื่อไหร...มันหมายความอยางที่ผมเขาใจหรือเปลา...หรือวาไมมีอะไรแคพูดแซวเฉยๆ

“.....พาย...เปนไงบาง...ทิวขอโทษนะ”

“อะ...อืม...ไมเปนไรหรอก พายตกใจมากไปหนอย ขอโทษนะที่ทําใหวุนวายกัน”ผมเอยขอโทษทิวและคนอื่นที่ยืนอยู


ดานหลังมันดวย ทาทางจะสรางเมากันหมดเลย

“......พาย....เออ...นอนไปกอนนะ เดี๋ยวตื่นมาแลวทิวพากลับหอง”ทิวพูดพรอมกวักมือเรียกจิ๋วใหออกไป ผมเองก็รองไหจน


เหนื่อย ตอนนี้ไมอยากคิด ไมอยากพูดอะไรเลย ขอนอนกอนแลวกัน

ผมตื่นมาตอนสาย พวกขางนอกนอนกันเกลื่อนพื้นเลยครับ รูสึกเกรงใจเจาของหองเหมือนกันนะเนี่ย ผมไมแนใจวาพวก


มันนอนกันตอนไหน ไมกลาปลุกก็เลยเดินลงมาหาซื้อกับขาวไปไวใหกินกัน แถวหอมันมีรานอาหารตามสั่งแครานเดียว ผม
ก็เลยสั่งกับขาวหาอยาง แลวก็ขาวเปลาอีกหกสิบบาท ไมรูจะพอกินมั้ย แตละคนกินจุมากครับ

เดินกลับมาถึงหอง ทุกคนตื่นกันหมดแลวครับ พอทิวเห็นผมก็ถามใหญเลยวาไปไหนมา นึกวาผมหนีกลับหองไปแลว คน


อื่นที่อยูในหองอมยิ้มสายหัวกันถวนหนา ขนาดผมเองยังขําในความวิตกกังวลของมันเลย

กวาจะกลับมาถึงหองไดก็บายแลว ทิวทําทาทางเหมือนอยากถาม แตก็ไมกลา สุดทายเลยนั่งติวหนังสือกันตอ แตผมรูสึก


วาทิวพยายามรักษาระยะหาง ปกติทิวชอบที่จะคอยคลอเคลียใกลๆ แตวันนี้ยังไมโดนตัวผมเลยครับ นั่งๆ ติวกัน ผมชะโงก
หนาไปถามใกลๆ มันก็ขยับหนี พอแกลงแยงปากกาในมือ มันก็ดูเกร็งๆ รูสึกแปลกๆ ครับ

“ทิวเปนอะไร ทําหนาแปลกๆ”ผมเองที่เปนฝายทนบรรยากาศอึดอัดแบบนี้ไมไหว จนตองเอยถามมันกอน


“...ไมรูสิพาย...ทิว....ขอโทษนะ..เรื่องเมื่อคืนนะ ทิวไมคิดวาพายจะกลัวขนาดนั้น”

“ไมเปนไร พายรูวาทิวไมไดตั้งใจ”

“....เออ....อืม....พายมีอะไรอยากเลาใหทิวฟงรึเปลา...ทิวไมเคยเห็นพายกลัวแบบนั้นมากอนเลย มีอะไรบอกทิวไดนะ”

“..........”บางทีผมควรจะเลาใหทิวฟงตั้งแตแรก คงเพราะวาเราสนิทกันผมเลยไมคอยกลาพูด ทั้งๆ ที่มันสมควรรู

“พาย”ทิวเห็นผมเงียบก็เลยเรียกอีกครั้งเพื่อใหผมตอบคําถาม

“..........พายโดนขมขืน”ผมกลั้นใจพูดออกไป เหมือนเสียงบรรยากาศรอบตัวหายไป ไดแมกระทั่งเสียงหัวใจที่เตนรัวของ


ตัวเอง ผมไมกลาเงยหนามองทิว ไมรูวา ทิวจะรังเกียจผมมั้ย คนที่ทิวมองวาสดใส แสนดี....ผม...ไมอยากทําลายภาพพจน
ในใจของทิวเลย....เพราะผมคิววาเริ่มรูแลวไง...รูวาทิวรูสึกอยางไรกับผม...ผมถึงไมกลาจะทํารายเขา ผมเองก็อยากจะดู
บริสุทธิ์สดใสในใจของทิวเหมือนกัน...ทั้งที่ไมแนใจวาทําไม....แต....ไมอยากที่จะตองสูญเสียที่วางในใจของทิวไปเลย

“........เมื่อไหร”ทิวเงียบไปสักพักกอนจะเอยถาม สีหนาผิดหวัง เสียใจ และโกรธแคน ทําใหใจผมกระตุกวูบ....ผม...กลัวทิว


รังเกียจจริงๆ นะ

“....วันที่พายหายไปไง.....ทิว...พายไมสนนะวาทิวจะรูสึกกับพายเหมือนเดิมมั้ย จะรังเกียจพายหรือเปลา”ผมพูดจบทิวก็
ควาตัวผมไปกอดแนนเลย ออมกอดครั้งนี้มันไมใชการหยอกลอเหมือนทุกครั้ง ผมไมกลัวหรือตกใจเลย กลับรูสึกดีใจที่ทิว
ไมรังเกียจผม ไมรูวาน้ําตาไหลตั้งแตตอนไหน ออมแขนที่กอดกระชับแนนจนเจ็บไมทําใหอึดอัด แตกลับรูสึกสบายและ
อบอุน

“.....ขอบคุณ”การกระทําของทิวยืนยันความสัมพันธระหวางเราไดด.ี ...ทุกอยางจะยังเหมือนเดิมใชมั้ย

“ทิวขอโทษนะพาย.....ขอโทษที่ดูแลพายไมดี ขอโทษ.....ขอโทษ......ขอโทษ.......”ทิวพูดขอโทษซ้ําไปซ้ํามา ผม...ไมอยาก


คิดแลววาทิวรูสึกยังไงกับผม....หากมันอบอุนขนาดนี้....จะเปนอะไรก็ชางมันเถอะ

หลังจากที่ไดบอกทิวไป ผมรูสึกโลงใจมากเลยครับ ทิวเองก็ไมถามรายละเอียดใหผมอึดอัด ถึงถามผมเองก็ยังไมกลาเลา


ดวย ไมอยากนึกถึงครับ

“เปนไง ทําขอสอบไดมั้ย”เดินออกมาจากหองสอบ ทิวก็ยืนรออยูแลวครับ หลังจากวันนั้นทิวเอาใจใสผมมากขึ้น คอยไปรับ


ไปสงไมวาผมจะไปที่ไหน ถาไมไดอยูดวยกันก็จะโทรหาตลอด เรียกไดวาเปนเงาตามตัวเลยละครับ
“ก็พอไดนะ...เฮออออ สอบเสร็จสักที อยากกลับไปนอนจัง”กวาจะทําขอสอบเสร็จ ตาแทบปดเลยครับ ผมนะหัวชา อาน
หนังสือก็ตองอานหลายรอบกวาจะเขาใจ ไมเหมือนทิว มันอานรอบเดียวก็เขาใจ เวลานอนเลยเยอะกวาผม เยอะขนาด
ที่วามีเวลานั่งเลนเกมสเชียวละ

“งั้นกลับไปนอนที่หองกันเถอะ”

“วันนี้จะกลับหอนะ พรุงนี้คอยเจอกันที่ราน”ชวงที่ผานมาถึงจะสอบ แตงานก็ยังเปนงานครับ เหนื่อยดีแท

“จะกลับทําไมละ เสื้อผาพายยังอยูหองทิวอยูเลย จะไมกลับไปเอาเหรอ”

“ไวพรุงนี้ทิวเอาไปใหที่รานดวยแลวกัน พรุงนี้วันเกิดนุนะ พายกะวาวันนี้จะชวนนุกินขาวดวยกัน”กอนวันเกิดนุทุกปผมจะ


เลี้ยงขาวนุประจํา เลือกของขวัญใหใครไมเปนครับ พาไปกินขาวนะแหละงายสุด

“ก็ทําไมไมเลี้ยงพรุงนี้ละ พาไปรานก็ได”

“พรุงนี้เขาอาจจะไปฉลองกับคนอื่นก็ได พายโทรไปบอกไวแลวดวย”ผมกลัวนุไมอยูเลยโทรไปนัดไวตั้งแตเมื่อวาน ทิวขับรถ


มาสงผมที่หอ มันก็อยากจะไปดวย แตคงเพลียเหมือนกัน ตางคนตางนอนเอาแรงดีกวา ไวตื่นมาเย็นๆ คอยไปเรียกนุที่หอง

หลังจากนอนไปไดสามสี่ชั่วโมง พอตื่นมาผมกดโทรศัพทในหองตอไปหองนุ บอกวาเดี๋ยวอาบน้ําเสร็จจะไปหาที่หอง ให


เตรียมตัวได คราวนี้จะพาไปเลี้ยงสุกี้ครับ

กอก กอก กอก

ผมยืนเคาะประตูอยูหนาหองสักพักประตูก็เปด คนที่เปดไมใชเจาของหอง ไมรูวาทําไมผมถึงรูสึกกลัวคนๆ นี้ ทั้งทาทีการ


พูด สายตาที่จองมอง และที่สําคัญ....น้ําเสียง

ตอนที่ 12

จิ๋วไลทุกคนใหออกไปรออยูขางนอก แลวนั่งลูบหลังผมเบาๆ คําปลอบโยนดังซ้ําๆ อยูขางหู ผมรองไหดวยความกลัวและ


สับสนจนเหนื่อย พอเริ่มหายเกร็งจิ๋วก็ลมตัวลงนอนขางหลังแลวจับไหลผมใหหันหนาไปหา

“.....ดีขี้นมั้ย”จิ๋วเช็ดน้ําตาเบาๆ พรอมสงยิ้มมาให ผมพยักหนาตอบแลวดึงคอเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ําตาน้ํามูกออกจนหมด


“หึหึ...คอเสื้อยวยหมดพอดี”จิ๋วหัวเราะไปก็ลูบมือผมไปดวย ไมรูทําไม ทั้งๆ ที่จิ๋วดูเด็กๆ แต...ผมกับรูสึกอบอุน....ถาผมมี
พี่ชาย ผมอาจรูสึกแบบนี้มั้ง

“...อืม....ขอบใจ”

“พาย.....จิ๋วถามตรงๆ นะ.....พายเปนอยางนี้นานหรือยัง”แววตาที่มองตรงทําใหตองหันหนี คําถามที่เหมือนรูคําตอบทําให


ผมกลัวที่จะพูดความจริง

“....ปะ...เปนอะไร”

“ทําไมจิ๋วจะดูไมออกวาพายกลัวอะไร เจออะไรมา.....จิ๋วเองก็เคยโดนอยางพายเหมือนกัน”

“จิ๋ว.....เออ...”

“ก็ดูรูปรางหนาตาจิ๋วสิ มันเปนอยางนี้ตั้งแตเกิด ไอพวกชอบลองที่โรงเรียนเกาก็มีเยอะ ไมแปลกหรอกที่จิ๋วจะกลายเปน


เหยื่อพวกมันนะ”

“.......จิ๋ว”เสียงผมครางเครือดวยความสงสาร พลิกมือกุมมือจิ๋วไวหลวมๆ จากที่ไมไวใจที่จะเลาเรื่องที่เกิดขึ้น แตจิ๋วพูด


แบบนี้ ผมก็เลยกลาพูดมากขึ้น ผมเลาเรื่องที่ผมเจอมาใหจิ๋วฟงโดยยอ มันทั้งตกใจและสงสาร จิ๋วบอกวาตอนเรียนมัธยม
ปลายไปเขาคายที่ตางจังหวัด เขาถูกพวกเด็กเกเรในโรงเรียนดักฉุดไปรุมในหองน้ํา จิ๋วบอกวาเจ็บตัวไมเทาไหร แตเจ็บใจ
มากกวา พวกมันเวียนกันสนองตัณหาบนรางกายจิ๋วไมพอ มันยังจับจิ๋วขังไวในหองน้ํา จิ๋วจัดการลางคราบตางๆ แลวนั่ง
สะสมความแคนรอเวลา จิ๋วนั่งอยูในหองน้ําเกาๆ รวมชั่วโมงถึงมีคนเดินผานมา จิ๋วรีบไปเปลี่ยนชุดทามกลางความสงสัย
ของเพื่อน รางกายที่บอบช้ําเกินกวาจะปกปดทําใหหลายคนเดินเขามาสอบถาม จิ๋วเดินไปบริเวณประกอบอาหารของหมู
แลวหยิบมีดทําครัวไปฟนไอหัวโจกคนนั้นทันที โชคดีที่เพื่อนๆ หามจิ๋วทัน มันก็เลยไมถึงตาย ผูปกครองฝายนั้นไมกลาเอา
เรื่อง เพราะรางกายจิ๋วยืนยันไดวาถูกทํารายอะไรมาบาง สุดทายพวกนั้นทั้งกลุมก็ถูกไลออกและดําเนินคดี จิ๋วบอกวาตอน
นั้นไมสนวาใครจะคิดยังไง แตถาจิ๋วไมตอบโต เรื่องแบบนี้อาจเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ

“จิ๋วเขมแข็งจัง”

“เปลาหรอกพาย....จิ๋วแครักตัวเอง ชวงนั้นพอกับแมเพิ่งจะแยกทางกัน ถึงจิ๋วจะอยูกับแม แตเขาก็ทํางานหนัก ไมคอยอยู


บาน พอรูสึกวาถูกเมินมากๆ จิ๋วก็เลยไมแครคนอื่นบาง สนใจแตตัวเองอยางเดียว”ที่จิ๋วพูดมาผมก็ไมคอยเขาใจเทาไหร ถึง
ผมจะขาดพอ แตตอนที่เขาอยู ผมก็รักเขามาก ครอบครัวอบอุน แมตอนนี้จะเหลือแมคนเดียวแตก็ยังมีความสุขอยู
“.....จิ๋วยังมีเพื่อนๆ...แลวก็พายอีกคนนะ”ผมไมแนใจวาคําพูดนี้จะปลอบจิ๋วไดมั้ย แตคิดวาคงได....เพราะจิ๋วยิ้มและเลื่อน
ตัวเขามากอดผม ในขณะที่ผมเองก็กอดตอบ....ความรูสึกของเราสี่อถึงกัน.....ความเจ็บปวดที่มีเหมือนกัน....เรื่องเลวรายที่
เกิดขึ้นกับเรา....ผมไมสามารถพูดไดวา...ดีใจ...ที่จิ๋วเขาใจผม

“เออ....พาย...เปนไงบาง”เสียงทุมเอยถามเบาๆ จากหนาประตู ผมเงยหนาขึ้นมาพรอมๆ กับจิ๋ว คนที่ถามยืนอยูนอกหอง


และเปดประตูเอาไวเหมือนไมกลาเขามา ผมกับจิ๋วหันมองหนากันและหัวเราะออกมาดังลั่น

“ฮาๆๆ ทําอะไรวะทิว หนาประตูมียันตรึไงมึงเขาไมไดนะ”จิ๋วลุกขึ้นนั่งและดึงใหผมลุกตาม เห็นทิวหงอทีไรอดขําไมไดทุกที

“อาว...กูไมรูนี่หวา เผื่อมึงไลกูออกไปอีกละ”

“เชี่ยนี่ อุตสาหชวยเด็กมึงแลวยังปากหมาอีกนะ เดี๋ยวกูไมชวยเลย”จิ๋วพูดจบ ผมถึงกับหยุดหัวเราะ....ผม...ไปเปนเด็กทิว


ตั้งแตเมื่อไหร...มันหมายความอยางที่ผมเขาใจหรือเปลา...หรือวาไมมีอะไรแคพูดแซวเฉยๆ

“.....พาย...เปนไงบาง...ทิวขอโทษนะ”

“อะ...อืม...ไมเปนไรหรอก พายตกใจมากไปหนอย ขอโทษนะที่ทําใหวุนวายกัน”ผมเอยขอโทษทิวและคนอื่นที่ยืนอยู


ดานหลังมันดวย ทาทางจะสรางเมากันหมดเลย

“......พาย....เออ...นอนไปกอนนะ เดี๋ยวตื่นมาแลวทิวพากลับหอง”ทิวพูดพรอมกวักมือเรียกจิ๋วใหออกไป ผมเองก็รองไหจน


เหนื่อย ตอนนี้ไมอยากคิด ไมอยากพูดอะไรเลย ขอนอนกอนแลวกัน

ผมตื่นมาตอนสาย พวกขางนอกนอนกันเกลื่อนพื้นเลยครับ รูสึกเกรงใจเจาของหองเหมือนกันนะเนี่ย ผมไมแนใจวาพวก


มันนอนกันตอนไหน ไมกลาปลุกก็เลยเดินลงมาหาซื้อกับขาวไปไวใหกินกัน แถวหอมันมีรานอาหารตามสั่งแครานเดียว ผม
ก็เลยสั่งกับขาวหาอยาง แลวก็ขาวเปลาอีกหกสิบบาท ไมรูจะพอกินมั้ย แตละคนกินจุมากครับ

เดินกลับมาถึงหอง ทุกคนตื่นกันหมดแลวครับ พอทิวเห็นผมก็ถามใหญเลยวาไปไหนมา นึกวาผมหนีกลับหองไปแลว คน


อื่นที่อยูในหองอมยิ้มสายหัวกันถวนหนา ขนาดผมเองยังขําในความวิตกกังวลของมันเลย

กวาจะกลับมาถึงหองไดก็บายแลว ทิวทําทาทางเหมือนอยากถาม แตก็ไมกลา สุดทายเลยนั่งติวหนังสือกันตอ แตผมรูสึก


วาทิวพยายามรักษาระยะหาง ปกติทิวชอบที่จะคอยคลอเคลียใกลๆ แตวันนี้ยังไมโดนตัวผมเลยครับ นั่งๆ ติวกัน ผมชะโงก
หนาไปถามใกลๆ มันก็ขยับหนี พอแกลงแยงปากกาในมือ มันก็ดูเกร็งๆ รูสึกแปลกๆ ครับ

“ทิวเปนอะไร ทําหนาแปลกๆ”ผมเองที่เปนฝายทนบรรยากาศอึดอัดแบบนี้ไมไหว จนตองเอยถามมันกอน


“...ไมรูสิพาย...ทิว....ขอโทษนะ..เรื่องเมื่อคืนนะ ทิวไมคิดวาพายจะกลัวขนาดนั้น”

“ไมเปนไร พายรูวาทิวไมไดตั้งใจ”

“....เออ....อืม....พายมีอะไรอยากเลาใหทิวฟงรึเปลา...ทิวไมเคยเห็นพายกลัวแบบนั้นมากอนเลย มีอะไรบอกทิวไดนะ”

“..........”บางทีผมควรจะเลาใหทิวฟงตั้งแตแรก คงเพราะวาเราสนิทกันผมเลยไมคอยกลาพูด ทั้งๆ ที่มันสมควรรู

“พาย”ทิวเห็นผมเงียบก็เลยเรียกอีกครั้งเพื่อใหผมตอบคําถาม

“..........พายโดนขมขืน”ผมกลั้นใจพูดออกไป เหมือนเสียงบรรยากาศรอบตัวหายไป ไดแมกระทั่งเสียงหัวใจที่เตนรัวของ


ตัวเอง ผมไมกลาเงยหนามองทิว ไมรูวาทิวจะรังเกียจผมมั้ย คนที่ทิวมองวาสดใส แสนดี....ผม...ไมอยากทําลายภาพพจน
ในใจของทิวเลย....เพราะผมคิววาเริ่มรูแลวไง...รูวาทิวรูสึกอยางไรกับผม...ผมถึงไมกลาจะทํารายเขา ผมเองก็อยากจะดู
บริสุทธิ์สดใสในใจของทิวเหมือนกัน...ทั้งที่ไมแนใจวาทําไม....แต....ไมอยากที่จะตองสูญเสียที่วางในใจของทิวไปเลย

“........เมื่อไหร”ทิวเงียบไปสักพักกอนจะเอยถาม สีหนาผิดหวัง เสียใจ และโกรธแคน ทําใหใจผมกระตุกวูบ....ผม...กลัวทิว


รังเกียจจริงๆ นะ

“....วันที่พายหายไปไง.....ทิว...พายไมสนนะวาทิวจะรูสึกกับพายเหมือนเดิมมั้ย จะรังเกียจพายหรือเปลา”ผมพูดจบทิวก็
ควาตัวผมไปกอดแนนเลย ออมกอดครั้งนี้มันไมใชการหยอกลอเหมือนทุกครั้ง ผมไมกลัวหรือตกใจเลย กลับรูสึกดีใจที่ทิว
ไมรังเกียจผม ไมรูวาน้ําตาไหลตั้งแตตอนไหน ออมแขนที่กอดกระชับแนนจนเจ็บไมทําใหอึดอัด แตกลับรูสึกสบายและ
อบอุน

“.....ขอบคุณ”การกระทําของทิวยืนยันความสัมพันธระหวางเราไดด.ี ...ทุกอยางจะยังเหมือนเดิมใชมั้ย

“ทิวขอโทษนะพาย.....ขอโทษที่ดูแลพายไมดี ขอโทษ.....ขอโทษ......ขอโทษ.......”ทิวพูดขอโทษซ้ําไปซ้ํามา ผม...ไมอยาก


คิดแลววาทิวรูสึกยังไงกับผม....หากมันอบอุนขนาดนี้....จะเปนอะไรก็ชางมันเถอะ

หลังจากที่ไดบอกทิวไป ผมรูสึกโลงใจมากเลยครับ ทิวเองก็ไมถามรายละเอียดใหผมอึดอัด ถึงถามผมเองก็ยังไมกลาเลา


ดวย ไมอยากนึกถึงครับ

“เปนไง ทําขอสอบไดมั้ย”เดินออกมาจากหองสอบ ทิวก็ยืนรออยูแลวครับ หลังจากวันนั้นทิวเอาใจใสผมมากขึ้น คอยไปรับ


ไปสงไมวาผมจะไปที่ไหน ถาไมไดอยูดวยกันก็จะโทรหาตลอด เรียกไดวาเปนเงาตามตัวเลยละครับ
“ก็พอไดนะ...เฮออออ สอบเสร็จสักที อยากกลับไปนอนจัง”กวาจะทําขอสอบเสร็จ ตาแทบปดเลยครับ ผมนะหัวชา อาน
หนังสือก็ตองอานหลายรอบกวาจะเขาใจ ไมเหมือนทิว มันอานรอบเดียวก็เขาใจ เวลานอนเลยเยอะกวาผม เยอะขนาด
ที่วามีเวลานั่งเลนเกมสเชียวละ

“งั้นกลับไปนอนที่หองกันเถอะ”

“วันนี้จะกลับหอนะ พรุงนี้คอยเจอกันที่ราน”ชวงที่ผานมาถึงจะสอบ แตงานก็ยังเปนงานครับ เหนื่อยดีแท

“จะกลับทําไมละ เสื้อผาพายยังอยูหองทิวอยูเลย จะไมกลับไปเอาเหรอ”

“ไวพรุงนี้ทิวเอาไปใหที่รานดวยแลวกัน พรุงนี้วันเกิดนุนะ พายกะวาวันนี้จะชวนนุกินขาวดวยกัน”กอนวันเกิดนุทุกปผมจะ


เลี้ยงขาวนุประจํา เลือกของขวัญใหใครไมเปนครับ พาไปกินขาวนะแหละงายสุด

“ก็ทําไมไมเลี้ยงพรุงนี้ละ พาไปรานก็ได”

“พรุงนี้เขาอาจจะไปฉลองกับคนอื่นก็ได พายโทรไปบอกไวแลวดวย”ผมกลัวนุไมอยูเลยโทรไปนัดไวตั้งแตเมื่อวาน ทิวขับรถ


มาสงผมที่หอ มันก็อยากจะไปดวย แตคงเพลียเหมือนกัน ตางคนตางนอนเอาแรงดีกวา ไวตื่นมาเย็นๆ คอยไปเรียกนุที่หอง

หลังจากนอนไปไดสามสี่ชั่วโมง พอตื่นมาผมกดโทรศัพทในหองตอไปหองนุ บอกวาเดี๋ยวอาบน้ําเสร็จจะไปหาที่หอง ให


เตรียมตัวได คราวนี้จะพาไปเลี้ยงสุกี้ครับ

กอก กอก กอก

ผมยืนเคาะประตูอยูหนาหองสักพักประตูก็เปด คนที่เปดไมใชเจาของหอง ไมรูวาทําไมผมถึงรูสึกกลัวคนๆ นี้ ทั้งทาทีการ


พูด สายตาที่จองมอง และที่สําคัญ....น้ําเสียง

ตอนที่ 13(2)

คุณเคยฝนรายบางไหม....ในฝนมันเลวรายจนอยากที่จะหลุดพน....ดิ้นรนทุกวิถีทาง....สะดุงเฮือกตื่นมาบนเตียงนอน...หัว
ใจเตนแรง....แลวก็คิดไปวา...รอดแลว....แตในความเปนจริง....คุณยังหนีมันไมพน....ฝนรายนั้น...ยังตามหลอกหลอนคุณ
อยู

“...ขะ...เขามาทําไม”ผมรีบลุกแลวเดินถอยหลังไปยืนกลางหอง หากเขาเดินเขามาผมจะไดรีบวิ่งไปหลบในหองน้ําตรง
ระเบียง
“อะไรกัน ไมเจอกันไมกี่เดือน อยาบอกนะวาลืมกันไปซะแลว”น้ําเสียงคุนหู กับคําพูดแฝงนัยนที่พูดออกมาทําใหไมตอง
ถามอะไรตอ

“...อะ..ออกไป”

“ใจรายจัง ไลผัวตัวเองไดลงคอ”

“ออกไป ไมงั้นผมแจงตํารวจจริงๆ ดวย”ผมมองไปที่โทรศัพทขางทีวี เพียงแคกาวไปกาวเดียว รางตรงหนาก็ปราดเขามาจับ


แขนผม สัมผัสผิวเผินที่เกิดขึ้นทําใหผมรีบสะบัดแขนออก แตเขาก็ยังพยายามจะจับตัวผมไว ผมงางหมัดตอยเขาไปเต็ม
คาง แลวก็โดนสวนกลับมาเต็มๆ เชนเดียวกัน แคหมัดเดียวก็ทําเอาหัวหมุน ทรุดลงไปกองกับพื้น

“เวรเอย!!”เสียงสบถชวยใหรูสึกตัว ผมรีบลุกไปยืนขางเตียงเพื่อหาทางหนี เขากระชากโทรศัพทออกจนสายขาด แลวก็ทิ้ง


โทรศัพทลงบนพื้น

“มึงอยาหาเรื่องใสตัวดีกวานะ ทําตัวใหเชื่องๆ หนอย ถากูหยุดไมอยูแลวมึงจะยุง”นั่นไง...คนเลว มันจะทนพูดดีๆ สุภาพๆ


ไดสักกี่คํากัน

“ตองการอะไร”

“ถามเปนเด็กเลยนะมึง ตองการเงินมั้ง มีใหกูมั้ยละ”ใชสิ ผมมันจนนี่ แลวเพราะเหตุนี้ไงที่ทําใหไมเขาใจ....ทําไมตองเปน


ผม

“ก็แลวตองการอะไรละ”ผมตะคอกถามกลับไปดวยน้ําเสียงที่ดังพอๆ กัน

“เดี๋ยวนี้ขึ้นเสียงเหรอวะ ตองใหปดปากเหมือนเมื่อกอนมั้ยจะไดสงบลง”

“โรคจิต”

“เออ แลวไง”

“..........”ผมไมสนมันแลวครับ มองไปที่ระเบียง หองผมก็ไมสูง ถาตะโกนออกไปตองมีคนไดยินแนๆ อยางนอยก็หองใกลๆ

“จะไปเรียกใหคนชวยเหรอ ระวังนุไดยินละ เขาเพิ่งหลับดวย คงดีใจพิลึก....มีผัวคนเดียวกับเพื่อน”ทาทางมันจะเกงในการ


ถากถางคนอืน่ ความทุกขของผมคงเปนเรื่องสนุกสําหรับมัน
“คุณตองการอะไร ผมไปทําอะไรใหถึงตองทําแบบนี้ แลวคุณลากนุมากเกี่ยวดวยทําไม”

“เฮย นี่อยาไรเดียงสานักเลย นุเขาโตแลว กูไมไดลากมาซะหนอย เขาเสนอเอง”คําพูดที่ดูถูกเพื่อนรักผม และคนที่ไดชื่อวา


แฟนมัน ทําใหผมอดตอบโตไมได

“ทุเรศ พูดหมาๆ”

“อยาปากดีนัก กูกําลังอารมณดีอยู แลวก็เลิกดากูไดแลว เกิดโมโหขึ้นมาจะเจ็บกวาคราวกอน”

“............ตองการอะไร”ถามวากลัวมันมั้ย ตอบไดเลยวากลัวมาก ความกลัวกับเกลียดมันพอๆ กัน ความเจ็บปวดคราว


กอนยังฝงใจ แถมยังหมัดที่สวนผมมานี่เอง....ผมมันใจเสาะ

“แคอยากมาคุยดวย มึงเดินมานั่งบนเตียงดีๆ ไดมั้ย ทําทาลุกลี้ลุกลนอยูได รําคาญวะ”

“มีอะไรจะพูดก็รีบๆ พูดมา”ผมยังยืนนิ่งอยูที่เดิม ถึงจะไมกลาตอสู แตก็ขอขัดขืนมันบางแลวกัน

“คราวกอนพวกกูขอโทษดวย คงมีเรื่องเขาใจผิด เพื่อนกูบอกวามึงไปจีบเด็กมัน ทั้งๆ ที่มึงก็มีผัวแลว”

“บาไปแลวหรือไง อยางผมเนี่ยนะจะไปจีบใคร แลว....แลวผมก็ไมเคยคบผูชายดวย ผมไมไดเปนเกย ”

“เออ คือ....พี่รูตั้งแตคืนนั้นแลว สงสัยขาวที่ไดมันจะผิดวะ จะไปถามจากนองผูหญิงคนนั้นก็ไมได รูสึกจะ.....ไปอยูเมือง


นอกแลว ยังไงพวกพี่ก็ขอโทษนองดวยแลวกัน”เอากับมันสิ นึกจะพูดดีก็พูด แตคําขอโทษมันสายไปแลวละ ผมไมตองการ
สักนิด

“เฮอะ....เรื่องที่จะพูดมีแคนี้ใชมั้ย ถางั้นก็ออกไปจากหองผมไดแลว”

“ธุระของพวกเพื่อนพี่นะหมดแลว เหลือแตของพี่”

“อะไรอีกละ”ผมถามดวยน้ําเสียงเจือแววหงุดหงิดเล็กๆ เขาถอยหลังไปนั่งพิงขอบโตะแลวกอดอกสบายๆ กอนจะตอบ


คําถาม

“ก็แคมาทวงสิทธิ์”

“สิทธิ.์ ...อะไร”
“สิทธิ์ของสามีไงครับ”

ตอนที่ 14(1)

“พูดบาอะไร ผมเปนผูชายนะ แลวคุณก็มีนุอยูแลวดวย ถาเขารูจะเสียใจขนาดไหน”

“ไมเห็นจะเกี่ยวกับเขาเลย เขามาที่หลังพายอีกนะ”น้ําเสียงหยอกเยาที่พูดขณะอารมณดี นาแปลกที่ไมวาเขาจะพูดสุภาพ


หรือไม สําหรับผม.....ยังฟงดูหยาบคายเหมือนเดิม

“จะเอายังไง”

“......ยังคิดไมออก ขอนอนกอนแลวกัน ยังเหนื่อยอยูเลย”เขาพูดพรอมเดินมาทิ้งตัวนอนบนเตียง ผมรีบถอยไปยืนชิดประตู


ระเบียง

“จะยืนอยูอยางนั้นทั้งคืนหรือไง เพิ่งเลิกงานไมใชเหรอ ไปอาบน้ําแลวรีบมานอนสิ”

“......ผม....มาเอาของเฉยๆ จะไปนอนหอเพื่อน”

“ไมได”เสียงหวนบอกคําสั่งอยางชัดเจน

“บาเหรอไง เพื่อนผมจอดรถรออยู”แคเห็นหนามันผมก็จะสติแตกอยูแลว ถาใหนอนดวยกันมีหวังไดเปนบาจริงๆ

“อยาโกหก......ไปอาบน้ําซะ แลวรีบๆ มานอน อยาใหใชกําลังเลยนา….หรือวาตองอาบให”เขาพูดแลวทําทาจะลุกขึ้นมา


ผมรีบวิ่งเขาหองน้ําแลวล็อคกลอนทันที มือก็พยายามดันประตูไวเผื่อเขาพังเขามา แตก็ไมมีอะไรเกิดขึ้น ผมผอนลมหายใจ
ชาๆ ทรุดตัวลงพิงประตู ไมเขาใจวาเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับผม คนที่อยูขางนอกนั่นเปนประเภทไหนกัน คําขอโทษที่มีใหไมได
ชวยลบลางความผิดไดเลย แถมยังการกระทําของเขาที่เขามาวุนวายกับผม.....เพื่ออะไร.....แลวนุละ....ทําไมนุตองมาคบ
คนแบบนี้ดวย หรือวาเขาหลอกนุ

“เฮ!! รีบๆ อาบสักที อยาใหพังเขาไปนะ”เสียงทุบประตูดังจนกลอนแทบหลุด นึกเจ็บใจตัวเองที่เลือกหอพักราคาถูกแหงนี้


มันถูกสมกับคุณภาพหองจริงๆ หากเขาทุบแรงๆ อีกสองสามทีกลอนคงกระเด็นใสหนาผมแนๆ

ผมรีบอาบน้ําอยางรวดเร็ว หยิบผาเช็ดตัวที่ตากในหองน้ํามาพันเอวเอาไว เสื้อผาบางสวนยังคงตากไวที่ระเบียง ผมคอยๆ


แงมประตูออกมาดูวาไมมีใครอยู เอื้อมมือไปหยิบเสื้อผามาไดก็รีบปดประตูแลวแตงตัวใหมทันที ใจจริงอยากจะอยูใน
หองน้ําจนกวาเขาจะออกไป แตมันก็ไมปลอดภัย ในนี้ไมมีอะไรใหปองกันตัวไดเลย จริงสิ....ผมมีมีดเลมเล็กอยูตรงที่วาง
จานขางประตูนี่นา

“อาบอะไรนานนักหนา คนยิ่งงวงๆ อยู”เสียงเปดประตูเบาๆ ของผมทําใหมันหันมา

“ก็แลวมานอนนี่ทําไม กลับไปนอนบานสิ”ขณะที่พูดผมก็กวาดสายตามองหามีดในตําแหนงทีม่ ันควรอยู. ...แตไมมี

“ในหองน้ํามันมีผีรึไง ถึงไดเขาสิงใหมึงมาเถียงกูอีกรอบเนี่ย”

“.........”ชางมันครับ ขี้เกียจเถียงดวย มีดเลมเดียวที่มีก็ไมรูอยูไหน

“หาอะไร....ไอนี่หรือเปลา”เสียงคนพูดทําใหผมตองหันหนาไปมองมีดเลมเล็กในมือ......อะไรจะแยไปกวานี้ อาวุธอยาง
เดียวของผมดันไปอยูในมือผูบุกรุก แคตัวเปลาๆ ผมก็กลัวมันจะแย....แลวนี่.....ซวยจริงๆ เลย

“นักศึกษาหนุมตายคาหองพักเพราะกลุมใจที่สามีมีเมียนอย....ขาวพาดหัวเขาทาดีนะ มึงวามั้ย”คําพูดของมันทําใหผม
หายใจไมทั่วทอง คนอยางมัน....คงทําอยางที่พูดได

“..........มะ...ไมด”ี

“เหรอ....งั้นก็รีบมานอนสักที”ผมเดินตัวสั่นดวยความกลัวไปที่ตูเสื้อผา หยิบผาหมสํารองที่มีอยูมาปูตรงพื้นใกลๆ ประตู


ระเบียง

“ทําไมไมออกไปนอนที่ระเบียงซะเลยละ”

“..............”เปนความคิดที่ดีเหมือนกันนะครับ อยางนอยจะไดวิ่งไปแอบในหองน้ําได หรือผมจะไปนอนในหองน้ําเลย

“กูประชด ไมตองคิดซะจริงจังก็ได ขึ้นมานอนบนเตียงนี่”มันพูดพรอมเอามีดกวักเรียกผม ไมแนใจวาเปนคําชวนหรือคําสั่ง

“ไมเปนไร”

“อยาใหลงไปลาก เร็วๆ”สงสัยจะเปนคําสั่ง แลวถาผมไมทําตามละ

“...........”
“เร็วๆ ถากูลงไปลากเมื่อไหร ไมจบแคนอนเฉยๆ แนมึง”มันจะใชคําวา ‘ถา’ ทําไม ในเมื่อพูดจบก็ลุกเดินมาจนจะถึงตัวผม
แลว ผมรีบวิ่งออมไปขึ้นเตียงอีกฝง เหมือนจะไดยินเสียงหัวเราะดวย โรคจิตจริงๆ เลยมัน เห็นความกลัวของผมเปนเรื่อง
สนุก

“นอนซะริมเลย เดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก”เสียงพูดทางดานหลังไมทําใหอยากหันไปมอง แตคิดอีกที หันหลังใหมันแบบนี้คงไม


ปลอดภัยเทาไหร พอผมเปลี่ยนใจนอนหงายมันก็หันหลังใหผมซะนี่ ดีเหมือนกัน คอยรูสึกปลอดภัยหนอย เสื้อผามันก็ไม
ถอด...เออ...ไมถอดนะดีแลว ใสมันทั้งกางเกงยีนสนี่แหละ

“...........จะนอนก็นอน พรุงนี้ก็ชวยออกไปแตเชาดวย”อารมณมันคงเริ่มเย็นลงแลว ผมไมคอยอยากโวยวายครับ ความเจ็บ


ครั้งนั้นยังทําใหผมขยาดอยู รูดีวามือเทามันหนักขนาดไหน แลวมีดผมก็ยังอยูใตหมอนมันอีก ถาผมนอนแลวตื่นมาพบมีด
ตัวเองปกคาทองคงอดสูพิลึก

“มีเรียนกี่โมงละ”

“ไมมี”

“เออดี กูจะไดอยูกับมึงทั้งวัน”

“แปดโมงครึ่ง”

“เดี๋ยวไปสง”

“ไมตอง”

“กูถามเหรอ”แลวก็ไมบอกแตแรกวาสั่ง

“...............”บอกไดคําเดียว...เซ็งครับ ไวมันหลับแลวคอยแอบหนีไปคางหอทิวก็ได

“หลับเหรอวะ”

“เฮย!!”

“จับนิดจับหนอยโวยวายไปได”มันพูดบาๆ จะไมใหโวยวายไดไง อยูดีๆ ก็หันมาแลวเอากุญแจมือล็อคมือผมไวกับมือมันซะ


งั้น
“ทําบาอะไรวะ ปลอยนะเวย”

“แหกปากไปเหอะ กูงวง จะนอนแลว อยาดิ้นละมึง”ผมละเชื่อมันเลย พูดจบก็ทิ้งตัวลงนอนเหมือนไมรูสึกอะไร โซระหวาง


กุญแจคอนขางยาวแตผมก็ตองเกร็งแขนไวตลอด รูสึกเลยวามือตัวเองกําลังสั่น รูสึกทั้งรังเกียจทั้งกลัว ไมอยากจะสัมผัส
ถูกตัวมันเลย บอกตรงๆ ไมกลาหลับเลยครับ นอนลืมตามองหลังมันตลอด เพื่อมันขยับตัวจะทําอะไรผม ผมจะไดลุกทัน

ตอนที่ 14(2)

เมื่อคืนเรียกไดวานอนผวาทั้งคืน เผลอหลับไปตอนเกือบเชา ตื่นมาอีกทีมันก็ไมอยูในหองแลว ไมสนหรอกครับวามันจะไป


ไหน ผมรีบอาบน้ําเปลี่ยนชุดแลววิ่งลงจากหอทันที ความจริงวันนี้มีเรียนตอนบาย แตทําไงได ไมกลาอยูหองตัวเองครับ
หนีมานั่งที่หองสมุดปลอดภัยกวา

ความทรงจําครั้งนั้นจะตามมาหลอกหลอนผมอีกครั้งเหรอ แคนี้ผมยังซวยไมพอหรือไง มันตองการอะไรกันแน ยิ่งคิดก็ยิ่ง


เครียดและปวดหัว นึกถึงสิ่งที่มันทํากับผม ยิ่งทําใหอยากอาเจียน ผมกลัวตัวเองจะฟุงซานหนักกวาเดิมเลยโทรไปหาพี่
หนอย อยางนอยไดระบายกับพี่เขาผมคงดีขึ้น พี่หนอยอาจหาทางออกใหผมได

“พี่หนอยครับ วางอยูหรือเปลา”

“นองพายเหรอ พี่กําลังจะไปตางจังหวัดนะ มีอะไรดวนหรือเปลา เสียงแปลกๆ นะ”

“คือพายมีเรื่องอยากกเลาใหพี่ฟงนะ ตอนนี้พายสับสนและก็กลัวดวย”

“ใจเย็นๆ นะพาย เดี๋ยวพี่ขอจอดรถกอน.......พายมีอะไรจะ เลามาไดเลย”พี่หนอยคงเลี้ยวรถหลบขางทางถึงไดเร็วแบบนี้


ผมก็เกรงใจพี่เขานะ แตทําไงได ผมไมรูจะพึ่งใครนี่นา

“คือ...ไอพวกนั้นนะครับ...คนที่มันขมขืนผมนะ มันตามมา เมื่อคืนมันมาที่หองดวย ทําไงดีพี่”

“พายใจเย็นๆ นะ เขาตองการอะไร ขมขูพายหรือเปลา ทํารายอะไรเราบางมั้ย”น้ําเสียงหวงใยจากปลายสายทําใหรูสึกอุน


ใจ

“เปลาครับ....ตอนแรกมันก็ขอโทษที่จับไปคราวนั้น มันบอกวาพวกมันเขาใจผิด แตหลังจากพูดจบมันกลับไมยอมออกจาก


หอง พายกลัวนะพี่ ทําไงดี มันจะเอาวีดีโอที่ถายมาขมขูหรือเปลา”ผมไมไดบอกวาถูกมันตอย เพราะตอนนั้นผมเริ่มกอน
มันก็แค...สวนมา
“พายใจเย็นๆ กอนนะ ที่นั่นมีเพื่อนของพายตั้งเยอะ มีอะไรก็ใหเพื่อนชวยสิ ถากลัวก็อยาอยูคนเดียว ไปคางกับเพื่อนสัก
ระยะก็ได เขมแข็งนะพาย หาอาวุธพวกมีดพกไวปองกันตัวดวย เผื่อมันทําอะไรพายขึ้นมาจะไดปองกันตัว หรือไมถาเขามา
คุกคาม พายก็แจงความเลย”ผมไมอยากบอกพี่หนอยวามีดที่คิดจะนํามาปองกันตัวเกือบจะกลายเปนอาวุธทํารายตัวผม
เอง บางทีมีดพกอาจจะสะดวกกวา อยางนอยก็ติดตัวไปไหนมาไหนได

“ครับพี่หนอย ขอบคุณนะครับ”ผมรีบวางสายเพราะกลัวพี่หนอยจะเดินทางลาชา ยิ่งจอดรถขางทางยิ่งอันตราย

ยังเหลือเวลาอีกมากกวาจะถึงเวลาเรียน ผมเดินไปหาซื้อมีดพกที่หางสรรพสินคาใกลๆ แลวก็กลับมาเรียน กอนเขาเรียนทิว


ก็สงขอความมาบอกวาวันนี้มันจะโดด ใหเช็คชื่อใหดวย แลวตอนเย็นจะไปรับที่หอ แต...ผมไมกลากลับหองตัวเอง เมื่อเชา
ก็รีบจนลืมเสื้อยืดของรานที่ใสเวลาทํางาน....ไมกลับไมไดสินะ

ผมเดินเขามาในซอย คอยมองหนาเหลียวหลังตลอดเลย ระแวงครับ กลัวจะเหมือนวันนั้นอีก พอเดินมาถึงหนาหอตัวเองก็


แอบๆ มองไปที่ลานจอดรถ......ไมม.ี ....ไมมีรถของมันจอดเลยครับ ไมใชวาผมสนใจมันเลยจํารถไดหรอกนะ แตรถมันเดน
เลยจําไดตางหาก

ผมรีบวิ่งขึ้นหองตัวเอง ปดประตูลงกลอนเรียบรอยแลวไปอาบน้ําเปลี่ยนชุด เสร็จแลวก็วิ่งลงมาขางลาง บอกทิววาเดี๋ยวจะ


แวะไปหาที่หอง แตมันกําลังจะถึงหอผมพอดี

“ทําไมมาเร็วละ”ผมเขาไปนั่งในรถแลวถอนหายใจอยางโลงอก

“ก็เด็กที่รานบอกวาคนใหมที่นัดไวมาแลว สงสัยพี่ธารบอกเวลาผิด แลวเปนไรเนี่ย วิ่งมาเหรอ”ทิวเช็ดเหงื่อที่หนาผากผม


เบาๆ ผมเอื้อมมือไปที่เบาะหลังแลวหยิบทิชชูมาซับเหงื่อออกจากหนาและลําคอ ที่อาบน้ํามาไมมีประโยชนเลยครับ

“อืม.....กลัวทิวรอ”

“นารักจัง”ทิวพูดพรอมยื่นมือมาดึงแกมผมเบาๆ แตทําเอาผมเขินเลย มันทําเหมือนผมเปนเด็กไปได

“….ไอบา”ผมบนเบาๆ ทิวปรับแอรใหแรงขึ้นแลวก็หันมาทางผมดวย อยางนี้คอยเย็นขึ้นหนอย

พอขับรถมาถึงราน เห็นหนาพี่ธารเลยนึกออกวายังไมไดคุยกับนุเรื่องไวนเลย ผมเดินเขาไปนั่งในหองเล็ก สวนทิวก็ยืนคุย


กับพี่ธารครับ

“อะ! ขอโทษครับ นึกวาไมมีคนอยู”เปดประตูเขามามีผูชายนั่งอยูดานใน ตกใจหมดเลย


“ไมเปนไรครับ ผมมาสมัครงานนะครับ ทํางานที่นี่เหรอ”ตอนแรกผมจะออกไปนั่งขางนอก แตเขาชวนคุยผมก็เลยเดินเขา
มานั่งขางในดวย

“ครับ เปนแคชเชียรนะ มาเปนดีเจใชมั้ย....เออ...ขอโทษนะ อายุเทาไหรครับ”ทาทางการแตงตัวเขาดูเหมือนเด็กๆ นะครับ


กางเกงยีนสขาเดฟรัดขอเทา เสื้อก็ตัวเล็ก แถม...ที่หูเจาะไมรูกี่รู

“20 ยาง 21 ครับ ชื่อแซน”

“พี่ชื่อพายนะ”พอรูอายุผมก็เลือกใชคํานําหนาที่ถูกทันที

“อายุมากกวาผมเหรอ”แซนทําหนาเหมือนไมเชื่อ แถมยังมองผมตั้งแตหัวจรดเทาเลย

“ใช ปนี้ 22 แลว”ผมบอกแบบอวดๆ

“ฮาๆๆๆ โทษครับพี่ เห็นหนาเด็กๆ นึกวารุนเดียวกันหรือรุนนองซะอีก”แซนทาทางจะเปนเด็กราเริงนะครับ ผมคอนขางจะ


ไมชินกันการแตงตัวของมัน แตการพูดจายังนับวารูเรื่อง ไมมีภาษาวัยรุนเพี้ยนๆ มาใหผมงง

ผมนั่งคุยกับแซนไดครูเดียว ประตูก็ถูกเปดออกเสียแรงเลยครับ ตกใจหมด ยิ่งกําลังหวาดระแวงอยู ดีนะวาคนที่เปดเขามา


ไมใชคนอื่น

“คุยอะไรกัน เสียงดังไปถึงขางนอก”ทิวหนาดุมากเลยครับ ใจคอนี่จะใหผมเจอแตคนดุๆ หรือไงชวงนี้

“คุยเลนกันเฉยๆ”รูสึกกลัวๆ ยังไมรู สวนแซนหนาจอยลงไปเลย

“มาสมัครงานไมใชเหรอวะ เดินออกมานี่สิ”ทิวพูดแลวก็เดินออกไปเลย ผมพยักหนาสงกําลังใจใหแซน แถมดวยการตบบา


มันเบาๆ เพื่อใหฮึดสู แตมันเดินหลังงอหอไหลแบบนั้น....ไมรูจะไหวหรือเปลา

พอไดเวลางานผมก็ออกมาประจําที่ ทิวไมอยูแลว แตคงไมตองถามวาแซนไดงานหรือเปลา เพราะมันยืนเปดแผนอยู เพลง


ใชไดครับ ทํานองเบาๆ ฟงสบาย ตอนนี้ยังไมดึก ไมจําเปนตองเรงจังหวะ เพลงก็หลากหลายวัย

“พี่พายครับ โตะดานนอกเขาเรียกพี่ใหไปหานะ เห็นบอกวาเปนเพื่อนขางหองพี่”เด็กเสิรฟในรานเดินมาบอกผม....เพื่อน


ขางหองงั้นเหรอ ตองเปนนุแนๆ สงสัยมาเลี้ยงวันเกิดกับเพื่อน ผมรีบเดินออกไปหาตามเลขโตะที่เด็กบอก พอเดินไปถึงก็รีบ
หันหลังกลับ แตไมทันแลวครับ

“อาวนองพาย มาแลวเหรอครับ”รูสึกเกลียดเสียงมันจริงๆ เลย จะตามหลอกหลอนผมไปถึงไหน


ตอนที่ 15

“พายทํางานรานนี้จริงๆ ดวย”เสียงนุที่ดังตอจากมันทําใหผมตองหันกลับไปใหม นุนั่งคูกับมันที่มุมโตะฝงตรงขามที่ผมยืน


อยู

“ใช ทําไมเหรอ”ผมตอบพรอมจองที่หนานุคนเดียว รอบๆ โตะมีผูชาย 4-5 คน ดูจากหนาตาแลวคงอายุมากกวา และนั่นละ


.....พวกของมันแนๆ

“ก็พี่ตั้มเขาบอกวาเคยเห็นพายที่นี่ แตนุจําชื่อรานที่พายทํางานไมได เลยไมแนใจนะ”มันเคยมาที่รานนี้ดวยเหรอ....บังเอิญ


...หรือวาตั้งใจ

“เหรอ....แลวมาเลี้ยงวันเกิดเหรอนุ”

“ใช ก็พี่ตั้มนะสิ ตอนแรกบอกวาวันนี้ไมวาง เลยพาไปเลี้ยงเมื่อวาน วันนี้เลยกลายเปนเลี้ยงรอบสองเลย”

“ครับ ก็ตอนแรกไมวาง....แตเผอิญตอนนี้.....วางซะงั้น”น้ําเสียงกวนโทสะยังดังอยูเรื่อยๆ ไดยินเสียงหัวเราะในลําคอเบาๆ


จากคนอื่นที่อยูใกลๆ ผม

“สั่งอาหารหรือยังนุ”ผมทําเปนหูทวนลม ไมคุย ไมมองหนา ใหมันรูไปวาตอหนาแฟนตัวเอง มันจะกลาทําอะไรผม

“สั่งแลว พายมานั่งดวยกันนะ”

“ไมไดหรอก ตองทํางาน”

“นุครับ พี่ลืมมือถือไวในรถนะ นุไปดูใหพี่หนอย เผื่อมีลูกคาโทรมา”มันพูดแลวก็หยิบกุญแจรถยัดใสมือนุเปนเชิงบังคับ

“เดี๋ยวนุมาคุยดวย พายคุยกับพี่ตั้มไปกอนนะ ลูกคายังไมเยอะ อยาเพิ่งหนีไปทํางานละ”นุพูดแลวก็รีบเดินไปเลย ผมเองก็


รีบหันหลังกลับเหมือนกัน

“เดี๋ยวสิครับนองพาย อยูคุยกับพวกพี่กอน”มันจะพูดอะไรผมก็ไมสนแลวครับ ตั้งหนาเดินกลับเขาดานในทันที แต.....

“วาจะอวดคลิปเด็ดใหดูซะหนอย”เสียงพูดที่เรียกเสียงหัวเราะจากคนในโตะ แต.....หัวใจผมเหมือนถูกกรีด...เริ่มแลวสินะ
....การขมขู

“.....ตองการอะไร”
“พูดกับลูกคาใหมันสุภาพหนอยสินอง เดี๋ยวฟองผูจัดการซะเลย”เสียงคนบนโตะพูดขึ้น ผมเคยคิดวาจําเสียงพวกมันได
เกือบหมด เอาเขาจริง....ผมก็จําไมไดหรอกครับ

“อยาทําหนาบึ้งนักสิครับ ทําหนาหวานๆ ใหพวกพี่ดูดีกวา”

“หนาหรืออะไรวะที่หวาน”เสียงพูดโตตอบกันไปมา การไดดูถูกผมดวยถอยคําต่ําๆ คงเปนสิ่งบันเทิงใจสําหรับพวกมันละมั้ง


ผมนึกยอนไปถึงคําขอโทษที่มันพูดวันนั้นแลวอยากสํารอก...นี่หรือคําพูดของคนที่สํานึกผิด

“พอแลวนาพวกมึง”เสียงอีกเสียงที่พอจะคุน...คนที่มคี วามเปนคนเหลือมากกวาคนอื่นในตอนนั้น ผมหันหนาไปตามเสียง


ตรงขามกับเกาอี้วางเปลาของนุ เขานั่งอยูที่เกาอี้ตัวสุดทายของโตะ ใบหนาดูออนโยนไมตางจากน้ําเสียง ความใจดีหรือ
สมเพชที่มีใหผมอุนใจเพียงชั่วครู. ..แตถึงอยางนั้น......ตอนนั้น....เขาก็ไมไดชว ยผมนี่นา

“ปกปองจังนะ เจอปากเจอลิ้นไปครั้งเดียวติดใจหรือไงไอนัท”คําพูดเลวๆ จะมาจากใครไดอีกนอกจากมัน แตก็ดี....เพราะ


ทําใหผมรูเสียทีวา....อีกคนที่ทํารายผม.....คือใคร.....ความจริงแลว...มันก็เลวเหมือนกันหมด

“หึหึ....เขาใจคบหาสมาคมกันนะครับ........เลวพอกัน”คําพูดผมคงไมเปนที่พอใจเทาไหร เสียงหัวเราะเงียบหายไป อดไมได


ที่อมยิ้มนิดๆ ถึงจะทํารายรางกายไมได แตการไดโตตอบคําพูดเลวๆ ของพวกมันบางก็เปนอะไรที่....สะใจดี

“คืนนี้กูจะไปหาที่หอง อยาคิดหนีนะมึง ถาไมอยากใหคลิปมันหลุดไปใหคนอื่นเขาดู”แทบไมตองรอใหมันพูดซ้ํา เดินหนี


ออกจากตรงนี้คงดีที่สุด

ผมเดินกลับมายืนหลังเคานเตอร เห็นมีรายการอาหารเสียบไวอยูเลยหยิบมาเตรียมปอนขอมูล แต....มือผมมันสั่น.....ถึงจะ


ทําใจดีสูเสือยังไง....ผมก็ยังกลัวพวกมันมากอยูดี

“พี่พายเปนอะไรหรือเปลา หนาโคตรซีด”แซนเดินมายืนตรงหนาผมเมื่อไหรไมรู พอมันพูดทําเอาผมสะดุงเลย ไมรูวาเหมอ


นานขนาดไหน

“เออ...ไมคอยสบายนะ แลวทิวมันวาไงบาง”

“พี่คนนั้นนะเหรอ ก็โอเคนะ ใหเริ่มงานพรุงนี้ไดเลย”

“ก็ดี แซนพักแถวไหนละ”

“ผมอยูในซอยขางๆ รานนี่เอง ขี่มอ’ไซตมา แปปเดียวถึง วันไหนไมอยากกลับไปคางกับผมไดนะ”


“เออก็ดี เพื่อนทิวมันก็อยูในซอยเหมือนกัน”ผมยืนคุยกับแซนสักพัก มันก็ตองไปประจําหนาที่ แซนเลือกเพลงไวไมเยอะ
ครับ มันบอกวาจะคอยดูบรรยากาศในราน ถาเริ่มคึกคักจะไดปรับแนวเพลงใหม ดูใสใจกับหนาที่ดีครับ

“พี่พายคะ มีโนตจากโตะเพื่อนพี่มาคะ”พนักงานยื่นรายการอาหารพรอมกระดาษโนตแผนเล็กๆ...ขออยาใหเรียกผมไปหา
อีกเลย....เพี้ยง.....ผมคอยๆ กางกระดาษออก ถอยคําสั้นๆ ที่ทําใหผมรูวาคําขอเปนจริง ไมตองเสียเวลาอานใหนาน เพราะ
มีแคไมกี่คํา....‘อยารานผูชายใหมากนัก ผัวมึงนั่งอยูทั้งคน’.....สั้นดีมั้ยละ อานแลวแทบอยากเอากระดาษไปใหแมครัวผสม
ใสอาหารที่มันสั่งแลวใหมันกินเขาไปซะ

ผมทํางานดวยอารมณขุนมัวปนหวาดระแวง จนกระทั่งไดปริ๊นทใบเสร็จของโตะนุออกไปเก็บเงินนั่นแหละถึงไดถอนหายใจ
อยางโลงอก หากแตแคเพียงเสี้ยวนาทีก็ตองกลับมาวิตกกังวลใหม....ใกลเวลาเลิกงานเขาไปทุกที....ใกลเวลาที่ตองไป
เผชิญหนามันดวยเชนกัน

“พายเปนอะไรหรือเปลา”

“หืม...เปลานี่ ทําไมเหรอ”

“ก็ตั้งแตขึ้นรถยังไมเห็นพูดอะไรเลย”

“อืม...เพลียๆ นะ แลวนี่ไปกินเหลากันมาเหรอ”

“ไปนั่งกินกับพวกไอศักดิ์มันเฉยๆ”

“กินบอยเนอะ ไมเบื่อเหรอกินทุกวันเลย”

“แหะๆ....จะพยายามลดแลวกันนะครับ”ทิวหัวเราะเขินๆ เวลาทิวเขินจะลูบทายทอยตัวเอง เห็นแลวก็นารักดีครับ บางครั้ง


ก็ชอบทําตัวเหมือนเด็ก บางครั้งก็....เดาอารมณไมถูกเหมือนกัน

ทําไมระยะทางจากหนาหอมาถึงหนาหองไมไกลสักหลายๆ กิโลเมตรนะ นี่เดินไมกี่กาวก็ถึง ผมยืนนิ่งอยูที่บันได มองตรง


ไปหองตัวเองและหองขางๆ มือหนึ่งกํากุญแจไว นับหนึ่งถึงสามในใจแลวก็เริ่มวิ่งไปใหถึงหนาหอง ไขกุญแจเขาไปไดก็รีบ
เปดแลวปดอยางรวดเร็ว หลังพิงประตูกึ่งดันเอาไวเต็มตัว ถอนหายใจหอบๆ แลวก็ตองสะดุดลมหายใจตัวเองเมื่อเห็นแขก
ที่ไมคิดจะเชิญนอนเอกเขนกบนเตียง

“เปนไรของมึงหนาตาตื่นมาเชียว”มันก็ชางทําตัวเปนแขกที่ดีเสียจริง ถามเจาของหองไดสุภาพมากๆ
“......เขามาไดไง”

“เรื่องของกู”ไดยินคําตอบของมันแลวปวดหัวเลยครับ อุตสาหคิดวารอดแลวเพราะไมเห็นรถมัน แตที่ไหนได อัญเชิญตัวเอง


เขามาสิงสูหองผมเสียนี่

“แตนี่มันหองผม”

“หองเมียตัวเองทําไมจะเขาไมได แลวไปไหนมาถึงกลับชา”คําถามเหมือนคนสนิทสนมเปนหวงเปนใยทําเอาแทบหลุดขํา
ไมทราบวาผมไมสนิทกับคุณตั้งแตตอนไหนถึงมาซักไซแบบนี้

“.......ตกลงตองการอะไรอีก”ผมมันก็ดีแตดาในใจเทานั้นแหละ ยังไมพรอมเจ็บตัว

“ทําไมกลับชา”

“........”เมื่อมันไมตอบคําถามผม ผมก็ไมมีความจําเปนตองตอบคําถามมัน

“โอย!! บาหรือไงวะ”ผมรองเสียงหลงทันทีที่มันลุกเดินมาถึงตัวแลวกระชากแขนผมเสียแรง

“พูดดีๆ ไมชอบ ชอบความรุนแรงหรือไง”ทาทีเกรี้ยวกราดตางจากหนากากผูดีที่มันสวมในเห็นตอนอยูที่ราน ทาทางจะเก็บ


กดความเลวเอาไวมากถึงไดมาระบายออกแบบนี้

“ไอโรคจิต....โอยยย ปลอย!”คําพูดของผมกระตุนแรงบีบที่แขนไดดี ปลายนิ้วที่จิกลงบนทองแขนเริ่มเจ็บปนแสบ เล็บมันคง


จะกดลงบนเนื้อจนไดเลือดแลว

“ที่มึงดาพวกกูที่รานอาหารยังไมไดชําระความเลยนะ”

“ก็สมกับคําพูดเลวๆ ที่พูดใสหนาผมแลวนี่”

“กูอายุมากกวามึงตั้งหลายป หัดเคารพกูบาง แลวตกลงไปไหนมา”มืออีกขางที่วางก็ยกมาบีบกรามผมไวแนน แถมทาย


ดวยการตบแกมเบาๆ เพื่อเตือน....หรือขู

“......ทะ...ทํางาน”

“อยาใหกูโมโหนา กูรูหรอกวามึงเลิกงานกี่โมง รานก็อยูแคนี้เสือกสายเปนชั่วโมง”


“กินขาว”

“กับใคร ไอหนาออนเพื่อนมึงวันนั้นนะเหรอ.....เพื่อนหรือผัว”

“......กําลังตัดสินใจอยู”

“อยากวนตีน ตอบดีๆ”

“งวง จะนอนแลว”

“กูยังคุยไปจบ แตพรุงนี้มึงหยุดนี่หวา ไวตื่นมาคอยคุยก็ได”ไมรูทําไมครั้งนี่ถึงยอมผมงายๆ แตก็ดี มันปลอยแขนผมที่เจ็บ


จนชา ผมยกมือนวดแขนซายตัวเองเบาๆ พรุงนี้ไดเขียวแนๆ

“เฮย แลวเรื่องอะไรมาคางหองผม หองนุก็มีไมไปละ มีอะไรจะคุยก็รีบๆ วามาจะไดจบๆ กันไป”

“ไหนบอกงวง ตอแหลกูเหรอ”มันไมพูดเปลา ตอยลงมาที่หัวไหลผมเต็มๆ เจ็บแทบทรุดเลย

“โอย! ไอบานี่ โรคจิตหรือไงวะ ตอยมาได ถาโกหกแลวจะทําไม แลวเมื่อไหรจะเลิกยุงกับผมเนี่ย”

“ทําไม จะรีบหาผัวใหมเหรอ”

“............”คุยกับคนบาสงสัยจะไมรูเรื่อง

“เงียบๆ ทําเปนเงียบ อยาคิดเชียวนะมึง กูฆาแมงทั้งคูเลยนี่ งวงก็ไปอาบน้ํามานอน เร็วๆ ดวย”

ผมวางกระเปาบนโตะแลวเดินไปหยิบเสื้อผาใสนอนในตู แรงตอยที่ไหลเมื่อครูทําใหรูสึกลาปนเจ็บจิ๊ดๆ เวลายกแขน


หลังจากถอดเสื้อผาออกจนหมดผมดูแขนตัวเองที่ถูกบีบแรงจนหลงเหลือรอยเล็บเอาไว พรุงนี้คงตองหายาฆาเชื้อมาใส...
หรือไปฉีดยากันพิษสุนัขบาดี

ตอนที่ 16.1

การอาบน้ําที่ชาที่สุดครั้งที่สองผานไป ผมเดินเนือยๆ เขามาในหอง แขกไมไดรับเชิญก็ยังคงนอนยึดริมเตียงดวยทาทาง


สบายใจ ผมเลือกที่จะไปเปดคอมพิวเตอรเพื่อหาขออางในการไปนอนบนเตียงเดียวกันตอนนี้
“ไหนบอกงวง”

“ลืมไปวาพรุงนี้มีเทสตยอย”ผมนี่ก็บาดีนะครับ หองตัวเองแทๆ กลับไมมีปญญาไลมันออกไป กลัวเจ็บก็กลัว กลัวนุไดยินก็


กลัว

“เอานี่ไปอานแลวก็เซ็นตชื่อดวย”กระดาษหลายแผนถูกยื่นมาตรงหนา ผมมองอยางสงสัยกอนจะรับมา ไลสายตาอานไป


ไดไมกี่บรรทัดก็ตองเงยหนามามองคนที่ยื่นให

“อะไร เอามาใหผมทําไม”

“อยาเรื่องมาก บอกใหเซ็นตก็เซ็นต พรุงนี้ก็เตรียมเก็บของดวย”

“จะบาไปแลวหรือไง ผมไมตองการ”จะไมใหโวยวายไดไงครับ อยูดีๆ ก็เอาหนังสือสัญญาซื้อคอนโดฯ มาให แถมราคาแพง


มากดวย ไมเขาใจการกระทําของมันเลย

“เรื่องมากจริงๆ เลยนะมึงเนี่ย อยากอยูที่นี่นักหรือไง แคบก็แคบ ความปลอดภัยก็ไมมี เครื่องอํานวยความสะดวกอะไรก็ไม


มีสักอยาง”

“ก็แลวจะมายุงเรื่องของผมทําไม”

“เรื่องของกู”

“เรื่องของผมเหมือนกัน แลวไอเอกสารพวกนี้นะ เอาไปใหนุจะดีกวา นั่นแฟนคุณนะ”

“แตมึงเปนเมียกูนี่ รับไปเหอะ อยาเรื่องมาก ถือวาชดเชยที่ทํามึงคราวกอนแลวกัน”ไมมีครั้งไหนที่คําพูดของมันจะทําราย


ผมไดเทาครั้งนี.้ ...สรุป...นี่คือคาตัวผมงั้นเหรอ ผมลุกขึ้นยืนตอหนามัน แลวหยิบเอกสารทั้งหมดฟาดไปบนใบหนา แถม
ทายดวยหมัดอีกหนึ่งหมัด มือที่ชกออกไปยังคงกําแนนและสั่นเทาดวยความโกรธ....ถึงผมจะถูกขมเหงยังไง แตศักดิ์ศรีก็
ยังเปนของผม....ไมมีใครมาซื้อได

ผั๊วะ!

“เปนเหี้ยอะไรของมึงอีก!!”คําพูดที่มาพรอมหมัดหนักๆ ผมคงโดนจนชินแลวถึงไมลมลงไป หนาที่สะบัดตามแรงหมัดหัน


กลับมาจองคนตรงหนาเหมือนเดิม บางที....ผมควรจะสู. ..เหมือนที่จิ๋วมันเคยสูเพื่อศักดิ์ศรีตัวเองมาแลว สู...เพื่อจะที่จะไม
ตองทนฟงคําดูถูกเหยียดหยามจากมันอีก
สายตาผมหันไปมองชองซิปดานหนากระเปาเป ไวเทาความคิด ผมสาวเทาไปหยิบมีดพกที่เก็บไวในนั้นขึ้นมาชี้หนาคนที่
หยามผมเมื่อครู

“ออกไป!!”

“เปนบารึไง คิดจะเอามีดมาขูกูเหรอ”หมัดครั้งนี้ของผมทาจะแรงเอาการ มุมปากมันมีเลือดซึมอยู

“ไมไดขู ถาเขามาผมแทงจริงๆ ดวย”

“ถามึงกลา....กูก็ยอม”รางตรงหนากาวเขามาหาผมเรื่อยๆ ระยะหางจากปลายมีดและหนาอกหางกันไมถึงคืบ และลด


นอยลงเรื่อยๆ มือผมสั่นจนตองประคองมีดไวทั้งสองมือ ระยะหางนอยลงในขณะที่ผมกลับเปนฝายถอยหนีจนชิดกําแพง

“ไมกลารึไง”น้ําเสียงทาทาย แตก็แฝงแววดูถูกผมอีกครั้ง

“อยาทาผมนะ!!”

“แทงสิ!!”

“ถอยไป!”

“กูบอกใหแทง!!!”คําพูดยั่วยุพรอมกับฝามือหนาที่กุมรอบมือผมไว เทานั้นยังไมพอ ทุกครั้งที่พูด เขาพยายามดันปลายมีด


เขาหาอกตัวเอง สวนผมกลับเปนคนรั้งเอาไว ปลายมีดแหลมกรีดลงบนอกหนา เนื้อผาบางๆ ถูกกรีดขาดออกจนเห็นรอย
แผลและเลือดที่เริ่มซึมออกมา เลือดสีแดงทําเอาเนื้อตัวสั่นดวยความกลัว......การทํารายคนอื่นทําไดงายๆ งั้นเหรอ การฆา
คน...มันงายงั้นเหรอ....ไมเลย....มันไมงายสักนิดเดียว....ศักดิ์ศรีที่คิดจะทวงคืนหลนหายไปพรอมกับมีดที่ปลอยหลุดจาก
มือ เลือดสีแดงซึมเปอนเสื้อเชิ๊ตเปนวงและขยายกวางขึ้นเรื่อยๆ

เพี๊ยะ!!

สติที่หลุดลอยลอยไปถูกดึงกลับมาดวยแรงมือที่ฟาดลงบนซีกแกมขางซาย ผมทรุดตัวนั่งทั้งๆ ทีถ่ ูกจับมือเอาไว น้ําตาไหล


อาบแกมเพราะความรูสึกที่ไหลปนกัน....ทั้งเกลียด....ทั้งกลัว....แตผมก็ใจเสาะ...ไมกลาทํารายมัน.....แมแตศักดิ์ศรีตัวเองก็
รักษาไมได

“.......มะ...ไม....ไมเอาแลว....หยะ....อยาทําผม...อยา”เพียงแคคิดวาจะทํารายคนอื่น ความทรงจําที่เคยถูกทํารายกลับ
ยอนมาทํารายผมเอง
“เฮย.....บาเอย!!”เสียงสบถดังเหนือหัว ฝามือที่เกร็งแนนถูกดึงใหลุกขึ้น แตการยืน...ทําไดยากเหลือเกิน รางกายทุกสวน
เหมือนจะแข็งเปนหิน.....ไมอยาก....ไมอยากสัมผัสกับอะไรทั้งนั้น.....อยา....แตะตองตัวผม

“...อยา......อยาแตะ.....”

“มาสติแตกอะไรเอาตอนนี้วะ ฮึ่ยยยย”เสียงหงุดหงิดแบบคนเจาอารมณดังอยูใกลๆ ถึงจะรับรู แต....ควบคุมรางกายตัวเอง


ไมได....ปจจุบัน...กับอดีต...กําลังซอนทับกัน

“อะ...ไม....ไม....มายยย...อาาาาา”ฝามือหนาหยาบกระดางที่พยายามจับตัวผมทําใหตองขดตัวหนี แมจะตะเกียกตะกาย
หนีเทาไหรก็ไมพน....เมื่อไหร...จะหนีพนสักที

ตอนที่ 16.2

รางกายหนักอึ้งจนแทบไมอยากขยับ แตเพราะชินกับการตื่นเชาถึงไดลืมตาขึ้นมา แลวก็พบวา....รางกายที่หนักอึ้ง เปน


เพราะ.....รางของใครบางคนที.่ ...กอดผมอยู…..เหตุการณเมื่อวานผมจําไมคอยได เรียกไดวาสติหลุดสมบูรณแบบ ใกลบา
เขาไปทุกที และที่ยืนยันพฤติกรรมตัวเองไดวาใกลบาก็คือ....การที่ผมยังคงนอนมองหนามันอยู

ผมคอยๆ ดันแขนมันออกจากเอวผม แลวรีบลุกขึ้นนั่งเตรียมออกไป.....บาไปแลว...ที่นี่มันที่ไหนกัน นี่มันไมใชหองผม


หองนอนขนาดใหญ ผนังหองสีควันบุหรี่ เตียงนอนขนาดคิงไซด ผาปูเตียงและผาหมเปนเซ็ทเดียวกัน ทุกอยางภายในหอง
นี้มันจะดูดีอยางลงตัวถาไมมีมันนอนอยูขางๆ......วาแต....อยูที่ไหน แลวมาที่นี่ไดยังไง แตที่สําคัญกวานั้น....ผม...ไมควร
จะอยูที่นี่ ผมคอยเลื่อนตัวไปจนเกือบถึงขอบเตียง แต....

แกรก

เสียงของกุญแจมือที่กระทบกันเบาๆ ทําใหรูสึกตัววา...ถูกล็อคกุญแจอีกแลว คราวนี้มันใชกุญแจมือสองอันล็อคมือผมกับ


ตัวมันทําใหมีระยะหางมากขึ้นกวาเดิม ผมรีบมองหาลูกกุญแจตามบริเวณหัวเตียงหรือลิ้นชักโตะวางโคมไฟใกล แตก็ไม
พบ มีเพียงความวางเปลาเทานั้น เหลือเพียงที่เดียวที่ยังไมไดคน....คือตัวของมัน ผมมองหนาที่หลับสนิทอยางชั่งใจ มือ
ซายที่เปนอิสระคอยๆ เอื้อมไปดึงผาหมออกจากรางกาย.....รอยเลือดสีแดงเขมเปนวงกวางอยูบนเสื้อแทบทําใหหยุด
หายใจ รอยแผลที่โผลพนรอยกรีดของเสื้อชวยเตือนกระทําของตัวเองเมื่อวานไดดี.....หรือวาจะตายไปแลว.....ผมคอยๆ
เอานิ้วชี้ไปใกลๆ จมูก....ลมหายใจอุนๆ ยืนยันการมีชีวิตอยู ถึงจะเกลียดยังไง....ก็ยังไมกลาพอที่จะฆาใหตาย

“ทําอะไร”

“.....หากุญแจ”ผมรีบชักมือกลับแลวนั่งหันหลังให ตกใจหมด อยูดีๆ ก็ลืมตามาจองเขม็งเลย


กริ๊ก

เสียงไขกุญแจทําใหตองเหลียวมามอง ผมรีบดึงมือตัวเองที่เปนอิสระมาไวบนตัก เสียงกุกกักดานหลังดังอยูครูเดียวก็มี


เสื้อผามาโยนใหตรงหนา

“ไปอาบน้ําซะ”คนพูดชี้ไปที่ประตูหองน้ําใกลๆ ประตูหองนอน ผมรวบเสื้อผามาถือไวแบบงงๆ รางสูงเดินเซออกไปดาน


นอก ผมเหลียวมองรอบตัวกอนจะลุกเขาไปในหองน้ํา รูสึกปวดแถวๆ ชวงทอง ริมฝปากมีคราบเลือดแหงติดอยู แกมบวม
เห็นเปนรอยนิ้วจางๆ แตคิดวาผมที่ยาวปรกหนาคงจะชวยปดได กวาจะออกจากหองน้ํามาไดก็เผลอใชเวลาอยูนาน ก็
หองน้ํานี้มันทั้งสวย สะอาด และกวางกวาหองน้ําผมเยอะเลยนี่นา

ผมเดินออกจากหองน้ําดวยเสื้อยืดตัวใหญกับกางเกงขาสั้นที่เจาของหองยื่นให ในหองนอนยังคงวางเปลา ผมเดินไปเปด


มานมองออกไปดานนอก เห็นมีตึกอยูตรงขาม แตก็เวนระยะหางอยูเหมือนกัน ดานลางมีสวนหยอมเล็กๆ กับโดมแกวใสๆ
ซายมือมีสระวายน้ําดวย ไมไดสํารวจเพราะชอบสถานที่หรอกนะ แตกําลังหาชองทางหนีตางหาก ดูจากความสูงแลว...
โดดลงไปคงไมใชความคิดที่ดีแน

“ออกมากินขาว”เสียงหวนดังจากประตูหองนอน ผมหันไปมองดวยความไมพอใจ แตก็เดินตามออกไปโดยดี อยางนอยก็


ขอออกไปถามหนอยเถอะวาที่นี่ที่ไหน แลวผมมาอยูไดไง อยาบอกนะวามันพาผมมาตอนกําลังหลับนะ แลว...ผมหลับ
ตั้งแตเมื่อไหร

จากที่คิดวาหองนอนดูดีแลว หองนั่งเลนก็ดูเรียบหรูไมแพกัน อาหารจานหรูวางบนโตะหนาโซฟา ผมเดินไปนั่งโซฟา


ดานขางเจาของหอง

“เปนอะไรอีก”

“....ผมมาอยูนี่ไดไง”

“ก็ตอยทองแลวก็แบกกลับมา”น้ําเสียงราบเรียบตรงขามกับเนื้อหาที่พูดโดยสิ้นเชิง

“แลว...แผล”ผมไมแนใจวาจะถามดีมั้ย ไมไดเปนหวงหรอกนะ แต....เห็นรอยเลือดแลวอดกังวลไมได แถมมันยังนอนทั้งๆ


ที่ไมทําแผลอีก เลือดไมไหลหมดตัว แสดงวาแผลคงไมลึก

“ถามทําไม”น้ําเสียงนิ่งๆ ที่เดาอารมณไมออก สีหนายิ่งไมตองพูดถึง....เฉยสนิท

“......เปลา”
“งั้นก็กินขาวไปสิ”มันพูดพรอมกับยกแกวกาแฟขึ้นจิบ มือหนึ่งก็ยังคงกดรีโมททีวีเปลี่ยนชองไปเรื่อยๆ กับขาวบนโตะมีสาม
อยาง แต....ขาวเปลามีแคจานเดียว นั่นหมายความวาใหผมกินคนเดียวเหรอ....ทําตัวไมถูกเลยผม ปกติมันตองโวยวายนี่
นา มานิ่งๆ เงียบๆ นี่อึดอัดครับ

“อยูในหองก็ทําตัววางายดวย เดี๋ยวบายๆ จะกลับมา”มันพูดจบเดินผานหนาผมไปหยิบกุญแจรถ กับแมกุญแจสําหรับล็อค


หอง

“เฮย! เดี๋ยวสิ จะไปไหน ผมไมอยูหรอกนะ จะกลับหอง”ผมรีบลุกแลวเดินตามไปจนเกือบถึงหนาประตูก็ตองหยุดอยูกับที่


เพราะมันหันกลับมา

“พูดภาษาคนใหรูเรื่องนะมึง อยาใหกูลงมืออีกนะ”แววตาที่ทําใหรูวาเอาจริงทําใหตองเงียบเอาไว ผมมองบานประตูหอง


คอยๆ ปดลง เสียงล็อคกุญแจจากดานนอกทําใหแนใจวาถูกขังอีกครั้ง ผมเดินกลับมาเก็บจานอาหารไปไวที่ครัวเล็กๆ มุม
หอง วิวดานนอกก็เดาไมออกดวยวาอยูสวนไหนของกรุงเทพฯ ถาโทรศัพทไปบอกใหทิวมารับก็บอกสถานที่ไมถูก ทั้งเนื้อ
ทั้งตัวไมมีอะไรสักอยาง โทรศัพท กระเปาตังค ตอใหหนีออกไปไดก็กลับไมถูก

หองนี้มีหองนอนหนึ่ง หองน้ําสอง สวนอีกหองถูกล็อคไว ไมรูเหมือนกันวาจะใชหองนอนอีกหองหรือเปลา แตคนนิสัยแบบ


มันจะอยูรวมกับคนอื่นไดเหรอ....ไมมีทาง

แกรก

เสียงไขกุญแจและประตูลูกบิดทําใหตองหันมอง เพิ่งออกไปแคชั่วโมงกวาไมนาจะกลับเร็วขนาดนั้น และก็จริง....คนที่เขา


มาไมใชมัน

ตอนที่ 17.1

ผมมองใบหนาคนที่เดินเขามา เขาเองก็คงแปลกใจที่เห็นผมอยูในหองนี้ ความเงียบที่เกิดขึ้นทําใหผมนึกขึ้นไดวาตัวเอง


ประมาทเกินไป ผมนาจะเอามีดในครัวมาไวใกลๆ ตัว ตอนนี้จะเดินไปหยิบก็ไมทันแลว

“พายมาอยูที่นี่ไดไง”เขาปดประตูแลวก็เดินเขามายืนเวนระยะหางจากผม

“เพื่อนคุณจับผมมา”ผมพยายามนั่งนิ่งๆ ไมแสดงออกใหเห็นวาผมกลัว ถึงเขาจะดีที่สุดในบรรดาพวกนั้น แต...ก็ทํารายผม


เหมือนกัน
“ไอตั้มนะเหรอ”

“เพื่อนเลวๆ คุณจะมีสักกี่คนละ”

“หึหึ...สมแลวที่มันบอกวาเราปากจัด”เสียงหัวเราะของเขาทําใหผมตวัดสายตาไปมองอยางไมพอใจ

“เอาละๆ ไมตองทําตาดุใสพี่ก็ได พี่ชื่อนัทนะครับ เดี๋ยวพี่ขอทํางานกอนแปปนึง แลวจะพาไปสงหอง”

“.....จะไปสงผมจริงๆ เหรอ”ผมถามกลับอยางไมแนใจ

“ใชสิ ทําไมละ หรือจะรอมันอยูนี่”

“บาสิ ใครจะไปอยากอยู”จะรอใหมันมาฆาหรือไง แคนี้ก็สะบักสะบอมจะแยแลว

“งั้นก็นั่งดูทีวีรอพี่กอนแลวกัน สักชั่วโมงนาจะเสร็จ”เขาพูดแลวก็เดินไปเปดตูเย็น รินน้ําใสแกวแลวก็เดินไขกุญแจหองที่ผม


เปดไมออก ดานในคงเปนหองทํางาน แตมันมืดมาก ดูไมออกเลยครับวาเขาไปทําอะไร เขาเขาหองไปแลวก็ปดประตู สวน
ผม....กําลังชั่งใจวาจะหนีไปตอนนี้ดีมั้ย ยังไงประตูก็เปดแลว แต...ผมไมมีเงินนี่สิ ออกไปก็ไมรูจะกลับยังไง บางทีทิวนาจะ
มารับผมได โทรศัพทในหองถูกหยิบขึ้นมากดหมายเลขที่จําไดขึ้นใจ ผมถือสายรออยูนานจนสัญญาณตัดไปสามสี่รอบก็
ตองวางสาย ทิวคงยังไมตื่นหรือไมก็ไมไดพกโทรศัพทติดตัว ผมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟานุม ใจนึงก็อยากจะไปเคาะเรียกแลวขอ
ยืมเงินเพื่อกลับหอเอง อีกใจก็อยากเรงใหเขาไปสงผมกอนที่มันจะกลับมาเจอ สุดทาย...ผมเลือกที่จะไปเปลี่ยนเสื้อผาเปน
ชุดเดิม แลวมานั่งรอเขาตอไป

“ขอโทษนะ รอนานมั้ย”เขาเดินออกมาจากหองแลวผงะนิดหนอยเมื่อเห็นรอยเลือดที่เปอนอยูบนเสื้อผม สวนผมก็ปด


โทรทัศนเตรียมพรอมที่จะออกไปจากที่นี่เต็มที่

“กลับไดยัง”ผมไมคิดจะตอบคําถามทางสายตาของเขา แตคิดวาเขาคงเดาออก

“ไปสิ”เขาเดินนําผมออกไปนอกหอง ตลอดทางที่ลงมาขางลาง ผมไมหันไปมองดานหลังเลย ไมอยากจดจําสถานที่นี้ ขอ


อยาใหตองมาที่นี่อีกเลย

“จะไมถามทางผมสักคําเหรอ”ผมอดถามไมได เพราะตั้งแตขับออกมา เขาไมถามทางผมเลย

“ไมเปนไร พี่วาพี่จําได แตถาผิดทางก็บอกแลวกัน”เขาจําอะไรได เคยมาที่หอผมแลวงั้นเหรอ....ใชสิ ตองเคยอยูแลว

“.....ออ.....เคยมาดักตีหัวผมนี่เองถึงจําได”
“....อืม....พี่ขอโทษนะ จะบอกวาไมไดตั้งใจก็คงสายไปแลว แตยังไงก็อยากขอโทษ พี่ไมคิดวาเรื่องมันจะเปนแบบนี้จริงๆ”
น้ําเสียงจริงใจที่ดูจะสํานึกผิดอยางที่พูดจริงๆ ทําใหผมเลือกที่จะไมประชดอะไรกลับไป

“ชางเถอะ....ยังไงก็ผานมาแลว”ผมหันหนาออกนอกกระจก ไมอยากพูดถึง ไมอยากฟงดวย การที่ผมพูดดีกับเขาก็ถือวา


ตอบแทนที่เขาเคยมีน้ําใจกับผมก็แลวกัน

หลังจากเลี้ยวเขาซอยหอผม เสียงโทรศัพทเขาก็ดังขึ้น ผมคอนขางแนใจวาตองเปนมันโทรมาแนๆ สงสัยคงกลับถึงหองแลว


ไมเห็นผม

“เออวาไง......ใช กูพาออกมาเอง.........แลวมึงจะอะไรกับนองเขานักหนาวะ ที่ทําไปมันยังไมพอหรือไง.........เสียใจวะ กูพอ


เขาไปสงที่หอแลว....เฮย! เดี๋ยวสิวะ”เขาตะโกนใสโทรศัพท แตทาทางปลายสายจะวางไปแลว

“พี่วาพายไปอยูกับเพื่อนสักพักดีกวานะ”

“มันจะตามมาเหรอ”ผมถามกลับดวยความตกใจ

“ใช ยังไงก็ไปนอนคางกับเพื่อนคืนนี้เลยแลวกัน เดี๋ยวพี่จะไปพูดกับมันให บางทีมันนาจะฟงพี่บาง”

“เพื่อนคุณมันบา”

“หึหึ....ก็คงงั้น แลววาไง จะไปนอนที่ไหนละ เดี๋ยวพี่ไปสง”

“ไมเปนไรครับ ผมตองไปทํางานกอน”ผมเลือกที่จะสุภาพมากขึ้น และพูดคุยดวยมากขึ้น อยางนอยเขาก็ไมจับผมกลับไป


สงใหมัน แถมยังบอกใหผมหนีอีก

“ใหพี่ไปสงมั้ย”

“ไมรบกวนดีกวา ขอบคุณที่มาสงครับ”พอรถจอดที่หนาหอ ผมก็เปดประตูรถลงไป แตยังไมทันจะหันหลังกลับเขาก็เรียกผม


ไวกอน

“เดี๋ยวกอนพาย”

“นี่นามบัตรพี่ มีอะไรก็โทรหานะ”กระจกรถถูกเลื่อนลงพรอมกับกระดาษนามบัตรแผนเล็กถูกยื่นออกมา
“คงไมจําเปนมั้งครับ”ผมยังคงยืนนิ่งอยู ไมคิดจะรับมา เพราะคิดวาไมจําเปนตองติดตอกันอีก

“ก็....เผื่อถูกขังอีกไง”

“.......ครับ”เหตุผลของเขาทําใหผมเปลี่ยนใจ ผมมีสิทธิที่จะเจอปญหาในโอกาสหนาจริงๆ ดูทาแลวมันก็ยังไมเลิกหลอก


หลอนผมสักที มีคนขางมันคอยตามชวยผมก็ดีเหมือนกัน

ผมรีบวิ่งกลับขึ้นหอง ตองรีบทําเวลาครับ กลัวมันตามมาถึงนี่ เดี๋ยวผมหนีไมทันอีก ทันทีที่เปดประตูหองเขาไปก็ตองยืน


คาง สภาพหองไมตางจากกองขยะ เกาอี้คอมฯ ชั้นวางจาน ตะกราเสื้อผา ทุกอยางลมระเนระนาด ผมมองแลวตองถอน
หายใจหนักๆ จําไมไดจริงๆ วาเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นบาง แตทาทางผมก็คงสูสุดชีวิตเหมือนกัน....รูสึกดีใจลึกๆ ที่ตัวเองไมได
ยอมมันงายๆ

ผมใชเวลาใหการเก็บหองและอาบน้ําเปลี่ยนเสื้อผาใหมแคครึ่งชั่วโมง ปดล็อคหองตัวเองเรียบรอย ประตูหองขางๆ ก็เปด


ออกมา นุชะโงกแคหนาใหพนประตูพรอมสงยิ้มให ผมก็ยิ้มตอบไป

“พายจะไปทํางานแลวเหรอ วันนี้ไปเร็วจัง”

“อืม มีธุระนะ”

“วา นุจะชวนกินขาวซะหนอย พี่ตั้มก็ไมวาง ไมมีเพื่อนกินเลยนะเนี่ย”

“เออ..เหรอ…เออใช เรื่องไวนนะ พี่ธารเขาโอเคนะ พี่เขาบอกใหนุโทรไปคุยเรื่องรายละเอียด พายเกือบลืมไปแลวนะเนี่ย”

“เหรอ ดีจัง นุกําลังอยากไดเงินพอดี”

“ทําไมละ ที่บานมีปญหาอะไรหรือเปลา”ผมเองก็อยากจะรีบไป แตนุเหมือนกําลังมีปญหา และผมก็ปลอยไมไดดวย

“ก็นาเขาโทรมาปรึกษาเรื่องไอน้ํานะ มันก็โตแลว จะใหนอนรวมกับลูกๆ เขาตลอดก็ไมดี นุเลยวาจะเอาเงินไปใหนากั้นหอง


ใหมใหมันตรงหลังบานนะ”

“เหรอ พายเองก็มีเงินเก็บเหลือนิดหนอย ยังไงเอาที่พายกอนก็ไดนะ”

“ไมรบกวนพายหรอก ถาขายไวนไดก็ไดเงินเพิ่ม นาจะพอ”


“อืม งั้นพายไปกอนนะ ไวคุยกันใหม”ผมรีบโบกมือลานุแลววิ่งลงมาขางลาง กําลังจะวิ่งออกจากหอก็เห็นรถคันที่เพิ่งมาสง
ผมจอดอยูที่เดิม คนขับเปดกระจกรถแลวกวักมือเรียกใหเดินไปหา

ตอนพิเศษ....เมื่อวันพระจันทรสองดวง

ชวงนี้จะเรียกไดวาอาการเหอสิ่งแปลกใหม ไมรูเปนอะไรนะครับ เดี๋ยวก็มีเรื่องโนนเรื่องนี้แปลกๆ เกิดขึ้นบอยๆ ผมเองก็เฝา


ติดตามเหมือนกับใครอีกหลายๆ คน อยางคราวที่บอกวาจะสามารถเห็นสุริยุปราคา ผมก็เตรียมตัวนับถอยหลังรอ แต...ฝน
ตก แยมากๆ เลย ผมตั้งตารอตั้งหลายวัน ฝนดันตกลงมาได เมฆเต็มฟาไปหมด ผมตองเดินเขาบานอยางหัวเสีย สวนคนที่
ไมสนใจอะไรเลยก็นั่งหัวเราะเยาะผมเสียงดัง

“ความจริงก็นาจะเอาตะไครไปปกกอนนะ ฝนจะไดไมตก”พอผมจะเดินหนีเขาหองนอนเขาก็พูดขึ้นมา

“อะไร เกี่ยวอะไรกับตะไคร”

“ก็โบราณเขาบอกไวไง แกเคล็ดใหฝนไมตก...แต...สงสัยพายคงทําไมไดหรอก...เขาใหเฉพาะคนซิงๆ นะ”ดูมัน พูดเอง


หัวเราะเอง

“ไอบา เขาใหผูหญิงไปปกตางหาก ไมรูเรื่องแลวอยากจะพูด”ยิ่งหัวเสียอยูยังมาแหยอีก

“อะไร วาใคร ไหนออกมานี่ดิ๊”ดูมัน พอผมวาหนอยเดียวทําตาขวาง คิดวากลัวเหรอ ผม...รีบวิ่งเขาหองล็อคกุญแจเลย ได


ยินเสียงมันหัวเราะลั่นบาน ไอบานี่ชอบแกลง โรคจิตชัดๆ

เดินเขามานั่งอยูหนาคอมฯ การเช็คขาวสารออนไลนก็เปนอะไรที่เริ่มชินแลวเหมือนกัน จะวาไปมันก็รวดเร็วดีนะครับ


ติดตอกับเพื่อนทางไกลก็สะดวกและประหยัดดีดวย ผมนั่งเช็คอีเมลลตัวเองเรื่อยๆ จนมาถึงอีเมลลที่นาสนใจอีกอันหนึ่ง

วันที่ 27 สิงหาคม 2551 คือวันที่คนทั้งโลกตั้งตารอคอย....


เพราะดาวอังคารจะสองแสงเจิดจรัสบนฟากฟาใหเห็นแบบช ัดเจนที่สุดตลอดเดือนสิงหาคม
ดวยรูปทรงขนาดใหญประดุจดังพระจันทรเต็มดวงซึ่งเรา สามารถมองเห็นไดดวยตาเปลา
โดยเฉพาะวันที่ 27 สิงหาคมซึ่งทุกอยางจะชัดเจนสมบูรณที่สุดเพราะวันนั นดาวอังคารจะอยูหางจากโลก
แค 34.65 ลานไมล
อยาพลาดนะ...คืนวันที่ 27 สิงหาคมนี้ เวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง เราจะเห็นดวงจันทรสองดวงบน
ทองนภา (โรแมนติคมั่กมั่ก)
ปรากฎการณเชนนี้จะมีใหเห็นอีกครั้งในป คศ. 2287 (หรือพุทธศักราช 2830)
รวมแบงปนเมลนี้ใหเพื่อน ดวยนะครับ เพราะนี่คือโอกาสเดียวในชีวิต
(ยกเวนแตคุณเปนมนุษยอมตะซึ่งสามารถมีชีวิตไดอีก 280 ป)

ผมอานขอความทั้งหมดแลวแอบอมยิ้มอยูคนเดียว ไมรูทําไมผมถึงชอบอะไรแบบนี้ มันดูนาตื่นเตนดีนะครับ พระจันทร


สองดวง....แคคิดก็...โหหหห..คงตองสวยมากแนๆ เลย คราวนี้ผมจะไมบอกมัน เดี๋ยวถาเกิดพลาดขึ้นมามันจะไดไมเยอะ
เยยผมอีก

หลังจากวันนั้นผมก็นั่งเฝาพระจันทรที่นอกชานแทบทุกคืน เผื่อวามันจะเห็นลางๆ กอนวันที่ 27 บางทีเห็นเงาๆ ผานกลุม


เมฆก็แอบอิ้มดีใจคนเดียว พอเมฆผานถึงไดถอนหายใจแบบเซ็งๆ ที่ยังเห็นดวงเดียวเหมือนเดิม

“เปนอะไร นั่งยิ้มคนเดียว”

“ยุง”ผมตอบกลับแบบขําๆ ไมบอกมันหรอก ถาเห็นเมื่อไหรจะมาเยาะเยยมันบาง ใหมันเสียดายเลนๆ แคคิดก็สะใจแลว

“อาว ถามดีๆ”

“ไมบอก จะไปไหนก็ไปดิ”ชวงนี้ไมมีอะไรทํา นอนดึกเทาไหรก็ได อยากนั่งดูเงียบๆ คนเดียว

“ดูทีวีอยูไมเห็นรึไง แลวนี่ดึกแลวทําไมยังไมไปนอน ไปนั่งตากน้ําคางอยูได อยากไปนอนใหหมอหนุมๆ ฉีดยารึไง”ดุอีก


แลว ชอบดุอยูเรื่อยเลย อารมณเสียเรื่องงานมาหรือไง นิสัยไมดี ชอบพาลกับคนอื่น นิสัยเลวจริงๆ

“....ปากเสีย”

“...ไปนอนไป เดี๋ยวไมสบาย”น้ําเสียงดูออนลง แตก็นาจะรูวา...ผมโกรธไปแลว

“พายนอนหองเล็กนะ”ผมพูดเสียงแข็งใหรูวาไมพอใจที่เขาพูดกับผมเมื่อครู การยายหองนอนเปนการตอตานเล็กๆ ที่ทํา


จนชินแลว

“อาว........ตามใจ”เขามองแบบไมเห็นดวย แตก็ยอมตามใจ ผมเดินเปดประตูหองนอนใหญเขาไปหยิบหมอนกับผาหม


ออกมา แลวก็เดินไปหองนอนเล็กที่อยูติดกัน กอนเขาหองนอนเห็นเขาไปหยิบเบียรมานั่งดื่มดวย ชางเขา ไมสนใจ อยาก
พูดไมดีกับผมกอนทําไม

หลังจากวันนั้นเขาตองไปธุระเรื่องงาน ตอนแรกจะเอาผมไปดวยแตมันตองคาง ไมอยากไปครับ รูสึกติดกับการนั่งมอง


พระจันทรแลว อยากดูทุกวัน เผื่อมันจะเห็นชัดขึ้นวันละนิดๆ ขอขัดใจนิดหนอย แตทาทางจะโกรธๆ เหมือนกัน แตชางมัน
โดนโกรธจนชินแลว
หลังจากทํางานกลับมา ผมก็ยังคงคอยเฝาพระจันทรเหมือนเดิม แตไมไดไปนั่งที่นอกชานแลวนะครับ เดี่ยวเขาวาอีก
ตอนนี้ก็เลยนั่งแหงนหนามองจากหนาตางหองรับแขกแทน

“ถามจริงๆ เถอะ ที่นี่นั่งเฝาทุกวันนี่รอมองไอดาวอังคารนั่นใชเปลา”คําถามมันชางหวนจริงๆ ไมโรแมนติกเลย พระจันทร


สองดวงเวยไมใชดาวอังคาร

“ใช เจอในเมลล”

“อีกสองวันไมใชเหรอ มานั่งรออะไรทุกวัน”ไมรูวาเขาไปรูมาจากไหน สงสัยไดเมลลเหมือนกัน แสดงวาไมใชผมคนเดียว


หรอกที่นั่งรอแบบนี้

“ก็เผื่อมันเห็นไง”

“วันนี้ฟาปด ไมเห็นหรอก มานอนเถอะ”เขาพยายามดึงผมออกจากหนาตาง แตผมรีบเกาะขอบหนาตางแนน ไมไดอยาก


ดูมากหรอกนะครับ แตรูวาจะดึงผมไปทําไม โอยยย...แรงเยอะชะมัดเลย

“ไมๆๆๆ พายจะดู พี่ก็ไปนอนคนเดียวสิ”

“เรื่องอะไรละ นอนคนเดียวตั้งหลายคืนแลว...นะ”อยามานะเนอะอะไรนะ ไมเอาดวยหรอก

“อะ! อื้ออ”ไอบานี่ ฉวยโอกาสที่ผมหันไปยื่นหนามาจูบเฉยเลย พอผมออนแรงเขาหนอยก็อุมผมลอยหวือเขาหองนอน


เสียอยางนั้น

“อืมม...ไมเอา”

“นา....เดี๋ยวพรุงนี้ดูเปนเพื่อน”

“อืม.....ดะ...เดี๋ยว”ผมพยายามดิ้นหนีจนเกือบตกเตียง แตเขาก็ควาตัวผมจากดานหลัง ริมฝปากรอนๆ จูบไซรตามซอก


คอ ฝามือที่วางก็พยายามปลดชุดนอนผมออก แลวก็ทําไดสําเร็จอยางรวดเร็วเสียดวย ลิ้นรอนชื้นที่ลากผานตามยอดอก
จนถึงทองนอยทําใหตองเกร็งตาม ผมพยายามเมมริมฝปากตัวเองเพื่อกั้นเสียงครางอยางเต็มที่ ในขณะที่เขาพยายาม
กระตุนผมทุกวิถีทาง

“อะ...อื้มมมม”
.
.
.
อากาศยามเชาชางไมนาพิศมัย ผมเดินโซเซเขาไปอาบน้ําแลวกลับมายืนมองรางหนาที่นอนแผอยูบนเตียง ใบหนายาม
หลับดูมีความสุขเสียเหลือเกิน ผมยื่นมือไปบีบจมูก ดวยความหมั่นไส เขาสงเสียงฮึดฮัดในลําคอเบาๆ ผมแอบหัวเราะ
เบาๆ แลวเดินออกจากหองไป

“วันนี้พี่จะไปกินเหลากับเพื่อน”ตอนบายหลังจากที่เขาตื่นก็มีเพื่อนโทรมาตามทันที คําพูดที่แยกไมคอยออกวาเปนคํา
บอกเลาหรือขออนุญาติ

“ไปดวย”ผมตอบทันควันเลย ไวใจไมไดครับ ไปเมาทีไรพาปญหากลับมาใหทุกที

“ไมดูพระจันทรเหรอ เผื่อวันนี้เห็นไง”

“วันนี้ 26 เอง ไมเห็นหรอก พายไปดวย”สงสัยไอที่บอกวาจะดูเปนเพื่อนนี่คงลืมไปแลวมั้ง นิสัยเสียจริงๆ เลย แยมากๆ

“จะไปทําไมละ ไปนั่งเฉยๆ เบื่อเปลาๆ นั่งเฝาพระจันทรนะดีแลว”

“พรุงนี้คอยดูทีเดียวก็ได วันนี้ไมเห็นหรอก ดูมาหลายวันแลว”สงสัยตองรอ 27 จริงๆ ไมนาเฝาตั้งหลายคืนเลย

“เขาบอกเที่ยงคืนกวาของวันที่ 27 ไมใชเหรอ ถาเลยคืนนี้ไปก็เทากับเปนเที่ยงคืนของวันที่ 27 แลวนะ จะไมดูเหรอ”ที่เขา


พูดมันก็นาคิด เที่ยงคืนกวาของวันที่ 27...ถาพนจากคืนนี้ มันก็นับเปน 27 แลวนี่ หรือวาจะหมายถึงคืนนี้ เพราะถาเลย
เที่ยงคืนพรุงนีก้ ็กลายเปน 28

“จริงนะ”

“ไมรูสิ ก็วันมันนับแบบนี้ไมใชเหรอ เกิดพลาดไปตองรอชาติหนาเลยนะ”นั่นสิ....ผมก็ไมไดเปนอมตะดวย...เอาไงดีเนี่ย

“....งั้น...หามเมานะ”ผมชี้หนาแบบขูๆ มีปญหาขูไดแคนี้แหละครับ ไมรูวาจะกลัวมั้ย

“ตกลง วาแต...ไมไปจริงเหรอ”ผมสายหนาปฏิเสธอีกครั้ง จะไปทําไม เหลาก็ไมกิน ไปก็ไดแตคอยเปนคนขับรถพาคนเมา


กลับ นาเบื่อ นั่งเฝาพระจันทรยังสนุกกวาเลย

ตกดึกผมก็มานั่งที่หนาตางเหมือนเดิม ไดยินเสียงลอรถมาจอดที่หนาบาน สงสัยจะเมากลับมาอีกแลว ลอบดถนนจน


หนวกหูเลย

“หืมมม...ยังไมนอนอีก”
“เมาอีกแลวสิ ไปนอนไป”พระจันทรก็เห็นแคดวงเดียว แถม...ยังเมากลับมาอีก เดินมาใกลๆ นี่ไดทั้งกลิ่นเหลา กลิ่น
น้ําหอมเลย เกลียดมันจริงๆ

“อืมม...มานอนดวยกันสิ”เดินมาถึงก็ทิ้งตัวนั่งลงขางๆ ผม แลวก็เอามือมาโอบเอวผมไวอีก

“ไม วันนี้จะนอนหองเล็ก”

“เอานา อยาเรื่องมาก”ดูมันพูด นาหาของไปฟาดปากชะมัด เขาเรียกเลนตัว ไมไดเรื่องมาก....เอะ...ไมสิ ไมไดเลนตัว ผม


ไมยอมตางหาก

“ไมๆๆๆ ไมตองมาจับ เมาก็ไปนอนไป”ผมพยายามปดมือที่เอื้อมมากอดเอวผมออก ไปอยากอยูใกลครับ เหม็นเหลา

“ยังไมเมาซะหนอย ยังเหลือแรงอีกเยอะ”นาน ยังมาพูดดีอีก

“ไอบา”ผมเอามือดันหนาที่พยายามยื่นมาหอมแกมผมเอาไว แตก็ยังถูกปลายจมูกเฉียดๆ ที่แกม แลวก็ไลมาตามลําคอ

“เร็วๆ ปลอยมือดวย คืนนี้ไมเห็นหรอก”จะมาเร็วอะไร เมื่อคืนก็ยอมไปแลว วันนี้ไมยอมหรอก ตอนนี้ยังเมื่อยๆ ตัวอยูเลย

“ไหนบอกวาคืนนี้ไง โกหกพายเหรอ”

“เปลา...ก็เห็นเพื่อนบอกวาอาจเปนพรุงนี้ นี่ก็เลยเวลาแลว ไมเห็นแลวละ นะ เขาหองเถอะ”

“.....ไมเห็นจริงอะ”

“จริง”

“อะ! ปลอยกอน ไมตองอุม เดี๋ยวตก”ผมพยายามดิ้นลง แตก็ไมทันแลวครับ เสียงเปดประตูหองนอนพรอมๆ กับตัวผม


และเขาที่เขามาอยูขางใน แลวไมกี่วินาทีหลังผมก็สัมผัสกับเตียงนอนนุมๆ

“อื้มมมม....เดี๋ยว.....”

“....เงียบนา”
.
.
.
แสงแดดยามเชา........เชาแลว....ผมลุกขึ้นจากที่นอนอยางออนแรง กวาจะอาบน้ําแตงตัวเสร็จก็แทบจะทรุดลงไปนั่ง
หลายรอบ เดินมายืนมองคนที่นอนหลับดวยใบหนาเปยมสุขก็ยิ่งเพิ่มความโมโห ผมเอาหมอนตัวเองไปกดหนาเอาไวจน
รูสึกวาเขาเริ่มดิ้นนั่นแหละถึงไดเอาออก แลวดึงผาหมคลุมปดหนาเอาไวดวย ทําอะไรไมเคยคิดบางวาผมรับไดมั้ย แลวยัง
มีหนามานอนหลับสบายใจอีก

ในที่สุดจุดมุงหมายผมก็กําลังจะเปนจริง คืนนี.้ ..ผมจะไดเห็นพระจันทรสองดวงแลว

“ทําไมถึงอยากดูนักนะ คนอื่นเขาไมเห็นกระตือรือรนแบบพายเลย”เสียงคนขางๆ ผมเอาอารมณโรแมนติกผมตกวูบ จะ


ชวยนั่งทําตัวเขากับบรรยากาศบางไดมั้ยเนี่ย

“เรื่องของพาย”

“แตพี่อยากนอนแลวนี่”

“ก็ไปนอนสิ”เขาใจครับวาทํางานมาเหนื่อยๆ ผมก็ไมอยากฝนใหเขานั่งเปนเพื่อนหรอก

“นอนพรอมกันสิ”

“ไมเอา อีกแคชั่วโมงก็จะเที่ยงคืนแลว ถายังไมอยากไปนอนก็หาหนังมานั่งดูดิ”

“กได ไดหนังใหมมาพอดี”

“พายดูดวย”

“จริงนะ”เขาถามกลับ ผมก็พยักหนาให นั่งรอนี่ไมใชวาไมเบื่อนะครับ เบื่อเหมือนกัน แต...อดทนครับ

ผมเห็นเขาเดินเขาไปในหองนอนกอนจะออกมาพรอมซีดีหลายแผน ผมก็รอดูอยูวาจะเปดเรื่องอะไร แต...พอภาพบนจอ


ปรากฏเทานั้นแหละ หมอนอิงขางๆ ผมก็ลอยหวือไปเกือบโดนหัวเขาทันที

“ไอบา โรคจิต เปดอะไรนะ ปดเลยนะ”จะไมใหโวยวายไดไง ก็มันเลนเปดหนังโปขึ้นมาเต็มจอเลย ภาพงี้ชัดแจวไมมี


เซ็นเซอร ระบบเสียงรอบทิศ มันจะมาเปดอะไรกลางบานเนี่ย

“อาว ก็พายบอกใหเปด เรื่องใหมเลยนะ ยังไมไดดูเลย”ดูมัน ยังมีหนาเอาหมอนที่ผมขวางไปหนุนนอนหนาทีวีอีก กลัว


เห็นไมชัดหรือไง
“ไมดู ไปดูคนเดียวในหองไป”ผมตะโกนไลเสียงดังพรอมทั้งขวางหมอนไปอีกใบ

“ไหนบอกวาจะดูดวย ตอนแรกจะไปดูในหอง แตพายนั่นแหละบอกวาจะดูดวย พี่เลยเปลี่ยนใจ”

“ไอบา!!”ผมละเชื่อเขาเลย แทนที่จะปดดันเรงเสียงเพิ่มขึ้นอีก ไลยังไงก็ไมไป เสียงครวญครางจากลําโพงทําใหรูสึก


แปลกๆ ผมเลือกที่จะนั่งหันหลังแลวหยิบเอ็มพีสามขึ้นใสหูฟง ถึงจะเปดเสียงเพลงดังเทาไหร เสียงจากลําโพงก็ยังกลบอยูดี

ผมพยายามไมสนใจ แตก็เห็นจากหางตาวา...เขากําลังทํากิจกรรมบางอยาง....โรคจิตชะมัด หนาไมอาย มานั่งทําอยูได


กลางบาน ผมเพงความสนใจไปที่ทองฟาเบื้องบน แตแลว.......พระเจาก็ไมเขาขางผม สายฝนเม็ดเล็กๆ คอยๆ พรางพรูลง
มา จนเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ผมมองอยางทอใจ อีกแคไมกี่นาทีก็จะถึงเวลาแลว แต...ฟาปดแบบนี้ผมก็คงมองไมเห็นอีกตาม
เคย...เศราใจชะมัด

“ฝนตกซะแลว....งั้นก็ไปนอนไดแลวสิ”

ตอนที่ 18

“ทิว วันนี้มาเร็วนี่”ปกติมันมาหาโมงเย็นหรือไมก็หาโมงกวา แตตอนนี้เพิ่งสี่โมงกวาเอง

“ทําไม ทิวมาเร็วไปหรือไง”

“ก็ปกติไมเคยมาเวลานี้นี่”

“พายก็ไมเคยเหมือนกัน”ทิวพูดจบก็เดินหันหลังกลับเขารานไปเลย ผมเองก็เพิ่งนึกขึ้นไดวาลืมโทรไปบอกทิววาผมมาถึง
รานแลว สงสัยมันตองไปรับที่หอแลวไมเจอแนๆ....แตถาไปรับผมมันก็ตองโทรหาผมสิ.....งงครับ ไมชอบอะไรคางๆ คาๆ

“พี่นัทเดี๋ยวพายมานะครับ แลวจะสั่งอะไรเพิ่มมั้ย พายจะไดไปเคลียรเงินเลย”

“ไมแลวครับ พี่วาจะกลับพอดี สวนคาอาหารนี่มาเก็บที่พี่นะ พายไมตองเลี้ยงหรอก”

“ทําไมละครับ พายบอกจะเลี้ยงก็เลี้ยงสิ”

“เอาไวคราวหนาแลวกัน มื้อนี้ใหพี่เลี้ยงดีกวา”
“เอางั้นเหรอครับ”ผมถามย้ําอีกครั้ง พี่นัทก็พยักหนาให ตามใจครับ ผมยังไงก็ได

หลังจากเดินไปปริ๊นทใบเสร็จใหพนักงานไปเก็บเงิน ผมก็เดินไปหาทิวในหอง พอเปดประตูเขาก็งงหนักกวาเกาอีกครับ ทั้ง


วงอยูกับเกือบครบ ขาดแคโบคนเดียวเอง

“ทําไมวันนี้มากันเร็วจัง”ผมเดินไปนั่งขางๆ ทิว เพราะมันเปนที่เดียวที่วางอยู ผมพยายามกมหนามากๆ เพื่อไมใหเห็นรอย


ช้ําที่แกม ถึงจะเปนรอยไมมาก แตถาสังเกตดีๆ ละก็ตองรูแนวาเปนรอยมือ

“เมื่อคืนคางหองศักดิ์มันนะ หิวเลยรีบออกมา”จิ๋วเปนคนที่ตอบออกมา

“ทิวเปนไร”อดถามไมไดครับ ไมรูเปนอะไร หนาบึ้งมากๆ แถมยังสูบบุหรี่โดยไมสนใจวาผมนั่งมองอยู ปกติมันไมเคยทํา


อยางนี้เลยนะ

“สนใจดวยเหรอ”

“ทิว...พายถามดีๆ นะ”

“กินขาวกับใคร”

“เพื่อน”

“เพื่อนไหน ทําไมทิวไมรูจัก ไอคนนี้เมื่อวานมันก็มาไมใชเหรอ”

“ใช มาพรอมกับนุไง”

“แลวพายมาพรอมมันไดไง”ทิวมันรูไดไงเนี่ย ตองมีคนเห็นผมแลวโทรไปบอกมันแนๆ

“.....บังเอิญเจอกัน”บังเอิญจริงๆ แตไมไดบอกวาเจอกันที่ไหนแคนั้น

“จริงๆ นะเหรอ”น้ําเสียงยียวนพอๆ กับสีหนามันตอนนี้

“หมายความวาไง”

“ก็หมายความอยางที่พูด เห็นคุยกันกระหนุงกระหนิง ไมรูจะเอาไอแซนไปนั่งเปนกางทําไม”


“.....ประสาท”เบื่อครับ ไมอยากคุยกับมัน ถึงคําพูดจะไมไดรุนแรง แตความหมายก็ไมตางจากที่ไอบานั่นเคยพูดใสผม ไม
เขาใจวาทําไมผมตองมาทนฟงคําพวกนี้ดวย หนีจากปากอีกคน มาเจออีกคน

“โอย!!”พอลุกเดินหนีทิวก็บีบขอมือผมไวแรงมากเลยครับ

“พูดกันใหรูเรื่องกอน”

“ทิวนั่นแหละที่พูดไมรูเรื่อง เรื่องอะไรมาหาเรื่องพายแบบนี้”ผมพยายามบิดขอมือตัวเองออก ทิวไมเคยทําผมเจ็บแบบนี้เลย


เลนแรงๆ ก็ไมเคย แตวันนี้มันเปนอะไร

“ทิวเบาๆ ก็ไดมึง พายมันเจ็บนะ”จิ๋วพยายามชวยหาม แตคงไมไดผล เพราะแรงที่ขอมือไมไดลดลงเลย

“อยาสอด!”

กอก กอก กอก

เสียงเคาะประตูกอนที่คนดานนอกจะเปดเขามา แซนมองมาที่ผมกับทิวแบบงงๆ ผมถือโอกาสที่ทิวเผลอบิดขอมือตัวเอง


ออกมา ทิวมองผมแบบโกรธมากๆ ไมรูวาทําไมตองโกรธขนาดนี้ ผมยังไมไดทําอะไรใหเลย

“พี่พาย พี่นัทจะกลับแลว”แซนพูดแลวก็เดินออกไปเลย ผมก็เดินตามแซนออกไป ไมอยากสนใจครับ ผมเองก็มีปญหาเยอะ


อยูแลว ทิวยังมาหาเรื่องผมอีก หนาตาผมนี่มันชวนใหคนอื่นทะเลาะดวยนักหรือไง

“พี่นัทจะกลับแลวเหรอครับ”

“ครับ ตองไปธุระตอนะ พายก็อยาลืมที่พี่บอกไปนะ”พี่นัทคงหมายถึงเรื่องที่บอกใหผมไปคางที่อื่นสักระยะ

“ครับ งั้นเดี๋ยวพายออกไปสงที่รถ”ผมเดินนําพี่นัทไปที่ลานจอดรถ อารมณกําลังโมโหทิวอยู เดินกมหนาไมสนใจแมแตพี่นัท


ที่เดินตามมา แตพอเงยหนาขึ้นมาเทานั้นละครับ รางกายมันหยุดโดยอัตโนมัติ จากนั้นผมก็หันหลังแลววิ่งไมคิดชีวิต วิ่ง
ผานหนาพี่นัทไปไดไมกี่กาว คอเสื้อดานหลังก็ถูกกระชากแรงจนหงายหลังไปปะทะกับแผนอกกวางที่วิ่งตามมา

“ชวยดะ!!...อื้ออออ อื้อออออ”เสียงรองขอความชวยเหลือถูกปดกั้นดวยฝามือที่ปดปากผมเอาไว

“ไอตั้ม!!”เสียงพี่นัทดังขึ้นขางหลัง ผมพยายามหันไปขอความชวยเหลือ แตก็ยากลําบากเหลือเกิน

“เออกูเอง เสือกไมเขาเรื่องนะมึง”
“มึงจะทําอะไรเขาอีก ปลอยเขาไปเถอะ”

“เสือก!! อยูเฉยๆ ไปเลยมึง ไมงั้นกูจะเอาเรื่องทั้งหมดไปหมดเมียมึง”คําพูดของมันทําใหพี่นัทยืนนิ่ง

“ไอตั้ม!!”พี่นัทคงชวยอะไรผมไมได ผมพยายามอาปากแลวกัดเนื้อที่ฝามือมันเต็มๆ ปาก

“โอย!!”มันรองเสียงดังพรอมกับผลักตัวผมออก เพราะไมทันไดตั้งตัว แรงผลักของมันทําใหผมลมคว่ําไปบนพื้น พอจะลุก


ขึ้นวิ่งหนีมันก็นั่งทับลงบนหลังแลวก็ดึงมือผมไปไขวหลังเอาไว แคนี้ก็รูแลวครับวามันจะทําอะไร แตก็สายเกินไป โลหะ
เย็นๆ ที่สัมผัสบนขอมือทําใหรูวาอิสระภาพกําลังถูกจํากัดอีกครั้ง มันดึงตัวผมใหยืนขึ้น แคคิดจะอาปากรองก็โดนตอยเขาที่
ทองจนทรุด ไมแปลกใจเลยที่เมื่อวานผมสลบเพราะมัน ขนาดตอนนี้สติผมยังเหมือนจะหลุดลอยไปทุกที เสียงพี่นัทก็หาง
ออกไปเรื่อยๆ รูตัวอีกทีก็ถูกจับโยนเขามานอนที่เบาะหลังรถแลว

“จะพาผมไปไหน อึ๊ก!”เจ็บปนจุกเลยครับ มันออกรถซะเร็ว แลวอยูดีๆ ก็เหยีบเบรค ผมกลิ้งตกจากเบาะลงมาบนพื้นแทน


สะโพกกระแทกแรงจนปวดเลยครับ ตอนนี้ไมแนใจแลววาเจ็บตรงไหนมากกวากัน

“จะทําอะไร ไม! อื้อออ”ผมหันหนาหนีผาเช็ดหนาในมือมัน ไอนี่มันโรคจิตชัดๆ มันพยายามบีบปากผมใหอาออก แรงบีบที่


กรามย้ํารอยที่โดนตอยเมื่อวานทําใหผมตองอาปากโดยไมเต็มใจ มันยัดผาเช็ดหนาเขามาเต็มปากแลวก็ถอดเนคไทดมา
มัดปากผมไวอีกที

“ทีนี้ก็จะไดเงียบสักที”ผมนอนกองบนพื้นเหมือนเดิม สวนมันก็กลับไปประจําที่คนขับแลวก็ขับออกไปตอ ผมพยายามรอง


ตะโกนทั้งๆ ที่ถูกปดปาก เทาที่เปนอิสระก็ทั้งเตะทั้งถีบเบาะและกระจกประตูรถ แตก็ไมไดรับการสนใจ ผมดิ้นและรองจน
เหนื่อยเลยตัดสินใจนอนนิ่งๆ ยังไงผมก็ไมกลาลุกขึ้นเปดประตูรถแลวกระโดดลงไปแบบในหนังหรอก ผมไมรูวามันจะขับ
พาผมไปไหน......หรือจะพาไปหองนั้นอีก........แลวทิวจะรูมั้ยวาผมถูกจับมา......พี่ธารจะไลผมออกโทษฐานหนีงานหรือ
เปลา ทําไมผมรูสึกวาชีวิตตัวเอง......ขึ้นอยูกับการกระทําของคนอื่นตลอดเลย

ตลอดทางมีเสียงโทรศัพทดังเปนระยะ ทั้งของผมและมัน ผม....ไมสามารถหยิบขึ้นมาจากกระเปากางเกงได สวนมัน...ไม


คิดจะรับ พอรถจอดสนิทผมก็ยกหัวขึ้นมองนอกกระจก แตก็เห็นเพียงทองฟามืดๆ เสียงประตูรถเหนือหัวไมสามารถเรียก
ความสนใจไดอีก รางของผมถูกมันดึงออกมาแลวก็ชอนตัวอุมไวเหมือนเดิม ผมหันหนาออกจากอกมันเพื่อสํารวจ
บรรยากาศรอบตัว หมูบานจัดสรร....ที่ยังสรางไมเสร็จ บานหลังใหญเบื้องหนาเรียกความสนใจจากผมไดดี ผมเคยฝนวา
สักวันจะทํางานเก็บเงินซื้อบานแบบนี้ใหแมอยู ถามีบานหลังใหญแบบนี้แมคงมีความสุข วันๆ คงวุนอยูกับการทําความ
สะอาด รดน้ําตนไม ผมกลับมาบานก็มีอาหารจานโปรดใหกิน แตคงเปนเพียงฝนที่ยังหางไกลความจริง
มันอุมผมเดินขึ้นบานโดยใชแสงไฟจากโทรศัพทเปนเครื่องนําทาง รางผมถูกวางลงบนเตียงนอนในหองแรกที่เดินขึ้นมาถึง
ผมเลือกที่จะนอนหลับตาแลวจมดิ่งอยูกับความฝนของตัวเอง หลับตานึกถึงสิ่งดีๆ สิ่งที่ทําใหผมมีกําลังใจเพื่อจะอยูตอ...
นึกถึงแม

สัมผัสเบาๆ บนใบหนาทําใหผมตองลืมตาขึ้นมา ใบหนาที่หางกันเพียงแคชวงฝามือทําใหผมเผลอกลั้นหายใจ ผม...ไม


เขาใจผูชายคนนี้ ไมเขาใจการกระทําของเขา ไมคิดวาอยากจะเขาใจดวย...แต......สายตาที่มองตรงมา...หมายความวา
อะไร

“บานนี้หางจากถนนใหญหลายกิโล แลวก็อยูนอกเขตกรุงเทพฯ หนาหมูบานมีบานพักของกลุมคนงานกอสรางที่เปนคน


ของพี่พักอยู. ......พาย.....หนีไมพนหรอก”คําพูดที่เกือบจะไรแกนสาร ยกเวนเพียงประโยคปดทายซึ่งเปนใจความสําคัญ ผม
มองหนาเขาแบบไมแสดงอารมณใดๆ เขาจับตัวผมตะแคงดานขางแลวไขกุญแจมือออก ปมเนคไทดถูกคลายออกในเวลา
ไลเลี่ยกัน ผมดึงผาเช็ดหนาที่ชุมน้ําลายออกมาโยนทิง้ ขางๆ เตียงแลวนอนนิ่งอยูในทาเดิม เสียงโทรศัพทของผมดังขึ้น
ทามกลางความเงียบ เขาถือวิสาสะหยิบโทรศัพทผมออกมาจากกระเปากางเกงแลวโยนไปกระแทกกําแพงหองจนไมเหลือ
สภาพเดิม เสียงถอนหายใจเบาๆ ดังจากคนดานบน รางสูงใหญคอยๆ พลิกตัวไปนอนดานหลัง ผมหลับตาลงเพื่อสงบ
ความรูสึกตัวเอง....ความกลัว...หวาดระแวง....เจ็บปวด.....ทุกๆ อยาง ผมไดรับมาจากเขาทั้งหมด.....มันมากพอที่จะทําให
ผม.....เปนบา

ผมลุกขึ้นนั่งชาๆ หลังจากที่คิดวามันคงหลับไปแลว หองนี้มีเพียงเตียงนอนเปลาๆ ที่ยังหุมพลาสติกอยู ไมมีหมอน ผาหม


หรือแมแตผาปูเตียง ความเจ็บที่ชวงทองยังคงเหลืออยูบาง ผมทรงตัวใหมั่นคงแลวเดินเปดประตูหองนอนออกไป ชั้นบนมี
ประตูหองอยูอีกสองหอง แตผมไมไดเปดเขาไปดู ผมคอยๆ เดินลงมาที่ชั้นลาง ความมืดทําใหกาวพลาดและเกือบกลิ้งตก
ลงมาหลายครั้ง ทางขวามือของบันไดขั้นสุดทายมีสวิทซไฟอยูสามปุม ผมกดฝามือลงไปเพื่อเปดทุกสวิทซพรอมๆ กัน แสง
ไฟในบานสวางพรึ่บจนผมตองหลับตาลงเพื่อปรับตัว

บริเวณตรงหนาผมไมมีอะไรเลย...ไมมีอะไรอยูเลยจริงๆ สภาพบานสะอาดหมดจดเหมือนเพิ่งสรางเสร็จใหมๆ ผมเดินไป


เปดไฟจนเกือบจะทั่วทั้งบาน หองเล็กๆ ที่อยูติดบันไดมีโซฟาตัวยาวหนึ่งตัว ผมเดินไปนั่งมองบรรยากาศรอบๆ....ไมมีเสียง
อะไรเลย.....มันสงบ...เหมือนกับผมที่กําลังสงบ....จนตัวเองยังประหลาดใจ.....ผมเอนตัวลงบนเบาะ ขดตัวอยูในออมกอด
ของตัวเอง....เหนื่อยเหลือเกิน....เหนื่อย...เกินกวาจะสงสัย....เกินกวาจะรูสึก....และทําอะไรอีกแลว

ผมรูสึกเหมือนตัวลอยๆ และโยกตามจังหวะกาวเดินของใครสักคน เมื่อลืมตามองก็เปนคนที่ไมอยากเห็น ผมปดตาลงชาๆ


ไมดิ้น ไมขัดขืน เพราะรูวาไมมีประโยชน แผนหลังสัมผัสกับเบาะนุมของเตียงนอน ยังไมทันจะขยับตัวหนีก็ถูกดึงเขาไป
กอดไวทั้งตัว ผมพยายามที่จะไมแสดงอาการอะไรออกมา แตก็ทําไดยากเหลือเกิน ความกลัวและระแวงทําใหผมเกร็งตัว
อัตโนมัติ กลิ่นคาวเลือดที่ปลายจมูกทําใหตองลืมตาขึ้นมามอง เลือดสีแดงซึมออกมาจนเห็นเปนรอยกวาง คอเสื้อที่เปดทํา
ใหเห็นรอยขวนและรอยฟน....ความทรงจําทีข่ าดหายไป...ยอนกลับมาจนเกือบ...สมบูรณ
“......แผลเปด”ผมพูดออกไปทั้งที่ไมแนใจวา...จะสื่ออะไร คําพูดที่เหมือนคําบอกเลา ไมแสดงถึงความหวงใยหรือเห็นใจ
ใดๆ ทั้งสิ้น ตอใหแนใจวารอยแผลเหลานี้...เปนฝมือผม....แต....เขาสมควรไดรับมัน

“รูแลว”เสียงที่ตอบกลับมาราบเรียบ ไมใสใจกับความเจ็บปวดของตนเอง พอๆ กับไมสนใจความเจ็บปวดของคนอี่น....มัน


เปนคนแบบนี้เองสินะ

“.......”

“ถาพากลับไปคอนโดฯ.....จะหนีอีกมั้ย”คําถามที่คอนขางไรสาระถูกเอยออกมา และผมตอบไปอยางใจคิด

“หนี”

“งั้นก็ไมตองกลับ”มันเองก็ตอบอยางใจคิดเชนกันสินะ

“ถึงอยูที่นี่ก็จะหนี”

“.....นอนสักงีบกอนแลวคอยหนีใหม”

“ปลอย”ผมดันแขนเพื่อใหระยะหางของมันและผมเพิ่มขึ้น แตแขนที่โอบกอดผมไวก็ไมยอมงายๆ ความใกลชิดที่ไมนา


เกิดขึ้น บทสนทนาที่ไมควรมี รางกายที่ไมควรสัมผัสกันอีก....ทุกสิ่งที่ไมควรเกิด....กําลัง....เกิดขึ้น

“ทําไม”

“ไมชอบ”

“อืม..รู”

“...ผมรังเกียจคุณ”

“รูแลว”

“ถาคุณเผลอผมจะแทงคุณอีก”

“ตามใจ”
“.....ผมเกลียดคุณ”

“แลวไง”

ตอนที่ 19

ไมรูวาเวลาผานไปนานเทาไหร ไมรูวานอนไปนานแคไหน ผมลืมตามองแผนหลังของผูชายที่จับผมมา เสียงพูดคุยโทรศัพท


เบาๆ แตมันเพียงพอสําหรับการปลุกใหผมตื่นขึ้น....ตื่นจากการหลับไหล...และตื่นจากความสับสน การขยับตัวลุกขึ้นนั่ง
ของผมทําใหเขาหันมา เสียงพูดเบาๆ ตอบกลับปลายสายกอนจะเก็บโทรศัพทไวในกระเปากางเกง เขาเดินขึ้นมานั่งบน
เตียงพรอมกับหยิบโนตบุคเครื่องเล็ก ซองเอกสารสีน้ําตาลที่ยังไมไดปดผนึกที่พื้นขึ้นมาวางตรงหนา ผมจองเขาอยางคนหา
คําตอบ แตกอนที่เขาจะพูดอะไร สายตาของผมหันกลับมามองตัวอักษรคุนตาที่จาหนาซอง...ที่อยูพรอมชื่อคนรับ....คน
สําคัญเพียงคนเดียวที่เหลืออยู คนที่เปนแรงใจ ผมหยิบกระดาษในซองออกมาทีละใบ....รูปถาย....รูปเหตุการณที่สะทอน
ถึงความอัปยศของตัวเอง และ...รูปคนสําคัญของผม เสียงเบาๆ จากคอมพิวเตอรขนาดพกพาลอดออกมาใหไดยิน....เสียง
ครวญครางที่ดังระงม เสียงหัวเราะพรอมถอยคําเยยหยันที่ยังดังกองอยูใ นหู

“.........ลาออกจากรานอาหาร แลวก็ยายออกจากหอนั่นดวย”

“........”ผมมองรูปใบเล็กในมือ ลูบโครงหนาที่เหมือนกันเบาๆ ภาพของแมที่กําลังนั่งซักผาอยูหลังบานไมเล็กๆ....ผม...


อยากกลับบานจัง

“ไดยินที่พูดหรือเปลา”เสียงถามย้ําเพื่อเรงเอาคําตอบ....ที่มตี ัวเลือกที่ขอเดียว

“เพื่ออะไร....คุณทํากับผมแบบนี้เพื่ออะไร ตองการอะไร”น้ําเสียงราบเรียบจนนึกวาไมไดเปรงออกจากปากผม

“ก็แควาง....แกเซ็งนะ เขาใจเปลา”คนอยางมัน....ไมวาการกระทําหรือคําพูด..ก็ทําใหคนฟงรูสึกแยไดทั้งนั้น เพิ่งรูก็ตอนนี้


แหละวามีคนที่ทํารายคนอื่นเพราะวางอยูในโลกดวย

“หึ....ฮาๆๆๆ”

“หัวเราะอะไร”

“อยาบอกนะวาที่ทําทั้งหมดเพราะเกิดรักผมขึ้นมานะ”ไมรูสินะ อยูดีๆ ก็เกิดนึกถึงเหตุผลนี้ขึ้นมา....ซึ่งเปนอะไรที.่ .บามากๆ


“......คาดหวังใหเปนอยางนั้นหรอกเหรอ”มันถามกลับดวยน้ําเสียงที่คอนขางแปลกใจ

“หึ...ผมยังไมโงพอจะคิดอะไรบาๆ แบบนั้นหรอก ก็แคถามเลนๆ”

“แลวตกลงวาไง จะทําตามที่บอกมั้ย”

“ผมยังเหลือทางเลือกอยูอีกเหรอ”

“ไมโงจริงๆ ดวย”นานๆ จะไดยินคําชมจากมันสักที ผมควรจะดีใจมั้ยเนี่ย

ระยะทางจากบานรางกลับเขาสูตัวเมืองไมไดไกลอยางที่ผมคิดเอาไว ผมเริ่มเขาใจแลววาทําไมคนรวยๆ ถึงนิยมใชของแพง


....ก็เพราะมันมีคุณภาพสินะ เบาะรถราคาหลายลานใหความนุมสบาย เสียงเครื่องก็เบา ทุกอยางดูดีไปหมด...จนผมตอง
นั่งคิดวา......นี่มันชีวิตใครกัน

“ตองกลับไปเอาอะไรที่หองหรือเปลา”

“.....หมายถึงอะไรละ”

“จะไปรูเหรอ ไมมีรายงานหรือหนังสือตองอานรึไง”น้ําเสียงไมพอใจ ทั้งๆ ที่ผมก็แคถามดวยคําถามธรรมดา

“ถาไมมีแลวผมกลับไมไดรึไง”คําถามแบบนี้ตางหากที่นาจะเริ่มทําใหมันไมพอใจ....แลวผมก็เดาถูก

“อยามารวนกันนา นึกวาคุยรูเรื่องแลวซะอีก”น้ําเสียงหงุดหงิดพอๆ กับสีหนา มันคงเปนประเภทที่ถูกยั่วโมโหไดดวยคําพูด


งายๆ หรือการกระทํางายๆ ขอเพียงแค...ขัดใจมัน...แคนี้ก็ทําใหมันโมโหไดแลว

“ก็แคถามดู”

“เดี๋ยวจะพาไปเก็บหนังสือเรียนแลวกัน สวนที่รานอาหารนะ โทรไปลาออกซะ”

“โทรไมได ผมไมรูเบอร อีกอยางโทรศัพทมันก็กระจายไปหมด คงตองไปบอกดวยตัวเอง”ผมก็แกลงโกหกไปอยางนั้นเอง...


ผมก็แค....อยากเจอ...คนที่ไวใจได.....คนที่พูดคุยไดอยางสบายใจ........แคอยากเจอทิว

“......งั้นก็ฝากเพื่อนไปบอก”
“ผมยังไมไรความรับผิดชอบขนาดนั้นหรอกนะ ตอนทํางานก็ไปขอเขา พอจะออกดันฝากคนอื่นไป เปนคุณจะรับไดมั้ย ไมสิ
อยางคุณมันไมมีสามัญสํานึกอยูแลว จะทําเรื่องเลวๆ แคไหนก็คงไมสนหรอกวาคนอื่นจะรูสึกยังไง เรื่องเล็กนอยอยางคํา
วา ‘มารยาท’ ก็คงไมเขาใจใชมยั้ ”

“งั้นก็หัด ‘ไรมารยาท’ ไดแลว”มันตอบราบเรียบเหมือนเปนเรื่องงายๆ สวนผมนั่งหอบเพราะเผลอระเบิดอารมณตัวเอง


ออกไป

“จะใหลาออกจากมหาลัยดวยมั้ยละ”

“อยากวนโมโหนา”คําพูดมันทําใหผมแปลกใจนะเนี่ย ผมคิดวามันจะใหผมเลิกเรียนเสียอีก

“ผมถามจริงๆ เถอะ ที่ทํากับผมอยางนี้ไมรูสึกอะไรบางรึไง ผมนะเพื่อนแฟนคุณนะ แถมยังอยูขางหองดวย ไมกลัวผมไป


บอกนุรึไง”เกือบลืมนุไปเลย ผมเห็นวามันเองก็ดีกับนุเหมือนกัน บางทีนุอาจชวยผมได....ไมส.ิ ..บางทีมันอาจจะกลัวนุรูถึง
ไดใหผมออกจากหอ....ใชแนๆ

“นี่ไมรูจริงๆ เหรอวานุเขาเปนแบบไหน คบกันในฐานะอะไร”

“...ก็...แฟนไง”ไมใชวาผมไมรูนะวานุเปนเกย และนุเองก็บอกผมเองวามันเปนแฟน แลวมันจะมาถามผมแบบนี้ทําไม

“ตลกนา ถาอยางนั้นเรียกแฟน ปานนี้กูไมมีเปนสิบแลวเหรอ”

“นั่นสิ จะมีใครหลงมาคบกับคนเลวๆ แบบคุณไดอีก ผมละสงสารนุจริงๆ”แคนุชอบมันไดนี่ผมก็แปลกใจพอแลว แลวยัง


พี่นัทอีก ไมนาคบเพื่อนเลวๆ แบบนี้ไดเลย

“มึงนี่นา....ปากไมเคยสงบไดเกินหานาทีเลย เรื่องเพื่อนมึงนะไมตองหวงหรอก เขาไมวุนวายอะไรกับเรื่องสวนตัวกูอยูแลว


แลวกูก็ไมไดทําอะไรผิดกับเขาดวย ผูชายที่นอนดวยกันนะไมจําเปนตองเปนแฟนกันเสมอไปหรอกนะ ความสัมพันธแบบ
นั้นนะมัน.....ไรสาระ”

“เหอะ...มักงาย”ผมคงปากเร็วไปอีกแลว ความจริงผมดามันวาสําสอนนาจะเหมาะกวา

“เขาใจคําวา ‘เด็กขายน้ํา’ มั้ย”

“.......”ผมไมแนใจวาเขาใจถูกมั้ย คําถามผมเกี่ยวอะไรกับเด็กขายน้ําเหรอ แตถามันพูดแสดงวาความหมายที่ผมเขาใจกับ


ที่มันหมายถึงคงไมใชอยางเดียวกันแน
“งั้น...คูขา sexfriend เพื่อนนอน เมียเก็บ”

“พอๆๆ ตองการจะพูดอะไรกันแน”

“เขาใจคําไหน...ก็เปนอยางนั้นแหละ นอนกัน ใหเงินใหของ เพียงแตชวงหลังนอนดวยบอยกวาคนอื่นก็แคนั้น”

“ไมจริง คุณโกหก นุไมไดเปนแบบนั้นแนๆ นุเขารักคุณ ผมดูออก”นุเปนคนแนะนําผมเองวาเขาเปนแฟน แลวเขาก็ไมได


ปฏิเสธ พอลับหลังกลับมาวานุเสียๆ หายๆ แบบนี้นี่นะ

“แลวไง....จําเปนดวยเหรอที่ตองรักตอบนะ มันไมไดอยูในขอตกลงที่ทําไวนี่”มันพูดคํานี้อีกแลว ผมละเกลียดไอคําวาแลว


ไงของมันจริงๆ

“ขอตกลงอะไร คุณบังคับอะไรนุเหมือนที่ทํากับผมใชมั้ย”คนอยางนี้คนจะขมเหงคนอื่นไปทั่ว นุไมนามาเจอคนแบบมันเลย

“ทาทางพูดออมๆ มึงคงจะไมเขาใจใชมั้ย......นุ...เพื่อนรักมึงนะ...ขายตัว...แคนี้เขาใจรึยัง”

“โกหก!!!”

“ทําไม เพราะเปนคําพูดจากคนที่เกลียดก็เลยไมเชื่องั้นเหรอ กูเจอเพื่อนมึงตอนไปกินเหลา แควันแรกก็หิ้วกลับหองไดแลว


ครั้งที่สองที่สามก็เริ่มจายเงิน ตอมา.....”

“พอแลว!!!....พอ.......ผม...ไมเชื่อที่คณ
ุ พูดหรอก”ผมไมเชื่อ...ไมมีวันเชื่อเด็ดขาด นุเปนคนเรียบรอย ผมรูจักนุมานานพอจะ
รูวาเขาเปนคนยังไง คนมันเลว...นึกจะโกหกใสรายใครยังไงก็ได......ผมไมเชื่อ....ไมเชื่อ

ตลอดทางกลับมาที่หอ ผมไมหันหนาไปมองมัน สายตาเหมอมองออกไปดานนอกจนรถจอดสนิทผมก็รีบเดินไปหองตัวเอง


เสียงฝเทาที่เดินตามหลังไมทําใหหวาดระแวงไดอีก เพราะรูดีวายังไงก็หนีไมพน หองพักขางๆ ถูกล็อกกุญแจจากดานนอก
จากที่อยากพบทิว...ตอนนี้...ผมกลับคิดถึงนุมากมาย

“เสื้อผาไมตองเอาไปหรอก เดี๋ยวจะซื้อใหใหม หยิบพวกหนังสือเรียนไปก็พอ”คนพูดนั่งบนเตียงนอนดวยทาทางสบายอก


สบายใจเหมือนเดิม

“ผมไมตองการเงินของคุณ”เสื้อผาและขาวของทุกชิ้นไดมาจากน้ําพักน้ําแรงของผมและแม ถึงแมจะไมไดราคาแพงยี่หอ
หรูหรา แตมันก็มีคุณคาทางจิตใจ

“ไมไดถาม”
“ผมไมตองการเงินของคุณ”

“.......ใหเวลาเก็บของอีกสิบนาที”มันนั่งกอดอกมองผมเก็บของ ไมแนใจวาคําพูดนั้นหมายความวาไง จะใหเอาเสื้อผาผม


ไปหรือไมใหเอาไป แตที่รูๆ.....ผมไมพอใจ

“.......”คําพูดเขาแทบไมเขามาในสมอง ผมยังคงนั่งเลือกเสื้อผาอยางออยอิ่ง นั่งพับผาจัดใสกระเปาดวยความปราณีต นับ


หนึ่งเมื่อหายใจเขาและสองเมื่อหายใจออก....เลขยังคงไมเกินหนึ่งหลักรางผมก็รอยหวือขึ้นจากพื้น แรงบีบที่ขอศอกแสดง
ถึงอารมณคนตรงหนาไดชัดเจน

“ตองการหาเรื่องกันใชมั้ย หา!!”ความอดทนมันต่ําจริงๆ ยังไมถึงสิบวินาทีก็เริ่มบาอีกแลว

“.....”

“งั้นก็ไมตองเอาไปหรอก ของพวกนี้นะ”คําพูดที่มาพรอมแรงฉุดกระชากออกจากหอง ไมกี่นาทีตอมาผมก็นั่งสงบอยูบนรถ


สวนมันหายกลับไปบนหองกอนจะเดินลงมาพรอมกระเปาเปที่ยัดเสื้อผาและหนังสือที่ไมแนใจวาจําเปนตองใชหรือเปลา
เปใบเล็กแตก็เจ็บเอาการเมื่อกระแทกที่หัวไหล มีวันไหนที่ผมจะไมเจ็บตัวเพราะมันบางมั้ยเนี่ย

หองหรูบนคอนโดฯ ใจกลางเมืองที่ไมคิดวาจะตองกลับมาอีก ผมยืนกอดอกหลังตรงหนาเชิดเพื่อแสดงความแนวแนตอสิ่ง


ที่ไดพูดออกไป

“จะไปนอนไดยังไงที่โซฟา บารึไง”

“ใหเขาไปนอนใหหองเดียวกับคุณนะสิบา ดูไมออกรึไงวาผมรังเกียจคุณขนาดไหน”

“คิดวาตัวเองมีสิทธิเลือกรึไง”

“ใช! ผมบอกวาจะยอมมาอยูที่นี่ แตไมไดหมายความวาผมจะตองนอนหองเดียวกับคุณ หรือวาคําพูดงายๆ แคนี้ก็ฟงไม


เขาใจ”

“คิดจะมาเลนลิ้นอะไรอีก ความอดทนของคนนะมันมีขีดจํากัดไมเทากันหรอกนะ”

“ผมคิดวาตัวเองคงมีมากกวาคนอื่นหลายเทาตัว ไมงั้นคงไมทนพูดกับคุณไดนานแบบนี้หรอก”

“มึงนี่มัน!!”
“.......”

“ตามใจ! อยากจะไปสิงอยูมุมไหนของหองก็ตามใจมึงเถอะ”มันพูดจบก็เดินเขาหองปดประตูหองนอนเสียงดัง สวนผมยืน


อมยิ้มในชัยชนะเล็กๆ ที่เกิดขึ้น ผมเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา รูสึกเหนื่อยเหมือนไปวิ่งรอบสนามสักสิบรอบ....ขนาดเพิ่งอยู
ดวยกันแควันเดียว ผมยังเหนื่อยเหมือนจะขาดใจ แลวตอจากนี้...ผมไมตองตายไปจริงๆ เหรอ

ไมรูวาเผลอหลับไปไดยังไง สงสัยผมจะเหนื่อยมากไป ตื่นมาอีกทีดานนอกก็มืดแลว ผมไมแนใจวาตอนนี้ตัวเองอยูคนเดียว


หรือเปลา มันยังไมออกจากหองนอน...หรือวาออกไปขางนอกแลว....ถึงจะเหนื่อยกับการตองรับมือกับมัน แต...ผมก็หิว
เปน แลว...ผมจะกินอะไรดีเนี่ย ไมอยากกินอาหารในหองมันเลย

“.....คิดอะไรอยู”คนที่คิดวาไมอยูดันโผลมายืนสงเสียงดานหลัง ผมสะดุงจนแทบจะตกจากโซฟา

“มาเงียบๆ ตกใจหมด”มือขวายกขึ้นมาลูบอกตัวเองเพื่อเรียกขวัญเบาๆ เหมือนจะไดยินเสียงหัวเราะจากมันดวย

“ไปอาบน้ําไป เดี๋ยวจะพาออกไปกินขาว”มันพูดจบ ผมก็ควากระเปาเปเดินไปหองน้ํา

“เดี๋ยว....จะไปไหน”เดินพนจากมันไดสองสามกาวก็ตองหยุด เพราะมันควากระเปาผมเอาไว

“ไปอาบน้ําไง”

“เขาไปอาบในหองนอน แลวจัดเสื้อผาใสตูใหเรียบรอย”

“อาบขางนอกก็ได”

“....อยากอาบดวยกันก็ไมบอก มาสิ”

“เฮย! ไมเอา อาบขางในก็ได”ผมรีบวิ่งหนีมือที่กําลังจะเอื้อมมาถึง พอเขาหองนอนไดก็ถือวิสาสะล็อคประตูซะเลย เริ่มไม


แนใจแลววาจะประสาทแข็งพอรับมือกับมันได คนอะไรผีเขาผีออกไดทั้งวัน เดี๋ยวก็ผีนักมวย เดี๋ยวก็ผีบากาม แตที่รูๆ........
มันโรคจิตแนๆ

ตอนที่ 20.1
กวาจะไดกินขาวก็ตองเถียงกับมันอีกรอบ เรียกวาเสียงแหบกันไปขางนึง มีอยางที่ไหนจะพาผมไปกินขาวรานของทิว ถาไป
มีหวังไดโดนทิวซักตายเลย หายไปไมบอกแถมยังติดตอไมได ถาผมกลับไปคนเดียวแลวคุยเรื่องงานก็คงไมเปนไรหรอก แต
นี่...มันดันจะพาไปนั่งกินขาวในฐานะลูกคาตางหาก

“พามารานอื่นแลวก็ชวยทําหนาใหมันเจริญอาหารหนอย”เอากับมันสิ จะบังคับผมไปทุกอยางเลยหรือไง

“จะบังคับแมแตสีหนาเลยรึไง”

“ใช”มันยอมรับอยางหนาตาเฉย ไมไดมีสีหนาลอเลนดวย ถาอยากใหผมเจริญอาหารนะ ควรเอาหนามันออกไปไกลหูไกล


ตาจะดีมาก

“ไอบา”

“แลวไง”มันพูดคํานี้อีกแลว อะไรๆ ก็แลวไงๆๆ

“..........”หมดเรื่องพูดเลย ดาเทาไหรก็ไมสะทกสะทาน อาหารตรงหนาก็นากินดีอยูหรอก แตคนรวมโตะนี่สิที่ไมคอยนา


มอง เงยหนาทีไรก็เจอหนามัน กมสนใจอาหารอยางเดียวดีกวา

“หิวนักรึไงถึงไมพูดไมจา”มันไมพูดเปลา เอาชอนมาเคาะจานขาวผมดวย ไรมารยาทจริงๆ

“เวลากินขาวใครเขาใหพูดกัน”

“ไมใชเด็กที่พูดตอนกินขาวแลวจะติดคอหรือสําลักนะ”

“อะไร”ผมเงยหนาขึ้นมามอง ไมเขาใจคําพูดมันครับ

“ทําไม หรือวาไมรูวามันเปนอุบายเพื่อใหเด็กกินขาวดีๆ ไมมูมมาม”ที่มันพูดก็พอเขาใจนะครับ แตผมไมใชเด็กนี่

“....นั่นก็เพราะมันเปนมารยาทบนโตะอาหารอยูแลวไมใชรึไง ขาวเต็มปากใครจะอยากพูดมั่ง”ผมตองหยุดกินขาวเพื่อเถียง
กับมันอีกรอบเหรอเนี่ย

“ก็เคี้ยวใหหมดแลวคอยพูดสิ เรื่องแคนี้ก็ไมรูรึไง”สรุปมันจะเอาชนะใหไดใชมั้ยเนี่ย

“.....ชางคุณ ผมไมพูดใครจะทําไม”
“ก็พูดมาตั้งเยอะแลว ใครจะทําอะไรไดอีก”

“......”เซ็งมัน เกลียดมัน ถือวาคราวนี้มันชนะก็แลวกัน....รูงี้ไมนาตอปากตอคําดวยเลย มีแตเขาตัวตลอด ไอทาทางอารมณ


ดีนี่ก็เหมือนกัน การแกลงผม ทําใหผมจนมุมไดนี่คงเปนเรื่องสนุกสําหรับมันมากเลยใชมั้ย

และแลวสิง่ ที่ผมพยายามหลีกเลี่ยงก็หนีไมพน ผมนั่งถอนหายใจเฮือกใหญเปนรอบที่เทาไหรก็ไมรู แต...มันคงทําใหคน


ขางๆ หงุดหงิดพอดู

“ถามันลําบากนักเดี๋ยวจะเขาไปพูดใหดีมั้ย”

“ไมตองยุง”

“งั้นก็รีบๆ เขาไปลาออกซะ กอนที่จะเปลี่ยนใจเดินเขาไปในรานดวย”

“อยาเรงสิ กําลังทําใจอยู”

“ทําใจบาอะไรนักหนาวะ แคเดินไปบอกวาขอลาออกเนี่ย”เอาอีกแลว พอเถียงหนอยก็อารมณเสีย เหตุผลมันตองถูกตอง


เสมอเลยใชมั้ยเนี่ย

“โวย! อยางคุณมันจะไปเขาใจอะไร รออยูนี่แหละ แลวไมตองตามเขาไปนะ ไมงั้นผมจะไปฟองนุวาคุณทําอะไรกับผมบาง”

“เรื่องของมึง”นึกแลววามันตองตอบแบบนี้ คนอยางมันเคยสนใจอะไรบางมั้ยเนี่ย

“ไอโรคจิต”ผมรีบเดินออกจากรถแลวปดประตูเสียงดังเพื่อระบายความโกรธและหงุดหงิด ทุกยางกาวที่เดินเขาไปในรานทํา
เอาหัวใจแทบจะหยุดเตน รูสึกถึงสายตาของเพื่อนๆ นองๆ ที่ทํางานดวยกัน เสียงเพลงในรานทําใหรูวา...วงของทิวกําลัง
เลนอยู ผมพยายามเดินแอบๆ ไปหาพี่ธารที่เคานเตอร ทันทีที่เขาเห็นผมก็หนาบึ้งขึ้นมาทันที

“พาย! หายไปไหนมา ทําไมไมบอกลวงหนา ปลอยใหตามหากันจาละหวั่น”

“ขอโทษครับพี่....พายมีเรื่องดวนจริงๆ”ผมยกมือไหวแลวก็กมหนารับผิดทุกอยาง

“เรื่องอะไรของเรา ไปคุยกับพี่ดานใน”พี่ธารฉุดขอมือผมเดินเขาไปในหองทํางาน ผมไมกลามองไปทางเวที ไมรูวาทิวรูมั้ย


วาผมมา....ไมรูวา.....หวงผมขนาดไหน
เคยเขามาคุยงานกับพี่ธารในหองนี้ก็หลายครั้ง แตไมมีครั้งไหนที่รูสึกประหมาขนาดนี้ ผมบอกพี่ธารไปวามีปญหาทางบาน
ก็เลยตองรีบกลับดวน แลวก็ไมสะดวกทํางานที่นี่แลว พี่ธารก็คิดวาผมมีปญหากับใครในราน ผมตองยืนยันอยูนานวาเปน
ปญหาสวนตัวเกี่ยวกับเวลาทํางาน ผมขอที่จะไมรับเงินเดือนของเดือนนี้ ถึงแมจะทําไปเกือบครึ่งเดือนแลวก็ตาม

“เรื่องเงินเดือนนะพี่จะโอนใหวันหลัง พายทํางานแลกเงิน ไมตองมาเกรงใจอะไรพี่ แตพี่ขอเลยนะ เรานะเปนเพื่อนสนิทเจา


ทิวมัน มีอะไรก็คุยกับพี่ ปรึกษาพี่ได พี่เห็นพายเปนนอง อยูดีๆ ก็หายไปไมบอกใครสักคน ทิวมันก็ไมมีสมาธิทํางาน เอาแต
ตามหาเราทั้งคืน”

“ขอโทษครับ”ผมคงไมตองถามทิวแลวมั้งวาเปนหวงผมขนาดไหน ยิ่งฟงพี่ธารพูดก็ยิ่งรูสึกผิด กี่ครั้งแลวที่ผมทําใหทิวเปน


หวง เฮอ...ผมเองก็อยากคุยกับทิวเหมือนกันนะ แตยังไมใชตอนนี้ ผมไมรูวามันจะบาไดขนาดไหน ผมปกปองครอบครัว
ตัวเองได แตไมแนใจวาจะปกปองทิวได แลวคนใจรอนแบบทิว ถาเกิดเผชิญหนากับมันเมื่อไหร...เดาไดเลยวามีเจ็บหนัก
กันบางละ

“เอาเถอะ ตอไปนี้มีปญหาอะไรก็มาหาพี่ได พี่พรอมใหพายกลับมาที่นี่เสมอนะ แวะมาเยี่ยมพี่บาง”

“ครับ.....งั้นพายกลับกอนนะครับ”ผมยกมือไหวพี่ธารอีกครั้ง รูสึกขอบใจอยางสุดซึ้งจริงๆ ถึงแมจะไมคอยไดพูดคุยกัน แตก็


รูวาพี่เขาหวงผมจริงๆ ผมแวะไปเอากระเปาที่คางไวในล็อคเกอร....มาทํางานที่นี่ไดไมนาน...แตผมก็ผูกพันธกับสถานที่...
และพนักงานที่นี่แทบทุกคน.....รูสึกใจหายเหมือนกัน

“พาย!”เสียงทิวดังขึน้ ดานหลัง พอผมหันกลับมาก็ปะทะทิวเต็มๆ ตัว ทิวกอดผมไวแนนจนรูสึกเจ็บ คางผมเกยไวบนไหล


ขางซาย มองออกไปดานนอกเห็นพวกจิ๋วกับตอยืนอยู

“....ทิว”

ตอนที่ 20.2

“พายหายไปไหนมา ทิวตามหาซะทั่วเลย โทรไปก็ไมรับ ที่หองก็ไมกลับ ถามนุเขาก็ไมรู ทิวเปนหวงขนาดไหนพายรูมั้ย”ทิว


ดันผมออกหางจากตัวแลวก็พูดรัวจนเกือบฟง ไมทัน แต...ไมตองฟงก็รูวา....หวงผมมากขนาดไหน

“ขอโทษนะ วันนี้พายมีธุระดวน....เรื่องที่บานนะ เลยรีบกลับ”ผมไมกลามองหนาทิวเลย ยิ่งเห็นสภาพที่เหมือนคนอดนอน


ยิ่งรูสึกผิดที่ทําใหเปนหวง
“เหรอ แมพายเปนอะไร มีอะไรใหทิวชวยก็บอกนะ แลวนี่เพิ่งกลับมาจากบานใชมั้ย มาทํางานสายแบบนี้พี่ธารเขาวาอะไร
พายหรือเปลา เดี๋ยวทิวไปคุยกับพี่ธารให พายไมตองกลัวนะ”น้ําเสียงรอนรนกับถอยคําแสดงความหวงใยทําใหผมรูสึก
ออนแออีกครั้ง.....ทําไมผมไมไดอยูกับคนดีๆ แบบทิว ทําไมผมตองไปอยูกับคนเลวๆ แบบมันดวย

“.....ทิว......เออ....พายยังตองไปทําธุระตออีกนะ วันนี้ไมไดเขามาทํางานหรอก มาเอาของที่ลืมไวเฉยๆ”

“ไปที่ไหนละ ทิวไปสงนะ”

“จะไปสงไดไงกันละ ทิวยังตองรองเพลงอีกนะ”

“ไมเห็นเปนไร ใหไอตอหรือจิ๋วรองแทนก็ได”

“ไดไงกันละ ลูกคาที่นี่เขาอาจจะมาเพราะติดใจเสียงทิวก็ได อยาทําตัวเปนเด็กสิ”

“งั้น พายรอทิวเลิกงานไดมั้ยละ เดี๋ยวทิวไปสง นะ”ทิวยังคงออดออนผมเหมือนเดิม น้ําเสียงสีหนาที่ทําใหผมหวั่นไหว....


โดยเฉพาะอยางยิ่งเวลาที่ตัวเองออนแอ แบบนี้

“ทิว....พายไปเองได นะ แลวเราคอยโทรหากัน”

“งั้นคืนนี้ทิวไปหาที่หองพายไดมั้ย”

“คือ... พายจะกลับบานนะ นี่แวะมาทําธุระใหแมเฉยๆ ติดรถคนอื่นเขามาแลวเดี๋ยวก็กลับพรอมเขาเลย”ผมออกจะแปลก


ใจกับการโกหกที่ แสนจะแนบเนียนของตัวเอง เพิ่งรูก็วันนี้เองวาตัวเองโกหกเกงใชได

“รถใคร ไวใจไดหรือเปลา”

“.....เอาอยางนี้แลวกัน เดี๋ยวพายถึงบานแลวจะโทรหาทิวทันทีเลย ดีมั้ย”

“แตทิวอยากไปสงพายนี่ นะ”

“ทิว....ขอรองละนะ แลวเดี๋ยวพายโทรหา”ไมใชวาผมไมอยากคุยกับทิวนานๆ

“........ก็ได แตพายตองโทรมานะ ไมงั้นทิวไปหาถึงบานจริงๆ ดวย”ทิวหยุดคิดกอนจะยอมตามใจผม

“อืม งั้นพายไปกอนนะ ทิวก็กลับไปรองเพลงไดแลว หนีลงมาจากเวทีละสิเนี่ย”


“ก็.... มันดีใจนี่ เมื่อกี้ก็รองผิดรองถูก ดีวาไอจิ๋วมันชวยรอง ไมงั้นโดนโหแหงๆ”ทิวเหลียวไปมองดานหลัง ผมเลยชะโงกหนา
ไปมองพรอมโบกมือใหจิ๋วดวย....วันนี้คงเปนวันสุดทายแลว ที่ผมจะไดพบกับพวกนี้ แตทิวยังดีหนอย อยางนอยก็ยังเรียน
ดวยกัน

“หึหึ....เดี๋ยวก็โดนแยงหนาที่หรอก”

“แยงไปก็ดีสิ ทิวจะไดวาง เบื่อรองเพลงแลวดวย”

“ไอ บา ไปแลว ทิวก็ไปรองเพลงไดแลวไป เพื่อนยืนคอยแลว”ผมมองตอกับจิ๋วยืมสงยิ้มมาให ทิวก็มองตาม ผมยิ้มตอบสอง


คนนั้น แตทิวทําหนาบึ้งใสพวกมันแทน กวาทิวจะยอมปลอยใหผมเดินออกมาคนเดียวก็ตองหวานลอมเปนนานสองนาน
ถึงอยากจะอยูในราน อยากคุยกับทิวนานขนาดไหน แตก็รูวาทําไมได ไอคนที่รออยูขางนอกมันยิ่งโรคจิตอยู เกิดมันบุกเขา
มาลากผมออกไปตอหนาทิว คราวนี้ละกลายเปนเรื่องใหญแน

“นึกวาจะไมออกมาแลว”

“จะ พาไปไหนก็รีบๆ เถอะ ขี้เกียจเถียงดวย”ผมเลือกที่จะไมตอปากตอคํากับมันในเวลานี้ เพราะผมไมแนใจวาจะควบคุม


ตัวเองอยู เพราะมันคนเดียว...ทําใหผมตองโกหกเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว เพราะมันทําใหชีวิตผมวุนวายไปหมด

“ทําไม กลัวชูออกมาเห็นรึไง”ทาทางมันจะไมรูนะวาผมอยูในอารมณไหน หรือวารู. ..แตไมสนใจ

“ปากเสีย”

“มึงวาใคร”

“ก็ พูดอยูกับใครละ ในรถก็นั่งกันแคสองคน พูดกับผีละมั้ง เรื่องงายๆ แคนี้ก็ตองถามดวย ฟงภาษาคนไมออกรึไง หรือวา


จะใหพูดภาษาอื่นผมก็พูดไมเปนหรอกนะ”ผมพูดจบก็สะบัดหนาหนีไปมอง นอกกระจกเพื่อระงับอารมณ แตมันกลับ
กระชากแขนผมใหหันกลับมามองหนามัน

“มึงนี่นะ....ยั่วโมโหกูไดตลอดเวลาสินา”แรงบีบที่แขนทําใหรูวามันโกรธ....แตถึงไมไดโกรธ มันก็ทําผมเจ็บตลอดเวลาอยู
แลว

“ก็ใครมันปากเสียใสกอนละ”ผมคงบาไปแลวถึงไดเถียงมันแบบไมกลัวอยางนี้ พอผมพูดจบมันก็ผลักตัวผมจนเกือบ
กระแทกกับประตูรถ
“นั่งเงียบๆ ไปเลยนะมึง ยิ่งพูดยิ่งกวนประสาทกู เดี๋ยวก็ไดเจ็บตัวอีกหรอก”

“ชินแลว”

“แมง เอย!”มันสบถพรอมทุบพวงมาลัยรถระบายอารมณ ผมแอบสะดุงเล็กๆ แตก็ทําเปนไมสนใจ หันหนาออกไปมองนอก


รถ ใจจริงก็กลัวมันหันมาตอยเหมือนกัน แตกําลังหงุดหงิดเลยไมคิดจะยั้งปาก ก็เพราะมันไมใชหรือไงที่ทําใหผมตองเปน
แบบนี้

กลับมาถึงหองผมก็ นั่งอยูบนที่นอนชั่วคราวของผม สวนมันเดินเขาหองเล็กไปทํางานอะไรก็ไมรู หนังสือเรียนในกระเปา


เปนสิ่งแรกที่ผมเลือกจะหยิบมาอานฆาเวลา ผมมองโทรศัพทบนโตะสลับกับประตูหองที่ปดสนิทอยางชั่งใจ สุดทายผมก็
เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพทขึ้นมากดหมายเลขของทิวลงไป

“ฮัลโหล”

“ทิว นี่พายนะ”ผมกรอกเสียงเบาๆ ลงไป กลัวคนในหองจะไดยิน

“อาว พาย ใชเบอรที่ไหนโทรมาเนี่ย”น้ําเสียงทิวยังคงปกติ แสดงวาพี่ธารไมไดบอกเรื่องผมลาออก งั้นก็โชคดีไป ไวเจอกัน


ผมคอยบอกกับตัวจะดีกวา

“เบอรตูนะ กําลังจะกลับบานแลวเลยโทรมาบอกทิวกอน”

“เพิ่ง เสร็จธุระเหรอ ดึกแลวนะ รอทิวไปสงดีมั้ย”เสียงดนตรีในรานไมมีแลว ดูจากเวลาตอนนี้พวกมันคงกําลังนั่งกินขาว


หรือไมก็กินเหลากันเหมือนเดิม

“ไมเปนไร ตอนนี้เขาแวะปมอยูนะ เลยโทรมาหา”

“แลว ไมใชมือถือละครับ โทรไปหาก็ไมรับสาย”ทิวจะรูมั้ยวาเบอรที่โทรหานะ มันกองรวมกับซากโทรศัพทอยูที่บานหลังนั้น


นึกแลวก็เสียดาย ผมนาจะเก็บซิมโทรศัพทมาดวย

“เออ...พายลืมไวที่บานนะ”

“ขี้ลืมจัง แลวกลับวันไหนเนี่ย เดี๋ยวทิวไปรับที่หมอชิตนะ”

“ไมเปนไร วาจะกลับวันจันทรแลวเลยไปเรียนเลย”
“เอางั้นก็ได ถาที่บานมีปญหาอะไรก็โทรบอกนะ ไมตองเกรงใจ”

“อืม.....เออทิว...แคนี้กอนนะ เดี๋ยวไวพายโทรไปหาใหม”

“ครับ ผม กลับมาเร็วๆ นะ”ทิวพูดจบผมก็รีบวางสาย หยิบหนังสือขึ้นมาอานตอทั้งๆ ที่สมาธิหายไปตั้งแตเงยหนาขึ้นมาเห็น


มันยืนกอดอกพิงประตูมองผมคุยโทรศัพท อยู ไมรูวามายืนตั้งแตเมื่อไหร ไมรูวาไดยินอะไรบาง แตที่รูๆ...มันไมมีมารยาท

“รีบวางทําไมละ ไมคุยกันใหชื่นใจตออีกสักชั่วโมงสองชั่วโมงละ”

“ไมละ เดี๋ยวมะรืนก็ไดเจอกันอยูแลว”

“.....ลาออกซะเลยดีมั้ย”

“ตาม ใจคุณสิ อยากใหทําอะไรผมก็ขัดไมไดอยูแลวนี่”ไมไดตั้งใจกวน แตเพราะสถานการณมันเปนอยางนั้นจริงๆ ถามัน


บังคับ ผมก็ตองทําตาม

“ตอไปนี้หามคุยกับมันอีก”

“ทําไมได”ยกเวนเรื่องนี้ที่ผมทําไมได รองจากแม ผมก็มีแคทิวคนเดียวที่เปนเพื่อน

“ไมไดก็ตองทํา”

“........”

“คําตอบละ”

“.......... ผมจะลาออก....แตจะยังคุยกับเพื่อนอยู ”ผมกัดฟนตอบออกไป ผมยอมลาออกก็ได แตใหเลิกคบทิวผมทําไมได


จริงๆ คนเราควรจะมีใครสักคนที่คอยอยูเคียงขางเวลาออนแอ...สําหรับผม...คิดวา เปนทิว ไมจําเปนตองเจ็บรวมกัน..ขอ
แคยังอยูขางๆ ขอแคกําลังใจก็พอ

“พรุงนี้จะพาไปดูที่ทํางานใหม”คําพูดที่ไมตอเนื่องกับคําพูดผม ไมรูวาตกลงมันจะใหผมลาออกมั้ย แตที่สําคัญกวาคือ...จะ


ใหผมทําอะไร

“ที่ไหน งานอะไร”
“....ขายน้ํา”

ตอนที่ 21

คําพูดของมันเมื่อวานนี้ทําเอานอนไมหลับเลย ไอขายน้ําของมันกับของผมนี่ทาทางคราวนี้จะเปนความหมายเดียวกัน มัน


จะ...ใหผมทําอยางนั้นจริงๆ นะเหรอ ถามย้ํากี่รอบก็ไมตอบ เอาแตยิ้มกวนประสาทอยูได แลวนี่...ผม...ตองมาขายน้ําที่
หางนี้งั้นเหรอ...หางนี้มันก็หรูดีอยูหรอกนะ แตขอมาที่นี่ดวยเหตุผลอื่นดีกวามั้ย

“นี่....จะพาผมมาทําไมนะ ถามจริงๆ”

“ตามมาเหอะนา”มันหันมาบอกแลวก็เดินนําผมตอไป รานที่มันเดินนําเขาไปทําใหงงๆ นิดหนอย ผมเริ่มทบทวนคําพูด


พรอมกับสีหนากวนประสาทของมัน....มันพาผมมาขายน้ําจริงๆ ดวย แตเปนน้ําที่ชาวบานเขาเรียกวา ‘ไวน’

“สวัสดีคะคุณตั้ม”พนักงานสาวสวยในรานเดินตรงมาทักทายมันอยางนอบนอม ผมมองดูชุดสูทพนักงานแลวมองชุดตัวเอง
กางเกงยีนสซีดๆ เกาๆ กับเสื้อเสื้อคอกลมของคณะ....ดูแตกตางกันดีจริงๆ ไมไดรูสึกอายหรอกนะครับ คนอายตองเปนมัน
มากกวาที่คิดจะพาผมเขามาที่รานหรูๆ แบบนี้

“ผมพาพนักงานใหมมาใหรูจักกันนะ เขาจะมาทําบัญชีใหที่ราน.....พายมานี่สิ มัวเหมออยูได”ถาฟงไมผิด เปนครั้งแรกนะที่


มันเรียกชื่อผมดีๆ

“ชิ ไอบา”ผมแอบดามันเบาๆ ไมไดเหมอสักหนอยนะครับ แคมองไปรอบๆ รานเทานั้นเอง ก็ผมกลัวตัวเองจะเดินไปสะดุด


อะไรแลวทําตกแตกนะสิ ราคาคงไมใชนอยๆ

“หลักๆ ก็ใหเปนแคชเชียรไปกอนแลวกัน เรียนรูระบบไดหมดเมื่อไหรคอยเริ่มสอนเขาทําบัญชี”

“ไดคะ แลวจะเริ่มงานเมื่อไหรคะ”

“อีกสักสัปดาหแลวกัน เดี๋ยวผมพาเขาไปตัดชุดไวกอน นาจะเสร็จทัน”มันพูดจบก็หันหลังเดินออกไปจากราน ทิ้งใหผมยืน


งงวาเรียกใหเดินมาหาทําไม แลวก็ตองหันไปสงยิ้มแหงๆ ใหพี่คนสวยกอนจะวิ่งตามมันออกไป

“เดินอะไรชักชานักหนา จะเดินออยใครรึไง”พอเดินออกจากราน หนากากสุภาพบุรุษก็หายไปทันที

“ปากเหรอที่พูดนะ”คือ...ผมกะวาจะพูดในใจแคนั้นนะครับ แตดันหลุดออกมาเอง ชางมันแลวกัน


“.....กวนโมโหกูอีกแลวนะ”นั่นไง พูดเพราะๆ ไดไมกี่คํา หันมาใชคําสมัยพอขุนอีกแลว

“นี่ แลวทําไมผมตองทํางานที่รานนั้นดวยละ”

“ทําไม ไมอยากทําเหรอ ก็ไดนะไมวา ดีเหมือนกันจะไดเฝาหองเฉยๆ ไมตองออกมายั่วผูชาย”มันตอบคําถามผมพรอมคํา


ดา ที่ฟงเทาไหรก็รับไมเคยไดสักที

“ตอบดีๆ ไมเปนรึไง คําก็ยั่วสองคําก็ยั่ว คิดเปนแตเรื่องใตเข็มขัดเหรอ”

“คิดอยางอื่นก็ได แตชอบทําเรื่องใตเข็มขัดมากกวาคิดอีก”

“....โรคจิตเอย”ไมเคยเจอใครดานเทามันเลย พูดออกมาไดไมอายปาก ไมสนแมกระทั่งสถานที่ดวย

“ปากดีนักระวังไวเหอะมึง กลับถึงหองมีเรื่องแน”มันหันหนามาชี้หนาผมแบบคาดโทษ

“...กลัวตาย”ผมเจ็บจนชินแลวครับ รอยช้ํายังไมหายเลย จะเพิ่มอีกจะเปนไรไป

“วาไงนะ”คราวนี้ไมแคหันมา มันหยุดเดินแลวทําทาจะกาวเขามาหาผม

“เมื่อยจะตายแลว จะรีบเดินไปไหน”ผมไมไดกลัวนะครับ แคหยุดแลวถอยไปสองสามกาวแคนั้นเอง

“ไปตัดชุดพนักงาน ขางหนานี่ก็ถึงแลว”มันพูดพรอมชี้ไปรานที่อยูไกลออกไปอีกสี่หาราน เปนรานเสื้อผาครับ แตรูสึกจะเปน


สูทหรือชุดทํางานเสียสวนมาก ผมยืนมองหุนที่โชวอยูหนารานแบบแอบหวังวาจะไดใสสูทโกๆ แบบนี้บาง รูตัวอีกทีก็มี
ผูหญิงเดินมายืนขางๆ แลว

“เชิญไปวัดตัวดานในกอนนะคะ”ผูหญิงรานนี้ก็ดูดีอีกแลวครับ ผมเดินตามแบบงงๆ เห็นมันยืนอยูที่มุมเสื้อเชิ๊ตของราน ผม


เดินไปหยุดยืนดานใน พนักงานก็วัดขนาดตัวผมแบบละเอียดมากๆ ขนาดเทายังวัดไซดเลย พอผมหลุดจากพนักงานของ
รานมาไดก็เดินออกมายืนเควงอยูกลางราน ไมรูวาตองทําอะไรอีก

“เสร็จแลวเหรอ”มันเดินมานั่งที่เกาอี้ที่ผมกําลังจะเดินไปนั่งอยูพอดี

“อืม....ตัดชุดอะไรอะ ผมไมมีเงินตัดชุดแพงๆ พวกนี้หรอกนะ”ผมเดินไปพูดใกลๆ มันเบาๆ

“ไมบอกก็รู”
“รูแลวพามาทําไมละ”คงไมใชวาบังคับผมซื้อชุดพวกนี้ แลวมันจะออกเงินใหกอนเพื่อใหผมทํางานใชหนี้มันหรอกนะ

“นี่มันชุดฟอรมพนักงาน ไมตองจายเงิน เขาใจมั้ย”

“ก็ไมบอกตั้งแตทีแรก”โลงอกไป นึกวาจะตองเปนหนี้โดยไมเต็มใจซะอีก

“ชุดไดแลวคะคุณตั้ม”พนักงานผูหญิงเดินถือถุงกระดาษโลโกรานมาสามสี่ถุง มันคงซื้อเสื้อผาที่ยืนดูเมื่อกี้สินะ ทาทางมา


ซื้อบอยพนักงานถึงไดดูคุนเคยกับมันนัก

“รับไปถือสิ พายจะใหพี่ถือรึไง”ผมแทบจะอาปากคางเลยครับ....เรียกผมวา ‘พาย’ ไมเทาไหร แทนตัวเองวา ‘พี่’ ดวย วันนี้มี


หวังซวยไปทั้งวันแนๆ เลยผม

ออกจากรานเสื้อสูทมันก็เดินนําผมเขารานเสื้อผายี่หอดังๆ อีกหลายราน แลวผมก็ตองถือถุงอีกหลายใบจนหมดอารมณ


เดินเลย ของก็หนักแลวมันก็เดินลิ่วๆ ไมเคยรออีก ตกลงผมกลายเปนเด็กถือของแลวใชมั้ย

กวาจะเดินหิ้วของตามมันเขารานนั้นออกรานนี้จะครบ เรียกไดวาขาลากเลยครับ เหนื่อยเหมือนวิ่งรอบสนามแลวยกเวทไป


ดวย ไอคนซื้อก็นะ แลงน้ําใจสุดๆ พอผมเดินชาเขาหนอยก็หันมามองดวยหางตาพรอมสายหนานิดๆ เหมือนจะดากลายๆ
วาชักชา หงุดหงิดกับมันจริงๆ

“เปนอะไรนั่งไมพูดไมจา”นั่งรถออกมาจากหองสักพักมันก็หันมาถาม

“เหนื่อย”สั้นๆ เลยครับ ขนาดนั่งพักแลวยังเมื่อยแขนอยูเลย

“แลวไง”มันพูดคํานี้อีกแลว คําพูดที่ไมมีรูปประโยคที่ถูกตอง ไมมีความหมายแนชัด แตกลับทําใหผมปรี๊ดไดทุกครั้ง

“......แลวดูไมออกหรือไงวาเหนื่อย ถุงเสื้อผาเอย รองเทา ไหนจะยังน้ําหอม แลวก็ของอื่นๆ อีกเยอะแยะ ทั้งเหนื่อยทั้งหนัก


เดินก็เร็ว จะชวยถือสักนิดก็ไมมี ของๆ ตัวเองชัดๆ บาอํานาจเอย”

“แลวไมบอกละ”มันตอบมาแคนี้ ทั้งๆ ที่ผมบนตั้งเยอะ

“เรื่องแคนี้ตองบอกหรือไง ไมรูจักคิดเองละ คําวามารยาทนะ หัดเรียนรูไวบางก็ดีนะ”

“บนพอรึยัง พูดมากนารําคาญวะ นั่งเงียบๆ ไปเลย”เออ เอาเขาไป เดี๋ยวก็บอกวาไมพูดไมจา พอพูดก็บอกนารําคาญ ไอ


โรคจิตเอย อารมณแปรปรวนจริงๆ เลยมัน แตชางเถอะ ถือวาไดระบายออกไปบาง ไมงั้นมีหวังเปนบาตามมันแนๆ
กวาจะกลับมาถึงคอนโดมันไดก็บายมากแลว ผมนี่หิวจนทองรองไปไมรูกี่รอบ เมื่อเชากอนออกจากหองก็ไดกินแคนมกับ
ขนมปงที่ใชเวลาไมกี่ชั่วโมงก็ยอยหมด แตอีกคนนี่สิ สงสัยไมเคยมีความรูสึกอะไรจริงๆ แมกระทั่งความหิวแบบคนธรรมดา
มันก็ยังไมรูสึก

“เดี๋ยวผมตามขึ้นไปนะ”ผมหอบถุงหลังรถไวแลวบอกกับคนที่ยืนถือถุงบางสวนในมือ

“ไปไหน”

“จะไปกินขาว”

“จะกินก็ขึ้นไปขางบน รูจักรานขาวแถวนี้หรือไง”

“ก็ตรงทางเขาเห็นมีรานขาวอยู”

“เรื่องมาก จะเสียเวลาเดินออกไปทําไม เดินตามมาเร็วๆ ดวย มันรอนไมรูรึไง”มันพูดแลวก็เดินนําผมไปอีกแลว ถือวาขา


ยาวกวารึไงถึงไดไมเคยคิดจะรอคนอื่นเนี่ย

ผมขึ้นมาบนหองไดก็นั่งหมดแรงอยูบนโซฟาทามกลางถุงมากมายที่มันซื้อมา สวนมันเดินไปโทรสั่งอาหารที่รานไหนก็ไมรู
แลวมันสั่งอะไรใหผมกินก็ไมรูอีกเหมือนกัน

“เดี๋ยวจะมีคนมารับเสื้อไปซัก แกะปายราคาออกแลวก็เอาใสตะกราผาใหเขาไป สวนพวกของใชสวนตัวที่ซื้อมาก็เอาไปไว


ในหองน้ําในหองนอน”สั่งดีจริงๆ เลยมัน ผมแอบบนในใจแลวก็ทําตามที่มันพูด นั่งรอสักพักก็มีคนจากรานซักรีดมากดกริ่
งเรียก ผมก็ยื่นตะกราผาใหเขาไป นั่งรออีกตอไปอีกสักพักรานขาวก็ขึ้นมาสงอาหาร จานของผมเปนขาวผัดตมยํารวมมิตร
สวนของมันสปาเก็ตตี้อะไรก็ไมรูครับ มันจายเงินเสร็จก็เดินถือจานเขาหองทํางานไปเลย ดีแลวละ ผมจะไดกินขาวแบบ
สบายใจไดสักมื้อ

“ไปเปดตูเย็นเทโคกมาใหแกวนึง”นึกวาจะไดกินอยางสงบสุข ดันโผลหนาออกมาใชผมไดอีก ผมก็ตองทําตามที่มันสั่งนั่น


ละ แตเทเผื่อตัวเองดวยอีกแกว เสร็จแลวก็ไปยืนเคาะประตูหองทํางานมัน

“เปดเองไมเปนรึไง”เสียงตะโกนดังจากดานใน....เมื่อไหรมันจะเขาใจคําวามารยาทเนี่ย แทนที่จะตอบวาเขามาได หรือไมก็


บอกวาประตูไมไดล็อค......ไอประสาทเอย

“แคเทน้ําใหกิน หายไปตั้งนานสองนาน”มันพูดอะไรก็ไมคอยเขาหูผมแลวครับ ตอนแรกผมก็สงสัยวาในหองนี้มีอะไร พอได


เขามาแลวก็อึ้งปนงง มีคอมพิวเตอรสามเครื่อง กลองวีดีโอ ไมโคโฟน แลวก็อุปกรณอื่นๆ อีกเพียบเลย
“ทํางานอะไรในนี้นะ”

“ตัดตอวีดีโออยู”มันดื่มน้ําแลวก็ลงมือกินอาหารของมันตอ

“วีดีโอโปเหรอ นึกแลววาหองนี้มันแปลกๆ ตกลงพวกคุณนี่ผลิตหนังโปขายกันใชมั้ย”ผมมองๆ หนาจอที่มีโปรแกรมกําลัง


ทํางานอยู เหมือนกําลังโหลดอะไรสักอยาง

“.....เออ ตัดตอคลิปของมึงนั่นละ จะอยูดูดวยมั้ย”

“ไอบา โรคจิต”

“เออ รูแลวก็ออกไปไดแลว จะทํางาน”มันพูดไลผม อยางกับวาผมอยากอยูในนี้นานๆ นักนี่ ผมเดินหันหลังออกจากหอง


แลวนั่งมากินขาวของผมไป กินๆ ไปสักพักก็เริ่มเบื่อ ทําไมผมตองมาอยูที่นี่ดวย ทําไมตองเปนผม แลว...มันจะสิ้นสุดลง
เมื่อไหร

ผมกินขาวเสร็จก็ลางจานไวรอเขามาเก็บ เสร็จแลวก็หยิบหนังสือมานั่งอาน หองนี้ก็เงียบเหลือเกิน....เงียบจนนาอึดอัด ผม


ยายที่ไปนั่งอานหนังสือที่ระเบียงแทน ดีวาไมมีแดดแลวนั่งใหลมโกรกเบาๆ แต...ที่นี่เงียบจริงๆ นะ ขนาดมองลงไปขางลาง
ยังไมเห็นคน ไมมีรถวิ่งผาน แต...ฝงตรงขามมีคนยืนอยูครับ มองมาทางผมพอดีเลย ไมรูวามองผมหรือวามองมาทางนี้
เฉยๆ

เสียงเปดประตูหนาหองทําใหผมตองเหลียวหันมาดู แลวก็เปนคนเดิมกับเหตุการณที่คลายคลึงกัน เขาเองก็ยังทําทาตกใจ


แบบเดิม

“พายมาอยูนี่ไดไง ไอตั้มมันจับมาอีกแลวเหรอ”พี่นัทเดินเขามาในหอง สวนผมก็เดินกลับไปนั่งที่โซฟาตามเดิม

“ก็บอกแลววาเพื่อนพี่มันโรคจิต”

“มาอยูกี่วันแลวเนี่ย”

“สองวันแลว พี่มาหามันเหรอ”

“อืม มาทํางานตอนะ มันอยูในหองใชเปลา”พี่นัทถาม ผมก็พยักหนาแทนคําตอบ พอพี่เขาเปดประตูหองเขาไป ผมก็เริ่ม


วางหนังสือในมือแลวเอนตัวนอน ก็เมื่อคืนมันนอนไมหลับเลยนี่นา ขอนอนพักอีกสักงีบแลวกัน มันอยูกับเพื่อนคงไม
ออกมาทําอะไรผมไดหรอก
“นี่....ตื่น....ตื่นรึยัง”เสียงใครบางคนกําลังขัดขวางการนอนหลับของผม ฝามืออุนๆ เขยาตัวเบาๆ กวาจะตั้งสติและนึกไดวา
ตอนนี้ไมไดอยูที่หองตัวเองก็โดนคนที่ปลุกดึงใหลุกขึ้นมานั่ง

“......ปลุกดีๆ ไมเปนรึไง แลวเรียกทําไม”ผมสะบัดมือที่จับแขนผมออก แลวเลื่อนตัวหางจากมัน เพิ่งงีบไดนิดเดียวเอง

“ไปอาบน้ําเปลี่ยนชุดซะ จะออกไปกินขาว”

“ไมไป เดี๋ยวสั่งรานขางลางขึ้นมากินก็ได”

“ละเมออยูรึไง นี่มันสามทุมแลว รานขาวแถวนี้เขาปดกันหมดแลว”

“พายไปเถอะ พี่ก็ไปดวย”พี่นัทเดินถือน้ํามานั่งโซฟาใกลๆ ผมก็ไมไดจะรูสึกดีขึ้นหรอกนะที่พี่เขาไปดวย แตที่เงียบอยู


เพราะวาไมหิวตางหาก

“ทําไม ไปกับกูสองคนจะตายรึไง”

“......ประสาท โอย!”รอยช้ําที่แขนรอยเดิมยังไมจางหาย มันก็บีบซ้ําอีกแลว

“วันนี้หลายครั้งแลวนะมึง จะใหกูโมโหใหไดเลยใชมั้ย”แสดงวามันพยายามอดทนเหมือนกันเหรอเนี่ย ไมบอกผมไมรูเลยนะ


เอาเถอะ ทนตอไปแลวกัน เพราะผมยังไมอยากใหมีรอยบนหนาในวันไปเรียนพรุงนี้

“..........ปลอย จะไปอาบน้ํา”

“เร็วๆ ดวย”วันๆ ดีแตสั่งอยางเดียวเลย ถึงเวลาเอาคืนเมื่อไหรละก็จะเอาใหหนักเลย

ผมนั่งเงียบคูมันที่เบาะหนา อยากขอไปนั่งรถพี่นัทก็กลัวมันโมโหใสอีก วันๆ เคยอารมณปกติเหมือนชาวบานเขาบางมั้ย


เนี่ย มันขับรถตามรถพี่นัทไปเรื่อยๆ จนมาถึงรานอาหาร...แตเปนรานกึ่งผับ มีที่นั่งทั้งดานนอกและดานในที่มีสองชั้น
ตกแตงก็สวยหรูดี แตผมวามันไมคอยเขากับการแตงตัวผมเทาไหร เสื้อยืดกางเกงยีนสเกาๆ กับรองเทาผาใบ แคเดินลง
จากรถก็มีคนมองเพียบเลย ยิ่งระหวางทางเดินเขามานั่งที่โตะชั้นบนไดนี่ไมตองพูดถึง หลายคนมองมันดวยสายตาที่ชื่นชม
...ไมอยากชมมันหรอกนะครับ แตก็ตองยอมรับวามันหนาตาดีแลวก็แตงตัวดี แตสายตาคนที่มองมันมักมาหยุดที่ผมนาน
สุด...คงมองประมาณวา...มาผิดรานหรือเปลา หรือไมก.็ ....กลาเดินเขามาในรานไดยังไง

“ผสมอะไร”เดินมาถึงมันก็นั่งลงเกาอี้ยาวที่วาง และมองเชิงสั่งใหผมนั่งตาม สวนคําถามมัน....ผมคิดคําตอบไมออก ความ


จริงมันตองถามกอนสิวากินเหลามั้ย ถาผมบอกวากินคอยถามตอวาผสมอะไร
“....ไมกินเหลา”

“ทําไม กลัวโดนมอมเหรอ”

“ไมกิน ไมชอบกิน พูดงายๆ เขาใจเปลา”

“เดี๋ยวนี้มีหือดวยเวย มึงอบรมเด็กมึงยังไงเนี่ย”เสียงเพื่อนในกลุมมันแซวขึ้นมา คนอื่นๆ ก็หัวเราะเปนลูกคู

“เอา...เมนู จะสั่งอะไรก็สั่ง”มันโยนเมนูในมือมันมาใหผม สวนมันก็หันไปสั่งเครื่องดื่มของตัวเอง ผมไมอยากเงยหนามอง


คนอื่นที่รวมโตะ จะพวกไหนซะอีกละ นอกจากไอกลุมเดิมที่ทําเรื่องเลวๆ กับผมไว แคมองหนามันคนเดียวก็กินขาวไมลง
แลว นี่ตองมองทั้งกลุมผมคงกลืนอะไรลงคอหรอก

“อาว ไมสั่งขาวมากินละพาย”พี่นัทถามขึ้นมาเมื่อผมวางเมนูลงที่วางระหวางผมกับมัน

“กินไมลง”

“วอนอีกแลวนะมึง”ผมวาผมพูดกับพี่นัทนะ มันดันมันมามีสวนรวมดวยซะงั้น

“พายสั่งขาวผัดมาสิ เดี๋ยวพี่จะไดกินดวย หิวเหมือนกัน”พี่นัทหยิบเมนูสงมาใหผมอีกรอบ แตผมดันกลับคืนไปเบาๆ

“งั้นพี่นัทก็สั่งเถอะครับ พายไมรูวาอะไรอรอย เดี๋ยวพายกินกับพี่ก็ได”

“โอะๆๆ มีแวววาจะโดนสวมเขานะเนี่ย”เพื่อนมันอีกคนพูดขึ้น คนนี้หนาตาดูดีหนอย แตปากเสียไมตางจากไอคนแรก

“หุบปากไปเลยไออั๋น พูดแตเรื่องไมเปนเรื่อง”พี่นัทหันไปวาเพื่อนเบาๆ กอนจะหันมายิ้มเชิงขอโทษกับผม

“ก็อยาใหมันเปนเรื่องขึ้นมาแลวกัน”มันพูดนิ่งๆ ขณะที่หันหนาออกไปมองรอบๆ ราน พี่นัทเลือกที่จะไมตอปากตอคําแลว


หันไปสั่งขาวผัดทะเล กับตมยํารวมมิตรมาเผื่อผม

อาหารที่นี่อรอยครับ เพลงก็เราใจดี มองลงไปดานลางเห็นเตนกันกระจาย พวกเพื่อนๆ มันในโตะชื่ออะไรบางผมไมรูเพราะ


มันไมไดแนะนํา แตที่ยังนั่งอยูตอนนี้มีแคผมกับพี่นัท สวนคนอื่นๆ ลงไปเตนขางลางหรือไมก็จีบสาวโตะอื่นกันหมด

“อิ่มมั้ยพาย สั่งอะไรมากินเลนก็ไดนะ”
“ไมเปนไรครับ พายอิ่มแลว ตอนนี้งวงนอนมากกวา”ผมตอบตามจริง กินนิดเดียวก็อิ่มแลว พรุงนี้ตองรีบตื่นแตเชา ไปรับ
ปญหาอีกอยางที่เลี่ยงมาหลายวัน

“เหรอ แตไอตั้มมันไปอยูมุมไหนแลวก็ไมรูสิเนี่ย กวาจะกลับก็รานปดนั่นแหละ”พี่นัทไมนาพูดถึงมันเลย เขาวาคนบาตาย


ยากนี่ทาจะจริง พูดปุปเดินมาปป แตไมไดเดินมาคนเดียวครับ มันเดินโอบเอวมากับผูหญิง หนาตาสวยเฉี่ยวมากเลย

“ไอนัท มึงไปสงพายกลับคอนโดกอนไป เดี๋ยวกูจะไปตอที่อื่นแลว”ไมพูดเปลา มันกอดเอวแลวหอมแกมผูหญิงที่พามาดวย

“เออได งั้นกูกลับเลยแลวกัน พายมันงวงแลว”

“ก็กลับไปดิ ใครผูกคอไวละ”มันพูดในขณะที่ยังหยอกลอกับผูหญิงที่พามาดวย

“พี่นัทกลับเถอะ พรุงนี้พายมีเรียน”ผมไมสนมันหรอกครับ ดีซะอีก คืนนี้จะไดนอนอยางสบายใจ มันจะไปทําอะไรที่ไหนกับ


ใครก็ชางมันเถอะ ขอแคอยากลับมานอนจะดีมาก

ดีที่พี่นัทไมคอยดื่ม ผมเลยไมกลัวที่จะนั่งกลับมาดวย มีทิวคนเดียวที่ตอใหมันดื่มหนักขนาดไหน ผมก็ยังพอไวใจอยูบาง


คิดๆ แลวก็กลุม พรุงนี้ตองเจอทิวแลว ไมรูวาพี่ธารบอกเรื่องที่ลาออกหรือยัง

“ขอบคุณนะครับที่มาสง”ผมกลาวขอบคุณแบบงัวเงียเต็มที ตอนแรกกะวาจะไมใหขึ้นมาสงบนหอง แตผมก็ไมมีกุญแจเขา


หองมันอยูดี

“ไมเปนไรครับ แลวนี่อยูคนเดียวไดมั้ย”

“ไดสิครับ พี่นั่นแหละรีบกลับไดแลว เดี๋ยวเมียรอแย”ผมตอบพรอมแซวไปดวย ผมมั่นใจวาที่มันบอกวาพี่นัทมีเมียแลวเปน


เรื่องจริง เพราะแหวนบนนิ้วมันเปนหลักฐานไดอยางดี

“เออ..พาย...คือ....”พี่นัทเหมือนจะพูดอะไรแลวก็เงียบไป

“ครับ”

“.....งั้น...พี่ไปกอนนะ ไวเจอกันใหม”พี่นัทโบกมือลาแลวก็เดินจากไป ผมก็ปดประตูหองแลวเปลี่ยนชุดอาบน้ํานอนเลยครับ


เปนครั้งแรกที่อาบน้ําแลวนอนอยางสบายใจ ถึงเจาของหองไมอยู แตผมก็ยังยึดโซฟาเปนที่นอนอยูดี
ไมรูวานอนไปนานเทาไหร แตน้ําหนักที่กดทับตัวผมอยูทําใหรูสึกอึดอัดจนเกือบหายใจไมออก ไออุนที่สัมผัสตามใบหนา
และลําตัวขัดขวางการนอนหลับของผม ทั้งๆ ที่พยายามเบี่ยงกายหนีแตสัมผัสนั้นก็ยังตามติดเรื่อยๆ ความนุมชื้นที่ไล
บริเวณลําคอลากผานมาจนถึงยอดอกทําใหเกิดอารมณวูบไหวอยางไมรูตัว

“อะ....อืมมม....”ไอรอนจากผิวกายทําใหรูสึกดีเมื่อถูกโอบกอดทามกลางอากาศหนาวเย็นภายในหอง......โอบกอด.....กอด
.....กอด!!!

ตอนที่ 22

“เฮย!!”

“อืมม...อยาเสียงดังนา”

“ไอบา ลุกไปนะ จะทําอะไร”ผมพยายามพลิกตัวหนีริมฝปากที่โลมเลียแผนอกวางเปลา ไมรูวามันถอดเสื้อผาผมไปตั้งแต


ตอนไหน รางกายที่ถูกปลุกเราขณะหลับชางนาอาย

“อะ....ไม...ปลอย”มือ ที่รูดรั้งแกนกายไมยอมปลอย ไมวาจะพยายามเบี่ยงหนีและดึงออกยังไง สุดทายก็พายแพตอแรง


ของคนดานบน พื้นที่จํากัดบนโซฟาแคบๆ ไมมีที่วางใหหลบหนี ริมฝปากรอนกดแนบตามแผนหลัง เสียงลมหายใจติดขัด
จากคนที่กดทับแสดงถึงอารมณที่โหมขึ้นเรือ่ ยๆ

“อื้อ อ....ไม.....หยุด….อะ”ผมสะดุงดวยความตกใจที่ถูกดึงจนตัวลอยแลวถูกจับ ใหนั่งคลอมอีกคน สภาพนาอายและนา


รังเกียจ พยามยามดิ้นหนีจากออมแขนแกรงที่รัดเอวไวเทาไหรก็เหมือนจะยิ่งแนนขึ้น ทุกที ปากรอนๆ พรมจูบซอกคอ ลาก
ผานตามโครงหนากอนจะบดเบียดริมฝปากที่ปดสนิท ลิ้นรอนชื้นไลเลียริมฝปากพรอมๆ กับนิ้วมือที่คลึงยอดอก แรงโอบ
กอดที่เอวแนนจนรูสึกอึดอัด แผนหลังเปลือยเปลาถูกดันแอนรับปลายลิ้นรอนที่เลื่อนมาโลมเลียยอดอกทั้ง สองขาง

“อื้มม........หยุด.....ปะ.ปลอย....อึ”๊ เสียงที่พยายามหาม ปรามเหมือนไมไดเขาโสตประสาทของคนที่เลาโลมอยูเลย ตอให


มือและปากชํานาญขนาดไหนก็ไมทําใหคลอยไดจนขาดสติได ความเจ็บปวดที่เคยไดรับยังจําฝงใจ บากวางที่ปลดกระดุม
บางสวนจนเห็นลําคอ ทางรอดเดียวที่เห็นก็ตองรีบลงมือทํากอนจะเตลิดไปมากกวานี้

“โอย!!! ปลอย!”เสียงรองดังขึ้นทันทีที่ผมกมลงกัดเนื้อออนตรงซอกคอ และไมคิดจะปลอยงายๆ ฝามือหนากุมแนนรอบคอ


แลวบีบแรงจนสําลักลมหายใจ ปากคลายออกเพื่อโกยอากาศเขาปอด รางทั้งรางถูกกดลงบนเบาะโซฟาดวยมือขางเดียวที่
ยังบีบคออยู ผมพยายามตะกุยฝามือหนาใหคลายออก แตก็ไมเปนผล สองขาที่ถูกเบียดแทรกดวยรางคนตรงหนาพยายาม
ดิ้นสุดแรง ทําทุกวิถีทางเพื่อใหไดรับอิสระภาพ
“....ปะ...ปลอย...”มือที่ วางอยูทั้งสองขางพยายามทุบบาจนแทบออนแรง ความพยายามครั้งสุดทายดวยแรงทั้งหมดที่มีก็
ฟาดฝามือลงบนใบหนาซีกซาย เพียงครูเดียวแรงบีบที่คอก็คลายลง ผมอาปากโกยอากาศเขาปอดใหไดมากที่สุด ริมฝปาก
หนาประกบชิดปดกั้นอากาศอีกครั้ง ถึงจะรังเกียจขนาดไหนแตก็ไมกลาผลักไสเพราะฝามือที่ยังกุมรอบคออยู เรียวลิ้นรอน
ชื้นสอดเขามาพัวพันอยางช่ําชอง หากแตไมไดรับการตอบสนองกลับไปแมเพียงนิดเดียว

เรียวปากบางถูกบด เบียดจนรูสึกเจ็บ ปลายลิ้นชุมชื้นไลเลียรูปปากเบาๆ กอนจะจูบซับอีกหลายตอหลายครั้งจนทุกอยาง


หยุดนิ่ง ผมไมกลาแมแตจะลืมตาขึ้นมามองวามันกําลังจะทําอะไรตอ น้ําตาไหลอาบแกมเมื่อไหรไมรูตัว ผมนอนรับสภาพ
ตัวเองที่ทําอะไรไมได ทําไมผมไมเปนบาไปซะ ทําไมจะตองมีสติเพื่อรับรูเรื่องเลวรายที่กําลังจะเกิดซ้ํา เสียงขยับตัวออก
หางไมนาน รางผมก็ลอยหวือขึ้นจากโซฟา

“ไม! ปลอย....ปลอยผมไปเถอะ”ผมออนวอนอยางที่ไมเคยคิดจะทํา พยายายามดันตัวออกหางจากออมแขนที่อุมเดินไป


ทางหองนอน แผนหลังสัมผัสผาปูเย็นชืด พลิกตัวหนีไปไดแคครึ่งตัวก็ตองอยูในหวางแขนที่คลอมทับ ฝามือรอนจับไหลผม
พลิกกลับไปนอนหงาย ตัวผมสั่นแบบควบคุมไมได หากแตสติยังคงอยู ผมปดตาสนิท กัดฟนแนน มือกําผาปูที่นอนแนนจน
รูสึกเจ็บ

“อยา...”ผมสงเสียงรองหามอีก ครั้งเมื่อริมฝปากกดแนบซอกคอ ปลายลิ้นไลเลี่ยเบาๆ กอนจะรูสึกถึงแรงขบเมมที่ซอกคอ


หลายครั้ง ฝามือบีบคลึงยอดอกเบาๆ ผมเมมปากกลั้นเสียงรอง เรียวขาถูกแยกออกดวยหัวเขากอนที่รางทั้งรางจะแทรก
เขามา ไออุนจากรางทอนบนที่กดลงมาแนบชิดทําใหรูสึกรอนเหมือนเอาไฟมานาบ ปลายลิ้นโลมเลียทั่วตัวสลับกับมือที่
หยอกเยาไปทุกสัดสวนเพื่อกระตุน อารมณ ฝามือเลื่อนลงสัมผัสสัดสวนที่ตื่นตัวอยางหามไมได ผมพยายามปดปองแต
กลับถูกล็อคดวยมืออีกขางหนึ่ง ปากหนาขบเมมดูดดุนยอดอกเพื่อดึงความสนใจ นิ้วมือที่กอบกุมรูดรั้งเร็วชาสลับกัน ผม
ยกมืออีกขางปดปากตัวเองแนน หากจะตอบโตความเจ็บปวดกลับคืนไป ก็ยังรูสึกถึงความกลัวและทรมานเมื่อขาดอากาศ
หายใจอยู

“อยาปดปาก สิ”การยื้อแยงมือออกจากปากผมจบลงงายๆ ดวยแรงบีบที่ขอมือ ปากที่เปนอิสระไดชั่วครูถูกบดจูบ จากที่


เจ็บก็เริ่มชา เรียวลิ้นเลาะตามขอบปากกอนจะสอดเขามาพัวพันดานใน สัมผัสดานลางขยับรูดกระชั้นเร็วขึ้น

“อึ่ก!...อื้อ!”ผมสงเสียง รองทั้งที่ปากยังไมไดรับอิสระ ปลายนิ้วสอดแทรกรางกายดานหลัง ความเจ็บแลนปราดขึ้นมาพรอม


กับความกลัวที่ฝงใจ

“อึ๊! เวรเอย!!”มันถอนหนาออกเมื่อผมตกใจจนเผลอกัดลิ้นมัน รสคาวเลือดยังคลุงในปาก ผมอาศัยชวงที่มันละความสนใจ


เลื่อนตัวหนีจนชิดหัวเตียง แตก็ถูกตรึงไวจนขยับไปไหนไมได รางหนาตรงหนาแทรกเขามาหวางขารวดเร็วจนผมแทบจะนั่ง
เกยไปบนตัก ขอมือทั้งสองขางถูกรวบไวเหนือหัว ผมมองคนตรงหนาอยางหวาดกลัว ฝามือรอนจนแทบลวกผิวคอทําให
ผงะหนีถึงแมจะรูวาสุดทางแลว
ปลาย นิ้วสากลูบลําเบาคอเบาๆ ผมหันหนาหนีใบหนาที่กําลังยื่นเขามาใกล ลมใจกระทบผิวเนื้อคอกอนปลายลิ้นจะลาก
เลียซอกคอ ผมแทบจะกลั้นหายใจดวยไมอาจเดาอารมณและการกระทําของมันได เรียวฟนคมๆ ขบเนื้อออนชวงคอ กัดย้ํา
เบาๆ เหมือนหยอกลอ ลมหายใจติดขัดเมื่อนึกไปถึงการกระทําของตัวเอง แรงขบกัดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผมกลั้นหายใจ
เกร็งตัวรับความเจ็บที่เกิดขึ้น แรงกัดบนคอเจ็บหนึบจนน้ําตาซึม หากแตไมกลาเปลงเสียงรอง

“..... อยาดื้อ....เขาใจมั้ย”เสียงกระซิบถามสลับปลายลิ้นไลเลียรอยแผล ผมกัดฟนทนความแสบที่คอเมื่อโดนความชื้นจาก


เรียวลิ้น ขณะที่ยังไมไดตอบคําถามใดๆ ความเจ็บที่ชองทางดานหลังก็เกิดขึ้นพรอมๆ กับเรียวนิ้วฉ่ําเยิ้มที่สอดเขามาโดย
ไมบอกกลาว

“อยาเกร็งสิ”เสียง หวนสั่งขณะที่ยังไมหยุดขยับนิ้วสอดลึกล้ําเขามาเรื่อยๆ คําสั่งที่ไมอาจทําตามไดงายๆ ยิ่งขยับตัวหนีก็ยิ่ง


ไดรับสัมผัสรุนแรงมากขึ้น

“จะ...เจ็บ....” เสียงรองหลุดรอดออกมาจากปาก ทุกวินาทีผมพยายามทําใหตัวเองกลัวสุดขีด อยากใหตัวเองเปนบาไปเสีย


ตอนนี้ หรือไมก็ถูกทํารายจนสลบไปเลยจะดีกวา

“เจ็บ ก็อยางเกร็งสิ”ถึงจะพูดอยางนี้ แตทุกสิ่งเหมือนจะยิ่งเลวรายลงเมื่อนิ้วที่สอดอยูถูกถอนออกไปปรนเปรอแกน กาย


แข็งขืนแทน อารมณที่ดับลงไปเมื่อครูถูกปลุกขึ้นชาๆ ดวยความช่ําชองและรูจังหวะ ปากที่จูบไลทั่วแผนอกเลื่อนมาประกบ
ปากแนบสนิท ปากหนาจูบซับที่หางตาเหมือนจะปลอบโยนแตก็ไมไดทําใหรูสึกดีขึ้นเทาไหร น้ําตาแหงสนิทกอนริมฝปาก
แดงช้ําจะถูกครอบครองอีกครั้งพรอมความเจ็บปวด เบื้องลาง

“อื้อ! อื้ออออออ”สะโพกที่คลอมอยูบนหนาขาถูกรั้งขึ้นเพียงครูเดียว ชองทางดานหลังก็คับแนนดวยแกนกายที่สอดเขามา


ไมใหตั้งตัว ความเจ็บที่ไมเคยคิดฝนวาจะตองพบเจออีกครั้งเกิดขึ้นแลว เรียวขาที่เกร็งขืนไวออนแรงพรอมๆ กับรางกายที่
ออนยวบหมดเรี่ยวแรงขัดขืน มือสองขางที่เพิ่งไดรับอิสระเกาะบาหนาไวแนน หนาผากชื้นเหงื่อซุกแนบซอกคอ แกนกายถูก
ขยับรูดเบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บ

“อะ...อืมม.....” ฝามืออีกขางบีบยอดอกดึงรั้งเบาๆ แตเรียกเสียงครางที่ไมคิดวาจะออกมาจากปากตัวเองไดดี สะโพกถูก


คลึงเคลนกอนจะรูสึกถึงการขยับตัวที่เรียกความเจ็บขึ้นมาอีก ดานลางมันอุนรอนและคับแนนจนรูสึกอึดอัด เจ็บแสบทุก
ครั้งที่มันขยับแกนกายเขาออก ไมวาจะชาหรือเร็ว จะเบี่ยงเบนความเจ็บดวยวิธีไหนก็เอาไมอยู ถึงจะยอมรับวารูสึกดีอยู
บาง แตความเจ็บกลับมีมากกวาหลายเทา ออมแขนกอดเอวไวแนนเพื่อรับสัมผัสที่มอบมันกําลังมอบใหอยางเต็มที่ ริม
ฝปากรอนจูบไซรตามซอกคอและแผนอก กอนจะเวียนขึ้นมาพรมจูบสอดแทรกปลายลิ้นจนเผลอตอบรับออกไป

“อือ อ.......อะ...”อยูดีๆ รางทั้งรางก็ถูกจับพลิกมานอนคว่ํากลางเตียง แกนกายที่หลุดออกไปทําใหรูสึกดี แตทันทีที่สะโพก


ถูกรั้งขึ้นสูง ความคับแนนก็สอดเขามาแลวขยับตออยางรวดเร็ว
“อืมม.....อีกนิดนะ ....ใกลแลว”เสียงแหบพราพร่ําพรมจูบแผนหลังชื้นเหงื่อ เรียวขาออนแรงจากการโหมแรงดานบนทําให
เกือบทรุดลงไปหลายรอบ สะโพกยังคงยกสูงดวยฝามือหนาทั้งสองขางที่กระชับไว เสียงขยับตัวสอดแทรกดังทั่วหอง ผมกม
หนากัดผาหมไว ยิ่งขยับมากเทาไหร ความเจ็บปวดและอารมณตางๆ ก็ยิ่งพุงขึ้นสูง เสียงกระทบกันของเนื้อดังเร็วขึ้นพอๆ
กับฝามือที่กลับมาปรนเปรอดานหนา และขยับรั้งเร็วขึ้นรับกัน เพียงไมกี่อึดใจ ความอัดแนนภายในก็ไหลผานฝามือ
พรอมๆ กับรางที่ขยับเร็วและแรงขึ้นจนรูสึกถึงความอุนรอนที่หลั่งไหลเขามามาก จนรูสึกอุนวาบในชองทอง เสียงหอบ
หายใจฟงชัดขึ้นเมื่อทุกอยางจบลง คนดานหลังถอนกายออกเชื่องชา หยาดรักมากมายไหลยอนออกมาเปรอะเปอนซอกขา
รางผมทรุดฮวบบนเตียงอยางไรเรี่ยวแรง ดวงตาปริบปรือมองคนที่พลิกตัวผมใหหงายขึ้น ปลายผมชื้นเหงื่อถูกปดออกเบาๆ
น้ําหนักที่กดทับอยูบนเตียงนอนหายไป ผมรับรูในขณะที่กําลังจะหลับวาอีกคนลุกออกไปแลว ลอบถอนหายใจปนเหนื่อย
หอบออกมาเมื่อรูวามัน....จบแลว......จบแลวทุกอยาง จริงๆ.....ความสงสัยที่เคยคิดแตไมไดเอยถามวาทําไมผมตองมาอยู
ที่นี่ ........ตอนนี้.......ไดคําตอบเปนการกระทําเรียบรอยแลว.....นี่ใชมั้ย... ที่มันตองการ

ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทําใหหนาวจนเกือบสั่น ผมดึงผาหมขึ้นจนชิดคอ ขยับตัวนอนขดใตผาผืนหนา หากแตการ


ขยับเพียงนิดเดียวก็กระเทือนจนเรียกหยาดน้ําตาออกมาได รางกายปวดเมื่อยทุกสัดสวน และที่เจ็บที่สุดคือดานหลังที่ขยับ
หรือไมก็เจ็บไมตางกัน ผมลืมตามองสภาพหองรอบๆ กอนจะนึกไดวาตัวเองอยูในหองนอนใคร เสียงเปดประตูดึงความ
สนใจใหหันไปมอง แลวก็ตองผุดลุกขึ้นเพื่อเตรียมปองกันตัวเอง ถึงจะเจ็บแตก็พยายามฝนเกร็งตัวลุกขึ้นไปยืนขางเตียงอีก
ฝง ผาหมผืนหนาถูกลากมาพันรางเปลือยเปลาไวแทนเสื้อผา

“จะไปไหน”มันยืนพิงประตูที่เพิ่งปดลง คําถามที่เตือนใหรูวาผมยังมีที่ตองไปอยู. ....นั่นสิ....วันนี้ผมตองไปเรียนนี่นา

“ไปเรียน”

“ตลกแลวมึง แคยืนขายังสั่นเลย นอนลงไปดีๆ เลย”

“ไม ผมจะไปเรียน อะ! ปลอย!! บอกใหปลอยไง อยามาจับผมนะ!!!”ผมพยายามจะเดินหนี แตแคกาวไมกี่กาวรางก็แทบ


ทรุด มันปราดเขามาจับตัวผมแลวดันใหนอนลงบนเตียง แรงกระแทกจากการลมเบาๆ ยิ่งเพิ่มความเจ็บดานหลัง ผมตอง
อาปากครางระบายความเจ็บเบาๆ ไมแนใจวาทําไมมันถึงรูสึกระบมมากขนาดนี้ จําไมไดดวยวาหลังจากผมหลับไปแลว
เกิดอะไรขึ้นกับตัวเองอีกหรือเปลา ลึกๆ แลวก็อดคิดไมไดวา...ถาครั้งเดียว...ผมจะเจ็บถึงขนาดนี้เลยเหรอ

“ตื่น มาก็โวยวายเลยนะ นอนเงียบๆ ไมเปนหรือไง ขางนอกพวกไอนัทมันนั่งกันอยูตั้งเยอะ อยากใหมันเขามาเห็นนักเหรอ”


เทานั้นแหละครับ ผมรีบปดปากเงียบเสียงตัวเองทันที แตก็ยังถลึงตาใสมันพรอมบิดขอมือออกจากมือมันตลอด

“นอนอยูนิ่งๆ เขาใจมั้ย”มันถามผมก็พยักหนาตอบ พรอมสงสายตาไปมองที่มือเปนเชิงวาใหปลอยไดแลว

“หิวยัง”มันปลอยแลวก็ถอยไปนั่งริมเตียง
“.........” ผมพลิกตัวหันขางให พรอมดึงผาหมใหขึ้นมาคลุมถึงคอ หลับตาลงอยางไมใสใจที่จะตอบคําถาม เสนผมที่ปรก
ทายทอยถูกลูบเบาๆ กอนมือจะเลื่อนลงมาลูบตนคอ มือที่กําผาหมจิกแนนจนขอนิ้วขาวซีด ปากอุนกดจูบเบาๆ กอนจะ
ปลายลิ้นจะตวัดเลียเรียกความแสบจากรอยแผลเมื่อคืน

“โทษ ที....รอยมันชัดไปหนอย”มันหมายถึงรอยอะไรผมไมแนใจ รอยฟนที่มันกัดลงมา หรือวารอยมือที่มันบีบคอผมจะ


เกือบตาย....รอยไหนละ...ที่พอจะสนองตอบคําขอ โทษของมัน

“.......ผมอยากอยูคนเดียว”แทนคําตอบรับของผม มันเดินออกจากหองไปเงียบๆ ผมนอนกัดฟนกลั้นเสียงสะอื้น ปลอยให


น้ําตาไหล ไมเขาใจรางกายตัวเอง ไมเขาวาทําไม...ทั้งๆ ที่เปนรางกายของผม แตผมกลับควบคุมมันไมได ทําไมเมื่อคืนผม
ไมเปนบาคลุมคลั่งไปซะ ทําตองตองมีสติรับรูและจดจํามันไดดวย...ทําไม...ผมตองมานอนรองไหอยู ที่น.ี่ .....มันเปนใครมา
จากไหน ทําไมถึงทํากับผมแบบนี้ครั้งแลวครั้งเลา.....คนเราทํารายกันโดยไมมีเหตุผล ไดเหรอ....แลวผม....ตองทนไปถึง
เมื่อไหร....ทําไมไมตายๆ ไปซะ.....ถาผมตายไปซะ...... ความเจ็บปวดทางกายคงจะหมดไป....ความเจ็บปวดทางใจก็จะ
หายไปจากผมดวยเชนกัน .....หากแตความเจ็บทางใจ.......คงตกไปถึงคนที่รักผมมากที่สุด.....และนั่น ....ทําใหรูวา....ยัง
ตองทนตอไป

ผมนอนหลับไปดวยพิษไข เสียงเรียกเบาๆ ปลุกใหลุกขึ้นมากินยาแลวผมก็หลับตอไปเกือบทั้งวัน เหงื่อที่ออกเยอะจนเสื้อ


ชื้นทําใหรูสึกเหนียวตัวและตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ......ภาพแรกที่เห็นคือ....ผูชายที่นั่งหลับพิงหัวเตียงพรอมหนังสือเลม หนาที่ตก
อยูขางตัว ผมขยับตัวออกหางอยางไมไวใจ คอยๆ ลุกเดินเพื่อออกไปอาบน้ําขางนอก กวาจะเดินออกมาขางนอกไดก็ตอง
เกาะนั่นพิงนี่เพื่อพยุงตัวเองไปเรื่อยๆ อาการมึนหัวจากพิษไขยังหลงเหลือนิดหนอย ความเจ็บดานหลังก็เหมือนจะดีขึ้นบาง
อยางนอยเวลาเดินก็ยังไมถึงกับทรุดลงไปนั่ง ผมมองหากระเปาเสื้อผาที่ปกติผมจะเก็บไวขางโซฟา แตตอนนี้มันหายไป
แลว

“จะทําอะไร”เสียงเรียกจากดานหลังยังทําใหตกใจไดอยูเสมอ ผมคอยๆ นั่งลงบนโซฟากอนจะตอบคําถามโดยไมหันไป

“เสื้อผาผมอยูไหน”

“ทําไม จะไปไหน”

“....... จะไปอาบน้ํา ไปไดมั้ย ถาไมไดก็ไมเปนไรนะ ขอผมนอนตอตรงนี้เลยแลวกัน”ไมรูวาทําไมผมถึงยังคงกลาตอปากตอ


คํากับมัน อยูเหมือนเดิม อาจเปนเพราะผมเริ่มแนใจแลววา...ผมคงไมเจ็บไปมากกวานี้อีกแลว

“เสื้อผาอยูในตูในหองนอน จะอาบก็ไปอาบในนั้น”

“ไม ผมจะอาบขางนอก”ผมลุกขึ้นใหมอีกครั้งเพื่อไปหยิบของออกมา แตกลับตองยืนประจันหนากับมันที่กาวมายืน


ขางหนา ผมเลยจําเปนตองกาวถอยหางออกไป
“อยาดื้อนา”น้ําเสียงและสีหนาสอดคลองกับคําพูด....คําที่มีความหมายวาผมเปนฝายทําผิด.....แคไมทําอยางที่มัน
ตองการ....ก็ผิดแลว

“........” แทนคําตอบ ผมควาแกวน้ําที่วางอยูบนโตะขึ้นมา แลวสาดน้ําที่มีคนกินเหลือใสหนามันหมดแกว พรอมกับขวาง


แกวในมือออกไป แตโชคดีที่มันหลบทัน แกวเลยกระแทกกับกําแพงแลวแตกกระจายลงบนพื้น ขณะที่ผมยืนกํามือแนน
ดวยความโกรธ มันกลับยกมือเสียผมที่เปยกปรกหนาผากกลับขึ้นไปดวยทาทางเฉยเมย ไมรับรูอารมณของผมเลยสักนิด

“ตื่นมาก็หาเรื่องเลยนะมึง”

“ไมตองหามันก็มีเรื่องเขามาอยูแลวละ”

“....... แมงนาจะจับไขพูดไมไดสักสามสี่วันนะมึง ลุกขึ้นมาไดก็ปากดี มานี่เลยมึง”มันพูดจบก็กาวพรวดมาถึงตัวแลวยอตัว


อุมผมขึ้นมา ดิ้นหนีเทาไหรก็มีแตเพิ่มความเจ็บใหตัวเอง มันเดินกลับเขาไปในหองนอนแลวก็โยนผมลงกลางเตียง ทาว
แขนคลอมผมไว พอจะเลื่อนตัวขึ้นมันก็จับขอมือผมกดกับเตียง เหตุการณเดิมๆ เหมือนจะกลับมาหลอกหลอนผมครั้งแลว
ครั้งเลา

“เมื่อไหรจะทําตัววางายสักที”

“ไมมีทาง”ถึงรางกายผมจะสูแรงมันไมได แตถาใจผมยังไมยอมแพ มันก็บังคับผมไมได

“ก็ด.ี .....ปากดีแบบนี้ใหตลอดแลวกัน”

“ไมนะ!! อื้อออ”

ตอนที่ 23.1

รางกายที่นอนอยูบนเตียงตอนนี้...เปนของใครกัน......แตคิดวาคงไมใชรางผมแนๆ...เพราะถาใช ทําไมผมถึงควบคุมมัน
ไมได ความทรงจําที่อยากลืม กลับจดจําไดชัดเจน รางกายที่อยากดิ้นรนขัดขืน เรียกรองใหอาการหวาดกลัวที่หายไป
กลับมาอีกครั้ง หากแตไมเปนเชนนั้นเลย.....บางที...ผมคงกลัวตายจนเกินไป....กลัวจนทําใหจิตใจสั่งรางกายตัวเองวาอยา
ตอตาน.....ความกลัวบาๆ....รางกายบาๆ......

“ทําไมยังไมกินขาวอีก”เสียงถามซ้ําอีกครั้งในขณะที่ผมยังคงนอนหลับตา เตียงนอนยวบตามน้ําหนักตัวที่กดลงขางๆ ผม
ไมหันหนีเหมือนที่เคย เพราะรูวาไมมีประโยชน การนิ่งเฉยอาจจะดีกวา...ทําตัวเปนศพไปซะ จะไดไมตองรูสึกอะไรอีก
“กินขาวซะ จะไดกินยา เดี๋ยวพรุงนี้ก็ไปเรียนไมไหวหรอก”น้ําเสียงที่ผมไมคิดจะหาความหมาย ไมวาจะเปนถามเพราะ
ความหวงใยหรือรําคาญ.....ผมก็ไมสนใจ

“..........”

“ไดยินที่พูดมั้ย”

“..........”

“ตกลงนี่พูดกับคนใบอยูใชมั้ยเนี่ย”

“...ตนตาย”คําพูดที่ออกจากลําคอแหงผากกับริมฝปากที่ปดสนิทมาหลายชั่วโมง มันเบาและแหบจนผมนึกวาไมใชเสียง
ตัวเอง

“อะไรนะ”

“ผมเปนคนตาย.....คุณยังตองการจะทําอะไรกับรางผมอีกมั้ย ศพผมคงชวยใหคุณสนุกได”ผมไมไดคิดจะพูดประชด
หากแตคิดอยางนั้นจริงๆ ในเมื่อผมควบคุมรางกายตัวเองไมได มันก็ไมตางอะไรจากศพไมใชเหรอ

“..........”มันไมไดพูดอะไรกลับมา จนกระทั่งผมรูสึกถึงสัมผัสที่โอบกอดจากดานหนา ฝามือที่จับปลายผมไปทัดซอกหู กอน


จะเลื่อนลงมาแนบแกมแลวไลนิ้วโปงเคลียแกมเบาๆ

“ศพที่ไหนรองไหไดกัน”ปลายนิ้วยังคงลูบคราบน้ําตาเบาๆ ผมไมเขาใจ ไมเคยเขาใจ แตเริ่มคิดที่อยากจะทําความเขาใจ


การกระทําของคนๆ นี้....บางทีผมอาจรูคําตอบ....วาทําไมผมตองอยูที่นี่ตอนนี้....ทําไมเขาถึงทําแบบนี้

ผมเผลอนอนหลับไปอีกครั้ง แลวตื่นมาตอนค่ําเพราะทนฟงเสียงรบเราขางหูไมไหว สุดทายก็ตองลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงกิน


ขาวตมทะเลที่มันยื่นมาให ผมมองหนามันสลับกับชามขาวตม....แคนั่งผมยังแทบหมดแรง แลวชามหนักๆ นี่ผมจะมีแรงถือ
เหรอ มันคงเขาใจสายตามผมเลยหาทางอื่นใหผมกินไดสบายๆ แต....ไมใชวิธีเหมือนตามหนังหลายๆ เรื่องที่ตองมานั่ง
ปอนกันหรอกนะครับ มันไมใชคนดีขนาดนั้น แคเดินออกไปเอาเกาอี้มาใชวางชามแทนโตะชั่วคราว ผมก็แปลกใจแลว นึก
วาจะลากผมออกไปกินขางนอกซะอีก

“พรุงนี้จะไปเรียนกี่โมง”เสียงถามจากคนที่นอนอานหนังสือดานหลัง จากตอนแรกที่วาจะไมคุยดวย แตตองเปลี่ยนใจ


เพราะผมกําลังคิดหาทางอยูหา งๆ จากมันพอดี
“แปดโมง”

“อยาโกหก บอกมาดีๆ จะไปสง”

“เกาโมง”โกหกครั้งแรกไมสําเร็จ แตผมก็ยังพยายามอยู ทั้งๆ ที่ความจริงมีเรียนตอนบาย

“อืม เดี๋ยวออกไปสง ที่หอเกาพี่ไปแจงยายออกแลว แตเจาของหอเขาใหพายไปติดตอดวยตัวเอง ไวหลังเลิกเรียนคอยแวะ


ไปแลวกัน”นาแปลกที่คําพูดเพราะๆ ของมันระคายหูผม ฟงแลวไมชิน พอๆ กับคนพูดนั่นแหละมั้ง เดี๋ยวผีเขาผีออก แต
วันนี้ผีคงสิงนานหนอย ถึงไมมึงมาพาโวยเหมือนเดิมเทาไหร

“......ไมกลัวนุเห็นหรือไง”

“ก็อยางที่เคยบอกไปแลวไง เขาไมมีสิทธิ์ยุงเรื่องสวนตัวพี่”

“แตผมไมอยากใหนุรู”ถานุจะรู ผมอยากใหรูจากปากผมเอง อยากจะเปนคนอธิบายเองมากกวา

“ทําไม”

“เรื่องแคนี้ก็คิดไมไดรึไง คุณจะคิดยังไงกับเพื่อนผม ผมไมรู แตนุเขารักคุณ”

“.....พรุงนี้เขาไปทํางานแตเชา ไมอยูหองหรอก”

“เขาทํางานที่รานคุณใชมั้ย ผมจํายี่หอไวนได”

“ใช แตรานที่เขาทํามันขายของอยางอื่นดวย”

“.......”

“อยากไปทํารานเดียวกับนุมั้ยละ”

“ไม”

“..........พรุงนี้ไปเรียนไหวเหรอ หนายังซีดๆ อยูเลยนะ”

“ไมอยากใหไปก็พาไปลาออกซะเลยสิ”
“พูดดวยดีๆ จะกวนโมโหใหมันไดอะไรขึ้นมาวะเนี่ย”

“.......”ผมคิดวานั่นไมใชคําถามก็เลยไมตอบ กินขาวตมไปไดนิดเดียวก็หมดอารมณกินเพราะเสียงมันนี่แหละ ผมวางชอน


แลวหยิบยาที่มันเอาวางไวตรงโคมไฟมากิน เสร็จแลวก็ลมตัวนอนตามเดิม

“อะไร เหลือตั้งเยอะ กินไปกี่คําเนี่ย”

“.........”

“เฮอ.....เซ็งวะ”เสียงถอนหายใจยาวๆ กอนที่มันจะเก็บชามและเกาอี้ออกไปออกหอง สวนผมก็นอนขมตาใหหลับตอไป

อากาศยามเชาวันนี้สดชื่นกวาทุกวันที่ผานมา ผมมองแสงแดดออนๆ มองรถที่ขับสวนไปสวนมาอยางสนใจ....อยางนอยก็


นาสนใจกวาคนขับที่นั่งอยูขางๆ ผมบอกใหมันจอดที่หนาประตูแตมันก็ไมยอม จะเขาไปจอดที่ตึกเรียนผมใหได แลวก็ทํา
ไดจริงๆ นักศึกษาหลายคนมองเขามาในรถที่ติดฟมลบางๆ ผมแทบจะลงไปนั่งแอบตรงที่วางเทาเพราะกลัวมีเพื่อนมาเห็น
แลวผมไมรูจะตอบวามากับใคร ไมอยากโกหกวามันเปนใครสําหรับผมทั้งสิ้น

“นี่โทรศัพทเครื่องเกาพี่ เอาไปใชกอนวันหลังจะพาไปซื้อใหม”มันวางโทรศัพทไวบนตัก เมื่อผมไมยื่นมือออกไปรับ

“ไมเอา”

“เอาไป เลิกเรียนแลวก็โทรมาดวย”มันพูดจบผมก็รีบเปดประตูรถลงมา ไมอยากเถียงกับมันตอนนี้ ผมเดินเร็วจนขาแทบ


ขวิดกัน ยอมรับวายังเจ็บและปวดเมื่อยอยู แต...กลัวคนอื่นมาเห็นมากกวา ใครๆ ก็รูวาผมจนขนาดไหน แลวดันมานั่งรถ
คันละหลายลานแบบนี้มันผิดสังเกตุมากเกินไป

ผมเดินจนเขามาใตตึกคณะ เหลียวไปมองขางหลังเห็นรถมันขับออกไปแลว รูสึกโลงใจเมื่อพนจากมันไดไมเทาไหร ภาพ


ตรงหนาก็ทําใหอยากกลั้นหายใจ หรือไมก็วิ่งกลับไปขึ้นรถมันเหมือนเดิม

“พาย!”เสียงตะโกนเรียกเมื่อเห็นผมเดินเขามาอยูในระยะสายตาของคนที่ยืนพิงราวบันไดขางลิฟต ผมสงยิ้มกลับไปให ใน
หัวก็คิดถึงขออางและคําแกตัวมากมายที่เตรียมไวสําหรับทิว แตคงคิดไมทันแลว เพราะทิวเลนวิ่งเขามากอดผมเต็มตัว คน
เดินผานไปผานมาก็มองแบบงงๆ บางคนก็สงยิ้มแปลกๆ มาใหจนผมเริ่มทําสีหนาไมถูก

“เออ...ทิว...พายอึดอัด”ผมแตะแขนทิวเบาๆ ความจริงแลวไมไดอึดอัดหรอก แตมันยังปวดเมื่อยตัวอยู อีกอยางมากอดผม


ซะแนนแบบนี้ ถาทิวเหลือบมองรอยตรงคอเมื่อไหรละก็.........ไมอยากจะคิดเลย
“พายไมสบายเหรอ ตัวอุนๆ นะ”ทิวขยับถอยหลังไปหนึ่งกาว ยกมือลูบหนาลูบแกมพลางซักถามอยางหวงใย ผมกระชับปก
เสื้อกันหนาวที่ใสมาเพื่อปดบังรองรอยตามตัว จับมือทิวที่ลูบหนาผมไวแนบแกม มือที่เย็นกวาอุณหภูมิรางกายทําใหรูสึก
สบาย....หรือเพราะวาเปนมือของทิว....ผมถึงรูสึกแบบนี้

“ไมตองมาทําหนาออนแบบนี้นะ หายไปไหนติดตอไมไดเลย เมื่อวานก็ไมยอมมาเรียน แลวเรื่องงานอีก ลาออกทําไมไม


บอกทิว”ทิวสงคําถามมาเปนชุดจนผมหลุดหัวเราะ ไมรูวาหายใจทางไหนถึงไดถามยาวเหยียดไดแบบนี้

“ไมตองหัวเราะเลย วันนี้ไมตองเขาเรียนแลว ไปคุยกันใหรูเรื่องกอน”

“เฮยทิว เดี๋ยวกอนสิ พายขาดหลายครั้งแลวนะเทอมนี้นะ”

“ไปเถอะนา ทิวใหคนอื่นเช็คชื่อใหเราแลว”ทิวไมพูดพร่ําทําเพลง เดินลากผมไปที่รถแลวก็ดันใหผมเขาไปนั่ง กอนจะขับ


ออกนอกมหาฯลัย

ตอนที่ 23.2

ทิวขับรถพาผมมาที่คอนโด ตลอดทางทิวนั่งเงียบ ผมก็เงียบ ผม...ไมรูวาทิวคิดอะไรอยู. ...สวนผม...นั่งคิดวาจะบอกทิวถึง


เรื่องที่เกิดขึ้นดีมั้ย หรือวาจะปดบังไวกอน ผมรูวาทิวเปนคนใจรอนและเอาแตใจตัวเองขนาดไหน ถาทิวรูแลวบุกไปหามัน
ผมไมอยากเดาเลยวาจะเกิดเรื่องใหญโตขนาดไหน คนใจรอนกับคนบา....ใครจะชนะ

“พายยังตัวอุนๆ อยูเลย นอนพักกอนมั้ย มียามากินหรือเปลา หรือจะไปหาหมอ”ตลอดทางที่ขึ้นมาบนหอง ทิวจับมือผมไว


ไมยอมปลอย เหมือนกลัววาผมจะหายไปอีกอยางนั้นแหละ

“ไมตองหรอกทิว พายมียา แคเปนไขเฉยๆ”ผมนั่งลงบนโซฟา สวนทิวรีบไปเปดแอร หยิบน้ําหยิบขนมมาบริการผมเต็มที่


เห็นทิวดีกับผมแบบนี้ ผมก็ยิ่งหนักใจ

“เหรอ ไมเปนไรแนนะ ถามีอาการอะไรบอกทิวเลยนะ ใกลๆ นี่มีคลีนิคอยู”ทิวเดินมานั่งลงขางๆ พรอมดึงมือผมไปกุมเอาไว


หลวมๆ อีกครั้ง

“อืม ไมเปนไรหรอก”ผมพยายามจะเวนระยะหางจากทิว เพราะกลัววารองรอยตามตัวจะเล็ดรอดออกมาใหทิวเห็น

“.........พาย...บอกทิวมาตามตรงนะ ทําไมตองลาออก แลวหายไปไหนทําไมกลับมาปวยแบบนี้ อยาโกหกทิวนะ คราวกอน


ก็ทีนึงแลว”ทิวดึงมือผมไปกุมไวบนหนาขา พรอมกับเลื่อนตัวเขามาใกล
“.........แมพายไมคอยสบายนะ ที่บานก็มีเรื่องยุงๆ วันนั้นเลยตองรีบกลับ สวนเรื่องงาน.....ตอนนี้พายมีงานใหมแลว เพื่อน
แมเขาอยากใหพายไปชวยทําบัญชีใหนะ มันกระทันหัน พายเลยไมไดบอก"ผมพูดไปก็ตองแอบเอานิ้วไขวไวขางหลัง บาป
จริงๆ เลย หาเรื่องแชงแมตัวเองเนี่ย ถามีขออางที่ดีกวานี้ก็อยากจะยกมาพูดแทนเหมือนกัน

"จริงๆ เหรอ"ทิวถามย้ํา สีหนาเหมือนเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง ผมเลยตองย้ําลงไปอีกครั้ง

"จริงสิ"

"แลวไปทําอะไรมาถึงปวยแบบนี้"

"ก็....ติดไขจากแมไง นั่งรถไปๆ กลับๆ มันก็เลยเปนหนักขึ้น เมื่อยตัวไปหมดเลยเนี่ย"ผมแกลงยกมือมานวดแขนขาตัวเอง


เบาๆ ไมกลามองหนาทิวเทาไหร ไมรูวาคราวนี้ทิวจะเชื่อคําโกหกผมมั้ย

"ก็บอกแลววาใหทิวไปสง ดูสินั่งรถใครไปก็ไมรู เบียดไปเบียดกลับแลวเปนไงละ ปากแหงหมดเลย เจ็บคอมั้ย เดี๋ยวหา


น้ําอุนใหกินดีกวา"ทิวพูดจบก็รีบลุกตรงไปที่ครัว ผมลอบถอนหายใจเบาๆ ที่ทิวไมซักอะไรมากกวานี้

ผมนอนฟงทิวบนนั่นบนนี่บนเตียงนอน ถึงจะยอมรับวายังเพลียๆ อยูแตกลับอยากนอนคุยกับทิวมากกวา สวนทิวก็เอาแต


บังคับใหผมหลับอยูได ถึงขนาดจะรองเพลงกลอม แตยิ่งทําใหผมขํามากกวา เขาวาความสุขจะอยูกับเราไมนานทาจะจริง
เพราะนอนคุยกันเพลินๆ โทรศัพทในกระเปากางเกงผมมันก็ดังขึ้นมา

"อาวพาย เปลี่ยนโทรศัพทใหมแลวเหรอ รุนใหมเลยนี่"ทิวลุกขึ้นนั่งตามผมที่รีบลุกเพื่อควักโทรศัพทออกมาอยางรีบรอน ไอ


รุนใหมรุนเกาผมไมรูหรอก แตคิดวาคงแพงเกินกวาที่ผมจะซื้อไหวแนๆ

"เออ....เขาใหพนักงานใชนะ เครื่องเกากับเบอรพายก็เลยเอาใหแมไปแลว"ภายในวันเดียวผมตองโกหกอีกกี่ครั้งเนี่ย

"มินาโทรไมติดเลย แลวพายจะไมรับเหรอ"ทิวสงสายตาแกมสงสัยมา โทรศัพทในมือยังไมหยุดสงเสียงรอง ถาผมไมเห็นชือ่


คนโทรก็คงจะกดรับโดยไมลังเลอยูหรอก

"แปปนะทิว สงสัยโทรมาคุยเรื่องงานนะ"ผมชั่งใจระหวางเดินออกไปคุยนอกหอง กับ...คุยตอหนาทิว แตสงสัยทิวจะเลือก


ใหผมแลวละ เพราะเลนเอาหัวมาหนุนตักผมเฉยเลย

ผมตัดสินใจกดรับเบอรที่โชวชื่อวา Office T. ไอตัวอักษรในวงเล็บก็คงเดาไดไมยากอยูแลว เพราะมันเปนชื่อยอเจาของ


เครื่องนี้เอง

“ครับ”ผมยกมือปองปากและกดโทรศัพทแนบหูใหมากที่สุด กันเสียงคนพูดจะเล็ดลอดออกมาใหคนที่นอนอยูไดยิน
“ทําอะไรอยู ทําไมรับชา”แมไมไดเห็นหนา แตก็รูวาคนพูดกําลังโมโหและกําลังขมน้ําเสียงตัวเองอยู

“เรียนอยูครับ มีธุระอะไรหรือเปลา”ผมพยายามฝนพูดสุภาพกับมันเต็มที่ อยากใหทิวเขาใจวาคุยเรื่องงานจริงๆ

“ลงมาไดแลว จะรออยูหนาคอนโด”

“หา?!!.....หมายความวา..”

“อยาใหตองขึ้นไปตามนะ เร็วๆ ดวย”มันพูดจบก็วางสายไป สวนผมเหงื่อแตกผลั่กทั้งๆ ที่หองเปดแอรจนเย็น นี่มัน...ตาม


ผมมาเหรอ.....ซวย..ซวยของจริงเลย

“เปนอะไรพาย ทําหนาตาตื่นเชียว”ทิวแหงนหนามองพรอมยกมือรูปแกมผมเบาๆ

“เออ....ทิว....พอดีพายมีงานดวนนะ เดี๋ยวพายขอกลับกอนนะ ไวเจอกันพรุงนี้”ผมคิดอะไรไมออกแลวครับ ทิวไดยินผมพูด


ก็รีบลุกขึ้นนั่งแลวจับแขนผมไวกอนที่ผมจะลุกจากเตียง

“เดี๋ยวทิวไปสงนะ”

“เออ....ได ไปสงปายรถเมลก็พอนะ”ผมคิดวาคงขัดทิวไดยากเรื่องการรับสงผม แตใหไปสงปายรถเมลลแลวคอยนั่ง


ยอนกลับมาหามันที่หนาคอนโดทิวก็ได ระยะทางไมไกลกันมาก

“ไปสงที่รานเลยก็ได ทิวจะไดรูวาพายทํางานที่ไหนไง”

“เฮยไมได!!....คือ...พายตองไปบานเขานะ ไมไดไปที่ราน แตเดี๋ยวพายกลับไปเอาของที่หองกอน”ผมรีบปฏิเสธเปนพัลวัน


แคลงไปขางลางก็ยังไมรูจะพนสายตามันไดหรือเปลาเลย

“งั้นทิวไปสงที่หองก็ได”

“เออ...”ผมวาบาปของการโกหกและแชงแมตัวเองคงตามมาทันแลวละ แลวผมจะยังเหลือเหตุผลอะไรปฏิเสธมันไดอีกเนี่ย

“ทําไมเหรอ ไปสิ พายจะไดรีบๆ ทําธุระ เผื่อตอนเย็นวางจะไดไปหาทิวที่รานไง จิ๋วมันบนคิดถึงอยูนะ”ทิวลุกขึ้นพรอมกับจูง


มือผมออกมาจากหองนอนดวย กวาจะตั้งสติไดก็เดินตามทิวมาที่รถเรียบรอย แอบเหลือบมองไปหนาคอนโดก็เห็นรถยนย
คันหรูจอดอยูฝงตรงขาม ผมรีบยัดตัวเองเขาไปนั่งในรถทิวทันที ไมรูทําไม แตคงดีกวาใหมันเห็นแลวตามมาลากผมตรงนี้
ทิวขับรถออกจากคอนโด ผมแกลงกมหนาหาของในกระเปาตอนที่ผานหนารถมัน ไมสงสัยหรอกนะครับวาจะพนมันหรือ
เปลา เพราะ......มันขับตามมาแลว

ตอนที่ 24

ผมนั่งมองกระจกขางกับกระจกมองหลังตลอดเวลา บอกตรงๆ วาใกลจะสติแตกเต็มที กลัววามันจะเกิดบาขึ้นมา แลวขับ


รถปาดหนา กระชากผมออกจากรถแบบในหนัง สวนทิวดูเหมือนจะไมรูเรื่องอะไรเลย ขับรถไปก็เลาเรื่องที่รานไป ผมเออออ
ตามเรื่องตามราว กวาจะมาถึงหอ เหงื่อนี่ชุมไปหมดทั้งมือ

“ไปกอนนะทิว ไวเจอกันพรุงนี้”ผมรีบดีดตัวออกจากรถ บอกลาทิวลวกๆ แลววิ่งขึ้นหอง คํากลาวลาที่ผมไมแนใจวาจะเปน


จริงไดหรือเปลา เพราะผม....อาจกลายเปนศพหมกหองอยูที่นี่ก็ได

เปดประตูเขามาในหองไดก็รีบกดล็อคกลอน ถอยจากประตูมายืนสงบอยูกลางหอง สภาพหองเหมือนเจอขโมยเขาหองเลย


ครับ ตูเสื้อผาไมไดปด เสื้อผาก็กระจายตามพื้น ชั้นหนังสือก็มีหนังสือกองอยูนอกชั้น นี่แสดงวาวันนั้นมันเลือกของยัดใส
กระเปาผมดวยเหรอ ถาควาไดแลวจับใสกระเปา สภาพหองผมคงไมรกเพราะโดนลื้อแบบนี้

เสียงไขกุญแจหองทําใหผมหันไปมอง ลืมไปเลยมันเคยไขเขามาในหองผมกอนหนานี้หลายครั้ง บางทีมันอาจจะขโมย


กุญแจสํารองในลิ้นชักโตะคอมฯ หรือไมก็แอบเอากุญแจไปปม แตกวาที่จะดึงตัวเองมาจากเรื่องที่คิดอยูได คนที่ไขกุญแจก็
เปดเขามาในหองแลว ผมแถวหลังไปยืนชิดประตูระเบียง เตรียมมองหาของปองกันตัวที่อยูใกลมือ

“.......ไปแจงยายออกซะ เดี๋ยวจะนั่งเก็บของรอ”มันมองหนาผมชั่วครู กอนจะพูดออกมาชาๆ

“หะ!!”ผมรองถามแบบไมมั่นใจวาไดยินถูก น้ําเสียงมันราบเรียบเกินไป

“พูดครั้งเดียวไมรูเรื่องรึไง บอกใหไปแจงยายออก จะหักประกันอะไรก็ชางเขา เดี๋ยวจายคืนให”มันเดินไปนั่งบนเตียง หัน


หนาเขาตูเสื้อผา กวาดสายตามองหาของบางอยาง ผมไมรอใหมันไลอีกรอบ รีบเดินออกจากหองลงไปที่สํานักงานขางลาง
ทันที

กวาจะคุยกับเจาของหอรูเรื่องก็โดนวาซะหูชา ถึงจะไมเอาเงินประกันมันก็ไมใชเรื่องที่ควรทํา ผมเดินซึมๆ เพราะความรูสึก


ผิดเล็กๆ กลับมาบนหอง กลองเบียรสามกลองบรรจุไปดวยหนังสือและขาวของจุกจิกที่มัน...โกย...ลงใสลัง กระเปาเสื้อผา
ของผมสองใบวางอยูบนเตียง ใบหนึ่งถูกยัดจนเต็ม อีกใบมันกําลังจับยัดโดยไมถอดออกจากไมแขวนเสื้อ

“ทําไรนะ แบบนั้นเสื้อมันก็ยับ ไมแขวนเสื้อก็งอหมดสิ”ผมรีบไปแยงของในมือมันมาถือเอง


“ความจริงไมตองเอาไปก็ไดนะ เสื้อผาก็ซื้อใหใหมตั้งเยอะแลว”

“อะไร ซื้อใหตอนไหน ผมไมเอาหรอกนะของๆ คุณนะ”ผมพูดไปก็ถอดเสื้อออกจากไมแขวนไป สวนมัน...แยงเสื้อจากมือผม


แลวยัดใสกระเปา ผมก็ตองรีบดึงออกมาสลัดแลวพับใหม

“ก็ซื้อใหวันที่พาไปตัดสูทไง เอาไมเอาก็ตองใส ไมงั้นก็ทิ้ง”มันพูดโดยไมมองหนาผมเลย บรรยากาศตอนนี้ทําใหผมอดรูสึก


แปลกๆ ไมได ปฏิกิริยาของมันไมเปนอยางที่คาดไว รวมถึงคําพูดดวย ไมคิดวาน้ําเสียงและสีหนาจะยังนิ่งไดแบบนี้ ผมคิด
วามันจะตะคอกใส พรอมแถมหมัดใหบนหนาสักหมัดสองหมัดซะแลว มัน....นิ่งเกินไป แตก็ชางมันเถอะ แบบนี้ก็ดีแลว ยัง
ไมพรอมจะไดแผลอะไรมาซ้ํารอยเกา

“ทําอะไรนะ”มันเดินมาถามระหวางที่ผมกําลังนั่งเขียนจดหมายสั้นๆ บนโตะ

“เขียนจดหมายบอกนุกอน อยูดีๆ ผมหายไปเขาคงคิดมาก”

“แลวทําไมไมโทรไปบอกดวยตัวเอง”

“จะใหบอกวาไงละ ผมไมไดกลาหาญขนาดจะพูดกับนุโดยตรงหรอกนะ เพราะอะไรคุณก็นาจะรูอยู”

“แลวเขียนลงไปวาไง”มันพยายามจะกมลงมาอาน แตผมเอามือปดเอาไว

“ไมไดพูดอะไรถึงคุณหรอกนะ”

“พูดไปก็ไมเห็นจะเปนไร ตกลงเขียนบอกเขาวาไง”น้ําเสียงที่แสดงถึงความไมใสใจอยางที่พูดจริงๆ

“ก็...บอกวา....มีปญหาเรื่องเงินนิดหนอย ตอนนี้เลยตองไปอยูหองพักสําหรับพนักงานไง”นี่ยังไมรวมถึงเรื่องเบอรโทรเกาที่
ไมมีวันโทรติด แลวก็เหตุผลที่ผมหายไปหลายวัน ผมตองโกหกเรื่องเดิมๆ ซ้ําๆ กับอีกกี่คนกัน

“ก็โกหกเนียนดีนี่”มันพูดอยางชื่นชมปนถากถาง

“คําชมแบบนี้ผมไมตองการหรอกนะ”ผมหันไปมองหนาคนที่ถอยไปนั่งบนเตียง ถึงจะไมไดพูดตะคอกเสียงดัง แตคําพูดมัน


กลับทําใหผมโมโหไดเสมอ

“ก็ใครบอกใหโกหกละ เลือกเองแทๆ”
“เฮอะ...ผมคงกลาเอาไปพูดหรอกนะ รูปเอย คลิปเอย ทุกอยางมันอยูกับคุณหมดแลวนี่ ถึงนุหรือคนอื่นรู แตคนอยางคุณ
คงไมปลอยผมไปสบายงายๆ หรอก”ถึงผมจะไมรูวามันทํากับผมแบบนี้ทําไม แตที่รูแนๆ ก็คือ...มันไมปลอยผมงายๆ หรอก

“งั้นการที่พายมาอยูใกลๆ พี่ มันก็เปนการดีแลวไมใชเหรอ ถาอยากไดของพวกนั้นคืน ก็มีแต...ทางนี.้ ..ไมใชหรือไง”

“หมายความวาไง”ผมตวัดสายตาไปถาม ไมเขาใจความหมายของมัน ทางที่มันบอกนะ...คือการที่ผมตองเอาตัวเขาแลก


งั้นเหรอ

“....ก็...ไฟลคลิปรวมถึง...รูปพวกนั้น...มันอยูที่พี่ ถาพายไมไปอยูใกลๆ จะมีทางไหน......เอาไปไดเหรอ”มันพูดยิ้มๆ ถึงจะ


อธิบายยาวขึ้นกวาเดิม แตผมก็ยังไมคอยเขาใจอยูดี วาทางที่มันบอก....คืออะไร

“ก็แลวทําไงถึงจะไดคืนมาละ ผมตองอยูกับคุณไปอีกนานแคไหนเนี่ย”

“มันขึ้นอยูกับพาย...ไมใชพี่”คําพูดของมันฟงเหมือนผมเลือกได ซึ่งความจริงแลวไมใชเลย

“ก็ถาคุณไมใชวิธีสกปรกแบบนั้นบังคับผม มีเหรอที่ผมจะอยากไปอยูใกลๆ คุณนะ”ผมลุกขึ้นจากเกาอี้แลวหันไปจองหนา


อยางเอาเรื่อง

“.......อุตสาหพยายามพูดดีก็แลว อะไรก็แลว แต...สงสัยจะยิ่งทําใหไดใจสินะ ถึงไดลุกขึ้นมาพูดอะไรไมคิดแบบนี้”

“คนอยางคุณ...มันจะแกลงทําดีไดนานแคไหนกันเชียว”ผมเริ่มรูสึกวา ยิ่งอยูใกลมันนานเทาไหร เสนความอดทนระหวาง


ผมกับมันเริ่มจะเทากันทุกที

“บอกไดเลยวา...ไมนานอยางที่คิดหรอก แลววันนี้มันก็เกินลิมิตแลวดวย ทําอะไรไวอยาคิดวาพี่จะปลอยผานไปงายๆ นะ


ถาไมสั่งสอนซะบาง คงไมเขาใจสินะวาควรจะทําตัวยังไง”

“.....ทําตัวเปนกระสอบทรายละมั้ง”

“ทําตัวเปนเมียที่ดีจะเหมาะกวานะ ไหนๆ ก็ยืนเถียงคลองขนาดนี้ กลับไปก็คงไมเปนอะไรแลวมั้ง”มันลุกขึ้นยืนจองกลับมา


สีหนาแววตาที่สอไปถึงเรื่องที่มันกําลังพูด ผมรังเกียจมัน....พอๆ กับเริ่มรูสึกรังเกียจรางกายตัวเอง

“ไมนะ!!! ผมไมยอม ถาคุณบังคับผมอีกผมจะฆาตัวตาย คนของคุณก็มีตั้งเยอะแยะ ทําไมไมไปยุงกับเขาละ”

“พายก็เปนคนของพี่เหมือนกัน”
“ไมใช!! ผมไมไดเปนของคุณ นุตางหากที่เปนของคุณ และถาคุณสํานึกไดก็ควรเลิกยุงกับผมไดแลว”ผมตะโกนใสหนา
พรอมชี้นิ้วไปยังกําแพงคั่นหองของผมกับนุ

“ถาเรื่องของนุมันสรางปญหาใหนักละก็ จะเลิกตอนนี้เลยก็ไดนะ”มันไมพูดเปลา หยิบโทรศัพทขึ้นมาเตรียมกดโทรออก


ดวย

“อยานะ!!”ผมรีบเอื้อมมือไปแยงโทรศัพทมาถือไว โลงใจที่เบอรตรงหนายังไมกดโทรออก

“.....จะเอายังไง”

“ผมตางหากที่ควรถามจะคุณจะเอายังไงกับผมอีก แคนี้ผมก็ไมมีหนาไปคุยกับนุแลว”

“ก็จะทําใหคุยกันงายขึ้นไง”มันเคยเขาใจอะไรงายๆ เหมือนคนอื่นบางมั้ย ปญหามันควรจบโดยการที่มันเลิกยุงกับผม แลว


จะคบกับนุตอหรือไม ก็ตองไมใชเพราะผม

“คุณมันบา เคยเขาใจความรูสึกคนอื่นบางมั้ย หรือทุกอยางมันเปนเพียงเรื่องสนุกสําหรับคุณเทานั้น ใครจะเปนจะตาย


ยังไงเคยสนใจบางมั้ย คงไมสินะ เพราะคุณไมเคยสนใจใคร รวมทั้งไมเคยมีใครสนใจคุณดวย...ใชมั้ย!!”

“............”ไมมีเสียงพูดอะไรกลับมา ผมก็ไมคิดจะพูดอะไร ไดแตยืนหอบหายใจหลังจากระเบิดอารมณ สายตาที่จองมอง


ผมอยางไมรูความหมาย แตผมก็ไมยอมหลบตา ยังคงยืนจองตาระหวางที่เรายืนเงียบ

“รีบเขียนใหเสร็จแลวตามไปที่รถ ของพวกนี้จะใหคนอื่นมาขนวันหลัง”มันพูดจบก็หยิบกระเปาเสื้อผาสองใบบนเตียงเดิน
ออกจากหอง ผมยืนมองตามแผนหลังแบบงงๆ นึกวาจะพูดอะไรกลับมา แตก็เปลา...ใหมันตะคอกหรือดากลับมาผมจะ
รูสึกดีกวานี้นะ ถึงผมจะเกลียดมันแคไหน แต...ผมก็ไมเคยดาใครแรงแบบนี้ ยิ่งมาเงียบใส...ก็อดรูสึกผิดไมได

หลังจากเขียนจดหมายเล็กๆ ไปสอดใตประตูหองนุ ผมก็กลับมานั่งที่รถ ตลอดทางกลับหองมีแตความเงียบ วันนีท้ ั้งวันผม


นั่งรถกับคนใบถึงสองครั้ง...อึดอัดพิกล

กลับมาถึงหอง มันก็แยกเขาไปหมกตัวอยูในหองทํางาน ผมจัดเสื้อผาไปแขวนในตูเสื้อผามันบางสวน ที่เหลือก็ยัดใส


กระเปาไวเหมือนเดิม เหลือบมองไปเห็นเสื้อผาชุดใหมที่เพิ่งกลับมาจากการสงซักและแขวนอยูในตู ผมหยิบเสื้อโปโลสีฟา
ออนมาทาบตัวแลวมองกระจก มัน...พอดีตัวผมจริงๆ และนั่นหมายความวา...เสื้อผาพวกนี้เปนขนาดของผมทั้งหมด มันใส
ไมไดแนๆ ยอมรับครับวาเสื้อผาพวกนี้ดูดีและนาใสทุกตัว แต....ก็อยางที่บอก ของๆ มันไมวาอะไร ผมก็ไมอยากแตะ

ผมนอนดูทีวีที่ไมมีรายการอะไรนาสนใจเทาไหร หากแตมันเงียบเกินกวาจะนั่งอยูเฉยๆ เจาของหองก็ยังไมโผลออกมาให


เห็นอีกตั้งแตเขาไป ผมเริ่มคิดหนักวา...ตัวเองพูดเกินไปหรือเปลา...บางทีคนเราอาจจะไมมีใครเลวรายโดยไมมีเหตุผล
หากแตเพราะเขาอาจจะมีปมในใจ หรือมีปญหาในวัยเด็กก็ได แลวถาเปนแบบนั้นจริงๆ...ผม...จะสามารถใหอภัยมัน
สําหรับเรื่องที่ผานมา....ไดมั้ย

“นั่งเหมออะไร เรียกตั้งนานไมไดยินรึไง”มันเดินออกมานั่งขางผมเมื่อไหรก็ไมรู รูตัวอีกทีหนาก็หางจากผมไมกี่คืบ

“ตกใจหมด อยูดีๆ ก็ยื่นหนามา”ผมผงะถอยไปนิดหนอย กอนจะลุกหนีไปนั่งโซฟาอีกตัว

“มัวแตใจลอยไปถึงใครอยูละ”

“.....ประสาท”

“โทรไปสั่งขาวขึ้นมากินซะ เบอรจดอยูตรงฝาตูเย็น”

“ไมเปนไร เดี๋ยวลงไปหาอะไรกินขางลางก็ได”

“โทรไปสั่งขึ้นมา แลวสั่งขาวผัดกุงใหดวย”มันออกมาจากหองเพราะหิวสินะ ไมยักรูวาคนบาก็หิวเปน มันวางเงินทิ้งไวหนึ่ง


รอย แลวก็เดินกลับเขาหองทํางานไป ผมเดินไปที่ตูเย็น ฝาตูเย็นมีเบอรโทรศัพทมากมาย สวนใหญจะเปนรานอาหาร
ประเภทตางๆ ผมโทรไปสั่งขาวผัดมาสองจาน เพื่อประหยัดเวลาในการทํา ไมนานพนักงานก็เดินขึ้นมาสง คราวนี้ผมไม
ตองไปเคาะเรียก สงสัยจะไดยินเสียงกริ่ง มันเลยเดินออกมานั่งรอที่โซฟา ผมวางจานลงตรงหนามันพรอมเงินทอนเฉพาะ
สวนของมัน

“อะไร”

“ตังคทอนไง”

“ไมตอง”มันมองเงินทอนขางจานแลวเลื่อนมาตรงหนาผม

“ผมก็ไมเอาเหมือนกัน”ผมไมสนใจ เดินไปนั่งโซฟาตัวถัดจากมัน แลวลงมือกินขาว มันก็นั่งกินไปดูทีวีไป ระหวางเราไมมี


คําพูดอะไรที่เอยออกมาอีก และเงิน...ก็ยังวางอยูที่เดิม จนกระทั่งมันกินเสร็จแลวเดินกลับเขาหอง ผมมองเงินทอนอยาง
หนักใจ รูวาเงินแคนี้อาจจะเปนแคเศษเงิน แตถึงบาทเดียวผมก็ไมอยากไดจากมัน กระปุกพลาสติกใบเล็กบนตูเก็บจานถูก
หยิบมาใชแทนกระปุกออมสินชั่วคราว อยางนอยมันจะไดเห็นวาผมไมไดเอาไป และเงินก็ไมไดถูกวางทิ้งไวเหมือนไมมีคา

วันนี้ถึงแมผมจะใชชีวิตอยูกับมันในหองสองคนทั้งวัน แตก็เหมือนตางคนตางอยู ทุกอยางมันเงียบสงบเกินไป....จนผม


กังวล การที่มันตามผมไปคอนโดทิวไดนั่นก็นากลัวพอแลว แต...มันก็ไมไดทําอะไร ถึงแมวันนี้ผมจะวาอะไรมันไปรุนแรงแค
ไหน.....มันก็ไมโตตอบกลับมา ผมหยิบหมอนผาหมออกมานอนบนโซฟา.....มันก็ไมขัด.....อาการนิ่งสงบแบบนี้...ชวนให
ประสาทเสียมากกวาเมื่อกอนเสียอีก

ขอสงสัยตางๆ ที่นอนกลัดกลุมเมื่อคืนจางหายไป จากที่คิดวา...มันอาจจะปรับปรุงตัว หรือคิดไดวา...ทํากับผมมากเกินไป


ทุกสิ่งทุกอยางที่ผมพยายามคิดในแงดีถูกมันตอกย้ําวา...คนอยางมันไมมีดีจริงๆ รุงเชามันอาสาแกมบังคับที่จะไปสงผม
เหมือนเคย เวลาเรียนไมไดถูกเอยถาม เพราะมันเช็คจากเว็บไซตของคณะแลวปริ๊นทออกมาแปะไวหนาตูเสื้อผา จากที่เคย
เอาตัวรอดโดยการพุงออกนอกรถมันทันทีที่รถจอดก็ไมสามารถทําไดเพราะมือที่ล็อคไวแนนยิ่งกวาคีม

“จะทําอะไร ถึงแลวก็รีบๆ ปลอยผมสิ”ผมพยายามแกะมือออกโดยไมโวยวายใหคนขางนอกผิดสังเกต

“ปลอยก็ได”มันปลอยจริงๆ ดวยครับ แตทันทีที่ปลอยจากมือผม มันก็เปดประตูรถออกไป ผมรีบลุกออกจากรถแลววิ่งหนี


ทันที แตวิ่งไปไดไมกี่กาวมันก็ตามมารั้งแขนผมไวทัน

“คุณจะทําอะไร”ผมพยายามกดเสียงต่ําพอๆ กับขมอารมณตัวเอง

“ก็ถาใหมาเรียนแลวมีปญหามากนัก...ลาออกซะเลยดีกวามั้ง”มันบีบขอศอกผมเบาๆ เพื่อใหผมอยูนิ่งๆ

“..มะ..ไมนะ”ไมรูวาผมพูดคํานั้นออกไปไดไง รูเพียงแตวา...ผมไมอยากลาออกจริงๆ ถึงจะเคยกลาประชดมัน แต....ผม


อยากเรียนสูงๆ จะเอาปริญญาใหแมไปอวดคนอื่นๆ

“งั้นก็วางายๆ แคจะไปสงที่หองเรียนเทานั้นละ”มันดันขอศอกใหผมเดินนํา แตผมขืนตัวเอาไว

“ไมไดหรอก วันนี้ผมไมไปที่อื่นเหมือนเมื่อวานอีกแลว ผมขอรองละ คุณกลับไปเถอะ เลิกเรียนแลวผมจะรีบกลับ หรือจะให


โทรบอกคุณ ใหคุณมารับก็ได จะเอายังไงก็ได ขอรองละ....อยา...อยาทํากับผมแบบนี้”ผมพูด...พูดสิ่งที่ตัวเองไมคิด
อยากจะพูด ความออนแอของตัวเอง ผม...ยังไมพรอม หากทิวมาเจอละ จะใหผมบอกวาไง ในเมื่อทิวก็รูวามันเปนแฟนนุ
คําโกหกที่ผมเพิ่งบอกไปเมื่อวานละ แลว...มันจะพูดอะไรกับทิว มันจะทําอะไร.....กับเพื่อนคนสําคัญของผม

“อาวพาย จะเขาเรียนแลวนะ มายืนทําอะไรตรงนี้”เสียงเรียกจากดานหลัง....เสียงของคนที่ผมไมอยากพบมากที่สุดตอนนี้


....ไมทันแลวใชมั้ย

ตอนที่ 25

ผมคอยๆ หันไปมองคนที่สงเสียงทัก สีหนาที่ตกใจจนแยกไมออกวาระหวางคนทักกับคนถูกทัก ใครจะตกใจมากกวากัน


เขาคงทักผมโดยไมสังเกตุสินะวาผมไมไดยืนอยูลําพัง
“…..ผมขอรองละ...จะทําอะไรก็ยอมแลว อยา...ทํารายผมดวยวิธีนี้เลย”ผมหันกลับมาพูดเบาๆ ใหไดยินกันเพียงสองคน
ขอศอกยังคงถูกจับไวแนน

“พาย!”เสียงทิวดังขึ้นพรอมฝเทาที่เรงเดินเขามาจนเกือบถึงตัวผม ผมแทบไมอยากหันไปมอง อยากวิ่งหนีเสียใหรูแลวรูรอด


แตคงไมทัน ทิวมาถึงตัวผมพรอมแรงกระชากที่ขอศอกอีกขางจนตัวผมปลิวไปปะทะอกทิวทั้งตัวโดยไมมีแรงยื้อยุดจากมือ
ที่จับผมไวกอนหนา

“...ทิว..ปลอยพายกอน คนมองเต็มแลว”ผมยกมือยันหนาอกทิวเบาๆ จากตอนแรกที่ยังไมคอยมีคนมอง ตอนนี้ใครผานไป


ผานมาก็มองกันหมดเลย เพื่อนรวมหองบางคนที่ยังไมขึ้นเรียนก็จองเหมือนอยากมีสวนรวมเสียอยางนั้น

“ก็พายทําอะไรอยูละ ทําไมถึงมากับเขาได เขาเปนแฟนนุไมใชเหรอ”ทิวนี่ก็จําแมนและตรงเหลือเกิน จะถามผมออมๆ ไมได


เลยใชมั้ย

“เออ...คือ...”บอกตรงๆ วาคิดอะไรไมออก ไมรูวาควรจะพูดวาไง จะโกหกหรือพูดความจริง อะไรจะเลวรายกวา

“เมื่อเชาเห็นนุบอกวาเขาไมสบาย ผมเลยใหติดรถมา”เสียงทุมๆ ดานหลังพูดแทรกกอนที่ผมจะไดพูดอะไรออกไป ผมหัน


กลับไปมองคนที่พูดจบแลวเดินขึ้นรถขับออกไป คําอธิบายสั้นๆ ที่ชวยเหลือผมมากในเวลานี้

“พายยังไมดีขึ้นอีกเหรอ หนาซีดจริงๆ ดวย”

“อะ..อืม เวียนหัวนิดหนอยนะ”

“เฮอ....ทิวก็ตกใจหมด เห็นยืนใกลจนแทบจะกอดกันอยูแลว ดีนะไมตอยกอนแลวคอยถาม”ทิวปดผมชื้นเหงื่อดานหนา


ออกให สีหนายิ้มแยมอยางโลงอก แตผม...ทั้งงง ทั้งหนักใจ มันโกหกทําไม....หรือวาเพราะผมพูดวา...จะยอมทุกอยาง

เดินเขามาในหองเรียน เพื่อนๆ บางคนก็ถามวาผมหายไปไหนมาหลายวัน ผมยิ้มแหงๆ แทนคําตอบ ไมอยากโกหกบอยๆ


รูสึกวากรรมจะตามทันเร็วเหลือเกิน ทิวบอกวาถึงไมมาเรียนแตก็ฝากใหคนอื่นเช็คชื่อใหอยูแลว ไมตองหวงวาเวลาเรียนจะ
ไมพอ หลังจากเรียนเสร็จทิวก็พาผมออกไปกินขาวแถวๆ หนามหาฯลัย

“เออใช พายยังไมบอกเบอรใหมกับทิวเลยนะ”ทิวหยิบโทรศัพทขึ้นมาเตรียมกด อยาวาแตทิวไมรูเลย ตัวผมเองยังไมรูเบอร


ที่ถูกยัดเยียดใหเลย
“อืม...เดี๋ยวพายยิงไปแลวกัน”ผมหยิบโทรศัพทขึ้นมากดเบอรทิวแลวโทรออก หลังจากนั้นเราก็นั่งคุยกันเรื่องทั่วๆ ไป
สวนมากจะเปนทิวพูดและเปนฝายถามผมมากกวา ไมวาจะเรื่องงานใหม เรื่องที่บาน เรื่องสุขภาพผม เรียกวา...โกหกจน
จําไมไดแลววาโกหกอะไรไปบาง เพิ่งรูซึ้งนี่แหละวาการโกหก....มันยากกวาพูดความจริง

การเรียนชวงบายผานไปดวยดี ผมไมตองตอบหรือพูดอะไรกับทิว เพราะทิวนั่งฟุบหลับไปกับโตะ โดยมีผมนั่งฟงอาจารย


สอนอยางตั้งใจ เลิกเรียนทิวอาสาจะไปสงผมที่หอ แตผมคานโดยอางวาจะไปซื้อของใชที่หางกอนกลับ ทิวเองก็มีธุระเลย
ไมขอตามไปดวย แตจอดสงผมที่ปายรถเมลหนามหาฯลัยแทน

ผมหยิบโทรศัพทขึ้นมาดูรายชื่อที่บันทึกไว ไมรูวาจะโทรไปเบอรไหนดี สุดทายผมเลยกดเบอรที่เคยใชโทรเขามา รออยูนาน


จนคิดจะกดวางก็มีเสียงคนพูดแทรกขึ้นมา

“สวัสดีครับ”

“เออ....ใครครับ”ผมคุนๆ เสียง แตคิดวาไมนาจะใชคนที่ผมกําลังโทรหา

“ผมอั๋นครับ วาแตตองการพูดกับละใครครับ”ชื่อเขาคุนๆ เหมือนเปนเพื่อนในกลุมมัน แลวเบอรที่ผมกดโทรออกมันก็เขียน


วา Office T. แสดงวาเขาก็ทํางานที่เดียวกันเหรอ

“เออ....ขอสาย..คุณตั้มครับ”นับวานี่เปนครั้งแรกที่ผมเรียกชื่อมัน...ครั้งแรกจริงๆ แมแตความคิดผมยังไมอยากจะคิดถึงชื่อ
มันเลย

“จะใหบอกวาใครโทรมาครับ”

“....พายครับ”

“ออ...เด็กไอตั้มนี่เอง วาไงครับ โทรหามันทําไม คิดถึงมันเหรอ”พอไดยินชื่อผม น้ําเสียงสุภาพก็เริ่มเปลี่ยนไปพรอมๆ กับ


คําพูดที่สอถึงนิสัย

“บอกเขาดวยวาผมเลิกเรียนแลว กําลังจะกลับ แคนี้แหละครับ”ผมรีบพูดธุระแลววางสาย ไมอยากฟงคําพูดทํานองนั้นอีก


ผมเริ่มจําทางไปคอนโดมันไดเลยพอจะนั่งรถเมลไปถูก แตความคิดที่ขึ้นรถเมลตองยกเลิกไปเมื่อมันโทรกลับมาบอกใหผม
นั่งรออยูปายรถเมล เพราะมันกําลังออกมา

รถยนตคันหรูที่ไมใชคันเดิมที่ผมเคยถูกบังคับใหนั่งบอยๆ จอดเทียบฟุตบาท เบาะขางคนขับถูกจับจองดวยผูชายคนที่


รับสาย ผมเปดประตูหลังกาวขึ้นไปนั่งเงียบ ไมคิดจะถามวาจะไปไหน หรือทักทายใคร
“นี่เพื่อนพี่ ชื่ออั๋น”มันพูดพรอมมองผมผานกระจก สวนผม...ก็แคมองมันกลับไป โดยไมคิดจะเอยทักทาย

“นองพายเรียนคณะอะไรเหรอครับ”คนที่เพิ่งไดรับการแนะนําตัว เอี้ยวตัวมาถามผมที่เบาะหลัง

“.............”

“ผูใหญถามก็หัดตอบบางนะ”นึกแลววาถาผมเงียบ มันจะตองพูดวาอะไรผมสักอยาง แต...เอาเถอะ อยางนอยเมื่อเชามันก็


โกหกแทนผม จะยอมฝนใจตัวเองพูดคุยกับพวกมันหนอยแลวกัน

“เรียนเศรษฐศาสตร”

“นาปวดหัวตาย วันๆ คงมีแตตัวเลข เรียนไปไดไงวะ”เขาฟงคําตอบผมแลวหันไปพูดกับคนขับ

“ไมใชมึงนี่จะไดโงเลขจนเกือบเรียนไมจบนะ”

“เออวะ แลวนี่ตกลงจะไปกินอะไร ที่ไหน ขอรานฟงเพลงสบายๆ นะ ไมอยากแดนซ แตอยากกินเหลา”

“ไปรานเดิมที่เคยไปอาทิตยที่แลวนะ จําไดมั้ย”

“รานที่กูบอกวาสาวๆ สวยใชมั้ยวะ ดีๆ”

“อืม”

ผมนั่งฟงคําสนทนาของมันสองคนโดยไมมีสวนรวม ใจจริงอยากคานวาใหผมกลับไปตมมามากินที่หอจะดีกวา ใสชุด


นักศึกษาแบบนี้มันไมคอยเหมาะเลย

รานที่มันพามาทําใหความกังวลเรื่องชุดลดลง เพราะลูกคาเกินครึ่งใสชุดนักศึกษาทั้งนั้น ผมกาวลงมายืนขางรถพรอม


กระเปาเปเพื่อเตรียมตัวกลับ ไมอยากเขาไปนั่งในรานจริงๆ

“ผมกลับกอนนะ”

“มาถึงแลวจะกลับทําไม”มันชะงักเทาที่กําลังจะเดินเขาไป แลวหันมาถามผม

“ก็เห็นอยูวาผมยังใสชุดนักศึกษาอยู จะใหเขาไปนั่งในรานเหลาไดไง”ผมบอกถึงเหตุผล แตเพื่อนมันคงไมสนใจ


“ไมเห็นเปนไรเลยนี่นอง ในรานเขาก็ใสกันเยอะแยะ”

“ก็ไมเห็นวาผมจะตองทําตามในเรื่องไมดีเลยนี่”

“มีเสื้ออยูหลังรถ เดี๋ยวเอาไปเปลี่ยนในหองน้ําแลวกัน หรือจะเปลี่ยนในรถ”มันพูดพรอมเดินไปเปดทายรถแลวหยิบถุงเสื้อ


ออกมาใสมือผมสามสี่ถุง เสื้อใหมๆ ทั้งนั้น ยังไมไดแกะปายราคาออกเลย

“.....เปลี่ยนในรถ”ผมเลือกที่จะกลับเขาไปนั่งเปลี่ยนเสื้อในรถ เพราะไมอยากเดินเขารานในชุดนี้จริงๆ เสื้อยืดสีฟาออน


สกรีนลายถูกสวมแทนเสื้อนักศึกษา กางเกงไมมีปญหาเพราะผมใสยีนสอยูแลว เปดประตูออกมานอกรถแลวก็เดินรั้งทาย
เขารานพรอมๆ สองคนนั้น พอเลือกโตะที่จะนั่งได ผมก็ถูกบังคับใหนั่งขางมัน อาหารมากมายถูกยกมาเสิรฟ หลังจากสั่งไม
นาน บรรยากาศของรานนี้คลายๆ รานของทิว แตรานนี้เนนการดื่มมากกวาทานอาหาร

“เด็กมึงใสเสื้อแบบนี้แลวนารักดีวะ ถากูชอบผูชายคงแยงมึงจีบแลว”คําพูดของเพื่อนมันทําใหผมตองกมมองตัวเอง วาผม


แตงแปลกกวาเดิมตรงไหน ความจริงมันก็แคเสื้อยืดคอวีธรรมดา

“อืม...เดี๋ยวขอไปโทรถามพวกนั้นกอนนะวามันถึงไหนแลว”

“เอาดิ”พอไดรับคําตอบ มันก็ลุกออกไปโทรดานนอกที่เสียงเงียบกวา ผมไดแตนั่งกินอาหารตรงหนา สลับกับมอง


บรรยากาศรอบๆ แลวก็ตองไปสะดุดตากับ...คนที่ไมควรจะเห็น....จะเรียกวาบังเอิญหรือโชคชะตา หรืออะไรก็ตาม....ผม...
อยากหายตัวไปจากตรงนี้จัง แต..คงไมทันแลว เพราะอีกฝายก็หันมาเห็นพอดี รอยยิ้มบนใบหนาที่แสดงความแปลกใจมา
พรอมกับการกาวเดินที่เขามาใกลเรื่อยๆ

“เพื่อนนองเหรอ”เขาคงมองตามสายตาผม แลวเห็นคนที่กําลังเดินตรงมาพรอมแกวน้ําในมือ มันเดินเพื่อทักทายผมแนๆ

“อืม....เดี๋ยวผมไปเขาหองน้ํากอนนะ”ผมรีบลุกไปหากอนที่มันจะเดินมาถึงโตะ กึ่งลากกึ่งจูงไปทางหองน้ําดานหลัง

“เฮยๆๆ อะไรๆ ลากมาทําไมเนี่ย”เสียงโวยวายดังขึ้นตลอดทาง แตก็ขัดขืนการกระทําของผม

“เออ...เปลา จะใหมาเปนเพื่อนเขาหองน้ําหนอย แลวมาอยูนี่ไดไง ไมทํางานเหรอ”พอเดินเขามาในหองน้ํา ผมก็หยุดแลว


หันไปทักทาย

“โหไรวะ ไมเจอกันไมเทาไหร ลืมแลวเหรอวาวันนี้วันหยุด”

“เออจริงดวย ลืมไปเลย แลวมากินอะไรไกลถึงนี่ละตอ”


“มากินเหลาเฉยๆ เปลี่ยนบรรยากาศนิดหนอย แลวพายละมาไดไง ทิวไมมาดวยเหรอ”

“อืม....เพิ่งแยกกันเมื่อเย็น เห็นทิวบอกวามีธุระ นึกวาไปทํางานซะอีก”เรียกวาลืมวันจริงๆ ครับ ดีนะวาทิวบังเอิญไมวาง


จริงๆ ไมงั้นเมื่อเย็นผมคงตองหาขออางเยอะกวานั้นแนๆ

“แลวนั่งอยูกับใครนะ”ตอกับทิวนี่พอกันเลย ถามแตคําถามที่ผมไมอยากตอบทั้งนั้น

“.......เจานายใหมกบั เพื่อนๆ เขานะ”เอาเขาไปผม โกหกไดโกหกดี เริ่มคลองจนคิดไมออกแลวดวยวาวันนี้ผมพูดความจริง


สักกี่ประโยคกัน

“เออ จะเขาหองน้ําก็เขาไปเหอะ ใหถือแกวมายืนใหหองน้ําแลวแปลกๆ วะ ไปกอนนะ แลวเจอกัน ”ตอตบบาผมเบาๆ กอน


จะเดินออกไป ผมก็...ลางหนาเรียกความสดชื่นใหตัวเองนิดหนอย วันนี้เจอแตเรื่องใหตื่นเตนตกใจตลอดเลยสินา ผมเดิน
กลับออกมา มองผานไปทางตอที่สงยิ้มมา ผมก็เลยยิ้มกลับไป กอนจะสูดลมหายใจหนักๆ เขาปอดแลวเดินไปทางโตะ
ตัวเอง

สงสัยวา....เรื่องตื่นเตนในวันนี้ยังคงหนักไมพอ สมาชิกที่เพิ่มขึ้นบนโตะทําใหผมตองหยุดยืนอยูกับที่ พอๆ กับหยุดหายใจ


ไปชั่วขณะ รอยยิ้ม แววตาที่เปยมสุขขณะพูดคุยกับคนอื่นๆ หายไป แลวแทนดวยใบหนาแหงความสงสัยกอนเผยรอยยิ้ม
สงมาใหผมอีกรอบ

“พาย! ไมคิดเลยนะวานุจะเจอพายที่นี่”

ตอนที่ 26

ผมยืนคางหางจากโตะไมกี่กาว สายตาทุกคูตรงหนาจองมองที่ผมดวยแววตาที่แตกตางกันไป บางคนเฉยๆ บางคนแปลก


ใจ และบางคน......สะใจ

“พายๆ มานี่กอนเลย ยายหอทําไมไมบอกนุกอน ตอนอานจดหมายพายนุตกใจแทบแย มีเรื่องอะไรหรือเปลา”นุกวักมือ


เรียกใหผมเดินไปหา เพราะไมสามารถลุกจากเกาอี้ที่มีคํานั่งประกบทั้งสองขางได แตผม...ไมสามารถกาวเดินไดแมเพียง
กาวเดียว ใจหนึ่งก็คิดวาจะทําอยางไร เหลียวหันไปมองกลุมตอกับเพื่อนเพื่อคิดใชเปนขอแกตัวในการมายืนอยูตรงนี้

“ไมตองหาเรื่องชิ่งเลยนะ มานี่กอนเลยพาย”ยังไมทันจะไดทําอะไร นุก็ลุกขึ้นมาลากผมกลับไปที่โตะ คนที่มาพรอมกันกับ


ผมนั่งอมยิ้มอยางสาแกใจเมื่อเห็นสีหนาลําบากใจของผม ตําแหนงการนั่งถูกสับเปลี่ยนเพื่อใหผมนั่งลงขางๆ นุ แตผมยื้อ
แขนไวไมใหนุฉุดลงไปนั่งไดงายๆ
“เออ..นุ ไวคอยคุยกันวันหลังนะ พาย...จะกลับแลว”

“ไดไงกัน ไมยอมหรอก เดี๋ยวพายก็หนีนุอีก หมูนี้ยิ่งตามตัวยากอยูดวย”

“พายลุกออกจากโตะนานแลว เดี๋ยวเพื่อนเปนหวง ไวคอยคุยกันนะ เดี๋ยวพายโทรหา”ผมพยายามแกะมือนุออก แตนุไม


ยอมปลอย จากที่จับไวมือเดียวก็กลายเปนสองมือ

“ไหน พายนั่งโตะไหน มากับทิวเหรอ”นุพยายามชะเงอมองไปดานหลังเพื่อหาโตะเพื่อนที่ผมอางขึ้นมา

“เออ..เปลา มากับเพื่อนทิวนะ นุปลอยพายกอนนะ เดี๋ยวพายคอยโทรหา”

“จริงๆ นะ”

“จริง ปลอยพายเถอะ”

“งั้นเดี๋ยวนุเดินไปสงที่โตะดีกวา”นุเลื่อนเกาอี้แลวลุกขึ้น ผมก็รีบหันหลังกลับ เตรียมเดินออกไป ถาไมมีเสียง....พูดขึ้นมา

“นั่งลง”ไมตองหันไป ก็รูวา...เสียงใคร....และรูดวยวา...สั่งใคร

“ฮะ..เออ..นุขอเดินไปโตะเพื่อนแปปนึง เดี๋ยวมานะครับ”นุหันไปขออนุญาติมัน สวนผม...อยากจะเดินหนีไปใจจะขาด ถา


ไมติดวานุยังจับมือผมไมปลอยละก็ ผมวิ่งออกไปนอกรานแลว

“จะไปไหนก็ไปสิ พี่พูดกับพายตางหาก”

“...เออ...พี่ตั้ม....หมายความวาไงครับ”

“พาย...กลับมานั่งที่เดิมซะ”คําสั่งครั้งที่สองดังและชัดกวาครั้งแรก ผมไมรูวานุมองผมยังไงเพราะยังหันหลังใหอยู รูแตเพียง


วา ขอบตาผมรอนผาว เหมือนมีกอนแข็งๆ จุกอยูที่คอ มือที่กระชับขอมือผมเลื่อนหลุดลงชาๆ จนกระทั่งเปนอิสระ

“...หมาย...หมายความวาไง”น้ําเสียงสั่นเครือทางดานหลัง คําถาม...ไมรูวา...กําลังถามใคร แตที่รูคือ...มันไมมีคําตอบที่


เขายินดีจะฟงแนๆ

“มึงจะทําอะไรไอตั้ม”พี่นัทรองถาม กึ่งหามไมใหมันทําอะไรมากกวานี้ แตคนอยางมัน...เคยฟงใครที่ไหน

“เสือกอะไรดวย กูคุยกับเมียกู”
“พี่....พี่ตั้ม...หมายถึงใคร”คําถามใหมดังขึ้นอีกครั้ง ทั้งๆ ที่คําถามเดิมยังไมไดรับการตอบ

“......พาย”เสียงชื่อผมที่ออกจากปากมันชัดเจน....เปนครั้งแรกที่รูสึกเกลียดชื่อตัวเองจนไมอยากไดยิน

“อะ..อะไร พี่ตั้ม...หมายความวาไง นุไมเขาใจ พาย......เปนเพื่อนนุ”ถอยคําสุดทายของนุชวยคลายความอึดอัดในลําคอ


กอนแข็งๆ ที่รูสึกกลืนไมลงเลือนหายไป....เมื่อน้ําตา...หยดลงไมขาดสาย

“ก็หมายความอยางที่พูด อยาทําเปนตีโพยตีพายไปเลยนา นุก็รูอยูวาเราคบกันแบบไหน เรื่องงานหรือเงินก็ไมตองหวง พี่


ยังโอนเขาใหทุกเดือน ไมปลอยใหเราลําบากหรอก พายเขาใจกวางพอที่จะใหพี่ชวยเหลือนุตอไป เพราะนุเปนเพื่อนสนิท
เขา นาปลื้มใจแทนนะ หาไมไดงายๆ หรอกเมียหลวงที่ใจกวางแบบนี้นะ”คําพูดเสียดสี คําที่มีแตการดูถูกดูแคลน ไมเหลือ
อีกแลว....สิ่งที่ผมพยายามปกปองมาตลอด มิตรภาพที่เคยมี....เพือ่ น...ที่ผมไวใจ.....และ....ไวใจผม

“...พะ..พาย”

“อยามัวแตยืนนิ่งอยูสิ เรายืนขวางที่นั่งพายเขาอยูไมรูรึไง มาทีหลังไมรูจักดูที่ดูทางบางเลยนะ”เสียงคนพูดกลั้วหัวเราะ


พรอมๆ กลุมเพื่อนอยางสนุกสนาน สมองมึนงงพอๆ กับความรูสึกบนใบหนาที่ชาจนแทบไมมีความรูสึก คําพูดที่ดูถูกผม
นั่นไมเทาไหร แตคําที่เขาดูถูกและถากถางนุตางหากที่ทนไมได ผมหันหนากลับมาเพื่อจะพานุออกไปจากตรงนี้ ใบหนาที่มี
รอยยิ้มใหผมเมื่อครูหายไป ริมฝปากสั่นระริกอยางพยายามอดกลั้น น้ําตาไหลอาบขางแกม แตไมมีคําพูดอะไรออกมา ผม
เอื้อมมือไปจับขอมือนุแตก็ถูกสะบัดออก ฝามือเล็กๆ กระทบผิวหนาโดยไมทันตั้งตัว เสียงรอบขางเงียบหายไป ผม...
อยากจะเอยปากขอโทษ ทั้งๆ ที่รูตัววาไมผิด แตคนที่อยากใหรับฟงกลับวิ่งหนีออกไปดานนอกโดยไมฟงเสียงเรียก

กวาจะวิ่งตามมาควาตัวนุเอาไวไดก็เกือบจะพนบริเวณจอดรถของรานไปแลว นุรองไหโดยไมพูดอะไรสักคํา ไมฟงเสียงผม


ที่พยายามปลอบหาม ฝามือที่กระทบผิวหนาซ้ําจนรูสึกถึงรสคาวเลือด ตอใหตบตีผมเทาไหรก็ไมรูสึกอะไร เพราะคนทํา....
เจ็บมากกวา

“นุ...นุฟงพายกอน มันไมใชอยางที่นุคิดนะ”ผมรั้งแขนทั้งสองขางพยายามใหหยุดนิ่ง ไมสนวาฝามือที่เปนอิสระจะฟาดลง


สวนไหน ขอแคคนตรงหนายังยืนอยูและยอมฟงผมเทานั้น

“ไมฟง...ฮืออ...ทําไมพาย...ทําไม..ฮึก....พายก็มีทิวอยูแลวนี.่ ...ทําไมละพาย....ทําไมตองแยงพี่ตั้มไปดวย....ทําไม!!”

“ไมใชนะนุ มันไมใชอยางที่มันพูด ไมใช นุเชื่อพายนะ”

“พายจะโกหกอะไรเพื่อนอีกเหรอ โกหกบอยๆ มันบาปนะ”เสียงจากดานหลังยังคงเจือความรูสนุกที่ไดเห็นเหตุการณที่


เกิดขึ้นเพราะตนเอง....สําหรับมัน...คงเห็นทุกอยางเปนเรื่องสนุกสินะ
“หุบปากนะ!!!.....นุ...นุเชื่อพายนะ มันไมใชอยางที่มันพูด มันโกหก นุอยาไปฟงนะ ใหพายอธิบายใหฟงกอน”ผมหันไป
ตวาดมันกอนจะหันกลับมาละล่ําละลักปลอบคนตรงหนา

“โกหก!!!”เสียงกรีดรองพรอมกับฝามือที่งางขึ้นเตรียมฟาดลงบนใบหนาอีกครั้ง หากไมไดอีกมือหนึ่งควาไว รอยบนหนาคง


มีมากขึ้นกวาเดิม แตถารูลวงหนาผมคงยินดียื่นหนาใหนุตบ ดีกวาใหมันตบหนานุกลับไป

“อยายุงกับพายนะนุ พี่เตือนเธอไวกอน”

“คุณนั่นแหละ! อยามายุงกับผม ทํารายนุทําไม!!”ผมผลักอกเขาออกไป แลวหันมาดูรอยนิ้วบนแกมขางซาย รอยนิ้วมือ


เดนชัดเพราะคนตบไมผอนแรง ผมเช็ดเลือดที่มุมปากเบาๆ โดยที่เจาตัวไมปดหนี นุยืนยิ่งมองขามไหลผมไปเพื่อมองคนที่
เพิ่งทํารายเขา

“นุ..เจ็บมากมั้ย ไมเปนไรนะ โอย!!”โดยไมทนั ตั้งตัว นุก็ผลักผมเต็มแรงจนหงายหลังไปกองกับพื้น

“นุ!!”เสียงตวาดพรอมกับมือที่ขยําคอเสื้อจนยับ

“อยา!!”ผมรีบรองหามกอนมือที่กําหมัดไวจะกระทบใบหนาที่บอบช้ําเมื่อครู

“ทําไม!! มันดีกวานุตรงไหนพี่ถึงหลงมันขนาดนี้ ที่ผานมาพี่ก็รูวานุไมไดทําเพื่อเงิน แตเพราะนุรักพี่จริงๆ ทําไมพี่ทํากับนุ


แบบนี้ ทําไม!!”

“ถามตัวเองกอนเถอะนุ วาเธอดีกวาเขาตรงไหน อยาใหพี่ตองพูดพฤติกรรมต่ําๆ ของเธอออกมาเลยนะ แคที่รับรูมาก็ทุเรศ


เต็มทน”มือที่ขยําคอเสื้อคลายออกแลวผลักคนตรงหนาออกไปเหมือนกับไมอยากสัมผัส ไมอยากแตะตอง

“ใชส!ิ นุมันเลว แตมันก็ไมไดดีกวานุนักหรอก เจาของก็มีเปนตัวเปนตนแลว พี่เองก็เคยเจอ ชอบกินเดนชาวบานเขาหรือไง


ไมรูเหรอวาเดี๋ยวนี้มันสําสอนขนาดไหน หองก็ไมกลับ ไมรูไปนอนกับใครมากี่คนแลว พี่เปนคนที่เทาไหรจะนับไหวเหรอ
ไหนเคยบอกวาไมชอบใชของรวมกับคนอื่นไง”

“ที่พูดนะมันตัวเธอตางหาก อยาคิดวาไมรูนะวาลับหลังพี่เธอไปกับลูกคารวยๆ มาแลวกี่คน แมแตไอนัทก็ยังไมเวน ที่ใหเงิน


ใชทุกวันนี้มันไมพอสินะ ถึงไดหาจ็อบเสริมอยูตลอดเวลา แลวขอบอกใหรูดวยนะ วาพายเขาไปอยูกับพี่ แลวก็อยูมานาน
แลวดวย”

“ไมจริง!!!”
“จริง!! และรูเอาไวอีกอยางนะ วาเธอมันก็แคของแกขัดระหวางที่พายไมอยูก็แคนั้นแหละ”

“พอแลว!!! หยุดพูดนะ! คุณจะไหนก็ไป อยามายุงกับผม อยามายุงกับนุ”ผมลุกขึ้นรองหามคนที่ตะโกนใสนุ ผลักอกเขาให


ถอยหางออกไป ยิ่งไกลเทาไหรยิ่งดี

“ขนาดนี้แลวยังมาตีสองหนาเปนเพื่อนแสนดีอยูอีกเหรอ เพราะแกนั่นแหละเรื่องมันถึงเปนแบบนี้ เพราะแก!!”นุกระชาก


ไหลผมใหหันไปหาพรอมกับเขยาแขนทั้งสองขาง นิ้วมือที่จับอยูจิกลงบนเนื้อจนรูสึกแสบ รอยขวนลากยาวเพราะคนทํา
กรีดนิ้วลงตามชวงแขนและเตรียมยอนขึ้นมาบนใบหนา

“ปลอยพายนะนุ! พี่บอกใหปลอย”คนพูดแทรกเขามาระหวางผมกับนุแลวบิดแขนออกอยางแรง

“โอย!!”นุรองเสียงดังพรอมๆ กับผมที่เปนอิสระ......เขาพูดถูก.....เรื่องที่เกิดขึ้น......มันเปนเพราะความซวยของผมเอง......
ผมเปนคนที่รายนุ

“พาย!! จะไปไหน!”

ผมวิ่งออกมานอกรานโดยไมสนใจเสียงอะไรอีก.....ตอนนี้...ไมสามารถรับรูอะไรไดอีกแลว เมื่อครูมันเหมือนกับอยูในความ
ฝน คนที่ทําราย...คนที่วากลาวผมดวยถอยคํารุนแรง....คือคนที่ผมเรียกวาเพื่อน.....คือคนที่ผมพยายามปกปองแมกระทั่ง
เมื่อครู. .....คําพูดทุกคําที่ออกจากปากคนที่ผมเรียกวาเพื่อนรัก....คําพูดที่เอยออกมาดวยความผิดหวังและเสียใจ แต...มัน
ก็ทําใหผมเจ็บ ถึงแมจะรูวาเขาพูดเพื่อระบายความโกรธ แต....มันเจ็บ...แววตาที่มองมาดวยความโกรธแคนและผิดหวัง....
นี่ส.ิ ...เจ็บยิ่งกวาคําพูดเสียอีก.....เพราะผม...ผมทัง้ ใหเพื่อนรักของผมผิดหวัง...ทําใหเขาเสียใจ.....ทั้งหมดเปนเพราะผมเอง

“พาย!!!”

......นาหัวเราะ....แตกลับหัวเราะไมออก....ทั้งๆ ที่คิดวาคงไมมีอะไรใหตองตกใจ....หรือเสียใจไปมากกวานี้ ไมมีอะไรทําให


เสียใจเพิ่มไดอีก แต...เสียงของคนที่ตะโกนเรียกจากรถคันที่เพิ่งจอดเทียบฟุตบาตกลับ....ทําใหจิตใจที่คิดวาเจ็บจนถึงขีด
สุด....เจ็บมากกวาเดิมไดอีกเทาตัว…..เจ็บ...จนอยากหยุดหายใจ

“ไปทําอะไรมา ทําไมหนาตาเปนแบบนี้”ฝามืออุนแนบลงบนรอยแผลบนใบหนาทันทีที่เดินมาถึงตัวผม

“ปลอยมือออกจากพายซะ”ขณะที่ผมยังนิ่งเฉย คนที่วิ่งตามมาถึงก็เดินมายืนเคียงขางพรอมปดมือของทิวออก

“คุณ! เกี่ยวอะไรดวย หรือวา.....คุณเปนโทรนัดผมมาที่นี่”

“ใช...แตรูสึกจะมาสายไปหนอยนะ”
ตอนที่ 27

คุณ....เคยนอนฝนรายซ้ําๆ มั้ย....เมื่อวิ่งหนีความนากลัวที่เกิดขึ้นในฝน วิ่งจนสุดชีวิตแลวรองเรียกใหคนชวย หากแตไม


สามารถหนีพน....สิ่งนั้นยังตามหลอกหลอนทุกฝกาว อิสระภาพถูกพรากเมื่อวิ่งหนีจนสุดทางและ...หนีไมพน เสียงกรีดรอง
ดังโหยหวนอยางนาเวทนา....แลวคุณก็สะดุงตื่นขึ้นมาบนเตียงนอน....เหงื่อไหลชะโลมกาย....พลันนึกขึ้นไดวาแคฝน…แต
คุณรูดีวา...ไมใชครั้งแรกที่ฝนราย....รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหนาเพียงแคเสี้ยววินาทีก็จางหาย....เพราะตระหนักดีวา....
ไมใชครั้งแรก.....และก็จะไมใชครั้งสุดทาย......ถึงอยางนั้น....คุณก็ไมสามารถชินกับมันอยางที่พูดเอาไวได

“มึงทําอะไรพาย!!”ทิวตวาดถามเสียงดัง พรอมสาวเทากาวประชิดคนที่ยืนนิ่ง แสดงสีหนาไมพอใจคนที่ยืนตรงหนา

"พูดจาไมมีสัมมาคาระวะเลยนะมึง ไอหนาออนเอย"

"กูถามวามึงทําอะไรพาย"

"หึหึ...วาไงละครับนองพาย ใหพี่ตอบเพื่อนนองเกี่ยวกับความสัมพันธของเราวาอะไรดีครับ"

".........."ถึงแมจะยืนอยูใกลคนทั้งสองที่ตั้งทาจะกระโจนใสกันเต็มที แต...ผมจะตอบอะไรได พูดอะไรจะดีที่สุด คําพูดที่


เจตนาใหคนฟงเขาใจผิด คิดไปไดไกลกวาสิ่งที่เปนจริง.....เพิ่งสูญเสียเพื่อนสนิทไปหนึ่งคน แลวนี่.......มันตองการใหผมทํา
อะไรงั้นเหรอ คิดเหรอวา....ผมจะ...พูดอะไรออกไปได

"พาย....มันทําอะไรพาย บอกทิวมา"เมื่อไมไดรับคําตอบอะไร ทิวก็หันมากระชากเสียงถามพรอมกับมือที่เกาะกุมหัวไหลทั้ง


สองขาง

"ออกหางจากมันซะ"คําสั่ง....ที่รูแกใจวาสั่งใคร....การที่ผมไมพูดอะไรเมื่อกี.้ ...อาจกลายเปนการยอมรับคําพูดที่คลุมเครือ
......แลวถาผมนิ่งเฉยเสียละ....จะกลายเปนการตอตานคําสั่งนี้หรือเปลา

"มึงมีสิทธิ์อะไรมาสั่งพาย"

"มึงอยากรูจริงๆ นะเหรอ"

"พอ!! พอแลว......ผมขอรอง......."ใช...ผมขอรอง....อีกครั้ง.....ไมรูวาขออะไร....แลวจะไดรับการตอบรับมั้ย....ไมรูวา....จะ
เอาอะไรไปแลกอีกแลว.....หากแต.....เหลือเพื่อนรักของผมไวสักคนไดมั้ย....ใชวาไมรูวาคนที่คอยปกปองมาตลอดรูสึก
อยางไรกับผม และเพราะรู. ...ถึงไดไมกลาแตะตอง...ไมกลาทํารายจิตใจ.....ไมกลา....ที่จะทําใหผิดหวัง....ไมอยาก....รับ
ความผิดหวัง....สายตาที่ไดรับรูความอัปยศครั้งกอนที่เกิดขึ้น....สายตาคูนั้นที่แสดงออกถึงความผิดหวัง...กอนจะ
แปรเปลี่ยนเปนความสงสาร.....ยังคงชัดเจน......หากเลาทุกอยางแลวความสัมพันธระหวางเราไมเหมือนเดิม...ผมคง...ทน
ไมได.....

"พาย...พายเปนอะไร ไมตองกลัวมันนะ เดี๋ยวทิวจัดการมันให"

"ทิว.....พายไมเปนไร.....นี่ไมใชฝมือเขาหรอก.......พาย....มีเรื่องกับ...คนอื่นนะ"แลวผมก็ตองเลี่ยงอีกครั้ง ถึงไมใชคําโกหก
แตก็ไมใชความจริงทั้งหมด....ขอปกปองไวกอน....ขอรักษาความรูสึกของเพื่อนคนนี้ไวกอน

"ใคร....ใครทําใหพายเปนแบบนี้"

"กูเห็นคนที่ชื่อนุเปนคนทํา ตอนนี้ยังรองไหอยูดานในอยูเลย"เสียงตอบคําถามแทนผมของตอทําใหตองหันไปมอง ไมรูวามา


ยืนอยูตั้งแตเมื่อไหร และไมใชคนเดียว ไมใชพวกเดียว หากแต....แบงฝกฝายกันอยางชัดเจน

"มึงวาไงนะไอตอ นุเนี่ยนะ"น้ําเสียงไมแนใจเพราะทิวรูดีถึงความสัมพันธที่ดีระหวางผมกับเพื่อนขางหอง

"เออ ก็....รักสามเศราอะไรประมาณนั้น ที่เหลือมึงถามเอาเองแลวกัน"คนตอบน้ําเสียงไมมั่นคงนัก เพราะ....ไมอยาก


อธิบายอะไรใหมากความ เพราะ.....ไมรับรูเรื่องจริงๆ ทั้งหมด

"ออ...ที่แทก็มีสายนี่เอง มินาเห็นยืนดูอยูตั้งนาน รูเรื่องแลวก็ปลอยคนของกูไดแลว"แรงเกี่ยวที่เอวพรอมรั้งตัวเขามาเบาๆ


ของคนพูด ไมไดทําใหคนที่จับไหลไวผอนแรงลง

"ใครคนของมึง พายไมใชคนของมึง"

"ใชไมใชก็ถามเจาตัวเขาเองสิ จริงมั้ยพาย......ออ...ความจริง.....ลืมธุระสําคัญไปเสียสนิทเลย ขอตัวสักครูนะ"ออมแขน


แกรงที่กระชับเอวหายไปพรอมกับคนที่เดินหันหลังหางออกไป นาแปลกที่เวลาแบบนี้....มันยังคงมีน้ําเสียงเหมือน
สนุกสนานไดอยู….สนุก.....ความทุกขของผม....เปนเรื่องสนุกของมันอีกแลว

ไมรูวาเพราะอะไร แตผมมั่นใจวาคนที่แยกตัวออกไปโทรศัพทนั้น....ตองทําอะไรสักอยาง...ที่ไมเกิดผลดีกับผมแนๆ แมสี


หนาดูยิ้มแยม...แตภายในใจผมกลับเตนจนเกือบผิดจังหวะ....เสียงรองถามเรื่องราวจากคนที่ยังจับไหลไมชวยดึงสติผม
กลับมาจากภาพตรงหนา.....อะไรสักอยาง....กําลังจะเลวรายลง

“.....มีคนอยากคุยดวย......คุยนานๆ ก็ไดนะ...พี่ไมวา”น้ําเสียงทุมต่ําทอดลงชาๆ อยางคนอารมณดี ผมกําโทรศัพทที่ถูกยัด


เยียดใหถือดวยความกังวลใจ.....เบอรที่ปรากฏบนหนาจอคุนเสียยิ่งกวาคุน...หากสิ่งเลวรายตางๆ ที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดทํา
ใหจิตใจผมบอบช้ําจนปางตาย.....สิ่งที่อยูในมือผมตอนนี.้ ...เหมือนกับการที่เขาเอากรรไกรเล็กๆ มาตัดขั้วหัวใจผมทิ้งไป
งายๆ....คําถามที่ถามตัวเองหลายตอหลายครั้งวา...ยังเจ็บกวานี้ไดอีกมั้ย.....ยังเสียใจมากกวานี้ไดอีกหรือเปลา......ครั้งที่
เปนครั้งสุดทายที่ตอบไดตรงและชัดเจนที่สุด.......มันจะไมเจ็บไปกวานี้อีกแลว......เพราะ....ผมกําลังจะตาย

“.......ครับ”ผมพยายามควบคุมน้ําเสียงตัวเองไมใหสั่น ควบคุมแรงบนขอนิ้วและฝามือใหกําโทรศัพทแนบหูไวรอฟงเสียง
ปลายสาย.....นึกอยากให....ไมมีเสียงใดๆ ตอบกลับมา

“พายเหรอลูก......เปนไงบาง...ไมคอยติดตอแมเลย”ความผิดอะไรที่กอไว....ถึงทําใหความปราถนาไมเปนจริง....เสียงนุม
สบายหูที่ตอบกลับมาทําใหน้ําตาที่คลอหนวยไหลเปนสาย

“......แม......”

“.....เออ.....พาย.....ไมตองตกใจเสียใจไปนะ......แมเขาใจวามันเกิดอะไรขึ้นกับหนู........แมไมโกรธหนูเลยที่ไมเคยบอก
เรื่องที่เกิดขึ้นกับแม.....แมเขาใจวาหนูคงลําบากใจที่จะพูด.......”

“....อะไร....เหรอครับ”

“......คุณตั้มเขา.....เลาเรื่องที่ทํากับลูกแมหมดแลว........เขามายอมรับผิดกับแมเอง......แมเองก็ไมเขาใจความสัมพันธแบบ
นี้นักหรอก แตแมคิดวาเขาใจความรูสึกเขากับลูกนะ........อยางนอยตอนนี้แมก็ดีใจที่เขาเขามาคอยดูแลรับผิดชอบลูกแม
ไมไดทิ้งขวางไปไหน ถึงจะเปนผูชายก็เถอะ”

“.........แมครับ...มัน”ผมไมเขาใจ...คําวา....ยอมรับผิด....คําวา....ดูแล......รับผิดชอบ.....หมายความวาอะไร

“แมก็รอวันนี้ตั้งนาน เห็นคุณตั้มเขาขอเวลาปรับความเขาใจกับหนูกอน แมก็เลยไดแตรอฟงขาวลูกจากเขา ในเมื่อเขาใจ


กันก็ดีแลว แมอยูทางนี้ก็สบายใจ งานที่เขาเสนอใหก็สบายกวาเมื่อกอน อากาศที่นี่ก็ดี…”

“งานอะไรครับ แมอยูที่ไหน”ผมรีบถามทั้งๆ ที่แมยังพูดไมจบ...อะไร...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผม

“อาว ตายจริงคุณตั้มเขายังไมไดบอกหนูเหรอวาแมมาทํางานที่รีสอรทเขา ทําไดเกือบเดือนแลวละ”

“....วาไงนะครับ แม.....ทํางานกับเขาเหรอ”

“ใชจะ นี่ก็อาศัยอยูบานเขา คอยดูแลบานใหเพราะเขาไมคอยมาพัก บานหลังกวางอยูกันไมกี่คน แลวเมื่อไหรหนูจะมา


เยี่ยมแมละลูก บอกใหคุณเขาพามาเร็วๆ นะ แมคิดถึง”

“.....เดี๋ยวไวผมโทรหาวันหลังนะครับ”
“จะ......อยาคิดมากนะลูก มีอะไรก็คอยๆ คุยกัน”เสียงปลายสายเงียบไปพรอมๆ กับโทรศัพทที่ถูกเขวี้ยงกลับไปปะทะอก
เจาของจนหลนลงพื้นพรอมแตกกระจาย

“คุณทําอยางนี้ไดไง!!! ทํากับผมไดไง ผมไปทําอะไรให ทําไม ทําไม!!!”ผมโถมตัวเขาใสคนที่ยืนเปนเปานิ่งใหทุบตีโดยไม


ตอบโต....หมดแลว....หมดแลวจริงๆ…ไมเหลืออะไรอีกแลว.....ทุกอยาง.....มันทําไปเพื่ออะไร.....มันไปพูดอะไรกับแม แม
ถึงไดพูดออกมาแบบนั้น....แลวตอนนี้แมอยูที่ไหน....ปลอดภัยดีหรือเปลา....หากผมไมตามใจมัน ไมทําตามคําสั่ง....แมผม
จะยังอยูดีมั้ย.....ไมเหลือแลว......ชีวิตผม.....ไมเหลืออะไรอีกแลว

“มึงทําอะไรพาย!!!”แรงยื้อยุดขอมือที่ถูกจับไวถูกบีบแนนจากคนสองคน...ที่ไมสนใจวาผมจะเจ็บหรือไม....ใช...ไมเจ็บแลว
.....นี่มันไมใชชีวิตผม...ไมใชรางกายผม.....เพราะงั้นผมถึงไมเจ็บสินะ

“ก็แคใหแมลูกเขาคุยกัน......เรื่องของครอบครัววะ มึงไมเกี่ยว”

"เอามือมึงออกจากตัวพายเดี๋ยวนี้นะ"

"ทําไม มึงมีปญหาอะไร มากกวานี้กูก็ทํามาแลว"

"ไอสัตว!!"เสียงดาทอที่มาพรอมกําปนหนักๆ กระแทกปลายคางจนคนที่จับตัวผมอยูแทบหงายหลัง หากแตก็สามารถสวน


ฝาเทากลับไปที่หนาทองไดในจังหวะไลเลี่ยกัน ความชุลมุนเกิดขึ้นเมื่อไมไดมีเพียงหนึ่งคูที่อยูในเหตุการณ....เพื่อนทั้งสอง
ฝายที่ลอมรอบอยูตางกรูเขาใสกันเหมือนเปนเรื่องของตัวเองทั้งๆ ที่....ไมรูเรื่องราวทั้งหมด.....ไมไดมีความรูสึกรวม....
หากแตเพราะคําวา’เพื่อน’เลยทําใหลืมคําวาเจ็บ

"พี่นัท....พาพายกลับที"ผมเดินมาหาคนที่ไมไดเขาไปมีสวนรวม และยืนดูอยูรอบนอกเพื่อหามปราม

"แตวา...."คําคานที่เหมือนจะปฏิเสธทําใหผมหันหลังใหเตรียมเดินจากไป

"เดี๋ยวพาย! พี่พากลับก็ได หองไอตั้มใชมั้ย"แรงรั้งทีข่ อมือทําใหหยุดเดิน แตไมหันกลับไปมองเหตุการณชุลมุนดานหลัง ผม


ยืนรออยูที่เดิมเพื่อใหคนที่รับปากขับรถออกมารับ สถานที่ๆ ควรกลับ...ไมม.ี ...มีเพียงสถานที่ๆ...ตองกลับ

ระหวางทางไมมีบทสนทนาใดๆ หรือหากมี ก็เปนเพียงแคการพูดอยูฝายเดียวของคนขับ จวบจนกระทั่งถึงหองพักผมก็


แยกตัวเขาหองนอนเก็บตัวเงียบโดยไมสนวา คนที่ขอรองใหมาสงไดกลับไปหรือยัง ไมสนวา...ผมรังเกียจหองนี้มากขนาด
ไหน เพราะตอนนี้...มันเปนที่เดียวที่จะใหผมอยูเงียบๆ คนเดียวได บรรยากาศในหองนาอึดอัดเพราะไมไดเปด
เครื่องปรับอากาศ หากแต....ความรูสึกรอนหนาวอันเปนพื้นฐานของความรูสึกทางรางกายกลับไมรับรู ผมนอนนิ่งอยูบน
เตียง ขดตัวจนหัวเขาแนบชิดยอดอก น้ําตาไหลจนรูสึกถึงความเปยกชื้นบนปลอกหมอน....แค...น้ําตาไหล....ใชวาผม
รองไห....ใชวาผมเสียใจ....มันมากกวานั้น....มากกวา.....จนไมคิดวา....จะสามารถรูสึกอะไรไดอีกตอไป....มันเปนใคร
ทําไมถึงทํารายผมไดขนาดนี้ รางกายที่คิดวาเปนของผม กลับไมสามารถบังคับไดตามใจนึก รางกายที่ขัดกับจิตใจมาเนิ่น
นานจนถึงวันที่มันตองแยกออกจากกัน.....ไมวามันมีเหตุผลอะไรใหกับการกระทําที่เกิดขึ้น.....ไมวามีเหตุผลอะไรในการ
บังคับใหผมทําตามอยางที่มันตองการ.....ตอใหคิดจนปวดหัว คิดเขาขางตัวเองอยางคนโงที่รูวาไมมีทางเปนจริง...แตรูไว
เถอะ.....อะไรที่มันตองการ...จะไมมีวันสมหวัง

ความเย็นชุมชื้นจากเนื้อผานุมสัมผัสบริเวณใบหนาเบาๆ ปลุกใหผมรูสึกตัวจากการเผลอหลับใหล ใบหนาที่กมลงบรรจง


ทําความสะอาดรอยแผลบนหนาของผมดูเรียบเฉย น้ําหนักมือที่กดลงมุมปากหนักจนเกือบเผลอรองครางดวยความเจ็บ
แตก็ตองเงียบไวพรอมกับปดเปลือกตา...ไมคิดจะถามหาเหตุผล...ไมคิดจะตอวาดาทอ....ไมคิดจะหลบเลี่ยงหลีกหนี.....
อยากจะทําอะไรกับผม....ก็ตามใจ....หากรางกายนี้ไมสามารถทําอยางใจคิด ชีวิตไมสามารถดําเนินไปอยางที่ตองการ...
ของสําคัญ คนสําคัญ..ไมสามารถปกปองไวได.....จะทําอะไรกับผมอีก....ตามสบาย.....แต...ถาวันใดผมรูวาอะไรคือสิ่งที่
มันตองการ อะไรคือสิ่งที่มันหวงแหน....อะไรคือสิ่งสําคัญ........วันนั้น......ผมจะทําลายลงดวยมือคูนี้ของผมเอง.....ขอให
มันเจ็บ...ยิ่งกวาที่ผมเคยเจ็บ.....ขอใหมันสูญเสีย...ยิ่งกวาที่ผมเคยสูญเสีย......ขอใหมันทุกขทรมานกวาผม....รอยเทาพัน
เทา........ขออยาใหคําวา ’ความสุข’ กาวเขามาใหชีวิตมันตลอดไป

ตอน....ถือศีล...กินเจ

อากาศยามเชาชางสดชื่น หยาดน้ําคางจากเมื่อคืนยังเกาะอยูตามยอดไม ดอกไมสีสดขางหนาตางชูชอรับแสงแดด อวด


กลีบดอกสีสวยจนอดกมลงไปสูดกลิ่นหอมออนๆ ไมได

“ทําอะไรนะพาย”เสียงขัดจังหวะอารมณสุนทรียดังขึ้นเบื้องหลัง ทําเอาบรรยาศหวานๆ ที่ผมกําลังสรางขึ้นแตกสลายไป


หมด

“ดมดอกไม”

“แลวชะโงกหนาอะไรออกไปขนาดนั้น เดี๋ยวก็ลื่นตกลงไปหรอก”

“ไมไดซุมซามขนาดนั้นซะหนอย”

“เถียงอีกๆ ขาวปลาไมกินรึไง มาเร็วๆ พี่หิวแลว”เขาไมพูดเปลา เดินมาควาเอวผมแลวกึ่งลากกึ่งแบกไปจนถึงโตะอาหาร

“ตื่นสายพายไมเห็นบนเลย ทีอยางนี้ทํามาเรง”ผมก็บนๆ ไปงั้นแหละ ยังไงก็นั่งบนหนาอาหารแลว

“ขี้บนนะเรา แลววันนี้จะออกไปไหน เห็นเตรียมรถไว”


“ไปตลาด”

“ไปซื้ออะไรบอยๆ วันกอนเพิ่งไปเองนี่ ทําไมไมซื้อทีเดียวใหมันเยอะๆ จะไดไมตองไปบอย”

“โหย ขี้บน จะไปซื้อของไวทําอาหารเจ คราวกอนเขายังมีขายไมคอยเยอะเลยไมไดซื้อ”

“อะไร จะกินเจเหรอ พี่ไมกินนะบอกไวกอน กินไปคนเดียว”

“ก็ไมไดวาอะไร แตพายไมทํากับขาวเผื่อนะ ไปกินที่ครัวใหญเอง”

“ไดไงละ กินที่บานนี่แหละ ทําใหดวย เอากับขาวอยางสองอยางก็พอ”

“ไมไดก็คือไมได พายถือศีลดวย พายไมกินเนื้อสัตวแลวจะใหพายทํากับขาวใหพี่ไดไง”

“อาวเฮย อยางนี้ก็แยดิ งั้นก็ไมตองกินหรอก เรื่องมาก”

“ไม จะกิน พี่นั่นแหละอยาเรื่องมาก ไปกินที่ครัวใหญเอง อยาใหเขามาสงที่บานนะ พายถือ แลวชวงนี้พายจะไปนอนหอง


เล็กดวย”

“เฮย”

“ฮง เฮย อะไรละ ไมสนละ”ไมสนละครับ ใครกินไมกินไมรู แตผมจะกินเจ ไปคุยกับพวกพี่ๆ ในรีสอรทเขาก็บอกวากิน


เหมือนกัน แถวนี้หารานอาหารเจยาก ตองเขาไปในเมืองหรือไมก็ในตลาด ผมเลยชวนใหทําแลวเอามากินดวยกัน จะไดมี
หลายชนิด กะวาจะเปดครัวทําอาหารเจแจกเหมือนกันนะเนี่ย เอาไวปรึกษาพี่ๆ พรุงนี้ดีกวา

ผมใหลุงคนขับพามาจอดที่ตลาดแลวตรงไปรานที่ผมเคยสั่งเครื่องปรุงอาหารเอาไว รานนี้มีโปรตีนเกษตรหลายรูปแบบ
คลายกับเนื้อสัตวจริงๆ เลยนะครับ ผมมาคุยกับคุณปาคนขายไวคราวกอนวาอยากทํา แต...กลัวทําแลวไมอรอย ปาเขา
เลยบอกวาจะเอาหนังสือทําอาหารเจมาใหผม ใจดีสุดๆ สมกับที่ผมมาอุดหนุนบอยๆ ผมกะวาจะซื้อไปไวเยอะๆ กินเลย
เทศกาลไปเลย ไดบุญแลวก็สุขภาพดี แคปละครั้งจะเปนอะไรไป

หลังจากกลับมาก็เตรียมนําของเก็บเขาตู แต...พอเปดตูเย็นเทานั้นละครับ มีทั้งเบียรเอย ไวนเอย เต็มตูไปหมด แลวจะให


เอาของที่จะทําอาหารเจแชรวมกับพวกนี้นะนะ...ไมไหวๆ ผมก็เลยจัดการ...ยายออกไปวางไวที่อนื่

“พาย.....พาย....”เสียงเรียกดังลั่นบาน ทําเอาผมที่กําลังนั่งอานหนังสืออยูหลังบานสะดุงเลยครับ
“มีอะไร ตกใจหมด”

“เบียรพี่หายไปไหนหมด เราแอบกินเหรอ”

“บานะสิ พายยายไปเก็บไวในตูเก็บแกวตางหาก”

“อาว แลวไปไวนั่นมันจะเย็นมั้ย”

“ก็ไมเย็นไง”

“ก็ใชไง แลวไปใสไวนั่นทําไม พี่ชอบกินแบบเย็นๆ เปนวุนก็รูอยู”

“เอานา ไมวุนสักพักไมเปนไรหรอก อยากเย็นก็ใสน้ําแข็งสิ”

“แลวยายที่ทําไม ไวนอีก”

“ก็พายไมอยากใหมันปนกับอาหารเจนี่”

“แคนี้เนี่ยนะ มันไมไดผสมกันซะหนอย เรื่องมากจริง”

“ก็พายถือนี่”

“ฮึ่ยยย.....เรื่องมากวะ รูตัวรึเปลา คนอื่นเขาไมเห็นถือเลย”

“ก็ชางคนอื่น ไมมีอะไรแลวใชมั้ย พายจะไปอานหนังสือตอ แลวอยายายพวกนั้นกลับไปในใสตูเย็นนะ ไมงั้นนะ....”

“ไมงั้นอะไรๆ”

“ไมงั้น....พายจะไปนอนบานใหญ”

“.........จะไปทําอะไรก็ไปเลยไป”คําพูดเหมือนขับไล แต....ไลเพราะสูไมไดก็ทําใหผมเดินอมยิ้มกลับไปนั่งอานหนังสือ
อยางมีความสุข
ผมเริ่มกินเจมาไดเปนวันที่สาม นุงขาวหมขาวดวย รูสึกวาตัวเองสะอาดบริสุทธิ์มากๆ เหมือนไดชําระจิตใจรางกายจริงๆ
แตจะรูสึกดีกวานี้ ถาไมมีเสียงคอยรบกวนเชาเย็นเรื่องเดิมๆ

วันแรก....
“ไหนจะกินเจ แลวนี่อะไร แกงจืดลูกชิ้นมันเจเหรอ”

“อยามามั่ว นี่มันโปรตีนเกษตร ไมรูจักละสิ เชยยยยยย”

“ไหนชิมดิ.๊ ........โหยย....รสอะไรของพายเนี่ย จืดสนิท ไมเห็นอรอยเลย พี่ไมกินดวยหรอกนะ”

“ไมกินก็อยากินดิ โนน ไปกินที่ครัวใหญเลย”

“.......ไปอยูแลว ไมตองไลหรอก”

วันที่สอง….
“อะไร วันนี้ก็ใสชุดขาวอีกแลวเหรอ”

“ก็พายถือศีลดวยนี่”

“แลวนั่นอะไรอีกละ”

“น้ําผักรวม ชิมมั้ย พายปนเองเลยนะ”

“สีสรรโคตรนากลัว เขียวอื๋อแบบนี้ยังกินลงอีก”

ลาสุด เมื่อเชานี้....
“วันนี้จะไปเลี้ยงรับพนักงานใหม ไปดวยกันนะ”

“ไมไป พายถือศีลอยูนะ ใหไปอยูสถานที่แบบนั้นไดไง”

“อาว ไปแตไมตองกินก็ไมไดเหรอ”

“ไมรู แตพายถือ”

“ถือบาถือบออะไรเยอะแยะ เต็มมือไปหมดแลวมั้ง”
นั่นละ....คํากลาวสุดทายกอนจะออกจากบานไปกินขาวที่ครัวใหญ ผมวาจะไดบุญนอยลงเพราะตองตอลอตอเถียงกับ
เขาทุกวันนี่แหละ แต...ดีหนอยที่วันนี้เขาไมอยู ไปกินเลี้ยงกับไปกินเหลา มันก็ความหมายเดียวกัน ฉะนั้นคืนนี้ผมก็จะได
ถือโอกาสไปนั่งสมาธิ สวดมนตเงียบๆ ในหองเล็กตามลําพังไดสักที

ผมเชื่อแลวครับวาการถือศีลกินเจทําใหจิตใจและรางกายปลอดโปรง ยิ่งไดนั่งสมาธิกอนนอนยิ่งรูสึกสบายตัว เบาสบาย


เหมือนลอยอยูในอากาศ.....ลอย.....ลอยอยู

“เฮย!! พี่จะทําอะไร อุมผมออกมาจากหองทําไม”นึกแลววาทําไมรูสึกเหมือนกําลังลอย แตกลับอึดอัดขยับตัวไมได

“ก็จะพาไปนอนไงครับ”

“ไมเอานะ พายบอกแลวไงวาพายถือศีลอยู ปลอยๆๆๆ”

“ฮื่อออ อยาดิ้นนะ เดี๋ยวก็ตกหรอก”แรงกระชับที่หัวไหลและขอพับพาแนนขึ้น แตก็ไมไดเปลี่ยนทิศทางหรือเดินชาลง

“ไมเลนแบบนี้นะ พายไมอยากผิดศีล”

“ผิดตรงไหนละ มีขอไหนเขาหามผัวเมียนอนดวยกันเหรอ นอนกับผัวตัวเองไมใชผัวคนอื่นจะผิดไดไง”

“ไมรูละ พายถือ”ไมวาเมื่อไหรก็ไมคอยชอบคํานี้เลย แต....ดาไมได เดี๋ยวบาป

“ถือไดถือไป ยังไงพี่ก็อุมมาจนถึงเตียงแลว”ใช...ถึงแลวจริงๆ เพราะเขาพูดจบ หลังผมก็สัมผัสกับเตียงนอนนุมๆ ทันที

“อยานะ ไมงั้นพายหนีไปนอนบานใหญจริงๆ ดวย”

“หนีไป ก็ตามได ไมกลัว”

“ไมเอานะ พายเพิ่งกินเจไดสามวันเอง อีกแคหกวันพี่ก็ทนหนอยดิ ขอแคนี้ไมไดรึไง”

“แคนี้อะไร กอนจะกินเจพี่ไปดูงานที่กรุงเทพฯ พายก็ไมไปกับพี่ รวมๆ แลวมันจะครบอาทิตยแลวนะ พี่ตางหากที่ตอง


บอกวาขอแคนี้ไมไดรึไง”

“ก็แคเกาวันเองอะ ปละเกาวันเอง”ผมบนแกมนอยใจ แตคนที่คลอมดานบนก็ไมไดหยุดวุนวายกับสาบเสื้อหรือขอบ


กางเกงผมเลยสักนิด
“อยากกินตอก็กินไปสิ พี่ไปหามอะไรพายรึไง สามวันนี้ก็ยอมใหแยกหองนอนแลวนะ มีอยางที่ไหนตัวเองสุขกาย แตคน
อื่นเขาทรมานนะ ทําบาปนะ ไมรูรึไง”

“บา ไมเห็นจะเกี่ยว”

“ไมรูละ พี่ถือ”

“อยามาตลก ปลอยพายเลย พายจะกลับหอง รอไปเลยอีกหกวัน นี่เพิ่งสามวัน...เลขสามเนี่ย ดูออกมั้ย”ผมชูนิ้วตาม


จํานวนที่บอกใหดูจนแทบชิดกับหนาผาก

“ออ...สามใชมั้ย ได....เดี๋ยวคืนนี้จัดใหสามยกเลย ชดเชยสามวันที่ผานมาเพราะพายทําบาปพี่สามวัน เดี๋ยวพี่ลางบาป


ให”

“เฮย ไมเกี่ยวกัน”

“เกี่ยวสิ ชวยพี่นะไดบุญเยอะนะ แลวพายอยากกินเจถือศีลอีกกี่วันตามสบายเลย เดี๋ยวพี่ชวยลางบาปใหทุกวัน”

“มายยยยยย”

*************จบ***************

ตอนที่ 28

เสียงเรียกขางหูยังคงถามซ้ําในคําถามเดิม และไดรับความเงียบจากผมแทนคําตอบเชนเคย ไมไดคิดจะตีรวน ไมไดคิดจะ


ยั่วโทสะ เพียงแตไมรูวา....ตองพูดอะไร....มันถึงจะพอใจ

“จะไปเรียนมั้ย ถามหลายรอบแลวนะ สายมากแลวดวย”

“.........”

“ถาไมไปเรียนก็ลุกไปกินขาวจะไดกินยา”
“........”

“แมง...พูดกับคนใบอยูรึเปลาวะกู”

ยังครับ ยังไมจบ นึกวามันจะถอดใจเลิกยุงกับผมที่ยังนอนนิ่งอยูบนเตียง มันเดินออกไปสักพักก็เดินกลับเขามาพรอมเกาอี้


กับชามขาวตม มีซองยาแกอักเสบแถมมาอีกหนึ่งซอง ถึงผมจะนอนเฉยๆ แตไมไดแกลงวาหลับ แค...ไมอยากขยับก็แคนั้น

“.....พาย...ลุกมากินขาวกอนจะไดกินยา แกมบวมไมรูสึกรึไง”มันก็ถามแปลก แกมผม ทําไมผมจะไมรูสึก จะอาปากหรือ


กลืนน้ําลายยังเจ็บเลย รูสึกปากจะแตกดวย

“...........”

“วางไวใหตรงนี้แลวกัน ไวบายๆ เสร็จงานแลวจะกลับ.......อยาออกไปไหนนะ”มาอีกแลวคําสั่งประจําวัน สั่งมาเถอะ ชีวิต


ผมกลายเปนของคุณแลวนี่ สั่งไดตามสบาย ถาใหไปตายตอนนี้ ผมยังยินดีเลย

หลังจากไดยินเสียงปดประตูหองผมก็ลุกขึ้นมาอาบน้ําเปลี่ยนชุด มองหนาตัวเองในกระจกแลวเหมือนมองคนอื่น ใบหนา


บวมแดงเปนริ้วๆ ผมเดินไปหยิบชามขาวตมกับเกาอี้ออกมาไวขางนอก นําขาวตมไปอุนใหมแลวก็มานั่งกินหนาโทรทัศน
หลังจากชิมคําแรกเขาไปก็นึกโทษตัวเองวาไมนาเอาไปอุนจนรอนเลย เพราะมันยิ่งทําใหแสบแผลในปากมากกวาเดิม

อาหารเชาจบไปอยางรวดเร็วเพราะผมฝนกินไดเพียงไมกี่คํา เสียงโทรศัพทมือถือที่ถูกยัดเยียดใหเปนของผมดังขึ้น....ไม
ตองมองก็รูวาใครคือคนที่โทรมา มันดังตอเนื่องหลายครั้งจนผมตองเดินไปเปลี่ยนเปนระบบสั่นเพราะไมกลาที่จะกดตัด
สาย...หรือปดเครื่อง.....ปลายสายที่กําลังพยายามโทรหาเพื่อพูดคุยกับผมคงรอนใจและอึดอัดใจ....นั่นไมตางจากตัวผม
เลย.....ผมเองก็อยากคุยกับทิวนะ.....อยากไดยินเสียง.....แต....ผมยังไมพรอม......ผมกลัวคําถามของทิว....ผมไมรูจะตอบ
วาอะไร......ถาผมบอกทิวกอนหนานี้ ทิวจะชวยผมไดมั้ย ตอนนี้มันสายไปหมดแลวใชมั้ย เพราะผมมัวแตกลัวนั่น กลัวนี่ ถือ
ดีวาตัวเองคงแกปญหาได.....แตตอนนี้ไมไดแลว......แมผมอยูที่ไหน......ถาผมทําอะไรลงไป......แมผมจะเปนอะไรมั้ย.......
คนแบบมันหากอยากทําอะไรกับคนสําคัญของผมขึ้นมา....ผมคงปกปองใครไมได......ไมส.ิ .....ตอนนี้.....ไมมีอะไรเหลือให
ปกปองอีกแลว

“....ย...พาย…..”เสียงเรียกขางหูทําใหตองเงยหนาจากโทรศัพทที่หยุดสั่นไปนานแลว

“.........”

“เออ...กินขาวบางรึยัง”

“.......”
“คือไอตั้มมันใหพี่มารับพายไปหามันขางนอกนะ เดี๋ยวบริษัทขนยายเขาจะเขามายายของในหองนี้ พายออกไปขางนอกกับ
พี่กอนแลวกันนะ”

“........”ผมเดินไปเปลี่ยนชุดเดินนําออกมาจากหองแทนคําตอบ

ระหวางทางคนขับคงอึดอัดจากการที่ผมไมสนทนาตอบพอสมควร พี่นัทขับมาในเสนทางคุนตา เมื่อกอนผมเคยแวะเวียน


มาบอยๆ ผมรูสึกตื่นเตนระคนยินดีที่ไดกลับมาที่นี่อีกครั้ง

“พี่ขอทําธุระที่บริษัทกอน เดี๋ยวพายขึ้นไปรอพี่บนหองกอน สักชั่วโมงพี่จะขึ้นไปหา หยิบจับอะไรในหองไดตามสะดวกเลย


นี่กุญแจ หอง 5021”กุญแจหองถูกยื่นมาใสมือ พี่นัทเดินยอนออกไปหนาคอนโด ผมมองเห็นเขาเขาไปในตึกที่คาดวาจะ
เปนบริษัทอะไรสักอยาง แตตอนนี้ผมขอไปหาคนที่เพิ่งนึกถึงกอนดีกวา แมไมไดมานานแตก็จําหมายเลขหองไดไมเคยลืม

กริ่งหนาหองถูกกดย้ําสองสามครั้ง แลวผมก็ยืนรออยางไมแนใจวา คนที่ตองการพบจะอยูรึไม ไดแตภาวนาใหอยู เพราะ


ตอนนี้....ผมตองการคุยกับใครสักคนที่ไวใจได....และคนๆ นี้เปนหนึ่งในนั้น

“อาว...พาย”

“พี่หนอย...พาย....”ทันทีที่เห็นหนาผมก็ยิ้มออกเปนครั้งแรกของวัน

“....เขามากอนมา พี่ผัดผักบุงคางไวอยูบนเตา เดี๋ยวมันจะไหม”พี่หนอยรีบพูดแลวก็วิ่งกลับเขาไปดานใน ผมอมยิ้มนอยๆ


กับทาทีนั้นกอนจะเดินตามเขาไปแลวปดประตูแทนเจาของหอง

พี่หนอยวุนๆ อยูในครัวแตก็สงเสียงพูดคุยกับผมตลอด ไถถามวากินอะไรมาหรือยัง อยากกินอะไรมั้ย พี่เขาจะทําให ผม


ไมไดตอบอะไร เพราะเทาที่พี่หนอยทําก็สามอยางแลว

ตลอดมื้ออาหารพี่หนอยไมถามถึงเรื่องแผลบนหนาผมสักคํา ผมฟงพี่หนอยเลาเรื่องโนนเรื่องนี้ใหฟง พี่หนอยเพิ่งไปสัมนา


และแวะไปหาพี่นพดวย ชวงนี้กําลังลาพักรอนอยูเลยวาง ไมงั้นผมก็คงไมเจอ หลังจากกินอาหารและผมอาสาลางให
เรียบรอย พี่หนอยพาผมมานั่งบนโซฟานุมๆ ที่คุนเคย

"พี่จะไมถามนะ ถาพายอยากเลาอะไรก็เลามา พี่ไมอยากบังคับ แตพายรูใชมั้ยวาพี่เปนหวงพาย ไมใชในฐานะคนไข แตพี่


คิดกับพายเหมือนนอง"

".....พี่หนอยวา....ถามีคนมาทํารายเรา....ตองทํายังไง...เราถึงจะเขาใจเขาได....."
“แลวทําไมพายถึงอยากเขาใจเขาละ พี่วาปญหามันไมไดอยูที่จะทําความเขาใจกับคนหนึ่งคนยังไงหรอกนะ มันอยูที่
ความรูสึกของเรามากกวา ถาเราคิดวาเขาก็แคคนหนึ่งคน....การจะทําความเขาใจเขา มันก็เหมือนกันการเริ่มหาเพื่อนใหม
ทุกอยางมันจะงาย ถาความรูสึกเราเริ่มที่ศูนย แตถาพายอยากเขาใจคนที่เราใหคะแนนเขาติดลบอยูเนี่ย มันยากสักหนอย
เพราะเราติดลบเขาไปแลว”

“......พายไมไดอยากคิดกับ...เขาในแงบวก พายแคอยากเขาใจ.........บางทีถาพายเขาใจอะไรมากขึ้น พายอาจ....รูสึก


ดีกวาที่เปนอยูตอนนี้”

“เออ....พาย....”พี่หนอยเหมือนชั่งใจวาจะถามผมดีมั้ย แตผมคิดวายังไมพรอมตอบคําถามอะไรทั้งสิ้น

“ไมเปนไรครับพี่หนอย พายรบกวนพี่นานแลว เดี๋ยวพายตองรีบกลับแลวละ”ผมพูดแทรกพรอมลุกขึ้นเตรียมพรอมเดินออก


จากหอง

“....งั้นก็ได พายมีอะไรก็โทรมาคุยกับพี่นะ อยาเก็บไวคนเดียว”

“...เออ...พายขอนามบัตรพี่หนอยอีกไดมั้ย พาย....เปลี่ยนเบอรแลวนะครับ เบอรพี่ก็เลยหายไป”ผมพูดจบพี่หนอยก็เดินไป


หยิบนามบัตรที่เก็บไวในกระเปามายื่นใหผม

ผมออกจากหองพี่หนอยก็รีบตรงไปหองพี่นัท หวังวาเจาของหองจะยังไมกลับมานะ ผมไมอยากใหพวกมันรูวาผมเหลือคน


รูจักอยูอีก กลัวจะไมมีโอกาสกลับมาที่นี่นะครับ

สิ่งที่ผมถามที่หนอยไป ถึงจะถามไมตรงกับความคิดตัวเอง และก็ไดคําตอบที่ไมถูกใจเทาไหร แตก็ใชวาจะไมมีประโยชน


คําพูดของพี่หนอยทําใหผมคิดได....คิดไดเยอะซะดวย...บางที....จิตแพทยก็ชวยเราไดหลายอยางเหมือนกันนะ อยางนอย
การที่ไดเลาอะไรออกไปบางก็ทําใหสงบลงและมีสติมากขึ้น มากพอที่จะตัดสินใจวาตอไปนี.้ ...ผมควรจะทําอะไร

“ขอโทษนะพาย งานมันติดพันนะ เราออกไปกันเลยเถอะ ไอตั้มมันโทรมาตามพี่แลว”พี่นัทเขามาถึงก็วิ่งวุนหยิบของในหอง


แลวก็รีบเดินนําผมออกไป ผมคอนขางแปลกใจกับหองนี้มาก อยางที่รู...พี่นัทแตงงานแลว แตขาวของทุกอยางภายในหอง
มีไมมีรองรอยเครื่องใชแบบผูหญิงเลย มันเหมือนหองชายโสดเสียมากกวา

“เราจะไปไหนกันเหรอครับ”เปนครั้งแรกที่ผมพูดกับพี่นัทในวันนี้ พี่เขาดูจะดีใจอยูเหมือนกัน แตนี่มันแคเริ่มตนในการ


ปรับเปลี่ยนตัวเอง อยางที่บอกไง....ผมคิดไดแลว

“ไปซื้อของกอนมั้ง แลวเดี๋ยวคอยไปกินขาวกัน”ทาทางพี่นัทก็คงถูกมันใชโดยไมไดบอกเหตุผลมาเหมือนกัน คนอยางมันนี่


ไมนาจะมีเพื่อนไดเลยนะ แปลกใจจริงๆ
พี่นัทพาผมมาที่หางสรรพสินคา สงสัยมันคงมาทํางาน เพราะที่หางนี้มีรานซึ่งจะเปนที่ทํางานของผมในอนาคตอันใกล
พี่นัทพาผมไปที่รานเสื้อ มันยืนรออยูดานในอยูแลว เพิ่งมองหนามันชัดๆ ก็ตอนนี้....ทาทางเมื่อวานจะโดนหนักเหมือนกัน

“ไปลองสูทสิ”มันพูดพรอมพยักเพยิดไปทางพนักงานของรานที่ยืนถือเสื้ออยูในมือ

เสื้อที่สั่งตัดทุกอยางลงตัวไมมีปญหา ใสออกมาแลวดูแปลกไปเลยครับ ผมคิดวาถาเรียนจบแลวคงไมเหมาะกับงานที่ตอง


ใสสูทผูกไทดแนๆ มันดูขัดกับตัวผมยังไงไมรู ดูทางการจนนาอึดอัด

หลังจากออกจากรานเสื้อก็ตรงไปรานเฟอรนิเจอร สองคนนั้นก็เลือกๆ โตะ เกาอี้ ตูเอกสารแลวก็อีกสารพัด โดยมีผมเดิน


ตามอยางไรอารมณ จนมาถึงมุมสําหรับของตกแตงบาน

“ชอบตูกับโตะตัวไหนไปเลือกสิ”คําพูดพรอมทาทางที่หันมาทางผมทําใหรูวา...มันกําลังพูดกับผม

“เลือกไปทําไม”ผมพยายามพูดดวยน้ําเสียงเรียบๆ ไมเงียบใสเหมือนเมื่อเชา

“ก็เอาไวใสเสื้อผาพายกับวางคอมฯ ไง ถามแปลกๆ”

“แลวจะเอาไปไวไหน....ผมหมายถึงตูก ับโตะนะ หองคุณมันก็ไมไดใหญพอที่จะเพิ่มของพวกนี้เขาไปแลวนี่”

“เออนะ บอกใหเลือกก็เลือกเถอะ”

“......ที่ถามนะเพราะวาจะชวยประหยัดหรอกนะ ของผมก็ไมจําเปนจะตองแยกกับคุณดวย ถาคุณไมรังเกียจนะนะ จะซื้อก็


ซื้อแคโตะคอมฯ อยางเดียวก็ได”ตอนแรกวาจะเงียบไมพูดอะไร แต....เปลี่ยนใจ....ถาผมไมติดลบใหมัน....อะไรๆ คงงายขึ้น
ใชมั้ย

“........ซื้อตูเสื้อผาไปดวย เลือกที่มันใหญกวาในหองแลวกัน จะเอาสีไหนแบบไหนตามสบาย เดี๋ยวพี่จะไปดูอยางอื่นตรงนั้น


กับไอนัท”

“.....อืม”ผมพยักหนารับแลวก็เดินดูโตะคอมฯ กอน เลือกไมยากหรอกผม ถึงจะเปนเงินคนอื่น แตผมก็เลือกตามอํานาจเงิน


ของตัวเองอยูดี อันไหนถูก...เลือกอันนั้น สวนตูเสื้อผาผมก็เลือกใหญกวาเดิม ที่หองมันจะเปนแบบฝาเลื่อนสองบานใหญๆ
ผมก็เลือกที่คลายๆ กันแตใหญกวาเกือบครึ่ง ที่ทําไปใชวาผมจะหลงในเงินตราของมันนะครับ แตเพราะรูดีแกใจวา...ขัด
ไมได ผมถึงไมพูดอะไรมาก แคขออธิบายเหตุผลและฟงเหตุผลบาง อยางนอย....จะไดเขาใจ
หลังจากมันจายเงินและคุยเรื่องการสงสินคาเรียบรอย พวกเราก็มารวมกันที่รานอาหารญี่ปุนในหาง ที่รานมีพี่อั๋นนั่งรออยู
แลว และก็สั่งอาหารมากินลวงหนาไปบางแลวดวย พนักงานที่คอยบริการมักทําสีหนาแปลกๆ บางคนยิ้ม บางคนสงสัย ก็
ชายสามคนนั่งหนาช้ําปากบวมชัดขนาดนี้จะไมแปลกไดไง

“พายชอบกินอาหารญี่ปุนมั้ย”พี่อั๋นถามผม คงเพราะเห็นผมไมไดสั่งอะไร คอยกินของที่คนอื่นสั่งอยางเดียวดีกวา

“ก็กินบอยอยูครับ แถวๆ มหาฯลัยมีรานถูกๆ อยู เพื่อนชอบพาไปกิน”

“อืม แถวนั้นพี่เคยไปกินเหมือนกัน ปลาสดดี ราคานักศึกษา”พี่อั๋นคงจะชอบอาหารญี่ปุน ดูจากสีหนาที่มีความสุขขนาดนี้ก็


รู

“กินกับเพื่อนคนไหน ผัวเกาคนเมื่อวานนะเหรอ”อารมณสงบๆ ของผมจะพุงปรี๊ดก็เพราะคําพูดแบบนี้ของมันนั่นละ

“อืม....ถาหมายถึงคนที่ตอยจนหนาคุณช้ําๆ แบบนี้ละก็...ใชครับ”ผมทําทานึกสักพักกอนตอบ

“ฮาๆๆๆ เด็กมึงปากดีไมลดละเลยวะ”พี่อั๋นหัวเราะรวนโดยมีพี่นัทแอบหัวเราะเบาๆ อีกคน

“.....อยางอื่นก็ดีวะ”คําพูดสองแงสองงามที่ผมฟงจนชิน และชินพอที่จะกลาตอบโต

“.....ขอบคุณที่ชม แต....คุณ....ยังดีไมพอสําหรับผมนะ…..ไมคอยถึงใจเทาไหร”

ตอนที่ 29

ใชวาผมพูดไปแลวจะเผลอลืมความปลอดภัยของตัวเอง หากแตเปนเพราะไมใสใจแลวตางหาก คําพูดผมอาจทําใหคนฟง


ไมพอใจ แต...มันก็ไมเคยพอใจอะไรอยูแลวนี่

“ฮาๆๆ ไงละมึง เจอเด็กมันสวนเขาให”พี่อั๋นนั่งหัวเราะชอบใจ ในขณะที่คนขางๆ ผมทําหนาไมรูรอนรูหนาว ไมโมโหเหมือน


ที่ผมคาดไว

“ผม อยากรูจังวาพวกคุณอายุแกกวาผมเทาไหร ทําไมชอบหาวาผมเปนเด็ก”ผมสังเกตุหลายครั้งแลวนะวาพวกนี้มักทํา


เหมือนผม เด็กกวามา ทั้งที่ดูๆ ไปแลวทาทางนาจะประมาณยี่สิบหากันทั้งนั้น

“ป นี้พี่ก็จะ 28 แลว สวนสองคนนี้ 27”พี่นัทตอบมาทําเอาผมอึ้งๆ เล็กนอย ไมคิดวา...หนาตาจะออนกวาอายุจริงกันทั้ง


กลุม หรือเปนเพราะผมไมเคยเห็นพวกเขาในตอนทํางาน เลยดูเหมือนเพิ่งจบไมกี่ป การแตงตัวก็ยังวัยรุนกันอยูเลย ไมคิด
วาใกลจะขึ้นเลขสามกันแลว

“อิ่ม กันแลวใชมั้ย”คุยกันอยูดีๆ มันก็พูดแทรกขึ้นแลวก็เรียกพนักงานมาคิดเงิน มื้อนี้มันเลี้ยงครับ สงสัยเลี้ยงปลอบขวัญ


เรื่องเมื่อวานกันละมั้ง

พี่นัทกับพี่อั๋นแยกไป คนละคัน ผมเพิ่งรูวาคันของมันที่ผมเคยนั่งประจําตอนนี้อยูกับพี่อั๋น เห็นพูดวารถเขาอูอยูมันเลย


ใหยืมคันนั้นไปใช แลวมันก็เอาคันนี้ที่เปนรถเกาของมันมาใช ผมเดินไลหลังมันมาเกือบถึงรถ พอไดยินสัญญาณปลดล็อค
ผมก็เดินออมไปเปดประตูเพื่อเขาไปนั่ง แตยังไมทันจะแทรกตัวเขาไปก็ถูกดันจากคนขางหลังจนตัวแนบไปกับประตู และ
แผนหลังแนบไปรางกายของเจาของรถ

“ไมถึงใจงั้นเหรอ”เสียงทุมต่ํากระซิบของคนที่คลอมอยูดานหลังถามเบาๆ ขางหู ผมพยายามดันมือเพื่อใหหลุดออกจากวง


แขนแตก็ไมสําเร็จ

“..... วาไง....เสียงครางที่ไดยินมาหลายครั้งนี่หมายถึงไมถึงใจหรอกเหรอ เห็นรองครางซะลั่นหอง คราวหลังก็บอกกัน


หนอยสิวาใหทํายังไง ทาไหน หรือ....ที่ไหน....จะวาไปตรงนี้ก็ใชไดนะ เงียบแถมโลง.....คงมันสนาดู”ฝามือหนาลากผาน
ชายเสื้อทางดานหลังเขามา ลูบหนาทอง สะโพกกดแนบสนิทจนรูสึกถึงสัดสวนที่แข็งขืนผานเนื้อผาหนา

“อะ..อะไร...อยาบานะ นี่มันลานจอดรถนะ”ผมเหลียวมองรอบขางอยางหวั่นใจ กลัววาจะมีคนมาเห็น หรือมีกลองวงจรปด


สองตําแหนงนี้อยู

“ก็ใชไง...ไมดีรึไง....ตื่นเตนแบบนี้เผื่อจะถึงใจขึ้นมาบาง”

“.........”

“วาไงละ”

“วา ไงอะไร คนอยางคุณมันทําอะไรไดทุกอยางอยูแลวนี่ ความจริงถาอยากใหตื่นเตนทําไมไมทําในหางซะเลยละ คนมัน


เยอะกวาตรงนี้ไมใชหรือไง แถมแอรก็เย็น ไมเหนียวตัวดวย”

“ออ.... แลวก็ไมบอกกอน....ไปสิ”พูดจบมันก็ลากขอมือผมเดินกลับเขาไปในหาง ผมถึงกับอึ้งในความคิดของมัน แตถายิ่ง


ดิ้นรนก็จะยิ่งผิดสังเกตุ แตถาไมหนี....มีหวังไดอับอายกวาที่เปนอยูตอนนี้แน

“จะบาเหรอไง คุณ!!”ผมพยายามไมเดินตามแตมันก็กึ่งดึงกึ่งลากจนมองเห็นประตูทางเขาหางอยูดานหนา
“ทําไม มีปญหาอะไรอีก ก็จะทําในหางอยางที่เสนอมาไง”

“อยามาประชดผมนะ คุณก็รูวาที่ผมพูดหมายความวาไง”

“ออ...รูดวยวาประชด แลวทีพูดประชดคนอื่นไมคิดนี่ไมเห็นจะดาตัวเองบางละ”

“ก็ แลวทีคุณดูถูกผมครั้งแลวครั้งเลานั่นละ ไมคิดบางหรือไงวาผมจะรูสึกยังไง ทั้งตอหนาเพื่อนคุณ ตอหนาคนอื่น คุณยัง


ไมเคยคิดถึงความรูสึกผมเลย”

“..............”มันหยุดอยู หนาประตูแลวก็ปลอยมือออกจากแขนผมกอนจะเดินหันหลังกลับไปที่รถ ปลอยใหผมยืนเควง


หลังจากระเบิดอารมณอยูคนเดียว ทั้งๆ ที่คิดวาพอจะทําใจ ตั้งสติรับมือกับมันได แต....การที่ผมจะเขาใจคนบาแบบนั้นได
นี่ สงสัยผมตองบาตามมันเสียกอนละมั้ง

ผมเดินกลับเขามานั่งในรถที่ สตารทเครื่องรอไว รอยบนหนากับตามแขนยังไมหาย นี่ยังเพิ่มรอยนิ้วมือนี่มันบีบแขนลากผม


ไปเมื่อครูอีก ใจคอดวงผมจะตองโดนทํารายซ้ําๆ ตลอดเลยหรือไง เจ็บจนชาไปทั้งตัวแลวเนี่ย

กลับ มาถึงคอนโดฯก็ตองแปลกใจ ความจริงสงสัยตั้งแตขึ้นลิฟตแลววาทําไมกดชั้นเกือบบนสุด ซึ่งไมใชชนั้ ของหองพักมัน


แตไมอยากบอก อยากเห็นมันหนาแตก แตที่ไหนได พอลิฟตเปดมันก็เดินออกจากลิฟตหนาตาเฉย แถมยังเดินไขกุญแจ
เขาหองริมสุดไปอีก อยาบอกนะวาหองนี้มันก็ซื้อไว จะซื้อทําไมหลายหอง แถมยังอยูคนละชั้นอีก

“ยืนอยูทําไม เขามาสิ”มันเห็นผมไมเดินตามเขาไปก็หันกลับมามอง ผมเดินเขาหองแบบงงๆ

“หองคุณเหรอ”

“อืม....ซื้อใหคนอื่นแลวเขาไมเอา เลยตองอยูเอง”

“........แลวหองนั้นละ ขาวของผมละ อยาบอกนะวาทิ้งไปหมดแลว เสื้อผานะไมเทาไหรหรอก แตหนังสือเรียนผมยังตองใช


นะ”

“จะ โวยวายทําไมวะเนี่ย เขาไปดูในหองโนน ชางเขาขนมาใหหมดแลว รวมทั้งของที่หอเกาพายดวย ตีโพยตีพายอยูได


หนวกหูวะ ยิ่งปวดหัวอยู”มันพูดพรอมยกมือนวดขมับตัวเองเบาๆ

“....ก็แลวทําไมไมรีบบอกละ อยูดีๆ พาเขามายืนหองโลงๆ แบบนี้ก็ตองงงทั้งนั้นละ”

“เดี๋ยวตูเสื้อผาเขาจะสงมาพรุงนี้ค่ําๆ เขาไปดูในหองเองแลวกันวาขาวของอะไรอยูตรงไหน”
“แลว โซฟาละ”ผมอยากจะถามวาแลวที่นอนผมละมากกวา ถึงจะนอนเตียงเดียวกับมันหลายครั้ง แตทุกครั้งก็เพราะเหตุ
จําเปน ตอนนี้อยูในภาวะที่คอนขางปกติ แลวผมก็อยากจะนอนคนเดียวเหมือนเดิม

“เดี๋ยวเขามาสงพรุงนี้พรอมอยางอื่น”

“........ อืม”ใจจริงก็อยากจะถามหรอกนะวาจะใหผมนอนไหน แต...ไมถามก็รูคําตอบ ชางเถอะ เจ็บตัวกันอยูแบบนี้มันคง


ไมบาลุกขึ้นมาทําอะไรผมหรอก

ผม เดินสํารวจภายใน หองแลกซายมือเปนหองทํางานเหมือนเดิมละมั้งครับ คอมพิวเตอรของผมก็วางอยูในหองนี้ดวย แต


ยังไมมีโตะ มันกองไวบนพื้นอยู ใกลๆ กันมีลังหนังสือของผมกับมันอยูสองลัง ผมเดินไปอีกหองที่อยูริมระเบียงใกลกับครัว
เล็กๆ หองชุดนี้ก็คลายๆ กับหองขางลาง เพียงแตสลับมุมกันนิดหนอย ดานในมีเตียงนอนตั้งอยูกลางหองเหมือนเดิม ที่
เปลี่ยนไปคือโทรทัศนที่เคยอยูกลางหองนั่งเลนยายมาอยูในนี้แทน หองนอนตอนนี้ขาดแตตูเสื้อผาครับ และหมายถึงไมมี
เสื้อผาดวย

“นี่คุณ เสื้อผาผมละ”

“ยัง อยูในตูขางลาง ลงไปเอาเฉพาะที่จะใสวันนี้กับพรุงนี้ เอามาเผื่อดวย”มันพูดพรอมยื่นกุญแจหองสงใหผม สวนตัวเองก็


เดินเขาไปในหองทํางาน ผมกลับลงมาที่หองเกาที่มีสภาพอยูไมได มีแตฝุนจากการขนยายทั้งนั้น

หลัง จากเลือกเสื้อผาเสร็จเรียบรอยผมก็กลับขึ้นมายังหองใหม คนที่ใชใหหยิบเสื้อผามาเผื่อนอนแผอยูบนเตียง หนาตาดู


ซีดๆ นิดหนอย มีเหงื่อออกตามไรผมพอใหเดาไดวาไมสบายและคงเปนไขอยู แตวา....ใครสนละ ผมเอาเสื้อผาไปวางไวที่
วางขางๆ ตัวคนนอน แลวก็เอากระเปาสตางคกับโทรศัพทมือถือของผมไปวางไวที่หัวเตียงฝงที่ วางกอนจะออกไปอาบน้ําที่
หองน้ําดานนอก มองดูหนาตัวเองในกระจกแลวก็ยิ่งกลุม ไมอยากขาดเรียนเยอะ แตหนาช้ําออกขนาดนี้ก็ไมกลาไปเรียน
เหมือนกัน

ผมเดินกลับเขามาใน หองนอนเพราะเปนที่เดียวที่สามารถอยูไดเนื่องจากจัดเรียบรอยที่สุด จะไปนั่งในหองทํางานก็...ยังไม


มีคอมพิวเตอรเครื่องไหนเสียบปลั๊กเลยสัก เครื่อง และผมก็ทําเองไมเปน ในหองนอนยังมีโทรทัศนใหดูไดบาง เลือกหนังสือ
สองสามวิชาไวสําหรับนั่งอานเผื่อวาเจาของหองเขาไมอยากให เปดโทรทัศน แต...หนังสือที่เตรียมมาคงไมจําเปน เพราะ
เดินกลับมาเขาโทรทัศนก็ฉายหนังจากเครื่องเลนดีวีดีอยูกอนแลว สวนคนเปด...ก็นอนตะแคงอยูบนเตียงนี่ละ นึกวาจะ
นอนสลบเพราะพิษไขไปแลว ไมนาลุกขึ้นมาเลย

“พรุงนี้จะไปเรียนเหรอ”พอมันปรายตามองมาเห็นผมถือหนังสือไวก็ถามทันที
“..... ยังไมแนใจ แตไมอยากขาด”ผมตอบพรอมเดินไปนั่งบนพื้นพิงกําแพงเพื่อดูหนังเรื่องที่ผม ไมเคยดู แตรูวาเรื่องนี้ดัง
และสนุก ผมพยายามจะเปดหนังสืออานชวงที่ขาดเรียนไป แตสายตากับเตียงนอนที่อยูในระดับเดียวกันทําใหเห็นวา...ใน
มือของคนที่ทํา ทาเหมือนนอนดูหนังอยูมีอะไรบางอยางพลิกไปพลิกมา และ....ก็คุนๆ เหมือนจะเปน...

“.....โทรศัพทผม”

“แลวไง”มาอีกแลวคํานี้ ไมไดยินมานานแตยังทําใหอารมณพุงสูงขึ้นไดเหมือนเดิม

“ก็มันของผม แลวคุณเอาไปทําไม”

“ก็เห็นไฟมันกระพริบนารําคาญเลยรับให”

“........... ผมขอคืน”ไมถามก็รูวามันรับสายของใคร เพราะมันสั่นทั้งวันจนผมตองเปลี่ยนเปนปดเสียงปดสั่น นั่นเพราะไม


อยากรับสาย แตก็ไมกลาปดเครื่อง แลวมัน....กลับทําสิ่งที่ผมหลีกเลี่ยง.....ไมคิดจะถามเลยวามันพูดอะไรกับ คนในสาย
เพราะรูอยูแลววาตองไมใชคําพูดสุภาพแนๆ และคงทําใหทิวหงุดหงิดไดมากพอดู มันถึงไดนอนยิ้มอารมณดีแบบนี้

“เอา ไปทําไม แบตฯมันหมดแลว ที่ชารจอยูไหนก็ไมรู ไมพรุงนี้คอยหา”คนพูดแสดงเจตนาวาไมยอมคืนใหดวยการสอด


โทรศัพทเขาไป ใตหมอนที่กําลังนอนหนุน ในเมื่อเจาของจริงๆ ไมใหผมก็ไมเอาหรอก ยังไงก็...กลับไปแกไขอะไรไมได

จากที่คิดไวเมื่อวานวาอยากไป เรียนก็ตองเปลี่ยนใจขอโดดเรียนอีกวันเพราะรอยบนหนาที่ยังเดนชัดอยู ไมรูทําไมผมถึง


เชื่อมั่นแบบแปลกๆ วาตอใหไมเขาเรียน ชื่อของตัวเองก็จะปรากฏในหองเรียนเพราะเพื่อนที่แสนดีของผม และก็เพราะ
เพื่อนคนนี้ละที่ทําใหยังไมกลาไปเจอหนา ขอสรางกําลังใจใหตัวเองอีกสักวันก็แลวกัน

“นี่คุณ ผมจะไปตลาด”หลังจากตื่นนอนและทํากิจวัตรสวนตัวของใครของมันเสร็จ สั่งอาหารขึ้นมานั่งกินเตียงนอนแลวก็


วาง ผม...ไมมอี ะไรทํา สวนมัน...รอพนักงานสงเฟอรนิเจอร

“ไปทําไม”

“จะไปซื้อของ ไวทํากับขาว ไมอยากซื้อแลว เปลืองเงิน ขาวผัดอะไรจานละเกือบหาสิบ แพงแบบนี้ผมกินไมลงหรอก”ขาว


ผัดก็ขาวธรรมดา แถมไมใชขาวผัดทะเลอะไรดวย ขาวผัดหมูธรรมดาๆ แตจานละสี่สิบ แรกๆ ก็พอกินลงเพราะไมคิดวาจะ
ไดกินบอยๆ แตตอนนี้ไมไหวแลว แพงเกินไป แถมรสชาติก็ไมไดอรอยอะไรมาก ดีอยางที่กินแลวไมตองลางก็แคนั้น แตนั่น
ไมสําคัญเพราะผมกินเสร็จทีไรก็ลางไวรอคนมาเก็บไปทุกที

“ทําเปนเหรอ”
“เปน แตไมคอยไดทําเพราะหอเกาเขาไมอนุญาติ ไมมีอุปกรณดวย”ผมก็ไมคอยอยากตอบคําถามันดีๆ หรอกนะ ฟง
คําตอบกับสีหนาที่เหมือนดูถูกอยางนั้นแลวอยากจะดากลับแรงๆ แต....ไมทําจะดีกวา

“.....แถวนี้ไมมีตลาด แตมีโลตัสเล็กๆ อยูเลยคอนโดฯไปหนอย ไมรูวาจะมีอะไรใหซื้อบางหรอกนะ เพราะไมคอยไดไป”

“อืม ก็พอมีของกินอยู งั้นผมไปนะ”

“เดี๋ยว”มันเรียกผมไวกอนจะกาวพนประตูหองนอน มันหยิบกระเปาสตางคจากลิ้นชักหัวเตียงแลวหยิบเงินมาใหหนึ่งพัน
บาท

“........อะไร”ผมถามแบบงงๆ

“ซื้อ ยาแกไขกับแกอักเสบมาสองชุด แลวก็พวกครีมแกชกช้ํามาดวย ที่เหลือเอาไวซื้อกับขาว ไมตองซื้อเยอะ ไววันหลังจะ


พาไปซื้อที่อื่น”มันเห็นผมไมรับเงินก็เลยยัดเงินใสกระเปา กางเกงโดยที่ผมไมทันตั้งตัว

“...........”

“มองอะไร จะไปไหนก็ไปสิ”

ผม เดินออกจากหองแบบเบลอๆ ความจริงกะวาจะตองมีเถียงกันสักเล็กนอยเพราะมันนาจะไมยอมใหผมออกมาคน เดียว


แนๆ แตนี่อะไร วันสองวันนี้มันกับผมดูจะคุยกันรูเรื่องแบบผิดคาด....ถาไมนับที่ลานจอดรถ ผมยอมรับวาลดอาการกวน
ประสาทตอปากตอคํากับมันลงบางนิดหนอย ถามันไมดูถูกผมกอน ผมก็ไมดาอะไรมัน รูสึกเหมือนเกิดสันติเล็กๆ ขึ้นหลัง
สงครามใหญ บางทีมันอาจโดนหมัดเขาไปมากจนเพี้ยนไปแลวก็ได ชางเถอะ อยางนอยผมไมก็ไมปวดหัวปวดหูเจ็บตัวเพิ่ม
นับวาเริ่มตนไดไมเลวเทาไหร

ผมเดินเขาโลตัสเอ็กซเพรสรับไอ เย็นๆ แทนความรอนอบอาวจากการเดินตากแดดมารวมสิบกวานาที ไมไกลแตรอนมาก


เดินหยิบตะกราพลาสติกแลวก็ตรงไปมุมของสด มีผักและเนื้อใหเลือกหลายชนิด และที่สําคัญมันสําเร็จรูป ไมตองไปแลไป
สับเอง แตราคาก็คอนขางแพงตามไปเล็กนอย เดินดูคราวๆ พรอมคิดเมนูอาหารไวในหัวสําหรับสองวัน เลือกของสดเสร็จก็
เดินไปหยิบขนมปงของขบเคี้ยวตางๆ ไวตุนเวลาอานหนังสือดึกๆ รวมทั้งนมสดและน้ําหวานที่หาดื่มจากตูเย็นนั้นยากมาก
แตถาหาเบียรหรือน้ําอัดลมละงายนัก

กอนเดินกลับก็ถามพนักงาน ถึงรานขายยา คําตอบที่ไดคือตองเดินยอนกลับไปที่หนาคอนโดฯ และเดินตรงไปทางถนน


ใหญอีกไมกี่รอยเมตรก็ถึง บอกรายละเอียดยาที่ตองการกับเภสัชกรเสร็จพรอมรับยามาก็เดินกลับมาที่หอง ยาสองชุดนี้คง
สําหรับมันหนึ่งและผมอีกหนึ่ง เนื่องจากยาที่ไดกินเมื่อวานไมรูอยูมุมไหนของหอง พอกลับมาถึงแลวเปดประตูเขาไปก็เห็น
ผูชายสองคนภายในหองกําลังปรับตําแหนง ของชุดโฮมเธียเตอร ในหองนอนก็มีอีกสามคนกําลังเลื่อนตูเสื้อผาที่เลือกเมื่อ
วานโดยมีเจาของ หองมองอยูหางๆ ผมเดินไปเก็บของบางสวนใสตูเย็น และบางสวนใสตูเก็บของดานบนอางลางจาน

“ไอตั้มๆ มึงลงไปขางลางกับกูหนอย ตูเอกสารที่เลือกมามันไมพอดีกับมุมหองวะ”พี่อั๋นเดินเหงื่อทวมตัวเขา มายืนเกาะ


ขอบประตูหองนอนคุยกับคนดานใน

“อาว ไหนมึงวัดแลวโอเคไง”

“ก็โอเคแตเวลาเปดมันเปดไมได มันติดโตะวางเครื่องปริ๊นซ”

“แลวอยางนี้มันเรียกโอเคตรงไหนของมึงวะ”

“ก็ตอนกูวัด กูคิดวาจะซื้อแบบเลื่อน ไมใชบานพับนี่หวา”

“เออๆ พายจะใหชางวางโตะคอมไวมุมไหนก็บอกเขา เดี๋ยวพี่ลงไปดูขางลางกอน”มันพยักหนาใหพี่อั๋นเสร็จก็หันมาสั่งผม


กอน ที่จะเดินกึ่งวิ่งออกไปจากหอง ผมมองเห็นโตะคอมฯของตัวเองยังวางอยูใกลที่วางรองเทา มองเลยไปทางพนักงานก็
เห็นเขามองมากอนแลว

“วางในหองนั่นเลยครับพี่ ตรงไหนก็ได”หองมันก็ไมไดกวางอะไร แคคอมมันสองเครื่องก็เกือบเต็มแลว ผมไมอยากเรื่อง


มาก เขาจะวางตรงไหนก็ตามสบาย เห็นทาทางจะเหนื่อยกันเลยชงน้ําหวานใสกระบอกน้ําพลาสติกสองกระบอก แลวก็ชง
ใสแกวไปตั้งไวบนโตะกระจกเล็กๆ หนาโซฟา

“พี่ๆ ดื่มน้ํากอนไดนะครับ”วางแกวครบตามจํานวนคนเรียบรอยก็เรียกพี่ๆ พนักงานใหหันมาสนใจ คนที่อยูใกลสุดเพิ่งตอ


สายอะไรมากมายหลังเครื่องเสียงเสร็จก็เดินมาดื่ม กอน

“พี่ตั้งโตะคอมฯติดกับอีกสองเครื่องนะ แตหันดานขางให มันเขามุมหองพอดีจะไดเหลือพื้นพี่ไวเดินเยอะหนอย”พนักงาน


อีกคนที่ยก โตะคอมฯเขาไปในหองทํางานไดสักพักก็เดินออกมาสบทบ

“ครับ วางตรงไหนก็ได ผมไมคอยไดใชบอย เออ...ดานลางมีพวกพี่อยูอีกกี่คนเหรอครับ ผมจะเอาน้ําลงไปให”

“ขางลางมีแคสามคน พวกพี่จัดขางบนเสร็จแลวก็จะลงไปชวยขางลางตอพอดี เดี๋ยวพี่ถือลงไปเองก็ไดครับ”

“ก็ ไดครับ เดี๋ยวผมเอาแกวให”ผมเดินไปหยิบแกวมาสามใบพรอมกระบอกน้ําหวานที่ชงเตรียม ไวสงใหพี่เขาไป ดานใน


หองนอนก็จัดเสร็จแลว พี่ๆ เขาดื่มน้ําหมดแกวแลวก็รีบตามคนอื่นลงไปขางลางเหมือนกัน มองดูรอบๆ แลวก็รูสึกเหมือน
ของเยอะมากขึ้น ดูแคบกวาหองเกานิดหนอย คงเพราะมีชุดโฮมเธียเตอรนี่ละ แตโซฟามันเล็กกวาเดิม แตเพิ่มจํานวนชิ้น
จากสองเปนสาม

“นองพายครับ”เสียงเรียกจากประตูหองทําใหผมละสายตาที่สํารวจหองหันไปมอง

“อาวพี่นัท มาดวยเหรอครับ”

“ครับ พี่จัดอยูขางลางนะ ดานบนเรียบรอยดีนะ”

“ก็เรียบรอยหมดแลวนะครับ เหลือแตกวาดถูนิดหนอย พายวาจะทําพอดี”ตอนนี้มีแตฝุนนะครับ อยากกวาดหองแตหาไม


กวาดไมเจอ

“อยาเพิ่งกวาดเลยครับ ตอนนี้ขอน้ําหวานเย็นๆ ใหพวกพี่บางสิ รอนจนคนขางลางกลายเปนพระเพลิงแลว”

“จริง สิ พายลืมไป ขอโทษครับ”ตอนแรกกะวาจะเอาน้ําลงไปใหพวกพนักงานเอง แลวคอยถามขางลางวาอยากดื่มอะไร


แตพอไมไดลงไปเลยลืมหมดเลย

“เร็วๆ หนอยก็ดีนะครับ ขางลางมันรอนมาก พวกชางโดนไฟคลอกตายกันหมด”

“อาว ทําไมละครับ ไมไดเปดแอรเหรอ หองนี้ยังเปดไปจัดไปเลย”

“เปลา หรอกครับ ไฟอยางอื่นมากกวา เอาเปนวารีบๆ ชงแลวเอาลงไปเสิรฟดวยนะครับ พี่อยูนานไมได เดี๋ยวลงไปไฟจะ


ไหมพี่แทน”พี่นัทพูดจบก็ปดประตูหายไปเลย ผมเดินไปชงน้ําหวานแบบงงๆ หองนี้ยังเปดแอรจนหนาวเลย แลวขางลางไม
เปดหรือไง

ผมชงน้ําใสไดกระบอกเดียวเพราะไมมี กระบอกเปลาเหลือแลว หยิบโคกไปเผื่อสองกระปอง เดินหอบของแนบอกลงไป


หองเกา เปดประตูหองเขาไปดานในก็เห็นกําลังจัดโตะเลื่อนตูอะไรกันใหวุนเลย แถมหองนี้ก็เปดแอร ไมรอนเลยสักนิด
เดียว

“นั่นไงไอตั้ม เสบียงจากหวานใจมึงมาสงแลว”เดินเขามาถึงพี่อั๋นก็ออกลายปากเสียกอนใคร ทําใหคนอื่นๆ ชะงักจากงาน


เงยหนามามองชั่วครูกอนจะกมลงทําหนาที่ตามเดิม

“เสือก”คําตอบรับของมันก็ฟงดู...เหมาะ...ทั้งคนไดรับและคนพูด ผมแอบรูสึกสะใจนิดๆ แตไมกลาแสดงออกมาก


“ไม มีกระบอกน้ําวางเลยหยิบโคกมาเพื่อดวย”ผมวางโคกสองกระปอง แกวเปลาสองใบ กระบอกน้ําหวานอีกหนึ่งกระบอก
ลงบนโตะทํางานที่ดูทาวาจะจัดเสร็จแลว มองไปรอบๆ เห็นโตะทํางานหาตัวจัดไวกลางหองโดยหันหนาเขาหากัน ทาทาง
จะกลายเปนออฟฟสเล็กๆ ไปจริงๆ

เสียงกรั้วหัวเราะจากคนสองคน ที่ยืนอยูใกลๆ ทําใหผมมองหนาเขาแบบงงๆ แตไมไดรับคําตอบอะไรนอกจากการหันหนา


หนี ผมมองอีกคนที่ไมไดรวมหัวเราะไปกับเพื่อนสนิทแบบไมเขาใจวา...เพื่อนมัน หัวเราะอะไร...หัวเราะผมเหรอ แตคนที่นั่ง
พิงขอบโตะดื่มน้ําหวานจากกระบอกน้ําไมไดตอบอะไร

“หิว มากหรือไงคุณ แกวก็มีไมใช แลวคนอื่นเขาจะกลาดื่มตอรึไง”อุตสาหถือแกวมาตั้งสองใบดันไมใช แลวก็นาโมโหเพิ่ม


กวาเกาเพราะคําตอบที่ไดรับมานี่ละ

“......แลวไง”

ตอนที่ 30

หลังจากที่ผมยกน้ํามาใหแลวกลับมาบนหอง ความตั้งใจที่จะปดกวาดก็ตองลมเลิกไปเพราะเจาของหองบอกวามีแมบาน
ทํา ความสะอาดประจํา และจะมาทําตอนเย็น ผมเลยเปลี่ยนมาเปนจัดของตางๆ ใหเขาที่เขาทางตามเดิม รวมทั้งปดฝุน
ตามโซฟาและโตะนิดหนอย ใชเวลาชั่วโมงกวาพวกขางลางก็ยังไมขึ้นมา ผมอาบน้ําเปลี่ยนชุดใหมแลวลงมือทําอาหาร ผม
เริ่มหิวหลังจากใชแรงงานไปนิดหนอย คาดวาคนอื่นก็นาจะหิวเหมือนกัน

ตมยําไกน้ําขนสงกลิ่นหอมแขงกับผัดพริกแกงหมู ไขตุนใกลสุกหลังการใสในไมโครเวฟไดสักพัก คะนาในมือกําลังสไลพอ


คําเพื่อผัดเปนอยางสุดทาย

"หอมจังครับ ทําอะไรกินเหรอพาย"พี่นัทสงเสียงรองทักทันทีที่เปดประตูหองเขามา แลวตามดวยอีกสองคน

"กําลังจะผัดคะนาครับ ตมยํา ไขตุน ผัดพริกแกงเสร็จแลว พอกินกันมั้ยครับ"ผมถามพรอมหันไปตั้งกะทะ

"แคนี้ก็พอแลวครับ ลาภปากแฮะวันนี้"พี่นัทเดินมาทาวแขนกับโตะเล็กๆ ที่กั้นระหวางครัวกับหองนั่งเลน

"ถาทํากับแกลมใหสักอยางสองอยางจะดีมากเลยนะพาย"พี่อั๋นทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอยางเหนื่อยออน

"กลัวของที่มีจะไมพอนะครับ ยังไงหลังกินขาวพายไปซื้อมาทําใหไดนะ"
"ที่ทําอยูก็พอแลว พวกมึงก็ไปลางตัวหรืออาบน้ํากันไป ไมเหนียวตัวหรือไงวะ"

"กูยืมผาเช็ดตัวดวย"พี่นัทผละจากโตะไปหามันที่ยืนอยูกลางหอง

"กูยืมเสื้อผาใสเลยดีกวา เหงื่อแมงชุมไมหมด"

"จะเอาอะไรก็หากันเอาเอง กูไมรูวาอะไรอยูตรงไหน"

" ผาเช็ดตัวในหองน้ํามีแขวนไวหองละผืน ลิ้นชักลางของตูเสื้อผาก็มีพับไวอยู สวนเสื้อผาผมจัดใสตูหมดแลว"ผมพูดโดยไม


หันกลับไปเพราะกําลังงวนอยูกับ อาหารในกะทะ แตก็ยังไดยินเสียงผิวปากเหมือนแซว และคําพูดเบาๆ อีกสองสามคํา
กอนจะไดยินเสียงเปดปดประตู หันมาอีกทีก็หายไปจากหองนั่งเลนกันหมดแลว

"อรอยดี ฝมือใชไดเลยนะเนี่ย"พี่อั๋นชมไปชิมไป ผมแอบอมยิ้มภูมิใจกับฝมือตัวเองที่ไดรับการฝกฝนจากแมมาตั้งแตเด็ก

"แมใหเปนลูกมือตั้งแตเด็กนะครับ แตแมยังทําอรอยกวาอยูดี แถมยังทําขนมไทยเกงดวย"

" อิจฉามึงวะไอตั้ม สงสัยอยางนี้ตองมาฝากทองที่นี่บอยๆ แลว"พี่อั๋นพูดพรอมมองผมสลับกับมัน ผมก็ยิ้มๆ ใหไมไดตอบ


อะไร ถึงจะเต็มใจทําใหกินแตนี่ก็ไมใชหองผม

"ตามใจ"มันตอบรับคําพูดพี่อั๋นแลวก็ลงมือกินตอ

"งั้นตอไปนี้มาทํางานกูขอฝากทองทุกมื้อเลยดีกวา จะไดไมตองสั่งขาวจากรานขางลาง แมงแพงเวอร"

".... มึงไมใหเมียมึงทําขาวกลองมาใหละ ขาวกลองนอยกับครอบครัวสุขสันต"มันมองหนาพี่นัทนิ่งๆ กอนจะพูดออกมาและ


ทําใหพี่นัททําสีหนาแบบแปลกๆ

"หานี่ แคนี้ก็ตองแขวะกูดวย"

" เออ แลวเมื่อไหรมึงจะหยาวะ แยกกันอยูนานแลวไมใชเหรอ"พี่อั๋นถามขึ้นมา ผมก็ไมไดอยากรูเรื่องหรอกนะ แตคุยกลาง


โตะอาหารเลยตองนั่งฟงแบบเลี่ยงไมได ทาทางเขาคงไมไดอยากปดเทาไหรมั้ง ถึงไดพูดทั้งๆ ที่คนนอกแบบผมนั่งอยู

"ก็เจรจาอยู เรื่องเดิมๆ นั่นละ"พี่นัทพูดน้ําเสียงปนหงุดหงิดและเหนื่อยใจ

"ใหกูชวยเจรจาใหมั้ย ไมคิดคาบริการ"คําพูดมันเกือบทําใหพี่นัทสําลักขาวที่เคี้ยวอยู คาดวาการเจรจาของมันคงไมใชวิธีที่


ดีแนๆ
" ไมตองเลยมึง ถึงกูไมรักแตก็แครก็หวงเขาอยู ขืนใหมึงมายุงกูกลัวจากไมกี่ลานจะกลายเปนหลักสิบลานเพื่อเรียกคาเสีย
หายนะสิ"

"ตกลงนี่หวงเขาหรือหวงเงินวะ ฟงแลวสับสน"พี่อั๋นพูดไปก็หัวเราะไป แตผมเห็นดวยนะ

"ก็ทั้งสองอยางนั่นละ ยังไงเรื่องนี้กูก็ผิด ชางมันเถอะวะ พูดแลวเครียด"

"อยากใหเครียดเร็วๆ ก็ใหตั้มมันจัดการใหสิ รับรองเร็วทันใจ"

" ไมตองยุเลยไออั๋น เอาเรื่องตัวเองใหรอดกอนเถอะ นองแพรนางฟาของมึงนะ บินกลับสวรรคไปสงสัยไมมาใหมึงเห็นอีก


แลวมั้ง"ชื่อที่พี่นัทพูดเรียกความ สนใจจากผมได ทาทางจะเปนคนที่พี่อั๋นชอบอยู

"เฮอ...อยาพูดงี้ดิวะ พูดแลวก็คิดถึง"

"คิดถึงก็ไปหาสิ"มันพูดออก และเปนครั้งแรกที่ผมเห็นดวย ทาทางพี่อั๋นรักมากแลวทําไมตองทนคิดถึงดวย

" โทรไปยังไมเคยรับสาย กูไปหาแลวจะไดเจอรึไง วันๆ ไดแตสงอีเมลลไปหา แตวาๆ วันกอนนองแพรตอบกลับมาหากูดวย


นะมึง โคตรปลื้มนะ"

"ตอบมาวาไง"

"บอกวา..สบายดีคะ..."พี่อั๋นดัดเสียงคลายผูหญิง ถึงผมไมอยากฟงแตก็เกือบหลุดหัวเราะ

"แคนี้นะนะที่มึงปลื้ม ออนวะ"พี่นัทสายหนายิ้มๆ แสดงตัวเหมือนเหนือกวาพี่อั๋น

" แคนี้ก็ดีแลวสําหรับกู นึกวาตองนานกวานี้ซะอีกเขาถึงจะตอบกลับ กูนั่งอานขอความซ้ําไปซ้ํามาทั้งคืนไมไดนอนเลย ยิ่ง


พูดก็ยิ่งคิดถึงวะ ถาเขายอมคุยกับกูเมื่อไหรกูจะบินไปหาทันทีเลย"

"อิ่มแลวเหรอพาย สงสัยทนฟงมึงเพอไมไดวะไออั๋น"

" เปลาครับ อิ่มแลวจริงๆ มีเฉากวยในตูเย็น จะกินกันมั้ยครับ เดี๋ยวพายทําให"ผมรีบแกตัวจากคําพูดของพี่นัท กลัวพี่อั๋น


เขาใจผิด ปกติถาทํากับขาวเองผมมักกินนอยกวาปกติ
"ของพี่ขอหวานพอดีๆ สวนไอนัทขอหวานมากๆ ทดแทนชีวิตรักมัน ของไอตั้มนี่งดหวานครับ น้ําหวานที่ไดดื่มไปเกินลิมิต
แลว กลัวมันเปนเบาหวาน"

"พรุงนี้ผม ไปเรียนเองนะ"ผมพูดขึ้นมาขัดจังหวะการพูดคุยนิดหนอย แตคิดวาอยูตอหนาเพื่อนมันคงจะไมทําอะไรผมมาก


หรืออยางนอยอาจมีคนเขาขางผมบาง

"ไมได"

"ผมไมหนีไปไหนหรอก ขอไปเองกลับเองเถอะ ไมอยากเดนใหคนอื่นเอาไปพูดไมดี"

"กลัวใครจะเห็นมากกวามั้ง"

"ไมไดกลัวเรื่องนั้น เพราะยังไงเขาก็รูแลว แตไมอยากเดน ไมอยากตอบคําถามคนอื่น"

"ไมไดก็คือไมได จบ"

จบก็จบ ขี้เกียจเถียงใหเปนเรื่อง ผมทําเฉากวยใสถวยไวสามถวยแลวแชตูเย็นรอใหพวกนั้นกินเสร็จแลวมาหยิบไปเอง

หลัง จากอาหารคาวหวานหมดไปทุกคนก็ทยอยกันออกไป พี่นัทตองไปทําธุระตอ พี่อั๋นรถเพิ่งซอมเสร็จ วันนี้เลยขับรถมา


คืน มันเลยตองขับไปสงพี่อั๋น พรอมกําชับใหผมอยูที่หองรอแมบานมาทําความสะอาด ระหวางรอผมก็จัดของจุกจิกเล็กๆ
นอยๆ ตอ แมบานที่มาทําความสะอาดเปนแมบานที่ทําอยูประจําทุกวันอังคารกับศุกร แตชวงกอนที่ผมไมเคยเห็นเพราะ
มันโทรเลื่อนใหมาทําวันอื่น ฟงจากที่เธอเลารูสึกวาแทบทุกหองในคอนโดฯนี้เปนฝมือเธอทั้งนั้น หลังจากทําหองขางบน
เสร็จผมก็ไปเปดหองขางลางใหเธอทํา พอเสร็จผมก็ลงไปล็อคหองแลวกลับขึ้นมานอนดูทีวีในหองนอน เจาของหองยังไม
กลับทําใหพอจะอยูอยางสบายอารมณไดหนอย

ผมคิด วาอยูรวมกับมันไดงายขึ้น ไมใชวาเขาใจมันมากขึ้น เพียงแตรูวิธหี ลีกเลี่ยงนิดหนอย บางครั้งที่คิดวาเดาการกระทํา


มันถูก แตกลับเปนตรงขาม อยางที่ลานจอดรถผมคิดวาคงไมรอด แตก็รอดมาได ตรงขามกับเรื่องที่ขอไปกลับเองมันดัน
หาม ทั้งๆ ที่ผมอธิบายเหตุผลไมไดพูดประชดประชันอะไร แตนั่นทําใหรูวาถามันแรงแลวผมแรง เรื่องมักจบไมสวยและผม
จะเจ็บเสมอ ไมวาจะเปนเพราะคําพูดหรือการกระทํา แตถามันแรงแลวผมนิ่ง มันก็จะโมโหอยูคนเดียว แตผมไมเปนไร นี่
ทําใหเดาไดวามันคงไมชอบใหใครประชด แตไมแนวาชอบใหนิ่งใสหรือเปลา การกระทําของมันขึ้นอยูกับอารมณลวนๆ ไม
มีคําวาเหตุผลเลยสักนิด

นอนดูโทรทัศนไปสักพักก็นึกไดวา โทรศัพทผมยังไมไดคืน และยังวางอยูใตหมอน ความตั้งใจที่จะหยิบมาชารจแบตฯ


หายไป เมื่อพบวาแบตฯลดไปแคขีดเดียว ขอความในโทรศัพทกวายี่สิบขอความจากคนๆ เดียว
'พายเปนยังไงบาง เจ็บตรงไหนมากหรือเปลา โทรกลับมาทิวดวย'
'พายรับสายทิวหนอย โทรกลับก็ได เปนอะไรมากมั้ย'
'พายคุยกับทิวหนอยนะ ทิวอยากไดยินเสียง อยากรูวาพายสบายดี'
'พายทําไมไมมาเรียน เจ็บมากเหรอ อยูที่ไหนเดี๋ยวทิวไปรับ โทรกลับหาทิวเถอะนะ'
'พายอยาทําอยางนี้เลย รับสายทิวเถอะ ทิวหวงพายมากนะ'
'ขอรองละพาย รับสายทิวนะครับ อยาทํากับทิวแบบนี้'
'ไมวายังไงความรูสึกทิวยังเหมือนเดิมนะ รับสายทิวเถอะนะ ขอรอง'
'ทิวคิดถึงพาย กลับมาหาทิวเถอะ'

ตัว อักษรที่ผานตาสื่อถึงอารมณและน้ําเสียงเหมือนทิวมายืนอยูตรงหนา กลับไปหาทิวงั้นเหรอ....ถาบอกกอนหนานี้ผมจะ


กลับไปมั้ย ใช...ถาเปนกอนหนานี้ผมคงขอความชวยเหลือจากทิว แตตอนนี้มันสายไปแลว...เพราะตัวผมเอง

"ทําหนาเหมือนจะตาย คิดถึงมันมากรึไง"เสียงหวนๆ ดังจากคนที่ยืนพิงกรอบประตูหองนอน ผมเงยหนาขึ้นมองกอนจะ


หยิบโทรศัพทในมือไปสอดไวใตหมอนแลวลมตัวลงนอน

"ทําไม มันโทรมารึไง ใกลตายรึยังละ จะไปซ้ําให"

" พรุงนี้ผมเรียนบายโมง"ผมพูดดวยน้ําเสียงราบเรียบเหมือนสีหนา ไมแสดงวาโกรธหรือไมพอใจ ไมมีน้ําตาเพื่อแสดงความ


ออนแอ รูดีวาการรองไหตอหนามันไมสามารถเรียกความสงสารหรือเห็นใจได หรือถาได..ผมก็ไมตองการ

เสียงประตูหอ งนอนปดเสียงดังแสดงถึง ความไมพอใจของคนที่เดินออกไป นับวาผมเดาถูกเรื่องการกระทําของมัน ถาผม


นิ่ง ผมไมเจ็บ และอารมณหงุดหงิดของมันทําใหอดดีใจลึกๆ ไมได

รถยนตคันหรูจอดเทียบฟุตบาตหนาตึกคณะ หลังจากไดรับคําสั่งใหรอกลับผมก็เดินออกจากรถแลวเขาไปในตึกทันที
รถยนตเคลื่อนตัวออกไปจนพนระยะการมองเห็น ผมเดินยอนกลับออกมาเพื่อเดินไปเรียนตึกอื่นที่ตองนั่งเรียนจริงๆ ถึงจะรู
ตารางเรียน แตมันไมรูวาเรียนที่ไหน อยางนอยผมก็เลี่ยงดวยวิธีนี้ได

เพื่อนรวมคณะหลายคนแปลกใจกับ รองรอยที่เหลือบนใบหนา แตไมคอยกลาเขามาถามเพราะคงรูอยูแลววาเกิดจากการ


กระทําแบบไหน แตคงแปลกใจที่ผมเรียบๆ แบบผมจะไปมีเรื่องวิวาทกับใคร หองเรียนดําเนินไปอยางเชื่องหนาใน
ความรูสึก คนที่เลี่ยงไมพบหรือพูดคุยกับไมมาใหเห็น และผมเพิ่งรูจากเพื่อนคนอื่นวาทิวไมมาเรียนพรอมๆ กับผม วันนี้ก็
ไมมาอีก ทิวเจ็บมากหรือเปลา ผมเองก็ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย คิดวาพวกทิวเยอะกวาจะไมเจ็บหนักซะอีก ผมนาจะรับสาย
ทิวเพื่อสอบถามอาการบาง มีแตทิวแสดงความหวงใยกับผมฝายเดียวเลย

หลังจากหมดชั่วเรียนเรียนในตอนบายสาม เพื่อนคนอื่นเดินยายหองเพื่อไปเรียนวิชาตอไป สวนผมเดินแยกกับคนอื่นเพื่อ


โทรหาทิว
"ทิวเปนไงบาง เจ็บตรงไหนมากหรือเปลา"หลังจากกดโทรออก ยังไมทันไดยินเสียงสัญญาณก็มีคนรับสายทันที

" พาย! พายเปนไงบาง หาหมอรึยัง ทําไมไมรับสายทิว ไมโทรหาทิว ทิวเปนหวงมากรูมั้ย"น้ําเสียงทิวรอนรน แสดงความ


เปนหวงเปนใยยิ่งกวาคําพูดมากมายที่ผมไดอาน

"ทิว...พายขอโทษ พายมาเรียนแลวไมเจอทิว ตอนนี้ทิวเปนไง ทําไมไมมาเรียนละ"

"หัวแตกนะ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวาน"ทิวพูดเสียงออยๆ แตแคไดยินก็รูสึกตัวชาวูบแลว

"หัวแตก!! ทิวอยูไหนเนี่ย อยูคอนโดใชมั้ย เดี๋ยวพายไปหานะ"ผมรีบเดินกึ่งวิ่งออกจากตึก ผมไมเคยเห็นทิวเจ็บหนักถึงขึ้นนี้


เลย

" จะมาจริงเหรอ ใหทิวไปรับมั้ย อยูที่มหาลัยฯใชมั้ย เดี๋ยวทิวไปรับดีกวา"ทิวรีบอาสาแตไดยินเสียงคนอื่นดังอยูใกลๆ สงสัย


พวกนั้นก็อยูที่นั่นดวย อยางนอยก็ทําใหเบาใจไดบางวามีคนดูแลทิวอยู

"ไมตองๆ เดี๋ยวพายไปเอง รออยูนั่นนะ หัวแตกแลวทําไมไมบอกพายละเนี่ย แคหัวแตกอยางเดียวใชมั้ย"

"ก็พายไมรับสายทิวนี่นา แตเย็บแคสามเข็มเอง พายรีบๆ มานะ ทิวจะรอ"

" ทิวนอนรอไปกอนนะ เดี๋ยวพายรีบนั่งแท็กซี่ไปเลย แคนี้นะ"ผมรีบเดินใหถึงหนามหาลัยฯ แลวเรียกแท็กซี่โดยบอก


จุดหมายทันที ตั้งแตเกิดผมก็ไมเคยหัวแตกดวยสิ แคโดนตอยผมยังเจ็บจะตายเลย แลวหัวแตกนี่เจ็บมากมั้ย มันทําให
เพื่อนผมเจ็บถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

ตอนที่ 31.1

รถแท็กซี่จอดหนาคอนโดฯที่คุนเคย ผมจายเงินเสร็จก็รีบวิ่งเขาไปดานใน ระหวางกดลิฟตและยืนรอก็หยิบโทรศัพทขึ้นมา


โทรหาคนที่ตองโทรหา และรอไมนานปลายสายก็สงเสียงมา

"วาไง เลิกเรียนแลวเหรอ"

"วิชาสุดทายผมโดด ตอนนี้อยูคอนโดฯเพื่อน"ผมลอบกลั้นหายใจกอนจะพูดออกไปใหฟงชัดๆ

"ใคร...อยาบอกนะวาไอเวรนั่นนะ"น้ําเสียงนิ่งเจืออารมณขุนมัวจนผมรับรูได แตก็ไมไดแปลกใจ
"ใช ผมเพิ่งรูวาเขาเจ็บหนักเลยมาเยี่ยม"

"ไมได"มันคงฟงไมเขาใจละมั้ง ทุกประโยคที่พูดไปไมมีคําไหนที่สื่อถึงประโยคคําถามซะหนอย แคบอกใหฟงเทานั้นเอง

" ไดไมไดผมก็มาถึงแลว ทีโ่ ทรมาบอกก็เพราะไมอยากมีปญหา เกิดคุณไปรับที่มหาลัยฯไมเจอผมจะมาวาผมอีก ยังไงถา


จะมารับก็มาที่คอนโดฯเดิมแลวกัน ยังจําไดอยูใชมั้ย"นี่สิประโยคคําถาม ผมคงไมเสียเวลาและเสียเงินเพื่อนั่งแท็กซี่กลับไป
รอมันหรอก คราวกอนมันยังตามผมมาได คราวนี้เลยไมแนใจเทาไหรวามันแอบตามผมอยูหรือมีใครสงขางบอกมันหรือ ไม

"ฟงภาษาคนไมรูเรื่องหรือไงวะ บอกวาไมใหก็คือไมให อยาคิดจะขึ้นไปหามันเชียวนะพาย"เสียงเย็นๆ นิ่งๆ กลายเปนเกรี้ยว


กราดตามนิสัย

"ผมคงทําอยางนั้นไมได เอาเปนวาถามาถึงแลวก็โทรมาแลวกัน"ผมรีบพูดแลวก็กดตัดสายไปเลย รูอยูแลววามันตอง


โวยวาย แตผมก็จะมา อยางนอยก็โทรไปบอกดีกวารอใหมันมาจะเอเหมือนคราวกอน เผื่อวาจะเจ็บนอยลง ลิฟตที่กดเรียก
มาถึงผมก็รีบเขาไปแลวกดชั้นที่ตองการ กดออดหนาหองแลวรอคนมาเปดประตู แตคนที่มาเปดดันเปนคนอื่น

"ทิวละ"

" นอนอยูหนาทีวี"ตอพูดพรอมเปดประตูใหกวางจนมองเห็นดานใน ผมแทรกตัวเขามาไมกี่กาวก็หยุดอยูหนาคนปวยที่นอน


หลับบนพื้น ศีรษะดานดานมีผากอซปดอยู ใบหนาบวมช้ําตามมุมปากและแกม หนาตาก็บวมช้ําไมตางกับอีกฝาย

"อาวพาย มาแลวเหรอ"ทันทีที่ผมยื่นมือไปสัมผัสรอยช้ําที่มุมปาก คนที่นอนก็ลืมตาขึ้นมา

"เพิ่งมาถึงนะ ทําไมมานอนตรงนี้ ไมไปนอนบนเตียงดีๆ"

"ขางในไอจิ๋วนอนอยู"ทิวลุกขึ้นนั่งพิงโซฟา ผมมองรอบๆ ก็ไมเห็นตอแลว สงสัยเขาไปอยูกับจิ๋วในหอง

"อาว"ไมเขาใจวาคนเจ็บทําไมนอนบนพื้นแลวใหจิ๋วนอนหองนอน ผมจําไดวาวันนั้นไมมีจิ๋วรวมดวยนี่นา

" ไอจิ๋วก็ไปกินที่รานนั้นกับตอนะแหละ แตไปชา มาถึงก็เห็นกําลังซัดกันอยูมันเลยโดดมารวมดวย ไมเจียมตัวขอมือเลย


เคล็ด แถมเปนไขนอนใหน้ําเกลือเพิ่งออกมาเมื่อวาน"ตอพยุงจิ๋วเดินออกมาจากหอง นอน ทาทางจิ๋วคงยังไมคอยมีแรง
หนาดูซีดๆ นิดหนอย

"กูไมไดไม เจียมสังขารนะเวย แตไอพวกนั้นมันถึกเกินไปตางหาก"จิ๋วสะบัดตัวออกจากการประคองของตอแลว เดินมานั่ง


บนโซฟา ผมแอบยิ้มขํากับทาทางของจิ๋ว รวมทั้งแอบเห็นดวยกับคําพูดของตอ
"เพิ่งนอนแลวลุกออกมาทําไมวะ"ทิวพูดกึ่งบนเพื่อนสองคนที่นั่งดานบน

"หิวขาววะ เมื่อเชากินขาวตมไปนิดเดียวเอง ไมอยูทอง"จิ๋วอมยิ้มพรอมลูบทองตัวเองเบาๆ ผมวาไดยินเหมือนเสียงทองรอง


ดวยนะ

"ในตูเย็นมีของสดมั้ยละ เดี๋ยวพายทํากับขาวใหกินก็ได"

"มีแตพวกแฮมกับขนมปง พายไมตองทําหรอก ใหไอตอลงไปซื้อขางลางมากินดีกวา"ทิวรีบความือผมไวกอนที่จะลุกไปที่มุม


ครัว

" ไมเปนไร เดี๋ยวพายลงไปซื้อใหก็ได ตอมันก็เจ็บอยูนะ"ผมพูดและลุกขึ้นเพื่อยืนยันเจตนาตัวเอง ทิวเหมือนจะคานอีกครั้ง


แตผมไมฟง เดินออกจากหองไดก็ลงไปที่รานอาหารสั่งกับขาวมาสี่อยาง สวนมากก็รสชาดจืดๆ ไวกอน ไดอาหารที่สั่ง
ครบถวนก็กลับขึ้นมาบนหอง จัดแจงเทอาหารใสจานชามเรียบรอย ผมนั่งรวมวงกินดวยเพราะทิวบังคับ ผมรูวาทิวมีเรื่อง
อยากถามแตก็ไมอยากพูดตอหนาเพื่อน ในขณะที่ตอกับจิ๋วก็พยายามจะปลีกตัวใหผมอยูกับทิวสองตอสองตลอดเวลา
หากแตผมรั้งไวออมๆ ทุกครั้ง แตสุดทายจิ๋วก็อางวากินยาแลวงวงนอนตอเลยพาเขาไปหลบอยูในหองนอนสอง คน

"พาย...ทิวอยากรูเรื่องทั้งหมดจากปากพายนะ ที่คนอื่นบอกมาทิวไมเชื่อแมแตนิดเดียว"ที่ทิวบอกวาคนอื่นนี่มีใครบาง ....


หนึ่งในนั้น....มีนุดวยหรือเปลา

"ทิวกินยาแลวก็นอนพักเถอะนะ จะไดหายเร็วๆ แผลที่หัวตองไปตัดไหมมั้ย"ผมเคยไดยินวามีไหมละลาย ไมรูวาเปนยังไง


แตไมตองไมตัด

"พายอยาเปลี่ยนเรื่องสิ ทิวอยากรูวามันเกิดอะไรขึ้น ทําไมพายไปอยูกับมัน"

" เพราะพายตองอยูไงทิว ขอรองละ อยาเพิ่งใหพายเลาอะไรเลยนะ พายไมอยากพูดถึง"ตอนจะมาเยี่ยมก็ไมไดคิดวาจะ


อธิบายยังไงดวย อธิบายไปตามจริงวาผมถูกขมขูงั้นเหรอ.....ทําอยางนั้นแลวไดอะไร....ทิว จะชวยผมเหรอ....อาจจริง....
แลวยังไง....ในเมื่อความสุขของผม....คนสําคัญ ของผม....ไมเหลืออยูแลว....ไมมีอะไรเหมือนเดิมอีกแลว......เปลา
ประโยชนที่จะรองขอความชวยเหลือจากใคร..........

"ก็แลวทําไมตอง เปนมัน นั่นนะแฟนนุนะพาย แฟนเพื่อนนะ พายทําไดยังไง"คําตัดพอตอวาที่มาพรอมการดูถูก น้ําเสียง


เจือความผิดหวังในตัวผมเต็มที่
"ทิว!! พายไมไดแยงอะไรของใครทั้งนั้นละ มันไมไดเปนอยางที่นุหรือทิวคิด พายเปนคนยังไงทิวก็ร"ู นาแปลกที่ไมเจ็บกับคํา
ตอวาของทิวอยางที่คิด เพียงแครูสึกหัวใจกระตุกนิดหนอย......ความจริงไมตองอธิบาย....ทิว ก็.....มีคําตอบอยูแลวนี่นา
.....พูดไปแลว...คําพูดผมคงกลายเปนอะไรที่ เรียกวา....คําแกตัว

"ก็เพราะรูไงถึงไมเขาใจวาเกิดอะไร ทําไมอยูๆ พายเปลี่ยนไป"

" พายไมมีอะไรจะพูด แตพายอยากขอโทษที่ทําใหทิวรูสึกผิดหวังก็แลวกัน"....นี่ไง....สาเหตุที่ ไมกลาบอกทิวแตแรก.....


ภาพพจนที่เคยดูดีในสายตาทิว....ตอนนี้มันคงไม เหลืออีกแลว....ทิวผิดที่คิดกับผมแบบนี้เหรอ...ไม...เพราะผมเองที่ทําให
ทุกอยางคลุมเครือ.....แต...ผมเองก็ไมผิด....หากจะมีคนผิด.....ก็...มีแค คนเดียว

"นี่ไงที่พายเปลี่ยนไป เมื่อกอนพายเคยประชดทิวแบบนี้เหรอ ไมเคย! ไมเลยสักครั้งที่พายจะทะเลาะกับทิว ถาเปนเมื่อกอน


พายรูตัววาผิดพายก็จะขอโทษ ถาทิวผิดพายก็ไมเคยวา มีแตเงียบใหทิวตามงอ แลวนี่ละ นี่มันอะไร พายเคยเถียงทิวแบบ
นี้เหรอ"

" ถาอยางนั้นพายก็คงเปลี่ยนไปอยางที่ทิววาจริงๆ และมันชวยไมไดถาทิวไมชอบ"ผมเองก็เริ่มทนกับคําตอวาของทิวไมไหว


เหมือน กัน บางทีตอนนี้คงไมใชเวลาที่ดีที่เราจะคุยกัน

"พาย!!"กอนที่ผมจะไดพูดอะไรตอบโตทิวอีก โทรศัพทที่ตั้งระบบสั่นไวในกระเปากางเกงก็สั่นบอกถึงเวลาสวนตัวที่หมดลง
ไป

" เอาเถอะ ไวทิวอารมณเย็นลงเราคอยคุยกันนะ ถาพรุงนี้ไปเรียนไหวก็ไปดวยละ กินยาตามหมอสั่งดวยนะ พายเปนหวง...


แลวก็....ขอโทษ"ผมลุกขึ้นจากโซหาแลวหยิบกระเปามาสะพาย

"พายจะไปไหน ไมไดมาอยูดูแลทิวเหรอ"

" ไมไดหรอกทิว พายตองกลับแลว ไวเจอกันพรุงนี้นะ"ผมรีบเดินไปหนาประตู บานประตูเปดไดไมถึงคืบ ทิวก็กาวเขามารั้ง


แขนไวแลวดันประตูปดตามเดิม

"ไมได ทิวไมใหพายกลับไปหามันหรอก"

"ทิวปลอยเถอะ พายไมอยากมีปญหาตอนนี้"

"ไม!"ทิวโมโหแลวตะคอกใสผมแบบที่ไมเคยทํามากอน มือที่จับแขนเอาไวบีบแนนจนรูสึกเจ็บ

"ตอ! จิ๋ว! ออกมาขางนอกหนอย พายจะกลับแลว"ผมตะโกนเผื่อหาคนชวย


" พวกมึงไมตองออกมานะ กูบอกวาไมตองออกมาไง"ทิวรีบรองหามแตสองคนนั้นเหมือนเตรียมพรอมอยู แลวถึงไดเปด
ประตูหองนอนออกมาทันที แตก็ไมไดเขามาชวยผมที่ยื้อยุดแขนตัวเองจากมือของทิว

"จิ๋ว! มาพาทิวไปกอน พายจะกลับแลว"มองไปที่จิ๋วที่ดูจะเห็นใจผมมากกวาตอ แตก็ยังไมกลาเขามาชวยผมเพราะตอรั้ง


แขนไว

" พายจะกลับไปหามันใชมั้ย ทิวไมใหไปหรอก พายตองอยูกับทิวที่น"ี่ จากแขนเดียวก็กลายเปนสองแขนที่ถูกบีบแนนจน


ตอง ขมความเจ็บเอาไว ไมเคยรูเลยวาทิวจะแรงเยอะขนาดนี้ ไมเคย

"ทิวปลอยพายเถอะนะ ไวใจเย็นลงเมื่อไหรพายจะเลาใหฟง"ผมรูวาทิวเปนคนใจรอน แตทุกครั้งก็ยอมฟงถาผมพูดดวยดีๆ

" ไม! บอกวาไมใหไปๆ ไมเขาใจรึไงพาย รักมันมากรึไงถึงไดอยากกลับไปหามันนักหนา ทําไมพาย! ทําไม!!"ทิวพยายามดึง


ผมไปทางประตูหองนอน และผมก็สูแรงทิวไมไหว ทัดทานยังไงก็ไมมีวี่แววจะเย็นลง เพียงแคครูเดียวที่ยื้อยุดอยูกลางหอง
ประตูหองก็เปดออกจากดานนอกพรอมดวยการมาของคนที่.....เปนตนเหตุของ เรื่องราวทั้งหมด

"ไมมีคนสอนวาอยายุงกับเมียชาวบานหรือไงไอหนู"

ตอนที่ 31.2

"ไมมีคนสอนวาอยายุงกับเมียชาวบานหรือไงไอหนู"น้ําเสียงกับสีหนาที่พูดจาเชิงสั่งสอนทําใหคนที่เปนเจาของหองปลอย
มือผมแลวกาวไปเผชิญหนา

"มึงมาทําไม"ทิวตะคอกถามคําที่ยืนทาวกรอบประตูหองที่ถือวิสาสะเปดเขามา

"มารับเมีย"

"พายไมใชเมียมึง พายเปนของกู"

"เทาที่รู.....รูสึกจะไมใชนะ"

"มึงจะรูอะไร พายอยูกับกูมาตั้งกี่ปมึงไมรูละสิ อยางมึงก็เปนไดแคแมวขโมยเทานั้นแหละ"


" อยูดวยกันมาหลายปยังไมมีปญญา พอคนอื่นไดไปเสือกมาทําหวงกาง เด็กอยางมึงก็มีปญญาเหาอยางเดียวเทานั้นละ
ขนาดจะประกันตัวออกจากโรงพักยังตองเรียกผูปกครอง อยางนี้จะดูแลคนอื่นไดไง รอใหโตพอจะกัดไดแลวคอยยุงกับเมีย
คนอื่นเถอะวะ"

"พายไมใชเมียมึง!!!"ทิวทําทาจะพุงเขาไปชก แตตอรีบรั้งแขนเอาไว

"ใจเย็นกอนสิวะทิว คนอื่นเขาแหกันมาดูมึงหมดแลวไมเห็นเหรอ"

"ใครจะดูก็ชา งหัวมันสิ ดีซะอีกจะไดมาดูผูใหญเหี้ยๆ ที่มันแยงแฟนคนอื่น"คําพูดทิวทําใหผมคอนขางอึ้ง ไมเคยมีครั้งไหนที่


ทิวจะแสดงความเปนเจาของผมดวยคําพูดแบบนี้ คราวนี้ทิวคงทนไมไหวจริงๆ

"ไอทิว! มึงไมสนแตก็เห็นแกหนาพายบาง จะมายืนประจานตัวเองประจานคนอื่นแบบนี้ทําไมวะ"จิ๋วเองก็เขามาชวยตอรั้ง


แขนทิวไวเหมือนกัน

"ทีแยงแฟนคนอื่นยังไมเห็นอาย แลวแบบนี้จะมาอายอะไร"ทิวพูดถึงใครผมไมแนใจ....คนที่ทิวกําลังดา...หมายถึงมัน...หรือ
ผม

"พายกลับไปกอนเถอะ เดี๋ยวจิ๋วดูทิวใหเอง มันกําลังโมโหนะ"

"อืม.....ฝากดวยนะ"

" หามไปนะพาย!! พาย! ทิวบอกวาไมใหไปไง!"ทิวพยายามสะบัดตัวใหหลุดจากการล็อคตัวของตอและจิ๋ว แตก็ทําไมได ได


แตดิ้นรนพรอมรองหามผมที่เดินมายืนหนาประตู ผมหันไปมองทิว....ผมไมโกรธทิวเลยที่ถูกพูดจาดูถูกรุนแรงแบบนั้น แต
กลับรูสึกเสียใจ....ที่ทําใหทิวเสียใจ เทาที่กําลังจะกาวไปหาคนที่ยืนพิงกรอบประตูหยุดลงกอนหันกลับมาแลวเดิน เขาไป
สวมกอดทิวเบาๆ

"......เดี๋ยวพายโทรหานะทิว.........ขอโทษ....ที่ตองทําแบบนี้"ถอยคําสุดทายออกจะหวนไปสักหนอยเพราะถูกกระชากแขน
จากดานหลัง ผมปลอยตัวใหปลิวตามการฉุดรั้ง เพิ่งจะสังเกตเห็นวาดานนอกมีพี่อั๋น รปภ. รวมถึงเพื่อนรวมคอนโดฯของทิว
ยืนใหความสนใจกับเหตุการณที่เพิ่งจบลงไปอยู

ไมรูวาเพราะแรงบีบที่ขอมือจากทิวมันทําใหเจ็บจนรูสึกชาไปแลวหรือเปลา ผมถึงไมรูสึกเจ็บกับการถูกลากถูลูถูกังและจับ
ยัดผมใสเบาะหลังรถจนหัวโขกกับขอบประตู....ทําไมไมรูสึกเจ็บเลยสักนิด
บนรถไมมีการสนทนาใดๆ พี่อั๋นก็เหมือนจะชินกับอารมณของเพื่อนถึงไมเอยปากอะไรออกมา พอรถจอดสนิทที่คอนโดฯ พี่
อั๋นก็แยกตัวไปไหนไมรู สวนผมก็ถูกลากอีกครั้งเพื่อกลับมาบนหอง ประตูหองปดลงเพราะแผนหลังที่ถูกดันกระแทกเขากับ
ประตูไม

"บอกแลวใชมั้ยวาไมใหไปหามัน ตองการลองดีงั้นเหรอ"ปลายคางถูกบีบดวยมือเพียงขางเดียว แตก็เจ็บจนเกือบจะรอง


ออกมา

"ผมขอโทษ"ผมพยายามพูดทั้งๆ ที่พูดไมถนัด แตก็พูดออกไปอยางไมลังเล คนฟงเหมือนจะอึ้งไปกับคําขอโทษของผม

"......ตองการอะไรพาย ทําอยางนี้ตองการอะไร ปนหัวคนอื่นนี่มันสนุกมากงั้นสิ"แรงบีบที่ปลายคางลดลง แตไมรูวาอารมณ


ที่คุกรุนของคนพูดลดลงไปดวยหรือเปลา

" เปลา ผมไมไดตองการอะไรหรืออยากปนหัวใคร เพียงแตตอนนั้นตกใจที่รูวาเพื่อนบาดเจ็บเลยรีบไปเยี่ยม พอไปถึงก็รีบ


โทรหาทันที....ขอโทษที่ไมฟง แตยังไงผมก็เปนหวงเพื่อน"

".....อยาใหมีครั้งตอไป ไมงั้นไอเด็กนั่นมันไมเจ็บแคนี้แน"ปลายนิ้วสะบัดเล็กๆ พรอมกับมือที่ยายไปทาวแขนคลอมผมไว

"อันนี้ผมไมรับปาก ยังไงผมก็รูจักกันมานาน และทิวเองก็ดีกับผมมาก แตถาจําเปนตองไปหา....ผมจะบอกคุณกอน"อาจ


เปนเพราะเห็นวาสถานการณเริ่มดีขึ้น ผมถึงไดกลาตอรองมากขึ้น

"ฝนไปเถอะวาบอกแลวจะใหไป"

"แตยังไงตอนเรียนผมก็ตองเจอกันอยูด"ี

"เรื่องนั้นชางมัน แตอยาคิดไปหามันแบบวันนี้อีก เขาใจที่พูดมั้ย"

"......"

"พาย!"

"....เขาใจแลว"

"............"หลังจากตอบรับไปก็ไมเห็นคนขางหนาจะพูดอะไร หรือปลอยผมไป มีเพียงสายตาที่จองมองตรงมานิ่งๆ จนผม


เริ่มรูสึกอึดอัด
"ถาไมมีอะไรแลว ผม...อุบ!....อื้ออออ"คําพูดที่ยังพูดไมทันจบก็ตองหยุดลงเพราะริมฝปากที่ประกบปดลงมาเร็วจนรูสึกเจ็บ
ฝามือหนารวบเอวเขาไปกอดไวแนนยิ่งทําใหรูสึกอึดอัด สะโพกกดรั้งแนบชิดขณะกาวถอยหลังไปทางหองนอน

ตอนที่ 32

ยิ่งดิ้นรนขัดขืนก็ยิ่งรูสึกวาคิดผิด เพราะเปาหมายจากหองนอนกลับกลายเปนโซฟาที่อยูใกลกวา หมอนอิงใบเล็กที่วางไว


ทําใหรางกายที่ไมราบลงไปตามเบาะของโซฟาบดเบียดอยางชวยไมได ริมฝปากรอนพรมจูบตามซอกคอและใบหนา
ขณะที่มือปลดกระดุมหลุดออกจนหมด

“มะ..ไม....หยุด.....”ผมพยายามรั้งฝามือที่พยายามปลดเข็มขัด น้ําเสียงขาดหวงเพราะริมฝปากที่เวียนจูบตามยอดอก
ไมรูวาเพราะอะไรมันถึงเกิดบาแบบนี้ขึ้นมาอีก

“อะ!...โทษที...”เสียงรองที่ดังจากหนาประตูทําใหมือที่กําลังจะถอดกางเกงผมชะงักลง สวนผมไมกลาแมแตจะเงยหนา
ขึ้นมองวาใครคือเจาของเสียง ทําไดเพียงดึงกางเกงใหอยูในระดับเดิมและรวมสาบเสื้อไวดวยกัน ทั้งๆ ที่ผมรูสึกอายจนมุด
หนาลงกับโซฟา แตคนที่ทับตัวผมกลับไมมีความกระตือรือรนที่จะปรับเปลี่ยนทาทาง

“มีอะไรอั๋น”

“ก็....มึงทิ้งงานมา.....”เสียงประตูหองปดเบาๆ แตไมไดยินเสียงเดินเขามา สงสัยพี่อั๋นยังยืนอยูหนาประตูแนๆ

“แลวจัดการกันเองไมเปนรึไงวะ”ทั้งๆ ที่มันเงยหนาพูดกับพี่อั๋น แตกลับไมยอมปลอยใหผมลุกจากโซฟา ถึงจะพยายาม


ลอดผานใตวงแขนแตก็ทําไมสําเร็จ สุดทายเลยเลือกที่จะหันหนาซุกอยูกับเบาะนุมๆ

“.....ก็....มึงเกงสุด...แลวงานก็ตองเสนอพรุงนี้ดวย...”ทาทางงานคงสําคัญ ไมงั้นพีอ่ ั๋นคงไมเสี่ยงพูดตอแบบนี้ แตนับวา


เปนเรื่องดี รีบๆ ลากมันกลับไปทํางานหรือไปไหนก็ไปเถอะ

“เดี๋ยวกูลงไปทําตอใหเสร็จเอง”

“แต....คนอื่นรอประชุมอยูดวย มึงบอกเองวาไปรับพายแลวจะรีบกลับมาประชุมตอ”

“......มึงลงไปกอน เดี๋ยวกูตามไป”

“....ทําเวลาหนอยนะมึง”
“ลงไปกอน”มันพูดเนนเสียงใหรูวาใกลหมดความอดทนเต็มที

“เออๆ”พี่อั๋นตอบรับแบบหงุดหงิดแตก็ยอมออกไปแตโดยดี เสียงประตูหองปดลงทําใหบรรยากาศนาอึดอัดกลับคืนมา

“.....ซุกหนาแนนขนาดนั้นเดี๋ยวก็ขาดอากาศตายหรอก”

“ก็ถอยไปสักทีสิ”ผมยังพูดในขณะที่หันหนาหนีมันอยูเชนเดิม

“หันหนามาดีๆ”

“บอกให...!!”พลาดอีกแลวที่คิดวาจะหันมาตวาดใส ปากหนาฉกวูบลงมากดจูบหนักๆ หลายครั้งติดกันกอนจะถอนหนา


ออกไปแลวพูดในสิ่งที่....ขัดกับเหตุการณที่เพิ่งเกิดขึ้น

“....ทํากับขาวสักตอนสองทุม เสร็จแลวลงไปเรียกที่หองเกาดวย”

“......อะ..อืม”ผมไมแนใจวาตกใจและหวาดกลัวเกินไปจนทําใหสมองทํางานผิดเพี้ยนไปหรือเปลา คําขานรับเบาๆ ในลําคอ


สรางความพอใจใหกับคนสั่งอยูบาง อยางนอยมันก็ยอมลุกออกจากรางผม

“หามออกไปไหน ถาจําเปนใหลงไปบอกกอน”

“อืม”ผมลุกขึ้นนั่งติดกระดุมเสื้อตัวเองใหเรียบรอย ขานรับในลําคอโดยไมไดหันไปมอง เสียงเปดและปดประตูหองเบาๆ


ชวยปลุกใหตื่นจากความคิด แตก็ยังไมมั่นใจวา....น้ําหนักที่ลูบศีรษะเบาๆ เมื่อครู....เปนสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ถึงมั่นใจวาเริ่ม
ปรับตัวใหเขากับมันไดบางแลว หากสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้กลับทําใหไมมั่นใจไดอีก....สัมผัสเมื่อครู. ...พอจะ...ตีความเขาขาง
ตัวเองไดบางมั้ย...วามัน...เปนความออนโยน...ครั้งแรก

หลังจากหายงงและหายตกใจ ผมก็อาบน้ําเปลี่ยนชุดใหมแลวรีบทํากับขาวตามที่มันสั่ง แตก็ไมไดถามวาใหทําสําหรับกี่คน


พี่อั๋นอยูดวยนาจะมากินพรอมกัน แตของสดในตูเย็นเหลือไมกี่อยาง ทําอยางมากก็ไดแคสองอยาง ผมเลยเปลี่ยนเปนทํา
ขาวผัดกับแกงจืดวุนเสน เผื่อพี่อั๋นไมกินดวยก็ยังสามารถเก็บไวกินพรุงนี้เชา เวลาอุนก็งายกวาอุนกับขาว ทําทุกอยางเสร็จ
เรียบรอยผมก็ยืนทําใจอยูกลางหองกอนจะรวมรวบสติลงไปขางลาง ไมรูวาตอนนี้มันอยูในอารมณไหน เหมือนจะโมโหผม
มากที่ขัดคําสั่ง แต....ทําไมมันถึงลูบหัวผมเลนแบบนั้น

“เออ...มาหาใครคะ”หลังจากกดออดก็มีผูหญิงเดินมาเปดประตูให ผมมองเลขหองที่ประตูก็แนใจวามาถูกหองแลว

“มาหา...คุณตั้มนะครับ”
“ติดตอเรื่องอะไรคะ ไดนัดไวหรือเปลา”ผูหญิงคนนี้นาจะอายุมากกวาผมสองสามป หนาตาสวยหวาน ใสกระโปรงยีนสเสื้อ
ยืด หรือวาจะเปนแฟนพี่อั๋นคนที่เคยพูดใหไดยิน

“คือ..ไมไดมีธุระอะไรครับ ฝากถามเขาหนอยวาจะกินขาวที่ไหน ถากินที่นเี่ ดี๋ยวผมจะไดเอามาสง”สงสัยจะทํางานยังไม


เสร็จ ขางในยังมีคนอื่นนั่งทํางานกันอีกสามสี่คน

“ออ รานขาวเหรอนอง เดี๋ยวพี่ถามให แลวฝากสั่งเพิ่มเลยแลวกันนะ เฮย! พวกแกจะกินอะไรจดใสกระดาษไวนะ จะไดสั่ง


ทีเดียว”พี่เขาตะโกนบอกเพื่อนกอนจะปดประตู ผมจะแกไขเรื่องที่เขาใจผิดก็ไมทัน รอไมนานพี่คนเดิมก็กลับมาเปดประตู
ใหมอีกครั้ง

“พี่ตั้มบอกใหใสจานมาให สวนอันนี้พี่สั่งเพิ่มนะ”

“คือ...ของไมมีแลวครับ เอาเปนขาวผัดเหมือนกันไดหรือเปลาครับ”ผมมองดูรายการอาหารที่จดมาใหแลวคิดวาไมสามารถ
ทําได ในเมื่อพี่ๆ เขาไมมีปญหาอะไรผมก็กลับขึ้นมาบนหอง หยิบกลองถนอมอาหารมาตักขาวผัดในกะทะใสลงไปจนหมด
คิดวานาจะพอสําหรับสามคน หยิบมามามาหกหอแลวลงมือผัดมามาเพิ่ม เนนหมูเนนไขใหเยอะๆ จะไดอิ่มๆ พอผัดเสร็จก็
หยิบกลองพลาสติกใบใหมมาใส คนถุงพลาสติกหูหิ้วมาจัดกลองจัดจานชามใสลงไปโดยคะเนจํานวนคนคราวๆ สวนแกง
จืดก็ถือลงไปทั้งหมอเพราะไมมีกลองใหใสอีกแลว กวาจะลงมาถึงหวิดทําแกงจืดหกใสตัวเองหลายรอบเพราะความรอน
ของหมอและน้ําหนักของถุงอาหารที่หิ้วเพียงนิ้วแคสามนิ้ว แถมอีกสองนิ้วก็ตองชวยประคองหมอแกงจืดมาตลอดทาง
มาถึงหนาหองไดก็ตองเสี่ยงโดนแกงลวกอีกรอบเพราะตองยื่นนิ้วกอยมือที่วางไปกดกริ่ง

“เสร็จแลวเหรอ เร็วดีจริง แลวนี่หมออะไรละนอง”พี่สาวคนเดิมออกมาเปดประตู พอเห็นขาวของเต็มมือก็รีบแบงถุงไปถือไว

“แกงจืดวุนเสนครับ”ผมตอบพรอมเดินตามเขาไปดานใน หองที่เคยเปนหองนอนกลายเปนหองประชุมไปแลว และตอนนี้


โตะประชุมก็กลายเปนโตะกินขาวอีกดวย

“วาว ผัดมามานี่นา เฮยพวกแกนะขาวมาแลว ไปตามเฮียมากินดวย”พี่สาวตะโกนบอกเพื่อนดานนอกพรอมลงมือหยิบจาน


ชามออกมา ผมคอยๆ ใชทัพพีแบงแกงจืดเปนสองชาม

“ทั้งหมดเทาไหรจะนอง”

“เออ....ไมเปนไรครับ”ผมจะบอกวาไมใชรานอาหารก็กลัวพี่เขาจะหนาแตก พอบอกวาไมตองก็ดูเหมือนจะทําหนางงๆ
ดีกวามีคนเขามาชวยแกสถานการณไดพอ

“พายกินหรือยัง กินดวยกันเลยมั้ย”พี่อั๋นเดินเขามาถึงก็ใชชอนตักน้ําแกงจืดขึ้นมาซดทันที ทาทางจะหิวจัด


“ไมเปนไรครับ เดี๋ยวพายไปกินบนหอง”

“อาวเฮีย นี่ไมใชเด็กรานขาวเหรอ”

“หะ! ไมใชซะหนอย ไหงแกคิดแบบนั้นละหมวย”

“อาว...หมวยไมรูนี่ เผลอสั่งอาหารเรียบรอย นี่กําลังจะจายตังคอยูพอดี แลวนองเขาก็ไมบอกวาไมใชดวย”พี่หมวยยิ้มเขินๆ


สวนพี่อั๋นหัวเราะกากกับความเขาใจผิดที่เกิดขึ้น

“หัวเราะอะไรกัน”

“ก็ไอหมวยนะดิ ดันคิดวาพายเปนเด็กรานขาว จะจายตังคคาอาหารดวยนะ”

“ก็จะไปรูเหรอ นองเขาไมพูดสักคํา แถมตอนสั่งอาหารยังไมเห็นแกตัวเลย พี่ไมรูนะนอง ขอโทษทีนะ นี่คงไปทํามาเพิ่มให


ละสิ แลว....ตกลง....เปนใครละ”พี่หมวยนี่ทาทางจะทํางานคลอง เปนพูดรวดเดียวทั้งอธิบายเรื่องที่เขาใจผิด ทั้งขอโทษผม
แลวสุดทายยังจบดวยคําถามอีก ไมรูวาจะตอบอะไรไปกอนดี

“หุหุ...นั่นสิ...เปนใครกันนออออ”พี่อั๋นหัวเราะแบบแปลกๆ พรอมหันไปเหลมองคนที่ยืนอยูขางๆ ผม

“กินกันพอนะครับ ถาไมพอเดี๋ยวพายไปทํามาใหเพิ่ม พอดีไมอยากหุงขาวใหม ผัดมามามันเร็วกวา”ผมปลอยใหสองคนนั้น


เหลกันไป คุยกับพี่หมวยดีกวาอีก

“พอแลวจา เกรงใจนองเปลาๆ”พี่หมวยเริ่มตักผัดมามาใสจานตัวเอง พี่คนอื่นก็เริ่มทยอยเดินเขามานั่งจนเกาอี้เกือบเต็ม

“งั้น...ผมกลับหองกอนนะ”ผมหันหนาไปพูดกับคนขางๆ แตไมอยากสบตา เรื่องที่เกิดไมไดทําใหรูสึกเขินอาย....อาจรูสึก


บางนิดหนอย...แตเปนเพราะไมเขาใจเสียมากกวา แลวสีหนากับความรูสึกของฝามือนั้นมันก็ยังชัดเจนเกินกวาจะให
พูดคุยกันเหมือนปกติได

“ไมกินขาวรึไง”แคประโยคคําถามเดียวแตกลับทําใหเสียงพูดคุยของคนอื่นเงียบลง....เหมือนตั้งใจฟง

“จะไปกินบนหอง”

“อืม....พรุงนี้มีเรียนกี่โมง”
“เกาโมง”

“จะไปตอนไหนลงมาเรียกขางลางแลวกัน กุญแจสํารองหัวเตียง คืนนี้คงไมกลับไปนอน...นอนไปกอนไดเลยไมตองรอ”มัน


พูดจบผมรูสึกวาบรรยากาศรอบๆ มันเงียบลงกวาเดิม แต...สายตาทุกคูพุงตรงมาที่ผม เสียงหัวเราะในลําคอของพี่อั๋นทํา
ใหผมรูสึกตัวแลวรีบเดินออกจากหองทันที มันจงใจ.....จงใจทําใหผมขายหนาแนๆ....ไมตองรองั้นเหรอ...ผมเคยรอมันหรือ
ไง....บาจริงๆ ไมนาปลอยใหมันพูดอะไรแบบนั้นเลย นาจะสวนอะไรกลับไปสักหนอย ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ

สรุปแลวพอกลับมาถึงหองก็กินอะไรไมลง อารมณโมโหปนอับอายยังคุกรุนอยู พออาบน้ําสระผมก็คอยเย็นลงบาง ผมเดิน


เขาหองนอนหยิบหนังสือมาอานแลวก็เปดโทรทัศนในหองไปควบคู อานไปไดพักใหญก็ลมตัวลงนอนอยางสบายใจ ดี
เหมือนกันที่มันงานยุง ไมงั้นคืนนี้ไมรูวาจะรอดหรือเปลา ถาเกิดเหตุการณแบบเมื่อเย็นอีก ผมยอมเจ็บตัวดีกวาใหมันทํา
อะไรแบบนั้น

รุงเชาผมตื่นขึ้นมาดวยอารมณสุนทรีที่สุดหลังจากไมมีมานาน ผมไดนอนเต็มอิ่มเต็มเตียงโดยไมตองพะวงวาตื่นมาจะเจอ
ใคร ไมตองฟงคําพูดกวนอารมณของใคร ถึงจะเปนแคสองชั่วโมงแตก็พอแลว ขาวตมหมูสับงายๆ สําหรับมื้อเชา หลังจาก
ทุกอยางเรียบรอยผมก็หยิบกุญแจสํารองแลวก็ลงไปหองเกา ไขกุญแจไปแลวก็พบหองโลงๆ ไรสิ่งมีชีวิต ไดยินเสียงเบาๆ
รอดจากหองทํางานเลยไปเคาะเรียก คนที่มาเปดก็คือคนที่ตั้งใจมาหาอยางจําใจ ทาทางจะยังไมไดนอนเพราะยังอยูในชุด
เดียวกับเมื่อวาน ดานในพี่อั๋นยังทํางานอยูดวยเหมือนกัน

“จะไปเรียนแลวเหรอ”สีหนาของคนอดนอนดูนากลัวกวาปกติ

“อืม”ผมพูดพรอมพยักหนา ไมอยากขอไปเองเพราะคงไปไมทัน

“ขับรถเปนมั้ย”

“ไมเปน”

“อืม....งั้นเดี๋ยวใหอั๋นมันไปสง เลิกเรียนแลวโทรมา อยาไปไหนแบบเมื่อวานอีก”ถึงสีหนาเหมือนจะเบลอๆ แตกลับไมลืมที่


จะสั่งผมเหมือนเคย ผมถอยจากประตูมายืนรอสักพักพี่อั๋นก็เดินออกมาแลวขอลางหนาลางตากอนจะขับไปสงผม ระหวาง
ทางก็เห็นอาปากหาวตลอดจนผมกลัววาจะไปไมถึงมหาฯลัยเพราะคนขับหลับในแลวใชทายรถคันอื่นเปนเบรก

“งานดวนเหรอครับ”อยางนอยก็ควรชวนคุยเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

“อืม...ชวงกอนยุงๆ เรื่องยายออฟฟศนะ ลูกคารายนี้ก็เรื่องมากดวย ถาไมเนี้ยบตั้งแตครั้งแรกแลวจะยิ่งยืดเยื้อ หาเวลาเขา


ไปเสนองานยาก ถาเปนลูกคาทั่วๆ ไปก็ไมตองใหตั้มมันลงแรงเองหรอก นี่พี่ก็ตองรีบกลับไปเปลี่ยนชุดแลวกลับมาเอางาน
ไปพรีเซนตดวย ใหไอตั้มไปก็ไมได ยิ่งอดนอนมันยิ่งขี้หงุดหงิด เกิดเจอลูกคางี่เงาใสมากๆ มีหวังงานไดลมเพราะปากมัน”พี่
อั๋นคงอยากพูดแกงวงบาง แต...พี่เขาเปนคนเปดเผยดีนะครับ ดาเพื่อนไมเลี้ยงเลย

พี่อั๋นพูดเรื่องงานใหฟงตลอดทาง ทําใหผมรูอะไรมากมาย รูวาสามคนนี้เปนเพื่อนสนิทกันตั้งแตสมัยเรียนมัธยมตน พอจบ


มาก็แยกยายไปทํางาน พี่อั๋นจบปริญญาโทที่มหาฯลัยของผม ประสบการณการทํางานเลยนอยกวาคนอื่นเพราะเรียนอยาง
เดียว แตอีกสองคนเรียนดวยทํางานดวย สุดทายพอเบื่องานประจําก็เลยรวมทุนกันเปดบริษัทฯออแกไนซเล็กๆ แตวาแตละ
คนก็มีกิจการอื่นดวย อยางพี่นัทมีสํานักงานบัญชี สวนอีกคนก็อยางที่รวู ามีรานไวนหลายสาขา แลวยังมีรับเหมากอสราง
อีก ก็สรางอะไรเสร็จการประชาสัมพันธเปดตึกเปดหมูบานก็จะโยนมาใหที่ออฟฟศรับงาน เงินทองไมรั่วไหลดีจริงๆ

“ขอบคุณครับพี่อั๋น”ผมเดินลงจากรถที่หนาตึกเรียน คราวนี้ไมตองหลอกใหไปสงที่อื่นอีกแลว พี่อั๋นพยักหนารับหรือสัปหงก


ผมก็ไมแนใจ ผมปดประตูรถแลวหันหลังเตรียมขึ้นตึก....ถาไมไดยินเสียงเปดประตูรถอีกฝง

“นองแพร!!!”เสียงตะโกนเรียกดังกองจนทําใหสายตาหลายคูบริเวณนั้นหันมาสนใจ ผม&

ตอนที่ 33

“นองแพร!!!”เสียงตะโกนเรียกดังกองจนทําใหสายตาหลายคูบริเวณนัน้ หันมาสนใจ ผมมองพี่อั๋นวิ่งไปทางลานกิจกรรมที่มี


กลุมนักศึกษานั่งกันอยูเต็มพื้นที่ แตที่เรียกความสนใจคงเปนหญิงสาวที่พี่อั๋นวิ่งเขาไปหา...แพร....ผูหญิง...คนเดียวที่ผม...
คิดวาจะรัก
****************************************************************
ดวงหนาสวยหวานยังคงงดงามเหมือนเดิม รอยยิ้มละไมบนใบหนายิ่งทําใหดูออนหวาน ผมเผลอกาวเดินตามหลังพี่อั๋นไป
ดวยจุดหมายเดียวกันโดยไมรูตัว เพียงแคชั่วครูที่สายตาคูสวยละจากคนดานหนามาประสานกับผม ริมฝปากที่แยมยิ้ม
กลืนหายและทดแทนดวยดวงตาที่เบิกกวางอยางตืน่ ตระหนกพรอมกับลุกขึ้นแลววิ่งหนีไป พี่อั๋นรีบวิ่งตามจนเริ่มหางจาก
ตัวผมที่หยุดยืนอยูที่เดิม....ไมวาจะเหตุผลอะไร...แต....สีหนาแบบนั้น...แววตาแบบนั้น...ทําใหไมกลาที่จะกาวเดินเขาไป
หา......มัน....เกิดอะไรขึ้น

"....พาย"เสียงเรียกจากดานหลังพรอมฝามืออุนๆ ที่กุมรอบขอมือทําใหตื่นจากความคิดตัวเอง

"ทิว....สบายดีนะ"ไมรูทําไมถึงรูสึกแปลกๆ กับทิว....เขาหนาไมติด....ใชคํานี้คงได

"อืม....พาย....เปนอะไรหรือเปลา ทําไมมายืนกลางถนนละ เดี๋ยวก็โดนรถชนหรอก"ทิวดึงผมใหเดินตามจนขึ้นมาอยูบนฟุต


บาต ผมมองไปทีร่ ถยนตคันหรูที่เพิ่งกาวลงมา ประตูฝงคนขับยังไมไดปดผมเลยชวยปดให

"มันมาสงพายเหรอ"เสียงทิวเหมือนจะหวนขึ้นทันทีที่ผมเดินกลับมายืนขางๆ เหมือนเดิม
"เปลา เพื่อนเขามาสงนะ"

"ขอทิวคุยดวยไดมั้ย"

"ไดสิ แลวจะไมขึ้นเรียนเหรอ"

"เรียนสิ แตเขาสายหนอยแลวกันนะ ทิวใหเพื่อนเช็คชื่อใหทุกวันอยูแลว"ทิวจูงมือผมเดินไปทางซุมหลังตึกที่มีคนนั่งคอนขาง


นอย เราเลือกนั่งที่โตะไมริมสระน้ําเล็กๆ

".....เมื่อวานทิวขอโทษนะ...ที่พูดกับพายแบบนั้น ทิวโมโหนะ แลวก็....เมาๆ อยูดวย"ทิวมองตรงไปที่สระน้ํา ผมเองก็มอง


ตรงไปขางหนาเหมือนกัน นานเทาไหรไมรูที่ไมไดนั่งอยูกับทิวแบบนี้.....ทําไมถึงรูสึกเหมือนไมเจอทิวมานานเหลือเกิน

"หัวแตกยังจะกินเหลาอีก เดี๋ยวแผลก็เนาหรอก"

"ดีส.ิ ..พายจะไดมาดูแลทิวไง"

"........"

"ไมไดเหรอ"

"ไมใชไมได แต...ตอนนี้ยังไมได.....รออีกหนอยนะ....ไดมั้ย"

"ทิวไมเขาใจพายเลยจริงๆ พาย....เปลี่ยนไปมากนะ"

"เปลี่ยนตรงที่กลาขัดใจทิวนะเหรอ"

"ก็....ดวยนะ แตที่สําคัญ.....พายดู...เขมแข็งขึ้นยังไงไมรู แลวก็ด.ู ......มีชีวิตชีวาขึ้นนะ"

"ทิวเอาอะไรมาพูด ไมจริงซะหนอย"

"อืม...ไมรูส"ิ

".....บางอยางมันก็ไมใชอยางที่เห็น หรืออยางที่คิดหรอกนะ แตทิวพูดถูก...พายเปลี่ยนไปแลวจริงๆ"

"มันดู.....จะรักพายมากเลยนะ"
"ฮาๆๆ สมองกระทบกระเทือนมากไปรึเปลาเนี่ยทิว เขาจะมารักอะไรพาย พายบอกแลววาไมใชอยางที่ทิวคิดหรอก แตพาย
มีเหตุผลที่จําเปนตองอยูกับเขาก็แคนั้นเอง"

"ก็...เขาหึงพายชัดเจนออกขนาดนั้นนี่นา"

"บานา ไมใชหรอกทิว พูดอะไรเพอเจอ ไปเรียนกันเถอะ เขาสายกวานี้เดนแนๆ"ผมลุกขึ้นปดฝุนที่กางเกง ทิวอิดออดไม


อยากขึ้นเรียนแตก็ยอมตามใจผมเหมือนเดิม....เรา...กลับมาเหมือนเดิมแลวใชมั้ย

ไมรูทําไมผมถึงรูสึกเหมือนกลับเพิ่งเปดเทอม ระหวางเรียนทิวชวนคุยเรื่องโนนเรื่องนี้จนอาจารยหันมามองหลายรอบ พอ
ทิวจะนอนผมก็หามเพราะใกลสอบแลว แตพอผมตั้งใจเรียนไมหันไปคุยดวยทิวก็ทําลายสมาธิดวยการแกลงปดปากกาที่
กําลังจด บางทีก็เอาดินสอมาวาดรูปบนหนังสือของผม ไปๆ มาๆ ก็กลายเปนวาเรียนไมรูเรื่องเลย นาเสียดายที่วันนี้มีเรียน
แคชวงเชา ผมไปนั่งกินขาวที่โรงอาหารกับทิวระหวางรอใหมันมารับ ถึงแมน้ําเสียงตอนรับโทรศัพทจะฟงออกวากําลังนอน
แต...มันก็ไมยอมใหผมกลับเองเพราะไมไวใจเหมือนเดิม

"งั้นทิวกลับกอนนะ แลวทิวจะโทรหา"ทิวรีบบอกลาทันทีที่มองเห็นมันขับรถมาจอดแลวออกมายืนขางรถพรอมเรงผมดวย
สายตา ผมพยักหนารับหลังจากที่ไดสัญญาแลววาตอไปนี้จะรับโทรศัพททิวหรือไมก็โทรกลับทุกครั้ง ทิวย้ําแลวย้ําอีกวาถา
มันรังแกใหไปฟอง แลวทิวจะมาจัดการให....คําวารังแก....ฟงดูเล็กนอยเกินไปสําหรับการกระทําของมัน

"ร่ําลากันไปถึงไหนละ มันถึงไดเดินยิ้มไปแบบนั้น"มันพูดขึ้นมาทันทีที่ผมเปดประตูเขามานั่ง

"ถึงไหนอะไร"อารมณดีๆ หายหมดพอเห็นหนามัน แตก็ไมกลาโวยวายมากเพราะหนาตาดุยิ่งกวาเมื่อเชาอีก

"มันมาคุยอะไร"

"ก็ทั่วๆ ไป"

"ก็แลวอะไรบางละ"

"หลายเรื่อง เยอะแยะบอกไมถูก มันยาว"คุยตั้งแตยังไมเขาเรียนจนเรียนเสร็จแถมดวยกินขาวอีก ใครจะไปสาธยายหมด

"ไมเปนไร ฟงได กวาจะกลับถึงหองคงบอกไดหมด"มันพูดจบก็หันไปขับรถโดยไมรูสึกอะไร ทั้งๆ ที่สิ่งที่มันบอกใหทํานะ....


ไมมีคนปกติที่ไหนเขาทํากันหรอก

"......."
"เงียบทําไม เลามาสิ เดี๋ยวกลับไปก็ไมมีเวลานอนตอพอดี"สรุปคือผมตองเลาจริงๆ ใชมั้ยเนี่ย...เอาเถอะ ยังไงก็ไมใช
ความลับอะไร ผมถอนหายใจหนักๆ หนึ่งครั้งกอนจะเริ่มเลาตั้งแตตอนที่ทิวมาขอโทษ สวนเรื่องของแพรผมจงใจไมพูดถึง
....ผมอาจหลงลืมไปบาง แต....เหตุการณวันนี้ทําใหตองยอนกลับไปคิดถึงครั้งแรกที่มันขอโทษผม

กวาจะเลาโดยยอจนหมดก็มาถึงคอนโดฯพอดี การจราจรในกรุงเทพฯชวยใหผมไมตองนั่งเลาแทนนิทานกอนนอน ทันทีที่


กลับถึงหองมันก็เปลี่ยนชุดแลวลมตัวลงนอน ดีเหมือนกันที่ไมตองกลับมาเถียงอะไรกันตอ ผมอาบน้ําเปลี่ยนเสื้อผาแลวก็
เขาไปในหองทํางานเพื่ออานหนังสือ ถาอานหองนั่งเลนเกรงวาจะมัวเพลินกับทีวีจนลืมอานเหมือนครั้งที่ผานมา แต...มา
อานในหองคอมฯนี่ก็ไมไดดีขึ้นเลย ผมแคอยากลองเปดคอมฯ ขึ้นมาเลนเกมสแตปรากฏวามันเปดไมติด ทั้งที่ตอสาย
เรียบรอยหมดแลว ความรูเรื่องเทคโนโลยีที่เปนศูนยของผมก็ไมสามารถทําอะไรได แตยังดีที่หองนี้มีคอมฯหลายเครื่อง
ยังไงมันก็ไมเคยหามอะไรอยูแลวผมเลยถือวิสาสะเปดคอมฯของมันขึ้นมา มีเงินนี่มันก็ดีตรงที่สามารถซื้ออะไรดีๆ
ปรนเปรอตัวเองไดเนี่ยแหละ คอมฯของผมเครื่องก็ใหญ แถมเปนรุนเกา เปดปดก็ชา จอภาพเล็กๆ แตหนักกวาจอแบนรุน
ใหมของมันเยอะ เหมือนสีจะสดสวยกวาดวยสิ

ผมนั่งเลนเกมส เปดดูเว็บไซตเพลินจนไมรูวาเวลาผานไปเทาไหร กวาจะหยุดเลนไดก็เพราะเจาของเดินเขามานั่งขางๆ นั่น


แหละ

"นั่งเลนอะไรปญญาออน"ประโยคแรกของคนที่เพิ่งตื่นนอน

"เลมเกมสไพไง ไมรูจักรึไง"

"เกมสอื่นก็มีใหเลนเยอะแยะไมเลน พวกเกมสออนไลนก็มีแผนอยูแตยังไมไดลง อยากเลนมั้ยละ"

"ไมอยาก ไมเคยเลน"ผมปฏิเสธแผนเกมสที่มันรื้อจากลิ้นชักขึ้นมาวางแผใหผมเลือก

"ไมเลนตอละ จะไปไหน"

"คอมฯผมมันเปดไมติดเลยเปดเครื่องคุณเลนเฉยๆ"

"ไมไดถามวาทําไมเลนเครื่องนี้ซะหนอย จะใชก็ใชไมไดหวง แลวเครื่องนั้นเปนอะไรเปดไมติด ลืมเสียบปลั๊กรึเปลา"

"ผมไมไดโงขนาดนั้นนะ"

"อาว...เหรอ"
"......."

"อะไร มองทําไม มีปญหาเหรอ"

"เปลา"

"ไปทําขาวมาใหกินหนอยไป ตั้งแตเชายังไมไดกินอะไรเลย"

"ขาวตมในหมอไมไดกินเหรอ ผมตมไว"

"ไมไดกิน งานเสร็จก็ขึ้นมานอนเลย ไมเอาขาวตมนะ ไมอยูทอง เอามามาก็ไดเร็วดี"

"อืม"ผมรับคําสั่งแลวก็เดินถือหนังสือออกมาวางไวขางนอก ระหวางทํามามาผมก็คิดถึงเรื่องเมื่อเชา ผมคอนขางแนใจวา


แพรวิ่งหนีผม แตไมเขาใจวาทําไม...เปนผม สวนเรื่องที่พี่อั๋นรูจักแพรโดยที่ผมไมรูเนี่ยไมคอยแปลกใจ เพราะยังไงผมก็ไม
เคยยุงเรื่องสวนตัวแพรอยูแลว ถาถามมันแลวมันจะเลาใหฟงมั้ยนะ...จะเลาความจริงมั้ย

"ใจลอยคิดถึงใครอยู" เสียงกระซิบขางหูทําใหสะดุงจนทําซองมามาหลน

"อยามาเงียบๆ บอยนักไดมั้ย ผมตกใจนะเนี่ย"ผมเบี่ยงตัวหนีมือที่เกาะเอวผมไวหลวมๆ แลวกมลงหยิบมามาขึ้นมาฉีกซอง


ลงในตมในน้ําที่เดือดไดสักพัก

"เรียกแลวไมขานเอง มัวแตคิดถึงไอเด็กเวรนั่นละสิ"

"ผมจะคิดถึงใครมันก็เปนสิทธิของผมไมใชรึไง"

"แสดงวาคิดถึงมันจริงๆ ใชมั้ย ทําไม คุยกันทั้งวันแลวไมหายคิดถึงอีกรึไง"

"อืม...โอย! เปนบาอะไรเนี่ย เจ็บ!!"กําลังตักมามาใสชามมันก็บีบแขนซะแรง นิสัยชอบความรุนแรงกลับมาอีกแลวรึไงเนี่ย


จะใหผมเวนวางจากแผลสักวันไมไดเลยรึไง

"อยากวนประสาทไดมั้ย นาจะรูนี่วาไมชอบใหพูดประชดแลวจะพูดใหมันไดอะไรขึ้นมา"

"ก็แลวใครเริ่มกอนละ ผมอยูของผมดีๆ นะ"

"พูดดีดวยหนอยแลวเหลิงเหรอ หือ วาไง"


"เปนอะไรเนี่ย! นอนไมพอก็ไปนอนตอไป ผมยังไมไดทําอะไรเลยนะ"

"เพราะไมทําอะไรไงถึงสมควรโดน บอกแลวใชมั้ยวาไมใหไปยุงกับมันอีก"

"ผมก็บอกแลววาทําไมได"

"ทําไมไดก็ไมตองไปเรียน"

"ไมไปก็ได ไมอยากเรียนแลวเหมือนกัน เดี๋ยวพรุงนี้ไปลาออกเลยดีมั้ยละ"

"ปากดี พอใหทําจริงๆ ขี้ครานจะมานั่งรองหมรองไห เกงแตปากพอกับไอเวรนั่นไมมีผิด"

"คุณก็ดีแตรังแกคนอื่นนั่นแหละ ดีแตใชกําลัง มันก็ไมตางกันหรอก"

"นั่นสิ เหมาะสมกันจะตาย จริงมั้ย"

"ประสาท"

"เลิกดาไดแลว รําคาญ รีบๆ ทําใหเสร็จดวย หิวจะตายแลว"พูดจบก็เดินไปนั่งรอบนโซฟาหนาตาเฉย รับอารมณมันไมทัน


จริงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวบา แลวสวนมากจะบาซะดวยสิ อยางนี้มีหวังกวาจะเขาใจมันไดไมแกตายกอนเหรอเนี่ย ผมยกชาม
มามามาบริการมันถึงหนาทีวี พรอมดวยน้ําอีกหนึ่งแกว คนหิวก็รับไปลงมือกินเหมือนคนอดยากมานาน ถาทิวมาไดยินได
เห็นอะไรแบบนี้ยังจะคิดอะไรแบบนั้นอยูอีกมั้ยเนี่ย

"เย็นนี้ไมตองทําอะไรนะ เดี๋ยวจะพาออกไปขางนอก"

"ไปไหน ไมไปไดมั้ย"

"ไปซื้อของสดมาเก็บไวไง หมดแลวไมใชเหรอ"

"อืม...งั้นไปก็ได"

ผมปลอยใหมันนั่งกินอยูขางนอก สวนตัวเองมานอนอานหนังสือในหอง อานไปไดสักพักก็เคลิ้มหลับ มารูสึกตัวอีกทีก็


เพราะมันมาปลุกใหออกไปซื้อของ แตไมไดไปกันแคสองคน เพราะมีพี่นัทไปดวย
มันขับรถนํารถพี่นัทออกมาจากคอนโดฯแลวไปหางสรรพสินคาใกลๆ ตอนแรกนึกวาจะไปซื้อของเลยแตกลับกลายเปนมา
นั่งกินขาวที่รานอาหารบนหาง พอกินเสร็จพี่นัทก็แยกตัวไปแลวผมกับมันก็ไปชั้นลางเพื่อซื้อของ รถเข็นคันใหญถูกเข็นตาม
ผมที่เดินนําไปแผนกตางๆ คํานวณปริมาณคราวๆ ใหไดสักหนึ่งสัปดาห

"ทําพวกอาหารฝรั่งเปนมั้ย สปาเก็ตตี้อะไรพวกนี้นะ"

"ก็พอไดแตกลัวไมอรอย"

"งั้นเดี๋ยวแวะรานหนังสือแลวซื้อไปไวหัดทําดวย"

"อืม งั้นคุณไปเลือกเสนสิวาชอบแบบไหน"ผมพูดจบมันก็เข็นรถนําไป ถาเจออะไรนาสนใจหรือเปนของชอบมันก็จะหยิบใส


รถทันที และผมก็ทําอยางนั้นตามคําสั่งมันดวยเชนเดียวกัน

กวาเราจะกลับมาถึงหองก็ปาไปสี่ทุม นอกจากจะไดอาหารและหนังสือ ยังไดดีวีดีหนังมาอีกหลายเรื่อง รวมทั้งซีดีเพลงอีก


หลายแผน ตางคนตางแยกยายไปเก็บของตามสิ่งที่ถนัด จากนั้นก็แยกยายกันอาบน้ําแลวก็มาพบกันที่หองนอน บรรยาย
เรียบๆ ดีๆ ที่มีมาตลอดตั้งแตชวงเย็นจบลงเพราะขอความที่สงเขาเครื่องผมและมันเสียมารยาทเปดอาน

"เพิ่งเลิกงานกําลังจะกลับหอง พรุงนี้เจอกันนะครับ ฝนดีนะ"มันดัดเสียงจนนาเกลียดมากกวานาหัวเราะ ผมรีบแยง


โทรศัพทมากดดูและพบวามีสายที่ไมไดรับของทิวอยูดวย สงสัยเพิ่งโทรมาตอนที่ผมอาบน้ําอยู

"ลบทิ้งซะ"

"ทําไมตองลบ"

"บอกใหลบก็ลบ หรือวาอยากไดโทรศัพทเครื่องใหม"ความหมายของมันคือ...จะพังโทรศัพทผมเหมือนเครื่องเกาสินะ

"อืม...ลบแลว"ผมลอบถอนหายใจเบาๆ กอนจะกดลบขอความตามที่มันสั่ง

"เอามาดู"มันแบมือตรงหนาเพื่อรับโทรศัพทในมือไปกดดู รอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากปรากฏขึ้นเมื่อเห็นวาผมทําตามที่มันสั่ง


จริงๆ

"อยางนี้คอยพูดรูเรื่องหนอย"มันยื่นโทรศัพทคืนใหแลวก็เดินไปเปดหนังที่เพิ่งซื้อมาวันนี้ ผมวางโทรศัพทไวหัวเตียงเหมือน
ทุกครั้งกอนจะลมตัวลงนอนเพื่อดูหนัง หลังจากมันจัดการใสแผนเรียบรอยก็เดินมานอนพิงหัวเตียงอยูขางๆ สวนผมนอน
ตะแคงดูเพราะถางวงจะไดหลับไปเลยไมตองขยับตัวอีก
เสียงบทสนทนาจากทีวีไมไดเขาโสตประสาทผมเทาไหร ในใจมัวแตลําดับเหตุการณที่เกิดขึ้น นับวาวันนี้เปนครั้งแรกที่
สามารถอยูรวมกับมันอยางราบรื่นที่สุด ดูๆ ไปแลวมันคอนขางจะอารมณดีดวย ถาไมไดเขาใจผิดไปเองผมวามันคอนขาง
พอใจกับพฤติกรรมของผมในระยะหลัง พูดคุยกันรูเรื่องมากขึ้น เถียงกันนอยลงและเจ็บตัวนอยลง ทุกอยางดูลงตัว ผมเริ่ม
เขาใจการกระทํามันบางอยาง และมันก็ดูจะวุนวายกับผมนอยลง อยางนอยมันก็ไมไดแอบตามผมแบบเมื่อกอน และวันนี้
มันยังใหคนอื่นไปสงผม ตอนมารับถึงจะเห็นทิวนั่งอยูก็ไมถึงขั้นลงมาทะเลาะเบาะแวงกับทิวหรือทํารายผม....ผมวา...ผม
เริ่มเขากับมันไดดีแลวนะ..ทุกอยางกําลังไปไดสวย.....ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค...รอเวลา....ขอใหเชื่อใจผมมากอีกนิด....เผย
ความรูสึกมากกวานี้อีกหนอย.....ผมจะทําตัวดีๆ....ไวใจผมใหมาก....แลวบอกผมสักที....วาอะไร....สําคัญที่สุดสําหรับคุณ
.....ผมจะไดทําลายมันซะ

ตอนที่ 34

เปนเพราะวาทิวกับผมกลับมาเปนเหมือนเดิมเลยทําใหผมสบายใจขึ้น ไมตองรับศึกสองดาน กําลังใจเล็กๆ จากการไถถาม


ดวยความเปนหวงของทิวชวยใหผมมีพลังในการอยูรวมกับมันตอ ไปได อันที่จริงตอนนี้ก็สบายขึ้นกวาเดิมเยอะ ถามันวาง
ก็จะไปรับสงผมทุกวัน ถาไมวางก็จะเปนพี่อั๋นหรือพี่นัทสลับกันไป เรื่องของแพรผมยังไมไดถามใครทั้งนั้น รวมถึงยังไมเคย
เจอแพรอีกเลยตั้งแตวันนั้น จะใหไปถามกับกลุมเพื่อนของเธอก็ไมใชนิสัยผมดวย

"นี่อะไร"ผมยื่นธนบัตรสีเทาสองใบในที่มาอยูในกระเปาสตางคผมเมื่อไหรไมรู รูแตไมใชเงินผม

"เงินไง ไมรูจักเหรอ"

"รู แตมันไมใชของผม"

" ใหก็เอาไป ชวงนี้ไมไดทํางานเอาเงินที่ไหนใช"มันไมพูดผมก็รู ไมไดทํางานตั้งนาน วันๆ ก็ใชแตเงินเก็บในบัญชี คาดวา


นาจะพอใชไดสักหนึ่งเดือน งานที่มันจะใหไปทําก็ไมพาไปสักที ถามแลวก็เอาแตบอกวาไวกอนๆ ไมรูวาไวอะไร

"มันไมใชเงินผม ผมไมเอาหรอก คุณพาผมไปทํางานสักทีส"ิ

"ไวกอน แลวเงินนี่นะแมพายฝากมา จะไมเอาก็โทรไปบอกเอง"

"หะ! แมผมเหรอ คุณไปหาแมมาเหรอ"

"เปลา เขาโอนมาใหนะ"

"เหรอ แมผมเปนยังไงบาง แลวเอาเงินจากไหนมาใหตั้งสองพัน อยางนี้แมจะเอาเงินไหนใช"


" อยูที่โนนไมตองเสียเงินคากินคาอยู เงินเดือนแตละเดินก็สูงพอจะใหพายใชไดสบายๆ ละนา จะไดตั้งใจเรียนไมตอง
ทํางานพิเศษอีก"

"จริงเหรอ"

"ไมเชื่อ ก็อยาถาม ไมใชเด็กๆ จะไดมีเวลามาพูดเลนได แลวตอนนี้ก็รีบออกไปไดแลว จะทํางาน"ชวงนี้มันเปนแบบนี้ตลอด


เลย ดูเหมือนงานจะยุงมากจนไมมีเวลายุงกับผม นั่นมันก็ดี แตวา...อยางนี้มันก็ผิดแผนผมนะสิ อยูดวยกันแตดันไมคอยได
คุยกัน แลวเมื่อไหรมันจะสนิทพอจะยอมไวใจผมละเนี่ย ผมไมอยากอยูกับมันนานกวานี้แลวนะ

"ไอตั้มละ"นี่ก็เหมือนเดิม ไมพี่อั๋นก็พี่นัทตองคอยมาที่หองแลวถามหามัน คราวนี้เปนพี่นัท ผมก็ชี้ไปที่หองทํางานเหมือนเดิม


พี่นัทเดินเขาไปคุยอะไรสักพักก็เดินออกมาพรอมกับมัน

"พรุงนี้มีเรียนตอนไหน"

"สิบโมง แตเรียนแปปเดียวละมั้ง อาทิตยหนาจะสอบแลวคงบอกแนวเฉยๆ"ผมเงยหนาจากหนังสือบนตักมาตอบคําถาม

"อืม...พรุงนี้ไปเรียนเองแลวกันนะ พี่จะกลับไปที่รีสอรทคืนนี้"

"จริงเหรอ ผมไปดวยไดเปลา อยากไปหาแม"ผมดีใจนะที่จะไดไปไหนมาไหนเอง แต...อยากไปหาแมมากกวา

"ไมได ตองไปทําธุระหลายอยาง"

"ไมเปนไร ไปแลวกลับเองก็ได"ตอนไปคงลําบากเพราะไมรูวาอยูสวนไหนของประเทศ แตตอนกลับคงกลับเองได

"บอกวาไมไดก็ไมได อยาพูดไมรูเรื่อง"

"อืม...แลวพรุงนี้จะกลับตอนไหน"ขนาดแคเซาซี้มันนิดเดียวยังเจอตะคอกใส ชวงนี้ไมรูหงุดหงิดอะไรนักหนา

".....ยังไมแนใจ แตเลิกเรียนแลวโทรหาไอนัทดวยละ"มันครุนคิดสักพักกอนจะตอบ พรอมหันไปมองพี่นัทเพื่อใหยืนยัน


คําพูดตัวเอง

"ตอนเชาพี่ไมวาง แตบายวางไปรับได ตกลงนะ"พี่นัทไมนาถามผมเลย ไมตกลงดวยไดรึไง


วันนี้ ตองทําอาหารเย็นเร็วหนอยเพราะมันรีบไป ปกติจะกินกันประมาณสองทุม แตวันนี้ตั้งโตะตอนหกโมงกวา หนาตาดู
เครียดๆ แตรูดีวาถามไปก็ไมไดคําตอบ เผลอๆ จะโดนดาวายุงไมเขาเรื่องดวยซ้ํา

"เปนไงบางจะ หายหนาไปนานเชียว"คําทักทายแรกจากพี่ธารเมื่อผมเดินเขามาในราน

"คิดถึงพี่ธารจังเลยครับ ไมไดเจอกันตั้งนาน"

"ตาย ไมเจอกันนานปากหวานขึ้นนะเรา"พี่ธารตีไหลผมเบาๆ กลบอาการเขิน ผมคุยกับพี่ธารไดไมกี่คําทิวก็ลากผมเขาไปใน


หองเล็กเพื่อเจอกับเพื่อนคนอื่นๆ ทุกคนก็แปลกใจที่ผมมาโผลที่นี่ได ผมยังรูสึกแปลกใจเลย ไมคิดวาจะโชคดีขนาดนีท้ ี่พี่นัท
ยังติดธุระอยูเลยใหผมกลับเอง ผมก็เลยตามทิวมาที่รานอาหาร อยากเจอทุกคน อยากอยูในบรรยากาศเดิมๆ บาง

"แลวกลับไงเนี่ย ทิวไปสงเหรอ"จิ๋วถามผมเบาๆ

"ไมหรอก อยูไมนาน เดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับเอง"

"อาวเหรอ นึกวาจะอยูจนรานปด"

"อยูสิพาย เดี๋ยวเลิกงานทิวไปสง"

"อืม....ก็ได"ผมแอบถามพี่นัทแลววามันจะกลับตอนไหนถึงไดกลารับปาก เพราะพี่นัทบอกวาคืนนี้ไมนาจะกลับ รูสึกเหมือน


หนีเที่ยวยังไงไมรู

จากที่รับปากไปวาจะอยูก็เริ่มอยากกลับ เพราะคนที่อาสาไปสงดื่มเหลาเหมือนดื่มน้ํา แถมยังคะยั้นคะยอผมอีกดวย เพิ่งรู


วาที่รานเพิ่มเหลาปนลงไปในเมนู และตอนนี้ก็ตั้งอยูตรงหนาผมกับจิ๋วคนละหนึ่งเหยือก

"กินไมหมดหรอกนะบอกไวกอน"ผมหยิบหลอดออกมาจากเหยือกตรงหนาไปใสเหยือกเดียวกับจิ๋ว บอกทางออมใหรูวา...
จะกินกับจิ๋วคนละครึ่ง แตจิ๋วดันเอาหลอดผมมาใสเหยือกผมไวเหมือนเดิม

"อยามาแยงดิพาย ของใครของมัน"

"โห เดี๋ยวนี้คอแข็งแลวเหรอจิ๋ว จําไวเลยนะ"ผมผลักไหลจิ๋วไปกระทบตอเบาๆ เมื่อกอนยังกินดวยกัน สงสัยเดี๋ยวนี้มันกิน


บอยแนๆ เลย
ผมก็นั่งกินไปเรื่อยๆ พรอมกับขาวหรือเรียกวากับแกลมจะดีกวา พวกนี้ก็ขึ้นไปรองเพลงเปนชวงๆ รองทั้งเมาๆ มึนๆ นี่แหละ
จะวาไปแลวก็เพลินดีเหมือนกัน นั่งกินไปกินมาครึ่งเหยือกไปแลว และก็เริ่มมึนดวย

"ไงแซน ไมเจอกันตั้งนาน"ผมทักทายแซนที่เดินมานั่งเปลี่ยนใหพวกนั้นขึ้นไปเลนดนตรี

"นึกวาพี่จะจําผมไมไดเสียอีก เจอกันไมกี่วนั ก็หายหนาไปเลย"

"อืมๆ"ผมพยักหนารับเบาๆ ไมรูจะอธิบายอะไรเพราะไมไดสนิทกัน เจอกันแคครั้งสองครั้งเอง

"เมาแลวเหรอพี่"

"อืม"แลวก็พยักหนารับอีกครั้ง ไมใชวาพูดไมไดนะครับ แตคิดวาคงพูดไมคอยรูเรื่องเลยใชรางกายสื่อแทนคําพูดดีกวา

"โทรศัพทดังนะพี่ ไมรับเหรอ"แซนชี้กระเปากางเกงที่ผม ผมก็วาอะไรมันสั่นๆ อยูแถวขาตั้งนาน พอหยิบออกมาเสียงก็เงียบ


ไปแลว ผมพยายามมองวาใครโทรเขามาแต....ตาลาย สุดทายเลยยื่นใหแซนชวยกดดูให ที่ไหนได มันดันเอาโทรศัพทผม
ไปใชเฉยเลย

"ครับ....ใชครับ ผมเปนนองที่ทํางานเกาพี่พาย......ไมไดเปนอะไรครับ พี่เขาเมาอยู......ที่รานครับ......ไดครับ เดี๋ยวผมบอก


ให"

"โทรหาใคร"ผมรีบหยิบโทรศัพทตัวเองมาเก็บทันทีที่แซนยื่นมาคืน มันยังมีหนามาหัวเราะใสผมอีก

"ไมไดโทรหาใครสักหนอย ผมรับโทรศัพทแทนพี่ตางหาก"

"นิสัยไมดีนะเรานะ"ผมเอานิ้วชิ้วหนาพรอมสายนิ้วไปมา มันคงเห็นการสั่งสอนของผมตลกมากแนๆ หัวเราะไมหยุดเลย


เขาสูระบบ
ออฟไลน Mint
นิสัย!!
เปดแสนดี
เปดซาส
*

กระทู: 2127
ใหคะแนนชื่นชมคนนี้: 860
Re: รัก...ราย .. กiระ&
«ตอบ #3827 เมื่อ29-10-2008 06:36:01 »

ถูกใจใหเปด +12
ผมเคลิ้มหลับไปเมื่อไหรไมรู ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็ไดยินเสียงคนโวยวายดังลั่นหอง พอจะมองเหตุการณตรงหนาใหชัดๆ ก็เห็น
หนาใครบางคนลอยมาอยูเสียใกล สักพักก็รูสึกวาตัวเองลอยได....ผมลอยได...ไมจริงแนๆ...และก็เปนอยางที่คิด เพราะ
ลอยไดไมนานก็กระแทกลงกับเบาะนั่งในรถ ตกลงมาทีเจ็บจนจุกไปเลย

"เจ็บเหรอ พี่ขอโทษ"ผมเงยหนามองรอบๆ อีกครั้งก็รูวาเมื่อกี้คือหนาใคร....หนาพี่นัทนั่นเอง

"มาไดไง"

"พายนั่นแหละมาไดไง แลวเมาแบบนี้มีหวังไอตั้มเอาพี่เละแนๆ เฮอ...ซวยจริงๆ เลยกู"พี่นัทบนอะไรผมก็ไมสนแลวครับ พอ


รถเริ่มเคลื่อนก็รูสึกเหมือนตัวเองกลายเปนลอรถหมุนไปหมุนมา อยากอาเจียนแตก็ไมมีอะไรออกมา ไดแตพะอืดพะอมอึด
อัดจนนารําคาญ พลิกตัวไปมาบนเบาะหนารถไดไมนานก็รูสึกวาจะถูกอุมจนตัวลอยอีกครั้ง

"กูบอกแลวใหดูแลดีๆ แลวนี่อะไรวะ"

"เออกูขอโทษ พอดีทนายเมียกูดันมาคุยเรื่องหยา กวาจะตกลงกันเสร็จก็ค่ําแลว กูนึกวาพายจะกลับหองตั้งแตเลิกเรียน


ใครจะไปรูวาจะหนีไปกินเหลาละวะ"

"มึงก็รูวาพายมันเคยฟงคําสั่งใครซะที่ไหน ไอเวรนั่นก็จองจะงาบตลอดเวลา แคฝากไวกับมึงวันเดียวนี่ไมไดเลยรึไงวะ"

"มึงก็ใจเย็นๆ หนอยสิวะตั้ม ไอนัทมันก็มีปญหาตองเคลียร แลวพายก็ไมไดเปนอะไร แคเมากลับมาแคนี้เอง"

"เออ! แคเมา! แลวตองขนาดไหนวะถึงจะไมใชแค ตองใหโดนลากไปเอากอนมั้ง"

"มึงก็คิดมาก ยังไงนั่นก็เพื่อนมัน ใครจะไปทําแบบนั้นเหมือน...."

"เหมือนใคร เหมือนกูงั้นสิ มึงจะพูดอยางนี้ใชมั้ยไออั๋น"

"กู.....ขอโทษ"

"พายตื่นแลว มึงไปดูแลพายกอนไป เดี๋ยวพรุงนี้คอยคุยกัน แลวเรื่องวันนี้กูขอโทษจริงๆ นะเวย"พอพี่นัทพูดจบทุกคนก็กม


ลงมามองผมที่นอนแผอยูบนโซฟา ถึงจะตื่น แตยังไมคอยสรางเทาไหร บทสนทนากับภาพที่เห็นเหมือนกําลังดูโทรทัศนโดย
ไมเปดเสียง พอจะเดาออกแตไมรูเรื่อง รูตัวอีกครั้งก็ตอนที่รางตัวเองปลิวหวือตามแรงกระชากที่แขนเสียใหลุกแลวเดินตาม
แตผมกลับเขาออนลมลงทันทีที่กาวเพียงสองสามเกา เสียงถอนหายใจพรอมคําสบถดังขางหูเมื่อถูกอุมขึ้นมา

"ที่พูดไปนี่ฟงรูเรื่องบางมั้ย"มันพูดอะไรตั้งแตเมื่อไหร

"อืม"ผมพยายามจะพลิกตัวหนีคนที่คลอมอยูดานบน แตก็ถูกจับใหหันหนามามองเหมือนเดิม

"นึกยังไงไปกินเหลา หะ! ปลอยใหหางสายตาหนอยไมไดเลยใชมั้ย"แรงบีบที่มือทําใหรูสึกเจ็บแตก็สะบัดไมหลุด

"อืม...ทําไม...ปลอยไมได"

"ทําไม ถาปลอยจะไปหาไอเวรนั่นรึไง รักกันมากนักเหรอ"

"ทิว....ไมปลอย.....เพราะ....พาย...สําคัญ"

"เฮอะ! มันพูดอยางนั้นเหรอ ลิเกฉิบหาย"

"พาย...สําคัญนะ....แต...คุณ.....ทําลายคนสําคัญ....ของทิว...ของพาย...หมด...แลว"ใช...ของสําคัญ คนสําคัญไมเหลือ
แลว ไมมีอะไรเหมือนเดิมอีกแลว

".....แลวไง"

"พาย.....จะทําดวย....อะไรสําคัญ....บอกหนอยนะ"ผมเลื่อนมือที่วางไปกระชับคอเสื้อเพื่อเรงเราเอาคําตอบที่อยากรู

"ทําไม"

"พายไม...อยากอยูนี่....บอก...หนอย.....จะได....หายกัน"

"......อยากแกแคนกันงั้นเหรอ"

"อืมมม"

"งั้นเสียใจดวยนะ....เพราะคนที่สําคัญนะ....พี่ทําลายไปแลว....พายคงไปไหนไมไดแลวละ"
"อือออ"ผมครางในลําคอเบาๆ ทันทีที่รูสึกตัวแลวลืมตาขึ้นมา อาการปวดหัวหนักจนตองหลับตาแนน ไมใชเพียงแคปวดหัว
แตปวดไปทั้งตัว เพียงขยับนิดเดียวก็รูสึกเหมือนกระดูกราวไปหมด แสงไฟจากดานนอกทําใหรูวาตอนนี้คงสายมากแลว
ผมพยายามขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง สะโพกปวดราวจนตองลมไปนอนใหม ถึงจะรูวาอาการอยางนี้เกิดจากอะไร แต...
จําไมไดวาเกิดขึ้นไดยังไง แลวที่สําคัญ....จําไมไดดวยวากลับมาไดยัง

รองรอยตามตัวแสดงใหเห็นวาที่เกิดขึ้นไมไดเกินจากที่คิด นั่งมึนงงกับเรื่องราวเมื่อคืนสักพักก็พอจะคุนๆ อะไรอยูบาง จํา


ไดวานั่งอยูบนรถพี่นัท...และจําไดแคนั้น ไมคิดวาเมื่อคืนจะเมาหนักถึงขนาดนี้

"ตื่นแลวเหรอ"คนถามเดินออกจากหองน้ําแลวเดินไปแตงตัวหนาตูเสื้อผา

"อืม"ใจหนึ่งก็อยากจะโวยวายเรื่องที่มันฉวยโอกาสตอนผมเมา แตทําอยางนั้นไปก็ไมมีประโยชนอะไร

"เปนไร เมาคางรึไง"มันถามหรือดาผมก็ไมแนใจ แตตอนนี้คงไปเรียนไมทันแลว ถึงไปทันก็คงไมไหวอยูดี ผมคอยๆ เลื่อนตัว


ลงนอนในตําแหนงเดิม ไดยินเสียงกอกแกกในหองสักพักกอนจะไดยินเสียงเปดปดประตู ลืมตามาดูก็ไมเห็นมันอยูในหอง
แลว สงสัยจะออกไปทํางานขางนอกเพราะวันนี้มันใสสูท

หลังจากที่นอนหลับไปตื่นมาอีกรอบก็บายโมงแลว ไมนาเชื่อวาจะนอนหลับไดนานขนาดนี้ อาการปวดหัวคอยทุเลาลงไป


บาง ผมเดินออกมาหยิบนมกับขนมปงทานเพราะไมอยากทําอาหารอะไร เสียงโทรศัพทมือถือดังจากในหองนอน ผมคิดวา
นาจะเปนทิวที่โทรมา แลวก็เปนอยางที่คิดจริง

"วาไงทิว"

"ทําไมพายไมมาเรียนละ"

"เมาคางนะสิ เนี่ยเพิ่งตื่น เมื่อวานกลับยังไงยังจําไมคอยไดเลย คราวหนาไมเอาแลวนะเหลาปนนะ"ผมเดินไปนั่งบนโซฟา


แลวเปดทีวีดู

"เหรอ เปนอะไรมากรึเปลา ดื่มน้ําเยอะๆ นะ เดี๋ยวก็หาย"ทิวสั่งโนนสั่งนี่ ผมก็ไดแตรับคําไปเทานั้น กวาจะวางยังกําชับอีก


วาถาไมไหวใหโทรหา ทิวจะมารับ ผมก็เขาใจนะวาทิวไมเคยเห็นผมเมามากขนาดนี้ แตก็หวงเกินไปหนอย เมาคางนะไม
เทาไหร แตที่เจ็บอยูนี่สิที่หนัก ขยับนิดเดียวก็เจ็บราวไปหมด ไมใชครั้งแรกแตไมเห็นจะชินกับมันไดสักที

วันนี้ไมไดไปเรียนแตไมเปนไร ปกติจะมีคนโพสตแนวขอสอบไวในเว็บบอรดของคณะอยูแลว ผมเขาไปใชคอมฯของมันเพื่อ


เขาเว็บไซต สวนคอมฯตัวเองไมรูอยูไหน ผมเขาเว็บไซตแลวจดตารางสอบรวมทั้งแนวขอสอบที่มีแจงไว ซองเอกสารสี
น้ําตาลบนโตะเรียกความสนใจจากสิ่งตรงหนาไดดี เดิมทีผมไมมีนิสัยคนของคนอื่น แต...รูสึกวาในนี้นาจะมีอะไรบางอยาง
ที่สําคัญสําหรับมัน และผมคงใชประโยชนได
ดานในซองเอกสารมีซีดีหนึ่งแผนที่ไมระบุวาอะไรอยูขางใน ผมหยิบแผนซีดีใสเขาไปในเครื่องเพื่อเปดดู....ภาพพรอมเสียง
ที่ดังจากโปรแกรมเลนไฟลวีดีโอทําลนลานเตรียมกดปด แต....ภาพตรงหนา...ภาพที่....คุนตา...รางที่นอนระทวยกลางเตียง
หอมลอมดวยเงาผูชายหลายคน.....มือผมชาพอๆ กับสมอง....หากไมเห็น....จะดีกวานี้มั้ย....หากจําไมได....ผมจะเจ็บปวด
นอยกวานี้รึเปลา.....ไมนาเชื่อ.....วาผมยังหลงเหลือความรูสึกอยู. ....และ....ครั้งนี.้ ..คงเปนครั้งสุดทายแลวจริงๆ....ถาตอง
รับเรื่องเลวรายอะไรมากไปกวานี.้ .....ผมคงจะ.....ตาย

ตอนที่ 35

หากพูดวาชีวิตผมมันยุงเหยิง...คงฟงดูเล็กนอยเกินไป...เรื่องเลวรายตางๆ ที่เกิดขึ้นผมโทษวามันเปนดวงซวยของผม
เทานั้น แตถึงจะเปนอยางนั้น ผมก็เชื่อวาไมมีเหตุผลอะไรที่คนหนึ่งคนจะทํารายคนอีกคนไดมากอยางที่ผมเจอ ผมไม
พยายามดิ้นรนเพื่อตอสูในแบบของผม พยายามทําใหเรื่องทุกอยางจบ....แต....ผมลืมนึกไปวา....จุดเริ่มตนตางหากที่
สําคัญ

บางครั้งรางกายก็รับรูไดกอนสมอง และมันก็สั่งงานใหเคลื่อนไหวตามความรูสึก ผมไมรูวาตัวเองมาที่นี่ไดยังไง กวาจะนึก


ลําดับเหตุการณยอนหลังการเดินทางไดก็มายืนอยูหนาประตูหองที่คุนเคยแลว และคนตรงหนา...ที่ทั้งอยากพบ..และไม
อยากพบ...ก็ยืนอยูตรงนี้

"พายมาไดไง"น้ําเสียงแปลกใจของเจาของหองรองถามเพราะไมคาดคิดถึงการปรากฏตัวของผม คนพูดยืนเปดประตูคาง
ในสภาพเปลือยชวงบนและสวมเพียงกางเกงขาสั้นอยางที่ทําเปนประจํา เสียงพูดคุยดานในทําใหรูวาในหองยังมีคนอื่นอยู
อีก

".....พาย....เปนอะไร....หนาซีดๆ นะ เขามากอนมา"ฝามือที่ตั้งใจจะจับจูงใหเขาหองถูกผมปดออกโดยอัตโนมัติ ผมเดินเขา


ไปดานในแลวหยุดยืนอยูไมหางจากประตูหอง ผมเองก็ไมแนใจวามาทําอะไรที่น.ี่ ..มาทําไม.....ผม...ตองการอะไร

"ไงพาย ไดขาววาเมาคางไมใชเหรอ"

"ทําเปนแซวคนอื่นนะไอจิ๋ว มึงเองก็ไมตางกับพายมันเทาไหรหรอก"

"พายจะมาก็ไมบอก ดีนะที่วันนี้อาจารยปลอยเร็วเลยกลับหองเลย ไมงั้นพายมาก็ไมเจอทิวนะ"

"......ทิว....ทํา..."เพียงแคพูดออกมาหนึ่งคําก็รูสึกจุกเสียดในอกเหมือนจะขาดใจ ลมหายใจขาดหวงทั้งที่ยังพูดไมจบ...แต
เหมือนกําลังจะตาย
"ครับ....พายถามวาอะไร แลวเปนอะไรหนาซีดแบบนี้ มันทําอะไรพายเหรอ"มือที่ยื่นมาเหมือนจะประคองไมใหลมลงถูกปด
ออกอีกครั้ง

"ทิว....ทํา....ทําอะไรแพร"คําถามจบลงพรอมลมหายใจที่ปดกั้นเพื่อรอคําตอบ รูสึกอึดอัดทรมานแตการหายใจเขาก็ทรมาน
ไมตางกัน

"อะไร...พายพูดเรื่องอะไร"

"ทิวทําอะไรแพร....ทิว....ทําไดยังไง.....ทํา...แบบนั้นไดไง"ภาพเหตุการณในแผนซีดีที่ไดเห็นยอนกลับเขามาในความทรงจํา
เสียงรองปานขาดใจทั้งที่ปากถูกปดดวยเทปกาวหนา แตเสียงนั้นผมรูดีวาคนรองจะรูสึกอยางไร....คนที่กําลังถูกขมขืน...
รูสึกอยางไร....ถึงจะมองเห็นกลุมคนที่ลอมรอบรางบอบบางบนเตียงไมชัด หากแตเสียงพูดที่คุนเคยมาหลายปทําใหมั่นใจ
อีกทั้งสถานที่ที่เห็น...มันคือหองนี้.....รางที่ถูกพันธนาการดวยเชือกเสนหนา...รางที่ดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิต....เสียงหัวเราะมัว
เมาในสิ่งเลวรายที่กําลังกอทําใหผมอยากกรีดรอง

"พาย....ทิว...."

"ทิวทําไดไง นั่นนะ...นั่นนะ....ทําแบบนั้นไดไง.....แพรทําอะไรใหทิวเคียดแคนนักเหรอ.......ทําไมตองทําแบบนี้ดวย.....ทําไม
...ตองขมขืนแพรดวย"ผมยืนกอดตัวเองเพื่อขมรางกายที่สั่นเทา คําถามที่ถามออกไปไมมีคําตอบ สีหนาตกตะลึงชวยทําให
เขาใจวาผมไมไดเขาใจผิด ไมไดตีความไปเอง ไมใชการจงใจใสรายของใคร ทุกอยางคือเรื่องจริง

"พายฟงทิวกอนนะ ทิวขอโทษ ทิว..."

"ทําแบบนั้นมันเหมือนไมใชคน....ไมใชทิวที่พายรูจัก....พายเองก็โดนขมขืน.....ขนาดพายเปนผูชายยังรับไมได....แลวนั่นนะ
...ผูหญิงนะ...ทิวทําไดไง....เขาทําอะไรผิด"รางกายของผมยังรับแทบไมไหว เหมือนตายทั้งเปน ทุกอยางยังตามหลอก
หลอนในความฝนเสมอ แลวผูหญิงตัวเล็กๆ ตองมาเจอเรื่องแบบนั้นจะเปนยังไง เธอทําอะไรผิด คนตรงหนาไมตอบคําถาม
สีหนาอึดอัดปกปดเหตุผลของการกระทํา คนตรงหนา...คือใคร....ผม...ไมรูจัก

"เดี๋ยวพาย อยาเพิ่งไปนะ ฟงทิวกอน ทิวขอโทษ พายอยาไปนะ"

"ทิวทําไดไง...เรื่องเลวรายแบบนั้น...ทิว....ไมใชคนที่พายรูจัก"ผมพยายามแกะมือที่จับแขนเอาไว เหตุผลคงไมสําคัญ เรื่อง


แบบนี้ไมวาจะมีเหตุผลอะไรก็ไมใชสิ่งทีถ่ ูก ไมใชสิ่งที่ควรทํา คนที่เราคิดวาแสนดี....ทําเรื่องเลวรายไดถึงขนาดนี้เลยงั้น
เหรอ

"พายอยาไปนะ อยูกับทิวเถอะ ทิวขอโทษ ทิวสัญญาวาจะไมทําอีก"


"พาย...ยังไมอยากคุยกับทิว...ปลอย...พายจะกลับแลว"ผมหันหลังไปที่ประตูแลวเปดออก แตทิวดึงแขนผมจนเซเขามา
ดานใน

"ไม! พายอยูกับทิวเถอะ อยาเพิ่งไปเลยนะ"

"ปลอย...ปลอย!!...ทิว! ปลอยพายนะ!...อื้ออออ"ทิวกอดผมพรอมรวบแขนไวแนน ฝามือปดปากเพื่อกั้นเสียงรอง ผมไมคิด


เลยวาทิวจะทําอยางนี้กับผม...ไมตางจากมันเลย

"พายอยูกับทิวกอนนะ อยาดิ้นเลยนะ ทิวไมอยากทําพายเจ็บ นะ"ทิวรวบตัวผมใหถอยไปที่หองนอน ทันทีที่ถอยจนชนขอบ


เตียงตัวผมก็ถูกกดลงจนขยับไมได ขอมือสองขางถูกรวบไวเหนือหัวดวยมือขางเดียว ผมมองไปทางประตูหองนอนเห็นตอ
จับมือจิ๋วเอาไว

"อื้อออ...อื้ออ"ผมพยายามหันไปหาจิ๋ว รองใหจิ๋วชวย

"มึงปลอยพายกอนเถอะวะ เดี๋ยวก็หายใจไมออกหรอก"จิ๋วพยายามจะเดินเขามาแตตอดึงมือเอาไวใหอยูแคหนาประตู

"ปลอยไปพายก็ไมกลับมาหากูแลว กูรู ตอ...มึงไปเอายาเมื่อคืนมาหนอย"ทิวพูดอะไร...ยา..อะไร

"ไอเหี้ยทิว!! มึงจะมอมยาพายเหรอ"จิ๋วสะบัดมือหลุดแตตอก็รวบเอวเอาไวไมใหเขามา

"อยาไปยุงกับมันนาจิ๋ว มึงเขาไปในหองไป"

"ไอตอมึงอยาเสือก เพื่อนทําเลวไมเคยคิดจะหามเลยนะ ทิวมึงปลอยพายไปเถอะ ไหนมึงบอกรักนักหนาไง นี่หรือรักของ


มึงนะ"

"ไอตอ ไปเอามา"ทิวพูดย้ําใหตอทําตามที่สั่ง ผมไมเขาใจพวกนีเ้ ปนอะไร ผมก็เปนเพื่อนคนหนึ่งนะ ทําไมถึงมองดูทิวทํากับ


ผมได

"เหลือแตปอปเปอรวะ"

".....เออ.....เอามาเถอะ”

“ไอตอ!! ปลอย!”จิ๋วถูกตอลากตามออกไปดานนอก เหลือเพียงผมกับทิวสองคน


"ถาพายยอมอยูกับทิวที่นี่ ทิวสัญญาวาจะไมทําอะไรพาย ตกลงนะครับ"

"ไม! ทิวเปนบาไปแลวรึไง! อื้ออออ"เมื่อไมไดคําตอบอยางที่อยากไดทิวก็ปดปากผมไวเหมือนเดิม ทิวกอดผมไวทั้งตัว ดิ้น


เทาไหรก็ไมหลุด เพียงครูเดียวตอก็เดินกลับมาพรอมขวดสีชาเล็กๆ

"เอาจริงเหรอมึง"ตอถาม แลวทิวก็พยักหนาตอบ ตอชวยทิวจับแขนผมไวทั้งสองขาง ในขณะที่ทิวเอามือปดปากผมแนน


พรอมกับปดจมูก อากาศที่เหลือยิ่งนอยลงไป ผมพยายามถีบเทาไปเพื่อขออิสระ หนาอกแนนจนอึดอัด หายใจเขาไมไดทํา
ใหรูสึกหูอื้อ มือที่ปดจมูกผมไวเลื่อนออกเพียงนิดเพื่อสอดปากขวดเขามาใหตรงจมูก อากาศเฮือกแรงที่สูดเขาปอดก็มา
พรอมสารทีอ่ ยูภายในขวด มือเทาเปนอิสระหลังจากที่บังคับใหผมสูดเขาไปอีกครั้ง ผมรีบถอยตัวไปจนชิดขอบเตียง ผม
ฉวยจังหวะที่ทิวกับตอลุกไปยืนอยูหางๆ ลุกขึ้นเพื่อไปที่ประตู ทิวเดินมาขวางประตูเอาไวในขณะที่ตอเดินออกไปจากหอง

"ที่ทิวทําไปเพราะทิวรักพายจริงๆ นะ รักมากดวย ทิวรักพายมาตั้งนาน รักมากอนคนอื่น ทิวไมสนหรอกวาพายจะพลาดไป


กับใครมากอน ขอแคพายกลับมาอยูกับทิวไมไปไหนก็พอ พายอยากไดอะไรทิวจะหามาใหทุกอยางเลย”

“ปลอย....พาย......ชะ...ชวย...ดวย”ผมรูสึกเหมือนเรี่ยวแรงหายไป ฝามือทิวรั้งที่ขอศอกเบาๆ แตผมก็สะบัดไมหลุด รูสึก


เหมือนมึนหัว ภาพทุกอยางดูพราเลือน

“พายไปไหนไมไหวหรอก เดี๋ยวทิวพาไปนอนบนเตียงนะครับ”ทิวดึงผมไปกอดไวหลวมๆ แลวดันใหเดินถอยหลัง นาแปลกที่


ผมทําตามอยางวางาย สติที่มีเริ่มหายลงไป สัมผัสจากมือและปากของทิวที่คลอเคลียตามตัวทําใหใจสั่นแปลกๆ

“...หยะ...อยา......”ผมพยายามพลิกตัวเมื่อหลังสัมผัสกับความนุมของเตียง ทิวตามลงมาคลอมอยูดานบน มือลูบไลตาม


ชวงตัวและลําคอ

“พาย....ทิวรักพายมากนะ พายเปนของทิวนะครับ”

“อืออ...มะ...ไม...ทิว...ทําอะไร”

“ไมตองกลัวนะ...เดี๋ยวก็หาย มันแคทําใหพายมึนๆ นิดหนอยเทานั้น พายจะไดไมรูสึกเจ็บมากไงครับ”

“..จิ๋ว....จิ๋ว....ขะ....ชวย.....ดวย...”เสียงรองดูเหมือนจะเบาลงจนผมเกือบไมไดยิน ดวงตาปรือจนเกือบปด ฝามือที่ลูบไลถือ


วิสาสะปลดเสื้อผาอยางเชื่องชาโดยที่ผมไมมีแรงขัดขืนทําไดแคพลิกตัวไปมา ริมฝปากรอนจูบไซรแผนหลังแลวพลิกตัวให
หันกลับมาเพื่อประกบจูบเนนที่ริมฝปาก ปลายลิ้นสอดแทรกตวัดกระตุนใหสนองตอบ เสียงครางในลําคอเบาๆ เมื่อไดรับ
การตอบรับจากผม โดยที่ผมไมตั้งใจทํา รางกายเหมือนจะเบาจนรูสึกวาสามารถปลิวได สัมผัสตามรางกายใชดึงสติให
กลับมาเปนครั้งคราว สติขาดหายจนไมสามารถรับรูเรื่องที่กําลังเกิดขึ้น เสียงรอบขางดังระงมทําใหพยายามปรือตาขึ้นมา
มองอีกครั้งอยางยากลําบาก ภาพและเสียงสุดทายกอนทุกอยางจะหายไปคือใบหนาของคนที่....กําลังนึกถึง
“เปนอะไรมั้ย”

ตอนที่ 36

สวนหนึ่ง.......ของความราย

อะไรคือสิ่งที่ผิดพลาดจนทําใหเกิดเรื่องราวทั้งหมด ทุกอยางมันเริ่มตนที่ตรงไหน เริ่มจากใคร ไมใชคําวา ‘พรหมลิขิต’ อยาง


ที่อั๋นชอบพูดเสมอ หรือ ‘บุพเพสันนิวาส’ ที่นัทพูดกรอกใสหูอยูทุกวัน สําหรับผม...ก็แคเหตุผลงายที่ไดรับการพิสูจนทาง
วิทยาศาสตร.....โลกมันกลม

รูปถายหนึ่งใบที่ยับยูจนกลายเปนเศษขยะถูกกําไวแนนดวยมือของเพื่อนสนิทที่นั่งเมาแลวกมหนาพูดกับโตะแทนที่จะเงย
หนาพูดกับเพื่อนที่รอมันปรับทุกข ใหเดาจากอาการคร่ําครวญก็รูวามาจากเรื่องผูหญิงที่มันหลงตอนนี้แนๆ และก็เปนอยาง
ที่คิดเมื่อมันยอมเงยหนามาพูดกับผม หลังจากที่เสวนากับโตะมารวมชั่วโมง

“นองเขามีแฟนแลว มึงเขาใจมั้ยไอตั้ม เขามีเจาของแลว เขาไมรักกู”คําพูดอยางคนเสียสติดังลั่นจนโตะรอบขางหันมามอง


และผมตองปรายตามองพวกชอบสอดรูสอดเห็นใหหันกลับไปสนใจเรื่องตัวเอง รูปถายที่มันถืออยูหยิบยื่นมาเกือบชนจมูก
ผม ไมรูวามันจะใหดูหรือมันตั้งใจชกหนาผมกันแน

“ใครวะคนในรูป แฟนเขาเหรอ”ผมพยายามมองรูปหนุมสาวนักศึกษาที่อยูในรูปใหชัดๆ ผูหญิงในรูปคือคนที่เพื่อนผมหลง


รัก

“เขาเอารูปงานกีฬามาใหกูดู แตนี่...มึงดู...คนนี้ละที่นองแพรบอกวาแอบปลื้มมาตั้งแตเขาปหนึ่ง แลวกูละ...กูคนนี้ไงที่รัก


มาตั้งแตเด็ก...อยูดีๆ แมงก็มาแยงของกูไป”อั๋นเปนเอามากจริงๆ ผูหญิงเขาคิดกับมันแคพี่ชายขางบาน แถมไอที่บอกวารัก
ตั้งแตเด็กนี่ก.็ ...เห็นควงสาวเปนวาเลน ไปรักนองเขาตอนไหนก็ไมรู ผมไดแตนั่งกินเหลาเงียบๆ ฟงมันดาผูชายในรูปที่มัน
ขโมยมาเพื่อสาปแชง พฤติกรรมกับอายุสวนทางเสมอเวลามีเหลาเขามาเกี่ยวของ ตอใหวัยวุฒิคุณวุฒิสูงแคไหนสุดทายก็
เมาเหมือนหมา

เหตุการณในวันนั้นไมไดเกิดขึ้นเพียงครั้งสองครั้ง แตแทบทุกสัปดาหที่มันจะหาเรื่องชวนเพื่อนๆ ออกไปกินเหลาแลวบนให


ฟง ผมก็ไดแตรอวาครั้งนี้มันจะหลงไดนานแคไหน ใหอยางมากก็ไมเกินสามเดือน แต...ผมคิดผิด...นับวันมันยิ่งเปนเอา
มาก บางวันราเริงเกินเหตุเมื่อนองเขาไปปรับทุกขใหมันฟง มันก็รูสึกมีกําลังใจที่คําสาปแชงขอใหเลิกกันของมันไดผล แต
ถาวันไหนมันโทรไปแลวรูวานองเขากําลังอยูกับคนที่มันแสนเกลียด มันก็จะทําตัวเปนหมา เมาหัวราน้ําแทบทุกครั้ง จากที่
เฝาดูเฉยๆ ก็เริ่มจะเปนหวง กลัววามันจะบาแลวคิดสั้นเขาสักวัน ชวงหลังๆ มีผมคนเดียวที่คอยไปนั่งเมาเปนเพื่อนเพื่อคอย
หิ้วมันกลับ นัทไมคอยวางเพราะกําลังเจรจาเรื่องฟองหยา มันเปนอีกคนที่ทําตัวงี่เงาในความคิดผม แตงงานกับผูหญิงเพื่อ
รักษาหนาใหตัวเองและครอบครัว ใหเหตุผลกับคนรอบขางวาตัวเองเปนไบฯ ผูหญิงก็ไดผูชายก็ดี สุดทายแตงไดแคสองป
กวาก็หยาเพราะเมียจับไดวา มีชูเปนผูชาย แถมชูมันก็ไมใชใครที่ไหน เปนนักศึกษาฝกงานที่บริษัทเมียมัน มันก็ยินดีหยาแต
ติดตรงที่เมียมันขอคาหยาสิบลาน ไมรูวาคํานวณอะไรยังไงถึงเรียกราคาขนาดนั้น สิบลานไอนัทมันก็พอจะยอมจายได แต
ที่ไมยอมเพราะวาแอบใหนักสืบไปสืบแลวดันรูวาเมียมันยังกิ๊กกับแฟนเกาอยู เรียกวาตางคนตางมีชูกัน ผมวาไมเห็นตอง
หยาเลย ในเมื่อเหมาะสมกันออกขนาดนี้

ผมไมแนใจวาชีวิตวัยทํางานของทุกคนยุงเหยิงเหมือนผมกับเพื่อนหรือเปลา และถาเหมือน พวกเขาแกปญหายังไง เอา


ความเครียดไปเก็บไวไหน สวนผมระบายออกไปทางเหลาและ...sex ผมไมเคยปดบังรสนิยมตัวเองในหมูเพื่อนฝูงวาเปน
เกย ชอบผูชาย สนใจผูชาย โดยเฉพาะเรือนราง หากแตผูหญิงก็พอจะแกขัดไดบางครั้งถาเจอคนถูกใจจริงๆ แตนั่นแค
ความสัมพันธชั่วครู คืนเดียวแลวจบ เหมือนกับการเปลี่ยนรสชาติกาแฟ บางวันอาจใสน้ําตาลสองกอน บางวันอาจลดลง
เหลือแคหนึ่ง...เพราะมันเลี่ยน ไอนัทตองระวังพฤติกรรมตัวเองเพื่อไมใหนักสืบฝายเมียมันหาหลักฐานมาเรียกรองคาหยา
เพิ่ม ผมทํางานสองงานคืองานรับเหมากอสรางเปนงานหลัก และรับงานโฆษณาเปนงานเสริมเพราะความชอบสวนตัว
ระยะหลังอั๋นเงียบหายไป ไมโทรมาตามผมไปกินเหลาเหมือนเคย ผมก็หลงคิดไปวามันเลิกบาแลว แตเปลาเลย ปญหามัน
เหมือนจะหนักหนามากกวาเดิม อยางนอยก็ในความรูสึกมัน เพราะจากที่มันกําลังเลาใหฟงผมไมเห็นวาจะเกี่ยวอะไรกับ
มันตรงไหน แคผูหญิงที่มันชอบโดนแฟนขมขืน บางทีมันอาจเสียดายทีไ่ มใชมันละมั้ง

“แลวมึงมาบนนี่ตองการอะไร เขาเปนแฟนกันจะมีอะไรกันไมใชเรื่องแปลก กูเห็นครั้งแรกของหลายๆ คนแมงก็โดนปล้ํากึ่ง


สมยอมทั้งนั้น”ผมพูดแบบไรอารมณคลอยตาม นัทมองหนาผมกึ่งเห็นดวย

“มึงไมเขาใจไอตั้ม ตอนที่นองแพรโทรเรียกใหกูไปรับที่ปายรถเมถนะ....ไมแคแฟนนองเขานะ แตเขาโดนรุมโทรม มึงเขาใจ


มั้ย แลวตอนนี้สภาพจิตใจเขาก็บอบช้ํามาก เอาแตเพอไมใหคนอื่นเขาใจ ใครแตะตัวหนอยก็รองกรี๊ด กูเขาใจบางทีก็กัดกู
จะเลือดออก เทาที่กูฟงนองเขาพูดเวลาเพอนะ....รูสึกวา...แฟนนองเขาจะเปนเกยวะ แลวก็มีผัวแลวดวย แตมาคบผูหญิง
บังหนาเหมือนไอนัทนะแหละ”

“อาวไอเวร เสือกหันมากัดกู”

“แลวมึงไปรูละเอียดแบบนี้ไดไง เพอหาอะไรละเอียดโคตร”

“คือ...กูแอบอานไดอารี่นองเขาวะ เห็นหลังๆ ซึมๆ ไมคอยมาปรับทุกขกับกู กูเลยแอบอาน เหมือนนองเขาจะไมเชื่อขาวลือ


ที่ไดยินมาก็เลยคบกับตอ เออ...ความจริงก็เหมือนจะยังไมไดตกลงเปนแฟนกันดวย รูสึกไอนั่นมันบอกวารอใหเรียนจบ
กอนแลวจะทําทุกอยางใหจริงจัง แมงโคตรใหความหวังเลยวะ นองแพรเลยคิดจริงจังวามันอยากสรางอนาคตดวย แถมยัง
หวงชื่อเสียงกลัววาใครจะมองนองแพรไมดี ไมอยากใหเสียการเรียน โคตรจะแอบดีเลยวะ”
“แสดงวากะจะควงใหคนอื่นเห็น แตก็ไมผูกมัดตัวเอง ไมเสียโอกาสในการเลือกคนอื่นดวย แมงฉลาดวะ”นัทพูดดวยสีหนา
กึ่งชมกึ่งทึ่ง ผมก็คิดวาคนที่อั๋นพูดถึงฉลาดเหมือนกัน อยางนอยก็ฉลาดกวาเพื่อนผมที่หาหวงราคาสิบลานผูกคอตัวเองนี่
ละ

“กูกะวา...จะดูแลนองแพรไปเรื่อยๆ ถาเขาดีขึ้นเมื่อไหรก็จะขอหมั้นไว พอเรียนจบก็แตงงานกัน กูอยากดูแลเขาวะ” อั๋นพูด


พรอมเอานิ้วชี้วนรอบปากแกวเบาๆ สวนผมที่ถึงกับอึ้งในสิ่งที่มันพูด รูสึกเหมือนช็อคไปชั่วขณะ ไมคิดวาความรูสึกของมัน
จะลึกซึ้งขนาดนี้ มันไมใชคนทํารายผูหญิงคนนั้นสักหนอย แตกลับทําเหมือนตัวเองตองรับผิดชอบ ไมรูจะเรียกวาโงหรือ
อะไรดี

จากที่คิดวาเรื่องมันคงจบลงแลวกลับไมใช วันตอมาไออั๋นขนเหลามาที่หองผมพรอมกับโทรตามไอนัทมาดวย สภาพมันคง


เมามาไมต่ํากวายี่สิบสี่ชั่วโมง โทรมจนดูไมได ผมเห็นมันตอนที่เดินเขาหองมาถึงกับตองสายหนา รับไมไดกับสารรูปเพื่อน
ตัวเอง ปกติก็เมาเหมือนหมา แตนี้เปนหมาขี้เรื้อนซะดวย

“นองแพรหนีกูไปแลว...กู...ไมเหลือใครแลว”ประโยคนี้ของมันทําใหผมรูสึกอยากเอาขวดเหลาฟาดหัวใหไดสติ ผูหญิงคน
เดียวมันถึงกับบา แลวไอที่บอกวาไมเหลือใครนี่อีก...มันเห็นผมเปนกับแกลมหรือเปลาถึงไดเห็นคาเฉพาะเวลาอยากเมา
ไอหานัทก็ไมตางกัน ดันแอบไปซาวนาแลวนักสืบเมียมันถายรูปได จะอางวาไมมีอะไรก็ไมไดเพราะดันหิ้วคูขาที่เจอในนั้น
ออกไปตอขางนอกกันอีก สุดทายเจอคาโงไปอีกสามลานกลายเปนสิบสามลาน เลขเฮงซวยสมกับมันดี

“เมื่อวันกอนกูไมไดไปหาเพราะติดงาน เพราะเมื่อวานตอนเชาไปเยี่ยมแมเขาบอกวานองแพรจะกินยาตาย โชคดีที่แมเขา


เขาไปเห็นกอนเลยหามทัน พวกเขาพาแพรไปอยูบานที่เชียงใหม แลวอาทิตยหนาจะไปอเมริกา นี่กูยังไมไดคุย ไมไดล่ําลา
สักคําเลย เขาก็ทิ้งกูไปแลว เพราะไอเหี้ยนั่นตัวเดียวเลยทุกอยางถึงเปนแบบนี้ เพราะมันแทๆ เลย”คําพูดไออั๋นสับสนดีมั้ย
ครับ เขาทิ้งมันตอนไหนในเมื่อมันไมไดเปนสมบัติของเขาเสียหนอย

“แลวมึงจะนั่งบนใหไดอะไรวะ ยังไงๆ นองเขาก็ไมอยูแลว”

“กู...กูจะไปฆามัน”

“ฆาคนติดคุกนะมึง แตไมเปนไร กูคิดวาพอจะชวยพลิกคดีใหมึงไดอยู คงจะแคลงอาญาเพราะไมเจตนาฆา”ไอนัทก็ปากดี


ถือวามีเสนสายของพอมันใหญ ถามีเรื่องขึ้นโรงพักไมเคยตองเสียคาปรับ มีแตเชิญกลับอยางเดียว ยกเวนเรื่องฟองหยา
เมียนี่แหละที่เอาตัวไมรอด เจอเสนใหญเหมือนกันเลยจุกไปเลย

“สงเสริมกันแตละอยาง ดีนะมึง”

“ตั้ม...”เอาแลวไง ไออั๋นเรียกผมแบบนี้ทีไร ความซวยมาเยือนทุกที


“วามา”

“มึง....แกแคนใหกูหนอยสิ”

“ยังไง เมื่อไหร”เพื่อเพื่อนครับ ไมมีอิดออดอยูแลว กําลังเซ็งๆ อยูดวย

“เดี๋ยวกูขอลาพักรอนใหไดกอน คงเร็วๆ นี้ แตมึงหาสถานที่ดีๆ หนอยแลวกัน กูจะใหมึงลากมันมารุมโทรมเหมือนที่แพรเคย


โดน ชวนเพื่อนที่ไวใจไดไปสักสี่หาคนแลวกัน เอาไปขังใหกูแกแคนสักพักแลวคอยปลอย”

“ได ไปที่รีสอรทกูก็ได ชวงนี้ดานหลังกําลังปรับปรุง ไมมีใครเขาไปวุนอยูแลว วาแตมึงจะไปจับตัวมันยังไง”

“กูเคยแอบตามดูมันมาสักพักแลว ไวลางานไดเมื่อไหรกูจะพามึงไปลากมันมาใหกู แถวนั้นไมคอยพลุกพลาน คงไมยาก”


เพื่อนผมนี่ก็ใชได แอบตามดูพฤติกรรมแฟนของผูหญิงมันดวย แตที่เลวสุดก็คงผมนี่ละ ไมหามเพื่อนสักคํา แถมยังรูสึก
สนุกเสียดวย ชวงนี้ยิ่งวางๆ ไมมีอะไรตื่นเตนทําอยู พวกที่คบๆ ก็ทําตัวนาเบื่อ ออดออนจนนารําคาญ เชี่ยวจนรูสึก
ขยะแขยง ไมรูวาผานศึกมาแลวเทาไหร ไดเจออะไรใหมๆ คงแกเซ็งไดบาง อยางนอยเรื่องตํารวจก็ไมตองกลัว ผูชาย
เหมือนกันมันคงไมมีปญญาไปแจงความ

“แลวคนที่มึงจะใหจัดการหนาตาโอเคเปลาวะ กูจะไดแจมดวย”

“ไมเข็ดนะมึง เดี๋ยวก็เจอเพิ่มเปนยี่สิบลานหรอก”ผมละหนายกับไอนัทจริงๆ หาเมียไดโคตรฉลาด นอกจากจางนักสืบดู


พฤติกรรมแลวยังตรวจเช็คสภาพรางกายเวลากลับบานอีก ลองมีรองรอยสักนิดเดียวมีหวังโดนถายรูปเก็บเปนหลักฐาน
มันเคยบอกวารอยยุงกัดเมียมันก็ถาย มันตองไปขอใบรับรองแพทยเพื่อยืนยันวาเปนรอยแดงที่เกิดจากการคันเมื่อถูกยุงกัด
สมกันจริงๆ คูนี้ ผมภาวนาใหมันหยาไมสําเร็จ

“กูมีรูป มึงดูเอาเองเถอะวาใชสเปครึเปลา กูไมมีความเห็นเรื่องหนาตาผูชายวะ”อั๋นหยิบรูปใบเดิมที่เคยขยําจนยับออกมา


โยนใหนัทดู ผมเลยชะโงกหนาไปดูเหยื่อดวย

ถึงรูปที่มองจะยับยนขนาดไหน แตตอนแรกที่เห็นหนาเหยื่อชัดๆ ผมกับนัทก็ครางในลําคอดวยความพอใจเบาๆ พรอมกัน


หนาตาไมไดจัดวาหลอหรือนารัก คอนขางจะดูเรียบรอย แตรอยยิ้มสวยมากครับ มองแลวรูสึกอยากยิ้มตาม รูปรางก็
ธรรมดา ไมไดตัวเล็กนารัก หรือหุนเฟรมอะไร คอนขางผอมบางไปสักหนอย ผิวขาวพอประมาณ อีกอยางที่เห็นไดจากรูป
คือ...สองคนในรูปเหมาะสมกันมากครับ รอยยิ้มและแววตาที่มองใหกันทดแทนความรูสึกและคําพูดไดดีจนเกือบลืมไปวา
ไอคนในรูปมันเปนเกยแลวก็ขมขืนผูหญิงในรูปไป ผมถอนหนากลับมานั่งกินเหลาปลอยใหไอนัทนั่งจองรูปดวยความพอใจ
เงียบๆ
หลังจากวันนั้นไมถึงสัปดาหพวกเราก็มีวันหยุดนักขัตฤกษโดยไมตองลาพักรอน เพื่อนในกลุมอีกสี่คนที่อยากไปเที่ยวก็ขอ
รวมเดินทางแตไมรวมแจมดวยเพราะมันเปนชายแท ผม นัทและไออั๋นไปดักรอเหยื่อที่ปากซอยเขาหอพัก อั๋นมันรูเวลาเลิก
เขาออกของเหยื่อที่มันตามสืบ เราจอดรถไวขางทางแลวนั่งรอ

“วาแตชื่ออะไรวะ”เหยื่อคนนี้คงเปนที่สนใจของอั๋นมากถึงขนาดตองถามชื่อ

“พาย”

“ชื่อนากินซะดวย”ผมยิ้มขําในคําพูดประชดตัวเอง ที่บานผมนอกจากจะทํารีสอรทแลวยังมีไรองุน สวนหนึ่งไมแปรรูป และ


อีกสวนนําไปแปรรูปเปนไวนเพื่อจําหนายทั้งในและนอกประเทศ และแนนอน...องุนบางสวนก็แปรรูปใหอยูในรูปแบบของ
ขนม....พายองุน....คอนขางจะเปนของฝากที่นิยมของรีสอรทรองจากไวนที่มีราคาแพงกวา และเพราะเห็นตั้งแตเด็กเลย
คอนขางจะเอียน....แลว...พายที่เปนคน.....จะรสชาดแบบไหนกัน

ตอนที่ 37

ที่คิดเอาไวไมผิด ตัวผอมๆ แบบนี้จะมีแรงสูสักเทาไหรกัน แคโดนตีดานหลังก็ทรุดลงไปหลับไมรูเรื่อง แตเพื่อกันมันตื่นอั๋น


เลยเอายาสลบโปะใหมันสูดเขาไปอีกนิด ผมขับรถดวยความสบายใจพอๆ กับไออั๋นที่นั่งยิ้มสมใจที่จะไดแกแคนอยูขางๆ
สวนเหยื่อที่จับมาก็นอนสลบใหไอนัทลูบไลเลนๆ ที่เบาะหลัง

“ตัวจริงแมงนารักกวาในรูปอีกวะ เสียดายไมนามีผัวแลวเลย”นัทลูบแกมคนที่นอนหนุนตักมันเบาๆ แววตาเสียดายอยาง


เห็นไดชัด เดาวาที่เสียดายคือคนที่สลบไมซิงแคนั้นเอง ไอนี่ชอบฟดเด็กออนๆ หรือไมก็ชายแทๆ ซึ่งเปนเรื่องที่บามาก
เพราะชายแทที่ไหนจะมานอนใหมันเอา มีแตมันนั่นแหละที่ตองนอนใหเขาเตะเอาเสียมากกวา

หลังจากขับออกมาจากกรุงเทพฯไดสักพัก เพื่อนอีกกลุมที่นัดไวก็กําลังขับรถตามมาสมทบ ผมคอนขางใจเย็นถึงแมจะรูวา


เรากําลังจะทําเรื่องที่เรียกวา...ผิดกฎหมาย...อยางที่บอกไววามีเสนใหญและสถานที่ที่กําลังไปก็เปนที่สวนตัว ผมสามารถ
คุมคนเขาออกแถวนั้นได ไมตองกลัวเรื่องเสียงหรือ...การหลบหนี การเดินทางใชเวลาประมาณสองชั่วโมงก็มาถึงรีสอรท
ผมโทรบอกใหเตรียมบานหลังเล็กของผมไวลวงหนาแลวหนึ่งวัน พอเรามาถึงทุกอยางเงียบสงบเพราะบานพักผมติดกับเขต
ไร ซึ่งนอกเหนือเวลางานจะไมมีใครมายุมยาม เขตรั้วแนนหนาพอที่จะวางใจวามันไมสามารถแอบหนีไปได ดานในบานพัก
สะอาดเรียบรอยหลังจากไมไดมานานหลายเดือน เครื่องดื่มถูกอัดแนนเต็มตูเย็นตามคําสั่ง ผมกับอั๋นไมสนใจเหยื่อสัก
เทาไหร ปลอยใหนัทมันอุมเขาไปนอนในหองนอนผม อั๋นเดินตามเขาไปพรอมกับเอากุญแจมือมาล็อคเอาไว ผมคิดไมถึงวา
มันจะลงทุนสั่งไอนัทใหหากุญแจมือมาให อุปกรณแปลกๆ นัทมีหมดแทบทุกอยาง เพราะมันเปนคนรักสนุกอยางสุดขั้ว
กุญแจมือคลายกุญแจมือของตํารวจแตมีการดัดแปลงลักษณะของโซที่ยาวกวา นัทอธิบายใหฟงวามันเอาไวเลนสนุกเวลา
ล็อคแขนล็อคขาคูขามัน ถาโซสั้นไป...บางทา...มันก็ไมสะดวก ผมแอบคิดไปวามันพกเอาพวกปลอกคอหรือแซหนังอะไร
มาดวยหรือเปลา

ผมโทรไปสั่งอาหารที่ใหมาสงที่บาน รอไมนานอาหารก็มาพรอมๆ กับเพื่อนอีกกลุม แตละคนทยอยเขาไปเยี่ยมชมคนที่


นอนหลับไมรูเรื่องอยางสนุกสนาน ผมนั่งกินเหลากับอั๋นโดยไมคอยสนใจในหองเทาไหร มีเพียงไอนัทที่ใหความสนใจรางที่
นอนเปนกับแกลมใหมันมองเขาไปเรื่อยๆ เพื่อนหลายคนที่กะวาจะมาเที่ยวเลนเฉยๆ ก็เริ่มใหความสนใจกับกิจกรรมที่ผม
สามคนตั้งใจมา เหลาเขาปากจิตใจฝายต่ํามักจะถูกกระตุนงายๆ ผูชายเปนเพศที่ไวตอแรงกระตุนทุกรูปแบบ ตอใหเปน
ชายแทแตพอเมาแลวเห็นคนนอนสภาพเสื้อผาถูกปลดใหเห็นเรือนรางบางสวนยิ่งกระตุนความอยากเห็น พวกมันไดฟง
เหตุผลของการมาที่นี่ก็เพราะไออั๋นเริ่มเมาแลวพร่ําเพอออกมา ยิ่งดึกยิ่งคึกเปนเรื่องจริง และยิ่งเมาดวยแลวอารมณดิบยิ่ง
เพิ่มทวีคูณ ผมคอนขางใหความสําคัญกับการทําใหคูนอนพึงพอใจในลีลา มันเหมือนเปนการโออวดเพื่อใหไดรับการ
ยอมรับจากปากตอวาเรานั้นเจงและสุดยอดแคไหน ทวาครั้งนี้ไมจําเปน เพราะเปนแคเหยื่อ...แคความสนุกชั่วคราวแกเซ็ง
ของผม และเพื่อลางความทุกขของเพื่อน

กิจกรรมทุกอยางเริ่มดําเนินไปดวยเสียงหัวเราะอยางเหิมเกริมเมื่อรังแกและไดยินเสียงหวาดกลัวของคนที่นอนหมดทาง
ตอสู อั๋นไมสนใจที่จะรับรูเหตุการณในหอง แตมันยื่นกลองวีดีโอใหไอนัทถายเพื่อแบล็คเมลภายหลัง เอาที่จริงมันก็ดี
เพราะจะไดมีหลักประกันวามันคงไมกลาแจงความใหเรื่องยุงยาก หรือหาทางมาแกแคนคืนอีกรอบ ผมเปนคนเดียวที่ตอง
เปนฝายกระทําอยางเต็มรูปแบบเพราะเพื่อนคนอื่นแคเขามาชวยเหลือ นัทไมสามารถรวมวงไดเพราะกลัวเหลือรองรอยที่
จะสรางความเสียหายอีกหลายลาน แตสุดทายก็ทนไมไหว บังคับใหอีกฝายใชปากใหอยางทุลักทุเล ผมไมไดสนใจมัน
เทาไหรเพราะตอนนี้มีบางสิ่งผิดปกติ...ทุกอยางมันผิดไปหมด...การดิ้นรนขัดขืน เนื้อตัวสั่นเทา อาการเกร็งสะทานทั่วตัว
ผมเคยเชื่อมั่นวาลีลาตัวเองเด็ดแตกลับเสียความมั่นใจไปเมื่อคนใตรางแสดงสีหนาทรมานตลอดเวลา รางกายที่เกร็งทํา
เอาผมเจ็บไปดวยจนเกิดโมโห ถามันยอมงายๆ ก็ไมเจ็บตัวขนาดนี้ ทําเหมือนไมเคย.....ใช...ชั่วขณะที่สอดใสและรั้งสะโพก
เขามาผมคิดแบบนี้....เหมือนไมเคย

ทุกอยางยิ่งสับสนมากขึ้นเมื่อโตเถียงกับมันในเชาวันใหม ไอเด็กเวรนี่ตื่นมาถึงก็ปากดีใสผมอยางที่เรียกวาไมเคยมีใครทํา
มากอน...ไมส.ิ ..คําวาวิปริตที่มันดานั้นผมเคยไดฟงมาเมื่อนานมาแลว และผมก็ตอบแทนคนที่พูดคํานั้นกลับไปอยางสาสม
แตครั้งนี้ตองละไวใหคูกรณีมันจัดการกอน ผมคอยจัดการทีหลัง คําดาทอของมันยังไมหยุดแคนั้นทั้งที่ผมพยายามใจเย็น
สิ่งที่มันพูดกระทบความคิดเมื่อคืนอยางจัง...ผมตองยอมรับกับตัวเองอยางลึกๆ วา.....ไอเด็กนี่ไมมีทาทางของคนโกหก...
รวมถึงไมเหมือนคนที่เปนเกยแลว ผมรีบเดินออกไปจากหองเพื่อสอบถามกับไออั๋น กวาจะปลุกมันลุกขึ้นมาไดก็แทบหมด
แรง ระหวางรอใหมันอาบน้ําแตงตัวแลวออกมาคุยกันเสียงในหองนอนผมก็ดังอยางผิดสังเกต มันทํากระจกตูเสื้อผาผม
แตกซะไมมีชิ้นดี ผมเปนคนคอนขางหวงของทุกอยาง ตอใหไมคอยไดกลับมาแตถาไดชื่อวาเปนสมบัติของผม หากผมไม
เขวี้ยงทิ้งเอง คนอื่นก็ไมมีสิทธิ์ ผมกําลังจะหันไปหาเรื่องมันแตกลับกลายเปนเห็นมันคูตัวทรมานเหมือนจะขาดอากาศ
หายใจ สีหนาซีดลงและตะกุยคอตัวเองจนเปนรอยแดง คนอื่นๆ เริ่มเขามามุงในหองแลวยืนงงกับสิ่งที่พบเห็น...คนกําลังจะ
ตาย...ไอนัทเปนคนที่แกสถานการณไดเร็วสุดตามนิสัยขี้ระวังตัว มันรีบบอกใหผมไปสตารทรถ สวนมันอุนเด็กนั่นมานั่งที่
เบาะหลัง ผมคิดวาการที่เราจับตัวมันมาขมขืนเนี่ยพอจะรอดคุกดวยเสนสายได แตถามันตายในสภาพที่ผานการรวมเพศ
อยางสาหัสนี่ผมคิดวาไมติดคุก แตคงอับอายในสังคมจนอาจทนไมไหวเหมือนกัน ทางเดียวที่คิดไดคือ...มันตองรอด
“เอาไงดีวะมึง ถาไปโรงพยาบาลมีหวังเจอสอบแนเลยวารอยตามตัวนี่เกิดจากอะไร กูวาเอามันไปทิ้งไวขางทางดีมั้ยวะ
ยังไงมันก็ไมรูจักหนาพวกเราอยูแลว”ความคิดไอนัทรอบคอบดีมั้ยครับ โคตรเอาตัวรอดเลย ถาตายดวยอุบัติเหตุที่ผม
พอจะทําใจ แตถาเอาไปปลอยไวใหตายเองนี่...ผมวาผมยังไมเลวถึงขั้นนั้น สุดทายผมเลยขับรถออกไปที่คลีนิคหนารีสอรท
....ทางเลือกสุดทายที่ผมคิดจะมาขอความชวยเหลือจากคนที่นี่

“ไปทําอะไรกันมาเนี่ย แลวนี่ใคร”คําถามแรกหลังจากผมอุมคนที่นอนหายใจระรวยเหมือนคนใกลตายเขามาดานใน ไอนัท


เลือกที่จะนั่งรอในรถเพราะกลัว...นักสืบ ผมไมไดตอบคําถามอะไรก็รีบอุมคนตัวเบาในออมแขนไปนอนในหองฉุกเฉินแลว
ออกมายืนรอฟงผลและคําดาดานนอก

เพียงเวลาครึ่งชั่วโมงกวาทุกอยางก็สงบลง เด็กนั่นแคเกิดแพอาหารอยางรุนแรงจนเกิดผื่นขึ้นทั้งดานในและนอกลําคอ ทํา


ใหหายใจไมออก แปลกดี ทีเมื่อคืนผมใสมันไมยั้ง เลือดอาบจนหนาขาผมยังเลอะไปดวยแตไมยักจะดูใกลตาย นี่แค...ของ
กิน...ดันเสือกจะตาย

“ตกลงเรื่องมันเปนยังไง อยาคิดวาพี่ไมรูนะวารองรอยพวกนั้นคืออะไร ทําอะไรบาๆ แบบนี้ไดไง ไมมีความคิดกันเลยรึไง


นั่นก็คนเหมือนเรานะ เกิดตายขึ้นมารับผิดชอบไหวมั้ย ครอบครัวเขาอีก คบแตเพื่อนเลวๆ จนเลวตามกันไปหมดแลวรึไง”
มาเปนชุดจนไมอยากเถียง คนนี้เปนคนเดียวที่ผมยอมทุกอยาง ยอมใหดา ยอมใหดูถูก เพราะผมรูวาเขาเปนครอบครัว
เพียงคนเดียวของผม

“เรื่องมันยาวนะพี่นพ ไวกลับบานผมจะเลาใหฟงนะ อยาไปบอกแมใหญละ ขี้เกียจฟงคนแกบน”

“คิดวาเรื่องนี้มันเลาไดรึไง อายุตั้งเทาไหรกันแลว ถาไปแขงรถ เมาหัวทิ่มหัวตําหรือไปตอยตีกับใครนี่พี่ไมวาเลยนะ แตนี่


ขมขืนคนไมมีทางสู. .อยาเถียงนะ แคเห็นรอยที่ขอมือขอเทาก็รูแลว นี่มันไมใชเรื่องเล็กๆ ที่พี่จะปดแมแลวจบหรอกนะ ตั้ม
ทําลายชีวิตคนหนึ่งคนไปแลว มันสําคัญตรงที่เขาไมตาย เพราะงั้นความเจ็บปวดมันจะยังอยู แลวจะรับผิดชอบยังไง อยา
คิดวารักษาหายแลวจบนะ พี่วาครั้งนี้มันไมงายเหมือนตอนที่เอาปนไปยิงรถกํานันหรอกนะ”พี่นพพูดความผิดครั้งใหญเมื่อ
สามปกอน ผมบังเอิญไมถูกชะตากับกํานันในตําบลผม แลวมันก็เกลียดผมเขาไสดวยเชนเดียวกัน เนื่องจากผมเด็กแตไม
เคารพวัยวุฒิใคร มันเลยสรางความรําคาญเล็กๆ ใหผมดวยการ...ไมใหเงินชวยเหลือผูสูงอายุที่ทางอบต.ตองจายใหทุก
เดือน ผมยังไมแก ไมมีสิทธิได แตพนักงานที่รีสอรท แมครัว แมบาน ปาๆ ยายๆ ที่อยูกับผมตั้งแตเด็กไดรับความเดือดรอน
ทางใจ เงินไมกี่รอยบาทนะไมทําใหคนของผมขัดสนหรอก แตมันเหมือนการหยามน้ําหนาวาเราไมมีปญญารักษา
ผลประโยชนคนในปกครองได เรือ่ งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ผมเมาแลวดันไปกินรานเดียวกัน ดวยความปากดีของพวกวัยวุฒิสูงแต
คุณวุฒิต่ําเลยทําใหเสนความอดทนที่แสนบางของผมขาดสะบั้น ควาปนที่มีไวในรถเพื่อปองกันตัวเวลาเดือนทางไกล
ขึ้นมายิ่งใสรถมัน แลวก็ยืนรอใหตํารวจมาจับพรอมใชเสนเชิญตัวเองออกจากโรงพักดวยการจายเงินคาปรับในการทําลาย
ทรัพยสินผูอื่นเพียงไมกี่พัน แตผมตอบแทนความอดทนต่ําของผมสาหัสมาก พี่นพไมดาผมสักคํา แตปดคลินิกที่ลงทุนมา
ทั้งชีวิตและรักยิ่งกวาชีวิตดวยเหตุผลที่วา...ไมอยากรักษาคนไขที่ผมอาจจะเผลอความอดทนต่ําใส ผมอึ้งไปพักใหญ รูดีวา
พี่ชายรักอาชีพหมอ และมีจิตวิญญาณของการปกปองคนอื่นมากแคไหน หากแตไมคิดวา...จะปดกิจการเพราะผม ยิ่งกวา
คําวารูสึกผิด...คําวา..ขอโทษ...ไมสามารถแกไขอะไรได แลวผมก็ทําสิ่งที่คิดวา...สมควร...การกมหัวใหคนสําคัญไมใชเรื่อง
ยาก...การที่ผมกราบเทาขอโทษพี่ชายตัวเองก็ไมยากเชนเดียวกัน...ครั้งนั้นพี่นพยื่นคําขาดเรื่องการพกอาวุธและบอกใหผม
เรียนโทตอ ผม...รับคําทันที และพี่นพก็เปดกิจการเหมือนเดิม

ครั้งนี้เลวรายกวาครั้งนั้น เพราะผมทําใหพี่ชายตัวเองกลายเปนผูสมรูรวมคิดเพื่อปกปดความผิดนองชายตัวเอง ผมเครียด


มาก และถึงมากที่สุดเมื่อกลับมาพบเพื่อนๆ ผมถามอั๋นในสิ่งที่สงสัยคางไว วามันแนใจเหรอวาคนที่จับมาไมผิดตัว และ
คนๆ นี้...เปนเกย มันยังคงยืนยันวาไมผิดตัวแน คนๆ นี้กับคนในรูปคือคนเดียวกัน แตที่ผมสงสัยคือ...คนตัวบางอยางนั้น
เนี่ยนะที่ขมขืนผูหญิงของมัน ตอใหสูตัวตอตัวกับผูหญิงผมยังตองคิดเลยวาจะชนะหรือเสมอ สุดทาย...ผมเลือกที่จะเชื่อ
ความมั่นใจแบบโงๆ ของเพื่อนผม ไมมีเหตุผลอื่นรับรอง...แคเพราะมันเปนเพื่อน

วันนั้นเพื่อนๆ ทยอยกลับกันในตอนค่ําเพราะเริ่มหมดสนุก แตผมคิดวามันกลัวจะติดรางแหกันมากกวา คนที่ยังอยูกับผมมี


แคนัทกับอั๋น พวกมันรูวาผมซีเรียสกับเรื่องที่ตองลากพี่นพมาเอี่ยว เรารอพี่นพอยูที่บานอยางสงบเสงี่ยมดวยเบียรที่เหลือ
ไมกี่กระปอง ตอนเย็นพี่นพกลับมาดวยสีหนาที่ดูแย...และโกรธผมอยางที่เขาหนาไมติด ไมพูดไมแสดงอาการอะไร
นอกจากยืนกอดอกพิงกรอบหนาตางมองพวกผมสามคนที่นั่งจองกระปองเบียรตรงหนา

“รูมั้ยวาทําอะไรกันลงไป”ประโยคที่แสนสั้นสอเคาพายุที่กําลังคอยๆ กอตัวเงียบๆ ไมมีใครกลาพูดอะไรเพราะรูจักพี่ชายผม


ดีวา....ยามพี่ถอดเสื้อกราวนออกไปแลว...พี่นพสามารถจับมีดผาตัดแทงคนไดอยางไมลังเล และยินดีเย็บแผลใหโดยไมคิด
คาบริการ

“เด็กคนนั้นเหมือนจะอาการไมคอยปกติ ดูตื่นกลัวคนแปลกหนา ขนาดที่ยังไมกลาเอื้อมมือไปตรวจแผลใกลๆ หนาตา


เหมือนขูใหกลัวแตดันมีน้ําตาคลอ...เด็กแบบนี้นี่นะที่สมควรโดนพวกนายทําลาย”

“พี่นพไมรูเรื่องทั้งหมด ที่ผมทํากับมันนะสมควรที่สุดแลว”

“การที่ทํารายคนหนึ่งคนไมมีเหตุผลใดที่จะเอามาอางไดวา...คนนั้นสมควรโดน ฉะนั้นอยาเอาเหตุผลอะไรไรสติมาพูดกับ
พี่”คําพูดพี่ชายผมเปนประกาศิต ไมมีใครกลาเถียงสักคํา ผมก็เชื่อวาสิ่งที่พี่พูดมามันถูกตอง หากแต...ผมก็แค...ทําตาม
ความคิดที่ไรสติในแบบของผม

“ใครเปนคนลงมือ”พี่นพเลือกใชคนพูดที่นุมนวล ไมเจาะจงวา...ใครขมขืน...ใครสอดใสบาง...ใครสนุกกับรางกายนั้นบาง

“ผมคนเดียว”ผมตอบเร็วอยางไมคิดที่จะปดบัง ไมดึงคนอื่นมาเอี่ยวดวย

“รูมั้ยวาเด็กนั่นเกือบตายถาไปชากวานี้อีกนิดเดียว รางกายรอดแตจิตใจไมรูวาตายไปรึไง แตพี่ชวยชีวิตเขาเอาไว ในขณะที่


นองชายตัวเองเปนทําตั้งใจทําลาย พี่จะทํายังไงดีตั้ม”
“พี่จะใหผมทําอะไรผมยอมหมด”

“แนใจวายอมหมด”พี่นพถามย้ํา และผมพยักหนาเนือยๆ ไมอยากยอมแตตองยอม กลัวใจพี่ตัวเองมากกวากลัวสิ่งที่ตอง


ทํา

“อยางแรก...กลับมาดูแลรีสอรทและกิจการทั้งหมดในเครือ”คําสั่งแรกก็แทบกระอัก ที่นี่ถึงจะเปนบานแตผมกลับพยายาม
ใชเวลาอยูนอยกวาที่ควรเปน และคําสั่งที่ใหมาไมตางจากสั่งใหผมเขาคุก เรื่องที่หลีกเลี่ยงตลอดเวลากลับตองยอมรับ
เพราะ...ไอเด็กนั่น

“อยางที่สอง...รับผิดชอบจนกวาเด็กคนนั้นจะหายเปนปกติ และพี่เชื่อวา...มันไมใชเร็ววันแนๆ เพราะเด็กนั่นประสาทเสีย


จนพี่คิดวาจะกลับไปใชชีวิตปกติไมได ถาเขาเปนบา...นายตองทําใหเขาหาย ถาเขาตาย...ตองทําใหฟน...ชดใชใหเขาซะ”
สิ้นสุดคําสั่งผมนั่งอาปากคางอยางไมเชื่อหูตัวเอง จากที่คิดวาทําๆ ไปซะแลวก็จบ แยกยายไปใชชีวิตเหมือนเดิม มันไมรูจัก
หนาผม สวนผมไมสนใจมัน ตอนนี้กลับกลายเปนวา..ผมตองเอาตัวเองไปผูกติดกับมัน...คําวาชดใชฟงดูเหมือนกับคําวาไถ
บาป ในใจแลวผมคอนขางสังเวชตัวเองและสมเพชเด็กนั่น ผูชายอะไรออนแอฉิบหาย แคนี้ถึงกับจะเปนบา แลวผูหญิงของ
ไออั๋นปานนี้ไมฆาตัวตายไปแลวเหรอ...อืม...อันที่จริงก็ทําไปแลวนี่นา

“พรุงนี้ไปตรวจเลือดกับพี่ดวย”

“เฮย!! อยาบอกนะวามันเปนโรคอะไรนะ”ผมหนาซีดเลย เมื่อวานก็นึกสนุกกับการดิ้นรนขัดขืน คิดวามันคงผานมาไมเยอะ


เลยไมปองกันอะไร

“ถาเขาจะเปนก็คงติดจากนายนั่นละ เด็กนั่นกลัวจะติดโรคเลยขอใหพี่ตรวจ เขาใจบางรึยังวาตอไปนี้ชีวิตคนๆ หนึ่ง


เปลี่ยนไปเพราะการกระทําเลวๆ ของพวกนายทุกคน”

ผมและผูรวมชะตากรรมอีกสองคนนั่งรถกลับดวยความอึดอัด ทุกคนรูดีวาการใหผมตองฝนใจทําอะไรเปนเรื่องที่แทบ
เปนไปไมได โดยเฉพาะทําเพื่อ...คนอื่น ผมคิดวาจะปลอยใหทุกอยางดําเนินไปตามปกติ หากเด็กนั่นตองใชเสียเงินคา
รักษาอะไรผมยินดีจาย นี่ถือเปนการชดใชในแบบของผม แตนั่นไมใชแบบของพี่นพ ทุกวันและแทบจะวันละหลายรอบที่
โทรมาเพื่อบังคับใหผมฟงความเคลื่อนไหวของเด็กนั่น ไมวาจะอาการทางจิตที่หวาดวิตกผูคน หรือปญหาเรื่องงาน ระยะ
หลังนอกจากพี่นพแลวก็คือพี่หนอย จิตแพทยสาวที่พี่ชายผมคบหาดูใจกันอยูเงียบๆ เรื่องราวบีบคั้นผมหนักกวาเกาเมื่ออั๋น
พบซีดีเจาปญหาที่อยูในกระเปาผูหญิงของมัน วันที่เกิดเหตุแลวมันเปนคนไปชวยทุกอยางเหมือนจะฉุกละหุกจนมันลืมคืน
สิ่งของที่ตกในรถ และเมื่อมันเปดดูถึงรูวาภาพในนั้นคือภาพแพรกําลังถูกขมขืน มันไมอยากดูตอไปแตก็อยากดูเพื่อมอง
หนาผูรายทั้งหมด ฝายนั้นคอนขางรอบคอบเพราะไมสามารถมองเห็นหนาใครสักคนไดชัดเจน มีเพียงน้ําเสียงซึ่งก็ไมรูวา
เปนเสียงใคร และมันยอมรับวาความแคนมันยังไมจบ มันยังอยากแกแคนกับเหยื่อคนเดิม แตไมคิดจะลากพวกผมไปเกี่ยว
ดวย หลังจากที่มันใหคนตามสืบเรื่องราวสวนตัวเพื่อตามหาคนที่ไดชื่อวาเปนคูขาหรือสามีของเด็กนั่น มันถึงรูวา...มีบางสิ่ง
ผิดพลาดไป
ทุกสิ่งทุกอยางจากปากมันรวมกับคําบอกเลาจากพี่หนอยถึงเรื่องราวสวนตัวของคนไขทําใหผมคิดหนัก เมื่อเริ่มแนใจวา...
จับผิดตัว เด็กนั่นไมเกี่ยวของอะไรกับการขมขืน ที่แนใจเพราะเทาที่รูพายไมมีเพื่อนสนิทเกินสองคน หนึ่งคือเพื่อนรวมคณะ
อีกหนึ่งคือเพื่อนขางหองพัก ผมเริ่มที่จะเปนฝายติดตามเด็กนั่นโดยที่ไมตองใหคนอื่นมาคะยั้นคะยอใหดูแล พายมีอาการ
อยางที่พี่หนอยบอกทุกอยาง ระแวงคนแปลกหนาโดยเฉพาะผูชาย ผมเคยเดินเขาลิฟตตัวเดียวกันและแอบสังเกตอาการ
อยูดานหลัง หนาตาซีดลงพรอมขบเมนริมฝปากจนแทบไดเลือด ฝามือกําแนนอยางอดทน คงจะทําตามคําแนะนําพี่หนอย
วาอยาหนีและอยากลัว ความบังเอิญเล็กๆ เกิดขึ้นเมื่อผมไปกินเหลากับเพื่อนแลวบังเอิญพบกับเพื่อนขางหองของพายที่
นั่น จากที่จองมองกันไปมาก็เริ่มตองใจเงียบๆ ดวยลักษณะภายนอกที่ถูกใจ และเมื่อรูวานุเองก็มีรสนิยมเดียวกันจึงไมยาก
ที่คืนนั้นจะหิ้วกลับไปนอนดวยได ยอมรับวาคอนขางพอใจกับลีลาที่ไมไดจัดจานของนุ จากครั้งแรกก็มีครั้งที่สองและสาม
ตามมา ผมรูวานุขัดสนเรื่องเงินพอสมควรจึงเสนอตัวชวยเหลือเหมือนที่เคยทํากับคูนอนบางคนที่ถูกใจ เงื่อนไขงายๆ ใน
การคบหาก็คือ...ผมไมชอบแบงปนกับใคร ถาไดชื่อวาอยูในความดูแลของผมแลว คนอื่นก็ไมมีสิทธิ์ ผมเสนอใหนุมาทํางาน
ที่รานเบเกอรี่ที่ใกลมหาลัยฯของเขา เงินเดือนนอกเหนือจากงานจะโอนเขาบัญชีที่ผมเปดไวให นุเองก็เปนเด็กตางจังหวัด
บางครั้งที่กลับบานก็จะมีของฝากเล็กๆนอยๆ ติดมือมาใหผม ผมเองก็ทําเชนเดียวกัน เมื่อถูกตามตัวใหกลับไปดูแลรีสอรท
และไร ขากลับผมก็จะมีของฝากมาให แปลกตรงที่...ผมมักนํามามากพอสําหรับสองคน เหมือนจงใจใหเขาเผื่อแผไปให
เพื่อนขางหองที่พูดถึงใหผมฟงบางครั้ง ความคิดที่ยังลังเลวาผิดตัวจริงหรือไมเริ่มหายไปจากเรื่องราวจากปากคนรอบขาง
พายเปนเด็กกําพราพอ แมเองก็อยูตางจังหวัดและไมไดมีรายไดพอจะสงเสีย เงินทุกอยางในชีวิตประจําวันมาจากการ
ทํางานของพาย บางสวนเก็บไวเปนคาใชจายเรื่องการเรียน และบางสวนสงกลับไปใหแม พายเปนคนพูดนอย ไมคอยพูด
กับคนแปลกหนา แตถาสนิทแลวจะยอมบอกเรื่องราวสวนตัวหรือหยอกลอได ไมไดมีผลการเรียนดีเดนแตขยันและอดทน
เพื่อควาปริญญามาใหแมและเปนใบเบิกทางในการทํางานเพื่อรายไดสูงๆ รวมแลวผมวาเด็กนั่นเปนคนที่เรียกวา....อาน
งาย....ทุกการกระทําเพียงเพื่อแมเทานั้น ไมรูทําไมผมถึงรูสึกวาคนแบบนี้ไมมีวันทําเรื่องเลวราย ไมมีทางโกหกหลอกลวง

ผมยืนอยูระเบียงหองนอนของนุ คืนนี้เปนคืนแรกที่มาใชสถานที่นี้แทนโรงแรม เจาของหองนอนหลับเพราะความเหนื่อย


สวนผมอาบน้ําแลวแตงตัวเตรียมตัวกลับ หากแตเสียงซักผาดวยมือดังจากระเบียงขางหองเรียกความสนใจไวกอน ตอนนี้
ลวงเขาวันใหมมาชั่วโมงกวาแตดันมีคนนั่งซักผา แทนที่จะลงไปใชเครื่องซักผาอัตโนมัติเหมือนคนอื่นๆ คงเพิ่งกลับมาจาก
งานใหมที่เริ่มทําไดสักพัก บางทีจิตสํานึกพื้นฐานของคนคงหมดไปจากตัวผม ผมรูดีวาสิ่งที่ผมทํากับเขามันผิด...แตไมได
รูสึกผิด....สิ่งที่เขาตะโกนใสหนาผมวันนั้นยังกองในหัว....คําพูดที่สื่อวาผมโงจนไมรูวาใครที่ยัง...บริสุทธิ.์ ..หรือ...เคยผาน
มาแลว คิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็อดยิ้มมุมปากบางๆ ไมได....เด็กนั่นเปนของผม!!

ตอนที่ 38

ผมเคยคิดจะใหนุยายไปอยูหอพักอื่นซึ่งสะดวกสําหรับผมมากกวานี้ แตนุก็ดูจะติดพายพอควร ผมคิดไปคิดมาก็เปลี่ยนใจ


ใหนุอยูใกลพายเหมือนเดิมดีกวา ขาวคราวของพายผมไดรับจากพี่หนอยเสมอๆ ตางจากเดิมคือผมเปนคนโทรไปสอบถาม
เอง พฤติกรรมของพายและคนรอบขางที่เขาหูผมเริ่มไมคอยสบอารมณเทาไหร เพื่อนใหมและเพื่อนสนิทมันเปนเกย ถาเดา
ไมผิดเพื่อนสนิทมันตองรูสึกอะไรกับมันบางละ จะมีใครดีกับคนอื่นโดยไมหวังผลไดรึไง โลกนี้มันไมไดสวยงามขนาดนั้น

บานไมหลังเล็กๆ เกาๆ ตั้งอยูตรงหนา ผมวาสภาพบานพักพนักงานที่รีสอรทยังดูดีกวาหลายเทา ในมือผมถือกลองถายรูป


เอาไว ความจริงก็ไมไดคิดจะทําอะไรแบบนี้ แตตองมาติดตองานที่นี่พอดีเลยลองขับรถมาดู รูปบานเกาๆ ถูกถายหลายมุม
ผมมองหาเจาของบานอยูบานก็ไมเห็น ผมเดินลัดเลาะแนวตนไมตามเสียงซักผาไปจนถึงหลังบาน ยกกลองขึ้นมาถายรูป
ผูหญิงตรงหนาสองสามครั้งแลวก็เตรียมหันหลังกลับ เมื่อไดสิ่งที่ตองการ

“อาวพอหนุม ทําอะไรอยุตรงนั้น”เสียงเรียกจากคนที่ผมตั้งใจมาแอบถายรูปเพื่อไปขมขูลูกชายของเธอดังจากดานหลัง ผม
หันไปมองอยางไมจนปญญาทีจ่ ะตอบอะไรออกไป

“จะมาเด็ดมะมวงละสิ มันเหลือแตยอดสูงๆ ที่เหลือนากับคนอื่นเก็บไปหมดแลว”

“ครับ ไมเปนไรครับ”

“ตามนาไปเอาในบานสิ นาสอยมาเก็บไวทํามะมวงกวนสงไปใหลูก นี่ก็ทําเหลือบานเลย แบงไปกินหนอยมั้ยละคุณ”

“ไมดีกวาครับ ขอบคุณครับ”

“มาๆ อยามาเกรงใจกัน ของมันเหลือจะทิ้งก็เสียดายเปลาๆ”นาผูหญิงเดินเขาบานพรอมเช็ดมือ เปยกๆ ดวยชายผาถุงที่


พับเหลือตรงขอบเอว ผมเดินตามเขาไปในครัวดานหลัง ครัวที่....เหมือนหองเก็บของ ถาไมมีกะทะกับตูกับขาวไมเกาๆ ผม
คงคิดวาเปนหองเก็บของแนๆ เห็นจากสภาพความเปนอยูดานในที่ไมตางจากดานนอกแลวก็เขาใจวาทําไมเด็ก นั่นถึงตอง
ทํางานหนักขนาดนั้น

“ลูกชายนานะชอบมากเลยมะมวงเนี่ย ถาอยูบานนะเปนตองปนขึ้นไปเก็บมาจนเกือบหมดตน เก็บมาเยอะแลวก็เที่ยวไป


แจกชาวบาน มันบอกดีกวาปลอยใหรวงลงพื้นเสียของ มะมวงกวนนี่ก็ของโปรดเจาพายเลยละ กินเลนเปนขนมจนบางทีนา
ตองบน กลัวมันกินอิ่มแลวจะไมยอมกินขาว นี่นาสงไปใหตั้งเยอะไมรูจะแบงเพื่อนหรือเก็บไวกินเอง”รอยยิ้มกับสี หนาบง
บอกถึงความรักที่มีตอลูกชายที่กําลังพูดถึง มือหยาบกรานเพราะทํางานหนักหยิบมะมวงกวนในขวดโหลใสถุงพลาสติกจน
เต็มไป หนึ่งถุงแลวก็ยังหยิบถุงใหมมาใสใหอีก

“ทาทางนาจะรักลูกมากนะครับ แลวนี่เขาไมอยูเหรอ”

“จะ ไมอยูหรอก ไปเรียนที่กรุงเทพฯโนน เพื่อนบานเขาอิจฉานาเปนแถววาไดลูกดี เรียนเกง สอบเขาโรงเรียนรัฐบาลได ราย


นั้นก็เรียนดวยทํางานดวย สงเงินใหนาทุกเดือน กลัวแมมันทํางานหนักแลวจะไมสบาย...แคนี้พอมั้ยคุณ จะเอามะมวงดิบ
ไปดวยมั้ย อยูในเขงหนาบานแนะ”
“แคนี้ก็พอครับ ขอบคุณมากนะครับ”

“ไมเปนไรหรอกพอหนุม แคนี้เอง นามีเหลือกิน แบงๆ ไปนะแหละดีแลว”

“ครับ งั้นผมกลับละนะครับ”ผมยกมือไหวแลวรีบเดินกลับมาออกมา เปนครั้งแรกที่....รูสึกผิด.....ลูกคนดี คนเกงของผูหญิง


ที่ใจดีแบงขนมให...ถูกผมทําลายเสียยอยยับ แตเธอก็ไมรูเรื่อง หากรูวาผมทําอะไรกับลูกเธอบาง ความเอื้ออาทรที่มีใหจะ
ยังเหมือนเดิมมั้ย ความเชื่อทีว่ าคนเราไมเคยทําดีกับคนอื่นโดยไมหวังผลตอบแทนเริ่มสั่นคลอน เพราะผมไมสามารถหา
คําตอบไดวา...เธอหวังอะไรจากผม เพื่อแลกกับมะมวงกวนสองถุง คนเราสามารถเชิญคนแปลกหนาที่บุกรุกบานตัวเองเขา
ไปในบานไดงายๆ อยางนี้ทุกคนเลยเหรอ

การกระทําที่ผิดแปลกจากวิสัยของตัวเองเกิดขึ้น เมื่อผมยอนกลับไปบานหลังนั้นอีกหลายครั้งดวยขออางหลายอยางไมซ้ํา
กัน ตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งสัปดาหที่ตองติดตองานที่นั่น ผมไดนอนคางบานหลังนั้นหนึ่งคืน หากแตเปนคืนที่...สําคัญ
หลังจากกลับมาผมและเพื่อนอีกสองคนก็นัดเจอกันดวยเหตุผลบางอยาง....นั่นคือ ....ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจริง และได
เวลายอมรับ

“กูติดตอกับแพรไดสักพักแลว ความจริงก็แคแมนองเทานั้นแหละ แตก็ดีที่รูวาสบายขึ้นแลว”

“แลวไง”ผมกอดอกถามอั๋นที่นั่งทําหนาเหมือนจะสํานึกอะไรบางอยาง

“เทาที่กูตามดูเด็กคนนั้น กูคิดวา...คงเปนเรื่องเขาใจผิดของกูเอง ดูๆ แลวมันก็เปนคนดีนะ”

“มึงจะพูดอะไรเอาใหจบๆ ทีเดียวไดมั้ย กูเริ่มรําคาญแลว”นัทเองก็เริ่มทนไมไหวกับอาการอ้ําอึ้งของไออั๋นเหมือนกัน

“กู วาเราจับผิดตัว เพราะกูลองเลียบๆ เคียงๆ ถามแมเขาวาจะเอาเรื่องพวกที่ทําแพรแบบนี้มั้ย แตแพรเคยยืนยันวาไมตอง


ทําอะไร พอแพรคิดจะแจงความจับพายหลังจากที่แพรเพิ่งบินไปไมกี่วัน แพรดันรูกอนแลวบอกวาพายไมเกี่ยวกับเรื่องนี้
แมแพรเลยถามๆ กูวาตกลงเรื่องเปนยังไง แลวพายเนี่ยเปนคนดีอยางที่แพรบอกจริงเหรอ....กูเลยตองแอบๆ ตามสืบดู”

“เวรจริงๆ เลยนะมึงไออั๋น นําความซวยความใหพวกกูแทๆ กูก็นึกอยูแลววาทาทางแบบนั้นเนี่ยนะจะมีผัวมากอน”

“แตก็มีแฟนเปนผูชายจริงๆ นะมึง”

“มึงรูไดไง”
“ก็ คนขางตัวเด็กคนนั้นไง บางคนก็บอกวาเปนเพื่อนสนิท แตบางคนก็บอกวาเปนแฟน กูเลยคิดวาสองคนนี้คงแอบคบกัน
อยู แลวดันมายุงกับแพรของกูอีก”

“มึงมันโงวะไออั๋น เด็กนั่นนะไมเคยผานมือใครมากอน แลวกูก็เปนคนแรกดวย สวนเรื่องที่มันสองคนจะเปนแฟนกันนะยิ่ง


ไมมีทาง เพราะพายไมเพิ่งจะสงสัยวาเพื่อนตัวเองเปนเกยไมนานมานี้เอง”

“แลวมึงรูไดไง”

“ก็พี่หนอยเลาใหกูฟง”ผมพูดจบ สองคนนี้ก็พยักหนารับรู พวกผมยังจําไดวาผมตองทําอะไรตามคําสั่งพี่นพบาง

“แลวเอาไงตอ”นัทถามตรงกับความคิดผม เพราะจากที่นั่งฟงอั๋นพูดก็ยังไมเขาใจวามันตองการอะไร

“ก็ ไมเอาไง กูแคบอกใหรูเฉยๆ วาเราจับคนผิด แตเรื่องมันก็ผานไปแลว จะไปแสดงตัวรับผิดชอบก็คงไมใชเรื่อง เพราะนั่น


เปนผูชายไมไดเสียหายอะไร อาการอื่นๆ ตั้มมันก็เคยบอกวาหายแลวนี่”

“ดีแลว กูบอกตรงๆ นะวารูสึกผิดวะ พวกเราทํากับเขาเกินไปมากเลยนะเวย จริงๆ ก็อยากไปขอโทษเหมือนกัน แตก็นะ


ผานแลวก็ผานเลยแลวกัน”นัทพูดสนับสนุนความคิดอั๋น ตรงนี้คงมีผมคนเดียวที่คิดไมเหมือนพวกมัน ผมรูวาเราทําผิด...
และก็เริ่มรูสึกผิด...แต...ทําไมตองปลอยผานไป ในเมื่อเด็กนั่นก็เปนของผมแลว ตอใหเพื่อนมันจะทําใหหวั่นไหวยังไงก็ไมมี
สิทธิ์ไปตอบรับความรูสึกคนอื่น ของที่ผมไมไดถือไวในมือ ใชวาผมจะทิ้งนี่ แตสงสัยคงวางหางไป ถึงไดไมมีใครรูวา....มี
เจาของแลว

การพบกันครั้งแรกที่ลานจอดรถ เรียกวาบังเอิญจริงๆ หากแตครั้งตอมาไมใชพรหมลิขิตใดๆ แตเปนการจงใจของผม


น้ําเสียง สีหนา แววตาที่หวั่นวิตกเมื่อคลายจะจําผมได ผมยอมรับวาแปลกใจแตก็ดีใจที่มันจําเสียงผมได การแสดงตัวใน
ครั้งตอๆ มาทําใหรูวาอาการที่พี่หนอยบอกวาหมดแลวยังไมหมดไปจริงๆ หรือวาพายเสียการควบคุมเฉพาะอยูกับผม...อัน
นี้ไมแนใจเทาไหร หนาตาที่พยายามจะแสดงออกวาเขมแข็ง แตรางกายกับสั่นเทาแมจะถือมีดจอทองผมอยู คิดไมถึงจริงๆ
วาเด็กนี่จะกลาแทงผม แตก็เกิดขึ้นแลว เจาตัวเองก็คงนึกไมถึงเหมือนกัน เพียงแคเห็นเลือดที่ไหลซึมจากแผลก็ทรุดฮวบลง
ไป รางกายเกร็งสั่นสะบัดตัวหนีผมเหมือนคนไมมีสติ ผมพยามกดแขนพายแนบกับพื้นเพื่อใหอาการทุเลา แตกลับไดรับ
เปนรอยฟนที่หัวไหล แรงกัดรุนแรงจนไดเลือด ใชวาจะเจ็บจนทนไมไหว แตเพราะกลัวคนที่กัดอยูจะเผลอกัดลิ้นตัวเองเลย
ตองทําใหสลบอยางชวยไมได

รูปที่เคยคิดลมเลิกในการนํามาใชขมขูก็ตองใช อยางนอยก็เบาใจเมื่อพายออนลงไปมาก ใชวาจะอยากทํา แตไมอยากใช


กําลังทําใหเจ็บตัวอีกเลยเลี่ยงใชวิธีทํารายจิตใจแทน....ได ผลดีเกินคาด ในที่สุดก็ของที่อยากไดก็มาอยูบนมือแลวจริงๆ
และของที่ไมตองการ...ก็เตรียมโละทิ้งไดแลวเหมือนกัน ครั้งที่สองที่....ขมขืนพาย...ทําใหรูวาคําพูดของนุไมจริง ที่เคยบอก
วาทิวจีบพายมานาน และพายเริ่มเลนดวย...ไมเปนความจริง คําใสรายงายๆ ที่คิดจะใหผมเลิกลมความสนใจในตัวเพื่อน
ขางผมทําใหตอนนั้นผมโมโห...ผิดคน ความจริงผมนาจะรูวานุทําไปเพราะอะไร นุเองก็เปนคนฉลาดพอที่จะรูวาผมให
ความสนใจเรื่องของพายจากปากนุ...นี่คง เปนการใสรายเพื่อ....กันทา แตนุคงลืมไปวาผมไมชอบคนโกหก และไมชอบให
คูนอนยุงเรื่องสวนตัว

อะไรๆ มันดูงายในความคิดผม การจะแยกพาย ออกจากคนอื่น..ไมใชเรื่องยาก เพราะพายมีคนที่เรียกวาสนิทแคสองคน


อาการหมดอาลัยตายอยากมีใหเห็นทุกครั้งที่มองหนาพาย ไมเขาใจวาจะอาลัยอาวรอะไรนักหนา ไมรูตัวบางเลยรึไงวาคน
ขางตัวที่คิดวาดีนะ...มันก็เลวไมตางจากผม หรอก กลุมเที่ยวที่พอจะคุนเคยของผมกับนัทเคยบอกวาพวกมัน...เลน...อะไร
กันบาง พฤติกรรมการสนุกก็ไมตางกัน หากแตยังเด็ก....ถึงไดเลนเสียแทบทุกอยาง....ยาเสพติด....ที่ไมไดเสพ เพราะติด...
แตพวกนี้เสพ...เพราะความสนุกในเรื่อง....sex

ยิ่งรู ประวัติมากเทาไหรก็ยิ่งหมดความไวใจที่จะใหอยูใกล หากยายที่เรียนไดผมคงทําไปแลว คนของผมดูทาจะไมรู


เรื่องราวรอบตัวเอาเสียเลย และผมก็ไมใชคนดีที่จะมานั่งปกปองความเลวคนอื่น คําตอบที่เคยสงสัยวาทําไมพายถึงโดน
จับ ทําไมอั๋นถึงเขาใจผิด และคนผิดจริงๆ คือใคร....ทุกอยางเฉลยออกมาพรอมกับการกลับมาของแพร เธอไมไดพูดกับอั๋น
วาใครเปนคนทํา แตบอกวาไมใชพาย อั๋นกลาที่จะเลาเรื่องราวที่มันทําลงไปใหแพรฟง และมันก็กลาเผชิญกับความรูสึก
เสียใจที่รูวา...แพรยังรักพายอยู. ....ถึง ไมบอกวาใครเปนคนทํา แตอาการตื่นกลัวเพียงแคถามวา...คนทํา....เปนคนใกลตัว
พายหรือเปลา...ก็ แทนคําตอบทุกอยางได

ยอมรับวาเปนครั้งแรกที่คิดอยากฆาคนขึ้นมา จริงๆ สภาพพายที่กลับมาอยางเมามายกับคนที่ผมฝาก..ใหดูแล..แตไมเคย


ทําได อาการเมาที่ไมบอกก็รูวาไมใชแคเมาเหลา แตมอมยาโดยไมรูตัว ถาไมติดวาผมตองไปทําธุระกับพี่นพ ผมคงไม
ปลอยใหเกิดเรื่องแบบนี้ คนเราไวใจไมได...แมแตเพื่อนที่แอบรักตัวเอง บางทีพายควรเรียนรูเรื่องนี้ไวบาง อยางนอยก็จะได
.....ไมเกิดเรื่องในวันถัดมา

ตอนที่ 39
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศทําใหรางกายที่โผลพนผาหมผืนหนาตองถดกายเขามาดานใน หัวเขางอคูจนแทบชิดหนาอก
หากแตรูสึกอบอุนขึ้น ผมขยับตัวพลิกไปมาอยางเมื่อยลาและไมอยากลืมตาตื่น แตลําคอแหงผากรูสึกกระหายน้ําจนทนไม
ไหว ดวงตาปริบปรือมองบรรยาศรอบๆ เตียงนอน ตูเสื้อผา โทรทัศน เครื่องใชทุกอยางบงบอกวาผมนอนอยูในหองที่
คุนเคย เพียงแคลุกขึ้นนั่งไดก็รูสึกมึนหัวจนอยากลมลงนอนใหม เหตุการณเมื่อวานฉายกลับเขามาในความนึกคิดทีละภาพ
จนจําไดทั้งหมด...ผม....ถูกหักหลัง....จากเพื่อนรัก

เสียงพูดคุยเบาๆ ดานนอกเรียกความสนใจจากอาการทางรางกายที่เปนอยู ผมเดินไปเปดประตูหองนอนเพื่อรับรู


สถานการณตอไป กลุมคนที่ออกันอยูบริเวณหองรับแขกคุนหนาคุนตาผม...มากไป...คนเหลานี้ไมควรจะมาอยูที่นี่ได

"....ทํา..ไม"ผมครางถามในลําคอแหงผากเบาๆ
"อาวนองพาย ตื่นแลวเหรอ เปนไงบาง รูสึกเวียนหัวหรือเปลา"เสียงผูหญิงที่ผมไวใจเลาทุกอยางใหฟงรองทักเปนคนแรก
สายตาหลายคูที่อยูในหองก็เริ่มจับจองมาทิศทางที่ผมยืนอยู

"นี่มันอะไรกันครับพี่หนอย พี่นพ"ใช...พี่หนอย พี่หมอนพ ทําไมสองคนนี้ถึงมาอยูในหองของมันได...รูจักกันเหรอ...พวก


เดียวกันเหรอ!! เทาผมถอยกลับเขาไปในหองนอนโดยไมรูตัว

"เดี๋ยวพาย! ฟงพวกพี่อธิบายกอน"พี่นพรีบลุกขึ้นแลวเดินมาทางผม แตผมยิ่งกาวถอยหลังจนเขามายืนอยูกลางหองนอน


คนๆ นี้ไมใชเหรอที่ชวยรักษาผมจากการที่โดนพวกมันลากไปขมขืน แลวทําไมถึงมาอยูที่นี่ ทําไมถึงรูจักกัน แลวพี่หนอยละ
...พี่หนอยเปนจิตแพทยที่คอยรักษาอาการทางจิตของผมไมใชเหรอ พี่เปนหมอที่ผมคอยปรับทุกข เลาเรื่องราวตางๆ ใหฟง
ไมใชเหรอ ทําไมมาอยูรวมกับผูรายพวกนี้ได...ทั้งหมดนีเ่ ปนแผนการของมันเหรอ...ผมโดนหลอกใชมั้ย...ตั้งแตเมื่อไหร...
แลวอะไรคือความจริง....ตอนนี้...เปนเรื่องจริงอยูรึเปลา

"พายฟงพวกพี่กอนนะคะ พี่กับพี่นพไมไดตั้งใจหลอกพายจริงๆ แต..."ทันทีที่พี่หนอยพูดผมก็ตวัดสายตาหันไปมอง พี่หนอย


ทําสีหนาลําบากใจแลวก็เงียบไปซะเฉยๆ

"พี่หนอยกับพี่นพรวมมือกับพวกมันใชมั้ย พวกพี่หลอกผมมาตลอดเลย"

"ใช...พี่รวมมือกับตั้มหลอกพาย แตพวกพี่สองคนเจตนาดี พี่แคอยากใหมันรับผิดชอบในสิ่งที่ทํากับพาย"พี่นพพูดตอจากพี่


หนอยที่ยืนกอดตัวเองแลวหันหลังไมสบสายตาผม

"รับผิดชอบ....มันทําลายชีวิตผม ทํารายคนสําคัญของผมทุกคน!! ตรงไหน....ตรงไหนที่เรียกวารับผิดชอบ!!!"ผมพูดพลาง


ตบอกตัวเองเพื่อระบายความอึดอัดที่มีอยู

"พี่ขอโทษ พี่ไมรูวามันจะทํากับพายถึงขนาดนี้ พี่ไมรูจริงๆ พี่แคใหพี่หนอยคอยดูแลพาย โดยมีตั้มคอยชวยเหลืออีกที นองพี่


มันเปนคนกอ มันก็ตองรับผิดชอบพาย แตทุกอยางมันเกินขอบเขตที่พี่ใหมันทําตอนไหนก็ไมรู รูอีกทีแมพายก็ไปอยูบานพี่
แลว"

"...นะ...นอง..เหรอ มันเปนนองพี่งั้นเหรอ"ผม...ไมไดฟงผิดใชมั้ย...พี่นพ..กับมัน...เปนพี่นองกันงั้นเหรอ อยางนี้นี่เอง ถึงได


ชวยกัน...รวมหัวกันหลอกผม...รวมหัวกันทํารายผม

"ใช...ตั้มมันเปนนองชายพี่เอง"

"อะ...อะไร...นี่มันเรื่องบาอะไรกัน พวกคุณเลนอะไรกันอยู ทําอยางนี้กับผมไดยังไง...พวกคุณรวมหัวกันหลอกผม คุณก็ไม


ตางกับมันเลย ปกปดความชั่วของนองตัวเอง ผมเปนคนนะ ไมใชของเลนของพวกคุณ ผมเปนคนนะ!!!"ฝามือกําเสื้อที่อก
แนน ยังรูสึกถึงการเตนของหัวใจ ผมยังหายใจ ยังเปนคนอยู ทําไมคนพวกนี้ถึงดูไมออก ทําไมถึงทํากับผมแบบนี้...ผมไป
ทําอะไรใหใคร....ผมทําผิดอะไร

"...พาย....พีข่ อโทษ...พี่ขอโทษจริงๆ"พี่หนอยพยายามเดินเขามาหาผม แตผมถอยหนี น้ําตาที่ไหลรินจากดวงตาผูหญิง


ตรงหนาไมไดทําใหผมรูสึกอะไรไดเลย ผมเจ็บมากกวานั้นอีก เจ็บเกินกวาจะรองไห เจ็บเกินกวาจะฟงคําขอโทษของใคร
ทั้งนั้น

"พายใจเย็นๆ กอนนะ ฟงพี่อธิบายกอนไดมั้ย"

"อธิบายอะไร...จะโกหกอะไรใหผมฟงอีก จะบอกวาผมไมเคยโดนนองชายคุณขมขืนเหรอ จะบอกวาผมไมเคยโดนมันทํา


รายรางกาย โดนขมขูงั้นเหรอ ทุกอยางที่เกิดขึ้นจนกระทั่งเมื่อวาน จะบอกวามันไมจริงรึไง พวกคุณเห็นชีวิตผมเปนอะไร
นึกจะบังคับใหเดินทางไหนก็ไดตามใจ หลอกใหผมหัวปนยังไงก็ไดโดยไมคิดวาผมก็มีความรูสึก เจ็บเปน ตายเปน บางที...
ผม...ควรจะตายไปตั้งแตวันแรกที่โดนมันขมขืนแลวดวยซ้ํา คุณไมควรชวยผมเลย ไมควรเลย ทําไมตองชวยผม....ทําไม!!
ทําไม!!!"ผมควาขาวของใกลมือปาไปอยางไรทิศทาง ผมอาละวาดอยางที่ไมเคยทํา ถาตื่นมาแลวบอกวานี่เปนฝน ผมคงดี
ใจกวานี้ อยางนอยก็จะไดลูบอกตัวเองแลวบอกวา..แคฝนไป...หรือไม...ก็ไมตองตื่นมาอีกเลย

"จะโวยวายอะไรนักหนาเนี่ย นั่งนิ่งๆ ใหพี่นพอธิบายใหเขาใจกอนสิวะ"เสียงตะคอกดังมาจากประตูหองนอนที่เพิ่งเปดออก

"ไอตั้ม!!! หยุดเลยนะ ออกไปรอพี่ขางนอก"พี่นพชี้หนามันแลวไลใหออกไป ซึ่งมันก็ยอมทําตามโดยดี แมจะมีอาการฮึดฮัด


ไมสบอารมณใหเห็นบาง

"....จบหรือยัง.....พวกคุณ..สนุก...กับชีวิตผม...พอรึยัง"ผมปลอยโคมไฟในมือใหตกกระทบพื้นจนแตกกระจาย เศษแกวจาก
โคมไฟกระเด็นมาบาดผิวตัวผมเองจนรูสึกแสบ...นี่ไง...เลือดผม...ยังเปนสีแดง...มันยังอุน ...ผมยังมีชีวิต....แต...กลับใช
ชีวิตของตัวเองไมได....ชีวิตนี้ไมใชของผม...เพราะคนพวกนี้

"....พาย....ฟงพี่นพออธิบายกอนเถอะนะ มันอาจไมไดทําใหพายรูสึกดีขึ้น แตอยางนอยพายจะไดเขาใจเรื่องที่ผานมามาก


ขึ้น"พี่หนอยพยายามปลอบผมอีกครั้ง

"..........เลาสิ....เลามา...วาพวกคุณ....สนุกกับชีวิตผม...ยังไงบาง"ผมถอยไปนั่งบนเตียง มองหนาชายหญิงสองคนที่ยืนอยู
กลางหอง สีหนาแววตาเปนหวงเปนใย แต...เชื่อไมได คนเราตีสองหนาเกงไดขนาดนี้เลยเหรอ...ผมไมนาหลงเชื่อสองคนนี้
เลย ไมนาหลงไวใจคนพวกนี้เลย

พี่นพเดินมานั่งใกลๆ ผม แตผมถอยหางออกไปจนชิดหัวเตียง ไดยินเสียงถอนหายใจเบาๆ โดยมีพี่หนอยลูบบาสงกําลังใจ


ให ตองยอมรับวาผมไมเคยคิดถึงเรื่องราวที่พี่นพถายทอดใหฟงเลย มันเจาของรีสอรทที่อยูตรงคลีนิค พี่นพบอกวาไมอยาก
ปดบังเรื่องที่มันเปนนองชาย แตคิดวาถาผมรูตองไมยอมรับการชวยเหลือแนๆ...พี่นพคิดถูก สวนพี่หนอยเริ่มแรกไมรูเรื่อง
ดวย คิดวาเปนคนไขที่พี่นพสงมาใหดูแลจริงๆ นี่ทําใหผมเริ่มกลับมารูสึกดีกับพี่หนอยบาง แตวา...พี่หนอยมารูเรื่องหลัง
จากนั้นไมนาน แตกลับชวยโกหกตอไป มันไมไดเฝาดูและคอยชวยเหลือผมหางๆ อยางที่พี่นพสั่งใหทํา และพี่นพไมรูวามัน
ทําอะไรลงไปบาง ผมหายหนาจากการไปหาพี่หนอยเพราะมันบังคับใหผมอยูดวย พี่หนอยไมมีทางติดตอผม พี่นพก็เลย
สงสัยวามันทําอะไรกับผม...ถูกตอง...มันเริ่มเขามาวุนวายกับชีวิตผม ทําใหผมตกต่ํา แตก็สายเกินกวาพี่นพจะเขามาชวย
ไดทัน เพราะมันพาแมผมไปอยูที่รีสอรทเรียบรอย

"ผมจะคิดวาพวกคุณสองคนไมไดตั้งใจทํารายผมแลวกัน ถาเรื่องที่พวกคุณอยากอธิบายมีแคน.ี้ ....ผมก็ขอตัวเก็บของ"ผม


พยายามลุกไปทางตูเสื้อผาเพื่อเก็บขาวของตัวเองแลวออกจากที่นี่ใหเร็วที่สุด

"พายจะไปไหน ตั้มบอกพี่วา...."ถึงพี่นพไมพูดตอผมก็เดาได พี่นพคงรูสินะวามันบังคับใหผมหมดทางไปยังไง ถาออกจาก


ที่นี่ผมก็ไมมีที่ซุกหัวนอน ไมมีเพื่อน ไมมีที่อยู ไมมีคนใหกลับไปหาไดอีกแลว

"ผมมีปญญาเอาตัวรอดได และคุณควรบอกนองชายคุณใหเลิกเลนสนุกกับชีวิตผมไดแลว"

"พายจะไปอยูยังไงคนเดียว หองเชาก็ยกเลิกสัญญาไปแลว งานก็ไมไดทํา อยาทําใหพี่ลําบากใจเลยนะ นาพิมพเปนหวง


พายมากนะรูมั้ย"ชื่อที่เอยออกมาทําใหผมชะงักมือที่กําลังเก็บเสื้อผาใสกระเปา

"....แมผม...สบายดีใชมั้ย"

"สบายดี ตอนแรกตั้มมันจะพาไปอยูบานเปนเพื่อนแมพี่เฉยๆ แตนาพิมพไมยอมเลยตองใหเปนหัวหนาแมบาน แมพายทํา


ขนมอรอยมาเลยนะ แมพี่น้ําหนักขึ้นเลยเนี่ย"

".....อืม"

"คิดถึงแมเหรอ"

"ผมไปหาแมไดมั้ย"

"วันนี้แมพายกับแมพี่เพิ่งไปเชียงใหม พี่กับตั้มไปสงกอนมาหาพายนี่แหละ คงสักหลายวันนะถึงจะกลับ จากเชียงใหมก็


ตองไปอีกหลายจังหวัดดวย"

"ทําไมแมไปนานจัง"

"คือ...พี่กับพี่หนอยกําลังจะแตงงานกัน นาพิมพเลยไปชวยแมชวยแจกการดเชิญตามบานญาติผูใหญนะ พี่กับพี่หนอยไม


วางไปเอง"
"พี่สองคนจะแตงงานกันเหรอ ผมดีใจดวยนะ ดีใจดวยนะครับพี่หนอย"ผมแสดงความยินดีใหอยางบริสุทธิ์ใจ อยางนอยผม
ก็เชื่อวา...สองคนนี้รักกันจริง...เพราะเรื่องความรักของเขาสองคน...ไมเกี่ยวกับผม...มันเลยเปนเรื่องจริง

"จะ ขอบใจมาก วันงานก็ไปรวมงานดวยนะจะ พายก็เหมือนนองพี่คนหนึ่งนะ ถึงพี่จะทําไมดีกับพาย แตพี่ยังหวังดีกับพาย


อยูนะ มีอะไรใหพี่ชวยก็บอก"พี่หนอยยังยืนยันคําพูดที่เคยพูดกับผม เห็นผมเปนนอง...แตก็หลอกผมมาตั้งนาน

"งั้น....พาย...ขอไปอยูกับพี่หนอยสักพักไดมั้ยครับ"ผมเอยขออยางไมแนใจ แตในเมื่อเสนอตัวจะชวยผมเอง...ก็ตองชวยสิ

"ไมได!!"เสียงดังจากประตูหองนอนอีกครั้ง หากแตคราวนี้มันไมไดหยุดยืนแคหนาประตู แตเดินเขามาใกลผมจนตองรีบ


ถอยไปยืนหลังพี่นพ ถาบอกวาไมตั้งใจรวมหัวกับมันทํารายผมเปนเรื่องจริง...ก็ตองชวยผม

"ผมจะไป ในเมื่อเรื่องทุกอยางก็จบแลว ผมไมเคยขอใหคุณรับผิดชอบอะไร ความจริงคุณก็ไมเคยรับผิดชอบอะไรอยูแลว


ไมตองมายุงกับผมอีก"

"คิดวาตัวเองเกงนักรึไงพาย แคปลอยใหอยูคนเดียววันเดียวยังเอาตัวไมรอด ฝนไปเถอะวาจะปลอยไปนะ"มันยืนหางจากพี่


นพไมกี่กาว แตก็ไมเขามาประชิดผมอีก

"นั่นมันเรื่องของผมกับทิว ผมจัดการเองได"

"จัดการยังไง จะวิ่งโรไปใหมันมอมยาอีกรึไง รึวาติดใจอะไรขึ้นมาละ"

"ตั้ม!! ทําไมถึงพูดจาแบบนี้ เรื่องทั้งหมดมันเปนเพราะแกกับเพื่อนไมใชรึไง พายโดนทําแบบนี้ไมใชเพราะพวกแกรึไง หัด


พูดจาดีๆ กับนองหนอย ดูแลนองอยางที่รับปากกับพี่ไมไดก็อยาไปโวยวายกับคนอื่น"

"ก็แลวที่มันพูดกับผมละ ผมแกกวามันตั้งกี่ปมันยังไมเคยเห็นหัวผมเลย ทําอะไรไมเคยคิด หามแลวเตือนแลวขูก็แลว


สุดทายเปนไง ตองรอใหคนอื่นไปชวย ถาไปไมทันมีหวังเสร็จไอเวรนั่นไปแลว"

".....คุณไปชวยผมเหรอ"ผมถามเพราะไมคอยแนใจ ภาพหลังจากไดสูดยาในขวดนั่นคอนขางลางเลือน

"ก็เออสิ คิดวาหนีออกมาไดเองรึไง"

"พูดเบาๆ หนอยไดมั้ยตั้ม จะตะโกนใหไดอะไรเนี่ย นองเพิ่งตื่นคงยังมึนยาอยูนะ แลวเพื่อนเขาคนนั้นละ"

"ใครเหรอครับ"ผมถามพี่นพแบบงงๆ มีเพื่อนผมที่มาอยูในที่นี่ดวยเหรอ ยังมีคนที.่ ..รวมมือกับพวกมันอีกเหรอ


"เราเองพาย....เปนไงบาง"

"...จิ๋ว....อยาบอกนะวา....เปนพวกเดียวกับพวกนี้นะ"

ตอนที่ 40

รางเล็กๆ ที่เดินพนประตูหองนอนเขามาสรางความแปลกใจใหผมมาก ตกลงวารอบๆ ตัวผมมีใครบางที่ไมมีสวนเกี่ยวของ


กับมัน มีใครบางที่ดีกับผมจริงๆ

“พายอยาเพิ่งเขาใจผิดนะ เราไมรูจักกับคนพวกนี้หรอก”จิ๋วรีบเดินเขามายืนใกลผม คําพูดกับสีหนาที่แสดงออกมาทําใหผม


เชื่อใจวาจิ๋วพูดจริง

“แลวจิ๋วมาอยูนี่ไดไง”

“งั้นเดี๋ยวพี่ปลอยใหคุยกันไปกอนนะ พวกพี่ออกไปรอดานนอก”พี่นพพูดพรอมจูงมือพี่หนอย และดันหลังคนที่ยืนหนาบึ้ง


ขมขูผมทางสีหนาใหออกไปดวย

“จิ๋วมาอยูนี่ไดไง”ผมเอยปากถามอีกรอบเมื่อประตูหองนอนปดสนิท จิ๋วเดินมานั่งบนเตียงแลวฉุดมือผมใหนั่งใกลๆ กัน

“ก็...เมื่อวานพอทิวมันอยูกับพายในหอง จิ๋วจะเขาไปชวยแตไอตอมันไมยอมปลอย แลว...พวกพี่เมื่อกี้ก็มาเคาะหอง จิ๋วคิด


วาคนที่มานาจะมาพาพายกลับเหมือนครั้งกอน เลยรีบไปเปดประตูให เลนขนมากันตั้งหลายคน ไอตอคนเดียวสูไมไหวอยู
แลว จิ๋วดึงมันไวแลวปลอยใหเขาไปชวยพายในหองนอน ทิวมันก็ไมยอมปลอยพายเอาเสียเลย กวาจะยอมก็โดนไปหลาย
หมัดเหมือนกัน ดีวาพี่นพเขาหามไมกอน ไมงั้นแฟนพายคงเอามันตายแนๆ”

“เขาไมใชแฟนพาย แตก็ขอบใจมากนะจิ๋ว ขอบใจจริงๆ”ผมพูดออกไปทั้งที่ในใจยังไมไดเชื่อเต็มรอย ผม...คงเชื่อใจใคร


ไมไดอีก

“ไมเปนไร ยังไงพายก็เพื่อนจิ๋ว”

“แลว....วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบาง พายจําอะไรไมคอยได ทิวเอาอะไรใหดมก็ไมรู”

“ปอปเปอรนะ ไมใชยาเสพติดรายแรงอะไร แคทําใหพาย....ไมขัดขืนมันเทานั้น แตพายคงสูดมากไปเลยน็อค ตอนนี้มึนหัว


บางมั้ย”จิ๋วพูดออกมาทําใหผมรูสึกกลัวขึ้นมาอีก ทิวจะใหผมเสพยาเหรอเนี่ย
“ก็มึนๆ อยู จิ๋ว...ไดยินเรื่องที่พายกับทิวคุยกันแลวใชมั้ย....จิ๋ว...รวมอยูในพวกนั้นดวยหรือเปลา”

“เฮย! เปลานะๆ จิ๋วไมรูเรื่อง ไดยินเมื่อวานก็อึ้งไปเหมือนกัน ไอตอนาจะรูเรื่องทั้งหมด แตจิ๋วยังไมพรอมเจอหนาพวกมัน


แลวทิวมันคงโกรธจิ๋วมากที่ชวยใหพายหนีมา จิ๋วขออยูดวยสักวันสองวันแลวกันนะ พายขัดของมั้ย”

“แตนี่ไมใชหองพายนะ พายก็กําลังจะไปจากที่นี่เหมือนกัน”

“แลวพายจะไปอยูที่ไหนละ พี่เขาจะยอมใหพายไปเหรอ”

“เขาไมไดเปนอะไรกับพายนะ ทําไมพายจะไปไมได”

“ไปก็ไป งั้นไปหาหองแบบรายวันอยูกอนแลวกัน เดี๋ยวจิ๋วชวยหารคาหอง”จิ๋วคงไมอยากกลับไปจริงๆ คงแครอใหพวกนั้น


หายโกรธเทานั้นละ เดี๋ยวก็คงกลับไปเขาพวกกันเหมือนเดิม

“อืม”

“พาย....ไมอยากถามอะไรเรื่องทิวบางเหรอ”

“....พายไมอยากรู จิ๋วไมตองพูดอะไรหรอก พาย....ยังไมอยากฟง”ผมเดินไปเก็บเสื้อผาเกาๆ ของผมใสกระเปาเป หนังสือ


เรียนบางสวนอยูดานนอก ไวคอยเก็บทีหลัง จิ๋วนั่งมองผมบนเตียงไมไดลุกมาชวยผมเก็บของ แตผมไมคิดอะไร ของผมมี
ไมเยอะ เก็บไมนานก็เสร็จ

“ทําอะไร”ไมตองหันไปดูคนที่เปดประตูหองนอนเขามาก็รูวาเปนใคร น้ําเสียงวางอํานาจและขมขูแบบนี้มีมันอยูคนเดียว

“...........”

“ถามทําไมไมตอบ บอกแลวไงวาไมใหไป ฟงภาษาคนไมรูเรื่องรึไง”

“..........”ผมไมสนใจมันไดไมนาน รางผมก็ตองลุกพรวดตามแรงดึงใหยืนหันไปประจันหนากับมัน

“นี่!! เปนใบอีกแลวรึไง จะไปไหน มีที่ไหนใหกลับไปไดอีกรึไง ไมมีใชมั้ย อยามาอวดเกงหนอยเลย”


“ใช!! ผมไมมีที่ใหไป ไมมีใครใหกลับไปหาอีกแลว พอใจคุณรึยัง ตองการอะไรจากผมอีก คุณมันบา!! ทําชีวิตผมยุงไปหมด
ถาไมมีคุณ! ถาไมมีคุณสักคน ชีวิตผมคงไมเปนแบบนี้ นุคงไมคิดวาผมหนาดานแยงแฟนเขามา ทิวก็คง...คง....”เสียงของ
ผมติดอยูในลําคอ ไมแนใจเหมือนกันวาจะพูดอะไร หรือ...อยากใหเปนแบบไหน

“คงอะไร...คงไมขมขืนแพรงั้นสิ ใชเหรอ มันเองก็ไมตางจากพี่เทาไหรหรอก ทําหนาตาเหมือนโลกแตกเพราะผิดหวังหรือ


อาลัยอาวรณมันกันแน อยากกลับไปหามันมากนักรึไง จะไปใหมันหลอกอะไรอีกดีละ โงไดตลอดสินา หัดทําตัวฉลาดๆ ทัน
คนอื่นเขาบาง หรือวาชอบโดนขมขืนซ้ําแลวซ้ําเลาถึงอยากไปจากที่นี่นัก”

“....ออกไป....”

“อยางพายก็ดีแตกมหนาทําตามที่คนอื่นเขาเปาหูใหฟง ลืมตาแลวมองดูรอบๆ ตัวบาง ออกจากโลกที่แสนดีในความคิด


ของตัวเองไดแลว โลกแบบนั้นมันไมมีจริงหรอก รอบตัวพายมันก็มีแตคนเลวๆ ไมตางจากพี่หรอก ไอเวรนั่นมันก็ขมขืนคน
อื่นเหมือนกัน มันก็เปนพวกวิปริตอยางที่เคยดาพี่ คูนอนคูขามันก็เยอะจนนับไมถวน ไอที่คิดวาดีก็แคการเสแสรงทั้งนั้น
โดนคนใกลตัวหลอกมาตั้งหลายป ถายังคิดจะกลับไปหามันอีกก็...โคตรโงเลย”

“ออกไป..ออกไป!! ไปใหพน!!! ออกไปๆๆๆ”ผมตะโกนซ้ําๆ ใสหนามัน ถึงผมไมพูดไมคิด แตไมใชวามันจะมาพูดใสหนาผม


แบบนี้ได มันไมเขาใจเรื่องที่เกิดขึ้น มันไมรูหรอกวาผมรูสึกยังไง

“อาวตั้ม พี่บอกแลวไงวาไมใหเขามายุงกับพายอีก ออกมานี่เลย จิ๋วออกมาเอาขาวเขาไปกินกับพายสิ พี่เพิ่งลงไปซื้อมา”


เสียงพี่นพดังอยูหนาประตูหอง มือที่กระชับตนแขนผมคลายออกแลวปลอยใหผมยืนอยูที่เดิม สวนมันก็เดินออกไปจาก
หองตามที่พี่นพสั่ง

“ครับ งั้นพายรอกอนนะ กินขาวกอน แลวจะเอายังไงตอไปคอยวากัน”จิ๋วพูดจบก็เดินออกไป ทิ้งใหผมอยูคนเดียวในหอง


พรอมกับคําพูดที่ดังสะทอนไปมาในความคิด

ผม...ถูกทรยศ...จากเพื่อนรัก...เพราะอะไรเรื่องพวกนี้ถึงตองเกิดขึ้นกับผม เพราะวาทิวขมขืนแพรงั้นเหรอ ผมตองรับการแก


แคนของพี่อั๋น แลวทิวทํากับแพรแบบนั้นทําไม เพราะวาทิวรักผม แตผมกับแพร...ชอบกันงั้นเหรอ แพรถึงตองเจอกับ
เหตุการณเลวรายแบบนั้น แลวผมละ...ผมผิดอะไร...คนพวกนี้ทําทุกอยางเพื่ออะไร...เอาคําวารักมาอางในการทําลายชีวิต
กันเหรอ มันรักเพื่อนเลยชวยเพื่อนแกแคน พี่นพพี่หนอยรักกัน ชวยกันปกปดความผิดของนองชายที่พวกเขารัก หลอกลวง
....มีแตพวกหลอกลวง...จอมปลอม ดีแตเอาเหตุผลของตัวเองมาอาง มีใครบางที่รูสึกผิดกับผม มีใคร...ขอโทษผมบาง...แต
ก็เทานั้น ตอใหขอโทษใหตายก็ไมมีวันใหอภัย ไมวาใคร...ก็จะไมอภัยใหเลย แต.....บางทีคนพวกนี้อาจจะไมไดตองการการ
อภัยจากผมก็ได ไมวามันหรือทิว ไมวาใคร...ไมเห็นรูสึกผิดที่ทําแบบนี้กับผมเลย ถึง..จะรูสึกผิด...ผมก็เชื่อไมไดอีกแลว...
คนเราหลอกลวงกันไดขนาดนี้เลยเหรอ คนเรา...ไวใจกันไมไดเลยเหรอ คน...ใช...พวกมันทําเหมือนกันตัวเองเปนคนอยู
ฝายเดียว คงคิดวาผมเปนแคตุกตา เปนแคของเลน ไมมีความรูสึก พวกมันถึงได....ไมมีใครสนใจความรูสึกผมเลยสักนิด...
ไมมีใครสักคน
“อะ!”ฝามือที่ทิ้งลงบนพื้นขางตัวเจ็บแปลบขึ้นมา ผมคอยๆ ยกมือที่มีเศษกระจกจากโคมไฟฝงอยูขึ้นมาดู หยดเลือดสีแดง
ไหลซึมจากบาดแผลบนฝามือ ไมแนใจวา...ผมรองอุทานเพราะตกใจ...หรือ...เพราะเจ็บ....น้ําที่ไหลจากแผล...เปนเลือด...
หรือมันแค...สีแดงคลายเลือด....เศษกระจกในมือชิ้นเล็กและดูเปราะ แตมันก็สรางบาดแผลไดลึกถึงขนาดนี้....มันเปนแผล
ที่มีเลือดไหล แตไมเจ็บ...ความรูสึกผมมันดานชาไปหมดแลวรึไง....หรือวา....ผมไมใชคนอยางที่พวกมันคิดจริงๆ.....อาจจะ
.....ไมใช

รอยกรีดที่ขอมือไมนําพาความรูสึกเจ็บมาให รอยมันเกิดขึ้นรวดเร็วเพียงแคชั่วขณะที่คิดวาจะทํา....มือก็เผลอกรีดลงไป
แลว เลือดสีแดงซึมตามรองเนื้อที่ปริแยกจากกัน มันไหลออกมามากจนมองแทบไมเห็นรอยแผลอีกแลว....ความรูสึกนี้สินะ
...ที่เหมือนกับตัวผม....ตอใหผมเจ็บแคไหน มีบาดแผลมากเทาไหร...ถาเลือดไมไหล...ก็ไมมีใครรู. ...ถาเลือดไมไหล...แผล
...ก็จะไมไดรับการรักษา.....ใชส.ิ ...นี่คือเลือดของผม...ไมใชแคน้ําสีแดง....มันอุน....และสงกลิ่นคาวจนเริ่มเวียนหัว....เลือด
มันไหลไมหยุดสักที....มัน...ไหลออกมามากเกินไปแลว...ยิ่งหัวใจเสนเร็ว เลือดมันก็ยิ่งทะลักออกมา....ผม....กําลังจะตาย
....จะตายจริงๆ ใชมั้ย...ไมนะ....ผม......ไมไดอยากตาย

ตอนที่ 41

ขอมือมันลื่นไปหมด กดรอยแผลแนนเทาไหรเลือดก็ไมหยุดไหล เสียงเปดประตูหองพรอมเสียงจานหลนแตกกระจายบน


พื้นทําใหผมเงยหนาขึ้นไปมอง จิ๋วยืนหนาซีดมองมาที่ผม เสียงตะโกนถามจากดานนอกพรอมกับใบหนาพี่ชายเจาของหอง
ที่เดินเขามาแลวรีบวิ่งมาหาผม ผาเช็ดตัวที่แขวนอยูตรงบานประตูตูเสื้อผาถูกนํามากดบาดแผลไวแนนกอนที่ตัวผมจะลอย
ขึ้นเพราะถูกอุม ภาพรอบๆ ดูลางเลือนในความรูสึก แตสีหนาเจาของหองที่ยืนตัวแข็งมองดูผมถูกอุมผานหนาไปกลับ
ชัดเจน ถึงจะถูกอุมจนมาถึงรถแลวก็ยังไมสามารถลืมแววตานั้นได เสียงพี่หนอยพี่นพรองเรียกผมอยูตลอดเวลา ผมไมได
งวง...แตกลับอยากนอน....ถาผมนอน....แลวตื่นขึ้นมาอีกครั้ง....เรื่องราวเหลานี้...จะกลายเปนเพียงแคความฝน....รึเปลา

เพดานสีขาวคือสิ่งแรกที่มองเห็นเมื่อลืมตาขึ้นมา ผมครางในลําคอเบาๆ เมื่อเริ่มขยับตัวแตกลับรูสึกเจ็บที่ขอมือ ขอมือ


ดานขวามีเข็มจากสายน้ําเกลือเจาะอยู ดานซาย....ถูกพันไวดวยผากอซสีขาว สิ่งที่ชวยเตือนความทรงจํา...วาผม...มานอน
อยูตรงนี้ไดยังไง

"เปนไงบางพาย อยากดื่มน้ํามั้ย"เสียงคนที่นั่งดานซายมือทําใหตองหันมามอง จิ๋วนั่นเองที่นั่งเฝาผมอยูขางเตียง

ผมพยักหนาแทนคําตอบ ใจหนึ่งก็อยากจะลุกขึ้นนั่งแตขอมือทั้งสองขางทําใหทําอะไรไมสะดวก ผมดันศีรษะขึ้นเล็กนอย


เพื่อดูดน้ําในแกวที่จิ๋วใสหลอดมาให จิ๋วกลับมานั่งขางๆ ผมโดยไมพูดอะไร ผมเองก็...ไมรูจะพูดอะไร จะบอกวาไมไดตั้งใจ
ฆาตัวตายงั้นเหรอ....คงตลกพิลึก....ผมไมไดตั้งใจจริงๆ แตก็ทําลงไปแลวจริงๆ เหมือนกัน แคอารมณงี่เงาชั่ววูบ....มา
ตอนนี้ถึงไดนึกเสียใจที่ทําลงไป ถาเกิดผมตายไปขึ้นมาจริงๆ...แมคงเสียใจมาก....ผมมันออนแอจริงๆ
"พาย...หิวมั้ย พยาบาลเพิ่งเก็บอาหารเย็นออกไปนะ ถาอยากกินอะไรเดี๋ยวจิ๋วไปซื้อมาให"

"ไมหิวหรอก ขอบ....ใจนะ"ผมแทบจะพูดไมจบเมื่อมองผานหลังจิ๋วไป รางสูงใหญยืนพิงขอบหนาตางมองออกไปดานนอก


โดยไมสนใจบรรยากาศในหอง

"ออกไป"ผมพูดโดยหันหนาไปอีกดาน ถึงไมมองหนา แตมันคงรูวาหมายถึงตัวมันนั่นละ

“.........”มันไมไดพูดอะไรกลับมา แตสิ่งที่ทําใหผมแปลกใจคือมันเดินออกไปจากหองจริงๆ ไมมีคําพูดสักคําที่สวนกลับมา


เหมือนทุกที ผมหลับตาลงหลังจากประตูหองปดสนิท เสียงจิ๋วขยับตัวไปนั่งบนโซฟาแลวเปดทีวีกลบความเงียบ ผมไมรูวา
จิ๋วมองทีวีหรือมองผม แต...แคมีคนอยูในหองผมก็รูสึกอึดอัดแลว คงเรียกความรูสึกนี้วา...ไมกลาสูหนา...ผม...ไมกลามอง
หนาจิ๋วตรงๆ รูสึกละอายใจที่ทําเรื่องบาๆ ลงไป...อยากตายเหรอ...เปลาเลย ผมยังจําอารมณตอนนั้นได แค...อยากเจ็บ....
อยากใหใครสักคนเจ็บ ใหรูสึกผิดที่ทํากับผม...อยากโยนความเจ็บปวด อยากโยนความผิดใหคนอื่น ถาผมตาย...คนที่ผิดก็
คือมัน...คนที่ตองโดนคนอื่นประณามก็คือมัน....คนที่ตองจมกับความทุกขเพราะผมฆาตัวตายก็คือมัน....นั่นละ...ที่ผม
ตองการ....ใหมันรูสึกผิด ใหมันเจ็บปวดบาง แคเพียงครึ่งเดียวของผมก็ยังดี

มันก็แค...ความคิดโงๆ...ใชวาทําอยางนัน้ ลงไปแลวมันจะเจ็บเสียเมื่อไหร...หรือมันอาจโดนคนอื่นประณามจริง...แตผมคง
ไมมีโอกาสไดรับรู. ...คนที่เจ็บที่สุดคงไมใชมัน แตเปนแมผม....แคชั่ววูบเดียวที่ลืมนึกถึงแม ผมถึงกับทําเรื่องบาๆ ลงไป....
เพิ่งรูสึกวา...ถาเราขาดสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ....อะไร....ก็เกิดขึ้นได....เรื่องโงๆ...ก็เกิดขึ้นได

ผมหลับไปทั้งๆ ที่จิตใจยังไมสงบ ในหัวผมคิดอะไรมากมายวกวนตีกันแตกลับหลับลงไปเพราะความออนเพลีย ผมตื่น


ขึ้นมาในตอนเชาของอีกวัน จิ๋วนอนเฝาผมทั้งคืน ตื่นเชามาก็พยุงผมเขาหองน้ํา เอาผาเช็ดหนามาเช็ดหนาเช็ดตัวใหผม
ตั้งแตเมื่อวานจนถึงตอนนี้จิ๋วยังไมไดพูดอะไรกับผม...เหมือนที่ผมยัง...ไมกลาพูดอะไรออกไป

".....จิ๋ว......ขอโทษนะ"ผมคงพูดอยางอื่นไมไดนอกจากคํานี้ แค...อยากขอโทษ...ที่ทําเรื่องงี่เงา...ที่ไมรักชีวิต...ทําใหเพื่อน
เปนหวง ทอแทสิ้นหวัง ทําตัวเหมือน...ไมมีใคร ทั้งๆ ที่ยังมีคนคอยอยูขางๆ

"....อืม....อยาทําอีกแลวกัน....อยาทําอีกนะพาย....อยาทําอีก"จิ๋วกมหนาเช็ดแขนผมซ้ําไปซ้ํามา น้ําตาหยดลงบนแขน
พรอมกับคําพูดซ้ําๆ ....นี่ไง....ผมยังเหลือ....เพื่อนอีกหนึ่งคน

อาหารเชาเปนขาวตมเครื่อง ผมทานเองไมไดก็มีจิ๋วคอยปอน รูสึกเหมือนกลับไปเปนเด็กอีกครั้ง เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้แตดุใช


ยอย บังคับใหผมกินขาวตมจนจุก ทําตัวเปนผูปกครองผมเต็มที่ หมอเขามาตรวจอาการก็บอกวาทุกอยางปกติ ถาแผลไม
อักเสบก็กลับบานพรุงนี้ได
"พายจะทํายังไงตอ"

"ก็อยางที่บอกไวนั่นละ หาหออยู"

"เขาจะยอมใหพายไปเหรอ จิ๋วยังมองไมเห็นทางเลย"

"เขาไมไดเปนอะไรกับพายนะ พายคิดวาจิ๋วรูแลวใชมั้ยวา...เขาคือคนที่ขมขืนพาย"

"อืม....รูหมดทุกอยางเลย"

"เพราะงั้นจิ๋วนาจะเขาใจนะวาทําไมพายถึงไมอยากอยูใกลเขาอีก สองวันมานี้เปนชวงเวลาที่พายมีความสุขที่สุดเพราะ
ไมไดเห็นหนาเขา เหมือนพายไดโลก ไดชีวิตของตัวเองกลับมา พายอยากกลับไปใชชีวิตของตัวเองเหมือนเมื่อกอน"

"ถึงพายไมเห็นแตเขาเห็นพายทุกวันนะ"

"หมายความวาไง"

"เขา...นั่งอยูขางนอก"จิ๋วพูดพรอมหันหนาไปทางประตูหอง

"......"ผมฟงแลวก็เงียบ ไมรูวาจะพูดอะไร

"ตั้งแตที่พายไลใหออกไป เขาก็ไปนั่งที่โซฟาหนาหอง มีออกไปทํางานอะไรบาง แตก็จะกลับมานั่งที่เดิมจนหมดเวลาเยี่ยม


พาย....ใหเขาเขามาในหองดีกวามั้ย"

"ไมตอง พายไมรูหรอกวาเขาทําอยางนั้นทําไม แตมันไมมีประโยชน ยังไงพรุง นี้พายก็จะไมกลับไปที่นั่นอีก"ผมแปลกใจ แต


....ไมคิดจะใจออน ตลอดเวลาที่อยูดวยกัน ผมไมเคยเขาใจการกระทําของมันเลย ครั้งนี้ก็เชนเดียวกัน มันตองการอะไร...
ขอโทษผมเหรอ...มันเคยขอโทษผมมาแลวครั้งหนึ่ง...พอพูดคํานั้นจบมันก็ทํารายผมทันที ครั้งนี้ถาผมหลงไปกับคําพูดหรือ
การกระทําของมันอีกก็คงโคตรโงอยางที่มันบอกจริงๆ

การดึงดันที่จะออกไปเชาหออยูคนเดียวของผมไมเปนผลเพราะคนสองคนที่มาเยี่ยมผมชวงบาย ใบหนาซอนยิ้มที่ปดไม
คอยมิดเมื่อพนประตูหองทําใหเดาไดวา...ยิ้มขําอะไร...คงเห็นตุกตาตัวโตๆ หนาหองผมละมั้ง หลังจากที่จิ๋วบอกผมก็ยังมี
คนอื่นบอกผมอีก ไมวาจะเปนแมบานที่มาทําความสะอาดหอง คนสงอาหาร พยาบาลที่เขามาเปลี่ยนน้ําเกลือและวัดไข
ทุกคนลวนพูดถึง....ตุกตาหนาหองที่นั่งคูกับโนตบุค
"เอาเปนวาพายไปอยูกับพี่กอนแลวกันนะ หลังสอบคอยวากันอีกที จะสอบแลวควรทุมเทอานหนังสือ อยาเพิ่งหวงเรื่องที่อยู
เลยนะ"พี่หนอยเกลี้ยกลอมผมรวมชั่วโมงจนผมคลอยตาม

"แลว....พี่นพจะไมวาอะไรเหรอครับ"ยังไงผมก็เปนผูชายนะ ใหไปอยูกับพี่หนอยสองคน พี่นพที่กําลังจะเปนเจาบาวไมรูสึก


อะไรบางรึไง

"เออ....ไมวาครับ...พายไปอยูกับพี่หนอยนั่นแหละดีแลว พี่กับพี่หนอยจะไดไมเปนหวง"พี่นพพูดแบบเกอๆ ยังไงไมรู ตกลงพี่


เขาไมหึงผมเลยใชมั้ย แตก็อยางวาแหละ จะแตงงานกันอยูแลวคงไวใจกันมาก ขนาดตอนคบกันอยูคนละจังหวัดยังคบกัน
รอดเลย

ตกลงแลวผมถาผมออกจากโรงพยาบาลแลวตองไปอยูที่คอนโดพี่หนอยกับจิ๋ว อันที่จริงจิ๋วบอกวากลับไปหาตอก็ได แต


กลัวผมจะทําอะไรอีก เลยอยากอยูเฝาไว เรียกวา...ทุกคนไมอยากใหผมไปอยูคนเดียวเพราะกลัวผมคิดฆาตัวตายอีก ถึง
จะไมมีใครมาพูดหรือถามอะไร แตผมรูวาทุกคนพยายามจะหลีกเลี่ยงคําพูดที่ทําใหผมเจ็บปวดอยู ทุกคน...เปนคนดี...เปน
หวงผมจริงๆ....ถาคราวนี้ผมถูกหลอกอีก....ก็ชางมัน...อยูกับความสุขปลอมๆ ดีกวาไมมีความสุขเลย ผมวา....ผม
กลายเปนคนขี้ระแวงมากกวาเดิม แตก็....ยังเปนผม...ที่ออนแอจนไมสามารถทําอะไรเองได

ตอนเย็นผมหลับเพลินจนเลยเวลาเก็บถาดอาหาร พยาบาลเขาเอาไปเก็บทั้งที่ผมยังไมไดกิน พอตื่นมาตอนสองทุมเลยหิว


ผมเลยนอนรอใหจิ๋วเขาหองน้ําใหเสร็จแลวจะวานใหลงไปซื้อขนมปงมาใหกินหนอย แต...คนที่เขาหองน้ําอยูดันเปนคนที่
....ควรจะอยูแตหนาประตู

"เขามาทําไม"

"เขาหองน้ํา แคนี้ไมรูรึไง"นี่ไง คําพูดมัน สีหนามัน ทุกอยางยังเหมือนเดิม ไมเห็นมีทาทีสํานึกผิดหรืออยากขอโทษผมเลย

"ออกไป"ผมหันหนาเขาหาหนาตางแลวพูดกับคนที่อยูดานหลัง

"วันนี้จิ๋วไมอยู"

"ออกไป"

"จะกินขาวมั้ย"

"ออกไป"
"....จะเอาอะไรก็ตะโกนเรียกแลวกัน"มันพูดจบ ผมก็ไดยินเสียงเปดปดประตู หันกลับมาดูมันก็ไมอยูในหองแลวจริงๆ จากที่
มันพูดแสดงวาคืนนี้มันจะนั่งเฝาผมขางนอกงั้นสิ ไมเขาใจการกระทําของมันเลยจริงๆ ทั้งๆ ที่ผมเปนฝายถูก ทุกคนควรจะ
เขาขางผม ควรจะเห็นใจผม แตทําไมทุกคนถึงทําเหมือนการกระทําของมันสมควรใหอภัย แคมันมานั่งเฝาหนาหองก็
เรียกรองความสงสารจากพยาบาล จากคนผานไปผานมา มีแตคนมาเกลี้ยกลอมใหผมอนุญาติใหมันเขามานั่งในหอง
แมแตจิ๋วกับพี่หนอยยังพูดออมๆ วาใหสงสารมัน ตกลงผมเลยกลายเปนคนไมดีในสายตาคนอื่น ผมกลายเปนคนใจแข็ง
หากมันพูดมาสักคําวาตองการอะไรผมจะยอมทําทุกอยางเลย ขอแคใหมันเลิกยุงกับผม ขอแคใหมันออกไปจากชีวิตผมก็
พอ

ตอนพิเศษ....นารัก...แตไมไดรัก

นานๆ ครั้งผมถึงจะไดกลับเขามาใชชีวิตในตัวเมืองใหญแบบนี้ เดิมทีผมก็ไมคอยชอบอะไรที่มันวุนวายอยูแลว แตคราวนี้


โอกาสพิเศษจริงๆ ผม...อยากลอยกระทงที่แมน้ําเจาพระยา ความตองการของผมครั้งนี้ถูกคนขางตัวบนวาบาเทศกาลอีก
ตามเคย แตแคนึกภาพกระทงใบเล็กใบใหญที่ลอยเปนรอยๆบนน้ํา มีแสงเทียนเลมเล็กๆ ใหความสวาง...แคนึกยิ้มออกแลว

"แลวเอาไง จะไปนั่งที่ออฟฟศหรือไปที่ราน"พอขับรถเขามาในเมืองได คนขับก็เริ่มหาทางไลผมทันที

"แลวพี่จะไปไหนละ"

"จะแวะไปดูบัญชีที่รานกอน"

"อืม....แลวไปออฟฟสนานมั้ยละ"

"ก็สักสองสามชั่วโมง เย็นๆ ก็ตองรีบออกนะ เดี๋ยวรถติด"

"งั้นพายไปดวยสองที่เลย จะไดไมตองวนมารับ"ไมใชวาไมอยากหางกันหรอกนะ แตรูนิสัยตางหาก ลองถาตอนเย็นมารับ


ผมแลวรถติดมากๆ นะ มีหวังไดอดไปลอยกระทงแนๆ เผลอๆ อาจเจอชิ่งหนีไปกินเหลากับเพื่อนดวยซ้ํา

"ตามใจ เบื่อแลวอยาทําหนาหงิกแลวกัน"เขาพูดจบผมก็แทบจะหนาหงิกตามที่บอกทันที แตเก็บอาการไวกอน รอใหลอย


เสร็จคอยวากัน

อันที่จริงหนาผมเริ่มควบคุมไมไดตั้งแตออกจากรานแลว ไมตองรอไปถึงออฟฟศหรอก รถจะติดอะไรนักหนาก็ไมรู ผมตอง


นั่งกินขนมที่หยิบมาจากรานบนรถแทนอาหารกลางวัน แตคนขับไมคอยทุกรอนกับการกินเทาไหร เมื่อเชาเลนกินขาวไป
สองชามแลวคอยปลุกผม กะวาผมตองไมไปแนๆ เพราะเวลาตื่นสายแลวผมจะพาล แต...เขาคิดผิดเพราะผมยอมอดขาว
เพื่อมีเวลาอาบน้ําแตงตัว

จากรานก็มานั่งเปดหนังดูเพื่อรบกวนคนที่นั่งทํางาน ปกติก็ไมคอยมีใครวาอะไรผมอยูแลว ผมเลย...ทําตามใจตัวเองเต็มที่


ดูหนังจบหนึ่งเรื่องงานก็เสร็จพอดี ผมรีบเดินนําคนขับไปขึ้นรถ ตอนนี้สี่โมงกวาแลว รถเริ่มติดทุกเสน โดยเฉพาะทางที่ผม
จะไป กวาจะไปถึงก็หกโมงกวา เราจอดรถไกลจากทาพระจันทรมาก จะหารถมอฯไซตนั่งตอก็มีคนเรียกใชเยอะจนไมมีวาง
ผมเดินลากขาตามคนตัวสูงที่บนตลอดทางวารอน กวาจะมาถึงทาพระจันทรเลนเอาหมดแรง เกือบเปนลม ดีวาอากาศชวง
นี้เริ่มเย็น ไมงั้นผมคงเปลี่ยนใจกลับตั้งแตวนหาที่จอดรถแลว

"หาอะไรกินกอนแลวกัน"สั้นไดใจความ แสดงวาหงุดหงิดเต็มที แตถึงจะพูดอยางนั้นก็ไมไดชวยอะไร แทบทุกรานเต็มหมด


แถมมีคนยืนรอคิวยาวเหยียด

"เดี๋ยวพายซื้อพวกที่ขายขางทางมาใหกินแลวกัน ไมตองนั่งรานหรอก เสียเวลารอ"

"อืม...ไปซื้อลูกชิ้นรานนั้นดวย อยากกิน"พูดจบก็เดินนําไป ผมเดินแทรกผูคนตามไปจนถึงหนาราน ซึ่งคนที่เดินมากอน


เลือกเสร็จเรียบรอย หมดคาลูกชิ้นไปหกสิบบาท ซื้อน้ําเปลาอีกสองขวด ผมรีบมองหารานขายเคก เพราะจําไดวาเคยกิน
ไมกี่ครั้งแตติดใจรสชาติมาก

"ไปซื้อเคกกัน"

"เมื่อเที่ยงก็กินแลวไมใชเหรอ ไมเบื่อรึไง"

"รานนี้อรอย ตามมาเร็ว"ผมรีบเดินเบียดคนมาหนารานเคก รานนี้อรอยจริงๆ ราคาไมแพงดวย

ระหวางที่ผมยืนเลือกเคกก็เหลียวมองคนที่มาดวยกัน...แต...ไมไดมองผม...ไมไดมองเคก...แต...มอง...เด็กที่...ยืนอยูขางๆ
ผมแทน ยอมรับครับวานารักมากๆ ขนาดผมยังแทบจะมองตาคางเลย นารักแบบ...เหมือนผูหญิง แตดูดีๆ ก็รูวาเปนผูชาย
ตัวเล็กมากๆ

"จะกินแตเคกช็อคโกแล็ตหรือไงเจ ไมเอาอันอื่นปนไปบางละ"พอไดยินเสียงคนที่ยืนถัดไปพูดผมเลยแอบมองหนา อยากรู


วา...เพื่อนหรือ...เปนแบบผม

"ก็เจชอบแตช็อคโกแล็ตนี่ พี่เอ็กซอยากกินอันไหนก็เลือกไปตางหากสิ"

"อืม....ก็เอาเหมือนกันนั่นแหละ"ดูจากคําพูดและทาทางแลวไมใชเพื่อนกันแนนอน แถมคนนี้หลอมากดวย คูนี้ดู...สมกันดี


"อาว แลวจะใหเจเลือกอันอื่นไปทําไมละ"

"เอาไปเผื่อคนอื่นไง"

"เผื่อใคร โกกับตี๋มันก็ชอบเหมือนเจนี่แหละ พี่เอ็กซนะไมรูเรื่องเลย"

"ครับๆ พวกมันชอบเหมือนเจ หรือโดนเจบังคับใหชอบเหมือนกันก็ไมรู ขนาดพี่ยังตองกินตามเจเลยเนี่ย"

"งั้นไมตองกินตามเลย ซื้อไปนี่ไมตองกินเลยนะ ไมตองจายใหดวย เจกินเองจายเอง"คนตัวเล็กพูดจบจายเงินแลวก็เดินงอน


ไปเลย ผมแอบยืนอมยิ้มกับทาทางนารักนาชังแบบนั้น

"ไมเดินตามนองเขาไปเลยละ"ไมไดหึงนะครับ แตเลนมองซะเหลียวหลังผมก็เลยอดพูดไมได

"อาว แลวไมบอก งั้นจายเสร็จก็รีบตามไปนะ"เขาพูดแลวทําทาจะเดินไปจริงๆ...ไมใชแคทําทา...แตเดินไปจริงๆ ผมจายเงิน


แลวรับกลองเคกมาเสร็จก็เห็นเขายืนอยูหนารานขายกระทง...ที่มีสองคนนั้นยืนอยู

"มาเลือกสิ จะไดรีบลอยรีบกลับ"พอเห็นผมยืนอยูขางหลังเขาก็กวักมือเรียก นองสองคนนั้นหันมามองผม แถมผมยัง


บังเอิญไปสบตากับคนตัวเล็กๆ นั่นดวย สบตาไมเทาไหร นองคนนั้นสงยิ้มมาใหดวยนี่สิ เลนเอาผมไมกลาเดินไปตรงนั้น
เลย

"เอาอันไหนก็ได"ผมเดินกมหนาไปยืนขางๆ เขา ไมกลาเงยหนากลัวนองขางๆ จะมองมาอีก รูสึกอายอะไรก็ไมเขาใจตัวเอง


เหมือนกัน

"เอาอันใหญไปอันเดียวแลวกัน"เขาพูดจบก็เลือกกระทงแลวจายเงิน ผมเดินตามออกมาจนมาถึงเรือ ไมรูวานองสองคนนั้น


เดินไปทางไหน ผมวาที่ตัวเล็กนั่นยิ้มใหผมตองเปนเพราะแอบจับไดวาผมแอบมองแนๆ

ปกติเรือจะเปนเรือขามฝาก แตวันนี้เปนเรือที่ไวลอยกระทง พอขึ้นเรือผมก็พยายามมายืนริมๆ เพราะไมอยากถูกเบียดอยู


ตรงกลาง ระหวางที่เรือแลนออกมาจากทาผมก็มองไปบนผิวน้ํา ถึงตอนนี้จะไมดึกมาก แต...กระทงจํานวนไมนอยนั่นก็ยังดู
สวางไสวและสวยอยางที่คิดเอาไว

"อธิฐานสิ"กระทงใบใหญที่จุดเทียนเรียบรอยถูกยื่นมาไวในมือ ผมยกกระทงจรดหนาผากแลวอธิฐานในใจ คําขอในใจไมได


มีอะไรพิเศษ แคคําขอเหมือนคนทั่วๆ ไป...ขอใหมีความสุข....ผมคิดวา...เปนสิ่งเดียวที่ผมควรขอ และก็...ขออภัยสิ่งที่เคย
ทําไมดีกับแมน้ําทุกสายดวย...เพื่อวา...ปหนาผมจะไดลอยกระทงสวยๆ แบบนี้อีก
พอเรือกลับมาเทียบทา ผมก็ถูกจับแขนกึ่งลากเดินออกจากฝูงชนทันที คนที่มาดวยไมรูไดอธิฐานอะไรหรือเปลา แคยกแตะ
หนาผากแคพริบตาก็เอาลง

"เนี่ยนะที่อยากมา ยังไมพอหานาทีเลยมั้งเนี่ย นึกวาจะไดนั่งเรือไปตามแมน้ําดูวิวซะอีก"นึกแลววาทาทางแบบนี้ตองไม


พอใจ ไอที่อยากดูวิวมันก็มี แตก็แพงดวยไง แบบนี้สบายดี ไดกินของอรอยดวย

"ก็แคนี้แหละ ใหดูวิวบนเรือมันก็แพงกวานี้สิ"เปลาครับ ไมใชเสียงผม ผมยังไมไดพูดอะไรเลย แตเปนเสียง....นองตัวเล็กนั่น


ไหงมาเดินอยูขางๆ พวกผมไดเนี่ย

".......รูงี้พาไปลอยที่อื่นดีกวา"

"ปหนาก็ไมตองมาแลวกัน"

"พี่ไมไดหมายความวาแบบ....."นองตัวสูงพูดคางทันทีที่มองเลยมาเห็นผม

"อะไร....อาว"พอคนที่เดินขางๆ หยุดพูดไป นองตัวเล็กขางผมเลยหันมามองบาง คราวนี้ผมก็เลย...ซวย...ไมไดตั้งใจแอบฟง


แตบทสนทนามันดันคลายกันตางหาก

"มองอะไร"ผมแคคิดนะ ไมไดพูด คนที่พูดนะ...ยืนค้ําหัวผมอยูนี่ไง แถมอยูดีๆ ไปถามนองเขาแบบนี้ไดไง เปนเพราะผมมอง


กอนตางหาก

"ขอโทษครับ ไมไดตั้งใจ"นองตัวเล็กพูดซะนาสงสารเลย คงกลัวคนที่มากับผมมากแนๆ นองตัวสูงเลยรีบรั้งแขนใหยืนชิด


มากขึ้นกวาเดิม เออ...คูนี้เขา...เปดเผยดีนะ

"แลวคุณละมองอะไร"ทาทาง...นองตัวสูงก็คงไมเบาเหมือนกันถึงไดถามกลับแบบนี้

"ก็เห็นนองคนนี้นารักดีเลยมอง"เออ....นี่ก.็ ..ตรงจริง แต...ตรงผิดเวลา ที่สําคัญ...เปนคําตอบที่ไมเขาหูผมเทาไหร

"งั้นมองกันไปนะ พายกลับละ"ผมเดินเลี่ยงออกมาโดยไมคิดจะหันกลับไปอีก ไมไดหึงนะครับ แค...รูสึกวา..มันไมควรพูด


แบบนั้น

ผมเดินกมหนามาเรื่อยๆ จนถึงที่จอดรถ นาแปลกที่ขากลับไมเหนื่อยเทาตอนแรก คนขับก็เดินมาถึงรถไลๆ กับผม ทีแรกนึก


วาจะคุยกับสองคนนั้นตอซะอีก พอปลดล็อคประตูผมก็รีบเขาไปนั่ง ไมไดสนใจคนขางๆ เทาไหร

"เปนอะไรอีกละ"
"เปลา"

"ตอบดีๆ"

"......ก็ทําไมตองไปหาเรื่องสองคนนั้นดวยละ"

"ไมไดหา ก็ไอเด็กนั่นเลนจองเอาๆ ก็ตองมีหงุดหงิดบางสิ หรือวาชอบที่โดนมอง"นั่นไง กลายเปนผมผิดซะงั้น

"ก็พายไปมองนองเขากอน เห็นนารักดีเลยมองนานไปหนอย นองเขาก็เลยมองกลับมา แคนั้นเอง"ก็นองตัวเล็กนั่นนารัก


จริงๆ นี่ครับ ผมวาจิ๋วนารักแลว เจอนองคนนี้ชิดซายไปเลย

"ไอโยงนั่นนะนะนารัก เอาตรงไหนมองเนี่ย"

"......โยง....พายหมายถึงนองตัวเล็กนั่นตางหาก"

"ก็พี่หมายถึงคนตัวสูงๆ ที่มันจองพายนั่นไง"

"เฮย!! ไมเกี่ยวนะ พายไมไดมอง"ความจริงแคมองผานๆ ครูเดียว ก็หลอดีแคนั้น

"ไมไดไปมองมันก็แลวไป นึกวาชอบ"

"ใครกันแนชอบ เห็นจองนองตัวเล็กนั่นตอนซื้อเคกซะตาละหอย แถมยังเดินตามอีก"

"....ก็นารักดี...แตก็แคนั้น..."

"หมายความวาไง พายวานองเขานารักมากเลยนะ พายยังมองตาคางเลย"

"ก็นารักไง แตก็แคนั้น...ไมไดรัก มองไปก็เทานั้น"

"..........อืม...กลับบานกันเถอะ"

"มาแคนี้ไมรูจะมาทําไม อยูบนเรือยังไมพอหายเหนื่อยเลย ปหนาไมมาแลวนะที่นี่นะ ถาอยากลอยเดี๋ยวพาไปที่อื่น"คนขับ


เริ่มสตารทรถแลวขับออกไปทามกลางการจราจรที่วุนวาย เสียงบนยังคงดังเรื่อยๆ ตลอดทาง แต...ไมรูส.ิ ...ผมวา...เทศกาล
ลอยกระทงนี.่ ....อบอุนดีนะ
ตอนที่ 42

ความหิวเปนสิ่งที่ผมทนได แต....ตอนนี้อยากเขาหองน้ํา ผมเลือกที่จะชวยเหลือตัวเองแทนที่จะตะโกนเรียกมัน ไมรูทําไม


ผมถึงเชื่อวา...มันยังนั่งรออยูขางนอกอยางที่บอกไวจริงๆ ผมลุกจากเตียงโดยใชมือขางที่เจาะสายน้ําเกลือดันตัวเองขึน้ มา
เดินลากเสาที่แขวนน้ําเกลือมาจนถึงหนาประตูหองน้ํา แตประตูหองผมกลับถูกเปดเขามา

"ทําอะไร"

"......"ผมไมไดตอบอะไร แคมองแลวก็หันกลับมา ตอนแรกอยากจะลากเสาเขาไปในหองน้ํา แตมันเขาไมได เลยตองหยิบ


ถุงน้ําเกลือออกมา มือที่ตั้งใจจะหยิบตองยกคางไวเพราะคนที่ผมไมรพู ูดชิงไปถือไวเอง

"เลือดมันยอนหมดแลวไมเห็นรึไง บอกวาจะเอาอะไรใหเรียก จะตายอยูแลวอยาอวดเกงนักเลย"คําพูดมันไมคอยเขาหูผม


เทาไหร ผมแทบจะยืนตัวแข็งทันทีที่เห็นเลือดปนกับน้ําเกลืออยูเกือบครึ่งสาย ภาพเลือดของตัวเองวันนั้นยังติดตาอยูเลย

"เปนอะไร เอาแขนลงสิมันจะไดไหลกลับ"

"........"ผมเอาแขนลงตามที่มันบอก แลวก็ยืนคางกันอยูหนาหองน้ํา

"จะเขาหองน้ําไมใชรึไง หรือเขาเสร็จแลว"มันพูดจบผมก็เดินเขาหองน้ําแทนคําตอบ มันเอาถุงน้ําเกลือแขวนไวแลวก็เดิน


ออกไปโดยไมรอใหผมไล หลังจากทําธุระสวนตัวเสร็จพอผมลางมือมันก็เดินกลับเขามาหยิบถุงน้ําเกลือแลวเดินนําผม
กลับมาที่เตียง ผมกาวขึ้นเตียงอยางทุลักทุเลกวาตอนลง มือขางที่เจ็บไมสามารถค้ํายันตัวเองได สวนอีกขางก็ทําไมสะดวก
เพราะเข็มน้ํากลัวมันทิ่มลงไปเจ็บกวาเกา กวาจะขึ้นมานอนบนเตียงเลนเอาเหนื่อย พอจัดทานั่งเสร็จก็หยิบรีโมตใกลๆ มา
เปดดูทีวีโดยไมสนใจคนที่วุนวายอยูกับตูเย็นในหองพัก สักพักมันก็เดินออกไปจากหอง ผมนั่งพิงหมอนดูทีวีคลายความ
เบื่อหนาย หลับทั้งวันเลยไมงวง แผลที่ขอมือก็เริ่มเจ็บ สงสัยเพราะขยับมาเกินไป

ประตูหองถูกเปดออกอีกครั้ง ผมหันไปมองดวยสายตาที่บงบอกวาไมพอใจในการที่มันเชิญตัวเองเขามาในหองพักผม
บอยๆ ถาดอาหารถูกวางลงบนโตะลอเลื่อนแลวเลื่อนมาตรงหนาผม เสร็จแลวมันก็เดินออกไป ขาวผัดกับเกี้ยวน้ําสงกลิ่น
หอมนาทาน อาหารในกลองพลาสติกที่เพิ่งอุนมาทําใหผมคิดหนัก แตก็คิดไมนาน เพราะไมเกินหนึ่งนาทีหลังจากประตูปด
สนิทอาหารรวมทั้งกลองก็ลงไปกองอยูบนพื้น และเสียงเปดประตูก็ดังขึ้นอีกครั้งอยางที่ผมคิดไวไมมีผิด
สายตาที่มองอาหารสลับกับหนาผมไมไดทําใหรูสึกกลัว ไมใชเพียงไมกิน แตตั้งใจปดทิ้งใหมันรูดวย มันยืนกําลูกบิดประตู
แนน เทากาวเขามาในหองเพียงหนึ่งกาวแลวก็หยุด จากนั้นมันก็ถอยกลับไปแลวปดประตูตามเดิม ผมลอบถอนหายใจกับ
ความอึดอัดที่เกิดขึ้น แตลึกๆ แลว...ผมก็เสียดาย...ที่ไมไดเห็นมันกมเก็บอาหารที่กองอยูบนพื้น

ผมนอนจองทีวีตรงหนาจนเคลิ้มหลับ ตื่นมาตอนเชาเมื่อพยาบาลมาวัดไขและถอดน้ําเกลือออก ที่สิ่งทําใหผมอึ้งคืออาหาร


เหลานั้นยังอยูสภาพเดิม มันยังกองเรี่ยราดบนพื้นดวยสภาพไมนาดู จิ๋วเปดประตูหองเขามาถึงกับผงะไปเล็กนอยเมื่อ
มองเห็นอาหารบนพื้น

"จิ๋วไปไหนมาเมือ่ วาน"ผมแสรงถามเบี่ยงเบนความสนใจของจิ๋ว

"กลับหอสิ ไมไดเปลี่ยนชุดสองวันจนจะเนาตายอยูแลว"

"นั่นสิ พายลืมนึกไป แลว...ไมเปนอะไรใชมั้ย"

"อยางจิ๋วนะเหรอจะเปนอะไร ไอตอมันไมกลาทําอะไรจิ๋วหรอก"

"อืม...ก็ด"ี ผมตอบรับเบาๆ ในใจยังคิดถึงอาหารบนพื้น ความจริงตอนเชานาจะมีคนมาทําความสะอาดแลว พยาบาลที่เวร


ที่คอยเขามาดูอาการเมื่อคืนก็นาจะเห็น ทําไมไมใหแมบานมาเก็บ ความสงสัยของผมมีคําตอบอยางเดียว...เพราะมัน...
มันคงอยากจะประจานการกระทําของผมใหคนอื่นเห็น

หลังจากกินอาหารเชาเสร็จ หมอก็มาตรวจอีกครั้งเพื่อยืนยันใหกลับบานได ผมเปลี่ยนชุดแลวรอใหพี่หนอยจัดการเรื่องเงิน


ผมคิดวา..คงเปนเงินของมันอีกนั่นละ พอคิดแบบนี้ผมเลยไมพูดอะไร ใครอยากเสียเงินก็เสียไป ยังไงก็เปนความผิดของมัน
อยูแลว พี่หนอยขับรถพาผมกับจิ๋วมาที่คอนโด จิ๋วแคอยากมาชวยพี่หนอยดูแลผม แตไมคางดวยเพราะเกรงใจพี่หนอย
ถึงแมพี่หนอยพี่นพจะไมวาอะไรก็ตาม

คนที่นั่งอยูในหองทําใหผมหยุดยืนอยูหนาประตู ผมไมนึกวาจะมีโอกาสนี้อีกแลว ไมคิดวาจะไดพูดคุยกัน หรือแมแตมอง


หนากัน ยังมีคําพูดมากมายและเรื่องราวตางๆ ที่อยากถายทอดใหเขาไดฟง

"พาย.....เออ...ขอโทษนะ"

"ไมๆๆ นุไมตองขอโทษ พายสิตองขอโทษ ขอโทษนะ ไมโกรธพายแลวใชมั้ย"ผมรีบวิ่งเขาไปกอดคนที่ยืนอยูกลางหอง

"หายโกรธตั้งนานแลว ขอโทษที่หายไปนานนะ"นุดันตัวออกจากออมแขนผมแลวสงยิ้มให รอยยิ้มสดใสใบหนาที่ไมไดเห็น


มานาน เสียงนุมๆ ที่ไมคิดวาจะไดยินอีก
"ไมเปนไร อยาขอโทษพายเลย พายคิดถึงนุมากเลยรูมั้ย อยากไปหามากๆ พายจะกลับไปอยูใกลๆ นุเหมือนเดิมนะ ดีมั้ย"
ผมถอยหางจากนุเล็กนอย แตมือของเรายังกุมกันไวทั้งสองขาง จิ๋วเดินเลี่ยงไปนั่งบนโซฟา สวนพี่หนอยเดินไปทางครัว
เล็กๆ มุมหอง

"ถาเปนอยางนั้นไดก็ดี แตนุไมไดอยูที่หอนั้นแลวนะ"

"เหรอ ไมเปนไร พายกําลังหาหอใหม พายไปอยูหอเดียวกับนุก็ได นะๆ เรากลับมาเปนเพื่อนกันเหมือนเดิมนะ"

"กลับทําไม นุไมเคยคิดวาพายไมใชเพื่อนซะหนอย หรือพายคิดเลิกคบกับนุ ใจรายนะคนเรา"คําตอวาเล็กๆ ของคนแสน


งอนทําใหผมยิ้มออกมาหลังจากไมไดยิ้มมานาน

"ไมๆๆ ไมเลิก เปนเพื่อนกันนะ ดีใจจังเลยที่เจอนุอีก พายอยากคุยดวยตั้งหลายเรื่องเลย คืนนี้พายไปคางกับนุไดมั้ย เราจะ


ไดนอนคุยกันทั้งคืนไง"

"คืนนี้นุก็จะนอนที่นี่เหมือนกัน เรายังอยูดวยกันอีกหลายวันเลยละ รับรองวาเบื่อหนากันไปขางเลย"นุพูดพรอมฉีกยิ้มกวาง


ขึ้นไปอีก

"เดี๋ยวกอนนะ....นุ...มาที่นี่ไดยังไง"คําพูดและการมาของนุทําใหผมสงสัย

".....พี่ตั้มพามาสง"

"ทําไม"ทันทีที่ไดยินชื่อมันออกจากปากนุผมก็กาวถอยหลังทันที นุจับมือผมแนนขึ้นเมื่อผมคลายมือออก

"ก็มาดูแลพายไง"

"นุ!!!"คําตอบของนุแทบทําใหผมสะบัดตัวออกจากมือที่จับไว ผมดีใจที่นุมาหา แต...ตองไมใชเพราะมัน

"พายอยาเพิ่งโกรธนะ ฟงนุพูดกอน"

"อะไรกันนุ มันทํากับนุยังไงวันนั้นนะลืมไปแลวเหรอ ทําไมตองยอมทําตามมันสั่งดวย จะบากันไปหมดแลวรึไง ทําไมทุกคน


ตองทําตามมันตลอดเลย"

"ผมขอคุยกับพายในหองนะครับ"นุหันไปพูดกับพี่หนอยแลวจูงมือผมเดินเขาหองนอนพี่หนอยพรอมล็อคหองเสร็จสรรพ ผม
เดินมายืนอยูขางเตียงนอนพี่หนอย สวนนุยืนหนาประตูเหมือนกลัวผมหนีออกไป
"เรื่องที่พี่ตั้มทํากับพายนะ นุรูหมดแลว พี่ตั้มเปนคนเลาใหฟง ถึงจะไมละเอียดแตนุเดานิสัยพี่ตั้มไดวา...ทําอะไรกับพาย
บาง เรื่องที่นุตบพายวันนั้นนะ นุขอโทษ นุไมรูอะไรเลยจริงๆ พี่ตั้มทําแบบนั้นกับนุนะถูกตองแลว นุ...เคยพูดจาถึงพายใน
แงไมดีมากๆ จนพี่ตั้มเขาใจผิด ยอมรับวาทําไปเพราะหึง พี่ตั้มเอาแตถามเรื่องพายแลวนุก็เคยเห็น...พี่ตั้มออกจาหองพาย
ตอนเชา ทุกอยางมันทําใหเขาใจผิด นุไมอยากเสียพี่ตั้มไปเลยพูดกันๆ ไววาพายกับทิว....เปนแฟนกันแลว ขอโทษจริงๆ
นะ"

"เรื่องนั้นนะชางมันเถอะ พายไมใสใจแลว...ยังไงมันก็ผิดตอนุ มันไมควรใหนุมาทีน่ ี่เพื่อดูแลพาย ไมตองบอกก็รูวานุยังรัก


มันอยู" ถานุไมรักมัน จะยอมทําเพื่อมันขนาดนี้เหรอ คนอยางมันมีอะไรดีถึงทําใหนุหลงไดขนาดนี้

"อืม...ก็ไมเชิงหรอก พี่ตั้มเขาดีกับนุ หลังจากวันนั้นเขาก็ยังสงนุเรียน ใหงานใหเงินนุเหมือนเดิม แตพายไมตองหวงนะ นุกับ


พี่ตั้มไมไดมีอะไรกันแลวตั้งแตวันนั้น สวนมากจะเจอกันที่รานเฉยๆ"

"พายถามจริงๆ ทําไมมันใหนุมาคางกับพายที่น"ี่

"ก็มาดูแลพายไง"

"จิ๋วก็อยู พี่หนอยก็อยู.....ออ..พายวาพายเดาไดแลว คงใหนุมาเฝาพายมากกวา มันรูนี่วาจิ๋วเปนเพื่อนทิว คนอยางนั้นนะ


เหรอจะแคใหนุมาดูแลพาย"ผมวานิสัยขี้ระแวงของผมเปนผลดีนะ อยางนอย...ก็ทําใหคิดอะไร เห็นอะไรรอบๆ ตัวไดมาก
ขึ้น

"พายอยาพูดอยางนั้นสิ ถึงมันจะจริง แตพี่ตั้มทําเพราะเปนหวงพายไมใชเหรอ"

"เรื่องนั้นพายไมรูหรอก คนอยางมันมีความรูสึกแบบนั้นไดดวยรึไง"ผมพูดจบนุถึงกับหนาเสีย ผมไมเคยพูดจาวารายใคร


แรงขนาดนี้ แต...ทั้งโลกนี้คงยกเวนมันไวหนึ่งคน

"พาย....นุถามหนอยนะ...กับทิว...เปนยังไงบาง"

"ก็...ไมเปนไง ไมไดคุยกันหลายวันแลว"

"ความรูสึกพายละ กับทิวนะ รูสึกยังไง เหมือนเดิม...หรือโกรธ...หรือ...อภัยใหไดถาเจอกันอีก"

"..........."ไมใชวาผมไมเคยถามตัวเองอยางที่นุถาม แตถามเปนรอยเปนพันครั้ง...ความรูสึกมันก็ยัง....ไมชัดเจนอยูดี

"นุไมเห็นวาทิวจะตางกับพี่ตั้มตรงไหน พายควรเห็นใจพี่ตั้มบางนะ"
"แลวมีใครเห็นใจพายบาง...ไมมีเลย ถามันตองการใหนุมากลอมแลวละก็คงตองผิดหวัง เพราะยิ่งมันทําแบบนี้พายก็ยิ่ง
เกลียดมัน คนที่มันควรใสใจควรเปนนุ ไมใชพาย"จากตอนแรกที่เห็นหนานุ ผมนึกดีใจที่ไดมีพวกของตัวเองบาง แตไมใช
เลย นุเขาขางมัน มาเพราะมันสั่ง มาชวยมันคุมผม อยากใหผมเห็นใจมันงัน้ เหรอ....แลวผมละ...มันเคยเห็นใจผมบางมั้ย
ทําอะไรกับผมไปบางทุกคนก็รู ทําไมไมมีคนเขาใจผมบาง ผมออกมาจากหองนั้นได ออกมาจากมันได แต...ไมใชเลย...ผม
แคยาย....หองขังใหมเทานั้น

ตอนที่ 43

ที่คิดเอาไววาที่นี่เปรียบเสมือนหองขังนั้นคงไมเกินความเปนจริง นุเหมือนผูคุมที่ทํางานตามคําสั่งอยางดีเยี่ยม ติดตามผม


ทุกฝเกาโดยที่ผมไมสามารถตอวาอะไรได ผมใจออนกับนุมาตั้งแตเมื่อกอน ยิ่งเกิดเรื่องยุงๆ ขึ้นผมเลยยิ่งไมกลาวาอะไรนุ
แรงๆ ไดแตหงุดหงิดใสเทานั้น

"วันนี้ก็ไมตองทํางานอีกแลวเหรอ"ผมถามโดยไมเงยหนาจากหนังสือที่อยูบนตัก

"อืม...ลาพักรอนระยะยาวแบบไมมีกําหนด เคยไดยินมั้ย"นุหันมาตอบแบบยิ้มๆ กับอภิสิทธิ์ที่ตัวเองไดรับจากเจาของราน

"เราไปอยูดวยกันที่หอนุดีกวามั้ย มาอยูกับพี่หนอยหลายวันแลว เกรงใจ"พรุงนี้จะเปนวันสอบวันแรก ถาตองอยูจนสอบ


เสร็จก็อีกสองสัปดาห ผมวามันนานเกินไป

"พี่หนอยก็ไมคอยมาอยูที่นี่อยูแลว ถาเราไปที่อื่นเขาจะหวงมากกวานี้นะสิ อยูนี่แหละดีแลว เพื่อความสบายใจของทุกคน"


นุพูดถูกครึ่งหนึ่ง พี่หนอยไปอยูหอพักที่โรงพยาบาลทุกวัน จะมีแวะเขามาทานขาวดวยบางเปนบางวัน สวนอีกครึ่งที่ไมถูก
ก็คือ...ผม...เปนคนหนึ่งที่ไมสบายใจ เพราะงั้นไมควรใชคําวา..ทุกคน

พรุงนี้มีสอบตอนบาย ผมยังไมรูเลยวาจะทําขอสอบไดบางมั้ย ปกติ...ผมเคยอานหนังสือคนเดียวเสียเมื่อไหร แตใชวาผม


อยากจะกลับไปเหมือนเดิม รูอยูแกใจวาเปนไปไมได...ทุกอยางไมมีวันเหมือนเดิมอีกแลว

ตกเย็นพี่หนอยซื้ออาหารจากขางนอกมาฝาก กอนกลับก็อวยพรใหผมสอบไดคะแนนดีๆ อยูที่นี่ใชวาผมจะลําบากอะไร


วันๆ อานหนังสือแลวก็นอน มันไมโผลหนาหรือเสียงมาใหผมรําคาญใจ แต....ผมก็ยังหงุดหงิดอยูเสมอเวลาที่นุรับโทรศัพท
ของมันแลวคอยรายงานเรื่องราวประจําวันของผมใหฟง...ผูคุมที่ด.ี ..ผมเคยแกลงเรียกนุแบบนี้ แลวก็โดนโกรธ ไมอยากงอ
แตตองงอ อยางนอย...นุก็เปนเพื่อนผม จิ๋วแวะเวียนมาหาเมื่อวันกอน มานั่งๆ นอนๆ ดูทีวีเปนเพื่อนนุแลวก็กลับ หองขังนี้ดี
หนอย...ใหคนนอกมาเยี่ยมได แต...คนใน...ไปไหนไมได...สมกับคําวาหองขังจริงๆ
รุงเชาผมตื่นมาอานหนังสืออีกรอบ นุลงไปซื้อขาวมานั่งกินกับผมสองคน พอใกลเที่ยงก็มีสารถีที่ชื่อพี่นัทขับรถมารับไปสง
พรอมรอรับกลับที่มหาฯลัย ผมลงจากรถโดยมีนุเดินตามตลอด ไมถามก็รูวาจะตามไปเฝาถึงหนาหองสอบแนๆ ผมนั่งรอ
เวลาใหใกลเขาหองสอบถึงไดขึ้นไปดูเลขที่นั่งสอบ ผมกับทิวมักจะไดนั่งสอบหองเดียวกันเสมอ อยูในระยะ...ที่มองเห็นกัน
ได...และ...ทิวยืนรอผมอยูหนาหองสอบอยางที่คิดเอาไวจริงๆ

"......สอบเสร็จแลวทิวขอคุยดวยนะ"ทิวเดินเขามาพูดกับผม แตผมเดินผานเขามาในหองแลวนั่งในแถวที่สามโตะที่หนึ่ง
สวนทิว...แถวที่หนึ่งโตะที่สี่ ลําดับที่คุนเคยมาตลอดเกือบสี่ป ผมรีบกมหนาทําขอสอบ พยายามรวบรวมสมาธิใหจดจออยู
กับคําถามและตัวเลือก ตองรีบทําใหเสร็จ...แลวจะไดรีบออกจากหองกอนทิว....ผม...กําลังหนี เปนครั้งแรกที่รูสึกขอบคุณนุ
ที่เดินมาดวย อยางนอยผมก็ยังรูสึกมีที่พึ่ง

เวลาในการทําขอสอบเกือบหนึ่งชั่วโมงหมดไป ทันทีที่อาจารยอนุญาติใหออกจากหองสอบไดผมก็รีบลุกเปนคนแรก
เรียกวาเดินกึ่งวิ่งกลับมาที่รถ พี่นัทไมไดอยูที่รถ ระหวางที่มองหาพี่นัทก็วิ่งมาจากทางโรงอาหาร นุคงโทรไปเรียก ผมวิ่งเขา
ไปนั่งในรถแลวกมหนามองมือตัวเองที่กําลังสั่น ผม...กลัว...ใช...ผมกลัวทิว ตลอดเวลาที่อยูในหองนั้น...ผมรู. ..วาทิวจอง
มองผมจากดานหลัง ผมกลัวทิว ผมไมกลามองหนา ไมกลาสบตา ไมกลาพูดดวย ภาพวันนั้นยอนกลับเขามาทําใหผม
ระแวง ผมคิดวาทิวคงไมกลาทําอะไรผมหนาหองสอบ แตก็ยังกลัว ไมใชกลัวทิวจะทําอะไรแบบวันนั้น แต....กลัว...ตัวตน
ของทิว ผม...ไมแนใจวา...แบบไหน...คือตัวตนจริงๆ ของทิว แลวผม...จะเปนอยางไร ผม...ยอมรับ...วาไมไดเกลียดทิว....
วันนั้นจนมาถึงวันนี.้ ..ก็ไมเคยรูสึกเกลียดเลย....แค...โกรธ...และกลัว.....เทานั้นจริงๆ

"พายเปนอะไร"พี่นัทถามหลังจากที่ขับรถออกมาแลว

"หนีทิวมา"นุเปนคนตอบคําถามนั้นแทน ผมไมไดเงยหนาขึ้นมามอง แตกลับรับรูทุกอยาง ทิวตะโกนเรียกชื่อผมเสียงดังจน


สะดุง ผมรูวาทิววิ่งตามมาแนๆ รูวาวิ่งไมทัน แตทิววิ่งอยู ผมไมกลาเงยหนาเพราะ....กลัวตัวเอง

ตลอดระยะทางกลับมาคอนโดฯพี่หนอยมีแตความเงียบ ผมกับนุเดินกลับขึ้นหองหลังจากพี่นัทอาสาเลี้ยงขาวเที่ยงแตผม
ปฏิเสธไป นุไมกวนใจผมที่ขอตัวนั่งอานหนังสือในหองนอนเพียงลําพัง ผมไมไดกมลงมองตัวหนังสือที่กางคว่ําหนาบนเตียง
ผมคิดเรื่องทิว รูดีวาทําไมทิวตองดักรอหนาหองสอบ นั่นเปนหนทางเดียวที่จะไดพูดกับผม หลังจากที่โทรศัพทผมโดนยึด
พรอมๆ กับอิสรภาพในการใชชีวิต ไมสิ...อิสรภาพนั้นโดนยึดไปนานแลว ใจหนึ่งผมก็อยากคุยกับทิว อยากถามวาเกิดอะไร
ขึ้น ทําไมทิวทําแบบนั้น แต...กลัวคําตอบ ผมไมสามารถแสรงทําตัวไมรับรูเรื่องราวแลวกลับไปพูดคุยกับทิวไดเหมือนเดิม
คําถามของนุยอนกลับมาในความคิด....มันตางจากทิวตรงไหน......

การสอบในวันถัดมายังคงเปนเชนเดิม หากตางไปตรงที่ผมเดินจับมือนุใหขึ้นมาเปนเพื่อนจนถึงหนาหองสอบ แถมยังเขา


สอบสายไปสิบหานาทีดวยความตั้งใจของผม ทิวไมไดยืนอยูหนาหองสอบเหมือนเมื่อวาน คงเปนเพราะมีอาจารยไลใหเขา
หองไปหละมั้ง อยางนอยวันนี้ผมก็โชคดี มีสมาธิทําขอสอบมากกวาเมื่อวาน แตเมื่อทําขอสอบเสร็จกลับไมสามารถลุกไป
ได ทิวยืนรออยูหนาหอง ผมนั่งอยูดานในรอจนหมดเวลาแลวเดินตามเพื่อนกลุมใหญออกไป อยางนอยก็อาศัยเพื่อนชวย
บังไมใหทิวเขามาถึงตัวผมไดงายๆ และทิวก็ไมกลาที่จะทําอะไรผมตอหนาเพื่อนรวมรุนดวย
"เปนไงบางพาย ทําขอสอบไดมั้ย"พี่นพถามผมยิ้มๆ คงจะรูมาจากคนอื่นแลววาผมไมคอยมีสมาธิในการทําขอสอบเทาไหร

"ก็...อยางที่รูแหละครับ แลวนี่พี่มาไดไง"ผมตอบกลับไปแบบแปลกใจนิดหนอยที่เห็นพี่นพในหอง นุเดินเขาหองไปเปลี่ยน


ชุดปลอยใหผมนั่งคุยกับพี่นพตามลําพัง

"เพิ่งไปลองชุดแตงงานกับพี่หนอยมา พายเตรียมหาชุดหลอๆ ใสไปงานดวยละ"

"ครับ แลวพี่หนอยละครับ"

"ลงไปซื้อขาว ยังไมไดกินอะไรใชมั้ย จะไดกินพรอมกัน"

"งั้นพายเปลี่ยนชุดกอนนะครับ เดี๋ยวออกมาคุยดวย"ผมเดินตามนุเขาไปในหอง พอผมเปลี่ยนชุดเสร็จก็ออกมานั่งคุยกันสี่


คน พี่หนอยลงมือทําสปาเก็ตตี้ขี้เมาใหกิน ดูทาทางแลวจะเปนอาหารโปรดของพี่นพแนๆ

"พายสอบเสร็จแลวไปอยูกับพี่ที่บานนะ"

"ที่รีสอรทนะเหรอครับ"

"ใช ปดเทอมไมตองเรียนซัมเมอรใชมั้ย"

"ไมตองครับ แตพายวาจะหางานทํา"

"ไปทํากับพี่ไง เปนผูชวยที่คลีนิคหรือที่รีสอรทก็ได เลือกเอาวาจะทําที่ไหน"

"จะดีเหรอครับ ไปรบกวนเปลาๆ"

"ดีสิ ไปใหนาพรหายคิดถึงหนอย พรากลูกพรากแมมาตั้งนาน แมพี่ดาจนหูชาแลว"

"ผมก็คิดถึงแม แลวแมกลับมารึยังครับ"

"ยังเลย สงสัยเที่ยวกันเพลิน"

"พาย...อยากโทรหาแม"
"......ถาพายคิดวาจะไมทําใหนาพรเปนหวง พี่ก็จะใหคุย"คําตอบของพี่นพทําใหผมคิดวา...สมกับเปนพี่นองกันจริงๆ ถึง
คําพูดจะนุมนวล แต...มันก็มีความหมายเดียวกับ...ไมใหคุย ผมอยากจะสวนกลับไปนักวาแมผมจะเปนหวงผมเพราะใคร
ละ ไมใชเพราะนองเขาเหรอที่ทําแบบนี้กับผม

"พายกับนุอยูหองพี่สบายดีนะ มีอะไรก็หยิบใชไดตามสะดวกนะ ของกินในตูเย็นก็กินได ปลอยทิ้งไวมันจะเสียเปลาๆ อยาก


กินอะไรโทรสั่งรานขางลางแลวลงบัญชีพี่ไวไดเลย นุดวยนะ ตามสบาย"พี่หนอยคงเห็นวาบรรยากาศเริ่มไมดีถึงไดเปลีย่ น
เรื่อง คูนี้ก็....ชวยเหลือกันดีนะครับ

"ไมเปนไรครับ แคนี้ก็พอแลว"นุพูดแบบเกรงใจ ซึ่งตรงกับใจผมพอดี

"ไมเปนไรหรอก มีอะไรก็ชวยๆ กัน พายก็เหมือนนอง พี่เคยบอกแลวไง นุก็เหมือนนองคนเล็กพี่เหมือนกัน"

"ครับ"ผมตอบรับเบาๆ.....ผมเหมือนนอง....แตไมใชนองของวาที่สามีพี่...พี่ถึงไดไมเขาขางผม

"พายสอบเสร็จวันไหนจะ"

"พฤหัสหนาครับ"

"อืม...งั้นสอบเสร็จแลวพายไปอยูรีสอรทพี่เลยแลวกันนะ พี่กับพี่หนอยตองไปถายรูปแตงงานที่นั่น ไปพรอมกันเลยจะได


ชวยๆ กัน นุดวยนะ ถือวาไปเที่ยว"พี่นพวกเขามาเรื่องนี้อีกครั้ง เห็นทีผมคงจะปฏิเสธไมได

"เรื่องที่ใหผมไปอยูที่นั่นเปนความคิดพี่หรือใคร"คําถามผมทําใหทั้งวงสนทนาตกอยูในความเงียบ แคนี้ก็ไดคําตอบแลว
วิธีการบังคับแบบนี้ออกจะคุนเคย.....วิธีการของมัน

".....ถือวาไดไปอยูเปนเพื่อนนาพรแลวกันนะพาย อยาคิดในแงรายนักเลย"พี่นพพูดโดยไมแกไขความเขาใจของผม นี่เปน


การยืนยันวาผมคิดถูก ผมจะไดยายหองขังใหมเร็วๆ นี้

"ผมก็ไมเห็นวาจะมีแงดีใหคิดเลย คงเพราะเพราะไมใชคนในครอบครัวเหมือนพี่ แลวก็ไมไดหลงรักมันเหมือนใครแถวนี้


ละมั้ง"ผมพูดจบก็ลุกเดินกลับเขาหองนอนอยางไมสนใจมารยาท รูตัววาคําพูดนั้นทําใหใครเจ็บบาง แตผมเคยเจ็บมากกวา
นี้อีก แบงๆ กันไปบางจะเปนไร ไหนๆ ก็มีสวนรวมกันทั้งนั้นนี่

ตอนที่ 44
การสอบของสัปดาหนี้หมดไปทามกลางความเหนื่อยยากของผม อานหนังสือหนักกวาทุกเทอมเพราะไมคอยไดไปเรียน
แถมบรรยากาศในหองสอบก็ไมเอื้ออํานวยใหมีสมาธิเอาเสียเลย สายตาของทิวเพียงคนเดียวก็ทําใหอึดอัดแลว แตนี่มี
สายตาของเพื่อนรวมคณะ สายตาของคนที่มองมาบริเวณขอมือ ผาพันแผลสีขาวยังคงพันปกปดรองรอยเอาไว แตสายตา
อยากรูอยากเห็นกลับทําใหรูสึกเหมือนปากแผลเปดขึ้นมาอีก พี่หนอยคอยดูแผลใหตลอด ไมนานก็คงหายสนิท แตไม
เหมือนเกา ยังไงก็ตองเหลือรองรอยแหงความออนแอของผมเอาไวประจานตัวเอง

"พายเอาอะไรมั้ย เดี๋ยวนุจะลงไปซื้อขาวสาร"นุเปดประตูหองนอนโผลเฉพาะหนาเขามาถามผม

" ไมเอาละ นุอยากซื้ออะไรก็ซื้อมาเถอะ"ผมเงยหนาจากหนังสือบนตักมาตอบแลวกมลงอาน ใหมหลังจากไดยินเสียงปด


ประตู การที่นุกลับมาอยูเคียงขางผมทําใหดีใจ แตสาเหตุของการกลับมาทําใหผม....ยากที่จะเชื่อใจเหมือนเกา คําพูดเลน
หยอกลอหางเหินจนเหมือนคนที่เพิ่งรูจักกัน บางครั้งผมก็รูสึกแยที่ทําเย็นชากับนุ แต...เมื่อไมไดอยูฝายเดียวกับผม....ก็คือ
ศัตรูไมใชรึไง

เสียง เปดปดประตูจากดานนอกพรอมเสียงพูดคุยเบาๆ ลอดเขามาดึงความสนใจจากความคิดผม ยังไงนุก็ดูแลผมดี อยู


กันแคสองคนแตผมดันหนีเขามานั่งอยูในหองนอนคงเดียวนุคงอึดอัด ผมวางหนังสือไวบนหมอน พักผอนสมองสักหนอย
คงทําใหอานหนังสือไดมากขึ้น ประตูหองนอนเปดตามแรงดึงของผม ใจหนึ่งอยากผลักใหปดลงตามเดิมเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู
บนโซฟา

"เออ...พายจะเอาอะไรเหรอ"นุเดินถือแกวน้ํามาบริการคนที่นั่งรอ แสดงอาการเอาใจใสแขกที่อยูเต็มที่

" จะออกมากินน้ําเฉยๆ ขอโทษที่ออกมาขัดจังหวะนะ นึกเสียวาพายเปนวิญญาณแลวกัน"ผมเดินผานไปโดยไมสนใจคนทั้ง


สองที่นั่ง อยู ผมเปดตูเย็นรินน้ําดื่มจนหมดแกวแลวหันหลังเดินกลับเขาหองเดิม

"นั่งคุยกันหนอยสิ"ไมรูวาเปนเพราะหางเหินกันมาหลายวันหรือเปลาถึงทําใหเดาอารมณของมันไมออก

"คําสั่งหรือวาขอรองละ"ผมหยุดยืนใกลๆ ประตูหองนอนแลวหันมาถามหันที่นั่งอยูบนโซฟา

"พูดดีๆ ดวยก็อยากวนกันสิ บอกใหนั่งก็นั่ง"

"ออ....คําสั่ง"ผมยกไหลเบาๆ รับคําสั่งแลวเดินไปนั่งโซฟาเดี่ยวดานขางมัน และไมเงยหนาไปสบตากับนุที่นั่งตรงขามผม

"พี่นพบอกเรื่องไปอยูที่บานหรือยัง"

"ไปอยูรีสอรทนะเหรอ บอกแลว"ผมแกไขคําพูดใหถูกตอง....นั่นไมใชบานผม
".....จะกลับไปเก็บเสื้อผาที่หองหรือวาใหพี่จัดให"

"ไมรูสิ ผมเลือกไดเหรอ"

"พายก็พูดดีๆ หนอยสิ พี่ตั้มเขาถามดีๆ นะ"นุพูดจบผมก็หันหนาไปสบตาตรงๆ นึกไวไมผิด....ไมใชพวกผมจริงๆ ดวย

" พายก็ถามดีๆ ปกติไมมีสิทธิ์เลือกนี่นา ตอนนี้เลยงงๆ กับทางเลือกที่มีให คนมันไมไดมีอิสระมานาน เขาใจหนอยแลวกัน"


ผมกอดอกพูดดวยน้ําเสียงราบเรียบอยางที่ไมคิดวาตัวเอง จะทําได แตระยะหลังทําบอย...จนเริ่มจะชิน

"พาย....."นุครางในลําคอเบาๆ แตไมพูดอะไรตอ

"ชางเถอะนุ คนมันรั้นนะ พูดยังไงก็ไมเคยฟงใครเขาหรอก ดีแตคิดเองเออเอง"

"ถาไมมีอะไรจะสั่งแลวผมขอตัวไปอานหนังสือตอแลวกัน"ผมรีบลุกเดินผานไปทางประตูหองนอนแตคนที่นั่งอยูกลับควา
ขอมือผมเอาไว

"โอย!!"แรงจับที่ขอมือบริเวณแผลทําใหรูสึกเจ็บจนตองสะบัดมือหนี

"อะ...ขอโทษ พี่ไมตั้งใจ แผลเปดหรือเปลา ยื่นมือมาสิ"น้ําเสียงรอนรนกับทาทางที่รีบลุกขึ้นมาไขวควาขอมือผมทําใหแปลก


ใจ

" ไมตอง แคนี้ไมตายหรอก มีเวลาใหคุณเลนกับชีวิตผมไปอีกนาน"ผมสะบัดมือหนีแลวเดินเขาหองนอนปด ประตูแนนหนา


เสียงเคาะเรียกดังรัวจากดานนอกแตผมไมสนใจ เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงมองขอมือตัวเอง ไมมีเลือดซึมก็แสดงวาแผล
ไมเปด ความจริงพี่หนอยบอกวามันแหงสนิทแลว แผลคอนขางหายเร็วเลยไมตองเปนหวง แตสิ่งที่ทําใหตองเขามานั่งมอง
ขอมือตัวเองคืน....สายตา...ของคนดานนอก น้ําเสียงและสีหนาเต็มเปยมไปดวยความรูสึก....รูสึกผิด...เสียใจ.....ขอ โทษ
....ไมนาเชื่อวาจะไดเห็นอารมณเหลานี้จากคนแบบนั้น ไมนาเชื่อวา...ความเจ็บปวดจากบาดแผลนี.้ ...ไมสูญเปลา

ผมนอนอาน หนังสือในหองจนเผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีก็ใกลค่ําแลว พี่หนอยกลับมาดูแผลที่ขอมือให บาดแผลปกติไมมี


เลือดซึมหรืออะไร ความจริงผมก็เจ็บแคนิดเดียว เพียงแครูสึกถึงสัมผัสของฝามือมันผมก็สะบัดออกแลว ถึงชีวิตไมไดเปน
ของผม แตรางกายก็ยังพอจะเชื่อฟงจิตใจผมอยูบาง

ผม นึกเสียดายอยูลึกๆ ที่มันไมมาใหผมเห็นหนากอนจะสอบ ถามันมากอนหนานี้ผมจะไดมีกําลังใจในการอานหนังสือ


เสียดายทีเ่ หลือวันสอบอีกแคสองวัน ถาสอบเสร็จแลวตองไปอยูที่รีสอรทผมก็ไมไดเจอมันนะสิ แตก็ไมแน ผมคิดวาอยาง
มันตองไมปลอยใหผมสบายหรอก ผมเริ่มรูสึกวาโชคดีกําลังเขามาหาตัวเอง อยางนอยวันนี้ตอนสอบผมก็มีสมาธิกวาเดิม
วิชาที่สอบเปนวิชาพื้นฐานที่มีหลายคณะไดเรียน สนามสอบเลยมีปนกันสองคณะทําใหผมกับทิวสอบคนละหอง นุยังคง
ตามมาเฝาผมเหมือนเดิม พี่นัทก็คอยรับสงเหมือนเดิม

วันสอบ วันสุดทายเปนวันที่ผมคอนขางกังวล วิชาที่สอบไมคอยยากเพราะผมอานหนังสือคอนขางหนัก แตเพราะวันเปน


วันสุดทายของการสอบ วันสุดทายที่จะไดพบกับทิวกอนที่จะปดเทอม ผมไมรูวา...ทิวจะทําอะไรไดบาง....ไมรูจริงๆ

"วิชานี้ยากเหรอ ครับ ทําหนาเครียดเชียว"พี่นัทเหลียวมาถามจากหนารถที่จอดสนิทบริเวณลานจอดรถ ใกลๆ ตึกคณะ


เพราะวามาถึงกอนเวลาและผมไมสามารถเดินเตรไปไหนเลยเลือกที่จะนั่งทบทวนบท เรียนอยูในรถ

"ทองจําเสียมากกวานะครับ"ผมปดหนังสือเมื่อมองมองนาฬิกาขอมือที่แสดงเวลาเขาสอบ

" ไดเวลาแลวนี่ ไปกันเถอะพาย"นุรูเวลาเขาสอบของผมอยูแลวเลยเอยขึ้นพรอมกาวลงไปรอขาง รถ ผมเตรียมอุปกรณ


เครื่องเขียนแลวกาวตามออกไป มองไปรอบๆ เห็นนักศึกษาบางตา แต...มีเพียงคนเดียวที่มองตรงมา

"......ทิว"ผมไมรูวาทิวยืนมองจากฝงตรงขามลานจอดรถตั้งแตเมื่อไหร แตคิดวายืนรอใหผมออกมาจากรถแนๆ

"เอายังไงละพาย วิ่งไหวมั้ย เดี๋ยวนุกันไวให"นุมองตามสายตาผมแลวเสนอทางออกมาให ผมกลัวทิวมากไปหรือเปลาถึง


ตองหนีขนาดนี้

"...... เดินไปธรรมดานี่แหละ ทิวคงไมทําอะไรหรอก"ผมเดินจับมือนุไปทางอาคารเรียน รับรูถึงเสียงฝเทาที่กาวตามมาอยาง


กระชั้นชิดจนเดินเสมอกัน

"ทิว อยากอธิบาย พายคุยกับทิวหนอยเถอะนะขอรองละ ถากลัวทิวมาก....เราคุยกันทางโทรศัพทก็ได"น้ําเสียงที่ฟงออกวา


เสียใจและ แฝงคําขอโทษอยูในนั้นทําใหผมตองหยุดยืน

".....ทิว"ผมอยากจะบอกวาไมไดกลัวทิว แต....ผมก็ไมสามารถโกหกออกไปได

"นะ.....ขอรอง....ทิวจะรอพายโทรมานะ....นานแคไหนก็จะรอ"ทิวพูดจบก็เดินนําเขาหองสอบไป นุตบบาเบาๆ แลวดันให


ผมเดินไปเขาหองสอบ

การ สอบวันสุดทายชางสาหัสสําหรับผม การสอบแบบทองจํา แตความจําผมกลับเลือนหายไปหมด มีเพียงเสียงของทิวที่


ดังซ้ําไปซ้ํามา สุดทายแลวผมนั่งจนหมดเวลาแตทําขอสอบไดไมครบทุกขอ ผมเดินออกมาหานุที่นั่งรออยูดา นนอก ไม
จําเปนตองรีบหนีเพราะทิวออกจากหองสอบไปนานแลว
ผมนั่งรถกลับมา ที่คอนโดฯพี่หนอยโดยไมพูดกับใครระหวางทางเลย พี่นัทสงเสร็จก็ขับออกไปโดยไมแวะขึ้นไปบนหอง
ความคิดที่ยังวกวนเพราะคําพูดทิวถูกเบี่ยงเบนไปเพราะคนที่รอในหอง

"เปนไงบางพาย สอบไดมั้ย"พี่หนอยสงยิ้มพลางรองถามดวยความหวงใย

"ก็...นิดหนอยครับ"

" พอดีพี่ตองรีบไปทําธุระที่คลีนิคนะ พายรีบเก็บของเลยนะ จะไดไปกันเลย"พี่นพแกขอของใจที่แสดงออกทางสีหนา ผม


เดินเขาหองนอนพรอนนุ กระเปาเปสองใบเก็บเสื้อผาและขาวของสวนตัวลงอยางรวดเร็ว ผมเดินตามหลังพี่นพกับพี่หนอย
มาที่ลานจอดรถ แลวก็เห็นคนที่คาดอยูแลววาจะเห็นยินพิงรถตัวเองใกลๆ รถพี่นพ ผมเดินตามพี่หนอยแลวเขาไปนั่งเบาะ
หลังโดยไมสนใจรถอีกคัน ปลอยใหเขานั่งคูกันไปคงดีกวา ผมยึดเวลาของนุมานาน ใหไดอยูกันตามลําพังบางก็ดี

"เดี๋ยวแวะกินขาวระหวางทางแลวกัน นะ พี่ไมอยากออกเย็นกวานี้รถมันจะติด"พี่นพมองผานกระจก ผมพยักหนารับคําใน


ลําคอเบาๆ แลวเอนศีรษะพิงกระจก ความจริงก็อยากนั่งรถอีกคันเหมือนกัน เผื่อจะไดเห็นอะไรสนุกๆ แบบวันนั้นอีก...แต
วันนี้เหนื่อยเกินกวาจะควบคุมอารมณตัวเองได การสติแตกตอหนามันไมใชผลดีเทาไหร

รถยนตสองคันที่ขับตามกันจน พนเขตของเมืองหลวง รานอาหารขางทางถูกเลือกเปนสถานที่แวะพักแหงแรก พี่หนอย


แนะนําวารานนี้อรอยและราคาถูก พี่นพก็เลยเลี้ยงรถเขามา ผมเลือกที่ฝงเดียวกับพี่นพพี่หนอย ปลอยใหสองคนนั้นนั่งคู
กันฝงตรงขาม

"กินอะไรสั่งตามสบายเลยนะนุ ไมตองเกรงใจพี่"พี่นพยื่นเมนูใหนุรับไป สวนผมนั่งพิงพนักลูบหยดน้ําจากแลวรอใหคนอื่น


สั่ง

"พายอยากกินอะไรก็สั่งนะ พี่ไมรูวาพายชอบอะไร"พี่หนอยยื่นเมนูมาใหแตผมดันกลับไป

"ผมกินอะไรก็ไดครับ"ผมคงไมคุนชินกับอิสระแลวจริงๆ การคิดวาจะกินอะไรเลยดูยากเกินไป

"ผมเอาผัดผักรวมมิตร"นุสั่งหลังจากที่พี่หนอยพี่นพสั่งไปคนละอยางสองอยาง ผมคงไมรูสึกอะไรถาไมมีเสียงมันดังขึ้น

"ไมใสถั่วลันเตานะครับ"มันพูดจบพนักงานก็เดินไปพรอมรายการอาหารที่สั่งเสร็จเรียบรอย

"พี่ตั้มไมกินถั่วหรอกเหรอไมยักรู"

"เปลา"
"อาว...."

"ถามเพื่อนนุสิ"

"พายเหรอ...พายไมกินเหรอ"

" แพนะ กินแลวจะหายใจไมออก"ผมตอบโดยที่ยังไมละสายตาจากหยดน้ําขางแกว ทําเหมือนกับวามันนาสนใจ แตความ


จริงแลว...ก็นาสนใจกวาการเงยหนาแลวมองเห็นมันจริงๆ นะแหละ

"แหม ไมรูนะเนี่ยวาพีต่ ั้มก็มีมุมออนโยนแบบนี้เหมือนกัน"

" เขาไมเรียกวาออนโยนหรอกนุ เรียกวาฝงใจดีกวา พอดีตอนที่โดนขมขืนนะพายกินเขาไปโดยไมรูเพราะถูกปดตาอยู เกือบ


ตายเลนะ โชคดีที่พี่นพไมอยากใหนองเปนฆาตกรเลยรักษาให โชคดีจริงๆ"

ตอนที่ 45

"แหม ไมรูนะเนี่ยวาพี่ตั้มก็มีมุมออนโยนแบบนี้เหมือนกัน"

"เขา ไมเรียกวาออนโยนหรอกนุ เรียกวาฝงใจดีกวา พอดีตอนที่โดนขมขืนนะพายกินเขาไปโดยไมรูเพราะถูกปดตาอยู เกือบ


ตายเลนะ โชคดีที่พี่นพไมอยากใหนองเปนฆาตกรเลยรักษาให โชคดีจริงๆ"ผมพูดไปแลวก็ยิ้มประชดตัวเองที่ตอกย้ําความ
เจ็บปวดในครั้งนั้น แตมันเจ็บจนชินแลว แบงๆ กันรับไปบางแลวกัน

"พาย!! อยาลามปามพี่นพนะ"ไมแปลกใจเลยที่มันจะตะคอกใสผม

" ลืมไปวาแตะไมได งั้นก็ทานกันไปแลวกันนะครับ ผมไมหิว ขอไปนั่งรอขางนอก”ผมพูดจบก็ลุกเดินออกมาโดยไมสนใจ


เสียงโวยวายของมัน เดินมาจนถึงรถที่จอดไวแตไมมีเกาอี้ใหนั่งรอผมเลยนั่งลงบนขอบฟุตบาท

“เปนบารึไงมานั่งซุกอยูตรงนี้นะ”ผมนั่งไมถึงหนึ่งนาทีมันก็เดินมาหยุดยืนอยูตรงหนา ผมเงยหนาไปมองแลวกมลงตามเดิม

“ลุกไปกินขาว คนอื่นเขารออยู”

“ไมหิว”
“อยาทําตัวเรือ่ งมากไดมั้ย พี่นพพี่หนอยเขาแกกวาพายเกือบสิบปยังไมรูจักเคารพอีก ลุกเร็วๆ”

“ก็บอกวาไมกินไง โอย!!”ผมพูดไดไมเทาไหรมันก็ฉุดมือใหลุกขึ้น แลวดันจับขอมือดานที่พันแผลไวเสียดวยสิ

“อะ! เจ็บเหรอ”มันปลอยมือผมทันที ครั้งที่สองแลวที่เปนแบบนี้ ผมคอนขางแนใจแลววา....แผลนี้มีประโยชนจริงๆ

“เจ็บสิ อยากรูวาเจ็บแคไหนก็ลองกรีดขอมือตัวเองบางแลวกัน”

“ถามดีๆ ก็อยาประชด แผลเปดหรือเปลาเอามือมาดู”

“เปน หมอรึไง”ผมชักมือไปไวดานหลังแลวเดินกลับเขามาในราน ไดยินฝเทามันเดินตามหางๆ บรรยากาศบนโตะเงียบจน


นาอึดอัด คําพูดของผมเมื่อครูคงทําใหรูสึกแยกันไปหมด พี่หนอยสงยิ่มแบบฝนๆ มาใหเมื่อเห็นผมเดินกลับมานั่งขางๆ ผม
รูวาคําพูดผมทํารายจิตใจคนฟง รูดวยวาไมควรพูด แตก็ไมคิดจะเอยคําขอโทษใคร ผมตักทอดมันสงใหพ่หี นอยพี่หนอย
และนุแทนคําที่ไมอยากพูดแลวก็ลงมือทาน อาหารตรงหนา กับบรรยากาศบนโตะที่ดีขึ้นทันตา

ระหวางทางผมผลอยหลับ ไปเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการอานหนังสือสอบมาหลายคืน รูสึกตัวตื่นอีกทีก็มาถึงที่หมาย


ปลายทางเรียบรอย วินาทีแรกที่กาวเทาลงจากรถก็ตองสูดอากาศบริสุทธิ์เขาปอดใหลึกๆ อากาศตอนใกลค่ํารูสึกเย็นสบาย
กําลังพอดี ดานหนามองไปเห็นทิวเขาไกลๆ บานพักหลังใหญดานขางใหบรรยากาศอบอุนดวยการปลูกสรางดวยไมสลับ
กับ ปูนบางสวน บานหลังงามนี้ตั้งอยูบนเนินที่สูงที่สุดบริเวณนี้ก็วาได มองลงไปดานลางมีบานพักหลายขนาดตั้งไลระดับ
ลงไป มองไปไกลๆ ที่ดานซายมีตนไมปลูกเปนแนวยาว คาดวาหลายสิบไร อาณาเขตของรีสอรทกับไรถูกกั้นดวยแนวรั้วสูง
ที่ไมสามารถปนขามไปได งายๆ ทําไดเพียงแคชื่นชมอยูไกลๆ

“สวยจังเลยเนอะพาย อากาศก็ดี เห็นไรองุนแลวอยากไปดูใกลๆ จัง”นุเดินมาพูดกึ่งเพออยูขางๆ ผมพยักหนาตามคําพูดนั้น


อยางไมอาจบายเบี่ยง

“เขาบานกันเถอะเด็กๆ ”พี่นพตะโกนเรียกจากบันไดบานไมกี่ขั้นเพื่อเดินขึ้นไปบนระเบียงไมหนา บาน ผมเดินไปหยิบ


กระเปาเสื้อผาในมือพี่นพมาถือไวเองแลวควาแขนนุแลวเดินตาม เขาไป กลัววาเพื่อนคนนี้จะเผลอเหมอจนเดินพลาดตก
ลงไปขางลาง ถึงไมสูงชันแตตกไปก็คงเจ็บนาดู

“พอดีบานนี้มีหองพักแขกแคสอง หอง นุกับพายนอนดวยกันไดมั้ย”พี่นพพาเดินผานหองรับแขกกับหองเลนมาจนถึง หนา


หองพักหองใหญ ดานในเตียงนอนขนาดใหญตั้งอยูกลางหอง นอกจากนั้นก็มีเฟอรนิเจอรหลายอยาง ดูๆ ไปมันก็คือ
หองพักสําหรับแขกนั่นเอง

“ความจริงพายนอนหองแมก็ไดนะครับ”คําพูดคําทําเอานุหนาเสีย กมหนานิ่งไมสบตาผม
“ไม ใชวาพายไมอยากนอนกับนุนะ แตถานอนหองแมก็จะไดไมตองเปดหองใหนอนไงครับ นุก็ไปนอนดวยกันไง”ผมแกไข
ความเขาใจผิดให นุเงยหนามาสงยิ้มพรอมกุมมือผมแทนการตกลง

“ไมเปนไรหรอก นอนกันหองนี้ละ พี่ใหเด็กทําความสะอาดรอไวแลวดวย จัดของกันไปกอนนะ เดี๋ยวพี่พาไปดูรอบๆ รี


สอรท”พี่นพพูดจบก็เดินจากไปพรอมพี่หนอย ผมปดประตูหองลง พอหันกลับมาก็เห็นนุเดินไปทิ้งตัวนอนแผอยูกลางเตียงสี
ขาวเสียแลว

“ที่ นี่สวยจังเลยเนอะพาย ไมคิดเลยวานุจะไดมาอยูหองสวยๆ แบบนี้”นุคลึงนิ้วกับกานดอกลีลาวดีบนหมอนเบาๆ สีหนาดู


อิ่มเอมมีสุขอยางที่พูดออกมา สถานะทางครอบครัวเราสองคนก็ไมตางกัน ผมยังดีกวานุที่มีแม แตนุไมมีใคร ไมแปลกใจ
หรอกที่จะรูสึกดีใจที่ไดมาเที่ยวที่นี่

“พาย อาบน้ํากอนนะ เดี๋ยวออกไปเดินเลนรอบๆ กัน เมื่อกี้มองไกลๆ เห็นสระวายน้ําดวย”ผมเปดตูเสื้อผาเอากระเปาของ


ตัวเองและนุใสเขาไป หยิบเสื้อผาชุดใหมออกมาแลวเดินเขาหองน้ํา จากที่คิดวาหองนี้สวยแลว หองน้ําเปนอะไรที่ทําให
ตกใจเลยครับ สิ่งแรกที่เห็นคือกระจกบานใหญดานซายมือกับอางลางหนา เยื้องไปดานซายมีชักโครกตั้งอยู ผมเหลียวมอง
หาฝกบัวตั้งนานก็ไมพบ ดานนอกเปนพื้นไมแผนใหญวางเวนระยะหางกันเล็กนอย ริมสุดฝกบัวกลมๆ ขนาดใหญยื่น
ออกมาจากผนังไม สําคัญสุดคือ....ไมมีเพดาน ดานบนเปดโลงมองไปเห็นทองฟา ขางบนผมไมกลัววาใครจะมองเห็น
หรอก อยูสูงแบบนี้แลว แตขางลางนี่สิ ชองวางของพื้นไมไมรูจะมีใครมาแอบสองหรือเปลา ถาใหยืนอาบตรงนี้มีหวังอาบได
ไมสงบแนๆ

“นุๆ”ผมรองเรียกนุใหเดินเขามาในหอง สิ้นคํานุก็วิ่งพรวดเขามาหนาตาตื่น

“อะไรพาย เปนอะไร”

“เปลา ยังไมเปน แตพาย....ไมกลาอาบน้ํานะ”ผมยืนบอกแบบเขินๆ

“ทําไมละ”

“ก็.....มันโลงๆ ยังไงไมรู”

“อืม...โลงจริงดวย แตคงไมมีใครมาปนดูหลอกมั้ง”

“แลว ขางลางละ อาบแบบพะวงแบบนี้คงไมดีมั้ง”ผมชี้ใหนุกมลงมองพื้นไมที่เหยีบอยู นุทรุดตัวนั่งลงกับพื้นแลวกมลงเอา


หนาแนบกับพื้นไม มองลงไประหวางชองวางเล็กๆ
“นุมองไมเห็นอะไรเลย คงมีอะไรปดไวอีกชั้นมั้ง แตถึงไมมีก็มองไมเห็นหรอก พายลองดูสิ”นุพูดจบผมก็ทําตามนุวา ถึงมัน
จะหางพอใหมองเห็น แตกลับมืดสนิทมองไมเห็นอะไร

“ถาพายกลัวก็ปดไฟอาบแลวกัน หองน้ําสวยดีนุชอบ เดี๋ยวนุจะไดอาบตอ”นุเสนอทางแกที่ผมคอนขางเห็นดวยและคิดวา


จะทําตาม

หลังจากผลัดกันอาบน้ําเสร็จเรียบรอยพี่หนอยก็เดินมาตามพวกผมสองคนออกไปหาพี่นพกับมันที่รออยูขางๆ รถกอลฟ
สองคัน

“ยัง ไมหิวกันใชมั้ย เดี่ยวพี่พาชมรีสอรท แตนี่ค่ําแลวคงเขาไรไมได ไวพรุงนี้คอยไปแลวกันนะ”พี่นพสตารทรถคันเล็กโดยมี


พี่หนอยเดินไปนั่ง เคียงคู ผมยืนมองอยางชั่งใจ รถของพี่นพมีที่นั่งแคสองที่ แตอีกคันมีสําหรับสี่ที่ นุเองก็รอใหผมตัดสินใจ
เหมือนกับคนอื่น

“พาย ไปนั่งขางหลังกัน จะไดดูวิว หันหลังลงเนินคงตื่นเตนดีเนอะ”นุจับมือผมไปที่รถอีกคันพรอมดึงใหผมนั่งลง ขางๆ


อยางนอยก็ไมไดนั่งขางมัน ไมไดเห็นหนามัน หันหลังมองวิวแบบนี้ดีกวาเยอะ

“จับดีๆ นะสองคนนั้นนะ อยามัวแตมองเพลิน”พี่หนอยสงเสียงเตือนมาจากรถอีกคันที่เริ่มเคลื่อนตัว ลงไปดานลาง พอมัน


เริ่มสตารทรถผมกับนุก็รีบมาที่จับไวดวยความตื่นเตน การนั่งหันหลังสวนกับทิศทางที่เคลื่อนไปทําใหหวั่นใจแปลกๆ แต
ดวยความชาของรถก็ทําใหความกลัวคลายลง พอรถลงมาสูทางราบดานลางก็เริ่มรูสึกสนุก บานพักหลายหลังที่ผานมามี
ลูกคาหลายคนกําลังทํากิจกรรมอยูลานหนาบาน ชาวตางชาติบางคนก็โบกมือโบกไมให ผมกับนุนึกสนุกเลยโบกตอบ

“ขาง หนามีสนามบาสกับเทนนิส ถาวางๆ จะมาเลนกันก็ได”เสียงพูดดังมาจากคนขับที่นั่งเงียบมาตลอดทาง ความจริงถา


พี่นพขับคันนี้แลวคอยแนะนําสถานที่คงดีกวานี้

“พายบอกวามีสระวายน้ําดวย ไปวายไดมั้ยพี่ตั้ม”นุเอี้ยวตัวไปถามดานหลัง

“ไปได พรุงนี้ถาวางก็หัดขับรถกอลฟนี่แลวกัน จะไปไหนจะไดไปกันเอง”

“แลวพรุงนี้พี่ตั้มไมอยูเหรอ เห็นพี่นพบอกวาจะพาไปไรนี่”

“ก็ไปดูงานในไรนั่นละ ไมรูจะเสร็จตอนไหน”

“นึกวาจะพาเที่ยวซะอีก แตไมเปนไร พรุงนี้เราคอยไปวายน้ํากันเนอะพาย ไมไดวายตั้งนานแลว”

“อืม เอาสิ”ผมพยักหนาตอบชาๆ พรุงนี้มันไมอยูก็ดี ผมจะไดเที่ยวใหมีความสุขหนอย


“แผลเปนไงบาง ใหพี่นพดูรึยัง”

“.............”อันที่จริงผมก็รูนะวามันถามใคร แตไมจําเปนตองตอบนี่

“อะไร แผลเปดเหรอพาย ไมเห็นบอกเลย”นุพยายามควาขอมือผมไปพลิกดูหารองรอย แตก็ไมมีอะไร

“ไม ไดเปนอะไรสักหนอย”ผมดึงมือกลับมาจับราวเหล็กขางๆ ตามเดิม ความจริงถาแผลผมเปดก็คงสนุกพิลึก ไดเห็นสีหนา


แปลกๆ และทาทางกระวนกระวายของมันแลวสะใจดี

“พายยิ้มอะไรนะ”

“เปลานี่ แคอารมณดี”

ตอนที่ 46

เวลาที่คนเราอารมณดีนี่ เห็นอะไรนิดหนอยก็รูสึกดีไปหมดจริงๆ นะครับ ถาผมยังหงุดหงิดก็คงไมรูสึกสนุกเหมือนตอนนี้ พี่


นพขับนําชมรอบๆ รีสอรท บานพักมีอยูประมาณสิบหลังในบริเวณพื้นที่ แตมีหองพักอีกยี่สิบหองที่ตั้งหางออกไปโดยหัน
หนาไปทางไร สระวายน้ําที่ผมมองเห็นอยูไมหางจากตัวตึกมากนัก คงสําหรับใหนักทองเที่ยวลงมาใชได พวกเราเดินเขามา
ในสวนอาหารดานขางที่ตกแตงอยางรมรื่นกลมกลืนกับธรรมชาติ

“พรุงนี้ตื่นแลวพี่จะพาเขาไปเก็บองุนกันนะ สองคนนี้ดื่มไวนไดมั้ย”พี่นพถามขึ้นระหวางที่ผมนุและพี่หนอยนั่งทานไอศครีม
เชอเบทรสองุนอยางเอร็ดอรอย

“ผมดื่มไดครับ”นุเงยหนาจะถวยไอศครีมมาตอบพี่นพ

“พายดื่มไมเปนครับ ไมอยากดื่มดวย”ประสบการณลาสุดที่มีแอลกอฮอลมาเกี่ยวของไมนาจดจําสักเทาไหร

“พายไมดื่มก็ไมเปนไร ดื่มน้ําองุนแทนก็ไดอรอยเหมือนกัน ไวตอนเย็นเราจักปารตี้เล็กๆ กันดีกวา”

“ดีสิ หนอยอยากทําบารบีคิว”พี่หนอยทานไอศครีมหมดถวยแลวก็นั่งพิงพนักเอนไปทางพี่นพเล็กนอยแตดูไมนาเกลียด

“เอาสิ เดี๋ยวบอกใหแมบานเขาเตรียมของไวใหหรือวาอยากทําเอง”
“ทําเองดีกวา สนุกกวา มีลูกมือตั้งสองคน ไมเหนื่อยหรอก”พี่หนอยพูดพรอมเหลมองมาทางผมกับนุ เราสองคนแกลงหัน
หนาหนีโดยไมไดนัดหมาย พี่นพเลยหลุดหัวเราะออกมา ทําเอาพี่หนอยงอนไปเลย

“แลวพี่นพทําธุระเสร็จแลวเหรอครับ”ผมนึกขึ้นไดเลยถาม เพราะตอนมาก็เรงผม พอมาถึงไมเห็นปลีกตัวไปทําธุระเลย

“มาเซ็นตเบิกเงินเดือนพนักงานนะ เสร็จตั้งแตเราสองคนอาบน้ํากันอยูนั่นละ”พี่นพตอบมาผมก็พยักหนารับ ไมไดจะจับผิด


อะไร แคถามเฉยๆ
หลังจากทานอาหารกันเสร็จ ขากลับคนขับรถสองคันสลับกัน มันแยกออกไปคนเดียว และไปในทิศทางที่ไมไดเยี่ยมชมใน
ตอนขามา

“พี่ตั้มไมไดนอนบานนี้เหรอครับพี่นพ”นุเปนคนถามหลังจากที่เรากลับมานั่งอยูในหองนั่งเลน

“ตั้มเขามีเรือนเล็กอีกหลังนะ”คําตอบของพี่นพทําใหผมนึกยอนถึงคราวกอนที่ถูกจับมาไวที่นี่ เรือนเล็กที่วานั้นคงเปน
สถานที่ที่เปนจุดเริ่มของเรื่องราวระหวางผมกับมันสินะ ดีแลวที่ผมไมไดเฉียดใกลไปแถวนั้น ไมงั้นถาคนอื่นเผลอเมื่อไหรผม
คงไดแอบออกไปจุดไฟเผาทิ้งแนๆ

รุงเชาหลังจากตื่นขึ้นมาเดินออกกําลังกายกับพี่หนอยเราก็กลับมาเตรียมพรอมเขาไร ฟาใสๆ ไมทําใหรูสึกรอนอบอาว


อากาศเย็นๆ ปนไอหมอกยามเชายังความสดชื่นใหไดตลอดวัน รถกอลฟสองคันมุงหนาสูพื้นที่ไรองุนดานขาง พื้นที่
ดานหนาเปนรานขายของฝากแลกรานอาหารเล็กๆ สําหรับนักทองเที่ยว ผมคอนขางตื่นเตนที่จะไดเห็นลูกองุนที่ยังอยูบน
ตน และรสชาติคงหวานอรอยถาไดเก็บกินสดๆ

“พอดีทางแล็บบอกวายังเก็บกินไมได คงตองรอสักสามสี่วันใหสารเคมีเจือจางลงไปกอน”คําบอกเลาของมันทําให
ความหวังของผมพังลงพริบตา

“งั้นเหรอ ไมเปนไรๆ กินแตน้ําองุนก็ได เดี๋ยวเดินดูเรื่อยๆ แลวเราไปทานขาวกันดีกวา สายมากแลว”พี่นพยิ้มเชิงขอโทษที่


ทําใหผมกับนุผิดหวัง แตไมเปนไร ทาทางผมจะไดอยูที่นี่อีกหลายวัน สวนนุ...ผมไมแนใจ

รานอาหารเล็กๆ คอนขางโลงเพราะวันนี้ไมมีคณะทัวรมาลง พี่นพเลาเรื่องไรใหฟงคราวๆ วาลูกทัวรสวนใหญจะมาชวงที่


เก็บองุนกินไดเทานั้น ที่นี่คอนขางระมัดระวังเรื่องสารเคมีตกคางเปนพิเศษ ทางแล็บจากตองมาเก็บผลไปวิเคราะหในหอง
แล็บเพื่อใหฝายการตลาดกําหนดวันเวลาในการเขาชมไดถูกตอง ไรองุนแบงเปนสองสวน ดานหนาจะเปนพันธุองุนสําหรับ
กินสดๆ ดานหลังจะเปนพันธุองุนสําหรับทําไวน ทั้งสองสวนถูกแบงโดยหองแล็บสีขาว โรงงานสําหรับผลิตไวนและอาหาร
แปรรูปอยางอื่นจะอยูหางออกไปหลายกิโลเมตร
หลังจากกลับมาถึงบานพัก พี่หนอยชวนพวกเราออกไปซื้อของสําหรับตอนเย็น แตผมปลอยใหนุไปคนเดียวเพราะอยาก
พักผอนมากกวา ถึงไปดวยผมก็ชวยถืออะไรมากไมไดอยูดี บานหลังงามบนเนินเล็กๆ ดูเงียบและวังเวงถนัดตาเมื่อทุกคน
ออกไป พี่นพชวนผมใหไปที่คลินิกดวยกันแตผมปฏิเสธโดยไมตองบอกเหตุผลก็นาจะเดาได

“นั่งทําอะไรคนเดียว”เสียงเรียกจากดานหลังทําใหสะดุงจากความคิดที่หลุดลอย

“..............”ผมหันมามองคนที่กลับมาหลังจากแยกออกไปทํางานในแล็บ

“กินขาวรึยัง”มันเดินมานั่งบนโซฟาตัวยาวตัวเดียวกับผมแตคนละมุม และเวนระยะหางใหผมชั่งใจวาควรจะลุกหรือทนนั่ง
ตอไป

“ไปทําอะไรมาใหกินหนอยไป ขี้เกียจไปโรงครัว”โรงครัวที่มันพูดคงหมายถึงครัวสําหรับพนักงาน

“อาหารเมื่อเชายังเหลือ ไปมากินเองสิ”เมื่อเชามีแมบานมาทําอาหารไวโดยที่พี่นพไมไดบอกกอนวาจะเขาไร สุดทาย


อาหารก็เลยมีแคพี่นพกินคนเดียว

“ก็ไปอุนแลวยกมาสิ ตมมามามาก็ได เร็วๆ อยาเรื่องมาก”มันพูดจบผมก็ลุกโดยไมรอใหพูดซ้ํา ขี้เกียจนั่งพูดกับมัน สูไปทํา


มาแลวจบๆ ไปดีกวา

อาหารเมื่อเชามีพวกไสกรอก เบคอน ไขดาวกับขนมปง ผมกะจะทําตามที่มันบอกคือตมมามา แตหามามาไมเจอสักซอง


สุดทายเลยตองทําขาวผัดงายๆ ที่เอาอาหารเชามาผัดรวมไป

“พี่นพไปคลินิกเหรอ”หลังจากอาหารวางลงตรงหนามันก็ใชคําถามรั้งใหผมยังยืนอยูขางโซฟา

“อืม พี่หนอยกับนุไปตลาด”ผมตอบเกินคําถามเพื่อที่จะไดไมถามอีก

“แลวอยูทําไมคนเดียว ไมออกไปเลนขางนอก รถกอลฟก็จอดอยู”มันคงเห็นรถกอลฟที่พี่นพจอดไวโดยไมขับไป และเลือก


ปนจักรยานไปแทน

“..............”เปนคนถามที่ไมอยากตอบ

“หรือวาขับไมเปน”ถาผมฟงไมผิด น้ําเสียงมันคอนไปทางเยาะเยยมากกวาคาดเดาเฉยๆ

“ไมอยากไปไหน อยากอยูเฉยๆ คนเดียวเงียบๆ”


“แสดงวาขับไมเปนจริงๆ เดี๋ยวสอนให งายกวามอเตอรไซคอีก”มันคงไมรูวาผมขี่เปนแตจักรยาน

“ไมตอง จะไปไหนก็ไปเถอะ ผมจะไปนอนตอ”

“อยาเรื่องมาก บอกวาจะสอนก็สอน ตองอยูนี่อีกนาน ไปไหนจะไดไมตองรอคนอื่นพาไป”

“ตองอยูนานแคไหน”

“เปดเทอม”มันพูดโตตอบกับผมโดยลงมือกินขาวในงานเรื่อยๆ จนเกือบหมดดวยความรวดเร็ว

“แลวเมื่อไหรแมผมจะกลับมา”ผมไมสนใจวาคนฟงจะรําคาญกับคําถามที่ถามซ้ําๆ แตในเมื่อไมไดคําตอบที่ชัดเจนผมก็
ยังคงถามเรื่อยๆ

“เร็วๆ นี้ละ พี่บอกไปแลววาพายมาอยูที่นี่ เดี๋ยวก็คงกลับมา”

“.....................”เปนคําตอบที่สรางความพอใจใหผมไดบางเล็กนอย อยางนอยแมก็รูแลววาผมรอ และแมคงใหผมรอไม


นาน

“เปดแผลใหดูหนอย”

“ทําไม อยากเห็นเหรอวารอยยาวขนาดไหน ไมตองหวง ยังไงก็เหลือรอยใหเห็นตลอดชีวิตแนๆ”ผมเอามือกุมรอบ


ผาพันแผลเอาไว อีกไมนานก็เปดออกได เปดออกมาใหทุกคนไดเห็นวา....ผมเคยทําเรื่องโงเงากับรางกายตัวเองแคไหน

“เมื่อไหรจะเลิกอวดดีสักทีพาย กับพี่นะไมเทาไหร แตอยาไปพาลใสคนอื่นที่เขาหวังดีดวย หัดฟงคนรอบขางบางก็ดีนะ”

“คนรอบขาง...ใครละ รอบขางผมนะเหรอ ก็มีแตพวกของคุณไมใชหรือไง จะใหฟงทําไมในเมื่อไมใชพวกผมสักคน”

“ประสาทหรือไง ไมมีพวกใครทั้งนั้นละ คิดอะไรเปนเด็กๆ ไปได”

“ทําไมจะไมใช ในเมื่อพี่นพพี่หนอยแลวก็นุเขาขางคุณ เปนพวกเดียวกับคุณ”ในตอนนี้ที่ผมเห็นและรูสึก ผมไมสามารถ


พูดคุยกับใครไดสนิทใจ ไมมีเพื่อน....มีแตคนรอบตัว

“พี่นพเปนพี่ชายพี่ แตเปนกลางพอที่จะไมเขาขางคนที่ผิดเหมือนๆ กับพี่หนอย สวนนุ...เขาเปนเพื่อนพาย”


“ใช เพื่อนของผม เพื่อนรักที่หลงคุณจนยอมทําตามที่คุณสั่งทุกอยาง อยูขางผมเพราะคุณสั่งใหเฝาดู จะหลอกอะไรนุอีกละ
นุถึงยอมทุกอยาง”

“ถาไมตองการใหนุอยูที่นี่พี่จะสงนุกลับพรุงนี้ วาไง เอาตามนี้ดีมั้ย อยูคนเดียวในถิ่นของศัตรูที่ตัวเองเกลียด ไมตองมีคนที่


คอยพูดคอยหยอกลอดวยได มีแตหมอกับจิตแพทยที่คอยเฝาดูเพื่อรักษารางกายกับจิตใจที่ฟุงซาน วาไงละ จะเอายังไง ให
ทําแบบไหนดีพายถึงจะสงบลงบาง ทําแบบไหนถึงจะเลิกพาลใสคนอื่น ทําแบบไหนดี”

“..........ถาไมใหลงกับคนอื่น....แสดงวาลงกับคุณไดงั้นสิ”

ตอนที่ 47

“ถาไมตองการใหนุอยูที่นี่พี่จะสงนุกลับพรุงนี้ วาไง เอาตามนี้ดีมั้ย อยูคนเดียวในถิ่นของศัตรูที่ตัวเองเกลียด ไมตองมีคนที่


คอยพูดคอยหยอกลอดวยได มีแตหมอกับจิตแพทยที่คอยเฝาดูเพื่อรักษารางกายกับจิตใจที่ฟุงซาน วาไงละ จะเอายังไง ให
ทําแบบไหนดีพายถึงจะสงบลงบาง ทําแบบไหนถึงจะเลิกพาลใสคนอื่น ทําแบบไหนดี”

“..........ถาไมใหลงกับคนอื่น....แสดงวาลงกับคุณไดงั้นสิ”

*************************************

"......ตามสบาย"คําตอบรับงายๆ เหมือนไมสนใจวาผมตองการอะไร ไมใสใจอะไร อาการและทาทางแบบนี้ยิ่งทําใหผม


โมโห

"หมายความวาไง ใหผมทําอะไรก็ไดงั้นเหรอ"

"มีปญญาทําอะไรก็ทําสิ เคยหามไดดวยเหรอ"

"งั้นตอไปนี้อยามาใหผมเห็นหนาอีก"

"ไม พี่บอกใหพายทํา ไมใชวาพี่ตองทํา"มันเงยหนามาอธิบายผมครูเดียวแลวก็หยิบแกวน้ํายกขึ้นดื่ม

" ออ....ที่แทก็หมายความวาอยางนี้นี่เอง งั้น....."เพียงแคคิดอยากทาทายกับทาทางนิ่งเฉยของมัน ผมควาจานขาวอยูปา


ออกไปที่หนาตางที่หลังโซฟา จานกระเบื้องปะทะกับกระจกบานใหญที่เปดแงมไวแตกกระจาย
"ทําบาอะไรพาย!! นี่มันบานพี่นพนะ ทําอะไรหัดเกรงใจคนอื่นบาง"มันลุกขึ้นมาประจันหนากับผม ผมเองก็ไมหนีเหมือนกัน

"ก็คุณบอกเองนี่วาทําอะไรก็ได"

"ถาอยากพังขาวของก็ไปพังที่บานพี่โนน ไมใชมาอาละวาดทีบ่ านหลังนี"้

" บานที่คุณทําเรื่องชั่วๆ ไวกับผมนะเหรอ จางใหก็ไมคิดจะไปเหยียบหรอก แตระวังไวหนอยกดีนะ เผื่อบางทีผมอาจเผลอ


ทําไฟไหมขึ้นมาก็ได"

" ออ...อยากทําอยางนี้นี่เอง เอาสิ อยากทําอะไรก็ทํา เดี๋ยวพาไปตอนนี้เลยแลวกันจะไดไมเผาผิดหลัง"มันพูดจบก็ควา


ขอศอกผมแลว ลากออกไปนอกบาน ดันผมใหนั่งขางๆ บนรถกอลฟ สะบัดเทาไหรก็ไมหลุด ยิ่งดิ้นมากก็ยิ่งเปนจุดเดนให
แขกที่มาพักเหลียวมองกันตลอดทาง สุดทายเลยตองกมหนานั่งนิ่งๆ จนมันขับมาทางที่ไมคุนเคย ทางแยกเล็กๆ ที่ไมได
ลาดปูนทางซายมือแสดงวาสถานทีท่ ี่กําลังเลี้ยวไปไมใชเสนทางที่ คนทั่วไปเขามาบอยนัก ตนไมใหญหลายตนปดบังดาน
นอกและดานในจนยากที่มองเขามาเห็นไดชัด แตก็สามารถมองเห็นบานหลังเล็กๆ ที่ชิดริมรั้วได บานที่อยูตรงหนาไมตาง
จากบานพักที่ผานมา เพียงแตมีขนาดใหญกวานิดหนอยและมีสวนหยอมรอบๆ ที่แสดงความแตกตาง

"ผมจะกลับ"ทันทีที่มันปลอยมือผม มันก็เดินลงไปไมสนใจผมที่นั่งอยู

"อาว ไมเขามาเผาบานกอนรึไง"

"....."

"จะลงมาดีๆ หรือใหอุมมา"มันหันมาพูดพรางไขกุญแจบานที่ยกพื้นสูงสามสี่ขั้น

"พามาทําไม ผมไมเขาไปหรอกนะ"ผมยังคงปกหลักอยูบ นรถอยางเหนียวแนน ใหตายก็ไมกลับเขาไปเหยียบอีกหรอก

".....ไมใชหลังที่คิดหรอกนะ"เหมือนมันจะเดาออกวาทําไมผมไมลงไป

"ผมจะกลับแลว เดี๋ยวพี่หนอยกลับมาไมเจอจะเปนหวง"

"รูดวยหรือไงวาทําใหคนอื่นหวง......ลงมาเร็วๆ มีเรื่องจะคุยดวย"มันเองก็ยืนปกหลักหนาประตูไมเชนเดียวกับผมที่นั่งอยูที่
เดิม

"คุยอะไร คุยก็ตรงนี้ก็ได หางจากหลังอื่นตั้งเยอะ ไมมีใครไดยินหรอก"


"เรื่องมากจริง บอกใหลงดีๆ ไมชอบ"มันพูดจบก็ปราดเขามาจนเกือบถึงตัวแลวทําทาจะอุมผมลงจากรถ

" เฮย! ไมตองๆ เดินเองได ปลอย"ผมรีบโวยวายแลวถอยไปลงรถอีกฝง ปลอยใหมันเดินนําเขาบานแลวถึงไดเดินเขาไปดาน


ในโดยจไมปดประตูเพื่อ ความปลอดภัย

"มีอะไรจะคุยก็รีบคุย ผมไมอยากอยูกับคุณนานนักหรอก"ผมยืนนิ่งกลางหองโถง สวนมันนั่งบนโซฟา

"ทําไม กลัวอะไร ไมจับปล้ําหรอกนะ"

"จะคุยก็รีบคุย!!"

"สัปดาหหนา.....อั๋นจะพาแพรมาที่นี่"

"..... มาที่น.ี่ ....แพร...อยากคุยกับผมเหรอ"คําพูดมันทําใหนิ่งไป ไมคิดวาจะเปนเรื่องนี้ ไมคิดวาแพร...จะยังอยากพบกับผม


อยู ในเมื่อผมเปนตนเหตุใหเธอพบกับเรื่องเลวรายแบบนั้น

"อืม เห็นวามีเรื่องอยากคุยดวยนะ แตชวงนี้ยุงๆ กันอยู ไดขาววาจะหมั้นกับไออั๋นกอนกลับไปเรียนอเมริกา"

".... หมั้น.........ดีจัง"จะแกลงทําเปนไมรูสึกอะไรก็คงไมได ยอมรับวาเมื่อไดยินคําวาหมั้น ในอกมันก็รูสึกวูบไหวแปลกๆ ไม


ถึงขั้นเสียใจ แตก.็ ..พูดไมไดวาดีใจ อยางนอย.....เธอ...ก็กําลังจะมีความสุข

"แลวจะเอาไง อยากเจอไมอยากเจอ ถาไมจะไดบอกใหมันไมตองพามา"

"......อยากสิ จะมาวันไหนก็บอกผมลวงหนาดวยแลวกัน"ผมพูดจบก็เห็นมันหยิบโทรศัพทในกระเปากางเกงขึ้นมารับ

"........ ครับ.......ใช อยูกับผม.........ไมมีอะไรหรอกพี่หนอย ก็เหมือนเดิมนั่นละ..........อยาบอกพี่นพละ แลวเดี๋ยวเย็นๆ จะ


เอาไอติมไปใหกิน....ลอเลนนา แคนี้นะพี่ เดี๋ยวจะสงกลับแลวครับ"มันเก็บโทรศัพทใสกระเปากางเกงเสร็จก็ลุกเดิน เขาไป
ในตรงขาม สักพักก็เดินออกมาแลวก็เดินผานหนาผมไป ผมตองลุกแลวเดินตามเจาของบาน ยืนรออยูขางรถจนเจาของ
บานล็อคประตูเสร็จถึงไดหันมา

“ขยับไปนั่งฝงนั้น”มันเดินมาฝงที่ผมนั่งอยูแลวไลผมไปนั่งเบาะคนขับ

“ผมขับไมเปนนะ”
“ก็ จะสอนนี่ไง เสียบกุญแจตรงหนา บิดไปทางขวาครั้งแรกคือปลดล็อคลอ บิดไปอีกครั้งคือสตารทเครื่อง ดานนี้คือคันเรง
นี่เบรค อยาจําสลับกัน ถาจะถอยหลังใหดันตรงปุมนี้แลวเหยียบคันเรงตามปกติ เขาใจมั้ย”

“ไม”พูดโดยไมลังเลเลย อะไรที่มันพูดมาไมไดเขาหัวผมเลยสักนิด

“ลองขับดู แคเหยียบๆ มันก็ไปแลว งายกวาจักรยานอีก เหยียบแรงเทาไหรมันก็ไมเร็ว ไมตองกลัวรถลม ลองดู เร็วๆ จะไป


ทํางานตอละ”

“..... อะ!.......”ผมลองเหยียบคันเรงแตคงแรงไปรถแลวพุงไดดานหนาจนตองรีบเห ยียบเบรคแลวรถก็กระตุก ผมหันไปมอง


มันแตไมเห็นมันพูดอะไรเลยลองทําซ้ําอีกครั้ง คะเนน้ําหนักการวางเทาแลวเหยียบเบาๆ รถคอยๆ เคลื่อนไปชาๆ ผมลอง
หมุนพวงมาลัยซายขวาวนไปรอบๆ อยางตื่นเตน

“ลองถอยหลังดู”มันพูดจบผมก็ลองทําตามทันที

“........งายแฮะ”

“ตอน ขึ้นเนินที่บานใหญก็เหยียบแรงๆ หนอย แตอยาแรงมากเดี๋ยวขึ้นไปแลวเบรคไมอยู นี่กุญแจสํารองบานนี้ เผื่ออยาก


แวะมาจุดไฟตอนไหนก็มาแลวกัน”กุญแจสีเงินดอกเล็กๆ ถูกยัดใสมือแลวมันก็กระโดดลงจากรถที่เคลื่อนชาๆ โดยไมรอให
ผมจอด

“ไมเอา!”ผมเหยียบเบรคแลวชูกุญแจขึ้นมาเตรียมขวางทิ้ง

“ไม เอาก็โยนทิ้งไป แลวรีบกลับไปไดแลว พี่หนอยรออยู”มันพูดจบก็เดินไปทางขางบาน ฝงตรงขามกับรั้วอยูใกลหองแล็


บนิดเดียว คิดวามันคงกลับไปทํางานตอในนั้น ผมมองกุญแจในมือแลวก็เก็บใสกระเปากางเกงไวคืนพี่นพที่บานดีกวา

กอน ที่ผมจะขับรถกอลฟกลับบาน ผมก็ขับเลนรอบๆ รีสอรทดวยความเพลิดเพลิน ชวงที่ขับขึ้นเนินคอนขางหวาดเสียว


เพราะกลัวรถไหล พอผมกลั้นใจเหยียบใหเร็วๆ ชึ้นก็เกือบพุงชนรถอีกคันที่จอดอยู ผมจอดรถสนิทก็เดินกลับเขาบาน มอง
ไปที่กระจกที่แตกแตไมมีเศษอาหารตกอยู คงมีคนทําความสะอาดไปแลว พี่หนอยกับนุกําลังเตรียมอาหารกันอยูในครัว

“พาย! เปนอะไรมั้ย”นุรีบเขามาถามผมทันทีที่เห็นหนาผม พลิกตัวผมใหหมุนจนวุนวายไปหมด

“ไม เปนไรๆ พายไปขับรถเลนรอบๆ รีสอรทมาดวยละนุ ตอนนี้ขับรถกอลฟเปนแลวนะ อยากไปไหนบอกมาเลยเดี๋ยวพาไป”


ผมรีบอวดเรื่องที่เพิ่งทํามาใหนุฟงดวยน้ํา เสียงตื่นเตนเต็มที่

“โห มาอวดกันดวย อยากขับเปนมั่ง สอนหนอยสิ”


“ไดๆ แลวนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลย”

“ตอนแรกอยากทําบารบีคิวอยางเดียว แตพี่หนอยนะสิอยากกินสุกี้ดวย ไมเห็นจะเขากันเลย”

“วาแตพี่นะเรานะ นุก็ยังบอกอยากกินสลัดเลย”

“แหะ แหะ ก็...เห็นผักมันสดดีนี่นา”

“สลัด ไวกินพรุงนี้เชาดีกวามั้ง ตอนเย็นอากาศคงเย็นลง สุกี้นาจะเหมาะกวา”ผมเสนอทางออกที่ทั้งสองคนเห็นดวยให เรา


ชวยกันเตรียมของสดสําหรับอาหารสองอยางจนเสร็จแลวแยกยายกันไปอาบน้ํา พี่นพกลับมาถึงก็ถูกพี่หนอยโยนหนาที่
เสียบบารบีคิวใหทันที เมื่อของทุกอยาเสร็จเรียบรอยเราสี่คนก็ตั้งโตะนั่งทานกันที่สนามเล็กๆ หนาบานโดยไมรออีกคนที่ยัง
ไมกลับมา

หลังจากเริ่มทานกันไปสัก พักอีกคนก็กลับมาพรอมไวนและน้ําองุนอยางละสองขวด แถมดวยไอศครีมถวยใหญสองถวย


บทสนทนาสวนใหญมีพี่นพและพี่หนอยผูกขาดโดยมีคนที่เหลือคอยเสริม ซึ่งสวนใหญจะเปนการหยอกลอกันเรื่องแตงงาน
พี่หนอยยังไมสามารถลาออกมาอยูกับพี่นพที่นี่ได ตองรออีกสองเดือน พี่นพคงตองเฝาเรือนหอคนเดียว การแตงงานของ
ทั้งคูและขาวการหมั้นของนองแพรทําใหผมอารมณดีมากๆ ไมวาจะเปนเพราะเหตุใดที่นองแพรอยากพบผม...ผม...ก็อยาก
คุยกับเธอเหมือน กัน

ไวนสองขวดไมไดทําใหนักดื่มสามคนนั้นเมาไดเลย ผมที่นั่งดื่มน้ําองุนคนเดียวกลับรูสึกงวงจนขอตัวมานอนกอนใคร ได


ยินเสียงหัวเราะสนุกสนานดังรอดเขามาถึงในหอง บรรยากาศแหงความสุขที่ไมไดคุนเคยมานาน หวังวา....ผมจะไดอยูใน
บรรยากาศแบบนี้บางสักวัน

สัมผัสแผวเบา ขางแกมทําใหรูสึกรําคาญเมื่อมีสิ่งกวนใจขณะนอนหลับ ฝามือลูบไลเบาๆ ตามโครงหนาพรอมความ


อบอุนนุมนวลบริเวณหนาผากและขางแกมทําใหสะดุงสุด ตัวเมื่อรูสึกวามีใครบางคนกําลังสัมผัสผมอยู ทันทีที่ลืมตาก็ตอง
อาปากคางแลวโถมเขาใสเจาของฝามืออบอุนนั้นเต็ม แรง

“แม!!!!”

“ไงหนุมนอยขี้เซา นอนกินบานกินเมืองเชียวนะเรา”แมปดผมที่ปรกหนาออกแลวประคองหนาผมไวดวยฝามือเล็กๆ ทั้งสอง


ขาง

“...แม.....แม.....คิดถึงจังเลย”
“อะไรกัน ตื่นมาก็รองไห ฝนรายเหรอลูก”

“อืม...ฝนรายมากๆ แตตอนนี.้ ..ตื่นแลว”

ตอนที่ 48

“อืม...ฝนรายมากๆ แตตอนนี.้ ..ตื่นแลว”ผมโถมกอดแมแนนเสียจนลืมนึกวาแมจะอึดอัดหรือไม น้ําตาที่ไหลครั้งนี้ไมไดเกิด


จากความเสียใจเหมือนหลายครั้งที่ผานมา ผมรูสึกดีใจ....ปลอดภัย...ความรูสึกตางๆ มันมากมายจนบรรยายออกมาไมได
รูสึกเหมือนไดพบของรักที่เราหวงแหน หรือ...ไดพบเจาของที่หางเหินกันมานาน

“ขี้แงเปนเด็กๆ ไปไดนะเรา ดูเพื่อนเรานั่งหัวเราะใหญแลว”แมหัวเราะทันทีที่ผมเงยหนาจากบาเล็กๆ ของแม หนาตาของ


ผมตอนนี้คงดูไมไดเลย

“คุณนานั่งคุยกับพายแลวกันนะครับ”นุพูดยิ้มๆ แลวก็ลุกออกไป ปลอยใหผมกับแมอยูในหองตามลําพัง

“ไปอาบน้ําแตงตัวไดแลวไป แมจะพาไปใสบาตรที่ตลาด”แมพยายามดึงผมใหลุกจากที่นอน แมนะผอมกวาผมตั้งเยอะ จะ


ไปมีแรงดึงไดยังไง ผมแกลงทําตัวแข็งๆ ยื้อไปยื้อมาแลวก็ลุกไปอาบน้ําตามคําสั่ง

พออาบน้ําเสร็จก็เห็นนุกลับมานั่งรออาบน้ําตอในหองอยูแลว ผมเดินออกจากหองตามเสียงพูดคุยที่ดังอยูในหองนั่งเลน
ผมหยุดยืนหนาประตูเพราะมีคนอื่นที่ผมไมรูจักอยูดวย

“อาบเสร็จแลวเหรอลูก มานั่งนี่มา เขามาไหวปาภาดวย”แมกวักมือเรียก ผมเดินไปนั่งขางๆ แม ผูหญิงที่นั่งขางๆ พี่นพดู


สวยสงา ถึงจะอยูในเสื้อยืดทําธรรมดาแตก็ดูดี ใบหนายิ้มแยมออนโยน พี่นพมีใบหนาคลายปาภาอยูมากเหมือนกัน

“นี่เหรอลูกเธอ หนาตานารักนาเอ็นดูดีนี่”

“สวัสดีครับ”ผมยกมือไหวแลวสอดมือคลองแขนแมเอาไวหลวมๆ

“นี่ละคะคุณ เมื่อครูไปปลุกในหองก็ตนื่ มารองไหจาเหมือนตอนเด็กๆ ไมมีผิด ขี้แงเหมือนใครก็ไมรู”

“แมก.็ ..”ผมกระชับแขนแนนขึ้น

“ไหนมานั่งใกลๆ ปาซิ ขอดูหนาชัดๆ หนอย แกแลวหูตามันฝาฟาง มองไมชัด”


“ผมไปหยิบแวนใหดีมั้ยครับ”พี่นพนั่งอยูขางโซฟาอีกตัวทําทาจะลุกไปอยางที่พูด

“ไมตองๆ มานี่สิเรา มานั่งใกลๆ นี่”ปาภาตบเบาะนั่งขางๆ อีกรอบเปนการย้ํา แมพยายามดันหลังใหผมเดินไปเร็วๆ ผมไป


นั่งเวนระยะหางพอสมควร แตปาภากลับจับมือผมแลวดึงไปนั่งใกลๆ ปดไรผมดานหนาออก มองหนาผมแลวก็ยิ้ม

“หนาตาซื่อๆ แบบนี้นี่เองเจาตั้มถึงติดใจนัก”พอไดยินชื่อมันออกจากปากผูหญิงตรงหนา ผมก็ยิ่งอึดอัด

“แมครับ”พี่นพสงเสียงทวงปาภาเบาๆ

“อะไรละตานพ ก็แมพูดจริงนี่ บานชองไมยอมกลับ แถมยังซื้อคอนโดใหมอีก งานการทางนี้ก็เยอะแยะ กลับมาบานทีไรก็


ตรวจงานแลวกลับ ไมคางมาหลายเดือนแลว”ปาภาหันไปพูดกับพี่นพแตก็ยังไมปลอยมือจากหนาผม

“นองก็ทํางานที่นั่นเหมือนกันนี่ครับ แลวทางนั้นก็...ยุงๆ อยูดวย”

“มันนะจอมสรางเรื่อง ดูซิทําลูกนาพิมพเจ็บตัวไปหมด แผลใกลหายแลวใชมั้ยหนู”ปาภาเลื่อนมาจับที่ผาพันแผลเบาๆ ผม


รีบเอาอีกขางมาปดไวแลวเหลียวไปมองแมที่สงยิ้มมาปลอบใจให

“อะ....ครับ เออ...ไมเปนอะไรแลว”

“เธอก็แปลกคนพิมพ ลูกเจ็บขนาดนี้ไมคิดเอาเรื่องตัวการบางเลยหรือไง”

“โธคุณ...พูดอะไรแบบนั้น แคนี้เขาก็รูสึกผิดแลว ใชมั้ยลูก”

“เออ...ครับแม”ผมตอบไปแบบไมมั่นใจ ผมรูวาอีกฝายรูสึกผิดกับบาดแผลครั้งนี้ แต...ทําไมแมรู

“ตอไปนี้มาอยูกับปาก็ไมตองกลัวใครนะ เจานั่นนะมันพวกปากหนักมือหนักมาแตไหนแตไร แตเห็นมันเปนอยางนี้ปาก็เพิ่ง


รูนี่แหละวาลูกปาขี้หึงถึงขนาดนี้ ตานพก็เหมือนกัน นองทําผิดแลวชวยกันปกปดให ใชไมไดเลยจริงๆ หนูอยากใหปาทํา
โทษสองคนนี้มั้ย”ปาภาพูดยาวเหยียดจนผมเกือบฟงไมทัน

“เออ....”ผมยังคงเบลอๆ เพราะเพิ่งตื่นนอน แตคําถามของปาภา ผม...ไมรูจะตองตอบอะไร

“งั้นเดี๋ยวปาใหนพเลื่อนงานแตงออกไปสักหนอยดีกวา ถือเปนการลงโทษ สวนเจาตั้มก็...ยึดทรัพยทงั้ หมดเลยเปนไง ดีมั้ย


หนู”

“แม!! เรื่องอะไรมาเลื่อนงานผมละครับ”พี่นพสะดุงจนแทบจะลุกขึ้นยืน
“ก็ทําโทษไง โตแลวใหตีเหมือนตอนเด็กคงไมไหว แบบนี้ละงายดี”ปาภาพูดนิ่งๆ จนผมไมรูวาลอเลนหรือจะทําจริง แตพี่นพ
นั่งเครียดไปแลว

“คงไมตองทําถึงขนาดนั้นหรอกครับคุณปา พายเองก็อยากเห็นงานแตงงานเหมือนกัน”ผมเริ่มออกปากชวยพี่นพที่นั่งหนา
เครียดอยู

“เอา เอางั้นเหรอ ไดๆ ถือวารอดตัวไปนะเรา แลวคูกรณีอีกคนละ เอาไงดี ยึดทรัพยแลวกันนะ หนูกับแมจะไดมีกินมีใชไม


ลําบากอีก ดีมั้ย”

“เออ...พายไมอยากไดหรอกครับ”

“อาว แลวทําไงดีละ ปาอยากใหลูกชดใชใหหนูนะ”

“คุณก็พูดเปนเลน รายนั้นมีแตตัว จะเอาทรัพยที่ไหนมาให ฉันไมเอาหรอกคะ”แมพูดหามไปดวยหัวเราะไปดวย อีกสองคน


ก็อมยิ้มเหมือนกัน มีเพียงผมคนเดียวที่ไมเขาใจ

“ดูพูดเขา ระวังเขามาไดยินแลวจะพาลนอยใจเขาใหละ งั้นถาหนูอยากไดอะไรก็มาบอกแลวกัน ปาอยากให จะไดไมติด


คางกันอีก สวนเรื่องแผลนี่เดี๋ยวปาเอาเลือดหัวมันออกมาใชให ดีมั้ย”

“......เออ....คง..ไมด”ี

“คุณก็อยาเพิ่งซักอะไรเลยคะ เดี๋ยวฉันพาลูกไปตลาดกอน อยากกินอะไรพิเศษมั้ยคะ”

“อะไรก็ทํามาเถอะ ไปๆ รีบไปรีบกลับ ฉันยังคุยไมเต็มอิ่มเลย”ปาภาลูบศีรษะผมเบาๆ แมลุกมาดึงมือผมใหเดินตามทั้งที่ยัง


งงๆ กับบทสนทนาเมื่อครู ยอมรับเลยวาคุณปาเปนคนที่รับมือยาก เลนถามแบบไมใหตั้งตัวแลวผมจะตอบอะไรออกไปได

ผมกับแมนั่งรถกระบะมาที่ตลาดโดยมีคนงานขับให เราใสบาตรกันดานหนาตลาดแลวคอยเดินเขาไปซื้อของดานใน
บรรยากาศเมื่อสมัยเด็กที่ไดอยูดวยกันก็ยอนกลับมา สี่ปกอนหนาที่จะเรียนมหาฯลัยผมมีชวงเวลาแบบนี้เสมอ แตหลังจาก
เริ่มเรียนผมก็เริ่มทํางานอยางหนักจนไมมีเวลากลับบานเทาไหร ทาทางแมคงจะมาตลาดบอย แมคาพอคาหลายคนพูดคุย
โตตอบอยางเปนกันเอง แมดูมีความสุขและสวยกวาเมื่อกอน เสื้อผาการแตงตัวก็ดีขึ้น ไมไดใสเสื้อเกาๆ ที่ซอมแลวซอมอีก
ผิวพรรณก็ไมหยาบกรานคล้ําแดด ฝามือที่แหงแตกก็นุมขึ้น แมดูมีความสุขขึ้นมากจริงๆ
ระหวางทางกลับผมถามแมเรื่องทั่วๆ ไป แมบอกวาเพิ่งกลับมาถึงแลวก็รีบไปปลุกผมทันที อยูที่นี่แมสุขภาพดีขึ้น งานไม
หนักอะไร แคคอยดูแลบาน ที่บานจะมีแมบานอีกคนหนึ่งคอยชวย แตงานสวนมากแลวก็ไมมีอะไร เหมือนคอยเปนเพื่อน
คุยแกเหงามากกวา

เชานี้แมทําขาวตมทะเลโดยมีผมเปนลูกมือ หลังจากทําเสร็จแมก็บอกใหผมกินไดเลย เพราะคุณปาคงหลับอยู ไมตองรอ


ผมนั่งกินขาวกับแมสองคนบนโตะเล็กๆ ในครัว ฟงแมพูดเรื่องการไปเที่ยวเหนืออยางไมรูเบื่อ ไดเห็นแมยิ้ม ไดยินเสียง
หัวเราะ ผมก็....สุขใจ

ผมอยากคุยกับแมถึงเรื่องตางๆ ที่ผานมาเลยชวนแมเขาไปคุยในหอง หองของแมอยูขางๆ หองคุณปา และมันใหญกวา


หองพักที่ผมอยูกับนุอีก ขาวของเครื่องใชตางๆ ทําใหผมเชื่อวาแมมาอยูที่นี่ไดพักใหญจริงๆ เรานั่งกันอยูบนเตียงใหญ แม
แกะผาพันแผลออกแลวลูบตามรอยเบาๆ ผมรูสึกเหมือนถูกไฟลนทุกครั้งที่นิ้วของแมลูบผาน รูสึกผิด รูสึกอับอาย โดยที.่ ..
ไมสามารถโทษวาเปนความผิดใครได เพราะทุกอยางผมเปนคนทําเอง มันเปนเรื่องจริงที่วาคนๆ นั้นไมไดเปนคนกรีดขอมือ
ผม

“เขมแข็งนะลูก แมรูวาหนูตองเจออะไรมากบาง แต...ตองเขมแข็ง อดทน”

“แม....ทําไมแมถึงมาอยูที่นี่ แมรูวามัน...เขาทําอะไรกับผมบาง แตทําไม...”

“แมยอมรับวารู แตไมไดรูทันทีที่เกิดเรื่อง คนที่นี่ไมมีใครรูจนกระทั่งเรื่องนั้นผานมาสักพักแลว แมเขาใจวาพายคิดอะไร


รูสึกอะไร แต....แมก็เขาใจตั้มดวย”

“......”

“แมแคบอกวาเขาใจ ไมใชเห็นดวย ยังไงคนที่ทําลูกแมทุกขก็คือเขา”

“แมรูทั้งหมดจริงๆ เหรอ”

“รูส.ิ ..ตั้มเปนคนเลาใหแมฟงเอง”

“......แลวทําไมแมไมไปหาพาย ทําไมตองมาอยูที่นี่ ทําไมแมไมบอกพายกอนหนานี้ พายไมเขาใจแมเลย”

“พายรอแมเดี๋ยวนะ แมจะเอาอะไรใหดู”แมลุกไปเปดลิ้นชักที่โตะเครื่องแปง หยิบกลองเซฟเล็กๆ แลวเดินกลับมาวางไว


ขางหนาผม แมปลดรหัสแลวเปดใหดูสิ่งที่อยูขางใน เอกสารในซองสีน้ําตาลหลายซอง ผมไมเขาใจวาทั้งหมดนี่คือเหตุผล
ของแมยังไง แมหยิบของในซองออกมาวางเรียงใหผมดู และนั่น....ยิ่งทําใหไมเขาใจมากกวาเดิม
“......นี่มัน....”

ตอนที่ 49

ผมเอนตัวพิงหัวเตียงในหองพักของโรงแรม ปฏิเสธคําชวนของลูกคาที่จะพาไปเลี้ยงรับรองดวยขออางที่ไมสมเหตุสมผลวา
...เหนื่อยจากการเดินทาง...คนอยางผมที่ขับรถขามจังหวัดแทบจะวันเวนวัน กลับอางเหตุผลนี้ ถุงพลาสติกใสๆ มองเห็น
มะมวงกวนดานในที่ถูกอัดแนนจนเต็มทั้งสองถุงวางอยูขางโทรทัศน ตรงหนาผม อาหารเย็นที่เปนบริการจากทางโรงแรมไม
ถูกใชบริการเพราะกินไมลง สวนขนมในถุงตรงหนากลับไมกลาแตะตอง เพราะ...ไมกลากิน...ไมใชเพราะคิดวาไมสะอาด
หรือไมอรอย แตเพราะ....รูสึกผิด

ขาวตามหนาหนังสือพิมพหรือโทรทัศนที่มี ผูรายปลนหรือทําใหผูอื่นถึงแกชีวิต บางครั้งที่คูกรณีไมเอาความ ผมคิดวาตองมี


ขอแลกเปลี่ยนอะไรในความสูญเสียนั้นแนๆ ไมอยางนั้นคนเราจะใหอภัยกันงายๆ อยางนั้นเชียวหรือ ตอนนี้ผมไมไดคิด
อะไรแบบนั้น แตกลับคิดวาทําไมผูรายเหลานั้นถึงกลายอมรับไมตรีจากคนที่เพิ่งทํารายมา ทําไมเมื่อพวกนั้นตองพบหนา
ญาติของเหยื่อจะตองรองไหแลวกมกราบเสมอ พวกมันตองการอะไร...ขอความเห็นใจเหรอ...กลัวติดคุกงั้นเหรอ...หรือวา
อะไร ....คําตอบของคําถามเหลานี้ไมจําเปนตองหาคําตอบอีกเลย เพราะผมกําลังรูสึกอยางนั้น...ไมกลาเผชิญหนา...แต
ขณะเดียวกันก็อยากขอ โทษ....ไมไดอยากใหอภัย...แค...ขอโทษ

วันรุงขึ้นผมรีบทํางานให เสร็จแตเชาแลวสงมอบงานที่เหลือใหลูกนองไปคุมตอ สวนตัวเองขับรถกลับมาหาคนที่ทําใหผม


ไมไดนอนทั้งคืน ผมจอดรถหางจากบานแลวมองอยูไกลๆ เมื่อมาถึงแลวกลับไมรูวามาทําไม แตอีกใจก็รูวาจะไมกลับ
ตอนนี้แนๆ

ผูหญิงรางผอมบางเดินผานขาง รถผมไปพรอมถุงใบใหญหลายใบเต็มสองมือ ผมดับเครื่องแลวรีบลงจากรถเดินตรงไปหา


ผูหญิงใจดีที่ใหขนมผมเมื่อวาน

“ใหผมชวยนะครับ”ผมแยงของในมือมาถือทั้งสองถุง ดูทาทางผมคงจะทําใหเธอตกใจ

“อุย! คุณนั่นเอง ทํานาตกใจหมด เดี๋ยวก็ถึงแลวนาถือเองก็ได”

“ไมเปนไรครับ”ผมยังคงยืนยันและกระชับถุงในมือทั้งสองขางแนน

“มา ทําอะไรแถวนี้อีกละคุณ ไมคุนหนาเลย หรือมาทําบุญที่วัด”เธอไขกุญแจบานแลวเปดออกกวางๆ ใหผมเดินเขาไปขาง


ใน บานนี้ไมมีโซฟารับแขกเกาๆ เล็กๆ หนึ่งตัวตั้งอยูหนาโทรทัศนที่อายุการใชงานคงพอกัน ผมเดินตามเธอเขาไปในครัว
แลวสงถุงใหเธอรับไปแยกใสตามตู
“เปลาหรอกครับ แถวนี้เงียบดี เลยมานั่งเลน”ผมยืนเกๆ กังๆ เพราะไมรูจะทําอะไร

“ไป นั่งรอหนาขางนอกกอนดีกวาคุณ เดี๋ยวเอาน้ําออกไปใหกิน”เธอไลผมยิ้มๆ ผมเลยเดินออกมาเพราะยืนอยูก็ยิ่งเกะกะ


โซฟาตัวเกาไมใหความรูสึกสบายเลยสักนิด ขนาดมีเบาะรองนั่งเสริมเขามาก็ยังรูสึกถึงความแข็งขอนทอนไมที่ประกอบ
เปนโครงดานใน จะเอนหลังก็ไมชวยใหรูสึกสบาย ดานมุมหองติดหนาตางสองบานมีจักรเย็บผาตั้งอยู บนพื้นก็มีถุงและ
เศษผากองอยูแถวนั้น เมื่อครูที่ถือของมาก็สังเกตุเห็นวามีถุงผาอยูสองถุง สงสัยจะตัดเสื้อตัวใหม

“ดื่มน้ํากอนสิพอหนุม คับแคบหนอยนะ เกาอี้มันเกาแลว นั่งไมคอยสบายหรอก”คุณนายื่นแกวน้ําสงใหกอนจะนั่งลง

“ครับ ไมเปนไรครับ”ผมรีบเปลี่ยนมานั่งบนพื้นทันทีที่คุณนานั่งลงบนพื้นใกลๆ ผมพรอมถุงกับขาวและจานหลายใบ

“กินขาวมายังละ กินดวยกันซะเลยดีมั้ย”

“ไมเปนไรครับ เกรงใจ คุณนาทานเถอะครับ ผมไมรบกวนแลวดีกวา”

“ไม เปนไรๆ กับขาววัดทั้งนั้น ไปทําบุญกันมา เขาก็แบงๆ ใสถุงกันมา กินแลวก็แบงๆ บุญกันไป ขาวมีเยอะแยะ”คุณนาดู


จะไมสนใจผมที่กําลังจะลุกยืน เพราะเธอชิงลุกกลับเขาไปในครัวกอน ผมตองนั่งลงตามเดิมแลวแกะกับขาวใสจามชามที่
วางไว คุณนาเดินกลับมาพรอมขาวสองจานพูนๆ

“ทําบุญในโอกาสอะไรกันเหรอครับ”

“ไมมีอะไรหรอก วันพระก็เลยนัดกันไปทําเฉยๆ ใครวางก็ทํากับขาวคนละหมอสองหมอไปชวยๆ กัน ไมวางไปทําพรอมกัน


มานานเลยทําซะหนอย”

“เหรอครับ”

“ไมรูวาพอหนุมจะมาแถวนี้อีกเลยไมไดชวน ถารูจะไดชวนตั้งแตเมื่อวาน นาเลยไมไดเอาน้ํามนตมาฝากเลย”

“ไม เปนไรครับ แคนี้ก็พอแลว”ใช...แคนี้ก็เกินพอแลวจริงๆ ผมไมรูวาตัวเองมานั่งทําบาอะไรอยู นั่งกินขาวกับเขาหนาตา


เฉย รสชาติกับขาวก็แตกตางกันเพราะคนทําไมใชคนเดียวกัน ขาวที่เคี้ยวบางก็แข็งบางก็นุมเหมือนขาวหอมมะลิ ลําคอ
แหงฝดที่กลืนอะไรไมลงเมื่อคืนก็ยิ่งฝดจนน้ําลายยังแทบไมอยากกลืน แตเพียงแคกับขาวจากชอนเจาของบานตักมาใส
จานใหเชิญชวนกินผมกลับรูสึก วามันลื่นคอ ขาวพูนจานที่คิดวากินไมหมดก็หมดไปอยางไมนาเชื่อ อิ่มจนจุกแทบลุกไมขึ้น
แตถาใหกินอีกก็ยังกินได
“แตงไทยกะทิสด คนนี้เขาขายในตลาดดวย เจาประจําลูกชายนาเลยเชียวละ”หลังจากอาหารคาว คุณนาก็เทของหวานให
ผมอีกหนึ่งถวยใหญ ผมจะปฏิเสธก็ไมทัน ยิ่งพอไดยินเธอพูดถึงลูกชายก็ยิ่งไมอยากปฏิเสธ คุณนาตักแตงไทยในถวยกิน
แลวพยักหนาใหผมกินตาม รสชาติหวานหอมของกะทิสดๆ กับแตงไทยกลิ่นหอมๆ นุมลิ้นก็ทําใหเชื่อวาเจานี้คงขายดี และ
ไมแปลกที่เด็กคนนั้นจะชอบกิน

“อรอยใชมั้ย เจานี้ขายดีมากเลยนะ สายๆ หนอยก็หมดแลว ไมตองรอตลาดวายหรอก”

“อรอยมากครับ ไมคอยไดกินขนมแบบนี้มานาน”

“ถาชอบก็เอาไปหมดนี่เลย นากินนิดๆ หนอยๆ พอ กินมากเดี๋ยวเปนเบาหวาน ลูกมันจะมาดาเอา”

“คุณนาเปนเบาหวานเหรอครับ”

“จา แตไมไดมากอะไร เรียกนาพิมพเฉยๆ ก็ได เรียกคุณนาแลวมันฟงเขินๆ ชอบกล”

“เออ...ครับ นี่นาพิมพจะเย็บเสื้อเหรอครับ เห็นผาเยอะแยะเลย เงินดีมั้ยครับ”

“ก็พอกินพออยู ไมขัดสนอะไร วางๆ ก็ทําขนมไปฝากเขาขายที่ตลาดอีกทาง ผักเผิกก็ปลูกกินไวหลังบาน ไมคอยไดซื้อกิน


หรอก”

“ลูกนากลับมาเยี่ยมบอยมั้ยครับ”

“ราย นั้นคงอยากกลับมาใจจะขาด แรกๆ ก็บนคิดถึงบาน ไมมีเพื่อน แตใจมันแข็งๆ อยากหาเงินใหนาใช วันหยุดก็เลยไม


หยุดเหมือนคนอื่น ทํางานงกๆ ปดเทอมก็ไมกลับ แตถานาไมสบายเมื่อไหรนะ วันรุงขึ้นมันโผลมานั่งขางหมอนแลว”

“ฟงดูติดแมเหมือนกันนะครับ”

“จา ติดแม เปนเด็กติดคนงาย ใกลใครมากๆ ก็ติดเขาไปทั่ว พอไดเขาเรียนก็ติดเพื่อน ตอนไปเรียนตอที่กรุงเทพฯ นี่ร่ําลากับ


เพื่อนสนิทเหมือนจะขาดใจ รองไหเปนเผาเตา เรียนกันมาแตเด็กตองแยกยายไปเรียนคนละจังหวัด พอไมมีเพื่อนก็มาติด
แมเหมือนเดิม ไมรูจักโต เดี๋ยวนาเอาอะไรใหดู”นาพิมพเดินที่ทางตูโชวเล็กๆ แลวหยิบอัลบั้มรูปอันใหญมาวางตรงหนาผม

“นี่ละเจาพายตอนเพิ่ง เกิด หลับไมรูเรื่อง ขี้เซาตั้งแตเกิด สวนนี่กําลังหัดคลาน หนามันเหมือนนาไมมีผิด ใครๆ เขาก็คิดวา


เปนลูกสาว พากันเปดผาออมดูกันเปนแถว ไมยอมเชื่อนา กวาหนาจะเริ่มไดสวนพอไปบางก็ตอนเขาเรียนมัธยมนั่นละ
หนาตานารักนาเอ็นดู คุณครูเลยชอบจับแตงตัวใหถือพานไหวครูแตประถม นี่รูปนี้เริ่มโต อายเพื่อน โดนเพื่อนลอเพราะ
ตองแตงหนาแสดงละครที่โรงเรียน เจานี่นะถาลองโกรธแลวมันนั่งนิ่งไมพูดไดเปนวันๆ เด็กๆ ปากจัด ใครวาอะไรนี่เถียงสู
ตลอด”

“แลวตอนนี้ละครับ ไมเหมือนเด็กๆ แลวเหรอ”

“ก็ ตั้งแตเริ่มทํางานหาเงินเองก็คงโตขึ้นละมั้ง ไมคอยออนเหมือนเคย เงียบลงตั้งเยอะ นาก็กลัวลูกจะมีปญหาเรื่องเลย แต


เกรดออกมาก็ใชไดอยู นาเลยคิดวาคงโตตามวัยเขานั่นละ เลิกติดแมแลว”น้ําเสียงเศราๆ ทําเอาผมใจหาย ฟงดูก็รูวารักลูก
ชายมากขนาดไหน รอยยิ้มบางๆ บงบอกวาภูมิใจแตก็ลึกๆ ก็คงนอยใจที่ลูกชายหางเหินไมเหมือนกอน และตอนนี้...จะยัง
มีโอกาสกลับไปเหมือนกอนไดมั้ย

ผมนั่งฟงนา พิมพเลาเรื่องสมัยเด็กของพายโดยไมรูจักเบื่อ หัวเราะตามวีรกรรมแสบๆ ของเด็กทาทางเรียบรอยนัน่ กวาจะ


กลับมาหองพักก็ตอนบายสองไปแลว ผมไปบานหลังนั้นสองวัน ก็มีของติดมือกลับมาสองอยาง มะมวงกวนที่ไมไดแตะ
ตองเมื่อวานวางอยูขางตัวบนเตียงนอน ในมือผมมีรูปถายสีเหลืองแกเกือบน้ําตาล รูปถายที่ผมแอบหยิบออกมาโดยไมได
เอยขอ ภาพเด็กผูชายตัวเล็กๆ นุงชุดนักเรียนตัวหลวมที่ซื้อไวเผื่อโต เด็กประถมตัวนอยๆ ที่ยืนยิ้มโชวฟนครบสามสิบสองซี่
กับใบประกาศเกียรติคุณในมือ....รางวัลนัก เรียนดีเดน....ตาโตๆ ใสๆ กับรอยยิ้มสวยๆ ที่ผมเคยเห็นผานรูปถายในวัยที่โต
ขึ้น รอยยิ้มในรูปนี้สดใสกวารูปใบนั้นไมรูกี่เทา....ทําไมยังไงถึงจะไดเห็น อีก....จะยิ้มใหอยางนี้บางมั้ย

ตอนที่ 50

ขนมหวานทําใหเราอารมณดีขึ้นหรือเปลาผมไมแนใจ แตตอนนี้ผมกําลังรูสึกดี แตงไทยน้ํากะทิสดหมดไปในมือ้ ดึกเมื่อวาน


พรอมๆ กับมะมวงกวนหนึ่งถุง วันนี้ผมก็ใชขออางงายๆ หลังเลิกงานไปกินขาวดวย กับขาวจากโรงแรมที่แพ็คใสถุง
เรียบรอยดูนอยคาถาเทียบกับขาวแกงเมื่อ วานที่นาพิมพใหกิน นาพิมพคอนขางเกรงใจเมื่อเห็นผมหอบของกินและผลไม
ไปฝาก แตก็ทนแรงตื้อไมไหวจนตองรับไปหมด แลวตอบแทนกลับมาดวยมะมวงน้ําปลาหวานหลังอาหาร

ไมรูวาทําไมของฝาก ของผมมันถึงดูไรคาเสมอเมื่อสงมอบใหนาพิมพ กับขาวหลากหลายที่นาทําใหกินดูจะสูงคาจนหา


ราคาไมได ผลไมราคาแพง อาหารหรือขนมเลิศรสไมไดรับความสนใจเหมือนเวลามอบใหคนอื่น ผมไมคิดวาจะไดรบั น้ําใจ
จากคนอื่นที่ไมใชครอบครัวแบบนี้ สวนใหญที่ไดรับมักมาจากการแลกเปลี่ยนดวยเงินตราเสมอ เกือบครบหนึ่งสัปดาหแลว
ที่แวะเวียนไปนั่งกินขาวที่บานนั้น ไปนั่งเลนนอนเลนอยางคนคุนเคย ทั้งๆ ที่ตัวเองทําเรื่องเลวรายกับลูกชายสุดที่รักของ
เจาของบาน

ความ รูสึกที่เกิดขึ้นตอนนี้คงไมมีใครเขาใจ ผมไมรูวาตัวเองทําอะไรอยู เหมือนหามตัวเองไมได อยากเขาใกล อยากไดยิน


ไดฟงเรื่องราวตางๆ ที่คุณนาใจดีเลาใหฟง เพียงไมกี่ชั่วโมงตอวันผมก็แทบจะรูจักพายเหมือนอยูดวยกันมาตั้งแตเกิด อีก
สองวันก็ตองกลับแลว แต...ผมไมอยากกลับไปในสภาพนี้ หากอีกใจหนึ่ง ก็อยากหายไปเงียบๆ ไมร่ําลาเหมือนกัน ถาคุณ
นาไมรูเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลูกชายตัวเอง และพายไมรูวาผมเปนคนที่ทํารายเขา อะไรมันคงจะดี......ไดเพียงแคคิด....ถา
พบกับพายอีกครั้ง และปดบังเรื่องทุกอยาง เริ่มตนอยางคนไมรูจักกัน ทําความรูจักและสรางความสนิทสนม....เพียงแคฝน
...ไมรูตองพยายามนานสัก เทาไหร หรือบางทีอาจตลอดชีวิต....ถึงไดมาอยูขางกาย....บางที...จะไดเพียงแครอ

"วันนี้มีแกงสายบัว กินเปนมั้ยตั้ม ไปตลาดแลวมีขายเลยซื้อมาทํา ไมคอยไดทําบอยๆ หรอกนะ"

" เปนครับนา แตไมไดกินนานแลว ที่กรุงเทพฯ หายาก"ผมมองแกงในชามตรงหนาแลวตักกินดวยความเอร็ดอรอย แกง


สายบัว น้ําพริกปลาทูกับผักตม บวกกับทอดมันปลากราย ปลาหมึกผัดไขเค็มที่ผมซื้อมาก็ทําใหเราสองคนอิ่มจนจุกไปอีก
หนึ่งมื้อ ผมอาสาลางจานใหเหมือนทุกวัน แตนาพิมพก็หามเหมือนทุกวันเชนกัน

หลัง มื้ออาหารผมนั่งพิงโซฟามองนาพิมพเย็บปะเสื้อผาที่ลูกคาเอามาใหซอม องุนแดงลูกโตที่ผมซื้อมาฝากก็กลายเปน


ผลไมลางปากหลังอาหารสําหรับผม อันที่จริงผมคิดเสมอทุกวันที่ขับรถมาบานหลังนี.้ ...ผมมาทําไม....ถึงจะคิด แบบนี้แตก็
ไมเคยผอนคันเรงหรือเหยียบเบรคเลย ตรงขามกับเวลาขับกลับที่คิดอยากจะนั่งนิ่งๆ ในรถมองดูหลังคาบานนานเสียจน
บางทีนาพิมพตองออกมาถามไถดวยความเปนหวง คงเปน...ความเปนแมคนในตัวผูหญิงใจดีคนนี้ที่ทําใหผมรูสึกผิดในใจ
จนนอน ไมหลับทุกคืน สวนมากคนเราจะดีจะเลวอยูที่การเลี้ยงดูปลูกฝง เพราะอยางนี้พายถึงไดเปนเด็กแบบนั้น

"นาพิมพครับ...ผม...มี เรื่องอยากบอก...."ผมพูดเหมือนคนไมรูสึกตัว แตก็พูดออกไปแลว นาพิมพละสายตาและวางมือ


จากอุปกรณเย็บปกแลวมองหนาผมอยางตั้งใจรอ... และเตรียมใจฟง

"พูดมาเถอะ...นาคิดวาตั้มคงมีเหตุผลอะไรสักอยาง ที่มาหานา...นารออยู"นาพิมพไมใชผูหญิงซื่อๆ ใจดีอยางที่ผมคิดไว


เสียทีเดียว นามองออกวาผมมีจุดประสงคในการมา และคงเดาไดวาเปนเรื่องเกี่ยวกับลูกชายเธอ....เพราะอยางนี้สินะ...ถึง
ได ถายทอดเรื่องราวมากมายใหผมฟง

"...ผม....ขอโทษ..........ผม....ขอ โทษ"เปนครั้งแรกที่พูดไมออก ไมกลาเงยหนามอง ผูรายเวลาทําผิดแลวเขาเอาความกลาที่


ไหนมาสารภาพกัน ผมอยากไดความกลาแบบนั้นบาง

"พูดมาเถอะ นารอฟงอยู นารับได นาไมไดเปนโรคหัวใจ คงไมช็อคงายๆ"

"....... ผม.......ขมขืนพาย......."เสียงที่พูดออกไปแทบจะกรีดลงไปบนเนื้อผมดวย การยอมรับความผิดของตัวเองไมใชเรื่อง


นาอายหรือเจ็บปวด แตการยอมรับวาทํารายคนสําคัญ...ของคนที่แสนดีกับเรา คนที่เราเองก็รูสึกดี...นี่สิที่เจ็บ

"................"นาพิมพ เงียบ ไมพูดอะไรกลับมา เงียบจนนาใจหาย ผมแทบอยากจะกมกราบแทบเทา แตรูวามันเทียบอะไร


กับสิ่งที่ทําลงไปไมไดเลย แกวตาดวงใจที่ผูหญิงคนนี้ฟูมฟกเลี้ยงดูดวยความรักทั้งชีวิต ผมทําลายลงไปดวยความคึก
คะนองชั่วครู ทําลายเสียยอยยับไมมีชิ้นดี
".... นาครับ..."ผมรองเรียกอีกครั้งเพราะไมแนใจวานาพิมพยังปกติอยูหรือ เปลา ผมกลัวนารับไมไดแลวเปนอะไรลงไป แต
ไมใชอยางที่คิด นาพิมพลุกขึ้นยืนแลวเดินเขาไปในหองนอนปดประตูลงกลอนโดยไมมองผมที่ลุก ยืนคางอยูกลางบาน....
รูสึกเหมือนตัวเองสกปรกจนไมกลายืนอยูในนี้หลัง นี้

ผานไปหลายชั่วโมงแลวนาพิมพก็ยังไมออกมาจากหอง ผมนั่งอยูบนเกาอี้เกาๆ หนาบาน ไมรูวาจะทําอะไร ถาเขาแจง


ตํารวจมาจับก็ยอมแลวละ ติดคุกเสียยังดีกวาตองรูสึกแบบนี้ ความรูสึกแบบนี้ละมั้งที่ทําใหผูรายเขามอบตัวดวยตัวเอง โง
ชะมัด ทําอะไรไมคิด สมแลวที่พี่นพดา

"ยังไมกลับอีกเหรอคุณ ไปนั่งทําอะไรมืดๆ"เสียงจากหนาประตูบานทําใหตองเงยหนาขึ้นมอง ถึงจะอยูในไฟสลัวๆ แต


ดวงตาที่บอบช้ําจากการรองไหยังเดนชัด

"......ไมเปนอะไรนะครับ"

"....เขามากอนสิ"นาพิมพพูดแลวเดินกลับเขาไปดานใน ผมเดินตามเขามานั่งอยูหางๆ ไมอยากสบสายตาที่ยังแสดงความ


ปวดราวใหเห็นเลย

" แลวตอนนี้ลูกฉันเปนยังไงบาง"คําพูดหางเหินยิ่งกวาครั้งแรกที่ไดพบกัน ที่คิดวาอยากขอโทษเฉยๆ ไมไดหวังใหอภัยนั้นไม


จริงเลย....ถาอภัยใหผม....คงดี

"ดีขึ้นแลวครับ ผมกับพี่ชายพี่สาวคอยดูแล"ขอมูลที่บิดเบือนเล็กนอยคงไมเปนไร ผม...แคอยากใหรูสึกดี

"ดึกแลวก็คางซะที่นี่เลยแลวกัน ไปอาบน้ําอาบทาแลวคอยมาคุยกัน"

".......ครับ"ผมพยักหนารับชาๆ ไมเขาใจในคําเชิญชวนนี้เทาไหร แตคําวา...คอยมาคุยกัน...แสดงวาผมตองเลาเรื่องทั้งหมด


สินะ

หลัง จากอาบน้ําเปลี่ยนชุดที่มีสํารองไวในรถก็มานั่งที่เดิม นาพิมพนั่งฟงเรือ่ งราวที่ผมเลาทั้งหมดอยางเงียบๆ ผมพยายาม


ใชคําพูดที่ฟงดูนุมนวลกวาเหตุการณจริง แตแคคําวาขมขืนมันก็แรงพอแลว ผมไมรูวาจิตใจของคนเปนแมทําดวยอะไร...
ไมส.ิ ..แมบางคนก็ไมเปนอยาง นี้ แตแมพิมพของพายเปนอะไรที่ผมยอมนับถือหมดใจ ไมดาผมสักคํา ไมโวยวายหรือทํา
รายผมเลยสักนิด นั่งรับฟงเงียบๆ อยางที่บอกเอาไววารออยู หรือ...ทําใจรออยู ตรงขามกับผมที่ปดไฟลมตัวนอนในหอง
เล็กๆ ของพายแตก็ยังนอนไมหลับ กระวนกระวายจนหงุดหงิดตัวเอง ผมเคยเขาหองพายมาสองสามครั้ง หองนี้ไมมีอะไร
เลย วิทยุหรือของเลนอะไรไมมีสักอยาง มีแตหนังสือเรียนเกาๆ เต็มไปหมด การตูนเลมละไมกี่บาทที่คงอานมาตั้งแตเด็ก
หองสะอาดเพราะคนเปนแมทําความสะอาดเสมอ นอนอยูในหองของคนที่ตัวเองทําราย...ยิ่งกวานอนในคุก แตนอนอยูใน
บานของคนที่แสนดีกับเรา และเราทํารายแกวตาของเขา...ยิ่งกวาตกนรกเสียอีก
รุงเชามีขาวตม ยําไขเค็ม ผัดผักบุงเปนอาหารเชา คงเปนมื้อแรกที่ผมกินไมลงจริงๆ ผมขับรถออกจากบานไมหลังเล็กอยาง
เลื่อนลอย โทรไปสั่งงานลูกนองใหจัดการแทนแลวก็ขับขามจังหวัด...ทําทุกอยางตาม สัญชาติญาณมากกวาเหตุผล แต
ครั้งนี้มันคงเปนเรื่องดี กวาจะจัดการทุกอยางเรียบรอยแลวขับกลับมาอีกครั้งก็เปนเที่ยงของอีกวัน หนึ่ง

"นี่มันอะไรกัน"นาพิมพมองของตรงหนาอยางสงสัย ผมเองก็สงสัย วาทําลงไปไดยังไง

" ผมไมไดจะเอามาชดใชนะครับ อยาเขาใจผมผิด ผมแค...อยากใหรับไว พวกนี้เปนของผมเอง น้ําพักน้ําแรงตั้งแตสมัย


เรียนจนทํางาน มันอาจไมมากอะไร ยังมีบางสวนที่จัดการไมเรียบรอย แตนารับไวเถอะนะครับ "

"เออ...ไมตองหรอกตั้ม นาไมติดใจอะไร ถือวาฟาดเคราะห แลวกันไปดีกวา"

"รับไปเถอะนะครับ ผมไหวละ ผม...ไมอยากไมแลวกันไป"

"หมายความวาไง"

" ของพวกนี้ผมทุมเททั้งชีวิตหามา ทั้งชีวิตผมก็มีแคน.ี้ ...และใหไดแคนี้.......ผม....ไมเหลืออะไรแลว ....เหลือไวอยางเดียว


เทานั้น.....ไดมั้ยครับ"คําขอรองบาๆ กับคนบาๆ อยางผม ไมทันไมไตรตรองใหคําพูดสวยหรู แตก็พูดออกไปแลว คนฟงก็คง
อึ้งไมตางจากผม ขับรถทั้งคืนเหมือนคนบา หรือบางทีคงบาไปแลวจริงๆ แตไมนาเชื่อวาคําขอรองของผม จะไดรับการตอบ
รับ

การเขาไปอยางคนไมรูจักกัน สุดทายอาจเปนไดแคคนคุนเคยเทานั้น ผมคงไมทนรออยางไมมีหวังแบบนั้นหรอก ไมไดมี


ความอดทนสูงขนาดนั้น ของที่อยากได ถาไมไขวความาดวยตัวเองจะใหทํายังไง บางสิ่งแคเอื้อมมือควาก็ไดมา แตบางสิ่ง
ก็ตองชวงชิง แลวชีวิตผมก็รูจักแตการชวงชิงเสียดวย ถาผมรูจักวิธีอื่น...อะไรมันจะดีกวานี้ไหม.....จะ.....เจ็บปวดนอยกวา
นี้ไหม

ตอนที่ 51

ผมกวาดสายตามองไปบนกระดาษทุกแผนที่วางอยูตรงหนา ทุกอยางมีคาถึงแมจะอยูในรูปของกระดาษ แตนี่เปนสิ่งที่ใช


แสดงความเปนเจาของทรัพยสิน ผมจะไมแปลกใจเลยถาไมมีชื่อผมรวมอยูดวย ไมวาจะสลักหลังหรือโอนสิทธิ์ ผูรับคือผม
ทั้งนั้น เจาของกรรมสิทธิ์และพยานถูกเซ็นตชื่อกํากับไวแลว รอเพียงแคลายเซ็นตของผม ทุกอยางก็เสร็จสมบูรณ ทรัพยสิน
ตรงหนาจะกลายเปนของผมทันที

แมหยิบสมุดบัญชีธนาคารมาวาง ไวตรงหนาพรอมดวยเช็คที่ลงลายเซ็นตไวพรอม เหลือเพียงกรอกตัวเลขลงไปเทานั้น


สมุดบัญชีที่ไมตองจําเปนตองเปดดูก็รูวาใครเปนเจาของ ผมมองของตรงหนาอยางไมเขาใจ แมหยิบถุงพลาสติกในลิ้นชัก
ขางเตียงมาวางไวตรงหนา แลวเปดปากถุงกวางๆ จนมองเห็นดานใน ถึงผมจะไมใชคนที่มีความรูเชี่ยวชาญเรื่อง
คอมพิวเตอร แตก็รูวาของในถุงคือแผนซีดีที่ถูกหักทิ้ง เมมโมรี่การดและฮารดดิสของเครื่องคอมพิวเตอรที่ถูกเผา ผมรูดีเลย
ละวาอะไรอยูในนั้น แตไมเขาใจวาทําไมหลักฐานทุกอยางถึงถูกทําลายแลวมาอยูที่แม

"ตั้มนะเขาเคยไปหาแมที่บาน กอนที่พาแมจะมาอยูที่นี่"

"มันทําอะไรแมหรือเปลา"

" ถาทําอะไรจริงแมจะมานั่งใหเราซักอยูแบบนี้เหรอ"แมหัวเราะพรอมลูบหัวผม ไปดวย ความจริงผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน


ผมวามันคอนขางดีกับแมผมมากเลยเชียวละ แตก็ไมแนใจวาที่ดีนะตัวมันหรือเพราะพี่นพกันแน แมนั่งถายทอดเรื่องราว
เมื่อครั้งที่พบกับมัน ใหเดาก็รูวาจงใจไปบานผมแนๆ คําพูดของแมผมไมคอยอยากเชื่อ คนอยางนั้นนะเหรอจะไปนั่งพื้นกิน
ขาวบานผม ชวยแมลางชาม นึกยังไงก็นึกไมออก ถาไมติดวาคนเราคือแมละก็คงไมมีวันเชื่อแนๆ ยิ่งไดฟงก็ยิ่งแปลกใจ
การกระทําของมันกับแม ตางจากที่ทํากับผมเหลือเกิน แลวยังคําพูดของมันเมื่อตอนมอบเอกสารเหลานี้ใหอีก ผมไมแนใจ
วาใครถูกหลอกกันแน....ผมหรือแม

"ตอนแรกก็ยังมีไมกี่ อยางหรอก เห็นวาจัดการไมเรียบรอย แตก็ทยอยเอามาใหแมเก็บไวเรื่อยๆ ของพวกนีก้ ็เหมือนกัน สวน


เช็คนี่ก็ไวใหแมซื้อของที่อยากได มีบัตรเครดิตใหแมดวยนะ แมกับปาภาหัวเราะกันจนทองแข็งเลย"

"แลวมันขอเหลืออะไรไวเหรอ"ถาผมลงชื่อในเอกสารทั้งหมดเมื่อไหร มันก็เหมือนคนลมละลาย อะไรที่มันขอเหลือไว

"พายไมรูเหรอลูก"

"พายไมไดนั่งคุยดวยแลวพายจะรูไดไงละ"

"เจาตัวเขาก็ไมไดพูดออกมาซะดวย เพียงแตแมเดาไดเทานั้น"

"อะไรละครับ"

"..... ถาตั้มไมพูด แมก็คงไมมีสิทธิ์ พายนาจะนึกออกนะลูก วาตอนนี.้ ..เขาเหลืออะไร"แมพูดไปยิ้มไป ถาบอกวามันเปนลูก


อีกคนของแมผมคงเชื่อ ดูทาทางจะถูกใจกันเหลือเกิน

ผม ปลอยใหแมนอนพักแลวก็ออกมาขับรถเลนรอบๆ รีสอรทคนเดียว ของทั้งหมดผมใหแมเก็บไวเหมือนเดิม ตลอดเวลาที่


ผานมาผมไมเคยเดาความคิดมันออก ครั้งนี้ก็เชนกัน ทําไมตองเอาเงินทองมากมายมาให ชดใชงั้นเหรอ เหมือนกันคอนโด
ที่มันจะใหผมนะเหรอ เปนวิธีการชดใชความผิดของมันใชมั้ย การเอาตัวเขามาวุนวายกับผมนี่เพราะอยากชดใชความเลว
ตัวเองเทานั้นเหรอ แคไปหางๆ ชีวิตผม แคนั้นผมก็พอใจแลว ไมตองทําถึงขนาดนี้เลย
"มาทําอะไรแถวนี"้ เสียงเรียกขางตัวทําเอาสะดุง ไมรูตัวเลยวาเหมอถึงขนาดนี้

"ขับรถเลนเฉยๆ"

"หนาบานพี่เนี่ยนะ"มันพูดจบผมรีบมองไปรอบๆ นี่ผมมาจอดอยูใกลบานพักมันตั้งแตเมื่อไหร

".......ขาวเสร็จแลว แมใหมาบอก"ผมพูดจบแลวรีบสตารทรถเตรียมขับออกไป แตมันยังจับหลังคารถไวผมเลยหันมามอง


อีกที

"...... รอกอน เดี๋ยวไปล็อคบานกอน"มันพูดแลวก็เดินหันหลังไป ผมนั่งรอสักพักมันก็เดินกลับมา ผมนาจะหาขอแกตัวอื่นที่


ดีกวานี้ มันจะไดไมตองตามผมกลับ

ผมขับรถกลับมาที่บานแลวก็เดินเขามากอน แตมันก็รั้งผมไวอีก

"แลวไมกินหรือไง"

"กินกับแมแลว เมื่อเชาไปใสบาตรที่ตลาดกับแมมา"

"....แปลกไปนะ มีอะไรหรือเปลา"

"เปลานี่ แปลกยังไง"

"ปกติไมเห็นอยากจะคุยดวย ถามคําตอบคํา แตนี่..."

"ก็แคพูดใหฟง จะไดไมตองถามอีก"

"....อืม เห็นทําหนาเหมือนอยากถามอะไร เลยคิดวาแปลกๆ"

"...... แมบอกวาคุณแอบขโมยรูปผมไป ผมขอคืน"ผมไมรูวามันรูรึเปลาวาแมผมรูเรื่องรูป แลวก็ไมรูดวยวาทําไมผมถึงยก


เรื่องนี้ขึ้นมาพูด

".....หายไปตั้งนานแลว สงสัยหายไปตอนยายหอง"มันมีสีหนาตกใจวูบหนึ่งใหเห็น กอนจะกลับมานิ่งเฉยเหมือนปกติ

"งั้นก็ไมเปนไร"ผมเดินกลับเขาหองนอน ปลอยใหมันเดินเขาไปในครัวคนเดียว
นุ ยังคงหลับไมตื่น สงสัยวาเมื่อคืนคงดื่มหนักเหมือนกัน ผมลมตัวลงนอนขางๆ อยากหลับแตกลับหลับไมลง เสียงพูดคุย
ดังจากดานนอก คงมีใครตื่นมาแลวแนๆ อาจเปนพี่หนอย เพราะพี่นพคงไปนอนตอ ผมเองก็นอนไมหลับ ถาออกไปนั่งคุย
กับพี่หนอยคงจะดีกวา

เสียงพูดคุยเบาๆ จากหองหองนั่งเลนทําใหคอนขางแปลกใจ คนที่พูดคุยกับมันอีกคนคือพี่นพ ความคิดที่จะเดินกลับเขา


หองก็ตองเปลี่ยนไปเมื่อไดยินชื่อตัวเองลอดจากบท สนทนาของคนในหอง

"รูไดไงวาพายรูแลว"

"ก็เห็นทาทางแปลกๆ ไป นาพิมพคงบอกแลวละ ผมคิดวานะ"

"ก็อาจจริง แลวนองเขาวาไงมั่งละ"

" ไมไดวาไร ไมไดพูดถึง ทวงแตรูป แตบอกไปวาหายแลว เชื่อดวย เดินกลับเขาหองไปเลย"มันพูดดวยเสียงกลั้วหัวเราะ ผม


คิดอยูแลววามันอาจจะโกหก แตไมเขาใจวาโกหกทําไม อยากไดรูปผมเหรอ

"โกหกจนเคย เดี๋ยวเขาก็ไมรูอะไรจริงอะไรไมจริงพอดี"

"งั้นมั้ง ไมรูสิ แลวแตเขา ผมวาปานนี้คงคิดละมั้งวาผมกําลังหลอกนาพิมพอยู"

"ไมหรอกมั้ง คิดมากไปได"

" หรือพี่นพวาไมจริง เด็กนั่นเคยคิดกับผมในแงดีดวยเหรอ ขนาดไปชวยตอนโดนมอมยังไมมีขอบคุณเลย ทําอะไรก็เลวไป


หมด เหนื่อยแลวเหมือนกัน"มันพูดถูก ผมไมเคยขอบคุณที่มันชวยผมไวเลย

" ก็เรามันทํากับเขาไวเยอะนี่ เคยพูดดีๆ กันหรือไง พี่เห็นดากันกัดกันตลอด"พี่นพพูดจบ ผมก็ไมไดยินมันพูดอะไรกลับมา


อีก ไดยินแตเสียงหัวเราะจากคนทั้งสอง พอผมจะหันหลังกลับก็เห็นนุยืนอยูดานหลัง รอยยิ้มลอเลียนทําใหรูเลยวามายืน
ขางหลังผมนานแลว และก็คงไดฟงเหมือนๆ กับผม

นุแตะขอมือผมเบาๆ แลวพาเดินกลับเขาไปในหอง ผมรูสึกอายๆ ที่ถูกจับไดวาแอบฟงคนอื่นคุยกัน แตนุก็ไมไดพูดลออะไร


ยกเวนสีหนายิ้มๆ นี่ละที่ทําใหอึดอัด

"ยิ้มอะไรนุ"ผมแกลงทําเสียงดุใหคนที่นั่งฝงตรงขามกลัว
"ยิ้มใหเด็กไมดี แอบฟงผูใหญคุยกัน"

"ก็นินทาพายอยู พายมีสิทธิ์ฟง"ผมเถียงเขาขางตัวเองเต็มที่

"ใชที่ไหน นินทาเขาใชเวลาคนที่พูดกับเราไมดีลับหลัง พี่ตั้มไมเห็นพูดไมดีเลย"

"เขาขางกันละสิ ก็นุชอบมันนี่"ผมเอนหลังพิงหัวเตียงแลวกอดหมอนไวบนตัก นุเองก็ทําแบบเดียวกันแตนั่งประจันหนาผม

" พายเนี่ยคิดเล็กคิดนอยเหมือนกันนะ ไมรูจะคิดอะไรใหมันซับซอนทําไม นุกับพี่ตั้มไมมีอะไรกันแลวจริงๆ นะ ตั้งแตวันนั้น


นั่นละ เจอกันยังนับครั้งไดเลย"

"นุจะเจอไมเจอพายไมเห็นสนเลย ไมตองมาบอกพายหรอก"ผมไมสนใจจริงๆ นะ

"รูครับวาไมสน แตนุอยากบอก สงสารพี่ตั้ม"

"สงสารทําไม ตองสงสารพายสิ"

" สงสารพี่ตั้ม พายไมสนใจ ทําไมพายไมพูดดีๆ กับพี่ตั้มบางละ"สีหนาแววตานุเต็มไปดวยความสงสารอยางที่พูด แตมัน


เจือดวยความรักปนอยูในนั้นดวย

"กับคนแบบนั้นเนี่ยนะ"

"แบบไหน"

"....เลวไง"คํานิยามสั้นๆ แตผมวาตรงกับมันที่สุดแลว

"ยังไง"

"เอะ! นุจะหาเรือ่ งกวนพายเหรอ"

"เปลา ถามจริงๆ พี่ตั้มเลวยังไง"นุทําหนานิ่งถามอีกครั้ง

"มันขมขืนพาย นุก็รู แลวยังเรื่องอื่นอีกที่ทํากับพาย"


" แลวเขาตั้งใจรึเปลา พี่ตั้มก็ขอโทษพายแลวนี่ แลวเขาก็ยอมรับผิดนี่นา พายจะเอาอะไรอีกละ อยากใหเขาทํายังไงเหรอ
แลวทิวละ นั่นก็จะขมขืนพายเหมือนกัน มอมยาดวย สองครั้งนะไมใชครั้งเดียว ทําไมยังใหอภัยเลย"

"พายไมไดใหอภัยทิวนะ"

"พายให นุดูออก พายไมเกลียดทิวเหมือนเกลียดพี่ตั้ม พายแคโกรธ นุไมเห็นสองคนนี้จะตางกันตรงไหน ทําผิดเหมือนๆ กัน


เพียงแตพี่ตั้มทําสําเร็จ แตทิวไม พี่ตั้มไมไดตั้งใจใหเปนพาย แตทิวตั้งใจทํากับพาย สองคนนี้ตางกันตรงไหนเหรอ นุยังดูไม
ออกเลย หรือพายรักทิว"

"เปลานะ!! ทิวเปนเพื่อน"ผมเถียงทันทีที่นุพูดจบ

"เพราะเปนเพื่อนเหรอถึงไดใหอภัยงายๆ เพราะพี่ตั้มเปนคนอื่นพายเลยไมใหอภัยเหรอ"

" มันไมใชอยางที่นุคิด ไมใชครั้งเดียวที่มันทํารายพาย นุไมรูหรอกวาพายตองเจอกับอะไรบาง"สําหรับผมครั้งแรกก็เจ็บจน


เกือบตาย แลว แลวการเจอมันในครั้งตอๆ มาอีก

"ก็คงจะจริง นุไมรูเลยเขาขางพี่ตั้มได ทั้งๆ ที่ถูกทิ้งก็ยังเชียรพี่ตั้มอีก แลวพายละ รูอ ะไรบาง พี่ตั้มทําอะไรกับพาย พายคิด


แคนี้เองเหรอ ไมหาคําตอบบางเหรอวาพี่ตั้มทําเพราะอะไร หรือไมวายังไงพี่ตั้มก็จะเลวสําหรับพายเสมอ พายไมยุติธรรม
เลย ถาเปนนุ นุจะเกลียดทิวจนไมอยากมองหนา เพื่อนกันแทๆ ยังทํากันได แต...พายไมคิดอยางนี้สินะ"

"........."ผมอึ้งกับสิ่งที่นุพูด ผมไมเคยคิดกับทิวเหมือนอยางที่นุคิดจริงๆ ผมไมยุติธรรมงั้นเหรอ

" อยาโกรธที่นุพูดมากเลยนะ นุสงสารพี่ตั้มจริงๆ ที่พี่ตั้มสงนุเรียน ใหงานนุทํา ก็เพราะนุเปนเพื่อนพาย พี่ตั้มบอกนุอยางนี้


ตอนที่ไดฟง มันทําใหนุรูสึกเกลียดพายขึ้นมาเลยละ ที่พี่ตั้มทําทุกอยาง...มันเกินกวาคําวารับผิดชอบไปแลว"

ตอนที่ 52

นุเดินออกไปจากหองหลังจากที่ผมพูดไปวานุไมเขาใจเพราะไมไดเจอแบบผม ผมนอนขดตัวอยูบนเตียงกวาง มองออกไป


นอกหนาตางไกลๆ ทองฟาเริ่มมีแสงแดดแรงจาตามเวลาที่เริ่มใกลเที่ยงไปทุกที ผมไมเขาใจแม ไมเขาใจนุ ไมเขาใจทุกๆ
คน เหมือนกับที่ทุกคนไมเขาใจผม

ผม เผลอหลับไปแลวตื่นอีกครั้งก็บายกวาเขาไปแลว รีบลางหนาแลวออกมาขางนอกแตก็ไมพบใครสักคน แมบานที่อยูใน


ครัวบอกผมวาคนอื่นๆ เขาไปเด็ดองุนกินในไร บอกวาถาผมอยากไปก็ใหตามเขาไป เพราะเย็นๆ พวกนั้นถึงจะกลับเขามา
แตผมเลือกที่จะอยูคนเดียว รถกอลฟที่เหลือทิ้งไวใหหนึ่งคันคือสิ่งที่ชวยใหผมสนุกเมื่ออยูวางๆ ผมขับรถไปรอบๆ อยางไมรู
เบื่อ มีสวนหยอมไหนสวยๆ ก็จอดแวะพักลงมานั่งเลนเดินเลน พอแดดเริ่มแรงผมก็กลับมาที่บานใหญแลวก็กินอาหารที่
แมบานเตรียมเอาไว ผมชวนคุยดูแลวถึงรูวาปาศรีเปนแมบานมานานเปนสิบปแลว เรียกวาตั้งแตพี่นพเพิ่งเกิดเลย แลวท
ริปไปเหนือปาศรีก็ไปดวยพรอมกับลุงคนขับที่เปนสามีแกอีกคน ไปจังหวัดไหนก็จะเชารถแลวใหลุงขับ ฟงๆ แลวเหมือน
เพื่อนเที่ยวกันเสียมากกวา

หลังจากทานอาหารแลวนั่งพัก ใหยอยผมก็ขับไปที่สระวายน้ํา พี่นพไดบอกพนักงานไวแลวผมเลยสามารถใชบริการไดฟรี


เลือกกางเกงวายน้ําเสร็จก็ลงวายในสระที่กวางและคอนขางโลง แตสระเล็กสําหรับเด็กมีคนใชบริการใหไดยินเสียงหัวเราะ
ดังเรื่อยๆ ผมวายไปกลับจนเริ่มเหนื่อยก็นั่งพักขอบสระ ลงวายอีกสองรอบก็ขึ้นจากน้ําเปลี่ยนชุดแลวขับเลนรอบๆ รีสอร
ทกอนขับกลับบาน

ทางลาดชันทําใหตองเหยียบคันเรงแรงเพื่อให รถขับขึ้นไปได แตผมก็เริ่มขับจนชินและกะน้ําหนักเทาไดถูก หากแตครั้งนี้


ตางออกไป รถยนตสองคันจอดเต็มพื้นที่ในลานจอดรถใหทําใหตองรีบหักหลบ แตระยะมันประชิดเกินไป เสียงรถชนเขา
กับเสาปูนตนใหญจนรถกอลฟกระเดงกลับ หนาอกผมกระแทกเขากับพวงมาลัยเต็มแรงจนทรุดลงมากองอยูนอกรถ

" พาย!!"เสียงเอะอะจากประตูบางดังกอนที่จะมาถึงตัว ผมนอนขดอยูบนพื้นพรอมกุมหนาอกตัวเองไวแนน รางทั้งรางปลิว


หวือขึ้นจากพื้นเพราะคนที่วิ่งมาถึงตัวอุมเขาไปในบาน

"พายเปนอะไรตั้ม"พี่นพรองถามเมื่อผมถูกอุมผานหนา

"รถชนเสา สงสัยจะกระแทก เห็นนอนกองอยูบนพื้น"มันพูดรัวขณะเดินกึ่งวิ่งผานหองนั่งเลน

" พาไปนอนใหหองกอนเดี๋ยวพี่ดูให"พี่นพแลวเดินตามเขามาพรอมกับคนอื่นๆ เสื้อยืดถูกถลกขึ้นมาไวใตคอ พี่นพจับๆ


บริเวณหนาอกและซี่โครงถามอาการเจ็บ กอนจะสรุปวาไมมีกระดูกหัก แตคงกระแทกแรงเพราะแคกดๆ ที่หนาอกผมยัง
รูสึกเจ็บๆ เลย

"เดี๋ยวไปหายามาทาให คิดวาคงไมกระเทือนถึงขางในหรอก สวนขอเทานี่คงบิดตอนหลนจากรถ ทายาแลวพันผาไวสักสอง


สามวันก็หาย"

" ขับอีทาไหนกันลูก เสียงโครมครามจนแมตกใจหมด"แมนั่งลงขางๆ ผมดึงฝามือออกจากการกุมมือของคนที่อุมมาสงและ


โอบกอดเขาที่เอวแมแลว รองไหเบาๆ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ พี่นพกลับเขามาอีกครั้งเพื่อนวดยาและพันขอเทากับหนาอก
ผมเอาไว อาการเจ็บปนจุกยังคงเหลืออยูบาง ผมทําไดเพียงแคนอนนิ่งๆ ไมอยากขยับตัว ผมนอนใหแมนั่งลูบหนาลูบผม
เลนจนหลับไป

ผมหลับไปสักพักก็ตื่นขึ้น มาเพราะรูสึกวาเริ่มปวดขอเทาและอึดอัดบริเวณหนาอก สิ่งแรกที่เห็นเมื่อลืมตาขึ้นมาคือทอน


แขนแกรงที่ทิ้งลงขางตัว บนตักมีแฟมเอกสารเปดกางอยูโดยไมไดรับความสนใจจากคนที่นั่งหลับ ผมพลิกตัวนอนหงาย
แลวแกะผาที่พันรอบหนาอกใหคลายออก ยอมรับอยูในใจวาไมรูสึกแปลกใจเทาไหรที่ตื่นมาเห็นมันนอนอยูขางๆ ไมใชครั้ง
แรกที่เกิดเหตุการณแบบนี้ คําพูดของนุยังคงกองอยูในหัว นุเคยพูดกับผมเรื่องนี้แลว แตก็ไมไดตรงประเด็นถึงขนาดนี้ แลว
ผมก็ไมใสใจฟงเทาไหร แตตอนนี้มีบางอยางตางไป ผมเย็นลงกวาครั้งกอน ไมใชวาจะคิดตามคําพูดนุ เพียงแตคิดถึง
เรื่องราวตางๆ ใหลึกซึ้งขึ้น

ผมเจ็บจนเกินกวาจะ เจ็บไปไดมากกวานี้ เจ็บจนชินชาและเพิกเฉยตอความเจ็บปวดของตัวเอง รวมทั้งคนอื่น ความคิดที่


อยากแกแคนหรือเอาชนะมันหายไปนานแลว ถึงปากจะพูดอยางนั้นแตตัวผมเองรูดีวาไมใช...ผมแคโกรธ สวนความเกลียด
...มันก็ยังคงอยูในความรูสึก นุบอกวาผมไมคิดหาคําตอบของการกระทําของมัน...นั่นก็จริง แตมีความจําเปนดวยหรือที่
ตองคิดหาเหตุผลใหคนที่ทํารายเรา...เพื่ออะไร ...การใหอภัยอยางนั้นเหรอ ไมใชแคคนที่นอนอยูขางๆ ผมหรอกที่ตองการ
....ยังมีอกี คนที่รอใหผมใหอภัยอยูเชนกัน คนอื่นไมมาเปนผมไมมีทางรูหรอกวาผมคิดอะไร และรูสึกอยางไร สุดทายแลวก็
ยอนกลับมาที่คําถามเดิมๆ ที่เคยถามตัวเองในใจนับครั้งไมถวน...เมื่อไหรจะสิ้นสุดสักที

"ตื่นแลวเหรอ"เสียงเรียกเบาๆ จากคนที่เพิ่งตื่นจากการนั่งหลับถามขึ้น ผมเหลือบมองกอนพยักหนาตอบเบาๆ

"เปนอะไร หรือวาเจ็บ"

"อืม นิดหนอย"

"เย็นแลวจะกินขาวหรือยัง นาพิมพทําโจกไวให จะไดไมตองออกแรงเคี้ยวมาก"

"ยังไมหิว....เมื่อไหรแพรจะมาเหรอ"

"....... เร็วๆ นี้ละ ทางนั้นก็ไมไดบอกวันแนนอนอะไร"มันคงแปลกใจเหมือนกันที่ผมพูดดีดวย ความจริงก็แคเหนื่อยแลว เบื่อ


แลว อยางหยุดนิ่งๆ สักพัก

ผมคอยๆ ลุกเดินไปเขาหองน้ําลางหนาลางตา หยิบยานวดเขาไปนวดหนาอกตัวเองในหองน้ํา ไมพันผาไวแลวครับ อึดอัด


แลวก็รูสึกคันๆ ดวย พอออกมาจากหองน้ําก็ไมมีใครอยูในหองแลว นุเดินเขามาพรอมชามโจกกับแกวน้ํา เหมือนบริการคน
ปวยเลย ความจริงผมเดินออกไปกินขางนอกก็ไดนะ

"ไมพันผาไวละพาย อึดอัดเหรอ"

" อืม คันๆ ดวย"ผมเปดเสื้อใหนุดูรอยที่ผมเกาจนแดงเปนริ้วๆ นุทําหนากลัวๆ เมื่อเห็นรอยแดงที่เกิดจากการกระแทก ถึงผม


จะไมไดเปนคนขาวอะไรมากมาย แตเพราะไมคอยไดเลนกีฬาที่ตองถอดเสื้อนัก ตัวเลยเหมือนจะขาวกวาสวนอื่น พอมีรอย
อะไรนิดหนอยก็เห็นชัดจนดูนากลัว
ผม นั่งกินโจกแลวก็ฟงนุเลาเรื่องที่เขาไปในไรวันนี้ใหฟง นุบอกวาตอนแรกจะรอไปพรอมผม แตแมบอกวาไมตองรอหรอก
เพราะยังเขามาเก็บกินไดอีกหลายวัน ไวมากับผมวันหลังก็ได แมคงเดาออกวาผมไมคอยอยากไปดวยเทาไหร ผมถามเรื่อง
รถที่ชนวาเสียหายมากหรือเปลา นุบอกวาดานหนามีกันชนเปนยางที่แข็งแลวหนามาก พอชนเสาเลยกระเดงกลับ ผมเลย
เจ็บแทน แตรถมีรอยยางถลอกเปอนเสานิดหนอย

ผมนอนอยูในหอง ทั้งวัน พี่นพพี่หนอยแลวก็แมผลัดกันเขามาดูอาการผมบาง ผมคงไมช้ําใน แตพี่นพอยากใหไปตรวจอีกที


ในวันพรุงนี้ ผมไมคอยอยากขยับตัวเพราะมันเจ็บๆ ทุกครั้ง ขอเทาก็เจ็บเลยยิ่งไมอยากเดินออกไปไหนมาก จะเดินเขา
หองน้ําก็ลงน้ําหนักเทามากไมได

วันรุงขึ้นผมเดินออกมา จากหองเพื่อรวมโตะทานอาหารเชากับทุกคนโดยมีนุคอยประคองเวลาเดิน พอทานอาหารเสร็จพี่


นพกับนองชายเขาก็พาผมไปโรงพยาบาลในตัวเมืองเพื่อ เอ็กซเรยใหละเอียด แตผลที่ออกมาก็เหมือนที่คาดไว แคฟกช้ํา
และระบมจากการกระแทกเฉยๆ เรากลับมาถึงรีสอรทในตอนบาย และก็ไดพบกับแขกที่ไมคาดฝน

เสียงหัวเราะพูดคุยในหองนั่งเลน เงียบลงไปเมื่อพวกเราสามคนเขายืนอยูหนาประตูจนคนขางในหันมามอง พี่อั๋นสงยิ้มให


แตยังไมเทากับผูหญิงรางเล็กที่มองตรงมาที่ผม ใบหนาที่เหมือนตกใจชั่วครูปรับเปนสงยิ้มละไมมาให ผมสงยิ้มตอบ
กลับไปในแบบเดียวกัน ยิ้มแบบที่เคยยิ้มใหกันเมื่อในอดีต ยิ้มดวยความรูสึกดีๆ ที่มอบใหเทานั้น

"....แพร"

"ไมพบ กันนานนะคะพี่พาย....นานมากจริงๆ"คําพูดที่ถายทอดออกมาหยั่งลึกไปในความ รูสึกผม...เชนเดียวกัน ผมเองก็


รูสึกวาเราไมไดพบกันนานเหลือเกิน ทั้งที่ความเปนจริงมันไมไดนานขนาดนั้น

"จองกันไปจองกันมาแบบนี้ พี่หึงนะนองแพร"พี่อั๋นพูดแทรกเลยทําใหทุกคนหัวเราะขึ้นมา นุเดินเขามาชวยพยุงใหผมไปนั่ง


ขางๆ พี่อั๋นพูดเรื่องงานหมั้นกับปาภาอยางมีความสุข เสียงหัวเราะหยอกลอกันไมคอยไดเขามาใหสมองผมเทาไหร ผม
ไมไดรูสึกแยที่รูแนชัดวาจะหมั้นกันจริงๆ ผมรูสึกดีใจดวยซ้ําที่เห็นนองแพรยิ้มแยมแจมใสอยางมีความสุข ผมลุกกลับเขา
หองนอนในตอนที่ไมมีใครสนใจ การนั่งนานๆ ทําใหตองเกร็งๆ ตัวเลยทําใหรูสึกปวด ผมนวดๆ ยาที่หนาอกอีกครั้งแลวก็
นอนอานหนังสือพิมพรอใหยาซึมลงผิว เสียงเคาะประตูดังจากหนาหองกอนจะเปดเขามาเมื่อผมขานรับ

"ขอแพรคุยดวยไดไหมคะ"

" คุยขางนอกดีกวามั้ย ในนี้ไมคอยเหมาะ"ผมลุกจากเตียงแลวเดินไปหาแพร เราเดินขางกันออกมานั่งที่เกาอี้หนาบาน แพร


ดูนารักสดใสเหมือนเมื่อกอนไมมผี ิด รางเล็กบางในชุดแส็คสีขาวนาทะนุถนอม ผมแทบลืมไปเลยวาแพรก็พบเจอเหตุการณ
เลวรายมาเหมือนกัน แตแพรเปนผูหญิง ทั้งๆ ที่เปนผูหญิงตัวเล็กๆ ทําไมตอนนี้ถึงไดดูเขมแข็งนัก

"พี่พายเปลี่ยนไปนะคะ"คําพูดแรกหลังจากที่เราจองกันไปมา
"เหรอ เปลี่ยนยังไงละ พี่วาพี่ก็เหมือนเดิมนะ แตอาจโทรมๆ ไปหนอยเพราะเจ็บแผลอยู"ผมยิ้มแบบเขินๆ กับสายตาที่จอง
สํารวจของนองแพร

"ไมโทรมนะคะ แตก็ไมรูจะเรียกวาสดใสไดรึเปลา ดู...จริงใจดีนะคะ"

"หะ"

" อยาเพิ่งเขาใจผิดนะคะ แพรไมไดหมายความวาเมื่อกอนพี่ไมจริงใจนะ คือ...จะวาไงดีละ เมื่อกอนเวลาแพรอยูกับพี่แลว


แพรเดาอารมณพี่ไมคอยออกนะ สังเกตุทางสีหนาก็ไดผลเทาเดิม เพราะพี่มักจะยิ้มเสมอเลย บางครั้งแพรทําผิดพี่ก็ไมวา
อะไร แพรเลยเดาพี่ไมออกวาจริงๆ พี่รูสึกยังไง"

"งั้นเหรอ พี่ก็ไมรูตัวเหมือนกัน แต...ก็มีคนพูดวาพี่เปลี่ยนไปเหมือนกับแพรนะ"ผมนึกถึงทิว ครั้งหนึ่งทิวก็บอกวาผม


เปลี่ยนไป คงหมายถึงแบบที่แพรกําลังอธิบายอยูนี่ละมั้ง

"แพรก็ดูสดใสกวาเมื่อกอนนะ...มีความสุขดีใชมั้ยครับ"

" คะ ตอนนี้แพรมีความสุขมาก เรา...ผานเรื่องรายๆ มาอยางไมคาดฝนเลยไมมั้ยคะ เหมือนฝนราย แตมันก็คือความจริง


โชคดีนะคะที่เราผานมันมาได"

"โชคดีที่ผานมาแลวลงเอยกับพี่อั๋นแบบนี้ใชมั้ยละ"ผมแกลงแซวเรียกอาการเขินอายจนแกมใสๆ แตมเลือดฝาดใหเห็น

"ตองขอบคุณพี่อั๋นที่ยอมรับแพรได พี่อั๋นคอยใหกําลังใจแลวก็ตามแพรตลอดตั้งแตเมื่อกอน จนแพรใจออน และก็รักพี่อั๋น


จริงๆ"

"เห็นแพรยิ้มไดแบบนี้พี่ก็ดีใจ ไมคิดวาเราจะไดคุยกันแบบนี้อีก"

" คะ เมื่อกอน...แพรรักพี่พายจริงๆ นะคะ พี่พายเปนพี่ที่แสนดีและอบอุนสําหรับแพรเสมอ ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม นองคนนี้


ก็ยังหวังใหพี่มีความสุขอยูเหมือนเดิมนะคะ"

"ขอบคุณครับ และก็....ขอโทษดวย"ผมไมสามารถเอยใหชัดเจนไดวา...ขอโทษ...อะไร แตคิดวาแพรคงรู

" ไมเปนไรคะ แพรไมคิดโทษใครหรอก จะวาไปแพรเองกีมีสวนผิดในเหตุการณวันนั้น พี่พาย....คงไมเคยรูเลยสินะคะวา...


เขารักพี่มากขนาดไหน"คําวา..เขา..ของ แพรหมายถึงทิว ผมแนใจวาเปนอยางนั้น
แพรเลาเหตุการณที่วันที่ เกิดเรื่องใหฟง เธอตั้งใจไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่ผับ แตไมคิดวาจะไปพบกับกลุมของทิวที่กําลังเดิน
ออกมาที่ลานจอดรถ แพรเขาไปถามหาผม เพราะคิดวาผมอาจจะไปดวย แตทิวคงกําลังเมาหนักถึงไดโตกลับดวยถอยคํา
รุนแรง แพรเองถึงจะดูออนหวานแตก็ไมใชหญิงสาวใสซื่อ เธอเองก็ตอบโตกลับไปดวยเชนกัน ทิวออกปากไลไมใหมายุงกับ
ผมอีก เพราะวาผมเปน...เมียของทิว แพรไมคิดวาทิวที่เปนเพื่อนรักของผมจะคิดแบบนั้นกับผม และไมเชื่อวาผมจะรักกับ
ทิวแบบคูรัก แพรบอกวาจะมาถามผมใหรูเรื่อง และเชื่อวาผมไมมีทางเปนอยางที่ทิวพูด ทิวจะตองถูกผมรังเกียจแนๆ ถา
ผมรูวาทิวคิดอะไร ทิวคงกลัววาแพรจะมาพูดกับผมจริงๆ ถึงไดหามกึ่งขู หากแพรไมกลัวเลยสักนิด แถมยังขูใหทิวไปจาก
ผม ไมอยางงั้นจะมาบอกผมวาทิวคิดกับผมแบบคนรัก ผมเดาไดวาทิวโมโหแคไหน รูมานานแลววาทิวเปนคนอารมณ
รุนแรง ใจรอน เรื่องราวเลยลงเอยอยางที่ผมรู

"แพรไมโทษเขาหรอกนะคะที่ทํากับแพร แบบนั้น ถือวาแพรเองก็มีสวนผิดที่ยั่วยุใหขาดสติ อยางนอยก็ไมใชการรุมโทรม ยัง


ดีที่เพื่อนๆ ในกลุมเขาไมไดชอบผูหญิงแพรเลยรอด หรือบางทีเขาอาจไมเลวรายจนคิดจะรุมแพรก็ได แพรไมติดใจอะไรอีก
แลว ตอนนี้เขาเองก็คงกําลังรับกรรมที่ทํากับแพรเหมือนกัน...เพราะ...ขางตัวเขาก็ ไมมีพี่เหมือนเมื่อกอน"

"ขอโทษที่พี่เปนตนเหตุใหเกิดเรื่องแบบนี้ พี่ไมเคยรูเลยจริงๆ"

" ไมแปลกหรอกคะที่พี่จะไมรู วันๆ พี่พายก็มีแตเรียนแลวก็ทํางานแคนั้นนี่คะ บางทีถาพี่สังเกตุดีๆ พี่อาจจะรูก็ไดวา...ทําไม


พี่ถึงไมมีเพื่อนคนอื่นเลย....เวนเสียแตเขาคน เดียว"

"............"ผมคอนขางงงกับคําถามนี้ ผมไมเคยถามตัวเองเพราะรูดีวาไมคอยมีเวลาใหคนอื่นเทาไหร เรียนเสร็จก็ทํางาน


ไมไดไปสังสรรคกับใคร แตมันมีเหตุผลนอกจากนี้ดวเหรอ

" พี่พายอยาคิดมากเลยนะ แพรแคอยากเลาเรื่องวันนั้นใหฟง อยางนอยๆ เขาก็ดีกับพี่มาตลอด และรักพี่มากจริงๆ เพียงแต


มันผิดวิธีไปสักหนอย มันเปนเรื่องที่พี่สมควรจะรูนะคะ แพรรูจากพี่อั๋นวาพี่ยังไมรูเรื่องทั้งหมดของแพร และคิดวาพี่คงไม
ถามจากเขาแนๆ พี่พาย...เปนอยางนั้นเสมอ ไมเคยทําใหใครรูสึกลําบากใจ แพรถึงไดชอบอยูใกลๆ พี่ แตลึกๆ แพรเองก็
เหงา เหมือนกับพี่พยายามเอาใจแพร เหมือนแพรไมสามารถแตะตองตัวตนพี่ไดเลย"แพรพูดในสิ่งที่ผมไมรู ไมเคยรูเลยวา
ทําใหเธอรูสึกอึดอัด ไมเคยรูเลยวาตัวเองเปนแบบนั้น

"พี่คงทําใหแพรคิดมากมาตลอดเลยสินะ"

"ก็...นิดหนอยคะ แตถึงอยางนั้นแพรก็รักพี่"แพรพูดพรอมรอยยิ้มเหมือนวันวานที่เรายังมีกันอยู

" พี่ก็รักแพรนะ แพรเปนคนเดียวที่พี่อยากจะดูแลไปตลอดชีวิต แตพี่คงทําไดไมดีเทาพี่อั๋นแนๆ ตอนนี้คงไดแคคอยเฝาดูอยู


หางๆ พี่จะคอยเปนหวงแพรเสมอนะ"ผมสงยิ้มตอบกลับ คําบอกรักที่ไมเคยพูดออกไปใหชัดเจนก็ไดบอกไป ความในใจที่
เคยคิด แมจะสายไป แตมันก็ไมสูญเปลา แคอยากใหรับรู แพรเองก็คงตองการแบบนี้เหมือนกันถึงไดมาหาผม มาถายทอด
เรื่องราวใหฟง
" คะ แพรก็เปนหวงพี่เสมอนะคะ"เรายิ้มใหกันอีกครั้ง ยิ้มแทนคําลาในความรักของเราสองคน แพรมาเพื่อทําใหเรื่องทุก
อยางมันจบลง ความรูสึกของผมที่ยังติดคางคําขอโทษเธออยูก็ผอนคลาย เราพบกันครั้งนี้เพื่อกลาวลาอยางเปนทางการ
ผมคิดไมผิดจริงๆ ที่เคยรักเธอ

"แพรเขาบานไปดีกวานะ เดี๋ยวพี่อั๋นจะคอเคล็ดซะกอน เห็นชะเงอมาทางนี้นานแลว"ผมมองไปทางหนาประตูบานที่เห็นเงา


คนเดินเขาออก หลายรอบ จนสุดทายก็ยืนมองมาไดสักพัก

"พี่พายนะ มาแซวแพรอยูได อืมจริงสิ งานหมั้นแพรคงไมไดเชิญนะคะ แพรแคจัดหมั้นกันเฉพาะในหมูญาติสนิทแลวก็จะ


บินกลับไปทําเรื่องเรียนตอเลย ขอโทษดวยนะคะ"

"ไมเปนไรครับ พี่แสดงความยินดีอีกครั้งนะ งานหมั้นไมเทาไหร แตงานแตงอยาลืมชวนละ"ผมแกลงหยอกอีกครั้งกอนจะ


มองดูเธอเดินกลับไปหา ผูชายที่สามารถดูแลเธอไดตลอดชีวิต เปนครั้งแรกที่รูสึกโลงใจและปลอดโปรง ความรูสึกและ
คําพูดที่ติดคางก็ไดพูดออกไปแลว....สวนหนึ่ง คําพูดของแพรไมไดทําใหผมปรับเปลี่ยนความรูสึกของตัวเองกับทิวเทาไหร
มันไมตางจากที่คิดมากนัก แตก็ยังมีเรื่องที่ทําใหตกใจอยูบา งนิดหนอย

" เสียใจหรือไงที่เขาเอาคูหมั้นมาเปดตัวนะ"เสียงเดินทางดานหลังพรอมคําพูด เสียดสีที่เปนเอกลักษณเฉพาะตัว ยังคงทํา


ใหผมหงุดหงิดไดเหมือนเดิม

"..... พูดดีๆ บางไมเปนรึไง คนกําลังอารมณดีอยู" ตอนแรกผมวาจะไมพูดอะไรแลว แตเพราะแพรบอกวาผมเปนคนไมคอย


พูดใหคนอื่นลําบากใจ ผมก็เลยพูดดีกวา พูดอยางที่คิด ไมไดประชดประชันกันเหมือนเมื่อกอน ผมแคอยากใหอะไรมัน
ชัดเจนขึ้น อยากหาคําตอบใหตัวเองเร็วๆ

"ก็แคถาม "มันพูดดวยน้ําเสียงปกติที่ผมเดาไมออกวารูสึกยังไง แตสีหนาและแววตาที่นิ่งเฉยทําใหเดาวาหมายความ


ตามนั้นจริงๆ คงไมไดประชดอะไรกลับมา

"ถามทําไม เปนหวงหรือประชด แลวจะประชดทําไม จะหวงผมทําไม....รักผมรึไง"

ตอนที่ 53

"ถามทําไม เปนหวงหรือประชด แลวจะประชดทําไม จะหวงผมทําไม....รักผมรึไง"ผมพูดออกไปโดยที่ไมตั้งใจ จะกลับคําก็


ไมไดเพราะทาทางคนฟงจะไดยินชัดเต็มสองหู ผมรีบเดินหนีเพื่อกลับเขาบานแตมันก็ดันควาแขนเอาไวกอนที่จะเดินผาน
" ไมตองตอบหรอก ถามเลนๆ เฉยๆ พอดีเบลอๆ นะ"ผมรีบพูดกอนที่มันจะพูดอะไรออกมา ผมคงอินกับบรรยากาศระหวาง
ผมกับแพรมากไปละมั้งเลยเผลอพูดออกไปแบบนั้น มือที่กุมรอบแขนแนนจนแกะไมหลุด ตัวผมเซไปตามแรงดึงจนเกือบ
ปะทะเขากับแผนอกถาไมยันเอาไว พอจะเงยหนาขึ้นมาดาก็ตองรีบหลบหนีหนาที่กมลงมาหา...แตคงชาไป

" อุบ! อื้ออ....."ผมพยายามดันและเบี่ยงหนาหนีแตก็ติดมือแกรงที่จับทายทอยและ กอดชวงเอวไวแนน ริมฝปากที่แนบชิด


พรอมเรียวลิ้นตวัดพัวพันชาๆ ไมไดเรียกรองใหสนองตอบ เพียงครูเดียวปากที่แนบสนิทก็ถอนออกไป แตถอนไปแคเพียง
เล็กนอย ลมหายใจอุนยังรดใบหนาจนตองเสหลบไปมองดานขางเมื่ออีกคนทําทาจะกมลงมา อีกครั้ง ปากอุมเฉียดผิวแกม
จนรูสึกได เสียงกระซิบแผวเบาดังอยูขางหูชัดเจนพอๆ กับริมฝปากที่กดแนบขางขมับ

".........รัก"

วงแขนที่กระชับรอบเอวคอยๆ คลายลงกอนจะปลอยใหเปนอิสระทั้งตัว ผมยืนนิ่งรูสึกเหมือนทั้งตัวกลายเปนหิน ไม


สามารถขยับตัวออกหางได ในขณะเดียวกันมันก็ไมถอยหางไปจากผม เรายังยืนชิดกันอยูโดยที่ไมไดสัมผัสกัน มีเพียงลม
หายใจอุนๆ ที่แสดงวามันยังยืนอยูใกลๆ เสียงพูดคุยลอดผานออกมาจากในบานและเหมือนจะตรงมาทางนี้ทําใหผมรีบ
ถอยออก หางในขณะที่ยังหันหนามองที่พื้น เสียงฝาเทาย่ําเดินหางออกไปในขณะที่ผมยังคงกมหนานิ่งอยูที่เดิม...ไม ไดยิน
...จะดีกวานี้ไหม...หากยังคงแกลงไมรับรู. ...จะเปนอยางไร

ผม เดินกลับเขาบาน เดินเลี่ยงกลุมคนที่ยังนั่งคุยกันในหองนั่งเลนกลับเขาหองตัวเองเพียง ลําพัง แรงกอดเมื่อกี้แมจะไม


แรงมากแตก็ทําใหรูสึกเจ็บ....เปนเพราะรอยช้ํา บริเวณหนาอก....หรือ...เพราะคนที่กอด ถาไมไดยินคงไมตองกลับมานอน
คิดมาก ทุกอยางก็คงเหมือนเดิม ความรูสึกผมก็คงงายๆ เหมือนเดิม ไมตอง...ซับซอนและสับสนแบบนี้ ไมเคยคิดเลยสัก
นิดวาจะไดยินคํานั้น ตอใหใครตอใครพูดออมคอมบอกใบขนาดไหนก็ยังทําเปนไมเขาใจได ยังยึดมั่นในความคิดตัวเองได
...ผิดจริงๆ...ที่เผลอถามออกไป

วันนั้น ทั้งวันผมพยายามปลีกตัวออกหางจากทุกคนโดยอางวาเจ็บแผลและอยากนอนพัก ทั้งๆ ที่ไมจําเปนตองหลบ เพราะ


อีกคนก็วุนอยูกับงานในไรจนไมไดกลับมากินขาวพรอมคนอื่นๆ เชนกัน

" พรุงนี้พี่นพกับพี่หนอยจะถายชุดแตงงานกันละ พายไปดวยกันนะ พี่หนอยใหมาบอก"นุเดินเขามานั่งขางๆ ขณะที่ผมนอน


อานนิตยสารทองเที่ยวอยู

"ไปที่ไหนละ"

"ก็ในรีสอรทกับในไรนี่ละ เห็นวาเปนทีมฟรีแลนซของพี่ตั้มจากกรุงเทพฯ พี่นัทก็จะมาพรุงนี้ดวย"

"ก็ได อยากเห็นพี่หนอยใสชุดแตงงานเหมือนกัน"ผมรับคําแลวกมอานบทความทองเที่ยวที่เปดคางไว
"คนเรานี่นา...."นุเหมือนจะพูดตอแตก็ไมพูด หันมามองหนาผมแลวก็อมยิ้มแบบคนรูทัน

"อะไรนุ"

"ก็เปลา พอดีวันนี้บังเอิญไปเห็นเลิฟซีนนิดหนอยเลย.....อิจฉา"

" นุ!!"ผมเรียกนุเสียงดังเพราะตกใจ ไมคิดวาจะมีใครเห็นตอนนั้น นุหัวเราะแลวก็รีบวิ่งออกไปจากหองปลอยใหผมนั่งคน


เดียวตอไป มันออกจะผิดคาดที่นุเอาเรื่องวันนี้มาลอผม โดยที่ไมมีทาทีหึงหวงหรือนอยใจอะไร

รุงเชานุปลุกใหผมตื่น ตั้งแตฟายังไมสางเพราะคนอื่นกําลังเตรียมตัว พี่หนอยพี่นพก็แตงหนาแตงตัวเสร็จแลว ผมรีบ


อาบน้ําแลวเดินออกมารวมกับทุกคน ทีมงานของพี่นัทมาถึงเมื่อคืน ผมออกมาก็เห็นทุกคนทยอยขนของขึ้นรถกระบะ พี่
หนอยกับพี่นพอยูในชุดกางเกงยีนสเสื้อยืดสีขาวสกรีนลายรูปหมีสองตัวหัน หนาเขาหากัน ใบหนาทั้งคูแตงแคบางๆ
เทานั้น พอทุกอยางพรอมเราก็ขึ้นรถตูโดยมีมันเปนคนขับขับนํารถกระบะอีกที รถขับหางออกไปจากตัวรีสอรทและไรมาก
ขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ตีหาอยูเลย ผมไมรูวาเขาจะไปถายกันที่ไหนถึงไดไปตั้งแตแดดยังไมออก

ปลายทางที่เรามาถึงเปนที่ราบเรียบๆ และโลง มีสายน้ําเล็กๆ ไหลผาน บรรยากาศแบบนี้คงตองเปนคนที่ชอบเที่ยวจริงๆ


ถึงไดเขามาเห็น เพราะมันไมไดอยูติดกับถนนสายหลัก แตตองขับลงทางดินเขามาดานใน อุปกรณสําหรับการถายภาพถูก
ขนลงมาอยางรวดเร็ว ผมเห็นมันยืนคุยกับทีมงานสักพักก็เดินไปคุยกับพี่นพพี่หนอยในรถตู แสงแดดออนๆ ตอนเชาเริ่มมี
ใหเห็นก็เริ่มลงมือถายภาพกัน โดยที่มันเปนตากลอง

ภาพหลายภาพที่มันเปนคนจัดทาทําเอาผมกับนุนั่ง เขินตาม ใบหนาที่เกือบจะแนบชิดกันของพี่สองคนทําใหลุนอยางใจ


ระทึก ชอดอกไมที่เหลือกานไวยาวและมีเพียงริบบิ้นถูกแลวทิ้งปลายยาวลากพื้น เปนอีกหนึ่งอยางที่ลงตัว เมื่อมันไดภาพ
ทุกอยางที่ตองการก็เปลี่ยนสถานที่กันใหมอีกครั้ง คราวนี้เปนทุงดอกทานตะวันที่บานสะพรั่งรับแสงแดด เรายังไมลงมือ
ถายเพราะทุกคนแวะที่รานอาหารฝงตรงขามเพื่อรอใหแดด แรงกวานี้ พี่นพกับพี่หนอยเปลี่ยนเสื้อยืดสีขาวเปนสีฟาออน
ตอนนี้แดดแรงมากๆ ผมกับนุมองดูอยูหางๆ สักพักก็เดินดูบรรยากาศรอบๆ มีบันไดใหปนขึ้นไปสําหรับยืนถายรูปขางบน
ใหเห็นทุงดอกทานตะวันกวางขวาง ที่นี่ใชเวลานอยกวาที่แรก เสร็จจากที่นี่พวกเราก็กลับมาที่รีสอรท พี่นพกับพี่หนอยตอง
อาบน้ําแตงตัวแตงหนาใหม คราวนี้ผมก็ไมตองนั่งรถตามคนอื่นๆ เพราะผมไดรับอภิสิทธิ์ใหขับรถกอลฟตามหมูคณะ ชุด
แตงงานสีขาวฟูฟองขับใหผิวขาวกระจางมากขึ้น ผมไมรูวาเปนเพราะชุดหรือบรรยากาศถึงไดเห็นวาสองคนนี้หลอและสวย
ที่สุด เมื่ออยูในชุดแตงงานและยืนขางกัน

การถายภาพในรีสอรทและไรองุน เปนหนาที่ของชางภาพอีกคน โดยที่มันไมเขาไปยุงดวย นานๆ ครั้งถึงจะเห็นชางภาพคน


นั้นเดินมาปรึกษา สวนมันก็คอยถายรูปดวยกลองอีกตัวใหพี่อั๋นกับนองแพร ถึงชุดและหนาจะไมไดเตรียมพรอมเหมือนอีก
คู แตก็เหมาะสมลงตัวกันทุกอยาง สีหนาของนองแพรแสดงถึงความสุขอยางที่ผมไมเคยเห็น แววตาพี่อั๋นเองก็แสดงถึง
ความรักที่มีใหอยางไมปดบัง ผมยืนยิ้มมองดูสองคูรักอยางรูสึกอบอุนในหัวใจตามบรรยากาศรอบๆ ตัว
ไมรูวาผมรูสึกไปเองหรือเปลา เสียงชัตเตอรของกลองดังอยูใกลๆ ผมหลายครั้ง บางครั้งหันไปก็จะเห็นมันยืนมองอยูพรอม
กลองในมือ และครั้งสุดที่เห็นคือเลนสกลองกําลังจับที่ใบหนาผมจริงๆ ดวย ผมรีบหันหนีแลวเดินไปจูงมือนุเดินไปดูพี่นพ
กับพี่หนอยแทน

กวาจะถายรูปกันเสร็จก็บายคลอยเขาไปแลว ชุดแตงงานที่นํามาถายไมไดมีเพียงชุดเดียว ผมคอนขางเห็นใจพี่หนอยที่ตอง


แตงหนาใหมบอยๆ และชุดนั่นก็ดูนาอึดอัดใชหยอก หลังจากเก็บของเสร็จทุกคนก็รวมกันที่บานใหญเพื่อทานอาหารกอนที่
ทีมงานพวก นั้นจะแยกกลับไปเช็คงานกัน

มื้อเย็นเปนการเลี้ยงขอบคุณทีมงานของปาภา เราไปนั่งกินอาหารกันที่ลานหนาบาน โตะและเกาอี้มีพนักงานของรีสอรท


มาจัดเตรียมพรอมอาหารเสร็จสรรพ เตายางบารบีคิวและสเต็กตั้งอยูดานขาง วันนี้ทั้งวันผมยึดนุเอาไวขางกายจนเหมือน
ฝาแฝด แมนั่งคูกับปาภาและก็ลุกเขาไปในบานเมื่อทานอิ่ม

"ไมเจอนองพายตั้งนาน สบายดีนะครับ"พี่นัทเดินมานั่งขางๆ นุแลวชะโงกหนามาถามผม

"ก็ดีครับ พี่ละครับ"

"ชวงนี้ก็งานหนักหนอย ไอสองคนนั้นเลนไมเขาไปชวยงานเลย"พี่นัทพยักหนาไปทางสองหุนสวนที่นั่งพูดคุยกับพี่นพพี่
หนอย

"แลวนี่พี่นัทจะกลับเมื่อไหรครับ วันเดียวงานก็เสร็จหมดซะแลว"ผมคิดวาจะถายกันสักสองวัน แตเห็นบอกวาคาเชาชุดแพง


เอาการเลยครับ

" พรุงนี้ครับ แลวนุบอกพายหรือยังวาจะกลับพรอมพี่"พี่นัทกมหนาพูดกับนุ ผมเลยจองไปที่นุบาง ไมเห็นบอกเลยวาจะกลับ


ผมคิดวาจะอยูกับผมจนหมดปดเทอมเสียอีก

"เออ...ก็ไมอยากทิ้งหองไวนานๆ นะ งานดวย มาเที่ยวแบบนี้แตไดเงินปกติก็เกรงใจพี่ตั้มเหมือนกัน"

"ก็ไหนบอกวาจะอยูกับพายไง"ผมทวงถึงคําที่เคยพูดกันไว

"ก็..."นุอ้ําอึ้งไมตอบอะไรจนพี่นัทตองพูดเอง

"พี่ใหนุกลับเองแหละ หางกันนานๆ พี่ก็คิดถึงเหมือนกันนี่ครับ"

"หา....อยาบอกนะวา...."ผมจองหนาพี่นัทสลับกับนุ พี่นัทยิ้มรับสวนนุพยักหนาเบาๆ
"พี่นัทแตงงานแลวมายุงกับเพื่อนผมทําไม ผมไมยอมนะ"

"เดือนหนาพี่ก็หยาแลว พี่ไมไดหลอกเพื่อนเราหรอกนะ"

"แลวนุละ ก็ไหน...."ไหนวานุรักมันไง ไหนวา...ยังรัก

" เดี๋ยวนุเลาใหฟงก็ได ไปคุยกันที่อื่นดีกวานะ นุอายนะ เดี๋ยวคนอื่นไดยิน"นุพูดพรอมดึงมือผมใหลุกตามไปในบาน แลวเขา


มานั่งคุยกันในหองนอน

"กอนหนาที่นุจะทะเลาะกันพายวันนั้น นะ...นุมีอะไรกับพี่นัทชวงที่พี่ตั้มไมมาหานะ นุไมดีเองละ แตพายก็เห็นใชมั้ยวาพี่นัท


เขาแบบ...พูดจาดีนะ นุก็ชอบๆ พี่เขาเหมือนกัน พอมีเรื่องกันก็ไดพี่นัทนี่แหละที่คอยโทรหาแลวก็มาดูแลแทนพี่ตั้ม พี่ตั้มก็รู
เรื่องนี้นะ พี่นัทเขาไมไดปดอะไร"

"อะไรกัน พอไมเอาก็โยนใหเพื่อนเหรอ ทําแบบนี้ไดไง"

" ไมใชแบบนั้นหรอกพาย นุคิดวานุรักพี่ตั้ม แตมันเปนแบบกึ่งเคารพมากกวา ก็พี่ตั้มเขาดูแลใหความชวยเหลือหลายอยาง


นุก็อยากตอบแทนเขา รักนะมันก็รักอยู แตคิดวาคงไปกันไมไดหรอก เวลาอยูกับพี่ตั้มบอยครั้งนุก็อึดอัด แตกับพี่นัทมันไม
เหมือนกัน พี่นัทเอาใจนุมากๆ เลยนะ ตามใจนุบอยๆ แลวนุก็สามารถออนพี่นัทได กับพี่ตั้มนี่ไมคอยกลาออนเทาไหร"

".......เอาเถอะ ถาชอบกันจริงๆ พายจะไดไมตองเปนหวง แตยังไมหยาแบบนี้พายไมชอบเลยนะ"

" พี่นัทเขาก็หวงเรื่องนี้เหมือนกัน กอนหนานี้เลยใชโทรศัพทอื่นโทรหานุตลอด กลัวภรรยาเขาสืบไดนะ ตอนนี้เคลียรกันได


แลวนุก็ดีใจ กอนมานี่เหมือนทางนั้นเขาจะระแคะระคายมาบางเลยพยายามตามหาตัว พี่ตั้มเลยพามาอยูที่นี่ รอใหพี่นัท
มารับ แตความจริงนุวาพี่ตั้มอยากใหพายมีเพื่อนคุยมากกวา แลววันนี้ถาพี่นัทเมาพายก็อยาเขาใกลมากนักนะ"

"อะไร มาหึงอะไรพาย พายไมยุงหรอกนะ"

" ไมใชหรอกนะ แตกลัวพี่ตั้มหึงพายตางหาก เห็นพี่นัทบอกวาเคยพาพายกลับคอนโด แลวแบบ...จะปล้ําตอนพายหลับนะ


แตพี่ตั้มกลับมากอน เจอตอยปากแตกเลย"

"เฮย! เมื่อไหร ไมเห็นรู"

" ไมรูสิ นุก็จําไมไดแลว พี่นัทเลาใหฟงขําๆ เฉยๆ แตนุก็แอบหึงพายเหมือนกันนะ พี่นัทบอกวาแรกๆ ชอบพายมากเลย แต


เจอสกัดดาวรุงซะกอนเลยตองถอย"นุพูดไปก็หัวเราะไป ทาทางจะสีความสุข มินาวันนี้ราเริงไดทั้งวัน ผมก็ดันดึงนุไดขางตัว
ตลอด นาสงสารพี่นัทเหมือนกัน
"เอาเขาไปหัวเราะเขาไป อิจฉาจริงคนมีความรักเนี่ย"ผมแกลงหยิกแกมนุเบาๆ ก็โดนตีมือกลับมา นุยืนยันวาจะกลับพรอม
พี่นัทวันพรุงนี้ ผมเองก็จนใจ

เราเดินกลับ ออกมานั่งขางนอกเพราะกลัวคนอื่นเขามาตาม ดานนอกคงเริ่มเมากันบางแลว ไวนและเหลาลดไปจากเดิม


เยอะ ผมกับนุเองก็นั่งจิบไวนองุนรวมดวย สองคูรักที่ถายรูปในวันนี้ทาทางจะมีความสุขมาก คุยไปยิม้ ไปตลอดเวลา พี่นัท
กับนุเองก็นั่งตักนั่นปอนนี่กันเรื่อยๆ ผมดื่มจนเริ่มรูสึกมึนเลยจะขอตัวไปอาบน้ํานอนกอน

"นุ...พายไมไหวแลวนะ เริ่มมึนๆ แลว ไปนอนกอนแลวกันนะ"ผมลุกขึ้นแลวพยายามทรงตัวใหตรง

" อืม...คืนนี้นุไมไปนอนกับพายนะ"นุพูดออมแอมเบาๆ ผมมองหนาแดงๆ นั่นแลวก็เขาใจ นานๆ เจอกันทีนี่นะ ไมอยาก


ขวางความสุขเขา ผมพยักหนารับแลวประคองตัวเองเขาหองนอนอยางทุลักทุเล กวาจะอาบน้ําเปลี่ยนชุดไดก็หวิดจะลมใน
หองน้ําเสียหลายรอบ แตพอเปดประตูหองน้ําออกมาก็ไมแนใจวาตัวเองตาฝาดเพราะเมามาก หรือเพราะใครอีกคนที่
พยายามหลบหนามานั่งอยูบนเตียงจริงๆ

ตอนที่ 54

“...........อะไร”ผมไมแนใจวาควรเริ่มตนคําถามแบบไหน เพราะทั้งไมแนใจวามันนั่งอยูจริงหรือเปลา ไมรูวาเขามาทําไม ไม


รูวาตองการอะไร แลวผม...ควรทําอยางไร

“....นุบอกแลวใชมั้ยวาจะกลับพรุงนี้”

“อืม”ผมตอบในลําคอเบาๆ แลวพยักหนาเสริมอีกที

“แลวจะเอายังไง”

“หะ!”

“จะกลับไปพรอมกันหรือเปลา”

“... เปลา”ผมตอบพลางนึกแปลกใจตัวเองที่ไมมีความคิดนี้อยูในหัวเลย แตนั่นอาจเปนเพราะผมอยากอยูกับแมก็ได ผมวา


ที่นาแปลกใจกวาความคิดผมก็คือความคิดมันนี่ละ นึกยังไงถึงไดถามผมแบบนี้
“.....อยาล็อคหองละ เดี๋ยวมานอนดวย ไมมีที่นอน”

“เฮย! แลวบานคุณละ”ผมจําไดวามันมีสองหองนอนนะ

“จะใหนอนฟงเสียงพวกนั้นทั้งคืนรึไง”

“........”ไมอยากจะยอนถามเลยวาเสียงอะไร แลวบานพักแบบนั้นก็คงไมเก็บเสียงเสียดวยสิ

“ไมตองทําหนาเหมือนจะตายหรอก ทําอยางกับไมเคยนอนดวยกัน ถาคิดจะปล้ํานะปล้ําตั้งแตอยูคอนโดไปแลว”

“.......”ที่เงียบนี่ไมใชเห็นดวยนะครับ แตรูสึกเหมือนถาพูดมากกวานี้ผมอาจจะอวกออกมา แคยืนใหตรงก็ยากแลว

“เมา ก็มานอน”มันพูดจบก็ลุกออกไป สวนผมก็เดินเซๆ มาลมตัวนอนบนเตียง แตรูสึกเหมือนมึนหนักยิ่งกวาเกา ผม


อยากจะเถียงคําพูดที่วา’คิดจะปล้ํา’ของมัน เพราะความจริงแลวมันไมไดแคคิด แตมันเคยทําไปแลวตางหาก ผมควรจะไป
ขอนอนกับแมเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง หรือผมควรจะล็อคหองแลวหาอะไรมาดันประตูไว....ผมก็แคคิด ไมรูทําไมทั้งๆ
ที่รูสึกมึนขนาดนี้ก็ยังคิดจะเชื่อคําพูดของมัน....ทุกอยางคงสรุปไดเพียง เหตุผลเดียวคือ...ผมเมา

ผมนอนหลับไปสักพักก็เริ่มรูสึกอึดอัด ขยับตัวไมได ถาเปนเมื่อกอนคงคิดวาถูกผีอํา แตเพราะเคยรูสึกแบบนี้วาแลวเลยตัด


ความคิดนั้นออกไปได และแนนอนวาทันทีที่ผมลืมตาขึ้นมาสิ่งแรกที่เห็นคือหนาของอีกคน

"นอนนิ่งๆ สิ"เมื่อผมเริ่มขยับตัวเพียงเล็กนอย เจาของออมกอดที่ถือวิสาสะก็เริ่มพูดขึ้นดวยน้ําเสียงเจือความรําคาญ

"ออกไป"

"พรุงนี้นุก็กลับแลว จะนอนอยูหองนี้ตอรึเปลา"มันพูดพรอมกับปดเปลือกตาลง

"ไมนอนที่นี่แลวจะนอนที่ไหนละ"

"ก็ใหกุญแจบานไปแลวไง"

"....ทิ้งไปแลว"

"ไมไดอยูในลิ้นชักหัวเตียงหรอกเหรอ"

"....จะนอนก็นอนเฉยๆ ถอยออกไปหางๆ ดวย"


" ก็ไมไดกอดแนนนี่ ไมถอยออกไปเองละ"มันพูดจบผมถึงไดรูสึกตัววาวงแขนที่รัดแนนในตอนแรก คลายออกไปมากแลว
ผมรีบถอยหางออกไปจนสุดขอบเตียง มือที่เคยกอดไวก็เลื่อนออกจนหลุดไปจากตัว มันนอนหลับตานิ่ง ไมไดพยายามยื้อ
ยุดหรือแสดงอาการอะไรอีก ผมมองผานความมืด อาศัยแสงไฟสลัวๆ จากดานนอกทําใหเห็นใบหนาอีกคนอยางเลือนลาง
ผมเชื่อวามันคงเมามาก ถึงคําพูดและน้ําเสียงไมออแอเหมือนคนเมา แต...การที่ผมยังรอดปลอดภัยนี่สิที่ทําใหเชื่อเชนนั้น
ผมคอยๆ ลุกขึ้นแลวเตรียมกาวลงจากเตียง หากไมมีมือของคนเมามาจับไวก็คงลุกออกจากหองไปไดแลว ตกลงแลวมัน
เมาจริงหรือแกลงเมากันแน

ผมนั่งพิงหัวเตียงหลังจากที่ พยายามแกะมือมันออกแตก็ทําไมสําเร็จ คนเมาที่แข็งแรงกวาผมทําใหรูสึกหงุดหงิด จะ


เรียกวาใชกําลังบังคับก็...ไมใชเสียทีเดียว นี่คงเปนครั้งแรกที่ผมไดมองหนามันชัดๆ เปนครั้งแรกที่นั่งนิ่งโดยไมไดคิดอะไร
อยูในหัว...ทั้งๆ ที่มีเรื่องใหตองคิดมากมาย แต...มันเหนื่อย เหมือนเปนหลงอยูเสนทางที่ไมมีทางออก ทางออกที่เตรียมไว
นั้นก็ไมสามารถเดินเขาไปหาไดเพราะอุปสรรคหลายอยางที่คาดไมถึง ทางออกใหมไมสามารถเรียกไดวาทางออก เพราะ
มันมีปญหาตามมาเมื่อตองเลือกทางออกที่มีมากกวาหนึ่ง....ไมวาทาง ไหน....ก็ไมดีทั้งนั้น

รุงเชาหลังจากที่รูสึกตัวตื่นขึ้นมาในทา เดิมที่เผลอนั่งหลับ ผมก็รีบอาบน้ําแตงตัวแลวลุกออกมาชวยแมกับแมบานเตรียม


อาหาร ความจริงเรียกวาผมเปนลูกมือใหแมบานเสียมากกวา เพราะแมไปเตรียมของฝากใหกับพวกที่จะกลับวันนี้ แมถาม
วาผมจะอยูถึงเปดเทอมเลยใชมั้ย และผมตอบวาใช เพราะไมรูวาจะไปที่ไหน ผมไมรูวาคําถามเหลานี้มีคําตอบใหดวยหรือ
ในเมื่อผมไมมีที่ของตัวเองใหกลับ และก็เชื่อดวยวาตอใหอยากกลับ...ก็คงไมสามารถกลับไปคนเดียวได

"ตื่นเชาจริงนะหนู"ปาภาเดินเขามาในครัวหลังจากไปเดินออกกําลังกายดานนอกมาเกือบชั่วโมง

"แมหัดตั้งแตเด็กนะครับ แลวคุณปาออกไปวิ่งอยางนี้ทุกวันเลยหรือครับ"

" ไมหรอกจะ สวนมากตองรอใหตานพบนกอนถึงคอยทํา รายนั้นชอบจูจี้เรื่องของกินบางละ ออกกําลังบางละ ปาละปวด


หัว รูงี้ไมใหเรียนหมอก็ดีหรอก"

"พี่นพคงรักคุณปามากนะครับ แตนี่พายวาคุณปาก็ดูแข็งแรงดีออก ดูสุขภาพดีกวาแมพายตั้งเยอะ ปานาจะชวนแมออก


กําลังกายเปนเพื่อนนะครับ"

"พายไมรูอะไร แมเรานะวาปาทุกทีที่ชวน อางวาเดินตลาดเหนื่อยกวาเดินในรีสอรท จะแลกงานกับปาทุกที ปาไมเอาดวย


หรอก"ปาภาพูดไปหัวเราะไป ผมก็พอจะเขาใจนะครับ เดินเฉยๆ ยอมสบายกวาเดินหิ้วของหนักๆ อยูแลว

"แลวนี่แมเราเขาไปไหนละ"

"ไปเตรียมของฝากครับ"
"ออ...จูจี้จุกจิกเหมือนเดิม เจาตั้มนะพาแมเรามาอยูเพื่อเปนเพื่อนคุยกับปา แตนี่ดูสิ ปาตองคอยตามหาตัวอยูเรื่อย"

" แมก็เปนอยางนี้ละครับ ตั้งแตเด็กพายไมเคยเห็นแมหยุดทํางานเลยสักครั้ง อยางนอยๆ ถานั่งดูละครก็ยังตองหยิบเสื้อมา


เย็บไปดวย กอนทํากับขาวก็จะเอาผาไปแชไวเตรียมซัก พายเห็นตั้งแตเด็กจนชินแลวละครับ"ผมนึกถึงเมื่อตอนที่ยังไดอยู
ดวยกัน แมชอบทําอะไรสองอยางพรอมกัน ถาทําไมไดก็จะใหผมชวย กินขาวเสร็จแมก็ไปซักผา ผมก็กวาดบานถูบานลาง
จาน หลังจากชวยแมตากผาเสร็จพื้นบานก็แหงพอดี

ผมยกจานอาหารไปตั้ง โตะไวรอปาภาที่ไปอาบน้ํา คนอื่นๆ ก็ทยอยกันตื่นขึ้นมา พวกทีมงานที่จะกลับวันนี้คงออกเดินทาง


แตเชา เห็นวาจะแวะเที่ยวแถวๆ นี้กันกอน นุเดินอมยิ้มแกมเขินเขามาหาผมกอนจะขอตัวไปเก็บของในหอง ความจริงผม
เองก็ยังไมอยากเชื่อวานุกับพี่นัทชอบกัน ผมเชื่อวานุไมไดเคารพมันแบบที่พูดกับผม ความเคารพที่มีใหคนหนึ่งคนคงไมทํา
ใหทํารายเพื่อนสนิทไดลงหรอก สีหนาแววตาที่ผิดหวังและเสียใจในวันนั้นของนุยังคงชัดเจน แตก็ตองยอมรับผม...การเห็น
นุกับพี่นัทอยูขางๆ กันดูจะเหมาะสมมากกวาตอนที่อยูกับมัน นุเปนคนหัวออน มักโดนใครตอใครหลอกเอางายๆ และเลือก
ที่จะทนอยูเสมอ ขณะที่พี่นัทก็ดูใจดี ถึงแมบางครั้งจะแสดงทาทีแปลกๆ กับผมในชวงแรก แตก็ไมมีอะไร หากพันธะของ
พี่นัทหมดลงเร็วๆ ผมคงยินดีกับนุมากกวานี้

"ไวกลับไปเมื่อไหรนุจะไปเยี่ยมบอยๆ นะ โทรหาบางนะ นุยังเปนหวงพายเสมอนะ"นุยืนจับมือผมไว คนอื่นๆ เริ่มทยอยกับ


เก็บของขึ้นรถ

"พายก็เปนหวงนุนะ ถาพี่นัทเขายังหยาไมสําเร็จนุก็เผื่อๆ ใจไวกอนนะ พายไมอยากใหไปยุงมากนะ กลัวอีกฝายเขาตามมา


หาเรื่อง"

" นุเขมแข็งขึ้นมากแลวละ พายไมตองหวง อีกอยางถาพี่นัททําอะไรไมดีนุก็จะฟองพี่ตั้ม ใหพี่ตั้มจัดการใหหมอบเลย"นุพูด


เหน็บพี่นัทที่ยืนอยูไมหาง และทาทางจะไดยินทุกคํา

"อืม ไวกลับไปเมื่อไหรจะแวะไปหาแลวกันนะ ขึ้นรถเถอะ"ผมยกมือขยี้หัวนุเบาๆ และไดรับเปนเสียงหัวเราะกลับมา

ผม ยืนมองรถที่เลี้ยวลงไปจากบานจนหายลับไป ยอมรับวาใจหายเมื่อถึงเวลาที่ตองอยูคนเดียวจริงๆ ถึงจะมีแมอยูดวย


แตแมก็ไมไดวางคุยกับผมตลอดเวลา และ...ผมก็ไมสามารถคุยกับแมไดทุกเรื่อง กอนหนานี้ผมพยายามทําตัวหางกับนุ
ดวยเหตุผลที่ใหกับตัวเองวานุไมเขาขางผม และพยายามพูดใหผมคลอยตามเหตุผลของนุอยูบอยๆ แตพอตองอยูค นเดียว
จริงๆ กลับรูสึกอึดอัด ซึ่งความเปนจริงแลวตั้งแตมาอยูที่นี่ ไมมีอะไรนาอึดอัดเลย บรรยากาศดี ผูคนรอบขางก็ดี แถมมันก็
ไมเขามายุงอะไรกับผมดวย แต...ผมก็ยังรูสึกหงุดหงิดและอึดอัดอยูดี

วันนี้ทั้งวันผมใชเวลา วางดวยการนั่งดูหนังกับพี่หนอย สวนพี่นพเริ่มกลับไปทํางานเต็มที่หลังจากหยุดมานาน อีกสองวันพี่


หนอยก็จะกลับแลวเหมือนกัน ตอนแรกผมคิดวาเวลาที่เหลือคงนาเบื่อนาดู แตไมเปนอยางนั้นอีกเมื่อพี่นพขอใหชวยตรวจ
บัญชีของคลีนิค ผมเองก็เต็มใจชวยเพราะยังไมไดตอบแทนตั้งแตคราวที่ใหพี่หนอยเปนที่ ปรึกษา และอีกงานที่ปาภา
ขอรองใหผมชวยทําก็คือ...ดูแลเรื่องอาหาร ซึ่งความจริงแลวผมไมมีปญหาอะไรเลย เพราะปกติก็คอยชวยแมอยูแลว แตนี่
เห็นบอกวาทางครัวที่รานหนาไรมีปญหา แมครัวลาพักระยะยาว แมผมเลยอาสาไปทําแทน ผมเลยตองรับหนาที่นี้คนเดียว

เชาวันแรกของ การทําหนาที่คอนขางสบายเพราะเครื่องปรุงและสวนประกอบอื่นๆ มีเหลือเฟอสําหรับสามวัน แตที่แย...


และลําบากที่สุดก็เปนเรื่อง...ปนโต ผมไมเคยสังเกตุวามันไมคอยเขามากินขาวในบานนี้ มีเพียงบางมื้อเทานั้นที่จะแวะมา
สวนใหญแลวจะมีคนงานเอากับขาวจากที่นี่แบงไปสงที่บานหลังนั้น และตอนนี้...ผมตองทําหนาที่นั้น

ผมยืนอยูหนาบานหลังจากเคาะประตู เรียกอยูนานแตยังไมมีคนลุกมาเปด เดาเอาวาคงไมอยูหรือไมก็ยังไมตื่น กุญแจที่


ถูกยัดเยียดมาไดใชประโยชนเปนครั้งแรก คราวกอนที่มาผมไมไดสังเกตุอะไรมากมาย แตพอดูดีๆ ถึงรูวาบานหลังนี้...
เหมือนหองพักเสียมากกวาบาน ขาวของสวนตัวนอยชิ้น แตคงไมแปลกอะไรผมชวงกอนหนานี้ผมก็เห็นมันคางที่คอนโด
ตลอด นานๆ กลับมาทีเลยตองเคลียรงานที่คางไวเลยไมมีเวลามายุงกับผม

"เขามาดอมๆ มองๆ อะไร"เสียงพูดจากเจาของบานทําใหผมชะงักมือที่กําลังเทกับขาวใสจาน

"เอาขาวมาสง"ผมตอบกลับโดยไมหันไปมอง คาดวาจะยืนอยูไมหางจากผมเทาไหร

"รูแลว แมใหญบอกไวตั้งแตเมื่อวานแลว"

"ที่ไหนมี Internet ใหใชบาง"

" จะทําอะไร"มันเดินมาเลื่อนเกาอี้แลวนั่งลงฝงตรงขาม ผมเลื่อนจานชามที่เทเรียบรอยไปไวตรงหนา เพื่อใหคนที่พรอมลง


มือกินไดหยิบจับสะดวกๆ

"ตองลงทะเบียนของเทอมสอง"

"มาใชที่นี่ก็ได อยูในหองนอนนะ"

"....ที่อื่นไมมีเหรอ"

"ไมมี จะใชก็มาใชที่นี่ แลวตองจายคาเทอมยังไง โอนเขาธนาคารเหรอ"

"อืม เดี๋ยวไปโอนแถวตลาดก็ได"

"มีเงินรึไง อยาบอกนะวาไปเอากับนาพิมพ"
"ใช ทําไม เอาไมไดเหรอ"

"นาพิมพเขาไมไดเงินเดือนเยอะแยะอะไร จะไปแยงเงินเดือนแมตัวเองทําไม จะไปโอนวันไหนก็บอกเดี๋ยวพี่พาไป"

" ไมตอง ไปเองได อีกอยางเงินที่ใหนะ...ก็เอามาจากบัญชีคุณนะแหละ"ผมพูดจบก็เก็บปนโต แลวเดินออกมา ไดยินเสียง


ตะโกนตามหลังวาจะพาไปธนาคารเอง ไมวายังไง...มันก็ยังชอบบังคับเหมือนเดิม

กิจวัตรประจําวันของผมวน เวียนกันซ้ําๆ เชาก็ไปตลาดพรอมกับแม กลับมาทําอาหาร จัดบางสวนใสปนโตไปใหบานเล็ก


และมักจะเจอมันหลังจากผมเขาไปยืนอยูในครัวเพื่อเทอาหาร หลังจากนั้นก็กลับมานั่งทําบัญชีใหพี่นพ และมีของพี่หนอย
เพิ่มมาหลังจากที่พี่หนอยกลับไปแลวสงแฟกซมาให ทําอาหารกลางวันแลวก็นั่งทําบัญชีตอ ทําอาหารเย็นแลวก็ใสปนโตไป
เทไวใหพรอมกับลางจานที่มันกินเสร็จเมื่อ เชา พอลางจานเสร็จมันก็กลับมาพอดี บทสนทนามักเปนไปดวยคําถาม
เกี่ยวกับกิจกรรมในวันนั้น แตก็ถามตอบไมเกินสามคําผมหรือมันก็ตองมีอันใหพูดกระทบกระทั่งกันทุกครั้ง

"บอกไมฟง บอกแลววาเดี๋ยวพาไปเอง จะไดเก็บเงินนั่นไวใชอยางอื่น"

"ก็วันนี้วาง ไมอยากรอ"

"ดื้อเหมือนที่นาพิมพบอกไมมีผิด แลวออกไปจากไรยังไง"

"ติดรถพนักงานที่รีสอรทออกไป"

" มันเรื่องอะไรตองไปขอความชวยเหลือคนอื่นเนี่ย ทีหลังจะไปไหนมาไหนก็โทรไปตามสิ อยูใกลกันแคนี้ หรือวาตองเฝาไว


เหมือนเมื่อกอน"

"กลัวตายละ ลองทําอะไรอีกผมจะไปบอกปาภากับพี่นพ"ผมกลาพูดแบบนี้เพราะรูแลววามันเกรง ใจสองคนนี้มากๆ พี่นพ


ถึงจะดูใจดีและสุภาพ แตหลังจากไดพูดคุยกับคนงานและแมบานอีกคนแลวก็รูวาไมจริงเลย พี่นพเปนคนดุมาก และ
คอนขางเรียกวาโหดไดเลย เห็นบอกวาคุณลุงเสียไปตั้งแตพี่นพยังวัยรุน อายุแคนั้นตองคุมคนงานและไรไมใชเรื่องงาย กวา
จะมาถึงทุกวันนี้ก็มีผานเรื่องราวมาเยอะ รวมถึงปาภาดวย แตยังไงทั้งสองคนก็ยัง....ดีกวาอีกคนเยอะ

"แมไมไปไมไดเหรอ"ผม หนุนนอนบนตักแมแลวถามเชิงออนวอนเมื่อรูวาแมกับปาภาจะไปแจกการดอีก แลว คราวไป


แถบๆ จังหวัดที่ติดทะเลาหลายจังหวัด กวาจะกลับมาผมก็คงเปดเทอมแลว

"ไมไดหรอก จะใหแมทิ้งปาภาไปไดไง"แมพูดปนหัวเราะเมื่อเห็นผมงอแงเหมือนเด็กอีกครั้ง
"งั้นพายไปดวย"

"ดูพูดเขา จะไปไดไงกัน อาทิตยหนาก็เปดเทอมแลวไมใชเหรอ"

"ก็พายไมอยากอยูคนเดียวนี"่

" คนเดียวที่ไหน พี่ตั้มก็อยู พี่นพก็อยู"แมพูดสองชื่อนั้นมาก็ไมไดชวยใหความรูสึกผมดีขึ้นแลว รายแรกผมแทบจะหลบหลีก


ตลอดเวลาที่ทําได อีกรายผมก็ไมไดสนิทพอจะเขาไปพูดคุยหยอกลอ แตถึงจะออนยังไงแมก็ไมยอมใหผมตามไป แถมกอน
ขึ้นรถยังฝากฝงผมไวกับมัน ปาภาก็บอกใหอยูดวยกันดีๆ อยาทะเลาะกัน ซึ่งคงเปนไปไมได เปดปากคุยกันเมื่อไหรก็เถียง
กันประจํา

" ถาเบื่อจะมาเลนเน็ตที่นี่ก็ได งานบัญชีสองคนนั้นเขาไมเรงหรอก"มันพูดขณะทานอาหารเย็น สวนผมกําลังยืนลางจาน


ชามที่คางจากเมื่อเชา

"ปกติก็ไมคอยเลนอยูแลว ไมรูจะเลนอะไร"

"ไมเลนเอ็มเหมือนคนอื่นๆ เหรอ ขนาดพวกพี่ยังเลนกันเลย"

"ไมมีเวลาเลน ปกติเรียนเสร็จก็ทํางาน วางก็อานหนังสือ ทิวเคยสมัครเมลลใหแตก็ไมไดเลนเลยสักที"

"พูดถึงมันทําไม คิดถึงรึไง"นี่ไง พูดกันไดไมกี่ประโยคก็เริ่มหาเรื่องทะเลาะกับผมอีกแลว

"ก็...คิดถึง"

"พาย!!!"

"นี่คุณรักผมจริงๆ นะเหรอ อาการแบบนี้คือหึงใชมั้ยเนี่ย"ผมถามกลับโดยพยายามขมอารมณหงุดหงิดของตัวเองไว

".....เคยพูดเลนดวยเหรอ"

" นั่นสิ...แตผมก็คิดถึงทิวจริงๆ นะ ถึงจะไมไดพูดออกมาเทาไหรแตก็นึกถึงตลอด ผมเองก็ยังงงตัวเองเหมือนกัน แคพูดชื่อ


ทิวก็รูสึกคิดถึงมากๆ ขึ้นมาเลย"ผมพูดเหมือนเพอ แตมันคือความรูสึกของผมจริงๆ นานแลวที่ไมไดติดตอกันเลย ไมไดขาว
คราวเลย เกือบสี่ปที่รูจักกันมา เราไมเคยตองหางกันนานขนาดนี้

"พูดแบบนี้หมายความวาไง"ผมไดยินเสียงวางชอนเลื่อนจานดังจากดานหลัง ทาทางโมโหแบบนี้ก็เริ่มชินเสียแลว
" ไมไดพูดประชดคุณหรอกนะ ผมพูดเพราะรูสึกจริงๆ ผมรูจักทิวมานานนะครับ และตลอดเวลาเราก็ไมเคยหางกันเลย ถึง
ไมไดเจอหนาทิวก็ยังโทรหาผมตลอด"

"......อยากเจอมันงั้นสิ"

"....... ไมรูเหมือนกัน...เหมือนกับที่ผมยังอยูกับคุณแบบนี้นี่ละ...ผมเองก็ไม รูวาทําไม และไมรูดวยวาตัวเองรูสึกอะไรอยู. ...


ผมไมรูหรอกวา....เมื่อไหร เรื่องเหลานี้จะจบลง....เมื่อไหรที่ผมควรตัดสินใจทําอะไรสักอยาง....แต คิดวาคง...ไมนาน"

"จะทําอะไรพาย ไมมีเรื่องอะไรใหตัดสินใจหรอก อยาคิดอะไรใหมันมากนักเลย อยูแบบนี้ก็สบายดีไมใชเหรอ"มันพูด


คอนขางรัวและเร็ว จะเรียกวาลนลานก็เกือบจะใช....กลัวอะไรงั้นเหรอ

".....มันสบายจริงๆ นะแหละ....สบายจริงๆ นะ"

" พาย....อยาคิด....อยาทําอะไรเลย"ไมมีเสียงตะคอก ไมมีคําตะโกนวาราย น้ําเสียงทุมนุมจนคลายคําออนวอน หากผมหัน


กลับไปมองสีหนา...คงจะแนใจวาออนวอนจริงๆ หรือไม....แตผมก็ยังคงหันหลังใหอยู

"......กลัวอะไรเหรอครับ...."

".........."

"... เดี๋ยวผมก็จะเปดเทอมแลว...ยังไงก็ขอกลับกอนเปดเทอมสักวันสองวันแลวกัน นะครับ แลวก็...ขอมือถือคืนดวย"ผมรูวา


โทรศัพทเครื่องนั้นเปนของที่มันใหไว ใช ผมสามารถซื่อเครื่องใหมได แต...ใชเครื่องนั้นจะดีกวา ผมคิดวาการที่มันใหใช
เครื่องนั้นไมใชเพราะอยากใหผมตัดขาดจากทิวอยาง เดียว แตคงอยากชดใชโทรศัพทผมที่มันทําพังไปดวย

"จะเอาไวโทรหามันงั้นสิ"

" ผมจําเบอรของทิวได ถาอยากโทร...คงโทรหานานแลว คุณก็รูไมใชเหรอ"มีเพียงไมกี่เบอรที่ผมจําได และโทรศัพทที่มันยึด


ไวก็อยูในหองนอนมัน บางครั้งแมบานมาทําความสะอาดชวงบายผมก็เปนคนมาเปดประตู และก็เห็นโทรศัพทเครื่องนั้น
วางไวในหองนอน ไมยากเลยถาจะเอากลับมา

"ก็ยังสงสัยอยูวาทําไมไมเอาโทรศัพทเครื่องนั้นไป ทั้งๆ ที่วางไวใหเห็นตลอด"

"........ มันยังไมถึงเวลาไง"ใช...มันยังไมถึงเวลาที่จะทําแบบนั้น ยังไมถึงเวลาที่จะตัดสินใจ แต...คงอีกไมนาน....การไดพบ


กับทิว...คงทําใหผมเขาใจอะไรไดงายขึ้น.... อยางนอยก็ความรูสึกของตัวเอง
ตอนที่ 55

ผมก็ไมไดคิดเอาไวหรอกนะวา...ผมจะสามารถไปอยูที่อื่นได ตอใหผมอยูที่รีสอรทอยางมีอิสระมากแคไหน แตมันก็เปน


อิสระที่มีขอบเขต และเมื่อกลับมาอยูที่นี่ ขอบเขตนั้นมันก็ยิ่งเล็กลงเหลือเพียงขนาดเทาคอนโดหนึ่งหอง

"พี่จะลงไปหองขางลางนะ เดี๋ยวเย็นๆ คอยออกไปหาซื้อของใชขางนอกกัน"เสียงพูดจากคนที่เพิ่งขับรถออกจากรีสอรทเมื่อ


เชาและยังเหลือแรงลงไปทํางานตอ

"ไวพรุง นี้ตอนเย็นคอยออกไปทีเดียวก็ได จะไดมีเวลาซื้อของนานหนอย ผมวาจะเก็บกวาดหองกอน"ผมรีบพูดกอนที่มันจะ


เดินพนประตูหอง ไดยินเสียงตอบตกลงกอนประตูจะปดลง

ผมเดินหิ้วกระเปาสองใบทั้งของผมและมันเขาหองนอน แยกเสื้อผาออกมาเก็บใสตู ของใชสวนตัวก็เก็บประจําที่ เริ่มลงมือ


ทําความสะอาด ทั้งกวาดหอง ถูหอง เช็ดกระจก ตรวจดูของในตูเย็น อันไหนที่หมดอายุก็เก็บทิ้ง สวนมากเปนนมกลองของ
ผมกับพวกผักสดที่เหี่ยวหมดแลว ในตูเย็นมีอาหารสําเร็จรูปและเบียรหลายกระปอง ผมเคยไดยินมันพูดใหฟงวาพี่อั๋นกับ
พี่นัทมาอาศัยนอนคางเวลาที่ตองทํางานดึกๆ

"ครับ"เสียงโทรศัพทในหองรับแขกดังลั่น ผมวางมือผาขนหนูผืนเล็กที่นํามาเช็ดตามชั้นวางของลงแลวเดินไปรับโทรศัพท

"พี่เอง พายหยิบชุดสูทสีดําที่แขวนไวในหองน้ําไปแขวนไวหนาหองหนอย เดี๋ยวรานซักรีดเขาจะขึ้นไปเอา แลวจะสงอะไรซัก


รีดก็เอาใสถุงสงไปพรอมกันเลย"

"ได"

"ในตูเย็นเหลืออะไรใหกินบาง"คําถามที่คอนขางเรื่อยเปอยในความคิด ผมคิดวาเขาไมไดอยากโทรมาเพื่อถามหรือบอก
เรื่องไรสาระพวกนี้หรอก คงแคอยากโทรมาเช็ควาผมยังอยูรึเปลา

"ก็มีพวกอาหารกลองกับมามา"

"งั้นเดี๋ยวพี่ซื้อเขามาใหแลวกัน พี่จะออกไปธุระขางนอกกับไอนัทมัน"

"ไมตองก็ได เดี๋ยวผมเวฟอาหารกลองกินดีกวา เก็บไวนานมันไมดี"


"เอางั้นก็ได ไมตองทําอะไรเผื่อนะ พี่คงกลับค่ําๆ"มันพูดจบผมก็รับคํากอนจะวางสายไป ผมใชเวลาทําความสะอาดอีก
เกือบชั่วโมง เสร็จแลวก็อาบน้ํากอนจะหาอะไรกิน ตลอดเวลาที่อยูที่นั่นมีคําถามมากมายอยูในหัวผม แมจะไมมีใครเอย
ถาม แตผมรูดีวาใครบางคนกําลังรอคําตอบอยู การที่ผมนิ่งเฉยหมายความวาผมยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นไดแลวอยางงั้น
เหรอ...เปลาเลย

ผมยังคงนั่งจองโทรศัทพมือถือเครื่องเล็กที่ไดรับคืนมา เบอรโทรและคนที่ตองการโทรหามีเพียงคนเดียวตลอดหลายวันมานี้
หากแตผมยังคงนิ่งเฉยมองโทรศัพทของตัวเองที่หนาจอมืดสนิทเพราะไมไดเปดเครื่อง พรุงนี้ผมก็จะไดเจอกับทิวแลว หรือ
ผมควรเลือกที่จะไดยินเสียงกอนพบตัวจริงดี มีเพียงคําถามที่ลงทายซ้ําๆ...ทําอยางไร...ถึงจะดี

"นุฝากซาลาเปามาใหกิน เห็นบอกวาชอบกินไสครีม"มันกลับมาถึงหองเกือบสองทุมพรอมถุงซาลาเปารอนๆ

"ไปเจอนุมาเหรอ เปนไงมั่ง สบายดีใชมั้ย"

"ไมโทรไปหาละ โทรศัพทก็คืนใหแลวนี่ ทําไมยังไมเปดเครื่อง"มันพูดถูก ผมนั่งจองโทรศัพทตัวเองรวมชั่วโมงก็เอาไปเก็บไว


บนหัวเตียงในสภาพปดการใชงาน

"ก็ยังไมอยากเปด"

"นัทมันหยากับเมียแลวนะ ตอนนี้เพื่อนเราก็ยายไปอยูกับมันที่คอนโดฯ เดียวกับพี่หนอยนั่นละ เคยไปมาแลวนี่"

"ก็ดี หวังวาเพื่อนคุณจะไมหลอกเพื่อนผมนะ"

"อันนี้ก็ไมรูเหมือนกัน ไมใชความรับผิดชอบของพี่"ที่มันพูดก็จริง แตคงจะดีกวานี้ถามันแกลงยืนยันมาสักหนอย อยางนอย


ผมจะไดวางใจ

"พรุงนี้คุณจะไปสงผมใชมั้ย"

"ใช"

"ผมมีเรียนเกาโมงนะ"

"อืม รูแลว....เรียนเสร็จก็โทรมาละ"

"อืม"ผมคงไมไดรูสึกไปเองวามันกําลังอึดอัดกับอะไรบางอยาง หรือ...เพราะทาทีของผม บทสนทนาราบเรียบไมชินหู


เทาไหร นับวันเรายิ่งจะเถียงกันนอยลง แตไมไดหมายความวาเราคุยกันไดมากขึ้น ตรงกันขาม...เราพูดกันนอยลง ผมคิด
วาสวนดีของมันที่ผมเห็นตลอดเวลาที่อยูดวยกันชวงปดเทอมก็คือความขยัน มันทํางานทุกวัน และทําหลายๆ อยางพรอม
กัน ทํางานเจ็ดวันโดยไมมีวันหยุด งานที่นี่มันก็ไมไดทิ้ง อะไรที่ชวยไดมันก็จะทําอยูที่บานแลวสงงานทางอีเมลล สวนงาน
ในสวนกอสรางมันก็โทรเช็คความคืบหนากับวิศวะกรหรือหัวหนาที่ควบคุมอยูตลอด นอกจากรักเพื่อนก็คงบางานนี่ละที่
เปนขอดี ที่ผมบอกวาดีก็เพราะมันมักจะยุงจนไมมีเวลามายุงอะไรกับผม แตถึงจะเปนอยางนั้นตลอดเวลาที่ผานมา...ผมก็
รูเสมอวามันอยูไมไกล

"ไมงวงรึไง"ผมถามคนที่นั่งอานพิงหัวเตียงอานหนังสืออยูขางๆ

"ยัง"

"....หึ...เพิ่งรูวาคุณก็ขี้กลัวเหมือนกันนะ"

"พูดอะไรนะ"

"มีลางสังหรณวาผมจะหนีไปรึไง.........พรุงนี้ผมไมหนีไปไหนหรอก"

"ถึงคิดจะหนีก็ไมมีทางไปไหนได อยาคิดใหยุงยากเลย"

"หึหึ...คุณนี่มันจริงๆ เลยนะ"ผมอมยิ้มพูดไปทั้งที่หลับตาอยู ผมวาคนๆ นี้อานงายเหมือนกันนะ ทําไมเมื่อกอนผมถึงไม


เขาใจการกระทําและคําพูดมัน ถาเปนตอนนี้...ตอนที่รูจุดออนมัน อะไรๆ ก็อานงายมากขึ้น ทุกๆ อยางมีคําตอบเพียง
คําตอบเดียว....เปนคนที่อานงายเสียจริง

เชานี้เปนเชาที่ใครอีกคนตื่นเร็วกวาผม หรือบางทีอาจเปนเพราะไมไดหลับ ผมตื่นมาแลวก็เพิ่งนึกขึ้นไดวานี่เปนคืนแรกที่


เรานอนดวยกันหลังจากคืนกอนนุกลับ ถาถามวาเมื่อคืนผมรูสึกอะไรไหม ก็เหมือนเดิม...รูสึกเหมือนถูกกอด

"เปดโทรศัพทไวดวยนะ เมื่อคืนเอามาชารจใหเต็มแลว"มันพูดขึ้นตอนที่ผมกําลังนั่งกินขาวตมปลาที่มันไปซื้อมากอนผมตื่น

"อืม"

"....เลิกเรียนแลวรีบโทรมาแลวกัน จะรออยูแถวนั้น"มันพูดจบผมก็เหลือบมองหนามันกอนจะหยิบชามไปลาง ผมเดินเขา


หองนอนหยิบกระเปาเปใบเล็กมาสะพายแลวออกมายืนสมทบกับมันที่กําลังลางมืออยูที่อางลางจาน

บรรยากาศในรถที่มีพื้นที่นอยกวาในหองยิ่งนาอึดอัด ผมมองตรงไปขางหนาตลอดเวลา ขณะที่อีกคนเหลียวมองหนาผม


ตลอดเวลาเชนเดียวกัน
"ผมเพิ่งรูนะวาคุณรักผมมากจริงๆ ถาวันนั้นคุณไมพูดผมก็คงยังไมเชื่อที่คนอื่นพยายามบอก ผมไมเคยคิดเลยนะวาคุณจะ
รักผม แลวไมคิดดวยวาจะกลายอมรับออกมาตรงๆ"

"ถามก็ตอบ มันก็แคนั้น"

"ก็จริง"

"นึกยังไงถึงพูดเรื่องนี"้

"ก็...เห็นคุณกําลังกลัวอยูไง เลย...คิดวามันตลกดีที่ผมเพิ่งรูตัว"ผมพูดจบมันก็ไมพูดอะไรตออีก ผมเองก็นิ่งอยูในหวง


ความคิดและความรูสึกของตัวเอง

รถขับผานประตูมหาฯลัยเขามาเรื่อยๆ จนจอดหนาตึกคณะที่เคยมาสง ผมยังคงนั่งนิ่งอยูเงียบๆ กอนจะหันมามองใบหนา


คนขับที่แสดงความวิตกกังวลใหเห็นชัดเจนกวาทุกครั้ง

"เลิกเรียนแลวจะโทรหา"ผมพูดกอนจะเปดประตูรถแลวเดินออกมา เสียงพูดเบาๆ ที่ลอดผานประตูใหไดยินทําใหยิ้มได เปน


ครั้งแรกที่ยิ้มเพราะมัน ยิ้มเพราะคําวา'ขอบใจ'

ผมเดินขึ้นหองเรียนที่มีเพื่อนๆ บางกลุมเขามานั่งจับจองพื้นที่ เสียงทักทายดังระงมดวยความยินดีที่ไดพบกันอีกครั้ง ผม


เองก็มีเพื่อนหลายคนรองทักและเขามาพูดคุยดวย หลายเสียงบอกวาผมดูสดใสขึ้น ผมยิ้มรับเพราะคิดวาเปนเชนนั้นจริงๆ
การไดอยูกับสิ่งแวดลอมดีๆ แบบนั้นคงทําใหรางกายและผิวพรรณดูดีขึ้น อีกอยางการที่ผมไมตองทํางานหามรุงหามค่ําก็
ทําใหหนาตาแจมใสขึ้นดวย

ผมนั่งแถวเกือบสุดทายชิดกับกระจกใสกั้นทางเดิน ตลอดเวลายอมรับวาตื่นเตนกับการรอคอยใครอีกคน เวลาผานไปจน


อาจารยประจําวิชาปลอยก็ยังไมพบแมแตเงา วันแรกก็เหมือนทุกครั้ง ไมมีการเรียนการสอนเทาไหร ผมเดินลงมาจากตึก
เรียนแลวหยิบโทรศัพทออกมาเพื่อโทรใหอีกคนมารับ

"พาย!"เสียงรองดังลั่นจากคนที่วิ่งตรงมา

"จิ๋ว! ตอ!"ผมรองกลับดวยความแปลกใจที่พบสองคนนี้ แตเมื่อนึกอีกทีก็คงไมแปลก จิ๋วอาจมาหาตอก็ได เพราะตอเองก็


เรียนที่นี่

"พายรีบไปกับจิ๋วเดี๋ยวนี้เลยนะ ทิวไมสบายมาก"จิ๋ววิ่งมาจับขอมือผมแลวฉุดใหวิ่งตาม ผมฟงคําพูดรัวของจิ๋วอยาง


พยายามทําความเขาใจ
"เดี๋ยวๆ อะไรกันจิ๋วตอ ทิวเปนอะไร ทําไมไมมาเรียน"

"พายนั่นแหละทําไมไมเปดมือถือ ทําไมไมติดตอมา"

"ทิวตายไปพายคงดีใจสินะ มันทํารายพายไวเยอะนี่ กรรมคงสนองมันแลวมั้ง แมงโงชะมัด เสือกมารักคนไรหัวใจอยาง


มึงนะ"ตอตะคอกใสหนาผมเสียงดัง อะไร....ทําไมตองตาย...ทิว...ปวยเปนอะไร

"ไอตอ!!...พายไมตองไปฟงมัน ทิวไมไดปวยรายแรงอะไรมากหรอก แต...พายไปดูเองดีกวา"ผมเดินตามจิ๋วไปทั้งๆ ที่ตัวเอง


ยังไมเขาใจสิ่งที่สองคนนี้พูด มือที่วางจากการกุมไวก็กําโทรศัพทแนน บางที...ลางสังหรณของใครอีกคนก็แมนนาดู

ตอนที่ 56

ผมนั่งนิ่งอยูทเี่ บาะหลังบนรถทิวที่ตอขับมา ระหวางรอเสียงตอบรับจากปลายสายผมก็ตองสบตากับตอที่มองผานมาทาง


กระจกมองหลัง

"จะดาอะไรก็ดามาเถอะ ไมตองมองแบบนั้นหรอก"ผมพูดกับตอที่ยังคงจองผมดวยสายตาไมเปนมิตร

"รูตัวดวยเหรอวาสมควรโดนดา"ในสายตาของตอมันคงเห็นผมเปนศัตรูละมั้ง

"ไมเคยคิดวาตัวเองควรโดนคนอื่นดาสักที....ครับ"ผมพูดยังไมทันจบก็มีเสียงพูดจากปลายสายที่รออยู

"วาไง เลิกเรียนแลวเหรอ เดี๋ยวพี่ไปรับนะ"เสียงคนพูดแสดงถึงความดีใจอยางชัดเจน

"ไมตองหรอก จะแวะไปหาเพื่อน เดี๋ยวกลับเอง"

"จะไปหาใคร ไปหามันใชมั้ย พี่ไมใหไปนะพาย"น้ําเสียงแข็งกระดางขึ้นมาทันที นึกไวอยูแลววามันตองสั่งผมแบบนี้

"ครั้งนี้ถือวาผมขอแลวกัน ไมตองตามไปนะ"

"พายยังจะไวใจมันอยูเหรอ จําไมไดเหรอวาครั้งลาสุดมันทําอะไรพาย"

"จําไดส.ิ ..ผมจําเรื่องทุกอยางที่เกิดขึ้นไดด.ี ..ทุกอยางจริงๆ"ไมวาเรื่องไหน เรื่องของใคร ผมจดจําไดดีทั้งนั้น

"......พาย..."ดูทามันคงเขาใจความหมายของผม คําวาทุกอยางที่บอกไปนั้น...รวมถึงเรื่องของมันดวย
"..... แลวผมจะโทรบอกใหมารับแลวกัน"ผมวางสายไปเพราะตอใหพูดกันตอไปอีกฝายก็ คงไมยอมรับการกระทําของผม
แตผมรูวาเขาไมสามารถหามผมไดเหมือนเมื่อกอนอีกแลว

หลัง จากวางสายผมนั่งมองออกไปดานนอกอยางไรจุดหมาย ใชวาผมจะไวใจทิวเหมือนเมื่อกอน แต...ผมตองมา ผมรู


แคนี้เอง จะพูดวาผมเชื่อใจทิววาทิวจะไมหลอกผมอีกก็คงไมใช ผมเชื่อใจตัวเอง เชื่อในความคิดตัวเองวาคราวนี้คงเปน
เรื่องจริง ถึงจิ๋วจะไมสามารถหามทิวใหทําอะไรผมได แตจิ๋วก็ไมเคยเห็นดวย จะบอกวาผมเชื่อใจจิ๋วก็ไมใชอีก ผมแคเชื่อใน
การวิเคราะหทาทีของคนสองคนที่นั่งอยูขางหนา การกระทําที่ขัดแยงกัน ทั้งสองคนมาเพื่อพาผมไปหาทิวนั่นชัดเจนอยูแลว
แตการที่ตอดูเหมือนจะไมเต็มใจและไมพอใจนี่ก็ชัดเจน สวนจิ๋วก็ดูทาทางจะตองการพาผมไปใหได ซึ่งกอนหนานี้จิ๋วไมเคย
มีวี่แววจะบังคับผมแบบนี้ ผมก็ไดแตคิดวา...ตัวเองคงคิดถูก

จุดมุงหมายคือคอนโดของทิว หลังจากลงจากรถแลวเดินมาหยุดที่หนาประตูหอง พวกเราไมไดพูดอะไรกันเลย ผมยืนนิ่ง


เพื่อสงบใจตัวเอง เหตุการณครั้งสุดทายที่เกิดในหองยังคงชัดเจน ถึงตอนนั้นผมจะมึนดวยฤทธิ์ยา แตความรูสึกหวาดกลัว
ผิดหวัง เสียใจ ทุกๆ อยาง...ยังคงชัดเจนเหมือนเพิ่งเกิดเรื่องเมื่อวาน

"เขาไปเถอะ พาย ทิวทําอะไรพายไมไดหรอก"จิ๋วแตะขอศอกผมใหเดินตามตอเขาไป ผมสูดลมหายใจเขาปอดหนักๆ


กอนจะกาวเดินเขาสูภายในหอง...ที่ผมไมรูจะเรียกวาหองไดหรือเปลา

กลิ่น เหม็นอับภายในหองโชยออกมาจนผมกลั้นลมหายใจเกือบไมทัน กาวไปเพียงแคสองสามกาวก็ตองหยุดกวาด


สายตามองรอบๆ ลังเบียรและขวดทั้งเหลาเบียรวางกองที่มุมหองมากมายจนคิดคํานวณระยะเวลา ที่จะใชดื่มลงไปไมถูก
โทรทัศนหนาโซฟามีรอยราวบนหนาจอมุมบนซาย ของประดับตกแตงหองหลายอยางหายไป บางอยางก็มีรอยราวหรือบิ่น
ขนาดสภาพหองยังเปนแบบนี้ ผมคิดสภาพของเจาของหองไมออกจริงๆ

"เกิดอะไรขึ้นเนี่ย"ผมครางเสียงต่ํากับสิ่งที่เห็น

"พายเขาไปดูเองเถอะ ทิวนอนหลับอยูในหองนะ คงยังไมตื่นเร็วๆ นี้หรอก"จิ๋ว

"ทําไมละ"

" กอนออกไปตอมันแอบเอายานอนหลับใหกิน กวาจะตื่นก็คงอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมงนะ พายเขาไปดูทิวเถอะนะ"จิ๋วเดิน


จูงมือผมมาสงที่หนาประตูหองนอนกอนจะไป ชวยตอเก็บกวาดหอง

ผมเปดประตูเขาไปดานใน ภายในหองมีเพียงแสงสลัวๆ จากหนาตางที่มีมานปดเอาไว ลมหายใจที่กักเก็บไวคอยๆ ผอน


ออกชาๆ เมื่อเห็นวาสภาพภายในหองไมไดเละเทะเหมือนดานนอก ในนี้ยังคงสะอาดเหมือนเกา ผานวมผืนหนาคลุมรางที่
นอนนิ่งบนเตียง ผมกาวเทาเขาไปใกลขึ้นเรื่อยๆ จนมาหยุดอยูขางเตียง ใบหนาสดใสหลอเหลาอยางที่ใครหลายคนนึก
อิจฉาดูซูบซีด แกมตอบลงไปตามสภาพรางกายที่ผายผอม รอบดวงตาดําคล้ํา ริมฝปากสีคล้ําและแหงแตก ฝามือที่โผลพน
ผานวมมีผาพันแผลพันเอาไว เลือดที่ซึมออกมาแสดงใหเห็นวาแผลยังคงสดใหม...เกิดอะไรขึ้นกับทิว

"ทิว...ทําไมเปนแบบนี้"ผมนั่งทรุดที่บนพื้นขางเตียงแลวรองถามคนที่หลับใหลไมไดสติ

" ทิวมันคิดถึงพาย....มันรักพายมากนะ พอพายหายไปมันก็เริ่มเลนยาหนักขึ้น พอตอมันไมหาใหทิวก็เลยหาเอง มันใชจน


เกือบติด พวกเราก็เลยตองชวยใหเลิกยา แตเรื่องเหลา...มันก็ยังดื่มหนักเหมือนเดิม ถาไมใชยา ก็คงมีเพียงเหลาอยางเดียว
ที่จะทําใหมันเห็นพายกลับมาหา...จิ๋วไมรูจะทํา ยังไงแลว งานที่รานมันก็ไมทํา พวกเราตองหาวงอื่นมาเลนแลวหลอกพี่ธาร
วาจะไปเที่ยวตางจังหวัดกัน วันๆ มันเอาแตพูดถึงพาย ตั้งแตวันแรกที่มันรูจักพาย เรื่องรับนอง งานกลุม ติวหนังสือ
ทําอาหาร จนมาถึงปจจุบันที่พายไมอยู มันก็เริ่มจะคลั่งขึ้นมาอีก ตอกับจิ๋วไมกลาปลอยมันไวคนเดียวเลยตองมานอนเฝา
จิ๋วกลัวทิวจะเปนบา มันเหมือนไมอยูในโลกความจริง...มันยังอยูในโลกที่มีพายอยู. ..โลกที่มัน ฝนหา คนที่มันพยายามทะนุ
ถนอม...พาย...กลับมาหามันเถอะนะ...กลับมาเถอะ"

".....มือทิวเปนอะไรเหรอ"นาแปลกที่เสียงของผมยังคงนิ่ง และ...น้ําตาก็ไมรินไหล

"แคแกวแตกนะ หลังๆ ทิวมันคุมตัวเองไมคอยอยู"

" ผามัน...เปอนแลว เดี๋ยวพายทําแผลใหใหมแลวกันนะ"ผมเอื้อมมือไปหยิบถุงยาที่วางขางหัวเตียง ดานในมีอุปกรณทํา


ความสะอาดแผลและยาแกอักเสบอยูพรอม จิ๋วเดินออกไปนอกหองปลอยใหผมนั่งอยูขางทิวเพียงลําพัง รอยแผลกลางฝา
มือไมยาวและไมลึก แตทิวคงไมระวังแผลเลยเปดขึ้นมา ผมเปดตูเสื้อผาหยิบผาเช็ดตัวผืนเล็กแลวเดินเขาหองน้ําไปชุบ
น้ําอุน เพื่อมาเช็ดหนาใหทิว หลังจากเช็ดหนาเช็ดตาทิวก็ดูสดชื่นขึ้นมาบาง

"คิดวาทิวคงเปนไขนะ จิ๋วอยาลืมหายาใหทิวกินหลังอาหารดวยละ"ผมเดินออกมาหาจิ๋วที่กําลังยืนลางจานอยูขางๆ ตอ

"พาย...หมายความวาพายจะไมกลับมาเหรอ"คําถามของจิ๋วผมทําไดเพียงสบตากลับไป

"รูมั้ยวาทําไมมีเพียงสวนของครัวกับหองนอนเทานั้นที่สะอาดอยู"

"....."ผมนิ่งเงียบรอใหตออธิบายเพิ่ม

".... ทิวมันมักจะพูดเสมอวาพายทํากับขาวอรอย...อาหารทุกจานที่พายทําใหทิวมันไม เคยลืม เหมือนกับภาพของพายที่


นอนอยูขางๆ มันบนเตียง ไมเคยลืม และไมกลาแตะตอง พอคิดจะแตะตอง...ก็ตองตื่นจากความฝนของตัวเอง รับความ
จริงไมได ไมนานมันก็คงเปนบา...แตนาดีใจแทนพายนะ...สุดทายไมวายังไง..มันก็จะ ไมลืมพาย"คําพูดประชดประชันของ
ตอไมทําใหผมรูสึกแยแตอยางใด ตรงกันขาม ผมกับรูสึกเปนครั้งแรกวาตอเปน'เพื่อนที่ดี'ของทิวจริงๆ
"... ฝากบอกทิววาอยาดื่มเหลามาก...หวังวาทิวคงจําไดวาพายไมชอบพวกขี้เมา"ผมพูดจบก็เดินออกมาจากหอง ไดยิน
เสียงจิ๋วตะโกนเรียกตามหลัง แตผมก็ยังเดินตอไป

ลิฟตเปดขึ้นที่ชั้นลาง ทันทีที่กาวเทาพนบริเวณอาคารจนมาถึงลานจอดรถก็สามารถมองเห็นรถคุนตาจอด คอยอยู


เหมือนที่คิดไวไมผิด ผมไมจําเปนตองโทรไปหาเลย เขา...มักจะอยูในที่ๆ ผมคิดไวเสมอ นาแปลกที่ตอนนี้ผมเพิ่งคิดไดวา...
ทิวกับเขา...ชางเหมือนกันเหลือเกิน

ระยะหางของเรานอยลงเมื่อผมกาวมาหยุดยืนขางหนาคนที่ยืนพิงประตูขางคนขับอยู สีหนาและแววตาแบบโลงอกและ
แปลกใจปนเปกันจนมองไมออกวาเขารูสึกแบบไหน มากกวา

"...กลับกันเถอะครับ"ผมเปนฝายพูดกอนเมื่อเห็นเขายังคง ยืนนิ่ง เสียงผอนลมหายใจดังยาวกอนที่ตัวผมจะถูกดึงเขาไป


อยูในออมแขนจนรูสึกอึดอัด

"....ขอบคุณ"

"ผมวาเราไปซื้อของแลวไปทําอาหารกินกันที่หองดีกวา ผมเริ่มหิวแลวละ"คําพูดของผมทําใหเขาหัวเราะเบาๆ ในลําคอ


กอนจะคลายออมแขนแลวเปดประตูใหผมเขาไปนั่ง

หางสรรพสินคาใกลคอนโดเปนแหลงจับจายใชสอยที่สะดวกที่สุด ผมเดินนําคนเข็นรถคันใหญเพื่อหยิบสินคาที่จําเปน
ของใชสวนตัวสําหรับหองน้ํา น้ํายาลางจาน น้ํายาทําความสะอาดพื้นและกระจก เมื่อไดของครบเราก็รีบกลับมาที่หองดวย
เหตุผลเดียวกันคือความหิว

อาหารงายๆ คือขาวผัดกุงกับแกงจืดสาหราย ผมไมสามารถบรรจงทํากับขาวไดเพราะมันคงเสียเวลา และไมสามารถทน


หิวไดนานกวานี้ดวย

"วันนี้ไมตองไปทํางานแลวเหรอ"ผมถามเมื่อเห็นคนที่เพิ่งกินขาวเสร็จนอนเอกเขนกบนโซฟา

"ไมไปแลว"

"อูงานนี่เอง"

".....มานั่งคุยตรงนี้หนอยสิ"เขาลุกขึ้นนั่งแลวขยับใหเหลือที่วางขางๆ ใหผมนั่งลงไป

"มีอะไรเหรอ"ผมนั่งลงแลวก็เริ่มถาม...ในสิ่งที่รูอยูแลว
"....ไปหามันแลว...เปนยังไง ไมอยากพูดเรื่องนี้ใหฟงบางเหรอ"

"ก็ไมคิดวาคุณอยากฟงนี"่

"ก็ไมเชิง"

" ตอนนี้ทิวกําลังปวย ผมไปตอนเขาหลับเพราะฤทธิ์ยาอยู ทาทางคงดื่มหนักมาพักใหญ สภาพรางกายก็ไมดูดีเทา


เมื่อกอน ตอนนี้เขาคงไมมีอะไรสูคุณไดแลวละ คุณไมตองกลัวหรอก"

" เดี๋ยวมันก็คิดไดเองนั่นละวาควรทํายังไงกับชีวิต พายก็ไมตองไปยุงกับมันอีกละ เดี๋ยวมันก็ลืมพายไดเอง"น้ําเสียงบง


บอกถึงความไมพอใจในคําเหน็บแนมจากผม

"ผมอยากรูจริงๆ วาทําไมระยะหลังคุณถึงไมขังผมไว ไมหามอะไรผมอีก ทุกอยางเปนเพราะวาคุณรักผม...หรือวาพี่นพสั่ง


อะไรคุณ"

ตอนที่ 57

"พายสงสัยอะไรกันแน อยากไดยินอะไรงั้นเหรอ ไมเชื่อวาพี่รักพายจริงๆ หรือ...ไมอยากยอมรับความรูสึกตัวเองงายๆ"ชาง


เปนคําตอบที่ผมนึกไมถึง จริงๆ

"ไมนึกนะเนี่ยวาคุณจะถามกลับแบบนี้ ผมคิดวาคุณจะตอบแบบตรงไปตรงมาเหมือนทุกครั้งเสียอีก แสดงวาการคาดเดา


ของผมมีสวนถูกใชมั้ย"ดูทาคืนนี้ผมคงจะไมไดนอนงายๆ สงสัยวาคนบางคนคงอยากถกปญหาเรื่องความรูสึก

"ใช คําตอบคือใชทั้งสองอยาง แลวยังไง พี่รักพาย นี่คือความจริง และพี่นพสั่งไมใหพี่บังคับอะไรพายอีก นี่ก็จริง


เหมือนกัน แตมันสําคัญตรงที่เหตุผลแรก ถาพี่ไมรักพาย พี่จะยอมฟงพี่นพเหรอ ที่พี่ยอมไมใชเพราะคําสั่ง แตเปนเพราะ
เหตุผลที่สั่งตางหาก"

" ออ....เหตุผลนั้นคงสําคัญมากเลยสินะ แตนั่นผมไมสนใจหรอก ที่ผมถามไมใชเพราะไมอยากยอมรับอะไร แตเปน


เพราะมันยากเกินกวาจะเชื่อ และมันแปลกเกินไป คุณบอกวาคุณรักผม รักผมตั้งแตเมื่อไหรกันละ กอนที่จะขมขืนผม หรือ
วาหลังจากนั้น หรือวาหลังจากเอาตัวเองกลับมาวุนวายกับผมอีก ตลอดมาผมไมเคยสัมผัสความรูสึกที่คุณบอกไดเลย
อะไรทําใหคุณแปลกไปละในเมื่อคุณบอกวารัก เมื่อกอนกับตอนนี้ทําไมมันตางกันนัก!!!"ผมคิดวาตัวเองไมไดตะโกนใสเขา
มา นานเหมือนกัน คําถามของเขายั่วอารมณผมไดเหมือนเคยสินา
"....... พายตองการอะไร ทําไม ไปเจอมันแคแวบเดียวก็กลับมาโวยวายคาดคั้นเอากับพี่ มันจะตายเลยนึกสงสารรึไง
อยากกลับไปหามันนักรึไง พายถามอะไรพี่ก็ตอบเสมอ ถาพายเชื่อสักนิด ก็คงไมนั่งสงสัยเรื่องพวกนี้หรอก"

"คุณมันก็ ดีแตคิดอยูแคนี้ พูดไดแคนี้ ถาผมๆๆ ทุกอยางมันเกิดขึ้นเพราะผมรึไง เปลา! เพราะคุณ! พวกคุณทั้งสองคนนั่น


ละ!!!"ผมลุกขึ้นจากโซฟาแลวเดินเขาหองนอน ปดประตูเสียงดังเทาที่จะทําได อีกฝายคงรูวาคราวนี้ผมหงุดหงิดมากแค
ไหนถึงไดไมตามเขามาพูดจากวน ประสาทอะไรอีก หลังจากนั่งสงบอารมณก็เริ่มคิดไดวาเขาพูดถูกบางสวน เพราะวาผม
ไปพบทิว ผมถึงไดอารมณเดือดกับคําพูดเล็กๆ นอยๆ ของเขาแบบนี้ ผมสงสารทิวงั้นเหรอ...คงใช หรือบางที...อาจไม

หลังจากอาบน้ําเสร็จและเตรียมตัวนอน เจาของหองก็เดินเขามานั่งอีกฝงบนเตียง ผมยังคงหลับตาเพื่อพยายามทําให


ตัวเองหลับอยู

" พี่ขอโทษที่เมื่อกี้พูดรุนแรงกับพาย แตพายควรจะฟงที่พี่พูดบาง อยางนอยก็เรื่องเพื่อนของพาย ทางที่ดีอยาไปเจอกัน


อีก"ผมก็นึกวาเขาจะมาพูดเรื่องอะไร ที่แทก็ยังเห็นความคิดแบบเดิมๆ การกระทําแตกตางไปแตความคิดก็ยังคง
เหมือนเดิมไมมีผิด

"พรุงนี้ตอนเชาผมจะไปเยี่ยมทิวกอนไปเรียน และคุณก็หามผมไมไดดวย"

"เฮอ...เมื่อไหรพายจะฟงที่พี่พูดบาง มันไมมีอะไรดีหรอกนะ เวลานี้พายควรปลอยใหฝายนั้นทําใจยอมรับความจริง"

"ความจริงอะไร"

"ก็ความจริงที่พายไมใชของมัน ไมมีวันกลับไปหามันอีกแลวไง"

"...ผมวา...คุณคงเขาใจอะไรผิด ผมจะไมมีวันแยกจากทิว นี่คือเรื่องจริงที่คุณควรยอมรับ"

"พาย!! จะพูดดีๆ กับพี่บางไมไดเลยรึไง ใชเหตุผลคุยกันบางไดมั้ย"

"..... ผมเหนื่อย จะนอนแลว พรุงนี้ผมยังยืนยันคําเดิม...ผมจะไปหาทิว"ผมดึงผาหมคลุมหัวแลวนอนหันหลัง ให เสียง


สบถพรอมกระแทกเทากอนจะไดยินเสียงปดประตู แมจะไมดังเทาผม แตก็คงทําไปดวยอารมณเดียวกัน

เมื่อคืนผมไมรูวาตัวเองขม อารมณไดแลวหลับไปตอนไหน ตื่นขึ้นมาก็เหมือนเชาเมื่อวาน ใครอีกคนตื่นกอนนานแลว ผม


ถอนหายใจชาๆ ขณะทานอาหารเชาแบบอเมริกันงายๆ ที่อีกฝายลงมือทํา นาแปลกที่เพียงแคนี้ผมก็รูสึกดีขึ้นเมื่อตองเงย
หนามองเขา

"เดี๋ยวพี่ไปสงที่คอนโดฯ หมอนั่นแลวกัน"เขาพูดขณะดื่มกาแฟ ผมทําเพียงขานรับในลําคอเบาๆ


บรรยากาศ ในรถมีแตความอึดอัด ผมไมรูวาระหวางเรามันดีขึ้นหรือแยลง แตมันคงใกลจะถึงขีดสุดขึ้นทุกทีแลว วันนี้ผม
นั่งนิ่งอยูในรถนานกวาเมื่อวาน

"พี่จะมารับไปสงมหาฯลัยตอนบายนะ"

"ไมมีงานรึไง"

"ไมเปนไร เสร็จแลวก็โทรมาแลวกัน"

"อืม...ตามใจนะ งั้น...ผมไปละ"

"อยาลืมโทรมาละ"

"... แลวผมจะโทรหา"ผมพูดจบก็เดินออกจากรถ ถึงจะเดินเขามาในตัวตึกแลว แตรถที่มาสงก็ยังคงจอดนิ่ง ผมคิดวาเขา


คงรอใหผมเดินลับสายตาไปกอนเขาถึงจะขับออกไป ไมแปลกเลยที่ผมเดาความคิดและการกระทําเขาออก

ผมเดินมาถึงหนา หองของทิว จิ๋วเปนคนมาเปดประตู เพราะตอมีเรียนเชา ผมเห็นจิ๋วเทขาวตมใสชามไวเลยอาสายกเขา


ไปใหทิวเอง ตอนแรกจิ๋วก็ลังเลวาจะปลอยใหผมพบทิวดีมั้ย แตผมคะยั้นคะยอจนจิ๋วใจออน แตก็ยังไมวางใจใหผมเขามา
อยูกับทิวเพียงลําพัง

"ทิว....ทิวลุก มากินขาวตมหนอยนะจะไดกินยา"จิ๋วเดินไปนั่งใกลขอบเตียงเพื่อชวยพยุงทิว ใหลุกขึ้นนั่ง ผมยืนนิ่งอยูขาง


ประตูเพื่อรอใหจิ๋วบอกกับทิวกอนวาผมมาหา

" วันนี้มีคนมาเยี่ยมดวย ทิวตองกินขาวเยอะๆ นะ หามดื่มเหลานะวันนี้"จิ๋วดึงหมอนไปรองแผนหลังใหทิวไดนั่งพิงหัว


เตียง สบายๆ ผมแทบกลั้นหายใจเมื่อเห็นทาทางระโหยโรยแรงของคนที่เคยเขมแข็ง

" วันนี้มีเรียนบาย จิ๋ว...ขับไปสงหนอยนะ"น้ําเสียงแหบแหงเหมือนคนขาดน้ํามานาน ทิวคงไมไดฟงที่จิ๋วพูดถึงไดไมถาม


วาใครมาเยี่ยม

"ทิว...ไมตองไปเรียนหรอกนะ รอใหหายดีกอนคอยไป ยังมีไขอยูเลย"

"ไมไดๆ เดี๋ยวพายเปนหวง จิ๋วไมรูอะไร พายไมชอบคนขาดเรียน ไมชอบคนโดดเรียนดวย"


" ทิว...ทิวหันไปดูสิวาใครมา"จิ๋วจับมือทิวเบาๆ แลวหันมามองผมที่ยังยืนอยูใกลประตู สายตาที่ผมมองไมเห็นในตอน
แรกเริ่มเหลียวมามองจนเราสบตากัน เหมือนทิวจะไมแนใจวาผมยืนอยูตรงหนาจริงๆ แตเพียงไมนาน รางของคนที่นอนอยู
เมื่อครูก็คอยๆ ลุกขึ้นแลวเดินมาทางผมอยางรวดเร็ว ฝามือที่ครั้งลาสุดไดทํารายผมไวอยางเจ็บปวดจนเจียนตายกลับยื่น
มาสัมผัส ผิวแกมแผวเบาจนแทบไมรูสึก ปลายนิ้วสั่นระริกของมือทั้งสองขางที่กุมแกมผมไวขยับเบาๆ

" พาย....พายรองไหทําไม ใครทําอะไรพาย บอกทิวมา เดี๋ยวทิวไปจัดการให"ทิวพูดดวยเสียงแหบพรา น้ําตารินไหลอาบ


แกมไมตางจากผม ถึงจะคิดวาตัวเองนั้นเขมแข็ง แตครั้งนี้ผมกลับหามน้ําตาตัวเองเอาไวไมได เรี่ยวแรงที่มีมลายหายไปจน
แทบยืนไมอยู ผมทรุดนั่งลงบนพื้น ทิวก็รีบนั่งประคองผมไวพรอมละล่ําละลักถามไถดวยความเปนหวงเหมือนเคย

"พายอยางรองไห อยารองนะครับ ทิวจะปกปองพายเอง"

"....ทิว......."

"ครับ วาไงครับ"

"......... หิวมั้ย...จิ๋วซื้อขาวตมไวใหกิน ทิวกินหนอยนะ"ไมรูวาเพราะอะไรถึงทําใหลืมคําพูดที่คิดจะพูด คําที่อยากบอก


เปนเพราะน้ําตาของทิว หรือเพราะคําพูดของทิวกัน

"พาย กินขาวมารึยังละ กินดวยกันนะ"ทิวรีบดึงผมใหลุกขึ้นแลวพาเดินไปนั่งบนเตียง รับชามขาวตมจากจิ๋วมาแลวตัก


เตรียมปอนผมเต็มที่

"เดี๋ยวๆ ทิวนั่นละกิน พายกินมาแลว"

"พาย...กินกับเขามาแลวเหรอ"ผมหลงคิดวาทิวกําลังอยูในโลกของตัวเองอยางที่จิ๋วบอกเสียอีก ไมนึกวา...จะถามผมแบบ
นี้

".....ใช พายกินขาวเชาพรอมเขามาแลว ทิวเองก็ตองกินบางนะ"

"......แลวพาย...จะไมกินพรอมทิวอีกแลวเหรอ"

" ทิว...กินขาวเถอะนะ ไมไดสําคัญวาพายจะกินกับใคร พายกินแลว ทิวไมตองเปนหวง ทิวเองก็ตองกิน พายจะไดไมเปน


หวง"ผมแยงชามขาวตมมาถือไวแลวเปนคนใชชอนตักเพื่อปอนทิว

"......ขาวเที่ยงละ พายจะกินพรอมทิวมั้ย ในตูเย็นมีของสดเต็มเลย พายทํากับขาวใหทิวกินหนอยนะ แลวตอนบายเรา


คอยไปเรียนพรอมกัน เลิกเรียนแลวก็แวะกินขาวกอนกลับ ทิวจะขับไปสงพายเอง"
"ทิวยังดูไมแข็งแรงอยูเลย เอาไวทิวดีขึ้นคอยไปเรียนนะ วันนี้กอนพายไปเรียนพายจะทํากับขาวกินกับทิวกับจิ๋วดีมั้ย"

"สัญญานะ"

" สัญญา อะ ขาวตมจะเย็นหมดแลว กินใหหมดนะ"ผมยกชอนไปจอไวใกลปาก ทิวยิ้มใหผมครั้งแรกกอนจะอาปากใหผม


ปอนเขาไป จิ๋วเดินอมยิ้มออกไปนอกหอง ปลอยใหผมนั่งปอนขาวทิวตามลําพัง ถึงรางกายจะดูโทรมกวาเมื่อกอน แตสีหนา
แววตาตอนนี้ก็เหมือนจะกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นบาง ผมอยากใหทิวหายเร็วๆ อยากใหกลับมาแข็งแรงเหมือนเกา ไมอยากได
ยินคําพูดที่ฟงเหมือนเลื่อนลอยแบบตอนนี้เลย

หลังจากทิวทานขาวตมจนหมดชาม จิ๋วก็จัดยามาใหทิวกิน ยาสวนมากก็จะเกี่ยวกับโรคกระเพาะ ยาบํารุง วิตามิน ตอน


แรกเห็นยาเกือบสิบเม็ดผมก็ตกใจ แตพอรูวาสวนมากเปนยาบํารุงก็โลงอกขึ้นมาบาง

"ทิวอยากกินอะไรเปนพิเศษหรือเปลา ตอนเที่ยงพายจะไดทําให"ผมตะโกนถามทิวหนาหองน้ํา ทิวก็ตะโกนตอบกลับมา

"ทิวกินอะไรก็ได พายอยากกินอะไรก็ทําเลย ถาขาดอะไรก็บอกจิ๋วใหไปซื้อใหนะ"

ผมเดินออกมาเช็คของในตูเย็นที่มีอาหารสดแนนเต็มตูอยางที่บอก ผมคิดวาจะทําราดหนา เพราะงายและทิวก็ชอบกิน


ดวย ผมกับจิ๋วชวยกันหยิบเรียงขวดเบียรที่หยิบจากตูเย็นมาใสลัง เหลาก็เก็บใสกลอง เบียรกระปองผมก็หาถุงมาใส

"ทําอะไรกันนะ"

"ก็พวกนี้ไง พายไมชอบใหทิวดื่มเลย พายใหจิ๋วเอาไปแบงเพื่อนคนอื่นแลวกันนะ"

" ไดสิ ทิวไมดื่มแลวละ เอาไปใหหมดเลยนะ วาแตเที่ยงนี้พายจะทําอะไรใหทิวกินละ"ทิวเดินเช็ดผมมายืนมองลังเบียรที่


วางอยูบนโตะ

"ราดหนารวมมิตรดีมั้ย"

"ดีครับ อีกตั้งนานกวาจะไดเวลาเรียน พายมาดูหนังดวยกันมั้ย มีหนังใหมๆ เยอะเลย ทิวซื้อมาแตยังไมไดเปดดูเลยสัก


เรื่อง"ทิวออมมาถึงมือผมใหเดินตามมา นั่งบนโซฟา สวนตัวเองก็ลงไปนั่งรื้อซีดีมาเรียงใหผมดูวาอยากดูเรื่องไหน ผมก็จิ้ม
มั่วๆ ไปเพราะไมคอยไดสนใจเรื่องหนังมานาน จิ๋วเดินเขาไปหยิบหมอนกับผาหมมายึดพื้นที่หนาทีวี สวนทิวเดินมานั่งอยู
บนโซฟาตัวเดียวกับผม
ทิวฝนนั่งอยูไดไม นานก็ตองเอนตัวลงนอนแลวหลับไปเพราะฤทธิ์ยา ผมหยิบหมอนอิงใบเล็กสอดใหทิวหนุนนอนให
สบายขึ้น มือของคนที่หลับกุมมือผมไวแนน ที่เคยคิดไววาสองคนนี้เหมือนกันนั้นคิดไมผิดเลย คําพูดอาจไมเหมือนกัน ตอง
ยอมรับวาทิวเปนคนที่นุมนวลมากกวา แตความหมายของคําพูด ความคิด การกระทํา สองคนนี้เหมือนกันเสียจนผมนึกขํา
ถาใหเปรียบก็คงเหมือนแมเหล็กที่ขั้วเดียวกันแลวผลักกัน ทั้งที่เหมือนกันขนาดนี้ กลับตั้งตัวเปนศัตรูกันอยางโจงแจง

กอนเที่ยงผมลุกไปทําราดหนาโดยมีจิ๋วเปนลูกมือ จิ๋วบอกวาตอกําลังจะกลับมา ผมเลยทําเผื่อใหดวย พอทําเสร็จทิวก็ตื่น


พอดี เรานั่งกินกันหนาทีวี ผมตักราดหนาใสชามใหทิวเยอะกวาคนอื่น ทิวนาจะผอมลงหลายกิโล ตองรีบขุนใหกลับมา
เหมือนเดิม

"ทิวกินเยอะๆ นะ พายทําน้ําผึ้งผสมมะนาวไวดวย ทิวเสียงแหงๆ ก็ผสมน้ําอุนจิบบอยๆ นะ"ผมพูดไปยิ้มไปเมื่อเห็นทิวตั้ง


หนาตั้งตากิน

" อื้ม ทิวเจ็บๆ คอเหมือนกัน แตตัวไมรอนแลวนะ"ทิวยกมืออังหนาผากตัวเองแลวลงมือกินตออยางตั้งใจ มองไปที่จิ๋วก็ดู


จะดีใจที่เห็นทิวกินไดเยอะแบบนี้ เรานั่งกินกันไปสักพักตอก็กลับมา จิ๋วลุกไปตักราดหนาใสจานแลวมานั่งรวมกัน ผมรูวา
ตอยังไมคอยพอใจผม แตทําไงได ผมปลอยใหทิวเปนแบบนี้ตอไปไมไดเหมือนกัน

"เดี๋ยวพายตองไปเรียนแลวนะ ทิวกินยาแลวพักผอนเยอะ ถาวางพายจะมาหาบอยๆ"ผมหยิบกระเปาเปแลวเดินมาใส


รองเทาหนาประตู

"เดี๋ยวทิวไปสง"ทิวรีบวิ่งมายืนใสรองเทาอยูขางผม ตอกับจิ๋วมองมาดวยสายตาที่พยายามหามปราม

"ไมเปนไร พายไปเองได ทิวพักผอนเถอะ"ผมจับมือทิวที่กําลังจะเปดประตูเอาไว

".....เขามารับเหรอ"

" ไมรูส.ิ ...คิดวางั้น"ผมไมรูจริงๆ แตคิดอยางนั้นจริงๆ เชนเดียวกัน ทิวคอยๆ ปลอยมือจากลูกบิดประตูชาๆ แลวพลิกมือ


มากุมมือผมไว

"อืม....งั้นทิวโทรหาพายบางไดมั้ย"

" ไดสิ โทรมาไดตลอดเวลาเลย แตอยาโทรเวลาเรียนแลวกัน พายไมรับแนๆ"ผมพูดจบทิวก็หัวเราะออกมา ผมเห็นทิวยิ้ม


ออกมาก็เริ่มสบายใจมากพอที่จะเดินออกไปจากหอง ทิวยืนมองผมเดินไปที่ลิฟต จนลิฟตปดลงภาพของทิวถึงไดหายไป
ภายในวันเดียวกัน...ผมเดินหันหลังใหคนถึงสองคน
ตอนที่ 58

ผมเดินเขามานั่งในรถ ภาพและความรูสึกซ้ําซอนกันเมื่อเชาไมมีผิด บรรยากาศในรถชางนาอึดอัด วินาทีแรกที่เห็นเขายืน


พิงรถอยูก็นึกขึ้นมาในใจวา'นึกแลว' ผมไมไดคิดลวงหนาวาเขาจะทําอะไร จะมาดักรอผมหรือไม แตมันรับรูไดเองโดย
อัตโนมัติ เรียกวารางกายและความคิดผมมันจดจําไดเองคงจะใช

"กินขาวรึยัง"เขาขับรถมาจนใกลถึงมหาฯลัยถึงไดเอยปากถามคําถามแรก

"กินกับทิวกับจิ๋วมาแลว"

"อืม เรียนแคสองชั่วโมงใชมั้ย งั้นพี่รออยูแถวๆ หนามหาฯลัยนะ"

"เลยประตูรั้วไปมีรานกาแฟเล็กๆ อยู คุณนั่งรอผมที่นั่งก็ได เขามีอาหารตามสั่งขายดวย"

"อืม เลิกเรียนก็เดินมาหาที่รานแลวกัน"เขาพูดจบรถก็มาจอดเทียบหนาตึกเรียนพอดี ผมเดินลงโดยไมรีรอเหมือนเมื่อวาน


และเมื่อเชา แตคนขับยังคงจอดรอและมองผมจากในรถเหมือนเดิม

วันนี้มีเพื่อนหลายคนถามถึงทิว ผมก็ไดแตบอกไปวาทิวไมสบายและก็เช็คชื่อแทนไปกอน เทอมสุดทายนี้ผมรูสึกวาเพิ่งได


พูดคุยกับเพื่อนรวมหองจริงๆ จังๆ เปนเพราะเมื่อกอนผมเอาแตเรียนและทํางานหรือเปลา ถึงไดไมคอยสรางความสัมพันธ
กับเพื่อนรวมหองเทาไหร เพื่อนหลายคนบอกวาอยากเปนเพื่อนกับผมตั้งแตปหนึ่งแลว แตดูผมคอนขางเงียบและเรียบรอย
บางครั้งพวกเขาเลยไมรูจะหาเรื่องอะไรคุยดวย อีกเหตุผลคือขางๆ ผมมักมีทิวเปนคูซี้อยูเสมอ เพิ่งรูวันนี้เองวาหลายคน
มองวาผมกับทิวมีความสัมพันธเกินเพื่อน แตถามายอนนึกดู ผมก็เถียงไมคอยออก ตลอดเวลาเกือบสี่ปแทบไมมีวันไหน
เลยที่ขางกายผมไมมีทิว

"ทิวเหรอ"คนที่ผมกําลังนึกถึงโทรมาทันทีที่เลิกเรียน

"เลิกเรียนแลวใชมั้ย พายเช็คชื่อใหทิวหรือเปลา"

"เช็คสิ ปกติถาทิวขาดพายก็เช็คใหอยูแลวนี่ แถมวันนี้เพื่อนๆ ถามถึงทิวกันหลายคนเลยนะ"

"เหรอ แลวพายบอกเพื่อนไปวาไง"

"ก็บอกวาทิวปวย ความจริงอยากบอกวาปวยการเมืองมากกวา"

"ทิวปวยจริงๆ ไมไดปวยการเมืองสักหนอย พูดงี้ทิวเสียหายหมด"


"ครับๆ รูวาปวยจริง แลวก็รีบๆ หายดวยละ พายไมอยากนั่งเรียนคนเดียว เขาใจมั้ย"

"...พายก็มาเยี่ยมทิวบอยๆ สิ เลิกเรียนแลวนี่ แวะมาหาทิวกอนกลับไดมั้ย ยังไมเย็นเลย"

"อืม...ก็ไดนะ เดี๋ยวจะเอาหัวขอรายงานไปใหเลือกดวย ตองทําสงกอนสอบมิดเทอม"เทอมสุดทายไมคอยมีวิชาที่ตองนั่ง


เรียนเทาไหร แตมีรายงานใหทําสงเยอะเชียว

หลังจากวางสายจากทิวผมก็เดินออกมาเรื่อยๆ จนถึงรานกาแฟ คนที่มาสงก็ยังคงรอรับกลับอยางที่พูดเอาไว พอเห็นผม


เดินเขาไปในรานเขาก็ปดโนตบุคแลวเดินนําผมไปที่รถ

"ผมจะไปหาทิวกอนกลับนะ"ทันทีที่เขามานั่งเรียบรอยผมก็เริ่มพูดกอน

"ตลกเกินไปมั้งพาย เห็นพี่เปนอะไร คนขับรถเหรอ"น้ําเสียงกลั้วหัวเราะจากเขามาพรอมคําประชดเหมือนเคย

"งั้นผมนั่งรถไปเองก็ได ถาคุณไมสะดวก"เขาประชดมา แตผมไมไดประชดกลับ ผมตั้งใจทําอยางที่พูดจริงๆ

"พาย! พี่ยอมพายขนาดนี้แลวจะเอายังไงอีก จะใหทําอะไรก็บอกมา อยามาทําเหมือนเลนเกมสกันแบบนี้ พี่ตามพายไม


ทันหรอกนะ"

"ผมก็ไมไดทําอะไรนี่ แคบอกวาจะไปหาทิว คุณตางหากทีค่ ิดมากเอง"ผมลอบถอนหายใจเบาๆ เมื่อเขาขับรถเคลื่อนออก


จากที่จอดเพื่อแสดงวาไมยอมใหผมไปอยางที่พูดจริงๆ

"เฮอะ! คิดนอยๆ ไดไง ก็เห็นๆ กันอยูวามันเคยคิดทําอะไรกับพาย พอมันทําตัวนาสงสารหนอยก็นึกเห็นใจ เรียกรองอะไร


ก็เสนอตัวทําใหหมด ตอไปมันก็คงขอใหพายไปอยูปรนนิบัติมันถึงเตียงนั่นละ"

"นาแปลกที่เราคิดตรงกัน แตถึงจะเปนอยางนั้นจริงๆ แลวมันยังไงเหรอ"

"...พอใหพายคิดจะทําอะไรพี่ก็ไมมีวันยอมหรอก พี่ไมใหพายไปอยูกับมันอีกแลว"

"ออ...ในที่สุดก็ทนไมไหวแลวสินะ ผมคิดวาคุณจะดีไปไดอีกสักพักนะเนี่ย ความอดทนนอยกวาที่คิดอีกนะ"

"พาย!!"
"คุณไมตองตะโกนเสียงดังนักไดมั้ย ไมพาไปก็กลับหองสิ ถึงยังไงคุณก็คงไมจอดรถใหผมลง แลวผมก็ไมบากระโดดลงไป
ดวย"ผมเริ่มหมดแรงที่จะพูดดวยอีก ผมเดาความคิดเขาออกวาเขาคิดอะไร จะทําอะไร แตไมไดแปลวาผมเขาใจและรับได
ก็แคนิ่งเฉย...แค...อยูนิ่งๆ

ไอการที่ผมนั่งๆ นิ่งๆ มันก็พอชวยใหใครอีกคนใจเย็นลงไดบาง แตก็ไมนานนักเพราะทิวดันโทรมาพอดี ตอนแรกผมคิดวา


จะยังไมรับ เพราะไมอยากไดยินมันพูดอะไรไมไดใหทิวไดยิน แตทิวก็โทรถี่จนผมตองรีบรับสายทันทีทรี่ ถจอด

"วาไงทิว"พอผมออกมานอกรถก็รีบเดินเขาภายในตัวอาคาร สวนเขายังมัวเก็บของในรถ คงจะไมรูวาผมรับโทรศัพท

"พายถึงไหนแลว"

"ขอโทษทีนะ พอดีไมไดไปแลวนะ พายเพิ่งกลับมาถึงหอง"

"อาว ก็ไหน..."

"ขอโทษจริงๆ เอาไวพรุงนี้พายไปหาแลวกัน"

"เขาไมใหพายมาใชมั้ย"น้ําเสียงออดออนตอนแรกเริ่มเปลี่ยนเปนแข็งกระดาง ก็รูมานานแลววาทิวใจรอนและอารมณราย
แคไหน

"ก็ไมเชิง"

"พายปกปองมัน...เดี๋ยวนี้พายพูดปกปองมันแลวเหรอ"ทิวตะคอกเสียงดังจนผมเลื่อนโทรศัพทหางจากหู

"ทิว....ทิวอยูกับใคร จิ๋วกับตออยูดวยรึเปลา"

"อยูสิ พายถามทําไม ไมอยากคุยกับทิวรึไง"

"ทิวเมารึเปลาเนี่ย ดื่มอีกแลวใชมั้ย"

"ใช! ทิวเมา ทิวจะดื่มใหหนักเลย พายจะไดมาดูแลทิวอีก พายจะไดสนใจทิวบาง ไมใชปลอยใหคนอื่นดูแลทิวแบบนี้"

"พายวาทิวเมามากแลวละ เอาไวสรางแลวเราคอยคุยกันใหมแลวกันนะ"
"พาย!...พายอยาเพิ่งวางนะ ไหนบอกวาใหทิวโทรหาไดไง ทิวขอโทษ อยาโกรธทิวนะ ทิวไมดื่มแลวก็ได พายคุยกับทิว
กอนนะครับ"ทิวพูดรัวจนผมฟงแทบไมทัน ผมไดแตถอนหายใจระหวางยืนรอลิฟต

"....ทิวอยาทําตัวแบบนี้ไดมั้ย ทิวเปนอะไรไป คนที่เขมแข็งคอยชวยเหลือพายมาตลอดหลายปหายไหน มันเปนความผิด


พายเหรอที่ทําใหทิวเปนแบบนี้"ผมพยายามพูดจี้ใจดําของทิว ผมรูวาตอและทิวตองคิดแบบนี้ ตอใหไมพูด แตก็คงนึกโทษ
ผมอยูในใจ

"ไมๆๆๆ ไมใชความผิดพายนะ พายอยาพูดแบบนี้ ทิวขอโทษนะ พายไมผิด ทิวผิดเอง"

"ทิว...ขอรองละ หามดื่มเหลาอีกนะ แลวพรุงนี้พายจะไปหา"ผมรีบพูดแลวรีบวางสาย เขาก็เดินมายืนขางผมพอดี ไดยิน


เสียงหัวเราะในลําคอ ทาทางจะรูวาผมคุยกับทิวอยูถึงไดทําเสียงแบบนี้

วันนี้เรียนแคไมกี่ชั่วโมง แตเหนื่อยเหมือนอานหนังสือสอบขามวันขามคืน ผมคิดวาตัวเองเปนคนมีความอดทนสูงกวาคน


อื่น ผมมักคิดเสมอวาการอยูอยางสงบเปนเรื่องที่ดี ไมมีใครตองเจ็บ ไมมีใครตองเหนื่อย ถาฝายใดฝายหนึ่งนิ่งเสียก็คงไมมี
การทะเลาะกัน แตนั่นไมจริง ตอใหผมนิ่ง แตก็ยังมีเรื่องเขามาหาผมเสมอ ผมเลิกคิดวาตัวเองเปนตัวซวยมานาน เรื่อง
เลวรายที่เกิดขึ้นเปนเพราะคนอื่นกระทําตอผมทั้งนั้น การที่ผมเลิกคิดไมไดแปลวาผมไมไดเปนแบบนั้น...ผมก็ยังคงซวยอยู
เรื่อยๆ

"พี่จะลงไปออฟฟศขางลาง แลวอยาออกไปไหนดวย"เขาเปดประตูหองนอนเขามาขณะที่ผมกําลังแยกเสื้อผาใสตะกรา
เตรียมสงซัก

"อืม แลวจะขึ้นมากินขาวเย็นมั้ยละ ผมจะไดทําไว"

"...กิน"ที่ตอบชาเพราะกําลังตัดสินใจ หรือเพราะไมเขาใจคําถามผมก็ไมรู

หลังจากเขาออกไปผมก็เก็บของในหองนอน เสร็จแลวก็มานั่งทํารายงานในหองคอมฯ ผมหยิบโทรศัพทมาโทรหาจิ๋วเพื่อ


สอบถามอาการของทิว และอยากเช็คใหแนใจดวยวาจิ๋วอยูกับทิวจริงๆ

"วาไงพาย"

"อืม ทิวเปนไงบางละ"

"ก็บนๆ ตามเรื่องตามราว นี่ก็ทุบกําแพงทําเอาแผลเปดอีกรอบ แตพายไมตองหวงหรอกนะ ปลอยใหมันบาไปยังดีกวานั่ง


เมาขามวันเหมือนเมื่อกอน"
"แลวนี่ทิวไปเอาเหลาจากไหนมากินอีก"

"สงสัยวาจะแอบไปซื้อตอนที่ตอออกไปสงจิ๋ว หรือไมก็คงมีเพื่อนมาเยี่ยมแลวเอามาใหละมั้ง"

"เฮอ...ยังไงก็ฝากดวยแลวกันนะ พรุงนี้พายไมมีเรียน คงไปชวยไดทั้งวันนะละ"

"อืม พรุงนี้พายจะมาตอนไหนละ จิ๋วมีเรียนเชา สวนตอเรียนบาย"จิ๋วถามมาผมก็ตอบวาไปสายๆ หนอย คงทันไปกินมื้อ


เที่ยงดวยกัน คุยกับจิ๋วอีกสักพักผมก็ขอสายทิว น้ําเสียงทิวที่พูดมาคําแรกฟงดูดีใจมาก ทั้งๆ ที่เราเพิ่งวางสายกันไปไมนาน

"พายมาหาทิวแนนะ ไมเบี้ยวแบบวันนี้นะ"

"แนสิ ทิวก็หามแตะเหลาอีกเด็ดขาดเลยนะ ไมงั้นพายจะไมไปหาแลวก็ไมรับโทรศัพทดวย"

"ครับๆ ไมทําแลวครับ พายอยาโกหกทิวอีกแลวกัน"ทิวพูดเหมือนตอรอง ผมก็รับปากไปอยางเสียไมได ผมพูดเรื่อง


รายงานใหทิวฟงคราวๆ ทิวก็เอาแตพูดวาจะรอทําพรอมผมทั้งที่เปนรายงานเดี่ยว แตถานึกดูแลวเมื่อกอนเราก็ทํากันแบบนี้
เสมอ ตอใหรายงานเดี่ยวหรือกลุม ผมกับทิวก็จะนั่งทําดวยกัน ชวยกัน ปรึกษากัน ทุกคําพูดของทิวพยายามสื่อถึง
ความรูสึกที่อยากบอก...อยากใหกลับไปเหมือนเกา...แตมันคงเปนไปไมได

พอใกลเวลาเลิกงานผมก็ทํากับขาวไวรอเจาของหองขึ้นมากิน แตวันนี้ไมไดกลับมาคนเดียว เพราะพี่นัทกับนุตามมาขอ


ฝากทองดวย

"นุมาชวยพี่นัททํางานหรือไง"ผมแกลงแซวนุระหวางที่เรานั่งทานอาหาร

"เปลา พอดีไปธุระก็เลยแวะมารอกลับพรอมกัน"

"นาจะบอกกอน พายจะไดทํากับขาวเพิ่ม"ผมทําแคสามอยาง แตปริมาณคอนขางเยอะเพราะผมชอบทําเก็บไวอุนกินมื้อ


เชา

หลังจากทานอาหารเสร็จ นุก็มาชวยผมลางจาน นุดูมีความสุขมาก พี่นัทใหนุเลิกทํางานและตั้งใจเรียนใหจบอยางเดียว


นุบอกวาญาตินุรับรูแลววาพี่นัทกับนุเปนอะไรกัน จะเรียกวานุพาพี่นัทไปเปดตัวก็วาได นองของนุถึงจะยังเด็กแตก็รับได
ผมดีใจที่เห็นพี่นัททําอะไรเพื่อนุแบบนี้ ถึงจะไมใชหลักประกันอะไรที่พอจะยึดได แตก็ใหความเชื่อมั่นทางจิตใจ

"นัทมันบอกวาจะไปซื้อบานอยู สงสัยคงจะหยุดที่นุจริงๆ ละมั้ง"

"ถาไดอยางนั้นจริงๆ ก็ดี แลวคุณไมเสียดายนุบางเหรอ"


"พูดอะไรตลกๆ หึงรึไง"

"คุณตางหากที่พูดตลก ผมไปนอนดีกวา พรุงนี้ผมไมมีเรียน แตจะไปหาทิวตอนเชาแลวกลับเย็นๆ"ผมลุกขึ้นจากโซฟาเต


รีมเดินเขาหองนอน คําพูดของผมมันแสนเรียบงาย แคพูดใหฟง เปนเพียงคําบอกเลา แตอีกคนคงฟงเปนประโยคคําถาม

"ไมใหไป"

"ผมไมไดอยูกับทิวตามลําพังหรอกนา จิ๋วกับตอก็อยู และทิวก็ไมแข็งแรงพอจะทําอะไรผมไดหรอก"พอผมเดาความคิด


เขาได ผมก็พูดและทําอะไรไดตรงประเด็นมากขึ้น

"แลวจะไปขลุกอะไรอยูทั้งวัน ไปเยี่ยมแลวก็กลับสิ"

"จะไปนั่งทํารายงานกันดวย"

"จริง"

"แลวแตจะคิด แตถึงยังไงผมก็จะไปเชากลับเย็นอยางที่บอก"

"เอางั้นก็ได แตเชาพี่จะขึ้นไปสงที่หอง จะไดรูวามีคนอื่นอยูดวยจริงหรือเปลา เที่ยงพี่จะรับไปกินขาว แลวตอนเย็นจะขึ้น


ไปรับกลับ ถาไมตกลงตามนี้ก็ไมตองไป"

"ตามใจสิ ไมไดวาอะไรสักหนอย"ผมพูดจบก็เดินเขาหองนอน สวนเขาคงนั่งทํางานขางนอกตอละมั้ง ไมรูวาพรุงนี้จะเกิด


อะไรขึ้นบาง แตจะทําไงได ทุกคนก็ทําตามใจตัวเองกันทั้งนั้น ทิวตองการใหผมไปหา เขาตองการตามไปเฝาผม สวนผม...
ก็แคตองการเลนอะไร...นิดหนอย

เชาวันนี้ผมตื่นพรอมใครอีกคน แตถาจะพูดใหถูกคือตื่นที่หลังแตลุกพรอมกันนาจะถูกกวา เขาคงกลัววาผมจะแอบไป


กอนเลยตื่นเร็วกวาผม ขณะเดียวกันก็คงไมอยากใหผมไปเลยไมลุกไปอาบน้ําแตงตัวกอนเหมือนทุกวัน ผมโทรไปบอกจิ๋ว
วาใกลถึงแลว และมีคนจะตามขึ้นไปสงบนหองดวย จิ๋วก็อ้ําอึ้งเหมือนไมอยากใหเขาขึ้นไป แตก็คงรูวาผมไมมีทางเลือกอื่น
เชนกัน

"สวัสดีครับพี่ตั้ม"จิ๋วเปนคนเดินมาเปดประตูและยกมือไหวคนที่ยืนอยูขางๆ

"ดีครับนองจิว๋ แลวนี่มีใครอยูบาง"เปนคนตรงดีจริงๆ
"มีตออยูอีกคนครับ แตยังไมตื่น"

"อืม งั้นพี่ฝากพายดวยละ ตอนเที่ยงพี่จะมารับไปกินขาวแลวจะพามาสงบายๆ"

"ครับ"พอจิ๋วรับคําเขาก็หันมามองผมนิ่งๆ จนผมตองขานรับทั้งที่ยังไมรูคําถาม

พอเดินเขามาในหองจิ๋วก็รีบไปแตงตัวเพราะมีเรียน จิ๋วเขาไปปลุกตอในหองนอน ผมเห็นตอนอนบนฟูกที่ปูบนพื้นขาง


เตียง สงสัยคงนอนดานลางกับจิ๋ว ตอลุกขึ้นมาลางหนาแลวก็ออกไปสงจิ๋วที่มหาฯลัย ทิวตื่นมาทําหนาเบลอๆ แตพอเห็น
ผมก็ยิ้มกวาง

"พายมาแลว"

"ใช มาแลว ทิวรีบไปอาบน้ําไป สายปานนี้แลวยังไมยอมลุกกันอีก เมาหนักรึไง"ผมแกลงวาประชด ทิวก็ทําหนาสลดกอน


จะพึมพําคําวาขอโทษแลวรีบไปอาบน้ําตามคําสั่งผมทันที

หลังจากทิวทานขาวตมที่จิ๋วซื้อมาไวให เราก็มานั่งอยูบนโซฟาหนาทีวี ผมหยิบเอกสารการสอนออกจากกระเปามาใหทิว


เปดสมุดโนตที่จดหัวขอรายงานใหทิวเลือกทํา ทิวเลือกทําหัวขอเดียวกับผมเพื่อที่จะไดชวยกันได แตเนื้อหาภายในตอง
ตางกันอยูแลว

"คอพายเปนอะไร ทําไมแดงๆ"ทิวยกมือมาลูบตนคอผมตอนที่ไมทันตั้งตัว ผมผงะถอยหลังอยางอัตโนมัติ

"....เออ...ขอโทษ พายตกใจนะ"ผมขยับหางจากทิวเล็กนอย แตทิวกลับขยับเขามาใกลมากขึ้น

"......พายกลัวทิวเหรอ"

"อืม....ไมรูสิ รางกายมันเปนไปเอง"ผมถอยหลังจนสุดขอบโซฟาติดกับที่วางแขน ผมไมไดแกลงทํา แตความทรงจําครั้ง


สุดทายที่ทิวแตะตองผมมันเลวรายเหลือเกิน ไมวาจะเปนเรื่องยา หรือเรื่องที่พยายามจะทําอะไรผม ไมวาเรื่องไหนก็ลืมไม
ลงจริงๆ

"ทิวไมทําอะไรพายหรอก พายไมตองกลัวทิวนะ ทิวไมเคยทํารายพาย พายก็รูนี่"

"เมื่อกอนนะใช แตตอนนี้จะใชคําวาไมเคยคงไมไดแลว เราอยาพูดเรื่องนี้กันเลย ทิวไปเอาโนตบุคมานั่งเสิรซหาขอมูลใน


เว็บกันเถอะ"ผมดันไหลทิวออกเบาๆ เพื่อไลใหไปหยิบโนตบุคตามที่บอก
"ทิวขอโทษ ตอนนั้นทิวเมา ทิวไมรูตัว พายอยากลัวทิวเลยนะ ทิวไมทําอะไรพายแลว"ทิวจับมือผมเอาไวแนนและสะบัด
ยังไงก็ไมหลุด

"ทิว..ปลอยพายกอน"

"พายอยาหนีทิวสิ ทิวแคจะจับมือพายเฉยๆ ไมไดจะทําอะไรจริงๆ นะ"

"ทิวปลอยพายเถอะ ไมงั้นพายจะกลับ"ผมลุกขึ้นยืนแตทิวกลับดึงมือผมเสียแรงจนลมลงมานั่งอยูในออมแขนทิว

"พายอยากลับนะ อยูกับทิวกอน นะ กลับมาอยูกับทิวเถอะนะ"

"ทิว! พายเจ็บ!!"ทิวกอดเอวผมแรงจนตองรองออกมา

"อะ! ขอโทษ ทิวไมตั้งใจ เจ็บตรงไหน พายอยาดิ้นสิ ทิวแคกอดพายเฉยๆ ไมทําอะไรจริงๆ"

"ปลอยพายนะ!! พายจะกลับ!!"เมื่อทิวคลายออมแขนออกผมก็ขยับออกหางใหมากเทาที่ทําได

"ไมๆๆ พายอยาไปนะ พายอยูกับทิวที่นี่เถอะ อยากลับไปหามันเลย มันไมจริงใจกับพายหรอก ทิวตางหากที่รักพายนะ


ทิวตางหากที่รักพายกอนมัน รักมาตั้งนานแลวดวย ตั้งแตครัง้ แรกที่เราไดคุยกันเลย"ทิวปลอยแขนออก แตพอผมทําทาจะ
ลุกก็จับเอาไวใหม

"ก็แลวมัวทําอะไรอยูตั้งนานละ!"

"....พาย..."

"สี่ปนะทิว มัวทําอะไรอยูตั้งสี่ป ทิวจะมาพูดอะไรเอาตอนนี้ ตอนนี้ไมมีอะไรเหมือนเดิมแลว สี่ปที่ผานมา นอกจากอยู


ขางๆ พาย ทิวทําอะไรอยู สี่ปที่ผานมาทิวก็คบคนอื่นเหมือนกัน ถารักพาย แลวมัวรออะไรอยูตั้งนาน ทําอะไรอยู!!!"

"พะ...พาย...หมายความวาไง...พายเองก็รักทิวเหมือนกันใชมั้ย เรารักกันใชมั้ย"

END
“…ทิวคิดวาพายรูสึกอยางนั้นจริงๆ นะเหรอ กอนหนานี้ทิวทําอะไรพาย แลวนี!่ ! ตอนนี้อีก ทิวกําลังจะทําอะไร!!”

“ไมๆ ทิวไมทําอะไรพายจริงๆ แตพายอยาหนีทิวสิ พายหนีทิวทําไมละ”

“ทิวเห็นแผลเปนนี่มั้ย…แผลตรงนี้มันเจ็บทุกครั้งที่พายมองหนาทิว ทิวเคยเปนสิ่งสุดทายที่พายพยายามรักษาเอาไว แต


ทิว…ทิวกลับทําแบบนั้นกับพาย!! ทําลายความไวใจ ทําลายมิตรภาพของเรา ทิวทําไดยังไง ทําไดยังไงกัน!!”

“…..ทิวขอโทษ…ขอโทษนะ ทิว…ทิวรักพายมากที่สุดในชีวิต ทิวยอมใหพายไปเปนของคนอื่นไมได ทิวยอมไมไดจริงๆ”

“….ทิว…เคยพยายามกันไมใหคนอื่นเขาหาพาย…พยายามไมใหพายมีเพื่อนคนอื่นนอกจากทิวใชมั้ย”ที่ผมถามเพราะได
ไตรตรองเรื่องนี้มาสักพักแลว แพรเคยพูดใหฟงแตผมนึกไมออก…นึกไมออกจริงๆ วาทิวจะกลาพลากเพื่อนคนอื่นๆ ออกไป
จากชีวิตผมเพียงเพราะ…อยากครอบครองผมไวเพียงคนเดียว

“….ทิวคนเดียวก็ดูแลพายไดแลว…คนอื่นจะทําเพื่อพายไดเทาทิวเหรอ แคทิวคนเดียวก็พอแลวนี่”

“….ทิวอยากใหพายมีเพียงทิวคนเดียว…อยากใหพายกลับมาอยูกับทิวเหมือนเดิมใชมั้ย”

“ใช กลับมาเหมือนเมื่อกอน นะพาย ลืมเรื่องทั้งหมด ทิวไมสนก็ไดวาพายเคยเปนของใคร เรามาอยูดวยกันเถอะนะ”

“พายจะกลับมาอยูกับทิวก็ได คอยดูแลทิว กินขาวดูหนังทํางาน อยูดวยกันสองคน แต…พายจะไมมีวันรักทิว”ผมไมได


พูดเพียงเพราะตองการประชด แตถาทิวตองการผมยินดีจะทําอยางนั้นจริงๆ เพราะคนที่จะเสียใจ…ไมใชผม

“……พาย”ทิวครางเสียงต่ําในลําคอเบาๆ เมื่อไดยินสิ่งที่ผมพูด

“อึ้งทําไมละ ก็ตองการอยางนี้ไมใชเหรอ ตัวพายไง ตองการนักก็จะให อยากใหทําอะไรจะทําใหหมดเลย เอาเลยสิ อยาก


ทําอะไรพายละ คราวนี้พายไมสูแลว ไมมีคนคอยหามดวย พายจะไมดิ้นเลยสักนิดเดียว ยังไงก็เคยผานมาแลว แคนี้มันไม
สึกหรอหรอก ทําสิ!! ทํา!!!”ผมดึงมือทิวมาวางแนบแผนอก ทิวพยายามดึงมือตัวเองกลับไปแตเมื่อทําไมสําเร็จก็ปลอยให
ผมดึงโดยไมขัดขืน

“….ขอ...โทษ…ขอโทษ……..ฮึก…ขอโทษ…….ขอ…โทษ”

“…ฮึก….ฮือออ….ทําไม! ทําไมๆๆ พายเปนคนนะ พายไมใชสิ่งของ พายเปนคนนะ!!!”ผมกรีดรองสุดเสียง ผมไมใช


สิ่งของทีเ่ มื่อมีใครครอบครองก็ถือวาเปนเจาของได ไมใชวาใครเห็นกอนก็เปนของคนนั้น ผมเปนคน มีชีวิต มีจิตใจ ชีวิต
เปนของผม พวกนี้มีสิทธิ์อะไรมาทํากับผมแบบนี้ มีใครเคยถามผมสักคํามั้ยวาตองการอะไร ไมตองการอะไร ดีแตพูดในสิ่ง
ที่ตัวเองอยากได พูดในสิ่งที่อยากใหผมเปน เรียกรองในเรื่องที่เปนไปไมได เหมือนกันจริงๆ…ไมเคยมีสักคนที่สนใจ
ความรูสึกผมจริงๆ จังๆ ไมมีสักคนที่ทําอยางที่ปากพูด…หรือวา’รัก’ของสองคนนี้เปนแบบนี้กัน อยางนี้มันเรียกวารักงั้น
เหรอ เพราะเอาเหตุผลนี้มาอางผมถึงตองอภัยใหหรือไง ไอคําวารักนี่มันยิ่งใหญขนาดนั้นเลยหรือไงกัน

“พายอยารองเลยนะ ทิว…ขอรองละ….อยารองอีกเลย”ทิวพยายามเช็ดน้ําตาที่ตัวผมเองไมสนใจวาจะรินไหลมากแค
ไหน

“……ไมมีใครเปนเหมือนเดิมไดตลอดเวลาหรอกนะ….พายไมเหมือนเดิมอีกแลว…ไมมีวันกลับไปเหมือนเดิมอีก”ผมลุก
ขึ้นเก็บของใสกระเปาแลวเดินมาที่หนาประตู ทิวยังคงนั่งกมหนาอยูบนโซฟา ถาผมไมหันกลับมามองก็คงดี…อยางนอยจะ
ไดไมตองเห็นวาคนที่ผมหันหลังให กําลังใชฝามือซึมซับไออุนจากตําแหนงที่ผมเคยนั่งเมื่อครู

ผมปดประตูลงพรอมกับมองหนาคนที่ยืนอยูนอกประตูอยางไมละสายตา

“ตอไมรูหรอกนะวามันจะดีกวานี้มั้ยถาพายไมกลับมาหาทิวอีก แตยังไงก็ขอบใจที่พูดกับมันตรงๆ”ตอพูดตอหนาผมโดย
ไมหลบสายตาเชนกัน

“มันจะดีกวานี้ถาไมไดกลับมา…แกลงทําดีใหทิวดีใจ…นาเสียดายนะ…ที่แกลงทําไดแควันเดียวเพื่อนนายก็สติแตก
กลับมาใชกําลังเหมือนเมื่อครั้งกอน”

“ฮึ…บางทีทิวมันคงสมควรรูตัวเสียทีวาไมมีพายคนเกาอยูในโลกนี้แลว…เปนครั้งแรกที่คิดวานาย…เหมาะกับมัน”ตอ
หัวเราะในลําคอเบาๆ กอนจะเดินเขาไปในหอง

ผมเดินลงมาจนถึงลานจอดรถ รถที่มาสงก็ยังคงจอดรออยู เพียงแตไมเห็นคนขับ ผมเดินไปพิงประตูรถแลวกดโทรศัพท


หาคนสองคน คนที่สองที่โทรหาเดินมาถึงทั้งๆ ที่ผมยังไมไดวางสาย

“เปนเจาของกิจการนี่สบายแบบนี้นี่เองเหรอ”ผมพูดแลวเปดประตูรถเขาไปนั่งดานใน การที่ผมไปไหนมาไหนแลวมักพบ
เขาในที่ๆ คิดไวเสมอ เปนเพราะผมมั่นใจจากการกระทําของเขาเมื่อกอนวา…เขาไมมีทางปลอยใหผมคลาดสายตา

“รองไหทําไม”

“ก็แค…ออนแอมากไปหนอย”

“คําพูดแบบนี้มันไมเหมาะกับพายหรอกนะ”

“…งั้นเหรอ”การสนทนาจบลงตรงนี้ ตางคนตางนิ่งเงียบ จมอยูในความคิดตัวเอง คําพูดแบบนี้ไมเหมาะกับผมงั้นเหรอ…


ผมคนไหนละ
เมื่อกลับมาถึงหองผมก็เปลี่ยนเสื้อผาแลวเขาไปนั่งทํารายงานในหองคอมฯ สวนเขาก็ลงไปทํางานขางลาง รอยมือที่ทิว
จับแขนผมยังคงเห็นเปนริ้วแดงๆ อยูบาง นาแปลกที่มันไมเจ็บ ที่เจ็บคือรอยแผลแหงความอับอายของตัวเอง ครั้งนั้นผม
ไมไดทํารายตัวเองเพราะคําพูดตอกย้ําใหสิ้นหวังของเขา ไมไดทําเพราะเสียใจจากการถูกทํารายจากทิว เพราะผมเอง…
ผมเองที่ออนแอ แตนั่นไมใชทั้งหมด ผมไมไดเปนคนจิตใจดีที่จะนั่งโทษตัวเองตลอดเวลา เราไมทํารายตัวเองดวยเหตุผล
โงๆ แควาเราออนแอ เราผิดพลาด ทุกอยางตองมีตนเหตุ ตองมีสิ่งชี้นําใหเกิดกระทํา และสองคนนั้นคือ…ตนเหตุ

ผมไมเขาใจคําวา ‘รัก’ อะไรคือความหมายของมัน คนสองคนพูดคํานี้กับผม ในขณะเดียวกันก็ทํารายผมอยางที่เลวราย


ที่สุด ตกลงแลวรักคือการครอบครองไวเพียงผูเดียวงั้นเหรอ คําสั้นๆ คํานี้มีอานุภาพมากขนาดจะทําใหคนเราอภัยใหกันได
เชียวหรือ…ชางนาหัวเราะ ถาเรื่องทุกอยางมันลงเอยงายๆ แบบนี้คนนั้นก็คงเปนคนโง หรือไมก็…พระเจา นาเสียดายที่ผม
เปนเพียงคนธรรมดา

“พายจะกินอะไรตอนเที่ยง พี่จะไดโทรไปสั่งทีเดียว”

“ไมละ ผมทํากินเองดีกวา หิวเหรอ รอแปปไดมั้ยละ”

“เอางั้นก็ได ไมตองทําอะไรยากหรอก แคมามาก็ได”

“ผมไมชอบมามา”ผมเดินผานเขาออกจากหองคอมฯ ตรงที่ตูเย็น ของในตูพอจะทําผัดพริกเผาได แคราดขาวโปะไขดาว


คงพอ ผมทําในปริมาณที่พอสําหรับสองคน มื้อเย็นคงตองออกไปหาซื้อของมาเพิ่ม

“กินขาวเสร็จก็หายามานวดตรงแขนซะ”เขาพูดหลังจากเหลือบมองรอยบนแขนผมหลายครั้ง

“…คุณจะลงไปทํางานตอเหรอ”

“ไมแลว เดี๋ยวทําตอบนหองนี่ละ”

“งั้นคุณทาใหหนอยแลวกัน ผมรูสึกเจ็บๆ แผลที่ขอมือดวยนิดหนอย”

“เอามือมาดูซิ”เขาไมพูดเปลาความือผมไปดูทันที

“แผลมันสมานกันหมดแลวคงไมเจ็บอีกหรอก ที่เจ็บคงเพราะรอยมือพวกนี้ตางหาก โดนมันทําอะไรมาบางละ”

“เปลานี่…แคพยายามเฉยๆ”ทิวทําไดเพียงพยายาม แตผมตางหากที่ทํารายทิวลงไปเรียบรอย
“ตอไปก็อยาไปหามันอีกละ”เขาพูดมาแตผมไมคอยไดใสใจหรอก มันเปนคําสั่งที่กลายเปนคําบอกเลาสําหรับผม เมื่อผม
ไมคิดจะทําตาม เรื่องระหวางผมกับทิวมันไมจบแคนี้หรอก

หลังจากทานอาหารเสร็จเขาก็หยิบยานวดมาเตรียมรอระหวางผมลางจาน ผมก็ไมไดหวังหรอกวาจะไดรับความนุมนวล
จากมือของเขา แตตองยอมรับวาคอนขางแปลกใจเมื่อไดรับมัน มือที่เคยบีบคอผมนุมนวลแบบนี้ก็เปนดวย

“ทําไมเดี๋ยวนี้คุณไมคอยยุงกับผมละ…ผมหมายถึงเรื่องอยางวานะ”

“…ก็แคสัญญากับพี่นพไววาจะไมใชกําลังบังคับอีก”เขาเปนคนที่คอนขางชัดเจนทั้งคําพูดและการกระทํา แทบทุกครั้งที่
เขาจะตอบคําถามของผมโดยไมหลีกเลี่ยง

“แลวถาคุณบังคับผมจะเกิดอะไรขึ้นเหรอ”

“…ไมรูสิ ก็แคสัญญา”

“แลวถา…ผมยอม…จะเกิดอะไรขึ้น”

“…ลองใจพี่มันไมสนุกอยางที่คิดหรอกนะพาย”

“ถาเราจูบกันมันจะเปนยังไง จะไปจบบนเตียงมั้ย…หรือบนโซฟา”

“พาย…พี่ไมมีความอดทนกับเรื่องแบบนี้มากนักหรอกนะ เพราะงั้นเลิกพูดเรื่องนี้ไดแลว”เขาบอกใหผมเลิกพูด ผมก็จะ


เลิก คําพูดไมสําคัญเทากับการกระทํา ผมลุกขึ้นชาๆ กอนจะโนมตัวเขาไปใกลจนสัมผัสกับริมฝปากเขาเบาๆ สัมผัสที่แผว
เบาราวกับลมพัดผาน…ราวกับสายลม

“…รูสึกมั้ย”เสียงกระซิบถามแผวเบาชิดริมฝปากของอีกฝาย

"อะไร"เสียงที่ถามกลับมาแหบพราตางจากปกติ ผมยิ้มกับคําถามของเขาที่เปนคําตอบของผม

"นั่นสินะ"ผมยกยิ้มกอนจะเดินเขาไปทํารายงานในหองคอมฯ คําถามผมไมไดเขาใจยากเลยสักนิด...รูสึกมั้ย...ใชถามตัว
เขาและตัวเอง...คําตอบคือ...ไม...ไมรูสึกอะไรเลย

เรานั่งในหองแคบๆ ตางคนตางทํางานของตัวเอง ผมทําเสร็จกอนเลยออกไปซื้อของมาเตรียมทํากับขาวมื้อเย็น วันนี้ผม


ทําปลาราดพริก ตมยํารวมมิตร หนอไมฝรั่งผัดกุงและทอดมัน อาหารคอนขางมากสําหรับสองคน แตมันพอดีสําหรับสาม
คน แขกพิเศษคนแรกที่ผมโทรหากอนกลับมาที่นี่
"เขามานั่งกอนสิครับพี่หนอย พายทํากับขาวไวเต็มเลย"ผมเปดประตูหองตอนรับอยางยินดี

"ไงจะพาย สบายดีนะ"พี่หนอยนั่งบนโซฟาถัดจากผมไปเล็กนอย

"ก็ดีครับ เดี๋ยวพายขอตั้งโตะกอนนะครับ"ผมปลีกตัวไปจัดอาหารวางบนโตะ ไดยินเสียงเขาเดินออกมาทักทายพี่หนอยที่


กลางหอง แลวก็เดินตรงมาหาผม

"พายชวนพี่หนอยมาเหรอ"

"ใช พี่หนอยครับ มาทานขาวกันเถอะ วันนี้พายทําสุดฝมือเลย"ผมตอบเขาแลวก็หันไปเรียกพี่หนอยใหเดินมานั่งรวมทาน


อาหารดวยกัน พี่หนอยชมวาฝมือทําอาหารของผมดีมากจนเธออายไปเลย ผมวาพี่หนอยก็ทําอาหารอรอยนะครับ แตคง
ไมไดทําบอยรสชาติเลยยังไมคงที่ หลังจากทานอาหารเสร็จผมก็บอกใหพี่หนอยรอ แลวก็เดินเลี่ยงเขามาในหองนอนเพื่อ
จัดกระเปา

"ทําอะไร"

"ที่ผานมาผม...สนุกมาก ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่ทําใหไดเรียนรูอะไรหลายอยาง อยางนอยตอนนี้ผมก็คิดวาตัวเองฉลาด


ขึ้นกวาเมื่อกอน"

"จะไปไหน พี่ไมใหไปนะ"เขาตรงเขามาจับขอศอกผมใหหันกลับมามองหนาเขา

"คุณจะหามผมยังไงละ ใชกําลังบังคับเหรอ ถาบังคับผม...แลวจะเปนยังไง ผมเคยถามคุณแลวนี"่

"พายเลนอะไรอยู"

"ตอนนี้นะเหรอ...ผมไมไดเลนหรอก กอนหนานี้ตางหากที่เลน ผมที่เชื่อฟงคุณทุกอยาง...ทําใหคุณพอใจบางมั้ยละ"

"พี่ไมเขาใจ พายทําแบบนี้ทําไม พี่คิดวาพายเขาใจแลวเสียอีกวาพี่รูสึกยังไงกับพาย แลวทําทุกอยางไปเพราะอะไร พาย


จะบอกวาที่ผานมาพายแกลงทําดีกับพี่เทานั้นเหรอ ที่จูบวันนี้ก็เพราะจะลองใจกันแคนั้นรึไง"

"เพราะผมเขาใจไงถึงไดบอกวาสนุก สวนที่จูบก็คงเปนเหตุผลที่คุณบอก...แคลองใจ คุณรูสึกอะไรบางละ อยากได


มากกวานั้นใชมั้ย ผมที่ตอบสนองอยางที่คุณตองการคงทําใหรูสึกดีสินะ รูสึกสมหวังเมื่อไดอยางที่ตอ งการ สีหนาคุณตอน
นั้นนะ...มันบอกผมแบบนี้ แตสําหรับผม...ไมรูสึกอะไรเลย"
"พาย!!"

"ไมพอใจผมใชมั้ยละ มันก็เหมือนกับคําวารักที่คุณบอกผมนั่นละ มันไมสําคัญสักนิด คิดวาความรูสึกของคุณมันยิ่งใหญ


ถึงขนาดจะทําใหผมลืมเรื่องที่คุณทําไดเลยรึไง ที่ทําดีกับผม ที่ทํารายผม คุณใชเหตุผลนี้เปนตัวแปรการกระทําคุณทั้งหมด
การแสดงความรับผิดชอบแบบโงๆ ของคุณก็เหมือนกัน ทรัพยสินของคุณผมไมเห็นวาจะมีคาพอใหผมอภัยใหไดเลย และ
รักของคุณมันไรคายิ่งกวานั้นอีก แคคําวารักนะ...ไมพอหรอก..."

"พายจะไปหามันใชมั้ย"เขากดเสียงต่ําพรอมกับแรงบีบขอศอกที่เพิ่มมากขึ้น

"คุณรูตัวมั้ยวาคุณกับทิวเหมือนกันหลายๆ ทั้งชอบแสดงความเปนเจาของ ขี้ระแวง และเห็นแกตัว ถึงคุณจะขมขืนผม


เพราะเขาใจผิด แตก็ปฏิเสธไมไดวาคุณเปนคนทํา และผมถูกทําราย....เหมือนกับทิว ผมก็ปฏิเสธไมไดเหมือนกันวาเขาเปน
คนพิเศษสําหรับผม และเพราะแบบนี้...ผมถึงใหอภัยเขาไดยากพอๆ กับคุณ เพราะงั้นอยาถามผมอีกวาผมจะไปอยูกับใคร
หรือผมจะเลือกใคร เพราะผมไมจําเปนตองเลือกใครทั้งนั้น...ไมตองเลือก"

"....พายยังจะเอาอะไรอีก พี่ใหพายไปหมดทุกอยาง ยอมพายทุกอยาง ตองการอะไรก็พูดมาสิ แลวก็ใหมันจบๆ ไป เรามา


เริ่มตนกันใหม"

"กอนหนานี้คุณเคยบอกใหผมอยูแบบนี้กับคุณ ผมสบายใจกวาเมื่อกอน คุณไมรังควานผม ไมทํารายผม บอกใหผมอยู


ตอเพราะเห็นวาผมสบายดี ไมจําเปนตองกลัวอะไร ผมตอบไปวาใช...ผมอยูกับคุณทุกวันนี้มันสบายมาก....แตก็พูดไมออก
วามีความสุข หรือคุณเห็นวาผมมีความสุข"

"…..ตองทํายังไง...พายถึงจะลืมเรื่องเลวๆ ของพี่ จะใหพี่ทํายังไง พี่ยอนกลับไปแกไขไมได ถาพี่ไมเขาใจผิด พี่กับพายก็


คงไมไดเจอกัน เรื่องนั้นมันไมไดทํารายพายคนเดียวหรอกนะ...ไมใชเลย"

"........ปลอยผมไปเถอะ...ถึงผมจะไมใหอภัยคุณ...แตผมก็ไมเลวพอจะแกลงทําดีเพื่อทํารายคุณตอไปไดนานกวานี้แลว
...เราเหนื่อยกันมาพอแลว.......เราทั้งคู" เมื่อเห็นเขาไมพูดอะไรกลับมาผมก็บิดขอศอกออกเบาๆ เก็บเสื้อผาบางสวนใส
กระเปาเปเดินออกมาหาพี่หนอยดานนอก พี่หนอยนั่งปดปากรองไหอยูเงียบๆ ผมไมเขาใจวาผูหญิงรองไหงายๆ แบบนี้กัน
ทุกคนหรือเปลา แตนี่อาจเปนขอดีที่ทําใหดูออนหวานก็ได ผมสงยิ้มใหพี่หนอยกอนจะเดินนําออกจากหอง

ผมโทรหาพี่หนอยบอกวาผมจะขอไปคางดวยชั่วคราว รบกวนใหพี่หนอยมารับผมที่คอนโดเขาดวย พี่หนอยคงสงสัยแต


ไมมีเวลาซักถามมากนัก อารมณผมนิ่งเรียบจนผิดปกติ พี่หนอยเขาไปพักผอนอยูในหองนอน สวนผมขออาศัยนอนบน
โซฟา วันนี้มีเรื่องราวตางๆ มากมายจนไมรูวาตัวเองรูสึกอยางไร จะเรียกวาโลงใจก็พูดไดไมเต็มปาก ขณะเดียวกันก็ไมได
รูสึกผิดที่ทํากับสองคนนั้นแบบนั้น...แครูสึกแย...นิดหนอย
วันรุงขึ้นผมโทรไปหานุ ขอรองใหนุชวยไปเก็บของในหองเขามาใหผม ผมไปติดตอหาหองวางที่หอพักเดิม ซึ่งก็มีวางอยู
พอดี ผมไมไดเปดโทรศัพทเพราะรูวาตองมีหลายคนโทรหาผมแนๆ ผมยังไมพรอมจะอธิบายหรือตอบคําถามใคร ผมทําตัว
สงบเสงี่ยมมานาน แตขางในไมเคยสงบเลย ผมจําไมไดวาตัวเองเมื่อกอนนั้นเปนยังไง ผมเคยดีถึงขนาดที่คนอื่นมองวาผม
สูงสงจนสามารถอภัยใหคนอื่นไดเลยเหรอ เทาที่รู...ผมไมเคยเปนแบบนั้นนะ

“ทิวยังไมหายปวยอีกเหรอ”เพื่อนรวมหองที่นั่งขางๆ ผมถามขึ้นมาอยางไมมีปมีขลุย ผมเองก็ตอบคําถามนี้ไมได

“ไมรูสิ คงอีกสักพักละมั้ง”

“เหรอ เปนหนักเลยสินะ ฝากเยี่ยมดวยแลวกัน”ผมเออออรับคําไป…ฝากเยี่ยม…ในสายตาคนอื่นคงมองเห็นวาผมกับทิว


สนิทกันมากจนไมถามเลยวาผมจะไปเยี่ยมทิวหรือเปลา…จะไดพูดคุยกันอีกครั้งหรือเปลา

ผมยายของเขาไปอยูที่หอโดยมีพี่หนอยคอยชวยเหลือเรื่องการขนยาย ซึ่งความจริงสมบัติผมก็ไมมีอะไรมาก ผมกลับมา


มีสภาพเหมือนเมื่อกอน ขาวของนอยชิ้น หองพักเกาๆ ราคาถูก เตรียมหางานทําหลังเลิกเรียน….สงบ….แตก็ยังพูดไมได
วาสุข ภายในจิตใจผมกลวงโบ เหมือนกับบางอยางกัดเซาะจนบางสวนขาดหายไป ผมจําไมไดวายิ้มครั้งลาสุดเมื่อไหร
หัวเราะเต็มเสียงตอนไหน อยูในสิ่งแวดลอมเดิมๆ แตตัวผมเปลี่ยนไปจากเมื่อกอนอยางสิ้นเชิง

วันรุงขึ้นจิ๋วโทรหาผมบอกวาทิวอยากคุยดวย ผมไมถามวาเรื่องอะไร แคบอกวาจะไปหาหลังเลิกเรียน ผมไมรูวาตัวเองทํา


อะไรอยู และกําลังจะทําอะไร ผมยังคงคิดอยูเสมอวาทิวเปนคนสําคัญ…เปนเพื่อนคนสําคัญ

“ขอบคุณนะที่ยอมมาหาทิวอีก”ทิวดูแข็งแรงขึ้น ครั้งนี้ผมคอนขางแนใจวาเขาเลิกเหลาไดแลวจริงๆ

“ไมเปนไร ยังไงเราก็เพื่อนกัน”ผมนั่งถัดจากทิวเล็กนอย

“…ทิวยังเปนเพื่อนพายอยูอีกเหรอ”

“สี่ปมานี้ทิวเปนเพื่อนเพียงคนเดียวของพาย ถาไมเปนเพื่อน ชีวิตในรั้วมหาฯลัยพายคงไมมีอะไรดีเลยนอกจากใบ


ปริญญา”

“…..ทิวขอโทษสําหรับทุกสิ่งที่ผานมานะ ทิวทําไมถูกที่ใชกําลังบังคับพาย ทําใหพายผูกติดอยูกับทิวคนเดียว ขอโทษที่


พรากเพื่อนคนอื่นไปจากพาย…ขอโทษนะครับ”

“อืม…ทิวพูดถูก แคทิวคนเดียวพายก็ไมเคยคิดตองการเพื่อนคนอื่นอีกแลว…ทิวเปนเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตพายจริงๆ”ชั่ว
ชีวิตนี้ผมคงหาเพื่อนที่ดีแบบทิวไมไดอีกแลว
“…ขอบคุณนะ ไดแคนี้ก็เกินพอแลว…เดือนหนาทิวจะไปอังกฤษ…คงจะไปเรียนตอที่นั่นเลย”

“ทิว……ทําไม”ผมคอนขางตกใจกับสิ่งที่ทิวบอก ผมไมเคยผิดถึงบทสรุปแบบนี้ ไมคิดวาผมจะตองทําใหทิวจากไปไกล


ขนาดนี้

“ไมใชเพราะพายหรอก ทิวรูสึกแยนะที่ทํากับพายเอาไวมาก ทั้งๆ ที่รักมากขนาดนี้ แตก็ทํารายพายโดยไมรูตัวเลย ทิวเห็น


แกตัวอยางที่พายนึกไมถึงเลยละ…ทิวรักพาย แตรูวาพายไมเคยคิดรักทิวเลย ทิวไดแตหวังวาความใกลชิดของเราจะทําให
พายโอนเอียงมาบาง แตระหวางนั้นทิวก็ไมหนักแนนพอที่จะรอพายเพียงคนเดียว….พอรูวาพายเปนของคนอื่นไปแลวมันก็
เกิดทนไมไดขึ้นมา…แตก็…รักมากจริงๆ ไมใชหลงอยางที่คนอื่นคิดเลย…รักเกินกวาจะตัดใจได….ขอโทษ…ที่ทิวยังคงคิด
กับพายแคเพื่อนไมได….ขอโทษที่หักหลังความไวใจของพายนะ”น้ําตาที่ซึมปริ่มขอบตาถูกปาดออกลวกๆ

“…..ทิวจําวันแรกที่เราคุยกันไดมั้ย”

“จําไดสิ รอบตัวพายเหมือนมีไฟสอง พายดูบริสุทธิ์จนทิวละสายตาไมได ทิวขลุกอยูกับชีวิตที่มีแตสิ่งที่ไมสวยงาม ยา


เหลา เซ็กส แตนั่นเปนครั้งแรกที่รูสึกวาตัวเองตกหลุมรัก พายบริสุทธิ์เกินกวาที่ทิวจะทําใหแปดเปอน แตก็ไมอยากปลอย
มือไปใหใคร….ทิวเดินเขาไปถามหาหองเรียน…แตความจริงทิวเห็นพายเดินถามคนอื่นกอน ถึงไดแกลงเขาไปทัก…เรา
กําลังหาหองอยูเลย ไมมีใครเรียนหองเดียวกัน นึกวาจะหาเพื่อนไมไดซะแลว…คําพูดของพายทิวจําไดทุกคํา…เพื่อน
…ตั้งแตคําแรกจนคําสุดทาย…ทิวก็ยังคงเปนไดแคเพื่อน”

“นั่นไมใชครั้งแรกที่เราคุยกันหรอกนะ…วันที่มาสอบเขาตางหากที่เปนวันแรก พายทําดินสอหักเลยตัดสินใจขอคน
ขางหนา ทิวสงดินสอไมกลับมาโดยไมหันมามองพายเลย แถมยังออกหองสอบคนแรก พายเลยไมไดขอบคุณ….จนวันที่
ทิวเดินมาทัก…พายก็ลืมที่จะขอบคุณ….ไมวาทิวจะเผลอทํารายพายแคไหน….แตมันลบความใจดีของทิวไมหมดเลย
จริงๆ….ขอบคุณ….และ…ขอโทษ….”ผมเปนฝายเอื้อมมือไปกุมมือทิวเอาไวเบาๆ

“…….ทิวอยากเฝามองพายหางๆ แตรูวาคงทําไมได….ทิวรักพายมากจนไมรูวาตองทํายังไง...ที่คิดจะใหโอนเอียงมา
กลับเปนทิวที่ทุมไปหมดตัว….มันยากเกินกวาจะเลิกรักไดแลว…..ใหตายเถอะ…ทําไมทิวตองเปนแบบนี้ดวย…”ทิว
กระแทกฝามืออีกขางลงบนเบาะแรงๆ สองสามครั้ง

“……..ทิวสําคัญกับพายมากกวาที่ทิวคิด พายไมรูวาตัวเองลําเอียงหรือเปลาที่ใหอภัยทิวไดงายๆ เพียงเพราะทิวเปน


เพื่อนที่แสนดีเสมอมา…พายขอโทษที่วันนั้นพูดแรงไป…พายแคอยากใหทิวเจ็บบาง….พายไมใชคนดีเลย พายแคน อยาก
แกแคนทุกคน….แตทําไมตองเปนทิว….ทําไมตองเปนเราดวย…..”ผมก็แคคิดอยากใหคนอื่นรูสึกอยางผมบาง ไมอยากจะ
ใหอภัย…แตทําไดยากเหลือเกิน

“พายสัญญานะวาจะไมลืมทิว…ไมวานานแคไหนก็หามลืมนะ….ทิวจะกลับมาหา กลับมาพูดกับคนอื่นไดเต็มปากวา
นี่…เพื่อนรักของผม…ถึงพายจะรูวาทิวพูดโกหก….พายก็อยาจากทิวไปอีกเลยนะ ทิวจะกลับมาเพื่อเปนเพื่อนที่รักพาย….
เลิกรักไมไดจริงๆ…ขอโทษ….ขอโทษษษ…”ทิวซบหนาลงบนฝามือตัวเองแลวรองไหอยางหนัก ผมดึงทิวมากอดไว เรา
สวมกอดกันแนน ตางคนตางรองไหลงบนไหลของกันและกัน

“…ฮึก…..ฮือออ…ไมเปนไร….ไม…เปนไร….”คําสองคําที่เราพร่ําบอกกันซึมซับเขาสูหัวใจที่ละนอย เรื่องราวรายๆ ตางๆ


ดูจะเลือนหายไปพรอมหยาดน้ําตา ผมไมสามารถบอกกับทิวไดวา…เขาเปนผูชายคนแรกที่ผมคิดวาจะรักได...แม
ความรูสึกผมจะไมชัดเจนนัก แตก็แนใจวา…หากไมมีเหตุการณเลวรายผานเขามา…ผมกับทิวคงไมไดเปนเพียงแคเพื่อน
กัน…..ตอนนี้มันสายไปแลว…เรายอนกลับไปแกไขอะไรไมได…ผมไมสามารถพูดใหความหวังทิวได ทําไดเพียงหวังวาสัก
วัน…เพื่อนรักคนนี้จะกลับมา

เมื่ออารมณเราทั้งคูเริ่มสงบลง เราตางมองหนากันและกัน และหัวเราะใหกันไดอีกครั้ง รอยยิ้มทิวสดใสมาก ผมเกือบ


สูญเสียเพื่อนคนนี้ไปแลว แตทิวเปนคนรั้งผมเอาไว ทิวบอกวากําลังจะไปดําเนินเรื่องพักการเรียนและเตรียมหาที่เรียนใหม
ทิวกลับบานไปบอกครอบครัววาตัวเองติดเหลาและเกือบติดยา ทุกคนเห็นพรองกันกับทิวที่อยากไปเมืองนอก ผมไมรูวามัน
จะชวยอะไรได แตพอนึกวาทิวจะดีขึ้นเมื่อไปอยูในที่ๆ ไมมีผมมันก็อดเสียใจไมได ผมเองก็ทํารายทิวไปไมนอยเหมือนกัน

“วันที่จะเดินทางไมใหพายไปสงจริงๆ เหรอ พายอยากไปนะ”หลังจากเราสงบอารมณลงไดก็เริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง ทิว


กําลังจะจากไปไกล และเร็วจนผมคาดไมถึง

“ไมตองหรอกครับ พายจะขาดเรียนหรือไง”

“ไมเห็นเปนไรเลย”

“เอานา ถาคิดถึงก็สงเมลลหากันก็ได ถาพายไปสงมีหวังทิวไดรองไหกลางสนามบินพอดี”

“ก็ได แตกอนขึ้นเครื่องสัญญานะวาจะโทรมา”

“ครับผม พอใจรึยังครับ”

“….ขอบคุณนะ”

“ไมตองมาทําซึ้ง เดี๋ยวทิวรองอีกก็หมดหลอพอดี”ทิวลูบหัวผมเบาๆ ใบหนามีรอยยิ้มประดับอยูตลอดเวลา

“เปลา พายขอบคุณสําหรับดินสอนะ”ผมแกลงยิ้มลอคนที่พยายามกลั้นน้ําตา เสียงหัวเราะวันนี้สดใสกวาวันวานนัก


วันที่เรามองหนาแลวหัวเราะใหกันไดอยางหมดหัวใจ ไมมีอะไรตองปดบัง ไมมีอะไรติดคางในความรูสึก…ขอใหมีโอกาส
แบบนี้ในวันขางหนาดวยเถอะ
ทิวอาสาไปสงผมที่หอ เขาคอนขางแปลกใจเมื่อรูวาผมมาอยูหอเดิม แตทิวก็ไมถาม ไมใชเพราะทิวไมอยากรู แตคงกลัว
วาคําตอบของผมจะกลายเปนโอกาสสําหรับทิว ทิวบอกวาถาเรียนจบแลวยังหางานทําไมไดก็ใหไปทํางานที่ราน
เหมือนเดิม พี่ธารยังคงตองการผมกลับไปเปนผูชวยอยู…นี่ละ….เพื่อนที่แสนดีของผม…

ความรูสึกของผมนาจะปลอดโปรงกวานี้สิ ทําไมผมยังคงนอนไมหลับอยูอีก…บางอยางมันติดคางอยูในใจ ผมทําเปน


มองไมเห็น ปดทิ้งไปใหไกลตัว แตมันก็ยังคงอยูที่เดิมไมเปลี่ยนแปลง…ทาทางคงตองเอากลับไปคืนเจาของสินะ

ประสบการณซ้ําซอน…ผมเรียกมันวาอยางนั้น เราทุกคนตองมีเรื่องที่หลีกเลี่ยงไมได และอาจจะเปนเรื่องเดิมๆ หรือ…


คนเดิมๆ

“มีสักวันมั้ยที่ผมจะไมอยูในสายตาคุณ”ผมเดินออกจากตึกเรียนตรงมายังบริเวณที่รถคันนี้มักจอดอยูเสมอ และยังคงอยู
แมกระทั่งตอนนี้

“….ขึ้นรถสิ”ผมกาวขึ้นรถตามคําชักชวนของเขางายๆ จุดหมายปลายทางเปนสิ่งที่คิดเอาไว…หองของเขา“ผมเอากุญแจ
หองมาคืน”ผมหยิบกุญแจสํารองของหองที่ติดไปคราวกอนออกมาวางไวบนโตะรับแขก เขานั่งนิ่งบนโซฟาฝงตรงขาม ไมได
เหลือบมองของที่ผมหยิบยื่นคืนเลยสักนิด

“…พี่ไมเขาใจ”

“เรื่องอะไรครับ”

“พายไง…ตัวพาย พายคิดอะไร พี่ไมเชื่อวาที่ผานมาพายไมรูสึกอะไรกับพี่อยางที่พูดจริงๆ พี่ไมไดตองการการอภัยจาก


พาย แตพี่ขอใหพายอยูกับพี่กอน พายจะทําอะไรพี่จะไมหามเลย จะไปไหนกับใครก็ตามใจ”

“คุณไมเขาใจจริงๆ ดวย…คุณหวังอะไรจากการอยูดวยกันเหรอ หวังใหความใกลชิดทําใหผมรักคุณตอบสักวันหรือไง ผม


เคยบอกคุณแลววาคุณกับทิวเหมือนกัน ความคิด การกระทํา ตองการผลลัพธที่เปนไปไมไดเหมือนกัน เรารูจักกันดวย
ความผิดพลาด มันผิดตั้งแตตน ความรูสึกมันก็ผิดดวยเหมือนกัน”

“อะไรผิด พี่รักพาย…หรือพายรักพี่”ชางเปนคําพูดที่เปยมดวยความมั่นใจในตัวเองเหมือนเดิมไมผิด

“….ทั้งสองอยาง…คุณอยากไดยินอยางนี้ใชมั้ย ผมไมเถียงวาผมรูสึก แต…มันก็แคนั้น ผมบอกคุณแลววามันไมมีคา


อะไรเลย คําๆ นั้นมันไมยิ่งใหญพอใหผมลืมเรื่องตางๆ ไดหรอก และที่สําคัญผมไมไดรูสึกกับคุณเพียงแคอยางเดียว…คุณ
วารักกับเกลียดจะอยูรวมกันไดมั้ย ไมได!”
“…พี่ไมไดจะแกตัว แตพายนาจะรูวาทําไมพี่ถึงบังคับใหพายเลิกติดตอกับคนอื่น ทําไมพี่ตองบังคับใหพายมาอยูกับพี่ คอย
ตามเวลาไปไหนมาไหน ไมใชเพราะวาเพื่อนพายไมนาไวใจเหรอ ขนาดพี่กันทุกทางมันก็ยังมอมยาพายไดถึงสองครั้ง นิสัย
อยางพายถาพี่พูดดีๆ จะฟงงั้นเหรอ จะฟงคนที่ขมขืนตัวเองงั้นเหรอ พี่อาจใชวิธีที่ผิด แตพี่ไมแนใจวาถาไมทําแบบนี้จะมี
ทางอื่นเขาใกลพายได”

“คุณไมเคยถามวาผมตองการอะไร คุณยัดเยียดตัวเองเขามาในชีวิตผม ทําทุกอยางเพื่อผม ไมวาจะเพื่อชดใชหรือ


รับผิดชอบ หรือกันทาคนอื่น…มันไมสําคัญเลย ผมยังไมสามารถลืมสิ่งที่คุณทําในครั้งแรกได ยิ่งอยูกับคุณผมก็ยิ่งเหมือน
คนบา หรือไมก็ตุกตา บางครั้งผมอยากจะทําลายทุกอยางของคุณ แตบางครั้งผมก็ไมอยากทําอะไรเลย อยากอยูเฉยๆ รอ
ใหทุกอยางผานพนไป ในหัวผมมันมีแตภาพเกาๆ ที่ถูกคุณทํารายซ้ําแลวซ้ําเลา และเพราะอยางนี้คุณถึงเขามาอยูใน
ความคิดผมตลอดเวลา…มันบาดีมั้ยละที่ผมคิดถึงคุณตลอดเวลา แมกระทั่งเวลาที่ผมกําลังตองการความชวยเหลือ…คุณ
กลายเปนคนแรกที่ผมนึกถึง ผมรับรูถึงสิ่งที่คุณชอบ ไมชอบ สิ่งที่คุณจะทํา ที่ๆ คุณจะอยู มันไมยากเลยที่จะรูเรื่องพวกนี้ใน
เมื่อคุณเอาผมเปนศูนยกลาง แตมันยากมาก…ในการอยูกับคุณ”ผมไมปฏิเสธตัวเองอีกแลววารูสึกอะไรกับเขา ไม
พยายามคิดวามีเพียงเกลียดอยางเดียว แตมันไมงายเลย…ที่จะยอมรับ

“….ฮึ…พายเขาใจยากกวาที่พี่คิด…ทั้งๆ ที่พูดออกมามากมาย…กลับฟงไมรูเรื่องเลยสักคํา”เขายิ้มใหผมเห็นเปนครั้งแรก
ถึงแมจะเปนยิ้มเยาะก็เถอะ

“คุณเองก็เด็กกวาที่ผมคิดนะ”ผมไมรูวาจะเรียกวาทะเลาะกัน หรือ…แคพูดคุย เราไมไดเสียงดังใสกัน ไมไดใชกําลัง ไมมี


คําพูดประชดประชัน มีเพียงคําบอกเลาเหตุผลและความรูสึกของตนเอง บางที…มันนาจะเปนแบบนี้ตั้งนานแลว

“….กลับมาเถอะนะพาย…พี่ขอรอง”ผมไมคิดวาเขาเปนคนหยิ่งในศักดิ์ศรี แตก็คิดไมถึงวาเขาจะวอนขอผมแบบนี้…ไม
รูสึกดีเลยสักนิดที่เขากมหัวขอรอง…ไมดีเลย

“…ดื้อกวาที่คิดดวย”

“ใช…แลวจะกลับมามั้ย”เขาถามผม แตผมทําไดเพียงแคสายหนา การจากลาของเราไมทําใหผมรองไหได เพราะมันจะ


กลายเปนการเริ่มตนชีวิตใหม…กับคนที่เริ่มตนดวยติดลบ…ตอนนี้ผมทําใหความรูสึกกลายเปนศูนยไดแลว

“…อยาใหพี่ตองบังคับเลยนะ”

“คุณบังคับผมไมไดหรอก…ไมใชเพราะสัญญากับพี่นพ…แตเพราะคุณรักผมมากเกินกวาจะทํารายผมไดอีกแลว…ใชมั้ย”
ผมเชื่อในคําวารักของเขา ถึงการกระทําหลายอยางจะเลวราย แตเขาก็ไมเคยโกหกสักครั้ง

“…ฉลาดกวาที่คิด”
“งั้น…ผมกลับกอนนะครับ”

“ไมสงนะ”

“…ขอบคุณครับ”ผมยิ้มกับความแลงน้ําใจที่เขามอบใหผม นี่เปนครั้งแรก…ที่เขาปลอยใหผมจากไป

“รีบๆ กลับมาละ”

“…อยาบอกนะวาจะรอผม เชื่อมั่นตัวเองเหลือเกินนะคุณ”ผมอดที่จะแขวะคนที่ยังนั่งบนโซฟาไมได ทาทางถือดีและ


วางอํานาจยังคงเหมือนเมื่อครั้งแรกที่ไดเจอ

“แลวไงละ”

“คุณรูมั้ย ผมเกลียดคุณ แตยังเกลียดไมเทาคํานี้เลย”

“ถือวาเปนคําชมแลวกัน”

“…ตามใจ”บางทีคําถามคําตอบอาจสลับที่กันนิดหนอย เขายิ้มกับคําพูดผม แลวปลอยใหผมเดินจากมา ผมไมไดเหลียว


กลับไปมองวาเขามีสีหนายังไง มองแผนหลังผมอยูหรือเปลา กําลังจะเปลงเสียงเรียกผมไวมั้ย….ผมทําเพียงแคกาวเดิน
อยางมั่นคงแลวทิ้งทุกอยางไวเบื้องหลัง ผมไมสามารถลืมเรื่องราวตางๆ ไดงายๆ อยางที่อยากใหเปน หรือคนอื่นอยากให
เปน ที่ทําไดคือปลอยใหมันผานไป กอนหนานี้ผมไมสามารถทําไดเพราะยังมีเขาทั้งสองคนที่เปนสิ่งคอยกระตุนเตือนความ
ทรงจําอยูเสมอ แตตอนนี้ทําไดแลว ผมจะปลอยวาง ปลอยใหทุกอยางผานพนไปตามกาลเวลา

กอนหนานี้ผมยึดติดกับอดีต สวนพวกเขาหลงอยูในอนาคต ไมมีใครสักคนอยูบนความเปนจริง อดีตที่ผานมาไมสามารถ


ทําใหอนาคตที่คาดหวังเกิดขึ้น ตอใหพยายามทําปจจุบันใหดียังไง ก็ไมมีใครฉุกคิดเลยวา…อนาคตของเราเปลี่ยนแปลง
ทุกเสี้ยววินาที คําวา ‘รัก’ จากผูชายสองคนทําใหผมไดเรียนรูหลายอยาง แตเปนการเรียนรูในแงลบเสียสวนมาก แมแตตัว
ผมเองก็ใชเหตุผลนี้ทํารายพวกเขากลับไป คนเราทํารายกันโดยเอาคํานี้มาอางไดอยางงายดาย และก็ใหอภัยกันไดงายยิ่ง
กวา แต…ไมสามารถลืมไดในเวลาอันรวดเร็ว ผมตองการเวลาลบลางความเจ็บปวดในอดีต ไมใชเพื่อจะไดรักใครสักคน
แตเปนเพราะ…ผมเริ่มจําไมไดแลววาเมื่อกอนผมเปนคนยังไง

สองสัปดาหตอมาทิวเดินทางโดยไมโทรหาผมอยางที่สัญญาเอาไว มีเพียงขอความที่สงเขาโทรศัพทมือถือกอนขึ้นเครื่อง
วา…
’ตอนนี้ทิวอยูบนเครื่อง หวังวาสักวันเราจะไดกลับมายิ้มใหกันอีก ทิวจะรักพายตลอดไป ขอโทษที่ไมโทรหา…นี่จะเปนคํา
ขอโทษครั้งสุดทายของทิว และคําบอกรักครั้งสุดทายเชนกัน…รักพายมาก’
ผมนึกดีใจที่ทิวไมโทรหา เพราะไมงั้นเราคงตองรองไหไปคุยไปแนๆ ผมไดแตภาวนาอยางเห็นแกตัววาขอใหทิวกลับมา
เร็วๆ…บางทีลึกๆ แลวผมก็อยากใหทิวยังคงรักผมอยู คงปฏิเสธไมไดวาการเปนที่หนึ่งของคนๆ หนึ่งมานานมันทําใหเรา
รูสึกอยางอื่นไดมากกวาคําวารูสึกดีใจ….แตก็นั่นละ…เราจะเปนแคเพื่อนกันตลอดไป

ผมเรียนจบควาใบปริญญาไดอยางที่แมหวัง ไดงานที่มั่นคงทํา ผมยายออกจากหอเกาที่มีราคายอมเยามาสูหอพักใหมที่


ใกลบริษัท และมีราคาคอนขางสูงเพราะอยูใจกลางเมือง

“กลองนี้ใหเอาออกมาจัดเลยมั้ยพาย”เสียงเพื่อนสนิทคนใหมที่มาชวยผมยายหองถามขึ้น

“อันนั้นมันพวกของจุกจิกนะ จิ๋วเอาใสลิ้นชักโตะคอมฯ ไวหมดนั่นละ”ผมยื่นหนาออกมาจากหองนอนที่กําลังจัดเสื้อผาเขา


ตูอยู

“เฮยอะไรวะนี่ หนังสือเรียนสมัยปหนึ่งก็ยังเก็บไวหรือวะ”ตอสงเสียงโวยวายเพราะมันรื้อหนังสือในลังมาจัดใสชั้นวางให

“เออสิ มีปญหารึไงตอ”

“ไมตองมาทําเสียงดุเลย กลัวตายละ”

“ออ ไมกลัวเหรอ งั้นจิ๋วนอนคางกับพายสักสองสามอาทิตยดีมั้ย พายไมกลานอนคนเดียว”

“อาวเวร จะทําใหครอบครัวเขาแตกแยกรึไง เดี๋ยวจะโดน”

“พายๆ นี่ลูกกุญแจอะไรนะ จะเอาใสลิ้นชักหรือเอาไปรวมกับพวงกุญแจหอง”

“ไหนๆ”ผมเดินออกจากหองนอนมาดูลูกกุญแจที่จิ๋วถืออยู

“อืมม…กุญแจบานนะ เก็บใสลิ้นชักไปเหอะ พายยังไมรีบใช”ผมวางกุญแจลงในลิ้นชักแลวเลื่อนปดกอนจะเดินกลับมาจัด


เสื้อผาตอ กุญแจดอกนั้นไมไดสําคัญขนาดที่จะเก็บรักษาใหอยูในสายตา ผมก็แค…ปลอยใหอยูที่เดิมของมัน

เวลาลวงเลยมาหลายเดือน ผมเติบโตขึ้น แตก็ยังตอบไมไดวาผมกลับมาเปนคนเกาหรือยัง…เพราะคงเปนไปไมได ผมเปน


คนใหม…เรียนรูอะไรใหมๆ คนเดียว โดยมีคนใหปรึกษา แมจะไมมีทิวคอยชวยเหลือเหมือนเมื่อกอน แตผมก็อยูได แมจะ
พบผูคนเห็นแกตัวและโหดรายเมื่อกาวสูสังคมคนทํางาน แตผมก็ไมโทษใคร…และไมโทษวาตัวเองเปนตัวซวยอีกแลว

จบบริบูรณ
ตอนพิเศษ

คนเรามักจะปฏิเสธสิ่งที่ทําใหตัวเองรูสึกออนแอ ถึงผมจะคิดเสมอวา…เมื่อไหรก็ได…แตความจริงแลว ผมเรงวันเรงคืน


และเฝารออยูทุกเสี้ยววินาที สิ่งที่ผมตองการจริงๆ…มักใชเวลาในการรอนานเสมอ บางครั้งสมหวัง…หากบางครั้งก็
ลมเหลว

“คืนนี้ไปเที่ยวตอดวยกันมั้ยวะ ไมไดกินเหลาดวยกันนานแลวนะเวย”นัทเอยปากชวนผมระหวางที่เราทานอาหารหลังคุย
งานเสร็จ

“ไมละวะ กูรีบกลับ”

“นองพายของมึงเขาไมหายไปไหนหรอกนา ไปเที่ยวกันสักวัน ฉลองหยาใหกูหนอย”

“มึงก็ไปฉลองกับนุสองคนดิวะ กูไมไดรูสึกอะไรที่มึงหยาหรือไมหยาสักหนอย”

“ที่กูชวนนี่หมายถึงไปเที่ยวเหมือนเมื่อกอนนะเวย ผอนคลายบาง นานๆ ครั้ง”

“มึงนี่ก็ไมแครเด็กมึงเลยเนอะ พูดตอหนามันไดหนาตาเฉย”

“ไมเปนไรหรอกครับพี่ตั้ม นุเขาใจรสนิยมพี่นัทดี นานๆ ไปลองอะไรใหมๆ ก็ดี จะไดไมเบื่อนุเร็ว แตหามซ้ําคนเกินหนึ่งครั้ง


ละ แลวก็หามแอบไปดวย”นุตอบแทนไอนัท ผมก็เขาใจนะวาไอนัทนะมันมีรสนิยมทางเพศแบบแปลกๆ ถาหามไวมากๆ
มันก็คงอึดอัดแลวยิ่งรุนแรงกวาเดิม แตนุที่อยูกับมันไดก็ทาทางจะ…ไมตางกัน

“จา รูแลวจะที่รัก”นัทหอมแกมเมียใหมมันอยางไมอายใคร มันคงทนอึดอัดมานาน

“ไปอยูดวยกันแลวก็อยูใหมันนานๆ ละ”ถามวาผมเปนหวงนุมั้ย ก็คงยังไมถึงขั้นนั้น แตก็ปฏิเสธไมไดวา ไมรูสึกอะไรกับคน


ที่เคยใชเวลารวมกันชวงหนึ่ง

“กูถามจริงๆ นะตั้ม มึง...มีอะไรกับพายบางเปลาวะ”คําถามของมันผมสายหนาแทนคําตอบ เคย…แตก็นานมากแลว

“มึงทนไดไงวะ หรือมึงแอบไปมีขางนอกเอา”
“เหี้ยแลวมึง กูจะมีเวลาอะไรขนาดนั้น แคทํางานกูแทบไมมีเวลานอนแลว นี่เดี๋ยวพรุงนี้พายตองไปเรียน กูกลับดีกวาวะ
พรุงนี้ตองไปสงตอนเชาอีก”ผมรีบพวกมันก็เลยรีบดวย จะไปฉลองกันตอที่หอง นุสั่งซาลาเปาของรานฝากใหผมเอากลับไป
ใหพาย กวาจะกลับมาถึงหอง พายคงทานขาวเย็นไปแลว

ระยะหลังผมรูสึกวาพาย…วางายเกินไป ไมไดพยายามเอาใจผม แตก็นิ่งจนผมระแวง คําพูดและการกระทําเหมือนเรา


ใกลชิดกันมากขึ้น แต…ทั้งๆ ที่นอนอยูขางๆ กัน ผมกลับรูสึกเหมือนวาถาตื่นมาตอนเชา…พายจะหายไป

ผมนึกขํากับคําพูดตัวเองที่บอกไอนัท ผมก็ผูชายธรรมดา ไอความตองการทางเพศมันก็มีอยูเรื่อยๆ แตทําไงไดในเมื่อพาย


ยังไมยอม และถึงยอมก็เพราะถูกผมเลาโลม ไมใชเพราะรูสึกเหมือนกัน พี่นพบอกวาไมใหยุงกับพาย จนกวาพายจะยอม
เอง หรือ…จนกวาจะรัก ทางเดียวที่จะแตะตองพายไดคือเวลาที่พายหลับ นาขําที่ตองแอบสัมผัสคนที่นอนขางกายกันทุก
คืน นาขําที่คนอยางผมตองแอบหอมแกม แอบกอด และจูบ…ในเวลาที่เขาไมรับรู แตอยางนอยก็ดีกวาทําแลวไดรับสายตา
รังเกียจกลับมาเหมือนเมื่อกอน ผมถูกเกลียดยังจะดีเสียกวาถูกรังเกียจ ที่นัทถามวาผมทนไดยังไง ผมเองก็ไมรูเหมือนกัน
แตบางครั้งการไดเพียงแคกอดคนที่เรารัก มันก็สุขมากกวามีเซ็กสกับคนอื่น….ไมนาเชื่อวาจะมีวันที่ผมรูสึกอะไรแบบนี้ได
จริงๆ

เชานี้มันนาอึดอัดขึ้นกวาทุกที พายกลายเปนคนที่ผมเดาไมออกไปตั้งแตเมื่อไหร ผมถึงกับตองเอยปากย้ําวาจะมารับ


และใหพายโทรหา ยอมรับวากังวลจนไมอยากไปทํางาน แตก็ตองไป ผมจดจอกับงาน แตก็พะวงเรื่องโทรศัพทเปนระยะ
จนกระทั่งพายโทรมา ผมดีใจจนหลายคนแอบมอง แตสิ่งที่ไดยินมันไมใชเลย พายไปหาไอเด็กเวรนั่นจนได ที่ผมกังวลเปน
เรื่องจริง จะบอกวาผมหึงจนไมอยากใหพายไปหามันก็ใช แตก็หวงดวยเชนกัน

ผมรีบขับรถมาดักรอรับพายกลับ หากหายไปนานผมคงตองขึ้นไปตาม ผมอยากลองรอดูบางวามันจะทําอะไรพายอีกมั้ย


พายเดินมาตรงหนาชาๆ ผมลอบถอนหายใจอยางโลงอก อยางนอย…ก็กลับมา

พายกําลังทําอะไร และรูสึกอะไรอยู นี่คือสิ่งที่ผมอยากรู พายกําลังสงสารเพื่อนที่หลงรักตัวเองจนกําลังจะเปนบางั้นเหรอ


หรือวาทําอะไร เหมือนจะสงสาร แตก็นิ่งเฉย ไมวาอะไรผมเหมือนเคย ไมรองไห….ใช พายไมรองไหมานานแลว เขมแข็ง
ขึ้น….อีกแลวเหรอ

สําหรับผมการที่จะตัดใจจากใครหรืออะไรสักอยาง ผมจะไมใหสิ่งนั้นอยูในระยะสายตาอีกเลย ตราบใดที่ยังมองเห็น มันคง


ยากที่จะลืม พายเองก็ควรจะลองทําอยางนี้ เพื่อใหทิวตัดใจไดเร็วขึ้น ความใจดีบางครั้งก็ทํารายคนอื่นไดเหมือนกัน แต…
บางทีถึงจะเจ็บปวด…เราก็ยังอยากไดรับความใจดีจากคนที่เรารักก็ได

วันนี้ผมก็ตองมาสงพายที่คอนโดฯ ทิวอีกแลว ผมใชเวลาระหวางรอในรถเพื่อนอนหลับสักงีบ ตื่นมาก็ใชโนตบุคนั่งทํางาน


ในรานกาแฟใตคอนโดฯ ถึงแมจะรอไมนาน แตก็เปนชวงเวลาที่ทรมานมาก…เมื่อกอนผมคุนเคยกับมันดี
ไมรูวาเราจะตองอยูในชวงเวลานาอึดอัดแบบนี้อีกนานแคไหน เมื่อไหรจะจบ แลวจะเริ่มตนใหมอยางไร…กับใคร พายทํา
ใหผมไวใจไดวาไมไดอยูกับมันตามลําพัง แตมันไมพอเลย ผมตองการสิ่งที่ทําใหมั่นใจไดวาพายจะอยูกับผมตลอดไป
มากกวา ผมทําอะไรตามใจตัวเองลงไป แคแอบทํารอยเล็กๆ ฝากไปใหมันไดเห็นบาง จะไดไมลืมวาพายยังอยูกับผม

“เปนไงบางเรา โทรมามีอะไร”พี่นพทักทันทีที่ผมโทรศัพทไปหาระหวางรอพายอยูขางลาง

“ที่พี่เคยพูดไววา…ใหผมรับผิดชอบพาย….ผมทําเทาที่ทําไดแลว แตพี่ไมไดบอกผมวา….ผลของมันจะเปนยังไง”

“…ก็แคใหรับผิดชอบ ไมวาผลจะเปนยังไงแกก็ตองยอมรับ พี่เคยสอนไมใหแกคาดหวังวาอะไรจะเปนของเราตลอด ไมมี


ใครเปนเจาของอะไรไดตลอดไปหรอกนะตั้ม…มันแคอยูที่เดิมชั่วระยะเวลาหนึ่งเทานั้น ไมไดกลายเปนของใคร”

“….แลวตองทํายังไง…ใหระยะเวลานั้นมันนานขึ้น”

“เฮอ…ตั้ม พี่ไมเคยคิดจริงๆ วาตั้มจะรักพายมากขนาดนี้ บางทีพี่อาจจะผิดก็ไดที่ปลอยใหตั้มใกลชิดพาย พี่ไมรูหรอกนะวา


ทํายังไงพายถึงจะอยูกับตั้มตลอดไป เพราะพี่ไมใชพาย…อยาคิดมากเลย ถาคิดวาทําทุกอยางแลว อะไรจะเกิดก็ตอง
ปลอยมันไป ตั้มยังมีพี่ มีแมใหญอยู พี่กับแมก็เปนครอบครัวใหตั้มได….ถึงตั้มจะไมใชลูกของแมพี่ แตพี่ไมเคยรูสึกอยาง
นั้นนะ ตั้มคือนองชายคนเดียวของพี่…เปนนองชายที่พี่ภูมิใจเสมอมา”

“……ขอบคุณครับพี่นพ พี่ก็เปนพี่ชายเพียงคนเดียวของผมเหมือนกัน”ผมไมเคยคิดหรอกนะวาไดทําอะไรใหพี่นพภูมิใจได
บาง ดีแตสรางปญหาใหพี่นพตามแก กอเรื่องมากมายจนเกือบทําลายความฝนเรื่องการเปนหมอ แตถึงจะเปนอยางนี้….พี่
ก็ยังบอกวาภูมิใจผมอีกเหรอ

วันนี้พายรองไห ผมไมรูวามันทําอะไรกับพาย จะเปนเพราะรอยที่ผมแอบทําไวหรือเปลา หรือเรื่องอะไร นับวันผมยิ่งกลัว


การอยูดวยกันตามลําพังมากขึ้น เพราะไมรูวาพายคิดอะไร และไมรูเมื่อไหรจะพูดคําที่ผมไมอยากไดยิน

“ทําไมเดี๋ยวนี้คุณไมคอยยุงกับผมละ…ผมหมายถึงเรื่องอยางวานะ”อยูดีๆ พายก็ถามขึ้นมาหนาตาเฉย เมื่อกี้ก็ทําเหมือน


ออนผม สวนนี่ก็…ยั่วกันชัดๆ

“…ก็แคสัญญากับพี่นพไววาจะไมใชกําลังบังคับอีก”เปนคําสัญญาที่พี่นพขอไวในวันที่พานาพิมไปอยูที่บาน แตผมก็…
ขอผลัดไปกอน จน…ตองยอมสัญญาเมื่อวันที่พายพยายามฆาตัวตายตอหนาผม วินาทีที่เห็นเลือดของคนที่เรารัก คนที่
เจ็บกลับเปนตัวผมเอง……ทําไมใครตอใครตองพยายามตายตอหนาผมดวย…การอยูกับผม…มันทรมานยิ่งกวาการมีชีวิต
อยูอีกเหรอ

“แลวถาคุณบังคับผมจะเกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“…ไมรูสิ ก็แคสัญญา”

“แลวถา…ผมยอม…จะเกิดอะไรขึ้น”

“…ลองใจพี่มันไมสนุกอยางที่คิดหรอกนะพาย”พายก็นาจะรูวาผมไมไดเปนคนดีขนาดที่วายั่วมากๆ แลวจะปลอยไปได
หยุดตอนที่ยังหยุดไดจะดีกวา

“ถาเราจูบกันมันจะเปนยังไง จะไปจบบนเตียงมั้ย…หรือบนโซฟา”

“พาย…พี่ไมมีความอดทนกับเรื่องแบบนี้มากนักหรอกนะ เพราะงั้นเลิกพูดเรื่องนี้ไดแลว”ผมพูดจบพายก็โนมตัวมาจูบผม
อยางแผวเบา….เปนครั้งแรกที่ไดจูบแบบนี้ สัมผัสออนละมุนจนไมรูจะเรียกวาจูบไดหรือเปลา แผวเบาแต…ออนหวาน

“…รูสึกมั้ย”ริมฝปากที่แนบชิดขยับเบาๆ ใหรูสึกวายังไมไดถอนปากออกไป

"อะไร"ยอมรับวาสั่น ไมใชเพราะปากที่แนบชิดกันหรอก แตเพราะ….สายตาพาย

"นั่นสินะ"พายยิ้มที่มุมปากกอนจะเดินเขาหองไป ไมนาเชื่อวาจูบแรกที่ไดจากพายจะเปนจูบที่หวาน….ปนขม

ในที่สุดผมก็ไดรับคําตอบ…วาพายกําลังคิดอะไร นาแปลกที่คําวา ’ไมใหอภัย’ ฟงดูดีกวาคําวา ‘ไมมีความสุข’ ผมไมเคย


ขอใหพายอภัยใหกับความผิดที่ผมทํามา ผมผิดจริง ผิดซ้ําๆ ทําเรื่องเลวรายไวเยอะ ผมไมไดเปนคนดีอะไร แต…การที่ทํา
ใหคนที่เรารักไมมีควาสุข…ทําใหรูสึกวาตัวเองเลวและไรคา ตลอดเวลาที่ผานมาพายไมเคยลืมความผิดของผมเลย ไมเคย
หยุดคิดถึงมัน ไมเคยปลอยใหมันผานไป ผมไมไดเปนคนถูกกระทํา ผมเลยไมรูวาพายเจ็บปวดกับมันขนาดไหน แตผมก็ทํา
ทุกอยางเทาที่ทําไดแลว ผมกันนุออกไปจากพาย เพราะอยากใหเห็นวา…ผมจะไมยุงกับเพื่อนเขาอีก ผมกันทิวออกไป
เพราะรูวาถามันรูวาพายเปนของผมแลว มันคงจะทําใหพายกลายเปนของมันเขาสักวัน…ปกปองเหรอ ฟงดูดี หากความ
จริงก็แคหึงหวง ผมพยายามปลอยวางเมื่อไดเปนคนเดียวที่ไดใกลชิดพาย พยายามใหเราไดเรียนรูกันและกัน ผม…
พยายามแลว ทําตัวดีขึ้น…ก็คงมีบาง แตที่แนๆ พายไมรูหรอกวาผมตามใจพายมากขนาดไหน ทั้งๆ ที่ไมเคยยอมใครมาก
ขนาดนี้ นาพิมพเคยบอกวาพายเปนเด็กติดคนงาย อยูใกลมากใครก็ติดเขา…แลวมาอยูกับผม….ทําไมไมติดผมบางละ
ทุกสิ่งทุกอยางที่ใชทั้งชีวิตหามา…ผมยกใหหมด….ขอเพียง….ใหพายอยูกับผมก็พอ….

ผมไมเคยตองการใหใครรูเรื่องราวของผม ไมตองการใหใครเกิดความสงสาร ไมอยากอยูรวมกันโดยที่ตองสงสัยวาเขาเพียง


แคสงสารเราหรือเปลา….ผมไมเคยใหใครพูดเรื่องผมใหพายฟง…ผมดีใจที่พายไมสงสารความรักของทิว…..เพราะถา
สงสาร…..ผมก็คงอยากบอกเพื่อใหพายสงสารผมบาง….ถึงจะยอมอยูกับผมเพราะความเห็นใจ…ผมก็ยอม

เมื่อตอนเปนเด็กผมไมเขาใจคําวา ‘เมียนอกกฎหมาย’ เทาไหร คําวาเมียนอยคือคําที่ชาวบานเรียกแมของผม และลูกชูคือ


สรรพนามเรียกตัวผม เราไมเคยกินขาวนอกบานพรอมหนาพรอมตา ไมเคยไดไปเที่ยวตอนปดเทอม และผมมักถูกสอนดวย
คําพูดซ้ําๆ วา…ผมเปนลูกพอ พอตองเปนของผมคนเดียวเทานั้น…ของๆ ผม ผมตองทําทุกอยางเพื่อไมใหคนอื่นแยงไป
ได…ประโยคหลังผมไมรูหรอกวาตองทํายังไง แตพอเปนพอผมนั่นคือสิ่งเดียวที่ฝงใจ จนกระทั่ง…ผมเขาใจคําวา เมียนอย
และลูกชู……แมเปนผูหญิงที่โงมาก พอไมใชของผมคนเดียวเพราะเขาก็มีลูกชายอีกคน แมตางหากที่เปนของผมคนเดียว

ความรักของพอคงเผื่อแผมาถึงแมนอยเกินไป เมียนอยคนหนึ่งถึงไดมีชู ฟงดูสับสนมากสําหรับผม พอเริ่มหายหนาไป จน


หายไปในที่สุด และแมก็อยูกินกับผูชายอื่น นาเสียดาย…ผูหญิงที่ทองลูกไมมีพอไมมีคนจริงใจดวย ไมนานผูชายคนนั้นก็
จากไป และแมก็ไมกลาแบกหนากลับไปหาพอ…เขาวาคนที่อายุสั้นคือคนมีบุญ ผมไมรูวาแมทําบุญอะไรถึงจากไปเร็ว
นอกจากทุบตีผม พยายามจับผมกดน้ํา พยายามฆาตัวตายตอหนาผมครั้งแลวครั้งเลา ผมวาไมใชบุญหรอกที่ทําใหคนเรา
อายุสั้น แตเปนเพราะปริมาณความรักที่ไมสมดุลมากกวา

ผมถูกสงมาอยูบานที่ไวเลี้ยงเด็กกําพรา สังคมใหมที่ผมตองอยูทําใหรูซึ้งถึงความหมายที่แมเคยพูด…ของๆ ผม ผมตองทํา


ทุกอยางเพื่อไมใหคนอื่นแยงไปได…การแกงแยงชิงดีโดยไรกฏเกณฑ ผมซึ่งถูกปลูกฝงมาใหชวงชิงตั้งแตเด็กก็เริ่มรูวิธีการ
เอาตัวรอดที่นี่ เสื้อผาราคาและของเลนราคาแพงที่พอเคยซื้อใหหลายชิ้นถูกแยงไป ขณะเดียวกันผมก็ไดของที่ผมอยากได
ของคนอื่นมาเหมือนกัน….เกือบสี่ปที่ตองอยูที่นี่เหมือนอยูในสมรภูมิรบของเด็ก ตอหนาผูใหญ…บางคนทําตัวดีเพื่อที่จะได
มีคนอุปการะ ยกเวนผม…ผูใหญคนหนึ่งจากผมไปเพราะความตาย สวนอีกคน…ทอดทิ้งผมเพราะเขามีครอบครัวตาม
กฎหมายตองดูแล

วันหนึ่งก็มีประกาศเรียกผมใหไปพบผูปกครอง….ผมที่ปกครองตัวเองมานานคอนขางแปลกใจ ผูชายที่มีอายุมากกวาผม
ไมกี่ปยืนฝนยิ้มอยูตรงหนาพรอมฝามือที่ยกมาลูบหางคิ้วที่เพิ่งแตกจากการตอยกันเมื่อวาน

“พี่มารับนอง…ขอโทษที่มารับชา….กลับบานกับพี่นะ”เด็กผูชายที่ไดชื่อวาลูกตามกฎหมาย…พี่ชายที่มีสายเลือด
เหมือนกันครึ่งหนึ่ง….ผมเคยมีบานดวยเหรอ

“….ครับ”การตอบรับงายๆ ไมใชเพราะดีใจที่เขามารับ แตดีใจที่จะไดออกไปสักที

ผูชายที่ผมคาดวาจะไดเจอกลับเหลือเพียงแคกรอบรูป เขาตายไปแลวเกือบครึ่งป ผมเรียกภรรยาเขาวาคุณนาย ถึงเธอจะ


บอกใหเรียกแมก็ตาม พี่ชายที่ดูออนโยนไมไดเปนอยางที่เห็น พี่นพตองชวยคุณนายบริหารกิจการ เรียกวาตองโหดจน
คนงานเกรงเลยละ ทุกครั้งที่ผมทําผิดเขามักเปนคนลงโทษผม แตทุกครั้งที่มีคนดาวาผมเปนลูกเมียนอย…เขาก็เปนคน
เดียวที่ปกปอง รวมถึงปกปองผมจากอันตรายดวย

“นั่นไมใชของตั้มนะ ตั้มจะไปแยงจากเพื่อนมาไมได”พี่นพชี้ไปที่รถบังคับของลูกผูจัดการรีสอรท

“ถาแยงไดมันก็เปนของตั้ม”
“ไมใช ถาแยงไดตั้มก็เปนขโมย หามแยงของคนอื่น ถาอยากไดใหบอกพี่”ตอนแรกผมคิดวาเขาจะใจดีซื้อให แตเปลาเลย
เขาใหผมทํางานแลกเงิน แลวใหเก็บเงินไปซื้อเอง

ตลอดเวลาพี่นพคอยดูแลผมอยางดี นอนหองเดียวกัน สอนการบาน ไปรับ-สงที่โรงเรียน แมกระทั่งประชุมผูปกครองพี่นพก็


ยังมาทําหนาที่ให…คนที่ทําใหผมมากขนาดนี้…ตองการอะไรจากผมเหรอ

“ถามจริงๆ เหอะ ทํากับผมแบบนี้ตองการอะไร”

“ไมไดตองการอะไร ตั้มเปนนอง ทําไมพี่ตองอยากไดอะไรจากนองดวยละ พี่ตางหากที่ตองเปนฝายให”

“….ใหไดทุกอยางเหรอ”

“ไดสิ มีอะไรอยากไดรึไง”

“…งั้นอยาเรียนแพทยไดมั้ยละ”ผมอยูมานานพอจะรูวาพี่นพอยากเปนหมอมากๆ มากจนยอมขัดใจกับคุณนายที่อยากให
เรียนบริหาร

“ไดสิ ถาตั้มตองการทํารายพี่”พี่นพตอบทันทีโดยไมคิด

“เออ ตั้มไมได…จะทําราย ตั้มแคพูดเลน พี่นพไมตองทําหรอก ตั้มลองใจเฉยๆ”ผมรีบแกตวั เพราะกลัวพี่นพทําจริง

“แกลงพี่สนุกมั้ย”

“….ไม”

“ก็ดี แสดงวาตั้มเริ่มแครความรูสึกพี่บางแลว ตั้มจําไวนะ ยิ่งเราทํารายคนที่เราแครมากเทาไหร คนที่เจ็บที่สุดก็คือเราเอง


ตั้มเปนนองพี่ เปนผูชาย อยารังแกใคร ตองปกปองคนอื่น จําไวนะ”คําสอนทุกคําของพี่นพผมจําไดขึ้นใจ แต…ผมไมไดดี
ขนาดที่จะทําตามที่สอน ผมเริ่มเรียกคุณนายวา ‘แมใหญ’ หลังจากผมเรียนจบและทํางาน ผมก็ขอสรางบานหลังเล็กๆ
แยกไปอยูคนเดียว ทุกคนยอมรับวาผมเปนสวนหนึ่งของครอบครัว แต…ผมเองที่ละอายใจ

ผมไมใชคนดี…ถึงจะถูกเลี้ยงดูอยางดีทดแทนสวนที่ขาดไป ผมก็ยังเลวอยู ผมไมโทษการเลี้ยงดูของแม ไมโทษการปลูกฝง


นิสัยแยๆ เมื่อผมโตขึ้น ผมก็มีความคิดตัดสินใจถูกผิดเองได ไมมีเหตุผลที่เปนคนเลว ไมมีเหตุผลที่จะบอกวาผมไมรูวา
อะไรคือผิด อะไรคือถูก…ผมแคทําสิ่งที่อยากทํา….แลวก็มานั่งเสียใจภายหลัง
ที่พี่นพบอกวาใหปกปองคนอื่นและอยารังแกใคร ผมพลาดไปเมื่อปกปองความรูสึกของเพื่อน และรังแกคนอื่น…ที่ตัวเอง
มาตกหลุมรักภายหลัง ทํารายคนที่เราแครมันเจ็บมากอยางนี้เอง ผมพยายามทดแทนความผิดที่เคยกอ ปกปองดูแล เอา
ใจใส ถึงจะไมออนโยนเหมือนพี่นพ แตผมก็พยายามอยางที่สุดแลว แตทําไม…พายไมเห็นแครผมบาง ผมใหทุกอยางที่ให
ไดแลว…แคขอใหอยูขางๆ กันกอน…มันมากไปหรือไง ผมมันเลวขนาดนั้นเลยเหรอ…รักผมบางสักนิด…ไมไดเหรอ

ผมเชื่อวาพายนาจะรูสึกอะไรกับผมบาง…และพายเองก็ยอมรับ…แตคงรักไมมากพอที่จะใหอภัย รักไมมากพอที่จะลืม
ความเลวของผมใชมั้ย สุดทายแลวผมก็ไมเคยเปนเจาของพายจริงๆ…พายแคยอมอยูกับผม…แลวก็จากไปตามความ
ตองการของตัวเอง คําวา ’รัก’ ที่ผานจากปากไมมีคาอะไรเลย…เมื่อตลอดเวลาที่ผานมา…พายไมเคยเอยชื่อผมใหไดยิน
สักครั้ง

“นาพิมพครับ ผมถามอะไรหนอยไดมั้ย”

“อะไรจะ”

“ผมจําไดวา…วันที่ผมสารภาพเรื่องผมกับพาย…นาพิมพเรียกผมวาคุณ มัน…เหมือนกับที่พายเรียกผมเลย ผมไมเขาใจวา


พายสุภาพจนดาไมเปน หรือมีความหมายอื่น”

“ออ นานึกแลวเชียววาลูกนาตองเรียกตั้มอยางนี้ นาไมเคยสอนคําหยาบใหลูก ไมใหพูดดวย นาบอกพายเสมอวาถาเราใช


คําหยาบเรียกคนอื่น ก็เหมือนกับใหความสําคัญกับเขา เหมือนกับ…เรามีความรูสึกพิเศษนะ แตเปนเกลียดเปนพิเศษนะ
มันไมใชคําที่ดี ทําใหคนพูดดูแยดวย ถาเราเรียกคนอื่นวา ‘คุณ’ ก็หมายถึง….เขาไมมคี าใหเรารูสึกหรือจดจําสถานะอะไร
เลย”

ไมมีคาใหรูสึก….หรือจดจํา….แมแตชื่อก็ไมไดถูกเรียก แลวนี่…ไมไดอยูดวยกัน…อีกไมนานคงลืมผมไปจนหมด

วินาทีที่อยูในหวงความทรงจําเสมอคือวินาทีแหงการจากลา…พอที่เดินหันหลังจากไป…แมที่ตายตอหนา…และพาย…ที่
เดินออกจากหองโดยไมเหลียวกลับมามอง....เหลือเพียงผมที่ยังคงอยูเพียงลําพัง

ผมถูกเพื่อนลอวาหนาดานที่ตามตื้อพาย…คอยขับรถไปนั่งมองพายที่คณะ ขับรถตามไปดูพายทํางานที่ใหม ขอใหนาพิมพ


เปดเสียงใหฟงเวลาคุยโทรศัพทกับพาย หนักๆ เขาก็ใชรูปตอนเด็กของพายมาใชระบายอารมณใครของตัวเอง….ถูกทิ้ง
แลวยังไงละ ในเมื่อผมถูกทิ้งมาตลอดชีวิต ผมทําเทาที่ผมทําไดแลว พายไมไดบอกวาเกลียดผมสักหนอย อยางนอยก็ยังได
ยินคําวารัก ไมไดพูดชื่อผมแลวยังไง อยางนอยผมก็ไดเห็นรอยยิ้มของพายจนได…ถึงแมจะเปนรอยยิ้มบางๆ บนใบหนา
กอนเดินจากผมไป ผมเคยคิดกอนหนานี้วาทําอยางไรถึงจะไดพายมา…รูจักแตการชวงชิง…และก็เปนอยางที่พี่นพบอก…
ไมเคยมีอะไรเปนของเรา….การเขาหาอยางคนไมรูจัก ก็ไมสามารถทําไดอีกแลว…ผมปลอยพายไปตามคําขอของพาย…
แตผมยังรอพายไดอยูใชไหม….ผมก็แคปลอยพายใหหางไป…ใชวาผมตองเปลี่ยนอะไรตามเสียหนอย ผมก็ยังคง
เหมือนเดิม ยังอยูที่เดิม ใชชีวิตเหมือนเดิม ตอนเชาไปมหาฯลัย ถึงแมจะไมมีคนนั่งเคียงขาง แตก็ยังไดเห็นหนากอนพาย
เขาเรียน กลางคืนไมมีคนใหแอบนอนกอด…แตก็รูวาเขาสบายดี

ชีวิตพายตอนนี้เปนอยางไรบาง…สบายดีใชมั้ย…เรียกวามีความสุขไดหรือยัง ลืมเรื่องเลวรายของผมไดบางมั้ย…แตอยา
ลืมผมก็แลวกัน ผม…ยังรออยู….ยังอยูที่เดิม….ความรูสึกเหมือนเดิม…ผมไมใชคนดี….แตก็ทําทุกอยางและยอมทุกอยาง
แลว…..ผมไมชวงชิง…..ไมแกลงเขาหา….ไมบังคับ….ผมแครอ…..แลวจะกลับมาหาผมมั้ย…….จะรักไดหรือยัง…...จะ
ยิ้มใหผม…แลวเรียกชื่อผมใหไดยิน….สักครั้งไดมั้ย….

หวังวาพาย….คงตั้งใจที่จะเก็บกุญแจบานของเราไวนะ

บรรยากาศที่นี่มันคงเงียบมากเกินไป ไมก็เปนเพราะเขาหายใจแรง ผมถึงไดยินเสียงลมหายใจเขาชัดเจน แมเราจะอยูหาง


กันขนาดนี้ ถึงพูดไมไดเต็มปากวาเปนการพบหนากันหลังจากหลายปที่ผานมา แตผมรูสึกจริงๆ วา....นี่เปนครั้งแรกที่เราได
กลับมาพบกัน

“.....ฮึ”เสียงเดียวที่หลุดจากลําคอเขากอนจะหันหลังเดินออกไปจากหองผม ผมไมรูวาสําหรับเขาหมายความวาอะไร แต


ตอนนี้ผมก็ลุกแลวเดินตามออกมาดานนอกเรียบรอยแลว

รางสูงใหญที่ผานตามาตลอดเวลาสามปนั่งอยูบนโซฟาตรงหนา เสื้อผาอยูในชุดสูทที่ผมเดาวาคงเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยง
สักแหง

“ไปงานเลี้ยงมาเหรอ”คําถามของผมทําใหเขาลืมตาทั้งที่ยังเอนศีรษะพิงเบาะโซฟาอยู

“.......ใชคํานี้เหรอที่เราควรพูดกัน”

“แลวเราควรพูดอะไรกันเหรอ”

“.....ไมรูสิ อาจจะ เปนไงบาง สบายดีมั้ย หรือ...ผมกลับมาแลว”คําพูดของเขาทําเอาผมเกือบหลุดหัวเราะออกมา ไมเคย


คิดมากอนวาเขาจะคาดหวังคําพูดแบบนี้จากผม

“หวังสูงจังนะครับ”

“ก็ทําใหหวังเองนี่ วาไงละ คิดวาตัวเองจะพูดอะไรดี”ทาทางเขาดูผอนคลายขึ้น อยากนอยก็ยังยกยิ้มที่มุมปากใหเห็นบาง

“......ผมสบายดี”ผมเลือกที่จะพูดในสิ่งที่เขาคาดหวังมากกวาคําถามสามัญจากผม
“...ไมบอกก็รู”เขาพูดจบก็หลับตาลงพรอมอมยิ้มนอยๆ พอผมหันหลังเตรียมเดินกลับเขาหองเขาก็พูดขึ้นมาใหม

“คิดยังไงถึงกลับมา”

“ก็นี่มันบานผมไมใชเหรอ หรือลืมไปแลววาคุณโอนสมบัติใหผมแลว”ผมหันมาเพื่อตอบคําถาม ทาทางเขาคงจะไมปลอย


ใหผมกลับไปนอนตองายๆ แลวละมั้ง

“ออ...งั้นคืนนี้พี่ควรนอนไหนดีละ เจาของบานตัวจริงกลับมาแลวนี่”

“ผมเปนเจาของบานใจดี คืนนี้คุณจะนอนนี่ผมก็ไมวาหรอก ยังไงก็อุตสาหคอยดูแลบานใหตั้งนาน”

“จะใหเจาของบานไปนอนหองนอนแขกก็คงไมเหมาะ ไมสนใจมานอนหองใหญเหรอพาย”คําวาหองใหญคงไมไดแปลวา
จะยกหองใหผม แตคงหมายถึงใหผมนอนหองเดียวกับเขาแนๆ

“.......ไมละ ผมไมชอบนอนดมกลิ่นน้ําหอมคนอื่น”ผมเลือกที่จะพูดเหตุผลที่…ไมใชเหตุผลจริงๆ แตเปนอะไรที่เรียกวา…


อยากรูคําตอบ หากผมพูดแบบนี้เขาจะตอบวายังไง

“ฮึ....พูดจานารักก็เปนดวย จะไปนอนก็ไป ไมงั้นเกิดพี่จับปล้ําขึ้นมาจะกลายเปนเรื่องใหญ”เขาพูดปนหัวเราะ ผมยิ้มพลาง


สายหัวนิดๆ กับคําพูดที่ตรงไปตรงมาเหมือนเดิม สวนตัวผมไมรูวาเปลี่ยนไป…หรือเหมือนเดิม กับการที่ตัดสินใจเดินไปนั่ง
บนโซฟาตัวเดียวกับเขา

“....ทําไมถึงกลับมา”

“…ก็ไมแนใจเหมือนกัน…”ความจริงแลวผมก็คิดวาหากไดพูดคุยกับเขา ผมอาจมีคําตอบใหตัวเอง แตเปลาเลย…ผมก็ยัง


หาคําตอบใหตัวเองไมไดทั้งหมด

“นึกวาจะไปหามันซะอีก เพิ่งกลับมาไมใชเหรอ”เขาไมควรพูดประชดผมเกี่ยวกับทิวเลย

“…..นั่นสิ….คุณไมคิดจะถามเหรอวาทําไมผมถึงเลือกมานอนที่นี่ แทนที่จะเปนบานใหญ”

“ไมจําเปน ในเมื่อพายตัดสินใจที่จะกลับมา ที่เดียวที่ตองอยูก็คือที่นี่”

“คุณนี่มันไมเปลี่ยนไปเลยสักนิด….ผมคิดผิดหรือเปลานะที่กลับมา”

“พาย….”เสียงทุมต่ําเอยชื่อผมกึ่งปราม
“ถาผมไมกลับมา คุณจะคิดวาความพยายามที่ผานมามันไรคาบางรึเปลา”คําพูดของผมยังคงพรั่งพรูออกจากปากอยางไม
คิดจะหยุดตัวเอง

“พี่ขอโทษ พายก็หยุดพูดแบบนี้กับพี่สักทีเถอะ มันมาผานมาตั้งกี่ปแลว”

“คนที่เริ่มกอนคือคุณนะ…..…คืนนี้ผมจะไปนอนกับแม”คืนนี้ทาทางคงคุยกันไมรูเรื่องแลวละ

“โธเวย! กลับมาถึงก็จะชวนทะเลาะเลยรึไง”

“…….”นั่นสินะ ทําไมผมถึงพูดดีๆ ดวยไมไดสักที พอเริ่มพูดคุยมากขึ้น อารมณและความรูสึกบางอยางก็เหมือนจะคอยๆ


ปะทุขึ้นมา

“……พี่ไมรูหรอกวาอะไรทําใหพายตัดสินใจกลับมา พี่ไมอยากคิดเขาขางตัวเอง พายไปนอนคิดดีๆ ดีกวาวาเพราะอะไร


สําหรับพี่มันสําคัญ เพราะหากวาเปนเพราะพายแคอยากพิสูจนอะไรบางอยาง พี่ก็คงตองเปนฝายไปจากพายบาง พี่คิดวา
ที่ผานมาพี่พิสูจนตัวเองแลว พี่ไมเคยทําอะไรไมซื่อตรง ไมเคยคิดบิดเบือนความรูสึกตัวเอง พี่เคยบอกวารักพาย พี่ก็ยังรัก
อยู แตถาความพยายามของพี่ตลอดเวลาที่ผานมามันยังทําใหพายอยากพิสูจนพี่ตอ…พี่คงตองยอมแพ”

“………………….”

“ไปนอนซะ แลวจะเอายังไงคอยคุยกันตอนเชา”เขาลุกขึ้นแลวก็ไลใหผมไปนอน ผมคอยๆ ลุกขึ้นจากโซฟาบาง

“….ผมนอนดวยไดมั้ยละ”

“…ตามใจ”เขาเดินตรงเขาไปในหองนอนโดยไมปดประตู ผมก็ปดไฟที่หองนั่งเลนแลวก็เขาไปปดแอรหองนอนเล็ก กวาจะ


เขามาใหหองนอนของเขา เขาก็เขาไปอาบน้ําแลว ผมเลือกที่จะนอนฝงที่เขาไมไดถอดกางเกงโยนกองไว ทั้งๆ ที่ผมไมเคย
เขามานอนในหองนี้ แตผมกลับคุนเคยกับกลิ่นไอรอบๆ ตัวเสียเหลือเกิน

“….นี่!”ระหวางที่หลับตาเคลิ้มๆ จนเกือบหลับ แตเพราะรูสึกอึดอัดเลยลืมตาขึ้นมาดู แลวก็เห็นวาคนที่เพิ่งออกจากหองน้ํา


กําลังนอนกอดผมอยู

“ทําไม มีปญหาเหรอ”ออมแขนโอบรอบกระชับจนแนบสนิท เนื้อตัวที่เย็นจากการอาบน้ําใหความรูสึกแปลกๆ

“ถอยไป…อึ๊”ทันทีที่อาปากแลวผลักแผนอกเพื่อเขาถอยไป เขาก็โนมหนาเขามาประกบจูบอยางรวดเร็วจนไมทันตั้งตัว ริม


ฝปากหนาแนบสนิทกับปากผม และพยายามขบเมมตามริมฝปากผมสักพักกอนจะคอยๆ ถอนหนาออกไป
“….ทําเปนเกง คิดวาจะเขามานอนหองนี้โดยไมมีอะไรเกิดขึ้นรึไง พี่ไมใชคนดีก็รูไมใชเหรอ”

“ถานอนเฉยๆ ไมไดพายก็จะไปนอนกับแม”ผมยืดแขนดันอกเขาใหเวนระยะหางมากขึ้น แตเขาก็ใชวาจะยอมคลายออม


กอดแตโดยดี ยังคงจองหนาผมพรอมอมยิ้มนอยๆ อยางคนที่กําลังเหนือกวา

“จูบก็ไมไดเหรอ”

“ไมดะ!...อื้ออ”ทั้งๆ ที่ยังพูดไมจบก็ถูกบดจูบอีกครั้ง หากคราวนี้ปลายลิ้นอีกฝายสอดแทรกเขามาภายใน มือที่ล็อคตนคอ


เอาไวทําใหไมสามารถหันหนีได เรียวลิ้นสอดสัมผัสทั่วโพรงปากกอนจะไลเลียตามขอบปากดานนอกแลวจูบซับใหซ้ําๆ

“…..มากกวานี้ไดมั้ย”มือที่จับตนคอคอยๆ ปดผมออกจากใบหนาผม พรอมกับใชปลายนิ้วเช็ดตามรูปปากใหอยางเบามือ

“…..ไม”ผมพูดพรอมดันหนาอกเขาออกอีกครั้ง

“ไมก็ไม”เขาพูดจบก็ขยับออกไปนอนบนหมอนตัวเอง แตก็ยังไมเลิกโอบเอวผม คนที่ถือวิสาสะแตะตองผมมากขนาดนี้โดย


ที่ยังนอนหลับเหมือนไมรูสึกอะไรคงมีเขาคนเดียว ชวงเวลาที่ผานมาไมไดทําใหอะไรในตัวเขาเปลี่ยนไปเลยจริงๆ แตที่อด
แปลกใจไมไดก็คือตัวผมเอง….ที่ยังคงปลอยใหเขานอนโอบผมไว…ทั้งๆ ที่รูดีแกใจวา…หากผมหลับ…มือที่โอบไวหลวมๆ
คงกระชับแนนขึ้นจนกลายเปนกอดแนๆ

ผมคงชินกับการตื่นตอนเชาเพื่อเตรียมตัวไปทํางาน อากาศยามเชาที่นี่สดชื่นจนอยากนอนเลนบนเตียงอีกสักพัก แตความ


อึดอัดรอบตัวทําใหทนไมไหว ตองคอยๆ แกะมือที่พาดเอวออกไป ดูทาเขาคงเหนื่อยเอาการถึงไดนอนหลับลึกขนาดนี้ ผม
ลุกลงจากเตียงเพื่อเตรียมไปอาบน้ําแตงตัวในหองเล็ก แตกลับพบวากระเปาเสื้อผารวมทั้งของใชอื่นๆ วางกองใกลๆ ประตู
ดูทาวาผมคงหลับลึกกวา เพราะผมไมรูสึกตัวเลยวาเขาลุกจากเตียงไปตอนไหน

หลังจากอาบน้ําเสร็จผมก็ขับรถกอลฟเลนรอบๆ รีสอรท แขกที่มาพักสวนมากคงยังไมตื่น ผมขับไปที่บานใหญ เผื่อแมยังไม


ออกไปตลาดจะไดขอติดรถไปดวย แตผมมาสายไป แมออกไปไดพักใหญแลว เห็นแตคุณปานั่งสงยิ้มลอผมอยู สงสัยรูแลว
ละมั้งวาเขากลับมาถึงเมื่อคืน

“แลวลูกชายปาละ”ปาภาถามทันทีที่ผมเดินไปนั่งใกลๆ

“ยังไมตื่นมั้งครับ แลวนี่พี่หนอยพี่นพไปคลินิกแลวเหรอครับ”

“วันนี้ไปตรวจครรภในเมืองโนน เห็นวาจะแวะไปหาเพื่อนอะไรกันดวย กวาจะกลับก็บายๆ เย็นๆ แลวเราละ ตื่นมาแตเชา


จะออกไปไหน”
“พายชินเวลา ตื่นมาแลวก็เลยขี้เกียจนอนตอ ปากินอะไรยังครับ พายเริ่มหิวๆ แลว เดี๋ยวพายทําขาวเชาให”

“ไมตองมาวุนวายเลย เด็กมันมาทําขาวตมทะเลไวใหแลว ตักแบงใสหมอเล็กไปใหเจาตั้มดวย”ปาภาพูดกึ่งบังคับให


กลับไปกินพรอมเขาที่บานโนน

“เดี๋ยวเขาหิว เขาก็มากินเองละครับ”

“เอะ เรานี่มันยังไง ไปๆ เอาใสหมอเล็กไปกินหลังโนน วันนี้บานนี้ครัวปด ไมรับแขก”คุณปาไมไดพูดเปลาๆ แตผลักใหผม


ออกจากบานดวย แตยังไมทันถึงประตูบานหรอกครับ บุคคลที่กําลังอยูในหัวขอสนทนาก็โผลมาพอดี

“อาว ตื่นมาทําไมกันแตเชา เมื่อคืนก็กลับมาดึกไมใชเหรอ”ปาภาถามคนที่ยืนอยูดานหนาผม แตเหมือนเขาจะไมพรอม


ตอบคําถามนะ ทาทางยังดูเหมือนไมตื่นดีเทาไหร

“อะไรกันตั้ม มายืนจองนองอยูได ละเมอเปลาเนี่ยเรา”

“....ผมมีเรื่องจะคุยกับพายนิดหนอย ขอพากลับบานกอนนะครับ”เขาพูดจบก็ควาขอมือผมใหเดินตามออกไป ไดยินเสียง


ปาภาตะโกนบอกใหคุยกันดีๆ ผมนะก็อยากคุยดวยดีๆ หรอกนะ แตอีกคนนี่สิ...จะคุยดีเปนเหมือนคนอื่นบางมั้ย

ผมนั่งรถกอลฟกลับมากับเขา พอมาถึงก็ยังดึงใหผมเดินตามเขามาดานในอีก จนตอนนี้ก็ยังเอาแตนั่งจองผมจากโซฟาตัว


ขางๆ

“แลวคุณจะจองผมทําไมนักหนา ไหนวามีเรื่องจะคุย”

“พี่ก็บอกตั้งแตเมื่อคืนแลวนี่.....ไหนละคําตอบ”

“......ยังไมไดคิดเลย งวงเลยเผลอหลับกอน”ผมหยิบรีโมทโทรศัพทมาเปดเพื่อลดความนาอึดอัด แตเขาก็แยงไปกดปดแลว


ก็ยึดรีโมทเอาไวขางตัวเขา

“อยาเรื่องมากนา จะเอายังไงก็พูดมา”

“ก็แคจะกลับมาอยูนี่ไมไดรึไง ทําไมตองใหตอบใหอธิบายอะไรมากมายดวยละ”

“จะกลับมาอยูนะได แตมาอยูในฐานะอะไร”
“....เจาของบาน”

“อยาทําเหมือนเด็กพูดไมรูเรื่องนาพาย คุยดีๆ”

“ก็แลวคุณอยากไดยินคําวาอะไรละ อยากใหผมพูดวาผมกลับมาเพื่ออยูกับคุณเหรอ ไมหวังมากเกินไปรึไง”ความจริงผม


วาแคผมกลับมาก็นาจะเพียงพอแลว ทําไมตองถามอะไรใหมากมายดวย

“ถารูใจพี่ขนาดนั้นแลวก็ตอบมาจริงๆ ซะทีสิ เพราะถากลับมาอยูที่นี่ ก็ตองอยูกับพี่เทานั้น แตถายอมรับเรื่องนี้ไมได...พี่จะ


ไปอยูที่อื่นเอง ยังไงบานนี้ก็เปนของพาย”ผมรูวาเขาไมไดพูดประชด หากผมรับไมได เขาก็คงไปจากบานนี้อยางที่บอก
จริงๆ

“......ก็กลับมาอยูนี่นะแหละ พอใจรึยัง”

“ยัง ตองบอกมาดวยวาทําไมถึงกลับมา ตองการทดสอบอะไรพี่อีกหรือเปลา”

“เปลา....ก็ยังไงก็ตองกลับอยูแลวนี่ คุณยอมปลอยใหผมอยูที่อื่นรึไงละ”ขนาดผมไปสุดขอบประเทศยังตามไปเฝาไดเลย
ผมไมแนใจวาการกระทําของเขาสมควรเรียกวาเสมอตนเสมอปลาย หรือ...ดันทุรัง

“ก็ไมเห็นไดหามนี่”

“ชางเถอะ กลับมาก็ดี จะไดอยูกับแม หมดเรื่องคุยแลวใชมั้ย ผมจะไดไปกินขาว”ขี้เกียจคุยแลวครับ ถาพูดเรื่องนี้จบเดี๋ยวก็


หาเรื่องใหมมาซักผมอีกจนได

“เดี๋ยว....”พอผมทําทาจะลุกเขาก็ควาขอมือผมไวใหนั่งลงตามเดิม

“อะไรอีก”

“พายรักพี่รึเปลา”คนอยางเขานี่มันยังไงนะ นึกจะพูดอะไรจะถามอะไรก็ทําโดยไมนึกถึงคนอื่นเลยรึไง ทําหนาเหมือนเปน


คําถามทั่วๆ ไปที่ตอบไดงายๆ สีหนาทาทางก็ไมไดมีอาการตื่นเตนหรือจดจอรอฟงคําตอบ....คําตอบของผมมันไมสําคัญ
....หรือวาเขาเก็บอารมณเกงกันนะ

“........ผมก็เคยพูดไปแลวนี่ ถาจําไมไดผมก็ชวยไมได”

“รัก”
“..........”

“ในเมื่อพายรักพี่ และกลับมาอยูกับพี่ ก็เทากับวาพายเปนคนของพี่ พี่หามหรือบอกอะไรพายก็ตองฟง เขาใจมั้ย”

“ไมเขาใจ ผมก็คือผม ไมจําเปนตองฟงคําสั่งคุณ หรือคุณจะบังคับผมเหมือนเมื่อกอนอีก ผมมาอยูที่นี่ไมไดมาเพื่อจะเปน


ของใคร”ทําไมคําพูดเขามันชวนใหหงุดหงิดไดเสียทุกครั้ง บางอยางเปลี่ยน และบางอยางไมเปลี่ยน อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นไดจาก
เขาคือนิสัยชอบบงการชีวิตผม ผมวาเขาควรเรียนรูการอยูรวมกับคนอื่นมากกวานี้ ทาทางจะถือดีจนเคยตัว ถึงไดไมเคยทํา
ตัวเสมอคนอื่นเสียบาง

“ก็ไมไดบอกวาจะสั่ง แคบอกวาใหฟง ทําไมชอบตีความไปในแงรายนักนะ”

“ก็ผมไม...”ผมพูดยังไมทันจบเขาก็พูดแทรกขึ้นมา

“อยาเถียงนักไดมั้ย ในเมื่อพายพรอมจะเริ่มตนใหมกับพี่ แลวทําไมเราไมพูดกันดีๆ บาง จะอยูแบบตางคนตางอยู หรืออยู


แบบจําใจเหมือนเมื่อกอนรึไง ชวงที่ผานมามีแตพี่คนเดียวเหรอที่คิดอยากกลับมาอยูดวยกันอีก พี่คิดจะปรับตัวเขาหาพาย
อยูคนเดียวรึไง พายตองการอยูกับพี่แบบไหนกันแน”

“ก็...เปลา”

“ทําไมถึงไมพูดอะไรตรงๆ บาง ทีเวลาประชดพี่นะเกงนัก พอถามอะไรตรงๆ แลวตอบไมไดก็ประชดใส พอพี่พูดตรงใสบาง


ก็มองในแงราย แลวอยางนี้ตอไปเราไมตองทะเลาะกันทุกวันเลยรึไง”

“ก็แลวจะมาถามเอาอะไรนักหนาละ ผมเพิ่งกลับมาเมื่อวานเองนะ คุณนั่นแหละตองการอะไรจากผมนักหนา บอกวาจะ


เอาคําตอบตอนเชา ผมก็ตอบไปแลว ยังจะถามอะไรอีกละ เรื่องมากนักผมไมอยูมันก็ไดที่นี่นะ ไปอยูที่อื่นก็ได”

“เฮอะ พายก็ดีแตพูดแบบนี้กับพี่ตลอดนะละ นึกวากลับมาแลวจะดีกับพี่บาง ถาคิดวาพี่เลวนักแลวกลับมาทําไม”ลงทาย


เขาก็ยังไมลืมที่จะถามในสิ่งที่ยังไมไดคําตอบจากผม

“ไมร!ู ถารูก็ไมกลับมาหรอก ไมรูอะไรทั้งนั้นละ ไมรูเหมือนกันวาทําไมตองกลับมาหาคนที่ขมขืนตัวเอง ไมรูวาทําไมตองรัก


คนแบบคุณดวย ไมรูอะไรทั้งนั้น ไมรูๆๆ”

“.......พายไมรูก็เรื่องของพาย แตพี่รูแลววา...พายรักพี่ ไดยินเต็มสองหูเลย พูดแบบนี้ตั้งแตแรกก็จบ”

“หะ!...นี่...บาเอย! ผมไมคุยกับคุณแลว คุณมันบา”สรุปแลวนี่เขาแคตองการยั่วโมโหเพื่อใหผมหลุดพูดออกมาเทานั้นเหรอ


“เดี๋ยวสิ จะไปไหนละ อยูกินขาวดวยกันกอนสิ มื้อแรกของเราเชียวนะ”คราวนี้เขาไมรั้งขอมือผมไว แตลุกขึ้นยืนขวางผม
แทน

“อยากกินก็กินไปคนเดียวเลย ผมจะไปกินบานโนน”

“เดี๋ยวสิ....จูบกอนแลวจะใหไป”

“เกินไปแลวมั้ง เรื่องอะไรผมตองจูบคุณดวย เราไมไดเปนอะไรกันนะ”

“พูดงี้เดี๋ยวก็จับปล้ําซะหรอก”เขาไมพูดเปลา ยังจับแขนผมรั้งเขาไปใกลเขาดวย

“เฮย!”ทาทางจะไมปลอดภัยแลวครับ ผมรีบวิ่งออกจากบานกอนที่เขาจะจับผมเอาไวอีกครั้ง แตเขาคงแคขูถึงไดไมวิ่งตาม


ออกมา ไดยินเพียงเสียงหัวเราะที่ดังเหมือนมีความสุขเสียเต็มประดา

ผมเลือกที่จะเดินออกไปหนารีสอรตเพื่อฝากทองไวกับหองอาหารของที่นี่ ถากลับไปบานใหญมีหวังปาภาไดซักหรือไมก็
ลอเลียนผมอีกแนๆ หลังทานมื้อเชาผมก็เดินเลนรอบๆ รีสอรตจนไปพบ...ประกาศสมัครงาน

“อะไรนะ จะทํางานฝายบุคคล”ปาภาทําหนาตกอกตกใจ ผมไมเขาใจวาทําไมตองตกใจ ก็เมื่อวานปาภาพูดเองวาใหผมมา


ทํางานชวยปา

“ครับ ก็พายเห็นติดประกาศไวพอดี พายนาจะทําไดนะ เงินเดือนพายขอไมเยอะหรอก แลกกันคากินคาอยูแคนั้นพอ ตกลง


นะครับปา”

“ไมรูสิ ไปถามพี่เรานั่น ยังไมไดคุยกันรึไง ไหนรายนั้นบอกวาจะใหพายอยูบานเฉยๆ”

“พายไมไดพิการนะจะไดนอนอยูบานเฉยๆ”

“เรานี่ก็ปากจัดจริงเชียว ไปคุยกับพี่เขาใหรูเรื่องกอน จะเอายังไงก็มาบอก ปามีงานเยอะแยะใหพายชวย ไมตองไปแยง


ตําแหนงที่เขาประกาศเอาไวหรอก”

“งั้นปาใหพายทําอะไรก็ได แตพายถนัดงานบัญชีที่สุดนะครับ”ผมพูดไปก็ไมรูปาภาจะฟงหรือเปลา ทาทางผมคงจะตอง


ไดรับการอนุญาติจากเขากอนจริงๆ
ตั้งแตเชาจนถึงชวงบายผมนั่งๆ นอนๆ อยูที่บานใหญ คนที่คิดวาจะมาตามผมถึงนี่กลับหายเขาไรไปเรียบรอย ผมใชโอกาส
นี้ขอปาภาใหชวยจัดเฟอรนิเจอรไปใสหองเล็กที่บานเล็ก ตอนแรกปาภาก็ไมยอมหรอก แตพอดีพี่นพกับพี่หนอยกลับมา
ชวยพูดใหปาก็เลยยอม ถึงปาภาจะเขาขางเขา แตพี่นพเขาขางผม แคนี้ก็ชนะขาดแลว

“ไมใหทํา”ชนะไดแตเรื่องหอง แตยังไมชนะเรื่องงาน ทันทีที่กลับมานั่งทานขาวเย็นดวยกันพรอมหนา ปาภาก็รีบเลาเรื่อง


งานใหลูกชายตัวเองฟงทันที และเขาก็ลากผมกลับมาบานเล็กทันทีเชนกัน

“จะทํา”

“ไมใหทํา ถาอยากทํางานก็คอยชวยงานพี่ก็พอ”

“ไมเอา ผมจะทํางานที่รีสอรตชวยปาภา”

“พี่ตองคุมงานหลายอยางนะพาย ไหนจะงานกอสราง งานรีสอรต งานในไร แลวยังจะงานที่รวมหุนกับเพื่อนอีก ถาพาย


ทํางานที่นี่ พายคิดวาเราจะไดเจอกันเดือนละกี่วัน”

“นั่นมันเรื่องของคุณนี่ ทีตอนผมไปอยูไกลกวานี้ยังไปใหเห็นหนาไดออกบอย”

“ทําไมพูดยากจังวะ”เขาขยุมผมดานหนาตัวเองเพื่อระบายความหงุดหงิด สวนผมนั่งกอดอกพิงโซฟาเพื่อระงับอารมณ
ตัวเอง

“ก็ถาคุณหัดยอมผมบางมันก็ไมยากหรอก ใจคอจะใหไดดั่งใจคุณทุกอยางเลยรึไง นี่ผมยอมใหคุณมากแลวนะ”

“หรือพายไมอยากอยูใกลๆ พี่”

“ผมกลับมาหาคุณ ผมยอมรับวารักคุณ แตใชวาทุกอยางมันจะงายเหมือนที่คุณคิดนะ ที่ผานมาเราอยูกันในรูปแบบไหน


ลืมแลวหรือไง คุณคิดวาพอผมกลับมาปุบเราจะอยูดวยกันราบรื่นเหรอ ผมก็เปนของผมอยางนี้ คุณก็เปนอยางนี้ ผมยังไม
เห็นวาถาเราอยูดวยกันตลอดเวลา เราจะมีทางไหนไมทะเลาะกันเลย”

“ก็แลวทําไมไมใชเวลาอยูดวยกันใหมากกวาเดิม จะไดคอยๆ เรียนรูกัน ปรับตัวเขาหากัน ไมใชพี่ไมยอมพาย ไมใชวาพี่คิด


แตจะบังคับเอาฝายเดียว แตพายตางหากที่ไมยอมพี่เลย ทั้งที่พายคิดจะกลับมาเริ่มกันใหม แตกลับไมอยากอยูดวยกัน หา
เหตุผล สรางกฏเกณฑตางๆ นานา พี่ตางหากที่ตองถามพายวาพายอยากใหพี่ตามใจพายทุกอยางเลยงั้นเหรอ ถาพี่
ตามใจพาย แลวมันจะตางอะไรกับตอนที่เราอยูหางกันละ”

“………”
“พี่ถามจริงๆ เถอะ ที่กลับมาตอนนี้…เปนเพราะมันก็กลับมาที่นี่แลวใชมั้ย….ถามันไมกลับมา พายจะไมกลับมาหาพี่เลย
งั้นเหรอ”

“....ผมขอโทษ…..แตมันก็เปนอยางที่คุณพูดมาจริงๆ…..ถาผมกลับมาหาคุณกอนหนานี้ ผมก็จะรูสึกผิดกับทิว….ผมไม
ปฏิเสธวาไมรูสึกอะไรกับทิวเลย แตตอนนี้มันเปนไปไมไดแลว….หากทิวยังไมกลับมา ผมก็คง….ยังไมกลากลับมาที่นี่”

“รูมั้ยวาพอไดฟงตรงๆ แลวพี่ก็นึกอยากไปฆามัน”

“ฮึ…ก็ไมเห็นแปลก ปกติคุณก็เปนคนใจรอนอยูแลวนี่”

“เอาเถอะ ถึงยังไงพายก็กลับมา พี่ก็ไมอยากใสใจเหตุผลพายมากนักหรอก ปกติพายก็เปนคนปากแข็งอยูแลว ตกลงเรื่อง


งาน พี่ใหพายลองทํากอนสักพักแลวกัน แตพี่ไมใหทําในออฟฟศนะ พี่ใหพายทําอยูบานนี่ละ คอยตรวจบัญชีของรีสอรตกับ
ไร แลวถาพี่ตองไปทํางานที่ไหนนานๆ พายก็ตองไปกับพี่ อยางนี้ตกลงมั้ย”

“....ถาผมวางก็จะไปแลวกัน”

“เรื่องงานเปนอันตกลงนะ แลวเรื่องหอง แมบอกวาพายจะนอนหองเล็ก ทําไมไมนอนหองเดียวกัน”

“….ผมยังไมพรอม”

“ไมพรอมอะไร ถาพายยังไมอยากมีอะไรกับพี่ พี่ไมทําก็ได ไมเห็นตองแยกหองนอนใหยุงยากเลย”ไมวาผมจะพูดออม


ขนาดไหน เขาก็สวนกลับมาแบบตรงๆ เสียทุกครั้งสินา

“ก็ผมยังไมพรอมนี่ ผมนอนคนเดียวมาตั้งนาน ใหนอนกับคนอื่นมันไมชิน นอนไมหลับ”

“ขนาดนอนไมหลับยังกอดซะแนน”

“นี่!”

“อะไร ก็พี่พูดจริง หรือจะเถียงวาไมไดกอด”

“ไมรูละ ยังไงก็จะแยกหอง พี่นพอนุญาติแลวดวย มีอะไรไปเคลียรกับพี่นพเอง”


“…..ก็ได แยกหองก็แยก แยกไดก็เขาไปนอนดวยได ไมเห็นจะมีปญหาเลย”ดูเอาเถอะ คนแบบเขานี่เหนือคําบรรยายจริงๆ
แลวใชวาที่เขาพูดจะเปนเพียงคําพูดลอยๆ ที่แกลงยั่วโมโหผมเทานั้น เพราะเขาเลนเอากุญแจสํารองไขเขามานอนกับผม
ในหองเล็กหนาตาเฉย ไลยังไงก็ไมไป ไลมากๆ เขาก็ทําทาจะอุมผมใหมานอนใหหองใหญดวยกัน โวยวายมากไปก็เสีย
สุขภาพจิตครับ

“จะนอนขมวดคิ้วทั้งคืนเลยรึไง”เขากดนิ้วนวดหวางคิ้วผมใหคลายออก แตผมอยากใหเขาคลายมือที่กอดเอวผมเอาไว
มากกวานะ

“ก็มันอึดอัดนี่”

“เตียงออกกวาง อึดอัดตรงไหน”

“….ผมยอมแคคืนนี้คืนเดียวนะ”

“อืม”

“….หลับแลวเหรอ”

“…ยัง…มีอะไร”

“…ทําไมคุณรูละวาทิวกลับมาแลว”

“ก็มันโทรมาบอกเอง”

“…เหรอ”ยอมรับวาแปลกใจและตกใจ ผมไมคิดวาสองคนนี้จะคุยกันได แลวทิวไมเห็นบอกผมเลยวาไดคุยกับเขาแลว

“….มันใหจิ๋วโทรบอกพี่หนอยนะ ก็แคเคลียรกันนิดๆ หนอยๆ เหมือนมันจะรูตัววาพายจะกลับมาหาพี่ ก็เลยฝากใหพี่ดูแล


พาย ความจริงไมเห็นจําเปนตองฝาก ในเมื่อพายเปนของพี่อยูแลว”สงสัยเพราะทิวแนๆ เขาเลยรูวาผมกลับมาเมื่อวาน

“เฮอ....คุยกับคุณมากๆ แลวเวียนหัว ผมนอนละ”ผมพลิกตัวนอนหันหลังให

“เดี๋ยว…”เขารั้งไหลผมใหหันกลับไปหา แตผมทําเพียงแคเอียงคอกลับมาเล็กนอย

“มีอะไรอีก”
“เมื่อไหรพายจะเลิกแทนตัวเองวาผม แลวเลิกเรียกพี่วาคุณสักที…พี่ตองรออีกกี่ปเหรอ”น้ําเสียงไมไดประชด แตคงถาม
เพราะอยากรูระยะเวลาจริงๆ แมเคยเลาใหฟงเรื่องที่เขารูเกี่ยวกับความหมายของคําแทนตัวเวลาผมเรียกเขา

“…….แคคําเรียกชื่อ…มันสําคัญกับคุณดวยเหรอ”

“สําคัญ….พี่อยากรูวาตองรออีกนานเทาไหร จากคนที่ไมมีคา ไมนาจดจํา มาเปนคนที่เริ่มจําได...แลวเมื่อไหรถึงจะ


กลายเปนคนสําคัญสักที”

“…..คุณรูมั้ยวาบางทีคุณก็พูดอะไรน้ําเนาเหมือนกัน”หากเขาเห็นหนาผมตอนนี้คงจะคิดวาผมยิ้มลอเขาอยูแนๆ แตเปลา
นะ ผมแค....อยากยิ้ม

“ตองรออีกนานรึไงถึงไมยอมบอก...3 หรือ 5 ป”

“…..นอนเถอะ”ผมปดเปลือกตาลงโดยไมตอบคําถาม

“หรือนานกวานั้น”

“……พรุงนี้คุณตองทํางานแตเชาไมใชเหรอ….….พายเริ่มงวงแลว”

“….ขอบคุณ”ผมไมแนใจวาคําขอบคุณ หรือสัมผัสที่แกม อยางไหนชัดเจนกวากัน เวลาผานไป บางอยางเปลี่ยน และ


บางอยางไมเปลี่ยน ผมตัดสินใจกลับมาเพื่อเริ่มตนใหม แตไมวาอยางไร ผมก็คือผม เริ่มตนใหมในแบบของผม ถึงเราจะ
เคยอยูดวยกันมาชวงระยะเวลาหนึ่ง แตเราไมสามารถกลับมาสานตอชวงเวลาเหลานั้นไดเลย นี่เปนการเริ่มตนใหมสําหรับ
ผมจริงๆ ความรูสึกบางอยางที่ยังคงหลงเหลือกลายเปนเพียงเศษเสี้ยวความทรงจํา ผมไมเจ็บปวดกับอดีตที่ผานมา ไม
คาดหวังกับอนาคตที่กําลังจะดําเนินไป ผมพรอมที่จะอยูกับ…ปจจุบัน….ตอใหการตัดสินใจในครั้งนี้ของผมผิด…ผมก็จะ
ไมเสียใจ…เพราะผมเปนคนเลือกเอง

ตอนพิเศษ...คนยึดติด

เมื่อกอนผมเคยคิดและยึดติดกับสิ่งที่ ตัวเองตองการเสมอ ดวยสังคมรอบขาง การเลี้ยงดู หลายๆ สิ่งปลูกฝงใหผมเปนคนที่


คอนขางเอาแตใจคอนขางมาก อะไรที่อยากได มักไดโดยไมตองรอคอยนาน อะไรที่ไมตองการแลว ผมก็สามารถสละทิ้ง
โดยไมเสียดาย ไมวาจะเปนสิ่งของ หรือ...คน แตมีเพียงคนเดียวที่ไมวาเมื่อไหรก็ไมเคยมีความคิดที่จะทอดทิ้งเลย ไมวา
เมื่อไหรก็อยากที่จะอยูเคียงขาง ไมวาเมื่อไหรก็อยากจะทะนุถนอม มีเพียง...พาย...คนเพียงคนเดียวที่ทําใหผมยึดติดได
ขนาดนี้ ยึดติดโดยไมมีเหตุผล และ...ยึดติดเสียจน...ทํารายลงไป...ดวยมือผมเอง
“กลับ มาทั้งทีทําหนาใหมันดีๆ หนอยสิวะ”ตอพูดโพลงขึ้นมาทําใหผมหลุดจากภวังคความคิดของตัวเอง ไมวาเมื่อไหรก็ไม
ชินสักที...กับการที่ไมมีพายอยูในสายตา

“พายเปนไงบางวะ”

“ก็เหมือนเดิม ทํางานอยูเชียงรายโนน ไมคอยลงมาเที่ยวหรอก ไอจิ๋วตองลากกูไปเยี่ยมประจํานะ”

“.....แลว...”ผมละคําพูดไวเพราะไมอยากจะเอยชื่อคนๆ นั้นออกมา ตอเองก็เขาใจวาผมถามเรื่องอะไร

“ก็ เหมือนเดิมวะ ตามเฝายิ่งกวาหมาหวงกางอีก พวกกูเคยไปเจอมันนั่งเฝาพายอยู แตพายไมไดเขาไปคุยอะไรกับมัน


หรอกนะ ใจแข็งฉิบหาย กูแมงสงสารเลย”

“...เฮอ.....”ผมถอนหายใจยาวๆ ใหกับความรูสึกอึดอัด จะวาไปผมก็เห็นใจเขาอยู แต...การที่พายยังไมมีคนพิเศษขางกาย


มันก็ทําใหผมรูสึกดี จะวาเห็นแกตัวก็ใช

“แตกูก็สงสารมึงนะ เมื่อไหรจะตัดใจสักทีวะ หลายปแลวนะเวย”

“ทําไดงายๆ เหมือนปากพูดก็ดีสิวะ แมง....คิดถึงเวย”

“พอๆ บาไปแลวมึง ตกลงคืนนี้ไปนอนกับกูกอนใชมั้ย”ตอสายหนาพลางพูดดวยน้ําเสียงเบื่อหนายกับอาการของผม

“เออ แลวพรุงนี้กูยืมรถไปทําธุระดวย”

“แลวคืนนี้เอาไงวะ ใหนัดพวกนั้นเลยเปลา”

“ยัง วะ กูเหนื่อยๆ อยู ไวพรุงนี้คอยนัดกัน แลวนี่จะแวะไปรับไอจิ๋วกอนเปลา จะไดไปหาอะไรกินตอเลย”ผมดีใจที่ไดกลับมา


บานอีกครั้งนะครับ แตพอไมเห็นคนที่อยากเจออยูในสายตา มันก็อดที่จะรูสึกหงุดหงิดไมได

“มัน จะกลับเอง แมงเปนอะไรของมันไมรู ไมยอมใหกูไปหาที่บริษัทเลย เวลากูไปรับก็ตองนั่งรอในรถ สวมเขาใหกูหรือ


เปลาก็ไมรู ชวงนี้กูยังรูสึกคันๆ หัวอยู”

“ประสาทใหญแลวมึง คบกันมาตั้งกี่ป มึงก็อยาขี้หึงใหมากนัก เดี๋ยวไอจิ๋วมันจะเบื่อเอา”


“รุน นี้ไมมีเบื่อหรอกเวย เพื่อนมึงลีลาเด็ดแคไหนไมรูรึไง ฮาๆๆๆ”ไอตอพูดเองหัวเราะเองเสร็จสรรพ คูนี้เวลามันแรงใสกัน
แลวผมละสงสาร แรงกันทั้งคู ไอจิ๋วก็ตัวนิดนึง เจอตอจับเขยาทีสองทีก็แทบคอหลุด พอหายโกรธก็ตองมานั่งนวดยาทํา
แผลใหกันประจํา ผมวาคูนี้ถาจะเลิกกันคงมีใครสักคนตองตายนั่นละ

กอนที่ผมจะ ตัดสินใจกลับมาเมืองไทย ผมเคยคิดวาตัวเองเริ่มจะทําใจไดบางแลว แตความเปนจริงมันไมใชเลย พอรูสึกตัว


วาไดกลับมายืนอยูบนแผนดินเดียวกัน เห็นบรรยากาศที่ยังคลายคลึงกับวันเกาๆ คําวา..คิดถึง..คงนอยเกินไป แตถึง
อยางไร ความทรมานมันก็ไมเทากับวันแรกที่ผมเดินออกจากชีวิตพาย ในตอนนั้น...แทบจะคิดไมออกเลยวาจะมีชีวิตอยู
ตอไปไดยังไง แตเมื่อผานชวงเวลาแสนสาหัสตอนนั้นมาได ผมกลับยอนคิดไปถึงวันเกาๆ และนึกโทษตัวเองอีกครั้งกับสิ่งที่
ทําลงไปทุกอยาง บางเวลาผมหวนเสียใจกับเรื่องในอดีตที่ไดทําลงไป และบางเวลาผมฝนถึงอนาคตที่ไมมีทางเปนจริง

“ไมคิดจะโทรไปหาพาย หนอยเหรอทิว พายรูแลวใชมั้ยวามึงกลับมา”จิ๋วถามขึ้นจากฝงตรงขาม หลังจากที่ตอพาผมกลับไป


เก็บของที่คอนโดฯ และเปลี่ยนเสื้อผาชุดใหม เพียงไมนานจิ๋วก็กลับมาถึงแลวก็เสนอใหเราออกมาหาอาหารทานดวยกัน
ขางนอก

“เออ บอกไวตั้งแตอาทิตยกอนแลว”ผมคุยกับพายทางเอ็ม แตไมไดระบุวันที่จะมาแนชัด

“แลวจะไมไปหาเนี่ยนะ”

“.....กู....ก็อยากไปนะ”

“ไป มั้ยละ กูพาไป นั่งเครื่องแปบๆ ก็ถึงแลว”จิ๋วทําทาทางตื่นเตนเสียจนผมหงุดหงิด ดูก็รูวามันแคอยากหาเรื่องไปเที่ยว


ตางจังหวัด

“เอาไวกอนแลวกัน มึงยังติดตอกับพวกนั้นอยูใชมั้ย”

“พวกพี่หนอยนะเหรอ ก็นานๆ คุยที”

“มีเบอรมันมั้ยวะ”

“มี มึงจะเอาเหรอ จะนัดตอยกันเหรอ กูไมพรอมนะ ชวงนี้ไมคอยไดออกกําลัง”จิ๋วพูดพรอมลูบทอนแขนไรกลามของตัวเอง

“ไอเวรนี่ ไอตอดูเมียมึงนะ กวนตีน กูอุตสาหพูดเปนการเปนงาน”

“เอา ก็มันไมอยากใหมึงเครียดไง แหม คิดมากไปได วาแตจะใชอาวุธมั้ยวะ เดี๋ยวกูหาให”ไอตอก็เขากับเมียมันเปนปเปน


ขลุย
“พวกมึงนี่ เห็นกูทุกขละมีความสุขกันใหญเลยนะ นี่เหรอวะเลี้ยงตอนรับ โคตรซึ้งน้ําใจเลยวะ”

“เออ เวย เดี๋ยวนี้มีงอน แลวมึงจะเอาเบอรเขาไปทําไมละวะ เมื่อกอนเปนยังไงก็รู จะไมใหพวกกูคิดวานัดตอยกันไดไง”ตอ


พูดมาก็ถูก แตเรื่องมันผานมานานแลว แลวพวกผมก็คงไมทําอะไรแบบนั้นหรอก ถึงทําไปก็ใชวาจะไดพายกลับคืนมา

“เออนะ เรื่องของกู แลวพรุงนี้ก็เตรียมพากูไปหาพายดวย ไมตองเสือกโทรไปบอกละ กูจะแคไปแอบดูหางๆ เทานั้น”พวก


มันสองคนเลนพูดเปาหูผมทั้งวัน จะใหผมอยูเฉยๆ ไดยังไง ผมยังไมพรอมจะคุยกับพายตอหนา แตก็ใชวาจะไมอยากเห็น
หนานี่นา

“พรุงนี้มึงไปคนเดียวเถอะ พวกกูยังตองทํางานกันนะเวย”ไอตอทาทางไมอยากไป ไอนี่มันไมชอบเดินทางมาแตไหนแตไร


แลว

“พรุงนี้วันศุกรไมใชเหรอวะ ก็ไปตอนกลางคืนก็ได”

“วันเสารไอจิ๋วทํางานเวย”

“ไมเปนไร เดี๋ยวกูลาก็ได งานไมคอยยุงเทาไหร”

“งานไมยุงแลวทําไมกลับดึก มึงนี่ชอบโกหกกูนะ”คุยดีๆ กันไดไมเทาไหรก็หาเรื่องทะเลาะกันอีกแลว ไอตอนี่มันชอบจับผิด


จิ๋วจริงๆ

“บอกวาไมคอย ไมใชบอกวาไมยุง มันก็ยุงเปนวันๆ ไปสิ จะใหยุงทุกวันเลยรึไง”

“นั่นๆ แถอีก มึงดูมัน แมงมีพิรุธตลอด”

“โหย ไอคนดี สามีสุดประเสริฐ ไมเคยเลยเนอะที่จะโกหกใหกูจับไดเนี่ย เดี๋ยวคอยดูนะมึง กูจับไดเมื่อไหรวามึงแอบซุกเด็ก


ไวหัวมึงจะแบะ เอาใหนอนหยอดน้ําขาวตมเลยมึง”

“หัวกูแบะเพราะเขาที่มึงสวมใหแหละ ไมตองทําเนียนเปลี่ยนเรื่องเลย แมงเอะอะก็จะทํารายรางกายกู ถากูนอนหยอดน้ํา


ขาวตม มึงก็คนหยอดปอนกูนั่นแหละ”

“ใหกิ๊กมึงมาปอนดิ”

“ไมมีเวย มีแตเมียเกรียนๆ อยูคนเดียวนี่แหละ”


“มึง สิเกรียน”ตอพูดจบจิ๋วก็สวนกลับทันที คูนี้มันก็อยูกันไดนะครับ เถียงกันไปเถียงกันมา แตก็ตักโนนปอนนี่ใหกันไมหยุด
ตางคนตางระแวงกัน อีกคนก็เพิ่งรูตัววารักมาก สวนอีกคนกลับไมมั่นใจวาคนที่แอบรักจะมาจริงจัง ดูไปแลวก็อดยิ้มกับ
ทาทางพวกมันไมได เห็นเพื่อนมีความสุข เราก็มีความสุขไปดวย และเพราะอยางนี้...ผมถึงอยากเห็นความสุขของพาย

รุง เชาผมขับรถไปสงมันสองคนที่ทํางาน แลวก็ตรงกลับบานใหครอบครัวเห็นหนา ซึ่งความจริงพวกเขาก็ไปเยี่ยมผมบอยๆ


อยูแลว เลยไมคอยเหอที่ผมกลับมาบานสักเทาไหร จากนั้นก็ไปทําธุระเรื่องเอกสารเกี่ยวกับงานของที่บาน แลวชวงเวลา
หลังจากจัดการธุระในสวนของวันนี้เสร็จผมก็แวะเขาไปขับรถเลน ในมหาฯลัย หอพักเกาของพาย คอนโดฯ ที่พายเคยไป
อยูกับเขาคนนั้น และคอนโดฯ เกาของผม มันเหมือนกับเรื่องราวตางๆ เพิ่งผานไปเมื่อวาน ภาพและเสียงยังคงแจมชัดทุก
อยาง น้ําเสียงนุมๆ แตแฝงความรั้นของพาย ฝามือขาวๆ ที่ไมไดออนนุมจนนาหลงใหลเหมือนผิวผูหญิง แตเวลาสัมผัส
กลับรูสึกดีเสมอ......ชวงเวลาเหลานั้น....เปนสิ่งเดียวที่ ทําใหผมทนกับความเหงาเมื่อตองอยูคนเดียวได

หลังจากตามหาวัน เวลาเกาๆ ใหพอไดชุมชื่นในใจผมก็กลับมาที่หองของตอ เบอรโทรศัพทที่จิ๋วจดใหยังคงวางอยูหนาผม


ไมใชวาผมไมกลาคุยกับเขา เพียงแต...ผมยังไมกลาปลอยพายไปจริงๆ อยางนอยๆ ตอนนี้ผมก็รูวา ผม...ยังสําคัญกับพาย
...ไมนอยไปกวาคนอื่นเลย แต....ก็ยังไมใชความรักอยางที่อยากใหเปน ผมไมใชคนดีที่เมื่อผิดหวังจากพายแลวจะจมอยูกับ
ความทุกขจนไมยุงเกี่ยว กับคนอื่น ผมก็แคผูชายธรรมดา มีความตองการเหมือนคนอื่น แตก็แคผานมาผานไป ไมเคยได
คบกับใครจริงจัง สวน...เขา....จากที่ฟงสองคนนั้นเลามา เหมือนจะคอยเฝาดูแลพายอยูหางๆ แตผมก็ไมรูอยูดีวา...เขา
จริงใจกับพายมากแคไหน

“สวัสดีครับ”เสียงทุมดังกองจากปลายสาย ไมรูทําไมแคไดยินเสียงผมก็รูสึกคิ้วกระตุก และอยากกดวางทันที

“สวัสดีครับ ผมทิวเพื่อนพาย หวังวาคุณคงจําผมได”

“ออ......” คําขานรับแบบนี้ผมตีความวาเขาจําไดแลวกัน แตใหตายเหอะ ทําไมผมถึงรูสึกไมถูกชะตาไดมากขนาดนี้นะ ใน


หัวแทบจะลืมเรื่องที่อยากพูดเพราะมีแตคําดาผุดขึ้นมาเต็มไปหมด

“พอจะวางคุยกันสักหนอยมั้ย”

“มีอะไรก็วามา หรือจะนัดเจอ”

“ไมตองละ ผมไมอยากเจอคุณ พอๆ กับที่คุณก็ไมอยากเจอผมนั่นละ ผมแคอยากคุยอะไรดวยนิดหนอยแคนั้น”

“ก็พูดสิ”

“คุณยังรักพายอยูหรือเปลา”
“เสือกอะไรดวยละ”แมง...ผมจะคุยกับมันรูเรื่องมั้ย ดีนะไมนัดเจอ มีหวังไดตอยกันอยางที่ไอสองคนนั้นหวังแนๆ

“เออ ไมไดอยากเสือกหรอก แคถามดู ก็แคอยากรูวาคนอยางคุณนะมีคาพอจะใหพายไปคบดวยหรือเปลา ทําแตละเรื่อง


ดีๆ ทั้งนั้น”

“มึงก็ไมไดดีกวากูหรอก แลวนี่มึงกลับมาแลวเหรอวะ ไดขาววาไปอยูเมืองนอกนี่หวา”

“เพิ่งกลับเมื่อวาน บอกพายไปแลวดวย”

“แลวไง”

“ก็ไมไง ก็แคบอก แลวตกลงที่กูถามนี่จะตอบไดยัง”

“ไมรักกูจะหนาดานตื้อขนาดนี้เหรอ ถามเหี้ยไรไรสาระ มีอะไรก็รีบๆ พูดมา”

“หา แมงกวนตีนวะ มึงก็นาจะเดาไดไมใชรึไงวาที่พายไมยอมเจอมึงเปนเพราะกูนะ แคนี้ก็ตองใหกูพูด เวรเอย อุตสาหจะ


พูดดวยดีๆ ผูใหญเหี้ยอะไรวะ”ผมรูวาเหตุผลสวนหนึ่งพายไมยอมเจอมัน และไมพูดกับมัน เปนเพราะรูสึกผิดเรื่องผม พาย
คงรูสึกแยถาผมไมกลับมาที่นี่อีกเพราะพาย และคงรูสึกแยถาตัวเองมีความสุขกับคนที่ผมเกลียด ในขณะที่ผมตองทนอยู
โดยไมมีใครที่นั่น

“เออ ก็ผูใหญเหี้ยๆ นี่แหละ รูวาตัวเองเปนสาเหตุใหพายไมยอมเจอกูก็ยังเสือกโทรมาหากูอีก แลวยังหวังจะใหกูพูดดีๆ


ดวยรึไง”เออ ที่มันพูดก็ถูกแฮะ

“เออ! แตใชวาจะเปนเพราะกูคนเดียวนี่ เพราะสันดานมึงดวยนั่นแหละ พูดเหมือนตัวเองทํากับพายดีนักนี่ แมงก็เลวไม


ตางกันหรอกวะ”

“เรื่องของกู แลวนี่มึงนัดเจอกับพายหรือเปลา”คําถามสุดทายฟงดูคอนขางหาเรื่อง ถาผมตอบไปวานัดเจอ มันคงนัดจะ


ตอยกับผมจริงๆ

“เปลา กูยังไมพรอม”

“ออน ฉิบหาย ทําตัวใหคนอื่นเขาสงสารอยูได ไมตองเจอทั้งชาติละดีแลว คนเขาไมรักก็ตัดใจไดแลวมึง”แมงมันก็พูดไดสิ ดู


ยังไงก็รูวาพายรักมันแนๆ แตจะมากนอยแคไหนผมก็เดาไมออก
“เออ! งั้นเดี๋ยวกูนัดเจอพรุงนี้เลยเปนไง เผื่อพายเห็นหนากูแลวจะเปลี่ยนใจ”

“ฝนอยูเหรอมึง”

“แลวมึงไมฝนหรือไง เที่ยวตามไปเฝาอยูได ไมกลัวคนเขารําคาญรึไงวะ”

“ถา รําคาญก็คงไลกูไปนานแลว เขาหายโกรธกูนานแลวเวย ที่เขาไมยอมกลับมาหากูก็เพราะรูสึกผิดเรื่องมึงนั่นละ แมง


เหี้ยไรไมรู เห็นอยูตรงหนาเสือกเขาไปคุยไมไดเปนปๆ”

“พายทําอยางนี้เพราะเขาแครกูไง แคนี้ก็คิดไมไดเหรอวะ”

“เรื่องนั้นรูแลวเวย กูไมไดโง แลวเรื่องที่พายเคยบอกรักกูนะมึงรูหรือยังละ”

“.......พูดจริงพูดเลนวะ”แมงเอย ผมก็รูอยูแลววาพายตองรักมันบาง แตไมคิดวาพายจะบอกมันใหไดใจแบบนี้

“กูเพื่อนมึงหรือไงจะไดมาพูดเลนดวยนะ”

“แมง....ผูใหญเหี้ยอะไรวะ เอาชนะแมกระทั่งเด็ก ขอใหพายไมยอมคุยกับมึงตอไปสักหลายๆ ปเลยมึง”

“ไม ทันแลวเวย มึงกลับมาแลว กูก็จะไดรีบไปรับเมียกูกลับบาน แคนี้นะไอเด็กเวร ไมตองเสือกโทรมาอีกละ”มันพูดจบก็


วางสายไป แตละคําพูดของมันนี่ไมไดยอมผมที่เด็กกวาเลยแมแตนอย ไมมีการพูดจาสั่งสอนแบบผูใหญสอนเด็ก ทั้ง
น้ําเสียงและคําพูดแสดงถึงความเปนศัตรูกนั เหมือนอยางเคย แตไมรูทําไมที่ลึกๆ แลวผมรูสึกวามันก็ไมไดมีเจตนารายแฝง
มาดวยเหมือนเมื่อกอน อารมณเหมือนเพื่อนดากัน แต....เพื่อนนิสัยแบบนี้เห็นทีคงตองขอบาย

ตก เย็นผมไปรับตอกับจิ๋วที่ทํางาน จากนั้นเราก็รีบกลับมาเก็บเสื้อผาเล็กนอยแลวออกจากคอนโดฯ เพื่อไปขึ้นเครื่องใหทัน


ไฟลทที่จิ๋วจองไว ระยะเวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงรายไมไดนานเหมือนที่คิด แตก็ยังเร็วเกินกวาจะเตรียมใจ เพราะ
ทันทีที่เช็คอินเขาโรงแรม สองคนนั้นก็เชารถขับพาผมมาแอบมองพายที่รานอาหาร ซึ่งเราเลือกมุมที่คอนขางลับสายตา
ตามทีจ่ ิ๋วเลา และที่พายเคยเลาใหฟง หากวันไหนงานไมเยอะหรือเครียดจากงานที่ทําอยู พายก็จะออกจากหองทํางาน
เล็กๆ ดานหลังรานมาชวยพนักงานคนอื่นๆ

ชั่ว ขณะที่เห็นพายเดินไปตอนรับชาวตางชาติดวยใบหนายิ้มแยมแจมใส ทําใหผมอดยิ้มตามไมได รูสึกเหมือนหัวใจเตน


แรงจนตัวแทบสั่นไปดวย ไมกลาจะหยิบจับอะไรเพราะกลัวจะทําหลน รอยยิ้ม ทาทางการเดินการพูดคุย พายยังคงเหมือน
ในความทรงจําผมไมมีผิด หากแตตอนนี้ดูจะสดใสกวาแตกอน ผิวพรรณก็ขาวขึ้นกวาเดิม รูปรางเพรียวบางอยางไรก็ยังคง
เปนอยางนั้น เสนผมสีดําที่เจาตัวไมเคยยอมกลับกลายเปนสีน้ําตาลไหม ขับใหผิวหนาดูขาวกระจางกวาเดิม นาเสียดายที่
ผมจําเปนตองนั่งหางจากบริเวณนั้นเลยทําใหไมไดยินเสียงของ พาย แต....แคนี้...ก็เพียงพอแลว พาย...ดูมีความสุขกวา
เมื่อกอนมาก หากจะบอกวาพายเปลี่ยนไปก็คงไมเชิง แค...เหมือนจะเขมแข็งขึ้น แลวก็ราเริงขึ้น พายไมใชเด็กมหาฯลัยที่
ตองคอยเกาะติดผมแจเพื่อไปเรียนวิชาตางๆ ไมใชเด็กคนที่คิดบนและทําหนาพะอืดพะอมเวลาไดกลิ่นบุหรี่จากตัวผม
ไมใชคนที่ตื่นเตนเวลาผมแนะนําใหรูจักเพื่อนใหม พาย...ไมใชเด็กคนที่จะคอยยึดผมเปนที่พึ่งอีกตอไปแลว

นาแปลกที่ ผมไมไดรูสึกแย หรือเสียใจเลยที่รูสึกแบบนี้ ผมกลับรูสึกดีที่เห็นวาพายเปลี่ยนไปอยางที่จิ๋วและตอเลาใหฟง


พายในตอนนี้คงไมใชคนที่ใครๆ จะมาหลอกลวงหรือทํารายไดงายๆ อีกแลว ผมไมรูวานั่งมองพายแลวยิ้มอยูนานแคไหน
การที่แคเห็นคนที่เรารักมีความสุข เราก็มีความสุขไปดวย คงเปนอาการของผมตอนนี้ ผมแทบไมรูสึกตัวเลยวากําลังยิ้ม
และรองไหในเวลาเดียวกัน ถึงจะนาดีใจแคไหนที่เห็นพายสบายดีและมีความสุข แตมันก็นาเศราที่ผมยังไมกลาพอจะพบ
หนาพายโดยตรง มันนาเศราเมื่อนึงถึงคําพูดที่วา ‘เห็นอยูตรงหนา แตกลับเขาไปคุยไมได’ และมันเศรายิ่งกวา...เมื่อไดแลว
รูวา....ผมยังเปนคนที่ยึดติดคนเดิม ....ยังคง......รักพายเหมือนเดิม....ไมไดนอยลงเลย.....

+++End+++

ตอนพิเศษ...หวงนิดหนอย

ผมเคยคิดวาชีวิตการทํางานคงจะลําบาก เรื่องปรับตัวจากความเคยชินของการเปนนักศึกษา มาเปนคนทํางานเฉพาะ


ชวงแรกๆ หลังเรียนจบใหมๆ แตนี่ผมผานชีวิตคนทํางานมาแลวสามป ตอนนี้ก็ยังตองพยายามปรับตัวอยู ปญหาหลักๆ ที่
ทําใหตองปรับตัวกับทําหนาที่ใหมครั้งนี้ไมใชเพราะไมคุนเคยกับงาน ที่ตองรับผิดชอบ แตเปนเพราะ....
“พี่พายคะ คุณตั้มฝากบอกวาคืนนี้ตองเขากรุงเทพฯ คะ ใหพี่พายรีบกลับบานตอนนี้เลย”
“อะไร ฝากบอกเมื่อไหร แลวทําไมไมโทรมาบอกพี่เองละ”ผมละสายตากจากแฟมเอกสารเพื่อเงยหนามองหญิง สาวที่ยืน
ชะโงกหนาขามพาทิชั่นกั้นโตะทํางาน
“ฝากนาชมมาบอกคะ นาชมเอาไวนจากไรมาสงโรงครัวเมื่อกี้”
“อืมๆ งั้นเดี๋ยวแอนเอาใบสั่งซื้อไปเช็คพี่อีกรอบแลวกัน พี่เช็คคราวๆ แลว ถาไมมีปญหาอะไรก็เอาไปใหปาภาเซ็นตไดเลย พี่
กลับกอนแลวกันนะ”ผมยื่นเอกสารใหแอนไปทําตอ แลวถอนหายใจหนักๆ กอนเดินออกจากโตะทํางานที่แยกออกมาจาก
พนักงานคนอื่น และคนอื่นที่วายังคงนั่งทํางานกันอยู บางคนตะโกนบอกลาพรอมสั่งของฝากกัน แตสวนมากจะตะโกนแซว
แลวตามดวยเสียงหัวเราะเมื่อเห็นหนาบอกบุญไมรับของ ผม

หลังจากที่เถียงกันครั้งใหญเรื่องที่ผมจะทํางานชวยปาภา แทนที่จะคอยนั่งๆ นอนๆ และตามเขาไปตามที่ตางๆ อยางที่เจา


ตัวเสนอ ผลสรุปคือเขาอนุญาติใหผมทดลองทํางานประจําในตําแหนงกิตติมศักดิ์...เลขา ประธาน หรือก็คือตัวแทนปาภา
แตหลักๆ แลวผมมักจะคอยตรวจสอบเรื่องรายรับ รายจาย การสั่งซื้อ ซึ่งมีนาสายใจ ผูชวยคนเกงของปาภาคอยสอนงาน
ให การเรียนงานของผมเปนไปอยางชาๆ เพราะลูกชายเจาของรีสอรตคอยแตจะลากผมไปโนนมานี่โดยมีคนสนับสนุนคือ
ปาภา และแมของผม

“นี่คุณ!”หลังจากเปดประตูบานเขามาเห็นเงาตะคุมๆ นั่งอยูบนโซฟา ผมก็เตรียมโวยเรื่องที่บังคับใหผมตามเขาไปกรุงเทพฯ


โดยไมใหเตรียมตัวลวงหนาอีกแลว แตพอเห็นสีหนาแปลกๆ ของคนที่นั่งกอดอกแหงนหนาพาดลําคอกับเบาะโซฟาก็ตอง
เปลี่ยนคําพูดใหม
“นี่...เปนอะไร”ผมเดินไปยืนเบื้องหนาคนที่นั่งหลับตาอยู
“....ปวดหัว”เสียงแหบพราที่ไดยินเปนการยืนยันไดวา...เขาปวย และยืนยันไดอีกอยางวา...คนบาก็ปวยเปน
“เปน ไขเหรอ ตัวก็ไมรอนนะ”ผมยื่นมือไปสัมผัสหนาผากเบาๆ แลวรีบชักมือกลับ ถึงเราจะอยูดวยกันมาเดือนกวา แตการ
สัมผัสกันบางครั้งผมก็ยังไมชิน และถึงจะบอกวาไมชิน ใครอีกคนก็ยังคงหาโอกาสสรางความเคยชินใหผมบอยๆ เทาที่จะ
ทําได แตมันก็แคจับมือ โอบ นอนกอดบางบางครั้ง และก็...จูบนิดๆ หนอยๆ...แค..นั้น
“ปวดหัวเฉยๆ พายไปจัดกระเปาไป จัดใหพี่ดวย เอาสูทดวย”
“ไปกี่วันละ แลวทําไมไมบอกลวงหนา พายยังเคลียรบัญชีใหปาภาไมเสร็จเลย”
“ขี้บนวะ ไปจัดกระเปากอน คางสักสามวัน พี่ใหไอชายมาขับรถให มันนั่งรอขางนอกนานแลว”
“อืมๆ” ผมเดินเขาหองนอนใหญแลวหยิบเสื้อผา ของใชสวนตัวจัดใสกระเปาเดินทางใบใหญ เดินออกมานอกหองคนตัวโต
ยังนั่งแหงนคออยูทาเดิม
“เก็บของเสร็จแลว จะไปเลยรึเปลา”พอผมพูดจบเขาก็ลืมตาขึ้นกอนจะลุกขึ้นยืนสะบัดแขนสองสามที แลวเดินหิ้วกระเปา
ออกไป สวนผมก็ปดไฟในบานปดประตูกอนจะขึ้นรถไปนั่งที่เบาะดานหลังคนขับ สวนเจาของรถเอนเบาะหนานอนลง
เรียบรอยแลว
“ปาภารูหรือยังวาจะเขาจะเขากรุงเทพฯ คืนนี้”
“รูแลวครับ นายไปบอกแลวเมื่อตอนบาย”
“แลวเจานายเราไปทําอะไรมาเมื่อคืน อยูๆ วันนี้ก็ปวย”เมื่อคืนเขาไมไดกลับมานอนบานครับ แลวผมก็ไมไดถามใครดวยวา
เขาหายไปไหน
“วิ่ง วุนตั้งแตเมื่อวานแลวครับ ไมรูใครแอบยาไปราดไรขาวโพด ไอปอมมันเห็นมอเตอรไซตจอดอยูหนาไรตอนหัวค่ํา มันก็
สงสัยวาใครมาทําอะไร พอจะจอดรถลงไปดูไอพวกนั้นก็วิ่งออกมาขี่หนีไปพอดี ราดยาไมเทาไหรนะครับคุณ จุดไฟเผาดวย
ดีนะที่ตนมันชื้นฝนเลยไมคอยติดไฟ ไมงั้นละยุงบรรลัยเลย”
“แลวปอม มันไมเห็นหนาเหรอวาเปนพวกไหน คนแถวนี้รึเปลา”แรกๆ ผมก็แปลกใจนะครับกับเหตุการณแบบนี้ คิดวามีแต
ในละคร ถึงจะไมรายแรงอะไรมากแตก็ทําใหวุนวายพอสมควร แลวคนที่ทําสวนมากจะไมใชคนของไรอื่นหรอกนะครับ แต
เปนศัตรูคนในไรนี่ละ บางทีไปมีเรื่องกันขางนอก อีกฝายนึงแคนเลยตามมาหาเรื่อง หรือบางทีก็พวกชอบเลนแผลงๆ แค
นั้นเอง
“เห็น มันเลาวาใสหมวกกันน็อคปดหนาปดตา ทะเบียนรถก็ไมใชคนจังหวัดเราดวย ไอปอมมันเห็นควันไฟเลยไมไดขับตาม
เมื่อคืนก็พากันไปเฝาที่ไร ตองรื้อขาวโพดทิ้งไปเปนแถบ นายบอกวาตองปรับหนาดินดวย”
“ตองทําขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ครับ มันเลนราดเสียชุมดินเลย นายบอกถึงลงตนใหมก็อาจเจอสารตกคาง เดี๋ยวเกษตรมาตรวจจะมีปญหา”ตอนนี้
ผลผลิตอะไรที่ขึ้นชื่อวาปลอดสารพิษกําลัง ขายไดราคาดี แตการตรวจสอบก็เขมงวดมากเชนกัน
“อืม แลวนี่นายเราจะไปกรุงเทพฯ ทําไมละ”ชายมันคอนขางสนิทกับเขาครับ เปนลูกนองคนสนิท ลูกปาแมบานที่บานใหญ
นอนที่บานใหญ เวลามีอะไรมันก็จะคอยวิ่งชวยคนโนนคนนี้ ตอนนี้ปดเทอมเลยวาง ถาเปดเทอมมันก็ไปเรียน อีกปก็คง
เรียนจบแลว
“ไมรูครับ เห็นพวกที่ไซตงานโทรมาเมื่อเชา แลวคุณนัทก็โทรมาดวย”ไซตงานที่ปอมพูดหมายถึงงานรับเหมากอสราง อีก
หนึ่งในธุรกิจของครอบครัวนี้ แตเขาเปนคนดูแลตรงนี้แทบจะทั้งหมด เพราะวาพี่นพคอยดูแลรีสอรตใหอยูแลว และอีกไม
นานคงเขามาดูแลแทนปาภาไดทั้งหมด สวนปาภาก็คงปลดละวางตัวเองไปนั่งเลี้ยงหลานแนๆ

กวาที่เราทั้งหมด จะมาถึงบานพักก็เกือบสองทุม บานที่เรามาพักอยูในหมูบานจัดสรรที่เขาเคยรับผิดชอบเรื่องการกอสราง


เมื่อหลายปกอน และที่สําคัญบานหลังนี้คือบานที่เขาเคยจับผมมานอนที่นี่ ถึงจะแคไมกี่ชั่วโมงและยังตกแตงไมเสร็จ แต
ไมเคยลืม บานนี้เขาซื้อไวสําหรับใหคนในครอบครัวมาพักเวลาตองเขามาในกรุงเทพฯ แตสวนใหญก็มีแคผมกับเขาที่มาพัก
ประจํา ลาสุดก็เมื่อสองสัปดาหกอนเอง
“นี่คุณ จะกินอะไร จะใหชายออกไปซื้อ”ผมตะโกนถามคนที่เดินเขาบานแลวตรงดิ่งขึ้นหองนอน
“ไม กิน จะนอนแลว”เขาหันมาตอบแลวก็เดินตอไป เปนอยางนี้ประจําแหละครับ ใหผมมาดวยแตมาถึงก็นอนๆๆ
ทํางานๆๆ แลวจะใหผมมาทําไมก็ไมรู งานการผมก็คางเต็มไปหมด

ผมเดินไปบอกชายใหไปซื้อกับขาวมาสักสามสี่ อยาง สวนตัวผมก็เดินเขาไปเช็คของในครัว มีปลากระปองสามกระปอง


มามา โจกซอง ขาวสารยังเหลืออีกนิดหนอยพรุงนี้เชาก็กินโจกซองก็แลวกัน จัดแจงตั้งหมอหุงขาว ปดกวาดครัวเล็กนอย
แลวเอาน้ําเปลาแชตูเย็นแลวเสียบปลั๊กใหม ตั้งเตาทําขาวตม แลวก็แกะปลากระปองใสชามเล็ก...อาหารสําหรับคนปวย
กลาง เตียงขนาดใหญในหองนอนมีรางสูงใหญนอนหงายเต็มพื้นที่ เสื้อผาที่ใสมาถูกถอดแลวเปลี่ยนเปนชุดนอนเรียบรอย
ผมเดินไปวางถาดขาวตมไวบนโตะเล็กขางหัวเตียง จากเดิมที่ไมมีไข ตอนนี้ไขขึ้นสูงเสียแลว
“นี่คุณ ลุกมากินขาวกินยากอน”ผมสะกิดไหลเบาๆ แตเขาเบี่ยงตัวหนีไปอีกทางพรอมครางฮึมฮัมในลําคอ
“อือ”
“อือก็ลืมตาสิ”
“ฮื้ออ”
“มา ฮื้ออะไรเลา กินขาวกินยาจะไดนอน พรุงนี้ตองไปไหนกี่โมงเนี่ย จะไปไหวเหรอ”ผมพูดไปก็กลั้นหัวเราะไป เปนครั้งแรก
ที่ตองดูแลเวลาเขาปวยแบบนี้ ปกติถาเขาไมสบายเขาจะนิ่งๆ หรือไมก็นอนทั้งวัน ตื่นมาก็หาย คราวนี้คงหนักกวาทุกที
“ขี้บนจังวะ ไปไหนก็ไป”เขาลุกขึ้นนั่งแลวโบกมือไลผม ทําเหมือนผมอยากอยูใกลงั้นนี่ อุตสาหทําขาวตมใหกินยังมาทํา
อยางนี้ใส นิสัยเสียจริงๆ
“ทําเหมือน อยากอยูใกลงั้นนี่ ทีหลังไมตองพามาอีกเลยนะ”ผมพูดจบก็เดินออกจากหองลงมาขางลาง ชายตั้งสํารับรอไว
หนาทีวีเรียบรอยแลว
“นายละครับ”
“กินขาวตม อยูขางบน คืนนี้ชายไปนอนหองใหญนะ เอาที่นอนปกนิกไปปูนอน เผื่อช็อคตายดึกๆ จะไดไปสงโรงพยาบาล
ทัน”ผมนั่งบนพื้นฝงตรงขามชายเตรียมลงมือกิน ถาชายมันไมพูดอะไรออกมาซะกอนนะนะ
“ทะเลาะกันอีกละสิ คุณพายทําไมไมพูดกับนายดีๆ บางนา นายออกจะรักคุณพาย ถึงผมจะไมไดชอบผูชายพวกคุณ แตก็
เห็นนายรักคุณไมตางจากหญิงชายคูอื่นเลยนะครับ คุณพายนาจะเอาใจนายหนอย นายไมสบาย คุณนาจะนอนเฝานาย
สิ”ชายพูดจบ ผมแทบจะตะโกนใสหนามันวาผมก็ไมไดชอบผูชาย สวนที่สถานภาพเปนอยูตอนนี้มันไมเกี่ยวกับรสนิยมทาง
เพศซะหนอย
“ใหมันนอยๆ หนอยชาย พูดเหมือนนายตัวเองวิเศษนักนี่ นายเรานะไลฉันออกจากหองมาเมื่อกี้รูเอาไวดวย”
“อาว...งั้น...นายคงไมอยากใหคุณติดไขละมั้ง ใชแนๆ เหตุผลนี้ชัวร”
“เขาขางกันเขาไป รีบกินแลวรีบไปเฝาเจานายผูแสนดีของนายเลย รักกันนักก็ไปดูแลกันเองเลย”
“โห ดูพูดเขา ผมนะเคารพนายเหมือนพี่ชายแทๆ คุณพายไมตองหึงผมหรอก”
“อะ... ไอชาย! ไมไดหึงโวย! ไอนี่ พูดดวยแลวลามปาม”ไมมีอารมณจะกินแลวครับ เจานายลูกนองเหมือนกันหมด เหนื่อย
กับงานก็เหนื่อย ยังตองมาเหนื่อยกับคนเอาแตใจแบบเขาอีก ทุกครั้งที่มาดวยกันมักจะตองทะเลาะกันเสมอเลย

รุงเชาผมตื่นมา ทําโจกใสหมอไวแลวคอยไปเคาะปลุกเจานายลูกนองที่หองนอนใหญ ไดยินเสียงชายขานรับก็เดินกลับหอง


ตัวเอง เขียนรายการอาหารสดใหชายแวะซื้อกอนกลับเขามา
“ไมออกไปดวยรึไง”
“ไม”
“ตาม ใจ”นี่คือบทสนทนาทั้งหมดในชวงเชา หลังจากพวกเขาออกไป ผมใชเวลาครึ่งเชาทําความสะอาดบาน ตอนเที่ยงชาย
โทรมาบอกวาจะกลับเขามาเย็นๆ ผมก็ตมมามากิน แลวคอยจัดการลางบอเลี้ยงปลา และสนามหญา กวาจะเสร็จก็เกือบ
เย็น จะทําอาหารเย็นตอนนี้ก็ไมไดเพราะไมมีของสดใหทํา เปดทีวีนอนดูในหองนั่งเลนจนเผลอเคลิ้มหลับไป รูสึกตัวอีกทีก็
ตอนที่ไดยินเสียงกุกกักรอบๆ ตัว
“พายแมงนารักไมเปลี่ยนเลยวะ”
“ไอหานัทเอาหนาออกหางๆ เมียกู”
“นิดๆ หนอยๆ ก็ไมได แลวเลี้ยงเมียยังไงวะ ผอมจะเทาไอนุเลย”
“ไอนัท! จะแดกมั้ยเหลานะ ไมแดกก็กลับไปหาเมียมึงไป”
“เมีย ไมอยูเวย! หนีกลับบานไปสองวันแลว แคกูบอกวามันตัวหนักขึ้นแมงหาวากูวามันอวน งอนใสกูอีก แมงไมรูเปนอะไร
กับเรื่องน้ําหนัก ชอบเอาหุนตัวเองไปเทียบกะผูหญิง ถากูชอบผูหญิงจะมาเอามันทําไมวะ ไรสาระวะ”
“ทําเปนพูดดี ทําอยางกับไมเอาผูหญิง เมียก็เคยมีมาแลว”
“อันนั้นไมนับเวย”
“งั้นโคโยตี้ที่พัทยาเมื่อเดือนกอนละ”
“นั่นแคขําๆ เวย”
“งั้นเด็กสาธิตที่มึงพาไปออฟฟศละ”
“นั่นนองมาฝกงานเฉยๆ”
“ฝกงานแลวทําไมตองนั่งตักวะ ไอหมวยมันเลาใหกูฟง”
“เกาอี้ไมพอ”
“เลยนั่งบี้กันเพลินเลยสิ”
“ก็เพลินดี ฮาๆๆ มึงนี่แมงสูรูจริงๆ ทําอยางกับตัวเองไมเคย”
“เออ เคย แตตอนนี้ไม”
“ถุย! ไมทําหรือทําแตไมมีใครจับไดวะ”
“เรื่อง ของกู”โอเค!! ผมวาฟงมาถึงตรงนี้ผมควรจะลุกขึ้นนั่งใหพวกเขารูวาผมตื่นแลวดีกวา กอนที่จะไดยินความลับของใคร
ไปมากกวานี้ ผมคอยๆ ทําเปนขยับตัวกอนจะลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจ แถมทายดวยการอาปากหาวโชวบนโซฟาตัวยาว
“ตื่นแลวเหรอ”เสียงทักทายจากดานขางทําใหผมหันไปมอง บนโตะอาหารมีอุปกรณสําหรับทําลายตับวางเรียงไวเต็มโตะ
“อืม”
“มานอนทําไมตรงนี้ ประตูบานก็ไมปด”
“.....พี่นัทหวัดดี คืนนี้คางนี่เหรอ”ไมอยากคุยดวยครับ ขี้เกียจทะเลาะ
“ครับ มาฉลองไดงานใหมกัน พายดื่มดวยกันสิ”ออ แสดงวาที่เขามากรุงเทพฯ เรื่องงานบริษัทออแกไนซที่ทํารวมกับเพื่อน
เขา สงสัยงานนี้จะใหญ เขาถึงไดตองมาคุยงานเอง ผมเหลือบมองเจาของบานนิดหนอย หนาตายังดูอิดโรย เสียงก็ยัง
แหงๆ แตริจะดื่มเหลา ไมดูสังขารตัวเองบาง
“ตาม สบายเถอะครับ จะเอากับแกลมอะไรมั้ยครับ มีพวกขนมขบเคี้ยวอยูนิดหนอย เดี๋ยวพายไปเทใสจานมาใหแลวกัน”
ผมลุกขึ้นเดินเขาครัวผานหนาเจาของบาน แบบไมสนใจ ไดยินเสียงฝเทาเดินตามจากดานหลัง ชายที่ยืนเทถุงกับขาวใส
ชามเหมือนไดรับสัญญาณบางอยางถึงไดปลีกตัวออกไป จากครัวอยางรวดเร็ว
“เปนอะไร”คําถามมาพรอมฝามือที่รั้งเอวผมไว
“ปลอย”เขาปลอยมือจากเอวมาจับขอมือผมไวแทน
“เปนอะไรอีกละ”
“เปลา”
“พูดดีๆ”
“ก็บอกวาเปลา”
“พาย...พี่พูดดวยดีๆ ทําไมตองชักสีหนาใส”ผมเนี่ยนะชักสีหนาใส พูดไมดูหนาตัวเองเลย
“ใครชักสีหนา พายยังไมไดทําอะไรเลยนะ อยามาหาเรื่อง”
“ทําไม แคใหมาดวยนี่มนั จะตายรึไง จะอยูเฝาบานใหมันไดอะไร”
“ไม ไดอยูเฝาบานเฉยๆ นี่ พายก็มีงานตองทําเหมือนกันนะ แลวก็บอกหลายครั้งแลวดวยวาไมไดอยากมา เห็นพายเปน
อะไร นึกจะลากไปไหนมาไหนก็ลากเอาๆ”
“ก็ตกลงกันแลวไงวาถาพี่ตองไปคางตางจังหวัดพายตองมาดวย”
“ที่ ตกลงกันคือ ถาคุณตองคางที่อื่นหลายวันและพายวาง พายจะตามมาดวย ไมใชวาคุณนึกอยากไปไหนก็บังคับใหทิ้ง
งานตามคุณมา คนอื่นเขาจะพูดวาไง เปนเด็กเสนไมพอ ยังไมรูจักรับผิดชอบงานอีก”
“ไหน คนไหนมันกลาพูด บอกมาสิ”
“จะทําไม จะไปไลออกรึไง ชอบบังคับคนอื่นไมเคยเปลี่ยน เอะอะอะไรก็ดีแตใชกําลัง”
“....นี่เห็นพี่เปนคนอยางนั้นตลอดเลยใชมั้ย”
“.......”
“ตอบ!”
“เออ! ก็ดีแตบังคับจะใหเห็นวาเปนยังไงเลา!”
“พี่ บังคับอะไรพาย พายอยากไปจากพี่เปนปๆ พี่ก็ปลอยไป พายหนีไปทํางานตางจังหวัดพี่ก็แคตามไปเฝาหางๆ เคยมีสัก
ครั้งมั้ยที่จะเขาไปคุยดวย พายอยากทํางานรีสอรตพี่ก็ยอมใหทํา แตเราตกลงกันแลว พายนั่นละที่เอาแตตั้งแงใสพี่ กลับมา
บานก็เขาหองล็อคประตู วันหยุดตรงกันก็ขลุกอยูแตบานใหญ เคยคิดจะใชเวลารวมกับพี่จริงๆ บางมั้ย ทําอยางนี้จะตาง
อะไรกับแยกกันอยู”
“..........”ก็ผมเพิ่งกลับมาอยูกับเขาไมนานนี่ จะใหเปลี่ยนแปลงอะไรไดรวดเร็วทันใจเขานักหนา
“เออ! ดีจริงๆ พูดอะไรเขาหนอยก็เอาแตเงียบใส คงคุยกันรูเรื่องหรอก แมงเอย!!”เสียงตะคอกคําสุดทายพรอมกับสะบัด
แขนผมจนเซไปดานหลัง เขามองผมนิ่งๆ กอนจะเสยผมดวยความหงุดหงิดแลวเดินออกจากครัวไป ไมนานก็ไดยินเสียงรถ
ขับออกไปจากบาน ผมยืนนิ่งอยูกลางหองครัวพักใหญกอนจะคอยๆ เดินขึ้นหองนอนเล็ก นั่งบนเตียงนิ่งๆ วางมือไวบนตัก
และรับรูวามือตัวเองกําลังสั่น แมจะกําแนนแคไหนก็ยังคงสั่นไมหยุด....ผมยอมรับวาที่เขาพูดมามันก็มีสวน ถูก ผมไมได
เปดโอกาสใหเราไดใชเวลารวมกันเทาไหรนัก แตนั่นก็เปนเพราะผมยังไมชิน ผมไมรูวาระหวางเราจะมีเรื่องไหนที่สามารถ
นํามาเปนหัวขอสนทนาได ไมรูวาควรวางตัวยังไง นั่งหางกันแคไหน ตอหนาคนอื่นควรทําอยางไร ถึงคนรอบๆ ตัวสวนใหญ
จะรูดีวาเขากับผมมีความสัมพันธอะไรกัน ถึงผมจะยอมกลับมาดวยเหตุผลที่วาพรอมจะเริ่มตนใหมกับเขา แต...ความคิด
กับการกระทําใชวาจะแสดงออกมาไดทั้งหมด ผมมีสวนผิดที่ใสใจความรูสึกเขานอยกวาความพอใจของตัวเอง แต....
ใช!....แต!......เขา....ตะคอกใสผม!!! .ใหตายเหอะ นี่เปนครั้งแรกตั้งแตผมกลับมาอยูกับเขาแลวถูกตะคอกใส เปนครั้งแรก
ที่ถูกเขาผลัก โอเค ไมใชผลัก แคสะบัดแขนผมแรงไปหนอย แตมันก็เปนการใชกําลังเหมือนกัน ทําเหมือนกับวาผมขอ
ตามมาอยางงั้นนี่ ถาผมจะหนาบึ้ง อารมณเสียไปบาง มันก็เปนเพราะผมไมพอใจที่ถูกบังคับแบบปจจุบันทันดวน ผมไมผิด
ไมใชเหรอที่จะแสดงนิสัยตัวเองออกมาแบบนี้ นี่สรุปคือเขารับไมไดใชมั้ย!!

ผมคิดอะไรตอมิอะไรเพลินจนเริ่มหิว นั่นละถึงไดลุกจากเตียงลงมาหาขาวกินขางลาง ไดยินเสียงทีวีเปดอยู พอลงมาถึงชั้น


ลางถึงเห็นชายนอนดูทีวี
“อาว ไมไดไปกับนายเรารึไง”
“เปลา ครับ นายขับรถคุณนัทออกไปครับ ผมวิ่งออกมาจากหองน้ํานายก็ไปแลว”ชายพูดจบ ผมก็ชะโงกดูหนาบาน รถเขา
ยังคงจอดอยู สงสัยคืนนี้คงไมกลับ
“...อืม ”อวดเกง นี่คือคําที่ผุดขึ้นมาในหัว เปนไขแลวยังจะออกไปขางนอก ถาเดาไมผิดคงไปนั่งดื่มกันที่ไหนสักแหงแนๆ ไม
เจียมสังขารจริงๆ
หลัง จากนั่งทานขาวในครัวคนเดียวเสร็จผมก็ขึ้นหองอาบน้ํานอน สวนชายอาสานอนหนาทีวีรอเปดประตูใหเจานายของ
มัน ถาถามวาผมนอนหลับไหม ขอบอกเลยวาหลับสนิทมากๆ จะวาใจดําก็อาจใช แตผมทําโนนทํานี่ทั้งวัน หัวถึงหมอนก็
หลับคงไมแปลก และมันก็นาหงุดหงิดมากเมื่อไดยินเสียงเคาะประตูหองรัวกลางดึกแบบนี้ ผมเปดไฟหัวเตียงเพื่อดูเวลา ตี
สี!่ ใหตายเหอะ จะมาปลุกอะไรตอนตีสี่
“ใคร!”ผมตะโกนถามกอนจะลุกขึ้นนั่งบนเตียง ไมใชวาเมาแลวกลับมาหาเรื่องทะเลาะกับผมตอนะ
“คุณพาย! ผมชายเองครับ เปดประตูหนอย นายรถชน! ไดยินมั้ยครับ!!” “หะ! วาไงนะชาย”
“นายรถชนอยูนอกหมูบานครับ คุณจะออกไปดวยกันมั้ย”
“ไปๆ”ผม รีบวิ่งตามชายลงมาขึ้นรถ ชายขับรถออกจากหมูบานไดไมไกลก็เห็นรถคันหนึ่งกลิ้งลงไหลทางเอียงไป ครึ่งคัน
ชายจอดรถสนิทผมก็วิ่งมาถึงขางรถคันที่ใชตนไมขางทางแทนเบรก มองเขาไปขางในเห็นคนขับนั่งฟุบพวงมาลัยนิ่ง เคาะ
กระจกไมนานเขาก็เอียงหนามาทางผมกอนจะเปดประตูลงมายืนพิงรถ
“เปน ไงบาง เจ็บตรงไหนรึเปลา เรียกรถพยาบาลรึยัง ขับยังไงไมดูเลย เมาแลวทําไมไมคางกับพี่นัทไปเลา ทําอะไรของคุณ
เนี่ย เลือด! มีเลือดออกดวย คุณหัวแตกเหรอ ชาย! ชายโทรเรียกรถพยาบาลเร็ว!”
“ไอชายไมตอง! อยูเฝารถรอชางกอน เดี๋ยวสักพักคงมา”
“เดี๋ยว! จะทําอะไร จะบารึไง เจ็บขนาดนี้ยังจะขับอีก ชาย! มาขับรถใหนายแกสิ”
“พายเงียบๆ หนอย พี่มึนหัว”
“นี่! มึนหัวแลวจะขับอีกทําไม ชายมาขับรถ!!”ผมคอยๆ พยุงเขามาที่รถแตรั้งแขนไมใหเดินไปฝงคนขับ
“มึง ขับพากูไปสงบานกอน เดี๋ยวชางมาคอยออกมาแลวกัน”เขาใหชายไปหยิบกระเปาสตางคกับมือถือในรถ พี่นัทแลว
ล็อครถ ผมเดินพยุงเขามานอนนั่งเบาะหลัง สักพักชายก็มาขับกลับบาน พอมาถึงบานผมถึงไดเห็นวาที่แตกไมใชหัว แต
เปนคิ้ว
“ไปหาหมอดีกวามั้ย ชายไปโรงพยาบาลใกลๆ แถวนี้มีมั้ย”ผมรั้งแขนใหเขากลับเขาไปนั่งในรถ แตคนอวดเกงไมยอม
“ไมตองๆ มึงรอโทรศัพทอยูนี่ละ พายพาพี่ขึ้นขางบนกอน”
“ทําไม ไมไปหาหมอเลา ทําไมพูดยากอยางนี้นะ”ผมพยุงเขามาถึงหองนอนใหญ เดินเขาหองน้ําเอาผาชุบน้ํามาเช็ดรอย
เลือดบนหนา แตไมกลาเช็ดใกลคิ้ว
“เดี๋ยวพี่เช็ดเอง ไปเอากาละมังใสน้ํามาเช็ดตัวใหหนอย เหมือนไขจะขึ้น”เขาแยงผาในมือไปเช็ดใกลๆ บริเวณแผล
“ก็ แลวออกไปกินทําไมเลา ทําอะไรไมดูตัวเองเลย เลือดมันยังซึมๆ อยูเลย ไปหาหมอดีกวามั้ย นะ”แยงผาในมือไมใหเขา
เช็ดตรงแผลเพราะผามันสกปรก และเขาแยงมือผมไปกุมไวอีกที
“......เปนหวงเหรอ”
“ยังมาพูดเลนอยูอีก ทําไมถึงเปนคนแบบนี้นะ คราวหลังไมตองพาพายมาอีกเลยนะ จะไมมาดวยอีกแลว มีแตเรื่องตลอด
เลย”
“ขี้บน”
“ก็แลวมันนาบนมั้ย!!”
“ตกลงจะไมเช็ดตัวใหหรือครับ”
“เช็ด!!” โอยยยย ใหตายเหอะ เขารูตัวมั้ยวาเพิ่งขับรถชนมานะ กระโปรงหนายุบไปครึ่งนึงแลวยังมานั่งทําทาเหมือนแครถ
เสียเล็กๆ นอยๆ จะใจเย็นเกินไปมั้ย ไมสบายยังกลาไปกินเหลา เมาแลวยังจะขับกลับดึกๆ อีก มีแตคนบาแบบเขาเทานั้น
ละที่ทําแบบนี้
“อือ...เบาหนอยสิพาย พี่เจ็บอยูนะ”
“ก็แลวไมไปหาหมอเลา ตรงนี้มันเปนรอยดวย ไปตรวจพรุงนี้ดีมั้ย”ผมชี้รอยแดงบริเวณหัวไหลพาดยาวลงมาใกลหนาอก
“รอยเบลลนะ นวดยาใหหนอยก็ดี พรุงนี้คงระบม”
“ไม”
“เฮอ...งั้นไปเอายามา พี่นวดเองก็ได”
“ไมให ไปหาหมอซะ เกิดกระดูกราวละ นวดไปไมยิ่งแยเหรอ”
“ไมราวหรอกนา มันไมไดเจ็บขนาดนั้น ตกลงจะนวดยาใหรึเปลา”
“...... คราวหนาไมตองพามาแลวนะ”ผมหยิบกาละมังไปไวในหองน้ําแลวเดินลงไปหยิบยา นวดจากขางลางขึ้นมา เขา
เปลี่ยนเสื้อผาเปนชุดนอน เหลือเพียงเสื้อนอนที่ยังไมติดกระดุม ผมเดินไปนั่งขางๆ ใชสําลีเช็ดแผลที่คิ้วแลวใสยาให บีบยา
นวดมานวดใหบริเวณหัวไหลเบาๆ เทาที่จะทําได
“ทําไมมือสั่น”
“........”ถาเขาไมทักผมก็ไมรูตัวหรอกวากําลังสั่น มินาตอนปายยาถึงเลอะจนเกือบเขาตา
“หวงพี่เหรอ”
“ใคร จะไปหวง แกจนจะตายอยูแลวยังไมรูจักดูแลตัวเอง ใครจะไปอยากหวงกัน”ผมพูดไมทันจบประโยคดีก็ถูกดึงเขาไป
จนแทบจะนั่งเกยตัก เขาอยูแลว
“อือ...อยาดิ้นสิ”
“ก็แลวจะกอดทําไมละ เดี๋ยวก็เจ็บแผลหรอก”
“ไมไดเปนอะไรแลว ขอโทษที่ทําใหตกใจ”เขาเกลี่ยผมไปเหน็บไวขางหูกอนจะนวดหวางคิ้วผมเบาๆ
“.............สมน้ําหนาแลว ไมเจียมตัวดีนัก”
“ปากแข็ง”
“ไมไดปากแข็ง”
“ปากไมตรงกับใจ”
“ตรง!”
“ขี้บน”
“เออ! ทีหลังก็ไมตองมายุง”
“อืม...นอนเถอะ พีเ่ หนื่อยแลว”ทันทีที่พูดจบเขาก็เลื่อนตัวลงนอนโดยไมลืมที่จะลากผมใหนอนตามดวย
“จะนอนก็ปลอยสิ”
“อยูนิ่งๆ ดิ้นมากๆ พี่เจ็บนะ”
“เออ เจ็บใหตายไปเลย อวดเกงดีนัก จําไวเลยนะ ครั้งหนาจะไมมาดวยแลว จะไปชนตนไมเสยเสาไฟตนไหนก็ไปเลย จะได
ไมตองฟงคนขี้บน อื้อ...อ”ริมฝปากฉกวูบมาพรอมฝามือที่จับทายทายผมไว เราไมไดสัมผัสกันลึกซึ้งอะไร มัน...นุมนวลไป
ดวยซ้ํา แค...สัมผัสผานๆ สลับกับการเนนย้ํา
“ปากไมเห็นแข็งสักหนอย ทําไมไมพูดตรงๆ บางนะ เปนหวงก็บอกวาหวง แคนั้นก็จบแลว ทําไมชอบทําอะไรออมไปออม
มาจริงๆ นา”
“.....”
“พอเถียงไมออกก็เงียบใสทุกที แลวอยางนี้เมื่อไหรเราจะคืบหนามากกวานี้ละ”
“ไหนบอกวางวง งวงก็นอนสิ บนอะไรอยูได”
“ครับๆ นอนก็นอน”เขายกมือขางที่ผมไมไดนอนหนุนลูบหัวเบาๆ เหมือนกลอมเด็ก และเปนการกลอมที่ไดผล เพราะผม
รูสึกงวงขึ้นมาจริงๆ

รุง เชาหลังจากเคลียรเรื่องประกัน ผมก็ใหชายขับรถพาเขาไปตรวจที่โรงพยาบาล ผลการตรวจก็มีแคฟกช้ํานิดหนอย กับคิ้ว


ที่แตกแตไมถึงกับตองเย็บ หลังจากซักถามเรื่องงานวาไมมีอะไรที่ตองทําที่นี่ผมก็ใหชายขับรถกลับรี สอรตในตอนบาย
กลับมาถึงก็ตองแวะไปบานใหญกอน เพราะผมโทรมาบอกไวลวงหนาแลว ปาภาก็จัดการสั่งสอนลูกชายหัวรั้นยกใหญ
โดยมีผมนั่งใหขอมูลเสริมอยูขางๆ แตคนผิดก็ไมมีทาทีจะสํานึกมากนัก เพราะหลังจากฟงคําอบรมสักพักก็อางวาปวดหัว
แลวชวนผมกลับบานทันที
อาการ ของเขาไมไดหนักหนาอยางที่ผมคิด นอกจากบาดเจ็บเล็กนอยกับเปนไขหวัด แตถึงหนักก็คงหายเร็วเพราะมีคน
คอยดูแลเยอะ ไมวาจะเปนปาภาที่ใหแมบานทําอาหารบํารุงสงมาทุกมื้อ พี่นพพี่หนอยที่คอยกําชับใหกินยาและนวดยา
เรื่อยๆ สุดทายคือแมผมที่คอยบังคับผมใหบังคับคนปวยกินยาใหครบ รวมถึงใหนวดยาทุกวัน เพียงอาทิตยเดียวก็หายสนิท
และก็เตรียมหาเรื่องวุนวายกับผมทันที
“คุณพาย นายใหมาบอกวาเย็นนี้จะไประยอง คางสองคืนครับ”ชายยืนหนาเจี๋ยมเจี้ยมตรงหนาผม วันนี้เปนวันหยุดของผม
และผมกําลังพักผอนดวยการนอนอานหนังสือทําอาหารบนโซหาตัวโปรด รวมทั้งวางแผนที่จะลองทําเมนูใหมๆ ในมื้อเชา
พรุงนี้
“ไมไป ไปบอกนายของแกเลย ”
“เดี๋ยวนายก็มาแลวมั้งครับ ผมมาเช็ครถใหกอน”
“แลวนี่ปาภารูหรือยัง”
“รูตั้งแตเมื่อวานแลวครับ”
“แลวทําไมฉันเพิ่งรูวันนี้ เจานายแกนี่มันจริงๆ เลย”
“เถียงอะไรดังไปถึงขางนอก”ตายยากจริงๆ พูดถึงก็เดินเขามาพอดี
“มาก็ดีแลว พายไมไป คุณจะไปก็ไปกับชายสองคน”
“ผมไมไดไปดวยครับ”ชายพูดจบก็เดินออกไปนอกบาน คงไปเช็ครถตามคําสั่ง
“อาว”
“พี่จะขับไปเอง”
“แลวทําไมไมใหชายไปขับให”
“มันไมชินทาง ขับเองสะดวกกวา”
“ก็คอยบอกทางไปสิ”
“ขี้เกียจ แลวตกลงจะไปดวยรึเปลา ไมไดบังคับนะ”
“.....จะไปกี่โมง”
“เก็บของเสร็จก็ไป ไมอยากขับดึกๆ เดี๋ยวหลับในจะยุงเหมือนคราวกอน ยังเมื่อยๆ ไหลอยูเลย”พูดไมพอยังแสดงอาการ
นวดไหลโชวดวย
“....เดี๋ยวจัดกระเปากอน จะเอาสูทไปดวยมั้ย”
“ไมตอง เอาชุดธรรมดาไปก็พอ จะไปตรวจงานเฉยๆ”
“รอ นี่ละ เดี๋ยวจัดให”ผมพูดจบก็เดินเขาหองนอนใหญ หยิบกระเปาใบเดิมจัดเสื้อผาใสลงไป นึกถอนใจเหนื่อยๆ กับการ
กระทําของเขาและของตัวเอง ที่ผมจะไปดวยเนี่ยไมใชเพราะอยากไปดวยหรอกนะ แตเห็นวาไมมีเพื่อนไปหรอกถึงไดจะนั่ง
ไปเปนเพื่อน คราวที่แลวรถชนยังไมเข็ด เพิ่งหายเจ็บไหลไมเทาไหรยังจะขับรถทางไกลอีก นี่ไมไดเปนหวงอะไรหรอกนะ แค
หมั่นไสคนไมเจียมสังขาร เกิดเปนอะไรขึ้นมาผมก็ตองลําบากผมคอยดูแลอีก สงสารก็แตปาภา คราวที่แลวก็ตกใจจะเกือบ
เปนลม
“เอาโนตบุคไปดวยนะ”
“อืม”
“เปนอะไรอีกละ”
“เปลา”
“ไมอยากไปก็ไมตองไป เดี๋ยวจะหาวาบังคับอีก”
“งั้นก็ใหชายขับรถให”ผมละมือจากกระเปาเสื้อผาแลวหันมามองคนที่นั่งบนอยูบนเตียง
“...อืม เอางั้นก็ได ตกลงไมไปใชมั้ย”ความจริงขับรถไกลๆ มีคนคอยชวยขับหรือชวนคุยก็ดีกวาใหผมที่ขับรถแทนก็ไมได
ชวนคุยก็ไมเกงไปดวย แตอยางไอชายนะเหรอจะพึ่งอะไรได เกิดไปถึงที่แลวเจานายหนีไปเมาที่ไหน หรือขับรถเสยตนไมที่
ไหนอีกมันก็คงไดแตตามไปเก็บซากแนๆ ไมเคยหรอกที่จะหามอะไรกัน ทั้งหมดนี้ไมใชเพราะหวงอะไรหรอกนะ...โอเค!...
อาจจะ...หวง...นิดหนอย
“....พาย ไปดวย”ผมยกกระเปาเสื้อผาใหเขาถือออกไป กอนที่ผมจะปดบานแลวหิ้วกระเปาโนตบุคตามไปนั่งเบาะหลัง สวน
ชายทําหนาที่ขับรถนั่งคูกับเจาของรถ
“คุณพายเอารองเทามาทิ้งไวในรถสักคูดีนะครับ”
“ทําไม”
“ก็เผื่อมีเหตุฉุกเฉินแบบคราวกอน คุณจะไดไมตองเดินเทาเปลาไปชวยนายดึกๆ อีกไง”
“ไอชาย!!”

End

You might also like